• 0 Comments 0 Shares 212 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 209 Views 0 Reviews
  • Super Flower เปิดตัวพาวเวอร์ซัพพลายสุดทรงพลังรุ่น Leadex Platinum 2800W (SF-2800F14HP) ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อรองรับความต้องการพลังงานของคอมพิวเตอร์ที่ใช้สำหรับงานประมวลผลระดับสูง เช่น AI, การฝึกโมเดล Deep Learning และงานในเวิร์กสเตชัน โดยมีจุดเด่นในเรื่องของความสามารถในการจ่ายพลังงานสูงถึง 2800W ซึ่งมากพอที่จะรองรับ GPU ระดับสูงถึง RTX 5090 ได้หลายตัวในเครื่องเดียว

    == คุณสมบัติเด่นของ Leadex Platinum 2800W ==
    1) ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน
    - พาวเวอร์ซัพพลายรุ่นนี้ได้รับการรับรองมาตรฐาน 80 Plus Platinum ที่มีประสิทธิภาพสูงถึง 92% ที่โหลด 50% ช่วยลดพลังงานที่สูญเสียเป็นความร้อน
    -รองรับการใช้งานกับมาตรฐาน ATX 3.1 และ PCIe 5.1 ซึ่งเหมาะสำหรับอุปกรณ์รุ่นใหม่ที่ต้องการพลังงานสูง

    2) การออกแบบเพื่อความเสถียรและความคงทน
    - ใช้วัสดุ Japanese capacitors ที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพและความน่าเชื่อถือ
    - รองรับการจ่ายไฟผ่าน +12V rail ที่สูงถึง 2,799.6W เพียงพอสำหรับการประมวลผลของ GPU และอุปกรณ์เสริม

    3)การรองรับการเชื่อมต่อที่หลากหลาย
    - มีช่องเชื่อมต่อทั้งหมด 19 พอร์ต รวมถึง 8-pin และ 6-pin connectors สำหรับอุปกรณ์ต่าง ๆ
    - รองรับการใช้งาน GPU ได้ถึง 4 ตัว หรือ 2 ตัวในกรณีที่ใช้ GPU รุ่นที่ต้องการ dual 16-pin connectors

    4) เหมาะสำหรับงานประมวลผลหนัก
    - การออกแบบเหมาะสำหรับเวิร์กสเตชันที่ต้องการความเสถียรในงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่น AI, การประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ และงานเรนเดอร์ระดับมืออาชีพ

    พาวเวอร์ซัพพลายรุ่นนี้มีราคาสำหรับการสั่งจองล่วงหน้าที่ $899 และมาพร้อมการรับประกันยาวนานถึง 10 ปี แม้ว่ากำลังไฟที่มากขนาดนี้อาจเกินความจำเป็นสำหรับการเล่นเกม แต่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานในสายงาน AI หรือ Data Science ซึ่งต้องการความเสถียรในระยะยาว

    https://www.tomshardware.com/pc-components/power-supplies/super-flowers-beastly-2800w-power-supply-lands-at-usd899-enough-juice-to-power-a-couple-of-rtx-5090-gpus
    Super Flower เปิดตัวพาวเวอร์ซัพพลายสุดทรงพลังรุ่น Leadex Platinum 2800W (SF-2800F14HP) ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อรองรับความต้องการพลังงานของคอมพิวเตอร์ที่ใช้สำหรับงานประมวลผลระดับสูง เช่น AI, การฝึกโมเดล Deep Learning และงานในเวิร์กสเตชัน โดยมีจุดเด่นในเรื่องของความสามารถในการจ่ายพลังงานสูงถึง 2800W ซึ่งมากพอที่จะรองรับ GPU ระดับสูงถึง RTX 5090 ได้หลายตัวในเครื่องเดียว == คุณสมบัติเด่นของ Leadex Platinum 2800W == 1) ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน - พาวเวอร์ซัพพลายรุ่นนี้ได้รับการรับรองมาตรฐาน 80 Plus Platinum ที่มีประสิทธิภาพสูงถึง 92% ที่โหลด 50% ช่วยลดพลังงานที่สูญเสียเป็นความร้อน -รองรับการใช้งานกับมาตรฐาน ATX 3.1 และ PCIe 5.1 ซึ่งเหมาะสำหรับอุปกรณ์รุ่นใหม่ที่ต้องการพลังงานสูง 2) การออกแบบเพื่อความเสถียรและความคงทน - ใช้วัสดุ Japanese capacitors ที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพและความน่าเชื่อถือ - รองรับการจ่ายไฟผ่าน +12V rail ที่สูงถึง 2,799.6W เพียงพอสำหรับการประมวลผลของ GPU และอุปกรณ์เสริม 3)การรองรับการเชื่อมต่อที่หลากหลาย - มีช่องเชื่อมต่อทั้งหมด 19 พอร์ต รวมถึง 8-pin และ 6-pin connectors สำหรับอุปกรณ์ต่าง ๆ - รองรับการใช้งาน GPU ได้ถึง 4 ตัว หรือ 2 ตัวในกรณีที่ใช้ GPU รุ่นที่ต้องการ dual 16-pin connectors 4) เหมาะสำหรับงานประมวลผลหนัก - การออกแบบเหมาะสำหรับเวิร์กสเตชันที่ต้องการความเสถียรในงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่น AI, การประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ และงานเรนเดอร์ระดับมืออาชีพ พาวเวอร์ซัพพลายรุ่นนี้มีราคาสำหรับการสั่งจองล่วงหน้าที่ $899 และมาพร้อมการรับประกันยาวนานถึง 10 ปี แม้ว่ากำลังไฟที่มากขนาดนี้อาจเกินความจำเป็นสำหรับการเล่นเกม แต่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานในสายงาน AI หรือ Data Science ซึ่งต้องการความเสถียรในระยะยาว https://www.tomshardware.com/pc-components/power-supplies/super-flowers-beastly-2800w-power-supply-lands-at-usd899-enough-juice-to-power-a-couple-of-rtx-5090-gpus
    0 Comments 0 Shares 498 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 193 Views 0 Reviews
  • ข่าวนี้เล่าถึงการเปิดตัวของการ์ดจอที่ทรงพลังที่สุดจาก Nvidia ในรุ่น RTX Pro 6000 Blackwell ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่องานระดับมืออาชีพ โดยข้อมูลที่หลุดออกมาระบุว่าการ์ดจอตัวนี้จะมาพร้อม 24,064 CUDA cores และหน่วยความจำ GDDR7 ขนาด 96GB พร้อมระบบ ECC (Error Correction Code) ที่ช่วยให้การประมวลผลข้อมูลมีความแม่นยำยิ่งขึ้น

    จุดเด่นที่น่าสนใจของ RTX Pro 6000 Blackwell
    1) พลังการประมวลผลสูงสุด
    - มาพร้อมกับการเชื่อมต่อแบบ 512-bit memory interface เพื่อรองรับการทำงานที่ต้องใช้ประสิทธิภาพสูง เช่น การพัฒนาเกม, การออกแบบ CAD, และงานด้านการเรนเดอร์ระดับสูง

    2) กำลังไฟสูงถึง 600W
    - ใช้พลังงานผ่าน PCIe 5.0 16-pin connector ซึ่งเป็นพลังงานที่สูงมาก แต่เหมาะสมกับศักยภาพที่การ์ดจอตัวนี้นำเสนอ

    3) ระบบระบายความร้อนแบบใหม่
    - แตกต่างจากการ์ดรุ่นก่อนหน้าโดยใช้ dual-flow-through cooling system เพื่อจัดการความร้อนในระหว่างการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ

    Nvidia ออกแบบการ์ดจอ RTX Pro 6000 Blackwell สำหรับงานด้าน AI และการฝึกโมเดลขนาดใหญ่ ซึ่งหน่วยความจำที่สูงถึง 96GB นับว่าเกินความจำเป็นสำหรับงานบางประเภท แต่เหมาะสำหรับนักพัฒนาและนักสร้างสรรค์มืออาชีพ

    มีการคาดการณ์ว่าการ์ดจอตัวนี้จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน GPU Technology Conference (GTC) ในเดือนมีนาคม 2025 โดยราคาน่าจะอยู่ในช่วง 6,000-8,000 ดอลลาร์สหรัฐ

    https://www.techradar.com/pro/details-of-nvidias-fastest-video-card-ever-leak-rtx-pro-6000-blackwell-gpu-will-have-96gb-gddr7-ecc-memory
    ข่าวนี้เล่าถึงการเปิดตัวของการ์ดจอที่ทรงพลังที่สุดจาก Nvidia ในรุ่น RTX Pro 6000 Blackwell ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่องานระดับมืออาชีพ โดยข้อมูลที่หลุดออกมาระบุว่าการ์ดจอตัวนี้จะมาพร้อม 24,064 CUDA cores และหน่วยความจำ GDDR7 ขนาด 96GB พร้อมระบบ ECC (Error Correction Code) ที่ช่วยให้การประมวลผลข้อมูลมีความแม่นยำยิ่งขึ้น จุดเด่นที่น่าสนใจของ RTX Pro 6000 Blackwell 1) พลังการประมวลผลสูงสุด - มาพร้อมกับการเชื่อมต่อแบบ 512-bit memory interface เพื่อรองรับการทำงานที่ต้องใช้ประสิทธิภาพสูง เช่น การพัฒนาเกม, การออกแบบ CAD, และงานด้านการเรนเดอร์ระดับสูง 2) กำลังไฟสูงถึง 600W - ใช้พลังงานผ่าน PCIe 5.0 16-pin connector ซึ่งเป็นพลังงานที่สูงมาก แต่เหมาะสมกับศักยภาพที่การ์ดจอตัวนี้นำเสนอ 3) ระบบระบายความร้อนแบบใหม่ - แตกต่างจากการ์ดรุ่นก่อนหน้าโดยใช้ dual-flow-through cooling system เพื่อจัดการความร้อนในระหว่างการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ Nvidia ออกแบบการ์ดจอ RTX Pro 6000 Blackwell สำหรับงานด้าน AI และการฝึกโมเดลขนาดใหญ่ ซึ่งหน่วยความจำที่สูงถึง 96GB นับว่าเกินความจำเป็นสำหรับงานบางประเภท แต่เหมาะสำหรับนักพัฒนาและนักสร้างสรรค์มืออาชีพ มีการคาดการณ์ว่าการ์ดจอตัวนี้จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน GPU Technology Conference (GTC) ในเดือนมีนาคม 2025 โดยราคาน่าจะอยู่ในช่วง 6,000-8,000 ดอลลาร์สหรัฐ https://www.techradar.com/pro/details-of-nvidias-fastest-video-card-ever-leak-rtx-pro-6000-blackwell-gpu-will-have-96gb-gddr7-ecc-memory
    WWW.TECHRADAR.COM
    The RTX Pro 6000 Blackwell GPU is probably going to be Nvidia's most expensive video card ever
    The Nvidia power hungry beast has a 600W TGP, over twice that of the RTX 6000 Ada
    0 Comments 0 Shares 457 Views 0 Reviews
  • ข่าวนี้พูดถึงปัญหาที่ธุรกิจทั่วโลกเผชิญในปี 2024 จากการโจมตีไซเบอร์ที่ซับซ้อนขึ้น โดยพบว่าองค์กรต่าง ๆ ได้รับอีเมลกว่า 20.5 พันล้านฉบับ ซึ่งประมาณ 36.9% ของอีเมลทั้งหมดเป็นอีเมลที่ไม่พึงประสงค์ และในจำนวนนี้ 2.3% หรือกว่า 427 ล้านฉบับ เป็นอีเมลที่มีเนื้อหามุ่งร้าย เช่น ฟิชชิงและการโจมตีด้วย URL อันตราย

    == แนวโน้มการโจมตีที่น่าสนใจ ==
    1) ฟิชชิงยังคงครองสัดส่วนมากที่สุด
    - ฟิชชิงคิดเป็น 1 ใน 3 ของการโจมตีทั้งหมด โดยอาศัยการหลอกล่อให้ผู้ใช้งานกรอกข้อมูลในเว็บไซต์ปลอมที่ดูเหมือนเว็บไซต์จริง เช่น อีเมลปลอมจากแบรนด์ชื่อดังอย่าง DHL และ Netflix

    2) การใช้ Reverse Proxy เพื่อขโมยข้อมูลรับรอง
    - เทคนิคใหม่นี้สามารถเลี่ยงระบบยืนยันตัวตน 2 ขั้นตอน (2FA) ได้ โดยอาศัยหน้าเข้าสู่ระบบปลอมและเครื่องมืออย่าง Evilginx เพื่อดักจับข้อมูลการเข้าสู่ระบบของผู้ใช้งานแบบเรียลไทม์

    3) URL อันตรายเพิ่มขึ้น
    - URL อันตรายมีสัดส่วนถึง 22.7% ของกลยุทธ์การโจมตี ซึ่งเป็นการพุ่งเป้าผู้ใช้งานมากกว่าการแนบไฟล์ไวรัสในอดีต

    == อุตสาหกรรมที่ตกเป็นเป้าหมาย ==
    ธุรกิจในกลุ่มเหมืองแร่ ความบันเทิง และการผลิตถูกระบุว่าเผชิญความเสี่ยงสูงที่สุด โดยมีการโจมตีแบบ ransomware และ double-extortion scams อย่างต่อเนื่อง

    == การตอบโต้และแนวทางป้องกัน ==
    - ใช้ระบบกรองอีเมลขั้นสูง
    - พัฒนามาตรการยืนยันตัวตนหลายชั้นที่สามารถต้านการโจมตี 2FA ได้
    - ฝึกอบรมพนักงานให้สามารถระบุอีเมลฟิชชิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ซีอีโอของ Hornetsecurity ชี้ว่าการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์โจมตีที่เน้นใช้ social engineering มากขึ้น เป็นความท้าทายที่ทำให้องค์กรจำเป็นต้องพัฒนาวัฒนธรรมด้านความปลอดภัย โดยการสร้างความเข้าใจว่าพนักงานทุกคนมีบทบาทสำคัญในป้องกันภัยไซเบอร์

    https://www.techradar.com/pro/security/over-400-million-unwanted-and-malicious-emails-were-received-by-businesses
    ข่าวนี้พูดถึงปัญหาที่ธุรกิจทั่วโลกเผชิญในปี 2024 จากการโจมตีไซเบอร์ที่ซับซ้อนขึ้น โดยพบว่าองค์กรต่าง ๆ ได้รับอีเมลกว่า 20.5 พันล้านฉบับ ซึ่งประมาณ 36.9% ของอีเมลทั้งหมดเป็นอีเมลที่ไม่พึงประสงค์ และในจำนวนนี้ 2.3% หรือกว่า 427 ล้านฉบับ เป็นอีเมลที่มีเนื้อหามุ่งร้าย เช่น ฟิชชิงและการโจมตีด้วย URL อันตราย == แนวโน้มการโจมตีที่น่าสนใจ == 1) ฟิชชิงยังคงครองสัดส่วนมากที่สุด - ฟิชชิงคิดเป็น 1 ใน 3 ของการโจมตีทั้งหมด โดยอาศัยการหลอกล่อให้ผู้ใช้งานกรอกข้อมูลในเว็บไซต์ปลอมที่ดูเหมือนเว็บไซต์จริง เช่น อีเมลปลอมจากแบรนด์ชื่อดังอย่าง DHL และ Netflix 2) การใช้ Reverse Proxy เพื่อขโมยข้อมูลรับรอง - เทคนิคใหม่นี้สามารถเลี่ยงระบบยืนยันตัวตน 2 ขั้นตอน (2FA) ได้ โดยอาศัยหน้าเข้าสู่ระบบปลอมและเครื่องมืออย่าง Evilginx เพื่อดักจับข้อมูลการเข้าสู่ระบบของผู้ใช้งานแบบเรียลไทม์ 3) URL อันตรายเพิ่มขึ้น - URL อันตรายมีสัดส่วนถึง 22.7% ของกลยุทธ์การโจมตี ซึ่งเป็นการพุ่งเป้าผู้ใช้งานมากกว่าการแนบไฟล์ไวรัสในอดีต == อุตสาหกรรมที่ตกเป็นเป้าหมาย == ธุรกิจในกลุ่มเหมืองแร่ ความบันเทิง และการผลิตถูกระบุว่าเผชิญความเสี่ยงสูงที่สุด โดยมีการโจมตีแบบ ransomware และ double-extortion scams อย่างต่อเนื่อง == การตอบโต้และแนวทางป้องกัน == - ใช้ระบบกรองอีเมลขั้นสูง - พัฒนามาตรการยืนยันตัวตนหลายชั้นที่สามารถต้านการโจมตี 2FA ได้ - ฝึกอบรมพนักงานให้สามารถระบุอีเมลฟิชชิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซีอีโอของ Hornetsecurity ชี้ว่าการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์โจมตีที่เน้นใช้ social engineering มากขึ้น เป็นความท้าทายที่ทำให้องค์กรจำเป็นต้องพัฒนาวัฒนธรรมด้านความปลอดภัย โดยการสร้างความเข้าใจว่าพนักงานทุกคนมีบทบาทสำคัญในป้องกันภัยไซเบอร์ https://www.techradar.com/pro/security/over-400-million-unwanted-and-malicious-emails-were-received-by-businesses
    0 Comments 0 Shares 567 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 166 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 198 Views 0 Reviews
  • ข่าวนี้เผยถึงความคืบหน้าในโครงการพัฒนาชิป AI ของ Meta หรือบริษัทแม่ของ Facebook ซึ่งกำลังดำเนินการทดสอบชิปที่ออกแบบมาใช้สำหรับงานปัญญาประดิษฐ์โดยเฉพาะ ชิปนี้พัฒนาโดยความร่วมมือกับ TSMC ผู้ผลิตชั้นนำจากไต้หวัน และมีชื่ออยู่ในโปรแกรมที่เรียกว่า Meta Training and Inference Accelerator (MTIA) โดยเป้าหมายสำคัญคือการลดการพึ่งพาอุปกรณ์จาก Nvidia ซึ่งเป็นผู้ผลิต GPU รายใหญ่

    == รายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับชิป AI ของ Meta ==
    1) การออกแบบเพื่อประสิทธิภาพเฉพาะด้าน ชิปนี้ถูกออกแบบให้เหมาะสำหรับการฝึกและประมวลผลโมเดล AI โดยใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าการใช้ GPU แบบทั่วไป

    2) การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ในปี 2023 Meta ได้เปิดตัวชิป AI รุ่นแรกที่รองรับการจัดอันดับและระบบคำแนะนำสำหรับ Facebook และ Instagram จากนั้นในปี 2024 บริษัทได้เผยชิปเวอร์ชันใหม่ที่เพิ่มประสิทธิภาพการคำนวณและแบนด์วิดท์หน่วยความจำเป็นสองเท่า

    3) การใช้งานสถาปัตยกรรม RISC-V ชิปนี้ใช้สถาปัตยกรรม RISC-V แบบโอเพ่นซอร์ส ซึ่งเป็นทางเลือกใหม่สำหรับการพัฒนา AI ที่ต้องการเสถียรภาพและต้นทุนที่เหมาะสม

    ความเคลื่อนไหวนี้ไม่เพียงแค่ลดต้นทุนการพึ่งพา Nvidia แต่ยังสะท้อนถึงการแข่งขันในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่เน้นการควบคุมโครงสร้างพื้นฐานของตนเอง หากการทดสอบสำเร็จลุล่วง Meta วางแผนจะใช้ชิปนี้อย่างเต็มรูปแบบในปีถัดไป เพื่อเสริมศักยภาพระบบ AI ของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย


    https://www.techradar.com/pro/meta-powers-ahead-with-conscious-chip-uncoupling-with-nvidia-as-it-tests-its-first-in-house-training-ai-pu
    ข่าวนี้เผยถึงความคืบหน้าในโครงการพัฒนาชิป AI ของ Meta หรือบริษัทแม่ของ Facebook ซึ่งกำลังดำเนินการทดสอบชิปที่ออกแบบมาใช้สำหรับงานปัญญาประดิษฐ์โดยเฉพาะ ชิปนี้พัฒนาโดยความร่วมมือกับ TSMC ผู้ผลิตชั้นนำจากไต้หวัน และมีชื่ออยู่ในโปรแกรมที่เรียกว่า Meta Training and Inference Accelerator (MTIA) โดยเป้าหมายสำคัญคือการลดการพึ่งพาอุปกรณ์จาก Nvidia ซึ่งเป็นผู้ผลิต GPU รายใหญ่ == รายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับชิป AI ของ Meta == 1) การออกแบบเพื่อประสิทธิภาพเฉพาะด้าน ชิปนี้ถูกออกแบบให้เหมาะสำหรับการฝึกและประมวลผลโมเดล AI โดยใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าการใช้ GPU แบบทั่วไป 2) การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ในปี 2023 Meta ได้เปิดตัวชิป AI รุ่นแรกที่รองรับการจัดอันดับและระบบคำแนะนำสำหรับ Facebook และ Instagram จากนั้นในปี 2024 บริษัทได้เผยชิปเวอร์ชันใหม่ที่เพิ่มประสิทธิภาพการคำนวณและแบนด์วิดท์หน่วยความจำเป็นสองเท่า 3) การใช้งานสถาปัตยกรรม RISC-V ชิปนี้ใช้สถาปัตยกรรม RISC-V แบบโอเพ่นซอร์ส ซึ่งเป็นทางเลือกใหม่สำหรับการพัฒนา AI ที่ต้องการเสถียรภาพและต้นทุนที่เหมาะสม ความเคลื่อนไหวนี้ไม่เพียงแค่ลดต้นทุนการพึ่งพา Nvidia แต่ยังสะท้อนถึงการแข่งขันในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่เน้นการควบคุมโครงสร้างพื้นฐานของตนเอง หากการทดสอบสำเร็จลุล่วง Meta วางแผนจะใช้ชิปนี้อย่างเต็มรูปแบบในปีถัดไป เพื่อเสริมศักยภาพระบบ AI ของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย https://www.techradar.com/pro/meta-powers-ahead-with-conscious-chip-uncoupling-with-nvidia-as-it-tests-its-first-in-house-training-ai-pu
    0 Comments 0 Shares 433 Views 0 Reviews
  • นวัตกรรมใหม่ในการระบายความร้อนเซิร์ฟเวอร์ GPU ที่ใช้ใน AI ตอนนี้หันมาใช้ "เพชร" เป็นตัวช่วย เพราะมันสามารถระบายความร้อนได้ดีกว่าวัสดุเดิมๆ อย่างทองแดงหลายเท่า เซิร์ฟเวอร์ที่มีเทคโนโลยีนี้ไม่เพียงแต่ลดความร้อนได้ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยประหยัดพลังงานและยืดอายุการใช้งานได้อีกด้วย และเมื่อใช้ร่วมกับเทคโนโลยีล้ำๆ อย่างการระบายความร้อนด้วยของเหลว ความเร็วและประสิทธิภาพในการประมวลผล AI ก็เพิ่มขึ้นอย่างน่าทึ่ง NxtGen Data Centers ในอินเดียก็เข้าร่วมใช้เทคโนโลยีนี้ ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายได้มากและเพิ่มความคุ้มค่าให้กับลูกค้าอีกด้วย

    https://www.techradar.com/pro/diamond-set-to-become-mainstream-coolant-for-ai-gpu-servers-as-worlds-best-thermal-conductor-promises-25-better-overclocking-and-double-performance-per-watt
    นวัตกรรมใหม่ในการระบายความร้อนเซิร์ฟเวอร์ GPU ที่ใช้ใน AI ตอนนี้หันมาใช้ "เพชร" เป็นตัวช่วย เพราะมันสามารถระบายความร้อนได้ดีกว่าวัสดุเดิมๆ อย่างทองแดงหลายเท่า เซิร์ฟเวอร์ที่มีเทคโนโลยีนี้ไม่เพียงแต่ลดความร้อนได้ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยประหยัดพลังงานและยืดอายุการใช้งานได้อีกด้วย และเมื่อใช้ร่วมกับเทคโนโลยีล้ำๆ อย่างการระบายความร้อนด้วยของเหลว ความเร็วและประสิทธิภาพในการประมวลผล AI ก็เพิ่มขึ้นอย่างน่าทึ่ง NxtGen Data Centers ในอินเดียก็เข้าร่วมใช้เทคโนโลยีนี้ ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายได้มากและเพิ่มความคุ้มค่าให้กับลูกค้าอีกด้วย https://www.techradar.com/pro/diamond-set-to-become-mainstream-coolant-for-ai-gpu-servers-as-worlds-best-thermal-conductor-promises-25-better-overclocking-and-double-performance-per-watt
    0 Comments 0 Shares 364 Views 0 Reviews
  • ตอนนี้เทคโนโลยี Generative AI หรือ AI สร้างสรรค์ กำลังเข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกไซเบอร์ซีเคียวริตี้ไปอย่างมาก เพราะมันช่วยให้เราตรวจจับภัยคุกคามอย่างรวดเร็ว และเพิ่มความสามารถในการป้องกันระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ในขณะเดียวกัน เจ้า AI ตัวนี้ก็เป็นเหมือนดาบสองคม เพราะผู้ไม่หวังดีก็ใช้มันสร้างความเสียหายที่ซับซ้อนและยากต่อการจัดการขึ้นด้วย เช่น การหลอกลวงแบบฟิชชิงที่ดูเหมือนจริงจนน่ากลัว ดังนั้น องค์กรต้องเร่งฝึกอบรมทีมงานให้เก่งขึ้นในเรื่องนี้ และที่สำคัญกว่านั้นคือการบริหารจัดการข้อมูลให้ AI ใช้งานได้ง่ายและครบถ้วนมากขึ้น จะได้ช่วยสร้างระบบป้องกันที่แข็งแกร่งและตามทันโลกที่เปลี่ยนแปลงเร็วนี้

    https://www.techradar.com/pro/security/take-it-or-leave-it-generative-ai-has-a-long-way-to-go-as-siloed-data-and-abuse-of-its-capacity-remain-a-downside-though-it-is-a-game-changer-for-security-teams
    ตอนนี้เทคโนโลยี Generative AI หรือ AI สร้างสรรค์ กำลังเข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกไซเบอร์ซีเคียวริตี้ไปอย่างมาก เพราะมันช่วยให้เราตรวจจับภัยคุกคามอย่างรวดเร็ว และเพิ่มความสามารถในการป้องกันระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ในขณะเดียวกัน เจ้า AI ตัวนี้ก็เป็นเหมือนดาบสองคม เพราะผู้ไม่หวังดีก็ใช้มันสร้างความเสียหายที่ซับซ้อนและยากต่อการจัดการขึ้นด้วย เช่น การหลอกลวงแบบฟิชชิงที่ดูเหมือนจริงจนน่ากลัว ดังนั้น องค์กรต้องเร่งฝึกอบรมทีมงานให้เก่งขึ้นในเรื่องนี้ และที่สำคัญกว่านั้นคือการบริหารจัดการข้อมูลให้ AI ใช้งานได้ง่ายและครบถ้วนมากขึ้น จะได้ช่วยสร้างระบบป้องกันที่แข็งแกร่งและตามทันโลกที่เปลี่ยนแปลงเร็วนี้ https://www.techradar.com/pro/security/take-it-or-leave-it-generative-ai-has-a-long-way-to-go-as-siloed-data-and-abuse-of-its-capacity-remain-a-downside-though-it-is-a-game-changer-for-security-teams
    0 Comments 0 Shares 385 Views 0 Reviews
  • ช่วงนี้การ์ดจอรุ่นใหม่อย่าง NVIDIA RTX 50 Series ราคาแพงจนน่าตกใจ เพราะต้นทุนการผลิตของ GPU กับ VRAM นั้นสูงถึง 80% ของทั้งหมด ผู้ผลิตเองยังบ่นว่าถ้าขายราคาตามที่บริษัทกำหนดไว้ก็แทบไม่ได้กำไร จึงเลือกขายรุ่นที่ปรับแต่ง (OC) ซึ่งปรับราคาสูงขึ้นอีก ที่แย่กว่านั้นคือสินค้าไม่พอขาย ทำให้ราคาสูงขึ้นไปอีกในตลาด แต่ข่าวดีก็คือ มีความหวังว่าสินค้าจะพร้อมจำหน่ายมากขึ้นในเร็วๆ นี้ ซึ่งจะช่วยให้ราคากลับมามีเสถียรภาพ

    https://wccftech.com/gpu-vendor-says-gpu-vram-combo-makes-up-to-80-of-total-cost-nvidia-rtx-50-series/
    ช่วงนี้การ์ดจอรุ่นใหม่อย่าง NVIDIA RTX 50 Series ราคาแพงจนน่าตกใจ เพราะต้นทุนการผลิตของ GPU กับ VRAM นั้นสูงถึง 80% ของทั้งหมด ผู้ผลิตเองยังบ่นว่าถ้าขายราคาตามที่บริษัทกำหนดไว้ก็แทบไม่ได้กำไร จึงเลือกขายรุ่นที่ปรับแต่ง (OC) ซึ่งปรับราคาสูงขึ้นอีก ที่แย่กว่านั้นคือสินค้าไม่พอขาย ทำให้ราคาสูงขึ้นไปอีกในตลาด แต่ข่าวดีก็คือ มีความหวังว่าสินค้าจะพร้อมจำหน่ายมากขึ้นในเร็วๆ นี้ ซึ่งจะช่วยให้ราคากลับมามีเสถียรภาพ https://wccftech.com/gpu-vendor-says-gpu-vram-combo-makes-up-to-80-of-total-cost-nvidia-rtx-50-series/
    WCCFTECH.COM
    GPU Vendor Reveal The Reason For Higher NVIDIA RTX 50 Series Costs; Says GPU & VRAM Combo Makes Up To 80% Of Total Cost
    An NVIDIA partner in China confirmed that total cost of an RTX 50 series GPU comprises 80% of the chip & VRAM, making MSRP prices difficult.
    0 Comments 0 Shares 297 Views 0 Reviews
  • Huawei กำลังพัฒนาชิปคอมพิวเตอร์ ARM ของตัวเองที่ชื่อว่า X90 โดยมีเป้าหมายเพื่อลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างชาติ แม้ว่าจะถูกจำกัดจากมาตรการคว่ำบาตรทางการค้าของสหรัฐฯ ทำให้ Huawei ต้องใช้เทคโนโลยีผลิตชิปขนาด 7 นาโนเมตรซึ่งยังล้าหลังคู่แข่ง แต่ Huawei ก็พยายามเต็มที่ ด้วยระบบปฏิบัติการ HarmonyOS NEXT ที่ช่วยให้การทำงานราบรื่น และเทคโนโลยี RAM ใหม่ที่เพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน ชิป X90 นี้ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับ Huawei ในการสร้างนวัตกรรมของตัวเองท่ามกลางความท้าทายระดับโลก

    https://wccftech.com/huawei-x90-name-of-first-arm-based-computer-soc/
    Huawei กำลังพัฒนาชิปคอมพิวเตอร์ ARM ของตัวเองที่ชื่อว่า X90 โดยมีเป้าหมายเพื่อลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างชาติ แม้ว่าจะถูกจำกัดจากมาตรการคว่ำบาตรทางการค้าของสหรัฐฯ ทำให้ Huawei ต้องใช้เทคโนโลยีผลิตชิปขนาด 7 นาโนเมตรซึ่งยังล้าหลังคู่แข่ง แต่ Huawei ก็พยายามเต็มที่ ด้วยระบบปฏิบัติการ HarmonyOS NEXT ที่ช่วยให้การทำงานราบรื่น และเทคโนโลยี RAM ใหม่ที่เพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน ชิป X90 นี้ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับ Huawei ในการสร้างนวัตกรรมของตัวเองท่ามกลางความท้าทายระดับโลก https://wccftech.com/huawei-x90-name-of-first-arm-based-computer-soc/
    WCCFTECH.COM
    Huawei’s First ARM-Based Computer SoC To Be Called The X90, According To The Latest Leak, But Launch Timeline, Or Specifications Details Have Not Been Mentioned
    The former Chinese giant Huawei could be close to unveiling its first custom ARM-based computer chipset, with its named said to be called X90
    0 Comments 0 Shares 281 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 156 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 170 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 148 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 146 Views 0 Reviews
  • https://youtu.be/q9XO0bRmIH4?si=KKU6DlBYipPL6MW5
    https://youtu.be/q9XO0bRmIH4?si=KKU6DlBYipPL6MW5
    0 Comments 0 Shares 165 Views 0 Reviews
  • 3 Comments 0 Shares 143 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 212 Views 0 0 Reviews
  • https://youtu.be/mLWByPu_RlU?si=MNwYSIeLBqHGdIrd
    https://youtu.be/mLWByPu_RlU?si=MNwYSIeLBqHGdIrd
    0 Comments 0 Shares 134 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 242 Views 0 0 Reviews
  • Live ช่วงบ่าย | ความจริงมีหนึ่งเดียวทวงความยุติธรรมให้ประเทศไทย ครั้งที่1 2568

    งาน ความจริงมีหนึ่งเดียว ครั้งแรกของปี2568 งานนี้จัดเต็มอีกเช่นเคย กับ คดีแตงโมที่คนทั้งประเทศสงสัยกันมากมาย
    ณ หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์

    #Live #Liveสด #sondhitalk #ช่วงบ่าย #ความจริงมีหนึ่งเดียว #ครั้งที่1ปี2568 #thaitimes
    0 Comments 0 Shares 134 Views 0 Reviews
  • https://youtu.be/rK113qP9fSQ?si=1Fya5KZEqsl5Xwsv
    https://youtu.be/rK113qP9fSQ?si=1Fya5KZEqsl5Xwsv
    0 Comments 0 Shares 109 Views 0 Reviews
  • #ความจริงมีหนึ่งเดียวทวงคืนความยุติธรรมให้ประเทศไทย
    #ความจริงมีหนึ่งเดียวทวงคืนความยุติธรรมให้ประเทศไทย
    0 Comments 0 Shares 460 Views 0 Reviews