• “โตโน่ ภาคิน” เปิดใจบนเวทีคอนเสิร์ต ขอโทษทุกคนที่ทำเรื่องไม่ดี ฉันมันชั่วเกินไป ขอให้ทุกคนเจอรักที่ดีงาม อย่าทำผิดพลาดเหมือนตน จากนี้ไม่รู้จะเป็นไงต่อ อาจกลับไปอยู่นาเหมือนเดิม

    กำลังเป็นดรามาร้อนระอุ กับเรื่องราวความรักของ “โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์” ที่ห่างแฟนสาว “ณิชา ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์” ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่มีใครรู้ และไปซุ่มคบกับผู้ช่วยผู้จัดการส่วนตัวของตนเอง แต่สุดท้าย ถูกหนุ่มคนหนึ่งออกมาแฉว่าเป็นชู้กับแฟนของตน ซึ่ง “เมย์” ผู้จัดการส่วนตัวของ โตโน่ บอกว่าพระเอกดังจะไม่ออกมาพูดเรื่องนี้หรือตั้งโต๊ะแถลงข่าวแน่นอน

    เมื่อวันที่ 13 เม.ย. โตโน่ ได้มาเล่นคอนเสิร์ตที่ สุโขทัย เจ้าตัวได้ร้องเพลงไประบายความในใจไป เวลา 19.00 น. โตโน่ ภาคิน ขึ้นเวทีที่ถนนข้าวตอก สุโขทัย ในเทศกาลสงกรานต์ที่จัดขึ้น โดยเพลงแรกที่ โตโน่ ร้องคือ “เพลงไม่รักดี” ของ “อุ๊ หฤทัย” จากนั้นก่อนร้องเพลงที่ 2 โตโน่ พูดกับแฟนเพลงว่า “สุโขทัย…ขอโทษที่ทำให้มีแต่เรื่องเสียๆ เด้อ” เพลงที่ 2 ฅนกับควาย โดยก่อนเข้าเพลงที่ 3 เพลงสู้ โตโน่ ได้บอกว่า “เพลงต่อไปขอมอบให้คนที่กำลังมีปัญหาในชีวิต”

    จบเพลง เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนๆ มากมายที่มาชมคอนเสิร์ต โตโน่ ได้พูดกับประชาชนที่มาชมคอนเสิร์ตว่า… “ทุกคน ขอเสียงคนที่เคยเจอกับความรักที่ดีๆ แต่เราที่มันเลว ขอเสียงคนที่เคยทำผิดพลาดในชีวิตหน่อยได้ไหม เพลงนี้ขอมอบให้กับคนที่เคยทำให้คนที่เรารักเสียใจ ชื่อเพลง เพิ่งรู้หัวใจตัวเอง” จากนั้น โตโน่ ก็ร้องเพลงต่อรัวๆ เลือกได้ไหม , ขอให้เธอใจดี เพลงนี้มีท่อนฮุกจิ๊ดใจ…

    “โปรดบอกฉันว่าโลกนี้มันยังไม่เลวร้ายเกินไปและพรุ่งนี้โลกใบนี้มันยังไม่แตกสลายไป ขอให้เธอใจดีกับฉัน ในวันที่โลกทั้งใบใจร้าย” ทำ โตโน่ เงยหน้ามองบนอยู่หลายครั้ง และจบเพลง โตโน่ ยังพูดกับแฟนเพลงว่า “ขอให้เจอกับรักดีๆ เน้อ สุโขทัย”

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000035344

    #MGROnline #โตโน่ภาคิน
    “โตโน่ ภาคิน” เปิดใจบนเวทีคอนเสิร์ต ขอโทษทุกคนที่ทำเรื่องไม่ดี ฉันมันชั่วเกินไป ขอให้ทุกคนเจอรักที่ดีงาม อย่าทำผิดพลาดเหมือนตน จากนี้ไม่รู้จะเป็นไงต่อ อาจกลับไปอยู่นาเหมือนเดิม • กำลังเป็นดรามาร้อนระอุ กับเรื่องราวความรักของ “โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์” ที่ห่างแฟนสาว “ณิชา ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์” ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่มีใครรู้ และไปซุ่มคบกับผู้ช่วยผู้จัดการส่วนตัวของตนเอง แต่สุดท้าย ถูกหนุ่มคนหนึ่งออกมาแฉว่าเป็นชู้กับแฟนของตน ซึ่ง “เมย์” ผู้จัดการส่วนตัวของ โตโน่ บอกว่าพระเอกดังจะไม่ออกมาพูดเรื่องนี้หรือตั้งโต๊ะแถลงข่าวแน่นอน • เมื่อวันที่ 13 เม.ย. โตโน่ ได้มาเล่นคอนเสิร์ตที่ สุโขทัย เจ้าตัวได้ร้องเพลงไประบายความในใจไป เวลา 19.00 น. โตโน่ ภาคิน ขึ้นเวทีที่ถนนข้าวตอก สุโขทัย ในเทศกาลสงกรานต์ที่จัดขึ้น โดยเพลงแรกที่ โตโน่ ร้องคือ “เพลงไม่รักดี” ของ “อุ๊ หฤทัย” จากนั้นก่อนร้องเพลงที่ 2 โตโน่ พูดกับแฟนเพลงว่า “สุโขทัย…ขอโทษที่ทำให้มีแต่เรื่องเสียๆ เด้อ” เพลงที่ 2 ฅนกับควาย โดยก่อนเข้าเพลงที่ 3 เพลงสู้ โตโน่ ได้บอกว่า “เพลงต่อไปขอมอบให้คนที่กำลังมีปัญหาในชีวิต” • จบเพลง เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนๆ มากมายที่มาชมคอนเสิร์ต โตโน่ ได้พูดกับประชาชนที่มาชมคอนเสิร์ตว่า… “ทุกคน ขอเสียงคนที่เคยเจอกับความรักที่ดีๆ แต่เราที่มันเลว ขอเสียงคนที่เคยทำผิดพลาดในชีวิตหน่อยได้ไหม เพลงนี้ขอมอบให้กับคนที่เคยทำให้คนที่เรารักเสียใจ ชื่อเพลง เพิ่งรู้หัวใจตัวเอง” จากนั้น โตโน่ ก็ร้องเพลงต่อรัวๆ เลือกได้ไหม , ขอให้เธอใจดี เพลงนี้มีท่อนฮุกจิ๊ดใจ… • “โปรดบอกฉันว่าโลกนี้มันยังไม่เลวร้ายเกินไปและพรุ่งนี้โลกใบนี้มันยังไม่แตกสลายไป ขอให้เธอใจดีกับฉัน ในวันที่โลกทั้งใบใจร้าย” ทำ โตโน่ เงยหน้ามองบนอยู่หลายครั้ง และจบเพลง โตโน่ ยังพูดกับแฟนเพลงว่า “ขอให้เจอกับรักดีๆ เน้อ สุโขทัย” • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000035344 • #MGROnline #โตโน่ภาคิน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 70 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดตัวอย่างเป็นทางการหนังสือ Fail Fast, Succeed More ล้มให้เร็ว สำเร็จให้สุด

    “เคล็ดลับสู่ความสำเร็จแบบก้าวกระโดด ด้วยการเรียนรู้จากความล้มเหลว
    เพราะความล้มเหลวคือจิ๊กซอร์หนึ่งของความสำเร็จ”

    ดร.สุวัฒน์ ทองธนากุล บรรณาธิการ Green Innovation & SD Manager Online กรรมการสถาบันป๋วย อึ๊งภากรณ์ (ท่านที่ 2 จากซ้าย) อาจารย์ทวีภูมิ วิบรรณ์ ผู้ก่อตั้ง ProActive Forum (ท่านที่ 1 จากซ้าย) พ.ต.ท. ดร.คมกริช ศิลาทอง นักวิเทศสัมพันธ์ชำนาญการ สำนักประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน (ท่านที่ 1 จากขวา) ดร.ศรินนา แก้วสีเคน กรรมการเดชฤทธิ์ กรุ๊ป, 10X Consulting และผู้ก่อตั้งกิจการเพื่อสังคมสานฝันปันใจให้น้อง (ท่านที่ 2 จากขวา) คุณจารุวรรณ เวชตระกูล บรรณาธิการบริหาร สำนักพิมพ์วิช (ท่านที่ 3 จากขวา) คุณศิริรัตน์ ไชยาริพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายจัดจำหน่าย บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด (มหาชน) (ท่านที่ 4 จากขวา) ร่วมเป็นเกียรติในงานเปิดตัวผลงานหนังสือล่าสุดของ ศาสตราจารย์พิศิษฐ์ ดร.วสิษฐ์พรหมบุตร (ท่านที่ 3 จากซ้าย) ที่ปรึกษา โค้ช วิทยากร และนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์การพัฒนาการจัดการองค์กร จากแบรนด์ 10X Consulting (www.10-xconsulting.com) ซึ่งมีผลงานการให้คำปรึกษาแนะนำเพื่อพัฒนาศักยภาพทั้งในระดับบุคคล ทีม และองค์กรชั้นนำกว่า 500 องค์กร ใน 21 อุตสาหกรรม ครอบคลุมกลุ่มบริษัท บริษัทมหาชน บริษัทจำกัดในอุตสาหกรรมผลิต พลังงาน การสื่อสาร - โทรคมนาคม เทคโนโลยีดิจิทัล ค้าปลีก อสังหาริมทรัพย์ การบริการ/มหาวิทยาลัย/สถาบันการศึกษา/ รัฐวิสาหกิจ 10 อันดับแรกที่ส่งรายได้สูงสุด/หน่วยงานภาครัฐระดับกระทรวง และส่วนราชการในสังกัดทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่น/สถาบันอิสระ/องค์กรไม่แสวงหากำไร/โครงการพระราชดำริ และเป็นที่ปรึกษา พี่เลี้ยง และโค้ชส่วนตัวแก่ผู้บริหาร และผู้นำมากกว่า 10,000 คน

    ในยุคที่สังคมเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และผู้คนก็กระหายความสำเร็จ และมุ่งหวังความเจริญเติบโต การเรียนรู้จากการล้ม และการฝึกกระบวนการในการสร้างความสำเร็จจึงเป็นเรื่องจำเป็นและทั้งหมดนี้ต้องเป็นไปอย่างรวดเร็ว รอช้าไม่ได้

    ปัจจุบันนี้ องค์กร หน่วยงาน ทีมต่างๆ ไม่เว้นแม้กระทั่งตัวบุคคล ล้วนเผชิญกับความท้าทายมากมาย ทั้งการแข่งขันที่ดุเดือด เทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การยึดติดกับวิธีการเดิมๆ หรือกลัวความล้มเหลว อาจทำให้ตัวคุณ ทีม หน่วยงาน และองค์กรตกขบวนได้

    หนังสือ "Fall Fast, Succeed More ล้มให้เร็ว สำเร็จให้สุด" ได้รับแรงบันดาลใจจากการได้ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับ ผู้นำทีม ผู้จัดการหน่วยงาน ผู้บริหารองค์กร ผู้ประกอบการ เจ้าของธุรกิจ ผู้ก่อตั้งองค์กรทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งบุคคล ที่รัก และชื่นชอบการพัฒนาตนเอง นับหมื่นคนที่มอบโอกาสและความไว้วางใจให้มีส่วนร่วมสร้างสรรค์ผลงาน ทำให้เห็นถึงความสำคัญของการทดลองสิ่งใหม่ๆ การเรียนรู้จากความล้มเหลว และการปรับตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้เกิดการพัฒนาสร้างการเติบโตนับ 10 เท่า (10X) และการปรับปรุง - พัฒนาอย่างต่อเนื่อง

    หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับผู้นำทีม ผู้จัดการ ผู้บริหาร เจ้าของธุรกิจ และผู้ก่อตั้ง ที่ต้องการพัฒนา ทีมงาน หน่วยงาน และองค์กร ควบคู่กับการพัฒนาตนเอง ให้เป็นผู้สร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยผู้อ่านจะได้เรียนรู้กลยุทธ์และเทคนิคในการ "ล้มให้เร็ว" และ "สำเร็จให้สุด" ภายในเล่ม ผู้อ่านจะได้พบกับ

    1. เครื่องมือและเทคนิค ที่จะช่วยให้คุณ "ล้ม" อุปสรรคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความกลัวความล้มเหลว การขาดความคิดสร้างสรรค์ หรือวัฒนธรรมองค์กรที่ไม่เอื้อต่อต่อการเปลี่ยนแปลง
    2. กลยุทธ์ในการ "เร่ง" สู่ความสำเร็จในแบบ 10X ด้วยการปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง และการพัฒนาศักยภาพของบุคคล ทีม หน่วยงาน และองค์กร

    ด้วยเนื้อหาที่เข้มขันแต่เข้าใจง่าย ผู้อ่านจะได้เรียนรู้วิธีคิดและวิธีปฏิบัติแบบใหม่ๆ ที่จะช่วย "ปลดล็อก" ศักยภาพที่ซ่อนอยู่ภายในตัวคุณและองค์กร ไม่ว่าคุณจะกำลังเผชิญกับความท้าทายใดในชีวิต และธุรกิจการงาน

    หากคุณพร้อมที่จะก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆ และพุ่งทะยานสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม ด้วยการถอดแบบความสำเร็จแบบ "Fall Fast, Succeed More ล้มให้เร็ว สำเร็จให้สุด" ราคา 299 บาท มีจำหน่ายที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 21 เมษายน นี้เป็นต้นไป หรือสั่งซื้อทางออนไลน์ได้ที่ www.wishbookmaker.com สั่งซื้อจำนวนมากติดต่อที่ 02 – 418 - 2885

    ชมบรรยากาศการเปิดตัวหนังสือได้ที่ #FailFastSucceedMore

    #ล้มให้เร็วสำเร็จให้สุด
    #เพราะความล้มเหลวคือจิ๊กซอร์หนึ่งของความสำเร็จ
    #เผยเทคนิคล้มอย่างไรให้สำเร็จได้อย่างสุดๆ
    เปิดตัวอย่างเป็นทางการหนังสือ Fail Fast, Succeed More ล้มให้เร็ว สำเร็จให้สุด “เคล็ดลับสู่ความสำเร็จแบบก้าวกระโดด ด้วยการเรียนรู้จากความล้มเหลว เพราะความล้มเหลวคือจิ๊กซอร์หนึ่งของความสำเร็จ” ดร.สุวัฒน์ ทองธนากุล บรรณาธิการ Green Innovation & SD Manager Online กรรมการสถาบันป๋วย อึ๊งภากรณ์ (ท่านที่ 2 จากซ้าย) อาจารย์ทวีภูมิ วิบรรณ์ ผู้ก่อตั้ง ProActive Forum (ท่านที่ 1 จากซ้าย) พ.ต.ท. ดร.คมกริช ศิลาทอง นักวิเทศสัมพันธ์ชำนาญการ สำนักประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน (ท่านที่ 1 จากขวา) ดร.ศรินนา แก้วสีเคน กรรมการเดชฤทธิ์ กรุ๊ป, 10X Consulting และผู้ก่อตั้งกิจการเพื่อสังคมสานฝันปันใจให้น้อง (ท่านที่ 2 จากขวา) คุณจารุวรรณ เวชตระกูล บรรณาธิการบริหาร สำนักพิมพ์วิช (ท่านที่ 3 จากขวา) คุณศิริรัตน์ ไชยาริพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายจัดจำหน่าย บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด (มหาชน) (ท่านที่ 4 จากขวา) ร่วมเป็นเกียรติในงานเปิดตัวผลงานหนังสือล่าสุดของ ศาสตราจารย์พิศิษฐ์ ดร.วสิษฐ์พรหมบุตร (ท่านที่ 3 จากซ้าย) ที่ปรึกษา โค้ช วิทยากร และนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์การพัฒนาการจัดการองค์กร จากแบรนด์ 10X Consulting (www.10-xconsulting.com) ซึ่งมีผลงานการให้คำปรึกษาแนะนำเพื่อพัฒนาศักยภาพทั้งในระดับบุคคล ทีม และองค์กรชั้นนำกว่า 500 องค์กร ใน 21 อุตสาหกรรม ครอบคลุมกลุ่มบริษัท บริษัทมหาชน บริษัทจำกัดในอุตสาหกรรมผลิต พลังงาน การสื่อสาร - โทรคมนาคม เทคโนโลยีดิจิทัล ค้าปลีก อสังหาริมทรัพย์ การบริการ/มหาวิทยาลัย/สถาบันการศึกษา/ รัฐวิสาหกิจ 10 อันดับแรกที่ส่งรายได้สูงสุด/หน่วยงานภาครัฐระดับกระทรวง และส่วนราชการในสังกัดทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่น/สถาบันอิสระ/องค์กรไม่แสวงหากำไร/โครงการพระราชดำริ และเป็นที่ปรึกษา พี่เลี้ยง และโค้ชส่วนตัวแก่ผู้บริหาร และผู้นำมากกว่า 10,000 คน ในยุคที่สังคมเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และผู้คนก็กระหายความสำเร็จ และมุ่งหวังความเจริญเติบโต การเรียนรู้จากการล้ม และการฝึกกระบวนการในการสร้างความสำเร็จจึงเป็นเรื่องจำเป็นและทั้งหมดนี้ต้องเป็นไปอย่างรวดเร็ว รอช้าไม่ได้ ปัจจุบันนี้ องค์กร หน่วยงาน ทีมต่างๆ ไม่เว้นแม้กระทั่งตัวบุคคล ล้วนเผชิญกับความท้าทายมากมาย ทั้งการแข่งขันที่ดุเดือด เทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การยึดติดกับวิธีการเดิมๆ หรือกลัวความล้มเหลว อาจทำให้ตัวคุณ ทีม หน่วยงาน และองค์กรตกขบวนได้ หนังสือ "Fall Fast, Succeed More ล้มให้เร็ว สำเร็จให้สุด" ได้รับแรงบันดาลใจจากการได้ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับ ผู้นำทีม ผู้จัดการหน่วยงาน ผู้บริหารองค์กร ผู้ประกอบการ เจ้าของธุรกิจ ผู้ก่อตั้งองค์กรทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งบุคคล ที่รัก และชื่นชอบการพัฒนาตนเอง นับหมื่นคนที่มอบโอกาสและความไว้วางใจให้มีส่วนร่วมสร้างสรรค์ผลงาน ทำให้เห็นถึงความสำคัญของการทดลองสิ่งใหม่ๆ การเรียนรู้จากความล้มเหลว และการปรับตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้เกิดการพัฒนาสร้างการเติบโตนับ 10 เท่า (10X) และการปรับปรุง - พัฒนาอย่างต่อเนื่อง หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับผู้นำทีม ผู้จัดการ ผู้บริหาร เจ้าของธุรกิจ และผู้ก่อตั้ง ที่ต้องการพัฒนา ทีมงาน หน่วยงาน และองค์กร ควบคู่กับการพัฒนาตนเอง ให้เป็นผู้สร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยผู้อ่านจะได้เรียนรู้กลยุทธ์และเทคนิคในการ "ล้มให้เร็ว" และ "สำเร็จให้สุด" ภายในเล่ม ผู้อ่านจะได้พบกับ 1. เครื่องมือและเทคนิค ที่จะช่วยให้คุณ "ล้ม" อุปสรรคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความกลัวความล้มเหลว การขาดความคิดสร้างสรรค์ หรือวัฒนธรรมองค์กรที่ไม่เอื้อต่อต่อการเปลี่ยนแปลง 2. กลยุทธ์ในการ "เร่ง" สู่ความสำเร็จในแบบ 10X ด้วยการปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง และการพัฒนาศักยภาพของบุคคล ทีม หน่วยงาน และองค์กร ด้วยเนื้อหาที่เข้มขันแต่เข้าใจง่าย ผู้อ่านจะได้เรียนรู้วิธีคิดและวิธีปฏิบัติแบบใหม่ๆ ที่จะช่วย "ปลดล็อก" ศักยภาพที่ซ่อนอยู่ภายในตัวคุณและองค์กร ไม่ว่าคุณจะกำลังเผชิญกับความท้าทายใดในชีวิต และธุรกิจการงาน หากคุณพร้อมที่จะก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆ และพุ่งทะยานสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม ด้วยการถอดแบบความสำเร็จแบบ "Fall Fast, Succeed More ล้มให้เร็ว สำเร็จให้สุด" ราคา 299 บาท มีจำหน่ายที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 21 เมษายน นี้เป็นต้นไป หรือสั่งซื้อทางออนไลน์ได้ที่ www.wishbookmaker.com สั่งซื้อจำนวนมากติดต่อที่ 02 – 418 - 2885 ชมบรรยากาศการเปิดตัวหนังสือได้ที่ #FailFastSucceedMore #ล้มให้เร็วสำเร็จให้สุด #เพราะความล้มเหลวคือจิ๊กซอร์หนึ่งของความสำเร็จ #เผยเทคนิคล้มอย่างไรให้สำเร็จได้อย่างสุดๆ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 105 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft กำลังพิจารณาการลดจำนวนพนักงานเพิ่มเติมในปีนี้ โดยมุ่งเป้าไปที่ผู้จัดการและพนักงานที่ไม่ได้เขียนโค้ด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนในองค์กร

    ✅ การลดจำนวนพนักงาน:
    - Microsoft มีแผนที่จะลดจำนวนพนักงานเพิ่มเติมในเดือนพฤษภาคม โดยมุ่งเป้าไปที่ผู้จัดการและพนักงานที่ไม่ได้เขียนโค้ด
    - การลดจำนวนพนักงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเพิ่มอัตราส่วนระหว่างวิศวกรและผู้จัดการ

    ✅ เป้าหมายของการปรับโครงสร้าง:
    - Microsoft ต้องการเพิ่มอัตราส่วนวิศวกรต่อผู้จัดการในบางแผนก เช่น แผนกความปลอดภัยที่ตั้งเป้าอัตราส่วน 10:1
    - การปรับโครงสร้างนี้สอดคล้องกับแนวโน้มของบริษัทเทคโนโลยีอื่น ๆ เช่น Amazon และ Google

    ✅ การเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรม:
    - Microsoft CTO Kevin Scott คาดการณ์ว่า 95% ของโค้ดทั้งหมดจะถูกสร้างโดย AI ภายในปี 2030 ซึ่งอาจลดความต้องการนักพัฒนาในอนาคต

    ✅ การประเมินผลการทำงาน:
    - Microsoft ใช้ระบบการประเมินผลการทำงานที่มีคะแนนตั้งแต่ 0 ถึง 200 โดยพนักงานที่มีคะแนนต่ำกว่า 100 อาจถูกพิจารณาให้ออกจากงาน

    https://www.techspot.com/news/107494-more-microsoft-job-cuts-could-hit-non-coding.html
    Microsoft กำลังพิจารณาการลดจำนวนพนักงานเพิ่มเติมในปีนี้ โดยมุ่งเป้าไปที่ผู้จัดการและพนักงานที่ไม่ได้เขียนโค้ด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนในองค์กร ✅ การลดจำนวนพนักงาน: - Microsoft มีแผนที่จะลดจำนวนพนักงานเพิ่มเติมในเดือนพฤษภาคม โดยมุ่งเป้าไปที่ผู้จัดการและพนักงานที่ไม่ได้เขียนโค้ด - การลดจำนวนพนักงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเพิ่มอัตราส่วนระหว่างวิศวกรและผู้จัดการ ✅ เป้าหมายของการปรับโครงสร้าง: - Microsoft ต้องการเพิ่มอัตราส่วนวิศวกรต่อผู้จัดการในบางแผนก เช่น แผนกความปลอดภัยที่ตั้งเป้าอัตราส่วน 10:1 - การปรับโครงสร้างนี้สอดคล้องกับแนวโน้มของบริษัทเทคโนโลยีอื่น ๆ เช่น Amazon และ Google ✅ การเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรม: - Microsoft CTO Kevin Scott คาดการณ์ว่า 95% ของโค้ดทั้งหมดจะถูกสร้างโดย AI ภายในปี 2030 ซึ่งอาจลดความต้องการนักพัฒนาในอนาคต ✅ การประเมินผลการทำงาน: - Microsoft ใช้ระบบการประเมินผลการทำงานที่มีคะแนนตั้งแต่ 0 ถึง 200 โดยพนักงานที่มีคะแนนต่ำกว่า 100 อาจถูกพิจารณาให้ออกจากงาน https://www.techspot.com/news/107494-more-microsoft-job-cuts-could-hit-non-coding.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    More Microsoft job cuts could hit non-coding staff and middle managers
    Some Microsoft organizations are looking to increase their span of control, defined as the number of direct reports or subordinates a manager or supervisor oversees. It also...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 56 มุมมอง 0 รีวิว
  • รู้จักใช้ เข้าใจเงิน ตอนที่ 6 การสอนเรื่องเงินแก่ลูกในเยาว์วัย
    .
    เรื่องเล่ามานานแล้วในสหรัฐอเมริกาว่า จอห์น ร็อกกี้เฟลเลอร์ มหาเศรษฐีผู้พ่อเข้าไปพักในโรงแรม เขาขอห้องพักราคาถูกที่สุด ผู้จัดการโรงแรมก็ถามว่าทำไมเล่า เวลาลูกท่านมาพักที่นี่ยังขอห้องที่ดีที่สุดเลย เขาตอบว่า มันต่างกัน เขาเป็นลูกมหาเศรษฐี ส่วนฉันเป็นลูกชาวนา
    .
    เรื่องเล่านี้สะท้อนให้เห็นข้อแตกต่างระหว่างการมองโลกของพ่อ และลูกผู้เติบโตภายใต้สิ่งแวดล้อมที่แตกต่างกัน ซึงเรื่องนี้เข้าลักษณะเดียวกันกับคนชั้นกลางจำนวนไม่น้อยในสังคมไทยในปัจจุบัน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสอนลูกอย่างถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องเงินในสังคมปัจจุบันที่เต็มไปด้วยเรื่องของบริโภคนิยม และการไม่ใส่ใจในจริยธรรมคุณธรรม ซึ่งแตกต่างไปจากยุคของพ่อแม่
    .
    การสอนเรื่องการเงินให้แก่ลูกมีหลายประเด็นที่ควรพิจารณา ดังต่อไปนี้
    เป็นเรื่องปกติที่เด็กทุกคนอยากได้ทุกอย่างที่เห็นในโทรทัศน์และโทรศัพท์ จึงเป็นหน้าที่ของพ่อแม่ที่ต้องอธิบายและสอนให้ลูกเข้าใจว่า ไม่มีใครที่ได้หรือมีทุกอย่างในโลก ทุกคนมีเงินจำกัดที่ต้องใช้จ่ายในสิ่งต่างๆมากมายด้วยกันทั้งนั้น ดังนั้นจึงต้องเลือกซื้อเฉพาะสิ่งที่คิดว่าจำเป็นและให้คุณค่า การโฆษณาทางสื่อต่างๆถือว่าเป็นการให้ข้อมูลของสินค้าที่ผู้ซื้อต้องใคร่ครวญให้ดี เพราะผู้ขายเป็นผู้ให้ข้อมูลและมีวัตถุประสงค์ในการชักชวนให้ซื้อสินค้านั้น
    .
    การทำงานหาเงินอย่างหนักจนมีเงินมากนับเป็นของดี แต่การมุ่งหาเงินอย่างปราศจากคุณค่าที่เหมาะสมกำกับอยู่ด้วย เช่น หาเงินด้วยความเจ้าเล่ห์เจ้ากล บ้าคลั่ง บริโภคนิยม สิ่งเหล่านี้เป็นของไม่ดี พ่อแม่จะต้องพยายามสร้างคุณค่าที่เหมาะสม เช่น ความซื่อสัตย์ สุจริต ความสมถะ ความศรัทธาในความดีงาม ใส่เข้าไปในสมองลูกด้วยการกระทำสิ่งต่อไปนี้
    .
    พ่อแม่ควรทำตัวให้เป็นตัวอย่าง โดยแสดงพฤติกรรมที่มีความสมดุลในการใช้จ่ายเงินสำหรับสิ่งที่จำเป็น ( Needs ) และสำหรับสิ่งที่ต้องการ ( Wants ) เช่น ไม่บ้าคลั่งซื้อของต่างๆอย่างไร้สาระจนทำให้ลูกสับสน หรือมองเห็นว่าทุกสิ่งจำเป็นไปหมด นอกจากนี้ต้องส่งเสริมให้ลูกคิดเป็น และมีวิจารณญานว่าอะไรเป็น needs อะไรเป็น wants ดดยเริ่มสอนไปทีละน้อย
    .
    ให้เงินลูกเป็นรายอาทิตย์หรือรายเดือนตั้งแต่ยังเล็กเมื่อเริ่มใช้เงินเป็น เพื่อสอนให้ลูกรู้จักวางแผนการใช้เงินและรู้จักอยู่กิน ไม่เกินรายได้ที่ตนเองได้รับ เงินที่ให้นี้บอกลูกให้ชัดเจนว่าเป็นเงินสำหรับสิ่งใด เช่น กินขนม ดูหนัง ซื้อหนังสืออ่านเล่น หรืออะไรอื่นๆ แต่สำหรับสิ่งของบางอย่างเช่น เสื้อผ้า หนังสือเรียน รองเท้า นั้น พ่อแม่จัดหาให้ การกำหนดชัดเจนเช่นนี้จะช่วยให้ลูกสามารถจัดการเรื่องเงินได้อย่างมีประสิมธิภาพมากขึ้น
    .
    ส่งเสริมให้ลูกรู้จักการให้ การสอนลูกในยามเป็นเด็ก ที่ใจเปิดรับจะทำให้เกิดความคิดในการช่วยเหลือคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นการบริจาคหรืองานอาสาสมัคร พ่อแม่อาจจัดหากระป๋องออมสินให้ 2 ใบ แต่ละใบใช้ใส่เงินสำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะ เช่น ใบหนึ่งสำหรับการออม และอีกใบสำหรับการบริจาค การแบ่งเช่นนี้จะช่วยให้เด็กเห็นการออมและการให้ที่ชัดเจน และช่วยให้จัดการเรื่องเงินได้สะดวกขึ้น
    .
    พ่อแม่ต้องสอนลูกให้ลูกมีอำนาจเหนือเงิน กล่าวคือ ให้เป็นคนที่มีความอดกลั้น สามารถบังคับความต้องการของตนเองได้ จนไม่เป็นทาสของบริโภคนิยมที่เห็นอะไรก็อยากซื้อไปหมด ซึ่งจะทำให้ตลอดชีวิตมีแต่การหาเงินมาใช้จ่ายอย่างไร้สาระ พ่อแม่ต้องเน้นเรื่องคุณค่าของการออม และการมีความมั่งคงในด้านการเงินตลอดชีวิต การออมจะเกิดขึ้นได้อย่างสม่ำเสมอก็เพราะลูกมีความสามารถที่จะให้ตนมีอำนาจเหนือเงินเท่านั้น
    .
    พ่อแม่ต้องสอนให้ลูกรู้จักคุณค่าของเงิน โดยแสดงให้เห็นว่าเงินทุกบาททุกสตางค์มีความหมาย ไม่ดูถูกเงิน ไม่ว่าจะมีจำนวนน้อยเพียงใด ลูกต้องรู้ว่า เงินได้มาจากการทำงาน ซึ่งเป็นหน้าที่ของมนุษย์ทุกคน เงินไม่ได้ลอยมาจากฟ้าหรืออยู่ๆก็มีใครให้ ทุกคนต้องใช้น้ำพักน้ำแรงของตนเองเข้าแลก จึงจะมีเงิน สิ่งที่จะทำให้ได้เงินมากกว่า ถึงแม้จะออกแรงทำงานเท่ากันก็คือ การศึกษา
    รู้จักใช้ เข้าใจเงิน ตอนที่ 6 การสอนเรื่องเงินแก่ลูกในเยาว์วัย . เรื่องเล่ามานานแล้วในสหรัฐอเมริกาว่า จอห์น ร็อกกี้เฟลเลอร์ มหาเศรษฐีผู้พ่อเข้าไปพักในโรงแรม เขาขอห้องพักราคาถูกที่สุด ผู้จัดการโรงแรมก็ถามว่าทำไมเล่า เวลาลูกท่านมาพักที่นี่ยังขอห้องที่ดีที่สุดเลย เขาตอบว่า มันต่างกัน เขาเป็นลูกมหาเศรษฐี ส่วนฉันเป็นลูกชาวนา . เรื่องเล่านี้สะท้อนให้เห็นข้อแตกต่างระหว่างการมองโลกของพ่อ และลูกผู้เติบโตภายใต้สิ่งแวดล้อมที่แตกต่างกัน ซึงเรื่องนี้เข้าลักษณะเดียวกันกับคนชั้นกลางจำนวนไม่น้อยในสังคมไทยในปัจจุบัน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสอนลูกอย่างถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องเงินในสังคมปัจจุบันที่เต็มไปด้วยเรื่องของบริโภคนิยม และการไม่ใส่ใจในจริยธรรมคุณธรรม ซึ่งแตกต่างไปจากยุคของพ่อแม่ . การสอนเรื่องการเงินให้แก่ลูกมีหลายประเด็นที่ควรพิจารณา ดังต่อไปนี้ เป็นเรื่องปกติที่เด็กทุกคนอยากได้ทุกอย่างที่เห็นในโทรทัศน์และโทรศัพท์ จึงเป็นหน้าที่ของพ่อแม่ที่ต้องอธิบายและสอนให้ลูกเข้าใจว่า ไม่มีใครที่ได้หรือมีทุกอย่างในโลก ทุกคนมีเงินจำกัดที่ต้องใช้จ่ายในสิ่งต่างๆมากมายด้วยกันทั้งนั้น ดังนั้นจึงต้องเลือกซื้อเฉพาะสิ่งที่คิดว่าจำเป็นและให้คุณค่า การโฆษณาทางสื่อต่างๆถือว่าเป็นการให้ข้อมูลของสินค้าที่ผู้ซื้อต้องใคร่ครวญให้ดี เพราะผู้ขายเป็นผู้ให้ข้อมูลและมีวัตถุประสงค์ในการชักชวนให้ซื้อสินค้านั้น . การทำงานหาเงินอย่างหนักจนมีเงินมากนับเป็นของดี แต่การมุ่งหาเงินอย่างปราศจากคุณค่าที่เหมาะสมกำกับอยู่ด้วย เช่น หาเงินด้วยความเจ้าเล่ห์เจ้ากล บ้าคลั่ง บริโภคนิยม สิ่งเหล่านี้เป็นของไม่ดี พ่อแม่จะต้องพยายามสร้างคุณค่าที่เหมาะสม เช่น ความซื่อสัตย์ สุจริต ความสมถะ ความศรัทธาในความดีงาม ใส่เข้าไปในสมองลูกด้วยการกระทำสิ่งต่อไปนี้ . พ่อแม่ควรทำตัวให้เป็นตัวอย่าง โดยแสดงพฤติกรรมที่มีความสมดุลในการใช้จ่ายเงินสำหรับสิ่งที่จำเป็น ( Needs ) และสำหรับสิ่งที่ต้องการ ( Wants ) เช่น ไม่บ้าคลั่งซื้อของต่างๆอย่างไร้สาระจนทำให้ลูกสับสน หรือมองเห็นว่าทุกสิ่งจำเป็นไปหมด นอกจากนี้ต้องส่งเสริมให้ลูกคิดเป็น และมีวิจารณญานว่าอะไรเป็น needs อะไรเป็น wants ดดยเริ่มสอนไปทีละน้อย . ให้เงินลูกเป็นรายอาทิตย์หรือรายเดือนตั้งแต่ยังเล็กเมื่อเริ่มใช้เงินเป็น เพื่อสอนให้ลูกรู้จักวางแผนการใช้เงินและรู้จักอยู่กิน ไม่เกินรายได้ที่ตนเองได้รับ เงินที่ให้นี้บอกลูกให้ชัดเจนว่าเป็นเงินสำหรับสิ่งใด เช่น กินขนม ดูหนัง ซื้อหนังสืออ่านเล่น หรืออะไรอื่นๆ แต่สำหรับสิ่งของบางอย่างเช่น เสื้อผ้า หนังสือเรียน รองเท้า นั้น พ่อแม่จัดหาให้ การกำหนดชัดเจนเช่นนี้จะช่วยให้ลูกสามารถจัดการเรื่องเงินได้อย่างมีประสิมธิภาพมากขึ้น . ส่งเสริมให้ลูกรู้จักการให้ การสอนลูกในยามเป็นเด็ก ที่ใจเปิดรับจะทำให้เกิดความคิดในการช่วยเหลือคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นการบริจาคหรืองานอาสาสมัคร พ่อแม่อาจจัดหากระป๋องออมสินให้ 2 ใบ แต่ละใบใช้ใส่เงินสำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะ เช่น ใบหนึ่งสำหรับการออม และอีกใบสำหรับการบริจาค การแบ่งเช่นนี้จะช่วยให้เด็กเห็นการออมและการให้ที่ชัดเจน และช่วยให้จัดการเรื่องเงินได้สะดวกขึ้น . พ่อแม่ต้องสอนลูกให้ลูกมีอำนาจเหนือเงิน กล่าวคือ ให้เป็นคนที่มีความอดกลั้น สามารถบังคับความต้องการของตนเองได้ จนไม่เป็นทาสของบริโภคนิยมที่เห็นอะไรก็อยากซื้อไปหมด ซึ่งจะทำให้ตลอดชีวิตมีแต่การหาเงินมาใช้จ่ายอย่างไร้สาระ พ่อแม่ต้องเน้นเรื่องคุณค่าของการออม และการมีความมั่งคงในด้านการเงินตลอดชีวิต การออมจะเกิดขึ้นได้อย่างสม่ำเสมอก็เพราะลูกมีความสามารถที่จะให้ตนมีอำนาจเหนือเงินเท่านั้น . พ่อแม่ต้องสอนให้ลูกรู้จักคุณค่าของเงิน โดยแสดงให้เห็นว่าเงินทุกบาททุกสตางค์มีความหมาย ไม่ดูถูกเงิน ไม่ว่าจะมีจำนวนน้อยเพียงใด ลูกต้องรู้ว่า เงินได้มาจากการทำงาน ซึ่งเป็นหน้าที่ของมนุษย์ทุกคน เงินไม่ได้ลอยมาจากฟ้าหรืออยู่ๆก็มีใครให้ ทุกคนต้องใช้น้ำพักน้ำแรงของตนเองเข้าแลก จึงจะมีเงิน สิ่งที่จะทำให้ได้เงินมากกว่า ถึงแม้จะออกแรงทำงานเท่ากันก็คือ การศึกษา
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 94 มุมมอง 0 รีวิว
  • 9 เม.ย.2568 เวลา 11.00 น. ณ บริเวณวาไรตี้ของชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช ร่วมกับ เหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา ,ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 5 สภากาชาดไทย ,โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ,โรงพยาบาลจิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ และผู้สนับสนุนการจัดงานบริจาคโลหิต และอวัยวะ
    จัดงาน “MHeart สายโลหิตสายใจ เลือดคนรุ่นใหม่ใส่ใจสังคม งานจัดระหว่างวันที่ 9-10 เมษายน 2568 เวลา 10.00 น.-16.00 น. ที่ วาไรตี้ ฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช

    โดยได้รับเกียรติจาก นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผวจ.นม.เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นางกุลทรัพย์ ชื่นโกสุม นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา นายแพทย์ธนสิทธิ์ ไพรพงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ทนพญ.ศิริลักษณ์ เพียกขุนทด หัวหน้าภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 5 จ.นครราชสีมา
    พ.ต.อ.อเนก ศรีกิจรัตน์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา นางสุพางค์พรรณ พาดกลาง ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขากองทัพภาคที่ 2 ร้อยเอกหญิงเธียรทอง มาหลิน ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขากองทัพน้อยที่ 2 โดยมี นายปรีชา ลิ้มอั่ว ผู้จัดการทั่วไปปฏิบัติการ บริษัท เดอะมอลล์ราชสีมา จำกัด ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น

    งาน “MHeart สายโลหิตสายใจ เลือดคนรุ่นใหม่ใส่ใจสังคม“ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด เลือดคนรุ่นใหม่ใส่ใจสังคม เพื่อโคราช…ไม่ขาดเลือด รับบริจาคโลหิตเพื่อสำรองโลหิต ช่วยเหลือผู้ที่ขาดแคลนโลหิตในจังหวัดนครราชสีมา อีกทั้งเตรียมพร้อมโลหิตสำหรับช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ ซึ่งอาจมีอุบัติเหตุหรือความต้องการใช้เลือดสูงกว่าปกติ

    ทนพญ.ศิริลักษณ์ เพียกขุนทด หัวหน้าภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 5 จ.นครราชสีมา เผยว่า “จากความร่วมมือทั้ฃภาครัฐและเอกชนมี่ร่วมรณรงร์และช่วยกันจัดหาโลหิตทำให้แนวโน้มของการบริจาคโลหิตนั้นสูงขึ้นและความต้องการโลหิตยังคงต้องการทุกหมู่เลือดสูงอยู่ ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการที่ดีในการช่วยรณรงค์และรับบริจาคโลหิต ให้กับจังหวัดนครราชสีมา“

    นาย ปรีชา ลิ้มอั่ว เผยว่า ”โครงการ Mheart สายโลหิตสายใจ เป็นโครงการบริจาคโลหิตเพื่อช่วยเหลือสังคม ในจัดหาโลหิตสำรอง บรรเทาการจัดหาโลหิตเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ ส่งไปยังโรงพยาบาลต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง การดำเนินโครงการ ในแต่ละปีนั้นจะสำเร็จลุล่วงมิได้หากขาดความร่วมมือร่วมใจจากท่านผู้มีจิตศรัทธาทุกหน่วยงาน องค์กรภาครัฐ และภาคเอกชน ที่ให้ความร่วมมือสนับสนุนโครงการดังกล่าว รณรงค์จัดหาโลหิต โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เพื่อสำรองโลหิตให้ผ่านวิกฤตการขาดแคลนในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้

    ซึ่งที่ผ่านมา มียอดผู้บริจาคโลหิตในเดือนมกราคม - มีนาคม 2568 ณ ห้องบริจาคโลหิต ชั้น 2 และงานบริจาคโลหิต ณ MCC HALL ชั้น 3 รวมทั้งสิ้น จำนวน 2,978 ยูนิต 1,191,200 ซี.ซี.

    ผมมีเป้าหมายคาดหวังในการจัดหาโลหิต ที่ 2,000 ยูนิต/เดือน เพื่อช่วยเหลือพี่น้องในจังหวัดนครราชสีมาต่อไป“

    นายแพทย์ธนสิทธิ์ ไพรพงษ์ กล่าวถึงสถานการณ์การขาดแคลนโลหิตของโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาว่า “โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โดยปกติมีการใช้โลหิตที่ 4,500 ยูนิต/เดือน หรือ 54,000 ยูนิต/ปี ซึ่งยังคงต้องการโลหิตเพิ่มเติมเพื่อรองรับเหตุฉุกเฉินรับเทศกาลสงกรานต์นี้ จึงขอรณรงค์ให้ผู้ใจบุญและคนรุ่นใหม่ ร่วมบริจาคโลหิตกันครับ”

    จึงขอเชิญชวนชาวโคราชและผู้ใจบุญร่วมบริจาคโลหิตได้ที่งาน “MHeart สายโลหิตสายใจ เลือดคนรุ่นใหม่ใส่ใจสังคม วันที่ 9-10 เมษายน 2568 เวลา 10.00 น.-16.00 น. ที่ วาไรตี้ ฮอลล์ ชั้น 3 และห้องรับบริจาคโลหิต ชั้น 2 ได้ทุกวันที่เดอะมอลล์โคราช
    9 เม.ย.2568 เวลา 11.00 น. ณ บริเวณวาไรตี้ของชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช ร่วมกับ เหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา ,ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 5 สภากาชาดไทย ,โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ,โรงพยาบาลจิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ และผู้สนับสนุนการจัดงานบริจาคโลหิต และอวัยวะ จัดงาน “MHeart สายโลหิตสายใจ เลือดคนรุ่นใหม่ใส่ใจสังคม งานจัดระหว่างวันที่ 9-10 เมษายน 2568 เวลา 10.00 น.-16.00 น. ที่ วาไรตี้ ฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช โดยได้รับเกียรติจาก นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผวจ.นม.เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นางกุลทรัพย์ ชื่นโกสุม นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา นายแพทย์ธนสิทธิ์ ไพรพงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ทนพญ.ศิริลักษณ์ เพียกขุนทด หัวหน้าภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 5 จ.นครราชสีมา พ.ต.อ.อเนก ศรีกิจรัตน์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา นางสุพางค์พรรณ พาดกลาง ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขากองทัพภาคที่ 2 ร้อยเอกหญิงเธียรทอง มาหลิน ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขากองทัพน้อยที่ 2 โดยมี นายปรีชา ลิ้มอั่ว ผู้จัดการทั่วไปปฏิบัติการ บริษัท เดอะมอลล์ราชสีมา จำกัด ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น งาน “MHeart สายโลหิตสายใจ เลือดคนรุ่นใหม่ใส่ใจสังคม“ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด เลือดคนรุ่นใหม่ใส่ใจสังคม เพื่อโคราช…ไม่ขาดเลือด รับบริจาคโลหิตเพื่อสำรองโลหิต ช่วยเหลือผู้ที่ขาดแคลนโลหิตในจังหวัดนครราชสีมา อีกทั้งเตรียมพร้อมโลหิตสำหรับช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ ซึ่งอาจมีอุบัติเหตุหรือความต้องการใช้เลือดสูงกว่าปกติ ทนพญ.ศิริลักษณ์ เพียกขุนทด หัวหน้าภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 5 จ.นครราชสีมา เผยว่า “จากความร่วมมือทั้ฃภาครัฐและเอกชนมี่ร่วมรณรงร์และช่วยกันจัดหาโลหิตทำให้แนวโน้มของการบริจาคโลหิตนั้นสูงขึ้นและความต้องการโลหิตยังคงต้องการทุกหมู่เลือดสูงอยู่ ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการที่ดีในการช่วยรณรงค์และรับบริจาคโลหิต ให้กับจังหวัดนครราชสีมา“ นาย ปรีชา ลิ้มอั่ว เผยว่า ”โครงการ Mheart สายโลหิตสายใจ เป็นโครงการบริจาคโลหิตเพื่อช่วยเหลือสังคม ในจัดหาโลหิตสำรอง บรรเทาการจัดหาโลหิตเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ ส่งไปยังโรงพยาบาลต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง การดำเนินโครงการ ในแต่ละปีนั้นจะสำเร็จลุล่วงมิได้หากขาดความร่วมมือร่วมใจจากท่านผู้มีจิตศรัทธาทุกหน่วยงาน องค์กรภาครัฐ และภาคเอกชน ที่ให้ความร่วมมือสนับสนุนโครงการดังกล่าว รณรงค์จัดหาโลหิต โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เพื่อสำรองโลหิตให้ผ่านวิกฤตการขาดแคลนในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ ซึ่งที่ผ่านมา มียอดผู้บริจาคโลหิตในเดือนมกราคม - มีนาคม 2568 ณ ห้องบริจาคโลหิต ชั้น 2 และงานบริจาคโลหิต ณ MCC HALL ชั้น 3 รวมทั้งสิ้น จำนวน 2,978 ยูนิต 1,191,200 ซี.ซี. ผมมีเป้าหมายคาดหวังในการจัดหาโลหิต ที่ 2,000 ยูนิต/เดือน เพื่อช่วยเหลือพี่น้องในจังหวัดนครราชสีมาต่อไป“ นายแพทย์ธนสิทธิ์ ไพรพงษ์ กล่าวถึงสถานการณ์การขาดแคลนโลหิตของโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาว่า “โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โดยปกติมีการใช้โลหิตที่ 4,500 ยูนิต/เดือน หรือ 54,000 ยูนิต/ปี ซึ่งยังคงต้องการโลหิตเพิ่มเติมเพื่อรองรับเหตุฉุกเฉินรับเทศกาลสงกรานต์นี้ จึงขอรณรงค์ให้ผู้ใจบุญและคนรุ่นใหม่ ร่วมบริจาคโลหิตกันครับ” จึงขอเชิญชวนชาวโคราชและผู้ใจบุญร่วมบริจาคโลหิตได้ที่งาน “MHeart สายโลหิตสายใจ เลือดคนรุ่นใหม่ใส่ใจสังคม วันที่ 9-10 เมษายน 2568 เวลา 10.00 น.-16.00 น. ที่ วาไรตี้ ฮอลล์ ชั้น 3 และห้องรับบริจาคโลหิต ชั้น 2 ได้ทุกวันที่เดอะมอลล์โคราช
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 178 มุมมอง 0 รีวิว
  • ย้อนปม “กระทรวงรถไฟจีน” ที่เคยยิ่งใหญ่และมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานประเทศจีน แต่หลังจากเกิดเหตุรถไฟความเร็วสูงชนกัน และตรวจสอบพบการทุจริต จนรัฐมนตรีถูกตัดสินประหารชีวิต ก็ถูกรัฐบาลสั่งยุบในปี 56 ส่วนหน่วยงานย่อยกลายมาเป็นรัฐวิสาหกิจ ไชน่าเรลเวย์ เอนจิเนียริ่ง คอร์ปอเรชั่น บริษัทแม่ของ “ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์เท็น” รับงานก่อสร้างทั้งในจีนและต่างประเทศ รวมถึงตึก สตง.ในไทย

    ในรายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” หรือ “สนธิทอล์ก”เมื่อวันศุกร์ที่ 4 เมษายน 2568 นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์เครือผู้จัดการได้กล่าวถึงความเป็นมาของ บริษัท China Railway No.10 ซึ่งเป็นพันธมิตรในกิจการร่วมค้า “ไอทีดี-ซีอาร์อีซีนัมเบอร์เทน (ไทย)” คู่สัญญารับเหมาก่อสร้างตึกของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ที่ถล่มลงมาระหว่างเกิดแผ่นดินไหววันศุกร์ที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งในอดีตก็คือหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการรถไฟแห่งประเทศจีน ที่ถูกสั่งยุบไปเมื่อปี 2556 หรือ 12 ปีที่แล้ว เนื่องจากมีการคอร์รับชั่นกันอย่างมโหฬาร ถึงขนาดที่อดีตรัฐมนตรีถูกดำเนินคดีและถูกตัดสินโทษประหารชีวิต

    ทั้งนี้ ในช่วง 100 ปีที่ผ่านมาประเทศจีนให้ความสำคัญกับการสร้างทางรถไฟอย่างมาก มีการจัดตั้งหน่วยงานเพื่อรับผิดชอบโดยเฉพาะตั้งแต่สมัยราชวงศ์ชิง จนถึงเมื่อมีการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองโดยพรรคก๊กมินตั๋ง เมื่อร้อยกว่าปีก่อน ก็ยังเน้นการสร้างชาติด้วยการสร้างทางรถไฟ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000032804

    #MGROnline #กระทรวงรถไฟจีน
    ย้อนปม “กระทรวงรถไฟจีน” ที่เคยยิ่งใหญ่และมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานประเทศจีน แต่หลังจากเกิดเหตุรถไฟความเร็วสูงชนกัน และตรวจสอบพบการทุจริต จนรัฐมนตรีถูกตัดสินประหารชีวิต ก็ถูกรัฐบาลสั่งยุบในปี 56 ส่วนหน่วยงานย่อยกลายมาเป็นรัฐวิสาหกิจ ไชน่าเรลเวย์ เอนจิเนียริ่ง คอร์ปอเรชั่น บริษัทแม่ของ “ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์เท็น” รับงานก่อสร้างทั้งในจีนและต่างประเทศ รวมถึงตึก สตง.ในไทย • ในรายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” หรือ “สนธิทอล์ก”เมื่อวันศุกร์ที่ 4 เมษายน 2568 นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์เครือผู้จัดการได้กล่าวถึงความเป็นมาของ บริษัท China Railway No.10 ซึ่งเป็นพันธมิตรในกิจการร่วมค้า “ไอทีดี-ซีอาร์อีซีนัมเบอร์เทน (ไทย)” คู่สัญญารับเหมาก่อสร้างตึกของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ที่ถล่มลงมาระหว่างเกิดแผ่นดินไหววันศุกร์ที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งในอดีตก็คือหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการรถไฟแห่งประเทศจีน ที่ถูกสั่งยุบไปเมื่อปี 2556 หรือ 12 ปีที่แล้ว เนื่องจากมีการคอร์รับชั่นกันอย่างมโหฬาร ถึงขนาดที่อดีตรัฐมนตรีถูกดำเนินคดีและถูกตัดสินโทษประหารชีวิต • ทั้งนี้ ในช่วง 100 ปีที่ผ่านมาประเทศจีนให้ความสำคัญกับการสร้างทางรถไฟอย่างมาก มีการจัดตั้งหน่วยงานเพื่อรับผิดชอบโดยเฉพาะตั้งแต่สมัยราชวงศ์ชิง จนถึงเมื่อมีการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองโดยพรรคก๊กมินตั๋ง เมื่อร้อยกว่าปีก่อน ก็ยังเน้นการสร้างชาติด้วยการสร้างทางรถไฟ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000032804 • #MGROnline #กระทรวงรถไฟจีน
    Love
    Angry
    2
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 273 มุมมอง 0 รีวิว
  • งดประจาน "ผู้รับเหมาทิ้งงานภาครัฐ" อ้างกฎหมาย PDPA คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ส่อเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพนําไปใช้ในทางผิดกฎหมาย "อนุฯกลั่นกรองผู้ทิ้งงาน บช." แจ้งทั่วประเทศ เฉพาะ"หน่วยงานท้องถิ่น" ไล่ลบชื่อผู้ประกอบการ/ผู้รับเหมา ที่ถูกแจ้งเวียนหลังยังพบ ท้องถิ่นขึ้นหรา รายละเอียดนิติบุคคล เลขทะเบียนนิติบุคคล ชื่อกรรมการผู้จัดการ ชื่อหุ้นส่วนผู้จัดการ ที่อยู่ และเลขบัตรประชาชน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000032431
    งดประจาน "ผู้รับเหมาทิ้งงานภาครัฐ" อ้างกฎหมาย PDPA คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ส่อเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพนําไปใช้ในทางผิดกฎหมาย "อนุฯกลั่นกรองผู้ทิ้งงาน บช." แจ้งทั่วประเทศ เฉพาะ"หน่วยงานท้องถิ่น" ไล่ลบชื่อผู้ประกอบการ/ผู้รับเหมา ที่ถูกแจ้งเวียนหลังยังพบ ท้องถิ่นขึ้นหรา รายละเอียดนิติบุคคล เลขทะเบียนนิติบุคคล ชื่อกรรมการผู้จัดการ ชื่อหุ้นส่วนผู้จัดการ ที่อยู่ และเลขบัตรประชาชน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000032431
    Like
    Haha
    Angry
    Sad
    8
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 718 มุมมอง 0 รีวิว
  • Generative AI ไม่ได้เป็นแค่เครื่องมือช่วยพิมพ์หรือวิเคราะห์ข้อมูลอีกต่อไป แต่กำลังกลายเป็น "คู่คิด" ที่สามารถช่วยแนะนำไอเดียใหม่ ท้าทายความคิดเดิม และช่วยให้เราจัดการงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รายงานของ Capgemini พบว่ามีเพียง 15% ของผู้จัดการ 1,400 คน เท่านั้นที่ใช้ AI ในงานประจำวัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าหลายคนยังไม่เข้าใจศักยภาพของ AI

    1) ช่วยจัดการตนเองให้ดีขึ้น
    - AI สามารถช่วยจัดการอีเมลและสรุปเอกสาร
    - ใช้ AI เพื่อประเมิน Feedback ที่ได้รับ และหาวิธีพัฒนาตนเอง
    - วิเคราะห์จุดแข็งและจุดอ่อน เพื่อช่วยวางแผนการเติบโตในอาชีพ

    2) ช่วยเตรียมการสื่อสารและการนำเสนอ
    - AI สามารถช่วยสร้างเนื้อหาสำหรับงานนำเสนอ โดยคิดถึงผู้ฟัง และจัดโครงสร้างเนื้อหาให้เข้าใจง่าย
    - วิเคราะห์ Performance ของการพูดในอดีต และช่วยให้คำแนะนำเรื่อง โทนเสียงและภาษากาย
    - ช่วยเตรียมตัวสำหรับการสัมภาษณ์งาน โดยช่วยฝึกตอบคำถามที่อาจเกิดขึ้น

    3) ช่วยในการบริหารทีมและการประชุม
    - AI สามารถช่วยจัดตารางประชุมและบริหารองค์ประกอบของทีม
    - ใช้ AI เพื่อสร้าง Workshop Agenda ที่มีโครงสร้างชัดเจน
    - สร้างรายงานเกี่ยวกับสถานะทางการเงิน ทรัพยากร และตารางเวลาของโครงการ

    4) ช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ในทีม
    - AI สามารถช่วยคิดแนวทางใหม่ ๆ ในการแก้ปัญหา
    - วิเคราะห์ความต้องการของโครงการ และช่วยระบุว่า ทีมต้องมีทักษะอะไรบ้าง เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย
    - สร้างไอเดียและมุมมองที่หลากหลาย เพื่อช่วยแก้ปัญหาความคิดสร้างสรรค์ที่ติดขัด

    https://www.zdnet.com/article/4-ways-you-can-start-using-gen-ai-to-its-full-potential/
    Generative AI ไม่ได้เป็นแค่เครื่องมือช่วยพิมพ์หรือวิเคราะห์ข้อมูลอีกต่อไป แต่กำลังกลายเป็น "คู่คิด" ที่สามารถช่วยแนะนำไอเดียใหม่ ท้าทายความคิดเดิม และช่วยให้เราจัดการงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รายงานของ Capgemini พบว่ามีเพียง 15% ของผู้จัดการ 1,400 คน เท่านั้นที่ใช้ AI ในงานประจำวัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าหลายคนยังไม่เข้าใจศักยภาพของ AI 1) ช่วยจัดการตนเองให้ดีขึ้น - AI สามารถช่วยจัดการอีเมลและสรุปเอกสาร - ใช้ AI เพื่อประเมิน Feedback ที่ได้รับ และหาวิธีพัฒนาตนเอง - วิเคราะห์จุดแข็งและจุดอ่อน เพื่อช่วยวางแผนการเติบโตในอาชีพ 2) ช่วยเตรียมการสื่อสารและการนำเสนอ - AI สามารถช่วยสร้างเนื้อหาสำหรับงานนำเสนอ โดยคิดถึงผู้ฟัง และจัดโครงสร้างเนื้อหาให้เข้าใจง่าย - วิเคราะห์ Performance ของการพูดในอดีต และช่วยให้คำแนะนำเรื่อง โทนเสียงและภาษากาย - ช่วยเตรียมตัวสำหรับการสัมภาษณ์งาน โดยช่วยฝึกตอบคำถามที่อาจเกิดขึ้น 3) ช่วยในการบริหารทีมและการประชุม - AI สามารถช่วยจัดตารางประชุมและบริหารองค์ประกอบของทีม - ใช้ AI เพื่อสร้าง Workshop Agenda ที่มีโครงสร้างชัดเจน - สร้างรายงานเกี่ยวกับสถานะทางการเงิน ทรัพยากร และตารางเวลาของโครงการ 4) ช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ในทีม - AI สามารถช่วยคิดแนวทางใหม่ ๆ ในการแก้ปัญหา - วิเคราะห์ความต้องการของโครงการ และช่วยระบุว่า ทีมต้องมีทักษะอะไรบ้าง เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย - สร้างไอเดียและมุมมองที่หลากหลาย เพื่อช่วยแก้ปัญหาความคิดสร้างสรรค์ที่ติดขัด https://www.zdnet.com/article/4-ways-you-can-start-using-gen-ai-to-its-full-potential/
    WWW.ZDNET.COM
    4 ways you can start using gen AI to its full potential
    Used as a co-thinker, generative AI becomes a thought partner - engaging in conversation, suggesting new perspectives, and challenging assumptions or ideas.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 208 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ผู้จัดการฝ่ายกิจกรรมพิเศษ มูลนิธิร่วมกตัญญู ผู้ร่วมปฏิบัติภารกิจกู้ภัยอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) เผยจุดที่สแกนพบร่างผู้ติดค้าง อยู่ระหว่างชั้นที่ 17 ถึงชั้นที่ 21 กว่า 70 ราย กระจุกรวมกัน คิดเป็นเกือบทั้งหมดของผู้ที่ยังสูญหาย ขณะที่รอบข้างอาคารที่ถล่มไม่พบร่างผู้ติดค้างแล้ว ปัญหาอุปสรรคคือการเจาะผนังแต่ละชั้นที่มีความหนากว่า 1 เมตร เป็นเรื่องยาก ตอนนี้เป็นขั้นตอนค่อยๆ ยกเศษซากปรักหักพังออกทีละชั้นจากด้านบน เพื่อให้ง่ายต่อการช่วยเหลือ ยอมรับเป็นการกู้ภัยตึกถล่มยากที่สุดเท่าที่เคยทำมา
    นายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ผู้จัดการฝ่ายกิจกรรมพิเศษ มูลนิธิร่วมกตัญญู ผู้ร่วมปฏิบัติภารกิจกู้ภัยอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) เผยจุดที่สแกนพบร่างผู้ติดค้าง อยู่ระหว่างชั้นที่ 17 ถึงชั้นที่ 21 กว่า 70 ราย กระจุกรวมกัน คิดเป็นเกือบทั้งหมดของผู้ที่ยังสูญหาย ขณะที่รอบข้างอาคารที่ถล่มไม่พบร่างผู้ติดค้างแล้ว ปัญหาอุปสรรคคือการเจาะผนังแต่ละชั้นที่มีความหนากว่า 1 เมตร เป็นเรื่องยาก ตอนนี้เป็นขั้นตอนค่อยๆ ยกเศษซากปรักหักพังออกทีละชั้นจากด้านบน เพื่อให้ง่ายต่อการช่วยเหลือ ยอมรับเป็นการกู้ภัยตึกถล่มยากที่สุดเท่าที่เคยทำมา
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 586 มุมมอง 17 0 รีวิว
  • อิตาเลียนไทย แจ้งตลาดหลักทรัพย์ แสดงความเสียใจต่อผู้สูญเสียจากเหตุตึก สตง.ถล่ม พร้อมให้ความช่วยเหลือ และชดเชยเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บ มั่นใจไม่ส่งผลกระทบต่อโครงการก่อสร้างอื่นๆ ของบริษัท

    วันนี้ ( 31 มี.ค.) บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD ส่งเอกสารชี้แจงถึงกรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ลงวันที่ 31 มีนาคม 2568 ความว่า สืบเนื่องจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว เมื่อวันศุกร์ที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา เป็นเหตุทำให้โครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่อยู่ระหว่างดำเนินงานก่อสร้างถล่มเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต ผู้สูญหาย และผู้บาดเจ็บ

    บริษัทฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจการร่วมค้า ไอที่ดี-ซีอาร์อีซี ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้สูญเสีย ผู้เสียชีวิต และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว

    บริษัทได้ดำเนินการจัดทีมวิศวกร เครื่องจักรกลต่างๆ ร่วมสนับสนุนกับหน่วยงานราชการในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลังความสามารถ พร้อมที่จะให้การสนับสนุนกับทุกภาคส่วน จะดำเนินการแก้ไขในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อให้สถานการณ์กลับเข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว และจะเร่งให้ความร่วมมือในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในการชดเชยเยียวยาให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตและการรักษาพยาบาลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บต่อไป

    ในการนี้ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อโครงการก่อสร้างโครงการอื่นๆ ของบริษัท หากมีความคืบหน้าบริษัทจะเรียนชี้แจงให้ทราบเป็นระยะต่อไป

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000030527

    #MGROnline #อิตาเลียนไทย #ตลาดหลักทรัพย์ #สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน #สตง.#แผ่นดินไหว #ไทยแผ่นดินไหว #แผ่นดินไหวไทย #กรุงเทพแผ่นดินไหว #กรุงเทพมหานคร #ประเทศไทย #เมียนมา #bkkearthquake #BangkokEarthquake #ThailandEarthquake
    อิตาเลียนไทย แจ้งตลาดหลักทรัพย์ แสดงความเสียใจต่อผู้สูญเสียจากเหตุตึก สตง.ถล่ม พร้อมให้ความช่วยเหลือ และชดเชยเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บ มั่นใจไม่ส่งผลกระทบต่อโครงการก่อสร้างอื่นๆ ของบริษัท • วันนี้ ( 31 มี.ค.) บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD ส่งเอกสารชี้แจงถึงกรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ลงวันที่ 31 มีนาคม 2568 ความว่า สืบเนื่องจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว เมื่อวันศุกร์ที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา เป็นเหตุทำให้โครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่อยู่ระหว่างดำเนินงานก่อสร้างถล่มเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต ผู้สูญหาย และผู้บาดเจ็บ • บริษัทฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจการร่วมค้า ไอที่ดี-ซีอาร์อีซี ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้สูญเสีย ผู้เสียชีวิต และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว • บริษัทได้ดำเนินการจัดทีมวิศวกร เครื่องจักรกลต่างๆ ร่วมสนับสนุนกับหน่วยงานราชการในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลังความสามารถ พร้อมที่จะให้การสนับสนุนกับทุกภาคส่วน จะดำเนินการแก้ไขในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อให้สถานการณ์กลับเข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว และจะเร่งให้ความร่วมมือในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในการชดเชยเยียวยาให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตและการรักษาพยาบาลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บต่อไป • ในการนี้ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อโครงการก่อสร้างโครงการอื่นๆ ของบริษัท หากมีความคืบหน้าบริษัทจะเรียนชี้แจงให้ทราบเป็นระยะต่อไป • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000030527 • #MGROnline #อิตาเลียนไทย #ตลาดหลักทรัพย์ #สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน #สตง.#แผ่นดินไหว #ไทยแผ่นดินไหว #แผ่นดินไหวไทย #กรุงเทพแผ่นดินไหว #กรุงเทพมหานคร #ประเทศไทย #เมียนมา #bkkearthquake #BangkokEarthquake #ThailandEarthquake
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 544 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ศาลอาญา” มีคำพิพากษาให้จำคุกอดีตผู้บริหาร GGC และกรรมการบริษัทคู่ค้าในคดีฉ้อโกงและละเมิดกฎหมายหลักทรัพย์ หลังตรวจพบสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบหายไปจากระบบ มูลค่ากว่า 2,157 ล้านบาทนายกฤษฎา ประเสริฐสุโข กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC เปิดเผยว่าตามที่บริษัทฯ ได้แจ้งความร้องทุกข์อดีตผู้บริหารและคู่ค้าที่เกี่ยวข้องกับพวก ต่อพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ในไตรมาส 3/2561 รวมทั้งสิ้น 8คดี ปัจจุบันคดีอยู่ในขั้นพนักงานสอบสวน 4 คดี อยู่ในชั้นพนักงานอัยการ 1 คดี และอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอีก 3 คดี นั้นเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2568 ศาลอาญาได้มีคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อ.1926/2565 ว่า จำเลยบางคนมีความผิดฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา และ/หรือ ความผิดตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 โดยมีคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกอดีตผู้บริหารของบริษัทฯจำนวน 1 คน เป็นระยะเวลา 2 ปี และให้นับโทษต่อจากคคีอาญาหมายเลขดำที่ อ.600/2565 อีกทั้งพิพากษาลงโทษจำคุกอดีตผู้บริหารของบริษัทฯ อีก 1 คน เป็นระยะเวลา 2 ปี และจำคุกกรรมการบริษัทคู่ค้า 1 คน เป็นระยะเวลา 1 ปี 4 เดือน พร้อมให้นับโทษต่อจากคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.600/2565
    “ศาลอาญา” มีคำพิพากษาให้จำคุกอดีตผู้บริหาร GGC และกรรมการบริษัทคู่ค้าในคดีฉ้อโกงและละเมิดกฎหมายหลักทรัพย์ หลังตรวจพบสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบหายไปจากระบบ มูลค่ากว่า 2,157 ล้านบาทนายกฤษฎา ประเสริฐสุโข กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC เปิดเผยว่าตามที่บริษัทฯ ได้แจ้งความร้องทุกข์อดีตผู้บริหารและคู่ค้าที่เกี่ยวข้องกับพวก ต่อพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ในไตรมาส 3/2561 รวมทั้งสิ้น 8คดี ปัจจุบันคดีอยู่ในขั้นพนักงานสอบสวน 4 คดี อยู่ในชั้นพนักงานอัยการ 1 คดี และอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอีก 3 คดี นั้นเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2568 ศาลอาญาได้มีคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อ.1926/2565 ว่า จำเลยบางคนมีความผิดฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา และ/หรือ ความผิดตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 โดยมีคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกอดีตผู้บริหารของบริษัทฯจำนวน 1 คน เป็นระยะเวลา 2 ปี และให้นับโทษต่อจากคคีอาญาหมายเลขดำที่ อ.600/2565 อีกทั้งพิพากษาลงโทษจำคุกอดีตผู้บริหารของบริษัทฯ อีก 1 คน เป็นระยะเวลา 2 ปี และจำคุกกรรมการบริษัทคู่ค้า 1 คน เป็นระยะเวลา 1 ปี 4 เดือน พร้อมให้นับโทษต่อจากคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.600/2565
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 231 มุมมอง 0 รีวิว
  • คุณธีรนันท์ อดีตกรรมการผู้จัดการKBank ให้ความเห็นเรื่องการโอนหนี้ปชช.ให้ธนาคารรับไปได้อย่างแสบสันต์
    คุณธีรนันท์ อดีตกรรมการผู้จัดการKBank ให้ความเห็นเรื่องการโอนหนี้ปชช.ให้ธนาคารรับไปได้อย่างแสบสันต์
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 233 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปปส. จับนักร้องนำ I-ZAX “แซ็ก-วัชรพล ปานพุ่ม” แกนนำขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ 🌐⚖️

    ปลุกกระแสวงการเพลงร็อกไทยให้สั่นสะเทือน! ข่าวใหญ่ที่ทุกคนไม่คาดคิด นักร้องนำวงร็อกระดับตำนาน “แซ็ก-วัชรพล ปานพุ่ม” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “แซ็ก I-ZAX” ถูกจับในคดีค้ายาเสพติดข้ามชาติ โดยสำนักงาน ป.ป.ส. บุกค้นและยึดของกลาง ยาเสพติดจำนวนมหาศาลที่บ้านพัก สร้างความตกตะลึงให้แฟนเพลง และวงการบันเทิงไทยอีกครั้ง 😱🎤

    📌 จุดเริ่มต้นของการจับกุม ที่สั่นสะเทือนวงการ หน่วยงานความมั่นคงจีน ได้จับกุมคนไทย ที่ลักลอบขนยาเสพติด เข้าไปในประเทศจีน และได้ประสานข้อมูลกับสำนักงาน ป.ป.ส. ไทย อย่างรวดเร็ว ข้อมูลที่ได้ กลายเป็นกุญแจสำคัญ ในการขยายผลสืบสวน จนพบเครือข่ายค้ายาข้ามชาติ ที่มีแกนนำเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง ในวงการบันเทิงไทย

    เมื่อข้อมูลจากจีนถึงมือ ป.ป.ส. ไทย เจ้าหน้าที่จึงเริ่มดำเนินการสืบสวนขยายผล ในเครือข่ายผู้ซื้อ-ผู้ขายผ่านช่องทางออนไลน์ 📱💻 กระทั่งพบเบาะแสที่นำไปสู่การจับกุม “แซ็ก-วัชรพล ปานพุ่ม” ขณะที่แซ็กทำการติดต่อซื้อยาเสพติด ในจังหวะที่เจ้าหน้าที่จับกุมผู้จัดการดารา โดยพบว่าแซ็กมีพฤติกรรมเกี่ยวข้อง กับการค้ายาอย่างต่อเนื่อง และเป็นขาประจำในวงการนี้มานานแล้ว

    🚨 ภารกิจบุกค้นจับกุม! พบของกลางยาเสพติดเพียบ ป.ป.ส. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษ ได้เข้าตรวจค้นบ้านพักของ “แซ็ก I-ZAX” และตรวจยึดของกลาง เป็นยาเสพติดหลายประเภท ทั้ง

    - ยาบ้า
    - ไอซ์ เมทแอมเฟตามีน พิ้งค์โกลด์ สีทอง
    - เอ็กซ์ตาซี
    - เคตามีน
    - MDMA

    รวมไปถึงอุปกรณ์เสพ และชั่งตวงวัดน้ำหนักยา ที่บ่งชี้ถึงการกระจายสินค้า ในระดับแกนนำหัวจ่าย ของขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ 🚔📦

    การค้นพบครั้งนี้ ไม่เพียงแต่ทำให้ชื่อของ “แซ็ก I-ZAX” ติดอันดับข่าวหน้าหนึ่งเท่านั้น แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการขยายผล เพื่อจับกุมศิลปิน และดาราในวงการบันเทิง ที่เกี่ยวข้องกับการเสพ และค้ายาอีกหลายราย 🎭💊

    🎸 จากตำนานวงร็อก สู่ขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ เส้นทางศิลปินของ I-ZAX วงดนตรีขวัญใจวัยรุ่นยุค 2000 ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2545 ในนาม ไอ-แซ็ก (I-ZAX)

    สมาชิกดั้งเดิม 5 คน ได้แก่
    - พัชรพล ปานพุ่ม หรือแซ็ก นักร้องนำ
    - พงศภัค ทองเจริญ หรือเพชร มือกีตาร์
    - ชัชวาล พูลผล หรือชัช มือเบส
    - จาตุรงค์ เนื่องจำนงค์ หรือจา มือกลอง
    - คำรณ เต่าทอง หรือยา มือคีย์บอร์ด

    มีผลงานอัลบั้มดัง เช่น
    🎶 คนรักกัน (2545)
    🎶 ใจถึงใจ (2547)
    🎶 Tag Team (2549)

    เพลงฮิตระดับชาติอย่าง "ดอกไม้กับหัวใจ", "ปวดใจ" และ "เขียนใจให้เป็นเพลง" เคยทำให้ “แซ็ก” กลายเป็นขวัญใจแฟนเพลงทั่วประเทศ

    🕵️‍♂️ ความจริงอีกด้าน ที่ซ่อนอยู่หลังไมค์ หลังจากห่างหายไปจากวงการเพลง เนื่องจากอาการป่วยไทรอยด์เป็นพิษ แซ็กได้กลับมาร่วมรายการ The Mask Mirror ในปี 2562 ใต้หน้ากาก “น้ำพริกหมู” พร้อมเล่าประสบการณ์ ที่ทุกข์ทรมานจากโรคร้าย จนแฟนเพลงหลายคน ต่างสงสารและเห็นใจ ❤️‍🩹

    แต่เบื้องหลังชีวิตใหม่ ที่ดูเหมือนจะสดใส กลับมีความลับมืดดำซ่อนอยู่! จากการสืบสวนพบว่า แซ็กกลับเข้าไปพัวพัน กับเครือข่ายยาเสพติดอีกครั้ง และในฐานะ “แกนนำระดับหัวจ่าย” ซึ่งมีเครือข่ายลูกค้ามากมาย รวมถึงศิลปิน และดาราในวงการบันเทิงด้วย 💼💸

    ⚖️ ผลกระทบต่อวงการบันเทิง และดนตรีไทย การจับกุมแซ็กในครั้งนี้ ไม่เพียงทำให้วงการเพลงสะเทือนเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญญาณเตือนแรง ถึงวงการบันเทิงไทยว่า ยาเสพติดยังคงเป็นภัยร้าย ที่แฝงตัวในทุกแวดวงสังคม 🚫💉

    ป.ป.ส. เตรียมขยายผลการจับกุม ไปยังเครือข่ายดารา-ศิลปิน ที่เกี่ยวข้องกับแซ็ก I-ZAX อย่างละเอียด และจะมีการออกหมายจับเพิ่มเติม ในเร็ววันนี้

    📢 ยาเสพติดไม่เพียงแต่ ทำลายชีวิตของผู้ใช้เท่านั้น แต่ยังทำลายอนาคต สังคม และครอบครัวอีกด้วย ❌🧬 โทษจำคุกสูงสุดถึง โทษประหารชีวิต การครอบครองยาเสพติดประเภท 1 เช่น ไอซ์, เฮโรอีน, MDMA การจำหน่ายหรือผลิต มีโทษหนักทั้งจำคุกตลอดชีวิต และโทษปรับมหาศาล

    การเลือกเดินทางผิดของแซ็ก I-ZAX ถือเป็นกรณีศึกษาเตือนใจทุกคน ที่อาจหลงผิดในเส้นทางอันตรายนี้ 🛑

    🛡️ สรุปบทเรียนจากคดี “แซ็ก I-ZAX” เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
    ✅ ไม่มีใครหนีพ้นความยุติธรรม
    ✅ ชื่อเสียงและความสำเร็จ ไม่ได้ช่วยปกป้องจากผลของการกระทำผิด
    ✅ วงการบันเทิงควรมีการตรวจสอบภายใน และให้ความสำคัญกับสุขภาพจิต และจริยธรรมของศิลปิน

    ✍️ การจับกุม “แซ็ก-วัชรพล ปานพุ่ม” ถือเป็นข่าวใหญ่ที่สะท้อนปัญหาลึก ในสังคมบันเทิงไทย วง I-ZAX ที่เคยเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ กลับกลายเป็นข่าวฉาวระดับชาติ สังคมจึงควรตระหนัก และร่วมมือกันต่อต้านยาเสพติดในทุกมิติ 🚫🕊️

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 181605 มี.ค. 2568

    📌 #แซ็กIZAX #ค้ายาเสพติด #ปปสจับแซ็ก #ข่าวดารา #ข่าวดังวันนี้ #IZAXวงร็อก #ข่าววงการเพลง #ยาเสพติดข้ามชาติ #ข่าวด่วนไทย #จับกุมนักร้องดัง
    ปปส. จับนักร้องนำ I-ZAX “แซ็ก-วัชรพล ปานพุ่ม” แกนนำขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ 🌐⚖️ ปลุกกระแสวงการเพลงร็อกไทยให้สั่นสะเทือน! ข่าวใหญ่ที่ทุกคนไม่คาดคิด นักร้องนำวงร็อกระดับตำนาน “แซ็ก-วัชรพล ปานพุ่ม” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “แซ็ก I-ZAX” ถูกจับในคดีค้ายาเสพติดข้ามชาติ โดยสำนักงาน ป.ป.ส. บุกค้นและยึดของกลาง ยาเสพติดจำนวนมหาศาลที่บ้านพัก สร้างความตกตะลึงให้แฟนเพลง และวงการบันเทิงไทยอีกครั้ง 😱🎤 📌 จุดเริ่มต้นของการจับกุม ที่สั่นสะเทือนวงการ หน่วยงานความมั่นคงจีน ได้จับกุมคนไทย ที่ลักลอบขนยาเสพติด เข้าไปในประเทศจีน และได้ประสานข้อมูลกับสำนักงาน ป.ป.ส. ไทย อย่างรวดเร็ว ข้อมูลที่ได้ กลายเป็นกุญแจสำคัญ ในการขยายผลสืบสวน จนพบเครือข่ายค้ายาข้ามชาติ ที่มีแกนนำเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง ในวงการบันเทิงไทย เมื่อข้อมูลจากจีนถึงมือ ป.ป.ส. ไทย เจ้าหน้าที่จึงเริ่มดำเนินการสืบสวนขยายผล ในเครือข่ายผู้ซื้อ-ผู้ขายผ่านช่องทางออนไลน์ 📱💻 กระทั่งพบเบาะแสที่นำไปสู่การจับกุม “แซ็ก-วัชรพล ปานพุ่ม” ขณะที่แซ็กทำการติดต่อซื้อยาเสพติด ในจังหวะที่เจ้าหน้าที่จับกุมผู้จัดการดารา โดยพบว่าแซ็กมีพฤติกรรมเกี่ยวข้อง กับการค้ายาอย่างต่อเนื่อง และเป็นขาประจำในวงการนี้มานานแล้ว 🚨 ภารกิจบุกค้นจับกุม! พบของกลางยาเสพติดเพียบ ป.ป.ส. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษ ได้เข้าตรวจค้นบ้านพักของ “แซ็ก I-ZAX” และตรวจยึดของกลาง เป็นยาเสพติดหลายประเภท ทั้ง - ยาบ้า - ไอซ์ เมทแอมเฟตามีน พิ้งค์โกลด์ สีทอง - เอ็กซ์ตาซี - เคตามีน - MDMA รวมไปถึงอุปกรณ์เสพ และชั่งตวงวัดน้ำหนักยา ที่บ่งชี้ถึงการกระจายสินค้า ในระดับแกนนำหัวจ่าย ของขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ 🚔📦 การค้นพบครั้งนี้ ไม่เพียงแต่ทำให้ชื่อของ “แซ็ก I-ZAX” ติดอันดับข่าวหน้าหนึ่งเท่านั้น แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการขยายผล เพื่อจับกุมศิลปิน และดาราในวงการบันเทิง ที่เกี่ยวข้องกับการเสพ และค้ายาอีกหลายราย 🎭💊 🎸 จากตำนานวงร็อก สู่ขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ เส้นทางศิลปินของ I-ZAX วงดนตรีขวัญใจวัยรุ่นยุค 2000 ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2545 ในนาม ไอ-แซ็ก (I-ZAX) สมาชิกดั้งเดิม 5 คน ได้แก่ - พัชรพล ปานพุ่ม หรือแซ็ก นักร้องนำ - พงศภัค ทองเจริญ หรือเพชร มือกีตาร์ - ชัชวาล พูลผล หรือชัช มือเบส - จาตุรงค์ เนื่องจำนงค์ หรือจา มือกลอง - คำรณ เต่าทอง หรือยา มือคีย์บอร์ด มีผลงานอัลบั้มดัง เช่น 🎶 คนรักกัน (2545) 🎶 ใจถึงใจ (2547) 🎶 Tag Team (2549) เพลงฮิตระดับชาติอย่าง "ดอกไม้กับหัวใจ", "ปวดใจ" และ "เขียนใจให้เป็นเพลง" เคยทำให้ “แซ็ก” กลายเป็นขวัญใจแฟนเพลงทั่วประเทศ 🕵️‍♂️ ความจริงอีกด้าน ที่ซ่อนอยู่หลังไมค์ หลังจากห่างหายไปจากวงการเพลง เนื่องจากอาการป่วยไทรอยด์เป็นพิษ แซ็กได้กลับมาร่วมรายการ The Mask Mirror ในปี 2562 ใต้หน้ากาก “น้ำพริกหมู” พร้อมเล่าประสบการณ์ ที่ทุกข์ทรมานจากโรคร้าย จนแฟนเพลงหลายคน ต่างสงสารและเห็นใจ ❤️‍🩹 แต่เบื้องหลังชีวิตใหม่ ที่ดูเหมือนจะสดใส กลับมีความลับมืดดำซ่อนอยู่! จากการสืบสวนพบว่า แซ็กกลับเข้าไปพัวพัน กับเครือข่ายยาเสพติดอีกครั้ง และในฐานะ “แกนนำระดับหัวจ่าย” ซึ่งมีเครือข่ายลูกค้ามากมาย รวมถึงศิลปิน และดาราในวงการบันเทิงด้วย 💼💸 ⚖️ ผลกระทบต่อวงการบันเทิง และดนตรีไทย การจับกุมแซ็กในครั้งนี้ ไม่เพียงทำให้วงการเพลงสะเทือนเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญญาณเตือนแรง ถึงวงการบันเทิงไทยว่า ยาเสพติดยังคงเป็นภัยร้าย ที่แฝงตัวในทุกแวดวงสังคม 🚫💉 ป.ป.ส. เตรียมขยายผลการจับกุม ไปยังเครือข่ายดารา-ศิลปิน ที่เกี่ยวข้องกับแซ็ก I-ZAX อย่างละเอียด และจะมีการออกหมายจับเพิ่มเติม ในเร็ววันนี้ 📢 ยาเสพติดไม่เพียงแต่ ทำลายชีวิตของผู้ใช้เท่านั้น แต่ยังทำลายอนาคต สังคม และครอบครัวอีกด้วย ❌🧬 โทษจำคุกสูงสุดถึง โทษประหารชีวิต การครอบครองยาเสพติดประเภท 1 เช่น ไอซ์, เฮโรอีน, MDMA การจำหน่ายหรือผลิต มีโทษหนักทั้งจำคุกตลอดชีวิต และโทษปรับมหาศาล การเลือกเดินทางผิดของแซ็ก I-ZAX ถือเป็นกรณีศึกษาเตือนใจทุกคน ที่อาจหลงผิดในเส้นทางอันตรายนี้ 🛑 🛡️ สรุปบทเรียนจากคดี “แซ็ก I-ZAX” เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ✅ ไม่มีใครหนีพ้นความยุติธรรม ✅ ชื่อเสียงและความสำเร็จ ไม่ได้ช่วยปกป้องจากผลของการกระทำผิด ✅ วงการบันเทิงควรมีการตรวจสอบภายใน และให้ความสำคัญกับสุขภาพจิต และจริยธรรมของศิลปิน ✍️ การจับกุม “แซ็ก-วัชรพล ปานพุ่ม” ถือเป็นข่าวใหญ่ที่สะท้อนปัญหาลึก ในสังคมบันเทิงไทย วง I-ZAX ที่เคยเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ กลับกลายเป็นข่าวฉาวระดับชาติ สังคมจึงควรตระหนัก และร่วมมือกันต่อต้านยาเสพติดในทุกมิติ 🚫🕊️ ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 181605 มี.ค. 2568 📌 #แซ็กIZAX #ค้ายาเสพติด #ปปสจับแซ็ก #ข่าวดารา #ข่าวดังวันนี้ #IZAXวงร็อก #ข่าววงการเพลง #ยาเสพติดข้ามชาติ #ข่าวด่วนไทย #จับกุมนักร้องดัง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 868 มุมมอง 0 รีวิว
  • "สนธิ" เผย ตร.ชุดทำคดีแตงโม ปฏิเสธ หลังดีเอสไอเชิญสอบ อ้างไม่มีอำนาจ แนะ ดีเอสไอยังไม่รื้อคดี แค่สอบสำนวนไหนที่บอกพร้อง คาดอาจโดน ม.157

    นายสนธิ ลิ้มทองกุล สื่อมวลชนอาวุโส ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ เปิดเผยว่า สำหรับเรื่องของคดีกังวลมีความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของ น.ส.นิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม ว่า สำหรับเรื่องนี้มีความคืบหน้าแต่ในเรื่องของรายละเอียด ตนไม่รู้คนที่รู้ดีที่สุดเกี่ยวกับเรื่องนี้ดีที่สุดคืออาจารย์ปานเทพ เพราะว่าตนไม่ได้เข้าไปยุ่งเรื่องนี้ตนทำหน้าที่เป็นเพียงแค่แบ็คให้เขา ในกรณีที่เขาถูกแรงกดดันมากแล้วเขารับไม่ไหว แล้วตนจะยื่นมือเข้าไป ส่วนข้อเท็จจริงลึกลึกแล้วอย่าไปเข้าใจผิดตนไม่รู้เรื่องนี้เลยเพราะว่าตนให้เกียรติเขา หากตนเรียกเขามาถามมันก็จะไม่ดี ตนรู้แต่เพียงว่า ดีเอสไอเขาทำไว้เยอะแล้ว เขาคงจะมีอะไรหลายหลายอย่างเท่าที่ตนสังเกต แต่ว่าทางดีเอสไอเขาไม่พูดเท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นตนจึงคิดว่าควรจะเย็นไว้ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมท่านได้ยืนยันว่าท่านไม่ทิ้งเรื่องแตงโม ถ้าไปให้สุดซอยก็คือต้องไปสุดซอย คนที่มีปัญหาคือ พวกทีมงานตำรวจโดยเฉพาะทีมงานตำรวจภูธรภาค 1 ที่ทำคดีนี้ตั้งแต่ต้น ถึงกับปฏิเสธเรียกตัว ซึ่งทางดีเอสไอได้เชิญตัวมาให้ปากคำ แต่เขาบอกว่าดีเอสไอมีอำนาจ มันก็คงจะมีความขัดแย้งในลักษณะนี้ไปเรื่อยๆ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000025369

    #MGROnline #สนธิลิ้มทองกุล #ดีเอสไอ #ตำรวจภูธรภาค1
    "สนธิ" เผย ตร.ชุดทำคดีแตงโม ปฏิเสธ หลังดีเอสไอเชิญสอบ อ้างไม่มีอำนาจ แนะ ดีเอสไอยังไม่รื้อคดี แค่สอบสำนวนไหนที่บอกพร้อง คาดอาจโดน ม.157 • นายสนธิ ลิ้มทองกุล สื่อมวลชนอาวุโส ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ เปิดเผยว่า สำหรับเรื่องของคดีกังวลมีความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของ น.ส.นิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม ว่า สำหรับเรื่องนี้มีความคืบหน้าแต่ในเรื่องของรายละเอียด ตนไม่รู้คนที่รู้ดีที่สุดเกี่ยวกับเรื่องนี้ดีที่สุดคืออาจารย์ปานเทพ เพราะว่าตนไม่ได้เข้าไปยุ่งเรื่องนี้ตนทำหน้าที่เป็นเพียงแค่แบ็คให้เขา ในกรณีที่เขาถูกแรงกดดันมากแล้วเขารับไม่ไหว แล้วตนจะยื่นมือเข้าไป ส่วนข้อเท็จจริงลึกลึกแล้วอย่าไปเข้าใจผิดตนไม่รู้เรื่องนี้เลยเพราะว่าตนให้เกียรติเขา หากตนเรียกเขามาถามมันก็จะไม่ดี ตนรู้แต่เพียงว่า ดีเอสไอเขาทำไว้เยอะแล้ว เขาคงจะมีอะไรหลายหลายอย่างเท่าที่ตนสังเกต แต่ว่าทางดีเอสไอเขาไม่พูดเท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นตนจึงคิดว่าควรจะเย็นไว้ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมท่านได้ยืนยันว่าท่านไม่ทิ้งเรื่องแตงโม ถ้าไปให้สุดซอยก็คือต้องไปสุดซอย คนที่มีปัญหาคือ พวกทีมงานตำรวจโดยเฉพาะทีมงานตำรวจภูธรภาค 1 ที่ทำคดีนี้ตั้งแต่ต้น ถึงกับปฏิเสธเรียกตัว ซึ่งทางดีเอสไอได้เชิญตัวมาให้ปากคำ แต่เขาบอกว่าดีเอสไอมีอำนาจ มันก็คงจะมีความขัดแย้งในลักษณะนี้ไปเรื่อยๆ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000025369 • #MGROnline #สนธิลิ้มทองกุล #ดีเอสไอ #ตำรวจภูธรภาค1
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 559 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีการขุดภาพถ่าย “คิมแซรน” ขณะยืนรอลิฟท์อยู่กับชายคนหนึ่ง เมื่อปี 2017 โดยชาวเน็ตต่างเชื่อว่าชายคนนั้นคือ “คิมซูฮยอน”

    มีการขุดภาพถ่ายจากอินสตาแกรมที่ชื่อว่า sae_ron_daily นำมาแชร์ว่อนเน็ตกันอีกครั้ง โดยเป็นภาพที่ คิมแซรน ยืนอยู่หน้าลิฟท์ในชุดเสื่อคลุมกันหนาวสีดำ ขณะที่ชายที่ยืนด้านข้างใส่เสื่อคลุมกันหนาวสีแดง โดยดูจากลักษณะต่างพากันคาดว่าคนในภาพคือ คิมซูฮยอน แม้ว่าศีรษะของเขาจะก้มหลบและพิงอยู่กับกำแพง จนยากจะระบุตัวตน แต่หลายๆคนก็มีความเห็นตรงกันว่า

    “เห็นแค่หู กับรูปทรงหัวของเขา คนที่เป็นแฟนคลับ คิมซูฮยอน เห็นปุ๊บรู้ปั๊บทันที”

    อย่างไรก็ตามชาวเน็ตบางส่วนยังลังเล โดยแสดงความเห็นว่า “ตอนนั้น แซรน ยังมักจะไปไหนมาไหนกับแม่ ไม่ได้ไปกับผู้จัดการ มันดูเหมือนจะเป็นเขานะ แต่มันก็มีโอกาสได้ว่าอาจจะไม่ใช่”

    รูปภาพดังกล่าวถูกโพสต์ลงในอินสตาแกรมของแฟนคลับที่สร้างขึ้นเพื่อติดตาม คิมแซรน ทำให้เชื่อว่า แฟนคลับของนักแสดงสาวน่าจะรู้เรื่องความสัมพันธ์ของทั้งคู่มานานตั้งแต่ก่อนเป็นข่าวฉาวแล้ว และภาพดังกล่าวถูกโพสต์มานานตั้งแต่ปี 2017

    จึงเป็นการตอกย้ำข่าวที่ คิมซูฮยอน น่าจะคบหากับ คิมแซรน ที่เด็กกว่าเขา 12 ปี ตั้งแต่เธอยังเป็นผู้เยาว์ ตามที่ คิมแซรน เคยระบุว่า คบกันตั้งแต่ปี 2015 - 2021 ไม่ใช่เริ่มคบกันตอนปี 2019 ตามที่ต้นสังกัด Gold Medalist เคยแถลงไว้

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000025362

    #MGROnline #คิมแซรน #คิมซูฮยอน
    มีการขุดภาพถ่าย “คิมแซรน” ขณะยืนรอลิฟท์อยู่กับชายคนหนึ่ง เมื่อปี 2017 โดยชาวเน็ตต่างเชื่อว่าชายคนนั้นคือ “คิมซูฮยอน” • มีการขุดภาพถ่ายจากอินสตาแกรมที่ชื่อว่า sae_ron_daily นำมาแชร์ว่อนเน็ตกันอีกครั้ง โดยเป็นภาพที่ คิมแซรน ยืนอยู่หน้าลิฟท์ในชุดเสื่อคลุมกันหนาวสีดำ ขณะที่ชายที่ยืนด้านข้างใส่เสื่อคลุมกันหนาวสีแดง โดยดูจากลักษณะต่างพากันคาดว่าคนในภาพคือ คิมซูฮยอน แม้ว่าศีรษะของเขาจะก้มหลบและพิงอยู่กับกำแพง จนยากจะระบุตัวตน แต่หลายๆคนก็มีความเห็นตรงกันว่า • “เห็นแค่หู กับรูปทรงหัวของเขา คนที่เป็นแฟนคลับ คิมซูฮยอน เห็นปุ๊บรู้ปั๊บทันที” • อย่างไรก็ตามชาวเน็ตบางส่วนยังลังเล โดยแสดงความเห็นว่า “ตอนนั้น แซรน ยังมักจะไปไหนมาไหนกับแม่ ไม่ได้ไปกับผู้จัดการ มันดูเหมือนจะเป็นเขานะ แต่มันก็มีโอกาสได้ว่าอาจจะไม่ใช่” • รูปภาพดังกล่าวถูกโพสต์ลงในอินสตาแกรมของแฟนคลับที่สร้างขึ้นเพื่อติดตาม คิมแซรน ทำให้เชื่อว่า แฟนคลับของนักแสดงสาวน่าจะรู้เรื่องความสัมพันธ์ของทั้งคู่มานานตั้งแต่ก่อนเป็นข่าวฉาวแล้ว และภาพดังกล่าวถูกโพสต์มานานตั้งแต่ปี 2017 • จึงเป็นการตอกย้ำข่าวที่ คิมซูฮยอน น่าจะคบหากับ คิมแซรน ที่เด็กกว่าเขา 12 ปี ตั้งแต่เธอยังเป็นผู้เยาว์ ตามที่ คิมแซรน เคยระบุว่า คบกันตั้งแต่ปี 2015 - 2021 ไม่ใช่เริ่มคบกันตอนปี 2019 ตามที่ต้นสังกัด Gold Medalist เคยแถลงไว้ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000025362 • #MGROnline #คิมแซรน #คิมซูฮยอน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 317 มุมมอง 0 รีวิว
  • บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายปูนซีเมนต์รวมทั้งผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้างรายใหญ่ของประเทศ

    เสนอขายหุ้นกู้ อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.00 % ต่อปี
    ระหว่างวันที่ 28, 31 มีนาคม – 1 เมษายน 2568

    อันดับความน่าเชื่อถือขององค์กรและหุ้นกู้ที่ระดับ “A-” แนวโน้ม “Negative” โดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด
    ผู้สนใจจองซื้อหุ้นกู้ สามารถติดต่อ ผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ได้ตามรายละเอียดบนหน้าจอ

    คำเตือน : การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุน ควรศึกษาทำความเข้าใจลักษณะของหุ้นกู้ เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
    บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายปูนซีเมนต์รวมทั้งผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้างรายใหญ่ของประเทศ เสนอขายหุ้นกู้ อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.00 % ต่อปี ระหว่างวันที่ 28, 31 มีนาคม – 1 เมษายน 2568 อันดับความน่าเชื่อถือขององค์กรและหุ้นกู้ที่ระดับ “A-” แนวโน้ม “Negative” โดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ผู้สนใจจองซื้อหุ้นกู้ สามารถติดต่อ ผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ได้ตามรายละเอียดบนหน้าจอ คำเตือน : การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุน ควรศึกษาทำความเข้าใจลักษณะของหุ้นกู้ เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 215 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความก้าวหน้าใหม่ใน Google Calendar กับการรวมเทคโนโลยี AI ของ Google Gemini เข้ามาใช้งาน โดย Gemini จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการตารางเวลาผ่านคำสั่งภาษาธรรมชาติได้ เช่น การถามว่า "การประชุมครั้งต่อไปกับผู้จัดการคือเมื่อไหร่?" หรือ การเพิ่มกิจกรรมใหม่เพียงแค่พูดว่า "เพิ่มนัดหมายกับหมอฟันตอนบ่ายสองวันศุกร์" ไม่ต้องเสียเวลาค้นหาหรือพิมพ์ข้อมูลแบบเดิม

    อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ Gemini ใน Google Calendar ยังอยู่ในขั้นทดลองผ่าน Google Workspace Labs ซึ่งผู้ใช้ต้องสมัครเพื่อทดสอบฟีเจอร์ และจะมีข้อจำกัดบางอย่าง เช่น ยังไม่รองรับการเชิญคนเข้าร่วมงานอัตโนมัติ และใช้งานได้เฉพาะในเว็บเบราว์เซอร์เท่านั้น

    ฟีเจอร์เด่นคือความสะดวกในการจัดการตารางอย่างรวดเร็ว แต่ในแง่ความน่าเชื่อถือยังต้องตรวจสอบข้อมูลด้วยตัวเองอยู่เสมอ เนื่องจาก AI อาจทำผิดพลาดได้ เช่น การแปลความหมายผิดจากคำสั่งเล็กน้อย

    ในมุมมองเพิ่มเติม การนำ AI มาช่วยจัดการเวลานั้นสะท้อนถึงแนวโน้มของเทคโนโลยีที่ผสานความสามารถของมนุษย์และเครื่องจักร เพื่อทำให้ชีวิตประจำวันสะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น คุณคิดว่าฟีเจอร์นี้จะช่วยลดภาระในชีวิตประจำวันของคุณได้แค่ไหน?

    https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/gemini-is-coming-to-google-calendar-heres-how-it-will-work-and-how-to-try-it-now
    ความก้าวหน้าใหม่ใน Google Calendar กับการรวมเทคโนโลยี AI ของ Google Gemini เข้ามาใช้งาน โดย Gemini จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการตารางเวลาผ่านคำสั่งภาษาธรรมชาติได้ เช่น การถามว่า "การประชุมครั้งต่อไปกับผู้จัดการคือเมื่อไหร่?" หรือ การเพิ่มกิจกรรมใหม่เพียงแค่พูดว่า "เพิ่มนัดหมายกับหมอฟันตอนบ่ายสองวันศุกร์" ไม่ต้องเสียเวลาค้นหาหรือพิมพ์ข้อมูลแบบเดิม อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ Gemini ใน Google Calendar ยังอยู่ในขั้นทดลองผ่าน Google Workspace Labs ซึ่งผู้ใช้ต้องสมัครเพื่อทดสอบฟีเจอร์ และจะมีข้อจำกัดบางอย่าง เช่น ยังไม่รองรับการเชิญคนเข้าร่วมงานอัตโนมัติ และใช้งานได้เฉพาะในเว็บเบราว์เซอร์เท่านั้น ฟีเจอร์เด่นคือความสะดวกในการจัดการตารางอย่างรวดเร็ว แต่ในแง่ความน่าเชื่อถือยังต้องตรวจสอบข้อมูลด้วยตัวเองอยู่เสมอ เนื่องจาก AI อาจทำผิดพลาดได้ เช่น การแปลความหมายผิดจากคำสั่งเล็กน้อย ในมุมมองเพิ่มเติม การนำ AI มาช่วยจัดการเวลานั้นสะท้อนถึงแนวโน้มของเทคโนโลยีที่ผสานความสามารถของมนุษย์และเครื่องจักร เพื่อทำให้ชีวิตประจำวันสะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น คุณคิดว่าฟีเจอร์นี้จะช่วยลดภาระในชีวิตประจำวันของคุณได้แค่ไหน? https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/gemini-is-coming-to-google-calendar-heres-how-it-will-work-and-how-to-try-it-now
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 415 มุมมอง 0 รีวิว
  • อเมริกาเล็งใช้การประชุมกับคณะเจรจายูเครนในซาอุดีอาระเบียที่กำหนดจัดขึ้นวันอังคาร (11 มี.ค.) เพื่อวัดใจว่า เคียฟยินยอมพร้อมใจสละดินแดนให้รัสเซียเพื่อยุติสงคราม และจริงจังกับการปรับปรุงความสัมพันธ์กับคณะบริหารของทรัมป์หรือไม่ ขณะที่ทั้งทรัมป์และเซเลนสกี้ต่างแสดงความเห็นแง่ดีว่า การหารือจะมีความคืบหน้าและมีผลลัพธ์ที่ดี
    .
    มาร์โค รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ออกเดินทางไปยังเมืองเจดดาห์ของซาอุดีอาระเบียเมื่อวันอาทิตย์ (9 มี.ค.) เพื่อหารือกับคณะเจ้าหน้าที่ยูเครนที่นำโดยอันเดร เยมาร์ค หัวหน้าคณะทำงานของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ รวมถึงอันดรี ซีบิกา รัฐมนตรีต่างประเทศ, รัสเทม ยูเมรอฟ รัฐมนตรีกลาโหม และพาฟโล ปาลิซา ผู้บัญชาการทหาร
    .
    คณะเจ้าหน้าที่ของอเมริกายังประกอบด้วยไมค์ วอลซ์ ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติ และสตีฟ วิตคอฟฟ์ ผู้แทนพิเศษดูแลเรื่องตะวันออกกลางของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
    .
    เจ้าหน้าที่คนหนึ่งของสหรัฐฯ เผยว่า วอชิงตันต้องการใช้โอกาสนี้พิจารณาว่า ยูเครนต้องการเพียงสันติภาพที่เป็นธรรมหรือสันติภาพที่เป็นจริง สนใจแค่พรมแดนเดิมในปี 2014 หรือพรมแดนในปี 2022 หรืออีกนัยหนึ่งคือยูเครนพร้อมประนีประนอมด้วยการยกดินแดนบางส่วนให้รัสเซียเพื่อแลกกับการยุติสงครามหรือไม่
    .
    ขณะเดียวกัน ไบรอัน ฮิวจ์ โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของอเมริกา แถลงว่า เซเลนสกี้มีความคืบหน้าในการฟื้นคืนความสัมพันธ์วอชิงตัน-เคียฟ หลังจากปะทะคารมกับทรัมป์ระหว่างเยือนทำเนียบขาวเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ และสำทับว่า อเมริกาเฝ้ารอว่า จะเห็นการดำเนินการที่ดีเพิ่มเติมซึ่งจะนำไปสู่การยุติสงครามโหดร้ายในยูเครน
    .
    ด้านทรัมป์แสดงความเห็นแง่ดีว่า การหารือที่เจดดาห์จะมีความคืบหน้าอย่างมาก
    .
    วิตคอฟฟ์ซึ่งเป็นผู้จัดการการเจรจา เผยว่า เป้าหมายคือ การบรรลุกรอบโครงข้อตกลงสันติภาพและข้อตกลงหยุดยิงเบื้องต้น
    .
    ทั้งนี้ เซเลนสกี้ต้องการให้มการหยุดยิงทางอากาศและทะเล ตลอดจนถึงการแลกเปลี่ยนนักโทษ เพื่อทดสอบความมุ่งมั่นในการยุติสงครามของรัสเซีย ขณะที่มอสโกคัดค้านแนวคิดข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวที่อังกฤษและฝรั่งเศสเสนอ เนื่องจากเห็นว่า เป็นการซื้อเวลาของเคียฟเพื่อป้องกันไม่ให้กองทัพยูเครนล่มสลาย
    .
    ทางฝ่ายเซเลนสกี้กล่าวเมื่อคืนวันอาทิตย์ก่อนออกเดินทางไปซาอุดีอาระเบีย ว่า เขาหวังว่า การเจรจาระหว่างทีมเจ้าหน้าที่ยูเครนกับอเมริกาจะนำมาซึ่งผลลัพธ์ทั้งในด้านความคืบหน้าเกี่ยวกับสันติภาพและการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องของอเมริกา ทั้งนี้ ประธานาธิบดียูเครนมีกำหนดการเข้าพบมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ของซาอุดีอาระเบีย ในวันจันทร์ (10 ) แต่การเจรจากับทีมของสหรัฐฯในวันอังคารนั้น ตามรายงานข่าวบอกว่าเป็นภารกิจของทีมเจรจาฝ่ายยูเครน
    .
    เซเลนสกี้เสริมว่า ยูเครนพร้อมลงนามข้อตกลงแร่ธาตุกับอเมริกา ซึ่งจะมีการจัดตั้งกองทุนร่วมจากการขายแร่ธาตุของยูเครน ขณะที่วอชิงตันระบุว่า ข้อตกลงนี้มีความสำคัญต่อการที่อเมริกาจะให้การสนับสนุนเคียฟต่อไป
    .
    อย่างไรก็ดี ขณะที่การสนับสนุนของอเมริกายังไร้ความแน่นอน เซเลนสกี้ได้เรียกร้องให้พวกพันธมิตรยุโรปเพิ่มการสนับสนุนตนเอง ขณะที่เคียฟเพลี่ยงพล้ำในสนามรบมากขึ้นและกำลังถูกบดขยี้หนักให้ล่าถอยออกจากแคว้นคูร์สก์ของรัสเซีย
    .
    สำหรับมุมมองของพันธมิตรยุโรปเกี่ยวกับข้อตกลงสันติภาพนั้น มีการเตือนว่า ยูเครนควรทำข้อตกลงกับรัสเซียภายใต้จุดยืนที่แข็งแกร่งเท่านั้น อีกทั้งไม่ควรรีบร้อนเจรจากับผู้รุกราน
    .
    ทั้งนี้ เซเลนสกี้ระบุว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ไม่ต้องการสันติภาพ อีกทั้งบอกว่ารัสเซียยังจะโจมตีประเทศยุโรปอื่นๆ ต่อไปอีก ถ้าที่สุดแล้วไม่มีผลลัพธ์ชัดเจนว่า รัสเซียพ่ายแพ้ในการรุกรานยูเครน
    .
    ในทางกลับกัน วอชิงตันพยายามบีบทุกทางให้เคียฟยอมเจรจายุติสงครามกับรัสเซีย โดยล่าสุดถึงขั้นที่สหรัฐฯระงับการให้ความช่วยเหลือทางทหารและการแบ่งปันข้อมูลข่าวกรอง รวมทั้งการเข้าถึงภาพถ่ายดาวเทียมแก่ยูเครน โดยไม่ฟังเสียงพวกโปรยูเครนที่อ้างว่า ความเคลื่อนไหวนี้เสี่ยงทำให้สงครามยืดเยื้อออกไป เนื่องจากรัสเซียจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นและมีแนวโน้มลดลงในการยอมยุติศึก และยอมทำข้อตกลงสันติภาพแบบเท่าเทียมกับยูเครน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000023235
    ..............
    Sondhi X
    อเมริกาเล็งใช้การประชุมกับคณะเจรจายูเครนในซาอุดีอาระเบียที่กำหนดจัดขึ้นวันอังคาร (11 มี.ค.) เพื่อวัดใจว่า เคียฟยินยอมพร้อมใจสละดินแดนให้รัสเซียเพื่อยุติสงคราม และจริงจังกับการปรับปรุงความสัมพันธ์กับคณะบริหารของทรัมป์หรือไม่ ขณะที่ทั้งทรัมป์และเซเลนสกี้ต่างแสดงความเห็นแง่ดีว่า การหารือจะมีความคืบหน้าและมีผลลัพธ์ที่ดี . มาร์โค รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ออกเดินทางไปยังเมืองเจดดาห์ของซาอุดีอาระเบียเมื่อวันอาทิตย์ (9 มี.ค.) เพื่อหารือกับคณะเจ้าหน้าที่ยูเครนที่นำโดยอันเดร เยมาร์ค หัวหน้าคณะทำงานของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ รวมถึงอันดรี ซีบิกา รัฐมนตรีต่างประเทศ, รัสเทม ยูเมรอฟ รัฐมนตรีกลาโหม และพาฟโล ปาลิซา ผู้บัญชาการทหาร . คณะเจ้าหน้าที่ของอเมริกายังประกอบด้วยไมค์ วอลซ์ ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติ และสตีฟ วิตคอฟฟ์ ผู้แทนพิเศษดูแลเรื่องตะวันออกกลางของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ . เจ้าหน้าที่คนหนึ่งของสหรัฐฯ เผยว่า วอชิงตันต้องการใช้โอกาสนี้พิจารณาว่า ยูเครนต้องการเพียงสันติภาพที่เป็นธรรมหรือสันติภาพที่เป็นจริง สนใจแค่พรมแดนเดิมในปี 2014 หรือพรมแดนในปี 2022 หรืออีกนัยหนึ่งคือยูเครนพร้อมประนีประนอมด้วยการยกดินแดนบางส่วนให้รัสเซียเพื่อแลกกับการยุติสงครามหรือไม่ . ขณะเดียวกัน ไบรอัน ฮิวจ์ โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของอเมริกา แถลงว่า เซเลนสกี้มีความคืบหน้าในการฟื้นคืนความสัมพันธ์วอชิงตัน-เคียฟ หลังจากปะทะคารมกับทรัมป์ระหว่างเยือนทำเนียบขาวเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ และสำทับว่า อเมริกาเฝ้ารอว่า จะเห็นการดำเนินการที่ดีเพิ่มเติมซึ่งจะนำไปสู่การยุติสงครามโหดร้ายในยูเครน . ด้านทรัมป์แสดงความเห็นแง่ดีว่า การหารือที่เจดดาห์จะมีความคืบหน้าอย่างมาก . วิตคอฟฟ์ซึ่งเป็นผู้จัดการการเจรจา เผยว่า เป้าหมายคือ การบรรลุกรอบโครงข้อตกลงสันติภาพและข้อตกลงหยุดยิงเบื้องต้น . ทั้งนี้ เซเลนสกี้ต้องการให้มการหยุดยิงทางอากาศและทะเล ตลอดจนถึงการแลกเปลี่ยนนักโทษ เพื่อทดสอบความมุ่งมั่นในการยุติสงครามของรัสเซีย ขณะที่มอสโกคัดค้านแนวคิดข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวที่อังกฤษและฝรั่งเศสเสนอ เนื่องจากเห็นว่า เป็นการซื้อเวลาของเคียฟเพื่อป้องกันไม่ให้กองทัพยูเครนล่มสลาย . ทางฝ่ายเซเลนสกี้กล่าวเมื่อคืนวันอาทิตย์ก่อนออกเดินทางไปซาอุดีอาระเบีย ว่า เขาหวังว่า การเจรจาระหว่างทีมเจ้าหน้าที่ยูเครนกับอเมริกาจะนำมาซึ่งผลลัพธ์ทั้งในด้านความคืบหน้าเกี่ยวกับสันติภาพและการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องของอเมริกา ทั้งนี้ ประธานาธิบดียูเครนมีกำหนดการเข้าพบมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ของซาอุดีอาระเบีย ในวันจันทร์ (10 ) แต่การเจรจากับทีมของสหรัฐฯในวันอังคารนั้น ตามรายงานข่าวบอกว่าเป็นภารกิจของทีมเจรจาฝ่ายยูเครน . เซเลนสกี้เสริมว่า ยูเครนพร้อมลงนามข้อตกลงแร่ธาตุกับอเมริกา ซึ่งจะมีการจัดตั้งกองทุนร่วมจากการขายแร่ธาตุของยูเครน ขณะที่วอชิงตันระบุว่า ข้อตกลงนี้มีความสำคัญต่อการที่อเมริกาจะให้การสนับสนุนเคียฟต่อไป . อย่างไรก็ดี ขณะที่การสนับสนุนของอเมริกายังไร้ความแน่นอน เซเลนสกี้ได้เรียกร้องให้พวกพันธมิตรยุโรปเพิ่มการสนับสนุนตนเอง ขณะที่เคียฟเพลี่ยงพล้ำในสนามรบมากขึ้นและกำลังถูกบดขยี้หนักให้ล่าถอยออกจากแคว้นคูร์สก์ของรัสเซีย . สำหรับมุมมองของพันธมิตรยุโรปเกี่ยวกับข้อตกลงสันติภาพนั้น มีการเตือนว่า ยูเครนควรทำข้อตกลงกับรัสเซียภายใต้จุดยืนที่แข็งแกร่งเท่านั้น อีกทั้งไม่ควรรีบร้อนเจรจากับผู้รุกราน . ทั้งนี้ เซเลนสกี้ระบุว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ไม่ต้องการสันติภาพ อีกทั้งบอกว่ารัสเซียยังจะโจมตีประเทศยุโรปอื่นๆ ต่อไปอีก ถ้าที่สุดแล้วไม่มีผลลัพธ์ชัดเจนว่า รัสเซียพ่ายแพ้ในการรุกรานยูเครน . ในทางกลับกัน วอชิงตันพยายามบีบทุกทางให้เคียฟยอมเจรจายุติสงครามกับรัสเซีย โดยล่าสุดถึงขั้นที่สหรัฐฯระงับการให้ความช่วยเหลือทางทหารและการแบ่งปันข้อมูลข่าวกรอง รวมทั้งการเข้าถึงภาพถ่ายดาวเทียมแก่ยูเครน โดยไม่ฟังเสียงพวกโปรยูเครนที่อ้างว่า ความเคลื่อนไหวนี้เสี่ยงทำให้สงครามยืดเยื้อออกไป เนื่องจากรัสเซียจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นและมีแนวโน้มลดลงในการยอมยุติศึก และยอมทำข้อตกลงสันติภาพแบบเท่าเทียมกับยูเครน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000023235 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    Haha
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1477 มุมมอง 0 รีวิว
  • รีโพสต์จากเพจเฟซบุ๊กPaisan Apacnews ของ ไพสันต์พรหมน้อย 8 มีนาคม 2568“คาสิโนเหรอ...ผมสั่งรื้อมาแล้ว โดย นาวิน ขันธหิรัญเมื่อปี 2541กระทรวงได้ย้ายผมจากนครพนมมาเป็นผู้ว่าสระแก้ว ขณะนั้นปอยเปตในฝั่งเขมรกำลังบูมการก่อสร้างเมืองขนานใหญ่มีการสร้างEntertainment Complexขนาดใหญ่ที่มีCasinoอยู่ด้วยทุกแห่งและมีนักการเมืองใหญ่ทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายเขมรเป็นหุ้นส่วนและมีนายซ๊ก อาน มหาเศรษฐีชาวเขมรเป็นผู้ประสานงานเมื่อสร้างเสร็จก็มีการเชิญผู้ใหญ่ฝั่งไทยไปเยี่ยมชมและประชาสัมพันธ์ว่าสร้างขึ้น มาเพื่อรับแขกชาวไทยเป็นหลัก เพื่อเห็นแก่สัมพันธภาพผมก็ไปร่วมชมความเจริญของเพื่อนบ้าน เดินชมไปมาไปพบว่าคาสิโนแห่งหนึ่งปลูกล้ำคลองพรมแดนเข้ามาในเขตไทย ผมจึงเรียกผู้จัดการมาแจ้งให้ทราบว่าคุณสร้างคาสิโนรุกแผ่นดินไทยแล้วยื่นคำขาดให้รื้อถอนออกไป ผู้จัดการเถึยงคอเป็นเอ็นแล้วยืนยันว่าไม่มีใครรื้อได้เพราะเจ้าของใหญ่มากอยู่ในพนมเปญ ผมไม่อยากเถียงกับผู้จัดการจึงตัดบทไปว่า...ไม่เป็นไรถ้าไม่รื้อผมจะปิดพรมแดนไม่ให้คนไทยข้ามมา(ผู้ว่าสามารถเสนอรัฐบาลปิดพรมแดนได้) จากนั้นผมก็เดินทางกลับเช้าวันรุ่งขึ้น11.00น.หน้าห้องได้เข้ามารายงานว่า นายจุม คาดาล ประธานที่ปรึกษานายกฮุนเซนขอเข้าพบอะไรจะรวดเร็วขนาดนั้น ผมพูดเรื่องปิดพรมแดนไม่ถึง24ชั่วโมงประธานที่ปรึกษานายกเขมรก็ถึงตัวผมแล้วถึงตรงนี้เพื่อนๆคงรู้แล้วว่าใครเป็นเจ้าของสถานบริการครบวงจรที่ปอยเปตฝั่งเขมร แล้วฝั่งไทยล่ะ ประเดี๋ยวตัวละครจะค่อยๆโผล่ออกมาเองครับผมออกไปเชิญนายจุม คาดาล ประธานที่ปรึกษานายกด้วยตัวเองแล้วทักทายด้วยอัธยาศัยไมตรีแล้วเชิญเข้ามานั่งเจรจากันในห้องนายจุม คาดาล เล่าให้ผมฟังว่าเมื่อวานนี้เมื่อทราบข่าวว่าคาสิโนแห่งหนึ่งสร้างล้ำเข้าไปในแผ่นดินไทยท่านนายกได้สั่งการให้ผมไปดูข้อเท็จจริงและแก้ปัญหาโดยด่วน เช้านี้ผมเลยใช้ฮ.บินจากพนมเปญมาดูข้อเท็จจริงที่หน้างานพบว่าเป็นไปตามที่ท่านผู้ว่าทักท้วงจริงผมจึงนัดรถแบคโฮลเข้าพื้นที่เพื่อทำการรื้อถอนคาสิโนในส่วนที่ล้ำเข้ามาในแผ่นดินไทยและขอเชิญท่านผู้ว่าไปชี้ว่าจะให้รื้อเข้าไปแค่ไหน บ่ายวันนั้นผมและนายจุม คาดาล จึงไปควบคุมการรื้อคาสิโนเป็นที่เรียบร้อย ผมทวงแผ่นดินไทยกลับมาได้ด้วยศิลปของนักปกครองโดยไม่ต้องเสียเลือดเนื้อและชีวิต ซึ่งน่าจะได้รับคำชมเชยแต่มันไม่เป็นเช่นนั้นครับไม่ถึงเดือนต่อมาก็มีคำสั่งย้ายผมจากสระแก้วไปสมุทรสงครามซึ่งเป็นจังหวัดเล็กกว่าในสายตาของชาวมหาดไทยถือว่าเป็นการลงโทษผมจึงถามผู้บังคับบัญชาว่าย้ายผมทำไมครับท่านตอบว่าคุณไม่รู้หรือว่าคาสิโนนี้เป็นของใคร ท่านขอให้ย้ายคุณเป็นผู้ตรวจด้วยซ้ำ แต่ทางกระทรวงทักท้วงไว้ว่าคุณไม่ได้มีความผิดอะไร แถมยังรักษาแผ่นดินไว้ให้คนไทย เอาแค่ย้ายออกจากสระแก้วและให้ลงจังหวัดเล็กลงก็น่าจะเพียงพอสำหรับผมย้ายไปจังหวัดไหนก็ทำงานได้ทั้งนั้นจังหวัดเล็กลงยิ่งทำงานง่ายขึ้นเมื่อไปรับงานที่สมุทรสงครามผมก็ทำงานอย่างมีความสุข แต่มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งท่านข้องใจไม่หายว่าทำไมผมถูกย้ายลงจังหวัดเล็กลง ทั้งๆที่ผมไม่เคยบอกท่าน ท่านผู้นั้นคือพลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ………………………..ถึงตอนนี้เพื่อนๆคงรู้แล้วว่านักการเมืองใหญ่ที่เป็นหุ้นส่วนสถานบันเทิงครบวงจรในปอยเปตนั้นคือใครถ้านึกไม่ออกผมจะบอกให้เจ้าพ่อวังน้ำเย็นไงครับและเป็นคนที่สั่งย้ายผมด้วย ..ถามว่าก่อนสั่งผมรู้ไหมว่าคาสิโนแห่งนี้เป็นของสองผู้ยิ่งใหญ่คู่นี้รู้ครับวันที่ผมสั่งผู้จัดการให้รื้ิอคาสิโนแกตกใจปากคอสั่นและยืนยีนว่ารื้อไม่ได้เป็นอันขาดเพราะเป็นของผู้ใหญ่ในพนมเปญ ซึ่งผมรู้อยู่แล้วว่าเป็นใคร จึงตัดบทไม่เจรจาด้วยส่วนเจ้าพ่อรู้สึกเสียฟอร์มที่คุ้มครองคาสิโนไม่ได้โดยเฉพาะกับฮุนเซนทางเดียวที่พอจะกู้หน้าได้คือเตะโด่งผู้ว่าไปให้พ้นหูพ้นตาเสียจะได้ไม่มายุ่งกับสถานบันเทิงของท่านอีกสะใจจริงๆนาวินใช้ชีวิตได้ผาดโผนน่าสนุกรื้อคาสิโนของนายกบ้าง ของเจ้าพ่อบ้างปัจจุบันรัฐบาลไทยกำลังจะสร้างสถานบันเทิงครบวงจรตามอย่างเขมร ผมอาจจะต้องออกมาช่วยพี่น้องชาวไทยรื้อคาสิโนในเมืองไทยอีกครั้งก็ได้ครับก่อนจบภาคแรกไปผมโปรยทิ้งไว้ว่า มีผู้ใหญ้ท่านหนึ่งข้องใจไม่หายว่าผมถูกย้ายเพราะอะไรท่านนั้นคือพลเอก เปรม ติณสูลานนท์เพื่อนๆคงสงสัยว่าท่านมาเกี่ยวข้องกับผมได้อย่างไรจึงขอย้อนอดีตเล็กน้อย..เมื่อปี 2530กรมย้ายผมมาเป็นนายอำเภอสามพรานโดยอธิบดีดำรง สุนทรศาลทูล เลือกเอามาเองเพราะว่าบ้านอธิบดีอยู่สามพราน เมื่อมารับงานก็พบว่าพลเอกเปรม..รัฐบุรุษท่านตีกอล์ฟอยู่ที่สนามสามพรานทุกอาทิตย์ผมเป็นเจ้าของพื้นที่จึงไปต้อนรับท่าน ปรากฏว่าท่านถูกใจอะไรไม่ทราบชวนผมไปตีกอล์ฟก๊วนเดียวกับท่าน ซึ่งปกติจะไม่มีใครมีโอกาสเข้าร่วมก๊วนเลย ท่านจะตีอยู่กับหมอประสบ รัตนากร เพื่อนท่านและนายทหารคนสนิทเท่านั้นในก๊วนไม่มีการพนันเล่นเพื่อออกกำลังกายเฉยๆ ผมเล่นก๊อล์ฟกับท่านรัฐบุรุษเป็นเวลาหลายปีจนสนิทกันเหมือนญาติผู้ใหญ่ผมได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ว่านครพนมท่านก็เดินทางไปเยี่ยมผม พอผมถูกย้ายมาสมุทรสงครามท่านก็มาอีกและบอกผู้ติดตามทั้งหลายว่าขอคุยกับท่านผู้ว่าเป็นการส่วนตัวดังภาพ...ทันทีที่อยู่กันสองต่อสองท่านก็ยิงคำถามใส่ผมทันที ...ผู้ว่าถูกย้ายเพราะไร ผมไปสั่งรื้อคาสิโนของนายกเขมรและนักการเมืองไทยที่ปลูกล้ำพรมแดนไทยครับ.,..ผมตอบ ...เอางั้นเลยเหรอ แล้วใครสั่งย้ายนักการเมืองไทยครับเขาคงเสียหน้า ท่านพยักหน้ารับทราบและดูยิ้มแย้มขี้น จากนั้นผมก็ส่งท่านขึ้นรถกลับพรัอมทั้งผมถอนหายใจใหญ่โล่งอกที่ไม่ได้ทำให้ท่านรัฐบุรุษผิดหวังท่านเป็นคนสะอาดมากนะครับและจะไม่ยอมให้คนสีเทาเข้ามาใกล้ตัว………………………..ขอคารวะคุณนาวิน ขันธหิรัญ อดีตผู้ว่าสระแก้วที่หาญกล้าทำให้ 2 มหามาเฟียทั้งไทยและเขมรยอมรื้อคาสิโนเขมรที่รุกล้ำพรมแดนไทย สุดยอดจริง ๆ ขอให้ท่านนำการรื้อในไทยอีกนะ ถ้ามาเฟียคนเดิมของเขมรและคนใหม่ไทยในก๊วนเก่าลงมือสร้างขึ้นอีก เท่าที่รวบรวมได้คุณนาวินเป็นผู้ว่าฯจ.นครพนม,จ.สระแก้ว จ.สมุทรสงคราม และเกษียณอายุราชการวันที่ 1 ตุลาคม 2547จากผู้ว่าฯจ.นครปฐม (นักปกครอง 10 ) เพราะอายุครบ 60 ปี ปัจจุบันท่านจะมีอายุ 80 ปีเศษ( บรรยายภาพ - เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 25 เมษายน 2556 นายนาวิน ขันธหิรัญ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ให้เกียรติมาบรรยายพิเศษให้แก่นักศึกษาหลักสูตรปลัดอำเภอ รุ่นที่ 201 รุ่นที่ 202 และรุ่นที่ 203 ในหัวข้อ "ประสบการณ์นักปกครองในการแก้ไขปัญหายาเสพติด" ณ ห้องประชุมใหญ่ ชั้น 4 อาคารสำนักอธิการ วิทยาลัยการปกครอง)”
    รีโพสต์จากเพจเฟซบุ๊กPaisan Apacnews ของ ไพสันต์พรหมน้อย 8 มีนาคม 2568“คาสิโนเหรอ...ผมสั่งรื้อมาแล้ว โดย นาวิน ขันธหิรัญเมื่อปี 2541กระทรวงได้ย้ายผมจากนครพนมมาเป็นผู้ว่าสระแก้ว ขณะนั้นปอยเปตในฝั่งเขมรกำลังบูมการก่อสร้างเมืองขนานใหญ่มีการสร้างEntertainment Complexขนาดใหญ่ที่มีCasinoอยู่ด้วยทุกแห่งและมีนักการเมืองใหญ่ทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายเขมรเป็นหุ้นส่วนและมีนายซ๊ก อาน มหาเศรษฐีชาวเขมรเป็นผู้ประสานงานเมื่อสร้างเสร็จก็มีการเชิญผู้ใหญ่ฝั่งไทยไปเยี่ยมชมและประชาสัมพันธ์ว่าสร้างขึ้น มาเพื่อรับแขกชาวไทยเป็นหลัก เพื่อเห็นแก่สัมพันธภาพผมก็ไปร่วมชมความเจริญของเพื่อนบ้าน เดินชมไปมาไปพบว่าคาสิโนแห่งหนึ่งปลูกล้ำคลองพรมแดนเข้ามาในเขตไทย ผมจึงเรียกผู้จัดการมาแจ้งให้ทราบว่าคุณสร้างคาสิโนรุกแผ่นดินไทยแล้วยื่นคำขาดให้รื้อถอนออกไป ผู้จัดการเถึยงคอเป็นเอ็นแล้วยืนยันว่าไม่มีใครรื้อได้เพราะเจ้าของใหญ่มากอยู่ในพนมเปญ ผมไม่อยากเถียงกับผู้จัดการจึงตัดบทไปว่า...ไม่เป็นไรถ้าไม่รื้อผมจะปิดพรมแดนไม่ให้คนไทยข้ามมา(ผู้ว่าสามารถเสนอรัฐบาลปิดพรมแดนได้) จากนั้นผมก็เดินทางกลับเช้าวันรุ่งขึ้น11.00น.หน้าห้องได้เข้ามารายงานว่า นายจุม คาดาล ประธานที่ปรึกษานายกฮุนเซนขอเข้าพบอะไรจะรวดเร็วขนาดนั้น ผมพูดเรื่องปิดพรมแดนไม่ถึง24ชั่วโมงประธานที่ปรึกษานายกเขมรก็ถึงตัวผมแล้วถึงตรงนี้เพื่อนๆคงรู้แล้วว่าใครเป็นเจ้าของสถานบริการครบวงจรที่ปอยเปตฝั่งเขมร แล้วฝั่งไทยล่ะ ประเดี๋ยวตัวละครจะค่อยๆโผล่ออกมาเองครับผมออกไปเชิญนายจุม คาดาล ประธานที่ปรึกษานายกด้วยตัวเองแล้วทักทายด้วยอัธยาศัยไมตรีแล้วเชิญเข้ามานั่งเจรจากันในห้องนายจุม คาดาล เล่าให้ผมฟังว่าเมื่อวานนี้เมื่อทราบข่าวว่าคาสิโนแห่งหนึ่งสร้างล้ำเข้าไปในแผ่นดินไทยท่านนายกได้สั่งการให้ผมไปดูข้อเท็จจริงและแก้ปัญหาโดยด่วน เช้านี้ผมเลยใช้ฮ.บินจากพนมเปญมาดูข้อเท็จจริงที่หน้างานพบว่าเป็นไปตามที่ท่านผู้ว่าทักท้วงจริงผมจึงนัดรถแบคโฮลเข้าพื้นที่เพื่อทำการรื้อถอนคาสิโนในส่วนที่ล้ำเข้ามาในแผ่นดินไทยและขอเชิญท่านผู้ว่าไปชี้ว่าจะให้รื้อเข้าไปแค่ไหน บ่ายวันนั้นผมและนายจุม คาดาล จึงไปควบคุมการรื้อคาสิโนเป็นที่เรียบร้อย ผมทวงแผ่นดินไทยกลับมาได้ด้วยศิลปของนักปกครองโดยไม่ต้องเสียเลือดเนื้อและชีวิต ซึ่งน่าจะได้รับคำชมเชยแต่มันไม่เป็นเช่นนั้นครับไม่ถึงเดือนต่อมาก็มีคำสั่งย้ายผมจากสระแก้วไปสมุทรสงครามซึ่งเป็นจังหวัดเล็กกว่าในสายตาของชาวมหาดไทยถือว่าเป็นการลงโทษผมจึงถามผู้บังคับบัญชาว่าย้ายผมทำไมครับท่านตอบว่าคุณไม่รู้หรือว่าคาสิโนนี้เป็นของใคร ท่านขอให้ย้ายคุณเป็นผู้ตรวจด้วยซ้ำ แต่ทางกระทรวงทักท้วงไว้ว่าคุณไม่ได้มีความผิดอะไร แถมยังรักษาแผ่นดินไว้ให้คนไทย เอาแค่ย้ายออกจากสระแก้วและให้ลงจังหวัดเล็กลงก็น่าจะเพียงพอสำหรับผมย้ายไปจังหวัดไหนก็ทำงานได้ทั้งนั้นจังหวัดเล็กลงยิ่งทำงานง่ายขึ้นเมื่อไปรับงานที่สมุทรสงครามผมก็ทำงานอย่างมีความสุข แต่มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งท่านข้องใจไม่หายว่าทำไมผมถูกย้ายลงจังหวัดเล็กลง ทั้งๆที่ผมไม่เคยบอกท่าน ท่านผู้นั้นคือพลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ………………………..ถึงตอนนี้เพื่อนๆคงรู้แล้วว่านักการเมืองใหญ่ที่เป็นหุ้นส่วนสถานบันเทิงครบวงจรในปอยเปตนั้นคือใครถ้านึกไม่ออกผมจะบอกให้เจ้าพ่อวังน้ำเย็นไงครับและเป็นคนที่สั่งย้ายผมด้วย ..ถามว่าก่อนสั่งผมรู้ไหมว่าคาสิโนแห่งนี้เป็นของสองผู้ยิ่งใหญ่คู่นี้รู้ครับวันที่ผมสั่งผู้จัดการให้รื้ิอคาสิโนแกตกใจปากคอสั่นและยืนยีนว่ารื้อไม่ได้เป็นอันขาดเพราะเป็นของผู้ใหญ่ในพนมเปญ ซึ่งผมรู้อยู่แล้วว่าเป็นใคร จึงตัดบทไม่เจรจาด้วยส่วนเจ้าพ่อรู้สึกเสียฟอร์มที่คุ้มครองคาสิโนไม่ได้โดยเฉพาะกับฮุนเซนทางเดียวที่พอจะกู้หน้าได้คือเตะโด่งผู้ว่าไปให้พ้นหูพ้นตาเสียจะได้ไม่มายุ่งกับสถานบันเทิงของท่านอีกสะใจจริงๆนาวินใช้ชีวิตได้ผาดโผนน่าสนุกรื้อคาสิโนของนายกบ้าง ของเจ้าพ่อบ้างปัจจุบันรัฐบาลไทยกำลังจะสร้างสถานบันเทิงครบวงจรตามอย่างเขมร ผมอาจจะต้องออกมาช่วยพี่น้องชาวไทยรื้อคาสิโนในเมืองไทยอีกครั้งก็ได้ครับก่อนจบภาคแรกไปผมโปรยทิ้งไว้ว่า มีผู้ใหญ้ท่านหนึ่งข้องใจไม่หายว่าผมถูกย้ายเพราะอะไรท่านนั้นคือพลเอก เปรม ติณสูลานนท์เพื่อนๆคงสงสัยว่าท่านมาเกี่ยวข้องกับผมได้อย่างไรจึงขอย้อนอดีตเล็กน้อย..เมื่อปี 2530กรมย้ายผมมาเป็นนายอำเภอสามพรานโดยอธิบดีดำรง สุนทรศาลทูล เลือกเอามาเองเพราะว่าบ้านอธิบดีอยู่สามพราน เมื่อมารับงานก็พบว่าพลเอกเปรม..รัฐบุรุษท่านตีกอล์ฟอยู่ที่สนามสามพรานทุกอาทิตย์ผมเป็นเจ้าของพื้นที่จึงไปต้อนรับท่าน ปรากฏว่าท่านถูกใจอะไรไม่ทราบชวนผมไปตีกอล์ฟก๊วนเดียวกับท่าน ซึ่งปกติจะไม่มีใครมีโอกาสเข้าร่วมก๊วนเลย ท่านจะตีอยู่กับหมอประสบ รัตนากร เพื่อนท่านและนายทหารคนสนิทเท่านั้นในก๊วนไม่มีการพนันเล่นเพื่อออกกำลังกายเฉยๆ ผมเล่นก๊อล์ฟกับท่านรัฐบุรุษเป็นเวลาหลายปีจนสนิทกันเหมือนญาติผู้ใหญ่ผมได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ว่านครพนมท่านก็เดินทางไปเยี่ยมผม พอผมถูกย้ายมาสมุทรสงครามท่านก็มาอีกและบอกผู้ติดตามทั้งหลายว่าขอคุยกับท่านผู้ว่าเป็นการส่วนตัวดังภาพ...ทันทีที่อยู่กันสองต่อสองท่านก็ยิงคำถามใส่ผมทันที ...ผู้ว่าถูกย้ายเพราะไร ผมไปสั่งรื้อคาสิโนของนายกเขมรและนักการเมืองไทยที่ปลูกล้ำพรมแดนไทยครับ.,..ผมตอบ ...เอางั้นเลยเหรอ แล้วใครสั่งย้ายนักการเมืองไทยครับเขาคงเสียหน้า ท่านพยักหน้ารับทราบและดูยิ้มแย้มขี้น จากนั้นผมก็ส่งท่านขึ้นรถกลับพรัอมทั้งผมถอนหายใจใหญ่โล่งอกที่ไม่ได้ทำให้ท่านรัฐบุรุษผิดหวังท่านเป็นคนสะอาดมากนะครับและจะไม่ยอมให้คนสีเทาเข้ามาใกล้ตัว………………………..ขอคารวะคุณนาวิน ขันธหิรัญ อดีตผู้ว่าสระแก้วที่หาญกล้าทำให้ 2 มหามาเฟียทั้งไทยและเขมรยอมรื้อคาสิโนเขมรที่รุกล้ำพรมแดนไทย สุดยอดจริง ๆ ขอให้ท่านนำการรื้อในไทยอีกนะ ถ้ามาเฟียคนเดิมของเขมรและคนใหม่ไทยในก๊วนเก่าลงมือสร้างขึ้นอีก เท่าที่รวบรวมได้คุณนาวินเป็นผู้ว่าฯจ.นครพนม,จ.สระแก้ว จ.สมุทรสงคราม และเกษียณอายุราชการวันที่ 1 ตุลาคม 2547จากผู้ว่าฯจ.นครปฐม (นักปกครอง 10 ) เพราะอายุครบ 60 ปี ปัจจุบันท่านจะมีอายุ 80 ปีเศษ( บรรยายภาพ - เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 25 เมษายน 2556 นายนาวิน ขันธหิรัญ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ให้เกียรติมาบรรยายพิเศษให้แก่นักศึกษาหลักสูตรปลัดอำเภอ รุ่นที่ 201 รุ่นที่ 202 และรุ่นที่ 203 ในหัวข้อ "ประสบการณ์นักปกครองในการแก้ไขปัญหายาเสพติด" ณ ห้องประชุมใหญ่ ชั้น 4 อาคารสำนักอธิการ วิทยาลัยการปกครอง)”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 839 มุมมอง 0 รีวิว
  • McDonald's ได้ประกาศใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินงานที่ร้านอาหารกว่า 43,000 แห่งทั่วโลก Brian Rice ผู้บริหารด้านข้อมูลของ McDonald's ระบุว่า ความสามารถในการใช้ AI นี้จะช่วยลดความเครียดที่เกิดจากการทำงานประจำวัน เช่น การจัดการกับลูกค้าและผู้ขาย รวมถึงการดูแลรักษาอุปกรณ์ที่เสียบ่อยๆ

    แพลตฟอร์ม Edge Computing: McDonald's ได้เริ่มใช้งานแพลตฟอร์ม Edge Computing ในร้านอาหารบางแห่งในสหรัฐฯ ตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยมีแผนที่จะขยายการใช้งานในปี 2025 เทคโนโลยีนี้จะช่วยทำให้กระบวนการต่างๆ ในครัวรวดเร็วขึ้น เช่น การตรวจสอบความถูกต้องของคำสั่งซื้อโดยใช้กล้องคงที่ในครัวก่อนส่งคำสั่งซื้อต่อให้ลูกค้า

    เทคโนโลยีใหม่ที่ McDonald's ใช้
    - AI อัตโนมัติสำหรับการสั่งอาหาร: McDonald's ได้ทดสอบระบบ AI ที่สามารถรับคำสั่งซื้อผ่านไดรฟ์ทรูเพื่อเพิ่มความรวดเร็วและแม่นยำ
    - การวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์: เซ็นเซอร์ที่ติดตั้งในอุปกรณ์ครัวสามารถเก็บข้อมูลแบบเรียลไทม์เพื่อตรวจสอบและทำนายว่าเครื่องทอดหรือเครื่องทำไอศกรีมจะเสียเมื่อใด
    - ผู้จัดการ AI เสมือนจริง: เทคโนโลยี Edge Computing ยังช่วยผู้จัดการร้านในงานด้านบริหารจัดการ เช่น การจัดตารางกะทำงานให้พนักงาน ระบบ AI เสมือนจริงนี้คล้ายกับที่ Taco Bell และ Pizza Hut กำลังทดสอบ

    อย่างไรก็ตาม McDonald's ต้องเผชิญกับความท้าทายในการติดตั้งเทคโนโลยีในร้านอาหารที่เป็นแฟรนไชส์และที่บริหารงานโดยบริษัท การติดตั้งเทคโนโลยีนี้มีค่าใช้จ่ายสูง ทำให้มีบางคนเสนอว่าเงินที่ใช้ลงทุนในเทคโนโลยี AI ควรใช้ไปในการฝึกอบรมพนักงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานแทน

    https://www.techspot.com/news/107065-mcdonald-turns-ai-boost-order-accuracy-stay-ahead.html
    McDonald's ได้ประกาศใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินงานที่ร้านอาหารกว่า 43,000 แห่งทั่วโลก Brian Rice ผู้บริหารด้านข้อมูลของ McDonald's ระบุว่า ความสามารถในการใช้ AI นี้จะช่วยลดความเครียดที่เกิดจากการทำงานประจำวัน เช่น การจัดการกับลูกค้าและผู้ขาย รวมถึงการดูแลรักษาอุปกรณ์ที่เสียบ่อยๆ แพลตฟอร์ม Edge Computing: McDonald's ได้เริ่มใช้งานแพลตฟอร์ม Edge Computing ในร้านอาหารบางแห่งในสหรัฐฯ ตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยมีแผนที่จะขยายการใช้งานในปี 2025 เทคโนโลยีนี้จะช่วยทำให้กระบวนการต่างๆ ในครัวรวดเร็วขึ้น เช่น การตรวจสอบความถูกต้องของคำสั่งซื้อโดยใช้กล้องคงที่ในครัวก่อนส่งคำสั่งซื้อต่อให้ลูกค้า เทคโนโลยีใหม่ที่ McDonald's ใช้ - AI อัตโนมัติสำหรับการสั่งอาหาร: McDonald's ได้ทดสอบระบบ AI ที่สามารถรับคำสั่งซื้อผ่านไดรฟ์ทรูเพื่อเพิ่มความรวดเร็วและแม่นยำ - การวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์: เซ็นเซอร์ที่ติดตั้งในอุปกรณ์ครัวสามารถเก็บข้อมูลแบบเรียลไทม์เพื่อตรวจสอบและทำนายว่าเครื่องทอดหรือเครื่องทำไอศกรีมจะเสียเมื่อใด - ผู้จัดการ AI เสมือนจริง: เทคโนโลยี Edge Computing ยังช่วยผู้จัดการร้านในงานด้านบริหารจัดการ เช่น การจัดตารางกะทำงานให้พนักงาน ระบบ AI เสมือนจริงนี้คล้ายกับที่ Taco Bell และ Pizza Hut กำลังทดสอบ อย่างไรก็ตาม McDonald's ต้องเผชิญกับความท้าทายในการติดตั้งเทคโนโลยีในร้านอาหารที่เป็นแฟรนไชส์และที่บริหารงานโดยบริษัท การติดตั้งเทคโนโลยีนี้มีค่าใช้จ่ายสูง ทำให้มีบางคนเสนอว่าเงินที่ใช้ลงทุนในเทคโนโลยี AI ควรใช้ไปในการฝึกอบรมพนักงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานแทน https://www.techspot.com/news/107065-mcdonald-turns-ai-boost-order-accuracy-stay-ahead.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    McDonald's bets on AI to boost order accuracy, streamline operations at 43,000 restaurants
    The Wall Street Journal notes that McDonald's starting rolling out edge computing platforms at some of its US restaurants last year, and plans to add more to...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 321 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถกเดือดพิมพ์แบบเรียน สกสค. ส่อกีดกัน บ.รุ่งศิลป์ เสนอราคาต่ำสุด ไม่ได้สักรายการ
    .
    “กมธ.ป.ป.ช. สภาฯ” ถกเดือดโครงการพิมพ์แบบเรียนปี 68 งบฯพันล้าน “ก.บัญชีกลาง” จัดหนัก “องค์การค้าของ สกสค.” เจตนากีดกันแข่งขัน แถมส่อล็อกสเปกกระดาษ ส่อปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ทั้งที่เคยแจ้งว่าขัด กม.จัดซื้อฯ “รุ่งศิลป์ฯ” โอดไม่ได้งานแม้แต่รายการเดียว ทั้งที่เสนอราคาต่ำกว่าอื้อ “องค์การค้าฯ” ขยี้เหตุส่งหนังสือปี 67 ไม่ทัน จนถูกบอกเลิกสัญญา เจองัดหนังสือฝ่ายผลิต องค์การค้าฯ เซ็นยอมรับส่งปกไม่ครบสวน
    .
    เมื่อวันที่ 6 มี.ค.68 ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายฉลาด ขามช่วง สส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธาน กมธ.ป.ป.ช.เป็นประธานในที่ประชุม มีการพิจารณาเรื่องร้องเรียนขอให้ตรวจสอบกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างโครงการจ้างพิมพ์หนังสือแบบเรียนปีการศึกษา 2568 จำนวน 145 รายการ งบประมาณ 1,060 ล้านบาท ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (องค์การค้าของ สกสค.) ที่มีลักษณะกีดกันการแข่งขันอย่างเป็นธรรม ซึ่ง บริษัท รุ่งศิลป์การพิมพ์ (1997) จำกัด (บจ.รุ่งศิลป์ฯ) ที่เป็นผู้ร่วมเสนอราคายื่นร้องเรียนต่อ กมธ.ฯ
    .
    ในการประชุมได้เชิญ ผู้แทน บจ.รุ่งศิลป์ฯ หรือโรงพิมพ์รุ่งศิลป์ ในฐานะผู้ร้อง, ผู้แทนองค์การค้าของ สกสค. ในฐานะผู้ถูกร้อง และผู้แทนจากหน่วยงานสังกัดกระทรวงศึกษาธิการที่เกี่ยวข้อง รวมถึง ผู้แทนกรมบัญชีกลาง ในฐานะกำกับดูแลระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ เข้าร่วมชี้แจง
    .
    นายธีรัจชัย พันธุมาศ สส.พรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธาน กมธ.ฯ คนที่ 1 ได้สอบถามถึงประเด็นที่ บจ.รุ่งศิลป์ฯ ได้ร้องเรียนว่า ในขอบเขตงาน (ทีโออาร์) ของโครงการฯ ทั้งครั้งที่เปิดประกวดราคาโดยวิธี e-bidding ซึ่งยกเลิกไปแล้ว และการประกวดราคาโดยวิธีคัดเลือก มีการระบุถึงคุณสมบัติผู้เข้าร่วมเสนอราคาว่า ต้องไม่เป็นผู้ที่ถูกองค์การค้าของ สกสค.บอกเลิกสัญญาในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่ง บจ.รุ่งศิลป์ฯ ระบุว่า ถูก องค์การค้าของ สกสค.บอกเลิกสัญญาบางรายการของโครงการจ้างพิมพ์หนังสือแบบเรียนปีการศึกษา 2567 อย่างไม่เป็นธรรม และมีการเรียกร้องค่าเสียจากทางองค์การค้าของ สกสค. รวมทั้งคดีที่ฟ้องร้องต่อศาลปกครองก็ยังไม่สิ้นสุด จึงมองว่าเป็นการกีดกัน บจ.รุ่งศิลป์ฯ ในแข่งขันโครงการฯ ปี 2568 ซึ่ง บจ.รุ่งศิลป์ฯ ก็ได้ร้องเรียนไปยัง กรมบัญชีกลาง รวมถึงยื่นคำร้องต่อ ศาลปกครองกลาง และอยู่ระหว่างการไต่สวนด้วย
    .
    ผู้แทนกรมบัญชีกลาง ชี้แจงว่า กรณีกีดกันนี้ บจ.รุ่งศิลป์ฯ ได้ร้องเรียนมายังกรมฯ 2 ครั้ง คือเมื่อวันที่ 2 ม.ค.68 ขณะมีการประกวดราคาโดยวิธี e-bidding ที่ได้ยกเลิกไปแล้ว ถือว่าคำร้องสิ้นสุด และเมื่อวันที่ 27 ก.พ.68 ช่วงประกวดราคาโดยวิธีการคัดเลือก ซึ่งอยู่ในระหว่างหาข้อมูลประกอบเพื่อพิจารณา จึงยังไม่ได้ตอบกลับข้อร้องเรียนกับทาง บจ.รุ่งศิลป์ฯ อย่างไรก็ตามเมื่อโครงการฯปี 2567 ทาง บจ.รุ่งศิลป์ฯ ก็เคยได้หารือในกรณีถูกกีดกันมาเช่นกัน กรมฯ ก็เคยตอบกลับแล้วว่า การกำหนดคุณสมบัติผู้เสนอราคาว่า ต้องไม่เคยถูกบอกเลิกสัญญา หรือเคยทำให้หน่วยงานเสียหาย ไม่สามารถกำหนดในทีโออาร์ได้ เพราะขัดกับมาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ 2560 (พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฯ)
    .
    “โดยหลักการ ไม่ว่าจะประกวดราคาด้วยวิธีการใด หากระบุในทีโออาร์เกี่ยวกับคุณสมบัติการถูกบอกเลิกสัญญา หรือทำให้หน่วยงานเสียหายในลักษณะนี้ ถือเป็นการกีดกันทั้งสิ้น ซึ่งกรมฯ ได้เคยตอบข้อหารือไปหมดแล้วว่าขัดกฎหมาย แต่หน่วยงานจะปรับแก้ไข หรือนำไปดำเนินการอย่างไร กรมฯ ไม่อาจรับรู้ได้ทุกรายการ แต่ยืนยันว่าการระบุคุณสมบัติเช่นนี้ไม่เป็นไปตามระเบียบและกฎหมาย” ผู้แทนกรมบัญชีกลาง ระบุ
    .
    ถึงช่วงนี้ นายธีรัจชัย ที่ผลัดทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมกล่าวสรุปว่า “กรณีที่ กรมบัญชีกลาง มีความเห็น หรือเคยเตือนแล้วว่า ขัดต่อกฎหมาย แต่หน่วยงานยังดำเนินการต่ออีก ก็ถือว่าเจตนาที่จะกีดกัน เข้าข่ายการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ” ซึ่งในที่ประชุมไม่มีผู้คัดค้านถ้อยคำดังกล่าว
    .
    อย่างไรก็ตามในช่วงนี้ ผู้แทนองค์การค้าของ สกสค. รวมถึงผู้แทนหน่วยงานสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ยังไม่ได้รับเชิญเข้าห้องประชุม
    .
    นายนัทธพลพงศ์ จิวัจฉรานุกูล รองกรรมการผู้จัดการ บจ.รุ่งศิลป์ฯ กล่าวต่อประชุมเสริมว่า ในการประกวดราคาโครงการฯ ปี 2568 โดยวิธีการคัดเลือก บริษัทฯก็ได้เข้าร่วมเสนอราคาด้วย และหลังจากมีการประกาศผลการประกวดราคา ปรากฎว่า บริษัทฯ ไม่ได้รับการคัดเลือกแม้แต่รายการเดียว ทั้งที่มีอย่างน้อย 30 จาก 145 รายการ ที่บริษัทฯเสนอราคาต่ำกว่าผู้ชนะการประกวดราคาค่อนข้างมาก จึงเชื่อว่ามีการใช้เงื่อนไขที่ระบุในทีโออาร์ในเรื่องการถูกบอกเลิกสัญญา รวมถึงต้องเป็นผู้ที่ไม่เคยทำให้ องค์การค้าของ สกสค.เสียหาย มากีดกันโดยตัดคะแนน หรือตัดคุณสมบัติบริษัทฯ อย่างไม่เป็นธรรม
    .
    “เรายังไม่ทราบเหตุผลที่แท้จริงว่า เหตุใดที่เราซึ่งเสนอราคาต่ำกว่าผู้ชนะในหลายรายการ แล้วแต่ละรายการก็ต่ำกว่าค่อนข้างมาก แต่กลับไม่ได้คัดเลือกเป็นผู้รับจ้างแม้แต่รายการเดียว เพราะประกาศของ องค์การค้าของ สกสค.มีเฉพาะรายชื่อผู้ชนะการประกวดราคา 145 รายการของโครงการฯ แต่ไม่ได้แนบแบบฟอร์มรายละเอียดการให้คะแนนแต่ละรายการตามที่ กรมบัญชีกลาง กำหนด อีกทั้งการประกวดราคาโดยการคัดเลือกครั้งนี้เลือกใช้ข้อ (ค.) ที่ใช้เหตุความจำเป็นเร่งด่วน ทำให้ไม่สามารถอุทธรณ์ผลการประกวดราคาได้ และทำได้เพียงร้องเรียนต่อ กรมบัญชีกลาง รวมถึงอาจจะยื่นฟ้องต่อศาลเท่านั้น“ นายนัทธพลพงศ์ กล่าว
    .
    นอกจากนี้ที่ประชุม กมธ.ฯ ยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า การที่หน่วยงานใช้เกณฑ์การประเมินค่าประสิทธิภาพต่อราคา (Price Performance) ในการประกวดราคาอาจเปิดช่องให้มีการกำหนดคุณสมบัติส่อไปในทางล็อกสเปกได้ โดยเฉพาะการจัดซื้อจัดจ้างที่มีความซับซ้อนทางเทคนิค อย่างโครงการจัดพิมพ์หนังสือแบบเรียนขององค์การค้าของ สกสค.ในช่วงหลัง ก็มีการกำหนดคุณสมบัติกระดาษ ที่มีข้อร้องเรียนว่า ไปตรงกับคุณสมบัติกระดาษของผู้นำเข้าเพียงรายเดียวในประเทศไทย
    .
    ผู้แทนกรมบัญชีกลาง กล่าวตอบว่า เป็นดุลพินิจของแต่ละหน่วยงานที่จะกำหนดใช้เกณฑ์ Price Performance หรือไม่ แต่เมื่อนำมาใช้ หน่วยงานต้องกำหนดเกณฑ์ให้ชัดเจนเพื่อให้มีการแข่งขันในด้านคุณภาพอย่างแท้จริง ซึ่งบางกรณี กรมบัญชีกลาง ก็ไม่อาจล่วงรู้ถึงเหตุผลความจำเป็นจริงๆ
    .
    “แต่ถ้าเป็นไปตามที่ กมธ.ระบุว่า กำหนดคุณสมบัติกระดาษแล้วไปตรงกับของรายใดรายหนึ่งในประเทศก็แบบนี้ถือว่า ล็อกสเปก เพราะตามกฎหมายต้องมีผู้ค้าอย่างน้อย 3 ราย” ผู้แทนกรมบัญชีกลาง ระบุ
    .
    ขณะที่ ผู้แทนองค์การค้าของ สกสค.ซึ่งเข้าร่วมชี้แจงในช่วงท้าย ได้เน้นประเด็นคุณสมบัติของ บจ.รุ่งศิลป์ฯ ว่า ในการรับจ้างพิมพ์หนังสือแบบเรียนปี 2567 นั้น บจ.รุ่งศิลป์ฯ ส่งหนังสือบางรายการไม่ทันตามกำหนดโดยอ้างว่าได้รับปกหนังสือจากองค์การค้าฯ ไม่ครบ ตามกระบวนการ องค์การค้าฯ ก็จำเป็นต้องบอกเลิกสัญญา และเรียกค่าเสียหายตามสัญญา เนื่องจากในความเป็นจริง องค์การค้าฯ ได้ส่งปกหนังสือให้ตามกำหนด และมีเกินจำนวนสำรองไปด้วย ทาง บจ.รุ่งศิลป์ฯ ก็ลงนามรับปกหนังสือไปเป็นที่เรียบร้อย แต่กลับทำหนังสือโต้แย้งหลังผ่านไปเกินกว่า 20 วันว่า ได้รับปกหนังสือไม่ครบ จึงไม่ถือเป็นความผิดพลาดองค์การค้าฯ แต่เป็นความไม่พร้อมของ บจ.รุ่งศิลป์ฯ เอง อีกทั้ง องค์การค้าฯ ก็ได้สั่งผลิตปกหนังสือเพิ่มกลับไปให้ เพราะต้องการหนังสือให้กับเด็กนักเรียนทันเปิดเทอม นอกจากนี้ บจ.รุ่งศิลป์ฯ ก็ได้ขอขยายระยะเวลาสัญญา เนื่องจากจัดส่งหนังสือได้ไม่ทันตามกำหนดด้วย
    .
    ด้าน ผู้แทน บจ.รุ่งศิลป์ฯ ชี้แจงว่า ปกหนังสือทั้งหมดตามรายการที่บริษัทฯ ได้รับว่าจ้างมีจำนวนมาก และแพ็คส่งมาในพาเลท มีการทยอยส่งมาเป็นระยะ คละกันหลายรายการ บริษัทฯ จึงไม่ได้ตรวจนับขณะได้รับจริงๆ ว่าครบถ้วนถูกต้องหรือไม่ ก่อนมาพบภายหลังว่าไม่ครบตามจำนวน และบางส่วนยังชำรุดด้วย เมื่อพบปัญหาก็ได้ทำการโต้แย้งไปยังองค์การค้าของ สกสค. และก็มีผู้รับผิดชอบขององค์การค้าของ สกสค.ลงนามรับทราบว่า ส่งปกหนังสือไม่ครบจริงๆ โดยจะขอนำส่งเอกสารดังกล่าวให้กับ กมธ.ฯ เพื่อรปะกอบการพิจารณากรณีนี้
    .
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเอกสารที่ บจ.รุ่งศิลป์ฯ ยื่นเพิ่มเติมให้แก่ กมธ.ฯนั้น เป็นบันทึกข้อความที่ สำนักบริหารการผลิต ฝ่ายการผลิต องค์การค้าของ สกสค. ลงวันที่ 11 เม.ย.67 ลงนามโดย หัวหน้าฝ่ายการผลิต องค์การค้าของ สกสค. ทำถึง บจ.รุ่งศิลป์ฯ เรื่อง ขอยืนยันจะส่งปกเพิ่มให้ครบจำนวนสั่งผลิต โดยระบุข้อความตอนหนึ่งว่า ”ได้มีการตรวจนับปกแต่ละรายการ พบว่าจำนวนใบพิมพ์ในแต่ละพาเลทมีจำนวนน้อยกว่าในใบแจ้งสถานะ องค์การค้าฯ จึงขอแจ้งกับทางบริษัทฯ ว่า ทางองค์การค้าฯ จะติดตาม ประสานงาน นำปกที่ทางบริษัทฯ แจ้งขาดจำนวน ส่งเพิ่มให้ตามจำนวนที่ทางบริษัทฯ แจ้งมา”.
    ............
    Sondhi X
    ถกเดือดพิมพ์แบบเรียน สกสค. ส่อกีดกัน บ.รุ่งศิลป์ เสนอราคาต่ำสุด ไม่ได้สักรายการ . “กมธ.ป.ป.ช. สภาฯ” ถกเดือดโครงการพิมพ์แบบเรียนปี 68 งบฯพันล้าน “ก.บัญชีกลาง” จัดหนัก “องค์การค้าของ สกสค.” เจตนากีดกันแข่งขัน แถมส่อล็อกสเปกกระดาษ ส่อปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ทั้งที่เคยแจ้งว่าขัด กม.จัดซื้อฯ “รุ่งศิลป์ฯ” โอดไม่ได้งานแม้แต่รายการเดียว ทั้งที่เสนอราคาต่ำกว่าอื้อ “องค์การค้าฯ” ขยี้เหตุส่งหนังสือปี 67 ไม่ทัน จนถูกบอกเลิกสัญญา เจองัดหนังสือฝ่ายผลิต องค์การค้าฯ เซ็นยอมรับส่งปกไม่ครบสวน . เมื่อวันที่ 6 มี.ค.68 ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายฉลาด ขามช่วง สส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธาน กมธ.ป.ป.ช.เป็นประธานในที่ประชุม มีการพิจารณาเรื่องร้องเรียนขอให้ตรวจสอบกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างโครงการจ้างพิมพ์หนังสือแบบเรียนปีการศึกษา 2568 จำนวน 145 รายการ งบประมาณ 1,060 ล้านบาท ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (องค์การค้าของ สกสค.) ที่มีลักษณะกีดกันการแข่งขันอย่างเป็นธรรม ซึ่ง บริษัท รุ่งศิลป์การพิมพ์ (1997) จำกัด (บจ.รุ่งศิลป์ฯ) ที่เป็นผู้ร่วมเสนอราคายื่นร้องเรียนต่อ กมธ.ฯ . ในการประชุมได้เชิญ ผู้แทน บจ.รุ่งศิลป์ฯ หรือโรงพิมพ์รุ่งศิลป์ ในฐานะผู้ร้อง, ผู้แทนองค์การค้าของ สกสค. ในฐานะผู้ถูกร้อง และผู้แทนจากหน่วยงานสังกัดกระทรวงศึกษาธิการที่เกี่ยวข้อง รวมถึง ผู้แทนกรมบัญชีกลาง ในฐานะกำกับดูแลระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ เข้าร่วมชี้แจง . นายธีรัจชัย พันธุมาศ สส.พรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธาน กมธ.ฯ คนที่ 1 ได้สอบถามถึงประเด็นที่ บจ.รุ่งศิลป์ฯ ได้ร้องเรียนว่า ในขอบเขตงาน (ทีโออาร์) ของโครงการฯ ทั้งครั้งที่เปิดประกวดราคาโดยวิธี e-bidding ซึ่งยกเลิกไปแล้ว และการประกวดราคาโดยวิธีคัดเลือก มีการระบุถึงคุณสมบัติผู้เข้าร่วมเสนอราคาว่า ต้องไม่เป็นผู้ที่ถูกองค์การค้าของ สกสค.บอกเลิกสัญญาในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่ง บจ.รุ่งศิลป์ฯ ระบุว่า ถูก องค์การค้าของ สกสค.บอกเลิกสัญญาบางรายการของโครงการจ้างพิมพ์หนังสือแบบเรียนปีการศึกษา 2567 อย่างไม่เป็นธรรม และมีการเรียกร้องค่าเสียจากทางองค์การค้าของ สกสค. รวมทั้งคดีที่ฟ้องร้องต่อศาลปกครองก็ยังไม่สิ้นสุด จึงมองว่าเป็นการกีดกัน บจ.รุ่งศิลป์ฯ ในแข่งขันโครงการฯ ปี 2568 ซึ่ง บจ.รุ่งศิลป์ฯ ก็ได้ร้องเรียนไปยัง กรมบัญชีกลาง รวมถึงยื่นคำร้องต่อ ศาลปกครองกลาง และอยู่ระหว่างการไต่สวนด้วย . ผู้แทนกรมบัญชีกลาง ชี้แจงว่า กรณีกีดกันนี้ บจ.รุ่งศิลป์ฯ ได้ร้องเรียนมายังกรมฯ 2 ครั้ง คือเมื่อวันที่ 2 ม.ค.68 ขณะมีการประกวดราคาโดยวิธี e-bidding ที่ได้ยกเลิกไปแล้ว ถือว่าคำร้องสิ้นสุด และเมื่อวันที่ 27 ก.พ.68 ช่วงประกวดราคาโดยวิธีการคัดเลือก ซึ่งอยู่ในระหว่างหาข้อมูลประกอบเพื่อพิจารณา จึงยังไม่ได้ตอบกลับข้อร้องเรียนกับทาง บจ.รุ่งศิลป์ฯ อย่างไรก็ตามเมื่อโครงการฯปี 2567 ทาง บจ.รุ่งศิลป์ฯ ก็เคยได้หารือในกรณีถูกกีดกันมาเช่นกัน กรมฯ ก็เคยตอบกลับแล้วว่า การกำหนดคุณสมบัติผู้เสนอราคาว่า ต้องไม่เคยถูกบอกเลิกสัญญา หรือเคยทำให้หน่วยงานเสียหาย ไม่สามารถกำหนดในทีโออาร์ได้ เพราะขัดกับมาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ 2560 (พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฯ) . “โดยหลักการ ไม่ว่าจะประกวดราคาด้วยวิธีการใด หากระบุในทีโออาร์เกี่ยวกับคุณสมบัติการถูกบอกเลิกสัญญา หรือทำให้หน่วยงานเสียหายในลักษณะนี้ ถือเป็นการกีดกันทั้งสิ้น ซึ่งกรมฯ ได้เคยตอบข้อหารือไปหมดแล้วว่าขัดกฎหมาย แต่หน่วยงานจะปรับแก้ไข หรือนำไปดำเนินการอย่างไร กรมฯ ไม่อาจรับรู้ได้ทุกรายการ แต่ยืนยันว่าการระบุคุณสมบัติเช่นนี้ไม่เป็นไปตามระเบียบและกฎหมาย” ผู้แทนกรมบัญชีกลาง ระบุ . ถึงช่วงนี้ นายธีรัจชัย ที่ผลัดทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมกล่าวสรุปว่า “กรณีที่ กรมบัญชีกลาง มีความเห็น หรือเคยเตือนแล้วว่า ขัดต่อกฎหมาย แต่หน่วยงานยังดำเนินการต่ออีก ก็ถือว่าเจตนาที่จะกีดกัน เข้าข่ายการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ” ซึ่งในที่ประชุมไม่มีผู้คัดค้านถ้อยคำดังกล่าว . อย่างไรก็ตามในช่วงนี้ ผู้แทนองค์การค้าของ สกสค. รวมถึงผู้แทนหน่วยงานสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ยังไม่ได้รับเชิญเข้าห้องประชุม . นายนัทธพลพงศ์ จิวัจฉรานุกูล รองกรรมการผู้จัดการ บจ.รุ่งศิลป์ฯ กล่าวต่อประชุมเสริมว่า ในการประกวดราคาโครงการฯ ปี 2568 โดยวิธีการคัดเลือก บริษัทฯก็ได้เข้าร่วมเสนอราคาด้วย และหลังจากมีการประกาศผลการประกวดราคา ปรากฎว่า บริษัทฯ ไม่ได้รับการคัดเลือกแม้แต่รายการเดียว ทั้งที่มีอย่างน้อย 30 จาก 145 รายการ ที่บริษัทฯเสนอราคาต่ำกว่าผู้ชนะการประกวดราคาค่อนข้างมาก จึงเชื่อว่ามีการใช้เงื่อนไขที่ระบุในทีโออาร์ในเรื่องการถูกบอกเลิกสัญญา รวมถึงต้องเป็นผู้ที่ไม่เคยทำให้ องค์การค้าของ สกสค.เสียหาย มากีดกันโดยตัดคะแนน หรือตัดคุณสมบัติบริษัทฯ อย่างไม่เป็นธรรม . “เรายังไม่ทราบเหตุผลที่แท้จริงว่า เหตุใดที่เราซึ่งเสนอราคาต่ำกว่าผู้ชนะในหลายรายการ แล้วแต่ละรายการก็ต่ำกว่าค่อนข้างมาก แต่กลับไม่ได้คัดเลือกเป็นผู้รับจ้างแม้แต่รายการเดียว เพราะประกาศของ องค์การค้าของ สกสค.มีเฉพาะรายชื่อผู้ชนะการประกวดราคา 145 รายการของโครงการฯ แต่ไม่ได้แนบแบบฟอร์มรายละเอียดการให้คะแนนแต่ละรายการตามที่ กรมบัญชีกลาง กำหนด อีกทั้งการประกวดราคาโดยการคัดเลือกครั้งนี้เลือกใช้ข้อ (ค.) ที่ใช้เหตุความจำเป็นเร่งด่วน ทำให้ไม่สามารถอุทธรณ์ผลการประกวดราคาได้ และทำได้เพียงร้องเรียนต่อ กรมบัญชีกลาง รวมถึงอาจจะยื่นฟ้องต่อศาลเท่านั้น“ นายนัทธพลพงศ์ กล่าว . นอกจากนี้ที่ประชุม กมธ.ฯ ยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า การที่หน่วยงานใช้เกณฑ์การประเมินค่าประสิทธิภาพต่อราคา (Price Performance) ในการประกวดราคาอาจเปิดช่องให้มีการกำหนดคุณสมบัติส่อไปในทางล็อกสเปกได้ โดยเฉพาะการจัดซื้อจัดจ้างที่มีความซับซ้อนทางเทคนิค อย่างโครงการจัดพิมพ์หนังสือแบบเรียนขององค์การค้าของ สกสค.ในช่วงหลัง ก็มีการกำหนดคุณสมบัติกระดาษ ที่มีข้อร้องเรียนว่า ไปตรงกับคุณสมบัติกระดาษของผู้นำเข้าเพียงรายเดียวในประเทศไทย . ผู้แทนกรมบัญชีกลาง กล่าวตอบว่า เป็นดุลพินิจของแต่ละหน่วยงานที่จะกำหนดใช้เกณฑ์ Price Performance หรือไม่ แต่เมื่อนำมาใช้ หน่วยงานต้องกำหนดเกณฑ์ให้ชัดเจนเพื่อให้มีการแข่งขันในด้านคุณภาพอย่างแท้จริง ซึ่งบางกรณี กรมบัญชีกลาง ก็ไม่อาจล่วงรู้ถึงเหตุผลความจำเป็นจริงๆ . “แต่ถ้าเป็นไปตามที่ กมธ.ระบุว่า กำหนดคุณสมบัติกระดาษแล้วไปตรงกับของรายใดรายหนึ่งในประเทศก็แบบนี้ถือว่า ล็อกสเปก เพราะตามกฎหมายต้องมีผู้ค้าอย่างน้อย 3 ราย” ผู้แทนกรมบัญชีกลาง ระบุ . ขณะที่ ผู้แทนองค์การค้าของ สกสค.ซึ่งเข้าร่วมชี้แจงในช่วงท้าย ได้เน้นประเด็นคุณสมบัติของ บจ.รุ่งศิลป์ฯ ว่า ในการรับจ้างพิมพ์หนังสือแบบเรียนปี 2567 นั้น บจ.รุ่งศิลป์ฯ ส่งหนังสือบางรายการไม่ทันตามกำหนดโดยอ้างว่าได้รับปกหนังสือจากองค์การค้าฯ ไม่ครบ ตามกระบวนการ องค์การค้าฯ ก็จำเป็นต้องบอกเลิกสัญญา และเรียกค่าเสียหายตามสัญญา เนื่องจากในความเป็นจริง องค์การค้าฯ ได้ส่งปกหนังสือให้ตามกำหนด และมีเกินจำนวนสำรองไปด้วย ทาง บจ.รุ่งศิลป์ฯ ก็ลงนามรับปกหนังสือไปเป็นที่เรียบร้อย แต่กลับทำหนังสือโต้แย้งหลังผ่านไปเกินกว่า 20 วันว่า ได้รับปกหนังสือไม่ครบ จึงไม่ถือเป็นความผิดพลาดองค์การค้าฯ แต่เป็นความไม่พร้อมของ บจ.รุ่งศิลป์ฯ เอง อีกทั้ง องค์การค้าฯ ก็ได้สั่งผลิตปกหนังสือเพิ่มกลับไปให้ เพราะต้องการหนังสือให้กับเด็กนักเรียนทันเปิดเทอม นอกจากนี้ บจ.รุ่งศิลป์ฯ ก็ได้ขอขยายระยะเวลาสัญญา เนื่องจากจัดส่งหนังสือได้ไม่ทันตามกำหนดด้วย . ด้าน ผู้แทน บจ.รุ่งศิลป์ฯ ชี้แจงว่า ปกหนังสือทั้งหมดตามรายการที่บริษัทฯ ได้รับว่าจ้างมีจำนวนมาก และแพ็คส่งมาในพาเลท มีการทยอยส่งมาเป็นระยะ คละกันหลายรายการ บริษัทฯ จึงไม่ได้ตรวจนับขณะได้รับจริงๆ ว่าครบถ้วนถูกต้องหรือไม่ ก่อนมาพบภายหลังว่าไม่ครบตามจำนวน และบางส่วนยังชำรุดด้วย เมื่อพบปัญหาก็ได้ทำการโต้แย้งไปยังองค์การค้าของ สกสค. และก็มีผู้รับผิดชอบขององค์การค้าของ สกสค.ลงนามรับทราบว่า ส่งปกหนังสือไม่ครบจริงๆ โดยจะขอนำส่งเอกสารดังกล่าวให้กับ กมธ.ฯ เพื่อรปะกอบการพิจารณากรณีนี้ . ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเอกสารที่ บจ.รุ่งศิลป์ฯ ยื่นเพิ่มเติมให้แก่ กมธ.ฯนั้น เป็นบันทึกข้อความที่ สำนักบริหารการผลิต ฝ่ายการผลิต องค์การค้าของ สกสค. ลงวันที่ 11 เม.ย.67 ลงนามโดย หัวหน้าฝ่ายการผลิต องค์การค้าของ สกสค. ทำถึง บจ.รุ่งศิลป์ฯ เรื่อง ขอยืนยันจะส่งปกเพิ่มให้ครบจำนวนสั่งผลิต โดยระบุข้อความตอนหนึ่งว่า ”ได้มีการตรวจนับปกแต่ละรายการ พบว่าจำนวนใบพิมพ์ในแต่ละพาเลทมีจำนวนน้อยกว่าในใบแจ้งสถานะ องค์การค้าฯ จึงขอแจ้งกับทางบริษัทฯ ว่า ทางองค์การค้าฯ จะติดตาม ประสานงาน นำปกที่ทางบริษัทฯ แจ้งขาดจำนวน ส่งเพิ่มให้ตามจำนวนที่ทางบริษัทฯ แจ้งมา”. ............ Sondhi X
    Like
    Haha
    Angry
    15
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2408 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไม่อยากคบ"กระติก" ให้การพิเรนทร์จนพิรุธ : [NEWS UPDATE]

    นายฉันท์ชนะ ยิ้มสาย หรือ ฮิปโป เพื่อนสนิทและผู้จัดการส่วนตัวของแตงโม นิดา เผยหลังให้ข้อมูลคดีการเสียชีวิตของแตงโมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) นานกว่า 5 ชั่วโมง ส่วนใหญ่ถามความสัมพันธ์ว่ารู้จักกับบุคคลอื่นที่ดีเอสไอต้องการทราบข้อมูลหรือไม่ ให้ข้อมูลการซื้อโทรศัพท์ของแตงโม และประเด็นเพิ่มที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ เป็นการให้ข้อมูลละเอียดกว่าที่ผ่านมา สบายใจที่หน่วยงานราชการเข้ามา ทุกคนต้องการความจริง มองคดีมีพิรุธไปหมด มีหลายคำถามในใจ ให้การพิเรนทร์จนเป็นพิรุธ ยืนยัน ไม่ได้คุยกับกระติก เจอครั้งสุดท้ายที่นิติเวช ในแชตกลุ่มกระติกถูกทุกคนรุมถามและต่อว่า “ทำไมใจดำทิ้งเพื่อน” ทำให้กระติกออกจากกลุ่มไลน์ ตนไม่อยากคบเป็นเพื่อน เชื่อกฎแห่งกรรม ใครทำอะไรก็ต้องได้รับผลของการกระทำนั้น

    -สว.พร้อมแจงฟอกเงิน

    -เร่งสอบทุจริตเลือก สว.

    -อย่าช้าตั้งทีมรับมือ"ทรัมป์"

    -ดัน พ.ร.บ.เกม ชิงเค้กตลาด
    ไม่อยากคบ"กระติก" ให้การพิเรนทร์จนพิรุธ : [NEWS UPDATE] นายฉันท์ชนะ ยิ้มสาย หรือ ฮิปโป เพื่อนสนิทและผู้จัดการส่วนตัวของแตงโม นิดา เผยหลังให้ข้อมูลคดีการเสียชีวิตของแตงโมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) นานกว่า 5 ชั่วโมง ส่วนใหญ่ถามความสัมพันธ์ว่ารู้จักกับบุคคลอื่นที่ดีเอสไอต้องการทราบข้อมูลหรือไม่ ให้ข้อมูลการซื้อโทรศัพท์ของแตงโม และประเด็นเพิ่มที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ เป็นการให้ข้อมูลละเอียดกว่าที่ผ่านมา สบายใจที่หน่วยงานราชการเข้ามา ทุกคนต้องการความจริง มองคดีมีพิรุธไปหมด มีหลายคำถามในใจ ให้การพิเรนทร์จนเป็นพิรุธ ยืนยัน ไม่ได้คุยกับกระติก เจอครั้งสุดท้ายที่นิติเวช ในแชตกลุ่มกระติกถูกทุกคนรุมถามและต่อว่า “ทำไมใจดำทิ้งเพื่อน” ทำให้กระติกออกจากกลุ่มไลน์ ตนไม่อยากคบเป็นเพื่อน เชื่อกฎแห่งกรรม ใครทำอะไรก็ต้องได้รับผลของการกระทำนั้น -สว.พร้อมแจงฟอกเงิน -เร่งสอบทุจริตเลือก สว. -อย่าช้าตั้งทีมรับมือ"ทรัมป์" -ดัน พ.ร.บ.เกม ชิงเค้กตลาด
    Like
    Love
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1266 มุมมอง 64 0 รีวิว

  • "ปอ" ให้พูด "แตงโม" ตกเรือสงสัยทำไมต้องเตี๊ยม : [NEWS UPDATE]
    นายฉันท์ชนะ ยิ้มสาย หรือ ฮิปโป เพื่อนสนิทและผู้จัดการส่วนตัวของแตงโม นิดา ให้ข้อมูลคดีการเสียชีวิตของแตงโมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ได้โทรศัพท์หาแตงโมวันที่ 24 ก.พ. 2565 วันเกิดเหตุเวลา 20.27 น. และได้คุยกับแตงโมสั้นๆ 24 วินาที โดยถามแตงโมว่าพรุ่งนี้ไปออกรายการคนเดียวได้หรือไม่ แตงโมตอบกลับว่า“แป่ปนึงเดี๋ยวโทรกลับ” น้ำเสียงแตงโมเป็นปกติมีเพียงเสียงลมที่พัดเข้าโทรศัพท์ เมื่อทราบข่าวก็ไปที่เกิดเหตุ เจอกระติก ปอ แซน ซึ่งปอโชว์โทรศัพท์ให้ดูว่าคุยกับผู้กำกับแล้วให้บอกทุกคนว่าแตงโมตกท้ายเรือ ขับเรือแปดน็อต และต้องบอกว่านี่คือความจริงว่า แตงโมไปฉี่ท้ายเรือ ซึ่งตอนนั้นก็รู้สึกงงว่าทำไมต้องเตี๊ยมกัน ไม่เชื่อแตงโมไปฉี่ท้ายเรือ มั่นใจไม่ใช่ประมาทร่วมแน่



    ใช้ 300 ล้านฮั้วเลือก สว.

    สว.ปิดปากติดต่อไม่ได้

    ปรับเกณฑ์บัตรคนจน

    จีนพร้อมสู้สงครามสหรัฐ
    "ปอ" ให้พูด "แตงโม" ตกเรือสงสัยทำไมต้องเตี๊ยม : [NEWS UPDATE] นายฉันท์ชนะ ยิ้มสาย หรือ ฮิปโป เพื่อนสนิทและผู้จัดการส่วนตัวของแตงโม นิดา ให้ข้อมูลคดีการเสียชีวิตของแตงโมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ได้โทรศัพท์หาแตงโมวันที่ 24 ก.พ. 2565 วันเกิดเหตุเวลา 20.27 น. และได้คุยกับแตงโมสั้นๆ 24 วินาที โดยถามแตงโมว่าพรุ่งนี้ไปออกรายการคนเดียวได้หรือไม่ แตงโมตอบกลับว่า“แป่ปนึงเดี๋ยวโทรกลับ” น้ำเสียงแตงโมเป็นปกติมีเพียงเสียงลมที่พัดเข้าโทรศัพท์ เมื่อทราบข่าวก็ไปที่เกิดเหตุ เจอกระติก ปอ แซน ซึ่งปอโชว์โทรศัพท์ให้ดูว่าคุยกับผู้กำกับแล้วให้บอกทุกคนว่าแตงโมตกท้ายเรือ ขับเรือแปดน็อต และต้องบอกว่านี่คือความจริงว่า แตงโมไปฉี่ท้ายเรือ ซึ่งตอนนั้นก็รู้สึกงงว่าทำไมต้องเตี๊ยมกัน ไม่เชื่อแตงโมไปฉี่ท้ายเรือ มั่นใจไม่ใช่ประมาทร่วมแน่ ใช้ 300 ล้านฮั้วเลือก สว. สว.ปิดปากติดต่อไม่ได้ ปรับเกณฑ์บัตรคนจน จีนพร้อมสู้สงครามสหรัฐ
    Like
    Haha
    Love
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1357 มุมมอง 35 0 รีวิว
  • "ปอ" โชว์มือถือคุยผู้กำกับให้บอก "แตงโม" ตกเรือ : [THE MESSAGE]
    นายฉันท์ชนะ ยิ้มสาย หรือ ฮิปโป เพื่อนสนิทและผู้จัดการส่วนตัวของแตงโม นิดา ให้ข้อมูลคดีการเสียชีวิตของแตงโมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ได้โทรศัพท์หาแตงโมวันที่ 24 ก.พ. 2565 วันเกิดเหตุเวลา 20.27 น. และได้คุยกับแตงโมสั้นๆ 24 วินาที โดยถามแตงโมว่าพรุ่งนี้ไปออกรายการคนเดียวได้หรือไม่ แตงโมตอบกลับว่า“แป่ปนึงเดี๋ยวโทรกลับ” น้ำเสียงแตงโมเป็นปกติมีเพียงเสียงลมที่พัดเข้าโทรศัพท์ เมื่อทราบข่าวก็ไปที่เกิดเหตุ เจอกระติก ปอ แซน ซึ่งปอโชว์โทรศัพท์ให้ดูว่าคุยกับผู้กำกับแล้วให้บอกทุกคนว่าแตงโมตกท้ายเรือ ขับเรือแปดน็อต และต้องบอกว่านี่คือความจริงว่า แตงโมไปฉี่ท้ายเรือ ซึ่งตอนนั้นก็รู้สึกงงว่าทำไมต้องเตี๊ยมกัน ไม่เชื่อแตงโมไปฉี่ท้ายเรือ มั่นใจไม่ใช่เป็นการประมาทร่วมแน่ ส่วนโทรศัพท์มือถือของแตงโม มี 3 เครื่อง ใช้ส่วนตัว 1 เครื่อง เพิ่งซื้อปลายปี 2564 ส่วนโทรศัพท์เก่าให้เบิร์ดใช้ ต่อมาเบิร์ดทำหายหลังแตงโมเสียชีวิตไม่กี่เดือน อีกเครื่องเป็นของพ่อซึ่งไม่ได้ใช้งาน
    "ปอ" โชว์มือถือคุยผู้กำกับให้บอก "แตงโม" ตกเรือ : [THE MESSAGE] นายฉันท์ชนะ ยิ้มสาย หรือ ฮิปโป เพื่อนสนิทและผู้จัดการส่วนตัวของแตงโม นิดา ให้ข้อมูลคดีการเสียชีวิตของแตงโมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ได้โทรศัพท์หาแตงโมวันที่ 24 ก.พ. 2565 วันเกิดเหตุเวลา 20.27 น. และได้คุยกับแตงโมสั้นๆ 24 วินาที โดยถามแตงโมว่าพรุ่งนี้ไปออกรายการคนเดียวได้หรือไม่ แตงโมตอบกลับว่า“แป่ปนึงเดี๋ยวโทรกลับ” น้ำเสียงแตงโมเป็นปกติมีเพียงเสียงลมที่พัดเข้าโทรศัพท์ เมื่อทราบข่าวก็ไปที่เกิดเหตุ เจอกระติก ปอ แซน ซึ่งปอโชว์โทรศัพท์ให้ดูว่าคุยกับผู้กำกับแล้วให้บอกทุกคนว่าแตงโมตกท้ายเรือ ขับเรือแปดน็อต และต้องบอกว่านี่คือความจริงว่า แตงโมไปฉี่ท้ายเรือ ซึ่งตอนนั้นก็รู้สึกงงว่าทำไมต้องเตี๊ยมกัน ไม่เชื่อแตงโมไปฉี่ท้ายเรือ มั่นใจไม่ใช่เป็นการประมาทร่วมแน่ ส่วนโทรศัพท์มือถือของแตงโม มี 3 เครื่อง ใช้ส่วนตัว 1 เครื่อง เพิ่งซื้อปลายปี 2564 ส่วนโทรศัพท์เก่าให้เบิร์ดใช้ ต่อมาเบิร์ดทำหายหลังแตงโมเสียชีวิตไม่กี่เดือน อีกเครื่องเป็นของพ่อซึ่งไม่ได้ใช้งาน
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1261 มุมมอง 33 0 รีวิว
  • นักพัฒนาหน้าใหม่จำนวนมากเริ่มพึ่งพา AI ในการเขียนโค้ดมากขึ้น ซึ่งทำให้ความสามารถในการเข้าใจและแก้ไขปัญหาของพวกเขาลดลง ซึ่งสร้างความกังวลในวงการเทคโนโลยี

    จากการรายงานของ Futurism.comโดย Namanyay Goel นักพัฒนาที่มีประสบการณ์ เขาได้กล่าวว่านักพัฒนาหน้าใหม่ที่เขาได้พูดคุยด้วยนั้นขาดความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับโค้ดที่พวกเขาเขียน “นักพัฒนารุ่นใหม่นี้ใช้ Copilot, Claude หรือ GPT ตลอดเวลา พวกเขาส่งโค้ดได้เร็วขึ้นกว่าเดิม แต่ถ้าถามว่าทำไมโค้ดถึงทำงานแบบนี้แทนที่จะเป็นแบบอื่น พวกเขาเงียบกริบ” Goel กล่าว

    Goel ยังเสริมอีกว่าความรู้พื้นฐานที่เคยได้จากการต่อสู้กับปัญหาได้หายไป โดยเขากังวลว่าเมื่อมีปัญหาที่ซับซ้อน นักพัฒนาที่พึ่งพา AI มากเกินไปอาจไม่สามารถเข้าใจและแก้ไขได้

    ปัญหานี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะการเขียนโค้ดเท่านั้น ในขณะที่ AI มีความสามารถมากขึ้น บริษัทเล็ก ๆ อาจถูกล่อลวงให้นำ AI มาใช้เติมช่องว่างทักษะในทีมงาน แทนที่จะจ้างผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์

    Goel สรุปประเด็นนี้ไว้ในประโยคเดียวว่า “เราต้องซื่อสัตย์กับสิ่งที่เรายอมเสียไปเพื่อความสะดวกสบาย” นี่เป็นการเตือนให้ผู้ประกอบการและผู้จัดการคำนึงถึงคุณค่าของผู้เชี่ยวชาญในทีม และมั่นใจว่านักพัฒนารุ่นใหม่เข้าใจทฤษฎีพื้นฐานของงานที่ทำอยู่

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/04/a-new-ai-worry-many-young-coders-no-longer-know-how-their-code-really-works
    นักพัฒนาหน้าใหม่จำนวนมากเริ่มพึ่งพา AI ในการเขียนโค้ดมากขึ้น ซึ่งทำให้ความสามารถในการเข้าใจและแก้ไขปัญหาของพวกเขาลดลง ซึ่งสร้างความกังวลในวงการเทคโนโลยี จากการรายงานของ Futurism.comโดย Namanyay Goel นักพัฒนาที่มีประสบการณ์ เขาได้กล่าวว่านักพัฒนาหน้าใหม่ที่เขาได้พูดคุยด้วยนั้นขาดความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับโค้ดที่พวกเขาเขียน “นักพัฒนารุ่นใหม่นี้ใช้ Copilot, Claude หรือ GPT ตลอดเวลา พวกเขาส่งโค้ดได้เร็วขึ้นกว่าเดิม แต่ถ้าถามว่าทำไมโค้ดถึงทำงานแบบนี้แทนที่จะเป็นแบบอื่น พวกเขาเงียบกริบ” Goel กล่าว Goel ยังเสริมอีกว่าความรู้พื้นฐานที่เคยได้จากการต่อสู้กับปัญหาได้หายไป โดยเขากังวลว่าเมื่อมีปัญหาที่ซับซ้อน นักพัฒนาที่พึ่งพา AI มากเกินไปอาจไม่สามารถเข้าใจและแก้ไขได้ ปัญหานี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะการเขียนโค้ดเท่านั้น ในขณะที่ AI มีความสามารถมากขึ้น บริษัทเล็ก ๆ อาจถูกล่อลวงให้นำ AI มาใช้เติมช่องว่างทักษะในทีมงาน แทนที่จะจ้างผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ Goel สรุปประเด็นนี้ไว้ในประโยคเดียวว่า “เราต้องซื่อสัตย์กับสิ่งที่เรายอมเสียไปเพื่อความสะดวกสบาย” นี่เป็นการเตือนให้ผู้ประกอบการและผู้จัดการคำนึงถึงคุณค่าของผู้เชี่ยวชาญในทีม และมั่นใจว่านักพัฒนารุ่นใหม่เข้าใจทฤษฎีพื้นฐานของงานที่ทำอยู่ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/04/a-new-ai-worry-many-young-coders-no-longer-know-how-their-code-really-works
    WWW.THESTAR.COM.MY
    A new AI worry: Many young coders no longer know how their code really works
    Research recently showed that using AI may impact workers' long term critical thinking powers. Another alarm bell raises worries that overreliance on AI to help write code will also have a long-term on the workplace.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 178 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts