• เตรียมปราบแก๊งตบทรัพย์ 'บิ๊กเต่า' สอบเข้มทุกกรณี คาดมีบอสโดนไถอีกเพียบ
    .
    มหากาพย์ข่าว The Icon เวลานี้ถือว่าขยายวงไปไกลมาก โดยไม่ได้มีเพียงเฉพาะการเอาผิดกับกลุ่มผู้บริหารเท่านั้น แต่ยังพบขบวนการตบทรัพย์ของบรรดาของบุคคลที่สวมสูทแสร้งทำตัวเป็นคนดีด้วย โดยเฉพาะกรณีคลิปเสียงของ น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ เจ้าของเพจกฤษอนงค์ต้านโกง ที่มีการเรียกรับเงิน นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล
    .
    พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงความคึบหน้าในการสอบสวนนักตบทรัพย์ว่า กรณีคลิปเสียงของ น.ส.กฤษอนงค์ ที่มีการเรียกรับเงินจากบอสพอล จำนวน 300,000 บาท และ 450,000 บาท ซึ่งตอนนี้มีการรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานต่างๆ ไปแล้วถึง 80-90% และจะมีความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้ เบื้องต้นในส่วนนี้จะเข้าข่ายความผิดกรรโชกทรัพย์ แต่ยังบอกไม่ได้ว่าจะเป็นหมายเรียกหรือหมายจับ
    .
    บิ๊กเต่า ระบุอีกว่า ส่วนกรณีเรื่องต่อมาคือเรื่องใหม่ที่ทนายของ นายภูดิท กำเนิดพลอย หรือหนุ่ม กรรชัย ได้เดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีระหว่าง น.ส.กฤษอนงค์ กับนายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือฟิล์ม รัฐภูมิ ที่มีการกล่าวอ้างชื่อหนุ่ม กรรชัย และรายการโหนกระแสไปเรียกรับเงินจากบอสปันและบอสพอล จำนวน 20 ล้านบาทนั้น ในส่วนนี้เป็นความรับผิดชอบของ กก.1 บก.ป. เบื้องต้นในส่วนที่หนุ่ม กรรชัย แจ้งความเอาผิด 2 บุคคลดังกล่าวในข้อหาพยายามฉ้อโกงและหมิ่นประมาท และจากหลักฐานที่ได้มายืนยันว่าคลิปเสียงไม่ได้มีการตัดต่อแต่อย่างใด และขณะนี้ก็ได้มีการประสานทนายบอสพอลเพื่อให้นำหลักฐานต่างๆ มาร้องทุกข์ แจ้งความดำเนินคดีแล้ว ซึ่งทนายบอสพอลยืนยันว่าจะดำเนินคดีด้วย และกำลังรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด
    .
    "คาดว่ายังมีบอสอีกหลายคนที่ถูกกระทำเช่นนี้ แต่ตอนนี้ขอทำเป็นเรื่องๆ ไปก่อน" บิ๊กเต่า ระบุ
    .
    ด้าน นางสาวกฤษอนงค์ ชี้แจงว่า ยอมรับว่าเสียงผู้หญิงในคลิปบันทึกเสียงดังกล่าวเป็นตัวเองจริง แต่คลิปเสียงมีการตัดตอนออกบางช่วง ส่วนจำนวนเงิน 20 ล้านบาทนั้น เป็นค่าแผนงานโครงสร้างธุรกิจ เช่น งบประชาสัมพันธ์, เงินเยียวยาผู้เสียหาย โดยเงินจำนวนนี้เกิดจากพูดคุยกับผู้บริหารบริษัทดิไอคอน ที่ประเมินมูลค่าแผนงานดังกล่าวมาจากขนาดธุรกิจ
    .
    ไที่ตัวเองตกเป็นเป้าหมายสำคัญในคดีนี้ เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยช่วยเหลือผู้เสียหายจากคดีดิไอคอน จำนวน 89 คน ให้ได้รับเงินเยียวยา จึงอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ที่เสียผลประโยชน์มีความแค้น"
    ..............
    Sondhi X
    เตรียมปราบแก๊งตบทรัพย์ 'บิ๊กเต่า' สอบเข้มทุกกรณี คาดมีบอสโดนไถอีกเพียบ . มหากาพย์ข่าว The Icon เวลานี้ถือว่าขยายวงไปไกลมาก โดยไม่ได้มีเพียงเฉพาะการเอาผิดกับกลุ่มผู้บริหารเท่านั้น แต่ยังพบขบวนการตบทรัพย์ของบรรดาของบุคคลที่สวมสูทแสร้งทำตัวเป็นคนดีด้วย โดยเฉพาะกรณีคลิปเสียงของ น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ เจ้าของเพจกฤษอนงค์ต้านโกง ที่มีการเรียกรับเงิน นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล . พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงความคึบหน้าในการสอบสวนนักตบทรัพย์ว่า กรณีคลิปเสียงของ น.ส.กฤษอนงค์ ที่มีการเรียกรับเงินจากบอสพอล จำนวน 300,000 บาท และ 450,000 บาท ซึ่งตอนนี้มีการรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานต่างๆ ไปแล้วถึง 80-90% และจะมีความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้ เบื้องต้นในส่วนนี้จะเข้าข่ายความผิดกรรโชกทรัพย์ แต่ยังบอกไม่ได้ว่าจะเป็นหมายเรียกหรือหมายจับ . บิ๊กเต่า ระบุอีกว่า ส่วนกรณีเรื่องต่อมาคือเรื่องใหม่ที่ทนายของ นายภูดิท กำเนิดพลอย หรือหนุ่ม กรรชัย ได้เดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีระหว่าง น.ส.กฤษอนงค์ กับนายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือฟิล์ม รัฐภูมิ ที่มีการกล่าวอ้างชื่อหนุ่ม กรรชัย และรายการโหนกระแสไปเรียกรับเงินจากบอสปันและบอสพอล จำนวน 20 ล้านบาทนั้น ในส่วนนี้เป็นความรับผิดชอบของ กก.1 บก.ป. เบื้องต้นในส่วนที่หนุ่ม กรรชัย แจ้งความเอาผิด 2 บุคคลดังกล่าวในข้อหาพยายามฉ้อโกงและหมิ่นประมาท และจากหลักฐานที่ได้มายืนยันว่าคลิปเสียงไม่ได้มีการตัดต่อแต่อย่างใด และขณะนี้ก็ได้มีการประสานทนายบอสพอลเพื่อให้นำหลักฐานต่างๆ มาร้องทุกข์ แจ้งความดำเนินคดีแล้ว ซึ่งทนายบอสพอลยืนยันว่าจะดำเนินคดีด้วย และกำลังรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด . "คาดว่ายังมีบอสอีกหลายคนที่ถูกกระทำเช่นนี้ แต่ตอนนี้ขอทำเป็นเรื่องๆ ไปก่อน" บิ๊กเต่า ระบุ . ด้าน นางสาวกฤษอนงค์ ชี้แจงว่า ยอมรับว่าเสียงผู้หญิงในคลิปบันทึกเสียงดังกล่าวเป็นตัวเองจริง แต่คลิปเสียงมีการตัดตอนออกบางช่วง ส่วนจำนวนเงิน 20 ล้านบาทนั้น เป็นค่าแผนงานโครงสร้างธุรกิจ เช่น งบประชาสัมพันธ์, เงินเยียวยาผู้เสียหาย โดยเงินจำนวนนี้เกิดจากพูดคุยกับผู้บริหารบริษัทดิไอคอน ที่ประเมินมูลค่าแผนงานดังกล่าวมาจากขนาดธุรกิจ . ไที่ตัวเองตกเป็นเป้าหมายสำคัญในคดีนี้ เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยช่วยเหลือผู้เสียหายจากคดีดิไอคอน จำนวน 89 คน ให้ได้รับเงินเยียวยา จึงอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ที่เสียผลประโยชน์มีความแค้น" .............. Sondhi X
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 282 มุมมอง 0 รีวิว
  • อำนาจภายใต้การเมืองสีน้ำเงิน
    โดย: สุรวิชช์ วีรวรรณ https://www.facebook.com/surawich.verawan

    การที่อธิบดีกรมที่ดินที่อยู่ภายใต้พรรคภูมิใจไทย ทำหนังสือถึงการรถไฟแห่งประเทศไทย ว่า “คณะกรรมการสอบสวนฯ มีมติเป็นเอกฉันท์เห็นสมควรไม่เพิกถอนหรือแก้ไขหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินการรถไฟฯ บริเวณแยกเขากระโดงเนื่องจาก รฟท. ไม่มีหลักฐานเป็นที่ข้อยุติว่าที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินของ รฟท.จึงเห็นควรยุติเรื่องในกรณีนี้”

    กำลังท้าทายกับกระแสสังคมและกระบวนการยุติธรรมที่เป็นบรรทัดฐานของประเทศ เข้าใจครับว่า คณะกรรมการชุดดังกล่าวแต่งตั้งขึ้นตามคำสั่งของศาลปกครองในคดีที่การรถไฟฯ ฟ้องกรมที่ดิน แต่นัยของคำสั่งนั้นหากอ่านคำพิพากษาของศาลปกครองแล้ว จะพบว่า ศาลต้องการให้ตั้งกรรมการขึ้นมาเพื่อเพิกถอนสิทธิการถือครองที่ดินตามคำพิพากษาของศาลฎีกาที่ผู้ถือครองที่ดินเขากระโดงจำนวน 37 แปลงฟ้องการรถไฟฯ (คำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 8027/2561 และ 842-876/260 ) แต่คำพิพากษาศาลฎีกาชี้ชัดว่า ที่ดินบริเวณดังกล่าวเป็นของการรถไฟฯ ซึ่งศาลปกครองหมายรวมถึงแปลงอื่นที่อยู่นอกเหนือแปลงที่นำขึ้นสู่ศาลฎีกาด้วย

    แต่กรมที่ดินซึ่งตั้งกรรมการขึ้นตามคำสั่งศาลปกครองกลับมีมติว่า การรถไฟฯ ไม่มีหลักฐานแสดงสิทธิในที่ดินเขากระโดงทั้งที่ศาลฎีกาชี้แล้วว่าที่ดินบริเวณดังกล่าวเป็นของการรถไฟฯแม้ว่า อนุทิน ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย บอกว่า ไม่ได้สั่งการอะไรกรมที่ดิน แต่คำถามว่า มีใครบ้างที่จะเชื่อ

    อนุทินอ้างว่า คณะกรรมการชุดดังกล่าวที่ตั้งขึ้นตามคำสั่งของศาลปกครองตั้งขึ้นมาก่อนที่พรรคภูมิใจไทยและตัวเองจะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีมหาดไทย แต่จุดหมายสำคัญก็คือ กรรมการชุดนี้สามารถมีมติได้ในวันที่พรรคภูมิใจไทยมีอำนาจในกระทรวงมหาดไทย และอนุทินมีตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีและเมื่อไม่นานมานี้อธิบดีกรมที่ดินคนหนึ่งก็ได้ชิงลาออกไป ซึ่งกล่าวขานกันว่า เพราะปมที่ดินเขากระโดงนั่นเอง

    เป็นที่รู้กันว่า ในจำนวนที่ดิน 800 กว่าแปลงในพื้นที่เขากระโดงนั้น ผู้ถือครองรายใหญ่ก็คือ ตระกูลชิดชอบ ไปถามพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ก็รู้เรื่องนี้ดีเพราะเคยอภิปรายนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ในสภาฯ เพียงแต่วันนี้ พ.ต.อ.ทวีอยู่ในพรรคร่วมรัฐบาลเดียวกับพรรคภูมิใจไทยเท่านั้น แน่นอนถึงตอนนี้พ.ต.อ.ทวีก็ต้องการรักษาสายสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาล ต่างกับที่เคยหวงแหนสมบัติของชาติในขณะที่เป็นฝ่ายค้าน

    และเป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่าคนที่อยู่เบื้องหลังพรรคภูมิใจไทยก็คือนายเนวิน ชิดชอบ ที่เป็นเจ้าของพรรคตัวจริงในทางพฤตินัย จะเห็นได้ว่าในงานวันเกิดของนายเนวินนั้นข้าราชการระดับสูงที่อยู่ภายใต้กระทรวงที่พรรคภูมิใจไทยกำกับนั้นจะต้องเข้าไปร่วมงานถึงบุรีรัมย์เพื่อแสดงตัวให้เห็น เพราะเขารู้ว่าใครคือ คนที่ให้คุณให้โทษได้ และในหมู่ข้าราชการก็รู้กันว่า การโยกย้ายตำแหน่งต่างๆ ในกระทรวงของพรรคภูมิใจไทยนั้นคนที่มีบทบาทสำคัญคือใคร

    ก็ต้องรอดูต่อไปว่า ระหว่างอำนาจทางการเมืองกับความยุติธรรมทางกฎหมายที่เป็นขื่อแปของบ้านเมืองอย่างไหนจะศักดิ์สิทธิ์กว่ากัน คำสั่งของกรมที่ดินจะใหญ่กว่าคำพิพากษาของศาลฎีกาไหม

    แต่ต้องยอมรับนะครับว่า การเล่นการเมืองอยู่หลังม่านของคนคนหนึ่งวันนี้นั้นทำให้กระบวนการตรวจสอบคนที่อยู่ในอำนาจทางการเมืองไม่สามารถทำได้ เพราะไม่ได้มีตำแหน่งใดในรัฐบาล หรือแม้แต่เป็นผู้บริหารพรรค เพียงแต่เป็นสมาชิกของพรรคที่สามารถเตะตูดหัวหน้าพรรคได้เท่านั้น ทำให้กลายเป็นช่องโหว่ที่ทำให้ผู้มีอิทธิพลทางการเมืองใช้เป็นเครื่องมือในการเล่นการเมืองอยู่หลังฉาก แต่มีอำนาจสั่งการทุกกระทรวงที่อยู่ภายใต้อำนาจของพรรคที่ข้าราชการทุกคนต้องเกรงใจและหวั่นกลัว

    มาที่เรื่อง สว.นอกจากในวันนี้พรรคภูมิใจไทยจะเป็นพรรคอันดับสองในสภาผู้แทนราษฎร แต่เป็นที่รู้กันว่า สว.กว่า 150 คนนั้นอยู่ภายใต้การกำกับของใครที่เรียกว่ากันว่า สว.สีน้ำเงินนั่นเอง แล้วอำนาจที่สำคัญของ สว.ก็คือ การแต่งตั้งองค์กรอิสระ ไม่ว่าจะเป็น ป.ป.ช. กกต. ศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ฯลฯ ซึ่งทำให้หากใครจะขึ้นสู่ตำแหน่งดังกล่าวก็จะต้องวิ่งเข้าหาเจ้าของ สว.เพื่อให้ สว.ยกมือให้ หากผ่านการคัดเลือกของคณะกรรมการสรรหาเข้าสู่วุฒิสภามา

    ซึ่งนับเป็นเรื่องที่น่าตระหนกและเป็นอันตรายมากหากอำนาจการแต่งตั้งองค์กรอิสระอยู่ในอำนาจของใครบางคนหรือคนเพียงคนเดียวในทางพฤตินัย

    และหากมีการประชุมรัฐสภาคือประชุมร่วมระหว่าง สส. และ สว.เสียงของพรรคภูมิใจไทยและ สว.จะรวมกันเป็นเสียงข้างมากในรัฐสภา และการดำเนินการใดที่จะต้องผ่านรัฐสภาเช่น การแก้รัฐธรรมนูญก็จะตกอยู่ภายใต้การกำกับของเจ้าของสว.ที่จะต้องการให้เป็นไปในทิศทางไหนก็ได้

    วันนี้พรรคภูมิใจไทยแม้ว่าจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลอันดับสอง แต่ก็มีอิทธิพลเหนือพรรคเพื่อไทยที่เป็นแกนนำรัฐบาลไปแล้ว แม้ว่า เราจะเห็นอนุทินนอบน้อมต่ออุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และพร้อมจะยืนเป็นวอลเปเปอร์หรือพี่เลี้ยงของอุ๊งอิ๊งค์ตลอดเวลาก็ตาม พรรคภูมิใจไทยจึงขบเหลี่ยมอยู่กับพรรคเพื่อไทยหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกัญชา เรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ รวมถึงการทำประชามติเพื่อแก้รัฐธรรมนูญ เพราะรู้ว่าอย่างไรเสียพรรคเพื่อไทยก็ไม่สามารถสลัดพรรคภูมิใจไทยออกจากพรรคร่วมรัฐบาลได้

    แล้วคอยดูว่า กรณีที่ดินเขากระโดง แม้ว่านายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม จากพรรคเพื่อไทยซึ่งกำกับดูแลการรถไฟแห่งประเทศไทยจะแสดงให้เห็นว่า ไม่อาจยอมรับคำสั่งของคณะกรรมการของกรมที่ดินในกรณีที่ดินเขากระโดงได้ แต่ก็ต้องดูว่า สุดท้ายแล้วเป็นเพียงการแสดงออกไปตามบทบาทที่ตัวเองเล่นอยู่ แต่จะรุกไล่เอาจริงเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศจนสุดทางไหม หรือเป็นเพียงการแสดงอำนาจออกมาให้เห็นเพียงเพื่อคะคานแลกเปลี่ยนต่อรองผลประโยชน์กันทางการเมืองเท่านั้นเอง

    อิทธิพลของคนโตแห่งบุรีรัมย์ยังสะท้อนอยู่ในองค์กรอิสระอย่าง กกต. เห็นไหมว่า เมื่อไม่นานอยู่ดีๆ นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.ก็ออกมาบอกว่า กรณีของพรรคภูมิใจไทยที่ถูกร้องเรียนในลักษณะความผิดที่คล้ายคลึงกับพรรคก้าวไกลที่ถูกศาลวินิจฉัยยุบพรรคนั้น ไม่ได้เป็นความผิดแห่งการยุบพรรคการเมืองเลยไม่เป็นเหตุแห่งการยุบพรรคการเมือง ทั้งที่บอกว่ายังอยู่ในระหว่างการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนที่ตั้งขึ้นยังไม่มีบทสรุปออกมา จึงไม่ใช่เรื่องที่เลขาธิการ กกต.จะออกมาแถลงชี้นำหรือออกมาแถลงแม้หลายคนจะตั้งคำถามว่า การสอบสวนกรณีดังกล่าวของพรรคภูมิใจไทยคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นจะใช้เวลานานมากก็ตาม

    วันนี้เราคงเห็นแล้วว่า สำหรับนักการเมืองแล้วระหว่างผลประโยชน์ของประเทศชาติกับผลประโยชน์ของตัวเองนั้นอย่างไหนสำคัญกว่าในบทบาทของคนที่เข้ามาเล่นการเมือง จะมีคนกี่คนที่เข้ามาเล่นการเมืองเพื่อผลประโยชน์ของชาติอย่างแท้จริง และมีกฎเกณฑ์กติกาไหนที่จะตรวจสอบนักการเมืองที่มุ่งแต่จะแสวงหาผลประโยชน์เพื่อส่วนตัวและพวกพ้องได้อย่างแท้จริง

    วันนี้เราคงเข้าใจแล้วว่า ทำไมพรรคภูมิใจไทยพรรคสีน้ำเงินจึงเล่นการเมืองเพื่อเป็นรัฐบาลเท่านั้น


    ที่มา https://mgronline.com/daily/detail/9670000109483

    #Thaitimes
    อำนาจภายใต้การเมืองสีน้ำเงิน โดย: สุรวิชช์ วีรวรรณ https://www.facebook.com/surawich.verawan การที่อธิบดีกรมที่ดินที่อยู่ภายใต้พรรคภูมิใจไทย ทำหนังสือถึงการรถไฟแห่งประเทศไทย ว่า “คณะกรรมการสอบสวนฯ มีมติเป็นเอกฉันท์เห็นสมควรไม่เพิกถอนหรือแก้ไขหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินการรถไฟฯ บริเวณแยกเขากระโดงเนื่องจาก รฟท. ไม่มีหลักฐานเป็นที่ข้อยุติว่าที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินของ รฟท.จึงเห็นควรยุติเรื่องในกรณีนี้” กำลังท้าทายกับกระแสสังคมและกระบวนการยุติธรรมที่เป็นบรรทัดฐานของประเทศ เข้าใจครับว่า คณะกรรมการชุดดังกล่าวแต่งตั้งขึ้นตามคำสั่งของศาลปกครองในคดีที่การรถไฟฯ ฟ้องกรมที่ดิน แต่นัยของคำสั่งนั้นหากอ่านคำพิพากษาของศาลปกครองแล้ว จะพบว่า ศาลต้องการให้ตั้งกรรมการขึ้นมาเพื่อเพิกถอนสิทธิการถือครองที่ดินตามคำพิพากษาของศาลฎีกาที่ผู้ถือครองที่ดินเขากระโดงจำนวน 37 แปลงฟ้องการรถไฟฯ (คำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 8027/2561 และ 842-876/260 ) แต่คำพิพากษาศาลฎีกาชี้ชัดว่า ที่ดินบริเวณดังกล่าวเป็นของการรถไฟฯ ซึ่งศาลปกครองหมายรวมถึงแปลงอื่นที่อยู่นอกเหนือแปลงที่นำขึ้นสู่ศาลฎีกาด้วย แต่กรมที่ดินซึ่งตั้งกรรมการขึ้นตามคำสั่งศาลปกครองกลับมีมติว่า การรถไฟฯ ไม่มีหลักฐานแสดงสิทธิในที่ดินเขากระโดงทั้งที่ศาลฎีกาชี้แล้วว่าที่ดินบริเวณดังกล่าวเป็นของการรถไฟฯแม้ว่า อนุทิน ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย บอกว่า ไม่ได้สั่งการอะไรกรมที่ดิน แต่คำถามว่า มีใครบ้างที่จะเชื่อ อนุทินอ้างว่า คณะกรรมการชุดดังกล่าวที่ตั้งขึ้นตามคำสั่งของศาลปกครองตั้งขึ้นมาก่อนที่พรรคภูมิใจไทยและตัวเองจะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีมหาดไทย แต่จุดหมายสำคัญก็คือ กรรมการชุดนี้สามารถมีมติได้ในวันที่พรรคภูมิใจไทยมีอำนาจในกระทรวงมหาดไทย และอนุทินมีตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีและเมื่อไม่นานมานี้อธิบดีกรมที่ดินคนหนึ่งก็ได้ชิงลาออกไป ซึ่งกล่าวขานกันว่า เพราะปมที่ดินเขากระโดงนั่นเอง เป็นที่รู้กันว่า ในจำนวนที่ดิน 800 กว่าแปลงในพื้นที่เขากระโดงนั้น ผู้ถือครองรายใหญ่ก็คือ ตระกูลชิดชอบ ไปถามพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ก็รู้เรื่องนี้ดีเพราะเคยอภิปรายนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ในสภาฯ เพียงแต่วันนี้ พ.ต.อ.ทวีอยู่ในพรรคร่วมรัฐบาลเดียวกับพรรคภูมิใจไทยเท่านั้น แน่นอนถึงตอนนี้พ.ต.อ.ทวีก็ต้องการรักษาสายสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาล ต่างกับที่เคยหวงแหนสมบัติของชาติในขณะที่เป็นฝ่ายค้าน และเป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่าคนที่อยู่เบื้องหลังพรรคภูมิใจไทยก็คือนายเนวิน ชิดชอบ ที่เป็นเจ้าของพรรคตัวจริงในทางพฤตินัย จะเห็นได้ว่าในงานวันเกิดของนายเนวินนั้นข้าราชการระดับสูงที่อยู่ภายใต้กระทรวงที่พรรคภูมิใจไทยกำกับนั้นจะต้องเข้าไปร่วมงานถึงบุรีรัมย์เพื่อแสดงตัวให้เห็น เพราะเขารู้ว่าใครคือ คนที่ให้คุณให้โทษได้ และในหมู่ข้าราชการก็รู้กันว่า การโยกย้ายตำแหน่งต่างๆ ในกระทรวงของพรรคภูมิใจไทยนั้นคนที่มีบทบาทสำคัญคือใคร ก็ต้องรอดูต่อไปว่า ระหว่างอำนาจทางการเมืองกับความยุติธรรมทางกฎหมายที่เป็นขื่อแปของบ้านเมืองอย่างไหนจะศักดิ์สิทธิ์กว่ากัน คำสั่งของกรมที่ดินจะใหญ่กว่าคำพิพากษาของศาลฎีกาไหม แต่ต้องยอมรับนะครับว่า การเล่นการเมืองอยู่หลังม่านของคนคนหนึ่งวันนี้นั้นทำให้กระบวนการตรวจสอบคนที่อยู่ในอำนาจทางการเมืองไม่สามารถทำได้ เพราะไม่ได้มีตำแหน่งใดในรัฐบาล หรือแม้แต่เป็นผู้บริหารพรรค เพียงแต่เป็นสมาชิกของพรรคที่สามารถเตะตูดหัวหน้าพรรคได้เท่านั้น ทำให้กลายเป็นช่องโหว่ที่ทำให้ผู้มีอิทธิพลทางการเมืองใช้เป็นเครื่องมือในการเล่นการเมืองอยู่หลังฉาก แต่มีอำนาจสั่งการทุกกระทรวงที่อยู่ภายใต้อำนาจของพรรคที่ข้าราชการทุกคนต้องเกรงใจและหวั่นกลัว มาที่เรื่อง สว.นอกจากในวันนี้พรรคภูมิใจไทยจะเป็นพรรคอันดับสองในสภาผู้แทนราษฎร แต่เป็นที่รู้กันว่า สว.กว่า 150 คนนั้นอยู่ภายใต้การกำกับของใครที่เรียกว่ากันว่า สว.สีน้ำเงินนั่นเอง แล้วอำนาจที่สำคัญของ สว.ก็คือ การแต่งตั้งองค์กรอิสระ ไม่ว่าจะเป็น ป.ป.ช. กกต. ศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ฯลฯ ซึ่งทำให้หากใครจะขึ้นสู่ตำแหน่งดังกล่าวก็จะต้องวิ่งเข้าหาเจ้าของ สว.เพื่อให้ สว.ยกมือให้ หากผ่านการคัดเลือกของคณะกรรมการสรรหาเข้าสู่วุฒิสภามา ซึ่งนับเป็นเรื่องที่น่าตระหนกและเป็นอันตรายมากหากอำนาจการแต่งตั้งองค์กรอิสระอยู่ในอำนาจของใครบางคนหรือคนเพียงคนเดียวในทางพฤตินัย และหากมีการประชุมรัฐสภาคือประชุมร่วมระหว่าง สส. และ สว.เสียงของพรรคภูมิใจไทยและ สว.จะรวมกันเป็นเสียงข้างมากในรัฐสภา และการดำเนินการใดที่จะต้องผ่านรัฐสภาเช่น การแก้รัฐธรรมนูญก็จะตกอยู่ภายใต้การกำกับของเจ้าของสว.ที่จะต้องการให้เป็นไปในทิศทางไหนก็ได้ วันนี้พรรคภูมิใจไทยแม้ว่าจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลอันดับสอง แต่ก็มีอิทธิพลเหนือพรรคเพื่อไทยที่เป็นแกนนำรัฐบาลไปแล้ว แม้ว่า เราจะเห็นอนุทินนอบน้อมต่ออุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และพร้อมจะยืนเป็นวอลเปเปอร์หรือพี่เลี้ยงของอุ๊งอิ๊งค์ตลอดเวลาก็ตาม พรรคภูมิใจไทยจึงขบเหลี่ยมอยู่กับพรรคเพื่อไทยหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกัญชา เรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ รวมถึงการทำประชามติเพื่อแก้รัฐธรรมนูญ เพราะรู้ว่าอย่างไรเสียพรรคเพื่อไทยก็ไม่สามารถสลัดพรรคภูมิใจไทยออกจากพรรคร่วมรัฐบาลได้ แล้วคอยดูว่า กรณีที่ดินเขากระโดง แม้ว่านายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม จากพรรคเพื่อไทยซึ่งกำกับดูแลการรถไฟแห่งประเทศไทยจะแสดงให้เห็นว่า ไม่อาจยอมรับคำสั่งของคณะกรรมการของกรมที่ดินในกรณีที่ดินเขากระโดงได้ แต่ก็ต้องดูว่า สุดท้ายแล้วเป็นเพียงการแสดงออกไปตามบทบาทที่ตัวเองเล่นอยู่ แต่จะรุกไล่เอาจริงเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศจนสุดทางไหม หรือเป็นเพียงการแสดงอำนาจออกมาให้เห็นเพียงเพื่อคะคานแลกเปลี่ยนต่อรองผลประโยชน์กันทางการเมืองเท่านั้นเอง อิทธิพลของคนโตแห่งบุรีรัมย์ยังสะท้อนอยู่ในองค์กรอิสระอย่าง กกต. เห็นไหมว่า เมื่อไม่นานอยู่ดีๆ นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.ก็ออกมาบอกว่า กรณีของพรรคภูมิใจไทยที่ถูกร้องเรียนในลักษณะความผิดที่คล้ายคลึงกับพรรคก้าวไกลที่ถูกศาลวินิจฉัยยุบพรรคนั้น ไม่ได้เป็นความผิดแห่งการยุบพรรคการเมืองเลยไม่เป็นเหตุแห่งการยุบพรรคการเมือง ทั้งที่บอกว่ายังอยู่ในระหว่างการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนที่ตั้งขึ้นยังไม่มีบทสรุปออกมา จึงไม่ใช่เรื่องที่เลขาธิการ กกต.จะออกมาแถลงชี้นำหรือออกมาแถลงแม้หลายคนจะตั้งคำถามว่า การสอบสวนกรณีดังกล่าวของพรรคภูมิใจไทยคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นจะใช้เวลานานมากก็ตาม วันนี้เราคงเห็นแล้วว่า สำหรับนักการเมืองแล้วระหว่างผลประโยชน์ของประเทศชาติกับผลประโยชน์ของตัวเองนั้นอย่างไหนสำคัญกว่าในบทบาทของคนที่เข้ามาเล่นการเมือง จะมีคนกี่คนที่เข้ามาเล่นการเมืองเพื่อผลประโยชน์ของชาติอย่างแท้จริง และมีกฎเกณฑ์กติกาไหนที่จะตรวจสอบนักการเมืองที่มุ่งแต่จะแสวงหาผลประโยชน์เพื่อส่วนตัวและพวกพ้องได้อย่างแท้จริง วันนี้เราคงเข้าใจแล้วว่า ทำไมพรรคภูมิใจไทยพรรคสีน้ำเงินจึงเล่นการเมืองเพื่อเป็นรัฐบาลเท่านั้น ที่มา https://mgronline.com/daily/detail/9670000109483 #Thaitimes
    MGRONLINE.COM
    อำนาจภายใต้การเมืองสีน้ำเงิน
    การที่อธิบดีกรมที่ดินที่อยู่ภายใต้พรรคภูมิใจไทย ทำหนังสือถึงการรถไฟแห่งประเทศไทย ว่า “คณะกรรมการสอบสวนฯ มีมติเป็นเอกฉันท์เห็นสมควรไม่เพิกถอนหรือแก้ไขหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินการรถไฟฯ บริเวณแยกเขากระโดงเนื่องจาก รฟท. ไม่มีหลักฐานเป็
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 191 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ความโกรธ”จะทําให้ความชั่วกลายเป็นของทําง่ายขึ้น.…. “ อีกข้อหนึ่ง ซึ่งน่าสนใจที่สุด ความโกรธจะทําให้ความชั่วกลายเป็นของทําง่ายขึ้น คือ ถ้าตามปรกติธรรมดา เราก็รู้อะไรเป็นความชั่ว แล้วก็กลัวความชั่ว ก็ไม่อยากจะทําความชั่ว ฉะนั้น ความชั่วนั้นจึงเป็นสิ่งที่ทํายาก. ยกตัวอย่าง เช่นว่า จะฆ่าพ่อแม่ของตัวเองนี่ มันทําได้แสนยาก แต่ถ้ามันโกรธขึ้นมาแล้ว ความยากนั้นจะกลายเป็นความง่าย ก็มีบาลีว่า “ ยํ กุทฺโธ อุปโรเธติ สุกรํ วิย ทุกฺกรํ ”. สุกรํ วิย ทุกฺกรํ = ที่ทํายากจะกลายเป็นทําง่าย…. เมื่อคนโกรธ เขาต้องการจะประทุษร้าย จะทําชั่ว, สิ่งที่ทํายากก็จะกลายเป็นสิ่งที่ทําง่าย. นี้อย่าเห็นเป็นเรื่องเล็กน้อย ถ้าความจริงข้อนี้มันกระจ่างแจ้งอยู่ในใจแล้ว คนเราจะไม่อาจเกิดความโกรธ หรือทําอะไรด้วยความโกรธ ; ฉะนั้น ควรจะมองเห็นอันตรายของมันอยู่เสมอ”.พุทธทาสภิกขุที่มา : ธรรมบรรยายหัวข้อเรื่อง “การเก็บความโกรธใส่ยุ้งฉาง” เมื่อวันที่ ๒๖ กันยายน ๒๕๑๘ จากหนังสือชุดธรรมโฆษณ์ เล่มชื่อว่า “ราชภโฏวาท” หน้า ๒๐๐
    “ความโกรธ”จะทําให้ความชั่วกลายเป็นของทําง่ายขึ้น.…. “ อีกข้อหนึ่ง ซึ่งน่าสนใจที่สุด ความโกรธจะทําให้ความชั่วกลายเป็นของทําง่ายขึ้น คือ ถ้าตามปรกติธรรมดา เราก็รู้อะไรเป็นความชั่ว แล้วก็กลัวความชั่ว ก็ไม่อยากจะทําความชั่ว ฉะนั้น ความชั่วนั้นจึงเป็นสิ่งที่ทํายาก. ยกตัวอย่าง เช่นว่า จะฆ่าพ่อแม่ของตัวเองนี่ มันทําได้แสนยาก แต่ถ้ามันโกรธขึ้นมาแล้ว ความยากนั้นจะกลายเป็นความง่าย ก็มีบาลีว่า “ ยํ กุทฺโธ อุปโรเธติ สุกรํ วิย ทุกฺกรํ ”. สุกรํ วิย ทุกฺกรํ = ที่ทํายากจะกลายเป็นทําง่าย…. เมื่อคนโกรธ เขาต้องการจะประทุษร้าย จะทําชั่ว, สิ่งที่ทํายากก็จะกลายเป็นสิ่งที่ทําง่าย. นี้อย่าเห็นเป็นเรื่องเล็กน้อย ถ้าความจริงข้อนี้มันกระจ่างแจ้งอยู่ในใจแล้ว คนเราจะไม่อาจเกิดความโกรธ หรือทําอะไรด้วยความโกรธ ; ฉะนั้น ควรจะมองเห็นอันตรายของมันอยู่เสมอ”.พุทธทาสภิกขุที่มา : ธรรมบรรยายหัวข้อเรื่อง “การเก็บความโกรธใส่ยุ้งฉาง” เมื่อวันที่ ๒๖ กันยายน ๒๕๑๘ จากหนังสือชุดธรรมโฆษณ์ เล่มชื่อว่า “ราชภโฏวาท” หน้า ๒๐๐
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 59 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ดวงรายวัน 14 พฤศจิกายน 67#คนเกิดวันจันทร์...การงาน:จะมีเรื่องอึดอัดใจกับผู้ร่วมงาน หรือจะเจอคนที่ทำงานไม่ได้ดั่งใจ การเงิน: จะมีรายจ่ายจุกจิกจ่ายไม่รู้จักจบ จะหมดกับคนรัก หรือจะเสียเงินโดยเสน่หา เช่นช่วยเหลือคนอื่นเพราะความรักหรือความสงสาร ความรัก: คนรักจะเปลี่ยนแปลงไปไม่ค่อยสนใจ คนโสด:จะไม่ค่อยมีเวลาออกไปเจอใครจะมุ่งแต่การทำงานธุรกิจ สุขภาพ: ปวดเมื่อยข้อมือเส้นเอ็น อ่อนเพลียพักผ่อนน้อย การเดินทาง:ไม่ค่อยปลอดภัยให้หลีกเลี่ยงเดินทางกลางคืน#คนเกิดวันอังคาร...การงาน:มีโอกาสได้ออกงานเปลี่ยนงานไปทำธุรกิจใหม่ๆ การเงิน:จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับการทำบุญหรือได้นำเงินไปช่วยเหลือคนอื่น ความรัก:จะอยู่กันเหมือนเป็นคู่เวรคู่กรรมต้องอดทน เพราะความสัมพันธ์จะไม่ได้ราบรื่น คนโสด: จะมีคนเข้ามาชอบเข้ามาจีบแต่จะเจอแต่คนไม่จริงใจ สุขภาพ: โรคอ้วนไขมัน การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันพุธ...การงาน: จะได้รับงานที่ยากแต่ผลตอบแทนดี การเงิน: มีโอกาสได้โชคได้เงินจากงาน หรือได้จากผู้อุปถัมภ์ความรัก:ระวังจะมีปากเสียงทะเลาะกันเรื่องคำพูดคำจาหรือทะเลาะกันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนโสด: จะมีคนเข้ามาหวังเรื่อง 18+ืสุขภาพ: มีโอกาสเจ็บป่วยกะทันหัน หรือถ้าเป็นอะไรอยู่มีโอกาสอาการจะแย่ลง การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันพฤหัสบดี...การงาน: ราบเรียบ จะรู้สึกเบื่อๆและขี้เกียจ การเงิน: จะมีรายจ่ายมากอาจได้เสียเงินโดยเสน่หา หรือช่วยเหลือคนอื่นเพราะความรักหรือสงสาร ความรัก:ระวังจะทะเลาะกันเพราะปัญหาการเงินหนี้สิน หรือทะเลาะกันเรื่องคนเก่าๆ เรื่องเก่าๆ คนโสด: จะมีคนทางออนไลน์เข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: ปวดขา ปวดหลัง ปวดเมื่อยตามตัว การเดินทาง:ให้ระวังของหายระหว่างการเดินทาง#คนเกิดวันศุกร์...การงาน: จะมีโชคจากงาน ใครที่ทำงานไม่ถูกต้องไม่โปร่งใสมีโอกาสจะถูกตรวจสอบ การเงิน:จะมีรายจ่ายมากอาจได้เสียเงินก้อน หรือได้นำเงินไปลงทุน จะหมดกับอาหารเครื่องดื่มราคาแพงๆ ความรัก: อยู่กันแบบเป็นคู่เวรคู่กรรมต้องอดทน ระวังจะมีปัญหาเรื่องมือที่ 3 ปัญหาหึงหวงชิดมาก คนโสด: จะมีคนใกล้ตัวใกล้ชิดเข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: ปวดขาข้อเข่า โรคกระดูก การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันเสาร์...การงาน:จะมีผู้หลักผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ การเงิน: จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับของกินของฝาก หรือหมดกับของที่ไม่ค่อยจำเป็น ความรัก: ระวังมีปัญหาหึงหวงคิดมาก คนโสด: จะมีความสุขกับการทำงานยังไม่มีเวลาออกไปเจอใคร สุขภาพ: เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ปอด หลอดลม โรคหวัด การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันอาทิตย์...การงาน: มีโอกาสรุ่งเรืองก้าวหน้าจะมีผู้หลักผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ การเงิน: จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับรถ ค่าปรับค่าซ่อม การเดินทาง ความรัก: ระวังจะทะเลาะกันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนโสด: จะมีคนจากที่ทำงานคนใกล้ตัวใกล้ชิดเข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: โรคในช่องท้องการเดินทาง:ปลอดภัยดี-----------#หมอฝนยิปซี #อาจารย์เจdomino #ดูดวงทางแชท #หมอดูแม่นๆ #ดูดวงความรัก #ดูดวงเนื้อคู่
    #ดวงรายวัน 14 พฤศจิกายน 67#คนเกิดวันจันทร์...การงาน:จะมีเรื่องอึดอัดใจกับผู้ร่วมงาน หรือจะเจอคนที่ทำงานไม่ได้ดั่งใจ การเงิน: จะมีรายจ่ายจุกจิกจ่ายไม่รู้จักจบ จะหมดกับคนรัก หรือจะเสียเงินโดยเสน่หา เช่นช่วยเหลือคนอื่นเพราะความรักหรือความสงสาร ความรัก: คนรักจะเปลี่ยนแปลงไปไม่ค่อยสนใจ คนโสด:จะไม่ค่อยมีเวลาออกไปเจอใครจะมุ่งแต่การทำงานธุรกิจ สุขภาพ: ปวดเมื่อยข้อมือเส้นเอ็น อ่อนเพลียพักผ่อนน้อย การเดินทาง:ไม่ค่อยปลอดภัยให้หลีกเลี่ยงเดินทางกลางคืน#คนเกิดวันอังคาร...การงาน:มีโอกาสได้ออกงานเปลี่ยนงานไปทำธุรกิจใหม่ๆ การเงิน:จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับการทำบุญหรือได้นำเงินไปช่วยเหลือคนอื่น ความรัก:จะอยู่กันเหมือนเป็นคู่เวรคู่กรรมต้องอดทน เพราะความสัมพันธ์จะไม่ได้ราบรื่น คนโสด: จะมีคนเข้ามาชอบเข้ามาจีบแต่จะเจอแต่คนไม่จริงใจ สุขภาพ: โรคอ้วนไขมัน การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันพุธ...การงาน: จะได้รับงานที่ยากแต่ผลตอบแทนดี การเงิน: มีโอกาสได้โชคได้เงินจากงาน หรือได้จากผู้อุปถัมภ์ความรัก:ระวังจะมีปากเสียงทะเลาะกันเรื่องคำพูดคำจาหรือทะเลาะกันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนโสด: จะมีคนเข้ามาหวังเรื่อง 18+ืสุขภาพ: มีโอกาสเจ็บป่วยกะทันหัน หรือถ้าเป็นอะไรอยู่มีโอกาสอาการจะแย่ลง การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันพฤหัสบดี...การงาน: ราบเรียบ จะรู้สึกเบื่อๆและขี้เกียจ การเงิน: จะมีรายจ่ายมากอาจได้เสียเงินโดยเสน่หา หรือช่วยเหลือคนอื่นเพราะความรักหรือสงสาร ความรัก:ระวังจะทะเลาะกันเพราะปัญหาการเงินหนี้สิน หรือทะเลาะกันเรื่องคนเก่าๆ เรื่องเก่าๆ คนโสด: จะมีคนทางออนไลน์เข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: ปวดขา ปวดหลัง ปวดเมื่อยตามตัว การเดินทาง:ให้ระวังของหายระหว่างการเดินทาง#คนเกิดวันศุกร์...การงาน: จะมีโชคจากงาน ใครที่ทำงานไม่ถูกต้องไม่โปร่งใสมีโอกาสจะถูกตรวจสอบ การเงิน:จะมีรายจ่ายมากอาจได้เสียเงินก้อน หรือได้นำเงินไปลงทุน จะหมดกับอาหารเครื่องดื่มราคาแพงๆ ความรัก: อยู่กันแบบเป็นคู่เวรคู่กรรมต้องอดทน ระวังจะมีปัญหาเรื่องมือที่ 3 ปัญหาหึงหวงชิดมาก คนโสด: จะมีคนใกล้ตัวใกล้ชิดเข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: ปวดขาข้อเข่า โรคกระดูก การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันเสาร์...การงาน:จะมีผู้หลักผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ การเงิน: จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับของกินของฝาก หรือหมดกับของที่ไม่ค่อยจำเป็น ความรัก: ระวังมีปัญหาหึงหวงคิดมาก คนโสด: จะมีความสุขกับการทำงานยังไม่มีเวลาออกไปเจอใคร สุขภาพ: เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ปอด หลอดลม โรคหวัด การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันอาทิตย์...การงาน: มีโอกาสรุ่งเรืองก้าวหน้าจะมีผู้หลักผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ การเงิน: จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับรถ ค่าปรับค่าซ่อม การเดินทาง ความรัก: ระวังจะทะเลาะกันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนโสด: จะมีคนจากที่ทำงานคนใกล้ตัวใกล้ชิดเข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: โรคในช่องท้องการเดินทาง:ปลอดภัยดี-----------#หมอฝนยิปซี #อาจารย์เจdomino #ดูดวงทางแชท #หมอดูแม่นๆ #ดูดวงความรัก #ดูดวงเนื้อคู่
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 92 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ดวงรายวัน 14 พฤศจิกายน 67#คนเกิดวันจันทร์...การงาน:จะมีเรื่องอึดอัดใจกับผู้ร่วมงาน หรือจะเจอคนที่ทำงานไม่ได้ดั่งใจ การเงิน: จะมีรายจ่ายจุกจิกจ่ายไม่รู้จักจบ จะหมดกับคนรัก หรือจะเสียเงินโดยเสน่หา เช่นช่วยเหลือคนอื่นเพราะความรักหรือความสงสาร ความรัก: คนรักจะเปลี่ยนแปลงไปไม่ค่อยสนใจ คนโสด:จะไม่ค่อยมีเวลาออกไปเจอใครจะมุ่งแต่การทำงานธุรกิจ สุขภาพ: ปวดเมื่อยข้อมือเส้นเอ็น อ่อนเพลียพักผ่อนน้อย การเดินทาง:ไม่ค่อยปลอดภัยให้หลีกเลี่ยงเดินทางกลางคืน#คนเกิดวันอังคาร...การงาน:มีโอกาสได้ออกงานเปลี่ยนงานไปทำธุรกิจใหม่ๆ การเงิน:จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับการทำบุญหรือได้นำเงินไปช่วยเหลือคนอื่น ความรัก:จะอยู่กันเหมือนเป็นคู่เวรคู่กรรมต้องอดทน เพราะความสัมพันธ์จะไม่ได้ราบรื่น คนโสด: จะมีคนเข้ามาชอบเข้ามาจีบแต่จะเจอแต่คนไม่จริงใจ สุขภาพ: โรคอ้วนไขมัน การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันพุธ...การงาน: จะได้รับงานที่ยากแต่ผลตอบแทนดี การเงิน: มีโอกาสได้โชคได้เงินจากงาน หรือได้จากผู้อุปถัมภ์ความรัก:ระวังจะมีปากเสียงทะเลาะกันเรื่องคำพูดคำจาหรือทะเลาะกันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนโสด: จะมีคนเข้ามาหวังเรื่อง 18+ืสุขภาพ: มีโอกาสเจ็บป่วยกะทันหัน หรือถ้าเป็นอะไรอยู่มีโอกาสอาการจะแย่ลง การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันพฤหัสบดี...การงาน: ราบเรียบ จะรู้สึกเบื่อๆและขี้เกียจ การเงิน: จะมีรายจ่ายมากอาจได้เสียเงินโดยเสน่หา หรือช่วยเหลือคนอื่นเพราะความรักหรือสงสาร ความรัก:ระวังจะทะเลาะกันเพราะปัญหาการเงินหนี้สิน หรือทะเลาะกันเรื่องคนเก่าๆ เรื่องเก่าๆ คนโสด: จะมีคนทางออนไลน์เข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: ปวดขา ปวดหลัง ปวดเมื่อยตามตัว การเดินทาง:ให้ระวังของหายระหว่างการเดินทาง#คนเกิดวันศุกร์...การงาน: จะมีโชคจากงาน ใครที่ทำงานไม่ถูกต้องไม่โปร่งใสมีโอกาสจะถูกตรวจสอบ การเงิน:จะมีรายจ่ายมากอาจได้เสียเงินก้อน หรือได้นำเงินไปลงทุน จะหมดกับอาหารเครื่องดื่มราคาแพงๆ ความรัก: อยู่กันแบบเป็นคู่เวรคู่กรรมต้องอดทน ระวังจะมีปัญหาเรื่องมือที่ 3 ปัญหาหึงหวงชิดมาก คนโสด: จะมีคนใกล้ตัวใกล้ชิดเข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: ปวดขาข้อเข่า โรคกระดูก การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันเสาร์...การงาน:จะมีผู้หลักผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ การเงิน: จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับของกินของฝาก หรือหมดกับของที่ไม่ค่อยจำเป็น ความรัก: ระวังมีปัญหาหึงหวงคิดมาก คนโสด: จะมีความสุขกับการทำงานยังไม่มีเวลาออกไปเจอใคร สุขภาพ: เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ปอด หลอดลม โรคหวัด การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันอาทิตย์...การงาน: มีโอกาสรุ่งเรืองก้าวหน้าจะมีผู้หลักผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ การเงิน: จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับรถ ค่าปรับค่าซ่อม การเดินทาง ความรัก: ระวังจะทะเลาะกันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนโสด: จะมีคนจากที่ทำงานคนใกล้ตัวใกล้ชิดเข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: โรคในช่องท้องการเดินทาง:ปลอดภัยดี-----------#หมอฝนยิปซี #อาจารย์เจdomino #ดูดวงทางแชท #หมอดูแม่นๆ #ดูดวงความรัก #ดูดวงเนื้อคู่
    #ดวงรายวัน 14 พฤศจิกายน 67#คนเกิดวันจันทร์...การงาน:จะมีเรื่องอึดอัดใจกับผู้ร่วมงาน หรือจะเจอคนที่ทำงานไม่ได้ดั่งใจ การเงิน: จะมีรายจ่ายจุกจิกจ่ายไม่รู้จักจบ จะหมดกับคนรัก หรือจะเสียเงินโดยเสน่หา เช่นช่วยเหลือคนอื่นเพราะความรักหรือความสงสาร ความรัก: คนรักจะเปลี่ยนแปลงไปไม่ค่อยสนใจ คนโสด:จะไม่ค่อยมีเวลาออกไปเจอใครจะมุ่งแต่การทำงานธุรกิจ สุขภาพ: ปวดเมื่อยข้อมือเส้นเอ็น อ่อนเพลียพักผ่อนน้อย การเดินทาง:ไม่ค่อยปลอดภัยให้หลีกเลี่ยงเดินทางกลางคืน#คนเกิดวันอังคาร...การงาน:มีโอกาสได้ออกงานเปลี่ยนงานไปทำธุรกิจใหม่ๆ การเงิน:จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับการทำบุญหรือได้นำเงินไปช่วยเหลือคนอื่น ความรัก:จะอยู่กันเหมือนเป็นคู่เวรคู่กรรมต้องอดทน เพราะความสัมพันธ์จะไม่ได้ราบรื่น คนโสด: จะมีคนเข้ามาชอบเข้ามาจีบแต่จะเจอแต่คนไม่จริงใจ สุขภาพ: โรคอ้วนไขมัน การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันพุธ...การงาน: จะได้รับงานที่ยากแต่ผลตอบแทนดี การเงิน: มีโอกาสได้โชคได้เงินจากงาน หรือได้จากผู้อุปถัมภ์ความรัก:ระวังจะมีปากเสียงทะเลาะกันเรื่องคำพูดคำจาหรือทะเลาะกันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนโสด: จะมีคนเข้ามาหวังเรื่อง 18+ืสุขภาพ: มีโอกาสเจ็บป่วยกะทันหัน หรือถ้าเป็นอะไรอยู่มีโอกาสอาการจะแย่ลง การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันพฤหัสบดี...การงาน: ราบเรียบ จะรู้สึกเบื่อๆและขี้เกียจ การเงิน: จะมีรายจ่ายมากอาจได้เสียเงินโดยเสน่หา หรือช่วยเหลือคนอื่นเพราะความรักหรือสงสาร ความรัก:ระวังจะทะเลาะกันเพราะปัญหาการเงินหนี้สิน หรือทะเลาะกันเรื่องคนเก่าๆ เรื่องเก่าๆ คนโสด: จะมีคนทางออนไลน์เข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: ปวดขา ปวดหลัง ปวดเมื่อยตามตัว การเดินทาง:ให้ระวังของหายระหว่างการเดินทาง#คนเกิดวันศุกร์...การงาน: จะมีโชคจากงาน ใครที่ทำงานไม่ถูกต้องไม่โปร่งใสมีโอกาสจะถูกตรวจสอบ การเงิน:จะมีรายจ่ายมากอาจได้เสียเงินก้อน หรือได้นำเงินไปลงทุน จะหมดกับอาหารเครื่องดื่มราคาแพงๆ ความรัก: อยู่กันแบบเป็นคู่เวรคู่กรรมต้องอดทน ระวังจะมีปัญหาเรื่องมือที่ 3 ปัญหาหึงหวงชิดมาก คนโสด: จะมีคนใกล้ตัวใกล้ชิดเข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: ปวดขาข้อเข่า โรคกระดูก การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันเสาร์...การงาน:จะมีผู้หลักผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ การเงิน: จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับของกินของฝาก หรือหมดกับของที่ไม่ค่อยจำเป็น ความรัก: ระวังมีปัญหาหึงหวงคิดมาก คนโสด: จะมีความสุขกับการทำงานยังไม่มีเวลาออกไปเจอใคร สุขภาพ: เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ปอด หลอดลม โรคหวัด การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันอาทิตย์...การงาน: มีโอกาสรุ่งเรืองก้าวหน้าจะมีผู้หลักผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ การเงิน: จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับรถ ค่าปรับค่าซ่อม การเดินทาง ความรัก: ระวังจะทะเลาะกันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนโสด: จะมีคนจากที่ทำงานคนใกล้ตัวใกล้ชิดเข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: โรคในช่องท้องการเดินทาง:ปลอดภัยดี-----------#หมอฝนยิปซี #อาจารย์เจdomino #ดูดวงทางแชท #หมอดูแม่นๆ #ดูดวงความรัก #ดูดวงเนื้อคู่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 89 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ดวงรายวัน 14 พฤศจิกายน 67#คนเกิดวันจันทร์...การงาน:จะมีเรื่องอึดอัดใจกับผู้ร่วมงาน หรือจะเจอคนที่ทำงานไม่ได้ดั่งใจ การเงิน: จะมีรายจ่ายจุกจิกจ่ายไม่รู้จักจบ จะหมดกับคนรัก หรือจะเสียเงินโดยเสน่หา เช่นช่วยเหลือคนอื่นเพราะความรักหรือความสงสาร ความรัก: คนรักจะเปลี่ยนแปลงไปไม่ค่อยสนใจ คนโสด:จะไม่ค่อยมีเวลาออกไปเจอใครจะมุ่งแต่การทำงานธุรกิจ สุขภาพ: ปวดเมื่อยข้อมือเส้นเอ็น อ่อนเพลียพักผ่อนน้อย การเดินทาง:ไม่ค่อยปลอดภัยให้หลีกเลี่ยงเดินทางกลางคืน#คนเกิดวันอังคาร...การงาน:มีโอกาสได้ออกงานเปลี่ยนงานไปทำธุรกิจใหม่ๆ การเงิน:จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับการทำบุญหรือได้นำเงินไปช่วยเหลือคนอื่น ความรัก:จะอยู่กันเหมือนเป็นคู่เวรคู่กรรมต้องอดทน เพราะความสัมพันธ์จะไม่ได้ราบรื่น คนโสด: จะมีคนเข้ามาชอบเข้ามาจีบแต่จะเจอแต่คนไม่จริงใจ สุขภาพ: โรคอ้วนไขมัน การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันพุธ...การงาน: จะได้รับงานที่ยากแต่ผลตอบแทนดี การเงิน: มีโอกาสได้โชคได้เงินจากงาน หรือได้จากผู้อุปถัมภ์ความรัก:ระวังจะมีปากเสียงทะเลาะกันเรื่องคำพูดคำจาหรือทะเลาะกันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนโสด: จะมีคนเข้ามาหวังเรื่อง 18+ืสุขภาพ: มีโอกาสเจ็บป่วยกะทันหัน หรือถ้าเป็นอะไรอยู่มีโอกาสอาการจะแย่ลง การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันพฤหัสบดี...การงาน: ราบเรียบ จะรู้สึกเบื่อๆและขี้เกียจ การเงิน: จะมีรายจ่ายมากอาจได้เสียเงินโดยเสน่หา หรือช่วยเหลือคนอื่นเพราะความรักหรือสงสาร ความรัก:ระวังจะทะเลาะกันเพราะปัญหาการเงินหนี้สิน หรือทะเลาะกันเรื่องคนเก่าๆ เรื่องเก่าๆ คนโสด: จะมีคนทางออนไลน์เข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: ปวดขา ปวดหลัง ปวดเมื่อยตามตัว การเดินทาง:ให้ระวังของหายระหว่างการเดินทาง#คนเกิดวันศุกร์...การงาน: จะมีโชคจากงาน ใครที่ทำงานไม่ถูกต้องไม่โปร่งใสมีโอกาสจะถูกตรวจสอบ การเงิน:จะมีรายจ่ายมากอาจได้เสียเงินก้อน หรือได้นำเงินไปลงทุน จะหมดกับอาหารเครื่องดื่มราคาแพงๆ ความรัก: อยู่กันแบบเป็นคู่เวรคู่กรรมต้องอดทน ระวังจะมีปัญหาเรื่องมือที่ 3 ปัญหาหึงหวงชิดมาก คนโสด: จะมีคนใกล้ตัวใกล้ชิดเข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: ปวดขาข้อเข่า โรคกระดูก การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันเสาร์...การงาน:จะมีผู้หลักผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ การเงิน: จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับของกินของฝาก หรือหมดกับของที่ไม่ค่อยจำเป็น ความรัก: ระวังมีปัญหาหึงหวงคิดมาก คนโสด: จะมีความสุขกับการทำงานยังไม่มีเวลาออกไปเจอใคร สุขภาพ: เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ปอด หลอดลม โรคหวัด การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันอาทิตย์...การงาน: มีโอกาสรุ่งเรืองก้าวหน้าจะมีผู้หลักผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ การเงิน: จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับรถ ค่าปรับค่าซ่อม การเดินทาง ความรัก: ระวังจะทะเลาะกันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนโสด: จะมีคนจากที่ทำงานคนใกล้ตัวใกล้ชิดเข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: โรคในช่องท้องการเดินทาง:ปลอดภัยดี-----------#หมอฝนยิปซี #อาจารย์เจdomino #ดูดวงทางแชท #หมอดูแม่นๆ #ดูดวงความรัก #ดูดวงเนื้อคู่
    #ดวงรายวัน 14 พฤศจิกายน 67#คนเกิดวันจันทร์...การงาน:จะมีเรื่องอึดอัดใจกับผู้ร่วมงาน หรือจะเจอคนที่ทำงานไม่ได้ดั่งใจ การเงิน: จะมีรายจ่ายจุกจิกจ่ายไม่รู้จักจบ จะหมดกับคนรัก หรือจะเสียเงินโดยเสน่หา เช่นช่วยเหลือคนอื่นเพราะความรักหรือความสงสาร ความรัก: คนรักจะเปลี่ยนแปลงไปไม่ค่อยสนใจ คนโสด:จะไม่ค่อยมีเวลาออกไปเจอใครจะมุ่งแต่การทำงานธุรกิจ สุขภาพ: ปวดเมื่อยข้อมือเส้นเอ็น อ่อนเพลียพักผ่อนน้อย การเดินทาง:ไม่ค่อยปลอดภัยให้หลีกเลี่ยงเดินทางกลางคืน#คนเกิดวันอังคาร...การงาน:มีโอกาสได้ออกงานเปลี่ยนงานไปทำธุรกิจใหม่ๆ การเงิน:จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับการทำบุญหรือได้นำเงินไปช่วยเหลือคนอื่น ความรัก:จะอยู่กันเหมือนเป็นคู่เวรคู่กรรมต้องอดทน เพราะความสัมพันธ์จะไม่ได้ราบรื่น คนโสด: จะมีคนเข้ามาชอบเข้ามาจีบแต่จะเจอแต่คนไม่จริงใจ สุขภาพ: โรคอ้วนไขมัน การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันพุธ...การงาน: จะได้รับงานที่ยากแต่ผลตอบแทนดี การเงิน: มีโอกาสได้โชคได้เงินจากงาน หรือได้จากผู้อุปถัมภ์ความรัก:ระวังจะมีปากเสียงทะเลาะกันเรื่องคำพูดคำจาหรือทะเลาะกันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนโสด: จะมีคนเข้ามาหวังเรื่อง 18+ืสุขภาพ: มีโอกาสเจ็บป่วยกะทันหัน หรือถ้าเป็นอะไรอยู่มีโอกาสอาการจะแย่ลง การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันพฤหัสบดี...การงาน: ราบเรียบ จะรู้สึกเบื่อๆและขี้เกียจ การเงิน: จะมีรายจ่ายมากอาจได้เสียเงินโดยเสน่หา หรือช่วยเหลือคนอื่นเพราะความรักหรือสงสาร ความรัก:ระวังจะทะเลาะกันเพราะปัญหาการเงินหนี้สิน หรือทะเลาะกันเรื่องคนเก่าๆ เรื่องเก่าๆ คนโสด: จะมีคนทางออนไลน์เข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: ปวดขา ปวดหลัง ปวดเมื่อยตามตัว การเดินทาง:ให้ระวังของหายระหว่างการเดินทาง#คนเกิดวันศุกร์...การงาน: จะมีโชคจากงาน ใครที่ทำงานไม่ถูกต้องไม่โปร่งใสมีโอกาสจะถูกตรวจสอบ การเงิน:จะมีรายจ่ายมากอาจได้เสียเงินก้อน หรือได้นำเงินไปลงทุน จะหมดกับอาหารเครื่องดื่มราคาแพงๆ ความรัก: อยู่กันแบบเป็นคู่เวรคู่กรรมต้องอดทน ระวังจะมีปัญหาเรื่องมือที่ 3 ปัญหาหึงหวงชิดมาก คนโสด: จะมีคนใกล้ตัวใกล้ชิดเข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: ปวดขาข้อเข่า โรคกระดูก การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันเสาร์...การงาน:จะมีผู้หลักผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ การเงิน: จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับของกินของฝาก หรือหมดกับของที่ไม่ค่อยจำเป็น ความรัก: ระวังมีปัญหาหึงหวงคิดมาก คนโสด: จะมีความสุขกับการทำงานยังไม่มีเวลาออกไปเจอใคร สุขภาพ: เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ปอด หลอดลม โรคหวัด การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันอาทิตย์...การงาน: มีโอกาสรุ่งเรืองก้าวหน้าจะมีผู้หลักผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ การเงิน: จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับรถ ค่าปรับค่าซ่อม การเดินทาง ความรัก: ระวังจะทะเลาะกันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนโสด: จะมีคนจากที่ทำงานคนใกล้ตัวใกล้ชิดเข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: โรคในช่องท้องการเดินทาง:ปลอดภัยดี-----------#หมอฝนยิปซี #อาจารย์เจdomino #ดูดวงทางแชท #หมอดูแม่นๆ #ดูดวงความรัก #ดูดวงเนื้อคู่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 95 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ดวงรายวัน 14 พฤศจิกายน 67#คนเกิดวันจันทร์...การงาน:จะมีเรื่องอึดอัดใจกับผู้ร่วมงาน หรือจะเจอคนที่ทำงานไม่ได้ดั่งใจ การเงิน: จะมีรายจ่ายจุกจิกจ่ายไม่รู้จักจบ จะหมดกับคนรัก หรือจะเสียเงินโดยเสน่หา เช่นช่วยเหลือคนอื่นเพราะความรักหรือความสงสาร ความรัก: คนรักจะเปลี่ยนแปลงไปไม่ค่อยสนใจ คนโสด:จะไม่ค่อยมีเวลาออกไปเจอใครจะมุ่งแต่การทำงานธุรกิจ สุขภาพ: ปวดเมื่อยข้อมือเส้นเอ็น อ่อนเพลียพักผ่อนน้อย การเดินทาง:ไม่ค่อยปลอดภัยให้หลีกเลี่ยงเดินทางกลางคืน#คนเกิดวันอังคาร...การงาน:มีโอกาสได้ออกงานเปลี่ยนงานไปทำธุรกิจใหม่ๆ การเงิน:จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับการทำบุญหรือได้นำเงินไปช่วยเหลือคนอื่น ความรัก:จะอยู่กันเหมือนเป็นคู่เวรคู่กรรมต้องอดทน เพราะความสัมพันธ์จะไม่ได้ราบรื่น คนโสด: จะมีคนเข้ามาชอบเข้ามาจีบแต่จะเจอแต่คนไม่จริงใจ สุขภาพ: โรคอ้วนไขมัน การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันพุธ...การงาน: จะได้รับงานที่ยากแต่ผลตอบแทนดี การเงิน: มีโอกาสได้โชคได้เงินจากงาน หรือได้จากผู้อุปถัมภ์ความรัก:ระวังจะมีปากเสียงทะเลาะกันเรื่องคำพูดคำจาหรือทะเลาะกันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนโสด: จะมีคนเข้ามาหวังเรื่อง 18+ืสุขภาพ: มีโอกาสเจ็บป่วยกะทันหัน หรือถ้าเป็นอะไรอยู่มีโอกาสอาการจะแย่ลง การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันพฤหัสบดี...การงาน: ราบเรียบ จะรู้สึกเบื่อๆและขี้เกียจ การเงิน: จะมีรายจ่ายมากอาจได้เสียเงินโดยเสน่หา หรือช่วยเหลือคนอื่นเพราะความรักหรือสงสาร ความรัก:ระวังจะทะเลาะกันเพราะปัญหาการเงินหนี้สิน หรือทะเลาะกันเรื่องคนเก่าๆ เรื่องเก่าๆ คนโสด: จะมีคนทางออนไลน์เข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: ปวดขา ปวดหลัง ปวดเมื่อยตามตัว การเดินทาง:ให้ระวังของหายระหว่างการเดินทาง#คนเกิดวันศุกร์...การงาน: จะมีโชคจากงาน ใครที่ทำงานไม่ถูกต้องไม่โปร่งใสมีโอกาสจะถูกตรวจสอบ การเงิน:จะมีรายจ่ายมากอาจได้เสียเงินก้อน หรือได้นำเงินไปลงทุน จะหมดกับอาหารเครื่องดื่มราคาแพงๆ ความรัก: อยู่กันแบบเป็นคู่เวรคู่กรรมต้องอดทน ระวังจะมีปัญหาเรื่องมือที่ 3 ปัญหาหึงหวงชิดมาก คนโสด: จะมีคนใกล้ตัวใกล้ชิดเข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: ปวดขาข้อเข่า โรคกระดูก การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันเสาร์...การงาน:จะมีผู้หลักผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ การเงิน: จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับของกินของฝาก หรือหมดกับของที่ไม่ค่อยจำเป็น ความรัก: ระวังมีปัญหาหึงหวงคิดมาก คนโสด: จะมีความสุขกับการทำงานยังไม่มีเวลาออกไปเจอใคร สุขภาพ: เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ปอด หลอดลม โรคหวัด การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันอาทิตย์...การงาน: มีโอกาสรุ่งเรืองก้าวหน้าจะมีผู้หลักผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ การเงิน: จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับรถ ค่าปรับค่าซ่อม การเดินทาง ความรัก: ระวังจะทะเลาะกันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนโสด: จะมีคนจากที่ทำงานคนใกล้ตัวใกล้ชิดเข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: โรคในช่องท้องการเดินทาง:ปลอดภัยดี-----------#หมอฝนยิปซี #อาจารย์เจdomino #ดูดวงทางแชท #หมอดูแม่นๆ #ดูดวงความรัก #ดูดวงเนื้อคู่
    #ดวงรายวัน 14 พฤศจิกายน 67#คนเกิดวันจันทร์...การงาน:จะมีเรื่องอึดอัดใจกับผู้ร่วมงาน หรือจะเจอคนที่ทำงานไม่ได้ดั่งใจ การเงิน: จะมีรายจ่ายจุกจิกจ่ายไม่รู้จักจบ จะหมดกับคนรัก หรือจะเสียเงินโดยเสน่หา เช่นช่วยเหลือคนอื่นเพราะความรักหรือความสงสาร ความรัก: คนรักจะเปลี่ยนแปลงไปไม่ค่อยสนใจ คนโสด:จะไม่ค่อยมีเวลาออกไปเจอใครจะมุ่งแต่การทำงานธุรกิจ สุขภาพ: ปวดเมื่อยข้อมือเส้นเอ็น อ่อนเพลียพักผ่อนน้อย การเดินทาง:ไม่ค่อยปลอดภัยให้หลีกเลี่ยงเดินทางกลางคืน#คนเกิดวันอังคาร...การงาน:มีโอกาสได้ออกงานเปลี่ยนงานไปทำธุรกิจใหม่ๆ การเงิน:จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับการทำบุญหรือได้นำเงินไปช่วยเหลือคนอื่น ความรัก:จะอยู่กันเหมือนเป็นคู่เวรคู่กรรมต้องอดทน เพราะความสัมพันธ์จะไม่ได้ราบรื่น คนโสด: จะมีคนเข้ามาชอบเข้ามาจีบแต่จะเจอแต่คนไม่จริงใจ สุขภาพ: โรคอ้วนไขมัน การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันพุธ...การงาน: จะได้รับงานที่ยากแต่ผลตอบแทนดี การเงิน: มีโอกาสได้โชคได้เงินจากงาน หรือได้จากผู้อุปถัมภ์ความรัก:ระวังจะมีปากเสียงทะเลาะกันเรื่องคำพูดคำจาหรือทะเลาะกันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนโสด: จะมีคนเข้ามาหวังเรื่อง 18+ืสุขภาพ: มีโอกาสเจ็บป่วยกะทันหัน หรือถ้าเป็นอะไรอยู่มีโอกาสอาการจะแย่ลง การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันพฤหัสบดี...การงาน: ราบเรียบ จะรู้สึกเบื่อๆและขี้เกียจ การเงิน: จะมีรายจ่ายมากอาจได้เสียเงินโดยเสน่หา หรือช่วยเหลือคนอื่นเพราะความรักหรือสงสาร ความรัก:ระวังจะทะเลาะกันเพราะปัญหาการเงินหนี้สิน หรือทะเลาะกันเรื่องคนเก่าๆ เรื่องเก่าๆ คนโสด: จะมีคนทางออนไลน์เข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: ปวดขา ปวดหลัง ปวดเมื่อยตามตัว การเดินทาง:ให้ระวังของหายระหว่างการเดินทาง#คนเกิดวันศุกร์...การงาน: จะมีโชคจากงาน ใครที่ทำงานไม่ถูกต้องไม่โปร่งใสมีโอกาสจะถูกตรวจสอบ การเงิน:จะมีรายจ่ายมากอาจได้เสียเงินก้อน หรือได้นำเงินไปลงทุน จะหมดกับอาหารเครื่องดื่มราคาแพงๆ ความรัก: อยู่กันแบบเป็นคู่เวรคู่กรรมต้องอดทน ระวังจะมีปัญหาเรื่องมือที่ 3 ปัญหาหึงหวงชิดมาก คนโสด: จะมีคนใกล้ตัวใกล้ชิดเข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: ปวดขาข้อเข่า โรคกระดูก การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันเสาร์...การงาน:จะมีผู้หลักผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ การเงิน: จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับของกินของฝาก หรือหมดกับของที่ไม่ค่อยจำเป็น ความรัก: ระวังมีปัญหาหึงหวงคิดมาก คนโสด: จะมีความสุขกับการทำงานยังไม่มีเวลาออกไปเจอใคร สุขภาพ: เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ปอด หลอดลม โรคหวัด การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันอาทิตย์...การงาน: มีโอกาสรุ่งเรืองก้าวหน้าจะมีผู้หลักผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ การเงิน: จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับรถ ค่าปรับค่าซ่อม การเดินทาง ความรัก: ระวังจะทะเลาะกันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนโสด: จะมีคนจากที่ทำงานคนใกล้ตัวใกล้ชิดเข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: โรคในช่องท้องการเดินทาง:ปลอดภัยดี-----------#หมอฝนยิปซี #อาจารย์เจdomino #ดูดวงทางแชท #หมอดูแม่นๆ #ดูดวงความรัก #ดูดวงเนื้อคู่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 94 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ดวงรายวัน 14 พฤศจิกายน 67#คนเกิดวันจันทร์...การงาน:จะมีเรื่องอึดอัดใจกับผู้ร่วมงาน หรือจะเจอคนที่ทำงานไม่ได้ดั่งใจ การเงิน: จะมีรายจ่ายจุกจิกจ่ายไม่รู้จักจบ จะหมดกับคนรัก หรือจะเสียเงินโดยเสน่หา เช่นช่วยเหลือคนอื่นเพราะความรักหรือความสงสาร ความรัก: คนรักจะเปลี่ยนแปลงไปไม่ค่อยสนใจ คนโสด:จะไม่ค่อยมีเวลาออกไปเจอใครจะมุ่งแต่การทำงานธุรกิจ สุขภาพ: ปวดเมื่อยข้อมือเส้นเอ็น อ่อนเพลียพักผ่อนน้อย การเดินทาง:ไม่ค่อยปลอดภัยให้หลีกเลี่ยงเดินทางกลางคืน#คนเกิดวันอังคาร...การงาน:มีโอกาสได้ออกงานเปลี่ยนงานไปทำธุรกิจใหม่ๆ การเงิน:จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับการทำบุญหรือได้นำเงินไปช่วยเหลือคนอื่น ความรัก:จะอยู่กันเหมือนเป็นคู่เวรคู่กรรมต้องอดทน เพราะความสัมพันธ์จะไม่ได้ราบรื่น คนโสด: จะมีคนเข้ามาชอบเข้ามาจีบแต่จะเจอแต่คนไม่จริงใจ สุขภาพ: โรคอ้วนไขมัน การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันพุธ...การงาน: จะได้รับงานที่ยากแต่ผลตอบแทนดี การเงิน: มีโอกาสได้โชคได้เงินจากงาน หรือได้จากผู้อุปถัมภ์ความรัก:ระวังจะมีปากเสียงทะเลาะกันเรื่องคำพูดคำจาหรือทะเลาะกันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนโสด: จะมีคนเข้ามาหวังเรื่อง 18+ืสุขภาพ: มีโอกาสเจ็บป่วยกะทันหัน หรือถ้าเป็นอะไรอยู่มีโอกาสอาการจะแย่ลง การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันพฤหัสบดี...การงาน: ราบเรียบ จะรู้สึกเบื่อๆและขี้เกียจ การเงิน: จะมีรายจ่ายมากอาจได้เสียเงินโดยเสน่หา หรือช่วยเหลือคนอื่นเพราะความรักหรือสงสาร ความรัก:ระวังจะทะเลาะกันเพราะปัญหาการเงินหนี้สิน หรือทะเลาะกันเรื่องคนเก่าๆ เรื่องเก่าๆ คนโสด: จะมีคนทางออนไลน์เข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: ปวดขา ปวดหลัง ปวดเมื่อยตามตัว การเดินทาง:ให้ระวังของหายระหว่างการเดินทาง#คนเกิดวันศุกร์...การงาน: จะมีโชคจากงาน ใครที่ทำงานไม่ถูกต้องไม่โปร่งใสมีโอกาสจะถูกตรวจสอบ การเงิน:จะมีรายจ่ายมากอาจได้เสียเงินก้อน หรือได้นำเงินไปลงทุน จะหมดกับอาหารเครื่องดื่มราคาแพงๆ ความรัก: อยู่กันแบบเป็นคู่เวรคู่กรรมต้องอดทน ระวังจะมีปัญหาเรื่องมือที่ 3 ปัญหาหึงหวงชิดมาก คนโสด: จะมีคนใกล้ตัวใกล้ชิดเข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: ปวดขาข้อเข่า โรคกระดูก การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันเสาร์...การงาน:จะมีผู้หลักผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ การเงิน: จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับของกินของฝาก หรือหมดกับของที่ไม่ค่อยจำเป็น ความรัก: ระวังมีปัญหาหึงหวงคิดมาก คนโสด: จะมีความสุขกับการทำงานยังไม่มีเวลาออกไปเจอใคร สุขภาพ: เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ปอด หลอดลม โรคหวัด การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันอาทิตย์...การงาน: มีโอกาสรุ่งเรืองก้าวหน้าจะมีผู้หลักผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ การเงิน: จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับรถ ค่าปรับค่าซ่อม การเดินทาง ความรัก: ระวังจะทะเลาะกันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนโสด: จะมีคนจากที่ทำงานคนใกล้ตัวใกล้ชิดเข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: โรคในช่องท้องการเดินทาง:ปลอดภัยดี-----------#หมอฝนยิปซี #อาจารย์เจdomino #ดูดวงทางแชท #หมอดูแม่นๆ #ดูดวงความรัก #ดูดวงเนื้อคู่
    #ดวงรายวัน 14 พฤศจิกายน 67#คนเกิดวันจันทร์...การงาน:จะมีเรื่องอึดอัดใจกับผู้ร่วมงาน หรือจะเจอคนที่ทำงานไม่ได้ดั่งใจ การเงิน: จะมีรายจ่ายจุกจิกจ่ายไม่รู้จักจบ จะหมดกับคนรัก หรือจะเสียเงินโดยเสน่หา เช่นช่วยเหลือคนอื่นเพราะความรักหรือความสงสาร ความรัก: คนรักจะเปลี่ยนแปลงไปไม่ค่อยสนใจ คนโสด:จะไม่ค่อยมีเวลาออกไปเจอใครจะมุ่งแต่การทำงานธุรกิจ สุขภาพ: ปวดเมื่อยข้อมือเส้นเอ็น อ่อนเพลียพักผ่อนน้อย การเดินทาง:ไม่ค่อยปลอดภัยให้หลีกเลี่ยงเดินทางกลางคืน#คนเกิดวันอังคาร...การงาน:มีโอกาสได้ออกงานเปลี่ยนงานไปทำธุรกิจใหม่ๆ การเงิน:จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับการทำบุญหรือได้นำเงินไปช่วยเหลือคนอื่น ความรัก:จะอยู่กันเหมือนเป็นคู่เวรคู่กรรมต้องอดทน เพราะความสัมพันธ์จะไม่ได้ราบรื่น คนโสด: จะมีคนเข้ามาชอบเข้ามาจีบแต่จะเจอแต่คนไม่จริงใจ สุขภาพ: โรคอ้วนไขมัน การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันพุธ...การงาน: จะได้รับงานที่ยากแต่ผลตอบแทนดี การเงิน: มีโอกาสได้โชคได้เงินจากงาน หรือได้จากผู้อุปถัมภ์ความรัก:ระวังจะมีปากเสียงทะเลาะกันเรื่องคำพูดคำจาหรือทะเลาะกันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนโสด: จะมีคนเข้ามาหวังเรื่อง 18+ืสุขภาพ: มีโอกาสเจ็บป่วยกะทันหัน หรือถ้าเป็นอะไรอยู่มีโอกาสอาการจะแย่ลง การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันพฤหัสบดี...การงาน: ราบเรียบ จะรู้สึกเบื่อๆและขี้เกียจ การเงิน: จะมีรายจ่ายมากอาจได้เสียเงินโดยเสน่หา หรือช่วยเหลือคนอื่นเพราะความรักหรือสงสาร ความรัก:ระวังจะทะเลาะกันเพราะปัญหาการเงินหนี้สิน หรือทะเลาะกันเรื่องคนเก่าๆ เรื่องเก่าๆ คนโสด: จะมีคนทางออนไลน์เข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: ปวดขา ปวดหลัง ปวดเมื่อยตามตัว การเดินทาง:ให้ระวังของหายระหว่างการเดินทาง#คนเกิดวันศุกร์...การงาน: จะมีโชคจากงาน ใครที่ทำงานไม่ถูกต้องไม่โปร่งใสมีโอกาสจะถูกตรวจสอบ การเงิน:จะมีรายจ่ายมากอาจได้เสียเงินก้อน หรือได้นำเงินไปลงทุน จะหมดกับอาหารเครื่องดื่มราคาแพงๆ ความรัก: อยู่กันแบบเป็นคู่เวรคู่กรรมต้องอดทน ระวังจะมีปัญหาเรื่องมือที่ 3 ปัญหาหึงหวงชิดมาก คนโสด: จะมีคนใกล้ตัวใกล้ชิดเข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: ปวดขาข้อเข่า โรคกระดูก การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันเสาร์...การงาน:จะมีผู้หลักผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ การเงิน: จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับของกินของฝาก หรือหมดกับของที่ไม่ค่อยจำเป็น ความรัก: ระวังมีปัญหาหึงหวงคิดมาก คนโสด: จะมีความสุขกับการทำงานยังไม่มีเวลาออกไปเจอใคร สุขภาพ: เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ปอด หลอดลม โรคหวัด การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันอาทิตย์...การงาน: มีโอกาสรุ่งเรืองก้าวหน้าจะมีผู้หลักผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ การเงิน: จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับรถ ค่าปรับค่าซ่อม การเดินทาง ความรัก: ระวังจะทะเลาะกันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนโสด: จะมีคนจากที่ทำงานคนใกล้ตัวใกล้ชิดเข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: โรคในช่องท้องการเดินทาง:ปลอดภัยดี-----------#หมอฝนยิปซี #อาจารย์เจdomino #ดูดวงทางแชท #หมอดูแม่นๆ #ดูดวงความรัก #ดูดวงเนื้อคู่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 80 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไหว้พระสวดมนต์ ภาวนา เป็นอะไรที่ดีต่อจิต เป็นเรื่องของจิตของบุญกุศล
    ไหว้พระสวดมนต์ ภาวนา เป็นอะไรที่ดีต่อจิต เป็นเรื่องของจิตของบุญกุศล
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 39 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายอำเภอเกาะพะงัน ผนึกกำลัง ตร.ทุกหน่วย สร้างความเชื่อมันนักท่องเที่ยว หลังมีข่าวลือขู่ทำร้าน นทท.อิสราเอล สุดท้ายโอละพ่อ เป็นเรื่องของนักท่องเที่ยว เขม่นกัน และเป็นการสร้างข่าวเท็จ วอนหยุดการกระทำ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000109394

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    นายอำเภอเกาะพะงัน ผนึกกำลัง ตร.ทุกหน่วย สร้างความเชื่อมันนักท่องเที่ยว หลังมีข่าวลือขู่ทำร้าน นทท.อิสราเอล สุดท้ายโอละพ่อ เป็นเรื่องของนักท่องเที่ยว เขม่นกัน และเป็นการสร้างข่าวเท็จ วอนหยุดการกระทำ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000109394 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    Haha
    Angry
    23
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1409 มุมมอง 1 รีวิว
  • “ปานเทพ” เปิดหลักฐานสัญญาจ้างทำแอปฯ หวยออนไลน์ ราคา 2 ล้านยูโร ลงชื่อ “พี่อ้อย” ชัดเจน โดย “ทนายตั้ม” เป็นตัวกลาง รับเงินแล้วบอกบริษัททำแอปฯ ว่า “พี่อ้อย” ยกเลิกสัญญา ก่อนนำเงินไปซื้อบ้านหรู 43 ล้าน ที่อ้างว่าให้โดยเสน่หา หรือให้กู้ยืมมาลงทุน จึงเป็นเรื่องเท็จทั้งสิ้น

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000109334

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “ปานเทพ” เปิดหลักฐานสัญญาจ้างทำแอปฯ หวยออนไลน์ ราคา 2 ล้านยูโร ลงชื่อ “พี่อ้อย” ชัดเจน โดย “ทนายตั้ม” เป็นตัวกลาง รับเงินแล้วบอกบริษัททำแอปฯ ว่า “พี่อ้อย” ยกเลิกสัญญา ก่อนนำเงินไปซื้อบ้านหรู 43 ล้าน ที่อ้างว่าให้โดยเสน่หา หรือให้กู้ยืมมาลงทุน จึงเป็นเรื่องเท็จทั้งสิ้น อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000109334 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    Haha
    Wow
    60
    4 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1623 มุมมอง 1 รีวิว
  • ทรัพย์สมบัติส่วนบุคคล ตอนที่ 1


    เรื่องที่ผมคิดว่าเป็นเรื่องใหญ่ในการดำเนินชีวิตคือเรื่อง “ทรัพย์สมบัติส่วนบุคคล” ซึ่งมันเป็นสาเหตุให้เกิดเรื่องราวมากมายที่กระทบต่อจิตใจ , สร้างความเสียหายให้กับชีวิต , มีผลต่อการตัดสินใจต่างๆมากมายในแต่ละครั้งและรวมถึงเป็นตัวชี้วัดความสุขอีกด้วย

    ทรัพย์สมบัติส่วนบุคคล มีผลอย่างไรบ้าง?
    -คิดว่าทรัพย์สมบัติซื้อได้ทุกอย่าง
    -เปรียบเทียบทรัพย์สมบัติของฉัน/ของเธอ มีมากว่าน้อยกว่า
    -ทรัพย์สมบัติส่งผลต่อความมั่นใจในตัวเอง ฉันสมบัติเยอะ ตัวฉันใหญ่กว่าเธอ
    -คนที่ทรัพย์สมบัติน้อยกว่าก็อยากจะมีมากขึ้น เพื่อเพิ่มที่ยืนให้กับตัวเอง
    -เป้าหมายของทุกๆคนเลยไปอยู่ที่ต้องมีทรัพย์สมบัติมากๆเข้าไว้
    -ถ้าหากทรัพย์สมบัติเกิดสูญเสียไปจะเสียใจมาก เช่นถ้าถูก call center หลอกเอาสมบัติไป นอนไม่หลับ ป่วยซึมเศร้า และทำร้ายตัวเองในเวลาต่อมา
    -ทรัพย์สมบัติหามายากแลกด้วยหยาดเหงื่อกำลังกายและความอดทน
    -ทรัพย์สมบัติมีเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอ อยากมีให้มากๆ และมากๆเข้าไว้เพื่อความั่นคง
    -มีทรัพย์สมบัติมากเท่ากับอำนาจมาก
    -เห็นคนอื่นมีทรัพย์สมบัติบางอย่าง ก็อยากมีอย่างเขาด้วย
    -ทรัพย์สมบัติตายไปเอาไปไม่ได้
    -ทรัพย์สมบัติป้องกันการป่วยและการตายไม่ได้
    -ทรัพย์สมบัติที่เคยหามาได้ ถ้าหากหามาไม่ได้เท่าเดิมจะสร้างความกังวลกับจิตใจ
    -เมื่ออายุมากขึ้นไม่สามารถหาทรัพย์สมบัติได้ และยังใช้สมบัติที่สะสมไว้เพื่อการรักษาตัวเองเมื่อเจ็บป่วย ทำให้เกิดความกังวลมากมายตามมา
    -ได้ทรัพย์สมบัติมาเล็กน้อยก็มีความสุข
    -เมื่อได้ทรัพย์สมบัติมาแล้ว ก็อยากอวดและอยากให้คนอื่นได้รับรู้
    -เห็นสิ่งของที่ใหม่กว่า ดีกว่า สวยกว่า กับทรัพย์สมบัติที่มีอยู่ ก็อยากได้ อยากเปลี่ยน
    -หลายๆคนถูกหลอกจากการอยากได้ทรัพย์สมบัติ
    -ได้ทรัพย์สมบัติมาเร็วตอนอายุน้อยๆเท่ากับเป็นคนเก่ง เลยทำให้หลายๆคนทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ทรัพย์สมบัติมาอย่างรวดเร็ว

    ยังคงมีเรื่องราวเกี่ยวกับทรัพย์สมบัติที่มีผลกระทบต่อชีวิตอีกมากมาย วัยรุ่นและคุณพ่อคุณแม่ แชร์ความคิดมาในคอมเมนท์ได้ครับ

    แล้วจะมีวิธีคิดอย่างไรเพื่อให้หลุดพ้นจากสิ่งเหล่านี้ ไว้เล่าตอนหน้านะครับ
    ทรัพย์สมบัติส่วนบุคคล ตอนที่ 1 เรื่องที่ผมคิดว่าเป็นเรื่องใหญ่ในการดำเนินชีวิตคือเรื่อง “ทรัพย์สมบัติส่วนบุคคล” ซึ่งมันเป็นสาเหตุให้เกิดเรื่องราวมากมายที่กระทบต่อจิตใจ , สร้างความเสียหายให้กับชีวิต , มีผลต่อการตัดสินใจต่างๆมากมายในแต่ละครั้งและรวมถึงเป็นตัวชี้วัดความสุขอีกด้วย ทรัพย์สมบัติส่วนบุคคล มีผลอย่างไรบ้าง? -คิดว่าทรัพย์สมบัติซื้อได้ทุกอย่าง -เปรียบเทียบทรัพย์สมบัติของฉัน/ของเธอ มีมากว่าน้อยกว่า -ทรัพย์สมบัติส่งผลต่อความมั่นใจในตัวเอง ฉันสมบัติเยอะ ตัวฉันใหญ่กว่าเธอ -คนที่ทรัพย์สมบัติน้อยกว่าก็อยากจะมีมากขึ้น เพื่อเพิ่มที่ยืนให้กับตัวเอง -เป้าหมายของทุกๆคนเลยไปอยู่ที่ต้องมีทรัพย์สมบัติมากๆเข้าไว้ -ถ้าหากทรัพย์สมบัติเกิดสูญเสียไปจะเสียใจมาก เช่นถ้าถูก call center หลอกเอาสมบัติไป นอนไม่หลับ ป่วยซึมเศร้า และทำร้ายตัวเองในเวลาต่อมา -ทรัพย์สมบัติหามายากแลกด้วยหยาดเหงื่อกำลังกายและความอดทน -ทรัพย์สมบัติมีเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอ อยากมีให้มากๆ และมากๆเข้าไว้เพื่อความั่นคง -มีทรัพย์สมบัติมากเท่ากับอำนาจมาก -เห็นคนอื่นมีทรัพย์สมบัติบางอย่าง ก็อยากมีอย่างเขาด้วย -ทรัพย์สมบัติตายไปเอาไปไม่ได้ -ทรัพย์สมบัติป้องกันการป่วยและการตายไม่ได้ -ทรัพย์สมบัติที่เคยหามาได้ ถ้าหากหามาไม่ได้เท่าเดิมจะสร้างความกังวลกับจิตใจ -เมื่ออายุมากขึ้นไม่สามารถหาทรัพย์สมบัติได้ และยังใช้สมบัติที่สะสมไว้เพื่อการรักษาตัวเองเมื่อเจ็บป่วย ทำให้เกิดความกังวลมากมายตามมา -ได้ทรัพย์สมบัติมาเล็กน้อยก็มีความสุข -เมื่อได้ทรัพย์สมบัติมาแล้ว ก็อยากอวดและอยากให้คนอื่นได้รับรู้ -เห็นสิ่งของที่ใหม่กว่า ดีกว่า สวยกว่า กับทรัพย์สมบัติที่มีอยู่ ก็อยากได้ อยากเปลี่ยน -หลายๆคนถูกหลอกจากการอยากได้ทรัพย์สมบัติ -ได้ทรัพย์สมบัติมาเร็วตอนอายุน้อยๆเท่ากับเป็นคนเก่ง เลยทำให้หลายๆคนทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ทรัพย์สมบัติมาอย่างรวดเร็ว ยังคงมีเรื่องราวเกี่ยวกับทรัพย์สมบัติที่มีผลกระทบต่อชีวิตอีกมากมาย วัยรุ่นและคุณพ่อคุณแม่ แชร์ความคิดมาในคอมเมนท์ได้ครับ แล้วจะมีวิธีคิดอย่างไรเพื่อให้หลุดพ้นจากสิ่งเหล่านี้ ไว้เล่าตอนหน้านะครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 61 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความทุกข์
    อาจเป็นเรื่องไม่สวยงาม
    แต่การทุกข์ไปด้วยกัน
    ข้างๆกัน การใส่ใจความทุกข์
    "ของกันและกันอย่างแท้จริง"
    กลับเป็นเรื่องที่สวยงามเหลือเกิน

    จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงมีชีวิตอยู่

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #เหตุใดเราจึงมีชีวิตอยู่ #นิ้วกลม
    ความทุกข์ อาจเป็นเรื่องไม่สวยงาม แต่การทุกข์ไปด้วยกัน ข้างๆกัน การใส่ใจความทุกข์ "ของกันและกันอย่างแท้จริง" กลับเป็นเรื่องที่สวยงามเหลือเกิน จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงมีชีวิตอยู่ #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #เหตุใดเราจึงมีชีวิตอยู่ #นิ้วกลม
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 295 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเลวร้าย
    ไม่มีทางที่จะเป็นเรื่องที่ดีไปได้หรอก
    แต่มันเป็นสิ่งที่มีค่าของชีวิต

    จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงมีชีวิตอยู่

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #เหตุใดเราจึงมีชีวิตอยู่ #นิ้วกลม
    เรื่องเลวร้าย ไม่มีทางที่จะเป็นเรื่องที่ดีไปได้หรอก แต่มันเป็นสิ่งที่มีค่าของชีวิต จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงมีชีวิตอยู่ #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #เหตุใดเราจึงมีชีวิตอยู่ #นิ้วกลม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 272 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหราชอาณาจักรไม่อาจปล่อยให้ยูเครนประสบความพ่ายแพ้ ในสงครามที่กำลังสู้รบกับรัสเซีย จากเสียงกระทุ้งของอดีตนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน พร้อมแนะว่าลอนดอนอาจจำเป็นต้องทำถึงขั้น ส่งทหารเข้าไปช่วยเหลือหากเคียฟกำลังตกเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ
    .
    อดีตนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรรายนี้ กล่าวอ้างว่าความสำเร็จของรัสเซียในยูเครน จะจุดชนวนวิกฤตด้านความมั่นคงสำหรับสหรัฐฯและเหล่าพันธมิตร ในหลายๆแนวหน้า "มันอาจจะเป็นรัฐต่างๆในแถบบอลติก อาจจะเป็นจอร์เจีย คุณจะได้เห็นผลกระทบของความพ่ายแพ้ของยูเครนในสมรภูมิแปซิฟิก คุณจะได้เห็นมันในทะเลจีนใต้" จอห์นสันระบุ โดยไม่ได้พูดอย่างเจาะจงว่าอะไรจะเกิดขึ้นในภูมิภาคเหล่านั้น
    .
    เขายังให้คำจำกัดความความช่วยเหลือด้านการทหารและการเงินที่มอบแก่เคียฟ ว่าเป็น "การลงทุนสมเหตุสมผล" และเป็นหนทางที่ดีในการใช้จ่ายเงินของประชาชน โดยอ้างว่าสหราชอาณาจักรมีความตั้งใจใช้เงินมากขึ้น "สืบเนื่องจากความมั่นคงร่วมของเรา จะลดระดับลงอย่างมาก จากการคืนชีพของรัสเซียที่กำลังคุกคามทุกภาคส่วนของยุโรปในทุกรูปแบบ"
    .
    จอห์นสัน ยังชี้ถึงแนวโน้มความเสี่ยงที่เกิดจากความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯจะลดมอบความช่วยเหลือแก่เคียฟ พร้อมอ้างว่ามีบางคนในแวดวงใกล้ชิดกับว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่มองประเด็นนี้อย่างผิดๆ
    .
    "มีเสียงกระซิบต่างๆนานามากมายดึงก้องอยู่ในหูจองทรัมป์ และในแถวหน้าของพรรครีพับลิกัน จำนวนมากในนั้น พวกเขาเลือกเส้นทางผิดๆเกี่ยวกับยูเครน" เขากล่าว
    .
    ถ้าสหรัฐฯลดความช่วยเหลือที่มอบแก่ยูเครน และเคียฟเริ่มพ่ายแพ้ ลอนดอนอาจถูกบีบให้ต้องประจำการทหารในภูมิภาค จอห์สันกล่าวอ้าง พร้อมระบุว่า "จากนั้นเราจะจำเป็นต้องส่งทหารสหรชอาณาจักรเข้าช่วยปกป้องยูเครน"
    .
    รัสเซียกล่าวซ้ำๆว่าไม่มีแผนโจมตีนาโตหรือรัฐสมาชิกใดๆของพันธมิตรทหารแห่งนี้ ในขณะเดียวกัน มอสโกก็เตือนหลายครั้ง ว่าการมอบความช่วยเหลือทางทหารแก่เคียฟ กำลังผลักให้นาโตเสี่ยงมากขึ้นที่จะปะทะกันโดยตรงกับรัสเซีย โดยเฉพาะหากนาโตไฟเขียวให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลของพวกเขาโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย ทางมอสโกก็ถือว่ามันเป็นการโจมตีโดยตรงโดยประเทศต่างๆที่จัดหาอาวุธดังกล่าวมอบแก่เคียฟ
    .
    ก่อนหน้านี้ ปูติน ออกคำสั่งให้แก้ไขหลักการนิวเคลียร์ของประเทศ ซึ่งกำหนดว่าการโจมตีใดๆจากรัฐที่ไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ ภายใต้การสนับสนุนของมหาอำนาจนิวเคลียร์หนึ่งๆ จะถือว่าเป็นเรื่องสมเหตุสมผลที่รัสเซียจะตอบโต้ทางนิวเคลียร์ เช่นเดียวกับอาวุธอื่นๆ
    .
    เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หนังสือพิมพ์เทเลกราฟ รายงานว่าสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศส อาจผลักดันให้สถานการณ์ความขัดแย้งในยูเครนลุกลามบานปลายยิ่งขึ้น ด้วยการพยายามโน้มน้าวให้วอชิงตันไฟเขียวให้เคียฟโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย ด้วยอาวุธของตะวันตก ในนั้นรวมถึงขีปนาวุธสตอร์ม ชาโดว์
    .
    ตัวของ จอห์นสันเอง เคยถูกกล่าวหาบงการปั่นป่วนการเจรจาสันติภาพระหว่างมอสโกและเคียฟย้อนกลับไปในฤดูใบไม้ผลิปี 2022 การเจรจาในอิสตันบูลก่อร่างข้อเสนอหนึ่งที่คณะตัวแทนเจรจาของทั้งรัสเซียและยูเครนเห็นพ้องต้องกันในช่วงเวลาดังกล่าว
    .
    เดวิด อารัคฮาเมีย หัวหน้าตัวแทนเจรจาของยูเครน ยอมรับในเวลาต่อมา ว่าเคียฟถอนตัวจากข้อตกลงดังกล่าว หลังจาก จอห์นสัน เรียกร้องให้ยูเครนเดินหน้าสู้รัสเซียต่อไป ระหว่างการเดินทางเยือนเมืองหลวงของยูเครน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000109078
    ..............
    Sondhi X
    สหราชอาณาจักรไม่อาจปล่อยให้ยูเครนประสบความพ่ายแพ้ ในสงครามที่กำลังสู้รบกับรัสเซีย จากเสียงกระทุ้งของอดีตนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน พร้อมแนะว่าลอนดอนอาจจำเป็นต้องทำถึงขั้น ส่งทหารเข้าไปช่วยเหลือหากเคียฟกำลังตกเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ . อดีตนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรรายนี้ กล่าวอ้างว่าความสำเร็จของรัสเซียในยูเครน จะจุดชนวนวิกฤตด้านความมั่นคงสำหรับสหรัฐฯและเหล่าพันธมิตร ในหลายๆแนวหน้า "มันอาจจะเป็นรัฐต่างๆในแถบบอลติก อาจจะเป็นจอร์เจีย คุณจะได้เห็นผลกระทบของความพ่ายแพ้ของยูเครนในสมรภูมิแปซิฟิก คุณจะได้เห็นมันในทะเลจีนใต้" จอห์นสันระบุ โดยไม่ได้พูดอย่างเจาะจงว่าอะไรจะเกิดขึ้นในภูมิภาคเหล่านั้น . เขายังให้คำจำกัดความความช่วยเหลือด้านการทหารและการเงินที่มอบแก่เคียฟ ว่าเป็น "การลงทุนสมเหตุสมผล" และเป็นหนทางที่ดีในการใช้จ่ายเงินของประชาชน โดยอ้างว่าสหราชอาณาจักรมีความตั้งใจใช้เงินมากขึ้น "สืบเนื่องจากความมั่นคงร่วมของเรา จะลดระดับลงอย่างมาก จากการคืนชีพของรัสเซียที่กำลังคุกคามทุกภาคส่วนของยุโรปในทุกรูปแบบ" . จอห์นสัน ยังชี้ถึงแนวโน้มความเสี่ยงที่เกิดจากความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯจะลดมอบความช่วยเหลือแก่เคียฟ พร้อมอ้างว่ามีบางคนในแวดวงใกล้ชิดกับว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่มองประเด็นนี้อย่างผิดๆ . "มีเสียงกระซิบต่างๆนานามากมายดึงก้องอยู่ในหูจองทรัมป์ และในแถวหน้าของพรรครีพับลิกัน จำนวนมากในนั้น พวกเขาเลือกเส้นทางผิดๆเกี่ยวกับยูเครน" เขากล่าว . ถ้าสหรัฐฯลดความช่วยเหลือที่มอบแก่ยูเครน และเคียฟเริ่มพ่ายแพ้ ลอนดอนอาจถูกบีบให้ต้องประจำการทหารในภูมิภาค จอห์สันกล่าวอ้าง พร้อมระบุว่า "จากนั้นเราจะจำเป็นต้องส่งทหารสหรชอาณาจักรเข้าช่วยปกป้องยูเครน" . รัสเซียกล่าวซ้ำๆว่าไม่มีแผนโจมตีนาโตหรือรัฐสมาชิกใดๆของพันธมิตรทหารแห่งนี้ ในขณะเดียวกัน มอสโกก็เตือนหลายครั้ง ว่าการมอบความช่วยเหลือทางทหารแก่เคียฟ กำลังผลักให้นาโตเสี่ยงมากขึ้นที่จะปะทะกันโดยตรงกับรัสเซีย โดยเฉพาะหากนาโตไฟเขียวให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลของพวกเขาโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย ทางมอสโกก็ถือว่ามันเป็นการโจมตีโดยตรงโดยประเทศต่างๆที่จัดหาอาวุธดังกล่าวมอบแก่เคียฟ . ก่อนหน้านี้ ปูติน ออกคำสั่งให้แก้ไขหลักการนิวเคลียร์ของประเทศ ซึ่งกำหนดว่าการโจมตีใดๆจากรัฐที่ไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ ภายใต้การสนับสนุนของมหาอำนาจนิวเคลียร์หนึ่งๆ จะถือว่าเป็นเรื่องสมเหตุสมผลที่รัสเซียจะตอบโต้ทางนิวเคลียร์ เช่นเดียวกับอาวุธอื่นๆ . เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หนังสือพิมพ์เทเลกราฟ รายงานว่าสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศส อาจผลักดันให้สถานการณ์ความขัดแย้งในยูเครนลุกลามบานปลายยิ่งขึ้น ด้วยการพยายามโน้มน้าวให้วอชิงตันไฟเขียวให้เคียฟโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย ด้วยอาวุธของตะวันตก ในนั้นรวมถึงขีปนาวุธสตอร์ม ชาโดว์ . ตัวของ จอห์นสันเอง เคยถูกกล่าวหาบงการปั่นป่วนการเจรจาสันติภาพระหว่างมอสโกและเคียฟย้อนกลับไปในฤดูใบไม้ผลิปี 2022 การเจรจาในอิสตันบูลก่อร่างข้อเสนอหนึ่งที่คณะตัวแทนเจรจาของทั้งรัสเซียและยูเครนเห็นพ้องต้องกันในช่วงเวลาดังกล่าว . เดวิด อารัคฮาเมีย หัวหน้าตัวแทนเจรจาของยูเครน ยอมรับในเวลาต่อมา ว่าเคียฟถอนตัวจากข้อตกลงดังกล่าว หลังจาก จอห์นสัน เรียกร้องให้ยูเครนเดินหน้าสู้รัสเซียต่อไป ระหว่างการเดินทางเยือนเมืองหลวงของยูเครน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000109078 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Sad
    Angry
    17
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 704 มุมมอง 0 รีวิว
  • การที่คุณพิจารณาภาวะเกิด-ดับและรู้สึกถึงความกลัวในความหายไปนั้นเป็นเรื่องปกติและเป็นส่วนหนึ่งของการพิจารณาที่เข้าถึงเนื้อหาธรรม เมื่อเราพิจารณาตามความจริงอย่างถูกต้อง มักจะเจอกับความกลัวที่เกิดจากการตระหนักถึงความไม่แน่นอนและความไม่มีตัวตน

    ในความกลัวมีอยู่สองแบบ:

    1. กลัวความไม่มี (วิภวตัณหา): คือกลัวว่าตนเองจะหายไป ซึ่งเป็นความกลัวที่เกิดขึ้นจากความไม่รู้ เหมือนกลัวว่าหากสิ่งที่เป็น "เรา" จะดับสูญ ความคิดนี้เกิดจากการยึดติดในตัวตนที่เราคุ้นเคยว่าเป็นของแท้

    2. กลัวความมี (กลัวความเป็น): ซึ่งเป็นการกลัวอย่างมีปัญญา คือการตระหนักรู้ว่ากายและใจนี้เป็นทุกข์โดยแท้จริง เกิดขึ้นแล้วต้องดับไปตามธรรมชาติ สิ่งนี้แสดงให้เห็นโทษของการเกิดขึ้นและการคงอยู่ที่เปลี่ยนไปตามกรรม

    สิ่งที่ควรทำต่อคือฝึกจิตให้ตั้งมั่นและพิจารณาต่อไป เพื่อทำให้เห็นชัดขึ้นว่า "ตัวเรา" ที่แท้จริงนั้นไม่มีอยู่ตั้งแต่แรก ความกลัวจะหายไปเมื่อเห็นว่าทั้งหมดเป็นเพียงสิ่งที่เกิดขึ้นและดับไป ไม่ใช่ "ตัวเรา" อย่างแท้จริง

    การทำจิตให้ตั้งมั่น มองภาวะเหล่านี้จากมุมมองที่สว่าง จะช่วยให้เห็นความลวงของตัวตนและคลายความกลัวได้

    การที่คุณพิจารณาภาวะเกิด-ดับและรู้สึกถึงความกลัวในความหายไปนั้นเป็นเรื่องปกติและเป็นส่วนหนึ่งของการพิจารณาที่เข้าถึงเนื้อหาธรรม เมื่อเราพิจารณาตามความจริงอย่างถูกต้อง มักจะเจอกับความกลัวที่เกิดจากการตระหนักถึงความไม่แน่นอนและความไม่มีตัวตน ในความกลัวมีอยู่สองแบบ: 1. กลัวความไม่มี (วิภวตัณหา): คือกลัวว่าตนเองจะหายไป ซึ่งเป็นความกลัวที่เกิดขึ้นจากความไม่รู้ เหมือนกลัวว่าหากสิ่งที่เป็น "เรา" จะดับสูญ ความคิดนี้เกิดจากการยึดติดในตัวตนที่เราคุ้นเคยว่าเป็นของแท้ 2. กลัวความมี (กลัวความเป็น): ซึ่งเป็นการกลัวอย่างมีปัญญา คือการตระหนักรู้ว่ากายและใจนี้เป็นทุกข์โดยแท้จริง เกิดขึ้นแล้วต้องดับไปตามธรรมชาติ สิ่งนี้แสดงให้เห็นโทษของการเกิดขึ้นและการคงอยู่ที่เปลี่ยนไปตามกรรม สิ่งที่ควรทำต่อคือฝึกจิตให้ตั้งมั่นและพิจารณาต่อไป เพื่อทำให้เห็นชัดขึ้นว่า "ตัวเรา" ที่แท้จริงนั้นไม่มีอยู่ตั้งแต่แรก ความกลัวจะหายไปเมื่อเห็นว่าทั้งหมดเป็นเพียงสิ่งที่เกิดขึ้นและดับไป ไม่ใช่ "ตัวเรา" อย่างแท้จริง การทำจิตให้ตั้งมั่น มองภาวะเหล่านี้จากมุมมองที่สว่าง จะช่วยให้เห็นความลวงของตัวตนและคลายความกลัวได้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 39 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลิงก์นี้ลงในเฟสบุ๊กไม่ได้ครับ

    WHO กลับคำหลัง trump มา เคยประกาศเข้ม เรื่องต้องฉีดวัคซีนและต้องมีวัคซีนพาสปอร์ตจนกระทั่งถึงมีข้อมูลวัคซีนประจำตัวที่เป็นดิจิทัลไม่ใช่นั้นจะประสบปัญหา หลังtrump ขึ้น เปลี่ยนคำทันที
    การขึ้นรัฐบาลใหม่ของสหรัฐที่มีการประกาศชัดเจนถึงเรื่อง
    ยกเลิกการสนับสนุนให้เงินองค์การอนามัยโลกเพราะไม่โปร่งใส ทุจริต

    เรื่องรื้อองค์กรทางสาธารณสุขของประเทศอเมริกา รวม CDC FDA ที่มีความสัมพันธ์แนบแน่นกับบริษัทยาและวัคซีนรวมทั้งเชื่อมโยงไปถึงนักวิชาการ

    เรื่องเลิกบังคับการฉีดวัคซีน

    เรื่องจัดการกับบริษัทที่เลิกจ้างพนักงานหรือกองทัพที่ปลดทหาร ที่ไม่ยอมฉีดวัคซีน

    เรื่องจัดการด็อกเตอร์เฟาซี -เกทส์ ที่เป็นตัวการในการส่งเสริมให้ทุนการสร้างไวรัสใหม่ที่ร้ายแรงกว่าเดิมจะได้ปล่อยวัคซีนออกมา รวมทั้งกลบเกลื่อนร่องรอย โควิดหลุดออกมาจากห้องแลป โดยที่มีพิมพ์เขียวของตัวไวรัสอยู่แล้วก่อนหน้าที่จะมีการระบาดของโควิด

    เรื่องความไม่ปกติของวัคซีนที่ปล่อยออกมาทั้งสิ่งที่ปนเปื้อนและความสามารถที่จะก่อให้เกิดผลแทรกซ้อนต่างๆได้

    ทั้งนี้หลังจากที่ประกาศชนะการเลือกตั้ง บริษัทยาและวัคซีนยักษ์ใหญ่มีการประชุมด่วน หาทางบรรเทาภัยพิบัติหายนะที่จะเกิดขึ้น เพราะ จะต้องมีการเรียกชดเชยเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบเหล่านี้

    ในประเทศไทยเอง ลักษณะเป็นเช่นกัน ที่มีเส้นสายโยงไย และจะเป็นลูกกระป๋องให้องค์การต่างๆ
    เหล่านี้ทำต่อไม่ได้แล้ว เพราะถูกเปิดโปง
    รวมทั้งองค์การอนามัยโลกเช่นกัน ที่ถูกต่อต้านเรื่องบังคับให้ประเทศในโลกลงนามในสนธิสัญญาที่ต้องทำตามโดยไม่บิดพลิ้วในเรื่องการประกาศโรคระบาด ต้องใช้วัคซีนต้องใช้ยาตามที่องค์การอนามัยโลกสั่งทุกทุกประการ และไม่สามารถใช้สิ่งที่หาได้ในประเทศของตนเอง และสหรัฐต่อต้านสนธิสัญญานี้และจะออกจาก องค์การอนามัยโลกรวมทั้งเลิกให้ทุน

    องค์การอนามัยโลกในระยะแรก สั่งให้ทำทุกอย่างเข้มงวด สั่งให้ฉีดวัคซีน สั่งให้มีวัคซีนพาสปอร์ต
    ไม่เช่นนั้นเดินทางไม่ได้และมิหนำซ้ำไม่นานมานี้ สนับสนุนสหภาพยุโรป ที่จะให้มีการทำข้อมูลดิจิตอลของประชาชนและจะขยายครอบคลุมไปทั้งโลกให้คนทั้งโลกต้องฉีดวัคซีนตามสั่งไม่เช่นนั้นไม่สามารถทำอะไรได้ รวมทั้งเดินทาง

    ซึ่งเป็นแผนแต่ต้น ของ เฟาซี ได้กล่าวให้การในสภาของเกรสว่า ต้องทำให้ประชาชนที่ไม่ยอมฉีดวัคซีน มีชีวิตด้วยความยากลำบากไม่สามารถออกไปซื้อหาอาหาร ไม่สามารถเดินทาง ไม่สามารถไปโรงเรียนได้ และต้องถูกออกจากงาน

    แต่หลังจากที่เปลี่ยนรัฐบาลองค์การอนามัยโลกกลับคำ ว่าไม่ได้สั่งเช่นนั้นเป็นเรื่องของแต่ละประเทศเองที่ทำเอง ดังนั้นเป็นการโยนของเหลวสกปรกกลับให้แต่ละประเทศ

    น่าคิดที่กระทรวงทบวงกรมสถาบันสมาคม ยังมีการสนับสนุนวัคซีนเทคโนโลยีเหล่านี้ โดยไม่แยแสต่อ
    ผลกระทบร้ายแรงทั้งเฉียบพลันและระยะยาว

    ในสหรัฐ ที่ล่าสุดมีการให้ข้อมูลต่อคณะรัฐบาลใหม่ในเรื่องของความผิดปกติของวัคซีนซึ่งเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ และบิดเบือนไม่ได้

    ความจริงมีหนึ่งเดียวไม่สามารถบิดเบือนได้ และใครที่ทำให้เกิดความสูญเสียของชีวิตคนไทยต้องถูกชดใช้และต้องรับผิดชอบ
    https://youtu.be/XMTYBPqIM-I?si=jztZCg1I4k3_eLLR
    ลิงก์นี้ลงในเฟสบุ๊กไม่ได้ครับ WHO กลับคำหลัง trump มา เคยประกาศเข้ม เรื่องต้องฉีดวัคซีนและต้องมีวัคซีนพาสปอร์ตจนกระทั่งถึงมีข้อมูลวัคซีนประจำตัวที่เป็นดิจิทัลไม่ใช่นั้นจะประสบปัญหา หลังtrump ขึ้น เปลี่ยนคำทันที การขึ้นรัฐบาลใหม่ของสหรัฐที่มีการประกาศชัดเจนถึงเรื่อง ยกเลิกการสนับสนุนให้เงินองค์การอนามัยโลกเพราะไม่โปร่งใส ทุจริต เรื่องรื้อองค์กรทางสาธารณสุขของประเทศอเมริกา รวม CDC FDA ที่มีความสัมพันธ์แนบแน่นกับบริษัทยาและวัคซีนรวมทั้งเชื่อมโยงไปถึงนักวิชาการ เรื่องเลิกบังคับการฉีดวัคซีน เรื่องจัดการกับบริษัทที่เลิกจ้างพนักงานหรือกองทัพที่ปลดทหาร ที่ไม่ยอมฉีดวัคซีน เรื่องจัดการด็อกเตอร์เฟาซี -เกทส์ ที่เป็นตัวการในการส่งเสริมให้ทุนการสร้างไวรัสใหม่ที่ร้ายแรงกว่าเดิมจะได้ปล่อยวัคซีนออกมา รวมทั้งกลบเกลื่อนร่องรอย โควิดหลุดออกมาจากห้องแลป โดยที่มีพิมพ์เขียวของตัวไวรัสอยู่แล้วก่อนหน้าที่จะมีการระบาดของโควิด เรื่องความไม่ปกติของวัคซีนที่ปล่อยออกมาทั้งสิ่งที่ปนเปื้อนและความสามารถที่จะก่อให้เกิดผลแทรกซ้อนต่างๆได้ ทั้งนี้หลังจากที่ประกาศชนะการเลือกตั้ง บริษัทยาและวัคซีนยักษ์ใหญ่มีการประชุมด่วน หาทางบรรเทาภัยพิบัติหายนะที่จะเกิดขึ้น เพราะ จะต้องมีการเรียกชดเชยเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบเหล่านี้ ในประเทศไทยเอง ลักษณะเป็นเช่นกัน ที่มีเส้นสายโยงไย และจะเป็นลูกกระป๋องให้องค์การต่างๆ เหล่านี้ทำต่อไม่ได้แล้ว เพราะถูกเปิดโปง รวมทั้งองค์การอนามัยโลกเช่นกัน ที่ถูกต่อต้านเรื่องบังคับให้ประเทศในโลกลงนามในสนธิสัญญาที่ต้องทำตามโดยไม่บิดพลิ้วในเรื่องการประกาศโรคระบาด ต้องใช้วัคซีนต้องใช้ยาตามที่องค์การอนามัยโลกสั่งทุกทุกประการ และไม่สามารถใช้สิ่งที่หาได้ในประเทศของตนเอง และสหรัฐต่อต้านสนธิสัญญานี้และจะออกจาก องค์การอนามัยโลกรวมทั้งเลิกให้ทุน องค์การอนามัยโลกในระยะแรก สั่งให้ทำทุกอย่างเข้มงวด สั่งให้ฉีดวัคซีน สั่งให้มีวัคซีนพาสปอร์ต ไม่เช่นนั้นเดินทางไม่ได้และมิหนำซ้ำไม่นานมานี้ สนับสนุนสหภาพยุโรป ที่จะให้มีการทำข้อมูลดิจิตอลของประชาชนและจะขยายครอบคลุมไปทั้งโลกให้คนทั้งโลกต้องฉีดวัคซีนตามสั่งไม่เช่นนั้นไม่สามารถทำอะไรได้ รวมทั้งเดินทาง ซึ่งเป็นแผนแต่ต้น ของ เฟาซี ได้กล่าวให้การในสภาของเกรสว่า ต้องทำให้ประชาชนที่ไม่ยอมฉีดวัคซีน มีชีวิตด้วยความยากลำบากไม่สามารถออกไปซื้อหาอาหาร ไม่สามารถเดินทาง ไม่สามารถไปโรงเรียนได้ และต้องถูกออกจากงาน แต่หลังจากที่เปลี่ยนรัฐบาลองค์การอนามัยโลกกลับคำ ว่าไม่ได้สั่งเช่นนั้นเป็นเรื่องของแต่ละประเทศเองที่ทำเอง ดังนั้นเป็นการโยนของเหลวสกปรกกลับให้แต่ละประเทศ น่าคิดที่กระทรวงทบวงกรมสถาบันสมาคม ยังมีการสนับสนุนวัคซีนเทคโนโลยีเหล่านี้ โดยไม่แยแสต่อ ผลกระทบร้ายแรงทั้งเฉียบพลันและระยะยาว ในสหรัฐ ที่ล่าสุดมีการให้ข้อมูลต่อคณะรัฐบาลใหม่ในเรื่องของความผิดปกติของวัคซีนซึ่งเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ และบิดเบือนไม่ได้ ความจริงมีหนึ่งเดียวไม่สามารถบิดเบือนได้ และใครที่ทำให้เกิดความสูญเสียของชีวิตคนไทยต้องถูกชดใช้และต้องรับผิดชอบ https://youtu.be/XMTYBPqIM-I?si=jztZCg1I4k3_eLLR
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 647 มุมมอง 49 0 รีวิว
  • ทรัมป์ประกาศเลือก สส.ไมค์ วอลท์ซ (Mike Waltz) เป็นที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ (National Security Adviser) (ตำแหน่งของเจค ซัลลิแวน ในรัฐบาลไบเดน)

    ทำความรู้จักกับ "ไมค์ วอลท์ซ"
    วอลซ์ อดีตหน่วยเบเรต์เขียวและที่ปรึกษาต่อต้านการก่อการร้ายในรัฐบาลจอร์จ บุช และเป็นผู้ต่อต้านจีนอย่างเปิดเผย
    .
    "ไมค์ วอลท์ซ" ได้ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2024 ซึ่งเป็นวันก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เกี่ยวกับแนวคิดของเขาในการยุติสงครามยูเครนดังนี้:

    - เพิ่มการคว่ำบาตรรัสเซีย
    - "ปลดกุญแจมือ" ยูเครน โดยปล่อยให้ยูเครนโจมตีภายในรัสเซียมากขึ้น
    - วอลท์ซ ยังเคยวิจารณ์นโยบายของไบเดนเกี่ยวกับยูเครนตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นความขัดแย้งกับรัสเซียว่า ไบเดนไม่ได้จริงจัง และเร่งสงครามอย่างรวดเร็วและก้าวร้าวเพียงพอ
    .
    สำหรับสถานการณ์ในตะวันออกกลาง:
    - วอลท์ซ เคยแสดงความเห็นไว้ว่า การถอนทหารออกจากตะวันออกกลางเป็นเรื่องไร้เดียงสาแบบเด็กๆ เราต้องเดินหน้ารุกต่อไป
    - "ไม่ว่าจะเป็นอิหร่าน อิรัก หรือซีเรีย เราต้องเดินหน้ารุกต่อไป มิฉะนั้นเราจะถูกโจมตีภายในประเทศ"
    .
    สำหรับความสัมพันธ์กับจีน:
    - วอลท์ซ มองว่าจีนเป็นภัยคุกคามสูงสุดต่อสหรัฐฯ โดยเปรียบเทียบจีนในลักษณะเดียวกับอาวุธทำลายล้างสูง
    - เขาส่งเสริมการแบ่งแยกดินแดนด้วยอาวุธในไต้หวัน รวมถึงเสนอให้ประกาศแยกไต้หวันออกจากจีนอย่างเปิดเผย ซึ่งถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและข้อตกลงทวิภาคีระหว่างวอชิงตันกับจีนอย่างชัดเจน
    ทรัมป์ประกาศเลือก สส.ไมค์ วอลท์ซ (Mike Waltz) เป็นที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ (National Security Adviser) (ตำแหน่งของเจค ซัลลิแวน ในรัฐบาลไบเดน) ทำความรู้จักกับ "ไมค์ วอลท์ซ" วอลซ์ อดีตหน่วยเบเรต์เขียวและที่ปรึกษาต่อต้านการก่อการร้ายในรัฐบาลจอร์จ บุช และเป็นผู้ต่อต้านจีนอย่างเปิดเผย . "ไมค์ วอลท์ซ" ได้ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2024 ซึ่งเป็นวันก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เกี่ยวกับแนวคิดของเขาในการยุติสงครามยูเครนดังนี้: - เพิ่มการคว่ำบาตรรัสเซีย - "ปลดกุญแจมือ" ยูเครน โดยปล่อยให้ยูเครนโจมตีภายในรัสเซียมากขึ้น - วอลท์ซ ยังเคยวิจารณ์นโยบายของไบเดนเกี่ยวกับยูเครนตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นความขัดแย้งกับรัสเซียว่า ไบเดนไม่ได้จริงจัง และเร่งสงครามอย่างรวดเร็วและก้าวร้าวเพียงพอ . สำหรับสถานการณ์ในตะวันออกกลาง: - วอลท์ซ เคยแสดงความเห็นไว้ว่า การถอนทหารออกจากตะวันออกกลางเป็นเรื่องไร้เดียงสาแบบเด็กๆ เราต้องเดินหน้ารุกต่อไป - "ไม่ว่าจะเป็นอิหร่าน อิรัก หรือซีเรีย เราต้องเดินหน้ารุกต่อไป มิฉะนั้นเราจะถูกโจมตีภายในประเทศ" . สำหรับความสัมพันธ์กับจีน: - วอลท์ซ มองว่าจีนเป็นภัยคุกคามสูงสุดต่อสหรัฐฯ โดยเปรียบเทียบจีนในลักษณะเดียวกับอาวุธทำลายล้างสูง - เขาส่งเสริมการแบ่งแยกดินแดนด้วยอาวุธในไต้หวัน รวมถึงเสนอให้ประกาศแยกไต้หวันออกจากจีนอย่างเปิดเผย ซึ่งถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและข้อตกลงทวิภาคีระหว่างวอชิงตันกับจีนอย่างชัดเจน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 92 มุมมอง 0 รีวิว
  • การขึ้นรัฐบาลใหม่ของสหรัฐที่มีการประกาศชัดเจนถึงเรื่อง
    ยกเลิกการสนับสนุนให้เงินองค์การอนามัยโลกเพราะไม่โปร่งใส

    เรื่องรื้อองค์กรทางสาธารณสุขของประเทศอเมริกาที่มีความสัมพันธ์แนบแน่นกับบริษัทยาและวัคซีนรวมทั้งเชื่อมโยงไปถึงนักวิชาการ

    เรื่องเลิกบังคับการฉีดวัคซีน

    เรื่องจัดการบริษัทที่เลิกจ้างพนักงานหรือกองทัพที่ปลดทหาร ที่ไม่ยอมฉีดวัคซีน

    เรื่องจัดการด็อกเตอร์เฟาซี เกทส์ ที่เป็นตัวการในการส่งเสริมให้ทุนการสร้างไวรัสใหม่ที่ร้ายแรงกว่าเดิมจะได้ปล่อยวัคซีนออกมา รวมทั้งกลบเกลื่อนร่องรอย โควิดหลุดออกมาจากห้องแลป โดยที่มีพิมพ์เขียวของตัวไวรัสอยู่แล้วก่อนหน้าที่จะมีการระบาดของโควิด

    เรื่องความไม่ปกติของวัคซีนที่ปล่อยออกมาทั้งสิ่งที่ปนเปื้อนและความสามารถที่จะก่อให้เกิดผลแทรกซ้อนต่างๆได้

    ทั้งนี้หลังจากที่ประกาศชนะการเลือกตั้งบริษัทยาและวัคซีนยักษ์ใหญ่มีการประชุมด่วนหาทางบรรเทาภัยพิบัติหายนะที่จะเกิดขึ้น เพราะ จะต้องมีการเรียกชดเชยเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบเหล่านี้

    ในประเทศไทยเอง ลักษณะเป็นเช่นกัน ที่มีเส้นสายโยงไย และจะเป็นลูกกระป๋องให้องค์การต่างๆ
    เหล่านี้ทำต่อไม่ได้แล้ว เพราะถูกเปิดโปง
    รวมทั้งองค์การอนามัยโลกเช่นกัน ที่ถูกต่อต้านเรื่องบังคับให้ประเทศในโลกลงนามในสนธิสัญญาที่ต้องทำตามโดยไม่บิดพลิ้วในเรื่องการประกาศโรคระบาด ต้องใช้วัคซีนต้องใช้ยาตามที่องค์การอนามัยโลกสั่งทุกทุกประการและไม่สามารถใช้สิ่งที่หาได้ในประเทศของตนเอง และสหรัฐต่อต้านสนธิสัญญานี้และจะออกจาก องค์การอนามัยโลกรวมทั้งเลิกให้ทุน

    องค์การอนามัยโลกในระยะแรก สั่งให้ทำทุกอย่างเข้มงวด สั่งให้ฉีดวัคซีน สั่งให้มีวัคซีนพาสปอร์ต
    ไม่เช่นนั้นเดินทางไม่ได้และมิหนำซ้ำ สนับสนุนสหภาพยุโรปที่จะให้มีการทำข้อมูลดิจิตอลของประชาชนและจะขยายครอบคลุมไปทั้งโลกให้คนทั้งโลกต้องฉีดวัคซีนตามสั่งไม่เช่นนั้นไม่สามารถทำอะไรได้ รวมทั้งเดินทาง ซึ่งเป็นแผนที่ เฟาซี ได้กล่าวให้การในสภาของเกรสว่า ต้องทำให้ประชาชนที่ไม่ยอมฉีดวัคซีนมีชีวิตด้วยความยากลำบากไม่สามารถออกไปซื้อหาอาหาร ไม่สามารถเดินทาง ไม่สามารถไปโรงเรียนได้ และต้องถูกออกจากงาน

    แต่หลังจากที่เปลี่ยนรัฐบาลองค์การอนามัยโลกกลับคำ ว่าไม่ได้สั่งเช่นนั้นเป็นเรื่องของแต่ละประเทศเองที่ทำเอง ดังนั้นเป็นการโยนของเหลวสกปรกกลับให้แต่ละประเทศ

    น่าคิดที่กระทรวงทบวงกรมสถาบันสมาคม ยังมีการสนับสนุนวัคซีนเทคโนโลยีเหล่านี้ โดยไม่แยแสต่อ
    ผลกระทบร้ายแรงทั้งเฉียบพลันและระยะยาว

    ในสหรัฐ ที่ล่าสุดมีการให้ข้อมูลต่อคณะรัฐบาลใหม่ในเรื่องของความผิดปกติของวัคซีนซึ่งเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ และบิดเบือนไม่ได้

    ความจริงมีหนึ่งเดียวไม่สามารถบิดเบือนได้ และใครที่ทำให้เกิดความสูญเสียของชีวิตคนไทยต้องถูกชดใช้และต้องรับผิดชอบ
    การขึ้นรัฐบาลใหม่ของสหรัฐที่มีการประกาศชัดเจนถึงเรื่อง ยกเลิกการสนับสนุนให้เงินองค์การอนามัยโลกเพราะไม่โปร่งใส เรื่องรื้อองค์กรทางสาธารณสุขของประเทศอเมริกาที่มีความสัมพันธ์แนบแน่นกับบริษัทยาและวัคซีนรวมทั้งเชื่อมโยงไปถึงนักวิชาการ เรื่องเลิกบังคับการฉีดวัคซีน เรื่องจัดการบริษัทที่เลิกจ้างพนักงานหรือกองทัพที่ปลดทหาร ที่ไม่ยอมฉีดวัคซีน เรื่องจัดการด็อกเตอร์เฟาซี เกทส์ ที่เป็นตัวการในการส่งเสริมให้ทุนการสร้างไวรัสใหม่ที่ร้ายแรงกว่าเดิมจะได้ปล่อยวัคซีนออกมา รวมทั้งกลบเกลื่อนร่องรอย โควิดหลุดออกมาจากห้องแลป โดยที่มีพิมพ์เขียวของตัวไวรัสอยู่แล้วก่อนหน้าที่จะมีการระบาดของโควิด เรื่องความไม่ปกติของวัคซีนที่ปล่อยออกมาทั้งสิ่งที่ปนเปื้อนและความสามารถที่จะก่อให้เกิดผลแทรกซ้อนต่างๆได้ ทั้งนี้หลังจากที่ประกาศชนะการเลือกตั้งบริษัทยาและวัคซีนยักษ์ใหญ่มีการประชุมด่วนหาทางบรรเทาภัยพิบัติหายนะที่จะเกิดขึ้น เพราะ จะต้องมีการเรียกชดเชยเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบเหล่านี้ ในประเทศไทยเอง ลักษณะเป็นเช่นกัน ที่มีเส้นสายโยงไย และจะเป็นลูกกระป๋องให้องค์การต่างๆ เหล่านี้ทำต่อไม่ได้แล้ว เพราะถูกเปิดโปง รวมทั้งองค์การอนามัยโลกเช่นกัน ที่ถูกต่อต้านเรื่องบังคับให้ประเทศในโลกลงนามในสนธิสัญญาที่ต้องทำตามโดยไม่บิดพลิ้วในเรื่องการประกาศโรคระบาด ต้องใช้วัคซีนต้องใช้ยาตามที่องค์การอนามัยโลกสั่งทุกทุกประการและไม่สามารถใช้สิ่งที่หาได้ในประเทศของตนเอง และสหรัฐต่อต้านสนธิสัญญานี้และจะออกจาก องค์การอนามัยโลกรวมทั้งเลิกให้ทุน องค์การอนามัยโลกในระยะแรก สั่งให้ทำทุกอย่างเข้มงวด สั่งให้ฉีดวัคซีน สั่งให้มีวัคซีนพาสปอร์ต ไม่เช่นนั้นเดินทางไม่ได้และมิหนำซ้ำ สนับสนุนสหภาพยุโรปที่จะให้มีการทำข้อมูลดิจิตอลของประชาชนและจะขยายครอบคลุมไปทั้งโลกให้คนทั้งโลกต้องฉีดวัคซีนตามสั่งไม่เช่นนั้นไม่สามารถทำอะไรได้ รวมทั้งเดินทาง ซึ่งเป็นแผนที่ เฟาซี ได้กล่าวให้การในสภาของเกรสว่า ต้องทำให้ประชาชนที่ไม่ยอมฉีดวัคซีนมีชีวิตด้วยความยากลำบากไม่สามารถออกไปซื้อหาอาหาร ไม่สามารถเดินทาง ไม่สามารถไปโรงเรียนได้ และต้องถูกออกจากงาน แต่หลังจากที่เปลี่ยนรัฐบาลองค์การอนามัยโลกกลับคำ ว่าไม่ได้สั่งเช่นนั้นเป็นเรื่องของแต่ละประเทศเองที่ทำเอง ดังนั้นเป็นการโยนของเหลวสกปรกกลับให้แต่ละประเทศ น่าคิดที่กระทรวงทบวงกรมสถาบันสมาคม ยังมีการสนับสนุนวัคซีนเทคโนโลยีเหล่านี้ โดยไม่แยแสต่อ ผลกระทบร้ายแรงทั้งเฉียบพลันและระยะยาว ในสหรัฐ ที่ล่าสุดมีการให้ข้อมูลต่อคณะรัฐบาลใหม่ในเรื่องของความผิดปกติของวัคซีนซึ่งเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ และบิดเบือนไม่ได้ ความจริงมีหนึ่งเดียวไม่สามารถบิดเบือนได้ และใครที่ทำให้เกิดความสูญเสียของชีวิตคนไทยต้องถูกชดใช้และต้องรับผิดชอบ
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 260 มุมมอง 100 0 รีวิว
  • เขาบอกว่า หากใครมีประเด็นก็ไปฟ้องศาล พื้นที่เขากระโดงมีพื้นที่กว่า 5 พันไร่ เท่าที่ทราบตระกูลชิดชอบมีอยู่ 300 ไร่ แล้วอีก 4,700 ไร่ จะผิดแค่ 300 ไร่ได้อย่างไร หากเป็นอย่างนั้นก็ไปพิสูจน์เอา ไม่เกี่ยวกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ไม่ใช่อำนาจในการเพิกถอนหรืออนุญาต อยากจะยุ่งก็ยุ่งไม่ได้เพราะไม่มีอำนาจ

    ด้านนายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่ายังมีรายละเอียดอีกเยอะที่หลายคนไม่รู้ ซึ่ง รฟท.หรือประชาชนเองต้องทำการพิสูจน์สิทธิให้ชัดเจน ตนไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่ให้ลองคิดดูว่าในประเทศไทยมีพื้นที่ใดที่กันรางรถไฟออกไป 1 กิโลเมตร ตรงไหนบ้างที่ไม่ใช่ชุมทาง แต่เป็นสถานีใหญ่ๆ มีหรือไม่ หากมี มีที่ไหนบ้างช่วยตอบหน่อย แล้วทำไมต้องเป็นแค่พื้นที่ตรงนี้ รฟท.จะเอาที่ดินไปทำอะไร

    เขาบอกว่า โดยส่วนตัวได้ติดตามเรื่องนี้มาพอสมควร และมองว่าน่าจะมีแผนที่บางตอนที่หายไป ซึ่งแผนที่ที่นำมาแสดงตนดูแล้วมีคลาดเคลื่อนอยู่ประมาณ 500 เมตร ซึ่งมองว่าน่าจะมีความขัดแย้งกัน แต่ทั้งนี้เราได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการตามมาตรา 61 ซึ่งได้มีการพิจารณาไปแล้วว่า กรมที่ดินยังไม่ได้เพิกถอนโฉนดพื้นที่เขากระโดง แต่ก็ไม่ได้ตัดสิทธิ์การรถไฟฯ แต่เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้น เพราะการรถไฟฯ ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนที่จะทำให้คณะกรรมการสามารถเพิกถอนได้ ครั้งนี้ก็เป็นสิทธิ์ของการรถไฟฯ ที่จะไปฟ้องร้องตามกฎหมายต่อไป

    เมื่อถามว่า พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ก็ระบุว่าพื้นที่เขากระโดงต้องเป็นของการรถไฟฯ เพราะถือว่าคำตัดสินของศาลฎีกาเป็นที่สิ้นสุด รมช.มหาดไทยตอบว่า ส่วนตัวมองว่าคำพิพากษาของศาลฎีกา หากอ่านดีๆ จะพบว่ามีฎีกาทับฎีกาอยู่เสมอ ในโอกาสที่จะมีหลักฐานใหม่เข้ามา เพื่อให้เกิดความรอบคอบและความเป็นธรรมกับพี่น้องประชาชน

    เมื่อถามถึงข้อกังขาว่า หนึ่งในคณะกรรมการตรวจสอบเป็นคนในกลุ่มเพื่อนเนวิน นายทรงศักดิ์กล่าวว่า คิดมากไป ทุกคนที่มาเป็นคณะกรรมการก็มีกฎหมายรองรับอยู่แล้ว หากการทำหน้าที่ทำอะไรผิดไปและมีคนติดใจ ก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย จะไปมองว่าคนนั้นคนนี้เป็นใครไม่ได้ เพราะการทำงานของแต่ละคนก็มีบรรทัดฐานตามกรอบอยู่แล้ว

    ซักว่า ในพื้นที่เขากระโดงปรากฏว่ามีการถือครองที่ดินจากคนในตระกูลชิดชอบอยู่กว่า 20 แปลง ได้มีการตรวจสอบอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ นายทรงศักดิ์กล่าวว่า การได้มาของที่ดินเขากระโดงก็ได้มาตามประมวลกฎหมายที่ดิน ได้สิทธิ์ตามกฎหมายอยู่แล้ว ส่วนในอนาคตจะเป็นอย่างไรก็เป็นเรื่องของกระบวนการ จะจำกัดว่าตระกูลหนึ่ง จะไม่มีสิทธิ์ไปครอบครองที่ดินเลยก็คงไม่ได้ มีกฎหมายตรงไหนที่ห้ามตระกูลหนึ่งเข้าไปถือสิทธิที่ดินตามกฎหมาย มีหรือไม่ มันไม่มี เป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์กัน

    ขณะที่นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน ชี้แจง งานในส่วนของกรมที่ดินว่าทำอยู่ 3 ส่วน โดยส่วนแรกทำตามคำสั่งศาลปกครอง ส่วนที่สองทำตามข้อกฎหมาย ไม่มีส่วนใดใช้เรื่องดุลยพินิจ และส่วนที่สามทำไปตามข้อเท็จจริงที่มีพยานหลักฐานและกฎหมายที่ชัดเจน เพราะฉะนั้นทุกอย่างสามารถตรวจสอบในเรื่องการดำเนินการได้

    เมื่อถามต่อว่า ผู้บริหารของกระทรวงมหาดไทยอยู่ในพรรคภูมิใจไทย จึงมีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นการฟอกขาว อธิบดีกรมที่ดินยืนยันว่า กระบวนการที่ดำเนินมาทำตั้งแต่ก่อนที่นายอนุทินจะเข้ามา การตั้งคณะกรรมการมีการตั้งก่อน และการหาเอกสารพยานหลักฐานในการดำเนินการก็ทำมาอย่างต่อเนื่องโดยตลอด ตนจึงยืนยันว่า ทุกอย่างเป็นไปตามคำสั่งศาลปกครอง ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย

    อย่างไรก็ตาม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คมนาคม ให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องนี้มีความสำคัญ หากเป็นที่ดินของ รฟท.แม้กระทั่งตารางวาก็จะเสียไปไม่ได้ จึงให้ รฟท.ไปเช็กดู ซึ่งได้รับรายงานว่าวันที่ 10 พ.ย.นี้ รฟท.ได้ยื่นขอต่อศาลปกครองกลาง แจ้งว่าอธิบดีกรมที่ดินปฏิบัติตามคำพิพากษาไม่ครบถ้วน ขอให้ศาลปกครองพิจารณาหรือไต่สวนกำหนดวิธีการดำเนินการ ให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง ในการร่วมกันชี้แนวเขตที่ดินของ รฟท. และให้พิจารณามีคำสั่งในประเด็นต่างๆ ต่อไป ซึ่งผู้ว่าฯ รฟท.ได้ทำหนังสือถึงกรมที่ดินเพื่อยื่นคัดค้านหนังสือของอธิบดีกรมที่ดิน ตามมาตรา 44 พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางการปกครอง ซึ่งในนั้นระบุว่าเราต้องยื่นภายใน 15 วัน ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 12 พ.ย. และเราส่งไปเรียบร้อยแล้ววันที่ 11 พ.ย. รฟท.รู้กฎหมายอยู่ จะไปหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมเพื่อฟ้องขับไล่ผู้บุกรุกที่ดินกว่า 900 แปลง ซึ่งขั้นตอนตรงนี้ยังมีเวลา ยืนยันว่าจะดูให้รอบคอบ

    ถามว่า เรื่องนี้เรื้อรังมานานจะเคลียร์ให้จบภายในช่วงที่เป็นรัฐมนตรีหรือไม่ รมว.คมนาคมตอบว่า เรื่องนี้ต้องดำเนินการตามกฎหมาย มันไม่ช้าอยู่แล้ว

    ซักว่า จำเป็นต้องพูดคุยกับนายอนุทินหรือไม่ นายสุริยะชี้แจงว่า เป็นระดับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติ เมื่อกรมที่ดินบอกว่าเป็นที่ของเขา ไม่ได้เป็นที่ของ รฟท. เพราะมีหลักฐานไม่เพียงพอ แต่ รฟท.เชื่อว่ามีหลักฐานเพียงพอ ก็ได้ดำเนินการไป

    เมื่อถามว่า มีการมองว่าที่ดินหลายแปลงในเขากระโดงเป็นของตระกูลชิดชอบ นายสุริยะกล่าวว่า ไม่อยากให้เรื่องขยายเป็นประเด็นการเมือง อยากให้ว่าไปตามกระบวนการ หรือ รฟท.เห็นว่าเรื่องนี้เป็นอย่างไรเมื่ออธิบดีกรมที่ดินชี้มาแบบนี้ รฟท.เห็นว่าไม่ใช่ก็ต้องพยายามรักษาสิทธิ์ของ รฟท.ไว้

    "คิดว่าเป็นเรื่องที่ปฏิบัติตามกฎหมาย อย่าไปมองว่าใครอยู่พรรคไหนหรือมีความขัดแย้งกัน" รมว.คมนาคมกล่าว.

    ที่มา https://www.thaipost.net/one-newspaper/688793/

    #Thaitimes
    เขาบอกว่า หากใครมีประเด็นก็ไปฟ้องศาล พื้นที่เขากระโดงมีพื้นที่กว่า 5 พันไร่ เท่าที่ทราบตระกูลชิดชอบมีอยู่ 300 ไร่ แล้วอีก 4,700 ไร่ จะผิดแค่ 300 ไร่ได้อย่างไร หากเป็นอย่างนั้นก็ไปพิสูจน์เอา ไม่เกี่ยวกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ไม่ใช่อำนาจในการเพิกถอนหรืออนุญาต อยากจะยุ่งก็ยุ่งไม่ได้เพราะไม่มีอำนาจ ด้านนายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่ายังมีรายละเอียดอีกเยอะที่หลายคนไม่รู้ ซึ่ง รฟท.หรือประชาชนเองต้องทำการพิสูจน์สิทธิให้ชัดเจน ตนไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่ให้ลองคิดดูว่าในประเทศไทยมีพื้นที่ใดที่กันรางรถไฟออกไป 1 กิโลเมตร ตรงไหนบ้างที่ไม่ใช่ชุมทาง แต่เป็นสถานีใหญ่ๆ มีหรือไม่ หากมี มีที่ไหนบ้างช่วยตอบหน่อย แล้วทำไมต้องเป็นแค่พื้นที่ตรงนี้ รฟท.จะเอาที่ดินไปทำอะไร เขาบอกว่า โดยส่วนตัวได้ติดตามเรื่องนี้มาพอสมควร และมองว่าน่าจะมีแผนที่บางตอนที่หายไป ซึ่งแผนที่ที่นำมาแสดงตนดูแล้วมีคลาดเคลื่อนอยู่ประมาณ 500 เมตร ซึ่งมองว่าน่าจะมีความขัดแย้งกัน แต่ทั้งนี้เราได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการตามมาตรา 61 ซึ่งได้มีการพิจารณาไปแล้วว่า กรมที่ดินยังไม่ได้เพิกถอนโฉนดพื้นที่เขากระโดง แต่ก็ไม่ได้ตัดสิทธิ์การรถไฟฯ แต่เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้น เพราะการรถไฟฯ ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนที่จะทำให้คณะกรรมการสามารถเพิกถอนได้ ครั้งนี้ก็เป็นสิทธิ์ของการรถไฟฯ ที่จะไปฟ้องร้องตามกฎหมายต่อไป เมื่อถามว่า พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ก็ระบุว่าพื้นที่เขากระโดงต้องเป็นของการรถไฟฯ เพราะถือว่าคำตัดสินของศาลฎีกาเป็นที่สิ้นสุด รมช.มหาดไทยตอบว่า ส่วนตัวมองว่าคำพิพากษาของศาลฎีกา หากอ่านดีๆ จะพบว่ามีฎีกาทับฎีกาอยู่เสมอ ในโอกาสที่จะมีหลักฐานใหม่เข้ามา เพื่อให้เกิดความรอบคอบและความเป็นธรรมกับพี่น้องประชาชน เมื่อถามถึงข้อกังขาว่า หนึ่งในคณะกรรมการตรวจสอบเป็นคนในกลุ่มเพื่อนเนวิน นายทรงศักดิ์กล่าวว่า คิดมากไป ทุกคนที่มาเป็นคณะกรรมการก็มีกฎหมายรองรับอยู่แล้ว หากการทำหน้าที่ทำอะไรผิดไปและมีคนติดใจ ก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย จะไปมองว่าคนนั้นคนนี้เป็นใครไม่ได้ เพราะการทำงานของแต่ละคนก็มีบรรทัดฐานตามกรอบอยู่แล้ว ซักว่า ในพื้นที่เขากระโดงปรากฏว่ามีการถือครองที่ดินจากคนในตระกูลชิดชอบอยู่กว่า 20 แปลง ได้มีการตรวจสอบอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ นายทรงศักดิ์กล่าวว่า การได้มาของที่ดินเขากระโดงก็ได้มาตามประมวลกฎหมายที่ดิน ได้สิทธิ์ตามกฎหมายอยู่แล้ว ส่วนในอนาคตจะเป็นอย่างไรก็เป็นเรื่องของกระบวนการ จะจำกัดว่าตระกูลหนึ่ง จะไม่มีสิทธิ์ไปครอบครองที่ดินเลยก็คงไม่ได้ มีกฎหมายตรงไหนที่ห้ามตระกูลหนึ่งเข้าไปถือสิทธิที่ดินตามกฎหมาย มีหรือไม่ มันไม่มี เป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์กัน ขณะที่นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน ชี้แจง งานในส่วนของกรมที่ดินว่าทำอยู่ 3 ส่วน โดยส่วนแรกทำตามคำสั่งศาลปกครอง ส่วนที่สองทำตามข้อกฎหมาย ไม่มีส่วนใดใช้เรื่องดุลยพินิจ และส่วนที่สามทำไปตามข้อเท็จจริงที่มีพยานหลักฐานและกฎหมายที่ชัดเจน เพราะฉะนั้นทุกอย่างสามารถตรวจสอบในเรื่องการดำเนินการได้ เมื่อถามต่อว่า ผู้บริหารของกระทรวงมหาดไทยอยู่ในพรรคภูมิใจไทย จึงมีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นการฟอกขาว อธิบดีกรมที่ดินยืนยันว่า กระบวนการที่ดำเนินมาทำตั้งแต่ก่อนที่นายอนุทินจะเข้ามา การตั้งคณะกรรมการมีการตั้งก่อน และการหาเอกสารพยานหลักฐานในการดำเนินการก็ทำมาอย่างต่อเนื่องโดยตลอด ตนจึงยืนยันว่า ทุกอย่างเป็นไปตามคำสั่งศาลปกครอง ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย อย่างไรก็ตาม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คมนาคม ให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องนี้มีความสำคัญ หากเป็นที่ดินของ รฟท.แม้กระทั่งตารางวาก็จะเสียไปไม่ได้ จึงให้ รฟท.ไปเช็กดู ซึ่งได้รับรายงานว่าวันที่ 10 พ.ย.นี้ รฟท.ได้ยื่นขอต่อศาลปกครองกลาง แจ้งว่าอธิบดีกรมที่ดินปฏิบัติตามคำพิพากษาไม่ครบถ้วน ขอให้ศาลปกครองพิจารณาหรือไต่สวนกำหนดวิธีการดำเนินการ ให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง ในการร่วมกันชี้แนวเขตที่ดินของ รฟท. และให้พิจารณามีคำสั่งในประเด็นต่างๆ ต่อไป ซึ่งผู้ว่าฯ รฟท.ได้ทำหนังสือถึงกรมที่ดินเพื่อยื่นคัดค้านหนังสือของอธิบดีกรมที่ดิน ตามมาตรา 44 พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางการปกครอง ซึ่งในนั้นระบุว่าเราต้องยื่นภายใน 15 วัน ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 12 พ.ย. และเราส่งไปเรียบร้อยแล้ววันที่ 11 พ.ย. รฟท.รู้กฎหมายอยู่ จะไปหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมเพื่อฟ้องขับไล่ผู้บุกรุกที่ดินกว่า 900 แปลง ซึ่งขั้นตอนตรงนี้ยังมีเวลา ยืนยันว่าจะดูให้รอบคอบ ถามว่า เรื่องนี้เรื้อรังมานานจะเคลียร์ให้จบภายในช่วงที่เป็นรัฐมนตรีหรือไม่ รมว.คมนาคมตอบว่า เรื่องนี้ต้องดำเนินการตามกฎหมาย มันไม่ช้าอยู่แล้ว ซักว่า จำเป็นต้องพูดคุยกับนายอนุทินหรือไม่ นายสุริยะชี้แจงว่า เป็นระดับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติ เมื่อกรมที่ดินบอกว่าเป็นที่ของเขา ไม่ได้เป็นที่ของ รฟท. เพราะมีหลักฐานไม่เพียงพอ แต่ รฟท.เชื่อว่ามีหลักฐานเพียงพอ ก็ได้ดำเนินการไป เมื่อถามว่า มีการมองว่าที่ดินหลายแปลงในเขากระโดงเป็นของตระกูลชิดชอบ นายสุริยะกล่าวว่า ไม่อยากให้เรื่องขยายเป็นประเด็นการเมือง อยากให้ว่าไปตามกระบวนการ หรือ รฟท.เห็นว่าเรื่องนี้เป็นอย่างไรเมื่ออธิบดีกรมที่ดินชี้มาแบบนี้ รฟท.เห็นว่าไม่ใช่ก็ต้องพยายามรักษาสิทธิ์ของ รฟท.ไว้ "คิดว่าเป็นเรื่องที่ปฏิบัติตามกฎหมาย อย่าไปมองว่าใครอยู่พรรคไหนหรือมีความขัดแย้งกัน" รมว.คมนาคมกล่าว. ที่มา https://www.thaipost.net/one-newspaper/688793/ #Thaitimes
    WWW.THAIPOST.NET
    มท.ปัดเอื้อที่ดินเขากระโดง ‘สุริยะ’ลั่นรฟท.ไม่ยอมแน่!
    "อนุทิน" ยัน “คดีเขากระโดง” ไม่มีแทรกแซง ไม่มีช่วยเพื่อน ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย
    Sad
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 225 มุมมอง 0 รีวิว
  • อย่าปล่อยให้การทารุณสัตว์ในสื่อบันเทิงไทย....กลายเป็นเรื่องธรรมดา
    เมื่อไม่นานมานี้เกิดกรณีดราม่าที่มีละครซีรี่ย์เรื่อง “แม่หยัว” ของช่อง ONE 31 ได้ถ่ายทำฉากใน EP.5 ที่มี "แมวดำ" กินน้ำผสมยาพิษ หลังจากนั้นแมวตัวดังกล่าว มีอาการชักกระตุกหลายครั้ง ขย้อนอาหารออกจากปาก ตาเบิกโพลง มีลักษณะเกร็งตัวและนอนแน่นิ่งไป
    โดยการถ่ายทำฉากดังกล่าว เป็นการใช้แมวจริงที่ถูกวางยาสลบ โดยนาย สันต์ ศรีแก้วหล่อ ผู้กำกับการแสดง ได้ออกมาชี้แจงใน Facebook ของตนในภายหลังว่า เป็นการถ่ายทำที่มีผู้เชี่ยวชาญควบคุมดูแลอย่างดีในทุกขั้นตอน แต่ทว่าภาพที่สื่อออกมากลับสะท้อนถึงความทุกข์ทรมานของสัตว์ ซึ่งเข้าข่ายการทารุณกรรมสัตว์อย่างชัดเจน กรณีนี้ก่อให้เกิดกระแสในสังคมออนไลน์เรียกร้องให้บุคคลที่มีความเกี่ยวข้อง รวมไปถึงสถานีโทรทัศน์แสดงความรับผิดชอบ และเกิดการเคลื่อนไหวให้ "แบน" ละครดังกล่าวในวงกว้าง
    การนำสัตว์เข้าฉากเพื่อแสดงความเจ็บปวดหรือการวางยาสลบจริง ๆ ไม่เพียงแต่แสดงถึงการขาดความรับผิดชอบทางศีลธรรมและความเห็นใจต่อสัตว์ แต่ยังส่งผลกระทบต่อการรับรู้ของสังคมในด้านการปฏิบัติต่อสัตว์ในวงการบันเทิง กรณีนี้ถือเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนที่สะท้อนถึงความละเลยและขาดมาตรฐานด้านจริยธรรมและการดูแลสัตว์ในกระบวนการผลิตของสื่อบันเทิงไทย โดยเฉพาะเมื่อละครดังกล่าวออกอากาศในวงกว้างและมีผู้ชมหลายกลุ่มอายุรวมไปถึงเยาวชน ย่อมส่งผลให้เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อวงการบันเทิงไทยโดยรวม และอาจก่อให้เกิดพฤติกรรมการเลียนแบบในหมู่เยาวชน
    ปัจจุบัน ประเทศไทยมีพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557 ซึ่งครอบคลุมถึงการกระทำที่ถือเป็นการทารุณสัตว์ทุกประเภท โดยเฉพาะกรณีการทำร้ายสัตว์จนเกิดความทุกข์ทรมานทั้งทางร่างกายและจิตใจ ซึ่งตามมาตรา 20 ของ พ.ร.บ. นี้ ระบุว่า "ห้ามมิให้ผู้ใดกระทำการทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันควร" การทำให้สัตว์ทุกข์ทรมานหรือเจ็บปวดจนเสียชีวิตหรือได้รับความเสียหาย “อย่างไม่จำเป็น” ถือว่าเข้าข่ายการทารุณกรรม กรณีของการวางยาสลบสัตว์จริงโดยไม่มีเหตุผลเพียงพอ จึงถือเป็นความไม่จำเป็นและอาจเข้าข่ายเป็นการการละเมิดกฎหมาย ซึ่งมีบทลงโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
    เมื่อพิจารณาจากถ้อยคำของนายสันต์ ผู้กำกับการแสดง จึงอดสงสัยไม่ได้ว่า ผู้เชี่ยวชาญที่ว่าคือใคร ใช่สัตว์แพทย์หรือไม่ และเจ้าของที่ว่าคือเจ้าของจริงที่แท้จริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงแค่ผู้ควบคุมและเลี้ยงดูสัตว์เหล่านั้นไว้เพียงเพื่อประโยชน์ทางการค้า และแมวตัวที่นำมากล่าวอ้างว่าปัจจุบันสุขกายสบายดีนั้น แท้จริงแล้วใช่แมวตัวเดียวกันกับที่ถ่ายทำหรือไม่ จะพิสูจน์อย่างไร และกรณีแมวดำเป็นกรณีแรกหรือไม่ หรือว่ามีกรณีอื่นๆก่อนหน้านี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว เพียงแต่ไม่เคยถูกตรวจสอบ และจะเป็นไปได้หรือไม่ว่าที่ผ่านมา มีการทารุณกรรมสัตว์ในการถ่ายทำ จนกลายเป็นปกติประเพณีไปแล้ว ประชาชนตั้งคำถามและประชาชน.......ต้องการคำตอบ
    แม้ตัวบทกฎหมายจะกล่าวเอาไว้ว่า “ผู้ใดกล่าวหา ผู้นั้นพิสูจน์” แต่ในกรณีนี้ คงไม่ใช่การเดินหมากที่ฉลาดนักของผู้บริหารช่องฯรวมไปถึงกลุ่มคนที่มีส่วนร่วม และควรต้องรีบชี้แจ้งข้อเท็จจริงโดยละเอียดให้เร็วที่สุด เพื่อแสดงความโปร่งใส และควรบอกแต่ความจริงเท่านั้น
    ดังนั้น การชี้แจ้งและกล่าวเพียงคำขอโทษผ่าน Instragram ของช่อง one31thailand เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา จึงไม่แสดงถึงความจริงใจ ไม่เพียงพอและไม่ได้สัดส่วนต่อสิ่งที่ได้กระทำขึ้น
    คำถามสำคัญที่พวกเราทุกคนต้องช่วยกันคบคิดต่อไปก็คือ แม้เราจะมีกฎหมาย แต่กฎหมายกลับไม่ได้กำหนดมาตรการการควบคุมที่เฉพาะเจาะจงในกรณีที่มีการใช้สัตว์ในงานบันเทิง เมื่อเปรียบเทียบกับกฎหมายและบทลงโทษในต่างประเทศ พบว่าในต่างประเทศมีกฎหมายที่คุ้มครองสัตว์เข้มงวดกว่าประเทศไทยมาก โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมบันเทิง เช่น ในสหรัฐอเมริกา มีกฎหมาย Animal Welfare Act (AWA) ที่มีการกำหนดมาตรฐานสูงในการใช้สัตว์ในงานบันเทิง โดยกำหนดให้ต้องมีการขอใบอนุญาตและผ่านการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญอย่างละเอียดทุกขั้นตอน รวมถึงการมีองค์กรอย่าง American Humane Association (AHA) ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบและควบคุมการใช้สัตว์ในวงการภาพยนตร์โดยเฉพาะ หากพบว่ามีการละเมิด อาจถูกปรับเป็นเงินจำนวนมากและอาจถูกห้ามไม่ให้ใช้สัตว์ในสื่อบันเทิงอีกต่อไป
    หรืออย่างในประเทษอังกฤษ มี The Animal Welfare Act 2006 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ครอบคลุมการดูแลสัตว์ในวงการบันเทิง โดยห้ามการใช้วิธีการที่ทำให้สัตว์เจ็บปวดโดยไม่จำเป็น และหากพบการกระทำที่เป็นการทารุณกรรมสัตว์ จะมีโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี รวมถึงปรับเงินตามความร้ายแรงของกรณี ดังนั้น เมื่อเทียบกับบทลงโทษของไทย ยังถือว่าเบากว่าต่างประเทศหลายเท่านัก
    สำหรับประเทศไทย กรมปศุสัตว์มีบทบาทสำคัญในการคุ้มครองสวัสดิภาพสัตว์และป้องกันการทารุณกรรมสัตว์ ดังนั้น ในการแก้ปัญหาการใช้สัตว์อย่างไม่เหมาะสม กรมปศุสัตว์ควรพิจารณามาตรการ เช่น การจัดทำมาตรฐานแนวทางการใช้สัตว์ในสื่อบันเทิง ควรจัดทำคู่มือและข้อกำหนดที่ชัดเจนสำหรับการใช้สัตว์ในการถ่ายทำภาพยนตร์ ละคร และสื่อบันเทิงต่าง ๆ รวมถึงข้อกำหนดเกี่ยวกับการจัดสวัสดิภาพสัตว์ การตรวจสอบสุขภาพสัตว์ก่อนและหลัง และการปฏิบัติต่อสัตว์ที่ปลอดภัยตลอดกระบวนการถ่ายทำ โดยอาจนำตัวอย่างแนวทางจากต่างประเทศ เช่น American Humane Association ของสหรัฐอเมริกามาปรับใช้
    กรมปศุสัตว์ควรเสนอให้เพิ่มบทลงโทษสำหรับการทารุณกรรมสัตว์ โดยเพิ่มค่าปรับหรือโทษจำคุกที่หนักขึ้น เพื่อให้ผู้ผลิตสื่อเกิดความยับยั้งชั่งใจและมีความรับผิดชอบในการใช้สัตว์ อีกทั้งควรมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและติดตามผลหลังจากที่มีการลงโทษเพื่อป้องกันการเกิดเหตุการณ์ซ้ำ และควรร่วมมือกับองค์กรที่มีประสบการณ์ในการคุ้มครองสวัสดิภาพสัตว์ เช่น มูลนิธิต่างๆ และหน่วยงานอื่น ๆ ในการติดตามและตรวจสอบการใช้สัตว์ในวงการบันเทิง
    จากใจแม่ที่มีลูกเป็นหมาสองตัว อย่าปล่อยให้การทารุณสัตว์ในสื่อบันเทิงไทย....กลายเป็นเรื่องธรรมดา เพราะฉะนั้น เรื่องนี้กรมปศุสัตว์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง........ต้องไปให้สุดซอย ! ส่วนเราในฐานะภาคประชาชน ก็ทำหน้าที่ตรวจสอบในแบบที่เราถนัดต่อไป คือ การค้นหาความจริง และ การจับโกหก
    เพราะความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น (อ.สนธิ และ ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน กล่าวไว้)


    นักศึกษากฎหมายระบายทุกข์

    ที่มา :
    Thai PBS
    Instagram : one31thailand
    The Animal Welfare Act (AWA) 1966
    The Animal Welfare Act 2006
    The American Humane Association
    พ.ร.บ. ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557 มาตรา 20
    อย่าปล่อยให้การทารุณสัตว์ในสื่อบันเทิงไทย....กลายเป็นเรื่องธรรมดา เมื่อไม่นานมานี้เกิดกรณีดราม่าที่มีละครซีรี่ย์เรื่อง “แม่หยัว” ของช่อง ONE 31 ได้ถ่ายทำฉากใน EP.5 ที่มี "แมวดำ" กินน้ำผสมยาพิษ หลังจากนั้นแมวตัวดังกล่าว มีอาการชักกระตุกหลายครั้ง ขย้อนอาหารออกจากปาก ตาเบิกโพลง มีลักษณะเกร็งตัวและนอนแน่นิ่งไป โดยการถ่ายทำฉากดังกล่าว เป็นการใช้แมวจริงที่ถูกวางยาสลบ โดยนาย สันต์ ศรีแก้วหล่อ ผู้กำกับการแสดง ได้ออกมาชี้แจงใน Facebook ของตนในภายหลังว่า เป็นการถ่ายทำที่มีผู้เชี่ยวชาญควบคุมดูแลอย่างดีในทุกขั้นตอน แต่ทว่าภาพที่สื่อออกมากลับสะท้อนถึงความทุกข์ทรมานของสัตว์ ซึ่งเข้าข่ายการทารุณกรรมสัตว์อย่างชัดเจน กรณีนี้ก่อให้เกิดกระแสในสังคมออนไลน์เรียกร้องให้บุคคลที่มีความเกี่ยวข้อง รวมไปถึงสถานีโทรทัศน์แสดงความรับผิดชอบ และเกิดการเคลื่อนไหวให้ "แบน" ละครดังกล่าวในวงกว้าง การนำสัตว์เข้าฉากเพื่อแสดงความเจ็บปวดหรือการวางยาสลบจริง ๆ ไม่เพียงแต่แสดงถึงการขาดความรับผิดชอบทางศีลธรรมและความเห็นใจต่อสัตว์ แต่ยังส่งผลกระทบต่อการรับรู้ของสังคมในด้านการปฏิบัติต่อสัตว์ในวงการบันเทิง กรณีนี้ถือเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนที่สะท้อนถึงความละเลยและขาดมาตรฐานด้านจริยธรรมและการดูแลสัตว์ในกระบวนการผลิตของสื่อบันเทิงไทย โดยเฉพาะเมื่อละครดังกล่าวออกอากาศในวงกว้างและมีผู้ชมหลายกลุ่มอายุรวมไปถึงเยาวชน ย่อมส่งผลให้เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อวงการบันเทิงไทยโดยรวม และอาจก่อให้เกิดพฤติกรรมการเลียนแบบในหมู่เยาวชน ปัจจุบัน ประเทศไทยมีพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557 ซึ่งครอบคลุมถึงการกระทำที่ถือเป็นการทารุณสัตว์ทุกประเภท โดยเฉพาะกรณีการทำร้ายสัตว์จนเกิดความทุกข์ทรมานทั้งทางร่างกายและจิตใจ ซึ่งตามมาตรา 20 ของ พ.ร.บ. นี้ ระบุว่า "ห้ามมิให้ผู้ใดกระทำการทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันควร" การทำให้สัตว์ทุกข์ทรมานหรือเจ็บปวดจนเสียชีวิตหรือได้รับความเสียหาย “อย่างไม่จำเป็น” ถือว่าเข้าข่ายการทารุณกรรม กรณีของการวางยาสลบสัตว์จริงโดยไม่มีเหตุผลเพียงพอ จึงถือเป็นความไม่จำเป็นและอาจเข้าข่ายเป็นการการละเมิดกฎหมาย ซึ่งมีบทลงโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เมื่อพิจารณาจากถ้อยคำของนายสันต์ ผู้กำกับการแสดง จึงอดสงสัยไม่ได้ว่า ผู้เชี่ยวชาญที่ว่าคือใคร ใช่สัตว์แพทย์หรือไม่ และเจ้าของที่ว่าคือเจ้าของจริงที่แท้จริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงแค่ผู้ควบคุมและเลี้ยงดูสัตว์เหล่านั้นไว้เพียงเพื่อประโยชน์ทางการค้า และแมวตัวที่นำมากล่าวอ้างว่าปัจจุบันสุขกายสบายดีนั้น แท้จริงแล้วใช่แมวตัวเดียวกันกับที่ถ่ายทำหรือไม่ จะพิสูจน์อย่างไร และกรณีแมวดำเป็นกรณีแรกหรือไม่ หรือว่ามีกรณีอื่นๆก่อนหน้านี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว เพียงแต่ไม่เคยถูกตรวจสอบ และจะเป็นไปได้หรือไม่ว่าที่ผ่านมา มีการทารุณกรรมสัตว์ในการถ่ายทำ จนกลายเป็นปกติประเพณีไปแล้ว ประชาชนตั้งคำถามและประชาชน.......ต้องการคำตอบ แม้ตัวบทกฎหมายจะกล่าวเอาไว้ว่า “ผู้ใดกล่าวหา ผู้นั้นพิสูจน์” แต่ในกรณีนี้ คงไม่ใช่การเดินหมากที่ฉลาดนักของผู้บริหารช่องฯรวมไปถึงกลุ่มคนที่มีส่วนร่วม และควรต้องรีบชี้แจ้งข้อเท็จจริงโดยละเอียดให้เร็วที่สุด เพื่อแสดงความโปร่งใส และควรบอกแต่ความจริงเท่านั้น ดังนั้น การชี้แจ้งและกล่าวเพียงคำขอโทษผ่าน Instragram ของช่อง one31thailand เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา จึงไม่แสดงถึงความจริงใจ ไม่เพียงพอและไม่ได้สัดส่วนต่อสิ่งที่ได้กระทำขึ้น คำถามสำคัญที่พวกเราทุกคนต้องช่วยกันคบคิดต่อไปก็คือ แม้เราจะมีกฎหมาย แต่กฎหมายกลับไม่ได้กำหนดมาตรการการควบคุมที่เฉพาะเจาะจงในกรณีที่มีการใช้สัตว์ในงานบันเทิง เมื่อเปรียบเทียบกับกฎหมายและบทลงโทษในต่างประเทศ พบว่าในต่างประเทศมีกฎหมายที่คุ้มครองสัตว์เข้มงวดกว่าประเทศไทยมาก โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมบันเทิง เช่น ในสหรัฐอเมริกา มีกฎหมาย Animal Welfare Act (AWA) ที่มีการกำหนดมาตรฐานสูงในการใช้สัตว์ในงานบันเทิง โดยกำหนดให้ต้องมีการขอใบอนุญาตและผ่านการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญอย่างละเอียดทุกขั้นตอน รวมถึงการมีองค์กรอย่าง American Humane Association (AHA) ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบและควบคุมการใช้สัตว์ในวงการภาพยนตร์โดยเฉพาะ หากพบว่ามีการละเมิด อาจถูกปรับเป็นเงินจำนวนมากและอาจถูกห้ามไม่ให้ใช้สัตว์ในสื่อบันเทิงอีกต่อไป หรืออย่างในประเทษอังกฤษ มี The Animal Welfare Act 2006 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ครอบคลุมการดูแลสัตว์ในวงการบันเทิง โดยห้ามการใช้วิธีการที่ทำให้สัตว์เจ็บปวดโดยไม่จำเป็น และหากพบการกระทำที่เป็นการทารุณกรรมสัตว์ จะมีโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี รวมถึงปรับเงินตามความร้ายแรงของกรณี ดังนั้น เมื่อเทียบกับบทลงโทษของไทย ยังถือว่าเบากว่าต่างประเทศหลายเท่านัก สำหรับประเทศไทย กรมปศุสัตว์มีบทบาทสำคัญในการคุ้มครองสวัสดิภาพสัตว์และป้องกันการทารุณกรรมสัตว์ ดังนั้น ในการแก้ปัญหาการใช้สัตว์อย่างไม่เหมาะสม กรมปศุสัตว์ควรพิจารณามาตรการ เช่น การจัดทำมาตรฐานแนวทางการใช้สัตว์ในสื่อบันเทิง ควรจัดทำคู่มือและข้อกำหนดที่ชัดเจนสำหรับการใช้สัตว์ในการถ่ายทำภาพยนตร์ ละคร และสื่อบันเทิงต่าง ๆ รวมถึงข้อกำหนดเกี่ยวกับการจัดสวัสดิภาพสัตว์ การตรวจสอบสุขภาพสัตว์ก่อนและหลัง และการปฏิบัติต่อสัตว์ที่ปลอดภัยตลอดกระบวนการถ่ายทำ โดยอาจนำตัวอย่างแนวทางจากต่างประเทศ เช่น American Humane Association ของสหรัฐอเมริกามาปรับใช้ กรมปศุสัตว์ควรเสนอให้เพิ่มบทลงโทษสำหรับการทารุณกรรมสัตว์ โดยเพิ่มค่าปรับหรือโทษจำคุกที่หนักขึ้น เพื่อให้ผู้ผลิตสื่อเกิดความยับยั้งชั่งใจและมีความรับผิดชอบในการใช้สัตว์ อีกทั้งควรมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและติดตามผลหลังจากที่มีการลงโทษเพื่อป้องกันการเกิดเหตุการณ์ซ้ำ และควรร่วมมือกับองค์กรที่มีประสบการณ์ในการคุ้มครองสวัสดิภาพสัตว์ เช่น มูลนิธิต่างๆ และหน่วยงานอื่น ๆ ในการติดตามและตรวจสอบการใช้สัตว์ในวงการบันเทิง จากใจแม่ที่มีลูกเป็นหมาสองตัว อย่าปล่อยให้การทารุณสัตว์ในสื่อบันเทิงไทย....กลายเป็นเรื่องธรรมดา เพราะฉะนั้น เรื่องนี้กรมปศุสัตว์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง........ต้องไปให้สุดซอย ! ส่วนเราในฐานะภาคประชาชน ก็ทำหน้าที่ตรวจสอบในแบบที่เราถนัดต่อไป คือ การค้นหาความจริง และ การจับโกหก เพราะความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น (อ.สนธิ และ ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน กล่าวไว้) นักศึกษากฎหมายระบายทุกข์ ที่มา : Thai PBS Instagram : one31thailand The Animal Welfare Act (AWA) 1966 The Animal Welfare Act 2006 The American Humane Association พ.ร.บ. ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557 มาตรา 20
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 178 มุมมอง 0 รีวิว
  • สนธิกอดชูวิทย์แนบแน่นสะท้านโลกธรรม
    .
    ผมดีใจที่สุดเมื่อวานนี้ 7 พฤศจิกายนซึ่งเป็นวันเกิดผม คุณชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ แจ้งมาว่า เขาจะมาพบผมสิบโมงครึ่งที่บ้านพระอาทิตย์ ผมไปนั่งรอที่ขั้นบันได พอรถเขามาถึงปั๊บ เขาเปิดประตูรถ ผมไปรับเขา ผมเห็นสภาพเขาเดินไม่ค่อยได้ ผมกลั้นน้ำตาไว้ วันนี้เขาอ่อนแอมาก เขาไม่ใช่สิงห์ผงาดในอดีตที่ออกมาแล้วยกมือชี้เรื่องโน้นเรื่องนี้ ผมดูสภาพเขาอายุหกสิบกว่ากับสภาพผมซึ่งเต็ม 77 กำลังจะเริ่ม 78 ปีวันนี้แล้ว เขาอ่อนแอมาก เขาบอกว่าในตับเขามีมะเร็งยาวถึง 5 เซนติเมตร ซึ่งมันผ่าไม่ได้แล้วและทานอะไรไม่ได้เลย
    .
    ผมบอกเขาว่า ชูวิทย์คุณอยู่เฉยๆก่อน ขอผมกอดคุณที ผมก็กอดเขา เขาก็กอดผมและสะอื้น ผมน้ำตาปริ่ม ผมบอกชูวิทย์ นิ่งๆนะ หายใจเข้าลึกๆ อย่าไปสนใจเสียงข้างนอก กำหนดจิตให้สงบ ไม่รู้สึกอะไร เดี๋ยวผมจะถ่ายพลังที่มีอยู่ในตัวของผมเอาไปให้คุณเพื่อรักษาตัว แล้วผมก็ภาวนาในใจและกอดเขาแน่นเลย เขาก็กอดผมแน่นเช่นกัน ผมภาวนาจนกระทั่งถึงจุดหนึ่งผมคิดว่าพอแล้ว พอผมพูดจบ ชูวิทย์สะอื้นแล้วบอกว่า พี่สนธิ ขอบคุณมาก ขอบคุณในน้ำใจพี่ สภาพเขาเดินยังแทบจะเดินไม่ได้ ต้องใช้ไม้เท้า ต้องประคองแขนทั้งสองข้าง ขากลับเขายืนยันจะเดิน ผมบอกไม่ได้ ชูวิทย์ คุณนั่งรถเข็น เดี๋ยวผมเข็นให้
    .
    ผมบอกว่า ชูวิทย์วันนี้เราไม่พูดเรื่องเก่ากันแล้วนะ เพราะคุณกับผมสวมหมวกคนละใบ อาจจะมีการปะทะกันในหลักการ แต่ผมไม่ได้โกรธคุณ และคุณก็ไม่ได้โกรธผม
    .
    นี่คือความสัมพันธ์ระหว่างผม สนธิ ลิ้มทองกุล กับคุณชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เหตุการณ์ที่พัฒนามาจากวันนั้นถึงวันนี้ น่าจะเป็นบทเรียนในชีวิตให้กับพวกเราหลายๆ คนที่ยังคงฝังตัวเองและจมลึกอยู่ท่ามกลางความแค้น ความแค้นไม่ได้ช่วยให้อะไรมันดีขึ้นเลย มีแต่แผดเผาจิตใจของเรา
    .
    สำหรับผมแล้ว เรื่องเล็กมาก เพราะผมถือว่าเป็นเรื่องสมมุติ และเป็นเรื่องที่มันควรจะจบด้วยการให้อภัยและลืมมันไปซะ ชีวิตเรามันสั้น เหลือเวลาของชีวิต รักษาความเป็นมิตรภาพ สัมพันธภาพอันดี
    .
    ผมคิดว่าคุณชูวิทย์ ในช่วงสุดท้ายของชีวิต ถ้าจะเป็นช่วงสุดท้าย เขาคงอยากจะมีเพื่อนดีๆ หรือพี่ดีๆ อย่างผมที่เขาแวะมาคุยด้วยได้ มองตาแล้วเขาสบายใจ นั่นล่ะครับ ประสบการณ์ที่ผมเจอคุณชูวิทย์ สิบโมงครึ่ง ที่บ้านพระอาทิตย์
    .
    จุดจบของความสัมพันธ์ก็คือความเข้าใจกัน และความจริงใจให้กันด้วยความเต็มใจทั้งสองฝ่าย

    ที่มา คุยทุกเรื่องกับสนธิ

    #Thaitimes
    สนธิกอดชูวิทย์แนบแน่นสะท้านโลกธรรม . ผมดีใจที่สุดเมื่อวานนี้ 7 พฤศจิกายนซึ่งเป็นวันเกิดผม คุณชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ แจ้งมาว่า เขาจะมาพบผมสิบโมงครึ่งที่บ้านพระอาทิตย์ ผมไปนั่งรอที่ขั้นบันได พอรถเขามาถึงปั๊บ เขาเปิดประตูรถ ผมไปรับเขา ผมเห็นสภาพเขาเดินไม่ค่อยได้ ผมกลั้นน้ำตาไว้ วันนี้เขาอ่อนแอมาก เขาไม่ใช่สิงห์ผงาดในอดีตที่ออกมาแล้วยกมือชี้เรื่องโน้นเรื่องนี้ ผมดูสภาพเขาอายุหกสิบกว่ากับสภาพผมซึ่งเต็ม 77 กำลังจะเริ่ม 78 ปีวันนี้แล้ว เขาอ่อนแอมาก เขาบอกว่าในตับเขามีมะเร็งยาวถึง 5 เซนติเมตร ซึ่งมันผ่าไม่ได้แล้วและทานอะไรไม่ได้เลย . ผมบอกเขาว่า ชูวิทย์คุณอยู่เฉยๆก่อน ขอผมกอดคุณที ผมก็กอดเขา เขาก็กอดผมและสะอื้น ผมน้ำตาปริ่ม ผมบอกชูวิทย์ นิ่งๆนะ หายใจเข้าลึกๆ อย่าไปสนใจเสียงข้างนอก กำหนดจิตให้สงบ ไม่รู้สึกอะไร เดี๋ยวผมจะถ่ายพลังที่มีอยู่ในตัวของผมเอาไปให้คุณเพื่อรักษาตัว แล้วผมก็ภาวนาในใจและกอดเขาแน่นเลย เขาก็กอดผมแน่นเช่นกัน ผมภาวนาจนกระทั่งถึงจุดหนึ่งผมคิดว่าพอแล้ว พอผมพูดจบ ชูวิทย์สะอื้นแล้วบอกว่า พี่สนธิ ขอบคุณมาก ขอบคุณในน้ำใจพี่ สภาพเขาเดินยังแทบจะเดินไม่ได้ ต้องใช้ไม้เท้า ต้องประคองแขนทั้งสองข้าง ขากลับเขายืนยันจะเดิน ผมบอกไม่ได้ ชูวิทย์ คุณนั่งรถเข็น เดี๋ยวผมเข็นให้ . ผมบอกว่า ชูวิทย์วันนี้เราไม่พูดเรื่องเก่ากันแล้วนะ เพราะคุณกับผมสวมหมวกคนละใบ อาจจะมีการปะทะกันในหลักการ แต่ผมไม่ได้โกรธคุณ และคุณก็ไม่ได้โกรธผม . นี่คือความสัมพันธ์ระหว่างผม สนธิ ลิ้มทองกุล กับคุณชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เหตุการณ์ที่พัฒนามาจากวันนั้นถึงวันนี้ น่าจะเป็นบทเรียนในชีวิตให้กับพวกเราหลายๆ คนที่ยังคงฝังตัวเองและจมลึกอยู่ท่ามกลางความแค้น ความแค้นไม่ได้ช่วยให้อะไรมันดีขึ้นเลย มีแต่แผดเผาจิตใจของเรา . สำหรับผมแล้ว เรื่องเล็กมาก เพราะผมถือว่าเป็นเรื่องสมมุติ และเป็นเรื่องที่มันควรจะจบด้วยการให้อภัยและลืมมันไปซะ ชีวิตเรามันสั้น เหลือเวลาของชีวิต รักษาความเป็นมิตรภาพ สัมพันธภาพอันดี . ผมคิดว่าคุณชูวิทย์ ในช่วงสุดท้ายของชีวิต ถ้าจะเป็นช่วงสุดท้าย เขาคงอยากจะมีเพื่อนดีๆ หรือพี่ดีๆ อย่างผมที่เขาแวะมาคุยด้วยได้ มองตาแล้วเขาสบายใจ นั่นล่ะครับ ประสบการณ์ที่ผมเจอคุณชูวิทย์ สิบโมงครึ่ง ที่บ้านพระอาทิตย์ . จุดจบของความสัมพันธ์ก็คือความเข้าใจกัน และความจริงใจให้กันด้วยความเต็มใจทั้งสองฝ่าย ที่มา คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 347 มุมมอง 0 รีวิว
  • JAS เบียดทรู ยิงสดพรีเมียร์ลีก

    คอกีฬาแบบถูกลิขสิทธิ์คงได้ปรับตัวกันอีกครั้ง เมื่อบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ประกาศว่า ได้บรรลุข้อตกลงถือลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกและเอฟเอคัพบนอินเทอร์เน็ตทีวีและดิจิทัลทีวี รวมถึงชุดวีดีโอสั้น (Clips Package) ในประเทศไทย ลาว และกัมพูชา ทั้งหมด 6 ฤดูกาล ตั้งแต่ 2025/26 ถึง 2030/31 หรือยาวไปถึงปี 2574 ด้วยมูลค่ารวม 559.98 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 19,167 ล้านบาท นับเป็นการเปลี่ยนมือผู้ถือลิขสิทธิ์อีกครั้ง

    หลังจากที่ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอยู่คู่กับทรูวิชั่นส์มานาน ตั้งแต่สมัยไอบีซีเคเบิลทีวี ยูทีวี แต่ครั้งหนึ่งเคยตกเป็นของบริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน) หรือ CTH ในฤดูกาล 2013/14 ถึง 2015/16 แต่ด้วยต้นทุนค่าลิขสิทธิ์ที่สูง ยังมีต้นทุนช่องรายการอื่นและค่าใช้จ่ายดำเนินงาน สุดท้ายไปต่อไม่ไหว ในฤดูกาล 2016/17 ช่องบีอินสปอร์ตของสำนักข่าวอัลจาซีราจึงได้ลิขสิทธิ์ไป 3 ฤดูกาล โดยให้ทรูวิชั่นส์เผยแพร่สัญญาณ กระทั่งฤดูกาล 2022/23 ทรูวิชั่นส์ได้ลิขสิทธิ์ไป 3 ฤดูกาล ยาวไปถึงฤดูกาลล่าสุด 2024/25

    สำหรับกลุ่มจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล ก่อตั้งโดยตระกูลโพธารามิก ที่มีนายอดิศัย โพธารามิก อดีต รมว.พาณิชย์ ปัจจุบันมีนายพิชญ์ โพธารามิก เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยมีบริษัทย่อยประกอบธุรกิจอินเทอร์เน็ตทีวี ได้แก่ แจส ทีวี ที่มีกล่องอินเทอร์เน็ตทีวี 3BB GIGATV มีฐานลูกค้า 600,000 ราย และยังมีบริษัท โมโน เน็กซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ MONO ประกอบธุรกิจหลักคือทีวีดิจิทัลช่อง MONO29 ที่เน้นรายการภาพยนตร์และซีรีย์ และ MONOMAX ผู้ให้บริการคอนเทนต์แบบบอกรับสมาชิก

    โดยกลุ่มจัสมินตั้งเป้าหมายถ่ายทอดคอนเทนต์ให้เข้าถึงมากกว่า 25 ล้านครัวเรือนใน 3 ประเทศ ตั้งเป้าสมาชิก 3 ล้านบัญชีในปีแรก จากจำนวนประชากร 96 ล้านคน ซึ่งกลุ่มบริษัทโมโน อาทิ MONOMAX และช่อง MONO29 เข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์ในการทำการตลาดและจัดจำหน่าย โดยมีความพร้อมด้านเงินทุนภายหลังการขายธุรกิจ 3BB ให้กับเอไอเอส (AIS) ซึ่งพบว่าแหล่งเงินทุนมาจากกระแสเงินสดที่มีอยู่ประมาณ 4,678.47 ล้านบาท และกำลังเจรจากับสถาบันการเงินที่เกี่ยวข้อง

    ในยุคที่เทคโนโลยี OTT (Over-The-Top) เข้ามามีอิทธิพลแทนโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิกแบบเดิม คาดว่ากลุ่มจัสมินจะอาศัยกล่อง 3BB GIGATV เป็นหลัก ส่วนจะขยายไปยังพันธมิตรอย่างเอไอเอส ที่มีฐานลูกค้ามือถือกว่า 45.7 ล้านราย และมีผู้ใช้งานกล่อง AIS PLAYBOX มากกว่า 1 ล้านราย หรือจะถ่ายทอดสดทางฟรีทีวี นอกจากช่อง MONO29 หรือไม่ ยังเป็นเรื่องของอนาคต

    #Newskit #JAS #PremierLeague
    JAS เบียดทรู ยิงสดพรีเมียร์ลีก คอกีฬาแบบถูกลิขสิทธิ์คงได้ปรับตัวกันอีกครั้ง เมื่อบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ประกาศว่า ได้บรรลุข้อตกลงถือลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกและเอฟเอคัพบนอินเทอร์เน็ตทีวีและดิจิทัลทีวี รวมถึงชุดวีดีโอสั้น (Clips Package) ในประเทศไทย ลาว และกัมพูชา ทั้งหมด 6 ฤดูกาล ตั้งแต่ 2025/26 ถึง 2030/31 หรือยาวไปถึงปี 2574 ด้วยมูลค่ารวม 559.98 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 19,167 ล้านบาท นับเป็นการเปลี่ยนมือผู้ถือลิขสิทธิ์อีกครั้ง หลังจากที่ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอยู่คู่กับทรูวิชั่นส์มานาน ตั้งแต่สมัยไอบีซีเคเบิลทีวี ยูทีวี แต่ครั้งหนึ่งเคยตกเป็นของบริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน) หรือ CTH ในฤดูกาล 2013/14 ถึง 2015/16 แต่ด้วยต้นทุนค่าลิขสิทธิ์ที่สูง ยังมีต้นทุนช่องรายการอื่นและค่าใช้จ่ายดำเนินงาน สุดท้ายไปต่อไม่ไหว ในฤดูกาล 2016/17 ช่องบีอินสปอร์ตของสำนักข่าวอัลจาซีราจึงได้ลิขสิทธิ์ไป 3 ฤดูกาล โดยให้ทรูวิชั่นส์เผยแพร่สัญญาณ กระทั่งฤดูกาล 2022/23 ทรูวิชั่นส์ได้ลิขสิทธิ์ไป 3 ฤดูกาล ยาวไปถึงฤดูกาลล่าสุด 2024/25 สำหรับกลุ่มจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล ก่อตั้งโดยตระกูลโพธารามิก ที่มีนายอดิศัย โพธารามิก อดีต รมว.พาณิชย์ ปัจจุบันมีนายพิชญ์ โพธารามิก เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยมีบริษัทย่อยประกอบธุรกิจอินเทอร์เน็ตทีวี ได้แก่ แจส ทีวี ที่มีกล่องอินเทอร์เน็ตทีวี 3BB GIGATV มีฐานลูกค้า 600,000 ราย และยังมีบริษัท โมโน เน็กซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ MONO ประกอบธุรกิจหลักคือทีวีดิจิทัลช่อง MONO29 ที่เน้นรายการภาพยนตร์และซีรีย์ และ MONOMAX ผู้ให้บริการคอนเทนต์แบบบอกรับสมาชิก โดยกลุ่มจัสมินตั้งเป้าหมายถ่ายทอดคอนเทนต์ให้เข้าถึงมากกว่า 25 ล้านครัวเรือนใน 3 ประเทศ ตั้งเป้าสมาชิก 3 ล้านบัญชีในปีแรก จากจำนวนประชากร 96 ล้านคน ซึ่งกลุ่มบริษัทโมโน อาทิ MONOMAX และช่อง MONO29 เข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์ในการทำการตลาดและจัดจำหน่าย โดยมีความพร้อมด้านเงินทุนภายหลังการขายธุรกิจ 3BB ให้กับเอไอเอส (AIS) ซึ่งพบว่าแหล่งเงินทุนมาจากกระแสเงินสดที่มีอยู่ประมาณ 4,678.47 ล้านบาท และกำลังเจรจากับสถาบันการเงินที่เกี่ยวข้อง ในยุคที่เทคโนโลยี OTT (Over-The-Top) เข้ามามีอิทธิพลแทนโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิกแบบเดิม คาดว่ากลุ่มจัสมินจะอาศัยกล่อง 3BB GIGATV เป็นหลัก ส่วนจะขยายไปยังพันธมิตรอย่างเอไอเอส ที่มีฐานลูกค้ามือถือกว่า 45.7 ล้านราย และมีผู้ใช้งานกล่อง AIS PLAYBOX มากกว่า 1 ล้านราย หรือจะถ่ายทอดสดทางฟรีทีวี นอกจากช่อง MONO29 หรือไม่ ยังเป็นเรื่องของอนาคต #Newskit #JAS #PremierLeague
    Like
    Love
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 224 มุมมอง 0 รีวิว
  • “รายงานของวอชิงตันโพสต์เกี่ยวกับการโทรศัพท์ระหว่างปูตินและทรัมป์นั้นเป็นเรื่องแต่งขึ้นล้วนๆ ทั้งหมดเป็นข่าวปลอม”

    — เปสคอฟ โฆษกเครมลิน
    “รายงานของวอชิงตันโพสต์เกี่ยวกับการโทรศัพท์ระหว่างปูตินและทรัมป์นั้นเป็นเรื่องแต่งขึ้นล้วนๆ ทั้งหมดเป็นข่าวปลอม” — เปสคอฟ โฆษกเครมลิน
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 45 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..เรา ประเทศไทยเราล่ะ,เราจะซ่อมแซมประเทศไทยเราจริงจังแบบไหน&กันเสียที.

    ..พรรคเดโมแครต ถ้าคุณสงสัยว่าทำไมอเมริกาถึงเลือกทรัมป์ ฉันขออธิบายให้ฟัง:

    ความจริงก็คือ ชาวอเมริกันเบื่อหน่ายกับเรื่องบ้าๆ ของคุณแล้ว

    คุณทำลายชาติและวัฒนธรรมของเรา คุณล้อเลียน ดูถูก และเลือกปฏิบัติต่อเราอย่างเปิดเผย จากนั้นก็เรียกเราว่าพวกเหยียดผิว เหยียดเพศ และพวกนาซี เมื่อเราเริ่มสังเกตเห็น

    คุณทำให้สถาบันอันยิ่งใหญ่ของเราเสื่อมเสียชื่อเสียงและเสื่อมทราม รวมถึงสื่อ โซเชียลมีเดีย เทคโนโลยี สถาบันการศึกษา หน่วยข่าวกรอง สุขภาพ ยา ฮอลลีวูด ความบันเทิง กีฬา ทุกอย่าง! คุณใช้ทุกแง่มุมของชีวิตชาวอเมริกันเป็นอาวุธ และใช้มันเพื่อผลักดันวาระฝ่ายซ้ายสุดโต่งของคุณให้พวกเราต้องทนทุกข์ทรมาน

    คุณบอกเราว่าทรัมป์เป็นทรัพยากรของรัสเซียที่กำลังจะก่อสงครามโลกครั้งที่ 3 และจะเลวร้ายยิ่งกว่าฮิตเลอร์ จากนั้นคุณก็ใช้สิ่งนั้นเป็นข้ออ้างในการแสดงความเกลียดชังต่อผู้สนับสนุนทรัมป์และก่อจลาจลบนท้องถนน คุณใช้สิ่งนั้นเป็นข้ออ้างในการขัดขวางและทำลายวาระแรกของทรัมป์ และกลายเป็นว่ามันเป็นเรื่องโกหกทั้งหมด
    จากนั้นในช่วงโควิด คุณเรียกร้องให้เราทุกคนถูกบังคับให้ทำการทดลองทางการแพทย์โดยไม่ทดลอง คุณต้องการให้ผู้ที่ไม่เห็นด้วยถูกขังไว้ในคุก คุณต้องการให้เด็กๆ ถูกพรากไปจากพ่อแม่ที่ต่อต้านวัคซีน คุณต้องการให้พวกต่อต้านวัคซีนอยู่ในค่าย คุณเชียร์ให้พวกเราต้องตาย จากนั้นก็กลายเป็นว่าคุณคิดผิดเกี่ยวกับทุกอย่าง ตั้งแต่แหล่งกำเนิดที่มนุษย์สร้างขึ้น ไปจนถึงหน้ากาก วัคซีน การเว้นระยะห่างทางสังคม ไอเวอร์เมกติน HCQ ภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ และทุกสิ่งทุกอย่าง

    จากนั้นในช่วงยูเครน คุณบอกเราว่ายูเครนเป็นปราการของประชาธิปไตย และพวกเขาต้องการเงินภาษีของเราทั้งหมดอย่างมาก จากนั้นก็กลายเป็นว่ายูเครนเป็นหนึ่งในประเทศที่ทุจริตมากที่สุดในโลก โดยมีกองกำลังทหารนาซีตามตัวอักษร และที่จริงแล้วเป็นเพียงปฏิบัติการฟอกเงินเพื่อขโมยเงินจากผู้เสียภาษีชาวอเมริกัน คุณต้องการปกป้องพรมแดนของยูเครนมากกว่าของเราเอง คุณส่งเงินหลายแสนล้านดอลลาร์ไปยังอีกฟากของโลก ในขณะที่ชาวอเมริกันต้องทนทุกข์ ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนขึ้นอยู่กับคำโกหก

    นอกจากนี้ยังมีเรื่องของ Epstein, Diddy และการค้ามนุษย์อีกด้วย พวกคุณทุกคนบอกเราอย่างรุนแรงว่าการค้ามนุษย์เป็นเพียงเรื่องหลอกลวง พวกคุณบอกเราว่าชายแดนปลอดภัย และพวกคุณบอกเราว่าใครก็ตามที่ตั้งคำถามถึงเรื่องนี้คือพวกนักทฤษฎีสมคบคิดที่ไถ่ถอนไม่ได้และน่ารังเกียจ (และเป็นขยะ) พวกคุณบอกว่าใครก็ตามที่ดูรายการ "Sound of Freedom" ล้วนเป็นพวกหัวรุนแรง QAnon และเป็นภัยคุกคามต่อประชาธิปไตย จากนั้นมันก็กลายเป็นเรื่องจริง และชนชั้นสูงก็มีส่วนร่วมในอาชญากรรมที่เลวร้ายต่อเด็กๆ จริงๆ หลังจากที่คุณบอกเรามาหลายสิบปีว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง พวกคุณปกปิดอาชญากรรมที่เลวร้ายที่สุดที่จินตนาการได้ เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง

    ฉันทำแบบนี้ได้เป็นวันๆ แต่ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจประเด็นแล้ว ชาวอเมริกันตื่นตัวต่อกลลวงและความชั่วร้ายที่เกิดขึ้นรอบตัวเรา และเราจะไม่ทนอีกต่อไป ดังนั้นเราจึงจ้างโดนัลด์ เจ. ทรัมป์และทีมผู้รักชาติของเขาเพื่อแก้ไขสถานการณ์ และนำอเมริกากลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง

    นี่คือความเป็นจริงของสถานการณ์ คุณเป็นคนเลว และคุณถูกหลอก ยิ่งคุณตื่นรู้เร็วเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งสามารถเข้าร่วมกับเราในการซ่อมแซมประเทศนี้ได้เร็วขึ้นเท่านั้น หรือคุณสามารถเลือกที่จะปฏิเสธความจริง และใช้ชีวิตที่เหลือของคุณไปกับความเกลียดชังที่ขึ้นอยู่กับคำโกหก

    ทางเลือกเป็นของคุณ

    ลงชื่อ: ผู้รักชาติอเมริกันที่แท้จริง

    @realDonaldTrump ขอบคุณสำหรับความกล้าหาญและการยืนหยัดเพื่ออเมริกาและมวลมนุษยชาติ ขอพระเจ้าอวยพรอเมริกา 🙏🏼🇺🇸ฟ
    ..เรา ประเทศไทยเราล่ะ,เราจะซ่อมแซมประเทศไทยเราจริงจังแบบไหน&กันเสียที. ..พรรคเดโมแครต ถ้าคุณสงสัยว่าทำไมอเมริกาถึงเลือกทรัมป์ ฉันขออธิบายให้ฟัง: ความจริงก็คือ ชาวอเมริกันเบื่อหน่ายกับเรื่องบ้าๆ ของคุณแล้ว คุณทำลายชาติและวัฒนธรรมของเรา คุณล้อเลียน ดูถูก และเลือกปฏิบัติต่อเราอย่างเปิดเผย จากนั้นก็เรียกเราว่าพวกเหยียดผิว เหยียดเพศ และพวกนาซี เมื่อเราเริ่มสังเกตเห็น คุณทำให้สถาบันอันยิ่งใหญ่ของเราเสื่อมเสียชื่อเสียงและเสื่อมทราม รวมถึงสื่อ โซเชียลมีเดีย เทคโนโลยี สถาบันการศึกษา หน่วยข่าวกรอง สุขภาพ ยา ฮอลลีวูด ความบันเทิง กีฬา ทุกอย่าง! คุณใช้ทุกแง่มุมของชีวิตชาวอเมริกันเป็นอาวุธ และใช้มันเพื่อผลักดันวาระฝ่ายซ้ายสุดโต่งของคุณให้พวกเราต้องทนทุกข์ทรมาน คุณบอกเราว่าทรัมป์เป็นทรัพยากรของรัสเซียที่กำลังจะก่อสงครามโลกครั้งที่ 3 และจะเลวร้ายยิ่งกว่าฮิตเลอร์ จากนั้นคุณก็ใช้สิ่งนั้นเป็นข้ออ้างในการแสดงความเกลียดชังต่อผู้สนับสนุนทรัมป์และก่อจลาจลบนท้องถนน คุณใช้สิ่งนั้นเป็นข้ออ้างในการขัดขวางและทำลายวาระแรกของทรัมป์ และกลายเป็นว่ามันเป็นเรื่องโกหกทั้งหมด จากนั้นในช่วงโควิด คุณเรียกร้องให้เราทุกคนถูกบังคับให้ทำการทดลองทางการแพทย์โดยไม่ทดลอง คุณต้องการให้ผู้ที่ไม่เห็นด้วยถูกขังไว้ในคุก คุณต้องการให้เด็กๆ ถูกพรากไปจากพ่อแม่ที่ต่อต้านวัคซีน คุณต้องการให้พวกต่อต้านวัคซีนอยู่ในค่าย คุณเชียร์ให้พวกเราต้องตาย จากนั้นก็กลายเป็นว่าคุณคิดผิดเกี่ยวกับทุกอย่าง ตั้งแต่แหล่งกำเนิดที่มนุษย์สร้างขึ้น ไปจนถึงหน้ากาก วัคซีน การเว้นระยะห่างทางสังคม ไอเวอร์เมกติน HCQ ภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ และทุกสิ่งทุกอย่าง จากนั้นในช่วงยูเครน คุณบอกเราว่ายูเครนเป็นปราการของประชาธิปไตย และพวกเขาต้องการเงินภาษีของเราทั้งหมดอย่างมาก จากนั้นก็กลายเป็นว่ายูเครนเป็นหนึ่งในประเทศที่ทุจริตมากที่สุดในโลก โดยมีกองกำลังทหารนาซีตามตัวอักษร และที่จริงแล้วเป็นเพียงปฏิบัติการฟอกเงินเพื่อขโมยเงินจากผู้เสียภาษีชาวอเมริกัน คุณต้องการปกป้องพรมแดนของยูเครนมากกว่าของเราเอง คุณส่งเงินหลายแสนล้านดอลลาร์ไปยังอีกฟากของโลก ในขณะที่ชาวอเมริกันต้องทนทุกข์ ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนขึ้นอยู่กับคำโกหก นอกจากนี้ยังมีเรื่องของ Epstein, Diddy และการค้ามนุษย์อีกด้วย พวกคุณทุกคนบอกเราอย่างรุนแรงว่าการค้ามนุษย์เป็นเพียงเรื่องหลอกลวง พวกคุณบอกเราว่าชายแดนปลอดภัย และพวกคุณบอกเราว่าใครก็ตามที่ตั้งคำถามถึงเรื่องนี้คือพวกนักทฤษฎีสมคบคิดที่ไถ่ถอนไม่ได้และน่ารังเกียจ (และเป็นขยะ) พวกคุณบอกว่าใครก็ตามที่ดูรายการ "Sound of Freedom" ล้วนเป็นพวกหัวรุนแรง QAnon และเป็นภัยคุกคามต่อประชาธิปไตย จากนั้นมันก็กลายเป็นเรื่องจริง และชนชั้นสูงก็มีส่วนร่วมในอาชญากรรมที่เลวร้ายต่อเด็กๆ จริงๆ หลังจากที่คุณบอกเรามาหลายสิบปีว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง พวกคุณปกปิดอาชญากรรมที่เลวร้ายที่สุดที่จินตนาการได้ เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง ฉันทำแบบนี้ได้เป็นวันๆ แต่ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจประเด็นแล้ว ชาวอเมริกันตื่นตัวต่อกลลวงและความชั่วร้ายที่เกิดขึ้นรอบตัวเรา และเราจะไม่ทนอีกต่อไป ดังนั้นเราจึงจ้างโดนัลด์ เจ. ทรัมป์และทีมผู้รักชาติของเขาเพื่อแก้ไขสถานการณ์ และนำอเมริกากลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง นี่คือความเป็นจริงของสถานการณ์ คุณเป็นคนเลว และคุณถูกหลอก ยิ่งคุณตื่นรู้เร็วเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งสามารถเข้าร่วมกับเราในการซ่อมแซมประเทศนี้ได้เร็วขึ้นเท่านั้น หรือคุณสามารถเลือกที่จะปฏิเสธความจริง และใช้ชีวิตที่เหลือของคุณไปกับความเกลียดชังที่ขึ้นอยู่กับคำโกหก ทางเลือกเป็นของคุณ ลงชื่อ: ผู้รักชาติอเมริกันที่แท้จริง @realDonaldTrump ขอบคุณสำหรับความกล้าหาญและการยืนหยัดเพื่ออเมริกาและมวลมนุษยชาติ ขอพระเจ้าอวยพรอเมริกา 🙏🏼🇺🇸ฟ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 137 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts