• ผู้ต้องสงสัยรายแรกที่เกี่ยวข้องกับการโจมตีด้วยโดรนที่สนามบินฐานทัพอากาศรัสเซียในภูมิภาคอีร์คุตสค์ ถูกประกาศตามหาตัวจากหน่วยงานความมั่นคงของอีร์คุตสค์

    อาร์เทม ติโมฟีเยฟ (Артём Тимофеев) วัย 37 ปี เป็นชาวยูเครน เกิดในภูมิภาคซิตโตเมียร์ (Zhitomir) ของยูเครน ต่อมาย้ายมาอาศัยอยู่ที่เคียฟ

    ปี 2014 เขาย้ายมาอาศัยในรัสเซีย โดยเริ่มต้นอาศัยอยู่ในโดเนตสค์ (Donetsk) หลังจากนั้นย้ายมาอาศัยอยู่ในเชเลียบินสค์ (Chelyabinsk) ภูมิภาคอีร์คุตสค์

    จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่า ติโมฟีเยฟ มีชื่อเป็นเจ้าของรถบรรทุกสี่คันที่ใช้ลักลอบขนส่งโดรน โดยเขาเป็นคนว่าจ้างให้คนมาขับรถอีกทอดหนึ่ง และเป็นคนกำหนดจุดเพื่อให้รถจอดตามเส้นทางขนส่ง ซึ่งเป็นเส้นทางที่ใช้ในการโจมตีสนามบินของฐานทัพอากาศเบลายาในเขตอีร์คุตสค์

    ส่วนภรรยาและลูกชายของติโมฟีเยฟยังคงอาศัยอยู่ในยูเครน

    แม้ว่าทั้งคู่จะได้รับสัญชาติรัสเซียแล้ว แต่ยังคงเรียกตัวเองว่า "ผู้รักชาติยูเครน" และมักจะวิจารณ์ปฏิบัติการพิเศษทางทหารของปูตินมาตลอด

    นอกจากนี้ จากการสืบสวนในเชิงลึกของเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง พบว่าติโมฟีเยฟ เป็นหนึ่งในนักเคลื่อนไหวที่สนับสนุนยูเครน และมีส่วนเกี่ยวข้องในการประท้วงอย่างรุนแรงช่วงปี 2013-2014 หรือที่เรียกว่าเหตุการณ์ไมดาน (Maidan) ซึ่งเป็นช่วงที่เขาแฝงตัวเข้ามาอยู่ในรัสเซีย
    ผู้ต้องสงสัยรายแรกที่เกี่ยวข้องกับการโจมตีด้วยโดรนที่สนามบินฐานทัพอากาศรัสเซียในภูมิภาคอีร์คุตสค์ ถูกประกาศตามหาตัวจากหน่วยงานความมั่นคงของอีร์คุตสค์ อาร์เทม ติโมฟีเยฟ (Артём Тимофеев) วัย 37 ปี เป็นชาวยูเครน เกิดในภูมิภาคซิตโตเมียร์ (Zhitomir) ของยูเครน ต่อมาย้ายมาอาศัยอยู่ที่เคียฟ ปี 2014 เขาย้ายมาอาศัยในรัสเซีย โดยเริ่มต้นอาศัยอยู่ในโดเนตสค์ (Donetsk) หลังจากนั้นย้ายมาอาศัยอยู่ในเชเลียบินสค์ (Chelyabinsk) ภูมิภาคอีร์คุตสค์ จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่า ติโมฟีเยฟ มีชื่อเป็นเจ้าของรถบรรทุกสี่คันที่ใช้ลักลอบขนส่งโดรน โดยเขาเป็นคนว่าจ้างให้คนมาขับรถอีกทอดหนึ่ง และเป็นคนกำหนดจุดเพื่อให้รถจอดตามเส้นทางขนส่ง ซึ่งเป็นเส้นทางที่ใช้ในการโจมตีสนามบินของฐานทัพอากาศเบลายาในเขตอีร์คุตสค์ ส่วนภรรยาและลูกชายของติโมฟีเยฟยังคงอาศัยอยู่ในยูเครน แม้ว่าทั้งคู่จะได้รับสัญชาติรัสเซียแล้ว แต่ยังคงเรียกตัวเองว่า "ผู้รักชาติยูเครน" และมักจะวิจารณ์ปฏิบัติการพิเศษทางทหารของปูตินมาตลอด นอกจากนี้ จากการสืบสวนในเชิงลึกของเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง พบว่าติโมฟีเยฟ เป็นหนึ่งในนักเคลื่อนไหวที่สนับสนุนยูเครน และมีส่วนเกี่ยวข้องในการประท้วงอย่างรุนแรงช่วงปี 2013-2014 หรือที่เรียกว่าเหตุการณ์ไมดาน (Maidan) ซึ่งเป็นช่วงที่เขาแฝงตัวเข้ามาอยู่ในรัสเซีย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 15 มุมมอง 0 รีวิว
  • รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต วิเคราะห์งบประมาณ 2569: เครื่องมือพยุงอำนาจ หรือแผนพัฒนาชาติ?

    ร่างงบประมาณ 3.78 ล้านล้านของรัฐบาลแพทองธาร กำลังถูกตั้งคำถามว่าเพื่อประชาชนหรือเพื่อฐานเสียงทางการเมือง?

    การจัดทำร่าง งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ซึ่งมีวงเงินกว่า 3.78 ล้านล้านบาท กำลังกลายเป็นประเด็นร้อน ไม่ใช่แค่เพราะเม็ดเงินมหาศาล แต่เพราะมันสะท้อนว่า รัฐบาลบริหาร “อำนาจ” และ “ความคาดหวังของประชาชน” อย่างไร

    เมื่อมองผ่านมุม เศรษฐศาสตร์การเมือง—ซึ่งวิเคราะห์การใช้ทรัพยากรภายใต้แรงจูงใจทางอำนาจและผลประโยชน์ทางการเมือง—คำถามใหญ่คือ งบนี้ออกแบบเพื่อ “พัฒนาชาติ” หรือแค่ “พยุงอำนาจ”?

    1. จากดิจิทัลวอลเล็ต สู่ท้องถิ่น: กลยุทธ์รักษาฐานเสียง?

    รัฐบาลโยกงบกว่า 157,000 ล้านบาท จากโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ไปสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) พร้อมเปิดให้ยื่นขอใช้งบในเวลาเพียง 3 วัน

    นี่อาจไม่ใช่การกระจายงบอย่างมีแผน แต่คือการ “ป้อนงบ” ให้กับเครือข่ายการเมืองท้องถิ่น ซึ่งสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ฐานเสียงสำคัญ

    2. กู้เงิน 8.6 แสนล้าน: ลงทุนเพื่ออนาคต หรือซื้อเวลา?

    การกู้เงินขาดดุลสูงสุดในรอบ 30 ปี สะท้อนแรงกดดันจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และความคาดหวังต่อรัฐบาลใหม่ แต่อีกด้านก็มีคำถามว่า เม็ดเงินเหล่านี้จะถูกใช้ “อย่างยั่งยืน” หรือไม่?

    การไม่มีรายละเอียดชัดเจนเกี่ยวกับโครงการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนระยะยาว ยิ่งทำให้เกิดข้อกังขาว่า นี่คือการใช้เงินเพื่อ “ผลทางการเมืองในระยะสั้น” มากกว่าการปฏิรูปเศรษฐกิจจริงจัง

    3. รัฐบาลผสม กับการจัดงบแบบแบ่งเค้ก

    การที่รัฐบาลเป็นรัฐบาลผสม ทำให้การจัดสรรงบประมาณกลายเป็นเวทีต่อรองอำนาจ
    การจัดสรรงบจำนวนมากไปยังพื้นที่ฐานเสียง และการบริหารงบกลางแบบไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ ชี้ว่าการเมืองภายในรัฐบาลส่งผลต่อการใช้งบมากกว่าความจำเป็นของประเทศ

    4. งบปี 2569 ไม่ตอบโจทย์โลกใหม่?

    แม้รัฐบาลจะพูดถึง “Soft Power” และ การผลักดันเศรษฐกิจสร้างสรรค์ แต่งบปี 2569 กลับไม่มีทิศทางชัดเจนในเรื่อง การลงทุนด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม หรือการพัฒนาทักษะแรงงาน

    ในโลกที่เปลี่ยนเร็ว ไทยกลับยังเดินตามโมเดล “ทุ่มงบก่อสร้าง” ที่เห็นผลง่าย แต่มักไม่ตอบโจทย์ในระยะยาว โดยเฉพาะการพัฒนาปัญญาและเพิ่มทักษะแก่ประชาชน

    5. เหลื่อมล้ำยังอยู่ งบไม่ถึงชายขอบ

    การจัดงบยังคง “กระจุกตัวในเมืองใหญ่” ขณะที่งบพัฒนาจังหวัดเล็ก ๆ หรือจังหวัดชายแดนถูกลดลง งบด้านความมั่นคงกลับเพิ่มขึ้น

    ทั้งหมดนี้สะท้อนแนวคิดการบริหารที่เน้นการ “ควบคุม” มากกว่าการ “พัฒนา” ซึ่งอาจยิ่งทำให้ความเหลื่อมล้ำฝังรากลึกลงไปอีก

    บทสรุป: เมื่อ “งบประมาณ” กลายเป็นสนามอำนาจ

    งบประมาณปี 2569 ไม่ได้เป็นเพียงแค่ชุดตัวเลข แต่คือกระจกสะท้อนว่า รัฐบาลกำลังใช้อำนาจเพื่อใคร และอย่างไร การกระจายงบแบบไม่ทั่วถึง การกู้เงินมหาศาลโดยไร้ทิศทางระยะยาว และการเมืองแบบอุปถัมภ์ที่ฝังรากลึก ล้วนชี้ว่ารัฐบาลกำลังให้ความสำคัญกับ “เสถียรภาพทางการเมือง” มากกว่าการ “พัฒนาที่ยั่งยืน”

    หากอำนาจรัฐยังใช้งบประมาณเป็นเชือกผูกโยงฐานเสียง มากกว่าการเปิดทางให้โอกาสไหลถึงประชาชนทั้งแผ่นดิน

    ความมั่งคั่งก็จะกระจุกอยู่ในหมู่ชนชั้นนำและนักการเมืองเจ้าถิ่น ขณะที่คนส่วนใหญ่จะยังจมปลักอยู่ในทะเลแห่งความเหลื่อมล้ำ—ไร้ฝั่งฝัน ไร้เส้นทางรอด”
    รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต วิเคราะห์งบประมาณ 2569: เครื่องมือพยุงอำนาจ หรือแผนพัฒนาชาติ? ร่างงบประมาณ 3.78 ล้านล้านของรัฐบาลแพทองธาร กำลังถูกตั้งคำถามว่าเพื่อประชาชนหรือเพื่อฐานเสียงทางการเมือง? การจัดทำร่าง งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ซึ่งมีวงเงินกว่า 3.78 ล้านล้านบาท กำลังกลายเป็นประเด็นร้อน ไม่ใช่แค่เพราะเม็ดเงินมหาศาล แต่เพราะมันสะท้อนว่า รัฐบาลบริหาร “อำนาจ” และ “ความคาดหวังของประชาชน” อย่างไร เมื่อมองผ่านมุม เศรษฐศาสตร์การเมือง—ซึ่งวิเคราะห์การใช้ทรัพยากรภายใต้แรงจูงใจทางอำนาจและผลประโยชน์ทางการเมือง—คำถามใหญ่คือ งบนี้ออกแบบเพื่อ “พัฒนาชาติ” หรือแค่ “พยุงอำนาจ”? 1. จากดิจิทัลวอลเล็ต สู่ท้องถิ่น: กลยุทธ์รักษาฐานเสียง? รัฐบาลโยกงบกว่า 157,000 ล้านบาท จากโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ไปสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) พร้อมเปิดให้ยื่นขอใช้งบในเวลาเพียง 3 วัน นี่อาจไม่ใช่การกระจายงบอย่างมีแผน แต่คือการ “ป้อนงบ” ให้กับเครือข่ายการเมืองท้องถิ่น ซึ่งสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ฐานเสียงสำคัญ 2. กู้เงิน 8.6 แสนล้าน: ลงทุนเพื่ออนาคต หรือซื้อเวลา? การกู้เงินขาดดุลสูงสุดในรอบ 30 ปี สะท้อนแรงกดดันจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และความคาดหวังต่อรัฐบาลใหม่ แต่อีกด้านก็มีคำถามว่า เม็ดเงินเหล่านี้จะถูกใช้ “อย่างยั่งยืน” หรือไม่? การไม่มีรายละเอียดชัดเจนเกี่ยวกับโครงการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนระยะยาว ยิ่งทำให้เกิดข้อกังขาว่า นี่คือการใช้เงินเพื่อ “ผลทางการเมืองในระยะสั้น” มากกว่าการปฏิรูปเศรษฐกิจจริงจัง 3. รัฐบาลผสม กับการจัดงบแบบแบ่งเค้ก การที่รัฐบาลเป็นรัฐบาลผสม ทำให้การจัดสรรงบประมาณกลายเป็นเวทีต่อรองอำนาจ การจัดสรรงบจำนวนมากไปยังพื้นที่ฐานเสียง และการบริหารงบกลางแบบไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ ชี้ว่าการเมืองภายในรัฐบาลส่งผลต่อการใช้งบมากกว่าความจำเป็นของประเทศ 4. งบปี 2569 ไม่ตอบโจทย์โลกใหม่? แม้รัฐบาลจะพูดถึง “Soft Power” และ การผลักดันเศรษฐกิจสร้างสรรค์ แต่งบปี 2569 กลับไม่มีทิศทางชัดเจนในเรื่อง การลงทุนด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม หรือการพัฒนาทักษะแรงงาน ในโลกที่เปลี่ยนเร็ว ไทยกลับยังเดินตามโมเดล “ทุ่มงบก่อสร้าง” ที่เห็นผลง่าย แต่มักไม่ตอบโจทย์ในระยะยาว โดยเฉพาะการพัฒนาปัญญาและเพิ่มทักษะแก่ประชาชน 5. เหลื่อมล้ำยังอยู่ งบไม่ถึงชายขอบ การจัดงบยังคง “กระจุกตัวในเมืองใหญ่” ขณะที่งบพัฒนาจังหวัดเล็ก ๆ หรือจังหวัดชายแดนถูกลดลง งบด้านความมั่นคงกลับเพิ่มขึ้น ทั้งหมดนี้สะท้อนแนวคิดการบริหารที่เน้นการ “ควบคุม” มากกว่าการ “พัฒนา” ซึ่งอาจยิ่งทำให้ความเหลื่อมล้ำฝังรากลึกลงไปอีก บทสรุป: เมื่อ “งบประมาณ” กลายเป็นสนามอำนาจ งบประมาณปี 2569 ไม่ได้เป็นเพียงแค่ชุดตัวเลข แต่คือกระจกสะท้อนว่า รัฐบาลกำลังใช้อำนาจเพื่อใคร และอย่างไร การกระจายงบแบบไม่ทั่วถึง การกู้เงินมหาศาลโดยไร้ทิศทางระยะยาว และการเมืองแบบอุปถัมภ์ที่ฝังรากลึก ล้วนชี้ว่ารัฐบาลกำลังให้ความสำคัญกับ “เสถียรภาพทางการเมือง” มากกว่าการ “พัฒนาที่ยั่งยืน” หากอำนาจรัฐยังใช้งบประมาณเป็นเชือกผูกโยงฐานเสียง มากกว่าการเปิดทางให้โอกาสไหลถึงประชาชนทั้งแผ่นดิน ความมั่งคั่งก็จะกระจุกอยู่ในหมู่ชนชั้นนำและนักการเมืองเจ้าถิ่น ขณะที่คนส่วนใหญ่จะยังจมปลักอยู่ในทะเลแห่งความเหลื่อมล้ำ—ไร้ฝั่งฝัน ไร้เส้นทางรอด”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 38 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้หญิงไม่อาจชดเชยความมั่นคงในการทำงานที่ผู้ชายสูญเสียไปได้ เพราะความเป็นหญิงทำให้ตำแหน่งงานของเธอไม่มั่นคงในสังคมที่กีดกันทางเพศฝังรากลึกอย่างญี่ปุ่น ประมาณร้อยละ 50 ของผู้หญิงไม่กลับเข้าสู่ตลาดงานอีกหลังจากมีลูกคนแรก” และหากกลับเข้ามาก็จะไม่ได้ รับค่าจ้างที่เป็นธรรม ความแตกต่างของค่าจ้างระหว่างผู้หญิงทำอาชีพเดียวกันในญี่ปุ่นนับว่าสูงที่สุดในโลก เรื่องนี้ญี่ปุ่นแย่ยิ่งกว่าอาเซอร์ไบจานเสียอีก” ครอบครัวของผู้หญิงจะกดดันอย่างมากเพื่อให้พวกเธออยู่บ้าน “ผู้หญิงญี่ปุ่นไม่ต้องการให้ผู้หญิงคนอื่นดูแลลูกๆ ขอให้ถือเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ค่ะ” ผู้หญิงอิสราเอลที่เคยอยู่ญี่ปุ่นมาหลายปี บอกกับผมเธอทำงานที่ศูนย์รับเลี้ยงเด็กเอกชนแห่งหนึ่ง “มีศูนย์รับเลี้ยงเด็กระหว่างวัน ทั้งของเอกชนและของรัฐบาล แต่ความคิดที่จะจ้างพี่เลี้ยงไว้ประจำแทบไม่มีเลย แปลว่าทันทีที่เด็กเกิด(การเป็นแม่) ก็กลายเป็น งานประจำทันที”

    จากหนังสือ #โลกาปฏิวัติ #Revolt
    ผู้หญิงไม่อาจชดเชยความมั่นคงในการทำงานที่ผู้ชายสูญเสียไปได้ เพราะความเป็นหญิงทำให้ตำแหน่งงานของเธอไม่มั่นคงในสังคมที่กีดกันทางเพศฝังรากลึกอย่างญี่ปุ่น ประมาณร้อยละ 50 ของผู้หญิงไม่กลับเข้าสู่ตลาดงานอีกหลังจากมีลูกคนแรก” และหากกลับเข้ามาก็จะไม่ได้ รับค่าจ้างที่เป็นธรรม ความแตกต่างของค่าจ้างระหว่างผู้หญิงทำอาชีพเดียวกันในญี่ปุ่นนับว่าสูงที่สุดในโลก เรื่องนี้ญี่ปุ่นแย่ยิ่งกว่าอาเซอร์ไบจานเสียอีก” ครอบครัวของผู้หญิงจะกดดันอย่างมากเพื่อให้พวกเธออยู่บ้าน “ผู้หญิงญี่ปุ่นไม่ต้องการให้ผู้หญิงคนอื่นดูแลลูกๆ ขอให้ถือเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ค่ะ” ผู้หญิงอิสราเอลที่เคยอยู่ญี่ปุ่นมาหลายปี บอกกับผมเธอทำงานที่ศูนย์รับเลี้ยงเด็กเอกชนแห่งหนึ่ง “มีศูนย์รับเลี้ยงเด็กระหว่างวัน ทั้งของเอกชนและของรัฐบาล แต่ความคิดที่จะจ้างพี่เลี้ยงไว้ประจำแทบไม่มีเลย แปลว่าทันทีที่เด็กเกิด(การเป็นแม่) ก็กลายเป็น งานประจำทันที” จากหนังสือ #โลกาปฏิวัติ #Revolt
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 23 มุมมอง 0 รีวิว
  • เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ๓ มิถุนายน ๒๕๖๘ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระดำรัสถวายพระพร ความว่า“อภิลักขิตสมัยเฉลิมพระชนมพรรษาของ สมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ได้เวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่ง อาตมภาพในนามคณะสงฆ์ ขอถวายพระพร ให้ทรงพระกำลังแกล้วกล้า ในอันที่พิทักษ์รักษาประเทศชาติ พระบวรพุทธศาสนา และสนองพระบรมราโชบายของสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้พระราชสวามี ให้บรรลุผลสัมฤทธิ์โดยพร้อมพรั่ง สมดั่งพระราชปรารถนาทุกประการ สมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ทรงพิสูจน์พระองค์ให้เป็นที่ประจักษ์แก่พสกนิกรทั่วหน้า และมหาชนชาวโลก ว่าทรงมั่นคงในพระราชสัตยาธิษฐาน ในอันที่จะทรงสืบสาน รักษา และต่อยอดพระราชจริยวัตร พระราชกรณียกิจ และพระราชปณิธานของสมเด็จบรมบพิตร สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ด้วยความจงรักภักดีต่อพระบรมราชจักรีวงศ์ จึงทรงดำรงพระองค์เป็นราชนารี ผู้มีพระราชอัธยาศัยประณีต ทรงเลือกเฟ้นคุณธรรมอันแยบคายหลายสถาน เป็นแรงบันดาลพระราชหฤทัย ให้ทรงสามารถรักษาพระกายสุจริต และพระวจีสุจริต พอประมาณเหมาะสม มิมากเกินไป มิน้อยเกินไป เป็นดุลยภาวะอันสงบ สุขุม สอดคล้องกับสถานการณ์ มิทรงไว้อย่างวางพระยศ แต่ก็สดใส สมสง่า ปรากฏเป็นความชื่นบานแก่ผู้ได้เฝ้าชมพระบารมี ในที่ทุกสถานและในกาลทุกเมื่อ การที่ทรงเพียรหมั่นขยัน รอบคอบ และจัดการพระราชกิจจานุกิจ ราชการในพระองค์ ตลอดจนราชการแผ่นดินโดยเรียบร้อยเช่นนี้ ช่วยเสริมส่งพระบรมเดชานุภาพแห่งพระราชสวามี ผู้ทรงดำรงพระราชสถานะพระประมุขของชาติ และอัครศาสนูปถัมภก ให้ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจ ได้อย่างราบรื่นบริบูรณ์ สมด้วยพระพุทธานุศาสนี ที่ว่าอุฏฺฐาตา กมฺมเธยฺเยสุ อปฺปมตฺโต วิจกฺขโณ สุสํวิหิตกมฺมนฺโต ส ราชวสตึ วเส.แปลความว่า “ผู้หมั่นในการงาน ไม่ประมาท เป็นผู้รอบคอบ จัดการงานเรียบร้อย. จึงควรอยู่ในราชการ.” ด้วยประการฉะนี้ ด้วยเดชะแห่งสัจจวาจา และอานุภาพคุณพระศรีรัตนตรัย พร้อมด้วยพระราชกุศลธรรมจริยาทุกสถาน โปรดอภิบาลรักษาสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ให้ทรงพระเจริญด้วยจตุรพิธพรชัย เสด็จสถิตเป็นมิ่งขวัญอันมงคล ของมหาชนนิกรทั่วหน้า ตลอดกาลนาน เทอญ.”
    เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ๓ มิถุนายน ๒๕๖๘ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระดำรัสถวายพระพร ความว่า“อภิลักขิตสมัยเฉลิมพระชนมพรรษาของ สมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ได้เวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่ง อาตมภาพในนามคณะสงฆ์ ขอถวายพระพร ให้ทรงพระกำลังแกล้วกล้า ในอันที่พิทักษ์รักษาประเทศชาติ พระบวรพุทธศาสนา และสนองพระบรมราโชบายของสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้พระราชสวามี ให้บรรลุผลสัมฤทธิ์โดยพร้อมพรั่ง สมดั่งพระราชปรารถนาทุกประการ สมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ทรงพิสูจน์พระองค์ให้เป็นที่ประจักษ์แก่พสกนิกรทั่วหน้า และมหาชนชาวโลก ว่าทรงมั่นคงในพระราชสัตยาธิษฐาน ในอันที่จะทรงสืบสาน รักษา และต่อยอดพระราชจริยวัตร พระราชกรณียกิจ และพระราชปณิธานของสมเด็จบรมบพิตร สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ด้วยความจงรักภักดีต่อพระบรมราชจักรีวงศ์ จึงทรงดำรงพระองค์เป็นราชนารี ผู้มีพระราชอัธยาศัยประณีต ทรงเลือกเฟ้นคุณธรรมอันแยบคายหลายสถาน เป็นแรงบันดาลพระราชหฤทัย ให้ทรงสามารถรักษาพระกายสุจริต และพระวจีสุจริต พอประมาณเหมาะสม มิมากเกินไป มิน้อยเกินไป เป็นดุลยภาวะอันสงบ สุขุม สอดคล้องกับสถานการณ์ มิทรงไว้อย่างวางพระยศ แต่ก็สดใส สมสง่า ปรากฏเป็นความชื่นบานแก่ผู้ได้เฝ้าชมพระบารมี ในที่ทุกสถานและในกาลทุกเมื่อ การที่ทรงเพียรหมั่นขยัน รอบคอบ และจัดการพระราชกิจจานุกิจ ราชการในพระองค์ ตลอดจนราชการแผ่นดินโดยเรียบร้อยเช่นนี้ ช่วยเสริมส่งพระบรมเดชานุภาพแห่งพระราชสวามี ผู้ทรงดำรงพระราชสถานะพระประมุขของชาติ และอัครศาสนูปถัมภก ให้ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจ ได้อย่างราบรื่นบริบูรณ์ สมด้วยพระพุทธานุศาสนี ที่ว่าอุฏฺฐาตา กมฺมเธยฺเยสุ อปฺปมตฺโต วิจกฺขโณ สุสํวิหิตกมฺมนฺโต ส ราชวสตึ วเส.แปลความว่า “ผู้หมั่นในการงาน ไม่ประมาท เป็นผู้รอบคอบ จัดการงานเรียบร้อย. จึงควรอยู่ในราชการ.” ด้วยประการฉะนี้ ด้วยเดชะแห่งสัจจวาจา และอานุภาพคุณพระศรีรัตนตรัย พร้อมด้วยพระราชกุศลธรรมจริยาทุกสถาน โปรดอภิบาลรักษาสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ให้ทรงพระเจริญด้วยจตุรพิธพรชัย เสด็จสถิตเป็นมิ่งขวัญอันมงคล ของมหาชนนิกรทั่วหน้า ตลอดกาลนาน เทอญ.”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 34 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีการเผยแพร่เอกสารที่อ้างว่าเป็นบันทึกข้อตกลงของรัสเซียในการเจรจาที่อิสตันบูล:

    รัสเซียได้ร่างแผนงานที่ครอบคลุมสำหรับการหยุดยิงและการแก้ปัญหาทางการเมืองในยูเครนตามรายละเอียดในบันทึกข้อตกลงที่ส่งมอบให้กับคณะผู้แทนยูเครนในอิสตันบูล เอกสารดังกล่าวมีเงื่อนไขที่ชัดเจนซึ่งออกแบบมาเพื่อยุติการสู้รบและสร้างเสถียรภาพที่ยั่งยืน

    👉เงื่อนไขการหยุดยิงและการถอนทหาร
    🔸การถอนกำลังทหารยูเครนทั้งหมด:
    เงื่อนไขแรกและสำคัญที่สุดสำหรับการหยุดยิงคือการถอนกำลังทหารยูเครนทั้งหมดออกจากดินแดนของสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์และลูฮันสค์ (DPR และ LPR) รวมถึงภูมิภาคเคอร์ซอนและซาโปโรซี ซึ่งมอสโกถือว่าทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของสหพันธรัฐรัสเซีย

    🔸กรอบเวลาที่ปฏิบัติตามใน 30 วัน:
    ยูเครนต้องถอนกำลังทหารทั้งหมดออกจากดินแดนของรัสเซีย รวมถึงดอนบาสและภูมิภาคโนโวรอสซียา (Novorossiya - รัสเซียใหม่ ซึ่งเป็นภูมิภาคทางตะวันออกและใต้ของยูเครน ในที่นี้คือสี่ภูมิภาคใหม่รวมไครเมีย) ภายใน 30 วันนับจากวันที่เริ่มใช้การหยุดยิง

    🔸ข้อจำกัดการเคลื่อนย้ายทหาร: ในระหว่างการหยุดยิง ยูเครนจะถูกห้ามไม่ให้ส่งกำลังทหารกลับไปประจำการอีก ยกเว้นการถอยกลับจากตำแหน่งที่ตกลงกันไว้
    .

    👉การยอมรับความเป็นจริงใหม่บนดินแดนใหม่
    🔸การยอมรับการเปลี่ยนแปลงอาณาเขตในระดับนานาชาติ:
    รัสเซียเรียกร้องให้มีการรับรองทางกฎหมายระดับโลกว่าไครเมีย ดอนบาส และโนโวรอสซียาเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย

    🔸สถานะเป็นกลางสำหรับยูเครน:
    จำเป็นต้องมีการประกาศความเป็นกลางอย่างเป็นทางการ ซึ่งจะมีผลทำให้ยูเครนถูกห้ามไม่ให้มีพันธมิตรทางทหารในอนาคตหรือส่งทหารต่างชาติเข้ามาประจำการ

    🔸การห้ามอาวุธนิวเคลียร์:
    ยูเครนจะถูกห้ามไม่ให้ยอมรับหรือนำอาวุธนิวเคลียร์เข้ามาไว้ ไม่ว่าจะโดยตรงหรือผ่านผู้กระทำการต่างชาติ
    .

    👉การแก้ปัญหาทางการเมืองและการปฏิรูปในประเทศ
    🔸การเลือกตั้งระดับชาติในยูเครน:
    ข้อเสนอของรัสเซียรวมถึงการเปลี่ยนผ่านไปสู่การเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย โดยต้องยกเลิกกฎอัยการศึก และจัดให้มีการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีและสมาชิกรัฐสภาภายใน 100 วัน

    🔸สนธิสัญญาสันติภาพที่จะตามมาหลังจากการเลือกตั้ง:
    สนธิสัญญาสันติภาพที่มีผลผูกพันทางกฎหมายจะได้รับการลงนามหลังจากการเลือกตั้งเพื่อทำให้การแก้ปัญหาถูกต้องตามกฎหมาย

    🔸การบังคับใช้ที่ได้รับการสนับสนุนจากสหประชาชาติ:
    สนธิสัญญาจะต้องได้รับการรับรองโดยมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่มีผลผูกพันทางกฎหมาย โดยให้ผูกพันธ์กับกฎหมายระหว่างประเทศ

    .
    👉บทบัญญัติด้านมนุษยธรรมและกฎหมาย

    🔸การปล่อยตัวผู้ถูกคุมขัง:
    ยูเครนจะต้องนิรโทษกรรมแก่นักโทษการเมือง และปล่อยพลเรือนและทหารที่ถูกคุมขังจากคดีการเมือง (ที่เกี่ยวข้องกับรัสเซีย) ทั้งหมดในช่วงที่ผ่านมา

    🔸การคุ้มครองประชากรที่พูดภาษารัสเซีย:
    พลเมืองจะต้องมีสิทธิและเสรีภาพอย่างเต็มที่ ในการพูดภาษารัสเซีย โดยเฉพาะในยูเครนตอนใต้และตะวันออก

    🔸การละทิ้งการเรียกร้องร่วมกัน:
    ทั้งรัสเซียและยูเครนจะต้องสละการเรียกร้องค่าเสียหายที่เกี่ยวข้องกับสงคราม โดยรับประกันว่าจะไม่มีการเรียกร้องค่าชดเชยตามกฎหมาย

    .
    👉การคว่ำบาตรและการมีส่วนร่วมของต่างชาติ
    🔸ต้องยกเลิกการคว่ำบาตร:
    ยูเครนจะต้องยกเลิกการคว่ำบาตรรัสเซียทั้งหมดในปัจจุบัน และมุ่งมั่นที่จะไม่นำการคว่ำบาตรใหม่มาใช้

    🔸การยุติการสนับสนุนทางทหารจากชาติตะวันตก
    มีการเผยแพร่เอกสารที่อ้างว่าเป็นบันทึกข้อตกลงของรัสเซียในการเจรจาที่อิสตันบูล: รัสเซียได้ร่างแผนงานที่ครอบคลุมสำหรับการหยุดยิงและการแก้ปัญหาทางการเมืองในยูเครนตามรายละเอียดในบันทึกข้อตกลงที่ส่งมอบให้กับคณะผู้แทนยูเครนในอิสตันบูล เอกสารดังกล่าวมีเงื่อนไขที่ชัดเจนซึ่งออกแบบมาเพื่อยุติการสู้รบและสร้างเสถียรภาพที่ยั่งยืน 👉เงื่อนไขการหยุดยิงและการถอนทหาร 🔸การถอนกำลังทหารยูเครนทั้งหมด: เงื่อนไขแรกและสำคัญที่สุดสำหรับการหยุดยิงคือการถอนกำลังทหารยูเครนทั้งหมดออกจากดินแดนของสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์และลูฮันสค์ (DPR และ LPR) รวมถึงภูมิภาคเคอร์ซอนและซาโปโรซี ซึ่งมอสโกถือว่าทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของสหพันธรัฐรัสเซีย 🔸กรอบเวลาที่ปฏิบัติตามใน 30 วัน: ยูเครนต้องถอนกำลังทหารทั้งหมดออกจากดินแดนของรัสเซีย รวมถึงดอนบาสและภูมิภาคโนโวรอสซียา (Novorossiya - รัสเซียใหม่ ซึ่งเป็นภูมิภาคทางตะวันออกและใต้ของยูเครน ในที่นี้คือสี่ภูมิภาคใหม่รวมไครเมีย) ภายใน 30 วันนับจากวันที่เริ่มใช้การหยุดยิง 🔸ข้อจำกัดการเคลื่อนย้ายทหาร: ในระหว่างการหยุดยิง ยูเครนจะถูกห้ามไม่ให้ส่งกำลังทหารกลับไปประจำการอีก ยกเว้นการถอยกลับจากตำแหน่งที่ตกลงกันไว้ . 👉การยอมรับความเป็นจริงใหม่บนดินแดนใหม่ 🔸การยอมรับการเปลี่ยนแปลงอาณาเขตในระดับนานาชาติ: รัสเซียเรียกร้องให้มีการรับรองทางกฎหมายระดับโลกว่าไครเมีย ดอนบาส และโนโวรอสซียาเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย 🔸สถานะเป็นกลางสำหรับยูเครน: จำเป็นต้องมีการประกาศความเป็นกลางอย่างเป็นทางการ ซึ่งจะมีผลทำให้ยูเครนถูกห้ามไม่ให้มีพันธมิตรทางทหารในอนาคตหรือส่งทหารต่างชาติเข้ามาประจำการ 🔸การห้ามอาวุธนิวเคลียร์: ยูเครนจะถูกห้ามไม่ให้ยอมรับหรือนำอาวุธนิวเคลียร์เข้ามาไว้ ไม่ว่าจะโดยตรงหรือผ่านผู้กระทำการต่างชาติ . 👉การแก้ปัญหาทางการเมืองและการปฏิรูปในประเทศ 🔸การเลือกตั้งระดับชาติในยูเครน: ข้อเสนอของรัสเซียรวมถึงการเปลี่ยนผ่านไปสู่การเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย โดยต้องยกเลิกกฎอัยการศึก และจัดให้มีการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีและสมาชิกรัฐสภาภายใน 100 วัน 🔸สนธิสัญญาสันติภาพที่จะตามมาหลังจากการเลือกตั้ง: สนธิสัญญาสันติภาพที่มีผลผูกพันทางกฎหมายจะได้รับการลงนามหลังจากการเลือกตั้งเพื่อทำให้การแก้ปัญหาถูกต้องตามกฎหมาย 🔸การบังคับใช้ที่ได้รับการสนับสนุนจากสหประชาชาติ: สนธิสัญญาจะต้องได้รับการรับรองโดยมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่มีผลผูกพันทางกฎหมาย โดยให้ผูกพันธ์กับกฎหมายระหว่างประเทศ . 👉บทบัญญัติด้านมนุษยธรรมและกฎหมาย 🔸การปล่อยตัวผู้ถูกคุมขัง: ยูเครนจะต้องนิรโทษกรรมแก่นักโทษการเมือง และปล่อยพลเรือนและทหารที่ถูกคุมขังจากคดีการเมือง (ที่เกี่ยวข้องกับรัสเซีย) ทั้งหมดในช่วงที่ผ่านมา 🔸การคุ้มครองประชากรที่พูดภาษารัสเซีย: พลเมืองจะต้องมีสิทธิและเสรีภาพอย่างเต็มที่ ในการพูดภาษารัสเซีย โดยเฉพาะในยูเครนตอนใต้และตะวันออก 🔸การละทิ้งการเรียกร้องร่วมกัน: ทั้งรัสเซียและยูเครนจะต้องสละการเรียกร้องค่าเสียหายที่เกี่ยวข้องกับสงคราม โดยรับประกันว่าจะไม่มีการเรียกร้องค่าชดเชยตามกฎหมาย . 👉การคว่ำบาตรและการมีส่วนร่วมของต่างชาติ 🔸ต้องยกเลิกการคว่ำบาตร: ยูเครนจะต้องยกเลิกการคว่ำบาตรรัสเซียทั้งหมดในปัจจุบัน และมุ่งมั่นที่จะไม่นำการคว่ำบาตรใหม่มาใช้ 🔸การยุติการสนับสนุนทางทหารจากชาติตะวันตก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 80 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประเทศบูร์กินาฟาโซประกาศร่วมมือกับจีนในการติดตั้งกล้องวงจรปิด 900 ตัวทั่วประเทศ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ "Smart Burkina"

    โครงการนี้ยังรวมถึงการติดตั้งเครือข่ายใยแก้วนำแสงระยะทาง 800 กิโลเมตรเพื่อเชื่อมต่อระหว่างเมืองใหญ่ๆ

    โครงการนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงและความปลอดภัยสาธารณะ และเสริมสร้างทักษะของกองกำลังรักษาความปลอดภัยและการป้องกันประเทศ

    บริษัทจีน ได้แก่ Huawei และ China International Telecommunication Construction Corporation (CITCC) ได้รับสัญญาในการดำเนินโครงการนี้
    ประเทศบูร์กินาฟาโซประกาศร่วมมือกับจีนในการติดตั้งกล้องวงจรปิด 900 ตัวทั่วประเทศ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ "Smart Burkina" โครงการนี้ยังรวมถึงการติดตั้งเครือข่ายใยแก้วนำแสงระยะทาง 800 กิโลเมตรเพื่อเชื่อมต่อระหว่างเมืองใหญ่ๆ โครงการนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงและความปลอดภัยสาธารณะ และเสริมสร้างทักษะของกองกำลังรักษาความปลอดภัยและการป้องกันประเทศ บริษัทจีน ได้แก่ Huawei และ China International Telecommunication Construction Corporation (CITCC) ได้รับสัญญาในการดำเนินโครงการนี้
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 67 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพถ่ายดาวเทียมเพิ่มเติมที่ฐานทัพอากาศเบลายา (Belaya Air Base) ในแคว้นอีร์คุตสค์ (Irkutsk) ทางตะวันออกไกลของรัสเซีย ใกล้ชายแดนมองโกเลีย แสดงให้เห็นเครื่องบินทิ้งระเบิดโจมตีระยะไกล Tu-22M3 เพิ่มเติมอีก 3 ลำ ที่ได้รับความเสียหายระหว่างการโจมตีด้วยโดรน FPV จากหน่วยงานความมั่นคงของยูเครน (SBU) เมื่อวานนี้

    โพสต์ก่อนหน้านี้ จากภาพถ่ายดาวเทียม จะเห็น Tu-22M3 เพียง 1 ลำ ที่ถูกทำลาย

    .
    สำหรับรูปที่สอง เป็นภาพถ่ายดาวเทียมจากสถานที่เดียวกัน ซึ่งถูกถ่ายไว้เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 04:30 UTC
    ที่ฐานทัพอากาศแห่งนี้มีเครื่องบินจอดอยู่ดังต่อไปนี้:
    👉เครื่องบินทิ้งระเบิดเชิงยุทธศาสตร์ Tu-95MS (Bear-H) จำนวน 6 ลำ
    👉เครื่องบินทิ้งระเบิดพิสัยไกล Tu-22M3 จำนวน 39 ลำ
    👉เครื่องบินขนส่งทางทหาร Il Il-78M จำนวน 2 ลำ
    👉เครื่องบินขนส่งทางอากาศ Antonov An-26 จำนวน 6 ลำ
    👉เครื่องบินขนส่งทางอากาศ Antonov An-12 จำนวน 2 ลำ
    👉เครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ความเร็วเหนือเสียง Tu-160 Tupolev จำนวน 7 ลำ
    👉เครื่องบิน MiG-31 (Foxhound) จำนวน 30 ลำ
    ภาพถ่ายดาวเทียมเพิ่มเติมที่ฐานทัพอากาศเบลายา (Belaya Air Base) ในแคว้นอีร์คุตสค์ (Irkutsk) ทางตะวันออกไกลของรัสเซีย ใกล้ชายแดนมองโกเลีย แสดงให้เห็นเครื่องบินทิ้งระเบิดโจมตีระยะไกล Tu-22M3 เพิ่มเติมอีก 3 ลำ ที่ได้รับความเสียหายระหว่างการโจมตีด้วยโดรน FPV จากหน่วยงานความมั่นคงของยูเครน (SBU) เมื่อวานนี้ โพสต์ก่อนหน้านี้ จากภาพถ่ายดาวเทียม จะเห็น Tu-22M3 เพียง 1 ลำ ที่ถูกทำลาย . สำหรับรูปที่สอง เป็นภาพถ่ายดาวเทียมจากสถานที่เดียวกัน ซึ่งถูกถ่ายไว้เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 04:30 UTC ที่ฐานทัพอากาศแห่งนี้มีเครื่องบินจอดอยู่ดังต่อไปนี้: 👉เครื่องบินทิ้งระเบิดเชิงยุทธศาสตร์ Tu-95MS (Bear-H) จำนวน 6 ลำ 👉เครื่องบินทิ้งระเบิดพิสัยไกล Tu-22M3 จำนวน 39 ลำ 👉เครื่องบินขนส่งทางทหาร Il Il-78M จำนวน 2 ลำ 👉เครื่องบินขนส่งทางอากาศ Antonov An-26 จำนวน 6 ลำ 👉เครื่องบินขนส่งทางอากาศ Antonov An-12 จำนวน 2 ลำ 👉เครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ความเร็วเหนือเสียง Tu-160 Tupolev จำนวน 7 ลำ 👉เครื่องบิน MiG-31 (Foxhound) จำนวน 30 ลำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 97 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลุงหล่ะงงใจกับไต้หวัน บอกว่าตัวเองไม่ใช่จีน แต่จะทำอะไรต้องไปหารือสหรัฐฯ ?! คืออยากรัฐของอเมริกามากกว่า !??!

    🏭 TSMC อาจสร้างโรงงานผลิตชิปใน UAE: การเจรจากับสหรัฐฯ กลับมาอีกครั้ง

    Taiwan Semiconductor Manufacturing Company (TSMC) กำลังอยู่ในขั้นตอนการเจรจากับ รัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อพิจารณาการสร้าง โรงงานผลิตชิปในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ซึ่งอาจมีขนาดใกล้เคียงกับโรงงานที่กำลังสร้างใน รัฐแอริโซนา

    TSMC ได้พบกับ Steve Witkoff ทูตพิเศษของสหรัฐฯ ประจำตะวันออกกลาง และ MGX บริษัทลงทุนของรัฐบาล UAE เพื่อหารือเกี่ยวกับ การลงทุนและการสร้างโรงงานผลิตชิป

    ก่อนหน้านี้ Samsung และ TSMC เคยพิจารณาสร้างโรงงานใน UAE ในไตรมาสที่ 3 ปี 2024 แต่การเจรจาในอดีตไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจาก รัฐบาลสหรัฐฯ ต้องการควบคุมโรงงานโดยตรง ซึ่งไม่เป็นที่ยอมรับของ UAE

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - TSMC กำลังเจรจากับรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อสร้างโรงงานผลิตชิปใน UAE
    - โรงงานอาจมีขนาดใกล้เคียงกับโรงงานที่กำลังสร้างในรัฐแอริโซนา
    - TSMC พบกับ Steve Witkoff และ MGX เพื่อหารือเกี่ยวกับการลงทุน
    - Samsung และ TSMC เคยพิจารณาสร้างโรงงานใน UAE ในปี 2024 แต่การเจรจาไม่สำเร็จ
    - UAE ต้องการเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีของตะวันออกกลาง และได้รับอนุมัติให้ซื้อ Nvidia AI GPUs ผ่าน G42

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - รัฐบาลสหรัฐฯ ต้องการควบคุมโรงงานโดยตรง ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคต่อการเจรจา
    - UAE ไม่มีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเพียงพอในการสร้างและดำเนินงานโรงงานผลิตชิป
    - การดึงบุคลากรจากโรงงานอื่นของ TSMC อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานในสหรัฐฯ
    - ความสัมพันธ์ทางการเมืองระหว่าง UAE กับจีนและอิหร่านอาจเป็นปัจจัยเสี่ยงด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ

    UAE กำลังผลักดันให้ กลายเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีของตะวันออกกลาง และหากโครงการนี้สำเร็จ อาจช่วยให้ภูมิภาคมีความสามารถในการผลิตชิปขั้นสูง อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการเจรจาจะสามารถบรรลุข้อตกลงได้หรือไม่

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/tsmc-reopening-discussions-with-washington-to-build-chip-manufacturing-plant-in-uae-report
    ลุงหล่ะงงใจกับไต้หวัน บอกว่าตัวเองไม่ใช่จีน แต่จะทำอะไรต้องไปหารือสหรัฐฯ ?! คืออยากรัฐของอเมริกามากกว่า !??! 🏭 TSMC อาจสร้างโรงงานผลิตชิปใน UAE: การเจรจากับสหรัฐฯ กลับมาอีกครั้ง Taiwan Semiconductor Manufacturing Company (TSMC) กำลังอยู่ในขั้นตอนการเจรจากับ รัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อพิจารณาการสร้าง โรงงานผลิตชิปในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ซึ่งอาจมีขนาดใกล้เคียงกับโรงงานที่กำลังสร้างใน รัฐแอริโซนา TSMC ได้พบกับ Steve Witkoff ทูตพิเศษของสหรัฐฯ ประจำตะวันออกกลาง และ MGX บริษัทลงทุนของรัฐบาล UAE เพื่อหารือเกี่ยวกับ การลงทุนและการสร้างโรงงานผลิตชิป ก่อนหน้านี้ Samsung และ TSMC เคยพิจารณาสร้างโรงงานใน UAE ในไตรมาสที่ 3 ปี 2024 แต่การเจรจาในอดีตไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจาก รัฐบาลสหรัฐฯ ต้องการควบคุมโรงงานโดยตรง ซึ่งไม่เป็นที่ยอมรับของ UAE ✅ ข้อมูลจากข่าว - TSMC กำลังเจรจากับรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อสร้างโรงงานผลิตชิปใน UAE - โรงงานอาจมีขนาดใกล้เคียงกับโรงงานที่กำลังสร้างในรัฐแอริโซนา - TSMC พบกับ Steve Witkoff และ MGX เพื่อหารือเกี่ยวกับการลงทุน - Samsung และ TSMC เคยพิจารณาสร้างโรงงานใน UAE ในปี 2024 แต่การเจรจาไม่สำเร็จ - UAE ต้องการเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีของตะวันออกกลาง และได้รับอนุมัติให้ซื้อ Nvidia AI GPUs ผ่าน G42 ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - รัฐบาลสหรัฐฯ ต้องการควบคุมโรงงานโดยตรง ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคต่อการเจรจา - UAE ไม่มีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเพียงพอในการสร้างและดำเนินงานโรงงานผลิตชิป - การดึงบุคลากรจากโรงงานอื่นของ TSMC อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานในสหรัฐฯ - ความสัมพันธ์ทางการเมืองระหว่าง UAE กับจีนและอิหร่านอาจเป็นปัจจัยเสี่ยงด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ UAE กำลังผลักดันให้ กลายเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีของตะวันออกกลาง และหากโครงการนี้สำเร็จ อาจช่วยให้ภูมิภาคมีความสามารถในการผลิตชิปขั้นสูง อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการเจรจาจะสามารถบรรลุข้อตกลงได้หรือไม่ https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/tsmc-reopening-discussions-with-washington-to-build-chip-manufacturing-plant-in-uae-report
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 65 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..มนุษย์โง่ลงจริงๆนั้นล่ะ,โง่จากกระบวนการปกครองเพื่อปกครองคนโง่ง่ายกว่าคนไม่โง่,ใช่กฎหมายปกครองคนโง่สะดวกสบายกว่าคนไม่โง่,ควบคุมคนโง่ง่ายกว่าคนไม่โง่,คนโง่มีลักษณะความเป็นทาสที่เชื่อฟังมากกว่าคนไม่โง่ในสายตาของชนชั้นปกครองแบบรัฐบาลที่ปกครองประเทศนั้นๆ,ปัจจุบันอีลิทdeep stateชั่วเลวได้ควบคุมปกครองผู้นำผู้ปกครองในแต่ละประเทศทั่วโลกแล้ว,จึงเป็นไปเพื่อปกครองมนุษย์ให้โง่แบบเชิงฝูงชนได้ง่าย ไปไหนไปด้วยกันไปทางเดียวกันแบบเหมือนคนโง่เข้าใจว่าตนเองตัดสินใจเองไร้บังคับและเต็มใจทำอย่างชาญฉลาดแล้วก็ว่าแต่หารู้ไม่ว่ามันคือกับดักในกรอบความโง่ขององค์รวมทั้งหมดรอบโลกหรือทั่วโลก,ใครที่หลุดงานฉลาดคิดค้นความฉลาดออกมาสาระพัดจะถูกรัฐบาลประเทศนั้นๆกำจัดทิ้งหรือปิดกั้นหรือสร้างเงื่อนไขกติกามิให้มีบริบทออกสู่สาธารณะเพื่อกระจายความฉลาดสร้งสรรค์ให้ขยายกว้างขวางหรือต่อยอดใดๆได้,จะปล่อยควบคุมให้รู้หรือไม่ให้รู้จากรัฐบาลสแกนก่อนเท่านัันจึงจะให้เผยแผ่ออกสู่สาธารณะได้,หรือสร้างกลไกราคาสิ่งนั้นๆแพงมหาศาลโดยอ้างความคิดสร้างสรรค์นัันทำราคารายได้หาผลประโยชน์แก่มันได้,นี้คือตย.วิถีปกครองควบคุมมนุษย์อีกมุมด้าน ทำโง่ลงแบบไม่รู้ตัวทีละนิดให้สะดวกแก่การปกครอง ใครต่อต้านไม่เห็นด้วยก็เอากฎหมายเขียนดักการกระทำลงโทษกำจัดคนแบบนั้นเนียนๆอย่างชอบธรรมในสายตาคนทั่วไปว่าปกครองตามกติกาซึ่งกติกาต่างๆมันเองตีตราออกมาเพื่อมิให้คนคัดค้านเพื่อมิให้เห็นต่างเพื่อสะดวกต่อการทำคนให้โง่ลงเรื่อยๆได้ดีผ่านกาลเวลาในแต่ละยุคสมัยจนควบคุมเบ็ดเสร็จ,ยิ่งถ้าไทยเราหรือย่อมาไทยหากdeep stateโลกปกครองประเทศไทยหลังฉากจริง เช่นบ่อน้ำมันเต็มประเทศไทยมันก็ยึดครอบครองเอาเองแทนคนไทยหมดบนแผ่นดินไทยที่อ้างว่าต่างชาติมาลงทุนในนามได้สัมปทานแดกจากต่างชาติ นักวิชาการเต็มบ้านเต็มเมืองไม่กล้าออกมาพูดผ่านสื่อหลักไทยสักแอะ,ข้าราชการและสส.เต็มบ้านเต็มเมืองก็ไม่ออกมาประชุมบอกความจริงอะไรแก่ประชาชนว่าคนไทยภูกเอาเปรียบและเสียเปรียบแต่แรก,ปตท.เข้าตลาดหลักทรัพย์กำไรกลับทำกำไรดีขึ้นเสมอ,แต่ประชาชนใช้น้ำมันราคาแพงเสีย สินค้าทั่วประเทศแบะบริการแพงทั่วหน้าพร้อมกันในทุกๆครั้งที่ราคาน้ำมันปรับขึ้นเพื่อทำกำไร,เมื่อผิดพลาดก็ไม่เอาปตท.ออกจากตลาดSETหรือยุบการทำหน้าที่ของปตท.ไปมิให้มีบทบาทใดๆต่อพลังงานไทยเพราะเสมือนเอกชนเต็มตัวไปแล้วในความเป็นจริงเช่นนั้นโรงเรียนหรือรัฐวิสาหกิจอื่นๆก็เข้าตลาดsetไปหมดแล้ว,ตลาดsetจริงๆคือเอกชนเท่านั้นเข้าไปเล่น,หน่วยงานรัฐทุกๆกรณีห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวทุกๆกรณี,เพราะในอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบมันส่งผลกระทบต่อภาพรวมของประชาชนทั้งประเทศ,นี้คือวิถีทำประชาชนให้โง่ให้การปกครองทำได้สำเร็จอีกมุม,ทรัพยากรมากมายมีค่าของประเทศไทยด้วยวิถีปกครองที่deep stateสากลโลกข้ามชาติปกครองหลังฉากเรื่อยมาจึงเป็นอันมากถูกผ่องถ่ายทัังความมั่งคั่งร่ำรวยจนมั่นคงจากประชาชนไทยไปเป็นของต่างชาติหรือเอกชนไทยเองที่เลวชั่วหรือเป็นสมุนรับใช้หรือเป็นนอมินีในหมากมุกอีกตัวในวางสนุ๊คสร้างภาพว่ามิใช่ของต่างชาตินะก็ว่า,ตลอดวิถีการออกกฎหมายมากมายเป็นไปเพื่อควบคุมทาสควบคุมให้คนโง่ขึ้น ตัดขาการพึ่งพาตนเอง และทำให้ยากจนยิ่งสะดวกปกครอง,อาทิ ค่าปรับมากๆในกฎหมายจราจรที่คนใช้มากๆง่ายๆวันนี้ปรับ2,000บาททั้งคนขับขี่และคนนั่งมาด้วยหากไม่สวมหมวกกันน็อค,จริงๆมันชีวิตเขา เขาสามารถทำวิถีชีวิตเขาอิสระเสรีได้หมด อยากใส่หรือไม่อยากใส่คือสิทธิ์อธิไปไตยส่วนตัวเขา ความเสี่ยงปัจเจกบุคคลเขา จะเป็นจะตายเขารับทราบรับรู้เองคนใช้มากๆคือกำไรคือผลประโยชน์แน่นอน ค่าไฟฟ้าเอยที่รัฐบาลผ่องถ่ายการผลิตไฟฟ้าหรือรับซื้อไฟฟ้าแพงๆจากเอกชนมาขายให้ครัวเรือนคนไทยแพงๆแทนได้ซึ่งกูรูมากมายออกมาแฉแล้ว ราคาน้ำมันขึ้นเอย การห้ามเผาฟางในนาข้าวอีกควบคุมคนทีละน้อยมิให้รู้ตัว หรือห้ามจับปลาของชาวบ้านในการเลี้ยงปากเลี้ยงท้องเองยิ่งในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจข้าวยากหมากแพงทำมาหากินลำบากเศรษฐกิจทั่วโลกพัง ตังขาดมือ ร่ำรวยหนี้สิน ตังหาลำบาก ทองแพงขึ้น คนตกงานมากมหาศาล โรงงานย้ายฐานการผลิตและปิดตัวในไทยมากมาย ร้านค้าร้านอาหารจำนวนมากปิดตัวลงเรื่อยๆคนตกงานในอัตราเร่งผิดปกติในขณะที่รายได้คนลงลดทันทีแน่นอน จำเป็นต้องพึ่งตนเองและธรรมชาติในอีกมุมมองของปากท้องของชาวบ้านเสือกห้ามพึ่งพาตนเองหากินในแหล่งธรรมชาติ มุกอีลิทปกครองต่อคนโง่จึงสร้างกติกาเนียนๆมากมายจริงๆนะ ลดบทบาทมิให้ผู้คนหากินพึ่งตนเองได้ ยิ่งคนชาวบ้านยากจนยิ่งสะดวกต่อเอาอ้างข้อกฎหมายเขียนกฎหมายออกมาไปบังคับใช้ประชาชน,เก็บเห็ดในป่าสงวนเอยกลัวคนเข้าไปเห็นการกระทำชั่วในป่า,อดีตถ้าพรบ.เมล็ดพันธ์เกิดขึ้นได้จริงประชาชนยิ่งอาจปลูกนั้นนี้กินเองลำบากอาจติดคุกอีกหากเอกชนเล่นงานเหมือนต่างชาติ ฉีกเมล็ดพันธ์เอกชนไว้ทำพันธ์ุปลูกต่อเป็นการผิดกฎหมายละอองเกษรปลิวไปผสมพันธุ์ไร่นาชาวบ้านต่างชาติมันยังฟ้องว่าชาวบ้านผิดได้,นี้เกิดในยุคยึดอำนาจนะถ้าพรบ.นี้ผ่านออกมาได้ ประชาชนประท้วงจึงถอนทิ้ง,พรบ.การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศอีกหรือพรบ.คาร์เครดิตก็ด้วยตัวควบคุมทาสมนุษย์อีกตัว ช่วงหนึ่งแบงค์โปรมาก หมายเอาคาร์บอนเครดิตใช้ร่วมกับการพิจารณาสินเชื่อเงินกู้เลยล่ะและอนาคตพวกมันเครือข่ายเอกชนในหลายๆวงการอุตสาหกรรมพร้อมใจกันร่วมเอาไปใช้เลยล่ะ คุณมีคาร์บอนเครดิตเท่าไรก็ว่า,แทนตังในอนาคตก็ว่าอีก,
    ..มันคือภัยเนียนๆที่ร้ายกาจมาก มิใช่คนโง่ลงแต่ถูกทำให้โง่ลงผ่านกระบวนการกฎหมาย ,และกฎหมายถูกบรรญัติขึ้นสมมุติขึ้นเพื่อเป็นข้ออ้างในการใช้ควบคุมผู้คนและอ้างว่าใช้บังคับร่วมกัน,จริงๆใช้บังคับคนโง่เพื่อควบคุมผู้คนปกครอง,ปกครองในวิถีปกครองได้ง่ายขึ้นของชนชั้นdeep stateอีลิทและเดอะแก๊งมันทั้งหมด.

    https://youtube.com/shorts/3ZRqhoMbdV4?si=kuUTM-AlatbhznZ_
    ..มนุษย์โง่ลงจริงๆนั้นล่ะ,โง่จากกระบวนการปกครองเพื่อปกครองคนโง่ง่ายกว่าคนไม่โง่,ใช่กฎหมายปกครองคนโง่สะดวกสบายกว่าคนไม่โง่,ควบคุมคนโง่ง่ายกว่าคนไม่โง่,คนโง่มีลักษณะความเป็นทาสที่เชื่อฟังมากกว่าคนไม่โง่ในสายตาของชนชั้นปกครองแบบรัฐบาลที่ปกครองประเทศนั้นๆ,ปัจจุบันอีลิทdeep stateชั่วเลวได้ควบคุมปกครองผู้นำผู้ปกครองในแต่ละประเทศทั่วโลกแล้ว,จึงเป็นไปเพื่อปกครองมนุษย์ให้โง่แบบเชิงฝูงชนได้ง่าย ไปไหนไปด้วยกันไปทางเดียวกันแบบเหมือนคนโง่เข้าใจว่าตนเองตัดสินใจเองไร้บังคับและเต็มใจทำอย่างชาญฉลาดแล้วก็ว่าแต่หารู้ไม่ว่ามันคือกับดักในกรอบความโง่ขององค์รวมทั้งหมดรอบโลกหรือทั่วโลก,ใครที่หลุดงานฉลาดคิดค้นความฉลาดออกมาสาระพัดจะถูกรัฐบาลประเทศนั้นๆกำจัดทิ้งหรือปิดกั้นหรือสร้างเงื่อนไขกติกามิให้มีบริบทออกสู่สาธารณะเพื่อกระจายความฉลาดสร้งสรรค์ให้ขยายกว้างขวางหรือต่อยอดใดๆได้,จะปล่อยควบคุมให้รู้หรือไม่ให้รู้จากรัฐบาลสแกนก่อนเท่านัันจึงจะให้เผยแผ่ออกสู่สาธารณะได้,หรือสร้างกลไกราคาสิ่งนั้นๆแพงมหาศาลโดยอ้างความคิดสร้างสรรค์นัันทำราคารายได้หาผลประโยชน์แก่มันได้,นี้คือตย.วิถีปกครองควบคุมมนุษย์อีกมุมด้าน ทำโง่ลงแบบไม่รู้ตัวทีละนิดให้สะดวกแก่การปกครอง ใครต่อต้านไม่เห็นด้วยก็เอากฎหมายเขียนดักการกระทำลงโทษกำจัดคนแบบนั้นเนียนๆอย่างชอบธรรมในสายตาคนทั่วไปว่าปกครองตามกติกาซึ่งกติกาต่างๆมันเองตีตราออกมาเพื่อมิให้คนคัดค้านเพื่อมิให้เห็นต่างเพื่อสะดวกต่อการทำคนให้โง่ลงเรื่อยๆได้ดีผ่านกาลเวลาในแต่ละยุคสมัยจนควบคุมเบ็ดเสร็จ,ยิ่งถ้าไทยเราหรือย่อมาไทยหากdeep stateโลกปกครองประเทศไทยหลังฉากจริง เช่นบ่อน้ำมันเต็มประเทศไทยมันก็ยึดครอบครองเอาเองแทนคนไทยหมดบนแผ่นดินไทยที่อ้างว่าต่างชาติมาลงทุนในนามได้สัมปทานแดกจากต่างชาติ นักวิชาการเต็มบ้านเต็มเมืองไม่กล้าออกมาพูดผ่านสื่อหลักไทยสักแอะ,ข้าราชการและสส.เต็มบ้านเต็มเมืองก็ไม่ออกมาประชุมบอกความจริงอะไรแก่ประชาชนว่าคนไทยภูกเอาเปรียบและเสียเปรียบแต่แรก,ปตท.เข้าตลาดหลักทรัพย์กำไรกลับทำกำไรดีขึ้นเสมอ,แต่ประชาชนใช้น้ำมันราคาแพงเสีย สินค้าทั่วประเทศแบะบริการแพงทั่วหน้าพร้อมกันในทุกๆครั้งที่ราคาน้ำมันปรับขึ้นเพื่อทำกำไร,เมื่อผิดพลาดก็ไม่เอาปตท.ออกจากตลาดSETหรือยุบการทำหน้าที่ของปตท.ไปมิให้มีบทบาทใดๆต่อพลังงานไทยเพราะเสมือนเอกชนเต็มตัวไปแล้วในความเป็นจริงเช่นนั้นโรงเรียนหรือรัฐวิสาหกิจอื่นๆก็เข้าตลาดsetไปหมดแล้ว,ตลาดsetจริงๆคือเอกชนเท่านั้นเข้าไปเล่น,หน่วยงานรัฐทุกๆกรณีห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวทุกๆกรณี,เพราะในอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบมันส่งผลกระทบต่อภาพรวมของประชาชนทั้งประเทศ,นี้คือวิถีทำประชาชนให้โง่ให้การปกครองทำได้สำเร็จอีกมุม,ทรัพยากรมากมายมีค่าของประเทศไทยด้วยวิถีปกครองที่deep stateสากลโลกข้ามชาติปกครองหลังฉากเรื่อยมาจึงเป็นอันมากถูกผ่องถ่ายทัังความมั่งคั่งร่ำรวยจนมั่นคงจากประชาชนไทยไปเป็นของต่างชาติหรือเอกชนไทยเองที่เลวชั่วหรือเป็นสมุนรับใช้หรือเป็นนอมินีในหมากมุกอีกตัวในวางสนุ๊คสร้างภาพว่ามิใช่ของต่างชาตินะก็ว่า,ตลอดวิถีการออกกฎหมายมากมายเป็นไปเพื่อควบคุมทาสควบคุมให้คนโง่ขึ้น ตัดขาการพึ่งพาตนเอง และทำให้ยากจนยิ่งสะดวกปกครอง,อาทิ ค่าปรับมากๆในกฎหมายจราจรที่คนใช้มากๆง่ายๆวันนี้ปรับ2,000บาททั้งคนขับขี่และคนนั่งมาด้วยหากไม่สวมหมวกกันน็อค,จริงๆมันชีวิตเขา เขาสามารถทำวิถีชีวิตเขาอิสระเสรีได้หมด อยากใส่หรือไม่อยากใส่คือสิทธิ์อธิไปไตยส่วนตัวเขา ความเสี่ยงปัจเจกบุคคลเขา จะเป็นจะตายเขารับทราบรับรู้เองคนใช้มากๆคือกำไรคือผลประโยชน์แน่นอน ค่าไฟฟ้าเอยที่รัฐบาลผ่องถ่ายการผลิตไฟฟ้าหรือรับซื้อไฟฟ้าแพงๆจากเอกชนมาขายให้ครัวเรือนคนไทยแพงๆแทนได้ซึ่งกูรูมากมายออกมาแฉแล้ว ราคาน้ำมันขึ้นเอย การห้ามเผาฟางในนาข้าวอีกควบคุมคนทีละน้อยมิให้รู้ตัว หรือห้ามจับปลาของชาวบ้านในการเลี้ยงปากเลี้ยงท้องเองยิ่งในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจข้าวยากหมากแพงทำมาหากินลำบากเศรษฐกิจทั่วโลกพัง ตังขาดมือ ร่ำรวยหนี้สิน ตังหาลำบาก ทองแพงขึ้น คนตกงานมากมหาศาล โรงงานย้ายฐานการผลิตและปิดตัวในไทยมากมาย ร้านค้าร้านอาหารจำนวนมากปิดตัวลงเรื่อยๆคนตกงานในอัตราเร่งผิดปกติในขณะที่รายได้คนลงลดทันทีแน่นอน จำเป็นต้องพึ่งตนเองและธรรมชาติในอีกมุมมองของปากท้องของชาวบ้านเสือกห้ามพึ่งพาตนเองหากินในแหล่งธรรมชาติ มุกอีลิทปกครองต่อคนโง่จึงสร้างกติกาเนียนๆมากมายจริงๆนะ ลดบทบาทมิให้ผู้คนหากินพึ่งตนเองได้ ยิ่งคนชาวบ้านยากจนยิ่งสะดวกต่อเอาอ้างข้อกฎหมายเขียนกฎหมายออกมาไปบังคับใช้ประชาชน,เก็บเห็ดในป่าสงวนเอยกลัวคนเข้าไปเห็นการกระทำชั่วในป่า,อดีตถ้าพรบ.เมล็ดพันธ์เกิดขึ้นได้จริงประชาชนยิ่งอาจปลูกนั้นนี้กินเองลำบากอาจติดคุกอีกหากเอกชนเล่นงานเหมือนต่างชาติ ฉีกเมล็ดพันธ์เอกชนไว้ทำพันธ์ุปลูกต่อเป็นการผิดกฎหมายละอองเกษรปลิวไปผสมพันธุ์ไร่นาชาวบ้านต่างชาติมันยังฟ้องว่าชาวบ้านผิดได้,นี้เกิดในยุคยึดอำนาจนะถ้าพรบ.นี้ผ่านออกมาได้ ประชาชนประท้วงจึงถอนทิ้ง,พรบ.การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศอีกหรือพรบ.คาร์เครดิตก็ด้วยตัวควบคุมทาสมนุษย์อีกตัว ช่วงหนึ่งแบงค์โปรมาก หมายเอาคาร์บอนเครดิตใช้ร่วมกับการพิจารณาสินเชื่อเงินกู้เลยล่ะและอนาคตพวกมันเครือข่ายเอกชนในหลายๆวงการอุตสาหกรรมพร้อมใจกันร่วมเอาไปใช้เลยล่ะ คุณมีคาร์บอนเครดิตเท่าไรก็ว่า,แทนตังในอนาคตก็ว่าอีก, ..มันคือภัยเนียนๆที่ร้ายกาจมาก มิใช่คนโง่ลงแต่ถูกทำให้โง่ลงผ่านกระบวนการกฎหมาย ,และกฎหมายถูกบรรญัติขึ้นสมมุติขึ้นเพื่อเป็นข้ออ้างในการใช้ควบคุมผู้คนและอ้างว่าใช้บังคับร่วมกัน,จริงๆใช้บังคับคนโง่เพื่อควบคุมผู้คนปกครอง,ปกครองในวิถีปกครองได้ง่ายขึ้นของชนชั้นdeep stateอีลิทและเดอะแก๊งมันทั้งหมด. https://youtube.com/shorts/3ZRqhoMbdV4?si=kuUTM-AlatbhznZ_
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 164 มุมมอง 0 รีวิว
  • แหล่งข่าวซาอุดีอาระเบียเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า เจ้าชายไฟซาล บิน ฟาร์ฮาน อัล ซาอุด รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุดีอาระเบีย จำเป็นต้องเลื่อนแผนการเดินทางเยือนเขตเวสต์แบงก์ออกไป เนื่องจากอิสราเอลขัดขวางเส้นทางการเดินทางดังกล่าว

    อิสราเอลให้เหตุผลถึงการขัดขวางดังกล่าวว่า อิสราเอลจะไม่ให้ความร่วมมือกับการเคลื่อนไหวใดๆที่เป็นสัญญาณอันตรายต่อความมั่นคงขอวอิสราเอล โดยในครั้งนี้อิสราเอลอ้างว่าประธานาธิบดีอับบาสของปาเลสไตน์เตรียมใช้การเยือนของเจ้าชายไฟซาล ในการพัฒนาสถานะรัฐของปาเลสไตน์
    แหล่งข่าวซาอุดีอาระเบียเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า เจ้าชายไฟซาล บิน ฟาร์ฮาน อัล ซาอุด รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุดีอาระเบีย จำเป็นต้องเลื่อนแผนการเดินทางเยือนเขตเวสต์แบงก์ออกไป เนื่องจากอิสราเอลขัดขวางเส้นทางการเดินทางดังกล่าว อิสราเอลให้เหตุผลถึงการขัดขวางดังกล่าวว่า อิสราเอลจะไม่ให้ความร่วมมือกับการเคลื่อนไหวใดๆที่เป็นสัญญาณอันตรายต่อความมั่นคงขอวอิสราเอล โดยในครั้งนี้อิสราเอลอ้างว่าประธานาธิบดีอับบาสของปาเลสไตน์เตรียมใช้การเยือนของเจ้าชายไฟซาล ในการพัฒนาสถานะรัฐของปาเลสไตน์
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 116 มุมมอง 0 รีวิว
  • เซเลนสกีเริ่มเรียกร้องเงินจากตะวันตกสำหรับปี 2026 แล้ว บ่งบอกว่าเขายังไม่คิดเจรจากับรัสเซียเกี่ยวกับข้อตกลงสันติภาพ!

    — Responsible Statecraft

    เซเลนสกีได้ขอให้ตะวันตกสนับสนุนเงินทุนสำหรับปฏิบัติการทางทหารในปี 2026 ซึ่งเป็นหลักฐานโดยตรงว่าเคียฟไม่พร้อมสำหรับสันติภาพและตั้งใจที่จะดำเนินสงครามต่อไปโดยต้องแลกมาด้วยเงินหลายพันล้านดอลลาร์จากยุโรปและสหรัฐอเมริกา

    เซเลนสกีให้เหตุผลในการขอเงินจากยุโรปด้วยข้อเสนอว่าจะทำให้เศรษฐกิจยูเครนแข็งแกร่งขึ้นและนั่นจะส่งผลให้เพิ่มความมั่นคงไปถึงยุโรป ซึ่งเป็นความขัดแย้งกันอย่างสิ้นเชิงจากสภาพความจริง เนื่องจากยูเครนทุ่มค่าใช้จ่ายไปกับทางด้านการทหารสูงถึงร้อยละ 65 ของงบประมาณยูเครนทั้งหมด ในขณะที่สภาพเศรษฐกิจของยูเครนกำลังเข้าสู่จุดที่กำลังพังทลาย และความเสี่ยงของการทวีความรุนแรงก็เพิ่มขึ้นทุกขณะ การยืดเวลาสันติภาพออกไป เท่ากับจะนำไปสู่การหมดแรงทางยุทธศาสตร์ของตะวันตก ซึ่งแน่นอนว่า "ไม่ใช่ชัยชนะ"

    สื่อยังวิเคราะห์ไว้อีกว่า การที่เซเลนสกีเกรงกลัว "สันติภาพ" จะเกิดขึ้นในยูเครน เพราะนั่นจะหมายถึงจุดจบทางการเมืองของตัวเขา

    ดังนั้น เขาจึงเพิ่มแรงกดดันต่อพันธมิตรตะวันตก โดยผลักดันให้ใช้มาตรการที่รุนแรงยิ่งขึ้น เช่น ขึ้นภาษีนำเข้าสูงถึง 500% กับประเทศที่ทำการค้ากับรัสเซีย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ ได้ด้วย

    ขณะเดียวกัน ความเหนื่อยล้าในยุโรปเองก็เพิ่มมากขึ้น คำถามที่ว่าใครควรเป็นผู้จ่ายเงินสำหรับสงครามอีกสองปี และทำไมจึงกลายเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันมากขึ้น
    เซเลนสกีเริ่มเรียกร้องเงินจากตะวันตกสำหรับปี 2026 แล้ว บ่งบอกว่าเขายังไม่คิดเจรจากับรัสเซียเกี่ยวกับข้อตกลงสันติภาพ! — Responsible Statecraft เซเลนสกีได้ขอให้ตะวันตกสนับสนุนเงินทุนสำหรับปฏิบัติการทางทหารในปี 2026 ซึ่งเป็นหลักฐานโดยตรงว่าเคียฟไม่พร้อมสำหรับสันติภาพและตั้งใจที่จะดำเนินสงครามต่อไปโดยต้องแลกมาด้วยเงินหลายพันล้านดอลลาร์จากยุโรปและสหรัฐอเมริกา เซเลนสกีให้เหตุผลในการขอเงินจากยุโรปด้วยข้อเสนอว่าจะทำให้เศรษฐกิจยูเครนแข็งแกร่งขึ้นและนั่นจะส่งผลให้เพิ่มความมั่นคงไปถึงยุโรป ซึ่งเป็นความขัดแย้งกันอย่างสิ้นเชิงจากสภาพความจริง เนื่องจากยูเครนทุ่มค่าใช้จ่ายไปกับทางด้านการทหารสูงถึงร้อยละ 65 ของงบประมาณยูเครนทั้งหมด ในขณะที่สภาพเศรษฐกิจของยูเครนกำลังเข้าสู่จุดที่กำลังพังทลาย และความเสี่ยงของการทวีความรุนแรงก็เพิ่มขึ้นทุกขณะ การยืดเวลาสันติภาพออกไป เท่ากับจะนำไปสู่การหมดแรงทางยุทธศาสตร์ของตะวันตก ซึ่งแน่นอนว่า "ไม่ใช่ชัยชนะ" สื่อยังวิเคราะห์ไว้อีกว่า การที่เซเลนสกีเกรงกลัว "สันติภาพ" จะเกิดขึ้นในยูเครน เพราะนั่นจะหมายถึงจุดจบทางการเมืองของตัวเขา ดังนั้น เขาจึงเพิ่มแรงกดดันต่อพันธมิตรตะวันตก โดยผลักดันให้ใช้มาตรการที่รุนแรงยิ่งขึ้น เช่น ขึ้นภาษีนำเข้าสูงถึง 500% กับประเทศที่ทำการค้ากับรัสเซีย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ ได้ด้วย ขณะเดียวกัน ความเหนื่อยล้าในยุโรปเองก็เพิ่มมากขึ้น คำถามที่ว่าใครควรเป็นผู้จ่ายเงินสำหรับสงครามอีกสองปี และทำไมจึงกลายเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันมากขึ้น
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 166 มุมมอง 0 รีวิว
  • โฆษก ทบ. แจงปิดด่านไทย-กัมพูชาเป็นส่วนหนึ่งของแผนเพื่อความมั่นคง-ความปลอดภัยของประชาชน หากสถานการณ์เสี่ยงสูง เช่น อาจมียิงปืนใหญ่ระยะไกล ให้หน่วยงานระดับพื้นที่พิจารณา แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน โดยภาพรวมสถานการณ์ยังเรียบร้อย มีเพียงบางจุดที่เป็นปัญหาบ้างแต่ยังไม่น่ากังวล

    วันนี้(31 พ.ค.) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงภายหลังมีกระแสข่าวไทยเตรียมปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาตลอดแนวหลังจากมีการปลุกระดมต่อต้านสินค้าไทยว่า การปิดด่านเป็นส่วนหนึ่งของแผนสำหรับใช้ในการบริหารจัดการสถานการณ์ ที่อาจส่งผลกระทบความมั่นคงและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ของหน่วยงานในระดับพื้นที่ปัจจุบัน ซึ่ง ณ ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานแต่อย่างใด

    ที่ผ่านมา การปิดด่านจะดำเนินการต่อเมื่อมีความจำเป็นจริงๆ โดยในอดีตจะดำเนินการเฉพาะต่อเมื่อสถานการณ์ในพื้นที่นั้นๆ มีปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศในระดับที่น่ากังวลสูง โดยเฉพาะข่าวสารที่น่าเชื่อว่าจะมีการใช้อาวุธระยะไกล ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยต่อพี่น้องประชาชน

    สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน หากพิจารณาในภาพรวมส่วนใหญ่มีความเรียบร้อย มีเพียงบางจุดบางพื้นที่เท่านั้นที่อาจมีปัญหาอยู่บ้าง แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ไม่ก่อให้เกิดความน่ากังวลมากนัก เนื่องจากทั้งสองฝ่ายได้อาศัยกลไกที่มีอยู่ในระดับพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน ภายใต้กรอบข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายได้ยึดถือกันอยู่อย่างเคร่งครัด

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000051129

    #MGROnline #โฆษกกองทัพบก
    โฆษก ทบ. แจงปิดด่านไทย-กัมพูชาเป็นส่วนหนึ่งของแผนเพื่อความมั่นคง-ความปลอดภัยของประชาชน หากสถานการณ์เสี่ยงสูง เช่น อาจมียิงปืนใหญ่ระยะไกล ให้หน่วยงานระดับพื้นที่พิจารณา แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน โดยภาพรวมสถานการณ์ยังเรียบร้อย มีเพียงบางจุดที่เป็นปัญหาบ้างแต่ยังไม่น่ากังวล • วันนี้(31 พ.ค.) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงภายหลังมีกระแสข่าวไทยเตรียมปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาตลอดแนวหลังจากมีการปลุกระดมต่อต้านสินค้าไทยว่า การปิดด่านเป็นส่วนหนึ่งของแผนสำหรับใช้ในการบริหารจัดการสถานการณ์ ที่อาจส่งผลกระทบความมั่นคงและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ของหน่วยงานในระดับพื้นที่ปัจจุบัน ซึ่ง ณ ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานแต่อย่างใด • ที่ผ่านมา การปิดด่านจะดำเนินการต่อเมื่อมีความจำเป็นจริงๆ โดยในอดีตจะดำเนินการเฉพาะต่อเมื่อสถานการณ์ในพื้นที่นั้นๆ มีปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศในระดับที่น่ากังวลสูง โดยเฉพาะข่าวสารที่น่าเชื่อว่าจะมีการใช้อาวุธระยะไกล ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยต่อพี่น้องประชาชน • สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน หากพิจารณาในภาพรวมส่วนใหญ่มีความเรียบร้อย มีเพียงบางจุดบางพื้นที่เท่านั้นที่อาจมีปัญหาอยู่บ้าง แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ไม่ก่อให้เกิดความน่ากังวลมากนัก เนื่องจากทั้งสองฝ่ายได้อาศัยกลไกที่มีอยู่ในระดับพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน ภายใต้กรอบข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายได้ยึดถือกันอยู่อย่างเคร่งครัด • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000051129 • #MGROnline #โฆษกกองทัพบก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 133 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🕯️ อธิษฐานแบบพุทธ...ไม่ได้ขอให้ “ได้” แต่ขอให้ “เป็น”

    เราโตมากับการสอนว่า
    “ทำบุญแล้วก็ขอให้ถูกหวย ขอให้รวย ขอให้เจอคนดี ขอให้สมหวังในรัก...”
    ฟังดูดี...แต่จริงๆ แล้วอันตรายไม่น้อย
    เพราะมันปลูกนิสัย “รอรับ” มากกว่า “ลุกขึ้นทำ”

    💬 อธิษฐานแบบขอทำ ไม่ใช่ขอรับ

    การอธิษฐานตามแนวพุทธ
    ไม่ใช่ขอให้ได้สิ่งนั้นสิ่งนี้จากฟ้า
    แต่คือการเปล่งเจตนาอย่างรู้ตัว
    ในจิตที่สว่าง สดชื่นหลังทำความดี
    เพื่อ หนุนใจให้ลงมือทำในสิ่งที่ถูกต้อง

    “ขอให้บุญนี้ ช่วยให้ใจไม่ย่อท้อ
    ขอให้ความดีที่ทำ เป็นแรงค้ำให้ก้าวเดินด้วยตัวเอง”

    🌱 ขอให้เกิดผลทางใจ ไม่ใช่ผลทางกาย

    ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดของการอธิษฐาน
    ไม่ใช่บ้าน รถ เงินทอง
    แต่คือ ใจที่มั่นคงขึ้น สว่างขึ้น แข็งแกร่งขึ้น
    เมื่ออธิษฐานในจังหวะที่จิตละเอียด
    จะเป็นแรงสั่นสะเทือนที่มีพลังที่สุด

    “ขอให้ข้าพเจ้า…เลิกฟุ้งซ่านได้
    เพราะรู้สึกถึงใจอ่อนโยนที่เกิดจากการกราบพระ”

    🪷 อธิษฐานให้ปล่อย ไม่ใช่ผูก

    การอธิษฐานที่ลึกที่สุด
    ไม่ใช่ “ขอให้ได้ชาติหน้าดีๆ”
    แต่คือ “ขอให้ปล่อยวางได้ก่อนหมดลมหายใจ”
    เพราะนั่นแหละ…คือ การไม่ผูกกรรมเพิ่ม

    “ขอให้บุญที่ทำทั้งหมด เป็นเหตุให้ใจนี้
    ยอมคืนขันธ์ทั้งหลายได้ด้วยความสงบ”

    ✨ ธรรมแท้ไม่สอนให้ขอพร
    แต่สอนให้ ใช้พรในใจเราเองให้เต็มกำลัง

    จะอธิษฐานอะไรก็ตาม
    ขอให้ลงท้ายด้วย...การเป็นคนที่กล้าทำ กล้าปล่อย
    และกล้ารับผิดชอบชีวิตตนเองอย่างแท้จริง
    🕯️ อธิษฐานแบบพุทธ...ไม่ได้ขอให้ “ได้” แต่ขอให้ “เป็น” เราโตมากับการสอนว่า “ทำบุญแล้วก็ขอให้ถูกหวย ขอให้รวย ขอให้เจอคนดี ขอให้สมหวังในรัก...” ฟังดูดี...แต่จริงๆ แล้วอันตรายไม่น้อย เพราะมันปลูกนิสัย “รอรับ” มากกว่า “ลุกขึ้นทำ” 💬 อธิษฐานแบบขอทำ ไม่ใช่ขอรับ การอธิษฐานตามแนวพุทธ ไม่ใช่ขอให้ได้สิ่งนั้นสิ่งนี้จากฟ้า แต่คือการเปล่งเจตนาอย่างรู้ตัว ในจิตที่สว่าง สดชื่นหลังทำความดี เพื่อ หนุนใจให้ลงมือทำในสิ่งที่ถูกต้อง “ขอให้บุญนี้ ช่วยให้ใจไม่ย่อท้อ ขอให้ความดีที่ทำ เป็นแรงค้ำให้ก้าวเดินด้วยตัวเอง” 🌱 ขอให้เกิดผลทางใจ ไม่ใช่ผลทางกาย ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดของการอธิษฐาน ไม่ใช่บ้าน รถ เงินทอง แต่คือ ใจที่มั่นคงขึ้น สว่างขึ้น แข็งแกร่งขึ้น เมื่ออธิษฐานในจังหวะที่จิตละเอียด จะเป็นแรงสั่นสะเทือนที่มีพลังที่สุด “ขอให้ข้าพเจ้า…เลิกฟุ้งซ่านได้ เพราะรู้สึกถึงใจอ่อนโยนที่เกิดจากการกราบพระ” 🪷 อธิษฐานให้ปล่อย ไม่ใช่ผูก การอธิษฐานที่ลึกที่สุด ไม่ใช่ “ขอให้ได้ชาติหน้าดีๆ” แต่คือ “ขอให้ปล่อยวางได้ก่อนหมดลมหายใจ” เพราะนั่นแหละ…คือ การไม่ผูกกรรมเพิ่ม “ขอให้บุญที่ทำทั้งหมด เป็นเหตุให้ใจนี้ ยอมคืนขันธ์ทั้งหลายได้ด้วยความสงบ” ✨ ธรรมแท้ไม่สอนให้ขอพร แต่สอนให้ ใช้พรในใจเราเองให้เต็มกำลัง จะอธิษฐานอะไรก็ตาม ขอให้ลงท้ายด้วย...การเป็นคนที่กล้าทำ กล้าปล่อย และกล้ารับผิดชอบชีวิตตนเองอย่างแท้จริง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 105 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..มุกควบคุมทาสนี้มันสามารถมาได้หลากหลายลักษณะยิ่งโดยเฉพาะผ่านข้อกฎหมายให้ชอบธรรมยิ่งดี,จริงๆการใส่หรือไม่ใส่หมวกกันน็อคมันคือสิทธิอธิปไตยบุคคลใครมัน,เขาจะเป็นจะตายก็อธิปไตยเขา สิทธิของเขา,นี้คือสไตล์โยนหินถามทางควบคุมทาส ไม่ต่างจากบังคับการสวมใส่หน้ากากอนามัยสมัยยุคโควิด,แต่นั้นเพียงชั่วคราวไม่สามารถอ้างบังคับให้ต่อเนื่องแบบบังคับต้องใส่ต้องสวมหมวกกันน็อคได้,มีกฎหมายปัญญาอ่อนมากมายออกมาเพื่อควบคุมมนุษย์,ยุคโบราณฝรั่งมักให้ทาสใส่หน้ากากปิดปากปิดหน้าไว้ ให้เป็นสัญลักษณ์เชิงสร้างชนชั้นความหมาย,จริงๆกฎหมายที่น่าออกมาตีตราบังคับใช้คือที่ดินไทยทั้งหมดต่างชาติห้ามถือครองทุกๆกรณีแม้จะถือผ่านนอมินีก็ตาม,ยกเลิกการให้ต่างชาติเช่าที่ดินไทยอสังหาริมทรัพย์ไทยรวม99ปีก็ด้วยหรือกล้าหาญเขียนกฎหมายยกเลิกสัญญาสัมปทานบ่อปิโตรเลียมทั้งหมดที่ไม่ชอบธรรมต่อความมั่นคงทางพลังงานของประเทศและไม่ยุติธรรมต่อคนไทยที่ต้องใช้น้ำมันราคาแพงทั้งกระทบเป็นลูกโซ่ต่อสินค้าค่าครองชีพแพงทั้งระบบทั้งหมดลามไปทั่วประเทศก็ว่า,นี้สมควรเขียนกฎหมายที่มีคุณมีสาระต่อประโยชน์จริงสู่ประเทศและประชาชนมิใช่หมายดูดตังค่าปรับกว่า2,000บาทออกจากกระเป๋าประชาชน,และกฎหมายนี้กระทรวงทบวงกรมที่ตีตราใช้สมควรให้ตกไปโมฆะห้ามมีผลบังคับใช้ทันที,มีมากมายที่กฎหมายเป็นไปเพื่อสร้างความลำบากใจลำบากกายลำบากตังในกระเป๋าของประชาชน เสมือนปล้นชิงทรัพย์จากประชาชนให้ชอบธรรมผ่านทางกฎหมายโดยอ้างเอาบ้านเอาเมืองเป็นตัวชูสร้างเรื่อง,นี้คือวิถีปกครองที่ล้มเหลว เบียดเบียนให้ประชาชนยากจนตังทุกข์ร้อนในสัมมาชีวิตในการดำรงชีพ,ทั้งผีบ้าใบอนุญาตมากมายบวกเก็บเรี่ยไรค่าธรรมเนียมตังกับประชาชนอีก.,
    ..วิถีปกครองแบบนี้ในยุคล้ำสมัยหน้าไม่สมควรจะมีจริงๆ.

    https://youtube.com/shorts/MgUf9oXDl30?si=Y6Avj50MQuQ0D1fn
    ..มุกควบคุมทาสนี้มันสามารถมาได้หลากหลายลักษณะยิ่งโดยเฉพาะผ่านข้อกฎหมายให้ชอบธรรมยิ่งดี,จริงๆการใส่หรือไม่ใส่หมวกกันน็อคมันคือสิทธิอธิปไตยบุคคลใครมัน,เขาจะเป็นจะตายก็อธิปไตยเขา สิทธิของเขา,นี้คือสไตล์โยนหินถามทางควบคุมทาส ไม่ต่างจากบังคับการสวมใส่หน้ากากอนามัยสมัยยุคโควิด,แต่นั้นเพียงชั่วคราวไม่สามารถอ้างบังคับให้ต่อเนื่องแบบบังคับต้องใส่ต้องสวมหมวกกันน็อคได้,มีกฎหมายปัญญาอ่อนมากมายออกมาเพื่อควบคุมมนุษย์,ยุคโบราณฝรั่งมักให้ทาสใส่หน้ากากปิดปากปิดหน้าไว้ ให้เป็นสัญลักษณ์เชิงสร้างชนชั้นความหมาย,จริงๆกฎหมายที่น่าออกมาตีตราบังคับใช้คือที่ดินไทยทั้งหมดต่างชาติห้ามถือครองทุกๆกรณีแม้จะถือผ่านนอมินีก็ตาม,ยกเลิกการให้ต่างชาติเช่าที่ดินไทยอสังหาริมทรัพย์ไทยรวม99ปีก็ด้วยหรือกล้าหาญเขียนกฎหมายยกเลิกสัญญาสัมปทานบ่อปิโตรเลียมทั้งหมดที่ไม่ชอบธรรมต่อความมั่นคงทางพลังงานของประเทศและไม่ยุติธรรมต่อคนไทยที่ต้องใช้น้ำมันราคาแพงทั้งกระทบเป็นลูกโซ่ต่อสินค้าค่าครองชีพแพงทั้งระบบทั้งหมดลามไปทั่วประเทศก็ว่า,นี้สมควรเขียนกฎหมายที่มีคุณมีสาระต่อประโยชน์จริงสู่ประเทศและประชาชนมิใช่หมายดูดตังค่าปรับกว่า2,000บาทออกจากกระเป๋าประชาชน,และกฎหมายนี้กระทรวงทบวงกรมที่ตีตราใช้สมควรให้ตกไปโมฆะห้ามมีผลบังคับใช้ทันที,มีมากมายที่กฎหมายเป็นไปเพื่อสร้างความลำบากใจลำบากกายลำบากตังในกระเป๋าของประชาชน เสมือนปล้นชิงทรัพย์จากประชาชนให้ชอบธรรมผ่านทางกฎหมายโดยอ้างเอาบ้านเอาเมืองเป็นตัวชูสร้างเรื่อง,นี้คือวิถีปกครองที่ล้มเหลว เบียดเบียนให้ประชาชนยากจนตังทุกข์ร้อนในสัมมาชีวิตในการดำรงชีพ,ทั้งผีบ้าใบอนุญาตมากมายบวกเก็บเรี่ยไรค่าธรรมเนียมตังกับประชาชนอีก., ..วิถีปกครองแบบนี้ในยุคล้ำสมัยหน้าไม่สมควรจะมีจริงๆ. https://youtube.com/shorts/MgUf9oXDl30?si=Y6Avj50MQuQ0D1fn
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 171 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความเก่าขอนำมาโพสอีกครั้ง
    ----------------------------
    สงครามน้ำจะมาถึงในไม่ช้า
    นี่เป็นคำพยากรณ์...
    .
    อันที่จริงผมพูดเรื่องนี้มานานแล้วตั้งแต่ราวปี 2003 ผมเคยพยายามที่จะทำโครงการหนึ่งชื่อ Voices of Asia รวมทั้งเคยหาข้อมูลเพื่อทำสารคดีเรื่องแม่น้ำ.. มันไม่ได้รับการสนับสนุนให้ทำ แต่ยังคงเป็นสิ่งที่วนเวียนหลอกหลอนอยู่ในความคิดผมเสมอมา ความกังวลนี้มาจากการได้อ่านข้อมูลที่เกี่ยวกับปัญหาวิกฤติน้ำในเอธิโอเปียในช่วงเวลานั้น
    .
    แม่น้ำไนล์ เป็นที่รู้ดีมานานแล้วว่า คือกระแสโลหิตที่หล่อเลี้ยงแอฟริกาตอนบน และมันไม่เคยเพียงพอต่อความต้องการเลย นับแต่ซาฮาร่าโบราณที่เคยอุดมสมบูรณ์ในยุคโบราณได้แปรเปลี่ยนเป็นทะเลทราย และบรรพบุรุษของโฮโมเซเปี้ยนส์เริ่มอพยพหนีออกมาจากที่นั่น.. ซาฮาร่าแห้งแล้งลงเรื่อยๆ ผ่านเวลาแสนปีจนถึงปัจจุบัน.. ยิ่งเมื่อภาวะวิกฤติโลกร้อนและอุณหภูมิโลกและอากาศเปลี่ยนแปลงในทุกวันนี้ มันก็ยิ่งเหือดแห้งลงกว่าเดิม และยิ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการมากยิ่งขึ้น..
    .
    ต้นกำเนิดของแม่น้ำสายนี้อยู่ในเอธิโอเปีย. ประเทศอันแสนยากจน พวกเขาส่วนใหญ่ยากจนแสนเข็ญจริงๆ และแม้ว่าแม่น้ำนี้จะกำเนิดจากดินแดนแห่งนี้ แต่พวกเขาในพื้นที่ห่างไกลกลับยากลำบากและขาดแคลนน้ำที่จะนำมาเป็นปัจจัยพื้นฐานเพื่อเอาชีวิตรอด นั่นคือใช้ในการทำเกษตรกรรม. พวกเขาคงจะมีโอกาสรอดมากขึ้น ถ้าเพียงพวกเขาจะทำเขื่อนเพื่อที่จะกักและชะลอน้ำไว้บ้างสำหรับการเพาะปลูกเท่าที่จำเป็น แต่การทำเช่นนั้น.. สร้างความวิตกว่าน้ำจะยิ่งไม่เพียงพอแก่ประเทศอื่นที่ใช้แม่น้ำนี้ร่วมกัน เช่น อียิปต์ และ ซูดาน.. สองประเทศนี้มีแสนยานุภาพ มีขีปนาวุธ และเครื่องบินรบทันสมัยอย่างเอฟสิบหก ทันทีที่เอธิโอเปียสร้างเขื่อน มันจะถูกยิงถล่มเป็นผุยผง.. ประชาชนเอธิโอเปียไม่อาจทำอย่างไรได้ นอกจากจ้องมองแม่น้ำของพวกเขาด้วยความสิ้นหวังและล้มลงตายกับพื้นดิน.
    .
    เหตุการณ์แบบนี้อาจจะเกิดขึ้นที่อื่นอีก อย่างแน่นอน ไม่ช้าก็เร็ว
    และมันอาจเกิดขึ้นกับเรา คุณและผม... สักวันหนึ่ง
    .
    คนไทยอย่างเราอาจมองเรื่องเช่นนี้เป็นเรื่องไกลตัว เราใช้น้ำอย่างสบายใจและฟุ่มเฟือย เราเดินเข้าห้าง เข้ามินิมาร์ตที่มีน้ำดื่มบรรจุขวดมากมายเรียงรายเต็มหิ้งให้เลือก จนเราอาจลืมข้อเท็จจริงและเผลอคิดไปได้ว่า น้ำนี้จะไม่มีวันหมด และมันจะรอเราอยู่บนหิ้งนั้นชั่วนิรันดร์.. นั่นเป็นความคิดที่โง่เขลาสิ้นดีและไม่เป็นความจริง.
    .
    วันนึง ..จะไม่มีน้ำแม้สักครึ่งขวดเหลืออยู่บนหิ้งพวกนั้น และวันนั้นอาจมาถึงในไม่ช้า
    .
    สมัยเด็ก ผมโตมาบนถนนพระอาทิตย์และถนนพระสุเมรุ บ้านพ่ออยู่ติดแม่น้ำหน้าท่าพระอาทิตย์ ส่วนบ้านแม่อยู่ตรอกวัดสังเวช อยู่บนริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเลย. ยุคนั้น ที่บ้านแม่ตักน้ำจากแม่น้ำแล้วกวนด้วยสารส้มใช้เป็นประจำ นำมาต้ม แล้วใช้ปรุงอาหารได้.. น้ำดื่มคือน้ำฝนที่รองใส่โอ่ง..
    .
    ทุกวันนี้เราไม่สามารถทำเช่นนั้นได้อีกแล้ว แม่น้ำเจ้าพระยาตอนบนอาจจะยังคงสะอาดพอควร แต่ตอนกลางนั้นมีการปนเปื้อนอยู่หลายจุดตลอดเส้นทาง.. ไม่ต้องพูดถึงแม่น้ำตอนล่าง ที่ไหลผ่านเมืองใหญ่อย่างอยุธยาและกรุงเทพเลย พวกมันล้วนอุดมด้วยสารพิษอย่างเช่น ปรอท โลหะหนัก และสารเคมีสารพัด เช่น แคดเมี่ยม ฯลฯ พวกมันถูกปล่อยจากโรงงานอุตสาหกรรมที่อยู่เรียงรายตามริมแม่น้ำ ผสมโรงด้วยขยะพิษที่ประชาชนปล่อยลงไป ทั้งจากเคมีที่ใช้ประจำวันและยาฆ่าแมลง จากวัตถุมีพิษอื่นๆ เช่น อุปกรณ์อีเลคโทรนิคส์ แบตเตอรี่ ฯลฯ
    .
    ขณะที่ทุกคนต่างใช้ชีวิตอย่างเคยชินกับสิ่งเหล่านี้และไม่สนใจเพิกเฉยปัญหาของมัน หายนะกำลังคืบคลานอย่างช้าๆ มาสู่เราโดยไม่รู้ตัว.. ในภาวะปกตินี้ บ้านเมืองที่มีระบบรองรับ ก็ขับเคลื่อนหน่วยงานกลไกของมันไปตามสถานะที่ยังคงเลื่อนไหลไปได้ตามสภาพที่มี คนทั่วไปนั้นไม่ได้สนใจจะไปรับรู้ว่า กลไกเหล่านั้นขับเคลื่อนได้ดีแค่ไหน? ปลอดภัยแค่ไหน? ได้มาตรฐานแค่ไหน?.. พวกเขาสนใจแค่เรื่องตัวเองและคงคิดแค่ว่า "มีใครสักคนที่รับผิดชอบสิ่งเหล่านี้อยู่ และไม่ใช่ภาระที่ฉันจะเอามาใส่ใจ.." คงมีใครกำลังดูแลมันอยู่และมันก็คงดำเนินไปได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร "ตลอดไป"..
    .
    งั้นสินะ? โอ้.. ฉันมีการประปานครหลวง กองบำบัดน้ำเสีย กระทรวงสาธารณะสุข กรมประมง เทศบาลเมือง การท่า.. ฯลฯ พวกเขาคงทำทุกอย่างได้ราบรื่นไม่มีปัญหา คนทั้งหลายไม่สำเหนียกว่า จักรเฟืองพวกนี้มีวันหยุดชะงักได้ และเมื่อวันนึงเกิดหายนะภัยพิบัติสักอย่างขึ้น เช่น สงครามโลก ภัยจากอวกาศภายนอกอย่างอุกกาบาต แผ่นดินไหวรุนแรง ซุปเปอร์อีรัพชั่น สภาพอากาศวิกฤติ ยุคน้ำแข็ง.. ฯ ระบบที่ขับเคลื่อนไปทั้งหมดนี้ อาจล่มสลายได้ในชั่วข้ามคืน และเมื่อมันเกิดขึ้น คำถามง่ายๆ ที่สุดที่ไม่มีใครคิดอย่างเช่น.. จะยังจะมีน้ำบรรจุขวดอยู่บนหิ้งในห้างร้านอยู่ไหม? อาจตามมาด้วยคำตอบที่แย่เกินกว่าจะยอมรับ.
    .
    กรณีนี้ ถ้าเราไม่มีน้ำดื่มให้ซื้อหาอีกต่อไป ถามว่าเราจะทำอย่างไร? จะดื่มน้ำจากแม่น้ำลำคลองอย่างที่คนโบราณเคยทำได้ไหม? ทำไม่ได้แน่นอน ถ้ามันเป็นพิษ.. เว้นแต่คนจะหมดสิ้นหนทางและความตายเป็นการปลดปล่อยจากความทุกข์ยาก.. ยิ่งเมื่อระบบเมืองและรัฐที่ขับเคลื่อนชาติต้องล่มสลายเพราะหายนะที่กล่าวไป จะเอางบประมาณ จะเอาอุปกรณ์ จะเอาวัตถุดิบ จะเอาเทคโนโลยี่ที่ไหนกัน มาเยียวยาแม่น้ำให้กลับมาดีดังเดิมและสามารถใช้กินใช้ดื่มได้อีก? ถ้าเราไม่แก้ไขเสียแต่ตอนนี้ จนกระทั่งเราไปถึงจุดนั้น แม่น้ำก็จะไม่สามารถกู้คืนได้อีกเลย.
    .
    ครั้งหนึ่ง แม่น้ำโวลกาในรัสเซียนั้น เคยวิกฤติถึงขั้นอันตรายจนกินใช้ไม่ได้เลยอย่างสิ้นเชิง ปลาในแม่น้ำเต็มไปด้วยพิษ แต่ด้วยการร่วมแรงร่วมใจของภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชน แม้ใช้เวลานับสิบปีในการพยายามกู้แม่น้ำสายนี้ ในที่สุดแม่น้ำนี้ก็กลับมาดีจนใช้ได้ในที่สุด แม้มันจะไม่ดีพอที่จะดื่มมันได้ก็ตามในตอนนี้..
    .
    แน่นอนว่า แม่น้ำเจ้าพระยานั้นยังไม่เลวร้ายขนาดนั้น และมันเป็นไปได้อย่างแน่นอน ที่จะฟื้นคืนชีวิตแก่มันอย่างสมบูรณ์ หากเราจะถือว่านี่คือวาระแห่งชาติ และร่วมมือกันฟื้นฟูอย่างจริงจัง
    .
    แม่น้ำเจ้าพระยานั้น มีต้นกำเนิดจากป่าต้นน้ำทางภาคเหนือสี่แห่ง ซึ่งคือหัวใจที่ให้ชีวิตแก่แควทั้งสี่ คือ ปิง วัง ยม และ น่าน.. นี่นับเป็นความโชคดีของคนไทยเหลือคณานับ ที่ต้นแม่น้ำสายใหญ่นี้อยู่ในประเทศไทย ไม่ได้อยู่ในประเทศอื่น. นี่เป็นทรัพยากรเลอค่าที่สุด ที่จะพยุงชีวิตให้แก่ชาตินี้ แม้แต่คนโง่ที่สุดก็ควรจะเห็นความสำคัญในจุดนี้ได้. การฟื้นฟูแม่น้ำต้องเริ่มจากป่าต้นน้ำของมัน จะต้องไม่มีการทำลายอีก จะต้องฟื้นฟูป่าเหล่านี้ให้กลับมา จากนั้นฟื้นฟูแม่น้ำแควทั้งสี่ เชื่อมไปสู่แม่น้ำเจ้าพระยาตอนบน จนจรดเจ้าพระยาตอนล่าง.
    .
    นี่แหละคือชีพจรชีวิตของสยามประเทศ นี่คือหนทางที่จะทำให้เราอยู่รอดได้ หากวันนึงหายนะน้ำเกิดขึ้นและนำไปสู่จุดที่กลายเป็นสงครามแย่งชิงน้ำ ดังนั้นฟื้นฟูมันเสียตั้งแต่บัดนี้ ก่อนที่จะสายเกินไป!
    .
    หากคุณติดตามข่าว พระเจ้าอยู่หัววชิราลงกรณ์ฯ ท่านทรงไล่ฟื้นฟูคลองในกรุงเทพไล่เรียงไปทีละสาย หลายสายบัดนี้ได้กลับมาสะอาดดังเดิม หากแม่น้ำฟื้นคืนชีวิต คลองทั้งหลายเหล่านี้จะยิ่งหล่อเลี้ยงไปยังแขนงน้อยใหญ่ให้แก่เมือง
    .
    ลองดูภาพแผนที่ เมื่อเราพิจารณาดูแผนที่ที่เห็นอยู่นี้ซึ่งแสดงแม่น้ำสายใหญ่ๆ ในเอเชีย มันต่างกับแม่น้ำเจ้าพระยาที่ต้นน้ำอยู่ในประเทศไทย ทั้งหมดนั้นล้วนมีต้นกำเนิดอยู่ในทิเบต แม่น้ำทั้งหมดนี้คือสายโลหิตที่เลี้ยงเอเชีย มันไม่ได้มีความสำคัญแค่เป็นจุดกำเนิดวัฒนธรรมอันเก่าแก่ลึกล้ำ มันเป็นหัวใจที่หล่อเลี้ยงความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดิน และมันยังเป็นปัจจัยสำคัญหลายอย่างโดยเฉพาะทางภูมิรัฐศาสตร์และความมั่นคงของภูมิภาค.
    .
    นี่คือเหตุผลสำคัญที่ว่า ทำไมจีนจึงต้องปกป้องให้ทิเบตสุดชีวิต
    นี่เป็นอาณาเขตที่อ่อนไหวและหวงแหนยิ่งของจีน. เพราะอะไร?
    .
    ดินแดนนี้เป็นดังเขตกันชนที่ต้องเฝ้าระวังการรุกล้ำครอบงำจากโลกฝั่งตะวันตก ที่อาจแทรกทะลุผ่านเอเชียกลางเข้ามาได้. ดินแดนเปราะบางบางส่วนที่เป็นประตูเข้ามาสู่ดินแดนแถบนี้ ถูกแทรกแซงครอบงำจากตะวันตกไปบ้างแล้ว เช่น อัฟกานิสถาน คาซัคสถาน ทาจิกิสถาน... มหาอำนาจตะวันตกนั้นมุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเข้ามามีอิทธิพลเหนือทิเบตให้ได้ ด้วยกลยุทธมากมายหลายอย่าง แม้กระทั่งด้วยวิธีการใช้พรอพพาแกนดามากมาย เช่น ฟรีทิเบต เป็นต้น. แม้เราจะเคารพรักองค์ดาไลลามะและเห็นใจพุทธศาสนิกชน ประชากรชาวทิเบตเพียงใด แต่เราก็จำเป็นต้องไตร่ตรองในความเปราะบางของสถานะการณ์เช่นนี้อย่างระมัดระวัง. จีนนั้นมีเหตุผลเช่นไร ในการที่จะปกป้องพื้นที่นี้เอาไว้ให้เป็นส่วนหนึ่งของประเทศจีนอย่างสุดกำลังความสามารถ เราสามารถพิจารณาได้จากแผนที่ที่เห็น..
    .
    หากมหาอำนาจตะวันตกใดก็ตามเข้ามายึดครองควบคุมทิเบต ไม่เพียงแค่จีนเท่านั้นที่จะเส่ียงต่อความมั่นคง.. แต่ ไทย ลาว กัมพูชา พม่า และบางส่วนของอินเดีย อาจตกอยู่ในสถานะการณ์ที่ยากลำบากได้. ใครครอบครองทิเบต ผู้นั้นกุมชะตาเอเชีย เท่าที่ผ่านมานับพันปี แม้มีความไม่น่ายินดีกับการจัดการทรัพยากรต้นน้ำของจีนนัก แต่จีนก็แสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่ได้ชั่วร้ายที่จะฉกฉวยประโยชน์จากสายเลือดใหญ่เหล่านี้แต่เพียงฝ่ายเดียว พวกเรายังอยู่ร่วมกันมาได้นับพันปี แต่เราไม่อาจคาดการได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น หากมหาอำนาจอื่น เข้ามามีอำนาจในการควบคุมแม่น้ำสายใหญ่เหล่านี้.
    .
    แน่นอนว่า เวลาเปลี่ยน ปัจจัยเปลี่ยน.. ทั้งมนุษย์ ทั้งปัจจัยทางธรรมชาติ ทั้งสถานะการณ์โลกและนอกโลก.. เราไม่อาจรู้ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราได้แต่ตัดสินใจจากพื้นฐานที่เป็นประสบการณ์ของเราจากประวัติศาสตร์และบทเรียนที่ผ่านมา
    .
    พระพุทธองค์ตรัสว่า สังขารนั้นไม่เที่ยง ย่อมเสื่อมไปตามเหตุและปัจจัย
    มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป
    จงมีสติปัญญาที่จะพิจารณาวิเคราะห์และแยกแยะสิ่งต่างๆ ให้ถี่ถ้วนและพร้อมที่จะตัดสินใจ แก้ไขมันอย่างทันท่วงที โดยเลือกทางเลือกที่ถูกต้องที่สุด
    .
    ด้วยความปรารถนาดีและห่วงใยทุกท่าน
    - พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา -
    .
    อัพเดทข้อมูลในปี 2566
    --------------------------
    - แม่น้ำโวลก้าในเวลานี้มีสภาพที่ดีขึ้นมากกว่าเดิม โลหะหนักเป็นพิษลดสู่ปริมาณที่ต่ำลงอย่างมีนัยยะ
    - พื้นที่ในเอเชียกลางที่เคยถูกแทรกแซงครอบงำจากอิทธิพลตะวันตก เช่นอัฟกานิสถานและปากีสถาน กำลังเป็นอิสระและฟื้นฟูโดยความช่วยเหลือของจีนและรัสเซีย เส้นทางลำเลียงยาเสพติดของซีไอเอในเอเชียกลางถูกกำจัด และเอเชียกลางทั้งหมดผนึกเป็นส่วนเดียวกับพันธมิตรรัสเซีย-จีน เดินหน้าไปสู่ความเจริญของโครงการ One Belt One Road นั่นหมายความว่าแหล่งน้ำในทิเบตในเวลานี้ ได้รอดพ้นจากความเสี่ยงในการเข้าแทรกแซงของมหาอำนาจตะวันตกแล้ว และมันจะกลายเป็นพื้นที่ที่จะได้รับการดูแลรักษาอย่างเอาใจใส่
    - เอธิโอเปีย เข้าร่วมสมาขิก BRICS นั่นหมายความว่า ในที่สุดชาติที่น่าสงสารนี้จะได้ลืมตาอ้าปากเสียที และจีนกำลังเข้าช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจ เช่นเดียวกับชาติอื่นๆ ในแอฟริกา หลังจากหลายปีแห่งความทุกข์ทรมานจากการถูกเอาเปรียบขูดรีดทรัพยากรโดยมหาทุนตะวันตก
    --------------------------
    บทความเก่าขอนำมาโพสอีกครั้ง ---------------------------- สงครามน้ำจะมาถึงในไม่ช้า นี่เป็นคำพยากรณ์... . อันที่จริงผมพูดเรื่องนี้มานานแล้วตั้งแต่ราวปี 2003 ผมเคยพยายามที่จะทำโครงการหนึ่งชื่อ Voices of Asia รวมทั้งเคยหาข้อมูลเพื่อทำสารคดีเรื่องแม่น้ำ.. มันไม่ได้รับการสนับสนุนให้ทำ แต่ยังคงเป็นสิ่งที่วนเวียนหลอกหลอนอยู่ในความคิดผมเสมอมา ความกังวลนี้มาจากการได้อ่านข้อมูลที่เกี่ยวกับปัญหาวิกฤติน้ำในเอธิโอเปียในช่วงเวลานั้น . แม่น้ำไนล์ เป็นที่รู้ดีมานานแล้วว่า คือกระแสโลหิตที่หล่อเลี้ยงแอฟริกาตอนบน และมันไม่เคยเพียงพอต่อความต้องการเลย นับแต่ซาฮาร่าโบราณที่เคยอุดมสมบูรณ์ในยุคโบราณได้แปรเปลี่ยนเป็นทะเลทราย และบรรพบุรุษของโฮโมเซเปี้ยนส์เริ่มอพยพหนีออกมาจากที่นั่น.. ซาฮาร่าแห้งแล้งลงเรื่อยๆ ผ่านเวลาแสนปีจนถึงปัจจุบัน.. ยิ่งเมื่อภาวะวิกฤติโลกร้อนและอุณหภูมิโลกและอากาศเปลี่ยนแปลงในทุกวันนี้ มันก็ยิ่งเหือดแห้งลงกว่าเดิม และยิ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการมากยิ่งขึ้น.. . ต้นกำเนิดของแม่น้ำสายนี้อยู่ในเอธิโอเปีย. ประเทศอันแสนยากจน พวกเขาส่วนใหญ่ยากจนแสนเข็ญจริงๆ และแม้ว่าแม่น้ำนี้จะกำเนิดจากดินแดนแห่งนี้ แต่พวกเขาในพื้นที่ห่างไกลกลับยากลำบากและขาดแคลนน้ำที่จะนำมาเป็นปัจจัยพื้นฐานเพื่อเอาชีวิตรอด นั่นคือใช้ในการทำเกษตรกรรม. พวกเขาคงจะมีโอกาสรอดมากขึ้น ถ้าเพียงพวกเขาจะทำเขื่อนเพื่อที่จะกักและชะลอน้ำไว้บ้างสำหรับการเพาะปลูกเท่าที่จำเป็น แต่การทำเช่นนั้น.. สร้างความวิตกว่าน้ำจะยิ่งไม่เพียงพอแก่ประเทศอื่นที่ใช้แม่น้ำนี้ร่วมกัน เช่น อียิปต์ และ ซูดาน.. สองประเทศนี้มีแสนยานุภาพ มีขีปนาวุธ และเครื่องบินรบทันสมัยอย่างเอฟสิบหก ทันทีที่เอธิโอเปียสร้างเขื่อน มันจะถูกยิงถล่มเป็นผุยผง.. ประชาชนเอธิโอเปียไม่อาจทำอย่างไรได้ นอกจากจ้องมองแม่น้ำของพวกเขาด้วยความสิ้นหวังและล้มลงตายกับพื้นดิน. . เหตุการณ์แบบนี้อาจจะเกิดขึ้นที่อื่นอีก อย่างแน่นอน ไม่ช้าก็เร็ว และมันอาจเกิดขึ้นกับเรา คุณและผม... สักวันหนึ่ง . คนไทยอย่างเราอาจมองเรื่องเช่นนี้เป็นเรื่องไกลตัว เราใช้น้ำอย่างสบายใจและฟุ่มเฟือย เราเดินเข้าห้าง เข้ามินิมาร์ตที่มีน้ำดื่มบรรจุขวดมากมายเรียงรายเต็มหิ้งให้เลือก จนเราอาจลืมข้อเท็จจริงและเผลอคิดไปได้ว่า น้ำนี้จะไม่มีวันหมด และมันจะรอเราอยู่บนหิ้งนั้นชั่วนิรันดร์.. นั่นเป็นความคิดที่โง่เขลาสิ้นดีและไม่เป็นความจริง. . วันนึง ..จะไม่มีน้ำแม้สักครึ่งขวดเหลืออยู่บนหิ้งพวกนั้น และวันนั้นอาจมาถึงในไม่ช้า . สมัยเด็ก ผมโตมาบนถนนพระอาทิตย์และถนนพระสุเมรุ บ้านพ่ออยู่ติดแม่น้ำหน้าท่าพระอาทิตย์ ส่วนบ้านแม่อยู่ตรอกวัดสังเวช อยู่บนริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเลย. ยุคนั้น ที่บ้านแม่ตักน้ำจากแม่น้ำแล้วกวนด้วยสารส้มใช้เป็นประจำ นำมาต้ม แล้วใช้ปรุงอาหารได้.. น้ำดื่มคือน้ำฝนที่รองใส่โอ่ง.. . ทุกวันนี้เราไม่สามารถทำเช่นนั้นได้อีกแล้ว แม่น้ำเจ้าพระยาตอนบนอาจจะยังคงสะอาดพอควร แต่ตอนกลางนั้นมีการปนเปื้อนอยู่หลายจุดตลอดเส้นทาง.. ไม่ต้องพูดถึงแม่น้ำตอนล่าง ที่ไหลผ่านเมืองใหญ่อย่างอยุธยาและกรุงเทพเลย พวกมันล้วนอุดมด้วยสารพิษอย่างเช่น ปรอท โลหะหนัก และสารเคมีสารพัด เช่น แคดเมี่ยม ฯลฯ พวกมันถูกปล่อยจากโรงงานอุตสาหกรรมที่อยู่เรียงรายตามริมแม่น้ำ ผสมโรงด้วยขยะพิษที่ประชาชนปล่อยลงไป ทั้งจากเคมีที่ใช้ประจำวันและยาฆ่าแมลง จากวัตถุมีพิษอื่นๆ เช่น อุปกรณ์อีเลคโทรนิคส์ แบตเตอรี่ ฯลฯ . ขณะที่ทุกคนต่างใช้ชีวิตอย่างเคยชินกับสิ่งเหล่านี้และไม่สนใจเพิกเฉยปัญหาของมัน หายนะกำลังคืบคลานอย่างช้าๆ มาสู่เราโดยไม่รู้ตัว.. ในภาวะปกตินี้ บ้านเมืองที่มีระบบรองรับ ก็ขับเคลื่อนหน่วยงานกลไกของมันไปตามสถานะที่ยังคงเลื่อนไหลไปได้ตามสภาพที่มี คนทั่วไปนั้นไม่ได้สนใจจะไปรับรู้ว่า กลไกเหล่านั้นขับเคลื่อนได้ดีแค่ไหน? ปลอดภัยแค่ไหน? ได้มาตรฐานแค่ไหน?.. พวกเขาสนใจแค่เรื่องตัวเองและคงคิดแค่ว่า "มีใครสักคนที่รับผิดชอบสิ่งเหล่านี้อยู่ และไม่ใช่ภาระที่ฉันจะเอามาใส่ใจ.." คงมีใครกำลังดูแลมันอยู่และมันก็คงดำเนินไปได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร "ตลอดไป".. . งั้นสินะ? โอ้.. ฉันมีการประปานครหลวง กองบำบัดน้ำเสีย กระทรวงสาธารณะสุข กรมประมง เทศบาลเมือง การท่า.. ฯลฯ พวกเขาคงทำทุกอย่างได้ราบรื่นไม่มีปัญหา คนทั้งหลายไม่สำเหนียกว่า จักรเฟืองพวกนี้มีวันหยุดชะงักได้ และเมื่อวันนึงเกิดหายนะภัยพิบัติสักอย่างขึ้น เช่น สงครามโลก ภัยจากอวกาศภายนอกอย่างอุกกาบาต แผ่นดินไหวรุนแรง ซุปเปอร์อีรัพชั่น สภาพอากาศวิกฤติ ยุคน้ำแข็ง.. ฯ ระบบที่ขับเคลื่อนไปทั้งหมดนี้ อาจล่มสลายได้ในชั่วข้ามคืน และเมื่อมันเกิดขึ้น คำถามง่ายๆ ที่สุดที่ไม่มีใครคิดอย่างเช่น.. จะยังจะมีน้ำบรรจุขวดอยู่บนหิ้งในห้างร้านอยู่ไหม? อาจตามมาด้วยคำตอบที่แย่เกินกว่าจะยอมรับ. . กรณีนี้ ถ้าเราไม่มีน้ำดื่มให้ซื้อหาอีกต่อไป ถามว่าเราจะทำอย่างไร? จะดื่มน้ำจากแม่น้ำลำคลองอย่างที่คนโบราณเคยทำได้ไหม? ทำไม่ได้แน่นอน ถ้ามันเป็นพิษ.. เว้นแต่คนจะหมดสิ้นหนทางและความตายเป็นการปลดปล่อยจากความทุกข์ยาก.. ยิ่งเมื่อระบบเมืองและรัฐที่ขับเคลื่อนชาติต้องล่มสลายเพราะหายนะที่กล่าวไป จะเอางบประมาณ จะเอาอุปกรณ์ จะเอาวัตถุดิบ จะเอาเทคโนโลยี่ที่ไหนกัน มาเยียวยาแม่น้ำให้กลับมาดีดังเดิมและสามารถใช้กินใช้ดื่มได้อีก? ถ้าเราไม่แก้ไขเสียแต่ตอนนี้ จนกระทั่งเราไปถึงจุดนั้น แม่น้ำก็จะไม่สามารถกู้คืนได้อีกเลย. . ครั้งหนึ่ง แม่น้ำโวลกาในรัสเซียนั้น เคยวิกฤติถึงขั้นอันตรายจนกินใช้ไม่ได้เลยอย่างสิ้นเชิง ปลาในแม่น้ำเต็มไปด้วยพิษ แต่ด้วยการร่วมแรงร่วมใจของภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชน แม้ใช้เวลานับสิบปีในการพยายามกู้แม่น้ำสายนี้ ในที่สุดแม่น้ำนี้ก็กลับมาดีจนใช้ได้ในที่สุด แม้มันจะไม่ดีพอที่จะดื่มมันได้ก็ตามในตอนนี้.. . แน่นอนว่า แม่น้ำเจ้าพระยานั้นยังไม่เลวร้ายขนาดนั้น และมันเป็นไปได้อย่างแน่นอน ที่จะฟื้นคืนชีวิตแก่มันอย่างสมบูรณ์ หากเราจะถือว่านี่คือวาระแห่งชาติ และร่วมมือกันฟื้นฟูอย่างจริงจัง . แม่น้ำเจ้าพระยานั้น มีต้นกำเนิดจากป่าต้นน้ำทางภาคเหนือสี่แห่ง ซึ่งคือหัวใจที่ให้ชีวิตแก่แควทั้งสี่ คือ ปิง วัง ยม และ น่าน.. นี่นับเป็นความโชคดีของคนไทยเหลือคณานับ ที่ต้นแม่น้ำสายใหญ่นี้อยู่ในประเทศไทย ไม่ได้อยู่ในประเทศอื่น. นี่เป็นทรัพยากรเลอค่าที่สุด ที่จะพยุงชีวิตให้แก่ชาตินี้ แม้แต่คนโง่ที่สุดก็ควรจะเห็นความสำคัญในจุดนี้ได้. การฟื้นฟูแม่น้ำต้องเริ่มจากป่าต้นน้ำของมัน จะต้องไม่มีการทำลายอีก จะต้องฟื้นฟูป่าเหล่านี้ให้กลับมา จากนั้นฟื้นฟูแม่น้ำแควทั้งสี่ เชื่อมไปสู่แม่น้ำเจ้าพระยาตอนบน จนจรดเจ้าพระยาตอนล่าง. . นี่แหละคือชีพจรชีวิตของสยามประเทศ นี่คือหนทางที่จะทำให้เราอยู่รอดได้ หากวันนึงหายนะน้ำเกิดขึ้นและนำไปสู่จุดที่กลายเป็นสงครามแย่งชิงน้ำ ดังนั้นฟื้นฟูมันเสียตั้งแต่บัดนี้ ก่อนที่จะสายเกินไป! . หากคุณติดตามข่าว พระเจ้าอยู่หัววชิราลงกรณ์ฯ ท่านทรงไล่ฟื้นฟูคลองในกรุงเทพไล่เรียงไปทีละสาย หลายสายบัดนี้ได้กลับมาสะอาดดังเดิม หากแม่น้ำฟื้นคืนชีวิต คลองทั้งหลายเหล่านี้จะยิ่งหล่อเลี้ยงไปยังแขนงน้อยใหญ่ให้แก่เมือง . ลองดูภาพแผนที่ เมื่อเราพิจารณาดูแผนที่ที่เห็นอยู่นี้ซึ่งแสดงแม่น้ำสายใหญ่ๆ ในเอเชีย มันต่างกับแม่น้ำเจ้าพระยาที่ต้นน้ำอยู่ในประเทศไทย ทั้งหมดนั้นล้วนมีต้นกำเนิดอยู่ในทิเบต แม่น้ำทั้งหมดนี้คือสายโลหิตที่เลี้ยงเอเชีย มันไม่ได้มีความสำคัญแค่เป็นจุดกำเนิดวัฒนธรรมอันเก่าแก่ลึกล้ำ มันเป็นหัวใจที่หล่อเลี้ยงความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดิน และมันยังเป็นปัจจัยสำคัญหลายอย่างโดยเฉพาะทางภูมิรัฐศาสตร์และความมั่นคงของภูมิภาค. . นี่คือเหตุผลสำคัญที่ว่า ทำไมจีนจึงต้องปกป้องให้ทิเบตสุดชีวิต นี่เป็นอาณาเขตที่อ่อนไหวและหวงแหนยิ่งของจีน. เพราะอะไร? . ดินแดนนี้เป็นดังเขตกันชนที่ต้องเฝ้าระวังการรุกล้ำครอบงำจากโลกฝั่งตะวันตก ที่อาจแทรกทะลุผ่านเอเชียกลางเข้ามาได้. ดินแดนเปราะบางบางส่วนที่เป็นประตูเข้ามาสู่ดินแดนแถบนี้ ถูกแทรกแซงครอบงำจากตะวันตกไปบ้างแล้ว เช่น อัฟกานิสถาน คาซัคสถาน ทาจิกิสถาน... มหาอำนาจตะวันตกนั้นมุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเข้ามามีอิทธิพลเหนือทิเบตให้ได้ ด้วยกลยุทธมากมายหลายอย่าง แม้กระทั่งด้วยวิธีการใช้พรอพพาแกนดามากมาย เช่น ฟรีทิเบต เป็นต้น. แม้เราจะเคารพรักองค์ดาไลลามะและเห็นใจพุทธศาสนิกชน ประชากรชาวทิเบตเพียงใด แต่เราก็จำเป็นต้องไตร่ตรองในความเปราะบางของสถานะการณ์เช่นนี้อย่างระมัดระวัง. จีนนั้นมีเหตุผลเช่นไร ในการที่จะปกป้องพื้นที่นี้เอาไว้ให้เป็นส่วนหนึ่งของประเทศจีนอย่างสุดกำลังความสามารถ เราสามารถพิจารณาได้จากแผนที่ที่เห็น.. . หากมหาอำนาจตะวันตกใดก็ตามเข้ามายึดครองควบคุมทิเบต ไม่เพียงแค่จีนเท่านั้นที่จะเส่ียงต่อความมั่นคง.. แต่ ไทย ลาว กัมพูชา พม่า และบางส่วนของอินเดีย อาจตกอยู่ในสถานะการณ์ที่ยากลำบากได้. ใครครอบครองทิเบต ผู้นั้นกุมชะตาเอเชีย เท่าที่ผ่านมานับพันปี แม้มีความไม่น่ายินดีกับการจัดการทรัพยากรต้นน้ำของจีนนัก แต่จีนก็แสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่ได้ชั่วร้ายที่จะฉกฉวยประโยชน์จากสายเลือดใหญ่เหล่านี้แต่เพียงฝ่ายเดียว พวกเรายังอยู่ร่วมกันมาได้นับพันปี แต่เราไม่อาจคาดการได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น หากมหาอำนาจอื่น เข้ามามีอำนาจในการควบคุมแม่น้ำสายใหญ่เหล่านี้. . แน่นอนว่า เวลาเปลี่ยน ปัจจัยเปลี่ยน.. ทั้งมนุษย์ ทั้งปัจจัยทางธรรมชาติ ทั้งสถานะการณ์โลกและนอกโลก.. เราไม่อาจรู้ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราได้แต่ตัดสินใจจากพื้นฐานที่เป็นประสบการณ์ของเราจากประวัติศาสตร์และบทเรียนที่ผ่านมา . พระพุทธองค์ตรัสว่า สังขารนั้นไม่เที่ยง ย่อมเสื่อมไปตามเหตุและปัจจัย มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป จงมีสติปัญญาที่จะพิจารณาวิเคราะห์และแยกแยะสิ่งต่างๆ ให้ถี่ถ้วนและพร้อมที่จะตัดสินใจ แก้ไขมันอย่างทันท่วงที โดยเลือกทางเลือกที่ถูกต้องที่สุด . ด้วยความปรารถนาดีและห่วงใยทุกท่าน - พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา - . อัพเดทข้อมูลในปี 2566 -------------------------- - แม่น้ำโวลก้าในเวลานี้มีสภาพที่ดีขึ้นมากกว่าเดิม โลหะหนักเป็นพิษลดสู่ปริมาณที่ต่ำลงอย่างมีนัยยะ - พื้นที่ในเอเชียกลางที่เคยถูกแทรกแซงครอบงำจากอิทธิพลตะวันตก เช่นอัฟกานิสถานและปากีสถาน กำลังเป็นอิสระและฟื้นฟูโดยความช่วยเหลือของจีนและรัสเซีย เส้นทางลำเลียงยาเสพติดของซีไอเอในเอเชียกลางถูกกำจัด และเอเชียกลางทั้งหมดผนึกเป็นส่วนเดียวกับพันธมิตรรัสเซีย-จีน เดินหน้าไปสู่ความเจริญของโครงการ One Belt One Road นั่นหมายความว่าแหล่งน้ำในทิเบตในเวลานี้ ได้รอดพ้นจากความเสี่ยงในการเข้าแทรกแซงของมหาอำนาจตะวันตกแล้ว และมันจะกลายเป็นพื้นที่ที่จะได้รับการดูแลรักษาอย่างเอาใจใส่ - เอธิโอเปีย เข้าร่วมสมาขิก BRICS นั่นหมายความว่า ในที่สุดชาติที่น่าสงสารนี้จะได้ลืมตาอ้าปากเสียที และจีนกำลังเข้าช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจ เช่นเดียวกับชาติอื่นๆ ในแอฟริกา หลังจากหลายปีแห่งความทุกข์ทรมานจากการถูกเอาเปรียบขูดรีดทรัพยากรโดยมหาทุนตะวันตก --------------------------
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 336 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตามรายงานของสำนักข่าว Ynet อิสราเอลเสนอเงื่อนไขต่อสหรัฐว่า จะไม่ยอมรับอะไรเลยนอกจากการรื้อถอนโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านทั้งหมด รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการวิจัยและการเสริมสมรรถนะทั้งหมดภายในอิหร่าน


    ซึ่งหากไม่เป็นไปตามนี้ในการเจรจาระหว่างอิหร่านกับสหรัฐ เจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านความมั่นคงและการป้องกันประเทศของอิสราเอลกล่าวว่า ในที่สุดอิสราเอลจำเป็นต้องปฏิบัติการทางทหาร โดยการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน เพื่อป้องกันไม่ให้เตหะรานครอบครองอาวุธนิวเคลียร์
    ตามรายงานของสำนักข่าว Ynet อิสราเอลเสนอเงื่อนไขต่อสหรัฐว่า จะไม่ยอมรับอะไรเลยนอกจากการรื้อถอนโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านทั้งหมด รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการวิจัยและการเสริมสมรรถนะทั้งหมดภายในอิหร่าน ซึ่งหากไม่เป็นไปตามนี้ในการเจรจาระหว่างอิหร่านกับสหรัฐ เจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านความมั่นคงและการป้องกันประเทศของอิสราเอลกล่าวว่า ในที่สุดอิสราเอลจำเป็นต้องปฏิบัติการทางทหาร โดยการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน เพื่อป้องกันไม่ให้เตหะรานครอบครองอาวุธนิวเคลียร์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 158 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🕵️‍♂️ แผนลับของเกาหลีเหนือ: แทรกซึมงานไอทีในสหรัฐฯ
    การสืบสวนล่าสุดเผยว่า เกาหลีเหนือใช้กลยุทธ์แทรกซึมงานไอทีในสหรัฐฯ ผ่าน TikTok influencer ชาวมินนิโซตา โดยอาศัยช่องโหว่ของ การทำงานระยะไกล เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของตนสามารถเข้าถึงระบบของบริษัทอเมริกัน

    แผนนี้เกี่ยวข้องกับ Christina Chapman ผู้ใช้ TikTok ที่มีผู้ติดตามกว่า 100,000 คน ซึ่งไม่รู้ตัวว่าตนเองกำลังช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือ โดยเธอได้รับข้อเสนอผ่าน LinkedIn ให้เป็นตัวแทนของบริษัทที่จัดหางานไอทีจากต่างประเทศ

    Chapman ทำหน้าที่ รับและตั้งค่าคอมพิวเตอร์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือสามารถเข้าถึงระบบของบริษัทอเมริกันได้จากระยะไกล นอกจากนี้ เธอยังช่วยจัดการเอกสารภาษีปลอมและส่งเงินเดือนให้กับบุคคลเหล่านี้

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - เกาหลีเหนือใช้แผนแทรกซึมงานไอทีในสหรัฐฯ ผ่าน TikTok influencer
    - Christina Chapman ไม่รู้ตัวว่ากำลังช่วยเหลือเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือ
    - เธอรับและตั้งค่าคอมพิวเตอร์ให้เจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือเข้าถึงระบบบริษัทอเมริกัน
    - แผนนี้เกี่ยวข้องกับกว่า 300 บริษัท และสร้างรายได้ให้เกาหลีเหนือกว่า 17.1 ล้านเหรียญ
    - FBI ระบุว่าแผนลักษณะนี้สร้างรายได้ให้เกาหลีเหนือหลายร้อยล้านเหรียญต่อปี

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - บริษัทอเมริกันอาจส่งอุปกรณ์และเงินให้กับเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือโดยไม่รู้ตัว
    - แฮกเกอร์ใช้ซอฟต์แวร์พิเศษเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับและขโมยข้อมูล
    - มีการใช้ AI เพื่อเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ของเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือในการสัมภาษณ์งานออนไลน์
    - บุคคลที่ถูกใช้เป็นตัวแทนอาจต้องรับผิดทางกฎหมาย แม้จะไม่รู้ตัวว่ากำลังช่วยเหลือแผนนี้

    🌍 ผลกระทบต่อความมั่นคงไซเบอร์
    แผนนี้แสดงให้เห็นถึง ความสามารถของเกาหลีเหนือในการใช้เทคโนโลยีเพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตร และสร้างรายได้ให้กับรัฐบาล นอกจากนี้ ยังเป็นเครื่องเตือนใจให้บริษัทต่าง ๆ เพิ่มมาตรการตรวจสอบความปลอดภัยของพนักงานระยะไกล เพื่อป้องกันการแทรกซึมจากต่างชาติ

    https://www.techspot.com/news/108104-how-north-korea-infiltrated-remote-us-jobs-through.html
    🕵️‍♂️ แผนลับของเกาหลีเหนือ: แทรกซึมงานไอทีในสหรัฐฯ การสืบสวนล่าสุดเผยว่า เกาหลีเหนือใช้กลยุทธ์แทรกซึมงานไอทีในสหรัฐฯ ผ่าน TikTok influencer ชาวมินนิโซตา โดยอาศัยช่องโหว่ของ การทำงานระยะไกล เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของตนสามารถเข้าถึงระบบของบริษัทอเมริกัน แผนนี้เกี่ยวข้องกับ Christina Chapman ผู้ใช้ TikTok ที่มีผู้ติดตามกว่า 100,000 คน ซึ่งไม่รู้ตัวว่าตนเองกำลังช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือ โดยเธอได้รับข้อเสนอผ่าน LinkedIn ให้เป็นตัวแทนของบริษัทที่จัดหางานไอทีจากต่างประเทศ Chapman ทำหน้าที่ รับและตั้งค่าคอมพิวเตอร์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือสามารถเข้าถึงระบบของบริษัทอเมริกันได้จากระยะไกล นอกจากนี้ เธอยังช่วยจัดการเอกสารภาษีปลอมและส่งเงินเดือนให้กับบุคคลเหล่านี้ ✅ ข้อมูลจากข่าว - เกาหลีเหนือใช้แผนแทรกซึมงานไอทีในสหรัฐฯ ผ่าน TikTok influencer - Christina Chapman ไม่รู้ตัวว่ากำลังช่วยเหลือเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือ - เธอรับและตั้งค่าคอมพิวเตอร์ให้เจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือเข้าถึงระบบบริษัทอเมริกัน - แผนนี้เกี่ยวข้องกับกว่า 300 บริษัท และสร้างรายได้ให้เกาหลีเหนือกว่า 17.1 ล้านเหรียญ - FBI ระบุว่าแผนลักษณะนี้สร้างรายได้ให้เกาหลีเหนือหลายร้อยล้านเหรียญต่อปี ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - บริษัทอเมริกันอาจส่งอุปกรณ์และเงินให้กับเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือโดยไม่รู้ตัว - แฮกเกอร์ใช้ซอฟต์แวร์พิเศษเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับและขโมยข้อมูล - มีการใช้ AI เพื่อเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ของเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือในการสัมภาษณ์งานออนไลน์ - บุคคลที่ถูกใช้เป็นตัวแทนอาจต้องรับผิดทางกฎหมาย แม้จะไม่รู้ตัวว่ากำลังช่วยเหลือแผนนี้ 🌍 ผลกระทบต่อความมั่นคงไซเบอร์ แผนนี้แสดงให้เห็นถึง ความสามารถของเกาหลีเหนือในการใช้เทคโนโลยีเพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตร และสร้างรายได้ให้กับรัฐบาล นอกจากนี้ ยังเป็นเครื่องเตือนใจให้บริษัทต่าง ๆ เพิ่มมาตรการตรวจสอบความปลอดภัยของพนักงานระยะไกล เพื่อป้องกันการแทรกซึมจากต่างชาติ https://www.techspot.com/news/108104-how-north-korea-infiltrated-remote-us-jobs-through.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    How North Korea infiltrated remote US jobs through a TikTok user in Minnesota
    A recent Wall Street Journal investigation highlights the story of Christina Chapman, a Minnesota native and popular TikTok user, showing how ordinary Americans became entangled in a...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 155 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..เคยมโนเล่นๆไปหลายครัังแล้ว,ส่วนใครมีทองคำ ขายเลยอย่าถือไว้ เงินบาทเรามีทองคำค้ำประกันปกติมั่นคงในความแข็งแกร่งปกติอยู่แล้วอาจในระดับต้นๆของโลก สมดุลตัวปกติ,แต่ทองคำยุคนี้คือตัวปั่นสร้างราคาของอีลิทซาตานชัดเจน ฝ่ายแสงบ้าแสงบออย่าไปเชื่อเพราะอีลิทมืดมันคือเจ้าของบ่อทองคำเหมืองผลิตทองคำจริงเกือบทุกๆแห่งทั่วโลกไม่เว้นบ่อทองคำไทยเราด้วย,มันปั่นราคาให้สูงขึ้นชัดเจน อ้างbricsจะเป็นตังดิจิดัลโลกมีทองคำค้ำประกันใช้ทองคำเยอะราคาพุ่งเพราะแต่ละชาติต้องสะสมใช้ค้ำซึ่งหากมโนว่าจริงถ้าbricsคือองค์กรสากลของอีลิทยุคสมัยหน้าใหม่ก็ไม่แปลก,
    ..ทองคำถ้าบริหารจัดการขั้นตัดตอนจริงแบบอีลิทเจอตัดขาจริง,ไม่ใช่อีลิทสั่งควบคุมให้ปล่อยดันราคาให้สูงขึ้นแบบนี้ ทำลายกฎสมดุลเช่นราคาสินค้าอื่นๆที่เป็นอุปโภคบริโภคไปด้วยเพราะมันคือสินทรัพย์ที่ใช้ปั่นราคาเนียนๆนั้นเองโดยอ้างว่าทองคำเชื่อถือได้ที่สุดเพราะอีลิทมันโปรยัง,เดอะแก๊งเครือข่ายทั่วโลกเลยปั่นสะดวกเพราะนายใหญ่อนุญาตและรับรองการทำงานลงหน้างานไง,ถ้าผู้นำผีบ้าบางประเทศสมมุติแบบไทยที่ผู้ปกครองหรือผู้นำผู้มีอำนาจประเทศไทยมิใช่ขี้ข้าทาสรับใช้มันนะ,แค่ออกกฎหมายกติกาใหม่ยุติธรรมว่า ทุกๆราคาทองคำที่โลกสากลยอมรับในเวลานี้ว่าน่าเชื่อถือที่สุด หากราคาทองคำเพิ่มขึ้นเช่นที่ไทยจากปกติราคาไม่กี่หมื่นกี่พัน เทียบราคาสินค้าแบบก๋วยเตี๋ยวข้าวผัด1ชามจานที่ราคาละ15-20บาท ทองราคา15,000-20,000บาทต่อ1บาททองคำ,ราคาสินค้าทั้งหมดในเวลานี้ทั่วประเทศทุกๆสินค้าอุปโภคบริโภคหรือสินค้านำเข้าและส่งออกหรือภาษีทั้งหมดของประเทศไทยตลอดเงินเดือนค้าจ้างค้าแรงงานทั้งหมดจะเอกชนหรือรัฐบาลต้องปรับขึ้นทั้งหมดพร้อมกันทันทีและต้องอ้างอิงราคาทองคำนี้เป็นมาตราไทยทั้งหมดทันที โดยฐานปัจจุบันคือ2.34เท่าของราคาทองคำที่เปลี่ยนแปลงถึงปัจจุบัน อนาคตจะทันเงินเฟ้อทุกๆกรณีทันที,เช่นข้าวผัดก๋วยเตี๋ยวจานชามละ15บาทคูณราคาเพิ่มในเวลานี้ทันทีคือ15×2.34เท่า=35.10บาทที่ต้องบวกจาก15บาทเพิ่มขึ้นรวมราคาในปัจจุบันเวลานี้ต้องค้าขายกันจริงที่50.10บาทต่อจานชามเป็นราคาธรรมดาทั่วไปทันที จะทันเงินเฟ้อจริงที่ราคาทองคำในปัจจุบันที่50,000บาทเงินต่อ1บาททองคำทันทีด้วย,หากราคาทองคำลดลงที่30,000บาทเงิน,ราคาสินค้าจาก50บาทก็จะลดลงเรียลไทม์เช่นกันที่30บาทต่อจามชามในเวลานั้นโดยอ้างอิงราคาทองคำฐานที่50,000บาทเงินในเวลาฐานเป็นหลักเป็นพื้นเพื่อยืนคำนวนได้ในการเทียบราคาอ้างอิงในเวลาขึ้นลงของอนาคตต่อไป,มุกสูตรนี้สามารถใช้กับทุกๆค่าแรงงานจ้างเงินเดือนด้วยเรียลไทม์เช่นกันเพื่อทันเงินเฟ้อเรียลไทม์เช่นปกติเงินเดือน15,000บาท ทองคำราคาคือ50,000บาทเงินในเวลาจริงปัจจุบันซึ่งการขึ้นลงราคาทองคำในเวลานี้ถือว่าเอาเปรียบสายสาขาอื่นชัดเจนที่ไม่ได้ปรับราคาจริงทันอัตราเงินเฟ้อค่าเงินบาทไทยจนไปลดคุณค่าเงินบาทไทยอย่างอยุติธรรมของทองคำที่ทำกับค่าเงินบาทไทยเรา,จึงเปลี่ยนแปลงทางนโยบายการเงินไทยให้ล้ำสมัยทันเกมส์อีลิทซาตานสร้างมูลค่าเอาเปรียบเราคือทองคำฝ่ายเดียว ดันราคาขึ้นให้ค่าให้ราคาจนเหยียบค่าเงินบาทเราจนด้อยค่าลงหรือไร้ค่าเป็นเงินฟ้อนั้นเอง,นายกฯจึงต้องเปลี่ยนคนใหม่ทันทีบวกผู้ว่าแบงค์ชาติด้วยต้องทันมัน,คือรีเซ็ตปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ก็ต้องทำนั้นเอง,มิต้องไปใช้ตังดิจิดัลอะไรก็ได้,ตังกระดาษถ้าซื่อสัตย์ในการใช้มันก็จบ,เงินเดือนคนไทยป.ตรี15,000บาทคูณ2.34เท่าคือบวกเพิ่มที่35,100บาททันทีในทุกๆกิจการบริษัทที่มีพนักงานอยู่ กฎหมายต้องใช้บังคับทันทีจริงจัง,รวมคนไทยที่ปกติได้เงินเดือน15,000บาท เดือนหน้าจะเป็น50,100บาททันที,ทองคำลงที่30,000บาท,เดือนนั้นจะได้เงินเดือนที่30,060บาทเช่นกัน เพราะอ้างอิงราคาทองคำ,เมื่อนโยบายทางการเงินเราเปลี่ยนแปลงแบบอ้างอิงราคาทองคำโลกนำมาใข้จริงในไทย,เราจะบริหารแบบสมดุลการค้าการตังได้จริงทันที แก้ที่ต้นเหตุจริง,ทันค่าเงินจริง มูลค่าคุณค่าทางเงินบาทเราจะเที่ยงตรงสากลโลกจริง,ปัจจุบันมันไม่สมดุลด้วยราคาทองคำผีบ้ามีเอกสิทธิ์สามารถขึ้นเอาขึ้นเอาบวกทั้งไปเสือกลดด้อยค่าเงินบาทเราอีกด้วย,ค่าเงินกระทบเราจริง,เงินเฟ้อคือเครื่องมือมันคิดอ่านสร้างขึ้น ตัวไปกดไปขี่ไปบังคับให้ค่าเงินชาติอื่นๆไร้ค่าไร้ค่าก็ว่า,100บาท ปกติซื้อสินค้าในราคาอดีตเหมือนกันได้5ชนิดอย่าง,ปัจจุบันตัง100บาทซื้อสินค้าได้2ชนิดอย่างเป็นต้น,กิจการบริษัทไหนๆจะถูกควบคุมด้วยกลไกการค้าตังค้าเศรษฐกิจหรือแข่งขันกันอย่างยุติธรรมทันที,แรงงานก็ไม่ถูกเอาเปรียบเอารัดจากกิจการบริษัทด้วย,มีตังเท่านี้ ขยายกิจการสาขาจ้างแรงงานตามกำลังตังกำลังเศรษฐกิจตนได้สมสถานะก็ว่า,มิใช่ใช้ความได้เปรียบกดค่าตัวค่าแรงคนงานเช่นอ้างเศรษฐกิจไม่ดีอ้างแพะอ้างเงินเฟ้อสูงก็ด้วย,
    ..เมื่อปรับฐานลักษณะนี้ได้คือใช้นโยบายราคาทองคำไปใช้อ้างอิงจริงในสินค้าบริการทั้งอุปโภคและบริโภคภายในประเทศก่อนจึงค่อยต่อยอดขยายทั้งส่งออกและนำเข้าสินค้าจากนอกประเทศก็ด้วยจึงจะสามารถเข้าใกล้ค่าจริงของความเป็นจริงที่เราประเทศไทยต้องเผชิญในภาวะสงครามเศรษฐกิจหรือภาวะตัง,สงครามตังแบบนี้,จริงๆอีลิทมันใช้ทองคำเป็นอาวุธ(ตัดมุกมโนเรื่องฝ่ายแสงออกไป)มันไม่ใช้ตังบาทตังหยวนตังดอลล่าร์คืออาวุธ,จึงชี้นำว่าทองคำคือแร่ธาตุอ้างอิงมูลค่าและสร้างคุณค่าตังให้ดูดีมีหรูสูงค่ามากราคาดีที่สุดกว่าผีบ้ายุคอดีตอเมริกาอีลิทเก่าที่ใช้น้ำมันแทนทองคำค้ำประกันตังที่พิมพ์ๆปั่นๆตังกันออกมาใช้อย่างมากมายและมากจนเลอะเทอะไปหมดของชาติฝรั่งและอเมริกาบวกขี้ข้าตาอเมริกาก็ด้วย
    ..สรุป สมควรประกาศฉุกเฉินทันทีได้เลยว่า พรุ่งนี้ทุกๆสถานะที่ว่าด้วยตังเรื่องตัง,คูณทันทีที่ป้ายซื้อขายเงินเดือนค้าจ้างและอื่นๆที่เกี่ยวกับตัง,หรือประชาชนสามารถมาแลกตังบาทใหม่ในสถานะใหม่ที่แบงค์ชาติไทยได้ทันทีที่คูณ2.34เท่าแล้ว,เช่น เงินเดือนเดิมที่15,000บาท,นายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างใหม่ทันทีที่ราคาทองคำใช้อ้างอิงในปัจจุบันของราคา50,000บาทต่อ1บาททองคำ,ที่บวกเพิ่มคือ35,100บาทรวมเป็น50,100บาท เพื่อคุ้มครองสัมมาชีวิตของคนไทยเราให้สมดุลกับค่าจริงของวิถีระบบตังที่เปลี่ยนมูลค่าไป ไม่ทันเวลาเช่นในอดีต,จนเกิดการเหลื่อมล้ำวทุกๆวิถีการครองชีพที่แพงที่สูงจนเกินไปก็ว่าและปกป้องค่าเงินบาทตนเองอีกช่องทางหนึ่งด้วย,ราคาทองคำจะขึ้นจะลง ไม่กระทบค่าใช้จ่ายประชาชนคนไทยเลย ทั้งค่าเงินมูลค่าเงินก็ไม่ลดลงด้วย,เดินในสมดุลเรียลไทม์กันจริงๆเลยก็ว่า,นี้คือฝ่ายมืดไม่กล้าจะทำ ไม่กล้าจะประกาศบังคับใช้ด้วยเพราะคนไทยจะได้ประโยชน์เต็มๆทันที ไม่กระทบคนไทยในการดำรงชีพด้วย,คือต้นทุนประชาชนจริงๆมูลค่าจริงๆมันก็เท่าเดิมอันเดิมนั้นล่ะนั้นเอง,ราคาทองคำขึ้น ราคาสินค้าบริการเงินเดือนค่าจ้างค่าแรงก็ขึ้นเรียลไทม์เช่นกันทันค่าใช้จ่ายทันรายได้รายรับ,ราคาทองคำลดลง ราคาสินค้าบริการเงินเดือนค่าจ้างก็ลดลงตามค่าจริงค่าครองชีพมวลรวมด้วยตลอดต้นน้ำปลายน้ำทั้งหมดก็ลดราคาลงจริงตามไปด้วย,ทองจะขึ้นทองจะลง ไม่กระทบคนไทยเราเลยนั้นล่ะ,นี้คือค่าจริงมิใช่ค่าเท็จค่าปลอมหลอกๆที่ผีบ้าแค่ใช้ทองคำไปค้ำประกันการพิมพ์แบงค์ออกมาใส่ให้หมุนเวียนในระบบแค่นั้น,มันไม่สุดซอยเลอะเทอะด้วย คนไทยต้องเจอกับมูลค่าตังที่อ่อนค่าลงหรือแข็งค่าขึ้นแค่นั้นซึ่งมั่นยังถูกปั่นราคาง่ายสบายเกินไปเช่นสถาบันต่างชาติซื้อบาทมากไปก็แข็งค่า ขายเททิ้งบาทไทยในsetบาทก็อ่อนค่า,มันผีบ้ามั้ยล่ะ,ใช้ทองคำประกันพะนะ นี้คือกลยุทธสงครามตังที่ตั้งทัพผิดพลาด รบก็แพ้ตลอด,ต้องประกาศอัดใส่นโยยายชาติเลยว่า เมื่อตังบาทอยู่ในระบบแล้ว ราคาสินค้าบริการที่ตังเข้าไปแทนที่ เช่นค่าแรงเงินเดือน ตังบาทเข้าไปแทนทีเป็นตัวตังทันทีที่50,100บาทในภาวะทองคำเงินทำราคาอ้างอิงฐานที่50,000ในรอบคำนวนเป็นฐานอ้างอิง,หากลดลงเป็น30,000บาทต่อ1บาททองคำ,เงินเดือนจริงในภาวะสังคมจริงในการครองชีพจะเป็นที่30,060บาทต่อคนต่อแรงงานนั้น,ราคาน้ำมัน,ค่าขนส่งก็ด้วยเป็นต้นและสาระพัดอื่นๆที่ระบบทาสตังเข้าไปคำนวนเกี่ยวข้องตีมูลค่าตังได้ อาทิตย.อีกตัว ที่ดินบ้านซื้อขายกัน,1,500,000บาทต่อไร่ก็จะเป็น5,010,000บาทต่อไร่ทันที,จะไร้การคตโกงในความได้เปรียบของมูลค่าเก็งกำไรทางวิกฤติตังเศรษฐกิจที่ไม่ยุติธรรมในอดีตทันที,จะอยู่บนค่าจริงกัน,มิใช่ราคาทองคำสูงถึง50,000บาทต่อ1บาททองคำ,ค่าแรงขั้นต่ำเสือก300บาทเหมือนเดิมหาก300×2.34เท่า=702บาทนะ บวก300เข้าไปให้เต็มสูตรรวมคือ1,002บาทต่อวัน,นี้ค่าแรงงานขั้นต่ำประจำประเทศไทยที่สมดุลกับค่าจริงครองชีพเทียบราคาทองคำที่สะท้อนสภาวะความเชื่อมั่นในตลาดโลกถึงตลาดการค้าการเศรษฐกิจและการดำรงชีวิตสัมมาชีวิตและสัมมาอาชีพต่างๆทั่วไทยของจริง,นี้คือวิถีปกครองที่ล้มเหลวและกากของคณะบริหารประเทศจากอดีตถึงปัจจุบัน,จะราคาข้าวเอย ราคาน้ำมันเอย สามารถใช้ราคาทองคำผูกอ้างอิงได้ค่าจริงสมจริงกว่าตลอดเวลาแต่ไม่ทำ,ราคาทองคำขึ้นลงราคาข้าวเกษตรกรก็ขึ้นลงสมมูลค่าจริงไว้เปรียบเทียบอ้างอิงได้,จากตันละ15,000บาท,เทียบราคาทองคำปัจจุบันคูณ2.34เท่าบวกตัวมันเองคือ50,100บาทต่อตัน,มิใช่เอาเปรียบชาวนาแบบที่เห็นๆกันทั้งในอดีตถึงปัจจุบัน ราคามันฯราคาอ้อยก็ใช้ได้หมดเช่นกัน,คนไทยจะตัดภาวะเงินเฟ้อไปเลย,
    ..
    https://youtube.com/shorts/vaq2-T0uPfw?si=C2gfmvZTRkZ37QkW
    ..เคยมโนเล่นๆไปหลายครัังแล้ว,ส่วนใครมีทองคำ ขายเลยอย่าถือไว้ เงินบาทเรามีทองคำค้ำประกันปกติมั่นคงในความแข็งแกร่งปกติอยู่แล้วอาจในระดับต้นๆของโลก สมดุลตัวปกติ,แต่ทองคำยุคนี้คือตัวปั่นสร้างราคาของอีลิทซาตานชัดเจน ฝ่ายแสงบ้าแสงบออย่าไปเชื่อเพราะอีลิทมืดมันคือเจ้าของบ่อทองคำเหมืองผลิตทองคำจริงเกือบทุกๆแห่งทั่วโลกไม่เว้นบ่อทองคำไทยเราด้วย,มันปั่นราคาให้สูงขึ้นชัดเจน อ้างbricsจะเป็นตังดิจิดัลโลกมีทองคำค้ำประกันใช้ทองคำเยอะราคาพุ่งเพราะแต่ละชาติต้องสะสมใช้ค้ำซึ่งหากมโนว่าจริงถ้าbricsคือองค์กรสากลของอีลิทยุคสมัยหน้าใหม่ก็ไม่แปลก, ..ทองคำถ้าบริหารจัดการขั้นตัดตอนจริงแบบอีลิทเจอตัดขาจริง,ไม่ใช่อีลิทสั่งควบคุมให้ปล่อยดันราคาให้สูงขึ้นแบบนี้ ทำลายกฎสมดุลเช่นราคาสินค้าอื่นๆที่เป็นอุปโภคบริโภคไปด้วยเพราะมันคือสินทรัพย์ที่ใช้ปั่นราคาเนียนๆนั้นเองโดยอ้างว่าทองคำเชื่อถือได้ที่สุดเพราะอีลิทมันโปรยัง,เดอะแก๊งเครือข่ายทั่วโลกเลยปั่นสะดวกเพราะนายใหญ่อนุญาตและรับรองการทำงานลงหน้างานไง,ถ้าผู้นำผีบ้าบางประเทศสมมุติแบบไทยที่ผู้ปกครองหรือผู้นำผู้มีอำนาจประเทศไทยมิใช่ขี้ข้าทาสรับใช้มันนะ,แค่ออกกฎหมายกติกาใหม่ยุติธรรมว่า ทุกๆราคาทองคำที่โลกสากลยอมรับในเวลานี้ว่าน่าเชื่อถือที่สุด หากราคาทองคำเพิ่มขึ้นเช่นที่ไทยจากปกติราคาไม่กี่หมื่นกี่พัน เทียบราคาสินค้าแบบก๋วยเตี๋ยวข้าวผัด1ชามจานที่ราคาละ15-20บาท ทองราคา15,000-20,000บาทต่อ1บาททองคำ,ราคาสินค้าทั้งหมดในเวลานี้ทั่วประเทศทุกๆสินค้าอุปโภคบริโภคหรือสินค้านำเข้าและส่งออกหรือภาษีทั้งหมดของประเทศไทยตลอดเงินเดือนค้าจ้างค้าแรงงานทั้งหมดจะเอกชนหรือรัฐบาลต้องปรับขึ้นทั้งหมดพร้อมกันทันทีและต้องอ้างอิงราคาทองคำนี้เป็นมาตราไทยทั้งหมดทันที โดยฐานปัจจุบันคือ2.34เท่าของราคาทองคำที่เปลี่ยนแปลงถึงปัจจุบัน อนาคตจะทันเงินเฟ้อทุกๆกรณีทันที,เช่นข้าวผัดก๋วยเตี๋ยวจานชามละ15บาทคูณราคาเพิ่มในเวลานี้ทันทีคือ15×2.34เท่า=35.10บาทที่ต้องบวกจาก15บาทเพิ่มขึ้นรวมราคาในปัจจุบันเวลานี้ต้องค้าขายกันจริงที่50.10บาทต่อจานชามเป็นราคาธรรมดาทั่วไปทันที จะทันเงินเฟ้อจริงที่ราคาทองคำในปัจจุบันที่50,000บาทเงินต่อ1บาททองคำทันทีด้วย,หากราคาทองคำลดลงที่30,000บาทเงิน,ราคาสินค้าจาก50บาทก็จะลดลงเรียลไทม์เช่นกันที่30บาทต่อจามชามในเวลานั้นโดยอ้างอิงราคาทองคำฐานที่50,000บาทเงินในเวลาฐานเป็นหลักเป็นพื้นเพื่อยืนคำนวนได้ในการเทียบราคาอ้างอิงในเวลาขึ้นลงของอนาคตต่อไป,มุกสูตรนี้สามารถใช้กับทุกๆค่าแรงงานจ้างเงินเดือนด้วยเรียลไทม์เช่นกันเพื่อทันเงินเฟ้อเรียลไทม์เช่นปกติเงินเดือน15,000บาท ทองคำราคาคือ50,000บาทเงินในเวลาจริงปัจจุบันซึ่งการขึ้นลงราคาทองคำในเวลานี้ถือว่าเอาเปรียบสายสาขาอื่นชัดเจนที่ไม่ได้ปรับราคาจริงทันอัตราเงินเฟ้อค่าเงินบาทไทยจนไปลดคุณค่าเงินบาทไทยอย่างอยุติธรรมของทองคำที่ทำกับค่าเงินบาทไทยเรา,จึงเปลี่ยนแปลงทางนโยบายการเงินไทยให้ล้ำสมัยทันเกมส์อีลิทซาตานสร้างมูลค่าเอาเปรียบเราคือทองคำฝ่ายเดียว ดันราคาขึ้นให้ค่าให้ราคาจนเหยียบค่าเงินบาทเราจนด้อยค่าลงหรือไร้ค่าเป็นเงินฟ้อนั้นเอง,นายกฯจึงต้องเปลี่ยนคนใหม่ทันทีบวกผู้ว่าแบงค์ชาติด้วยต้องทันมัน,คือรีเซ็ตปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ก็ต้องทำนั้นเอง,มิต้องไปใช้ตังดิจิดัลอะไรก็ได้,ตังกระดาษถ้าซื่อสัตย์ในการใช้มันก็จบ,เงินเดือนคนไทยป.ตรี15,000บาทคูณ2.34เท่าคือบวกเพิ่มที่35,100บาททันทีในทุกๆกิจการบริษัทที่มีพนักงานอยู่ กฎหมายต้องใช้บังคับทันทีจริงจัง,รวมคนไทยที่ปกติได้เงินเดือน15,000บาท เดือนหน้าจะเป็น50,100บาททันที,ทองคำลงที่30,000บาท,เดือนนั้นจะได้เงินเดือนที่30,060บาทเช่นกัน เพราะอ้างอิงราคาทองคำ,เมื่อนโยบายทางการเงินเราเปลี่ยนแปลงแบบอ้างอิงราคาทองคำโลกนำมาใข้จริงในไทย,เราจะบริหารแบบสมดุลการค้าการตังได้จริงทันที แก้ที่ต้นเหตุจริง,ทันค่าเงินจริง มูลค่าคุณค่าทางเงินบาทเราจะเที่ยงตรงสากลโลกจริง,ปัจจุบันมันไม่สมดุลด้วยราคาทองคำผีบ้ามีเอกสิทธิ์สามารถขึ้นเอาขึ้นเอาบวกทั้งไปเสือกลดด้อยค่าเงินบาทเราอีกด้วย,ค่าเงินกระทบเราจริง,เงินเฟ้อคือเครื่องมือมันคิดอ่านสร้างขึ้น ตัวไปกดไปขี่ไปบังคับให้ค่าเงินชาติอื่นๆไร้ค่าไร้ค่าก็ว่า,100บาท ปกติซื้อสินค้าในราคาอดีตเหมือนกันได้5ชนิดอย่าง,ปัจจุบันตัง100บาทซื้อสินค้าได้2ชนิดอย่างเป็นต้น,กิจการบริษัทไหนๆจะถูกควบคุมด้วยกลไกการค้าตังค้าเศรษฐกิจหรือแข่งขันกันอย่างยุติธรรมทันที,แรงงานก็ไม่ถูกเอาเปรียบเอารัดจากกิจการบริษัทด้วย,มีตังเท่านี้ ขยายกิจการสาขาจ้างแรงงานตามกำลังตังกำลังเศรษฐกิจตนได้สมสถานะก็ว่า,มิใช่ใช้ความได้เปรียบกดค่าตัวค่าแรงคนงานเช่นอ้างเศรษฐกิจไม่ดีอ้างแพะอ้างเงินเฟ้อสูงก็ด้วย, ..เมื่อปรับฐานลักษณะนี้ได้คือใช้นโยบายราคาทองคำไปใช้อ้างอิงจริงในสินค้าบริการทั้งอุปโภคและบริโภคภายในประเทศก่อนจึงค่อยต่อยอดขยายทั้งส่งออกและนำเข้าสินค้าจากนอกประเทศก็ด้วยจึงจะสามารถเข้าใกล้ค่าจริงของความเป็นจริงที่เราประเทศไทยต้องเผชิญในภาวะสงครามเศรษฐกิจหรือภาวะตัง,สงครามตังแบบนี้,จริงๆอีลิทมันใช้ทองคำเป็นอาวุธ(ตัดมุกมโนเรื่องฝ่ายแสงออกไป)มันไม่ใช้ตังบาทตังหยวนตังดอลล่าร์คืออาวุธ,จึงชี้นำว่าทองคำคือแร่ธาตุอ้างอิงมูลค่าและสร้างคุณค่าตังให้ดูดีมีหรูสูงค่ามากราคาดีที่สุดกว่าผีบ้ายุคอดีตอเมริกาอีลิทเก่าที่ใช้น้ำมันแทนทองคำค้ำประกันตังที่พิมพ์ๆปั่นๆตังกันออกมาใช้อย่างมากมายและมากจนเลอะเทอะไปหมดของชาติฝรั่งและอเมริกาบวกขี้ข้าตาอเมริกาก็ด้วย ..สรุป สมควรประกาศฉุกเฉินทันทีได้เลยว่า พรุ่งนี้ทุกๆสถานะที่ว่าด้วยตังเรื่องตัง,คูณทันทีที่ป้ายซื้อขายเงินเดือนค้าจ้างและอื่นๆที่เกี่ยวกับตัง,หรือประชาชนสามารถมาแลกตังบาทใหม่ในสถานะใหม่ที่แบงค์ชาติไทยได้ทันทีที่คูณ2.34เท่าแล้ว,เช่น เงินเดือนเดิมที่15,000บาท,นายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างใหม่ทันทีที่ราคาทองคำใช้อ้างอิงในปัจจุบันของราคา50,000บาทต่อ1บาททองคำ,ที่บวกเพิ่มคือ35,100บาทรวมเป็น50,100บาท เพื่อคุ้มครองสัมมาชีวิตของคนไทยเราให้สมดุลกับค่าจริงของวิถีระบบตังที่เปลี่ยนมูลค่าไป ไม่ทันเวลาเช่นในอดีต,จนเกิดการเหลื่อมล้ำวทุกๆวิถีการครองชีพที่แพงที่สูงจนเกินไปก็ว่าและปกป้องค่าเงินบาทตนเองอีกช่องทางหนึ่งด้วย,ราคาทองคำจะขึ้นจะลง ไม่กระทบค่าใช้จ่ายประชาชนคนไทยเลย ทั้งค่าเงินมูลค่าเงินก็ไม่ลดลงด้วย,เดินในสมดุลเรียลไทม์กันจริงๆเลยก็ว่า,นี้คือฝ่ายมืดไม่กล้าจะทำ ไม่กล้าจะประกาศบังคับใช้ด้วยเพราะคนไทยจะได้ประโยชน์เต็มๆทันที ไม่กระทบคนไทยในการดำรงชีพด้วย,คือต้นทุนประชาชนจริงๆมูลค่าจริงๆมันก็เท่าเดิมอันเดิมนั้นล่ะนั้นเอง,ราคาทองคำขึ้น ราคาสินค้าบริการเงินเดือนค่าจ้างค่าแรงก็ขึ้นเรียลไทม์เช่นกันทันค่าใช้จ่ายทันรายได้รายรับ,ราคาทองคำลดลง ราคาสินค้าบริการเงินเดือนค่าจ้างก็ลดลงตามค่าจริงค่าครองชีพมวลรวมด้วยตลอดต้นน้ำปลายน้ำทั้งหมดก็ลดราคาลงจริงตามไปด้วย,ทองจะขึ้นทองจะลง ไม่กระทบคนไทยเราเลยนั้นล่ะ,นี้คือค่าจริงมิใช่ค่าเท็จค่าปลอมหลอกๆที่ผีบ้าแค่ใช้ทองคำไปค้ำประกันการพิมพ์แบงค์ออกมาใส่ให้หมุนเวียนในระบบแค่นั้น,มันไม่สุดซอยเลอะเทอะด้วย คนไทยต้องเจอกับมูลค่าตังที่อ่อนค่าลงหรือแข็งค่าขึ้นแค่นั้นซึ่งมั่นยังถูกปั่นราคาง่ายสบายเกินไปเช่นสถาบันต่างชาติซื้อบาทมากไปก็แข็งค่า ขายเททิ้งบาทไทยในsetบาทก็อ่อนค่า,มันผีบ้ามั้ยล่ะ,ใช้ทองคำประกันพะนะ นี้คือกลยุทธสงครามตังที่ตั้งทัพผิดพลาด รบก็แพ้ตลอด,ต้องประกาศอัดใส่นโยยายชาติเลยว่า เมื่อตังบาทอยู่ในระบบแล้ว ราคาสินค้าบริการที่ตังเข้าไปแทนที่ เช่นค่าแรงเงินเดือน ตังบาทเข้าไปแทนทีเป็นตัวตังทันทีที่50,100บาทในภาวะทองคำเงินทำราคาอ้างอิงฐานที่50,000ในรอบคำนวนเป็นฐานอ้างอิง,หากลดลงเป็น30,000บาทต่อ1บาททองคำ,เงินเดือนจริงในภาวะสังคมจริงในการครองชีพจะเป็นที่30,060บาทต่อคนต่อแรงงานนั้น,ราคาน้ำมัน,ค่าขนส่งก็ด้วยเป็นต้นและสาระพัดอื่นๆที่ระบบทาสตังเข้าไปคำนวนเกี่ยวข้องตีมูลค่าตังได้ อาทิตย.อีกตัว ที่ดินบ้านซื้อขายกัน,1,500,000บาทต่อไร่ก็จะเป็น5,010,000บาทต่อไร่ทันที,จะไร้การคตโกงในความได้เปรียบของมูลค่าเก็งกำไรทางวิกฤติตังเศรษฐกิจที่ไม่ยุติธรรมในอดีตทันที,จะอยู่บนค่าจริงกัน,มิใช่ราคาทองคำสูงถึง50,000บาทต่อ1บาททองคำ,ค่าแรงขั้นต่ำเสือก300บาทเหมือนเดิมหาก300×2.34เท่า=702บาทนะ บวก300เข้าไปให้เต็มสูตรรวมคือ1,002บาทต่อวัน,นี้ค่าแรงงานขั้นต่ำประจำประเทศไทยที่สมดุลกับค่าจริงครองชีพเทียบราคาทองคำที่สะท้อนสภาวะความเชื่อมั่นในตลาดโลกถึงตลาดการค้าการเศรษฐกิจและการดำรงชีวิตสัมมาชีวิตและสัมมาอาชีพต่างๆทั่วไทยของจริง,นี้คือวิถีปกครองที่ล้มเหลวและกากของคณะบริหารประเทศจากอดีตถึงปัจจุบัน,จะราคาข้าวเอย ราคาน้ำมันเอย สามารถใช้ราคาทองคำผูกอ้างอิงได้ค่าจริงสมจริงกว่าตลอดเวลาแต่ไม่ทำ,ราคาทองคำขึ้นลงราคาข้าวเกษตรกรก็ขึ้นลงสมมูลค่าจริงไว้เปรียบเทียบอ้างอิงได้,จากตันละ15,000บาท,เทียบราคาทองคำปัจจุบันคูณ2.34เท่าบวกตัวมันเองคือ50,100บาทต่อตัน,มิใช่เอาเปรียบชาวนาแบบที่เห็นๆกันทั้งในอดีตถึงปัจจุบัน ราคามันฯราคาอ้อยก็ใช้ได้หมดเช่นกัน,คนไทยจะตัดภาวะเงินเฟ้อไปเลย, .. https://youtube.com/shorts/vaq2-T0uPfw?si=C2gfmvZTRkZ37QkW
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 281 มุมมอง 0 รีวิว
  • มทร.อีสาน จัดประชุมปรึกษาหารือความร่วมมือทางวิชาการและการส่งมอบป้ายการจัดตั้งสถาบันความร่วมมือ ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE
    .
    วันที่ 29 พฤษภาคม 2568 เวลา 13.00 น. ณ ห้องประชุมแคนา 1 ชั้น 3 อาคารสำนักงานอธิการบดี (อาคาร 19) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน จังหวัดนครราชสีมา มทร.อีสาน จัดการประชุมปรึกษาหารือความร่วมมือทางวิชาการและการส่งมอบป้ายการจัดตั้งสถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง ระหว่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. (CRRC) สถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT) บริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด โดยมี รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน กล่าวต้อนรับ นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ประธานการประชุมฯ, นายเฮ้อไจ้เฉียน กรรมการผู้จัดการ บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. (CRRC) พร้อมคณะ, นายฉ๋าว กั๋วฮ๋ง รองอธิการบดีสถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT) ประเทศจีน พร้อมคณะ, นายฮว๋าง หย๋ง เจี๋ย ประธานบริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด พร้อมคณะ, คุณธนากร ประพฤทธิพงษ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา, นายบุญส่ง สุทธิโตคร ผู้อำนวยการสำนักช่าง สำนักงานเทศบาลนครนครราชสีมา, ดร.ธีรพงศ์ คณาศักดิ์ รองประธานฝ่ายบริหารและสื่อสารองค์กร หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา, คุณไพสิทธิ์ ปิติทรงสวัสดิ์ ประธานกิตติมศักดิ์ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา, คุณอาทิตย์ ชามขุนทด ผู้อำนวยการกลุ่มงานยุทธศาสตร์และข้อมูลเพื่อการพัฒนาจังหวัด, นายจำนงค์ แสงเงิน หัวหน้ากองจัดการเดินรถเขต 2, คุณบัญชา กันหาสินธุ์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา, คุณขจร ศิวรังสรรค์ รองกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าหน่วยธุรกิจเทคโนโลยีและวิศวกรรมระบบราง, คุณวัฒนา สมานจิตร อุปนายกสมาคมวิศวกรรมระบบขนส่งทางรางไทย, ดร.สุรวุฒิ เชิดชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท เชิดชัยคอร์ปอเรชั่น จำกัด
    .
    โดยในการประชุมครั้งนี้ รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์ ดร.อภิชิต คำภาหล้า คณบดีคณะระบบรางและการขนส่ง ได้ร่วมกัน นำเสนอจุดประสงค์ของความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยฯ และนำเสนอศูนย์ความร่วมมือทางวิชาการด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE และทางด้าน บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. (CRRC) โดย นายเฮ้อไจ้เฉียน กรรมการผู้จัดการ บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. (CRRC) ได้นำเสนอจุดเด่นทางเทคนิคของผลิตภัณฑ์ระบบขนส่ง DRT และรถไฟฟ้ารางเบา รวมถึงแนวคิดความร่วมมือด้านการบริหารจัดการตลอดวงจรชีวิตของขบวนรถไฟ จากนั้น สถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT) ได้กล่าวถึง ภาพรวมของสถาบัน NIRT จุดแข็งของหลักสูตร และแนวทางการจัดตั้งวิทยาลัยระบบรางจีน–ไทย (NIRT สาขาต่างประเทศ) โดย นายฉ๋าว กั๋วฮ๋ง รองอธิการบดีสถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT) ประเทศจีน ทั้งนี้ นอกจากจะร่วมประชุมหารือด้านความร่วมมือระหว่างกันแล้วยังได้มี การการหารือการเตรียมความพร้อมรองรับการเป็นเจ้าภาพการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก (International Horticultural Expo) และ แผนรถไฟฟ้ารางเบาในประเทศไทย ซึ่ง บริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด โดย นายฮว๋าง หย๋ง เจี๋ย ประธานบริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด ยังได้นำเสนอ เรื่อง การวางแผนผลักดันจังหวัดนครราชสีมาให้เป็นจังหวัดหลักด้านอุตสาหกรรมระบบราง โดยอาศัยโอกาสความร่วมมือจากทั้ง 4 ฝ่าย และการดำเนินโครงการระบบ DRT สำหรับมหกรรมพืชสวนโลกอีกด้วย
    .
    นอกจากนี้ นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ยังได้ให้เกียรติเป็นประธานมอบป้ายสถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE แก่ทั้ง 4 หน่วยงาน ได้แก่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน, บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. (CRRC), สถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT), บริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด
    .
    ภายหลังการประชุม นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า “ในนามของจังหวัดนครราชสีมา รู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ภายใต้การนำของ รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ได้จัดการประชุมปรึกษาหารือในวันนี้ ซึ่งเป็นเวทีแห่งการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์ที่มีคุณค่า ก่อให้เกิดแนวทางความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม และนำไปสู่การพัฒนาต่อยอดในระดับประเทศและนานาชาติ ทั้งยังได้ริเริ่มสานสัมพันธ์อันดีระหว่าง ภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา พันธมิตรทุกภาคส่วน ทั้งในและต่างประเทศ โดยมีการประกาศเจตจำนงมุ่งมั่นในการร่วมพัฒนาด้านเทคโนโลยีและระบบขนส่งทางราง เพื่อเป็นศูนย์กลางด้านการวิจัย พัฒนาองค์ความรู้ สร้างนวัตกรรม และพัฒนากำลังคนในอุตสาหกรรมระบบราง ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและเป้าหมายการพัฒนาประเทศอย่างแท้จริง จนได้ร่วมมือกันในการจัดตั้งสถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE ขึ้น ทั้งนี้ จังหวัดนครราชสีมา ในฐานะศูนย์กลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ โดยเฉพาะในด้านระบบคมนาคมขนส่ง การมีสถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบรางในพื้นที่ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการยกระดับขีดความสามารถของจังหวัดและภูมิภาค ให้สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีในศตวรรษที่ 21 ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน”
    .
    ด้าน รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ได้เปิดเผยว่า "สำหรับการประชุมปรึกษาหารือความร่วมมือทางวิชาการ และพิธีส่งมอบป้ายการจัดตั้ง สถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE ในวันนี้ เกิดขึ้นจากการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน ต้องขอขอบคุณจังหวัดนครราชสีมาที่ได้ให้ความสำคัญกับ มทร.อีสาน เสมอมา ในความร่วมมือระหว่างภาคการศึกษา ภาคอุตสาหกรรม และภาควิจัย ทั้งในและต่างประเทศในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมด้านระบบรางให้ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ ความร่วมมือดังกล่าวไม่เพียงแต่จะเป็นประโยชน์ต่อมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานเท่านั้น หากแต่ยังมีบทบาทสำคัญในการยกระดับอุตสาหกรรมระบบรางของประเทศไทยให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันในระดับสากล"
    .
    "ทั้งนี้ การที่ มทร.อีสาน ได้พันธมิตรในการร่วมพัฒนาประเทศ ทั้งด้านเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า EV เช่น บริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการฝึกอบรมเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า และเป็นผู้นำในการให้บริการโซลูชันเทคโนโลยีขั้นสูงแบบครบวงจร ด้านการขนส่งทางราง เช่น บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. หรือ CRRC เป็นบริษัทชั้นนำของประเทศจีนที่มีความเชี่ยวชาญด้านการวิจัยและการผลิตอุปกรณ์ขนส่งทางราง และเป็นหนึ่งในบริษัทขนาดใหญ่ระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมการผลิตอุปกรณ์รถไฟของจีน และสถาบันที่ผลิตกำลังคนที่มีคุณภาพด้านเทคโนโลยีและการจัดการระบบราง เช่น สถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT) ซึ่งเป็นวิทยาลัยที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ตอนในของสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีเศรษฐกิจเจริญรุ่งเรืองและมีระดับการพัฒนาระบบรถไฟสูงที่สุดในประเทศจีน ดังนั้น การจัดตั้ง “สถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE” แห่งนี้ จะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนงานวิจัย การพัฒนาบุคลากร การถ่ายทอดเทคโนโลยี และการสร้างนวัตกรรมที่สามารถนำไปใช้ได้จริงในภาคอุตสาหกรรม ตลอดจนส่งเสริมให้นักศึกษาได้มีโอกาสเรียนรู้และฝึกประสบการณ์จากการทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญระดับนานาชาติต่อไป" รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน กล่าวเพิ่มเติม
    มทร.อีสาน จัดประชุมปรึกษาหารือความร่วมมือทางวิชาการและการส่งมอบป้ายการจัดตั้งสถาบันความร่วมมือ ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE . วันที่ 29 พฤษภาคม 2568 เวลา 13.00 น. ณ ห้องประชุมแคนา 1 ชั้น 3 อาคารสำนักงานอธิการบดี (อาคาร 19) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน จังหวัดนครราชสีมา มทร.อีสาน จัดการประชุมปรึกษาหารือความร่วมมือทางวิชาการและการส่งมอบป้ายการจัดตั้งสถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง ระหว่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. (CRRC) สถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT) บริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด โดยมี รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน กล่าวต้อนรับ นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ประธานการประชุมฯ, นายเฮ้อไจ้เฉียน กรรมการผู้จัดการ บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. (CRRC) พร้อมคณะ, นายฉ๋าว กั๋วฮ๋ง รองอธิการบดีสถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT) ประเทศจีน พร้อมคณะ, นายฮว๋าง หย๋ง เจี๋ย ประธานบริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด พร้อมคณะ, คุณธนากร ประพฤทธิพงษ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา, นายบุญส่ง สุทธิโตคร ผู้อำนวยการสำนักช่าง สำนักงานเทศบาลนครนครราชสีมา, ดร.ธีรพงศ์ คณาศักดิ์ รองประธานฝ่ายบริหารและสื่อสารองค์กร หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา, คุณไพสิทธิ์ ปิติทรงสวัสดิ์ ประธานกิตติมศักดิ์ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา, คุณอาทิตย์ ชามขุนทด ผู้อำนวยการกลุ่มงานยุทธศาสตร์และข้อมูลเพื่อการพัฒนาจังหวัด, นายจำนงค์ แสงเงิน หัวหน้ากองจัดการเดินรถเขต 2, คุณบัญชา กันหาสินธุ์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา, คุณขจร ศิวรังสรรค์ รองกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าหน่วยธุรกิจเทคโนโลยีและวิศวกรรมระบบราง, คุณวัฒนา สมานจิตร อุปนายกสมาคมวิศวกรรมระบบขนส่งทางรางไทย, ดร.สุรวุฒิ เชิดชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท เชิดชัยคอร์ปอเรชั่น จำกัด . โดยในการประชุมครั้งนี้ รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์ ดร.อภิชิต คำภาหล้า คณบดีคณะระบบรางและการขนส่ง ได้ร่วมกัน นำเสนอจุดประสงค์ของความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยฯ และนำเสนอศูนย์ความร่วมมือทางวิชาการด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE และทางด้าน บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. (CRRC) โดย นายเฮ้อไจ้เฉียน กรรมการผู้จัดการ บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. (CRRC) ได้นำเสนอจุดเด่นทางเทคนิคของผลิตภัณฑ์ระบบขนส่ง DRT และรถไฟฟ้ารางเบา รวมถึงแนวคิดความร่วมมือด้านการบริหารจัดการตลอดวงจรชีวิตของขบวนรถไฟ จากนั้น สถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT) ได้กล่าวถึง ภาพรวมของสถาบัน NIRT จุดแข็งของหลักสูตร และแนวทางการจัดตั้งวิทยาลัยระบบรางจีน–ไทย (NIRT สาขาต่างประเทศ) โดย นายฉ๋าว กั๋วฮ๋ง รองอธิการบดีสถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT) ประเทศจีน ทั้งนี้ นอกจากจะร่วมประชุมหารือด้านความร่วมมือระหว่างกันแล้วยังได้มี การการหารือการเตรียมความพร้อมรองรับการเป็นเจ้าภาพการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก (International Horticultural Expo) และ แผนรถไฟฟ้ารางเบาในประเทศไทย ซึ่ง บริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด โดย นายฮว๋าง หย๋ง เจี๋ย ประธานบริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด ยังได้นำเสนอ เรื่อง การวางแผนผลักดันจังหวัดนครราชสีมาให้เป็นจังหวัดหลักด้านอุตสาหกรรมระบบราง โดยอาศัยโอกาสความร่วมมือจากทั้ง 4 ฝ่าย และการดำเนินโครงการระบบ DRT สำหรับมหกรรมพืชสวนโลกอีกด้วย . นอกจากนี้ นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ยังได้ให้เกียรติเป็นประธานมอบป้ายสถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE แก่ทั้ง 4 หน่วยงาน ได้แก่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน, บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. (CRRC), สถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT), บริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด . ภายหลังการประชุม นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า “ในนามของจังหวัดนครราชสีมา รู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ภายใต้การนำของ รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ได้จัดการประชุมปรึกษาหารือในวันนี้ ซึ่งเป็นเวทีแห่งการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์ที่มีคุณค่า ก่อให้เกิดแนวทางความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม และนำไปสู่การพัฒนาต่อยอดในระดับประเทศและนานาชาติ ทั้งยังได้ริเริ่มสานสัมพันธ์อันดีระหว่าง ภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา พันธมิตรทุกภาคส่วน ทั้งในและต่างประเทศ โดยมีการประกาศเจตจำนงมุ่งมั่นในการร่วมพัฒนาด้านเทคโนโลยีและระบบขนส่งทางราง เพื่อเป็นศูนย์กลางด้านการวิจัย พัฒนาองค์ความรู้ สร้างนวัตกรรม และพัฒนากำลังคนในอุตสาหกรรมระบบราง ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและเป้าหมายการพัฒนาประเทศอย่างแท้จริง จนได้ร่วมมือกันในการจัดตั้งสถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE ขึ้น ทั้งนี้ จังหวัดนครราชสีมา ในฐานะศูนย์กลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ โดยเฉพาะในด้านระบบคมนาคมขนส่ง การมีสถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบรางในพื้นที่ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการยกระดับขีดความสามารถของจังหวัดและภูมิภาค ให้สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีในศตวรรษที่ 21 ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน” . ด้าน รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ได้เปิดเผยว่า "สำหรับการประชุมปรึกษาหารือความร่วมมือทางวิชาการ และพิธีส่งมอบป้ายการจัดตั้ง สถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE ในวันนี้ เกิดขึ้นจากการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน ต้องขอขอบคุณจังหวัดนครราชสีมาที่ได้ให้ความสำคัญกับ มทร.อีสาน เสมอมา ในความร่วมมือระหว่างภาคการศึกษา ภาคอุตสาหกรรม และภาควิจัย ทั้งในและต่างประเทศในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมด้านระบบรางให้ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ ความร่วมมือดังกล่าวไม่เพียงแต่จะเป็นประโยชน์ต่อมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานเท่านั้น หากแต่ยังมีบทบาทสำคัญในการยกระดับอุตสาหกรรมระบบรางของประเทศไทยให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันในระดับสากล" . "ทั้งนี้ การที่ มทร.อีสาน ได้พันธมิตรในการร่วมพัฒนาประเทศ ทั้งด้านเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า EV เช่น บริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการฝึกอบรมเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า และเป็นผู้นำในการให้บริการโซลูชันเทคโนโลยีขั้นสูงแบบครบวงจร ด้านการขนส่งทางราง เช่น บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. หรือ CRRC เป็นบริษัทชั้นนำของประเทศจีนที่มีความเชี่ยวชาญด้านการวิจัยและการผลิตอุปกรณ์ขนส่งทางราง และเป็นหนึ่งในบริษัทขนาดใหญ่ระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมการผลิตอุปกรณ์รถไฟของจีน และสถาบันที่ผลิตกำลังคนที่มีคุณภาพด้านเทคโนโลยีและการจัดการระบบราง เช่น สถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT) ซึ่งเป็นวิทยาลัยที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ตอนในของสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีเศรษฐกิจเจริญรุ่งเรืองและมีระดับการพัฒนาระบบรถไฟสูงที่สุดในประเทศจีน ดังนั้น การจัดตั้ง “สถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE” แห่งนี้ จะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนงานวิจัย การพัฒนาบุคลากร การถ่ายทอดเทคโนโลยี และการสร้างนวัตกรรมที่สามารถนำไปใช้ได้จริงในภาคอุตสาหกรรม ตลอดจนส่งเสริมให้นักศึกษาได้มีโอกาสเรียนรู้และฝึกประสบการณ์จากการทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญระดับนานาชาติต่อไป" รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน กล่าวเพิ่มเติม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 361 มุมมอง 0 รีวิว
  • น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงหลักการและเหตุผลร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท ห่วงภาษีสหรัฐฉุดเศรษฐกิจไทย นโยบายการค้าโลกทำไทยแบกความเสี่ยงเพิ่ม แจงรายจ่าย 6 ยุทธศาตร์หลัก ลุยยกระดับแก้ปัญหาน้ำ ปราบโกง กันงบใช้จ่ายฉุกเฉิน 660,000 ล้านบาท ยืนยันใช้งบอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน ประเทศเดินหน้าอย่างมั่นคง ดำเนินนโยบายงบประมาณแบบขาดดุล เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ

    -รัฐบาลใช้เงินเกินตัว
    -ฝากแก้ปัญหาโครงสร้าง
    -แบงก์ต้องร่วมชดใช้
    -7 วัน ป่วยโควิด 6 หมื่นคน
    น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงหลักการและเหตุผลร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท ห่วงภาษีสหรัฐฉุดเศรษฐกิจไทย นโยบายการค้าโลกทำไทยแบกความเสี่ยงเพิ่ม แจงรายจ่าย 6 ยุทธศาตร์หลัก ลุยยกระดับแก้ปัญหาน้ำ ปราบโกง กันงบใช้จ่ายฉุกเฉิน 660,000 ล้านบาท ยืนยันใช้งบอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน ประเทศเดินหน้าอย่างมั่นคง ดำเนินนโยบายงบประมาณแบบขาดดุล เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ -รัฐบาลใช้เงินเกินตัว -ฝากแก้ปัญหาโครงสร้าง -แบงก์ต้องร่วมชดใช้ -7 วัน ป่วยโควิด 6 หมื่นคน
    Like
    Haha
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 481 มุมมอง 25 0 รีวิว
  • ปส. ขับเคลื่อนนโยบายรัฐมนตรี อว. เตรียมพร้อมรับมือเหตุฉุกเฉินทางนิวเคลียร์-รังสี สร้างความมั่นคงปลอดภัยระดับชาติ
    https://www.thai-tai.tv/news/19021/
    ปส. ขับเคลื่อนนโยบายรัฐมนตรี อว. เตรียมพร้อมรับมือเหตุฉุกเฉินทางนิวเคลียร์-รังสี สร้างความมั่นคงปลอดภัยระดับชาติ https://www.thai-tai.tv/news/19021/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 61 มุมมอง 0 รีวิว
  • มนุษย์ทองคำ: นิ่งแล้วรวย
    ในฐานะเสาสัญญาณ
    ราคาแพงที่สุดของจักรวาล

    ในโลกที่เต็มไปด้วยเสียง วิ่งไล่
    และความอยาก มีมนุษย์เพียงหยิบมือ
    ที่ตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง

    พวกเขา "นิ่ง"
    แต่นิ่งของพวกเขา
    ไม่ใช่ความเฉื่อย
    ไม่ใช่การหลบหลีก
    และไม่ใช่การตัดขาด

    แต่นิ่ง...จนสนามของเขา
    กลายเป็นจุดถ่วงสมดุลของโลก

    “มนุษย์ทองคำ”
    ผู้ที่ “นิ่งแล้วรวย” จริง
    ไม่ใช่เพราะทำมาก
    แต่เพราะ “เป็นมาก”

    ผู้ที่ไม่เพียงนิ่ง
    เพื่อความสงบของตนเอง
    แต่กลายเป็น เสาสัญญาณ
    พลังงานราคาแพงที่สุดของจักรวาล

    แก่นของ "นิ่งแล้วรวย"

    “อยู่เฉยๆ จนคลื่นของตน
    กลายเป็นสนาม
    และสนามนั้นดึงทุกสิ่งเข้ามาเอง”

    คนทั่วไปพยายามหาเงิน
    พูด ขาย สร้างแบรนด์

    แต่ “มนุษย์ทองคำ”
    ที่แท้กลับไม่ต้องวิ่งหาอะไรเลย
    เพราะพวกเขาเปลี่ยนจาก
    “ผู้กระทำ” → เป็น “สนาม”

    สนามที่นิ่งจริง = คลื่นพลังงานเสถียรสูง

    ไม่มีแรงอยาก
    ไม่มีแรงต้าน ไม่มีตัวตน
    เหลือเพียงการมีอยู่ที่กลมกลืน

    เมื่อสนามนิ่งระดับนี้ปรากฏขึ้น
    ทุกสิ่งรอบตัวจะหมุนตาม
    เงิน ทรัพย์ โอกาส
    และคนที่พร้อมสนับสนุน
    จะไหลเข้ามาเอง

    เพราะโลกต้องการ
    #เสาที่ไม่สั่น
    มากกว่าคนที่พูดเก่ง

    และในระดับลึกกว่านั้น
    จักรวาลเองก็ตอบสนองสนามนี้
    ด้วยการจ่ายพลังงานกลับ
    แบบไม่มีที่สิ้นสุด

    มนุษย์ทองคำ: เสาสัญญาณของจักรวาล

    มนุษย์ทองคำที่นิ่งได้ถึงระดับนี้
    ไม่ได้เป็นเพียงบุคคล
    แต่คือ "ตำแหน่งสนาม"

    เขา คือ #เสาสัญญาณที่ไม่ส่งเสียง
    แต่ส่งคลื่นความถี่บริสุทธิ์
    ออกไปอย่างมั่นคง

    โลกไม่สามารถเร่งพังได้
    เพราะมีคนแบบเขาอยู่เงียบๆ

    พลังของเสาสัญญาณมีค่า
    เพราะถ่วงสนามรวมของระบบ
    ไม่ให้สั่นเกินไป

    ดูดซับคลื่นต่ำโดยไม่เสียศูนย์
    ทำให้ผู้คนรอบข้างสงบลงเอง

    เป็นพิกัดพลังงานที่โลก
    ใช้ในการ “หาทิศทางใหม่”

    จักรวาลจะยอมจ่ายทุกอย่าง
    เงิน โอกาส คนดูแล
    ระบบซัพพอร์ต
    เพื่อให้เสานี้อยู่นิ่งต่อไป

    เพราะถ้าเสานี้ล้ม
    โลกจะขาดศูนย์กลางคลื่น

    ตัวอย่างบุคคล
    "นิ่งแล้วรวยระดับโลก"

    1. ทะไลลามะ

    ไม่พูดเรื่องเงิน ไม่หาเงิน
    แต่ได้รับการสนับสนุนจากทั่วโลก
    พลังของท่าน คือ
    ศูนย์กลางสมดุลแห่งเมตตา
    ที่ทำให้ศาสนาและมนุษย์ยังมั่นคง

    2. รินโปเช่ระดับสูง

    ไม่เปิดคอร์ส ไม่ขายคลาส
    ไม่สร้างแบรนด์ แต่ผู้คนจากหลายทวีป
    เดินทางเพื่ออยู่ใกล้
    และยินดีถวายเงินนับล้าน
    เพียงเพื่อสัมผัสคลื่นสงบ

    3. หลวงปู่มั่น / หลวงตามหาบัว

    ไม่สนใจเรื่องเงิน
    ไม่เปิดรับบริจาคอย่างหวือหวา
    แต่มีคนถวายทองคำให้
    มากกว่าธนาคาร เพราะรู้ว่า
    ท่าน คือ เสานิ่ง
    ที่ยึดพลังบุญของแผ่นดิน

    4. มหาตมะ คานธี

    นิ่ง ไม่ใช้ความรุนแรง ไม่เรียกร้อง
    แต่สามารถปลดแอกประเทศอินเดีย
    จากอาณานิคมได้
    ด้วยการอยู่เฉยอย่างมีพลัง

    5. พระแม่เทเรซา

    ไม่พูดเยอะ ไม่วางแผนธุรกิจ
    ไม่ร้องขออะไร แต่ทุกองค์กรระดับโลก
    ยินดีสนับสนุน เพราะพวกเขารู้ว่า
    #เธอคือรักบริสุทธิ์

    วิธีฝึก "นิ่งแล้วรวย"
    ให้เหมาะกับภารกิจตนเอง

    1. หยุดแรงต้านในใจ

    ยอมให้ทุกอย่างเป็นไป
    ไม่บีบ ไม่เร่ง ไม่ต้านคลื่นชีวิต
    ฝึกเงียบ ฝึกสังเกต ฝึกวางมือ

    2. ปลดตัวตนออกจากคลื่น

    หยุดเล่าเรื่องตัวเอง
    หยุดพิสูจน์คุณค่า
    หยุดสื่อสารแบบต้องเอาชนะ
    ยิ่งไม่มีตัวตนในคลื่นมากเท่าไร
    สนามยิ่งนิ่งเท่านั้น

    3. อยู่ในความว่างอย่างมีศักดิ์ศรี

    ไม่อ้างธรรมะ ไม่ขายพลัง
    ไม่ต้องการให้ใครเข้าใจ
    ไม่ต้องให้โลกยอมรับ
    แต่ยัง “มั่นคง ว่าง
    และเปล่งพลัง”
    ในความเงียบ

    4. ยอมให้จักรวาลตอบแทน โดยไม่ปฏิเสธ

    เปิดรับเงิน ทรัพย์ โอกาส
    โดยไม่รู้สึกผิด เพราะนี่ไม่ใช่การขอ
    แต่คือการให้สนามอยู่ต่อได้อย่างมั่นคง

    บทสรุป

    มนุษย์ทองคำ
    ไม่ใช่คนที่โลกรู้จักมากที่สุด

    แต่คือคนที่

    “ถ้าเขาหายไป ระบบจะพัง”

    มนุษย์ทองคำ คือ
    ผู้ที่ไม่ต้องทำอะไรอีกต่อไป
    แต่ยัง “เป็นประโยชน์ที่สุดในจักรวาล”

    เขา คือ สนามที่รักษาระบบให้ยังไม่พัง
    เขา คือ เสาสัญญาณที่โลกใช้ตั้งค่าใหม่
    เขา คือ พิกัดที่จักรวาลยอมจ่ายให้เพื่อให้อยู่ต่อ

    เพราะเขา… คือ

    #ความนิ่งที่เปลี่ยนทุกอย่าง

    คุณไม่ต้องขอ เพราะคุณคือทองคำ
    มนุษย์ทองคำ: นิ่งแล้วรวย ในฐานะเสาสัญญาณ ราคาแพงที่สุดของจักรวาล ในโลกที่เต็มไปด้วยเสียง วิ่งไล่ และความอยาก มีมนุษย์เพียงหยิบมือ ที่ตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง พวกเขา "นิ่ง" แต่นิ่งของพวกเขา ไม่ใช่ความเฉื่อย ไม่ใช่การหลบหลีก และไม่ใช่การตัดขาด แต่นิ่ง...จนสนามของเขา กลายเป็นจุดถ่วงสมดุลของโลก “มนุษย์ทองคำ” ผู้ที่ “นิ่งแล้วรวย” จริง ไม่ใช่เพราะทำมาก แต่เพราะ “เป็นมาก” ผู้ที่ไม่เพียงนิ่ง เพื่อความสงบของตนเอง แต่กลายเป็น เสาสัญญาณ พลังงานราคาแพงที่สุดของจักรวาล แก่นของ "นิ่งแล้วรวย" “อยู่เฉยๆ จนคลื่นของตน กลายเป็นสนาม และสนามนั้นดึงทุกสิ่งเข้ามาเอง” คนทั่วไปพยายามหาเงิน พูด ขาย สร้างแบรนด์ แต่ “มนุษย์ทองคำ” ที่แท้กลับไม่ต้องวิ่งหาอะไรเลย เพราะพวกเขาเปลี่ยนจาก “ผู้กระทำ” → เป็น “สนาม” สนามที่นิ่งจริง = คลื่นพลังงานเสถียรสูง ไม่มีแรงอยาก ไม่มีแรงต้าน ไม่มีตัวตน เหลือเพียงการมีอยู่ที่กลมกลืน เมื่อสนามนิ่งระดับนี้ปรากฏขึ้น ทุกสิ่งรอบตัวจะหมุนตาม เงิน ทรัพย์ โอกาส และคนที่พร้อมสนับสนุน จะไหลเข้ามาเอง เพราะโลกต้องการ #เสาที่ไม่สั่น มากกว่าคนที่พูดเก่ง และในระดับลึกกว่านั้น จักรวาลเองก็ตอบสนองสนามนี้ ด้วยการจ่ายพลังงานกลับ แบบไม่มีที่สิ้นสุด มนุษย์ทองคำ: เสาสัญญาณของจักรวาล มนุษย์ทองคำที่นิ่งได้ถึงระดับนี้ ไม่ได้เป็นเพียงบุคคล แต่คือ "ตำแหน่งสนาม" เขา คือ #เสาสัญญาณที่ไม่ส่งเสียง แต่ส่งคลื่นความถี่บริสุทธิ์ ออกไปอย่างมั่นคง โลกไม่สามารถเร่งพังได้ เพราะมีคนแบบเขาอยู่เงียบๆ พลังของเสาสัญญาณมีค่า เพราะถ่วงสนามรวมของระบบ ไม่ให้สั่นเกินไป ดูดซับคลื่นต่ำโดยไม่เสียศูนย์ ทำให้ผู้คนรอบข้างสงบลงเอง เป็นพิกัดพลังงานที่โลก ใช้ในการ “หาทิศทางใหม่” จักรวาลจะยอมจ่ายทุกอย่าง เงิน โอกาส คนดูแล ระบบซัพพอร์ต เพื่อให้เสานี้อยู่นิ่งต่อไป เพราะถ้าเสานี้ล้ม โลกจะขาดศูนย์กลางคลื่น ตัวอย่างบุคคล "นิ่งแล้วรวยระดับโลก" 1. ทะไลลามะ ไม่พูดเรื่องเงิน ไม่หาเงิน แต่ได้รับการสนับสนุนจากทั่วโลก พลังของท่าน คือ ศูนย์กลางสมดุลแห่งเมตตา ที่ทำให้ศาสนาและมนุษย์ยังมั่นคง 2. รินโปเช่ระดับสูง ไม่เปิดคอร์ส ไม่ขายคลาส ไม่สร้างแบรนด์ แต่ผู้คนจากหลายทวีป เดินทางเพื่ออยู่ใกล้ และยินดีถวายเงินนับล้าน เพียงเพื่อสัมผัสคลื่นสงบ 3. หลวงปู่มั่น / หลวงตามหาบัว ไม่สนใจเรื่องเงิน ไม่เปิดรับบริจาคอย่างหวือหวา แต่มีคนถวายทองคำให้ มากกว่าธนาคาร เพราะรู้ว่า ท่าน คือ เสานิ่ง ที่ยึดพลังบุญของแผ่นดิน 4. มหาตมะ คานธี นิ่ง ไม่ใช้ความรุนแรง ไม่เรียกร้อง แต่สามารถปลดแอกประเทศอินเดีย จากอาณานิคมได้ ด้วยการอยู่เฉยอย่างมีพลัง 5. พระแม่เทเรซา ไม่พูดเยอะ ไม่วางแผนธุรกิจ ไม่ร้องขออะไร แต่ทุกองค์กรระดับโลก ยินดีสนับสนุน เพราะพวกเขารู้ว่า #เธอคือรักบริสุทธิ์ วิธีฝึก "นิ่งแล้วรวย" ให้เหมาะกับภารกิจตนเอง 1. หยุดแรงต้านในใจ ยอมให้ทุกอย่างเป็นไป ไม่บีบ ไม่เร่ง ไม่ต้านคลื่นชีวิต ฝึกเงียบ ฝึกสังเกต ฝึกวางมือ 2. ปลดตัวตนออกจากคลื่น หยุดเล่าเรื่องตัวเอง หยุดพิสูจน์คุณค่า หยุดสื่อสารแบบต้องเอาชนะ ยิ่งไม่มีตัวตนในคลื่นมากเท่าไร สนามยิ่งนิ่งเท่านั้น 3. อยู่ในความว่างอย่างมีศักดิ์ศรี ไม่อ้างธรรมะ ไม่ขายพลัง ไม่ต้องการให้ใครเข้าใจ ไม่ต้องให้โลกยอมรับ แต่ยัง “มั่นคง ว่าง และเปล่งพลัง” ในความเงียบ 4. ยอมให้จักรวาลตอบแทน โดยไม่ปฏิเสธ เปิดรับเงิน ทรัพย์ โอกาส โดยไม่รู้สึกผิด เพราะนี่ไม่ใช่การขอ แต่คือการให้สนามอยู่ต่อได้อย่างมั่นคง บทสรุป มนุษย์ทองคำ ไม่ใช่คนที่โลกรู้จักมากที่สุด แต่คือคนที่ “ถ้าเขาหายไป ระบบจะพัง” มนุษย์ทองคำ คือ ผู้ที่ไม่ต้องทำอะไรอีกต่อไป แต่ยัง “เป็นประโยชน์ที่สุดในจักรวาล” เขา คือ สนามที่รักษาระบบให้ยังไม่พัง เขา คือ เสาสัญญาณที่โลกใช้ตั้งค่าใหม่ เขา คือ พิกัดที่จักรวาลยอมจ่ายให้เพื่อให้อยู่ต่อ เพราะเขา… คือ #ความนิ่งที่เปลี่ยนทุกอย่าง คุณไม่ต้องขอ เพราะคุณคือทองคำ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 168 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔮 #ห้องพิธีดูดทรัพย์
    #เงินเข้าไม่มีทางออก
    #ห้องดูดทรัพย์ไม่มีวันออก
    #เงินพันดูดเงินหมื่น
    #เงินหมื่นดูดเงินเเสน
    #เงินเเสนดูดเงินล้าน
    พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์
    ของผู้ศรัทธาในพลังเงินสด
    และรักตัวเองอย่างสูงสุด
    “ห้องพิธีดูดทรัพย์” คือ
    พื้นที่พิเศษสำหรับผู้มีจิตตั้งมั่น
    ผู้ที่ไม่ได้สะสมทรัพย์เพราะกลัวอด…
    แต่สะสมเพราะ รักตัวเอง
    จนอยากมอบอนาคตที่ดีที่สุด
    #ให้กับชีวิตของตนเอง
    ไม่ใช่ห้องแห่งความโลภ
    แต่คือ
    “ห้องแห่งพลังศรัทธา
    ในตนเองขั้นสูงสุด”
    👁 เจ้าพิธีผู้ดูดทรัพย์ คือใคร?
    คือ ผู้ที่จิตมั่น… ใจนิ่ง… และรักตัวเอง
    ในระดับที่ลึกจนไม่อาจปล่อยชีวิต
    ให้รั่วไหลออกไปโดยเปล่าประโยชน์อีกต่อไป
    เขา คือ ผู้ที่ไม่สะสมเพื่ออวด
    หรือ แข่งขันกับใคร
    แต่สะสมเพื่อให้ตนเองปลอดภัย
    อิ่มเอม และมั่นคงตลอดกาล
    🕯 องค์ประกอบของห้องพิธีดูดทรัพย์ (สมบูรณ์ที่สุด)
    1. เทียนสีเขียว – เสาสัญญาณเรียกเงิน
    จุดเพื่อเปิดคลื่นพลังทรัพย์เข้าสู่ห้อง
    เสมือนส่งสัญญาณวิทยุเรียกทรัพย์กลับบ้าน
    จุดพร้อมภาวนา:
    “ทรัพย์จงมา เงินจงไหล
    ความมั่นคงจงอยู่กับข้าตลอดกาล”
    2. เจ้าพิธีต้องอยู่ในห้องอย่างสงบ สม่ำเสมอ
    ฟังบทโปรแกรมจิตเงินซ้ำๆ
    นั่งสงบนิ่ง ปล่อยใจนิ่งลึก
    รับพลังงานทรัพย์เข้ามาโดยไม่ต่อต้าน
    3. ต้องทำเมื่อจิต “อิ่มเอม” เท่านั้น
    การดูดทรัพย์จะเกิดได้
    เฉพาะเมื่อหัวใจเปี่ยมสุข
    ห้ามทำเมื่อรู้สึกกลัวว่าทรัพย์จะหมด
    หรือ ทำเพราะขาดแคลน
    หากยังมีพลังงานกลัว ขาด กังวล
    ให้หยุด! แล้วออกไป
    ทำให้ตนเองมีความสุขก่อน
    เมื่อใจอิ่มจริงๆ
    จึงกลับมาเปิดห้องพิธีรอบใหม่
    4. ไอเดีย = สัญญาณทองคำ
    ทุกความคิดที่แวบขึ้นมาในห้องพิธี
    คือ คำสั่งซื้อจากจักรวาล
    ห้ามนิ่งเฉย ต้องลงมือทันที
    เพราะนั่น คือ เงินในอนาคตที่กำลังเรียกเข้า
    5. การใช้เงิน = คาถาสะท้อนทรัพย์กลับมา
    ทุกการใช้เงิน ต้องมี “ความหมาย” ว่า:
    ใช้เพื่อเงินกลับมาไวขึ้น
    ใช้เพื่อทำให้พลังเงินโต
    ใช้เพื่อจ้างคลื่นพลังให้หมุนเงินคืนคลัง
    เงินไม่ใช่แค่จ่าย… แต่คือ
    “การส่งพลังงานออกไปเพื่อดึงทรัพย์กลับคืน”
    6. ข้อห้ามศักดิ์สิทธิ์
    ห้ามเด็ดขาด:
    ใช้เงินด้วยความกลัว
    ใช้เงินสนองอารมณ์ต่ำ
    ใช้เงินทำลายพลังของผู้อื่น
    ใช้เงินโดยไม่เห็นคุณค่าของเงิน
    7. วงจรศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าพิธี
    เจ้าพิธีจะอยู่ใน 2 โหมด:
    🧘‍♀️ ช่วงสะสม:
    เก็บเงินนิ่งๆ ไม่รั่วไหล
    ไม่ใช้เลยถ้าไม่จำเป็น
    เติมพลังให้คลังทรัพย์หนาแน่น
    💖 ช่วงเบิกใช้ (เมื่อใจอิ่มแล้ว):
    ใช้เงินเยียวยาหัวใจ
    ใช้เท่าที่ทำให้รู้สึก “สมบูรณ์”
    พักใจ แล้วกลับมาสะสมรอบใหม่
    🗝 คาถาเจ้าพิธีดูดทรัพย์:
    "ข้าพเจ้า คือ ผู้เก็บทรัพย์
    ข้าพเจ้า คือ ผู้ดูแลพลังเงินสด
    ข้าพเจ้าจะสะสมทรัพย์
    ด้วยความสุขอย่างแท้จริง
    และจักรวาลจะคืนเงินข้าพเจ้าเสมอ
    ในรูปแบบที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม"
    🔁 สรุปแก่นลึก:
    ห้องพิธีดูดทรัพย์ ไม่ได้เปิดด้วยเทียน...
    แต่มันเปิดด้วย “หัวใจที่เปี่ยมสุข”
    หากใจยังกลัว ยังขาด ยังหวั่นไหว
    ให้ไปเติมพลังรักตัวเองก่อน
    แล้วกลับมาเปิดห้องอีกครั้ง
    ด้วยหัวใจที่สง่างาม
    พร้อมรับคลื่นเงินอย่างบริบูรณ์
    🔮 #ห้องพิธีดูดทรัพย์ #เงินเข้าไม่มีทางออก #ห้องดูดทรัพย์ไม่มีวันออก #เงินพันดูดเงินหมื่น #เงินหมื่นดูดเงินเเสน #เงินเเสนดูดเงินล้าน พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ ของผู้ศรัทธาในพลังเงินสด และรักตัวเองอย่างสูงสุด “ห้องพิธีดูดทรัพย์” คือ พื้นที่พิเศษสำหรับผู้มีจิตตั้งมั่น ผู้ที่ไม่ได้สะสมทรัพย์เพราะกลัวอด… แต่สะสมเพราะ รักตัวเอง จนอยากมอบอนาคตที่ดีที่สุด #ให้กับชีวิตของตนเอง ไม่ใช่ห้องแห่งความโลภ แต่คือ “ห้องแห่งพลังศรัทธา ในตนเองขั้นสูงสุด” 👁 เจ้าพิธีผู้ดูดทรัพย์ คือใคร? คือ ผู้ที่จิตมั่น… ใจนิ่ง… และรักตัวเอง ในระดับที่ลึกจนไม่อาจปล่อยชีวิต ให้รั่วไหลออกไปโดยเปล่าประโยชน์อีกต่อไป เขา คือ ผู้ที่ไม่สะสมเพื่ออวด หรือ แข่งขันกับใคร แต่สะสมเพื่อให้ตนเองปลอดภัย อิ่มเอม และมั่นคงตลอดกาล 🕯 องค์ประกอบของห้องพิธีดูดทรัพย์ (สมบูรณ์ที่สุด) 1. เทียนสีเขียว – เสาสัญญาณเรียกเงิน จุดเพื่อเปิดคลื่นพลังทรัพย์เข้าสู่ห้อง เสมือนส่งสัญญาณวิทยุเรียกทรัพย์กลับบ้าน จุดพร้อมภาวนา: “ทรัพย์จงมา เงินจงไหล ความมั่นคงจงอยู่กับข้าตลอดกาล” 2. เจ้าพิธีต้องอยู่ในห้องอย่างสงบ สม่ำเสมอ ฟังบทโปรแกรมจิตเงินซ้ำๆ นั่งสงบนิ่ง ปล่อยใจนิ่งลึก รับพลังงานทรัพย์เข้ามาโดยไม่ต่อต้าน 3. ต้องทำเมื่อจิต “อิ่มเอม” เท่านั้น การดูดทรัพย์จะเกิดได้ เฉพาะเมื่อหัวใจเปี่ยมสุข ห้ามทำเมื่อรู้สึกกลัวว่าทรัพย์จะหมด หรือ ทำเพราะขาดแคลน หากยังมีพลังงานกลัว ขาด กังวล ให้หยุด! แล้วออกไป ทำให้ตนเองมีความสุขก่อน เมื่อใจอิ่มจริงๆ จึงกลับมาเปิดห้องพิธีรอบใหม่ 4. ไอเดีย = สัญญาณทองคำ ทุกความคิดที่แวบขึ้นมาในห้องพิธี คือ คำสั่งซื้อจากจักรวาล ห้ามนิ่งเฉย ต้องลงมือทันที เพราะนั่น คือ เงินในอนาคตที่กำลังเรียกเข้า 5. การใช้เงิน = คาถาสะท้อนทรัพย์กลับมา ทุกการใช้เงิน ต้องมี “ความหมาย” ว่า: ใช้เพื่อเงินกลับมาไวขึ้น ใช้เพื่อทำให้พลังเงินโต ใช้เพื่อจ้างคลื่นพลังให้หมุนเงินคืนคลัง เงินไม่ใช่แค่จ่าย… แต่คือ “การส่งพลังงานออกไปเพื่อดึงทรัพย์กลับคืน” 6. ข้อห้ามศักดิ์สิทธิ์ ห้ามเด็ดขาด: ใช้เงินด้วยความกลัว ใช้เงินสนองอารมณ์ต่ำ ใช้เงินทำลายพลังของผู้อื่น ใช้เงินโดยไม่เห็นคุณค่าของเงิน 7. วงจรศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าพิธี เจ้าพิธีจะอยู่ใน 2 โหมด: 🧘‍♀️ ช่วงสะสม: เก็บเงินนิ่งๆ ไม่รั่วไหล ไม่ใช้เลยถ้าไม่จำเป็น เติมพลังให้คลังทรัพย์หนาแน่น 💖 ช่วงเบิกใช้ (เมื่อใจอิ่มแล้ว): ใช้เงินเยียวยาหัวใจ ใช้เท่าที่ทำให้รู้สึก “สมบูรณ์” พักใจ แล้วกลับมาสะสมรอบใหม่ 🗝 คาถาเจ้าพิธีดูดทรัพย์: "ข้าพเจ้า คือ ผู้เก็บทรัพย์ ข้าพเจ้า คือ ผู้ดูแลพลังเงินสด ข้าพเจ้าจะสะสมทรัพย์ ด้วยความสุขอย่างแท้จริง และจักรวาลจะคืนเงินข้าพเจ้าเสมอ ในรูปแบบที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม" 🔁 สรุปแก่นลึก: ห้องพิธีดูดทรัพย์ ไม่ได้เปิดด้วยเทียน... แต่มันเปิดด้วย “หัวใจที่เปี่ยมสุข” หากใจยังกลัว ยังขาด ยังหวั่นไหว ให้ไปเติมพลังรักตัวเองก่อน แล้วกลับมาเปิดห้องอีกครั้ง ด้วยหัวใจที่สง่างาม พร้อมรับคลื่นเงินอย่างบริบูรณ์
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 143 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..จริงบางส่วน,เยาวชนเราใช่จะประพฤติตนไม่ดีส่วนใหญ่,แค่ส่วนน้อยเท่านั้น,เหมือนๆวัยรุ่นยุคสมัยอดีตนั้นล่ะ.
    ..แท้จริง มันมากับวัคซีนโควิดที่ฉีดใส่เด็กๆเยาวชนเรานี้ด้วย,ภูมิคุ้มกันตก มันก็เริ่มออกฤทธิ์ได้ตลอดเวลา ในวัคซีนโดยพื้นฐานมีเอดส์ มีโรคหวัดนกตัดแต่ง มีมะเร็ง บวกรองๆอีกตรึม โลหะหนักต่างๆหรือกราฟีนตัวดีที่ทำลายระบบเลือด&หลอดเลือดด้วย.
    ..แพะหรือโยนความผิดให้สิ่งอื่นๆแทนที่มิใช่ต้นเหตุจริงจะมีมาตลอด อาทิ โรคไข้ดินผีบ้านั้นด้วย สร้างวลีโรคไปเรื่อย ในหมู่หมอแพทย์ของบ้านเรา ขนาดวัคซีนยังค้าความตายได้ตังจากค้าวัคซีนมหาศาลในเดอะแก๊งหมอสมุนรับใช้อีลิทในประเทศไทยเราและพวกมันยังลอยหน้าลอยตาไม่เคยถูกตัดสินลงโทษจริงใดๆเลย,ระบบการปกครองเราจึงถือว่าล้มเหลว,คนเลวชั่วมีที่หยัดยืนในสังคมชุมชนไทยเราอย่างมั่นคงต่อยอดอำนาจชั่วสร้างเลวได้ต่อเนื่องชั่งบัดสบนัก.,ทหารพระราชาและประชาชนหรือเรา..ประชาชนคือนหนทางเดียวเท่านั้น,ยึดอำนาจและปฏิวัติบ้านเมืองใหม่ ล้างระบบที่ล้มเหลวนี้ทิ้ง.
    ..เยาวชนไทยและเรา..ทุกๆคนไทยคือกำลังสำคัญในการสร้างชาติไทยร่วมกัน,คนรุ่นหลังถูกล้างสมองถูกทำลาย ชาติอื่นเมืองอื่นก็ยึดครองง่ายๆได้ทันที.
    https://youtu.be/UJKK3R_fCV0?si=hg8M5lz1R_qmeePd
    ..จริงบางส่วน,เยาวชนเราใช่จะประพฤติตนไม่ดีส่วนใหญ่,แค่ส่วนน้อยเท่านั้น,เหมือนๆวัยรุ่นยุคสมัยอดีตนั้นล่ะ. ..แท้จริง มันมากับวัคซีนโควิดที่ฉีดใส่เด็กๆเยาวชนเรานี้ด้วย,ภูมิคุ้มกันตก มันก็เริ่มออกฤทธิ์ได้ตลอดเวลา ในวัคซีนโดยพื้นฐานมีเอดส์ มีโรคหวัดนกตัดแต่ง มีมะเร็ง บวกรองๆอีกตรึม โลหะหนักต่างๆหรือกราฟีนตัวดีที่ทำลายระบบเลือด&หลอดเลือดด้วย. ..แพะหรือโยนความผิดให้สิ่งอื่นๆแทนที่มิใช่ต้นเหตุจริงจะมีมาตลอด อาทิ โรคไข้ดินผีบ้านั้นด้วย สร้างวลีโรคไปเรื่อย ในหมู่หมอแพทย์ของบ้านเรา ขนาดวัคซีนยังค้าความตายได้ตังจากค้าวัคซีนมหาศาลในเดอะแก๊งหมอสมุนรับใช้อีลิทในประเทศไทยเราและพวกมันยังลอยหน้าลอยตาไม่เคยถูกตัดสินลงโทษจริงใดๆเลย,ระบบการปกครองเราจึงถือว่าล้มเหลว,คนเลวชั่วมีที่หยัดยืนในสังคมชุมชนไทยเราอย่างมั่นคงต่อยอดอำนาจชั่วสร้างเลวได้ต่อเนื่องชั่งบัดสบนัก.,ทหารพระราชาและประชาชนหรือเรา..ประชาชนคือนหนทางเดียวเท่านั้น,ยึดอำนาจและปฏิวัติบ้านเมืองใหม่ ล้างระบบที่ล้มเหลวนี้ทิ้ง. ..เยาวชนไทยและเรา..ทุกๆคนไทยคือกำลังสำคัญในการสร้างชาติไทยร่วมกัน,คนรุ่นหลังถูกล้างสมองถูกทำลาย ชาติอื่นเมืองอื่นก็ยึดครองง่ายๆได้ทันที. https://youtu.be/UJKK3R_fCV0?si=hg8M5lz1R_qmeePd
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 133 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตำรวจภูธรภาค ๓ ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา, สถานีตำรวจภูธรโพธิ์กลาง ,จังหวัดนครราชสีมา และ ปปส.ภาค ๓ ร่วมกันแถลงผลการสืบสวนจับกุมคดียาเสพติดรายสําคัญ ตรวจยึดยาบ้า จำนวน 198,000 เม็ด

    คณะรัฐมนตรีโดย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา กรอบ นโยบายในการบริหารและพัฒนาประเทศตามกรอบความเร่งด่วน เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี นําความ ปลอดภัย สร้างศักดิ์ศรีและนำความภาคภูมิใจมาสู่ประชาชนไทย นโยบายด้านความปลอดภัย จะทำงาน รวมกับทุกภาคส่วนเพื่อดำเนินการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและยาเสพติดให้หมดไปจากสังคมไทย โดยยึด หลัก “เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย” สนับสนุนให้ผู้เสพเขารับการรักษาบำบัดอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง ส่วนผู้ผลิตผู้ค้า คือผู้ที่ต้องได้รับโทษตามกระบวนการยุติธรรม โดยใช้มาตรการปราบปรามทางกฎหมาย อย่างจริงจัง ซึ่งรวมถึงการ “ยึดทรัพย์” เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติดพร้อมดำเนินการเจรจาทางการทูต กับประเทศตามแนวชายแดน เพื่อควบคุมการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทย ประชาชนออกจากวงจรการค้ายาเสพติดอย่างถาวร และตึง และปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด “Seal Stop Safe” เพื่อสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดตามแนวชายแดนถือเป็นนโยบายเร่งด่วนต้อง ทําทันที

    ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.๓/ผอ.ศอ.ปส.ภ.๓, พล.ต.ต.ประสงค์ เรื่องเดช รอง จตร.รรท.รอง ผบช.ภ.๓/รอง ผอ.ศอ.ปส.ภ.๓ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัดเร่งรัดสืบสวน จับกุมผู้ค้ายาเสพติดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ การกวาดล้างยาเสพติดในทุกมิติการทำลายเครือข่ายวงจร ยาเสพติดทุกระดับ การสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดตามแนวชายแดน และพื้นที่ชั้นใน
    .
    พล.ต.ต.ไพโรจน์ ขุนหมื่น ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.อ.คเชนท์ เสตะปุตตะ รอง ผบก.ภ.จว. นครราชสีมา, พ.ต.อ.วีณวัฒน์ ศรีแย้ม ผกก.สภ.โพธิ์กลาง, พ.ต.ท.สมาน เชาว์มะเริง รอง ผกก.สส. สภ.โพธิ์กลาง สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์กลาง จว.นครราชสีมา นำโดย พ.ต.ท.ชัยพล คงขุนทด สว.สส.สภ.โพธิ์กลาง, พธิ์กลาง, ร.ต.อ.ภาคิน พิทักษ์ศุภกร พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.โพธิ์กลาง ร่วมสืบสวนจับกุมตัว
    ๑. นายเสือ (นามสมมุติ) อายุ ๒๔ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๑)
    ๒. นายยุทธ (นามสมมุติ) อายุ ๒๔ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๒)
    ๓. นายมอล (นามสมมุติ) อายุ ๓๒ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๓)
    ๔. นางสาวพลอย (นามสมุติ) อายุ ๒๑ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๔)
    พร้อมด้วยของกลาง
    .
    ๑. ยาบ้า จํานวน ๒ เม็ด
    ๒. ยาบ้าที่ห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาล จำนวน ๓๓ หมอน หมอนละ ๓ มัด รวม ๙๙ มัด มัดละ ๒,๐๐๐ เม็ด ซุกซ่อนอยู่ถุงพลาสติกสีดำ รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ ๑๙๘,๐๐๐ เม็ด
    ๓. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อไอโฟน รุ่น ๑๑ สีดำ จำนวน ๑ เครื่อง
    ๔. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง รุ่นเอ ๒๔ จำนวน ๑ เครื่อง
    ๕. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง รุ่นเอ๕๘ จำนวน ๑ เครื่อง
    ๖. น้ำปัสสาวะบรรจุขวดพลาสติก จำนวน ๔ ขวด
    .
    พฤติการณ์แห่งคดี วันที่ ๒๓ พ.ค.๖๘ เวลาประมาณ 00.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์กลางได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้ทำการตั้งจุดตรวจจุดสกัดเพื่อป้องกันเหตุอาชญากรรมและลำเลียงยาเสพติดที่ถนนมิตรภาพ ต.โคกกรวด อ.เมือง จว.นครราชสีมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.โพธิ์กลางได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ชุดสนับสนุน จึงได้ทำการออกตรวจในบริเวณก่อนถึงจุดตรวจจุดสกัดฯ ดังกล่าว
    .
    ต่อมาเวลา ๐๐.๒๐ น. พบว่ามีรถยนต์กลับรถก่อนถึงจุดตั้งจุดตรวจ เจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถติดตามไปจนถึงถนนหมายเลข ๒๙๐ บ้านหนองกุ้ง หมู่ที่ ๑๓ ต.โคกกรวด อ.เมืองนครราชสีมา พบรถยนต์กระบะแค๊ปสีเขียว ยี่ห้ออีซูซุ จังหวัดบุรีรัมย์ เลี้ยวเข้าไปจอดที่บริเวณอยู่หน้าสนามชนไก่แก้ว เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าทำการตรวจสอบ พบบุคคลชาย ๒ คน คือนายเสือ (ผู้ต้องหาที่ ๑) เป็นคนขับรถ และนายยุทธ (ผู้ต้องหาที่ ๒) นั่งอยู่ฝั่งผู้โดยสาร ท่าทางมีพิรุธสงสัย จึงได้ทำการสอบ ทั้งสองแจ้งว่ารถยนต์เสีย แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อ จึงได้สอบถามจนทั้งสองคนยอมรับว่าได้เสพยาบ้ามาและเป็นคนขับรถนำทางหรือสเก้าท์หน้ารถที่ขนยาบ้า แต่ระหว่างขับรถมาทราบว่ามีการตั้งจุดตรวจอยู่ด้านหน้า จึงเลี้ยวกลับรถก่อนถึงจุดตรวจแล้วมาจอดรถรอเพื่อให้จุดตรวจเลิกก่อนจึงจะเดินทางต่อ เจ้าหน้าที่จึงได้ขอทำการตรวจค้นภายในรถยนต์ดังกล่าวพบยาบ้าจำนวน ๒ เม็ด ของกลางลำดับที่ ๑) จึงได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษ ประเภท ๑ (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและแจ้งผู้ต้องหาที่ ๑ เป็นผู้ขับขี่รถยนต์เสพยาเสพ ติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย” และสิทธิ์ให้ผู้ต้องหาทั้งสองทราบ
    .
    นายเสือฯ และนายยุทธฯ ทราบสิทธิดังกล่าวดีโดยละเอียดแล้วได้สมัครใจช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยให้การว่าได้เป็นคนขับรถนำทางหรือสเก้าท์หน้ารถคันที่ขนยาบ้า จะขับรถนำทางห่างกันประมาณ ๔-๕ กิโลเมตร ซึ่งรถขนยาบ้ามีจำนวน ๓ คน ชื่อนายต้า (คนขับรถ), นายมอล และ น.ส.พลอย ใช้รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว กทม. เดินทางไปรับยาบ้ามาจาก อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรี ซึ่งจะติดต่อกันผ่านแอฟพลิเคชั่นเฟสบุ๊คของนายต้า ตลอดเวลาที่เดินทาง
    .
    เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้วางแผนจับกุมโดยให้ผู้ต้องหาทั้งสอง ติดต่อกับรถคันที่ขนยาบ้าให้มาพบที่จุดที่ตนเอง
    อยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางกำลังซุ่มดูอยู่บริเวณใกล้ๆจุดนัดหมาย ต่อมาเวลาประมาณ ๐๑.๐๐ น. รถยนต์เป้าหมายได้มาจอดที่จุดนัดหมาย โดยไม่ดับเครื่องและไม่ลงจากรถยนต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจเกรงว่า เป้าหมายจะหลบหนีจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเข้าทำการจับกุม แต่รถยนต์เป้าหมายได้ขับ หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการติดตามไปอย่างกระชั้นชิด มุ่งหน้าผ่านสวนสัตว์นครราชสีมา จนมาถึงจุดสร้างสะพานแห่งใหม่บ้านหนองบัวศาลา ต.หนองบัวศาลา อ.เมืองนครราชสีมา รถยนต์เป้าหมายได้เสียหลักไปชนเสาไฟฟ้าข้างถนนไม่สามารถขับต่อไปได้ คนภายในรถทั้ง ๓ คน ได้ลงจากรถแล้ววิ่งหลบหนีเข้าไปในป่ามันสำปะหลังข้างทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวิ่งไล่ติดตามจับกุมตัวมาได้ จำนวน ๒ คน คือนายมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) และ น.ส.พลอย (ผู้ต้องหาที่ ๔) ส่วนผู้ชายอีก ๑ คน (นายต้า) หลบหนีไปได้ เจ้าหน้าชุดจับกุมจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนมาตรวจค้นรถยนต์คันที่ผู้ต้องหาทั้งสองนั่งมา ผลการตรวจค้นพบยาบ้าที่ห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาล จำนวน ๓๓ หมอน หมอนละ ๓ มัด รวม ๙๙ มัด มัดละ ๒,๐๐๐ เม็ด ซุกซ่อนอยู่ ถุงพลาสติกสีดำ รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ ๑๙๘,๐๐๐ เม็ด
    .
    เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) และ น.ส.พลอย (ผู้ต้องหาที่ ๔) ให้การว่าเมื่อวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๖๘ เวลาประมาณ ๑๕.๐๐ น. นายต้าฯ ขับรถยนต์คันดังกล่าว มาพบและชวนให้นั่งรถไปเป็นเพื่อนที่ จว.สระบุรี โดยนายมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) นั่งข้างคนขับ ส่วน น.ส.พลอยฯ (ผู้ต้องหาที่ ๔) นั่งที่เบาะหลัง เวลาประมาณ ๒๐.๐๐น. ได้จอดรถริมทางบริเวณทุ่งนาที่ ต.หนองแก อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรี นายต้าฯ ก็ได้ให้นายมอลฯ ลงไปเอาถุงสีดำที่วางไว้ข้างทางขึ้นมาเก็บบนรถ จำนวน ๑ ถุง แล้วเดินทางกลับ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ โดยให้รถยนต์ของนายเสือฯ (ผู้ต้องหาที่ ๑) เป็นรถนำเพื่อคอยดูเส้นทางว่ามีด่านตำรวจหรือไม่ จนมาถึงที่เกิดเหตุแล้วถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดจับกุมตัวได้พร้อมของกลางดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งสิทธิ์และข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) โดยมีไว้ เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ซึ่งก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่ม ประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปโดยฝ่าฝืนกฎหมาย” ซึ่งผู้ต้องหาทราบสิทธิ์และข้อกล่าวหาดีโดยละเอียดแล้ว ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมด้วยของกลาง ส่ง พงส.สภ.โพธิ์กลาง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
    .
    ตำารวจภูธรภาค ๓ จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน และสถานประกอบการทุกแห่งแจ้ง เบาะแส/ข้อมูล ผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทั้งผู้เสพ ผู้ค้า ในสถานประกอบการฯ และอาศัยสถาน ประกอบการฯ ในการกระทำผิด โดยแจ้งขอมูลผ่านสายด่วนยาเสพติด ๑๕๙๙ สายด่วน ๑๙๑ และ Application Police I lert U ได้ตลอด ๒๔ ชม. เพื่อดำเนินการปราบปราม จับกุม ดำเนินคดี ผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและลดปัญหายาเสพติดในภาพรวมอย่างต่อเนื่องและเข้มข้นเพื่อให้สั งคมมีความปลอดภัยจากปัญหายาเสพติด ปัญหาอาชญากรรมที่เกี่ยวเนื่องกับยาเสพติดต่อไป.
    ตำรวจภูธรภาค ๓ ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา, สถานีตำรวจภูธรโพธิ์กลาง ,จังหวัดนครราชสีมา และ ปปส.ภาค ๓ ร่วมกันแถลงผลการสืบสวนจับกุมคดียาเสพติดรายสําคัญ ตรวจยึดยาบ้า จำนวน 198,000 เม็ด คณะรัฐมนตรีโดย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา กรอบ นโยบายในการบริหารและพัฒนาประเทศตามกรอบความเร่งด่วน เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี นําความ ปลอดภัย สร้างศักดิ์ศรีและนำความภาคภูมิใจมาสู่ประชาชนไทย นโยบายด้านความปลอดภัย จะทำงาน รวมกับทุกภาคส่วนเพื่อดำเนินการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและยาเสพติดให้หมดไปจากสังคมไทย โดยยึด หลัก “เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย” สนับสนุนให้ผู้เสพเขารับการรักษาบำบัดอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง ส่วนผู้ผลิตผู้ค้า คือผู้ที่ต้องได้รับโทษตามกระบวนการยุติธรรม โดยใช้มาตรการปราบปรามทางกฎหมาย อย่างจริงจัง ซึ่งรวมถึงการ “ยึดทรัพย์” เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติดพร้อมดำเนินการเจรจาทางการทูต กับประเทศตามแนวชายแดน เพื่อควบคุมการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทย ประชาชนออกจากวงจรการค้ายาเสพติดอย่างถาวร และตึง และปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด “Seal Stop Safe” เพื่อสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดตามแนวชายแดนถือเป็นนโยบายเร่งด่วนต้อง ทําทันที ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.๓/ผอ.ศอ.ปส.ภ.๓, พล.ต.ต.ประสงค์ เรื่องเดช รอง จตร.รรท.รอง ผบช.ภ.๓/รอง ผอ.ศอ.ปส.ภ.๓ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัดเร่งรัดสืบสวน จับกุมผู้ค้ายาเสพติดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ การกวาดล้างยาเสพติดในทุกมิติการทำลายเครือข่ายวงจร ยาเสพติดทุกระดับ การสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดตามแนวชายแดน และพื้นที่ชั้นใน . พล.ต.ต.ไพโรจน์ ขุนหมื่น ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.อ.คเชนท์ เสตะปุตตะ รอง ผบก.ภ.จว. นครราชสีมา, พ.ต.อ.วีณวัฒน์ ศรีแย้ม ผกก.สภ.โพธิ์กลาง, พ.ต.ท.สมาน เชาว์มะเริง รอง ผกก.สส. สภ.โพธิ์กลาง สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์กลาง จว.นครราชสีมา นำโดย พ.ต.ท.ชัยพล คงขุนทด สว.สส.สภ.โพธิ์กลาง, พธิ์กลาง, ร.ต.อ.ภาคิน พิทักษ์ศุภกร พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.โพธิ์กลาง ร่วมสืบสวนจับกุมตัว ๑. นายเสือ (นามสมมุติ) อายุ ๒๔ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๑) ๒. นายยุทธ (นามสมมุติ) อายุ ๒๔ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๒) ๓. นายมอล (นามสมมุติ) อายุ ๓๒ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๓) ๔. นางสาวพลอย (นามสมุติ) อายุ ๒๑ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๔) พร้อมด้วยของกลาง . ๑. ยาบ้า จํานวน ๒ เม็ด ๒. ยาบ้าที่ห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาล จำนวน ๓๓ หมอน หมอนละ ๓ มัด รวม ๙๙ มัด มัดละ ๒,๐๐๐ เม็ด ซุกซ่อนอยู่ถุงพลาสติกสีดำ รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ ๑๙๘,๐๐๐ เม็ด ๓. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อไอโฟน รุ่น ๑๑ สีดำ จำนวน ๑ เครื่อง ๔. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง รุ่นเอ ๒๔ จำนวน ๑ เครื่อง ๕. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง รุ่นเอ๕๘ จำนวน ๑ เครื่อง ๖. น้ำปัสสาวะบรรจุขวดพลาสติก จำนวน ๔ ขวด . พฤติการณ์แห่งคดี วันที่ ๒๓ พ.ค.๖๘ เวลาประมาณ 00.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์กลางได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้ทำการตั้งจุดตรวจจุดสกัดเพื่อป้องกันเหตุอาชญากรรมและลำเลียงยาเสพติดที่ถนนมิตรภาพ ต.โคกกรวด อ.เมือง จว.นครราชสีมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.โพธิ์กลางได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ชุดสนับสนุน จึงได้ทำการออกตรวจในบริเวณก่อนถึงจุดตรวจจุดสกัดฯ ดังกล่าว . ต่อมาเวลา ๐๐.๒๐ น. พบว่ามีรถยนต์กลับรถก่อนถึงจุดตั้งจุดตรวจ เจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถติดตามไปจนถึงถนนหมายเลข ๒๙๐ บ้านหนองกุ้ง หมู่ที่ ๑๓ ต.โคกกรวด อ.เมืองนครราชสีมา พบรถยนต์กระบะแค๊ปสีเขียว ยี่ห้ออีซูซุ จังหวัดบุรีรัมย์ เลี้ยวเข้าไปจอดที่บริเวณอยู่หน้าสนามชนไก่แก้ว เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าทำการตรวจสอบ พบบุคคลชาย ๒ คน คือนายเสือ (ผู้ต้องหาที่ ๑) เป็นคนขับรถ และนายยุทธ (ผู้ต้องหาที่ ๒) นั่งอยู่ฝั่งผู้โดยสาร ท่าทางมีพิรุธสงสัย จึงได้ทำการสอบ ทั้งสองแจ้งว่ารถยนต์เสีย แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อ จึงได้สอบถามจนทั้งสองคนยอมรับว่าได้เสพยาบ้ามาและเป็นคนขับรถนำทางหรือสเก้าท์หน้ารถที่ขนยาบ้า แต่ระหว่างขับรถมาทราบว่ามีการตั้งจุดตรวจอยู่ด้านหน้า จึงเลี้ยวกลับรถก่อนถึงจุดตรวจแล้วมาจอดรถรอเพื่อให้จุดตรวจเลิกก่อนจึงจะเดินทางต่อ เจ้าหน้าที่จึงได้ขอทำการตรวจค้นภายในรถยนต์ดังกล่าวพบยาบ้าจำนวน ๒ เม็ด ของกลางลำดับที่ ๑) จึงได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษ ประเภท ๑ (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและแจ้งผู้ต้องหาที่ ๑ เป็นผู้ขับขี่รถยนต์เสพยาเสพ ติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย” และสิทธิ์ให้ผู้ต้องหาทั้งสองทราบ . นายเสือฯ และนายยุทธฯ ทราบสิทธิดังกล่าวดีโดยละเอียดแล้วได้สมัครใจช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยให้การว่าได้เป็นคนขับรถนำทางหรือสเก้าท์หน้ารถคันที่ขนยาบ้า จะขับรถนำทางห่างกันประมาณ ๔-๕ กิโลเมตร ซึ่งรถขนยาบ้ามีจำนวน ๓ คน ชื่อนายต้า (คนขับรถ), นายมอล และ น.ส.พลอย ใช้รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว กทม. เดินทางไปรับยาบ้ามาจาก อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรี ซึ่งจะติดต่อกันผ่านแอฟพลิเคชั่นเฟสบุ๊คของนายต้า ตลอดเวลาที่เดินทาง . เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้วางแผนจับกุมโดยให้ผู้ต้องหาทั้งสอง ติดต่อกับรถคันที่ขนยาบ้าให้มาพบที่จุดที่ตนเอง อยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางกำลังซุ่มดูอยู่บริเวณใกล้ๆจุดนัดหมาย ต่อมาเวลาประมาณ ๐๑.๐๐ น. รถยนต์เป้าหมายได้มาจอดที่จุดนัดหมาย โดยไม่ดับเครื่องและไม่ลงจากรถยนต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจเกรงว่า เป้าหมายจะหลบหนีจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเข้าทำการจับกุม แต่รถยนต์เป้าหมายได้ขับ หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการติดตามไปอย่างกระชั้นชิด มุ่งหน้าผ่านสวนสัตว์นครราชสีมา จนมาถึงจุดสร้างสะพานแห่งใหม่บ้านหนองบัวศาลา ต.หนองบัวศาลา อ.เมืองนครราชสีมา รถยนต์เป้าหมายได้เสียหลักไปชนเสาไฟฟ้าข้างถนนไม่สามารถขับต่อไปได้ คนภายในรถทั้ง ๓ คน ได้ลงจากรถแล้ววิ่งหลบหนีเข้าไปในป่ามันสำปะหลังข้างทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวิ่งไล่ติดตามจับกุมตัวมาได้ จำนวน ๒ คน คือนายมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) และ น.ส.พลอย (ผู้ต้องหาที่ ๔) ส่วนผู้ชายอีก ๑ คน (นายต้า) หลบหนีไปได้ เจ้าหน้าชุดจับกุมจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนมาตรวจค้นรถยนต์คันที่ผู้ต้องหาทั้งสองนั่งมา ผลการตรวจค้นพบยาบ้าที่ห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาล จำนวน ๓๓ หมอน หมอนละ ๓ มัด รวม ๙๙ มัด มัดละ ๒,๐๐๐ เม็ด ซุกซ่อนอยู่ ถุงพลาสติกสีดำ รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ ๑๙๘,๐๐๐ เม็ด . เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) และ น.ส.พลอย (ผู้ต้องหาที่ ๔) ให้การว่าเมื่อวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๖๘ เวลาประมาณ ๑๕.๐๐ น. นายต้าฯ ขับรถยนต์คันดังกล่าว มาพบและชวนให้นั่งรถไปเป็นเพื่อนที่ จว.สระบุรี โดยนายมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) นั่งข้างคนขับ ส่วน น.ส.พลอยฯ (ผู้ต้องหาที่ ๔) นั่งที่เบาะหลัง เวลาประมาณ ๒๐.๐๐น. ได้จอดรถริมทางบริเวณทุ่งนาที่ ต.หนองแก อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรี นายต้าฯ ก็ได้ให้นายมอลฯ ลงไปเอาถุงสีดำที่วางไว้ข้างทางขึ้นมาเก็บบนรถ จำนวน ๑ ถุง แล้วเดินทางกลับ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ โดยให้รถยนต์ของนายเสือฯ (ผู้ต้องหาที่ ๑) เป็นรถนำเพื่อคอยดูเส้นทางว่ามีด่านตำรวจหรือไม่ จนมาถึงที่เกิดเหตุแล้วถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดจับกุมตัวได้พร้อมของกลางดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งสิทธิ์และข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) โดยมีไว้ เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ซึ่งก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่ม ประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปโดยฝ่าฝืนกฎหมาย” ซึ่งผู้ต้องหาทราบสิทธิ์และข้อกล่าวหาดีโดยละเอียดแล้ว ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมด้วยของกลาง ส่ง พงส.สภ.โพธิ์กลาง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป . ตำารวจภูธรภาค ๓ จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน และสถานประกอบการทุกแห่งแจ้ง เบาะแส/ข้อมูล ผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทั้งผู้เสพ ผู้ค้า ในสถานประกอบการฯ และอาศัยสถาน ประกอบการฯ ในการกระทำผิด โดยแจ้งขอมูลผ่านสายด่วนยาเสพติด ๑๕๙๙ สายด่วน ๑๙๑ และ Application Police I lert U ได้ตลอด ๒๔ ชม. เพื่อดำเนินการปราบปราม จับกุม ดำเนินคดี ผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและลดปัญหายาเสพติดในภาพรวมอย่างต่อเนื่องและเข้มข้นเพื่อให้สั งคมมีความปลอดภัยจากปัญหายาเสพติด ปัญหาอาชญากรรมที่เกี่ยวเนื่องกับยาเสพติดต่อไป.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 280 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts