• ในขณะที่เทคโนโลยี GenAI ถูกมองว่าเป็นตัวช่วยสำคัญสำหรับองค์กรในการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงาน แต่การนำมาใช้งานกลับเผชิญกับอุปสรรคที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีเองโดยตรง แต่เกิดจาก "การขาดการฝึกอบรมพนักงาน" ซึ่งกลายเป็นปัญหาหลัก

    จากการสำรวจพบว่า มีเพียง 45% ขององค์กรที่ให้การอบรมพื้นฐานเกี่ยวกับ GenAI และแค่ 40% ที่เสนอการฝึกอบรมเฉพาะทางสำหรับแอปพลิเคชันที่ใช้เทคโนโลยีนี้ สิ่งนี้ทำให้พนักงานส่วนใหญ่มักต้องเรียนรู้วิธีใช้เครื่องมือด้วยตัวเอง หรือไม่ก็เลือกที่จะไม่ลองใช้เลย ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่เหมาะสมสำหรับเทคโนโลยีที่มีศักยภาพในการพลิกโฉมวิธีการทำงาน

    ประเด็นที่น่าสนใจเพิ่มเติม:
    - การเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงาน: GenAI ไม่ได้เป็นแค่การปรับปรุงเล็กๆ แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการทำงานใหม่ทั้งหมด
    - ความท้าทายในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม: แม้บางองค์กรจะมีการฝึกอบรม แต่ก็พบว่าพนักงานมักยึดติดกับการใช้เครื่องมือเดิมๆ เช่น Microsoft Office หรือ Google Workspace ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการปรับตัว
    - การปรับปรุงอินเทอร์เฟซ: อินเทอร์เฟซของ GenAI ที่มีอยู่ในปัจจุบันยังดูเหมือนไม่สมบูรณ์และใช้งานยาก เช่น การใช้ข้อความสั่งงานที่ไม่สะดวกหรือการเชื่อมต่อที่ไม่ราบรื่น

    การนำ GenAI มาใช้ให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดจำเป็นต้องเริ่มจากการลงทุนในการฝึกอบรมพนักงานอย่างจริงจัง องค์กรควรมีแผนการศึกษาและการพัฒนาที่ชัดเจน เพื่อให้พนักงานเข้าใจและสามารถใช้งานเทคโนโลยีนี้ได้อย่างเต็มศักยภาพ นอกจากนี้ ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ควรเน้นการสร้างระบบที่ใช้ง่ายและเข้าถึงได้ดียิ่งขึ้น

    https://www.techspot.com/news/107136-biggest-barrier-enterprise-ai-adoption-isnt-technology-training.html
    ในขณะที่เทคโนโลยี GenAI ถูกมองว่าเป็นตัวช่วยสำคัญสำหรับองค์กรในการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงาน แต่การนำมาใช้งานกลับเผชิญกับอุปสรรคที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีเองโดยตรง แต่เกิดจาก "การขาดการฝึกอบรมพนักงาน" ซึ่งกลายเป็นปัญหาหลัก จากการสำรวจพบว่า มีเพียง 45% ขององค์กรที่ให้การอบรมพื้นฐานเกี่ยวกับ GenAI และแค่ 40% ที่เสนอการฝึกอบรมเฉพาะทางสำหรับแอปพลิเคชันที่ใช้เทคโนโลยีนี้ สิ่งนี้ทำให้พนักงานส่วนใหญ่มักต้องเรียนรู้วิธีใช้เครื่องมือด้วยตัวเอง หรือไม่ก็เลือกที่จะไม่ลองใช้เลย ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่เหมาะสมสำหรับเทคโนโลยีที่มีศักยภาพในการพลิกโฉมวิธีการทำงาน ประเด็นที่น่าสนใจเพิ่มเติม: - การเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงาน: GenAI ไม่ได้เป็นแค่การปรับปรุงเล็กๆ แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการทำงานใหม่ทั้งหมด - ความท้าทายในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม: แม้บางองค์กรจะมีการฝึกอบรม แต่ก็พบว่าพนักงานมักยึดติดกับการใช้เครื่องมือเดิมๆ เช่น Microsoft Office หรือ Google Workspace ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการปรับตัว - การปรับปรุงอินเทอร์เฟซ: อินเทอร์เฟซของ GenAI ที่มีอยู่ในปัจจุบันยังดูเหมือนไม่สมบูรณ์และใช้งานยาก เช่น การใช้ข้อความสั่งงานที่ไม่สะดวกหรือการเชื่อมต่อที่ไม่ราบรื่น การนำ GenAI มาใช้ให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดจำเป็นต้องเริ่มจากการลงทุนในการฝึกอบรมพนักงานอย่างจริงจัง องค์กรควรมีแผนการศึกษาและการพัฒนาที่ชัดเจน เพื่อให้พนักงานเข้าใจและสามารถใช้งานเทคโนโลยีนี้ได้อย่างเต็มศักยภาพ นอกจากนี้ ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ควรเน้นการสร้างระบบที่ใช้ง่ายและเข้าถึงได้ดียิ่งขึ้น https://www.techspot.com/news/107136-biggest-barrier-enterprise-ai-adoption-isnt-technology-training.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    The biggest barrier to enterprise AI adoption isn't technology - it's training
    One of the biggest questions currently facing the tech industry is how quickly and extensively enterprises worldwide will adopt GenAI applications and services. My in-depth research report...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 437 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft กับก้าวกระโดดครั้งใหม่ของ TypeScript หากคุณเป็นนักพัฒนาที่ใช้ TypeScript คุณอาจเคยเจอปัญหาโหลดโค้ดนานหรือคอมไพล์ที่กินเวลานาน โดยเฉพาะในโครงการที่มีขนาดใหญ่ ตอนนี้ Microsoft มีคำตอบด้วยการพัฒนา TypeScript ให้สามารถทำงานได้เร็วขึ้นโดยอาศัยการเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานไปใช้กับภาษา Go แทน JavaScript ในปัจจุบัน

    ประโยชน์ที่เด่นชัดที่สุด:
    1) ความเร็ว: Startup time ของโปรแกรมและเวลาในการคอมไพล์โค้ดลดลง 10 เท่า
    2) การใช้หน่วยความจำที่มีประสิทธิภาพ: หน่วยความจำลดลงเกือบครึ่งเมื่อเทียบกับเวอร์ชันเก่า
    3) รองรับโครงการใหญ่: ปัญหาการโหลดโค้ดขนาดใหญ่จะไม่เป็นอุปสรรคอีกต่อไป

    Microsoft ยังเน้นการปรับปรุงเพื่อช่วยนักพัฒนาที่ทำงานกับ AI ซึ่งต้องการเครื่องมือที่รวดเร็วเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ในเวลาสั้นๆ ผลลัพธ์คือประสิทธิภาพในการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ดีกว่าที่เคย

    ตัวอย่างความสำเร็จที่น่าสนใจ เช่น เมื่อทดสอบกับโปรเจ็กต์ยอดนิยมใน GitHub อย่าง TypeORM ผลลัพธ์ที่ได้แสดงถึงความเร็วที่เพิ่มขึ้นถึง 13.5 เท่า!

    ในอนาคต Microsoft มีแผนเปิดตัว TypeScript เวอร์ชัน 7.0 ที่พัฒนาใน Go เพื่อช่วยนักพัฒนาให้ทำงานได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น พร้อมทั้งยังคงสนับสนุน TypeScript เวอร์ชันเก่าสำหรับการเปลี่ยนผ่านที่ราบรื่น

    https://www.techspot.com/news/107139-microsoft-making-typescript-10x-faster-native-implementation-go.html
    Microsoft กับก้าวกระโดดครั้งใหม่ของ TypeScript หากคุณเป็นนักพัฒนาที่ใช้ TypeScript คุณอาจเคยเจอปัญหาโหลดโค้ดนานหรือคอมไพล์ที่กินเวลานาน โดยเฉพาะในโครงการที่มีขนาดใหญ่ ตอนนี้ Microsoft มีคำตอบด้วยการพัฒนา TypeScript ให้สามารถทำงานได้เร็วขึ้นโดยอาศัยการเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานไปใช้กับภาษา Go แทน JavaScript ในปัจจุบัน ประโยชน์ที่เด่นชัดที่สุด: 1) ความเร็ว: Startup time ของโปรแกรมและเวลาในการคอมไพล์โค้ดลดลง 10 เท่า 2) การใช้หน่วยความจำที่มีประสิทธิภาพ: หน่วยความจำลดลงเกือบครึ่งเมื่อเทียบกับเวอร์ชันเก่า 3) รองรับโครงการใหญ่: ปัญหาการโหลดโค้ดขนาดใหญ่จะไม่เป็นอุปสรรคอีกต่อไป Microsoft ยังเน้นการปรับปรุงเพื่อช่วยนักพัฒนาที่ทำงานกับ AI ซึ่งต้องการเครื่องมือที่รวดเร็วเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ในเวลาสั้นๆ ผลลัพธ์คือประสิทธิภาพในการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ดีกว่าที่เคย ตัวอย่างความสำเร็จที่น่าสนใจ เช่น เมื่อทดสอบกับโปรเจ็กต์ยอดนิยมใน GitHub อย่าง TypeORM ผลลัพธ์ที่ได้แสดงถึงความเร็วที่เพิ่มขึ้นถึง 13.5 เท่า! ในอนาคต Microsoft มีแผนเปิดตัว TypeScript เวอร์ชัน 7.0 ที่พัฒนาใน Go เพื่อช่วยนักพัฒนาให้ทำงานได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น พร้อมทั้งยังคงสนับสนุน TypeScript เวอร์ชันเก่าสำหรับการเปลี่ยนผ่านที่ราบรื่น https://www.techspot.com/news/107139-microsoft-making-typescript-10x-faster-native-implementation-go.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Microsoft is making TypeScript 10x faster with native implementation in Go
    TypeScript should soon become 10x faster on average. Anders Hejlsberg's team at Microsoft is working on a radical improvement to its performance with a new native port...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 248 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft ได้ออกมาขอโทษและคืนสถานะให้กับปลั๊กอินยอดนิยมสองตัวใน Visual Studio Code Marketplace ได้แก่ "Material Theme – Free" และ "Material Theme Icons – Free" หลังจากที่ก่อนหน้านี้ถูกถอดออกเพราะสงสัยว่ามีโค้ดอันตราย

    เมื่อต้นปีนี้ นักวิจัยของ Microsoft ตรวจพบโค้ดที่ถูกเข้ารหัส (Obfuscated Code) ในปลั๊กอินทั้งสองตัว ซึ่งถูกมองว่าอาจมีเจตนาร้าย โดยโค้ดนี้อยู่ในไฟล์ "release-notes.js" ซึ่งมีการเรียกใช้ความสามารถในการรันโค้ดจากที่อื่น ทั้งนี้ ปลั๊กอินเหล่านี้ถูกใช้งานมากกว่า 9 ล้านครั้งทั่วโลก

    เมื่อปลั๊กอินถูกถอดออก ผู้พัฒนาปลั๊กอินชื่อ Mattia Astorino หรือ "equinusocio" ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจนี้ โดยกล่าวว่าปัญหาเกิดจากการใช้งาน Library เก่าที่ชื่อ "sanity.io" ซึ่งไม่ได้ถูกอัปเดตมานานหลายปี แม้โค้ดจะดูเหมือนน่าสงสัย แต่ไม่ได้มีเจตนาร้ายเลย และสามารถแก้ไขได้ง่าย ๆ หาก Microsoft แจ้งก่อน

    Microsoft ยอมรับผิดพลาด ภายหลังจากการสอบสวนเพิ่มเติม Microsoft ได้ค้นพบว่าการประเมินในครั้งแรกเป็นการสรุปผลที่ผิดพลาด โดยไม่มีเจตนาร้ายจากผู้พัฒนา ทำให้พวกเขาตัดสินใจคืนสถานะให้ปลั๊กอินอีกครั้ง พร้อมขอโทษผู้พัฒนาอย่างเป็นทางการ

    สิ่งที่น่าสนใจเพิ่มเติม
    - การพัฒนาเครื่องมือ AI ในการตรวจสอบโค้ด: เหตุการณ์นี้แสดงถึงความสำคัญของ AI ที่ใช้สำหรับตรวจจับความเสี่ยง แต่ก็ชี้ให้เห็นถึงข้อผิดพลาดหากไม่มีการตรวจสอบเพิ่มเติมจากมนุษย์
    - การเปลี่ยนแปลงนโยบายในอนาคต: Microsoft มีแผนปรับปรุงนโยบายเกี่ยวกับโค้ดที่ถูกเข้ารหัสและเพิ่มความแม่นยำให้กับเครื่องมือสแกน เพื่อหลีกเลี่ยงการตัดสินใจผิดพลาดในอนาคต

    https://www.bleepingcomputer.com/news/microsoft/microsoft-apologizes-for-removing-vscode-extensions-used-by-millions/
    Microsoft ได้ออกมาขอโทษและคืนสถานะให้กับปลั๊กอินยอดนิยมสองตัวใน Visual Studio Code Marketplace ได้แก่ "Material Theme – Free" และ "Material Theme Icons – Free" หลังจากที่ก่อนหน้านี้ถูกถอดออกเพราะสงสัยว่ามีโค้ดอันตราย เมื่อต้นปีนี้ นักวิจัยของ Microsoft ตรวจพบโค้ดที่ถูกเข้ารหัส (Obfuscated Code) ในปลั๊กอินทั้งสองตัว ซึ่งถูกมองว่าอาจมีเจตนาร้าย โดยโค้ดนี้อยู่ในไฟล์ "release-notes.js" ซึ่งมีการเรียกใช้ความสามารถในการรันโค้ดจากที่อื่น ทั้งนี้ ปลั๊กอินเหล่านี้ถูกใช้งานมากกว่า 9 ล้านครั้งทั่วโลก เมื่อปลั๊กอินถูกถอดออก ผู้พัฒนาปลั๊กอินชื่อ Mattia Astorino หรือ "equinusocio" ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจนี้ โดยกล่าวว่าปัญหาเกิดจากการใช้งาน Library เก่าที่ชื่อ "sanity.io" ซึ่งไม่ได้ถูกอัปเดตมานานหลายปี แม้โค้ดจะดูเหมือนน่าสงสัย แต่ไม่ได้มีเจตนาร้ายเลย และสามารถแก้ไขได้ง่าย ๆ หาก Microsoft แจ้งก่อน Microsoft ยอมรับผิดพลาด ภายหลังจากการสอบสวนเพิ่มเติม Microsoft ได้ค้นพบว่าการประเมินในครั้งแรกเป็นการสรุปผลที่ผิดพลาด โดยไม่มีเจตนาร้ายจากผู้พัฒนา ทำให้พวกเขาตัดสินใจคืนสถานะให้ปลั๊กอินอีกครั้ง พร้อมขอโทษผู้พัฒนาอย่างเป็นทางการ สิ่งที่น่าสนใจเพิ่มเติม - การพัฒนาเครื่องมือ AI ในการตรวจสอบโค้ด: เหตุการณ์นี้แสดงถึงความสำคัญของ AI ที่ใช้สำหรับตรวจจับความเสี่ยง แต่ก็ชี้ให้เห็นถึงข้อผิดพลาดหากไม่มีการตรวจสอบเพิ่มเติมจากมนุษย์ - การเปลี่ยนแปลงนโยบายในอนาคต: Microsoft มีแผนปรับปรุงนโยบายเกี่ยวกับโค้ดที่ถูกเข้ารหัสและเพิ่มความแม่นยำให้กับเครื่องมือสแกน เพื่อหลีกเลี่ยงการตัดสินใจผิดพลาดในอนาคต https://www.bleepingcomputer.com/news/microsoft/microsoft-apologizes-for-removing-vscode-extensions-used-by-millions/
    WWW.BLEEPINGCOMPUTER.COM
    Microsoft apologizes for removing VSCode extensions used by millions
    Microsoft has reinstated the 'Material Theme - Free' and 'Material Theme Icons - Free' extensions on the Visual Studio Marketplace after finding that the obfuscated code they contained wasn't actually malicious.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 293 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เกี่ยวกับช่องโหว่ด้านความปลอดภัยของ PHP ที่มีความร้ายแรง ซึ่งขณะนี้ถูกโจมตีในวงกว้างแล้ว! ชื่อของช่องโหว่คือ CVE-2024-4577 เป็นปัญหาเกี่ยวกับการฉีดคำสั่งที่ส่งผลกระทบต่อระบบ Windows ที่ใช้ PHP ในโหมด CGI ช่องโหว่นี้ได้รับการแก้ไขเมื่อเดือนมิถุนายน 2024 แต่ยังคงมีการโจมตีจากผู้ไม่หวังดีอย่างต่อเนื่อง

    เรื่องนี้เริ่มต้นเมื่อ WatchTowr Labs เผยแพร่โค้ดตัวอย่าง (Proof-of-Concept) เพียงหนึ่งวันหลังจากการปล่อยแพตช์ และพบว่ามีกลุ่มแฮกเกอร์ใช้ช่องโหว่นี้ในการขโมยข้อมูลในองค์กรของญี่ปุ่นตั้งแต่ต้นปี 2025 ต่อมา การโจมตีก็ได้ขยายวงกว้างมากขึ้น รวมถึงในประเทศเยอรมนี สหรัฐอเมริกา และจีน

    สิ่งที่สำคัญคือ การโจมตีเหล่านี้ไม่ได้หยุดแค่การขโมยข้อมูล พวกเขายังพยายามติดตั้งโปรแกรมไม่พึงประสงค์ เช่น ransomware เพื่อทำลายข้อมูลอีกด้วย เช่น กลุ่ม TellYouThePass ใช้ช่องโหว่นี้ในการเข้ารหัสระบบของเหยื่อหลังปล่อยแพตช์ไปเพียง 48 ชั่วโมง

    น่าสนใจที่บริษัท GreyNoise พบว่ามีถึง 79 โค้ดโจมตีที่สามารถพบได้ออนไลน์ และในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 มีการสแกนระบบจำนวนมากเพื่อหาช่องโหว่นี้

    สิ่งที่ควรเรียนรู้จากเรื่องนี้คือ
    - การอัปเดตซอฟต์แวร์ให้ทันสมัยมีความสำคัญอย่างยิ่ง
    - การมีมาตรการป้องกันระบบที่รัดกุม เช่น การตรวจสอบ Log อย่างสม่ำเสมอ เพื่อระบุการโจมตีที่อาจเกิดขึ้น

    https://www.bleepingcomputer.com/news/security/critical-php-rce-vulnerability-mass-exploited-in-new-attacks/
    ข่าวนี้เกี่ยวกับช่องโหว่ด้านความปลอดภัยของ PHP ที่มีความร้ายแรง ซึ่งขณะนี้ถูกโจมตีในวงกว้างแล้ว! ชื่อของช่องโหว่คือ CVE-2024-4577 เป็นปัญหาเกี่ยวกับการฉีดคำสั่งที่ส่งผลกระทบต่อระบบ Windows ที่ใช้ PHP ในโหมด CGI ช่องโหว่นี้ได้รับการแก้ไขเมื่อเดือนมิถุนายน 2024 แต่ยังคงมีการโจมตีจากผู้ไม่หวังดีอย่างต่อเนื่อง เรื่องนี้เริ่มต้นเมื่อ WatchTowr Labs เผยแพร่โค้ดตัวอย่าง (Proof-of-Concept) เพียงหนึ่งวันหลังจากการปล่อยแพตช์ และพบว่ามีกลุ่มแฮกเกอร์ใช้ช่องโหว่นี้ในการขโมยข้อมูลในองค์กรของญี่ปุ่นตั้งแต่ต้นปี 2025 ต่อมา การโจมตีก็ได้ขยายวงกว้างมากขึ้น รวมถึงในประเทศเยอรมนี สหรัฐอเมริกา และจีน สิ่งที่สำคัญคือ การโจมตีเหล่านี้ไม่ได้หยุดแค่การขโมยข้อมูล พวกเขายังพยายามติดตั้งโปรแกรมไม่พึงประสงค์ เช่น ransomware เพื่อทำลายข้อมูลอีกด้วย เช่น กลุ่ม TellYouThePass ใช้ช่องโหว่นี้ในการเข้ารหัสระบบของเหยื่อหลังปล่อยแพตช์ไปเพียง 48 ชั่วโมง น่าสนใจที่บริษัท GreyNoise พบว่ามีถึง 79 โค้ดโจมตีที่สามารถพบได้ออนไลน์ และในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 มีการสแกนระบบจำนวนมากเพื่อหาช่องโหว่นี้ สิ่งที่ควรเรียนรู้จากเรื่องนี้คือ - การอัปเดตซอฟต์แวร์ให้ทันสมัยมีความสำคัญอย่างยิ่ง - การมีมาตรการป้องกันระบบที่รัดกุม เช่น การตรวจสอบ Log อย่างสม่ำเสมอ เพื่อระบุการโจมตีที่อาจเกิดขึ้น https://www.bleepingcomputer.com/news/security/critical-php-rce-vulnerability-mass-exploited-in-new-attacks/
    WWW.BLEEPINGCOMPUTER.COM
    Critical PHP RCE vulnerability mass exploited in new attacks
    Threat intelligence company GreyNoise warns that a critical PHP remote code execution vulnerability that impacts Windows systems is now under mass exploitation.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 318 มุมมอง 0 รีวิว
  • Asus และ Microsoft อาจร่วมกันเปิดตัวอุปกรณ์พกพาสำหรับเล่นเกม Xbox ในปี 2025 ภายใต้โครงการที่ชื่อว่า Project Kennan ซึ่งเป็นชื่อรหัสสำหรับอุปกรณ์พกพาที่ Asus พัฒนาขึ้นเพื่อรองรับการเล่นเกม Xbox โดยเฉพาะ

    Microsoft กำลังดำเนินโครงการที่ชื่อว่า Project Bayside ซึ่งเป็นเฟรมเวิร์คที่ช่วยปรับปรุงการทำงานร่วมกันระหว่างระบบปฏิบัติการ Windows และ Xbox ให้เป็นแพลตฟอร์มเดียวกัน การปรับปรุงนี้จะส่งผลให้การใช้งานเกม Xbox บนอุปกรณ์หลากหลายประเภทสะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตัวอุปกรณ์พกพาของ Asus ก็จะใช้เฟรมเวิร์คนี้เช่นกัน ทำให้มีอินเทอร์เฟซแบบ Xbox ที่คุ้นเคย แต่ยังคงอยู่บนระบบพื้นฐานของ Windows

    สิ่งที่น่าสนใจเพิ่มเติมคือแนวโน้มของตลาดเครื่องเล่นเกมพกพา ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากความสำเร็จของ Steam Deck ในปี 2022 ตลาดนี้กำลังมีการแข่งขันสูงขึ้น เช่น Lenovo เริ่มเปิดตัวเครื่องเล่นเกมพกพาของตนเองในราคาที่แข่งขันได้ และมาพร้อมระบบปฏิบัติการทางเลือกอย่าง SteamOS ซึ่งอาจเป็นความท้าทายสำหรับ Microsoft ในการรักษาส่วนแบ่งตลาดเกมของตน

    การพัฒนานี้สะท้อนถึงความพยายามของ Microsoft ในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่แข่งขันได้ ทั้งในด้านนวัตกรรมและการปรับตัวให้เข้ากับตลาดที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา หากข่าวลือนี้เป็นจริง เราอาจได้เห็น Xbox แบบพกพาที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้เล่นในยุคใหม่ โดยเฉพาะในช่วงปลายปี 2025

    https://www.tomshardware.com/video-games/xbox/asus-rumored-to-launch-xbox-handheld-in-2025-oem-working-with-microsoft-to-unify-windows-and-xbox-libraries
    Asus และ Microsoft อาจร่วมกันเปิดตัวอุปกรณ์พกพาสำหรับเล่นเกม Xbox ในปี 2025 ภายใต้โครงการที่ชื่อว่า Project Kennan ซึ่งเป็นชื่อรหัสสำหรับอุปกรณ์พกพาที่ Asus พัฒนาขึ้นเพื่อรองรับการเล่นเกม Xbox โดยเฉพาะ Microsoft กำลังดำเนินโครงการที่ชื่อว่า Project Bayside ซึ่งเป็นเฟรมเวิร์คที่ช่วยปรับปรุงการทำงานร่วมกันระหว่างระบบปฏิบัติการ Windows และ Xbox ให้เป็นแพลตฟอร์มเดียวกัน การปรับปรุงนี้จะส่งผลให้การใช้งานเกม Xbox บนอุปกรณ์หลากหลายประเภทสะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตัวอุปกรณ์พกพาของ Asus ก็จะใช้เฟรมเวิร์คนี้เช่นกัน ทำให้มีอินเทอร์เฟซแบบ Xbox ที่คุ้นเคย แต่ยังคงอยู่บนระบบพื้นฐานของ Windows สิ่งที่น่าสนใจเพิ่มเติมคือแนวโน้มของตลาดเครื่องเล่นเกมพกพา ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากความสำเร็จของ Steam Deck ในปี 2022 ตลาดนี้กำลังมีการแข่งขันสูงขึ้น เช่น Lenovo เริ่มเปิดตัวเครื่องเล่นเกมพกพาของตนเองในราคาที่แข่งขันได้ และมาพร้อมระบบปฏิบัติการทางเลือกอย่าง SteamOS ซึ่งอาจเป็นความท้าทายสำหรับ Microsoft ในการรักษาส่วนแบ่งตลาดเกมของตน การพัฒนานี้สะท้อนถึงความพยายามของ Microsoft ในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่แข่งขันได้ ทั้งในด้านนวัตกรรมและการปรับตัวให้เข้ากับตลาดที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา หากข่าวลือนี้เป็นจริง เราอาจได้เห็น Xbox แบบพกพาที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้เล่นในยุคใหม่ โดยเฉพาะในช่วงปลายปี 2025 https://www.tomshardware.com/video-games/xbox/asus-rumored-to-launch-xbox-handheld-in-2025-oem-working-with-microsoft-to-unify-windows-and-xbox-libraries
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 277 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นสำหรับวงการคอมพิวเตอร์เชิงควอนตัม! นักวิจัยจากกลุ่ม Quantum Internet Alliance (QIA) ซึ่งรวมถึงมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยชั้นนำอย่าง TU Delft และ QuTech ได้พัฒนา QNodeOS ระบบปฏิบัติการตัวแรกที่ออกแบบมาเพื่อรองรับเครือข่ายควอนตัมโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นอีกก้าวสำคัญในการสร้างเครือข่ายเชิงควอนตัมในอนาคต

    QNodeOS มีจุดเด่นที่น่าสนใจหลายอย่าง เช่น
    1) ไม่ขึ้นกับฮาร์ดแวร์ – นักพัฒนาไม่จำเป็นต้องเข้าใจระบบฮาร์ดแวร์เชิงลึกก็สามารถสร้างแอปพลิเคชันสำหรับเครือข่ายควอนตัมได้
    2) รองรับภาษาระดับสูง – ทำให้การพัฒนาแอปพลิเคชันสะดวกขึ้น เหมือนกับการเขียนโปรแกรมทั่วไป
    3) รองรับการทำงานหลายอย่างพร้อมกัน (Multitasking) – ช่วยใช้ทรัพยากรของฮาร์ดแวร์ให้คุ้มค่าที่สุด

    ในการทดลอง ทีมวิจัยได้ใช้งาน QNodeOS กับเครือข่ายควอนตัมที่เชื่อมต่อด้วย diamond color centers ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ใช้ศูนย์ไนโตรเจนในเพชรในการจัดเก็บควอนตัมบิต (qubit)

    สิ่งนี้สำคัญมากเพราะเครือข่ายควอนตัมไม่ได้มีหน้าที่คำนวณเหมือนคอมพิวเตอร์ควอนตัม แต่จะช่วยเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ควอนตัมและจัดการการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ใช้หลักการควอนตัม เช่น การพัวพัน (entanglement) และ การซ้อนทับ (superposition) โดยมีระบบจัดการที่ฉลาดขึ้น เพื่อช่วยให้เครือข่ายทำงานได้ราบรื่น

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/quantum-computing/qnodeos-claims-to-be-the-first-operating-system-for-quantum-networks-paving-the-way-for-future-quantum-applications
    ข่าวนี้เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นสำหรับวงการคอมพิวเตอร์เชิงควอนตัม! นักวิจัยจากกลุ่ม Quantum Internet Alliance (QIA) ซึ่งรวมถึงมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยชั้นนำอย่าง TU Delft และ QuTech ได้พัฒนา QNodeOS ระบบปฏิบัติการตัวแรกที่ออกแบบมาเพื่อรองรับเครือข่ายควอนตัมโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นอีกก้าวสำคัญในการสร้างเครือข่ายเชิงควอนตัมในอนาคต QNodeOS มีจุดเด่นที่น่าสนใจหลายอย่าง เช่น 1) ไม่ขึ้นกับฮาร์ดแวร์ – นักพัฒนาไม่จำเป็นต้องเข้าใจระบบฮาร์ดแวร์เชิงลึกก็สามารถสร้างแอปพลิเคชันสำหรับเครือข่ายควอนตัมได้ 2) รองรับภาษาระดับสูง – ทำให้การพัฒนาแอปพลิเคชันสะดวกขึ้น เหมือนกับการเขียนโปรแกรมทั่วไป 3) รองรับการทำงานหลายอย่างพร้อมกัน (Multitasking) – ช่วยใช้ทรัพยากรของฮาร์ดแวร์ให้คุ้มค่าที่สุด ในการทดลอง ทีมวิจัยได้ใช้งาน QNodeOS กับเครือข่ายควอนตัมที่เชื่อมต่อด้วย diamond color centers ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ใช้ศูนย์ไนโตรเจนในเพชรในการจัดเก็บควอนตัมบิต (qubit) สิ่งนี้สำคัญมากเพราะเครือข่ายควอนตัมไม่ได้มีหน้าที่คำนวณเหมือนคอมพิวเตอร์ควอนตัม แต่จะช่วยเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ควอนตัมและจัดการการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ใช้หลักการควอนตัม เช่น การพัวพัน (entanglement) และ การซ้อนทับ (superposition) โดยมีระบบจัดการที่ฉลาดขึ้น เพื่อช่วยให้เครือข่ายทำงานได้ราบรื่น https://www.tomshardware.com/tech-industry/quantum-computing/qnodeos-claims-to-be-the-first-operating-system-for-quantum-networks-paving-the-way-for-future-quantum-applications
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 386 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เล่าถึงปรากฏการณ์ใหม่ในวงการการเงินและเทคโนโลยี โดย IPv4.Global ได้เปิดตัวโครงการปล่อยสินเชื่อที่นำ ที่อยู่ IPv4 มาใช้เป็นหลักประกัน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ทรัพย์สินดิจิทัลในรูปแบบนี้ได้รับการยอมรับในแวดวงการเงินแบบนี้

    ที่อยู่ IPv4 เป็นเลขระบุตำแหน่งอุปกรณ์ในเครือข่ายอินเทอร์เน็ต แต่ด้วยการที่มีเพียง 4.3 พันล้านที่อยู่เท่านั้น ทำให้เกิดภาวะขาดแคลนอย่างหนักในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จนราคาของที่อยู่เหล่านี้พุ่งสูงขึ้น และตอนนี้ยังสามารถใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันในการกู้ยืมเงินได้อีกด้วย!

    โครงการนี้เริ่มต้นด้วยลูกค้ารายแรกซึ่งเป็นผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลคลาวด์ ที่ใช้ที่อยู่ IPv4 ของตัวเองเป็นหลักประกันในการเพิ่มเงินทุนเพื่อขยายธุรกิจ และความสำเร็จนี้ทำให้ IPv4.Global เปิดรับลูกค้าทุกขนาด โดยจัดการซื้อขาย เช่า และกู้ยืมที่อยู่ IPv4 อย่างกว้างขวาง

    แต่ในมุมของอนาคต IPv6 ซึ่งมีศักยภาพรองรับอุปกรณ์ได้มากกว่า (จาก 4.3 พันล้าน เป็น 340 อันเดซิลเลียนที่อยู่!) กำลังรอคอยการเปลี่ยนผ่านอย่างเต็มรูปแบบ แต่ก็ยังมีอุปสรรคเช่น ค่าใช้จ่าย ความซับซ้อนทางเทคโนโลยี และการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้ IPv4 ยังคงมีบทบาทสำคัญ

    ที่น่าสนใจคือ การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ไม่เพียงเปิดโอกาสให้ผู้ถือครอง IPv4 แต่ยังสะท้อนถึงทิศทางที่โลกมุ่งสู่การยอมรับสินทรัพย์ดิจิทัลในมิติใหม่ ใครจะรู้ว่าอนาคตเราอาจใช้ที่อยู่ดิจิทัลอื่น ๆ เช่น NFTs หรือโทเค็นต่าง ๆ มาเป็นหลักประกันทางการเงินด้วยก็ได้

    https://www.tomshardware.com/networking/public-ipv4-addresses-are-now-valuable-loan-collateral-and-can-be-worth-millions
    ข่าวนี้เล่าถึงปรากฏการณ์ใหม่ในวงการการเงินและเทคโนโลยี โดย IPv4.Global ได้เปิดตัวโครงการปล่อยสินเชื่อที่นำ ที่อยู่ IPv4 มาใช้เป็นหลักประกัน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ทรัพย์สินดิจิทัลในรูปแบบนี้ได้รับการยอมรับในแวดวงการเงินแบบนี้ ที่อยู่ IPv4 เป็นเลขระบุตำแหน่งอุปกรณ์ในเครือข่ายอินเทอร์เน็ต แต่ด้วยการที่มีเพียง 4.3 พันล้านที่อยู่เท่านั้น ทำให้เกิดภาวะขาดแคลนอย่างหนักในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จนราคาของที่อยู่เหล่านี้พุ่งสูงขึ้น และตอนนี้ยังสามารถใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันในการกู้ยืมเงินได้อีกด้วย! โครงการนี้เริ่มต้นด้วยลูกค้ารายแรกซึ่งเป็นผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลคลาวด์ ที่ใช้ที่อยู่ IPv4 ของตัวเองเป็นหลักประกันในการเพิ่มเงินทุนเพื่อขยายธุรกิจ และความสำเร็จนี้ทำให้ IPv4.Global เปิดรับลูกค้าทุกขนาด โดยจัดการซื้อขาย เช่า และกู้ยืมที่อยู่ IPv4 อย่างกว้างขวาง แต่ในมุมของอนาคต IPv6 ซึ่งมีศักยภาพรองรับอุปกรณ์ได้มากกว่า (จาก 4.3 พันล้าน เป็น 340 อันเดซิลเลียนที่อยู่!) กำลังรอคอยการเปลี่ยนผ่านอย่างเต็มรูปแบบ แต่ก็ยังมีอุปสรรคเช่น ค่าใช้จ่าย ความซับซ้อนทางเทคโนโลยี และการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้ IPv4 ยังคงมีบทบาทสำคัญ ที่น่าสนใจคือ การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ไม่เพียงเปิดโอกาสให้ผู้ถือครอง IPv4 แต่ยังสะท้อนถึงทิศทางที่โลกมุ่งสู่การยอมรับสินทรัพย์ดิจิทัลในมิติใหม่ ใครจะรู้ว่าอนาคตเราอาจใช้ที่อยู่ดิจิทัลอื่น ๆ เช่น NFTs หรือโทเค็นต่าง ๆ มาเป็นหลักประกันทางการเงินด้วยก็ได้ https://www.tomshardware.com/networking/public-ipv4-addresses-are-now-valuable-loan-collateral-and-can-be-worth-millions
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Public IPv4 addresses are now valuable loan collateral and can be worth millions
    IPv4.Global launched a new lending program where your IPv4 assets are your collateral.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 451 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้พูดถึงการประกาศผลการทดสอบประสิทธิภาพของการ์ดจอ AMD RDNA 3 รุ่นมืออาชีพ ที่มาพร้อมกับ VRAM ขนาดใหญ่ถึง 48GB ซึ่งได้รับการเปรียบเทียบกับการ์ดจอของ Nvidia รุ่น RTX 4090 และพบว่ามีประสิทธิภาพที่น่าทึ่งในงานที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยเฉพาะในงานประมวลผลโมเดลภาษาใหญ่ (LLM)

    AMD แสดงให้เห็นว่าการ์ดจอ Radeon Pro W7800 และ W7900 สามารถทำความเร็วได้สูงกว่า RTX 4090 ถึง 7.3 เท่าในบางกรณี เช่น การประมวลผลโมเดล Distill Qwen 32B และ Distill Llama 70B โดยข้อมูลนี้อ้างอิงจากการทดสอบในชุด DeepSeek R1

    จุดเด่นสำคัญอยู่ที่ขนาดของ VRAM เพราะการประมวลผลโมเดลใหญ่ต้องใช้หน่วยความจำมหาศาล เช่น โมเดล LLM ที่ต้องการ VRAM เพียงพอสำหรับจัดเก็บและประมวลผลพารามิเตอร์ขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม การ์ดจอ Radeon Pro รุ่นนี้มีราคาสูงถึง $3,500 ซึ่งแพงกว่า RTX 4090 ถึงสองเท่า แต่ยังถูกกว่าการ์ดจอ Nvidia รุ่นระดับโปรที่มี VRAM ใกล้เคียงกัน

    นอกจากนี้ ตลาดการ์ดจอยังแข่งขันกันอย่างดุเดือด โดย Nvidia มีการ์ด RTX 5090 รุ่นใหม่ที่มี VRAM 32GB ซึ่งแม้จะมีขนาดเล็กกว่า แต่ก็มีประสิทธิภาพการประมวลผลที่อาจจะเป็นตัวท้าชน AMD ในอนาคต

    การ์ดจอที่มี VRAM ขนาดใหญ่ไม่เพียงตอบโจทย์งาน AI แต่ยังเปิดประตูให้กับแอปพลิเคชันยุคใหม่ เช่น การสร้างโมเดลเชิงลึกและการพัฒนา AI ขั้นสูง หากคุณกำลังวางแผนงานเกี่ยวกับ AI อุปกรณ์เหล่านี้อาจจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในแง่ของการลงทุนระยะยาว

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/amd-rdna-3-professional-gpus-with-48gb-can-beat-nvidia-24gb-cards-in-ai-putting-the-large-in-llm
    ข่าวนี้พูดถึงการประกาศผลการทดสอบประสิทธิภาพของการ์ดจอ AMD RDNA 3 รุ่นมืออาชีพ ที่มาพร้อมกับ VRAM ขนาดใหญ่ถึง 48GB ซึ่งได้รับการเปรียบเทียบกับการ์ดจอของ Nvidia รุ่น RTX 4090 และพบว่ามีประสิทธิภาพที่น่าทึ่งในงานที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยเฉพาะในงานประมวลผลโมเดลภาษาใหญ่ (LLM) AMD แสดงให้เห็นว่าการ์ดจอ Radeon Pro W7800 และ W7900 สามารถทำความเร็วได้สูงกว่า RTX 4090 ถึง 7.3 เท่าในบางกรณี เช่น การประมวลผลโมเดล Distill Qwen 32B และ Distill Llama 70B โดยข้อมูลนี้อ้างอิงจากการทดสอบในชุด DeepSeek R1 จุดเด่นสำคัญอยู่ที่ขนาดของ VRAM เพราะการประมวลผลโมเดลใหญ่ต้องใช้หน่วยความจำมหาศาล เช่น โมเดล LLM ที่ต้องการ VRAM เพียงพอสำหรับจัดเก็บและประมวลผลพารามิเตอร์ขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม การ์ดจอ Radeon Pro รุ่นนี้มีราคาสูงถึง $3,500 ซึ่งแพงกว่า RTX 4090 ถึงสองเท่า แต่ยังถูกกว่าการ์ดจอ Nvidia รุ่นระดับโปรที่มี VRAM ใกล้เคียงกัน นอกจากนี้ ตลาดการ์ดจอยังแข่งขันกันอย่างดุเดือด โดย Nvidia มีการ์ด RTX 5090 รุ่นใหม่ที่มี VRAM 32GB ซึ่งแม้จะมีขนาดเล็กกว่า แต่ก็มีประสิทธิภาพการประมวลผลที่อาจจะเป็นตัวท้าชน AMD ในอนาคต การ์ดจอที่มี VRAM ขนาดใหญ่ไม่เพียงตอบโจทย์งาน AI แต่ยังเปิดประตูให้กับแอปพลิเคชันยุคใหม่ เช่น การสร้างโมเดลเชิงลึกและการพัฒนา AI ขั้นสูง หากคุณกำลังวางแผนงานเกี่ยวกับ AI อุปกรณ์เหล่านี้อาจจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในแง่ของการลงทุนระยะยาว https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/amd-rdna-3-professional-gpus-with-48gb-can-beat-nvidia-24gb-cards-in-ai-putting-the-large-in-llm
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    AMD RDNA 3 professional GPUs with 48GB can beat Nvidia 24GB cards in AI — putting the 'Large' in LLM
    Radeon Pro W7800/7900 48GB up to 7x faster in DeepSeek R1 benchmarks, but don't ask about the 5090.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 498 มุมมอง 0 รีวิว
  • บริษัท KIOXIA ได้เปิดตัว SSD รุ่นใหม่ที่มีความจุสูงถึง 122.88 เทราไบต์ (TB) ซึ่งเป็น SSD ตัวแรกที่ใช้เทคโนโลยี BiCS FLASH generation 8 และหน่วยความจำ QLC แบบ 3D ซึ่งออกแบบมาเพื่อรองรับงานที่เกี่ยวข้องกับ AI และการจัดการข้อมูลมหาศาล

    สิ่งที่น่าสนใจคือ SSD รุ่นนี้รองรับการเชื่อมต่อแบบ PCIe 5.0 ซึ่งให้ความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลสูงถึง 128 GT/s พร้อมทั้งมี dual-port capability ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในกรณีที่ระบบมีความผิดพลาด และสามารถเชื่อมต่อกับหลายระบบคอมพิวเตอร์ได้พร้อมกัน ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานในระบบ hybrid cloud และ multi-cloud

    SSD ตัวนี้ออกแบบมาเพื่อรองรับงานด้าน AI โดยเฉพาะ เช่น การฝึกฝนโมเดลภาษาใหญ่ (LLMs) การจัดการฐานข้อมูลแบบเวกเตอร์ และการดึงข้อมูลมาใช้สำหรับการปรับปรุงโมเดล AI อย่างรวดเร็ว

    อีกสิ่งที่น่าสนใจคือ KIOXIA ยังพัฒนาเทคโนโลยีที่ชื่อว่า AiSAQ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในงานแบบ Retrieval Augmented Generation (RAG) โดยลดการพึ่งพาหน่วยความจำแบบ DRAM ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงลง และยังช่วยประหยัดพลังงานต่อเทราไบต์เมื่อเทียบกับ SSD ขนาดเล็กกว่า

    แน่นอนว่า SSD ตัวนี้ถือเป็นการตอบสนองต่อความต้องการของตลาดที่ต้องการ ความจุสูงขึ้นและความเร็วในการประมวลผลที่มากขึ้น เพื่อตอบโจทย์งานด้าน AI ซึ่งกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว

    https://www.techpowerup.com/334049/kioxia-unveils-high-capacity-lc9-series-122-88-tb-nvme-ssds-for-ai-applications
    บริษัท KIOXIA ได้เปิดตัว SSD รุ่นใหม่ที่มีความจุสูงถึง 122.88 เทราไบต์ (TB) ซึ่งเป็น SSD ตัวแรกที่ใช้เทคโนโลยี BiCS FLASH generation 8 และหน่วยความจำ QLC แบบ 3D ซึ่งออกแบบมาเพื่อรองรับงานที่เกี่ยวข้องกับ AI และการจัดการข้อมูลมหาศาล สิ่งที่น่าสนใจคือ SSD รุ่นนี้รองรับการเชื่อมต่อแบบ PCIe 5.0 ซึ่งให้ความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลสูงถึง 128 GT/s พร้อมทั้งมี dual-port capability ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในกรณีที่ระบบมีความผิดพลาด และสามารถเชื่อมต่อกับหลายระบบคอมพิวเตอร์ได้พร้อมกัน ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานในระบบ hybrid cloud และ multi-cloud SSD ตัวนี้ออกแบบมาเพื่อรองรับงานด้าน AI โดยเฉพาะ เช่น การฝึกฝนโมเดลภาษาใหญ่ (LLMs) การจัดการฐานข้อมูลแบบเวกเตอร์ และการดึงข้อมูลมาใช้สำหรับการปรับปรุงโมเดล AI อย่างรวดเร็ว อีกสิ่งที่น่าสนใจคือ KIOXIA ยังพัฒนาเทคโนโลยีที่ชื่อว่า AiSAQ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในงานแบบ Retrieval Augmented Generation (RAG) โดยลดการพึ่งพาหน่วยความจำแบบ DRAM ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงลง และยังช่วยประหยัดพลังงานต่อเทราไบต์เมื่อเทียบกับ SSD ขนาดเล็กกว่า แน่นอนว่า SSD ตัวนี้ถือเป็นการตอบสนองต่อความต้องการของตลาดที่ต้องการ ความจุสูงขึ้นและความเร็วในการประมวลผลที่มากขึ้น เพื่อตอบโจทย์งานด้าน AI ซึ่งกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว https://www.techpowerup.com/334049/kioxia-unveils-high-capacity-lc9-series-122-88-tb-nvme-ssds-for-ai-applications
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    KIOXIA Unveils High-Capacity LC9 Series 122.88 TB NVMe SSDs for AI Applications
    KIOXIA America, Inc. today announced the development of its new LC9 Series 122.88 terabyte (TB) capacity NVMe SSD in a 2.5-inch form factor - the first SSD built with the company's BiCS FLASH generation 8 3D flash memory technology QLC 2 terabit (Tb) die. As AI systems become increasingly sophist...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 359 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้พูดถึงความสำเร็จล่าสุดของ Intel กับการพัฒนากระบวนการผลิตชิป 18A node ซึ่งถูกมองว่าเป็น "ความหวังใหม่" ของบริษัท หลังจากที่ต้องเผชิญความท้าทายจากคู่แข่งในตลาดที่ดุเดือด กระบวนการผลิตนี้เปิดตัวครั้งแรกในรูปแบบการทดลองที่โรงงานในรัฐแอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์

    18A node ใช้เทคโนโลยี GAA-FET (Gate-All-Around Field-Effect Transistor) ที่ทันสมัยที่สุดในปัจจุบัน เพื่อเพิ่มความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์และลดการใช้พลังงาน โดยการทดสอบแผ่นเวเฟอร์ได้เริ่มต้นและได้รับความสนใจจากลูกค้าหลักที่กำลังใช้กระบวนการนี้ในการพัฒนาชิปต้นแบบ

    ความสำคัญของการเปิดตัวในครั้งนี้อยู่ที่ว่า Intel ไม่เพียงแค่พัฒนาผลิตภัณฑ์ในบ้าน แต่ยังดำเนินกลยุทธ์แบบสองทาง โดยผสมผสานระหว่างการเป็นผู้ผลิตชิปให้บริษัทอื่น (foundry services) และการสร้างผลิตภัณฑ์ของตัวเอง กลยุทธ์นี้ได้รับการผลักดันโดย CEO คนใหม่ Lip-Bu Tan ซึ่งยังคงสานต่อวิสัยทัศน์ด้านการผลิตที่มุ่งเน้นการบูรณาการที่แข็งแกร่ง

    จุดเด่นที่น่าสนใจคือ โรงงานในรัฐแอริโซนาเป็นโรงงานที่รองรับเทคโนโลยี EUV (Extreme Ultraviolet Lithography) และเตรียมพร้อมสำหรับการผลิตปริมาณสูง (high-volume manufacturing) ในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 ซึ่งอาจเริ่มเร็วกว่ากำหนดเดิม เหตุการณ์นี้ยังแสดงถึงความพร้อมของอุตสาหกรรมการผลิตชิปในสหรัฐฯ ซึ่งกลับมามีบทบาทสำคัญในตลาดโลก

    https://www.techpowerup.com/334063/initial-intel-18a-node-wafer-run-lands-in-arizona-site-high-volume-manufacturing-could-start-earlier-than-expected
    ข่าวนี้พูดถึงความสำเร็จล่าสุดของ Intel กับการพัฒนากระบวนการผลิตชิป 18A node ซึ่งถูกมองว่าเป็น "ความหวังใหม่" ของบริษัท หลังจากที่ต้องเผชิญความท้าทายจากคู่แข่งในตลาดที่ดุเดือด กระบวนการผลิตนี้เปิดตัวครั้งแรกในรูปแบบการทดลองที่โรงงานในรัฐแอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ 18A node ใช้เทคโนโลยี GAA-FET (Gate-All-Around Field-Effect Transistor) ที่ทันสมัยที่สุดในปัจจุบัน เพื่อเพิ่มความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์และลดการใช้พลังงาน โดยการทดสอบแผ่นเวเฟอร์ได้เริ่มต้นและได้รับความสนใจจากลูกค้าหลักที่กำลังใช้กระบวนการนี้ในการพัฒนาชิปต้นแบบ ความสำคัญของการเปิดตัวในครั้งนี้อยู่ที่ว่า Intel ไม่เพียงแค่พัฒนาผลิตภัณฑ์ในบ้าน แต่ยังดำเนินกลยุทธ์แบบสองทาง โดยผสมผสานระหว่างการเป็นผู้ผลิตชิปให้บริษัทอื่น (foundry services) และการสร้างผลิตภัณฑ์ของตัวเอง กลยุทธ์นี้ได้รับการผลักดันโดย CEO คนใหม่ Lip-Bu Tan ซึ่งยังคงสานต่อวิสัยทัศน์ด้านการผลิตที่มุ่งเน้นการบูรณาการที่แข็งแกร่ง จุดเด่นที่น่าสนใจคือ โรงงานในรัฐแอริโซนาเป็นโรงงานที่รองรับเทคโนโลยี EUV (Extreme Ultraviolet Lithography) และเตรียมพร้อมสำหรับการผลิตปริมาณสูง (high-volume manufacturing) ในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 ซึ่งอาจเริ่มเร็วกว่ากำหนดเดิม เหตุการณ์นี้ยังแสดงถึงความพร้อมของอุตสาหกรรมการผลิตชิปในสหรัฐฯ ซึ่งกลับมามีบทบาทสำคัญในตลาดโลก https://www.techpowerup.com/334063/initial-intel-18a-node-wafer-run-lands-in-arizona-site-high-volume-manufacturing-could-start-earlier-than-expected
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Initial Intel 18A Node Wafer Run Lands in Arizona Site, High-Volume Manufacturing Could Start Earlier Than Expected
    Intel's 18A node, often referred to as Intel's silver lining, has just produced tangible result. In a LinkedIn post of Intel's engineering manager Pankaj Marria, we learn that Intel's 18A node is now being produced in initial wafer lots for testing and evaluation by Intel's customers. This means tha...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 408 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เล่าถึงนวัตกรรมทางเทคโนโลยีครั้งใหญ่เกี่ยวกับ Framework Desktop ที่นำขุมพลังจากชิป AMD Ryzen AI Max มาพัฒนาจนกลายเป็นระบบที่ทรงพลังสำหรับเกม การทำงานระดับสูง และการประมวลผล AI โดยเฉพาะ

    จุดเด่นของ Ryzen AI Max คือการผสมผสานเทคโนโลยีสุดล้ำในสามด้าน ได้แก่ Zen 5 CPU แบบ 16 คอร์ที่ประมวลผลเร็วสุดขั้ว, GPU RDNA 3.5 พร้อมหน่วยคำนวณถึง 40 ชุดที่รองรับกราฟิกคุณภาพสูง และ LPDDR5x Memory Bus 256 บิต ที่รองรับความจุได้สูงถึง 128GB ซึ่งช่วยเพิ่มความเร็วในการเข้าถึงข้อมูลได้อย่างน่าประทับใจ ความสามารถนี้เหมาะสำหรับการจัดการโหลดงาน AI อย่างการฝึกฝนโมเดลภาษาใหญ่ (LLM) ซึ่งจำเป็นต้องใช้หน่วยความจำที่รวดเร็วและทรงพลัง

    Framework Desktop ยังมาพร้อมกับการระบายความร้อนที่ยอดเยี่ยม โดยใช้ชุดฮีตไปป์ 6 เส้นและพัดลมขนาด 120 มม. ทำให้สามารถดึงศักยภาพสูงสุดของ Ryzen AI Max ได้อย่างเต็มที่โดยไม่เกิดปัญหาความร้อนสูงเกินไป นอกจากนี้ ระบบยังมีการเชื่อมต่อที่ครบครัน เช่น USB4, DisplayPort และ PCIe เพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย

    สาระที่น่าสนใจเพิ่มเติม:
    - การเลือกใช้ RAM แบบบัดกรีเพื่อรองรับความเร็วสูง แม้จะแลกมากับการลดความยืดหยุ่นในการอัปเกรด แต่ก็ยังมีข้อดีในแง่ของประสิทธิภาพ
    - ตัวผลิตภัณฑ์ออกแบบมาในรูปแบบโมดูล ที่สามารถถอดประกอบและใส่เข้ากับโครงเคส Mini-ITX ได้อย่างง่ายดาย

    https://www.techpowerup.com/334069/framework-dives-deep-into-desktop-models-deployment-of-ryzen-ai-max
    ข่าวนี้เล่าถึงนวัตกรรมทางเทคโนโลยีครั้งใหญ่เกี่ยวกับ Framework Desktop ที่นำขุมพลังจากชิป AMD Ryzen AI Max มาพัฒนาจนกลายเป็นระบบที่ทรงพลังสำหรับเกม การทำงานระดับสูง และการประมวลผล AI โดยเฉพาะ จุดเด่นของ Ryzen AI Max คือการผสมผสานเทคโนโลยีสุดล้ำในสามด้าน ได้แก่ Zen 5 CPU แบบ 16 คอร์ที่ประมวลผลเร็วสุดขั้ว, GPU RDNA 3.5 พร้อมหน่วยคำนวณถึง 40 ชุดที่รองรับกราฟิกคุณภาพสูง และ LPDDR5x Memory Bus 256 บิต ที่รองรับความจุได้สูงถึง 128GB ซึ่งช่วยเพิ่มความเร็วในการเข้าถึงข้อมูลได้อย่างน่าประทับใจ ความสามารถนี้เหมาะสำหรับการจัดการโหลดงาน AI อย่างการฝึกฝนโมเดลภาษาใหญ่ (LLM) ซึ่งจำเป็นต้องใช้หน่วยความจำที่รวดเร็วและทรงพลัง Framework Desktop ยังมาพร้อมกับการระบายความร้อนที่ยอดเยี่ยม โดยใช้ชุดฮีตไปป์ 6 เส้นและพัดลมขนาด 120 มม. ทำให้สามารถดึงศักยภาพสูงสุดของ Ryzen AI Max ได้อย่างเต็มที่โดยไม่เกิดปัญหาความร้อนสูงเกินไป นอกจากนี้ ระบบยังมีการเชื่อมต่อที่ครบครัน เช่น USB4, DisplayPort และ PCIe เพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย สาระที่น่าสนใจเพิ่มเติม: - การเลือกใช้ RAM แบบบัดกรีเพื่อรองรับความเร็วสูง แม้จะแลกมากับการลดความยืดหยุ่นในการอัปเกรด แต่ก็ยังมีข้อดีในแง่ของประสิทธิภาพ - ตัวผลิตภัณฑ์ออกแบบมาในรูปแบบโมดูล ที่สามารถถอดประกอบและใส่เข้ากับโครงเคส Mini-ITX ได้อย่างง่ายดาย https://www.techpowerup.com/334069/framework-dives-deep-into-desktop-models-deployment-of-ryzen-ai-max
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Framework Dives Deep into Desktop Model's Deployment of Ryzen AI Max
    We dedicated a lot of our launch presentation of Framework Desktop to the Ryzen AI Max processor it uses, and for a good reason. These truly unique, ultra-high-performance parts are the culmination of decades of technology and architecture investments that AMD has made, going all the way back to the...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 337 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้พูดถึงความน่าสนใจของโปรเซสเซอร์ใหม่ล่าสุดจาก AMD รุ่น Ryzen 9 9950X3D ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นโปรเซสเซอร์ที่ทรงพลังที่สุดสำหรับนักเล่นเกมและนักสร้างคอนเทนต์ อย่างไรก็ตาม การทดสอบล่าสุดพบว่าชิปนี้กลับทำงานได้ดีกว่าบน Windows 10 เมื่อเทียบกับ Windows 11 โดยเฉพาะในเกมที่ต้องใช้การประมวลผลจาก CPU อย่างเข้มข้น

    การทดสอบโดย Tech YES City พบว่า Ryzen 9 9950X3D ทำเฟรมเรตได้สูงกว่าใน Windows 10 ในเกมยอดนิยม เช่น CS2 ที่ความละเอียด 1080p โดยใน Windows 10 เฉลี่ยที่ 745fps แต่ใน Windows 11 เฉลี่ยลดลงมาเป็น 729fps และตกลงไปถึง 710fps เมื่อเปิดใช้งานฟีเจอร์ VBS (Virtualization-based Security) ซึ่งแสดงถึงความแตกต่างถึง 9.2% ในบางกรณี เช่น เกม Fortnite ในการตั้งค่าต่ำสุด

    ปัญหานี้เกิดขึ้นแม้แต่กับ Windows 11 รุ่นปรับแต่ง (custom-tuned version) แสดงให้เห็นว่าปัญหาความเข้ากันได้นี้ยังไม่ได้รับการแก้ไขในระดับที่ดีพอ ข่าวนี้จึงสะท้อนถึงความกังวลว่า Windows 11 อาจจะยังไม่พร้อมสำหรับผู้ใช้บางกลุ่ม แม้ว่าจะเหลือเวลาอีกเพียงปีเศษก่อนที่ Microsoft จะยุติการสนับสนุน Windows 10 ในปี 2025

    https://www.techradar.com/computing/cpu/amds-most-powerful-processor-ever-actually-runs-better-on-windows-10-than-windows-11
    ข่าวนี้พูดถึงความน่าสนใจของโปรเซสเซอร์ใหม่ล่าสุดจาก AMD รุ่น Ryzen 9 9950X3D ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นโปรเซสเซอร์ที่ทรงพลังที่สุดสำหรับนักเล่นเกมและนักสร้างคอนเทนต์ อย่างไรก็ตาม การทดสอบล่าสุดพบว่าชิปนี้กลับทำงานได้ดีกว่าบน Windows 10 เมื่อเทียบกับ Windows 11 โดยเฉพาะในเกมที่ต้องใช้การประมวลผลจาก CPU อย่างเข้มข้น การทดสอบโดย Tech YES City พบว่า Ryzen 9 9950X3D ทำเฟรมเรตได้สูงกว่าใน Windows 10 ในเกมยอดนิยม เช่น CS2 ที่ความละเอียด 1080p โดยใน Windows 10 เฉลี่ยที่ 745fps แต่ใน Windows 11 เฉลี่ยลดลงมาเป็น 729fps และตกลงไปถึง 710fps เมื่อเปิดใช้งานฟีเจอร์ VBS (Virtualization-based Security) ซึ่งแสดงถึงความแตกต่างถึง 9.2% ในบางกรณี เช่น เกม Fortnite ในการตั้งค่าต่ำสุด ปัญหานี้เกิดขึ้นแม้แต่กับ Windows 11 รุ่นปรับแต่ง (custom-tuned version) แสดงให้เห็นว่าปัญหาความเข้ากันได้นี้ยังไม่ได้รับการแก้ไขในระดับที่ดีพอ ข่าวนี้จึงสะท้อนถึงความกังวลว่า Windows 11 อาจจะยังไม่พร้อมสำหรับผู้ใช้บางกลุ่ม แม้ว่าจะเหลือเวลาอีกเพียงปีเศษก่อนที่ Microsoft จะยุติการสนับสนุน Windows 10 ในปี 2025 https://www.techradar.com/computing/cpu/amds-most-powerful-processor-ever-actually-runs-better-on-windows-10-than-windows-11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 311 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft ได้ตรวจพบมัลแวร์สายพันธุ์ใหม่ในชื่อ XCSSET ซึ่งมุ่งเป้าโจมตีผู้ใช้ macOS โดยเฉพาะผ่านโครงการ Xcode ที่ติดไวรัส แม้ว่าการโจมตีในครั้งนี้จะถูกระบุว่ามีจำนวนจำกัดในปัจจุบัน แต่นักวิจัยเตือนให้ทุกคนระมัดระวัง

    XCSSET ไม่ใช่มัลแวร์ใหม่เสียทีเดียว แต่รุ่นล่าสุดนี้มาพร้อมกับเทคนิคใหม่ในการปกปิดร่องรอย (obfuscation) รวมถึงวิธีการติดตั้งตัวเองในระบบเป้าหมายที่มีความซับซ้อนยิ่งขึ้น เช่น การปรับเปลี่ยนไฟล์ zshrc และการใช้โปรแกรม Dock เพื่อสร้างการคงอยู่ในระบบ (persistence) นอกจากนี้ มัลแวร์ยังสามารถขโมยข้อมูลสำคัญได้หลายอย่าง เช่น ข้อมูลในกระเป๋าเงินดิจิทัล (digital wallet) บันทึกในแอป Notes และข้อมูลระบบ

    น่าสนใจที่มัลแวร์นี้ใช้ประโยชน์จากโครงการ Xcode ซึ่งเป็นเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาของ Apple โดยแพร่กระจายผ่านโครงการที่ถูกดาวน์โหลดหรือโคลนมาจากแหล่งที่ไม่เชื่อถือได้ ทำให้มัลแวร์นี้เข้าถึงผู้ใช้งานที่ต้องการพัฒนาแอปพลิเคชันในระบบ Apple ได้ง่ายขึ้น

    https://www.techradar.com/pro/security/microsoft-uncovers-sleuthy-new-xcsset-macos-malware-campaign
    Microsoft ได้ตรวจพบมัลแวร์สายพันธุ์ใหม่ในชื่อ XCSSET ซึ่งมุ่งเป้าโจมตีผู้ใช้ macOS โดยเฉพาะผ่านโครงการ Xcode ที่ติดไวรัส แม้ว่าการโจมตีในครั้งนี้จะถูกระบุว่ามีจำนวนจำกัดในปัจจุบัน แต่นักวิจัยเตือนให้ทุกคนระมัดระวัง XCSSET ไม่ใช่มัลแวร์ใหม่เสียทีเดียว แต่รุ่นล่าสุดนี้มาพร้อมกับเทคนิคใหม่ในการปกปิดร่องรอย (obfuscation) รวมถึงวิธีการติดตั้งตัวเองในระบบเป้าหมายที่มีความซับซ้อนยิ่งขึ้น เช่น การปรับเปลี่ยนไฟล์ zshrc และการใช้โปรแกรม Dock เพื่อสร้างการคงอยู่ในระบบ (persistence) นอกจากนี้ มัลแวร์ยังสามารถขโมยข้อมูลสำคัญได้หลายอย่าง เช่น ข้อมูลในกระเป๋าเงินดิจิทัล (digital wallet) บันทึกในแอป Notes และข้อมูลระบบ น่าสนใจที่มัลแวร์นี้ใช้ประโยชน์จากโครงการ Xcode ซึ่งเป็นเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาของ Apple โดยแพร่กระจายผ่านโครงการที่ถูกดาวน์โหลดหรือโคลนมาจากแหล่งที่ไม่เชื่อถือได้ ทำให้มัลแวร์นี้เข้าถึงผู้ใช้งานที่ต้องการพัฒนาแอปพลิเคชันในระบบ Apple ได้ง่ายขึ้น https://www.techradar.com/pro/security/microsoft-uncovers-sleuthy-new-xcsset-macos-malware-campaign
    WWW.TECHRADAR.COM
    Microsoft uncovers sleuthy new XCSSET MacOS malware campaign
    XCSSET is back with better obfuscation, better persistence, and better infection techniques.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 564 มุมมอง 0 รีวิว
  • สวัสดีค่ะ สืบเนื่องจากอาทิตย์ที่แล้วเราคุยกันเรื่องปรัชญาขงจื๊อว่าด้วย ‘วิญญูชน’ วันนี้เลยมาคุยกันสั้นๆ เกี่ยวกับสำนวนจีนที่เกี่ยวข้อง

    เชื่อว่ามีเพื่อนเพจไม่น้อยที่เคยผ่านหูและผ่านตาในซีรีส์และนิยายจีนถึงสำนวน ‘เสาหลักของชาติ’ ซึ่งสำนวนนี้มีใช้ในภาษาไทยและภาษาอังกฤษอย่างแพร่หลายจวบจนปัจจุบัน วันนี้เลยมาพร้อมรูปกระกอบของเหล่าตัวละครที่ได้รับการขนานนามในเรื่องนั้นๆ ว่าเป็นเสาหลักของชาติ

    แต่เพื่อนเพจทราบหรือไม่ว่า จริงๆ แล้วในสำนวนจีนที่มีมาแต่โบราณนี้ เขาใช้คำว่า ‘คานหลัก’ ไม่ใช่ ‘เสาหลัก’?

    สำนวนนี้มักใช้ว่า ‘国之栋梁’(กั๋วจือโต้งเหลียง) ซึ่งเป็นสำนวนที่มีมาแต่โบราณ ปัจจุบันสำนวนที่ถูกต้องคือ ‘国家栋梁’ (กั๋วเจียโต้งเหลียง) โดยคำว่า ‘โต้งเหลียง’นี้แปลว่าคานหลัก และมีสำนวนกล่าวชมคนที่มีคุณสมบัติที่จะมาเป็นผู้นำและมีบทบาทสำคัญในกิจการบ้านเมืองนั้นว่า ‘โต้งเหลียงจือฉาย’(栋梁之才)

    เหตุใดในสำนวนนี้จึงใช้คำว่า ‘คาน’ ไม่ใช่ ‘เสา’ เหมือนชาติอื่น? เรื่องนี้ไม่ปรากฏคำอธิบายชัดเจน Storyฯ เองก็ไม่ใช่วิศวกรหรือสถาปนิก แต่พอจะจับใจความได้ดังนี้ค่ะ: คานคือส่วนของบ้านที่รับน้ำหนักจากข้างบนลงมาแล้วค่อยกระจายไปตามเสา และยังเป็นตัวช่วยยึดให้เสาตั้งตรงไม่เอนเอียงไปตามกาลเวลา ในการออกแบบจะคำนวณการกระจายน้ำหนักจากบนลงล่าง (แม้ในการก่อสร้างจริงจะเริ่มจากล่างก่อน) และคานหลักเป็นคานที่ใหญ่ที่สุดและเป็นตัวหลักในการรับน้ำหนัก ในสมัยโบราณมีการทำพิธีบวงสรวงเวลายกคานหลักขึ้นตั้งด้วย แสดงให้เห็นถึงความสำคัญในสายตาของคนโบราณ

    Storyฯ ลองคิดตามก็รู้สึก ‘เออ...ใช่!’ ด้วยวัฒนธรรมที่จัดลำดับความสำคัญจากบนลงล่าง การเปรียบคนคนหนึ่งเป็นเสมือนคานหลักของบ้านเป็นการอุปมาอุปไมยอย่างชัดเจนว่าคนคนนี้ต้องรับภาระอันมากมายและมีหน้าที่สำคัญในการดำรงไว้ซึ่งความสมดุลของบ้าน และมีหน้าที่กระจายน้ำหนักไปสู่ส่วนประกอบอื่นของบ้าน ... ซึ่ง Storyฯ คิดว่านี่ก็คือบทบาทหน้าที่ของผู้นำ อดคิดไม่ได้ว่า สำนวนจีนเขาก็เปรียบเทียบได้ถูกต้องดี เพื่อนเพจว่าไหม?

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://www.tupianzj.com/mingxing/juzhao/20211209/236147.html
    https://www.pixnet.net/tags/我就是這般女子
    https://www.facebook.com/Nsplusengineering/posts/2897265593641850/
    https://ettchk.wordpress.com/2017/12/22/3175/
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://chengyu.qianp.com/cy/%E6%A0%8B%E6%A2%81%E4%B9%8B%E6%89%8D
    http://chengyu.kaishicha.com/in8q.html
    https://baike.baidu.com/item/%E6%A0%8B%E6%A2%81/6433593

    #สำนวนจีน #เสาหลัก
    สวัสดีค่ะ สืบเนื่องจากอาทิตย์ที่แล้วเราคุยกันเรื่องปรัชญาขงจื๊อว่าด้วย ‘วิญญูชน’ วันนี้เลยมาคุยกันสั้นๆ เกี่ยวกับสำนวนจีนที่เกี่ยวข้อง เชื่อว่ามีเพื่อนเพจไม่น้อยที่เคยผ่านหูและผ่านตาในซีรีส์และนิยายจีนถึงสำนวน ‘เสาหลักของชาติ’ ซึ่งสำนวนนี้มีใช้ในภาษาไทยและภาษาอังกฤษอย่างแพร่หลายจวบจนปัจจุบัน วันนี้เลยมาพร้อมรูปกระกอบของเหล่าตัวละครที่ได้รับการขนานนามในเรื่องนั้นๆ ว่าเป็นเสาหลักของชาติ แต่เพื่อนเพจทราบหรือไม่ว่า จริงๆ แล้วในสำนวนจีนที่มีมาแต่โบราณนี้ เขาใช้คำว่า ‘คานหลัก’ ไม่ใช่ ‘เสาหลัก’? สำนวนนี้มักใช้ว่า ‘国之栋梁’(กั๋วจือโต้งเหลียง) ซึ่งเป็นสำนวนที่มีมาแต่โบราณ ปัจจุบันสำนวนที่ถูกต้องคือ ‘国家栋梁’ (กั๋วเจียโต้งเหลียง) โดยคำว่า ‘โต้งเหลียง’นี้แปลว่าคานหลัก และมีสำนวนกล่าวชมคนที่มีคุณสมบัติที่จะมาเป็นผู้นำและมีบทบาทสำคัญในกิจการบ้านเมืองนั้นว่า ‘โต้งเหลียงจือฉาย’(栋梁之才) เหตุใดในสำนวนนี้จึงใช้คำว่า ‘คาน’ ไม่ใช่ ‘เสา’ เหมือนชาติอื่น? เรื่องนี้ไม่ปรากฏคำอธิบายชัดเจน Storyฯ เองก็ไม่ใช่วิศวกรหรือสถาปนิก แต่พอจะจับใจความได้ดังนี้ค่ะ: คานคือส่วนของบ้านที่รับน้ำหนักจากข้างบนลงมาแล้วค่อยกระจายไปตามเสา และยังเป็นตัวช่วยยึดให้เสาตั้งตรงไม่เอนเอียงไปตามกาลเวลา ในการออกแบบจะคำนวณการกระจายน้ำหนักจากบนลงล่าง (แม้ในการก่อสร้างจริงจะเริ่มจากล่างก่อน) และคานหลักเป็นคานที่ใหญ่ที่สุดและเป็นตัวหลักในการรับน้ำหนัก ในสมัยโบราณมีการทำพิธีบวงสรวงเวลายกคานหลักขึ้นตั้งด้วย แสดงให้เห็นถึงความสำคัญในสายตาของคนโบราณ Storyฯ ลองคิดตามก็รู้สึก ‘เออ...ใช่!’ ด้วยวัฒนธรรมที่จัดลำดับความสำคัญจากบนลงล่าง การเปรียบคนคนหนึ่งเป็นเสมือนคานหลักของบ้านเป็นการอุปมาอุปไมยอย่างชัดเจนว่าคนคนนี้ต้องรับภาระอันมากมายและมีหน้าที่สำคัญในการดำรงไว้ซึ่งความสมดุลของบ้าน และมีหน้าที่กระจายน้ำหนักไปสู่ส่วนประกอบอื่นของบ้าน ... ซึ่ง Storyฯ คิดว่านี่ก็คือบทบาทหน้าที่ของผู้นำ อดคิดไม่ได้ว่า สำนวนจีนเขาก็เปรียบเทียบได้ถูกต้องดี เพื่อนเพจว่าไหม? (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://www.tupianzj.com/mingxing/juzhao/20211209/236147.html https://www.pixnet.net/tags/我就是這般女子 https://www.facebook.com/Nsplusengineering/posts/2897265593641850/ https://ettchk.wordpress.com/2017/12/22/3175/ Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://chengyu.qianp.com/cy/%E6%A0%8B%E6%A2%81%E4%B9%8B%E6%89%8D http://chengyu.kaishicha.com/in8q.html https://baike.baidu.com/item/%E6%A0%8B%E6%A2%81/6433593 #สำนวนจีน #เสาหลัก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 840 มุมมอง 0 รีวิว
  • เซิร์ฟเวอร์ที่มีชื่อว่า "Global Special Forces" ซึ่งพัฒนาโดยบริษัท Chaoyue Technology ได้รับรางวัล iF Design Award ซึ่งถือเป็นรางวัลระดับนานาชาติที่มอบให้กับผลิตภัณฑ์ที่มีความโดดเด่นด้านการออกแบบ

    คุณสมบัติเด่นของเซิร์ฟเวอร์นี้ได้แก่:
    - การป้องกันการรบกวนทางแม่เหล็กไฟฟ้า (Electromagnetic Shielding) ที่ครอบคลุมช่วง 10K-10GHz
    - ความทนทานต่อการสั่นสะเทือนและแรงกระแทกที่สูงถึง 50g
    - กันความชื้นระดับ IP66 พร้อมรองรับความชื้นได้ถึง 95%
    - การทำงานในอุณหภูมิที่หลากหลาย ตั้งแต่ -55°C ถึง 70°C โดยไม่ส่งผลต่อประสิทธิภาพ
    - ทนต่อการกัดกร่อนจากไอเกลือ (Salt Spray) ได้นานถึง 10 ปี

    เซิร์ฟเวอร์นี้ถูกออกแบบให้รองรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย เช่น การใช้งานบนยานพาหนะ เครื่องบิน หรือเรือ และสามารถทำงานได้อย่างเสถียร แม้ในพื้นที่ที่มีความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม ตัวเครื่องมีดีไซน์โมดูลาร์ที่สามารถถอดประกอบได้ง่าย พร้อมฟังก์ชันการควบคุมด้วย AI และการจัดเก็บข้อมูลในตัว

    ผลิตภัณฑ์นี้เป็นเซิร์ฟเวอร์ LRM (Lightweight Rackmount) ที่ผลิตในประเทศจีน ซึ่งใช้เทคโนโลยีเฉพาะด้าน เช่น การสลับเมทริกซ์แบบ DVI+USB ซึ่งปัจจุบันมีเพียงสองบริษัทในจีนที่สามารถทำได้ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใช้เวลาถึงหนึ่งปีเต็ม ก่อนเปิดตัวในปี 2023 และได้รับความสนใจจากหลากหลายวงการ

    การออกแบบเซิร์ฟเวอร์ในลักษณะนี้สะท้อนให้เห็นถึงการผสมผสานความงามและประสิทธิภาพอย่างลงตัว แม้จะเป็นอุปกรณ์ที่เน้นใช้งานในงานด้านเทคนิคและการป้องกันประเทศ แต่ก็สามารถสร้างแรงบันดาลใจในด้านการออกแบบเชิงอุตสาหกรรม

    https://www.techradar.com/pro/ai-server-designed-for-chinese-military-use-wins-major-global-design-award-in-europe
    เซิร์ฟเวอร์ที่มีชื่อว่า "Global Special Forces" ซึ่งพัฒนาโดยบริษัท Chaoyue Technology ได้รับรางวัล iF Design Award ซึ่งถือเป็นรางวัลระดับนานาชาติที่มอบให้กับผลิตภัณฑ์ที่มีความโดดเด่นด้านการออกแบบ คุณสมบัติเด่นของเซิร์ฟเวอร์นี้ได้แก่: - การป้องกันการรบกวนทางแม่เหล็กไฟฟ้า (Electromagnetic Shielding) ที่ครอบคลุมช่วง 10K-10GHz - ความทนทานต่อการสั่นสะเทือนและแรงกระแทกที่สูงถึง 50g - กันความชื้นระดับ IP66 พร้อมรองรับความชื้นได้ถึง 95% - การทำงานในอุณหภูมิที่หลากหลาย ตั้งแต่ -55°C ถึง 70°C โดยไม่ส่งผลต่อประสิทธิภาพ - ทนต่อการกัดกร่อนจากไอเกลือ (Salt Spray) ได้นานถึง 10 ปี เซิร์ฟเวอร์นี้ถูกออกแบบให้รองรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย เช่น การใช้งานบนยานพาหนะ เครื่องบิน หรือเรือ และสามารถทำงานได้อย่างเสถียร แม้ในพื้นที่ที่มีความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม ตัวเครื่องมีดีไซน์โมดูลาร์ที่สามารถถอดประกอบได้ง่าย พร้อมฟังก์ชันการควบคุมด้วย AI และการจัดเก็บข้อมูลในตัว ผลิตภัณฑ์นี้เป็นเซิร์ฟเวอร์ LRM (Lightweight Rackmount) ที่ผลิตในประเทศจีน ซึ่งใช้เทคโนโลยีเฉพาะด้าน เช่น การสลับเมทริกซ์แบบ DVI+USB ซึ่งปัจจุบันมีเพียงสองบริษัทในจีนที่สามารถทำได้ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใช้เวลาถึงหนึ่งปีเต็ม ก่อนเปิดตัวในปี 2023 และได้รับความสนใจจากหลากหลายวงการ การออกแบบเซิร์ฟเวอร์ในลักษณะนี้สะท้อนให้เห็นถึงการผสมผสานความงามและประสิทธิภาพอย่างลงตัว แม้จะเป็นอุปกรณ์ที่เน้นใช้งานในงานด้านเทคนิคและการป้องกันประเทศ แต่ก็สามารถสร้างแรงบันดาลใจในด้านการออกแบบเชิงอุตสาหกรรม https://www.techradar.com/pro/ai-server-designed-for-chinese-military-use-wins-major-global-design-award-in-europe
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 562 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel เตรียมเปิดตัวซีพียูรุ่นปรับปรุง Arrow Lake-S Refresh สำหรับเดสก์ท็อปในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 โดยเป็นการนำซีพียู Arrow Lake รุ่นปัจจุบันมาปรับปรุงประสิทธิภาพบางส่วน จุดเด่นของรุ่นใหม่นี้คือการใช้สถาปัตยกรรม NPU5 ที่สามารถประมวลผลได้ถึง 18-50 TOPS ซึ่งเหนือกว่ารุ่นก่อนหน้า NPU4 ที่ทำได้ 40-48 TOPS นอกจากนี้ยังมีการรองรับ AI และประสิทธิภาพการเล่นเกมที่สูงขึ้น

    Intel ยังมีการพัฒนาเทคโนโลยี NPU ต่อเนื่อง โดยในอนาคตมีแผนจะเปิดตัวสถาปัตยกรรม NPU6 ที่สามารถประมวลผลได้ถึง 75 TOPS ซึ่งจะกลายเป็นก้าวสำคัญในการปรับตัวให้ทันต่อการแข่งขันในตลาดเทคโนโลยี AI และการประมวลผลยุคใหม่

    อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ Arrow Lake-S Refresh จะยังคงใช้แพลตฟอร์มเดิม LGA 1851 ที่รองรับหน่วยความจำ DDR5 และ PCIe 5.0 ทำให้ผู้ใช้งานไม่ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์เสริมใหม่ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม การเปิดตัวซีพียูรุ่นปรับปรุงนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกับการเปิดตัวซีพียูรุ่นใหม่ Nova Lake ในปี 2026 ซึ่งอาจสร้างคำถามเกี่ยวกับการตัดสินใจของ Intel ในการปล่อย Arrow Lake-S Refresh

    https://wccftech.com/intel-arrow-lake-s-desktop-cpu-refresh-back-on-the-menu-minor-upgrades-faster-npu/
    Intel เตรียมเปิดตัวซีพียูรุ่นปรับปรุง Arrow Lake-S Refresh สำหรับเดสก์ท็อปในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 โดยเป็นการนำซีพียู Arrow Lake รุ่นปัจจุบันมาปรับปรุงประสิทธิภาพบางส่วน จุดเด่นของรุ่นใหม่นี้คือการใช้สถาปัตยกรรม NPU5 ที่สามารถประมวลผลได้ถึง 18-50 TOPS ซึ่งเหนือกว่ารุ่นก่อนหน้า NPU4 ที่ทำได้ 40-48 TOPS นอกจากนี้ยังมีการรองรับ AI และประสิทธิภาพการเล่นเกมที่สูงขึ้น Intel ยังมีการพัฒนาเทคโนโลยี NPU ต่อเนื่อง โดยในอนาคตมีแผนจะเปิดตัวสถาปัตยกรรม NPU6 ที่สามารถประมวลผลได้ถึง 75 TOPS ซึ่งจะกลายเป็นก้าวสำคัญในการปรับตัวให้ทันต่อการแข่งขันในตลาดเทคโนโลยี AI และการประมวลผลยุคใหม่ อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ Arrow Lake-S Refresh จะยังคงใช้แพลตฟอร์มเดิม LGA 1851 ที่รองรับหน่วยความจำ DDR5 และ PCIe 5.0 ทำให้ผู้ใช้งานไม่ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์เสริมใหม่ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม การเปิดตัวซีพียูรุ่นปรับปรุงนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกับการเปิดตัวซีพียูรุ่นใหม่ Nova Lake ในปี 2026 ซึ่งอาจสร้างคำถามเกี่ยวกับการตัดสินใจของ Intel ในการปล่อย Arrow Lake-S Refresh https://wccftech.com/intel-arrow-lake-s-desktop-cpu-refresh-back-on-the-menu-minor-upgrades-faster-npu/
    WCCFTECH.COM
    Intel Arrow Lake-S Desktop CPU Refresh Is Back On The Menu - Minor Upgrades Including Faster NPU
    Intel is once again planning to release a refresh of its Arrow Lake-S Desktop lineup which will offer some minor upgrades.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 217 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 79 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐฯ ปลดผู้แทนพิเศษ Kellogg จากการเจรจาสันติภาพตามคำเรียกร้องของเครมลิน

    NBC News รายงานว่า พลโท Keith Kellogg ผู้แทนพิเศษสหรัฐฯ ถูกปลดจากการเจรจาสันติภาพตามคำเรียกร้องของเครมลิน เนื่องจากจุดยืน "เข้าข้างยูเครนมากเกินไป"

    สื่อระบุว่า พลโท Keith Kellogg "หายไปอย่างน่าสงสัย" จากการประชุมสุดยอดสองครั้งล่าสุดในซาอุดีอาระเบีย

    ประธานาธิบดีรัสเซีย Vladimir Putin เห็นว่าเขามีท่าทีเข้าข้างยูเครนมากเกินไป เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัสเซียบอกกับ NBC News

    "Kellogg เป็นอดีตนายพลอเมริกันที่ใกล้ชิดกับยูเครนมากเกินไป ไม่ใช่คนของเรา ไม่ใช่ระดับที่เรากำลังมองหา" เจ้าหน้าที่กล่าว

    เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ในรัฐบาล Trump ยืนยันกับ NBC News ว่ารัสเซียไม่ต้องการให้ Kellogg มีส่วนเกี่ยวข้อง

    ก่อนหน้านี้ Politico รายงานว่า Kellogg "ถูกลดบทบาทเป็นอย่างมาก" ในการเจรจากับยูเครนและรัสเซีย
    สหรัฐฯ ปลดผู้แทนพิเศษ Kellogg จากการเจรจาสันติภาพตามคำเรียกร้องของเครมลิน NBC News รายงานว่า พลโท Keith Kellogg ผู้แทนพิเศษสหรัฐฯ ถูกปลดจากการเจรจาสันติภาพตามคำเรียกร้องของเครมลิน เนื่องจากจุดยืน "เข้าข้างยูเครนมากเกินไป" สื่อระบุว่า พลโท Keith Kellogg "หายไปอย่างน่าสงสัย" จากการประชุมสุดยอดสองครั้งล่าสุดในซาอุดีอาระเบีย ประธานาธิบดีรัสเซีย Vladimir Putin เห็นว่าเขามีท่าทีเข้าข้างยูเครนมากเกินไป เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัสเซียบอกกับ NBC News "Kellogg เป็นอดีตนายพลอเมริกันที่ใกล้ชิดกับยูเครนมากเกินไป ไม่ใช่คนของเรา ไม่ใช่ระดับที่เรากำลังมองหา" เจ้าหน้าที่กล่าว เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ในรัฐบาล Trump ยืนยันกับ NBC News ว่ารัสเซียไม่ต้องการให้ Kellogg มีส่วนเกี่ยวข้อง ก่อนหน้านี้ Politico รายงานว่า Kellogg "ถูกลดบทบาทเป็นอย่างมาก" ในการเจรจากับยูเครนและรัสเซีย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 593 มุมมอง 0 รีวิว
  • 250309 โรงเรียนนายร้อยตำรวจ สามพราน
    #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida
    250309 โรงเรียนนายร้อยตำรวจ สามพราน #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida
    Love
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 527 มุมมอง 0 รีวิว
  • สมหมาย ภาษี อดีต รมว.คลัง สุดทนแฉ ตำรวจภูเก็ตไถนักท่องเที่ยว 1-2 หมื่น แลกไม่ต้องไปโรงพัก ชี้ สุดทน คอร์รัปชั่นผุดทั่วไทย มหันตภัยที่เกินแก้

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000024571
    สมหมาย ภาษี อดีต รมว.คลัง สุดทนแฉ ตำรวจภูเก็ตไถนักท่องเที่ยว 1-2 หมื่น แลกไม่ต้องไปโรงพัก ชี้ สุดทน คอร์รัปชั่นผุดทั่วไทย มหันตภัยที่เกินแก้ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000024571
    Like
    Haha
    Sad
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1338 มุมมอง 1 รีวิว
  • เลิกลั่กกันหมด!! เมื่อเจอแผนสูงของปูติน

    ปูตินที่เอ่ยปาก "เห็นด้วย" ในข้อตกลงหยุดยิง แต่! ไม่ได้กล่าว "ยอมรับ" ในทันที พร้อมตั้งเงื่อนไข ขอเจรจากับทรัมป์ในหลายประเด็น เพื่อนำไปสู่การหยุดยิงถาวร

    "ก่อนอื่น ผมขอขอบคุณประธานาธิบดีสหรัฐที่ให้ความสนใจต่อการบรรลุทางออกในยูเครน เราเห็นด้วยกับข้อเสนอให้ยุติความขัดแย้ง แต่จุดยืนของเรา การหยุดยิงควรนำไปสู่สันติภาพที่ยืนยาว และขจัดต้นตอเบื้องหลังวิกฤตนี้" บางส่วนของคำพูดปูติน

    การพูดอย่างอ่อนน้อมของปูตินทำให้อเมริกา รวมทั้งยุโรป ที่ตั้งท่าจะกล่าวหาปูตินถึงกับไปไม่เป็น จะด่าก็ไม่ได้ เพราะปูตินเห็นด้วยกับข้อเสนอ ตอนนี้เลยเงียบกันหมด เพราะที่คิดว่าปูตินจะเสียงแข็งไม่ยอมรับข้อตกลง เป็นสิ่งที่คิดผิดไปถนัด!

    แม้แต่ เซเลนสกี ยังแค่อ้อมแอ้ม ไม่ได้พูดอะไรมาก ได้แค่บ่นๆผ่านโซเชียลของตัวเองว่า ยังคงไม่ไว้ใจคำพูดของปูติน นี่เป็นแค่การหลอกล่อเพื่อต้องการถ่วงเวลา โดยการยื่นเงื่อนไขต่างๆ ซึ่งทางรัสเซียรู้ดีว่าเงื่อนไขเหล่านี้ไม่มีทางเกิดขึ้นได้จริง

    ย้อนกลับมาที่คำพูดของปูติน ถ้าหากเราตัดภาษาทางการทูตออกไป และเปลี่ยนมาใช้ภาษาในแบบอย่างชนชั้นสูง(ผู้ดี) ข้อความของปูตินจะกลายเป็น "นั่นเป็นความคิดที่ดี พวกเราชอบสันติภาพ แต่แนวทางที่คุณเสนอยังไม่สมจริงสำหรับเรา เราอยากขอสนทนากับคุณเพื่อฟังเหตุผลอื่นๆ"

    เป็นคำ "ขอบคุณ" ของปูตินที่ส่งให้ทรัมป์อย่างสุภาพ หลังจากนั้นจะเป็นการยื่นรายการคำถามที่ต้องการให้ทั้งสหรัฐและยูเครนลองไปทบทวนเชิงบังคับให้ปฏิบัติอย่างยาวเหยียด ไม่จบแค่นั้น ปูตินต้องการการตอบสนองในเชิงบวกอย่างเดียว!

    สิ่งสำคัญที่สหรัฐ ยูเครน และยุโรปต้องจำไว้คือ "ก่อนที่คุณจะส่งบอลให้ปูติน คุณต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่ามันคุ้มค่ามั้ยที่คุณจะเล่นกับปูติน"

    เลิกลั่กกันหมด!! เมื่อเจอแผนสูงของปูติน ปูตินที่เอ่ยปาก "เห็นด้วย" ในข้อตกลงหยุดยิง แต่! ไม่ได้กล่าว "ยอมรับ" ในทันที พร้อมตั้งเงื่อนไข ขอเจรจากับทรัมป์ในหลายประเด็น เพื่อนำไปสู่การหยุดยิงถาวร "ก่อนอื่น ผมขอขอบคุณประธานาธิบดีสหรัฐที่ให้ความสนใจต่อการบรรลุทางออกในยูเครน เราเห็นด้วยกับข้อเสนอให้ยุติความขัดแย้ง แต่จุดยืนของเรา การหยุดยิงควรนำไปสู่สันติภาพที่ยืนยาว และขจัดต้นตอเบื้องหลังวิกฤตนี้" บางส่วนของคำพูดปูติน การพูดอย่างอ่อนน้อมของปูตินทำให้อเมริกา รวมทั้งยุโรป ที่ตั้งท่าจะกล่าวหาปูตินถึงกับไปไม่เป็น จะด่าก็ไม่ได้ เพราะปูตินเห็นด้วยกับข้อเสนอ ตอนนี้เลยเงียบกันหมด เพราะที่คิดว่าปูตินจะเสียงแข็งไม่ยอมรับข้อตกลง เป็นสิ่งที่คิดผิดไปถนัด! แม้แต่ เซเลนสกี ยังแค่อ้อมแอ้ม ไม่ได้พูดอะไรมาก ได้แค่บ่นๆผ่านโซเชียลของตัวเองว่า ยังคงไม่ไว้ใจคำพูดของปูติน นี่เป็นแค่การหลอกล่อเพื่อต้องการถ่วงเวลา โดยการยื่นเงื่อนไขต่างๆ ซึ่งทางรัสเซียรู้ดีว่าเงื่อนไขเหล่านี้ไม่มีทางเกิดขึ้นได้จริง ย้อนกลับมาที่คำพูดของปูติน ถ้าหากเราตัดภาษาทางการทูตออกไป และเปลี่ยนมาใช้ภาษาในแบบอย่างชนชั้นสูง(ผู้ดี) ข้อความของปูตินจะกลายเป็น "นั่นเป็นความคิดที่ดี พวกเราชอบสันติภาพ แต่แนวทางที่คุณเสนอยังไม่สมจริงสำหรับเรา เราอยากขอสนทนากับคุณเพื่อฟังเหตุผลอื่นๆ" เป็นคำ "ขอบคุณ" ของปูตินที่ส่งให้ทรัมป์อย่างสุภาพ หลังจากนั้นจะเป็นการยื่นรายการคำถามที่ต้องการให้ทั้งสหรัฐและยูเครนลองไปทบทวนเชิงบังคับให้ปฏิบัติอย่างยาวเหยียด ไม่จบแค่นั้น ปูตินต้องการการตอบสนองในเชิงบวกอย่างเดียว! สิ่งสำคัญที่สหรัฐ ยูเครน และยุโรปต้องจำไว้คือ "ก่อนที่คุณจะส่งบอลให้ปูติน คุณต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่ามันคุ้มค่ามั้ยที่คุณจะเล่นกับปูติน"
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 497 มุมมอง 0 รีวิว
  • 56 ปี สิ้น “อิศรา อมันตกุล” นายกสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทยคนแรก
    ตำนานนักหนังสือพิมพ์ผู้กล้า สู่ต้นแบบนักสื่อสารมวลชนไทย

    รัฐจับขัง 5 ปี ไม่มีสั่งฟ้อง! แต่หัวใจนักข่าวไม่เคยสิ้นไฟ

    ถ้าพูดถึงตำนานนักข่าวไทย ชื่อ “อิศรา อมันตกุล” คงเป็นหนึ่งในบุคคล ที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุด เพราะคือผู้ที่ไม่เพียงแต่เป็น นายกสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทยคนแรก แต่ยังเป็นนักข่าว นักเขียน และนักต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน ตัวจริงเสียงจริง วั

    ย้อนไปในอดีตเมื่อ 56 ปี ที่ผ่านมา เพื่อรำลึกถึงชายผู้พลิกโฉม วงการสื่อสารมวลชนไทย อย่างแท้จริง "อาจไม่ใช่คนดังในโลกออนไลน์ แต่ในยุคที่ปากกาคืออาวุธ อิศราคือหนึ่งในนักรบผู้ยิ่งใหญ่"

    “อิศรา อมันตกุล” นักหนังสือพิมพ์ที่ชีวิตจริงยิ่งกว่านวนิยาย
    🗓 เกิดวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2464
    เชื้อสายมุสลิมอินเดีย จากครอบครัวมูฮัมหมัดซาเลย์ อะมัน และวัน อมรทัต
    จบชั้นประถมจากโรงเรียนบำรุงวิทยา จ.นครปฐม และชั้นมัธยมจากโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ปี 2479 คะแนนภาษาอังกฤษอันดับ 1 ของประเทศ

    ชีวิตอิศราไม่ใช่เส้นตรง เริ่มจากครูสอนหนังสือในนครศรีธรรมราช ก่อนที่โชคชะตาจะพากลับสู่เส้นทางของ “นักข่าว”

    นายกสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทยคนแรก บทบาทที่สร้างมาตรฐานวิชาชีพสื่อไทย ในปี พ.ศ. 2499 อิศราได้รับเลือกให้เป็น นายกสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทยคนแรก และดำรงตำแหน่งต่อเนื่อง 3 สมัย (2499 - 2501)

    ผลงานสำคัญ เปลี่ยนรูปแบบการจัดหน้าหนังสือพิมพ์จาก 7 คอลัมน์เป็น 8 คอลัมน์ วางรากฐานจรรยาบรรณนักข่าวไทย ปกป้องสิทธิเสรีภาพสื่อ แม้ต้องแลกด้วยอิสรภาพของตัวเองก็ตาม "อิศราเชื่อว่า หนังสือพิมพ์คือบันทึกประวัติศาสตร์รายวัน"

    เสรีภาพกับราคาที่ต้องจ่าย เมื่อ “อิศรา” ต้องติดคุกเกือบ 6 ปี โดยไม่มีการฟ้องร้อง!
    วันที่ 21 ตุลาคม 2501 หลังรัฐประหารของจอมพลสฤษดิ์ อิศราในฐานะบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ บางกอกเดลิเมล์ ถูกจับกุมข้อหาคอมมิวนิสต์
    ไม่มีการสอบสวน ไม่มีการส่งฟ้อง
    ถูกขัง 5 ปี 10 เดือน

    แม้จะอยู่ในเรือนจำ แต่อิศรายังคงเขียนงานอย่างต่อเนื่อง ใช้นามปากกามากกว่า 10 ชื่อ เช่น
    นายอิสระ
    มะงุมมะงาหรา
    ธนุธร
    ดร.x XYZ

    🗨 "เอ็งติดตะรางเพราะทำงานหนังสือพิมพ์ มันยังโก้กว่าติดตะรางเพราะเป็นหัวไม้" เสียงแม่ที่ยังอยู่ในใจอิศราเสมอ

    ผลงานเด่นในวงการหนังสือพิมพ์ ครอบคลุมทุกแขนงข่าว จนกลายเป็นต้นแบบนักข่าว
    หนังสือพิมพ์ที่อิศราเคยร่วมงาน สุภาพบุรุษ, สุวัณณภูมิ, บางกอกรายวัน, พิมพ์ไทยเบื้องหลังข่าว, เอกราช, เดลินิวส์

    อิศราคือผู้ควบคุมการผลิตข่าว สารคดีเชิงข่าว เรื่องแรกของไทย คดีปล้นร้านทองเบ๊ลี่แซ นำไปสร้างเป็นละครเวที และภาพยนตร์ในเวลาต่อมา

    เทคนิคข่าวของอิศรา เน้นความถูกต้อง เที่ยงธรรม และตรวจสอบได้ "ข่าวไม่ใช่การสร้างสีสัน แต่คือการสะท้อนความจริงของสังคม"

    จุดยืนเพื่อเสรีภาพและศักดิ์ศรี ไม่เคยยอมอำนาจรัฐ ไม่รับสินบน ไม่หวั่นคำขู่ อิศราเป็นนักข่าว ที่ไม่ยอมให้นายทุน หรืออำนาจรัฐแทรกแซงสื่อ
    ตรวจสอบทุกแหล่งข่าว
    ไม่ประณามผู้ต้องหาโดยไม่มีหลักฐาน
    ✍ ไม่ละเมิดความเป็นส่วนตัวของบุคคล

    อิศราเคยกล่าวว่า "หนังสือพิมพ์อาจดูเหมือนกระดาษไร้ค่า แต่ในวันหน้า มันคือหลักฐานทางประวัติศาสตร์"

    นักเขียนนวนิยายที่ตีแผ่สังคมไทย ผลงานที่ฝังลึกในหัวใจคนไทย
    นวนิยาย นักบุญ-คนบาป (2486)
    เรื่องสั้น-นวนิยายกว่า 100 เรื่อง
    🖋 ภาษาเขียนที่สวิงสวาย แตกต่างจากนักเขียนร่วมยุค

    "...ชีพจรของงานเต้นเร็วถี่ขึ้นเป็นลำดับ..."
    "...เสียงซ่าของคลื่นที่ยื่นปากจูบชายหาย..."

    จอมพลสฤษดิ์ กับการปิดปากนักข่าว คุกคือคำตอบของรัฐต่อ “ปากกา” ของอิศรา
    ตุลาคม 2501 รัฐประหาร -> จับนักข่าว นักการเมือง นักวิชาการ รวมถึง กุหลาบ สายประดิษฐ์, สุวัฒน์ วรดิลก และอิศรา อมันตกุล ไม่มีการพิสูจน์ ไม่มีหลักฐาน แต่ถูกขังโดยไม่ไต่สวน

    "นักหนังสือพิมพ์ถูกจับเ พราะเขียนข่าวที่รัฐไม่พอใจ"

    แม้ไร้อิสรภาพ แต่หัวใจยังคงเสรี เขียนหนังสือแม้ในเรือนจำ ใช้หลายนามปากกาเขียนคอลัมน์ และเรื่องสั้น

    แสดงความกล้าหาญในการพูดถึงสังคม
    ปกป้องเสรีภาพผ่านตัวหนังสือ

    "การติดคุกเพราะทำหนังสือพิมพ์ ยังโก้กว่าเป็นหัวไม้!" แม่ของอิศรา

    วาระสุดท้ายที่ไม่สิ้นไฟ ปากกาวาง...แต่คำยังสะท้อนก้อง

    🕯 เสียชีวิต 14 มีนาคม 2512 ด้วยโรคมะเร็งลิ้น อายุ 47 ปี "ผมไม่เสียใจเลย ที่เกิดมาเป็นหนังสือพิมพ์"
    แม้เจ็บป่วยแ ต่ยังเขียนข้อความสั้นๆ ฝากถึงเพื่อนร่วมวิชาชีพ

    ✒ ปณิธานนักข่าวไม่เคยจางหาย สารจากอิศรา ถึงคนข่าวรุ่นใหม่ "ข้าพเจ้าเป็นคนสามัญคนหนึ่ง ซึ่งมั่นหมายจะเขียน เฉพาะเรื่องราวของประชาชน เพื่อถ่ายทอดความคิด ความรู้สึก ความดิ้นรน และความหวังจากประชาชนไปสู่ประชาชน เพราะประชาชนเท่านั้นที่เป็นผู้กำลังต่อสู้ และกำลังทำงานเพื่อสร้างเสรีภาพอันถูกต้อง และศตวรรษแห่งสามัญชน"

    สรุปบทเรียนจากชีวิต “อิศรา อมันตกุล”
    นักข่าวคือผู้บันทึกประวัติศาสตร์
    เสรีภาพไม่ใช่ของขวัญจากรัฐ แต่คือสิทธิที่ต้องรักษา
    จรรยาบรรณต้องมาก่อนผลประโยชน์
    ปากกาคืออาวุธ แต่ใจต้องเป็นธรรม

    คำคมจากอิศรา 🖋 "หนังสือพิมพ์คือเอกสารทางประวัติศาสตร์อย่างหนึ่ง และนักข่าวคือผู้บันทึกประวัติศาสตร์วันต่อวัน"

    “เพราะหนังสือพิมพ์ในวันนี้ คือประวัติศาสตร์ของวันหน้า”

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 141021 มี.ค. 2568

    #อิศราอมันตกุล #นักข่าวต้นแบบ #เสรีภาพสื่อไทย #สมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย #นักหนังสือพิมพ์ในตำนาน #ประวัติศาสตร์ข่าวไทย #ชีวิตอิศรา #นักข่าวสายตรง #นักเขียนเพื่อประชาชน #สื่อเสรีไทย
    56 ปี สิ้น “อิศรา อมันตกุล” นายกสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทยคนแรก ตำนานนักหนังสือพิมพ์ผู้กล้า ✊ สู่ต้นแบบนักสื่อสารมวลชนไทย รัฐจับขัง 5 ปี ไม่มีสั่งฟ้อง! แต่หัวใจนักข่าวไม่เคยสิ้นไฟ 📌 ถ้าพูดถึงตำนานนักข่าวไทย ชื่อ “อิศรา อมันตกุล” คงเป็นหนึ่งในบุคคล ที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุด เพราะคือผู้ที่ไม่เพียงแต่เป็น นายกสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทยคนแรก แต่ยังเป็นนักข่าว นักเขียน และนักต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน ตัวจริงเสียงจริง วั 💥 ย้อนไปในอดีตเมื่อ 56 ปี ที่ผ่านมา เพื่อรำลึกถึงชายผู้พลิกโฉม วงการสื่อสารมวลชนไทย อย่างแท้จริง "อาจไม่ใช่คนดังในโลกออนไลน์ แต่ในยุคที่ปากกาคืออาวุธ อิศราคือหนึ่งในนักรบผู้ยิ่งใหญ่" “อิศรา อมันตกุล” นักหนังสือพิมพ์ที่ชีวิตจริงยิ่งกว่านวนิยาย 🗓 เกิดวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2464 🏠 เชื้อสายมุสลิมอินเดีย จากครอบครัวมูฮัมหมัดซาเลย์ อะมัน และวัน อมรทัต 🎓 จบชั้นประถมจากโรงเรียนบำรุงวิทยา จ.นครปฐม และชั้นมัธยมจากโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ปี 2479 คะแนนภาษาอังกฤษอันดับ 1 ของประเทศ ชีวิตอิศราไม่ใช่เส้นตรง เริ่มจากครูสอนหนังสือในนครศรีธรรมราช ก่อนที่โชคชะตาจะพากลับสู่เส้นทางของ “นักข่าว” นายกสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทยคนแรก บทบาทที่สร้างมาตรฐานวิชาชีพสื่อไทย ในปี พ.ศ. 2499 อิศราได้รับเลือกให้เป็น นายกสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทยคนแรก และดำรงตำแหน่งต่อเนื่อง 3 สมัย (2499 - 2501) 💡 ผลงานสำคัญ เปลี่ยนรูปแบบการจัดหน้าหนังสือพิมพ์จาก 7 คอลัมน์เป็น 8 คอลัมน์ วางรากฐานจรรยาบรรณนักข่าวไทย 🌱 ปกป้องสิทธิเสรีภาพสื่อ แม้ต้องแลกด้วยอิสรภาพของตัวเองก็ตาม "อิศราเชื่อว่า หนังสือพิมพ์คือบันทึกประวัติศาสตร์รายวัน" เสรีภาพกับราคาที่ต้องจ่าย เมื่อ “อิศรา” ต้องติดคุกเกือบ 6 ปี โดยไม่มีการฟ้องร้อง! 📆 วันที่ 21 ตุลาคม 2501 หลังรัฐประหารของจอมพลสฤษดิ์ อิศราในฐานะบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ บางกอกเดลิเมล์ ถูกจับกุมข้อหาคอมมิวนิสต์ 🚫 ไม่มีการสอบสวน ไม่มีการส่งฟ้อง ⏳ ถูกขัง 5 ปี 10 เดือน แม้จะอยู่ในเรือนจำ แต่อิศรายังคงเขียนงานอย่างต่อเนื่อง ใช้นามปากกามากกว่า 10 ชื่อ เช่น ✨ นายอิสระ ✨ มะงุมมะงาหรา ✨ ธนุธร ✨ ดร.x XYZ 🗨 "เอ็งติดตะรางเพราะทำงานหนังสือพิมพ์ มันยังโก้กว่าติดตะรางเพราะเป็นหัวไม้" เสียงแม่ที่ยังอยู่ในใจอิศราเสมอ ผลงานเด่นในวงการหนังสือพิมพ์ ครอบคลุมทุกแขนงข่าว จนกลายเป็นต้นแบบนักข่าว 📰 หนังสือพิมพ์ที่อิศราเคยร่วมงาน สุภาพบุรุษ, สุวัณณภูมิ, บางกอกรายวัน, พิมพ์ไทยเบื้องหลังข่าว, เอกราช, เดลินิวส์ 📍 อิศราคือผู้ควบคุมการผลิตข่าว สารคดีเชิงข่าว เรื่องแรกของไทย คดีปล้นร้านทองเบ๊ลี่แซ นำไปสร้างเป็นละครเวที และภาพยนตร์ในเวลาต่อมา 🎯 เทคนิคข่าวของอิศรา เน้นความถูกต้อง เที่ยงธรรม และตรวจสอบได้ "ข่าวไม่ใช่การสร้างสีสัน แต่คือการสะท้อนความจริงของสังคม" จุดยืนเพื่อเสรีภาพและศักดิ์ศรี ไม่เคยยอมอำนาจรัฐ ไม่รับสินบน ไม่หวั่นคำขู่ อิศราเป็นนักข่าว ที่ไม่ยอมให้นายทุน หรืออำนาจรัฐแทรกแซงสื่อ 💼 ตรวจสอบทุกแหล่งข่าว 🛑 ไม่ประณามผู้ต้องหาโดยไม่มีหลักฐาน ✍ ไม่ละเมิดความเป็นส่วนตัวของบุคคล อิศราเคยกล่าวว่า "หนังสือพิมพ์อาจดูเหมือนกระดาษไร้ค่า แต่ในวันหน้า มันคือหลักฐานทางประวัติศาสตร์" นักเขียนนวนิยายที่ตีแผ่สังคมไทย ผลงานที่ฝังลึกในหัวใจคนไทย 📚 นวนิยาย นักบุญ-คนบาป (2486) 🎭 เรื่องสั้น-นวนิยายกว่า 100 เรื่อง 🖋 ภาษาเขียนที่สวิงสวาย แตกต่างจากนักเขียนร่วมยุค "...ชีพจรของงานเต้นเร็วถี่ขึ้นเป็นลำดับ..." "...เสียงซ่าของคลื่นที่ยื่นปากจูบชายหาย..." จอมพลสฤษดิ์ กับการปิดปากนักข่าว คุกคือคำตอบของรัฐต่อ “ปากกา” ของอิศรา 📅 ตุลาคม 2501 รัฐประหาร -> จับนักข่าว นักการเมือง นักวิชาการ 📌 รวมถึง กุหลาบ สายประดิษฐ์, สุวัฒน์ วรดิลก และอิศรา อมันตกุล ไม่มีการพิสูจน์ ไม่มีหลักฐาน แต่ถูกขังโดยไม่ไต่สวน "นักหนังสือพิมพ์ถูกจับเ พราะเขียนข่าวที่รัฐไม่พอใจ" แม้ไร้อิสรภาพ แต่หัวใจยังคงเสรี เขียนหนังสือแม้ในเรือนจำ ใช้หลายนามปากกาเขียนคอลัมน์ และเรื่องสั้น 📜 แสดงความกล้าหาญในการพูดถึงสังคม 📢 ปกป้องเสรีภาพผ่านตัวหนังสือ "การติดคุกเพราะทำหนังสือพิมพ์ ยังโก้กว่าเป็นหัวไม้!" แม่ของอิศรา วาระสุดท้ายที่ไม่สิ้นไฟ ปากกาวาง...แต่คำยังสะท้อนก้อง 🕯 เสียชีวิต 14 มีนาคม 2512 ด้วยโรคมะเร็งลิ้น อายุ 47 ปี "ผมไม่เสียใจเลย ที่เกิดมาเป็นหนังสือพิมพ์" แม้เจ็บป่วยแ ต่ยังเขียนข้อความสั้นๆ ฝากถึงเพื่อนร่วมวิชาชีพ ✒ ปณิธานนักข่าวไม่เคยจางหาย สารจากอิศรา ถึงคนข่าวรุ่นใหม่ "ข้าพเจ้าเป็นคนสามัญคนหนึ่ง ซึ่งมั่นหมายจะเขียน เฉพาะเรื่องราวของประชาชน เพื่อถ่ายทอดความคิด ความรู้สึก ความดิ้นรน และความหวังจากประชาชนไปสู่ประชาชน เพราะประชาชนเท่านั้นที่เป็นผู้กำลังต่อสู้ และกำลังทำงานเพื่อสร้างเสรีภาพอันถูกต้อง และศตวรรษแห่งสามัญชน" สรุปบทเรียนจากชีวิต “อิศรา อมันตกุล” ✨ นักข่าวคือผู้บันทึกประวัติศาสตร์ ✨ เสรีภาพไม่ใช่ของขวัญจากรัฐ แต่คือสิทธิที่ต้องรักษา ✨ จรรยาบรรณต้องมาก่อนผลประโยชน์ ✨ ปากกาคืออาวุธ แต่ใจต้องเป็นธรรม 🔖 คำคมจากอิศรา 🖋 "หนังสือพิมพ์คือเอกสารทางประวัติศาสตร์อย่างหนึ่ง และนักข่าวคือผู้บันทึกประวัติศาสตร์วันต่อวัน" “เพราะหนังสือพิมพ์ในวันนี้ คือประวัติศาสตร์ของวันหน้า” ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 141021 มี.ค. 2568 🏷️ #อิศราอมันตกุล #นักข่าวต้นแบบ #เสรีภาพสื่อไทย #สมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย #นักหนังสือพิมพ์ในตำนาน #ประวัติศาสตร์ข่าวไทย #ชีวิตอิศรา #นักข่าวสายตรง #นักเขียนเพื่อประชาชน #สื่อเสรีไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1504 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 86 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐสภายุโรป
    อีแอบประชาธิปไตย
    เป้าหมายยกเลิก112
    แต่เอาอุยกูร์มาบังหน้า
    ไทยไม่ใช่ยุโรป
    #7ดอกจิก
    รัฐสภายุโรป อีแอบประชาธิปไตย เป้าหมายยกเลิก112 แต่เอาอุยกูร์มาบังหน้า ไทยไม่ใช่ยุโรป #7ดอกจิก
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 335 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 70 มุมมอง 0 รีวิว