• นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” ยุทธการฝูงผึ้ง ”
    ตอนที่ 5 (ตอนสุดท้าย)
    นักล่า คิดหลายมิติ เล่นไพ่ทีละหลายใบ เดินหมากทีละหลายตัว แล้วเราจะวิเคราะห์แบบมิติเดียวเช่นนั้นหรือ
    ขบวนการไล่โจรร้ายเกมชิงเมือง ที่กำลังเป็นอยู่ในขณะนี้ ใครกำลังได้ ใครกำลังเสีย แน่นอน นักล่าอยากเคี้ยวไทยแลนด์แดนสมันน้อยเต็มแก่ พวกเขาหลอกใช้หมาไนเป็นเหยื่อล่อ หมาไนหลงคิดว่าตนเองได้เปรียบ มีสิงห์โตอยู่ข้างหลัง หมาไนผงาดพองขน เอาโลกมาล้อมประเทศ ชะล่าใจทำการใหญ่จะไปให้สุดซอย คาบกระดูกเนื้อติดมันไปหลายชิ้น คือพรบ.นิรโทษกรรม ที่ชาวเรามองเห็นกันชัด แต่ที่มันพ่วงไปด้วย โดยชาวเราอาจไม่ทันสนใจ คือ การแก้ไข รธน. ม.190
    ม. 190 ใคร ๆ ก็อยากให้แก้ ยกเว้นคนไทยตาดำ ๆ หมาไนบอก ถ้าแก้ได้ต่อไปนี้ จะทำอะไรไม่ต้องเห็นหัวใคร ไม่ต้องควักกระเป๋าเวลาลงคะแนน ประหยัดกระเป๋าไปโข นักล่าผมทอก็ชอบ จะเอาอะไรล่ะ ย้ายฐานทัพมาตั้งให้ทั่วราชอาณาจักรไทย ใครจะมาขวาง จะขุดทรัพยากรเอาไปเท่าไหร่ไม่มีใครรู้ นักล่าหน้าใหม่ผมดำตาตี่ บอกอย่างนี้อาเฮียอยากแลกข้าวกับรถไฟ ไม่น่ามีปัญหา
    เกมชิงเมือง ใครจะเลือกเดินทางใด ลองคิดกันดู
    – นักล่า ดูท่าทางคงจะคุยกับรัฐบาลน้องสาวแสนโง่ไปไม่ได้อีกนาน แม้จะได้เปรียบ และได้ประโยชน์ แต่การพูดกับคนโง่มาก ๆ นี่มันเหนื่อยนะ แล้วถ้ากำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็ม เอาไข่มุกทุกเม็ดในยูเรเซียมาร้อยเป็นสร้อยงามน่ะ ถ้าพูดกันไม่รู้เรื่อง สายสร้อยอาจขาดง่าย ๆ ยอมหรือ
    การเจรจาให้เปลี่ยนตัว จึงน่าจะมี หมาไนโจรร้าย จึงจำเป็นต้องเล่นให้สุดซอย เพื่อกลับมาบงการเอง เอง! หรือว่าจะมี “การปฏิบัติการอื่น” เปลี่ยนไพ่ใบใหม่ เดินหมากตัวใหม่ ก็น่าสนใจ แล้วจะเอาไพ่ใบไหนมาเล่น เอาหมากตัวไหนมาเดินล่ะ คุณทหารหวานใจเก่า หรือเหล่าดาราอินเตอร์ที่ CFR ส่งเข้ามาประกวด
    – หมาไนโจรร้าย ทางเลือกมีอยู่ 2 ทาง ถอยดีกว่า กลับไปตั้งหลักก่อน หรือจะใช้คติประจำใจหมาไน ข้าไม่ได้กิน พวกเอ็งก็อย่าหวัง เซียนแถวสำนักงานของชาติแห่งหนึ่ง ที่เพิ่งถูกมือดีปลดป้ายทิ้ง โทษฐานไม่เป็นสำนักงานของชาติ แต่เป็นของตระกูล กระซิบบอกมาว่า หมาไนครับลุง หมาไนไม่เคยเปลี่ยนสันดาน เอ้ย นิสัย ! (เดี๋ยวจะว่าหยาบคาย)
    – คุณทหาร โดนสื่อฟอกย้อม โยกซะศูนย์เสีย เดินเซอยู่นาน ไม่รู้ตอนนี้ศูนย์จะเข้าที่หรือยัง แต่ทหารก็มีหลายหน่วย หลายระดับ ทหารใหญ่บางคนที่คิดผิด เขาว่าไม่มีโอกาสคิดใหม่นะ แถมโอกาสจะอยู่บ้านเดิมอาจจะไม่มี ต้องหาที่เร่ร่อนเหมือนกัน (เวรกรรมมีจริง ! ) แต่เติบใหญ่มาจนบัดนี้ ปฎิญาณตนภายใต้ธงชัยเฉลิมพลมาหลายรอบ ไม่รู้ที่ยืน ตั้งศูนย์ไม่ตรง ก็ไปขายเต้าฮวยดีกว่า (ถ้ายังมีโอกาส) นะครับ
    – นางสาวแสนโง่ ไม่เขียนถึงเดี๋ยวจะน้อยใจ ทางเลือกหนูไม่มีมากหรอก อย่าไปเชื่อพวกพี่เลี้ยงใจร้ายเลยหนู ร่อนเร่ไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวหน้าเหี่ยวพุงโตหมดนะ หนุ่ม ๆ เขาฝากติงมา อยู่ในคุกมันไม่สนุกนะคะ เสื้อผ้าหน้าผม ใครจะไปตบแต่งให้เช้งกะเด๊ะได้ทั้งวัน ไอ้นั่นมันคุกในหนังนะคะ คิดให้ดีนะหนู
    – เอ้า ! หมดแล้วหรือยัง ตัวเอกของเกมชิงเมือง แล้วกันลืมลุงกำนัน ลืมได้ยังไง เดินซะหน้ามะเมื่อมขนาดนั้น ไม่ต้องห่วงหรอก ดูการปราศัยของลุงกำนันแล้ว แกเอาตัวรอดทุกรายการหรอกน่า พูดงี้จับใจคนไปหมด ทั้งหนุ่ม ทั้งสาวจริง สาวปลอม แย่งกันกอด เฮอ! มวลมหาประชาชนนี่น่ารักจริง ๆ ขอให้รอดปลอดภัยแล้วกันนะลุงกำนัน ตัดสินใจเดินทางนี้แล้ว ต้องให้กำลังใจกันหน่อย อย่าตกร่องระหว่างทาง อย่าติดลมบนจนลงไม่เป็นก็แล้วกัน
    – แต่ในเกมชิงเมือง ตัวเอกสำคัญ ตัวเอก ที่ขาดไม่ได้คือมวลมหาประชาชน โปรดกลับไปอ่านบทความ มวลมหาประชาชนอีกรอบนะครับ อ่านซ้ำ ๆ ให้รู้จักมวลมหาประชาชน จริง ๆ ถ้าเราไม่มีมวลมหาประชาชน จำนวนมหาศาล เช่นนี้ มีจิตใจและการแสดงออกเช่นนี้ ในทุกเวที เรามาไม่ถึงตรงนี้นะครับ มวลมหาประชาชนมีเอกลักษณ์ และเป็นปัจจัยสำคัญในสงครามชิงเมือง ซึ่งทำให้ทั้งนักล่า หมาไน และยายแสนโง่ นั่นมันไปไม่เป็นเดินเซกันเป็นแถว
    ขณะที่เขียนนี้ ยังไม่รู้ว่าใครจะเลือกเล่นบทไหน จะจบอย่างไร แต่ไม่ว่าบทไหน และจะจบอย่างไร มันแค่จบ season แรกเท่านั้นเอง มวลมหาประชาชนยังจะต้องเดินทางอีกไกล สู่การปฏิวัติประชาชน ปฏิรูปบ้านเมืองอย่างแท้จริง จะต้องไม่เพียงมีความกล้าหาญอดทน ออกมาขับไล่โจรร้ายเท่านั้น season ต่อไปมันจะหนักขึ้น ต้องเตรียมตัวทำความเข้าใจกับสิ่งที่เห็นและเป็นอยู่ในบ้านเราและบ้านเขา อย่างชัดเจน มีเวลาก็หาหนังสือพระราชนิพนธ์ พระมหาชนกมาอ่านกันนะครับ
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    25 มค 57
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” ยุทธการฝูงผึ้ง ” ตอนที่ 5 (ตอนสุดท้าย) นักล่า คิดหลายมิติ เล่นไพ่ทีละหลายใบ เดินหมากทีละหลายตัว แล้วเราจะวิเคราะห์แบบมิติเดียวเช่นนั้นหรือ ขบวนการไล่โจรร้ายเกมชิงเมือง ที่กำลังเป็นอยู่ในขณะนี้ ใครกำลังได้ ใครกำลังเสีย แน่นอน นักล่าอยากเคี้ยวไทยแลนด์แดนสมันน้อยเต็มแก่ พวกเขาหลอกใช้หมาไนเป็นเหยื่อล่อ หมาไนหลงคิดว่าตนเองได้เปรียบ มีสิงห์โตอยู่ข้างหลัง หมาไนผงาดพองขน เอาโลกมาล้อมประเทศ ชะล่าใจทำการใหญ่จะไปให้สุดซอย คาบกระดูกเนื้อติดมันไปหลายชิ้น คือพรบ.นิรโทษกรรม ที่ชาวเรามองเห็นกันชัด แต่ที่มันพ่วงไปด้วย โดยชาวเราอาจไม่ทันสนใจ คือ การแก้ไข รธน. ม.190 ม. 190 ใคร ๆ ก็อยากให้แก้ ยกเว้นคนไทยตาดำ ๆ หมาไนบอก ถ้าแก้ได้ต่อไปนี้ จะทำอะไรไม่ต้องเห็นหัวใคร ไม่ต้องควักกระเป๋าเวลาลงคะแนน ประหยัดกระเป๋าไปโข นักล่าผมทอก็ชอบ จะเอาอะไรล่ะ ย้ายฐานทัพมาตั้งให้ทั่วราชอาณาจักรไทย ใครจะมาขวาง จะขุดทรัพยากรเอาไปเท่าไหร่ไม่มีใครรู้ นักล่าหน้าใหม่ผมดำตาตี่ บอกอย่างนี้อาเฮียอยากแลกข้าวกับรถไฟ ไม่น่ามีปัญหา เกมชิงเมือง ใครจะเลือกเดินทางใด ลองคิดกันดู – นักล่า ดูท่าทางคงจะคุยกับรัฐบาลน้องสาวแสนโง่ไปไม่ได้อีกนาน แม้จะได้เปรียบ และได้ประโยชน์ แต่การพูดกับคนโง่มาก ๆ นี่มันเหนื่อยนะ แล้วถ้ากำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็ม เอาไข่มุกทุกเม็ดในยูเรเซียมาร้อยเป็นสร้อยงามน่ะ ถ้าพูดกันไม่รู้เรื่อง สายสร้อยอาจขาดง่าย ๆ ยอมหรือ การเจรจาให้เปลี่ยนตัว จึงน่าจะมี หมาไนโจรร้าย จึงจำเป็นต้องเล่นให้สุดซอย เพื่อกลับมาบงการเอง เอง! หรือว่าจะมี “การปฏิบัติการอื่น” เปลี่ยนไพ่ใบใหม่ เดินหมากตัวใหม่ ก็น่าสนใจ แล้วจะเอาไพ่ใบไหนมาเล่น เอาหมากตัวไหนมาเดินล่ะ คุณทหารหวานใจเก่า หรือเหล่าดาราอินเตอร์ที่ CFR ส่งเข้ามาประกวด – หมาไนโจรร้าย ทางเลือกมีอยู่ 2 ทาง ถอยดีกว่า กลับไปตั้งหลักก่อน หรือจะใช้คติประจำใจหมาไน ข้าไม่ได้กิน พวกเอ็งก็อย่าหวัง เซียนแถวสำนักงานของชาติแห่งหนึ่ง ที่เพิ่งถูกมือดีปลดป้ายทิ้ง โทษฐานไม่เป็นสำนักงานของชาติ แต่เป็นของตระกูล กระซิบบอกมาว่า หมาไนครับลุง หมาไนไม่เคยเปลี่ยนสันดาน เอ้ย นิสัย ! (เดี๋ยวจะว่าหยาบคาย) – คุณทหาร โดนสื่อฟอกย้อม โยกซะศูนย์เสีย เดินเซอยู่นาน ไม่รู้ตอนนี้ศูนย์จะเข้าที่หรือยัง แต่ทหารก็มีหลายหน่วย หลายระดับ ทหารใหญ่บางคนที่คิดผิด เขาว่าไม่มีโอกาสคิดใหม่นะ แถมโอกาสจะอยู่บ้านเดิมอาจจะไม่มี ต้องหาที่เร่ร่อนเหมือนกัน (เวรกรรมมีจริง ! ) แต่เติบใหญ่มาจนบัดนี้ ปฎิญาณตนภายใต้ธงชัยเฉลิมพลมาหลายรอบ ไม่รู้ที่ยืน ตั้งศูนย์ไม่ตรง ก็ไปขายเต้าฮวยดีกว่า (ถ้ายังมีโอกาส) นะครับ – นางสาวแสนโง่ ไม่เขียนถึงเดี๋ยวจะน้อยใจ ทางเลือกหนูไม่มีมากหรอก อย่าไปเชื่อพวกพี่เลี้ยงใจร้ายเลยหนู ร่อนเร่ไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวหน้าเหี่ยวพุงโตหมดนะ หนุ่ม ๆ เขาฝากติงมา อยู่ในคุกมันไม่สนุกนะคะ เสื้อผ้าหน้าผม ใครจะไปตบแต่งให้เช้งกะเด๊ะได้ทั้งวัน ไอ้นั่นมันคุกในหนังนะคะ คิดให้ดีนะหนู – เอ้า ! หมดแล้วหรือยัง ตัวเอกของเกมชิงเมือง แล้วกันลืมลุงกำนัน ลืมได้ยังไง เดินซะหน้ามะเมื่อมขนาดนั้น ไม่ต้องห่วงหรอก ดูการปราศัยของลุงกำนันแล้ว แกเอาตัวรอดทุกรายการหรอกน่า พูดงี้จับใจคนไปหมด ทั้งหนุ่ม ทั้งสาวจริง สาวปลอม แย่งกันกอด เฮอ! มวลมหาประชาชนนี่น่ารักจริง ๆ ขอให้รอดปลอดภัยแล้วกันนะลุงกำนัน ตัดสินใจเดินทางนี้แล้ว ต้องให้กำลังใจกันหน่อย อย่าตกร่องระหว่างทาง อย่าติดลมบนจนลงไม่เป็นก็แล้วกัน – แต่ในเกมชิงเมือง ตัวเอกสำคัญ ตัวเอก ที่ขาดไม่ได้คือมวลมหาประชาชน โปรดกลับไปอ่านบทความ มวลมหาประชาชนอีกรอบนะครับ อ่านซ้ำ ๆ ให้รู้จักมวลมหาประชาชน จริง ๆ ถ้าเราไม่มีมวลมหาประชาชน จำนวนมหาศาล เช่นนี้ มีจิตใจและการแสดงออกเช่นนี้ ในทุกเวที เรามาไม่ถึงตรงนี้นะครับ มวลมหาประชาชนมีเอกลักษณ์ และเป็นปัจจัยสำคัญในสงครามชิงเมือง ซึ่งทำให้ทั้งนักล่า หมาไน และยายแสนโง่ นั่นมันไปไม่เป็นเดินเซกันเป็นแถว ขณะที่เขียนนี้ ยังไม่รู้ว่าใครจะเลือกเล่นบทไหน จะจบอย่างไร แต่ไม่ว่าบทไหน และจะจบอย่างไร มันแค่จบ season แรกเท่านั้นเอง มวลมหาประชาชนยังจะต้องเดินทางอีกไกล สู่การปฏิวัติประชาชน ปฏิรูปบ้านเมืองอย่างแท้จริง จะต้องไม่เพียงมีความกล้าหาญอดทน ออกมาขับไล่โจรร้ายเท่านั้น season ต่อไปมันจะหนักขึ้น ต้องเตรียมตัวทำความเข้าใจกับสิ่งที่เห็นและเป็นอยู่ในบ้านเราและบ้านเขา อย่างชัดเจน มีเวลาก็หาหนังสือพระราชนิพนธ์ พระมหาชนกมาอ่านกันนะครับ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 25 มค 57
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 212 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากดวงดาว: Jim Lovell นักบินอวกาศผู้เปลี่ยนวิกฤตให้กลายเป็นตำนาน

    เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2025 โลกสูญเสียหนึ่งในนักบินอวกาศผู้ยิ่งใหญ่—Jim Lovell ในวัย 97 ปี ผู้บัญชาการภารกิจ Apollo 13 ที่เกือบกลายเป็นโศกนาฏกรรมกลางอวกาศ แต่กลับกลายเป็นเรื่องราวแห่งความกล้าหาญและความคิดสร้างสรรค์ที่โลกไม่มีวันลืม

    Lovell ไม่ได้เป็นเพียงนักบินอวกาศ แต่เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นผู้นำภายใต้แรงกดดัน เขาเคยบินในอวกาศถึง 4 ครั้ง—Gemini 7, Gemini 12, Apollo 8 และ Apollo 13—มากกว่าทุกคนในยุคแรกของ NASA และเป็นหนึ่งในสามคนที่เคยไปถึงดวงจันทร์สองครั้งโดยไม่เคยได้เหยียบพื้นผิว

    ในภารกิจ Apollo 13 ปี 1970 เมื่อถังออกซิเจนระเบิดกลางทางไปดวงจันทร์ Lovell และทีมงานต้องใช้ยาน Lunar Module เป็น “เรือชูชีพ” เพื่อกลับโลกอย่างปลอดภัย โดยใช้การนำทางจากตำแหน่งของโลกผ่านหน้าต่างยาน และประดิษฐ์ตัวกรอง CO₂ จากเทปกาวและถุงเท้า

    ก่อนหน้านั้น เขาเคยเป็นนักบินในภารกิจ Apollo 8 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มนุษย์โคจรรอบดวงจันทร์ และได้เห็นภาพ Earthrise อันโด่งดังที่เปลี่ยนมุมมองของมนุษย์ต่อโลกไปตลอดกาล

    แม้จะไม่เคยเดินบนดวงจันทร์ แต่ Jim Lovell ได้เดินเข้าสู่หัวใจของผู้คนทั่วโลกด้วยความกล้าหาญ ความอ่อนน้อม และความสามารถในการนำทีมผ่านความมืดมิดของอวกาศกลับสู่แสงแห่งชีวิต

    https://www.nasa.gov/news-release/acting-nasa-administrator-reflects-on-legacy-of-astronaut-jim-lovell/
    🌕✨ เรื่องเล่าจากดวงดาว: Jim Lovell นักบินอวกาศผู้เปลี่ยนวิกฤตให้กลายเป็นตำนาน เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2025 โลกสูญเสียหนึ่งในนักบินอวกาศผู้ยิ่งใหญ่—Jim Lovell ในวัย 97 ปี ผู้บัญชาการภารกิจ Apollo 13 ที่เกือบกลายเป็นโศกนาฏกรรมกลางอวกาศ แต่กลับกลายเป็นเรื่องราวแห่งความกล้าหาญและความคิดสร้างสรรค์ที่โลกไม่มีวันลืม Lovell ไม่ได้เป็นเพียงนักบินอวกาศ แต่เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นผู้นำภายใต้แรงกดดัน เขาเคยบินในอวกาศถึง 4 ครั้ง—Gemini 7, Gemini 12, Apollo 8 และ Apollo 13—มากกว่าทุกคนในยุคแรกของ NASA และเป็นหนึ่งในสามคนที่เคยไปถึงดวงจันทร์สองครั้งโดยไม่เคยได้เหยียบพื้นผิว ในภารกิจ Apollo 13 ปี 1970 เมื่อถังออกซิเจนระเบิดกลางทางไปดวงจันทร์ Lovell และทีมงานต้องใช้ยาน Lunar Module เป็น “เรือชูชีพ” เพื่อกลับโลกอย่างปลอดภัย โดยใช้การนำทางจากตำแหน่งของโลกผ่านหน้าต่างยาน และประดิษฐ์ตัวกรอง CO₂ จากเทปกาวและถุงเท้า ก่อนหน้านั้น เขาเคยเป็นนักบินในภารกิจ Apollo 8 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มนุษย์โคจรรอบดวงจันทร์ และได้เห็นภาพ Earthrise อันโด่งดังที่เปลี่ยนมุมมองของมนุษย์ต่อโลกไปตลอดกาล แม้จะไม่เคยเดินบนดวงจันทร์ แต่ Jim Lovell ได้เดินเข้าสู่หัวใจของผู้คนทั่วโลกด้วยความกล้าหาญ ความอ่อนน้อม และความสามารถในการนำทีมผ่านความมืดมิดของอวกาศกลับสู่แสงแห่งชีวิต https://www.nasa.gov/news-release/acting-nasa-administrator-reflects-on-legacy-of-astronaut-jim-lovell/
    WWW.NASA.GOV
    Acting NASA Administrator Reflects on Legacy of Astronaut Jim Lovell
    The following is a statement from acting NASA Administrator Sean Duffy on the passing of famed Apollo astronaut Jim Lovell. He passed away Aug. 7, in Lake
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 190 มุมมอง 0 รีวิว
  • คชสีห์ หลวงพ่อเฮง วัดเขาดิน นครสวรรค์


    คชสีห์ หล่อเนื้อทองลงหิน หลวงพ่อเฮง วัดเขาดิน นครสวรรค์ //พระดีพิธีขลัง !! เครื่องรางของขลังที่เชื่อว่ามีพุทธคุณด้านอยู่ยงคงกระพัน แคล้วคลาด และเมตตามหานิยม องค์นี้สวยมากครับไม่ค่อยพบครับ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ >> //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณด้านคงกระพันชาตรี แคล้วคลาดปลอดภัยจากภยันตรายต่างๆ และเมตตามหานิยม มหาอำนาจ เป็นที่รักใคร่ของผู้คน มีอานุภาพมากด้านโชคลาภ ทำมาค้าขาย >>

    ** คชสีห์ มีลักษณะผสมระหว่างสิงห์ (ราชสีห์) กับช้าง โดยมีส่วนหัวเป็นช้างและลำตัวเป็นสิงห์ เป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่ง พลังอำนาจ และความกล้าหาญ หลวงพ่อเฮง วัดเขาดิน พระเกจิชื่อดัง ท่านยังเป็นพระอาจารย์ของหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ จ.นครสวรรค์ หลวงพ่อเฮงท่านก็ได้ออกธุดงค์ไปในป่าดงดิบต่างๆ ถึงพม่า เขมรและลาวหลายครั้ง หลวงพ่อเฮงท่านได้สร้างเครื่องรางไว้ให้ลูกศิษย์ใช้ปกป้องคุ้มครองตน คชสีห์ หลวงพ่อเฮง นักสะสมจึงคุ้นกับคชสีห์หลวงพ่อเฮงมากกว่าเครื่องรางชนิดอื่น ทั้งนี้เนื่องจากคชสีห์หลวงพ่อเฮงมีปริมาณและมีเอกลักษณ์งานศิลปเฉพาะตัวที่สวยงามอย่างยิ่ง >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    คชสีห์ หลวงพ่อเฮง วัดเขาดิน นครสวรรค์ คชสีห์ หล่อเนื้อทองลงหิน หลวงพ่อเฮง วัดเขาดิน นครสวรรค์ //พระดีพิธีขลัง !! เครื่องรางของขลังที่เชื่อว่ามีพุทธคุณด้านอยู่ยงคงกระพัน แคล้วคลาด และเมตตามหานิยม องค์นี้สวยมากครับไม่ค่อยพบครับ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ >> //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณด้านคงกระพันชาตรี แคล้วคลาดปลอดภัยจากภยันตรายต่างๆ และเมตตามหานิยม มหาอำนาจ เป็นที่รักใคร่ของผู้คน มีอานุภาพมากด้านโชคลาภ ทำมาค้าขาย >> ** คชสีห์ มีลักษณะผสมระหว่างสิงห์ (ราชสีห์) กับช้าง โดยมีส่วนหัวเป็นช้างและลำตัวเป็นสิงห์ เป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่ง พลังอำนาจ และความกล้าหาญ หลวงพ่อเฮง วัดเขาดิน พระเกจิชื่อดัง ท่านยังเป็นพระอาจารย์ของหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ จ.นครสวรรค์ หลวงพ่อเฮงท่านก็ได้ออกธุดงค์ไปในป่าดงดิบต่างๆ ถึงพม่า เขมรและลาวหลายครั้ง หลวงพ่อเฮงท่านได้สร้างเครื่องรางไว้ให้ลูกศิษย์ใช้ปกป้องคุ้มครองตน คชสีห์ หลวงพ่อเฮง นักสะสมจึงคุ้นกับคชสีห์หลวงพ่อเฮงมากกว่าเครื่องรางชนิดอื่น ทั้งนี้เนื่องจากคชสีห์หลวงพ่อเฮงมีปริมาณและมีเอกลักษณ์งานศิลปเฉพาะตัวที่สวยงามอย่างยิ่ง >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 232 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตัวพ่อผู้ทรยศประชาชนคนไทย ทรยศแดนดินอธิปไตยไทยอีกตัว.,ลุแก่อำนาจ ว่าตนมีอำนาจในสมัยนั้นเต็มที่ก็ว่า.,ขลาดกากเทียบไม่ได้กับความกล้าหาญของทหารเกณฑ์พลทหารเลย

    https://youtube.com/shorts/GtK4SJYT_aQ?si=rqZVeEaA-cVhIIl6
    ตัวพ่อผู้ทรยศประชาชนคนไทย ทรยศแดนดินอธิปไตยไทยอีกตัว.,ลุแก่อำนาจ ว่าตนมีอำนาจในสมัยนั้นเต็มที่ก็ว่า.,ขลาดกากเทียบไม่ได้กับความกล้าหาญของทหารเกณฑ์พลทหารเลย https://youtube.com/shorts/GtK4SJYT_aQ?si=rqZVeEaA-cVhIIl6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 139 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากโลกไซเบอร์: หนังสือที่เปลี่ยนผู้นำให้กลายเป็นนักคิดเชิงกลยุทธ์

    ลองนึกภาพว่าคุณเป็น CISO (Chief Information Security Officer) ที่ต้องรับมือกับภัยคุกคามไซเบอร์ตลอดเวลา ทั้งการโจมตีแบบใหม่ ความเสี่ยงจากพฤติกรรมมนุษย์ และแรงกดดันจากผู้บริหารระดับสูง คุณจะพึ่งพาอะไรเพื่อพัฒนาทักษะการตัดสินใจและความเป็นผู้นำ?

    คำตอบของผู้นำหลายคนคือ “หนังสือ” — ไม่ใช่แค่คู่มือเทคนิค แต่เป็นแหล่งความรู้ที่ช่วยให้พวกเขาเข้าใจความเสี่ยง มนุษย์ และตัวเองได้ลึกซึ้งขึ้น

    จากการสำรวจของ CSO Online พบว่า CISO ชั้นนำแนะนำหนังสือหลากหลายแนว ตั้งแต่จิตวิทยาการตัดสินใจอย่าง Thinking, Fast and Slow ไปจนถึงการวัดความเสี่ยงแบบใหม่ใน How to Measure Anything in Cybersecurity Risk และแม้แต่หนังสืออย่าง The Art of Deception ที่เผยกลยุทธ์ของแฮกเกอร์ในการหลอกล่อมนุษย์

    สิ่งที่น่าสนใจคือ หลายคนยังแนะนำหนังสือที่ไม่เกี่ยวกับไซเบอร์โดยตรง เช่น The Alchemist หรือ Our Town เพื่อเตือนตัวเองให้กลับมาโฟกัสกับชีวิตและความหมายที่แท้จริง

    หนังสือที่ช่วยพัฒนาทักษะการวัดและจัดการความเสี่ยง

    How to Measure Anything in Cybersecurity Risk โดย Douglas Hubbard & Richard Seiersen
    เสนอวิธีวัดความเสี่ยงแบบกึ่งปริมาณที่แม่นยำกว่าการใช้ risk matrix
    ได้รับการแนะนำจากหลาย CISO เช่น Daniel Schatz และ James Blake

    Superforecasting โดย Philip Tetlock & Dan Gardner
    เจาะลึกศาสตร์แห่งการพยากรณ์อนาคตอย่างมีหลักการ
    มีตัวอย่างจริงและแนวทางสร้างการคาดการณ์ที่แม่นยำ

    หนังสือที่ช่วยลด “เสียงรบกวน” ในการตัดสินใจ

    Thinking, Fast and Slow โดย Daniel Kahneman
    อธิบายระบบคิดแบบเร็ว (System 1) และช้า (System 2)
    ช่วยให้เข้าใจอคติและข้อผิดพลาดในการตัดสินใจ

    Noise โดย Kahneman และทีม
    วิเคราะห์ว่าทำไมมนุษย์ถึงตัดสินใจผิดเพราะ “เสียงรบกวน”
    เสนอวิธีลดความผิดพลาดในการประเมินสถานการณ์

    Yeah, But โดย Marc Wolfe
    ช่วยให้ผู้นำจัดการกับเสียงในหัวที่ขัดขวางการเปลี่ยนแปลง
    ส่งเสริมความชัดเจนในการคิดและการนำทีม

    Digital Minimalism โดย Cal Newport
    ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีอย่างมีสติ
    ช่วยปกป้องเวลาและความสนใจของผู้นำ

    Better Than Before โดย Gretchen Rubin
    เสนอกรอบการสร้างนิสัยที่ดีเพื่อสนับสนุนเป้าหมายชีวิตและงาน

    หนังสือที่เน้นความเสี่ยงจากพฤติกรรมมนุษย์

    The Art of Deception โดย Kevin Mitnick
    เผยกลยุทธ์ social engineering ที่แฮกเกอร์ใช้หลอกมนุษย์
    ยังคงเป็นหนังสือพื้นฐานที่มีคุณค่าแม้จะตีพิมพ์มานาน

    Secrets and Lies โดย Bruce Schneier
    อธิบายความซับซ้อนของความปลอดภัยดิจิทัล
    เน้นว่าการจัดการพฤติกรรมมนุษย์สำคัญไม่แพ้เทคโนโลยี

    Human Hacked โดย Len Noe
    เจาะลึกผลกระทบของ AI ต่อการตัดสินใจของมนุษย์
    เตือนถึงผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิดจากการผสานมนุษย์กับเทคโนโลยี

    ความเสี่ยงจากการละเลยพฤติกรรมมนุษย์ในระบบความปลอดภัย
    องค์กรที่เน้นเทคโนโลยีอย่างเดียวอาจพลาดช่องโหว่จากมนุษย์
    การไม่เข้าใจ social engineering ทำให้ระบบถูกเจาะง่ายขึ้น

    หนังสือที่ช่วยพัฒนาภาวะผู้นำ

    Dare to Lead โดย Brené Brown
    เน้นความกล้าหาญทางอารมณ์และความยืดหยุ่น
    ส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดกว้างและรับผิดชอบ

    Radical Candor โดย Kim Scott
    เสนอกรอบการให้ feedback ที่ตรงไปตรงมาแต่มีความเห็นอกเห็นใจ
    ช่วยสร้างวัฒนธรรมการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ

    ความเสี่ยงจากการเป็นผู้นำที่ขาดความเห็นอกเห็นใจ
    ผู้นำที่เน้นเทคนิคแต่ละเลยมนุษย์อาจสร้างทีมที่ไม่ยั่งยืน
    การขาด feedback ที่มีคุณภาพทำให้ทีมขาดการพัฒนา

    หนังสือที่เตือนให้กลับมาโฟกัสกับชีวิต

    Our Town โดย Thornton Wilder
    เตือนให้เห็นคุณค่าของชีวิตประจำวันและความสัมพันธ์
    ช่วยให้ผู้นำกลับมาโฟกัสกับสิ่งสำคัญนอกเหนือจากงาน

    The Alchemist โดย Paulo Coelho
    เรื่องราวการเดินทางตามความฝันที่เต็มไปด้วยบทเรียนชีวิต
    สะท้อนความกล้าหาญในการเลือกเส้นทางที่ไม่เป็นไปตามกรอบเดิม

    Get Out of I.T. While You Can โดย Craig Schiefelbein
    ท้าทายให้ผู้นำไอทีทบทวนบทบาทและคุณค่าของตน
    กระตุ้นให้สร้างผลกระทบเชิงกลยุทธ์มากกว่าการทำงานเชิงเทคนิค

    https://www.csoonline.com/article/4027000/the-books-shaping-todays-cybersecurity-leaders.html
    📚 เรื่องเล่าจากโลกไซเบอร์: หนังสือที่เปลี่ยนผู้นำให้กลายเป็นนักคิดเชิงกลยุทธ์ ลองนึกภาพว่าคุณเป็น CISO (Chief Information Security Officer) ที่ต้องรับมือกับภัยคุกคามไซเบอร์ตลอดเวลา ทั้งการโจมตีแบบใหม่ ความเสี่ยงจากพฤติกรรมมนุษย์ และแรงกดดันจากผู้บริหารระดับสูง คุณจะพึ่งพาอะไรเพื่อพัฒนาทักษะการตัดสินใจและความเป็นผู้นำ? คำตอบของผู้นำหลายคนคือ “หนังสือ” — ไม่ใช่แค่คู่มือเทคนิค แต่เป็นแหล่งความรู้ที่ช่วยให้พวกเขาเข้าใจความเสี่ยง มนุษย์ และตัวเองได้ลึกซึ้งขึ้น จากการสำรวจของ CSO Online พบว่า CISO ชั้นนำแนะนำหนังสือหลากหลายแนว ตั้งแต่จิตวิทยาการตัดสินใจอย่าง Thinking, Fast and Slow ไปจนถึงการวัดความเสี่ยงแบบใหม่ใน How to Measure Anything in Cybersecurity Risk และแม้แต่หนังสืออย่าง The Art of Deception ที่เผยกลยุทธ์ของแฮกเกอร์ในการหลอกล่อมนุษย์ สิ่งที่น่าสนใจคือ หลายคนยังแนะนำหนังสือที่ไม่เกี่ยวกับไซเบอร์โดยตรง เช่น The Alchemist หรือ Our Town เพื่อเตือนตัวเองให้กลับมาโฟกัสกับชีวิตและความหมายที่แท้จริง 📙📖 หนังสือที่ช่วยพัฒนาทักษะการวัดและจัดการความเสี่ยง ⭕ ✅ How to Measure Anything in Cybersecurity Risk โดย Douglas Hubbard & Richard Seiersen ➡️ เสนอวิธีวัดความเสี่ยงแบบกึ่งปริมาณที่แม่นยำกว่าการใช้ risk matrix ➡️ ได้รับการแนะนำจากหลาย CISO เช่น Daniel Schatz และ James Blake ✅ Superforecasting โดย Philip Tetlock & Dan Gardner ➡️ เจาะลึกศาสตร์แห่งการพยากรณ์อนาคตอย่างมีหลักการ ➡️ มีตัวอย่างจริงและแนวทางสร้างการคาดการณ์ที่แม่นยำ ⭐📖 หนังสือที่ช่วยลด “เสียงรบกวน” ในการตัดสินใจ ⭕ ✅ Thinking, Fast and Slow โดย Daniel Kahneman ➡️ อธิบายระบบคิดแบบเร็ว (System 1) และช้า (System 2) ➡️ ช่วยให้เข้าใจอคติและข้อผิดพลาดในการตัดสินใจ ✅ Noise โดย Kahneman และทีม ➡️ วิเคราะห์ว่าทำไมมนุษย์ถึงตัดสินใจผิดเพราะ “เสียงรบกวน” ➡️ เสนอวิธีลดความผิดพลาดในการประเมินสถานการณ์ ✅ Yeah, But โดย Marc Wolfe ➡️ ช่วยให้ผู้นำจัดการกับเสียงในหัวที่ขัดขวางการเปลี่ยนแปลง ➡️ ส่งเสริมความชัดเจนในการคิดและการนำทีม ✅ Digital Minimalism โดย Cal Newport ➡️ ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีอย่างมีสติ ➡️ ช่วยปกป้องเวลาและความสนใจของผู้นำ ✅ Better Than Before โดย Gretchen Rubin ➡️ เสนอกรอบการสร้างนิสัยที่ดีเพื่อสนับสนุนเป้าหมายชีวิตและงาน 🙎‍♂️📖 หนังสือที่เน้นความเสี่ยงจากพฤติกรรมมนุษย์ ⭕ ✅ The Art of Deception โดย Kevin Mitnick ➡️ เผยกลยุทธ์ social engineering ที่แฮกเกอร์ใช้หลอกมนุษย์ ➡️ ยังคงเป็นหนังสือพื้นฐานที่มีคุณค่าแม้จะตีพิมพ์มานาน ✅ Secrets and Lies โดย Bruce Schneier ➡️ อธิบายความซับซ้อนของความปลอดภัยดิจิทัล ➡️ เน้นว่าการจัดการพฤติกรรมมนุษย์สำคัญไม่แพ้เทคโนโลยี ✅ Human Hacked โดย Len Noe ➡️ เจาะลึกผลกระทบของ AI ต่อการตัดสินใจของมนุษย์ ➡️ เตือนถึงผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิดจากการผสานมนุษย์กับเทคโนโลยี ‼️ ความเสี่ยงจากการละเลยพฤติกรรมมนุษย์ในระบบความปลอดภัย ⛔ องค์กรที่เน้นเทคโนโลยีอย่างเดียวอาจพลาดช่องโหว่จากมนุษย์ ⛔ การไม่เข้าใจ social engineering ทำให้ระบบถูกเจาะง่ายขึ้น 🔝📖 หนังสือที่ช่วยพัฒนาภาวะผู้นำ ⭕ ✅ Dare to Lead โดย Brené Brown ➡️ เน้นความกล้าหาญทางอารมณ์และความยืดหยุ่น ➡️ ส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดกว้างและรับผิดชอบ ✅ Radical Candor โดย Kim Scott ➡️ เสนอกรอบการให้ feedback ที่ตรงไปตรงมาแต่มีความเห็นอกเห็นใจ ➡️ ช่วยสร้างวัฒนธรรมการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ ‼️ ความเสี่ยงจากการเป็นผู้นำที่ขาดความเห็นอกเห็นใจ ⛔ ผู้นำที่เน้นเทคนิคแต่ละเลยมนุษย์อาจสร้างทีมที่ไม่ยั่งยืน ⛔ การขาด feedback ที่มีคุณภาพทำให้ทีมขาดการพัฒนา 🔎📖 หนังสือที่เตือนให้กลับมาโฟกัสกับชีวิต ⭕ ✅ Our Town โดย Thornton Wilder ➡️ เตือนให้เห็นคุณค่าของชีวิตประจำวันและความสัมพันธ์ ➡️ ช่วยให้ผู้นำกลับมาโฟกัสกับสิ่งสำคัญนอกเหนือจากงาน ✅ The Alchemist โดย Paulo Coelho ➡️ เรื่องราวการเดินทางตามความฝันที่เต็มไปด้วยบทเรียนชีวิต ➡️ สะท้อนความกล้าหาญในการเลือกเส้นทางที่ไม่เป็นไปตามกรอบเดิม ✅ Get Out of I.T. While You Can โดย Craig Schiefelbein ➡️ ท้าทายให้ผู้นำไอทีทบทวนบทบาทและคุณค่าของตน ➡️ กระตุ้นให้สร้างผลกระทบเชิงกลยุทธ์มากกว่าการทำงานเชิงเทคนิค https://www.csoonline.com/article/4027000/the-books-shaping-todays-cybersecurity-leaders.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    The books shaping today’s cybersecurity leaders
    Cybersecurity leaders reveal the books that have influenced how they lead, think, and manage security in the enterprise — and their own lives.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 395 มุมมอง 0 รีวิว
  • หญิงรายหนึ่งชูนิ้วกลางใส่กลุ่มผู้สนับสนุนชาวยิวในย่านคราวน์ไฮตส์ บรูคลิน สหรัฐอเมริกา ขอสดุดีในความกล้าหาญของเธอ!
    หญิงรายหนึ่งชูนิ้วกลางใส่กลุ่มผู้สนับสนุนชาวยิวในย่านคราวน์ไฮตส์ บรูคลิน สหรัฐอเมริกา ขอสดุดีในความกล้าหาญของเธอ!
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 267 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ทักษิณ-ฮุนเซน แตกหัก!(ไม่)จริง : [NEWS UPDATE]
    นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน
    มองบทบาทของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กับนายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ที่แม้มีรอยร้าวในบางมิติ แต่ยังไม่ถึงขั้นแตกหักอย่างแท้จริง ผู้นำกัมพูชายังพูดถึงความลับที่ยังไม่ถูกเปิดเผย ขณะที่รัฐบาลไทยยังอ่อนข้อ ขาดความกล้าหาญจัดการกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่มีฐานปฏิบัติการในกัมพูชา ส่วนการถอนโครงการเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เป็นเพียงยุทธวิธีทางการเมืองภายใน หาก
    น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม ไม่ไว้ใจนายฮุน เซนจริง ควรกล้าแสดงจุดยืนยกเลิก MOU ที่ทำไว้กับกัมพูชา แล้วกลับมาใช้แผนที่กลาง เส้นมัธยัสถ์ตามหลักสากล พร้อมเปิดกระบวนการ JBC อย่างโปร่งใส เหมือนที่เมียนมาใช้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ไม่ใช่ปล่อยให้ไทยเสียเปรียบต่อเนื่อง



    ภัยคุกคามคนทั้งโลก

    ต้องอ่าน"ทรัมป์"ให้ขาด

    หวังเจรจาภาษีเหลือ 0%

    ใช้ประวัติน้ำ-ไฟขอสินเชื่อ
    ทักษิณ-ฮุนเซน แตกหัก!(ไม่)จริง : [NEWS UPDATE] นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน มองบทบาทของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กับนายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ที่แม้มีรอยร้าวในบางมิติ แต่ยังไม่ถึงขั้นแตกหักอย่างแท้จริง ผู้นำกัมพูชายังพูดถึงความลับที่ยังไม่ถูกเปิดเผย ขณะที่รัฐบาลไทยยังอ่อนข้อ ขาดความกล้าหาญจัดการกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่มีฐานปฏิบัติการในกัมพูชา ส่วนการถอนโครงการเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เป็นเพียงยุทธวิธีทางการเมืองภายใน หาก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม ไม่ไว้ใจนายฮุน เซนจริง ควรกล้าแสดงจุดยืนยกเลิก MOU ที่ทำไว้กับกัมพูชา แล้วกลับมาใช้แผนที่กลาง เส้นมัธยัสถ์ตามหลักสากล พร้อมเปิดกระบวนการ JBC อย่างโปร่งใส เหมือนที่เมียนมาใช้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ไม่ใช่ปล่อยให้ไทยเสียเปรียบต่อเนื่อง ภัยคุกคามคนทั้งโลก ต้องอ่าน"ทรัมป์"ให้ขาด หวังเจรจาภาษีเหลือ 0% ใช้ประวัติน้ำ-ไฟขอสินเชื่อ
    Like
    Love
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 708 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • "ภูมิธรรม" ขอใช้ความกล้าหาญสางปมที่ดินเขากระโดง-อัลไพน์ จ่อจัดทัพขุนพลมหาดไทยใหม่ให้เหมาะสมกับงาน ตั้งเป้าปราบยาเสพติดอันดับแรก เรือดำน้ำส่อยื้อแม้เซ็นไปแล้วแต่เปลี่ยน ครม. ต้องส่งเรื่องกลับกลาโหม ให้ รมต.ใหม่พิจารณา

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000062837

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    "ภูมิธรรม" ขอใช้ความกล้าหาญสางปมที่ดินเขากระโดง-อัลไพน์ จ่อจัดทัพขุนพลมหาดไทยใหม่ให้เหมาะสมกับงาน ตั้งเป้าปราบยาเสพติดอันดับแรก เรือดำน้ำส่อยื้อแม้เซ็นไปแล้วแต่เปลี่ยน ครม. ต้องส่งเรื่องกลับกลาโหม ให้ รมต.ใหม่พิจารณา อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000062837 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Haha
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 731 มุมมอง 0 รีวิว
  • สภาความมั่นคงแห่งชาติสูงสุดของอิหร่าน (SNSC) ตกลงที่จะหยุดยิงกับอิสราเอล แต่ก็พร้อมจะตอบโต้กลับอยา่างรุนแรงต่อการรุกรานใดๆที่จะมีขึ้นในอนาคต:

    แถลงการณ์ฉบับเต็มจากเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติสูงสุดของอิหร่าน (SNSC - Iran’s Supreme National Security Council):

    ถึงชาวอิหร่านที่รักและอดทน

    ภายหลังการรุกรานของพวกไซออนิสต์ที่ขี้ขลาด ความกล้าหาญและการเสียสละของบุตรชายของคุณในกองกำลังติดอาวุธแห่งสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน ซึ่งอยู่ภายใต้การชี้นำของผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้แสดงให้เห็นถึงอำนาจการขู่เข็ญและการตอบโต้ที่เด็ดขาดของประเทศ พวกเขาขยายขอบเขตของการตอบโต้และโจมตีศัตรูด้วยความเจ็บปวด การตอบสนองนี้แสดงให้เห็นว่าฐานทัพของอเมริกาและไซออนิสต์ ตั้งแต่เอเชียตะวันตกไปจนถึงดินแดนที่ถูกยึดครอง ล้วนเป็นเป้าหมายที่ถูกต้องตามกฎหมาย

    การเฝ้าระวัง การใช้โอกาสอย่างมีกลยุทธ์ การต่อต้านอย่างมั่นคง และความสามัคคีของชาติที่ไม่เคยมีมาก่อนได้ขัดขวางแผนหลักของศัตรู เปลี่ยนภัยคุกคามให้กลายเป็นโอกาส และปูทางให้กับความอดทนของทหารอิสลาม นอกจากนี้ยังเปิดเผยให้โลกเห็นถึงความแข็งแกร่งที่ไม่ธรรมดาของนักสู้ที่ทุ่มเท ซึ่งเต็มไปด้วยความคิดริเริ่มและความคิดสร้างสรรค์ ความแข็งแกร่งนี้ปรากฏชัดตลอด 12 วันของการต่อต้านอย่างนองเลือด และเตรียมพร้อมเสมอที่จะตอบโต้การรุกรานใดๆ อย่างเหมาะสมและเข้มแข็ง

    ของขวัญอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าตลอดเส้นทางนี้ พร้อมกับการประพฤติตนที่สมดุล ความเข้าใจอันลึกซึ้ง กลยุทธ์ที่รอบคอบ และความอดทนของนักรบและครอบครัวของผู้พลีชีพและผู้บาดเจ็บ คือชัยชนะเหนือศัตรู การทำลายภาพลักษณ์ของศัตรู การปฏิเสธการยอมแพ้ และการเปิดเส้นทางไปข้างหน้าที่ไม่สามารถย้อนกลับได้

    ดังนั้น สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านจึงประกาศอย่างมีสติและมั่นใจว่า กองกำลังของเราซึ่งได้รับการสนับสนุนจากประชาชนนั้นเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ที่จะตอบโต้การกระทำการรุกรานหรือการคุกคามใดๆ ของศัตรูอย่างเด็ดขาดในทุกเวลาและทุกสถานที่

    “และชัยชนะนั้นมาจากอัลลอฮ์ ผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงปรีชาญาณเท่านั้น”
    สภาความมั่นคงแห่งชาติสูงสุดของอิหร่าน (SNSC) ตกลงที่จะหยุดยิงกับอิสราเอล แต่ก็พร้อมจะตอบโต้กลับอยา่างรุนแรงต่อการรุกรานใดๆที่จะมีขึ้นในอนาคต: แถลงการณ์ฉบับเต็มจากเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติสูงสุดของอิหร่าน (SNSC - Iran’s Supreme National Security Council): ถึงชาวอิหร่านที่รักและอดทน ภายหลังการรุกรานของพวกไซออนิสต์ที่ขี้ขลาด ความกล้าหาญและการเสียสละของบุตรชายของคุณในกองกำลังติดอาวุธแห่งสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน ซึ่งอยู่ภายใต้การชี้นำของผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้แสดงให้เห็นถึงอำนาจการขู่เข็ญและการตอบโต้ที่เด็ดขาดของประเทศ พวกเขาขยายขอบเขตของการตอบโต้และโจมตีศัตรูด้วยความเจ็บปวด การตอบสนองนี้แสดงให้เห็นว่าฐานทัพของอเมริกาและไซออนิสต์ ตั้งแต่เอเชียตะวันตกไปจนถึงดินแดนที่ถูกยึดครอง ล้วนเป็นเป้าหมายที่ถูกต้องตามกฎหมาย การเฝ้าระวัง การใช้โอกาสอย่างมีกลยุทธ์ การต่อต้านอย่างมั่นคง และความสามัคคีของชาติที่ไม่เคยมีมาก่อนได้ขัดขวางแผนหลักของศัตรู เปลี่ยนภัยคุกคามให้กลายเป็นโอกาส และปูทางให้กับความอดทนของทหารอิสลาม นอกจากนี้ยังเปิดเผยให้โลกเห็นถึงความแข็งแกร่งที่ไม่ธรรมดาของนักสู้ที่ทุ่มเท ซึ่งเต็มไปด้วยความคิดริเริ่มและความคิดสร้างสรรค์ ความแข็งแกร่งนี้ปรากฏชัดตลอด 12 วันของการต่อต้านอย่างนองเลือด และเตรียมพร้อมเสมอที่จะตอบโต้การรุกรานใดๆ อย่างเหมาะสมและเข้มแข็ง ของขวัญอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าตลอดเส้นทางนี้ พร้อมกับการประพฤติตนที่สมดุล ความเข้าใจอันลึกซึ้ง กลยุทธ์ที่รอบคอบ และความอดทนของนักรบและครอบครัวของผู้พลีชีพและผู้บาดเจ็บ คือชัยชนะเหนือศัตรู การทำลายภาพลักษณ์ของศัตรู การปฏิเสธการยอมแพ้ และการเปิดเส้นทางไปข้างหน้าที่ไม่สามารถย้อนกลับได้ ดังนั้น สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านจึงประกาศอย่างมีสติและมั่นใจว่า กองกำลังของเราซึ่งได้รับการสนับสนุนจากประชาชนนั้นเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ที่จะตอบโต้การกระทำการรุกรานหรือการคุกคามใดๆ ของศัตรูอย่างเด็ดขาดในทุกเวลาและทุกสถานที่ “และชัยชนะนั้นมาจากอัลลอฮ์ ผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงปรีชาญาณเท่านั้น”
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 425 มุมมอง 0 รีวิว
  • Trump ประกาศอิสราเอล-อิหร่านพร้อมสงบศึก

    “ขอแสดงความยินดีกับทุกคน! อิสราเอลและอิหร่านได้ตกลงกันอย่างสมบูรณ์ว่าจะมีการหยุดยิงอย่างสมบูรณ์และเต็มรูปแบบ (ในอีกประมาณ 6 ชั่วโมงนับจากนี้ เมื่ออิสราเอลและอิหร่านได้ปิดฉากและจบภารกิจสุดท้ายที่กำลังดำเนินอยู่) เป็นเวลา 12 ชั่วโมง ซึ่งจุดนั้นสงครามจะถือว่าสิ้นสุด!

    อย่างเป็นทางการ อิหร่านจะเริ่มหยุดยิงก่อน และเมื่อครบ 12 ชั่วโมง อิสราเอลจะเริ่มหยุดยิง และเมื่อครบ 24 ชั่วโมง การสิ้นสุดอย่างเป็นทางการของ ‘สงคราม 12 วัน’ จะได้รับการยกย่องจากโลก ระหว่างการหยุดยิงแต่ละครั้ง อีกฝ่ายหนึ่งจะอยู่อย่างสงบและเคารพซึ่งกันและกัน

    หากทุกอย่างเป็นไปตามที่ควรจะเป็น ซึ่งมันจะเป็นแน่นอน ผมขอแสดงความยินดีกับทั้งสองประเทศ อิสราเอลและอิหร่าน ที่มีความอดทน ความกล้าหาญ และสติปัญญาในการยุติสิ่งที่ควรเรียกว่า ‘สงคราม 12 วัน’ นี่เป็นสงครามที่อาจดำเนินต่อไปเป็นปีๆ และทำลายล้างตะวันออกกลางทั้งหมด แต่มันไม่เป็นเช่นนั้น และจะไม่เป็นอีกต่อไป!
    ขอพระเจ้าอวยพรอิสราเอล ขอพระเจ้าอวยพรอิหร่าน ขอพระเจ้าอวยพรตะวันออกกลาง ขอพระเจ้าอวยพรสหรัฐอเมริกา และขอพระเจ้าอวยพรโลก!

    Donald J. Trump
    ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา”​​​​​​​​​​​​​​​​
    มาทรงนี้รางวัลโนเบลสันติภาพปีนี้ ลูกพี่ Trump นี่นอนมาเลยครับ
    Trump ประกาศอิสราเอล-อิหร่านพร้อมสงบศึก “ขอแสดงความยินดีกับทุกคน! อิสราเอลและอิหร่านได้ตกลงกันอย่างสมบูรณ์ว่าจะมีการหยุดยิงอย่างสมบูรณ์และเต็มรูปแบบ (ในอีกประมาณ 6 ชั่วโมงนับจากนี้ เมื่ออิสราเอลและอิหร่านได้ปิดฉากและจบภารกิจสุดท้ายที่กำลังดำเนินอยู่) เป็นเวลา 12 ชั่วโมง ซึ่งจุดนั้นสงครามจะถือว่าสิ้นสุด! อย่างเป็นทางการ อิหร่านจะเริ่มหยุดยิงก่อน และเมื่อครบ 12 ชั่วโมง อิสราเอลจะเริ่มหยุดยิง และเมื่อครบ 24 ชั่วโมง การสิ้นสุดอย่างเป็นทางการของ ‘สงคราม 12 วัน’ จะได้รับการยกย่องจากโลก ระหว่างการหยุดยิงแต่ละครั้ง อีกฝ่ายหนึ่งจะอยู่อย่างสงบและเคารพซึ่งกันและกัน หากทุกอย่างเป็นไปตามที่ควรจะเป็น ซึ่งมันจะเป็นแน่นอน ผมขอแสดงความยินดีกับทั้งสองประเทศ อิสราเอลและอิหร่าน ที่มีความอดทน ความกล้าหาญ และสติปัญญาในการยุติสิ่งที่ควรเรียกว่า ‘สงคราม 12 วัน’ นี่เป็นสงครามที่อาจดำเนินต่อไปเป็นปีๆ และทำลายล้างตะวันออกกลางทั้งหมด แต่มันไม่เป็นเช่นนั้น และจะไม่เป็นอีกต่อไป! ขอพระเจ้าอวยพรอิสราเอล ขอพระเจ้าอวยพรอิหร่าน ขอพระเจ้าอวยพรตะวันออกกลาง ขอพระเจ้าอวยพรสหรัฐอเมริกา และขอพระเจ้าอวยพรโลก! Donald J. Trump ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา”​​​​​​​​​​​​​​​​ มาทรงนี้รางวัลโนเบลสันติภาพปีนี้ ลูกพี่ Trump นี่นอนมาเลยครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 434 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ดูเหมือนการเจรจาใดๆที่กำลังจะเกิดขึ้น ไม่มีผลอีกต่อไป"

    คำปราศรัยทางโทรทัศน์ครั้งที่สองของผู้นำสูงสุดอิหร่าน อาลี คาเมเนอี ต่อประชาชนอิหร่าน หลังจากที่อิสราเอลโจมตีทางอากาศต่ออิหร่านอย่างรุนแรง โดยที่อิหร่านยังไม่มีการยั่วยุใดๆ

    18 มิถุนายน 2025
    .

    “ในนามของอัลลอฮ์ ผู้ทรงกรุณาปรานี ผู้ทรงเมตตาปรานี

    ข้าพเจ้าขอส่งคำทักทายไปยังประชาชาติอิหร่านอันยิ่งใหญ่

    หัวข้อแรกที่ข้าพเจ้าอยากจะพูดถึงคือการยกย่องประชาชนอันเป็นที่รักของเรา เมื่อพิจารณาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศของเราโดยศัตรูที่เพิ่งเกิดขึ้น ประชาชนอิหร่านได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามีสติ กล้าหาญ และตระหนักถึงสถานการณ์ปัจจุบัน การเคลื่อนไหวที่ประชาชนของเราได้นำเสนอต่อโลกในวันอีดอัล-กาดิรนั้นเป็นสิ่งที่พิเศษมาก การรวมตัวในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา การที่พวกเขาเข้าร่วมละหมาดวันศุกร์และการเดินขบวนหลังจากนั้น ทั้งหมดนี้เป็นหลักฐานของความเป็นผู้ใหญ่ของประชาชนอิหร่าน และการผสมผสานที่หยั่งรากลึกระหว่างเหตุผลและจิตวิญญาณกับความกล้าหาญและจังหวะเวลาที่สมบูรณ์แบบในหมู่ประชาชาติอันเป็นที่รักของเรา

    ข้าพเจ้าขอขอบคุณพระเจ้าที่พระองค์ประทานความสามารถทางศีลธรรมและวัตถุแก่ประชาชนผู้ศรัทธาเหล่านี้ด้วยพระคุณของพระองค์ ข้าพเจ้าต้องกล่าวถึงการกระทำอันทรงพลังและเป็นสัญลักษณ์ของผู้ประกาศข่าวโทรทัศน์หญิงที่ยืนหยัดมั่นคงต่อหน้าความเย่อหยิ่งของศัตรูด้วย การตักบีร (พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่) ของเธอและการแสดง ความเข้มแข็งของประชาชนต่อทั้งโลกเป็นเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์และมีค่าอย่างยิ่ง

    หัวข้อที่สองคือเหตุการณ์วันนี้ การโจมตีประเทศของเราอย่างโง่เขลาและร้ายกาจโดยกลุ่มไซออนิสต์ เกิดขึ้นในขณะที่เจ้าหน้าที่ของรัฐกำลังเจรจาทางอ้อมผ่านคนกลางกับฝ่ายอเมริกา ไม่มีอะไรจากอิหร่านที่บ่งชี้ถึงการเคลื่อนไหวทางทหารที่ก้าวร้าวหรือยั่วยุ

    แน่นอนว่าตั้งแต่แรก คาดว่าสหรัฐฯ มีส่วนรู้เห็นในการกระทำอันชั่วร้ายของกลุ่มไซออนิสต์ แต่ด้วยแถลงการณ์ครั้งแรกที่ออกมา ความคาดหวังนี้ก็ยิ่งได้รับการยืนยันมากขึ้นทุกวัน

    ประชาชนอิหร่านยืนหยัดต่อต้านสงครามที่ถูกบังคับ เช่นเดียวกับที่พวกเขายืนหยัดต่อต้านสันติภาพที่ถูกบังคับ ประชาชนอิหร่านไม่ยอมจำนนต่อคำสั่งของใคร ฉันคาดหวังว่าปัญญาชน นักเขียน และบุคคลสาธารณะ โดยเฉพาะผู้ที่มีผู้ชมทั่วโลก จะชี้แจงและอธิบายความจริงเหล่านี้ พวกเขาต้องไม่อนุญาตให้ศัตรูบิดเบือนข้อเท็จจริงผ่านการโฆษณาชวนเชื่อที่หลอกลวง

    ศัตรูไซออนิสต์ได้กระทำความผิดพลาดร้ายแรงและอาชญากรรมร้ายแรง และจะต้องถูกลงโทษ—และกำลังถูกลงโทษ ถูกลงโทษ การลงโทษที่ประชาชนอิหร่านและกองกำลังติดอาวุธของเราได้รับ การลงโทษที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน และการลงโทษที่เตรียมไว้สำหรับอนาคต ถือเป็นการลงโทษที่รุนแรงซึ่งทำให้อิหร่านอ่อนแอลงแล้ว แม้แต่การแทรกแซงและถ้อยแถลงของพันธมิตรอเมริกันก็เป็นสัญญาณของความอ่อนแอและไร้ความสามารถ

    ประการสุดท้ายคือ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ออกคำขู่ เขาขู่เรา และในเวลาเดียวกัน—อย่างน่าขันและไร้ยางอาย—เรียกร้องให้ประชาชนอิหร่านยอมจำนนต่อเขา พฤติกรรมเช่นนี้ทำให้ผู้คนตกตะลึงอย่างแท้จริง

    ประการแรก คำขู่มีผลเฉพาะกับผู้ที่กลัวเท่านั้น ประชาชนอิหร่านได้แสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่หวั่นไหวเมื่อเผชิญกับคำขู่ ดังที่พระเจ้าตรัสไว้ว่า:
    “อย่าทำให้อ่อนแอหรือเสียใจ เพราะเจ้าจะได้เปรียบหากเจ้าเป็นผู้ศรัทธา” (อัลกุรอาน 3:139)

    การคุกคามไม่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมหรือความคิดของชาวอิหร่าน

    ประการที่สอง การบอกให้ชาวอิหร่านมาและยอมจำนน นี่ไม่ใช่คำพูดที่มีเหตุผล ผู้ที่รู้จักอิหร่าน รู้จักชาวอิหร่านและประวัติศาสตร์ของอิหร่าน จะไม่มีวันพูดคำดังกล่าว ยอมจำนนต่ออะไร? ชาวอิหร่านไม่ต้องยอมจำนน เราไม่ได้โจมตีใคร และภายใต้สถานการณ์ใดๆ เราจะไม่ยอมรับการรุกรานจากใคร และเราจะไม่ยอมจำนนต่อมัน นี่คือเหตุผลและจิตวิญญาณของชาติอิหร่าน

    แน่นอนว่าชาวอเมริกันที่คุ้นเคยกับการเมืองในภูมิภาคนี้รู้ดีว่าการที่สหรัฐฯ เข้าร่วมในความขัดแย้งครั้งนี้จะส่งผลเสียต่อพวกเขาเองโดยสิ้นเชิง ความสูญเสียที่พวกเขาจะต้องเผชิญจะมากกว่าที่อิหร่านจะทนได้ หากอเมริกาเข้าสู่สนามรบนี้ด้วยกำลังทหาร พวกเขาจะต้องสูญเสียอย่างไม่สามารถแก้ไขได้

    ฉันขอให้คนที่รักของเราจำโองการอันสูงส่งนี้ไว้เสมอ:
    “ชัยชนะมาจาก “อัลลอฮ์ ผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงปรีชาญาณ” (อัลกุรอาน 3:126)

    ขอบคุณพระเจ้า ชีวิตยังคงดำเนินไปตามปกติ อย่าให้ศัตรูรู้สึกถึงความกลัวหรือความอ่อนแอจากคุณ”
    "ดูเหมือนการเจรจาใดๆที่กำลังจะเกิดขึ้น ไม่มีผลอีกต่อไป" คำปราศรัยทางโทรทัศน์ครั้งที่สองของผู้นำสูงสุดอิหร่าน อาลี คาเมเนอี ต่อประชาชนอิหร่าน หลังจากที่อิสราเอลโจมตีทางอากาศต่ออิหร่านอย่างรุนแรง โดยที่อิหร่านยังไม่มีการยั่วยุใดๆ 18 มิถุนายน 2025 . “ในนามของอัลลอฮ์ ผู้ทรงกรุณาปรานี ผู้ทรงเมตตาปรานี ข้าพเจ้าขอส่งคำทักทายไปยังประชาชาติอิหร่านอันยิ่งใหญ่ หัวข้อแรกที่ข้าพเจ้าอยากจะพูดถึงคือการยกย่องประชาชนอันเป็นที่รักของเรา เมื่อพิจารณาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศของเราโดยศัตรูที่เพิ่งเกิดขึ้น ประชาชนอิหร่านได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามีสติ กล้าหาญ และตระหนักถึงสถานการณ์ปัจจุบัน การเคลื่อนไหวที่ประชาชนของเราได้นำเสนอต่อโลกในวันอีดอัล-กาดิรนั้นเป็นสิ่งที่พิเศษมาก การรวมตัวในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา การที่พวกเขาเข้าร่วมละหมาดวันศุกร์และการเดินขบวนหลังจากนั้น ทั้งหมดนี้เป็นหลักฐานของความเป็นผู้ใหญ่ของประชาชนอิหร่าน และการผสมผสานที่หยั่งรากลึกระหว่างเหตุผลและจิตวิญญาณกับความกล้าหาญและจังหวะเวลาที่สมบูรณ์แบบในหมู่ประชาชาติอันเป็นที่รักของเรา ข้าพเจ้าขอขอบคุณพระเจ้าที่พระองค์ประทานความสามารถทางศีลธรรมและวัตถุแก่ประชาชนผู้ศรัทธาเหล่านี้ด้วยพระคุณของพระองค์ ข้าพเจ้าต้องกล่าวถึงการกระทำอันทรงพลังและเป็นสัญลักษณ์ของผู้ประกาศข่าวโทรทัศน์หญิงที่ยืนหยัดมั่นคงต่อหน้าความเย่อหยิ่งของศัตรูด้วย การตักบีร (พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่) ของเธอและการแสดง ความเข้มแข็งของประชาชนต่อทั้งโลกเป็นเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์และมีค่าอย่างยิ่ง หัวข้อที่สองคือเหตุการณ์วันนี้ การโจมตีประเทศของเราอย่างโง่เขลาและร้ายกาจโดยกลุ่มไซออนิสต์ เกิดขึ้นในขณะที่เจ้าหน้าที่ของรัฐกำลังเจรจาทางอ้อมผ่านคนกลางกับฝ่ายอเมริกา ไม่มีอะไรจากอิหร่านที่บ่งชี้ถึงการเคลื่อนไหวทางทหารที่ก้าวร้าวหรือยั่วยุ แน่นอนว่าตั้งแต่แรก คาดว่าสหรัฐฯ มีส่วนรู้เห็นในการกระทำอันชั่วร้ายของกลุ่มไซออนิสต์ แต่ด้วยแถลงการณ์ครั้งแรกที่ออกมา ความคาดหวังนี้ก็ยิ่งได้รับการยืนยันมากขึ้นทุกวัน ประชาชนอิหร่านยืนหยัดต่อต้านสงครามที่ถูกบังคับ เช่นเดียวกับที่พวกเขายืนหยัดต่อต้านสันติภาพที่ถูกบังคับ ประชาชนอิหร่านไม่ยอมจำนนต่อคำสั่งของใคร ฉันคาดหวังว่าปัญญาชน นักเขียน และบุคคลสาธารณะ โดยเฉพาะผู้ที่มีผู้ชมทั่วโลก จะชี้แจงและอธิบายความจริงเหล่านี้ พวกเขาต้องไม่อนุญาตให้ศัตรูบิดเบือนข้อเท็จจริงผ่านการโฆษณาชวนเชื่อที่หลอกลวง ศัตรูไซออนิสต์ได้กระทำความผิดพลาดร้ายแรงและอาชญากรรมร้ายแรง และจะต้องถูกลงโทษ—และกำลังถูกลงโทษ ถูกลงโทษ การลงโทษที่ประชาชนอิหร่านและกองกำลังติดอาวุธของเราได้รับ การลงโทษที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน และการลงโทษที่เตรียมไว้สำหรับอนาคต ถือเป็นการลงโทษที่รุนแรงซึ่งทำให้อิหร่านอ่อนแอลงแล้ว แม้แต่การแทรกแซงและถ้อยแถลงของพันธมิตรอเมริกันก็เป็นสัญญาณของความอ่อนแอและไร้ความสามารถ ประการสุดท้ายคือ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ออกคำขู่ เขาขู่เรา และในเวลาเดียวกัน—อย่างน่าขันและไร้ยางอาย—เรียกร้องให้ประชาชนอิหร่านยอมจำนนต่อเขา พฤติกรรมเช่นนี้ทำให้ผู้คนตกตะลึงอย่างแท้จริง ประการแรก คำขู่มีผลเฉพาะกับผู้ที่กลัวเท่านั้น ประชาชนอิหร่านได้แสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่หวั่นไหวเมื่อเผชิญกับคำขู่ ดังที่พระเจ้าตรัสไว้ว่า: “อย่าทำให้อ่อนแอหรือเสียใจ เพราะเจ้าจะได้เปรียบหากเจ้าเป็นผู้ศรัทธา” (อัลกุรอาน 3:139) การคุกคามไม่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมหรือความคิดของชาวอิหร่าน ประการที่สอง การบอกให้ชาวอิหร่านมาและยอมจำนน นี่ไม่ใช่คำพูดที่มีเหตุผล ผู้ที่รู้จักอิหร่าน รู้จักชาวอิหร่านและประวัติศาสตร์ของอิหร่าน จะไม่มีวันพูดคำดังกล่าว ยอมจำนนต่ออะไร? ชาวอิหร่านไม่ต้องยอมจำนน เราไม่ได้โจมตีใคร และภายใต้สถานการณ์ใดๆ เราจะไม่ยอมรับการรุกรานจากใคร และเราจะไม่ยอมจำนนต่อมัน นี่คือเหตุผลและจิตวิญญาณของชาติอิหร่าน แน่นอนว่าชาวอเมริกันที่คุ้นเคยกับการเมืองในภูมิภาคนี้รู้ดีว่าการที่สหรัฐฯ เข้าร่วมในความขัดแย้งครั้งนี้จะส่งผลเสียต่อพวกเขาเองโดยสิ้นเชิง ความสูญเสียที่พวกเขาจะต้องเผชิญจะมากกว่าที่อิหร่านจะทนได้ หากอเมริกาเข้าสู่สนามรบนี้ด้วยกำลังทหาร พวกเขาจะต้องสูญเสียอย่างไม่สามารถแก้ไขได้ ฉันขอให้คนที่รักของเราจำโองการอันสูงส่งนี้ไว้เสมอ: “ชัยชนะมาจาก “อัลลอฮ์ ผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงปรีชาญาณ” (อัลกุรอาน 3:126) ขอบคุณพระเจ้า ชีวิตยังคงดำเนินไปตามปกติ อย่าให้ศัตรูรู้สึกถึงความกลัวหรือความอ่อนแอจากคุณ”
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 467 มุมมอง 16 0 รีวิว
  • พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนิน ไปทอดพระเนตรการจัดการแสดงกาชาดคอนเสิร์ต ครั้งที่ 51 “SEA OF LOVE” ทะเลที่ทำให้เกิดความรัก ความสามัคคี และความภาคภูมิ อันเกิดมาจากความกล้าหาญของลูกทะเลแห่งราชนาวีไทย ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000054528

    #MGROnline #Thaitimes #SEAOFLOVE #กาชาดคอนเสิร์ตครั้งที่51
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนิน ไปทอดพระเนตรการจัดการแสดงกาชาดคอนเสิร์ต ครั้งที่ 51 “SEA OF LOVE” ทะเลที่ทำให้เกิดความรัก ความสามัคคี และความภาคภูมิ อันเกิดมาจากความกล้าหาญของลูกทะเลแห่งราชนาวีไทย ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000054528 • #MGROnline #Thaitimes #SEAOFLOVE #กาชาดคอนเสิร์ตครั้งที่51
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 321 มุมมอง 0 รีวิว
  • กำลังรบกองเรือยุทธการ พร้อมปกป้องอธิปไตย : [NEWS UPDATE]

    พลเรือเอกณัฏฐพล เดี่ยววานิช ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เผยถึงการฝึกซ้อมรบของกองทัพเรือกัมพูชา ได้รวบรวมข้อมูลข่าวกรองทราบว่าไม่ใช่การฝึกประเทศเดียว ย้ำ ขีดความสามารถของกองทัพเรือ มีความพร้อมทั้งเรือ อาวุธสงคราม โดยหน่วยรบหลักของกองทัพเรือ มีเรือ อากาศยาน และหน่วยซีล ซึ่งได้ผ่านการฝึกแก้ปัญหาในที่บังคับการ ฝึกภาคทะเล ฝึกร่วมกับต่างประเทศ เช่น คอบร้าโกลด์ ฝึกร่วมกับสหรัฐฯ เกาหลีใต้ และสิงคโปร์ จึงมีประสบการณ์ และมีความพร้อม กำลังพลมีความกล้าหาญ เสียสละ ไม่กลัวตาย เราฝึกให้กำลังพลรู้จักหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ เพื่อประเทศชาติและประชาชน

    ตราดเตรียมแผนอพยพ

    กัมพูชาซ้อมกระสุนจริง

    ไม่เชื่อกาสิโนหนุนท่องเที่ยว

    ตั้งศูนย์เฝ้าระวังสารพิษ
    กำลังรบกองเรือยุทธการ พร้อมปกป้องอธิปไตย : [NEWS UPDATE] พลเรือเอกณัฏฐพล เดี่ยววานิช ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เผยถึงการฝึกซ้อมรบของกองทัพเรือกัมพูชา ได้รวบรวมข้อมูลข่าวกรองทราบว่าไม่ใช่การฝึกประเทศเดียว ย้ำ ขีดความสามารถของกองทัพเรือ มีความพร้อมทั้งเรือ อาวุธสงคราม โดยหน่วยรบหลักของกองทัพเรือ มีเรือ อากาศยาน และหน่วยซีล ซึ่งได้ผ่านการฝึกแก้ปัญหาในที่บังคับการ ฝึกภาคทะเล ฝึกร่วมกับต่างประเทศ เช่น คอบร้าโกลด์ ฝึกร่วมกับสหรัฐฯ เกาหลีใต้ และสิงคโปร์ จึงมีประสบการณ์ และมีความพร้อม กำลังพลมีความกล้าหาญ เสียสละ ไม่กลัวตาย เราฝึกให้กำลังพลรู้จักหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ เพื่อประเทศชาติและประชาชน ตราดเตรียมแผนอพยพ กัมพูชาซ้อมกระสุนจริง ไม่เชื่อกาสิโนหนุนท่องเที่ยว ตั้งศูนย์เฝ้าระวังสารพิษ
    Like
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 752 มุมมอง 27 0 รีวิว
  • 2/
    อันตัน มัตสเควิช (Anton Matskevich) คนขับรถบรรทุกชาวเบลารุส คือหนึ่งในพลเรือนฮีโร่อีกหลายคน ที่ช่วยกันหยุดโดรน FPV ของยูเครนขณะกำลังโจมตีฐานทัพอากาศรัสเซีย ในภูมิภาค Irkutsk

    "ทุกคนช่วยกันเพื่อไม่ให้โดรนบินขึ้น พวกเราบางส่วนขึ้นไปบนรถบรรทุก คนที่เหลือช่วยกันโยนก้อนหินหนักๆขึ้นไป แล้วเอาไปวางไว้บนโดรนเพื่อไม่ให้พวกมันบินขึ้น บางคนก็ใช้ก้อนหินปาไปที่โดรนที่บินขึ้นไปแล้ว พวกเราทำทุกอย่างที่ทำได้"

    โดรนทุกลำติดตั้งระเบิดแรงสูงไว้ นับเป็นความกล้าหาญอย่างยิ่งของพลเรือนเหล่านี้ ที่เสี่ยงชีวิตตัวเองเพื่อหยุดโดรน

    ล่าสุดเจ้าหน้าที่ในภูมิภาค Irkutsk กำลังพิจารณาความเป็นไปได้ในการมอบรางวัลให้กับพลเมืองทั้งหมดที่พยายามป้องกันไม่ให้โดรนบินขึ้นระหว่างการโจมตีของยูเครน

    2/ อันตัน มัตสเควิช (Anton Matskevich) คนขับรถบรรทุกชาวเบลารุส คือหนึ่งในพลเรือนฮีโร่อีกหลายคน ที่ช่วยกันหยุดโดรน FPV ของยูเครนขณะกำลังโจมตีฐานทัพอากาศรัสเซีย ในภูมิภาค Irkutsk "ทุกคนช่วยกันเพื่อไม่ให้โดรนบินขึ้น พวกเราบางส่วนขึ้นไปบนรถบรรทุก คนที่เหลือช่วยกันโยนก้อนหินหนักๆขึ้นไป แล้วเอาไปวางไว้บนโดรนเพื่อไม่ให้พวกมันบินขึ้น บางคนก็ใช้ก้อนหินปาไปที่โดรนที่บินขึ้นไปแล้ว พวกเราทำทุกอย่างที่ทำได้" โดรนทุกลำติดตั้งระเบิดแรงสูงไว้ นับเป็นความกล้าหาญอย่างยิ่งของพลเรือนเหล่านี้ ที่เสี่ยงชีวิตตัวเองเพื่อหยุดโดรน ล่าสุดเจ้าหน้าที่ในภูมิภาค Irkutsk กำลังพิจารณาความเป็นไปได้ในการมอบรางวัลให้กับพลเมืองทั้งหมดที่พยายามป้องกันไม่ให้โดรนบินขึ้นระหว่างการโจมตีของยูเครน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 278 มุมมอง 23 0 รีวิว
  • 1/
    อันตัน มัตสเควิช (Anton Matskevich) คนขับรถบรรทุกชาวเบลารุส คือหนึ่งในพลเรือนฮีโร่อีกหลายคน ที่ช่วยกันหยุดโดรน FPV ของยูเครนขณะกำลังโจมตีฐานทัพอากาศรัสเซีย ในภูมิภาค Irkutsk

    "ทุกคนช่วยกันเพื่อไม่ให้โดรนบินขึ้น พวกเราบางส่วนขึ้นไปบนรถบรรทุก คนที่เหลือช่วยกันโยนก้อนหินหนักๆขึ้นไป แล้วเอาไปวางไว้บนโดรนเพื่อไม่ให้พวกมันบินขึ้น บางคนก็ใช้ก้อนหินปาไปที่โดรนที่บินขึ้นไปแล้ว พวกเราทำทุกอย่างที่ทำได้"

    โดรนทุกลำติดตั้งระเบิดแรงสูงไว้ นับเป็นความกล้าหาญอย่างยิ่งของพลเรือนเหล่านี้ ที่เสี่ยงชีวิตตัวเองเพื่อหยุดโดรน

    ล่าสุดเจ้าหน้าที่ในภูมิภาค Irkutsk กำลังพิจารณาความเป็นไปได้ในการมอบรางวัลให้กับพลเมืองทั้งหมดที่พยายามป้องกันไม่ให้โดรนบินขึ้นระหว่างการโจมตีของยูเครน

    1/ อันตัน มัตสเควิช (Anton Matskevich) คนขับรถบรรทุกชาวเบลารุส คือหนึ่งในพลเรือนฮีโร่อีกหลายคน ที่ช่วยกันหยุดโดรน FPV ของยูเครนขณะกำลังโจมตีฐานทัพอากาศรัสเซีย ในภูมิภาค Irkutsk "ทุกคนช่วยกันเพื่อไม่ให้โดรนบินขึ้น พวกเราบางส่วนขึ้นไปบนรถบรรทุก คนที่เหลือช่วยกันโยนก้อนหินหนักๆขึ้นไป แล้วเอาไปวางไว้บนโดรนเพื่อไม่ให้พวกมันบินขึ้น บางคนก็ใช้ก้อนหินปาไปที่โดรนที่บินขึ้นไปแล้ว พวกเราทำทุกอย่างที่ทำได้" โดรนทุกลำติดตั้งระเบิดแรงสูงไว้ นับเป็นความกล้าหาญอย่างยิ่งของพลเรือนเหล่านี้ ที่เสี่ยงชีวิตตัวเองเพื่อหยุดโดรน ล่าสุดเจ้าหน้าที่ในภูมิภาค Irkutsk กำลังพิจารณาความเป็นไปได้ในการมอบรางวัลให้กับพลเมืองทั้งหมดที่พยายามป้องกันไม่ให้โดรนบินขึ้นระหว่างการโจมตีของยูเครน
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 269 มุมมอง 14 0 รีวิว
  • 13 พฤษภาคม 2568 -ศาสตราจารย์ นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ได้โพสต์ประเด็นเรื่อง

    “ราคายาที่เป็นธรรม หลุดจาก อิทธิพลของบริษัทยา” 

    คำสั่งบริหารฉบับใหม่ของประธานาธิบดีทรัมป์มุ่งเป้าไปที่ราคาขายยาตามใบสั่งแพทย์ที่สูงมาก และเรียกร้องให้เมดิแคร์จ่ายในราคาที่ต่ำที่สุดที่ประเทศอื่นจ่าย

    สุนทรพจน์แบบนี้ ของ RFK Jr. ชนิดคำต่อคำ 
    (เพราะคุณจะไม่มีวันได้ยินคำพูดแบบนี้ จากนักการเมืองที่ไหน)

    _________________

    วันนี้เป็นวันที่พิเศษมาก เป็นประเด็นที่ผมเติบโตมาในพรรคเดโมแครต และผู้นำพรรคเดโมแครตทุกคน ในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา ต่างก็ให้คำมั่นสัญญาต่อชาวอเมริกัน นี่คือจุดยืนของ เบอร์นี แซนเดอร์ส ที่ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ว่าเขาตั้งใจจะขจัดความแตกต่าง ระหว่างยุโรปกับสหรัฐอเมริกา 
    แต่กลับปรากฏว่า ไม่มีใครทำเรื่องนี้เลย 
    นี่คือคำมั่นสัญญาอย่างหนึ่ง ที่นักการเมืองให้กับผู้แทนราษฎรของตน โดยรู้ดีว่า พวกเขาจะไม่มีวันได้ทำ 
    และสาเหตุที่พวกเขาไม่ต้องทำ ก็เพราะว่าพวกเขารู้ดีว่า ในหลายๆ ด้าน รัฐสภาถูกควบคุมโดยอุตสาหกรรมยา 

    มีนักล็อบบี้ยิสต์ขายยา อย่างน้อยหนึ่งคน ต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแต่ละคน ต่อวุฒิสมาชิกแต่ละคนในแคปิตอลฮิลล์ และต่อสมาชิกศาลฎีกาแต่ละคน 
    ผมประมาณว่าน่าจะมีบริษัทยาสามแห่ง โดยอุตสาหกรรมนี้ใช้จ่ายเงินเพื่อการล็อบบี้ มากกว่านักล็อบบี้ยิสต์รายใหญ่ ถึงสามเท่า 

    ดังนั้น นี่จึงเป็นปัญหาที่ผู้คนพูดถึง แต่ไม่มีใครอยากทำอะไรเลย เพราะมันเป็นรังสีอันตราย 

    พวกเขารู้ว่าคุณไม่สามารถได้รับมันจากรัฐสภา 

    แต่ตอนนี้เรามีประธานาธิบดีที่พูดจริงทำจริง มีความกล้าหาญ ประธานาธิบดีทรัมป์ ก็รับเงินจากอุตสาหกรรมยาเช่นกัน (หันหน้าไปคุยกับทรั้มป์) ผมคิดว่าพวกเขาให้เงินคุณ 100 ล้านเหรียญ ... 
    แต่เขาไม่อาจถูกซื้อไปได้ ไม่เหมือนกับนักการเมืองส่วนใหญ่ในประเทศนี้ และเขายืนอยู่ที่นี่ เพื่อประชาชนชาวอเมริกัน 

    ผมไม่รู้ว่าทำไมมีนักเขียนอย่าง เอลิซาเบธ วาร์เรน หรือโรเบิร์ต ไรท์ ถึงพูดว่าประธานาธิบดีทรัมป์ อยู่ฝั่งเดียวกับพวกคณาธิปไตย ไม่เคยมีประธานาธิบดีคนใด ที่เต็มใจยืนหยัดต่อสู้กับพวกคณาธิปไตย มากไปกว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และผมภูมิใจในตัวคุณมาก คุณประธานาธิบดี สำหรับความกล้าหาญของคุณ ผมจะพูด เพราะผมไม่อยากพูดหยาบๆ ถึงความอดทนของคุณ ความแข็งแกร่งของคุณ และความเต็มใจของคุณ ที่จะยืนหยัดเพื่อประชาชนชาวอเมริกัน เรามีประชากรเพียง 4.2% ของทั้งโลก แต่ประเทศของเราคือรายได้ 75% ของบริษัทผลิตยา เราใช้เงิน 1,126 ดอลลาร์ต่อคน ในประเทศของเราสำหรับซื้อยา 
    ในอังกฤษ พวกเขาใช้เงินประมาณ 240 ดอลลาร์ พวกเขาใช้เงินเพียงหนึ่งในห้าของที่เราใช้ และนี่เป็นเรื่องจริงทั่วทั้งยุโรป และบริษัทผลิตยาในยุโรป 

    ถ้าคุณถามพวกเขา สิ่งที่พวกเขาพูดนั้น ไม่สมเหตุสมผลเลย 

    อเมริกาต้องจ่ายเงินสำหรับนวัตกรรมนี้ มันจะไม่เกิดขึ้น

    ประธานาธิบดีทรัมป์ กำลังพูดกับพันธมิตรในยุโรปของเราว่า คุณต้องเพิ่มจำนวนเงิน ที่คุณจ่ายสำหรับยาเหล่านั้น และจ่ายส่วนแบ่งของคุณสำหรับนวัตกรรม สหรัฐอเมริกาจะไม่อุดหนุนเรื่องนี้อีกต่อไปแล้ว 
    หากยุโรปขึ้นราคายาเพียง 20% นั่นเท่ากับ 10 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งสามารถใช้ไปกับนวัตกรรมได้ และสุขภาพของผู้คนทั่วโลกจะดีขึ้น เนื่องจากเราจะมีผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้น ผมรู้สึกขอบคุณมากที่ได้อยู่ที่นี่ในวันนี้ ผมไม่เคยคิดว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นในชีวิตของผม 
    ผมมีลูกสองคนที่เป็นเดโมแครต และเป็นแฟนตัวยงของ เบอร์นี แซนเดอร์ส เมื่อผมบอกพวกเขาว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น พวกเขาก็ถึงกับน้ำตาซึม เพราะคิดว่าสิ่งนี้ จะไม่มีวันเกิดขึ้นได้ในชีวิตของเรา ในที่สุดเราก็มีประธานาธิบดี ที่เต็มใจจะยืนหยัดเพื่อชาวอเมริกัน

    https://youtu.be/Nq5uAJ2DLLY?si=QY-yDR9oHIwqRflb
    13 พฤษภาคม 2568 -ศาสตราจารย์ นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ได้โพสต์ประเด็นเรื่อง “ราคายาที่เป็นธรรม หลุดจาก อิทธิพลของบริษัทยา”  คำสั่งบริหารฉบับใหม่ของประธานาธิบดีทรัมป์มุ่งเป้าไปที่ราคาขายยาตามใบสั่งแพทย์ที่สูงมาก และเรียกร้องให้เมดิแคร์จ่ายในราคาที่ต่ำที่สุดที่ประเทศอื่นจ่าย สุนทรพจน์แบบนี้ ของ RFK Jr. ชนิดคำต่อคำ  (เพราะคุณจะไม่มีวันได้ยินคำพูดแบบนี้ จากนักการเมืองที่ไหน) _________________ วันนี้เป็นวันที่พิเศษมาก เป็นประเด็นที่ผมเติบโตมาในพรรคเดโมแครต และผู้นำพรรคเดโมแครตทุกคน ในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา ต่างก็ให้คำมั่นสัญญาต่อชาวอเมริกัน นี่คือจุดยืนของ เบอร์นี แซนเดอร์ส ที่ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ว่าเขาตั้งใจจะขจัดความแตกต่าง ระหว่างยุโรปกับสหรัฐอเมริกา  แต่กลับปรากฏว่า ไม่มีใครทำเรื่องนี้เลย  นี่คือคำมั่นสัญญาอย่างหนึ่ง ที่นักการเมืองให้กับผู้แทนราษฎรของตน โดยรู้ดีว่า พวกเขาจะไม่มีวันได้ทำ  และสาเหตุที่พวกเขาไม่ต้องทำ ก็เพราะว่าพวกเขารู้ดีว่า ในหลายๆ ด้าน รัฐสภาถูกควบคุมโดยอุตสาหกรรมยา  มีนักล็อบบี้ยิสต์ขายยา อย่างน้อยหนึ่งคน ต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแต่ละคน ต่อวุฒิสมาชิกแต่ละคนในแคปิตอลฮิลล์ และต่อสมาชิกศาลฎีกาแต่ละคน  ผมประมาณว่าน่าจะมีบริษัทยาสามแห่ง โดยอุตสาหกรรมนี้ใช้จ่ายเงินเพื่อการล็อบบี้ มากกว่านักล็อบบี้ยิสต์รายใหญ่ ถึงสามเท่า  ดังนั้น นี่จึงเป็นปัญหาที่ผู้คนพูดถึง แต่ไม่มีใครอยากทำอะไรเลย เพราะมันเป็นรังสีอันตราย  พวกเขารู้ว่าคุณไม่สามารถได้รับมันจากรัฐสภา  แต่ตอนนี้เรามีประธานาธิบดีที่พูดจริงทำจริง มีความกล้าหาญ ประธานาธิบดีทรัมป์ ก็รับเงินจากอุตสาหกรรมยาเช่นกัน (หันหน้าไปคุยกับทรั้มป์) ผมคิดว่าพวกเขาให้เงินคุณ 100 ล้านเหรียญ ...  แต่เขาไม่อาจถูกซื้อไปได้ ไม่เหมือนกับนักการเมืองส่วนใหญ่ในประเทศนี้ และเขายืนอยู่ที่นี่ เพื่อประชาชนชาวอเมริกัน  ผมไม่รู้ว่าทำไมมีนักเขียนอย่าง เอลิซาเบธ วาร์เรน หรือโรเบิร์ต ไรท์ ถึงพูดว่าประธานาธิบดีทรัมป์ อยู่ฝั่งเดียวกับพวกคณาธิปไตย ไม่เคยมีประธานาธิบดีคนใด ที่เต็มใจยืนหยัดต่อสู้กับพวกคณาธิปไตย มากไปกว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และผมภูมิใจในตัวคุณมาก คุณประธานาธิบดี สำหรับความกล้าหาญของคุณ ผมจะพูด เพราะผมไม่อยากพูดหยาบๆ ถึงความอดทนของคุณ ความแข็งแกร่งของคุณ และความเต็มใจของคุณ ที่จะยืนหยัดเพื่อประชาชนชาวอเมริกัน เรามีประชากรเพียง 4.2% ของทั้งโลก แต่ประเทศของเราคือรายได้ 75% ของบริษัทผลิตยา เราใช้เงิน 1,126 ดอลลาร์ต่อคน ในประเทศของเราสำหรับซื้อยา  ในอังกฤษ พวกเขาใช้เงินประมาณ 240 ดอลลาร์ พวกเขาใช้เงินเพียงหนึ่งในห้าของที่เราใช้ และนี่เป็นเรื่องจริงทั่วทั้งยุโรป และบริษัทผลิตยาในยุโรป  ถ้าคุณถามพวกเขา สิ่งที่พวกเขาพูดนั้น ไม่สมเหตุสมผลเลย  อเมริกาต้องจ่ายเงินสำหรับนวัตกรรมนี้ มันจะไม่เกิดขึ้น ประธานาธิบดีทรัมป์ กำลังพูดกับพันธมิตรในยุโรปของเราว่า คุณต้องเพิ่มจำนวนเงิน ที่คุณจ่ายสำหรับยาเหล่านั้น และจ่ายส่วนแบ่งของคุณสำหรับนวัตกรรม สหรัฐอเมริกาจะไม่อุดหนุนเรื่องนี้อีกต่อไปแล้ว  หากยุโรปขึ้นราคายาเพียง 20% นั่นเท่ากับ 10 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งสามารถใช้ไปกับนวัตกรรมได้ และสุขภาพของผู้คนทั่วโลกจะดีขึ้น เนื่องจากเราจะมีผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้น ผมรู้สึกขอบคุณมากที่ได้อยู่ที่นี่ในวันนี้ ผมไม่เคยคิดว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นในชีวิตของผม  ผมมีลูกสองคนที่เป็นเดโมแครต และเป็นแฟนตัวยงของ เบอร์นี แซนเดอร์ส เมื่อผมบอกพวกเขาว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น พวกเขาก็ถึงกับน้ำตาซึม เพราะคิดว่าสิ่งนี้ จะไม่มีวันเกิดขึ้นได้ในชีวิตของเรา ในที่สุดเราก็มีประธานาธิบดี ที่เต็มใจจะยืนหยัดเพื่อชาวอเมริกัน https://youtu.be/Nq5uAJ2DLLY?si=QY-yDR9oHIwqRflb
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 451 มุมมอง 0 รีวิว
  • สื่ออิสราเอลลงข่าว ทรัมป์ชื่นชมความกล้าหาญของฮูตี และหวังว่าอูตีจะยึดมั่นในข้อตกลงสงบศึกกับสหรัฐ


    หลายฝ่ายกำลังรอดูท่าทีของอิสราเอล ว่าจะมีปฏิกิริยาอย่างไรต่อสถานการณ์ที่ทรัมป์แอบไปทำข้อตกลงกับฮูตี ซึ่งเหมือนกับการปล่อยอิสราเอลเผชิญกับฮูตีโดยลำพัง
    สื่ออิสราเอลลงข่าว ทรัมป์ชื่นชมความกล้าหาญของฮูตี และหวังว่าอูตีจะยึดมั่นในข้อตกลงสงบศึกกับสหรัฐ หลายฝ่ายกำลังรอดูท่าทีของอิสราเอล ว่าจะมีปฏิกิริยาอย่างไรต่อสถานการณ์ที่ทรัมป์แอบไปทำข้อตกลงกับฮูตี ซึ่งเหมือนกับการปล่อยอิสราเอลเผชิญกับฮูตีโดยลำพัง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 194 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์ยอมรับถึงความแข็งของกลุ่มฮูตีหลังจากไม่สามารถทำลายล้างพวกเขาได้:

    “เราโจมตีพวกเขาอย่างหนัก พวกเขามีความสามารถในการอดทนต่อการลงโทษได้อย่างยอดเยี่ยม คุณสามารถพูดได้ว่าพวกเขามีความกล้าหาญมากที่นั่น มันเป็นเรื่องน่าทึ่งที่พวกเขาทำสำเร็จ แต่เราก็เคารพในคำมั่นสัญญาและคำพูดของพวกเขา”

    มีรายงานระบุว่า ตัวแทนของฮูตีเยเมนและสหรัฐตกลงเจรจากันในโอมาน โดยสหรัฐจะยุติการโจมตีกลุ่มฮูตี และกลุ่มฮูตีจะยุติการโจมตีเรือบรรทุกสินค้าที่เกี่ยวข้องกับสหรัฐด้วยเช่นกัน รายงานยังระบุอีกว่า กลุ่มฮูตีไม่ได้พูดถึงการหยุดโจมตีเรือบรรทุกสินค้าที่เกี่ยวข้องกับอิสราเอล
    ทรัมป์ยอมรับถึงความแข็งของกลุ่มฮูตีหลังจากไม่สามารถทำลายล้างพวกเขาได้: “เราโจมตีพวกเขาอย่างหนัก พวกเขามีความสามารถในการอดทนต่อการลงโทษได้อย่างยอดเยี่ยม คุณสามารถพูดได้ว่าพวกเขามีความกล้าหาญมากที่นั่น มันเป็นเรื่องน่าทึ่งที่พวกเขาทำสำเร็จ แต่เราก็เคารพในคำมั่นสัญญาและคำพูดของพวกเขา” 👉มีรายงานระบุว่า ตัวแทนของฮูตีเยเมนและสหรัฐตกลงเจรจากันในโอมาน โดยสหรัฐจะยุติการโจมตีกลุ่มฮูตี และกลุ่มฮูตีจะยุติการโจมตีเรือบรรทุกสินค้าที่เกี่ยวข้องกับสหรัฐด้วยเช่นกัน รายงานยังระบุอีกว่า กลุ่มฮูตีไม่ได้พูดถึงการหยุดโจมตีเรือบรรทุกสินค้าที่เกี่ยวข้องกับอิสราเอล
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 308 มุมมอง 8 0 รีวิว
  • สวัสดีครับ เข้าใจเลยว่าคุณกำลังสนใจในเรื่องของ พลังแห่งความกล้า และ พลังที่ตรงกันข้ามกับความกล้า ซึ่งเป็นสองด้านที่น่าสนใจและมีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิตของเรา
    พลังแห่งความกล้า นั้นไม่ใช่การปราศจากความกลัว แต่เป็นการที่เราสามารถ ก้าวข้ามความกลัว และ ลงมือทำ ในสิ่งที่ถูกต้องหรือสิ่งที่ควรทำ แม้จะรู้สึกหวาดหวั่นก็ตาม ความกล้าหาญนำมาซึ่ง:
    * การเติบโตและพัฒนาตนเอง: การกล้าเผชิญกับความท้าทายและออกจาก Comfort Zone ทำให้เราได้เรียนรู้และพัฒนาศักยภาพของตนเอง
    * ความเชื่อมั่นในตนเอง: เมื่อเราเอาชนะความกลัวและทำสิ่งที่ตั้งใจได้สำเร็จ ความเชื่อมั่นในตนเองก็จะเพิ่มมากขึ้น
    * โอกาสใหม่ ๆ: ความกล้าที่จะลองทำสิ่งใหม่ ๆ หรือกล้าที่จะเสี่ยงอย่างมีเหตุผล มักนำมาซึ่งโอกาสดี ๆ ในชีวิต
    * การเป็นผู้นำ: ผู้ที่มีความกล้าหาญมักจะกล้าตัดสินใจและนำพาผู้อื่นไปในทิศทางที่ถูกต้อง
    * ความสุขและความภาคภูมิใจ: การได้ทำในสิ่งที่ใจปรารถนา แม้จะต้องเผชิญกับความยากลำบาก ย่อมนำมาซึ่งความสุขและความภาคภูมิใจในตนเอง
    ในทางตรงกันข้าม พลังที่ตรงกันข้ามกับความกล้า นั้นสามารถมองได้หลายแง่มุม แต่หลัก ๆ แล้วคือ ความกลัว และสิ่งที่เกิดจากความกลัว เช่น:
    * ความขลาดกลัว (Cowardice): คือการที่เราปล่อยให้ความกลัวครอบงำ จนไม่กล้าที่จะทำในสิ่งที่ควรทำ หรือหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับปัญหา
    * ความลังเลและความไม่มั่นใจ: ความกลัวมักนำไปสู่ความลังเลในการตัดสินใจ และความไม่มั่นใจในความสามารถของตนเอง ทำให้พลาดโอกาสดี ๆ ไป
    * การยึดติดกับความปลอดภัย (Staying in Comfort Zone): ความกลัวความล้มเหลวหรือความผิดพลาด ทำให้เราไม่กล้าที่จะออกจาก Comfort Zone และพลาดโอกาสในการเติบโต
    * ความเฉื่อยชาและการไม่ลงมือทำ: เมื่อความกลัวมีอำนาจเหนือกว่า เราก็มักจะผัดวันประกันพรุ่ง หรือไม่กล้าที่จะเริ่มต้นทำอะไรเลย
    * ความทุกข์และความเสียใจ: การปล่อยให้ความกลัวควบคุมชีวิต อาจนำมาซึ่งความรู้สึกเสียใจในภายหลัง ที่ไม่ได้ทำในสิ่งที่ต้องการ หรือไม่ได้เผชิญหน้ากับสิ่งที่ควรเผชิญ
    ความกล้าและความกลัวเป็นสิ่งที่อยู่คู่กัน ไม่มีใครที่ไม่เคยรู้สึกกลัว แต่สิ่งที่แตกต่างคือการที่เราจะจัดการกับความกลัวนั้นอย่างไร เราจะปล่อยให้มันหยุดยั้งเรา หรือเราจะรวบรวมความกล้าเพื่อก้าวข้ามมันไป
    การฝึกฝนความกล้าสามารถทำได้โดยการเริ่มจากสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เรากลัว แล้วค่อย ๆ เพิ่มระดับความท้าทายขึ้น เมื่อเราเผชิญหน้ากับความกลัวและเอาชนะมันได้ครั้งแล้วครั้งเล่า พลังแห่งความกล้าในตัวเราก็จะค่อย ๆ เติบโตขึ้นครับ
    สวัสดีครับ เข้าใจเลยว่าคุณกำลังสนใจในเรื่องของ พลังแห่งความกล้า และ พลังที่ตรงกันข้ามกับความกล้า ซึ่งเป็นสองด้านที่น่าสนใจและมีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิตของเรา พลังแห่งความกล้า นั้นไม่ใช่การปราศจากความกลัว แต่เป็นการที่เราสามารถ ก้าวข้ามความกลัว และ ลงมือทำ ในสิ่งที่ถูกต้องหรือสิ่งที่ควรทำ แม้จะรู้สึกหวาดหวั่นก็ตาม ความกล้าหาญนำมาซึ่ง: * การเติบโตและพัฒนาตนเอง: การกล้าเผชิญกับความท้าทายและออกจาก Comfort Zone ทำให้เราได้เรียนรู้และพัฒนาศักยภาพของตนเอง * ความเชื่อมั่นในตนเอง: เมื่อเราเอาชนะความกลัวและทำสิ่งที่ตั้งใจได้สำเร็จ ความเชื่อมั่นในตนเองก็จะเพิ่มมากขึ้น * โอกาสใหม่ ๆ: ความกล้าที่จะลองทำสิ่งใหม่ ๆ หรือกล้าที่จะเสี่ยงอย่างมีเหตุผล มักนำมาซึ่งโอกาสดี ๆ ในชีวิต * การเป็นผู้นำ: ผู้ที่มีความกล้าหาญมักจะกล้าตัดสินใจและนำพาผู้อื่นไปในทิศทางที่ถูกต้อง * ความสุขและความภาคภูมิใจ: การได้ทำในสิ่งที่ใจปรารถนา แม้จะต้องเผชิญกับความยากลำบาก ย่อมนำมาซึ่งความสุขและความภาคภูมิใจในตนเอง ในทางตรงกันข้าม พลังที่ตรงกันข้ามกับความกล้า นั้นสามารถมองได้หลายแง่มุม แต่หลัก ๆ แล้วคือ ความกลัว และสิ่งที่เกิดจากความกลัว เช่น: * ความขลาดกลัว (Cowardice): คือการที่เราปล่อยให้ความกลัวครอบงำ จนไม่กล้าที่จะทำในสิ่งที่ควรทำ หรือหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับปัญหา * ความลังเลและความไม่มั่นใจ: ความกลัวมักนำไปสู่ความลังเลในการตัดสินใจ และความไม่มั่นใจในความสามารถของตนเอง ทำให้พลาดโอกาสดี ๆ ไป * การยึดติดกับความปลอดภัย (Staying in Comfort Zone): ความกลัวความล้มเหลวหรือความผิดพลาด ทำให้เราไม่กล้าที่จะออกจาก Comfort Zone และพลาดโอกาสในการเติบโต * ความเฉื่อยชาและการไม่ลงมือทำ: เมื่อความกลัวมีอำนาจเหนือกว่า เราก็มักจะผัดวันประกันพรุ่ง หรือไม่กล้าที่จะเริ่มต้นทำอะไรเลย * ความทุกข์และความเสียใจ: การปล่อยให้ความกลัวควบคุมชีวิต อาจนำมาซึ่งความรู้สึกเสียใจในภายหลัง ที่ไม่ได้ทำในสิ่งที่ต้องการ หรือไม่ได้เผชิญหน้ากับสิ่งที่ควรเผชิญ ความกล้าและความกลัวเป็นสิ่งที่อยู่คู่กัน ไม่มีใครที่ไม่เคยรู้สึกกลัว แต่สิ่งที่แตกต่างคือการที่เราจะจัดการกับความกลัวนั้นอย่างไร เราจะปล่อยให้มันหยุดยั้งเรา หรือเราจะรวบรวมความกล้าเพื่อก้าวข้ามมันไป การฝึกฝนความกล้าสามารถทำได้โดยการเริ่มจากสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เรากลัว แล้วค่อย ๆ เพิ่มระดับความท้าทายขึ้น เมื่อเราเผชิญหน้ากับความกลัวและเอาชนะมันได้ครั้งแล้วครั้งเล่า พลังแห่งความกล้าในตัวเราก็จะค่อย ๆ เติบโตขึ้นครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 339 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..บ่อน้ำมันไทยที่ข้าราชการประจำระดับนั่งตำแหน่งสูงๆมากมายทั่วประเทศไม่มีความกล้าหาญนำพาคืนความมั่งคั่งแก่ประชาชนคนไทยได้,ผู้ว่าฯและนายอำเภอแต่ละจังหวัดแต่ละท้องที่ตนที่รู้เห็นความจริงทุกๆอย่างยังปิดตาลงได้&ไม่เคยลงประกาศประชุมพูดคุยบอกเล่าความจริงแก่ประชาชนอย่างจริงใจแบบจัดประชุมคืน&มอบโฉนดที่ดินคืนสิทธิ์แก่ประชาชนเลย,บ่อน้ำมันเป็นอะไรยิ่งกว่าที่ดินประชาชนเช่นกันมันคือการพ้นยากจนคนไทยได้ มีสิทธิในการทำกินสร้างความมั่งคั่งร่ำรวยแก่ทุกๆคนในประเทศไทยได้เหมือนมีที่ดินทำกินสร้างสุขปากท้องคนนั้นเอง,ไม่รวมบ่อทองคำแหล่งทรัพยากรผูกขาดต่างๆที่เสียสิทธิไปเช่นบ่อน้ำมัน.,และแม้ทหารยึดอำนาจเองก็ไม่เคยคิดอ่านประกาศความจริง&จริงใจจริงต่อคนไทยทั้งประเทศ,ขาติเราเจริญวัตถุเพื่อตอบสนองโคตรเหง้าไม่กี่ตระกูลให้มั่งคั่งร่ำรวยอย่างบ้าคลั่งชนิดเห็นแก่ตัวโคตรๆมาอย่างยาวนานจริงๆและพร้อมทำลายขายชาติขายแผ่นดินไทยสมคบคิดต่างชาติก่อชั่วใส่แผ่นดินและประชาชนอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง.,คือวิถีปกครองที่ชั่วเลวยิ่งนักในคราบเผด็จการประชาธิปไตยส่งออกของฝรั่งร่วมกับคณะกบฎ2475.

    ....ทวนราคาน้ำมันในอดีตยุค2565ที่เบนซิน95แบบไม่ผสมเอทานอลลิตรละ52-53กว่าบาทต่อลิตร ถือว่าแพงมากเช่นกัน.

    ราคาน้ำมันวันนี้ 6 มิถุนายน 2565 เช็กราคาทุกชนิด ล่าสุดลิตรละกี่บาทแล้ว

    Date Time: 6 มิ.ย. 2565 10:00 น.

    "ราคาน้ำมันวันนี้" 6 มิ.ย. 65 เช็กราคาน้ำมันทุกชนิด กลุ่มเบนซิน, โซฮอล์, ดีเซล ล่าสุดราคาลิตรละเท่าไร เมื่อเปรียบเทียบระหว่าง 4 ปั๊มน้ำมัน
    "ราคาน้ำมันวันนี้" 6 มิ.ย. 65 เช็กราคาน้ำมันทุกชนิด กลุ่มเบนซิน, โซฮอล์, ดีเซล ล่าสุดราคาลิตรละเท่าไร เมื่อเปรียบเทียบระหว่าง 4 ปั๊มน้ำมัน
    วันที่ 6 มิถุนายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานการอัปเดตราคาน้ำมัน กลุ่มเบนซิน, แก๊สโซฮอล์ และดีเซล ล่าสุด จากเว็บไซต์ บมจ.บางจากปิโตรเลียม, เว็บไซต์ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน), เว็บไซต์ บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด และ Esso Thailand โดยมีราคาดังนี้

    ราคาน้ำมันปั๊ม "เชลล์"
    เชลล์ ฟิวเซฟ แก๊สโซฮอล์ E20 อยู่ที่ 44.54 บาท/ลิตร
    เชลล์ ฟิวเซฟ แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 45.38 บาท/ลิตร
    เชลล์ ฟิวเซฟ แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 45.65 บาท/ลิตร

    เชลล์ วี-เพาเวอร์ แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 53.14 บาท/ลิตร

    เชลล์ ดีเซล B20 อยู่ที่ 33.94 บาท/ลิตร
    เชลล์ ฟิวเซฟ ดีเซล อยู่ที่ 33.94 บาท/ลิตร
    เชลล์ ฟิวเซฟ ดีเซล B7 อยู่ที่ 33.94 บาท/ลิตร
    เชลล์ วี-เพาเวอร์ ดีเซล อยู่ที่ 33.94 บาท/ลิตร
    เชลล์ วี-เพาเวอร์ ดีเซล B7 อยู่ที่ 49.39 บาท/ลิตร



    ราคาน้ำมันปั๊ม "เอสโซ่"
    เอ็กซ์ตร้า แก๊สโซฮอล์ E20 อยู่ที่ 44.34 บาท/ลิตร
    เอ็กซ์ตร้า แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 45.18 บาท/ลิตร
    ซูเปอร์ แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 45.45 บาท/ลิตร
    ดีเซล อยู่ที่ 33.34 บาท/ลิตร
    ดีเซล B7 อยู่ที่ 33.34 บาท/ลิตร

    ซูพรีมพลัส แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 52.94 บาท/ลิตร

    ซูพรีมพลัส ดีเซล B7 อยู่ที่ 47.66 บาท/ลิตร



    ราคาน้ำมันปั๊ม "ปตท."
    ดีเซลพรีเมียม B7 อยู่ที่ 44.36 บาท/ลิตร
    ดีเซล S B7 อยู่ที่ 32.94 บาท/ลิตร
    ดีเซล อยู่ที่ 32.94 บาท/ลิตร
    ดีเซล B20 อยู่ที่ 32.94 บาท/ลิตร

    เบนซิน อยู่ที่ 52.06 บาท/ลิตร

    แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 44.65 บาท/ลิตร
    แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 44.38 บาท/ลิตร
    แก๊สโซฮอล์ E20 อยู่ที่ 43.54 บาท/ลิตร
    แก๊สโซฮอล์ E85 อยู่ที่ 37.24 บาท/ลิตร


    ราคาน้ำมันปั๊ม "บางจาก"
    แก๊สโซฮอล์ 95S EVO อยู่ที่ 44.65 บาท/ลิตร
    แก๊สโซฮอล์ 91S EV อยู่ที่ 44.38 บาท/ลิตร
    แก๊สโซฮอล์ E20S EVO อยู่ที่ 43.54 บาท/ลิตร
    แก๊สโซฮอล์ E85S EVO อยู่ที่ 37.24 บาท/ลิตร
    ไฮดีเซล B20S อยู่ที่ 32.94 บาท/ลิตร
    ไฮดีเซล S อยู่ที่ 32.94 บาท/ลิตร
    ไฮดีเซล S B7 อยู่ที่ 32.94 บาท/ลิตร
    ไฮพรีเมียมดีเซล S B7 อยู่ที่ 44.36 บาท/ลิตร


    อย่างไรก็ตาม ราคาข้างต้นเป็นราคากลางที่ยังไม่รวมภาษีบำรุงท้องที่ ซึ่งอาจมีความแตกต่างในแต่ละพื้นที่.



    ..บ่อน้ำมันไทยที่ข้าราชการประจำระดับนั่งตำแหน่งสูงๆมากมายทั่วประเทศไม่มีความกล้าหาญนำพาคืนความมั่งคั่งแก่ประชาชนคนไทยได้,ผู้ว่าฯและนายอำเภอแต่ละจังหวัดแต่ละท้องที่ตนที่รู้เห็นความจริงทุกๆอย่างยังปิดตาลงได้&ไม่เคยลงประกาศประชุมพูดคุยบอกเล่าความจริงแก่ประชาชนอย่างจริงใจแบบจัดประชุมคืน&มอบโฉนดที่ดินคืนสิทธิ์แก่ประชาชนเลย,บ่อน้ำมันเป็นอะไรยิ่งกว่าที่ดินประชาชนเช่นกันมันคือการพ้นยากจนคนไทยได้ มีสิทธิในการทำกินสร้างความมั่งคั่งร่ำรวยแก่ทุกๆคนในประเทศไทยได้เหมือนมีที่ดินทำกินสร้างสุขปากท้องคนนั้นเอง,ไม่รวมบ่อทองคำแหล่งทรัพยากรผูกขาดต่างๆที่เสียสิทธิไปเช่นบ่อน้ำมัน.,และแม้ทหารยึดอำนาจเองก็ไม่เคยคิดอ่านประกาศความจริง&จริงใจจริงต่อคนไทยทั้งประเทศ,ขาติเราเจริญวัตถุเพื่อตอบสนองโคตรเหง้าไม่กี่ตระกูลให้มั่งคั่งร่ำรวยอย่างบ้าคลั่งชนิดเห็นแก่ตัวโคตรๆมาอย่างยาวนานจริงๆและพร้อมทำลายขายชาติขายแผ่นดินไทยสมคบคิดต่างชาติก่อชั่วใส่แผ่นดินและประชาชนอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง.,คือวิถีปกครองที่ชั่วเลวยิ่งนักในคราบเผด็จการประชาธิปไตยส่งออกของฝรั่งร่วมกับคณะกบฎ2475. ....ทวนราคาน้ำมันในอดีตยุค2565ที่เบนซิน95แบบไม่ผสมเอทานอลลิตรละ52-53กว่าบาทต่อลิตร ถือว่าแพงมากเช่นกัน. ราคาน้ำมันวันนี้ 6 มิถุนายน 2565 เช็กราคาทุกชนิด ล่าสุดลิตรละกี่บาทแล้ว Date Time: 6 มิ.ย. 2565 10:00 น. "ราคาน้ำมันวันนี้" 6 มิ.ย. 65 เช็กราคาน้ำมันทุกชนิด กลุ่มเบนซิน, โซฮอล์, ดีเซล ล่าสุดราคาลิตรละเท่าไร เมื่อเปรียบเทียบระหว่าง 4 ปั๊มน้ำมัน "ราคาน้ำมันวันนี้" 6 มิ.ย. 65 เช็กราคาน้ำมันทุกชนิด กลุ่มเบนซิน, โซฮอล์, ดีเซล ล่าสุดราคาลิตรละเท่าไร เมื่อเปรียบเทียบระหว่าง 4 ปั๊มน้ำมัน วันที่ 6 มิถุนายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานการอัปเดตราคาน้ำมัน กลุ่มเบนซิน, แก๊สโซฮอล์ และดีเซล ล่าสุด จากเว็บไซต์ บมจ.บางจากปิโตรเลียม, เว็บไซต์ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน), เว็บไซต์ บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด และ Esso Thailand โดยมีราคาดังนี้ ราคาน้ำมันปั๊ม "เชลล์" เชลล์ ฟิวเซฟ แก๊สโซฮอล์ E20 อยู่ที่ 44.54 บาท/ลิตร เชลล์ ฟิวเซฟ แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 45.38 บาท/ลิตร เชลล์ ฟิวเซฟ แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 45.65 บาท/ลิตร เชลล์ วี-เพาเวอร์ แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 53.14 บาท/ลิตร เชลล์ ดีเซล B20 อยู่ที่ 33.94 บาท/ลิตร เชลล์ ฟิวเซฟ ดีเซล อยู่ที่ 33.94 บาท/ลิตร เชลล์ ฟิวเซฟ ดีเซล B7 อยู่ที่ 33.94 บาท/ลิตร เชลล์ วี-เพาเวอร์ ดีเซล อยู่ที่ 33.94 บาท/ลิตร เชลล์ วี-เพาเวอร์ ดีเซล B7 อยู่ที่ 49.39 บาท/ลิตร ราคาน้ำมันปั๊ม "เอสโซ่" เอ็กซ์ตร้า แก๊สโซฮอล์ E20 อยู่ที่ 44.34 บาท/ลิตร เอ็กซ์ตร้า แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 45.18 บาท/ลิตร ซูเปอร์ แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 45.45 บาท/ลิตร ดีเซล อยู่ที่ 33.34 บาท/ลิตร ดีเซล B7 อยู่ที่ 33.34 บาท/ลิตร ซูพรีมพลัส แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 52.94 บาท/ลิตร ซูพรีมพลัส ดีเซล B7 อยู่ที่ 47.66 บาท/ลิตร ราคาน้ำมันปั๊ม "ปตท." ดีเซลพรีเมียม B7 อยู่ที่ 44.36 บาท/ลิตร ดีเซล S B7 อยู่ที่ 32.94 บาท/ลิตร ดีเซล อยู่ที่ 32.94 บาท/ลิตร ดีเซล B20 อยู่ที่ 32.94 บาท/ลิตร เบนซิน อยู่ที่ 52.06 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 44.65 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 44.38 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล์ E20 อยู่ที่ 43.54 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล์ E85 อยู่ที่ 37.24 บาท/ลิตร ราคาน้ำมันปั๊ม "บางจาก" แก๊สโซฮอล์ 95S EVO อยู่ที่ 44.65 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล์ 91S EV อยู่ที่ 44.38 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล์ E20S EVO อยู่ที่ 43.54 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล์ E85S EVO อยู่ที่ 37.24 บาท/ลิตร ไฮดีเซล B20S อยู่ที่ 32.94 บาท/ลิตร ไฮดีเซล S อยู่ที่ 32.94 บาท/ลิตร ไฮดีเซล S B7 อยู่ที่ 32.94 บาท/ลิตร ไฮพรีเมียมดีเซล S B7 อยู่ที่ 44.36 บาท/ลิตร อย่างไรก็ตาม ราคาข้างต้นเป็นราคากลางที่ยังไม่รวมภาษีบำรุงท้องที่ ซึ่งอาจมีความแตกต่างในแต่ละพื้นที่.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 650 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากไทย 36% (ล่าสุดปรับอีกครั้งเป็น 37%) หนึ่งในทางออกคือ ไทยต้องเล่นบทบาทนำในอาเซียน เพื่อผ่านวิกฤตครั้งนี้ให้ได้.ประเด็นเร่งด่วนในระยะสั้นที่ไทยต้องเร่งผลักดันผ่านคณะทำงานของเจ้าหน้าที่ระดับสูง และที่ประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน เพื่อให้ทันก่อนการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้คือ.รับมือกับมาตรการทางทางการค้าของสหรัฐอเมริการ่วมกัน เพราะสมาชิกอาเซียนโดนกันถ้วนหน้า กัมพูชา 49% สปป ลาว 48% เวียดนาม 46% เมียนมา 44% ไทย 36-37% อินโดนีเซีย 32% มาเลเซียและบรูไน 24% ฟิลิปปินส์ 17% หรือแม้แต่สิงคโปร์ก็โดนภาษี 10% เราต้องคำนวณร่วมกันว่า อัตราที่ทรัมป์กล่าวอ้าง นั่นคือ x2 ของอัตราภาษีเหล่านี้ คืออัตราจริงหรือไม่ ที่มาเป็นอย่างไร ถ้าไม่จริงต้องเร่งปฏิเสธ (ซึ่งผมค่อนข้างมั่นใจว่าไม่น่าจะใช่อัตราที่ถูกต้อง รวมทั้งมีผู้คำนวณแล้วว่าตัวเลขชุดนี้ แท้จริงแล้วคือ สัดส่วนมูลค่าการขาดดุลการค้าต่อมูลค่าการนำเข้าที่สหรัฐนำเข้าสินค้าจากแต่ละประเทศ).จากนั้น ต้องคิดต่อว่าหากให้แต่ละประเทศสมาชิกเจรจากับสหรัฐ (ซึ่งจะมีเวลาเตรียมตัวสั้นมาก) เพื่อลดผลกระทบจากมาตรการกีดกันทางการค้า อำนาจการต่อรองของแต่ละสมาชิกเมื่อเทียบกับสหรัฐอเมริกาคือ เรื่องจิ๊บจ๊อยขี้ประติ๋ว แต่หากประชาคมอาเซียนรวมตัวกัน นี้คือตลาดของประชาชนเรือน 700 ล้านประชากร ที่มีรายได้สูงเป็นอันดับที่ 5 ของโลก และเป็นแหล่งทรัพยากรสำคัญ ดังนั้น อาเซียนต้องร่วมมือกัน อาเซียนต้องเดินหน้าต่อรองด้วยกัน .อาเซียนต้องไม่ดำเนินมาตรการที่ขัดแข้งขัดขาซึ่งกันและกัน มาตรการจำพวกตั้งภาษีตอบโต้กัน หรือเลียนแบบมาตรการทางการค้าเพื่อตอบโต้ซึ่งกันและกัน (Tariff Retaliation and/or Trade Emulation) รวมทั้งนโยบายประเภทเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น ขอทานจากประเทศเพื่อบ้าน (Beggar-thy-neighbor) อาทิ ขึ้นดอกเบี้ยเพื่อดึงดูดเงินทุน แข่งกันให้สิทธิพิเศษทางการค้าการลงทุนจนวายวอดทั้งภูมิภาค ฯลฯ เหล่านี้ต้องไม่เกิดขึ้น .จากนั้นทั้งอาเซียนต้องร่วมกัน.1. แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่า อาเซียนคืออาเซียน อาเซียนมีจุดแข็งของตนเอง อาเซียนพร้อมสนับสนุนการค้า การลงทุนเสรี อาเซียนสนับสนุนกฎกติการแบบพหุภาคีนิยม และอาเซียนไม่ได้เป็นเขตอิทธิพลของมหาอำนาจใดมหาอำนาจหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น จีน สหรัฐ หรือ มหาอำนาจใดๆ.2. เร่งสำรวจผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากมาตรการทางการค้าที่สหรัฐประกาศ ณ วันที่ 2 เมษายน ว่าแต่ละประเทศได้รับผลกระทบอย่างไร และหากเราร่วมมือกัน เราต้องการตจะกำหนดทิศทางการเจรจาอย่างไร แน่นอนว่า ทุกประเทศ ทุกคน คงไม่ได้สิ่งที่ต้องการทั้งหมด แต่ต้องมีการจัดลำดับความสำคัญ บางเรื่อง บางประเทศ คงต้องยอมถอย เพื่อให้ได้ประโยชน์ต่อบางภาคการผลิต บางประเทศ และจากนั้นค่อยไปหารือกันว่าอาเซียนจะช่วยการเยียวยาผลกระทบซึ่งกันและกันได้อย่างไร เร่งปรึกษาหารือกับวิสาหกิจสหรัฐที่ทำการค้า ทำการลงทุนอยู่แล้วในอาเซียน ว่าพวกเขามีข้อเสนอแนะใดบ้าง.3. เร่งสำรวจว่าแต่ละประเทศมีช่องทาง มีสายสัมพันธ์ มีแนวทางการติดต่อประสานงานกับประธานาธิบดีทรัมป์ และทีมงานที่ภักดีของเขา รวมทั้งผู้สนับสนุนการรณรงค์หาเสียงของเขาในช่องทางใดบ้าง มีอะไรที่จะเป็นจุดสำคัญที่จะทำให้คนเหล่านี้ต้องการเป็นสะพานเพื่อเปิดการเจรจาระหว่างอาเซียนกับสหรัฐ.4. วางยุทธศาสตร์การเจรจาร่วมกัน โดยการจัดทำ “ยุทธศาสตร์ราชสีห์กับหนู” นำเสนอนโยบายที่ทำให้ทรัมป์ต้องให้ความสนใจอาเซียน (ทรัมป์เคยมาเยือนการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่ฟิลิปปินส์ในปี 2017 แต่ไม่เคยเข้าประชุมกับผู้นำอาเซียน) อาเซียนต้องเป็นหนูที่แสดงความเกรงใจนบนอบในระยะปัจจุบัน แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องแสดงให้เห็นโอกาสที่สหรัฐจะได้จากการร่วมมือกับในอนาคต มีอะไรที่เราจะเสนอกับอาเซียนได้บ้าง อาทิ ความต้องการในการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ของอาเซียนร่วมกันในอีก 5 ปีต่อจากนี้ ความต้องการในการซื้อสินค้าและบริการที่เป็น Billing ขนาดใหญ่ อาทิ การจัดหาเครื่องบินพาณิชย์ของสายการบินต่างๆ ในประเทศอาเซียนที่มีตลาดการบินขนาดใหญ่และเป็น Hub ทางการบินที่สำคัญ, การจัดซื้อ Software และ Hardware สำหรับระบบบริหาร ASEAN Smart City Network รวมทั้งความต้องการในการจัดซื้อบริการเหล่านี้สำหรับการบริหารกิจการทั้งของรัฐบาลและของภาคเอกชนในอาเซียน, ความต้องการซื้ออุปกรณ์และองค์ความรู้ในการติดตั้งเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์เพื่อการสร้างโรงไฟฟ้าและศักยภาพของการผลิตพลังงานสีเขียวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมดิจิตอลที่ผู้ประกอบการสหรัฐต้องการ, ทรัพยากรธรรมชาติของอาเซียนที่สหรัฐดิ้นรนแสวงหาอยู่ ณ ขณะนี้, ไปจนถึงการเปิดโอกาสให้กลุ่มทุนคาสิโนแห่ง Las Vegas ได้มีโอกาสในการทำธุรกิจในอาเซียนในประเทศที่กำลังเดินหน้านโยบายการเปิดบ่อน (ส่วนตัวผู้เขียนไม่เห็นด้วยกับการเปิดบ่อนคาสิโนที่มอมเมาประชาชน แต่หากรัฐบาลจะดันทุรังเปิดให้ได้ อย่างน้อยก็ต้องเอามาใช้ให้เป็นประโยชน์ เพราะต้องอย่าลืมว่าผู้สนับสนุนทรัมป์ก็เป็นกลุ่มทุนคาสิโนยักษ์ใหญ่) ฯลฯ เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นอำนาจต่อรองที่หนูตัวนี้จะรอดจากเงื้อมมือราชสีห์ด้วยกันทั้งสิ้น.5. และเนื่องจาก ไทย มาเลเซีย และเวียดนาม ได้รับสิทธิ์ในการเป็น Partner Country ของกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจ BRICS ในขณะที่อินโดนีเซียได้รับสิทธิ์เป็น Full Member ของ BRICS เรียบร้อยแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่หนูน้อยอาเซียนต้องดำเนินการด้วยนั่นก็คือ เร่งเจรจากับผู้นำบราซิลที่จะเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดกลุ่ม BRICS ในปีนี้ ว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะรับอาเซียนทั้ง 10 ประเทศเข้าเป็นสมาชิก เพราะหนูตัวนี้บางครั้งก็ต้องพึ่งพาราชสีห์อีกตัวมากดดันราชสีห์อันทพาลตัวเก่า การแสวงหาโอกาส การแสวงหาตลาดใหม่ๆ ที่จะเป็นทางเลือกเพื่อมาทดแทนตลาดการค้าที่กำลังจะเสียไป เป็นทางเลือกที่เรามีสิทธิ์ในฐานะรัฐอธิปไตย.ขอเรียกร้องให้ผู้กำหนดนโยบายของไทยต้องมีวิสัยทัศน์ มีความกล้าหาญในการเล่นบทบาทนำของประเทศไทยในประชาคมอาเซียน เราต้องมีข้อเสนอกับประชาคมอาเซียนเพื่อรับมือมาตรการกีดกันทางการค้าจะสหรัฐร่วมกัน.รองศาสตราจารย์ ดร.ปิติ ศรีแสงนามคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.ปล. รบกวนช่วยกัน Share นะครับ เราต้องลุกขึ้นมาทำอะไรบ้าง ไม่งั้นไทยจะหายไปจากจอเรดาร์
    สหรัฐเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากไทย 36% (ล่าสุดปรับอีกครั้งเป็น 37%) หนึ่งในทางออกคือ ไทยต้องเล่นบทบาทนำในอาเซียน เพื่อผ่านวิกฤตครั้งนี้ให้ได้.ประเด็นเร่งด่วนในระยะสั้นที่ไทยต้องเร่งผลักดันผ่านคณะทำงานของเจ้าหน้าที่ระดับสูง และที่ประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน เพื่อให้ทันก่อนการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้คือ.รับมือกับมาตรการทางทางการค้าของสหรัฐอเมริการ่วมกัน เพราะสมาชิกอาเซียนโดนกันถ้วนหน้า กัมพูชา 49% สปป ลาว 48% เวียดนาม 46% เมียนมา 44% ไทย 36-37% อินโดนีเซีย 32% มาเลเซียและบรูไน 24% ฟิลิปปินส์ 17% หรือแม้แต่สิงคโปร์ก็โดนภาษี 10% เราต้องคำนวณร่วมกันว่า อัตราที่ทรัมป์กล่าวอ้าง นั่นคือ x2 ของอัตราภาษีเหล่านี้ คืออัตราจริงหรือไม่ ที่มาเป็นอย่างไร ถ้าไม่จริงต้องเร่งปฏิเสธ (ซึ่งผมค่อนข้างมั่นใจว่าไม่น่าจะใช่อัตราที่ถูกต้อง รวมทั้งมีผู้คำนวณแล้วว่าตัวเลขชุดนี้ แท้จริงแล้วคือ สัดส่วนมูลค่าการขาดดุลการค้าต่อมูลค่าการนำเข้าที่สหรัฐนำเข้าสินค้าจากแต่ละประเทศ).จากนั้น ต้องคิดต่อว่าหากให้แต่ละประเทศสมาชิกเจรจากับสหรัฐ (ซึ่งจะมีเวลาเตรียมตัวสั้นมาก) เพื่อลดผลกระทบจากมาตรการกีดกันทางการค้า อำนาจการต่อรองของแต่ละสมาชิกเมื่อเทียบกับสหรัฐอเมริกาคือ เรื่องจิ๊บจ๊อยขี้ประติ๋ว แต่หากประชาคมอาเซียนรวมตัวกัน นี้คือตลาดของประชาชนเรือน 700 ล้านประชากร ที่มีรายได้สูงเป็นอันดับที่ 5 ของโลก และเป็นแหล่งทรัพยากรสำคัญ ดังนั้น อาเซียนต้องร่วมมือกัน อาเซียนต้องเดินหน้าต่อรองด้วยกัน .อาเซียนต้องไม่ดำเนินมาตรการที่ขัดแข้งขัดขาซึ่งกันและกัน มาตรการจำพวกตั้งภาษีตอบโต้กัน หรือเลียนแบบมาตรการทางการค้าเพื่อตอบโต้ซึ่งกันและกัน (Tariff Retaliation and/or Trade Emulation) รวมทั้งนโยบายประเภทเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น ขอทานจากประเทศเพื่อบ้าน (Beggar-thy-neighbor) อาทิ ขึ้นดอกเบี้ยเพื่อดึงดูดเงินทุน แข่งกันให้สิทธิพิเศษทางการค้าการลงทุนจนวายวอดทั้งภูมิภาค ฯลฯ เหล่านี้ต้องไม่เกิดขึ้น .จากนั้นทั้งอาเซียนต้องร่วมกัน.1. แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่า อาเซียนคืออาเซียน อาเซียนมีจุดแข็งของตนเอง อาเซียนพร้อมสนับสนุนการค้า การลงทุนเสรี อาเซียนสนับสนุนกฎกติการแบบพหุภาคีนิยม และอาเซียนไม่ได้เป็นเขตอิทธิพลของมหาอำนาจใดมหาอำนาจหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น จีน สหรัฐ หรือ มหาอำนาจใดๆ.2. เร่งสำรวจผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากมาตรการทางการค้าที่สหรัฐประกาศ ณ วันที่ 2 เมษายน ว่าแต่ละประเทศได้รับผลกระทบอย่างไร และหากเราร่วมมือกัน เราต้องการตจะกำหนดทิศทางการเจรจาอย่างไร แน่นอนว่า ทุกประเทศ ทุกคน คงไม่ได้สิ่งที่ต้องการทั้งหมด แต่ต้องมีการจัดลำดับความสำคัญ บางเรื่อง บางประเทศ คงต้องยอมถอย เพื่อให้ได้ประโยชน์ต่อบางภาคการผลิต บางประเทศ และจากนั้นค่อยไปหารือกันว่าอาเซียนจะช่วยการเยียวยาผลกระทบซึ่งกันและกันได้อย่างไร เร่งปรึกษาหารือกับวิสาหกิจสหรัฐที่ทำการค้า ทำการลงทุนอยู่แล้วในอาเซียน ว่าพวกเขามีข้อเสนอแนะใดบ้าง.3. เร่งสำรวจว่าแต่ละประเทศมีช่องทาง มีสายสัมพันธ์ มีแนวทางการติดต่อประสานงานกับประธานาธิบดีทรัมป์ และทีมงานที่ภักดีของเขา รวมทั้งผู้สนับสนุนการรณรงค์หาเสียงของเขาในช่องทางใดบ้าง มีอะไรที่จะเป็นจุดสำคัญที่จะทำให้คนเหล่านี้ต้องการเป็นสะพานเพื่อเปิดการเจรจาระหว่างอาเซียนกับสหรัฐ.4. วางยุทธศาสตร์การเจรจาร่วมกัน โดยการจัดทำ “ยุทธศาสตร์ราชสีห์กับหนู” นำเสนอนโยบายที่ทำให้ทรัมป์ต้องให้ความสนใจอาเซียน (ทรัมป์เคยมาเยือนการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่ฟิลิปปินส์ในปี 2017 แต่ไม่เคยเข้าประชุมกับผู้นำอาเซียน) อาเซียนต้องเป็นหนูที่แสดงความเกรงใจนบนอบในระยะปัจจุบัน แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องแสดงให้เห็นโอกาสที่สหรัฐจะได้จากการร่วมมือกับในอนาคต มีอะไรที่เราจะเสนอกับอาเซียนได้บ้าง อาทิ ความต้องการในการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ของอาเซียนร่วมกันในอีก 5 ปีต่อจากนี้ ความต้องการในการซื้อสินค้าและบริการที่เป็น Billing ขนาดใหญ่ อาทิ การจัดหาเครื่องบินพาณิชย์ของสายการบินต่างๆ ในประเทศอาเซียนที่มีตลาดการบินขนาดใหญ่และเป็น Hub ทางการบินที่สำคัญ, การจัดซื้อ Software และ Hardware สำหรับระบบบริหาร ASEAN Smart City Network รวมทั้งความต้องการในการจัดซื้อบริการเหล่านี้สำหรับการบริหารกิจการทั้งของรัฐบาลและของภาคเอกชนในอาเซียน, ความต้องการซื้ออุปกรณ์และองค์ความรู้ในการติดตั้งเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์เพื่อการสร้างโรงไฟฟ้าและศักยภาพของการผลิตพลังงานสีเขียวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมดิจิตอลที่ผู้ประกอบการสหรัฐต้องการ, ทรัพยากรธรรมชาติของอาเซียนที่สหรัฐดิ้นรนแสวงหาอยู่ ณ ขณะนี้, ไปจนถึงการเปิดโอกาสให้กลุ่มทุนคาสิโนแห่ง Las Vegas ได้มีโอกาสในการทำธุรกิจในอาเซียนในประเทศที่กำลังเดินหน้านโยบายการเปิดบ่อน (ส่วนตัวผู้เขียนไม่เห็นด้วยกับการเปิดบ่อนคาสิโนที่มอมเมาประชาชน แต่หากรัฐบาลจะดันทุรังเปิดให้ได้ อย่างน้อยก็ต้องเอามาใช้ให้เป็นประโยชน์ เพราะต้องอย่าลืมว่าผู้สนับสนุนทรัมป์ก็เป็นกลุ่มทุนคาสิโนยักษ์ใหญ่) ฯลฯ เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นอำนาจต่อรองที่หนูตัวนี้จะรอดจากเงื้อมมือราชสีห์ด้วยกันทั้งสิ้น.5. และเนื่องจาก ไทย มาเลเซีย และเวียดนาม ได้รับสิทธิ์ในการเป็น Partner Country ของกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจ BRICS ในขณะที่อินโดนีเซียได้รับสิทธิ์เป็น Full Member ของ BRICS เรียบร้อยแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่หนูน้อยอาเซียนต้องดำเนินการด้วยนั่นก็คือ เร่งเจรจากับผู้นำบราซิลที่จะเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดกลุ่ม BRICS ในปีนี้ ว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะรับอาเซียนทั้ง 10 ประเทศเข้าเป็นสมาชิก เพราะหนูตัวนี้บางครั้งก็ต้องพึ่งพาราชสีห์อีกตัวมากดดันราชสีห์อันทพาลตัวเก่า การแสวงหาโอกาส การแสวงหาตลาดใหม่ๆ ที่จะเป็นทางเลือกเพื่อมาทดแทนตลาดการค้าที่กำลังจะเสียไป เป็นทางเลือกที่เรามีสิทธิ์ในฐานะรัฐอธิปไตย.ขอเรียกร้องให้ผู้กำหนดนโยบายของไทยต้องมีวิสัยทัศน์ มีความกล้าหาญในการเล่นบทบาทนำของประเทศไทยในประชาคมอาเซียน เราต้องมีข้อเสนอกับประชาคมอาเซียนเพื่อรับมือมาตรการกีดกันทางการค้าจะสหรัฐร่วมกัน.รองศาสตราจารย์ ดร.ปิติ ศรีแสงนามคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.ปล. รบกวนช่วยกัน Share นะครับ เราต้องลุกขึ้นมาทำอะไรบ้าง ไม่งั้นไทยจะหายไปจากจอเรดาร์
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1080 มุมมอง 0 รีวิว
  • เยอรมนีเพิ่งยืนยันอย่างเป็นทางการว่าได้ยึดเรือบรรทุกน้ำมัน Eventin ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับรัสเซียและเป็นส่วนหนึ่งของกองเรือเงาของมอสโก พร้อมทั้งจับกุมตัวลูกเรือทั้งหมดไว้ และยึดน้ำมันกว่า 100,000 ตันที่อยู่บนเรือ

    เยอรมันนับเป็นชาติแรกที่แสดงความกล้าหาญออกมายอมรับการกระทำเช่นนี้ นับตั้งแต่รัสเซียทำสงครามกับยูเครน - สื่อรายงาน
    เยอรมนีเพิ่งยืนยันอย่างเป็นทางการว่าได้ยึดเรือบรรทุกน้ำมัน Eventin ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับรัสเซียและเป็นส่วนหนึ่งของกองเรือเงาของมอสโก พร้อมทั้งจับกุมตัวลูกเรือทั้งหมดไว้ และยึดน้ำมันกว่า 100,000 ตันที่อยู่บนเรือ เยอรมันนับเป็นชาติแรกที่แสดงความกล้าหาญออกมายอมรับการกระทำเช่นนี้ นับตั้งแต่รัสเซียทำสงครามกับยูเครน - สื่อรายงาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 322 มุมมอง 0 รีวิว
  • 61 ปี หนังสือพิมพ์ “เดลินิวส์” จากบางกอกเดลิเมล์ สู่เดลินิวส์ออนไลน์ บันทึกความทรงจำของสื่อไทย ที่เติบโตเคียงข้างประชาชน

    61 ปี แห่งการเปลี่ยนผ่านของสื่อที่ไม่หยุดนิ่ง ในยุคที่โลกหมุนเร็วด้วยข่าวสารและเทคโนโลยี มีไม่กี่สื่อ ที่สามารถยืนหยัดอยู่ได้อย่างมั่นคง ตลอดระยะเวลากว่าครึ่งศตวรรษ แต่ “เดลินิวส์” คือหนึ่งในนั้น

    จากวันแรกของการก่อตั้ง เมื่อวันเสาร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2507 สู่การเป็นผู้นำข่าวระดับประเทศ ทั้งในรูปแบบสิ่งพิมพ์และออนไลน์ เส้นทางของหนังสือพิมพ์เดลินิวส์นั้น ไม่เพียงแต่สะท้อนวิวัฒนาการ ของวงการสื่อไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นกระจกเงาสำคัญของประวัติศาสตร์ สังคม และการเมืองไทยตลอด 61 ปี ที่ผ่านมา

    ย้อนเวลาสำรวจเส้นทางของหนังสือพิมพ์ ที่เริ่มต้นจาก “บางกอกเดลิเมล์” สู่การเป็น “แนวหน้าแห่งยุคเดลินิวส์” และ “เดลินิวส์ออนไลน์” ในวันนี้ พร้อมทั้งเผยเบื้องหลังความเปลี่ยนแปลง วิสัยทัศน์ และจุดยืนของสื่อ ที่ไม่เคยละทิ้งภารกิจเพื่อประชาชนไทย

    🕰 จุดเริ่มต้นจากบางกอกเดลิเมล์ ความกล้าในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง ย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ. 2493 ประเทศไทยอยู่ในยุคหลังสงครามโลก ครั้งที่สอง สื่อยังถูกควบคุมโดยรัฐอย่างเข้มงวด การเปิดตัวหนังสือพิมพ์ใหม่ ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ “นายห้างแสง เหตระกูล” ผู้มีประสบการณ์ในธุรกิจ "โรงพิมพ์ประชาช่าง" กลับกล้าเสี่ยง

    นายห้างแสงตัดสินใจซื้อกิจการ "หนังสือพิมพ์บางกอกเดลิเมล์" (Bangkok Daily Mail) ของนายหลุย คีรีวัตน์ ซึ่งได้หยุดดำเนินการไปตั้งแต่วันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2476 และรื้อฟื้นมันขึ้นใหม่ ในรูปแบบหนังสือพิมพ์รายปักษ์ชื่อว่า “เดลิเมล์วันจันทร์” ออกฉบับแรกเมื่อ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2493

    ฉบับแรกมีพาดหัวว่า “นักศึกษา มธก.รากเลือดค้าน ก.พ.” เป็นการสะท้อนจุดยืนของสื่อ ที่กล้าแตะประเด็นทางสังคม การเมืองอย่างตรงไปตรงมา

    เปลี่ยนผ่านอย่างมีทิศทาง จากเดลิเมล์ สู่แนวหน้าแห่งยุคเดลินิวส์ ในช่วง พ.ศ. 2500 “บางกอกเดลิเมล์รายวัน” ขยับสู่การเป็นหนังสือพิมพ์รายวัน อย่างเต็มรูปแบบ ขยายขนาดหน้ากระดาษจาก 7 เป็น 8 คอลัมน์นิ้ว 🖨 ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ในวงการสื่อขณะนั้น

    แต่แล้วจุดเปลี่ยนสำคัญก็เกิดขึ้น เมื่อรัฐบาล "จอมพลแปลก พิบูลสงคราม" ถูกโค่นล้มโดย "จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์" ซึ่งส่งผลให้สื่อหลายฉบับถูกตรวจสอบ และปิดตัวลง

    ในวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2501 “เดลิเมล์รายวัน” ถูกสั่งปิดโดยคำสั่งคณะปฏิวัติ มีการ ล่ามแท่นพิมพ์ด้วยโซ่ และลงครั่งประทับ ปิดฉากความกล้าหาญของสื่อเสรีในยุคนั้น อย่างสิ้นเชิง

    เดลินิวส์ฉบับแรก กำเนิดเกิดใหม่ในนาม “แนวหน้าแห่งยุคเดลินิวส์” แม้จะถูกสั่งปิด แต่ “นายห้างแสง” ไม่ยอมแพ้ เดินหน้าสู่บทใหม่ ซื้อหัวหนังสือพิมพ์ “แนวหน้า” และรวมเข้ากับชื่อเดิม กลายเป็น “แนวหน้าแห่งยุคเดลินิวส์” 🗞

    วันเสาร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2507 หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ออกวางแผงเป็นครั้งแรก โดยมี "นายประพันธ์ เหตระกูล" บุตรชายเป็นบรรณาธิการบริหาร

    พาดหัวฉบับแรกสร้างเสียงฮือฮาทันที “เมียน้อยจอมพลสฤษดิ์ท้องในอเมริกา พบรักแท้กับนักเรียนไทยวัยรุ่น” นำเสนอข่าวแบบเจาะลึกถึงตัวบุคคล และโครงสร้างอำนาจการเมือง

    ข่าวเด่นยุคแรก กล้าท้าชนอำนาจรัฐ เดลินิวส์มีจุดขายที่ชัดเจน คือการเสนอข่าวที่ตรงไปตรงมา โดยเฉพาะเรื่องของ "จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์" ที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับอนุภรรยากว่า 103 คน และทรัพย์สินมูลค่ากว่า 2,874 ล้านบาท

    นอกจากนี้ยังเปิดโปงคดีอาชญากรรม การทุจริต และประเด็นอ่อนไหวที่สื่ออื่นหลีกเลี่ยง จึงได้รับความนิยมจากผู้อ่านในวงกว้าง และถือเป็น “กระบอกเสียงของประชาชน” ที่แท้จริง

    ก้าวข้ามวิกฤตเศรษฐกิจ ปรับคุณภาพเพื่อความอยู่รอด ช่วง พ.ศ. 2516 - 2517 ทั่วโลกประสบปัญหาน้ำมันขาดแคลน ทำให้ต้นทุนการผลิตหนังสือพิมพ์สูงขึ้น หนังสือพิมพ์หลายฉบับต้องขึ้นราคาขาย เดลินิวส์ก็เช่นกัน โดยปรับขึ้น 50 สตางค์

    แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ เดลินิวส์ ไม่ลดคุณภาพข่าว ตรงกันข้ามกลับเพิ่มคอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง และข่าวสังคม มากขึ้น ส่งผลให้ได้รับความเชื่อถือจากผู้อ่าน อย่างต่อเนื่อง

    เปลี่ยนชื่อเป็น “เดลินิวส์” อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2522 บริษัทสี่พระยาการพิมพ์ จำกัด ได้ยื่นเรื่องเปลี่ยนชื่อหนังสือพิมพ์เป็น “เดลินิวส์” และได้รับอนุญาตในวันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2522

    ต่อมา เดลินิวส์ได้ขยายสำนักงานจากถนนสี่พระยา มาที่ถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งเป็นที่ตั้งปัจจุบัน พร้อมขยายจำนวนหน้าจาก 16 เป็น 48 หน้า และเพิ่มราคาจำหน่ายจาก 1 บาท เป็น 10 บาทในปัจจุบัน

    🖨 นวัตกรรมการพิมพ์ ก้าวสู่งานข่าวสีเต็มรูปแบบ ในปี พ.ศ. 2529 เดลินิวส์เริ่มพิมพ์ภาพข่าวสี่สีครั้งแรก คือ ภาพโศกนาฏกรรมกระสวยอวกาศ “แชลเลนเจอร์” และต่อมาในปี พ.ศ. 2531 ตีพิมพ์ภาพ “ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก” คว้ามงกุฎนางงามจักรวาลที่ไต้หวัน

    พร้อมลงทุนในระบบพิมพ์ แซตเติลไลต์ ยูนิต และโฟร์ไฮ ที่สามารถพิมพ์ได้เร็วถึง 120,000 ฉบับ ต่อชั่วโมง สร้างมาตรฐานใหม่ให้วงการสื่อสิ่งพิมพ์ไทย

    เดลินิวส์ออนไลน์ ปฏิวัติวงการข่าวดิจิทัล ในวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2541 เดลินิวส์เข้าสู่โลกอินเทอร์เน็ตอย่างเต็มตัว เปิดเว็บไซต์ www.dailynews.co.th พร้อมคอนเซปต์ว่า...

    “ให้ข่าวสารพาไปไกลกว่าแค่ ‘รู้’ แต่คือ รู้ลึก รู้จริง และรู้เท่าทันทุกสถานการณ์”

    ในวันนี้ เดลินิวส์ออนไลน์ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ข่าว ไม่ว่าจะเป็นข่าวการเมือง เศรษฐกิจ สังคม บันเทิง กีฬา ไลฟ์สไตล์ รวมถึง วิดีโอ, อินโฟกราฟิก และ คอนเทนต์แบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง ⏱

    ปณิธานของ “เดลินิวส์” ข่าวเพื่อประชาชน สิ่งที่ทำให้ “เดลินิวส์” อยู่ได้มากว่า 61 ปี ไม่ใช่เพียงเพราะยอดขายหรือชื่อเสียง แต่เป็นเพราะความตั้งใจจริงของคณะผู้บริหาร ในการทำสื่อเพื่อประชาชน

    เดลินิวส์นำเสนอข่าวสารที่ครอบคลุม ทั้งข่าวสังคมที่ใกล้ตัว และข่าวเศรษฐกิจระดับชาติ โดยยึดมั่นในหลักจริยธรรมข่าว สร้างความเข้าใจ ที่มากกว่าแค่การรับรู้ข้อมูล

    เดลินิวส์…มากกว่าข่าว คือความเข้าใจ จาก “บางกอกเดลิเมล์” ที่เคยถูกล่ามแท่นพิมพ์ด้วยโซ่ จนถึง “เดลินิวส์ออนไลน์” ที่ไหลลื่นในโลกดิจิทัล

    เส้นทางกว่า 61 ปี ของหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ สะท้อนให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของสังคมไทย และบทบาทของสื่อ ที่ไม่เคยละทิ้งประชาชน

    และไม่ว่ากาลเวลาจะเปลี่ยนไปอย่างไร เดลินิวส์ยังคงทำหน้าที่ ด้วยหัวใจของนักข่าวเพื่อประชาชน

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 280955 มี.ค. 2568

    #เดลินิวส์ #ประวัติเดลินิวส์ #หนังสือพิมพ์ไทย #สื่อไทย #ข่าวออนไลน์ #เดลินิวส์ออนไลน์ #ข่าวเพื่อประชาชน #61ปีเดลินิวส์ #DailyNewsTH #ข่าวไทย
    📰 61 ปี หนังสือพิมพ์ “เดลินิวส์” จากบางกอกเดลิเมล์ สู่เดลินิวส์ออนไลน์ บันทึกความทรงจำของสื่อไทย ที่เติบโตเคียงข้างประชาชน ✨ 61 ปี แห่งการเปลี่ยนผ่านของสื่อที่ไม่หยุดนิ่ง ในยุคที่โลกหมุนเร็วด้วยข่าวสารและเทคโนโลยี 🌐 มีไม่กี่สื่อ ที่สามารถยืนหยัดอยู่ได้อย่างมั่นคง ตลอดระยะเวลากว่าครึ่งศตวรรษ แต่ “เดลินิวส์” คือหนึ่งในนั้น 🙌 จากวันแรกของการก่อตั้ง เมื่อวันเสาร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2507 สู่การเป็นผู้นำข่าวระดับประเทศ ทั้งในรูปแบบสิ่งพิมพ์และออนไลน์ 🖥️ เส้นทางของหนังสือพิมพ์เดลินิวส์นั้น ไม่เพียงแต่สะท้อนวิวัฒนาการ ของวงการสื่อไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นกระจกเงาสำคัญของประวัติศาสตร์ สังคม และการเมืองไทยตลอด 61 ปี ที่ผ่านมา 📆 ย้อนเวลาสำรวจเส้นทางของหนังสือพิมพ์ ที่เริ่มต้นจาก “บางกอกเดลิเมล์” สู่การเป็น “แนวหน้าแห่งยุคเดลินิวส์” และ “เดลินิวส์ออนไลน์” ในวันนี้ พร้อมทั้งเผยเบื้องหลังความเปลี่ยนแปลง วิสัยทัศน์ และจุดยืนของสื่อ ที่ไม่เคยละทิ้งภารกิจเพื่อประชาชนไทย 🇹🇭 🕰 จุดเริ่มต้นจากบางกอกเดลิเมล์ ความกล้าในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง ย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ. 2493 ประเทศไทยอยู่ในยุคหลังสงครามโลก ครั้งที่สอง 📜 สื่อยังถูกควบคุมโดยรัฐอย่างเข้มงวด การเปิดตัวหนังสือพิมพ์ใหม่ ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ “นายห้างแสง เหตระกูล” ผู้มีประสบการณ์ในธุรกิจ "โรงพิมพ์ประชาช่าง" กลับกล้าเสี่ยง 🔍 นายห้างแสงตัดสินใจซื้อกิจการ "หนังสือพิมพ์บางกอกเดลิเมล์" (Bangkok Daily Mail) ของนายหลุย คีรีวัตน์ ซึ่งได้หยุดดำเนินการไปตั้งแต่วันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2476 และรื้อฟื้นมันขึ้นใหม่ ในรูปแบบหนังสือพิมพ์รายปักษ์ชื่อว่า “เดลิเมล์วันจันทร์” ออกฉบับแรกเมื่อ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2493 📅 ฉบับแรกมีพาดหัวว่า “นักศึกษา มธก.รากเลือดค้าน ก.พ.” เป็นการสะท้อนจุดยืนของสื่อ ที่กล้าแตะประเด็นทางสังคม การเมืองอย่างตรงไปตรงมา 📰 เปลี่ยนผ่านอย่างมีทิศทาง จากเดลิเมล์ สู่แนวหน้าแห่งยุคเดลินิวส์ ในช่วง พ.ศ. 2500 “บางกอกเดลิเมล์รายวัน” ขยับสู่การเป็นหนังสือพิมพ์รายวัน อย่างเต็มรูปแบบ ขยายขนาดหน้ากระดาษจาก 7 เป็น 8 คอลัมน์นิ้ว 🖨 ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ในวงการสื่อขณะนั้น 📈 แต่แล้วจุดเปลี่ยนสำคัญก็เกิดขึ้น เมื่อรัฐบาล "จอมพลแปลก พิบูลสงคราม" ถูกโค่นล้มโดย "จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์" ซึ่งส่งผลให้สื่อหลายฉบับถูกตรวจสอบ และปิดตัวลง ❌ ในวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2501 “เดลิเมล์รายวัน” ถูกสั่งปิดโดยคำสั่งคณะปฏิวัติ มีการ ล่ามแท่นพิมพ์ด้วยโซ่ และลงครั่งประทับ ปิดฉากความกล้าหาญของสื่อเสรีในยุคนั้น อย่างสิ้นเชิง 📢 เดลินิวส์ฉบับแรก กำเนิดเกิดใหม่ในนาม “แนวหน้าแห่งยุคเดลินิวส์” แม้จะถูกสั่งปิด แต่ “นายห้างแสง” ไม่ยอมแพ้ ✊ เดินหน้าสู่บทใหม่ ซื้อหัวหนังสือพิมพ์ “แนวหน้า” และรวมเข้ากับชื่อเดิม กลายเป็น “แนวหน้าแห่งยุคเดลินิวส์” 🗞 วันเสาร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2507 หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ออกวางแผงเป็นครั้งแรก โดยมี "นายประพันธ์ เหตระกูล" บุตรชายเป็นบรรณาธิการบริหาร พาดหัวฉบับแรกสร้างเสียงฮือฮาทันที “เมียน้อยจอมพลสฤษดิ์ท้องในอเมริกา พบรักแท้กับนักเรียนไทยวัยรุ่น” 😲 นำเสนอข่าวแบบเจาะลึกถึงตัวบุคคล และโครงสร้างอำนาจการเมือง 🔍 ข่าวเด่นยุคแรก กล้าท้าชนอำนาจรัฐ เดลินิวส์มีจุดขายที่ชัดเจน คือการเสนอข่าวที่ตรงไปตรงมา 💥 โดยเฉพาะเรื่องของ "จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์" ที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับอนุภรรยากว่า 103 คน และทรัพย์สินมูลค่ากว่า 2,874 ล้านบาท 😮 นอกจากนี้ยังเปิดโปงคดีอาชญากรรม การทุจริต และประเด็นอ่อนไหวที่สื่ออื่นหลีกเลี่ยง จึงได้รับความนิยมจากผู้อ่านในวงกว้าง และถือเป็น “กระบอกเสียงของประชาชน” ที่แท้จริง 📈 ก้าวข้ามวิกฤตเศรษฐกิจ ปรับคุณภาพเพื่อความอยู่รอด ช่วง พ.ศ. 2516 - 2517 ทั่วโลกประสบปัญหาน้ำมันขาดแคลน ทำให้ต้นทุนการผลิตหนังสือพิมพ์สูงขึ้น 📉 หนังสือพิมพ์หลายฉบับต้องขึ้นราคาขาย เดลินิวส์ก็เช่นกัน โดยปรับขึ้น 50 สตางค์ 💸 แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ เดลินิวส์ ไม่ลดคุณภาพข่าว ตรงกันข้ามกลับเพิ่มคอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง และข่าวสังคม มากขึ้น ส่งผลให้ได้รับความเชื่อถือจากผู้อ่าน อย่างต่อเนื่อง ✨ 📚 เปลี่ยนชื่อเป็น “เดลินิวส์” อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2522 บริษัทสี่พระยาการพิมพ์ จำกัด ได้ยื่นเรื่องเปลี่ยนชื่อหนังสือพิมพ์เป็น “เดลินิวส์” และได้รับอนุญาตในวันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2522 🎉 ต่อมา เดลินิวส์ได้ขยายสำนักงานจากถนนสี่พระยา มาที่ถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งเป็นที่ตั้งปัจจุบัน 🏢 พร้อมขยายจำนวนหน้าจาก 16 เป็น 48 หน้า และเพิ่มราคาจำหน่ายจาก 1 บาท เป็น 10 บาทในปัจจุบัน 🖨 นวัตกรรมการพิมพ์ ก้าวสู่งานข่าวสีเต็มรูปแบบ ในปี พ.ศ. 2529 เดลินิวส์เริ่มพิมพ์ภาพข่าวสี่สีครั้งแรก คือ ภาพโศกนาฏกรรมกระสวยอวกาศ “แชลเลนเจอร์” 🚀 และต่อมาในปี พ.ศ. 2531 ตีพิมพ์ภาพ “ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก” คว้ามงกุฎนางงามจักรวาลที่ไต้หวัน 👑 พร้อมลงทุนในระบบพิมพ์ แซตเติลไลต์ ยูนิต และโฟร์ไฮ ที่สามารถพิมพ์ได้เร็วถึง 120,000 ฉบับ ต่อชั่วโมง 🚀 สร้างมาตรฐานใหม่ให้วงการสื่อสิ่งพิมพ์ไทย 🌐 เดลินิวส์ออนไลน์ ปฏิวัติวงการข่าวดิจิทัล ในวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2541 เดลินิวส์เข้าสู่โลกอินเทอร์เน็ตอย่างเต็มตัว เปิดเว็บไซต์ www.dailynews.co.th 💻 พร้อมคอนเซปต์ว่า... “ให้ข่าวสารพาไปไกลกว่าแค่ ‘รู้’ แต่คือ รู้ลึก รู้จริง และรู้เท่าทันทุกสถานการณ์” ในวันนี้ เดลินิวส์ออนไลน์ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ข่าว 🗂️ ไม่ว่าจะเป็นข่าวการเมือง เศรษฐกิจ สังคม บันเทิง กีฬา ไลฟ์สไตล์ รวมถึง วิดีโอ, อินโฟกราฟิก และ คอนเทนต์แบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง ⏱ 💡 ปณิธานของ “เดลินิวส์” ข่าวเพื่อประชาชน สิ่งที่ทำให้ “เดลินิวส์” อยู่ได้มากว่า 61 ปี ไม่ใช่เพียงเพราะยอดขายหรือชื่อเสียง 🏆 แต่เป็นเพราะความตั้งใจจริงของคณะผู้บริหาร ในการทำสื่อเพื่อประชาชน เดลินิวส์นำเสนอข่าวสารที่ครอบคลุม ทั้งข่าวสังคมที่ใกล้ตัว และข่าวเศรษฐกิจระดับชาติ โดยยึดมั่นในหลักจริยธรรมข่าว สร้างความเข้าใจ ที่มากกว่าแค่การรับรู้ข้อมูล 📘 📌 เดลินิวส์…มากกว่าข่าว คือความเข้าใจ จาก “บางกอกเดลิเมล์” ที่เคยถูกล่ามแท่นพิมพ์ด้วยโซ่ จนถึง “เดลินิวส์ออนไลน์” ที่ไหลลื่นในโลกดิจิทัล 🌐 เส้นทางกว่า 61 ปี ของหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ สะท้อนให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของสังคมไทย และบทบาทของสื่อ ที่ไม่เคยละทิ้งประชาชน 💞 และไม่ว่ากาลเวลาจะเปลี่ยนไปอย่างไร เดลินิวส์ยังคงทำหน้าที่ ด้วยหัวใจของนักข่าวเพื่อประชาชน ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 280955 มี.ค. 2568 📢 #เดลินิวส์ #ประวัติเดลินิวส์ #หนังสือพิมพ์ไทย #สื่อไทย #ข่าวออนไลน์ #เดลินิวส์ออนไลน์ #ข่าวเพื่อประชาชน #61ปีเดลินิวส์ #DailyNewsTH #ข่าวไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1768 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญพิทักษ์เสรีชน ปี2512
    เหรียญพิทักษ์เสรีชน "อสาธุํ สาธุนา ชิเน" ปี2512 // พระราชทานแก่ผู้ที่กระทำการปราบปรามผู้ก่อการร้าย คอมมิวนิสต์ // พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระดูง่าย เนื้อแห้ง หายากกครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณ แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ทั้งคงกระพันชาตรี เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม ประสบการณ์มากมาย รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >>

    ** เหรียญพิทักษ์เสรีชน (ส.ช.) ชั้นที่1 "อสาธุํ สาธุนา ชิเน" ปี ๒๕๑๒ เป็นเหรียญสำหรับพระราชทานเป็นบำเหน็จกล้าหาญ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่๙ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเหรียญนี้ขึ้นสำหรับ พระราชทานแก่ทหาร ตำรวจ และราษฎร ซึ่งได้ปฏิบัติการสู้รบกับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ด้วยความกล้าหาญ หรือได้รับบาดเจ็บ หรือตายในการสู้รบ และการสู้รบนั้นได้ก่อให้เกิดผลดีแก่การปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ สมควรให้มีเหรียญพิทักษ์เสรีชน สำหรับพระราชทานแก่บุคคลดังกล่าว เพื่อเป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูล โดยตรา พระราชบัญญัติเหรียญพิทักษ์เสรีชน พ.ศ. ๒๕๑๒ >>


    ** พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระดูง่าย เนื้อแห้ง หายากกครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญพิทักษ์เสรีชน ปี2512 เหรียญพิทักษ์เสรีชน "อสาธุํ สาธุนา ชิเน" ปี2512 // พระราชทานแก่ผู้ที่กระทำการปราบปรามผู้ก่อการร้าย คอมมิวนิสต์ // พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระดูง่าย เนื้อแห้ง หายากกครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณ แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ทั้งคงกระพันชาตรี เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม ประสบการณ์มากมาย รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >> ** เหรียญพิทักษ์เสรีชน (ส.ช.) ชั้นที่1 "อสาธุํ สาธุนา ชิเน" ปี ๒๕๑๒ เป็นเหรียญสำหรับพระราชทานเป็นบำเหน็จกล้าหาญ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่๙ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเหรียญนี้ขึ้นสำหรับ พระราชทานแก่ทหาร ตำรวจ และราษฎร ซึ่งได้ปฏิบัติการสู้รบกับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ด้วยความกล้าหาญ หรือได้รับบาดเจ็บ หรือตายในการสู้รบ และการสู้รบนั้นได้ก่อให้เกิดผลดีแก่การปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ สมควรให้มีเหรียญพิทักษ์เสรีชน สำหรับพระราชทานแก่บุคคลดังกล่าว เพื่อเป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูล โดยตรา พระราชบัญญัติเหรียญพิทักษ์เสรีชน พ.ศ. ๒๕๑๒ >> ** พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระดูง่าย เนื้อแห้ง หายากกครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 627 มุมมอง 0 รีวิว
  • 199 ปี ทัพลาวพ่าย ถอยร่นจากโคราช ย่าโมตั้งการ์ดสู้ เจ้าอนุวงศ์เผ่นกระเจิง

    ย้อนรอยศึกสำคัญแห่งประวัติศาสตร์ไทย-ลาว กับเรื่องราววีรกรรมของท้าวสุรนารี และบทสรุปของการปะทะ ที่ยังคงถกเถียงถึงทุกวันนี้

    ย้อนไปเมื่อ 199 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2369 เหตุการณ์ "สงครามปราบเจ้าอนุวงศ์" หรือที่รู้จักกันว่า "วีรกรรมทุ่งสัมฤทธิ์" นำโดย "ท้าวสุรนารี" หรือ "คุณหญิงโม" วีรสตรีแห่งเมืองโคราช ที่ถูกยกย่องให้เป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญ และการเสียสละของหญิงไทย ในการปกป้องบ้านเมืองจากการรุกรานของกองทัพเวียงจันทน์ ภายใต้การนำของเจ้าอนุวงศ์ พระมหากษัตริย์นครเวียงจันทน์องค์สุดท้าย

    แต่เบื้องหลังเรื่องเล่าแห่งวีรกรรมครั้งนี้ ยังมีหลายแง่มุมที่ซับซ้อน ทั้งในมิติประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และการเมือง ทั้งในสายตาของไทยและลาว

    บริบททางประวัติศาสตร์ ชนวนเหตุความขัดแย้ง สถานการณ์บ้านเมืองก่อนสงคราม ช่วงปลายรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ราชอาณาจักรสยาม กำลังเผชิญปัญหาภายในหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นความไม่สงบ ในหัวเมืองทางเหนือและอีสาน รวมถึงภัยคุกคามจากจักรวรรดิอังกฤษ ที่กำลังแผ่อิทธิพลเข้ามา ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

    ในปี พ.ศ. 2367 รัชกาลที่ 2 สวรรคต กองทัพและระบบการปกครองสยาม กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านอำนาจ ไปสู่รัชสมัยของรัชกาลที่ 3 เจ้าอนุวงศ์ ซึ่งเคยมีความสัมพันธ์อันดี ในฐานะประเทศราช กลับรู้สึกไม่พอใจ ที่คำขอส่งตัวชาวลาวและเชลยศึก ที่ถูกกวาดต้อนในอดีตไม่เป็นผล จึงมองเห็นโอกาส ในการกอบกู้เอกราชของนครเวียงจันทน์

    เป้าหมายของเจ้าอนุวงศ์ มีพระราชปณิธานแน่วแน่ ที่จะปลดปล่อยนครเวียงจันทน์ จากการเป็นประเทศราชของสยาม โดยเชื่อว่าช่วงเปลี่ยนผ่านรัชสมัยนี้ สยามจะอ่อนแอลง นำมาสู่แผนการยกทัพมาตีเมืองนครราชสีมา และกรุงเทพมหานครในที่สุด

    ศึกทุ่งสัมฤทธิ์ บทบาทของท้าวสุรนารี กองทัพลาวยึดเมืองนครราชสีมา วันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2369 เจ้าอนุวงศ์ยกทัพเข้ายึดเมืองนครราชสีมาโดยง่าย เนื่องจากพระยาปลัดทองคำ ผู้รักษาเมืองไม่อยู่ ชาวเมืองถูกกวาดต้อนเป็นเชลย รวมถึงคุณหญิงโม และราชบริพาร ถูกนำไปยังเวียงจันทน์ ผ่านเส้นทางเมืองพิมาย

    แผนปลดแอกของคุณหญิงโม วันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2369 ระหว่างการเดินทาง คุณหญิงโมร่วมมือกับนางสาวบุญเหลือ และชาวบ้านคิดแผนปลดแอก โดยหลอกล่อให้ทหารลาวประมาท จนในคืนวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2369 ที่ทุ่งสัมฤทธิ์ แขวงพิมาย ชาวนครราชสีมาร่วมกันลุกฮือยึดอาวุธ ทำให้กองทัพลาวแตกพ่าย

    จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้น เมื่อนางสาวบุญเหลือ จุดไฟเผากองเกวียนที่บรรทุกดินปืน ส่งผลให้เกิดระเบิดครั้งใหญ่ ทำให้เพี้ยรามพิชัยและทหารลาว เสียชีวิตจำนวนมาก สถานที่นี้จึงถูกเรียกว่า "หนองหัวลาว" จวบจนปัจจุบัน

    เจ้าอนุวงศ์ถอยทัพ ผลกระทบในระดับภูมิภาค การถอยร่นของเจ้าอนุวงศ์ เมื่อกองทัพจากกรุงเทพฯ นำโดย กรมพระราชวังบวรมหาศักดิพลเสพย์ เดินทัพถึงนครราชสีมา เจ้าอนุวงศ์จึงตัดสินใจ ถอนกำลังกลับนครเวียงจันทน์ ในวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2369 เพราะเกรงว่าศึกนี้จะยืดเยื้อ จนไม่สามารถรับมือกับกองทัพสยาม ที่กำลังมุ่งหน้ามา

    ผลลัพธ์ของสงคราม ภายหลังการถอยทัพ เจ้าอนุวงศ์และราชวงศ์เวียงจันทน์ ไม่สามารถตั้งตัวรับมือศึกได้ กองทัพสยามตีเวียงจันทน์แตก และอัญเชิญพระพุทธรูปสำคัญ อาทิ พระบาง, พระแซกคำ, พระสุก, พระใส มายังกรุงเทพฯ

    นครเวียงจันทน์สิ้นสุดความเป็นอิสระ และถูกลดฐานะ เป็นหัวเมืองประเทศราชของสยาม

    ยกย่องวีรกรรมของท้าวสุรนารี ท้าวสุรนารีได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าฯ ให้คุณหญิงโมเป็นท้าวสุรนารี เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2370 พร้อมพระราชทานเครื่องยศทองคำ ได้รับการยกย่องให้เป็นวีรสตรีปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน

    สร้างอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ในปี พ.ศ. 2477 ชาวนครราชสีมาได้ร่วมใจกันสร้าง อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ที่ประตูชุมพล พร้อมนำอัฐิประดิษฐาน ที่ฐานอนุสาวรีย์ อนุสาวรีย์นี้กลายเป็นศูนย์รวมจิตใจ ของคนโคราชจนถึงปัจจุบัน

    ประเด็นข้อถกเถียงทางประวัติศาสตร์ มุมมองของนักประวัติศาสตร์ แม้ตำนานท้าวสุรนารี จะเป็นที่ยอมรับในไทย แต่เอกสารลาว กลับไม่มีบันทึกเรื่องทุ่งสัมฤทธิ์ หรือการกระทำของท้าวสุรนารี กับนางสาวบุญเหลือ ก่อนปี พ.ศ. 2475 นักวิชาการบางคนตั้งข้อสงสัยว่า วีรกรรมนี้อาจเกิดขึ้นจริง แต่ถูกขยายความ เพื่อประโยชน์ทางการเมืองในภายหลัง

    วีรกรรมหรือภาพสร้าง? หนังสือการเมืองในอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี โดย "สายพิน แก้วงามประเสริฐ" ได้ตั้งคำถาม ต่อบทบาทของท้าวสุรนารี ว่าถูกนำมาใช้เพื่อส่งเสริมอัตลักษณ์ชาติ และการเมืองในยุคสมัยหนึ่ง

    แต่ไม่ว่าอย่างไร ท้าวสุรนารีก็ยังคงเป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญ และการเสียสละ

    เจ้าอนุวงศ์ในสายตาประวัติศาสตร์ลาว ในสายตาชาวลาว "เจ้าอนุวงศ์" ถือเป็นมหาวีรกษัตริย์ ผู้พยายามกอบกู้เอกราชจากสยาม แม้จะพ่ายแพ้ แต่พระองค์ยังได้รับการยกย่อง ในฐานะนักสู้เพื่อเสรีภาพของลาว

    ทว่าการมองต่างมุมของทั้งสองฝ่าย แสดงถึงความซับซ้อนของประวัติศาสตร์ ที่ถูกเล่าและจดจำแตกต่างกัน

    เหตุการณ์ในปี พ.ศ. 2369 ไม่ใช่เพียงแค่สงครามแย่งชิงอำนาจ แต่สะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ของภูมิภาคอีสานและลุ่มแม่น้ำโขง ประวัติศาสตร์ที่ซับซ้อนนี้สอนให้เราเข้าใจว่า "ผู้ชนะ" ไม่ได้เป็นเพียงคนที่รอด แต่เป็นผู้ที่เขียนเรื่องเล่า ในประวัติศาสตร์ด้วย

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 231634 มี.ค. 2568

    #ท้าวสุรนารี #ย่าโมโคราช #วีรกรรมทุ่งสัมฤทธิ์ #ประวัติศาสตร์ไทย #เจ้าอนุวงศ์ #สงครามไทยลาว #โคราชต้องรู้ #อนุสาวรีย์ย่าโม #เล่าเรื่องประวัติศาสตร์ #199ปีทุ่งสัมฤทธิ์
    199 ปี ทัพลาวพ่าย ถอยร่นจากโคราช ย่าโมตั้งการ์ดสู้ เจ้าอนุวงศ์เผ่นกระเจิง ย้อนรอยศึกสำคัญแห่งประวัติศาสตร์ไทย-ลาว กับเรื่องราววีรกรรมของท้าวสุรนารี และบทสรุปของการปะทะ ที่ยังคงถกเถียงถึงทุกวันนี้ ⚔️ 📝 ย้อนไปเมื่อ 199 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2369 เหตุการณ์ "สงครามปราบเจ้าอนุวงศ์" หรือที่รู้จักกันว่า "วีรกรรมทุ่งสัมฤทธิ์" นำโดย "ท้าวสุรนารี" หรือ "คุณหญิงโม" วีรสตรีแห่งเมืองโคราช ที่ถูกยกย่องให้เป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญ และการเสียสละของหญิงไทย ในการปกป้องบ้านเมืองจากการรุกรานของกองทัพเวียงจันทน์ ภายใต้การนำของเจ้าอนุวงศ์ พระมหากษัตริย์นครเวียงจันทน์องค์สุดท้าย 📜 แต่เบื้องหลังเรื่องเล่าแห่งวีรกรรมครั้งนี้ ยังมีหลายแง่มุมที่ซับซ้อน ทั้งในมิติประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และการเมือง ทั้งในสายตาของไทยและลาว 🌾 บริบททางประวัติศาสตร์ ชนวนเหตุความขัดแย้ง สถานการณ์บ้านเมืองก่อนสงคราม ช่วงปลายรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ราชอาณาจักรสยาม กำลังเผชิญปัญหาภายในหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นความไม่สงบ ในหัวเมืองทางเหนือและอีสาน รวมถึงภัยคุกคามจากจักรวรรดิอังกฤษ ที่กำลังแผ่อิทธิพลเข้ามา ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในปี พ.ศ. 2367 รัชกาลที่ 2 สวรรคต กองทัพและระบบการปกครองสยาม กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านอำนาจ ไปสู่รัชสมัยของรัชกาลที่ 3 เจ้าอนุวงศ์ ซึ่งเคยมีความสัมพันธ์อันดี ในฐานะประเทศราช กลับรู้สึกไม่พอใจ ที่คำขอส่งตัวชาวลาวและเชลยศึก ที่ถูกกวาดต้อนในอดีตไม่เป็นผล จึงมองเห็นโอกาส ในการกอบกู้เอกราชของนครเวียงจันทน์ เป้าหมายของเจ้าอนุวงศ์ มีพระราชปณิธานแน่วแน่ ที่จะปลดปล่อยนครเวียงจันทน์ จากการเป็นประเทศราชของสยาม โดยเชื่อว่าช่วงเปลี่ยนผ่านรัชสมัยนี้ สยามจะอ่อนแอลง นำมาสู่แผนการยกทัพมาตีเมืองนครราชสีมา และกรุงเทพมหานครในที่สุด 🚩 ⚔️ ศึกทุ่งสัมฤทธิ์ บทบาทของท้าวสุรนารี กองทัพลาวยึดเมืองนครราชสีมา วันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2369 เจ้าอนุวงศ์ยกทัพเข้ายึดเมืองนครราชสีมาโดยง่าย เนื่องจากพระยาปลัดทองคำ ผู้รักษาเมืองไม่อยู่ ชาวเมืองถูกกวาดต้อนเป็นเชลย รวมถึงคุณหญิงโม และราชบริพาร ถูกนำไปยังเวียงจันทน์ ผ่านเส้นทางเมืองพิมาย แผนปลดแอกของคุณหญิงโม วันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2369 ระหว่างการเดินทาง คุณหญิงโมร่วมมือกับนางสาวบุญเหลือ และชาวบ้านคิดแผนปลดแอก โดยหลอกล่อให้ทหารลาวประมาท จนในคืนวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2369 ที่ทุ่งสัมฤทธิ์ แขวงพิมาย ชาวนครราชสีมาร่วมกันลุกฮือยึดอาวุธ ทำให้กองทัพลาวแตกพ่าย 🔥 จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้น เมื่อนางสาวบุญเหลือ จุดไฟเผากองเกวียนที่บรรทุกดินปืน ส่งผลให้เกิดระเบิดครั้งใหญ่ ทำให้เพี้ยรามพิชัยและทหารลาว เสียชีวิตจำนวนมาก สถานที่นี้จึงถูกเรียกว่า "หนองหัวลาว" จวบจนปัจจุบัน 🏹 เจ้าอนุวงศ์ถอยทัพ ผลกระทบในระดับภูมิภาค การถอยร่นของเจ้าอนุวงศ์ เมื่อกองทัพจากกรุงเทพฯ นำโดย กรมพระราชวังบวรมหาศักดิพลเสพย์ เดินทัพถึงนครราชสีมา เจ้าอนุวงศ์จึงตัดสินใจ ถอนกำลังกลับนครเวียงจันทน์ ในวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2369 เพราะเกรงว่าศึกนี้จะยืดเยื้อ จนไม่สามารถรับมือกับกองทัพสยาม ที่กำลังมุ่งหน้ามา ผลลัพธ์ของสงคราม ภายหลังการถอยทัพ เจ้าอนุวงศ์และราชวงศ์เวียงจันทน์ ไม่สามารถตั้งตัวรับมือศึกได้ กองทัพสยามตีเวียงจันทน์แตก และอัญเชิญพระพุทธรูปสำคัญ อาทิ พระบาง, พระแซกคำ, พระสุก, พระใส มายังกรุงเทพฯ 🏯 นครเวียงจันทน์สิ้นสุดความเป็นอิสระ และถูกลดฐานะ เป็นหัวเมืองประเทศราชของสยาม 🌸 ยกย่องวีรกรรมของท้าวสุรนารี ท้าวสุรนารีได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าฯ ให้คุณหญิงโมเป็นท้าวสุรนารี เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2370 พร้อมพระราชทานเครื่องยศทองคำ 👑 ได้รับการยกย่องให้เป็นวีรสตรีปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน สร้างอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ในปี พ.ศ. 2477 ชาวนครราชสีมาได้ร่วมใจกันสร้าง อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ที่ประตูชุมพล พร้อมนำอัฐิประดิษฐาน ที่ฐานอนุสาวรีย์ อนุสาวรีย์นี้กลายเป็นศูนย์รวมจิตใจ ของคนโคราชจนถึงปัจจุบัน 📚 ประเด็นข้อถกเถียงทางประวัติศาสตร์ มุมมองของนักประวัติศาสตร์ แม้ตำนานท้าวสุรนารี จะเป็นที่ยอมรับในไทย แต่เอกสารลาว กลับไม่มีบันทึกเรื่องทุ่งสัมฤทธิ์ หรือการกระทำของท้าวสุรนารี กับนางสาวบุญเหลือ ก่อนปี พ.ศ. 2475 นักวิชาการบางคนตั้งข้อสงสัยว่า วีรกรรมนี้อาจเกิดขึ้นจริง แต่ถูกขยายความ เพื่อประโยชน์ทางการเมืองในภายหลัง วีรกรรมหรือภาพสร้าง? หนังสือการเมืองในอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี โดย "สายพิน แก้วงามประเสริฐ" ได้ตั้งคำถาม ต่อบทบาทของท้าวสุรนารี ว่าถูกนำมาใช้เพื่อส่งเสริมอัตลักษณ์ชาติ และการเมืองในยุคสมัยหนึ่ง 🎭 แต่ไม่ว่าอย่างไร ท้าวสุรนารีก็ยังคงเป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญ และการเสียสละ 🔮 เจ้าอนุวงศ์ในสายตาประวัติศาสตร์ลาว ในสายตาชาวลาว "เจ้าอนุวงศ์" ถือเป็นมหาวีรกษัตริย์ ผู้พยายามกอบกู้เอกราชจากสยาม แม้จะพ่ายแพ้ แต่พระองค์ยังได้รับการยกย่อง ในฐานะนักสู้เพื่อเสรีภาพของลาว 🇱🇦 ทว่าการมองต่างมุมของทั้งสองฝ่าย แสดงถึงความซับซ้อนของประวัติศาสตร์ ที่ถูกเล่าและจดจำแตกต่างกัน 🏛️ เหตุการณ์ในปี พ.ศ. 2369 ไม่ใช่เพียงแค่สงครามแย่งชิงอำนาจ แต่สะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ของภูมิภาคอีสานและลุ่มแม่น้ำโขง ประวัติศาสตร์ที่ซับซ้อนนี้สอนให้เราเข้าใจว่า "ผู้ชนะ" ไม่ได้เป็นเพียงคนที่รอด แต่เป็นผู้ที่เขียนเรื่องเล่า ในประวัติศาสตร์ด้วย ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 231634 มี.ค. 2568 📱 #ท้าวสุรนารี #ย่าโมโคราช #วีรกรรมทุ่งสัมฤทธิ์ #ประวัติศาสตร์ไทย #เจ้าอนุวงศ์ #สงครามไทยลาว #โคราชต้องรู้ #อนุสาวรีย์ย่าโม #เล่าเรื่องประวัติศาสตร์ #199ปีทุ่งสัมฤทธิ์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1487 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts