• หลุม ตอนที่ 5
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หลุม”

    ตอน 5 (จบ)

    รายการขุดหลุมของฝั่งยูเครน นอกจากใช้ยาโด๊ป เกรด 2 เกรด 3 ที่วางขายกันอย่างโจ๊งครึ่มแล้ว รายนาย Saak ที่ไปเอามาเป็น ผู้ว่าการแคว้นโอเดสสา ดูเหมือนจะไม่ได้มาตัวเปล่า และภาระกิจของเขา น่าจะอยู่ตำแหน่งหัวไม้ขีดจุดชนวนได้

    ตั้งแต่ตอน นาย Saak รับใบสั่งให้เป็นประธานาธิบดีจอร์เจีย คนออกใบสั่งมีของขวัญแถมมาให้อุ่นใจ เป็นหน่วยรบปฏิบัติการพิเศษมอสสาด จากอิสราเอล จำนวนหนึ่งพันคน เอามาฝึกทหารจอร์เจีย ข่าวว่าฝึกเสร็จแล้วก็ไม่ได้กลับอิสราเอล ยังนั่งล้อมวงจั่วไพ่อยู่ในจอร์เจียต่อ… เอะ ทำไมมันเหมือนกันหมด พวกที่เข้ามาฝึกๆๆๆ แล้วไม่ออกไป หรือออกไปน้อยกว่าตอนเข้ามานี่ คุ้นๆครับ

    คราวนี้ เมื่อนาย Saak มารับตำแหน่งผู้ว่าการแคว้นโอเดสสา แกคงจะเป็นห่วงของแถมจากอิสราเอล กลัวจะเหงาจับเจ่าอยู่ในจอร์เจีย เลยขนติดตัวมาที่โอเดสสาด้วยทั้งกองพันนั่นแหละ เรื่องนี้จึงเป็นที่จับตามอง เอามาทำไมกัน เอาไว้เตรียมสู้กับทหารรัสเซียพันกว่าคน ที่ประจำอยู่ทรานนิสเตรีย เผื่อเป็นเด็กดื้อ เดินผ่านเข้ามาในยูเครนอย่างนั้นหรือ

    สื่อทั้งเล็กทั้งใหญ่ต่างวิเคราะห์ว่า ยูเครนเดินหมากแบบนี้ น่าจะเป็นชนวนให้เกิดเรื่องใหญ่ เป็นการบีบไข่รัสเซียให้หน้าเขียวได้ ถ้ารัสเซียไม่ช่วย สาวร่างบางทรานนิสเตรีย ก็เสียชื่อลูกพี่ใหญ่ตายชัก แต่ถ้าตัดสินใจลุย ก็ไม่แคล้ว ต้องมีเรื่องกับยูเครน ไม่รู้รอบที่เท่าไหร่ ยังมีมอนโดวา คอยแยงอีก โฮ้ย คราวนี้ คุณพี่ปูของผม คงหน้าเหี่ยวหล่อลดลงไปนิดหน่อย

    แม้จะมีทั้งยาโด๊ป ของแถม แต่ผมว่า นายช๊อกโกแลต ยังไงก็ไม่น่าจะทะเล่อทะล่า คิดวางแผนขุดหลุม ขุดบ่อล่อให้คุณพี่ปูตินเดินตกหลุมง่ายๆ อย่างนั้นนะ เสียชื่อมาถึงแฟนคลับหมด ยูเครนมีกำลังอะไรไปสู้รัสเซีย กระดูกเบอร์ห่างเป็นคืบ ยูเครนถูกต้มซ้ำซาก ดักดานไม่เข็ด เดือดร้อนมาถึงประชาชนของตน เจ็บตาย จากแรงยุ ดูจากยาโด๊ปแต่ละรายการมาจากไหน ก็แหล่งเดียวกันทั้งนั้น
    อเมริกา นักล่าใบตองแห้ง พยายามจะฮุบเอายูเครน ที่พลเมืองแบ่งเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งอยากไปอยู่กับรัสเสีย อีกฝ่ายอยากไปอยู่กับอียู ให้มาอยู่กับอียูทั้งหมด หรือจริงๆ ก็คือ อยู่ฝ่ายอเมริกานั่นแหละ เพราะรู้ว่ายูเครนเป็นจุดสำคัญกับรัสเซียทางด้านยุทธสาศตร์ อเมริกาพยายามมาหลายรอบ รอบสุดท้ายก็คือต้นปีที่แล้ว 2014 ก็ยังไม่สำเร็จ ยังค้างคาไม่รู้หมู่รู้จ่าเหมือนเดิม อเมริกาใช้วิธียุให้มีการประท้วงเผาเมือง โดยส่งคนไปวางแผน ก็นางเหยี่ยว Nuland นั่นแหละ รวมทั้งส่งคนไปร่วมปฏิบัติการ แล้วก็ไม่สำเร็จ (มีรายละเอียดที่น่าจะทำให้เข้าใจเรื่องมากขึ้น อยู่ในนิทานเรื่อง รุกคืบ หรือรุกฆาต และนิทานเรื่อง แกะรอยสงครามโลกครั้งที่ 3 ครับ )

    ใช้วิธียุให้เขาตีกัน ยังไม่ได้เรื่องตามต้องการ อเมริกาเปลี่ยนมาใช้วิธีหาเรื่องคว่ำบาตรรัสเซียไปเรื่อยๆก่อน แต่ที่อเมริกายังไม่มีที่ท่าว่าจะใช้ ไม่ว่าแบบเบาหรือหนัก คือ กดดันรัสเซียด้วยกองกำลังของนาโต้ เสือฟันหรอ จะว่า อเมริกาเกิดรักสงบ มันก็ผิดสันดานนักล่าใบตองแห้งมากไปหน่อย ก็น่าสงสัยว่า คงใช้นาโต้ไปไล่งับแล้ว แต่คงงับคุณพี่ปูเขาไม่เข้า ก็เสือมันฟันหรอ จะไปทำอะไรได้ เอะ … แล้วกองกำลังของอเมริกาเองล่ะ พร้อมหรือเปล่า ไม่เห็นออกข่าวมาบ้างเลย อุบไต๋เงียบเลยนะพี่

    แผนใช้เด็กๆไปขุดหลุม กะให้คุณพี่ปูเลือดขึ้นหน้า ยกทัพกรีฑามาบดขยี้ยูเครน เปิดโอกาสให้อเมริกาและชาวโลกชี้ หน้าประณามรัสเซียว่า เห็นมั้ย รัสเซียนักเลงโต แสดงความก้าวร้าวอีกแล้ว ยึดไครเมียไม่พอ จะต้องยึดยูเครนให้ได้ เรื่องแบบนี้สื่อใส่สี น่าจะเตรียมพาดหัวข่าวรอไว้ด้วยซ้ำ

    การใช้วิธีขุดหลุมล่อแบบนี้ กองกำลังของอเมริกาเอง “ควร” จะต้องพร้อม เพราะถ้ารัสเซียเกิดเลือดฝาดขึ้นหน้า ไม่สนใจหลุมลึก หลุมตื้น เดินลุยใส่ อเมริกาจะทำอย่างไร ลำพังกองทัพของนาโต้ เสือฟันหรอ ผมว่า เอารัสเซียยามนี้ไม่อยู่หรอก ต้องใช้กองกำลังของอเมริกามาร่วมด้วย

    กองเรือของอเมริกาขณะนี้ ที่ใกล้ยูเครนที่สุด น่าจะเป็นที่ไปแอบซุ่มไว้แถวสวีเดน กับแถวแคนาดา ทางทะเลบอลติกเหนือนู่น กว่าจะยุรยาตรมายูเครน ไม่ทันแกงกินแน่ อเมริกาจึงน่าจะใช้การสกัดที่มา ทางอากาศมากกว่า เล่นแบบนั้น แปลว่า อเมริกา ” พร้อม” ก่อสงคราม.. ไม่ใช่แค่สงครามยูเครน แต่อาจลามเป็นสงครามโลกได้ อเมริกา “พร้อม” ไหม
    เพราะรัสเซียกับพวก คงไม่ยอมถูกเจาะกระบาลหัวฟรีๆ มันคงต้องมีการแลกของกันหน่อย

    ส่วนรัสเซีย น่าจะรู้อยู่แล้วว่า เขากำลังขุดหลุมล่อ และน่าจะรู้นานแล้วด้วย อย่าลืมว่า ยูเครนก็แดนเก่าของสหภาพโซเวียต ครึ่งหนึ่งของชาวยูเครน ก็ยังผูกพันกับรัสเซีย รัสเซียน่าจะนั่งรอด้วยซ้ำว่า เมื่อไหร่หลุมนี้ จะขุดเสร็จ และถ้าเป็นอย่างนั้น แสดงว่า รัสเซีย “พร้อม” รับมือกับหลุมล่อของอเมริกา
    ถ้าทั้ง 2 ฝ่าย พร้อม ที่จะเล่นยาวจนเป็นสงคราม เหตุการณ์ อาจจะทยอยเกิดในหลายภูมิภาค ตั้งแต่ยุโรป ตะวันออกกลาง และเอเซีย เพราะอเมริกา จะไม่ปล่อยให้ฝั่งรัสเซีย มีการรวมตัวเพื่อส่งกำลังช่วยกัน โดยเฉพาะ ระหว่าง รัสเซีย จีน อิหร่าน เกาหลีเหนือแน่นอน อเมริกาจึงน่าจะเลือกใช้วิธี แยกจุดชนวนในภูมิภาคต่างๆ นั้น ให้เดือด ในเวลาใกล้เคียงกัน ให้แต่ละคนมัวแต่วุ่นวายอยู่กับเรื่องในบ้าน หรือใกล้บ้านตัวเอง

    และก็เป็นไปได้ว่า หลุมที่ขุดล่อนี้ อาจจะ “ฝ่อ” ไม่เป็นท่า ไม่ได้ผลทั้งฝ่ายอเมริกา ที่ไม่ “พร้อม” รบ เพราะเห็นว่า รัสเซีย ดัน “พร้อม” รับ และอาจจะรุกกลับ ถ้าเป็นอย่างนั้น เรื่องของสาวร่างบางทรานนิสเตรีย จะค่อยๆเงียบไปเอง และการตีปีบ น่าจะมีเริ่มใหม่ แต่เปลี่ยนสถานที่ ไล่ตีไปเรื่อยๆ เดี๋ยวพวกนักข่าวใส่สีจะตกงาน ของจริงคงต้องรอให้เรื่องอิหร่าน ญี่ปุ่น ลงตัวเสียก่อน เดือนมิถุนายนไปแล้วค่อยว่ากัน ส่วนบรรดาเสี่ยปั้มน้ำมันของผม ไม่ว่า ปั้มใหญ่ ปั้มเล็ก น่าจะต้องเตรียมอาชีพอื่นไว้รองรับบ้างนะครับเสี่ย

    ส่วนตัวผม เอนไปทางฝ่อนะ อเมริกา ณ ตอนนี้ น่าจะยังไม่พร้อมลุยกับคุณพี่ปูของผมหรอก คนเราถ้าพร้อม ไม่น่าตีปีบเอะอะ มาเงียบๆ มันกว่า

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    15 มิ.ย. 2558
    หลุม ตอนที่ 5 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หลุม” ตอน 5 (จบ) รายการขุดหลุมของฝั่งยูเครน นอกจากใช้ยาโด๊ป เกรด 2 เกรด 3 ที่วางขายกันอย่างโจ๊งครึ่มแล้ว รายนาย Saak ที่ไปเอามาเป็น ผู้ว่าการแคว้นโอเดสสา ดูเหมือนจะไม่ได้มาตัวเปล่า และภาระกิจของเขา น่าจะอยู่ตำแหน่งหัวไม้ขีดจุดชนวนได้ ตั้งแต่ตอน นาย Saak รับใบสั่งให้เป็นประธานาธิบดีจอร์เจีย คนออกใบสั่งมีของขวัญแถมมาให้อุ่นใจ เป็นหน่วยรบปฏิบัติการพิเศษมอสสาด จากอิสราเอล จำนวนหนึ่งพันคน เอามาฝึกทหารจอร์เจีย ข่าวว่าฝึกเสร็จแล้วก็ไม่ได้กลับอิสราเอล ยังนั่งล้อมวงจั่วไพ่อยู่ในจอร์เจียต่อ… เอะ ทำไมมันเหมือนกันหมด พวกที่เข้ามาฝึกๆๆๆ แล้วไม่ออกไป หรือออกไปน้อยกว่าตอนเข้ามานี่ คุ้นๆครับ คราวนี้ เมื่อนาย Saak มารับตำแหน่งผู้ว่าการแคว้นโอเดสสา แกคงจะเป็นห่วงของแถมจากอิสราเอล กลัวจะเหงาจับเจ่าอยู่ในจอร์เจีย เลยขนติดตัวมาที่โอเดสสาด้วยทั้งกองพันนั่นแหละ เรื่องนี้จึงเป็นที่จับตามอง เอามาทำไมกัน เอาไว้เตรียมสู้กับทหารรัสเซียพันกว่าคน ที่ประจำอยู่ทรานนิสเตรีย เผื่อเป็นเด็กดื้อ เดินผ่านเข้ามาในยูเครนอย่างนั้นหรือ สื่อทั้งเล็กทั้งใหญ่ต่างวิเคราะห์ว่า ยูเครนเดินหมากแบบนี้ น่าจะเป็นชนวนให้เกิดเรื่องใหญ่ เป็นการบีบไข่รัสเซียให้หน้าเขียวได้ ถ้ารัสเซียไม่ช่วย สาวร่างบางทรานนิสเตรีย ก็เสียชื่อลูกพี่ใหญ่ตายชัก แต่ถ้าตัดสินใจลุย ก็ไม่แคล้ว ต้องมีเรื่องกับยูเครน ไม่รู้รอบที่เท่าไหร่ ยังมีมอนโดวา คอยแยงอีก โฮ้ย คราวนี้ คุณพี่ปูของผม คงหน้าเหี่ยวหล่อลดลงไปนิดหน่อย แม้จะมีทั้งยาโด๊ป ของแถม แต่ผมว่า นายช๊อกโกแลต ยังไงก็ไม่น่าจะทะเล่อทะล่า คิดวางแผนขุดหลุม ขุดบ่อล่อให้คุณพี่ปูตินเดินตกหลุมง่ายๆ อย่างนั้นนะ เสียชื่อมาถึงแฟนคลับหมด ยูเครนมีกำลังอะไรไปสู้รัสเซีย กระดูกเบอร์ห่างเป็นคืบ ยูเครนถูกต้มซ้ำซาก ดักดานไม่เข็ด เดือดร้อนมาถึงประชาชนของตน เจ็บตาย จากแรงยุ ดูจากยาโด๊ปแต่ละรายการมาจากไหน ก็แหล่งเดียวกันทั้งนั้น อเมริกา นักล่าใบตองแห้ง พยายามจะฮุบเอายูเครน ที่พลเมืองแบ่งเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งอยากไปอยู่กับรัสเสีย อีกฝ่ายอยากไปอยู่กับอียู ให้มาอยู่กับอียูทั้งหมด หรือจริงๆ ก็คือ อยู่ฝ่ายอเมริกานั่นแหละ เพราะรู้ว่ายูเครนเป็นจุดสำคัญกับรัสเซียทางด้านยุทธสาศตร์ อเมริกาพยายามมาหลายรอบ รอบสุดท้ายก็คือต้นปีที่แล้ว 2014 ก็ยังไม่สำเร็จ ยังค้างคาไม่รู้หมู่รู้จ่าเหมือนเดิม อเมริกาใช้วิธียุให้มีการประท้วงเผาเมือง โดยส่งคนไปวางแผน ก็นางเหยี่ยว Nuland นั่นแหละ รวมทั้งส่งคนไปร่วมปฏิบัติการ แล้วก็ไม่สำเร็จ (มีรายละเอียดที่น่าจะทำให้เข้าใจเรื่องมากขึ้น อยู่ในนิทานเรื่อง รุกคืบ หรือรุกฆาต และนิทานเรื่อง แกะรอยสงครามโลกครั้งที่ 3 ครับ ) ใช้วิธียุให้เขาตีกัน ยังไม่ได้เรื่องตามต้องการ อเมริกาเปลี่ยนมาใช้วิธีหาเรื่องคว่ำบาตรรัสเซียไปเรื่อยๆก่อน แต่ที่อเมริกายังไม่มีที่ท่าว่าจะใช้ ไม่ว่าแบบเบาหรือหนัก คือ กดดันรัสเซียด้วยกองกำลังของนาโต้ เสือฟันหรอ จะว่า อเมริกาเกิดรักสงบ มันก็ผิดสันดานนักล่าใบตองแห้งมากไปหน่อย ก็น่าสงสัยว่า คงใช้นาโต้ไปไล่งับแล้ว แต่คงงับคุณพี่ปูเขาไม่เข้า ก็เสือมันฟันหรอ จะไปทำอะไรได้ เอะ … แล้วกองกำลังของอเมริกาเองล่ะ พร้อมหรือเปล่า ไม่เห็นออกข่าวมาบ้างเลย อุบไต๋เงียบเลยนะพี่ แผนใช้เด็กๆไปขุดหลุม กะให้คุณพี่ปูเลือดขึ้นหน้า ยกทัพกรีฑามาบดขยี้ยูเครน เปิดโอกาสให้อเมริกาและชาวโลกชี้ หน้าประณามรัสเซียว่า เห็นมั้ย รัสเซียนักเลงโต แสดงความก้าวร้าวอีกแล้ว ยึดไครเมียไม่พอ จะต้องยึดยูเครนให้ได้ เรื่องแบบนี้สื่อใส่สี น่าจะเตรียมพาดหัวข่าวรอไว้ด้วยซ้ำ การใช้วิธีขุดหลุมล่อแบบนี้ กองกำลังของอเมริกาเอง “ควร” จะต้องพร้อม เพราะถ้ารัสเซียเกิดเลือดฝาดขึ้นหน้า ไม่สนใจหลุมลึก หลุมตื้น เดินลุยใส่ อเมริกาจะทำอย่างไร ลำพังกองทัพของนาโต้ เสือฟันหรอ ผมว่า เอารัสเซียยามนี้ไม่อยู่หรอก ต้องใช้กองกำลังของอเมริกามาร่วมด้วย กองเรือของอเมริกาขณะนี้ ที่ใกล้ยูเครนที่สุด น่าจะเป็นที่ไปแอบซุ่มไว้แถวสวีเดน กับแถวแคนาดา ทางทะเลบอลติกเหนือนู่น กว่าจะยุรยาตรมายูเครน ไม่ทันแกงกินแน่ อเมริกาจึงน่าจะใช้การสกัดที่มา ทางอากาศมากกว่า เล่นแบบนั้น แปลว่า อเมริกา ” พร้อม” ก่อสงคราม.. ไม่ใช่แค่สงครามยูเครน แต่อาจลามเป็นสงครามโลกได้ อเมริกา “พร้อม” ไหม เพราะรัสเซียกับพวก คงไม่ยอมถูกเจาะกระบาลหัวฟรีๆ มันคงต้องมีการแลกของกันหน่อย ส่วนรัสเซีย น่าจะรู้อยู่แล้วว่า เขากำลังขุดหลุมล่อ และน่าจะรู้นานแล้วด้วย อย่าลืมว่า ยูเครนก็แดนเก่าของสหภาพโซเวียต ครึ่งหนึ่งของชาวยูเครน ก็ยังผูกพันกับรัสเซีย รัสเซียน่าจะนั่งรอด้วยซ้ำว่า เมื่อไหร่หลุมนี้ จะขุดเสร็จ และถ้าเป็นอย่างนั้น แสดงว่า รัสเซีย “พร้อม” รับมือกับหลุมล่อของอเมริกา ถ้าทั้ง 2 ฝ่าย พร้อม ที่จะเล่นยาวจนเป็นสงคราม เหตุการณ์ อาจจะทยอยเกิดในหลายภูมิภาค ตั้งแต่ยุโรป ตะวันออกกลาง และเอเซีย เพราะอเมริกา จะไม่ปล่อยให้ฝั่งรัสเซีย มีการรวมตัวเพื่อส่งกำลังช่วยกัน โดยเฉพาะ ระหว่าง รัสเซีย จีน อิหร่าน เกาหลีเหนือแน่นอน อเมริกาจึงน่าจะเลือกใช้วิธี แยกจุดชนวนในภูมิภาคต่างๆ นั้น ให้เดือด ในเวลาใกล้เคียงกัน ให้แต่ละคนมัวแต่วุ่นวายอยู่กับเรื่องในบ้าน หรือใกล้บ้านตัวเอง และก็เป็นไปได้ว่า หลุมที่ขุดล่อนี้ อาจจะ “ฝ่อ” ไม่เป็นท่า ไม่ได้ผลทั้งฝ่ายอเมริกา ที่ไม่ “พร้อม” รบ เพราะเห็นว่า รัสเซีย ดัน “พร้อม” รับ และอาจจะรุกกลับ ถ้าเป็นอย่างนั้น เรื่องของสาวร่างบางทรานนิสเตรีย จะค่อยๆเงียบไปเอง และการตีปีบ น่าจะมีเริ่มใหม่ แต่เปลี่ยนสถานที่ ไล่ตีไปเรื่อยๆ เดี๋ยวพวกนักข่าวใส่สีจะตกงาน ของจริงคงต้องรอให้เรื่องอิหร่าน ญี่ปุ่น ลงตัวเสียก่อน เดือนมิถุนายนไปแล้วค่อยว่ากัน ส่วนบรรดาเสี่ยปั้มน้ำมันของผม ไม่ว่า ปั้มใหญ่ ปั้มเล็ก น่าจะต้องเตรียมอาชีพอื่นไว้รองรับบ้างนะครับเสี่ย ส่วนตัวผม เอนไปทางฝ่อนะ อเมริกา ณ ตอนนี้ น่าจะยังไม่พร้อมลุยกับคุณพี่ปูของผมหรอก คนเราถ้าพร้อม ไม่น่าตีปีบเอะอะ มาเงียบๆ มันกว่า สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 15 มิ.ย. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลุม ตอนที่ 3 – 4
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หลุม”

    ตอน 3

    คุณช๊อกโกแลต ไปได้ยาโด๊ปมาจากไหนไม่ทราบแน่ แต่ต้องถอยหลังไปเล่าบางเรื่องของยูเครน เมื่อปลายปี ค.ศ.2014 เสียหน่อย เผื่อจะหาแหล่งขายยาโด๊ปเจอ

    ปลายเดือนตุลาคม 2014 คุณช๊อกโกแลต ประธานาธืบดียูเครน จัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ เพื่อคัดเด็กในคาถาเข้าสภาตามใจนายใหญ่ เพราะว่าสมาชิกสภาชุดที่มีอยู่ มันสั่งให้ยกมือกางแขนนอนกลิ้งยาก และกว่าจะหมดวาระ ว่าเข้าไปถึงปี 2017 โน่น ไม่ทันการแน่ ข่าวว่าการให้จัดเลือกตั้งใหม่ เป็นใบสั่งของนางเหยี่ยว Victoria Nuland เจ้าของวลีอันโด่งดัง **** the EU แห่งกระทรวงต่างประเทศของอเมริกา (อ่านรายละเอียดของสาเหตุการให้ F ของนางเหยี่ยวได้ในนิทานเรื่อง หักหน้าหักหลัง )

    เขาสั่งได้ จัดได้กันจริงๆ แล้วยูเครนก็ได้สมาชิกสภาใหม่ ที่อยู่ในแถว ภายใต้การควบคุมของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ แต่หน้าเก่า เด็กในกระเป๋าใส่เศษสตางค์ของนางเหยี่ยว ชื่อนาย Arseniy Yatsenyuk หนุ่มยิวหน้ามน อดีตนายกรัฐมนตรียูเครนสมัยหนึ่ง ที่นางเหยี่ยวเป็นผู้เลือกกับมือ ตัดหน้าอียู และเป็นอดีตรัฐมนตรีคลังอีกสมัย เรียกว่าเป็นตัวโปรดตัวจริงของนางเหยี่ยว ซึ่งข่าวบอกว่า เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของหน่วยงาน ชื่อ “Church of Scientology” ซึ่งเป็นหน่วยข่าวกรอง แขนงหนึ่งของอเมริกา อีกด้วย

    นาย Yats ไม่มาคนเดียว เขาเสนอชื่อรัฐมนตรีน่าสนใจ 3 คน

    คนแรก ชื่อ นาง Natalie Jaresko ให้เป็นรัฐมนตรีการคลัง

    คุณนาย Ja แม้จะพูดภาษายูเครนคล่องปรื้อ เพราะมาอยู่เมืองเคียฟ ( Kyiv) ต้ังแต่ปี 1992 ในฐานะเจ้าหน้าที่สถานทูตอเมริกัน ใช่ครับสถานทูตอเมริกัน ก็คุณนายเป็นคนอเมริกัน แม้จะอ้างว่ามีรากเหง้างอกจากยูเครน แต่คุณนาย Ja ก็ถือสัญชาติอเมริกัน เรียนจบ ป โท จาก ฮาร์วาด
    ปี 1995 คุณนาย Ja ลาออกจากสถานทูต ไปคุมกองทุนชื่อ Western NIS Enterprise Fund (WNISEF) ซึ่งเป็นของรัฐบาลอเมริกัน ตั้งโดยสภาสูงของอเมริกัน และเป็นเงินทุนอุดหนุนผ่าน USAID มีขนาดเงินกองทุน จำนวน 150 ล้านเหรียญ
    นอกจากนี้ คุณนาย Ja ยังบริหารกองทุน ชื่อ Horizon Capital Associates, LLC. (ไม่รู้ขนาดของกองทุน)

    ทั้ง 2 กองทุน มีวัตถุประสงค์ที่จะลงทุนในธุรกิจบริการ ธุรกิจอุตสาหกรรม ธุรกิจด้านของกินของใช้ โดยจะลงทุนในบริษัทขนาดกลาง ทั้งในยูเครน เบลาลุส และมอนโดวา เรียกว่า เป็นรายการกวาดกิจการ แถบยูเครนเข้ากระเป๋า ดูๆ ก็ไม่ต่างกับการบังคับให้แปรรูปรัฐวิสากิจ แต่ยูเครนไม่ค่อยมีรัฐวิสาหกิจจะให้แปร เลยต้องใช้กองทุนเข้าไปซื้อบริษัทแบบดื้อๆ ด้านๆ ง่ายกว่าแยะ

    เมื่อคุณนาย Ja แถลงรับตำแหน่งรัฐมนตรีคลัง คุณนายบอกว่า ทีมเราต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศ ให้มีความโปร่งใส และขจัดทุจริต ฟังคุ้นหูดีไหมครับ สงสัยพวกโพยนี่ เขาอัดโรเนียวแจกทั่วโลก และไอ้พฤติกรรมที่ทำ กับคำพูดนี่ มันก็สับปรับเหมือนกันหมด

    ผู้คนสงสัย แล้วคนอเมริกันไปเป็นรัฐมนตรีที่ยูเครนได้ยังไง เขียนมั่วหรือเปล่า ไม่มั่วครับ

    1 วันก่อนการสาบานตัวเข้ารับตำแหน่ง คุณช๊อกโกแลต ก็จัดการออกสัญชาติยูเครนให้คุณนาย Ja ก็แค่นั้นเอง คุณนายก็ถือ 2 สัญชาติควบ มีปัญหาอะไรไหม

    โปรดเชื่อมั่นในความเป็นประชาธิปไตย ของอเมริกา ที่จะเข้าไปล้วง ไปขุด ไปออกเสียง สั่งการที่ไหน แม้แต่ไปอยู่ในรัฐบาลประเทศอื่น ก็ได้ในโลก เยี่ยมจังพี่ ผมไม่เคยเห็นใครตวัดได้เก่งอย่างนี้เลย เขียนชมขนาดนี้แล้วจะเลิกป่วน เพจผมไหมครับ ไอ้เรื่องทำให้เครื่องค้าง กดอะไรไม่ได้เลย สลับข้อความ ข้อความหายนี่ ฯลฯ เล่นแบบนี้มานานแล้วนะ เบื่อฉิบหายเลย ให้มันสร้างสรรกว่านี้ได้ไหมครับ

    ส่งคุณนาย Ja มาคนเดียว คงกลัวจ่ายตลาดไม่ทัน นาย Yats เลยเสนอชื่อ นาย Aviras Abromavicius นักการเงินชาวลิทัวเนีย ให้มารับตำแหน่งรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ นาย Ab นี่ เป็นหุ้นส่วนและผู้จัดการกองทุน ชื่อ East Capital ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในสวีเดน มีกองทุนอยู่ใน ประเทศตลาดเกิดใหม่ 25 ประเทศ ขนาดของแต่กองทุน ประมาณ 100 ล้านเหรียญขึ้นไป

    ถ้าผมเป็นชาวยูเครน ผมจะยุให้มีการอารยะขัดขืน (ฮา) ไม่จ่ายภาษีจนกว่า บรรดารัฐมนตรีต่างชาตินี่ จะออกไปให้พ้นจากคณะรัฐบาล เพราะมันเป็นการดูหมิ่นประชาชนในชาติมาก ที่เอาคนต่างชาติมาบริหารชาติตนเองน่ะ ชาวยูเครนทนได้ยังไงครับ

    แล้วคุณช๊อกโกแลต ก็ออกสัญชาติยูเครนให้ นาย Ab พร้อมๆกับ คุณนาย Ja ไม่มีปัญหากับประชาธิปไตยของยูเครน แม้แต่น้อย และไม่มีไอ้พวกใบตองแห้ง มาด่าวันละ 3 เวลาหลังอาหาร เพราะมันเป็นคนจัดมาให้ (ฮา และ โห่) ต้องการประชาธิปไตยอย่างนี้ใช่ไหม ใช่ไหม ใช่ไหม

    ยังครับ ยัง ยังไม่เป็นประชาธิปไตยพอ นาย Yats เลยไปสรรหามาอีกหนึ่ง คราวนี้ได้ชาวจอร์เจีย ชื่อ Alexander Kvitashvili เขาเป็นอดีตรัฐมนตรีสาธารณะสุข ของจอร์เจีย สมัยที่ นาย Saak, Mikheil Saakashvili เป็นประธานาธิบดี ของ จอร์เจีย ( Georgia)
    นาย Kvit นี่น่าชื่นชมที่สุด ถือว่าเป็นผู้กล้าหาญจริง เป็นคนต่างชาติ ยังไม่พอ พูดภาษายูเครนไม่ได้ ฟังไม่ออกแม้แต่คำเดียว แต่รับหน้าที่จะมาปราบการทุจริต ในวงการสาธารณสุขของยูเครน ถ้าทำงานนี้สำเร็จ ควรต้องตกรางวัล ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี แทนนาย Yats เสียเลย ถ้านางเหยี่ยว Nuland ยอม

    อ้อ ตกความไปหน่อย นายKvit นี่ก็เรียนจบ ป โทที่อเมริกา และทำงานที่ Atlanta Medical Center ในอเมริกาอยู่พักหนึ่ง ก่อนกลับมาทำงานกับ United Nations Development Program ที่จอร์เจีย และทำงานร่วมกับหลายองค์กรทางด้านสาธารณสุขของอเมริกา

    ช่างเลือกกันดีนะครับ

    ##############
    ตอน 4

    เห็นแหล่งส่งยาโด๊ปของคุณช๊อกโกแลตแวบแวบ แต่ มันยังไม่ชัดเจน

    Loli Kantor เป็นนักข่าวประเภท ทั้งถ่าย(รูป)ทั้งเล่า ชาวอิสราเอล/อเมริกัน เล่าว่า เธอเดินทางไปโปแลนด์ เมื่อปี ค.ศ.2004 เพื่อไปค้นหาด้วยตัวเอง ว่าเกิดอะไรกับครอบครัวของตัวบ้างระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2

    Kantor บอกว่า พ่อแม่ของเธอรอดตายจาก Holocaust แต่ก็เห็นชื่อปู่ยาตายาย ลุงป้า ตายเกลี้ยง ตามรายชื่อที่พวกนาซีรวบรวมไว้ เธอบอกว่า ชื่อคนตาย มีแต่ ยิว ยิว ยิว ฉันเดินไปถ่ายรูปสถานที่ฆ่าหมู่ชาวยิวทั้งหลาย ฉันถามตัวเองว่า แล้วชาวยิว ที่ยังเป็นๆอยู่ในยุโรปตะวันออกมีไหม เขาอยู่ที่ไหนกัน แล้วฉันก็พบพวกเขาที่ยูเครน หลังจากน้ันเจ้าตัวก็เทียวไปเทียวมายูเครนต่อมาอีก 8 ปี และเขียนหนังสือ ชื่อ Beyond the Forest ที่มีรูปภาพเกี่ยวกับชีวิตชาวยิวรุ่นเก่า

    ระหว่างที่ถ่ายรูปทำหนังสือ Kantor ก็ได้เห็นการเกิดใหม่ของชุมชน ชาวยิว rebirth of Jewish communities ในยูเครน Kantor ตื่นเต้น เธอกลับไปคุยกับ David Fisherman ศาสตราจารย์ชาวยิว ที่ Theological Seminary of America ซึ่งก็สอนที่มหาวิทยาลัย Kiew ของยูเครนด้วย
    ท่าน ศจ บอกว่า ตอนนี้ เหมือนเป็นช่วงเวลาของการดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ ของชาวยิวกับยูเครน ไม่เคยมีช่วงไหนที่ดีอย่างนี้มาก่อนเลย มันเกิดอะไรขึ้นล่ะ Kantor ถ้าจะตกข่าวแยะ

    ท่าน ศจ บอกว่า มันคงมีส่วน มาจากการพุ่งเป็นพลุ ของนาย Ihor Kolomoyski มหาเศรษฐีใหญ่ชาวยิวนั่นแหละ ซึ่งได้รับเลือก ตั้งแต่ปีก่อน ให้เป็นผู้ว่าการเมือง Dnipropetrovsk (ถ้าสะกดผิดก็ขออำไพนะครับ เขียนยากชะมัด) ซึ่งเป็นเสมือนเมือง ศูนย์กลางของยูเครนเลยนะ ก่อนหน้านั้น นาย มอยสกี้ (Kolomoyski) สร้างศูนย์สันทนาการ มูลค่าหลายร้อยล้านเหรียญ ขึ้นที่กลางเมือง ต้ังชื่อว่า Menorah Center (menorah คือเชิงเทียน 7 กิ่ง ที่ใช้ในพิธีของชาวยิว และเป็นสัญลักษณ์ของศาสนาชาวยิว) มีของทุกอย่างเกี่ยวกับชาวยิว รวมทั้ง Holocaust Museum เรียกว่า เป็นศูนย์สันทนาการของชาวยิว ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เข้าใจไหม… อ้อ อย่างนี้นี่เอง อันนี้ผมรำพึง

    นายมอยสกี้นี่ เป็นคนพูดจาไม่อ้อมค้อม เสียงดังฟังชัด ก็ทั้งรวย ทั้งเป็นผู้ว่าฯ เราๆก็น่าจะคุ้นกับการพูดแบบนี้ของคนอย่างนี้นะครับ เขาบอกว่า เมืองนี้ ไม่มีที่ให้สำหรับพวกที่อยากไปอยู่กับรัสเซีย …เด็ดขาดจริง

    ท่าน ศจ บอก เขาพูดแบบนี้ มันเลยทำให้ภาพพจน์ของรัฐบาลใหม่ ออกกลิ่นยิวแรงไปหน่อย ไม่หน่อยหรอก ท่าน ศจ คุณประธานาธิบดี ช๊อกโกแลต เองก็เพิ่งจัดงานรำลึก 70 ปี ของ Auschwitz แถมตั้งนาย Vladimir Grossman ซึ่งเป็นชาวยิว ให้เป็นประธานสภาใหม่เอี่ยมนี่ด้วย

    Kantor ยังไม่แน่ใจ เธอไปถาม Igor Shchupak หัวหน้าพิพิธภัณฑ์ Holocaust ว่า ตกลงตอนนี้ พวกยิวที่นี่มีความสุขมากเลยใช่ไหม หัวหน้า บอก ใช่แล้ว มันเป็น golden age ของชาวยิวในยูเครนเชียวล่ะ มันเป็นฝีมือเขาละ ฝีมือของนายมอยสกี้

    นายมอยสกี้ เป็นใครมาจากไหน ข่าวบอกเขารวยมาจากการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เป็นเจ้าของบริษัทน้ำมันใหญ่ที่สุดในแถบนั้น เป็นเจ้าของสื่อ เจ้าของโรงแรม สาระพัด ฯลฯ แต่เรื่องรวย สำหรับบางคนมันอาจจะน่าตื่นเต้น แต่สำหรับชาวยิว เรื่องรวย คงไม่ใช่เป็นเรื่องต้องตื่นเต้น รวยและมีอำนาจต่างหาก ที่เป็นเรื่องจำเป็น เป็นสูตรบังคับ นายมอยสกี้จึงตั้งตัวเป็นมาเฟียใหญ่ประจำยูเครน ถนัดในการเก็บกวาดฝ่ายตรงกันข้าม ธุรกิจสีเทาอยู่ในมือเขาทั้งนั้น นายกเล็กของเมืองที่อยู่ฝั่งที่เชียร์รัสเซีย อีก 2 คน ที่ชาวบ้านเรียกชื่อว่า Dopa กับ Gepa ซึ่งแม้จะเป็นชาวยิวด้วยกัน แต่เมื่ออุดมการณ์ต่างกับเจ้าพ่อมอยสกี้ ผลปรากฏว่า คนหนึ่งจึงถูกยิง และอีกคนถูกจับติดคุก ยิวด้วยกัน ยังเล่นดุขนาดนี้
    เรื่องของนายมอยสกี้ ยังมีที่น่าสนใจ เกี่ยวพันกับสถานการณ์ปัจจุบันของยูเครนคือ นอกจากเป็นผู้ว่าการนครที่เป็นศูนย์กลางของยูเครน เป็นผู้ก่อตั้งสหภาพชาวยิวยุโรป (European Jewish Union) และประกาศชัดเจนว่าไม่เอารัสเซียแล้ว ยังมีข่าวว่า เขามีกองกำลังของตัวเอง จัดตั้งแบบพวกนาซีเยอรมัน (แต่ไม่เกี่ยวกับนาซีเยอรมัน) จำนวนประมาณ 2 หมื่นคน มีนโยบายชัดเจนว่า ถ้าอยู่คนละฝ่าย หรือไม่พอใจ ก็อย่าอยู่ร่วมกัน และนโยบายของเขาคือไม่เอารัสเซียแค่นั้น ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาเตรียมกองกำลังนี้ไว้ทำอะไร

    ยาโด๊ป ยี่ห้อ นาย Saak นายYats นายมอยสกี้ นี่เองหรือ ที่ทำให้ คุณช๊อกโกแลต เกิดฟิตจัด คิดขุดหลุมล่อรัสเซีย

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    14 มิ.ย. 2558
    หลุม ตอนที่ 3 – 4 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หลุม” ตอน 3 คุณช๊อกโกแลต ไปได้ยาโด๊ปมาจากไหนไม่ทราบแน่ แต่ต้องถอยหลังไปเล่าบางเรื่องของยูเครน เมื่อปลายปี ค.ศ.2014 เสียหน่อย เผื่อจะหาแหล่งขายยาโด๊ปเจอ ปลายเดือนตุลาคม 2014 คุณช๊อกโกแลต ประธานาธืบดียูเครน จัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ เพื่อคัดเด็กในคาถาเข้าสภาตามใจนายใหญ่ เพราะว่าสมาชิกสภาชุดที่มีอยู่ มันสั่งให้ยกมือกางแขนนอนกลิ้งยาก และกว่าจะหมดวาระ ว่าเข้าไปถึงปี 2017 โน่น ไม่ทันการแน่ ข่าวว่าการให้จัดเลือกตั้งใหม่ เป็นใบสั่งของนางเหยี่ยว Victoria Nuland เจ้าของวลีอันโด่งดัง Fuck the EU แห่งกระทรวงต่างประเทศของอเมริกา (อ่านรายละเอียดของสาเหตุการให้ F ของนางเหยี่ยวได้ในนิทานเรื่อง หักหน้าหักหลัง ) เขาสั่งได้ จัดได้กันจริงๆ แล้วยูเครนก็ได้สมาชิกสภาใหม่ ที่อยู่ในแถว ภายใต้การควบคุมของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ แต่หน้าเก่า เด็กในกระเป๋าใส่เศษสตางค์ของนางเหยี่ยว ชื่อนาย Arseniy Yatsenyuk หนุ่มยิวหน้ามน อดีตนายกรัฐมนตรียูเครนสมัยหนึ่ง ที่นางเหยี่ยวเป็นผู้เลือกกับมือ ตัดหน้าอียู และเป็นอดีตรัฐมนตรีคลังอีกสมัย เรียกว่าเป็นตัวโปรดตัวจริงของนางเหยี่ยว ซึ่งข่าวบอกว่า เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของหน่วยงาน ชื่อ “Church of Scientology” ซึ่งเป็นหน่วยข่าวกรอง แขนงหนึ่งของอเมริกา อีกด้วย นาย Yats ไม่มาคนเดียว เขาเสนอชื่อรัฐมนตรีน่าสนใจ 3 คน คนแรก ชื่อ นาง Natalie Jaresko ให้เป็นรัฐมนตรีการคลัง คุณนาย Ja แม้จะพูดภาษายูเครนคล่องปรื้อ เพราะมาอยู่เมืองเคียฟ ( Kyiv) ต้ังแต่ปี 1992 ในฐานะเจ้าหน้าที่สถานทูตอเมริกัน ใช่ครับสถานทูตอเมริกัน ก็คุณนายเป็นคนอเมริกัน แม้จะอ้างว่ามีรากเหง้างอกจากยูเครน แต่คุณนาย Ja ก็ถือสัญชาติอเมริกัน เรียนจบ ป โท จาก ฮาร์วาด ปี 1995 คุณนาย Ja ลาออกจากสถานทูต ไปคุมกองทุนชื่อ Western NIS Enterprise Fund (WNISEF) ซึ่งเป็นของรัฐบาลอเมริกัน ตั้งโดยสภาสูงของอเมริกัน และเป็นเงินทุนอุดหนุนผ่าน USAID มีขนาดเงินกองทุน จำนวน 150 ล้านเหรียญ นอกจากนี้ คุณนาย Ja ยังบริหารกองทุน ชื่อ Horizon Capital Associates, LLC. (ไม่รู้ขนาดของกองทุน) ทั้ง 2 กองทุน มีวัตถุประสงค์ที่จะลงทุนในธุรกิจบริการ ธุรกิจอุตสาหกรรม ธุรกิจด้านของกินของใช้ โดยจะลงทุนในบริษัทขนาดกลาง ทั้งในยูเครน เบลาลุส และมอนโดวา เรียกว่า เป็นรายการกวาดกิจการ แถบยูเครนเข้ากระเป๋า ดูๆ ก็ไม่ต่างกับการบังคับให้แปรรูปรัฐวิสากิจ แต่ยูเครนไม่ค่อยมีรัฐวิสาหกิจจะให้แปร เลยต้องใช้กองทุนเข้าไปซื้อบริษัทแบบดื้อๆ ด้านๆ ง่ายกว่าแยะ เมื่อคุณนาย Ja แถลงรับตำแหน่งรัฐมนตรีคลัง คุณนายบอกว่า ทีมเราต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศ ให้มีความโปร่งใส และขจัดทุจริต ฟังคุ้นหูดีไหมครับ สงสัยพวกโพยนี่ เขาอัดโรเนียวแจกทั่วโลก และไอ้พฤติกรรมที่ทำ กับคำพูดนี่ มันก็สับปรับเหมือนกันหมด ผู้คนสงสัย แล้วคนอเมริกันไปเป็นรัฐมนตรีที่ยูเครนได้ยังไง เขียนมั่วหรือเปล่า ไม่มั่วครับ 1 วันก่อนการสาบานตัวเข้ารับตำแหน่ง คุณช๊อกโกแลต ก็จัดการออกสัญชาติยูเครนให้คุณนาย Ja ก็แค่นั้นเอง คุณนายก็ถือ 2 สัญชาติควบ มีปัญหาอะไรไหม โปรดเชื่อมั่นในความเป็นประชาธิปไตย ของอเมริกา ที่จะเข้าไปล้วง ไปขุด ไปออกเสียง สั่งการที่ไหน แม้แต่ไปอยู่ในรัฐบาลประเทศอื่น ก็ได้ในโลก เยี่ยมจังพี่ ผมไม่เคยเห็นใครตวัดได้เก่งอย่างนี้เลย เขียนชมขนาดนี้แล้วจะเลิกป่วน เพจผมไหมครับ ไอ้เรื่องทำให้เครื่องค้าง กดอะไรไม่ได้เลย สลับข้อความ ข้อความหายนี่ ฯลฯ เล่นแบบนี้มานานแล้วนะ เบื่อฉิบหายเลย ให้มันสร้างสรรกว่านี้ได้ไหมครับ ส่งคุณนาย Ja มาคนเดียว คงกลัวจ่ายตลาดไม่ทัน นาย Yats เลยเสนอชื่อ นาย Aviras Abromavicius นักการเงินชาวลิทัวเนีย ให้มารับตำแหน่งรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ นาย Ab นี่ เป็นหุ้นส่วนและผู้จัดการกองทุน ชื่อ East Capital ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในสวีเดน มีกองทุนอยู่ใน ประเทศตลาดเกิดใหม่ 25 ประเทศ ขนาดของแต่กองทุน ประมาณ 100 ล้านเหรียญขึ้นไป ถ้าผมเป็นชาวยูเครน ผมจะยุให้มีการอารยะขัดขืน (ฮา) ไม่จ่ายภาษีจนกว่า บรรดารัฐมนตรีต่างชาตินี่ จะออกไปให้พ้นจากคณะรัฐบาล เพราะมันเป็นการดูหมิ่นประชาชนในชาติมาก ที่เอาคนต่างชาติมาบริหารชาติตนเองน่ะ ชาวยูเครนทนได้ยังไงครับ แล้วคุณช๊อกโกแลต ก็ออกสัญชาติยูเครนให้ นาย Ab พร้อมๆกับ คุณนาย Ja ไม่มีปัญหากับประชาธิปไตยของยูเครน แม้แต่น้อย และไม่มีไอ้พวกใบตองแห้ง มาด่าวันละ 3 เวลาหลังอาหาร เพราะมันเป็นคนจัดมาให้ (ฮา และ โห่) ต้องการประชาธิปไตยอย่างนี้ใช่ไหม ใช่ไหม ใช่ไหม ยังครับ ยัง ยังไม่เป็นประชาธิปไตยพอ นาย Yats เลยไปสรรหามาอีกหนึ่ง คราวนี้ได้ชาวจอร์เจีย ชื่อ Alexander Kvitashvili เขาเป็นอดีตรัฐมนตรีสาธารณะสุข ของจอร์เจีย สมัยที่ นาย Saak, Mikheil Saakashvili เป็นประธานาธิบดี ของ จอร์เจีย ( Georgia) นาย Kvit นี่น่าชื่นชมที่สุด ถือว่าเป็นผู้กล้าหาญจริง เป็นคนต่างชาติ ยังไม่พอ พูดภาษายูเครนไม่ได้ ฟังไม่ออกแม้แต่คำเดียว แต่รับหน้าที่จะมาปราบการทุจริต ในวงการสาธารณสุขของยูเครน ถ้าทำงานนี้สำเร็จ ควรต้องตกรางวัล ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี แทนนาย Yats เสียเลย ถ้านางเหยี่ยว Nuland ยอม อ้อ ตกความไปหน่อย นายKvit นี่ก็เรียนจบ ป โทที่อเมริกา และทำงานที่ Atlanta Medical Center ในอเมริกาอยู่พักหนึ่ง ก่อนกลับมาทำงานกับ United Nations Development Program ที่จอร์เจีย และทำงานร่วมกับหลายองค์กรทางด้านสาธารณสุขของอเมริกา ช่างเลือกกันดีนะครับ ############## ตอน 4 เห็นแหล่งส่งยาโด๊ปของคุณช๊อกโกแลตแวบแวบ แต่ มันยังไม่ชัดเจน Loli Kantor เป็นนักข่าวประเภท ทั้งถ่าย(รูป)ทั้งเล่า ชาวอิสราเอล/อเมริกัน เล่าว่า เธอเดินทางไปโปแลนด์ เมื่อปี ค.ศ.2004 เพื่อไปค้นหาด้วยตัวเอง ว่าเกิดอะไรกับครอบครัวของตัวบ้างระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 Kantor บอกว่า พ่อแม่ของเธอรอดตายจาก Holocaust แต่ก็เห็นชื่อปู่ยาตายาย ลุงป้า ตายเกลี้ยง ตามรายชื่อที่พวกนาซีรวบรวมไว้ เธอบอกว่า ชื่อคนตาย มีแต่ ยิว ยิว ยิว ฉันเดินไปถ่ายรูปสถานที่ฆ่าหมู่ชาวยิวทั้งหลาย ฉันถามตัวเองว่า แล้วชาวยิว ที่ยังเป็นๆอยู่ในยุโรปตะวันออกมีไหม เขาอยู่ที่ไหนกัน แล้วฉันก็พบพวกเขาที่ยูเครน หลังจากน้ันเจ้าตัวก็เทียวไปเทียวมายูเครนต่อมาอีก 8 ปี และเขียนหนังสือ ชื่อ Beyond the Forest ที่มีรูปภาพเกี่ยวกับชีวิตชาวยิวรุ่นเก่า ระหว่างที่ถ่ายรูปทำหนังสือ Kantor ก็ได้เห็นการเกิดใหม่ของชุมชน ชาวยิว rebirth of Jewish communities ในยูเครน Kantor ตื่นเต้น เธอกลับไปคุยกับ David Fisherman ศาสตราจารย์ชาวยิว ที่ Theological Seminary of America ซึ่งก็สอนที่มหาวิทยาลัย Kiew ของยูเครนด้วย ท่าน ศจ บอกว่า ตอนนี้ เหมือนเป็นช่วงเวลาของการดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ ของชาวยิวกับยูเครน ไม่เคยมีช่วงไหนที่ดีอย่างนี้มาก่อนเลย มันเกิดอะไรขึ้นล่ะ Kantor ถ้าจะตกข่าวแยะ ท่าน ศจ บอกว่า มันคงมีส่วน มาจากการพุ่งเป็นพลุ ของนาย Ihor Kolomoyski มหาเศรษฐีใหญ่ชาวยิวนั่นแหละ ซึ่งได้รับเลือก ตั้งแต่ปีก่อน ให้เป็นผู้ว่าการเมือง Dnipropetrovsk (ถ้าสะกดผิดก็ขออำไพนะครับ เขียนยากชะมัด) ซึ่งเป็นเสมือนเมือง ศูนย์กลางของยูเครนเลยนะ ก่อนหน้านั้น นาย มอยสกี้ (Kolomoyski) สร้างศูนย์สันทนาการ มูลค่าหลายร้อยล้านเหรียญ ขึ้นที่กลางเมือง ต้ังชื่อว่า Menorah Center (menorah คือเชิงเทียน 7 กิ่ง ที่ใช้ในพิธีของชาวยิว และเป็นสัญลักษณ์ของศาสนาชาวยิว) มีของทุกอย่างเกี่ยวกับชาวยิว รวมทั้ง Holocaust Museum เรียกว่า เป็นศูนย์สันทนาการของชาวยิว ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เข้าใจไหม… อ้อ อย่างนี้นี่เอง อันนี้ผมรำพึง นายมอยสกี้นี่ เป็นคนพูดจาไม่อ้อมค้อม เสียงดังฟังชัด ก็ทั้งรวย ทั้งเป็นผู้ว่าฯ เราๆก็น่าจะคุ้นกับการพูดแบบนี้ของคนอย่างนี้นะครับ เขาบอกว่า เมืองนี้ ไม่มีที่ให้สำหรับพวกที่อยากไปอยู่กับรัสเซีย …เด็ดขาดจริง ท่าน ศจ บอก เขาพูดแบบนี้ มันเลยทำให้ภาพพจน์ของรัฐบาลใหม่ ออกกลิ่นยิวแรงไปหน่อย ไม่หน่อยหรอก ท่าน ศจ คุณประธานาธิบดี ช๊อกโกแลต เองก็เพิ่งจัดงานรำลึก 70 ปี ของ Auschwitz แถมตั้งนาย Vladimir Grossman ซึ่งเป็นชาวยิว ให้เป็นประธานสภาใหม่เอี่ยมนี่ด้วย Kantor ยังไม่แน่ใจ เธอไปถาม Igor Shchupak หัวหน้าพิพิธภัณฑ์ Holocaust ว่า ตกลงตอนนี้ พวกยิวที่นี่มีความสุขมากเลยใช่ไหม หัวหน้า บอก ใช่แล้ว มันเป็น golden age ของชาวยิวในยูเครนเชียวล่ะ มันเป็นฝีมือเขาละ ฝีมือของนายมอยสกี้ นายมอยสกี้ เป็นใครมาจากไหน ข่าวบอกเขารวยมาจากการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เป็นเจ้าของบริษัทน้ำมันใหญ่ที่สุดในแถบนั้น เป็นเจ้าของสื่อ เจ้าของโรงแรม สาระพัด ฯลฯ แต่เรื่องรวย สำหรับบางคนมันอาจจะน่าตื่นเต้น แต่สำหรับชาวยิว เรื่องรวย คงไม่ใช่เป็นเรื่องต้องตื่นเต้น รวยและมีอำนาจต่างหาก ที่เป็นเรื่องจำเป็น เป็นสูตรบังคับ นายมอยสกี้จึงตั้งตัวเป็นมาเฟียใหญ่ประจำยูเครน ถนัดในการเก็บกวาดฝ่ายตรงกันข้าม ธุรกิจสีเทาอยู่ในมือเขาทั้งนั้น นายกเล็กของเมืองที่อยู่ฝั่งที่เชียร์รัสเซีย อีก 2 คน ที่ชาวบ้านเรียกชื่อว่า Dopa กับ Gepa ซึ่งแม้จะเป็นชาวยิวด้วยกัน แต่เมื่ออุดมการณ์ต่างกับเจ้าพ่อมอยสกี้ ผลปรากฏว่า คนหนึ่งจึงถูกยิง และอีกคนถูกจับติดคุก ยิวด้วยกัน ยังเล่นดุขนาดนี้ เรื่องของนายมอยสกี้ ยังมีที่น่าสนใจ เกี่ยวพันกับสถานการณ์ปัจจุบันของยูเครนคือ นอกจากเป็นผู้ว่าการนครที่เป็นศูนย์กลางของยูเครน เป็นผู้ก่อตั้งสหภาพชาวยิวยุโรป (European Jewish Union) และประกาศชัดเจนว่าไม่เอารัสเซียแล้ว ยังมีข่าวว่า เขามีกองกำลังของตัวเอง จัดตั้งแบบพวกนาซีเยอรมัน (แต่ไม่เกี่ยวกับนาซีเยอรมัน) จำนวนประมาณ 2 หมื่นคน มีนโยบายชัดเจนว่า ถ้าอยู่คนละฝ่าย หรือไม่พอใจ ก็อย่าอยู่ร่วมกัน และนโยบายของเขาคือไม่เอารัสเซียแค่นั้น ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาเตรียมกองกำลังนี้ไว้ทำอะไร ยาโด๊ป ยี่ห้อ นาย Saak นายYats นายมอยสกี้ นี่เองหรือ ที่ทำให้ คุณช๊อกโกแลต เกิดฟิตจัด คิดขุดหลุมล่อรัสเซีย สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 14 มิ.ย. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 54 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลุม ตอนที่ 1 – 2
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หลุม”

    ตอน 1

    เมื่อราวช่วงต้นสัปดาห์นี้ นักวิเคราะห์ที่ติดตามการเมืองระดับโลก เริ่มมีอาการตื่นเต้นกับชื่อ ทรานนิสเตรีย (Transnistria) ชาวบ้านอย่างเราๆ ก็ตื่นเหมือนกัน เพราะไม่รู้ว่ามันเป็นชื่อของอะไร ที่แน่ๆ ยังงงว่าทำไมเขาตื่นเต้นกัน

    ทรานนิสเตรีย หรือชื่อเต็มว่า Transnistria Moldov Republic (TMR) เป็นรัฐเล็กๆน่าเอ็นดู รูปร่างยาวบาง อยู่ระหว่างกลาง มอนโดวา ( Moldova) ด้านหนึ่ง กับยูเครน (Ukraine) อีกด้านหนึ่ง เหมือนเป็นแผ่นแฮม ถูกขนมปัง 2 แผ่นประกบไว้ มันก็น่าเสียวว่าจะถูกงับ ทั้งยูเครน มอนโดวา และทรานนิสเตรีย ต่างเคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียตทั้งสิ้น ก่อนฝ่ายตะวันตก ที่นำโดยอเมริกาและอังกฤษ วางแผนทุบเสียจนสหภาพโซเวียตแตกกระจายในปีช่วง ค.ศ.1989-1991 เพื่อตัดตอนสหภาพโซเวียต ให้เหลือเป็นเพียงประเทศรัสเซีย โดยหวังว่า วันหนึ่ง ประเทศรัสเซียก็จะต้องไม่มีเหลือด้วย

    แม้จะแทบไม่มีใครรู้จัก หรือเคยได้ยินชื่อ แต่อย่าหมิ่นเขาเชียว ทรานนิสเตรีย เขาหาญกล้านัก ปี ค.ศ.1990 มอนโดวาซึ่งตอนนั้นยังมีทรานนิสเตรียรวมอยู่ด้วย เกิดเคลิ้ม คิดอยากจะไปรวมกับรูมาเนีย ซึ่งฝั่งทรานนิสเตรียรังเกียจ เนื่องจาก รูมาเนียคิดจะเปลี่ยนรากภาษา และวัฒนธรรมของมอนโดวาและทรานนิสเตรีย ให้เป็นแบบของตัว ทรานนิสเตรียหวงแหนรากเหง้าของตัวเอง ไม่เอาด้วย จึงประกาศตัวเป็นเอกราชไม่ขึ้นกับใคร แถมแสดงท่าทีว่า ที่แท้ใจยังผูกพันธ์กับพี่ใหญ่รัสเซียมากกว่า

    ทรานนิสเตรีย มีพลเมืองแค่ประมาณไม่เกิน 6 แสนคน แบ่งเป็น 3 เชื้อสาย ในอัตราใกล้เคียงกัน คือ เป็นชาวมอนโดเวียน ชาวยูเครน และเป็นรัสเซียแท้ ที่เหลือเป็นชาวยิว และอื่นๆ
    ในปี ค.ศ.1992 คงจะเป็นจากส่วนผสมของพลเมืองที่ มีเชื้อสาย และความผูกพันต่างกัน ชาวทรานนิสเตรีย เจอลูกยุจากภายนอก ก็เกิดรบกันเอง รัสเซียในฐานะพี่ใหญ่ ก็ส่งกำลังทหารประมาณพันห้าร้อยคนเข้ามาเป็นกรรมการห้ามมวย หรือ peace keeper แล้วทรานนิสเตรียก็สงบเรียบร้อย ไม่มีการขว้างขวดปาอิฐใส่กันอีก ส่วนกรรมการห้ามมวยที่เข้ามาตั้ง แต่ตอนนั้น ก็ยังอยู่มาถึงตอนนี้ ไม่ได้กลับออกไป น่าจะมีตัวเล็กตัวน้อย งอกขึ้นมาเดินตามเป็นพรวน ยิ่งทำให้ทิ้งไปยาก และก็ทำให้รัสเซียกลายเป็นผู้เลี้ยงดู ส่งเสีย สาวร่างบางทรานนิสเตรียจนทุกวันนี้ สาวร่างบางก็ไม่ได้รังเกียจบ่นว่าอะไร พวกเขาก็ดูจะอยู่กันอย่างอบอุ่นดี

    คงเพราะดูอบอุ่นดีนี่แหละ เพื่อนบ้านที่เคยเป็นบ้านเดียวกันมาก่อน ก็ชักหมั่นไส้ มอนโดวา ซึ่งแม้จะเคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต แต่ตอนหลังคิดว่าหญ้าฝั่งอียูเขียวกว่า เพราะถูกอเมริกาหลอกไว้แยะ แถมมีโรมาเนีย ลูกหาบชั้นปลายแถวของอเมริกาในแถบยุโรปตะวันออกกลาง คอยหนุน เลยประกาศเสียงดัง ให้รัสเซียได้ยินว่า ฉันจะไปอยู่กับทางนู้นแล้วนะ รัสเซียฟังแล้วก็แสดงอาการทองไม่รู้ร้อน อาการอย่างนี้ สร้างความเสียหน้าให้มอนโดวาเอาเรื่องอยู่ และมอนโดวาก็รอโอกาสที่จะเอาหน้าคืน

    มอนโดวา เปลี่ยนบทใหม่ หันไปชวนเพื่อนสาวร่างบาง ทรานนิสเตรีย ซึ่งก็ฉีกสัมพันธ์สะบั้นกันไปแล้ว กลับมาทำปากหวาน นี่เธอ เรากลับมารวมประเทศกันใหม่ดีมั้ย เธอไม่ควรไว้ใจรัสเซียมากกว่าฉันนะ ไม่งั้น เธอก็ควรไล่รัสเซียออกไปจากบ้านเธอ เพราะฉันไม่พอใจให้เขามาอยู่ใกล้บ้านฉันแบบนี้ เดียวมาจะผนวก บวกเอาฉันเข้าไปด้วย บทนี้เข้าใจว่า ไอ้นักล่าใบตองแห้งกับนาโต้ ไอ้เสือฟันหลอ คงเป็นคนเขียนโพยให้

    ทรานนิสเตรียถึงจะจิ๋วแต่เจ๋ง ไม่เชื่อขี้หน้ามอนโดวา ตั้งแต่บัดนั้นถึงบัดนี้ พลเมืองทรานนิสเตรีย แม้จะต่างสายต่างเชื้อ แต่มาบัดนี้เข้าใจเล่ห์ลูกยุดี จึงยังเชื่อใจรัสเซียมากกว่า ทรานสนิสเตรีย ตอกกลับมอนโดวา นี่เธอมาจุ้นอะไร รัสเซียเขามาอยู่ในบ้านฉันนะ ไม่ใช่บ้านเธอ ฉันจะไปไล่เขาทำไม ก็ฉันชอบของฉัน ว่าแล้วก็ด่าไปอีก 2 คำ ข่าวที่ผมอ่าน เขาบอกว่า ทรานนิสเตรีย ถึงกับให้นิ้วกลางกับจอมจุ้นมอนโดวา พริกขี้หนูเม็ดจิ๋ว แต่เผ็ดถึงใจ
    อเมริกาและนาโต้ ที่เฝ้าดูการเคลื่อนไหวของรัสเซียในแถบนั้นอย่างใกล้ชิด ชนิดกันชนกระแทกกันหลายที ตั้งแต่อเมริกาเข้าไปอุ้มยูเครน ในปี ค.ศ.2004 มาถึงตอนนี้ คงแอบคิดอะไรอยู่ จึงเริ่มขยับ เดินหมากรอบใหม่ เหมือนอยากจะรุกรัสเซีย โดยใช้หมากตัวเดิม ชื่อ ยูเครน ที่มีข่าวว่า อาจจะกลายเป็นแดนสวรรค์ของบางกลุ่มชน พอจะเดาออกไหมครับ

    ###############
    ตอน 2

    หมากยูเครน ซี่งเงื้อเก้อมานานจนเมื่อย เพราะคิดว่ารัสเซียจะมาออกกำลังใกล้ๆ แต่รัสเซียเพียงแค่ขยับขาแก้เหน็บกิน หลอกให้คุณช๊อกโกแลต วิ่งพล่านพุงกระเพื่อมเหงื่อแตกเล่นเท่านั้นเอง ยังไม่ได้ขยับจริงสักหน่อย แค่นั้น ก็เล่นเอาคุณช๊อกโกแลต ประธานาธิบดี Poroshenko ที่รวยมาจากการผลิตช๊อกโกแลต ชวดโอกาสแสดงผลงานเอาใจนายใหญ่ไปหลายที แต่คราวนี้ สงสัยนายใหญ่สั่งลุย

    ยูเครนมีการประชุมสภา เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ที่ผ่านมา สภายูเครน มีมติไม่ให้ความร่วมมือกับรัสเซีย ทางการทหารและอื่นๆทั้งหมด เรื่องไม่ร่วมมือการทหารนี่ ไม่เกินความคาดหมายของรัสเซีย ทะเลาะกันมาขนาดนี้จะไปร่วมมือ กันลงยังไง แต่ไอ้ที่นายใหญ่เน้นมาคือ ให้หยุดความร่วมมือ ตามสัญญาที่ยูเครน ทำกับรัสเซีย เมื่อปี ค.ศ.1995 ที่ตกลงให้กองทัพรัสเซีย สามารถเคลื่อนพลผ่านยูเครน ทางด้านแคว้นโอเดสสา (Odessa) ไปยังทรานนิสตรียด้วย นี่เรียกว่าเป็นการลงมติ แบบเฉพาะเจาะจง จนออกนอกหน้า

    คุณช๊อกโกแลต คราวนี้มามาดใหม่ เหมือนอยากจะรบกับรัสเซียเต็มแก่ ถ้าการห้ามไม่ให้กองกำลังรักษาความสงบของรัสเซีย ผ่านยูเครน เข้าไปถึงทรานนิสเตรีย ยังไม่ทำให้คุณพี่ปูตินเลือดฝาดขึ้นจนหน้าเข้ม คุณช๊อกโกแลตก็มีอีกแผน เตรียมคนขุดหลุม ล่อฝาดรัสเซียแถมให้อีก

    เมื่อประมาณต้นเดือนมิถุนายนนี้ คุณช็อกโกแลต เพิ่งลงชื่อแต่งตั้ง นาย Mikheil Saakashvili อดีตประธานาธิบดีจอร์เจีย (Georgia) คู้แค้นของคุณพี่ปูติน ให้มาเป็นผู้ว่าการแคว้นโอเดสสา นี่เป็นการเจาะจง ทั้งเลือกคน และ เลือกสถานที่เลยนะ คุณ Saak นี่แกเคยจัดการงานนอกสั่ง เอาใจเจ้านาย ลงทุนยกทัพมายึดเมือง South Ossetia ในปี ค.ศ.2008 ยึดถูกที่ แต่ผิดเวลา คุณพี่ปูตินจึงซัดกลับ เล่นเอาคุณ Saak วิ่งกลับบ้านกางเกงเปียก แถมถูกคุณพี่ปูตินขู่เอาไว้ คราวนี้ จึงพร้อมที่จะมารับบทคนขุดหลุม ล่อฝาดรัสเซีย แม้จะอยู่กันคนประเทศ นับเป็นเรื่องที่แสดงความเห่ยที่สุด ของผู้จัดรายการ
    ส่วนรัสเซีย ในการดูแลทรานนิสเตรีย จำเป็นต้องขนกองกำลัง และอาวุธ เข้าไปสับเปลี่ยนหน่วยที่ประจำการ ที่ทรานนิสเตรียเป็นครั้งคราว ถ้าไม่ได้ผ่านเข้าทางเขตพื้นดินของยูเครนทางแคว้นโอเดสสา รัสเซียก็ต้องไปใช้ผ่านเข้าทางอากาศ โดยต้องผ่านเข้าไปที่ Chisinau เมืองหลวงของมอนโดวาแทน เมื่อข่าวเรื่องใบสั่งห้ามผ่าน ยูเครนลือกันทั่ว รัสเซียทดสอบสถานการณ์ ด้วยการไปเจรจากับมอนโดวา แหม ลูกบอลวิ่งเข้าตีน มอนโดวาบอก มาได้เลย แต่แล้วกลับกักตัวทหารรัสเซียไว้ บ้าง ส่งกลับออกไปบ้าง แต่ไม่กล้าเก็บไว้หมด กลัวได้ไม่คุ้มเสีย… แต่สำหรับรัสเซีย ถ้าใช้เส้นทางมอนโดวา ทหารรัสเซียคงไปไม่ถึงทรานนิสเตรีย หรือไปถึงช้าหน่อย ลูกเมียรอกันขี้มูกโป่ง

    คราวนี้ ถึงคิวที่ชาวทรานนิสเตรีย ขยับบ้าง พวกเขาออกมาเรียกร้องต่อคุณพี่ปูตินเมื่อสัปดาห์ที่แล้วอ ย่างไม่ต้องรอใบสั่งว่า อย่าทิ้งเรายามยากนะ อื้อฮือ แบบนี้ใครจะทิ้งน้องลง คุณพี่ปูตินเลยให้ นาย Dmitry Rogozin รองนายกรัฐมนตรีมาดนุ่ม ออกมายืนยัน ปลอบใจกับชาวทรานนิสเตรียว่า รัสเซียจะอยู่ที่นั่นตลอดเวลา เพื่อรักษาความมั่นคงของภูมิภาค บทนี้สมเป็นพระเอกจริงๆ

    เออ.. มันก็น่าสงสัย ยูเครน กับรัสเซีย เล่นเอากันชน กระแทกใส่กันมาตั้งแต่ ปี ค.ศ.2013 ให้ชาวบ้านตกใจ นึกว่าเขาจะปะทะกันจริงๆ เสร็จแล้ว ก็เหมือนมวยล้ม เลิกชกกันง่ายๆ แล้วนี่อยู่ๆ คุณช๊อกโกแลตก็ลุกขึ้นเต้นก๋า ท้าทายเขา เหมือนไปได้ยาโด๊ปช้ันดีมา

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    13 มิ.ย. 2558
    หลุม ตอนที่ 1 – 2 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หลุม” ตอน 1 เมื่อราวช่วงต้นสัปดาห์นี้ นักวิเคราะห์ที่ติดตามการเมืองระดับโลก เริ่มมีอาการตื่นเต้นกับชื่อ ทรานนิสเตรีย (Transnistria) ชาวบ้านอย่างเราๆ ก็ตื่นเหมือนกัน เพราะไม่รู้ว่ามันเป็นชื่อของอะไร ที่แน่ๆ ยังงงว่าทำไมเขาตื่นเต้นกัน ทรานนิสเตรีย หรือชื่อเต็มว่า Transnistria Moldov Republic (TMR) เป็นรัฐเล็กๆน่าเอ็นดู รูปร่างยาวบาง อยู่ระหว่างกลาง มอนโดวา ( Moldova) ด้านหนึ่ง กับยูเครน (Ukraine) อีกด้านหนึ่ง เหมือนเป็นแผ่นแฮม ถูกขนมปัง 2 แผ่นประกบไว้ มันก็น่าเสียวว่าจะถูกงับ ทั้งยูเครน มอนโดวา และทรานนิสเตรีย ต่างเคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียตทั้งสิ้น ก่อนฝ่ายตะวันตก ที่นำโดยอเมริกาและอังกฤษ วางแผนทุบเสียจนสหภาพโซเวียตแตกกระจายในปีช่วง ค.ศ.1989-1991 เพื่อตัดตอนสหภาพโซเวียต ให้เหลือเป็นเพียงประเทศรัสเซีย โดยหวังว่า วันหนึ่ง ประเทศรัสเซียก็จะต้องไม่มีเหลือด้วย แม้จะแทบไม่มีใครรู้จัก หรือเคยได้ยินชื่อ แต่อย่าหมิ่นเขาเชียว ทรานนิสเตรีย เขาหาญกล้านัก ปี ค.ศ.1990 มอนโดวาซึ่งตอนนั้นยังมีทรานนิสเตรียรวมอยู่ด้วย เกิดเคลิ้ม คิดอยากจะไปรวมกับรูมาเนีย ซึ่งฝั่งทรานนิสเตรียรังเกียจ เนื่องจาก รูมาเนียคิดจะเปลี่ยนรากภาษา และวัฒนธรรมของมอนโดวาและทรานนิสเตรีย ให้เป็นแบบของตัว ทรานนิสเตรียหวงแหนรากเหง้าของตัวเอง ไม่เอาด้วย จึงประกาศตัวเป็นเอกราชไม่ขึ้นกับใคร แถมแสดงท่าทีว่า ที่แท้ใจยังผูกพันธ์กับพี่ใหญ่รัสเซียมากกว่า ทรานนิสเตรีย มีพลเมืองแค่ประมาณไม่เกิน 6 แสนคน แบ่งเป็น 3 เชื้อสาย ในอัตราใกล้เคียงกัน คือ เป็นชาวมอนโดเวียน ชาวยูเครน และเป็นรัสเซียแท้ ที่เหลือเป็นชาวยิว และอื่นๆ ในปี ค.ศ.1992 คงจะเป็นจากส่วนผสมของพลเมืองที่ มีเชื้อสาย และความผูกพันต่างกัน ชาวทรานนิสเตรีย เจอลูกยุจากภายนอก ก็เกิดรบกันเอง รัสเซียในฐานะพี่ใหญ่ ก็ส่งกำลังทหารประมาณพันห้าร้อยคนเข้ามาเป็นกรรมการห้ามมวย หรือ peace keeper แล้วทรานนิสเตรียก็สงบเรียบร้อย ไม่มีการขว้างขวดปาอิฐใส่กันอีก ส่วนกรรมการห้ามมวยที่เข้ามาตั้ง แต่ตอนนั้น ก็ยังอยู่มาถึงตอนนี้ ไม่ได้กลับออกไป น่าจะมีตัวเล็กตัวน้อย งอกขึ้นมาเดินตามเป็นพรวน ยิ่งทำให้ทิ้งไปยาก และก็ทำให้รัสเซียกลายเป็นผู้เลี้ยงดู ส่งเสีย สาวร่างบางทรานนิสเตรียจนทุกวันนี้ สาวร่างบางก็ไม่ได้รังเกียจบ่นว่าอะไร พวกเขาก็ดูจะอยู่กันอย่างอบอุ่นดี คงเพราะดูอบอุ่นดีนี่แหละ เพื่อนบ้านที่เคยเป็นบ้านเดียวกันมาก่อน ก็ชักหมั่นไส้ มอนโดวา ซึ่งแม้จะเคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต แต่ตอนหลังคิดว่าหญ้าฝั่งอียูเขียวกว่า เพราะถูกอเมริกาหลอกไว้แยะ แถมมีโรมาเนีย ลูกหาบชั้นปลายแถวของอเมริกาในแถบยุโรปตะวันออกกลาง คอยหนุน เลยประกาศเสียงดัง ให้รัสเซียได้ยินว่า ฉันจะไปอยู่กับทางนู้นแล้วนะ รัสเซียฟังแล้วก็แสดงอาการทองไม่รู้ร้อน อาการอย่างนี้ สร้างความเสียหน้าให้มอนโดวาเอาเรื่องอยู่ และมอนโดวาก็รอโอกาสที่จะเอาหน้าคืน มอนโดวา เปลี่ยนบทใหม่ หันไปชวนเพื่อนสาวร่างบาง ทรานนิสเตรีย ซึ่งก็ฉีกสัมพันธ์สะบั้นกันไปแล้ว กลับมาทำปากหวาน นี่เธอ เรากลับมารวมประเทศกันใหม่ดีมั้ย เธอไม่ควรไว้ใจรัสเซียมากกว่าฉันนะ ไม่งั้น เธอก็ควรไล่รัสเซียออกไปจากบ้านเธอ เพราะฉันไม่พอใจให้เขามาอยู่ใกล้บ้านฉันแบบนี้ เดียวมาจะผนวก บวกเอาฉันเข้าไปด้วย บทนี้เข้าใจว่า ไอ้นักล่าใบตองแห้งกับนาโต้ ไอ้เสือฟันหลอ คงเป็นคนเขียนโพยให้ ทรานนิสเตรียถึงจะจิ๋วแต่เจ๋ง ไม่เชื่อขี้หน้ามอนโดวา ตั้งแต่บัดนั้นถึงบัดนี้ พลเมืองทรานนิสเตรีย แม้จะต่างสายต่างเชื้อ แต่มาบัดนี้เข้าใจเล่ห์ลูกยุดี จึงยังเชื่อใจรัสเซียมากกว่า ทรานสนิสเตรีย ตอกกลับมอนโดวา นี่เธอมาจุ้นอะไร รัสเซียเขามาอยู่ในบ้านฉันนะ ไม่ใช่บ้านเธอ ฉันจะไปไล่เขาทำไม ก็ฉันชอบของฉัน ว่าแล้วก็ด่าไปอีก 2 คำ ข่าวที่ผมอ่าน เขาบอกว่า ทรานนิสเตรีย ถึงกับให้นิ้วกลางกับจอมจุ้นมอนโดวา พริกขี้หนูเม็ดจิ๋ว แต่เผ็ดถึงใจ อเมริกาและนาโต้ ที่เฝ้าดูการเคลื่อนไหวของรัสเซียในแถบนั้นอย่างใกล้ชิด ชนิดกันชนกระแทกกันหลายที ตั้งแต่อเมริกาเข้าไปอุ้มยูเครน ในปี ค.ศ.2004 มาถึงตอนนี้ คงแอบคิดอะไรอยู่ จึงเริ่มขยับ เดินหมากรอบใหม่ เหมือนอยากจะรุกรัสเซีย โดยใช้หมากตัวเดิม ชื่อ ยูเครน ที่มีข่าวว่า อาจจะกลายเป็นแดนสวรรค์ของบางกลุ่มชน พอจะเดาออกไหมครับ ############### ตอน 2 หมากยูเครน ซี่งเงื้อเก้อมานานจนเมื่อย เพราะคิดว่ารัสเซียจะมาออกกำลังใกล้ๆ แต่รัสเซียเพียงแค่ขยับขาแก้เหน็บกิน หลอกให้คุณช๊อกโกแลต วิ่งพล่านพุงกระเพื่อมเหงื่อแตกเล่นเท่านั้นเอง ยังไม่ได้ขยับจริงสักหน่อย แค่นั้น ก็เล่นเอาคุณช๊อกโกแลต ประธานาธิบดี Poroshenko ที่รวยมาจากการผลิตช๊อกโกแลต ชวดโอกาสแสดงผลงานเอาใจนายใหญ่ไปหลายที แต่คราวนี้ สงสัยนายใหญ่สั่งลุย ยูเครนมีการประชุมสภา เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ที่ผ่านมา สภายูเครน มีมติไม่ให้ความร่วมมือกับรัสเซีย ทางการทหารและอื่นๆทั้งหมด เรื่องไม่ร่วมมือการทหารนี่ ไม่เกินความคาดหมายของรัสเซีย ทะเลาะกันมาขนาดนี้จะไปร่วมมือ กันลงยังไง แต่ไอ้ที่นายใหญ่เน้นมาคือ ให้หยุดความร่วมมือ ตามสัญญาที่ยูเครน ทำกับรัสเซีย เมื่อปี ค.ศ.1995 ที่ตกลงให้กองทัพรัสเซีย สามารถเคลื่อนพลผ่านยูเครน ทางด้านแคว้นโอเดสสา (Odessa) ไปยังทรานนิสตรียด้วย นี่เรียกว่าเป็นการลงมติ แบบเฉพาะเจาะจง จนออกนอกหน้า คุณช๊อกโกแลต คราวนี้มามาดใหม่ เหมือนอยากจะรบกับรัสเซียเต็มแก่ ถ้าการห้ามไม่ให้กองกำลังรักษาความสงบของรัสเซีย ผ่านยูเครน เข้าไปถึงทรานนิสเตรีย ยังไม่ทำให้คุณพี่ปูตินเลือดฝาดขึ้นจนหน้าเข้ม คุณช๊อกโกแลตก็มีอีกแผน เตรียมคนขุดหลุม ล่อฝาดรัสเซียแถมให้อีก เมื่อประมาณต้นเดือนมิถุนายนนี้ คุณช็อกโกแลต เพิ่งลงชื่อแต่งตั้ง นาย Mikheil Saakashvili อดีตประธานาธิบดีจอร์เจีย (Georgia) คู้แค้นของคุณพี่ปูติน ให้มาเป็นผู้ว่าการแคว้นโอเดสสา นี่เป็นการเจาะจง ทั้งเลือกคน และ เลือกสถานที่เลยนะ คุณ Saak นี่แกเคยจัดการงานนอกสั่ง เอาใจเจ้านาย ลงทุนยกทัพมายึดเมือง South Ossetia ในปี ค.ศ.2008 ยึดถูกที่ แต่ผิดเวลา คุณพี่ปูตินจึงซัดกลับ เล่นเอาคุณ Saak วิ่งกลับบ้านกางเกงเปียก แถมถูกคุณพี่ปูตินขู่เอาไว้ คราวนี้ จึงพร้อมที่จะมารับบทคนขุดหลุม ล่อฝาดรัสเซีย แม้จะอยู่กันคนประเทศ นับเป็นเรื่องที่แสดงความเห่ยที่สุด ของผู้จัดรายการ ส่วนรัสเซีย ในการดูแลทรานนิสเตรีย จำเป็นต้องขนกองกำลัง และอาวุธ เข้าไปสับเปลี่ยนหน่วยที่ประจำการ ที่ทรานนิสเตรียเป็นครั้งคราว ถ้าไม่ได้ผ่านเข้าทางเขตพื้นดินของยูเครนทางแคว้นโอเดสสา รัสเซียก็ต้องไปใช้ผ่านเข้าทางอากาศ โดยต้องผ่านเข้าไปที่ Chisinau เมืองหลวงของมอนโดวาแทน เมื่อข่าวเรื่องใบสั่งห้ามผ่าน ยูเครนลือกันทั่ว รัสเซียทดสอบสถานการณ์ ด้วยการไปเจรจากับมอนโดวา แหม ลูกบอลวิ่งเข้าตีน มอนโดวาบอก มาได้เลย แต่แล้วกลับกักตัวทหารรัสเซียไว้ บ้าง ส่งกลับออกไปบ้าง แต่ไม่กล้าเก็บไว้หมด กลัวได้ไม่คุ้มเสีย… แต่สำหรับรัสเซีย ถ้าใช้เส้นทางมอนโดวา ทหารรัสเซียคงไปไม่ถึงทรานนิสเตรีย หรือไปถึงช้าหน่อย ลูกเมียรอกันขี้มูกโป่ง คราวนี้ ถึงคิวที่ชาวทรานนิสเตรีย ขยับบ้าง พวกเขาออกมาเรียกร้องต่อคุณพี่ปูตินเมื่อสัปดาห์ที่แล้วอ ย่างไม่ต้องรอใบสั่งว่า อย่าทิ้งเรายามยากนะ อื้อฮือ แบบนี้ใครจะทิ้งน้องลง คุณพี่ปูตินเลยให้ นาย Dmitry Rogozin รองนายกรัฐมนตรีมาดนุ่ม ออกมายืนยัน ปลอบใจกับชาวทรานนิสเตรียว่า รัสเซียจะอยู่ที่นั่นตลอดเวลา เพื่อรักษาความมั่นคงของภูมิภาค บทนี้สมเป็นพระเอกจริงๆ เออ.. มันก็น่าสงสัย ยูเครน กับรัสเซีย เล่นเอากันชน กระแทกใส่กันมาตั้งแต่ ปี ค.ศ.2013 ให้ชาวบ้านตกใจ นึกว่าเขาจะปะทะกันจริงๆ เสร็จแล้ว ก็เหมือนมวยล้ม เลิกชกกันง่ายๆ แล้วนี่อยู่ๆ คุณช๊อกโกแลตก็ลุกขึ้นเต้นก๋า ท้าทายเขา เหมือนไปได้ยาโด๊ปช้ันดีมา สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 13 มิ.ย. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 39 มุมมอง 0 รีวิว
  • นางกวัก วัดควนวิเศษ จ.ตรัง ปี2506
    นางกวัก เนื้อมวลสารอาถรรพ์ ผงพรายกุมาร วัดควนวิเศษ จ.ตรัง ปี2506 // พระดีพิธีขลัง สภาพสวยแชมป์ !! พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ หลวงปู่หมุน วัดเขาแดงออก อาจารย์นำ วัดดอนศาลา หลวงปู่นาค วัดระฆัง และคณาจารย์ดังแห่งยุคอีกมากมายร่วมปลุกเสก // พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณด้านเรียกโชคลาภ เงินทอง และเมตตามหานิยม ช่วยให้ค้าขายดี และเจริญรุ่งเรือง แคล้วคลาด มหาอุตน์ บันดาลโชคลาภ อุดมโภคทรัพย์ เจริญในลาภยศ ทรัพย์สินเงินทอง อำนาจวาสนา เสริมโชคเสริมลาภ ช่วยปกป้องคุ้มครอง จากสิ่งชั่วร้าย ภูตผีปีศาจ มนตร์ดําต่างๆ **

    ** นางกวัก วัดควนวิเศษ จังหวัดตรัง สร้างขึ้นตามตำหรับ ของพ่อท่านลบ วัดตรังคภูมิพุทธาวาส ปรมาจารย์แห่งเมืองตรัง โดย พ่อท่านแสงวัดคลองน้ำเจ็ด ได้เป็นผู้สืบทอดตำรา แล้วจัดสร้าง ขึ้นที่วัดควนวิเศษ ตรัง เมื่อปี2506
    โดยจัดหามวลสาร อาถรรพ์ ตามคำภีร์บังคับทั้งสิ้น... มวลสารอาถรรพ์ ผงพรายกุมาร.... พ่อท่านแสงวัดคลองน้ำเจ็ด ได้นิมิตอันอัศจรรย์...ล่วงหน้า 7วันว่า วันเสาร์ เดือน12 ปีขาล จะมีศพเด็กน้อยลอยน้ำมาติด อยู่ที่รากไทร หลังวัดคลองน้ำเจ็ด จึงได้มอบหมาย ให้ พ่อท่านเชือน วัดควนนาแค ไปทำพิธีพลีกุมารานั้น...แล้วบวงสรวงทำพีธีสร้างผงพรายกุมาร เตรียมการกันในปี2505 นั้น มีอิทธิคุณในด้าน มหาเสน่ห์ เมตตามหานิยม คุ้มครองป้องกัน ทำมาค้าคล่องและ ขอความช่วยเหลือเมื่อยามอับจน มวลสารสำคัญ ผงพรายกุมารนั้น แลของอาถรรพ์ ดิน7 ป่าช้า เจ็ดปลวก เจ็ดท่า เจ็ดนครา
    ลบผงยันตรา อักขระ เลขยันต์ ปถมัง อิธิเจ ตรีนิสิงเห สัตนาเค ว่านยาอาถรรพ์ ร่ายมนต์ปลุกเสก ผสมเข้าด้วยกัน
    แล้วเอาผงนั้น เสกอาการ สามสิบสอง ถึงวันเสาร์ วันอังคาร ก็เริ่มกดพิมพ์ เป็นของดีอาถรรพ์ คุ้มครองป้องกัน ภัยอันตราย ทำมาค้าคล่อง **

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    นางกวัก วัดควนวิเศษ จ.ตรัง ปี2506 นางกวัก เนื้อมวลสารอาถรรพ์ ผงพรายกุมาร วัดควนวิเศษ จ.ตรัง ปี2506 // พระดีพิธีขลัง สภาพสวยแชมป์ !! พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ หลวงปู่หมุน วัดเขาแดงออก อาจารย์นำ วัดดอนศาลา หลวงปู่นาค วัดระฆัง และคณาจารย์ดังแห่งยุคอีกมากมายร่วมปลุกเสก // พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณด้านเรียกโชคลาภ เงินทอง และเมตตามหานิยม ช่วยให้ค้าขายดี และเจริญรุ่งเรือง แคล้วคลาด มหาอุตน์ บันดาลโชคลาภ อุดมโภคทรัพย์ เจริญในลาภยศ ทรัพย์สินเงินทอง อำนาจวาสนา เสริมโชคเสริมลาภ ช่วยปกป้องคุ้มครอง จากสิ่งชั่วร้าย ภูตผีปีศาจ มนตร์ดําต่างๆ ** ** นางกวัก วัดควนวิเศษ จังหวัดตรัง สร้างขึ้นตามตำหรับ ของพ่อท่านลบ วัดตรังคภูมิพุทธาวาส ปรมาจารย์แห่งเมืองตรัง โดย พ่อท่านแสงวัดคลองน้ำเจ็ด ได้เป็นผู้สืบทอดตำรา แล้วจัดสร้าง ขึ้นที่วัดควนวิเศษ ตรัง เมื่อปี2506 โดยจัดหามวลสาร อาถรรพ์ ตามคำภีร์บังคับทั้งสิ้น... มวลสารอาถรรพ์ ผงพรายกุมาร.... พ่อท่านแสงวัดคลองน้ำเจ็ด ได้นิมิตอันอัศจรรย์...ล่วงหน้า 7วันว่า วันเสาร์ เดือน12 ปีขาล จะมีศพเด็กน้อยลอยน้ำมาติด อยู่ที่รากไทร หลังวัดคลองน้ำเจ็ด จึงได้มอบหมาย ให้ พ่อท่านเชือน วัดควนนาแค ไปทำพิธีพลีกุมารานั้น...แล้วบวงสรวงทำพีธีสร้างผงพรายกุมาร เตรียมการกันในปี2505 นั้น มีอิทธิคุณในด้าน มหาเสน่ห์ เมตตามหานิยม คุ้มครองป้องกัน ทำมาค้าคล่องและ ขอความช่วยเหลือเมื่อยามอับจน มวลสารสำคัญ ผงพรายกุมารนั้น แลของอาถรรพ์ ดิน7 ป่าช้า เจ็ดปลวก เจ็ดท่า เจ็ดนครา ลบผงยันตรา อักขระ เลขยันต์ ปถมัง อิธิเจ ตรีนิสิงเห สัตนาเค ว่านยาอาถรรพ์ ร่ายมนต์ปลุกเสก ผสมเข้าด้วยกัน แล้วเอาผงนั้น เสกอาการ สามสิบสอง ถึงวันเสาร์ วันอังคาร ก็เริ่มกดพิมพ์ เป็นของดีอาถรรพ์ คุ้มครองป้องกัน ภัยอันตราย ทำมาค้าคล่อง ** ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 23 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญหลวงพ่อเล็ก รุ่นแรก วัดเจริญภูผา วัดจุ้มปะ จ.สงขลา ปี2517
    เหรียญหลวงพ่อเล็ก รุ่นแรก เนื้อทองแดงรมดำ รุ่นสร้างกุฏิ (บล็อกนิยม) วัดเจริญภูผา วัดจุ้มปะ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ปี2517 // พระดีพิธีใหญ่ !! พระมีประสบการณ์มาก มหาอุต อีกหนึ่งเหรียญของสงขลา //พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณด้านทั้งคงกระพันชาตรี มหาอุต แคล้วคลาด ป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง เมตตามหานิยม ค้าขายดี เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภ เมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย **

    ** หลวงพ่อเล็ก วัดเจริญภูผา (จุ้มปะ) เกจิสายมหาอุตม์ – เจ้าสำนักวิชา “ปราบผีเสื้อ” พุทธคุณดีทางแคล้วคลาด มหาอุตม์ เหรียญรุ่นแรกสร้าง ปี พ.ศ. 2517 เหรียญที่มีประสบการณ์และสร้างชื่อเสียงให้หลวงพ่อเล็กมากที่สุด มีคนเคยเอาเหรียญรุ่นนี้ไปลองยิง ปรากฏ ยิงไม่ออก.......วัตถุมงคลของท่านจะปลุกเสกเดี่ยวตามแบบโบราณนับว่าเป็นของดีพุทธคุณเยี่ยม เหรียญประสบการณ์อีกหนึ่งเหรียญของสงขลา **

    ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญหลวงพ่อเล็ก รุ่นแรก วัดเจริญภูผา วัดจุ้มปะ จ.สงขลา ปี2517 เหรียญหลวงพ่อเล็ก รุ่นแรก เนื้อทองแดงรมดำ รุ่นสร้างกุฏิ (บล็อกนิยม) วัดเจริญภูผา วัดจุ้มปะ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ปี2517 // พระดีพิธีใหญ่ !! พระมีประสบการณ์มาก มหาอุต อีกหนึ่งเหรียญของสงขลา //พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณด้านทั้งคงกระพันชาตรี มหาอุต แคล้วคลาด ป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง เมตตามหานิยม ค้าขายดี เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภ เมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย ** ** หลวงพ่อเล็ก วัดเจริญภูผา (จุ้มปะ) เกจิสายมหาอุตม์ – เจ้าสำนักวิชา “ปราบผีเสื้อ” พุทธคุณดีทางแคล้วคลาด มหาอุตม์ เหรียญรุ่นแรกสร้าง ปี พ.ศ. 2517 เหรียญที่มีประสบการณ์และสร้างชื่อเสียงให้หลวงพ่อเล็กมากที่สุด มีคนเคยเอาเหรียญรุ่นนี้ไปลองยิง ปรากฏ ยิงไม่ออก.......วัตถุมงคลของท่านจะปลุกเสกเดี่ยวตามแบบโบราณนับว่าเป็นของดีพุทธคุณเยี่ยม เหรียญประสบการณ์อีกหนึ่งเหรียญของสงขลา ** ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 25 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในหลวงรัชกาลที่ 9 สัญญานะ
    ในหลวงรัชกาลที่ 9 สัญญานะ เนื้อว่าน ๑๐๘ ผสมผงพุทธคุณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) ปี2547 // พระดีพิธีใหญ่ พระมีประสบการณ์ สามจังหวัดชาดแดนใต้ หายากครับ..... โดยพระราชทานให้แก่ประชาชน ข้าราชการ ตำรวจ ทหารและพลเรือน ที่ปฏิบัติงานใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ // พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณโดดเด่นด้านแคล้วคลาดปลอดภัยจากภยันตรายต่างๆ ช่วยป้องกันภัยธรรมชาติ โรคภัยไข้เจ็บ และคุ้มครองผู้ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้. เมตตามหานิยม เสริมเสน่ห์ เจรจาธุรกิจง่าย ช่วยในการค้าขายดี ผู้คนรักใคร่เอ็นดู โชคลาภ อำนาจวาสนาบารมี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องบริหาร **

    ** ในหลวงรัชกาลที่ 9 รุ่นสัญญานะ หลังพระแก้วมรกต ปี2547...พระมีประสบการณ์ สามจังหวัดชาดแดนใต้ หายากครับ..โดยพระราชทานให้แก่ประชาชน ข้าราชการ ตำรวจ ทหารและพลเรือน ที่ปฏิบัติงานใน 3 จังหวัดชายแดนใต้
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.9 จัดสร้าง "สัญญานะ" ใน พ.ศ 2547 เพื่อคุ้มครอง ช่วยให้ปลอดภัยจากภยันอันตรายต่างๆ ช่วยให้เรารอดออกมาในเวลาคับขัน ป้องกันภัยธรรมชาติ การเจ็บไข้ ป้องกันโรคภัย โดยพระราชทานให้แก่ประชาชน ข้าราชการ ตำรวจ ทหารและพลเรือน ที่ปฏิบัติงานใน ๓ จังหวัดชายแดนใต้ให้เป็นขวัญกำลังใจ ประสบการณ์ คือ ตำรวจตระเวนชายแดนถูกยิงเสียชีวิต ๒ คน และได้วิทยุขอกำลังเสริม จากโรงพักแห่งหนึ่ง ระหว่างทางไปโดนผู้ก่อการร้ายซุ่มยิงระหว่างทางด้วยปืนอาร์ก้าและเอ็ม ๑๖ เข้าด้านข้างรถตรงกระจกหน้าเป็นแนวยาว ตำรวจในรถรอดเพราะแขวน " ในหลวงรัชกาลที่ 9 สัญญานะ " **

    ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    ในหลวงรัชกาลที่ 9 สัญญานะ ในหลวงรัชกาลที่ 9 สัญญานะ เนื้อว่าน ๑๐๘ ผสมผงพุทธคุณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) ปี2547 // พระดีพิธีใหญ่ พระมีประสบการณ์ สามจังหวัดชาดแดนใต้ หายากครับ..... โดยพระราชทานให้แก่ประชาชน ข้าราชการ ตำรวจ ทหารและพลเรือน ที่ปฏิบัติงานใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ // พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณโดดเด่นด้านแคล้วคลาดปลอดภัยจากภยันตรายต่างๆ ช่วยป้องกันภัยธรรมชาติ โรคภัยไข้เจ็บ และคุ้มครองผู้ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้. เมตตามหานิยม เสริมเสน่ห์ เจรจาธุรกิจง่าย ช่วยในการค้าขายดี ผู้คนรักใคร่เอ็นดู โชคลาภ อำนาจวาสนาบารมี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องบริหาร ** ** ในหลวงรัชกาลที่ 9 รุ่นสัญญานะ หลังพระแก้วมรกต ปี2547...พระมีประสบการณ์ สามจังหวัดชาดแดนใต้ หายากครับ..โดยพระราชทานให้แก่ประชาชน ข้าราชการ ตำรวจ ทหารและพลเรือน ที่ปฏิบัติงานใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.9 จัดสร้าง "สัญญานะ" ใน พ.ศ 2547 เพื่อคุ้มครอง ช่วยให้ปลอดภัยจากภยันอันตรายต่างๆ ช่วยให้เรารอดออกมาในเวลาคับขัน ป้องกันภัยธรรมชาติ การเจ็บไข้ ป้องกันโรคภัย โดยพระราชทานให้แก่ประชาชน ข้าราชการ ตำรวจ ทหารและพลเรือน ที่ปฏิบัติงานใน ๓ จังหวัดชายแดนใต้ให้เป็นขวัญกำลังใจ ประสบการณ์ คือ ตำรวจตระเวนชายแดนถูกยิงเสียชีวิต ๒ คน และได้วิทยุขอกำลังเสริม จากโรงพักแห่งหนึ่ง ระหว่างทางไปโดนผู้ก่อการร้ายซุ่มยิงระหว่างทางด้วยปืนอาร์ก้าและเอ็ม ๑๖ เข้าด้านข้างรถตรงกระจกหน้าเป็นแนวยาว ตำรวจในรถรอดเพราะแขวน " ในหลวงรัชกาลที่ 9 สัญญานะ " ** ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 32 มุมมอง 0 รีวิว
  • หัวข้อข่าว: “โมเดลใหม่ของ Moonshot AI จุดกระแส ‘DeepSeek Moment’ สั่นสะเทือนโลก AI”

    สตาร์ทอัพจีน Moonshot AI ที่มีมูลค่ากว่า 3.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และได้รับการสนับสนุนจากยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีอย่าง Alibaba และ Tencent ได้เปิดตัวโมเดล Kimi K2 Thinking ซึ่งเป็นโมเดลโอเพนซอร์สที่สร้างสถิติใหม่ในด้าน reasoning, coding และ agent capabilities

    โมเดลนี้ได้รับความนิยมสูงสุดบนแพลตฟอร์ม Hugging Face และโพสต์เปิดตัวบน X มียอดเข้าชมกว่า 4.5 ล้านครั้ง จุดที่น่าทึ่งคือมีรายงานว่า ค่าใช้จ่ายในการฝึกเพียง 4.6 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถูกกว่ามากเมื่อเทียบกับโมเดลสหรัฐฯ

    Thomas Wolf ผู้ร่วมก่อตั้ง Hugging Face ถึงกับตั้งคำถามว่า “นี่คืออีกหนึ่ง DeepSeek Moment หรือไม่?” หลังจากก่อนหน้านี้โมเดล R1 ของ DeepSeek ได้เขย่าความเชื่อเรื่องความเหนือกว่าของ AI สหรัฐฯ

    Kimi K2 Thinking ทำคะแนน 44.9% ใน Humanity’s Last Exam (ข้อสอบมาตรฐาน LLM กว่า 2,500 ข้อ) ซึ่งสูงกว่า GPT-5 ที่ทำได้ 41.7% และยังชนะใน benchmark สำคัญอย่าง BrowseComp และ Seal-0 ที่ทดสอบความสามารถในการค้นหาข้อมูลจริงบนเว็บ

    นอกจากนี้ ค่าใช้จ่าย API ของ Kimi K2 Thinking ยังถูกกว่าโมเดลของ OpenAI และ Anthropic ถึง 6–10 เท่า นักวิเคราะห์ชี้ว่าแนวโน้มของจีนคือการลดต้นทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อแข่งขันด้วย ความคุ้มค่า (cost-effectiveness) แม้ประสิทธิภาพโดยรวมยังตามหลังโมเดลสหรัฐฯ

    สาระเพิ่มเติมจากภายนอก
    การแข่งขัน AI ระหว่างจีนและสหรัฐฯ กำลังเปลี่ยนจาก “ใครเก่งกว่า” เป็น “ใครคุ้มค่ากว่า”
    การที่จีนหันมาเน้น ลดต้นทุนการฝึกและใช้งาน อาจทำให้ AI เข้าถึงนักพัฒนาและธุรกิจรายย่อยได้มากขึ้น
    หากแนวโน้มนี้ดำเนินต่อไป อาจเกิดการ เร่งนวัตกรรมด้านสถาปัตยกรรมโมเดลและเทคนิคการฝึก ที่เปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรม AI

    Moonshot AI เปิดตัว Kimi K2 Thinking
    ทำผลงานเหนือ GPT-5 และ Claude Sonnet 4.5 ในหลาย benchmark
    ได้รับความนิยมสูงสุดบน Hugging Face และมีผู้สนใจจำนวนมาก

    จุดเด่นของโมเดล
    ค่าใช้จ่ายในการฝึกเพียง 4.6 ล้านดอลลาร์
    API ถูกกว่าโมเดลสหรัฐฯ ถึง 6–10 เท่า

    ผลกระทบต่อวงการ
    จุดกระแส “DeepSeek Moment” ครั้งใหม่
    ท้าทายความเป็นผู้นำด้าน AI ของสหรัฐฯ

    คำเตือนด้านความเสี่ยง
    แม้ต้นทุนต่ำ แต่ประสิทธิภาพโดยรวมยังตามหลังโมเดลสหรัฐฯ
    การแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงอาจทำให้บางบริษัทละเลยการตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัย
    หากจีนครองตลาดด้วยโมเดลราคาถูก อาจเกิดความเสี่ยงด้านมาตรฐานและความน่าเชื่อถือของ AI

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/12/why-new-model-of-chinas-moonshot-ai-stirs-deepseek-moment-debate
    🤖 หัวข้อข่าว: “โมเดลใหม่ของ Moonshot AI จุดกระแส ‘DeepSeek Moment’ สั่นสะเทือนโลก AI” สตาร์ทอัพจีน Moonshot AI ที่มีมูลค่ากว่า 3.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และได้รับการสนับสนุนจากยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีอย่าง Alibaba และ Tencent ได้เปิดตัวโมเดล Kimi K2 Thinking ซึ่งเป็นโมเดลโอเพนซอร์สที่สร้างสถิติใหม่ในด้าน reasoning, coding และ agent capabilities โมเดลนี้ได้รับความนิยมสูงสุดบนแพลตฟอร์ม Hugging Face และโพสต์เปิดตัวบน X มียอดเข้าชมกว่า 4.5 ล้านครั้ง จุดที่น่าทึ่งคือมีรายงานว่า ค่าใช้จ่ายในการฝึกเพียง 4.6 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถูกกว่ามากเมื่อเทียบกับโมเดลสหรัฐฯ Thomas Wolf ผู้ร่วมก่อตั้ง Hugging Face ถึงกับตั้งคำถามว่า “นี่คืออีกหนึ่ง DeepSeek Moment หรือไม่?” หลังจากก่อนหน้านี้โมเดล R1 ของ DeepSeek ได้เขย่าความเชื่อเรื่องความเหนือกว่าของ AI สหรัฐฯ Kimi K2 Thinking ทำคะแนน 44.9% ใน Humanity’s Last Exam (ข้อสอบมาตรฐาน LLM กว่า 2,500 ข้อ) ซึ่งสูงกว่า GPT-5 ที่ทำได้ 41.7% และยังชนะใน benchmark สำคัญอย่าง BrowseComp และ Seal-0 ที่ทดสอบความสามารถในการค้นหาข้อมูลจริงบนเว็บ นอกจากนี้ ค่าใช้จ่าย API ของ Kimi K2 Thinking ยังถูกกว่าโมเดลของ OpenAI และ Anthropic ถึง 6–10 เท่า นักวิเคราะห์ชี้ว่าแนวโน้มของจีนคือการลดต้นทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อแข่งขันด้วย ความคุ้มค่า (cost-effectiveness) แม้ประสิทธิภาพโดยรวมยังตามหลังโมเดลสหรัฐฯ 🧩 สาระเพิ่มเติมจากภายนอก 📌 การแข่งขัน AI ระหว่างจีนและสหรัฐฯ กำลังเปลี่ยนจาก “ใครเก่งกว่า” เป็น “ใครคุ้มค่ากว่า” 📌 การที่จีนหันมาเน้น ลดต้นทุนการฝึกและใช้งาน อาจทำให้ AI เข้าถึงนักพัฒนาและธุรกิจรายย่อยได้มากขึ้น 📌 หากแนวโน้มนี้ดำเนินต่อไป อาจเกิดการ เร่งนวัตกรรมด้านสถาปัตยกรรมโมเดลและเทคนิคการฝึก ที่เปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรม AI ✅ Moonshot AI เปิดตัว Kimi K2 Thinking ➡️ ทำผลงานเหนือ GPT-5 และ Claude Sonnet 4.5 ในหลาย benchmark ➡️ ได้รับความนิยมสูงสุดบน Hugging Face และมีผู้สนใจจำนวนมาก ✅ จุดเด่นของโมเดล ➡️ ค่าใช้จ่ายในการฝึกเพียง 4.6 ล้านดอลลาร์ ➡️ API ถูกกว่าโมเดลสหรัฐฯ ถึง 6–10 เท่า ✅ ผลกระทบต่อวงการ ➡️ จุดกระแส “DeepSeek Moment” ครั้งใหม่ ➡️ ท้าทายความเป็นผู้นำด้าน AI ของสหรัฐฯ ‼️ คำเตือนด้านความเสี่ยง ⛔ แม้ต้นทุนต่ำ แต่ประสิทธิภาพโดยรวมยังตามหลังโมเดลสหรัฐฯ ⛔ การแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงอาจทำให้บางบริษัทละเลยการตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัย ⛔ หากจีนครองตลาดด้วยโมเดลราคาถูก อาจเกิดความเสี่ยงด้านมาตรฐานและความน่าเชื่อถือของ AI https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/12/why-new-model-of-chinas-moonshot-ai-stirs-deepseek-moment-debate
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Why new model of China's Moonshot AI stirs 'DeepSeek moment' debate
    Kimi K2 Thinking outperforms OpenAI's GPT-5 and Anthropic's Claude Sonnet 4.5, sparking comparisons to DeepSeek's breakthrough.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 43 มุมมอง 0 รีวิว
  • หัวข้อข่าว: “ICANN เตือนภัย Splinternet – โลกออนไลน์อาจแตกเป็นเสี่ยง”

    ที่งาน Web Summit ในลิสบอน นาย Kurtis Lindqvist หัวหน้า ICANN (Internet Corporation for Assigned Names and Numbers) องค์กรที่ดูแลระบบชื่อโดเมนและ IP ของโลก ได้ออกมาเตือนว่า ความเสี่ยงที่อินเทอร์เน็ตจะแตกออกเป็น “Splinternets” หรือเครือข่ายย่อยที่ไม่เชื่อมถึงกัน อาจถูกหลีกเลี่ยงได้ในการประชุม UN เดือนธันวาคมนี้

    เขาอธิบายว่า อินเทอร์เน็ตทุกวันนี้ทำงานได้เพราะมี มาตรฐานเดียวกันทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นชื่อโดเมน (เช่น .com, .org) หรือ IP address ที่ทำให้ผู้ใช้จากทุกประเทศสามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างไร้รอยต่อ หากระบบนี้ถูกเปลี่ยนไปอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลหรือกลุ่มการค้า อาจทำให้เกิดการแบ่งแยกเป็นเครือข่ายย่อยที่ไม่สามารถเชื่อมต่อกันได้ ซึ่งจะทำให้ต้นทุนสูงขึ้นและลดคุณค่าทางเศรษฐกิจและสังคมที่อินเทอร์เน็ตสร้างมา

    แม้จะมีแรงกดดันจากบางประเทศที่ต้องการควบคุมระบบชื่อโดเมนเอง แต่ Lindqvist เชื่อว่า ส่วนใหญ่ยังเห็นด้วยกับการรักษาระบบปัจจุบัน เพราะมันพิสูจน์แล้วว่าใช้งานได้จริงและสร้างประโยชน์มหาศาล

    นอกจากนี้เขายังเปรียบเทียบกับการกำกับดูแล AI ที่กำลังเป็นประเด็นร้อนในปัจจุบัน โดยบอกว่า “ทุกอย่างยังอยู่บนโต๊ะ” ตั้งแต่การสร้างองค์กรอิสระแบบ ICANN ไปจนถึงการตั้งหน่วยงานเฉพาะของ UN เพื่อดูแล AI

    สาระเพิ่มเติมจากภายนอก
    แนวคิด “Splinternet” เคยถูกพูดถึงบ่อยในช่วงที่จีนและรัสเซียพยายามสร้างระบบอินเทอร์เน็ตของตัวเองที่แยกจากโลกตะวันตก
    หาก Splinternet เกิดขึ้นจริง อาจทำให้การสื่อสารระหว่างประเทศติดขัด เช่น เว็บไซต์บางแห่งไม่สามารถเข้าถึงได้จากบางประเทศ
    นักเศรษฐศาสตร์เตือนว่า Splinternet จะกระทบต่อการค้าโลกอย่างหนัก เพราะธุรกิจออนไลน์พึ่งพาการเชื่อมต่อแบบไร้พรมแดน

    ICANN เตือนภัย Splinternet
    หากระบบชื่อโดเมนถูกควบคุมโดยรัฐบาล อาจทำให้อินเทอร์เน็ตแตกเป็นเครือข่ายย่อย
    การเชื่อมต่อทั่วโลกจะมีต้นทุนสูงขึ้นและลดคุณค่าทางเศรษฐกิจ

    ข้อดีของระบบปัจจุบัน
    มีมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก ทำให้ทุกคนเข้าถึงกันได้
    สร้างประโยชน์ทางสังคมและธุรกิจมหาศาล

    การประชุม UN เดือนธันวาคม
    จะเป็นเวทีตัดสินใจเรื่องการกำกับดูแลอินเทอร์เน็ต
    ส่วนใหญ่ยังสนับสนุนการรักษาระบบเดิม

    คำเตือนด้านความเสี่ยง
    หาก Splinternet เกิดขึ้นจริง อาจทำให้โลกออนไลน์แตกแยก
    กระทบต่อการค้าโลกและการสื่อสารระหว่างประเทศ
    เพิ่มความเสี่ยงด้านความมั่นคงไซเบอร์ เพราะแต่ละเครือข่ายอาจมีมาตรฐานต่างกัน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/12/039splinternets039-threat-to-be-avoided-says-web-address-controller
    🌍 หัวข้อข่าว: “ICANN เตือนภัย Splinternet – โลกออนไลน์อาจแตกเป็นเสี่ยง” ที่งาน Web Summit ในลิสบอน นาย Kurtis Lindqvist หัวหน้า ICANN (Internet Corporation for Assigned Names and Numbers) องค์กรที่ดูแลระบบชื่อโดเมนและ IP ของโลก ได้ออกมาเตือนว่า ความเสี่ยงที่อินเทอร์เน็ตจะแตกออกเป็น “Splinternets” หรือเครือข่ายย่อยที่ไม่เชื่อมถึงกัน อาจถูกหลีกเลี่ยงได้ในการประชุม UN เดือนธันวาคมนี้ เขาอธิบายว่า อินเทอร์เน็ตทุกวันนี้ทำงานได้เพราะมี มาตรฐานเดียวกันทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นชื่อโดเมน (เช่น .com, .org) หรือ IP address ที่ทำให้ผู้ใช้จากทุกประเทศสามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างไร้รอยต่อ หากระบบนี้ถูกเปลี่ยนไปอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลหรือกลุ่มการค้า อาจทำให้เกิดการแบ่งแยกเป็นเครือข่ายย่อยที่ไม่สามารถเชื่อมต่อกันได้ ซึ่งจะทำให้ต้นทุนสูงขึ้นและลดคุณค่าทางเศรษฐกิจและสังคมที่อินเทอร์เน็ตสร้างมา แม้จะมีแรงกดดันจากบางประเทศที่ต้องการควบคุมระบบชื่อโดเมนเอง แต่ Lindqvist เชื่อว่า ส่วนใหญ่ยังเห็นด้วยกับการรักษาระบบปัจจุบัน เพราะมันพิสูจน์แล้วว่าใช้งานได้จริงและสร้างประโยชน์มหาศาล นอกจากนี้เขายังเปรียบเทียบกับการกำกับดูแล AI ที่กำลังเป็นประเด็นร้อนในปัจจุบัน โดยบอกว่า “ทุกอย่างยังอยู่บนโต๊ะ” ตั้งแต่การสร้างองค์กรอิสระแบบ ICANN ไปจนถึงการตั้งหน่วยงานเฉพาะของ UN เพื่อดูแล AI 🧩 สาระเพิ่มเติมจากภายนอก 📌 แนวคิด “Splinternet” เคยถูกพูดถึงบ่อยในช่วงที่จีนและรัสเซียพยายามสร้างระบบอินเทอร์เน็ตของตัวเองที่แยกจากโลกตะวันตก 📌 หาก Splinternet เกิดขึ้นจริง อาจทำให้การสื่อสารระหว่างประเทศติดขัด เช่น เว็บไซต์บางแห่งไม่สามารถเข้าถึงได้จากบางประเทศ 📌 นักเศรษฐศาสตร์เตือนว่า Splinternet จะกระทบต่อการค้าโลกอย่างหนัก เพราะธุรกิจออนไลน์พึ่งพาการเชื่อมต่อแบบไร้พรมแดน ✅ ICANN เตือนภัย Splinternet ➡️ หากระบบชื่อโดเมนถูกควบคุมโดยรัฐบาล อาจทำให้อินเทอร์เน็ตแตกเป็นเครือข่ายย่อย ➡️ การเชื่อมต่อทั่วโลกจะมีต้นทุนสูงขึ้นและลดคุณค่าทางเศรษฐกิจ ✅ ข้อดีของระบบปัจจุบัน ➡️ มีมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก ทำให้ทุกคนเข้าถึงกันได้ ➡️ สร้างประโยชน์ทางสังคมและธุรกิจมหาศาล ✅ การประชุม UN เดือนธันวาคม ➡️ จะเป็นเวทีตัดสินใจเรื่องการกำกับดูแลอินเทอร์เน็ต ➡️ ส่วนใหญ่ยังสนับสนุนการรักษาระบบเดิม ‼️ คำเตือนด้านความเสี่ยง ⛔ หาก Splinternet เกิดขึ้นจริง อาจทำให้โลกออนไลน์แตกแยก ⛔ กระทบต่อการค้าโลกและการสื่อสารระหว่างประเทศ ⛔ เพิ่มความเสี่ยงด้านความมั่นคงไซเบอร์ เพราะแต่ละเครือข่ายอาจมีมาตรฐานต่างกัน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/12/039splinternets039-threat-to-be-avoided-says-web-address-controller
    WWW.THESTAR.COM.MY
    'Splinternets' threat to be avoided, says web address controller
    ICANN is best known for coordinating global allocation of Internet addresses – whether the easily-remembered versions people type into web browsers, or the strings of numbers used by computers known as IP addresses.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 44 มุมมอง 0 รีวิว
  • หัวข้อข่าว: “Stablecoin เยนเตรียมบุกตลาดพันธบัตรญี่ปุ่น – ผู้เล่นใหม่ที่อาจเปลี่ยนเกมการเงิน”

    บริษัท JPYC เปิดตัว Stablecoin ที่ผูกกับเงินเยนเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2025 ถือเป็นครั้งแรกในญี่ปุ่นที่มีการออก Stablecoin แบบเต็มรูปแบบในประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อใช้เป็นเครื่องมือการชำระเงินและการลงทุนที่สะดวกและปลอดภัย

    ผู้บริหารของ JPYC ระบุว่า Stablecoin อาจกลายเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ของพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นในอนาคต เพราะการถือครองพันธบัตรจะช่วยสร้างความมั่นคงและความน่าเชื่อถือให้กับเหรียญดิจิทัลที่ออกมา ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง อาจทำให้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ต้องปรับวิธีการควบคุมตลาดการเงินใหม่ เนื่องจากผู้เล่นรายใหม่เข้ามามีบทบาทสำคัญ

    แม้ญี่ปุ่นยังเป็นสังคมที่นิยมใช้เงินสดและบัตรเครดิต แต่การเปิดตัว Stablecoin เยนถือเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนการเปลี่ยนแปลงของระบบการเงินสมัยใหม่

    สาระเพิ่มเติมจากภายนอก
    ญี่ปุ่นถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการกำกับดูแลคริปโตเข้มงวดที่สุด แต่ก็เปิดรับนวัตกรรมการเงินดิจิทัลมากขึ้น
    หาก Stablecoin เยนถูกนำไปใช้จริงในตลาดพันธบัตร อาจช่วยเพิ่มสภาพคล่องและดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ
    อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เตือนว่า หาก Stablecoin มีบทบาทมากเกินไป อาจทำให้ BOJ สูญเสียความสามารถในการควบคุมอัตราดอกเบี้ยและนโยบายการเงิน

    JPYC เปิดตัว Stablecoin เยนครั้งแรกในญี่ปุ่น
    เปิดตัวเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2025
    มีเป้าหมายเพื่อใช้ในการชำระเงินและการลงทุน

    บทบาทในตลาดพันธบัตร
    Stablecoin อาจกลายเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ของพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น
    ส่งผลต่อการดำเนินนโยบายการเงินของ BOJ

    ความสำคัญต่อระบบการเงิน
    สะท้อนการเปลี่ยนแปลงจากสังคมที่นิยมเงินสดสู่การเงินดิจิทัล
    อาจช่วยเพิ่มสภาพคล่องและดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ

    คำเตือนด้านความเสี่ยง
    หาก Stablecoin มีบทบาทมากเกินไป อาจทำให้ BOJ ควบคุมนโยบายการเงินได้ยากขึ้น
    ความเสี่ยงจากการพึ่งพาแพลตฟอร์มดิจิทัลที่อาจถูกโจมตีหรือหยุดทำงาน
    การยอมรับจากผู้ใช้ทั่วไปยังไม่แน่นอน เพราะญี่ปุ่นยังนิยมใช้เงินสดและบัตรเครดิต

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/12/yen-stablecoin-issuer-predicts-growing-presence-in-japan039s-bond-market
    💴 หัวข้อข่าว: “Stablecoin เยนเตรียมบุกตลาดพันธบัตรญี่ปุ่น – ผู้เล่นใหม่ที่อาจเปลี่ยนเกมการเงิน” บริษัท JPYC เปิดตัว Stablecoin ที่ผูกกับเงินเยนเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2025 ถือเป็นครั้งแรกในญี่ปุ่นที่มีการออก Stablecoin แบบเต็มรูปแบบในประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อใช้เป็นเครื่องมือการชำระเงินและการลงทุนที่สะดวกและปลอดภัย ผู้บริหารของ JPYC ระบุว่า Stablecoin อาจกลายเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ของพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นในอนาคต เพราะการถือครองพันธบัตรจะช่วยสร้างความมั่นคงและความน่าเชื่อถือให้กับเหรียญดิจิทัลที่ออกมา ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง อาจทำให้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ต้องปรับวิธีการควบคุมตลาดการเงินใหม่ เนื่องจากผู้เล่นรายใหม่เข้ามามีบทบาทสำคัญ แม้ญี่ปุ่นยังเป็นสังคมที่นิยมใช้เงินสดและบัตรเครดิต แต่การเปิดตัว Stablecoin เยนถือเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนการเปลี่ยนแปลงของระบบการเงินสมัยใหม่ 🧩 สาระเพิ่มเติมจากภายนอก 🔰 ญี่ปุ่นถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการกำกับดูแลคริปโตเข้มงวดที่สุด แต่ก็เปิดรับนวัตกรรมการเงินดิจิทัลมากขึ้น 🔰 หาก Stablecoin เยนถูกนำไปใช้จริงในตลาดพันธบัตร อาจช่วยเพิ่มสภาพคล่องและดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ 🔰 อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เตือนว่า หาก Stablecoin มีบทบาทมากเกินไป อาจทำให้ BOJ สูญเสียความสามารถในการควบคุมอัตราดอกเบี้ยและนโยบายการเงิน ✅ JPYC เปิดตัว Stablecoin เยนครั้งแรกในญี่ปุ่น ➡️ เปิดตัวเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2025 ➡️ มีเป้าหมายเพื่อใช้ในการชำระเงินและการลงทุน ✅ บทบาทในตลาดพันธบัตร ➡️ Stablecoin อาจกลายเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ของพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น ➡️ ส่งผลต่อการดำเนินนโยบายการเงินของ BOJ ✅ ความสำคัญต่อระบบการเงิน ➡️ สะท้อนการเปลี่ยนแปลงจากสังคมที่นิยมเงินสดสู่การเงินดิจิทัล ➡️ อาจช่วยเพิ่มสภาพคล่องและดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ ‼️ คำเตือนด้านความเสี่ยง ⛔ หาก Stablecoin มีบทบาทมากเกินไป อาจทำให้ BOJ ควบคุมนโยบายการเงินได้ยากขึ้น ⛔ ความเสี่ยงจากการพึ่งพาแพลตฟอร์มดิจิทัลที่อาจถูกโจมตีหรือหยุดทำงาน ⛔ การยอมรับจากผู้ใช้ทั่วไปยังไม่แน่นอน เพราะญี่ปุ่นยังนิยมใช้เงินสดและบัตรเครดิต https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/12/yen-stablecoin-issuer-predicts-growing-presence-in-japan039s-bond-market
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Yen stablecoin issuer predicts growing presence in Japan's bond market
    TOKYO (Reuters) -Stablecoin issuers could become major buyers of Japanese government bonds in several years and influence the central bank's control over monetary policy, the head of Japan's first domestic issuer of yen-pegged stablecoins told Reuters.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 47 มุมมอง 0 รีวิว
  • หัวข้อข่าว: “SoFi เปิดตัวบริการคริปโต – คลื่นทองคำดิจิทัลดึงสถาบันการเงินเข้าตลาด”

    เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2025 SoFi ประกาศเปิดตัวบริการซื้อขายคริปโตสำหรับลูกค้าทั่วไป ถือเป็นการเข้าสู่ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างจริงจัง หลังจากที่กระแสการลงทุนในคริปโตพุ่งสูงขึ้นทั้งจากนักลงทุนรายย่อยและสถาบัน

    สิ่งที่น่าสนใจคือ สถาบันการเงินดั้งเดิมจำนวนมากเริ่มเข้ามาในตลาดคริปโต เพราะกฎระเบียบในหลายประเทศเริ่มชัดเจนขึ้น ทำให้ความเสี่ยงด้านกฎหมายลดลง และการยอมรับจากผู้ใช้ก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

    รายงานระบุว่า แรงผลักดันหลักมาจากสองด้าน
    1️⃣ Retail Momentum – นักลงทุนรายย่อยเข้ามาซื้อขายมากขึ้น
    2️⃣ Institutional Entry – สถาบันการเงินใหญ่ ๆ เช่นธนาคารและผู้ให้บริการสินเชื่อ เริ่มเปิดบริการคริปโต

    สิ่งนี้ทำให้ตลาดคริปโตมีการซื้อขายคึกคัก และแพลตฟอร์มอย่าง SoFi ได้รับแรงหนุนมหาศาล

    สาระเพิ่มเติมจากภายนอก
    SoFi เดิมเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ให้บริการสินเชื่อและการลงทุนแบบดิจิทัล การเข้าสู่ตลาดคริปโตจึงเป็นการขยายธุรกิจครั้งใหญ่
    การที่สถาบันการเงินเข้ามาในตลาดคริปโตมากขึ้น อาจช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ แต่ก็ทำให้การแข่งขันรุนแรงขึ้น
    นักวิเคราะห์บางรายเตือนว่า แม้กฎระเบียบจะชัดเจนขึ้น แต่ความผันผวนของคริปโตยังสูงมาก และอาจสร้างความเสี่ยงต่อผู้ลงทุนที่ไม่เข้าใจตลาดอย่างลึกซึ้ง

    SoFi เปิดตัวบริการซื้อขายคริปโต
    เข้าสู่ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างจริงจัง
    ตอบรับกระแสการลงทุนที่เติบโตอย่างรวดเร็ว

    แรงผลักดันของตลาดคริปโต
    นักลงทุนรายย่อยเข้ามามากขึ้น
    สถาบันการเงินดั้งเดิมเริ่มเข้าสู่ตลาด

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    เพิ่มการแข่งขันระหว่างแพลตฟอร์มการเงิน
    สร้างความน่าเชื่อถือให้ตลาดคริปโตมากขึ้น

    คำเตือนด้านความเสี่ยง
    ความผันผวนของคริปโตยังสูง อาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหนัก
    การเข้ามาของสถาบันการเงินอาจทำให้ตลาดถูกครอบงำโดยผู้เล่นรายใหญ่
    แม้กฎระเบียบชัดเจนขึ้น แต่ยังมีความเสี่ยงด้านการกำกับดูแลในบางประเทศ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/11/sofi-rolls-out-crypto-trading-as-digital-asset-gold-rush-draws-lenders
    💰 หัวข้อข่าว: “SoFi เปิดตัวบริการคริปโต – คลื่นทองคำดิจิทัลดึงสถาบันการเงินเข้าตลาด” เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2025 SoFi ประกาศเปิดตัวบริการซื้อขายคริปโตสำหรับลูกค้าทั่วไป ถือเป็นการเข้าสู่ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างจริงจัง หลังจากที่กระแสการลงทุนในคริปโตพุ่งสูงขึ้นทั้งจากนักลงทุนรายย่อยและสถาบัน สิ่งที่น่าสนใจคือ สถาบันการเงินดั้งเดิมจำนวนมากเริ่มเข้ามาในตลาดคริปโต เพราะกฎระเบียบในหลายประเทศเริ่มชัดเจนขึ้น ทำให้ความเสี่ยงด้านกฎหมายลดลง และการยอมรับจากผู้ใช้ก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รายงานระบุว่า แรงผลักดันหลักมาจากสองด้าน 1️⃣ Retail Momentum – นักลงทุนรายย่อยเข้ามาซื้อขายมากขึ้น 2️⃣ Institutional Entry – สถาบันการเงินใหญ่ ๆ เช่นธนาคารและผู้ให้บริการสินเชื่อ เริ่มเปิดบริการคริปโต สิ่งนี้ทำให้ตลาดคริปโตมีการซื้อขายคึกคัก และแพลตฟอร์มอย่าง SoFi ได้รับแรงหนุนมหาศาล 🧩 สาระเพิ่มเติมจากภายนอก 📌 SoFi เดิมเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ให้บริการสินเชื่อและการลงทุนแบบดิจิทัล การเข้าสู่ตลาดคริปโตจึงเป็นการขยายธุรกิจครั้งใหญ่ 📌 การที่สถาบันการเงินเข้ามาในตลาดคริปโตมากขึ้น อาจช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ แต่ก็ทำให้การแข่งขันรุนแรงขึ้น 📌 นักวิเคราะห์บางรายเตือนว่า แม้กฎระเบียบจะชัดเจนขึ้น แต่ความผันผวนของคริปโตยังสูงมาก และอาจสร้างความเสี่ยงต่อผู้ลงทุนที่ไม่เข้าใจตลาดอย่างลึกซึ้ง ✅ SoFi เปิดตัวบริการซื้อขายคริปโต ➡️ เข้าสู่ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างจริงจัง ➡️ ตอบรับกระแสการลงทุนที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ✅ แรงผลักดันของตลาดคริปโต ➡️ นักลงทุนรายย่อยเข้ามามากขึ้น ➡️ สถาบันการเงินดั้งเดิมเริ่มเข้าสู่ตลาด ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม ➡️ เพิ่มการแข่งขันระหว่างแพลตฟอร์มการเงิน ➡️ สร้างความน่าเชื่อถือให้ตลาดคริปโตมากขึ้น ‼️ คำเตือนด้านความเสี่ยง ⛔ ความผันผวนของคริปโตยังสูง อาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหนัก ⛔ การเข้ามาของสถาบันการเงินอาจทำให้ตลาดถูกครอบงำโดยผู้เล่นรายใหญ่ ⛔ แม้กฎระเบียบชัดเจนขึ้น แต่ยังมีความเสี่ยงด้านการกำกับดูแลในบางประเทศ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/11/sofi-rolls-out-crypto-trading-as-digital-asset-gold-rush-draws-lenders
    WWW.THESTAR.COM.MY
    SoFi rolls out crypto trading as digital asset gold rush draws lenders
    (Reuters) -SoFi on Tuesday announced plans to roll out crypto trading for customers, as the multi-trillion-dollar crypto sector continues to attract traditional financial firms amid clearer regulation and growing adoption.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 40 มุมมอง 0 รีวิว
  • หัวข้อข่าว: “Bitwise เปิดตัว Solana ETF จุดชนวนศึกคริปโตวอลล์สตรีท”

    วันที่ 28 ตุลาคม 2025 บริษัท Bitwise Asset Management ได้เปิดตัว Solana Staking ETF ซึ่งเป็นกองทุน ETF ที่ติดตามราคาสปอตของ Solana — คริปโตอันดับ 6 ของโลก — โดยใช้กระบวนการใหม่ที่ไม่ต้องรอการอนุมัติอย่างเป็นทางการจาก SEC ที่กำลังปิดทำการอยู่ในขณะนั้น

    การเคลื่อนไหวนี้ทำให้ Bitwise กลายเป็น ผู้เล่นรายแรก ที่เข้าสู่ตลาด ETF ของ altcoin และสร้างแรงกดดันมหาศาลต่อคู่แข่ง เช่น Grayscale, VanEck, Fidelity และ Invesco ที่ต้องรีบปรับแผนการออกผลิตภัณฑ์ตามมา

    เพียงสัปดาห์แรก กองทุนนี้ดึงดูดเงินลงทุนกว่า 420 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และนักวิเคราะห์จาก JPMorgan คาดว่า ETF ประเภท altcoin อาจดึงดูดเงินลงทุนรวมกว่า 14 พันล้านดอลลาร์ใน 6 เดือนแรก โดย Solana อาจได้ส่วนแบ่งถึง 6 พันล้านดอลลาร์

    สิ่งที่ทำให้การแข่งขันดุเดือดคือ “First-Mover Advantage” — ใครเปิดตัวก่อนย่อมได้เปรียบมหาศาล ตัวอย่างเช่น ProShares Bitcoin ETF ที่เปิดตัวก่อนคู่แข่งเพียงไม่กี่วันในปี 2021 แต่ครองตลาดจนถึงปัจจุบัน

    สาระเพิ่มเติมจากภายนอก
    Solana เป็นบล็อกเชนที่ขึ้นชื่อเรื่องความเร็วและค่าธรรมเนียมต่ำ จึงถูกมองว่าเป็นคู่แข่งสำคัญของ Ethereum
    การเปิดตัว ETF ของ Solana อาจช่วยให้คริปโต altcoin ได้รับการยอมรับในตลาดการเงินดั้งเดิมมากขึ้น
    อย่างไรก็ตาม การใช้กระบวนการที่ไม่ต้องรอ SEC อนุมัติ อาจสร้างความเสี่ยงด้านกฎระเบียบในอนาคต หาก SEC เข้ามาตรวจสอบและสั่งระงับ

    Bitwise เปิดตัว Solana ETF สำเร็จ
    ใช้กระบวนการใหม่ที่ไม่ต้องรอ SEC อนุมัติ
    ดึงดูดเงินลงทุนกว่า 420 ล้านดอลลาร์ในสัปดาห์แรก

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    คู่แข่งอย่าง Grayscale, VanEck, Fidelity ต้องรีบปรับกลยุทธ์
    คาดว่า altcoin ETFs อาจดึงดูดเงินลงทุนรวม 14 พันล้านดอลลาร์ใน 6 เดือน

    ความสำคัญของ First-Mover Advantage
    ใครเปิดตัวก่อนจะครองตลาดได้ยาวนาน เช่น ProShares Bitcoin ETF

    คำเตือนด้านความเสี่ยง
    การเปิดตัวโดยไม่รอ SEC อนุมัติ อาจถูกตรวจสอบและระงับภายหลัง
    ตลาด altcoin มีความผันผวนสูง นักลงทุนรายย่อยอาจเสี่ยงขาดทุนหนัก
    การแข่งขันเร่งรีบอาจทำให้บางบริษัทละเลยการตรวจสอบความเสี่ยงอย่างรอบคอบ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/12/bitwise-sparks-industry-scramble-with-solana-etf-launch
    🚀 หัวข้อข่าว: “Bitwise เปิดตัว Solana ETF จุดชนวนศึกคริปโตวอลล์สตรีท” วันที่ 28 ตุลาคม 2025 บริษัท Bitwise Asset Management ได้เปิดตัว Solana Staking ETF ซึ่งเป็นกองทุน ETF ที่ติดตามราคาสปอตของ Solana — คริปโตอันดับ 6 ของโลก — โดยใช้กระบวนการใหม่ที่ไม่ต้องรอการอนุมัติอย่างเป็นทางการจาก SEC ที่กำลังปิดทำการอยู่ในขณะนั้น การเคลื่อนไหวนี้ทำให้ Bitwise กลายเป็น ผู้เล่นรายแรก ที่เข้าสู่ตลาด ETF ของ altcoin และสร้างแรงกดดันมหาศาลต่อคู่แข่ง เช่น Grayscale, VanEck, Fidelity และ Invesco ที่ต้องรีบปรับแผนการออกผลิตภัณฑ์ตามมา เพียงสัปดาห์แรก กองทุนนี้ดึงดูดเงินลงทุนกว่า 420 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และนักวิเคราะห์จาก JPMorgan คาดว่า ETF ประเภท altcoin อาจดึงดูดเงินลงทุนรวมกว่า 14 พันล้านดอลลาร์ใน 6 เดือนแรก โดย Solana อาจได้ส่วนแบ่งถึง 6 พันล้านดอลลาร์ สิ่งที่ทำให้การแข่งขันดุเดือดคือ “First-Mover Advantage” — ใครเปิดตัวก่อนย่อมได้เปรียบมหาศาล ตัวอย่างเช่น ProShares Bitcoin ETF ที่เปิดตัวก่อนคู่แข่งเพียงไม่กี่วันในปี 2021 แต่ครองตลาดจนถึงปัจจุบัน 🧩 สาระเพิ่มเติมจากภายนอก 🔰 Solana เป็นบล็อกเชนที่ขึ้นชื่อเรื่องความเร็วและค่าธรรมเนียมต่ำ จึงถูกมองว่าเป็นคู่แข่งสำคัญของ Ethereum 🔰 การเปิดตัว ETF ของ Solana อาจช่วยให้คริปโต altcoin ได้รับการยอมรับในตลาดการเงินดั้งเดิมมากขึ้น 🔰 อย่างไรก็ตาม การใช้กระบวนการที่ไม่ต้องรอ SEC อนุมัติ อาจสร้างความเสี่ยงด้านกฎระเบียบในอนาคต หาก SEC เข้ามาตรวจสอบและสั่งระงับ ✅ Bitwise เปิดตัว Solana ETF สำเร็จ ➡️ ใช้กระบวนการใหม่ที่ไม่ต้องรอ SEC อนุมัติ ➡️ ดึงดูดเงินลงทุนกว่า 420 ล้านดอลลาร์ในสัปดาห์แรก ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม ➡️ คู่แข่งอย่าง Grayscale, VanEck, Fidelity ต้องรีบปรับกลยุทธ์ ➡️ คาดว่า altcoin ETFs อาจดึงดูดเงินลงทุนรวม 14 พันล้านดอลลาร์ใน 6 เดือน ✅ ความสำคัญของ First-Mover Advantage ➡️ ใครเปิดตัวก่อนจะครองตลาดได้ยาวนาน เช่น ProShares Bitcoin ETF ‼️ คำเตือนด้านความเสี่ยง ⛔ การเปิดตัวโดยไม่รอ SEC อนุมัติ อาจถูกตรวจสอบและระงับภายหลัง ⛔ ตลาด altcoin มีความผันผวนสูง นักลงทุนรายย่อยอาจเสี่ยงขาดทุนหนัก ⛔ การแข่งขันเร่งรีบอาจทำให้บางบริษัทละเลยการตรวจสอบความเสี่ยงอย่างรอบคอบ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/12/bitwise-sparks-industry-scramble-with-solana-etf-launch
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Bitwise sparks industry scramble with Solana ETF launch
    (Reuters) -Crypto firm Bitwise Asset Management's successful push to launch the first U.S. spot Solana ETF while the Securities and Exchange Commission was shut down has upended the regulatory playbook and forced competitors to rethink their product plans, said industry executives.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 38 มุมมอง 0 รีวิว
  • หัวข้อข่าว: “Tokenization – นวัตกรรมการเงินที่มาพร้อมความเสี่ยงใหม่”

    องค์กรกำกับดูแลตลาดทุนระดับโลก IOSCO ออกรายงานล่าสุดชี้ว่า การนำสินทรัพย์จริง เช่น หุ้น พันธบัตร หรืออสังหาริมทรัพย์ มาแปลงเป็นโทเคนดิจิทัลบนบล็อกเชน กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในปี 2025 โดยเฉพาะในตลาดที่ต้องการเพิ่มสภาพคล่องและเปิดโอกาสให้นักลงทุนรายย่อยเข้าถึงได้ง่ายขึ้น

    อย่างไรก็ตาม รายงานเตือนว่า Tokenization ไม่ได้มีแต่ข้อดี เพราะมันอาจสร้างความเสี่ยงใหม่ เช่น
    ความซับซ้อนของโครงสร้างการถือครอง
    ความไม่ชัดเจนด้านกฎระเบียบและการกำกับดูแล
    ความเสี่ยงจากการพึ่งพาแพลตฟอร์มดิจิทัลที่อาจล้มเหลวหรือถูกโจมตี

    นอกจากนี้ยังมีการถกเถียงในวงการการเงินว่า Tokenization จะช่วยให้ตลาดมีประสิทธิภาพมากขึ้นจริงหรือไม่ เพราะแม้จะเพิ่มการเข้าถึง แต่ก็อาจทำให้ผู้ลงทุนรายย่อยเผชิญความเสี่ยงที่ไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้

    สาระเพิ่มเติมจากภายนอก
    หลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ เริ่มทดลองใช้ พันธบัตรที่ถูก Tokenize เพื่อทดสอบการซื้อขายบนบล็อกเชน
    ธนาคารใหญ่ ๆ ในยุโรปกำลังพัฒนาแพลตฟอร์ม Tokenization สำหรับสินทรัพย์ทางเลือก เช่น ศิลปะและอสังหาริมทรัพย์
    ผู้เชี่ยวชาญบางรายมองว่า Tokenization อาจเป็น “สะพานเชื่อม” ระหว่างโลกการเงินดั้งเดิมกับโลก DeFi แต่ต้องมีการกำกับดูแลที่เข้มงวด

    Tokenization คือการแปลงสินทรัพย์จริงเป็นโทเคนดิจิทัล
    ใช้บล็อกเชนเพื่อเพิ่มสภาพคล่องและการเข้าถึง
    กำลังได้รับความนิยมในตลาดการเงินทั่วโลก

    ข้อดีของ Tokenization
    เปิดโอกาสให้นักลงทุนรายย่อยเข้าถึงสินทรัพย์ที่เคยเข้าถึงยาก
    เพิ่มความโปร่งใสและลดต้นทุนการทำธุรกรรม

    คำเตือนจาก IOSCO
    ความเสี่ยงด้านกฎระเบียบที่ยังไม่ชัดเจน
    ความซับซ้อนของโครงสร้างการถือครองโทเคน
    ความเสี่ยงจากแพลตฟอร์มที่อาจถูกโจมตีหรือหยุดทำงาน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/11/global-securities-watchdog-says-039tokenization039-creates-new-risks
    🌐 หัวข้อข่าว: “Tokenization – นวัตกรรมการเงินที่มาพร้อมความเสี่ยงใหม่” องค์กรกำกับดูแลตลาดทุนระดับโลก IOSCO ออกรายงานล่าสุดชี้ว่า การนำสินทรัพย์จริง เช่น หุ้น พันธบัตร หรืออสังหาริมทรัพย์ มาแปลงเป็นโทเคนดิจิทัลบนบล็อกเชน กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในปี 2025 โดยเฉพาะในตลาดที่ต้องการเพิ่มสภาพคล่องและเปิดโอกาสให้นักลงทุนรายย่อยเข้าถึงได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม รายงานเตือนว่า Tokenization ไม่ได้มีแต่ข้อดี เพราะมันอาจสร้างความเสี่ยงใหม่ เช่น 📌 ความซับซ้อนของโครงสร้างการถือครอง 📌 ความไม่ชัดเจนด้านกฎระเบียบและการกำกับดูแล 📌 ความเสี่ยงจากการพึ่งพาแพลตฟอร์มดิจิทัลที่อาจล้มเหลวหรือถูกโจมตี นอกจากนี้ยังมีการถกเถียงในวงการการเงินว่า Tokenization จะช่วยให้ตลาดมีประสิทธิภาพมากขึ้นจริงหรือไม่ เพราะแม้จะเพิ่มการเข้าถึง แต่ก็อาจทำให้ผู้ลงทุนรายย่อยเผชิญความเสี่ยงที่ไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ 🧩 สาระเพิ่มเติมจากภายนอก 📌 หลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ เริ่มทดลองใช้ พันธบัตรที่ถูก Tokenize เพื่อทดสอบการซื้อขายบนบล็อกเชน 📌 ธนาคารใหญ่ ๆ ในยุโรปกำลังพัฒนาแพลตฟอร์ม Tokenization สำหรับสินทรัพย์ทางเลือก เช่น ศิลปะและอสังหาริมทรัพย์ 📌 ผู้เชี่ยวชาญบางรายมองว่า Tokenization อาจเป็น “สะพานเชื่อม” ระหว่างโลกการเงินดั้งเดิมกับโลก DeFi แต่ต้องมีการกำกับดูแลที่เข้มงวด ✅ Tokenization คือการแปลงสินทรัพย์จริงเป็นโทเคนดิจิทัล ➡️ ใช้บล็อกเชนเพื่อเพิ่มสภาพคล่องและการเข้าถึง ➡️ กำลังได้รับความนิยมในตลาดการเงินทั่วโลก ✅ ข้อดีของ Tokenization ➡️ เปิดโอกาสให้นักลงทุนรายย่อยเข้าถึงสินทรัพย์ที่เคยเข้าถึงยาก ➡️ เพิ่มความโปร่งใสและลดต้นทุนการทำธุรกรรม ‼️ คำเตือนจาก IOSCO ⛔ ความเสี่ยงด้านกฎระเบียบที่ยังไม่ชัดเจน ⛔ ความซับซ้อนของโครงสร้างการถือครองโทเคน ⛔ ความเสี่ยงจากแพลตฟอร์มที่อาจถูกโจมตีหรือหยุดทำงาน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/11/global-securities-watchdog-says-039tokenization039-creates-new-risks
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Global securities watchdog says 'tokenization' creates new risks
    PARIS (Reuters) -Crypto tokens linked to mainstream financial assets could create new risks for investors, the global securities regulator IOSCO said in a report on Tuesday, as the finance industry remains split on the merits of "tokenization".
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 36 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวใหญ่: “อนาคตไร้รหัสผ่าน…อาจไม่เคยมาถึงจริง”

    ลองจินตนาการโลกที่เราไม่ต้องจำรหัสผ่านอีกต่อไป ใช้เพียงใบหน้า ลายนิ้วมือ หรือกุญแจดิจิทัลในการเข้าถึงทุกระบบ ฟังดูเหมือนฝันที่ใกล้จะเป็นจริง แต่บทความล่าสุดชี้ให้เห็นว่า การเดินทางสู่โลกไร้รหัสผ่านยังเต็มไปด้วยอุปสรรค และอาจไม่สามารถทำได้ครบ 100% ในเร็ววัน

    เล่าเรื่องให้ฟัง
    องค์กรทั่วโลกพยายามผลักดันระบบ “Passwordless Authentication” มานานกว่าทศวรรษ เพราะรหัสผ่านคือจุดอ่อนที่ถูกโจมตีง่ายที่สุด แต่ความจริงคือ หลายระบบเก่า (Legacy Systems) ไม่เคยถูกออกแบบมาให้รองรับอะไรนอกจากรหัสผ่าน ทำให้การเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องยาก

    แม้เทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น FIDO2, Passkeys, Biometrics จะช่วยได้มาก แต่ก็ยังมี “พื้นที่ดื้อรหัสผ่าน” ประมาณ 15% ที่ไม่สามารถแทนที่ได้ง่าย เช่น ระบบควบคุมอุตสาหกรรม, IoT, หรือแอปที่เขียนขึ้นเองในองค์กร

    ผู้เชี่ยวชาญบางรายเปรียบเทียบว่า การเปลี่ยนไปใช้ระบบไร้รหัสผ่านก็เหมือนการเดินทางสู่ Zero Trust Model — ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงทันที แต่เป็นการเดินทางหลายปีที่ต้องค่อย ๆ ปรับทีละขั้นตอน

    นอกจากนี้ยังมีประเด็นสำคัญที่หลายคนมองข้าม: แม้ระบบจะไร้รหัสผ่าน แต่ขั้นตอน “การสมัครและกู้คืนบัญชี” มักยังต้องใช้รหัสผ่านหรือ SMS OTP ซึ่งกลายเป็นช่องโหว่ใหม่ที่แฮกเกอร์สามารถเจาะเข้ามาได้

    สาระเพิ่มเติมจากภายนอก
    บริษัทเทคโนโลยีใหญ่ ๆ อย่าง Microsoft และ Google กำลังผลักดัน Passkeys อย่างจริงจัง โดยใช้การเข้ารหัสคู่กุญแจ (Public/Private Key) ที่ไม่สามารถถูกขโมยได้ง่ายเหมือนรหัสผ่าน
    องค์กรด้านความปลอดภัยไซเบอร์เตือนว่า การใช้ Biometrics เช่น ลายนิ้วมือหรือใบหน้า แม้สะดวก แต่ก็มีความเสี่ยงหากข้อมูลชีวมิติรั่วไหล เพราะไม่สามารถ “เปลี่ยน” เหมือนรหัสผ่านได้
    หลายประเทศเริ่มออกกฎบังคับให้ระบบสำคัญต้องรองรับการยืนยันตัวตนแบบไร้รหัสผ่าน เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและลดการโจมตีแบบ Phishing

    การนำระบบไร้รหัสผ่านมาใช้ยังไม่สมบูรณ์
    องค์กรส่วนใหญ่ทำได้เพียง 75–85% ของระบบทั้งหมด
    ระบบเก่าและ IoT คืออุปสรรคใหญ่

    เทคโนโลยีที่ใช้แทนรหัสผ่าน
    FIDO2, Passkeys, Biometrics (ใบหน้า, ลายนิ้วมือ, ม่านตา)
    แต่ละวิธีมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน

    กลยุทธ์การนำไปใช้
    เริ่มจากผู้ใช้ที่มีสิทธิ์สูง เช่น Admin และวิศวกร
    ใช้ VPN หรือ Reverse Proxy เพื่อเชื่อมระบบเก่าเข้ากับระบบใหม่

    คำเตือนด้านความปลอดภัย
    ขั้นตอนสมัครและกู้คืนบัญชีมักยังใช้รหัสผ่านหรือ OTP ซึ่งเป็นช่องโหว่
    Biometrics หากรั่วไหลไม่สามารถเปลี่ยนใหม่ได้เหมือนรหัสผ่าน
    การมีหลายระบบ Passwordless พร้อมกันอาจสร้างช่องโหว่ใหม่ให้แฮกเกอร์

    https://www.csoonline.com/article/4085426/your-passwordless-future-may-never-fully-arrive.html
    🔐 ข่าวใหญ่: “อนาคตไร้รหัสผ่าน…อาจไม่เคยมาถึงจริง” ลองจินตนาการโลกที่เราไม่ต้องจำรหัสผ่านอีกต่อไป ใช้เพียงใบหน้า ลายนิ้วมือ หรือกุญแจดิจิทัลในการเข้าถึงทุกระบบ ฟังดูเหมือนฝันที่ใกล้จะเป็นจริง แต่บทความล่าสุดชี้ให้เห็นว่า การเดินทางสู่โลกไร้รหัสผ่านยังเต็มไปด้วยอุปสรรค และอาจไม่สามารถทำได้ครบ 100% ในเร็ววัน 📖 เล่าเรื่องให้ฟัง องค์กรทั่วโลกพยายามผลักดันระบบ “Passwordless Authentication” มานานกว่าทศวรรษ เพราะรหัสผ่านคือจุดอ่อนที่ถูกโจมตีง่ายที่สุด แต่ความจริงคือ หลายระบบเก่า (Legacy Systems) ไม่เคยถูกออกแบบมาให้รองรับอะไรนอกจากรหัสผ่าน ทำให้การเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องยาก แม้เทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น FIDO2, Passkeys, Biometrics จะช่วยได้มาก แต่ก็ยังมี “พื้นที่ดื้อรหัสผ่าน” ประมาณ 15% ที่ไม่สามารถแทนที่ได้ง่าย เช่น ระบบควบคุมอุตสาหกรรม, IoT, หรือแอปที่เขียนขึ้นเองในองค์กร ผู้เชี่ยวชาญบางรายเปรียบเทียบว่า การเปลี่ยนไปใช้ระบบไร้รหัสผ่านก็เหมือนการเดินทางสู่ Zero Trust Model — ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงทันที แต่เป็นการเดินทางหลายปีที่ต้องค่อย ๆ ปรับทีละขั้นตอน นอกจากนี้ยังมีประเด็นสำคัญที่หลายคนมองข้าม: แม้ระบบจะไร้รหัสผ่าน แต่ขั้นตอน “การสมัครและกู้คืนบัญชี” มักยังต้องใช้รหัสผ่านหรือ SMS OTP ซึ่งกลายเป็นช่องโหว่ใหม่ที่แฮกเกอร์สามารถเจาะเข้ามาได้ 🧩 สาระเพิ่มเติมจากภายนอก 🔰 บริษัทเทคโนโลยีใหญ่ ๆ อย่าง Microsoft และ Google กำลังผลักดัน Passkeys อย่างจริงจัง โดยใช้การเข้ารหัสคู่กุญแจ (Public/Private Key) ที่ไม่สามารถถูกขโมยได้ง่ายเหมือนรหัสผ่าน 🔰 องค์กรด้านความปลอดภัยไซเบอร์เตือนว่า การใช้ Biometrics เช่น ลายนิ้วมือหรือใบหน้า แม้สะดวก แต่ก็มีความเสี่ยงหากข้อมูลชีวมิติรั่วไหล เพราะไม่สามารถ “เปลี่ยน” เหมือนรหัสผ่านได้ 🔰 หลายประเทศเริ่มออกกฎบังคับให้ระบบสำคัญต้องรองรับการยืนยันตัวตนแบบไร้รหัสผ่าน เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและลดการโจมตีแบบ Phishing ✅ การนำระบบไร้รหัสผ่านมาใช้ยังไม่สมบูรณ์ ➡️ องค์กรส่วนใหญ่ทำได้เพียง 75–85% ของระบบทั้งหมด ➡️ ระบบเก่าและ IoT คืออุปสรรคใหญ่ ✅ เทคโนโลยีที่ใช้แทนรหัสผ่าน ➡️ FIDO2, Passkeys, Biometrics (ใบหน้า, ลายนิ้วมือ, ม่านตา) ➡️ แต่ละวิธีมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน ✅ กลยุทธ์การนำไปใช้ ➡️ เริ่มจากผู้ใช้ที่มีสิทธิ์สูง เช่น Admin และวิศวกร ➡️ ใช้ VPN หรือ Reverse Proxy เพื่อเชื่อมระบบเก่าเข้ากับระบบใหม่ ‼️ คำเตือนด้านความปลอดภัย ⛔ ขั้นตอนสมัครและกู้คืนบัญชีมักยังใช้รหัสผ่านหรือ OTP ซึ่งเป็นช่องโหว่ ⛔ Biometrics หากรั่วไหลไม่สามารถเปลี่ยนใหม่ได้เหมือนรหัสผ่าน ⛔ การมีหลายระบบ Passwordless พร้อมกันอาจสร้างช่องโหว่ใหม่ให้แฮกเกอร์ https://www.csoonline.com/article/4085426/your-passwordless-future-may-never-fully-arrive.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Your passwordless future may never fully arrive
    As a concept, passwordless authentication has all but been universally embraced. In practice, though, CISOs find it difficult to deploy — especially that last 15%. Fortunately, creative workarounds are arising.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 43 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวเทคโนโลยี: IKEA เปิดตัวสมาร์ทโฮมไลน์ใหม่ รองรับ Matter

    IKEA แม้จะยุติความร่วมมือกับ Sonos ไปแล้ว แต่ก็ยังเดินหน้าตลาดสมาร์ทโฮมเต็มกำลัง ล่าสุดประกาศเปิดตัว ผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฮมใหม่เกือบสองโหล ที่รองรับมาตรฐาน Matter ซึ่งช่วยให้ใช้งานร่วมกับอุปกรณ์จากแบรนด์อื่นได้อย่างไร้รอยต่อ.

    จุดเด่นของไลน์สินค้าใหม่
    หลอดไฟ KAJPLATS: มากกว่า 11 รุ่น ทั้งแบบปรับสีและปรับเฉดแสงขาว รองรับขั้ว E26, E27 และ GU10
    เซ็นเซอร์อัจฉริยะ: เช่น MYGGSPRAY (ตรวจจับการเคลื่อนไหว), MYGGBETT (ตรวจจับการเปิด-ปิดประตู/หน้าต่าง), ALPSTUGA (ตรวจวัดอุณหภูมิ ความชื้น คุณภาพอากาศ และการรั่วซึมน้ำ)
    รีโมต BILRESA: มีทั้งแบบสองปุ่มและแบบวงล้อเลื่อน ปรับความสว่าง สี และโหมดไฟได้
    ปลั๊ก GRILLPLATS: ควบคุมการเปิด-ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้าน

    บริบทธุรกิจ
    การเปิดตัวครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจาก IKEA รายงานกำไรลดลงกว่า 32% จึงเป็นกลยุทธ์เพื่อขยายฐานลูกค้า โดยยังจับมือกับ Best Buy เปิดมุมขายในสหรัฐฯ เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น.

    อนาคตสมาร์ทโฮมของ IKEA
    ลูกค้าที่ใช้ฮับรุ่นเก่า TRÅDFRI หรือ DIRIGERA ยังสามารถใช้งานร่วมกับสินค้าใหม่ได้
    มีการคาดการณ์ว่า IKEA อาจพัฒนาลำโพงอัจฉริยะของตัวเอง หลังจากยุติการร่วมมือกับ Sonos
    ตลาดสมาร์ทโฮมทั่วโลกเติบโตจาก 128 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 คาดว่าจะถึง 500 พันล้านดอลลาร์ในปี 2030 ซึ่ง IKEA ตั้งใจจะเป็นผู้เล่นหลักในตลาดนี้.

    สินค้าใหม่กว่า 20 รายการ
    เน้นหลอดไฟ เซ็นเซอร์ รีโมต และปลั๊กอัจฉริยะ
    รองรับมาตรฐาน Matter ใช้งานร่วมกับแบรนด์อื่นได้

    กลยุทธ์ธุรกิจ
    เปิดตัวหลังรายงานกำไรลดลง 32%
    ขยายตลาดผ่าน Best Buy ในสหรัฐฯ

    ความเข้ากันได้กับระบบเดิม
    ใช้งานร่วมกับ TRÅDFRI และ DIRIGERA ได้เต็มฟังก์ชัน
    อาจมีลำโพงอัจฉริยะของ IKEA ในอนาคต

    ยังไม่มีวันวางจำหน่ายและราคาแน่นอน
    ขึ้นอยู่กับภูมิภาคและการเปิดตัวในแต่ละประเทศ

    การแข่งขันในตลาดสมาร์ทโฮมสูงมาก
    IKEA ต้องรักษาจุดแข็งด้านราคาและความง่ายในการใช้งาน

    https://www.slashgear.com/2024071/ikea-smart-home-gadgets-matter-compatible/
    🏠 ข่าวเทคโนโลยี: IKEA เปิดตัวสมาร์ทโฮมไลน์ใหม่ รองรับ Matter IKEA แม้จะยุติความร่วมมือกับ Sonos ไปแล้ว แต่ก็ยังเดินหน้าตลาดสมาร์ทโฮมเต็มกำลัง ล่าสุดประกาศเปิดตัว ผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฮมใหม่เกือบสองโหล ที่รองรับมาตรฐาน Matter ซึ่งช่วยให้ใช้งานร่วมกับอุปกรณ์จากแบรนด์อื่นได้อย่างไร้รอยต่อ. 💡 จุดเด่นของไลน์สินค้าใหม่ 🔰 หลอดไฟ KAJPLATS: มากกว่า 11 รุ่น ทั้งแบบปรับสีและปรับเฉดแสงขาว รองรับขั้ว E26, E27 และ GU10 🔰 เซ็นเซอร์อัจฉริยะ: เช่น MYGGSPRAY (ตรวจจับการเคลื่อนไหว), MYGGBETT (ตรวจจับการเปิด-ปิดประตู/หน้าต่าง), ALPSTUGA (ตรวจวัดอุณหภูมิ ความชื้น คุณภาพอากาศ และการรั่วซึมน้ำ) 🔰 รีโมต BILRESA: มีทั้งแบบสองปุ่มและแบบวงล้อเลื่อน ปรับความสว่าง สี และโหมดไฟได้ 🔰 ปลั๊ก GRILLPLATS: ควบคุมการเปิด-ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้าน 📉 บริบทธุรกิจ การเปิดตัวครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจาก IKEA รายงานกำไรลดลงกว่า 32% จึงเป็นกลยุทธ์เพื่อขยายฐานลูกค้า โดยยังจับมือกับ Best Buy เปิดมุมขายในสหรัฐฯ เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น. 🌍 อนาคตสมาร์ทโฮมของ IKEA 🔰 ลูกค้าที่ใช้ฮับรุ่นเก่า TRÅDFRI หรือ DIRIGERA ยังสามารถใช้งานร่วมกับสินค้าใหม่ได้ 🔰 มีการคาดการณ์ว่า IKEA อาจพัฒนาลำโพงอัจฉริยะของตัวเอง หลังจากยุติการร่วมมือกับ Sonos 🔰 ตลาดสมาร์ทโฮมทั่วโลกเติบโตจาก 128 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 คาดว่าจะถึง 500 พันล้านดอลลาร์ในปี 2030 ซึ่ง IKEA ตั้งใจจะเป็นผู้เล่นหลักในตลาดนี้. ✅ สินค้าใหม่กว่า 20 รายการ ➡️ เน้นหลอดไฟ เซ็นเซอร์ รีโมต และปลั๊กอัจฉริยะ ➡️ รองรับมาตรฐาน Matter ใช้งานร่วมกับแบรนด์อื่นได้ ✅ กลยุทธ์ธุรกิจ ➡️ เปิดตัวหลังรายงานกำไรลดลง 32% ➡️ ขยายตลาดผ่าน Best Buy ในสหรัฐฯ ✅ ความเข้ากันได้กับระบบเดิม ➡️ ใช้งานร่วมกับ TRÅDFRI และ DIRIGERA ได้เต็มฟังก์ชัน ➡️ อาจมีลำโพงอัจฉริยะของ IKEA ในอนาคต ‼️ ยังไม่มีวันวางจำหน่ายและราคาแน่นอน ⛔ ขึ้นอยู่กับภูมิภาคและการเปิดตัวในแต่ละประเทศ ‼️ การแข่งขันในตลาดสมาร์ทโฮมสูงมาก ⛔ IKEA ต้องรักษาจุดแข็งด้านราคาและความง่ายในการใช้งาน https://www.slashgear.com/2024071/ikea-smart-home-gadgets-matter-compatible/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    IKEA Goes All-In On Smart Home Gadgets With New Product Line - SlashGear
    IKEA has dropped a new line of smart home products that include lighting, remote controls, and sensors. Here's everything you need to know.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 42 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวเทคโนโลยี: IronKey แฟลชไดรฟ์สุดแกร่ง ปลอดภัยเหนือกว่า USB ทั่วไป

    ในยุคที่ข้อมูลส่วนตัวและเอกสารสำคัญถูกเก็บไว้ในระบบคลาวด์ แต่ก็ยังมีความเสี่ยงจากการถูกลบหรือหายไป หลายคนจึงหันกลับมาใช้ สื่อบันทึกข้อมูลแบบพกพา อย่างแฟลชไดรฟ์อีกครั้ง แต่ไม่ใช่ทุกแฟลชไดรฟ์จะปลอดภัยเท่ากัน — และนี่คือจุดที่ IronKey เข้ามาเป็นตัวเลือกที่แตกต่าง.

    IronKey คืออะไร
    พัฒนาในช่วงต้นปี 2000 โดยบริษัทด้านความปลอดภัยที่ได้รับทุนสนับสนุนจาก Homeland Security ก่อนถูกซื้อโดย Kingston
    ถูกออกแบบมาเพื่อผู้ใช้งานระดับ รัฐบาล, กองทัพ และธุรกิจ ที่ต้องการความปลอดภัยสูงสุด

    จุดเด่นเหนือ USB ทั่วไป
    ใช้ การเข้ารหัสฮาร์ดแวร์ AES 256-bit ในโหมด XTS
    ผ่านมาตรฐาน FIPS 140-2 Level 3 พร้อมชิปจัดการคีย์เข้ารหัสในตัว
    ตรวจจับการพยายามเจาะระบบ หากใส่รหัสผิด 10 ครั้ง สามารถล็อกหรือทำลายข้อมูลอัตโนมัติ
    รองรับรหัสผ่านหรือวลีรหัส (passphrase) ยาวได้ถึง 255 ตัวอักษร

    คุ้มค่าหรือไม่
    ราคาสูงกว่ามาก เช่น 8GB ราคา $77
    หากใช้เก็บไฟล์ทั่วไป เช่น รูปภาพหรือการบ้าน อาจไม่คุ้มค่า
    แต่ถ้าเป็น ข้อมูลลับทางธุรกิจหรือเอกสารสำคัญระดับชาติ ถือว่าคุ้มกับการลงทุนเพื่อความปลอดภัย

    IronKey ถูกออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยสูงสุด
    ใช้การเข้ารหัสฮาร์ดแวร์ที่แข็งแกร่ง
    ตรวจจับการเจาะระบบและทำลายข้อมูลอัตโนมัติ

    แตกต่างจาก USB ทั่วไป
    USB ปกติใช้ซอฟต์แวร์เข้ารหัสที่ไม่แข็งแรงเท่า
    IronKey มีชิปเข้ารหัสในตัวและมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูง

    การใช้งานที่เหมาะสม
    เหมาะสำหรับรัฐบาล, กองทัพ, ธุรกิจที่ต้องการความปลอดภัย
    ไม่เหมาะกับการใช้งานทั่วไปที่ไม่ต้องการความปลอดภัยสูง

    https://www.slashgear.com/1461667/ronkey-vs-regular-usb-flash-drive-explained/
    🔐 ข่าวเทคโนโลยี: IronKey แฟลชไดรฟ์สุดแกร่ง ปลอดภัยเหนือกว่า USB ทั่วไป ในยุคที่ข้อมูลส่วนตัวและเอกสารสำคัญถูกเก็บไว้ในระบบคลาวด์ แต่ก็ยังมีความเสี่ยงจากการถูกลบหรือหายไป หลายคนจึงหันกลับมาใช้ สื่อบันทึกข้อมูลแบบพกพา อย่างแฟลชไดรฟ์อีกครั้ง แต่ไม่ใช่ทุกแฟลชไดรฟ์จะปลอดภัยเท่ากัน — และนี่คือจุดที่ IronKey เข้ามาเป็นตัวเลือกที่แตกต่าง. 🛡️ IronKey คืออะไร 🔰 พัฒนาในช่วงต้นปี 2000 โดยบริษัทด้านความปลอดภัยที่ได้รับทุนสนับสนุนจาก Homeland Security ก่อนถูกซื้อโดย Kingston 🔰 ถูกออกแบบมาเพื่อผู้ใช้งานระดับ รัฐบาล, กองทัพ และธุรกิจ ที่ต้องการความปลอดภัยสูงสุด ⚙️ จุดเด่นเหนือ USB ทั่วไป 🔰 ใช้ การเข้ารหัสฮาร์ดแวร์ AES 256-bit ในโหมด XTS 🔰 ผ่านมาตรฐาน FIPS 140-2 Level 3 พร้อมชิปจัดการคีย์เข้ารหัสในตัว 🔰 ตรวจจับการพยายามเจาะระบบ หากใส่รหัสผิด 10 ครั้ง สามารถล็อกหรือทำลายข้อมูลอัตโนมัติ 🔰 รองรับรหัสผ่านหรือวลีรหัส (passphrase) ยาวได้ถึง 255 ตัวอักษร 💰 คุ้มค่าหรือไม่ 🔰 ราคาสูงกว่ามาก เช่น 8GB ราคา $77 🔰 หากใช้เก็บไฟล์ทั่วไป เช่น รูปภาพหรือการบ้าน อาจไม่คุ้มค่า 🔰 แต่ถ้าเป็น ข้อมูลลับทางธุรกิจหรือเอกสารสำคัญระดับชาติ ถือว่าคุ้มกับการลงทุนเพื่อความปลอดภัย ✅ IronKey ถูกออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยสูงสุด ➡️ ใช้การเข้ารหัสฮาร์ดแวร์ที่แข็งแกร่ง ➡️ ตรวจจับการเจาะระบบและทำลายข้อมูลอัตโนมัติ ✅ แตกต่างจาก USB ทั่วไป ➡️ USB ปกติใช้ซอฟต์แวร์เข้ารหัสที่ไม่แข็งแรงเท่า ➡️ IronKey มีชิปเข้ารหัสในตัวและมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูง ✅ การใช้งานที่เหมาะสม ➡️ เหมาะสำหรับรัฐบาล, กองทัพ, ธุรกิจที่ต้องการความปลอดภัย ➡️ ไม่เหมาะกับการใช้งานทั่วไปที่ไม่ต้องการความปลอดภัยสูง https://www.slashgear.com/1461667/ronkey-vs-regular-usb-flash-drive-explained/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    What Is An IronKey And How Is It Different From Regular Flash Drives? - SlashGear
    If you've shopped for external storage, you might have come across IronKey flash drives. They cost a lot more, but what makes them so special?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 35 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าววิทยาศาสตร์: ร่องรอยโมเลกุลอินทรีย์ในอวกาศ อาจบอกใบ้ถึงกำเนิดชีวิตบนโลก

    ลองจินตนาการว่าโลกของเราไม่ได้เริ่มต้นจากเพียงแค่ทะเลโบราณและภูเขาไฟ แต่มี "วัตถุดิบแห่งชีวิต" เดินทางมาจากห้วงอวกาศอันไกลโพ้น นักดาราศาสตร์และนักวิทยาศาสตร์ด้านชีววิทยาอวกาศกำลังค้นพบหลักฐานที่น่าสนใจว่า โมเลกุลอินทรีย์—ซึ่งเป็นองค์ประกอบพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต—มีอยู่ทั่วไปในฝุ่นดาวหาง เศษอุกกาบาต และแม้แต่ในก๊าซจากดาวที่กำลังดับ

    การค้นพบเหล่านี้ทำให้เกิดคำถามสำคัญว่า ชีวิตบนโลกอาจเริ่มต้นจากอวกาศหรือไม่ โดยโมเลกุลอินทรีย์เหล่านี้อาจถูกพัดพามายังโลกผ่านดาวหางและอุกกาบาต ก่อนจะเจอสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมบนโลกจนเกิดวิวัฒนาการเป็นสิ่งมีชีวิตจริง

    นอกจากนี้ยังมีการตรวจพบสัญญาณก๊าซบางชนิดบนดาวเคราะห์ K2-18b ที่อยู่ห่างออกไปกว่า 124 ปีแสง ซึ่งก๊าซเหล่านี้ปกติจะเกิดจากสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก เช่น ไมโครออร์แกนิซึมในมหาสมุทรบนโลก แม้จะยังเป็นเพียงการคาดการณ์ แต่ก็เป็นหลักฐานที่ทำให้การค้นหาชีวิตนอกโลกยิ่งน่าตื่นเต้นขึ้น

    การค้นพบโมเลกุลอินทรีย์ในอวกาศ
    พบในฝุ่นดาวหาง อุกกาบาต และก๊าซจากดาวที่กำลังดับ
    โมเลกุลเหล่านี้เป็นองค์ประกอบสำคัญของสิ่งมีชีวิต เช่น คาร์บอนและกรดอะมิโน

    ทฤษฎีกำเนิดชีวิตจากอวกาศ (Panspermia)
    โมเลกุลอินทรีย์อาจถูกพัดพามายังโลกผ่านดาวหางและอุกกาบาต
    โลกมีสภาพแวดล้อมเหมาะสมจนเกิดวิวัฒนาการเป็นสิ่งมีชีวิต

    หลักฐานจากดาวเคราะห์ K2-18b
    ตรวจพบก๊าซที่ปกติผลิตโดยสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก
    เป็นการคาดการณ์ที่ยังต้องการการยืนยันเพิ่มเติม

    โครงการค้นหาชีวิตนอกโลก
    SETI และ Galileo Project ใช้เทคโนโลยี AI และกล้องโทรทรรศน์
    มุ่งหาสัญญาณหรือหลักฐานของสิ่งมีชีวิตนอกโลก

    ยังไม่มีหลักฐานยืนยันว่าชีวิตบนโลกเริ่มจากอวกาศจริง
    การค้นพบโมเลกุลอินทรีย์เป็นเพียง "วัตถุดิบ" ไม่ใช่การพิสูจน์ว่ามีชีวิต

    ข้อมูลจากดาวเคราะห์ K2-18b ยังเป็นการตีความเบื้องต้น
    นักวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถตรวจสอบโดยตรงว่ามีสิ่งมีชีวิตอยู่จริง

    การค้นหาชีวิตนอกโลกยังคงเป็นการวิจัยระยะยาว
    ต้องอาศัยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ากว่านี้เพื่อยืนยันการมีอยู่ของสิ่งมีชีวิต

    https://www.slashgear.com/2014873/origins-of-life-deep-space-organic-molecules/
    🪐 ข่าววิทยาศาสตร์: ร่องรอยโมเลกุลอินทรีย์ในอวกาศ อาจบอกใบ้ถึงกำเนิดชีวิตบนโลก ลองจินตนาการว่าโลกของเราไม่ได้เริ่มต้นจากเพียงแค่ทะเลโบราณและภูเขาไฟ แต่มี "วัตถุดิบแห่งชีวิต" เดินทางมาจากห้วงอวกาศอันไกลโพ้น 🌌 นักดาราศาสตร์และนักวิทยาศาสตร์ด้านชีววิทยาอวกาศกำลังค้นพบหลักฐานที่น่าสนใจว่า โมเลกุลอินทรีย์—ซึ่งเป็นองค์ประกอบพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต—มีอยู่ทั่วไปในฝุ่นดาวหาง เศษอุกกาบาต และแม้แต่ในก๊าซจากดาวที่กำลังดับ การค้นพบเหล่านี้ทำให้เกิดคำถามสำคัญว่า ชีวิตบนโลกอาจเริ่มต้นจากอวกาศหรือไม่ โดยโมเลกุลอินทรีย์เหล่านี้อาจถูกพัดพามายังโลกผ่านดาวหางและอุกกาบาต ก่อนจะเจอสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมบนโลกจนเกิดวิวัฒนาการเป็นสิ่งมีชีวิตจริง นอกจากนี้ยังมีการตรวจพบสัญญาณก๊าซบางชนิดบนดาวเคราะห์ K2-18b ที่อยู่ห่างออกไปกว่า 124 ปีแสง ซึ่งก๊าซเหล่านี้ปกติจะเกิดจากสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก เช่น ไมโครออร์แกนิซึมในมหาสมุทรบนโลก 🌍 แม้จะยังเป็นเพียงการคาดการณ์ แต่ก็เป็นหลักฐานที่ทำให้การค้นหาชีวิตนอกโลกยิ่งน่าตื่นเต้นขึ้น ✅ การค้นพบโมเลกุลอินทรีย์ในอวกาศ ➡️ พบในฝุ่นดาวหาง อุกกาบาต และก๊าซจากดาวที่กำลังดับ ➡️ โมเลกุลเหล่านี้เป็นองค์ประกอบสำคัญของสิ่งมีชีวิต เช่น คาร์บอนและกรดอะมิโน ✅ ทฤษฎีกำเนิดชีวิตจากอวกาศ (Panspermia) ➡️ โมเลกุลอินทรีย์อาจถูกพัดพามายังโลกผ่านดาวหางและอุกกาบาต ➡️ โลกมีสภาพแวดล้อมเหมาะสมจนเกิดวิวัฒนาการเป็นสิ่งมีชีวิต ✅ หลักฐานจากดาวเคราะห์ K2-18b ➡️ ตรวจพบก๊าซที่ปกติผลิตโดยสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก ➡️ เป็นการคาดการณ์ที่ยังต้องการการยืนยันเพิ่มเติม ✅ โครงการค้นหาชีวิตนอกโลก ➡️ SETI และ Galileo Project ใช้เทคโนโลยี AI และกล้องโทรทรรศน์ ➡️ มุ่งหาสัญญาณหรือหลักฐานของสิ่งมีชีวิตนอกโลก ‼️ ยังไม่มีหลักฐานยืนยันว่าชีวิตบนโลกเริ่มจากอวกาศจริง ⛔ การค้นพบโมเลกุลอินทรีย์เป็นเพียง "วัตถุดิบ" ไม่ใช่การพิสูจน์ว่ามีชีวิต ‼️ ข้อมูลจากดาวเคราะห์ K2-18b ยังเป็นการตีความเบื้องต้น ⛔ นักวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถตรวจสอบโดยตรงว่ามีสิ่งมีชีวิตอยู่จริง ‼️ การค้นหาชีวิตนอกโลกยังคงเป็นการวิจัยระยะยาว ⛔ ต้องอาศัยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ากว่านี้เพื่อยืนยันการมีอยู่ของสิ่งมีชีวิต https://www.slashgear.com/2014873/origins-of-life-deep-space-organic-molecules/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    Astronomers Keep Finding The Same Thing – And It Points To Life Starting In Space - SlashGear
    Researchers and astronomers have consistently detected the presence of organic molecules in space, hinting at life's extraterrestrial origins.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 31 มุมมอง 0 รีวิว
  • การค้นพบเทป UNIX V4: สมบัติจากปี 1973

    ทีมงานที่มหาวิทยาลัย Utah ขณะทำความสะอาดห้องเก็บของ ได้พบเทปแม่เหล็กที่มีป้ายเขียนว่า “UNIX Original from Bell Labs V4 (See Manual for format)” ซึ่งถือเป็นการค้นพบครั้งสำคัญ เพราะ UNIX V4 เป็นเวอร์ชันแรกที่มีเคอร์เนลเขียนด้วยภาษา C และเป็นรากฐานของระบบปฏิบัติการสมัยใหม่

    สิ่งที่เกิดขึ้น
    เทปนี้ถูกเก็บไว้นานหลายสิบปี โดยมีลายมือของ Jay Lepreau (อาจารย์ผู้ล่วงลับที่เคยอยู่ Utah) อยู่บนฉลาก
    ทีมงานตัดสินใจนำเทปไปยัง Computer History Museum (CHM) เพื่อทำการอ่านและอนุรักษ์
    ผู้เชี่ยวชาญด้านการกู้ข้อมูลเทปแม่เหล็ก เช่น Al Kossow และกลุ่ม Bitsavers กำลังเตรียมอุปกรณ์พิเศษเพื่ออ่านข้อมูล โดยอาจต้องใช้เทคนิคอย่าง การอบเทป (baking) เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพ

    มุมมองเพิ่มเติม
    หากสามารถอ่านข้อมูลได้สำเร็จ จะเป็นครั้งแรกที่โลกมี สำเนาครบถ้วนของ UNIX V4 ซึ่งมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และวิชาการมหาศาล
    การค้นพบนี้สะท้อนความสำคัญของ การอนุรักษ์ซอฟต์แวร์และสื่อเก็บข้อมูลเก่า เพราะเทคโนโลยีที่เราพึ่งพาในปัจจุบันมีรากฐานจากงานวิจัยเหล่านี้
    นักวิชาการและนักพัฒนาในชุมชน retrocomputing ต่างตื่นเต้น เพราะอาจสามารถรัน UNIX V4 บนเครื่องจำลอง PDP-11 หรือ PDP-8 ได้อีกครั้ง

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ค้นพบเทป UNIX V4 (1973) ที่มหาวิทยาลัย Utah
    ถือเป็นเวอร์ชันแรกที่เขียนเคอร์เนลด้วยภาษา C

    เทปถูกส่งไปยัง Computer History Museum
    เพื่อทำการอ่านและอนุรักษ์ข้อมูล

    ผู้เชี่ยวชาญเตรียมอุปกรณ์กู้ข้อมูลเทปแม่เหล็ก
    อาจต้องใช้เทคนิคการอบเทปและการอ่านแบบอนาล็อก

    ชุมชน retrocomputing ตื่นเต้นกับการค้นพบนี้
    อาจนำไปสู่การรัน UNIX V4 บน PDP emulator

    ความเสี่ยงในการอ่านข้อมูลจากเทปเก่า
    เทปอาจเสื่อมสภาพหรือมีปัญหาทางแม่เหล็ก ทำให้ข้อมูลสูญหายบางส่วน

    การอนุรักษ์ซอฟต์แวร์เก่าเป็นเรื่องเร่งด่วน
    หากไม่มีการกู้ข้อมูลทันเวลา อาจสูญเสียหลักฐานทางประวัติศาสตร์ดิจิทัล

    https://discuss.systems/@ricci/115504720054699983
    💾 การค้นพบเทป UNIX V4: สมบัติจากปี 1973 ทีมงานที่มหาวิทยาลัย Utah ขณะทำความสะอาดห้องเก็บของ ได้พบเทปแม่เหล็กที่มีป้ายเขียนว่า “UNIX Original from Bell Labs V4 (See Manual for format)” ซึ่งถือเป็นการค้นพบครั้งสำคัญ เพราะ UNIX V4 เป็นเวอร์ชันแรกที่มีเคอร์เนลเขียนด้วยภาษา C และเป็นรากฐานของระบบปฏิบัติการสมัยใหม่ สิ่งที่เกิดขึ้น 🔰 เทปนี้ถูกเก็บไว้นานหลายสิบปี โดยมีลายมือของ Jay Lepreau (อาจารย์ผู้ล่วงลับที่เคยอยู่ Utah) อยู่บนฉลาก 🔰 ทีมงานตัดสินใจนำเทปไปยัง Computer History Museum (CHM) เพื่อทำการอ่านและอนุรักษ์ 🔰 ผู้เชี่ยวชาญด้านการกู้ข้อมูลเทปแม่เหล็ก เช่น Al Kossow และกลุ่ม Bitsavers กำลังเตรียมอุปกรณ์พิเศษเพื่ออ่านข้อมูล โดยอาจต้องใช้เทคนิคอย่าง การอบเทป (baking) เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพ มุมมองเพิ่มเติม 🌍 💠 หากสามารถอ่านข้อมูลได้สำเร็จ จะเป็นครั้งแรกที่โลกมี สำเนาครบถ้วนของ UNIX V4 ซึ่งมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และวิชาการมหาศาล 💠 การค้นพบนี้สะท้อนความสำคัญของ การอนุรักษ์ซอฟต์แวร์และสื่อเก็บข้อมูลเก่า เพราะเทคโนโลยีที่เราพึ่งพาในปัจจุบันมีรากฐานจากงานวิจัยเหล่านี้ 💠 นักวิชาการและนักพัฒนาในชุมชน retrocomputing ต่างตื่นเต้น เพราะอาจสามารถรัน UNIX V4 บนเครื่องจำลอง PDP-11 หรือ PDP-8 ได้อีกครั้ง 🔎 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ค้นพบเทป UNIX V4 (1973) ที่มหาวิทยาลัย Utah ➡️ ถือเป็นเวอร์ชันแรกที่เขียนเคอร์เนลด้วยภาษา C ✅ เทปถูกส่งไปยัง Computer History Museum ➡️ เพื่อทำการอ่านและอนุรักษ์ข้อมูล ✅ ผู้เชี่ยวชาญเตรียมอุปกรณ์กู้ข้อมูลเทปแม่เหล็ก ➡️ อาจต้องใช้เทคนิคการอบเทปและการอ่านแบบอนาล็อก ✅ ชุมชน retrocomputing ตื่นเต้นกับการค้นพบนี้ ➡️ อาจนำไปสู่การรัน UNIX V4 บน PDP emulator ‼️ ความเสี่ยงในการอ่านข้อมูลจากเทปเก่า ⛔ เทปอาจเสื่อมสภาพหรือมีปัญหาทางแม่เหล็ก ทำให้ข้อมูลสูญหายบางส่วน ‼️ การอนุรักษ์ซอฟต์แวร์เก่าเป็นเรื่องเร่งด่วน ⛔ หากไม่มีการกู้ข้อมูลทันเวลา อาจสูญเสียหลักฐานทางประวัติศาสตร์ดิจิทัล https://discuss.systems/@ricci/115504720054699983
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 34 มุมมอง 0 รีวิว
  • FFmpeg vs Google: เมื่อโอเพ่นซอร์สต้องการมากกว่าแรงอาสา

    ลองนึกภาพว่าโปรแกรมที่คุณใช้ดูหนัง ฟังเพลง หรือแม้แต่เบราว์เซอร์ที่เปิดทุกวัน ต่างก็พึ่งพา FFmpeg — เครื่องมือโอเพ่นซอร์สที่ทำหน้าที่แปลงและประมวลผลสื่อมัลติมีเดียแทบทุกชนิดบนโลกใบนี้ แต่เบื้องหลังความสะดวกสบายนี้คือทีมอาสาสมัครที่ทำงานฟรี และกำลังเผชิญแรงกดดันมหาศาลจากบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่

    เรื่องราวเริ่มจากการที่ Google ใช้ AI ตรวจพบช่องโหว่เล็ก ๆ ใน FFmpeg ซึ่งแม้จะเป็นบั๊กที่เกี่ยวข้องกับเกมเก่าจากปี 1995 แต่ก็ถูกบังคับให้ต้องแก้ไขภายใต้กรอบเวลาเข้มงวดตามนโยบายการเปิดเผยช่องโหว่ของ Google Project Zero นี่จึงกลายเป็นการถกเถียงใหญ่ในชุมชนโอเพ่นซอร์สว่า “ใครควรรับผิดชอบค่าใช้จ่ายและแรงงานในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้”

    น่าสนใจคือ FFmpeg ไม่ใช่รายเดียวที่เจอปัญหาแบบนี้ — ไลบรารีสำคัญอย่าง libxml2 ก็เพิ่งเสียผู้ดูแลหลักไป เพราะไม่สามารถรับภาระการแก้ไขช่องโหว่ที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยไม่มีค่าตอบแทนได้อีกต่อไป

    มุมมองเพิ่มเติมจากภายนอก
    ปัญหานี้สะท้อนความจริงว่า โอเพ่นซอร์สคือโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่โลกพึ่งพา แต่กลับไม่ได้รับการสนับสนุนอย่างเป็นระบบ
    หลายองค์กรเริ่มพูดถึงแนวคิด “Open Source Sustainability” เช่นการจัดตั้งกองทุนสนับสนุน หรือการบังคับให้บริษัทที่ใช้ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สต้องมีส่วนร่วมในการดูแลรักษา
    หากไม่มีการแก้ไขเชิงโครงสร้าง เราอาจเห็นซอฟต์แวร์สำคัญ ๆ ถูกทิ้งร้าง และนั่นหมายถึงความเสี่ยงด้านความปลอดภัยระดับโลก

    FFmpeg ถูกใช้ทั่วโลก
    เป็นหัวใจของการเล่นและแปลงไฟล์วิดีโอ/เสียงใน VLC, Chrome, Firefox, YouTube ฯลฯ

    ทีมพัฒนาเป็นอาสาสมัครเกือบทั้งหมด
    ไม่มีสัญญา ไม่มีงบประมาณจากองค์กรใหญ่ แต่ต้องรับภาระการแก้ไขช่องโหว่

    Google ใช้ AI ตรวจพบบั๊กเก่าใน FFmpeg
    แม้เป็นปัญหากับเกมปี 1995 แต่ก็ต้องแก้ไขตามนโยบายการเปิดเผยช่องโหว่

    กรณี libxml2 แสดงให้เห็นปัญหาเชิงโครงสร้าง
    ผู้ดูแลลาออกเพราะไม่สามารถรับภาระการแก้ไขช่องโหว่โดยไม่มีค่าตอบแทน

    แรงกดดันจากนโยบายการเปิดเผยช่องโหว่ของ Google Project Zero
    กำหนดเวลา 90 วันในการแก้ไข แม้ทีมอาสาสมัครไม่มีทรัพยากรเพียงพอ

    ความเสี่ยงต่อความมั่นคงของระบบดิจิทัลโลก
    หากโครงการโอเพ่นซอร์สสำคัญถูกทิ้งร้าง อาจเกิดช่องโหว่ใหญ่ที่กระทบผู้ใช้ทั่วโลก

    https://thenewstack.io/ffmpeg-to-google-fund-us-or-stop-sending-bugs/
    📰 FFmpeg vs Google: เมื่อโอเพ่นซอร์สต้องการมากกว่าแรงอาสา ลองนึกภาพว่าโปรแกรมที่คุณใช้ดูหนัง ฟังเพลง หรือแม้แต่เบราว์เซอร์ที่เปิดทุกวัน ต่างก็พึ่งพา FFmpeg — เครื่องมือโอเพ่นซอร์สที่ทำหน้าที่แปลงและประมวลผลสื่อมัลติมีเดียแทบทุกชนิดบนโลกใบนี้ แต่เบื้องหลังความสะดวกสบายนี้คือทีมอาสาสมัครที่ทำงานฟรี และกำลังเผชิญแรงกดดันมหาศาลจากบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ เรื่องราวเริ่มจากการที่ Google ใช้ AI ตรวจพบช่องโหว่เล็ก ๆ ใน FFmpeg ซึ่งแม้จะเป็นบั๊กที่เกี่ยวข้องกับเกมเก่าจากปี 1995 แต่ก็ถูกบังคับให้ต้องแก้ไขภายใต้กรอบเวลาเข้มงวดตามนโยบายการเปิดเผยช่องโหว่ของ Google Project Zero นี่จึงกลายเป็นการถกเถียงใหญ่ในชุมชนโอเพ่นซอร์สว่า “ใครควรรับผิดชอบค่าใช้จ่ายและแรงงานในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้” น่าสนใจคือ FFmpeg ไม่ใช่รายเดียวที่เจอปัญหาแบบนี้ — ไลบรารีสำคัญอย่าง libxml2 ก็เพิ่งเสียผู้ดูแลหลักไป เพราะไม่สามารถรับภาระการแก้ไขช่องโหว่ที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยไม่มีค่าตอบแทนได้อีกต่อไป มุมมองเพิ่มเติมจากภายนอก 🌍 🔰 ปัญหานี้สะท้อนความจริงว่า โอเพ่นซอร์สคือโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่โลกพึ่งพา แต่กลับไม่ได้รับการสนับสนุนอย่างเป็นระบบ 🔰 หลายองค์กรเริ่มพูดถึงแนวคิด “Open Source Sustainability” เช่นการจัดตั้งกองทุนสนับสนุน หรือการบังคับให้บริษัทที่ใช้ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สต้องมีส่วนร่วมในการดูแลรักษา 🔰 หากไม่มีการแก้ไขเชิงโครงสร้าง เราอาจเห็นซอฟต์แวร์สำคัญ ๆ ถูกทิ้งร้าง และนั่นหมายถึงความเสี่ยงด้านความปลอดภัยระดับโลก ✅ FFmpeg ถูกใช้ทั่วโลก ➡️ เป็นหัวใจของการเล่นและแปลงไฟล์วิดีโอ/เสียงใน VLC, Chrome, Firefox, YouTube ฯลฯ ✅ ทีมพัฒนาเป็นอาสาสมัครเกือบทั้งหมด ➡️ ไม่มีสัญญา ไม่มีงบประมาณจากองค์กรใหญ่ แต่ต้องรับภาระการแก้ไขช่องโหว่ ✅ Google ใช้ AI ตรวจพบบั๊กเก่าใน FFmpeg ➡️ แม้เป็นปัญหากับเกมปี 1995 แต่ก็ต้องแก้ไขตามนโยบายการเปิดเผยช่องโหว่ ✅ กรณี libxml2 แสดงให้เห็นปัญหาเชิงโครงสร้าง ➡️ ผู้ดูแลลาออกเพราะไม่สามารถรับภาระการแก้ไขช่องโหว่โดยไม่มีค่าตอบแทน ‼️ แรงกดดันจากนโยบายการเปิดเผยช่องโหว่ของ Google Project Zero ⛔ กำหนดเวลา 90 วันในการแก้ไข แม้ทีมอาสาสมัครไม่มีทรัพยากรเพียงพอ ‼️ ความเสี่ยงต่อความมั่นคงของระบบดิจิทัลโลก ⛔ หากโครงการโอเพ่นซอร์สสำคัญถูกทิ้งร้าง อาจเกิดช่องโหว่ใหญ่ที่กระทบผู้ใช้ทั่วโลก https://thenewstack.io/ffmpeg-to-google-fund-us-or-stop-sending-bugs/
    THENEWSTACK.IO
    FFmpeg to Google: Fund Us or Stop Sending Bugs
    A lively discussion about open source, security, and who pays the bills has erupted on Twitter.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 50 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายกฯ พยักหน้ารับ เตรียมกำลังทหารพร้อมแล้ว ไทยมีศักยภาพไม่กังวล "ภาษีทรัมป์" ไม่ต้องชี้แจง "อันวาร์" “อนุทิน” ยืนยันไทยพร้อมรับทุกสถานการณ์ ลั่น Do it My Way ไม่มีสัญญา 4 ข้อแล้ว ไม่จำเป็นต้องชี้แจงมาเลเซีย ย้ำมีแผนปฏิบัติด้านความมั่นคงครบ พร้อมปกป้องอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชน

    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000108007

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #ข่าว #การเมือง #ความมั่นคง #ภาษีทรัมป์ #อนุทิน #truthfromthailand #newsupdate
    นายกฯ พยักหน้ารับ เตรียมกำลังทหารพร้อมแล้ว ไทยมีศักยภาพไม่กังวล "ภาษีทรัมป์" ไม่ต้องชี้แจง "อันวาร์" “อนุทิน” ยืนยันไทยพร้อมรับทุกสถานการณ์ ลั่น Do it My Way ไม่มีสัญญา 4 ข้อแล้ว ไม่จำเป็นต้องชี้แจงมาเลเซีย ย้ำมีแผนปฏิบัติด้านความมั่นคงครบ พร้อมปกป้องอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชน อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000108007 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #ข่าว #การเมือง #ความมั่นคง #ภาษีทรัมป์ #อนุทิน #truthfromthailand #newsupdate
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 94 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวเทคโนโลยี: "KDE Plasma 6.4.6 ปิดฉากซีรีส์ด้วยการแก้บั๊กครั้งใหญ่"

    ทีมพัฒนา KDE ได้ปล่อย KDE Plasma 6.4.6 ซึ่งถือเป็นการอัปเดตบำรุงรักษาครั้งสุดท้ายของซีรีส์ 6.4 ก่อนจะเข้าสู่ Plasma 6.5 ที่ใหม่กว่า จุดสำคัญของเวอร์ชันนี้คือการแก้ไขบั๊กจำนวนมากที่สร้างความรำคาญให้ผู้ใช้ เช่น

    ปัญหา Breeze GTK style ที่ไม่ถูกเปิดใช้งานโดยค่าเริ่มต้น
    Crash ใน Plasma System Monitor และ KMenuEdit
    ปัญหาการแสดงผล widget เช่น Timer, Weather Report, Media Player และ Shortcuts
    ปัญหาการจัดการ session ที่ทำให้ปุ่ม Shut Down/Restart/Log Out ทำงานผิดพลาด
    การแก้ไขบั๊กที่อาจนำไปสู่ การสูญหายของข้อมูลใน Sticky Notes

    นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุง Plasma Discover ให้จัดการ shutdown/restart ได้ดีขึ้นเมื่อมีงานที่ยังไม่บันทึก และปรับปรุงการค้นหาแอปไม่ให้เลือก Flatpak/Snap โดยไม่เหมาะสม

    แม้จะเป็นเพียงการอัปเดตบำรุงรักษา แต่ Plasma 6.4.6 ก็ถือว่ามีความสำคัญ เพราะแก้ไขทั้งปัญหาด้านเสถียรภาพและความปลอดภัย พร้อมทั้งเป็นการปิดฉากซีรีส์ 6.4 อย่างสมบูรณ์

    KDE Plasma 6.4.6 คือการอัปเดตครั้งสุดท้ายของซีรีส์ 6.4
    ทีมพัฒนาแนะนำให้ผู้ใช้ย้ายไป Plasma 6.5

    การแก้ไขบั๊กสำคัญ
    Breeze GTK style ไม่ถูกเปิดใช้งาน
    Crash ใน System Monitor และ KMenuEdit
    ปัญหาการแสดงผล widget หลายตัว

    ปรับปรุงการจัดการระบบ
    ปุ่ม Shut Down/Restart/Log Out ทำงานถูกต้อง
    Plasma Discover ป้องกันการสูญหายของข้อมูลเมื่อมีงานที่ยังไม่บันทึก

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    Sticky Notes อาจสูญหายหากสร้างด้วย middle-click paste และไม่เคยคลิกเข้าไปแก้ไข
    หาก Plasma crash หรือไฟดับ ข้อมูลที่ยังไม่บันทึกอาจหายไป

    https://9to5linux.com/kde-plasma-6-4-6-released-with-numerous-bug-fixes-for-plasma-6-4-users
    🖥️ ข่าวเทคโนโลยี: "KDE Plasma 6.4.6 ปิดฉากซีรีส์ด้วยการแก้บั๊กครั้งใหญ่" ทีมพัฒนา KDE ได้ปล่อย KDE Plasma 6.4.6 ซึ่งถือเป็นการอัปเดตบำรุงรักษาครั้งสุดท้ายของซีรีส์ 6.4 ก่อนจะเข้าสู่ Plasma 6.5 ที่ใหม่กว่า จุดสำคัญของเวอร์ชันนี้คือการแก้ไขบั๊กจำนวนมากที่สร้างความรำคาญให้ผู้ใช้ เช่น 🔰 ปัญหา Breeze GTK style ที่ไม่ถูกเปิดใช้งานโดยค่าเริ่มต้น 🔰 Crash ใน Plasma System Monitor และ KMenuEdit 🔰 ปัญหาการแสดงผล widget เช่น Timer, Weather Report, Media Player และ Shortcuts 🔰 ปัญหาการจัดการ session ที่ทำให้ปุ่ม Shut Down/Restart/Log Out ทำงานผิดพลาด 🔰 การแก้ไขบั๊กที่อาจนำไปสู่ การสูญหายของข้อมูลใน Sticky Notes นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุง Plasma Discover ให้จัดการ shutdown/restart ได้ดีขึ้นเมื่อมีงานที่ยังไม่บันทึก และปรับปรุงการค้นหาแอปไม่ให้เลือก Flatpak/Snap โดยไม่เหมาะสม แม้จะเป็นเพียงการอัปเดตบำรุงรักษา แต่ Plasma 6.4.6 ก็ถือว่ามีความสำคัญ เพราะแก้ไขทั้งปัญหาด้านเสถียรภาพและความปลอดภัย พร้อมทั้งเป็นการปิดฉากซีรีส์ 6.4 อย่างสมบูรณ์ ✅ KDE Plasma 6.4.6 คือการอัปเดตครั้งสุดท้ายของซีรีส์ 6.4 ➡️ ทีมพัฒนาแนะนำให้ผู้ใช้ย้ายไป Plasma 6.5 ✅ การแก้ไขบั๊กสำคัญ ➡️ Breeze GTK style ไม่ถูกเปิดใช้งาน ➡️ Crash ใน System Monitor และ KMenuEdit ➡️ ปัญหาการแสดงผล widget หลายตัว ✅ ปรับปรุงการจัดการระบบ ➡️ ปุ่ม Shut Down/Restart/Log Out ทำงานถูกต้อง ➡️ Plasma Discover ป้องกันการสูญหายของข้อมูลเมื่อมีงานที่ยังไม่บันทึก ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ Sticky Notes อาจสูญหายหากสร้างด้วย middle-click paste และไม่เคยคลิกเข้าไปแก้ไข ⛔ หาก Plasma crash หรือไฟดับ ข้อมูลที่ยังไม่บันทึกอาจหายไป https://9to5linux.com/kde-plasma-6-4-6-released-with-numerous-bug-fixes-for-plasma-6-4-users
    9TO5LINUX.COM
    KDE Plasma 6.4.6 Released with Numerous Bug Fixes for Plasma 6.4 Users - 9to5Linux
    KDE Plasma 6.4.6 is now available as the sixth andd last maintenance update to the KDE Plasma 6.4 desktop environment series.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 35 มุมมอง 0 รีวิว
  • รูปหล่อหลวงพ่อบุญ รุ่นแรก วัดสาระวัน จ.ปัตตานี ปี2525
    รูปหล่อหลวงพ่อบุญ รุ่นแรก ก้นบรรจุกริ่ง (แบบเรียบ..) วัดสาระวัน จ.ปัตตานี ปี2525 // พระดีพิธีขลัง !! พระเกจิ ปลายด้ามขวาน ที่ศพแข็งเหมือนหิน พระประสบการณ์มากมาย หนึ่งในพระเครื่องของดีของปัตตานี // พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณครอบจักวาล แคล้วคลาดเป็นเยี่ยม มหาอุตย์ คงกระพันชาตรี เมตตามหานิยม โชคลาภค้าขาย เลื่อนยศตำแหน่ง ความเจริญ รุ่นเรืองก้าวหน้า พลิกชะตาร้ายให้กลายเป็นดี หนุนดวงเสริมชะตาให้เจริญรุ่งเรือง และเสริมสิริมงคลให้กับตัวเอง **

    ** หลวงพ่อบุญ ติสสโร เป็นพระภิกษุที่ประพฤติปฏิบัติพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด เป็นแบบอย่างที่ดีของพระสงฆ์ และท่านทบทวนบทสวดมนต์สม่ำเสมอ โดยใช้เวลานั่งสวดมนต์หน้าพระประธานบนกุฏิหลังใหญ่ ท่านมีความตั้งใจจริง ในการอบรมสั่งสอน พระภิกษุและสามเณร ท่านจะคอยสังเกตุดูแลอย่างใกล้ชิด หากพบว่าพระภิกษุหรือสามเณร ปฏิบัติไม่ถูกต้องท่านจะเรียกมาว่ากล่าวตักเตือนทันที ตัวอย่างที่พบเห็นได้ชัดเจนเช่น พระภิกษุบวชใหม่ 3-4 รูป ลงจากกุฏิหลังใหญ่มานั่งบนกิ่งต้นทุเรียบ (มีลักษณะล้มติดพื้นดินเหมือนม้านั่ง เป็นต้นทุเรียนที่ให้ผลทุกปี) ท่านอยู่บนกุฏิหลังใหญ่มองเห็นดังนั้น ก็รีบบอกพระภิกษุทันทีว่า พระภิกษุนั่งบนกิ่งต้นทุเรียนนั้นไม่ได้ เพราะต้นไม้ทุกชนิดที่ให้ผลรับประทานได้นั้น ถ้าพระภิกษุจับต้องลำต้นกิ่งหรือส่วนอื่นๆ ของต้นไม้นั้นแล้ว เมื่อฉันท์ผลของต้นไม้นั้นก็เสมือนว่า พระภิกษุนั้นฉันท์ผลไม้ ที่ยังไม่ได้ประเคน เพราะภิกษุจับต้องก่อนแล้ว นอกจากนี้ สิ่งที่ญาติโยมพบเห็นอีกประการหนึ่งคือ ท่านจะไม่หยิบธนบัตรและเหรียญตราด้วยมือของท่านเองเมื่อเวลาจะใช้จ่ายท่านจะเรียกญาติโยมให้เป็นผู้จัดการจ่ายให้จนเป็นที่เรียบร้อย **


    ** พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    รูปหล่อหลวงพ่อบุญ รุ่นแรก วัดสาระวัน จ.ปัตตานี ปี2525 รูปหล่อหลวงพ่อบุญ รุ่นแรก ก้นบรรจุกริ่ง (แบบเรียบ..) วัดสาระวัน จ.ปัตตานี ปี2525 // พระดีพิธีขลัง !! พระเกจิ ปลายด้ามขวาน ที่ศพแข็งเหมือนหิน พระประสบการณ์มากมาย หนึ่งในพระเครื่องของดีของปัตตานี // พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณครอบจักวาล แคล้วคลาดเป็นเยี่ยม มหาอุตย์ คงกระพันชาตรี เมตตามหานิยม โชคลาภค้าขาย เลื่อนยศตำแหน่ง ความเจริญ รุ่นเรืองก้าวหน้า พลิกชะตาร้ายให้กลายเป็นดี หนุนดวงเสริมชะตาให้เจริญรุ่งเรือง และเสริมสิริมงคลให้กับตัวเอง ** ** หลวงพ่อบุญ ติสสโร เป็นพระภิกษุที่ประพฤติปฏิบัติพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด เป็นแบบอย่างที่ดีของพระสงฆ์ และท่านทบทวนบทสวดมนต์สม่ำเสมอ โดยใช้เวลานั่งสวดมนต์หน้าพระประธานบนกุฏิหลังใหญ่ ท่านมีความตั้งใจจริง ในการอบรมสั่งสอน พระภิกษุและสามเณร ท่านจะคอยสังเกตุดูแลอย่างใกล้ชิด หากพบว่าพระภิกษุหรือสามเณร ปฏิบัติไม่ถูกต้องท่านจะเรียกมาว่ากล่าวตักเตือนทันที ตัวอย่างที่พบเห็นได้ชัดเจนเช่น พระภิกษุบวชใหม่ 3-4 รูป ลงจากกุฏิหลังใหญ่มานั่งบนกิ่งต้นทุเรียบ (มีลักษณะล้มติดพื้นดินเหมือนม้านั่ง เป็นต้นทุเรียนที่ให้ผลทุกปี) ท่านอยู่บนกุฏิหลังใหญ่มองเห็นดังนั้น ก็รีบบอกพระภิกษุทันทีว่า พระภิกษุนั่งบนกิ่งต้นทุเรียนนั้นไม่ได้ เพราะต้นไม้ทุกชนิดที่ให้ผลรับประทานได้นั้น ถ้าพระภิกษุจับต้องลำต้นกิ่งหรือส่วนอื่นๆ ของต้นไม้นั้นแล้ว เมื่อฉันท์ผลของต้นไม้นั้นก็เสมือนว่า พระภิกษุนั้นฉันท์ผลไม้ ที่ยังไม่ได้ประเคน เพราะภิกษุจับต้องก่อนแล้ว นอกจากนี้ สิ่งที่ญาติโยมพบเห็นอีกประการหนึ่งคือ ท่านจะไม่หยิบธนบัตรและเหรียญตราด้วยมือของท่านเองเมื่อเวลาจะใช้จ่ายท่านจะเรียกญาติโยมให้เป็นผู้จัดการจ่ายให้จนเป็นที่เรียบร้อย ** ** พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 22 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวเทคโนโลยี: "FreeScout ทางเลือกใหม่แทน Help Scout – เปิดกว้าง ไม่ล็อกอิน ไม่ล็อกค่าใช้จ่าย"

    ลองนึกภาพว่าคุณกำลังใช้ระบบช่วยเหลือลูกค้า (Help Desk) ที่วันหนึ่งบริษัทเจ้าของปรับราคาขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว ทำให้ธุรกิจเล็ก ๆ ต้องแบกรับภาระเพิ่มขึ้นโดยไม่เต็มใจ เรื่องนี้เกิดขึ้นจริงกับ Help Scout ที่เคยปรับราคา จนผู้ใช้จำนวนมากไม่พอใจ และแม้จะปรับลดลงภายหลัง แต่ความเชื่อมั่นก็สั่นคลอนไปแล้ว

    ตรงนี้เองที่ FreeScout โผล่ขึ้นมาเป็นพระเอกในโลกโอเพ่นซอร์ส — ระบบ Help Desk ที่คุณสามารถติดตั้งเองบนเซิร์ฟเวอร์ของคุณ ไม่ต้องกลัวถูกล็อกฟีเจอร์หรือปรับราคาแบบไม่ทันตั้งตัว จุดเด่นคือความยืดหยุ่นสูงและการควบคุมข้อมูลได้เต็มมือ

    นอกจากนั้น FreeScout ยังมีโมดูลเสริมที่เลือกใช้ได้ตามต้องการ เช่น การเชื่อมต่อกับ Slack, Telegram หรือ CRM ต่าง ๆ รวมถึงโมดูล AI ที่ชุมชนพัฒนาขึ้นมาเอง ทำให้ธุรกิจสามารถปรับแต่งระบบให้ตรงกับความต้องการจริง ๆ โดยไม่ต้องจ่ายเกินจำเป็น

    อย่างไรก็ตาม การใช้ FreeScout ก็มีข้อควรระวัง เพราะคุณต้องดูแลการติดตั้ง อัปเดต และสำรองข้อมูลเอง หากทีมไม่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคนิค อาจกลายเป็นภาระมากกว่าประโยชน์

    FreeScout ไม่ล็อกอิน ไม่ล็อกราคา
    เป็นโอเพ่นซอร์ส ใช้ฟรี ยืดหยุ่นสูง
    ค่าใช้จ่ายหลักคือการโฮสต์และโมดูลเสริมที่เลือกเอง

    ฟีเจอร์ที่ครบครัน
    มีระบบกล่องจดหมายรวม, การจัดการผู้ใช้, การตรวจจับการชนกันของเอเจนต์
    รองรับการเชื่อมต่อกับ Slack, Telegram และ CRM

    ควบคุมข้อมูลได้เต็มที่
    ผู้ใช้สามารถกำหนดวิธีเก็บและสำรองข้อมูลเอง
    เหมาะกับองค์กรที่ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว

    รองรับการใช้งานบนมือถือ
    มีแอป Android และ iOS แต่ต้องตั้งค่าเพิ่มเติม

    ข้อควรระวังในการใช้งาน
    ต้องมีทีมเทคนิคดูแลการติดตั้งและอัปเดต
    การย้ายระบบออกภายหลังอาจซับซ้อน แม้ข้อมูลยังอยู่กับผู้ใช้

    https://itsfoss.com/freescout-open-source-help-desk/
    📨 ข่าวเทคโนโลยี: "FreeScout ทางเลือกใหม่แทน Help Scout – เปิดกว้าง ไม่ล็อกอิน ไม่ล็อกค่าใช้จ่าย" ลองนึกภาพว่าคุณกำลังใช้ระบบช่วยเหลือลูกค้า (Help Desk) ที่วันหนึ่งบริษัทเจ้าของปรับราคาขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว ทำให้ธุรกิจเล็ก ๆ ต้องแบกรับภาระเพิ่มขึ้นโดยไม่เต็มใจ เรื่องนี้เกิดขึ้นจริงกับ Help Scout ที่เคยปรับราคา จนผู้ใช้จำนวนมากไม่พอใจ และแม้จะปรับลดลงภายหลัง แต่ความเชื่อมั่นก็สั่นคลอนไปแล้ว ตรงนี้เองที่ FreeScout โผล่ขึ้นมาเป็นพระเอกในโลกโอเพ่นซอร์ส 🛠️ — ระบบ Help Desk ที่คุณสามารถติดตั้งเองบนเซิร์ฟเวอร์ของคุณ ไม่ต้องกลัวถูกล็อกฟีเจอร์หรือปรับราคาแบบไม่ทันตั้งตัว จุดเด่นคือความยืดหยุ่นสูงและการควบคุมข้อมูลได้เต็มมือ นอกจากนั้น FreeScout ยังมีโมดูลเสริมที่เลือกใช้ได้ตามต้องการ เช่น การเชื่อมต่อกับ Slack, Telegram หรือ CRM ต่าง ๆ รวมถึงโมดูล AI ที่ชุมชนพัฒนาขึ้นมาเอง ทำให้ธุรกิจสามารถปรับแต่งระบบให้ตรงกับความต้องการจริง ๆ โดยไม่ต้องจ่ายเกินจำเป็น อย่างไรก็ตาม การใช้ FreeScout ก็มีข้อควรระวัง ⚠️ เพราะคุณต้องดูแลการติดตั้ง อัปเดต และสำรองข้อมูลเอง หากทีมไม่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคนิค อาจกลายเป็นภาระมากกว่าประโยชน์ ✅ FreeScout ไม่ล็อกอิน ไม่ล็อกราคา ➡️ เป็นโอเพ่นซอร์ส ใช้ฟรี ยืดหยุ่นสูง ➡️ ค่าใช้จ่ายหลักคือการโฮสต์และโมดูลเสริมที่เลือกเอง ✅ ฟีเจอร์ที่ครบครัน ➡️ มีระบบกล่องจดหมายรวม, การจัดการผู้ใช้, การตรวจจับการชนกันของเอเจนต์ ➡️ รองรับการเชื่อมต่อกับ Slack, Telegram และ CRM ✅ ควบคุมข้อมูลได้เต็มที่ ➡️ ผู้ใช้สามารถกำหนดวิธีเก็บและสำรองข้อมูลเอง ➡️ เหมาะกับองค์กรที่ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว ✅ รองรับการใช้งานบนมือถือ ➡️ มีแอป Android และ iOS แต่ต้องตั้งค่าเพิ่มเติม ‼️ ข้อควรระวังในการใช้งาน ⛔ ต้องมีทีมเทคนิคดูแลการติดตั้งและอัปเดต ⛔ การย้ายระบบออกภายหลังอาจซับซ้อน แม้ข้อมูลยังอยู่กับผู้ใช้ https://itsfoss.com/freescout-open-source-help-desk/
    ITSFOSS.COM
    Tired of Help Scout Pulling the Rug from Under You? Try This Free, Open Source Alternative
    Discover how FreeScout lets you run your own help desk without vendor lock-in or surprise price hikes.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 34 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวใหญ่: Broadcom + CAMB.AI สร้างชิป AI สำหรับการแปลและดับบเสียงบนอุปกรณ์

    Broadcom จับมือสตาร์ทอัพ CAMB.AI พัฒนาชิป AI รุ่นใหม่ที่สามารถทำงาน แปลภาษา, ดับบเสียง และบรรยายภาพแบบเรียลไทม์บนอุปกรณ์โดยตรง โดยไม่ต้องเชื่อมต่อคลาวด์ ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัว ลดความหน่วง และรองรับกว่า 150 ภาษาในอนาคต

    Broadcom ประกาศความร่วมมือกับ CAMB.AI เพื่อพัฒนาชิป AI ที่สามารถทำงานด้านเสียงและภาษาได้แบบ on-device จุดเด่นคือ:
    แปลภาษาและดับบเสียงทันที โดยไม่ต้องพึ่งพาอินเทอร์เน็ต
    บรรยายภาพ (audio description) เช่น อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นบนหน้าจอให้ผู้พิการทางสายตาเข้าใจ
    ความเป็นส่วนตัวสูงขึ้น เพราะข้อมูลไม่ต้องส่งไปยังคลาวด์
    ลดความหน่วง (latency) ทำให้การใช้งานเป็นธรรมชาติและทันที

    ในเดโมที่นำเสนอ มีการใช้คลิปจากภาพยนตร์ Ratatouille ที่ระบบสามารถแปลบทสนทนาและบรรยายภาพ เช่น “หนูกำลังวิ่งในครัว” ได้ทันทีในหลายภาษา

    แม้เทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในขั้นทดสอบ แต่ CAMB.AI มีผลงานจริงแล้ว เช่น การนำไปใช้ใน NASCAR, Comcast และ Eurovision Song Contest ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพเชิงพาณิชย์

    สาระเพิ่มเติมจากภายนอก
    แนวโน้ม AI on-device กำลังมาแรง เพราะช่วยลดการพึ่งพาเครือข่ายและเพิ่มความปลอดภัยของข้อมูล
    Apple และ Google ก็พัฒนา AI บนชิปมือถือเพื่อรองรับงานด้านภาษาและภาพเช่นกัน
    หาก Broadcom และ CAMB.AI ทำสำเร็จ อาจเปิดตลาดใหม่สำหรับ ทีวี, สมาร์ทโฟน และอุปกรณ์สื่อสาร ที่สามารถแปลและบรรยายได้ทันที
    เทคโนโลยีนี้ยังมีความสำคัญต่อ การเข้าถึง (Accessibility) โดยเฉพาะผู้พิการทางสายตาและผู้ใช้ที่ต้องการสื่อสารข้ามภาษา

    Broadcom จับมือ CAMB.AI พัฒนาชิป AI ใหม่
    ทำงานด้านแปลภาษา, ดับบเสียง และบรรยายภาพแบบเรียลไทม์บนอุปกรณ์

    เดโมจาก Ratatouille แสดงศักยภาพ
    แปลบทสนทนาและบรรยายภาพทันทีในหลายภาษา

    การใช้งานจริงแล้วในหลายองค์กร
    NASCAR, Comcast และ Eurovision Song Contest

    รองรับกว่า 150 ภาษาในอนาคต
    เพิ่มความเป็นส่วนตัวและลดความหน่วงเพราะไม่ต้องพึ่งพาคลาวด์

    คำเตือนและข้อจำกัด
    เทคโนโลยียังอยู่ในขั้นทดสอบ ประสิทธิภาพจริงอาจไม่ตรงกับเดโม
    หากไม่พัฒนาให้เสถียร อาจกระทบต่อการใช้งานในเชิงพาณิชย์

    https://securityonline.info/broadcom-camb-ai-developing-ai-chip-for-real-time-on-device-dubbing/
    🎙️ ข่าวใหญ่: Broadcom + CAMB.AI สร้างชิป AI สำหรับการแปลและดับบเสียงบนอุปกรณ์ Broadcom จับมือสตาร์ทอัพ CAMB.AI พัฒนาชิป AI รุ่นใหม่ที่สามารถทำงาน แปลภาษา, ดับบเสียง และบรรยายภาพแบบเรียลไทม์บนอุปกรณ์โดยตรง โดยไม่ต้องเชื่อมต่อคลาวด์ ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัว ลดความหน่วง และรองรับกว่า 150 ภาษาในอนาคต Broadcom ประกาศความร่วมมือกับ CAMB.AI เพื่อพัฒนาชิป AI ที่สามารถทำงานด้านเสียงและภาษาได้แบบ on-device จุดเด่นคือ: 🔰 แปลภาษาและดับบเสียงทันที โดยไม่ต้องพึ่งพาอินเทอร์เน็ต 🔰 บรรยายภาพ (audio description) เช่น อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นบนหน้าจอให้ผู้พิการทางสายตาเข้าใจ 🔰 ความเป็นส่วนตัวสูงขึ้น เพราะข้อมูลไม่ต้องส่งไปยังคลาวด์ 🔰 ลดความหน่วง (latency) ทำให้การใช้งานเป็นธรรมชาติและทันที ในเดโมที่นำเสนอ มีการใช้คลิปจากภาพยนตร์ Ratatouille ที่ระบบสามารถแปลบทสนทนาและบรรยายภาพ เช่น “หนูกำลังวิ่งในครัว” ได้ทันทีในหลายภาษา แม้เทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในขั้นทดสอบ แต่ CAMB.AI มีผลงานจริงแล้ว เช่น การนำไปใช้ใน NASCAR, Comcast และ Eurovision Song Contest ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพเชิงพาณิชย์ 🔍 สาระเพิ่มเติมจากภายนอก 💠 แนวโน้ม AI on-device กำลังมาแรง เพราะช่วยลดการพึ่งพาเครือข่ายและเพิ่มความปลอดภัยของข้อมูล 💠 Apple และ Google ก็พัฒนา AI บนชิปมือถือเพื่อรองรับงานด้านภาษาและภาพเช่นกัน 💠 หาก Broadcom และ CAMB.AI ทำสำเร็จ อาจเปิดตลาดใหม่สำหรับ ทีวี, สมาร์ทโฟน และอุปกรณ์สื่อสาร ที่สามารถแปลและบรรยายได้ทันที 💠 เทคโนโลยีนี้ยังมีความสำคัญต่อ การเข้าถึง (Accessibility) โดยเฉพาะผู้พิการทางสายตาและผู้ใช้ที่ต้องการสื่อสารข้ามภาษา ✅ Broadcom จับมือ CAMB.AI พัฒนาชิป AI ใหม่ ➡️ ทำงานด้านแปลภาษา, ดับบเสียง และบรรยายภาพแบบเรียลไทม์บนอุปกรณ์ ✅ เดโมจาก Ratatouille แสดงศักยภาพ ➡️ แปลบทสนทนาและบรรยายภาพทันทีในหลายภาษา ✅ การใช้งานจริงแล้วในหลายองค์กร ➡️ NASCAR, Comcast และ Eurovision Song Contest ✅ รองรับกว่า 150 ภาษาในอนาคต ➡️ เพิ่มความเป็นส่วนตัวและลดความหน่วงเพราะไม่ต้องพึ่งพาคลาวด์ ‼️ คำเตือนและข้อจำกัด ⛔ เทคโนโลยียังอยู่ในขั้นทดสอบ ประสิทธิภาพจริงอาจไม่ตรงกับเดโม ⛔ หากไม่พัฒนาให้เสถียร อาจกระทบต่อการใช้งานในเชิงพาณิชย์ https://securityonline.info/broadcom-camb-ai-developing-ai-chip-for-real-time-on-device-dubbing/
    SECURITYONLINE.INFO
    Broadcom & CAMB.AI Developing AI Chip for Real-Time On-Device Dubbing
    Broadcom partnered with CAMB.AI to develop an AI chip for real-time, on-device audio translation and dubbing in 150+ languages, promising ultra-low latency.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 39 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวใหญ่: Google เตรียมติดป้ายเตือนแอป Android ที่กินแบตเกินควร

    Google ออกกฎใหม่สำหรับนักพัฒนา Android โดยจะติดป้ายเตือนสีแดงบน Play Store หากแอปมีการใช้ Wake Lock เกินเกณฑ์จนทำให้แบตเตอรี่หมดเร็ว เริ่มบังคับใช้ 1 มีนาคม 2026

    Google ร่วมมือกับ Samsung พัฒนามาตรการใหม่เพื่อแก้ปัญหา แอปกินแบตเตอรี่เกินจำเป็น โดยใช้ตัวชี้วัดที่เรียกว่า Excessive Wake Lock ซึ่งตรวจสอบว่าแอปบล็อกการเข้าสู่โหมด Sleep ของเครื่องนานเกินไปหรือไม่

    หากในหนึ่ง session 24 ชั่วโมง แอปมีการใช้ wake lock เกิน 2 ชั่วโมง จะถูกนับเป็นเหตุการณ์ "excessive wake lock"
    ถ้าเกิน 5% ของ session ทั้งหมดในรอบ 28 วัน แอปนั้นจะถูกลดอันดับการแสดงผล และอาจถูกติดป้ายเตือนสีแดงบนหน้าดาวน์โหลดใน Play Store

    Google ระบุว่า wake lock บางกรณีได้รับการยกเว้น เช่น แอปที่เล่นเพลงหรือเสียง ซึ่งจำเป็นต้องทำให้เครื่องไม่หลับเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประโยชน์โดยตรง

    มาตรการนี้มีเป้าหมายเพื่อ กระตุ้นให้นักพัฒนาออกแบบแอปที่ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และลดปัญหาผู้ใช้บ่นว่าแบตหมดเร็วโดยไม่ทราบสาเหตุ

    สาระเพิ่มเติมจากภายนอก
    Wake lock เป็นกลไกที่นักพัฒนาใช้เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องเข้าสู่ sleep mode แต่หากใช้มากเกินไปจะทำให้แบตหมดเร็วและเครื่องร้อน
    ปัญหาแบตเตอรี่หมดเร็วเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้ผู้ใช้ ลบแอป หรือให้คะแนนรีวิวต่ำ
    การติดป้ายเตือนสีแดงบน Play Store อาจส่งผลโดยตรงต่อยอดดาวน์โหลดและรายได้ของนักพัฒนา
    มาตรการนี้สะท้อนแนวโน้มที่ Google เน้น ประสบการณ์ผู้ใช้และความยั่งยืนด้านพลังงาน มากขึ้น

    Google เปิดตัวตัวชี้วัด Excessive Wake Lock
    ใช้ตรวจสอบว่าแอปบล็อกการเข้าสู่ sleep mode เกินความจำเป็น

    เกณฑ์การตรวจสอบ
    หากใช้ wake lock เกิน 2 ชั่วโมงใน 24 ชั่วโมง จะถูกนับเป็นเหตุการณ์
    หากเกิน 5% ของ session ใน 28 วัน แอปจะถูกลดอันดับและติดป้ายเตือน

    ข้อยกเว้นบางกรณี
    แอปที่เล่นเสียงหรือเพลงจะไม่ถูกนับเป็นการใช้ wake lock เกินเกณฑ์

    วันบังคับใช้
    เริ่มมีผลตั้งแต่ 1 มีนาคม 2026

    คำเตือนสำหรับนักพัฒนาแอป
    แอปที่กินแบตเกินเกณฑ์จะถูกลดอันดับและติดป้ายเตือนสีแดงบน Play Store
    อาจทำให้ยอดดาวน์โหลดและรายได้ลดลงอย่างมาก

    https://securityonline.info/new-android-rule-google-to-flag-battery-draining-apps-on-play-store-listings/
    🔋 ข่าวใหญ่: Google เตรียมติดป้ายเตือนแอป Android ที่กินแบตเกินควร Google ออกกฎใหม่สำหรับนักพัฒนา Android โดยจะติดป้ายเตือนสีแดงบน Play Store หากแอปมีการใช้ Wake Lock เกินเกณฑ์จนทำให้แบตเตอรี่หมดเร็ว เริ่มบังคับใช้ 1 มีนาคม 2026 Google ร่วมมือกับ Samsung พัฒนามาตรการใหม่เพื่อแก้ปัญหา แอปกินแบตเตอรี่เกินจำเป็น โดยใช้ตัวชี้วัดที่เรียกว่า Excessive Wake Lock ซึ่งตรวจสอบว่าแอปบล็อกการเข้าสู่โหมด Sleep ของเครื่องนานเกินไปหรือไม่ 🔰 หากในหนึ่ง session 24 ชั่วโมง แอปมีการใช้ wake lock เกิน 2 ชั่วโมง จะถูกนับเป็นเหตุการณ์ "excessive wake lock" 🔰 ถ้าเกิน 5% ของ session ทั้งหมดในรอบ 28 วัน แอปนั้นจะถูกลดอันดับการแสดงผล และอาจถูกติดป้ายเตือนสีแดงบนหน้าดาวน์โหลดใน Play Store Google ระบุว่า wake lock บางกรณีได้รับการยกเว้น เช่น แอปที่เล่นเพลงหรือเสียง ซึ่งจำเป็นต้องทำให้เครื่องไม่หลับเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประโยชน์โดยตรง มาตรการนี้มีเป้าหมายเพื่อ กระตุ้นให้นักพัฒนาออกแบบแอปที่ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และลดปัญหาผู้ใช้บ่นว่าแบตหมดเร็วโดยไม่ทราบสาเหตุ 🔍 สาระเพิ่มเติมจากภายนอก 💠 Wake lock เป็นกลไกที่นักพัฒนาใช้เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องเข้าสู่ sleep mode แต่หากใช้มากเกินไปจะทำให้แบตหมดเร็วและเครื่องร้อน 💠 ปัญหาแบตเตอรี่หมดเร็วเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้ผู้ใช้ ลบแอป หรือให้คะแนนรีวิวต่ำ 💠 การติดป้ายเตือนสีแดงบน Play Store อาจส่งผลโดยตรงต่อยอดดาวน์โหลดและรายได้ของนักพัฒนา 💠 มาตรการนี้สะท้อนแนวโน้มที่ Google เน้น ประสบการณ์ผู้ใช้และความยั่งยืนด้านพลังงาน มากขึ้น ✅ Google เปิดตัวตัวชี้วัด Excessive Wake Lock ➡️ ใช้ตรวจสอบว่าแอปบล็อกการเข้าสู่ sleep mode เกินความจำเป็น ✅ เกณฑ์การตรวจสอบ ➡️ หากใช้ wake lock เกิน 2 ชั่วโมงใน 24 ชั่วโมง จะถูกนับเป็นเหตุการณ์ ➡️ หากเกิน 5% ของ session ใน 28 วัน แอปจะถูกลดอันดับและติดป้ายเตือน ✅ ข้อยกเว้นบางกรณี ➡️ แอปที่เล่นเสียงหรือเพลงจะไม่ถูกนับเป็นการใช้ wake lock เกินเกณฑ์ ✅ วันบังคับใช้ ➡️ เริ่มมีผลตั้งแต่ 1 มีนาคม 2026 ‼️ คำเตือนสำหรับนักพัฒนาแอป ⛔ แอปที่กินแบตเกินเกณฑ์จะถูกลดอันดับและติดป้ายเตือนสีแดงบน Play Store ⛔ อาจทำให้ยอดดาวน์โหลดและรายได้ลดลงอย่างมาก https://securityonline.info/new-android-rule-google-to-flag-battery-draining-apps-on-play-store-listings/
    SECURITYONLINE.INFO
    New Android Rule: Google to Flag Battery-Draining Apps on Play Store Listings
    Google launches the "Excessive Wake Lock" metric. Apps that overuse wake locks (over 2 hours in 24 hrs) will get a red battery drain warning on the Play Store starting Mar 2026.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 33 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวใหญ่: Wikipedia เปิดตัว Paid API สู้กระแส AI แย่งผู้เข้าชม

    Wikipedia เปิดตัว Paid API เพื่อรับมือกับการที่ AI ดึงข้อมูลไปใช้โดยไม่ให้เครดิต จนทำให้ทราฟฟิกมนุษย์ลดลงกว่า 8% และอาจกระทบต่อการมีส่วนร่วมของผู้ใช้และผู้บริจาคในอนาคต

    ในยุคที่ AI กำลังครองโลกข้อมูล เว็บไซต์อย่าง Wikipedia ซึ่งเป็นแหล่งความรู้สาธารณะก็เริ่มได้รับผลกระทบหนัก เพราะ AI หลายระบบใช้ข้อมูลจาก Wikipedia ไปตอบคำถามโดยตรง ทำให้ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องเข้าไปอ่านที่ต้นทางอีกต่อไป

    ผลลัพธ์คือ ทราฟฟิกจากผู้ใช้จริงลดลงกว่า 8% ในช่วงกลางปี 2025 ขณะที่ AI crawler หลายตัวถึงขั้นปลอมตัวเป็นผู้ใช้มนุษย์เพื่อเลี่ยงการตรวจจับของระบบ Wikipedia

    เพื่อแก้ปัญหาและสร้างรายได้ที่ยั่งยืน Wikipedia จึงเปิดตัว บริการ Paid API สำหรับบริษัท AI โดยมีเป้าหมายสองด้าน:
    1️⃣ สร้างรายได้เพื่อคงการดำเนินงานของ Wikipedia
    2️⃣ ให้ AI เข้าถึงข้อมูลอย่างถูกต้องและมีโครงสร้าง

    นอกจากนี้ Wikipedia ยังเน้นย้ำว่า นักพัฒนา AI ควรให้เครดิตแก่ผู้เขียนบทความ เพราะหากไม่มีผู้เขียนและผู้แก้ไขอาสา เนื้อหาก็จะไม่ถูกพัฒนาและตรวจสอบคุณภาพต่อไป

    สาระเพิ่มเติมจากภายนอก
    Paid API ของ Wikipedia คล้ายกับโมเดลที่หลายแพลตฟอร์มใช้ เช่น Twitter และ Reddit ที่เริ่มคิดค่าบริการสำหรับการเข้าถึงข้อมูลจำนวนมาก
    หาก Wikipedia สูญเสียผู้ใช้และผู้บริจาคไปเรื่อย ๆ อาจเกิดปัญหาขาดแคลนผู้แก้ไข ทำให้คุณภาพข้อมูลลดลง และสุดท้าย AI เองก็จะขาดแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้
    นักวิชาการบางคนมองว่า นี่คือการ ปรับสมดุลระหว่างโลก AI และโลกมนุษย์ เพราะข้อมูลที่ AI ใช้ควรมีการสนับสนุนต้นทาง มิฉะนั้นระบบนิเวศความรู้จะไม่ยั่งยืน

    Wikipedia เปิดตัว Paid API สำหรับบริษัท AI
    เพื่อสร้างรายได้และให้ AI เข้าถึงข้อมูลอย่างถูกต้อง

    ทราฟฟิกมนุษย์ลดลงกว่า 8%
    เกิดจาก AI ตอบคำถามโดยตรง ทำให้ผู้ใช้ไม่เข้า Wikipedia

    AI crawler ปลอมตัวเป็นมนุษย์เพื่อเลี่ยงการตรวจจับ
    Wikipedia ต้องอัปเกรดระบบ bot-detection

    Wikipedia ย้ำให้เครดิตแก่ผู้เขียนบทความ
    หากไม่มีผู้เขียนอาสา เนื้อหาจะไม่ถูกพัฒนาและตรวจสอบคุณภาพ

    คำเตือนต่ออนาคตของ Wikipedia และ AI
    หากผู้ใช้และผู้บริจาคลดลง อาจทำให้ Wikipedia ขาดแคลนผู้แก้ไข
    คุณภาพข้อมูลที่ลดลงจะกระทบต่อ AI เอง เพราะไม่มีแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้

    https://securityonline.info/wikipedia-fights-back-paid-api-launches-as-ai-traffic-steals-8-of-human-visitors/
    📚 ข่าวใหญ่: Wikipedia เปิดตัว Paid API สู้กระแส AI แย่งผู้เข้าชม Wikipedia เปิดตัว Paid API เพื่อรับมือกับการที่ AI ดึงข้อมูลไปใช้โดยไม่ให้เครดิต จนทำให้ทราฟฟิกมนุษย์ลดลงกว่า 8% และอาจกระทบต่อการมีส่วนร่วมของผู้ใช้และผู้บริจาคในอนาคต ในยุคที่ AI กำลังครองโลกข้อมูล เว็บไซต์อย่าง Wikipedia ซึ่งเป็นแหล่งความรู้สาธารณะก็เริ่มได้รับผลกระทบหนัก เพราะ AI หลายระบบใช้ข้อมูลจาก Wikipedia ไปตอบคำถามโดยตรง ทำให้ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องเข้าไปอ่านที่ต้นทางอีกต่อไป ผลลัพธ์คือ ทราฟฟิกจากผู้ใช้จริงลดลงกว่า 8% ในช่วงกลางปี 2025 ขณะที่ AI crawler หลายตัวถึงขั้นปลอมตัวเป็นผู้ใช้มนุษย์เพื่อเลี่ยงการตรวจจับของระบบ Wikipedia เพื่อแก้ปัญหาและสร้างรายได้ที่ยั่งยืน Wikipedia จึงเปิดตัว บริการ Paid API สำหรับบริษัท AI โดยมีเป้าหมายสองด้าน: 1️⃣ สร้างรายได้เพื่อคงการดำเนินงานของ Wikipedia 2️⃣ ให้ AI เข้าถึงข้อมูลอย่างถูกต้องและมีโครงสร้าง นอกจากนี้ Wikipedia ยังเน้นย้ำว่า นักพัฒนา AI ควรให้เครดิตแก่ผู้เขียนบทความ เพราะหากไม่มีผู้เขียนและผู้แก้ไขอาสา เนื้อหาก็จะไม่ถูกพัฒนาและตรวจสอบคุณภาพต่อไป 🔍 สาระเพิ่มเติมจากภายนอก 🔰 Paid API ของ Wikipedia คล้ายกับโมเดลที่หลายแพลตฟอร์มใช้ เช่น Twitter และ Reddit ที่เริ่มคิดค่าบริการสำหรับการเข้าถึงข้อมูลจำนวนมาก 🔰 หาก Wikipedia สูญเสียผู้ใช้และผู้บริจาคไปเรื่อย ๆ อาจเกิดปัญหาขาดแคลนผู้แก้ไข ทำให้คุณภาพข้อมูลลดลง และสุดท้าย AI เองก็จะขาดแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ 🔰 นักวิชาการบางคนมองว่า นี่คือการ ปรับสมดุลระหว่างโลก AI และโลกมนุษย์ เพราะข้อมูลที่ AI ใช้ควรมีการสนับสนุนต้นทาง มิฉะนั้นระบบนิเวศความรู้จะไม่ยั่งยืน ✅ Wikipedia เปิดตัว Paid API สำหรับบริษัท AI ➡️ เพื่อสร้างรายได้และให้ AI เข้าถึงข้อมูลอย่างถูกต้อง ✅ ทราฟฟิกมนุษย์ลดลงกว่า 8% ➡️ เกิดจาก AI ตอบคำถามโดยตรง ทำให้ผู้ใช้ไม่เข้า Wikipedia ✅ AI crawler ปลอมตัวเป็นมนุษย์เพื่อเลี่ยงการตรวจจับ ➡️ Wikipedia ต้องอัปเกรดระบบ bot-detection ✅ Wikipedia ย้ำให้เครดิตแก่ผู้เขียนบทความ ➡️ หากไม่มีผู้เขียนอาสา เนื้อหาจะไม่ถูกพัฒนาและตรวจสอบคุณภาพ ‼️ คำเตือนต่ออนาคตของ Wikipedia และ AI ⛔ หากผู้ใช้และผู้บริจาคลดลง อาจทำให้ Wikipedia ขาดแคลนผู้แก้ไข ⛔ คุณภาพข้อมูลที่ลดลงจะกระทบต่อ AI เอง เพราะไม่มีแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ https://securityonline.info/wikipedia-fights-back-paid-api-launches-as-ai-traffic-steals-8-of-human-visitors/
    SECURITYONLINE.INFO
    Wikipedia Fights Back: Paid API Launches as AI Traffic Steals 8% of Human Visitors
    Wikipedia launches a paid API for AI companies to stop web scraping and generate revenue after sophisticated AI crawlers caused an 8% drop in human traffic.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts