• จากพี่ทนาย "ไม่รอดแล้วตั้ม" 06/11/67 #ไม่รอดแล้วตั้ม #ทนายเดชา #ทนายตั้ม #ฉ้อโกงเงิน #เจ๊อ้อย
    จากพี่ทนาย "ไม่รอดแล้วตั้ม" 06/11/67 #ไม่รอดแล้วตั้ม #ทนายเดชา #ทนายตั้ม #ฉ้อโกงเงิน #เจ๊อ้อย
    Like
    Haha
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 297 มุมมอง 165 0 รีวิว
  • สภาพ “ทนายตั้ม” หลังโดน “พี่อ้อย” แจ้งความฉ้อโกงเงิน 71 ล้าน โจทก์เก่าต่างทยอยออกมารุมแฉพฤติกรรม มิตรสหายต่างกระโดดหนี แม้แต่ “พี่โจ๊ก” ยังบอกกรรมใครกรรมมัน พี่ไม่เกี่ยว ด้าน “สนธิ” ประกาศถึงเวลาต้องขจัดทนายเลว ใครที่เคยโดนทนายคนนี้รังแกให้แจ้งมา พร้อมจัดการให้

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000105565

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    สภาพ “ทนายตั้ม” หลังโดน “พี่อ้อย” แจ้งความฉ้อโกงเงิน 71 ล้าน โจทก์เก่าต่างทยอยออกมารุมแฉพฤติกรรม มิตรสหายต่างกระโดดหนี แม้แต่ “พี่โจ๊ก” ยังบอกกรรมใครกรรมมัน พี่ไม่เกี่ยว ด้าน “สนธิ” ประกาศถึงเวลาต้องขจัดทนายเลว ใครที่เคยโดนทนายคนนี้รังแกให้แจ้งมา พร้อมจัดการให้ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000105565 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Love
    19
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1965 มุมมอง 0 รีวิว
  • "เจ้อ้อย"ลั่นไม่ยอมความ ยันจะดำเนินคดี"ทนายตั้ม"ให้ถึงที่สุด! 02/11/67 #เจ๊อ้อย #ทนายตั้ม #คดีฉ้อโกงเงิน
    "เจ้อ้อย"ลั่นไม่ยอมความ ยันจะดำเนินคดี"ทนายตั้ม"ให้ถึงที่สุด! 02/11/67 #เจ๊อ้อย #ทนายตั้ม #คดีฉ้อโกงเงิน
    Like
    Love
    15
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1176 มุมมอง 365 0 รีวิว
  • เล็งพิจารณาหลักฐาน “ทนายตั้ม“ หลอกเงิน “มาดามอ้อย” ส่ออุปโลกน์หนี้ 39 ล้าน
    .
    ตำรวจกองปราบปราม เล็งพิจารณาหลักฐาน ทนายตั้มหลอกเงิน “มาดามอ้อย” หลังพยานยันชัดโดนหลอกหลายเคส เสียหายรวม 100 ล้าน หากพบพฤติกรรมเข้าข่าย “ฉ้อโกงปกติธุระ” อาจบานปลายถึงขั้นโดน “ฟอกเงิน”
    .
    เมื่อวันที่ 29 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานที่ผ่านมา (28 ต.ค.) พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ รอง ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป. นำคณะพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป. เดินทางลงพื้นที่ไปยัง จ.นครราชสีมา เพื่อทำการสอบปากคำ “มาดามอ้อย” หรือ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ ผู้เสียหายในคดีถูกนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ทนายความชื่อดัง ฉ้อโกงเงิน จำนวน 71 ล้านบาท แต่ด้วยเนื้อหาทางคดีที่ค่อนข้างซับซ้อนและมีรายละเอียดมาก รวมไปถึงพยานบุคคลที่ต้องสอบปากคำมีจำนวนหลายปาก ทำให้จนถึงตอนนี้การสอบปากคำมาดามอ้อย รวมไปถึงพยานคนอื่นๆ จึงยังไม่แล้วเสร็จ แม้จะกินเวลามาเกือบ 2 วันแล้วก็ตาม
    .
    ขณะเดียวกัน ทางพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป. ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการซื้อรถเบนซ์ G-Class สีดำ ที่ผู้เสียหายฝากให้ทนายคนดังกล่าวซื้อให้เพื่อใช้ตอนที่กลับมาไทย หลังพบว่าทนายคนดังกล่าวมีการเบิกเงินจากผู้เสียหายไปจำนวน 13-14 ล้านบาท เพื่อนำไปซื้อรถ แต่รถคันดังกล่าวจริงๆ นั้นราคาเพียงแค่ 8 ล้านบาท ทำให้เกิดส่วนต่าง 5-6 ล้านบาท
    .
    นอกจากนี้ จากการสอบปากคำมาดามอ้อย เจ้าหน้าที่ยังทราบว่า นอกเหนือจากการหลอกเงินลงทุนแพลตฟอร์มหวยออนไลน์ 71 ล้านบาท กับ ซื้อรถเบนซ์ G-Class แพงเกินราคาแล้ว ยังพบว่ามีการหลอกให้นำเงินไปช่วยใช้หนี้ให้กับคนใกล้ชิดอีก จำนวน 39 ล้านบาท ซึ่งในส่วนของกรณีนี้ยังพบว่ามีการอุปโลกน์หรือสร้างตัวละครเข้ามาเกี่ยวข้องเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือด้วยอีกหลายคน อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าบุคคลเหล่านี้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่
    .
    อย่างไรก็ตาม หากผู้เสียหายมีความประสงค์ที่จะดำเนินคดีกับกรณีรถเบนซ์ รวมไปถึงกรณีหลอกให้ช่วยใช้หนี้ให้กับคนใกล้ชิดของทนายดังเพิ่มเติมอีก 2 คดี ก็จะทำให้พฤติกรรมของทนายคนดังกล่าวเข้าข่ายความผิด ฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ อันเข้าลักษณะเป็นความผิดมูลฐาน แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ซึ่งจะมีเรื่องของการยึดทรัพย์ที่ได้จากการกระทำผิดตามมา
    ..............
    Sondhi X
    เล็งพิจารณาหลักฐาน “ทนายตั้ม“ หลอกเงิน “มาดามอ้อย” ส่ออุปโลกน์หนี้ 39 ล้าน . ตำรวจกองปราบปราม เล็งพิจารณาหลักฐาน ทนายตั้มหลอกเงิน “มาดามอ้อย” หลังพยานยันชัดโดนหลอกหลายเคส เสียหายรวม 100 ล้าน หากพบพฤติกรรมเข้าข่าย “ฉ้อโกงปกติธุระ” อาจบานปลายถึงขั้นโดน “ฟอกเงิน” . เมื่อวันที่ 29 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานที่ผ่านมา (28 ต.ค.) พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ รอง ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป. นำคณะพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป. เดินทางลงพื้นที่ไปยัง จ.นครราชสีมา เพื่อทำการสอบปากคำ “มาดามอ้อย” หรือ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ ผู้เสียหายในคดีถูกนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ทนายความชื่อดัง ฉ้อโกงเงิน จำนวน 71 ล้านบาท แต่ด้วยเนื้อหาทางคดีที่ค่อนข้างซับซ้อนและมีรายละเอียดมาก รวมไปถึงพยานบุคคลที่ต้องสอบปากคำมีจำนวนหลายปาก ทำให้จนถึงตอนนี้การสอบปากคำมาดามอ้อย รวมไปถึงพยานคนอื่นๆ จึงยังไม่แล้วเสร็จ แม้จะกินเวลามาเกือบ 2 วันแล้วก็ตาม . ขณะเดียวกัน ทางพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป. ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการซื้อรถเบนซ์ G-Class สีดำ ที่ผู้เสียหายฝากให้ทนายคนดังกล่าวซื้อให้เพื่อใช้ตอนที่กลับมาไทย หลังพบว่าทนายคนดังกล่าวมีการเบิกเงินจากผู้เสียหายไปจำนวน 13-14 ล้านบาท เพื่อนำไปซื้อรถ แต่รถคันดังกล่าวจริงๆ นั้นราคาเพียงแค่ 8 ล้านบาท ทำให้เกิดส่วนต่าง 5-6 ล้านบาท . นอกจากนี้ จากการสอบปากคำมาดามอ้อย เจ้าหน้าที่ยังทราบว่า นอกเหนือจากการหลอกเงินลงทุนแพลตฟอร์มหวยออนไลน์ 71 ล้านบาท กับ ซื้อรถเบนซ์ G-Class แพงเกินราคาแล้ว ยังพบว่ามีการหลอกให้นำเงินไปช่วยใช้หนี้ให้กับคนใกล้ชิดอีก จำนวน 39 ล้านบาท ซึ่งในส่วนของกรณีนี้ยังพบว่ามีการอุปโลกน์หรือสร้างตัวละครเข้ามาเกี่ยวข้องเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือด้วยอีกหลายคน อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าบุคคลเหล่านี้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ . อย่างไรก็ตาม หากผู้เสียหายมีความประสงค์ที่จะดำเนินคดีกับกรณีรถเบนซ์ รวมไปถึงกรณีหลอกให้ช่วยใช้หนี้ให้กับคนใกล้ชิดของทนายดังเพิ่มเติมอีก 2 คดี ก็จะทำให้พฤติกรรมของทนายคนดังกล่าวเข้าข่ายความผิด ฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ อันเข้าลักษณะเป็นความผิดมูลฐาน แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ซึ่งจะมีเรื่องของการยึดทรัพย์ที่ได้จากการกระทำผิดตามมา .............. Sondhi X
    Like
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 694 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ความจริงหนึ่งเดียว”ฟาด‘ทนายตั้ม’แดดิ้น
    .
    ผมไม่ได้เป็นคู่กรณีอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว ผู้เสียหายคือคุณอ้อย -จตุพรเป็นเจ้าทุกข์แจ้งความกล่าวหาว่าคุณษิทรา ฉ้อโกงเงินเขาไป แล้วตำรวจก็ดำเนินการสอบสวนฝ่ายโจทก์ผู้กล่าวหาเรียบร้อยแล้ว แล้วเรื่องนี้ก็กำลังจะดำเนินการเข้ามาสู่ส่วนกลาง
    .
    คุณษิทรา ฟังให้ดีๆ นะ ผมไม่ได้เป็นคนซี้ซั้วแม้จะรู้เรื่องนี้มานานจากทนายผู้รับมอบอำนาจจะเอาข้อมูลมาให้ผมแล้ว ผมยังยืนยันที่จะเจอเจ้าตัว ซึ่งเป็นคุณอ้อย-จตุพร ผู้เสียหายเจ้าทุกข์ตัวจริง เพื่อซักถามกันอย่างละเอียดโดยทีมงานข่าวอาวุโสของผม
    .
    แต่เมื่อคุณษิทราร้อนตัวไปออกรายการ "หนุ่ม กรรชัย" โหนกระแสเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ซึ่งเชิญทนายตั้ม ษิทรา กับอัจฉริยะ มาเป็นแขกรับเชิญในรายการ จู่ๆคุณหนุ่ม กรรชัย ชงคำถามที่มาของความร่ำรวย ซึ่งอนุมานได้ทันทีว่ารู้กันระหว่างทนายตั้มกับคุณกรรชัย แล้วมาระรานถึงผมหลายประเด็น ที่คุณษิทรา บอกว่าทั้งหมดนี้วางแผนโดยบ้านพระอาทิตย์ ไม่ใช่ครับ คุณเอ่ยชื่อผมได้ “สนธิ ลิ้มทองกุล”ครับ คุณไร้มารยาทกับผม ต่อหน้าคุณก็เรียกผมว่าพี่สนธิ แต่ลับหลังคุณโกรธผม ออกมาโพสต์ด่าผมว่า "ไอ้ลิ้ม มาเจอกูที่โหนกระแส" แต่รีบลบออกไป แต่ว่าผมยังแคปได้อยู่ ไม่เป็นไร
    .
    เข้าใจนะว่า ไม่มีช่องไหนเอาผมไปออกได้หรอก เพราะผม ความจริงมีหนึ่งเดียวมันอยู่ที่ผม อยู่ตรงนี้ ทำไมผมต้องออกโหนกระแส ผมไม่มีความจำเป็นต้องฟอกตัวผม แต่ผมมีความจริงที่จะทำให้คนชั่วต่างๆ ฉิบหายได้
    .
    คุณษิทรา คุณน่ะเด็กเมื่อวานซืน คุณอายุแค่ 43 ปี คุณยังอายุน้อยกว่าลูกชายผมอีก ผมมากกว่าคุณ 35 ปี สิ่งต่างๆ ที่ผมผ่านมาในชีวิตของผม (ขอประทานโทษ) คุณน่ะเทียบไม่ได้กับอุจจาระเท้าผมเลย คุณอย่ามาทะลึ่งกับผม
    .
    เอาล่ะไหนๆ คุณก็เปิดศึกแล้ว เดี๋ยวผมจะสร้างสนามรบใหม่ๆ ให้คุณเข้าไปรบในสนามรบใหม่นี้ ทั้งๆ ที่ผมรู้มานานแล้ว แต่ผมขี้เกียจพูด ผมถือว่าคุณษิทราครับ ทางใครทางมัน แต่คุณทะลึ่งมาเหยียบเส้น ล้ำเส้นผม

    https://www.facebook.com/share/p/vd6PZbbb5ZHAT7yJ/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    “ความจริงหนึ่งเดียว”ฟาด‘ทนายตั้ม’แดดิ้น . ผมไม่ได้เป็นคู่กรณีอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว ผู้เสียหายคือคุณอ้อย -จตุพรเป็นเจ้าทุกข์แจ้งความกล่าวหาว่าคุณษิทรา ฉ้อโกงเงินเขาไป แล้วตำรวจก็ดำเนินการสอบสวนฝ่ายโจทก์ผู้กล่าวหาเรียบร้อยแล้ว แล้วเรื่องนี้ก็กำลังจะดำเนินการเข้ามาสู่ส่วนกลาง . คุณษิทรา ฟังให้ดีๆ นะ ผมไม่ได้เป็นคนซี้ซั้วแม้จะรู้เรื่องนี้มานานจากทนายผู้รับมอบอำนาจจะเอาข้อมูลมาให้ผมแล้ว ผมยังยืนยันที่จะเจอเจ้าตัว ซึ่งเป็นคุณอ้อย-จตุพร ผู้เสียหายเจ้าทุกข์ตัวจริง เพื่อซักถามกันอย่างละเอียดโดยทีมงานข่าวอาวุโสของผม . แต่เมื่อคุณษิทราร้อนตัวไปออกรายการ "หนุ่ม กรรชัย" โหนกระแสเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ซึ่งเชิญทนายตั้ม ษิทรา กับอัจฉริยะ มาเป็นแขกรับเชิญในรายการ จู่ๆคุณหนุ่ม กรรชัย ชงคำถามที่มาของความร่ำรวย ซึ่งอนุมานได้ทันทีว่ารู้กันระหว่างทนายตั้มกับคุณกรรชัย แล้วมาระรานถึงผมหลายประเด็น ที่คุณษิทรา บอกว่าทั้งหมดนี้วางแผนโดยบ้านพระอาทิตย์ ไม่ใช่ครับ คุณเอ่ยชื่อผมได้ “สนธิ ลิ้มทองกุล”ครับ คุณไร้มารยาทกับผม ต่อหน้าคุณก็เรียกผมว่าพี่สนธิ แต่ลับหลังคุณโกรธผม ออกมาโพสต์ด่าผมว่า "ไอ้ลิ้ม มาเจอกูที่โหนกระแส" แต่รีบลบออกไป แต่ว่าผมยังแคปได้อยู่ ไม่เป็นไร . เข้าใจนะว่า ไม่มีช่องไหนเอาผมไปออกได้หรอก เพราะผม ความจริงมีหนึ่งเดียวมันอยู่ที่ผม อยู่ตรงนี้ ทำไมผมต้องออกโหนกระแส ผมไม่มีความจำเป็นต้องฟอกตัวผม แต่ผมมีความจริงที่จะทำให้คนชั่วต่างๆ ฉิบหายได้ . คุณษิทรา คุณน่ะเด็กเมื่อวานซืน คุณอายุแค่ 43 ปี คุณยังอายุน้อยกว่าลูกชายผมอีก ผมมากกว่าคุณ 35 ปี สิ่งต่างๆ ที่ผมผ่านมาในชีวิตของผม (ขอประทานโทษ) คุณน่ะเทียบไม่ได้กับอุจจาระเท้าผมเลย คุณอย่ามาทะลึ่งกับผม . เอาล่ะไหนๆ คุณก็เปิดศึกแล้ว เดี๋ยวผมจะสร้างสนามรบใหม่ๆ ให้คุณเข้าไปรบในสนามรบใหม่นี้ ทั้งๆ ที่ผมรู้มานานแล้ว แต่ผมขี้เกียจพูด ผมถือว่าคุณษิทราครับ ทางใครทางมัน แต่คุณทะลึ่งมาเหยียบเส้น ล้ำเส้นผม https://www.facebook.com/share/p/vd6PZbbb5ZHAT7yJ/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    Like
    Love
    14
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 665 มุมมอง 1 รีวิว
  • ข้อมูลที่สนธิลิ้มทองกุลเปิดโปงพฤติกรรมของทนายตั้ม นายสิทธา เบี้ยบังเกิด ตอกย้ําว่าอ้อยจตุพร ที่โอนเงินสองล้านยูโรหรือเจ็ดสิบเอ็ดล้านบาทเข้าบัญชีชื่อสิทธ์ธาเบี้ยบังเกิด ไม่ใช่การให้โดยเสน่ห์หายอย่างที่ทนายตั้มอ้าง และในเมื่อทนายตั้ม อมเงินก้อนนี้ไปโดยไม่ยอมคืนให้เจ้าของก็เท่ากับมีภาระต้องเสียภาษีอีกมหาศาล
    ถึงขั้นนายสนธิ ท้า ถ้าทนายตั้มมีหลักฐานการจ่ายภาษีจะยอมกราบตีนและไหนๆทนายตั้มอยากแกว่งเท้าหาเสี้ยนเอง สนธิ ลิ้มทองกุลก็จะยื่นหนังสือถึงกรมสรรพากรให้ตรวจสอบการเสียภาษี จากรายได้ก้อนนี้ด้วย จัดหนักให้สุดซอยแบบเดียวกับที่เคยจัดให้ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ตอนที่เปิดศึกกันครั้งที่ผ่านมา หลังรายการจบลงสื่อต่างๆก็นําไปรายงานข่าวกันอย่างคึกคัก แหกพฤติกรรมฉ้อโกงเงิน ไปจากเศรษฐีนีใจบุญที่เคยให้ความรักความเมตตากับทนายตั้มอย่างจริงใจ
    ชาวเน็ตมีความเห็นตรงกันมากว่า เป็นไปไม่ได้หรือไม่เชื่อที่ใครจะให้เงิน71 ล้านด้วยความเสน่หากับคนที่ไม่ใช่ญาติรวมถึงตรรกะว่า ถ้าอ้อย จตุพรให้ด้วยความเสน่หาจริงแล้วจะมาแจ้งจับทนายตั้มทําไม งานนี้ สนธิ ลิ้มทองกุลชนะขาด เครดิตความน่าเชื่อถือต่างกันลิบลับในด้านคดีความ ต้องบอกว่าทนายตั้มงานนี้เหนื่อยแน่เพราะสํานักงานตํารวจแห่งชาติมีคําสั่งให้โอนคดีจาก สภ ปากช่อง มายังกองปราบปรามเรียบร้อยแล้ว และเนื่องจากทนายตั้มใช้วิธีดักคอว่าพลตํารวจตรีจรูญ เกียรติปานแก้ว เหมือนเป็นคู่กรณีกลายๆจะมาคุมสํานวน
    สํานักงานตํารวจแห่งชาติจึงไม่เปิดช่องทางให้ทนายตั้มใช้ประเด็นนี้มาต่อสู้คดี จึงมอบหมายให้บิ๊กหมูพลตํารวจตรีสุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตํารวจสอบสวนกลางรับผิดชอบซึ่งตามประวัติบิ๊กหมูเป็นถึงผู้การกองปราบมาก่อน ลีลาก็ถึงลูกถึงคน ไม่กลัวใครหน้าไหนเหมือนกัน ในสถานการณ์ที่เห็นว่าตัวเองเพลี่ยงพล้ํา ทนายตั้มเลยยกเลิกเกมที่จะไปแจ้งจับใครต่อใครเปลี่ยนวิธีจะไปขอเจรจากับเจ้าของเงินแทน แต่โชคร้ายที่ออกแนวหลอกลวงมันรุนแรงเกินกว่าที่คู่กรณีจะยอมให้อภัยจึงจัดการปิดช่องทางการติดต่อสื่อสารทั้งหมด ทนายตั้มไม่สามารถติดต่อคุณอ้อยได้แล้ว
    การเปิดศึกกับสนธิ ลิ้มทองกุลและการไปบี้เอาเงินจากบอสพอล ทนายตั้มใช้วิธีการอ้างถึงรายการโหนกระแสเหมือนๆกัน เล่นเอาหนุ่มกรรชัยสุดทนพูดตําหนิทนายตั้มตรงๆ ว่าอย่าลากชื่อรายการไปเกี่ยวข้องและหนุ่มกรรชัยต้องรีบโทรเคลียร์กับสนธิลิ้มทองกุลว่ารายการโหนกระแสไม่ได้ตั้งใจจะฟอกขาวให้ทนายตั้ม ซึ่งต่างเข้าใจกันด้วยดี ดูเหลี่ยมไหนทนายตั้มก็รอดยากผู้คนกําลังรุมประณามลามปามไปถึงสังคมทนาย คิงส์ดำบอกเลยว่า ตั้มเอ้ย ซ้อมกินฉี่ไว้ล่วงหน้าได้เลย
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    #สนธิลิ้มทองกุล
    #ทนายตั้ม
    ข้อมูลที่สนธิลิ้มทองกุลเปิดโปงพฤติกรรมของทนายตั้ม นายสิทธา เบี้ยบังเกิด ตอกย้ําว่าอ้อยจตุพร ที่โอนเงินสองล้านยูโรหรือเจ็ดสิบเอ็ดล้านบาทเข้าบัญชีชื่อสิทธ์ธาเบี้ยบังเกิด ไม่ใช่การให้โดยเสน่ห์หายอย่างที่ทนายตั้มอ้าง และในเมื่อทนายตั้ม อมเงินก้อนนี้ไปโดยไม่ยอมคืนให้เจ้าของก็เท่ากับมีภาระต้องเสียภาษีอีกมหาศาล ถึงขั้นนายสนธิ ท้า ถ้าทนายตั้มมีหลักฐานการจ่ายภาษีจะยอมกราบตีนและไหนๆทนายตั้มอยากแกว่งเท้าหาเสี้ยนเอง สนธิ ลิ้มทองกุลก็จะยื่นหนังสือถึงกรมสรรพากรให้ตรวจสอบการเสียภาษี จากรายได้ก้อนนี้ด้วย จัดหนักให้สุดซอยแบบเดียวกับที่เคยจัดให้ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ตอนที่เปิดศึกกันครั้งที่ผ่านมา หลังรายการจบลงสื่อต่างๆก็นําไปรายงานข่าวกันอย่างคึกคัก แหกพฤติกรรมฉ้อโกงเงิน ไปจากเศรษฐีนีใจบุญที่เคยให้ความรักความเมตตากับทนายตั้มอย่างจริงใจ ชาวเน็ตมีความเห็นตรงกันมากว่า เป็นไปไม่ได้หรือไม่เชื่อที่ใครจะให้เงิน71 ล้านด้วยความเสน่หากับคนที่ไม่ใช่ญาติรวมถึงตรรกะว่า ถ้าอ้อย จตุพรให้ด้วยความเสน่หาจริงแล้วจะมาแจ้งจับทนายตั้มทําไม งานนี้ สนธิ ลิ้มทองกุลชนะขาด เครดิตความน่าเชื่อถือต่างกันลิบลับในด้านคดีความ ต้องบอกว่าทนายตั้มงานนี้เหนื่อยแน่เพราะสํานักงานตํารวจแห่งชาติมีคําสั่งให้โอนคดีจาก สภ ปากช่อง มายังกองปราบปรามเรียบร้อยแล้ว และเนื่องจากทนายตั้มใช้วิธีดักคอว่าพลตํารวจตรีจรูญ เกียรติปานแก้ว เหมือนเป็นคู่กรณีกลายๆจะมาคุมสํานวน สํานักงานตํารวจแห่งชาติจึงไม่เปิดช่องทางให้ทนายตั้มใช้ประเด็นนี้มาต่อสู้คดี จึงมอบหมายให้บิ๊กหมูพลตํารวจตรีสุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตํารวจสอบสวนกลางรับผิดชอบซึ่งตามประวัติบิ๊กหมูเป็นถึงผู้การกองปราบมาก่อน ลีลาก็ถึงลูกถึงคน ไม่กลัวใครหน้าไหนเหมือนกัน ในสถานการณ์ที่เห็นว่าตัวเองเพลี่ยงพล้ํา ทนายตั้มเลยยกเลิกเกมที่จะไปแจ้งจับใครต่อใครเปลี่ยนวิธีจะไปขอเจรจากับเจ้าของเงินแทน แต่โชคร้ายที่ออกแนวหลอกลวงมันรุนแรงเกินกว่าที่คู่กรณีจะยอมให้อภัยจึงจัดการปิดช่องทางการติดต่อสื่อสารทั้งหมด ทนายตั้มไม่สามารถติดต่อคุณอ้อยได้แล้ว การเปิดศึกกับสนธิ ลิ้มทองกุลและการไปบี้เอาเงินจากบอสพอล ทนายตั้มใช้วิธีการอ้างถึงรายการโหนกระแสเหมือนๆกัน เล่นเอาหนุ่มกรรชัยสุดทนพูดตําหนิทนายตั้มตรงๆ ว่าอย่าลากชื่อรายการไปเกี่ยวข้องและหนุ่มกรรชัยต้องรีบโทรเคลียร์กับสนธิลิ้มทองกุลว่ารายการโหนกระแสไม่ได้ตั้งใจจะฟอกขาวให้ทนายตั้ม ซึ่งต่างเข้าใจกันด้วยดี ดูเหลี่ยมไหนทนายตั้มก็รอดยากผู้คนกําลังรุมประณามลามปามไปถึงสังคมทนาย คิงส์ดำบอกเลยว่า ตั้มเอ้ย ซ้อมกินฉี่ไว้ล่วงหน้าได้เลย #คิงส์โพธิ์ดำ #สนธิลิ้มทองกุล #ทนายตั้ม
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 217 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ความจริงหนึ่งเดียว”ฟาด‘ทนายตั้ม’แดดิ้น
    .
    ผมไม่ได้เป็นคู่กรณีอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว ผู้เสียหายคือคุณอ้อย -จตุพรเป็นเจ้าทุกข์แจ้งความกล่าวหาว่าคุณษิทรา ฉ้อโกงเงินเขาไป แล้วตำรวจก็ดำเนินการสอบสวนฝ่ายโจทก์ผู้กล่าวหาเรียบร้อยแล้ว แล้วเรื่องนี้ก็กำลังจะดำเนินการเข้ามาสู่ส่วนกลาง
    .
    คุณษิทรา ฟังให้ดีๆ นะ ผมไม่ได้เป็นคนซี้ซั้วแม้จะรู้เรื่องนี้มานานจากทนายผู้รับมอบอำนาจจะเอาข้อมูลมาให้ผมแล้ว ผมยังยืนยันที่จะเจอเจ้าตัว ซึ่งเป็นคุณอ้อย-จตุพร ผู้เสียหายเจ้าทุกข์ตัวจริง เพื่อซักถามกันอย่างละเอียดโดยทีมงานข่าวอาวุโสของผม
    .
    แต่เมื่อคุณษิทราร้อนตัวไปออกรายการ "หนุ่ม กรรชัย" โหนกระแสเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ซึ่งเชิญทนายตั้ม ษิทรา กับอัจฉริยะ มาเป็นแขกรับเชิญในรายการ จู่ๆคุณหนุ่ม กรรชัย ชงคำถามที่มาของความร่ำรวย ซึ่งอนุมานได้ทันทีว่ารู้กันระหว่างทนายตั้มกับคุณกรรชัย แล้วมาระรานถึงผมหลายประเด็น ที่คุณษิทรา บอกว่าทั้งหมดนี้วางแผนโดยบ้านพระอาทิตย์ ไม่ใช่ครับ คุณเอ่ยชื่อผมได้ “สนธิ ลิ้มทองกุล”ครับ คุณไร้มารยาทกับผม ต่อหน้าคุณก็เรียกผมว่าพี่สนธิ แต่ลับหลังคุณโกรธผม ออกมาโพสต์ด่าผมว่า "ไอ้ลิ้ม มาเจอกูที่โหนกระแส" แต่รีบลบออกไป แต่ว่าผมยังแคปได้อยู่ ไม่เป็นไร
    .
    เข้าใจนะว่า ไม่มีช่องไหนเอาผมไปออกได้หรอก เพราะผม ความจริงมีหนึ่งเดียวมันอยู่ที่ผม อยู่ตรงนี้ ทำไมผมต้องออกโหนกระแส ผมไม่มีความจำเป็นต้องฟอกตัวผม แต่ผมมีความจริงที่จะทำให้คนชั่วต่างๆ ฉิบหายได้
    .
    คุณษิทรา คุณน่ะเด็กเมื่อวานซืน คุณอายุแค่ 43 ปี คุณยังอายุน้อยกว่าลูกชายผมอีก ผมมากกว่าคุณ 25 ปี สิ่งต่างๆ ที่ผมผ่านมาในชีวิตของผม (ขอประทานโทษ) คุณน่ะเทียบไม่ได้กับอุจจาระเท้าผมเลย คุณอย่ามาทะลึ่งกับผม
    .
    เอาล่ะไหนๆ คุณก็เปิดศึกแล้ว เดี๋ยวผมจะสร้างสนามรบใหม่ๆ ให้คุณเข้าไปรบในสนามรบใหม่นี้ ทั้งๆ ที่ผมรู้มานานแล้ว แต่ผมขี้เกียจพูด ผมถือว่าคุณษิทราครับ ทางใครทางมัน แต่คุณทะลึ่งมาเหยียบเส้น ล้ำเส้นผม
    “ความจริงหนึ่งเดียว”ฟาด‘ทนายตั้ม’แดดิ้น . ผมไม่ได้เป็นคู่กรณีอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว ผู้เสียหายคือคุณอ้อย -จตุพรเป็นเจ้าทุกข์แจ้งความกล่าวหาว่าคุณษิทรา ฉ้อโกงเงินเขาไป แล้วตำรวจก็ดำเนินการสอบสวนฝ่ายโจทก์ผู้กล่าวหาเรียบร้อยแล้ว แล้วเรื่องนี้ก็กำลังจะดำเนินการเข้ามาสู่ส่วนกลาง . คุณษิทรา ฟังให้ดีๆ นะ ผมไม่ได้เป็นคนซี้ซั้วแม้จะรู้เรื่องนี้มานานจากทนายผู้รับมอบอำนาจจะเอาข้อมูลมาให้ผมแล้ว ผมยังยืนยันที่จะเจอเจ้าตัว ซึ่งเป็นคุณอ้อย-จตุพร ผู้เสียหายเจ้าทุกข์ตัวจริง เพื่อซักถามกันอย่างละเอียดโดยทีมงานข่าวอาวุโสของผม . แต่เมื่อคุณษิทราร้อนตัวไปออกรายการ "หนุ่ม กรรชัย" โหนกระแสเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ซึ่งเชิญทนายตั้ม ษิทรา กับอัจฉริยะ มาเป็นแขกรับเชิญในรายการ จู่ๆคุณหนุ่ม กรรชัย ชงคำถามที่มาของความร่ำรวย ซึ่งอนุมานได้ทันทีว่ารู้กันระหว่างทนายตั้มกับคุณกรรชัย แล้วมาระรานถึงผมหลายประเด็น ที่คุณษิทรา บอกว่าทั้งหมดนี้วางแผนโดยบ้านพระอาทิตย์ ไม่ใช่ครับ คุณเอ่ยชื่อผมได้ “สนธิ ลิ้มทองกุล”ครับ คุณไร้มารยาทกับผม ต่อหน้าคุณก็เรียกผมว่าพี่สนธิ แต่ลับหลังคุณโกรธผม ออกมาโพสต์ด่าผมว่า "ไอ้ลิ้ม มาเจอกูที่โหนกระแส" แต่รีบลบออกไป แต่ว่าผมยังแคปได้อยู่ ไม่เป็นไร . เข้าใจนะว่า ไม่มีช่องไหนเอาผมไปออกได้หรอก เพราะผม ความจริงมีหนึ่งเดียวมันอยู่ที่ผม อยู่ตรงนี้ ทำไมผมต้องออกโหนกระแส ผมไม่มีความจำเป็นต้องฟอกตัวผม แต่ผมมีความจริงที่จะทำให้คนชั่วต่างๆ ฉิบหายได้ . คุณษิทรา คุณน่ะเด็กเมื่อวานซืน คุณอายุแค่ 43 ปี คุณยังอายุน้อยกว่าลูกชายผมอีก ผมมากกว่าคุณ 25 ปี สิ่งต่างๆ ที่ผมผ่านมาในชีวิตของผม (ขอประทานโทษ) คุณน่ะเทียบไม่ได้กับอุจจาระเท้าผมเลย คุณอย่ามาทะลึ่งกับผม . เอาล่ะไหนๆ คุณก็เปิดศึกแล้ว เดี๋ยวผมจะสร้างสนามรบใหม่ๆ ให้คุณเข้าไปรบในสนามรบใหม่นี้ ทั้งๆ ที่ผมรู้มานานแล้ว แต่ผมขี้เกียจพูด ผมถือว่าคุณษิทราครับ ทางใครทางมัน แต่คุณทะลึ่งมาเหยียบเส้น ล้ำเส้นผม
    Like
    Love
    16
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 892 มุมมอง 1 รีวิว
  • แจ้งคดีทนายตั้มรับเงิน 71 ล้าน ถึงสอบสวนกลางแล้ว 25/10/67 #ทนายตั้ม #ฉ้อโกงเงิน #นักธุรกิจสาวเศรษฐี
    แจ้งคดีทนายตั้มรับเงิน 71 ล้าน ถึงสอบสวนกลางแล้ว 25/10/67 #ทนายตั้ม #ฉ้อโกงเงิน #นักธุรกิจสาวเศรษฐี
    Like
    Haha
    Wow
    19
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1994 มุมมอง 725 0 รีวิว