อริยสาวกพึงฝึกหัดภาวะบริสุทธิ์แห่งการประพฤติตบะพรหมจรรย์
สัทธรรมลำดับที่ : 1031
ชื่อบทธรรม :- ภาวะบริสุทธิ์แห่งการประพฤติตบะพรหมจรรย์
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1031
เนื้อความทั้งหมด :-
--ภาวะบริสุทธิ์แห่งการประพฤติตบะพรหมจรรย์ โดย ๑๖ ประการ
( ก. ภาวะไม่บริสุทธิ์สำหรับเปรียบเทียบ )
--“ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ! เมื่อการเกียดกันกิเลสด้วยตบะบริบูรณ์อย่างนี้แล้ว
พระผู้มีพระภาคยังจะกล่าวถึงอุปกิเลสมีอย่างต่างๆ
แห่งการบำเพ็ญตบะนั้นอย่างไรอีกเล่า ?”
--๑. นิโค๎รธ ! ในกรณีนี้ คือ
ผู้บำเพ็ญตบะ สมาทานตบะอยู่
เขาเป็นผู้พอใจด้วยตบะนั้น ว่าบริบูรณ์แล้วตามประสงค์
(เป็นผู้ประพฤติพรหมจรรย์เพื่อตัวกู, มิใช่เพื่อธรรมะ).
+--นิโค๎รธ ! ข้อที่เขา $พอใจด้วยตบะว่าบริบูรณ์แล้วตามประสงค์ นั้น
แม้ข้อนี้ก็ยังเป็นอุปกิเลส (เครื่องเศร้าหมอง) ของผู้บำเพ็ญตบะ.
--๒. นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ สมาทานตบะอยู่
เขายกตนข่มผู้อื่นด้วยตบะนั้น.
+--นิโค๎รธ ! ข้อที่เขา @ยกตนข่มขู่ผู้อื่นด้วยตบะ นั้น
แม้ข้อนี้ก็เป็นอุปกิเลสของผู้บำเพ็ญตบะ.
--๓. นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ สมาทานตบะอยู่
เขาเมาตบะ หลงตบะ ถึงความมัวเมาด้วยตบะนั้น.
+--นิโค๎รธ ! ข้อที่เขา เมาตบะ หลงตบะ $ถึงความมัวเมาด้วยตบะ นั้น
แม้ข้อนี้ก็เป็นอุปกิเลสของผู้บำเพ็ญตบะ.
--๔. นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ สมาทานตบะอยู่
เขาทำลาภสักการะและเสียงสรรเสริญให้เกิดขึ้นด้วยตบะนั้น
เขาพอใจด้วยลาภสักการะและเสียงสรรเสริญนั้น ว่าบริบูรณ์แล้วตามประสงค์.
+--นิโค๎รธ ! ข้อที่เขา $พอใจด้วยลาภสักการะและเสียงสรรเสริญ
ว่าบริบูรณ์แล้วตามประสงค์ นั้น
แม้ข้อนี้ก็เป็นอุปกิเลสของผู้บำเพ็ญตบะ.
--๕. นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ สมาทานตบะอยู่
เขาทำลาภสักการะและเสียงสรรเสริญให้เกิดขึ้นด้วยตบะนั้น
เขายกตนข่มผู้อื่นด้วยลาภสักการะและเสียงสรรเสริญนั้น.
+--นิโค๎รธ ! ข้อที่เขา $ยกตนข่มผู้อื่นด้วยลาภสักการะและเสียงสรรเสริญ นั้น
แม้ข้อนี้ก็เป็นอุปกิเลสของผู้บำเพ็ญตบะ.
--๖.นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ สมาทานตบะอยู่
เขาทำลาภสักการะและเสียงสรรเสริญให้เกิดขึ้นด้วยตบะนั้น
เขาเมาลาภ หลงลาภ $ถึงความมัวเมาด้วยลาภสักการะและเสียงสรรเสริญนั้น
+--นิโค๎รธ ! ข้อที่เขา เมาลาภ หลงลาภ ถึงความมัวเมาด้วยลาภสักการะ
และเสียงสรรเสริญ นั้น
แม้ข้อนี้ก็เป็นอุปกิเลสของผู้บำเพ็ญตบะ.
--๗. นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ สมาทานตบะอยู่
เขาถึงการแบ่งแยกในโภชนะ ทั้งหลายว่า “นี้ควรแก่เรา นี้ไม่ควรแก่เรา”
ดังนี้.
เขาไม่ชอบสิ่งใด เขาสะบัดหน้าไม่สนใจ ละมันไปเสีย;
เขา ชอบสิ่งใด เขาก็จดจ่อมัวเมา หมายมั่นซึ่งสิ่งนั้น ไม่มองเห็นโทษ
$ไม่มีปัญญาเป็นเครื่องออก (จากอัสสาทะแห่งสิ่งนั้น) กินเอา ๆ.
+--นิโค๎รธ ! แม้ข้อนี้ ก็เป็นอุปกิเลสของผู้บำเพ็ญตบะ.
--๘. นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ สมาทานตบะอยู่ด้วยคิดว่า
พระราชา มหาอำมาตย์ กษัตริย์ พราหมณ์ คหบดี เดียรถีย์
ทั้งหลายจักสักการะเรา เพราะเหตุแห่งความใคร่จะได้ลาภสักการะและเสียงสรรเสริญ.
+--นิโค๎รธ ! แม้ข้อนี้ก็เป็นอุปกิเลสของผู้บำเพ็ญตบะ.
--๙. นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ เป็นผู้ ที่เที่ยวรุกราน
สมณะหรือพราหมณ์ใดๆ ไม่ว่าในที่ไหนๆ ว่า
“อะไรกันนะ ท่านผู้นี้ มีอาชีพ (ดำรงชีพ) สำส่อน กินเสียหมดทุกอย่าง
ไม่ว่าจะเป็นพืชเกิดจากราก พืชเกิดจากข้อ พืชเกิดจากผล พืชเกิดจากยอด
และพืชเกิดจากลำต้นเป็นที่ห้า”
ดังนี้
$ด้วยวาทะย่ำยีสมณะราวกะว่ามีคมแห่งฟันดังสายฟ้า.
+--นิโค๎รธ ! การกระทำแม้นี้ก็เป็นอุปกิเลสของผู้บำเพ็ญตบะ.
--๑๐. นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ เห็นสมณะหรือพราหมณ์ใดๆ
ที่คนพากันสักการะอยู่ เคารพอยู่ นับถืออยู่ บูชาอยู่ ในตระกูลทั้งหลาย
ก็ มีความคิดว่า
“คนทั้งหลายพากันสักการะเคารพนับถือบูชาซึ่งสมณพราหมณ์นี้ผู้มีอาชีพสำส่อนอยู่
ในตระกูลทั้งหลาย แต่กลับไม่สักการะเคารพนับถือบูชาเราผู้บำเพ็ญตบะ
ดำรงชีวิตอยู่อย่างมี ลูข*--๑ ปฏิปทา อยู่ในตระกูลทั้งหลาย”
ดังนี้
เขา $เกิดมีความริษยาและตระหนี่ในตระกูลทั้งหลายขึ้นมาด้วย อาการอย่างนี้.
+--นิโค๎รธ ! แม้ข้อนี้ก็เป็นอุปกิเลสของผู้บำเพ็ญตบะ.
[*--๑ ลูขะ คำนี้ แปลยากสำหรับคนไทย เคยแปลกันว่าเศร้าหมองบ้าง ปอนๆ บ้าง
เป็นคำแปลที่อาจให้เกิดความเข้าใจผิดจากความหมายอันแท้จริง ซึ่งสูงหรือลึกไปกว่านั้น
กล่าวคือ มีชีวิตอยู่ด้วยสิ่งที่ไร้ค่า ไร้ความสวยงาม
ไร้ความสะดวกสบาย เป็นชีวิตแบบต่ำสุดสำหรับ นักบวช
ซึ่งเราเรียกกันโดยทั่วไปว่าเคร่งครัดอย่างยิ่ง.
ขอให้ใช้คำว่า ลูขะ นี้เป็นคำคำหนึ่ง ในภาษาไทยสืบไปในภายหน้าด้วย.]
--๑๑. นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ $ชอบนั่งแสดงตัวตามทางที่คนผ่าน (เพื่ออวดคน).
+--นิโค๎รธ ! แม้ข้อนี้ก็เป็นอุปกิเลสของ ผู้บำเพ็ญตบะ.
--๑๒. นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ ไม่เปิดเผยตน (ตามที่เป็นจริง)
เที่ยวไปในตระกูลทั้งหลาย ประกาศอยู่ว่า
“อย่างนี้ๆ เป็นตบะของฉัน, มีในตบะของฉัน”
ดังนี้ เป็นต้น.
±--นิโค๎รธ ! แม้ข้อนี้ก็เป็นอุปกิเลสของผู้บำเพ็ญตบะ.
--๑๓. นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ มีปกตินิสัยทำสิ่งไรๆ ให้เป็นของปกปิด
เมื่อถูกถามอยู่ว่า สิ่งนี้ควรแก่ท่านไหม
ก็กล่าวสิ่งที่ไม่ควรว่าควร กล่าวสิ่งที่ควรว่าไม่ควร
$เป็นผู้กล่าวมุสาทั้งที่รู้อยู่แก่ใจ
ดังนี้.
+--นิโค๎รธ ! แม้ข้อนี้ก็เป็นอุปกิเลสของผู้บำเพ็ญตบะ.
--๑๔. นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ, $เมื่อตถาคตหรือสาวกของตถาคตแสดงธรรมอยู่,
เขาไม่ยอมรับ (ว่าถูกว่าจริง) ต่อปริยาย
ที่ควรยอมรับ (ว่าถูกว่าจริง) แม้มีอยู่แท้.
+--นิโค๎รธ ! แม้ข้อนี้ก็เป็นอุปกิเลสของผู้บำเพ็ญตบะ.
--๑๕. นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ $เป็นคนขี้โกรธมักผูกโกรธ.
+--นิโค๎รธ ! แม้ข้อนี้ก็เป็นอุปกิเลสของผู้บำเพ็ญตบะ.
--๑๖. นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ
เป็นคน ลบหลู่ คุณท่าน ตีตนเสมอท่าน
เป็นคน ริษยา ตระหนี่
เป็นคน โอ้อวด มีมายา
เป็นคน หัวดื้อ ดูหมิ่นท่าน
เป็นคน ปรารถนาลามก ตกอยู่ในอำนาจแห่งความ ปรารถนาลามก เป็นมิจฉาทิฏฐิ ประกอบอยู่ด้วยอันตคาหิกทิฏฐิ
เป็นคนลูบคลำ สิ่งต่างๆ ตามทิฏฐิของตน ยึดถือไว้เหนียวแน่น สลัดคืนได้ยาก.
+--นิโค๎รธ ! แม้ข้อนี้ก็เป็นอุปกิเลสของผู้บำเพ็ญตบะ.
--นิโค๎รธ ! ท่านจะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร
: การเกียดกันกิเลส ด้วยตบะในรูปแบบอย่างที่ว่ามานี้ (ทุกข้อ)
เป็นอุปกิเลส หรือไม่เป็นอุปกิเลสเล่า ?
“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! การเกียดกันกิเลสด้วยตบะเหล่านี้
เป็นอุปกิเลสแน่แท้ ไม่เป็นอุปกิเลส หามิได้.
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ข้อนี้เป็นฐานะที่มีอยู่ คือผู้ บำเพ็ญตบะบางคนในกรณีนี้
ประกอบด้วยอุปกิเลสเหล่านี้ครบทุกอย่างแล้ว
ทำไมจะไม่ ประกอบด้วยอุปกิเลสแต่ละอย่าง ๆ เล่า”.
(ข. ภาวะบริสุทธิ์ที่สำหรับถือเป็นหลัก)
--๑. นิโค๎รธ ! ในกรณีนี้
ผู้บำเพ็ญตบะ สมาทานตบะอยู่ $เขาไม่เป็นผู้พอใจไม่รู้สึกว่าบริบูรณ์แล้ว
ตามประสงค์ด้วยตบะนั้น (ไม่ได้บำเพ็ญตบะเพื่อความพอใจแห่งตัวกู).
+--นิโค๎รธ ! ข้อที่เขา ไม่ได้บำเพ็ญตบะเพื่อความพอใจแห่งตนนั้น
นั่นแหละเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ในฐานะนั้น.
--๒. นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ สมาทานตบะอยู่ $เขาไม่ยกตนไม่ข่มผู้อื่นด้วยตบะนั้น.
+-+นิโค๎รธ ! ข้อที่เขาไม่ยกตนไม่ข่มผู้อื่นด้วยตบะนั้น
ด้วยเหตุนี้แหละเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ในฐานะนั้น
--๓. นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ สมาทานตบะอยู่เขาไม่เมาตบะไม่หลงตบะ $ไม่ถึงความมัวเมาด้วยตบนั้น.
+--นิโค๎รธ ! ข้อที่ เขา ไม่เมาตบะ ไม่หลงตบะ ไม่ถึงความมัวเมาด้วยตบะ นั้น
ด้วยเหตุผลนี้ แหละ เขาเป็นผู้บริสุทธิ์ในฐานะนั้น.
--๔. นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ สมาทานตบะอยู่ เขาทำลาภสักการะและเสียงสรรเสริญให้เกิดขึ้นด้วยตบะนั้น เขาไม่เป็นผู้พอใจ $ด้วยลาภสักการะและเสียงสรรเสริญนั้น ว่าบริบูรณ์แล้วตามประสงค์.
+--นิโค๎รธ ! ข้อที่เขา
ไม่เป็นผู้พอใจด้วยลาภสักการะและเสียงสรรเสริญ ว่าบริบูรณ์แล้วตามประสงค์ นั้น
ด้วยเหตุผลนี้แหละเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ในฐานะนั้น.
--๕. นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ สมาทานตบะอยู่
$เขาทำลาภสักการะและเสียงสรรเสริญให้เกิดขึ้นด้วยตบะนั้น
เขาไม่ยกตนไม่ข่มผู้อื่นด้วยลาภสักการะและเสียงสรรเสริญนั้น.
+--นิโค๎รธ ! ข้อที่เขา
ไม่ยกตน $ไม่ข่มผู้อื่นด้วยลาภสักการะและเสียงสรรเสริญ นั้น
ด้วยเหตุนี้แหละเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ในฐานะนั้น.
--๖. นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ สมาทานตบะอยู่
$เขาทำลาภสักการะและเสียงสรรเสริญให้เกิดขึ้น
เขาไม่เมาลาภ ไม่หลงลาภ ไม่ถึงความมัวเมาลาภสักการะและเสียงสรรเสริญนั้น.
+--นิโค๎รธ ! ข้อที่เขา
ไม่ เมาลาภไม่หลงลาภไม่ถึงความมัวเมาสักการะและเสียงสรรเสริญ นั้น
ด้วยเหตุนี้แหละเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ในฐานะนั้น.
--๗. นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ สมาทานตบะอยู่ $เขาไม่ถึงการแบ่งแยกในภาชนะ ทั้งหลาย
ว่า “นี้ควรแก่เรา นี้ไม่ควรแก่เรา” ดังนี้
เขา ไม่ชอบสิ่งใด เขาไม่ได้สะบัดหน้าแสดงความไม่สนใจ ละมันไปเสีย
เขา ชอบสิ่งใด เขาก็ไม่จดจ่อ ไม่มัวเมา ไม่หมายมั่นสิ่งนั้น มองเห็นโทษ
มีปัญญาเป็นเครื่องออก (จากอัสสาทะแห่งสิ่งนั้น) บริโภคอยู่.
ด้วยเหตุนี้แหละ เขาเป็นผู้บริสุทธิ์ในฐานะนั้น.
--๘. นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ สมาทานตบะอยู่
เขาไม่คิดอย่างนี้ว่า พระราชา มหาอำมาตย์ กษัตริย์ พราหมณ์ คหบดี เดียรถีย์ ทั้งหลาย
จักสักการะเรา $เพราะเหตุแห่งความใคร่จะได้ลาภสักการะและเสียงสรรเสริญ.
ด้วยเหตุนี้แหละเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ในฐานะนั้น.
--๙. นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ ไม่เป็นผู้เที่ยวรุกราน สมณะหรือพราหมณ์ใดๆ ว่า
“อะไรกันนะ ท่านผู้นี้มีอาชีพ (ดำรงชีพ) สำส่อน กินเสียหมดทุกอย่าง
ไม่ว่าจะเป็นพืชเกิดจากราก พืชเกิดจากข้อ พืชเกิดจากผล พืชเกิดจากยอด
และพืชเกิดจากลำต้นเป็นที่ห้า”
ดังนี้
ด้วยวาทะย่ำยีสมณะราวกะว่ามีคมแห่งฟันดังสายฟ้า.
ด้วยเหตุนี้แหละเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ในฐานะนั้น.
--๑๐. นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ เห็นสมณะหรือ พราหมณ์ใด ๆ
ที่คนพากันสักการะอยู่ เคารพอยู่ นับถืออยู่ บูชาอยู่ ในตระกูลทั้งหลาย
เขา ไม่มีความคิดอย่างนี้ ว่า
“คนทั้งหลายพากันสักการะเคารพนับถือบูชาซึ่งสมณะพราหมณ์นี้
ผู้มีอาชีวะสำส่อนอยู่ ในตระกูลทั้งหลาย
แต่กลับไม่สักการะเคารพนับถือบูชาเราผู้ดำรงชีพอยู่อย่างมีลูขปฏิปทา
อยู่ในตระกูลทั้งหลาย”
ดังนี้
เขา ไม่เกิดมีความริษยาและตระหนี่ ในตระกูลทั้งหลายขึ้นมา อย่างนี้.
ด้วยเหตุนี้แหละเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ในฐานะนั้น.
--๑๑. นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ ไม่ชอบนั่งแสดง ตนตามทางที่คนผ่าน (เพื่ออวดคน).
ด้วยเหตุนี้แหละเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ในฐานะนั้น.
--๑๒. นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ
จะไม่เปิดเผยตน (ตามที่เป็นจริง)
เที่ยวไปในตระกูลทั้งหลายก็หามิได้ (เขาเป็นคนจริงและเปิดเผย)
ประกาศอยู่ ว่า
“อย่างนี้ๆ เป็นตบะของฉัน, มีในตบะของฉัน”
ดังนี้ เป็นต้น.
ด้วยเหตุนี้แหละเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ในฐานะนั้น.
--๑๓. นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ ไม่มีปกตินิสัยทำ สิ่งไรๆ ให้เป็นของปกปิด
เมื่อถูกถามอยู่ว่า สิ่งนี้ควรแก่ท่านไหม ก็ กล่าวสิ่งที่ ไม่ควรว่าไม่ควร
กล่าวสิ่งที่ควรกล่าวว่าควร ไม่เป็นผู้กล่าวมุสาทั้งที่รู้อยู่แก่ใจ
ดังนี้.
ด้วยเหตุนี้แหละเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ในฐานะนั้น.
--๑๔. นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ,
เมื่อตถาคตหรือสาวกของตถาคตแสดงธรรมอยู่,
เขายอมรับ (ว่าถูกว่าจริง) ต่อปริยายที่ควรยอมรับ (ว่าถูกว่าจริง) ซึ่งมีอยู่แท้.
+--นิโค๎รธ ด้วยเหตุนี้แหละเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ในฐานะนั้น.
--๑๕. นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ
ไม่เป็นคนขี้โกรธ ไม่ผูกโกรธ.
+--นิโค๎รธ ! ข้อที่เขาเป็นคนไม่ขี้โกรธ ไม่ผูกโกรธนั้น
ด้วยเหตุนี้แหละเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ในฐานะนั้น.
--๑๖. นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ
ไม่เป็นคนลบหลู่ คุณท่าน ตีตนเสมอท่าน ไม่เป็นคนริษยา ไม่ตระหนี่
ไม่เป็นคนโอ้อวด ไม่มีมายา ไม่เป็นคนหัวดื้อ ไม่ดูหมิ่นท่าน ไม่เป็นคนปรารถนาลามก
ไม่ตกอยู่ในอำนาจแห่งความปรารถนาลามก
ไม่เป็นมิจฉาทิฏฐิ ไม่ประกอบอยู่ด้วยอันคาหิกทิฏฐิ
ไม่เป็นคนลูบคลำสิ่งต่างๆ ตามทิฏฐิของตน
ไม่ยึดถือไว้เหนียวแน่น สลัด คืนได้ง่าย.
ด้วยเหตุนี้แหละเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ในฐานะนั้น.
--นิโค๎รธ ! ท่านจะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร
: เมื่อเป็นอย่างนี้ มันเป็นการเกียดกันกิเลสด้วยตบะที่บริสุทธิ์ หรือไม่บริสุทธิ์เล่า ?
--“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ! เมื่อเป็นอย่างนี้
มันเป็นการเกียดกันกิเลสด้วยตบะที่บริสุทธิ์โดยแท้ หาใช่ไม่บริสุทธิ์ไม่
ทั้งยังเป็นการบรรลุถึงยอดถึงแก่นอีกด้วย พระเจ้าข้า !”
--นิโค๎รธเอ๋ย ! การเกียดกันกิเลสด้วยตบะเพียงเท่านี้ ยังไม่ถึงยอด ถึงแก่น
เป็นเพียงถึงเปลือกแห้งๆ เท่านั้น.-
#ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ปา. ที. 11/30 - 36/24 - 25.
http://etipitaka.com/read/thai/11/30/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%94
อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ปา. ที. ๑๑/๔๔ - ๕๐/๒๔ - ๒๕.
http://etipitaka.com/read/pali/11/44/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%94
ศึกษาเพิ่มเติม...
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1031 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=89&id=1031 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=89
ลำดับสาธยายธรรม : 89 ฟังเสียงอ่าน...
http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_89.mp3 อริยสาวกพึงฝึกหัดภาวะบริสุทธิ์แห่งการประพฤติตบะพรหมจรรย์
สัทธรรมลำดับที่ : 1031
ชื่อบทธรรม :- ภาวะบริสุทธิ์แห่งการประพฤติตบะพรหมจรรย์
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1031
เนื้อความทั้งหมด :-
--ภาวะบริสุทธิ์แห่งการประพฤติตบะพรหมจรรย์ โดย ๑๖ ประการ
( ก. ภาวะไม่บริสุทธิ์สำหรับเปรียบเทียบ )
--“ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ! เมื่อการเกียดกันกิเลสด้วยตบะบริบูรณ์อย่างนี้แล้ว
พระผู้มีพระภาคยังจะกล่าวถึงอุปกิเลสมีอย่างต่างๆ
แห่งการบำเพ็ญตบะนั้นอย่างไรอีกเล่า ?”
--๑. นิโค๎รธ ! ในกรณีนี้ คือ
ผู้บำเพ็ญตบะ สมาทานตบะอยู่
เขาเป็นผู้พอใจด้วยตบะนั้น ว่าบริบูรณ์แล้วตามประสงค์
(เป็นผู้ประพฤติพรหมจรรย์เพื่อตัวกู, มิใช่เพื่อธรรมะ).
+--นิโค๎รธ ! ข้อที่เขา $พอใจด้วยตบะว่าบริบูรณ์แล้วตามประสงค์ นั้น
แม้ข้อนี้ก็ยังเป็นอุปกิเลส (เครื่องเศร้าหมอง) ของผู้บำเพ็ญตบะ.
--๒. นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ สมาทานตบะอยู่
เขายกตนข่มผู้อื่นด้วยตบะนั้น.
+--นิโค๎รธ ! ข้อที่เขา @ยกตนข่มขู่ผู้อื่นด้วยตบะ นั้น
แม้ข้อนี้ก็เป็นอุปกิเลสของผู้บำเพ็ญตบะ.
--๓. นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ สมาทานตบะอยู่
เขาเมาตบะ หลงตบะ ถึงความมัวเมาด้วยตบะนั้น.
+--นิโค๎รธ ! ข้อที่เขา เมาตบะ หลงตบะ $ถึงความมัวเมาด้วยตบะ นั้น
แม้ข้อนี้ก็เป็นอุปกิเลสของผู้บำเพ็ญตบะ.
--๔. นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ สมาทานตบะอยู่
เขาทำลาภสักการะและเสียงสรรเสริญให้เกิดขึ้นด้วยตบะนั้น
เขาพอใจด้วยลาภสักการะและเสียงสรรเสริญนั้น ว่าบริบูรณ์แล้วตามประสงค์.
+--นิโค๎รธ ! ข้อที่เขา $พอใจด้วยลาภสักการะและเสียงสรรเสริญ
ว่าบริบูรณ์แล้วตามประสงค์ นั้น
แม้ข้อนี้ก็เป็นอุปกิเลสของผู้บำเพ็ญตบะ.
--๕. นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ สมาทานตบะอยู่
เขาทำลาภสักการะและเสียงสรรเสริญให้เกิดขึ้นด้วยตบะนั้น
เขายกตนข่มผู้อื่นด้วยลาภสักการะและเสียงสรรเสริญนั้น.
+--นิโค๎รธ ! ข้อที่เขา $ยกตนข่มผู้อื่นด้วยลาภสักการะและเสียงสรรเสริญ นั้น
แม้ข้อนี้ก็เป็นอุปกิเลสของผู้บำเพ็ญตบะ.
--๖.นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ สมาทานตบะอยู่
เขาทำลาภสักการะและเสียงสรรเสริญให้เกิดขึ้นด้วยตบะนั้น
เขาเมาลาภ หลงลาภ $ถึงความมัวเมาด้วยลาภสักการะและเสียงสรรเสริญนั้น
+--นิโค๎รธ ! ข้อที่เขา เมาลาภ หลงลาภ ถึงความมัวเมาด้วยลาภสักการะ
และเสียงสรรเสริญ นั้น
แม้ข้อนี้ก็เป็นอุปกิเลสของผู้บำเพ็ญตบะ.
--๗. นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ สมาทานตบะอยู่
เขาถึงการแบ่งแยกในโภชนะ ทั้งหลายว่า “นี้ควรแก่เรา นี้ไม่ควรแก่เรา”
ดังนี้.
เขาไม่ชอบสิ่งใด เขาสะบัดหน้าไม่สนใจ ละมันไปเสีย;
เขา ชอบสิ่งใด เขาก็จดจ่อมัวเมา หมายมั่นซึ่งสิ่งนั้น ไม่มองเห็นโทษ
$ไม่มีปัญญาเป็นเครื่องออก (จากอัสสาทะแห่งสิ่งนั้น) กินเอา ๆ.
+--นิโค๎รธ ! แม้ข้อนี้ ก็เป็นอุปกิเลสของผู้บำเพ็ญตบะ.
--๘. นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ สมาทานตบะอยู่ด้วยคิดว่า
พระราชา มหาอำมาตย์ กษัตริย์ พราหมณ์ คหบดี เดียรถีย์
ทั้งหลายจักสักการะเรา เพราะเหตุแห่งความใคร่จะได้ลาภสักการะและเสียงสรรเสริญ.
+--นิโค๎รธ ! แม้ข้อนี้ก็เป็นอุปกิเลสของผู้บำเพ็ญตบะ.
--๙. นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ เป็นผู้ ที่เที่ยวรุกราน
สมณะหรือพราหมณ์ใดๆ ไม่ว่าในที่ไหนๆ ว่า
“อะไรกันนะ ท่านผู้นี้ มีอาชีพ (ดำรงชีพ) สำส่อน กินเสียหมดทุกอย่าง
ไม่ว่าจะเป็นพืชเกิดจากราก พืชเกิดจากข้อ พืชเกิดจากผล พืชเกิดจากยอด
และพืชเกิดจากลำต้นเป็นที่ห้า”
ดังนี้
$ด้วยวาทะย่ำยีสมณะราวกะว่ามีคมแห่งฟันดังสายฟ้า.
+--นิโค๎รธ ! การกระทำแม้นี้ก็เป็นอุปกิเลสของผู้บำเพ็ญตบะ.
--๑๐. นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ เห็นสมณะหรือพราหมณ์ใดๆ
ที่คนพากันสักการะอยู่ เคารพอยู่ นับถืออยู่ บูชาอยู่ ในตระกูลทั้งหลาย
ก็ มีความคิดว่า
“คนทั้งหลายพากันสักการะเคารพนับถือบูชาซึ่งสมณพราหมณ์นี้ผู้มีอาชีพสำส่อนอยู่
ในตระกูลทั้งหลาย แต่กลับไม่สักการะเคารพนับถือบูชาเราผู้บำเพ็ญตบะ
ดำรงชีวิตอยู่อย่างมี ลูข*--๑ ปฏิปทา อยู่ในตระกูลทั้งหลาย”
ดังนี้
เขา $เกิดมีความริษยาและตระหนี่ในตระกูลทั้งหลายขึ้นมาด้วย อาการอย่างนี้.
+--นิโค๎รธ ! แม้ข้อนี้ก็เป็นอุปกิเลสของผู้บำเพ็ญตบะ.
[*--๑ ลูขะ คำนี้ แปลยากสำหรับคนไทย เคยแปลกันว่าเศร้าหมองบ้าง ปอนๆ บ้าง
เป็นคำแปลที่อาจให้เกิดความเข้าใจผิดจากความหมายอันแท้จริง ซึ่งสูงหรือลึกไปกว่านั้น
กล่าวคือ มีชีวิตอยู่ด้วยสิ่งที่ไร้ค่า ไร้ความสวยงาม
ไร้ความสะดวกสบาย เป็นชีวิตแบบต่ำสุดสำหรับ นักบวช
ซึ่งเราเรียกกันโดยทั่วไปว่าเคร่งครัดอย่างยิ่ง.
ขอให้ใช้คำว่า ลูขะ นี้เป็นคำคำหนึ่ง ในภาษาไทยสืบไปในภายหน้าด้วย.]
--๑๑. นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ $ชอบนั่งแสดงตัวตามทางที่คนผ่าน (เพื่ออวดคน).
+--นิโค๎รธ ! แม้ข้อนี้ก็เป็นอุปกิเลสของ ผู้บำเพ็ญตบะ.
--๑๒. นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ ไม่เปิดเผยตน (ตามที่เป็นจริง)
เที่ยวไปในตระกูลทั้งหลาย ประกาศอยู่ว่า
“อย่างนี้ๆ เป็นตบะของฉัน, มีในตบะของฉัน”
ดังนี้ เป็นต้น.
±--นิโค๎รธ ! แม้ข้อนี้ก็เป็นอุปกิเลสของผู้บำเพ็ญตบะ.
--๑๓. นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ มีปกตินิสัยทำสิ่งไรๆ ให้เป็นของปกปิด
เมื่อถูกถามอยู่ว่า สิ่งนี้ควรแก่ท่านไหม
ก็กล่าวสิ่งที่ไม่ควรว่าควร กล่าวสิ่งที่ควรว่าไม่ควร
$เป็นผู้กล่าวมุสาทั้งที่รู้อยู่แก่ใจ
ดังนี้.
+--นิโค๎รธ ! แม้ข้อนี้ก็เป็นอุปกิเลสของผู้บำเพ็ญตบะ.
--๑๔. นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ, $เมื่อตถาคตหรือสาวกของตถาคตแสดงธรรมอยู่,
เขาไม่ยอมรับ (ว่าถูกว่าจริง) ต่อปริยาย
ที่ควรยอมรับ (ว่าถูกว่าจริง) แม้มีอยู่แท้.
+--นิโค๎รธ ! แม้ข้อนี้ก็เป็นอุปกิเลสของผู้บำเพ็ญตบะ.
--๑๕. นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ $เป็นคนขี้โกรธมักผูกโกรธ.
+--นิโค๎รธ ! แม้ข้อนี้ก็เป็นอุปกิเลสของผู้บำเพ็ญตบะ.
--๑๖. นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ
เป็นคน ลบหลู่ คุณท่าน ตีตนเสมอท่าน
เป็นคน ริษยา ตระหนี่
เป็นคน โอ้อวด มีมายา
เป็นคน หัวดื้อ ดูหมิ่นท่าน
เป็นคน ปรารถนาลามก ตกอยู่ในอำนาจแห่งความ ปรารถนาลามก เป็นมิจฉาทิฏฐิ ประกอบอยู่ด้วยอันตคาหิกทิฏฐิ
เป็นคนลูบคลำ สิ่งต่างๆ ตามทิฏฐิของตน ยึดถือไว้เหนียวแน่น สลัดคืนได้ยาก.
+--นิโค๎รธ ! แม้ข้อนี้ก็เป็นอุปกิเลสของผู้บำเพ็ญตบะ.
--นิโค๎รธ ! ท่านจะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร
: การเกียดกันกิเลส ด้วยตบะในรูปแบบอย่างที่ว่ามานี้ (ทุกข้อ)
เป็นอุปกิเลส หรือไม่เป็นอุปกิเลสเล่า ?
“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! การเกียดกันกิเลสด้วยตบะเหล่านี้
เป็นอุปกิเลสแน่แท้ ไม่เป็นอุปกิเลส หามิได้.
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ข้อนี้เป็นฐานะที่มีอยู่ คือผู้ บำเพ็ญตบะบางคนในกรณีนี้
ประกอบด้วยอุปกิเลสเหล่านี้ครบทุกอย่างแล้ว
ทำไมจะไม่ ประกอบด้วยอุปกิเลสแต่ละอย่าง ๆ เล่า”.
(ข. ภาวะบริสุทธิ์ที่สำหรับถือเป็นหลัก)
--๑. นิโค๎รธ ! ในกรณีนี้
ผู้บำเพ็ญตบะ สมาทานตบะอยู่ $เขาไม่เป็นผู้พอใจไม่รู้สึกว่าบริบูรณ์แล้ว
ตามประสงค์ด้วยตบะนั้น (ไม่ได้บำเพ็ญตบะเพื่อความพอใจแห่งตัวกู).
+--นิโค๎รธ ! ข้อที่เขา ไม่ได้บำเพ็ญตบะเพื่อความพอใจแห่งตนนั้น
นั่นแหละเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ในฐานะนั้น.
--๒. นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ สมาทานตบะอยู่ $เขาไม่ยกตนไม่ข่มผู้อื่นด้วยตบะนั้น.
+-+นิโค๎รธ ! ข้อที่เขาไม่ยกตนไม่ข่มผู้อื่นด้วยตบะนั้น
ด้วยเหตุนี้แหละเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ในฐานะนั้น
--๓. นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ สมาทานตบะอยู่เขาไม่เมาตบะไม่หลงตบะ $ไม่ถึงความมัวเมาด้วยตบนั้น.
+--นิโค๎รธ ! ข้อที่ เขา ไม่เมาตบะ ไม่หลงตบะ ไม่ถึงความมัวเมาด้วยตบะ นั้น
ด้วยเหตุผลนี้ แหละ เขาเป็นผู้บริสุทธิ์ในฐานะนั้น.
--๔. นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ สมาทานตบะอยู่ เขาทำลาภสักการะและเสียงสรรเสริญให้เกิดขึ้นด้วยตบะนั้น เขาไม่เป็นผู้พอใจ $ด้วยลาภสักการะและเสียงสรรเสริญนั้น ว่าบริบูรณ์แล้วตามประสงค์.
+--นิโค๎รธ ! ข้อที่เขา
ไม่เป็นผู้พอใจด้วยลาภสักการะและเสียงสรรเสริญ ว่าบริบูรณ์แล้วตามประสงค์ นั้น
ด้วยเหตุผลนี้แหละเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ในฐานะนั้น.
--๕. นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ สมาทานตบะอยู่
$เขาทำลาภสักการะและเสียงสรรเสริญให้เกิดขึ้นด้วยตบะนั้น
เขาไม่ยกตนไม่ข่มผู้อื่นด้วยลาภสักการะและเสียงสรรเสริญนั้น.
+--นิโค๎รธ ! ข้อที่เขา
ไม่ยกตน $ไม่ข่มผู้อื่นด้วยลาภสักการะและเสียงสรรเสริญ นั้น
ด้วยเหตุนี้แหละเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ในฐานะนั้น.
--๖. นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ สมาทานตบะอยู่
$เขาทำลาภสักการะและเสียงสรรเสริญให้เกิดขึ้น
เขาไม่เมาลาภ ไม่หลงลาภ ไม่ถึงความมัวเมาลาภสักการะและเสียงสรรเสริญนั้น.
+--นิโค๎รธ ! ข้อที่เขา
ไม่ เมาลาภไม่หลงลาภไม่ถึงความมัวเมาสักการะและเสียงสรรเสริญ นั้น
ด้วยเหตุนี้แหละเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ในฐานะนั้น.
--๗. นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ สมาทานตบะอยู่ $เขาไม่ถึงการแบ่งแยกในภาชนะ ทั้งหลาย
ว่า “นี้ควรแก่เรา นี้ไม่ควรแก่เรา” ดังนี้
เขา ไม่ชอบสิ่งใด เขาไม่ได้สะบัดหน้าแสดงความไม่สนใจ ละมันไปเสีย
เขา ชอบสิ่งใด เขาก็ไม่จดจ่อ ไม่มัวเมา ไม่หมายมั่นสิ่งนั้น มองเห็นโทษ
มีปัญญาเป็นเครื่องออก (จากอัสสาทะแห่งสิ่งนั้น) บริโภคอยู่.
ด้วยเหตุนี้แหละ เขาเป็นผู้บริสุทธิ์ในฐานะนั้น.
--๘. นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ สมาทานตบะอยู่
เขาไม่คิดอย่างนี้ว่า พระราชา มหาอำมาตย์ กษัตริย์ พราหมณ์ คหบดี เดียรถีย์ ทั้งหลาย
จักสักการะเรา $เพราะเหตุแห่งความใคร่จะได้ลาภสักการะและเสียงสรรเสริญ.
ด้วยเหตุนี้แหละเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ในฐานะนั้น.
--๙. นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ ไม่เป็นผู้เที่ยวรุกราน สมณะหรือพราหมณ์ใดๆ ว่า
“อะไรกันนะ ท่านผู้นี้มีอาชีพ (ดำรงชีพ) สำส่อน กินเสียหมดทุกอย่าง
ไม่ว่าจะเป็นพืชเกิดจากราก พืชเกิดจากข้อ พืชเกิดจากผล พืชเกิดจากยอด
และพืชเกิดจากลำต้นเป็นที่ห้า”
ดังนี้
ด้วยวาทะย่ำยีสมณะราวกะว่ามีคมแห่งฟันดังสายฟ้า.
ด้วยเหตุนี้แหละเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ในฐานะนั้น.
--๑๐. นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ เห็นสมณะหรือ พราหมณ์ใด ๆ
ที่คนพากันสักการะอยู่ เคารพอยู่ นับถืออยู่ บูชาอยู่ ในตระกูลทั้งหลาย
เขา ไม่มีความคิดอย่างนี้ ว่า
“คนทั้งหลายพากันสักการะเคารพนับถือบูชาซึ่งสมณะพราหมณ์นี้
ผู้มีอาชีวะสำส่อนอยู่ ในตระกูลทั้งหลาย
แต่กลับไม่สักการะเคารพนับถือบูชาเราผู้ดำรงชีพอยู่อย่างมีลูขปฏิปทา
อยู่ในตระกูลทั้งหลาย”
ดังนี้
เขา ไม่เกิดมีความริษยาและตระหนี่ ในตระกูลทั้งหลายขึ้นมา อย่างนี้.
ด้วยเหตุนี้แหละเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ในฐานะนั้น.
--๑๑. นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ ไม่ชอบนั่งแสดง ตนตามทางที่คนผ่าน (เพื่ออวดคน).
ด้วยเหตุนี้แหละเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ในฐานะนั้น.
--๑๒. นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ
จะไม่เปิดเผยตน (ตามที่เป็นจริง)
เที่ยวไปในตระกูลทั้งหลายก็หามิได้ (เขาเป็นคนจริงและเปิดเผย)
ประกาศอยู่ ว่า
“อย่างนี้ๆ เป็นตบะของฉัน, มีในตบะของฉัน”
ดังนี้ เป็นต้น.
ด้วยเหตุนี้แหละเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ในฐานะนั้น.
--๑๓. นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ ไม่มีปกตินิสัยทำ สิ่งไรๆ ให้เป็นของปกปิด
เมื่อถูกถามอยู่ว่า สิ่งนี้ควรแก่ท่านไหม ก็ กล่าวสิ่งที่ ไม่ควรว่าไม่ควร
กล่าวสิ่งที่ควรกล่าวว่าควร ไม่เป็นผู้กล่าวมุสาทั้งที่รู้อยู่แก่ใจ
ดังนี้.
ด้วยเหตุนี้แหละเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ในฐานะนั้น.
--๑๔. นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ,
เมื่อตถาคตหรือสาวกของตถาคตแสดงธรรมอยู่,
เขายอมรับ (ว่าถูกว่าจริง) ต่อปริยายที่ควรยอมรับ (ว่าถูกว่าจริง) ซึ่งมีอยู่แท้.
+--นิโค๎รธ ด้วยเหตุนี้แหละเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ในฐานะนั้น.
--๑๕. นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ
ไม่เป็นคนขี้โกรธ ไม่ผูกโกรธ.
+--นิโค๎รธ ! ข้อที่เขาเป็นคนไม่ขี้โกรธ ไม่ผูกโกรธนั้น
ด้วยเหตุนี้แหละเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ในฐานะนั้น.
--๑๖. นิโค๎รธ ! ข้ออื่นยังมีอีก
: ผู้บำเพ็ญตบะ
ไม่เป็นคนลบหลู่ คุณท่าน ตีตนเสมอท่าน ไม่เป็นคนริษยา ไม่ตระหนี่
ไม่เป็นคนโอ้อวด ไม่มีมายา ไม่เป็นคนหัวดื้อ ไม่ดูหมิ่นท่าน ไม่เป็นคนปรารถนาลามก
ไม่ตกอยู่ในอำนาจแห่งความปรารถนาลามก
ไม่เป็นมิจฉาทิฏฐิ ไม่ประกอบอยู่ด้วยอันคาหิกทิฏฐิ
ไม่เป็นคนลูบคลำสิ่งต่างๆ ตามทิฏฐิของตน
ไม่ยึดถือไว้เหนียวแน่น สลัด คืนได้ง่าย.
ด้วยเหตุนี้แหละเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ในฐานะนั้น.
--นิโค๎รธ ! ท่านจะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร
: เมื่อเป็นอย่างนี้ มันเป็นการเกียดกันกิเลสด้วยตบะที่บริสุทธิ์ หรือไม่บริสุทธิ์เล่า ?
--“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ! เมื่อเป็นอย่างนี้
มันเป็นการเกียดกันกิเลสด้วยตบะที่บริสุทธิ์โดยแท้ หาใช่ไม่บริสุทธิ์ไม่
ทั้งยังเป็นการบรรลุถึงยอดถึงแก่นอีกด้วย พระเจ้าข้า !”
--นิโค๎รธเอ๋ย ! การเกียดกันกิเลสด้วยตบะเพียงเท่านี้ ยังไม่ถึงยอด ถึงแก่น
เป็นเพียงถึงเปลือกแห้งๆ เท่านั้น.-
#ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ปา. ที. 11/30 - 36/24 - 25.
http://etipitaka.com/read/thai/11/30/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%94
อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ปา. ที. ๑๑/๔๔ - ๕๐/๒๔ - ๒๕.
http://etipitaka.com/read/pali/11/44/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%94
ศึกษาเพิ่มเติม...
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1031
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=89&id=1031
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=89
ลำดับสาธยายธรรม : 89 ฟังเสียงอ่าน...
http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_89.mp3