• เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2025 OpenAI ได้เปิดตัว ChatGPT Gov ซึ่งเป็นเวอร์ชันของ ChatGPT ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะของหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ChatGPT Gov มีความสามารถในการช่วยงานต่างๆ เช่น การค้นหาเอกสารที่ซับซ้อน การทำงานร่วมกันในพื้นที่ทำงานของรัฐบาล การอัปโหลดไฟล์ข้อความและรูปภาพ และการเข้าถึง GPT-4o นอกจากนี้ยังมีคอนโซลสำหรับผู้บริหารด้านไอทีในการจัดการการใช้งาน

    การเปิดตัว ChatGPT Gov นี้มีเป้าหมายเพื่อช่วยให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถจัดการกับปัญหาที่ซับซ้อน เช่น การปรับปรุงสุขภาพของประชาชนและการเสริมสร้างความมั่นคงของชาติ โดยมีเป้าหมายสูงสุดในการ "รับใช้ผลประโยชน์ของชาติและความดีของประชาชน"

    หน่วยงานรัฐบาลสามารถใช้บริการ OpenAI ของ Microsoft Azure เพื่อปรับใช้ ChatGPT Gov ในสภาพแวดล้อมของตนเอง ซึ่งช่วยให้หน่วยงานสามารถจัดการกับความต้องการด้านความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว และการปฏิบัติตามข้อกำหนดได้ง่ายขึ้น

    นอกจากนี้ ChatGPT Gov ยังมีนโยบายการใช้งานที่ห้ามการใช้งานที่เป็นอันตรายและมีการตั้งค่าการป้องกันเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน

    มีสาระที่น่าสนใจเพิ่มเติมในบทความนี้คือ การที่หน่วยงานรัฐบาลมากกว่า 3,500 แห่งในสหรัฐฯ ได้เริ่มใช้ ChatGPT ในการทำงานประจำวันแล้ว โดยมีผู้ใช้งานมากกว่า 90,000 คนที่ส่งข้อความผ่าน ChatGPT มากกว่า 18 ล้านข้อความ

    https://www.zdnet.com/article/openai-tailored-chatgpt-gov-for-government-use-heres-what-that-means/
    เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2025 OpenAI ได้เปิดตัว ChatGPT Gov ซึ่งเป็นเวอร์ชันของ ChatGPT ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะของหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ChatGPT Gov มีความสามารถในการช่วยงานต่างๆ เช่น การค้นหาเอกสารที่ซับซ้อน การทำงานร่วมกันในพื้นที่ทำงานของรัฐบาล การอัปโหลดไฟล์ข้อความและรูปภาพ และการเข้าถึง GPT-4o นอกจากนี้ยังมีคอนโซลสำหรับผู้บริหารด้านไอทีในการจัดการการใช้งาน การเปิดตัว ChatGPT Gov นี้มีเป้าหมายเพื่อช่วยให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถจัดการกับปัญหาที่ซับซ้อน เช่น การปรับปรุงสุขภาพของประชาชนและการเสริมสร้างความมั่นคงของชาติ โดยมีเป้าหมายสูงสุดในการ "รับใช้ผลประโยชน์ของชาติและความดีของประชาชน" หน่วยงานรัฐบาลสามารถใช้บริการ OpenAI ของ Microsoft Azure เพื่อปรับใช้ ChatGPT Gov ในสภาพแวดล้อมของตนเอง ซึ่งช่วยให้หน่วยงานสามารถจัดการกับความต้องการด้านความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว และการปฏิบัติตามข้อกำหนดได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ ChatGPT Gov ยังมีนโยบายการใช้งานที่ห้ามการใช้งานที่เป็นอันตรายและมีการตั้งค่าการป้องกันเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน มีสาระที่น่าสนใจเพิ่มเติมในบทความนี้คือ การที่หน่วยงานรัฐบาลมากกว่า 3,500 แห่งในสหรัฐฯ ได้เริ่มใช้ ChatGPT ในการทำงานประจำวันแล้ว โดยมีผู้ใช้งานมากกว่า 90,000 คนที่ส่งข้อความผ่าน ChatGPT มากกว่า 18 ล้านข้อความ https://www.zdnet.com/article/openai-tailored-chatgpt-gov-for-government-use-heres-what-that-means/
    WWW.ZDNET.COM
    OpenAI tailored ChatGPT Gov for government use - here's what that means
    ChatGPT will be making its way to federal, state, and local agencies. The new version comes with benefits - and concerns.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 95 มุมมอง 0 รีวิว
  • มูดาวรุ่ง...พยุงดาวร่วง
    สำหรับท่านที่เกิดปีเถาะ

    เพื่อเป็นการสะกดพลังร้ายของดาวอัปมงคล จึงควรน้อมสักการะต่อองค์มหาเทพ “大老爺(ตั่วเหล่าเอี๊ย)” หรือ องค์ “玄天上帝(เฮี่ยงเทียนเสี่ยงตี่)” เทพเจ้าอันทรงฤทธานุภาพแห่งสรวงสวรรค์ คอยสอดส่องปราบปรามกำราบเภทภัย ทั้งเหล่าภูตผีปีศาจร้ายตลอดจนความเศร้าหมองดำมืดใดที่แอบแฝงเกาะกินจากบาปกรรมชั่วช้าต่างๆ ด้วยพลังที่ทรงไว้ซึ่งคุณธรรมอย่างองอาจแสนยานุภาพในกาย หลังวันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 22:10 น.นี้ เป็นต้นไป ณ ศาลเจ้า ศักดิ์สิทธิ์แห่งองค์เทพท่านสถิตอยู่ โดยการนอบน้อมกราบบูชาอธิษฐานฝากดวงชะตาขอพรบารมีแห่งองค์เทพท่านได้สดับรับฟังและโปรดเมตตาคุ้มครองปกป้องให้แคล้วคลาดรอดพ้นจากความมืดมนชั่วร้ายที่จะมาเกาะกินจิตใจให้เกิดความทุกข์ยากใดๆ พร้อมน้อมรับพรให้มีสุขภาพที่แข็งแรง พบกับความก้าวหน้าในทุกด้านของชีวิตด้วยพลังใจที่เต็มร้อย ตลอดทั้งปี 2568 นี้

    อีกทั้งควรน้อมอัญเชิญองค์“พระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิม” หรือ “觀世音菩薩 (กวนซืออิมผู่สัก)” พระโพธิสัตว์แห่งความเมตตามาสักการะเทิดทูนบูชาด้วยการพกพาหรือโหลดภาพเก็บไว้หน้าแรกของโทรศัพท์ติดตัวตลอดเวลา เพื่อปกปักรักษาและประทานบารมีที่จะขับไล่ความหม่นมัวทุกข์โศกร่ำไห้ให้จางหาย ทั้งความอัปมงคลให้ไม่กล้ำกลายและเสริมสิริมงคลให้ได้ชุ่มฉ่ำสดชื่นเต็มไปด้วย พลังกายใจที่จะก้าวไปอย่างมั่นคงในทุกช่วงห้วงเวลาจนสมปรารถนา ด้วยน้ำพระเมตตาบุญฤทธิ์อันสุดประมาณแห่งองค์ “พระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิม” หรือ “觀世音菩薩 (กวนซืออิมผู่สัก)” จะแผ่รัศมีคุ้มครองตลอดทั้งปี 2568 นี้
    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้

    เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก https://lin.ee/nyL0NuG
    ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง)
    .
    .
    #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร
    #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    มูดาวรุ่ง...พยุงดาวร่วง สำหรับท่านที่เกิดปีเถาะ เพื่อเป็นการสะกดพลังร้ายของดาวอัปมงคล จึงควรน้อมสักการะต่อองค์มหาเทพ “大老爺(ตั่วเหล่าเอี๊ย)” หรือ องค์ “玄天上帝(เฮี่ยงเทียนเสี่ยงตี่)” เทพเจ้าอันทรงฤทธานุภาพแห่งสรวงสวรรค์ คอยสอดส่องปราบปรามกำราบเภทภัย ทั้งเหล่าภูตผีปีศาจร้ายตลอดจนความเศร้าหมองดำมืดใดที่แอบแฝงเกาะกินจากบาปกรรมชั่วช้าต่างๆ ด้วยพลังที่ทรงไว้ซึ่งคุณธรรมอย่างองอาจแสนยานุภาพในกาย หลังวันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 22:10 น.นี้ เป็นต้นไป ณ ศาลเจ้า ศักดิ์สิทธิ์แห่งองค์เทพท่านสถิตอยู่ โดยการนอบน้อมกราบบูชาอธิษฐานฝากดวงชะตาขอพรบารมีแห่งองค์เทพท่านได้สดับรับฟังและโปรดเมตตาคุ้มครองปกป้องให้แคล้วคลาดรอดพ้นจากความมืดมนชั่วร้ายที่จะมาเกาะกินจิตใจให้เกิดความทุกข์ยากใดๆ พร้อมน้อมรับพรให้มีสุขภาพที่แข็งแรง พบกับความก้าวหน้าในทุกด้านของชีวิตด้วยพลังใจที่เต็มร้อย ตลอดทั้งปี 2568 นี้ อีกทั้งควรน้อมอัญเชิญองค์“พระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิม” หรือ “觀世音菩薩 (กวนซืออิมผู่สัก)” พระโพธิสัตว์แห่งความเมตตามาสักการะเทิดทูนบูชาด้วยการพกพาหรือโหลดภาพเก็บไว้หน้าแรกของโทรศัพท์ติดตัวตลอดเวลา เพื่อปกปักรักษาและประทานบารมีที่จะขับไล่ความหม่นมัวทุกข์โศกร่ำไห้ให้จางหาย ทั้งความอัปมงคลให้ไม่กล้ำกลายและเสริมสิริมงคลให้ได้ชุ่มฉ่ำสดชื่นเต็มไปด้วย พลังกายใจที่จะก้าวไปอย่างมั่นคงในทุกช่วงห้วงเวลาจนสมปรารถนา ด้วยน้ำพระเมตตาบุญฤทธิ์อันสุดประมาณแห่งองค์ “พระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิม” หรือ “觀世音菩薩 (กวนซืออิมผู่สัก)” จะแผ่รัศมีคุ้มครองตลอดทั้งปี 2568 นี้ ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้ เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก https://lin.ee/nyL0NuG ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง) . . #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 165 มุมมอง 0 รีวิว
  • กรณี แห่ศพสมาชิกBRN เสมือนเป็นวีรบุรุษ ถือเป็นโจทย์ยากของหน่วยงานความมั่นคงไทย จะทำอย่างไรเมื่อฝ่ายตรงข้ามนำศพที่ถูกวิสามัญมาเป็นเครื่องมือหาแนวร่วม เพื่อให้มีการก่อความรุนแรงไม่สิ้นสุด

    #แห่ศพสดุดีBRN #ป่วนสามจังหวัดชายแดนใต้ #คนร้ายกลายเป็นฮีโร่ #โจทย์ยากของรัฐไทย #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ
    กรณี แห่ศพสมาชิกBRN เสมือนเป็นวีรบุรุษ ถือเป็นโจทย์ยากของหน่วยงานความมั่นคงไทย จะทำอย่างไรเมื่อฝ่ายตรงข้ามนำศพที่ถูกวิสามัญมาเป็นเครื่องมือหาแนวร่วม เพื่อให้มีการก่อความรุนแรงไม่สิ้นสุด #แห่ศพสดุดีBRN #ป่วนสามจังหวัดชายแดนใต้ #คนร้ายกลายเป็นฮีโร่ #โจทย์ยากของรัฐไทย #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ
    Like
    Love
    Haha
    Sad
    Angry
    14
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 767 มุมมอง 53 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เปิดเผยจะออกคำสั่งให้กระทรวงกลาโหม(เพนตากอน) และกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ เตรียมพร้อมอาคารกักกันคนเข้าเมือง ณ เรือนจำอ่าวกวนตานาโม สำหรับรองรับพวกผู้อพยพสูงสุด 30,000 คน ที่ไม่สามารถเนรเทศกลับประเทศต้นทางได้
    .
    ที่ผ่านมา ฐานทัพเรือสหรัฐฯในอ่าวกวนตานาโม ประเทศคิวบา เป็นที่ตั้งของสถานที่ผู้อพยพแห่งหนึ่งอยู่ก่อนแล้ว แยกจากเรือนจำที่มีรักษาความปลอดภัยในระดับสูงของสหรัฐฯ ที่มีไว้คุมขังพวกผู้ต้องสงสัยก่อการร้ายต่างชาติ ขณะที่ศูนย์อพยพแห่งนี้ถูกใช้งานเป็นครั้งคราวในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา ในนั้นรวมถึงใช้คุมตัวผู้อพยพชาวเฮติและชาวคิวบา ที่จับตัวได้กลางทะเล
    .
    ทอม โอแมน ซาร์ด้านเขตแดนของทรัมป์ ระบุในเวลาต่อมาในวันพุธ(29ม.ค.) รัฐบาลจะขยายศูนย์ดังกล่าวที่มีอยู่แล้ว และจะมอบหน้าที่ให้ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรสหรัฐฯ (ICE) เป็นผู้ดูแล
    .
    "วันนี้ ผมลงนามในคำสั่งบริหาร สั่งการให้กระทรวงกลาโหมและกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ เริ่มเตรียมการศูนย์คนเข้าเมืองรองรับ 30,000 คน ที่อ่าวกวนตานาโม" ทรัมป์ บอกที่ทำเนียบขาว
    .
    ทรัมป์ กล่าวด้วยว่าศูนย์แห่งนี้ "จะถูกใช้ควบคุมตัวอาชญากรต่างด้าวเลวร้ายผิดกฎหมายที่คุกคามประชาชนชาวอเมริกา บางส่วนในนั้นเลวเสียจนกระทั่ง เราไม่อาจไว้วางใจให้ประเทศต่างๆควบคุมตัวพวกเขา เพราะว่าเราไม่ต้องการให้พวกเขากลับมาอีก ดังนั้น เรากำลังส่งตัวพวกเขาไปยังกวนตานาโม นี่จะเพิ่มความจุของเราเป็นเท่าตัวในทันที"
    .
    ไม่นานหลังจากนั้น ทรัมป์ลงนามในบันทึกความเข้าใจ ซึ่งไม่ได้ระบุถึงจำนวนพวกผู้อพยพ แต่เรียกร้องให้เพิ่มพื้นที่กักขัง ณ ศูนย์ที่ได้รับการขยายแห่งนี้
    .
    เมื่อถูกถามว่าศูนย์แห่งนี้จำเป็นต้องใช้เงินมากน้อยแค่ไหน ทาง คริสตี โนเอม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ตอบว่ารัฐบาลกำลังทำงานในเรื่องนี้ ภายใต้การประนีประนอมและการจัดสรรในสภาคองเกรส
    .
    เรือนจำในอ่าวกวตานาโม ถูกจัดตั้งขึ้นมาในปี 2002 โดยประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู.บุช ณ ขณะนั้น เพื่อกักขังพวกผู้ต้องสงสัยนักรบต่างๆชาติ ตามหลังเหตุวินาศกรรมโจมตีสหรัฐฯ วันที่ 11 กันยายน 2001 และเวลานี้ยังเหนือผู้ต้องขังในเรือนจำ 15 คน
    .
    บารัค โอบามา และ โจ ไบเดน 2 ประธานาธิบดีคนก่อนหน้าทรัมป์ ซึ่งมาจากเดโมแครตทั้งคู่ หาทางปิดเรือนจำกวนตานาโม แต่ทำได้เพียงลดประชากรผู้ต้องขัง อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ ประกาศว่าจะให้เรือนจำแห่งนี้เปิดทำการต่อไป
    .
    สถานคุมขังแห่งนี้ถูกประณามมาช้านานจากกลุ่มสิทธิมนุษยชนทั้งหลาย สำหรับการกักขังอย่างไม่มีกำหนดและกลายมาเป็นสัญลักษณ์ความเลยเถิดของ "สงครามต่อต้านก่อการร้าย" ของสหรัฐฯ สืบเนื่องจากมีการใช้วิธีสอบปากคำที่เหี้ยมโหด ที่พวกนักวิจารณ์บอกว่าไม่ต่างจากการทรมาน
    .
    อย่างไรก็ตามศูนย์อพยพสำหรับคนเข้าเมืองผิดกฎหมาย จะแยกออกจากสถานคุมขังในเรือนจำแห่งนี้
    .
    มิเกล ดิอาซ คาเนล ประธานาธิบดีคิวบาในวันพุธ(29ม.ค.) ให้คำจำกัดความว่า "เป็นการกระทำที่โหดร้ายทารุณ" ประณามแผนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ในจะควบคุมตัวคนเข้าเมืองผิดกฎหมาย ณ เรือนจำทหารกวนตานาโม
    .
    "ในการกระทำที่โหดร้ายทารุณ รัฐบาลใหม่ของสหรัฐฯแถลงเกี่ยวกับการกักขังที่ฐานทัพเรือกวนตานาโม ตั้งอยู่ในดินแดนคิวบา ที่ถูกยึดครองอย่างผิดกฎหมาย" ประธานาธิบดีคิวบาเขียนบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ พร้อมระบุพวกผู้อพยพจะถูกคุมขังใกล้สถานที่ต่างๆที่เขาบอกว่าสหรัฐฯเคยใช้มัน "ทรมานและกักขังผิดกฎหมาย"
    .
    การตัดสินใจล่าสุดเป็นความเคลื่อนไหวเพิ่มเติมจากกรณีที่กองทัพสหรัฐฯใช้เครื่องบินทหารลำเลียงพวกผู้อพยพที่ถูกเทรเนศออกนอกประเทศ และส่งทหารประจำการกว่า 1,600 นาย เข้าไปบริเวณแนวชายแดนสหรัฐฯติดกับเม็กซิโก หลังจาก ทรัมป์ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านผู้อพยพเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009491
    ..............
    Sondhi X
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เปิดเผยจะออกคำสั่งให้กระทรวงกลาโหม(เพนตากอน) และกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ เตรียมพร้อมอาคารกักกันคนเข้าเมือง ณ เรือนจำอ่าวกวนตานาโม สำหรับรองรับพวกผู้อพยพสูงสุด 30,000 คน ที่ไม่สามารถเนรเทศกลับประเทศต้นทางได้ . ที่ผ่านมา ฐานทัพเรือสหรัฐฯในอ่าวกวนตานาโม ประเทศคิวบา เป็นที่ตั้งของสถานที่ผู้อพยพแห่งหนึ่งอยู่ก่อนแล้ว แยกจากเรือนจำที่มีรักษาความปลอดภัยในระดับสูงของสหรัฐฯ ที่มีไว้คุมขังพวกผู้ต้องสงสัยก่อการร้ายต่างชาติ ขณะที่ศูนย์อพยพแห่งนี้ถูกใช้งานเป็นครั้งคราวในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา ในนั้นรวมถึงใช้คุมตัวผู้อพยพชาวเฮติและชาวคิวบา ที่จับตัวได้กลางทะเล . ทอม โอแมน ซาร์ด้านเขตแดนของทรัมป์ ระบุในเวลาต่อมาในวันพุธ(29ม.ค.) รัฐบาลจะขยายศูนย์ดังกล่าวที่มีอยู่แล้ว และจะมอบหน้าที่ให้ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรสหรัฐฯ (ICE) เป็นผู้ดูแล . "วันนี้ ผมลงนามในคำสั่งบริหาร สั่งการให้กระทรวงกลาโหมและกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ เริ่มเตรียมการศูนย์คนเข้าเมืองรองรับ 30,000 คน ที่อ่าวกวนตานาโม" ทรัมป์ บอกที่ทำเนียบขาว . ทรัมป์ กล่าวด้วยว่าศูนย์แห่งนี้ "จะถูกใช้ควบคุมตัวอาชญากรต่างด้าวเลวร้ายผิดกฎหมายที่คุกคามประชาชนชาวอเมริกา บางส่วนในนั้นเลวเสียจนกระทั่ง เราไม่อาจไว้วางใจให้ประเทศต่างๆควบคุมตัวพวกเขา เพราะว่าเราไม่ต้องการให้พวกเขากลับมาอีก ดังนั้น เรากำลังส่งตัวพวกเขาไปยังกวนตานาโม นี่จะเพิ่มความจุของเราเป็นเท่าตัวในทันที" . ไม่นานหลังจากนั้น ทรัมป์ลงนามในบันทึกความเข้าใจ ซึ่งไม่ได้ระบุถึงจำนวนพวกผู้อพยพ แต่เรียกร้องให้เพิ่มพื้นที่กักขัง ณ ศูนย์ที่ได้รับการขยายแห่งนี้ . เมื่อถูกถามว่าศูนย์แห่งนี้จำเป็นต้องใช้เงินมากน้อยแค่ไหน ทาง คริสตี โนเอม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ตอบว่ารัฐบาลกำลังทำงานในเรื่องนี้ ภายใต้การประนีประนอมและการจัดสรรในสภาคองเกรส . เรือนจำในอ่าวกวตานาโม ถูกจัดตั้งขึ้นมาในปี 2002 โดยประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู.บุช ณ ขณะนั้น เพื่อกักขังพวกผู้ต้องสงสัยนักรบต่างๆชาติ ตามหลังเหตุวินาศกรรมโจมตีสหรัฐฯ วันที่ 11 กันยายน 2001 และเวลานี้ยังเหนือผู้ต้องขังในเรือนจำ 15 คน . บารัค โอบามา และ โจ ไบเดน 2 ประธานาธิบดีคนก่อนหน้าทรัมป์ ซึ่งมาจากเดโมแครตทั้งคู่ หาทางปิดเรือนจำกวนตานาโม แต่ทำได้เพียงลดประชากรผู้ต้องขัง อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ ประกาศว่าจะให้เรือนจำแห่งนี้เปิดทำการต่อไป . สถานคุมขังแห่งนี้ถูกประณามมาช้านานจากกลุ่มสิทธิมนุษยชนทั้งหลาย สำหรับการกักขังอย่างไม่มีกำหนดและกลายมาเป็นสัญลักษณ์ความเลยเถิดของ "สงครามต่อต้านก่อการร้าย" ของสหรัฐฯ สืบเนื่องจากมีการใช้วิธีสอบปากคำที่เหี้ยมโหด ที่พวกนักวิจารณ์บอกว่าไม่ต่างจากการทรมาน . อย่างไรก็ตามศูนย์อพยพสำหรับคนเข้าเมืองผิดกฎหมาย จะแยกออกจากสถานคุมขังในเรือนจำแห่งนี้ . มิเกล ดิอาซ คาเนล ประธานาธิบดีคิวบาในวันพุธ(29ม.ค.) ให้คำจำกัดความว่า "เป็นการกระทำที่โหดร้ายทารุณ" ประณามแผนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ในจะควบคุมตัวคนเข้าเมืองผิดกฎหมาย ณ เรือนจำทหารกวนตานาโม . "ในการกระทำที่โหดร้ายทารุณ รัฐบาลใหม่ของสหรัฐฯแถลงเกี่ยวกับการกักขังที่ฐานทัพเรือกวนตานาโม ตั้งอยู่ในดินแดนคิวบา ที่ถูกยึดครองอย่างผิดกฎหมาย" ประธานาธิบดีคิวบาเขียนบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ พร้อมระบุพวกผู้อพยพจะถูกคุมขังใกล้สถานที่ต่างๆที่เขาบอกว่าสหรัฐฯเคยใช้มัน "ทรมานและกักขังผิดกฎหมาย" . การตัดสินใจล่าสุดเป็นความเคลื่อนไหวเพิ่มเติมจากกรณีที่กองทัพสหรัฐฯใช้เครื่องบินทหารลำเลียงพวกผู้อพยพที่ถูกเทรเนศออกนอกประเทศ และส่งทหารประจำการกว่า 1,600 นาย เข้าไปบริเวณแนวชายแดนสหรัฐฯติดกับเม็กซิโก หลังจาก ทรัมป์ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านผู้อพยพเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009491 .............. Sondhi X
    Like
    Wow
    Sad
    8
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 820 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงฯ สป.จีน ลงพื้นที่ชายแดนตาก ส่องกาสิโน-โครงการลงทุนจีนเทาชเวโก๊กโก่ ฝั่งเมียนมา ก่อนหารือแนวทางช่วย 160 ชาวจีนถูกหลอก-ฉ้อโกงในเมียวดี

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000009371

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงฯ สป.จีน ลงพื้นที่ชายแดนตาก ส่องกาสิโน-โครงการลงทุนจีนเทาชเวโก๊กโก่ ฝั่งเมียนมา ก่อนหารือแนวทางช่วย 160 ชาวจีนถูกหลอก-ฉ้อโกงในเมียวดี อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000009371 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Wow
    Angry
    13
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 744 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣ ทำงานคุ้มค่าจ้างจริงๆ โบว์เสี่ยไก่ ปันใจเสี่ยหนู รีบเบี่ยงเบนความรับผิดชอบของ มท.1 ไปให้ฝ่ายความมั่นคง และกระทรวงต่างประเทศ หวังลดกระแสโจมตีให้นายจ้างอย่างมท.1
    #7ดอกจิก
    ♣ ทำงานคุ้มค่าจ้างจริงๆ โบว์เสี่ยไก่ ปันใจเสี่ยหนู รีบเบี่ยงเบนความรับผิดชอบของ มท.1 ไปให้ฝ่ายความมั่นคง และกระทรวงต่างประเทศ หวังลดกระแสโจมตีให้นายจ้างอย่างมท.1 #7ดอกจิก
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 134 มุมมอง 0 รีวิว
  • นาโต ปะทะ สหรัฐ (นาโต)!!!

    “พันธมิตรที่แข็งแกร่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่มีความท้าทายด้านความมั่นคงครั้งใหญ่” - Mette Frederiksen กล่าวในการพบกับเลขาธิการนาโต

    มาร์ค รุตเต(Mark Rutte) เลขาธิการนาโต และ เมตเต เฟรเดอริกเซน (Mette Frederiksen) นายกรัฐมนตรีหญิงเดนมาร์ก แสดงความเห็นคล้อยตามกันว่า จำเป็นต้องมุ่งเน้นเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการปกป้องอาร์กติก ท่ามกลางการแสดงออกอย่างชัดเจนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่กระสันอยากผนวกดินแดนของเกาะกรีนแลนด์ดินแดนปกครองตนเองของเดนมาร์กไว้ในครอบครอง

    เมตเต เฟรเดอริกเซน ยังได้พบปะกับ เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และบอกว่าพวกผู้นำทางการเมืองในยุโรปและที่อื่นๆ ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่กับหลักการแห่งการธำรงไว้ซึ่งความเคารพเขตแดนระหว่างประเทศ

    ทางด้าน เอลินา วัลโทเนน (Elina Valtonen) รมว.ต่างประเทศฟินแลนด์ ยืนยันว่ากรีนแลนด์ได้รับความคุ้มครองภายใต้มาตรา 5 ของนาโต้ ในฐานะดินแดนปกครองตนเองของเดนมาร์ก หลังทรัมป์แสดงความต้องการยึดครอง

    ฌอง-โนเอล บาร์โรต์ รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส กล่าวว่า ฝรั่งเศสได้หารือกับเดนมาร์กถึงความเป็นไปได้ในการส่งทหารไปกรีนแลนด์ เพื่อตอบโต้คำขู่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ที่จะผนวกดินแดนของเดนมาร์ก
    นาโต ปะทะ สหรัฐ (นาโต)!!! “พันธมิตรที่แข็งแกร่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่มีความท้าทายด้านความมั่นคงครั้งใหญ่” - Mette Frederiksen กล่าวในการพบกับเลขาธิการนาโต มาร์ค รุตเต(Mark Rutte) เลขาธิการนาโต และ เมตเต เฟรเดอริกเซน (Mette Frederiksen) นายกรัฐมนตรีหญิงเดนมาร์ก แสดงความเห็นคล้อยตามกันว่า จำเป็นต้องมุ่งเน้นเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการปกป้องอาร์กติก ท่ามกลางการแสดงออกอย่างชัดเจนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่กระสันอยากผนวกดินแดนของเกาะกรีนแลนด์ดินแดนปกครองตนเองของเดนมาร์กไว้ในครอบครอง เมตเต เฟรเดอริกเซน ยังได้พบปะกับ เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และบอกว่าพวกผู้นำทางการเมืองในยุโรปและที่อื่นๆ ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่กับหลักการแห่งการธำรงไว้ซึ่งความเคารพเขตแดนระหว่างประเทศ ทางด้าน เอลินา วัลโทเนน (Elina Valtonen) รมว.ต่างประเทศฟินแลนด์ ยืนยันว่ากรีนแลนด์ได้รับความคุ้มครองภายใต้มาตรา 5 ของนาโต้ ในฐานะดินแดนปกครองตนเองของเดนมาร์ก หลังทรัมป์แสดงความต้องการยึดครอง ฌอง-โนเอล บาร์โรต์ รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส กล่าวว่า ฝรั่งเศสได้หารือกับเดนมาร์กถึงความเป็นไปได้ในการส่งทหารไปกรีนแลนด์ เพื่อตอบโต้คำขู่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ที่จะผนวกดินแดนของเดนมาร์ก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 231 มุมมอง 0 รีวิว
  • มาร์ค รุตต์ เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ(นาโต) และ เมตเต เฟรเดอริกเซน นายกรัฐมนตรีหญิงเดนมาร์ก เห็นพ้องระหว่างการพบปะประชุมกันว่าพันธมิตรแห่งนี้จำเป็นต้องมุ่งเน้นเสริมความเข้มแข็งแก่การป้องกันตนเองในอาร์กติก ท่ามกลางการแสดงออกอย่างชัดเจนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่ปรารถนาอยากได้เกาะกรีนแลนด์ของเดนมาร์ก ไว้ในครอบครอง
    .
    แหล่งข่าวใกล้ชิดกับการหารือ เปิดเผยหลังการประชุมระหว่าง รุตต์ กับ เฟรเดอริกเซน ว่า "ทั้ง 2 คน เห็นพ้องกันว่าในความพยายามนี้ พันธมิตรทั้งมวลต้องมีบทบาท"
    .
    การพบปะพูดคุยครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลอย่างกว้างขวาง เกี่ยวกับกรณีที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ แสดงความสนใจมาตั้งแต่ได้รับเลือกตั้งกลับมาดำรงตำแหน่งอีกสมัยในเดือนพฤศจิกายน ในการทำให้เกาะกรีนแลนด์ ดินแดนปกครองตนเองของเดนมาร์ก กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของอเมริกา
    .
    "เราหารือเกี่ยวกับแนวทางที่เราจะทำงานร่วมกันเพื่อเสริมความมั่นคงในทะเลบอลติก สนับสนุนยูคเรน และลงทุนเพิ่มเติมในด้านกลาโหม ในนั้นรวมถึงในแถบอาร์กติก" รุตต์เขียนบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์หลังเสร็จสิ้นการประชุม
    .
    ทรัมป์ บอกว่าเกาะกรีนแลนด์ มีความสำคัญต่อความมั่นคงของสหรัฐฯและเดนมาร์กควรยอมสละการควบคุมเกาะยุทธศาสตร์สำคัญในอาร์กติกแห่งนี้ ทั้งนี้ผู้นำอเมริกาไม่ตัดความเป็นไปได้ในการใช้กำลังทหารหรือพลังอำนาจทางเศรษฐกิจ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว
    .
    ที่ผ่านมา ทรัมป์ ก็อยู่ในความขัดแย้งกับบรรดาพันธมิตรนาโตและยุโรป เกี่ยวกับการใช้จ่ายด้านกลาโหม และบอกว่าภายใต้การเป็นประธานาธิบดีของเขา สหรัฐฯจะทบทวนโดยพื้นฐานกี่ยวกับวัตถุประสงค์และภารกิจของนาโต
    .
    ในส่วนของเดนมาร์ก ได้แถลงเมื่อวันจันทร์(27ม.ค.) จะใช้จ่ายงบประมาณ 14,600 ล้านโครเนอเดนมาร์ก (ประมาณ 2,050 ล้านดอลลาร์ หรือ 69,000 ล้านบาท) เสริมประจำการทางทหารในอาร์กติก ดินแดนยุทธศาสตร์ใกล้กับทั้งสหรัฐฯ และรัสเซีย
    .
    "เราต้องเผชิญหน้ากับข้อเท็จจริงที่ว่า มีความท้าทายร้ายแรงในเรื่องความมั่นคงและด้านการป้องกันตนเองในอาร์กติกและนอร์ทแอตแลนติก" โทรเอลส์ ลุนด์ โพลเซน รัฐมนตรีกลาโหมเดนมาร์กระบุในถ้อยแถลง
    .
    เมตเต เฟรเดอริกเซน ยังได้พบปะกับ เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และบอกว่าพวกผู้นำทางการเมืองในยุโรปและที่อื่นๆ ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่กับหลักการแห่งการธำรงไว้ซึ่งความเคารพเขตแดนระหว่างประเทศ
    .
    ผลสำรวจความคิดเห็นหนึ่งที่เผยแพร่ในวันอังคาร(28ม.ค.) พบว่ามีชาวกรีนแลนด์ถึง 85% ที่ไม่ปรารถนาให้เกาะแอตแลนติกแห่งนี้ ซึ่งเป็นดินแดนกึ่งปกครองตนเองของเดนมาร์ก เข้าเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ ตามรายงานของ Berlingske หนังสือพิมพ์เดนมาร์ก
    .
    โพลที่จัดทำโดย Verian ตามที่ได้รับมอบหมายจาก Berlingske พบว่ามีชาวกรีนแลนด์แค่ 6% ที่อยากเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ ส่วนที่เหลืออีก 9% บอกว่ายังไม่ตัดสินใจ
    .
    เกาะกรีนแลนด์ ดินแดนที่มีขนาดใหญ่กว่าเม็กซิโก และมีประชากร 57,000 คน ได้รับอำนาจในการปกครองตนเองอย่างกว้างขวางในปี 2009 ในนั้นรวมถึงสิทธิในการประกาศเอกราชจากเดนมาร์กผ่านการทำประชามติ
    .
    มูเต เอเกเด นายกรัฐมนตรีเกาะกรีนแลนด์ ซึ่งยกระดับผลักดันความเป็นเอกราช เน้นย้ำว่าเกาะแห่งนี้ไม่ได้มีไว้ขาย และขึ้นอยู่กับประชาชนของเกาะที่จะตัดสินใจอนาคตของตนเอง
    .
    สำหรับกองทัพสหรัฐฯ พวกเขามีกำลังพลประจำการถาวรอยู่ ณ ฐานทัพอวกาศพิทัฟฟิก ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะกรีนแลนด์ ตำแหน่งยุทธศาสตร์ซึ่งเป็นที่ตั้งของระบบแจ้งเตือนขีปนาวุธล่วงหน้า ในขณะที่จุดดังกล่าวเป็นเส้นทางที่สั้นที่สุดสำหรับเดินทางจากยุโรปไปยังอเมริกาเหนือ ผ่านเกาะแห่งนี้
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009085
    ..............
    Sondhi X
    มาร์ค รุตต์ เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ(นาโต) และ เมตเต เฟรเดอริกเซน นายกรัฐมนตรีหญิงเดนมาร์ก เห็นพ้องระหว่างการพบปะประชุมกันว่าพันธมิตรแห่งนี้จำเป็นต้องมุ่งเน้นเสริมความเข้มแข็งแก่การป้องกันตนเองในอาร์กติก ท่ามกลางการแสดงออกอย่างชัดเจนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่ปรารถนาอยากได้เกาะกรีนแลนด์ของเดนมาร์ก ไว้ในครอบครอง . แหล่งข่าวใกล้ชิดกับการหารือ เปิดเผยหลังการประชุมระหว่าง รุตต์ กับ เฟรเดอริกเซน ว่า "ทั้ง 2 คน เห็นพ้องกันว่าในความพยายามนี้ พันธมิตรทั้งมวลต้องมีบทบาท" . การพบปะพูดคุยครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลอย่างกว้างขวาง เกี่ยวกับกรณีที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ แสดงความสนใจมาตั้งแต่ได้รับเลือกตั้งกลับมาดำรงตำแหน่งอีกสมัยในเดือนพฤศจิกายน ในการทำให้เกาะกรีนแลนด์ ดินแดนปกครองตนเองของเดนมาร์ก กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของอเมริกา . "เราหารือเกี่ยวกับแนวทางที่เราจะทำงานร่วมกันเพื่อเสริมความมั่นคงในทะเลบอลติก สนับสนุนยูคเรน และลงทุนเพิ่มเติมในด้านกลาโหม ในนั้นรวมถึงในแถบอาร์กติก" รุตต์เขียนบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์หลังเสร็จสิ้นการประชุม . ทรัมป์ บอกว่าเกาะกรีนแลนด์ มีความสำคัญต่อความมั่นคงของสหรัฐฯและเดนมาร์กควรยอมสละการควบคุมเกาะยุทธศาสตร์สำคัญในอาร์กติกแห่งนี้ ทั้งนี้ผู้นำอเมริกาไม่ตัดความเป็นไปได้ในการใช้กำลังทหารหรือพลังอำนาจทางเศรษฐกิจ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว . ที่ผ่านมา ทรัมป์ ก็อยู่ในความขัดแย้งกับบรรดาพันธมิตรนาโตและยุโรป เกี่ยวกับการใช้จ่ายด้านกลาโหม และบอกว่าภายใต้การเป็นประธานาธิบดีของเขา สหรัฐฯจะทบทวนโดยพื้นฐานกี่ยวกับวัตถุประสงค์และภารกิจของนาโต . ในส่วนของเดนมาร์ก ได้แถลงเมื่อวันจันทร์(27ม.ค.) จะใช้จ่ายงบประมาณ 14,600 ล้านโครเนอเดนมาร์ก (ประมาณ 2,050 ล้านดอลลาร์ หรือ 69,000 ล้านบาท) เสริมประจำการทางทหารในอาร์กติก ดินแดนยุทธศาสตร์ใกล้กับทั้งสหรัฐฯ และรัสเซีย . "เราต้องเผชิญหน้ากับข้อเท็จจริงที่ว่า มีความท้าทายร้ายแรงในเรื่องความมั่นคงและด้านการป้องกันตนเองในอาร์กติกและนอร์ทแอตแลนติก" โทรเอลส์ ลุนด์ โพลเซน รัฐมนตรีกลาโหมเดนมาร์กระบุในถ้อยแถลง . เมตเต เฟรเดอริกเซน ยังได้พบปะกับ เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และบอกว่าพวกผู้นำทางการเมืองในยุโรปและที่อื่นๆ ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่กับหลักการแห่งการธำรงไว้ซึ่งความเคารพเขตแดนระหว่างประเทศ . ผลสำรวจความคิดเห็นหนึ่งที่เผยแพร่ในวันอังคาร(28ม.ค.) พบว่ามีชาวกรีนแลนด์ถึง 85% ที่ไม่ปรารถนาให้เกาะแอตแลนติกแห่งนี้ ซึ่งเป็นดินแดนกึ่งปกครองตนเองของเดนมาร์ก เข้าเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ ตามรายงานของ Berlingske หนังสือพิมพ์เดนมาร์ก . โพลที่จัดทำโดย Verian ตามที่ได้รับมอบหมายจาก Berlingske พบว่ามีชาวกรีนแลนด์แค่ 6% ที่อยากเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ ส่วนที่เหลืออีก 9% บอกว่ายังไม่ตัดสินใจ . เกาะกรีนแลนด์ ดินแดนที่มีขนาดใหญ่กว่าเม็กซิโก และมีประชากร 57,000 คน ได้รับอำนาจในการปกครองตนเองอย่างกว้างขวางในปี 2009 ในนั้นรวมถึงสิทธิในการประกาศเอกราชจากเดนมาร์กผ่านการทำประชามติ . มูเต เอเกเด นายกรัฐมนตรีเกาะกรีนแลนด์ ซึ่งยกระดับผลักดันความเป็นเอกราช เน้นย้ำว่าเกาะแห่งนี้ไม่ได้มีไว้ขาย และขึ้นอยู่กับประชาชนของเกาะที่จะตัดสินใจอนาคตของตนเอง . สำหรับกองทัพสหรัฐฯ พวกเขามีกำลังพลประจำการถาวรอยู่ ณ ฐานทัพอวกาศพิทัฟฟิก ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะกรีนแลนด์ ตำแหน่งยุทธศาสตร์ซึ่งเป็นที่ตั้งของระบบแจ้งเตือนขีปนาวุธล่วงหน้า ในขณะที่จุดดังกล่าวเป็นเส้นทางที่สั้นที่สุดสำหรับเดินทางจากยุโรปไปยังอเมริกาเหนือ ผ่านเกาะแห่งนี้ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009085 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Love
    12
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 994 มุมมอง 0 รีวิว
  • เสียงปืนต่อสู้ดังตลอดทั่วบางส่วนของพื้นที่เมืองโกมา (Goma) สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ที่โดนกบฏ M23 ร่วมกับกำลังทหารรวันดาบุกยึดแบบสายฟ้าแลบ ขณะที่ผู้ประท้วงบุกโจมตีสถานทูตสหรัฐฯ เบลเยียม รวันดาในกรุงคินชาซา ส่วนสถานทูตฝรั่งเศสโดนบุกเผาถึงด้านใน
    .
    เอเอฟพีรายงานวันนี้ (27 ม.ค.) ว่า กลุ่มกบโ M23 ที่ย่อมาจากกลุ่ม “23 มีนาคม” ซึ่งมีรวันดาให้การสนับสนุนในวันจันทร์ (26) อ้างว่า สามารถยึดเมืองโกมา (Goma) ทางตะวันออกของสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกสำเร็จ
    .
    โกมาของดีอาร์คองโกถือเป็นเมืองสำคัญที่อุดมด้วยแร่ธาตุไม่ต่างจากเกาะกรีนแลนด์ของเดนมาร์กที่ผู้นำสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ต้องการอยากได้ เพราะโกมามีทรัพยากรธรรมชาติสำคัญ ทั้งแร่แทนทาลัมและโคลบอลต์ที่สำคัญสำหรับแบตเตอรี่ของรถไฟฟ้า และยังมีแร่โคลแทน (coltan) และทองคำ
    .
    โคลแทนซึ่งเป็นแร่ที่มีคุณสมบัติทนความร้อนและเป็นวัตถุดิบพื้นฐานในการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ตั้งแต่โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ กล้อง รวมแบตเตอรี่รถไฟฟ้า
    .
    เอพีรายงานว่า ไม่เป็นที่แน่ชัดว่ากลุ่มกบฏ M23 สามารถยึดเมืองโกมาได้มากน้อยเพียงใด
    .
    อย่างไรก็ตาม รัฐบาลดีอาร์คองโกยืนยันการปรากฏตัวของกลุ่มกบฏ M23 ในเมืองโกมาซึ่งห่างจากกรุงคินชาฮา (Kinshasa)ไปทางตะวันออกราว 1,500 กม.
    .
    โฆษกรัฐบาลดีอาร์คองโกออกแถลงการณ์ยืนยันทางแพลตฟอร์ม X จะไม่ยอมเสียพื้นไปแม้แต่ตารางเซนเดียว แต่ไม่ยอมกล่าวว่า กลุ่มกบฏกำลังเข้ายึดเมืองโกมา เอพีรายงาน
    .
    เอเอฟพีรายงานว่า กลุ่มกบฏ M23 ซึ่งมีทหารจากรวันดาเข้าช่วยเดินทางเข้าสู่ย่านใจกลางเมืองโกมาในคืนวันอาทิตย์ (26) หลังใช้เวลาแค่สัปดาห์ในการรุกคืบอย่างรวดเร็วทั่วภูมิภาค
    .
    ขณะเดียวกัน ที่กรุงคินชาซา กลุ่มผู้ประท้วงบุกโจมตีสถานทูตต่างชาติที่ตั้งอยู่ในกลางกรุงทั้งสถานทูตสหรัฐฯ สถานทูตเบลเยียม สถานทูตรวันดา รวมถึงสถานทูตฝรั่งเศส
    .
    เอเอฟพีรายงานว่า สถานทูตสหรัฐฯ ได้ออกคำแนะนำให้พลเมืองสหรัฐฯ หลบอยู่ในที่ปลอดภัยและหลีกเลี่ยงการเดินทาง
    .
    ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส ฌอง-โนเอล บาร์โรต์ (Jean-Noel Barrot) ออกมาประณามว่า เป็นการโจมตีอย่างรับไม่ได้ พร้อมเปิดเผยว่า ไฟที่ไหม้ในตึกที่ทำการสถานทูตในเวลานี้อยู่ในการควบคุมแล้ว
    .
    ล่าสุด กลุ่มกบฏ M23 และกองกำลังทหารรวันดาสามารถควบคุมสนามบินโกมาได้สำเร็จในวันอังคาร (28) แหล่งข่าวทางความมั่นคงให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี
    .
    “พวกเขาเข้ายึดสนามบิน พวกนักรบกลุ่ม M23 อยู่ที่นั่น” แหล่งข่าวเปิดเผย พร้อมเสริมต่อว่า มีทหารดีอาร์คองโกไม่ต่ำกว่า 1,200 นายยอมจำนน และถูกควบคุมที่ฐานทัพของกองกำลังสหประชาชาติ MONUSC ที่สนามบิน
    .
    โดยในวันอังคาร (28) เสียงปืนต่อสู้ยังคงได้ยินถึงแม้ว่าความหนักหน่วงในการสู้รบจะน้อยลง
    .
    มีนักรบกลุ่ม M23 หลายสิบคนเดินมาร์ชผ่านถนนสายหลักในโกมา มีบางส่วนสวมเสื้อเกราะกันกระสุนและถืออาวุธของทหารดีอาร์คองโก
    .
    เอเอฟพีรายงานว่า ชาวโกมาไม่กี่คนออกมาเปิดเผยว่า พวกเขาโดนปล้นสะดมจากทหารดีอาร์คองโกหรือจากกลุ่มกบฏ
    .
    ทั้งนี้ ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าส่วนใดของโกมาที่โดนยึดโดยกบฏที่ออกมาอ้างว่ายึดได้ตั้งแต่คืนวันอาทิตย์ (26)
    .
    มีไม่ต่ำกว่า 17 คนเสียชีวิต และอีก 367 คนได้รับบาดเจ็บระหว่างการต่อสู้ 2 วันอ้างอิงจากโรงพยาบาลต่างๆ ในพื้นที่
    .
    องค์การกาชาดออกมาเตือนความเสี่ยงหากตัวอย่างเชื้อไวรัสอีโบลาที่ทำให้มนุษย์เสียชีวิตหลังเลือดไหลออกไม่หยุดจากทั้งปาก จมูก หู ตา ที่มีสาเหตุจากการกินค้างคาวหรือลิง ที่เกิดระบาดอย่างรุนแรงเมื่อปี 2014-2016 ในไลบีเรียจนเห็นคนตายกลาดเกลื่อนถนน และหมออเมริกัน 2 คนซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นหมอมิชชันนารีต้องถูกหามส่งกลับสหรัฐฯ อย่างเร่งด่วนเพราะติดเชื้อนั้นอาจหลุดออกไปจากห้องแล็บได้เนื่องมาจากการสู้รบระหว่างกบฏ M23 และทหารรัฐบาลดีอาร์คองโก
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009082
    ..............
    Sondhi X
    เสียงปืนต่อสู้ดังตลอดทั่วบางส่วนของพื้นที่เมืองโกมา (Goma) สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ที่โดนกบฏ M23 ร่วมกับกำลังทหารรวันดาบุกยึดแบบสายฟ้าแลบ ขณะที่ผู้ประท้วงบุกโจมตีสถานทูตสหรัฐฯ เบลเยียม รวันดาในกรุงคินชาซา ส่วนสถานทูตฝรั่งเศสโดนบุกเผาถึงด้านใน . เอเอฟพีรายงานวันนี้ (27 ม.ค.) ว่า กลุ่มกบโ M23 ที่ย่อมาจากกลุ่ม “23 มีนาคม” ซึ่งมีรวันดาให้การสนับสนุนในวันจันทร์ (26) อ้างว่า สามารถยึดเมืองโกมา (Goma) ทางตะวันออกของสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกสำเร็จ . โกมาของดีอาร์คองโกถือเป็นเมืองสำคัญที่อุดมด้วยแร่ธาตุไม่ต่างจากเกาะกรีนแลนด์ของเดนมาร์กที่ผู้นำสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ต้องการอยากได้ เพราะโกมามีทรัพยากรธรรมชาติสำคัญ ทั้งแร่แทนทาลัมและโคลบอลต์ที่สำคัญสำหรับแบตเตอรี่ของรถไฟฟ้า และยังมีแร่โคลแทน (coltan) และทองคำ . โคลแทนซึ่งเป็นแร่ที่มีคุณสมบัติทนความร้อนและเป็นวัตถุดิบพื้นฐานในการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ตั้งแต่โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ กล้อง รวมแบตเตอรี่รถไฟฟ้า . เอพีรายงานว่า ไม่เป็นที่แน่ชัดว่ากลุ่มกบฏ M23 สามารถยึดเมืองโกมาได้มากน้อยเพียงใด . อย่างไรก็ตาม รัฐบาลดีอาร์คองโกยืนยันการปรากฏตัวของกลุ่มกบฏ M23 ในเมืองโกมาซึ่งห่างจากกรุงคินชาฮา (Kinshasa)ไปทางตะวันออกราว 1,500 กม. . โฆษกรัฐบาลดีอาร์คองโกออกแถลงการณ์ยืนยันทางแพลตฟอร์ม X จะไม่ยอมเสียพื้นไปแม้แต่ตารางเซนเดียว แต่ไม่ยอมกล่าวว่า กลุ่มกบฏกำลังเข้ายึดเมืองโกมา เอพีรายงาน . เอเอฟพีรายงานว่า กลุ่มกบฏ M23 ซึ่งมีทหารจากรวันดาเข้าช่วยเดินทางเข้าสู่ย่านใจกลางเมืองโกมาในคืนวันอาทิตย์ (26) หลังใช้เวลาแค่สัปดาห์ในการรุกคืบอย่างรวดเร็วทั่วภูมิภาค . ขณะเดียวกัน ที่กรุงคินชาซา กลุ่มผู้ประท้วงบุกโจมตีสถานทูตต่างชาติที่ตั้งอยู่ในกลางกรุงทั้งสถานทูตสหรัฐฯ สถานทูตเบลเยียม สถานทูตรวันดา รวมถึงสถานทูตฝรั่งเศส . เอเอฟพีรายงานว่า สถานทูตสหรัฐฯ ได้ออกคำแนะนำให้พลเมืองสหรัฐฯ หลบอยู่ในที่ปลอดภัยและหลีกเลี่ยงการเดินทาง . ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส ฌอง-โนเอล บาร์โรต์ (Jean-Noel Barrot) ออกมาประณามว่า เป็นการโจมตีอย่างรับไม่ได้ พร้อมเปิดเผยว่า ไฟที่ไหม้ในตึกที่ทำการสถานทูตในเวลานี้อยู่ในการควบคุมแล้ว . ล่าสุด กลุ่มกบฏ M23 และกองกำลังทหารรวันดาสามารถควบคุมสนามบินโกมาได้สำเร็จในวันอังคาร (28) แหล่งข่าวทางความมั่นคงให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี . “พวกเขาเข้ายึดสนามบิน พวกนักรบกลุ่ม M23 อยู่ที่นั่น” แหล่งข่าวเปิดเผย พร้อมเสริมต่อว่า มีทหารดีอาร์คองโกไม่ต่ำกว่า 1,200 นายยอมจำนน และถูกควบคุมที่ฐานทัพของกองกำลังสหประชาชาติ MONUSC ที่สนามบิน . โดยในวันอังคาร (28) เสียงปืนต่อสู้ยังคงได้ยินถึงแม้ว่าความหนักหน่วงในการสู้รบจะน้อยลง . มีนักรบกลุ่ม M23 หลายสิบคนเดินมาร์ชผ่านถนนสายหลักในโกมา มีบางส่วนสวมเสื้อเกราะกันกระสุนและถืออาวุธของทหารดีอาร์คองโก . เอเอฟพีรายงานว่า ชาวโกมาไม่กี่คนออกมาเปิดเผยว่า พวกเขาโดนปล้นสะดมจากทหารดีอาร์คองโกหรือจากกลุ่มกบฏ . ทั้งนี้ ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าส่วนใดของโกมาที่โดนยึดโดยกบฏที่ออกมาอ้างว่ายึดได้ตั้งแต่คืนวันอาทิตย์ (26) . มีไม่ต่ำกว่า 17 คนเสียชีวิต และอีก 367 คนได้รับบาดเจ็บระหว่างการต่อสู้ 2 วันอ้างอิงจากโรงพยาบาลต่างๆ ในพื้นที่ . องค์การกาชาดออกมาเตือนความเสี่ยงหากตัวอย่างเชื้อไวรัสอีโบลาที่ทำให้มนุษย์เสียชีวิตหลังเลือดไหลออกไม่หยุดจากทั้งปาก จมูก หู ตา ที่มีสาเหตุจากการกินค้างคาวหรือลิง ที่เกิดระบาดอย่างรุนแรงเมื่อปี 2014-2016 ในไลบีเรียจนเห็นคนตายกลาดเกลื่อนถนน และหมออเมริกัน 2 คนซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นหมอมิชชันนารีต้องถูกหามส่งกลับสหรัฐฯ อย่างเร่งด่วนเพราะติดเชื้อนั้นอาจหลุดออกไปจากห้องแล็บได้เนื่องมาจากการสู้รบระหว่างกบฏ M23 และทหารรัฐบาลดีอาร์คองโก . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009082 .............. Sondhi X
    Like
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1016 มุมมอง 0 รีวิว
  • กรณีของนายหวัง ซิง นักแสดงชาวจีน ที่ถูกหลอกให้มาทำงานในประเทศไทยแต่ได้ข้ามไปยังชายแดนเมียนมา สุดท้ายได้รับการช่วยเหลือกลับมาอย่างปลอดภัย ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวสำคัญ คือ มีการขยายผลจับกลุ่มมิจฉาชีพที่ร่วมขบวนการหลอกดาราดังรายนี้แล้ว

    #ล่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ #หวังซิง #แก๊งคอลเซ็นเตอร์ #กระทรวงความมั่นคงสาธารณะจีน #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ
    กรณีของนายหวัง ซิง นักแสดงชาวจีน ที่ถูกหลอกให้มาทำงานในประเทศไทยแต่ได้ข้ามไปยังชายแดนเมียนมา สุดท้ายได้รับการช่วยเหลือกลับมาอย่างปลอดภัย ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวสำคัญ คือ มีการขยายผลจับกลุ่มมิจฉาชีพที่ร่วมขบวนการหลอกดาราดังรายนี้แล้ว #ล่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ #หวังซิง #แก๊งคอลเซ็นเตอร์ #กระทรวงความมั่นคงสาธารณะจีน #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ
    Like
    Haha
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1058 มุมมอง 33 0 รีวิว
  • เมียร์ไชเมอร์: ทรัมป์ไม่ต้องการทำสงครามกับอิหร่าน!!

    28/1/2025

    นักคิดด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศสหรัฐฯ :
    🔹การทำสงครามระหว่างอิสราเอลและสหรัฐฯ ในภูมิภาคนี้ยังคงดำเนินต่อไปนั้น จะไม่เป็นผลดีต่อความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ

    แม้ว่าจะมีกลุ่มหัวรุนแรงอยู่ในคณะรัฐมนตรีของทรัมป์ แต่เขาก็ไม่ได้ต้องการทำสงครามกับอิหร่าน

    กลุ่มหัวรุนแรงทั้งหมดในอเมริกาและอิสราเอลต้องการทำลายอิหร่านและโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ

    ทรัมป์อาจจะพยายามกดดันอิหร่านให้ยอมรับเงื่อนไขของเขาโดยใช้แรงกดดันทางเศรษฐกิจ

    ข้อกล่าวอ้างเกี่ยวกับการทำลายล้างฮิซบุลเลาะห์นั้นเป็นเรื่องโกหก

    การโจมตีของอิสราเอลไม่ได้สร้างความเสียหายร้ายแรงต่อระบบป้องกันทางอากาศของอิหร่านแต่อย่างใด

    ความเป็นไปได้ที่พวกเขา (ระบอบไซออนิสต์) จะล้มเหลวในการทำลายโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านนั้นมีสูง

    ชาวอิสราเอลกำลังมองหาการเผชิญหน้ากับอิหร่าน แต่พวกเขาไม่ได้คิดถึงผลที่จะตามมา

    ถ้าฉันเป็นชาวอิหร่าน ฉันจะสร้างอาวุธนิวเคลียร์

    ประเทศสำคัญในการเสริมสร้างความสัมพันธ์กับอิสราเอลคือซาอุดิอาระเบีย!!

    ข่าวโลกที่3

    isna.ir/xdSLrT
    @isna94
    เมียร์ไชเมอร์: ทรัมป์ไม่ต้องการทำสงครามกับอิหร่าน!! 28/1/2025 นักคิดด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศสหรัฐฯ : 🔹การทำสงครามระหว่างอิสราเอลและสหรัฐฯ ในภูมิภาคนี้ยังคงดำเนินต่อไปนั้น จะไม่เป็นผลดีต่อความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ แม้ว่าจะมีกลุ่มหัวรุนแรงอยู่ในคณะรัฐมนตรีของทรัมป์ แต่เขาก็ไม่ได้ต้องการทำสงครามกับอิหร่าน กลุ่มหัวรุนแรงทั้งหมดในอเมริกาและอิสราเอลต้องการทำลายอิหร่านและโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ทรัมป์อาจจะพยายามกดดันอิหร่านให้ยอมรับเงื่อนไขของเขาโดยใช้แรงกดดันทางเศรษฐกิจ ข้อกล่าวอ้างเกี่ยวกับการทำลายล้างฮิซบุลเลาะห์นั้นเป็นเรื่องโกหก การโจมตีของอิสราเอลไม่ได้สร้างความเสียหายร้ายแรงต่อระบบป้องกันทางอากาศของอิหร่านแต่อย่างใด ความเป็นไปได้ที่พวกเขา (ระบอบไซออนิสต์) จะล้มเหลวในการทำลายโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านนั้นมีสูง ชาวอิสราเอลกำลังมองหาการเผชิญหน้ากับอิหร่าน แต่พวกเขาไม่ได้คิดถึงผลที่จะตามมา ถ้าฉันเป็นชาวอิหร่าน ฉันจะสร้างอาวุธนิวเคลียร์ ประเทศสำคัญในการเสริมสร้างความสัมพันธ์กับอิสราเอลคือซาอุดิอาระเบีย!! ข่าวโลกที่3 isna.ir/xdSLrT @isna94
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 87 มุมมอง 0 รีวิว
  • เดนมาร์กเปิดเผย จะทุ่มงบประมาณ 14,600 ล้านโครเนอเดนมาร์ก (ประมาณ 2,050 ล้านดอลลาร์ หรือ 69,000 ล้านบาท) เสริมประจำการทางทหารในอาร์กติก ตามหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ แสดงความสนใจซ้ำๆ ที่จะเข้าควบคุมกรีนแลนด์ ดินแดนปกครองตนเองของเดนมาร์ก และเย้ยหยันโคเปนเฮเกน ว่าไม่มีศักยภาพพอที่จะปกป้องเกาะแห่งนี้
    .
    ในเดือนนี้ ทรัมป์ บอกว่ากรีนแลนด์มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ และเดนมาร์กต้องปล่อยมือจากการควบคุมเกาะอาร์กติกที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์แห่งนี้
    .
    หลังจากปรับลดการใช้จ่ายด้านการป้องกันตนเองลงอย่างมากมานานกว่า 1 ทศวรรษ เดนมาร์ก แถลงในวันจันทร์ (27 ม.ค.) ว่าจะใช้จ่ายเงิน 14,600 ล้านโครเนอ ในการเสริมความมั่นคงในภูมิภาคอาร์กติก ดินแดนยุทธศาสตร์ใกล้กับทั้งสหรัฐฯ และรัสเซีย
    .
    "เราต้องเผชิญหน้ากับข้อเท็จจริงที่ว่า มีความท้าทายร้ายแรงในเรื่องความมั่นคงและด้านการป้องกันตนเองในอาร์กติกและนอร์ทแอตแลนติก" โทรเอลส์ ลุนด์ โพลเซน รัฐมนตรีกลาโหมเดนมาร์กระบุในถ้อยแถลง
    .
    ในขณะที่ เดนมาร์ก รับผิดชอบมอบความมั่นคงและการป้องกันตนเองแก่กรีนแลนด์ แต่พวกเขากลับมีแสนยานุภาพทางทหารอย่างจำกัดบนเกาะที่ใหญ่โตแห่งนี้ จนถึงมองอย่างกว้างว่าเป็นหลุมดำด้านความมั่นคง
    .
    ณ ปัจจุบัน ศักยภาพของเดนมาร์กนั้นมีเพียงแค่เรือตรวจการณ์เก่าเก็บ 4 ลำ เครื่องบินลาดตระเวนชาลเลนเจอร์ 1 ลำ และสุนัขลากเลื่อนลาดตระเวน 12 ตัว ซึ่งทั้งหมดมีหน้าที่รับผิดชอบตรวจการณ์ทั่วเกาะ ที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่กว่าฝรั่งเศสถึง 4 เท่า
    .
    ในงบประมาณใหม่นี้ รวมไปถึงเงินทุนสำหรับเรือราชนาวีอาร์กติกใหม่ 3 ลำ เพิ่มโดรนตรวจการณ์ระยะไกลที่วางแผนไว้อีกเท่าตัวเป็น 4 ลำ เช่นเดียวกับดาวเทียวสอดแนม ถ้อยแถลงรัฐมนตรีกลาโหมเดนมาร์กระบุ
    .
    รายงานข่าวระบุว่า บรรดาพรรคการเมืองต่างๆ ของเดนมาร์ก เห็นพ้องกันจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมสำหรับอาร์กติก ในข้อตกลงหนึ่งๆ ที่จะนำเสนอในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้
    .
    ในด้านกองทัพสหรัฐฯ พวกเขามีกำลังพลประจำการถาวรอยู่ ณ ฐานทัพอวกาศพิทัฟฟิก ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะกรีนแลนด์ ตำแหน่งยุทธศาสตร์ซึ่งเป็นที่ตั้งของระบบแจ้งเตือนขีปนาวุธล่วงหน้า ในขณะที่จุดดังกล่าวเป็นเส้นทางที่สั้นที่สุดสำหรับเดินทางจากยุโรปไปยังอเมริกาเหนือ ผ่านเกาะแห่งนี้
    .
    ก่อนหน้านี้ในวันเสาร์ (25 ม.ค.) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับพวกผู้สื่อข่าวบนเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวัน บอกว่า เดนมาร์กไม่มีแสนยานุภาพเพียงพอที่จะปกป้องเกาะกรีนแลนด์ ดินแดนที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ ความเคลื่อนไหวที่ดูเหมือนเป็นการเย้ยยันข่าวลือที่หลุดออกมาว่า เดนมาร์กมีแผนเพิ่มประจำการทางทหารบนเกาะในอาร์กติกแห่งนี้
    .
    ทรัมป์ เคยหยิบยกความคิดซื้อเกาะกรีนแลนด์ ครั้งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยแรก และรื้อฟื้นความคิดดังกล่าวหลังได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
    .
    ผู้นำอเมริการายนี้เน้นย้ำว่ากรีนแลนด์มีความสำคัญในด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ และไม่ตัดความเป็นไปได้ในการใช้กำลังเพื่อให้ได้มันมาครอบครอง ในขณะที่เดนมาร์กปฏิเสธอย่างหนักแน่นว่าเกาะแห่งนี้ไม่ได้มีไว้ขาย
    .
    ทรัมป์ กล่าวว่า "ผมเชื่อว่าเกาะกรีนแลนด์ เราจะได้มันมา เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำจริงๆ เพื่อเสรีภาพของโลก มันไม่เกี่ยวข้องอะไรกับสหรัฐฯ เหนือสิ่งอื่นใดที่เรามีคือ สามารถมอบเสรีภาพ เดนมาร์กไม่สามารถมอบให้ได้ พวกเขาส่งสุนัขลากเลื่อนเข้าไปอีก 2 ตัวเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน พวกเขาคิดหรือว่านั่นเป็นการป้องกัน" ทรัมป์บอกกับไฟแนนเชียลไทม์ส
    .
    ดูเหมือนว่า ทรัมป์ จะพาดพิงถึงถ้อยแถลงของรัฐมนตรีกลาโหมของเดนมาร์ก ที่บอกว่าโคเปนเฮเกนมีแผนเพิ่มเติมเรือตรวจการณ์ 2 ลำ โดรน 2 ลำ และสุนัขลากเลื่อนลาดตระเวน 2 ตัว เข้าไปเสริมกองกำลังพล 75 นาย เรือ 4 ลำ และเครื่องบินลาดตระเวน 1 ลำ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน
    .
    "ผมไม่รู้ว่า เดนมาร์ก จะอ้างว่าอย่างไร แต่มันจะเป็นการกระทำที่ไม่เป็นมิตรมากๆ หากพวกเขาไม่ปล่อยให้มันเกิดขึ้น" ทรัมป์บอกเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ พร้อมอ้างว่า "ประชาชนชาวกรีนแลนด์ต้องการเข้าร่วมกับเรา"
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000008692
    ..............
    Sondhi X
    เดนมาร์กเปิดเผย จะทุ่มงบประมาณ 14,600 ล้านโครเนอเดนมาร์ก (ประมาณ 2,050 ล้านดอลลาร์ หรือ 69,000 ล้านบาท) เสริมประจำการทางทหารในอาร์กติก ตามหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ แสดงความสนใจซ้ำๆ ที่จะเข้าควบคุมกรีนแลนด์ ดินแดนปกครองตนเองของเดนมาร์ก และเย้ยหยันโคเปนเฮเกน ว่าไม่มีศักยภาพพอที่จะปกป้องเกาะแห่งนี้ . ในเดือนนี้ ทรัมป์ บอกว่ากรีนแลนด์มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ และเดนมาร์กต้องปล่อยมือจากการควบคุมเกาะอาร์กติกที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์แห่งนี้ . หลังจากปรับลดการใช้จ่ายด้านการป้องกันตนเองลงอย่างมากมานานกว่า 1 ทศวรรษ เดนมาร์ก แถลงในวันจันทร์ (27 ม.ค.) ว่าจะใช้จ่ายเงิน 14,600 ล้านโครเนอ ในการเสริมความมั่นคงในภูมิภาคอาร์กติก ดินแดนยุทธศาสตร์ใกล้กับทั้งสหรัฐฯ และรัสเซีย . "เราต้องเผชิญหน้ากับข้อเท็จจริงที่ว่า มีความท้าทายร้ายแรงในเรื่องความมั่นคงและด้านการป้องกันตนเองในอาร์กติกและนอร์ทแอตแลนติก" โทรเอลส์ ลุนด์ โพลเซน รัฐมนตรีกลาโหมเดนมาร์กระบุในถ้อยแถลง . ในขณะที่ เดนมาร์ก รับผิดชอบมอบความมั่นคงและการป้องกันตนเองแก่กรีนแลนด์ แต่พวกเขากลับมีแสนยานุภาพทางทหารอย่างจำกัดบนเกาะที่ใหญ่โตแห่งนี้ จนถึงมองอย่างกว้างว่าเป็นหลุมดำด้านความมั่นคง . ณ ปัจจุบัน ศักยภาพของเดนมาร์กนั้นมีเพียงแค่เรือตรวจการณ์เก่าเก็บ 4 ลำ เครื่องบินลาดตระเวนชาลเลนเจอร์ 1 ลำ และสุนัขลากเลื่อนลาดตระเวน 12 ตัว ซึ่งทั้งหมดมีหน้าที่รับผิดชอบตรวจการณ์ทั่วเกาะ ที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่กว่าฝรั่งเศสถึง 4 เท่า . ในงบประมาณใหม่นี้ รวมไปถึงเงินทุนสำหรับเรือราชนาวีอาร์กติกใหม่ 3 ลำ เพิ่มโดรนตรวจการณ์ระยะไกลที่วางแผนไว้อีกเท่าตัวเป็น 4 ลำ เช่นเดียวกับดาวเทียวสอดแนม ถ้อยแถลงรัฐมนตรีกลาโหมเดนมาร์กระบุ . รายงานข่าวระบุว่า บรรดาพรรคการเมืองต่างๆ ของเดนมาร์ก เห็นพ้องกันจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมสำหรับอาร์กติก ในข้อตกลงหนึ่งๆ ที่จะนำเสนอในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ . ในด้านกองทัพสหรัฐฯ พวกเขามีกำลังพลประจำการถาวรอยู่ ณ ฐานทัพอวกาศพิทัฟฟิก ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะกรีนแลนด์ ตำแหน่งยุทธศาสตร์ซึ่งเป็นที่ตั้งของระบบแจ้งเตือนขีปนาวุธล่วงหน้า ในขณะที่จุดดังกล่าวเป็นเส้นทางที่สั้นที่สุดสำหรับเดินทางจากยุโรปไปยังอเมริกาเหนือ ผ่านเกาะแห่งนี้ . ก่อนหน้านี้ในวันเสาร์ (25 ม.ค.) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับพวกผู้สื่อข่าวบนเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวัน บอกว่า เดนมาร์กไม่มีแสนยานุภาพเพียงพอที่จะปกป้องเกาะกรีนแลนด์ ดินแดนที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ ความเคลื่อนไหวที่ดูเหมือนเป็นการเย้ยยันข่าวลือที่หลุดออกมาว่า เดนมาร์กมีแผนเพิ่มประจำการทางทหารบนเกาะในอาร์กติกแห่งนี้ . ทรัมป์ เคยหยิบยกความคิดซื้อเกาะกรีนแลนด์ ครั้งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยแรก และรื้อฟื้นความคิดดังกล่าวหลังได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา . ผู้นำอเมริการายนี้เน้นย้ำว่ากรีนแลนด์มีความสำคัญในด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ และไม่ตัดความเป็นไปได้ในการใช้กำลังเพื่อให้ได้มันมาครอบครอง ในขณะที่เดนมาร์กปฏิเสธอย่างหนักแน่นว่าเกาะแห่งนี้ไม่ได้มีไว้ขาย . ทรัมป์ กล่าวว่า "ผมเชื่อว่าเกาะกรีนแลนด์ เราจะได้มันมา เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำจริงๆ เพื่อเสรีภาพของโลก มันไม่เกี่ยวข้องอะไรกับสหรัฐฯ เหนือสิ่งอื่นใดที่เรามีคือ สามารถมอบเสรีภาพ เดนมาร์กไม่สามารถมอบให้ได้ พวกเขาส่งสุนัขลากเลื่อนเข้าไปอีก 2 ตัวเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน พวกเขาคิดหรือว่านั่นเป็นการป้องกัน" ทรัมป์บอกกับไฟแนนเชียลไทม์ส . ดูเหมือนว่า ทรัมป์ จะพาดพิงถึงถ้อยแถลงของรัฐมนตรีกลาโหมของเดนมาร์ก ที่บอกว่าโคเปนเฮเกนมีแผนเพิ่มเติมเรือตรวจการณ์ 2 ลำ โดรน 2 ลำ และสุนัขลากเลื่อนลาดตระเวน 2 ตัว เข้าไปเสริมกองกำลังพล 75 นาย เรือ 4 ลำ และเครื่องบินลาดตระเวน 1 ลำ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน . "ผมไม่รู้ว่า เดนมาร์ก จะอ้างว่าอย่างไร แต่มันจะเป็นการกระทำที่ไม่เป็นมิตรมากๆ หากพวกเขาไม่ปล่อยให้มันเกิดขึ้น" ทรัมป์บอกเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ พร้อมอ้างว่า "ประชาชนชาวกรีนแลนด์ต้องการเข้าร่วมกับเรา" . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000008692 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Wow
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 804 มุมมอง 0 รีวิว
  • รื้อฟื้น ตม.6 ออนไลน์ ต่างชาติเข้าไทยต้องกรอก

    ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2568 เป็นต้นไป ชาวต่างชาติทุกคนที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทย จะต้องกรอกแบบฟอร์มที่เรียกว่า TM6 หรือ ตม.6 ผ่านช่องทางออนไลน์ก่อนเข้าประเทศไทย ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเตรียมประชาสัมพันธ์ขั้นตอนดังกล่าว หลังการขยายเวลายกเว้นการยื่นแบบ ตม. 6 ที่บริเวณด่านตรวจคนเข้าเมืองเป็นการชั่วคราวทั้งด่านทางบกและทางน้ำ รวม 16 ด่าน จะสิ้นสุดลงในวันที่ 30 เม.ย. 2568 ที่จะถึงนี้

    แบบฟอร์ม ตม.6 (TM6) คือแบบรายการของคนต่างด้าวซึ่งเดินทางเข้ามาในหรือออกไปนอกราชอาณาจักร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบและติดตามคนต่างด้าว และรักษาความมั่นคงของประเทศ ที่ผ่านมาคนไทยได้รับการยกเว้นไม่ต้องกรอกบัตรขาออกและบัตรขาเข้า มาตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. 2560 ตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อแก้ปัญหาคอขวด ลดความล่าช้าในการเข้าออกเมือง เพราะข้อมูลคนไทยตรวจสอบได้จากทะเบียนราษฎรอยู่แล้ว

    กระทั่งกระทรวงมหาดไทยได้ยกเว้นการยื่นแบบ ตม.6 สำหรับชาวต่างชาติมาตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค. 2565 โดยเริ่มจากทางอากาศก่อน ต่อมาวันที่ 1 พ.ย. 2566 ได้ยกเว้นที่ด่านพรมแดนสะเดา จ.สงขลา ซึ่งตรงกับช่วงฤดูการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย กระทั่งวันที่ 15 เม.ย. 2567 ขยายเพิ่มอีก 12 จุดทั้งทางบกและทางน้ำ เฉพาะที่เดินทางมากับเรือสำราญและกีฬา (เรือยอร์ช) และปัจจุบันขยายเวลาถึงวันที่ 30 เม.ย. 2568 ได้แก่ ด่านทางบก 8 ด่าน และด่านทางน้ำ 8 ด่าน

    น.ส.นัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยกับหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ว่า แบบฟอร์ม ตม.6 ออนไลน์ จะช่วยติดตามนักท่องเที่ยวขณะอยู่ในประเทศไทย เพิ่มความมั่นใจต่อความปลอดภัย ซึ่งในวันที่ 31 ม.ค. จะประชุมร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงการต่างประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สายการบิน โรงแรม และบริษัทนำเที่ยว เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมและช่วยประชาสัมพันธ์ขั้นตอนดังกล่าวให้ชาวต่างชาติทราบอีกด้วย

    อนึ่ง บางประเทศในภูมิภาคอาเซียน มีมาตรการให้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่กรอกแบบฟอร์มขาเข้าดิจิทัลก่อนเข้าประเทศ เช่น SG Arrival Card (SGAC) ของสิงคโปร์, eTravel ของฟิลิปปินส์, E-Arrival Card ของบรูไน, Malaysia Digital Arrival Card (MDAC) ของมาเลเซีย และ Cambodia e-Arrival ของกัมพูชา (เฉพาะสนามบินพนมเปญและเสียมราฐ) ส่วนอินโดนีเซียกรอกแบบฟอร์มสำแดงต่อศุลกากร Indonesian Customs Declaration (e-CD) และใบอนุญาตสุขภาพ SATUSEHAT (SSHP) ขณะที่เวียดนาม ลาว และเมียนมา ยังคงใช้แบบฟอร์มบัตรขาเข้าเมืองกระดาษ

    #Newskit
    -----
    ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes ร่วมสนุกได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 คลิก >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9
    รื้อฟื้น ตม.6 ออนไลน์ ต่างชาติเข้าไทยต้องกรอก ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2568 เป็นต้นไป ชาวต่างชาติทุกคนที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทย จะต้องกรอกแบบฟอร์มที่เรียกว่า TM6 หรือ ตม.6 ผ่านช่องทางออนไลน์ก่อนเข้าประเทศไทย ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเตรียมประชาสัมพันธ์ขั้นตอนดังกล่าว หลังการขยายเวลายกเว้นการยื่นแบบ ตม. 6 ที่บริเวณด่านตรวจคนเข้าเมืองเป็นการชั่วคราวทั้งด่านทางบกและทางน้ำ รวม 16 ด่าน จะสิ้นสุดลงในวันที่ 30 เม.ย. 2568 ที่จะถึงนี้ แบบฟอร์ม ตม.6 (TM6) คือแบบรายการของคนต่างด้าวซึ่งเดินทางเข้ามาในหรือออกไปนอกราชอาณาจักร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบและติดตามคนต่างด้าว และรักษาความมั่นคงของประเทศ ที่ผ่านมาคนไทยได้รับการยกเว้นไม่ต้องกรอกบัตรขาออกและบัตรขาเข้า มาตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. 2560 ตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อแก้ปัญหาคอขวด ลดความล่าช้าในการเข้าออกเมือง เพราะข้อมูลคนไทยตรวจสอบได้จากทะเบียนราษฎรอยู่แล้ว กระทั่งกระทรวงมหาดไทยได้ยกเว้นการยื่นแบบ ตม.6 สำหรับชาวต่างชาติมาตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค. 2565 โดยเริ่มจากทางอากาศก่อน ต่อมาวันที่ 1 พ.ย. 2566 ได้ยกเว้นที่ด่านพรมแดนสะเดา จ.สงขลา ซึ่งตรงกับช่วงฤดูการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย กระทั่งวันที่ 15 เม.ย. 2567 ขยายเพิ่มอีก 12 จุดทั้งทางบกและทางน้ำ เฉพาะที่เดินทางมากับเรือสำราญและกีฬา (เรือยอร์ช) และปัจจุบันขยายเวลาถึงวันที่ 30 เม.ย. 2568 ได้แก่ ด่านทางบก 8 ด่าน และด่านทางน้ำ 8 ด่าน น.ส.นัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยกับหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ว่า แบบฟอร์ม ตม.6 ออนไลน์ จะช่วยติดตามนักท่องเที่ยวขณะอยู่ในประเทศไทย เพิ่มความมั่นใจต่อความปลอดภัย ซึ่งในวันที่ 31 ม.ค. จะประชุมร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงการต่างประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สายการบิน โรงแรม และบริษัทนำเที่ยว เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมและช่วยประชาสัมพันธ์ขั้นตอนดังกล่าวให้ชาวต่างชาติทราบอีกด้วย อนึ่ง บางประเทศในภูมิภาคอาเซียน มีมาตรการให้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่กรอกแบบฟอร์มขาเข้าดิจิทัลก่อนเข้าประเทศ เช่น SG Arrival Card (SGAC) ของสิงคโปร์, eTravel ของฟิลิปปินส์, E-Arrival Card ของบรูไน, Malaysia Digital Arrival Card (MDAC) ของมาเลเซีย และ Cambodia e-Arrival ของกัมพูชา (เฉพาะสนามบินพนมเปญและเสียมราฐ) ส่วนอินโดนีเซียกรอกแบบฟอร์มสำแดงต่อศุลกากร Indonesian Customs Declaration (e-CD) และใบอนุญาตสุขภาพ SATUSEHAT (SSHP) ขณะที่เวียดนาม ลาว และเมียนมา ยังคงใช้แบบฟอร์มบัตรขาเข้าเมืองกระดาษ #Newskit ----- ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes ร่วมสนุกได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 คลิก >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 256 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ทะยอยเดินทางกลับบ้านของตนเอง แม้ว่าปลายทางจะไม่มีแม้เศษซากของที่พักพวกเขา ซึ่งเป็นผลจากการทำลายอย่างบ้าคลั่งของกองกำลังอิสราเอล

    นักข่าวถามชาวปาเลสไตน์ที่กำลังอพยพกลับไปยังถิ่นฐานตนเองว่า สิ่งแรกที่พวกเขาจะทำเมื่อไปถึงคืออะไร

    ชาวปาเลสไตน์รายหนึ่งกล่าวว่า เขาจะก้มลงจูบพื้นดินและมองหาบ้านของตัวเอง ส่วนอีกคนหนึ่งกล่าวว่า จะตะโกนร้องด้วยความดีใจอย่างหนัก แท้มันจะไม่เหลืออะไรแล้ว จากนั้นจะกางเต็นท์บนซากปรักหักพังของบ้านของตนเอง

    ทางด้าน อิตามาร์ เบน-กวีร์ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งชาติของอิสราเอล กล่าวว่า

    “นี่ไม่ใช่ชัยชนะของอิสราเอล แต่เป็นพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง การเปิดทางเดินเนทซาริม (Netzarim) เมื่อเช้านี้ และการที่ชาวกาซาหลายหมื่นคนเข้าไปในฉนวนกาซาทางตอนเหนือเป็นภาพแห่งชัยชนะของกลุ่มฮามาส และเป็นสิ่งที่น่าอับอายอีกส่วนหนึ่งของการยอมรับข้อตกลงหยุดยิง”
    ผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ทะยอยเดินทางกลับบ้านของตนเอง แม้ว่าปลายทางจะไม่มีแม้เศษซากของที่พักพวกเขา ซึ่งเป็นผลจากการทำลายอย่างบ้าคลั่งของกองกำลังอิสราเอล นักข่าวถามชาวปาเลสไตน์ที่กำลังอพยพกลับไปยังถิ่นฐานตนเองว่า สิ่งแรกที่พวกเขาจะทำเมื่อไปถึงคืออะไร ชาวปาเลสไตน์รายหนึ่งกล่าวว่า เขาจะก้มลงจูบพื้นดินและมองหาบ้านของตัวเอง ส่วนอีกคนหนึ่งกล่าวว่า จะตะโกนร้องด้วยความดีใจอย่างหนัก แท้มันจะไม่เหลืออะไรแล้ว จากนั้นจะกางเต็นท์บนซากปรักหักพังของบ้านของตนเอง ทางด้าน อิตามาร์ เบน-กวีร์ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งชาติของอิสราเอล กล่าวว่า “นี่ไม่ใช่ชัยชนะของอิสราเอล แต่เป็นพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง การเปิดทางเดินเนทซาริม (Netzarim) เมื่อเช้านี้ และการที่ชาวกาซาหลายหมื่นคนเข้าไปในฉนวนกาซาทางตอนเหนือเป็นภาพแห่งชัยชนะของกลุ่มฮามาส และเป็นสิ่งที่น่าอับอายอีกส่วนหนึ่งของการยอมรับข้อตกลงหยุดยิง”
    Like
    2
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 179 มุมมอง 0 รีวิว
  • อียิปต์ปฏิเสธแผนการอพยพชาวปาเลสไตน์ของทรัมป์ โดยระบุว่า การบังคับที่เกิดจากความไม่สมัครใจของพลเมืองเพื่อย้ายถิ่นฐานพวกเขา นั่นเป็น "อาชญากรรมสงคราม"

    กระทรวงต่างประเทศอียิปต์ประกาศปฏิเสธการอพยพชาวปาเลสไตน์ออกจากดินแดนของตนไม่ว่าจะระยะสั้นหรือระยะยาว โดยยืนยันว่ากาซาต้องมีอำนาจอธิปไตยเป็นของตนเอง

    ไคโรเตือนว่าการอพยพโดยถูกบังคับเป็นอาชญากรรมสงคราม และยืนกรานว่าต้องใช้วิธีแก้ไขปัญหาแบบสองรัฐเพื่อยุติความไม่มั่นคง
    อียิปต์ปฏิเสธแผนการอพยพชาวปาเลสไตน์ของทรัมป์ โดยระบุว่า การบังคับที่เกิดจากความไม่สมัครใจของพลเมืองเพื่อย้ายถิ่นฐานพวกเขา นั่นเป็น "อาชญากรรมสงคราม" กระทรวงต่างประเทศอียิปต์ประกาศปฏิเสธการอพยพชาวปาเลสไตน์ออกจากดินแดนของตนไม่ว่าจะระยะสั้นหรือระยะยาว โดยยืนยันว่ากาซาต้องมีอำนาจอธิปไตยเป็นของตนเอง ไคโรเตือนว่าการอพยพโดยถูกบังคับเป็นอาชญากรรมสงคราม และยืนกรานว่าต้องใช้วิธีแก้ไขปัญหาแบบสองรัฐเพื่อยุติความไม่มั่นคง
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 182 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีการเจรจาระหว่าง Oracle และ Microsoft เพื่อเข้าซื้อกิจการ TikTok โดย ByteDance ซึ่งเป็นเจ้าของ TikTok ในประเทศจีน จะยังคงถือหุ้นส่วนน้อยในบริษัท การเจรจานี้เกิดขึ้นเนื่องจากความกังวลด้านความมั่นคงของชาติและการรักษาการดำเนินงานของ TikTok ในสหรัฐอเมริกา

    ภายใต้ข้อตกลงที่เสนอ Oracle จะดูแลการทำงานของแอปพลิเคชัน TikTok รวมถึงการเก็บข้อมูลและการอัปเดตซอฟต์แวร์ นอกจากนี้ Oracle ยังเป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานเว็บของ TikTok อยู่แล้ว การเปลี่ยนแปลงนี้อาจได้รับการยอมรับจากหน่วยงานกำกับดูแลในประเทศจีน ซึ่งเคยคัดค้านการขาย TikTok มาก่อน

    การเจรจายังมีความท้าทายอื่นๆ เช่น การทำให้สภาคองเกรสพอใจและการแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคงของชาติ หนึ่งในแนวทางที่กำลังพิจารณาคือการทำข้อตกลงทางกฎหมายที่ผูกพันเพื่อให้แน่ใจว่า ByteDance จะไม่สามารถควบคุมการทำงานของแอปพลิเคชันได้

    นอกจากนี้ยังมีการพูดถึงการที่ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวถึงการที่สหรัฐฯ ควรถือหุ้น 50% ของ TikTok ซึ่งทำให้เกิดความสับสนในหมู่ผู้เจรจา การเจรจานี้เกิดขึ้นหลังจากแผนความมั่นคงแห่งชาติที่เกี่ยวข้องกับ Oracle ล้มเหลวในการรับประกันความเป็นอิสระของ TikTok จาก ByteDance

    https://www.techspot.com/news/106506-white-house-negotiating-tiktok-rescue-plan-oracle-us.html
    มีการเจรจาระหว่าง Oracle และ Microsoft เพื่อเข้าซื้อกิจการ TikTok โดย ByteDance ซึ่งเป็นเจ้าของ TikTok ในประเทศจีน จะยังคงถือหุ้นส่วนน้อยในบริษัท การเจรจานี้เกิดขึ้นเนื่องจากความกังวลด้านความมั่นคงของชาติและการรักษาการดำเนินงานของ TikTok ในสหรัฐอเมริกา ภายใต้ข้อตกลงที่เสนอ Oracle จะดูแลการทำงานของแอปพลิเคชัน TikTok รวมถึงการเก็บข้อมูลและการอัปเดตซอฟต์แวร์ นอกจากนี้ Oracle ยังเป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานเว็บของ TikTok อยู่แล้ว การเปลี่ยนแปลงนี้อาจได้รับการยอมรับจากหน่วยงานกำกับดูแลในประเทศจีน ซึ่งเคยคัดค้านการขาย TikTok มาก่อน การเจรจายังมีความท้าทายอื่นๆ เช่น การทำให้สภาคองเกรสพอใจและการแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคงของชาติ หนึ่งในแนวทางที่กำลังพิจารณาคือการทำข้อตกลงทางกฎหมายที่ผูกพันเพื่อให้แน่ใจว่า ByteDance จะไม่สามารถควบคุมการทำงานของแอปพลิเคชันได้ นอกจากนี้ยังมีการพูดถึงการที่ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวถึงการที่สหรัฐฯ ควรถือหุ้น 50% ของ TikTok ซึ่งทำให้เกิดความสับสนในหมู่ผู้เจรจา การเจรจานี้เกิดขึ้นหลังจากแผนความมั่นคงแห่งชาติที่เกี่ยวข้องกับ Oracle ล้มเหลวในการรับประกันความเป็นอิสระของ TikTok จาก ByteDance https://www.techspot.com/news/106506-white-house-negotiating-tiktok-rescue-plan-oracle-us.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Oracle and Microsoft are negotiating a TikTok takeover, ByteDance could retain a minority stake
    The plan to save TikTok involves software company Oracle and a group of outside investors effectively taking control of the app's global operations, two sources with direct...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 114 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยว่าเขาจะกำหนดมาตรการแก้เผ็ดต่างๆ เล่นงานโคลอมเบีย ในนั้นรวมถึงรีดภาษีและคว่ำบาตร หลังประเทศแถบอเมริกาใต้แห่งนี้ไม่อ้าแขนรับเครื่องบินทหาร 2 ลำของสหรัฐฯ ที่บรรทุกพวกผู้อพยพที่ถูกเนรเทศ ส่วนหนึ่งในการปราบปรามพวกผู้อพยพของรัฐบาลอเมริกา
    .
    ความเคลื่อนไหวลงโทษของทรัมป์ ดูเหมือนจะมีเป้าหมายทำให้โคลอมเบีย เป็นแบบอย่างชาติอื่นๆ ในขณะที่ประเทศแห่งนี้เป็นชาติที่ 2 ในละตินอเมริกา ที่ปฏิเสธเครื่องบินทหารบรรทุกผู้อพยพของสหรัฐฯ มันเป็นการแสดงให้เห็นถึงความแข็งกร้าวในด้านนโยบายต่างประเทศของวอชิงตัน และแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของทรัมป์ ที่จะบีบให้ประเทศอื่นๆ ยอมอ่อนข้อทำตามความต้องการของเขา
    .
    ทรัมป์ เขียนบนทรัสต์โซเชียล สื่อสังคมออนไลน์ของเขาเอง ว่าการที่ กุสตาโว เปโตร ประธานาธิบดีโคลอมเบีย ปฏิเสธอ้าแขนรับเที่ยวบินบรรทุกพวกผู้ลี้ภัย ถือว่าเป็นภัยความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ
    .
    มาตรการแก้แค้นนั้น รวมไปถึงการรีดภาษี 25% ต่อสินค้าของโคลอมเบียทั้งหมดที่นำเข้าสหรัฐฯ ซึ่งจะแตะระดับ 50% ใน 1 สัปดาห์ คำสั่งแบนด้านการเดินทางและเพิกถอนวีซ่าพวกเจ้าหน้าที่รัฐบาลโคลอมเบีย คว่ำบาตรภาคธนาคารและภาคการเงิน
    .
    นอกจากนี้ ทรัมป์ เผยด้วยว่าเขาจะสั่งให้ยกระดับการตรวจสอบทางชายแดนพลเมืองชาวโคลอมเบียและสินค้าจากโคลอมเบียด้วย "มาตรการต่างๆ เหล่านี้เป็นเพียงแค่เริ่มต้น" เขาเขียน "เราจะไม่ยอมให้รัฐบาลโคลอมเบียละเมิดพันธะทางกฎหมายของพวกเขา ในเรื่องการอ้าแขนรับและส่งคืนพวกอาชญากร ที่พวกเขาบีบให้ลอบเข้าสู่สหรัฐฯ!"
    .
    ด้าน มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุในถ้อยแถลงว่า "อเมริกาจะไม่ยอมรับคำโกหกหรือถูกเอาเปรียบอีกต่อไป" พร้อมระบุ เปโตร อนุมัติเที่ยวบินเหล่านี้ และมอบอำนาจทุกอย่างที่จำเป็น แต่จากนั้นกลับยกเลิกไฟเขียว ตอนที่เครื่องบินทั้ง 2 ลำ อยู่ระหว่างการเดินทาง
    .
    ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศให้พวกผู้อพยพผิดกฎหมายเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติ และกำหนดมาตรการปราบปรามต่างๆ นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันจันทร์ที่แล้ว (20 ม.ค.) ในนั้นรวมถึงสั่งการให้ทหารเข้าช่วยหน่วยงานความมั่นคงตามแนวชายแดน ออกประกาศแบนการลี้ภัยอย่างครอบคลุม และใช้มาตรการต่างๆ ในการจำกัดสิทธิความเป็นพลเมืองของลูกพวกผู้อพยพที่ถือกำเนิดบนแผ่นดินอเมริกา
    .
    ประธานาธิบดีเปโตร ประณามความเคลื่อนไหวของทรัมป์ ในวันอาทิตย์ (26 ม.ค.) ชี้ว่ามันเป็นการปฏิบัติกับพวกผู้อพยพราวกับอาชญากร ในข้อความที่โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ ทาง เปโตร บอกว่าโคลอมเบีย จะยินดีกว่านี้ หากสหรัฐฯ เนรเทศพวกผู้อพยพด้วยเครื่องบินพลเรือน "อเมริกาไม่อาจปฏิบัติกับพวกผู้อพยพชาวโคลอมเบียราวกับอาชญากร"
    .
    เปโตร บอกต่อว่าแม้ว่าจะมีชาวอเมริกามากกว่า 15,660 คน อยู่ในสถานะเข้าเมืองผิดกฎหมายในโคลอมเบีย แต่เขาไม่เคยคิดปฏิบัติการจู่โจมใดๆ และส่งคืนอเมริกันชนเหล่านั้นในสภาพที่ใส่กุญแจมือ กลับไปยังสหรัฐฯ "เราอยู่ฝั่งตรงข้ามกับนาซี" เขาเขียน เหน็บแนมไปยังทรัมป์
    .
    เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เม็กซิโก ได้ปฏิเสธคำร้องที่ขอให้เครื่องบินทหารสหรัฐฯ บรรทุกพวกผู้อพยพลงจอดเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ ไม่ได้ดำเนินการแบบเดียวกันนี้กับเม็กซิโก ชาติคู่หูทางการค้าใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ แต่บอกว่าเขากำลังคิดเกี่ยวกับการรีดภาษี 25% สินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโก ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ เพื่อบีบให้ดำเนินการต่างๆ เพิ่มเติมจัดการกับพวกผู้อพยพผิดกฎหมายและการไหลบ่าเข้าสู่อเมริกาของยาเฟนทานิล
    .
    ข้อมูลจากกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่าอเมริกาคือคู่ค้าและการลงทุนรายใหญ่ที่สุดของโคลอมเบีย ส่วน โคลอมเบีย เป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของสหรัฐฯ หากนับเฉพาะในละตินอเมริกา
    .
    ความเห็นของเปโดร ถือเป็นการสอดประสานส่งเสียงแสดงความขุ่นเคืองหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ ในละตินอเมริกา ต่อความเคลื่อนไหวของรัฐบาลอายุ 1 สัปดาห์ของทรัมป์ ที่เริ่มดำเนินการเนรเทศหมู่พวกผู้อพยพ
    .
    เมื่อช่วงเย็นวันเสาร์ (25 ม.ค.) กระทรวงการต่างประเทศบราซิล ประณามการปฏิบัติที่ย่ำยีศักดิ์ศรีชาวบราซิล หลังพบเห็นพวกผู้อพยพถูกใส่กุญแจมือบนเที่ยวบินพาณิชย์ที่บรรทุกพวกผู้อพยพที่โดนเนรเทศจากสหรัฐฯ ครั้งเดินทางมาถึง ผู้โดยสารบางส่วนยังรายงานด้วยว่าได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เหมาะสมบนเที่ยวบิน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000008312
    ..............
    Sondhi X
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยว่าเขาจะกำหนดมาตรการแก้เผ็ดต่างๆ เล่นงานโคลอมเบีย ในนั้นรวมถึงรีดภาษีและคว่ำบาตร หลังประเทศแถบอเมริกาใต้แห่งนี้ไม่อ้าแขนรับเครื่องบินทหาร 2 ลำของสหรัฐฯ ที่บรรทุกพวกผู้อพยพที่ถูกเนรเทศ ส่วนหนึ่งในการปราบปรามพวกผู้อพยพของรัฐบาลอเมริกา . ความเคลื่อนไหวลงโทษของทรัมป์ ดูเหมือนจะมีเป้าหมายทำให้โคลอมเบีย เป็นแบบอย่างชาติอื่นๆ ในขณะที่ประเทศแห่งนี้เป็นชาติที่ 2 ในละตินอเมริกา ที่ปฏิเสธเครื่องบินทหารบรรทุกผู้อพยพของสหรัฐฯ มันเป็นการแสดงให้เห็นถึงความแข็งกร้าวในด้านนโยบายต่างประเทศของวอชิงตัน และแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของทรัมป์ ที่จะบีบให้ประเทศอื่นๆ ยอมอ่อนข้อทำตามความต้องการของเขา . ทรัมป์ เขียนบนทรัสต์โซเชียล สื่อสังคมออนไลน์ของเขาเอง ว่าการที่ กุสตาโว เปโตร ประธานาธิบดีโคลอมเบีย ปฏิเสธอ้าแขนรับเที่ยวบินบรรทุกพวกผู้ลี้ภัย ถือว่าเป็นภัยความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ . มาตรการแก้แค้นนั้น รวมไปถึงการรีดภาษี 25% ต่อสินค้าของโคลอมเบียทั้งหมดที่นำเข้าสหรัฐฯ ซึ่งจะแตะระดับ 50% ใน 1 สัปดาห์ คำสั่งแบนด้านการเดินทางและเพิกถอนวีซ่าพวกเจ้าหน้าที่รัฐบาลโคลอมเบีย คว่ำบาตรภาคธนาคารและภาคการเงิน . นอกจากนี้ ทรัมป์ เผยด้วยว่าเขาจะสั่งให้ยกระดับการตรวจสอบทางชายแดนพลเมืองชาวโคลอมเบียและสินค้าจากโคลอมเบียด้วย "มาตรการต่างๆ เหล่านี้เป็นเพียงแค่เริ่มต้น" เขาเขียน "เราจะไม่ยอมให้รัฐบาลโคลอมเบียละเมิดพันธะทางกฎหมายของพวกเขา ในเรื่องการอ้าแขนรับและส่งคืนพวกอาชญากร ที่พวกเขาบีบให้ลอบเข้าสู่สหรัฐฯ!" . ด้าน มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุในถ้อยแถลงว่า "อเมริกาจะไม่ยอมรับคำโกหกหรือถูกเอาเปรียบอีกต่อไป" พร้อมระบุ เปโตร อนุมัติเที่ยวบินเหล่านี้ และมอบอำนาจทุกอย่างที่จำเป็น แต่จากนั้นกลับยกเลิกไฟเขียว ตอนที่เครื่องบินทั้ง 2 ลำ อยู่ระหว่างการเดินทาง . ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศให้พวกผู้อพยพผิดกฎหมายเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติ และกำหนดมาตรการปราบปรามต่างๆ นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันจันทร์ที่แล้ว (20 ม.ค.) ในนั้นรวมถึงสั่งการให้ทหารเข้าช่วยหน่วยงานความมั่นคงตามแนวชายแดน ออกประกาศแบนการลี้ภัยอย่างครอบคลุม และใช้มาตรการต่างๆ ในการจำกัดสิทธิความเป็นพลเมืองของลูกพวกผู้อพยพที่ถือกำเนิดบนแผ่นดินอเมริกา . ประธานาธิบดีเปโตร ประณามความเคลื่อนไหวของทรัมป์ ในวันอาทิตย์ (26 ม.ค.) ชี้ว่ามันเป็นการปฏิบัติกับพวกผู้อพยพราวกับอาชญากร ในข้อความที่โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ ทาง เปโตร บอกว่าโคลอมเบีย จะยินดีกว่านี้ หากสหรัฐฯ เนรเทศพวกผู้อพยพด้วยเครื่องบินพลเรือน "อเมริกาไม่อาจปฏิบัติกับพวกผู้อพยพชาวโคลอมเบียราวกับอาชญากร" . เปโตร บอกต่อว่าแม้ว่าจะมีชาวอเมริกามากกว่า 15,660 คน อยู่ในสถานะเข้าเมืองผิดกฎหมายในโคลอมเบีย แต่เขาไม่เคยคิดปฏิบัติการจู่โจมใดๆ และส่งคืนอเมริกันชนเหล่านั้นในสภาพที่ใส่กุญแจมือ กลับไปยังสหรัฐฯ "เราอยู่ฝั่งตรงข้ามกับนาซี" เขาเขียน เหน็บแนมไปยังทรัมป์ . เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เม็กซิโก ได้ปฏิเสธคำร้องที่ขอให้เครื่องบินทหารสหรัฐฯ บรรทุกพวกผู้อพยพลงจอดเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ ไม่ได้ดำเนินการแบบเดียวกันนี้กับเม็กซิโก ชาติคู่หูทางการค้าใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ แต่บอกว่าเขากำลังคิดเกี่ยวกับการรีดภาษี 25% สินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโก ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ เพื่อบีบให้ดำเนินการต่างๆ เพิ่มเติมจัดการกับพวกผู้อพยพผิดกฎหมายและการไหลบ่าเข้าสู่อเมริกาของยาเฟนทานิล . ข้อมูลจากกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่าอเมริกาคือคู่ค้าและการลงทุนรายใหญ่ที่สุดของโคลอมเบีย ส่วน โคลอมเบีย เป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของสหรัฐฯ หากนับเฉพาะในละตินอเมริกา . ความเห็นของเปโดร ถือเป็นการสอดประสานส่งเสียงแสดงความขุ่นเคืองหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ ในละตินอเมริกา ต่อความเคลื่อนไหวของรัฐบาลอายุ 1 สัปดาห์ของทรัมป์ ที่เริ่มดำเนินการเนรเทศหมู่พวกผู้อพยพ . เมื่อช่วงเย็นวันเสาร์ (25 ม.ค.) กระทรวงการต่างประเทศบราซิล ประณามการปฏิบัติที่ย่ำยีศักดิ์ศรีชาวบราซิล หลังพบเห็นพวกผู้อพยพถูกใส่กุญแจมือบนเที่ยวบินพาณิชย์ที่บรรทุกพวกผู้อพยพที่โดนเนรเทศจากสหรัฐฯ ครั้งเดินทางมาถึง ผู้โดยสารบางส่วนยังรายงานด้วยว่าได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เหมาะสมบนเที่ยวบิน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000008312 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 984 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีรัสเซีย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติรัสเซีย โพสต์ข้อคยามบนเทเลแกรม:

    ในช่วงสัปดาห์แรกที่กลับมาที่ทำเนียบขาว โดนัลด์ ทรัมป์พยายามทำให้คนทั้งโลกเข้าใจผิดและสับสนในเรื่องต่างๆ แต่ไม่ใช่กับพวกเรา — เราไม่ถูกหลอกง่ายๆ หรอก😂!

    В первую неделю своего второго пришествия в Белый дом Дональд Трамп постарался запутать весь мир. Но нас ему не обмануть😂!
    ดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีรัสเซีย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติรัสเซีย โพสต์ข้อคยามบนเทเลแกรม: ในช่วงสัปดาห์แรกที่กลับมาที่ทำเนียบขาว โดนัลด์ ทรัมป์พยายามทำให้คนทั้งโลกเข้าใจผิดและสับสนในเรื่องต่างๆ แต่ไม่ใช่กับพวกเรา — เราไม่ถูกหลอกง่ายๆ หรอก😂! В первую неделю своего второго пришествия в Белый дом Дональд Трамп постарался запутать весь мир. Но нас ему не обмануть😂!
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 172 มุมมอง 0 รีวิว
  • อิตามาร์ เบน กวีร์ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งชาติของอิสราเอล สนับสนุนการย้ายถิ่นฐานของชาวปาเลสไตน์ออกจากกาซาตามแนวคิดของทรัมป์

    “ผมขอชื่นชมประธานาธิบดีทรัมป์ของสหรัฐฯ ที่มีแนวคิดสร้างสรรค์ย้ายชาวปาเลสไตน์ที่อาศัยอยู่ในกาซาไปยังจอร์แดนและอียิปต์ เพราะนี่เป็นหนึ่งในข้อเรียกร้องของเราโดยนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ซึ่งมีการสนับสนุนการย้ายถิ่นฐานของพวกเขา และเมื่อประธานาธิบดีของมหาอำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอย่างทรัมป์เสนอแนวคิดนี้ขึ้นมา รัฐบาลอิสราเอลควรดำเนินการตามนั้น—ผมขอเรียกร้องการย้ายถิ่นฐานตั้งแต่ตอนนี้เลย!”
    อิตามาร์ เบน กวีร์ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งชาติของอิสราเอล สนับสนุนการย้ายถิ่นฐานของชาวปาเลสไตน์ออกจากกาซาตามแนวคิดของทรัมป์ “ผมขอชื่นชมประธานาธิบดีทรัมป์ของสหรัฐฯ ที่มีแนวคิดสร้างสรรค์ย้ายชาวปาเลสไตน์ที่อาศัยอยู่ในกาซาไปยังจอร์แดนและอียิปต์ เพราะนี่เป็นหนึ่งในข้อเรียกร้องของเราโดยนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ซึ่งมีการสนับสนุนการย้ายถิ่นฐานของพวกเขา และเมื่อประธานาธิบดีของมหาอำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอย่างทรัมป์เสนอแนวคิดนี้ขึ้นมา รัฐบาลอิสราเอลควรดำเนินการตามนั้น—ผมขอเรียกร้องการย้ายถิ่นฐานตั้งแต่ตอนนี้เลย!”
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 210 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ตามรอยช้าง สร้างเชียงราย”

    ตามรอยเท้าช้าง ฝ่าป่าไพร พญามังราย ทรงเห็นความงาม ริมฝั่งน้ำแม่กก ทิวเขาสยาม สร้างเมืองเชียงราย ใต้ฟ้าล้านนา

    * โอ้เชียงราย เมืองแห่งใจศรัทธา เวียงล้อมดอยจอมทอง ฟ้าส่องจันทร์มา กษัตริย์ผู้กล้า ทรงนำปัญญา มรดกล้านนา อยู่คู่ฟ้าธารา

    จากหิรัญนคร สู่ฝันอันไกล สร้างศูนย์กลางใหม่ เชียงใหม่ยังคง แต่เชียงราย รากฐานมั่นคง พญามังราย ทรงจารึกไว้

    ซ้ำ *

    แผ่นดินล้านนา ศักดิ์สิทธิ์ล้ำค่า พญามังราย ผู้สร้างตำนาน เมืองเชียงราย เปล่งแสงนิรันดร์ เล่าขานตำนาน สู่ชนรุ่นใหม่

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 261151 ม.ค. 2568

    #ตามรอยช้างสร้างเมืองเชียงราย #พญามังราย #ล้านนาคู่ฟ้า #เวียงรอบดอยจอมทอง #มรดกล้านนา #ศรัทธาเชียงราย
    “ตามรอยช้าง สร้างเชียงราย” ตามรอยเท้าช้าง ฝ่าป่าไพร พญามังราย ทรงเห็นความงาม ริมฝั่งน้ำแม่กก ทิวเขาสยาม สร้างเมืองเชียงราย ใต้ฟ้าล้านนา * โอ้เชียงราย เมืองแห่งใจศรัทธา เวียงล้อมดอยจอมทอง ฟ้าส่องจันทร์มา กษัตริย์ผู้กล้า ทรงนำปัญญา มรดกล้านนา อยู่คู่ฟ้าธารา จากหิรัญนคร สู่ฝันอันไกล สร้างศูนย์กลางใหม่ เชียงใหม่ยังคง แต่เชียงราย รากฐานมั่นคง พญามังราย ทรงจารึกไว้ ซ้ำ * แผ่นดินล้านนา ศักดิ์สิทธิ์ล้ำค่า พญามังราย ผู้สร้างตำนาน เมืองเชียงราย เปล่งแสงนิรันดร์ เล่าขานตำนาน สู่ชนรุ่นใหม่ ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 261151 ม.ค. 2568 #ตามรอยช้างสร้างเมืองเชียงราย #พญามังราย #ล้านนาคู่ฟ้า #เวียงรอบดอยจอมทอง #มรดกล้านนา #ศรัทธาเชียงราย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 254 มุมมอง 30 0 รีวิว
  • 763 ปีพญามังรายสร้าง “เมืองเชียงราย” หลังเสด็จตามรอยเท้าช้าง สร้างเวียงรอบดอยจอมทอง

    "เชียงราย" เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ ยาวนานกว่า 763 ปี โดยถือกำเนิดขึ้นในวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 1805 ตามบันทึกตำนานพื้นเมือง พญามังรายทรงเสด็จตามรอยเท้าช้าง มาทางทิศตะวันออก ก่อนจะเลือกชัยภูมิริมฝั่งแม่น้ำกก และดอยจอมทองในการก่อตั้งเมืองเชียงรายแห่งนี้ โดยสร้างเป็นเวียงล้อมรอบดอยจอมทองให้มีความมั่นคง และเป็นศูนย์กลางการปกครอง ในยุคนั้น

    เมืองเชียงราย ไม่ได้เป็นเพียงแค่เมืองประวัติศาสตร์ แต่ยังสะท้อนถึงภูมิปัญญา และความเฉลียวฉลาดของพญามังราย ในการเลือกพื้นที่ ที่เหมาะสมสำหรับการตั้งถิ่นฐาน ซึ่งยังคงมีอิทธิพลต่อการพัฒนาเมือง มาจนถึงปัจจุบัน 🌄

    พญามังราย ราชาผู้ก่อตั้งล้านนา
    "พญามังราย" หรือที่รู้จักกันในนาม "ปฐมกษัตริย์แห่งล้านนา" เป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ ที่มีบทบาทสำคัญในการสร้าง และขยายอาณาจักรล้านนา พระองค์เสด็จขึ้นครองราชย์ ในปี พ.ศ. 1802 เป็นกษัตริย์รัชกาลที่ 25 แห่งหิรัญนครเงินยางเชียงลาว โดยตลอดรัชสมัย พระองค์ได้สร้างเมืองสำคัญหลายแห่ง เช่น

    - เมืองเชียงราย ศูนย์กลางการปกครองแห่งแรก ของพระองค์
    - เวียงกุมกาม เมืองต้นแบบก่อนการสร้างเชียงใหม่
    - เมืองเชียงใหม่ เมืองที่เป็นศูนย์กลางของอาณาจักรล้านนา

    พระนามของพญามังราย ได้รับการบันทึกไว้ในเอกสาร และหลักฐานประวัติศาสตร์มากมาย เช่น จารึกวัดพระยืน (พ.ศ. 1912) และมังรายศาสตร์ ซึ่งสะท้อนถึงความสำคัญ และบทบาทของพระองค์ ในฐานะผู้วางรากฐานอาณาจักรล้านนา

    เหตุผลที่เลือกดอยจอมทอง เป็นที่ตั้งเมือง
    ชัยภูมิของดอยจอมทอง ที่ตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำกก มีความเหมาะสมอย่างยิ่ง ต่อการตั้งเมืองในยุคนั้น เนื่องจาก

    - ความปลอดภัย ดอยจอมทองเป็นที่สูง ช่วยให้การป้องกันเมืองจากศัตรูง่ายขึ้น
    - ทรัพยากรธรรมชาติ แม่น้ำกกที่ไหลผ่าน เป็นแหล่งน้ำสำคัญ สำหรับการดำรงชีวิตและการเกษตร 🌾
    - การคมนาคม แม่น้ำกกยังเป็นเส้นทางการค้า และการเดินทางระหว่างพื้นที่ต่าง ๆ

    พญามังรายทรงมองเห็นถึง ความสำคัญของพื้นที่แห่งนี้ จึงได้วางรากฐานให้เชียงราย กลายเป็นเมืองที่รุ่งเรือง และมั่นคง

    บทบาทของเชียงราย ในยุคอาณาจักรล้านนา
    หลังจากการสร้างเมืองเชียงราย พญามังรายได้ครองราชย์ และพัฒนาเมือง ให้เป็นศูนย์กลางการปกครอง แห่งแรกของอาณาจักรล้านนา ก่อนจะย้ายไปสร้างเมืองเชียงใหม่ ในปี พ.ศ. 1839 เมืองเชียงราย จึงกลายเป็นที่ตั้งของพระราชโอรส พญาไชยสงคราม ผู้สืบทอดราชสมบัติ ต่อจากพญามังราย

    ในยุคต่อมา เมื่ออาณาจักรล้านนา ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของพม่า ในปี พ.ศ. 2101 เมืองเชียงรายยังคงมีบทบาทสำคัญ ในฐานะเมืองยุทธศาสตร์ แต่ในช่วงสงคราม ระหว่างสยามและพม่า เมืองเชียงรายเริ่มร้างผู้คน เนื่องจากประชาชน ต้องอพยพหนีภัยสงคราม

    ฟื้นฟูเมืองเชียงราย ในสมัยรัตนโกสินทร์
    ในปี พ.ศ. 2386 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีพระบรมราชานุญาต ให้เจ้าหลวงเชียงใหม่ฟื้นฟูเมืองเชียงรายขึ้นใหม่ โดยเมืองเชียงราย กลับมาเป็นศูนย์กลางการปกครอง ที่สำคัญอีกครั้ง และได้รับการยกฐานะ เป็นเมืองจัตวามณฑลพายัพ ในปี พ.ศ. 2453

    ข้อถกเถียงเกี่ยวกับพระนาม "พญามังราย"
    พระนาม "พญามังราย" ได้รับการบันทึกไว้ ในเอกสารประวัติศาสตร์ และหลักฐานต่าง ๆ แต่ในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 มีการเปลี่ยนแปลงพระนามเป็น "เม็งราย" ในพงศาวดารโยนก โดยไม่ปรากฏเหตุผลที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม ชื่อนี้ได้รับการใช้อย่างแพร่หลายในปัจจุบัน เช่น ตำบลเม็งราย อำเภอพญาเม็งราย และโรงเรียนเม็งรายมหาราชวิทยาคม

    วัฒนธรรมและมรดกทางประวัติศาสตร์ ของเชียงราย
    เมืองเชียงราย ไม่ได้เป็นเพียงแค่ ศูนย์กลางทางการปกครองในอดีต แต่ยังเป็นแหล่งรวบรวม มรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญ เช่น

    - วัดพระธาตุดอยจอมทอง สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่เกี่ยวข้องกับการก่อตั้งเมือง
    - พิพิธภัณฑ์อูบคำ รวบรวมศิลปวัตถุ ที่สะท้อนถึงความรุ่งเรืองในอดีต

    คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
    1. ทำไมพญามังราย ถึงเลือกเชียงรายเป็นที่ตั้งเมือง?
    พญามังรายทรงเลือกพื้นที่ ดอยจอมทองและแม่น้ำกก เพราะเป็นชัยภูมิที่เหมาะสม ต่อการตั้งเมือง มีทรัพยากรธรรมชาติสมบูรณ์ และสามารถป้องกันศัตรูได้ง่าย

    2. เมืองเชียงรายมีความสำคัญอย่างไร ในยุคล้านนา?
    เมืองเชียงรายเป็นเมืองแรก ที่พญามังรายสร้างขึ้น และเป็นศูนย์กลางการปกครอง ของอาณาจักรล้านนา ก่อนจะย้ายไปยังเชียงใหม่

    3. ชื่อนาม "พญามังราย" มีที่มาอย่างไร?
    ชื่อนี้มีที่มาจาก การผสมชื่อของพระบิดา พระมารดา และฤๅษีปัทมังกร ผู้ตั้งถวาย

    เมืองเชียงราย ที่ก่อตั้งโดยพญามังราย เมื่อ 763 ปี ที่ผ่านมา เป็นมรดกสำคัญ ที่สะท้อนถึงภูมิปัญญา และประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ ของอาณาจักรล้านนา แม้ว่าเมืองนี้ จะเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงมากมาย แต่ความงดงาม และคุณค่าทางวัฒนธรรมของเชียงราย ยังคงสืบทอดมา จนถึงปัจจุบัน

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 261148 ม.ค. 2568

    #เมืองเชียงราย #พญามังราย #ประวัติศาสตร์ล้านนา #วัฒนธรรมเชียงราย #763ปีเชียงราย #เชียงราย
    763 ปีพญามังรายสร้าง “เมืองเชียงราย” หลังเสด็จตามรอยเท้าช้าง สร้างเวียงรอบดอยจอมทอง "เชียงราย" เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ ยาวนานกว่า 763 ปี โดยถือกำเนิดขึ้นในวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 1805 ตามบันทึกตำนานพื้นเมือง พญามังรายทรงเสด็จตามรอยเท้าช้าง มาทางทิศตะวันออก ก่อนจะเลือกชัยภูมิริมฝั่งแม่น้ำกก และดอยจอมทองในการก่อตั้งเมืองเชียงรายแห่งนี้ โดยสร้างเป็นเวียงล้อมรอบดอยจอมทองให้มีความมั่นคง และเป็นศูนย์กลางการปกครอง ในยุคนั้น เมืองเชียงราย ไม่ได้เป็นเพียงแค่เมืองประวัติศาสตร์ แต่ยังสะท้อนถึงภูมิปัญญา และความเฉลียวฉลาดของพญามังราย ในการเลือกพื้นที่ ที่เหมาะสมสำหรับการตั้งถิ่นฐาน ซึ่งยังคงมีอิทธิพลต่อการพัฒนาเมือง มาจนถึงปัจจุบัน 🌄 พญามังราย ราชาผู้ก่อตั้งล้านนา "พญามังราย" หรือที่รู้จักกันในนาม "ปฐมกษัตริย์แห่งล้านนา" เป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ ที่มีบทบาทสำคัญในการสร้าง และขยายอาณาจักรล้านนา พระองค์เสด็จขึ้นครองราชย์ ในปี พ.ศ. 1802 เป็นกษัตริย์รัชกาลที่ 25 แห่งหิรัญนครเงินยางเชียงลาว โดยตลอดรัชสมัย พระองค์ได้สร้างเมืองสำคัญหลายแห่ง เช่น - เมืองเชียงราย ศูนย์กลางการปกครองแห่งแรก ของพระองค์ - เวียงกุมกาม เมืองต้นแบบก่อนการสร้างเชียงใหม่ - เมืองเชียงใหม่ เมืองที่เป็นศูนย์กลางของอาณาจักรล้านนา พระนามของพญามังราย ได้รับการบันทึกไว้ในเอกสาร และหลักฐานประวัติศาสตร์มากมาย เช่น จารึกวัดพระยืน (พ.ศ. 1912) และมังรายศาสตร์ ซึ่งสะท้อนถึงความสำคัญ และบทบาทของพระองค์ ในฐานะผู้วางรากฐานอาณาจักรล้านนา เหตุผลที่เลือกดอยจอมทอง เป็นที่ตั้งเมือง ชัยภูมิของดอยจอมทอง ที่ตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำกก มีความเหมาะสมอย่างยิ่ง ต่อการตั้งเมืองในยุคนั้น เนื่องจาก - ความปลอดภัย ดอยจอมทองเป็นที่สูง ช่วยให้การป้องกันเมืองจากศัตรูง่ายขึ้น - ทรัพยากรธรรมชาติ แม่น้ำกกที่ไหลผ่าน เป็นแหล่งน้ำสำคัญ สำหรับการดำรงชีวิตและการเกษตร 🌾 - การคมนาคม แม่น้ำกกยังเป็นเส้นทางการค้า และการเดินทางระหว่างพื้นที่ต่าง ๆ พญามังรายทรงมองเห็นถึง ความสำคัญของพื้นที่แห่งนี้ จึงได้วางรากฐานให้เชียงราย กลายเป็นเมืองที่รุ่งเรือง และมั่นคง บทบาทของเชียงราย ในยุคอาณาจักรล้านนา หลังจากการสร้างเมืองเชียงราย พญามังรายได้ครองราชย์ และพัฒนาเมือง ให้เป็นศูนย์กลางการปกครอง แห่งแรกของอาณาจักรล้านนา ก่อนจะย้ายไปสร้างเมืองเชียงใหม่ ในปี พ.ศ. 1839 เมืองเชียงราย จึงกลายเป็นที่ตั้งของพระราชโอรส พญาไชยสงคราม ผู้สืบทอดราชสมบัติ ต่อจากพญามังราย ในยุคต่อมา เมื่ออาณาจักรล้านนา ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของพม่า ในปี พ.ศ. 2101 เมืองเชียงรายยังคงมีบทบาทสำคัญ ในฐานะเมืองยุทธศาสตร์ แต่ในช่วงสงคราม ระหว่างสยามและพม่า เมืองเชียงรายเริ่มร้างผู้คน เนื่องจากประชาชน ต้องอพยพหนีภัยสงคราม ฟื้นฟูเมืองเชียงราย ในสมัยรัตนโกสินทร์ ในปี พ.ศ. 2386 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีพระบรมราชานุญาต ให้เจ้าหลวงเชียงใหม่ฟื้นฟูเมืองเชียงรายขึ้นใหม่ โดยเมืองเชียงราย กลับมาเป็นศูนย์กลางการปกครอง ที่สำคัญอีกครั้ง และได้รับการยกฐานะ เป็นเมืองจัตวามณฑลพายัพ ในปี พ.ศ. 2453 ข้อถกเถียงเกี่ยวกับพระนาม "พญามังราย" พระนาม "พญามังราย" ได้รับการบันทึกไว้ ในเอกสารประวัติศาสตร์ และหลักฐานต่าง ๆ แต่ในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 มีการเปลี่ยนแปลงพระนามเป็น "เม็งราย" ในพงศาวดารโยนก โดยไม่ปรากฏเหตุผลที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม ชื่อนี้ได้รับการใช้อย่างแพร่หลายในปัจจุบัน เช่น ตำบลเม็งราย อำเภอพญาเม็งราย และโรงเรียนเม็งรายมหาราชวิทยาคม วัฒนธรรมและมรดกทางประวัติศาสตร์ ของเชียงราย เมืองเชียงราย ไม่ได้เป็นเพียงแค่ ศูนย์กลางทางการปกครองในอดีต แต่ยังเป็นแหล่งรวบรวม มรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญ เช่น - วัดพระธาตุดอยจอมทอง สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่เกี่ยวข้องกับการก่อตั้งเมือง - พิพิธภัณฑ์อูบคำ รวบรวมศิลปวัตถุ ที่สะท้อนถึงความรุ่งเรืองในอดีต คำถามที่พบบ่อย (FAQs) 1. ทำไมพญามังราย ถึงเลือกเชียงรายเป็นที่ตั้งเมือง? พญามังรายทรงเลือกพื้นที่ ดอยจอมทองและแม่น้ำกก เพราะเป็นชัยภูมิที่เหมาะสม ต่อการตั้งเมือง มีทรัพยากรธรรมชาติสมบูรณ์ และสามารถป้องกันศัตรูได้ง่าย 2. เมืองเชียงรายมีความสำคัญอย่างไร ในยุคล้านนา? เมืองเชียงรายเป็นเมืองแรก ที่พญามังรายสร้างขึ้น และเป็นศูนย์กลางการปกครอง ของอาณาจักรล้านนา ก่อนจะย้ายไปยังเชียงใหม่ 3. ชื่อนาม "พญามังราย" มีที่มาอย่างไร? ชื่อนี้มีที่มาจาก การผสมชื่อของพระบิดา พระมารดา และฤๅษีปัทมังกร ผู้ตั้งถวาย เมืองเชียงราย ที่ก่อตั้งโดยพญามังราย เมื่อ 763 ปี ที่ผ่านมา เป็นมรดกสำคัญ ที่สะท้อนถึงภูมิปัญญา และประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ ของอาณาจักรล้านนา แม้ว่าเมืองนี้ จะเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงมากมาย แต่ความงดงาม และคุณค่าทางวัฒนธรรมของเชียงราย ยังคงสืบทอดมา จนถึงปัจจุบัน ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 261148 ม.ค. 2568 #เมืองเชียงราย #พญามังราย #ประวัติศาสตร์ล้านนา #วัฒนธรรมเชียงราย #763ปีเชียงราย #เชียงราย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 326 มุมมอง 0 รีวิว
  • "จากยูเครน จอร์เจีย สู่สโลวาเกีย"

    ภาพการประท้วงต่อต้านรัฐบาลของโรเบิร์ต ฟิโกเริ่มขึ้นแล้ว

    ผู้ประท้วงประมาณ 60,000 คนรวมตัวกันที่จัตุรัสหลักของบราติสลาวา

    นายกรัฐมนตรีฟิโกออกแถลงการณ์กล่าวหาว่า ผู้ประท้วงเหล่านี้ถูกจัดตั้งขึ้นมาภายใต้การสนับสนุนจากต่างชาติ "กลุ่มเดิม" ที่เคยทำมาแล้วในจอร์เจียและยูเครน เพื่อพยายามทำให้สถานการณ์ในประเทศไม่มั่นคง และส่งผลต่ออำนาจอธิปไตยของประเทศ
    "จากยูเครน จอร์เจีย สู่สโลวาเกีย" ภาพการประท้วงต่อต้านรัฐบาลของโรเบิร์ต ฟิโกเริ่มขึ้นแล้ว ผู้ประท้วงประมาณ 60,000 คนรวมตัวกันที่จัตุรัสหลักของบราติสลาวา นายกรัฐมนตรีฟิโกออกแถลงการณ์กล่าวหาว่า ผู้ประท้วงเหล่านี้ถูกจัดตั้งขึ้นมาภายใต้การสนับสนุนจากต่างชาติ "กลุ่มเดิม" ที่เคยทำมาแล้วในจอร์เจียและยูเครน เพื่อพยายามทำให้สถานการณ์ในประเทศไม่มั่นคง และส่งผลต่ออำนาจอธิปไตยของประเทศ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 209 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลังจากทรัมป์ลงนาม "คำสั่งฝ่ายบริหาร" เพื่อเปิดเผยความลับของเอกสารการลอบสังหาร JFK

    "ปฏิบัติการนอร์ธวูดส์" (Operation Northwoods) ซึ่งเป็นปฏิบัติการลับของ CIA ในช่วงปี 1962 (พ.ศ.2505) เพื่อเข้าแทรกแซงทางทหารในคิวบากลับมาได้รับความสนใจในโซเชียลอีกครั้ง

    แต่สุดท้ายแล้ว "ปฏิบัติการนอร์ธวูดส์" ถูกประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนเนดีปฏิเสธทั้งหมด แม้ว่าจะลงนามโดยคณะเสนาธิการทหารร่วมในปี 1962 แล้วก็ตาม

    หน่วยงาน CIA ร่วมมือกับกองทัพสหรัฐ วางแผน "ปฏิบัติการนอร์ธวูดส์" มาตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษ 1960 รายละเอียดบางส่วนของแผนการในครั้งนั้น เพื่อโยนความผิดให้กับคิวบา และเพื่อสร้างเหตุผลความชอบธรรมในการทำสงครามกับคิวบา และกำจัด "ฟิเดล คาสโตร" ผู้นำคิวบา:

    - วางแผนจัดฉากหรือสร้างเรื่องโจมตีก่อการร้ายในเมืองต่างๆของสหรัฐฯ หรือโจมตีผลประโยชน์ของสหรัฐฯ รวมทั้งพลเมืองสหรัฐฯทั้งในและต่างประเทศ

    - การสร้างเหตุการณ์ที่เครื่องบินสหรัฐฯ ถูกยิงตกหรือก่อวินาศกรรม ซึ่งจะพยายามทำให้ดูเหมือนว่าเป็นการกระทำของคิวบา

    - การจัดฉากโจมตีในไมอามี เมืองอื่นๆ ในฟลอริดา และอาจรวมถึงวอชิงตัน ดี.ซี. ด้วย

    - วางแผนการให้มีการสังหารทหารสหรัฐฯ โดยระเบิดเรือในอ่าวกวนตานาโม แล้วโยนความผิดเหตุการณ์ดังกล่าวให้กับหน่วยก่อวินาศกรรมของคิวบา

    - จัดฉากการจี้เครื่องบินจนเกิดเหตุการณ์บานปลายทำให้ชาวอเมริกันเสียชีวิตเพื่อโยนความผิดให้คิวบา

    - จัดฉากว่ากองทัพอากาศคิวบาโจมตีเครื่องบินโดยสารพลเรือน

    มีรายงานว่าเคนเนดีตกใจกับแนวทางนี้และไม่ยอมรับโดบเด็ดขาด ทำให้ความสัมพันธ์ของเขากับผู้นำกองทัพตึงเครียดอย่างมาก

    แม้ว่าเอกสารนี้จะถูกเผยแพร่มาแล้วตั้งแต่ปี 2001 แต่กลับมาได้รับความสนใจอีกครั้งในช่วงเวลานี้ ซึ่งถือเป็นตัวอย่างทางประวัติศาสตร์ที่เป็น “การเปิดโปงการแทรกแซงทางทหารของสหรัฐฯในคิวบา”

    การวางแผนของหน่วยงานความมั่นคงของสหรัฐ มักจะเกิดจากความพยายามสร้างสถานการณ์ให้เกิดความตึงเครียดระหว่างประเทศขึ้นก่อน หลังจากนั้นจะตามมาด้วยการใช้ข้ออ้างกำลังทหารเข้ายุติปัญหา
    หลังจากทรัมป์ลงนาม "คำสั่งฝ่ายบริหาร" เพื่อเปิดเผยความลับของเอกสารการลอบสังหาร JFK "ปฏิบัติการนอร์ธวูดส์" (Operation Northwoods) ซึ่งเป็นปฏิบัติการลับของ CIA ในช่วงปี 1962 (พ.ศ.2505) เพื่อเข้าแทรกแซงทางทหารในคิวบากลับมาได้รับความสนใจในโซเชียลอีกครั้ง แต่สุดท้ายแล้ว "ปฏิบัติการนอร์ธวูดส์" ถูกประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนเนดีปฏิเสธทั้งหมด แม้ว่าจะลงนามโดยคณะเสนาธิการทหารร่วมในปี 1962 แล้วก็ตาม หน่วยงาน CIA ร่วมมือกับกองทัพสหรัฐ วางแผน "ปฏิบัติการนอร์ธวูดส์" มาตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษ 1960 รายละเอียดบางส่วนของแผนการในครั้งนั้น เพื่อโยนความผิดให้กับคิวบา และเพื่อสร้างเหตุผลความชอบธรรมในการทำสงครามกับคิวบา และกำจัด "ฟิเดล คาสโตร" ผู้นำคิวบา: - วางแผนจัดฉากหรือสร้างเรื่องโจมตีก่อการร้ายในเมืองต่างๆของสหรัฐฯ หรือโจมตีผลประโยชน์ของสหรัฐฯ รวมทั้งพลเมืองสหรัฐฯทั้งในและต่างประเทศ - การสร้างเหตุการณ์ที่เครื่องบินสหรัฐฯ ถูกยิงตกหรือก่อวินาศกรรม ซึ่งจะพยายามทำให้ดูเหมือนว่าเป็นการกระทำของคิวบา - การจัดฉากโจมตีในไมอามี เมืองอื่นๆ ในฟลอริดา และอาจรวมถึงวอชิงตัน ดี.ซี. ด้วย - วางแผนการให้มีการสังหารทหารสหรัฐฯ โดยระเบิดเรือในอ่าวกวนตานาโม แล้วโยนความผิดเหตุการณ์ดังกล่าวให้กับหน่วยก่อวินาศกรรมของคิวบา - จัดฉากการจี้เครื่องบินจนเกิดเหตุการณ์บานปลายทำให้ชาวอเมริกันเสียชีวิตเพื่อโยนความผิดให้คิวบา - จัดฉากว่ากองทัพอากาศคิวบาโจมตีเครื่องบินโดยสารพลเรือน มีรายงานว่าเคนเนดีตกใจกับแนวทางนี้และไม่ยอมรับโดบเด็ดขาด ทำให้ความสัมพันธ์ของเขากับผู้นำกองทัพตึงเครียดอย่างมาก แม้ว่าเอกสารนี้จะถูกเผยแพร่มาแล้วตั้งแต่ปี 2001 แต่กลับมาได้รับความสนใจอีกครั้งในช่วงเวลานี้ ซึ่งถือเป็นตัวอย่างทางประวัติศาสตร์ที่เป็น “การเปิดโปงการแทรกแซงทางทหารของสหรัฐฯในคิวบา” การวางแผนของหน่วยงานความมั่นคงของสหรัฐ มักจะเกิดจากความพยายามสร้างสถานการณ์ให้เกิดความตึงเครียดระหว่างประเทศขึ้นก่อน หลังจากนั้นจะตามมาด้วยการใช้ข้ออ้างกำลังทหารเข้ายุติปัญหา
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 333 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'นฤมล' เตรียมตั้งศูนย์ C4IR ยกระดับการเกษตรในไทย หวังเป็นโอกาสเพิ่มศักยภาพ
    .
    การเดินทางไปร่วมประชุม World Economic Forum ประจำปี 2568 (WEF Annual Meeting 2025: WEF AM25) ของตัวแทนรัฐบาลไทยในครั้งนี้ไม่ได้มีเฉพาะนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เท่านั้น แต่ยังมีรัฐมนตรีในกระทรวงเศรษฐกิจและที่เกี่ยวข้องร่วมคณะไปด้วย โดยเฉพาะ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
    .
    ทั้งนี้ ศ.ดร.นฤมล ได้ร่วมประชุมในเวที Multilateral Meeting: Centre for the Fourth Industrial Revolution (C4IR) ในประเทศไทย ร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ CEO ภาคเอกชนไทย และผู้แทนของ World Economic Forum  ถึงแนวทางในการจัดตั้งศูนย์C4IR ในประเทศไทยเพื่อส่งเสริมการปฏิรูประบบอาหารและภาคการเกษตรเพื่อรับมือและตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการเปลี่ยนแปลงทาง เทคโนโลยี ขับเคลื่อนการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีทางการเกษตรมาใช้
    .
    ศ.ดร.นฤมล เปิดเผยถึงการหารือว่า ประเทศไทยยินดีให้การสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์ C4IR เพราะถือเป็นโอกาสในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทางวิชาการสมัยใหม่ การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การปรับใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่และนวัตกรรม เพื่อส่งเสริมให้ภาคเกษตรมีภูมิคุ้มกันตลอดจนสนับสนุนให้เกิดความมั่นคงอาหาร อย่างไรก็ตาม การจัดตั้งศูนย์ฯ ต้องอาศัยความร่วมมือของภาคเอกชนไทย และหารือในกระบวนการภายในประเทศต่อไป
    .
    “การจัดตั้งศูนย์ C4IR ที่ประเทศไทย จะเป็นการเปิดโอกาสสำคัญให้หน่วยงานของไทย ทั้งภาครัฐและเอกชน ได้แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ประสบการณ์ แนวปฏิบัติ และบทเรียนที่ผ่านมาของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในภาคเกษตร รวมถึงการพัฒนาภาคการเกษตรสู่ความยั่งยืน ร่วมกับเครือข่าย C4IR ของประเทศอื่น แน่นอนว่า ภาคการเกษตรเป็นภาคที่สำคัญในการช่วยขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจประเทศ ดังนั้น การพัฒนาภาคเกษตรไปสู่ความยั่งยืน จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศและยกระดับภาคการเกษตรไทย”   ศ.ดร.นฤมล กล่าว
    .............
    Sondhi X
    'นฤมล' เตรียมตั้งศูนย์ C4IR ยกระดับการเกษตรในไทย หวังเป็นโอกาสเพิ่มศักยภาพ . การเดินทางไปร่วมประชุม World Economic Forum ประจำปี 2568 (WEF Annual Meeting 2025: WEF AM25) ของตัวแทนรัฐบาลไทยในครั้งนี้ไม่ได้มีเฉพาะนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เท่านั้น แต่ยังมีรัฐมนตรีในกระทรวงเศรษฐกิจและที่เกี่ยวข้องร่วมคณะไปด้วย โดยเฉพาะ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ . ทั้งนี้ ศ.ดร.นฤมล ได้ร่วมประชุมในเวที Multilateral Meeting: Centre for the Fourth Industrial Revolution (C4IR) ในประเทศไทย ร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ CEO ภาคเอกชนไทย และผู้แทนของ World Economic Forum  ถึงแนวทางในการจัดตั้งศูนย์C4IR ในประเทศไทยเพื่อส่งเสริมการปฏิรูประบบอาหารและภาคการเกษตรเพื่อรับมือและตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการเปลี่ยนแปลงทาง เทคโนโลยี ขับเคลื่อนการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีทางการเกษตรมาใช้ . ศ.ดร.นฤมล เปิดเผยถึงการหารือว่า ประเทศไทยยินดีให้การสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์ C4IR เพราะถือเป็นโอกาสในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทางวิชาการสมัยใหม่ การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การปรับใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่และนวัตกรรม เพื่อส่งเสริมให้ภาคเกษตรมีภูมิคุ้มกันตลอดจนสนับสนุนให้เกิดความมั่นคงอาหาร อย่างไรก็ตาม การจัดตั้งศูนย์ฯ ต้องอาศัยความร่วมมือของภาคเอกชนไทย และหารือในกระบวนการภายในประเทศต่อไป . “การจัดตั้งศูนย์ C4IR ที่ประเทศไทย จะเป็นการเปิดโอกาสสำคัญให้หน่วยงานของไทย ทั้งภาครัฐและเอกชน ได้แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ประสบการณ์ แนวปฏิบัติ และบทเรียนที่ผ่านมาของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในภาคเกษตร รวมถึงการพัฒนาภาคการเกษตรสู่ความยั่งยืน ร่วมกับเครือข่าย C4IR ของประเทศอื่น แน่นอนว่า ภาคการเกษตรเป็นภาคที่สำคัญในการช่วยขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจประเทศ ดังนั้น การพัฒนาภาคเกษตรไปสู่ความยั่งยืน จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศและยกระดับภาคการเกษตรไทย”   ศ.ดร.นฤมล กล่าว ............. Sondhi X
    Like
    Love
    Haha
    16
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1410 มุมมอง 0 รีวิว
  • 25 ปี “ก๊อด'ส อาร์มี่” บุกยึดโรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี บทเรียนแห่งความสูญเสีย และความเด็ดขาด

    เช้าตรู่แห่งความเปลี่ยนแปลง
    ย้อนไปเมื่อ 25 ปี ที่ผ่านมา ในเช้าวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2543 ถือเป็นวันที่ชาวราชบุรี และประเทศไทยทั้งประเทศ ไม่มีวันลืมได้ นายพินิจ ปองมณี คนขับรถบัสสาย 18 ในอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ได้พบกับเหตุการณ์ ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของเขา ไปตลอดกาล เมื่อชายสองคนโบกรถ และกลายเป็นจุดเริ่มต้น ของปฏิบัติการก่อการร้าย ที่สร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ ในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย

    "ก๊อด'ส อาร์มี่" กองกำลังที่อยู่เบื้องหลัง
    กองกำลัง "ก๊อด'ส อาร์มี่" เป็นกลุ่มติดอาวุธ ที่มีจุดกำเนิดจากชายแดนไทย-พม่า กลุ่มนี้นำโดยคู่แฝด “ลูเธอร์ ทู” และ “จอห์นนี่ ทู” ซึ่งได้รับการยกย่อง จากผู้ติดตามว่าเป็น “นักบุญ” และมีพลังเหนือธรรมชาติ แนวทางของกลุ่มคือ การต่อต้านรัฐบาลพม่า เพื่อเรียกร้องสิทธิปกครองตนเอง ของชาวกะเหรี่ยง

    ด้วยแรงกดดัน จากการโจมตีของกองทัพพม่า กลุ่มนี้หันมาใช้วิธีการรุนแรง เช่น การจับตัวประกัน และบุกยึดสถานที่สำคัญ โดยหวังให้ทั่วโลกสนใจ ประเด็นผู้อพยพชายแดน ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ ก็เป็นส่วนหนึ่งของแผนนั้น

    เหตุการณ์การยึดโรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี
    เมื่อชายฉกรรจ์ทั้ง 10 คน พร้อมอาวุธครบมือขึ้นรถบัส พวกเขาเริ่มดำเนินแผนการณ์ ด้วยการบุกยึดโรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี สถานที่ที่มีหมอ พยาบาล และผู้ป่วยที่ต้องการการดูแล ในขณะนั้น

    การดำเนินการของกลุ่มก่อการร้าย เป็นไปอย่างรวดเร็ว พวกเขาสามารถควบคุมตัวบุคลากร และผู้ป่วยรวมกว่า 780 คน และตั้งฐานในบริเวณชั้น 2 ของโรงพยาบาล โดยมีเป้าหมายหลักคือ การบีบบังคับให้รัฐบาลไทย ตอบสนองต่อข้อเรียกร้อง ที่เกี่ยวข้องกับความช่วยเหลือผู้อพยพ

    ข้อเรียกร้องที่แฝงด้วยความสิ้นหวัง
    ข้อเรียกร้องของ "ก๊อด'ส อาร์มี่" ในครั้งนี้ สะท้อนถึงความสิ้นหวังของพวกเขา
    - ให้หยุดยิงปืนใหญ่ที่ชายแดน ซึ่งกระทบต่อชีวิตผู้อพยพ
    - เรียกร้องให้รัฐบาลไทย ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม แก่ผู้อพยพชาวกะเหรี่ยง
    - เปิดชายแดนไทย-พม่า เพื่อให้ผู้อพยพมีที่พักพิง
    - กดดันรัฐบาลพม่า ให้หยุดการสู้รบ
    - นำแพทย์และอุปกรณ์การแพทย์ ไปรักษากองกำลังกะเหรี่ยง ในชายแดน

    แม้ข้อเรียกร้องเหล่านี้ จะดูมีความหมายในแง่มนุษยธรรม แต่การกระทำของพวกเขา ได้ละเมิดอธิปไตยของไทย และสร้างความเสียหาย ต่อภาพลักษณ์ของกลุ่ม อย่างร้ายแรง

    แผนปฏิบัติการช่วยเหลือ
    รัฐบาลไทยเผชิญกับ ทางเลือกที่ยากลำบาก ระหว่างการตอบสนอง ต่อข้อเรียกร้องของผู้ก่อเหตุ หรือการใช้กำลัง เพื่อยุติสถานการณ์ ในที่สุด พล.อ.สุรยุทธ จุลานนท์ ผู้บัญชาการกองทัพบก ในขณะนั้น ได้วางแผนปฏิบัติการ ร่วมกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษ อรินทราช 26 และนเรศวร 261 เพื่อเข้าเคลียร์พื้นที่และช่วยเหลือตัวประกัน

    ปฏิบัติการช่วงชิงเวลา
    ในคืนวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2543 หลังการเจรจาที่ไม่เป็นผลสำเร็จ หน่วยปฏิบัติการพิเศษ ได้ตัดสินใจบุกยึดพื้นที่ในช่วงเวลาที่ผู้ก่อเหตุเริ่มอ่อนล้า ด้วยการจู่โจมอย่างรวดเร็ว และรัดกุม โดยสามารถสังหารผู้ก่อเหตุทั้งหมด 10 คน และช่วยเหลือตัวประกันได้สำเร็จ โดยไม่มีการสูญเสียชีวิต ของพลเรือน

    บทเรียนที่ได้รับ ความสำคัญของการประสานงานหลายฝ่าย
    เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึง การประสานงานอย่างมีประสิทธิภาพ ระหว่างกองทัพ ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสามารถลดความสูญเสีย ได้อย่างมาก

    จุดยืนของประเทศไทย
    การปฏิบัติการครั้งนี้ เป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่า ประเทศไทยจะไม่ยอมจำนน ต่อการก่อการร้าย และพร้อมที่จะปกป้องอธิปไตยของตน

    ผลกระทบต่อกลุ่มก๊อด'ส อาร์มี่
    การสูญเสียผู้นำสำคัญ ในการปฏิบัติการครั้งนี้ ส่งผลให้กลุ่มก๊อด'ส อาร์มี่ อ่อนแอลงอย่างมาก และในที่สุด ก็สลายตัวลงในปีถัดมา

    25 ปีผ่านไป บทเรียนสู่อนาคต
    เหตุการณ์ในวันนั้น ยังคงเป็นบทเรียนที่ยิ่งใหญ่ ให้แก่หน่วยงานด้านความมั่นคง และคนไทยทุกคน การเผชิญหน้ากับความท้าทายเช่นนี้ ต้องอาศัยความร่วมมือ ความเด็ดขาด และความเสียสละ จากทุกฝ่าย

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 241345 ม.ค. 2568

    #GodsArmy #ราชบุรี #เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ #บุกโรงพยาบาล #ข่าวด่วนราชบุรี #กองกำลังติดอาวุธ #ประเทศไทย
    25 ปี “ก๊อด'ส อาร์มี่” บุกยึดโรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี บทเรียนแห่งความสูญเสีย และความเด็ดขาด เช้าตรู่แห่งความเปลี่ยนแปลง ย้อนไปเมื่อ 25 ปี ที่ผ่านมา ในเช้าวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2543 ถือเป็นวันที่ชาวราชบุรี และประเทศไทยทั้งประเทศ ไม่มีวันลืมได้ นายพินิจ ปองมณี คนขับรถบัสสาย 18 ในอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ได้พบกับเหตุการณ์ ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของเขา ไปตลอดกาล เมื่อชายสองคนโบกรถ และกลายเป็นจุดเริ่มต้น ของปฏิบัติการก่อการร้าย ที่สร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ ในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย "ก๊อด'ส อาร์มี่" กองกำลังที่อยู่เบื้องหลัง กองกำลัง "ก๊อด'ส อาร์มี่" เป็นกลุ่มติดอาวุธ ที่มีจุดกำเนิดจากชายแดนไทย-พม่า กลุ่มนี้นำโดยคู่แฝด “ลูเธอร์ ทู” และ “จอห์นนี่ ทู” ซึ่งได้รับการยกย่อง จากผู้ติดตามว่าเป็น “นักบุญ” และมีพลังเหนือธรรมชาติ แนวทางของกลุ่มคือ การต่อต้านรัฐบาลพม่า เพื่อเรียกร้องสิทธิปกครองตนเอง ของชาวกะเหรี่ยง ด้วยแรงกดดัน จากการโจมตีของกองทัพพม่า กลุ่มนี้หันมาใช้วิธีการรุนแรง เช่น การจับตัวประกัน และบุกยึดสถานที่สำคัญ โดยหวังให้ทั่วโลกสนใจ ประเด็นผู้อพยพชายแดน ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ ก็เป็นส่วนหนึ่งของแผนนั้น เหตุการณ์การยึดโรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี เมื่อชายฉกรรจ์ทั้ง 10 คน พร้อมอาวุธครบมือขึ้นรถบัส พวกเขาเริ่มดำเนินแผนการณ์ ด้วยการบุกยึดโรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี สถานที่ที่มีหมอ พยาบาล และผู้ป่วยที่ต้องการการดูแล ในขณะนั้น การดำเนินการของกลุ่มก่อการร้าย เป็นไปอย่างรวดเร็ว พวกเขาสามารถควบคุมตัวบุคลากร และผู้ป่วยรวมกว่า 780 คน และตั้งฐานในบริเวณชั้น 2 ของโรงพยาบาล โดยมีเป้าหมายหลักคือ การบีบบังคับให้รัฐบาลไทย ตอบสนองต่อข้อเรียกร้อง ที่เกี่ยวข้องกับความช่วยเหลือผู้อพยพ ข้อเรียกร้องที่แฝงด้วยความสิ้นหวัง ข้อเรียกร้องของ "ก๊อด'ส อาร์มี่" ในครั้งนี้ สะท้อนถึงความสิ้นหวังของพวกเขา - ให้หยุดยิงปืนใหญ่ที่ชายแดน ซึ่งกระทบต่อชีวิตผู้อพยพ - เรียกร้องให้รัฐบาลไทย ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม แก่ผู้อพยพชาวกะเหรี่ยง - เปิดชายแดนไทย-พม่า เพื่อให้ผู้อพยพมีที่พักพิง - กดดันรัฐบาลพม่า ให้หยุดการสู้รบ - นำแพทย์และอุปกรณ์การแพทย์ ไปรักษากองกำลังกะเหรี่ยง ในชายแดน แม้ข้อเรียกร้องเหล่านี้ จะดูมีความหมายในแง่มนุษยธรรม แต่การกระทำของพวกเขา ได้ละเมิดอธิปไตยของไทย และสร้างความเสียหาย ต่อภาพลักษณ์ของกลุ่ม อย่างร้ายแรง แผนปฏิบัติการช่วยเหลือ รัฐบาลไทยเผชิญกับ ทางเลือกที่ยากลำบาก ระหว่างการตอบสนอง ต่อข้อเรียกร้องของผู้ก่อเหตุ หรือการใช้กำลัง เพื่อยุติสถานการณ์ ในที่สุด พล.อ.สุรยุทธ จุลานนท์ ผู้บัญชาการกองทัพบก ในขณะนั้น ได้วางแผนปฏิบัติการ ร่วมกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษ อรินทราช 26 และนเรศวร 261 เพื่อเข้าเคลียร์พื้นที่และช่วยเหลือตัวประกัน ปฏิบัติการช่วงชิงเวลา ในคืนวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2543 หลังการเจรจาที่ไม่เป็นผลสำเร็จ หน่วยปฏิบัติการพิเศษ ได้ตัดสินใจบุกยึดพื้นที่ในช่วงเวลาที่ผู้ก่อเหตุเริ่มอ่อนล้า ด้วยการจู่โจมอย่างรวดเร็ว และรัดกุม โดยสามารถสังหารผู้ก่อเหตุทั้งหมด 10 คน และช่วยเหลือตัวประกันได้สำเร็จ โดยไม่มีการสูญเสียชีวิต ของพลเรือน บทเรียนที่ได้รับ ความสำคัญของการประสานงานหลายฝ่าย เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึง การประสานงานอย่างมีประสิทธิภาพ ระหว่างกองทัพ ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสามารถลดความสูญเสีย ได้อย่างมาก จุดยืนของประเทศไทย การปฏิบัติการครั้งนี้ เป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่า ประเทศไทยจะไม่ยอมจำนน ต่อการก่อการร้าย และพร้อมที่จะปกป้องอธิปไตยของตน ผลกระทบต่อกลุ่มก๊อด'ส อาร์มี่ การสูญเสียผู้นำสำคัญ ในการปฏิบัติการครั้งนี้ ส่งผลให้กลุ่มก๊อด'ส อาร์มี่ อ่อนแอลงอย่างมาก และในที่สุด ก็สลายตัวลงในปีถัดมา 25 ปีผ่านไป บทเรียนสู่อนาคต เหตุการณ์ในวันนั้น ยังคงเป็นบทเรียนที่ยิ่งใหญ่ ให้แก่หน่วยงานด้านความมั่นคง และคนไทยทุกคน การเผชิญหน้ากับความท้าทายเช่นนี้ ต้องอาศัยความร่วมมือ ความเด็ดขาด และความเสียสละ จากทุกฝ่าย ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 241345 ม.ค. 2568 #GodsArmy #ราชบุรี #เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ #บุกโรงพยาบาล #ข่าวด่วนราชบุรี #กองกำลังติดอาวุธ #ประเทศไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 308 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts