• "เก่งได้อีก!"

    "เราจะไม่ใช่แค่นั่งลงแล้วฟังเพื่อปฏิบัติตามที่โต๊ะเจรจา แม้ว่าทรัมป์จะพูดอะไรก็แล้วแต่" เซเลนสกีกล่าวในการสัมภาษณ์ทางวิทยุยูเครน

    “เราคือประเทศยูเครนที่มีความเป็นอิสระ มันเป็นวิธีที่พวกเขาควรปฏิบัติต่อประเทศใดๆ ผู้คนใดๆ หรือผู้นำใดๆ ที่ต้องให้ความเคารพ เพราะนี่คือความเท่าเทียมกันของทุกประเทศ และคือสิ่งที่เราชาวยูเครนกำลังต่อสู้เพื่อมันในวันนี้”
    "เก่งได้อีก!" "เราจะไม่ใช่แค่นั่งลงแล้วฟังเพื่อปฏิบัติตามที่โต๊ะเจรจา แม้ว่าทรัมป์จะพูดอะไรก็แล้วแต่" เซเลนสกีกล่าวในการสัมภาษณ์ทางวิทยุยูเครน “เราคือประเทศยูเครนที่มีความเป็นอิสระ มันเป็นวิธีที่พวกเขาควรปฏิบัติต่อประเทศใดๆ ผู้คนใดๆ หรือผู้นำใดๆ ที่ต้องให้ความเคารพ เพราะนี่คือความเท่าเทียมกันของทุกประเทศ และคือสิ่งที่เราชาวยูเครนกำลังต่อสู้เพื่อมันในวันนี้”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 327 มุมมอง 8 0 รีวิว
  • เซเลนสกี ไม่พอใจ "ชอลซ์" นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ที่ต่อสายสนทนากับปูตินในรอบเกือบ 2 ปี โดยกล่าวหาว่าเยอรมันกำลังทำให้สถานการณ์เข้าข้างปูติน

    "นายกรัฐมนตรีชอลซ์บอกกับผมว่า เขาตั้งใจโทรหาปูติน การโทรของเขาในความคิดของผมคือการเปิดกล่องแพนโดรา นี่คือสิ่งที่ปูตินต้องการมานานและทำให้รัสเซียสามารถกำหนดการเปลี่ยนแปลงนโยบายใดๆ ของตนเองได้ โดยไม่ต้องทำอะไรเลย"
    เซเลนสกี ไม่พอใจ "ชอลซ์" นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ที่ต่อสายสนทนากับปูตินในรอบเกือบ 2 ปี โดยกล่าวหาว่าเยอรมันกำลังทำให้สถานการณ์เข้าข้างปูติน "นายกรัฐมนตรีชอลซ์บอกกับผมว่า เขาตั้งใจโทรหาปูติน การโทรของเขาในความคิดของผมคือการเปิดกล่องแพนโดรา นี่คือสิ่งที่ปูตินต้องการมานานและทำให้รัสเซียสามารถกำหนดการเปลี่ยนแปลงนโยบายใดๆ ของตนเองได้ โดยไม่ต้องทำอะไรเลย"
    Like
    1
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 532 มุมมอง 20 0 รีวิว
  • นายกรัฐมนตรีเยอรมนี โอลาฟ ชอลซ์ บอกกับ วลาดิมีร์ เซเลนสกี ว่าระบบป้องกันภัยทางอากาศไอริส-ทีอีกระบบหนึ่งจะถูกโอนไปยังเคียฟภายในสิ้นปีนี้, สำนักข่าวของเซเลนสกีระบุภายหลังการสนทนาทางโทรศัพท์:
    .
    German Chancellor Olaf Scholz told Vladimir Zelensky that another IRIS-T air defense system will be transferred to Kiev by the end of this year, Zelensky’s press service said after their phone call:
    https://tass.com/world/1872051
    .
    8:30 AM · Nov 14, 2024 · 3,117 Views
    https://x.com/tassagency_en/status/1856872263301149101
    นายกรัฐมนตรีเยอรมนี โอลาฟ ชอลซ์ บอกกับ วลาดิมีร์ เซเลนสกี ว่าระบบป้องกันภัยทางอากาศไอริส-ทีอีกระบบหนึ่งจะถูกโอนไปยังเคียฟภายในสิ้นปีนี้, สำนักข่าวของเซเลนสกีระบุภายหลังการสนทนาทางโทรศัพท์: . German Chancellor Olaf Scholz told Vladimir Zelensky that another IRIS-T air defense system will be transferred to Kiev by the end of this year, Zelensky’s press service said after their phone call: https://tass.com/world/1872051 . 8:30 AM · Nov 14, 2024 · 3,117 Views https://x.com/tassagency_en/status/1856872263301149101
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 123 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์เสนอชื่อแมตต์ เกตซ์(Matt Gaetz) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากฟลอริดา ให้ดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุดสหรัฐ (Attorney General of the United States) ซึ่งก็คือควบคุมดูแลกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐอเมริกา ตำแหน่งนี้เป็นเพียงตำแหน่งเดียวในคณะรัฐมนตรีที่ไม่ใช้ชื่อว่า "รัฐมนตรี" (secretary)

    เกตซ์ เป็นเพียงหนึ่งในสองของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ไม่ยอมปรบมือให้เซเลนสกีระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ต่อรัฐสภา (วิดีโอ1) และยังเรียกร้องให้มีการลงมติเพื่อหยุดให้ความช่วยเหลือยูเครนอีกด้วย

    ปฏิกิริยาจากชุมชนยิว หลังมีข่าวทรัมป์แต่งตั้ง เกตซ์ เป็นอัยการสูงสุดของสหรัฐฯ โจนาธาน กรีนแบลตต์ ซีอีโอของ ADL และคณะกรรมการชาวยิวอเมริกัน ประณามการแต่ตั้งครั้งนี้ทันที!

    นอกจากนี้ ตามรายงานของ TrackAIPAC ซึ่งทำหน้าที่ตรวจสอบนักการเมืองสหรัฐกับความเชื่อมโยงระหว่างอิสราเอล ระบุว่า เกตซ์ไม่เคยรับเงินสนับสนุนจาก AIPAC ซึ่งเป็นกลุ่มล็อบบี้ของอิสราเอล

    อย่างไรก็ตาม เกตซ์ อาจเผชิญอุปสรรคในการเข้ารับตำแหน่งนี้ เนื่องจากเขาเคยถูกกล่าวหาว่ามีสัมพันธ์กับเด็กสาววัยเพียง 17 ปี และทันทีที่เขาได้รับเลือกจากทรัมป์ ข่าวนี้ได้ถูกนำมาเผยแพร่จนกลายเป็นประแสต่อต้านเล็กๆ รวมถึงนักการเมืองในซีกรีพับลิกันด้วยกันเองด้วย
    ทรัมป์เสนอชื่อแมตต์ เกตซ์(Matt Gaetz) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากฟลอริดา ให้ดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุดสหรัฐ (Attorney General of the United States) ซึ่งก็คือควบคุมดูแลกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐอเมริกา ตำแหน่งนี้เป็นเพียงตำแหน่งเดียวในคณะรัฐมนตรีที่ไม่ใช้ชื่อว่า "รัฐมนตรี" (secretary) เกตซ์ เป็นเพียงหนึ่งในสองของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ไม่ยอมปรบมือให้เซเลนสกีระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ต่อรัฐสภา (วิดีโอ1) และยังเรียกร้องให้มีการลงมติเพื่อหยุดให้ความช่วยเหลือยูเครนอีกด้วย ปฏิกิริยาจากชุมชนยิว หลังมีข่าวทรัมป์แต่งตั้ง เกตซ์ เป็นอัยการสูงสุดของสหรัฐฯ โจนาธาน กรีนแบลตต์ ซีอีโอของ ADL และคณะกรรมการชาวยิวอเมริกัน ประณามการแต่ตั้งครั้งนี้ทันที! นอกจากนี้ ตามรายงานของ TrackAIPAC ซึ่งทำหน้าที่ตรวจสอบนักการเมืองสหรัฐกับความเชื่อมโยงระหว่างอิสราเอล ระบุว่า เกตซ์ไม่เคยรับเงินสนับสนุนจาก AIPAC ซึ่งเป็นกลุ่มล็อบบี้ของอิสราเอล อย่างไรก็ตาม เกตซ์ อาจเผชิญอุปสรรคในการเข้ารับตำแหน่งนี้ เนื่องจากเขาเคยถูกกล่าวหาว่ามีสัมพันธ์กับเด็กสาววัยเพียง 17 ปี และทันทีที่เขาได้รับเลือกจากทรัมป์ ข่าวนี้ได้ถูกนำมาเผยแพร่จนกลายเป็นประแสต่อต้านเล็กๆ รวมถึงนักการเมืองในซีกรีพับลิกันด้วยกันเองด้วย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 169 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ดูดีขึ้นมาหน่อย!"

    ทรัมป์ประกาศแต่งตั้ง Tulsi Gabbard ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติ (Director of National Intelligence)

    หลังจากมีการประกาศรายชื่อรัฐมนตรีและทีมงานของทรัมป์ผ่านมาได้สองสามวัน ยังไม่ถูกใจชาวโปรรัสเซียสักเท่าไหร่ แต่ครั้งนี้คงพอยิ้มได้ เมื่อทรัมป์ประกาศรายชื่อ "ผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติ" คนใหม่ คือ "พันตรีหญิง ทูลซี แกบบาร์ด"

    ทูลซี่ แกบบาร์ด เป็นอดีต สส.พรรคเดโมแครตจากรัฐฮาวาย และทหารผ่านศึกในสงครามซีเรีย เธอลาออกจากพรรคเดโมแครตในปี 2022 โดยให้เหตุผลว่า "พรรคกำลังตกอยู่ภายใต้การควบคุมโดยสมบูรณ์ของกลุ่มผู้กระหายสงคราม"

    แกบบาร์ด หันมาสนับสนุนทรัมป์ ซึ่งอยู่พรรครีพับลิกันอย่างเต็มตัว ในการสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งนี้ เธอกล่าวชื่นชมนโยบายต่างประเทศที่เป็นเอกเทศและไม่ไปวุ่นวายกับภูมิรัฐศาสตร์โลกของทรัมป์ โดยระบุว่า “เราเห็นสิ่งนี้ผ่านวาระแรกของเขาในการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี เขาไม่เพียงแต่ไม่ก่อสงครามใหม่ใดๆ แต่ยังลงมือปฏิบัติเพื่อลดระดับความรุนแรงและป้องกันสงครามอีกด้วย”

    เธอยังวิจารณ์ รัฐบาลไบเดนว่า “ทำให้สหรัฐต้องเผชิญกับสงครามหลายครั้งในหลายแนวรบในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก… และโลกเข้าใกล้การเกิดสงครามนิวเคลียร์ไปทุกขณะอย่างที่ไม่เคยเป็นก่อน”

    แกบบาร์ด ต่อต้านนโยบายการให้เงินทุนแก่กองทัพยูเครนของประธานาธิบดี โจ ไบเดน มาโดยตลอด และยังวิจารณ์ไบเดนว่า สามารถป้องกันไม่ให้กิดสงครามในยูเครนได้ตั้งแต่แรก เพียงแค่บอกกับเซเลนสกีไปตรงๆว่า ยูเครนจะไม่มีโอกาสเข้าเป็นสมาชิกนาโต เพราะความจริงคือยูเครนไม่มีโอกาสสักนิดเดียวที่จะเข้าใกล้การเป็นสมาชิกนาโต แต่ไบเดนเลือกที่จะไม่ทำแบบนั้น ในความจริงผู้นำนาโตและสหรัฐอาจต้องการให้รัสเซียบุกยูเครน เพียงเพื่อต้องการใช้มาตรการคว่ำบาตรมหาโหดต่อรัสเซีย เพียงเพื่อต้องการหยุดรัสเซียไม่ให้พัฒนาไปได้เร็วเท่าทุกวันนี้

    นอกจากนี้เธอยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกคือ:
    - มีจุดยืนต่อต้านสงครามในตะวันออกกลาง อย่างชัดเจน
    - เธอเดินทางไปประเทศซีเรีย เพื่อสืบสวนว่ารัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีเข่นฆ่าประชาชนจริงหรือไม่ ซึ่งผลปรากฏว่าไม่เป็นความจริง จนตัวเธอถูกสื่อกระแสหลักในสหรัฐฯ กล่าวหาว่าเข้าข้าง “รัฐบาลเผด็จการซีเรีย”
    - เมื่อปี 2017 เธอออกมาเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะว่า รัฐบาลสหรัฐฯคือผู้ให้การสนับสนุนกลุ่มไอซิส กลุ่มอัลเคด้า และกลุ่มก่อการร้ายกลุ่มอื่นๆในซีเรีย
    - เมื่อ 4 เดือนที่แล้ว Tulsi Gabbard ถูกรัฐบาล Biden/Harris จัดให้อยู่ในรายชื่อเฝ้าระวังการก่อการร้ายภายในประเทศ และตอนนี้ เธอเป็นผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติคนต่อไปเรียบร้อยแล้ว 🔥
    - เธออยู่ในรายชื่อบนเว็บไซต์ Myrotvorets ซึ่งเป็นเว็บไซต์ของยูเครน ซึ่งมักจะระบุรายชื่อบุคคลที่ต่อต้านยูเครน และเป็นที่ต้องการตัวในยูเครน โดยถูกกล่าวหาว่าเธอเป็นสายลับของรัสเซีย
    - ก่อนสงครามยูเครน-รัสเซียจะเริ่มต้นขึ้น เธอเคยวิจารณ์รัฐบาลยูเครนอย่างรุนแรง โดยเรียกเซเลนสกีว่าเป็น "เผด็จ" และเรียกร้องให้ฟื้นฟูความสัมพันธ์กับรัสเซีย เธอยังคงยืนยันคำพูดของเธอ แม้ว่ารัสเซียเริ่มบุกยูเครนไปแล้วก็ตาม
    "ดูดีขึ้นมาหน่อย!" ทรัมป์ประกาศแต่งตั้ง Tulsi Gabbard ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติ (Director of National Intelligence) หลังจากมีการประกาศรายชื่อรัฐมนตรีและทีมงานของทรัมป์ผ่านมาได้สองสามวัน ยังไม่ถูกใจชาวโปรรัสเซียสักเท่าไหร่ แต่ครั้งนี้คงพอยิ้มได้ เมื่อทรัมป์ประกาศรายชื่อ "ผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติ" คนใหม่ คือ "พันตรีหญิง ทูลซี แกบบาร์ด" ทูลซี่ แกบบาร์ด เป็นอดีต สส.พรรคเดโมแครตจากรัฐฮาวาย และทหารผ่านศึกในสงครามซีเรีย เธอลาออกจากพรรคเดโมแครตในปี 2022 โดยให้เหตุผลว่า "พรรคกำลังตกอยู่ภายใต้การควบคุมโดยสมบูรณ์ของกลุ่มผู้กระหายสงคราม" แกบบาร์ด หันมาสนับสนุนทรัมป์ ซึ่งอยู่พรรครีพับลิกันอย่างเต็มตัว ในการสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งนี้ เธอกล่าวชื่นชมนโยบายต่างประเทศที่เป็นเอกเทศและไม่ไปวุ่นวายกับภูมิรัฐศาสตร์โลกของทรัมป์ โดยระบุว่า “เราเห็นสิ่งนี้ผ่านวาระแรกของเขาในการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี เขาไม่เพียงแต่ไม่ก่อสงครามใหม่ใดๆ แต่ยังลงมือปฏิบัติเพื่อลดระดับความรุนแรงและป้องกันสงครามอีกด้วย” เธอยังวิจารณ์ รัฐบาลไบเดนว่า “ทำให้สหรัฐต้องเผชิญกับสงครามหลายครั้งในหลายแนวรบในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก… และโลกเข้าใกล้การเกิดสงครามนิวเคลียร์ไปทุกขณะอย่างที่ไม่เคยเป็นก่อน” แกบบาร์ด ต่อต้านนโยบายการให้เงินทุนแก่กองทัพยูเครนของประธานาธิบดี โจ ไบเดน มาโดยตลอด และยังวิจารณ์ไบเดนว่า สามารถป้องกันไม่ให้กิดสงครามในยูเครนได้ตั้งแต่แรก เพียงแค่บอกกับเซเลนสกีไปตรงๆว่า ยูเครนจะไม่มีโอกาสเข้าเป็นสมาชิกนาโต เพราะความจริงคือยูเครนไม่มีโอกาสสักนิดเดียวที่จะเข้าใกล้การเป็นสมาชิกนาโต แต่ไบเดนเลือกที่จะไม่ทำแบบนั้น ในความจริงผู้นำนาโตและสหรัฐอาจต้องการให้รัสเซียบุกยูเครน เพียงเพื่อต้องการใช้มาตรการคว่ำบาตรมหาโหดต่อรัสเซีย เพียงเพื่อต้องการหยุดรัสเซียไม่ให้พัฒนาไปได้เร็วเท่าทุกวันนี้ นอกจากนี้เธอยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกคือ: - มีจุดยืนต่อต้านสงครามในตะวันออกกลาง อย่างชัดเจน - เธอเดินทางไปประเทศซีเรีย เพื่อสืบสวนว่ารัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีเข่นฆ่าประชาชนจริงหรือไม่ ซึ่งผลปรากฏว่าไม่เป็นความจริง จนตัวเธอถูกสื่อกระแสหลักในสหรัฐฯ กล่าวหาว่าเข้าข้าง “รัฐบาลเผด็จการซีเรีย” - เมื่อปี 2017 เธอออกมาเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะว่า รัฐบาลสหรัฐฯคือผู้ให้การสนับสนุนกลุ่มไอซิส กลุ่มอัลเคด้า และกลุ่มก่อการร้ายกลุ่มอื่นๆในซีเรีย - เมื่อ 4 เดือนที่แล้ว Tulsi Gabbard ถูกรัฐบาล Biden/Harris จัดให้อยู่ในรายชื่อเฝ้าระวังการก่อการร้ายภายในประเทศ และตอนนี้ เธอเป็นผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติคนต่อไปเรียบร้อยแล้ว 🔥 - เธออยู่ในรายชื่อบนเว็บไซต์ Myrotvorets ซึ่งเป็นเว็บไซต์ของยูเครน ซึ่งมักจะระบุรายชื่อบุคคลที่ต่อต้านยูเครน และเป็นที่ต้องการตัวในยูเครน โดยถูกกล่าวหาว่าเธอเป็นสายลับของรัสเซีย - ก่อนสงครามยูเครน-รัสเซียจะเริ่มต้นขึ้น เธอเคยวิจารณ์รัฐบาลยูเครนอย่างรุนแรง โดยเรียกเซเลนสกีว่าเป็น "เผด็จ" และเรียกร้องให้ฟื้นฟูความสัมพันธ์กับรัสเซีย เธอยังคงยืนยันคำพูดของเธอ แม้ว่ารัสเซียเริ่มบุกยูเครนไปแล้วก็ตาม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 206 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยูเครนอาจเร่งพัฒนาระเบิดนิวเคลียร์ภายในไม่กี่เดือน หากสหรัฐฯภายใต้การบริหารงานของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถอนความช่วยเหลือทางทหาร ตามที่กล่าวอ้าง จากความเห็นของสถาบันวิจัยแห่งหนึ่ง
    .
    สถาบันวิจัย Centre for Army, Conversion and Disarmament Studies (CACDS) เตือนว่ายูเครนอาจสร้างระเบิดนิวเคลียร์ ที่มีศักยภาพทำลายล้างที่ไม่อาจพรรณาได้ จัดการรัสเซีย โดยใช้เทคโนโลยีเดียวกับที่เคยใช้ผลิตระเบิดนิวเคลียร์ ลูกที่ถูกหย่อนลงถล่มเมืองนางาซากิของญี่ปุ่น ปี 1945 ในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2
    .
    ทางสถาบันวิจัยแห่งนี้ ระบุว่าประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน อาจหันหน้าสู่ "ทางเลือกด้านนิวเคลียร์" หาก ทรัมป์ ปฏิเสธมอบเงินทุนที่จำเป็นในการเดินหน้าป้องกันตนเองจากการรุกรานของรัสเซีย พร้อมกล่าวอ้างในเอกสารที่ตระเตรียมให้กับกระทรวงกลาโหมยูเครน ว่าเคียฟมีเทคโนโลยีที่สามารถพัฒนาระเบิดนิวเคลียร์ในขั้นพื้นฐานได้อย่างรวดเร็ว
    .
    รายงานของ CACDS สถาบันวิจัยทรงอิทธิพลของยูเครน ระบุว่าเคียฟมีศักยภาพในการสร้างระเบิดนิวเคลียร์ระดับพื้นฐานจากพลูโตเนียม โดยใช้เทคโนโลยีเดียวกับที่สหรัฐฯเคยใช้กับระเบิด Fat man ซึ่งถูกหย่อนลงถล่มเมืองนางาซากิในปี
    .
    ทั้งนี้ Fat man ระเบิดพลูโตเนียม ถูกหย่อนลงสู่เมืองนางาซากิของญี่ปุ่น ในวันที่ 9 สิงหาคม 1945 ก่อหายนะทำลายล้างที่ไม่สามารถหาคำอธิบายได้ โดยนอกเหนือจากระเบิดในนางาซากิแล้ว ระเบิดนิวเคลียร์อีกลูกที่ถูกหย่อนลงเมืองฮิโรชิมา ช่วยทำให้สงครามโลกครั้งที่ 2 ปิดฉากลง
    .
    โอเลกซี ยิซาค หนึ่งในผู้เขียนรายงาน ระบุว่าระเบิดนิวเคลียร์แบบเดียวกับที่ใช้ถล่มนางาซากิ "เพียงพอที่จะสามารถทำลายฐานทัพอากาศ ศูนย์รวมทางทหาร ที่ตั้งทางอุตสาหกรรมและที่ตั้งทางโลจิสติกส์ ทั่วทั้งรัสเซีย"
    .
    ก่อนหน้านี้พวกเจ้าหน้าที่เคยพากันปฏิเสธว่า เคียฟไม่ได้กำลังพิจารณาติดอาวุธนิวเคลียร์
    .
    เอกสารนี้ถูกเผยแพร่ออกมา ท่ามกลางรายงานข่าวว่าทหารเกาหลีเหนือกำลังเข้ารับการฝึกฝนในรัสเซีย ในความเป็นไปได้ว่าจะเข้าช่วยเหลือรัสเซียสู้รบกับยูเครน ในขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เตรียมส่งทหาร 50,000 นาย เข้าทวงคืนแคว้นคูร์สก์จากการรุกรานของยูเครน
    .
    เกาหลีเหนือกับรัสเซียกระชับความสัมพันธ์กันมากขึ้นนับตั้งแต่มอสโกยกทัพบุกโจมตียูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 โดยเกาหลีเหนือเป็นประเทศที่มีทหารมากที่สุดในโลก ที่ 1.2 ล้านนาย แต่เกือบทุกคนขาดประสบการณ์ในการสู้รบจริง
    .
    ด้านยูเครนยกทัพบุกรุกเข้าไปในแคว้นคูร์สก์ของรัสเซียเมื่อเดือนสิงหาคม สร้างเซอร์ไพรส์ให้คนทั้งโลก เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของรัสเซียไปจากสมรภูมิทางตะวันออกของประเทศ ซึ่งฝ่ายยูเครนกำลังเสียเปรียบอย่างหนัก แต่พวกเขาทำไม่สำเร็จ และตอนนี้ปฏิบัติการในแคว้นคูสค์ของยูเครนก็หยุดชะงัก หลังยึดพื้นที่ขนาดเล็กได้ก่อนหน้านี้
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000109525
    ..............
    Sondhi X
    ยูเครนอาจเร่งพัฒนาระเบิดนิวเคลียร์ภายในไม่กี่เดือน หากสหรัฐฯภายใต้การบริหารงานของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถอนความช่วยเหลือทางทหาร ตามที่กล่าวอ้าง จากความเห็นของสถาบันวิจัยแห่งหนึ่ง . สถาบันวิจัย Centre for Army, Conversion and Disarmament Studies (CACDS) เตือนว่ายูเครนอาจสร้างระเบิดนิวเคลียร์ ที่มีศักยภาพทำลายล้างที่ไม่อาจพรรณาได้ จัดการรัสเซีย โดยใช้เทคโนโลยีเดียวกับที่เคยใช้ผลิตระเบิดนิวเคลียร์ ลูกที่ถูกหย่อนลงถล่มเมืองนางาซากิของญี่ปุ่น ปี 1945 ในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 . ทางสถาบันวิจัยแห่งนี้ ระบุว่าประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน อาจหันหน้าสู่ "ทางเลือกด้านนิวเคลียร์" หาก ทรัมป์ ปฏิเสธมอบเงินทุนที่จำเป็นในการเดินหน้าป้องกันตนเองจากการรุกรานของรัสเซีย พร้อมกล่าวอ้างในเอกสารที่ตระเตรียมให้กับกระทรวงกลาโหมยูเครน ว่าเคียฟมีเทคโนโลยีที่สามารถพัฒนาระเบิดนิวเคลียร์ในขั้นพื้นฐานได้อย่างรวดเร็ว . รายงานของ CACDS สถาบันวิจัยทรงอิทธิพลของยูเครน ระบุว่าเคียฟมีศักยภาพในการสร้างระเบิดนิวเคลียร์ระดับพื้นฐานจากพลูโตเนียม โดยใช้เทคโนโลยีเดียวกับที่สหรัฐฯเคยใช้กับระเบิด Fat man ซึ่งถูกหย่อนลงถล่มเมืองนางาซากิในปี . ทั้งนี้ Fat man ระเบิดพลูโตเนียม ถูกหย่อนลงสู่เมืองนางาซากิของญี่ปุ่น ในวันที่ 9 สิงหาคม 1945 ก่อหายนะทำลายล้างที่ไม่สามารถหาคำอธิบายได้ โดยนอกเหนือจากระเบิดในนางาซากิแล้ว ระเบิดนิวเคลียร์อีกลูกที่ถูกหย่อนลงเมืองฮิโรชิมา ช่วยทำให้สงครามโลกครั้งที่ 2 ปิดฉากลง . โอเลกซี ยิซาค หนึ่งในผู้เขียนรายงาน ระบุว่าระเบิดนิวเคลียร์แบบเดียวกับที่ใช้ถล่มนางาซากิ "เพียงพอที่จะสามารถทำลายฐานทัพอากาศ ศูนย์รวมทางทหาร ที่ตั้งทางอุตสาหกรรมและที่ตั้งทางโลจิสติกส์ ทั่วทั้งรัสเซีย" . ก่อนหน้านี้พวกเจ้าหน้าที่เคยพากันปฏิเสธว่า เคียฟไม่ได้กำลังพิจารณาติดอาวุธนิวเคลียร์ . เอกสารนี้ถูกเผยแพร่ออกมา ท่ามกลางรายงานข่าวว่าทหารเกาหลีเหนือกำลังเข้ารับการฝึกฝนในรัสเซีย ในความเป็นไปได้ว่าจะเข้าช่วยเหลือรัสเซียสู้รบกับยูเครน ในขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เตรียมส่งทหาร 50,000 นาย เข้าทวงคืนแคว้นคูร์สก์จากการรุกรานของยูเครน . เกาหลีเหนือกับรัสเซียกระชับความสัมพันธ์กันมากขึ้นนับตั้งแต่มอสโกยกทัพบุกโจมตียูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 โดยเกาหลีเหนือเป็นประเทศที่มีทหารมากที่สุดในโลก ที่ 1.2 ล้านนาย แต่เกือบทุกคนขาดประสบการณ์ในการสู้รบจริง . ด้านยูเครนยกทัพบุกรุกเข้าไปในแคว้นคูร์สก์ของรัสเซียเมื่อเดือนสิงหาคม สร้างเซอร์ไพรส์ให้คนทั้งโลก เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของรัสเซียไปจากสมรภูมิทางตะวันออกของประเทศ ซึ่งฝ่ายยูเครนกำลังเสียเปรียบอย่างหนัก แต่พวกเขาทำไม่สำเร็จ และตอนนี้ปฏิบัติการในแคว้นคูสค์ของยูเครนก็หยุดชะงัก หลังยึดพื้นที่ขนาดเล็กได้ก่อนหน้านี้ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000109525 .............. Sondhi X
    Like
    9
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 761 มุมมอง 0 รีวิว
  • บรรดาผู้นำประเทศต่างๆจำเป็นต้องตระหนักว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ "จริงจังอย่างมาก" เกี่ยวกับการยุติความขัดแย้งยูเครน จากความเห็นของ อเล็กซานเดอร์ สตับบ์ ประธานาธิบดีโปแลนด์ ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์ก
    .
    ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นในขณะที่มีข่าวว่า ทรัมป์ จะแต่งตั้งทูตพิเศษสำหรับเป็นผู้นำในการเจรจาเพื่อคลี่คลายความขัดแย้งในยูเครน หลังจากเขาเคยประกาศระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง ว่าจะยุติสงครามระหว่างมอสโกกับเคียฟภายใน 24 ชั่วโมง ที่กลับเข้าสู่อำนาจ
    .
    ประธานาธิบดีโปแลนด์ ทำนายเหมือนกับหลายคน เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆนานาในนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ ภายใต้การบริหารงานของทรัมป์ หลังจากได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับว่าที่ผู้นำสหรัฐฯเมื่อวันจันทร์(11พ.ย.) ทั้งนี้ สตับบ์ ชี้แนะว่าบรรดาผู้สนับสนุนทั้งหลายของเคียฟ ควรอำนวยความสะดวกแก่การเจรจา ก่อน ทรัมป์ สาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม
    .
    "ผมคิดว่า เราในยุโรปและทั่วทั้งโลก จำเป็นต้องเข้าใจว่า โดนัลด์ ทรัมป์ มีความจริงจังอย่างมากเกี่ยวกับการได้ข้อตกลงสันติภาพ โดยไม่ชักช้าเกินไป" เขากล่าวในวันอังคาร(12พ.ย.) รอบนอกการประชุมภาวะโลกร้อนในอาเซอร์ไบจาน "ตัวผมเองเคยบอกว่า มันมีประตูแห่งโอกาสของการเจรจานี้ ในระหว่างศึกเลือกตั้งและวันสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง"
    .
    ที่ผ่านมา สตับบ์ เป็นหนึ่งในบุคคลที่ส่งเสียงสนับสนุนเหตุผลของยูเครนอย่างแข็งขัน และเมื่อถูกถามว่า เขาเชื่อหรือไม่ว่า ทรัมป์ จะได้ข้อตกลงที่ยุติธรรมสำหรับยูเครน ทาง สตับบ์ เน้นย้ำว่าในความคิดเห็นของเขา ผลลัพธ์ที่ดีสำหรับยูเครน คือยูเครนได้ในสิ่งที่ตนเองต้องการ อย่างไรก็ตามข้อเรียกร้องนี้ รัสเซีย เรียกมันว่าเป็นไปไม่ได้ในความเป็นจริง
    .
    ทรัมป์ กล่าวอ้างระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง ว่าเขาจะยุติความขัดแย้งภายใน 24 ชั่วโมง หากผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งเลือกเขากลับเข้าสู่อำนาจ ทรัมป์ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดของแผนการ แต่สื่อมวลชนบ่งชี้ว่าบางที ทรัมป์อาจถาโถมแรงกดดันใส่ทั้งมอสโกและเคียฟ เพื่อบีบให้ยอมประนีประนอม
    .
    ความเห็นของผู้นำโปแลนด์ มีขึ้นในขณะที่สำนักข่าวฟ็อกซ์นิวส์รายงานในวันพุธ(13พ.ย.) ว่า ทรัมป์ เตรียมแต่งตั้งทูตพิเศษที่จะรับหน้าที่เป็นผู้นำการเจรจาระหว่างรัสเซียกับยูเครน หลังจากก่อนหน้านี้ ทรัมป์ เคยเผยว่าเขาจะพูดคุยกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ในอนาคตอันใกล้
    .
    "คุณกำลังได้เห็นทูตพิเศษระดับอาวุโสมากๆ บางคนที่มีความน่าเชื่อถืออย่างมาก ผู้ซึ่งจะได้รับมอบหมายให้หนทางออกหนึ่งๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งการแก้ปัญหาอย่างสันติ" แหล่งข่าวซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนามเปิดเผยกับฟ็อกซ์นิวส์ พร้อมระบุว่า "คุณกำลังจะได้เห็นสิ่งนี้ ในอนาคตอันใกล้"
    .
    ราว 1 สัปดาห์นับตั้งแต่เขาคว้าชัยชนะเหนือ กมลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทรัมป์เปิดเผยรายชื่อบุคคลต่างๆเป็นชุดๆ ที่เขามีความตั้งใจเสนอชื่อดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีและที่ปรึกษา ในนั้นรวมถึงกรณีที่เขาเปิดเผยว่าจะแต่งตั้ง สตีเฟน วิตคอฟฟ์ นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เป็นผู้แทนพิเศษประจำตะวันออกกลาง โดยบอกว่า วิตคอฟฟ์ จะส่งเสียงเรียกร้องแบบไม่หยุดสำหรับร้องหาสันติภาพในภูมิภาค
    .
    ทรัมป์ พูดคุยกับ เซเลนสกี ไปแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อน และบอกกับเอ็นบีซีนิวส์ ว่าเขาอยากพูดคุยกับปูตินในอนาคตอันใกล้ ทั้งนี้ ปูติน แสดงความยินดีกับ ทรัมป์ ต่อชัยชนะในศึกเลือกตั้งเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา(7พ.ย.) และบอกกับผู้สื่อข่าวว่า เขาพร้อมหารือกับว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ
    .
    อย่างไรก็ตามวังเครมลินปฏิเสธซ้ำๆเกี่ยวกับคำพูดอวดอ้างว่า ทรัมป์ จะสามารถยุติความขัดแย้งระหว่างมอสโกกับเคียฟอย่างง่ายดาย แม้ ปูติน ชี้ว่าถ้อยแถลงของทรัมป์ในเรื่องนี้ "อย่างน้อยๆ ก็คู่ควรได้รับความสนใจ"
    .
    ไม่เป็นที่ชัดเจนว่าทรัมป์ จะผลักดันทางออกใดในความขัดแย้งนี้ ระหว่างการหาเสียง ว่าที่รองประธานาธิบดีเจ.ดี.แวนซ์ บ่งชี้ว่าอาจมีการประกาศข้อตกลงหยุดยิงและจัดตั้งเขตปลอดทหารหนึ่งๆตามแนวหน้าในปัจจุบัน พร้อมกับไม่ไฟเขียวให้ยูเครนเข้าเป็นสมาชิกนาโต
    .
    รายงานของวอลล์สตรีท เจอร์นัล เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ระบุว่าบรรดาที่ปรึกษาของทรัมป์ สนับสนุนแนวคิดบางส่วนของแผนนี้ และสนับสนุนให้ว่าที่ประธานาธิบดีนำเสนอมันกับทั้งเซเลนสกีและปูติน
    .
    มอสโก ยืนกรานว่าทางออกใดๆ จำเป็นต้องเริ่มต้นด้วยการที่ยูเครนยุติปฏิบัติการทางทหารและยอมรับ "ความเป็นจริงด้านดินแดน" ที่ว่าพวกเขาไม่มีวันทวงคืนแคว้นต่างๆที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซียได้อีกแล้ว ในนั้นประกอบด้วยแคว้นโดเนตสก์, แคว้นลูฮันสก์, แคว้นเคียร์ซอนและแคว้นซาโปริซเซีย รวมไปถึงแคว้นไครเมีย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000109496
    ..............
    Sondhi X
    บรรดาผู้นำประเทศต่างๆจำเป็นต้องตระหนักว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ "จริงจังอย่างมาก" เกี่ยวกับการยุติความขัดแย้งยูเครน จากความเห็นของ อเล็กซานเดอร์ สตับบ์ ประธานาธิบดีโปแลนด์ ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์ก . ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นในขณะที่มีข่าวว่า ทรัมป์ จะแต่งตั้งทูตพิเศษสำหรับเป็นผู้นำในการเจรจาเพื่อคลี่คลายความขัดแย้งในยูเครน หลังจากเขาเคยประกาศระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง ว่าจะยุติสงครามระหว่างมอสโกกับเคียฟภายใน 24 ชั่วโมง ที่กลับเข้าสู่อำนาจ . ประธานาธิบดีโปแลนด์ ทำนายเหมือนกับหลายคน เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆนานาในนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ ภายใต้การบริหารงานของทรัมป์ หลังจากได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับว่าที่ผู้นำสหรัฐฯเมื่อวันจันทร์(11พ.ย.) ทั้งนี้ สตับบ์ ชี้แนะว่าบรรดาผู้สนับสนุนทั้งหลายของเคียฟ ควรอำนวยความสะดวกแก่การเจรจา ก่อน ทรัมป์ สาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม . "ผมคิดว่า เราในยุโรปและทั่วทั้งโลก จำเป็นต้องเข้าใจว่า โดนัลด์ ทรัมป์ มีความจริงจังอย่างมากเกี่ยวกับการได้ข้อตกลงสันติภาพ โดยไม่ชักช้าเกินไป" เขากล่าวในวันอังคาร(12พ.ย.) รอบนอกการประชุมภาวะโลกร้อนในอาเซอร์ไบจาน "ตัวผมเองเคยบอกว่า มันมีประตูแห่งโอกาสของการเจรจานี้ ในระหว่างศึกเลือกตั้งและวันสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง" . ที่ผ่านมา สตับบ์ เป็นหนึ่งในบุคคลที่ส่งเสียงสนับสนุนเหตุผลของยูเครนอย่างแข็งขัน และเมื่อถูกถามว่า เขาเชื่อหรือไม่ว่า ทรัมป์ จะได้ข้อตกลงที่ยุติธรรมสำหรับยูเครน ทาง สตับบ์ เน้นย้ำว่าในความคิดเห็นของเขา ผลลัพธ์ที่ดีสำหรับยูเครน คือยูเครนได้ในสิ่งที่ตนเองต้องการ อย่างไรก็ตามข้อเรียกร้องนี้ รัสเซีย เรียกมันว่าเป็นไปไม่ได้ในความเป็นจริง . ทรัมป์ กล่าวอ้างระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง ว่าเขาจะยุติความขัดแย้งภายใน 24 ชั่วโมง หากผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งเลือกเขากลับเข้าสู่อำนาจ ทรัมป์ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดของแผนการ แต่สื่อมวลชนบ่งชี้ว่าบางที ทรัมป์อาจถาโถมแรงกดดันใส่ทั้งมอสโกและเคียฟ เพื่อบีบให้ยอมประนีประนอม . ความเห็นของผู้นำโปแลนด์ มีขึ้นในขณะที่สำนักข่าวฟ็อกซ์นิวส์รายงานในวันพุธ(13พ.ย.) ว่า ทรัมป์ เตรียมแต่งตั้งทูตพิเศษที่จะรับหน้าที่เป็นผู้นำการเจรจาระหว่างรัสเซียกับยูเครน หลังจากก่อนหน้านี้ ทรัมป์ เคยเผยว่าเขาจะพูดคุยกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ในอนาคตอันใกล้ . "คุณกำลังได้เห็นทูตพิเศษระดับอาวุโสมากๆ บางคนที่มีความน่าเชื่อถืออย่างมาก ผู้ซึ่งจะได้รับมอบหมายให้หนทางออกหนึ่งๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งการแก้ปัญหาอย่างสันติ" แหล่งข่าวซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนามเปิดเผยกับฟ็อกซ์นิวส์ พร้อมระบุว่า "คุณกำลังจะได้เห็นสิ่งนี้ ในอนาคตอันใกล้" . ราว 1 สัปดาห์นับตั้งแต่เขาคว้าชัยชนะเหนือ กมลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทรัมป์เปิดเผยรายชื่อบุคคลต่างๆเป็นชุดๆ ที่เขามีความตั้งใจเสนอชื่อดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีและที่ปรึกษา ในนั้นรวมถึงกรณีที่เขาเปิดเผยว่าจะแต่งตั้ง สตีเฟน วิตคอฟฟ์ นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เป็นผู้แทนพิเศษประจำตะวันออกกลาง โดยบอกว่า วิตคอฟฟ์ จะส่งเสียงเรียกร้องแบบไม่หยุดสำหรับร้องหาสันติภาพในภูมิภาค . ทรัมป์ พูดคุยกับ เซเลนสกี ไปแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อน และบอกกับเอ็นบีซีนิวส์ ว่าเขาอยากพูดคุยกับปูตินในอนาคตอันใกล้ ทั้งนี้ ปูติน แสดงความยินดีกับ ทรัมป์ ต่อชัยชนะในศึกเลือกตั้งเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา(7พ.ย.) และบอกกับผู้สื่อข่าวว่า เขาพร้อมหารือกับว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ . อย่างไรก็ตามวังเครมลินปฏิเสธซ้ำๆเกี่ยวกับคำพูดอวดอ้างว่า ทรัมป์ จะสามารถยุติความขัดแย้งระหว่างมอสโกกับเคียฟอย่างง่ายดาย แม้ ปูติน ชี้ว่าถ้อยแถลงของทรัมป์ในเรื่องนี้ "อย่างน้อยๆ ก็คู่ควรได้รับความสนใจ" . ไม่เป็นที่ชัดเจนว่าทรัมป์ จะผลักดันทางออกใดในความขัดแย้งนี้ ระหว่างการหาเสียง ว่าที่รองประธานาธิบดีเจ.ดี.แวนซ์ บ่งชี้ว่าอาจมีการประกาศข้อตกลงหยุดยิงและจัดตั้งเขตปลอดทหารหนึ่งๆตามแนวหน้าในปัจจุบัน พร้อมกับไม่ไฟเขียวให้ยูเครนเข้าเป็นสมาชิกนาโต . รายงานของวอลล์สตรีท เจอร์นัล เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ระบุว่าบรรดาที่ปรึกษาของทรัมป์ สนับสนุนแนวคิดบางส่วนของแผนนี้ และสนับสนุนให้ว่าที่ประธานาธิบดีนำเสนอมันกับทั้งเซเลนสกีและปูติน . มอสโก ยืนกรานว่าทางออกใดๆ จำเป็นต้องเริ่มต้นด้วยการที่ยูเครนยุติปฏิบัติการทางทหารและยอมรับ "ความเป็นจริงด้านดินแดน" ที่ว่าพวกเขาไม่มีวันทวงคืนแคว้นต่างๆที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซียได้อีกแล้ว ในนั้นประกอบด้วยแคว้นโดเนตสก์, แคว้นลูฮันสก์, แคว้นเคียร์ซอนและแคว้นซาโปริซเซีย รวมไปถึงแคว้นไครเมีย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000109496 .............. Sondhi X
    Like
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 768 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขายชาติมั้ยแบบนี้!

    เซเลนสกี้ ทุ่มหมดหน้าตัก เสนอยกทรัพย์สินทั้งแผ่นดินให้ทรัมป์ แถมถีบจีนพ้นยูเครน

    Financial Times รายงานว่า ประธานาธิบดี Volodymyr Zelensky ได้นำเสนอ "แผนชัยชนะ" ต่อ Donald Trump โดยเสนอให้ยูเครนส่งทหารไปแทนที่กองกำลังสหรัฐในยุโรปบางส่วนหลังสิ้นสุดความขัดแย้ง เพื่อช่วยสหรัฐประหยัดงบประมาณ นอกจากนี้ยังเสนอให้สหรัฐเข้าถึงทรัพยากรธรรมชาติของยูเครนเพื่อแลกกับความช่วยเหลือทางทหาร รวมถึงการพิจารณาให้สหรัฐมีสิทธิพิเศษในการคัดกรองการลงทุนในยูเครน โดยเฉพาะการกีดกันจีนออกไป

    แผนนี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อป้องกันการตกลงกันระหว่าง Trump และ Vladimir Putin โดยข้ามหัวยูเครน ซึ่งอาจกระทบต่อการสนับสนุนจากชาติตะวันตก ผู้นำธุรกิจยูเครนบางส่วนเชื่อว่าข้อเสนอนี้อาจเป็นประโยชน์ต่อ Trump แม้จะอยู่ในขั้นตอนเริ่มต้นของการพัฒนา โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่พึ่งพาเทคโนโลยีจีน เช่น โทรคมนาคม อาจเปลี่ยนไปใช้ของสหรัฐแทนและดึงดูดการลงทุนจากตะวันตกมากขึ้น

    https://www.facebook.com/groups/194174770388504/posts/367480763057903/
    ขายชาติมั้ยแบบนี้! เซเลนสกี้ ทุ่มหมดหน้าตัก เสนอยกทรัพย์สินทั้งแผ่นดินให้ทรัมป์ แถมถีบจีนพ้นยูเครน Financial Times รายงานว่า ประธานาธิบดี Volodymyr Zelensky ได้นำเสนอ "แผนชัยชนะ" ต่อ Donald Trump โดยเสนอให้ยูเครนส่งทหารไปแทนที่กองกำลังสหรัฐในยุโรปบางส่วนหลังสิ้นสุดความขัดแย้ง เพื่อช่วยสหรัฐประหยัดงบประมาณ นอกจากนี้ยังเสนอให้สหรัฐเข้าถึงทรัพยากรธรรมชาติของยูเครนเพื่อแลกกับความช่วยเหลือทางทหาร รวมถึงการพิจารณาให้สหรัฐมีสิทธิพิเศษในการคัดกรองการลงทุนในยูเครน โดยเฉพาะการกีดกันจีนออกไป แผนนี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อป้องกันการตกลงกันระหว่าง Trump และ Vladimir Putin โดยข้ามหัวยูเครน ซึ่งอาจกระทบต่อการสนับสนุนจากชาติตะวันตก ผู้นำธุรกิจยูเครนบางส่วนเชื่อว่าข้อเสนอนี้อาจเป็นประโยชน์ต่อ Trump แม้จะอยู่ในขั้นตอนเริ่มต้นของการพัฒนา โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่พึ่งพาเทคโนโลยีจีน เช่น โทรคมนาคม อาจเปลี่ยนไปใช้ของสหรัฐแทนและดึงดูดการลงทุนจากตะวันตกมากขึ้น https://www.facebook.com/groups/194174770388504/posts/367480763057903/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 146 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐฯกำลังพิจารณาจัดการเลือกตั้งในยูเครนในปีหน้า สำหรับเป็นหนทางที่ชอบธรรมในการหาคนมาแทนรัฐบาลของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี จากคำกล่าวของหน่วยข่าวกรองต่างประเทศแห่งรัสเซีย (SVR)
    .
    เซเลนสกี ยังคงอยู่ในอำนาจในยูเครน แม้สมัยการดำรงตำแหน่งของเขาหมดวาระลงไปอย่างเป็นทางการแล้วตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เขาประกาศเลื่อนศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี โดยอ้างกฎอัยการศึกที่เขาประกาศบังคับใช้ในปี 2022
    .
    หน่วยข่าวกรองต่างประเทศแห่งรัสเซียระบุในถ้อยแถลง กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯเชื่อว่า เซเลนสกี ใช้สิทธิ์ที่เลยเถิดเกินไป และอาจจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภายูเครน เพื่อเขี่ยเขาพ้นจากอำนาจในปี 2025 แม้ยังอยู่ระหว่างการทำศึกสงครามก็ตาม
    .
    ข้อมูลตามคำกล่าวอ้างของหน่วยข่าวกรองต่างประเทศรัสเซีย ระบุว่ารัสเซียตัดสินใจเริ่มทำงานในขั้นต้นแล้ว โดยมีเป้าหมายสร้างสภาพแวดล้อมต่างๆสำหรับเปิดแคมเปญรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งในยูเครน
    .
    ในขั้นแรกของแผนดังกล่าว จะได้เห็นบรรดาเอ็นจีโอที่ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากสหรัฐฯ ใช้โครงสร้างประชาสังคมยูเครนที่อยู่ภายใต้การควบคุมของพวกเขา ผลักดันให้มีการเดินหน้าริเริ่มจัดการเลือกตั้ง
    .
    ถ้อยแถลงระบุต่อว่า หลังจากได้รับการสนับสนุนจากประชาชนในวงกว้างแล้ว บรรดาแคนดิเดทที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง จะถูกเลือกภายใต้การประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ นอกจากนี้แล้วบรรดาผู้สังเกตการณ์การเลือกตั้งนั้น จะเป็นกลุ่มคนที่ได้รับการแต่งตั้งจากเอ็นจีโอทั้งหลาย ที่มีความเกี่ยวข้องกับวอชิงตัน
    .
    หน่วยข่าวกรองต่างประเทศแห่งรัสเซีย อ้างด้วยว่าสหรัฐฯได้เริ่มพูดคุยหารือกันในเบื้องต้นกันไปแล้ว สำหรับการจัดตั้งพรรคการเมืองฝักใฝ่อเมริกาพรรคใหม่ในยูเครน นอกเหนือจากบรรดานักเคลื่อนไหวยูเครนที่กินเงินเดือนของพวกเขา
    .
    กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯคาดหวังว่าพรรคการเมืองพรรคนี้ จะสามารถผงาดก้าวเข้าสู่รัฐสภา และช่วยทำให้ประธานาธิบดีรายหนึ่งรายใดของยูเครนในอนาคต ยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของอเมริกาต่อไป จากคำกล่าวอ้างของหน่วยข่าวกรองต่างประเทศแห่งรัสเซีย
    .
    ทั้งนี้หน่วยข่าวกรองต่างประเทศแห่งรัสเซีย บ่งชี้ว่าความเคลื่อนไหวต่างๆนานาเหล่านี้ เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าวาทกรรม "ไม่มีอะไรเกี่ยวกับยูเครน หากปราศจากยูเครน" ที่พวกเจ้าหน้าที่อเมริกามักพูดซ้ำๆตลอดความขัดแย้ง เป็นเพียงแต่คำพูดที่ว่างเปล่า และในความเป็นจริงคือ ชะตากรรมของประเทศนี้และบรรดาผู้นำหุ่นเชิดของพวกเขา จะยังขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเหล่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงในวอชิงตัน
    .
    เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เซเลนสกีขยายกรอบเวลากฎอัยการศึกออกไปอีก และประกาศระดมพลในยูเครนจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2025 ถือเป็นการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องเป็นครั้งที่ 13 แล้ว นับตั้งแต่ความขัดแย้งกับรัสเซีย ลุกลามบานปลายในเดือนกุมภาพันธ์ 2022
    .
    โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้สัญญาหลายต่อหลายครั้งระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง ว่าจะจบความขัดแย้งระหว่างมอสโกกับเคียฟอย่างรวดเร็ว ขณะที่แหล่งข่าวใกล้ชิดกับทำเนียบประธานาธิบดียูเครน ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวท้องถิ่นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่าเซเลนสกี จะไร้ซึ่งอำนาจในการขัดขืนใดๆ หากว่า ทรัมป์ ต้องการให้ผู้นำยูเครนรายนี้ หยุดการสู้รบและเสาะหาสันติภาพกับรัสเซีย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000108689
    ..............
    Sondhi X
    สหรัฐฯกำลังพิจารณาจัดการเลือกตั้งในยูเครนในปีหน้า สำหรับเป็นหนทางที่ชอบธรรมในการหาคนมาแทนรัฐบาลของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี จากคำกล่าวของหน่วยข่าวกรองต่างประเทศแห่งรัสเซีย (SVR) . เซเลนสกี ยังคงอยู่ในอำนาจในยูเครน แม้สมัยการดำรงตำแหน่งของเขาหมดวาระลงไปอย่างเป็นทางการแล้วตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เขาประกาศเลื่อนศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี โดยอ้างกฎอัยการศึกที่เขาประกาศบังคับใช้ในปี 2022 . หน่วยข่าวกรองต่างประเทศแห่งรัสเซียระบุในถ้อยแถลง กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯเชื่อว่า เซเลนสกี ใช้สิทธิ์ที่เลยเถิดเกินไป และอาจจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภายูเครน เพื่อเขี่ยเขาพ้นจากอำนาจในปี 2025 แม้ยังอยู่ระหว่างการทำศึกสงครามก็ตาม . ข้อมูลตามคำกล่าวอ้างของหน่วยข่าวกรองต่างประเทศรัสเซีย ระบุว่ารัสเซียตัดสินใจเริ่มทำงานในขั้นต้นแล้ว โดยมีเป้าหมายสร้างสภาพแวดล้อมต่างๆสำหรับเปิดแคมเปญรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งในยูเครน . ในขั้นแรกของแผนดังกล่าว จะได้เห็นบรรดาเอ็นจีโอที่ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากสหรัฐฯ ใช้โครงสร้างประชาสังคมยูเครนที่อยู่ภายใต้การควบคุมของพวกเขา ผลักดันให้มีการเดินหน้าริเริ่มจัดการเลือกตั้ง . ถ้อยแถลงระบุต่อว่า หลังจากได้รับการสนับสนุนจากประชาชนในวงกว้างแล้ว บรรดาแคนดิเดทที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง จะถูกเลือกภายใต้การประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ นอกจากนี้แล้วบรรดาผู้สังเกตการณ์การเลือกตั้งนั้น จะเป็นกลุ่มคนที่ได้รับการแต่งตั้งจากเอ็นจีโอทั้งหลาย ที่มีความเกี่ยวข้องกับวอชิงตัน . หน่วยข่าวกรองต่างประเทศแห่งรัสเซีย อ้างด้วยว่าสหรัฐฯได้เริ่มพูดคุยหารือกันในเบื้องต้นกันไปแล้ว สำหรับการจัดตั้งพรรคการเมืองฝักใฝ่อเมริกาพรรคใหม่ในยูเครน นอกเหนือจากบรรดานักเคลื่อนไหวยูเครนที่กินเงินเดือนของพวกเขา . กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯคาดหวังว่าพรรคการเมืองพรรคนี้ จะสามารถผงาดก้าวเข้าสู่รัฐสภา และช่วยทำให้ประธานาธิบดีรายหนึ่งรายใดของยูเครนในอนาคต ยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของอเมริกาต่อไป จากคำกล่าวอ้างของหน่วยข่าวกรองต่างประเทศแห่งรัสเซีย . ทั้งนี้หน่วยข่าวกรองต่างประเทศแห่งรัสเซีย บ่งชี้ว่าความเคลื่อนไหวต่างๆนานาเหล่านี้ เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าวาทกรรม "ไม่มีอะไรเกี่ยวกับยูเครน หากปราศจากยูเครน" ที่พวกเจ้าหน้าที่อเมริกามักพูดซ้ำๆตลอดความขัดแย้ง เป็นเพียงแต่คำพูดที่ว่างเปล่า และในความเป็นจริงคือ ชะตากรรมของประเทศนี้และบรรดาผู้นำหุ่นเชิดของพวกเขา จะยังขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเหล่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงในวอชิงตัน . เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เซเลนสกีขยายกรอบเวลากฎอัยการศึกออกไปอีก และประกาศระดมพลในยูเครนจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2025 ถือเป็นการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องเป็นครั้งที่ 13 แล้ว นับตั้งแต่ความขัดแย้งกับรัสเซีย ลุกลามบานปลายในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 . โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้สัญญาหลายต่อหลายครั้งระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง ว่าจะจบความขัดแย้งระหว่างมอสโกกับเคียฟอย่างรวดเร็ว ขณะที่แหล่งข่าวใกล้ชิดกับทำเนียบประธานาธิบดียูเครน ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวท้องถิ่นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่าเซเลนสกี จะไร้ซึ่งอำนาจในการขัดขืนใดๆ หากว่า ทรัมป์ ต้องการให้ผู้นำยูเครนรายนี้ หยุดการสู้รบและเสาะหาสันติภาพกับรัสเซีย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000108689 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 810 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัสเซียออกมาปฏิเสธรายงานข่าวของวอชิงตันโพสต์ที่ว่า มีการพูดคุยทางโทรศัพท์กันแล้วระหว่างปูติน กับ ทรัมป์ โดยว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เรียกร้องผู้นำรัสเซียอย่าทำให้สงครามในยูเครนลุกลาม ทั้งนี้แดนหมีขาวบอกว่านี่เป็นข่าวเท็จ ปูตินไม่มีแผนคุยกับทรัมป์ อีกทั้งบอกด้วยว่าไม่มีสัญญาณใดๆ แสดงว่า ฝ่ายตะวันตกพร้อมแล้วสำหรับการพูดจากัน
    .
    หนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์รายงานเมื่อวันอาทิตย์ (10) โดยอ้างอิงแหล่งข่าวงในหลายคนว่า ทรัมป์ ได้โทรศัพท์ไปหาประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย จากรีสอร์ตส่วนตัวของเขาที่มาร์-อะลา-โก รัฐฟลอริดาเมื่อวันพฤหัสฯ (7) หรือหนึ่งวันหลังสื่อใหญ่ทุกสำนักประกาศว่า ทรัมป์ชนะรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริสจากพรรคเดโมแครต ในศึกชิงทำเนียบขาวที่จัดขึ้นเมื่อวันอังคาร (5)
    .
    วอชิงตันโพสต์ระบุว่า ทรัมป์เรียกร้องปูตินอย่าทำให้สงครามในยูเครนลุกลาม และเตือนว่า อเมริกากองทหารขนาดใหญ่ประจำการอยู่ในยุโรป รวมทั้งยังแสดงความสนใจหารือกันเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแก้ไขวิกฤตยูเครนเร็วๆ นี้
    .
    นอกจากวอชิงตันโพสต์แล้ว สำนักข่าวรอยเตอร์ก็รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวรายหนึ่งกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ (10) ว่า ทรัมป์ได้พูดคุยกับปูตินจริงๆ ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
    .
    ทว่า ในวันจันทร์ (11) ดมิตริ เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลินออกมาแถลงว่า ข่าวดังกล่าวเป็นการกุเรื่องขึ้น และยืนยันว่า ปูตินไม่มีแผนการเฉพาะเจาะจงในการพูดคุยกับทรัมป์ในขณะนี้
    .
    ขณะที่ สตีเฟน เฉิง ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารของทรัมป์ ระบุในคำแถลงเป็นลายลักษณ์อักษรว่า จะไม่มีการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพูดคุยโทรศัพท์เป็นการส่วนตัวระหว่างทรัมป์กับผู้นำโลกคนอื่นๆ
    .
    ส่วนกระทรวงการต่างประเทศยูเครนกล่าวว่า ไม่ได้รับแจ้งล่วงหน้าเรื่องการหารือระหว่างทรัมป์กับปูติน จึงไม่อาจยืนยันหรือปฏิเสธได้
    .
    อย่างไรก็ตาม ในวันอาทิตย์ (10) ทรัมป์ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์ ของเยอรมนี โดยที่โฆษกของชอลซ์แถลงว่า ผู้นำทั้งสองเห็นพ้องกันที่จะทำงานด้วยกันเพื่อหาทางนำสันติภาพกลับคืนสู่ยุโรป
    .
    เมื่อถูกสอบถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า ไม่มีการตระเตรียมใดๆ สำหรับที่ปูตินจะพูดจาหารือกับชอลซ์ และเขาเห็นว่าตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะกล่าวว่าจุดยืนของยุโรปในเรื่องยูเครนมีการเปลี่ยนแปลงไปแล้ว
    .
    “เรามองเห็นความหงุดหงิดว้าวุ่นอย่างชัดเจน รวมทั้งมีความหวาดกลัวต่างๆ ในหมู่ชาวยุโรปเกี่ยวกับการเลือกตั้งมิสเตอร์ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ” เปสคอฟ บอก พร้อมกับย้ำว่า ปูตินได้พูดอีกครั้งในสัปดาห์ที่แล้วว่าเปิดกว้างสำหรับการพูดจากันทุกอย่าง ทว่าจนถึงเวลานี้ยังไม่ได้มีการตระเตรียมใดๆ รัสเซียยังไม่ได้รับสัญญาณใดๆ
    .
    เขากล่าวว่า จนถึงตอนนี้ “พวกผู้นำยุโรปยังคงกำลังพยายามที่จะบรรลุถึงการทำให้รัสเซียประสบความพ่ายแพ้ทางยุทธศาสตร์” แต่มอสโกจะ “ดำเนินปฏิบัติการพิเศษของเราต่อไปจนกว่าจะบรรลุจุดมุ่งหมายทั้งหมดของเรา”
    .
    ชัยชนะในการเลือกตั้งของทรัมป์มีแนวโน้มส่งผลต่อการสู้รบขัดแย้งในยูเครนที่ดำเนินมาเกือบ 3 ปี เนื่องจากว่าที่ผู้นำสหรัฐฯ ผู้นี้หาเสียงโดยยืนกรานมาตลอดว่า การสู้รบจะต้องยุติลงโดยเร็ว รวมทั้งแสดงความเคลือบแคลงกับการที่อเมริกาให้การสนับสนุนเคียฟมูลค่าเป็นหมื่นล้านแสนล้านดอลลาร์
    .
    ทางฝ่ายประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครน ได้หารือกับทรัมป์เมื่อวันพุธ (6 พ.ย.) โดยมีอีลอน มัสก์ ร่วมหารือด้วย มหาเศรษฐีที่ให้การสนับสนุนทรัมป์อย่างแข็งขันผู้นี้ เคยพูดระบุว่าเคียฟต้องยอมรับความเป็นจริงเรื่องจะต้องเสียดินแดนให้รัสเซีย
    .
    ในอีกด้านหนึ่ง เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของอเมริกา ให้สัมภาษณ์ซีบีเอสนิวส์เมื่อวันอาทิตย์ว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนที่กำลังจะพ้นตำแหน่ง ยืนยันว่า จะจัดส่งความช่วยเหลือให้ยูเครนมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ก่อนที่ทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 ม.ค.ปีหน้า เพื่อให้เคียฟมีสถานะที่เข้มแข็งที่สุดทั้งในสนามรบและการเจรจา ซึ่งจะรวมถึงการให้เงินสนับสนุนที่เหลืออยู่อีก 6,000 ล้านดอลลาร์
    .
    ซัลลิแวนเสริมว่า ไบเดนจะใช้เวลาที่เหลืออยู่ดำเนินการให้รัฐสภาและคณะบริหารชุดต่อไปตระหนักว่า อเมริกาไม่อาจทิ้งยูเครนได้ เนื่องจากจะทำให้ยุโรปไร้เสถียรภาพมากขึ้น
    .
    ระหว่างหาเสียง ทรัมป์ประกาศว่า จะทำให้สงครามยูเครนยุติลงโดยเร็วก่อนที่ตนเองจะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งด้วยซ้ำ แต่ไม่ได้บอกว่า จะทำอย่างไร
    .
    ทรัมป์และพันธมิตรต่างคัดค้านการที่อเมริกาให้เงินช่วยเหลือยูเครน และเปรยว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการอัดฉีดเงินให้บริษัทอุตสาหกรรมการทหารที่ฉ้อฉลและสนับสนุนสงคราม รวมทั้งพวกสายเหยี่ยวด้านนโยบายการต่างประเทศ
    .
    นอกจากนั้น ยังคาดกันว่า การทำข้อตกลงกันให้ได้โดยเร็ว ย่อมหมายถึงเคียฟต้องยอมเสียดินแดนที่ถูกกองทัพรัสเซียเข้ายึดครองทางด้านใต้และตะวันออกของประเทศ
    .
    ไบรอัน แลนซา ที่ปรึกษาสำคัญคนหนึ่งของทรัมป์ให้สัมภาษณ์บีบีซีเมื่อวันเสาร์ (9 ) โดยยกตัวอย่างว่า ยูเครนต้องเลิกคิดว่าจะได้ไครเมียที่รัสเซียเข้าผนวกเมื่อปี 2014 คืน
    .
    ทว่า เคียฟยืนกรานว่า จะไม่ยอมยกดินแดนหรือยอมตามข้อเรียกร้องอื่นๆ ของรัสเซีย เนื่องจากจะทำให้ปูตินได้ใจและยั่วยุก้าวร้าวขึ้น ขณะที่รู้กันว่า พันธมิตรในยุโรปอย่างอังกฤษและฝรั่งเศสรู้สึกกังวลกับการดำเนินการฝ่ายเดียวของทรัมป์
    .
    ช่วงหลายเดือนมานี้ทั้งมอสโกและเคียฟต่างพยายามอย่างหนักเพื่อให้ตัวเองอยู่ในสถานะได้เปรียบในการเจรจาที่อาจเกิดขึ้นในท้ายที่สุด โดยยูเครนได้เข้ายึดพื้นที่บางส่วนในแคว้นคูร์สก์ของรัสเซีย และกองกำลังมอสโกรุกคืบเร็วขึ้นในยูเครน
    .
    สุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีการโจมตีกันด้วยโดรนหนักที่สุด โดยเซเลนสกีเผยว่า รัสเซียส่งโดรน 145 ลำโจมตียูเครนเมื่อคืนวันเสาร์ และมอสโกระบุว่า สอยโดรนยูเครน 34 ลำที่มุ่งโจมตีมอสโกในวันอาทิตย์
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000108683
    ..............
    Sondhi X
    รัสเซียออกมาปฏิเสธรายงานข่าวของวอชิงตันโพสต์ที่ว่า มีการพูดคุยทางโทรศัพท์กันแล้วระหว่างปูติน กับ ทรัมป์ โดยว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เรียกร้องผู้นำรัสเซียอย่าทำให้สงครามในยูเครนลุกลาม ทั้งนี้แดนหมีขาวบอกว่านี่เป็นข่าวเท็จ ปูตินไม่มีแผนคุยกับทรัมป์ อีกทั้งบอกด้วยว่าไม่มีสัญญาณใดๆ แสดงว่า ฝ่ายตะวันตกพร้อมแล้วสำหรับการพูดจากัน . หนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์รายงานเมื่อวันอาทิตย์ (10) โดยอ้างอิงแหล่งข่าวงในหลายคนว่า ทรัมป์ ได้โทรศัพท์ไปหาประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย จากรีสอร์ตส่วนตัวของเขาที่มาร์-อะลา-โก รัฐฟลอริดาเมื่อวันพฤหัสฯ (7) หรือหนึ่งวันหลังสื่อใหญ่ทุกสำนักประกาศว่า ทรัมป์ชนะรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริสจากพรรคเดโมแครต ในศึกชิงทำเนียบขาวที่จัดขึ้นเมื่อวันอังคาร (5) . วอชิงตันโพสต์ระบุว่า ทรัมป์เรียกร้องปูตินอย่าทำให้สงครามในยูเครนลุกลาม และเตือนว่า อเมริกากองทหารขนาดใหญ่ประจำการอยู่ในยุโรป รวมทั้งยังแสดงความสนใจหารือกันเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแก้ไขวิกฤตยูเครนเร็วๆ นี้ . นอกจากวอชิงตันโพสต์แล้ว สำนักข่าวรอยเตอร์ก็รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวรายหนึ่งกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ (10) ว่า ทรัมป์ได้พูดคุยกับปูตินจริงๆ ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา . ทว่า ในวันจันทร์ (11) ดมิตริ เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลินออกมาแถลงว่า ข่าวดังกล่าวเป็นการกุเรื่องขึ้น และยืนยันว่า ปูตินไม่มีแผนการเฉพาะเจาะจงในการพูดคุยกับทรัมป์ในขณะนี้ . ขณะที่ สตีเฟน เฉิง ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารของทรัมป์ ระบุในคำแถลงเป็นลายลักษณ์อักษรว่า จะไม่มีการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพูดคุยโทรศัพท์เป็นการส่วนตัวระหว่างทรัมป์กับผู้นำโลกคนอื่นๆ . ส่วนกระทรวงการต่างประเทศยูเครนกล่าวว่า ไม่ได้รับแจ้งล่วงหน้าเรื่องการหารือระหว่างทรัมป์กับปูติน จึงไม่อาจยืนยันหรือปฏิเสธได้ . อย่างไรก็ตาม ในวันอาทิตย์ (10) ทรัมป์ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์ ของเยอรมนี โดยที่โฆษกของชอลซ์แถลงว่า ผู้นำทั้งสองเห็นพ้องกันที่จะทำงานด้วยกันเพื่อหาทางนำสันติภาพกลับคืนสู่ยุโรป . เมื่อถูกสอบถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า ไม่มีการตระเตรียมใดๆ สำหรับที่ปูตินจะพูดจาหารือกับชอลซ์ และเขาเห็นว่าตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะกล่าวว่าจุดยืนของยุโรปในเรื่องยูเครนมีการเปลี่ยนแปลงไปแล้ว . “เรามองเห็นความหงุดหงิดว้าวุ่นอย่างชัดเจน รวมทั้งมีความหวาดกลัวต่างๆ ในหมู่ชาวยุโรปเกี่ยวกับการเลือกตั้งมิสเตอร์ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ” เปสคอฟ บอก พร้อมกับย้ำว่า ปูตินได้พูดอีกครั้งในสัปดาห์ที่แล้วว่าเปิดกว้างสำหรับการพูดจากันทุกอย่าง ทว่าจนถึงเวลานี้ยังไม่ได้มีการตระเตรียมใดๆ รัสเซียยังไม่ได้รับสัญญาณใดๆ . เขากล่าวว่า จนถึงตอนนี้ “พวกผู้นำยุโรปยังคงกำลังพยายามที่จะบรรลุถึงการทำให้รัสเซียประสบความพ่ายแพ้ทางยุทธศาสตร์” แต่มอสโกจะ “ดำเนินปฏิบัติการพิเศษของเราต่อไปจนกว่าจะบรรลุจุดมุ่งหมายทั้งหมดของเรา” . ชัยชนะในการเลือกตั้งของทรัมป์มีแนวโน้มส่งผลต่อการสู้รบขัดแย้งในยูเครนที่ดำเนินมาเกือบ 3 ปี เนื่องจากว่าที่ผู้นำสหรัฐฯ ผู้นี้หาเสียงโดยยืนกรานมาตลอดว่า การสู้รบจะต้องยุติลงโดยเร็ว รวมทั้งแสดงความเคลือบแคลงกับการที่อเมริกาให้การสนับสนุนเคียฟมูลค่าเป็นหมื่นล้านแสนล้านดอลลาร์ . ทางฝ่ายประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครน ได้หารือกับทรัมป์เมื่อวันพุธ (6 พ.ย.) โดยมีอีลอน มัสก์ ร่วมหารือด้วย มหาเศรษฐีที่ให้การสนับสนุนทรัมป์อย่างแข็งขันผู้นี้ เคยพูดระบุว่าเคียฟต้องยอมรับความเป็นจริงเรื่องจะต้องเสียดินแดนให้รัสเซีย . ในอีกด้านหนึ่ง เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของอเมริกา ให้สัมภาษณ์ซีบีเอสนิวส์เมื่อวันอาทิตย์ว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนที่กำลังจะพ้นตำแหน่ง ยืนยันว่า จะจัดส่งความช่วยเหลือให้ยูเครนมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ก่อนที่ทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 ม.ค.ปีหน้า เพื่อให้เคียฟมีสถานะที่เข้มแข็งที่สุดทั้งในสนามรบและการเจรจา ซึ่งจะรวมถึงการให้เงินสนับสนุนที่เหลืออยู่อีก 6,000 ล้านดอลลาร์ . ซัลลิแวนเสริมว่า ไบเดนจะใช้เวลาที่เหลืออยู่ดำเนินการให้รัฐสภาและคณะบริหารชุดต่อไปตระหนักว่า อเมริกาไม่อาจทิ้งยูเครนได้ เนื่องจากจะทำให้ยุโรปไร้เสถียรภาพมากขึ้น . ระหว่างหาเสียง ทรัมป์ประกาศว่า จะทำให้สงครามยูเครนยุติลงโดยเร็วก่อนที่ตนเองจะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งด้วยซ้ำ แต่ไม่ได้บอกว่า จะทำอย่างไร . ทรัมป์และพันธมิตรต่างคัดค้านการที่อเมริกาให้เงินช่วยเหลือยูเครน และเปรยว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการอัดฉีดเงินให้บริษัทอุตสาหกรรมการทหารที่ฉ้อฉลและสนับสนุนสงคราม รวมทั้งพวกสายเหยี่ยวด้านนโยบายการต่างประเทศ . นอกจากนั้น ยังคาดกันว่า การทำข้อตกลงกันให้ได้โดยเร็ว ย่อมหมายถึงเคียฟต้องยอมเสียดินแดนที่ถูกกองทัพรัสเซียเข้ายึดครองทางด้านใต้และตะวันออกของประเทศ . ไบรอัน แลนซา ที่ปรึกษาสำคัญคนหนึ่งของทรัมป์ให้สัมภาษณ์บีบีซีเมื่อวันเสาร์ (9 ) โดยยกตัวอย่างว่า ยูเครนต้องเลิกคิดว่าจะได้ไครเมียที่รัสเซียเข้าผนวกเมื่อปี 2014 คืน . ทว่า เคียฟยืนกรานว่า จะไม่ยอมยกดินแดนหรือยอมตามข้อเรียกร้องอื่นๆ ของรัสเซีย เนื่องจากจะทำให้ปูตินได้ใจและยั่วยุก้าวร้าวขึ้น ขณะที่รู้กันว่า พันธมิตรในยุโรปอย่างอังกฤษและฝรั่งเศสรู้สึกกังวลกับการดำเนินการฝ่ายเดียวของทรัมป์ . ช่วงหลายเดือนมานี้ทั้งมอสโกและเคียฟต่างพยายามอย่างหนักเพื่อให้ตัวเองอยู่ในสถานะได้เปรียบในการเจรจาที่อาจเกิดขึ้นในท้ายที่สุด โดยยูเครนได้เข้ายึดพื้นที่บางส่วนในแคว้นคูร์สก์ของรัสเซีย และกองกำลังมอสโกรุกคืบเร็วขึ้นในยูเครน . สุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีการโจมตีกันด้วยโดรนหนักที่สุด โดยเซเลนสกีเผยว่า รัสเซียส่งโดรน 145 ลำโจมตียูเครนเมื่อคืนวันเสาร์ และมอสโกระบุว่า สอยโดรนยูเครน 34 ลำที่มุ่งโจมตีมอสโกในวันอาทิตย์ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000108683 .............. Sondhi X
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 833 มุมมอง 0 รีวิว
  • ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ พูดคุยกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา และแนะนำผู้นำรัสเซียอย่าทำให้สงครามยูคเรนลุกลามบานปลาย แหล่งข่าวใกล้ชิดกับการสนทนาเปิดเผยกับรอยเตอร์ ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน มีแผนเรียกร้อง ทรัมป์ อย่าได้ทอดทิ้งเคียฟ
    .
    แหล่งข่าวเปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า ทรัมป์และปูติน พูดคุยกันเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ในขณะเดียวกัน ทรัมป์ ก็ได้หารือกับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ในวันพุธ (6 พ.ย.) ทั้งนี้ ทรัมป์ เคยวิพากษ์จารณ์ขอบเขตที่สหรัฐฯ มอบแรงสนับสนุนทั้งทางการเงินและทางทหารแก่เคียฟ และประกาศยุติสงครามอย่างรวดเร็ว แต่ไม่บอกว่าด้วยวิธีการใด
    .
    กระทรวงการต่างประเทศยูเครนบอกว่าพวกเขาไม่ได้รับแจ้งล่วงหน้าเกี่ยวกับการพูดคุยทางโทรศัพท์ระหว่างทรัมป์กับปูติน ดังนั้นจึงไม่อาจเห็นด้วยหรือคัดค้าน
    .
    ส่วน สตีเวน เฉิง ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารของทรัมป์ ตอบคำถามเมื่อถูกถามเกี่ยวกับการโทรศัพท์หารือระหว่าง ทรัมป์ กับ ปูติน โดยบอกว่า "เราไม่ขอแสดงความคิดเห็นต่อการพูดคุยแบบส่วนตัวระหว่างว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์ และบรรดาผู้นำโลกคนอื่นๆ" ขณะที่สถานทูตรัสเซียในวอชิงตัน ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้
    .
    ทรัมป์ ตัวแทนจากรีพับลิกันจะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม หลังเอาชนะรองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีวันที่ 5 พฤศจิกายน และล่าสุดทำเนียบขาวเผยว่า ไบเดน เชิญ ทรัมป์ เข้ามาหารือที่ห้องทำงานรูปไข่ในวันพุธ (13 พ.ย.) ที่จะถึงนี้
    .
    เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ระบุในวันอาทิตย์ (10 ก.ย.) ว่าสารสำคัญสุดของไบเดน คือจะเป็นการรับปากถ่ายโอนอำนาจอย่างสันติ และเขาจะพูดคุยกับ ทรัมป์ เกี่ยวกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในยุโรป เอเชีย และตะวันออกกลาง
    .
    "ประธานาธิบดีไบเดน จะใช้โอกาสในช่วง 70 วันที่เหลืออยู่ เสนอแนะสภาคองเกรสและว่าที่รัฐบาลใหม่ ว่าสหรัฐฯ ไม่ควรตีจากยูเครน การทอดทิ้งยูเครนจะหมายถึงภาวะไร้เสถียรภาพในยุโรป" ซัลลิแวน บอกกับซีบีเอสนิวส์
    .
    ความเห็นของซัลลิแวน มีขึ้นในขณะที่ยูเครนโจมตีกรุงมอสโกด้วยโดรนอย่างน้อยๆ 34 ลำ เมื่อวันอาทิตย์ (10 พ.ย.) ซึ่งถือเป็นปฏิบัติการโดรนโจมตีเล่นงานเมืองหลวงของรัสเซียครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้น
    .
    วอชิงตันมอบความช่วยเหลือทั้งทางทหารและทางเศรษฐกิจแก่ยูเครนไปแล้วหลายหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ นับตั้งแต่ถูกรัสเซียรุกรานในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 เงินจำนวนมหาศาลที่ ทรัมป์ เสียงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ซ้ำๆ และถูกต่อต้านจากบรรดาสมาชิกสภาคองเกรสจากรีพับลิกันคนอื่นๆ
    .
    ทรัมป์ กล่าวอ้างเมื่อปีที่แล้ว ว่า ปูติน จะไม่มีวันรุกรานยูเครน หากว่าเขาอยู่ในทำเนียบขาวในช่วงเวลาดังกล่าว และเขาบอกกับรอยเตอร์ว่า ยูเครนอาจจำเป็นต้องยอมสละดินแดนเพื่อบรรลุข้อตกลงสันติภาพ บางอย่างที่เคียฟปฏิเสธและทางไบเดน ก็ไม่เคยชี้แนะไปในทิศทางนี้
    .
    เซเลนสกี ระบุเมื่อวันพฤหัสบดี (7 พ.ย.) เขาไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับแผนของทรัมป์ ในการยุติสงครามยูเครนอย่างรวดเร็ว และเขาเชื่อว่าการยุติสงครามอย่างรวดเร็ว จะหมายถึงการที่เคียฟต้องยอมอ่อนข้อครั้งใหญ่
    .
    อ้างอิงข้อมูลจากสำนักงานความรับผิดชอบของรัฐบาลสหรัฐฯ (GAO) พบว่าภายใต้การบริหารงานของไบเดน สภาคองเกรสจัดสรรงบประมาณไปให้ยูเครนแล้วกว่า 174,000 ล้านดอลลาร์ แต่คาดหมายว่าจำนวนดังกล่าวจะลดลงอย่างมาก ภายใต้การนำของทรัมป์ ในขณะที่พรรครีพับลิกันก็ครองเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน
    .
    ในส่วนของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าใครจะครองเสียงข้างมาก ด้วยยังอยู่ระหว่างการนับคะแนนเสียงบางส่วน เวลานี้รีพับลิกันได้ไปแล้วอย่างน้อย 213 ที่นั่ง และต้องการอีกเพียงอย่างน้อย 5 ที่นั่ง เพื่อให้ถึงเกณฑ์ขั้นต่ำของการครองเสียงข้างมากในสภาล่าง คืออย่างน้อย 218 ที่นั่ง
    .
    ถ้ารีพับลิกันครองเสียงข้างมากทั้ง 2 สภา นั่นจะหมายความว่าวาระต่างๆ ส่วนใหญ่ของทรัมป์ น่าจะผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรสแบบง่ายดาย
    .
    บิล ฮาเกอร์ตี วุฒิสมาชิกจากรีพับลิกัน พันธมิตรของทรัมป์ ที่ถูกมองว่าเป็นตัวเต็งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ วิพากษ์วิจารณ์เงินสนับสนุนที่อเมริกามอบให้ยูเครน ผ่านการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีบีเอส "ประชาชนชาวอเมริกาต้องการปกป้องอธิปไตยที่นี่ ในอเมริกา ก่อนที่เราจะใช้งบประมาณของเราและทรัพยากรของเรา ปกป้องอธิปไตยของประเทศอื่น" ฮาเกอร์ตีกล่าว
    .
    ปัจจุบัน กองกำลังมอสโกยึดครองพื้นที่ราว 1 ใน 5 ของยูเครน และรัสเซียประกาศแข็งกร้าวว่าสงครามจะไม่อาจหยุดลง จนกว่าดินแดนต่างๆ ที่พวกเขาผนวกนั้นได้รับการรับรองแล้ว ในขณะที่ยูเครนเรียกร้องให้คืนดินแดนทั้งหมด จุดยืนที่ได้รับการสนับสนุนจากบรรดาพันธมิตรตะวันตกเป็นส่วนใหญ่
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000108315
    ..............
    Sondhi X
    ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ พูดคุยกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา และแนะนำผู้นำรัสเซียอย่าทำให้สงครามยูคเรนลุกลามบานปลาย แหล่งข่าวใกล้ชิดกับการสนทนาเปิดเผยกับรอยเตอร์ ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน มีแผนเรียกร้อง ทรัมป์ อย่าได้ทอดทิ้งเคียฟ . แหล่งข่าวเปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า ทรัมป์และปูติน พูดคุยกันเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ในขณะเดียวกัน ทรัมป์ ก็ได้หารือกับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ในวันพุธ (6 พ.ย.) ทั้งนี้ ทรัมป์ เคยวิพากษ์จารณ์ขอบเขตที่สหรัฐฯ มอบแรงสนับสนุนทั้งทางการเงินและทางทหารแก่เคียฟ และประกาศยุติสงครามอย่างรวดเร็ว แต่ไม่บอกว่าด้วยวิธีการใด . กระทรวงการต่างประเทศยูเครนบอกว่าพวกเขาไม่ได้รับแจ้งล่วงหน้าเกี่ยวกับการพูดคุยทางโทรศัพท์ระหว่างทรัมป์กับปูติน ดังนั้นจึงไม่อาจเห็นด้วยหรือคัดค้าน . ส่วน สตีเวน เฉิง ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารของทรัมป์ ตอบคำถามเมื่อถูกถามเกี่ยวกับการโทรศัพท์หารือระหว่าง ทรัมป์ กับ ปูติน โดยบอกว่า "เราไม่ขอแสดงความคิดเห็นต่อการพูดคุยแบบส่วนตัวระหว่างว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์ และบรรดาผู้นำโลกคนอื่นๆ" ขณะที่สถานทูตรัสเซียในวอชิงตัน ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ . ทรัมป์ ตัวแทนจากรีพับลิกันจะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม หลังเอาชนะรองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีวันที่ 5 พฤศจิกายน และล่าสุดทำเนียบขาวเผยว่า ไบเดน เชิญ ทรัมป์ เข้ามาหารือที่ห้องทำงานรูปไข่ในวันพุธ (13 พ.ย.) ที่จะถึงนี้ . เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ระบุในวันอาทิตย์ (10 ก.ย.) ว่าสารสำคัญสุดของไบเดน คือจะเป็นการรับปากถ่ายโอนอำนาจอย่างสันติ และเขาจะพูดคุยกับ ทรัมป์ เกี่ยวกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในยุโรป เอเชีย และตะวันออกกลาง . "ประธานาธิบดีไบเดน จะใช้โอกาสในช่วง 70 วันที่เหลืออยู่ เสนอแนะสภาคองเกรสและว่าที่รัฐบาลใหม่ ว่าสหรัฐฯ ไม่ควรตีจากยูเครน การทอดทิ้งยูเครนจะหมายถึงภาวะไร้เสถียรภาพในยุโรป" ซัลลิแวน บอกกับซีบีเอสนิวส์ . ความเห็นของซัลลิแวน มีขึ้นในขณะที่ยูเครนโจมตีกรุงมอสโกด้วยโดรนอย่างน้อยๆ 34 ลำ เมื่อวันอาทิตย์ (10 พ.ย.) ซึ่งถือเป็นปฏิบัติการโดรนโจมตีเล่นงานเมืองหลวงของรัสเซียครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้น . วอชิงตันมอบความช่วยเหลือทั้งทางทหารและทางเศรษฐกิจแก่ยูเครนไปแล้วหลายหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ นับตั้งแต่ถูกรัสเซียรุกรานในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 เงินจำนวนมหาศาลที่ ทรัมป์ เสียงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ซ้ำๆ และถูกต่อต้านจากบรรดาสมาชิกสภาคองเกรสจากรีพับลิกันคนอื่นๆ . ทรัมป์ กล่าวอ้างเมื่อปีที่แล้ว ว่า ปูติน จะไม่มีวันรุกรานยูเครน หากว่าเขาอยู่ในทำเนียบขาวในช่วงเวลาดังกล่าว และเขาบอกกับรอยเตอร์ว่า ยูเครนอาจจำเป็นต้องยอมสละดินแดนเพื่อบรรลุข้อตกลงสันติภาพ บางอย่างที่เคียฟปฏิเสธและทางไบเดน ก็ไม่เคยชี้แนะไปในทิศทางนี้ . เซเลนสกี ระบุเมื่อวันพฤหัสบดี (7 พ.ย.) เขาไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับแผนของทรัมป์ ในการยุติสงครามยูเครนอย่างรวดเร็ว และเขาเชื่อว่าการยุติสงครามอย่างรวดเร็ว จะหมายถึงการที่เคียฟต้องยอมอ่อนข้อครั้งใหญ่ . อ้างอิงข้อมูลจากสำนักงานความรับผิดชอบของรัฐบาลสหรัฐฯ (GAO) พบว่าภายใต้การบริหารงานของไบเดน สภาคองเกรสจัดสรรงบประมาณไปให้ยูเครนแล้วกว่า 174,000 ล้านดอลลาร์ แต่คาดหมายว่าจำนวนดังกล่าวจะลดลงอย่างมาก ภายใต้การนำของทรัมป์ ในขณะที่พรรครีพับลิกันก็ครองเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน . ในส่วนของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าใครจะครองเสียงข้างมาก ด้วยยังอยู่ระหว่างการนับคะแนนเสียงบางส่วน เวลานี้รีพับลิกันได้ไปแล้วอย่างน้อย 213 ที่นั่ง และต้องการอีกเพียงอย่างน้อย 5 ที่นั่ง เพื่อให้ถึงเกณฑ์ขั้นต่ำของการครองเสียงข้างมากในสภาล่าง คืออย่างน้อย 218 ที่นั่ง . ถ้ารีพับลิกันครองเสียงข้างมากทั้ง 2 สภา นั่นจะหมายความว่าวาระต่างๆ ส่วนใหญ่ของทรัมป์ น่าจะผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรสแบบง่ายดาย . บิล ฮาเกอร์ตี วุฒิสมาชิกจากรีพับลิกัน พันธมิตรของทรัมป์ ที่ถูกมองว่าเป็นตัวเต็งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ วิพากษ์วิจารณ์เงินสนับสนุนที่อเมริกามอบให้ยูเครน ผ่านการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีบีเอส "ประชาชนชาวอเมริกาต้องการปกป้องอธิปไตยที่นี่ ในอเมริกา ก่อนที่เราจะใช้งบประมาณของเราและทรัพยากรของเรา ปกป้องอธิปไตยของประเทศอื่น" ฮาเกอร์ตีกล่าว . ปัจจุบัน กองกำลังมอสโกยึดครองพื้นที่ราว 1 ใน 5 ของยูเครน และรัสเซียประกาศแข็งกร้าวว่าสงครามจะไม่อาจหยุดลง จนกว่าดินแดนต่างๆ ที่พวกเขาผนวกนั้นได้รับการรับรองแล้ว ในขณะที่ยูเครนเรียกร้องให้คืนดินแดนทั้งหมด จุดยืนที่ได้รับการสนับสนุนจากบรรดาพันธมิตรตะวันตกเป็นส่วนใหญ่ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000108315 .............. Sondhi X
    Like
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 739 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ เตรียมจัดส่งขีปนาวุธสกัดกั้นกว่า 500 ลูกให้กับยูเครนภายในอีกไม่กี่สัปดาห์นับจากนี้ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นการรีบเร่งส่งความช่วยเหลือให้ถึงมือเคียฟ ก่อนที่ โดนัลด์ ทรัมป์ จะกลับเข้าครองทำเนียบขาวในปีหน้า
    .
    หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัล (WSJ) รายงานเมื่อวันเสาร์ (9 พ.ย.) โดยอ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ที่ระบุว่า ก่อนหน้าที่ ทรัมป์ จะเอาชนะ กมลา แฮร์ริส ในศึกเลือกตั้งเมื่อวันที่ 5 พ.ย. รัฐบาล ไบเดน ได้ตั้งกรอบเวลาจัดส่งความช่วยเหลือที่อนุมัติแก่ยูเครนให้แล้วเสร็จภายในเดือน เม.ย. ปี 2025
    .
    การจัดส่งขีปนาวุธสกัดกั้นสำหรับใช้งานร่วมกับระบบแพทริออต (Patriot) และระบบขีปนาวุธยิงจากพื้นดินสู่อากาศขั้นสูงแห่งชาติหรือ NASAMS จะต้องให้เพียงพอต่อความจำเป็นในการป้องกันตนเองของยูเครนจนถึงสิ้นปีนี้ ตามข้อมูลจาก WSJ
    .
    ด้านสำนักงานของประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี กระทรวงกลาโหมยูเครน และกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ยังไม่ออกมาตอบข้อซักถามของผู้สื่อข่าวรอยเตอร์
    .
    เซเลนสกี เรียกร้องมานานหลายเดือนให้ชาติตะวันตกเพิ่มการจัดส่งอาวุธ และยังขอให้กลุ่มชาติในองค์การสนธิสัญญาแตแลนติกเหนือ (นาโต) ช่วยเปิดทางให้เคียฟเอาอาวุธพิสัยไกลที่ได้จากตะวันตกไปใช้ยิงโจมตีเป้าหมายที่อยู่ลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย
    .
    สงครามยูเครนที่ลากยาวมานานกว่า 2 ปีครึ่งกลายเป็นชนวนการเผชิญหน้าครั้งใหญ่ที่สุดระหว่างรัสเซียกับชาติตะวันตกในยุคหลังสงครามเย็น ซึ่งเจ้าหน้าที่รัสเซียเองก็ยอมรับว่า สงครามกำลังก้าวเข้าสู่ "เฟสที่อันตรายที่สุด"
    .
    วันศุกร์ที่แล้ว (8) รัฐบาล ไบเดน ประกาศจะอนุญาตให้บริษัทคู่สัญญากลาโหมของสหรัฐฯ เข้าไปทำงานในยูเครน เพื่อซ่อมบำรุงระบบอาวุธที่เพนตากอนส่งไปให้ นับเป็นการปรับนโยบายครั้งสำคัญที่มุ่งช่วยเหลือให้เคียฟมีศักยภาพเพียงพอที่จะต่อต้านการบุกของรัสเซีย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000108290
    ..............
    Sondhi X
    รัฐบาลประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ เตรียมจัดส่งขีปนาวุธสกัดกั้นกว่า 500 ลูกให้กับยูเครนภายในอีกไม่กี่สัปดาห์นับจากนี้ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นการรีบเร่งส่งความช่วยเหลือให้ถึงมือเคียฟ ก่อนที่ โดนัลด์ ทรัมป์ จะกลับเข้าครองทำเนียบขาวในปีหน้า . หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัล (WSJ) รายงานเมื่อวันเสาร์ (9 พ.ย.) โดยอ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ที่ระบุว่า ก่อนหน้าที่ ทรัมป์ จะเอาชนะ กมลา แฮร์ริส ในศึกเลือกตั้งเมื่อวันที่ 5 พ.ย. รัฐบาล ไบเดน ได้ตั้งกรอบเวลาจัดส่งความช่วยเหลือที่อนุมัติแก่ยูเครนให้แล้วเสร็จภายในเดือน เม.ย. ปี 2025 . การจัดส่งขีปนาวุธสกัดกั้นสำหรับใช้งานร่วมกับระบบแพทริออต (Patriot) และระบบขีปนาวุธยิงจากพื้นดินสู่อากาศขั้นสูงแห่งชาติหรือ NASAMS จะต้องให้เพียงพอต่อความจำเป็นในการป้องกันตนเองของยูเครนจนถึงสิ้นปีนี้ ตามข้อมูลจาก WSJ . ด้านสำนักงานของประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี กระทรวงกลาโหมยูเครน และกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ยังไม่ออกมาตอบข้อซักถามของผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ . เซเลนสกี เรียกร้องมานานหลายเดือนให้ชาติตะวันตกเพิ่มการจัดส่งอาวุธ และยังขอให้กลุ่มชาติในองค์การสนธิสัญญาแตแลนติกเหนือ (นาโต) ช่วยเปิดทางให้เคียฟเอาอาวุธพิสัยไกลที่ได้จากตะวันตกไปใช้ยิงโจมตีเป้าหมายที่อยู่ลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย . สงครามยูเครนที่ลากยาวมานานกว่า 2 ปีครึ่งกลายเป็นชนวนการเผชิญหน้าครั้งใหญ่ที่สุดระหว่างรัสเซียกับชาติตะวันตกในยุคหลังสงครามเย็น ซึ่งเจ้าหน้าที่รัสเซียเองก็ยอมรับว่า สงครามกำลังก้าวเข้าสู่ "เฟสที่อันตรายที่สุด" . วันศุกร์ที่แล้ว (8) รัฐบาล ไบเดน ประกาศจะอนุญาตให้บริษัทคู่สัญญากลาโหมของสหรัฐฯ เข้าไปทำงานในยูเครน เพื่อซ่อมบำรุงระบบอาวุธที่เพนตากอนส่งไปให้ นับเป็นการปรับนโยบายครั้งสำคัญที่มุ่งช่วยเหลือให้เคียฟมีศักยภาพเพียงพอที่จะต่อต้านการบุกของรัสเซีย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000108290 .............. Sondhi X
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 672 มุมมอง 0 รีวิว
  • โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน มีความกังวลใหญ่หลวงเกี่ยวกับชัยชนะของโดนัลด์ ทรัมป์ ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยเกรงว่ามันอาจนำมาซึ่งการระงับความช่วยเหลือทั้งทางทหารและทางการเงินจากวอชิงตัน จากการเปิดเผยของโรเบิร์ต ฟิโก นายกรัฐมนตรีสโลวะเกีย
    .
    ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุท้องถิ่นในวันเสาร์ (9 พ.ย.) ฟิโก พูดคุยเกี่ยวกับแนวทางที่นโยบายต่างๆ ของทรัมป์ จะส่งผลกระทบต่อการเมืองระหว่างประเทศและความขัดแย้งในยูเครน ซึ่งนายกรัฐมนตรีรายนี้อ้างว่าตอนที่เขาพบเจอ เซเลนสกี ระหว่างการประชุมซัมมิตอียูในบูดาเปสต์ เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ผู้นำยูเครนดูมีอาการหวั่นวิตกอย่างเห็นได้ชัด
    .
    "คุณเคยเห็นคนคนหนึ่งที่กลัวว่าสงครามจะจบลงหรือเปล่า? ผมได้เห็นแล้ว และเขาชื่อ โวโลดิมีร์ เซเลนสกี" ฟิโกบอกกับรายงานวิทยุ พร้อมเล่าต่อว่า "ดูเหมือน เซเลนสกี จะช็อกที่ ทรัมป์ ชนะ และความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ อาจถูกระงับ"
    .
    ตลอดการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดี ทรัมป์เน้นย้ำคำสัญญาจะยุติการสู้รบในยูเครน ภายใน 24 ชั่วโมง โดยไม่เจาะจงว่าเขาจะดำเนินการอย่างไรในการบรรลุเป้าหมายดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ฟิโก โต้แย้งว่าการสู้รบจะไม่มีวันจบลง ตราบใดที่ตะวันตกยังคงส่งอาวุธมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์เข้าสู่เขตสงครามนี้
    .
    "นั่นหมายความว่าอาจจะมีการตัดสินใจระดับรากฐานบางอย่างในเรื่องเกี่ยวกับสงครามในยูเครน เขาเป็นบางคนที่ไม่ชอบสงครามในลักษณะดังกล่าว" ฟิโกให้ความเห็น โดยชี้ว่า ทรัมป์เป็นนักธุรกิจที่มีความโอนเอียงใช้การรีดภาษีและมาตรการคว่ำบาตรเหนือการเผชิญหน้าทางทหาร พร้อมเชื่อว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะใช้ก้าวย่างที่เด็ดขาด
    .
    "ถ้าวอชิงตันตัดเงินสนับสนุนที่มอบแก่เคียฟ อียูจะจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนนโยบายต่างๆ และผลักดันให้เกิดการเจรจา แทนที่จะเพิ่มความพยายามป้อนอาวุธแก่ยูเครน ในความหวังว่าท้ายที่สุด รัสเซียจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้" ฟิโกระบุ "เป็นอีกครั้งที่เราทำตัวเหมือนเป็นคณะรัฐมนตรีทหารในเรื่องเกี่ยวกับยูเครน แล้วอียูพร้อมสำหรับรับผิดชอบทุกค่าใช้จ่ายของสงครามในยูเครนแล้วงั้นหรือ?"
    .
    "มันยังคงเป็นหนึ่งในทางเลือก ถ้าหากเรายังคงสนับสนุนยูเครนต่อไป เราจะทำให้รัสเซียยอมคุกเข่า แต่ดูเแล้วมันคงไม่ได้ผล" เขาโต้แย้ง พร้อมเรียกร้องให้อียูตระหนักว่าตรรกะนี้คือจุดด่างพร้อย เนื่องจาก "อียูคือโครงการแห่งสันติ และสงครามควรหยุดลง"
    .
    บรรดาผู้นำสหภาพยุโรปหารือกันในบูดาเปสต์ ว่าพวกเขาจะสามารถเดินหน้าให้การสนับสนุนทางการเงินแก่กองทัพยูเครนต่อไปได้หรือไม่ หากว่า ทรัมป์ ตัดสินใจถอนแรงสนับสนุนของวอชิงตัน ตามรายงานของบลูมเบิร์กเมื่อวันศุกร์ (8 พ.ย.) อย่างไรก็ตามสื่อแห่งนี้อ้างอิงแหล่งข่าว ระบุว่า นอกเหนือจากเรื่องเงินๆ ทองๆ แล้ว บรรดาผู้นำอียูยังมีความกังวลเกี่ยวกับทรัพยากรทางทหาร ซึ่งที่ผ่านมานั้น หลักๆ แล้วมาจากสหรัฐฯ
    .
    ขณะเดียวกัน ดูเหมือนว่า เซเลนสกี เริ่มแสดงความกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ เกี่ยวกับเรื่องเงินๆ ทองๆ โดยเขาเรียกร้องให้อียูนำสินทรัพย์ของรัสเซียที่อียูอายัดไว้มูลค่ากว่า 300,000 ล้านดอลลาร์ มอบแก่ยูเครน หากถูกสหรัฐฯ ตัดความช่วยเหลือ อ้างว่าเงินเหล่านี้ "เป็นของยูเครนโดยชอบธรรม"
    .
    เซเลนสกี บอกกับที่ประชุมด้วยว่า เขายังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับแผนของทรัมป์ และมีเพียงเคียฟเท่านั้นที่จะตัดสินใจอนาคตของตนเอง
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000108288
    ..............
    Sondhi X
    โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน มีความกังวลใหญ่หลวงเกี่ยวกับชัยชนะของโดนัลด์ ทรัมป์ ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยเกรงว่ามันอาจนำมาซึ่งการระงับความช่วยเหลือทั้งทางทหารและทางการเงินจากวอชิงตัน จากการเปิดเผยของโรเบิร์ต ฟิโก นายกรัฐมนตรีสโลวะเกีย . ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุท้องถิ่นในวันเสาร์ (9 พ.ย.) ฟิโก พูดคุยเกี่ยวกับแนวทางที่นโยบายต่างๆ ของทรัมป์ จะส่งผลกระทบต่อการเมืองระหว่างประเทศและความขัดแย้งในยูเครน ซึ่งนายกรัฐมนตรีรายนี้อ้างว่าตอนที่เขาพบเจอ เซเลนสกี ระหว่างการประชุมซัมมิตอียูในบูดาเปสต์ เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ผู้นำยูเครนดูมีอาการหวั่นวิตกอย่างเห็นได้ชัด . "คุณเคยเห็นคนคนหนึ่งที่กลัวว่าสงครามจะจบลงหรือเปล่า? ผมได้เห็นแล้ว และเขาชื่อ โวโลดิมีร์ เซเลนสกี" ฟิโกบอกกับรายงานวิทยุ พร้อมเล่าต่อว่า "ดูเหมือน เซเลนสกี จะช็อกที่ ทรัมป์ ชนะ และความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ อาจถูกระงับ" . ตลอดการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดี ทรัมป์เน้นย้ำคำสัญญาจะยุติการสู้รบในยูเครน ภายใน 24 ชั่วโมง โดยไม่เจาะจงว่าเขาจะดำเนินการอย่างไรในการบรรลุเป้าหมายดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ฟิโก โต้แย้งว่าการสู้รบจะไม่มีวันจบลง ตราบใดที่ตะวันตกยังคงส่งอาวุธมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์เข้าสู่เขตสงครามนี้ . "นั่นหมายความว่าอาจจะมีการตัดสินใจระดับรากฐานบางอย่างในเรื่องเกี่ยวกับสงครามในยูเครน เขาเป็นบางคนที่ไม่ชอบสงครามในลักษณะดังกล่าว" ฟิโกให้ความเห็น โดยชี้ว่า ทรัมป์เป็นนักธุรกิจที่มีความโอนเอียงใช้การรีดภาษีและมาตรการคว่ำบาตรเหนือการเผชิญหน้าทางทหาร พร้อมเชื่อว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะใช้ก้าวย่างที่เด็ดขาด . "ถ้าวอชิงตันตัดเงินสนับสนุนที่มอบแก่เคียฟ อียูจะจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนนโยบายต่างๆ และผลักดันให้เกิดการเจรจา แทนที่จะเพิ่มความพยายามป้อนอาวุธแก่ยูเครน ในความหวังว่าท้ายที่สุด รัสเซียจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้" ฟิโกระบุ "เป็นอีกครั้งที่เราทำตัวเหมือนเป็นคณะรัฐมนตรีทหารในเรื่องเกี่ยวกับยูเครน แล้วอียูพร้อมสำหรับรับผิดชอบทุกค่าใช้จ่ายของสงครามในยูเครนแล้วงั้นหรือ?" . "มันยังคงเป็นหนึ่งในทางเลือก ถ้าหากเรายังคงสนับสนุนยูเครนต่อไป เราจะทำให้รัสเซียยอมคุกเข่า แต่ดูเแล้วมันคงไม่ได้ผล" เขาโต้แย้ง พร้อมเรียกร้องให้อียูตระหนักว่าตรรกะนี้คือจุดด่างพร้อย เนื่องจาก "อียูคือโครงการแห่งสันติ และสงครามควรหยุดลง" . บรรดาผู้นำสหภาพยุโรปหารือกันในบูดาเปสต์ ว่าพวกเขาจะสามารถเดินหน้าให้การสนับสนุนทางการเงินแก่กองทัพยูเครนต่อไปได้หรือไม่ หากว่า ทรัมป์ ตัดสินใจถอนแรงสนับสนุนของวอชิงตัน ตามรายงานของบลูมเบิร์กเมื่อวันศุกร์ (8 พ.ย.) อย่างไรก็ตามสื่อแห่งนี้อ้างอิงแหล่งข่าว ระบุว่า นอกเหนือจากเรื่องเงินๆ ทองๆ แล้ว บรรดาผู้นำอียูยังมีความกังวลเกี่ยวกับทรัพยากรทางทหาร ซึ่งที่ผ่านมานั้น หลักๆ แล้วมาจากสหรัฐฯ . ขณะเดียวกัน ดูเหมือนว่า เซเลนสกี เริ่มแสดงความกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ เกี่ยวกับเรื่องเงินๆ ทองๆ โดยเขาเรียกร้องให้อียูนำสินทรัพย์ของรัสเซียที่อียูอายัดไว้มูลค่ากว่า 300,000 ล้านดอลลาร์ มอบแก่ยูเครน หากถูกสหรัฐฯ ตัดความช่วยเหลือ อ้างว่าเงินเหล่านี้ "เป็นของยูเครนโดยชอบธรรม" . เซเลนสกี บอกกับที่ประชุมด้วยว่า เขายังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับแผนของทรัมป์ และมีเพียงเคียฟเท่านั้นที่จะตัดสินใจอนาคตของตนเอง . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000108288 .............. Sondhi X
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 648 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยูเครนส่งโดรนอย่างน้อย 34 ลำโจมตีมอสโก ซึ่งถือเป็นการโจมตีเมืองหลวงของรัสเซียด้วยโดรนครั้งใหญ่ที่สุดนับจากสงครามเริ่มต้นขึ้นในปี 2022 และส่งผลให้สนามบินหลัก 3 แห่งในมอสโกต้องเปลี่ยนเส้นทางบินอย่างน้อย 36 เที่ยวบิน อีกทั้งมีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 1 คน
    .
    กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงว่า สามารถสกัดการพยายามก่อการร้ายของยูเครน และได้ทำลายโดรนอีก 36 ลำที่โจมตีแคว้นอื่นๆ ทางตะวันตกในช่วงเวลา 3 ชั่วโมงของวันอาทิตย์
    .
    ขณะเดียวกัน สำนักงานการขนส่งทางอากาศของรัฐบาลรัสเซียระบุว่า สนามบินโดโมเดโดโว เชเรเมเตียโว และซูคอฟสกี้ ต้องเปลี่ยนเส้นทางอย่างน้อย 36 เที่ยวบิน แต่ล่าสุดกลับมาให้บริการตามปกติแล้ว นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บหนึ่งคนในแคว้นมอสโก
    .
    มอสโกและปริมณฑลโดยรอบที่มีประชากรอย่างน้อย 21 ล้านคน ถือเป็นหนึ่งในเขตมหานครใหญ่ที่สุดในยุโรปเช่นเดียวกับอิสตันบูล
    .
    ในทางกลับกัน เคียฟเผยว่า รัสเซียส่งโดรนจำนวนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 145 ลำเข้าไปโจมตีในยูเครน แต่ระบบป้องกันภัยทางอากาศสามารถสอยร่วงไป 62 ลำ นอกจากนั้นยูเครนยังโจมตีคลังแสงในแคว้นบรีแยนสก์ของรัสเซีย ซึ่งมีรายงานว่า โดรน 14 ลำถูกยิงร่วงในแคว้นดังกล่าว
    .
    ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่บางคนระบุว่า สงครามในยูเครนที่ยืดเยื้อมา 2 ปีครึ่งกำลังเข้าสู่ช่วงสุดท้าย หลังจากกองกำลังมอสโกรุกคืบเร็วที่สุดนับจากเริ่มต้นสงคราม และหลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีคนที่ 47 ของอเมริกา
    .
    ระหว่างหาเสียง ทรัมป์ที่มีกำหนดสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคมปีหน้า ประกาศว่า จะนำสันติภาพมาสู่ยูเครนภายใน 24 ชั่วโมงหลังรับตำแหน่ง แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดว่า จะทำได้อย่างไร
    .
    นอกจากนั้นสื่อรายงานว่า ตอนที่ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ของยูเครน โทรไปแสดงความยินดีกับทรัมป์ อีลอน มัสก์ ซีอีโอเทสลา ยังร่วมวงสนทนาด้วย ซึ่งมัสก์เป็นเจ้าของสเปซเอ็กซ์ที่ให้บริการการสื่อสารผ่านดาวเทียมที่สำคัญสำหรับปฏิบัติการรบของยูเครน
    .
    ทั้งนี้ เคียฟที่เป็นเป้าหมายการโจมตีด้วยโดรนจากรัสเซียเป็นประจำ พยายามตอบโต้ด้วยการส่งโดรนโจมตีโรงกลั่นน้ำมัน สนามบิน และแม้แต่สถานีเรดาร์เตือนภัยล่วงหน้าเชิงยุทธศาสตร์ของรัสเซีย
    .
    แม้ตลอดแนวรบ 1,000 กิโลเมตรส่วนใหญ่เป็นสงครามสนามเพลาะและปืนใหญ่แบบเดียวกับสงครามโลกครั้งที่ 1 แต่หนึ่งในนวัตกรรมสำคัญที่สุดที่ถูกนำมาใช้ในสมรภูมินี้คือโดรน
    .
    มอสโกและเคียฟพยายามซื้อและพัฒนาโดรนใหม่ๆ รวมทั้งใช้ด้วยวิธีที่สร้างสรรค์ ควบคู่กับการหาวิธีการใหม่ๆ ในการทำลายโดรนของฝ่ายตรงข้ามที่มีตั้งแต่ใช้ปืนสั้นของชาวไร่ชาวนายิงจนถึงระบบอิเล็กทรอนิกส์ก่อกวนสัญญาณขั้นสูง
    .
    รัสเซียยังพัฒนา “ร่ม” อิเล็กทรอนิกส์เหนือมอสโก พร้อมระบบชั้นในขั้นสูงเหนืออาคารที่มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ เครือข่ายการป้องกันภัยทางอากาศอันซับซ้อนที่สามารถยิงโดรนก่อนที่จะเข้าถึงเครมลินที่อยู่ใจกลางเมืองหลวง
    .
    ทั้งสองฝ่ายต่างเปลี่ยนโดรนเชิงพาณิชย์ราคาถูกเป็นอาวุธโจมตีร้ายแรงพร้อมทั้งเร่งกำลังผลิตในประเทศ และทหารของทั้งสองประเทศต่างกลัวอาวุธชนิดนี้ นอกจากนั้นรัสเซียและยูเครนยังปล่อยวิดีโอการโจมตีด้วยโดรนที่สร้างความเสียหายรุนแรงและมีคนตายเพื่อทำลายขวัญของฝ่ายตรงข้าม
    .
    ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ที่พยายามป้องกันมอสโกจากสงคราม ระบุว่า การโจมตีด้วยโดรนของยูเครนที่พุ่งเป้าโครงสร้างพื้นฐานด้านพลเรือน เช่น โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ เป็นการก่อการร้ายและประกาศตอบโต้
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000108253
    ..............
    Sondhi X
    ยูเครนส่งโดรนอย่างน้อย 34 ลำโจมตีมอสโก ซึ่งถือเป็นการโจมตีเมืองหลวงของรัสเซียด้วยโดรนครั้งใหญ่ที่สุดนับจากสงครามเริ่มต้นขึ้นในปี 2022 และส่งผลให้สนามบินหลัก 3 แห่งในมอสโกต้องเปลี่ยนเส้นทางบินอย่างน้อย 36 เที่ยวบิน อีกทั้งมีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 1 คน . กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงว่า สามารถสกัดการพยายามก่อการร้ายของยูเครน และได้ทำลายโดรนอีก 36 ลำที่โจมตีแคว้นอื่นๆ ทางตะวันตกในช่วงเวลา 3 ชั่วโมงของวันอาทิตย์ . ขณะเดียวกัน สำนักงานการขนส่งทางอากาศของรัฐบาลรัสเซียระบุว่า สนามบินโดโมเดโดโว เชเรเมเตียโว และซูคอฟสกี้ ต้องเปลี่ยนเส้นทางอย่างน้อย 36 เที่ยวบิน แต่ล่าสุดกลับมาให้บริการตามปกติแล้ว นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บหนึ่งคนในแคว้นมอสโก . มอสโกและปริมณฑลโดยรอบที่มีประชากรอย่างน้อย 21 ล้านคน ถือเป็นหนึ่งในเขตมหานครใหญ่ที่สุดในยุโรปเช่นเดียวกับอิสตันบูล . ในทางกลับกัน เคียฟเผยว่า รัสเซียส่งโดรนจำนวนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 145 ลำเข้าไปโจมตีในยูเครน แต่ระบบป้องกันภัยทางอากาศสามารถสอยร่วงไป 62 ลำ นอกจากนั้นยูเครนยังโจมตีคลังแสงในแคว้นบรีแยนสก์ของรัสเซีย ซึ่งมีรายงานว่า โดรน 14 ลำถูกยิงร่วงในแคว้นดังกล่าว . ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่บางคนระบุว่า สงครามในยูเครนที่ยืดเยื้อมา 2 ปีครึ่งกำลังเข้าสู่ช่วงสุดท้าย หลังจากกองกำลังมอสโกรุกคืบเร็วที่สุดนับจากเริ่มต้นสงคราม และหลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีคนที่ 47 ของอเมริกา . ระหว่างหาเสียง ทรัมป์ที่มีกำหนดสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคมปีหน้า ประกาศว่า จะนำสันติภาพมาสู่ยูเครนภายใน 24 ชั่วโมงหลังรับตำแหน่ง แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดว่า จะทำได้อย่างไร . นอกจากนั้นสื่อรายงานว่า ตอนที่ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ของยูเครน โทรไปแสดงความยินดีกับทรัมป์ อีลอน มัสก์ ซีอีโอเทสลา ยังร่วมวงสนทนาด้วย ซึ่งมัสก์เป็นเจ้าของสเปซเอ็กซ์ที่ให้บริการการสื่อสารผ่านดาวเทียมที่สำคัญสำหรับปฏิบัติการรบของยูเครน . ทั้งนี้ เคียฟที่เป็นเป้าหมายการโจมตีด้วยโดรนจากรัสเซียเป็นประจำ พยายามตอบโต้ด้วยการส่งโดรนโจมตีโรงกลั่นน้ำมัน สนามบิน และแม้แต่สถานีเรดาร์เตือนภัยล่วงหน้าเชิงยุทธศาสตร์ของรัสเซีย . แม้ตลอดแนวรบ 1,000 กิโลเมตรส่วนใหญ่เป็นสงครามสนามเพลาะและปืนใหญ่แบบเดียวกับสงครามโลกครั้งที่ 1 แต่หนึ่งในนวัตกรรมสำคัญที่สุดที่ถูกนำมาใช้ในสมรภูมินี้คือโดรน . มอสโกและเคียฟพยายามซื้อและพัฒนาโดรนใหม่ๆ รวมทั้งใช้ด้วยวิธีที่สร้างสรรค์ ควบคู่กับการหาวิธีการใหม่ๆ ในการทำลายโดรนของฝ่ายตรงข้ามที่มีตั้งแต่ใช้ปืนสั้นของชาวไร่ชาวนายิงจนถึงระบบอิเล็กทรอนิกส์ก่อกวนสัญญาณขั้นสูง . รัสเซียยังพัฒนา “ร่ม” อิเล็กทรอนิกส์เหนือมอสโก พร้อมระบบชั้นในขั้นสูงเหนืออาคารที่มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ เครือข่ายการป้องกันภัยทางอากาศอันซับซ้อนที่สามารถยิงโดรนก่อนที่จะเข้าถึงเครมลินที่อยู่ใจกลางเมืองหลวง . ทั้งสองฝ่ายต่างเปลี่ยนโดรนเชิงพาณิชย์ราคาถูกเป็นอาวุธโจมตีร้ายแรงพร้อมทั้งเร่งกำลังผลิตในประเทศ และทหารของทั้งสองประเทศต่างกลัวอาวุธชนิดนี้ นอกจากนั้นรัสเซียและยูเครนยังปล่อยวิดีโอการโจมตีด้วยโดรนที่สร้างความเสียหายรุนแรงและมีคนตายเพื่อทำลายขวัญของฝ่ายตรงข้าม . ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ที่พยายามป้องกันมอสโกจากสงคราม ระบุว่า การโจมตีด้วยโดรนของยูเครนที่พุ่งเป้าโครงสร้างพื้นฐานด้านพลเรือน เช่น โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ เป็นการก่อการร้ายและประกาศตอบโต้ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000108253 .............. Sondhi X
    Like
    Sad
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 646 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇩🇪🇺🇦 เยอรมนีทำลายตัวเองเพื่อยูเครน!

    รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนีอธิบายว่า เงินที่ส่งไปยังยูเครนถูกตัดจากโรงเรียนและศูนย์รับเลี้ยงเด็ก, และทางรถไฟของเยอรมนีก็ไม่ได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัยเช่นกัน!

    -> ตอนนี้เซเลนสกีได้รับเงินมาโดยเปล่าประโยชน์ และเด็กเยอรมันและโครงสร้างพื้นฐานก็ไม่ได้รับการสนับสนุน

    ถ้าคุณถามฉัน, นี่คือการทรยศต่อคนเยอรมัน
    .
    🇩🇪🇺🇦 GERMANY DESTROYS ITSELF FOR UKRAINE!

    German foreign minister explains that the money they sent to Ukraine was cut from SCHOOLS AND DAYCARE centers, and also the German RAILWAYS were not modernized for example!

    -> Now Zelensky got the money for nothing and German kids and infrastructure is not funded.

    If you ask me, this is treason towards the German people.
    .
    7:19 PM · Nov 9, 2024 · 1.1M Views
    https://x.com/MyLordBebo/status/1855223717338493418
    🇩🇪🇺🇦 เยอรมนีทำลายตัวเองเพื่อยูเครน! รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนีอธิบายว่า เงินที่ส่งไปยังยูเครนถูกตัดจากโรงเรียนและศูนย์รับเลี้ยงเด็ก, และทางรถไฟของเยอรมนีก็ไม่ได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัยเช่นกัน! -> ตอนนี้เซเลนสกีได้รับเงินมาโดยเปล่าประโยชน์ และเด็กเยอรมันและโครงสร้างพื้นฐานก็ไม่ได้รับการสนับสนุน ถ้าคุณถามฉัน, นี่คือการทรยศต่อคนเยอรมัน . 🇩🇪🇺🇦 GERMANY DESTROYS ITSELF FOR UKRAINE! German foreign minister explains that the money they sent to Ukraine was cut from SCHOOLS AND DAYCARE centers, and also the German RAILWAYS were not modernized for example! -> Now Zelensky got the money for nothing and German kids and infrastructure is not funded. If you ask me, this is treason towards the German people. . 7:19 PM · Nov 9, 2024 · 1.1M Views https://x.com/MyLordBebo/status/1855223717338493418
    Haha
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 149 มุมมอง 20 0 รีวิว
  • โจเซฟ บอร์เรล หัวหน้านโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป (อียู) กล่าวในกรุงเคียฟ ให้สัญญาสนับสนุนยูเครนไม่เปลี่ยนแปลง ท่ามกลางข้อสงสัยเกี่ยวกับท่าทีนับแต่นี้ของสหรัฐฯ คำยืนยันซึ่งเกิดขึ้นระหว่างการเดินทางเยือนยูเครนเป็นครั้งแรก หลังจาก โดนัลด์ ทรัมป์ คว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกา
    .
    ชัยชนะของตัวแทนจากรีพับลิกันที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก่อความกังวลปกคลุมยูเครนและยุโรป ต่อกรณีที่ว่า ทรัมป์ อาจหยุดการสนับสนุนของวอชิงตันที่มอบแก่เคียฟ ในการทำศึกสงครามต่อต้านการรุกรานของรัสเซีย
    .
    "จุดประสงค์ที่ชัดเจนของการเดินทางเยือนครั้งนี้ก็คือ แสดงจุดยืนของสหภาพยุโรปในการสนับสนุนยูเครน และแรงสนับสนุนนี้จะยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง" บอร์เรลกล่าว ในขณะที่เขามีกำหนดพ้นจากตำแหน่งในเดือนหน้า "แน่นอนว่าแรงสนับสนุนนี้มีความจำเป็นสำหรับพวกคุณอย่างยิ่ง ในการเดินหน้าปกป้องตนเองจากการรุกรานของรัสเซีย"
    .
    ระหว่างการรณรงค์หาเสียง ทรัมป์ก่อความสงสัยต่อการคงไว้ซึ่งแรงสนับสนุนทางทหารและทางการเงินอันมหาศาลที่สหรัฐฯ มอบให้แก่ยูเครน และบอกว่าจะหาทางบรรลุข้อตกลงอย่างรวดเร็วเพื่อยุติทำสงคราม
    .
    "ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่ารัฐบาลใหม่กำลังทำอะไร" บอร์เรลระบุ พร้อมชี้ว่าประธานาธิบดี โจ ไบเดน ยังเหลือเวลาอยู่ในอำนาจอีก 2 เดือน สำหรับทำการตัดสินใจต่างๆ "เราจำเป็นต้องทำให้มากกว่าเดิมและรวดเร็วขึ้น สนับสนุนทางทหารมากขึ้น เพิ่มปริมาณการฝึกฝน เพิ่มเงิน จัดหาอาวุธยุทธโปกรณ์รวดเร็วกว่าเดิม และเช่นกัน เราจำเป็นต้องอนุญาตให้โจมตีเป้าหมายทางทหารต่างๆ ของศัตรูที่อยู่ในดินแดนของพวกเขา"
    .
    บอร์เรลกล่าวต่อว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย "ไม่ต้องการเจรจาและจะไม่เจรจาจนกว่าเขาจะถูกบีบให้ทำเช่นนั้น"
    .
    รวมกันแล้ว ยุโรปใช้จ่ายเงินไปแล้วราว 125,000 ล้านดอลลาร์ ในการสนับสนุนยูเครน นับตั้งแต่ถูกรัสเซียรุกรานในปี 2022 ขณะที่สหรัฐฯ เพียงชาติเดียวมอบแรงสนับสนนแก่เคียฟ ไปแล้วมากกว่า 90,000 ล้านดอลลาร์
    .
    การคงไว้ซึ่งแรงสนับสนุนของวอชิงตัน ถูกมองว่ามีความสำคัญที่สุดในการรับประกันว่าเคียฟจะสามารถเดินหน้าสู้รบกับรัสเซียได้ต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลานี้มีความไม่แน่นอนทางการเมืองในบรรดามหาอำนาจยุโรปทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นเยอรมนี และฝรั่งเศส
    .
    ในสมรภูมิรบ ทหารที่เหนื่อยอ่อนของยูเครน กำลังดิ้นรนสกัดการรุกคืบของรัสเซีย ในขณะที่การสู้รบเต็มรูปแบบลากยาวใกล้เข้าครบ 3 ปีแล้ว
    .
    คำยืนยันของบอร์เรล มีขึ้นในขณะที่เหล่าประเทศสมาชิกหลายชาติ ในนั้นรวมถึงฮังการี ซึ่งคัดค้านการมอบแรงสนับสนุนทางทหารแก่ยูเครน มีความฮึกเหิมมากขึ้นในจุดยืนดังกล่าว ตามหลัง ทรัมป์ ได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้ง ซึ่งมันยิ่งทำให้เป็นเรื่องยากที่อียูจะมีความคิดเห็นเป็นเอกฉันท์ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปในวิกฤตความขัดแย้งยูเครน
    .
    อันดรีย์ ชีบีกา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน เน้นย้ำเสียงคัดค้านของเคียฟ โดยบอกว่าพวกเขาไม่ควรถูกบีบบังคับให้ยอมอ่อนข้อแก่รัสเซีย "ทุกๆ คนจำเป็นต้องตระหนักว่าการเอาใจพวกผู้รุกรานนั้นไม่ได้ผล" เขากล่าว "เราต้องการสันติภาพที่แท้จริง ไม่ใช่การเอาใจที่จะนำมาซึ่งสงครามเพิ่มเติม"
    .
    นอกจากนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของยูเครน บอกว่าการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในศึกเลือกตั้งสหรัฐฯ "มักเป็นตัวแทนแห่งความหวังและโอกาสเสมอ โอกาสที่จะเร่งเข้าสู่สันติภาพ"
    .
    เขาบอกว่าได้มีการติดต่อกับทีมงานของทรัมป์ หลังประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน โทรศัพท์แสดงความยินดีกับตัวแทนพรรครีพับลิกัน และเวลานี้อยู่ระหว่างการทำงานในความเป็นไปได้ที่จะมีการประชุมพูดคุยรอบใหม่ระหว่างผู้นำทั้ง 2
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000108072
    ..............
    Sondhi X
    โจเซฟ บอร์เรล หัวหน้านโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป (อียู) กล่าวในกรุงเคียฟ ให้สัญญาสนับสนุนยูเครนไม่เปลี่ยนแปลง ท่ามกลางข้อสงสัยเกี่ยวกับท่าทีนับแต่นี้ของสหรัฐฯ คำยืนยันซึ่งเกิดขึ้นระหว่างการเดินทางเยือนยูเครนเป็นครั้งแรก หลังจาก โดนัลด์ ทรัมป์ คว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกา . ชัยชนะของตัวแทนจากรีพับลิกันที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก่อความกังวลปกคลุมยูเครนและยุโรป ต่อกรณีที่ว่า ทรัมป์ อาจหยุดการสนับสนุนของวอชิงตันที่มอบแก่เคียฟ ในการทำศึกสงครามต่อต้านการรุกรานของรัสเซีย . "จุดประสงค์ที่ชัดเจนของการเดินทางเยือนครั้งนี้ก็คือ แสดงจุดยืนของสหภาพยุโรปในการสนับสนุนยูเครน และแรงสนับสนุนนี้จะยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง" บอร์เรลกล่าว ในขณะที่เขามีกำหนดพ้นจากตำแหน่งในเดือนหน้า "แน่นอนว่าแรงสนับสนุนนี้มีความจำเป็นสำหรับพวกคุณอย่างยิ่ง ในการเดินหน้าปกป้องตนเองจากการรุกรานของรัสเซีย" . ระหว่างการรณรงค์หาเสียง ทรัมป์ก่อความสงสัยต่อการคงไว้ซึ่งแรงสนับสนุนทางทหารและทางการเงินอันมหาศาลที่สหรัฐฯ มอบให้แก่ยูเครน และบอกว่าจะหาทางบรรลุข้อตกลงอย่างรวดเร็วเพื่อยุติทำสงคราม . "ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่ารัฐบาลใหม่กำลังทำอะไร" บอร์เรลระบุ พร้อมชี้ว่าประธานาธิบดี โจ ไบเดน ยังเหลือเวลาอยู่ในอำนาจอีก 2 เดือน สำหรับทำการตัดสินใจต่างๆ "เราจำเป็นต้องทำให้มากกว่าเดิมและรวดเร็วขึ้น สนับสนุนทางทหารมากขึ้น เพิ่มปริมาณการฝึกฝน เพิ่มเงิน จัดหาอาวุธยุทธโปกรณ์รวดเร็วกว่าเดิม และเช่นกัน เราจำเป็นต้องอนุญาตให้โจมตีเป้าหมายทางทหารต่างๆ ของศัตรูที่อยู่ในดินแดนของพวกเขา" . บอร์เรลกล่าวต่อว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย "ไม่ต้องการเจรจาและจะไม่เจรจาจนกว่าเขาจะถูกบีบให้ทำเช่นนั้น" . รวมกันแล้ว ยุโรปใช้จ่ายเงินไปแล้วราว 125,000 ล้านดอลลาร์ ในการสนับสนุนยูเครน นับตั้งแต่ถูกรัสเซียรุกรานในปี 2022 ขณะที่สหรัฐฯ เพียงชาติเดียวมอบแรงสนับสนนแก่เคียฟ ไปแล้วมากกว่า 90,000 ล้านดอลลาร์ . การคงไว้ซึ่งแรงสนับสนุนของวอชิงตัน ถูกมองว่ามีความสำคัญที่สุดในการรับประกันว่าเคียฟจะสามารถเดินหน้าสู้รบกับรัสเซียได้ต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลานี้มีความไม่แน่นอนทางการเมืองในบรรดามหาอำนาจยุโรปทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นเยอรมนี และฝรั่งเศส . ในสมรภูมิรบ ทหารที่เหนื่อยอ่อนของยูเครน กำลังดิ้นรนสกัดการรุกคืบของรัสเซีย ในขณะที่การสู้รบเต็มรูปแบบลากยาวใกล้เข้าครบ 3 ปีแล้ว . คำยืนยันของบอร์เรล มีขึ้นในขณะที่เหล่าประเทศสมาชิกหลายชาติ ในนั้นรวมถึงฮังการี ซึ่งคัดค้านการมอบแรงสนับสนุนทางทหารแก่ยูเครน มีความฮึกเหิมมากขึ้นในจุดยืนดังกล่าว ตามหลัง ทรัมป์ ได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้ง ซึ่งมันยิ่งทำให้เป็นเรื่องยากที่อียูจะมีความคิดเห็นเป็นเอกฉันท์ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปในวิกฤตความขัดแย้งยูเครน . อันดรีย์ ชีบีกา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน เน้นย้ำเสียงคัดค้านของเคียฟ โดยบอกว่าพวกเขาไม่ควรถูกบีบบังคับให้ยอมอ่อนข้อแก่รัสเซีย "ทุกๆ คนจำเป็นต้องตระหนักว่าการเอาใจพวกผู้รุกรานนั้นไม่ได้ผล" เขากล่าว "เราต้องการสันติภาพที่แท้จริง ไม่ใช่การเอาใจที่จะนำมาซึ่งสงครามเพิ่มเติม" . นอกจากนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของยูเครน บอกว่าการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในศึกเลือกตั้งสหรัฐฯ "มักเป็นตัวแทนแห่งความหวังและโอกาสเสมอ โอกาสที่จะเร่งเข้าสู่สันติภาพ" . เขาบอกว่าได้มีการติดต่อกับทีมงานของทรัมป์ หลังประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน โทรศัพท์แสดงความยินดีกับตัวแทนพรรครีพับลิกัน และเวลานี้อยู่ระหว่างการทำงานในความเป็นไปได้ที่จะมีการประชุมพูดคุยรอบใหม่ระหว่างผู้นำทั้ง 2 . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000108072 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 734 มุมมอง 0 รีวิว
  • เพนตากอนปฏิเสธคำขอของเซเลนสกีที่ต้องการให้จัดหาระบบขีปนาวุธ ATACMS ให้กับยูเครน เป็นลำดับแรก โดยข้ามคิวลูกค้าจากประเทศอื่น
    WSJ รายงาน
    เพนตากอนปฏิเสธคำขอของเซเลนสกีที่ต้องการให้จัดหาระบบขีปนาวุธ ATACMS ให้กับยูเครน เป็นลำดับแรก โดยข้ามคิวลูกค้าจากประเทศอื่น WSJ รายงาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 66 มุมมอง 0 รีวิว
  • แผนแรกของทรัมป์ในการหยั่งเสียงตอบรับเกี่ยวกับการยุติความขัดแย้งระหว่าง "รัสเซีย-ยูเครน" ออกมาแล้ว

    ทรัมป์เสนอให้กองกำลังยุโรปสร้างแนวเขตกันชนระหว่างรัสเซียและยูเครน ซึ่งจะเป็นเขตปลอดทหารระยะทาง 800 ไมล์ ระหว่างรัสเซียและยูเครน โดยมีกองกำลังอังกฤษ และของยุโรปทำหน้าที่ลาดตระเวนในพื้นที่ดังกล่าว

    ภายใต้ข้อเสนอนี้ จะใช้แนวหน้าปัจจุบันที่รัสเซียปลดปล่อยได้เป็นเกณฑ์ สำหรับยูเครนจะต้องไม่เข้าร่วมนาโตเป็นเวลา 20 ปี

    นอกจากนี้ ทรัมป์ยังมีข้อเสนอให้ยูเครน นั่นคือสหรัฐจะส่งอาวุธให้ยูเครน มูลค่า 300,000 ล้านดอลลาร์ (บางข้อมูลระบุตัวเลข 500,000 ล้านดอลลาร์) เพื่อป้องกันการรุกรานในอนาคตของรัสเซีย โดยที่ทรัมป์จะให้พันธมิตรในยุโรปเป็นฝ่ายต้องรับผิดชอบทางการเงินและการทหารสำหรับเขตกันชนดังกล่าวนี้

    แต่คาดว่า ข้อเสนอแรกของทรัมป์ครั้งนี้ ทั้งเซเลนสกีและปูติน น่าจะไม่ตกลง เนื่องจากทั้งสองฝ่ายยืนยันข้อเสนอของฝ่ายตนเองเป็นหลักมาโดยตลอด

    แผนแรกของทรัมป์ในการหยั่งเสียงตอบรับเกี่ยวกับการยุติความขัดแย้งระหว่าง "รัสเซีย-ยูเครน" ออกมาแล้ว ทรัมป์เสนอให้กองกำลังยุโรปสร้างแนวเขตกันชนระหว่างรัสเซียและยูเครน ซึ่งจะเป็นเขตปลอดทหารระยะทาง 800 ไมล์ ระหว่างรัสเซียและยูเครน โดยมีกองกำลังอังกฤษ และของยุโรปทำหน้าที่ลาดตระเวนในพื้นที่ดังกล่าว ภายใต้ข้อเสนอนี้ จะใช้แนวหน้าปัจจุบันที่รัสเซียปลดปล่อยได้เป็นเกณฑ์ สำหรับยูเครนจะต้องไม่เข้าร่วมนาโตเป็นเวลา 20 ปี นอกจากนี้ ทรัมป์ยังมีข้อเสนอให้ยูเครน นั่นคือสหรัฐจะส่งอาวุธให้ยูเครน มูลค่า 300,000 ล้านดอลลาร์ (บางข้อมูลระบุตัวเลข 500,000 ล้านดอลลาร์) เพื่อป้องกันการรุกรานในอนาคตของรัสเซีย โดยที่ทรัมป์จะให้พันธมิตรในยุโรปเป็นฝ่ายต้องรับผิดชอบทางการเงินและการทหารสำหรับเขตกันชนดังกล่าวนี้ แต่คาดว่า ข้อเสนอแรกของทรัมป์ครั้งนี้ ทั้งเซเลนสกีและปูติน น่าจะไม่ตกลง เนื่องจากทั้งสองฝ่ายยืนยันข้อเสนอของฝ่ายตนเองเป็นหลักมาโดยตลอด
    Like
    Haha
    2
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 69 มุมมอง 0 รีวิว
  • เซเลนสกีเรียกร้องจะเอาทรัพย์สินของรัสเซียที่ถูกอายัดไว้โดยยุโรป มูลค่า 300,000 ล้านดอลลาร์ทั้งหมด!

    เซเลนสกี้ กล่าวในปูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ระหว่างเข้าร่วมงานการประชุมสุดยอดของผู้นำยุโรป โดยเรียกร้องให้มีการมอบสินทรัพย์ของรัสเซียมูลค่า 300,000 ล้านดอลลาร์ ที่ถูกอายัดไว้โดยสถาบันการเงินตะวันตกในปัจจุบันให้กับเคียฟทั้งหมด

    “หลายคนถามผมว่า ผมจะทำอย่างไรหากทรัมป์ไม่สนับสนุนทางการเงินต่อยูเครน ผมจะใช้เงินที่ไหนไปหาซื้ออาวุธ ผมจะบอกให้ ผมกำลังตอบพวกคุณ เราจะเอาเงิน 300,000 ล้านดอลลาร์ที่เป็นของเราโดยชอบธรรมไปใช้ ได้หรือไม่!”

    “เราสามารถตัดสินใจเองได้ไหมว่าจะทำอย่างไรกับเงินจำนวนนี้” เซเลนสกี้กล่าว

    ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯและพันธมิตรยุโรป ได้อนุญาตให้ใช้ดอกเบี้ยจากทรัพย์สินรัสเซียเพื่อช่วยเหลือเคียฟเท่านั้น เพื่อหลีกเลี่ยงข้อกฎหมายที่อาจมีปัญหาตามมาทีหลัง
    เซเลนสกีเรียกร้องจะเอาทรัพย์สินของรัสเซียที่ถูกอายัดไว้โดยยุโรป มูลค่า 300,000 ล้านดอลลาร์ทั้งหมด! เซเลนสกี้ กล่าวในปูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ระหว่างเข้าร่วมงานการประชุมสุดยอดของผู้นำยุโรป โดยเรียกร้องให้มีการมอบสินทรัพย์ของรัสเซียมูลค่า 300,000 ล้านดอลลาร์ ที่ถูกอายัดไว้โดยสถาบันการเงินตะวันตกในปัจจุบันให้กับเคียฟทั้งหมด “หลายคนถามผมว่า ผมจะทำอย่างไรหากทรัมป์ไม่สนับสนุนทางการเงินต่อยูเครน ผมจะใช้เงินที่ไหนไปหาซื้ออาวุธ ผมจะบอกให้ ผมกำลังตอบพวกคุณ เราจะเอาเงิน 300,000 ล้านดอลลาร์ที่เป็นของเราโดยชอบธรรมไปใช้ ได้หรือไม่!” “เราสามารถตัดสินใจเองได้ไหมว่าจะทำอย่างไรกับเงินจำนวนนี้” เซเลนสกี้กล่าว ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯและพันธมิตรยุโรป ได้อนุญาตให้ใช้ดอกเบี้ยจากทรัพย์สินรัสเซียเพื่อช่วยเหลือเคียฟเท่านั้น เพื่อหลีกเลี่ยงข้อกฎหมายที่อาจมีปัญหาตามมาทีหลัง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 91 มุมมอง 35 0 รีวิว
  • เซเลนสกี โพสต์ข้อความแสดงความยินดีต่อโดนัลด์ ทรัมป์ หลังจากชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เพียงประโยคเดียว ส่วนที่เหลือคือการขอความช่วยเหลือจากอเมริกา

    ขอแสดงความยินดีกับ โดนัลด์ ทรัมป์ สำหรับชัยชนะการเลือกตั้งที่น่าประทับใจของเขา!

    ผมยังจำภาพการพบปะที่ยอดเยี่ยมกับประธานาธิบดีทรัมป์เมื่อเดือนกันยายนได้อย่วงดี เราสองคนได้หารือกันอย่างละเอียดเกี่ยวกับความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ระหว่างยูเครนและสหรัฐฯ มีการพูดคุยกันถึง "แผนชัยชนะ" และแนวทางในการยุติการบุกยูเครนของรัสเซีย

    ผมชื่นชมความมุ่งมั่นของประธานาธิบดีทรัมป์ที่มีต่อแนวทาง "สันติภาพผ่านความแข็งแกร่ง" ในกิจการระดับโลก นี่คือหลักการที่ชัดเจนสำหรับการนำสันติภาพที่ยุติธรรมมาสู่ยูเครนได้ในทางปฏิบัติ ผมหวังว่าเราจะนำหลักการนี้ไปปฏิบัติร่วมกัน

    เรามุ่งหวังที่จะเป็นยุคที่สหรัฐอเมริกาเข้มแข็งภายใต้การนำที่เด็ดขาดของประธานาธิบดีทรัมป์ เราพึ่งพาการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากทั้งสองพรรคการเมืองที่มีต่อยูเครนในสหรัฐอเมริกา

    เราสนใจที่จะพัฒนาความร่วมมือทางการเมืองและเศรษฐกิจที่เป็นประโยชน์ร่วมกันซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศของเรา ยูเครนในฐานะประเทศที่มีกำลังทหารที่แข็งแกร่งที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป มุ่งมั่นที่จะสร้างสันติภาพและความมั่นคงในระยะยาวในยุโรปและชุมชนทรานส์แอตแลนติกด้วยการสนับสนุนจากพันธมิตรของเรา

    ผมตั้งตารอที่จะแสดงความยินดีกับประธานาธิบดีทรัมป์เป็นการส่วนตัว และหารือถึงแนวทางในการเสริมสร้างความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ของยูเครนกับสหรัฐอเมริกา
    เซเลนสกี โพสต์ข้อความแสดงความยินดีต่อโดนัลด์ ทรัมป์ หลังจากชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เพียงประโยคเดียว ส่วนที่เหลือคือการขอความช่วยเหลือจากอเมริกา ขอแสดงความยินดีกับ โดนัลด์ ทรัมป์ สำหรับชัยชนะการเลือกตั้งที่น่าประทับใจของเขา! ผมยังจำภาพการพบปะที่ยอดเยี่ยมกับประธานาธิบดีทรัมป์เมื่อเดือนกันยายนได้อย่วงดี เราสองคนได้หารือกันอย่างละเอียดเกี่ยวกับความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ระหว่างยูเครนและสหรัฐฯ มีการพูดคุยกันถึง "แผนชัยชนะ" และแนวทางในการยุติการบุกยูเครนของรัสเซีย ผมชื่นชมความมุ่งมั่นของประธานาธิบดีทรัมป์ที่มีต่อแนวทาง "สันติภาพผ่านความแข็งแกร่ง" ในกิจการระดับโลก นี่คือหลักการที่ชัดเจนสำหรับการนำสันติภาพที่ยุติธรรมมาสู่ยูเครนได้ในทางปฏิบัติ ผมหวังว่าเราจะนำหลักการนี้ไปปฏิบัติร่วมกัน เรามุ่งหวังที่จะเป็นยุคที่สหรัฐอเมริกาเข้มแข็งภายใต้การนำที่เด็ดขาดของประธานาธิบดีทรัมป์ เราพึ่งพาการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากทั้งสองพรรคการเมืองที่มีต่อยูเครนในสหรัฐอเมริกา เราสนใจที่จะพัฒนาความร่วมมือทางการเมืองและเศรษฐกิจที่เป็นประโยชน์ร่วมกันซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศของเรา ยูเครนในฐานะประเทศที่มีกำลังทหารที่แข็งแกร่งที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป มุ่งมั่นที่จะสร้างสันติภาพและความมั่นคงในระยะยาวในยุโรปและชุมชนทรานส์แอตแลนติกด้วยการสนับสนุนจากพันธมิตรของเรา ผมตั้งตารอที่จะแสดงความยินดีกับประธานาธิบดีทรัมป์เป็นการส่วนตัว และหารือถึงแนวทางในการเสริมสร้างความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ของยูเครนกับสหรัฐอเมริกา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 75 มุมมอง 0 รีวิว
  • เซเลนสกียืนยัน มีทหารเกาหลีเหนืออยู่ในแนวหน้าภูมิภาคเคิร์สแล้ว 11,000 นาย

    ด้านหน่วยข่าวกรองของยูเครนเผยตรงกันว่า ทหารโสมแดงประมาณ 12,000 นายกำลังเข้ารับการฝึกที่ฐานทัพ 5 แห่ง ในจำนวนนี้เป็นทหารสัญญาบัตร 500 นาย และทหารระดับนายพลอีก 3 นาย
    เซเลนสกียืนยัน มีทหารเกาหลีเหนืออยู่ในแนวหน้าภูมิภาคเคิร์สแล้ว 11,000 นาย ด้านหน่วยข่าวกรองของยูเครนเผยตรงกันว่า ทหารโสมแดงประมาณ 12,000 นายกำลังเข้ารับการฝึกที่ฐานทัพ 5 แห่ง ในจำนวนนี้เป็นทหารสัญญาบัตร 500 นาย และทหารระดับนายพลอีก 3 นาย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 69 มุมมอง 45 0 รีวิว
  • เซเลนสกีประกาศว่าแคนาดาจะจัดส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศ NASAMS มายังยูเครน ภายในสิ้นปีนี้ 1 ระบบ

    โดยการอ้างถึงการสนทนากับนายกรัฐมนตรีแคนาดา จัสติน ทรูโด
    เซเลนสกีประกาศว่าแคนาดาจะจัดส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศ NASAMS มายังยูเครน ภายในสิ้นปีนี้ 1 ระบบ โดยการอ้างถึงการสนทนากับนายกรัฐมนตรีแคนาดา จัสติน ทรูโด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 43 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดี ไมอา ซานดู หญิงแกร่งสามารถชนะเลือกรอบ 2 ตั้งประธานาธิบดีมอลโดวาวันอาทิตย์ (3 พ.ย.) ฝ่ามรสุมมอสโกแทรกแซงเลือกตั้ง ชนะไป 54.35% มีชัยเหนือคู่แข่ง อเล็กซานเดอร์ สตอยอาโนโกล (Alexandr Stoianoglo) จากพรรคโซเชียลลิสต์โปรรัสเซีย ผู้นำตะวันตกสุดดีใจแห่ร่วมแสดงความยินดีปูหนทางเข้าสู่ EU
    .
    รอยเตอร์รายงานวันนี้ (4 พ.ย.) ว่า หลังนับไปแล้ว 98% พบว่าอดีตที่ปรึกษาเวิลด์แบงก์ ประธานาธิบดีหญิง ไมอา ซานดู (Maia Sandu) ได้คะแนน 54.35% คณะกรรมการการเลือกตั้มอลโดวาประกาศ
    .
    เป็นการเลือกตั้งครั้งสำคัญที่จะนำมอลโดวาไปสู่การเข้าสู่สหภาพยุโรปได้หรือไม่ ท่ามกลางขวากหนามอย่างรัสเซียที่ถูกกล่าวหาว่ายื่นมาเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในป่วนเลือกตั้ง
    .
    รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนี อันนาเลนา แบร์บ็อค (Annalena Baerbock) ตามรายงานวันจันทร์ (4) ของเดอะการ์เดียน อังกฤษ ได้กล่าวประณามมอสโกพยายามขัดขวางผู้มีสิทธิเลือกตั้งมอลโดวาในต่างแดนออกเสียงเลือกตั้ง ได้แก่ การซื้อเสียง ควบคุม ขู่วางระเบิดคูหาเลือกตั้งหลายแห่งในเยอรมนี รวม แฟรงก์เฟิร์ต ฮัมบูร์ก และกรุงเบอร์ลิน
    .
    อย่างไรก็ตาม รัสเซียที่ออกมาประณามผลเลือกตั้งมอลโดวานี รอยเตอร์ชี้ว่า วุฒิสมาชิกรัสเซียใกล้ชิดปูติน อันเดร คลีชาส (Andrei Klishas) ออกมาโจมตีวันจันทร์ (4) เลียนวาทะทรัมป์อ้างว่า มอลโดวา “นำเข้าเสียงเลือกตั้งต่างแดน” เพื่อช่วยให้ประธานาธิบดีโปรตะวันตก ไมอา ซานดู ชนะคู่แข่ง
    .
    ตำรวจมอลโดวาแถลงในเดือนที่ผ่านมาว่า นักธุรกิจมอลโดวาที่หลบหนีคดีโปรรัสเซีย อีลาน ชอร์ (Ilan Shor) แอบเป็นท่อน้ำเลี้ยงส่งเงิน 24 ล้านดอลลาร์เมื่อตุลาคมจ่ายให้ผู้มีสิทธิออกเสียงมอลโดวาในการเลือกตั้งประธานาธิบดีมอลโดวา และการลงประชามติครั้งสำคัญเข้าร่วมสหภาพยุโรป
    .
    รอยเตอร์ชี้ว่า ชัยชนะของประธานาธิบดีไมดูที่พยายามอย่างหนักในการผลักดันให้มอลโดวาหลุดออกจากวงโคจรรัสเซียและเข้าร่วมสหภาพยุโรปถูกมองจากบรรดาผู้สนับสนุนว่า การชนะเลือกตั้งเป็นเสมือนประชามติในการนำมอลโดวาอดีตเคยอยู่ภายใต้อดีตสหภาพโซเวียตเข้าสู่ EU
    .
    การเลือกตั้งครั้งนี้ถูกจับตาใกล้ชิดในบรัสเซลส์ 1 สัปดาห์หลังพรรคโปรเครมลิน พรรคความฝันจอร์เจีย GD (Georgian Dream) ชนะเลือกตั้งและทำให้วิตกกันว่า รัฐบาลจอร์เจียชุดใหม่จะยุติกระบวนการพาประเทศยูเรเชียแห่งนี้เดินหน้าเข้าสหภาพยุโรป
    .
    รอยเตอร์รายงานว่า สตอยอาโนโกล ในระหว่างหาเสียงประกาศว่า เขาสนับสนุนการเข้าสู่ EU แต่เขาต้องการพัฒนาความสัมพันธ์กับรัสเซียเช่นกัน แต่ซานดูชี้ว่า เขาเป็นเสมือนม้าไม้เมืองทรอยทำเพื่อผลประโยชน์ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แต่ สตอยอาโนโกล ปฏิเสธ
    .
    มอลโดวากลายเป็นจุดสนใจหลังรัสเซียส่งกำลังทหารบุกยูเครนเมื่อปี 2022
    .
    บรรดาผู้นำตะวันตกทั้งสหรัฐฯ อังกฤษ สหภาพยุโรป และยูเครนต่างร่วมแสดงความยินดีต่อประธานาธิบดีซานดู
    .
    รอยเตอร์รายงานว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน แถลงการณ์แสดงความยินดีได้ชี้ว่า รัสเซียล้มเหลวในการแทรกแซงการเลือกตั้งมอลโดวา
    .
    ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ เดวิด แลมมี (David Lammy) แถลงแสดงความยินดี พร้อมชี้ว่า อังกฤษยังคงเดินหน้าสนับสนุนการปฏิรูปทางประชาธิปไตยมอลโดวาหลังเสร็จสิ้นการเลือกตั้งประธานาธิบดี
    .
    หัวหน้านโยบายสหภาพยุโรป โจเซฟ บอร์เรลล์ แสดงความยินดีอย่างอบอุ่นต่อความสำเร็จประธานาธิบดี ไมอา ซานดู ที่สามารถชนะเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 2 ได้สำเร็จ
    .
    และประธานาธิบดียูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี แสดงความยินและพร้อมกันนั้นยังประกาศความยึดมั่นต่อข้อผูกพันของยูเครนในการทำงานร่วมกันต่อเป้าหมายร่วมเพื่อเข้าสู่ความเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปให้สำเร็จ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000106362
    ..............
    Sondhi X
    ประธานาธิบดี ไมอา ซานดู หญิงแกร่งสามารถชนะเลือกรอบ 2 ตั้งประธานาธิบดีมอลโดวาวันอาทิตย์ (3 พ.ย.) ฝ่ามรสุมมอสโกแทรกแซงเลือกตั้ง ชนะไป 54.35% มีชัยเหนือคู่แข่ง อเล็กซานเดอร์ สตอยอาโนโกล (Alexandr Stoianoglo) จากพรรคโซเชียลลิสต์โปรรัสเซีย ผู้นำตะวันตกสุดดีใจแห่ร่วมแสดงความยินดีปูหนทางเข้าสู่ EU . รอยเตอร์รายงานวันนี้ (4 พ.ย.) ว่า หลังนับไปแล้ว 98% พบว่าอดีตที่ปรึกษาเวิลด์แบงก์ ประธานาธิบดีหญิง ไมอา ซานดู (Maia Sandu) ได้คะแนน 54.35% คณะกรรมการการเลือกตั้มอลโดวาประกาศ . เป็นการเลือกตั้งครั้งสำคัญที่จะนำมอลโดวาไปสู่การเข้าสู่สหภาพยุโรปได้หรือไม่ ท่ามกลางขวากหนามอย่างรัสเซียที่ถูกกล่าวหาว่ายื่นมาเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในป่วนเลือกตั้ง . รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนี อันนาเลนา แบร์บ็อค (Annalena Baerbock) ตามรายงานวันจันทร์ (4) ของเดอะการ์เดียน อังกฤษ ได้กล่าวประณามมอสโกพยายามขัดขวางผู้มีสิทธิเลือกตั้งมอลโดวาในต่างแดนออกเสียงเลือกตั้ง ได้แก่ การซื้อเสียง ควบคุม ขู่วางระเบิดคูหาเลือกตั้งหลายแห่งในเยอรมนี รวม แฟรงก์เฟิร์ต ฮัมบูร์ก และกรุงเบอร์ลิน . อย่างไรก็ตาม รัสเซียที่ออกมาประณามผลเลือกตั้งมอลโดวานี รอยเตอร์ชี้ว่า วุฒิสมาชิกรัสเซียใกล้ชิดปูติน อันเดร คลีชาส (Andrei Klishas) ออกมาโจมตีวันจันทร์ (4) เลียนวาทะทรัมป์อ้างว่า มอลโดวา “นำเข้าเสียงเลือกตั้งต่างแดน” เพื่อช่วยให้ประธานาธิบดีโปรตะวันตก ไมอา ซานดู ชนะคู่แข่ง . ตำรวจมอลโดวาแถลงในเดือนที่ผ่านมาว่า นักธุรกิจมอลโดวาที่หลบหนีคดีโปรรัสเซีย อีลาน ชอร์ (Ilan Shor) แอบเป็นท่อน้ำเลี้ยงส่งเงิน 24 ล้านดอลลาร์เมื่อตุลาคมจ่ายให้ผู้มีสิทธิออกเสียงมอลโดวาในการเลือกตั้งประธานาธิบดีมอลโดวา และการลงประชามติครั้งสำคัญเข้าร่วมสหภาพยุโรป . รอยเตอร์ชี้ว่า ชัยชนะของประธานาธิบดีไมดูที่พยายามอย่างหนักในการผลักดันให้มอลโดวาหลุดออกจากวงโคจรรัสเซียและเข้าร่วมสหภาพยุโรปถูกมองจากบรรดาผู้สนับสนุนว่า การชนะเลือกตั้งเป็นเสมือนประชามติในการนำมอลโดวาอดีตเคยอยู่ภายใต้อดีตสหภาพโซเวียตเข้าสู่ EU . การเลือกตั้งครั้งนี้ถูกจับตาใกล้ชิดในบรัสเซลส์ 1 สัปดาห์หลังพรรคโปรเครมลิน พรรคความฝันจอร์เจีย GD (Georgian Dream) ชนะเลือกตั้งและทำให้วิตกกันว่า รัฐบาลจอร์เจียชุดใหม่จะยุติกระบวนการพาประเทศยูเรเชียแห่งนี้เดินหน้าเข้าสหภาพยุโรป . รอยเตอร์รายงานว่า สตอยอาโนโกล ในระหว่างหาเสียงประกาศว่า เขาสนับสนุนการเข้าสู่ EU แต่เขาต้องการพัฒนาความสัมพันธ์กับรัสเซียเช่นกัน แต่ซานดูชี้ว่า เขาเป็นเสมือนม้าไม้เมืองทรอยทำเพื่อผลประโยชน์ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แต่ สตอยอาโนโกล ปฏิเสธ . มอลโดวากลายเป็นจุดสนใจหลังรัสเซียส่งกำลังทหารบุกยูเครนเมื่อปี 2022 . บรรดาผู้นำตะวันตกทั้งสหรัฐฯ อังกฤษ สหภาพยุโรป และยูเครนต่างร่วมแสดงความยินดีต่อประธานาธิบดีซานดู . รอยเตอร์รายงานว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน แถลงการณ์แสดงความยินดีได้ชี้ว่า รัสเซียล้มเหลวในการแทรกแซงการเลือกตั้งมอลโดวา . ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ เดวิด แลมมี (David Lammy) แถลงแสดงความยินดี พร้อมชี้ว่า อังกฤษยังคงเดินหน้าสนับสนุนการปฏิรูปทางประชาธิปไตยมอลโดวาหลังเสร็จสิ้นการเลือกตั้งประธานาธิบดี . หัวหน้านโยบายสหภาพยุโรป โจเซฟ บอร์เรลล์ แสดงความยินดีอย่างอบอุ่นต่อความสำเร็จประธานาธิบดี ไมอา ซานดู ที่สามารถชนะเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 2 ได้สำเร็จ . และประธานาธิบดียูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี แสดงความยินและพร้อมกันนั้นยังประกาศความยึดมั่นต่อข้อผูกพันของยูเครนในการทำงานร่วมกันต่อเป้าหมายร่วมเพื่อเข้าสู่ความเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปให้สำเร็จ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000106362 .............. Sondhi X
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1071 มุมมอง 0 รีวิว
  • แหล่งข่าวในสำนักงานประธานาธิบดียูเครน รายงานว่า แอนดรีย์ เยอร์มัค (Andriy Yermak) หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ของประธานาธิบดียูเครน กำลังใช้ Dnipro เดิมพันกับรัสเซีย

    โดยการยอมปล่อยดินแดนในแคว้น Donbass ให้รัสเซียยึดครองได้อย่างง่ายดาย โดยไม่มีการต่อต้านจากยูเครน

    เยอร์มัค มั่นใจว่าการรุกคืบของรัสเซียไปยัง Dnipro จะกดดันให้ประเทศตะวันตกจัดสรรเงินทุนและอาวุธครั้งใหญ่ รวมถึงการส่งกองกำลังทหารเข้ามา ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดคือการดึง NATO เข้าสู่ความขัดแย้งโดยตรง เนื่องจากประเทศเหล่านี้ทนเห็นความพ่ายแพ้ของยูเครนไม่ได้ เพราะนั่นหมายถึงความพ่ายแพ้ของพวกเขาด้วย

    ก่อนหน้านี้ ทั้งเยอร์มัคและเซเลนสกีพลาดท่าในการเปิดปฏิบัติการในภูมิภาค Kursk ซึ่งไม่เป็นไปตามความคาดหมายไปแล้วครั้งหนึ่ง
    แหล่งข่าวในสำนักงานประธานาธิบดียูเครน รายงานว่า แอนดรีย์ เยอร์มัค (Andriy Yermak) หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ของประธานาธิบดียูเครน กำลังใช้ Dnipro เดิมพันกับรัสเซีย โดยการยอมปล่อยดินแดนในแคว้น Donbass ให้รัสเซียยึดครองได้อย่างง่ายดาย โดยไม่มีการต่อต้านจากยูเครน เยอร์มัค มั่นใจว่าการรุกคืบของรัสเซียไปยัง Dnipro จะกดดันให้ประเทศตะวันตกจัดสรรเงินทุนและอาวุธครั้งใหญ่ รวมถึงการส่งกองกำลังทหารเข้ามา ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดคือการดึง NATO เข้าสู่ความขัดแย้งโดยตรง เนื่องจากประเทศเหล่านี้ทนเห็นความพ่ายแพ้ของยูเครนไม่ได้ เพราะนั่นหมายถึงความพ่ายแพ้ของพวกเขาด้วย ก่อนหน้านี้ ทั้งเยอร์มัคและเซเลนสกีพลาดท่าในการเปิดปฏิบัติการในภูมิภาค Kursk ซึ่งไม่เป็นไปตามความคาดหมายไปแล้วครั้งหนึ่ง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 63 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศพทหารยูเครนเกลื่อนทุ่งนาในเขตเคิร์ส

    จนถึงขณะนี้เซเลนสกียังไม่ยอมรับว่าการตัดสินใจสั่งบุกเคิร์ส เป็นความคิดที่ผิดพลาด
    ศพทหารยูเครนเกลื่อนทุ่งนาในเขตเคิร์ส จนถึงขณะนี้เซเลนสกียังไม่ยอมรับว่าการตัดสินใจสั่งบุกเคิร์ส เป็นความคิดที่ผิดพลาด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 38 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts