• เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2025 OpenAI ได้เปิดตัว ChatGPT Gov ซึ่งเป็นเวอร์ชันของ ChatGPT ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะของหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ChatGPT Gov มีความสามารถในการช่วยงานต่างๆ เช่น การค้นหาเอกสารที่ซับซ้อน การทำงานร่วมกันในพื้นที่ทำงานของรัฐบาล การอัปโหลดไฟล์ข้อความและรูปภาพ และการเข้าถึง GPT-4o นอกจากนี้ยังมีคอนโซลสำหรับผู้บริหารด้านไอทีในการจัดการการใช้งาน

    การเปิดตัว ChatGPT Gov นี้มีเป้าหมายเพื่อช่วยให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถจัดการกับปัญหาที่ซับซ้อน เช่น การปรับปรุงสุขภาพของประชาชนและการเสริมสร้างความมั่นคงของชาติ โดยมีเป้าหมายสูงสุดในการ "รับใช้ผลประโยชน์ของชาติและความดีของประชาชน"

    หน่วยงานรัฐบาลสามารถใช้บริการ OpenAI ของ Microsoft Azure เพื่อปรับใช้ ChatGPT Gov ในสภาพแวดล้อมของตนเอง ซึ่งช่วยให้หน่วยงานสามารถจัดการกับความต้องการด้านความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว และการปฏิบัติตามข้อกำหนดได้ง่ายขึ้น

    นอกจากนี้ ChatGPT Gov ยังมีนโยบายการใช้งานที่ห้ามการใช้งานที่เป็นอันตรายและมีการตั้งค่าการป้องกันเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน

    มีสาระที่น่าสนใจเพิ่มเติมในบทความนี้คือ การที่หน่วยงานรัฐบาลมากกว่า 3,500 แห่งในสหรัฐฯ ได้เริ่มใช้ ChatGPT ในการทำงานประจำวันแล้ว โดยมีผู้ใช้งานมากกว่า 90,000 คนที่ส่งข้อความผ่าน ChatGPT มากกว่า 18 ล้านข้อความ

    https://www.zdnet.com/article/openai-tailored-chatgpt-gov-for-government-use-heres-what-that-means/
    เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2025 OpenAI ได้เปิดตัว ChatGPT Gov ซึ่งเป็นเวอร์ชันของ ChatGPT ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะของหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ChatGPT Gov มีความสามารถในการช่วยงานต่างๆ เช่น การค้นหาเอกสารที่ซับซ้อน การทำงานร่วมกันในพื้นที่ทำงานของรัฐบาล การอัปโหลดไฟล์ข้อความและรูปภาพ และการเข้าถึง GPT-4o นอกจากนี้ยังมีคอนโซลสำหรับผู้บริหารด้านไอทีในการจัดการการใช้งาน การเปิดตัว ChatGPT Gov นี้มีเป้าหมายเพื่อช่วยให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถจัดการกับปัญหาที่ซับซ้อน เช่น การปรับปรุงสุขภาพของประชาชนและการเสริมสร้างความมั่นคงของชาติ โดยมีเป้าหมายสูงสุดในการ "รับใช้ผลประโยชน์ของชาติและความดีของประชาชน" หน่วยงานรัฐบาลสามารถใช้บริการ OpenAI ของ Microsoft Azure เพื่อปรับใช้ ChatGPT Gov ในสภาพแวดล้อมของตนเอง ซึ่งช่วยให้หน่วยงานสามารถจัดการกับความต้องการด้านความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว และการปฏิบัติตามข้อกำหนดได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ ChatGPT Gov ยังมีนโยบายการใช้งานที่ห้ามการใช้งานที่เป็นอันตรายและมีการตั้งค่าการป้องกันเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน มีสาระที่น่าสนใจเพิ่มเติมในบทความนี้คือ การที่หน่วยงานรัฐบาลมากกว่า 3,500 แห่งในสหรัฐฯ ได้เริ่มใช้ ChatGPT ในการทำงานประจำวันแล้ว โดยมีผู้ใช้งานมากกว่า 90,000 คนที่ส่งข้อความผ่าน ChatGPT มากกว่า 18 ล้านข้อความ https://www.zdnet.com/article/openai-tailored-chatgpt-gov-for-government-use-heres-what-that-means/
    WWW.ZDNET.COM
    OpenAI tailored ChatGPT Gov for government use - here's what that means
    ChatGPT will be making its way to federal, state, and local agencies. The new version comes with benefits - and concerns.
    0 Comments 0 Shares 136 Views 0 Reviews
  • โกโก้ป๋า

    วัตถุประสงค์

    เพื่อปรับปรุงหลอดเลือดในผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มีอาหารจี๊ด ๆ ในหลอดเลือดและถูกบอกว่า...โรคนี้รักษาไม่หายต้องปล่อยไปตามยถากรรม แต่หลังจากให้ผู้ที่มีอาการไปหาซื้อกินเองจนอาการหายดี จึงคิดทำขึ้นเนื่องจากเห็นว่าที่ขายกันอยู่ราคาสูงเกินไปและมีเปอร์เซ็นต์ของโกโก้และฟลาโวนอลต่ำไป

    ส่วนผสมที่ตั้งใจจะคัดสรรมาให้

    ผงดาร์กโกโก้แท้ เกรดพรีเมี่ยมนำเข้าจากเบลเยี่ยม ปราศจากการแต่งกลิ่นเลียนแบบธรรมชาติ ไม่แต่งสีหรือปรุงรสชาติ ไม่ใส่ครีมเทียม ไม่ใส่นม

    ไบโอฟลาโวนอยจากแคนาดา ที่ตั้งใจจะใส่ลงไป และดีที่สุดในโลก เท่าที่จะหาได้

    ขนาดบรรจุ ซองละ 10 กรัม มี 30 ซองใน 1กล่อง ราคา 480 บาท

    BELIEVE THE TRUTH

    ตอน...โกโก้และหลอดเลือดที่เสียหายในผู้ป่วยโรคเบาหวาน

    Flavanols ในโกโก้ช่วยปรับปรุงสมรรถภาพของหลอดเลือดช่วยลดความเครียดในหัวใจ

    AMERICAN COLLEGE OF CARDIOLOGY

    หลังจากที่ผู้ป่วยโรคเบาหวานได้ดื่มโกโก้ที่มีฟลาโวนอลสูงเป็นเวลาหนึ่งเดือน หลอดเลือดที่ชำรุดทรุดโทรมก็ลับมาทำงานได้ตามปกติ
    นักวิจัยตั้งข้อสังเกตว่าการปรับปรุงนี้มีขนาดใหญ่พอ ๆ กับการออกกำลังกายและการใช้ยารักษาโรคเบาหวานที่พบบ่อย การค้นพบนี้ชี้ให้เห็นว่าอาจถึงเวลาแล้วที่จะคิดว่า “ไม่ใช่แค่การคิดนอกกะลาแต่ภายในถ้วยโกโก้”เพื่อเป็นแนวทางในการปัดเป่าโรคหัวใจและหลอดเลือดซึ่งเป็นสาเหตุอันดับหนึ่งของการเสียชีวิตในผู้ป่วยโรคเบาหวาน

    “การรักษาด้วยยาเพียงลำพังไม่สามารถป้องกันภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวานที่เกี่ยวข้องกับหลอดเลือดและโรคหัวใจและหลอดเลือดได้” กล่าวโดย นายแพทย์Malte Kelmศาสตราจารย์และประธานด้านโรคหัวใจ วิทยาปอด(pulmonology)และเวชศาสตร์หลอดเลือดที่โรงพยาบาลและมหาวิทยาลัย Aachen เยอรมนี "แพทย์ควรจะมองหาการเปลี่ยนแปลงวิถีการดำเนินชีวิตและแนวทางใหม่ ๆ เพื่อช่วยในการจัดการกับความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดในผู้ป่วยโรคเบาหวาน"

    ในการศึกษา Dr.Kelm และเพื่อนร่วมงานของเขาได้ทดสอบความเป็นไปได้ในการใช้โกโก้ที่มีฟลาโวนอลสูงเพื่อปรับปรุงสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดด้วยการสังเกตผลของโกโก้ที่มีปริมาณ flavanols ในหลอดเลือดแตกต่างกันในผู้ป่วย 10 รายที่มีเบาหวานชนิดที่ 2

    การศึกษาได้ทดสอบประสิทธิภาพของการบริโภคโกโก้ที่มีฟลาโวนอลสูงเป็นระยะเวลานานเทียบกับโกโก้ที่มีปริมาณฟลาโวนอลต่ำในผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ผู้ป่วยได้รับการสุ่มเลือกให้ดื่มโกโก้ที่มี flavolsols 321 มิลลิกรัมและ 25 มิลลิกรัมต่อถ้วย 3 ครั้งต่อวันเป็นเวลา 30 วัน ทั้งสองประเภทของโกโก้มีรสชาติและดูเหมือนกันแม้จะมีความแตกต่างของปริมาณฟลาโวนอล
    การทำงานของเส้นเลือดถูกทดสอบในวันแรกก่อนที่ผู้ป่วยจะบริโภคโกโก้ใด ๆ และอีกสองชั่วโมงหลังจากดื่มเครื่องดื่ม การทดสอบทำซ้ำก่อนและหลังการบริโภคโกโก้ในวันที่ 8 และวันที่ 30 ของการศึกษา

    เพื่อการวัดผลกระทบที่เกิดขึ้นของโกโก้ที่มีฟลาโวนอลสูง...นักวิจัยได้ใช้การทดสอบที่เรียกว่า "flow-mediated dilation" (FMD) ซึ่งประเมินความสามารถของหลอดเลือดในการขยายตัว เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับเลือด ออกซิเจนและสารอาหาร การทดสอบ FMD เกี่ยวข้องกับการวัดเส้นผ่าศูนย์กลางของหลอดเลือดแดงที่แขนด้านบนโดยใช้อัลตราซาวนด์ ในคนที่มีสุขภาพดีเยื่อบุชั้นในของหลอดเลือดแดงหรือ endothelium จะตรวจจับการไหลเวียนของเลือดที่เพิ่มขึ้นและส่งสัญญาณทางเคมีเพื่อบอกให้หลอดเลือดแดงขยายตัว ในห้องปฏิบัติการของดร. เคลม์ การตอบสนองในคนที่มีสุขภาพดีในวัยเดียวกันที่เข้าร่วมในการศึกษามีการขยายตัวของเส้นผ่าศูนย์กลางหลอดเลือดเฉลี่ยที่ 5.2 เปอร์เซ็นต์
    นักวิจัยพบว่าผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 มีความทรุดโทรมของหลอดเลือดแดงอย่างรุนแรงในช่วงเริ่มต้นของการศึกษา ก่อนที่ผู้ป่วยจะบริโภคโกโก้ใด ๆ หลอดเลือดแดงที่แขนด้านบนจะขยายตัวเพียง 3.3 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น สองชั่วโมงหลังจากดื่มโกโก้ที่มีฟลาโวนอลสูงการตอบสนองต่อ FMD เท่ากับ 4.8 เปอร์เซ็นต์

    เมื่อเวลาผ่านไปผลการวิจัยเหล่านั้นก็ดีขึ้น หลังจากที่ผู้ป่วยดื่มโกโก้ที่มีระดับฟลาโวนอลสูง 3 ครั้งต่อวันเป็นเวลา 8 วัน อัตราการตอบสนองของ FMD เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 4.1 เปอร์เซ็นต์ในช่วงเริ่มต้นและ5.7 เปอร์เซ็นต์ที่ 2 ชั่วโมงหลังจากรับประทานโกโก้

    ในวันที่ 30 การตอบสนองต่อ FMD ดีขึ้นเป็น 4.3 เปอร์เซ็นต์ที่ระดับพื้นฐานและ 5.8 เปอร์เซ็นต์หลังจากกินโกโก้...และการปรับปรุงทั้งหมดมีนัยสำคัญทางสถิติ

    ในหมู่ผู้ป่วยที่บริโภคโกโก้ที่มีฟลาโวนอลต่ำ ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในการตอบสนองของ FMD หลังการกินโกโก้ในวันที่ 8 และ 30
    การตรวจวัด FMD สามารถให้ข้อมูลที่มีค่าเกี่ยวกับสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดของบุคคล การศึกษาก่อนหน้านี้ได้แสดงให้เห็นว่าผู้ที่มีการตอบสนองต่อ FMD ไม่ดี มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหัวใจวายเพิ่มขึ้นและจำเป็นต้องผ่าตัดบายพาส
    หลอดเลือดหัวใจและแม้แต่ความตายจากโรคหัวใจ

    Dr.Kelm คาดการณ์ว่าฟลาโวนอลในโกโก้ช่วยเพิ่มการตอบสนองต่อ FMD โดยการเพิ่มการผลิตไนตริกออกไซด์ซึ่งเป็นสัญญาณทางเคมีที่บอกให้หลอดเลือดแดงผ่อนคลายและขยายตัวเพื่อตอบสนองต่อการไหลเวียนของเลือดที่เพิ่มขึ้น การผ่อนคลายของหลอดเลือดแดงจะทำให้ความเครียดของหัวใจและหลอดเลือดลดลง

    การใช้โกโก้ที่มีปริมาณฟลาโวนอลสูงในการศึกษานี้ไม่ได้มีขายในซูเปอร์มาร์เก็ต Dr.Kelm เตือนว่า การศึกษานี้ไม่ได้หมายความว่าคนที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ต้องกินโกโก้อย่างบ้าคลั่ง... แต่การที่มีฟลาโวนอลในอาหารถือว่าเป็นวิธีการป้องกันโรคหัวใจ ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 สามารถหาแนวทางในการกินช็อกโกแลตเพื่อให้มีสุขภาพดีได้ แต่การศึกษานี้ไม่เกี่ยวกับช็อกโกแลตและไม่ได้กระตุ้นให้ผู้ที่เป็นเบาหวานกินช็อกโกแลตให้มากขึ้น การวิจัยครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่อะไรที่เป็นหัวใจที่แท้จริงของ การอภิปรายเรื่อง cocoa flavanols : สารประกอบธรรมชาติที่เกิดขึ้นในโกโก้ เขากล่าวว่า "ในขณะที่การวิจัยเป็นสิ่งจำเป็น ผลของเราแสดงให้เห็นว่า flavanols ในอาหารอาจมีผลกระทบที่สำคัญและเป็นส่วนหนึ่งของอาหารสุขภาพในการป้องกันภาวะแทรกซ้อนทางหัวใจและหลอดเลือดในผู้ป่วยโรคเบาหวาน "

    Umberto Campia, MD ผู้ร่วมเขียนบทวิจารณ์เกี่ยวกับการศึกษาใหม่ในฉบับเดียวกันของ JACC กล่าวว่าผู้ป่วยโรคเบาหวานเป็นประชากรที่เหมาะสำหรับศึกษาผลของ flavanols ต่อการทำงานของเส้นเลือดแดงเนื่องจากน้ำตาลในเลือดสูงทำให้เกิดความเสียหายต่อ endothelium และเนื่องจากผู้ป่วยเหล่านี้มีความเสี่ยงสูงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด
    “การบำบัดใดๆที่ช่วยให้หลอดเลือดทำงานได้ดีขึ้นย่อมสำคัญเสมอ” Dr. Campia นักวิจัยจากสถาบันวิจัย MedStar ในกรุงวอชิงตันดีซีกล่าวว่า "เยื่อบุผนังหลอดเลือดเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของร่างกาย" เขากล่าว "มันรักษาสุขภาพของหลอดเลือดแดงและป้องกันการอุดตันที่อาจทำให้เกิดหัวใจวาย และอัมพาตย์"

    "การศึกษาครั้งนี้มีความสำคัญและกระตุ้นความคิด" เขากล่าว "ตอนนี้เรามีหลักฐานมากมายว่า flavanols ในโกโก้มีผลดีต่อสุขภาพของหลอดเลือดแดง นี่เป็นรากฐานที่เราต้องการสำหรับการทำการศึกษาในอนาคตที่มีขนาดใหญ่กว่าซึ่งจะพิจารณาถึงผลของ flavanols ใสโกโก้ ไม่ใช่แค่การทำงานของ endothelial เท่านั้นแต่ยังรวมถึง ความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจวาย โรคหลอดเลือดสมองและโรคหัวใจและหลอดเลือดชนิดร้ายแรงอื่น ๆ "

    American College of Cardiology เป็นผู้นำในการป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดและการป้องกันโรคที่ดีที่สุด วิทยาลัยเป็นองค์กรด้านการแพทย์ที่ไม่หวังผลกำไรที่มีสมาชิก 34,000 คน ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสมาคมสามารถดูได้ทางออนไลน์ที่ www.acc.org

    และเพิ่งระลึกไว้ว่า

    เมื่อหลอดเลือดดี แปลว่าท่อลำเลียงสารอาหารและอากาศดี อวัยวะทุกส่วนในร่างกายก็จะดีไปด้วย

    Cr. Santi Manadee
    โกโก้ป๋า วัตถุประสงค์ เพื่อปรับปรุงหลอดเลือดในผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มีอาหารจี๊ด ๆ ในหลอดเลือดและถูกบอกว่า...โรคนี้รักษาไม่หายต้องปล่อยไปตามยถากรรม แต่หลังจากให้ผู้ที่มีอาการไปหาซื้อกินเองจนอาการหายดี จึงคิดทำขึ้นเนื่องจากเห็นว่าที่ขายกันอยู่ราคาสูงเกินไปและมีเปอร์เซ็นต์ของโกโก้และฟลาโวนอลต่ำไป ส่วนผสมที่ตั้งใจจะคัดสรรมาให้ ผงดาร์กโกโก้แท้ เกรดพรีเมี่ยมนำเข้าจากเบลเยี่ยม ปราศจากการแต่งกลิ่นเลียนแบบธรรมชาติ ไม่แต่งสีหรือปรุงรสชาติ ไม่ใส่ครีมเทียม ไม่ใส่นม ไบโอฟลาโวนอยจากแคนาดา ที่ตั้งใจจะใส่ลงไป และดีที่สุดในโลก เท่าที่จะหาได้ ขนาดบรรจุ ซองละ 10 กรัม มี 30 ซองใน 1กล่อง ราคา 480 บาท BELIEVE THE TRUTH ตอน...โกโก้และหลอดเลือดที่เสียหายในผู้ป่วยโรคเบาหวาน Flavanols ในโกโก้ช่วยปรับปรุงสมรรถภาพของหลอดเลือดช่วยลดความเครียดในหัวใจ AMERICAN COLLEGE OF CARDIOLOGY หลังจากที่ผู้ป่วยโรคเบาหวานได้ดื่มโกโก้ที่มีฟลาโวนอลสูงเป็นเวลาหนึ่งเดือน หลอดเลือดที่ชำรุดทรุดโทรมก็ลับมาทำงานได้ตามปกติ นักวิจัยตั้งข้อสังเกตว่าการปรับปรุงนี้มีขนาดใหญ่พอ ๆ กับการออกกำลังกายและการใช้ยารักษาโรคเบาหวานที่พบบ่อย การค้นพบนี้ชี้ให้เห็นว่าอาจถึงเวลาแล้วที่จะคิดว่า “ไม่ใช่แค่การคิดนอกกะลาแต่ภายในถ้วยโกโก้”เพื่อเป็นแนวทางในการปัดเป่าโรคหัวใจและหลอดเลือดซึ่งเป็นสาเหตุอันดับหนึ่งของการเสียชีวิตในผู้ป่วยโรคเบาหวาน “การรักษาด้วยยาเพียงลำพังไม่สามารถป้องกันภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวานที่เกี่ยวข้องกับหลอดเลือดและโรคหัวใจและหลอดเลือดได้” กล่าวโดย นายแพทย์Malte Kelmศาสตราจารย์และประธานด้านโรคหัวใจ วิทยาปอด(pulmonology)และเวชศาสตร์หลอดเลือดที่โรงพยาบาลและมหาวิทยาลัย Aachen เยอรมนี "แพทย์ควรจะมองหาการเปลี่ยนแปลงวิถีการดำเนินชีวิตและแนวทางใหม่ ๆ เพื่อช่วยในการจัดการกับความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดในผู้ป่วยโรคเบาหวาน" ในการศึกษา Dr.Kelm และเพื่อนร่วมงานของเขาได้ทดสอบความเป็นไปได้ในการใช้โกโก้ที่มีฟลาโวนอลสูงเพื่อปรับปรุงสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดด้วยการสังเกตผลของโกโก้ที่มีปริมาณ flavanols ในหลอดเลือดแตกต่างกันในผู้ป่วย 10 รายที่มีเบาหวานชนิดที่ 2 การศึกษาได้ทดสอบประสิทธิภาพของการบริโภคโกโก้ที่มีฟลาโวนอลสูงเป็นระยะเวลานานเทียบกับโกโก้ที่มีปริมาณฟลาโวนอลต่ำในผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ผู้ป่วยได้รับการสุ่มเลือกให้ดื่มโกโก้ที่มี flavolsols 321 มิลลิกรัมและ 25 มิลลิกรัมต่อถ้วย 3 ครั้งต่อวันเป็นเวลา 30 วัน ทั้งสองประเภทของโกโก้มีรสชาติและดูเหมือนกันแม้จะมีความแตกต่างของปริมาณฟลาโวนอล การทำงานของเส้นเลือดถูกทดสอบในวันแรกก่อนที่ผู้ป่วยจะบริโภคโกโก้ใด ๆ และอีกสองชั่วโมงหลังจากดื่มเครื่องดื่ม การทดสอบทำซ้ำก่อนและหลังการบริโภคโกโก้ในวันที่ 8 และวันที่ 30 ของการศึกษา เพื่อการวัดผลกระทบที่เกิดขึ้นของโกโก้ที่มีฟลาโวนอลสูง...นักวิจัยได้ใช้การทดสอบที่เรียกว่า "flow-mediated dilation" (FMD) ซึ่งประเมินความสามารถของหลอดเลือดในการขยายตัว เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับเลือด ออกซิเจนและสารอาหาร การทดสอบ FMD เกี่ยวข้องกับการวัดเส้นผ่าศูนย์กลางของหลอดเลือดแดงที่แขนด้านบนโดยใช้อัลตราซาวนด์ ในคนที่มีสุขภาพดีเยื่อบุชั้นในของหลอดเลือดแดงหรือ endothelium จะตรวจจับการไหลเวียนของเลือดที่เพิ่มขึ้นและส่งสัญญาณทางเคมีเพื่อบอกให้หลอดเลือดแดงขยายตัว ในห้องปฏิบัติการของดร. เคลม์ การตอบสนองในคนที่มีสุขภาพดีในวัยเดียวกันที่เข้าร่วมในการศึกษามีการขยายตัวของเส้นผ่าศูนย์กลางหลอดเลือดเฉลี่ยที่ 5.2 เปอร์เซ็นต์ นักวิจัยพบว่าผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 มีความทรุดโทรมของหลอดเลือดแดงอย่างรุนแรงในช่วงเริ่มต้นของการศึกษา ก่อนที่ผู้ป่วยจะบริโภคโกโก้ใด ๆ หลอดเลือดแดงที่แขนด้านบนจะขยายตัวเพียง 3.3 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น สองชั่วโมงหลังจากดื่มโกโก้ที่มีฟลาโวนอลสูงการตอบสนองต่อ FMD เท่ากับ 4.8 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเวลาผ่านไปผลการวิจัยเหล่านั้นก็ดีขึ้น หลังจากที่ผู้ป่วยดื่มโกโก้ที่มีระดับฟลาโวนอลสูง 3 ครั้งต่อวันเป็นเวลา 8 วัน อัตราการตอบสนองของ FMD เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 4.1 เปอร์เซ็นต์ในช่วงเริ่มต้นและ5.7 เปอร์เซ็นต์ที่ 2 ชั่วโมงหลังจากรับประทานโกโก้ ในวันที่ 30 การตอบสนองต่อ FMD ดีขึ้นเป็น 4.3 เปอร์เซ็นต์ที่ระดับพื้นฐานและ 5.8 เปอร์เซ็นต์หลังจากกินโกโก้...และการปรับปรุงทั้งหมดมีนัยสำคัญทางสถิติ ในหมู่ผู้ป่วยที่บริโภคโกโก้ที่มีฟลาโวนอลต่ำ ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในการตอบสนองของ FMD หลังการกินโกโก้ในวันที่ 8 และ 30 การตรวจวัด FMD สามารถให้ข้อมูลที่มีค่าเกี่ยวกับสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดของบุคคล การศึกษาก่อนหน้านี้ได้แสดงให้เห็นว่าผู้ที่มีการตอบสนองต่อ FMD ไม่ดี มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหัวใจวายเพิ่มขึ้นและจำเป็นต้องผ่าตัดบายพาส หลอดเลือดหัวใจและแม้แต่ความตายจากโรคหัวใจ Dr.Kelm คาดการณ์ว่าฟลาโวนอลในโกโก้ช่วยเพิ่มการตอบสนองต่อ FMD โดยการเพิ่มการผลิตไนตริกออกไซด์ซึ่งเป็นสัญญาณทางเคมีที่บอกให้หลอดเลือดแดงผ่อนคลายและขยายตัวเพื่อตอบสนองต่อการไหลเวียนของเลือดที่เพิ่มขึ้น การผ่อนคลายของหลอดเลือดแดงจะทำให้ความเครียดของหัวใจและหลอดเลือดลดลง การใช้โกโก้ที่มีปริมาณฟลาโวนอลสูงในการศึกษานี้ไม่ได้มีขายในซูเปอร์มาร์เก็ต Dr.Kelm เตือนว่า การศึกษานี้ไม่ได้หมายความว่าคนที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ต้องกินโกโก้อย่างบ้าคลั่ง... แต่การที่มีฟลาโวนอลในอาหารถือว่าเป็นวิธีการป้องกันโรคหัวใจ ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 สามารถหาแนวทางในการกินช็อกโกแลตเพื่อให้มีสุขภาพดีได้ แต่การศึกษานี้ไม่เกี่ยวกับช็อกโกแลตและไม่ได้กระตุ้นให้ผู้ที่เป็นเบาหวานกินช็อกโกแลตให้มากขึ้น การวิจัยครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่อะไรที่เป็นหัวใจที่แท้จริงของ การอภิปรายเรื่อง cocoa flavanols : สารประกอบธรรมชาติที่เกิดขึ้นในโกโก้ เขากล่าวว่า "ในขณะที่การวิจัยเป็นสิ่งจำเป็น ผลของเราแสดงให้เห็นว่า flavanols ในอาหารอาจมีผลกระทบที่สำคัญและเป็นส่วนหนึ่งของอาหารสุขภาพในการป้องกันภาวะแทรกซ้อนทางหัวใจและหลอดเลือดในผู้ป่วยโรคเบาหวาน " Umberto Campia, MD ผู้ร่วมเขียนบทวิจารณ์เกี่ยวกับการศึกษาใหม่ในฉบับเดียวกันของ JACC กล่าวว่าผู้ป่วยโรคเบาหวานเป็นประชากรที่เหมาะสำหรับศึกษาผลของ flavanols ต่อการทำงานของเส้นเลือดแดงเนื่องจากน้ำตาลในเลือดสูงทำให้เกิดความเสียหายต่อ endothelium และเนื่องจากผู้ป่วยเหล่านี้มีความเสี่ยงสูงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด “การบำบัดใดๆที่ช่วยให้หลอดเลือดทำงานได้ดีขึ้นย่อมสำคัญเสมอ” Dr. Campia นักวิจัยจากสถาบันวิจัย MedStar ในกรุงวอชิงตันดีซีกล่าวว่า "เยื่อบุผนังหลอดเลือดเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของร่างกาย" เขากล่าว "มันรักษาสุขภาพของหลอดเลือดแดงและป้องกันการอุดตันที่อาจทำให้เกิดหัวใจวาย และอัมพาตย์" "การศึกษาครั้งนี้มีความสำคัญและกระตุ้นความคิด" เขากล่าว "ตอนนี้เรามีหลักฐานมากมายว่า flavanols ในโกโก้มีผลดีต่อสุขภาพของหลอดเลือดแดง นี่เป็นรากฐานที่เราต้องการสำหรับการทำการศึกษาในอนาคตที่มีขนาดใหญ่กว่าซึ่งจะพิจารณาถึงผลของ flavanols ใสโกโก้ ไม่ใช่แค่การทำงานของ endothelial เท่านั้นแต่ยังรวมถึง ความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจวาย โรคหลอดเลือดสมองและโรคหัวใจและหลอดเลือดชนิดร้ายแรงอื่น ๆ " American College of Cardiology เป็นผู้นำในการป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดและการป้องกันโรคที่ดีที่สุด วิทยาลัยเป็นองค์กรด้านการแพทย์ที่ไม่หวังผลกำไรที่มีสมาชิก 34,000 คน ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสมาคมสามารถดูได้ทางออนไลน์ที่ www.acc.org และเพิ่งระลึกไว้ว่า เมื่อหลอดเลือดดี แปลว่าท่อลำเลียงสารอาหารและอากาศดี อวัยวะทุกส่วนในร่างกายก็จะดีไปด้วย Cr. Santi Manadee
    0 Comments 0 Shares 282 Views 0 Reviews
  • การทำงานที่บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ดีอย่างไร มาฟังจากพนักงานโดยตรง ซึ่งตอกย้ำรางวัล ‘สุดยอดนายจ้างดีเด่นระดับโลกประจำปี 2567’ ที่ไฟเซอร์สำนักงานใหญ่ได้รับการจัดอันดับที่ #34 จากอุตสาหกรรมโดยรวม และอันดับ #1 ในกลุ่มอุตสาหกรรมยาและเทคโนโลยีชีวภาพ Forbes World's Best Employers 2024 - Best Companies To Work For Worldwide ซึ่งถือเป็นรางวัลฉลองครบรอบ 175 ปีของไฟเซอร์ อิงค์ ในปีนี้ และครบรอบ 66 ปีในประเทศไทย ซึ่งพนักงานคือผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จอันยาวนาน
    .
    เมื่อไม่นานมานี้นิตยสาร Forbes ร่วมกับ Statista ประกาศรายชื่อนายจ้างยอดเยี่ยมระดับโลกประจำปี 2024 โดยไฟเซอร์ (Pfizer) ได้รับการจัดอันดับตอกย้ำความเป็นผู้นำและความมุ่งมั่นในการพัฒนาสภาพแวดล้อมการทำงานที่สร้างบรรยากาศเชิงบวกและความเป็นเลิศ จากการสำรวจความคิดเห็นของพนักงานกว่า 300,000 คนจาก 50 ประเทศ ที่เข้าร่วมการสำรวจกับ Forbes ที่ทำงานในองค์กรข้ามชาติขนาดใหญ่ที่มีพนักงานมากกว่า 1,000 คน และดำเนินงานในภูมิภาคทวีปอย่างน้อย 2 แห่งจากทั้งหมด 6 แห่งของโลก ได้แก่ เอเชีย, ยุโรป, แอฟริกา, ลาตินอเมริกา, แคริบเบียน, อเมริกาเหนือ และโอเชียเนีย
    .
    ความสำเร็จของบริษัทแม่สะท้อนภาพลักษณ์องค์กรที่ดีของไฟเซอร์ (ประเทศไทย) องค์กรนวัตกรรมที่ประสบความสำเร็จมากว่า 6 ทศวรรษในประเทศไทย โดยมุ่งมั่นที่จะนำเสนอนวัตกรรมที่ช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้ป่วย ความสำเร็จที่สานต่อเกิดจาก ‘ความสามารถของพนักงานและการปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กร’ ที่ล้วนเป็นพื้นฐานแห่งความสำเร็จด้วยคุณลักษณะสำคัญคือ
    .
    1. ความรับผิดชอบ
    2. การให้ความร่วมมือและการทำงานเป็นทีม
    3. การนำเสนอแนวคิดและวิธีการใหม่ๆ
    .
    ‘สภาพแวดล้อมการทำงาน’ ที่เหมาะสมและหลากหลายคือกุญแจสำคัญ โดยให้พนักงานมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ ไฟเซอร์จึงกลายเป็นสถานที่ที่พนักงานสามารถเติบโตได้
    ▪️วันเวลาทำงาน วันจันทร์-ศุกร์
    ▪️วันหยุดชดเชยกรณีต้องทำงานวันหยุด
    ▪️วันลา Caregiving Leave หรือสิทธิ์ลาดูแลสมาชิกครอบครัวรวมถึงสัตว์เลี้ยง 10 วัน (แยกออกจากวันลากิจ ลาป่วย ลาพักร้อนอื่นๆ)
    ▪️ออฟฟิศตั้งอยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าศาลาแดงเชื่อมตรงกับอาคาร
    ▪️Mobile Office สามารถนั่งทำงานที่ไหนก็ได้
    ▪️มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ปลอดคนที่มีลักษณะเป็นพิษในองค์กร (Toxic People)
    .
    มาร์ค คาว (Mark Kuo) ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ไฟเซอร์ปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กรแบบ Accountability ซึ่งพนักงานทุกคนจะเข้าใจบทบาทและหน้าที่ความรับผิดชอบ โดยทำหน้าที่ของตนให้เต็มที่เพื่อให้ได้รับผลสำเร็จตรงตามเป้าหมายของตนเองและบรรลุวัตถุประสงค์ที่องค์กรวางไว้ คือไม่ใช่สักแต่เพียงการทำงานให้เสร็จสิ้น แต่ต้องประสบผลความสำเร็จ และผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของไฟเซอร์คือพนักงานซึ่งเป็นทรัพยากรที่ทรงคุณค่า เราได้รับความไว้วางใจในประเทศไทยมายาวนานกว่า 6 ทศวรรษ ซึ่งสามารถยืนหยัดและเติบโตในประเทศไทยได้จนถึงทุกวันนี้ เป็นการสะท้อนถึงความไว้วางใจและการสนับสนุนจากชาวไทยอย่างแท้จริง ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) ยินดีต้อนรับทุกคนที่มีความรู้ความสามารถและมีคุณภาพสูงมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร ในการทำหน้าที่นำเสนอนวัตกรรมเพื่อช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้ป่วย และมาร่วมกันสร้างความสำเร็จและการเติบโตเข้าสู่ปีที่ 67 ของการก่อตั้งในประเทศไทยและในปีต่อๆ ไป
    .
    สิทธิประโยชน์ของพนักงานไฟเซอร์คือ
    ▪️ให้ความสำคัญเรื่องสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี รวมถึงความปลอดภัยของพนักงานเป็นอันดับต้นๆ ซึ่งจัดกิจกรรมเสริมสุขภาพกายใจ และให้ความรู้ด้านการเงินและการดำเนินชีวิตอย่างสมดุลทุกเดือน
    ▪️สวัสดิการยืดหยุ่น 16,000 บาทต่อปี ครอบคลุมสุขภาพ ความงาม ประกัน ดูแลครอบครัว สัตว์เลี้ยง เป็นต้น
    ▪️ตรวจสุขภาพประจำปี โบนัสการันตี 1 เดือน + โบนัสตามผลงาน
    ▪️กองทุนสำรองเลี้ยงชีพและสิทธิหุ้น Provident Fund อัตราแข่งขันได้ บางตำแหน่งมีสิทธิหุ้น
    ▪️สนับสนุนความหลากหลายและความเท่าเทียม (DEI) สิทธิคู่สมรสเท่าเทียมสำหรับคู่ชีวิตเพศเดียวกัน
    ▪️ประกันสุขภาพครอบคลุมคู่สมรสและบุตร รวมถึงคู่ชีวิต (Life Partner) เพศเดียวกันกับพนักงาน
    ▪️พัฒนาและเติบโตในสายอาชีพ อบรมผ่านระบบออนไลน์และชั้นเรียน เติบโตในองค์กรและเปิดโอกาสให้ได้ทำงานในระดับภูมิภาคและระดับโลก
    ▪️นโยบายปรึกษาหัวหน้างานโดยตรง (Speak Up) ผู้บริหารพร้อมรับฟังและแก้ปัญหาอย่างจริงใจ (Open Door)
    ▪️วัฒนธรรมเสมอภาค ยืดหยุ่น เน้นผลลัพธ์ สร้างบรรยากาศการทำงานที่สนุกและส่งเสริมความสุข
    ▪️องค์กรแห่งการเรียนรู้ สนับสนุนการเรียนรู้และพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่อง
    ▪️ผู้นำที่ใส่ใจ เปิดรับความคิดเห็นและให้คำปรึกษาอย่างจริงใจ
    ▪️ผลตอบแทนและสวัสดิการที่ดี
    .
    ไฟเซอร์ไม่เพียงเป็นสถานที่ทำงานที่ยอดเยี่ยมที่ให้ผลตอบแทนและสวัสดิการที่ดี แต่ยังดูแลเอาใจใส่เรื่องสุขภาพ ส่งเสริมการเรียนรู้ และสนับสนุนให้พนักงานเติบโต จึงทำให้ไฟเซอร์เป็นอีกหนึ่งองค์กรในฝัน
    .
    มาร่วมค้นพบว่า ทำไมไฟเซอร์ (Pfizer) จึงเป็นที่ทำงานในฝันของใครหลายคน!
    .
    ติดตามข่าวสารของบริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ที่ www.pfizer.co.th หรือ Facebook: Pfizer Thailand ที่ https://www.facebook.com/PfizerThailand
    #PfizerThailand #ไฟเซอร์
    #Forbes #worldbestemployers2024 #ไฟเซอร์
    [PR NEWS]
    การทำงานที่บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ดีอย่างไร มาฟังจากพนักงานโดยตรง ซึ่งตอกย้ำรางวัล ‘สุดยอดนายจ้างดีเด่นระดับโลกประจำปี 2567’ ที่ไฟเซอร์สำนักงานใหญ่ได้รับการจัดอันดับที่ #34 จากอุตสาหกรรมโดยรวม และอันดับ #1 ในกลุ่มอุตสาหกรรมยาและเทคโนโลยีชีวภาพ Forbes World's Best Employers 2024 - Best Companies To Work For Worldwide ซึ่งถือเป็นรางวัลฉลองครบรอบ 175 ปีของไฟเซอร์ อิงค์ ในปีนี้ และครบรอบ 66 ปีในประเทศไทย ซึ่งพนักงานคือผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จอันยาวนาน . เมื่อไม่นานมานี้นิตยสาร Forbes ร่วมกับ Statista ประกาศรายชื่อนายจ้างยอดเยี่ยมระดับโลกประจำปี 2024 โดยไฟเซอร์ (Pfizer) ได้รับการจัดอันดับตอกย้ำความเป็นผู้นำและความมุ่งมั่นในการพัฒนาสภาพแวดล้อมการทำงานที่สร้างบรรยากาศเชิงบวกและความเป็นเลิศ จากการสำรวจความคิดเห็นของพนักงานกว่า 300,000 คนจาก 50 ประเทศ ที่เข้าร่วมการสำรวจกับ Forbes ที่ทำงานในองค์กรข้ามชาติขนาดใหญ่ที่มีพนักงานมากกว่า 1,000 คน และดำเนินงานในภูมิภาคทวีปอย่างน้อย 2 แห่งจากทั้งหมด 6 แห่งของโลก ได้แก่ เอเชีย, ยุโรป, แอฟริกา, ลาตินอเมริกา, แคริบเบียน, อเมริกาเหนือ และโอเชียเนีย . ความสำเร็จของบริษัทแม่สะท้อนภาพลักษณ์องค์กรที่ดีของไฟเซอร์ (ประเทศไทย) องค์กรนวัตกรรมที่ประสบความสำเร็จมากว่า 6 ทศวรรษในประเทศไทย โดยมุ่งมั่นที่จะนำเสนอนวัตกรรมที่ช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้ป่วย ความสำเร็จที่สานต่อเกิดจาก ‘ความสามารถของพนักงานและการปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กร’ ที่ล้วนเป็นพื้นฐานแห่งความสำเร็จด้วยคุณลักษณะสำคัญคือ . 1. ความรับผิดชอบ 2. การให้ความร่วมมือและการทำงานเป็นทีม 3. การนำเสนอแนวคิดและวิธีการใหม่ๆ . ‘สภาพแวดล้อมการทำงาน’ ที่เหมาะสมและหลากหลายคือกุญแจสำคัญ โดยให้พนักงานมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ ไฟเซอร์จึงกลายเป็นสถานที่ที่พนักงานสามารถเติบโตได้ ▪️วันเวลาทำงาน วันจันทร์-ศุกร์ ▪️วันหยุดชดเชยกรณีต้องทำงานวันหยุด ▪️วันลา Caregiving Leave หรือสิทธิ์ลาดูแลสมาชิกครอบครัวรวมถึงสัตว์เลี้ยง 10 วัน (แยกออกจากวันลากิจ ลาป่วย ลาพักร้อนอื่นๆ) ▪️ออฟฟิศตั้งอยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าศาลาแดงเชื่อมตรงกับอาคาร ▪️Mobile Office สามารถนั่งทำงานที่ไหนก็ได้ ▪️มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ปลอดคนที่มีลักษณะเป็นพิษในองค์กร (Toxic People) . มาร์ค คาว (Mark Kuo) ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ไฟเซอร์ปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กรแบบ Accountability ซึ่งพนักงานทุกคนจะเข้าใจบทบาทและหน้าที่ความรับผิดชอบ โดยทำหน้าที่ของตนให้เต็มที่เพื่อให้ได้รับผลสำเร็จตรงตามเป้าหมายของตนเองและบรรลุวัตถุประสงค์ที่องค์กรวางไว้ คือไม่ใช่สักแต่เพียงการทำงานให้เสร็จสิ้น แต่ต้องประสบผลความสำเร็จ และผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของไฟเซอร์คือพนักงานซึ่งเป็นทรัพยากรที่ทรงคุณค่า เราได้รับความไว้วางใจในประเทศไทยมายาวนานกว่า 6 ทศวรรษ ซึ่งสามารถยืนหยัดและเติบโตในประเทศไทยได้จนถึงทุกวันนี้ เป็นการสะท้อนถึงความไว้วางใจและการสนับสนุนจากชาวไทยอย่างแท้จริง ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) ยินดีต้อนรับทุกคนที่มีความรู้ความสามารถและมีคุณภาพสูงมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร ในการทำหน้าที่นำเสนอนวัตกรรมเพื่อช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้ป่วย และมาร่วมกันสร้างความสำเร็จและการเติบโตเข้าสู่ปีที่ 67 ของการก่อตั้งในประเทศไทยและในปีต่อๆ ไป . สิทธิประโยชน์ของพนักงานไฟเซอร์คือ ▪️ให้ความสำคัญเรื่องสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี รวมถึงความปลอดภัยของพนักงานเป็นอันดับต้นๆ ซึ่งจัดกิจกรรมเสริมสุขภาพกายใจ และให้ความรู้ด้านการเงินและการดำเนินชีวิตอย่างสมดุลทุกเดือน ▪️สวัสดิการยืดหยุ่น 16,000 บาทต่อปี ครอบคลุมสุขภาพ ความงาม ประกัน ดูแลครอบครัว สัตว์เลี้ยง เป็นต้น ▪️ตรวจสุขภาพประจำปี โบนัสการันตี 1 เดือน + โบนัสตามผลงาน ▪️กองทุนสำรองเลี้ยงชีพและสิทธิหุ้น Provident Fund อัตราแข่งขันได้ บางตำแหน่งมีสิทธิหุ้น ▪️สนับสนุนความหลากหลายและความเท่าเทียม (DEI) สิทธิคู่สมรสเท่าเทียมสำหรับคู่ชีวิตเพศเดียวกัน ▪️ประกันสุขภาพครอบคลุมคู่สมรสและบุตร รวมถึงคู่ชีวิต (Life Partner) เพศเดียวกันกับพนักงาน ▪️พัฒนาและเติบโตในสายอาชีพ อบรมผ่านระบบออนไลน์และชั้นเรียน เติบโตในองค์กรและเปิดโอกาสให้ได้ทำงานในระดับภูมิภาคและระดับโลก ▪️นโยบายปรึกษาหัวหน้างานโดยตรง (Speak Up) ผู้บริหารพร้อมรับฟังและแก้ปัญหาอย่างจริงใจ (Open Door) ▪️วัฒนธรรมเสมอภาค ยืดหยุ่น เน้นผลลัพธ์ สร้างบรรยากาศการทำงานที่สนุกและส่งเสริมความสุข ▪️องค์กรแห่งการเรียนรู้ สนับสนุนการเรียนรู้และพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่อง ▪️ผู้นำที่ใส่ใจ เปิดรับความคิดเห็นและให้คำปรึกษาอย่างจริงใจ ▪️ผลตอบแทนและสวัสดิการที่ดี . ไฟเซอร์ไม่เพียงเป็นสถานที่ทำงานที่ยอดเยี่ยมที่ให้ผลตอบแทนและสวัสดิการที่ดี แต่ยังดูแลเอาใจใส่เรื่องสุขภาพ ส่งเสริมการเรียนรู้ และสนับสนุนให้พนักงานเติบโต จึงทำให้ไฟเซอร์เป็นอีกหนึ่งองค์กรในฝัน . มาร่วมค้นพบว่า ทำไมไฟเซอร์ (Pfizer) จึงเป็นที่ทำงานในฝันของใครหลายคน! . ติดตามข่าวสารของบริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ที่ www.pfizer.co.th หรือ Facebook: Pfizer Thailand ที่ https://www.facebook.com/PfizerThailand #PfizerThailand #ไฟเซอร์ #Forbes #worldbestemployers2024 #ไฟเซอร์ [PR NEWS]
    0 Comments 0 Shares 454 Views 38 0 Reviews
  • โปแลนด์ได้ลงนามข้อตกลงมูลค่า 745 ล้านดอลลาร์เพื่อซื้อขีปนาวุธนำวิถีต่อต้านการแผ่รังสีขั้นสูง (AARGM-ER) AGM-88G กว่า 200 ลูกจากสหรัฐฯ

    ทำให้โปแลนด์กลายเป็นพันธมิตรสหรัฐรายแรกในภูมิภาคนี้ที่มีขีดความสามารถทำลายล้างด้วยเรดาร์ขั้นสูง

    ขีปนาวุธเหล่านี้จะติดตั้งให้กับฝูงบิน F-35 จำนวน 32 ลำของโปแลนด์ และอาจนำไปดัดแปลงใช้กับ F-16 ได้

    รองนายกรัฐมนตรีโคซิเนียก-คามิสซ์เรียกสิ่งนี้ว่าเป็น "การซื้อครั้งสำคัญ" เนื่องจากโปแลนด์เพิ่มการใช้จ่ายด้านการทหารเป็น 4.2% ของ GDP ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มมากขึ้นในยุโรปตะวันออก
    โปแลนด์ได้ลงนามข้อตกลงมูลค่า 745 ล้านดอลลาร์เพื่อซื้อขีปนาวุธนำวิถีต่อต้านการแผ่รังสีขั้นสูง (AARGM-ER) AGM-88G กว่า 200 ลูกจากสหรัฐฯ ทำให้โปแลนด์กลายเป็นพันธมิตรสหรัฐรายแรกในภูมิภาคนี้ที่มีขีดความสามารถทำลายล้างด้วยเรดาร์ขั้นสูง ขีปนาวุธเหล่านี้จะติดตั้งให้กับฝูงบิน F-35 จำนวน 32 ลำของโปแลนด์ และอาจนำไปดัดแปลงใช้กับ F-16 ได้ รองนายกรัฐมนตรีโคซิเนียก-คามิสซ์เรียกสิ่งนี้ว่าเป็น "การซื้อครั้งสำคัญ" เนื่องจากโปแลนด์เพิ่มการใช้จ่ายด้านการทหารเป็น 4.2% ของ GDP ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มมากขึ้นในยุโรปตะวันออก
    Sad
    1
    0 Comments 0 Shares 173 Views 0 Reviews
  • Huawei ได้เพิ่มการสนับสนุนการประมวลผลแบบ inference ที่ปรับแต่งสำหรับโมเดล DeepSeek บน GPU Ascend AI ของพวกเขา การประกาศนี้เกิดขึ้นในวันเดียวกับที่ราคาหุ้นของ Nvidia ลดลงหลังจากที่ตลาดรับรู้ถึงผลกระทบของโมเดล LLM ของจีนที่มีต่ออุตสาหกรรม

    Huawei ได้ประกาศว่าโมเดล R1 ที่ถูกปรับแต่งสำหรับ Ascend นั้นสามารถใช้งานได้ฟรีผ่านแพลตฟอร์ม ModelArts Studio ของพวกเขา แม้ว่าโมเดล R1 จะถูกฝึกด้วย GPU H800 ของ Nvidia กว่า 2,000 ตัว แต่การที่ Huawei สามารถรองรับการประมวลผลโมเดลนี้ได้แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของเทคโนโลยีจีน

    Yuchen Jin นักวิเคราะห์ในอุตสาหกรรม AI เชื่อว่า GPU Ascend 910C ของ Huawei อาจเป็นรุ่นที่ใช้ในการประมวลผลโมเดล R1 แม้ว่า Ascend 910C จะมีประสิทธิภาพเพียง 60% ของ H100 ของ Nvidia แต่ด้วยการปรับแต่งและการเขียนโปรแกรมที่เหมาะสม ประสิทธิภาพของ Ascend 910C สามารถเพิ่มขึ้นได้

    การที่ Huawei สามารถรองรับการประมวลผลโมเดล LLM ด้วย GPU ของตัวเองเป็นก้าวสำคัญในการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากตะวันตก แม้ว่าจีนยังไม่สามารถผลิตชิปที่มีประสิทธิภาพสูงเทียบเท่ากับชิปของตะวันตกได้ แต่การพัฒนาเช่นนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีของจีน

    การประกาศนี้ยังเกิดขึ้นในช่วงที่รัฐบาลสหรัฐฯ ได้กำหนดข้อจำกัดในการส่งออก GPU ที่มีประสิทธิภาพสูงไปยังจีน ทำให้ Nvidia ต้องพัฒนารุ่นที่มีประสิทธิภาพต่ำลงเพื่อให้สามารถขายได้ในตลาดจีน การที่ Huawei สามารถพัฒนาเทคโนโลยีของตัวเองได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/huawei-adds-deepseek-inference-support-for-its-ascend-ai-gpus
    Huawei ได้เพิ่มการสนับสนุนการประมวลผลแบบ inference ที่ปรับแต่งสำหรับโมเดล DeepSeek บน GPU Ascend AI ของพวกเขา การประกาศนี้เกิดขึ้นในวันเดียวกับที่ราคาหุ้นของ Nvidia ลดลงหลังจากที่ตลาดรับรู้ถึงผลกระทบของโมเดล LLM ของจีนที่มีต่ออุตสาหกรรม Huawei ได้ประกาศว่าโมเดล R1 ที่ถูกปรับแต่งสำหรับ Ascend นั้นสามารถใช้งานได้ฟรีผ่านแพลตฟอร์ม ModelArts Studio ของพวกเขา แม้ว่าโมเดล R1 จะถูกฝึกด้วย GPU H800 ของ Nvidia กว่า 2,000 ตัว แต่การที่ Huawei สามารถรองรับการประมวลผลโมเดลนี้ได้แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของเทคโนโลยีจีน Yuchen Jin นักวิเคราะห์ในอุตสาหกรรม AI เชื่อว่า GPU Ascend 910C ของ Huawei อาจเป็นรุ่นที่ใช้ในการประมวลผลโมเดล R1 แม้ว่า Ascend 910C จะมีประสิทธิภาพเพียง 60% ของ H100 ของ Nvidia แต่ด้วยการปรับแต่งและการเขียนโปรแกรมที่เหมาะสม ประสิทธิภาพของ Ascend 910C สามารถเพิ่มขึ้นได้ การที่ Huawei สามารถรองรับการประมวลผลโมเดล LLM ด้วย GPU ของตัวเองเป็นก้าวสำคัญในการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากตะวันตก แม้ว่าจีนยังไม่สามารถผลิตชิปที่มีประสิทธิภาพสูงเทียบเท่ากับชิปของตะวันตกได้ แต่การพัฒนาเช่นนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีของจีน การประกาศนี้ยังเกิดขึ้นในช่วงที่รัฐบาลสหรัฐฯ ได้กำหนดข้อจำกัดในการส่งออก GPU ที่มีประสิทธิภาพสูงไปยังจีน ทำให้ Nvidia ต้องพัฒนารุ่นที่มีประสิทธิภาพต่ำลงเพื่อให้สามารถขายได้ในตลาดจีน การที่ Huawei สามารถพัฒนาเทคโนโลยีของตัวเองได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/huawei-adds-deepseek-inference-support-for-its-ascend-ai-gpus
    0 Comments 0 Shares 151 Views 0 Reviews
  • ทีมวิจัย AI จาก University of California, Berkeley นำโดย Jiayi Pan, นักศึกษาปริญญาเอก อ้างว่าสามารถสร้างเทคโนโลยีหลักของ DeepSeek R1-Zero ขึ้นมาใหม่ได้ในราคาเพียง 30 ดอลลาร์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าโมเดลขั้นสูงสามารถนำมาใช้ได้ในราคาที่ไม่แพง

    ทีมวิจัยนี้ได้ทำการทดสอบโมเดล DeepSeek R1-Zero ในเกม Countdown ซึ่งเป็นเกมที่ผู้เล่นต้องหาคำตอบจากตัวเลขที่กำหนดให้โดยใช้การคำนวณพื้นฐาน โมเดลนี้มีพารามิเตอร์ 3 พันล้านตัว และพัฒนาความสามารถในการตรวจสอบและค้นหาคำตอบด้วยการเรียนรู้แบบเสริมแรง ทีมวิจัยเริ่มต้นด้วยโมเดลภาษาพื้นฐาน, คำสั่ง, และรางวัลที่เป็นความจริง จากนั้นทำการเรียนรู้แบบเสริมแรงโดยใช้เกม Countdown

    นอกจากนี้ ทีมวิจัยยังได้ทดลองใช้โมเดลนี้ในการคูณเลข โดยใช้เทคนิคการกระจายการคูณเพื่อแก้ปัญหา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการแก้ปัญหาของโมเดลนี้

    การทดลองนี้แสดงให้เห็นว่าโมเดล DeepSeek R1-Zero สามารถพัฒนาเทคนิคต่างๆ เพื่อหาคำตอบที่ถูกต้องได้ในขั้นตอนที่น้อยลง และมีค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่าโมเดล AI อื่นๆ ที่มีอยู่ในตลาด

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/ai-research-team-claims-to-reproduce-deepseek-core-technologies-for-usd30-relatively-small-r1-zero-model-has-remarkable-problem-solving-abilities
    ทีมวิจัย AI จาก University of California, Berkeley นำโดย Jiayi Pan, นักศึกษาปริญญาเอก อ้างว่าสามารถสร้างเทคโนโลยีหลักของ DeepSeek R1-Zero ขึ้นมาใหม่ได้ในราคาเพียง 30 ดอลลาร์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าโมเดลขั้นสูงสามารถนำมาใช้ได้ในราคาที่ไม่แพง ทีมวิจัยนี้ได้ทำการทดสอบโมเดล DeepSeek R1-Zero ในเกม Countdown ซึ่งเป็นเกมที่ผู้เล่นต้องหาคำตอบจากตัวเลขที่กำหนดให้โดยใช้การคำนวณพื้นฐาน โมเดลนี้มีพารามิเตอร์ 3 พันล้านตัว และพัฒนาความสามารถในการตรวจสอบและค้นหาคำตอบด้วยการเรียนรู้แบบเสริมแรง ทีมวิจัยเริ่มต้นด้วยโมเดลภาษาพื้นฐาน, คำสั่ง, และรางวัลที่เป็นความจริง จากนั้นทำการเรียนรู้แบบเสริมแรงโดยใช้เกม Countdown นอกจากนี้ ทีมวิจัยยังได้ทดลองใช้โมเดลนี้ในการคูณเลข โดยใช้เทคนิคการกระจายการคูณเพื่อแก้ปัญหา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการแก้ปัญหาของโมเดลนี้ การทดลองนี้แสดงให้เห็นว่าโมเดล DeepSeek R1-Zero สามารถพัฒนาเทคนิคต่างๆ เพื่อหาคำตอบที่ถูกต้องได้ในขั้นตอนที่น้อยลง และมีค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่าโมเดล AI อื่นๆ ที่มีอยู่ในตลาด https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/ai-research-team-claims-to-reproduce-deepseek-core-technologies-for-usd30-relatively-small-r1-zero-model-has-remarkable-problem-solving-abilities
    0 Comments 0 Shares 155 Views 0 Reviews
  • AMD ได้เผยแพร่คำแนะนำในการใช้งานโมเดล AI DeepSeek R1 บนฮาร์ดแวร์สำหรับผู้บริโภคตามบ้านเรือน เช่น Ryzen AI และ Radeon GPUs โมเดล DeepSeek R1 นี้สามารถทำงานบน GPU ซีรีส์ RX 7000 และ CPU Ryzen ที่มี XDNA NPUs ได้ แต่ต้องใช้ไดรเวอร์ Adrenalin 25.1.1 (https://community.amd.com/t5/ai/experience-the-deepseek-r1-distilled-reasoning-models-on-amd/ba-p/740593)

    AMD ได้จัดทำคู่มือที่มีทุกอย่างที่ผู้ใช้ต้องการเพื่อให้ DeepSeek R1 ทำงานบนเครื่องที่รองรับ LM Studio มีตัวติดตั้งแบบคลิกเดียวที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับ Ryzen AI ซึ่งเป็นวิธีที่ผู้ใช้ AMD จะใช้ในการติดตั้ง R1 AMD ยังแสดงวิธีการปรับแต่งแอปพลิเคชันให้เหมาะสมกับฮาร์ดแวร์ของพวกเขา รวมถึงรายการพารามิเตอร์ LLM ที่รองรับสูงสุด

    โมเดล DeepSeek R1 ได้รับการฝึกฝนบนคลัสเตอร์ของ GPU Nvidia H800 จำนวน 2,048 ตัว และมีประสิทธิภาพสูงกว่าโมเดลชั้นนำถึง 11 เท่า โมเดลนี้ใช้การปรับแต่งระดับสูงเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่ดีขึ้น โดยใช้การเขียนโปรแกรม Parallel Thread Execution (PTX) ของ Nvidia

    นอกจากนี้ Huawei ยังได้เพิ่มการสนับสนุน DeepSeek ใน GPU Ascend AI ของพวกเขา ทำให้สามารถใช้งาน AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพบนฮาร์ดแวร์ของจีน.

    การพัฒนาและการเผยแพร่คำแนะนำในการใช้งานโมเดล AI DeepSeek R1 ของ AMD แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการนำเทคโนโลยี AI มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการแข่งขันในตลาดเทคโนโลยี

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/amd-released-instructions-for-running-deepseek-on-ryzen-ai-cpus-and-radeon-gpus
    AMD ได้เผยแพร่คำแนะนำในการใช้งานโมเดล AI DeepSeek R1 บนฮาร์ดแวร์สำหรับผู้บริโภคตามบ้านเรือน เช่น Ryzen AI และ Radeon GPUs โมเดล DeepSeek R1 นี้สามารถทำงานบน GPU ซีรีส์ RX 7000 และ CPU Ryzen ที่มี XDNA NPUs ได้ แต่ต้องใช้ไดรเวอร์ Adrenalin 25.1.1 (https://community.amd.com/t5/ai/experience-the-deepseek-r1-distilled-reasoning-models-on-amd/ba-p/740593) AMD ได้จัดทำคู่มือที่มีทุกอย่างที่ผู้ใช้ต้องการเพื่อให้ DeepSeek R1 ทำงานบนเครื่องที่รองรับ LM Studio มีตัวติดตั้งแบบคลิกเดียวที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับ Ryzen AI ซึ่งเป็นวิธีที่ผู้ใช้ AMD จะใช้ในการติดตั้ง R1 AMD ยังแสดงวิธีการปรับแต่งแอปพลิเคชันให้เหมาะสมกับฮาร์ดแวร์ของพวกเขา รวมถึงรายการพารามิเตอร์ LLM ที่รองรับสูงสุด โมเดล DeepSeek R1 ได้รับการฝึกฝนบนคลัสเตอร์ของ GPU Nvidia H800 จำนวน 2,048 ตัว และมีประสิทธิภาพสูงกว่าโมเดลชั้นนำถึง 11 เท่า โมเดลนี้ใช้การปรับแต่งระดับสูงเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่ดีขึ้น โดยใช้การเขียนโปรแกรม Parallel Thread Execution (PTX) ของ Nvidia นอกจากนี้ Huawei ยังได้เพิ่มการสนับสนุน DeepSeek ใน GPU Ascend AI ของพวกเขา ทำให้สามารถใช้งาน AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพบนฮาร์ดแวร์ของจีน. การพัฒนาและการเผยแพร่คำแนะนำในการใช้งานโมเดล AI DeepSeek R1 ของ AMD แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการนำเทคโนโลยี AI มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการแข่งขันในตลาดเทคโนโลยี https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/amd-released-instructions-for-running-deepseek-on-ryzen-ai-cpus-and-radeon-gpus
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    AMD released instructions for running DeepSeek on Ryzen AI CPUs and Radeon GPUs
    DeepSeek R1 can now be run on AMD's latest consumer-based hardware.
    0 Comments 0 Shares 153 Views 0 Reviews
  • AMD อ้างว่า GPU รุ่น RX 7900 XTX ของพวกเขามีประสิทธิภาพเหนือกว่า RTX 4090 ของ Nvidia ในการทดสอบด้วยโมเดล AI ของ DeepSeek โดย AMD ได้ทำการทดสอบ GPU ทั้งสามรุ่น ได้แก่ RX 7900 XTX, RTX 4090 และ RTX 4080 Super ด้วยโมเดล AI DeepSeek R1 และพบว่า RX 7900 XTX มีประสิทธิภาพดีกว่า RTX 4090 ถึง 13% และดีกว่า RTX 4080 Super ถึง 34%

    การทดสอบนี้ใช้โมเดล AI หลายแบบและพารามิเตอร์ต่างๆ โดย RX 7900 XTX มีชัยชนะห่างที่สุดเมื่อใช้ DeepSeek R1 Distill Qwen 7B ซึ่งมีประสิทธิภาพดีกว่า RTX 4090 ถึง 13% นอกจากนี้ RX 7900 XTX ยังมีประสิทธิภาพดีกว่า RTX 4090 ในการทดสอบอีกสองแบบ โดยมีความเร็วมากกว่า 11% เมื่อใช้ Distill Llama 8B และมากกว่า 2% เมื่อใช้ Distill Qwen 14B1. อย่างไรก็ตาม RTX 4090 มีความเร็วมากกว่า RX 7900 XTX ถึง 4% เมื่อใช้ Distill Qwen 32B

    การทดสอบนี้แสดงให้เห็นว่า RX 7900 XTX ของ AMD มีความสามารถในการประมวลผลงาน AI ได้ดี แม้ว่าจะไม่ใช่การใช้งานหลักของ GPU รุ่นนี้ก็ตาม. สถาปัตยกรรม RDNA 3 ที่ RX 7900 XTX ใช้สามารถรองรับการทำงานของ AI ได้ดี โดยมี AI accelerators ถึง 192 ตัว

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/amd-claims-rx-7900-xtx-outperforms-rtx-4090-in-deepseek-benchmarks
    AMD อ้างว่า GPU รุ่น RX 7900 XTX ของพวกเขามีประสิทธิภาพเหนือกว่า RTX 4090 ของ Nvidia ในการทดสอบด้วยโมเดล AI ของ DeepSeek โดย AMD ได้ทำการทดสอบ GPU ทั้งสามรุ่น ได้แก่ RX 7900 XTX, RTX 4090 และ RTX 4080 Super ด้วยโมเดล AI DeepSeek R1 และพบว่า RX 7900 XTX มีประสิทธิภาพดีกว่า RTX 4090 ถึง 13% และดีกว่า RTX 4080 Super ถึง 34% การทดสอบนี้ใช้โมเดล AI หลายแบบและพารามิเตอร์ต่างๆ โดย RX 7900 XTX มีชัยชนะห่างที่สุดเมื่อใช้ DeepSeek R1 Distill Qwen 7B ซึ่งมีประสิทธิภาพดีกว่า RTX 4090 ถึง 13% นอกจากนี้ RX 7900 XTX ยังมีประสิทธิภาพดีกว่า RTX 4090 ในการทดสอบอีกสองแบบ โดยมีความเร็วมากกว่า 11% เมื่อใช้ Distill Llama 8B และมากกว่า 2% เมื่อใช้ Distill Qwen 14B1. อย่างไรก็ตาม RTX 4090 มีความเร็วมากกว่า RX 7900 XTX ถึง 4% เมื่อใช้ Distill Qwen 32B การทดสอบนี้แสดงให้เห็นว่า RX 7900 XTX ของ AMD มีความสามารถในการประมวลผลงาน AI ได้ดี แม้ว่าจะไม่ใช่การใช้งานหลักของ GPU รุ่นนี้ก็ตาม. สถาปัตยกรรม RDNA 3 ที่ RX 7900 XTX ใช้สามารถรองรับการทำงานของ AI ได้ดี โดยมี AI accelerators ถึง 192 ตัว https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/amd-claims-rx-7900-xtx-outperforms-rtx-4090-in-deepseek-benchmarks
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    AMD claims RX 7900 XTX outperforms RTX 4090 in DeepSeek benchmarks
    Nvidia usually has better AI performance, but with DeepSeek AI, the tables have turned (according to AMD)
    0 Comments 0 Shares 137 Views 0 Reviews
  • เผือกร้อนของ Intel อีกแล้ว!!!!

    Morris Chang ผู้ก่อตั้ง TSMC เปิดเผยว่า Tim Cook ซีอีโอของ Apple เคยบอกเขาในปี 2011 ว่า Intel ไม่รู้วิธีการเป็นโรงงานผลิตชิป (foundry) ในช่วงปี 2009-2010 Apple เริ่มสร้างโปรเซสเซอร์ของตัวเองสำหรับ iPhone และ iPad โดยใช้โรงงานผลิตของ Samsung แต่เมื่อชิปที่ออกแบบเองกลายเป็นข้อได้เปรียบหลักของ iPhone เหนือคู่แข่ง Apple จึงเริ่มมองหาผู้ผลิตรายอื่น เนื่องจาก Samsung เป็นคู่แข่งหลักของ Apple ในขณะนั้น

    Apple พิจารณาใช้ Intel Custom Foundry (ICF) และ Texas Instruments แต่พบว่า ICF ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อรองรับลูกค้าภายนอก และ Texas Instruments ไม่มีเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย ดังนั้น Apple จึงเลือก TSMC เป็นผู้ผลิตชิปแต่เพียงผู้เดียว

    Chang เล่าว่าในปี 2011 Paul Otellini ซีอีโอของ Intel ได้เข้าพบ Tim Cook เพื่อเสนอให้ Intel ผลิตชิปให้กับ Apple Apple หยุดการเจรจากับ TSMC เป็นเวลาสองเดือนเพื่อประเมินข้อเสนอของ Intel Chang กังวลเกี่ยวกับการหยุดชะงักนี้จึงเดินทางไปยังสำนักงานใหญ่ของ Apple เพื่อสอบถามสถานการณ์ ในการประชุมส่วนตัว Tim Cook ยืนยันกับ Chang ว่า Apple จะไม่เลือก Intel

    Cook บอกกับ Chang ว่า "Intel ไม่รู้วิธีการเป็นโรงงานผลิตชิป" ซึ่งหมายความว่า Intel ขาดแนวคิดที่มุ่งเน้นลูกค้าในการดำเนินธุรกิจโรงงานผลิตชิป ในทางตรงกันข้าม Apple ให้ความสำคัญกับความสามารถของ TSMC ในการตอบสนองความต้องการเฉพาะของลูกค้า ซึ่งเป็นสิ่งที่ Intel ไม่เคยทำมาก่อน

    การตัดสินใจเลือก TSMC ของ Apple เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ TSMC กลายเป็นผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่ทันสมัยที่สุดในโลก ธุรกิจของ Apple ให้คำสั่งซื้อที่มีปริมาณสูงและคาดการณ์ได้ ช่วยให้ TSMC สามารถลงทุนใน CapEx และ R&D ได้อย่างมากมาย ผลที่ตามมาคือ TSMC สามารถแซงหน้า Intel ในการนำเสนอเทคโนโลยีการผลิตที่ล้ำสมัย

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/tsmc-founder-says-tim-cook-told-him-intel-did-not-know-how-to-be-a-foundry
    เผือกร้อนของ Intel อีกแล้ว!!!! Morris Chang ผู้ก่อตั้ง TSMC เปิดเผยว่า Tim Cook ซีอีโอของ Apple เคยบอกเขาในปี 2011 ว่า Intel ไม่รู้วิธีการเป็นโรงงานผลิตชิป (foundry) ในช่วงปี 2009-2010 Apple เริ่มสร้างโปรเซสเซอร์ของตัวเองสำหรับ iPhone และ iPad โดยใช้โรงงานผลิตของ Samsung แต่เมื่อชิปที่ออกแบบเองกลายเป็นข้อได้เปรียบหลักของ iPhone เหนือคู่แข่ง Apple จึงเริ่มมองหาผู้ผลิตรายอื่น เนื่องจาก Samsung เป็นคู่แข่งหลักของ Apple ในขณะนั้น Apple พิจารณาใช้ Intel Custom Foundry (ICF) และ Texas Instruments แต่พบว่า ICF ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อรองรับลูกค้าภายนอก และ Texas Instruments ไม่มีเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย ดังนั้น Apple จึงเลือก TSMC เป็นผู้ผลิตชิปแต่เพียงผู้เดียว Chang เล่าว่าในปี 2011 Paul Otellini ซีอีโอของ Intel ได้เข้าพบ Tim Cook เพื่อเสนอให้ Intel ผลิตชิปให้กับ Apple Apple หยุดการเจรจากับ TSMC เป็นเวลาสองเดือนเพื่อประเมินข้อเสนอของ Intel Chang กังวลเกี่ยวกับการหยุดชะงักนี้จึงเดินทางไปยังสำนักงานใหญ่ของ Apple เพื่อสอบถามสถานการณ์ ในการประชุมส่วนตัว Tim Cook ยืนยันกับ Chang ว่า Apple จะไม่เลือก Intel Cook บอกกับ Chang ว่า "Intel ไม่รู้วิธีการเป็นโรงงานผลิตชิป" ซึ่งหมายความว่า Intel ขาดแนวคิดที่มุ่งเน้นลูกค้าในการดำเนินธุรกิจโรงงานผลิตชิป ในทางตรงกันข้าม Apple ให้ความสำคัญกับความสามารถของ TSMC ในการตอบสนองความต้องการเฉพาะของลูกค้า ซึ่งเป็นสิ่งที่ Intel ไม่เคยทำมาก่อน การตัดสินใจเลือก TSMC ของ Apple เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ TSMC กลายเป็นผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่ทันสมัยที่สุดในโลก ธุรกิจของ Apple ให้คำสั่งซื้อที่มีปริมาณสูงและคาดการณ์ได้ ช่วยให้ TSMC สามารถลงทุนใน CapEx และ R&D ได้อย่างมากมาย ผลที่ตามมาคือ TSMC สามารถแซงหน้า Intel ในการนำเสนอเทคโนโลยีการผลิตที่ล้ำสมัย https://www.tomshardware.com/tech-industry/tsmc-founder-says-tim-cook-told-him-intel-did-not-know-how-to-be-a-foundry
    0 Comments 0 Shares 109 Views 0 Reviews
  • IBM สามารถทำกำไรได้เกินคาดในไตรมาสที่สี่ของปี 2024 โดยมีการเติบโตที่แข็งแกร่งในส่วนของซอฟต์แวร์ เนื่องจากธุรกิจต่างๆ ได้เพิ่มการใช้จ่ายด้าน IT เพื่อปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่มีการสร้างข้อมูลจำนวนมาก การเติบโตของรายได้ในส่วนซอฟต์แวร์นี้เป็นการเพิ่มขึ้นที่ใหญ่ที่สุดในรอบห้าปี

    IBM ยังได้คาดการณ์การเติบโตของรายได้อย่างน้อย 5% ในปีงบประมาณ 2025 ซึ่งสูงกว่าการเพิ่มขึ้น 3% ที่เห็นในปี 2024. นอกจากนี้ IBM ยังได้เปิดตัวโมเดล AI ตระกูล "Granite" เป็นโอเพ่นซอร์สในเดือนพฤษภาคม ซึ่งแตกต่างจากคู่แข่งเช่น Microsoft ที่เรียกเก็บเงินสำหรับการเข้าถึงโมเดลของพวกเขา

    อย่างไรก็ตาม รายได้จากธุรกิจที่ปรึกษาของ IBM ลดลงประมาณ 2% ในไตรมาสนี้ เนื่องจากบริษัทต่างๆ มุ่งเน้นการใช้จ่ายในข้อตกลงที่ปรึกษาระยะยาวที่เกี่ยวข้องกับการรวม AI เข้ากับธุรกิจของพวกเขา

    การเติบโตของรายได้ในส่วนซอฟต์แวร์และการเปิดตัวโมเดล AI ตระกูล "Granite" เป็นโอเพ่นซอร์ส แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ IBM ในการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการแข่งขันของบริษัทในตลาดเทคโนโลยี

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/30/ibm-beats-profit-estimates-as-software-business-surges-on-ai-shift
    IBM สามารถทำกำไรได้เกินคาดในไตรมาสที่สี่ของปี 2024 โดยมีการเติบโตที่แข็งแกร่งในส่วนของซอฟต์แวร์ เนื่องจากธุรกิจต่างๆ ได้เพิ่มการใช้จ่ายด้าน IT เพื่อปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่มีการสร้างข้อมูลจำนวนมาก การเติบโตของรายได้ในส่วนซอฟต์แวร์นี้เป็นการเพิ่มขึ้นที่ใหญ่ที่สุดในรอบห้าปี IBM ยังได้คาดการณ์การเติบโตของรายได้อย่างน้อย 5% ในปีงบประมาณ 2025 ซึ่งสูงกว่าการเพิ่มขึ้น 3% ที่เห็นในปี 2024. นอกจากนี้ IBM ยังได้เปิดตัวโมเดล AI ตระกูล "Granite" เป็นโอเพ่นซอร์สในเดือนพฤษภาคม ซึ่งแตกต่างจากคู่แข่งเช่น Microsoft ที่เรียกเก็บเงินสำหรับการเข้าถึงโมเดลของพวกเขา อย่างไรก็ตาม รายได้จากธุรกิจที่ปรึกษาของ IBM ลดลงประมาณ 2% ในไตรมาสนี้ เนื่องจากบริษัทต่างๆ มุ่งเน้นการใช้จ่ายในข้อตกลงที่ปรึกษาระยะยาวที่เกี่ยวข้องกับการรวม AI เข้ากับธุรกิจของพวกเขา การเติบโตของรายได้ในส่วนซอฟต์แวร์และการเปิดตัวโมเดล AI ตระกูล "Granite" เป็นโอเพ่นซอร์ส แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ IBM ในการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการแข่งขันของบริษัทในตลาดเทคโนโลยี https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/30/ibm-beats-profit-estimates-as-software-business-surges-on-ai-shift
    WWW.THESTAR.COM.MY
    IBM beats profit estimates as AI shift boosts software performance, shares surge
    (Reuters) -IBM surpassed fourth-quarter profit estimates on Wednesday, driven by robust demand in its software unit as businesses ramped up IT spending, sending the company's shares soaring about 10% in extended trading.
    0 Comments 0 Shares 103 Views 0 Reviews
  • AI มาแรงอย่างปฏิเสธไม่ได้ Goldman Sachs ได้ว่าจ้าง Daniel Marcu จาก Amazon.comมาเป็นหัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมและวิทยาศาสตร์ปัญญาประดิษฐ์ระดับโลก เพื่อช่วยพัฒนาและปรับปรุงแพลตฟอร์มและผลิตภัณฑ์ปัญญาประดิษฐ์ของบริษัท ก่อนหน้านี้ Marcu เคยดำรงตำแหน่งรองประธานฝ่ายบริการเว็บและความรู้ใน Alexa Information และ Amazon Artificial General Intelligence

    การว่าจ้าง Marcu เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของ Goldman Sachs ในการใช้โซลูชันปัญญาประดิษฐ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและปรับปรุงเทคโนโลยีของบริษัท นอกจากนี้ Goldman Sachs ยังได้เปิดตัวผู้ช่วยปัญญาประดิษฐ์ที่เรียกว่า GS AI assistant ให้กับพนักงานประมาณ 10,000 คน โดยมีเป้าหมายที่จะให้พนักงานทุกคนในบริษัทใช้ในปีนี้

    Marcu มีประสบการณ์มากกว่าสามทศวรรษในองค์กรวิจัยและพัฒนา รวมถึงตำแหน่งผู้นำในสถาบันการศึกษา สตาร์ทอัพ และบริษัทเทคโนโลยีข้ามชาติขนาดใหญ่ เขายังเคยทำงานที่ Information Sciences Institute และ University of Southern California กว่า 20 ปี

    การว่าจ้าง Marcu แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Goldman Sachs ในการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการแข่งขันของบริษัทในตลาดการเงิน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/30/goldman-sachs-hires-amazon-exec-in-senior-ai-engineering-role
    AI มาแรงอย่างปฏิเสธไม่ได้ Goldman Sachs ได้ว่าจ้าง Daniel Marcu จาก Amazon.comมาเป็นหัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมและวิทยาศาสตร์ปัญญาประดิษฐ์ระดับโลก เพื่อช่วยพัฒนาและปรับปรุงแพลตฟอร์มและผลิตภัณฑ์ปัญญาประดิษฐ์ของบริษัท ก่อนหน้านี้ Marcu เคยดำรงตำแหน่งรองประธานฝ่ายบริการเว็บและความรู้ใน Alexa Information และ Amazon Artificial General Intelligence การว่าจ้าง Marcu เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของ Goldman Sachs ในการใช้โซลูชันปัญญาประดิษฐ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและปรับปรุงเทคโนโลยีของบริษัท นอกจากนี้ Goldman Sachs ยังได้เปิดตัวผู้ช่วยปัญญาประดิษฐ์ที่เรียกว่า GS AI assistant ให้กับพนักงานประมาณ 10,000 คน โดยมีเป้าหมายที่จะให้พนักงานทุกคนในบริษัทใช้ในปีนี้ Marcu มีประสบการณ์มากกว่าสามทศวรรษในองค์กรวิจัยและพัฒนา รวมถึงตำแหน่งผู้นำในสถาบันการศึกษา สตาร์ทอัพ และบริษัทเทคโนโลยีข้ามชาติขนาดใหญ่ เขายังเคยทำงานที่ Information Sciences Institute และ University of Southern California กว่า 20 ปี การว่าจ้าง Marcu แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Goldman Sachs ในการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการแข่งขันของบริษัทในตลาดการเงิน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/30/goldman-sachs-hires-amazon-exec-in-senior-ai-engineering-role
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Goldman Sachs hires Amazon exec in senior AI engineering role
    NEW YORK (Reuters) - Goldman Sachs has hired Daniel Marcu from Amazon.com as its global head of artificial intelligence engineering and science to help develop and refine artificial intelligence platforms and products, according to a memo seen by Reuters.
    0 Comments 0 Shares 143 Views 0 Reviews
  • มีการอัพเดตเล็กๆ แต่ Feature นี้ลุงก็รออยู่นาน

    การอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ในแอป Google Photos ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อเร็วๆ นี้ โดยฟีเจอร์ใหม่นี้คือการ "พลิกภาพ" หรือ "mirror" ซึ่งเป็นฟีเจอร์พื้นฐานที่ควรมีตั้งแต่แรก แต่เพิ่งถูกเพิ่มเข้ามาในแอป Google Photos สำหรับ Android ส่วนผู้ใช้ iOS สามารถใช้ฟีเจอร์นี้ได้จากแอป Photos ของ iOS เองก่อนที่จะอัปโหลดภาพไปยัง Google Photos

    ฟีเจอร์นี้มีประโยชน์ในการเพิ่มความสมดุลและความสมมาตรให้กับภาพ หรือแก้ไขทิศทางของวัตถุในภาพ นอกจากนี้ Google Photos ยังมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจอีกอย่างคือ "Ask Photos" ซึ่งใช้ AI ช่วยค้นหาภาพและให้ข้อมูลเกี่ยวกับภาพ เช่น บอกชื่ออาหารในภาพ ฟีเจอร์นี้ยังอยู่ในขั้นทดลองและเปิดให้ผู้ใช้บางกลุ่มในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น

    การเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ เหล่านี้ทำให้ Google Photos เป็นแอปที่มีความสามารถมากขึ้นและตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้ดียิ่งขึ้น

    https://www.zdnet.com/article/google-photos-just-got-a-useful-editing-feature-that-shouldve-existed-since-the-beginning/
    มีการอัพเดตเล็กๆ แต่ Feature นี้ลุงก็รออยู่นาน การอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ในแอป Google Photos ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อเร็วๆ นี้ โดยฟีเจอร์ใหม่นี้คือการ "พลิกภาพ" หรือ "mirror" ซึ่งเป็นฟีเจอร์พื้นฐานที่ควรมีตั้งแต่แรก แต่เพิ่งถูกเพิ่มเข้ามาในแอป Google Photos สำหรับ Android ส่วนผู้ใช้ iOS สามารถใช้ฟีเจอร์นี้ได้จากแอป Photos ของ iOS เองก่อนที่จะอัปโหลดภาพไปยัง Google Photos ฟีเจอร์นี้มีประโยชน์ในการเพิ่มความสมดุลและความสมมาตรให้กับภาพ หรือแก้ไขทิศทางของวัตถุในภาพ นอกจากนี้ Google Photos ยังมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจอีกอย่างคือ "Ask Photos" ซึ่งใช้ AI ช่วยค้นหาภาพและให้ข้อมูลเกี่ยวกับภาพ เช่น บอกชื่ออาหารในภาพ ฟีเจอร์นี้ยังอยู่ในขั้นทดลองและเปิดให้ผู้ใช้บางกลุ่มในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น การเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ เหล่านี้ทำให้ Google Photos เป็นแอปที่มีความสามารถมากขึ้นและตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้ดียิ่งขึ้น https://www.zdnet.com/article/google-photos-just-got-a-useful-editing-feature-that-shouldve-existed-since-the-beginning/
    WWW.ZDNET.COM
    Google Photos just got a useful editing feature that should've existed since the beginning
    It might not be the flashiest feature, but it does come in handy when you need it.
    0 Comments 0 Shares 99 Views 0 Reviews
  • ทำความรู้จักกับตัวละครใน
    The Last Dance - เดอะ ลาสต์ แดนซ์
    เข้าฉาย 6 กุมภาพันธ์ ในโรงภาพยนตร์

    🎞ไมเคิล ฮุย รับบทเป็น ซินแสหมั่น

    ซินแสหมั่นผู้เคร่งครัดในขนบธรรมเนียมและอุทิศชีวิตให้การทำพิธีศพแบบลัทธิเต๋า และไม่เชื่อมั่นในตัวของ โต่วซัง เพราะคิดว่ามือใหม่ไม่เคร่งในพิธีกรรมเท่ากับมืออาชีพที่ทำงานนี้มาอย่างช้านาน

    🎞ดาโย หว่อง รับบทเป็น โต่วซัง

    จากนักจัดงานแต่งตัวท็อป สู่นักจัดงานศพผู้ทำหน้าที่ส่งคนตาย เพื่อให้คนเป็นไว้อาลัย ทำทุกอย่างเพื่อพิสูจน์ความสามารถของตัวเอง

    🎬มิเชล ไหว่ รับบทเป็น หมั่นหยู

    หนึ่งในลูกสาวของ ซินแสหมั่น เธอเชื่อมั่นและชื่นชมในอาชีพของพ่อมาโดยตลอด แต่ด้วยความเชื่อของบรรพบุรุษ ที่สั่งสอนกันต่อมาชั่วลูกชั่วหลานว่า ผู้หญิงเกิดมาพร้อมกับมลทินที่เรียกว่าประจำเดือน ทำให้ไม่สามารถประกอบพิธีกรรมได้ และจะทำให้พิธีกรรไม่ศักสิทธิ์ แต่เธอก็ยังแสดงเจตจำนงอยากสืบทอดหน้าที่ต่อจากพ่อมาโดยตลอด

    🎞ทอมมี จู รับบทเป็น หมั่นปิน

    หมั่นปิน ลูกชายเพียงคนเดียวของ ซินแสหมั่น ผู้ได้รับการไว้วางใจและถูกวางตัวให้เป็นผู้สืบทอดการทำพิธีส่งวิญญาณในงานศพต่อจาก ซินแสหมั่น แต่เขาไม่ได้อยากทำเพราะเขาอยากทุ่มเทเวาทังหมดให้กับครอบครัวของเขามากกว่า

    🎞แคทเธอรีน เชา รับบท เจด

    เจด เป็นคนรักของ โต่วซัง ที่เข้าใจความต้องการ โตว่ซัง และยังช่วยบอกปัดความต้องการของพ่อแม่เธอที่เร่งให้ทั้งสองแต่งงานกัน พวกเขาเป็นคู่ที่เข้ากันได้เป็นอย่างดี

    📽The Last Dance - เดอะ ลาสต์ แดนซ์
    เข้าฉาย 6 กุมภาพันธ์ ในโรงภาพยนตร์

    ชมตัวอย่าง | https://www.youtube.com/watch?v=9KA870tDFMA
    #TheLastDance #เดอะลาสต์แดนซ์
    ทำความรู้จักกับตัวละครใน The Last Dance - เดอะ ลาสต์ แดนซ์ เข้าฉาย 6 กุมภาพันธ์ ในโรงภาพยนตร์ 🎞ไมเคิล ฮุย รับบทเป็น ซินแสหมั่น ซินแสหมั่นผู้เคร่งครัดในขนบธรรมเนียมและอุทิศชีวิตให้การทำพิธีศพแบบลัทธิเต๋า และไม่เชื่อมั่นในตัวของ โต่วซัง เพราะคิดว่ามือใหม่ไม่เคร่งในพิธีกรรมเท่ากับมืออาชีพที่ทำงานนี้มาอย่างช้านาน 🎞ดาโย หว่อง รับบทเป็น โต่วซัง จากนักจัดงานแต่งตัวท็อป สู่นักจัดงานศพผู้ทำหน้าที่ส่งคนตาย เพื่อให้คนเป็นไว้อาลัย ทำทุกอย่างเพื่อพิสูจน์ความสามารถของตัวเอง 🎬มิเชล ไหว่ รับบทเป็น หมั่นหยู หนึ่งในลูกสาวของ ซินแสหมั่น เธอเชื่อมั่นและชื่นชมในอาชีพของพ่อมาโดยตลอด แต่ด้วยความเชื่อของบรรพบุรุษ ที่สั่งสอนกันต่อมาชั่วลูกชั่วหลานว่า ผู้หญิงเกิดมาพร้อมกับมลทินที่เรียกว่าประจำเดือน ทำให้ไม่สามารถประกอบพิธีกรรมได้ และจะทำให้พิธีกรรไม่ศักสิทธิ์ แต่เธอก็ยังแสดงเจตจำนงอยากสืบทอดหน้าที่ต่อจากพ่อมาโดยตลอด 🎞ทอมมี จู รับบทเป็น หมั่นปิน หมั่นปิน ลูกชายเพียงคนเดียวของ ซินแสหมั่น ผู้ได้รับการไว้วางใจและถูกวางตัวให้เป็นผู้สืบทอดการทำพิธีส่งวิญญาณในงานศพต่อจาก ซินแสหมั่น แต่เขาไม่ได้อยากทำเพราะเขาอยากทุ่มเทเวาทังหมดให้กับครอบครัวของเขามากกว่า 🎞แคทเธอรีน เชา รับบท เจด เจด เป็นคนรักของ โต่วซัง ที่เข้าใจความต้องการ โตว่ซัง และยังช่วยบอกปัดความต้องการของพ่อแม่เธอที่เร่งให้ทั้งสองแต่งงานกัน พวกเขาเป็นคู่ที่เข้ากันได้เป็นอย่างดี 📽The Last Dance - เดอะ ลาสต์ แดนซ์ เข้าฉาย 6 กุมภาพันธ์ ในโรงภาพยนตร์ ชมตัวอย่าง | https://www.youtube.com/watch?v=9KA870tDFMA #TheLastDance #เดอะลาสต์แดนซ์
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 192 Views 0 Reviews
  • มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในการพัฒนาคริสตัลหน่วยความจำ 5 มิติ (5D memory crystal) ที่สามารถเก็บข้อมูลได้ถึง 360 เทราไบต์ (TB) และมีอายุการใช้งานยาวนานถึง 14 พันล้านปี คริสตัลนี้ถูกพัฒนาโดยนักวิทยาศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเซาแทมป์ตัน และมีชื่อเรียกว่า "Superman memory crystal" เนื่องจากความทนทานและความสามารถในการเก็บข้อมูลในระยะยาว

    คริสตัลหน่วยความจำ 5 มิติใช้เลเซอร์ความเร็วสูงในการเขียนข้อมูลลงในโครงสร้างนาโนภายในวัสดุซิลิกา ซึ่งทำให้ข้อมูลมีความทนทานต่อความร้อน แรงกระแทก และรังสีคอสมิก คริสตัลนี้สามารถเก็บข้อมูลทางพันธุกรรมของมนุษย์ทั้งหมดได้ ซึ่งประกอบด้วยคู่เบสประมาณ 3 พันล้านคู่ที่จัดเรียงอยู่ในโครโมโซม 23 คู่ในนิวเคลียสของแต่ละเซลล์

    คริสตัลนี้ถูกเก็บไว้ใน Memory of Mankind archive ซึ่งเป็นแคปซูลเวลาที่ตั้งอยู่ในถ้ำเกลือในเมือง Hallstatt ประเทศออสเตรีย เพื่อรักษาประวัติศาสตร์และความรู้ของมนุษย์สำหรับคนรุ่นหลัง ข้อมูลที่ถูกเขียนลงในคริสตัลนี้ถูกอธิบายด้วยองค์ประกอบสากล เช่น ไฮโดรเจน ออกซิเจน คาร์บอน และไนโตรเจน รวมถึงฐาน DNA สี่ตัวคือ อะดีนีน ไซโตซีน กัวนีน และไทมีน ที่ประกอบขึ้นเป็นรหัสพันธุกรรม

    อย่างไรก็ตาม การเขียนและการอ่านข้อมูลจากคริสตัลหน่วยความจำ 5 มิติต้องใช้ทักษะเฉพาะทางและอุปกรณ์ขั้นสูง ซึ่งทำให้การใช้งานในปัจจุบันยังคงมีข้อจำกัด

    ความสำเร็จนี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเก็บข้อมูลในระยะยาวและการรักษาข้อมูลทางพันธุกรรมของมนุษย์ ซึ่งอาจมีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูสายพันธุ์ที่สูญพันธุ์ในอนาคต

    https://www.techradar.com/pro/eternal-5d-memory-crystal-capable-of-storing-360-tb-of-data-for-billions-of-years-now-holds-a-full-human-genome
    มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในการพัฒนาคริสตัลหน่วยความจำ 5 มิติ (5D memory crystal) ที่สามารถเก็บข้อมูลได้ถึง 360 เทราไบต์ (TB) และมีอายุการใช้งานยาวนานถึง 14 พันล้านปี คริสตัลนี้ถูกพัฒนาโดยนักวิทยาศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเซาแทมป์ตัน และมีชื่อเรียกว่า "Superman memory crystal" เนื่องจากความทนทานและความสามารถในการเก็บข้อมูลในระยะยาว คริสตัลหน่วยความจำ 5 มิติใช้เลเซอร์ความเร็วสูงในการเขียนข้อมูลลงในโครงสร้างนาโนภายในวัสดุซิลิกา ซึ่งทำให้ข้อมูลมีความทนทานต่อความร้อน แรงกระแทก และรังสีคอสมิก คริสตัลนี้สามารถเก็บข้อมูลทางพันธุกรรมของมนุษย์ทั้งหมดได้ ซึ่งประกอบด้วยคู่เบสประมาณ 3 พันล้านคู่ที่จัดเรียงอยู่ในโครโมโซม 23 คู่ในนิวเคลียสของแต่ละเซลล์ คริสตัลนี้ถูกเก็บไว้ใน Memory of Mankind archive ซึ่งเป็นแคปซูลเวลาที่ตั้งอยู่ในถ้ำเกลือในเมือง Hallstatt ประเทศออสเตรีย เพื่อรักษาประวัติศาสตร์และความรู้ของมนุษย์สำหรับคนรุ่นหลัง ข้อมูลที่ถูกเขียนลงในคริสตัลนี้ถูกอธิบายด้วยองค์ประกอบสากล เช่น ไฮโดรเจน ออกซิเจน คาร์บอน และไนโตรเจน รวมถึงฐาน DNA สี่ตัวคือ อะดีนีน ไซโตซีน กัวนีน และไทมีน ที่ประกอบขึ้นเป็นรหัสพันธุกรรม อย่างไรก็ตาม การเขียนและการอ่านข้อมูลจากคริสตัลหน่วยความจำ 5 มิติต้องใช้ทักษะเฉพาะทางและอุปกรณ์ขั้นสูง ซึ่งทำให้การใช้งานในปัจจุบันยังคงมีข้อจำกัด ความสำเร็จนี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเก็บข้อมูลในระยะยาวและการรักษาข้อมูลทางพันธุกรรมของมนุษย์ ซึ่งอาจมีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูสายพันธุ์ที่สูญพันธุ์ในอนาคต https://www.techradar.com/pro/eternal-5d-memory-crystal-capable-of-storing-360-tb-of-data-for-billions-of-years-now-holds-a-full-human-genome
    WWW.TECHRADAR.COM
    'Eternal' 5D memory crystal capable of storing 360 TB of data for billions of years now holds a full human genome
    Specialized skills and advanced equipment are needed for data inscription and retrieval
    0 Comments 0 Shares 137 Views 0 Reviews
  • จะมีการแข่งขันวิ่งฮาล์ฟมาราธอนระหว่างมนุษย์กับหุ่นยนต์ที่จะจัดขึ้นในเขตต้าซิงของกรุงปักกิ่งในเดือนเมษายนนี้ โดยมีมนุษย์ประมาณ 12,000 คนและหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์จากกว่า 20 บริษัทเข้าร่วมการแข่งขัน

    การแข่งขันนี้เป็นครั้งแรกที่หุ่นยนต์จะแข่งขันกับมนุษย์ในระยะทาง 13 ไมล์ โดยหุ่นยนต์ที่เข้าร่วมต้องมีลักษณะคล้ายมนุษย์และมีโครงสร้างทางกลที่สามารถเดินหรือวิ่งได้ด้วยสองขา หุ่นยนต์ต้องมีความสูงระหว่าง 1.6 ถึง 6.5 ฟุต และระยะห่างจากข้อต่อสะโพกถึงฝ่าเท้าต้องไม่น้อยกว่า 1.47 ฟุต หุ่นยนต์ที่ควบคุมจากระยะไกลและหุ่นยนต์ที่ทำงานอัตโนมัติเต็มรูปแบบสามารถเข้าร่วมได้ และสามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ระหว่างการแข่งขันได้

    การแข่งขันนี้เป็นการทดสอบความสามารถของหุ่นยนต์ในการแข่งขันกับมนุษย์ในกิจกรรมที่ต้องใช้ความแข็งแรงและความอดทน ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของเทคโนโลยีหุ่นยนต์ในปัจจุบัน

    ในปีที่แล้ว หุ่นยนต์สองขาที่ชื่อว่า Tiangong จากบริษัท Galbot ได้เข้าร่วมการแข่งขันวิ่งในกรุงปักกิ่งและวิ่งได้ประมาณ 100 เมตร แม้ว่าจะวิ่งได้ช้า แต่ก็ได้รับเหรียญรางวัลสำหรับการเข้าเส้นชัย Tiangong จะเข้าร่วมการแข่งขันในเดือนเมษายนนี้ด้วย โดยสามารถวิ่งได้ที่ความเร็ว 6.2 ไมล์ต่อชั่วโมง

    https://www.techspot.com/news/106537-robots-race-humans-beijing-half-marathon.html
    จะมีการแข่งขันวิ่งฮาล์ฟมาราธอนระหว่างมนุษย์กับหุ่นยนต์ที่จะจัดขึ้นในเขตต้าซิงของกรุงปักกิ่งในเดือนเมษายนนี้ โดยมีมนุษย์ประมาณ 12,000 คนและหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์จากกว่า 20 บริษัทเข้าร่วมการแข่งขัน การแข่งขันนี้เป็นครั้งแรกที่หุ่นยนต์จะแข่งขันกับมนุษย์ในระยะทาง 13 ไมล์ โดยหุ่นยนต์ที่เข้าร่วมต้องมีลักษณะคล้ายมนุษย์และมีโครงสร้างทางกลที่สามารถเดินหรือวิ่งได้ด้วยสองขา หุ่นยนต์ต้องมีความสูงระหว่าง 1.6 ถึง 6.5 ฟุต และระยะห่างจากข้อต่อสะโพกถึงฝ่าเท้าต้องไม่น้อยกว่า 1.47 ฟุต หุ่นยนต์ที่ควบคุมจากระยะไกลและหุ่นยนต์ที่ทำงานอัตโนมัติเต็มรูปแบบสามารถเข้าร่วมได้ และสามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ระหว่างการแข่งขันได้ การแข่งขันนี้เป็นการทดสอบความสามารถของหุ่นยนต์ในการแข่งขันกับมนุษย์ในกิจกรรมที่ต้องใช้ความแข็งแรงและความอดทน ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของเทคโนโลยีหุ่นยนต์ในปัจจุบัน ในปีที่แล้ว หุ่นยนต์สองขาที่ชื่อว่า Tiangong จากบริษัท Galbot ได้เข้าร่วมการแข่งขันวิ่งในกรุงปักกิ่งและวิ่งได้ประมาณ 100 เมตร แม้ว่าจะวิ่งได้ช้า แต่ก็ได้รับเหรียญรางวัลสำหรับการเข้าเส้นชัย Tiangong จะเข้าร่วมการแข่งขันในเดือนเมษายนนี้ด้วย โดยสามารถวิ่งได้ที่ความเร็ว 6.2 ไมล์ต่อชั่วโมง https://www.techspot.com/news/106537-robots-race-humans-beijing-half-marathon.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Robots set to race humans in Beijing half-marathon
    The world's first humans vs. robot half-marathon will take place in Beijing's Daxing district in April. Around 12,000 humans will be racing the 13 miles against humanoid...
    0 Comments 0 Shares 126 Views 0 Reviews
  • Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI เคยกล่าวไว้ในปี 2023 ว่า สตาร์ทอัพที่มีงบประมาณเพียง 10 ล้านดอลลาร์นั้น "ไม่มีทางแข่งขันกับเราได้" ในการฝึกโมเดลพื้นฐาน (foundation models) อย่างไรก็ตาม ในปี 2025 DeepSeek ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าความคิดเห็นนี้ไม่ถูกต้อง โดยสามารถฝึกโมเดลที่มีประสิทธิภาพสูงด้วยงบประมาณเพียง 5.6 ล้านดอลลาร์

    ในปี 2023 Altman ได้ตอบคำถามของนักลงทุนในอินเดียเกี่ยวกับความสามารถของสตาร์ทอัพที่มีงบประมาณจำกัดในการสร้างสิ่งที่มีความสำคัญในวงการ AI โดย Altman ได้กล่าวว่า "มันเป็นไปไม่ได้ที่จะแข่งขันกับเราในการฝึกโมเดลพื้นฐาน" ซึ่งคำตอบนี้ถูกวิจารณ์ว่าเป็นการมองข้ามศักยภาพของสตาร์ทอัพ

    อย่างไรก็ตาม ในปี 2025 DeepSeek ได้เปิดตัวโมเดล R1 ที่มีประสิทธิภาพสูงและใช้ต้นทุนต่ำ ซึ่งทำให้เกิดความผันผวนในตลาด AI และทำให้มูลค่าหุ้นของบริษัทศูนย์ข้อมูลลดลงหลายพันล้านดอลลาร์

    Altman ได้โพสต์ข้อความบนโซเชียลมีเดียเพื่อยอมรับว่าโมเดลของ DeepSeek นั้น "น่าประทับใจ" และสามารถทำได้ดีในราคาที่ต่ำ อย่างไรก็ตาม เขายังยืนยันว่า OpenAI จะยังคงพัฒนาโมเดลที่ดียิ่งขึ้นในอนาคต

    ความสำเร็จของ DeepSeek แสดงให้เห็นว่าการแข่งขันในวงการ AI ยังคงเปิดกว้างสำหรับสตาร์ทอัพที่มีความคิดสร้างสรรค์และสามารถใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/sam-altman-said-startups-with-only-usd10-million-were-totally-hopeless-competing-with-openai-deepseeks-disruption-says-otherwise
    Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI เคยกล่าวไว้ในปี 2023 ว่า สตาร์ทอัพที่มีงบประมาณเพียง 10 ล้านดอลลาร์นั้น "ไม่มีทางแข่งขันกับเราได้" ในการฝึกโมเดลพื้นฐาน (foundation models) อย่างไรก็ตาม ในปี 2025 DeepSeek ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าความคิดเห็นนี้ไม่ถูกต้อง โดยสามารถฝึกโมเดลที่มีประสิทธิภาพสูงด้วยงบประมาณเพียง 5.6 ล้านดอลลาร์ ในปี 2023 Altman ได้ตอบคำถามของนักลงทุนในอินเดียเกี่ยวกับความสามารถของสตาร์ทอัพที่มีงบประมาณจำกัดในการสร้างสิ่งที่มีความสำคัญในวงการ AI โดย Altman ได้กล่าวว่า "มันเป็นไปไม่ได้ที่จะแข่งขันกับเราในการฝึกโมเดลพื้นฐาน" ซึ่งคำตอบนี้ถูกวิจารณ์ว่าเป็นการมองข้ามศักยภาพของสตาร์ทอัพ อย่างไรก็ตาม ในปี 2025 DeepSeek ได้เปิดตัวโมเดล R1 ที่มีประสิทธิภาพสูงและใช้ต้นทุนต่ำ ซึ่งทำให้เกิดความผันผวนในตลาด AI และทำให้มูลค่าหุ้นของบริษัทศูนย์ข้อมูลลดลงหลายพันล้านดอลลาร์ Altman ได้โพสต์ข้อความบนโซเชียลมีเดียเพื่อยอมรับว่าโมเดลของ DeepSeek นั้น "น่าประทับใจ" และสามารถทำได้ดีในราคาที่ต่ำ อย่างไรก็ตาม เขายังยืนยันว่า OpenAI จะยังคงพัฒนาโมเดลที่ดียิ่งขึ้นในอนาคต ความสำเร็จของ DeepSeek แสดงให้เห็นว่าการแข่งขันในวงการ AI ยังคงเปิดกว้างสำหรับสตาร์ทอัพที่มีความคิดสร้างสรรค์และสามารถใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/sam-altman-said-startups-with-only-usd10-million-were-totally-hopeless-competing-with-openai-deepseeks-disruption-says-otherwise
    0 Comments 0 Shares 155 Views 0 Reviews
  • ลุงก็ได้ลองใช้ DeepSeek มาแล้ว แจ่มจริง มาดู บทความของน้อง David Gewirtz ซึ่งเป็น Senior Contributing Editor ของ ZDNET ซึ่งคนนี้เก่งจริง เป็นผู้เขียนหนังสือหลายเล่ม ได้รับรางวัล Sigma Xi Research Award ในด้านวิศวกรรม และเคยเป็นศาสตราจารย์ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ที่มหาวิทยาลัย Princeton, University of California, Berkeley, UCLA, และ Stanford นอกจากนี้ เขายังเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์และเป็นที่ปรึกษาด้านนโยบายของสหรัฐอเมริกา

    บทความนี้กล่าวถึงการทดสอบความสามารถในการเขียนโค้ดของ DeepSeek R1 และ V3 ซึ่งเป็น AI chatbot จากประเทศจีน โดยผู้เขียนได้ทำการทดสอบ AI ทั้งสองรุ่นในหลายด้าน เช่น การเขียนปลั๊กอินสำหรับ WordPress การเขียนฟังก์ชันการจัดการสตริง การหาบั๊กที่น่ารำคาญ และการเขียนสคริปต์

    DeepSeek V3 และ R1 มีความสามารถที่น่าประทับใจในการเขียนโค้ด แต่ยังมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง ตัวอย่างเช่น DeepSeek V3 สามารถสร้างทั้งส่วนติดต่อผู้ใช้และตรรกะของโปรแกรมได้ตามที่กำหนด แต่ DeepSeek R1 มีการวิเคราะห์ที่ยาวเกินไปก่อนที่จะให้โค้ด นอกจากนี้ DeepSeek V3 ยังสามารถเขียนฟังก์ชันการจัดการสตริงได้ดี แต่ DeepSeek R1 มีปัญหาในการจัดการข้อมูลที่ไม่ใช่สตริง

    ในด้านการหาบั๊ก DeepSeek V3 และ R1 สามารถผ่านการทดสอบได้ แต่ในการเขียนสคริปต์ DeepSeek ทั้งสองรุ่นยังไม่สามารถทำได้ดีเท่าที่ควร

    ในภาพรวม DeepSeek V3 มีความสามารถที่ดีกว่า DeepSeek R1 แต่ยังคงมีพื้นที่ให้พัฒนาอยู่ โดยเฉพาะในด้านการเขียนสคริปต์และการจัดการข้อมูลที่ซับซ้อน

    นอกจากนี้ บทความยังกล่าวถึงความท้าทายในการใช้งาน DeepSeek เช่น การต้องใช้ที่อยู่อีเมลสาธารณะในการลงทะเบียน และปัญหาด้านความเร็วในการตอบสนอง

    DeepSeek เป็น AI ที่น่าจับตามองในอนาคต แม้ว่าจะยังมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง แต่ก็มีศักยภาพในการพัฒนาและปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น

    https://www.zdnet.com/article/i-tested-deepseeks-r1-and-v3-coding-skills-and-were-not-all-doomed-yet/
    ลุงก็ได้ลองใช้ DeepSeek มาแล้ว แจ่มจริง มาดู บทความของน้อง David Gewirtz ซึ่งเป็น Senior Contributing Editor ของ ZDNET ซึ่งคนนี้เก่งจริง เป็นผู้เขียนหนังสือหลายเล่ม ได้รับรางวัล Sigma Xi Research Award ในด้านวิศวกรรม และเคยเป็นศาสตราจารย์ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ที่มหาวิทยาลัย Princeton, University of California, Berkeley, UCLA, และ Stanford นอกจากนี้ เขายังเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์และเป็นที่ปรึกษาด้านนโยบายของสหรัฐอเมริกา บทความนี้กล่าวถึงการทดสอบความสามารถในการเขียนโค้ดของ DeepSeek R1 และ V3 ซึ่งเป็น AI chatbot จากประเทศจีน โดยผู้เขียนได้ทำการทดสอบ AI ทั้งสองรุ่นในหลายด้าน เช่น การเขียนปลั๊กอินสำหรับ WordPress การเขียนฟังก์ชันการจัดการสตริง การหาบั๊กที่น่ารำคาญ และการเขียนสคริปต์ DeepSeek V3 และ R1 มีความสามารถที่น่าประทับใจในการเขียนโค้ด แต่ยังมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง ตัวอย่างเช่น DeepSeek V3 สามารถสร้างทั้งส่วนติดต่อผู้ใช้และตรรกะของโปรแกรมได้ตามที่กำหนด แต่ DeepSeek R1 มีการวิเคราะห์ที่ยาวเกินไปก่อนที่จะให้โค้ด นอกจากนี้ DeepSeek V3 ยังสามารถเขียนฟังก์ชันการจัดการสตริงได้ดี แต่ DeepSeek R1 มีปัญหาในการจัดการข้อมูลที่ไม่ใช่สตริง ในด้านการหาบั๊ก DeepSeek V3 และ R1 สามารถผ่านการทดสอบได้ แต่ในการเขียนสคริปต์ DeepSeek ทั้งสองรุ่นยังไม่สามารถทำได้ดีเท่าที่ควร ในภาพรวม DeepSeek V3 มีความสามารถที่ดีกว่า DeepSeek R1 แต่ยังคงมีพื้นที่ให้พัฒนาอยู่ โดยเฉพาะในด้านการเขียนสคริปต์และการจัดการข้อมูลที่ซับซ้อน นอกจากนี้ บทความยังกล่าวถึงความท้าทายในการใช้งาน DeepSeek เช่น การต้องใช้ที่อยู่อีเมลสาธารณะในการลงทะเบียน และปัญหาด้านความเร็วในการตอบสนอง DeepSeek เป็น AI ที่น่าจับตามองในอนาคต แม้ว่าจะยังมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง แต่ก็มีศักยภาพในการพัฒนาและปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น https://www.zdnet.com/article/i-tested-deepseeks-r1-and-v3-coding-skills-and-were-not-all-doomed-yet/
    WWW.ZDNET.COM
    I tested DeepSeek's R1 and V3 coding skills - and we're not all doomed (yet)
    Are DeepSeek V3 and R1 the next big things in AI? How this Chinese open-source chatbot outperformed some big-name AIs in coding tests, despite using vastly less infrastructure than its competitors.
    0 Comments 0 Shares 163 Views 0 Reviews
  • แคลอรี่ว่างเปล่า (Empty Calories)

    อาหารทุกชนิดมีแคลอรี และร่างกายจะใช้แคลอรีทั้งหมดเป็นพลังงานทันที และอาจเก็บไว้เป็นไกลโคเจนเพื่อเป็นแหล่งพลังงานในอนาคตหรือเปลี่ยนเป็นไขมัน ขึ้นอยู่กับจำนวนแคลอรีที่คุณกินในช่วงระยะเวลาหนึ่ง อาหารบางชนิดอาจมีแคลอรีต่ำมาก เช่น ผักและผลไม้บางชนิด แต่นอกจากน้ำและสารให้ความหวานเทียมแล้ว ไม่มีอะไรที่คุณกินได้โดยไม่มีแคลอรีเลย

    สิ่งที่เรากินควรมีมากกว่าแค่แคลอรี่

    แน่นอนว่าเราต้องการแคลอรีเพื่อการดำรงชีวิต แต่ร่างกายต้องการอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น คาร์โบไฮเดรต แร่ธาตุ โปรตีน วิตามิน ไฟเบอร์ และไขมันดี

    ผักมีวิตามิน แร่ธาตุ และสารอาหารสำคัญที่ร่างกายต้องการเพื่อให้ทำงานได้อย่างปกติ เนื้อไม่ติดมันและปลาเป็นแหล่งโปรตีนชั้นดีซึ่งมีความสำคัญต่อกระบวนการซ่อมแซม การเจริญเติบโต และพัฒนาการของร่างกาย ไฟเบอร์ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยให้รู้สึกอิ่ม เป็นแหล่งที่อยู่ของจุลชีพฝั่งดีในลำไส้และกระตุ้นการขับถ่ายให้เป็นปกติ ส่วนไขมันดีช่วยให้ร่างกายดูดซึมวิตามินบางชนิดได้ดี

    แคลอรีว่างเปล่าก็คืออาหารที่มีแต่แคลอรี ซึ่งให้ประโยชน์แก่ร่างกายไม่ครบถ้วน

    แคลอรี่ว่างเปล่าสามารถให้พลังงานได้ทันที ส่งเสริมความอิ่ม แต่ไม่สามารถใช้สร้างกล้ามเนื้อ ไม่ให้วิตามินหรือให้ประโยชน์ทางโภชนาการอื่นๆ ได้ นอกจากนี้แคลอรี่ว่างเปล่าที่ไม่ได้ใช้เป็นพลังงานจะถูกเก็บไว้ในรูปแบบของ ไขมัน

    ตามหลักการทั่วไป หากอาหารไม่มีสารอาหารหรือมีแคลอรีจากน้ำตาลและไขมันมากกว่าสารอาหาร ก็ถือว่าเป็นแหล่งแคลอรีว่างเปล่า หลักๆได้แก่:

    • เครื่องดื่มอัดลม เครื่องดื่มสำหรับนักกีฬา ชาหวาน น้ำมะนาว และเครื่องดื่มชูกำลัง

    • อาหารขยะและอาหารจานด่วน

    • ลูกอม รวมทั้งลูกอมแข็งและลูกอมเคี้ยวหวานหรือเปรี้ยว

    • เค้กและโดนัท

    ทำไมแคลอรี่ว่างเปล่าถึงไม่ดี

    เมื่อคุณกินแคลอรีว่างเปล่า คุณมักจะกินเข้าไปเมื่อพิจารณาถึง ความเร่งรีบ ความอิ่มและการลดน้ำหนัก การรับประทานแคลอรี่ว่างเปล่ามากเกินไปอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงและเกิดการอักเสบ ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวานและโรคหัวใจได้

    ร่างกายต้องการอาหารที่ครบถ้วนในแต่ละมื้อ แคลอรีจำเป็นเพื่อให้พลังงานเท่านั้น
    สิ่งที่น่าห่วงใยที่สุด ก็คือสมอง

    เมื่อสมองขาดสารอาหารที่จำเป็นโดยเฉพาะอย่างยิ่งแร่ธาตุ ต่อมาคุณก็จะมีปัญหาเกี่ยวกับการนอนหลับ การคิดอย่างมีสมาธิ การมีสติสัมปชัญญะ และความสามารถในการควบคุมอวัยวะอื่นๆ

    ด้วยรักและห่วงใยจากใจจริง

    Cr. Santi Manadee
    แคลอรี่ว่างเปล่า (Empty Calories) อาหารทุกชนิดมีแคลอรี และร่างกายจะใช้แคลอรีทั้งหมดเป็นพลังงานทันที และอาจเก็บไว้เป็นไกลโคเจนเพื่อเป็นแหล่งพลังงานในอนาคตหรือเปลี่ยนเป็นไขมัน ขึ้นอยู่กับจำนวนแคลอรีที่คุณกินในช่วงระยะเวลาหนึ่ง อาหารบางชนิดอาจมีแคลอรีต่ำมาก เช่น ผักและผลไม้บางชนิด แต่นอกจากน้ำและสารให้ความหวานเทียมแล้ว ไม่มีอะไรที่คุณกินได้โดยไม่มีแคลอรีเลย สิ่งที่เรากินควรมีมากกว่าแค่แคลอรี่ แน่นอนว่าเราต้องการแคลอรีเพื่อการดำรงชีวิต แต่ร่างกายต้องการอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น คาร์โบไฮเดรต แร่ธาตุ โปรตีน วิตามิน ไฟเบอร์ และไขมันดี ผักมีวิตามิน แร่ธาตุ และสารอาหารสำคัญที่ร่างกายต้องการเพื่อให้ทำงานได้อย่างปกติ เนื้อไม่ติดมันและปลาเป็นแหล่งโปรตีนชั้นดีซึ่งมีความสำคัญต่อกระบวนการซ่อมแซม การเจริญเติบโต และพัฒนาการของร่างกาย ไฟเบอร์ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยให้รู้สึกอิ่ม เป็นแหล่งที่อยู่ของจุลชีพฝั่งดีในลำไส้และกระตุ้นการขับถ่ายให้เป็นปกติ ส่วนไขมันดีช่วยให้ร่างกายดูดซึมวิตามินบางชนิดได้ดี แคลอรีว่างเปล่าก็คืออาหารที่มีแต่แคลอรี ซึ่งให้ประโยชน์แก่ร่างกายไม่ครบถ้วน แคลอรี่ว่างเปล่าสามารถให้พลังงานได้ทันที ส่งเสริมความอิ่ม แต่ไม่สามารถใช้สร้างกล้ามเนื้อ ไม่ให้วิตามินหรือให้ประโยชน์ทางโภชนาการอื่นๆ ได้ นอกจากนี้แคลอรี่ว่างเปล่าที่ไม่ได้ใช้เป็นพลังงานจะถูกเก็บไว้ในรูปแบบของ ไขมัน ตามหลักการทั่วไป หากอาหารไม่มีสารอาหารหรือมีแคลอรีจากน้ำตาลและไขมันมากกว่าสารอาหาร ก็ถือว่าเป็นแหล่งแคลอรีว่างเปล่า หลักๆได้แก่: • เครื่องดื่มอัดลม เครื่องดื่มสำหรับนักกีฬา ชาหวาน น้ำมะนาว และเครื่องดื่มชูกำลัง • อาหารขยะและอาหารจานด่วน • ลูกอม รวมทั้งลูกอมแข็งและลูกอมเคี้ยวหวานหรือเปรี้ยว • เค้กและโดนัท ทำไมแคลอรี่ว่างเปล่าถึงไม่ดี เมื่อคุณกินแคลอรีว่างเปล่า คุณมักจะกินเข้าไปเมื่อพิจารณาถึง ความเร่งรีบ ความอิ่มและการลดน้ำหนัก การรับประทานแคลอรี่ว่างเปล่ามากเกินไปอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงและเกิดการอักเสบ ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวานและโรคหัวใจได้ ร่างกายต้องการอาหารที่ครบถ้วนในแต่ละมื้อ แคลอรีจำเป็นเพื่อให้พลังงานเท่านั้น สิ่งที่น่าห่วงใยที่สุด ก็คือสมอง เมื่อสมองขาดสารอาหารที่จำเป็นโดยเฉพาะอย่างยิ่งแร่ธาตุ ต่อมาคุณก็จะมีปัญหาเกี่ยวกับการนอนหลับ การคิดอย่างมีสมาธิ การมีสติสัมปชัญญะ และความสามารถในการควบคุมอวัยวะอื่นๆ ด้วยรักและห่วงใยจากใจจริง Cr. Santi Manadee
    0 Comments 0 Shares 153 Views 0 Reviews
  • การเปิดตัวโมเดลเอไอล่าสุดที่ดีปซีคคุยว่า ดีพอๆ กับ หรือดีกว่าโมเดลที่เป็นผู้นำในวงการอุตสาหกรรมนี้ของอเมริกา แถมใช้ต้นทุนแค่เศษเงินของบิ๊กเทคเหล่านั้นด้วย กำลังทำให้ระเบียบโลกเทคโนโลยีปั่นป่วนหนัก
    .
    สตาร์ทอัปจีนแห่งนี้ดึงดูดความสนใจในแวดวงเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ทั่วโลก หลังจากเปิดเผยเมื่อเดือนที่แล้วว่า การเทรน ดีปซีค-วี3 ใช้พลังการคำนวณจากชิปเอช800 ของเอ็นวิเดีย มูลค่าไม่ถึง 6 ล้านดอลลาร์
    .
    ผู้ช่วยเอไอของดีปซีคที่ขับเคลื่อนโดยดีปซีค-วี3 สามารถแซงแชตจีพีทีขึ้นเป็นแอปฟรีที่มีการดาวน์โหลดมากที่สุดบนแอปสโตร์ของแอปเปิลในอเมริกาเมื่อวันจันทร์ (27 ม.ค.)
    .
    ข่าวนี้ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับเหตุผลที่บริษัทเทคโนโลยีบางแห่งของอเมริกาตัดสินใจทุ่มเงินหลักหมื่นล้านแสนล้านดอลลาร์ไปกับเอไอ และยังทำให้ราคาหุ้นบิ๊กเทคหลายแห่งที่รวมถึงเอ็นวิเดียร่วงหนัก
    .
    ต่อไปนี้คือข้อเท็จจริงบางอย่างเกี่ยวกับบริษัทที่กำลังเขย่าวงการเอไอทั่วโลกอยู่ในขณะนี้
    .
    สั่นสะเทือนวงการเอไอ
    .
    ย้อนกลับไปเมื่อปลายปี 2022 ที่โอเพ่นเอไอเปิดตัวแชตจีพีที ตอนนั้นบริษัทเทคโนโลยีจีนต่างร้อนรนสร้างแชตบอตที่ขับเคลื่อนด้วยเอไอออกมาแข่ง แต่การเปิดตัวแชตบอตของยักษ์จีนอย่าง ไป่ตู้ กลับสร้างความผิดหวังอย่างกว้างขวาง เนื่องจากสะท้อนว่าศักยภาพด้านเอไอระหว่างบริษัทอเมริกันกับบริษัทจีน ยังแตกต่างห่างชั้นกันมาก
    .
    อย่างไรก็ตาม เวลานี้คุณภาพและประสิทธิภาพด้านต้นทุนของโมเดลเอไอของดีปซีคทำให้ความรู้สึกพลิกกลับตาลปัตร สตาร์ทอัปเอไอแห่งนี้ของจีนระบุว่า ดีปซีค-วี3 และดีปซีค-อาร์1 ที่ได้รับการยกย่องจากพวกผู้บริหารในซิลลิคอนแวลลีย์ รวมถึงวิศวกรในบริษัทไฮเทคอเมริกานั้น มีประสิทธิภาพเทียบเท่าโมเดลเอไอรุ่นที่ล้ำสมัยที่สุดของโอเพ่นเอไอและเมตา แถมต้นทุนถูกกว่าแบบเทียบกันไม่ได้
    .
    โพสต์ของดีปซีคบนวีแชตระบุว่า ดีปซีค-อาร์1 ที่เปิดตัวสัปดาห์ที่แล้วนั้น ต้นทุนถูกกว่าโอเพ่นเอไอ o1 ถึง 20-50 เท่า ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับงาน
    .
    ทว่า ยังมีบางคนแสดงความข้องใจอย่างเปิดเผยต่อเรื่องราวความสำเร็จของดีปซีค ตัวอย่างเช่น อเล็กซานเดอร์ หวัง ซีอีโอสเกล เอไอที่กล่าวโดยไม่ได้โชว์หลักฐานระหว่างให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นบีซีเมื่อวันพฤหัสฯ (23) ที่แล้ว ว่า ดีปซีคมีการแอบใช้ชิปเอช100 ของเอ็นวิเดีย 50,000 ชิ้น แต่เปิดเผยไม่ได้เนื่องจากละเมิดมาตรการควบคุมการส่งออกของวอชิงตันที่แบนการขายชิปเอไอขั้นสูงให้บริษัทจีน
    .
    ต่อมาในวันจันทร์ นักวิเคราะห์ของเบิร์นสไตน์ย้ำในบันทึกการวิจัยว่า แม้ต้นทุนการเทรนเอไอวี3 ไม่เป็นที่รับรู้ แต่คิดว่า น่าจะมากกว่า 5.58 ล้านดอลลาร์ตามที่ดีปซีคบอก นอกจากนั้นยังไม่มีการเปิดเผยต้นทุนการเทรนอาร์1 อีกด้วย
    .
    เบื้องหลังดีปซีค
    .
    ดีปซีคเป็นบริษัทสตาร์ทอัปที่ตั้งสำนักงานอยู่ในเมืองหางโจว ทางภาคตะวันออกของจีน ผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิควบคุมบริษัทคือ เหลียง เหวินเฟิง ผู้ร่วมก่อตั้งกองทุนบริหารความเสี่ยงเชิงปริมาณ “ไฮ-ฟลายเออร์”
    .
    เดือนมีนาคม 2023 กองทุนของเหลียงประกาศผ่านวีแชตว่า กำลังทุ่มเททรัพยากรในการสร้างกลุ่มการวิจัยอิสระใหม่เพื่อสำรวจองค์ประกอบสำคัญของปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป (Artificial General Intelligence) ที่โอเพ่นเอไอระบุว่า หมายถึงระบบอัตโนมัติที่มีความสามารถเหนือมนุษย์ในงานที่มีมูลค่าทางเศรษฐศาสตร์เกือบทั้งหมด และปลายปีนั้นดีปซีคก็ถือกำเนิดขึ้น
    .
    ไม่มีข้อมูลชัดเจนว่า ไฮ-ฟลายเออร์ลงทุนในดีปซีคเท่าไร แต่ออฟฟิศของกองทุนแห่งนี้อยู่ในตึกเดียวกับดีปซีค และยังเป็นเจ้าของสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องกับคลัสเตอร์ชิปที่ใช้ในการเทรนโมเดลเอไอ
    .
    ดีปซีคในสายตาปักกิ่ง
    .
    แวดวงนักการเมืองระดับสูงของจีนต่างรับรู้ถึงความสำเร็จของดีปซีค สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า วันจันทร์ (20) ที่ผ่านมา ซึ่งมีการเปิดตัวดีปซีค-อาร์1 เหลียงได้ไปเข้าร่วมการประชุมเชิงสัมมนาแบบปิด ร่วมกับนักธุรกิจและผู้เชี่ยวชาญจำนวนหนึ่ง โดยมีนายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียงเป็นเจ้าภาพ
    .
    การที่เหลียงได้รับเชิญในวันนั้นเป็นสัญญาณว่า ความสำเร็จของดีปซีคน่าจะมีความสำคัญต่อเป้าหมายของปักกิ่งในการเอาชนะมาตรการควบคุมการส่งออกของวอชิงตัน และหาทางประสบความสำเร็จได้ด้วยตัวเองในอุตสาหกรรมเชิงยุทธศาสตร์อย่างเอไอ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009081
    ..............
    Sondhi X
    การเปิดตัวโมเดลเอไอล่าสุดที่ดีปซีคคุยว่า ดีพอๆ กับ หรือดีกว่าโมเดลที่เป็นผู้นำในวงการอุตสาหกรรมนี้ของอเมริกา แถมใช้ต้นทุนแค่เศษเงินของบิ๊กเทคเหล่านั้นด้วย กำลังทำให้ระเบียบโลกเทคโนโลยีปั่นป่วนหนัก . สตาร์ทอัปจีนแห่งนี้ดึงดูดความสนใจในแวดวงเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ทั่วโลก หลังจากเปิดเผยเมื่อเดือนที่แล้วว่า การเทรน ดีปซีค-วี3 ใช้พลังการคำนวณจากชิปเอช800 ของเอ็นวิเดีย มูลค่าไม่ถึง 6 ล้านดอลลาร์ . ผู้ช่วยเอไอของดีปซีคที่ขับเคลื่อนโดยดีปซีค-วี3 สามารถแซงแชตจีพีทีขึ้นเป็นแอปฟรีที่มีการดาวน์โหลดมากที่สุดบนแอปสโตร์ของแอปเปิลในอเมริกาเมื่อวันจันทร์ (27 ม.ค.) . ข่าวนี้ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับเหตุผลที่บริษัทเทคโนโลยีบางแห่งของอเมริกาตัดสินใจทุ่มเงินหลักหมื่นล้านแสนล้านดอลลาร์ไปกับเอไอ และยังทำให้ราคาหุ้นบิ๊กเทคหลายแห่งที่รวมถึงเอ็นวิเดียร่วงหนัก . ต่อไปนี้คือข้อเท็จจริงบางอย่างเกี่ยวกับบริษัทที่กำลังเขย่าวงการเอไอทั่วโลกอยู่ในขณะนี้ . สั่นสะเทือนวงการเอไอ . ย้อนกลับไปเมื่อปลายปี 2022 ที่โอเพ่นเอไอเปิดตัวแชตจีพีที ตอนนั้นบริษัทเทคโนโลยีจีนต่างร้อนรนสร้างแชตบอตที่ขับเคลื่อนด้วยเอไอออกมาแข่ง แต่การเปิดตัวแชตบอตของยักษ์จีนอย่าง ไป่ตู้ กลับสร้างความผิดหวังอย่างกว้างขวาง เนื่องจากสะท้อนว่าศักยภาพด้านเอไอระหว่างบริษัทอเมริกันกับบริษัทจีน ยังแตกต่างห่างชั้นกันมาก . อย่างไรก็ตาม เวลานี้คุณภาพและประสิทธิภาพด้านต้นทุนของโมเดลเอไอของดีปซีคทำให้ความรู้สึกพลิกกลับตาลปัตร สตาร์ทอัปเอไอแห่งนี้ของจีนระบุว่า ดีปซีค-วี3 และดีปซีค-อาร์1 ที่ได้รับการยกย่องจากพวกผู้บริหารในซิลลิคอนแวลลีย์ รวมถึงวิศวกรในบริษัทไฮเทคอเมริกานั้น มีประสิทธิภาพเทียบเท่าโมเดลเอไอรุ่นที่ล้ำสมัยที่สุดของโอเพ่นเอไอและเมตา แถมต้นทุนถูกกว่าแบบเทียบกันไม่ได้ . โพสต์ของดีปซีคบนวีแชตระบุว่า ดีปซีค-อาร์1 ที่เปิดตัวสัปดาห์ที่แล้วนั้น ต้นทุนถูกกว่าโอเพ่นเอไอ o1 ถึง 20-50 เท่า ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับงาน . ทว่า ยังมีบางคนแสดงความข้องใจอย่างเปิดเผยต่อเรื่องราวความสำเร็จของดีปซีค ตัวอย่างเช่น อเล็กซานเดอร์ หวัง ซีอีโอสเกล เอไอที่กล่าวโดยไม่ได้โชว์หลักฐานระหว่างให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นบีซีเมื่อวันพฤหัสฯ (23) ที่แล้ว ว่า ดีปซีคมีการแอบใช้ชิปเอช100 ของเอ็นวิเดีย 50,000 ชิ้น แต่เปิดเผยไม่ได้เนื่องจากละเมิดมาตรการควบคุมการส่งออกของวอชิงตันที่แบนการขายชิปเอไอขั้นสูงให้บริษัทจีน . ต่อมาในวันจันทร์ นักวิเคราะห์ของเบิร์นสไตน์ย้ำในบันทึกการวิจัยว่า แม้ต้นทุนการเทรนเอไอวี3 ไม่เป็นที่รับรู้ แต่คิดว่า น่าจะมากกว่า 5.58 ล้านดอลลาร์ตามที่ดีปซีคบอก นอกจากนั้นยังไม่มีการเปิดเผยต้นทุนการเทรนอาร์1 อีกด้วย . เบื้องหลังดีปซีค . ดีปซีคเป็นบริษัทสตาร์ทอัปที่ตั้งสำนักงานอยู่ในเมืองหางโจว ทางภาคตะวันออกของจีน ผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิควบคุมบริษัทคือ เหลียง เหวินเฟิง ผู้ร่วมก่อตั้งกองทุนบริหารความเสี่ยงเชิงปริมาณ “ไฮ-ฟลายเออร์” . เดือนมีนาคม 2023 กองทุนของเหลียงประกาศผ่านวีแชตว่า กำลังทุ่มเททรัพยากรในการสร้างกลุ่มการวิจัยอิสระใหม่เพื่อสำรวจองค์ประกอบสำคัญของปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป (Artificial General Intelligence) ที่โอเพ่นเอไอระบุว่า หมายถึงระบบอัตโนมัติที่มีความสามารถเหนือมนุษย์ในงานที่มีมูลค่าทางเศรษฐศาสตร์เกือบทั้งหมด และปลายปีนั้นดีปซีคก็ถือกำเนิดขึ้น . ไม่มีข้อมูลชัดเจนว่า ไฮ-ฟลายเออร์ลงทุนในดีปซีคเท่าไร แต่ออฟฟิศของกองทุนแห่งนี้อยู่ในตึกเดียวกับดีปซีค และยังเป็นเจ้าของสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องกับคลัสเตอร์ชิปที่ใช้ในการเทรนโมเดลเอไอ . ดีปซีคในสายตาปักกิ่ง . แวดวงนักการเมืองระดับสูงของจีนต่างรับรู้ถึงความสำเร็จของดีปซีค สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า วันจันทร์ (20) ที่ผ่านมา ซึ่งมีการเปิดตัวดีปซีค-อาร์1 เหลียงได้ไปเข้าร่วมการประชุมเชิงสัมมนาแบบปิด ร่วมกับนักธุรกิจและผู้เชี่ยวชาญจำนวนหนึ่ง โดยมีนายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียงเป็นเจ้าภาพ . การที่เหลียงได้รับเชิญในวันนั้นเป็นสัญญาณว่า ความสำเร็จของดีปซีคน่าจะมีความสำคัญต่อเป้าหมายของปักกิ่งในการเอาชนะมาตรการควบคุมการส่งออกของวอชิงตัน และหาทางประสบความสำเร็จได้ด้วยตัวเองในอุตสาหกรรมเชิงยุทธศาสตร์อย่างเอไอ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009081 .............. Sondhi X
    Like
    Wow
    8
    0 Comments 0 Shares 1310 Views 0 Reviews
  • ทรัมป์ชี้ “ดีปซีค” (DeepSeek) แชตบอตเอไอจีน ที่เขย่าหุ้นบริษัทยักษ์ใหญ่ไฮเทคของสหรัฐฯ ร่วงหนักเมื่อวันจันทร์ (27 ม.ค.) ควรเป็น “สัญญาณเตือน” ซิลลิคอนแวลลีย์ให้ยิ่งมุ่งมั่นทุ่มเทความสนใจเพื่อเอาชนะจีน
    .
    ถึงแม้การเปิดตัวโมเดลล่าสุดของดีปซีค บริษัทสตาร์ทอัปปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ซึ่งตั้งสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ทางภาคตะวันออกของจีน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในช่วงแรกๆ ถูกกลบจนเงียบสนิทจากข่าวพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จัดขึ้นในวันเดียวกัน อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แชตบอตของดีปซีค สามารถโค่นยักษ์แชตจีพีทีของค่ายโอเพ่นเอไอ กลายเป็นแอปฟรีที่มีการดาวน์โหลดมากที่สุดบนแอปสโตร์ของแอปเปิลในอเมริกา
    .
    สิ่งที่ทำให้อุตสาหกรรมไฮเทคของสหรัฐฯ และค่ายตะวันตกโดยรวมนั่งไม่ติด คือ การที่ดีปซีคระบุว่า พัฒนาโมเดลล่าสุดที่ใช้ชื่อว่า อาร์1 นี้ ด้วยต้นทุนแค่เศษเงินของที่บรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่ลงทุนในการพัฒนาเอไอ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วอิงอยู่กับชิป และซอฟต์แวร์ราคาแพงของเอ็นวิเดีย
    .
    พัฒนาการดังกล่าวมีความสำคัญมากเนื่องจากกระแสเอไอที่จุดชนวนจากการเปิดตัวแชตจีพีทีเมื่อปลายปี 2022 นั้น กลายเป็นกระแสร้อนแรงต่อเนื่อง ส่งผลให้หุ้นไฮเทคในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ และโลกตะวันตกอื่นๆ พุ่งแรงไม่มีตกเรื่อยมา โดยเฉพาะทำให้เอ็นวิเดียกลายเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีมูลค่าตามราคาตลาดสูงที่สุดในโลกในขณะนี้
    .
    ข่าวความฮิตฮอตของดีปซีค กำลังสั่นสะเทือนทั่ววงการเทคโนโลยีของอเมริกา และปลุกเร้าความกังวลสำคัญที่ว่า บรรดาบริษัทไฮเทคยักษ์ใหญ่ยังควรยึดโมเดลเดิม ด้วยการลงทุนเป็นแสนๆ ล้านดอลลาร์กับเอไอแบบราคาแพงต่อไปหรือไม่ ในเมื่อบริษัทจีนอย่างดีปซีค สามารถพัฒนาโมเดลเอไอที่มีประสิทธิภาพทัดเทียมด้วยต้นทุนต่ำกว่ามากมาย
    .
    นอกจากนั้น ความก้าวหน้าอย่างชัดเจนของดีปซีค ยังควรสร้างความขุ่นเคืองและตระหนกให้แก่วอชิงตัน เนื่องจากมันฟ้องว่า การที่รัฐบาลสหรัฐฯ ตั้งแต่ยุค โจ ไบเดน พยายามรักษาสถานะผู้นำด้านเทคโนโลยีของอเมริกาเอาไว้ ด้วยการกีดกันแซงก์ชันไม่ให้จีนเข้าถึงเทคโนโลยีล่าสุดทางด้านเซมิคอนดักเตอร์ ที่ถูกมองว่าเป็นฮาร์ดแวร์อันจำเป็นสำหรับการพัฒนาเอไอที่ล้ำยุคนั้น กลับไม่ได้ผลโดยสิ้นเชิง
    .
    ประธานาธิบดีทรัมป์ออกมาแสดงความเห็นทันควันในวันจันทร์ (27) ว่า การเปิดตัวดีปซีคควรถือเป็นสัญญาณเตือนว่า อุตสาหกรรมไฮเทคของอเมริกาต้องทุ่มเทความสนใจในการเอาชนะจีน
    .
    อย่างไรก็ดี ทรัมป์สำทับว่า นี่อาจเป็นเรื่องที่ดีสำหรับบิ๊กเทคอเมริกา เพราะไม่ต้องลงทุนเป็นหมื่นล้านป็นแสนล้านดอลลาร์ ก็มีโซลูชันแบบเดียวกันได้
    .
    ทางด้าน แซม อัลต์แมน ประธานบริหารโอเพ่นเอไอ โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ว่า การมีคู่แข่งใหม่ๆ ทำให้ทั้งวงการมีความกระปรี้กระเปร่าขึ้นมา พร้อมชมดีปซีค อาร์1 เป็นโมเดลที่น่าประทับใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงความสามารถที่นำเสนอจากต้นทุนระดับนั้น เขายังให้สัญญว่า โอเพ่นเอไอ จะเร่งปล่อยโมเดลใหม่ๆ ออกมา
    .
    ขณะที่ เดวิด แซคส์ ที่ปรึกษาด้านเอไอของทรัมป์และเป็นนักลงทุนด้านเทคโนโลยีชื่อดัง ชี้ว่า ความสำเร็จของดีปซีคยืนยันว่า ทำเนียบขาวตัดสินใจถูกต้องแล้วในการยกเลิกคำสั่งฝ่ายบริหารของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่กำหนดมาตรฐานความปลอดภัยสำหรับการพัฒนาเอไอ เนื่องจากคำสั่งดังกล่าวเป็นอุปสรรคต่อบริษัทเอไอของอเมริกาโดยไม่มีหลักประกันว่า จีนจะไล่ตามไม่ทัน
    .
    สำหรับ มาร์ก แอนเดรสเซน นักลงทุนด้านเทคโนโลยีที่เป็นพันธมิตรอีกคนหนึ่งของทรัมป์ ระบุว่า ดีปซีค อาร์1 เป็น “สปุตนิก โมเมนต์” ซึ่งหมายถึงเหตุการณ์ที่สหภาพโซเวียตปล่อยสปุตนิก กลายเป็นดาวเทียมโคจรรอบโลกดวงแรกของโลก เมื่อปี 1957 โดยเวลานั้นสหรัฐฯ ยังทำเช่นนั้นไม่ได้ โลกตะวันตกจึงทั้งทึ่งและตกตะลึงไปตามๆ กัน
    .
    แคธลีน บรูคส์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของเอ็กซ์ทีบี ตั้งข้อสังเกตว่า ถ้าจีนไล่ตามอเมริกาในการแข่งขันด้านเอไอได้เร็วขนาดนี้ เศรษฐศาสตร์ของเอไอจะต้องเปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง
    .
    สัตยา นาเดลลา ซีอีโอไมโครซอฟท์ โพสต์ก่อนที่ตลาดจะเปิดทำการในวันจันทร์ว่า เอไอต้นทุนต่ำเป็นสิ่งที่ดีสำหรับทุกคน กระนั้น ในที่ประชุมเวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรัมที่ดาวอส เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เขาเตือนว่า ตะวันตกควรจับตาพัฒนาการของจีนอย่างจริงจังมาก
    .
    ไมโครซอฟท์นั้นประกาศเอาไว้ว่า ปีนี้มีแผนลงทุนในเอไอ 80,000 ล้านดอลลาร์ ส่วนคู่แข่งอย่างเมตา ก็ประกาศลงทุนอย่างน้อย 60,000 ล้านดอลลาร์
    .
    คาดกันไว้ว่าเม็ดเงินเหล่านี้จำนวนมากจะไปตกอยู่กับเอ็นวิเดีย ซึ่งเวลานี้เป็นเจ้าในเรื่องชิปเอไอระดับล้ำยุคที่ใช้กับเอไอ แต่เมื่อมีข่าวดีปชีคออกมา ราคาหุ้นของเอ็นวิเดีย จึงกลับร่วงหนักถึง 17% ในการซื้อขายเมื่อวันจันทร์
    .
    ถือว่าสถานการณ์พิเศษมากที่ดีปซีค ซึ่งก็เช่นเดียวกับพวกบริษัทจีนอื่นๆ ถูกมาตรการจำกัดกีดกันของรัฐบาลสหรัฐฯ จึงไม่สามารถเข้าถึงเซมิคอนดักเตอร์ระดับล้ำยุคของเอ็นวิเดียได้ กลับสามารถพัฒนาโมเดลเอไอของตนลลจนทัดเทียมกับพวกยักษ์แนวหน้าระดับโลกได้
    .
    วารสาร เอ็มไอที เทคโนโลยี รีวิว ชี้ว่า มาตรการควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯนั่นเอง ที่ผลักดันให้สตาร์ทอัปจีนอย่างดีปซีค ต้องค้นหาหนทางที่เป็นนวัตกรรม ซึ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนาด้านซอฟต์แวร์ มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพของชิปรุ่นเก่ากว่าเท่าที่จะหาได้ ตลอดจนเน้นการรวมเครือข่ายทรัพยากร และการร่วมมือประสานงานกัน
    .
    กระนั้น อีลอน มัสก์ ที่ลงทุนก้อนใหญ่ในชิปเอ็นวิเดียสำหรับบริษัทเอไอของตนเองคือ เอ็กซ์เอไอ รวมทั้งยังเป็นซีอีโอของสเกลเอไอ สตาร์ทอัปชื่อดังแห่งซิลลิคอนแวลลีย์ที่ได้รับการสนับสนุนจากแอมะซอนและเมตา ออกมาแสดงความสงสัยข้องใจว่า ดีปซีค น่าจะแอบเข้าถึงชิปเอช100 ของเอ็นวิเดียอย่างผิดกฎหมาย
    .
    อย่างไรก็ดี เอ็นวิเดียออกคำแถลงยืนยันว่า เทคโนโลยีของดีปซีคปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ อย่างครบถ้วน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009080
    ..............
    Sondhi X
    ทรัมป์ชี้ “ดีปซีค” (DeepSeek) แชตบอตเอไอจีน ที่เขย่าหุ้นบริษัทยักษ์ใหญ่ไฮเทคของสหรัฐฯ ร่วงหนักเมื่อวันจันทร์ (27 ม.ค.) ควรเป็น “สัญญาณเตือน” ซิลลิคอนแวลลีย์ให้ยิ่งมุ่งมั่นทุ่มเทความสนใจเพื่อเอาชนะจีน . ถึงแม้การเปิดตัวโมเดลล่าสุดของดีปซีค บริษัทสตาร์ทอัปปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ซึ่งตั้งสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ทางภาคตะวันออกของจีน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในช่วงแรกๆ ถูกกลบจนเงียบสนิทจากข่าวพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จัดขึ้นในวันเดียวกัน อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แชตบอตของดีปซีค สามารถโค่นยักษ์แชตจีพีทีของค่ายโอเพ่นเอไอ กลายเป็นแอปฟรีที่มีการดาวน์โหลดมากที่สุดบนแอปสโตร์ของแอปเปิลในอเมริกา . สิ่งที่ทำให้อุตสาหกรรมไฮเทคของสหรัฐฯ และค่ายตะวันตกโดยรวมนั่งไม่ติด คือ การที่ดีปซีคระบุว่า พัฒนาโมเดลล่าสุดที่ใช้ชื่อว่า อาร์1 นี้ ด้วยต้นทุนแค่เศษเงินของที่บรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่ลงทุนในการพัฒนาเอไอ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วอิงอยู่กับชิป และซอฟต์แวร์ราคาแพงของเอ็นวิเดีย . พัฒนาการดังกล่าวมีความสำคัญมากเนื่องจากกระแสเอไอที่จุดชนวนจากการเปิดตัวแชตจีพีทีเมื่อปลายปี 2022 นั้น กลายเป็นกระแสร้อนแรงต่อเนื่อง ส่งผลให้หุ้นไฮเทคในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ และโลกตะวันตกอื่นๆ พุ่งแรงไม่มีตกเรื่อยมา โดยเฉพาะทำให้เอ็นวิเดียกลายเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีมูลค่าตามราคาตลาดสูงที่สุดในโลกในขณะนี้ . ข่าวความฮิตฮอตของดีปซีค กำลังสั่นสะเทือนทั่ววงการเทคโนโลยีของอเมริกา และปลุกเร้าความกังวลสำคัญที่ว่า บรรดาบริษัทไฮเทคยักษ์ใหญ่ยังควรยึดโมเดลเดิม ด้วยการลงทุนเป็นแสนๆ ล้านดอลลาร์กับเอไอแบบราคาแพงต่อไปหรือไม่ ในเมื่อบริษัทจีนอย่างดีปซีค สามารถพัฒนาโมเดลเอไอที่มีประสิทธิภาพทัดเทียมด้วยต้นทุนต่ำกว่ามากมาย . นอกจากนั้น ความก้าวหน้าอย่างชัดเจนของดีปซีค ยังควรสร้างความขุ่นเคืองและตระหนกให้แก่วอชิงตัน เนื่องจากมันฟ้องว่า การที่รัฐบาลสหรัฐฯ ตั้งแต่ยุค โจ ไบเดน พยายามรักษาสถานะผู้นำด้านเทคโนโลยีของอเมริกาเอาไว้ ด้วยการกีดกันแซงก์ชันไม่ให้จีนเข้าถึงเทคโนโลยีล่าสุดทางด้านเซมิคอนดักเตอร์ ที่ถูกมองว่าเป็นฮาร์ดแวร์อันจำเป็นสำหรับการพัฒนาเอไอที่ล้ำยุคนั้น กลับไม่ได้ผลโดยสิ้นเชิง . ประธานาธิบดีทรัมป์ออกมาแสดงความเห็นทันควันในวันจันทร์ (27) ว่า การเปิดตัวดีปซีคควรถือเป็นสัญญาณเตือนว่า อุตสาหกรรมไฮเทคของอเมริกาต้องทุ่มเทความสนใจในการเอาชนะจีน . อย่างไรก็ดี ทรัมป์สำทับว่า นี่อาจเป็นเรื่องที่ดีสำหรับบิ๊กเทคอเมริกา เพราะไม่ต้องลงทุนเป็นหมื่นล้านป็นแสนล้านดอลลาร์ ก็มีโซลูชันแบบเดียวกันได้ . ทางด้าน แซม อัลต์แมน ประธานบริหารโอเพ่นเอไอ โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ว่า การมีคู่แข่งใหม่ๆ ทำให้ทั้งวงการมีความกระปรี้กระเปร่าขึ้นมา พร้อมชมดีปซีค อาร์1 เป็นโมเดลที่น่าประทับใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงความสามารถที่นำเสนอจากต้นทุนระดับนั้น เขายังให้สัญญว่า โอเพ่นเอไอ จะเร่งปล่อยโมเดลใหม่ๆ ออกมา . ขณะที่ เดวิด แซคส์ ที่ปรึกษาด้านเอไอของทรัมป์และเป็นนักลงทุนด้านเทคโนโลยีชื่อดัง ชี้ว่า ความสำเร็จของดีปซีคยืนยันว่า ทำเนียบขาวตัดสินใจถูกต้องแล้วในการยกเลิกคำสั่งฝ่ายบริหารของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่กำหนดมาตรฐานความปลอดภัยสำหรับการพัฒนาเอไอ เนื่องจากคำสั่งดังกล่าวเป็นอุปสรรคต่อบริษัทเอไอของอเมริกาโดยไม่มีหลักประกันว่า จีนจะไล่ตามไม่ทัน . สำหรับ มาร์ก แอนเดรสเซน นักลงทุนด้านเทคโนโลยีที่เป็นพันธมิตรอีกคนหนึ่งของทรัมป์ ระบุว่า ดีปซีค อาร์1 เป็น “สปุตนิก โมเมนต์” ซึ่งหมายถึงเหตุการณ์ที่สหภาพโซเวียตปล่อยสปุตนิก กลายเป็นดาวเทียมโคจรรอบโลกดวงแรกของโลก เมื่อปี 1957 โดยเวลานั้นสหรัฐฯ ยังทำเช่นนั้นไม่ได้ โลกตะวันตกจึงทั้งทึ่งและตกตะลึงไปตามๆ กัน . แคธลีน บรูคส์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของเอ็กซ์ทีบี ตั้งข้อสังเกตว่า ถ้าจีนไล่ตามอเมริกาในการแข่งขันด้านเอไอได้เร็วขนาดนี้ เศรษฐศาสตร์ของเอไอจะต้องเปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง . สัตยา นาเดลลา ซีอีโอไมโครซอฟท์ โพสต์ก่อนที่ตลาดจะเปิดทำการในวันจันทร์ว่า เอไอต้นทุนต่ำเป็นสิ่งที่ดีสำหรับทุกคน กระนั้น ในที่ประชุมเวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรัมที่ดาวอส เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เขาเตือนว่า ตะวันตกควรจับตาพัฒนาการของจีนอย่างจริงจังมาก . ไมโครซอฟท์นั้นประกาศเอาไว้ว่า ปีนี้มีแผนลงทุนในเอไอ 80,000 ล้านดอลลาร์ ส่วนคู่แข่งอย่างเมตา ก็ประกาศลงทุนอย่างน้อย 60,000 ล้านดอลลาร์ . คาดกันไว้ว่าเม็ดเงินเหล่านี้จำนวนมากจะไปตกอยู่กับเอ็นวิเดีย ซึ่งเวลานี้เป็นเจ้าในเรื่องชิปเอไอระดับล้ำยุคที่ใช้กับเอไอ แต่เมื่อมีข่าวดีปชีคออกมา ราคาหุ้นของเอ็นวิเดีย จึงกลับร่วงหนักถึง 17% ในการซื้อขายเมื่อวันจันทร์ . ถือว่าสถานการณ์พิเศษมากที่ดีปซีค ซึ่งก็เช่นเดียวกับพวกบริษัทจีนอื่นๆ ถูกมาตรการจำกัดกีดกันของรัฐบาลสหรัฐฯ จึงไม่สามารถเข้าถึงเซมิคอนดักเตอร์ระดับล้ำยุคของเอ็นวิเดียได้ กลับสามารถพัฒนาโมเดลเอไอของตนลลจนทัดเทียมกับพวกยักษ์แนวหน้าระดับโลกได้ . วารสาร เอ็มไอที เทคโนโลยี รีวิว ชี้ว่า มาตรการควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯนั่นเอง ที่ผลักดันให้สตาร์ทอัปจีนอย่างดีปซีค ต้องค้นหาหนทางที่เป็นนวัตกรรม ซึ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนาด้านซอฟต์แวร์ มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพของชิปรุ่นเก่ากว่าเท่าที่จะหาได้ ตลอดจนเน้นการรวมเครือข่ายทรัพยากร และการร่วมมือประสานงานกัน . กระนั้น อีลอน มัสก์ ที่ลงทุนก้อนใหญ่ในชิปเอ็นวิเดียสำหรับบริษัทเอไอของตนเองคือ เอ็กซ์เอไอ รวมทั้งยังเป็นซีอีโอของสเกลเอไอ สตาร์ทอัปชื่อดังแห่งซิลลิคอนแวลลีย์ที่ได้รับการสนับสนุนจากแอมะซอนและเมตา ออกมาแสดงความสงสัยข้องใจว่า ดีปซีค น่าจะแอบเข้าถึงชิปเอช100 ของเอ็นวิเดียอย่างผิดกฎหมาย . อย่างไรก็ดี เอ็นวิเดียออกคำแถลงยืนยันว่า เทคโนโลยีของดีปซีคปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ อย่างครบถ้วน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009080 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    6
    1 Comments 0 Shares 1285 Views 0 Reviews
  • รบเถิดอรชุน

    นั่งดูข่าวสารบ้านเมืองแล้ว อยู่ๆผมก็นึกถึงเนื้อหาเล็กๆในตอนหนึ่งของ “ภควัทคีตา” ในมหากาพย์มหาภารตะครับ

    สำหรับท่านที่ไม่รู้จักภควัทคีตา ก็ขออธิบายสั้นๆว่าเป็นบทคำพูดโต้ตอบระหว่างเจ้าชายอรชุนกับกฤษณะในสงครามที่ทุ่งกุรุเกษตร อันเป็นสงครามใหญ่ระหว่างกองทัพสองฝ่ายคือฝ่ายเการพและฝ่ายปาณฑพ

    และผู้นำนักรบของทั้งสองฝ่ายนั้นล้วนเป็นพี่น้องเครือญาติกันทั้งสิ้น

    เจ้าชายอรชุนนั้นเป็นนักรบที่มีฝีมือยิงธนูเป็นเลิศของฝ่ายปาณฑพ (อ่านว่า ปาน-ดบ)

    ส่วนกฤษณะนั้น คือ สารถีคนขับรถม้าให้อรชุนในสนามรบ ซึ่งอันที่จริงกฤษณะนั้นคือพระนารายณ์อวตารลงมาบนโลกมนุษย์อีกทีครับ

    เหตุที่สองคนนี้เขาต้องโต้เถียงพูดคุยกันยาวเหยียดนั้น ก็เพราะเจ้าชายอรชุนเกิดความเวทนาและหดหู่ใจที่เห็นญาติพี่น้องทั้งกษัตริย์และเจ้าชายทั้งหลายยกทัพมาเข่นฆ่ากันเองจนเลือดนองแผ่นดินเพื่อแย่งชิงอำนาจ

    อรชุนตัดสินใจผละออกจากการรบ กฤษณะจึงได้เข้าทัดทาน พร้อมกับยกหลักเหตุผลต่างๆนานาเพื่อให้อรชุนกลับเข้าสู่สนามรบ

    กฤษณะได้สอนอรชุนว่า “การหลีกเลี่ยงหน้าที่นั้นเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เกิดในวรรณะกษัตริย์และนักรบเช่นอรชุน“

    ”หากท่านละทิ้งการรบแล้ว นอกจากจะเสียชื่อเสื่อมเกียรติแล้ว ยังถือเป็นการทำผิดต่อหน้าที่ของตนเอง“

    ”เมื่อท่านกลับเข้าสนามรบ ก็ขอให้ทำหน้าที่นักรบโดยไม่ยึดติดกับความสำเร็จหรือความล้มเหลว จะแพ้หรือชนะนั้นไม่สำคัญ เพราะเมื่อท่านได้ทำหน้าที่นักรบของตนเองอย่างเต็มที่และไม่คิดถึงผลประโยชน์ส่วนตนแล้ว นั่นแหละคือหนทางสู่ความสงบอย่างแท้จริง“

    ผมชอบตรงที่พระกฤษณะบอกว่า ”ชนะก็ได้เป็นใหญ่ในปฐพี แต่ถ้าแพ้ก็ได้ขึ้นสวรรค์เพราะได้ทำหน้าที่ของตนแล้ว“

    ด้วยคำว่า “ธรรมะ” ของพระกฤษณะคือ “หน้าที่”

    เช่นเดียวกับหลักการบูชิโดของซามูไร ที่ยึดถือในคุณธรรมสองประการ คือ จิริกิ (ความยุติธรรม) และกิริ (ความรับผิดชอบในหน้าที่)

    คนเราต้องรู้จักหน้าที่

    เมื่อเกิดมาชาติหนึ่งแล้ว เมื่อได้อยู่ฐานะหรือตำแหน่งอะไร ก็ต้องทำหน้าที่ของตนเองให้สุดความสามารถ

    เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ต้องทำหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี

    เป็นผู้ว่าราชการจังหวัด ก็ต้องทำหน้าที่ผู้ว่าราชการจังหวัด

    อะไรที่ไม่ใช่หน้าที่ เช่น จัดสัมมนาหรือไปออกงานอีเว้นท์น่ะ ไม่ต้องไปทำ

    หวังว่าคงจะเตือนสติใครได้บ้าง เพราะถ้าท่านทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถแล้ว ชาวบ้านเขาจะรู้เองแหละ

    …รบเถิดอรชุน…


    นัทแนะ
    รบเถิดอรชุน นั่งดูข่าวสารบ้านเมืองแล้ว อยู่ๆผมก็นึกถึงเนื้อหาเล็กๆในตอนหนึ่งของ “ภควัทคีตา” ในมหากาพย์มหาภารตะครับ สำหรับท่านที่ไม่รู้จักภควัทคีตา ก็ขออธิบายสั้นๆว่าเป็นบทคำพูดโต้ตอบระหว่างเจ้าชายอรชุนกับกฤษณะในสงครามที่ทุ่งกุรุเกษตร อันเป็นสงครามใหญ่ระหว่างกองทัพสองฝ่ายคือฝ่ายเการพและฝ่ายปาณฑพ และผู้นำนักรบของทั้งสองฝ่ายนั้นล้วนเป็นพี่น้องเครือญาติกันทั้งสิ้น เจ้าชายอรชุนนั้นเป็นนักรบที่มีฝีมือยิงธนูเป็นเลิศของฝ่ายปาณฑพ (อ่านว่า ปาน-ดบ) ส่วนกฤษณะนั้น คือ สารถีคนขับรถม้าให้อรชุนในสนามรบ ซึ่งอันที่จริงกฤษณะนั้นคือพระนารายณ์อวตารลงมาบนโลกมนุษย์อีกทีครับ เหตุที่สองคนนี้เขาต้องโต้เถียงพูดคุยกันยาวเหยียดนั้น ก็เพราะเจ้าชายอรชุนเกิดความเวทนาและหดหู่ใจที่เห็นญาติพี่น้องทั้งกษัตริย์และเจ้าชายทั้งหลายยกทัพมาเข่นฆ่ากันเองจนเลือดนองแผ่นดินเพื่อแย่งชิงอำนาจ อรชุนตัดสินใจผละออกจากการรบ กฤษณะจึงได้เข้าทัดทาน พร้อมกับยกหลักเหตุผลต่างๆนานาเพื่อให้อรชุนกลับเข้าสู่สนามรบ กฤษณะได้สอนอรชุนว่า “การหลีกเลี่ยงหน้าที่นั้นเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เกิดในวรรณะกษัตริย์และนักรบเช่นอรชุน“ ”หากท่านละทิ้งการรบแล้ว นอกจากจะเสียชื่อเสื่อมเกียรติแล้ว ยังถือเป็นการทำผิดต่อหน้าที่ของตนเอง“ ”เมื่อท่านกลับเข้าสนามรบ ก็ขอให้ทำหน้าที่นักรบโดยไม่ยึดติดกับความสำเร็จหรือความล้มเหลว จะแพ้หรือชนะนั้นไม่สำคัญ เพราะเมื่อท่านได้ทำหน้าที่นักรบของตนเองอย่างเต็มที่และไม่คิดถึงผลประโยชน์ส่วนตนแล้ว นั่นแหละคือหนทางสู่ความสงบอย่างแท้จริง“ ผมชอบตรงที่พระกฤษณะบอกว่า ”ชนะก็ได้เป็นใหญ่ในปฐพี แต่ถ้าแพ้ก็ได้ขึ้นสวรรค์เพราะได้ทำหน้าที่ของตนแล้ว“ ด้วยคำว่า “ธรรมะ” ของพระกฤษณะคือ “หน้าที่” เช่นเดียวกับหลักการบูชิโดของซามูไร ที่ยึดถือในคุณธรรมสองประการ คือ จิริกิ (ความยุติธรรม) และกิริ (ความรับผิดชอบในหน้าที่) คนเราต้องรู้จักหน้าที่ เมื่อเกิดมาชาติหนึ่งแล้ว เมื่อได้อยู่ฐานะหรือตำแหน่งอะไร ก็ต้องทำหน้าที่ของตนเองให้สุดความสามารถ เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ต้องทำหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ว่าราชการจังหวัด ก็ต้องทำหน้าที่ผู้ว่าราชการจังหวัด อะไรที่ไม่ใช่หน้าที่ เช่น จัดสัมมนาหรือไปออกงานอีเว้นท์น่ะ ไม่ต้องไปทำ หวังว่าคงจะเตือนสติใครได้บ้าง เพราะถ้าท่านทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถแล้ว ชาวบ้านเขาจะรู้เองแหละ …รบเถิดอรชุน… นัทแนะ
    0 Comments 0 Shares 211 Views 0 Reviews
  • Elon Musk ได้ก่อตั้งหน่วยงานใหม่ชื่อว่า Department of Government Efficiency (DOGE) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของรัฐบาลสหรัฐฯ หน่วยงานนี้มีเป้าหมายในการลดการสูญเสียทรัพยากรและการทุจริตในหน่วยงานรัฐบาล โดยการใช้เทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ที่ทันสมัย

    DOGE ได้เปิดเว็บไซต์รับสมัครงานสำหรับตำแหน่งวิศวกรซอฟต์แวร์และบุคลากรด้านเทคโนโลยีอื่น ๆ โดยผู้สมัครต้องเป็นพลเมืองสหรัฐฯ และทำงานเต็มเวลาในสำนักงานที่ Washington, DC ผู้สมัครต้องกรอกข้อมูลติดต่อ อัปโหลดประวัติย่อ และระบุความสามารถพิเศษของตน

    หน่วยงานนี้จะมีสำนักงานในอาคาร Eisenhower Executive Office Building ภายในทำเนียบขาว และจะมีทีมงาน DOGE อย่างน้อย 4 คนในแต่ละหน่วยงานรัฐบาลเพื่อดำเนินการตามโปรแกรม หน่วยงานนี้จะทำงานร่วมกับ White House Office of Management and Budget เพื่อระบุการลดค่าใช้จ่ายและเสนอแนะการปรับปรุงภายในวันที่ 4 กรกฎาคม 2026

    การก่อตั้ง DOGE ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากสหภาพแรงงานที่เป็นตัวแทนของพนักงานรัฐบาลหลายแสนคน โดยกล่าวหาว่า DOGE ละเมิดกฎหมายสหรัฐฯ ที่กำหนดให้มีการตรวจสอบความขัดแย้งทางผลประโยชน์และความโปร่งใส

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/27/now-hiring-elon-musks-department-of-government-efficiency-sets-up-job-site
    Elon Musk ได้ก่อตั้งหน่วยงานใหม่ชื่อว่า Department of Government Efficiency (DOGE) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของรัฐบาลสหรัฐฯ หน่วยงานนี้มีเป้าหมายในการลดการสูญเสียทรัพยากรและการทุจริตในหน่วยงานรัฐบาล โดยการใช้เทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ที่ทันสมัย DOGE ได้เปิดเว็บไซต์รับสมัครงานสำหรับตำแหน่งวิศวกรซอฟต์แวร์และบุคลากรด้านเทคโนโลยีอื่น ๆ โดยผู้สมัครต้องเป็นพลเมืองสหรัฐฯ และทำงานเต็มเวลาในสำนักงานที่ Washington, DC ผู้สมัครต้องกรอกข้อมูลติดต่อ อัปโหลดประวัติย่อ และระบุความสามารถพิเศษของตน หน่วยงานนี้จะมีสำนักงานในอาคาร Eisenhower Executive Office Building ภายในทำเนียบขาว และจะมีทีมงาน DOGE อย่างน้อย 4 คนในแต่ละหน่วยงานรัฐบาลเพื่อดำเนินการตามโปรแกรม หน่วยงานนี้จะทำงานร่วมกับ White House Office of Management and Budget เพื่อระบุการลดค่าใช้จ่ายและเสนอแนะการปรับปรุงภายในวันที่ 4 กรกฎาคม 2026 การก่อตั้ง DOGE ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากสหภาพแรงงานที่เป็นตัวแทนของพนักงานรัฐบาลหลายแสนคน โดยกล่าวหาว่า DOGE ละเมิดกฎหมายสหรัฐฯ ที่กำหนดให้มีการตรวจสอบความขัดแย้งทางผลประโยชน์และความโปร่งใส https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/27/now-hiring-elon-musks-department-of-government-efficiency-sets-up-job-site
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Now hiring: Elon Musk’s Department of Government Efficiency sets up job site
    Elon Musk’s Department of Government Efficiency has set up a new job site to recruit full-time, salaried positions for software engineers and other tech staffers.
    0 Comments 0 Shares 151 Views 0 Reviews
  • จีนท้าทาย OpenAI! Qwen AI เปิดตัวฟรี เน้นมัลติโมดัล-วิเคราะห์รูปภาพแม่นยำระดับเซียน

    เมื่อเร็ว ๆ นี้ วงการ AI ของจีนได้สร้างความตื่นตัวด้วยการเปิดตัว DeepSeek R1 โมเดลปัญญาประดิษฐ์ ที่ทำคะแนนเหนือ openAI ที่ทำคะแนนเหนือ ChatGPT-o1 (โมเดลที่เก่งที่สุดของ OpenAI ณ ปัจจุบัน) และ Claude 3.5 ในหลาย ๆ มิติเช่น งานด้านคณิตศาสตร์และเหตุผลเชิงตรรกะ รวมถึงการประมวลผลข้อความและโค้ดที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมยังใช้งานได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ เพราะเป็นโมเดลที่กระชับกว่า ไม่ได้ใช้ทรัพยากรมากเหมือน chatGPT และ จุดเด่นที่ทำให้ DeepSeek R1 แตกต่างจากโมเดลอื่น ๆ คือการเป็น โอเพนซอร์ส ที่สามารถดาวน์โหลดโค้ดต้นฉบับมาใช้งานบนคอมพิวเตอร์ส่วนตัวได้ทันที (ต่างกับ openAI ที่ไม่เปิดเผย code แม้ว่าจะมีคำว่า open อยู่บนชื่อก็ตาม) แต่ถึงกระนั้น DeepSeek R1 ยังมีจุดอ่อนสำคัญคือ ปัจจุบันไม่สามารถวิเคราะห์รูปภาพได้ และนี่คือช่องว่างที่ Qwen โมเดล AI จาก Alibaba Cloud ฉีกกฎด้วยการเปิดตัว Qwen2.5-VL โมเดลที่สามารถประมวลผลภาษากับภาพร่วมกัน ใช้งานฟรี ซึ่งอาจเป็นมาตรฐานใหม่ให้กับ AI ยุคนี้!

    Qwen2.5-VL: ความสามารถที่ DeepSeek R1 ทำไม่ได้
    1. วิเคราะห์ภาพระดับเทพ
    Qwen2.5-VL ไม่ใช่แค่ตรวจจับวัตถุทั่วไป เช่น ดอกไม้หรือสัตว์ แต่ยังเข้าใจ แผนภูมิ กราฟิก ไอคอน และแม้แต่ โครงสร้างเอกสาร ในรูปภาพได้อย่างแม่นยำ พร้อมระบุตำแหน่งวัตถุ เพื่อใช้ต่อในระบบอัตโนมัติ เช่น
    o ตรวจจับนักบิดในภาพพร้อมสถานะสวมหมวกนิรภัย
    o นับจำนวนนกในภาพแม้เห็นแค่ส่วนหัว
    o แยกข้อมูลจากใบแจ้งหนี้หรือตารางในภาพ ส่งออกเป็นโครงสร้างข้อมูลเพื่อใช้ในงานธุรกิจ
    2. ประมวลผลวิดีโอยาว 1 ชั่วโมง + จับเหตุการณ์เฉพาะช่วงเวลา
    ด้วยเทคโนโลยี Dynamic Frame Rate และ Absolute Time Encoding โมเดลนี้สามารถสรุปเนื้อหาวิดีโอยาวระดับชั่วโมง และระบุเหตุการณ์สำคัญได้แม่นยำถึงระดับวินาที เช่น การโต้ตอบระหว่างผู้ใช้กับฟีเจอร์สร้างภาพในวิดีโอ
    3. ดึงข้อความจากภาพ รองรับมือหลายภาษา
    เพิ่มความแม่นยำในการอ่านข้อความจากภาพ ไม่ว่าจะเป็นภาษาจีน ภาษาอังกฤษ หรือภาษาอื่น ๆ แม้ข้อความจะเอียงหรืออยู่ในสภาพแวดล้อมซับซ้อน เช่น ตรวจสอบที่อยู่บนใบจัดส่งกับป้ายหน้าบ้านเพื่อยืนยันความถูกต้อง
    4. Visual Agent
    Qwen2.5-VL ทำหน้าที่เป็น "ตัวแทนอัจฉริยะ" ที่เชื่อมต่อกับเครื่องมือต่าง ๆ โดยตรง เช่น ควบคุมคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนผ่านการประมวลผลภาพ และสร้างผลลัพธ์แบบมีโครงสร้างเพื่อส่งต่อให้ระบบอื่น

    ในขณะที่ DeepSeek R1 โดดเด่นด้านคณิตศาสตร์และเหตุผล Qwen2.5-VL ได้ก้าวข้ามขีดจำกัดด้วยความสามารถมัลติโมดัลที่สมบูรณ์แบบ พร้อมการสนับสนุนจากระบบ Cloud ของ Alibaba

    ผู้ก่อตั้งและข่าวสาร :
    https://x.com/huybery
    https://x.com/Alibaba_Qwen

    ใช้งาน AI ในข่าวฟรี สมัครฟรี ไม่มีโฆษณาที่: https://chat.qwenlm.ai/
    อ้างอิง: https://x.com/huybery

    คำอธิบายภาพ
    ภาพแรกแสดงการเปรียบเทียบระหว่างการแข่งขันของ โมเดล Qwen2.5-VL 72B เช่น การแก้ปัญหาในระดับมหาวิทยาลัย การอ่านเอกสารและแผนภูมิ การตอบคำถามทางภาพทั่วไป การคำนวณคณิตศาสตร์ การเข้าใจวิดีโอ และการควบคุมอุปกรณ์ผ่านภาพ ซึ่ง โมเดล Qwen2.5-VL 72B เก่งที่สุดในงานจำพวกการอ่านเอกสารและแผนภูมิ นอกจากนี้ยังทำได้ดีในงานตอบคำถามทางภาพทั่วไป

    คลิปมาจาก โมเดล Qwen2.5-plus แปลงข้อความ “Generate Thai people using the ThaiTime.co app everywhere!” เป็นวีดีโอ

    ภาพที่ 2 แสดงการถาม Qwen2.5-plus ว่า “รู้จัก Thaitimes.co ไหม” เพื่อทดสอบว่ามันสามารถหาข้อมูลใน internet ได้ลึกและเข้าใจภาษาไทย


    จีนท้าทาย OpenAI! Qwen AI เปิดตัวฟรี เน้นมัลติโมดัล-วิเคราะห์รูปภาพแม่นยำระดับเซียน เมื่อเร็ว ๆ นี้ วงการ AI ของจีนได้สร้างความตื่นตัวด้วยการเปิดตัว DeepSeek R1 โมเดลปัญญาประดิษฐ์ ที่ทำคะแนนเหนือ openAI ที่ทำคะแนนเหนือ ChatGPT-o1 (โมเดลที่เก่งที่สุดของ OpenAI ณ ปัจจุบัน) และ Claude 3.5 ในหลาย ๆ มิติเช่น งานด้านคณิตศาสตร์และเหตุผลเชิงตรรกะ รวมถึงการประมวลผลข้อความและโค้ดที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมยังใช้งานได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ เพราะเป็นโมเดลที่กระชับกว่า ไม่ได้ใช้ทรัพยากรมากเหมือน chatGPT และ จุดเด่นที่ทำให้ DeepSeek R1 แตกต่างจากโมเดลอื่น ๆ คือการเป็น โอเพนซอร์ส ที่สามารถดาวน์โหลดโค้ดต้นฉบับมาใช้งานบนคอมพิวเตอร์ส่วนตัวได้ทันที (ต่างกับ openAI ที่ไม่เปิดเผย code แม้ว่าจะมีคำว่า open อยู่บนชื่อก็ตาม) แต่ถึงกระนั้น DeepSeek R1 ยังมีจุดอ่อนสำคัญคือ ปัจจุบันไม่สามารถวิเคราะห์รูปภาพได้ และนี่คือช่องว่างที่ Qwen โมเดล AI จาก Alibaba Cloud ฉีกกฎด้วยการเปิดตัว Qwen2.5-VL โมเดลที่สามารถประมวลผลภาษากับภาพร่วมกัน ใช้งานฟรี ซึ่งอาจเป็นมาตรฐานใหม่ให้กับ AI ยุคนี้! Qwen2.5-VL: ความสามารถที่ DeepSeek R1 ทำไม่ได้ 1. วิเคราะห์ภาพระดับเทพ Qwen2.5-VL ไม่ใช่แค่ตรวจจับวัตถุทั่วไป เช่น ดอกไม้หรือสัตว์ แต่ยังเข้าใจ แผนภูมิ กราฟิก ไอคอน และแม้แต่ โครงสร้างเอกสาร ในรูปภาพได้อย่างแม่นยำ พร้อมระบุตำแหน่งวัตถุ เพื่อใช้ต่อในระบบอัตโนมัติ เช่น o ตรวจจับนักบิดในภาพพร้อมสถานะสวมหมวกนิรภัย o นับจำนวนนกในภาพแม้เห็นแค่ส่วนหัว o แยกข้อมูลจากใบแจ้งหนี้หรือตารางในภาพ ส่งออกเป็นโครงสร้างข้อมูลเพื่อใช้ในงานธุรกิจ 2. ประมวลผลวิดีโอยาว 1 ชั่วโมง + จับเหตุการณ์เฉพาะช่วงเวลา ด้วยเทคโนโลยี Dynamic Frame Rate และ Absolute Time Encoding โมเดลนี้สามารถสรุปเนื้อหาวิดีโอยาวระดับชั่วโมง และระบุเหตุการณ์สำคัญได้แม่นยำถึงระดับวินาที เช่น การโต้ตอบระหว่างผู้ใช้กับฟีเจอร์สร้างภาพในวิดีโอ 3. ดึงข้อความจากภาพ รองรับมือหลายภาษา เพิ่มความแม่นยำในการอ่านข้อความจากภาพ ไม่ว่าจะเป็นภาษาจีน ภาษาอังกฤษ หรือภาษาอื่น ๆ แม้ข้อความจะเอียงหรืออยู่ในสภาพแวดล้อมซับซ้อน เช่น ตรวจสอบที่อยู่บนใบจัดส่งกับป้ายหน้าบ้านเพื่อยืนยันความถูกต้อง 4. Visual Agent Qwen2.5-VL ทำหน้าที่เป็น "ตัวแทนอัจฉริยะ" ที่เชื่อมต่อกับเครื่องมือต่าง ๆ โดยตรง เช่น ควบคุมคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนผ่านการประมวลผลภาพ และสร้างผลลัพธ์แบบมีโครงสร้างเพื่อส่งต่อให้ระบบอื่น ในขณะที่ DeepSeek R1 โดดเด่นด้านคณิตศาสตร์และเหตุผล Qwen2.5-VL ได้ก้าวข้ามขีดจำกัดด้วยความสามารถมัลติโมดัลที่สมบูรณ์แบบ พร้อมการสนับสนุนจากระบบ Cloud ของ Alibaba ผู้ก่อตั้งและข่าวสาร : https://x.com/huybery https://x.com/Alibaba_Qwen ใช้งาน AI ในข่าวฟรี สมัครฟรี ไม่มีโฆษณาที่: https://chat.qwenlm.ai/ อ้างอิง: https://x.com/huybery คำอธิบายภาพ ภาพแรกแสดงการเปรียบเทียบระหว่างการแข่งขันของ โมเดล Qwen2.5-VL 72B เช่น การแก้ปัญหาในระดับมหาวิทยาลัย การอ่านเอกสารและแผนภูมิ การตอบคำถามทางภาพทั่วไป การคำนวณคณิตศาสตร์ การเข้าใจวิดีโอ และการควบคุมอุปกรณ์ผ่านภาพ ซึ่ง โมเดล Qwen2.5-VL 72B เก่งที่สุดในงานจำพวกการอ่านเอกสารและแผนภูมิ นอกจากนี้ยังทำได้ดีในงานตอบคำถามทางภาพทั่วไป คลิปมาจาก โมเดล Qwen2.5-plus แปลงข้อความ “Generate Thai people using the ThaiTime.co app everywhere!” เป็นวีดีโอ ภาพที่ 2 แสดงการถาม Qwen2.5-plus ว่า “รู้จัก Thaitimes.co ไหม” เพื่อทดสอบว่ามันสามารถหาข้อมูลใน internet ได้ลึกและเข้าใจภาษาไทย
    0 Comments 0 Shares 304 Views 0 Reviews
  • ตอนนี้ Intel กำลังลดแลก แจกแถมในทุกระดับเลยจริงๆ

    Intel ได้ลดราคาของซีพียู Xeon 6 'Granite Rapids' อย่างเงียบๆ หลังจากเปิดตัวได้ประมาณสี่เดือน การลดราคานี้มีความสำคัญมาก เนื่องจากรุ่นเรือธงตอนนี้มีราคาลดลงถึง $5,340 ทำให้ซีพียู Xeon 6 ของ Intel มีราคาถูกกว่าโปรเซสเซอร์ EPYC 'Genoa' ของ AMD ทั้งในแง่ของตัวเลขและราคาต่อคอร์

    ซีพียู Xeon 6 'Granite Rapids' ของ Intel เคยเป็นซีพียูที่แพงที่สุดของบริษัท แต่ตอนนี้ราคาถูกลงมาก การลดราคานี้ไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ แต่มีการปรับในฐานข้อมูลออนไลน์ของ Intel ที่ ark.intel.com ซึ่งหมายความว่าการเปลี่ยนแปลงราคานี้เป็นทางการ

    การลดราคานี้มีตั้งแต่ $1,585 สำหรับ Xeon 6975P ที่มี 96 คอร์ ไปจนถึง $5,340 สำหรับ Xeon 6980P ที่มี 128 คอร์ สามในห้าของซีพียู Xeon 6 'Granite Rapids' มีราคาถูกลง 30% ในขณะที่สองรุ่นมีการลดราคาลง 13% (6972P) และ 20% (6952P)

    การลดราคานี้ทำให้ซีพียู Xeon 6 ของ Intel มีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้นสำหรับผู้ให้บริการคลาวด์ที่ต้องการประสิทธิภาพต่อซ็อกเก็ต คอร์ต่อซ็อกเก็ต ประสิทธิภาพต่อวัตต์ และต้นทุนรวมในการเป็นเจ้าของ (TCO) อย่างไรก็ตาม TCO อาจไม่ใช่จุดแข็งของ Granite Rapids เมื่อเทียบกับ AMD's Genoa เนื่องจากซีพียู EPYC 9654 ของ AMD มีพลังงานฐานที่ 360W ในขณะที่ Xeon 6972P ของ Intel ใช้พลังงานถึง 500W

    การลดราคานี้อาจเป็นสัญญาณว่า Intel ไม่พอใจกับจำนวนหน่วยที่ขายได้และต้องการเพิ่มยอดขาย อีกเหตุผลหนึ่งอาจเป็นความตั้งใจของ Intel ที่จะหยุดหรือชะลอการเติบโตของ AMD ในตลาดซีพียูสำหรับศูนย์ข้อมูล

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intel-quietly-slashes-prices-of-xeon-6-cpus-by-up-to-usd5-340
    ตอนนี้ Intel กำลังลดแลก แจกแถมในทุกระดับเลยจริงๆ Intel ได้ลดราคาของซีพียู Xeon 6 'Granite Rapids' อย่างเงียบๆ หลังจากเปิดตัวได้ประมาณสี่เดือน การลดราคานี้มีความสำคัญมาก เนื่องจากรุ่นเรือธงตอนนี้มีราคาลดลงถึง $5,340 ทำให้ซีพียู Xeon 6 ของ Intel มีราคาถูกกว่าโปรเซสเซอร์ EPYC 'Genoa' ของ AMD ทั้งในแง่ของตัวเลขและราคาต่อคอร์ ซีพียู Xeon 6 'Granite Rapids' ของ Intel เคยเป็นซีพียูที่แพงที่สุดของบริษัท แต่ตอนนี้ราคาถูกลงมาก การลดราคานี้ไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ แต่มีการปรับในฐานข้อมูลออนไลน์ของ Intel ที่ ark.intel.com ซึ่งหมายความว่าการเปลี่ยนแปลงราคานี้เป็นทางการ การลดราคานี้มีตั้งแต่ $1,585 สำหรับ Xeon 6975P ที่มี 96 คอร์ ไปจนถึง $5,340 สำหรับ Xeon 6980P ที่มี 128 คอร์ สามในห้าของซีพียู Xeon 6 'Granite Rapids' มีราคาถูกลง 30% ในขณะที่สองรุ่นมีการลดราคาลง 13% (6972P) และ 20% (6952P) การลดราคานี้ทำให้ซีพียู Xeon 6 ของ Intel มีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้นสำหรับผู้ให้บริการคลาวด์ที่ต้องการประสิทธิภาพต่อซ็อกเก็ต คอร์ต่อซ็อกเก็ต ประสิทธิภาพต่อวัตต์ และต้นทุนรวมในการเป็นเจ้าของ (TCO) อย่างไรก็ตาม TCO อาจไม่ใช่จุดแข็งของ Granite Rapids เมื่อเทียบกับ AMD's Genoa เนื่องจากซีพียู EPYC 9654 ของ AMD มีพลังงานฐานที่ 360W ในขณะที่ Xeon 6972P ของ Intel ใช้พลังงานถึง 500W การลดราคานี้อาจเป็นสัญญาณว่า Intel ไม่พอใจกับจำนวนหน่วยที่ขายได้และต้องการเพิ่มยอดขาย อีกเหตุผลหนึ่งอาจเป็นความตั้งใจของ Intel ที่จะหยุดหรือชะลอการเติบโตของ AMD ในตลาดซีพียูสำหรับศูนย์ข้อมูล https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intel-quietly-slashes-prices-of-xeon-6-cpus-by-up-to-usd5-340
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Intel quietly slashes prices of Xeon 6 CPUs by up to $5,340
    They are still more expensive than AMD's competing EPYC, though.
    0 Comments 0 Shares 138 Views 0 Reviews
  • Dario Amoedi ซีอีโอของ Anthropic ได้กล่าวในงาน World Economic Forum 2025 ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ว่า AI อาจช่วยเพิ่มอายุขัยของมนุษย์เป็นสองเท่าในระยะเวลา 5 ถึง 10 ปี เขาเชื่อว่าเทคโนโลยี AI จะสามารถเร่งการพัฒนาในด้านชีววิทยาและการแพทย์ได้อย่างมาก

    Amoedi กล่าวว่าหากเราคิดถึงสิ่งที่มนุษย์อาจทำได้ในด้านชีววิทยาในระยะเวลา 100 ปี การเพิ่มอายุขัยของมนุษย์เป็นสองเท่าไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เขายังเสริมว่า AI อาจช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายนี้ได้ในระยะเวลาเพียง 5 ถึง 10 ปี

    นอกจากนี้ Amoedi ยังเชื่อว่าในปี 2026 หรือ 2027 เราจะมีระบบ AI ที่สามารถทำงานได้ดีกว่ามนุษย์ในเกือบทุกด้าน ความเชื่อนี้ไม่ได้เป็นของเขาเพียงคนเดียว ซีอีโอของ Nvidia และ SoftBank ก็มีความเชื่อเช่นเดียวกันว่า AI จะมีความสามารถเหนือกว่ามนุษย์ในอนาคตอันใกล้

    https://www.techspot.com/news/106515-anthropic-ceo-ai-could-double-human-lifespan-within.html
    Dario Amoedi ซีอีโอของ Anthropic ได้กล่าวในงาน World Economic Forum 2025 ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ว่า AI อาจช่วยเพิ่มอายุขัยของมนุษย์เป็นสองเท่าในระยะเวลา 5 ถึง 10 ปี เขาเชื่อว่าเทคโนโลยี AI จะสามารถเร่งการพัฒนาในด้านชีววิทยาและการแพทย์ได้อย่างมาก Amoedi กล่าวว่าหากเราคิดถึงสิ่งที่มนุษย์อาจทำได้ในด้านชีววิทยาในระยะเวลา 100 ปี การเพิ่มอายุขัยของมนุษย์เป็นสองเท่าไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เขายังเสริมว่า AI อาจช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายนี้ได้ในระยะเวลาเพียง 5 ถึง 10 ปี นอกจากนี้ Amoedi ยังเชื่อว่าในปี 2026 หรือ 2027 เราจะมีระบบ AI ที่สามารถทำงานได้ดีกว่ามนุษย์ในเกือบทุกด้าน ความเชื่อนี้ไม่ได้เป็นของเขาเพียงคนเดียว ซีอีโอของ Nvidia และ SoftBank ก็มีความเชื่อเช่นเดียวกันว่า AI จะมีความสามารถเหนือกว่ามนุษย์ในอนาคตอันใกล้ https://www.techspot.com/news/106515-anthropic-ceo-ai-could-double-human-lifespan-within.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Anthropic CEO says AI could double human lifespan within a decade
    Speaking during a panel titled "Technology in the World" at the 2025 World Economic Forum in Davos, Switzerland, Anthropic's Dario Amoedi said, "If you think about what...
    0 Comments 0 Shares 86 Views 0 Reviews
More Results