ชักชวนกันอ่านหนังสือ หนังสือไม่ว่าจะเป็นแนวไหนล้วนมีประโยชน์
- Public Group
- 884 Posts
- 171 Photos
- 0 Videos
- 0 Reviews
- Live Style
Recent Updates
- คนกรุงมีโอกาสป่วยมากกว่าคนในชนบท ทั้งนี้โดยไม่เกี่ยวข้องกับ เชื้อชาติ สถานะสมรส และสถานะทางเศรษฐกิจ คนที่อยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตรมีโอกาสป่วยด้วยโรคซึมเศร้าน้อยกว่า แต่จะมีกลุ่มอาการแมเนียมากกว่า ความเครียดแบบเรื้อรังมีความสำคัญมากกว่าความเครียดเฉียบพลันเพราะกระตุ้นการแสดงออกของพันธุกรรมได้มากกว่า
จากหนังสือ #โรคไบโพลาร์คนกรุงมีโอกาสป่วยมากกว่าคนในชนบท ทั้งนี้โดยไม่เกี่ยวข้องกับ เชื้อชาติ สถานะสมรส และสถานะทางเศรษฐกิจ คนที่อยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตรมีโอกาสป่วยด้วยโรคซึมเศร้าน้อยกว่า แต่จะมีกลุ่มอาการแมเนียมากกว่า ความเครียดแบบเรื้อรังมีความสำคัญมากกว่าความเครียดเฉียบพลันเพราะกระตุ้นการแสดงออกของพันธุกรรมได้มากกว่า จากหนังสือ #โรคไบโพลาร์0 Comments 0 Shares 1 Views 0 ReviewsPlease log in to like, share and comment! - ถ้าคุณอยากรู้ว่าจีนครอบงำอุตสาหกรรมการผลิตต้นทุนต่ำได้อย่างเบ็ดเสร็จแค่ไหน ก็ขอให้ดูวอล-มาร์ตเป็นตัวอย่างครับ วอล-มาร์ต เป็นหนึ่งในบริษัทขนาดใหญ่สุดของโลก โดยมีรายได้สูงกว่าไมโครซอฟท์เกือบ 7 เท่า และคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 2 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพีสหรัฐ อเมริกา บริษัทแห่งนี้มีพนักงานทั้งสิ้น 2.1 ล้านคน มากกว่าพนักงานของเจนเนอรัล มอเตอร์ส ฟอร์ด เจเนอรัล อิเล็กทริก และไอบีเอ็มรวมกันเสียอีก แถมยังขึ้นชื่อเรื่องความพยายามอย่างแข็งขัน (บางคนก็ว่าไม่บันยะบันยัง) ในการทำให้ลูกค้าได้ซื้อของราคาถูกสุดเท่าที่จะทำได้ เป้าหมายดังกล่าวทำให้วอล-มาร์ตมีความเชี่ยวชาญการใช้กลยุทธ์ใหม่ ๆ ในการบริหารจัดการและที่สำคัญที่สุดก็คือการผลิตซึ่งมีต้นทุนต่ำ วอล-มาร์ตนำเข้าสินค้าจากจีนคิดเป็นมูลค่าราว 27,000 ล้านดอลลาร์ในแต่ละปี ส่วนซัพพลายเออร์ต่างชาติส่วนใหญ่ของบริษัทก็อยู่ในแดนมังกร ห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกของวอล-มาร์ตก็คือห่วงโซ่อุปทานของจีนนั่นเอง
จากหนังสือ #เมื่อโลกไม่ได้หมุนรอบอเมริกา #ThePostAmericanWorldถ้าคุณอยากรู้ว่าจีนครอบงำอุตสาหกรรมการผลิตต้นทุนต่ำได้อย่างเบ็ดเสร็จแค่ไหน ก็ขอให้ดูวอล-มาร์ตเป็นตัวอย่างครับ วอล-มาร์ต เป็นหนึ่งในบริษัทขนาดใหญ่สุดของโลก โดยมีรายได้สูงกว่าไมโครซอฟท์เกือบ 7 เท่า และคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 2 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพีสหรัฐ อเมริกา บริษัทแห่งนี้มีพนักงานทั้งสิ้น 2.1 ล้านคน มากกว่าพนักงานของเจนเนอรัล มอเตอร์ส ฟอร์ด เจเนอรัล อิเล็กทริก และไอบีเอ็มรวมกันเสียอีก แถมยังขึ้นชื่อเรื่องความพยายามอย่างแข็งขัน (บางคนก็ว่าไม่บันยะบันยัง) ในการทำให้ลูกค้าได้ซื้อของราคาถูกสุดเท่าที่จะทำได้ เป้าหมายดังกล่าวทำให้วอล-มาร์ตมีความเชี่ยวชาญการใช้กลยุทธ์ใหม่ ๆ ในการบริหารจัดการและที่สำคัญที่สุดก็คือการผลิตซึ่งมีต้นทุนต่ำ วอล-มาร์ตนำเข้าสินค้าจากจีนคิดเป็นมูลค่าราว 27,000 ล้านดอลลาร์ในแต่ละปี ส่วนซัพพลายเออร์ต่างชาติส่วนใหญ่ของบริษัทก็อยู่ในแดนมังกร ห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกของวอล-มาร์ตก็คือห่วงโซ่อุปทานของจีนนั่นเอง จากหนังสือ #เมื่อโลกไม่ได้หมุนรอบอเมริกา #ThePostAmericanWorld0 Comments 0 Shares 1 Views 0 Reviews - The Art Of Seduction ศิลปะแห่งการล่อลวงจิตใจคน (2025/124)
จากผู้เขียนหนังสือในตำนาน The 48 Laws of Power
หนังสือ 48 Laws of Power ที่ว่าดาร์กแล้ว หนังสือเล่มนี้ The Art Of Seduction ดาร์กยิ่งกว่า เพราะเรื่องราวของหนังสือรวมที่เกิดขึ้นดูใกล้ตัวเอามากๆ ทำเอาผมเองที่มีความเชื่อว่ามนุษย์เรามีพื้นฐานจิตใจที่ดีนั้น เริ่มมีความคิดถูกโยกให้สั่นคลอน
ผู้เขียนนำเรื่องราวการล่อลวงทั้งในเรื่องจริงในอดีต และในบางเรื่องที่นำมาจากนิยาย โดยเป็นปรากฎการณ์ของการล่อลวงแบบต่างๆ มาเล่าเป็นเรื่องราว ซึ่งเมื่ออ่านแล้วสนุกเหมือนอ่านนิยาย อ่านไปอ่านมาเดาไม่ออกเลยว่าใครจะเป็นผู้ล่า ใครจะเป็นเหยื่อ อ่านแล้วยังต้องลุ้ว่าตอนจบของเรื่องราวจะเป็นอย่างไร หลายๆเรื่องมีหักมุมอย่างสนุกสนาน
ผู้เขียนเริ่มอธิบายลักษณะของบุคคลที่เรียกว่าผู้ตั้งใจล่อลวงหลายรูปแบบ เช่น นักรัก , คนเจ้าสำอาง , คนเล่นตัว , คนหว่านสเน่ห์ หรือ คนมีคาริสม่า เป็นต้น โดยผู้เขียนบรรยายรูปแบบและเรื่องราวของคนเหล่านั้นที่มีอยู่จริงในประวัติศาสตร์ เทคนิคที่พวกเขาเหล่านั้นใช้กับผู้ถูกล่อลวง และผลของการถูกล่อลวง
ต่อมาผู้เขียนอธิบายลักษณะของเหยื่อที่จะสามารถถูกล่อลวง 18ประเภท โดยจะเข้าคู่พอดีกับจุดอ่อนของเขาที่จะถูกล่อลวงด้วยนักล่อลวงประเภทต่างๆกันพอดี
ในช่วงท้ายผู้เขียนอธิบายกระบวนการล่อลวงในแบบต่างๆ จุดประเด็นที่ทำให้เหยื่อถูกจัดการซึ่งสามารถอธิบายได้ด้วยหลักการจิตวิทยา และจุดอ่อนของวิธีการล่อลวงนั้นๆที่ต้องระวัง
แต่ในท้ายที่สุดการล่อลวงไม่สามารถอยู่ยืนยงถาวรได้ ดังนั้นในบทสรุปผู้เขียนได้แนะนำวิธีการสร้างการล่อลวงให้เกิดขึ้นต่อเนื่อง หรือไม่ก็แนะนำวิธีการหาทางออกแบบเนียนๆ ให้เหยื่องุนงงและยุติความสัมพันธ์ไปแบบไม่รู้ตัว
แน่นอนว่าไม่ว่าจะเป็นผู้ล่อลวง(นักล่า) หรือว่าผู้ถูกล่อลวง(เหยื่อ) กระบวนการกระทำนี้ถ้าไม่มีความจริงใจมันจะไม่สามารถเป็นเรื่องจริงถาวรได้ รวมไปถึงถ้าแต่ละฝ่ายมีความสมบูรณ์แบบทาง , ความเต็มอิ่มในความสุข และความเข้าใจชีวิต กระบวนการล่อลวงจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้
เมื่ออ่านจบแล้วผมเห็น ว่าการล่อลวงที่ดูเหมือนน่ากลัวก็ไม่ได้น่ากลัวและไม่ได้เกิดบ่อยๆอย่างที่อาจจะมีการจินตนาการไป ผู้ล่อลวงจำเป็นต้องใช้เวลามากในกระบวนล่อลวงใครสักคนหนึ่ง ซึ่อาจจะเป็นหลายๆเดือน รวมไปถึงหลายๆปี ดังนั้นอ่านหนังสือเล่มนี้จบแล้ว ก็คิดว่าเป็นเรื่องบันเทิงเรื่องหนึ่ง และกลับไปใช้ชีวิตปกติต่อไป
#TheArtOfSeduction #ศิลปะแห่งการล่อลวงจิตใจคน #รีวิวหนังสือ
The Art Of Seduction ศิลปะแห่งการล่อลวงจิตใจคน (2025/124) จากผู้เขียนหนังสือในตำนาน The 48 Laws of Power หนังสือ 48 Laws of Power ที่ว่าดาร์กแล้ว หนังสือเล่มนี้ The Art Of Seduction ดาร์กยิ่งกว่า เพราะเรื่องราวของหนังสือรวมที่เกิดขึ้นดูใกล้ตัวเอามากๆ ทำเอาผมเองที่มีความเชื่อว่ามนุษย์เรามีพื้นฐานจิตใจที่ดีนั้น เริ่มมีความคิดถูกโยกให้สั่นคลอน ผู้เขียนนำเรื่องราวการล่อลวงทั้งในเรื่องจริงในอดีต และในบางเรื่องที่นำมาจากนิยาย โดยเป็นปรากฎการณ์ของการล่อลวงแบบต่างๆ มาเล่าเป็นเรื่องราว ซึ่งเมื่ออ่านแล้วสนุกเหมือนอ่านนิยาย อ่านไปอ่านมาเดาไม่ออกเลยว่าใครจะเป็นผู้ล่า ใครจะเป็นเหยื่อ อ่านแล้วยังต้องลุ้ว่าตอนจบของเรื่องราวจะเป็นอย่างไร หลายๆเรื่องมีหักมุมอย่างสนุกสนาน ผู้เขียนเริ่มอธิบายลักษณะของบุคคลที่เรียกว่าผู้ตั้งใจล่อลวงหลายรูปแบบ เช่น นักรัก , คนเจ้าสำอาง , คนเล่นตัว , คนหว่านสเน่ห์ หรือ คนมีคาริสม่า เป็นต้น โดยผู้เขียนบรรยายรูปแบบและเรื่องราวของคนเหล่านั้นที่มีอยู่จริงในประวัติศาสตร์ เทคนิคที่พวกเขาเหล่านั้นใช้กับผู้ถูกล่อลวง และผลของการถูกล่อลวง ต่อมาผู้เขียนอธิบายลักษณะของเหยื่อที่จะสามารถถูกล่อลวง 18ประเภท โดยจะเข้าคู่พอดีกับจุดอ่อนของเขาที่จะถูกล่อลวงด้วยนักล่อลวงประเภทต่างๆกันพอดี ในช่วงท้ายผู้เขียนอธิบายกระบวนการล่อลวงในแบบต่างๆ จุดประเด็นที่ทำให้เหยื่อถูกจัดการซึ่งสามารถอธิบายได้ด้วยหลักการจิตวิทยา และจุดอ่อนของวิธีการล่อลวงนั้นๆที่ต้องระวัง แต่ในท้ายที่สุดการล่อลวงไม่สามารถอยู่ยืนยงถาวรได้ ดังนั้นในบทสรุปผู้เขียนได้แนะนำวิธีการสร้างการล่อลวงให้เกิดขึ้นต่อเนื่อง หรือไม่ก็แนะนำวิธีการหาทางออกแบบเนียนๆ ให้เหยื่องุนงงและยุติความสัมพันธ์ไปแบบไม่รู้ตัว แน่นอนว่าไม่ว่าจะเป็นผู้ล่อลวง(นักล่า) หรือว่าผู้ถูกล่อลวง(เหยื่อ) กระบวนการกระทำนี้ถ้าไม่มีความจริงใจมันจะไม่สามารถเป็นเรื่องจริงถาวรได้ รวมไปถึงถ้าแต่ละฝ่ายมีความสมบูรณ์แบบทาง , ความเต็มอิ่มในความสุข และความเข้าใจชีวิต กระบวนการล่อลวงจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ เมื่ออ่านจบแล้วผมเห็น ว่าการล่อลวงที่ดูเหมือนน่ากลัวก็ไม่ได้น่ากลัวและไม่ได้เกิดบ่อยๆอย่างที่อาจจะมีการจินตนาการไป ผู้ล่อลวงจำเป็นต้องใช้เวลามากในกระบวนล่อลวงใครสักคนหนึ่ง ซึ่อาจจะเป็นหลายๆเดือน รวมไปถึงหลายๆปี ดังนั้นอ่านหนังสือเล่มนี้จบแล้ว ก็คิดว่าเป็นเรื่องบันเทิงเรื่องหนึ่ง และกลับไปใช้ชีวิตปกติต่อไป #TheArtOfSeduction #ศิลปะแห่งการล่อลวงจิตใจคน #รีวิวหนังสือ0 Comments 0 Shares 1 Views 0 Reviews - ทฤษฎีของแนชตั้งสมมติฐานว่าความคาดหวังในพฤติกรรมของกัน และกันจะขึ้นอยู่กับลักษณะของสถานการณ์การต่อรองนั้น สาระสำคัญของสถานการณ์ที่ส่งผลให้เกิดข้อตกลงคือ “คนสองคนที่มีโอกาสทำงานร่วมกัน เพื่อผลประโยชน์ร่วมกันมากกว่าหนึ่งทาง” เขาให้เหตุผลว่าพวกเขาจะแบ่งเค้กกันอย่างไรนั้น จะสะท้อนให้เห็นว่าแต่ละฝ่ายเห็นว่าข้อตกลงนั้นมีค่ามากแค่ไหน
จากหนังสือ #ผู้ชายหลายมิติ #TheBeautifulMindทฤษฎีของแนชตั้งสมมติฐานว่าความคาดหวังในพฤติกรรมของกัน และกันจะขึ้นอยู่กับลักษณะของสถานการณ์การต่อรองนั้น สาระสำคัญของสถานการณ์ที่ส่งผลให้เกิดข้อตกลงคือ “คนสองคนที่มีโอกาสทำงานร่วมกัน เพื่อผลประโยชน์ร่วมกันมากกว่าหนึ่งทาง” เขาให้เหตุผลว่าพวกเขาจะแบ่งเค้กกันอย่างไรนั้น จะสะท้อนให้เห็นว่าแต่ละฝ่ายเห็นว่าข้อตกลงนั้นมีค่ามากแค่ไหน จากหนังสือ #ผู้ชายหลายมิติ #TheBeautifulMind0 Comments 0 Shares 3 Views 0 Reviews - สิ่งที่ตรงข้ามกับ การเข้าใจในความรู้สึกของผู้อื่นไม่ใช่แค่การคิดถึงตัวเอง แต่คือการคิดถึงตัวเองในแง่มุมที่จำกัด
จากหนังสือ #คนทํางานผู้มีความฉลาดทางอารมณ์ #TheEmotionallyIntelligentOfficeสิ่งที่ตรงข้ามกับ การเข้าใจในความรู้สึกของผู้อื่นไม่ใช่แค่การคิดถึงตัวเอง แต่คือการคิดถึงตัวเองในแง่มุมที่จำกัด จากหนังสือ #คนทํางานผู้มีความฉลาดทางอารมณ์ #TheEmotionallyIntelligentOffice0 Comments 0 Shares 3 Views 0 Reviews - สมมติว่าเรือลำหนึ่งกำลังข้ามแม่น้ำและเรืออีกลำซึ่งว่างเปล่ากำลังจะชนกับมัน แม้แต่คนที่โมโหง่ายที่สุดก็จะไม่อารมณ์เสีย แต่สมมติว่ามีใครคนหนึ่งในเรือลำที่สอง คนที่อยู่ในเรือลำแรกก็จะตะโกนบอกให้เขาหลีกไปเสีย และถ้าเขาไม่ได้ยินในครั้งแรก หรือแม้เขาจะตะโกนสามครั้งแล้วคำหยาบๆ ก็จะตามมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ในกรณีแรกไม่มีความโกรธใดๆ ในกรณีที่สองมีความโกรธ เพราะในกรณีแรกเรือว่างเปล่า ในกรณีที่สองมีคนอยู่บนเรือ
ดังนั้นการผ่านชีวิตไปได้อย่างว่างเปล่า จะมีใครทำร้ายเขาได้-จวงจื่อ
จากหนังสือ #ThePerennialPhilosophy #ปรัชญานิรันดร์กาลสมมติว่าเรือลำหนึ่งกำลังข้ามแม่น้ำและเรืออีกลำซึ่งว่างเปล่ากำลังจะชนกับมัน แม้แต่คนที่โมโหง่ายที่สุดก็จะไม่อารมณ์เสีย แต่สมมติว่ามีใครคนหนึ่งในเรือลำที่สอง คนที่อยู่ในเรือลำแรกก็จะตะโกนบอกให้เขาหลีกไปเสีย และถ้าเขาไม่ได้ยินในครั้งแรก หรือแม้เขาจะตะโกนสามครั้งแล้วคำหยาบๆ ก็จะตามมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ในกรณีแรกไม่มีความโกรธใดๆ ในกรณีที่สองมีความโกรธ เพราะในกรณีแรกเรือว่างเปล่า ในกรณีที่สองมีคนอยู่บนเรือ ดังนั้นการผ่านชีวิตไปได้อย่างว่างเปล่า จะมีใครทำร้ายเขาได้-จวงจื่อ จากหนังสือ #ThePerennialPhilosophy #ปรัชญานิรันดร์กาล0 Comments 0 Shares 13 Views 0 Reviews - กาลิเลโอนำทักษะวิทยาศาสตร์ของเขามาเขียนบทความสั้นในเกมการพนัน “แง่คิดเกมลูกเต๋า” ผลงานชิ้นนี้ได้จากคำร้องขอของแกรนด์ดยุคแห่งทัสกานี ปัญหากวนใจท่านแกรนด์ดยุค : ในยามที่ทอดเต๋สามลูก ทำไมแต้ม 10 ขึ้นบ่อยกว่าแต้ม 9? ทั้งที่แต้ม 10 ขึ้นได้แค่ 8 เปอร์เซ็นต์ แต้มอื่นที่ไม่ใช่ 10 หรือ 9 ขึ้นบ่อยกว่านั้น ในเมื่อท่านแกรนด์ดยุคทอดลูกเต๋า บ่อยพอจะสังเกตเห็นความแตกต่างน้อยนิด แล้วทำไมหนาไม่ทอดลูกเต๋า แล้วจดรายการเรียงเป็นหางว่าวบันทึกข้อมูลเสียเอง ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาข้าน้อยก็ได้? กาลิเลโอไม่โปรดงานไร้สาระเรื่องนี้นัก แต่ในเมื่อเป็นคำร้องขอขององค์อุปถัมภ์ กาลิเลโอผู้ไม่ประสงค์จะตกงาน เก็บเสียงบ่นจึมงำไว้ในอกรับหน้าที่นี้ไปสะสางหาคำตอบ
จากหนังสือ #ชีวิตนี้ฟ้าลิขิต #TheDrunkard’sWalkกาลิเลโอนำทักษะวิทยาศาสตร์ของเขามาเขียนบทความสั้นในเกมการพนัน “แง่คิดเกมลูกเต๋า” ผลงานชิ้นนี้ได้จากคำร้องขอของแกรนด์ดยุคแห่งทัสกานี ปัญหากวนใจท่านแกรนด์ดยุค : ในยามที่ทอดเต๋สามลูก ทำไมแต้ม 10 ขึ้นบ่อยกว่าแต้ม 9? ทั้งที่แต้ม 10 ขึ้นได้แค่ 8 เปอร์เซ็นต์ แต้มอื่นที่ไม่ใช่ 10 หรือ 9 ขึ้นบ่อยกว่านั้น ในเมื่อท่านแกรนด์ดยุคทอดลูกเต๋า บ่อยพอจะสังเกตเห็นความแตกต่างน้อยนิด แล้วทำไมหนาไม่ทอดลูกเต๋า แล้วจดรายการเรียงเป็นหางว่าวบันทึกข้อมูลเสียเอง ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาข้าน้อยก็ได้? กาลิเลโอไม่โปรดงานไร้สาระเรื่องนี้นัก แต่ในเมื่อเป็นคำร้องขอขององค์อุปถัมภ์ กาลิเลโอผู้ไม่ประสงค์จะตกงาน เก็บเสียงบ่นจึมงำไว้ในอกรับหน้าที่นี้ไปสะสางหาคำตอบ จากหนังสือ #ชีวิตนี้ฟ้าลิขิต #TheDrunkard’sWalk0 Comments 0 Shares 13 Views 0 Reviews - ผู้หญิงหลายคนจำต้องลาออกจากงานหลังแต่งงาน และมีลูกตามข้อมูลพบว่าผู้หญิงญี่ปุ่นกว่า 17% ลาออกเมื่อแต่งงาน และอีกราว 50% ที่ลาออกหลังจากมีลูก เพราะพี่เลี้ยงเด็กหายาก และราคาค่าจ้างก็สูงมาก สถานรับเลี้ยงเด็กในญี่ปุ่นก็มีจำนวน น้อย ทำให้ผู้หญิงจำเป็นต้องหยุดงานเป็นเวลากว่า 10 ปีในช่วง ที่ลูกเกิดจนโต บางคนก็ออกจากงานอย่างถาวรเมื่อมีลูก เพราะ เมื่อลาคลอดลูกแล้วจะกลับไปทำงานได้ยากเพราะอาจไม่มี ตำแหน่งที่เหมาะสม ถึงแม้จะมีการศึกษาดีหรือมีความรู้มาก เพียงใด ผู้หญิงหลายคนจำต้องยอมเสียสละจุดมุ่งหมายเรื่องงาน เพื่อแลกกับการรักษาครอบครัว ยอมทำหน้าที่แม่บ้าน
จากหนังสือ #ผู้หญิงเก่งธุรกิจญี่ปุ่นผู้หญิงหลายคนจำต้องลาออกจากงานหลังแต่งงาน และมีลูกตามข้อมูลพบว่าผู้หญิงญี่ปุ่นกว่า 17% ลาออกเมื่อแต่งงาน และอีกราว 50% ที่ลาออกหลังจากมีลูก เพราะพี่เลี้ยงเด็กหายาก และราคาค่าจ้างก็สูงมาก สถานรับเลี้ยงเด็กในญี่ปุ่นก็มีจำนวน น้อย ทำให้ผู้หญิงจำเป็นต้องหยุดงานเป็นเวลากว่า 10 ปีในช่วง ที่ลูกเกิดจนโต บางคนก็ออกจากงานอย่างถาวรเมื่อมีลูก เพราะ เมื่อลาคลอดลูกแล้วจะกลับไปทำงานได้ยากเพราะอาจไม่มี ตำแหน่งที่เหมาะสม ถึงแม้จะมีการศึกษาดีหรือมีความรู้มาก เพียงใด ผู้หญิงหลายคนจำต้องยอมเสียสละจุดมุ่งหมายเรื่องงาน เพื่อแลกกับการรักษาครอบครัว ยอมทำหน้าที่แม่บ้าน จากหนังสือ #ผู้หญิงเก่งธุรกิจญี่ปุ่น0 Comments 0 Shares 16 Views 0 Reviews - ในร้านหนังสือแห่งนี้มีคนกำลังตั้งคำถามหนึ่งซึ่งร้านหนังสือทั้งหลายดำรงอยู่เพื่อตอบโจทย์นี้ “ช่วยแนะนำหนังสือดีๆให้ฉันสักเล่มได้ ไหม” อัวร์เซล เชเฟอร์ ผู้ถาม รู้ว่าหนังสือที่ดีต้องเป็นอย่างไร ประการ แรก หนังสือที่ดีสร้างความบันเทิงให้เธอมากเสียจนนอนอ่านบนเตียงได้นานจนกว่าตาจะปิด ประการที่สอง มันมีอย่างน้อยสามจุด หรือ เยี่ยมกว่านั้นคือสี่จุดที่ทำให้เธอร้องไห้ ประการที่สาม หนังสือมีไม่น้อย กว่าสามร้อยหน้า แต่ต้องไม่เกินสามร้อยแปดสิบหน้าเป็นอันขาด และ ประการที่สี่ ปกไม่เป็นสีเขียว หนังสือปกสีเขียวไว้ใจไม่ได้ เป็นประสบการณ์ขมขื่นที่เธอเคยเผชิญมาหลายครั้ง
จากหนังสือ #คุณตาหนังสือเด็กหญิงและแมวสามขาในร้านหนังสือแห่งนี้มีคนกำลังตั้งคำถามหนึ่งซึ่งร้านหนังสือทั้งหลายดำรงอยู่เพื่อตอบโจทย์นี้ “ช่วยแนะนำหนังสือดีๆให้ฉันสักเล่มได้ ไหม” อัวร์เซล เชเฟอร์ ผู้ถาม รู้ว่าหนังสือที่ดีต้องเป็นอย่างไร ประการ แรก หนังสือที่ดีสร้างความบันเทิงให้เธอมากเสียจนนอนอ่านบนเตียงได้นานจนกว่าตาจะปิด ประการที่สอง มันมีอย่างน้อยสามจุด หรือ เยี่ยมกว่านั้นคือสี่จุดที่ทำให้เธอร้องไห้ ประการที่สาม หนังสือมีไม่น้อย กว่าสามร้อยหน้า แต่ต้องไม่เกินสามร้อยแปดสิบหน้าเป็นอันขาด และ ประการที่สี่ ปกไม่เป็นสีเขียว หนังสือปกสีเขียวไว้ใจไม่ได้ เป็นประสบการณ์ขมขื่นที่เธอเคยเผชิญมาหลายครั้ง จากหนังสือ #คุณตาหนังสือเด็กหญิงและแมวสามขา0 Comments 0 Shares 17 Views 0 Reviews - โครงสร้างของการตั้งชื่อโฟลเดอร์ที่ผมใช้เป็นประจำจะเป็นแบบนี้ครับ [เลข] [ชื่อโฟลเดอร์]
เช่นใน Drive ของผม ผมจะตั้งชื่อโฟลเดอร์แรกสุดไว้ว่า 01_Personal และ 02 Work หรือถ้าเป็นคอนเทนต์ ผมก็จะตั้งชื่อโฟลเดอร์ว่า 01_Content 1, 02_Content 2, 03_Content 3 และไล่ไป เรื่อย ๆ
สาเหตุที่ผมใช้เลขขึ้นต้นเพราะว่า ผมจะได้เรียงลำดับโฟลเดอร์ตามที่ ต้องการได้โดยที่ไม่ต้องอิงกับวิธีการจัดเรียงในรูปแบบอื่นของ Drive ว่าง่ายๆ คือ ไม่ว่าจะเข้ามากี่ครั้ง ผมก็จะเห็นโฟลเดอร์ต่างๆ นั้น เรียงลำดับเหมือนเดิม
นอกจากการใช้ตัวเลขแล้ว ผมจะมีข้อยกเว้นหนึ่งอย่างสำหรับ โฟลเดอร์ที่เอาไว้เก็บโฟลเดอร์หรือไฟล์ที่ไม่ใช้แล้ว (แต่อยากเก็บไว้ อ้างอิง) ซึ่งผมจะตั้งชื่อเป็น zz Archiveครับ การตั้งชื่อ zz นั้น เพื่อทำให้มั่นใจว่ามันจะถูกแสดงผลไว้ท้ายสุดของทุกโฟลเดอร์ที่ผมมี และคำว่า Archive ก็แปลว่าแฟ้มเก็บถาวร ซึ่งผมมักจะโยนโฟลเดอร์ หรือไฟล์ที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว แต่ยังไม่อยากลบทิ้งไว้ในนี้ครับ เพื่อที่จะ ทำให้มั่นใจว่าถ้าในอนาคตผมต้องใช้งานไฟล์เหล่านี้ ผมยังคงมีเก็บไว้และยังหาเจออยู่ครับ
จากหนังสือ #ProductivityFlowโครงสร้างของการตั้งชื่อโฟลเดอร์ที่ผมใช้เป็นประจำจะเป็นแบบนี้ครับ [เลข] [ชื่อโฟลเดอร์] เช่นใน Drive ของผม ผมจะตั้งชื่อโฟลเดอร์แรกสุดไว้ว่า 01_Personal และ 02 Work หรือถ้าเป็นคอนเทนต์ ผมก็จะตั้งชื่อโฟลเดอร์ว่า 01_Content 1, 02_Content 2, 03_Content 3 และไล่ไป เรื่อย ๆ สาเหตุที่ผมใช้เลขขึ้นต้นเพราะว่า ผมจะได้เรียงลำดับโฟลเดอร์ตามที่ ต้องการได้โดยที่ไม่ต้องอิงกับวิธีการจัดเรียงในรูปแบบอื่นของ Drive ว่าง่ายๆ คือ ไม่ว่าจะเข้ามากี่ครั้ง ผมก็จะเห็นโฟลเดอร์ต่างๆ นั้น เรียงลำดับเหมือนเดิม นอกจากการใช้ตัวเลขแล้ว ผมจะมีข้อยกเว้นหนึ่งอย่างสำหรับ โฟลเดอร์ที่เอาไว้เก็บโฟลเดอร์หรือไฟล์ที่ไม่ใช้แล้ว (แต่อยากเก็บไว้ อ้างอิง) ซึ่งผมจะตั้งชื่อเป็น zz Archiveครับ การตั้งชื่อ zz นั้น เพื่อทำให้มั่นใจว่ามันจะถูกแสดงผลไว้ท้ายสุดของทุกโฟลเดอร์ที่ผมมี และคำว่า Archive ก็แปลว่าแฟ้มเก็บถาวร ซึ่งผมมักจะโยนโฟลเดอร์ หรือไฟล์ที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว แต่ยังไม่อยากลบทิ้งไว้ในนี้ครับ เพื่อที่จะ ทำให้มั่นใจว่าถ้าในอนาคตผมต้องใช้งานไฟล์เหล่านี้ ผมยังคงมีเก็บไว้และยังหาเจออยู่ครับ จากหนังสือ #ProductivityFlow0 Comments 0 Shares 18 Views 0 Reviews - เทคโนโลยีด้านวิทยาศาสตร์ที่พัฒนาขึ้นมาให้ข้อสรุปได้ว่า “เซลล์ชราจะอยู่ ภายในร่างกายไปจนถึงที่สุด พออายุมากขึ้นจำนวนเซลล์ชราก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ทำให้เกิดการสร้างสารที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย (Senescence - Associated Secretory Phenotype= SASP) ขึ้นมา และเกิดการอักเสบเรื้อรังจนส่งผลร้ายต่อร่างกายโดยรวมได้”
การค้นพบวิธีการกำจัดเซลล์ชราแบบเจาะจงเป็นเรื่องที่ได้รับการยอมรับโดยทั่วกัน ซึ่ง ยืนยันผลลัพธ์ได้จากการทดลองด้วยวิธีการดังกล่าวเพื่อชะลอความชราในสัตว์แล้ว ปัจจุบันยังอยู่ ในระหว่างทดสอบกับมนุษย์และได้รับความสนใจเป็นอย่างยิ่ง
เซลล์กว่า 37 ล้านล้านตัวนั้นจะค่อยๆลดลงไปเมื่อมีอายุมากขึ้น โดยจำนวนของเซลล์ชราเองก็จะเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย กระดูกซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเคลื่อนไหวร่างกาย กล้ามเนื้อ กระดูกอ่อนผิวข้อ เส้นเอ็น และอื่นๆ ที่เป็นอวัยวะสำคัญสำหรับการเคลื่อนไหวเองก็ หนีไม่พ้นความจริงในข้อนี้เช่นกันพอปริมาณเซลล์ลดลงและเกิดความชราขึ้น ประสิทธิภาพใน
จากหนังสือ #เรื่องเล่าของความชราเทคโนโลยีด้านวิทยาศาสตร์ที่พัฒนาขึ้นมาให้ข้อสรุปได้ว่า “เซลล์ชราจะอยู่ ภายในร่างกายไปจนถึงที่สุด พออายุมากขึ้นจำนวนเซลล์ชราก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ทำให้เกิดการสร้างสารที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย (Senescence - Associated Secretory Phenotype= SASP) ขึ้นมา และเกิดการอักเสบเรื้อรังจนส่งผลร้ายต่อร่างกายโดยรวมได้” การค้นพบวิธีการกำจัดเซลล์ชราแบบเจาะจงเป็นเรื่องที่ได้รับการยอมรับโดยทั่วกัน ซึ่ง ยืนยันผลลัพธ์ได้จากการทดลองด้วยวิธีการดังกล่าวเพื่อชะลอความชราในสัตว์แล้ว ปัจจุบันยังอยู่ ในระหว่างทดสอบกับมนุษย์และได้รับความสนใจเป็นอย่างยิ่ง เซลล์กว่า 37 ล้านล้านตัวนั้นจะค่อยๆลดลงไปเมื่อมีอายุมากขึ้น โดยจำนวนของเซลล์ชราเองก็จะเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย กระดูกซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเคลื่อนไหวร่างกาย กล้ามเนื้อ กระดูกอ่อนผิวข้อ เส้นเอ็น และอื่นๆ ที่เป็นอวัยวะสำคัญสำหรับการเคลื่อนไหวเองก็ หนีไม่พ้นความจริงในข้อนี้เช่นกันพอปริมาณเซลล์ลดลงและเกิดความชราขึ้น ประสิทธิภาพใน จากหนังสือ #เรื่องเล่าของความชรา0 Comments 0 Shares 17 Views 0 Reviews - Awaken The Giant Within ปลุกยักษ์ใหญ่ในตัวคุณ (2025/123)
เป็นหนังสือหาอ่านยากอีกเล่ม ผู้เขียนเป็นนักเขียนและโคชนักพัฒนาประสิทธิภาพคนดัง เขาเขียนหนังสือเล่มหนามากๆแบบนี้ตอนอายุ 32ปี…ไม่ธรรมดาเลย
เนื้อหาของหนังสือเล่มนี้ผู้เขียนตัังใจเขียนเพื่อให้ผู้อ่านได้พัฒนาตัวเอง ด้วยหลักการทางจิตวิทยา เขาใช้ทุกๆหลักการเพื่อปลุกยักษ์ให้คุณผู้อ่าน เริ่มตั้งแต่การทลายความเชื่อ , การเอาชนะความกลัว , การเปลี่ยนแปลงทันที , การเริ่มทำทุกสิ่งจากการกระทำเล็กๆน้อยๆ , ปลดปล่อยอารมณ์ , ใช้คำพูดเปลี่ยนความคิด , ตัดความคิดลบ , วางเป้าหมายของชีวิต , สร้างกฎของตัวเองที่ทำได้ไม่ยากเกินไป และการสร้างความสุขให้กับตัวเอง
ท้ายเล่ม ผู้เขียนวางแนวทางการเปลี่ยนชีวิตภายใน 7 วัน ให้ผู้อ่านได้ลองทำตาม ซึ่งเป็นบทสรุปของหนังสือเล่มนี้ทั้งหมด
หนังสือเล่มนี้ยังมีเรื่องราว บทเรียนเคสตัวอย่าง , ประวัติคนดังที่เป็นที่รู้จัก และรวมไปถึงชีวิตที่เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นของผู้เข้าร่วมอบรมในคอร์สของเขา ทำให้เข้าใจหลักการที่ผู้เขียนต้องการสื่อสารเพื่อปลุกยักษ์ในตัวคุณให้ตื่นขึ้นมา
#AwakenTheGiantWithin #ปลุกยักษ์ใหญ่ในตัวคุณ #รีวิวหนังสือ
Awaken The Giant Within ปลุกยักษ์ใหญ่ในตัวคุณ (2025/123) เป็นหนังสือหาอ่านยากอีกเล่ม ผู้เขียนเป็นนักเขียนและโคชนักพัฒนาประสิทธิภาพคนดัง เขาเขียนหนังสือเล่มหนามากๆแบบนี้ตอนอายุ 32ปี…ไม่ธรรมดาเลย เนื้อหาของหนังสือเล่มนี้ผู้เขียนตัังใจเขียนเพื่อให้ผู้อ่านได้พัฒนาตัวเอง ด้วยหลักการทางจิตวิทยา เขาใช้ทุกๆหลักการเพื่อปลุกยักษ์ให้คุณผู้อ่าน เริ่มตั้งแต่การทลายความเชื่อ , การเอาชนะความกลัว , การเปลี่ยนแปลงทันที , การเริ่มทำทุกสิ่งจากการกระทำเล็กๆน้อยๆ , ปลดปล่อยอารมณ์ , ใช้คำพูดเปลี่ยนความคิด , ตัดความคิดลบ , วางเป้าหมายของชีวิต , สร้างกฎของตัวเองที่ทำได้ไม่ยากเกินไป และการสร้างความสุขให้กับตัวเอง ท้ายเล่ม ผู้เขียนวางแนวทางการเปลี่ยนชีวิตภายใน 7 วัน ให้ผู้อ่านได้ลองทำตาม ซึ่งเป็นบทสรุปของหนังสือเล่มนี้ทั้งหมด หนังสือเล่มนี้ยังมีเรื่องราว บทเรียนเคสตัวอย่าง , ประวัติคนดังที่เป็นที่รู้จัก และรวมไปถึงชีวิตที่เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นของผู้เข้าร่วมอบรมในคอร์สของเขา ทำให้เข้าใจหลักการที่ผู้เขียนต้องการสื่อสารเพื่อปลุกยักษ์ในตัวคุณให้ตื่นขึ้นมา #AwakenTheGiantWithin #ปลุกยักษ์ใหญ่ในตัวคุณ #รีวิวหนังสือ0 Comments 0 Shares 20 Views 0 Reviews - สัญญาณมือ (hand signals) ภาษาของคนใบ้จะใช้สัญญาณมือแสดงออกมาเป็นภาษามือโดยไม่ใช้อวัยวะส่วนอื่น นั่นแสดงให้เห็นถึงความแม่นยำและความหลากหลาย ของสารที่สัญญาณมือสื่อออกมา อารมณ์ที่สื่อไปถึงอีกฝ่ายผ่านภาษากาย ของเราจะมีสองอารมณ์คืออารมณ์ด้านบวกและอารมณ์ด้านลบ หากเรารู้จักนำมาใช้ในการสื่อสารจะทำให้มีพลังในการสื่อสารเพิ่มมากขึ้น
จากหนังสือ #ต่อต้านการถูกล้างสมอง #AntiBrainwashingสัญญาณมือ (hand signals) ภาษาของคนใบ้จะใช้สัญญาณมือแสดงออกมาเป็นภาษามือโดยไม่ใช้อวัยวะส่วนอื่น นั่นแสดงให้เห็นถึงความแม่นยำและความหลากหลาย ของสารที่สัญญาณมือสื่อออกมา อารมณ์ที่สื่อไปถึงอีกฝ่ายผ่านภาษากาย ของเราจะมีสองอารมณ์คืออารมณ์ด้านบวกและอารมณ์ด้านลบ หากเรารู้จักนำมาใช้ในการสื่อสารจะทำให้มีพลังในการสื่อสารเพิ่มมากขึ้น จากหนังสือ #ต่อต้านการถูกล้างสมอง #AntiBrainwashing0 Comments 0 Shares 18 Views 0 Reviews - แม้ว่าความคิดของลอว์ถูกต้องในแง่ที่เงินทำหน้าที่ “ตัวกลางในการเปลี่ยนผ่าน” แต่มูลค่าของเงินขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่นและความไว้วางใจในสังคม แต่เขาก็ทำผิดพลาดเช่นเดียวกับที่เขาทำพลาดในการเล่นพนันที่กรุงปารีส เพราะลอว์ไม่สามารถทำให้ผู้เล่นทุกคนที่เกี่ยวข้องเห็นด้วยกับข้อเสนอของเขาได้ ในตอนนั้นคือผู้บัญชาการตำรวจ เดอ อาร์เกนสันคือผู้ที่ไม่เห็น ด้วยกับลอว์ ในตอนนี้คือบรรดาสังคมนักธุรกิจและนายธนาคาร (รวมถึง เดอ อาร์เกนสัน ที่กลายเป็นนักธุรกิจเต็มตัว) ข่าวลือแพร่สะพัดว่าลุยเซียนา ไม่อาจสร้างความมั่งคั่งได้อีกต่อไป ทุกสิ่งพังทลายลงเมื่อผู้ถือหุ้นของบริษัทมิสซิสซิปปีเริ่มมีความสงสัยว่าหุ้นของพวกเขาจะถูกเทขายลงแม่น้ำ ขาลงนั้นรวดเร็วไม่แพ้ขาขึ้น เรียกได้ว่าเมื่อราคาหุ้นของบริษัทไหลลงเรื่อย ๆ และมูลค่าของธนบัตรก็แทบเป็นศูนย์ ลอว์ถูกขับออกจากปารีสและ ฝรั่งเศสอีกครั้ง สุดท้ายจบลงในสภาพน่าเวทนาที่เมืองเวนิส เรื่องราวนี้ควร จะเป็นสิ่งเตือนใจให้กับนักการธนาคารในปัจจุบัน โอ้ แต่สมัยนี้ไม่มีนายธนาคาร หรือธนาคารกลางที่ไหนต้องลงเอยด้วยความยากจน
จากหนังสือ #TheMoneyFormula #สมการสานล้านพลิกกระดานวอลสตรีทแม้ว่าความคิดของลอว์ถูกต้องในแง่ที่เงินทำหน้าที่ “ตัวกลางในการเปลี่ยนผ่าน” แต่มูลค่าของเงินขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่นและความไว้วางใจในสังคม แต่เขาก็ทำผิดพลาดเช่นเดียวกับที่เขาทำพลาดในการเล่นพนันที่กรุงปารีส เพราะลอว์ไม่สามารถทำให้ผู้เล่นทุกคนที่เกี่ยวข้องเห็นด้วยกับข้อเสนอของเขาได้ ในตอนนั้นคือผู้บัญชาการตำรวจ เดอ อาร์เกนสันคือผู้ที่ไม่เห็น ด้วยกับลอว์ ในตอนนี้คือบรรดาสังคมนักธุรกิจและนายธนาคาร (รวมถึง เดอ อาร์เกนสัน ที่กลายเป็นนักธุรกิจเต็มตัว) ข่าวลือแพร่สะพัดว่าลุยเซียนา ไม่อาจสร้างความมั่งคั่งได้อีกต่อไป ทุกสิ่งพังทลายลงเมื่อผู้ถือหุ้นของบริษัทมิสซิสซิปปีเริ่มมีความสงสัยว่าหุ้นของพวกเขาจะถูกเทขายลงแม่น้ำ ขาลงนั้นรวดเร็วไม่แพ้ขาขึ้น เรียกได้ว่าเมื่อราคาหุ้นของบริษัทไหลลงเรื่อย ๆ และมูลค่าของธนบัตรก็แทบเป็นศูนย์ ลอว์ถูกขับออกจากปารีสและ ฝรั่งเศสอีกครั้ง สุดท้ายจบลงในสภาพน่าเวทนาที่เมืองเวนิส เรื่องราวนี้ควร จะเป็นสิ่งเตือนใจให้กับนักการธนาคารในปัจจุบัน โอ้ แต่สมัยนี้ไม่มีนายธนาคาร หรือธนาคารกลางที่ไหนต้องลงเอยด้วยความยากจน จากหนังสือ #TheMoneyFormula #สมการสานล้านพลิกกระดานวอลสตรีท0 Comments 0 Shares 19 Views 0 Reviews - นักวิชาการเชื่อว่า สมัยนั้นมีคนกลุ่มหนึ่งอาศัยอยู่บริเวณ ทุ่งหญ้าสเตปป์ในยุโรปตะวันออกและพูดภาษาที่นักวิชาการ เรียกว่า “โปรโต-อินโด-ยูโรเปียน” (Proto-Indo-European) หรือ “อินโด-ยูโรเปียนดั้งเดิม
เวลาต่อมา คนกลุ่มนี้แยกย้ายอพยพไปตั้งรกรากในที่ต่างๆ ตั้งแต่ยุโรปทางตอนเหนือไปจนถึงเอเชียตะวันออกกลางและ อินเดีย ส่วนภาษาโปรโต-อินโด-ยูโรเปียนที่คนเหล่านี้พกติดตัว ไปด้วยก็พัฒนาไปเป็นภาษาตระกูลต่างๆ อย่างตระกูลภาษา เจอร์แมนิก (Germanic เช่น ภาษาเยอรมันและภาษาอังกฤษ) ตระกูลภาษาอิแทลิก (Italic เช่น ภาษาละติน) และตระกูลภาษา อินโด-อารยัน (Indo-Aryan เช่น ภาษาสันสกฤตและภาษาบาลี) เป็นต้น
จากหนังสือ #WordOdyssey #คำสัมพันธ์ศัพท์ซ้อนนักวิชาการเชื่อว่า สมัยนั้นมีคนกลุ่มหนึ่งอาศัยอยู่บริเวณ ทุ่งหญ้าสเตปป์ในยุโรปตะวันออกและพูดภาษาที่นักวิชาการ เรียกว่า “โปรโต-อินโด-ยูโรเปียน” (Proto-Indo-European) หรือ “อินโด-ยูโรเปียนดั้งเดิม เวลาต่อมา คนกลุ่มนี้แยกย้ายอพยพไปตั้งรกรากในที่ต่างๆ ตั้งแต่ยุโรปทางตอนเหนือไปจนถึงเอเชียตะวันออกกลางและ อินเดีย ส่วนภาษาโปรโต-อินโด-ยูโรเปียนที่คนเหล่านี้พกติดตัว ไปด้วยก็พัฒนาไปเป็นภาษาตระกูลต่างๆ อย่างตระกูลภาษา เจอร์แมนิก (Germanic เช่น ภาษาเยอรมันและภาษาอังกฤษ) ตระกูลภาษาอิแทลิก (Italic เช่น ภาษาละติน) และตระกูลภาษา อินโด-อารยัน (Indo-Aryan เช่น ภาษาสันสกฤตและภาษาบาลี) เป็นต้น จากหนังสือ #WordOdyssey #คำสัมพันธ์ศัพท์ซ้อน0 Comments 0 Shares 28 Views 0 Reviews - อีโก้ที่เงียบเชียบคือการรักษาสมดุลภายในตัวเอง โดยยอมรับว่าเราต้องการความมั่นใจ แต่ก็ตระหนักถึงจุดแข็งและจุดอ่อน รวมถึงสถานการณ์ของตัวเองด้วย มันคือการเปิดใจให้กว้างและเปิดรับผู้อื่นแทนที่จะเอาแต่ป้องกันตัวและปิดกั้น มันคือความสามารถในการถอย ออกมาเพื่อมองให้กว้างขึ้นและเข้าใจว่าการสูญเสียระยะสั้นเป็นส่วนหนึ่ง ของประโยชน์ระยะยาว เราจะทำให้อีโก้เงียบเสียงลงได้อย่างไร คำตอบคือการถามว่า อะไรคือสิ่งที่ทำให้คุณเจ็บแสบ ครุ่นคิด และถอยห่าง อะไรทำให้คุณเข้าสู่โหมดป้องกันตัวโดยอัตโนมัติ คุณเพิกเฉยต่อคำ วิพากษ์วิจารณ์ทันทีหรือพิจารณาและประเมินมันก่อน สิ่งที่คุณตามหา คือการตระหนักรู้ในตัวเองและการไตร่ตรองบวกกับการรู้ว่าตัวเองเป็นใคร อย่างชัดเจน การรู้สึกเคลือบแคลงในตัวเองและความไม่มั่นคงทางใจ เล็กน้อยเป็นเรื่องปกติ การตั้งรับและปกป้องตัวเองมากเกินไปเป็นสัญญาณ บ่งบอกว่าอีโก้ส่งเสียงดังเกินไป เมื่อเราผสมผสานการรับรู้ การตระหนักรู้ และความรู้สึกมั่นคงปลอดภัยเข้าด้วยกัน เราจะสามารถก้าวข้ามความ มั่นใจจอมปลอมที่แพร่กระจายอยู่ทั่วโลก ความมั่นใจคือการทำเรื่องยากซึ่งบางครั้งก็นำไปสู่ความล้มเหลว แต่ในขณะเดียวกันก็เข้าใจสถานการณ์ของตัวเอง และกลับไปทำสิ่งที่ต้องทำต่อ
จากหนังสือ #DoHardThings #วิทยาศาสตร์ของการไม่ยอมแพ้อีโก้ที่เงียบเชียบคือการรักษาสมดุลภายในตัวเอง โดยยอมรับว่าเราต้องการความมั่นใจ แต่ก็ตระหนักถึงจุดแข็งและจุดอ่อน รวมถึงสถานการณ์ของตัวเองด้วย มันคือการเปิดใจให้กว้างและเปิดรับผู้อื่นแทนที่จะเอาแต่ป้องกันตัวและปิดกั้น มันคือความสามารถในการถอย ออกมาเพื่อมองให้กว้างขึ้นและเข้าใจว่าการสูญเสียระยะสั้นเป็นส่วนหนึ่ง ของประโยชน์ระยะยาว เราจะทำให้อีโก้เงียบเสียงลงได้อย่างไร คำตอบคือการถามว่า อะไรคือสิ่งที่ทำให้คุณเจ็บแสบ ครุ่นคิด และถอยห่าง อะไรทำให้คุณเข้าสู่โหมดป้องกันตัวโดยอัตโนมัติ คุณเพิกเฉยต่อคำ วิพากษ์วิจารณ์ทันทีหรือพิจารณาและประเมินมันก่อน สิ่งที่คุณตามหา คือการตระหนักรู้ในตัวเองและการไตร่ตรองบวกกับการรู้ว่าตัวเองเป็นใคร อย่างชัดเจน การรู้สึกเคลือบแคลงในตัวเองและความไม่มั่นคงทางใจ เล็กน้อยเป็นเรื่องปกติ การตั้งรับและปกป้องตัวเองมากเกินไปเป็นสัญญาณ บ่งบอกว่าอีโก้ส่งเสียงดังเกินไป เมื่อเราผสมผสานการรับรู้ การตระหนักรู้ และความรู้สึกมั่นคงปลอดภัยเข้าด้วยกัน เราจะสามารถก้าวข้ามความ มั่นใจจอมปลอมที่แพร่กระจายอยู่ทั่วโลก ความมั่นใจคือการทำเรื่องยากซึ่งบางครั้งก็นำไปสู่ความล้มเหลว แต่ในขณะเดียวกันก็เข้าใจสถานการณ์ของตัวเอง และกลับไปทำสิ่งที่ต้องทำต่อ จากหนังสือ #DoHardThings #วิทยาศาสตร์ของการไม่ยอมแพ้0 Comments 0 Shares 25 Views 0 Reviews - การให้ส่วนลด 5 เปอร์เซ็นต์อาจโน้มน้าวให้การคิด ระบบ 1 สนใจได้สักเท่าไร คุณควรเสนอสิ่งที่เป็นโอกาสทองอย่างแท้จริง สิ่งที่จะทำให้เกิดข้อได้เปรียบอย่างมากและพิเศษสุดๆ เช่น ส่วนลดเยอะๆ ข้อเสนอ เงินคืน และราคาถูกเป็นพิเศษ (ดูตัวอย่างก่อนหน้านี้) หรืออาจบอกวิธีแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันแบบง่าย ๆ เช่นไม่ควรทำให้ข้อเสนอพิเศษซับซ้อนเกินไปเวลาสื่อสารกับการคิดระบบ 1 ซึ่งเราเปรียบเทียบไว้ก่อนหน้านี้ว่าเทียบเท่าสมองเด็กเจ็ดขวบ ดังนั้นให้ใช้ประโยคง่ายๆ และถ้าจะให้ดีควรใช้คำไม่เกิน 5 คำ เพราะการคิดระบบ 1 มีแนวโน้มจะเมินเฉย ข้อความที่เย็นเย้อยืดยาว ถ้ายึดจำนวนคำ 5 คำไว้ให้มั่น คุณจะมีโอกาสทำให้ ระบบ 1 อ่านข้อความของคุณได้โดยอัตโนมัติ และดึงให้ผู้เยี่ยมชมหลุดออกจาก สิ่งที่กำลังทำอยู่สำเร็จ
นอกจากนี้ ให้ใช้ฟอนต์ขนาดใหญ่ ไม่เช่นนั้นจะไม่มีใครสนใจอ่าน แต่ถึงอย่างไรการคิดระบบ 1 ก็ไม่ได้โน้มน้าวง่ายขนาดนั้น สุดท้ายจึงควรใช้ภาพที่สนับสนุนข้อความของคุณและทำให้เข้าใจชัดเจนได้เร็วยิ่งขึ้นอีก
จากหนังสือ #OnlineInfluence #ออกแบบให้คนคลิกรวมเทคนิคให้คนซื้อ
การให้ส่วนลด 5 เปอร์เซ็นต์อาจโน้มน้าวให้การคิด ระบบ 1 สนใจได้สักเท่าไร คุณควรเสนอสิ่งที่เป็นโอกาสทองอย่างแท้จริง สิ่งที่จะทำให้เกิดข้อได้เปรียบอย่างมากและพิเศษสุดๆ เช่น ส่วนลดเยอะๆ ข้อเสนอ เงินคืน และราคาถูกเป็นพิเศษ (ดูตัวอย่างก่อนหน้านี้) หรืออาจบอกวิธีแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันแบบง่าย ๆ เช่นไม่ควรทำให้ข้อเสนอพิเศษซับซ้อนเกินไปเวลาสื่อสารกับการคิดระบบ 1 ซึ่งเราเปรียบเทียบไว้ก่อนหน้านี้ว่าเทียบเท่าสมองเด็กเจ็ดขวบ ดังนั้นให้ใช้ประโยคง่ายๆ และถ้าจะให้ดีควรใช้คำไม่เกิน 5 คำ เพราะการคิดระบบ 1 มีแนวโน้มจะเมินเฉย ข้อความที่เย็นเย้อยืดยาว ถ้ายึดจำนวนคำ 5 คำไว้ให้มั่น คุณจะมีโอกาสทำให้ ระบบ 1 อ่านข้อความของคุณได้โดยอัตโนมัติ และดึงให้ผู้เยี่ยมชมหลุดออกจาก สิ่งที่กำลังทำอยู่สำเร็จ นอกจากนี้ ให้ใช้ฟอนต์ขนาดใหญ่ ไม่เช่นนั้นจะไม่มีใครสนใจอ่าน แต่ถึงอย่างไรการคิดระบบ 1 ก็ไม่ได้โน้มน้าวง่ายขนาดนั้น สุดท้ายจึงควรใช้ภาพที่สนับสนุนข้อความของคุณและทำให้เข้าใจชัดเจนได้เร็วยิ่งขึ้นอีก จากหนังสือ #OnlineInfluence #ออกแบบให้คนคลิกรวมเทคนิคให้คนซื้อ0 Comments 0 Shares 26 Views 0 Reviews - บริษัท Callwave กับบริษัท Padoo ทำโดยไม่จำเป็นต้องมีพนักงาน ต้อนรับ ทั้งสองบริษัทรู้ดีว่าการทำงานที่บ้านโดยใช้โทรศัพท์สายเดียวมักมีปัญหา เพราะขณะกำลังออนไลน์อยู่จะไม่รู้ว่ามีคนกำลังโทรเข้ามา ครัวเรือนสามารถขอโทรศัพท์สายที่สองได้ในราคาสามร้อยดอลลาร์หรือมากกว่าต่อปี ซึ่งก็ยังถือว่าแพงมาก Callwave และ Padoo จึงเสนอบริการรับโอนสายต่อถ้าสายไม่ว่าง แทนที่ผู้โทรเข้ามาจะได้รับสัญญาณไม่ว่าง สายของเขาจะถูกโอนไปที่ Callwave และ Padoo ซึ่งจะบันทึกข้อความเสียงเอาไว้ จากนั้นทั้งสองบริษัทจะส่งข้อความสัญญาณเสียงแนบไปกับอีเมลให้คนที่กำลังออนไลน์รู้ว่ามีสายโทรเข้ามา ใน 2ปีแรกของพวกเขา Callwave ดึงดูดลูกค้าได้กว่า 6 ล้านราย และ Padoo มีลูกค้า700,000 ราย
จากหนังสือ #WhyNotบริษัท Callwave กับบริษัท Padoo ทำโดยไม่จำเป็นต้องมีพนักงาน ต้อนรับ ทั้งสองบริษัทรู้ดีว่าการทำงานที่บ้านโดยใช้โทรศัพท์สายเดียวมักมีปัญหา เพราะขณะกำลังออนไลน์อยู่จะไม่รู้ว่ามีคนกำลังโทรเข้ามา ครัวเรือนสามารถขอโทรศัพท์สายที่สองได้ในราคาสามร้อยดอลลาร์หรือมากกว่าต่อปี ซึ่งก็ยังถือว่าแพงมาก Callwave และ Padoo จึงเสนอบริการรับโอนสายต่อถ้าสายไม่ว่าง แทนที่ผู้โทรเข้ามาจะได้รับสัญญาณไม่ว่าง สายของเขาจะถูกโอนไปที่ Callwave และ Padoo ซึ่งจะบันทึกข้อความเสียงเอาไว้ จากนั้นทั้งสองบริษัทจะส่งข้อความสัญญาณเสียงแนบไปกับอีเมลให้คนที่กำลังออนไลน์รู้ว่ามีสายโทรเข้ามา ใน 2ปีแรกของพวกเขา Callwave ดึงดูดลูกค้าได้กว่า 6 ล้านราย และ Padoo มีลูกค้า700,000 ราย จากหนังสือ #WhyNot0 Comments 0 Shares 27 Views 0 Reviews - เมื่อเคียวเซร่าเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์และมีทรัพย์สิน มากเกินความคาดหมาย ผมก็รู้สึกสับสนงุนงงมากทีเดียว ด้วยเหตุนี้ผมจึงคิดว่าทรัพย์สินเหล่านี้ไม่ใช่ของของผม แต่ เป็นสิ่งที่หยิบยืมมาจากสังคมชั่วคราวเท่านั้น
ตอนที่ผมได้รับรางวัลซึ่งมอบให้กับคนที่อุทิศตัวเพื่อการพัฒนาเทคโนโลยี ผมคิดขึ้นมาว่าผมควรอยู่ในฐานะผู้มอบรางวัลไม่ใช่ผู้รับรางวัล
ด้วยเหตุนี้ผมจึงตัดสินใจก่อตั้ง “รางวัลเกียวโต” เพื่อนำทรัพย์สินที่ตัวเองหามาได้กลับคืนสู่สังคมแค่สักเล็กน้อยก็ยังดี
อินาโมริ คาซุโอะ
จากหนังสือ #หัวใจ #Kokoroเมื่อเคียวเซร่าเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์และมีทรัพย์สิน มากเกินความคาดหมาย ผมก็รู้สึกสับสนงุนงงมากทีเดียว ด้วยเหตุนี้ผมจึงคิดว่าทรัพย์สินเหล่านี้ไม่ใช่ของของผม แต่ เป็นสิ่งที่หยิบยืมมาจากสังคมชั่วคราวเท่านั้น ตอนที่ผมได้รับรางวัลซึ่งมอบให้กับคนที่อุทิศตัวเพื่อการพัฒนาเทคโนโลยี ผมคิดขึ้นมาว่าผมควรอยู่ในฐานะผู้มอบรางวัลไม่ใช่ผู้รับรางวัล ด้วยเหตุนี้ผมจึงตัดสินใจก่อตั้ง “รางวัลเกียวโต” เพื่อนำทรัพย์สินที่ตัวเองหามาได้กลับคืนสู่สังคมแค่สักเล็กน้อยก็ยังดี อินาโมริ คาซุโอะ จากหนังสือ #หัวใจ #Kokoro0 Comments 0 Shares 27 Views 0 Reviews - เรเดลไมเออร์เข้ามาขณะที่ทีมแพทย์ที่ดูแลเธอกำลังเตรียมให้ยา ลดภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน(hyperthyroidism) 'เขา' บอกให้ทุกคนชะลอการทำงานลงชั่วครู่ เพื่อตรวจสอบความคิดของพวกเขาให้แน่ใจว่า ไม่ได้กำลังพยายามบีบอัดข้อเท็จจริงลงไปในคำอธิบายที่เรียบง่าย สอดคล้องกันแต่สุดท้ายเป็นแค่คำอธิบายผิดๆ
เขาอยากให้ชะลอการปฏิบัติงานต่างๆลง เพราะคณะแพทย์เพิ่งจะ กระโดดไปคว้าข้อสรุปที่ดูเหมือนจะสมเหตุสมผลโดยที่ยังไม่ได้คำนึงถึง สาเหตุอื่น “ภาวะต่อมไทรอยต์ทำงานเกินเป็นสาเหตุทั่วไปของภาวะหัวใจเต้น ผิดจังหวะ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นแบบนั้นเสมอไป” เขากล่าวเช่นนี้ในภายหลัง แม้ว่ามันจะสมเหตุสมผลแต่ก็ไม่น่าใช่ หรือกล่าวอีกอย่างคือมันเป็นไปได้แต่ไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น
เจ้าหน้าที่จึงเริ่มค้นหาสาเหตุอื่นและวินิจฉัยได้อย่างรวดเร็วว่าเธอปอดยุบ “ซี่โครงที่หักและปอดที่ยุบต่างก็ไม่ปรากฏในภาพเอ็กซ์เรย์ แต่ว่าสภาพปอดเช่นนี้ทำให้เธอตายได้” พวกเขาจึงพักเรื่องต่อมไทรอยด์ไว้ก่อน แล้วรีบรักษาปอดที่ยุบตัว ในที่สุดหัวใจของเธอก็กลับมาเต้นเป็นปกติอีกครั้ง เมื่อผลการตรวจต่อมไทรอยด์อย่างเป็นทางการของเธอมาถึงในวันรุ่งขึ้น ปรากฏว่าค่าต่างๆปกติดี เป็นไปดังที่เรเคลไมเออร์ได้กล่าวไว้ว่า “คุณต้อง ะมัดระวังมากๆ เวลาที่คำอธิบายง่ายๆ ผุดขึ้นมาในใจ แล้วอธิบายทุกสิ่งอย่างได้ลงตัวหมดจดในคราวเดียว นั่นคือเวลาที่คุณต้องหยุดแล ตรวจสอบความคิดใหม่”
เมื่อการตัดสินใจครั้งใดๆ มีเดิมพันที่สูงและไม่มีทางย้อนคืนได้ คุณควรตัดสินใจในวินาทีท้ายสุดและเหลือตัวเลือกไว้ตรงหน้าให้ได้มากที่สุดเท่าที่ จะเป็นไปได้ขณะที่ยังคงรวบรวมข้อมูลต่อไป
จากหนังสือ #คิดให้เฉียบคม #ClearThinkingเรเดลไมเออร์เข้ามาขณะที่ทีมแพทย์ที่ดูแลเธอกำลังเตรียมให้ยา ลดภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน(hyperthyroidism) 'เขา' บอกให้ทุกคนชะลอการทำงานลงชั่วครู่ เพื่อตรวจสอบความคิดของพวกเขาให้แน่ใจว่า ไม่ได้กำลังพยายามบีบอัดข้อเท็จจริงลงไปในคำอธิบายที่เรียบง่าย สอดคล้องกันแต่สุดท้ายเป็นแค่คำอธิบายผิดๆ เขาอยากให้ชะลอการปฏิบัติงานต่างๆลง เพราะคณะแพทย์เพิ่งจะ กระโดดไปคว้าข้อสรุปที่ดูเหมือนจะสมเหตุสมผลโดยที่ยังไม่ได้คำนึงถึง สาเหตุอื่น “ภาวะต่อมไทรอยต์ทำงานเกินเป็นสาเหตุทั่วไปของภาวะหัวใจเต้น ผิดจังหวะ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นแบบนั้นเสมอไป” เขากล่าวเช่นนี้ในภายหลัง แม้ว่ามันจะสมเหตุสมผลแต่ก็ไม่น่าใช่ หรือกล่าวอีกอย่างคือมันเป็นไปได้แต่ไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น เจ้าหน้าที่จึงเริ่มค้นหาสาเหตุอื่นและวินิจฉัยได้อย่างรวดเร็วว่าเธอปอดยุบ “ซี่โครงที่หักและปอดที่ยุบต่างก็ไม่ปรากฏในภาพเอ็กซ์เรย์ แต่ว่าสภาพปอดเช่นนี้ทำให้เธอตายได้” พวกเขาจึงพักเรื่องต่อมไทรอยด์ไว้ก่อน แล้วรีบรักษาปอดที่ยุบตัว ในที่สุดหัวใจของเธอก็กลับมาเต้นเป็นปกติอีกครั้ง เมื่อผลการตรวจต่อมไทรอยด์อย่างเป็นทางการของเธอมาถึงในวันรุ่งขึ้น ปรากฏว่าค่าต่างๆปกติดี เป็นไปดังที่เรเคลไมเออร์ได้กล่าวไว้ว่า “คุณต้อง ะมัดระวังมากๆ เวลาที่คำอธิบายง่ายๆ ผุดขึ้นมาในใจ แล้วอธิบายทุกสิ่งอย่างได้ลงตัวหมดจดในคราวเดียว นั่นคือเวลาที่คุณต้องหยุดแล ตรวจสอบความคิดใหม่” เมื่อการตัดสินใจครั้งใดๆ มีเดิมพันที่สูงและไม่มีทางย้อนคืนได้ คุณควรตัดสินใจในวินาทีท้ายสุดและเหลือตัวเลือกไว้ตรงหน้าให้ได้มากที่สุดเท่าที่ จะเป็นไปได้ขณะที่ยังคงรวบรวมข้อมูลต่อไป จากหนังสือ #คิดให้เฉียบคม #ClearThinking0 Comments 0 Shares 29 Views 0 Reviews - สุมาอี้อดทนรอโอกาสอยู่หลายปี กระทั่งในปี ค.ศ. 249 สุมาอี้แจ้งราชสำนักว่าป่วยหนัก โจซองต้องการตรวจสอบว่าสุมาอี้ป่วยจริงหรือแกล้งป่วย จึงส่งคนสนิทของตนไปเยี่ยมถึงบ้าน สุมาอี้ทราบเช่นนั้นจึงทำทีแสร้งป่วยได้เสมือนจริงมาก ทั้งยังแสดงท่าทีว่ามีอาการเลอะเลือน ต้องให้คนป้อนข้าวต้มให้ แล้วก็แกล้งกินจนเลอะ อีกฝ่ายหลงเชื่อจึงกลับไปรายงานตามที่เห็น โจซองก็ประมาทคิดว่าสุมาอี้ป่วยหนักเช่นนี้คงใกล้ตายแน่แล้ว แต่ที่จริงเป็นแผนล่อให้โจซองตายใจ กระทั่งวันหนึ่งโจซองจัดขบวนออกล่าสัตว์แล้ว ทูลเชิญฮ่องเต้โจซองและเหล่าขุนนางทั้งหลายออกเดินทางไปพร้อมกันที่นอกเมือง แต่นี่ก็เป็นโอกาสของสุมาอี้แล้ว เนื่องจากระหว่างที่โจซองใช้อำนาจตาม อำเภอใจนั้น สุมาอี้ได้รวบรวมกองทหารเอาไว้อย่างลับๆหลายปี อีกทั้งก่อนหน้านี้สุมาอี้เคยนำทัพทำศึกกับขงเบ้งติดต่อกันหลายปี สร้างบารมีกับเหล่าขุนพลและนายทหารไว้มาก ขุนนางหลายคนในราชสำนักก็ยืนข้างเขา ดังนั้นเมื่อถึงเวลาที่พวกโจซองนำคนออกไปล่าสัตว์ สุมาอี้จึงสั่งทหารสามพันคนของ ตนเข้าควบคุมจุดสำคัญในเมืองหลวง แล้วตัวเขาก็เข้าเฝ้าพระนางกวยไทเฮา แจ้งว่าสาเหตุที่ต้องลงมือทำในครั้งนี้ เป็นเพราะโจซองบริหารบ้านเมืองอย่างเลวร้าย ทั้งยังทุจริตและทำตนเหนือฮ่องเต้ ไทเฮาก็จำต้องทำตามคำของสุมาอี้ ซึ่งก็ทำให้การยึดอำนาจของสุมาอี้ถูกต้องชอบธรรมมากขึ้น พวกโจซองที่ออกไปนอกเมืองกว่าจะรู้ว่าพวกตนเสียท่าก็สายไปแล้ว
จากหนังสือ #คิดอย่างจีนสุมาอี้อดทนรอโอกาสอยู่หลายปี กระทั่งในปี ค.ศ. 249 สุมาอี้แจ้งราชสำนักว่าป่วยหนัก โจซองต้องการตรวจสอบว่าสุมาอี้ป่วยจริงหรือแกล้งป่วย จึงส่งคนสนิทของตนไปเยี่ยมถึงบ้าน สุมาอี้ทราบเช่นนั้นจึงทำทีแสร้งป่วยได้เสมือนจริงมาก ทั้งยังแสดงท่าทีว่ามีอาการเลอะเลือน ต้องให้คนป้อนข้าวต้มให้ แล้วก็แกล้งกินจนเลอะ อีกฝ่ายหลงเชื่อจึงกลับไปรายงานตามที่เห็น โจซองก็ประมาทคิดว่าสุมาอี้ป่วยหนักเช่นนี้คงใกล้ตายแน่แล้ว แต่ที่จริงเป็นแผนล่อให้โจซองตายใจ กระทั่งวันหนึ่งโจซองจัดขบวนออกล่าสัตว์แล้ว ทูลเชิญฮ่องเต้โจซองและเหล่าขุนนางทั้งหลายออกเดินทางไปพร้อมกันที่นอกเมือง แต่นี่ก็เป็นโอกาสของสุมาอี้แล้ว เนื่องจากระหว่างที่โจซองใช้อำนาจตาม อำเภอใจนั้น สุมาอี้ได้รวบรวมกองทหารเอาไว้อย่างลับๆหลายปี อีกทั้งก่อนหน้านี้สุมาอี้เคยนำทัพทำศึกกับขงเบ้งติดต่อกันหลายปี สร้างบารมีกับเหล่าขุนพลและนายทหารไว้มาก ขุนนางหลายคนในราชสำนักก็ยืนข้างเขา ดังนั้นเมื่อถึงเวลาที่พวกโจซองนำคนออกไปล่าสัตว์ สุมาอี้จึงสั่งทหารสามพันคนของ ตนเข้าควบคุมจุดสำคัญในเมืองหลวง แล้วตัวเขาก็เข้าเฝ้าพระนางกวยไทเฮา แจ้งว่าสาเหตุที่ต้องลงมือทำในครั้งนี้ เป็นเพราะโจซองบริหารบ้านเมืองอย่างเลวร้าย ทั้งยังทุจริตและทำตนเหนือฮ่องเต้ ไทเฮาก็จำต้องทำตามคำของสุมาอี้ ซึ่งก็ทำให้การยึดอำนาจของสุมาอี้ถูกต้องชอบธรรมมากขึ้น พวกโจซองที่ออกไปนอกเมืองกว่าจะรู้ว่าพวกตนเสียท่าก็สายไปแล้ว จากหนังสือ #คิดอย่างจีน0 Comments 0 Shares 28 Views 0 Reviews - การยอมรับตัวเอง คือการโอบรับสิ่งที่เราเปลี่ยนแปลงไม่ได้และสิ่งที่เราอาจไม่ชอบเกี่ยวกับตัวเอง มีบางสิ่งเกี่ยวกับตัวเองที่ฉันไม่พอใจในแบบที่มันเป็น เช่นการที่ฉันต้องใส่แว่นตาเพื่อให้เห็นสิ่งรอบตัวชัดเจน ไฝและกระจำนวนมหาศาล ระดับความอดทนต่อความเจ็บปวดที่ต่ำ และความเตี้ยของตัวเอง แต่ทั้งสิ่งที่ฉันไม่ชอบและสิ่งที่ฉันชอบเกี่ยวกับตัวเองก็รวมกันเป็นตัวฉันที่สมบูรณ์และแท้จริง คนที่ยอมรับว่าตัวเองไม่สมบูรณ์แบบคือคนที่เข้าใกล้ความสุขที่แท้จริง
จากหนังสือ #ว่าไงจ๊ะความกลัว #HelloFearsการยอมรับตัวเอง คือการโอบรับสิ่งที่เราเปลี่ยนแปลงไม่ได้และสิ่งที่เราอาจไม่ชอบเกี่ยวกับตัวเอง มีบางสิ่งเกี่ยวกับตัวเองที่ฉันไม่พอใจในแบบที่มันเป็น เช่นการที่ฉันต้องใส่แว่นตาเพื่อให้เห็นสิ่งรอบตัวชัดเจน ไฝและกระจำนวนมหาศาล ระดับความอดทนต่อความเจ็บปวดที่ต่ำ และความเตี้ยของตัวเอง แต่ทั้งสิ่งที่ฉันไม่ชอบและสิ่งที่ฉันชอบเกี่ยวกับตัวเองก็รวมกันเป็นตัวฉันที่สมบูรณ์และแท้จริง คนที่ยอมรับว่าตัวเองไม่สมบูรณ์แบบคือคนที่เข้าใกล้ความสุขที่แท้จริง จากหนังสือ #ว่าไงจ๊ะความกลัว #HelloFears0 Comments 0 Shares 30 Views 0 Reviews - ในโลกธุรกิจ การอยู่ท่ามกลางแสงสว่างนั้นเป็นเรื่องดี เพราะมัน ช่วยให้เรามีโอกาสสร้างคอนเนคชั่น มีพื้นที่สื่อ และมีโอกาสสร้าง ยอดขายตามมาแต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณเป็นคนอินโทรเวิร์ตที่ไม่ขอบแสง หรือที่ยิ่งไปกว่านั้น จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณเป็น “บริษัท”อินโทรเวิร์ต
นั่นคือสิ่งที่พวกเราเป็นครับ วีเลิร์นน่าจะเป็นหนึ่งในบริษัท ที่อัดแน่นไปด้วยคนอินโทรเวิร์ตมากที่สุดแล้ว ไล่ตั้งแต่พนักงาน ผู้บริหาร ไปจนถึงเจ้าของบริษัท!
จากหนังสือ #วิชาคนตัวเล็ก #SmallRulesในโลกธุรกิจ การอยู่ท่ามกลางแสงสว่างนั้นเป็นเรื่องดี เพราะมัน ช่วยให้เรามีโอกาสสร้างคอนเนคชั่น มีพื้นที่สื่อ และมีโอกาสสร้าง ยอดขายตามมาแต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณเป็นคนอินโทรเวิร์ตที่ไม่ขอบแสง หรือที่ยิ่งไปกว่านั้น จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณเป็น “บริษัท”อินโทรเวิร์ต นั่นคือสิ่งที่พวกเราเป็นครับ วีเลิร์นน่าจะเป็นหนึ่งในบริษัท ที่อัดแน่นไปด้วยคนอินโทรเวิร์ตมากที่สุดแล้ว ไล่ตั้งแต่พนักงาน ผู้บริหาร ไปจนถึงเจ้าของบริษัท! จากหนังสือ #วิชาคนตัวเล็ก #SmallRules0 Comments 0 Shares 27 Views 0 Reviews - เลนเศรษฐีไม่มีสคริปต์ UNSCRIPTED (2025/122)
สืบเนื่องจากเล่มก่อนหน้านี้ The Millionaire Fast Lane เปลี่ยนเลนเป็นเศรษฐี
ที่เขียนโดยนักเขียนที่เป็นผู้ประสบความสำเร็จ และเรียกตัวเองว่าเป็นเศรษฐีแล้ว
โดยเล่มนี้ต่างจากเล่มก่อนตรงที่เล่มเปลี่ยนเลนเป็นเศรษฐีคือการแนะแนวทางเพื่อสร้างความั่งคั่ง ส่วนเล่มนี้เลนเศรษฐีไม่มีสคริปต์ เป็นการอธิบายแนวคิดของผู้เขียนและหลักปรัชญาที่เขาดำเนินชีวิตผ่านมา
UNSCRIPTED ในความหมายของหนังสือเล่มนี้คือการเล่นนอกกฎ (แหกกฎ) ทำในสิ่งที่สังคมโน้มน้าวให้คนส่วนใหญ่ใช้ชีวิตในบริบทที่เหมือนกัน โดยบทบาทที่สังคมทำเป็นแนวทางไว้นั้นผู้เขียนยืนยันว่าไม่ถูกต้องและเป็นหนทางที่จะนำไปสู่ชีวิตวัยเกษียณที่เป็นชีวิตธรรมดาไม่มั่งคั่ง
ผู้เขียนได้ทำการชี้แจงให้เห็นถึงที่มาของความจำเป็นที่ต้องเล่นนอกบท นอกจากนี้เขายังพยายามปลุกจิตปลุกใจให้ผู้อ่านกล้าที่จะเล่นนอกบท และทำตามแนวคิดของเขา ซึ่งการลองทำนี้ไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหายเลย ท้ายเล่มเขายังแนะแนวทางดีๆในการทำธุรกิจ แนวทางการออมเงิน และการลงทุนอีกด้วย
#เลนเศรษฐีไม่มีสคริปต์ #UNSCRIPTED #รีวิวหนังสือ #TheMillionaireFastLane #เปลี่ยนเลนเป็นเศรษฐี
เลนเศรษฐีไม่มีสคริปต์ UNSCRIPTED (2025/122) สืบเนื่องจากเล่มก่อนหน้านี้ The Millionaire Fast Lane เปลี่ยนเลนเป็นเศรษฐี ที่เขียนโดยนักเขียนที่เป็นผู้ประสบความสำเร็จ และเรียกตัวเองว่าเป็นเศรษฐีแล้ว โดยเล่มนี้ต่างจากเล่มก่อนตรงที่เล่มเปลี่ยนเลนเป็นเศรษฐีคือการแนะแนวทางเพื่อสร้างความั่งคั่ง ส่วนเล่มนี้เลนเศรษฐีไม่มีสคริปต์ เป็นการอธิบายแนวคิดของผู้เขียนและหลักปรัชญาที่เขาดำเนินชีวิตผ่านมา UNSCRIPTED ในความหมายของหนังสือเล่มนี้คือการเล่นนอกกฎ (แหกกฎ) ทำในสิ่งที่สังคมโน้มน้าวให้คนส่วนใหญ่ใช้ชีวิตในบริบทที่เหมือนกัน โดยบทบาทที่สังคมทำเป็นแนวทางไว้นั้นผู้เขียนยืนยันว่าไม่ถูกต้องและเป็นหนทางที่จะนำไปสู่ชีวิตวัยเกษียณที่เป็นชีวิตธรรมดาไม่มั่งคั่ง ผู้เขียนได้ทำการชี้แจงให้เห็นถึงที่มาของความจำเป็นที่ต้องเล่นนอกบท นอกจากนี้เขายังพยายามปลุกจิตปลุกใจให้ผู้อ่านกล้าที่จะเล่นนอกบท และทำตามแนวคิดของเขา ซึ่งการลองทำนี้ไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหายเลย ท้ายเล่มเขายังแนะแนวทางดีๆในการทำธุรกิจ แนวทางการออมเงิน และการลงทุนอีกด้วย #เลนเศรษฐีไม่มีสคริปต์ #UNSCRIPTED #รีวิวหนังสือ #TheMillionaireFastLane #เปลี่ยนเลนเป็นเศรษฐี0 Comments 0 Shares 30 Views 0 Reviews - ปัญหาคือ สมองของมนุษย์โม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้เรามีความสุขและเดิมเต็ม มันถูกออกแบบมาให้เราเอาชีวิตรอด อวัยวะอายุกว่าสอง ล้านปีนี้มองหาสิ่งผิดปกติอยู่เสมอ ไม่ว่าสิ่งใดก็ตามที่ทำให้เขาเจ็บปวด เพื่อที่เราจะได้ต่อสู้กับมันหรือไม่ก็หนีให้ห่างจากมันไป ถ้าคุณและผมปล่อยให้เจ้าซอฟต์แวร์โบราณนี้ควบคุมทุกอย่าง เราจะมีโอกาสจากใหนมาเพลิดเพลินกับชีวิต?
จากหนังสือ #Unshakableปัญหาคือ สมองของมนุษย์โม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้เรามีความสุขและเดิมเต็ม มันถูกออกแบบมาให้เราเอาชีวิตรอด อวัยวะอายุกว่าสอง ล้านปีนี้มองหาสิ่งผิดปกติอยู่เสมอ ไม่ว่าสิ่งใดก็ตามที่ทำให้เขาเจ็บปวด เพื่อที่เราจะได้ต่อสู้กับมันหรือไม่ก็หนีให้ห่างจากมันไป ถ้าคุณและผมปล่อยให้เจ้าซอฟต์แวร์โบราณนี้ควบคุมทุกอย่าง เราจะมีโอกาสจากใหนมาเพลิดเพลินกับชีวิต? จากหนังสือ #Unshakable0 Comments 0 Shares 33 Views 0 Reviews
More Stories