• ชีวิตของชูวิทย์มีค่ายิ่งกว่านักการเมืองเลวๆ
    .
    คุณชูวิทย์เขาเล่าให้ผมฟังว่า ชีวิตเขาถูกหลอกใช้มาตลอด เรื่องรถไฟฟ้าสายสีส้มนั้น เขาถูกคนที่ชื่อ สุชาติ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของคีรี บอกว่าจะเอาเรื่องการคอร์รัปชันไหม เขามีข้อมูลให้พร้อม ก็เลยเอาข้อมูลมาให้ชูวิทย์ นั่นคือที่มาของการโจมตี ช.การช่าง และการคอร์รัปชัน รวมไปจนถึงการมีงานโอนเงินค่าคอมมิชันไปที่สิงคโปร์ เป็นฝีมือที่มาจากคนที่ให้ข่าวเขาทั้งสิ้น “แล้วมันก็ทิ้งผมไป หลังจากใช้ผมได้เรียบร้อยแล้ว”
    .
    เขาค่อนข้างเจ็บช้ำน้ำใจมากหลายๆเรื่อง โดนฟ้องอยู่หลายคดี สันธนะ ประยูรรัตน์ก็ฟ้องเขา และที่สำคัญคือเรื่องเขากระโดง เขาก็โดนฟ้องที่ศาลจังหวัดบุรีรัมย์
    .
    ผมไม่ได้อยู่ในสถานภาพที่จะพูดอะไรในเรื่องนี้ได้ แต่โดยส่วนตัวผมคิดว่า คนที่อยู่ในสภาพอย่างชูวิทย์ คนที่เป็นเจ้าทุกข์ ผมคิดว่าถึงเวลาแล้วหรือยังที่พวกคุณจะทำบุญทำกุศลกัน เพราะคุณชูวิทย์เขาอยู่ในช่วงสุดท้ายของชีวิตแล้ว
    .
    ความแค้นไม่ได้ทำให้ชีวิตคุณมีความสุขหรอก ณ วันนี้ ถ้าคุณจะทำไปเพื่อล้างแค้นที่ชูวิทย์เขาว่าอะไรคุณ ก็เชิญตามสบาย คนเรามันจะแค้นอะไรกันนักกันหนา หรือทั้งคุณเนวิน และคุณศักดิ์สยาม ชิดชอบ ไม่ยอมรับว่าชีวิตคุณเองก็มีการทำผิดพลาดเยอะมากพอสมควร อย่างน้อยที่สุด สิ่งที่คุณชูวิทย์พูดเรื่องเขากระโดงก็เป็นความจริง
    .
    ผมสงสารและเห็นใจเขา เขาก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรนะ ไม่ได้เรียกร้องคุณศักดิ์สยามและคุณเนวิน คุณคงอยากให้คุณชูวิทย์คลานเข้าไปแล้วกราบเท้าคุณใช่ไหม ซึ่งถ้าเขาทำผิดกฎหมายเพราะเขาไปหมิ่นประมาทคุณ อันนั้นคือกฎหมาย แต่ที่อยู่เหนือกฎหมาย คือคุณธรรม ความเห็นอกเห็นใจ คุณจะเรียกว่าความเวทนาก็ได้ ที่คุณชูวิทย์เขาเจ็บไข้ได้ป่วยหนักขนาดนี้ ที่สามารถจะตายได้ทุกเมื่อ ตรงนี้ต่างหากที่มันอยู่เหนือกฎหมาย นั่นคือความเป็นมนุษย์
    .
    คุณชูวิทย์อาจจะพูดอะไร แล้วคุณเจ็บใจแค้นใจมาก ผมเข้าใจดี รวมไปถึงคุณสันธนะด้วย ขนาดคุณชูวิทย์นั่งข้างๆ คุณ แล้วมาขอโทษคุณบนเก้าอี้รถเข็น ใจคอคุณบอกยังไม่ให้ ผมไม่รู้ว่าจิตใจพวกคุณทั้งหลายทำด้วยอะไร
    .
    สำหรับผมแล้ว ชูวิทย์เป็นคนที่มีคุณูปการต่อสังคม การทำงานของชูวิทย์นั้น จะดีจะชั่วก็ยังดีกว่านักการเมืองเลวๆ บางคนที่เอาอำนาจทางการเมืองแสวงหาผลประโยชน์ ยึดที่ดินของรัฐเข้าไปเป็นของครอบครัวตัวเอง ผมว่าชีวิตของชูวิทย์มีค่ายิ่งกว่านักการเมืองเลวๆ พวกนั้นอีก

    ที่มา คุยทุกเรื่องกับสนธิ

    #Thaitimes
    ชีวิตของชูวิทย์มีค่ายิ่งกว่านักการเมืองเลวๆ . คุณชูวิทย์เขาเล่าให้ผมฟังว่า ชีวิตเขาถูกหลอกใช้มาตลอด เรื่องรถไฟฟ้าสายสีส้มนั้น เขาถูกคนที่ชื่อ สุชาติ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของคีรี บอกว่าจะเอาเรื่องการคอร์รัปชันไหม เขามีข้อมูลให้พร้อม ก็เลยเอาข้อมูลมาให้ชูวิทย์ นั่นคือที่มาของการโจมตี ช.การช่าง และการคอร์รัปชัน รวมไปจนถึงการมีงานโอนเงินค่าคอมมิชันไปที่สิงคโปร์ เป็นฝีมือที่มาจากคนที่ให้ข่าวเขาทั้งสิ้น “แล้วมันก็ทิ้งผมไป หลังจากใช้ผมได้เรียบร้อยแล้ว” . เขาค่อนข้างเจ็บช้ำน้ำใจมากหลายๆเรื่อง โดนฟ้องอยู่หลายคดี สันธนะ ประยูรรัตน์ก็ฟ้องเขา และที่สำคัญคือเรื่องเขากระโดง เขาก็โดนฟ้องที่ศาลจังหวัดบุรีรัมย์ . ผมไม่ได้อยู่ในสถานภาพที่จะพูดอะไรในเรื่องนี้ได้ แต่โดยส่วนตัวผมคิดว่า คนที่อยู่ในสภาพอย่างชูวิทย์ คนที่เป็นเจ้าทุกข์ ผมคิดว่าถึงเวลาแล้วหรือยังที่พวกคุณจะทำบุญทำกุศลกัน เพราะคุณชูวิทย์เขาอยู่ในช่วงสุดท้ายของชีวิตแล้ว . ความแค้นไม่ได้ทำให้ชีวิตคุณมีความสุขหรอก ณ วันนี้ ถ้าคุณจะทำไปเพื่อล้างแค้นที่ชูวิทย์เขาว่าอะไรคุณ ก็เชิญตามสบาย คนเรามันจะแค้นอะไรกันนักกันหนา หรือทั้งคุณเนวิน และคุณศักดิ์สยาม ชิดชอบ ไม่ยอมรับว่าชีวิตคุณเองก็มีการทำผิดพลาดเยอะมากพอสมควร อย่างน้อยที่สุด สิ่งที่คุณชูวิทย์พูดเรื่องเขากระโดงก็เป็นความจริง . ผมสงสารและเห็นใจเขา เขาก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรนะ ไม่ได้เรียกร้องคุณศักดิ์สยามและคุณเนวิน คุณคงอยากให้คุณชูวิทย์คลานเข้าไปแล้วกราบเท้าคุณใช่ไหม ซึ่งถ้าเขาทำผิดกฎหมายเพราะเขาไปหมิ่นประมาทคุณ อันนั้นคือกฎหมาย แต่ที่อยู่เหนือกฎหมาย คือคุณธรรม ความเห็นอกเห็นใจ คุณจะเรียกว่าความเวทนาก็ได้ ที่คุณชูวิทย์เขาเจ็บไข้ได้ป่วยหนักขนาดนี้ ที่สามารถจะตายได้ทุกเมื่อ ตรงนี้ต่างหากที่มันอยู่เหนือกฎหมาย นั่นคือความเป็นมนุษย์ . คุณชูวิทย์อาจจะพูดอะไร แล้วคุณเจ็บใจแค้นใจมาก ผมเข้าใจดี รวมไปถึงคุณสันธนะด้วย ขนาดคุณชูวิทย์นั่งข้างๆ คุณ แล้วมาขอโทษคุณบนเก้าอี้รถเข็น ใจคอคุณบอกยังไม่ให้ ผมไม่รู้ว่าจิตใจพวกคุณทั้งหลายทำด้วยอะไร . สำหรับผมแล้ว ชูวิทย์เป็นคนที่มีคุณูปการต่อสังคม การทำงานของชูวิทย์นั้น จะดีจะชั่วก็ยังดีกว่านักการเมืองเลวๆ บางคนที่เอาอำนาจทางการเมืองแสวงหาผลประโยชน์ ยึดที่ดินของรัฐเข้าไปเป็นของครอบครัวตัวเอง ผมว่าชีวิตของชูวิทย์มีค่ายิ่งกว่านักการเมืองเลวๆ พวกนั้นอีก ที่มา คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 569 มุมมอง 0 รีวิว
  • "มหากาพย์ไมดาน จุดเริ่มต้นของสงครามตัวแทนและ Hybrid War" ตอนที่ 1
    ล้างแค้น 30 ปีก็ไม่สาย ลูกผู้ชายชื่อปูตินตั้งสัจจะเอาไว้ว่าตราบใดที่รัสเซียยังไม่กินอิ่มนอนอุ่น ตราบนั้นโลกตะวันตกจงอย่าได้ย่างกรายมาเพ่นพ่านแถวขอบรั้วรัสเซีย
    ***เนื้อหานำเสนออีกด้านหนึ่งของข้อมูล ส่วนจะเป็นข้อเท็จจริงหรือไม่นั้น? โปรดพิจารณาเอาเอง สมองใครสมองมัน ไม่ต้องมาเถียงกับผม ผมไม่มีเวลาเถียงด้วย จะเชื่อหรือไม่เชื่อเงินในบัญชีผมก็เท่าเดิม คือร้อยกว่าบาท 555 ฉะนั้นผมไม่แคร์ว่าจะมีใครเชื่อ
    ***เนื้อหาทั้งหมดผมแคปมาจากสารคดีซึ่งผลิตโดยช่องข่าว RT ของรัสเซีย และช่อง RUPTLY ซึ่งผมไม่มีส่วนได้เสียในการสร้าง การนำเสนอ นอกจากชี้ให้เห็นอีกแง่มุมหนึ่ง และขอให้คนไทยเรียนรู้และปรับใช้เพื่อเอาชาติให้รอด ใครชังชาติ...จะปล่อยชาติล่มจมก็ไม่ควรอ่าน เสียเวลาคุณ คุณควรเอาเวลาไปบ่อนทำลายชาติจะตรงจุดประสงค์คุณมากกว่า
    ***เนื้อหาเรียงลำดับตามที่ปรากฏในสารคดี ซึ่งเมื่อลดทอนเป็นเพียงภาพบางช่วง อาจจะไม่สามารถเล่าเรื่องทั้งหมด หรือเข้าถึงอารมณ์ ความรู้สึกได้ ต้องขออภัยไว้ก่อน หากทาง RT อนุญาต ผมจะนำ VDO ชุดนี้มาเผยแพร่ต่อไป
    ***การรับชม คลิกที่รูปภาพ เนื้อหาอยู่ในคำบรรยายแต่ละภาพเรียงลำดับกันไป
    ผมไม่อยากบอกว่า "ขอให้สนุก" เพราะเนื้อหามันสะเทือนใจและตรงกับความจริงหน้าหนึ่งในประวัติศาสตร์ไทยที่คนไทยถูกยุแยงให้แตกแยกทางความคิด เราเชื่อกันคนละอย่างและนำไปสู่ความเกลียดชังสุดขั้ว
    ไทยเรากำลังอยู่บนปากเหวอย่างเช่นที่อูเครนเคยอยู่มาก่อน...เชื่อผมเถอะ!
    "มหากาพย์ไมดาน จุดเริ่มต้นของสงครามตัวแทนและ Hybrid War" ตอนที่ 1 ล้างแค้น 30 ปีก็ไม่สาย ลูกผู้ชายชื่อปูตินตั้งสัจจะเอาไว้ว่าตราบใดที่รัสเซียยังไม่กินอิ่มนอนอุ่น ตราบนั้นโลกตะวันตกจงอย่าได้ย่างกรายมาเพ่นพ่านแถวขอบรั้วรัสเซีย ***เนื้อหานำเสนออีกด้านหนึ่งของข้อมูล ส่วนจะเป็นข้อเท็จจริงหรือไม่นั้น? โปรดพิจารณาเอาเอง สมองใครสมองมัน ไม่ต้องมาเถียงกับผม ผมไม่มีเวลาเถียงด้วย จะเชื่อหรือไม่เชื่อเงินในบัญชีผมก็เท่าเดิม คือร้อยกว่าบาท 555 ฉะนั้นผมไม่แคร์ว่าจะมีใครเชื่อ ***เนื้อหาทั้งหมดผมแคปมาจากสารคดีซึ่งผลิตโดยช่องข่าว RT ของรัสเซีย และช่อง RUPTLY ซึ่งผมไม่มีส่วนได้เสียในการสร้าง การนำเสนอ นอกจากชี้ให้เห็นอีกแง่มุมหนึ่ง และขอให้คนไทยเรียนรู้และปรับใช้เพื่อเอาชาติให้รอด ใครชังชาติ...จะปล่อยชาติล่มจมก็ไม่ควรอ่าน เสียเวลาคุณ คุณควรเอาเวลาไปบ่อนทำลายชาติจะตรงจุดประสงค์คุณมากกว่า ***เนื้อหาเรียงลำดับตามที่ปรากฏในสารคดี ซึ่งเมื่อลดทอนเป็นเพียงภาพบางช่วง อาจจะไม่สามารถเล่าเรื่องทั้งหมด หรือเข้าถึงอารมณ์ ความรู้สึกได้ ต้องขออภัยไว้ก่อน หากทาง RT อนุญาต ผมจะนำ VDO ชุดนี้มาเผยแพร่ต่อไป ***การรับชม คลิกที่รูปภาพ เนื้อหาอยู่ในคำบรรยายแต่ละภาพเรียงลำดับกันไป ผมไม่อยากบอกว่า "ขอให้สนุก" เพราะเนื้อหามันสะเทือนใจและตรงกับความจริงหน้าหนึ่งในประวัติศาสตร์ไทยที่คนไทยถูกยุแยงให้แตกแยกทางความคิด เราเชื่อกันคนละอย่างและนำไปสู่ความเกลียดชังสุดขั้ว ไทยเรากำลังอยู่บนปากเหวอย่างเช่นที่อูเครนเคยอยู่มาก่อน...เชื่อผมเถอะ!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 158 มุมมอง 0 รีวิว
  • โบราณไม่ได้ว่าไว้ คนล้ม กระทืบซ้ำเลย
    น้ำลดตอผุดสภาวะนี้กําลังเกิดขึ้นกับชีวิตทนายตั้มนายสิทรา เบี้ยบังเกิด หลังโดนอ้อยจตุพร เศรษฐีนีหมื่นล้านแจ้งจับคดีฉ้อโกงและยังจะได้แถมอีกคดีในข้อหาเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว กรณีผู้ออกรายการทีวีและให้สัมภาษณ์สื่อหลายครั้งเรื่องเจ๊อ้อยถูกหวยได้เงินมาหมื่นล้านบาททําให้ครอบครัวเขาเดือดร้อนกระแสสังคมรุมถล่มทนายตั้มเหมือนพายุอุกกาบาตพัดถล่มหัวหมา
    โลกโซเชียลจากการเปลี่ยนชื่อเขาจากทนายตั้มเป็นทนายต้ม จังหวะนี้เองบรรดาเจ้ากรรมนายเวรเก่าเก่าของทนายตั้มก็เฮโลออกมาเปิดโปงความเน่าใน เพื่อล้างแค้นในสิ่งที่ทนายตั้มเคยกระทําไว้กับพวกเขาเริ่มจากคนบนเรือคดีแตงโมคือไฮโซ ปอออกมาพบสื่อในฐานะผู้ประสบภัยจากทนายความโดยระบุว่า
    ทนายตั้มเป็นศาลตั้งต้นของจริง ที่ทําให้ชีวิตเขาและคนบนเรือทุกคนเดือดร้อนแสนสาหัสเมื่อมีการนัดพบกันในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ฝ่ายหนึ่งไฮโซปอลกับโรเบิร์และอีกฝ่ายทนายตั้ม ปรากฏว่าทนายตั้มพอฟังเรื่องราวของแตงโมตกเรือแล้ว
    เสนอแนวทางเอาตัวรอดให้ทั้งสองคนว่าต้องสร้างสตอรี่ให้มีคนผิด ซึ่งคนคนนั้นก็คือแซนด์ ซึ่งอยู่ท้ายเรือใกล้ชิดวินาทีที่แตงโมตกเรือมากกว่าใคร ว่าแล้วทนายตั้มก็เรียกค่าทําคดีสูงลิบซึ่งไฮโซปอลกับโรเบิร์ตปฏิเสธไป
    เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาแต่ปัญหาคือรับไม่ได้กับการสร้างสตอรี่เพื่อโยนคุกให้เพื่อนดื้อๆพอไฮโซปอล์เปิดประเด็นนี้ แซนก็บุกมาที่กองปราบประกาศว่ามาจองกระถินทนายตั้มเพราะเธอเกือบต้องติดคุกติดตารางไปคนเดียว ด้วยการชี้แนะของทนายตั้มซึ่งแซนด์ แทบไม่มีที่ยืนในสังคมพูดอะไรไปก็ไม่มีใครเชื่อ
    ตอนนี้เหตุการณ์คล้ายๆ กันบังเกิดขึ้นกับชีวิตของทนายตั้มบ้างแล้วโดนทัวร์ลงอย่างหนักหน่วง ด้วยดีกรีรุนแรงไม่แพ้กันในส่วนของเจ๊อ้อย จตุพรยังคงสาวไส้เล่ห์เหลี่ยมของทนายตั้มออกมาทีละขด
    โดยเฉพาะเรื่องการแอบอ้างว่ารู้จักกับนักการเมืองใหญ่ที่จะให้โควต้าหวยรัฐบาลถึงขั้นพาคุณอ้อยบินไปพบถึงฮ่องกง เพื่อสร้างเครดิตให้หลงเชื่อนักการเมืองคนนั้นก็คือเสียหนูอนุทินชาญวีรกูล
    ซึ่งเสียหนูก็ยอมรับว่าเจอกับทนายตั้มจริงแต่เจอโดยบังเอิญไม่ได้นัดหมายอะไรกันแจงว่าตัวเองไม่มีทางไปให้โควต้าหวยใครได้ เพราะตอนเจอกันยังไม่ได้เป็นรัฐบาลเลยดอกนี้คือเสี่ยหนูลอยแพทนายตั้มไปแบบไม่มีเยื่อใย
    เพราะก่อนหน้านี้เสี่ยหนูก็เคยใช้บริการทนายตั้มให้ออกมาสู้กับชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ซึ่งผลก็คือทนายตั้มพ่ายแพ้ในสนามโซเชียลจนหลบหน้าหายไปพักใหญ่ ตอนนี้คิงส์โพดำคิดว่า ตั๊มเอ้ย หายหน้าหายตาไปจากโลกเลยก็ได้เด้อ ยาวๆโลด ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่
    #คิงส์โพธิ์ดำ

    โบราณไม่ได้ว่าไว้ คนล้ม กระทืบซ้ำเลย น้ำลดตอผุดสภาวะนี้กําลังเกิดขึ้นกับชีวิตทนายตั้มนายสิทรา เบี้ยบังเกิด หลังโดนอ้อยจตุพร เศรษฐีนีหมื่นล้านแจ้งจับคดีฉ้อโกงและยังจะได้แถมอีกคดีในข้อหาเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว กรณีผู้ออกรายการทีวีและให้สัมภาษณ์สื่อหลายครั้งเรื่องเจ๊อ้อยถูกหวยได้เงินมาหมื่นล้านบาททําให้ครอบครัวเขาเดือดร้อนกระแสสังคมรุมถล่มทนายตั้มเหมือนพายุอุกกาบาตพัดถล่มหัวหมา โลกโซเชียลจากการเปลี่ยนชื่อเขาจากทนายตั้มเป็นทนายต้ม จังหวะนี้เองบรรดาเจ้ากรรมนายเวรเก่าเก่าของทนายตั้มก็เฮโลออกมาเปิดโปงความเน่าใน เพื่อล้างแค้นในสิ่งที่ทนายตั้มเคยกระทําไว้กับพวกเขาเริ่มจากคนบนเรือคดีแตงโมคือไฮโซ ปอออกมาพบสื่อในฐานะผู้ประสบภัยจากทนายความโดยระบุว่า ทนายตั้มเป็นศาลตั้งต้นของจริง ที่ทําให้ชีวิตเขาและคนบนเรือทุกคนเดือดร้อนแสนสาหัสเมื่อมีการนัดพบกันในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ฝ่ายหนึ่งไฮโซปอลกับโรเบิร์และอีกฝ่ายทนายตั้ม ปรากฏว่าทนายตั้มพอฟังเรื่องราวของแตงโมตกเรือแล้ว เสนอแนวทางเอาตัวรอดให้ทั้งสองคนว่าต้องสร้างสตอรี่ให้มีคนผิด ซึ่งคนคนนั้นก็คือแซนด์ ซึ่งอยู่ท้ายเรือใกล้ชิดวินาทีที่แตงโมตกเรือมากกว่าใคร ว่าแล้วทนายตั้มก็เรียกค่าทําคดีสูงลิบซึ่งไฮโซปอลกับโรเบิร์ตปฏิเสธไป เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาแต่ปัญหาคือรับไม่ได้กับการสร้างสตอรี่เพื่อโยนคุกให้เพื่อนดื้อๆพอไฮโซปอล์เปิดประเด็นนี้ แซนก็บุกมาที่กองปราบประกาศว่ามาจองกระถินทนายตั้มเพราะเธอเกือบต้องติดคุกติดตารางไปคนเดียว ด้วยการชี้แนะของทนายตั้มซึ่งแซนด์ แทบไม่มีที่ยืนในสังคมพูดอะไรไปก็ไม่มีใครเชื่อ ตอนนี้เหตุการณ์คล้ายๆ กันบังเกิดขึ้นกับชีวิตของทนายตั้มบ้างแล้วโดนทัวร์ลงอย่างหนักหน่วง ด้วยดีกรีรุนแรงไม่แพ้กันในส่วนของเจ๊อ้อย จตุพรยังคงสาวไส้เล่ห์เหลี่ยมของทนายตั้มออกมาทีละขด โดยเฉพาะเรื่องการแอบอ้างว่ารู้จักกับนักการเมืองใหญ่ที่จะให้โควต้าหวยรัฐบาลถึงขั้นพาคุณอ้อยบินไปพบถึงฮ่องกง เพื่อสร้างเครดิตให้หลงเชื่อนักการเมืองคนนั้นก็คือเสียหนูอนุทินชาญวีรกูล ซึ่งเสียหนูก็ยอมรับว่าเจอกับทนายตั้มจริงแต่เจอโดยบังเอิญไม่ได้นัดหมายอะไรกันแจงว่าตัวเองไม่มีทางไปให้โควต้าหวยใครได้ เพราะตอนเจอกันยังไม่ได้เป็นรัฐบาลเลยดอกนี้คือเสี่ยหนูลอยแพทนายตั้มไปแบบไม่มีเยื่อใย เพราะก่อนหน้านี้เสี่ยหนูก็เคยใช้บริการทนายตั้มให้ออกมาสู้กับชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ซึ่งผลก็คือทนายตั้มพ่ายแพ้ในสนามโซเชียลจนหลบหน้าหายไปพักใหญ่ ตอนนี้คิงส์โพดำคิดว่า ตั๊มเอ้ย หายหน้าหายตาไปจากโลกเลยก็ได้เด้อ ยาวๆโลด ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 351 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักวิเคราะห์คาดอิหร่านไม่ผลีผลามตอบโต้ เนื่องจากอาจกลายเป็นการเผยให้เห็นจุดอ่อนของตัวเองและกระตุ้นให้กองทัพยิวล้างแค้นรุนแรงยิ่งขึ้น ขณะที่อิสราเอลเองก็ไม่อยากให้สถานการณ์ลุกลามจึงล็อกเป้าโจมตีจำกัด เพื่อให้เตหะรานสามารถรักษาหน้าและละเว้นการตอบโต้ทางทหารได้ง่ายขึ้น
    .
    จากระดับความรุนแรงของการโจมตีของอิสราเอลเมื่อวันเสาร์ (25 ต.ค.) เหล่าผู้สังเกตการณ์ในแวดวงภูมิรัฐศาสตร์ตะวันออกกลางมองว่า แนวโน้มการตอบโต้ที่เป็นไปได้ของอิหร่านคือ การรัวขีปนาวุธอีกชุดใหญ่ซึ่งจะถือเป็นชุดที่ 3 สำหรับปีนี้
    .
    การตอบโต้ทางทหารจะเปิดโอกาสให้ผู้นำในเตหะรานได้โชว์ความแข็งแกร่งไม่เฉพาะกับพลเมืองของตนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงกลุ่มฮามาสในกาซาและฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนที่กำลังรบพุ่งกับอิสราเอล และเป็นกองหน้าในอักษะการต่อต้านของอิหร่าน
    .
    ทว่า ยังเร็วเกินไปที่จะระบุว่า ผู้นำอิหร่านจะเลือกวิธีดังกล่าว และนักวิเคราะห์บางคนมองว่า เตหะรานอาจยังไม่ตอบโต้ด้วยกำลังในขณะนี้ เนื่องจากจะกลายเป็นการเปิดเผยจุดอ่อนของตัวเองและกระตุ้นให้อิสราเอลล้างแค้นรุนแรงยิ่งขึ้น
    .
    ซานัม วาคิล ผู้อำนวยการโปรแกรมตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือของกลุ่มคลังสมอง ชัทแธมเฮาส์ ในลอนดอน ชี้ว่า อิหร่านจะทำให้ดูเหมือนการโจมตีของอิสราเอลส่งผลกระทบน้อยมาก ทั้งที่ในความเป็นจริงรุนแรงมาก เนื่องจากอิหร่านถูกจำกัดทั้งทางทหารและการเมือง รวมถึงความไม่แน่นอนจากผลการเลือกตั้งในอเมริกาและผลกระทบที่จะมีต่อนโยบายตะวันออกกลาง
    .
    เอพีรายงานว่า แม้สงครามตะวันออกกลางกำลังเดือดพล่าน แต่มาซูด เปเซชเคียน ประธานาธิบดีสายปฏิรูปของอิหร่าน กลับส่งสัญญาณว่า ต้องการทำข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับใหม่กับอเมริกาเพื่อผ่อนคลายมาตรการแซงก์ชันของนานาชาติ
    .
    คำแถลงที่ใช้ถ้อยคำระมัดระวังของกองทัพอิหร่านที่ออกมาเมื่อคืนวันเสาร์ดูเหมือนเปิดช่องให้อิหร่านถอยออกมาจากการกระทำที่จะกระตุ้นให้สถานการณ์ลุกลาม นอกจากนั้นยังบ่งชี้ว่า การหยุดยิงในฉนวนกาซาและเลบานอนสำคัญกว่าการแก้แค้นอิสราเอล
    .
    อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดและเป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจสูงสุดของอิหร่าน แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการโจมตีของอิสราเอลอย่างระมัดระวังเช่นกัน โดยบอกว่า ไม่ควรขยายความให้กลายเป็นเรื่องใหญ่เกินจริงหรือทำให้ดูเหมือนเป็นเหตุการณ์ที่ไม่สำคัญ รวมทั้งไม่ได้เรียกร้องให้ตอบโต้ทางทหารทันที
    .
    นักวิเคราะห์ยังมองว่า การที่อิสราเอลจำกัดเป้าหมายการโจมตีที่กองร้อยขีปนาวุธต่อต้านการโจมตีทางอากาศและโรงงานผลิตขีปนาวุธ ทำให้ระบบป้องกันภัยทางอากาศของอิหร่านมีช่องโหว่มากขึ้นและเปิดทางให้อิสราเอลโจมตีได้ง่ายขึ้น
    .
    ขณะเดียวกัน อาลี เวซ ผู้อำนวยการโครงการอิหร่านของอินเตอร์เนชันแนล ไครซิส กรุ๊ป ระบุว่า ความพยายามในการตอบโต้ของอิหร่านจะถูกจำกัดจากข้อเท็จจริงที่ว่า กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญที่สุดของอิหร่านในการต่อสู้กับอิสราเอลได้รับความเสียหายอย่างหนัก ขณะที่ระบบอาวุธตามแบบส่วนใหญ่ถูกตอบโต้กลับเป็นสองเท่า และเขาคิดว่า ตอนนี้อิหร่านจะยังไม่ตอบโต้ด้วยกำลัง
    .
    ผู้เชี่ยวชาญในตะวันออกกลางบางคน อาทิ โยเอล กูแซนสกี้ ที่เคยทำงานให้สภาความมั่นคงแห่งชาติอิสราเอลและปัจจุบันเป็นนักวิจัยของสถาบันศึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติในเทลอาวีฟ บอกว่า การที่อิสราเอลตัดสินใจโฟกัสเป้าหมายทางทหารอย่างเดียวมีจุดประสงค์เพื่อให้อิหร่าน “รักษาหน้า” และละเว้นจากการทำให้สถานการณ์ลุกลามได้ง่ายขึ้น
    .
    อย่างไรก็ดี กูแซนสกีสำทับว่า เป้าหมายการโจมตีของอิสราเอลส่วนหนึ่งอาจสะท้อนแสนยานุภาพของกองทัพยิวที่ไม่สามารถทำลายโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านได้ตามลำพัง แต่ต้องพึ่งความช่วยเหลือจากอเมริกา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอิสราเอลสามารถยกระดับการโจมตีหากอิหร่านตอบโต้ เนื่องจากองค์ประกอบหลายอย่างในระบบป้องกันภัยทางอากาศของอิหร่านถูกทำลายไปแล้ว
    .
    แม้ยังไม่อาจสรุปได้ว่า อิหร่านจะแก้เกมอิสราเอลอย่างไร แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือ สถานการณ์ในตะวันออกกลางตอนนี้เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
    .
    ช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา บรรดาผู้นำและนักยุทธศาสตร์ในภูมิภาคนี้ต่างคาดเดาว่า วันหนึ่งอิสราเอลจะเปิดฉากโจมตีอิหร่านโดยตรงหรือไม่และอย่างไร รวมทั้งสงสัยว่า ถ้าอิหร่านเป็นฝ่ายโจมตีอิสราเอลโดยตรงจะออกมาแบบไหน
    .
    แต่ในสถานการณ์จริงวันนี้ เวซชี้ว่า ดูเหมือนทั้งสองฝ่ายยังไม่มีแผนการชัดเจน รวมทั้งอาวุธที่ใช้โจมตีและระบบป้องกันห่างชั้นกันมาก และสำทับว่า ขณะที่ทั้งอิสราเอลและอิหร่านกำลังเปรียบเทียบและคำนวณว่า การดำเนินการของตนจะทำให้สถานการณ์ลุกลามรวดเร็วเพียงใดนั้น ทั้งสองฝ่ายต่างเผชิญสถานการณ์ที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่เส้นแดงใหม่ดูลางเลือน และเส้นแดงเก่าเจือจางกลายเป็นสีชมพู
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000103969
    ..............
    Sondhi X
    นักวิเคราะห์คาดอิหร่านไม่ผลีผลามตอบโต้ เนื่องจากอาจกลายเป็นการเผยให้เห็นจุดอ่อนของตัวเองและกระตุ้นให้กองทัพยิวล้างแค้นรุนแรงยิ่งขึ้น ขณะที่อิสราเอลเองก็ไม่อยากให้สถานการณ์ลุกลามจึงล็อกเป้าโจมตีจำกัด เพื่อให้เตหะรานสามารถรักษาหน้าและละเว้นการตอบโต้ทางทหารได้ง่ายขึ้น . จากระดับความรุนแรงของการโจมตีของอิสราเอลเมื่อวันเสาร์ (25 ต.ค.) เหล่าผู้สังเกตการณ์ในแวดวงภูมิรัฐศาสตร์ตะวันออกกลางมองว่า แนวโน้มการตอบโต้ที่เป็นไปได้ของอิหร่านคือ การรัวขีปนาวุธอีกชุดใหญ่ซึ่งจะถือเป็นชุดที่ 3 สำหรับปีนี้ . การตอบโต้ทางทหารจะเปิดโอกาสให้ผู้นำในเตหะรานได้โชว์ความแข็งแกร่งไม่เฉพาะกับพลเมืองของตนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงกลุ่มฮามาสในกาซาและฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนที่กำลังรบพุ่งกับอิสราเอล และเป็นกองหน้าในอักษะการต่อต้านของอิหร่าน . ทว่า ยังเร็วเกินไปที่จะระบุว่า ผู้นำอิหร่านจะเลือกวิธีดังกล่าว และนักวิเคราะห์บางคนมองว่า เตหะรานอาจยังไม่ตอบโต้ด้วยกำลังในขณะนี้ เนื่องจากจะกลายเป็นการเปิดเผยจุดอ่อนของตัวเองและกระตุ้นให้อิสราเอลล้างแค้นรุนแรงยิ่งขึ้น . ซานัม วาคิล ผู้อำนวยการโปรแกรมตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือของกลุ่มคลังสมอง ชัทแธมเฮาส์ ในลอนดอน ชี้ว่า อิหร่านจะทำให้ดูเหมือนการโจมตีของอิสราเอลส่งผลกระทบน้อยมาก ทั้งที่ในความเป็นจริงรุนแรงมาก เนื่องจากอิหร่านถูกจำกัดทั้งทางทหารและการเมือง รวมถึงความไม่แน่นอนจากผลการเลือกตั้งในอเมริกาและผลกระทบที่จะมีต่อนโยบายตะวันออกกลาง . เอพีรายงานว่า แม้สงครามตะวันออกกลางกำลังเดือดพล่าน แต่มาซูด เปเซชเคียน ประธานาธิบดีสายปฏิรูปของอิหร่าน กลับส่งสัญญาณว่า ต้องการทำข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับใหม่กับอเมริกาเพื่อผ่อนคลายมาตรการแซงก์ชันของนานาชาติ . คำแถลงที่ใช้ถ้อยคำระมัดระวังของกองทัพอิหร่านที่ออกมาเมื่อคืนวันเสาร์ดูเหมือนเปิดช่องให้อิหร่านถอยออกมาจากการกระทำที่จะกระตุ้นให้สถานการณ์ลุกลาม นอกจากนั้นยังบ่งชี้ว่า การหยุดยิงในฉนวนกาซาและเลบานอนสำคัญกว่าการแก้แค้นอิสราเอล . อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดและเป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจสูงสุดของอิหร่าน แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการโจมตีของอิสราเอลอย่างระมัดระวังเช่นกัน โดยบอกว่า ไม่ควรขยายความให้กลายเป็นเรื่องใหญ่เกินจริงหรือทำให้ดูเหมือนเป็นเหตุการณ์ที่ไม่สำคัญ รวมทั้งไม่ได้เรียกร้องให้ตอบโต้ทางทหารทันที . นักวิเคราะห์ยังมองว่า การที่อิสราเอลจำกัดเป้าหมายการโจมตีที่กองร้อยขีปนาวุธต่อต้านการโจมตีทางอากาศและโรงงานผลิตขีปนาวุธ ทำให้ระบบป้องกันภัยทางอากาศของอิหร่านมีช่องโหว่มากขึ้นและเปิดทางให้อิสราเอลโจมตีได้ง่ายขึ้น . ขณะเดียวกัน อาลี เวซ ผู้อำนวยการโครงการอิหร่านของอินเตอร์เนชันแนล ไครซิส กรุ๊ป ระบุว่า ความพยายามในการตอบโต้ของอิหร่านจะถูกจำกัดจากข้อเท็จจริงที่ว่า กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญที่สุดของอิหร่านในการต่อสู้กับอิสราเอลได้รับความเสียหายอย่างหนัก ขณะที่ระบบอาวุธตามแบบส่วนใหญ่ถูกตอบโต้กลับเป็นสองเท่า และเขาคิดว่า ตอนนี้อิหร่านจะยังไม่ตอบโต้ด้วยกำลัง . ผู้เชี่ยวชาญในตะวันออกกลางบางคน อาทิ โยเอล กูแซนสกี้ ที่เคยทำงานให้สภาความมั่นคงแห่งชาติอิสราเอลและปัจจุบันเป็นนักวิจัยของสถาบันศึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติในเทลอาวีฟ บอกว่า การที่อิสราเอลตัดสินใจโฟกัสเป้าหมายทางทหารอย่างเดียวมีจุดประสงค์เพื่อให้อิหร่าน “รักษาหน้า” และละเว้นจากการทำให้สถานการณ์ลุกลามได้ง่ายขึ้น . อย่างไรก็ดี กูแซนสกีสำทับว่า เป้าหมายการโจมตีของอิสราเอลส่วนหนึ่งอาจสะท้อนแสนยานุภาพของกองทัพยิวที่ไม่สามารถทำลายโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านได้ตามลำพัง แต่ต้องพึ่งความช่วยเหลือจากอเมริกา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอิสราเอลสามารถยกระดับการโจมตีหากอิหร่านตอบโต้ เนื่องจากองค์ประกอบหลายอย่างในระบบป้องกันภัยทางอากาศของอิหร่านถูกทำลายไปแล้ว . แม้ยังไม่อาจสรุปได้ว่า อิหร่านจะแก้เกมอิสราเอลอย่างไร แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือ สถานการณ์ในตะวันออกกลางตอนนี้เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน . ช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา บรรดาผู้นำและนักยุทธศาสตร์ในภูมิภาคนี้ต่างคาดเดาว่า วันหนึ่งอิสราเอลจะเปิดฉากโจมตีอิหร่านโดยตรงหรือไม่และอย่างไร รวมทั้งสงสัยว่า ถ้าอิหร่านเป็นฝ่ายโจมตีอิสราเอลโดยตรงจะออกมาแบบไหน . แต่ในสถานการณ์จริงวันนี้ เวซชี้ว่า ดูเหมือนทั้งสองฝ่ายยังไม่มีแผนการชัดเจน รวมทั้งอาวุธที่ใช้โจมตีและระบบป้องกันห่างชั้นกันมาก และสำทับว่า ขณะที่ทั้งอิสราเอลและอิหร่านกำลังเปรียบเทียบและคำนวณว่า การดำเนินการของตนจะทำให้สถานการณ์ลุกลามรวดเร็วเพียงใดนั้น ทั้งสองฝ่ายต่างเผชิญสถานการณ์ที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่เส้นแดงใหม่ดูลางเลือน และเส้นแดงเก่าเจือจางกลายเป็นสีชมพู . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000103969 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1228 มุมมอง 0 รีวิว
  • "อัจฉริยะ !"

    สำหรับตัวผมแล้ว ถ้าพูดถึงนักเขียนญี่ปุ่นที่เป็นปรมาจารย์ด้านการเล่าเรื่อง และการบรรยายที่สร้างบรรยากาศที่หลอน ๆ สั่นประสาท ความดำมืดและวิปริตของจิตใจของตัวฆาตกรร้าย รวมถึงความรู้สึกเย็บวาบ ขนลุกซู่เมื่ออ่านไปเรื่อย ๆ ที่มีความโดดเด่นแล้ว ชื่อที่นึกถึงเป็นอันดับแรกเลยคือ เอโดะงะวะ รัมโปะ ตามมาด้วย โยโคมิโซะ เซชิ

    #ลายนิ้วมือปีศาจ คืออีกหนึ่งผลงานที่ยืนยันข้อความข้างต้น

    สนพ.เจคลาส
    ผู้เขียน เอโดะงาวะ รัมโปะ
    ผู้แปล ทินภาส พาหะนิชย์
    พิมพ์ เม.ย.2561
    230 บาท 226 หน้า

    เมื่อเกิดคดีฆาตกรรมไม่คาดฝันขึ้น โดยเหยื่อรายแรกเป็นผู้ช่วยงานของนักสืบเอกชนผู้มีชื่อเสียงนามว่า ดร.มุนะกะตะ ซึ่งมีความสามารถและเชี่ยวชาญทางด้านนิติวิทยาศาสตร์ ชื่อเสียงควบคู่มากับยอดนักสืบเอกอะเกะชิ โคะโงะโร เรื่องราวจึงไม่ธรรมดา แต่เป็นคดีที่มีความยอกย้อนซ่อนเงื่อน และคนร้ายมีวิธีการที่น่ากลัวกว่าฆาตกรทั่วไปอย่างเทียบไม่ได้

    เนื่องจาก นักสืบอะเกะชิที่เป็นเพื่อนและรู้จักกับสารวัตรนะกะมุระแห่งกรมตำรวจนครบาลโตเกียวไม่ว่าง ติดภารกิจที่ต่างแดน จึงเป็นหน้าที่ของ ดร.มุนะกะตะ ที่ต้องออกโรง ทั้งเพื่อล้างอายตนเองที่ไม่สามารถช่วยลูกน้องได้ และเพื่อชื่อเสียงในฐานะนักสืบของตนไม่ให้มัวหมอง เขาจึงเริ่มตามสืบหาตัวคนร้าย ที่ส่งข้อความมาถึง เศรษฐีนักธุรกิจผู้หนึ่งที่มีกิจการค้าของตนเองนาม คะวะเตะ โชตะโร ระบุชัดว่ามีเป้าหมายเพื่อต้องการฆ่าล้างแค้นคนในครอบครัวของเขาทั้งหมด 3 ชีวิต คือตัวคะวะเตะ และลูกสาวอีกสองคนที่เติบโตเป็นสาวสวยแล้ว โดยเขาก็นึกไม่ออกว่าได้สร้างความโกรธแค้นให้เกิดแก่ใครจนถึงขั้นจ้องจะทำลายล้างตระกูลให้ไม่เหลือสักคนเดียว

    แม้นว่า ดร.มุนะกะตะ จะได้หลักฐานสำคัญที่พบจากซองเอกสารที่ผู้ช่วยชายพยายามจะส่งให้ถึงมือเขา ก่อนจะถูกวางยาพิษเสียชีวิต เป็นรอยนิ้วมือที่คาดว่าน่าจะเป็นของผู้ที่กำลังวางแผนฆ่าครอบครัวคะวะเตะ เป็นรอยนิ้วประหลาดน่าขนลุกที่มีลักษณะคล้ายก้นหอย3วง จึงพยายามตามสืบจากเบาะแสดังกล่าว โดยมอบหมายให้ผู้ช่วยชายอีกคนไปดำเนินการ ไม่นานต่อมาลูกสาวทั้งสองของผู้ว่าจ้างกลับพบชะตากรรมดำมืด กลายเป็นเหยื่อถูกฆ่าตายไปทีละคนอย่างน่าพิศวง ทั้งที่มีตำรวจจำนวนมาก และนักสืบคอยเฝ้ายามรักษาความปลอดภัยให้อย่างรัดกุมแน่นหนา

    นี่..ไม่น่าเป็นไปได้ ฆาตกรทำอย่างไร จึงสามารถราวกับภูติผีปีศาจ แถมยังหยามน้ำหน้านักสืบด้วยการทิ้งรอยนิ้วมือที่มีก้นหอย3วงเอาไว้ในหลายวาระ ดร.มุนะกะตะเหมือนถูกคนร้ายนำหน้าหนึ่งก้าวเสมอ สถานการณ์เลวร้ายลง คะวะตะเองนั้นทั้งเศร้าเสียใจและตื่นกลัวอย่างมาก ความแค้นใดในอดีต ที่ฝังแน่นในจิตใจของฆาตกร จนถึงขั้นวางแผนเพื่อจะกำจัดตระกูลของเขาให้สิ้นซาก หลังฆ่าเหยื่อแล้วยังจัดแสดงศพเพื่อหวังให้สาธารณะพบเห็นเป็นการประจานอย่างอำมหิต แต่ในที่สุดฆาตกรก็ไม่อาจรอดพ้นฝีมือในการสืบสวนและแกะรอยของดร.มุนะกะตะ จนสามารถปิดคดีลงได้ แม้จะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีกถึง 3 รายก็ตาม

    แต่เรื่องราวกลับไม่จบลงง่ายดายเพียงนั้น หลังจากนักสืบอะเกะชิเสร็จจากภารกิจกลับมา และได้รับทราบเรื่องราวทั้งหมดจากคำบอกเล่าของสารวัตรนะกะมุระ เขาจึงเริ่มดำเนินการสืบสวนในแบบฉบับของตนอย่างลับ ๆ และได้ข้อสรุปที่มีมุมมองต่อคดีนี้แตกต่างไปจากของตำรวจและ ดร.มุนะกะตะโดยสิ้นเชิง อาเกะชิเชื่อว่าคดียังไม่จบ คนร้ายตัวจริงยังลอยนวล แล้วที่แท้ได้เกิดอะไรขึ้นกับเหยื่อทั้งหมดที่สูญเสียไปกันแน่ ตกลงความจริงคือ..ใครกันที่สืบสวนผิดพลาดระหว่าง ดร.มุนะกะตะ กับอาเกะชิ

    นี่คืออีกหนึ่งสุดยอดของความร้ายกาจ กับความจงเกลียดจงชังเข้าขั้นหมกมุ่น และอาฆาตพยาบาทรุนแรงที่สุดคดีหนึ่งเท่าที่ผมเคยได้อ่านมา

    🖋หลังอ่านจบ

    โคตรน่าทึ่ง...คงต้องใช้คำนี้ ไม่นึกว่าผู้เขียนจะบรรจงสร้างโครงเรื่องที่ดูเหมือนเป็นการฆ่าล้างแค้นที่พบได้ในนิยายแนวสืบสวนฆาตกรรมทั่วไป ให้มีความแตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์ และชั้นเชิงลูกเล่นเทคนิกแพรวพรายได้ขนาดนี้ ดูเหมือนคนร้ายแทบจะไม่ได้ใช้หรืออาศัยความรู้เฉพาะทางพิเศษใดในวิธีการลงมือฆ่าเหยื่อ เพียงอาศัยเรื่องที่ดูธรรมดาสามัญที่สุด มาสร้างขึ้นเป็นกำดักทางจิตใจ หลอกทั้งตัวละครนักสืบในเรื่องและหลอกคนอ่านได้อย่างแนบเนียน แม้นจะมีวางจุดสังเกตที่ชวนให้คิดด้วยความน่าฉงนตามรายทางเป็นระยะ ซึ่งหากใคร่ครวญอย่างถี่ถ้วนดี ๆ อาจพอจะเริ่มจับจุดและสังเกตเห็นบางอย่าง แต่ถ้าอ่านแบบขี้เกียจคิดให้วุ่นวาย แค่ตามเรื่องราวไปเรื่อย ๆ พอถึงช่วงเฉลยจะส่งผลให้ชวนอัศจรรย์ใจเพิ่มขึ้น ในส่วนของการดำเนินเรื่องตั้งแต่เริ่มต้นจนตลอดทางถึงตอนจบ ไม่มีความน่าเบื่อปรากฏให้เห็น มีแต่สร้างความรู้สึกอยากรู้ ชวนลุ้น เอาใจช่วยให้เหยื่อรอดพ้น และนักสืบจับคนร้ายได้โดยไว ขณะเดียวกันก็อดไม่ได้ที่จะสยิวไปกับบรรยากาศแห่งความไม่น่าไว้ใจ ปริศนาที่ราวกับลูกเล่นหรือมายากลของปีศาจฆาตกร ความโรคจิตขั้นรุนแรงชวนสะอิดสะเอียนที่เลือดเย็น ปนเปกับความรู้สึกอกสั่นขวัญบิน เมื่อนึกถึงแผนการอันชั่วร้ายที่ถูกวางแผนมาอย่างยาวนานหลายสิบปี ตอนนี้ดีที่ไม่ยาวมาก เรียกว่าเนื้อหากำลังเหมาะ

    เอโดะงาวะมีความสามารถในการสร้างปมตัวร้ายที่น่าเศร้าระคนน่ารังเกียจ ไปจนถึงขั้นน่าเกลียดได้อย่างถึงแก่น ราวกับว่าเขาสามารถมองทะลุเห็นถึงสิ่งที่ซุกซ่อนอยู่ภายในของบุคคลธรรมดา ที่ภายนอกดูไม่เหมือนจะเป็นคนร้ายได้เลยนำมาใช้เป็นวัตถุดิบชั้นดี แต่ทั้งอย่างนั้นชีวิตเบื้องหลังที่ถูกแต่งแต้มขึ้นก็ช่างสมจริง จนทำให้รู้สึกสงสารในชะตากรรมรันทดของผู้ก่ออาชญากรรมด้วยเช่นกัน เมื่อบวกกับสไตล์ที่เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร ในการเล่าเรื่องเสมือนประหนึ่งตัวเองกำลังนั่งชวนคุยกับคนอ่านในวงล้อมรอบกองไฟยามดึกสงัด และรู้จักการหยอดถ้อยคำบางช่วงตอนที่ยิ่งสร้างอารมณ์ให้คนที่กำลังติดตามเรื่องเล่าของเขาอย่างจดจ่อ เกิดความตื่นเต้นตึงเตรียดไปด้วยแล้ว ก็ยิ่งเป็นความน่าหลงใหลอันชวนให้ไม่อยากลุกไปไหนหรือทำอิริยาบถใดอื่น นอกจากฟังสิ่งที่เขาเล่าต่อจนจบเรื่อง ใจที่เขม็งเกลียวจนแน่นจึงคลายออกและปลอดโปร่งในที่สุด เรื่องนี้ก็เป็นเช่นที่ว่ามานี้ แม้นถูกเขียนมานานกว่า 80 ปี แต่อ่านในยุคปัจจุบันยังคงได้อรรถรส สาระความบันเทิงไม่ด้อยกว่าเรื่องที่แต่งโดยนักเขียนรุ่นใหม่ยุคหลังเลย

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    และอะเกะชิเองก็สมกับความเป็นยอดนักสืบเอกโดยแท้ บุคลิกที่ดูน่าเกรงขามในยามที่ต้องแสดงออกถึงอำนาจให้คนอื่นเห็น แต่ก็ขี้เล่น หัวเราะง่ายยิ้มง่าย ช่วยทำให้ผู้ฟังผ่อนคลาย อีกทั้งวาทศิลป์ในการเลือกใช้คำพูดให้เข้ากับสถานการณ์ก็ยอดเยี่ยม ประกอบกับไหวพริบความช่างสังเกตในการแยกแยะและประมวลผลข้อมูล เห็นถึงจุดอื่นที่คนทั้งหลายไม่ทันเห็นหรือมองข้ามไป ล้วนเป็นคุณสมบัติและภาพลักษณ์ที่น่าจดจำ แม้นจะปรากฏตัวมาในช่วงท้ายใกล้จบ แต่มีบทบาทสำคัญยิ่งที่ส่งผลต่อการพลิกโฉมของคดีนี้ที่สุด

    สำหรับใครที่ยังไม่เคยอ่านงานของรัมโปะมาก่อนเลย เริ่มต้นด้วย "ลายนิ้วมือปีศาจ" ก็ไม่เลวครับ

    ป.ล. พบความผิดพลาดในการพิมพ์หนึ่งจุด

    #thaitimes
    #เอโดะงาวะรัมโปะ
    #ฆาตกรรม
    #สืบสวน
    #นิยายแปล
    #นิยายญี่ปุ่น
    #หนังสือน่าอ่าน
    #ล้างแค้น
    #นักสืบ
    #รีวิวหนังสือ
    #วิจารณ์หนังสือ
    "อัจฉริยะ !" สำหรับตัวผมแล้ว ถ้าพูดถึงนักเขียนญี่ปุ่นที่เป็นปรมาจารย์ด้านการเล่าเรื่อง และการบรรยายที่สร้างบรรยากาศที่หลอน ๆ สั่นประสาท ความดำมืดและวิปริตของจิตใจของตัวฆาตกรร้าย รวมถึงความรู้สึกเย็บวาบ ขนลุกซู่เมื่ออ่านไปเรื่อย ๆ ที่มีความโดดเด่นแล้ว ชื่อที่นึกถึงเป็นอันดับแรกเลยคือ เอโดะงะวะ รัมโปะ ตามมาด้วย โยโคมิโซะ เซชิ #ลายนิ้วมือปีศาจ คืออีกหนึ่งผลงานที่ยืนยันข้อความข้างต้น สนพ.เจคลาส ผู้เขียน เอโดะงาวะ รัมโปะ ผู้แปล ทินภาส พาหะนิชย์ พิมพ์ เม.ย.2561 230 บาท 226 หน้า เมื่อเกิดคดีฆาตกรรมไม่คาดฝันขึ้น โดยเหยื่อรายแรกเป็นผู้ช่วยงานของนักสืบเอกชนผู้มีชื่อเสียงนามว่า ดร.มุนะกะตะ ซึ่งมีความสามารถและเชี่ยวชาญทางด้านนิติวิทยาศาสตร์ ชื่อเสียงควบคู่มากับยอดนักสืบเอกอะเกะชิ โคะโงะโร เรื่องราวจึงไม่ธรรมดา แต่เป็นคดีที่มีความยอกย้อนซ่อนเงื่อน และคนร้ายมีวิธีการที่น่ากลัวกว่าฆาตกรทั่วไปอย่างเทียบไม่ได้ เนื่องจาก นักสืบอะเกะชิที่เป็นเพื่อนและรู้จักกับสารวัตรนะกะมุระแห่งกรมตำรวจนครบาลโตเกียวไม่ว่าง ติดภารกิจที่ต่างแดน จึงเป็นหน้าที่ของ ดร.มุนะกะตะ ที่ต้องออกโรง ทั้งเพื่อล้างอายตนเองที่ไม่สามารถช่วยลูกน้องได้ และเพื่อชื่อเสียงในฐานะนักสืบของตนไม่ให้มัวหมอง เขาจึงเริ่มตามสืบหาตัวคนร้าย ที่ส่งข้อความมาถึง เศรษฐีนักธุรกิจผู้หนึ่งที่มีกิจการค้าของตนเองนาม คะวะเตะ โชตะโร ระบุชัดว่ามีเป้าหมายเพื่อต้องการฆ่าล้างแค้นคนในครอบครัวของเขาทั้งหมด 3 ชีวิต คือตัวคะวะเตะ และลูกสาวอีกสองคนที่เติบโตเป็นสาวสวยแล้ว โดยเขาก็นึกไม่ออกว่าได้สร้างความโกรธแค้นให้เกิดแก่ใครจนถึงขั้นจ้องจะทำลายล้างตระกูลให้ไม่เหลือสักคนเดียว แม้นว่า ดร.มุนะกะตะ จะได้หลักฐานสำคัญที่พบจากซองเอกสารที่ผู้ช่วยชายพยายามจะส่งให้ถึงมือเขา ก่อนจะถูกวางยาพิษเสียชีวิต เป็นรอยนิ้วมือที่คาดว่าน่าจะเป็นของผู้ที่กำลังวางแผนฆ่าครอบครัวคะวะเตะ เป็นรอยนิ้วประหลาดน่าขนลุกที่มีลักษณะคล้ายก้นหอย3วง จึงพยายามตามสืบจากเบาะแสดังกล่าว โดยมอบหมายให้ผู้ช่วยชายอีกคนไปดำเนินการ ไม่นานต่อมาลูกสาวทั้งสองของผู้ว่าจ้างกลับพบชะตากรรมดำมืด กลายเป็นเหยื่อถูกฆ่าตายไปทีละคนอย่างน่าพิศวง ทั้งที่มีตำรวจจำนวนมาก และนักสืบคอยเฝ้ายามรักษาความปลอดภัยให้อย่างรัดกุมแน่นหนา นี่..ไม่น่าเป็นไปได้ ฆาตกรทำอย่างไร จึงสามารถราวกับภูติผีปีศาจ แถมยังหยามน้ำหน้านักสืบด้วยการทิ้งรอยนิ้วมือที่มีก้นหอย3วงเอาไว้ในหลายวาระ ดร.มุนะกะตะเหมือนถูกคนร้ายนำหน้าหนึ่งก้าวเสมอ สถานการณ์เลวร้ายลง คะวะตะเองนั้นทั้งเศร้าเสียใจและตื่นกลัวอย่างมาก ความแค้นใดในอดีต ที่ฝังแน่นในจิตใจของฆาตกร จนถึงขั้นวางแผนเพื่อจะกำจัดตระกูลของเขาให้สิ้นซาก หลังฆ่าเหยื่อแล้วยังจัดแสดงศพเพื่อหวังให้สาธารณะพบเห็นเป็นการประจานอย่างอำมหิต แต่ในที่สุดฆาตกรก็ไม่อาจรอดพ้นฝีมือในการสืบสวนและแกะรอยของดร.มุนะกะตะ จนสามารถปิดคดีลงได้ แม้จะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีกถึง 3 รายก็ตาม แต่เรื่องราวกลับไม่จบลงง่ายดายเพียงนั้น หลังจากนักสืบอะเกะชิเสร็จจากภารกิจกลับมา และได้รับทราบเรื่องราวทั้งหมดจากคำบอกเล่าของสารวัตรนะกะมุระ เขาจึงเริ่มดำเนินการสืบสวนในแบบฉบับของตนอย่างลับ ๆ และได้ข้อสรุปที่มีมุมมองต่อคดีนี้แตกต่างไปจากของตำรวจและ ดร.มุนะกะตะโดยสิ้นเชิง อาเกะชิเชื่อว่าคดียังไม่จบ คนร้ายตัวจริงยังลอยนวล แล้วที่แท้ได้เกิดอะไรขึ้นกับเหยื่อทั้งหมดที่สูญเสียไปกันแน่ ตกลงความจริงคือ..ใครกันที่สืบสวนผิดพลาดระหว่าง ดร.มุนะกะตะ กับอาเกะชิ นี่คืออีกหนึ่งสุดยอดของความร้ายกาจ กับความจงเกลียดจงชังเข้าขั้นหมกมุ่น และอาฆาตพยาบาทรุนแรงที่สุดคดีหนึ่งเท่าที่ผมเคยได้อ่านมา 🖋หลังอ่านจบ โคตรน่าทึ่ง...คงต้องใช้คำนี้ ไม่นึกว่าผู้เขียนจะบรรจงสร้างโครงเรื่องที่ดูเหมือนเป็นการฆ่าล้างแค้นที่พบได้ในนิยายแนวสืบสวนฆาตกรรมทั่วไป ให้มีความแตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์ และชั้นเชิงลูกเล่นเทคนิกแพรวพรายได้ขนาดนี้ ดูเหมือนคนร้ายแทบจะไม่ได้ใช้หรืออาศัยความรู้เฉพาะทางพิเศษใดในวิธีการลงมือฆ่าเหยื่อ เพียงอาศัยเรื่องที่ดูธรรมดาสามัญที่สุด มาสร้างขึ้นเป็นกำดักทางจิตใจ หลอกทั้งตัวละครนักสืบในเรื่องและหลอกคนอ่านได้อย่างแนบเนียน แม้นจะมีวางจุดสังเกตที่ชวนให้คิดด้วยความน่าฉงนตามรายทางเป็นระยะ ซึ่งหากใคร่ครวญอย่างถี่ถ้วนดี ๆ อาจพอจะเริ่มจับจุดและสังเกตเห็นบางอย่าง แต่ถ้าอ่านแบบขี้เกียจคิดให้วุ่นวาย แค่ตามเรื่องราวไปเรื่อย ๆ พอถึงช่วงเฉลยจะส่งผลให้ชวนอัศจรรย์ใจเพิ่มขึ้น ในส่วนของการดำเนินเรื่องตั้งแต่เริ่มต้นจนตลอดทางถึงตอนจบ ไม่มีความน่าเบื่อปรากฏให้เห็น มีแต่สร้างความรู้สึกอยากรู้ ชวนลุ้น เอาใจช่วยให้เหยื่อรอดพ้น และนักสืบจับคนร้ายได้โดยไว ขณะเดียวกันก็อดไม่ได้ที่จะสยิวไปกับบรรยากาศแห่งความไม่น่าไว้ใจ ปริศนาที่ราวกับลูกเล่นหรือมายากลของปีศาจฆาตกร ความโรคจิตขั้นรุนแรงชวนสะอิดสะเอียนที่เลือดเย็น ปนเปกับความรู้สึกอกสั่นขวัญบิน เมื่อนึกถึงแผนการอันชั่วร้ายที่ถูกวางแผนมาอย่างยาวนานหลายสิบปี ตอนนี้ดีที่ไม่ยาวมาก เรียกว่าเนื้อหากำลังเหมาะ เอโดะงาวะมีความสามารถในการสร้างปมตัวร้ายที่น่าเศร้าระคนน่ารังเกียจ ไปจนถึงขั้นน่าเกลียดได้อย่างถึงแก่น ราวกับว่าเขาสามารถมองทะลุเห็นถึงสิ่งที่ซุกซ่อนอยู่ภายในของบุคคลธรรมดา ที่ภายนอกดูไม่เหมือนจะเป็นคนร้ายได้เลยนำมาใช้เป็นวัตถุดิบชั้นดี แต่ทั้งอย่างนั้นชีวิตเบื้องหลังที่ถูกแต่งแต้มขึ้นก็ช่างสมจริง จนทำให้รู้สึกสงสารในชะตากรรมรันทดของผู้ก่ออาชญากรรมด้วยเช่นกัน เมื่อบวกกับสไตล์ที่เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร ในการเล่าเรื่องเสมือนประหนึ่งตัวเองกำลังนั่งชวนคุยกับคนอ่านในวงล้อมรอบกองไฟยามดึกสงัด และรู้จักการหยอดถ้อยคำบางช่วงตอนที่ยิ่งสร้างอารมณ์ให้คนที่กำลังติดตามเรื่องเล่าของเขาอย่างจดจ่อ เกิดความตื่นเต้นตึงเตรียดไปด้วยแล้ว ก็ยิ่งเป็นความน่าหลงใหลอันชวนให้ไม่อยากลุกไปไหนหรือทำอิริยาบถใดอื่น นอกจากฟังสิ่งที่เขาเล่าต่อจนจบเรื่อง ใจที่เขม็งเกลียวจนแน่นจึงคลายออกและปลอดโปร่งในที่สุด เรื่องนี้ก็เป็นเช่นที่ว่ามานี้ แม้นถูกเขียนมานานกว่า 80 ปี แต่อ่านในยุคปัจจุบันยังคงได้อรรถรส สาระความบันเทิงไม่ด้อยกว่าเรื่องที่แต่งโดยนักเขียนรุ่นใหม่ยุคหลังเลย . . . . . . . . . . . และอะเกะชิเองก็สมกับความเป็นยอดนักสืบเอกโดยแท้ บุคลิกที่ดูน่าเกรงขามในยามที่ต้องแสดงออกถึงอำนาจให้คนอื่นเห็น แต่ก็ขี้เล่น หัวเราะง่ายยิ้มง่าย ช่วยทำให้ผู้ฟังผ่อนคลาย อีกทั้งวาทศิลป์ในการเลือกใช้คำพูดให้เข้ากับสถานการณ์ก็ยอดเยี่ยม ประกอบกับไหวพริบความช่างสังเกตในการแยกแยะและประมวลผลข้อมูล เห็นถึงจุดอื่นที่คนทั้งหลายไม่ทันเห็นหรือมองข้ามไป ล้วนเป็นคุณสมบัติและภาพลักษณ์ที่น่าจดจำ แม้นจะปรากฏตัวมาในช่วงท้ายใกล้จบ แต่มีบทบาทสำคัญยิ่งที่ส่งผลต่อการพลิกโฉมของคดีนี้ที่สุด สำหรับใครที่ยังไม่เคยอ่านงานของรัมโปะมาก่อนเลย เริ่มต้นด้วย "ลายนิ้วมือปีศาจ" ก็ไม่เลวครับ ป.ล. พบความผิดพลาดในการพิมพ์หนึ่งจุด #thaitimes #เอโดะงาวะรัมโปะ #ฆาตกรรม #สืบสวน #นิยายแปล #นิยายญี่ปุ่น #หนังสือน่าอ่าน #ล้างแค้น #นักสืบ #รีวิวหนังสือ #วิจารณ์หนังสือ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 550 มุมมอง 0 รีวิว
  • 24/10/67

    มีกูรูโลกหลายคน…ออกมาเตือนว่า เริ่มมีลางบอกเหตุ จากทั่วโลก
    ให้เริ่มออมเงิน ออมทรัพย์สิน อย่างจริงจังไว้ใช้ในยามฉุกเฉินได้แล้ว

    กูรูหลายท่าน บอกว่า
    ถ้าท่านไม่รีบตายไปก่อน ให้นับถอยหลังไปในอีกไม่เกิน 2-3 ปี ข้างหน้านี้ จะเกิดวิกฤติเศรษฐกิจโลก ซึ่งจะรุนแรงกว่ายุคต้มยำกุ้ง และ ลามมาถึงไทยแน่นอน คือ

    1. วิกฤตผู้สูงวัย และคนป่วยที่ไม่สามารถช่วยตัวเองได้มีจำนวนมากกว่าคนที่หารายได้

    2. อาหารขาดแคลน เพราะสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ เช่น น้ำ และป่าถูกทำลาย ทำให้อาหารทะเล และอาหารป่า
    เหลือน้อยลง ๆ

    3. หนี้ล้ม เพราะผู้กู้ไม่มีจ่าย เพราะรายได้เดิม ๆ และงานเดิม ๆ ถูก Disrupt คือถูกทำลายล้าง แล้วสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ โดยความคิดใหม่ ทำใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และชีวิตประจำวัน

    4. พลังงานแพง เพราะเหลือน้อย แต่ความต้องการใช้มาก

    5. โลกร้อน เพราะการเผาเชื้อเพลิงจากฟอสซิล ทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจก

    6. คนใช้สมองทำงานตกงาน 44% ของทั่วโลก เพราะ AI ทำงานแทน

    7. ผลพวงกระทบจากสงครามตะวันออกกลาง และสงครามยูเครน

    ทั้ง 7 วิกฤตใหญ่จะเกิดกับทั่วโลก เพราะอยู่บนดิน ใต้ฟ้าเดียวกัน และประชาคมเดียวกัน

    ใครที่มีที่ดิน หากไม่เดือดร้อนทางการเงินมากนัก พยายามถือครองให้นานที่สุด เพราะ ในอนาคตไม่นาน จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอีกมาก

    เชื่อว่า จะเกิดข้าวยากหมากแพง จะเกิดกลียุค จะเกิดทุพพิกภัย จะมีคนไทยอดอยาก​ ลำบากยากจน จำนวนมากมาย จะเกิดโจรภัยชุกชุมทุกหย่อมหญ้า

    อย่าได้ฟุ้งเฟ้อ
    อย่าได้ใช้ของแบรนด์เนม
    อย่าได้โลภ
    อย่าเชื่อคำหลอกลวงของนักการเมือง
    อย่าฝากความหวังในการรับของแจก แดกของฟรี
    อย่าสร้างภาระหนี้สินเพิ่มเกินตัว หากรู้ว่าไม่มีรายได้ มาเสริมเพิ่มให้รอดได้ จะตกอยู่ในกับดักของวิกฤติ ในการล่มสลายทางเศรษฐกิจโลกในครั้งนี้ ท่านจะเดือดร้อนแสนสาหัส

    พวกอวดรวย พวกที่ชอบใช้ของแบรนด์เนม จะถูก จี้ปล้น ถูกฆ่าชิงทรัพย์ ถูกฆ่าข่มขืน ก่อนประชาชนกลุ่มอื่น ๆ ระวังตัวให้จงดี แต่งตัวล่อโจรเข้าไว้ คงได้เจอหายนะแน่ ๆ

    ความมีสติในทุกสถานการณ์ ย่อมผ่อนหนัก เป็นเบาได้ ขอให้คนไทยทุกคน มีสติปัญญาเพิ่มมากขึ้น รู้จักหาหนทางแก้ปัญหาของแต่ละคน แต่ละครอบครัวให้ดี

    เตรียมตัวไว้ล่วงหน้าก่อน ย่อมเป็นผู้ที่อยู่บนความไม่ประมาท คุณจะได้เป็นคนที่
    โชคดีที่สุด ที่รอดพ้นปลอดภัยจากวิกฤติโลกล้มทางเศรษฐกิจในอนาคตอันใกล้ได้

    สงครามล้างหนี้ ของชาติมหาอำนาจ และ ชาติตะวันตก จักเกิดขึ้นแน่ สงครามล้างแค้น ในชาติตะวันออกกลาง กับอิสราเอล จะทวีความรุนแรงมากขึ้นแน่

    ขอให้กัลยาณมิตรทุกท่าน ประคองร่างกาย และ จิตใจ ให้ผ่านพ้นวิกฤติไปได้ด้วยดีเถิดนะคะ
    24/10/67 มีกูรูโลกหลายคน…ออกมาเตือนว่า เริ่มมีลางบอกเหตุ จากทั่วโลก ให้เริ่มออมเงิน ออมทรัพย์สิน อย่างจริงจังไว้ใช้ในยามฉุกเฉินได้แล้ว กูรูหลายท่าน บอกว่า ถ้าท่านไม่รีบตายไปก่อน ให้นับถอยหลังไปในอีกไม่เกิน 2-3 ปี ข้างหน้านี้ จะเกิดวิกฤติเศรษฐกิจโลก ซึ่งจะรุนแรงกว่ายุคต้มยำกุ้ง และ ลามมาถึงไทยแน่นอน คือ 1. วิกฤตผู้สูงวัย และคนป่วยที่ไม่สามารถช่วยตัวเองได้มีจำนวนมากกว่าคนที่หารายได้ 2. อาหารขาดแคลน เพราะสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ เช่น น้ำ และป่าถูกทำลาย ทำให้อาหารทะเล และอาหารป่า เหลือน้อยลง ๆ 3. หนี้ล้ม เพราะผู้กู้ไม่มีจ่าย เพราะรายได้เดิม ๆ และงานเดิม ๆ ถูก Disrupt คือถูกทำลายล้าง แล้วสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ โดยความคิดใหม่ ทำใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และชีวิตประจำวัน 4. พลังงานแพง เพราะเหลือน้อย แต่ความต้องการใช้มาก 5. โลกร้อน เพราะการเผาเชื้อเพลิงจากฟอสซิล ทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจก 6. คนใช้สมองทำงานตกงาน 44% ของทั่วโลก เพราะ AI ทำงานแทน 7. ผลพวงกระทบจากสงครามตะวันออกกลาง และสงครามยูเครน ทั้ง 7 วิกฤตใหญ่จะเกิดกับทั่วโลก เพราะอยู่บนดิน ใต้ฟ้าเดียวกัน และประชาคมเดียวกัน ใครที่มีที่ดิน หากไม่เดือดร้อนทางการเงินมากนัก พยายามถือครองให้นานที่สุด เพราะ ในอนาคตไม่นาน จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอีกมาก เชื่อว่า จะเกิดข้าวยากหมากแพง จะเกิดกลียุค จะเกิดทุพพิกภัย จะมีคนไทยอดอยาก​ ลำบากยากจน จำนวนมากมาย จะเกิดโจรภัยชุกชุมทุกหย่อมหญ้า อย่าได้ฟุ้งเฟ้อ อย่าได้ใช้ของแบรนด์เนม อย่าได้โลภ อย่าเชื่อคำหลอกลวงของนักการเมือง อย่าฝากความหวังในการรับของแจก แดกของฟรี อย่าสร้างภาระหนี้สินเพิ่มเกินตัว หากรู้ว่าไม่มีรายได้ มาเสริมเพิ่มให้รอดได้ จะตกอยู่ในกับดักของวิกฤติ ในการล่มสลายทางเศรษฐกิจโลกในครั้งนี้ ท่านจะเดือดร้อนแสนสาหัส พวกอวดรวย พวกที่ชอบใช้ของแบรนด์เนม จะถูก จี้ปล้น ถูกฆ่าชิงทรัพย์ ถูกฆ่าข่มขืน ก่อนประชาชนกลุ่มอื่น ๆ ระวังตัวให้จงดี แต่งตัวล่อโจรเข้าไว้ คงได้เจอหายนะแน่ ๆ ความมีสติในทุกสถานการณ์ ย่อมผ่อนหนัก เป็นเบาได้ ขอให้คนไทยทุกคน มีสติปัญญาเพิ่มมากขึ้น รู้จักหาหนทางแก้ปัญหาของแต่ละคน แต่ละครอบครัวให้ดี เตรียมตัวไว้ล่วงหน้าก่อน ย่อมเป็นผู้ที่อยู่บนความไม่ประมาท คุณจะได้เป็นคนที่ โชคดีที่สุด ที่รอดพ้นปลอดภัยจากวิกฤติโลกล้มทางเศรษฐกิจในอนาคตอันใกล้ได้ สงครามล้างหนี้ ของชาติมหาอำนาจ และ ชาติตะวันตก จักเกิดขึ้นแน่ สงครามล้างแค้น ในชาติตะวันออกกลาง กับอิสราเอล จะทวีความรุนแรงมากขึ้นแน่ ขอให้กัลยาณมิตรทุกท่าน ประคองร่างกาย และ จิตใจ ให้ผ่านพ้นวิกฤติไปได้ด้วยดีเถิดนะคะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 170 มุมมอง 0 รีวิว

  • กกต.ขีดเส้น 30 วัน ยุบ6พรรคการเมือง เพื่อไทยโวยโดนล้างแค้น
    .
    คดียุบพรรคการเมืองกลับมาเป็นประเด็นทางการเมืองอีกครั้งภายหลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนคำร้องยุบพรรคเพื่อไทยและ6พรรคร่วมรัฐบาลเดิม จากกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยได้ครอบงำพรรคเพื่อไทย
    .
    ทั้งนี้ มีรายงานว่า กระบวนการหลังจากนี้ ทางคณะกรรมการสอบสวนจะต้องตรวจสอบเอกสาร หลักฐานต่างๆ พยานบุคคล ซึ่งอาจจะต้องเชิญผู้ร้องและผู้ถูกร้องมาชี้แจงข้อเท็จจริง โดยจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน แต่หากข้อมูล พยานเอกสาร และหลักฐาน ยังไม่ครบถ้วนที่จะสรุปความเห็นของสำนวนเสนอนายทะเบียนพรรคได้ สามารถยื่นขอขยายระยะเวลาได้อีกครั้ง ครั้งละไม่เกิน 30 วัน จนกว่าจะพิจารณาแล้วเสร็จ
    .
    ขณะที่ มีท่าทีจากเลขาธิการพรรคเพื่อไทยอย่างนายสรวงศ์ เทียนทอง ระบุว่า พรรคมีข้อมูลและหลักฐานเพียงพอที่จะต่อสู้ประเด็นนี้ แต่ในฐานะประชาชนคนหนึ่งอยากให้หน่วยงานต่างๆ คำนึงถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับประเทศชาติ เพราะทุกครั้งที่มีการร้องเรียนและหน่วยงานที่รับผิดชอบรับมาเป็นประเด็น ความเชื่อมั่นของนักลงทุนตลอดจนนักท่องเที่ยวก็จะหายไปทันที
    .
    "ชัดเจนอยู่แล้ว เพราะทุกอย่างประดังเข้ามาหลังจากที่เราประกาศไม่ร่วมงานกับพรรคการเมืองนี้" นายสรวงศ์ ตอบคำถามที่ถามว่ามองว่าเป็นเกมการเมืองหลังจากที่เราผลักพรรคพลังประชารัฐออกจากพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่
    ..............
    Sondhi X
    กกต.ขีดเส้น 30 วัน ยุบ6พรรคการเมือง เพื่อไทยโวยโดนล้างแค้น . คดียุบพรรคการเมืองกลับมาเป็นประเด็นทางการเมืองอีกครั้งภายหลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนคำร้องยุบพรรคเพื่อไทยและ6พรรคร่วมรัฐบาลเดิม จากกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยได้ครอบงำพรรคเพื่อไทย . ทั้งนี้ มีรายงานว่า กระบวนการหลังจากนี้ ทางคณะกรรมการสอบสวนจะต้องตรวจสอบเอกสาร หลักฐานต่างๆ พยานบุคคล ซึ่งอาจจะต้องเชิญผู้ร้องและผู้ถูกร้องมาชี้แจงข้อเท็จจริง โดยจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน แต่หากข้อมูล พยานเอกสาร และหลักฐาน ยังไม่ครบถ้วนที่จะสรุปความเห็นของสำนวนเสนอนายทะเบียนพรรคได้ สามารถยื่นขอขยายระยะเวลาได้อีกครั้ง ครั้งละไม่เกิน 30 วัน จนกว่าจะพิจารณาแล้วเสร็จ . ขณะที่ มีท่าทีจากเลขาธิการพรรคเพื่อไทยอย่างนายสรวงศ์ เทียนทอง ระบุว่า พรรคมีข้อมูลและหลักฐานเพียงพอที่จะต่อสู้ประเด็นนี้ แต่ในฐานะประชาชนคนหนึ่งอยากให้หน่วยงานต่างๆ คำนึงถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับประเทศชาติ เพราะทุกครั้งที่มีการร้องเรียนและหน่วยงานที่รับผิดชอบรับมาเป็นประเด็น ความเชื่อมั่นของนักลงทุนตลอดจนนักท่องเที่ยวก็จะหายไปทันที . "ชัดเจนอยู่แล้ว เพราะทุกอย่างประดังเข้ามาหลังจากที่เราประกาศไม่ร่วมงานกับพรรคการเมืองนี้" นายสรวงศ์ ตอบคำถามที่ถามว่ามองว่าเป็นเกมการเมืองหลังจากที่เราผลักพรรคพลังประชารัฐออกจากพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ .............. Sondhi X
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 750 มุมมอง 0 รีวิว
  • เผยในรอบหนึ่งปีที่ผ่านมา อเมริกาอัดฉีดความช่วยเหลือทางทหารให้อิสราเอล ซึ่งกำลังทำสงครามหฤโหดในฉนวนกาซา และเวลานี้ขยายวงสู่เลบานอน เป็นจำนวนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 17,900 ล้านดอลลาร์เป็นอย่างต่ำ ไม่รวมค่าใช้จ่ายอีก 4,860 ล้านดอลลาร์ในการเสริมปฏิบัติการทางทหารของตนเองในตะวันออกกลาง ที่รวมถึงการจัดการกลุ่มกบฏฮูตีที่ลอบโจมตีเรือสินค้าในทะเลแดง
    .
    รายงานจากโครงการค่าใช้จ่ายสงคราม (Costs of War project) ของมหาวิทยาลัยบราวน์ ในสหรัฐฯ ที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ (7 ต.ค.) เนื่องในวาระครบรอบ 1 ปีที่นักรบฮามาสจู่โจมบุกอิสราเอล ถือเป็นรายงานฉบับแรกที่มีการประเมินมูลค่าความช่วยเหลือที่อเมริกาให้อิสราเอล ขณะที่คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ให้การสนับสนุนอิสราเอลในการสู้รบในกาซาและเลบานอน และพยายามจำกัดการโจมตีของกลุ่มติดอาวุธที่เป็นพันธมิตรของอิหร่านภายในตะวันออกกลาง
    .
    ตัวเลขทางการเงินเหล่านี้ยังไม่รวมความสูญเสียด้านชีวิตมนุษย์ ทั้งเหยื่อกว่า 1,200 คนที่ถูกฮามาสสังหารระหว่างการบุกโจมตีอิสราเอลชนิดช็อกโลกเมื่อปีที่แล้ว พร้อมจับตัวประกัน 250 คนกลับไปคุมขังในกาซา และผู้เสียชีวิตเกือบ 42,000 คนในกาซาจากปฏิบัติการล้างแค้นของอิสราเอล
    .
    นอกจากนั้นยังมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1,400 คนในเลบานอน ซึ่งมีทั้งนักรบฮิซบอลเลาะห์และพลเรือน นับจากอิสราเอลขยายการโจมตีเข้าสู่ประเทศนี้เมื่อปลายเดือนที่แล้ว
    .
    ค่าใช้จ่ายทางการเงินในรายงานฉบับนี้ที่จัดทำแล้วเสร็จก่อนที่อิสราเอลจะเปิดแนวรบที่สองในเลบานอนนั้น คำนวณโดย ลินดา เจ. บิลม์ส ศาสตราจารย์จากวิทยาลัยรัฐกิจ จอห์น เอฟ. เคนเนดี ของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ที่เคยศึกษาประเมินค่าใช้จ่ายในสงครามทั้งหมดของอเมริกา นับจากวินาศกรรม 11 ก.ย. 2001 และนักวิจัยอีก 2 คนคือ วิลเลียม ดี. ฮาร์เติง และสตีเฟน เซมเลอร์ โดยมีรายละเอียดคร่าวๆ ดังต่อไปนี้:
    .
    ความช่วยเหลือทางทหารสูงสุดเป็นประวัติการณ์
    .
    อิสราเอลที่ได้รับการอุปถัมภ์จากอเมริกานับจากก่อตั้งประเทศในปี 1948 เป็นประเทศที่ได้รับความช่วยเหลือทางทหารจากอเมริกามูลค่าสูงสุดคือ 251,200 ล้านดอลลาร์ นับจากปี 1959 เป็นต้นมา ทั้งนี้เมื่อปรับตัวเลขตามอัตราเงินเฟ้อ
    .
    ขณะที่ ความช่วยเหลือ 17,900 ล้านดอลลาร์ที่ปรับตัวเลขตามอัตราเงินเฟ้อแล้ว ซึ่งอเมริกามอบให้นับจากวันที่ 7 ต.ค. 2023 ถือเป็นความช่วยเหลือทางทหารมูลค่าสูงสุดที่อัดฉีดให้อิสราเอลในปีเดียว
    .
    ทั้งนี้ อเมริกามีพันธะกรณีในการให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่อิสราเอลและอียิปต์ปีละหลายพันล้านดอลลาร์นับจากที่สองประเทศนี้ลงนามสนธิสัญญาสันติภาพที่วอชิงตันเป็นตัวกลางเมื่อปี 1979 นอกจากนั้น ในเวลาต่อมา คณะบริหารของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา ยังทำข้อตกลงให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่อิสราเอลปีละ 3,800 ล้านดอลลาร์จนถึงปี 2028
    .
    ความช่วยเหลือของอเมริกานับจากสงครามกาซาปะทุขึ้นนี้ ครอบคลุมถึงการให้เงินสนับสนุนทางการทหาร การขายอาวุธ อาวุธจากคลังสำรองของอเมริกาและอาวุธยุทโธปกรณ์มือสอง รวมเป็นมูลค่าอย่างน้อย 4,400 ล้านดอลลาร์
    .
    อาวุธจำนวนมากที่อเมริกาส่งมอบให้อิสราเอลในรอบปีที่ผ่านมาคือพวกเครื่องกระสุน ตั้งแต่กระสุนปืนใหญ่จนถึงระเบิดบังเกอร์บัสเตอร์เจาะพื้นดินขนาด 2,000 ปอนด์ และระเบิดนำวิถี
    .
    นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่าย 4,000 ล้านดอลลาร์สำหรับการฟื้นคืนความสมบูรณ์ของระบบป้องกันภัยทางอากาศ “ไอออนโดม” และระบบป้องกันขีปนาวุธ “เดวิดส์ สลิง” ของอิสราเอล ตลอดจนการจัดซื้อปืนไรเฟิลจู่โจม และเชื้อเพลิงเครื่องบิน
    .
    อย่างไรก็ดี นักวิจัยตั้งข้อสังเกตว่า พวกเขาไม่สามารถเข้าถึงรายละเอียดที่ครบถ้วนเกี่ยวกับสิ่งที่อเมริกาจัดส่งให้อิสราเอลนับจากวันที่ 7 ต.ค. ปีที่แล้ว ดังนั้น ตัวเลข 17,900 ล้านดอลลาร์จึงเป็นเพียงมูลค่าความช่วยเหลือส่วนหนึ่งเท่านั้น และสำทับว่า คณะบริหารของไบเดนพยายามปิดบังมูลค่าความช่วยเหลือทั้งหมดและประเภทอาวุธที่จัดหาให้อิสราเอลผ่านขั้นตอนการดำเนินการของระบบราชการ
    .
    ปฏิบัติการทางทหารของอเมริกาเองในตะวันออกกลาง
    .
    คณะบริหารของไบเดนยังเสริมแสนยานุภาพทางทหารของอเมริกาเองในตะวันออกกลางนับตั้งแต่สงครามกาซาเริ่มต้นขึ้น โดยมีเป้าหมายเพื่อป้องปรามและตอบโต้พวกที่เข้าโจมตีกองกำลังอิสราเอลและอเมริกา
    .
    ปฏิบัติการเพิ่มเติมเหล่านี้มีมูลค่าอย่างน้อย 4,860 ล้านดอลลาร์
    .
    ทั้งนี้ อเมริกามีทหาร 34,000 นายในภูมิภาคนี้ ณ วันที่ฮามาสบุกโจมตีอิสราเอล และจากนั้นได้เพิ่มเป็นราว 50,000 นายในเดือนสิงหาคม เมื่อเรือบรรทุกเครื่องบิน 2 ลำเข้าประจำการในตะวันออกกลางเพื่อป้องปรามการล้างแค้นอิสราเอล หลังจาก อิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำฝ่ายการเมืองของฮามาสถูกสังหารในอิหร่าน และปัจจุบันอเมริกามีทหารประจำอยู่ราว 43,000 นาย
    .
    การสู้รบกับฮูตี
    .
    นับจากสงครามกาซาเริ่มต้น กองทัพอเมริกายังพยายามตอบโต้การโจมตีเรือสินค้าในทะเลแดงของกบฏฮูตีในเยเมน โดยนักวิจัยระบุว่า อเมริกามีค่าใช้จ่าย 4,860 ล้านดอลลาร์สำหรับ “ความท้าทายอสมมาตรที่ซับซ้อน ราคาแพง และคาดไม่ถึง” และถือเป็นปฏิบัติการสู้รบที่ตึงเครียดที่สุดที่กองทัพเรือสหรัฐฯ เผชิญมานับจากสงครามโลกครั้งที่ 2
    .
    นักวิจัยเสริมว่า อเมริกาส่งเรือบรรทุกเครื่องบิน เรือพิฆาต เรือลาดตระเวน และขีปนาวุธราคาหลายล้านดอลลาร์ไปต่อสู้กับโดรนของฮูตีที่ผลิตในอิหร่านราคาแค่ลำละ 2,000 ดอลลาร์
    .
    การคำนวณของนักวิจัยกลุ่มนี้ยังรวมถึงเงินค่าสู้รบที่เพิ่มเติมขึ้นมาอย่างน้อย 55 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสหรัฐฯต้องจ่ายมากขึ้นสืบเนื่องจากปฏิบัติการที่เข้มข้นในตะวันออกกลาง
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000095609
    ..............
    Sondhi X
    เผยในรอบหนึ่งปีที่ผ่านมา อเมริกาอัดฉีดความช่วยเหลือทางทหารให้อิสราเอล ซึ่งกำลังทำสงครามหฤโหดในฉนวนกาซา และเวลานี้ขยายวงสู่เลบานอน เป็นจำนวนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 17,900 ล้านดอลลาร์เป็นอย่างต่ำ ไม่รวมค่าใช้จ่ายอีก 4,860 ล้านดอลลาร์ในการเสริมปฏิบัติการทางทหารของตนเองในตะวันออกกลาง ที่รวมถึงการจัดการกลุ่มกบฏฮูตีที่ลอบโจมตีเรือสินค้าในทะเลแดง . รายงานจากโครงการค่าใช้จ่ายสงคราม (Costs of War project) ของมหาวิทยาลัยบราวน์ ในสหรัฐฯ ที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ (7 ต.ค.) เนื่องในวาระครบรอบ 1 ปีที่นักรบฮามาสจู่โจมบุกอิสราเอล ถือเป็นรายงานฉบับแรกที่มีการประเมินมูลค่าความช่วยเหลือที่อเมริกาให้อิสราเอล ขณะที่คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ให้การสนับสนุนอิสราเอลในการสู้รบในกาซาและเลบานอน และพยายามจำกัดการโจมตีของกลุ่มติดอาวุธที่เป็นพันธมิตรของอิหร่านภายในตะวันออกกลาง . ตัวเลขทางการเงินเหล่านี้ยังไม่รวมความสูญเสียด้านชีวิตมนุษย์ ทั้งเหยื่อกว่า 1,200 คนที่ถูกฮามาสสังหารระหว่างการบุกโจมตีอิสราเอลชนิดช็อกโลกเมื่อปีที่แล้ว พร้อมจับตัวประกัน 250 คนกลับไปคุมขังในกาซา และผู้เสียชีวิตเกือบ 42,000 คนในกาซาจากปฏิบัติการล้างแค้นของอิสราเอล . นอกจากนั้นยังมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1,400 คนในเลบานอน ซึ่งมีทั้งนักรบฮิซบอลเลาะห์และพลเรือน นับจากอิสราเอลขยายการโจมตีเข้าสู่ประเทศนี้เมื่อปลายเดือนที่แล้ว . ค่าใช้จ่ายทางการเงินในรายงานฉบับนี้ที่จัดทำแล้วเสร็จก่อนที่อิสราเอลจะเปิดแนวรบที่สองในเลบานอนนั้น คำนวณโดย ลินดา เจ. บิลม์ส ศาสตราจารย์จากวิทยาลัยรัฐกิจ จอห์น เอฟ. เคนเนดี ของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ที่เคยศึกษาประเมินค่าใช้จ่ายในสงครามทั้งหมดของอเมริกา นับจากวินาศกรรม 11 ก.ย. 2001 และนักวิจัยอีก 2 คนคือ วิลเลียม ดี. ฮาร์เติง และสตีเฟน เซมเลอร์ โดยมีรายละเอียดคร่าวๆ ดังต่อไปนี้: . ความช่วยเหลือทางทหารสูงสุดเป็นประวัติการณ์ . อิสราเอลที่ได้รับการอุปถัมภ์จากอเมริกานับจากก่อตั้งประเทศในปี 1948 เป็นประเทศที่ได้รับความช่วยเหลือทางทหารจากอเมริกามูลค่าสูงสุดคือ 251,200 ล้านดอลลาร์ นับจากปี 1959 เป็นต้นมา ทั้งนี้เมื่อปรับตัวเลขตามอัตราเงินเฟ้อ . ขณะที่ ความช่วยเหลือ 17,900 ล้านดอลลาร์ที่ปรับตัวเลขตามอัตราเงินเฟ้อแล้ว ซึ่งอเมริกามอบให้นับจากวันที่ 7 ต.ค. 2023 ถือเป็นความช่วยเหลือทางทหารมูลค่าสูงสุดที่อัดฉีดให้อิสราเอลในปีเดียว . ทั้งนี้ อเมริกามีพันธะกรณีในการให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่อิสราเอลและอียิปต์ปีละหลายพันล้านดอลลาร์นับจากที่สองประเทศนี้ลงนามสนธิสัญญาสันติภาพที่วอชิงตันเป็นตัวกลางเมื่อปี 1979 นอกจากนั้น ในเวลาต่อมา คณะบริหารของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา ยังทำข้อตกลงให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่อิสราเอลปีละ 3,800 ล้านดอลลาร์จนถึงปี 2028 . ความช่วยเหลือของอเมริกานับจากสงครามกาซาปะทุขึ้นนี้ ครอบคลุมถึงการให้เงินสนับสนุนทางการทหาร การขายอาวุธ อาวุธจากคลังสำรองของอเมริกาและอาวุธยุทโธปกรณ์มือสอง รวมเป็นมูลค่าอย่างน้อย 4,400 ล้านดอลลาร์ . อาวุธจำนวนมากที่อเมริกาส่งมอบให้อิสราเอลในรอบปีที่ผ่านมาคือพวกเครื่องกระสุน ตั้งแต่กระสุนปืนใหญ่จนถึงระเบิดบังเกอร์บัสเตอร์เจาะพื้นดินขนาด 2,000 ปอนด์ และระเบิดนำวิถี . นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่าย 4,000 ล้านดอลลาร์สำหรับการฟื้นคืนความสมบูรณ์ของระบบป้องกันภัยทางอากาศ “ไอออนโดม” และระบบป้องกันขีปนาวุธ “เดวิดส์ สลิง” ของอิสราเอล ตลอดจนการจัดซื้อปืนไรเฟิลจู่โจม และเชื้อเพลิงเครื่องบิน . อย่างไรก็ดี นักวิจัยตั้งข้อสังเกตว่า พวกเขาไม่สามารถเข้าถึงรายละเอียดที่ครบถ้วนเกี่ยวกับสิ่งที่อเมริกาจัดส่งให้อิสราเอลนับจากวันที่ 7 ต.ค. ปีที่แล้ว ดังนั้น ตัวเลข 17,900 ล้านดอลลาร์จึงเป็นเพียงมูลค่าความช่วยเหลือส่วนหนึ่งเท่านั้น และสำทับว่า คณะบริหารของไบเดนพยายามปิดบังมูลค่าความช่วยเหลือทั้งหมดและประเภทอาวุธที่จัดหาให้อิสราเอลผ่านขั้นตอนการดำเนินการของระบบราชการ . ปฏิบัติการทางทหารของอเมริกาเองในตะวันออกกลาง . คณะบริหารของไบเดนยังเสริมแสนยานุภาพทางทหารของอเมริกาเองในตะวันออกกลางนับตั้งแต่สงครามกาซาเริ่มต้นขึ้น โดยมีเป้าหมายเพื่อป้องปรามและตอบโต้พวกที่เข้าโจมตีกองกำลังอิสราเอลและอเมริกา . ปฏิบัติการเพิ่มเติมเหล่านี้มีมูลค่าอย่างน้อย 4,860 ล้านดอลลาร์ . ทั้งนี้ อเมริกามีทหาร 34,000 นายในภูมิภาคนี้ ณ วันที่ฮามาสบุกโจมตีอิสราเอล และจากนั้นได้เพิ่มเป็นราว 50,000 นายในเดือนสิงหาคม เมื่อเรือบรรทุกเครื่องบิน 2 ลำเข้าประจำการในตะวันออกกลางเพื่อป้องปรามการล้างแค้นอิสราเอล หลังจาก อิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำฝ่ายการเมืองของฮามาสถูกสังหารในอิหร่าน และปัจจุบันอเมริกามีทหารประจำอยู่ราว 43,000 นาย . การสู้รบกับฮูตี . นับจากสงครามกาซาเริ่มต้น กองทัพอเมริกายังพยายามตอบโต้การโจมตีเรือสินค้าในทะเลแดงของกบฏฮูตีในเยเมน โดยนักวิจัยระบุว่า อเมริกามีค่าใช้จ่าย 4,860 ล้านดอลลาร์สำหรับ “ความท้าทายอสมมาตรที่ซับซ้อน ราคาแพง และคาดไม่ถึง” และถือเป็นปฏิบัติการสู้รบที่ตึงเครียดที่สุดที่กองทัพเรือสหรัฐฯ เผชิญมานับจากสงครามโลกครั้งที่ 2 . นักวิจัยเสริมว่า อเมริกาส่งเรือบรรทุกเครื่องบิน เรือพิฆาต เรือลาดตระเวน และขีปนาวุธราคาหลายล้านดอลลาร์ไปต่อสู้กับโดรนของฮูตีที่ผลิตในอิหร่านราคาแค่ลำละ 2,000 ดอลลาร์ . การคำนวณของนักวิจัยกลุ่มนี้ยังรวมถึงเงินค่าสู้รบที่เพิ่มเติมขึ้นมาอย่างน้อย 55 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสหรัฐฯต้องจ่ายมากขึ้นสืบเนื่องจากปฏิบัติการที่เข้มข้นในตะวันออกกลาง . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000095609 .............. Sondhi X
    Like
    Sad
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1064 มุมมอง 0 รีวิว
  • อิสราเอลถล่มหนักทั้งเลบานอนและกาซา ขณะกองทัพประกาศเตรียมพร้อมเต็มอัตราศึกก่อนถึงวันครบรอบ 1 ปีเหตุการณ์ฮามาสบุกโจมตีเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ปีที่แล้ว รวมทั้งเตรียมพร้อมเอาคืนการโจมตีด้วยขีปนาวุธของอิหร่านเมื่อเร็วๆ นี้
    .
    พลเรือตรีแดเนียล ฮาการี โฆษกกองทัพอิสราเอล กล่าวเมื่อวันเสาร์ (5 ต.ค.) ว่า กองทัพเตรียมพร้อมและได้ระดมกำลังเพิ่มก่อนถึงวันครบรอบ 1 ปีการบุกโจมตีของฮามาสในวันจันทร์ (7 ต.ค.)
    .
    เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิต 1,205 คนในอิสราเอล ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน นอกจากนั้น ฮามาสยังจับตัวประกันราว 250 คนไปคุมขังในกาซา และผ่านมาหนึ่งปี สงครามการแก้แค้นของอิสราเอลในกาซายังคงดำเนินอยู่ และอิสราเอลยังขยายเป้าหมายไปโจมตีกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน
    .
    กองทัพอิสราเอลระบุว่า สังหารนักรบฮิซบอลเลาะห์ราว 440 คนจากปฏิบัติการบุกภาคพื้นดินและการโจมตีทางอากาศนับจากวันจันทร์ที่แล้ว (29 ก.ย.) ที่กองทัพเริ่มบุกภาคพื้นดินเข้าสู่เลบานอน โดยมีเป้าหมายเพื่อนำชาวอิสราเอลกลับคืนถิ่นฐานบริเวณชายแดนด้านเหนือติดกับเลบานอนอย่างปลอดภัย หลังจากต้องทิ้งไปเกือบปีเนื่องจากบริเวณดังกล่าวถูกฮิซบอลเลาะห์ระดมโจมตีด้วยจรวดอย่างต่อเนื่อง
    .
    ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีไอแซก เฮอร์ซ็อก ของอิสราเอล ประกาศว่า อิหร่านเป็น “ภัยคุกคามอย่างต่อเนื่อง” หลังจากเตหะรานที่ให้การสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธทั่วตะวันออกกลาง ยิงขีปนาวุธราว 200 ลูกโจมตีอิสราเอลเมื่อวันอังคารที่แล้ว (30 ก.ย.) เพื่อล้างแค้นที่อิสราเอลสังหารผู้นำระดับสูงหลายคนของฮิซบอลเลาะห์และฮามาส
    .
    การโจมตีดังกล่าวทำให้ชาวปาเลสไตน์ในเขตยึดครองเวสต์แบงก์เสียชีวิต 1 คน และฐานทัพอากาศอิสราเอลแห่งหนึ่งเสียหาย
    .
    เจ้าหน้าที่ทหารอิสราเอลคนหนึ่งเผยว่า กองทัพกำลังเตรียมการตอบโต้อิหร่าน
    .
    ทางด้านนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอล ระบุว่าอิหร่านโจมตีดินแดนอิสราเอล 2 ครั้งด้วยขีปนาวุธหลายร้อยลูกนับจากเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา อิสราเอลจึงมีหน้าที่และมีสิทธิในการปกป้องตนเองและตอบโต้การโจมตีเหล่านั้น
    .
    ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวอาวุโสของฮิซบอลเลาะห์เปิดเผยเมื่อวันเสาร์ว่า ทางกลุ่มไม่สามารถติดต่อฮาเชม ซาฟิดดีน ที่คาดว่าจะได้รับแต่งตั้งเป็นผู้นำกลุ่มคนใหม่ หลังจากอิสราเอลโจมตีใกล้สนามบินนานาชาติในกรุงเบรุตของเลบานอนเมื่อวันศุกร์ (4 ต.ค.)
    .
    ทั้งนี้ ฮิซบอลเลาะห์ยังไม่ได้แต่งตั้งผู้นำใหม่แทนฮัสซัน นาสรัลเลาะห์ ที่เสียชีวิตเมื่อปลายเดือนที่แล้วจากการโจมตีครั้งใหญ่ในเบรุต
    .
    กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ยังเผยว่า นักรบของกลุ่มได้ปะทะกับกองทัพอิสราเอลบริเวณชายแดนทางใต้ของเลบานอน และอ้างว่า สามารถขับไล่ทหารอิสราเอลออกจากหมู่บ้านชายแดนแห่งหนึ่งเมื่อเช้าวันอาทิตย์ นอกจากนั้น ยังยิงจรวดโจมตีขณะกองกำลังอิสราเอลอพยพผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งส่งโดรนโจมตีฐานทัพแห่งหนึ่งของอิสราเอล
    .
    อย่างไรก็ดี สำนักข่าวแห่งชาติของรัฐบาลเลบานอนรายงานว่า ที่มั่นของฮิซบอลเลาะห์ทางใต้ของเบรุตถูกโจมตีกว่า 30 ระลอก โดยปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งและคลังจัดเก็บเวชภัณฑ์อีกแห่งถูกโจมตีด้วย
    .
    ด้านกองทัพอิสราเอลแถลงว่า ได้โจมตีคลังอาวุธและโครงสร้างพื้นฐานของฮิซบอลเลาะห์ โดยพยายามลดความเสี่ยงต่อพลเรือน
    .
    ข้อมูลจากทางการเลบานอนระบุว่า การโจมตีฮิซบอลเลาะห์ของอิสราเอลทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 1,110 คนทั่วเลบานอนนับตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย.
    .
    นายกรัฐมนตรีนาจิบ มิกาติ ของเลบานอน เรียกร้องนานาชาติกดดันอิสราเอลให้หยุดยิง
    .
    ฟิลิปโป กรันดี ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็น) แถลงว่า เลบานอนกำลังเผชิญวิฤตร้ายแรง และเตือนว่า การโจมตีทางอากาศของอิสราเอลส่งผลให้ประชาชนนับแสนต้องยากจนขัดสนหรือทิ้งถิ่นฐาน และโรงพยาบาลอย่างน้อย 4 แห่งปิดทำการ
    .
    นอกจากนั้น กองกำลังรักษาสันติภาพของยูเอ็นในเลบานอนยังเผยว่า ได้ปฏิเสธการร้องขอของกองทัพอิสราเอลให้ย้ายที่ตั้งบางแห่งออกจากตอนใต้ของเลบานอน
    .
    อับบาส อารากชี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน เรียกร้องอีกครั้งให้หยุดยิงทั้งในกาซาและเลบานอน พร้อมขู่อิสราเอลจะถูกตอบโต้รุนแรงขึ้นหากโจมตีอิหร่าน
    .
    ที่กาซา สำนักงานป้องกันภัยพลเรือนเปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ว่า อิสราเอลได้โจมตีมัสยิดและโรงเรียนแห่งหนึ่งในเดียร์ อัล-บาลาห์ตอนกลางของกาซา ซึ่งเป็นที่หลบภัยของประชาชน ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 26 คน และบาดเจ็บ 93 คน
    .
    ขณะที่อิสราเอลยืนยันว่า ได้โจมตีอย่างแม่นยำต่อกลุ่มก่อการร้ายฮามาสในศูนย์บัญชาการในโรงเรียนและมัสยิดดังกล่าว
    .
    เจ้าหน้าที่สาธารณสุขปาเลสไตน์ยังเผยว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 คนทางตอนเหนือของกาซานับจากคืนวันเสาร์ หลังจากอิสราเอลเตือนให้ชาวบ้านอพยพออกไปก่อนส่งรถถังเข้าโจมตี ขณะที่สำนักงานประชาสัมพันธ์ของรัฐบาลกาซาแถลงว่า ช่วง 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา อิสราเอลโจมตีบ้านเรือน โรงเรียน และที่หลบภัย 27 แห่งทั่วกาซา
    .
    นอกจากนั้นในวันเสาร์ กองทัพอิสราเอลยังออกคำสั่งอพยพครั้งใหม่ในพื้นที่หลายส่วนในค่ายผู้ลี้ภัยนูเซรัตตอนกลางของกาซา รวมทั้งนำรถถังบุกเข้าสู่เบตลาฮิยา และจาบาเลียทางเหนือของกาซาเมื่อคืนวันเสาร์ พร้อมส่งเครื่องบินโจมตีบ้านหลายหลัง ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 คน
    .
    ต่อมาในวันอาทิตย์ กองทัพอิสราเอลเผยว่า ได้ปิดล้อมจาบาเลียหลังได้รับข่าวกรองว่า ฮามาสกำลังพยายามซ่องสุมกำลังขึ้นมาใหม่ในพื้นที่ดังกล่าว
    .
    ทั้งนี้ ปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลในกาซา ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 41,780 คน ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000095167
    ..............
    Sondhi X
    อิสราเอลถล่มหนักทั้งเลบานอนและกาซา ขณะกองทัพประกาศเตรียมพร้อมเต็มอัตราศึกก่อนถึงวันครบรอบ 1 ปีเหตุการณ์ฮามาสบุกโจมตีเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ปีที่แล้ว รวมทั้งเตรียมพร้อมเอาคืนการโจมตีด้วยขีปนาวุธของอิหร่านเมื่อเร็วๆ นี้ . พลเรือตรีแดเนียล ฮาการี โฆษกกองทัพอิสราเอล กล่าวเมื่อวันเสาร์ (5 ต.ค.) ว่า กองทัพเตรียมพร้อมและได้ระดมกำลังเพิ่มก่อนถึงวันครบรอบ 1 ปีการบุกโจมตีของฮามาสในวันจันทร์ (7 ต.ค.) . เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิต 1,205 คนในอิสราเอล ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน นอกจากนั้น ฮามาสยังจับตัวประกันราว 250 คนไปคุมขังในกาซา และผ่านมาหนึ่งปี สงครามการแก้แค้นของอิสราเอลในกาซายังคงดำเนินอยู่ และอิสราเอลยังขยายเป้าหมายไปโจมตีกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน . กองทัพอิสราเอลระบุว่า สังหารนักรบฮิซบอลเลาะห์ราว 440 คนจากปฏิบัติการบุกภาคพื้นดินและการโจมตีทางอากาศนับจากวันจันทร์ที่แล้ว (29 ก.ย.) ที่กองทัพเริ่มบุกภาคพื้นดินเข้าสู่เลบานอน โดยมีเป้าหมายเพื่อนำชาวอิสราเอลกลับคืนถิ่นฐานบริเวณชายแดนด้านเหนือติดกับเลบานอนอย่างปลอดภัย หลังจากต้องทิ้งไปเกือบปีเนื่องจากบริเวณดังกล่าวถูกฮิซบอลเลาะห์ระดมโจมตีด้วยจรวดอย่างต่อเนื่อง . ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีไอแซก เฮอร์ซ็อก ของอิสราเอล ประกาศว่า อิหร่านเป็น “ภัยคุกคามอย่างต่อเนื่อง” หลังจากเตหะรานที่ให้การสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธทั่วตะวันออกกลาง ยิงขีปนาวุธราว 200 ลูกโจมตีอิสราเอลเมื่อวันอังคารที่แล้ว (30 ก.ย.) เพื่อล้างแค้นที่อิสราเอลสังหารผู้นำระดับสูงหลายคนของฮิซบอลเลาะห์และฮามาส . การโจมตีดังกล่าวทำให้ชาวปาเลสไตน์ในเขตยึดครองเวสต์แบงก์เสียชีวิต 1 คน และฐานทัพอากาศอิสราเอลแห่งหนึ่งเสียหาย . เจ้าหน้าที่ทหารอิสราเอลคนหนึ่งเผยว่า กองทัพกำลังเตรียมการตอบโต้อิหร่าน . ทางด้านนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอล ระบุว่าอิหร่านโจมตีดินแดนอิสราเอล 2 ครั้งด้วยขีปนาวุธหลายร้อยลูกนับจากเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา อิสราเอลจึงมีหน้าที่และมีสิทธิในการปกป้องตนเองและตอบโต้การโจมตีเหล่านั้น . ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวอาวุโสของฮิซบอลเลาะห์เปิดเผยเมื่อวันเสาร์ว่า ทางกลุ่มไม่สามารถติดต่อฮาเชม ซาฟิดดีน ที่คาดว่าจะได้รับแต่งตั้งเป็นผู้นำกลุ่มคนใหม่ หลังจากอิสราเอลโจมตีใกล้สนามบินนานาชาติในกรุงเบรุตของเลบานอนเมื่อวันศุกร์ (4 ต.ค.) . ทั้งนี้ ฮิซบอลเลาะห์ยังไม่ได้แต่งตั้งผู้นำใหม่แทนฮัสซัน นาสรัลเลาะห์ ที่เสียชีวิตเมื่อปลายเดือนที่แล้วจากการโจมตีครั้งใหญ่ในเบรุต . กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ยังเผยว่า นักรบของกลุ่มได้ปะทะกับกองทัพอิสราเอลบริเวณชายแดนทางใต้ของเลบานอน และอ้างว่า สามารถขับไล่ทหารอิสราเอลออกจากหมู่บ้านชายแดนแห่งหนึ่งเมื่อเช้าวันอาทิตย์ นอกจากนั้น ยังยิงจรวดโจมตีขณะกองกำลังอิสราเอลอพยพผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งส่งโดรนโจมตีฐานทัพแห่งหนึ่งของอิสราเอล . อย่างไรก็ดี สำนักข่าวแห่งชาติของรัฐบาลเลบานอนรายงานว่า ที่มั่นของฮิซบอลเลาะห์ทางใต้ของเบรุตถูกโจมตีกว่า 30 ระลอก โดยปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งและคลังจัดเก็บเวชภัณฑ์อีกแห่งถูกโจมตีด้วย . ด้านกองทัพอิสราเอลแถลงว่า ได้โจมตีคลังอาวุธและโครงสร้างพื้นฐานของฮิซบอลเลาะห์ โดยพยายามลดความเสี่ยงต่อพลเรือน . ข้อมูลจากทางการเลบานอนระบุว่า การโจมตีฮิซบอลเลาะห์ของอิสราเอลทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 1,110 คนทั่วเลบานอนนับตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย. . นายกรัฐมนตรีนาจิบ มิกาติ ของเลบานอน เรียกร้องนานาชาติกดดันอิสราเอลให้หยุดยิง . ฟิลิปโป กรันดี ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็น) แถลงว่า เลบานอนกำลังเผชิญวิฤตร้ายแรง และเตือนว่า การโจมตีทางอากาศของอิสราเอลส่งผลให้ประชาชนนับแสนต้องยากจนขัดสนหรือทิ้งถิ่นฐาน และโรงพยาบาลอย่างน้อย 4 แห่งปิดทำการ . นอกจากนั้น กองกำลังรักษาสันติภาพของยูเอ็นในเลบานอนยังเผยว่า ได้ปฏิเสธการร้องขอของกองทัพอิสราเอลให้ย้ายที่ตั้งบางแห่งออกจากตอนใต้ของเลบานอน . อับบาส อารากชี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน เรียกร้องอีกครั้งให้หยุดยิงทั้งในกาซาและเลบานอน พร้อมขู่อิสราเอลจะถูกตอบโต้รุนแรงขึ้นหากโจมตีอิหร่าน . ที่กาซา สำนักงานป้องกันภัยพลเรือนเปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ว่า อิสราเอลได้โจมตีมัสยิดและโรงเรียนแห่งหนึ่งในเดียร์ อัล-บาลาห์ตอนกลางของกาซา ซึ่งเป็นที่หลบภัยของประชาชน ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 26 คน และบาดเจ็บ 93 คน . ขณะที่อิสราเอลยืนยันว่า ได้โจมตีอย่างแม่นยำต่อกลุ่มก่อการร้ายฮามาสในศูนย์บัญชาการในโรงเรียนและมัสยิดดังกล่าว . เจ้าหน้าที่สาธารณสุขปาเลสไตน์ยังเผยว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 คนทางตอนเหนือของกาซานับจากคืนวันเสาร์ หลังจากอิสราเอลเตือนให้ชาวบ้านอพยพออกไปก่อนส่งรถถังเข้าโจมตี ขณะที่สำนักงานประชาสัมพันธ์ของรัฐบาลกาซาแถลงว่า ช่วง 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา อิสราเอลโจมตีบ้านเรือน โรงเรียน และที่หลบภัย 27 แห่งทั่วกาซา . นอกจากนั้นในวันเสาร์ กองทัพอิสราเอลยังออกคำสั่งอพยพครั้งใหม่ในพื้นที่หลายส่วนในค่ายผู้ลี้ภัยนูเซรัตตอนกลางของกาซา รวมทั้งนำรถถังบุกเข้าสู่เบตลาฮิยา และจาบาเลียทางเหนือของกาซาเมื่อคืนวันเสาร์ พร้อมส่งเครื่องบินโจมตีบ้านหลายหลัง ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 คน . ต่อมาในวันอาทิตย์ กองทัพอิสราเอลเผยว่า ได้ปิดล้อมจาบาเลียหลังได้รับข่าวกรองว่า ฮามาสกำลังพยายามซ่องสุมกำลังขึ้นมาใหม่ในพื้นที่ดังกล่าว . ทั้งนี้ ปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลในกาซา ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 41,780 คน ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000095167 .............. Sondhi X
    Like
    Sad
    Angry
    Love
    Yay
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1244 มุมมอง 0 รีวิว
  • อิหร่านประกาศว่าการโจมตีอิสราเอล ซึ่งถือเป็นการโจมตีทางทหารครั้งใหญ่ที่สุดของประเทศ ได้จบลงแล้ว เว้นแต่จะถูกยั่วยุอีก แต่อิสราเอลและอเมริกาเผยเตรียมล้างแค้นอย่างสาสม โหมกระพือความกังวลว่า ตะวันออกกลางกำลังจะลุกเป็นไฟ ล่าสุดกองทัพยิวยังส่งทหารราบและหน่วยยานเกราะร่วมปฏิบัติการบุกภาคพื้นดินทางใต้ของเลบานอนเพื่อเพิ่มความกดดันต่อฮิซบอลเลาะห์
    .
    การประกาศเมื่อวันพุธ (2 ต.ค.) เกี่ยวกับการเพิ่มทหารราบและหน่วยยานเกราะจากกองพลที่ 36 บ่งชี้ว่า ปฏิบัติการของอิสราเอลไปไกลกว่าการบุกแบบจำกัดของหน่วยคอมมานโด อย่างไรก็ดี กองทัพอิสราเอลระบุว่า ปฏิบัติการภาคพื้นดินมุ่งทำลายอุโมงค์และโครงสร้างพื้นฐานบริเวณชายแดนเป็นหลัก และไม่มีแผนขยายเป้าหมายไปยังกรุงเบรุตหรือเมืองใหญ่อื่นๆ ทางใต้ของเลบานอน
    .
    ท่ามกลางการเรียกร้องหยุดยิงจากสหประชาชาติ (ยูเอ็น) อเมริกา และสหภาพยุโรป (อียู) อิสราเอลยังคงสู้รบกับฮิซบอลเลาะห์ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน รวมทั้งทิ้งระเบิดถล่มชานเมืองด้านใต้ของเบรุต ซึ่งเป็นที่มั่นของกลุ่มติดอาวุธกลุ่มนี้ และออกคำสั่งอพยพใหม่ในบริเณดังกล่าว
    .
    จากข้อมูลของรัฐบาลเลบานอนเมื่อวันอังคาร (1 ต.ค.) มีผู้เสียชีวิตเกือบ 1,900 คน และบาดเจ็บกว่า 9,000 คนจากการสู้รบข้ามพรมแดนที่ดำเนินมาเกือบปี โดยการสูญเสียส่วนใหญ่เกิดขึ้นในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
    .
    ทางด้านฮิซบอลเลาะห์เผยว่า ได้เผชิญหน้าและผลักดันกองกำลังอิสราเอลที่พยายามรุกล้ำออกจากเมืองอะเดสเซห์เมื่อเช้าวันพุธ
    .
    เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นหลังจากเมื่อวันอังคารเตหะรานยิงขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกฟัตตาห์ระลอกใหญ่โจมตีอิสราเอล ซึ่งส่วนใหญ่มุ่งโจมตีที่ตั้งทางทหารเพื่อตอบโต้ที่อิสราเอลสังหารผู้นำกลุ่มติดอาวุธหลายคน ซึ่งรวมถึงฮัสซัน นาสรัลเลาะห์ ผู้นำกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ อีกทั้งยังรุกรานเลบานอนและกาซา โดยสำนักข่าวของทางการอิหร่านรายงานว่า เตหะรานล็อกเป้าโจมตีฐานทัพ 3 แห่งของอิสราเอล ทั้งนี้ กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติของอิหร่านอวดอ้างว่า ขีปนาวุธ 90 โจมตีเป้าหมายสำเร็จ
    .
    อับบาส อารากชี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์เมื่อเช้าวันพุธว่า การดำเนินการของเตหะรานสิ้นสุดลงแล้ว เว้นแต่อิสราเอลตัดสินใจยั่วยุอีก ซึ่งอิหร่านจะตอบโต้รุนแรงขึ้นกว่าเดิม
    .
    นอกจากนั้นเสนาธิการกองทัพบกอิหร่านยังออกแถลงการณ์เตือนว่า หากถูกตอบโต้ เตหะรานจะทำลายโครงสร้างพื้นฐานของอิสราเอล รวมถึงผลประโยชน์ของพันธมิตรของอิสราเอลที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่อยู่ในตะวันออกกลาง
    .
    ด้านนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ประกาศว่า อิสราเอลจะเอาคืนและเตือนว่า อิหร่านจะต้องจ่ายราคาแพง ขณะที่วอชิงตันขานรับว่า จะร่วมกับอิสราเอลที่เป็นพันธมิตรเก่าแก่เพื่อให้แน่ใจว่า อิหร่านจะเผชิญผลลัพธ์รุนแรงจากการโจมตีเมื่อวันอังคาร ซึ่งอิสราเอลระบุว่า มีการใช้ขีปนาวุธทิ้งตัวมากกว่า 180 ลูก
    .
    ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ หารือกับโยอาฟ กัลแลนต์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล เมื่อคืนวันอังคาร และเผยว่า วอชิงตันพร้อมปกป้องผลประโยชน์ของอเมริกาในตะวันออกกลาง ขณะที่เพนตากอนระบุว่า การโจมตีเมื่อวันอังคารมีขนาดใหญ่กว่าเมื่อครั้งที่อิหร่านโจมตีอิสราเอลในเดือนเมษายน
    .
    พลเรือตรีแดเนียล ฮาการีของอิสราเอล โพสต์บนเอ็กซ์ว่า อิสราเอลเปิดใช้งานระบบต่อต้านการโจมตีทางอากาศต่อการระดมโจมตีของอิหร่านเมื่อวันอังคาร และแนวร่วมป้องกันระหว่างอิสราเอลกับอเมริกาสามารถสกัดขีปนาวุธส่วนใหญ่ได้ ก่อนสำทับว่า การโจมตีของอิสราเอลทำให้สถานการณ์ลุกลามอันตรายอย่างยิ่ง
    .
    แอกซิออส เว็บไซต์ข่าวออนไลน์ของอเมริกา รายงานเมื่อวันพุธโดยอ้างอิงการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่อิสราเอลว่า อิสราเอลจะตอบโต้อย่างรุนแรงภายในไม่กี่วันโดยพุ่งเป้าที่สถานที่ผลิตน้ำมันภายในอิหร่าน รวมถึงที่ตั้งทางยุทธศาสตร์อื่นๆ
    .
    ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศสนับสนุนอิสราเอลเต็มที่ และวิจารณ์ว่า การโจมตีของอิหร่าน “ไร้น้ำยา” ขณะที่รองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งประธานาธิบดี สนับสนุนจุดยืนของไบเดน และเสริมว่า อเมริกาจะไม่ลังเลเลยในการปกป้องผลประโยชน์ของประเทศจากการโจมตีของอิหร่าน
    .
    ทั้งนี้ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งยูเอ็นกำหนดประชุมเกี่ยวกับความขัดแย้งในตะวันออกกลางในวันพุธ และอียูเรียกร้องให้หยุดยิงทันที
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000093355
    ..................
    Sondhi X
    อิหร่านประกาศว่าการโจมตีอิสราเอล ซึ่งถือเป็นการโจมตีทางทหารครั้งใหญ่ที่สุดของประเทศ ได้จบลงแล้ว เว้นแต่จะถูกยั่วยุอีก แต่อิสราเอลและอเมริกาเผยเตรียมล้างแค้นอย่างสาสม โหมกระพือความกังวลว่า ตะวันออกกลางกำลังจะลุกเป็นไฟ ล่าสุดกองทัพยิวยังส่งทหารราบและหน่วยยานเกราะร่วมปฏิบัติการบุกภาคพื้นดินทางใต้ของเลบานอนเพื่อเพิ่มความกดดันต่อฮิซบอลเลาะห์ . การประกาศเมื่อวันพุธ (2 ต.ค.) เกี่ยวกับการเพิ่มทหารราบและหน่วยยานเกราะจากกองพลที่ 36 บ่งชี้ว่า ปฏิบัติการของอิสราเอลไปไกลกว่าการบุกแบบจำกัดของหน่วยคอมมานโด อย่างไรก็ดี กองทัพอิสราเอลระบุว่า ปฏิบัติการภาคพื้นดินมุ่งทำลายอุโมงค์และโครงสร้างพื้นฐานบริเวณชายแดนเป็นหลัก และไม่มีแผนขยายเป้าหมายไปยังกรุงเบรุตหรือเมืองใหญ่อื่นๆ ทางใต้ของเลบานอน . ท่ามกลางการเรียกร้องหยุดยิงจากสหประชาชาติ (ยูเอ็น) อเมริกา และสหภาพยุโรป (อียู) อิสราเอลยังคงสู้รบกับฮิซบอลเลาะห์ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน รวมทั้งทิ้งระเบิดถล่มชานเมืองด้านใต้ของเบรุต ซึ่งเป็นที่มั่นของกลุ่มติดอาวุธกลุ่มนี้ และออกคำสั่งอพยพใหม่ในบริเณดังกล่าว . จากข้อมูลของรัฐบาลเลบานอนเมื่อวันอังคาร (1 ต.ค.) มีผู้เสียชีวิตเกือบ 1,900 คน และบาดเจ็บกว่า 9,000 คนจากการสู้รบข้ามพรมแดนที่ดำเนินมาเกือบปี โดยการสูญเสียส่วนใหญ่เกิดขึ้นในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา . ทางด้านฮิซบอลเลาะห์เผยว่า ได้เผชิญหน้าและผลักดันกองกำลังอิสราเอลที่พยายามรุกล้ำออกจากเมืองอะเดสเซห์เมื่อเช้าวันพุธ . เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นหลังจากเมื่อวันอังคารเตหะรานยิงขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกฟัตตาห์ระลอกใหญ่โจมตีอิสราเอล ซึ่งส่วนใหญ่มุ่งโจมตีที่ตั้งทางทหารเพื่อตอบโต้ที่อิสราเอลสังหารผู้นำกลุ่มติดอาวุธหลายคน ซึ่งรวมถึงฮัสซัน นาสรัลเลาะห์ ผู้นำกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ อีกทั้งยังรุกรานเลบานอนและกาซา โดยสำนักข่าวของทางการอิหร่านรายงานว่า เตหะรานล็อกเป้าโจมตีฐานทัพ 3 แห่งของอิสราเอล ทั้งนี้ กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติของอิหร่านอวดอ้างว่า ขีปนาวุธ 90 โจมตีเป้าหมายสำเร็จ . อับบาส อารากชี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์เมื่อเช้าวันพุธว่า การดำเนินการของเตหะรานสิ้นสุดลงแล้ว เว้นแต่อิสราเอลตัดสินใจยั่วยุอีก ซึ่งอิหร่านจะตอบโต้รุนแรงขึ้นกว่าเดิม . นอกจากนั้นเสนาธิการกองทัพบกอิหร่านยังออกแถลงการณ์เตือนว่า หากถูกตอบโต้ เตหะรานจะทำลายโครงสร้างพื้นฐานของอิสราเอล รวมถึงผลประโยชน์ของพันธมิตรของอิสราเอลที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่อยู่ในตะวันออกกลาง . ด้านนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ประกาศว่า อิสราเอลจะเอาคืนและเตือนว่า อิหร่านจะต้องจ่ายราคาแพง ขณะที่วอชิงตันขานรับว่า จะร่วมกับอิสราเอลที่เป็นพันธมิตรเก่าแก่เพื่อให้แน่ใจว่า อิหร่านจะเผชิญผลลัพธ์รุนแรงจากการโจมตีเมื่อวันอังคาร ซึ่งอิสราเอลระบุว่า มีการใช้ขีปนาวุธทิ้งตัวมากกว่า 180 ลูก . ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ หารือกับโยอาฟ กัลแลนต์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล เมื่อคืนวันอังคาร และเผยว่า วอชิงตันพร้อมปกป้องผลประโยชน์ของอเมริกาในตะวันออกกลาง ขณะที่เพนตากอนระบุว่า การโจมตีเมื่อวันอังคารมีขนาดใหญ่กว่าเมื่อครั้งที่อิหร่านโจมตีอิสราเอลในเดือนเมษายน . พลเรือตรีแดเนียล ฮาการีของอิสราเอล โพสต์บนเอ็กซ์ว่า อิสราเอลเปิดใช้งานระบบต่อต้านการโจมตีทางอากาศต่อการระดมโจมตีของอิหร่านเมื่อวันอังคาร และแนวร่วมป้องกันระหว่างอิสราเอลกับอเมริกาสามารถสกัดขีปนาวุธส่วนใหญ่ได้ ก่อนสำทับว่า การโจมตีของอิสราเอลทำให้สถานการณ์ลุกลามอันตรายอย่างยิ่ง . แอกซิออส เว็บไซต์ข่าวออนไลน์ของอเมริกา รายงานเมื่อวันพุธโดยอ้างอิงการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่อิสราเอลว่า อิสราเอลจะตอบโต้อย่างรุนแรงภายในไม่กี่วันโดยพุ่งเป้าที่สถานที่ผลิตน้ำมันภายในอิหร่าน รวมถึงที่ตั้งทางยุทธศาสตร์อื่นๆ . ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศสนับสนุนอิสราเอลเต็มที่ และวิจารณ์ว่า การโจมตีของอิหร่าน “ไร้น้ำยา” ขณะที่รองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งประธานาธิบดี สนับสนุนจุดยืนของไบเดน และเสริมว่า อเมริกาจะไม่ลังเลเลยในการปกป้องผลประโยชน์ของประเทศจากการโจมตีของอิหร่าน . ทั้งนี้ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งยูเอ็นกำหนดประชุมเกี่ยวกับความขัดแย้งในตะวันออกกลางในวันพุธ และอียูเรียกร้องให้หยุดยิงทันที . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000093355 .................. Sondhi X
    Like
    Sad
    Haha
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1306 มุมมอง 0 รีวิว
  • 01-10-67/01 : หมี CNN / "สัปยุทธ์ทะลุฟ้า" พลิกตำราไม่ทัน! กลยุทธเหนือเมฆ บีบจนเหี้ยนายใหญ่ต้องออกตัว! อย่าลืมน่ะ อีไก่งวง จีน โสมแดง คิวบา แอฟริกาใต้ ยังไม่ออกโรง? ตัวละครลับยังมีมาไม่สิ้นสุด อสรพิษ NATO ไส้ศึก หนอนบ่อนไส้ ยังไม่เปิดตัว ทุกอย่างรอ "คบไฟ โอลิมปัส" มาถึงก่อน ใครก้าวพลาด จะถูกรุมประณาม แล้วถูกโดดเดี่ยวจากโลกตลอดกาล ขั้วใหม่ไม่เร่งรีบ เพราะเป็นฝ่ายนำไปไกลโขอยู่ ส่วนเหี้ยไม่มีอะไรจะเสีย เพราะเสียหมาไปไม่รู้กี่ครั้งแล้ว เวลาเห็นข่าวสารรอบโลก ให้จำเอาไว้ว่า สคริปต์มาจากที่เดียวกันทั้งหมด นั่นคือ "REUTER" ซึ่งออกจากเตา เขียนบทโดยวอชิงตัน ดังนั้น เคยเชื่อตรงกันข้ามในสิ่งที่เห็นได้ยิน นั่นคือ "บรรลุธรรม" แล้วจ๊ะ ไม่ต้องแปลเยอะ อะไรที่เหี้ยทำ แอบอ้าง แล้วฝ่ายตรงกันข้ามออกมายอมรับ นั่นให้จำเอาไว้ว่า "ผิดปกติ" ยามศึก ไม่มีใครเล่นหน้าเดียวดอกน่ะ แผนซ้อนแผนมีมาเป็น 1000 ปี ไม่ใช่เรื่องใหม่ โลกยุคใหม่ตามโซเชี่ยล มันปั่นหัวคนง่ายดาย แค่ใช้สติ ลองคิดเองว่า หากอียิวมันฆ่าได้จริง ผู้นำทั่วโลกที่เป็นศัตรูมันมาเป็น 100 ปี คงตายห่ากันหมดโลกแล้ว เรื่องมาแดงตอน ปีเดียว ชิงกันตายห่า 3-4 คน พร้อมกัน ถามจริง "มันง่ายดายขนาดนั้นเชียวเหรอ?" มรึงคิดว่าอิหร่าน อิรัก ซีเรีย เลบานอน ปาเลสไตน์ เยเมน ที่ไล่ขย่มเหี้ยยิวทุกวันนี้ มันจะไม่รู้ว่าอียิวมีของอะไรบ้าง? อาวุธเหี้ยมะกันเต็มคลังแสง เค้าอ่านมันออกหมดนานแล้ว ว่ามรึงจะใช้อะไร ทำยังไง? ไอ้ที่คุยระเบิดบังเกอร์ห่าเหวเนี่ย มันไม่ใช่เรื่องใหม่ มรึงใช้มาตั้งแต่สงครามอัฟกานิสถานแล้ว สื่อยิวตีข่าวปั่นควาย เพราะควายไม่รู้ว่า ใต้ดินของโลกอาหรับ มันลึกมากกว่านั้นเยอะ หาไม่แล้ว พวกมรึงคงฆ่าฮามาสตายห่าหมดไปนานแล้ว ยิงเป็น 100 ลูก ยังเข้าไม่ถึงเลย เพราะมันลึก และซับซ้อนกว่านั้นเยอะ ไม่มีใครชี้ตำแหน่งได้ถูกต้องแม่นยำ กว่าจะยิงถึง มรึงก็ถูกสกัดก่อนแล้ว ทั้งหมดคือแผนตบตา ก็เหมือนไรซี ขึ้นฮอ 2 ครั้งติดไงล่ะ โปรดสังเกตุ การตายของผู้นำ ล้วนเกิดจากภายในแผ่นดินตัวเองทั้งสิ้น หรือชาติพันธมิตร นั่นแปลว่า มันจัดฉากง่ายไงล่ะ? ก็เหมือนผีพริโกซินจะตายห่าที่ไหนก็ได้ แต่ต้องมาตายเฉพาะในแผ่นดินรัสเซียเท่านั้น? มรึงโดนต้มเปื่อยไม่รู้เท่าไหร่แล้ว ความจำสั้นกันจัง เหมือนตอนรถถัง WAGNER ก่อกบฎ สื่อตีกันมันส์หยด แล้วเสียหมาทุกเจ้าไงล่ะ? WAGNER ไปโผล่เบลารุสเฉย แผนการมันมี ไม่มีอะไรง่ายดายขนาดนั้นดอก ไม่งั้น อิหร่านเชือดอียิวเหี้ยตายห่าไปนานแล้ว ไอ้ที่รอ คือรอทั้งโลกลงแขก? ชนะแบบไหนกันล่ะ ถึงเรียกว่าเบ็ดเสร็จเด็ดขาดจริง! ไม่มีฟื้น! อัพเดท สถานการณ์ล่าสุด ทั้ง 2 ฝ่าย ประเมินกำลังกันพอหอมปากหอมคอกันแล้ว ชาวยิวอพยพหนีตายออกจากตอนเหนือหมดแล้ว นั่นคือสัญญานสงครามเต็มรูปแบบ ขณะที่ตอนกลาง ทั้งเทลอาวีฟ ไฮฟา เยรูซาเล็ม ถูกนวดรายวัน อ่อนยวบไปเยอะ สนามบินพัง คลังแสงระเบิด ตึกบัญชาการอีมดสัดหาย ทำไมฮามาส จะไม่รู้ ว่าอียิวเหี้ย มันสร้างบังเกอร์ หลุมหลบภัยใต้ดินไว้ที่ไหน? ใครชำนาญเป็นขอมดำดินมากกว่ากันล่ะ? ใครขุดใต้ดินให้อียิว ก็เชลยชาวปาเลสไตน์ทั้งนั้น เค้ามีนกรู้ สายลับสอดไส้คาราเมลทั้ง 2 ฝั่ง รู้ไส้ รู้พุงกันดี การจะฆ่าผู้นำอีกฝั่ง มันไม่ง่ายดายดอก การตายของคาเมเนอีในเบื้องหน้า มรึงดูเอาไว้เลย เพื่อส่งไม้ต่อให้ลูกชายคนโตชัดเจน แถวบ้านเรียก "วางมือ" แล้วจะเป็นการประกาศสงครามใหญ่ทันที ทุกอย่างมันมีแผนการรองรับทั้งหมด ไม่ใช่เดินมั่วซั่ว ผู้นำทุกคนที่แกล้งตายไป คือเดินออกจากเกมส์นี้ เพื่อไปอยู่เบื้องหลัง ชงต่อให้มือสังหารตัวจริงเข้ามาทำหน้าที่ เหตุผลคือ 1.กระแสล้างแค้น 2.ชี้ให้โลกเห็นเต็ม 2 ตา ใครคือก่อการร้ายโลกตัวจริง 3.สร้างความสามัคคีเป็นหมู่คณะในชาติมุสลิม 4.โยกย้ายเปลี่ยนฐานกำลังใหม่ แผนสับขาหลอก เพื่อเบี่ยงเบนประเด็นที่ใหญ่กว่า สำคัญกว่า ทำให้ศัตรูสับสน 5.หลักฐานเช็คบิลอียิว ทั้งในเวทีโลก และทั้งทวีป ส่งศาลโลกฟันซ้ำ ข้ามวิกแป๊บ : ชั่วแค่ไหน เหี้ยแค่ไหน ขายชาติแค่ไหน ใหญ่คับฟ้าแค่ไหน ก็หนีไม่พ้นบ่วงกรรม อีทนง จ่อเดินเข้าคุก คดีจำปีหอมหวานแดร๊กอร่อย เวลาเหี้ยมันทำเหี้ย มันสาแก่ใจ มันผยอง มันกร่างสุดติ่ง มรึงทุกข์ทรมานเหลือเกิน มรึงเจ็บช้ำน้ำใจเหลือหลาย แล้วเวลาพวกมันเดินเข้าคุก ในบั้นปลายชีวิตเนี่ย มรึงรู้มั้ยว่า "ทุกข์ยิ่งกว่า" ถั่วดำรอรับ ส้นตรีนรอเรียก หมาที่ไม่มีใครแล? แค่ระดับขี้ข้า ชดใช้กรรมไป ส่วนระดับนายใหญ่หนีอยู่แล้ว ยอมจ่ายหนักซื้อเวลาต่อชีวิต แต่สุดท้ายก็ต้องไปตายห่านอกแผ่นดินพ่อกู เพราะไม่ต้องมาเป็นเสนียดแผ่นดินไปตลอดกาลทั้งวงศ์ตระกูลอัปรีย์จัญไร เวลาเหี้ยมันทุกข์ มันกินไม่ได้ นอนไม่หลับ หวาดระแวงตลอดเวลา มันคงไม่มาบอกมรึงดอก? คนที่ยังหลงกับภาพมายา ไม่หลุดพ้นซักทีคือมีกรรม "เพราะดวงตายังไม่เห็นธรรม" จำเอาไว้ว่า คนลงโทษ ไม่ใช่มรึงหรือกู แต่เป็นสวรรค์ ไม่ว่าจะทางกฎหมาย ศาล หรือฟ้าดินลงโทษ เป็นมะเร็ง เอดส์ ตายห่า ก็เป็นวิถีแห่งสวรรค์เค้า บุญย่อมมี สะสมมาช้านาน เอามาเททิ้งชาตินี้ ชาติเดียว เพราะขาดสติ สนองตัณหาจนลืมตัว สรุปคือ "ไอ้พวกเหี้ยมันไม่คู่ควรให้มรึงกับกูต้องมานั่งทุกข์ใจแทนมันดอกน่ะ" แสงทำงานดีกว่าคน ปล่อยแสงดำเนินต่อไป ทุกอย่างมีกรอบเวลา กูเคยบอกไปแล้ว!

    ปล.ไม่สังเกตุบ้างเหรอ? ช่วงนี้ รัสเซีย จีน นิ่งสงบ สยบความเคลื่อนไหว รู้มั้ยว่า รัสเซียเขมือบแผ่นดินอียูเครนไปเท่าไหร่แล้ว กินรวบแบบไร้เสียง ไม่เป็นข่าว เพราะมันทะลวงง่าย ไม่มีใครต้าน หนีตายกันหมดแล้ว! ส่วนจีน นิ่งเป็น วางหมากล้อมเหี้ยไว้หมดทั้งแปซิฟิค เอเซียใต้ มรึงเข้ามารัศมี 3000 กม. ได้แดร๊กตงเฟิง FOR U แน่ ดีออก? อีปินส์ หายเข้ากลีบเมฆเฉย หลังรัสเซีย จีน อิหร่าน ซ้อมรบร่วมกันครั้งใหญ่ ตบขี้ข้าหางแถวเผ่นหางจุกตูด แค่เศษเสี้ยว อย่าริเสนอหน้ามาท้ากู อาเซียนไม่ยุ่ง ใครล้ำเส้นรับผิดชอบกันเอง? ทุกวันนี้ มีแต่โลกตอแหล เช้ามา เย็นมา อียิวถล่มอย่างงั้น อีเหี้ยมะกันสั่งลุยอย่างงี้ แต่โลกความเป็นจริง ข้อเท็จจริง สิ่งที่เกิดขึ้นจริง คืออิสราเอลแตกแล้ว ชาวยิวกว่า 2 ล้านล่าสุด อพยพหนีตายหมดแล้ว เทลอาวีฟ ไฮฟา เยรูซาเล็ม กลายเป็นสนามซ้อมยิงเป้าเช้าเย็น ไซเรนดังจนแบตหมด ดังยาวทั้งคืน ไม่มีดอกที่สื่อขี้ข้ายิวมันจะมาบอกเรื่องพวกนี้ ว่า "นายกู กำลังจะตายคาตรีน" ดีแต่ยิงข่าวปล่อย หลอกควายไปวันวัน ใครเชื่อ เขาก็งอกขึ้นมา ก็เท่านั้นเอง? เคยบอกแล้วว่า สิ่งที่ตอแหลไม่ได้ คือให้ดูผลลัพธ์ ใครบุกใครอยู่ ใครเอาใครอยู่ ใครได้เปรียบกลศึกสงคราม ใครที่นำโลกอยู่เวลานี้? เมื่อโลกไม่มีดอลล่าร์ ยูโร เงินเยน อีก มรึงจะเดินต่อไปยังไง? ทุกอย่างขั้วใหม่เค้าวางแผนระยะยาวต่อไว้นานแล้ว ช่วงนี้ มันคือการตัดสินใจครั้งสำคัญ "ขั้วใหม่" พร้อมจะเด็ดหัวเหี้ยให้เด็ดขาดแล้วรึยัง? ไม่ใช่อยู่ที่อียิว เพราะเป็นฝ่ายตั้งรับ รอโดน หากจะแช่สงครามลากยาวปาหี่ไปจนถึงปีหน้า กูบอกได้เลย ตะวันตกไม่ต้องทำมาหาแดร๊กแล้ว เพราะเครื่องบิน เดินเรือขนส่ง โลจิสติคโลก ถูกปิดเส้นทางลำเลียงสิ้นเพราะสงครามเป็นเหตุ กระทบทั้งโลก แต่เอเซียเฟื่องฟู เพราะมีทุกอย่าง พึ่งพาตัวเองได้ ทั้งโลกจึงต้องแห่มาขอร่วมเอเซียไงล่ะ ภาพใหญ่ที่จะเกิดจะมาทรงนี้ แนวทางการรบจะเริ่มเปลี่ยน ผู้คนเบื่อหน่าย ทหารตายฟรี ครอบครัวเดือดร้อน ทั้งโลกต่อต้านสงคราม ทั้งโลกต่อต้าน NATO ทั้งโลกไม่เอาอียิวสลัดหมา พ่วงอเมริกา อังกฤษ ขี้ข้าชิ่งหนีหายวับ 7 ตค. ผบตร.คนใหม่ ตามกฎหมายใหม่ นายกฯ เลือกจริงแต่แต่งตั้งไม่ได้ ต้องผ่านกตร.เท่านั้น พลิกโผ บิ๊กต่ายล้างไพ่ ม้ามืดเทวดาชั้น 14 แห้วแดร๊ก แสงเริ่มเห็นชัด ล้างบางต้องมา ล้างเหี้ยต้องมี ตำหนวนเสียหมามาเป็นชาติแล้ว ถึงมือใหม่ ยุคใหม่ หัวต้องดีก่อน หางถึงจะกระดิกตาม จับตาดู การกระทำดีกว่าคำพูด! กระบวนการยุติธรรมต้นทางก็คือมรึงเนี่ยแหละ มีเหรอ ที่เบื้องบนจะไม่รู้ติ้นลึกหนาบาง ทุกอย่างเป็นไปตามมติสวรรค์ บทกลียุคมันเป็นภาคบังคับ กลียุคไม่มา โลกก็จะไม่มีวันเปลี่ยนได้ ทุกอย่างคือ "ภาพมายา"

    หมี CNN(อย่าต๊กกะใจ สิ่งใหม่กำลังจะเข้ามา การล้างบางสิ่งชั่วร้ายย่อมใช้เวลา เมื่อแสงทำงาน มันจะไปไวมาไวเสมอ ทุกเรื่องราวที่มรึงเจ็บช้ำน้ำใจ จะถูกปลดปล่อย ยามเมื่อแสงสีทองผ่องอำไพสาดส่องถึง พวกสัดนรกจะลงขุมนรกตามพ่อของมันไปอย่างรวดเร็ว มรึงเริ่มเห็นเด่นชัดมากขึ้นทุกวันนี้ ไม่มีอะไรได้ดั่งใจ คนชั่วมันก็มีวิถีของมัน วิถีสวรรค์ก็มีหนทางของเค้าเช่นกัน ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ของตน บทละครพลิกได้ตลอดเวลา เพราะมันคือวิบากกรรมที่ทั้งโลกต้องชดใช้ กับการเพิกเฉยที่ผ่านมานับ 100 ปี จงดูอย่างใจสงบ เพราะไม่ว่าเรื่องมันจะหนักหนาซักแค่ไหน สุดท้าย "แล้วมันก็ผ่านไป" ดั่งชีวิตมรึงที่มีขึ้น มีลง นั่นแหละ ชั่ว 7 ที ดี 7 หน จำเอาไว้เพ่น้อง)
    01 ตุลาคม 67
    12.28 น. https://linevoom.line.me/post/1172777976310793878

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ :
    https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    01-10-67/01 : หมี CNN / "สัปยุทธ์ทะลุฟ้า" พลิกตำราไม่ทัน! กลยุทธเหนือเมฆ บีบจนเหี้ยนายใหญ่ต้องออกตัว! อย่าลืมน่ะ อีไก่งวง จีน โสมแดง คิวบา แอฟริกาใต้ ยังไม่ออกโรง? ตัวละครลับยังมีมาไม่สิ้นสุด อสรพิษ NATO ไส้ศึก หนอนบ่อนไส้ ยังไม่เปิดตัว ทุกอย่างรอ "คบไฟ โอลิมปัส" มาถึงก่อน ใครก้าวพลาด จะถูกรุมประณาม แล้วถูกโดดเดี่ยวจากโลกตลอดกาล ขั้วใหม่ไม่เร่งรีบ เพราะเป็นฝ่ายนำไปไกลโขอยู่ ส่วนเหี้ยไม่มีอะไรจะเสีย เพราะเสียหมาไปไม่รู้กี่ครั้งแล้ว เวลาเห็นข่าวสารรอบโลก ให้จำเอาไว้ว่า สคริปต์มาจากที่เดียวกันทั้งหมด นั่นคือ "REUTER" ซึ่งออกจากเตา เขียนบทโดยวอชิงตัน ดังนั้น เคยเชื่อตรงกันข้ามในสิ่งที่เห็นได้ยิน นั่นคือ "บรรลุธรรม" แล้วจ๊ะ ไม่ต้องแปลเยอะ อะไรที่เหี้ยทำ แอบอ้าง แล้วฝ่ายตรงกันข้ามออกมายอมรับ นั่นให้จำเอาไว้ว่า "ผิดปกติ" ยามศึก ไม่มีใครเล่นหน้าเดียวดอกน่ะ แผนซ้อนแผนมีมาเป็น 1000 ปี ไม่ใช่เรื่องใหม่ โลกยุคใหม่ตามโซเชี่ยล มันปั่นหัวคนง่ายดาย แค่ใช้สติ ลองคิดเองว่า หากอียิวมันฆ่าได้จริง ผู้นำทั่วโลกที่เป็นศัตรูมันมาเป็น 100 ปี คงตายห่ากันหมดโลกแล้ว เรื่องมาแดงตอน ปีเดียว ชิงกันตายห่า 3-4 คน พร้อมกัน ถามจริง "มันง่ายดายขนาดนั้นเชียวเหรอ?" มรึงคิดว่าอิหร่าน อิรัก ซีเรีย เลบานอน ปาเลสไตน์ เยเมน ที่ไล่ขย่มเหี้ยยิวทุกวันนี้ มันจะไม่รู้ว่าอียิวมีของอะไรบ้าง? อาวุธเหี้ยมะกันเต็มคลังแสง เค้าอ่านมันออกหมดนานแล้ว ว่ามรึงจะใช้อะไร ทำยังไง? ไอ้ที่คุยระเบิดบังเกอร์ห่าเหวเนี่ย มันไม่ใช่เรื่องใหม่ มรึงใช้มาตั้งแต่สงครามอัฟกานิสถานแล้ว สื่อยิวตีข่าวปั่นควาย เพราะควายไม่รู้ว่า ใต้ดินของโลกอาหรับ มันลึกมากกว่านั้นเยอะ หาไม่แล้ว พวกมรึงคงฆ่าฮามาสตายห่าหมดไปนานแล้ว ยิงเป็น 100 ลูก ยังเข้าไม่ถึงเลย เพราะมันลึก และซับซ้อนกว่านั้นเยอะ ไม่มีใครชี้ตำแหน่งได้ถูกต้องแม่นยำ กว่าจะยิงถึง มรึงก็ถูกสกัดก่อนแล้ว ทั้งหมดคือแผนตบตา ก็เหมือนไรซี ขึ้นฮอ 2 ครั้งติดไงล่ะ โปรดสังเกตุ การตายของผู้นำ ล้วนเกิดจากภายในแผ่นดินตัวเองทั้งสิ้น หรือชาติพันธมิตร นั่นแปลว่า มันจัดฉากง่ายไงล่ะ? ก็เหมือนผีพริโกซินจะตายห่าที่ไหนก็ได้ แต่ต้องมาตายเฉพาะในแผ่นดินรัสเซียเท่านั้น? มรึงโดนต้มเปื่อยไม่รู้เท่าไหร่แล้ว ความจำสั้นกันจัง เหมือนตอนรถถัง WAGNER ก่อกบฎ สื่อตีกันมันส์หยด แล้วเสียหมาทุกเจ้าไงล่ะ? WAGNER ไปโผล่เบลารุสเฉย แผนการมันมี ไม่มีอะไรง่ายดายขนาดนั้นดอก ไม่งั้น อิหร่านเชือดอียิวเหี้ยตายห่าไปนานแล้ว ไอ้ที่รอ คือรอทั้งโลกลงแขก? ชนะแบบไหนกันล่ะ ถึงเรียกว่าเบ็ดเสร็จเด็ดขาดจริง! ไม่มีฟื้น! อัพเดท สถานการณ์ล่าสุด ทั้ง 2 ฝ่าย ประเมินกำลังกันพอหอมปากหอมคอกันแล้ว ชาวยิวอพยพหนีตายออกจากตอนเหนือหมดแล้ว นั่นคือสัญญานสงครามเต็มรูปแบบ ขณะที่ตอนกลาง ทั้งเทลอาวีฟ ไฮฟา เยรูซาเล็ม ถูกนวดรายวัน อ่อนยวบไปเยอะ สนามบินพัง คลังแสงระเบิด ตึกบัญชาการอีมดสัดหาย ทำไมฮามาส จะไม่รู้ ว่าอียิวเหี้ย มันสร้างบังเกอร์ หลุมหลบภัยใต้ดินไว้ที่ไหน? ใครชำนาญเป็นขอมดำดินมากกว่ากันล่ะ? ใครขุดใต้ดินให้อียิว ก็เชลยชาวปาเลสไตน์ทั้งนั้น เค้ามีนกรู้ สายลับสอดไส้คาราเมลทั้ง 2 ฝั่ง รู้ไส้ รู้พุงกันดี การจะฆ่าผู้นำอีกฝั่ง มันไม่ง่ายดายดอก การตายของคาเมเนอีในเบื้องหน้า มรึงดูเอาไว้เลย เพื่อส่งไม้ต่อให้ลูกชายคนโตชัดเจน แถวบ้านเรียก "วางมือ" แล้วจะเป็นการประกาศสงครามใหญ่ทันที ทุกอย่างมันมีแผนการรองรับทั้งหมด ไม่ใช่เดินมั่วซั่ว ผู้นำทุกคนที่แกล้งตายไป คือเดินออกจากเกมส์นี้ เพื่อไปอยู่เบื้องหลัง ชงต่อให้มือสังหารตัวจริงเข้ามาทำหน้าที่ เหตุผลคือ 1.กระแสล้างแค้น 2.ชี้ให้โลกเห็นเต็ม 2 ตา ใครคือก่อการร้ายโลกตัวจริง 3.สร้างความสามัคคีเป็นหมู่คณะในชาติมุสลิม 4.โยกย้ายเปลี่ยนฐานกำลังใหม่ แผนสับขาหลอก เพื่อเบี่ยงเบนประเด็นที่ใหญ่กว่า สำคัญกว่า ทำให้ศัตรูสับสน 5.หลักฐานเช็คบิลอียิว ทั้งในเวทีโลก และทั้งทวีป ส่งศาลโลกฟันซ้ำ ข้ามวิกแป๊บ : ชั่วแค่ไหน เหี้ยแค่ไหน ขายชาติแค่ไหน ใหญ่คับฟ้าแค่ไหน ก็หนีไม่พ้นบ่วงกรรม อีทนง จ่อเดินเข้าคุก คดีจำปีหอมหวานแดร๊กอร่อย เวลาเหี้ยมันทำเหี้ย มันสาแก่ใจ มันผยอง มันกร่างสุดติ่ง มรึงทุกข์ทรมานเหลือเกิน มรึงเจ็บช้ำน้ำใจเหลือหลาย แล้วเวลาพวกมันเดินเข้าคุก ในบั้นปลายชีวิตเนี่ย มรึงรู้มั้ยว่า "ทุกข์ยิ่งกว่า" ถั่วดำรอรับ ส้นตรีนรอเรียก หมาที่ไม่มีใครแล? แค่ระดับขี้ข้า ชดใช้กรรมไป ส่วนระดับนายใหญ่หนีอยู่แล้ว ยอมจ่ายหนักซื้อเวลาต่อชีวิต แต่สุดท้ายก็ต้องไปตายห่านอกแผ่นดินพ่อกู เพราะไม่ต้องมาเป็นเสนียดแผ่นดินไปตลอดกาลทั้งวงศ์ตระกูลอัปรีย์จัญไร เวลาเหี้ยมันทุกข์ มันกินไม่ได้ นอนไม่หลับ หวาดระแวงตลอดเวลา มันคงไม่มาบอกมรึงดอก? คนที่ยังหลงกับภาพมายา ไม่หลุดพ้นซักทีคือมีกรรม "เพราะดวงตายังไม่เห็นธรรม" จำเอาไว้ว่า คนลงโทษ ไม่ใช่มรึงหรือกู แต่เป็นสวรรค์ ไม่ว่าจะทางกฎหมาย ศาล หรือฟ้าดินลงโทษ เป็นมะเร็ง เอดส์ ตายห่า ก็เป็นวิถีแห่งสวรรค์เค้า บุญย่อมมี สะสมมาช้านาน เอามาเททิ้งชาตินี้ ชาติเดียว เพราะขาดสติ สนองตัณหาจนลืมตัว สรุปคือ "ไอ้พวกเหี้ยมันไม่คู่ควรให้มรึงกับกูต้องมานั่งทุกข์ใจแทนมันดอกน่ะ" แสงทำงานดีกว่าคน ปล่อยแสงดำเนินต่อไป ทุกอย่างมีกรอบเวลา กูเคยบอกไปแล้ว! ปล.ไม่สังเกตุบ้างเหรอ? ช่วงนี้ รัสเซีย จีน นิ่งสงบ สยบความเคลื่อนไหว รู้มั้ยว่า รัสเซียเขมือบแผ่นดินอียูเครนไปเท่าไหร่แล้ว กินรวบแบบไร้เสียง ไม่เป็นข่าว เพราะมันทะลวงง่าย ไม่มีใครต้าน หนีตายกันหมดแล้ว! ส่วนจีน นิ่งเป็น วางหมากล้อมเหี้ยไว้หมดทั้งแปซิฟิค เอเซียใต้ มรึงเข้ามารัศมี 3000 กม. ได้แดร๊กตงเฟิง FOR U แน่ ดีออก? อีปินส์ หายเข้ากลีบเมฆเฉย หลังรัสเซีย จีน อิหร่าน ซ้อมรบร่วมกันครั้งใหญ่ ตบขี้ข้าหางแถวเผ่นหางจุกตูด แค่เศษเสี้ยว อย่าริเสนอหน้ามาท้ากู อาเซียนไม่ยุ่ง ใครล้ำเส้นรับผิดชอบกันเอง? ทุกวันนี้ มีแต่โลกตอแหล เช้ามา เย็นมา อียิวถล่มอย่างงั้น อีเหี้ยมะกันสั่งลุยอย่างงี้ แต่โลกความเป็นจริง ข้อเท็จจริง สิ่งที่เกิดขึ้นจริง คืออิสราเอลแตกแล้ว ชาวยิวกว่า 2 ล้านล่าสุด อพยพหนีตายหมดแล้ว เทลอาวีฟ ไฮฟา เยรูซาเล็ม กลายเป็นสนามซ้อมยิงเป้าเช้าเย็น ไซเรนดังจนแบตหมด ดังยาวทั้งคืน ไม่มีดอกที่สื่อขี้ข้ายิวมันจะมาบอกเรื่องพวกนี้ ว่า "นายกู กำลังจะตายคาตรีน" ดีแต่ยิงข่าวปล่อย หลอกควายไปวันวัน ใครเชื่อ เขาก็งอกขึ้นมา ก็เท่านั้นเอง? เคยบอกแล้วว่า สิ่งที่ตอแหลไม่ได้ คือให้ดูผลลัพธ์ ใครบุกใครอยู่ ใครเอาใครอยู่ ใครได้เปรียบกลศึกสงคราม ใครที่นำโลกอยู่เวลานี้? เมื่อโลกไม่มีดอลล่าร์ ยูโร เงินเยน อีก มรึงจะเดินต่อไปยังไง? ทุกอย่างขั้วใหม่เค้าวางแผนระยะยาวต่อไว้นานแล้ว ช่วงนี้ มันคือการตัดสินใจครั้งสำคัญ "ขั้วใหม่" พร้อมจะเด็ดหัวเหี้ยให้เด็ดขาดแล้วรึยัง? ไม่ใช่อยู่ที่อียิว เพราะเป็นฝ่ายตั้งรับ รอโดน หากจะแช่สงครามลากยาวปาหี่ไปจนถึงปีหน้า กูบอกได้เลย ตะวันตกไม่ต้องทำมาหาแดร๊กแล้ว เพราะเครื่องบิน เดินเรือขนส่ง โลจิสติคโลก ถูกปิดเส้นทางลำเลียงสิ้นเพราะสงครามเป็นเหตุ กระทบทั้งโลก แต่เอเซียเฟื่องฟู เพราะมีทุกอย่าง พึ่งพาตัวเองได้ ทั้งโลกจึงต้องแห่มาขอร่วมเอเซียไงล่ะ ภาพใหญ่ที่จะเกิดจะมาทรงนี้ แนวทางการรบจะเริ่มเปลี่ยน ผู้คนเบื่อหน่าย ทหารตายฟรี ครอบครัวเดือดร้อน ทั้งโลกต่อต้านสงคราม ทั้งโลกต่อต้าน NATO ทั้งโลกไม่เอาอียิวสลัดหมา พ่วงอเมริกา อังกฤษ ขี้ข้าชิ่งหนีหายวับ 7 ตค. ผบตร.คนใหม่ ตามกฎหมายใหม่ นายกฯ เลือกจริงแต่แต่งตั้งไม่ได้ ต้องผ่านกตร.เท่านั้น พลิกโผ บิ๊กต่ายล้างไพ่ ม้ามืดเทวดาชั้น 14 แห้วแดร๊ก แสงเริ่มเห็นชัด ล้างบางต้องมา ล้างเหี้ยต้องมี ตำหนวนเสียหมามาเป็นชาติแล้ว ถึงมือใหม่ ยุคใหม่ หัวต้องดีก่อน หางถึงจะกระดิกตาม จับตาดู การกระทำดีกว่าคำพูด! กระบวนการยุติธรรมต้นทางก็คือมรึงเนี่ยแหละ มีเหรอ ที่เบื้องบนจะไม่รู้ติ้นลึกหนาบาง ทุกอย่างเป็นไปตามมติสวรรค์ บทกลียุคมันเป็นภาคบังคับ กลียุคไม่มา โลกก็จะไม่มีวันเปลี่ยนได้ ทุกอย่างคือ "ภาพมายา" หมี CNN(อย่าต๊กกะใจ สิ่งใหม่กำลังจะเข้ามา การล้างบางสิ่งชั่วร้ายย่อมใช้เวลา เมื่อแสงทำงาน มันจะไปไวมาไวเสมอ ทุกเรื่องราวที่มรึงเจ็บช้ำน้ำใจ จะถูกปลดปล่อย ยามเมื่อแสงสีทองผ่องอำไพสาดส่องถึง พวกสัดนรกจะลงขุมนรกตามพ่อของมันไปอย่างรวดเร็ว มรึงเริ่มเห็นเด่นชัดมากขึ้นทุกวันนี้ ไม่มีอะไรได้ดั่งใจ คนชั่วมันก็มีวิถีของมัน วิถีสวรรค์ก็มีหนทางของเค้าเช่นกัน ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ของตน บทละครพลิกได้ตลอดเวลา เพราะมันคือวิบากกรรมที่ทั้งโลกต้องชดใช้ กับการเพิกเฉยที่ผ่านมานับ 100 ปี จงดูอย่างใจสงบ เพราะไม่ว่าเรื่องมันจะหนักหนาซักแค่ไหน สุดท้าย "แล้วมันก็ผ่านไป" ดั่งชีวิตมรึงที่มีขึ้น มีลง นั่นแหละ ชั่ว 7 ที ดี 7 หน จำเอาไว้เพ่น้อง) 01 ตุลาคม 67 12.28 น. https://linevoom.line.me/post/1172777976310793878 ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 421 มุมมอง 0 รีวิว
  • 24-09-67/01 : หมี CNN / สัพเพเหระ เม้าท์มอย สังขยา ปลาปิ้ง EP.49 THE DAY AFTER 2MORROW มรึงโดนกูแน่! วัดกันไปเลย วันต่อวัน จะมีปัญญาจุดไฟโหมโรง WWIII หรือไม่ อยู่ที่ ขี้ข้าเหี้ย ใจกล้าพอแค่ไหน? พร้อมตายยัง? ทะเลาะกันวงแตก หามติไม่ได้ ทั้ง NATO EU ต่างชิ่งหนีเอาตัวรอด ใครจะยอมโง่ไปตายห่าฟรี เพื่อบูชายันต์สนองตัณหาให้อียิวสลัดหมากันล่ะ? เสี้ยมกันจังน่ะมรึง! ช่องอีอ่ำ ดันสุดฤทธิ์ ห่มเหลืองบูชาเยซูคริสต์เจ้า แค่ไม่ใช่ควาย มีสติ หมายังมองออก ทำลายแก้ว 3 ประการ 1 ในนั้นคือพุทธศาสนา คนเราหากมีสติ มีเหรอ? จะดูไม่ออก ว่าเหี้ยต้องการอะไร? ไม่ว่าพุทธ คริสต์ อิสลาม ศาสนาไหนก็ดีหมด หากมรึงศรัทธาด้วยสติ ไอ้ที่ทะเลาะกันเนี่ย เพราะเหี้ยมันเสี้ยม มรึงดูอิรัก-อิหร่าน เป็นตัวอย่าง สุนี่-ชิอะห์ ไม่เผาผี แล้วเป็นยังไง วันนี้ รักกันปานจะกลืนกิน เพ่น้องร่วมโลกมุสลิม ใครเสี้ยมให้มรึงเข่นฆ่ากันเอง หันปากกระบอกปืนไปไล่ฆ่าอียูดาส อีชั่วทรยศพระเจ้าจะดีกว่ามุย? มีแต่สัดนรกเท่านั้นแหละ ที่ไม่อยากเห็นมวลมนุษยชาติรักใคร่กัน เพราะมันจะหาแดร๊กลำบาก ธุรกิจของอียิวทุกอย่าง มีไว้เพื่อทำลายมวลมนุษยชาติโดยตรง ใครออกแบบล่ะ ก็อีนายใหญ่สัดนรกเลื้อยคลานเรปทีเรี่ยนไงล่ะ? เมื่อเข้าใจโลกดีแล้วว่า ความชั่วบัดซบ มาจากพวกมัน แล้วมรึงจะรออะไรอยู่ล่ะ "ฆ่าล้างโคตรแม่งซะ โลกสงบสุขทันที" ที่มาว่าแสงทำงานดีเกิน ตาสว่างไสวไปทั่วโลก แค่ตั้งสติ ปัญญามาทันที! รัสเซียจ๋า มรึงจะรีบคึกไปไหน ของเหลือเยอะชิมิ? ล่อชุดใหญ่ 900 ลูก ปูพรมแบบ NON STOP อียูเครนมันเหลือแต่ซากศพแล้ว จะขยี้ไปถึงไหน? ไอ้สัส! บร๊าไปแล้ว แค่ 7 NANO ชิปเทพ อีฝรั่งหัวทองเห็นยังอึ้ง ยังช็อค! นี่เผลอแป๊บเดียว มรึงจะไปถึง 8 NANO อีกแล้วเหรอ? สัส..ชาติหน้า เมื่อไหร่จะตามทัน โครงการอวกาศจีน แม่งไปถึงดาวอันโดรเมด้าแล้ว มรึงยังจะเพิ่งหาทางไปเหยียบดวงจันทร์อยู่ แม่งคนละสเปซี่เลย จีนยุคใหม่ แม่ง GENIUS ชัดๆ แล้วเสี้ยนจะทำสงครามกับจีน มีปัญญาเหรอ ไอ้ควาย? สาแก่ใจอีช้อยทั้งตะวันออกกลาง IRGC จับสายลับอีมดเหี้ยยิว 12 ตัว ไม่ต้องถามสภาพจะเหลือมุย? ตายเร็วสบายไป งานนี้ ร้องขอความตายสถานเดียว! นี่กลายเป็นว่า "อียิว" กลายเป็นเหยื่อ ให้นายพรานจากโลกมุสลิมไล่ล่าฆ่ากันอย่างเมามันส์ เอาให้สูญพันธุ์เหี้ยกันไปเลย จับได้ รีดข้อมูล จับขึงก่อน ทรมานซัก 15 วัน แล้วค่อยเชือด อยากกลับขุมนรก กูจัดให้! มันส์ล่ะมรึง! สัญญานแรง 6G จีนและชาวโลก สั่งแห่อพยพคนของตนออกจากอิสราเอลทั้งหมดแล้ว นัยยะคือ "มินิคุ๊กกี้รสปลาหมึกย่างมาเต็มตรีน" สถานฑูตไม่เหลือใครอยู่เฝ้าแล้วจ๊ะ ทะยอยออกกันเกือบหมดแล้ว อีเนรคุณแพะ หนีก็ไม่ได้ สู้ก็ตายคาที่ กวักมือเรียกขี้ข้ามะกันมา มาได้แต่นอกรัศมีระยะยิงเยเมน ไอ้สัส! ปอดแหกซะขนาดนี้ อย่าริเปิดเกมส์ใหญ่ ไม่คู่ควร! ล่าสุด XIAOMI ทำยอดขายทะลุแซง อีไอโฟนเน่าเรียบร้อย โลกไม่ใช่ของอียิวอีกแล้ว ระเบิดตายหลักสิบ แต่มูลค่าการตลาดมรึงเสียหายหลายแสนล้านเหรียญ ไม่ใช่โง่ดอก แต่มันจนตรอกขั้นสูงสุด สิ้นเนื้อประดาตัวหมดแล้ว ยังให้ตายห่าง่ายๆ ไม่สาแก่ใจ โลกรู้ ว่ามรึงแอบส่ง HAARP ไปทำลายสิ่งแวดล้อมคู่ปรปักษ์ แต่จีนล้ำกว่ามรึงเยอะ สิ่งที่จีนทำ สิ่งที่จีนมี คือส่งผลสะท้อนคลื่นแม่เหล็กกลับใส่มรึงไงล่ะ? จีนทำได้เนียนตากว่าเยอะ ยิ่งรัสเซียไม่ต้องถาม แจมสัญญานสื่อสาร ทำให้ GPS มรึงเสียการควบคุม ระบบมรึงรวนทั้งระบบ ทำไปแล้ว ตั้งแต่สัญญานอินเตอร์เน็ตล่ม โรงงานไฟฟ้าดับ โรงงานนิวเคลียร์ไม่ทำงาน วงในเค้ารู้กันว่าฝีมือใคร ที่มีเทคโนโลยีล้ำซะขนาดนี้ ขนาดนอกโลก มรึงยังต้องแบมือกราบของแรงช่วยส่งนักบินกลับโลก หมาซะยิ่งกว่าหมา? แบบนี้ ยังจะหน้าด้านมาท้าสู้อีก แค่ใต้ตรีนเค้า อย่าริเสนอหน้า มรึงไม่คู่ควร! เมืองท่าไฮฟาทรุด โดน 200 ลูก พังยับเยิน โลจิสติคเละเทะ ความช่วยเหลือไม่มา สภาพมรึงตอนนี้ ดูแล้วโคตรน่าสมเพช "พิการซะขนาดนี้" ยังเสี้ยนจะก่อสงคราม อยากให้มวลมนุษยชาติตายห่ามากสิท่า แต่ดูทรงแล้ว จะเป็นอียิวพันธุ์สัดนรกมากกว่าที่จะตายห่าสูญพันธุ์ สิ้นชาติ ได้แต่ยื้อ ทำอะไรเค้าไม่ได้เลย! โจมตีปาหี่ แตะต้องหัวใจสำคัญไม่ได้เลย อาวุธมรึงที่คิดว่าจะขายออก แป๊กสิจ๊ะ เพราะทั้งโลก หันไปหารัสเซีย จีน อิหร่าน แม้แต่โสมแดง หมดเกลี้ยง ของดีจริง พิสูจน์แล้วเต็มตา สนามรบงวดนี้ กลายเป็น SHOW ROOM ให้ขั้วใหม่ประกาศศักดาชัดเจน!

    ปล.บ้านศรีธนญชัย 2024 การเปลี่ยนแปลงมาเรื่อยๆ กองทัพตบเท้าเข้าวังหมด สายสัมพันธ์ลุงตู่ยกคณะ ทหารแตงโมหลุดทั้งยวง ปลดประจำการทั้งคณะ นายพลเหี้ยร่วงระนาว ส่งดาบแรง วังไม่ไว้หน้า คิดคดทรยศแผ่นดิน ตะบัดสัตย์ ใครจะเก็บไว้ทำพ่อง? การเมืองปาหี่ขายไม่ออก อีส้มเน่าแพ้ราบ อีแดงถูกล้างแค้น มรึงยังจะเอา ปชต. ควายไปถึงไหน เลือกตั้งมาทั้งชีวิต มีเหี้ยอะไรดีขึ้นบ้าง ไอ้สัส! สุดท้าย พ่อหลวงก็ต้องออกโรงช่วยเสมอมา ปิดทองหลังพระควายมองไม่เห็น แต่คนเห็น ลูกพ่อตัวจริงเห็นทุกอย่าง! คีย์สำคัญ จำเอาไว้ "ศรีธนญชัย รอขั้วใหม่นำโลก" ไม่ต้องลงมือเอง ตามน้ำอย่างเดียว เดินตามอย่างเดียว รอดชัวร์! อาเซียนทั้งหมด ก็ใช้แผนเดียวกัน ไม่ยุ่ง ไม่ล้ำเส้น ไม่เสือก จะรอด! ปล่อยขั้วใหม่ไล่กระทืบขั้วเก่าให้เมามันส์ไปก่อน แล้วค่อยออกโรงตอนจบ แบบตำรวจหนังไทยไงล่ะ ไอ้สัส! จีนก้าวกระโดด ใช้เวลา 24 ปี จากประเทศยากจน กลายเป็นผู้นำเศรษฐกิจโลกล่าสุด เหตุผลเดียวคือ "พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั่วประเทศ" น้ำ ไฟ ถนน อินเตอร์เน็ต โลจิสติค ครอบจักรวาล ถึงกันหมด ไม่มีช่องว่าง พื้นที่เคยขาดแคลนน้ำ ก็ผันน้ำจากแหล่งใหญ่สุดตีขึ้นเหนือ ตะวันตก จนมีน้ำใช้เหลือเฟือ เพราะก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี เพราะส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานหลักอย่างมั่นคงต่อเนื่อง ทำให้จีนเติบโตทั้งแผ่นดิน แบบที่เหี้ยตะวันตก ยังทำไม่ได้ในระยะเวลาสั้นแค่นี้ พอจีนไปอุ้มใคร ทั้งแอฟริกา ทั้งอาเซียน ก็จะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้ก่อนอันดับแลก คนต้องไปถึง น้ำ ไฟ ต้องมีใช้ โลจิสติคต้องเชื่อมต่อ เมื่อเทคโนโลยีเข้าสู่ทุกพื้นที่ได้อย่างรวดเร็ว การพัฒนาก็จะเป็นแบบก้าวกระโดด จับตาดูให้ดีดี ใครที่จีนดีด้วย จะได้เปรียบในเชิงการค้าเสมอ เพราะจีนจะป้อนตลาดเข้าหากัน ใครมีอะไร ใครขาดอะไร จับมาจูบปากคือจบ ไม่มีกั๊ก? แต่เหี้ยตะวันตกเอาทุกอย่างผูกไว้กับตัวเอง ไม่แบ่งปัน ไม่เชื่อมต่อ เพราะต้องการกุมอำนาจในมือฝ่ายเดียว นี่คือจุดอ่อนของเหี้ยที่ผ่านมา BRICS ถึงเกิดได้รวดฟ้าผ่าอย่างที่เห็น! ไอ้สัส! ไม่จริงชิมิ วิ โครโมโซม Y กำลังจะหายไป หมดโลกเหรอ? ผู้ชายกำลังจะสูญพันธุ์ เพราะโครโมโซม Y เพศผู้ สั้นลงไปเรื่อยๆ จากความยาวที่เคยเป็น เพราะความอ่อนแอด้านพันธุ์กรรม จึงทำให้โครโมโซม X ที่ยาวกว่า แข็งแกร่งกว่าเขมือบนั่นเอง แปลว่าอะไร "โลกอนาคต ผู้ชายเหลือน้อย โปรดใช้สอยอย่างปราณี" อีกหน่อย มรึงอาจจะได้เห็นทั้งโลก ประกาศรับสมัครผู้ชายมาเป็นพ่อพันธุ์ โอนสัญชาติ ดูแลฟรีทั้งชีวิต อยู่ให้ถึงน่ะ ตอนนั้น มรึงได้กลายเป็น "ชายเหนือชาย" แน่ เพราะโลกจะเหลือแค่ ผู้หญิง กับตุ๊ดหวานแหววแต๋วแตก ชายจริงจะเหลือซักกี่ตัวกันเนี่ย? เห็นแล้วเศร้า! ว่าแล้วไปลงหม้อสุกี้ดีก่า? 555+

    หมี CNN(ศุกร์เมา เสาร์นอน อาทิตย์ถอน จันทร์ลา อังคารแฮงค์ ฝนตกหนักช่วงนี้ รักษาสุขภาพด้วย เหล้า ยา ปลาปิ้ง ลดได้ลด ไปออกกำลังกายบ้าง อะไรน่ะ ฝนตกทั้งวัน จะให้กูไปออกที่ไหน ไอ้สัส! ก็กีฬาในร่มก็มี เพชรบุรีตัดใหม่ก็เยอะ รัชดาก็แยะ ไปสิ ไปเสริมแกร่งโครโมโซม Y ก่อนเสื่อม อั๊ยยะ จับตาดูโลกให้ดีดี อะไรเอ่ย มาไว ไปไว เร็วฟ้าผ่า ยังไม่ทันตั้งตัว อุ๊ปส์ หายวับทันตาเห็น เกมส์มาสุดทางแล้ว แค่รอเปิดพิธีเท่านั้นเอง ไทยยังชิลด์!)
    24 กย. 67
    11.45 น.

    https://linevoom.line.me/post/1172717524688184772
    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ :
    https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    24-09-67/01 : หมี CNN / สัพเพเหระ เม้าท์มอย สังขยา ปลาปิ้ง EP.49 THE DAY AFTER 2MORROW มรึงโดนกูแน่! วัดกันไปเลย วันต่อวัน จะมีปัญญาจุดไฟโหมโรง WWIII หรือไม่ อยู่ที่ ขี้ข้าเหี้ย ใจกล้าพอแค่ไหน? พร้อมตายยัง? ทะเลาะกันวงแตก หามติไม่ได้ ทั้ง NATO EU ต่างชิ่งหนีเอาตัวรอด ใครจะยอมโง่ไปตายห่าฟรี เพื่อบูชายันต์สนองตัณหาให้อียิวสลัดหมากันล่ะ? เสี้ยมกันจังน่ะมรึง! ช่องอีอ่ำ ดันสุดฤทธิ์ ห่มเหลืองบูชาเยซูคริสต์เจ้า แค่ไม่ใช่ควาย มีสติ หมายังมองออก ทำลายแก้ว 3 ประการ 1 ในนั้นคือพุทธศาสนา คนเราหากมีสติ มีเหรอ? จะดูไม่ออก ว่าเหี้ยต้องการอะไร? ไม่ว่าพุทธ คริสต์ อิสลาม ศาสนาไหนก็ดีหมด หากมรึงศรัทธาด้วยสติ ไอ้ที่ทะเลาะกันเนี่ย เพราะเหี้ยมันเสี้ยม มรึงดูอิรัก-อิหร่าน เป็นตัวอย่าง สุนี่-ชิอะห์ ไม่เผาผี แล้วเป็นยังไง วันนี้ รักกันปานจะกลืนกิน เพ่น้องร่วมโลกมุสลิม ใครเสี้ยมให้มรึงเข่นฆ่ากันเอง หันปากกระบอกปืนไปไล่ฆ่าอียูดาส อีชั่วทรยศพระเจ้าจะดีกว่ามุย? มีแต่สัดนรกเท่านั้นแหละ ที่ไม่อยากเห็นมวลมนุษยชาติรักใคร่กัน เพราะมันจะหาแดร๊กลำบาก ธุรกิจของอียิวทุกอย่าง มีไว้เพื่อทำลายมวลมนุษยชาติโดยตรง ใครออกแบบล่ะ ก็อีนายใหญ่สัดนรกเลื้อยคลานเรปทีเรี่ยนไงล่ะ? เมื่อเข้าใจโลกดีแล้วว่า ความชั่วบัดซบ มาจากพวกมัน แล้วมรึงจะรออะไรอยู่ล่ะ "ฆ่าล้างโคตรแม่งซะ โลกสงบสุขทันที" ที่มาว่าแสงทำงานดีเกิน ตาสว่างไสวไปทั่วโลก แค่ตั้งสติ ปัญญามาทันที! รัสเซียจ๋า มรึงจะรีบคึกไปไหน ของเหลือเยอะชิมิ? ล่อชุดใหญ่ 900 ลูก ปูพรมแบบ NON STOP อียูเครนมันเหลือแต่ซากศพแล้ว จะขยี้ไปถึงไหน? ไอ้สัส! บร๊าไปแล้ว แค่ 7 NANO ชิปเทพ อีฝรั่งหัวทองเห็นยังอึ้ง ยังช็อค! นี่เผลอแป๊บเดียว มรึงจะไปถึง 8 NANO อีกแล้วเหรอ? สัส..ชาติหน้า เมื่อไหร่จะตามทัน โครงการอวกาศจีน แม่งไปถึงดาวอันโดรเมด้าแล้ว มรึงยังจะเพิ่งหาทางไปเหยียบดวงจันทร์อยู่ แม่งคนละสเปซี่เลย จีนยุคใหม่ แม่ง GENIUS ชัดๆ แล้วเสี้ยนจะทำสงครามกับจีน มีปัญญาเหรอ ไอ้ควาย? สาแก่ใจอีช้อยทั้งตะวันออกกลาง IRGC จับสายลับอีมดเหี้ยยิว 12 ตัว ไม่ต้องถามสภาพจะเหลือมุย? ตายเร็วสบายไป งานนี้ ร้องขอความตายสถานเดียว! นี่กลายเป็นว่า "อียิว" กลายเป็นเหยื่อ ให้นายพรานจากโลกมุสลิมไล่ล่าฆ่ากันอย่างเมามันส์ เอาให้สูญพันธุ์เหี้ยกันไปเลย จับได้ รีดข้อมูล จับขึงก่อน ทรมานซัก 15 วัน แล้วค่อยเชือด อยากกลับขุมนรก กูจัดให้! มันส์ล่ะมรึง! สัญญานแรง 6G จีนและชาวโลก สั่งแห่อพยพคนของตนออกจากอิสราเอลทั้งหมดแล้ว นัยยะคือ "มินิคุ๊กกี้รสปลาหมึกย่างมาเต็มตรีน" สถานฑูตไม่เหลือใครอยู่เฝ้าแล้วจ๊ะ ทะยอยออกกันเกือบหมดแล้ว อีเนรคุณแพะ หนีก็ไม่ได้ สู้ก็ตายคาที่ กวักมือเรียกขี้ข้ามะกันมา มาได้แต่นอกรัศมีระยะยิงเยเมน ไอ้สัส! ปอดแหกซะขนาดนี้ อย่าริเปิดเกมส์ใหญ่ ไม่คู่ควร! ล่าสุด XIAOMI ทำยอดขายทะลุแซง อีไอโฟนเน่าเรียบร้อย โลกไม่ใช่ของอียิวอีกแล้ว ระเบิดตายหลักสิบ แต่มูลค่าการตลาดมรึงเสียหายหลายแสนล้านเหรียญ ไม่ใช่โง่ดอก แต่มันจนตรอกขั้นสูงสุด สิ้นเนื้อประดาตัวหมดแล้ว ยังให้ตายห่าง่ายๆ ไม่สาแก่ใจ โลกรู้ ว่ามรึงแอบส่ง HAARP ไปทำลายสิ่งแวดล้อมคู่ปรปักษ์ แต่จีนล้ำกว่ามรึงเยอะ สิ่งที่จีนทำ สิ่งที่จีนมี คือส่งผลสะท้อนคลื่นแม่เหล็กกลับใส่มรึงไงล่ะ? จีนทำได้เนียนตากว่าเยอะ ยิ่งรัสเซียไม่ต้องถาม แจมสัญญานสื่อสาร ทำให้ GPS มรึงเสียการควบคุม ระบบมรึงรวนทั้งระบบ ทำไปแล้ว ตั้งแต่สัญญานอินเตอร์เน็ตล่ม โรงงานไฟฟ้าดับ โรงงานนิวเคลียร์ไม่ทำงาน วงในเค้ารู้กันว่าฝีมือใคร ที่มีเทคโนโลยีล้ำซะขนาดนี้ ขนาดนอกโลก มรึงยังต้องแบมือกราบของแรงช่วยส่งนักบินกลับโลก หมาซะยิ่งกว่าหมา? แบบนี้ ยังจะหน้าด้านมาท้าสู้อีก แค่ใต้ตรีนเค้า อย่าริเสนอหน้า มรึงไม่คู่ควร! เมืองท่าไฮฟาทรุด โดน 200 ลูก พังยับเยิน โลจิสติคเละเทะ ความช่วยเหลือไม่มา สภาพมรึงตอนนี้ ดูแล้วโคตรน่าสมเพช "พิการซะขนาดนี้" ยังเสี้ยนจะก่อสงคราม อยากให้มวลมนุษยชาติตายห่ามากสิท่า แต่ดูทรงแล้ว จะเป็นอียิวพันธุ์สัดนรกมากกว่าที่จะตายห่าสูญพันธุ์ สิ้นชาติ ได้แต่ยื้อ ทำอะไรเค้าไม่ได้เลย! โจมตีปาหี่ แตะต้องหัวใจสำคัญไม่ได้เลย อาวุธมรึงที่คิดว่าจะขายออก แป๊กสิจ๊ะ เพราะทั้งโลก หันไปหารัสเซีย จีน อิหร่าน แม้แต่โสมแดง หมดเกลี้ยง ของดีจริง พิสูจน์แล้วเต็มตา สนามรบงวดนี้ กลายเป็น SHOW ROOM ให้ขั้วใหม่ประกาศศักดาชัดเจน! ปล.บ้านศรีธนญชัย 2024 การเปลี่ยนแปลงมาเรื่อยๆ กองทัพตบเท้าเข้าวังหมด สายสัมพันธ์ลุงตู่ยกคณะ ทหารแตงโมหลุดทั้งยวง ปลดประจำการทั้งคณะ นายพลเหี้ยร่วงระนาว ส่งดาบแรง วังไม่ไว้หน้า คิดคดทรยศแผ่นดิน ตะบัดสัตย์ ใครจะเก็บไว้ทำพ่อง? การเมืองปาหี่ขายไม่ออก อีส้มเน่าแพ้ราบ อีแดงถูกล้างแค้น มรึงยังจะเอา ปชต. ควายไปถึงไหน เลือกตั้งมาทั้งชีวิต มีเหี้ยอะไรดีขึ้นบ้าง ไอ้สัส! สุดท้าย พ่อหลวงก็ต้องออกโรงช่วยเสมอมา ปิดทองหลังพระควายมองไม่เห็น แต่คนเห็น ลูกพ่อตัวจริงเห็นทุกอย่าง! คีย์สำคัญ จำเอาไว้ "ศรีธนญชัย รอขั้วใหม่นำโลก" ไม่ต้องลงมือเอง ตามน้ำอย่างเดียว เดินตามอย่างเดียว รอดชัวร์! อาเซียนทั้งหมด ก็ใช้แผนเดียวกัน ไม่ยุ่ง ไม่ล้ำเส้น ไม่เสือก จะรอด! ปล่อยขั้วใหม่ไล่กระทืบขั้วเก่าให้เมามันส์ไปก่อน แล้วค่อยออกโรงตอนจบ แบบตำรวจหนังไทยไงล่ะ ไอ้สัส! จีนก้าวกระโดด ใช้เวลา 24 ปี จากประเทศยากจน กลายเป็นผู้นำเศรษฐกิจโลกล่าสุด เหตุผลเดียวคือ "พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั่วประเทศ" น้ำ ไฟ ถนน อินเตอร์เน็ต โลจิสติค ครอบจักรวาล ถึงกันหมด ไม่มีช่องว่าง พื้นที่เคยขาดแคลนน้ำ ก็ผันน้ำจากแหล่งใหญ่สุดตีขึ้นเหนือ ตะวันตก จนมีน้ำใช้เหลือเฟือ เพราะก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี เพราะส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานหลักอย่างมั่นคงต่อเนื่อง ทำให้จีนเติบโตทั้งแผ่นดิน แบบที่เหี้ยตะวันตก ยังทำไม่ได้ในระยะเวลาสั้นแค่นี้ พอจีนไปอุ้มใคร ทั้งแอฟริกา ทั้งอาเซียน ก็จะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้ก่อนอันดับแลก คนต้องไปถึง น้ำ ไฟ ต้องมีใช้ โลจิสติคต้องเชื่อมต่อ เมื่อเทคโนโลยีเข้าสู่ทุกพื้นที่ได้อย่างรวดเร็ว การพัฒนาก็จะเป็นแบบก้าวกระโดด จับตาดูให้ดีดี ใครที่จีนดีด้วย จะได้เปรียบในเชิงการค้าเสมอ เพราะจีนจะป้อนตลาดเข้าหากัน ใครมีอะไร ใครขาดอะไร จับมาจูบปากคือจบ ไม่มีกั๊ก? แต่เหี้ยตะวันตกเอาทุกอย่างผูกไว้กับตัวเอง ไม่แบ่งปัน ไม่เชื่อมต่อ เพราะต้องการกุมอำนาจในมือฝ่ายเดียว นี่คือจุดอ่อนของเหี้ยที่ผ่านมา BRICS ถึงเกิดได้รวดฟ้าผ่าอย่างที่เห็น! ไอ้สัส! ไม่จริงชิมิ วิ โครโมโซม Y กำลังจะหายไป หมดโลกเหรอ? ผู้ชายกำลังจะสูญพันธุ์ เพราะโครโมโซม Y เพศผู้ สั้นลงไปเรื่อยๆ จากความยาวที่เคยเป็น เพราะความอ่อนแอด้านพันธุ์กรรม จึงทำให้โครโมโซม X ที่ยาวกว่า แข็งแกร่งกว่าเขมือบนั่นเอง แปลว่าอะไร "โลกอนาคต ผู้ชายเหลือน้อย โปรดใช้สอยอย่างปราณี" อีกหน่อย มรึงอาจจะได้เห็นทั้งโลก ประกาศรับสมัครผู้ชายมาเป็นพ่อพันธุ์ โอนสัญชาติ ดูแลฟรีทั้งชีวิต อยู่ให้ถึงน่ะ ตอนนั้น มรึงได้กลายเป็น "ชายเหนือชาย" แน่ เพราะโลกจะเหลือแค่ ผู้หญิง กับตุ๊ดหวานแหววแต๋วแตก ชายจริงจะเหลือซักกี่ตัวกันเนี่ย? เห็นแล้วเศร้า! ว่าแล้วไปลงหม้อสุกี้ดีก่า? 555+ หมี CNN(ศุกร์เมา เสาร์นอน อาทิตย์ถอน จันทร์ลา อังคารแฮงค์ ฝนตกหนักช่วงนี้ รักษาสุขภาพด้วย เหล้า ยา ปลาปิ้ง ลดได้ลด ไปออกกำลังกายบ้าง อะไรน่ะ ฝนตกทั้งวัน จะให้กูไปออกที่ไหน ไอ้สัส! ก็กีฬาในร่มก็มี เพชรบุรีตัดใหม่ก็เยอะ รัชดาก็แยะ ไปสิ ไปเสริมแกร่งโครโมโซม Y ก่อนเสื่อม อั๊ยยะ จับตาดูโลกให้ดีดี อะไรเอ่ย มาไว ไปไว เร็วฟ้าผ่า ยังไม่ทันตั้งตัว อุ๊ปส์ หายวับทันตาเห็น เกมส์มาสุดทางแล้ว แค่รอเปิดพิธีเท่านั้นเอง ไทยยังชิลด์!) 24 กย. 67 11.45 น. https://linevoom.line.me/post/1172717524688184772 ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 554 มุมมอง 1 รีวิว
  • จะบอกติ่งๆทั้งหลายว่า……โหด……มัน……ฮานิดหน่อย ไม่มีใครเกินพี่ปูคนนี้….

    ตอนสิบสอง……สู่บัลลังก์อำนาจ ด้วยการผ่านอุปสรรคที่เกิดขึ้นรายวัน……ไม่ว่าบู๊……ว่าบุ๋น……!!!

    ประธานาธิบดีบุชได้โทรกลับมา ปูตินได้แสดงความเสียใจและเศร้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างจริงใจ
    ความโกรธ ความชังอเมริกันที่นาโต้ไปบอมบ์ที่ Kosovo ก็พักไว้ก่อน
    ประชาชนชาวรัสเซียได้นำดอกไม้ไปวางเพื่อแสดงความเสียใจที่หน้าสถานทูตอเมริกาเป็นกองพะเนิน
    ปูตินได้ย้ำกับปธน. บุช ว่า……
    “ในช่วงเวลาที่วุ่นวาย โหดร้ายเช่นนี้ ……เราจะยืนหยัดสู้ไปด้วยกัน……”
    ที่ลึกๆแล้ว……ปูตินมีความประทับใจในประธานาธิบดีบุชอยู่เป็นทุน
    เนื่องจากตอนที่บุชหาเสียงในปี 1999 (คู่แข่งคือ นาย Al Gore)
    เขาได้ประกาศนโยบายว่า ……จะไม่ยุ่งกับสงครามเชเชน..…

    เมื่อทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ทั้งคู่จึงได้พบกันเป็นครั้วแรกใน เดือนมิถุนายน
    2001 ที่ Ljubljana, Slovenia
    คราวนี้ต่างคนต่างเตรียมตัวมาดี ในการ(แอบ) อ่านประวัติส่วนตัวของคู่สนทนากันมา เช่น
    ปูตินชวนบุชคุยถึงเรื่องรักบี้ (เพราะเป็นกีฬาโปรดสมัยหนุ่ม)
    แต่บุชมาเหนือกว่า……เขาถามปูตินถึงเรื่อง”กางเขน” ที่ถูกไฟไหม้ ซึ่งเป็นเรื่องที่น้อยคนจะทราบ
    เล่นเอาปูติน…งงไปพักนึง(นับว่าการข่าวของอเมริกันนั้น เชื่อถือได้ในระดับหนึ่ง

    ต่อภายหลังเมื่อมีคนถามบุช…ว่า คิดว่าคนอย่างปูตินเป็นอย่างไร?
    เขาตอบว่า เป็นคนตรงไปตรงมา เป็นคนที่มั่นคงกับการเห็นชาติพัฒนาไปในทางที่ดี ผมชอบเขานะ……ได้เขิญเขามาเที่ยวที่บ้านไร่ในเท็กซัสด้วย”
    ทั้งๆที่งานนี้……มีแต่คนสงสัยว่า จะเชื่อปูตินได้ยังไง ในเมื่อ KGB เก่าพวกนี้
    เขาไม่เคยพูดความจริงอะไรกับใคร……

    ในช่วงของการขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี ปูตินเดินทางไปทั่วรัสเซีย
    และอีก 18 ประเทศ ที่มีลุดมิลาเคียงคู่ไปด้วย เป็นการประกาศกลายๆ
    ว่าโลกได้ปลอดจากสงครามเย็นไปแล้ว และตอนนี้รัสเซียพร้อมที่จะเปิดกว้างกับการที่จะก้าวสู่การเป็นประเทศที่พัฒนาอย่างเต็มสูบ

    ในปี 2001 ปูตินปิดหน่วยงาน(โซเวียต) ที่ คิวบา, เวียดนาม
    พร้อมทั้งหันมาพัฒนากองทัพเต็มรูปแบบ และเพิ่มประสิทธิภาพทางฝั่งเหนือของคอร์เคซัส ในการที่จะส่ายตาหากลุ่มอิสลามหัวรุนแรง

    หลังจากวิกฤต 9/11 ปูตินอ่อนข้อให้กับการขยายเขตแดนของนาโต้ ที่ก้าวเข้ามากวาด Lithuania, Latvia, Estonia ที่อยู่ติดกับรัสเซีย
    บางครั้งปูตินยังเคยบอกว่า……รัสเซียเองก็สนใจที่จะเข้าร่วมในนาโต้ด้วยเช่นกัน (ไม่รู้ว่าประชด หรือ พูดจริง)
    อเมริกาได้เปิดฉากทำสงครามล้างแค้นกับกลุ่มอัลเคดะห์ และ กลุ่มตาลีบัน
    ในอาฟกานิสถาน ในเดือนตุลาคม ที่ปูตินได้ช่วยทั้งเงินและอาวุธ
    ช่วยกองทัพอัฟกันในการต่อต้านกับตาลีบัน
    และได้โอนอ่อน…ไม่ขัดขวางเมื่อกองทัพอเมริกันมาตั้งฐานที่ Uzbekistan และ Kyrgyzstan
    ซึ่งนี่คือประวัติศาสตร์ครั้งแรกที่กองทัพอเมริกันได้เข้ามาเหยียบในแผ่นดินฝั่งนี้ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง

    หลังจากที่เกิดอุบัติเหตุกับเรือดำน้ำ Kursk ปูตินได้หันมาจี้เรื่องกองทัพด้วยตัวเอง เขาปลดพวกนายพลเช้าชามเย็นชามออกไปเป็นแผง
    เพิ่มเงินเดือนให้กับทหารรุ่นใหม่ พร้อมสวัสดิการอัดแน่น
    ทำเพลงชาติให้มีเนื้อเพลงคำร้อง ให้ทันสมัย ให้พ้นไปจากเงาของโซเวียต
    เพราะตอนที่นักกีฬารัสเซียไปแข่งในโอลิมปิคที่ซิดนีย์ ในปี 2000
    ได้เหรียญมากันทุกชนิด แต่เวลาขึ้นแท่นรับเหรียญ ไม่สามารถร้องเพลงชาติได้ เพราะมีแต่ดนตรี
    ชาวรัสเชี่ยนเริ่มมีชีวิตชีวากับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ และชื่นชมปูตินที่เขาได้พูดถึงก้าวใหม่นี้ว่า
    “ใครก็ตามที่ไม่รู้สึกรู้สมกับความล่มสลายของโซเวียต คือคนไม่มีหัวใจ
    และใครก็ตามที่ไม่อยากก้าวไปข้างหน้า…คือคนไม่มีสมอง…”

    การปฏิวัติทางด้านกองทัพ เขาได้แต่งตั้ง Sergei Ivanov (KGB เพื่อนเก่าและร่วมมหาวิทยาลัย เชี่ยวชาญภาษาอังกฤษ และ สวีดิช)
    ขึ้นมาคุมกำลัง เป็น รัฐมนตรีกลาโหม
    และฝ่ายงบประมาณกองทัพ คือ Lyubov Kudelina เพื่อมาดูแลเรื่องเงิน
    ส่วนนายพลที่มีประวัติมือไม่สะอาด เช่นYevgeny Adamov (สมัยเยลซิน)
    ที่มีส่วนพัวพันกับเปอร์เซ็นต์ในงบสร้างฐานนิวเคลียร์ พร้อมกับคนอื่นๆ
    ถูกส่งเข้าเก็บกรุนายพลที่ไร้สมรรถภาพ…

    รัฐมนตรีกลาโหมคนใหม่ อิวานอฟ ทำงานเร็วทันใจ เพียงสามวันหลังจากเหตุการณ์ 9/11 เขาได้ส่งสัญญาณให้ปูตินทราบว่า อเมริกากำลังขยายกำลังของนาโต้เข้ามาในส่วนของฝั่งชายขอบเอเซียกลาง (กลุ่มประเทศที่ลงท้ายด้วยคำว่า สถาน ทั้งหลาย)
    แต่ปูติน……มองเห็นว่า การสร้างสัมพันธภาพอันดีกับบุช คือสิ่งจำเป็น
    อย่างอื่นค่อยมาว่ากันทีหลัง…
    และการที่จะสร้างสัมพันธไมตรีอันดี อย่างแรกเลยที่เขาจะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง โดยการเรียนภาษาอังกฤษวันละหนึ่งชั่วโมงที่สถาบัน
    American Diplomacy and Commerce และเขาได้ใช้เป็นครั้งแรกในการสนทนากับบุช ในภาษาอังกฤษสำเนียงรัสเซียปนเยอรมันว่า
    “ผมเห็นว่าคุณตั้งชื่อลูกสาวตามชื่อแม่ และ แม่ยายของคุณ……”
    “นั่นซิ…ก็ผมมันเป็นนักการเมืองชั้นเยี่ยมไงล่ะ..”
    “เออ……ใช่จริงๆ เพราะของผมก็เหมือนกัน..”
    แล้วสองคนก็หัวเราะเฮฮากันไป

    สองคนนี้ได้พบกันอีกครั้งเมื่อการประชุม Asia-Pacific Economic Cooperation Summit ที่เซี่ยงไฮ้ ในเดือนตุลาคม
    และได้คุยกันถึงเรื่องการสร้าง(จำนวน) ซ้อม(ยิง) นิวเคลียร์ที่ยังไม่ชัดเจน
    ที่ทำให้ประธานาธิบดีบุช ต้องเชิญปูตินไปยังทำเนียบขาว สหรัฐอเมริกาในเดือน พฤศจิกายน
    เขาได้ไปเยี่ยมไร่ของบุชที่เท๊กซัสเป็นการส่วนตัว มีการเลี้ยงปิ้งย่าง บาร์บีคิว ปูตินได้กล่าวว่า
    “ผมไม่เคยไปเยี่ยมเยียนผู้คนไหนถึงในบ้านเลย…นับว่าเป็นโชคดีที่ได้มาถึงที่นี่ “
    และเขาได้ไปดูตึกที่ถล่มทลายและได้แสดงความอาลัย

    แต่.…เพียงสามอาทิตย์ต่อมา บุชได้โทรศัพท์มาถึงปูติน บอกว่า
    นโยบายทางเพนตากอนได้มีมติให้อเมริกาถอนตัวไม่เข้าร่วมกับโครงการ
    ABM (Anti-Ballistic Missile)
    เท่ากับว่า….ปูตินถูกอเมริกาเทอย่างหน้าตาเฉย…ทั้งๆที่เริ่มต้นทำท่าจะดี..

    การก่อกวนในเชเชนหลังจากสงครามยังไม่หยุด กลุ่มหัวรุนแรงได้เริ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่ปูตินได้ประกาศว่า ต้องยอมแพ้อย่างไม่มีเงื่อนไขเท่านั้น
    จึงทำให้เกิดคลื่นใต้น้ำเป็นขบวนการใต้ดิน
    ที่ทำให้เกิดการจับคนดูเป็นตัวประกันที่ โรงละคร Palace of Culture ในกรุงมอสโคว์ วันที่ 24 ตุลาคม 2002 ที่กำลังแสดงละครย้อนยุคที่ทุ่มทุนสร้างมหาศาล บัตรใบละ 15 ดอลล่าร์ (เทียบเท่า ที่นับว่าแพงมาก)
    โดยกลุ่มผู้ก่อการร้ายแต่งกายเป็นคนงาน ขึ้นไปบนเวที
    ท่ามกลางความสับสนของคนดู ที่คิดว่าเป็นส่วนหนึ่งของการแสดง
    แต่.…คณะผู้ก่อการร้ายในการนำของ Movsar Barayev** ได้กราดกระสุน AK-47 ขึ้นไปบนเพดาน และประกาศว่า ประตูทุกบานได้มีสลักระเบิดผูกติดอยู่
    ผู้หญิงคนหนึ่งในชุดเสื้อคลุมสีดำ ได้ก้าวเข้ามาอยู่กลางกลุ่มคนดู
    และเปิดเสื้อคลุมให้เห็นว่า ข้างในนั้น ร่างของเธอได้ผูกติดระเบิดเอาไว้
    พร้อมที่จะดึงสลัก หากว่า……มีเจ้าหน้าที่จู่โจมเข้ามา
    ทั้งประกาศก้องว่า….ในนามพระอัลลาห์ พวกเราตายหนึ่ง แต่จะเกิดร้อย
    และถ้าใครมีโทรศัพท์……ให้โทรไปบอกครอบครัวได้เลยว่า
    ต้องตายเพราะสงครามเชเชน และถ้าอยากรอด……หนทางเดียวคือรัสเซียต้องถอนทัพออกไป เลิกสงครามทันที…!!!

    ปูตินอยู่ในสภาพที่หลังชนกำแพง จากที่กองทัพทำสงครามยืดเยื้อในเชเชน……หน่วย FSB ที่ทำงานประสาอะไรปล่อยให้ผู้ก่อการร้ายเข้ามาถึงในมอสโคว์
    เขายกเลิกแผนการเดินทางทั้งหมด (ที่จะไป เยอรมัน,โปรตุเกส และ เม๊กซิโก)
    เรียกหน่วยข่าวกรอง บรรดาสายลับทั้งหลาย และตัวหัวหน้า Nikolai Patrushev เข้ามาพบโดยด่วน เตรียมการบุกโรงละคร
    เรียกหน่วยคอมมานโดให้เตรียมพร้อม
    คนค้าน……คือ นายกรัฐมนตรี Mikhaïl Kasyanov ด้วยเกรงว่าการทำอย่างนี้เสี่ยงเกินไป ผู้บริสุทธิ์อาจจะได้รับเคราะห์
    ปูตินบอกว่า “ถ้าป๊อด……ก็ออกไปห่างๆเลย……”
    เขาได้ส่งท่านนายกรัฐมนตรีมิเกล ออกไปประชุมแทนในตามรายชื่อประเทศ…จะได้ไม่ต้องมารับรู้อะไร

    ข้างในโรงละคร…ในกลุ่มคนดู ก็มีบุคคลสำคัญหลายคนในหลายวงการ
    ส่วนผู้ที่ได้ถูกปล่อยตัวออกมา คือ กลุ่มเด็กเล็กจำนวน 39 คน ที่ได้ให้การว่ากลุ่มผู้ก่อการร้ายส่วนใหญ่เป็นเด็กวัยรุ่น ที่เติบโตมากับสงครามในคอร์เคซัส ไม่ได้เรียนหนังสือ เพราะยังไม่รู้เรื่องราวอะไรมากนัก
    เมื่อถูกถามว่า “ที่อยากให้เลิกสงคราม หมายความว่าอะไร..เพื่อ..?”
    คนกลุ่มนั้น ตอบไม่ได้ ลังเล ไม่แน่ใจ……
    ในวันที่สองของการจับตัวประกัน ที่ทุกคนเริ่มอ่อนล้า หิวโหย กระหาย
    วิตก……
    กลุ่มก่อการร้ายได้สังหารคนไปหลายคน ที่พยายามหาทางออก
    เจ้าหน้าที่ได้เจรจาขอให้มีการส่งอาหารและน้ำได้สำเร็จ

    ตีห้าของวันรุ่งขึ้น ขณะที่ทุกคนกำลังหลับ อ่อนแรง เตรียมพร้อมกับการที่จะเจรจาในตอนสิบโมงเช้า ตามที่เครมลินได้ส่งข่าวมา
    ทางหน่วยคอมมานโดที่ได้เจาะอุโมงค์ใต้ดินเข้าไปจากอาคารข้างๆ และได้ติดไมโครโฟนดักฟังจนรู้ตำแหน่งของผู้ก่อการร้าย
    กังวลที่สุด คือ อาคารทั้งหลังอาจจะระเบิดขึ้นมาได้
    ปูตินได้สั่งการเด็ดขาดว่า……จับตายทั้งหมดเท่านั้น……!!
    การใช้ ยาสลบ fentanyl ที่เป็นอาวุธชนิดหนึ่งของ FSB ได้ทำการแสดงฝีมือ คือ ฉีดส่งเข้าไปในท่อระบายอากาศ ที่ทำให้ทุกคนหลับแบบร่วงผล็อย
    แต่กลุ่มที่ระวังอยู่ด้านนอก มีการปะทะดุเดือด กลุ่มผู้ก่อการร้าย 41 คน
    มีกระสุนเจาะที่สมอง…… ตัวหัวหน้า Barayev ได้ถูกสังหารในวันคล้ายวันเกิดของตัวเอง
    แต่ตัวประกันได้เสียชีวิตไปกว่าร้อยคน จากการโดนสังหารของผู้ก่อการร้าย และ บางคนเสียชีวิตเพราะสารยาสลบ เพราะมีอายุ และสุขภาพที่ไม่ดี

    ปูตินได้ออกโทรทัศน์ เพื่อทำการขอโทษประชาชนที่เขาไม่สามารถรักษาชีวิตได้ทุกคน ……แต่รัสเซียจะไม่ยอมให้หน้าไหนมาหยาม..!!

    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันได้บอกกับปูตินว่าสงครามได้มาในรูปแบบใหม่
    ที่ได้ก้าวล่วงเข้ามาก่อกวนในประเทศ และที่นอกประเทศในขอบชายแดน
    ก็ขยายวงขึ้นเพราะการได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มที่ต้องการแบ่งแยกแผ่นดิน ปูตินไม่มีทางอื่น นอกจากต้องหักเท่านั้น……ไม่มีงอ
    ข่าวนี้……ทำให้ Aslan Maskhadov หัวหน้ากบฎเชเชนที่ได้ใช้ตัวแทนในโคเปนเฮเกน มาเสนอการเจรจาสันติภาพแบบไม่มีเงื่อนไข
    แต่ทางเครมลิน……ปฏิเสธ ไม่เจรจา แถมยังประกาศจับตัวแทนเจรจา Ahmed Zakayev(อดีตรองนายกรัฐมนตรีเชเชน และ เป็นฝ่ายโปรกบฏ)
    เดนมาร์ก……จับตัวให้ แต่ไม่ส่งให้รัสเซีย เพราะข้อกล่าวหาทางรัสเซียที่พัวพันไปในเรื่องโรงละครด้วย

    คนที่ออกมารับหน้าในเรื่องโรงละคร คือ Shamil Basayev**(หัวหน้าใหญ่กลุ่มกบฏเชเชน) ที่ออกมาประกาศกร้าวว่า “นี่คือบทเรียนที่รัสเซียสมควรได้รับ..”
    ปูตินรับคำขู่ด้วยการขานรับ เล่นงานเชเชนหนักขึ้น
    ฝ่ายโลกเสรีได้ยิงคำถามในเรื่องการใช้อาวุธด้วยการฝังทุ่นระเบิดไปทั่ว
    เขาตอบว่า “ ในวินาทีนี้ ใครก็ตามที่นับถือศาสนาคริสต์ ล้วนแต่ตกอยู่ในอันตราย แต่ถ้าจะเปลี่ยนเป็นมุสลิม……ก็ไม่รอด เพราะเขาเชื่อว่าการตายคือการไปพบพระเจ้า…ไม่ใช่หรือ……?!!
    และต่อด้วยภาษานักเลงสุดๆ กับนักข่าวที่ถาม (จนบางคนไม่กล้าแปล…)
    ว่า……

    “ ถ้าคุณตัดสินใจอยากจะเป็นมุสลิมอย่างที่พวกเขาเป็น และพร้อมที่จะไปพบกับพระเจ้า…ขอเชิญไปที่มอสโคว์ เพราะพวกเราไม่ใช่ประชาธิปไตยเต็มตัว และรับรองได้ว่า เรามีสารพัดวิธีที่คุณจะไม่เติบโตต่อไปอีก………”

    **Shamil Basayev ผู้ก่อการร้ายตัวยง ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ร้ายที่ทั้งโลกต้องการตัว เขาเป็นคนวางแผนเรื่องโรงละคร และการวางระเบิดเครื่องบินรัสเซีย เขาได้ถูกสังหารด้วยระเบิดกับดักที่มากับรถบรรทุก ในวันที่ 26 กรกฎาคม 2006

    Wiwanda W. Vichit
    จะบอกติ่งๆทั้งหลายว่า……โหด……มัน……ฮานิดหน่อย ไม่มีใครเกินพี่ปูคนนี้…. ตอนสิบสอง……สู่บัลลังก์อำนาจ ด้วยการผ่านอุปสรรคที่เกิดขึ้นรายวัน……ไม่ว่าบู๊……ว่าบุ๋น……!!! ประธานาธิบดีบุชได้โทรกลับมา ปูตินได้แสดงความเสียใจและเศร้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างจริงใจ ความโกรธ ความชังอเมริกันที่นาโต้ไปบอมบ์ที่ Kosovo ก็พักไว้ก่อน ประชาชนชาวรัสเซียได้นำดอกไม้ไปวางเพื่อแสดงความเสียใจที่หน้าสถานทูตอเมริกาเป็นกองพะเนิน ปูตินได้ย้ำกับปธน. บุช ว่า…… “ในช่วงเวลาที่วุ่นวาย โหดร้ายเช่นนี้ ……เราจะยืนหยัดสู้ไปด้วยกัน……” ที่ลึกๆแล้ว……ปูตินมีความประทับใจในประธานาธิบดีบุชอยู่เป็นทุน เนื่องจากตอนที่บุชหาเสียงในปี 1999 (คู่แข่งคือ นาย Al Gore) เขาได้ประกาศนโยบายว่า ……จะไม่ยุ่งกับสงครามเชเชน..… เมื่อทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ทั้งคู่จึงได้พบกันเป็นครั้วแรกใน เดือนมิถุนายน 2001 ที่ Ljubljana, Slovenia คราวนี้ต่างคนต่างเตรียมตัวมาดี ในการ(แอบ) อ่านประวัติส่วนตัวของคู่สนทนากันมา เช่น ปูตินชวนบุชคุยถึงเรื่องรักบี้ (เพราะเป็นกีฬาโปรดสมัยหนุ่ม) แต่บุชมาเหนือกว่า……เขาถามปูตินถึงเรื่อง”กางเขน” ที่ถูกไฟไหม้ ซึ่งเป็นเรื่องที่น้อยคนจะทราบ เล่นเอาปูติน…งงไปพักนึง(นับว่าการข่าวของอเมริกันนั้น เชื่อถือได้ในระดับหนึ่ง ต่อภายหลังเมื่อมีคนถามบุช…ว่า คิดว่าคนอย่างปูตินเป็นอย่างไร? เขาตอบว่า เป็นคนตรงไปตรงมา เป็นคนที่มั่นคงกับการเห็นชาติพัฒนาไปในทางที่ดี ผมชอบเขานะ……ได้เขิญเขามาเที่ยวที่บ้านไร่ในเท็กซัสด้วย” ทั้งๆที่งานนี้……มีแต่คนสงสัยว่า จะเชื่อปูตินได้ยังไง ในเมื่อ KGB เก่าพวกนี้ เขาไม่เคยพูดความจริงอะไรกับใคร…… ในช่วงของการขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี ปูตินเดินทางไปทั่วรัสเซีย และอีก 18 ประเทศ ที่มีลุดมิลาเคียงคู่ไปด้วย เป็นการประกาศกลายๆ ว่าโลกได้ปลอดจากสงครามเย็นไปแล้ว และตอนนี้รัสเซียพร้อมที่จะเปิดกว้างกับการที่จะก้าวสู่การเป็นประเทศที่พัฒนาอย่างเต็มสูบ ในปี 2001 ปูตินปิดหน่วยงาน(โซเวียต) ที่ คิวบา, เวียดนาม พร้อมทั้งหันมาพัฒนากองทัพเต็มรูปแบบ และเพิ่มประสิทธิภาพทางฝั่งเหนือของคอร์เคซัส ในการที่จะส่ายตาหากลุ่มอิสลามหัวรุนแรง หลังจากวิกฤต 9/11 ปูตินอ่อนข้อให้กับการขยายเขตแดนของนาโต้ ที่ก้าวเข้ามากวาด Lithuania, Latvia, Estonia ที่อยู่ติดกับรัสเซีย บางครั้งปูตินยังเคยบอกว่า……รัสเซียเองก็สนใจที่จะเข้าร่วมในนาโต้ด้วยเช่นกัน (ไม่รู้ว่าประชด หรือ พูดจริง) อเมริกาได้เปิดฉากทำสงครามล้างแค้นกับกลุ่มอัลเคดะห์ และ กลุ่มตาลีบัน ในอาฟกานิสถาน ในเดือนตุลาคม ที่ปูตินได้ช่วยทั้งเงินและอาวุธ ช่วยกองทัพอัฟกันในการต่อต้านกับตาลีบัน และได้โอนอ่อน…ไม่ขัดขวางเมื่อกองทัพอเมริกันมาตั้งฐานที่ Uzbekistan และ Kyrgyzstan ซึ่งนี่คือประวัติศาสตร์ครั้งแรกที่กองทัพอเมริกันได้เข้ามาเหยียบในแผ่นดินฝั่งนี้ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง หลังจากที่เกิดอุบัติเหตุกับเรือดำน้ำ Kursk ปูตินได้หันมาจี้เรื่องกองทัพด้วยตัวเอง เขาปลดพวกนายพลเช้าชามเย็นชามออกไปเป็นแผง เพิ่มเงินเดือนให้กับทหารรุ่นใหม่ พร้อมสวัสดิการอัดแน่น ทำเพลงชาติให้มีเนื้อเพลงคำร้อง ให้ทันสมัย ให้พ้นไปจากเงาของโซเวียต เพราะตอนที่นักกีฬารัสเซียไปแข่งในโอลิมปิคที่ซิดนีย์ ในปี 2000 ได้เหรียญมากันทุกชนิด แต่เวลาขึ้นแท่นรับเหรียญ ไม่สามารถร้องเพลงชาติได้ เพราะมีแต่ดนตรี ชาวรัสเชี่ยนเริ่มมีชีวิตชีวากับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ และชื่นชมปูตินที่เขาได้พูดถึงก้าวใหม่นี้ว่า “ใครก็ตามที่ไม่รู้สึกรู้สมกับความล่มสลายของโซเวียต คือคนไม่มีหัวใจ และใครก็ตามที่ไม่อยากก้าวไปข้างหน้า…คือคนไม่มีสมอง…” การปฏิวัติทางด้านกองทัพ เขาได้แต่งตั้ง Sergei Ivanov (KGB เพื่อนเก่าและร่วมมหาวิทยาลัย เชี่ยวชาญภาษาอังกฤษ และ สวีดิช) ขึ้นมาคุมกำลัง เป็น รัฐมนตรีกลาโหม และฝ่ายงบประมาณกองทัพ คือ Lyubov Kudelina เพื่อมาดูแลเรื่องเงิน ส่วนนายพลที่มีประวัติมือไม่สะอาด เช่นYevgeny Adamov (สมัยเยลซิน) ที่มีส่วนพัวพันกับเปอร์เซ็นต์ในงบสร้างฐานนิวเคลียร์ พร้อมกับคนอื่นๆ ถูกส่งเข้าเก็บกรุนายพลที่ไร้สมรรถภาพ… รัฐมนตรีกลาโหมคนใหม่ อิวานอฟ ทำงานเร็วทันใจ เพียงสามวันหลังจากเหตุการณ์ 9/11 เขาได้ส่งสัญญาณให้ปูตินทราบว่า อเมริกากำลังขยายกำลังของนาโต้เข้ามาในส่วนของฝั่งชายขอบเอเซียกลาง (กลุ่มประเทศที่ลงท้ายด้วยคำว่า สถาน ทั้งหลาย) แต่ปูติน……มองเห็นว่า การสร้างสัมพันธภาพอันดีกับบุช คือสิ่งจำเป็น อย่างอื่นค่อยมาว่ากันทีหลัง… และการที่จะสร้างสัมพันธไมตรีอันดี อย่างแรกเลยที่เขาจะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง โดยการเรียนภาษาอังกฤษวันละหนึ่งชั่วโมงที่สถาบัน American Diplomacy and Commerce และเขาได้ใช้เป็นครั้งแรกในการสนทนากับบุช ในภาษาอังกฤษสำเนียงรัสเซียปนเยอรมันว่า “ผมเห็นว่าคุณตั้งชื่อลูกสาวตามชื่อแม่ และ แม่ยายของคุณ……” “นั่นซิ…ก็ผมมันเป็นนักการเมืองชั้นเยี่ยมไงล่ะ..” “เออ……ใช่จริงๆ เพราะของผมก็เหมือนกัน..” แล้วสองคนก็หัวเราะเฮฮากันไป สองคนนี้ได้พบกันอีกครั้งเมื่อการประชุม Asia-Pacific Economic Cooperation Summit ที่เซี่ยงไฮ้ ในเดือนตุลาคม และได้คุยกันถึงเรื่องการสร้าง(จำนวน) ซ้อม(ยิง) นิวเคลียร์ที่ยังไม่ชัดเจน ที่ทำให้ประธานาธิบดีบุช ต้องเชิญปูตินไปยังทำเนียบขาว สหรัฐอเมริกาในเดือน พฤศจิกายน เขาได้ไปเยี่ยมไร่ของบุชที่เท๊กซัสเป็นการส่วนตัว มีการเลี้ยงปิ้งย่าง บาร์บีคิว ปูตินได้กล่าวว่า “ผมไม่เคยไปเยี่ยมเยียนผู้คนไหนถึงในบ้านเลย…นับว่าเป็นโชคดีที่ได้มาถึงที่นี่ “ และเขาได้ไปดูตึกที่ถล่มทลายและได้แสดงความอาลัย แต่.…เพียงสามอาทิตย์ต่อมา บุชได้โทรศัพท์มาถึงปูติน บอกว่า นโยบายทางเพนตากอนได้มีมติให้อเมริกาถอนตัวไม่เข้าร่วมกับโครงการ ABM (Anti-Ballistic Missile) เท่ากับว่า….ปูตินถูกอเมริกาเทอย่างหน้าตาเฉย…ทั้งๆที่เริ่มต้นทำท่าจะดี.. การก่อกวนในเชเชนหลังจากสงครามยังไม่หยุด กลุ่มหัวรุนแรงได้เริ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่ปูตินได้ประกาศว่า ต้องยอมแพ้อย่างไม่มีเงื่อนไขเท่านั้น จึงทำให้เกิดคลื่นใต้น้ำเป็นขบวนการใต้ดิน ที่ทำให้เกิดการจับคนดูเป็นตัวประกันที่ โรงละคร Palace of Culture ในกรุงมอสโคว์ วันที่ 24 ตุลาคม 2002 ที่กำลังแสดงละครย้อนยุคที่ทุ่มทุนสร้างมหาศาล บัตรใบละ 15 ดอลล่าร์ (เทียบเท่า ที่นับว่าแพงมาก) โดยกลุ่มผู้ก่อการร้ายแต่งกายเป็นคนงาน ขึ้นไปบนเวที ท่ามกลางความสับสนของคนดู ที่คิดว่าเป็นส่วนหนึ่งของการแสดง แต่.…คณะผู้ก่อการร้ายในการนำของ Movsar Barayev** ได้กราดกระสุน AK-47 ขึ้นไปบนเพดาน และประกาศว่า ประตูทุกบานได้มีสลักระเบิดผูกติดอยู่ ผู้หญิงคนหนึ่งในชุดเสื้อคลุมสีดำ ได้ก้าวเข้ามาอยู่กลางกลุ่มคนดู และเปิดเสื้อคลุมให้เห็นว่า ข้างในนั้น ร่างของเธอได้ผูกติดระเบิดเอาไว้ พร้อมที่จะดึงสลัก หากว่า……มีเจ้าหน้าที่จู่โจมเข้ามา ทั้งประกาศก้องว่า….ในนามพระอัลลาห์ พวกเราตายหนึ่ง แต่จะเกิดร้อย และถ้าใครมีโทรศัพท์……ให้โทรไปบอกครอบครัวได้เลยว่า ต้องตายเพราะสงครามเชเชน และถ้าอยากรอด……หนทางเดียวคือรัสเซียต้องถอนทัพออกไป เลิกสงครามทันที…!!! ปูตินอยู่ในสภาพที่หลังชนกำแพง จากที่กองทัพทำสงครามยืดเยื้อในเชเชน……หน่วย FSB ที่ทำงานประสาอะไรปล่อยให้ผู้ก่อการร้ายเข้ามาถึงในมอสโคว์ เขายกเลิกแผนการเดินทางทั้งหมด (ที่จะไป เยอรมัน,โปรตุเกส และ เม๊กซิโก) เรียกหน่วยข่าวกรอง บรรดาสายลับทั้งหลาย และตัวหัวหน้า Nikolai Patrushev เข้ามาพบโดยด่วน เตรียมการบุกโรงละคร เรียกหน่วยคอมมานโดให้เตรียมพร้อม คนค้าน……คือ นายกรัฐมนตรี Mikhaïl Kasyanov ด้วยเกรงว่าการทำอย่างนี้เสี่ยงเกินไป ผู้บริสุทธิ์อาจจะได้รับเคราะห์ ปูตินบอกว่า “ถ้าป๊อด……ก็ออกไปห่างๆเลย……” เขาได้ส่งท่านนายกรัฐมนตรีมิเกล ออกไปประชุมแทนในตามรายชื่อประเทศ…จะได้ไม่ต้องมารับรู้อะไร ข้างในโรงละคร…ในกลุ่มคนดู ก็มีบุคคลสำคัญหลายคนในหลายวงการ ส่วนผู้ที่ได้ถูกปล่อยตัวออกมา คือ กลุ่มเด็กเล็กจำนวน 39 คน ที่ได้ให้การว่ากลุ่มผู้ก่อการร้ายส่วนใหญ่เป็นเด็กวัยรุ่น ที่เติบโตมากับสงครามในคอร์เคซัส ไม่ได้เรียนหนังสือ เพราะยังไม่รู้เรื่องราวอะไรมากนัก เมื่อถูกถามว่า “ที่อยากให้เลิกสงคราม หมายความว่าอะไร..เพื่อ..?” คนกลุ่มนั้น ตอบไม่ได้ ลังเล ไม่แน่ใจ…… ในวันที่สองของการจับตัวประกัน ที่ทุกคนเริ่มอ่อนล้า หิวโหย กระหาย วิตก…… กลุ่มก่อการร้ายได้สังหารคนไปหลายคน ที่พยายามหาทางออก เจ้าหน้าที่ได้เจรจาขอให้มีการส่งอาหารและน้ำได้สำเร็จ ตีห้าของวันรุ่งขึ้น ขณะที่ทุกคนกำลังหลับ อ่อนแรง เตรียมพร้อมกับการที่จะเจรจาในตอนสิบโมงเช้า ตามที่เครมลินได้ส่งข่าวมา ทางหน่วยคอมมานโดที่ได้เจาะอุโมงค์ใต้ดินเข้าไปจากอาคารข้างๆ และได้ติดไมโครโฟนดักฟังจนรู้ตำแหน่งของผู้ก่อการร้าย กังวลที่สุด คือ อาคารทั้งหลังอาจจะระเบิดขึ้นมาได้ ปูตินได้สั่งการเด็ดขาดว่า……จับตายทั้งหมดเท่านั้น……!! การใช้ ยาสลบ fentanyl ที่เป็นอาวุธชนิดหนึ่งของ FSB ได้ทำการแสดงฝีมือ คือ ฉีดส่งเข้าไปในท่อระบายอากาศ ที่ทำให้ทุกคนหลับแบบร่วงผล็อย แต่กลุ่มที่ระวังอยู่ด้านนอก มีการปะทะดุเดือด กลุ่มผู้ก่อการร้าย 41 คน มีกระสุนเจาะที่สมอง…… ตัวหัวหน้า Barayev ได้ถูกสังหารในวันคล้ายวันเกิดของตัวเอง แต่ตัวประกันได้เสียชีวิตไปกว่าร้อยคน จากการโดนสังหารของผู้ก่อการร้าย และ บางคนเสียชีวิตเพราะสารยาสลบ เพราะมีอายุ และสุขภาพที่ไม่ดี ปูตินได้ออกโทรทัศน์ เพื่อทำการขอโทษประชาชนที่เขาไม่สามารถรักษาชีวิตได้ทุกคน ……แต่รัสเซียจะไม่ยอมให้หน้าไหนมาหยาม..!! เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันได้บอกกับปูตินว่าสงครามได้มาในรูปแบบใหม่ ที่ได้ก้าวล่วงเข้ามาก่อกวนในประเทศ และที่นอกประเทศในขอบชายแดน ก็ขยายวงขึ้นเพราะการได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มที่ต้องการแบ่งแยกแผ่นดิน ปูตินไม่มีทางอื่น นอกจากต้องหักเท่านั้น……ไม่มีงอ ข่าวนี้……ทำให้ Aslan Maskhadov หัวหน้ากบฎเชเชนที่ได้ใช้ตัวแทนในโคเปนเฮเกน มาเสนอการเจรจาสันติภาพแบบไม่มีเงื่อนไข แต่ทางเครมลิน……ปฏิเสธ ไม่เจรจา แถมยังประกาศจับตัวแทนเจรจา Ahmed Zakayev(อดีตรองนายกรัฐมนตรีเชเชน และ เป็นฝ่ายโปรกบฏ) เดนมาร์ก……จับตัวให้ แต่ไม่ส่งให้รัสเซีย เพราะข้อกล่าวหาทางรัสเซียที่พัวพันไปในเรื่องโรงละครด้วย คนที่ออกมารับหน้าในเรื่องโรงละคร คือ Shamil Basayev**(หัวหน้าใหญ่กลุ่มกบฏเชเชน) ที่ออกมาประกาศกร้าวว่า “นี่คือบทเรียนที่รัสเซียสมควรได้รับ..” ปูตินรับคำขู่ด้วยการขานรับ เล่นงานเชเชนหนักขึ้น ฝ่ายโลกเสรีได้ยิงคำถามในเรื่องการใช้อาวุธด้วยการฝังทุ่นระเบิดไปทั่ว เขาตอบว่า “ ในวินาทีนี้ ใครก็ตามที่นับถือศาสนาคริสต์ ล้วนแต่ตกอยู่ในอันตราย แต่ถ้าจะเปลี่ยนเป็นมุสลิม……ก็ไม่รอด เพราะเขาเชื่อว่าการตายคือการไปพบพระเจ้า…ไม่ใช่หรือ……?!! และต่อด้วยภาษานักเลงสุดๆ กับนักข่าวที่ถาม (จนบางคนไม่กล้าแปล…) ว่า…… “ ถ้าคุณตัดสินใจอยากจะเป็นมุสลิมอย่างที่พวกเขาเป็น และพร้อมที่จะไปพบกับพระเจ้า…ขอเชิญไปที่มอสโคว์ เพราะพวกเราไม่ใช่ประชาธิปไตยเต็มตัว และรับรองได้ว่า เรามีสารพัดวิธีที่คุณจะไม่เติบโตต่อไปอีก………” **Shamil Basayev ผู้ก่อการร้ายตัวยง ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ร้ายที่ทั้งโลกต้องการตัว เขาเป็นคนวางแผนเรื่องโรงละคร และการวางระเบิดเครื่องบินรัสเซีย เขาได้ถูกสังหารด้วยระเบิดกับดักที่มากับรถบรรทุก ในวันที่ 26 กรกฎาคม 2006 Wiwanda W. Vichit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 660 มุมมอง 0 รีวิว
  • คุณติ่งๆทั้งหลายขา….ฉุดไม่อยู่แล้วค่าาาา พี่ปูก้าวขึ้นไปในจุดที่สูงสุดแบบรวดเร็วปานกามนิตหนุ่มนั้นเชียว…

    ตอนสิบ……ปูตินที่ว่าเหนือชั้นแล้ว……เยลซินยิ่งเหนือกว่า……!!!

    จากสายตาของประชาชนทั่วไป นายกรัฐมนตรีปูติน คือ คนที่เยลซินเลือกมานั่งในตำแหน่ง เหมือนอย่างคนอื่นๆที่มาแล้วก็ไป จนผู้คนไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไร แถมไม่สนใจด้วยซ้ำ
    พอเรื่องสงครามที่เชเชนที่มีผลดี ชื่อปูตินก็ดีขึ้นมาหน่อย
    แต่ก็ยังเป็นหน้าใหม่อยู่ดี
    ในผลโพลความนิยมในเดือนตุลาคม กระเตื้องขึ้นมาเป็น 27 เปอร์เซ็นต์ ยังน้อยกว่า Primakov
    นโยบายพรรคการเมือง Unity ของเยลซิน คือ กึ่งสังคมนิยม
    แต่ที่ผ่านๆมา คือการสนับสนุนไปทางทหาร รักษาชายแดน
    เป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น ……จึงเชื่อได้ว่า ไม่น่าจะชนะแบบแลนด์สไลด์……
    ในเดือนตุลาคม ที่พอมองเห็นว่า คะแนนของพรรคยังอยู่หลังพรรคฝั่งซ้าย The Fatherland ที่มีฐานเสียงเป็นประชาชนรอบนอกส่วนใหญ่
    พรรคยูนิตี้ของเยลซิน ฐานเสียงคือ มอสโคว์ เซนต์ ปีเตอร์สเบอร์ก และเหล่านายทุน (ที่จะไประดมมา……)
    ยกตัวอย่างเช่น Boris Berezovsky**(ที่เยลซินเทไปแล้ว…)
    เขาได้ใช้ความเป็นเจ้าของสถานีวิทยุ โทรทัศน์ ออกข่าว
    โจมตีคู่แข่งอย่าง Luzhkov ในเรื่อง คอร์รัปชั่นกันทั้งครอบครัว
    และมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมในหลายคดี
    คนอื่นๆก็ถูกขุดขึ้นมาแฉโพยด้วย เป็นการสกัดไว้ชั้นหนึ่งก่อน
    การกล่าวหานี้ โดยปรกติแล้วมันเป็นยิ่งกว่าการหมิ่นประมาท
    แต่…มักใช้ได้ผลแบบทันตาเห็น (เรื่องคดีไว้ว่ากันทีหลัง…)

    แต่ที่ทุกคนไม่รู้……คือ เยลซินได้ฝากความหวังของรัสเซียทั้งหมดไว้กับนายกรัฐมนตรีที่เพิ่งแกะกล่อง วลาดิเมียร์ ปูติน
    เมื่อช่วงปลายปี 1999 สุขภาพของเยลซินเริ่มถดถอย อีกทั้งเรื่องคดีความทางกฎหมาย เช่นเรื่องไล่อัยการ Skuratov ออกเพราะว่ามีเทปลับสามคนผัวเมีย……
    ซึ่งอัยการฟ้องกลับ……อีกทั้งสาวหาเรื่องอื่นเกี่ยวกับ”วงใน” และ”นายทุน” รวมทั้งการที่ครอบครัวของท่านผู้นำไปมีหุ้นอยู่ที่บริษัท Mabetex ในสวิตเซอร์แลนด์

    เยลซินเหลือเวลาไม่มากนักในการต่อสู้กับเกมชิงตำแหน่งประธานาธิบดี เพราะสำหรับเขาคือ ไม่มีโอกาสเพราะเป็นสมัยที่สอง และถ้าพรรคอื่นได้มาเป็น……นั่นหมายถึงเขาจะตกอยู่ในที่นั่งลำบาก อย่าหวังว่าจะได้พึ่งพวกเศรษฐีนายทุน เพราะคนพวกนี้มักจะเกาะอยู่กับกลุ่มอำนาจที่อำนวยผลประโยชน์ให้ได้เท่านั้น

    หลังสงครามเชเชน……ปูตินได้รับความนิยมขึ้นมาถึง 40%
    แต่เขาไม่ได้ร่วมเป็นสมาขิกของพรรค Unity
    เพราะเขาต้องการความเป็นอิสระ จากกรอบนโยบาย
    หากแต่…เขาให้ความสนับสนุนโดยการให้สัมภาษณ์ว่า
    “ในฐานะนายกรัฐมนตรี ผมไม่ควรที่จะบอกว่าชื่นชอบพรรคไหนเป็นพิเศษ……แต่ถ้าในฐานะประชาชนคนธรรมดา ผมจะโหวตให้กับยูนิตี้……”

    วันที่ 14 ธันวาคม ก่อนวันเลือกตั้ง 5 วัน และเยลซินได้เรียกให้ปูตินไปพบเป็นการส่วนตัว……เพื่อที่จะบอกแผนการที่ได้ตระเตรียมไว้……

    “ฉันจะลาออกจากตำแหน่งแล้วนะ ปีนี้จะเป็นปีที่สำคัญมากแห่งศตวรรษ มันจะเป็นศตวรรษที่ยิ่งใหญ่ของนาย……วลาดิเมียร์ ปูติน……นายเข้าใจไหม…?”
    ปูตินส่ายหน้า….ไม่เข้าใจ……เพราะที่เคยคุยกันไว้ครั้งที่แล้ว คือ ถ้าเยลซินพ้นจากตำแหน่งไป……เขาก็จะลาออก จบชีวิตทางการเมือง……
    เยลซินกล่าวต่อว่า………
    “นายไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น ฉันได้เตรียมแผนการไว้เรียบร้อยแล้ว นายก็รู้ดีถึงรัฐธรรมนูญในตำแหน่งประธานาธิบดี ที่ว่า
    ถ้าประธานาธิบดีลาออกจากตำแหน่งกลางคัน ก่อนวันเลือกตั้ง
    ผู้ที่จะต้องดำรงตำแหน่งแทน คือ นายกรัฐมนตรี และการเลือกตั้งจะต้องมีขึ้นภายใน 90 วัน…นายเข้าใจหรือยัง…?

    ในเก้าสิบวันนี้แหละ คือ เก้าสิบวันที่นายจะได้ทำหน้าที่ สร้างความเลื่อมใสกับประชาชน เพื่อที่จะครองตำแหน่งประธานาธิบดีในการเลือกตั้งต่อไป……”

    ปูตินนั่งนิ่งขึง………อยู่ในอาการสับสนปนทึ่ง สักพัก เขาตอบว่า
    “ผมยังไม่แน่ใจกับการที่จะตัดสินใจ เพราะเป้าหมายคือหน้าที่ที่ใหญ่ยิ่ง”

    เยลซินได้พูด(กล่อม) ต่อไปว่า……
    “ฟังนะ ตอนที่ฉันเข้ามาในสนามการเมืองในมอสโคว์ ตอนนั้นฉันอายุห้าสิบกว่าแล้ว ยังทำได้ แล้วหนุ่มๆไฟแรง มุ่งมั่นอย่างนายจะไปได้ไกล และจะดูแลบ้านเมืองไปได้อีกนาน จะรอให้แต่คนแก่มาทำงาน ชาติก็จะยิ่งถอยหลัง ฉันเองก็ไม่เคยคิดว่าจะมานั่งในตำแหน่งนี้ มันไม่ง่าย มันเหนื่อย แต่เราถอยไม่ได้……นายเป็นคนที่เหมาะที่สุด……ว่าไง……ให้คำตอบฉันได้หรือยัง……วลาดิเมียร์ วลาดิมิโรวิช..?”
    ~~”วลาดิเมียร์ วลาดิมิโรวิช คือการเรียกเต็มยศ ที่แปลได้ว่า
    วลาดิเมียร์ บุตรชายนายวลาดิเมียร์…”

    ในที่สุด ปูตินได้ตกลงใจ รับข้อเสนอที่เยลชินบรรจงจัดแต่งให้
    เป็นความลับที่รู้กันแค่สองคน……ในใจความคือ เยลซินต้องการยิงนกหลายตัวในกระสุนนัดเดียว
    การที่ประกาศลาออกของเขานั้น คือ ……กระสุน
    นกตัวที่หนึ่ง คือ การเลือกตั้งที่จะตอนกลางปี คือ เดือนมิถุนายน จะต้องเลื่อนขึ้นมาในเดือนมีนาคม
    นกตัวที่สอง คือ เมื่อปูตินก้าวขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีรักษาการ จะได้”แสง” ทั้งหมดจากนอกและในประเทศ ไม่ต้องง้อสื่อไหนๆ ทุกคนย่อมติดตามทำข่าวประธานาธิบดีตามหน้าที่อยู่แล้ว
    นกตัวที่สาม……คือ กลุ่มที่จะล้างแค้นเยลซิน ก็จะหมดโอกาส
    เผลอๆจะถูกล้างเอง…
    นกตัวที่สี่……ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป……ปูตินก็จะได้เป็นประธานาธิบดีต่อไปอย่างแน่นอน เพราะกำลังอยู่ในขาขึ้น
    นกตัวที่ห้า……คือเหล่านายทุนทั้งหลายที่เกาะกินประเทศมาสุมหัวกันอยู่ในเครมลินตั้งแต่สมัยกอร์บาเชฟ จะได้โดนล้างบางเสียที…

    ต้องยกให้เยลซิน………เป็นขงเบ้งแห่งรัสเซีย….!!!!

    วันที่ 19 ธันวาคม 1999 ที่มีการเลือกตั้งผู้แทนเข้าสภา
    พรรคคอมมิวนิสต์ ได้ 24%, พรรคยูนิตี้ของเยลซิน ได้ 23%
    พรรค Luzhkov-Primakov alliance ได้ 13%
    ซึ่งยังต้องมีการเลือกตั้งซ่อม ยังต้องดูบัตรเสีย และต้องผ่านขั้นตอนขบวนพิจารณาทางกฏหมาย ที่จะต้องใช้เวลาในช่วงหลังปีใหม่ไปแล้ว……

    เยลซินได้เตรียมการประกาศลาออกแบบฟ้าผ่าในวันสิ้นปี
    เพราะจะใช้เวลาที่ประธานาธิบดีกล่าวสวัสดีปีใหม่และอวยพรออกทีวี……ในคราวเดียวกัน
    ในเช้าวันนั้น ปูตินได้มาถึงพร้อมทีม ตั้งแต่เวลา 9:30 เพื่อซักซ้อมอัดเทปการอ่านคำรับแถลงการณ์ ที่มีทีท่าเขินอายนิดๆ
    เยลซินได้มีคำสั่งให้ฝ่ายความมั่นคงเตรียมการส่งกระเป๋าที่มี โค้ดสำหรับปุ่มกดนิวเคลียร์ทั้งหลายให้เรียบร้อย เพื่อที่จะส่งมอบให้กับประธานาธิบดีคนใหม่

    เมื่อเวลามาถึง……เที่ยงตรง สถานีโทรทัศน์ Ostankino ได้เตรียมออกอากาศในวาระสำคัญของการเริ่มต้นปี 2000
    ที่ประธานาธิบดีเยลซินได้เริ่มต้นว่า……

    “เพื่อนประชาชนที่รักทั้งหลาย……
    ข้าพเจ้าได้ยินได้ฟังมามาก กับข่าวลือที่ว่า ข้าพเจ้าหวงอำนาจ
    เกาะติดเก้าอี้ ทั้งหมดเป็นเพียงข่าวลือ ไม่มีความจริงแต่ประการใด ข้าพเจ้าพร้อมที่จะมอบตำแหน่งให้กับผู้ที่รักชาติที่มีความสามารถ

    แต่ข้าพเจ้าต้องขออภัย ขอให้ยกโทษให้กับข้าพเจ้าในสิ่งที่อาจมีความผิดพลาด หรือ สร้างความไม่สบายใจ แต่จากนี้ไป ข้าพเจ้าได้หวังว่า เราจะได้รับแต่สิ่งดีๆ ประเทศชาติแข็งแกร่ง เจริญรุ่งเรือง มากไปกว่าที่ผ่านมา………
    รัสเซียควรเข้าสู่ยุคสองพัน ด้วยนักการเมืองรุ่นใหม่ ไฟแรง
    มีวิสัยทัศน์กระจ่างแจ้ง ในขณะที่ข้าพเจ้าที่มองเห็นตัวเองว่าเป็นคนรุ่นเก่า….จึงขออำลา……และเปิดทางให้เขาก้าวเข้ามา
    สร้างฝันของพวกเราให้เป็นจริง…”

    เยลซินได้กล่าวคำอำลา ด้วยน้ำตาของลูกผู้ชาย………

    ลุดมิลาไม่ได้ดูข่าวทีวี……แต่เพียงห้านาทีจากนั้น มีเพื่อนสาวโทรเข้ามาแสดงความยินดีและอวยพรที่เธอก็แสดงความยินดีตอบ เพราะคิดว่าเป็นการอวยพรวันปีใหม่
    เพื่อนต้องอธิบายให้ฟัง ว่า “สามีเธอน่ะ……เป็นประธานาธิบดีไปแล้ว..”
    ลุดมิลา…ไม่รู้เรื่องอะไรเลย……ปูตินไม่เคยเล่าอะไรให้ฟังแม้แต่นิด เหมือนอย่างครั้งแรก ที่เช้ายังคุยกันดีๆ จู่ๆตอนบ่ายเขาก็เป็นผู้ว่านครเซนต์ ปีเตอร์สเบอร์ก หรือ จากคนตกงาน กลายมาเป็น ผู้อำนวยการ FSB
    เธอก็ไม่แปลกใจอะไร……แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงคือ ความเป็นอยู่ของครอบครัว ที่เหมือนเธอกลับเข้าสู่ยุคของมาดามสายลับอีกครั้ง ไปไหนก็จะมีทีมอารักขา ลูกๆต้องเรียนที่บ้านกับเหล่าติวเตอร์

    ลุดมิลามีเพื่อนน้อยมาก เพราะเธอไม่สามารถมีสังคมเหมือนคนทั่วไป อดีตเพื่อนสนิทคนหนึ่ง คือ Irene Pietsch เป็นภรรยาของนายธนาคารเยอรมัน ไอรีน ที่ลุดมิลาสามารถปรับทุกข์ได้
    ว่า ชีวิตสมรสของเธอมีปัญหา เธอไม่เคยมีเครดิตการ์ดเหมือนคนอื่นๆ ต้องใช้ชีวิตเหมือนค้างคาวที่ต้องอยู่ในความมืดตลอดเวลา ไม่เคยได้ไปไหนตามที่ต้องการ ไม่สามารถพูดในสิ่งที่ต้องการ เธออยากจะมีชีวิตที่เป็นอิสระเหมือนกับคนอื่นๆ
    ส่วนปูติน……ก็เคยบอกกับไอรีนในช่วงที่เคยไปเที่ยวพักร้อนด้วยกันว่า……

    “ถ้าใครสามารถอยู่กับเมียผมได้ถึงสามอาทิตย์ละก้อ……ผมจะสร้างอนุสาวรีย์ให้อย่างใหญ่เลยเชียว……”

    ลุดมิลา…ได้แต่หวังว่า สามีของเธอจะอยู่ในตำแหน่งในฐานะ
    ประธานาธิบดีรักษาการ ที่มีอายุสามเดือนเท่านั้น……
    เพราะถ้านานกว่านั้น……เธอคงรับไม่ไหว..!!!

    คนอื่นๆก็คงอยู่ไม่ไหวเหมือนกัน หมายถึงคนในเครมลิน
    เพราะนโยบายหลักของปูติน คือ ล้างบางคอร์รัปชั่น และ
    กำจัดเหลือบนายทุนที่เกาะกินอยู่กับรัฐบาลเยลซินมานานแสนนาน
    สอบสวนไปมา ปรากฏว่า มาเฟียตัวแม่……ที่ทำตัวเป็นสายใยชักเปอร์เซ็นต์ เป็นล็อบบี้กินส่วนแบ่ง ไม่ใช่ใครที่ไหน
    แต่ เธอคือ Tatyana Yumasheva ที่เป็นธิดาของอดีตประธานาธิบดีเยลซิน มือปั้นนั่นเอง
    ทาเทียน่า มีตำแหน่งเป็น ที่ปรึกษาคณะรัฐมนตรีในเครมลิน
    และเป็นหนึ่งในวงในที่ประสานทางการเงินกับ Boris Berezovsky และ Roman Abramovich (อดีตเจ้าของทีมเชลซี) รวมทั้งมีส่วนได้ส่วนเสียกับเส้นทางการเงินที่ไหลไปในต่างประเทศ

    ปูตินได้ให้ความกรุณาสูงสุด คือ ไล่เธอออกจากตำแหน่งในเดือนแรกที่เขารับตำแหน่งประธานาธิบดี….!!!!

    Wiwanda W. Vichit
    คุณติ่งๆทั้งหลายขา….ฉุดไม่อยู่แล้วค่าาาา พี่ปูก้าวขึ้นไปในจุดที่สูงสุดแบบรวดเร็วปานกามนิตหนุ่มนั้นเชียว… ตอนสิบ……ปูตินที่ว่าเหนือชั้นแล้ว……เยลซินยิ่งเหนือกว่า……!!! จากสายตาของประชาชนทั่วไป นายกรัฐมนตรีปูติน คือ คนที่เยลซินเลือกมานั่งในตำแหน่ง เหมือนอย่างคนอื่นๆที่มาแล้วก็ไป จนผู้คนไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไร แถมไม่สนใจด้วยซ้ำ พอเรื่องสงครามที่เชเชนที่มีผลดี ชื่อปูตินก็ดีขึ้นมาหน่อย แต่ก็ยังเป็นหน้าใหม่อยู่ดี ในผลโพลความนิยมในเดือนตุลาคม กระเตื้องขึ้นมาเป็น 27 เปอร์เซ็นต์ ยังน้อยกว่า Primakov นโยบายพรรคการเมือง Unity ของเยลซิน คือ กึ่งสังคมนิยม แต่ที่ผ่านๆมา คือการสนับสนุนไปทางทหาร รักษาชายแดน เป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น ……จึงเชื่อได้ว่า ไม่น่าจะชนะแบบแลนด์สไลด์…… ในเดือนตุลาคม ที่พอมองเห็นว่า คะแนนของพรรคยังอยู่หลังพรรคฝั่งซ้าย The Fatherland ที่มีฐานเสียงเป็นประชาชนรอบนอกส่วนใหญ่ พรรคยูนิตี้ของเยลซิน ฐานเสียงคือ มอสโคว์ เซนต์ ปีเตอร์สเบอร์ก และเหล่านายทุน (ที่จะไประดมมา……) ยกตัวอย่างเช่น Boris Berezovsky**(ที่เยลซินเทไปแล้ว…) เขาได้ใช้ความเป็นเจ้าของสถานีวิทยุ โทรทัศน์ ออกข่าว โจมตีคู่แข่งอย่าง Luzhkov ในเรื่อง คอร์รัปชั่นกันทั้งครอบครัว และมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมในหลายคดี คนอื่นๆก็ถูกขุดขึ้นมาแฉโพยด้วย เป็นการสกัดไว้ชั้นหนึ่งก่อน การกล่าวหานี้ โดยปรกติแล้วมันเป็นยิ่งกว่าการหมิ่นประมาท แต่…มักใช้ได้ผลแบบทันตาเห็น (เรื่องคดีไว้ว่ากันทีหลัง…) แต่ที่ทุกคนไม่รู้……คือ เยลซินได้ฝากความหวังของรัสเซียทั้งหมดไว้กับนายกรัฐมนตรีที่เพิ่งแกะกล่อง วลาดิเมียร์ ปูติน เมื่อช่วงปลายปี 1999 สุขภาพของเยลซินเริ่มถดถอย อีกทั้งเรื่องคดีความทางกฎหมาย เช่นเรื่องไล่อัยการ Skuratov ออกเพราะว่ามีเทปลับสามคนผัวเมีย…… ซึ่งอัยการฟ้องกลับ……อีกทั้งสาวหาเรื่องอื่นเกี่ยวกับ”วงใน” และ”นายทุน” รวมทั้งการที่ครอบครัวของท่านผู้นำไปมีหุ้นอยู่ที่บริษัท Mabetex ในสวิตเซอร์แลนด์ เยลซินเหลือเวลาไม่มากนักในการต่อสู้กับเกมชิงตำแหน่งประธานาธิบดี เพราะสำหรับเขาคือ ไม่มีโอกาสเพราะเป็นสมัยที่สอง และถ้าพรรคอื่นได้มาเป็น……นั่นหมายถึงเขาจะตกอยู่ในที่นั่งลำบาก อย่าหวังว่าจะได้พึ่งพวกเศรษฐีนายทุน เพราะคนพวกนี้มักจะเกาะอยู่กับกลุ่มอำนาจที่อำนวยผลประโยชน์ให้ได้เท่านั้น หลังสงครามเชเชน……ปูตินได้รับความนิยมขึ้นมาถึง 40% แต่เขาไม่ได้ร่วมเป็นสมาขิกของพรรค Unity เพราะเขาต้องการความเป็นอิสระ จากกรอบนโยบาย หากแต่…เขาให้ความสนับสนุนโดยการให้สัมภาษณ์ว่า “ในฐานะนายกรัฐมนตรี ผมไม่ควรที่จะบอกว่าชื่นชอบพรรคไหนเป็นพิเศษ……แต่ถ้าในฐานะประชาชนคนธรรมดา ผมจะโหวตให้กับยูนิตี้……” วันที่ 14 ธันวาคม ก่อนวันเลือกตั้ง 5 วัน และเยลซินได้เรียกให้ปูตินไปพบเป็นการส่วนตัว……เพื่อที่จะบอกแผนการที่ได้ตระเตรียมไว้…… “ฉันจะลาออกจากตำแหน่งแล้วนะ ปีนี้จะเป็นปีที่สำคัญมากแห่งศตวรรษ มันจะเป็นศตวรรษที่ยิ่งใหญ่ของนาย……วลาดิเมียร์ ปูติน……นายเข้าใจไหม…?” ปูตินส่ายหน้า….ไม่เข้าใจ……เพราะที่เคยคุยกันไว้ครั้งที่แล้ว คือ ถ้าเยลซินพ้นจากตำแหน่งไป……เขาก็จะลาออก จบชีวิตทางการเมือง…… เยลซินกล่าวต่อว่า……… “นายไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น ฉันได้เตรียมแผนการไว้เรียบร้อยแล้ว นายก็รู้ดีถึงรัฐธรรมนูญในตำแหน่งประธานาธิบดี ที่ว่า ถ้าประธานาธิบดีลาออกจากตำแหน่งกลางคัน ก่อนวันเลือกตั้ง ผู้ที่จะต้องดำรงตำแหน่งแทน คือ นายกรัฐมนตรี และการเลือกตั้งจะต้องมีขึ้นภายใน 90 วัน…นายเข้าใจหรือยัง…? ในเก้าสิบวันนี้แหละ คือ เก้าสิบวันที่นายจะได้ทำหน้าที่ สร้างความเลื่อมใสกับประชาชน เพื่อที่จะครองตำแหน่งประธานาธิบดีในการเลือกตั้งต่อไป……” ปูตินนั่งนิ่งขึง………อยู่ในอาการสับสนปนทึ่ง สักพัก เขาตอบว่า “ผมยังไม่แน่ใจกับการที่จะตัดสินใจ เพราะเป้าหมายคือหน้าที่ที่ใหญ่ยิ่ง” เยลซินได้พูด(กล่อม) ต่อไปว่า…… “ฟังนะ ตอนที่ฉันเข้ามาในสนามการเมืองในมอสโคว์ ตอนนั้นฉันอายุห้าสิบกว่าแล้ว ยังทำได้ แล้วหนุ่มๆไฟแรง มุ่งมั่นอย่างนายจะไปได้ไกล และจะดูแลบ้านเมืองไปได้อีกนาน จะรอให้แต่คนแก่มาทำงาน ชาติก็จะยิ่งถอยหลัง ฉันเองก็ไม่เคยคิดว่าจะมานั่งในตำแหน่งนี้ มันไม่ง่าย มันเหนื่อย แต่เราถอยไม่ได้……นายเป็นคนที่เหมาะที่สุด……ว่าไง……ให้คำตอบฉันได้หรือยัง……วลาดิเมียร์ วลาดิมิโรวิช..?” ~~”วลาดิเมียร์ วลาดิมิโรวิช คือการเรียกเต็มยศ ที่แปลได้ว่า วลาดิเมียร์ บุตรชายนายวลาดิเมียร์…” ในที่สุด ปูตินได้ตกลงใจ รับข้อเสนอที่เยลชินบรรจงจัดแต่งให้ เป็นความลับที่รู้กันแค่สองคน……ในใจความคือ เยลซินต้องการยิงนกหลายตัวในกระสุนนัดเดียว การที่ประกาศลาออกของเขานั้น คือ ……กระสุน นกตัวที่หนึ่ง คือ การเลือกตั้งที่จะตอนกลางปี คือ เดือนมิถุนายน จะต้องเลื่อนขึ้นมาในเดือนมีนาคม นกตัวที่สอง คือ เมื่อปูตินก้าวขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีรักษาการ จะได้”แสง” ทั้งหมดจากนอกและในประเทศ ไม่ต้องง้อสื่อไหนๆ ทุกคนย่อมติดตามทำข่าวประธานาธิบดีตามหน้าที่อยู่แล้ว นกตัวที่สาม……คือ กลุ่มที่จะล้างแค้นเยลซิน ก็จะหมดโอกาส เผลอๆจะถูกล้างเอง… นกตัวที่สี่……ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป……ปูตินก็จะได้เป็นประธานาธิบดีต่อไปอย่างแน่นอน เพราะกำลังอยู่ในขาขึ้น นกตัวที่ห้า……คือเหล่านายทุนทั้งหลายที่เกาะกินประเทศมาสุมหัวกันอยู่ในเครมลินตั้งแต่สมัยกอร์บาเชฟ จะได้โดนล้างบางเสียที… ต้องยกให้เยลซิน………เป็นขงเบ้งแห่งรัสเซีย….!!!! วันที่ 19 ธันวาคม 1999 ที่มีการเลือกตั้งผู้แทนเข้าสภา พรรคคอมมิวนิสต์ ได้ 24%, พรรคยูนิตี้ของเยลซิน ได้ 23% พรรค Luzhkov-Primakov alliance ได้ 13% ซึ่งยังต้องมีการเลือกตั้งซ่อม ยังต้องดูบัตรเสีย และต้องผ่านขั้นตอนขบวนพิจารณาทางกฏหมาย ที่จะต้องใช้เวลาในช่วงหลังปีใหม่ไปแล้ว…… เยลซินได้เตรียมการประกาศลาออกแบบฟ้าผ่าในวันสิ้นปี เพราะจะใช้เวลาที่ประธานาธิบดีกล่าวสวัสดีปีใหม่และอวยพรออกทีวี……ในคราวเดียวกัน ในเช้าวันนั้น ปูตินได้มาถึงพร้อมทีม ตั้งแต่เวลา 9:30 เพื่อซักซ้อมอัดเทปการอ่านคำรับแถลงการณ์ ที่มีทีท่าเขินอายนิดๆ เยลซินได้มีคำสั่งให้ฝ่ายความมั่นคงเตรียมการส่งกระเป๋าที่มี โค้ดสำหรับปุ่มกดนิวเคลียร์ทั้งหลายให้เรียบร้อย เพื่อที่จะส่งมอบให้กับประธานาธิบดีคนใหม่ เมื่อเวลามาถึง……เที่ยงตรง สถานีโทรทัศน์ Ostankino ได้เตรียมออกอากาศในวาระสำคัญของการเริ่มต้นปี 2000 ที่ประธานาธิบดีเยลซินได้เริ่มต้นว่า…… “เพื่อนประชาชนที่รักทั้งหลาย…… ข้าพเจ้าได้ยินได้ฟังมามาก กับข่าวลือที่ว่า ข้าพเจ้าหวงอำนาจ เกาะติดเก้าอี้ ทั้งหมดเป็นเพียงข่าวลือ ไม่มีความจริงแต่ประการใด ข้าพเจ้าพร้อมที่จะมอบตำแหน่งให้กับผู้ที่รักชาติที่มีความสามารถ แต่ข้าพเจ้าต้องขออภัย ขอให้ยกโทษให้กับข้าพเจ้าในสิ่งที่อาจมีความผิดพลาด หรือ สร้างความไม่สบายใจ แต่จากนี้ไป ข้าพเจ้าได้หวังว่า เราจะได้รับแต่สิ่งดีๆ ประเทศชาติแข็งแกร่ง เจริญรุ่งเรือง มากไปกว่าที่ผ่านมา……… รัสเซียควรเข้าสู่ยุคสองพัน ด้วยนักการเมืองรุ่นใหม่ ไฟแรง มีวิสัยทัศน์กระจ่างแจ้ง ในขณะที่ข้าพเจ้าที่มองเห็นตัวเองว่าเป็นคนรุ่นเก่า….จึงขออำลา……และเปิดทางให้เขาก้าวเข้ามา สร้างฝันของพวกเราให้เป็นจริง…” เยลซินได้กล่าวคำอำลา ด้วยน้ำตาของลูกผู้ชาย……… ลุดมิลาไม่ได้ดูข่าวทีวี……แต่เพียงห้านาทีจากนั้น มีเพื่อนสาวโทรเข้ามาแสดงความยินดีและอวยพรที่เธอก็แสดงความยินดีตอบ เพราะคิดว่าเป็นการอวยพรวันปีใหม่ เพื่อนต้องอธิบายให้ฟัง ว่า “สามีเธอน่ะ……เป็นประธานาธิบดีไปแล้ว..” ลุดมิลา…ไม่รู้เรื่องอะไรเลย……ปูตินไม่เคยเล่าอะไรให้ฟังแม้แต่นิด เหมือนอย่างครั้งแรก ที่เช้ายังคุยกันดีๆ จู่ๆตอนบ่ายเขาก็เป็นผู้ว่านครเซนต์ ปีเตอร์สเบอร์ก หรือ จากคนตกงาน กลายมาเป็น ผู้อำนวยการ FSB เธอก็ไม่แปลกใจอะไร……แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงคือ ความเป็นอยู่ของครอบครัว ที่เหมือนเธอกลับเข้าสู่ยุคของมาดามสายลับอีกครั้ง ไปไหนก็จะมีทีมอารักขา ลูกๆต้องเรียนที่บ้านกับเหล่าติวเตอร์ ลุดมิลามีเพื่อนน้อยมาก เพราะเธอไม่สามารถมีสังคมเหมือนคนทั่วไป อดีตเพื่อนสนิทคนหนึ่ง คือ Irene Pietsch เป็นภรรยาของนายธนาคารเยอรมัน ไอรีน ที่ลุดมิลาสามารถปรับทุกข์ได้ ว่า ชีวิตสมรสของเธอมีปัญหา เธอไม่เคยมีเครดิตการ์ดเหมือนคนอื่นๆ ต้องใช้ชีวิตเหมือนค้างคาวที่ต้องอยู่ในความมืดตลอดเวลา ไม่เคยได้ไปไหนตามที่ต้องการ ไม่สามารถพูดในสิ่งที่ต้องการ เธออยากจะมีชีวิตที่เป็นอิสระเหมือนกับคนอื่นๆ ส่วนปูติน……ก็เคยบอกกับไอรีนในช่วงที่เคยไปเที่ยวพักร้อนด้วยกันว่า…… “ถ้าใครสามารถอยู่กับเมียผมได้ถึงสามอาทิตย์ละก้อ……ผมจะสร้างอนุสาวรีย์ให้อย่างใหญ่เลยเชียว……” ลุดมิลา…ได้แต่หวังว่า สามีของเธอจะอยู่ในตำแหน่งในฐานะ ประธานาธิบดีรักษาการ ที่มีอายุสามเดือนเท่านั้น…… เพราะถ้านานกว่านั้น……เธอคงรับไม่ไหว..!!! คนอื่นๆก็คงอยู่ไม่ไหวเหมือนกัน หมายถึงคนในเครมลิน เพราะนโยบายหลักของปูติน คือ ล้างบางคอร์รัปชั่น และ กำจัดเหลือบนายทุนที่เกาะกินอยู่กับรัฐบาลเยลซินมานานแสนนาน สอบสวนไปมา ปรากฏว่า มาเฟียตัวแม่……ที่ทำตัวเป็นสายใยชักเปอร์เซ็นต์ เป็นล็อบบี้กินส่วนแบ่ง ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่ เธอคือ Tatyana Yumasheva ที่เป็นธิดาของอดีตประธานาธิบดีเยลซิน มือปั้นนั่นเอง ทาเทียน่า มีตำแหน่งเป็น ที่ปรึกษาคณะรัฐมนตรีในเครมลิน และเป็นหนึ่งในวงในที่ประสานทางการเงินกับ Boris Berezovsky และ Roman Abramovich (อดีตเจ้าของทีมเชลซี) รวมทั้งมีส่วนได้ส่วนเสียกับเส้นทางการเงินที่ไหลไปในต่างประเทศ ปูตินได้ให้ความกรุณาสูงสุด คือ ไล่เธอออกจากตำแหน่งในเดือนแรกที่เขารับตำแหน่งประธานาธิบดี….!!!! Wiwanda W. Vichit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 728 มุมมอง 0 รีวิว
  • มาร่วมแสดงความยินดีกับท่านนายกรัฐมนตรีพี่ปูหน่อยค่าาาา….ติ่งขาาาาา……!!!!

    ตอนเก้า………บุญหล่นทับ……จนนักเลงสายลับรับแทบไม่ทัน……!!!

    จากกรณีท่านอัยการ ทำให้มีการปลดออกอีกหลายคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง บางคนก็มีการไว้หน้า เช่น เสนอให้ไปทำงานที่สถานทูตที่เดนมาร์คบ้าง ฟินแลนด์บ้าง
    และเยลซินได้มอบหมายให้ปูตินดูแลรับผิดชอบในฝ่ายอารักขาส่วนตัวควบคู่ไปกับเป็นผู้อำนวยการของ FSB
    ปูตินได้ถือโอกาสนี้…ขออำนาจเด็ดขาดในการบริหารงานและตัดสินใจ
    ซึ่งเขาก็ได้ตามนั้น
    นั่นเท่ากับ……ปูตินได้เข้ามาอยู่ใน”วงใน” ของเยลซินไปโดยปริยาย ในระยะเวลาเพียงสองปีครึ่งของการทำงานในมอสโคว์
    แต่เวลาในการผงาดของปูติน มันเป็นเวลาเดียวกันกับความอ่อนเปลี้ยของเยลซิน ที่รุมเร้าด้วยสุขภาพ และความผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำอีกกับการทำงานที่ไร้ประสิทธิภาพของทีมที่เลือกมา

    วันที่ 5 มีนาคม 1999 ได้เกิดเหตุขึ้น นายพล Gennady Shpigun แห่งกระทรวงกลาโหม ที่ได้มีภาระกิจที่เมือง Grozny, Chechen (Chechen Republic of Ichkeria) ได้ถูกลักพาตัวไปเมื่อทันที่ที่ถึงสนามบิน โดยกลุ่มชายฉกรรจ์ที่ใส่หน้ากากคลุมหน้าคลุมตา พร้อมอาวุธเต็มพิกัด
    โดยปรกติสถานะการณ์ในเชเชนนั้น ร้อนระอุมาตั้งแต่หลังจากที่ได้รับการปลดปล่อยให้เป็นเอกราชในปี 1991 จากรัสเซีย แต่ก็เป็นแบบครึ่งๆกลางๆ
    การต่อต้านจึงลุกฮือขึ้นอีก ในปี 1993 เยลซินจึงให้นายพล Lebed ขี้เก๊กยกทัพไปปราบ
    แต่ปรากฏว่าแพ้ยับกลับมาในปี 1996
    ทางเชเชนก็เสียหายไม่น้อย บ้านเมืองพังพินาศ
    ทำได้แค่สงบศึก ต่างคนต่างอยู่
    เพราะต่างก็เสียทหารไปจำนวนมาก แต่รัสเซียยังคอยแทรกแซง หรือกำไว้แบบหลวม……
    จึงได้เกิดขบวนการต่อต้านรัสเซีย ที่ก่อความไม่สงบ มีการจับตัวคนนั้นคนนี้ไปบ่อยๆ
    เพียงแต่คราวนี้เหิมเกริม……อุกอาจจับตัวรัฐมนตรีกลาโหมไป พร้อมเรียกร้องค่าไถ่ตัวถึง สิบห้าล้านยูเอสดอลล่าร์
    ตามาด้วยการระเบิดที่ใจกลางเมือง Vladikavkas ทางคอเคซัส มีคนตายถึง 60 คน

    เยลซินสั่งการให้ปูตินและ Seigei Stepashin นายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งมาหมาดๆ ( แทน Yevgeny Primakov) ให้ไปดูสถานะการณ์ที่เมือง Vladikavkas โดยด่วน
    เพื่อไปพบกับ Aslan Maskhadov ประธานาธิบดีเชเชนที่ยังมีสัมพันธภาพที่ดีกับรัสเซีย
    การไปพบครั้งนี้ อัสลานได้มีทีท่าแปลกๆ เขาพูดว่า
    “ได้ข่าวมาว่า ทางรัสเซียได้มอบหมายให้”หน่วยงานพิเศษ” จะเข้ามาปฎิบัติการสังหารผม เพื่อที่จะได้เป็นข้ออ้างที่จะประกาศเป็นสถานะการณ์ฉุกเฉิน แล้วยกทัพเข้ามาควบคุมพื้นที่ ……”
    ปูตินได้ยินดังนั้น…โกรธจนหูกระดิก เพราะไอ้หน่วยงานพิเศษที่ว่านั้น มันก็หมายถึง FSB ที่เขาดูแลอยู่
    และอีกประการหนึ่ง ในเรื่องที่รัสเซียแพ้สงครามในเชเชนทั้งๆที่มีกำลังมากกว่าถึงสามเท่านั้น มันก็น่าอับอายพออยู่แล้ว
    เป็นอันว่า….เรื่องการเจรจานั้น……เลิกคิดไปได้เลย
    ถึงแม้ว่า……จะตระหนักดีในความจริงที่ว่า รัสเซียจะไม่ได้รบกับกบฏเชเชน แต่…มันอาจจะเป็นการรบกับ NATO ศัตรูดั้งเดิมก็ได้
    ที่ทำให้ปูตินต้องหาทางเจรจากับเยลซิน……

    ฝ่ายกลาโหมได้ตั้งรับแนวปะทะ ฝ่ายกบฏเชเชนได้ล่วงล้ำไปใน Dagestan และได้รับข่าวร้ายว่าได้พบกับร่างที่หมดลมหายใจของนายพล Shpigun ที่ถูกลักพาตัวไปแล้ว

    ทางกองทัพรัสเซียได้ทำการเตรียมการมาตั้งแต่เดือนมีนาคม
    ปูตินได้เดินทางไปพบกับกองกำลังของรัสเซียที่รัฐดาเกสถาน
    หลายครั้งเพื่อความมั่นใจว่า แม่ทัพ Anatoly Kvashnin มีความพร้อม

    วันที่ 5 สิงหาคม เยลซินได้มีคำสั่งให้ปูตินเข้าพบในบ้านพัก
    ชายขอบกรุงมอสโคว์
    พอนั่งลงเสร็จ เยลซินได้จ้องหน้าปูติน และกล่าวขึ้นมาว่า
    “ฉันตัดสินใจแล้วนะ ที่เรียกเธอมาในวันนี้ คือ ฉันอยากจะแต่งตั้งเธอให้เป็นนายกรัฐมนตรี…”
    ปูตินเงียบไปอึดใจหนึ่ง ฟังเยลซินได้บรรยายปัญหาของภาระของรัสเซียแบกไว้ในคอเคซัส
    ให้ปูตินฟัง ถึงเรื่อง เศรษฐกิจ สภาพเงินเฟ้อ และที่เขากังวลเป็นอย่างมากคือ ปัญหาของโครงสร้างและบุคลากรสภาที่ไม่แข็งแรงพอกับการที่จะมีเลือกตั้งในสี่เดือนข้างหน้า
    เขาเคยมีความหวังกับ Yury Luzhkov หรือไม่ก็ Yevgeny Primakov
    แต่ต้องมาพบกับหลังบ้านของ Luzhkov ทำธุรกิจที่อิงการเมือง
    จนร่ำรวยมหาศาล ในขณะที่บ้านเมืองยังอยู่ในสภาพอดมื้อกินมื้อ
    แถมตัวสามี Yury ก็เถียงแทนเมียฉอดๆ ว่า
    “ก็ชั้นทำงานให้กับเครมลิน…ไม่ได้ทำเพื่อชาติ…”

    เยลซินถามขึ้นมาว่า
    “เธอจะทำได้ไหม ทำในสิ่งที่ฉันต้องการที่จะเห็น นั่นคือ พาประเทศชาติของเราให้เจริญอยู่ยงอย่างแข็งแรงต่อไป..”
    ปูตินอึกอัก “กระผมไม่แน่ใจ เรื่องงาน กระผมไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น
    แต่ถ้าจะต้องไปหาเสียง……ไปโฆษณาตัวเอง กระผมไม่ชอบ”
    “นั่นไม่ต้องห่วงอะไรทั้งสิ้น เป็นธุระของทางเราเอง”
    “ถ้าเช่นนั้น ก็แล้วแต่ท่านจะกรุณา…”
    “ไม่ต้องกังวล เธอเตรียมตัวไว้ได้เลย เพราะเธอจะไปไกลกว่านี้แน่นอน”

    วันที่ 9 สิงหาคม เยลซินได้ออกทีวี ประกาศว่า
    “เราได้เลือกได้บุคคลที่เหมาะสมที่จะมาทำงานรับใช้ประเทศชาติแล้ว ขอให้ท่านเชื่อใจได้เลยว่า เขาเป็นคนที่มีประสบการณ์อย่างมากมาย
    และมีความสามารถเหลือล้น”

    ข่าวนี้ได้สร้างความฮือฮาประหลาดใจกับทุกคนในเครมลิน ที่ส่วนใหญ่มองไปในด้านลบ เพราะ ปูตินไอ้หน้าจืดเนี่ยนะ………นายกรัฐมนตรี ?!!!
    มีประสบการณ์อะไรมา……นี่เท่ากับว่าส่งมาลงนรก หมดอนาคตต่อไปเชียว
    อย่างมากก็สามเดือน จะถึงหรือเปล่าก็ไม่รู้…?!!
    ช่วงนั้นเป็นช่วงที่หนักหน่วงของปูติน เพราะวลาดิเมียร์ผู้พ่ออยู่ในสภาพเจ็บหนัก ที่เขาต้องไปเยี่ยมเดือนละครั้งหรือสองครั้ง ส่วนมาเรีย มารดาได้จากไปเมื่อสองปีที่แล้ว
    และทุกครั้งที่พ่อเห็นเขา…พ่อจะพูดว่า ….”ลูกชายของพ่อ เจ้าช่างเหมือนกับซาร์เลยเชียวนะ……”
    วลาดิเมียร์ได้ถึงแก่กรรมในวันที่ 2 สิงหาคม ไม่ทันที่จะได้รับรู้ว่าลูกชายจะได้เป็นถึงนายกรัฐมนตรีในกาลอันใกล้

    ปูตินเองก็มานั่งทบทวนดู ว่า อนาคตเขาอาจจะไม่ต่างไปจากเหล่าอดีตนายกรัฐมนตรีคนอื่นๆของเยลซิน ที่ล้วนมีอายุราชการสั้น สามเดือน หกเดือน เหมือนอย่างที่เกิดขึ้นกับ Stepashin, Ptimakov และ Kiriyenko
    แต่อีกใจหนึ่ง เขาก็คิดว่า ช่างมันประไร เขามีอายุเพียงสี่สิบหก
    และจะได้รับงานที่เป็นการท้าทายความสามารถ มีอำนาจเด็ดขาด
    ที่จะได้ทำในสิ่งที่อยากทำ โดยเฉพาะเรื่องสงครามที่เชเชน ที่เขาจะต้องกู้ชื่อเสียงกลับมาให้ได้ …
    เท่ากับว่า……เขาไม่ได้ลงทุนอะไรเลย และเขาได้คิดถึงในสมัยที่ยังเป็นเด็กหนุ่มที่วิ่งเข้าวิ่งออกในอาคารสงเคราะห์ ที่ไม่เคยกลัวใคร
    ไม่เคยรอเสียเวลาในการถกเถียง….เปิดฉากปะทะก่อนทุกครั้ง…
    และครั้งนี้…ในคอเคซัส….เขาจะไปให้พวกมันเห็นว่านรกมีจริงงงง……!!!

    ปูตินได้รับการผ่านในการเสนอชื่อในสภาเพื่อเข้ามาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 16 สิงหาคม
    สิ่งแรกที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่หมาดๆทำ คือ แต่งตัวลำลอง บินไปชายแดนเชเชน ไปพบปะพูดคุยกับทหารหาญ ไปมอบเหรียญกล้าหาญ

    ทางฝ่ายกบฏเชเชนได้ทำการท้าทายอำนาจใหม่อย่างเหิมเกริม นั่นคือการวางระเบิดอพาร์ตเมนต์ในเมือง Volgodonsk มีคนเสียชีวิตนับสิบ

    วันที่ 23 สิงหาคม ฝูงบินจากรัสเซียส่งเข้าไปถล่มถึงกลางกรุง Grozny
    ถล่มโรงกลั่นน้ำมันจนราบเป็นหน้ากลอง เป็นการถล่มแบบนอกตำรายุทธการ เพราะมาแบบล้างแค้นสถานเดียว
    ปูตินอยู่สังเกตการณ์ทั้งหมด มีนักข่าวไปถามว่า
    “บอมบ์เพื่อหวังผลอะไร..?”
    ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่สร้างความประหลาดใจให้กับทุกคน เพราะปูตินพูดจาด้วยภาษานักเลงแบบที่ได้ยินตามมุมถนน เขาตอบว่า
    “เบื่อโคตรๆ ที่ต้องมาตอบอะไรซ้ำซากแบบนี้ เราถล่มเฉพาะจุดที่เรารู้ว่าพวกไอ้เลวนั่นมันสุมหัวอยู่กัน โทษทีนะ ถ้าพบว่ามันนั่งอยู่ในส้วม ก็จะส่งมันลงท่อไปตรงนั้นเลย…”

    หลังจากที่ถล่มจนราบแล้ว วันที่ 29 กันยายน ปูตินได้ถามกับ ประธานาธิบดีเชเชน Aslan Maskhadov ว่า..
    “ถ้านายพร้อมที่จะเจรจา……เรามีทางเลือกให้สถานเดียวคือ ส่งตัวไอ้อาชญากรสงคราม Basayev กับ Khattab และไอ้พวกหัวกระทิตามบัญชีรายชื่อทั้งหลายมา และ นี่ไม่ใช่ข้อแลกเปลี่ยน……แต่เป็นคำสั่ง..!!”
    ทางอัสลาน ก็ได้แต่ปฏิเสธ บอกว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับการวางระเบิด……
    และเรื่องที่จะส่งตัว คนพวกนั้นก็ทำไม่ได้อีก เพราะมันจะกลายเป็นการหักหลังกัน…”
    คือสรุปว่า….เขาเลือกที่จะอยู่ตรงข้ามกับรัสเซีย

    วันรุ่งขึ้น…กองทัพรัสเซียกว่า แปดหมื่นนายบุกประชิดเชเชน มีสำรองไว้อีก 93,000 แทบจะเป็นขนาดเดียวกันกับที่รัสเซียบุกอาฟกานิสถาน ที่ใหญ่กว่าเชเชนสี่สิบเท่า…
    วันที่ 1 ตุลาคม รัสเซียไม่ยอมรับรัฐบาลของอัสลาน
    วันที่ 5 ตุลาคม…รัสเซียเข้าครองพื้นที่กว่าครึ่งของทางเหนือ และ วันต่อมาก็ข้ามแม่น้ำไปยังเมืองหลวง Grozny
    ปูตินไม่ยอมเสียกำลังทหารในการบุก
    เขาให้สัมภาษณ์ว่า……
    เราใช้การส่งฝูงบินโจมตีเป็นส่วนใหญ่ ส่วนทหาร เอาไว้เข้าตามเก็บกวาดให้เรียบ เพราะการรบสมัยใหม่นี้
    มีเครื่องทุ่นแรงเยอะ ไม่ใช่อย่างสมัยสงครามโลก……”
    นักข่าวถามว่า “ ถ้าฝูงบินไม่สำเร็จผลล่ะ……”
    “เราก็ชนะอยู่ดี………เพราะในตำราของเรา……ไม่มีคำว่า…ถ้า……”

    *** สงครามเชเชนครั้งนี้คือครั้งที่สอง จาก ครั้งแรกในปี1996
    ครั้งนี้เริ่มในวันที่ 7 สิงหาคม 1999 ถึง 30 เมษายน 2000
    ที่รัสเซียได้ชัยชนะ……
    แต่ยังมีการปราบปรามกลุ่มต่อต้าน ที่มารูปของการก่อวินาศกรรมอีก ตั้งแต่ ปี 2000-2009 ที่หัวหน้าใหญ่อย่าง Aslan Maskhadov (อดีตประธานาธิบดี) ที่หนีไปอยู่ในถ้ำ ยังถูกตามเก็บจนหมด ส่วนเหล่าลูกน้องก็สลายตัวไปปนอยู่ในกลุ่มของ ISIS
    บัดนี้ คือ สาธารณรัฐเชเชน (หรือ เซซเนีย) คือ สาธารณรัฐหนึ่งของรัสเซีย ที่มี นายกรัฐมนตรี คือ Ramzan Kadyrov เป็นลูกชายของอดีตประธานาธิบดีคนแรกของเชเชน Akhmad Kadyrov ที่ได้มีโอกาสเป็น ประธานาธิบดีเพียงไม่กี่เดือน ก็ถูกลอบสังหาร..

    NATO ได้ยื่นมือเข้ามาตามเคยในการที่จะเรียกร้องหาความยุติธรรม และเรื่องเจรจาสงบศึก ทางรัสเซียก็ย้อนกลับไปว่า แล้วกองทัพนาโต้ที่เข้าไปบอมบ์ Kosovo เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน (1999) มีชาวยูโกสลาฟตายกว่า 500 คน
    ไหนล่ะ…ความยุติธรรม……???

    Wiwanda W. Vichit
    มาร่วมแสดงความยินดีกับท่านนายกรัฐมนตรีพี่ปูหน่อยค่าาาา….ติ่งขาาาาา……!!!! ตอนเก้า………บุญหล่นทับ……จนนักเลงสายลับรับแทบไม่ทัน……!!! จากกรณีท่านอัยการ ทำให้มีการปลดออกอีกหลายคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง บางคนก็มีการไว้หน้า เช่น เสนอให้ไปทำงานที่สถานทูตที่เดนมาร์คบ้าง ฟินแลนด์บ้าง และเยลซินได้มอบหมายให้ปูตินดูแลรับผิดชอบในฝ่ายอารักขาส่วนตัวควบคู่ไปกับเป็นผู้อำนวยการของ FSB ปูตินได้ถือโอกาสนี้…ขออำนาจเด็ดขาดในการบริหารงานและตัดสินใจ ซึ่งเขาก็ได้ตามนั้น นั่นเท่ากับ……ปูตินได้เข้ามาอยู่ใน”วงใน” ของเยลซินไปโดยปริยาย ในระยะเวลาเพียงสองปีครึ่งของการทำงานในมอสโคว์ แต่เวลาในการผงาดของปูติน มันเป็นเวลาเดียวกันกับความอ่อนเปลี้ยของเยลซิน ที่รุมเร้าด้วยสุขภาพ และความผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำอีกกับการทำงานที่ไร้ประสิทธิภาพของทีมที่เลือกมา วันที่ 5 มีนาคม 1999 ได้เกิดเหตุขึ้น นายพล Gennady Shpigun แห่งกระทรวงกลาโหม ที่ได้มีภาระกิจที่เมือง Grozny, Chechen (Chechen Republic of Ichkeria) ได้ถูกลักพาตัวไปเมื่อทันที่ที่ถึงสนามบิน โดยกลุ่มชายฉกรรจ์ที่ใส่หน้ากากคลุมหน้าคลุมตา พร้อมอาวุธเต็มพิกัด โดยปรกติสถานะการณ์ในเชเชนนั้น ร้อนระอุมาตั้งแต่หลังจากที่ได้รับการปลดปล่อยให้เป็นเอกราชในปี 1991 จากรัสเซีย แต่ก็เป็นแบบครึ่งๆกลางๆ การต่อต้านจึงลุกฮือขึ้นอีก ในปี 1993 เยลซินจึงให้นายพล Lebed ขี้เก๊กยกทัพไปปราบ แต่ปรากฏว่าแพ้ยับกลับมาในปี 1996 ทางเชเชนก็เสียหายไม่น้อย บ้านเมืองพังพินาศ ทำได้แค่สงบศึก ต่างคนต่างอยู่ เพราะต่างก็เสียทหารไปจำนวนมาก แต่รัสเซียยังคอยแทรกแซง หรือกำไว้แบบหลวม…… จึงได้เกิดขบวนการต่อต้านรัสเซีย ที่ก่อความไม่สงบ มีการจับตัวคนนั้นคนนี้ไปบ่อยๆ เพียงแต่คราวนี้เหิมเกริม……อุกอาจจับตัวรัฐมนตรีกลาโหมไป พร้อมเรียกร้องค่าไถ่ตัวถึง สิบห้าล้านยูเอสดอลล่าร์ ตามาด้วยการระเบิดที่ใจกลางเมือง Vladikavkas ทางคอเคซัส มีคนตายถึง 60 คน เยลซินสั่งการให้ปูตินและ Seigei Stepashin นายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งมาหมาดๆ ( แทน Yevgeny Primakov) ให้ไปดูสถานะการณ์ที่เมือง Vladikavkas โดยด่วน เพื่อไปพบกับ Aslan Maskhadov ประธานาธิบดีเชเชนที่ยังมีสัมพันธภาพที่ดีกับรัสเซีย การไปพบครั้งนี้ อัสลานได้มีทีท่าแปลกๆ เขาพูดว่า “ได้ข่าวมาว่า ทางรัสเซียได้มอบหมายให้”หน่วยงานพิเศษ” จะเข้ามาปฎิบัติการสังหารผม เพื่อที่จะได้เป็นข้ออ้างที่จะประกาศเป็นสถานะการณ์ฉุกเฉิน แล้วยกทัพเข้ามาควบคุมพื้นที่ ……” ปูตินได้ยินดังนั้น…โกรธจนหูกระดิก เพราะไอ้หน่วยงานพิเศษที่ว่านั้น มันก็หมายถึง FSB ที่เขาดูแลอยู่ และอีกประการหนึ่ง ในเรื่องที่รัสเซียแพ้สงครามในเชเชนทั้งๆที่มีกำลังมากกว่าถึงสามเท่านั้น มันก็น่าอับอายพออยู่แล้ว เป็นอันว่า….เรื่องการเจรจานั้น……เลิกคิดไปได้เลย ถึงแม้ว่า……จะตระหนักดีในความจริงที่ว่า รัสเซียจะไม่ได้รบกับกบฏเชเชน แต่…มันอาจจะเป็นการรบกับ NATO ศัตรูดั้งเดิมก็ได้ ที่ทำให้ปูตินต้องหาทางเจรจากับเยลซิน…… ฝ่ายกลาโหมได้ตั้งรับแนวปะทะ ฝ่ายกบฏเชเชนได้ล่วงล้ำไปใน Dagestan และได้รับข่าวร้ายว่าได้พบกับร่างที่หมดลมหายใจของนายพล Shpigun ที่ถูกลักพาตัวไปแล้ว ทางกองทัพรัสเซียได้ทำการเตรียมการมาตั้งแต่เดือนมีนาคม ปูตินได้เดินทางไปพบกับกองกำลังของรัสเซียที่รัฐดาเกสถาน หลายครั้งเพื่อความมั่นใจว่า แม่ทัพ Anatoly Kvashnin มีความพร้อม วันที่ 5 สิงหาคม เยลซินได้มีคำสั่งให้ปูตินเข้าพบในบ้านพัก ชายขอบกรุงมอสโคว์ พอนั่งลงเสร็จ เยลซินได้จ้องหน้าปูติน และกล่าวขึ้นมาว่า “ฉันตัดสินใจแล้วนะ ที่เรียกเธอมาในวันนี้ คือ ฉันอยากจะแต่งตั้งเธอให้เป็นนายกรัฐมนตรี…” ปูตินเงียบไปอึดใจหนึ่ง ฟังเยลซินได้บรรยายปัญหาของภาระของรัสเซียแบกไว้ในคอเคซัส ให้ปูตินฟัง ถึงเรื่อง เศรษฐกิจ สภาพเงินเฟ้อ และที่เขากังวลเป็นอย่างมากคือ ปัญหาของโครงสร้างและบุคลากรสภาที่ไม่แข็งแรงพอกับการที่จะมีเลือกตั้งในสี่เดือนข้างหน้า เขาเคยมีความหวังกับ Yury Luzhkov หรือไม่ก็ Yevgeny Primakov แต่ต้องมาพบกับหลังบ้านของ Luzhkov ทำธุรกิจที่อิงการเมือง จนร่ำรวยมหาศาล ในขณะที่บ้านเมืองยังอยู่ในสภาพอดมื้อกินมื้อ แถมตัวสามี Yury ก็เถียงแทนเมียฉอดๆ ว่า “ก็ชั้นทำงานให้กับเครมลิน…ไม่ได้ทำเพื่อชาติ…” เยลซินถามขึ้นมาว่า “เธอจะทำได้ไหม ทำในสิ่งที่ฉันต้องการที่จะเห็น นั่นคือ พาประเทศชาติของเราให้เจริญอยู่ยงอย่างแข็งแรงต่อไป..” ปูตินอึกอัก “กระผมไม่แน่ใจ เรื่องงาน กระผมไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น แต่ถ้าจะต้องไปหาเสียง……ไปโฆษณาตัวเอง กระผมไม่ชอบ” “นั่นไม่ต้องห่วงอะไรทั้งสิ้น เป็นธุระของทางเราเอง” “ถ้าเช่นนั้น ก็แล้วแต่ท่านจะกรุณา…” “ไม่ต้องกังวล เธอเตรียมตัวไว้ได้เลย เพราะเธอจะไปไกลกว่านี้แน่นอน” วันที่ 9 สิงหาคม เยลซินได้ออกทีวี ประกาศว่า “เราได้เลือกได้บุคคลที่เหมาะสมที่จะมาทำงานรับใช้ประเทศชาติแล้ว ขอให้ท่านเชื่อใจได้เลยว่า เขาเป็นคนที่มีประสบการณ์อย่างมากมาย และมีความสามารถเหลือล้น” ข่าวนี้ได้สร้างความฮือฮาประหลาดใจกับทุกคนในเครมลิน ที่ส่วนใหญ่มองไปในด้านลบ เพราะ ปูตินไอ้หน้าจืดเนี่ยนะ………นายกรัฐมนตรี ?!!! มีประสบการณ์อะไรมา……นี่เท่ากับว่าส่งมาลงนรก หมดอนาคตต่อไปเชียว อย่างมากก็สามเดือน จะถึงหรือเปล่าก็ไม่รู้…?!! ช่วงนั้นเป็นช่วงที่หนักหน่วงของปูติน เพราะวลาดิเมียร์ผู้พ่ออยู่ในสภาพเจ็บหนัก ที่เขาต้องไปเยี่ยมเดือนละครั้งหรือสองครั้ง ส่วนมาเรีย มารดาได้จากไปเมื่อสองปีที่แล้ว และทุกครั้งที่พ่อเห็นเขา…พ่อจะพูดว่า ….”ลูกชายของพ่อ เจ้าช่างเหมือนกับซาร์เลยเชียวนะ……” วลาดิเมียร์ได้ถึงแก่กรรมในวันที่ 2 สิงหาคม ไม่ทันที่จะได้รับรู้ว่าลูกชายจะได้เป็นถึงนายกรัฐมนตรีในกาลอันใกล้ ปูตินเองก็มานั่งทบทวนดู ว่า อนาคตเขาอาจจะไม่ต่างไปจากเหล่าอดีตนายกรัฐมนตรีคนอื่นๆของเยลซิน ที่ล้วนมีอายุราชการสั้น สามเดือน หกเดือน เหมือนอย่างที่เกิดขึ้นกับ Stepashin, Ptimakov และ Kiriyenko แต่อีกใจหนึ่ง เขาก็คิดว่า ช่างมันประไร เขามีอายุเพียงสี่สิบหก และจะได้รับงานที่เป็นการท้าทายความสามารถ มีอำนาจเด็ดขาด ที่จะได้ทำในสิ่งที่อยากทำ โดยเฉพาะเรื่องสงครามที่เชเชน ที่เขาจะต้องกู้ชื่อเสียงกลับมาให้ได้ … เท่ากับว่า……เขาไม่ได้ลงทุนอะไรเลย และเขาได้คิดถึงในสมัยที่ยังเป็นเด็กหนุ่มที่วิ่งเข้าวิ่งออกในอาคารสงเคราะห์ ที่ไม่เคยกลัวใคร ไม่เคยรอเสียเวลาในการถกเถียง….เปิดฉากปะทะก่อนทุกครั้ง… และครั้งนี้…ในคอเคซัส….เขาจะไปให้พวกมันเห็นว่านรกมีจริงงงง……!!! ปูตินได้รับการผ่านในการเสนอชื่อในสภาเพื่อเข้ามาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 16 สิงหาคม สิ่งแรกที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่หมาดๆทำ คือ แต่งตัวลำลอง บินไปชายแดนเชเชน ไปพบปะพูดคุยกับทหารหาญ ไปมอบเหรียญกล้าหาญ ทางฝ่ายกบฏเชเชนได้ทำการท้าทายอำนาจใหม่อย่างเหิมเกริม นั่นคือการวางระเบิดอพาร์ตเมนต์ในเมือง Volgodonsk มีคนเสียชีวิตนับสิบ วันที่ 23 สิงหาคม ฝูงบินจากรัสเซียส่งเข้าไปถล่มถึงกลางกรุง Grozny ถล่มโรงกลั่นน้ำมันจนราบเป็นหน้ากลอง เป็นการถล่มแบบนอกตำรายุทธการ เพราะมาแบบล้างแค้นสถานเดียว ปูตินอยู่สังเกตการณ์ทั้งหมด มีนักข่าวไปถามว่า “บอมบ์เพื่อหวังผลอะไร..?” ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่สร้างความประหลาดใจให้กับทุกคน เพราะปูตินพูดจาด้วยภาษานักเลงแบบที่ได้ยินตามมุมถนน เขาตอบว่า “เบื่อโคตรๆ ที่ต้องมาตอบอะไรซ้ำซากแบบนี้ เราถล่มเฉพาะจุดที่เรารู้ว่าพวกไอ้เลวนั่นมันสุมหัวอยู่กัน โทษทีนะ ถ้าพบว่ามันนั่งอยู่ในส้วม ก็จะส่งมันลงท่อไปตรงนั้นเลย…” หลังจากที่ถล่มจนราบแล้ว วันที่ 29 กันยายน ปูตินได้ถามกับ ประธานาธิบดีเชเชน Aslan Maskhadov ว่า.. “ถ้านายพร้อมที่จะเจรจา……เรามีทางเลือกให้สถานเดียวคือ ส่งตัวไอ้อาชญากรสงคราม Basayev กับ Khattab และไอ้พวกหัวกระทิตามบัญชีรายชื่อทั้งหลายมา และ นี่ไม่ใช่ข้อแลกเปลี่ยน……แต่เป็นคำสั่ง..!!” ทางอัสลาน ก็ได้แต่ปฏิเสธ บอกว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับการวางระเบิด…… และเรื่องที่จะส่งตัว คนพวกนั้นก็ทำไม่ได้อีก เพราะมันจะกลายเป็นการหักหลังกัน…” คือสรุปว่า….เขาเลือกที่จะอยู่ตรงข้ามกับรัสเซีย วันรุ่งขึ้น…กองทัพรัสเซียกว่า แปดหมื่นนายบุกประชิดเชเชน มีสำรองไว้อีก 93,000 แทบจะเป็นขนาดเดียวกันกับที่รัสเซียบุกอาฟกานิสถาน ที่ใหญ่กว่าเชเชนสี่สิบเท่า… วันที่ 1 ตุลาคม รัสเซียไม่ยอมรับรัฐบาลของอัสลาน วันที่ 5 ตุลาคม…รัสเซียเข้าครองพื้นที่กว่าครึ่งของทางเหนือ และ วันต่อมาก็ข้ามแม่น้ำไปยังเมืองหลวง Grozny ปูตินไม่ยอมเสียกำลังทหารในการบุก เขาให้สัมภาษณ์ว่า…… เราใช้การส่งฝูงบินโจมตีเป็นส่วนใหญ่ ส่วนทหาร เอาไว้เข้าตามเก็บกวาดให้เรียบ เพราะการรบสมัยใหม่นี้ มีเครื่องทุ่นแรงเยอะ ไม่ใช่อย่างสมัยสงครามโลก……” นักข่าวถามว่า “ ถ้าฝูงบินไม่สำเร็จผลล่ะ……” “เราก็ชนะอยู่ดี………เพราะในตำราของเรา……ไม่มีคำว่า…ถ้า……” *** สงครามเชเชนครั้งนี้คือครั้งที่สอง จาก ครั้งแรกในปี1996 ครั้งนี้เริ่มในวันที่ 7 สิงหาคม 1999 ถึง 30 เมษายน 2000 ที่รัสเซียได้ชัยชนะ…… แต่ยังมีการปราบปรามกลุ่มต่อต้าน ที่มารูปของการก่อวินาศกรรมอีก ตั้งแต่ ปี 2000-2009 ที่หัวหน้าใหญ่อย่าง Aslan Maskhadov (อดีตประธานาธิบดี) ที่หนีไปอยู่ในถ้ำ ยังถูกตามเก็บจนหมด ส่วนเหล่าลูกน้องก็สลายตัวไปปนอยู่ในกลุ่มของ ISIS บัดนี้ คือ สาธารณรัฐเชเชน (หรือ เซซเนีย) คือ สาธารณรัฐหนึ่งของรัสเซีย ที่มี นายกรัฐมนตรี คือ Ramzan Kadyrov เป็นลูกชายของอดีตประธานาธิบดีคนแรกของเชเชน Akhmad Kadyrov ที่ได้มีโอกาสเป็น ประธานาธิบดีเพียงไม่กี่เดือน ก็ถูกลอบสังหาร.. NATO ได้ยื่นมือเข้ามาตามเคยในการที่จะเรียกร้องหาความยุติธรรม และเรื่องเจรจาสงบศึก ทางรัสเซียก็ย้อนกลับไปว่า แล้วกองทัพนาโต้ที่เข้าไปบอมบ์ Kosovo เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน (1999) มีชาวยูโกสลาฟตายกว่า 500 คน ไหนล่ะ…ความยุติธรรม……??? Wiwanda W. Vichit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 770 มุมมอง 0 รีวิว
  • "อนุทิน" บอกยังฟังไม่ชัดคลิปเสียงคล้าย พล.อ.ประวิตร แต่มีพรรคพวกโทรฯ มาเล่าให้ฟัง ยันเป็นเรื่องเก่า เล่าสู่กันฟังแบบเพลิน ๆ ปฏิเสธแสดงความเห็นล้างแค้น "ลุงป้อม" บอกเรื่องไหนไม่เกี่ยวกับเราก็ปล่อยผ่าน ขณะ "ปลัดเก่ง" ยอมรับเป็นเสียงตัวเอง แจ้งเรื่องแต่งตั้งให้ทราบก่อนเข้า ครม.สมัย "บิ๊กป้อม" กำกับดูแลมหาดไทย
    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000084502

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    "อนุทิน" บอกยังฟังไม่ชัดคลิปเสียงคล้าย พล.อ.ประวิตร แต่มีพรรคพวกโทรฯ มาเล่าให้ฟัง ยันเป็นเรื่องเก่า เล่าสู่กันฟังแบบเพลิน ๆ ปฏิเสธแสดงความเห็นล้างแค้น "ลุงป้อม" บอกเรื่องไหนไม่เกี่ยวกับเราก็ปล่อยผ่าน ขณะ "ปลัดเก่ง" ยอมรับเป็นเสียงตัวเอง แจ้งเรื่องแต่งตั้งให้ทราบก่อนเข้า ครม.สมัย "บิ๊กป้อม" กำกับดูแลมหาดไทย อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000084502 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Love
    Sad
    26
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 5492 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣ เดชอิศม์อยู่ไทยรักไทยมา 9 ปี จนทักษิณส่งมาเป็นสายสืบ ไส้ศึกในรังแมลงสาบ และซ่องสุมกำลังจนได้ล้างแค้นแบบล้างบาง
    #7ดอกจิก
    ♣ เดชอิศม์อยู่ไทยรักไทยมา 9 ปี จนทักษิณส่งมาเป็นสายสืบ ไส้ศึกในรังแมลงสาบ และซ่องสุมกำลังจนได้ล้างแค้นแบบล้างบาง #7ดอกจิก
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 472 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ดวงตาคนอาฆาต​ #​ไม่รู้​มันมาจากยุคอั่งยี่หรือเปล่า#มันตาลอย#มันหลอกคนด้วยความฉลาด#มันล้างแค้นและละโมบ
    ฟังคำอธิบาย​ แล้วไปเทียบเคียง​ คิดต่อด้วยนะ

    https://youtu.be/3rANq1xLR7o?si=1UgymLcF0C8N7edH
    #ดวงตาคนอาฆาต​ #​ไม่รู้​มันมาจากยุคอั่งยี่หรือเปล่า#มันตาลอย#มันหลอกคนด้วยความฉลาด#มันล้างแค้นและละโมบ ฟังคำอธิบาย​ แล้วไปเทียบเคียง​ คิดต่อด้วยนะ https://youtu.be/3rANq1xLR7o?si=1UgymLcF0C8N7edH
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 133 มุมมอง 0 รีวิว
  • สนธิเล่าเรื่อง 19-8-67 : ถึงเวลาล้างแค้น 10 ปียังไม่สาย!
    .
    https://www.youtube.com/live/-l_YA8hQ0yk?si=ioBMBCdZ6U5-N_OL
    สนธิเล่าเรื่อง 19-8-67 : ถึงเวลาล้างแค้น 10 ปียังไม่สาย! . https://www.youtube.com/live/-l_YA8hQ0yk?si=ioBMBCdZ6U5-N_OL
    Like
    Love
    5
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1254 มุมมอง 0 รีวิว