• Microsoft ได้เปิดตัว ฟีเจอร์ใหม่สำหรับ Windows App บนเว็บ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถ เปิดแอปจากระยะไกลได้ง่ายขึ้น และ พิมพ์เอกสารไปยังเครื่องพิมพ์ที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์จริง

    Windows App เป็นแอปที่รวมบริการต่าง ๆ เช่น Windows 365 Cloud PCs, Azure Virtual Desktop และ Microsoft Dev Box โดยการอัปเดตล่าสุดช่วยให้ ผู้ใช้สามารถเปิดแอปจากระยะไกลโดยไม่ต้องออกจากเบราว์เซอร์ และสามารถ สลับไปใช้แอปเดสก์ท็อปได้อย่างราบรื่น

    เพิ่มฟีเจอร์ Remote App Launcher
    - ผู้ใช้สามารถ เปิดแอปจากระยะไกลโดยไม่ต้องออกจากเบราว์เซอร์
    - มีปุ่มใหม่ใน แถบเครื่องมือของเว็บไคลเอนต์

    ปรับปรุงการพิมพ์เอกสารจาก Windows App บนเว็บ
    - สามารถ พิมพ์เอกสารไปยังเครื่องพิมพ์ที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์จริง
    - ลดขั้นตอนที่ยุ่งยากในการพิมพ์จากเซสชันระยะไกล

    เพิ่มตัวเลือกสลับไปใช้แอปเดสก์ท็อป
    - ผู้ใช้สามารถ เลือก "Connect in desktop app" เพื่อเปิดเซสชันในแอปเดสก์ท็อป
    - รองรับ การใช้งานหลายหน้าจอ

    ผลกระทบต่อผู้ใช้และองค์กร
    - ช่วยให้ การทำงานจากระยะไกลมีประสิทธิภาพมากขึ้น
    - ลดข้อจำกัดในการใช้งาน Windows App ผ่านเว็บ

    https://www.neowin.net/news/microsoft-brings-new-features-and-enhancements-to-windows-app-on-web/
    Microsoft ได้เปิดตัว ฟีเจอร์ใหม่สำหรับ Windows App บนเว็บ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถ เปิดแอปจากระยะไกลได้ง่ายขึ้น และ พิมพ์เอกสารไปยังเครื่องพิมพ์ที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์จริง Windows App เป็นแอปที่รวมบริการต่าง ๆ เช่น Windows 365 Cloud PCs, Azure Virtual Desktop และ Microsoft Dev Box โดยการอัปเดตล่าสุดช่วยให้ ผู้ใช้สามารถเปิดแอปจากระยะไกลโดยไม่ต้องออกจากเบราว์เซอร์ และสามารถ สลับไปใช้แอปเดสก์ท็อปได้อย่างราบรื่น ✅ เพิ่มฟีเจอร์ Remote App Launcher - ผู้ใช้สามารถ เปิดแอปจากระยะไกลโดยไม่ต้องออกจากเบราว์เซอร์ - มีปุ่มใหม่ใน แถบเครื่องมือของเว็บไคลเอนต์ ✅ ปรับปรุงการพิมพ์เอกสารจาก Windows App บนเว็บ - สามารถ พิมพ์เอกสารไปยังเครื่องพิมพ์ที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์จริง - ลดขั้นตอนที่ยุ่งยากในการพิมพ์จากเซสชันระยะไกล ✅ เพิ่มตัวเลือกสลับไปใช้แอปเดสก์ท็อป - ผู้ใช้สามารถ เลือก "Connect in desktop app" เพื่อเปิดเซสชันในแอปเดสก์ท็อป - รองรับ การใช้งานหลายหน้าจอ ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้และองค์กร - ช่วยให้ การทำงานจากระยะไกลมีประสิทธิภาพมากขึ้น - ลดข้อจำกัดในการใช้งาน Windows App ผ่านเว็บ https://www.neowin.net/news/microsoft-brings-new-features-and-enhancements-to-windows-app-on-web/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft brings new features and enhancements to Windows App on web
    The Windows Remote Desktop app has been retired. Its replacement, the shiny new Windows App, is getting new features in the web version, including Remote App Launcher and printing support.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 126 มุมมอง 0 รีวิว
  • OpenAI ได้ประกาศว่าจะ ไม่เปลี่ยนเป็นบริษัทแสวงหากำไร แต่จะปรับโครงสร้างเป็น Public Benefit Corporation (PBC) ซึ่งเป็นองค์กรที่มีเป้าหมายเพื่อประโยชน์สาธารณะ โดยยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของ องค์กรไม่แสวงหากำไรเดิม

    การเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้ OpenAI สามารถ ระดมทุนและดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ขณะที่ยังคงรักษาภารกิจหลักในการ พัฒนา AI เพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติ นอกจากนี้ OpenAI ยังมีแผนที่จะ เปิดโมเดล AI ที่มีความสามารถสูงให้เป็นโอเพ่นซอร์ส

    OpenAI จะยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมขององค์กรไม่แสวงหากำไร
    - แม้ว่าจะเปลี่ยนเป็น Public Benefit Corporation (PBC)
    - องค์กรไม่แสวงหากำไรจะ ถือหุ้นจำนวนมากใน PBC

    เป้าหมายของการปรับโครงสร้าง
    - ช่วยให้ OpenAI สามารถระดมทุนได้มากขึ้น
    - รักษาภารกิจในการ พัฒนา AI เพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติ

    OpenAI มีแผนที่จะเปิดโมเดล AI ที่มีความสามารถสูงให้เป็นโอเพ่นซอร์ส
    - ต้องการให้ ผู้ใช้สามารถปรับแต่งและใช้งาน AI ได้อย่างอิสระ
    - สนับสนุนแนวคิด AI ที่เป็นประชาธิปไตย

    ผลกระทบต่อพนักงานและนักลงทุน
    - พนักงานและนักลงทุนจะสามารถ ถือหุ้นใน PBC ได้
    - ช่วยให้ OpenAI สามารถดึงดูดบุคลากรและเงินทุนได้มากขึ้น

    https://www.neowin.net/news/openai-will-not-transition-into-a-for-profit-company/
    OpenAI ได้ประกาศว่าจะ ไม่เปลี่ยนเป็นบริษัทแสวงหากำไร แต่จะปรับโครงสร้างเป็น Public Benefit Corporation (PBC) ซึ่งเป็นองค์กรที่มีเป้าหมายเพื่อประโยชน์สาธารณะ โดยยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของ องค์กรไม่แสวงหากำไรเดิม การเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้ OpenAI สามารถ ระดมทุนและดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ขณะที่ยังคงรักษาภารกิจหลักในการ พัฒนา AI เพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติ นอกจากนี้ OpenAI ยังมีแผนที่จะ เปิดโมเดล AI ที่มีความสามารถสูงให้เป็นโอเพ่นซอร์ส ✅ OpenAI จะยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมขององค์กรไม่แสวงหากำไร - แม้ว่าจะเปลี่ยนเป็น Public Benefit Corporation (PBC) - องค์กรไม่แสวงหากำไรจะ ถือหุ้นจำนวนมากใน PBC ✅ เป้าหมายของการปรับโครงสร้าง - ช่วยให้ OpenAI สามารถระดมทุนได้มากขึ้น - รักษาภารกิจในการ พัฒนา AI เพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติ ✅ OpenAI มีแผนที่จะเปิดโมเดล AI ที่มีความสามารถสูงให้เป็นโอเพ่นซอร์ส - ต้องการให้ ผู้ใช้สามารถปรับแต่งและใช้งาน AI ได้อย่างอิสระ - สนับสนุนแนวคิด AI ที่เป็นประชาธิปไตย ✅ ผลกระทบต่อพนักงานและนักลงทุน - พนักงานและนักลงทุนจะสามารถ ถือหุ้นใน PBC ได้ - ช่วยให้ OpenAI สามารถดึงดูดบุคลากรและเงินทุนได้มากขึ้น https://www.neowin.net/news/openai-will-not-transition-into-a-for-profit-company/
    WWW.NEOWIN.NET
    OpenAI will not transition into a for-profit company
    OpenAI is updating its restructuring plan, confirming the non-profit entity will maintain oversight and control.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 281 มุมมอง 0 รีวิว
  • Explorer Tab Utility ซึ่งเป็นเครื่องมือเสริมสำหรับ Windows 11 File Explorer ได้รับการอัปเดตใหม่เป็นเวอร์ชัน v2.5.0 โดยเพิ่มฟีเจอร์ Tab Search และ Session Persistence เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการแท็บได้สะดวกขึ้น

    ก่อนหน้านี้ Explorer Tab Utility ช่วยให้ Windows 11 File Explorer รองรับแท็บ และสามารถ ป้องกันการเปิดแท็บซ้ำ รวมถึง บันทึกประวัติแท็บที่ปิดไป ล่าสุดมีการเพิ่ม การค้นหาแท็บ และ การบันทึกแท็บที่เปิดอยู่แม้หลังจากรีบูตเครื่อง

    นอกจากนี้ยังมี การปรับปรุง UI ให้เข้ากับ Windows 11 มากขึ้น และเพิ่ม การรองรับ ARM64 พร้อมกับ การเซ็นรับรองความปลอดภัยของไฟล์

    เพิ่มฟีเจอร์ Tab Search
    - ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ ค้นหาและสลับแท็บได้ง่ายขึ้น
    - ใช้ คีย์ลัดสำหรับการนำทางแท็บ

    เพิ่มฟีเจอร์ Session Persistence
    - บันทึกแท็บที่เปิดอยู่แม้หลังจาก Explorer Crash หรือรีบูตเครื่อง
    - ลดปัญหาการต้องเปิดแท็บใหม่ทุกครั้ง

    ปรับปรุง UI ให้เข้ากับ Windows 11 มากขึ้น
    - ปรับดีไซน์ให้ สอดคล้องกับ Fluent Design
    - เพิ่ม Tray Icon Visibility เพื่อให้ใช้งานสะดวกขึ้น

    รองรับ ARM64 และเพิ่มความปลอดภัย
    - รองรับ อุปกรณ์ที่ใช้ชิป ARM64
    - เพิ่ม การเซ็นรับรองความปลอดภัยของไฟล์

    ปรับปรุงการติดตั้งและถอนการติดตั้ง
    - เปลี่ยนจาก ZIP Distribution เป็น Inno Setup Installer
    - ปรับปรุง การจัดการ Registry และการลบไฟล์

    https://www.neowin.net/news/more-fixes-for-windows-11-file-explorer-arrive-in-new-explorer-tab-utility-update/
    Explorer Tab Utility ซึ่งเป็นเครื่องมือเสริมสำหรับ Windows 11 File Explorer ได้รับการอัปเดตใหม่เป็นเวอร์ชัน v2.5.0 โดยเพิ่มฟีเจอร์ Tab Search และ Session Persistence เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการแท็บได้สะดวกขึ้น ก่อนหน้านี้ Explorer Tab Utility ช่วยให้ Windows 11 File Explorer รองรับแท็บ และสามารถ ป้องกันการเปิดแท็บซ้ำ รวมถึง บันทึกประวัติแท็บที่ปิดไป ล่าสุดมีการเพิ่ม การค้นหาแท็บ และ การบันทึกแท็บที่เปิดอยู่แม้หลังจากรีบูตเครื่อง นอกจากนี้ยังมี การปรับปรุง UI ให้เข้ากับ Windows 11 มากขึ้น และเพิ่ม การรองรับ ARM64 พร้อมกับ การเซ็นรับรองความปลอดภัยของไฟล์ ✅ เพิ่มฟีเจอร์ Tab Search - ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ ค้นหาและสลับแท็บได้ง่ายขึ้น - ใช้ คีย์ลัดสำหรับการนำทางแท็บ ✅ เพิ่มฟีเจอร์ Session Persistence - บันทึกแท็บที่เปิดอยู่แม้หลังจาก Explorer Crash หรือรีบูตเครื่อง - ลดปัญหาการต้องเปิดแท็บใหม่ทุกครั้ง ✅ ปรับปรุง UI ให้เข้ากับ Windows 11 มากขึ้น - ปรับดีไซน์ให้ สอดคล้องกับ Fluent Design - เพิ่ม Tray Icon Visibility เพื่อให้ใช้งานสะดวกขึ้น ✅ รองรับ ARM64 และเพิ่มความปลอดภัย - รองรับ อุปกรณ์ที่ใช้ชิป ARM64 - เพิ่ม การเซ็นรับรองความปลอดภัยของไฟล์ ✅ ปรับปรุงการติดตั้งและถอนการติดตั้ง - เปลี่ยนจาก ZIP Distribution เป็น Inno Setup Installer - ปรับปรุง การจัดการ Registry และการลบไฟล์ https://www.neowin.net/news/more-fixes-for-windows-11-file-explorer-arrive-in-new-explorer-tab-utility-update/
    WWW.NEOWIN.NET
    More fixes for Windows 11 File Explorer arrive in new Explorer Tab Utility update
    Explorer Tab Utility, the tool that helps users fix Windows 11 File Explorer issues, has received a new update bringing new features like session persistence and more.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 153 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ศิริมงคลในหัว…คือชีวิตที่คิดเป็น”

    คนที่พอใจในตนเอง
    ไม่จำเป็นต้องหน้าตาดี
    ไม่จำเป็นต้องรวยล้นฟ้า
    ไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของอาณาจักร
    แต่จำเป็นต้อง “คิดอะไรแล้วมีความสุขได้เอง”
    จบด้วยข้อสรุปดีๆในใจ…โดยไม่ต้องให้ใครตบมือ

    ---

    ชีวิตดี เริ่มที่วิธีคิดดี

    เพราะจริงๆ แล้ว “การพอใจในตนเอง”
    ก็คือ การพอใจในวิธีคิดของตัวเอง

    – คิดแล้วหัวโล่ง ไม่อึดอัด
    – คิดแล้วใจสว่าง ไม่มืดหม่น
    – คิดแล้วมีแรงจะทำสิ่งดีๆ
    – คิดแล้วโลกภายในสงบ
    – คิดแล้วเป็นจุดเริ่มต้นที่โลกภายนอกดีขึ้นตาม

    ใครคิดได้อย่างนี้
    เขาคือผู้มีศิริมงคลอยู่ในหัว 24 ชั่วโมง
    แม้เงียบอยู่คนเดียว…แต่เต็มไปด้วยพลัง

    ---

    คิดเป็นเส้นตรง ดีกว่าคิดวนเป็นวงกลม

    คนที่ฝึกคิดแบบเส้นตรงได้
    คือคนที่ฝึกใจให้เดินไปข้างหน้า
    ไม่หลงไปกับอดีต ไม่สะดุดอยู่กับความลังเล
    คือคนที่มีจุดหมายดีๆให้แล่นไป
    มีแผนการดีๆให้ก้าวเดิน
    ไม่คิดวกกลับมาทำลายความตั้งใจของตนเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า

    ตรงกันข้าม
    คนที่ คิดวน คือคนที่ติดกรรม
    หัวคิดฟุ้ง ตัดสินใจไม่ได้ หาทางออกไม่เจอ
    แทนที่จะพร้อมรับมือกับปัญหา
    ก็มัวร้องไห้ล่วงหน้า ทั้งที่ปัญหายังไม่เกิดด้วยซ้ำ

    ---

    เริ่มต้นที่เรื่องดีเล็กๆ เพื่อหลุดจากวงวน

    ถ้าอยากเลิกคิดวน
    ไม่ต้องคิดใหญ่อะไรก่อน
    แต่ให้ “ทำเรื่องดีง่ายๆสักเรื่อง”
    เช่น ปล่อยปลา ให้ข้าวนก เอ่ยคำขอบคุณใครสักคน

    ทำให้รู้สึกดีแบบไม่ต้องคิดเยอะ
    ทำแล้วหัวโล่ง
    จากนั้น “อธิษฐานในใจ”
    ว่าจะเอาวิธีคิดแบบนี้ไว้
    ตั้งจิตอย่างนี้ไว้
    ยึดจุดหมายดีๆไว้เป็นธงในใจ แล้ววิ่งไปให้ถึง

    ---

    ทุกครั้งที่คิดดีได้…คือการปฏิวัติชีวิตจากข้างใน

    เมื่อฝึกคิดเป็นเส้นตรงมากขึ้น
    คุณจะรู้ว่า “การคิดให้เป็น”
    คือวิธีสร้างชีวิตให้สงบ สว่าง และมั่นคง
    จนวันหนึ่งคุณจะพบว่า
    ศิริมงคลทั้งหลาย…ไม่ได้มาจากวัดไหน
    แต่มาจาก หัวใจที่คิดดีเป็นจนไม่อยากคิดเละอีกเลย
    “ศิริมงคลในหัว…คือชีวิตที่คิดเป็น” คนที่พอใจในตนเอง ไม่จำเป็นต้องหน้าตาดี ไม่จำเป็นต้องรวยล้นฟ้า ไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของอาณาจักร แต่จำเป็นต้อง “คิดอะไรแล้วมีความสุขได้เอง” จบด้วยข้อสรุปดีๆในใจ…โดยไม่ต้องให้ใครตบมือ --- ชีวิตดี เริ่มที่วิธีคิดดี เพราะจริงๆ แล้ว “การพอใจในตนเอง” ก็คือ การพอใจในวิธีคิดของตัวเอง – คิดแล้วหัวโล่ง ไม่อึดอัด – คิดแล้วใจสว่าง ไม่มืดหม่น – คิดแล้วมีแรงจะทำสิ่งดีๆ – คิดแล้วโลกภายในสงบ – คิดแล้วเป็นจุดเริ่มต้นที่โลกภายนอกดีขึ้นตาม ใครคิดได้อย่างนี้ เขาคือผู้มีศิริมงคลอยู่ในหัว 24 ชั่วโมง แม้เงียบอยู่คนเดียว…แต่เต็มไปด้วยพลัง --- คิดเป็นเส้นตรง ดีกว่าคิดวนเป็นวงกลม คนที่ฝึกคิดแบบเส้นตรงได้ คือคนที่ฝึกใจให้เดินไปข้างหน้า ไม่หลงไปกับอดีต ไม่สะดุดอยู่กับความลังเล คือคนที่มีจุดหมายดีๆให้แล่นไป มีแผนการดีๆให้ก้าวเดิน ไม่คิดวกกลับมาทำลายความตั้งใจของตนเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตรงกันข้าม คนที่ คิดวน คือคนที่ติดกรรม หัวคิดฟุ้ง ตัดสินใจไม่ได้ หาทางออกไม่เจอ แทนที่จะพร้อมรับมือกับปัญหา ก็มัวร้องไห้ล่วงหน้า ทั้งที่ปัญหายังไม่เกิดด้วยซ้ำ --- เริ่มต้นที่เรื่องดีเล็กๆ เพื่อหลุดจากวงวน ถ้าอยากเลิกคิดวน ไม่ต้องคิดใหญ่อะไรก่อน แต่ให้ “ทำเรื่องดีง่ายๆสักเรื่อง” เช่น ปล่อยปลา ให้ข้าวนก เอ่ยคำขอบคุณใครสักคน ทำให้รู้สึกดีแบบไม่ต้องคิดเยอะ ทำแล้วหัวโล่ง จากนั้น “อธิษฐานในใจ” ว่าจะเอาวิธีคิดแบบนี้ไว้ ตั้งจิตอย่างนี้ไว้ ยึดจุดหมายดีๆไว้เป็นธงในใจ แล้ววิ่งไปให้ถึง --- ทุกครั้งที่คิดดีได้…คือการปฏิวัติชีวิตจากข้างใน เมื่อฝึกคิดเป็นเส้นตรงมากขึ้น คุณจะรู้ว่า “การคิดให้เป็น” คือวิธีสร้างชีวิตให้สงบ สว่าง และมั่นคง จนวันหนึ่งคุณจะพบว่า ศิริมงคลทั้งหลาย…ไม่ได้มาจากวัดไหน แต่มาจาก หัวใจที่คิดดีเป็นจนไม่อยากคิดเละอีกเลย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 260 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้กล่าวถึง ความท้าทายในการสื่อสารระหว่าง CISO (Chief Information Security Officer) และ CFO (Chief Financial Officer) ซึ่งมักจะมีความเข้าใจที่แตกต่างกันเกี่ยวกับ ความสำคัญของการลงทุนด้านความปลอดภัยไซเบอร์

    CISO มักจะต้องการงบประมาณเพื่อป้องกันภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้น เช่น การโจมตีด้วยแรนซัมแวร์หรือการรั่วไหลของข้อมูล ขณะที่ CFO ต้องการเห็น ผลตอบแทนที่ชัดเจนจากการลงทุน ทำให้การสนทนาเกี่ยวกับงบประมาณด้านความปลอดภัยไซเบอร์มักเต็มไปด้วยความขัดแย้ง

    CISO ควรนำเสนอความเสี่ยงในรูปแบบที่ CFO เข้าใจได้
    - ใช้ ตัวอย่างทางการเงิน เช่น ผลกระทบจากการหยุดทำงานของระบบ
    - เปรียบเทียบ ค่าใช้จ่ายในการป้องกันกับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น

    CFO ควรเปิดรับแนวคิดว่าความปลอดภัยไซเบอร์เป็นการลงทุน ไม่ใช่ค่าใช้จ่าย
    - มองว่า การป้องกันภัยไซเบอร์เป็นเหมือนประกันธุรกิจ
    - เข้าใจว่า ROI ของการรักษาความปลอดภัยคือการลดความเสี่ยง

    การใช้สถานการณ์จำลองเพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกัน
    - CISO ควรนำ CFO เข้าร่วม การจำลองเหตุการณ์โจมตีไซเบอร์
    - แสดงให้เห็นว่า ผลกระทบของการโจมตีสามารถส่งผลต่อรายได้และชื่อเสียงขององค์กร

    การเปลี่ยนแปลงแนวทางการสื่อสาร
    - หลีกเลี่ยง ศัพท์เทคนิคที่ซับซ้อน และใช้ ภาษาทางธุรกิจ
    - เน้น ผลกระทบต่อองค์กรแทนที่จะพูดถึงเทคโนโลยี

    https://www.csoonline.com/article/3974407/ciso-vs-cfo-why-are-the-conversations-difficult.html
    บทความนี้กล่าวถึง ความท้าทายในการสื่อสารระหว่าง CISO (Chief Information Security Officer) และ CFO (Chief Financial Officer) ซึ่งมักจะมีความเข้าใจที่แตกต่างกันเกี่ยวกับ ความสำคัญของการลงทุนด้านความปลอดภัยไซเบอร์ CISO มักจะต้องการงบประมาณเพื่อป้องกันภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้น เช่น การโจมตีด้วยแรนซัมแวร์หรือการรั่วไหลของข้อมูล ขณะที่ CFO ต้องการเห็น ผลตอบแทนที่ชัดเจนจากการลงทุน ทำให้การสนทนาเกี่ยวกับงบประมาณด้านความปลอดภัยไซเบอร์มักเต็มไปด้วยความขัดแย้ง ✅ CISO ควรนำเสนอความเสี่ยงในรูปแบบที่ CFO เข้าใจได้ - ใช้ ตัวอย่างทางการเงิน เช่น ผลกระทบจากการหยุดทำงานของระบบ - เปรียบเทียบ ค่าใช้จ่ายในการป้องกันกับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ✅ CFO ควรเปิดรับแนวคิดว่าความปลอดภัยไซเบอร์เป็นการลงทุน ไม่ใช่ค่าใช้จ่าย - มองว่า การป้องกันภัยไซเบอร์เป็นเหมือนประกันธุรกิจ - เข้าใจว่า ROI ของการรักษาความปลอดภัยคือการลดความเสี่ยง ✅ การใช้สถานการณ์จำลองเพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกัน - CISO ควรนำ CFO เข้าร่วม การจำลองเหตุการณ์โจมตีไซเบอร์ - แสดงให้เห็นว่า ผลกระทบของการโจมตีสามารถส่งผลต่อรายได้และชื่อเสียงขององค์กร ✅ การเปลี่ยนแปลงแนวทางการสื่อสาร - หลีกเลี่ยง ศัพท์เทคนิคที่ซับซ้อน และใช้ ภาษาทางธุรกิจ - เน้น ผลกระทบต่อองค์กรแทนที่จะพูดถึงเทคโนโลยี https://www.csoonline.com/article/3974407/ciso-vs-cfo-why-are-the-conversations-difficult.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    CISO vs CFO: why are the conversations difficult?
    Bridging the gap between CISOs and CFOs means ditching old stereotypes, speaking the same language, and turning cybersecurity from a budget battle into a blueprint for business growth.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 285 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://www.facebook.com/share/p/1BeXijbfi4/?mibextid=wwXIfr
    https://www.facebook.com/share/p/1BeXijbfi4/?mibextid=wwXIfr
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 151 มุมมอง 0 รีวิว
  • Eutelsat ซึ่งเป็นผู้ให้บริการดาวเทียม Franco-British ได้ประกาศเปลี่ยน CEO โดยแต่งตั้ง Jean-Francois Fallacher ซึ่งปัจจุบันเป็น CEO ของ Orange France ให้เข้ารับตำแหน่งแทน Eva Berneke ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2025

    การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ Eutelsat ต้องการเงินทุนเพิ่มเติม และมีบทบาทสำคัญใน การสื่อสารด้านกลาโหมของยุโรป ทำให้การเปลี่ยนแปลงผู้บริหารครั้งนี้ได้รับความสนใจเป็นพิเศษ

    Eutelsat แต่งตั้ง Jean-Francois Fallacher เป็น CEO คนใหม่
    - ปัจจุบันเป็น CEO ของ Orange France
    - จะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 1 มิถุนายน 2025

    Eva Berneke ลงจากตำแหน่งหลังจากดำรงตำแหน่งตั้งแต่ปี 2022
    - เป็นผู้นำที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนา โครงสร้างพื้นฐานด้านดาวเทียม

    Eutelsat ต้องการเงินทุนเพิ่มเติมเพื่อขยายธุรกิจ
    - มีบทบาทสำคัญใน การสื่อสารด้านกลาโหมของยุโรป
    - อาจมีการปรับกลยุทธ์เพื่อดึงดูดนักลงทุน

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมดาวเทียมและการสื่อสาร
    - อาจส่งผลต่อ การแข่งขันในตลาดดาวเทียมระดับโลก
    - อาจมีการเปลี่ยนแปลงแนวทางการดำเนินธุรกิจของ Eutelsat

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/05/eutelsat-appointed-jean-franois-fallacher-as-new-ceo
    Eutelsat ซึ่งเป็นผู้ให้บริการดาวเทียม Franco-British ได้ประกาศเปลี่ยน CEO โดยแต่งตั้ง Jean-Francois Fallacher ซึ่งปัจจุบันเป็น CEO ของ Orange France ให้เข้ารับตำแหน่งแทน Eva Berneke ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2025 การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ Eutelsat ต้องการเงินทุนเพิ่มเติม และมีบทบาทสำคัญใน การสื่อสารด้านกลาโหมของยุโรป ทำให้การเปลี่ยนแปลงผู้บริหารครั้งนี้ได้รับความสนใจเป็นพิเศษ ✅ Eutelsat แต่งตั้ง Jean-Francois Fallacher เป็น CEO คนใหม่ - ปัจจุบันเป็น CEO ของ Orange France - จะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 1 มิถุนายน 2025 ✅ Eva Berneke ลงจากตำแหน่งหลังจากดำรงตำแหน่งตั้งแต่ปี 2022 - เป็นผู้นำที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนา โครงสร้างพื้นฐานด้านดาวเทียม ✅ Eutelsat ต้องการเงินทุนเพิ่มเติมเพื่อขยายธุรกิจ - มีบทบาทสำคัญใน การสื่อสารด้านกลาโหมของยุโรป - อาจมีการปรับกลยุทธ์เพื่อดึงดูดนักลงทุน ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมดาวเทียมและการสื่อสาร - อาจส่งผลต่อ การแข่งขันในตลาดดาวเทียมระดับโลก - อาจมีการเปลี่ยนแปลงแนวทางการดำเนินธุรกิจของ Eutelsat https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/05/eutelsat-appointed-jean-franois-fallacher-as-new-ceo
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Eutelsat replaces CEO with Orange executive in surprise move
    PARIS (Reuters) - Franco-British satellite operator Eutelsat will replace its CEO with Orange executive Jean-Francois Fallacher, it said on Monday, in a surprise move by a company in the spotlight for its role in European defence communications.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 327 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google ได้เปิดตัว 100 Zeros ซึ่งเป็นโครงการผลิตภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ใหม่ โดยร่วมมือกับ Range Media Partners ซึ่งเป็นบริษัทด้านความสามารถและการผลิตที่มีผลงานในภาพยนตร์ เช่น A Complete Unknown และ Longlegs

    โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อ สนับสนุนการผลิตภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ที่สามารถใช้เทคโนโลยี AI และ Spatial Computing ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ผสานโลกจริงกับโลกเสมือน นอกจากนี้ Google ยังต้องการ เพิ่มการยอมรับและการใช้งานบริการใหม่ ๆ เช่น Gemini ซึ่งเป็นคู่แข่งของ ChatGPT

    แม้ว่าจะมีการลงทุนในอุตสาหกรรมบันเทิง แต่ Google ไม่ได้วางแผนให้ YouTube เป็นแพลตฟอร์มหลักในการเผยแพร่ผลงานของ 100 Zeros โดยตั้งเป้าหมายที่จะ ขายโปรเจกต์ให้กับสตูดิโอและแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง เช่น Netflix

    Google เปิดตัวโครงการผลิตภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ใหม่
    - ร่วมมือกับ Range Media Partners
    - สนับสนุน การใช้เทคโนโลยี AI และ Spatial Computing

    เป้าหมายของโครงการ
    - เพิ่มการยอมรับและการใช้งาน บริการใหม่ ๆ เช่น Gemini
    - สนับสนุนการผลิตภาพยนตร์ที่ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย

    ตัวอย่างภาพยนตร์ที่ได้รับการสนับสนุน
    - Cuckoo ซึ่งเป็นภาพยนตร์สยองขวัญอินดี้
    - Sweetwater และ LUCID ซึ่งเป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับ AI

    Google ไม่ได้วางแผนให้ YouTube เป็นแพลตฟอร์มหลักของโครงการ
    - ตั้งเป้าหมายที่จะ ขายโปรเจกต์ให้กับสตูดิโอและแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง เช่น Netflix

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/06/google-has-launched-new-film-and-tv-production-wing-business-insider-reports
    Google ได้เปิดตัว 100 Zeros ซึ่งเป็นโครงการผลิตภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ใหม่ โดยร่วมมือกับ Range Media Partners ซึ่งเป็นบริษัทด้านความสามารถและการผลิตที่มีผลงานในภาพยนตร์ เช่น A Complete Unknown และ Longlegs โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อ สนับสนุนการผลิตภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ที่สามารถใช้เทคโนโลยี AI และ Spatial Computing ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ผสานโลกจริงกับโลกเสมือน นอกจากนี้ Google ยังต้องการ เพิ่มการยอมรับและการใช้งานบริการใหม่ ๆ เช่น Gemini ซึ่งเป็นคู่แข่งของ ChatGPT แม้ว่าจะมีการลงทุนในอุตสาหกรรมบันเทิง แต่ Google ไม่ได้วางแผนให้ YouTube เป็นแพลตฟอร์มหลักในการเผยแพร่ผลงานของ 100 Zeros โดยตั้งเป้าหมายที่จะ ขายโปรเจกต์ให้กับสตูดิโอและแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง เช่น Netflix ✅ Google เปิดตัวโครงการผลิตภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ใหม่ - ร่วมมือกับ Range Media Partners - สนับสนุน การใช้เทคโนโลยี AI และ Spatial Computing ✅ เป้าหมายของโครงการ - เพิ่มการยอมรับและการใช้งาน บริการใหม่ ๆ เช่น Gemini - สนับสนุนการผลิตภาพยนตร์ที่ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย ✅ ตัวอย่างภาพยนตร์ที่ได้รับการสนับสนุน - Cuckoo ซึ่งเป็นภาพยนตร์สยองขวัญอินดี้ - Sweetwater และ LUCID ซึ่งเป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับ AI ✅ Google ไม่ได้วางแผนให้ YouTube เป็นแพลตฟอร์มหลักของโครงการ - ตั้งเป้าหมายที่จะ ขายโปรเจกต์ให้กับสตูดิโอและแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง เช่น Netflix https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/06/google-has-launched-new-film-and-tv-production-wing-business-insider-reports
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Google has launched new film and TV production wing, Business Insider reports
    (Reuters) -Google has launched a new film and TV production initiative to scout projects it could fund or co-produce, Business Insider reported, a move that could help it capitalize on an industry reeling from rising production costs and potential U.S. tariffs.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 532 มุมมอง 0 รีวิว
  • JPMorgan Chase ได้ใช้ AI เพื่อเพิ่มยอดขายและขยายฐานลูกค้า แม้ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวน โดย AI ช่วยให้ที่ปรึกษาทางการเงินสามารถ ให้คำแนะนำด้านการลงทุนได้รวดเร็วขึ้น และ จัดการคำขอจากลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ในช่วงเดือนเมษายน 2025 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีความผันผวนสูงจาก ประกาศภาษีของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งทำให้มูลค่าตลาดลดลงหลายล้านล้านดอลลาร์ นักลงทุนจำนวนมากต้องการคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงิน และ AI ของ JPMorgan สามารถ ดึงข้อมูลการซื้อขายของลูกค้าและคาดการณ์คำถามที่อาจเกิดขึ้น ได้อย่างรวดเร็ว

    นอกจากนี้ JPMorgan ยังมี Coach AI ซึ่งช่วยให้ที่ปรึกษาสามารถค้นหาข้อมูลและงานวิจัยได้เร็วขึ้นถึง 95% ทำให้สามารถใช้เวลาในการพูดคุยกับลูกค้าได้มากขึ้น

    AI ช่วยเพิ่มยอดขายและขยายฐานลูกค้า
    - ที่ปรึกษาทางการเงินสามารถ ให้คำแนะนำด้านการลงทุนได้รวดเร็วขึ้น
    - AI ช่วย จัดการคำขอจากลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    Coach AI ช่วยให้ที่ปรึกษาค้นหาข้อมูลได้เร็วขึ้น
    - ค้นหาข้อมูลและงานวิจัยได้เร็วขึ้นถึง 95%
    - ช่วยให้ที่ปรึกษา ใช้เวลาในการพูดคุยกับลูกค้าได้มากขึ้น

    ผลกระทบต่อธุรกิจของ JPMorgan
    - ยอดขายเพิ่มขึ้น 20% ระหว่างปี 2023-2024
    - AI ช่วยให้ที่ปรึกษาสามารถ ขยายฐานลูกค้าได้ 50% ในอีก 3-5 ปีข้างหน้า

    งบประมาณด้านเทคโนโลยีของ JPMorgan
    - มีงบประมาณด้านเทคโนโลยี 17 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024
    - คาดว่าจะเพิ่มการใช้ AI จาก 450 กรณีเป็น 1,000 กรณีในปีหน้า

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/06/jpmorgan-says-ai-helped-boost-sales-add-clients-in-market-turmoil
    JPMorgan Chase ได้ใช้ AI เพื่อเพิ่มยอดขายและขยายฐานลูกค้า แม้ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวน โดย AI ช่วยให้ที่ปรึกษาทางการเงินสามารถ ให้คำแนะนำด้านการลงทุนได้รวดเร็วขึ้น และ จัดการคำขอจากลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในช่วงเดือนเมษายน 2025 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีความผันผวนสูงจาก ประกาศภาษีของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งทำให้มูลค่าตลาดลดลงหลายล้านล้านดอลลาร์ นักลงทุนจำนวนมากต้องการคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงิน และ AI ของ JPMorgan สามารถ ดึงข้อมูลการซื้อขายของลูกค้าและคาดการณ์คำถามที่อาจเกิดขึ้น ได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ JPMorgan ยังมี Coach AI ซึ่งช่วยให้ที่ปรึกษาสามารถค้นหาข้อมูลและงานวิจัยได้เร็วขึ้นถึง 95% ทำให้สามารถใช้เวลาในการพูดคุยกับลูกค้าได้มากขึ้น ✅ AI ช่วยเพิ่มยอดขายและขยายฐานลูกค้า - ที่ปรึกษาทางการเงินสามารถ ให้คำแนะนำด้านการลงทุนได้รวดเร็วขึ้น - AI ช่วย จัดการคำขอจากลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ✅ Coach AI ช่วยให้ที่ปรึกษาค้นหาข้อมูลได้เร็วขึ้น - ค้นหาข้อมูลและงานวิจัยได้เร็วขึ้นถึง 95% - ช่วยให้ที่ปรึกษา ใช้เวลาในการพูดคุยกับลูกค้าได้มากขึ้น ✅ ผลกระทบต่อธุรกิจของ JPMorgan - ยอดขายเพิ่มขึ้น 20% ระหว่างปี 2023-2024 - AI ช่วยให้ที่ปรึกษาสามารถ ขยายฐานลูกค้าได้ 50% ในอีก 3-5 ปีข้างหน้า ✅ งบประมาณด้านเทคโนโลยีของ JPMorgan - มีงบประมาณด้านเทคโนโลยี 17 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 - คาดว่าจะเพิ่มการใช้ AI จาก 450 กรณีเป็น 1,000 กรณีในปีหน้า https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/06/jpmorgan-says-ai-helped-boost-sales-add-clients-in-market-turmoil
    WWW.THESTAR.COM.MY
    JPMorgan says AI helped boost sales, add clients in market turmoil
    NEW YORK (Reuters) -JPMorgan Chase's artificial-intelligence tools enabled it to boost sales to wealthy clients and manage scores of requests from worried customers even during April's market rout, the bank's CEO of asset and wealth management said.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 241 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ยอมรับว่าเขามีความตั้งใจปรับลดมาตรการรีดภาษีที่กำหนดเล่นงานสินค้านำเข้าจากจีน ในช่วงใดช่วงหนึ่ง เนื่องจากเพดานภาษีในตอนนี้นั้นสูงมากเสียจน ทำให้ 2 ชาติเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก จำเป็นต้องหยุดทำธุรกิจระหว่างกันไปโดยปริยาย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000042111

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ยอมรับว่าเขามีความตั้งใจปรับลดมาตรการรีดภาษีที่กำหนดเล่นงานสินค้านำเข้าจากจีน ในช่วงใดช่วงหนึ่ง เนื่องจากเพดานภาษีในตอนนี้นั้นสูงมากเสียจน ทำให้ 2 ชาติเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก จำเป็นต้องหยุดทำธุรกิจระหว่างกันไปโดยปริยาย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000042111 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    Haha
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1096 มุมมอง 0 รีวิว
  • แอป TeleMessage ซึ่งถูกใช้โดย Mike Waltz อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของอดีตประธานาธิบดี Donald Trump ได้ประกาศ ระงับการให้บริการชั่วคราว หลังจากมีรายงานว่า ถูกแฮกและมีการเข้าถึงข้อความของผู้ใช้บางส่วน

    Department of Homeland Security (DHS) ได้ออกคำสั่งให้ หน่วยงานศุลกากรของสหรัฐฯ (CBP) ปิดการใช้งานแอปนี้บนอุปกรณ์ของพวกเขา เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านความปลอดภัย ขณะที่บริษัท Smarsh ซึ่งเป็นผู้ให้บริการแอป TeleMessage ได้ระบุว่า กำลังตรวจสอบเหตุการณ์นี้และระงับบริการทั้งหมดเพื่อความปลอดภัย

    TeleMessage ถูกแฮกและมีการเข้าถึงข้อความของผู้ใช้บางส่วน
    - แอปนี้ถูกใช้โดย Mike Waltz อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของ Trump
    - DHS สั่งให้ CBP ปิดการใช้งานแอปนี้บนอุปกรณ์ของพวกเขา

    Smarsh ระงับบริการทั้งหมดเพื่อความปลอดภัย
    - บริษัทระบุว่า กำลังตรวจสอบเหตุการณ์นี้
    - ยังไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ขอบเขตของการแฮก

    ความเกี่ยวข้องกับการเมืองและความมั่นคงของสหรัฐฯ
    - Waltz ถูกปลดจากตำแหน่งหลังจาก สร้างกลุ่ม Signal เพื่อแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับปฏิบัติการทางทหารในเยเมน
    - มีรายงานว่า แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานของ TeleMessage และดักจับข้อความบางส่วน

    ผลกระทบต่อความปลอดภัยของข้อมูล
    - 404 Media รายงานว่าแฮกเกอร์ให้ข้อมูลที่ถูกขโมยแก่พวกเขา
    - บางส่วนของข้อมูลสามารถตรวจสอบความถูกต้องได้

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/06/app-used-by-trump-adviser-says-it-is-temporarily-suspending-services-following-reported-hack
    แอป TeleMessage ซึ่งถูกใช้โดย Mike Waltz อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของอดีตประธานาธิบดี Donald Trump ได้ประกาศ ระงับการให้บริการชั่วคราว หลังจากมีรายงานว่า ถูกแฮกและมีการเข้าถึงข้อความของผู้ใช้บางส่วน Department of Homeland Security (DHS) ได้ออกคำสั่งให้ หน่วยงานศุลกากรของสหรัฐฯ (CBP) ปิดการใช้งานแอปนี้บนอุปกรณ์ของพวกเขา เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านความปลอดภัย ขณะที่บริษัท Smarsh ซึ่งเป็นผู้ให้บริการแอป TeleMessage ได้ระบุว่า กำลังตรวจสอบเหตุการณ์นี้และระงับบริการทั้งหมดเพื่อความปลอดภัย ✅ TeleMessage ถูกแฮกและมีการเข้าถึงข้อความของผู้ใช้บางส่วน - แอปนี้ถูกใช้โดย Mike Waltz อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของ Trump - DHS สั่งให้ CBP ปิดการใช้งานแอปนี้บนอุปกรณ์ของพวกเขา ✅ Smarsh ระงับบริการทั้งหมดเพื่อความปลอดภัย - บริษัทระบุว่า กำลังตรวจสอบเหตุการณ์นี้ - ยังไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ขอบเขตของการแฮก ✅ ความเกี่ยวข้องกับการเมืองและความมั่นคงของสหรัฐฯ - Waltz ถูกปลดจากตำแหน่งหลังจาก สร้างกลุ่ม Signal เพื่อแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับปฏิบัติการทางทหารในเยเมน - มีรายงานว่า แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานของ TeleMessage และดักจับข้อความบางส่วน ✅ ผลกระทบต่อความปลอดภัยของข้อมูล - 404 Media รายงานว่าแฮกเกอร์ให้ข้อมูลที่ถูกขโมยแก่พวกเขา - บางส่วนของข้อมูลสามารถตรวจสอบความถูกต้องได้ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/06/app-used-by-trump-adviser-says-it-is-temporarily-suspending-services-following-reported-hack
    WWW.THESTAR.COM.MY
    App used by Trump adviser is temporarily suspending services after reported hack
    WASHINGTON (Reuters) -The communications app used by U.S. President Donald Trump's former national security adviser, Mike Waltz, said Monday that it had suspended services following a reported hack that exposed some of its messages.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 178 มุมมอง 0 รีวิว
  • Palantir Technologies ได้ปรับเพิ่ม คาดการณ์รายได้ประจำปี เนื่องจากความต้องการ AI ที่เพิ่มขึ้น แต่กลับทำให้ หุ้นของบริษัทลดลง 8% ในการซื้อขายหลังตลาด เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังผลประกอบการที่สูงกว่านี้

    แม้ว่าหุ้นของ Palantir จะเพิ่มขึ้น 60% ในปีนี้ จากความสนใจใน AI และการใช้เทคโนโลยีในภาครัฐ แต่รายได้ไตรมาสแรกอยู่ที่ 883.9 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้เพียง 2.4% ทำให้นักลงทุนผิดหวัง

    นอกจากนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ยังคงเป็นลูกค้าหลักของ Palantir โดยคิดเป็น 42% ของรายได้ในไตรมาสแรก อย่างไรก็ตาม การลดงบประมาณของ Department of Government Efficiency (DOGE) ซึ่งนำโดย Elon Musk อาจส่งผลต่อสัญญาของบริษัท

    Palantir ปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้ประจำปี
    - คาดการณ์รายได้ปี 2025 อยู่ที่ 3.89 - 3.90 พันล้านดอลลาร์
    - สูงกว่าคาดการณ์เดิมที่ 3.74 - 3.76 พันล้านดอลลาร์

    หุ้นลดลง 8% หลังจากรายงานผลประกอบการ
    - นักลงทุนคาดหวังผลประกอบการที่สูงกว่านี้
    - รายได้ไตรมาสแรกอยู่ที่ 883.9 ล้านดอลลาร์ สูงกว่าคาดการณ์เพียง 2.4%

    รัฐบาลสหรัฐฯ เป็นลูกค้าหลักของ Palantir
    - คิดเป็น 42% ของรายได้ในไตรมาสแรก
    - ให้บริการซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการ วิเคราะห์ข้อมูลทางทหาร

    ผลกระทบจากการลดงบประมาณของ DOGE
    - การลดงบประมาณอาจส่งผลต่อ สัญญาของ Palantir กับรัฐบาลสหรัฐฯ
    - Palantir ระบุว่า สนับสนุนแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพของรัฐบาล

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/06/palantir-raises-annual-revenue-forecast-on-booming-ai-demand
    Palantir Technologies ได้ปรับเพิ่ม คาดการณ์รายได้ประจำปี เนื่องจากความต้องการ AI ที่เพิ่มขึ้น แต่กลับทำให้ หุ้นของบริษัทลดลง 8% ในการซื้อขายหลังตลาด เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังผลประกอบการที่สูงกว่านี้ แม้ว่าหุ้นของ Palantir จะเพิ่มขึ้น 60% ในปีนี้ จากความสนใจใน AI และการใช้เทคโนโลยีในภาครัฐ แต่รายได้ไตรมาสแรกอยู่ที่ 883.9 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้เพียง 2.4% ทำให้นักลงทุนผิดหวัง นอกจากนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ยังคงเป็นลูกค้าหลักของ Palantir โดยคิดเป็น 42% ของรายได้ในไตรมาสแรก อย่างไรก็ตาม การลดงบประมาณของ Department of Government Efficiency (DOGE) ซึ่งนำโดย Elon Musk อาจส่งผลต่อสัญญาของบริษัท ✅ Palantir ปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้ประจำปี - คาดการณ์รายได้ปี 2025 อยู่ที่ 3.89 - 3.90 พันล้านดอลลาร์ - สูงกว่าคาดการณ์เดิมที่ 3.74 - 3.76 พันล้านดอลลาร์ ✅ หุ้นลดลง 8% หลังจากรายงานผลประกอบการ - นักลงทุนคาดหวังผลประกอบการที่สูงกว่านี้ - รายได้ไตรมาสแรกอยู่ที่ 883.9 ล้านดอลลาร์ สูงกว่าคาดการณ์เพียง 2.4% ✅ รัฐบาลสหรัฐฯ เป็นลูกค้าหลักของ Palantir - คิดเป็น 42% ของรายได้ในไตรมาสแรก - ให้บริการซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการ วิเคราะห์ข้อมูลทางทหาร ✅ ผลกระทบจากการลดงบประมาณของ DOGE - การลดงบประมาณอาจส่งผลต่อ สัญญาของ Palantir กับรัฐบาลสหรัฐฯ - Palantir ระบุว่า สนับสนุนแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพของรัฐบาล https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/06/palantir-raises-annual-revenue-forecast-on-booming-ai-demand
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Palantir raises annual revenue forecast on AI demand but investors unimpressed
    (Reuters) -Palantir Technologies raised its annual sales forecast on Monday, although its inline profit and a modest revenue beat disappointed investors who were expecting more from the AI-focused data and analytics firm, driving its shares down 8% in extended trading.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 229 มุมมอง 0 รีวิว
  • #แซนวิชทูน่าน้ำสลัด

    #กาแฟยามเช้าหอมกรุ่นอยู่เสมอ
    #แซนวิชทูน่าน้ำสลัด #กาแฟยามเช้าหอมกรุ่นอยู่เสมอ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 332 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel ยังคงเดินหน้าพัฒนา Xe3 "Celestial" GPUs แม้จะมีข่าวลือว่าถูกยกเลิก โดยล่าสุดมีรายงานว่า Celestial อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบก่อนผลิตจริง (pre-silicon validation) ขณะที่ Battlemage Arc B770 อาจเปิดตัวที่ Computex 2025

    ในขั้นตอน pre-silicon validation สถาปัตยกรรมกราฟิกของ Celestial ถูกทดสอบกับ OEMs และ BIOS vendors ผ่านซอฟต์แวร์จำลอง เพื่อให้วิศวกรสามารถ ตรวจจับปัญหาก่อนเข้าสู่กระบวนการผลิตจริง นอกจากนี้ยังมีข้อมูลจาก LinkedIn ของวิศวกร Intel ที่เผยว่า Celestial GPU มีการพัฒนาโค้ดระดับต่ำและไดรเวอร์สำหรับ Nova Lake และ Xeon6 (Diamond Rapids) CPUs

    ขณะเดียวกัน Battlemage Arc B770 ซึ่งใช้ BMG-G31 silicon อาจเปิดตัวที่ Computex 2025 โดยมี 32 Xe cores, VRAM GDDR6 16GB และ memory bus 256-bit ซึ่งอาจทำให้สามารถแข่งขันกับ RTX 4070 Ti Super และ RTX 4080 ได้

    Celestial GPUs อยู่ในขั้นตอน pre-silicon validation
    - ทดสอบกับ OEMs และ BIOS vendors ผ่านซอฟต์แวร์จำลอง
    - วิศวกร Intel พัฒนา โค้ดระดับต่ำและไดรเวอร์สำหรับ Nova Lake และ Xeon6

    Battlemage Arc B770 อาจเปิดตัวที่ Computex 2025
    - ใช้ BMG-G31 silicon
    - มี 32 Xe cores, VRAM GDDR6 16GB และ memory bus 256-bit

    ผลกระทบต่อการแข่งขันในตลาด GPU
    - Celestial อาจเป็น คู่แข่งของ Nvidia และ AMD ในตลาดกราฟิกระดับสูง
    - Battlemage Arc B770 อาจสามารถ แข่งขันกับ RTX 4070 Ti Super และ RTX 4080

    แนวโน้มของการพัฒนาในอนาคต
    - Intel ยังคงพัฒนา Xe4 "Druid" GPUs ซึ่งเป็นรุ่นถัดไปของ Celestial

    https://www.techspot.com/news/107798-intel-arc-xe3-celestial-gpu-enters-pre-validation.html
    Intel ยังคงเดินหน้าพัฒนา Xe3 "Celestial" GPUs แม้จะมีข่าวลือว่าถูกยกเลิก โดยล่าสุดมีรายงานว่า Celestial อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบก่อนผลิตจริง (pre-silicon validation) ขณะที่ Battlemage Arc B770 อาจเปิดตัวที่ Computex 2025 ในขั้นตอน pre-silicon validation สถาปัตยกรรมกราฟิกของ Celestial ถูกทดสอบกับ OEMs และ BIOS vendors ผ่านซอฟต์แวร์จำลอง เพื่อให้วิศวกรสามารถ ตรวจจับปัญหาก่อนเข้าสู่กระบวนการผลิตจริง นอกจากนี้ยังมีข้อมูลจาก LinkedIn ของวิศวกร Intel ที่เผยว่า Celestial GPU มีการพัฒนาโค้ดระดับต่ำและไดรเวอร์สำหรับ Nova Lake และ Xeon6 (Diamond Rapids) CPUs ขณะเดียวกัน Battlemage Arc B770 ซึ่งใช้ BMG-G31 silicon อาจเปิดตัวที่ Computex 2025 โดยมี 32 Xe cores, VRAM GDDR6 16GB และ memory bus 256-bit ซึ่งอาจทำให้สามารถแข่งขันกับ RTX 4070 Ti Super และ RTX 4080 ได้ ✅ Celestial GPUs อยู่ในขั้นตอน pre-silicon validation - ทดสอบกับ OEMs และ BIOS vendors ผ่านซอฟต์แวร์จำลอง - วิศวกร Intel พัฒนา โค้ดระดับต่ำและไดรเวอร์สำหรับ Nova Lake และ Xeon6 ✅ Battlemage Arc B770 อาจเปิดตัวที่ Computex 2025 - ใช้ BMG-G31 silicon - มี 32 Xe cores, VRAM GDDR6 16GB และ memory bus 256-bit ✅ ผลกระทบต่อการแข่งขันในตลาด GPU - Celestial อาจเป็น คู่แข่งของ Nvidia และ AMD ในตลาดกราฟิกระดับสูง - Battlemage Arc B770 อาจสามารถ แข่งขันกับ RTX 4070 Ti Super และ RTX 4080 ✅ แนวโน้มของการพัฒนาในอนาคต - Intel ยังคงพัฒนา Xe4 "Druid" GPUs ซึ่งเป็นรุ่นถัดไปของ Celestial https://www.techspot.com/news/107798-intel-arc-xe3-celestial-gpu-enters-pre-validation.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Intel Arc Xe3 Celestial GPU enters pre-validation, Battlemage B770 tipped to launch at Computex 2025
    As part of the pre-silicon validation stage, the graphics architecture is tested with OEMs and BIOS vendors using software emulators, allowing engineers to identify issues before fabricating...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 208 มุมมอง 0 รีวิว
  • Epic Games ได้ประกาศ นโยบายแบ่งรายได้ใหม่ สำหรับ Epic Games Store โดยจะ ไม่คิดค่าธรรมเนียมสำหรับรายได้ 1 ล้านดอลลาร์แรกของแต่ละเกม ซึ่งเป็นความพยายามในการแข่งขันกับ Steam ที่ยังคงมี โมเดลแบ่งรายได้แบบขั้นบันได

    ก่อนหน้านี้ Epic Games Store มี ค่าธรรมเนียม 12% สำหรับทุกยอดขาย แต่ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2025 เป็นต้นไป นักพัฒนาจะได้รับรายได้เต็มจำนวนสำหรับ 1 ล้านดอลลาร์แรกของแต่ละเกม และจะถูกคิดค่าธรรมเนียม 12% เฉพาะยอดขายที่เกินจากนั้น

    นอกจากนี้ Epic ยังเปิดตัว ฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า "Webshop" ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสามารถ สร้างร้านค้าของตัวเองบนแพลตฟอร์ม Epic Games Store และขายเกมโดยตรงให้กับผู้เล่น โดยไม่ต้องผ่านร้านค้าแอปแบบดั้งเดิม

    Epic Games Store ไม่คิดค่าธรรมเนียมสำหรับรายได้ 1 ล้านดอลลาร์แรกของแต่ละเกม
    - นักพัฒนาจะได้รับ รายได้เต็มจำนวนสำหรับ 1 ล้านดอลลาร์แรก
    - รายได้ที่เกินจากนั้นจะถูกคิดค่าธรรมเนียม 12%

    เปรียบเทียบกับโมเดลแบ่งรายได้ของ Steam
    - Steam คิดค่าธรรมเนียม 30% สำหรับ 10 ล้านดอลลาร์แรก
    - ลดลงเหลือ 25% หลังจากยอดขายเกิน 10 ล้านดอลลาร์
    - ลดลงเหลือ 20% เมื่อยอดขายถึง 50 ล้านดอลลาร์

    Epic เปิดตัวฟีเจอร์ "Webshop" สำหรับนักพัฒนา
    - นักพัฒนาสามารถ สร้างร้านค้าของตัวเองบน Epic Games Store
    - ผู้เล่นสามารถ ซื้อเกมโดยตรงจากนักพัฒนา

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเกม
    - อาจช่วยให้นักพัฒนา โดยเฉพาะอินดี้เกมสามารถทำกำไรได้มากขึ้น
    - อาจทำให้ Steam ต้องปรับโมเดลแบ่งรายได้เพื่อแข่งขัน

    https://www.techspot.com/news/107797-epic-challenges-steam-zero-percent-fee-first-1.html
    Epic Games ได้ประกาศ นโยบายแบ่งรายได้ใหม่ สำหรับ Epic Games Store โดยจะ ไม่คิดค่าธรรมเนียมสำหรับรายได้ 1 ล้านดอลลาร์แรกของแต่ละเกม ซึ่งเป็นความพยายามในการแข่งขันกับ Steam ที่ยังคงมี โมเดลแบ่งรายได้แบบขั้นบันได ก่อนหน้านี้ Epic Games Store มี ค่าธรรมเนียม 12% สำหรับทุกยอดขาย แต่ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2025 เป็นต้นไป นักพัฒนาจะได้รับรายได้เต็มจำนวนสำหรับ 1 ล้านดอลลาร์แรกของแต่ละเกม และจะถูกคิดค่าธรรมเนียม 12% เฉพาะยอดขายที่เกินจากนั้น นอกจากนี้ Epic ยังเปิดตัว ฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า "Webshop" ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสามารถ สร้างร้านค้าของตัวเองบนแพลตฟอร์ม Epic Games Store และขายเกมโดยตรงให้กับผู้เล่น โดยไม่ต้องผ่านร้านค้าแอปแบบดั้งเดิม ✅ Epic Games Store ไม่คิดค่าธรรมเนียมสำหรับรายได้ 1 ล้านดอลลาร์แรกของแต่ละเกม - นักพัฒนาจะได้รับ รายได้เต็มจำนวนสำหรับ 1 ล้านดอลลาร์แรก - รายได้ที่เกินจากนั้นจะถูกคิดค่าธรรมเนียม 12% ✅ เปรียบเทียบกับโมเดลแบ่งรายได้ของ Steam - Steam คิดค่าธรรมเนียม 30% สำหรับ 10 ล้านดอลลาร์แรก - ลดลงเหลือ 25% หลังจากยอดขายเกิน 10 ล้านดอลลาร์ - ลดลงเหลือ 20% เมื่อยอดขายถึง 50 ล้านดอลลาร์ ✅ Epic เปิดตัวฟีเจอร์ "Webshop" สำหรับนักพัฒนา - นักพัฒนาสามารถ สร้างร้านค้าของตัวเองบน Epic Games Store - ผู้เล่นสามารถ ซื้อเกมโดยตรงจากนักพัฒนา ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเกม - อาจช่วยให้นักพัฒนา โดยเฉพาะอินดี้เกมสามารถทำกำไรได้มากขึ้น - อาจทำให้ Steam ต้องปรับโมเดลแบ่งรายได้เพื่อแข่งขัน https://www.techspot.com/news/107797-epic-challenges-steam-zero-percent-fee-first-1.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Epic challenges Steam with zero percent fee for first $1 million per game
    Epic Games recently announced a new revenue policy for its digital game store. Starting in June, the company will implement a developer-friendly change: any new payment processed...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 149 มุมมอง 0 รีวิว
  • อดีตประธานาธิบดี Donald Trump ได้ให้สัมภาษณ์ว่าเขามี "ความรู้สึกดี" ต่อ TikTok และพร้อมที่จะให้ ขยายเวลาการขายกิจการในสหรัฐฯ อีกครั้ง แม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะเคยพยายามแบนแอปนี้ในสมัยดำรงตำแหน่ง

    กฎหมาย Protecting Americans from Foreign Adversary Controlled Applications Act ซึ่งผ่านการอนุมัติเมื่อปี 2024 ระบุว่า TikTok เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ และกำหนดให้ ByteDance ต้องขายกิจการในสหรัฐฯ ภายในวันที่ 20 มกราคม 2025 มิฉะนั้นจะถูกแบน อย่างไรก็ตาม Trump ได้ลงนามในคำสั่งบริหารเพื่อ เลื่อนการแบนออกไป 75 วัน และล่าสุดได้ให้ ขยายเวลาอีก 75 วัน ทำให้เส้นตายใหม่เป็น 19 มิถุนายน 2025

    Trump ให้เหตุผลว่า TikTok มีบทบาทสำคัญในการช่วยให้เขาได้รับคะแนนเสียงจากเยาวชน ในการเลือกตั้งปี 2024 โดยเขากล่าวว่า "ผมชนะคะแนนเสียงจากเยาวชนไป 36 จุด ซึ่งไม่เคยมีพรรครีพับลิกันคนไหนทำได้มาก่อน และผมมุ่งเน้นไปที่ TikTok"

    Trump ให้สัมภาษณ์ว่าเขามี "ความรู้สึกดี" ต่อ TikTok
    - พร้อมให้ ขยายเวลาการขายกิจการในสหรัฐฯ อีกครั้ง
    - เคยพยายามแบน TikTok ในสมัยดำรงตำแหน่ง

    กฎหมายกำหนดให้ ByteDance ต้องขายกิจการภายในวันที่ 20 มกราคม 2025
    - หากไม่ขาย TikTok จะถูกแบนในสหรัฐฯ
    - Trump ลงนามคำสั่งบริหาร เลื่อนการแบนออกไป 75 วัน

    Trump ให้ขยายเวลาอีก 75 วัน ทำให้เส้นตายใหม่เป็น 19 มิถุนายน 2025
    - ให้เหตุผลว่า TikTok มีบทบาทสำคัญในการช่วยให้เขาได้รับคะแนนเสียงจากเยาวชน
    - กล่าวว่า "ผมชนะคะแนนเสียงจากเยาวชนไป 36 จุด"

    มีรายงานว่าข้อตกลงขายกิจการ TikTok ในสหรัฐฯ ใกล้สำเร็จ
    - Trump ระบุว่า "เรามีข้อตกลงแล้ว"
    - กลุ่มนักลงทุนที่สนใจซื้อกิจการเป็น "บุคคลที่มีอิทธิพลและมีเงินทุนสูง"

    https://www.techspot.com/news/107799-trump-offers-tiktok-another-extension-has-warm-spot.html
    อดีตประธานาธิบดี Donald Trump ได้ให้สัมภาษณ์ว่าเขามี "ความรู้สึกดี" ต่อ TikTok และพร้อมที่จะให้ ขยายเวลาการขายกิจการในสหรัฐฯ อีกครั้ง แม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะเคยพยายามแบนแอปนี้ในสมัยดำรงตำแหน่ง กฎหมาย Protecting Americans from Foreign Adversary Controlled Applications Act ซึ่งผ่านการอนุมัติเมื่อปี 2024 ระบุว่า TikTok เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ และกำหนดให้ ByteDance ต้องขายกิจการในสหรัฐฯ ภายในวันที่ 20 มกราคม 2025 มิฉะนั้นจะถูกแบน อย่างไรก็ตาม Trump ได้ลงนามในคำสั่งบริหารเพื่อ เลื่อนการแบนออกไป 75 วัน และล่าสุดได้ให้ ขยายเวลาอีก 75 วัน ทำให้เส้นตายใหม่เป็น 19 มิถุนายน 2025 Trump ให้เหตุผลว่า TikTok มีบทบาทสำคัญในการช่วยให้เขาได้รับคะแนนเสียงจากเยาวชน ในการเลือกตั้งปี 2024 โดยเขากล่าวว่า "ผมชนะคะแนนเสียงจากเยาวชนไป 36 จุด ซึ่งไม่เคยมีพรรครีพับลิกันคนไหนทำได้มาก่อน และผมมุ่งเน้นไปที่ TikTok" ✅ Trump ให้สัมภาษณ์ว่าเขามี "ความรู้สึกดี" ต่อ TikTok - พร้อมให้ ขยายเวลาการขายกิจการในสหรัฐฯ อีกครั้ง - เคยพยายามแบน TikTok ในสมัยดำรงตำแหน่ง ✅ กฎหมายกำหนดให้ ByteDance ต้องขายกิจการภายในวันที่ 20 มกราคม 2025 - หากไม่ขาย TikTok จะถูกแบนในสหรัฐฯ - Trump ลงนามคำสั่งบริหาร เลื่อนการแบนออกไป 75 วัน ✅ Trump ให้ขยายเวลาอีก 75 วัน ทำให้เส้นตายใหม่เป็น 19 มิถุนายน 2025 - ให้เหตุผลว่า TikTok มีบทบาทสำคัญในการช่วยให้เขาได้รับคะแนนเสียงจากเยาวชน - กล่าวว่า "ผมชนะคะแนนเสียงจากเยาวชนไป 36 จุด" ✅ มีรายงานว่าข้อตกลงขายกิจการ TikTok ในสหรัฐฯ ใกล้สำเร็จ - Trump ระบุว่า "เรามีข้อตกลงแล้ว" - กลุ่มนักลงทุนที่สนใจซื้อกิจการเป็น "บุคคลที่มีอิทธิพลและมีเงินทุนสูง" https://www.techspot.com/news/107799-trump-offers-tiktok-another-extension-has-warm-spot.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Trump offers TikTok another extension on ban, says he has a "warm spot" in his heart for the app
    At the start of last year, the Protecting Americans from Foreign Adversary Controlled Applications Act was passed, defining TikTok as being a threat to national security and...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 430 มุมมอง 0 รีวิว
  • กลุ่มผู้นำด้านเทคโนโลยีกว่า 250 คน กำลังผลักดันให้ วิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์และ AI กลายเป็น หลักสูตรบังคับในโรงเรียน K-12 ทั่วสหรัฐฯ ผ่านแคมเปญ "Unlock8" ที่นำโดย Code.org และ CSforALL

    แคมเปญนี้เน้นย้ำถึง งานวิจัยใหม่ที่แสดงให้เห็นว่า การเรียน วิทยาการคอมพิวเตอร์ในระดับมัธยมปลาย สามารถช่วยเพิ่ม รายได้ในช่วงต้นอาชีพได้ถึง 8% โดยไม่ขึ้นอยู่กับสายงานที่นักเรียนเลือก นอกจากนี้ รายงานของ World Economic Forum ยังระบุว่า ทักษะด้าน AI และข้อมูลเป็นที่ต้องการมากที่สุดในอีก 5 ปีข้างหน้า

    แม้ว่ารัฐต่าง ๆ ในสหรัฐฯ จะพยายามขยายการเข้าถึงการศึกษาด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ แต่ปัจจุบันมีเพียง 12 รัฐเท่านั้นที่กำหนดให้เป็นวิชาบังคับสำหรับการจบการศึกษา ส่งผลให้ มีนักเรียนเพียง 6.4% ที่ลงเรียนวิชานี้ในปีที่ผ่านมา

    กลุ่มผู้นำด้านเทคโนโลยีกว่า 250 คนสนับสนุนให้ CS และ AI เป็นหลักสูตรบังคับ
    - นำโดย Code.org และ CSforALL
    - เน้นให้ นักเรียนทุกคนมีทักษะที่จำเป็นสำหรับโลกที่ขับเคลื่อนด้วย AI

    งานวิจัยใหม่ชี้ว่าการเรียน CS ในมัธยมปลายช่วยเพิ่มรายได้ในช่วงต้นอาชีพ
    - เพิ่มรายได้ได้ถึง 8% โดยไม่ขึ้นอยู่กับสายงานที่เลือก
    - World Economic Forum ระบุว่า AI และข้อมูลเป็นทักษะที่ต้องการมากที่สุดในอีก 5 ปีข้างหน้า

    สถานะของการศึกษาด้าน CS ในสหรัฐฯ
    - 39 รัฐมีงบประมาณสนับสนุนการศึกษาด้าน CS (เพิ่มขึ้นจาก 9 รัฐในปี 2017)
    - แต่มีเพียง 12 รัฐที่กำหนดให้ CS เป็นวิชาบังคับสำหรับการจบการศึกษา

    การสนับสนุนจากผู้นำด้านเทคโนโลยี
    - Satya Nadella (Microsoft), Brian Chesky (Airbnb), Dara Khosrowshahi (Uber) และ Steve Ballmer (อดีต CEO Microsoft) ลงนามในจดหมายเปิดผนึกสนับสนุนแคมเปญนี้

    https://www.techspot.com/news/107800-over-250-tech-leaders-push-computer-science-ai.html
    กลุ่มผู้นำด้านเทคโนโลยีกว่า 250 คน กำลังผลักดันให้ วิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์และ AI กลายเป็น หลักสูตรบังคับในโรงเรียน K-12 ทั่วสหรัฐฯ ผ่านแคมเปญ "Unlock8" ที่นำโดย Code.org และ CSforALL แคมเปญนี้เน้นย้ำถึง งานวิจัยใหม่ที่แสดงให้เห็นว่า การเรียน วิทยาการคอมพิวเตอร์ในระดับมัธยมปลาย สามารถช่วยเพิ่ม รายได้ในช่วงต้นอาชีพได้ถึง 8% โดยไม่ขึ้นอยู่กับสายงานที่นักเรียนเลือก นอกจากนี้ รายงานของ World Economic Forum ยังระบุว่า ทักษะด้าน AI และข้อมูลเป็นที่ต้องการมากที่สุดในอีก 5 ปีข้างหน้า แม้ว่ารัฐต่าง ๆ ในสหรัฐฯ จะพยายามขยายการเข้าถึงการศึกษาด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ แต่ปัจจุบันมีเพียง 12 รัฐเท่านั้นที่กำหนดให้เป็นวิชาบังคับสำหรับการจบการศึกษา ส่งผลให้ มีนักเรียนเพียง 6.4% ที่ลงเรียนวิชานี้ในปีที่ผ่านมา ✅ กลุ่มผู้นำด้านเทคโนโลยีกว่า 250 คนสนับสนุนให้ CS และ AI เป็นหลักสูตรบังคับ - นำโดย Code.org และ CSforALL - เน้นให้ นักเรียนทุกคนมีทักษะที่จำเป็นสำหรับโลกที่ขับเคลื่อนด้วย AI ✅ งานวิจัยใหม่ชี้ว่าการเรียน CS ในมัธยมปลายช่วยเพิ่มรายได้ในช่วงต้นอาชีพ - เพิ่มรายได้ได้ถึง 8% โดยไม่ขึ้นอยู่กับสายงานที่เลือก - World Economic Forum ระบุว่า AI และข้อมูลเป็นทักษะที่ต้องการมากที่สุดในอีก 5 ปีข้างหน้า ✅ สถานะของการศึกษาด้าน CS ในสหรัฐฯ - 39 รัฐมีงบประมาณสนับสนุนการศึกษาด้าน CS (เพิ่มขึ้นจาก 9 รัฐในปี 2017) - แต่มีเพียง 12 รัฐที่กำหนดให้ CS เป็นวิชาบังคับสำหรับการจบการศึกษา ✅ การสนับสนุนจากผู้นำด้านเทคโนโลยี - Satya Nadella (Microsoft), Brian Chesky (Airbnb), Dara Khosrowshahi (Uber) และ Steve Ballmer (อดีต CEO Microsoft) ลงนามในจดหมายเปิดผนึกสนับสนุนแคมเปญนี้ https://www.techspot.com/news/107800-over-250-tech-leaders-push-computer-science-ai.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Over 250 tech leaders push for computer science and AI course requirements in US schools
    The campaign emphasizes new research showing that taking just one high school computer science course can boost early career earnings by eight percent, regardless of a graduate's...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 304 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้วิเคราะห์แนวโน้มของ การนำ Custom ASIC มาใช้ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี โดยตั้งคำถามว่าเราอาจกำลังเข้าใกล้ จุดสูงสุดของการพัฒนาและการนำไปใช้ หรือไม่

    ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บริษัทที่ไม่ใช่ผู้ผลิตชิปโดยตรง ได้เริ่มออกแบบชิปของตัวเองแทนที่จะซื้อจากผู้ผลิตทั่วไป เช่น Apple และ Google ซึ่งช่วยให้พวกเขาสามารถ ควบคุมประสิทธิภาพและการทำงานของผลิตภัณฑ์ได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้นทุนในการออกแบบและผลิตชิปเฉพาะทางสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้บางบริษัทเริ่ม ทบทวนกลยุทธ์และลดขอบเขตของการพัฒนา

    แม้ว่าบริษัทขนาดใหญ่ เช่น Microsoft และ Meta จะยังคงพัฒนา Custom ASIC แต่พวกเขากำลังเผชิญกับ ความท้าทายในการนำชิปออกสู่ตลาด นอกจากนี้ Google ซึ่งมีเครื่องมือออกแบบชิปของตัวเอง ก็เริ่ม ชะลอการเปิดตัวชิปรุ่นใหม่

    บริษัทที่ไม่ใช่ผู้ผลิตชิปโดยตรงเริ่มออกแบบชิปของตัวเอง
    - ตัวอย่างเช่น Apple และ Google
    - ช่วยให้สามารถ ควบคุมประสิทธิภาพและการทำงานของผลิตภัณฑ์ได้ดีขึ้น

    ต้นทุนในการออกแบบและผลิตชิปเฉพาะทางสูงขึ้น
    - ค่าใช้จ่ายด้าน บุคลากร, สิทธิบัตร และการผลิต เพิ่มขึ้น
    - ทำให้บางบริษัท เริ่มลดขอบเขตของการพัฒนา

    Microsoft และ Meta กำลังเผชิญกับความท้าทายในการนำชิปออกสู่ตลาด
    - อาจต้อง ปรับกลยุทธ์เพื่อให้สามารถแข่งขันได้
    - Google ก็เริ่ม ชะลอการเปิดตัวชิปรุ่นใหม่

    แนวโน้มของอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนและยานยนต์
    - Samsung ลดการใช้ ชิปที่ออกแบบเอง
    - ผู้ผลิตรถยนต์ยังคง พิจารณาว่าควรพัฒนา Custom ASIC หรือไม่

    https://www.techspot.com/news/107803-opinion-nearing-peak-custom-asic-adoption.html
    บทความนี้วิเคราะห์แนวโน้มของ การนำ Custom ASIC มาใช้ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี โดยตั้งคำถามว่าเราอาจกำลังเข้าใกล้ จุดสูงสุดของการพัฒนาและการนำไปใช้ หรือไม่ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บริษัทที่ไม่ใช่ผู้ผลิตชิปโดยตรง ได้เริ่มออกแบบชิปของตัวเองแทนที่จะซื้อจากผู้ผลิตทั่วไป เช่น Apple และ Google ซึ่งช่วยให้พวกเขาสามารถ ควบคุมประสิทธิภาพและการทำงานของผลิตภัณฑ์ได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้นทุนในการออกแบบและผลิตชิปเฉพาะทางสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้บางบริษัทเริ่ม ทบทวนกลยุทธ์และลดขอบเขตของการพัฒนา แม้ว่าบริษัทขนาดใหญ่ เช่น Microsoft และ Meta จะยังคงพัฒนา Custom ASIC แต่พวกเขากำลังเผชิญกับ ความท้าทายในการนำชิปออกสู่ตลาด นอกจากนี้ Google ซึ่งมีเครื่องมือออกแบบชิปของตัวเอง ก็เริ่ม ชะลอการเปิดตัวชิปรุ่นใหม่ ✅ บริษัทที่ไม่ใช่ผู้ผลิตชิปโดยตรงเริ่มออกแบบชิปของตัวเอง - ตัวอย่างเช่น Apple และ Google - ช่วยให้สามารถ ควบคุมประสิทธิภาพและการทำงานของผลิตภัณฑ์ได้ดีขึ้น ✅ ต้นทุนในการออกแบบและผลิตชิปเฉพาะทางสูงขึ้น - ค่าใช้จ่ายด้าน บุคลากร, สิทธิบัตร และการผลิต เพิ่มขึ้น - ทำให้บางบริษัท เริ่มลดขอบเขตของการพัฒนา ✅ Microsoft และ Meta กำลังเผชิญกับความท้าทายในการนำชิปออกสู่ตลาด - อาจต้อง ปรับกลยุทธ์เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ - Google ก็เริ่ม ชะลอการเปิดตัวชิปรุ่นใหม่ ✅ แนวโน้มของอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนและยานยนต์ - Samsung ลดการใช้ ชิปที่ออกแบบเอง - ผู้ผลิตรถยนต์ยังคง พิจารณาว่าควรพัฒนา Custom ASIC หรือไม่ https://www.techspot.com/news/107803-opinion-nearing-peak-custom-asic-adoption.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Opinion: Are we nearing the peak of custom ASIC adoption?
    We think it is important to remember that the case for custom silicon is an economic choice, not a technical one.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 213 มุมมอง 0 รีวิว
  • อดีต CEO ของ Google Eric Schmidt กำลังผลักดันแนวคิด การสร้างศูนย์ข้อมูลในอวกาศ เพื่อแก้ปัญหาความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลจาก AI และโครงสร้างพื้นฐานด้านการประมวลผลข้อมูล

    Schmidt ซึ่งปัจจุบันเป็น CEO ของ Relativity Space ได้กล่าวใน การประชุมรัฐสภาสหรัฐฯ ว่า ศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่กำลังใช้พลังงานมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยบางแห่งอาจต้องใช้ พลังงานถึง 10 กิกะวัตต์ ซึ่งมากกว่ากำลังผลิตของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทั่วไปถึง 10 เท่า

    แนวคิดของ Schmidt คือ การใช้พลังงานแสงอาทิตย์จากอวกาศ เพื่อรองรับความต้องการพลังงานของศูนย์ข้อมูล AI โดยใช้ จรวด Terran R ซึ่งเป็นจรวดขนส่งสินค้าหนักที่พัฒนาโดย Relativity Space

    Eric Schmidt ผลักดันแนวคิดศูนย์ข้อมูลในอวกาศ
    - ต้องการแก้ปัญหาความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นจาก AI
    - ใช้ พลังงานแสงอาทิตย์จากอวกาศ เพื่อรองรับศูนย์ข้อมูล

    ศูนย์ข้อมูล AI อาจต้องใช้พลังงานถึง 10 กิกะวัตต์
    - มากกว่ากำลังผลิตของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทั่วไปถึง 10 เท่า
    - คาดว่าภายในปี 2030 อาจต้องใช้พลังงานเพิ่มขึ้นอีก 67 กิกะวัตต์

    Relativity Space พัฒนาเทคโนโลยีขนส่งสำหรับโครงการนี้
    - ใช้ จรวด Terran R ซึ่งสามารถขนส่ง 33,500 กิโลกรัม ไปยังวงโคจรโลก
    - พัฒนาโดยใช้ เทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีและพลังงาน
    - อาจช่วยแก้ปัญหาการใช้พลังงานของศูนย์ข้อมูล AI
    - อาจเป็นแนวทางใหม่ในการใช้พลังงานแสงอาทิตย์จากอวกาศ

    https://www.techspot.com/news/107801-former-google-ceo-eric-schmidt-wants-put-data.html
    อดีต CEO ของ Google Eric Schmidt กำลังผลักดันแนวคิด การสร้างศูนย์ข้อมูลในอวกาศ เพื่อแก้ปัญหาความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลจาก AI และโครงสร้างพื้นฐานด้านการประมวลผลข้อมูล Schmidt ซึ่งปัจจุบันเป็น CEO ของ Relativity Space ได้กล่าวใน การประชุมรัฐสภาสหรัฐฯ ว่า ศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่กำลังใช้พลังงานมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยบางแห่งอาจต้องใช้ พลังงานถึง 10 กิกะวัตต์ ซึ่งมากกว่ากำลังผลิตของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทั่วไปถึง 10 เท่า แนวคิดของ Schmidt คือ การใช้พลังงานแสงอาทิตย์จากอวกาศ เพื่อรองรับความต้องการพลังงานของศูนย์ข้อมูล AI โดยใช้ จรวด Terran R ซึ่งเป็นจรวดขนส่งสินค้าหนักที่พัฒนาโดย Relativity Space ✅ Eric Schmidt ผลักดันแนวคิดศูนย์ข้อมูลในอวกาศ - ต้องการแก้ปัญหาความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นจาก AI - ใช้ พลังงานแสงอาทิตย์จากอวกาศ เพื่อรองรับศูนย์ข้อมูล ✅ ศูนย์ข้อมูล AI อาจต้องใช้พลังงานถึง 10 กิกะวัตต์ - มากกว่ากำลังผลิตของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทั่วไปถึง 10 เท่า - คาดว่าภายในปี 2030 อาจต้องใช้พลังงานเพิ่มขึ้นอีก 67 กิกะวัตต์ ✅ Relativity Space พัฒนาเทคโนโลยีขนส่งสำหรับโครงการนี้ - ใช้ จรวด Terran R ซึ่งสามารถขนส่ง 33,500 กิโลกรัม ไปยังวงโคจรโลก - พัฒนาโดยใช้ เทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีและพลังงาน - อาจช่วยแก้ปัญหาการใช้พลังงานของศูนย์ข้อมูล AI - อาจเป็นแนวทางใหม่ในการใช้พลังงานแสงอาทิตย์จากอวกาศ https://www.techspot.com/news/107801-former-google-ceo-eric-schmidt-wants-put-data.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Former Google CEO Eric Schmidt wants to put data centers in space
    In his new role as CEO of Relativity Space, Eric Schmidt appears to be exploring the idea of launching data centers into Earth's orbit. During a recent...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 207 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักดาราศาสตร์อาจค้นพบหลักฐานที่น่าสนใจที่สุดเกี่ยวกับ Planet Nine ซึ่งเป็นดาวเคราะห์สมมุติที่อาจอยู่ในระบบสุริยะของเรา โดยใช้ข้อมูลจาก ดาวเทียมอินฟราเรดสองดวง ที่เก็บรวบรวมมานานกว่า 23 ปี

    การศึกษานี้นำโดย Terry Long Phan จาก National Tsing Hua University ในไต้หวัน ซึ่งใช้ข้อมูลจาก NASA's Infrared Astronomical Satellite (IRAS) ในปี 1983 และ ดาวเทียม AKARI ของญี่ปุ่น (2006-2011) เพื่อค้นหาวัตถุที่อาจเคลื่อนที่ไปตามวงโคจรที่คาดการณ์ไว้ของ Planet Nine

    Planet Nine อาจเป็นดาวเคราะห์ขนาดเท่า Neptune ที่อยู่ไกลจากดวงอาทิตย์หลายร้อยเท่า
    - มีมวลมากกว่าโลกและอาจมีวงโคจรที่ยาวมาก
    - อาจเป็นสาเหตุของการจัดเรียงตัวผิดปกติของวัตถุใน Kuiper Belt

    การค้นพบนี้ใช้ข้อมูลจากดาวเทียมอินฟราเรดสองดวงที่เก็บรวบรวมมานานกว่า 23 ปี
    - IRAS (1983) และ AKARI (2006-2011)
    - นักวิจัยพบวัตถุที่เคลื่อนที่ไป 47.4 arcminutes ในช่วงเวลานี้

    การตรวจสอบเพิ่มเติมจำเป็นต้องใช้กล้องโทรทรรศน์ที่ทรงพลัง
    - กล้อง Dark Energy Camera ในชิลีอาจช่วยยืนยันตำแหน่งของวัตถุ
    - หากได้รับการยืนยัน อาจเป็นการค้นพบดาวเคราะห์ใหม่ในระบบสุริยะ

    ทฤษฎีเกี่ยวกับที่มาของ Planet Nine
    - อาจถูกผลักออกจากระบบสุริยะชั้นในโดยแรงโน้มถ่วงของ Jupiter หรือ Saturn
    - หรืออาจเป็น ดาวเคราะห์เร่ร่อนที่ถูกจับเข้ามาในระบบสุริยะ

    https://www.techspot.com/news/107802-astronomers-spot-possible-planet-nine-data-spanning-23.html
    นักดาราศาสตร์อาจค้นพบหลักฐานที่น่าสนใจที่สุดเกี่ยวกับ Planet Nine ซึ่งเป็นดาวเคราะห์สมมุติที่อาจอยู่ในระบบสุริยะของเรา โดยใช้ข้อมูลจาก ดาวเทียมอินฟราเรดสองดวง ที่เก็บรวบรวมมานานกว่า 23 ปี การศึกษานี้นำโดย Terry Long Phan จาก National Tsing Hua University ในไต้หวัน ซึ่งใช้ข้อมูลจาก NASA's Infrared Astronomical Satellite (IRAS) ในปี 1983 และ ดาวเทียม AKARI ของญี่ปุ่น (2006-2011) เพื่อค้นหาวัตถุที่อาจเคลื่อนที่ไปตามวงโคจรที่คาดการณ์ไว้ของ Planet Nine ✅ Planet Nine อาจเป็นดาวเคราะห์ขนาดเท่า Neptune ที่อยู่ไกลจากดวงอาทิตย์หลายร้อยเท่า - มีมวลมากกว่าโลกและอาจมีวงโคจรที่ยาวมาก - อาจเป็นสาเหตุของการจัดเรียงตัวผิดปกติของวัตถุใน Kuiper Belt ✅ การค้นพบนี้ใช้ข้อมูลจากดาวเทียมอินฟราเรดสองดวงที่เก็บรวบรวมมานานกว่า 23 ปี - IRAS (1983) และ AKARI (2006-2011) - นักวิจัยพบวัตถุที่เคลื่อนที่ไป 47.4 arcminutes ในช่วงเวลานี้ ✅ การตรวจสอบเพิ่มเติมจำเป็นต้องใช้กล้องโทรทรรศน์ที่ทรงพลัง - กล้อง Dark Energy Camera ในชิลีอาจช่วยยืนยันตำแหน่งของวัตถุ - หากได้รับการยืนยัน อาจเป็นการค้นพบดาวเคราะห์ใหม่ในระบบสุริยะ ✅ ทฤษฎีเกี่ยวกับที่มาของ Planet Nine - อาจถูกผลักออกจากระบบสุริยะชั้นในโดยแรงโน้มถ่วงของ Jupiter หรือ Saturn - หรืออาจเป็น ดาวเคราะห์เร่ร่อนที่ถูกจับเข้ามาในระบบสุริยะ https://www.techspot.com/news/107802-astronomers-spot-possible-planet-nine-data-spanning-23.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Astronomers spot possible Planet Nine in data spanning 23 years
    Astronomers have long speculated about an unseen planet lurking in the solar system's outer edge. This hypothetical world, dubbed Planet Nine, could explain the unusual clustering of...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 310 มุมมอง 0 รีวิว
  • ค่าเงิน ดอลลาร์ไต้หวัน (TWD) แข็งค่าขึ้น 10% เทียบกับดอลลาร์สหรัฐ (USD) ซึ่งเป็นการแข็งค่าที่รุนแรงที่สุดในรอบ 30 ปี ส่งผลให้ราคาสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ที่ผลิตในไต้หวันอาจสูงขึ้น

    บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของไต้หวัน เช่น Acer, Asus, Pegatron, Wistron และ Foxconn มีการถือครองพอร์ตสกุลเงินที่หลากหลายเพื่อป้องกันความผันผวน อย่างไรก็ตาม การแข็งค่าของ TWD ครั้งนี้อาจส่งผลกระทบต่อ อัตรากำไรของบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ เช่น TSMC และ UMC

    ค่าเงินดอลลาร์ไต้หวันแข็งค่าขึ้น 10% เทียบกับดอลลาร์สหรัฐ
    - เป็นการแข็งค่าที่รุนแรงที่สุดในรอบ 30 ปี
    - อาจทำให้ราคาสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์สูงขึ้น

    บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของไต้หวันมีการถือครองพอร์ตสกุลเงินที่หลากหลาย
    - Acer, Asus, Pegatron, Wistron และ Foxconn พยายามลดผลกระทบจากความผันผวนของค่าเงิน
    - แต่การแข็งค่าครั้งนี้อาจส่งผลต่อ อัตรากำไรของบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ เช่น TSMC และ UMC

    ธนาคารกลางไต้หวันออกแถลงการณ์เพื่อควบคุมสถานการณ์
    - ระบุว่าการแข็งค่าของ TWD เกิดจาก การคาดการณ์เกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างไต้หวันและสหรัฐฯ
    - เตือนให้ระวัง นักเก็งกำไรที่อาจสร้างความผันผวนในตลาด

    ผลกระทบต่อราคาสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในสหรัฐฯ
    - หากค่าเงิน TWD ยังคงแข็งค่า อาจทำให้ ราคาชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สูงขึ้น

    https://www.tomshardware.com/pc-components/10-percent-surge-in-taiwanese-currency-vs-us-dollar-could-hurt-pc-and-components-pricing
    ค่าเงิน ดอลลาร์ไต้หวัน (TWD) แข็งค่าขึ้น 10% เทียบกับดอลลาร์สหรัฐ (USD) ซึ่งเป็นการแข็งค่าที่รุนแรงที่สุดในรอบ 30 ปี ส่งผลให้ราคาสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ที่ผลิตในไต้หวันอาจสูงขึ้น บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของไต้หวัน เช่น Acer, Asus, Pegatron, Wistron และ Foxconn มีการถือครองพอร์ตสกุลเงินที่หลากหลายเพื่อป้องกันความผันผวน อย่างไรก็ตาม การแข็งค่าของ TWD ครั้งนี้อาจส่งผลกระทบต่อ อัตรากำไรของบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ เช่น TSMC และ UMC ✅ ค่าเงินดอลลาร์ไต้หวันแข็งค่าขึ้น 10% เทียบกับดอลลาร์สหรัฐ - เป็นการแข็งค่าที่รุนแรงที่สุดในรอบ 30 ปี - อาจทำให้ราคาสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์สูงขึ้น ✅ บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของไต้หวันมีการถือครองพอร์ตสกุลเงินที่หลากหลาย - Acer, Asus, Pegatron, Wistron และ Foxconn พยายามลดผลกระทบจากความผันผวนของค่าเงิน - แต่การแข็งค่าครั้งนี้อาจส่งผลต่อ อัตรากำไรของบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ เช่น TSMC และ UMC ✅ ธนาคารกลางไต้หวันออกแถลงการณ์เพื่อควบคุมสถานการณ์ - ระบุว่าการแข็งค่าของ TWD เกิดจาก การคาดการณ์เกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างไต้หวันและสหรัฐฯ - เตือนให้ระวัง นักเก็งกำไรที่อาจสร้างความผันผวนในตลาด ✅ ผลกระทบต่อราคาสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในสหรัฐฯ - หากค่าเงิน TWD ยังคงแข็งค่า อาจทำให้ ราคาชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สูงขึ้น https://www.tomshardware.com/pc-components/10-percent-surge-in-taiwanese-currency-vs-us-dollar-could-hurt-pc-and-components-pricing
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    10% surge in Taiwanese currency vs US dollar could hurt PC and components pricing
    We are witnessing the most powerful Taiwan Dollar appreciation in over 30 years.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 315 มุมมอง 0 รีวิว
  • Nvidia ได้เปิดตัว RTX Pro 6000 Blackwell ซึ่งเป็น GPU ระดับเวิร์กสเตชัน ที่มาพร้อมกับ 24,064 CUDA Cores และ GDDR7 96GB โดยออกแบบมาเพื่อรองรับ AI, การเรนเดอร์ 3D และงานคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูง

    RTX Pro 6000 Blackwell มีราคาสูงถึง $11,000 ซึ่งมากกว่ารุ่น RTX 5090 ถึงสามเท่า แม้ว่าจะมี CUDA Cores มากกว่าและหน่วยความจำที่ใหญ่กว่า แต่ผลการทดสอบเบื้องต้นพบว่า ประสิทธิภาพยังไม่เหนือกว่า RTX 5090 อย่างชัดเจน เนื่องจากข้อจำกัดด้านซอฟต์แวร์และการเข้าถึงหน่วยความจำ

    RTX Pro 6000 Blackwell เป็น GPU ระดับเวิร์กสเตชัน
    - ใช้ GB202 Chip พร้อม 24,064 CUDA Cores
    - มี GDDR7 96GB และ Boost Clock 2,617MHz

    เปรียบเทียบกับ RTX 5090
    - RTX 5090 มี 21,760 CUDA Cores และ GDDR7 32GB
    - RTX Pro 6000 มี CUDA Cores มากกว่า แต่ผลการทดสอบยังไม่เหนือกว่าอย่างชัดเจน

    ผลการทดสอบเบื้องต้น
    - RTX Pro 6000 ทำคะแนน 368,219 ใน Geekbench OpenCL Benchmark
    - RTX 5090 ทำคะแนน 376,858 ซึ่งสูงกว่าเล็กน้อย

    ราคาและการวางจำหน่าย
    - ราคาสูงถึง $11,000 ในญี่ปุ่นและยุโรป
    - มีจำหน่ายผ่าน PNY และผู้ค้าปลีกระดับองค์กร

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidia-rtx-pro-6000-blackwell-appears-online-with-an-eye-watering-price-tag-of-over-usd11-000
    Nvidia ได้เปิดตัว RTX Pro 6000 Blackwell ซึ่งเป็น GPU ระดับเวิร์กสเตชัน ที่มาพร้อมกับ 24,064 CUDA Cores และ GDDR7 96GB โดยออกแบบมาเพื่อรองรับ AI, การเรนเดอร์ 3D และงานคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูง RTX Pro 6000 Blackwell มีราคาสูงถึง $11,000 ซึ่งมากกว่ารุ่น RTX 5090 ถึงสามเท่า แม้ว่าจะมี CUDA Cores มากกว่าและหน่วยความจำที่ใหญ่กว่า แต่ผลการทดสอบเบื้องต้นพบว่า ประสิทธิภาพยังไม่เหนือกว่า RTX 5090 อย่างชัดเจน เนื่องจากข้อจำกัดด้านซอฟต์แวร์และการเข้าถึงหน่วยความจำ ✅ RTX Pro 6000 Blackwell เป็น GPU ระดับเวิร์กสเตชัน - ใช้ GB202 Chip พร้อม 24,064 CUDA Cores - มี GDDR7 96GB และ Boost Clock 2,617MHz ✅ เปรียบเทียบกับ RTX 5090 - RTX 5090 มี 21,760 CUDA Cores และ GDDR7 32GB - RTX Pro 6000 มี CUDA Cores มากกว่า แต่ผลการทดสอบยังไม่เหนือกว่าอย่างชัดเจน ✅ ผลการทดสอบเบื้องต้น - RTX Pro 6000 ทำคะแนน 368,219 ใน Geekbench OpenCL Benchmark - RTX 5090 ทำคะแนน 376,858 ซึ่งสูงกว่าเล็กน้อย ✅ ราคาและการวางจำหน่าย - ราคาสูงถึง $11,000 ในญี่ปุ่นและยุโรป - มีจำหน่ายผ่าน PNY และผู้ค้าปลีกระดับองค์กร https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidia-rtx-pro-6000-blackwell-appears-online-with-an-eye-watering-price-tag-of-over-usd11-000
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Nvidia RTX Pro 6000 Blackwell appears online with an eye-watering price tag of over $11,000
    Over three-times the cost of a price-inflated RTX 5090, but it has more CUDA cores and a massive 96GB of GDDR7 memory.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 262 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์พูดถึงท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีมที่ถูกวางระเบิด:

    “ผมคิดว่าหลายคนรู้นะ ว่าใครเป็นคนระเบิดมัน”


    หลังจากนักข่าวถามทรัมป์จะพิจารณาเปิดการสอบสวนอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นและใครเป็นผู้กระทำหรือไม่


    อย่างไรก็ตาม แม้ว่าทรัมป์จะอ้างว่าเขาสามารถระบุชื่อได้โดยไม่ต้องมีการสอบสวน แต่ยังคงปฏิเสธที่จะเปิดการสอบสวน และยังปกป้องรัสเซียโดยฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่ารัสเซียเป็นผู้รับผิดชอบต่อการระเบิดดังกล่าว


    หลังเกิดเหตุท่อส่งก๊าซ Nord Stream ในปี 2022 ราโดสลาฟ ซิคอร์สกี้ สมาชิกรัฐสภายุโรปและอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศโปแลนด์ โพสต์ข้อความ โดยกล่าวขอบคุณสหรัฐ เปรียบเสมือนว่าสหรัฐมีส่วนจงใจสร้างความเสียหายให้กับท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีมของรัสเซีย
    ทรัมป์พูดถึงท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีมที่ถูกวางระเบิด: “ผมคิดว่าหลายคนรู้นะ ว่าใครเป็นคนระเบิดมัน” หลังจากนักข่าวถามทรัมป์จะพิจารณาเปิดการสอบสวนอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นและใครเป็นผู้กระทำหรือไม่ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าทรัมป์จะอ้างว่าเขาสามารถระบุชื่อได้โดยไม่ต้องมีการสอบสวน แต่ยังคงปฏิเสธที่จะเปิดการสอบสวน และยังปกป้องรัสเซียโดยฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่ารัสเซียเป็นผู้รับผิดชอบต่อการระเบิดดังกล่าว หลังเกิดเหตุท่อส่งก๊าซ Nord Stream ในปี 2022 ราโดสลาฟ ซิคอร์สกี้ สมาชิกรัฐสภายุโรปและอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศโปแลนด์ โพสต์ข้อความ โดยกล่าวขอบคุณสหรัฐ เปรียบเสมือนว่าสหรัฐมีส่วนจงใจสร้างความเสียหายให้กับท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีมของรัสเซีย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 249 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft ได้เข้าสู่ ขั้นตอนสุดท้ายของการปล่อยอัปเดต Windows 11 24H2 ซึ่งจะถูก ดาวน์โหลดอัตโนมัติบนอุปกรณ์บางเครื่อง โดยเฉพาะ Windows 11 Home และ Pro ที่ไม่ได้ถูกจัดการโดยฝ่าย IT

    Windows 11 24H2 เป็นการอัปเดตที่ Microsoft ผลักดันให้ผู้ใช้ติดตั้ง โดยอุปกรณ์ที่ใช้ Windows 11 เวอร์ชัน 23H2, 22H2 และ 21H2 จะได้รับการอัปเดตโดยอัตโนมัติ แม้ว่าผู้ใช้จะไม่ได้ตั้งใจติดตั้งก็ตาม

    Microsoft ระบุว่า ผู้ใช้สามารถตรวจสอบการอัปเดตได้ที่ 'Settings > Windows Update' และเลือก 'Check for updates' อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้บางรายจะได้รับการดาวน์โหลดอัตโนมัติ และสามารถเลือกได้เพียง เลื่อนการติดตั้งออกไป

    Windows 11 24H2 จะถูกดาวน์โหลดอัตโนมัติบนอุปกรณ์บางเครื่อง
    - เฉพาะ Windows 11 Home และ Pro ที่ไม่ได้ถูกจัดการโดยฝ่าย IT
    - อุปกรณ์ที่ใช้ Windows 11 เวอร์ชัน 23H2, 22H2 และ 21H2 จะได้รับการอัปเดตโดยอัตโนมัติ

    Microsoft อยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการปล่อยอัปเดต
    - เริ่มตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา
    - ผู้ใช้สามารถตรวจสอบการอัปเดตได้ที่ 'Settings > Windows Update'

    Windows 10 ยังคงมีผู้ใช้มากกว่า Windows 11
    - Windows 10 มี 52.94% ของตลาด ขณะที่ Windows 11 มี 43.72%
    - Microsoft หวังว่า Windows 11 จะมีผู้ใช้เพิ่มขึ้นก่อนหมดระยะการสนับสนุน Windows 10 ในเดือนตุลาคม 2025

    Microsoft ใช้โฆษณาเต็มหน้าจอเพื่อกระตุ้นให้ผู้ใช้ Windows 10 อัปเดต
    - มีการใช้ Pop-ups และโฆษณาเต็มหน้าจอ เพื่อกระตุ้นให้ผู้ใช้เปลี่ยนไปใช้ Windows 11

    https://www.tomshardware.com/software/windows/windows-11-24h2-update-is-now-automatically-downloading-on-some-pcs
    Microsoft ได้เข้าสู่ ขั้นตอนสุดท้ายของการปล่อยอัปเดต Windows 11 24H2 ซึ่งจะถูก ดาวน์โหลดอัตโนมัติบนอุปกรณ์บางเครื่อง โดยเฉพาะ Windows 11 Home และ Pro ที่ไม่ได้ถูกจัดการโดยฝ่าย IT Windows 11 24H2 เป็นการอัปเดตที่ Microsoft ผลักดันให้ผู้ใช้ติดตั้ง โดยอุปกรณ์ที่ใช้ Windows 11 เวอร์ชัน 23H2, 22H2 และ 21H2 จะได้รับการอัปเดตโดยอัตโนมัติ แม้ว่าผู้ใช้จะไม่ได้ตั้งใจติดตั้งก็ตาม Microsoft ระบุว่า ผู้ใช้สามารถตรวจสอบการอัปเดตได้ที่ 'Settings > Windows Update' และเลือก 'Check for updates' อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้บางรายจะได้รับการดาวน์โหลดอัตโนมัติ และสามารถเลือกได้เพียง เลื่อนการติดตั้งออกไป ✅ Windows 11 24H2 จะถูกดาวน์โหลดอัตโนมัติบนอุปกรณ์บางเครื่อง - เฉพาะ Windows 11 Home และ Pro ที่ไม่ได้ถูกจัดการโดยฝ่าย IT - อุปกรณ์ที่ใช้ Windows 11 เวอร์ชัน 23H2, 22H2 และ 21H2 จะได้รับการอัปเดตโดยอัตโนมัติ ✅ Microsoft อยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการปล่อยอัปเดต - เริ่มตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา - ผู้ใช้สามารถตรวจสอบการอัปเดตได้ที่ 'Settings > Windows Update' ✅ Windows 10 ยังคงมีผู้ใช้มากกว่า Windows 11 - Windows 10 มี 52.94% ของตลาด ขณะที่ Windows 11 มี 43.72% - Microsoft หวังว่า Windows 11 จะมีผู้ใช้เพิ่มขึ้นก่อนหมดระยะการสนับสนุน Windows 10 ในเดือนตุลาคม 2025 ✅ Microsoft ใช้โฆษณาเต็มหน้าจอเพื่อกระตุ้นให้ผู้ใช้ Windows 10 อัปเดต - มีการใช้ Pop-ups และโฆษณาเต็มหน้าจอ เพื่อกระตุ้นให้ผู้ใช้เปลี่ยนไปใช้ Windows 11 https://www.tomshardware.com/software/windows/windows-11-24h2-update-is-now-automatically-downloading-on-some-pcs
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Windows 11 24H2 update is now automatically downloading on some PCs
    Microsoft reached the last phase of the gradual rollout of this update a few days ago.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 108 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 48 มุมมอง 0 รีวิว