• เพื่อนเพจบางท่านอาจเคยจำได้ว่า Storyฯ เคยเขียนว่าพระเอกในเรื่อง <ยอดองครักษ์เสื้อแพร> ‘ลู่อี้’ นั้นมีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ วันนี้มาคุยกันกับเกร็ดประวัติศาสตร์จากละครเรื่องนี้ที่ Storyฯ เพิ่งได้กลับมาตั้งใจดูอีกครั้งและพบว่าตัวเองตกหล่นรายละเอียดไปไม่น้อย

    เพื่อนเพจที่ได้ดูละครเรื่องนี้อาจพอจำได้ว่าในเนื้อเรื่องมีตัวร้ายคือ ‘เหยียนซื่อฟาน’ ซึ่งเป็นลูกชายของขุนนางตัวโกงนาม ‘เหยียนซง’ ซึ่งทั้งสองคนนี้มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ในรัชสมัยขององค์หมิงซื่อจงแห่งราชวง์หมิง โดยเหยียนซงรับตำแหน่งหัวหน้าของคณะขุนนางสูงสุดหรือที่เรียกว่า ‘เน่ยเก๋อ’ (内阁 จึงเป็นที่มาของการเรียกขาน เหยียนซื่อฟานว่า ‘เสี่ยวเก๋อเหล่า’) ในละครมีฉากที่เหยียนซื่อฟานได้ภาพวาด ‘ชิงหมิงซ่างเหอถู’ มาและมีการถกกันว่าเป็นภาพของแท้หรือไม่

    Storyฯ เคยเขียนถึงภาพวาด ‘ชิงหมิงซ่างเหอถู’ มาแล้วตอนที่คุยกันเกี่ยวกับละคร <สามบุปผาลิขิตฝัน> แต่วันนี้มีรายละเอียดเพิ่มเติม ขอถอดบทสนทนาจากในละครเรื่อง <ยอดองครักษ์เสื้อแพร> มาดังนี้
    ... “ได้ยินมาว่าจางเจ๋อตวนใช้เวลาหนึ่งปีก็วาดภาพม้วนยาวนี้เสร็จ นับว่าเป็นผู้ที่มีความสามารถหายาก... ท่านใต้เท่าสวี่... เชิญท่านลองคุยๆ ดูภาพนี้จริงปลอมหรือไม่อย่างไร” เหยียนซงกล่าว
    ใต้เท้าสวี่เอ่ย “...ตามที่ข้าน้อยทราบมา ภาพนี้ควรมีลายพระอักษรรูปแบบโซ่วจินขององค์ซ่งฮุยจงเป็นคำว่า ‘ชิงหมิงซ่างเหอถู’ ห้าอักษร... และมีตราประทับมังกรคู่ อีกทั้งมีบทกลอนนำ ภาพนี้ดูแล้วไม่คล้ายเป็นภาพวาดเลียนแบบ” (หมายเหตุ Storyฯ แปลเองจ้า)

    ภาพวาด ‘ชิงหมิงซ่างเหอถู’ ยาว 528 ซม. สูง 24.8 ซม. เป็นหนึ่งในสิบของภาพโบราณที่มีค่าที่สุดของจีน ถูกวาดขึ้นโดยจางเจ๋อตวน เขาใช้เวลาหนึ่งปีในการวาดภาพนี้จริงหรือไม่ ไม่ปรากฏหลักฐานหรือบันทึกใดกล่าวชัด แต่ภาพนี้เคยตกอยู่ในมือของเหยียนซงจริง! ตอนที่ตระกูลเหยียนถูกลงทัณฑ์และยึดสมบัตินั้น รายชื่อของสมบัติที่ริบได้นั้นยาวถึง 140 หน้ากระดาษและหนึ่งในนั้นก็คือ ‘ชิงหมิงซ่างเหอถู’ นี้

    จากบันทึกที่พอแกะรอยกันได้ ว่ากันว่าภาพนี้แรกเริ่มถูกนำถวายองค์ซ่งฮุยจง (ค.ศ. 1522-1566) และพระองค์ทรงเขียนชื่อ ‘ชิงหมิงซ่างเหอถู’ ขึ้นบนภาพด้วยอักษรในรูปแบบ ‘โซ่วจิน’ ซึ่งเป็นรูปแบบอักษรที่ทรงคิดประดิษฐ์ขึ้นเอง (ดูตัวอย่างจากรูป2 ขวา) เป็นที่ถกเถียงกันต่อมาว่าทรงโปรดภาพนี้หรือไม่เพราะมันไม่ได้ถูกเก็บไว้ในท้องพระคลังแต่ถูกพระราชทานให้ขุนนาง

    หลังจากนั้น ‘ชิงหมิงซ่างเหอถู’ ผ่านการเดินทางอย่างโชกโชน ในช่วงที่ราชวงศ์จินยึดแผ่นดินซ่งได้สำเร็จนั้น ว่ากันว่ามันถูกเก็บเข้าท้องพระคลังและถูกยักยอกออกมาขายทอดตลาด เป็นช่วงที่มีการเขียนบทนำลงไปหน้าภาพ ต่อมาในสมัยหยวนก็ถูกซื้อเก็บเข้าท้องพระคลังอีกครั้งและถูกยักยอกออกมาขายอีก มีการเสาะหามันเรื่อยมาจนตกมาอยู่ในมือของเหยียนซงในสมัยหมิง โดยที่ก่อนหน้านั้นปรากฏงานลอกเลียนแบบออกมาจำนวนไม่น้อย ต่อมามันถูกริบเป็นสมบัติหลวงอีกครั้งโดยมีการลบตราประทับที่แสดงความเป็นเจ้าของของตระกูลเหยียนออกจากภาพ หลังจากนั้นมันถูกเปลี่ยนมือไปมาในแวดวงขุนนาง โดยไม่แน่ว่าเป็นการได้รับพระราชทานหรือยักยอก และปรากฏบทความนำหน้าภาพขึ้นมาเพิ่มอีก โดยที่ลายพระหัตถ์ขององค์หมิงซื่อจงไม่ทราบว่าหายไปจากภาพตั้งแต่เมื่อใด ผู้ที่ถือครองครั้งสุดท้ายว่ากันว่าคือขันทีนามว่า ‘เฝิงเป่า’ ซึ่งต่อมาถูกลงทัณฑ์ริบสมบัติ

    ภาพนี้หายสาบสูญไปนานกว่าสองร้อยปี แน่นอนว่ามีภาพปลอมจำนวนไม่น้อยปรากฏขึ้น และภาพที่เชื่อว่าเป็นฉบับจริงนี้ปรากฏในตลาดและมาถึงมือของพิพิธภัณฑ์มณฑลเหลียวหนิงในปีค.ศ. 1950 ปัจจุบันถูกเก็บอยู่ในพิพิธภัณฑ์พระราชวังต้องห้าม

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    บทความของ Storyฯ เกี่ยวกับลู่อี้: https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/pfbid0QA8xxCRgWSD6jP6PexAdnrZmEdGAHVxGTu3UXj3CpZfkovdY37ft9rQbauD6KfQzl
    บทความของ Storyฯ เกี่ยวกับชิงหมิงซ่างเหอถู: https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/pfbid01MbyBtawx6X9xEHogRvHY8NesM2MVWHUBgYeuujQnFrPFA39dgddSihm4jjXrfiPl

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก:
    http://www.zgsshh.com/Works_body.asp?id=1190&amp;qx=137
    http://www.fengxuelin.com/tougao/16546.html
    http://ent.sina.com.cn/v/m/2017-10-12/doc-ifymviyp0369720.shtml
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.chinanews.com.cn/cul/news/2010/06-21/2352544.shtml
    http://collection.sina.com.cn/jczs/2016-10-26/doc-ifxwztrt0466746.shtml
    https://baike.baidu.com/item/瘦金体/884949

    #ยอดองครักษ์เสื้อแพร #ชิงหมิงซ่างเหอถู #เหยียนซื่อฟาน #ซ่งฮุยจง #อักษรโซ่วจิน
    เพื่อนเพจบางท่านอาจเคยจำได้ว่า Storyฯ เคยเขียนว่าพระเอกในเรื่อง <ยอดองครักษ์เสื้อแพร> ‘ลู่อี้’ นั้นมีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ วันนี้มาคุยกันกับเกร็ดประวัติศาสตร์จากละครเรื่องนี้ที่ Storyฯ เพิ่งได้กลับมาตั้งใจดูอีกครั้งและพบว่าตัวเองตกหล่นรายละเอียดไปไม่น้อย เพื่อนเพจที่ได้ดูละครเรื่องนี้อาจพอจำได้ว่าในเนื้อเรื่องมีตัวร้ายคือ ‘เหยียนซื่อฟาน’ ซึ่งเป็นลูกชายของขุนนางตัวโกงนาม ‘เหยียนซง’ ซึ่งทั้งสองคนนี้มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ในรัชสมัยขององค์หมิงซื่อจงแห่งราชวง์หมิง โดยเหยียนซงรับตำแหน่งหัวหน้าของคณะขุนนางสูงสุดหรือที่เรียกว่า ‘เน่ยเก๋อ’ (内阁 จึงเป็นที่มาของการเรียกขาน เหยียนซื่อฟานว่า ‘เสี่ยวเก๋อเหล่า’) ในละครมีฉากที่เหยียนซื่อฟานได้ภาพวาด ‘ชิงหมิงซ่างเหอถู’ มาและมีการถกกันว่าเป็นภาพของแท้หรือไม่ Storyฯ เคยเขียนถึงภาพวาด ‘ชิงหมิงซ่างเหอถู’ มาแล้วตอนที่คุยกันเกี่ยวกับละคร <สามบุปผาลิขิตฝัน> แต่วันนี้มีรายละเอียดเพิ่มเติม ขอถอดบทสนทนาจากในละครเรื่อง <ยอดองครักษ์เสื้อแพร> มาดังนี้ ... “ได้ยินมาว่าจางเจ๋อตวนใช้เวลาหนึ่งปีก็วาดภาพม้วนยาวนี้เสร็จ นับว่าเป็นผู้ที่มีความสามารถหายาก... ท่านใต้เท่าสวี่... เชิญท่านลองคุยๆ ดูภาพนี้จริงปลอมหรือไม่อย่างไร” เหยียนซงกล่าว ใต้เท้าสวี่เอ่ย “...ตามที่ข้าน้อยทราบมา ภาพนี้ควรมีลายพระอักษรรูปแบบโซ่วจินขององค์ซ่งฮุยจงเป็นคำว่า ‘ชิงหมิงซ่างเหอถู’ ห้าอักษร... และมีตราประทับมังกรคู่ อีกทั้งมีบทกลอนนำ ภาพนี้ดูแล้วไม่คล้ายเป็นภาพวาดเลียนแบบ” (หมายเหตุ Storyฯ แปลเองจ้า) ภาพวาด ‘ชิงหมิงซ่างเหอถู’ ยาว 528 ซม. สูง 24.8 ซม. เป็นหนึ่งในสิบของภาพโบราณที่มีค่าที่สุดของจีน ถูกวาดขึ้นโดยจางเจ๋อตวน เขาใช้เวลาหนึ่งปีในการวาดภาพนี้จริงหรือไม่ ไม่ปรากฏหลักฐานหรือบันทึกใดกล่าวชัด แต่ภาพนี้เคยตกอยู่ในมือของเหยียนซงจริง! ตอนที่ตระกูลเหยียนถูกลงทัณฑ์และยึดสมบัตินั้น รายชื่อของสมบัติที่ริบได้นั้นยาวถึง 140 หน้ากระดาษและหนึ่งในนั้นก็คือ ‘ชิงหมิงซ่างเหอถู’ นี้ จากบันทึกที่พอแกะรอยกันได้ ว่ากันว่าภาพนี้แรกเริ่มถูกนำถวายองค์ซ่งฮุยจง (ค.ศ. 1522-1566) และพระองค์ทรงเขียนชื่อ ‘ชิงหมิงซ่างเหอถู’ ขึ้นบนภาพด้วยอักษรในรูปแบบ ‘โซ่วจิน’ ซึ่งเป็นรูปแบบอักษรที่ทรงคิดประดิษฐ์ขึ้นเอง (ดูตัวอย่างจากรูป2 ขวา) เป็นที่ถกเถียงกันต่อมาว่าทรงโปรดภาพนี้หรือไม่เพราะมันไม่ได้ถูกเก็บไว้ในท้องพระคลังแต่ถูกพระราชทานให้ขุนนาง หลังจากนั้น ‘ชิงหมิงซ่างเหอถู’ ผ่านการเดินทางอย่างโชกโชน ในช่วงที่ราชวงศ์จินยึดแผ่นดินซ่งได้สำเร็จนั้น ว่ากันว่ามันถูกเก็บเข้าท้องพระคลังและถูกยักยอกออกมาขายทอดตลาด เป็นช่วงที่มีการเขียนบทนำลงไปหน้าภาพ ต่อมาในสมัยหยวนก็ถูกซื้อเก็บเข้าท้องพระคลังอีกครั้งและถูกยักยอกออกมาขายอีก มีการเสาะหามันเรื่อยมาจนตกมาอยู่ในมือของเหยียนซงในสมัยหมิง โดยที่ก่อนหน้านั้นปรากฏงานลอกเลียนแบบออกมาจำนวนไม่น้อย ต่อมามันถูกริบเป็นสมบัติหลวงอีกครั้งโดยมีการลบตราประทับที่แสดงความเป็นเจ้าของของตระกูลเหยียนออกจากภาพ หลังจากนั้นมันถูกเปลี่ยนมือไปมาในแวดวงขุนนาง โดยไม่แน่ว่าเป็นการได้รับพระราชทานหรือยักยอก และปรากฏบทความนำหน้าภาพขึ้นมาเพิ่มอีก โดยที่ลายพระหัตถ์ขององค์หมิงซื่อจงไม่ทราบว่าหายไปจากภาพตั้งแต่เมื่อใด ผู้ที่ถือครองครั้งสุดท้ายว่ากันว่าคือขันทีนามว่า ‘เฝิงเป่า’ ซึ่งต่อมาถูกลงทัณฑ์ริบสมบัติ ภาพนี้หายสาบสูญไปนานกว่าสองร้อยปี แน่นอนว่ามีภาพปลอมจำนวนไม่น้อยปรากฏขึ้น และภาพที่เชื่อว่าเป็นฉบับจริงนี้ปรากฏในตลาดและมาถึงมือของพิพิธภัณฑ์มณฑลเหลียวหนิงในปีค.ศ. 1950 ปัจจุบันถูกเก็บอยู่ในพิพิธภัณฑ์พระราชวังต้องห้าม (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) บทความของ Storyฯ เกี่ยวกับลู่อี้: https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/pfbid0QA8xxCRgWSD6jP6PexAdnrZmEdGAHVxGTu3UXj3CpZfkovdY37ft9rQbauD6KfQzl บทความของ Storyฯ เกี่ยวกับชิงหมิงซ่างเหอถู: https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/pfbid01MbyBtawx6X9xEHogRvHY8NesM2MVWHUBgYeuujQnFrPFA39dgddSihm4jjXrfiPl Credit รูปภาพจากในละครและจาก: http://www.zgsshh.com/Works_body.asp?id=1190&amp;qx=137 http://www.fengxuelin.com/tougao/16546.html http://ent.sina.com.cn/v/m/2017-10-12/doc-ifymviyp0369720.shtml Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.chinanews.com.cn/cul/news/2010/06-21/2352544.shtml http://collection.sina.com.cn/jczs/2016-10-26/doc-ifxwztrt0466746.shtml https://baike.baidu.com/item/瘦金体/884949 #ยอดองครักษ์เสื้อแพร #ชิงหมิงซ่างเหอถู #เหยียนซื่อฟาน #ซ่งฮุยจง #อักษรโซ่วจิน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 34 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัสเซียให้คุณค่าอย่างยิ่งในความสัมพันธ์กับจีน และมุ่งมั่นเติมเต็มทุกพันธสัญญาที่มีต่อคู่หูแห่งนี้ จากคำประกาศกร้าวของเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศมอสโก ระบุความพยายามใดๆของสหรัฐฯ ที่มีเป้าหมายบั่นทอนความสัมพันธ์ระหว่างมอสโกกับปักกิ่ง จะไม่มีวันได้ผล

    อ่านต่อ..https://sondhitalk.com/detail/9680000024113
    รัสเซียให้คุณค่าอย่างยิ่งในความสัมพันธ์กับจีน และมุ่งมั่นเติมเต็มทุกพันธสัญญาที่มีต่อคู่หูแห่งนี้ จากคำประกาศกร้าวของเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศมอสโก ระบุความพยายามใดๆของสหรัฐฯ ที่มีเป้าหมายบั่นทอนความสัมพันธ์ระหว่างมอสโกกับปักกิ่ง จะไม่มีวันได้ผล อ่านต่อ..https://sondhitalk.com/detail/9680000024113
    Like
    Haha
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 208 มุมมอง 0 รีวิว
  • สื่อต่างชาติ ยกให้ 'แบงก์ชาติ' คว้ารางวัล ธนาคารกลางแห่งปี 2025
    https://www.thai-tai.tv/news/17620/
    สื่อต่างชาติ ยกให้ 'แบงก์ชาติ' คว้ารางวัล ธนาคารกลางแห่งปี 2025 https://www.thai-tai.tv/news/17620/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 12 มุมมอง 0 รีวิว
  • EP 47
    บังคับการลากลายวงจรให้ลาก ( Route ) ในเลเยอร์ไหนก็ได้
    ใช้กฎของ Design rule
    EP 47 บังคับการลากลายวงจรให้ลาก ( Route ) ในเลเยอร์ไหนก็ได้ ใช้กฎของ Design rule
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 39 มุมมอง 14 0 รีวิว
  • รพ.รามาฯ แถลงไฟไหม้ ทำคลังเลือดเสียหายทั้งหมด ชวนบริจาคโลหิตด่วน
    https://www.thai-tai.tv/news/17621/
    รพ.รามาฯ แถลงไฟไหม้ ทำคลังเลือดเสียหายทั้งหมด ชวนบริจาคโลหิตด่วน https://www.thai-tai.tv/news/17621/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 รีวิว
  • นอกจากสมาคมแทบไม่เหลือเงินไว้บริหารแล้ว ยังต้องเป็นหนี้ก้อนโต ด้วยฝีมือของ พล.ต.อ.สมยศ สมัยเป็นนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย 2 สมัย

    #ลอกคราบอ๊อดสมยศ #มึงไม่อายพวกกูอาย #สมาคมฟุตบอลไทย #ทิ้งขี้ให้สมาคมฟุตบอล #สมยศสมYES #มาดามแป้ง #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ
    นอกจากสมาคมแทบไม่เหลือเงินไว้บริหารแล้ว ยังต้องเป็นหนี้ก้อนโต ด้วยฝีมือของ พล.ต.อ.สมยศ สมัยเป็นนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย 2 สมัย #ลอกคราบอ๊อดสมยศ #มึงไม่อายพวกกูอาย #สมาคมฟุตบอลไทย #ทิ้งขี้ให้สมาคมฟุตบอล #สมยศสมYES #มาดามแป้ง #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ
    Like
    Sad
    Angry
    Love
    Haha
    17
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 214 มุมมอง 30 0 รีวิว
  • “Foreign mercenaries are not covered by the Geneva Convention”
    “Foreign mercenaries are not covered by the Geneva Convention”
    Like
    Sad
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 114 มุมมอง 0 รีวิว
  • Meta ประสบความสำเร็จในการยับยั้งการโปรโมตหนังสือเล่มใหม่ชื่อ "Careless People" ที่เขียนโดยอดีตพนักงาน Sarah Wynn-Williams อดีตผู้อำนวยการนโยบายสาธารณะระดับโลกของบริษัท หนังสือเล่มนี้เปิดเผยภาพลักษณ์ที่ไม่ดีเกี่ยวกับ Meta และผู้บริหารระดับสูง เช่น Mark Zuckerberg และอดีต COO Sheryl Sandberg ทำให้ Meta เชื่อว่าหนังสือนำเสนอข้อมูลที่เป็นเท็จและทำให้ชื่อเสียงของบริษัทเสียหาย

    Meta ได้รับคำสั่งฉุกเฉินจากอนุญาโตตุลาการให้ระงับการโปรโมตหนังสือและพยายามยับยั้งการตีพิมพ์เพิ่มเติม เท่าที่เป็นไปได้ แต่คำสั่งนี้ไม่ได้มีผลโดยตรงต่อผู้จัดพิมพ์ Macmillan โดย Meta อ้างว่าหนังสือดังกล่าวมีเนื้อหาใส่ร้ายและไม่ควรได้รับการเผยแพร่ Wynn-Williams ไม่ได้เข้าร่วมการพิจารณาคดีนี้ ขณะที่ Macmillan แย้งว่าตนไม่อยู่ในขอบเขตของข้อตกลงอนุญาโตตุลาการ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/13/meta-wins-halt-to-promotion-of-039careless-people039-tell-all-book-by-former-employee
    Meta ประสบความสำเร็จในการยับยั้งการโปรโมตหนังสือเล่มใหม่ชื่อ "Careless People" ที่เขียนโดยอดีตพนักงาน Sarah Wynn-Williams อดีตผู้อำนวยการนโยบายสาธารณะระดับโลกของบริษัท หนังสือเล่มนี้เปิดเผยภาพลักษณ์ที่ไม่ดีเกี่ยวกับ Meta และผู้บริหารระดับสูง เช่น Mark Zuckerberg และอดีต COO Sheryl Sandberg ทำให้ Meta เชื่อว่าหนังสือนำเสนอข้อมูลที่เป็นเท็จและทำให้ชื่อเสียงของบริษัทเสียหาย Meta ได้รับคำสั่งฉุกเฉินจากอนุญาโตตุลาการให้ระงับการโปรโมตหนังสือและพยายามยับยั้งการตีพิมพ์เพิ่มเติม เท่าที่เป็นไปได้ แต่คำสั่งนี้ไม่ได้มีผลโดยตรงต่อผู้จัดพิมพ์ Macmillan โดย Meta อ้างว่าหนังสือดังกล่าวมีเนื้อหาใส่ร้ายและไม่ควรได้รับการเผยแพร่ Wynn-Williams ไม่ได้เข้าร่วมการพิจารณาคดีนี้ ขณะที่ Macmillan แย้งว่าตนไม่อยู่ในขอบเขตของข้อตกลงอนุญาโตตุลาการ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/13/meta-wins-halt-to-promotion-of-039careless-people039-tell-all-book-by-former-employee
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Meta wins halt to promotion of 'Careless People' tell-all book by former employee
    (Reuters) - Meta Platforms on Wednesday won an emergency arbitration ruling to temporarily stop promotion of the tell-all book "Careless People" by a former employee, according to a copy of the ruling published by the social media company.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 21 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel แต่งตั้ง Lip-Bu Tan ผู้เชี่ยวชาญที่เคารพนับถือในวงการเซมิคอนดักเตอร์ เป็น CEO คนใหม่ของ Intel โดยเขาจะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 18 มีนาคม หลังจากที่บริษัทเผชิญกับช่วงเวลาท้าทายที่สุดในประวัติศาสตร์

    Intel เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในฐานะหนึ่งในผู้ผลิตชิปที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา บริษัทต้องเผชิญกับการแข่งขันอย่างดุเดือดจากคู่แข่ง เช่น AMD และการก้าวขึ้นมาของผู้เล่นในตลาดอย่าง Nvidia ทำให้เกิดแรงกดดันในการฟื้นฟูความสามารถในการแข่งขัน Lip-Bu Tan ซึ่งเป็นบุคคลที่มีประสบการณ์สูงในอุตสาหกรรมนี้ ถูกมองว่าเหมาะสมที่จะเป็นผู้พลิกฟื้นสถานการณ์

    Lip-Bu Tan เคยเป็นสมาชิกบอร์ดบริหารของ Intel และเป็นผู้ก่อตั้ง Walden International บริษัททุนที่มีชื่อเสียงด้านการลงทุนในเทคโนโลยีขั้นสูง ประสบการณ์และความเข้าใจของเขาทั้งในด้านการผลิตและการจัดการบริษัทด้านเซมิคอนดักเตอร์ ทำให้เขาเป็นตัวเลือกสำคัญที่ Intel หวังว่าจะพาบริษัทออกจากช่วงเวลาที่ท้าทายได้

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/13/who-is-new-intel-ceo-lip-bu-tan
    Intel แต่งตั้ง Lip-Bu Tan ผู้เชี่ยวชาญที่เคารพนับถือในวงการเซมิคอนดักเตอร์ เป็น CEO คนใหม่ของ Intel โดยเขาจะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 18 มีนาคม หลังจากที่บริษัทเผชิญกับช่วงเวลาท้าทายที่สุดในประวัติศาสตร์ Intel เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในฐานะหนึ่งในผู้ผลิตชิปที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา บริษัทต้องเผชิญกับการแข่งขันอย่างดุเดือดจากคู่แข่ง เช่น AMD และการก้าวขึ้นมาของผู้เล่นในตลาดอย่าง Nvidia ทำให้เกิดแรงกดดันในการฟื้นฟูความสามารถในการแข่งขัน Lip-Bu Tan ซึ่งเป็นบุคคลที่มีประสบการณ์สูงในอุตสาหกรรมนี้ ถูกมองว่าเหมาะสมที่จะเป็นผู้พลิกฟื้นสถานการณ์ Lip-Bu Tan เคยเป็นสมาชิกบอร์ดบริหารของ Intel และเป็นผู้ก่อตั้ง Walden International บริษัททุนที่มีชื่อเสียงด้านการลงทุนในเทคโนโลยีขั้นสูง ประสบการณ์และความเข้าใจของเขาทั้งในด้านการผลิตและการจัดการบริษัทด้านเซมิคอนดักเตอร์ ทำให้เขาเป็นตัวเลือกสำคัญที่ Intel หวังว่าจะพาบริษัทออกจากช่วงเวลาที่ท้าทายได้ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/13/who-is-new-intel-ceo-lip-bu-tan
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Who is new Intel CEO Lip-Bu Tan?
    (Reuters) - Intel tapped former board member Lip-Bu Tan as its CEO on Wednesday, as the struggling American chipmaking icon attempts to emerge from one of its bleakest periods.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 20 มุมมอง 0 รีวิว
  • นี่คือเรื่องราวเกี่ยวกับภัยไซเบอร์รูปแบบใหม่ที่แฮกเกอร์ใช้เทคนิคหลอกลวงด้วย CAPTCHA ปลอมเพื่อแพร่มัลแวร์เข้าสู่ระบบของเหยื่อ โดยวิธีการนี้เน้นการใช้ social engineering หรือการสร้างสถานการณ์ที่ดูน่าเชื่อถือเพื่อดึงดูดให้ผู้ใช้ปฏิบัติตามคำแนะนำ โดยปราศจากข้อสงสัย

    เมื่อผู้ใช้งานเยี่ยมชมเว็บไซต์ที่ไม่ปลอดภัย พวกเขาอาจพบ CAPTCHA ที่ขอให้ตรวจสอบว่าตนเองไม่ใช่หุ่นยนต์ ซึ่งดูเหมือนเป็นเรื่องปกติ อย่างไรก็ตาม CAPTCHA ปลอมนี้อาจมีขั้นตอนเพิ่มเติมที่น่าสงสัย เช่น การให้ผู้ใช้กดปุ่ม Windows Key + R และวางข้อความในช่องรันคำสั่ง ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นโค้ดที่แฝงคำสั่งอันตราย

    โค้ดเหล่านี้อาจเรียกใช้คำสั่ง mshta เพื่อดาวน์โหลดไฟล์มัลแวร์จากเซิร์ฟเวอร์ระยะไกล โดยไฟล์ที่ดาวน์โหลดมักปลอมตัวเป็นไฟล์มีเดีย เช่น MP3 หรือ MP4 แต่ในความเป็นจริง มันมีคำสั่ง PowerShell ที่แอบติดตั้งมัลแวร์ลงในระบบโดยไม่รู้ตัว

    มัลแวร์ที่เกี่ยวข้องในกรณีนี้ประกอบด้วย Lumma Stealer และ SecTopRAT ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อขโมยข้อมูลสำคัญ หรือเปิดช่องทางควบคุมคอมพิวเตอร์ระยะไกล

    คำแนะนำในการป้องกัน:
    - หลีกเลี่ยงการปฏิบัติตามคำแนะนำจาก CAPTCHA หรือเว็บไซต์ที่ดูน่าสงสัย
    - ใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันมัลแวร์ที่สามารถบล็อกเว็บไซต์และสคริปต์อันตรายได้
    - ติดตั้งส่วนขยายในเบราว์เซอร์ที่ช่วยป้องกันโดเมนที่รู้จักว่าเป็นภัยไซเบอร์
    - หากเป็นไปได้ ควรใช้เบราว์เซอร์แยกสำหรับการใช้งานเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ

    การโจมตีรูปแบบนี้เน้นจุดอ่อนในพฤติกรรมผู้ใช้งานที่มักไว้วางใจ CAPTCHA ซึ่งถือเป็นบทเรียนสำคัญเกี่ยวกับความระมัดระวังในการใช้งานอินเทอร์เน็ต

    https://www.techspot.com/news/107107-new-cyber-threat-uses-fake-captcha-infect-systems.html
    นี่คือเรื่องราวเกี่ยวกับภัยไซเบอร์รูปแบบใหม่ที่แฮกเกอร์ใช้เทคนิคหลอกลวงด้วย CAPTCHA ปลอมเพื่อแพร่มัลแวร์เข้าสู่ระบบของเหยื่อ โดยวิธีการนี้เน้นการใช้ social engineering หรือการสร้างสถานการณ์ที่ดูน่าเชื่อถือเพื่อดึงดูดให้ผู้ใช้ปฏิบัติตามคำแนะนำ โดยปราศจากข้อสงสัย เมื่อผู้ใช้งานเยี่ยมชมเว็บไซต์ที่ไม่ปลอดภัย พวกเขาอาจพบ CAPTCHA ที่ขอให้ตรวจสอบว่าตนเองไม่ใช่หุ่นยนต์ ซึ่งดูเหมือนเป็นเรื่องปกติ อย่างไรก็ตาม CAPTCHA ปลอมนี้อาจมีขั้นตอนเพิ่มเติมที่น่าสงสัย เช่น การให้ผู้ใช้กดปุ่ม Windows Key + R และวางข้อความในช่องรันคำสั่ง ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นโค้ดที่แฝงคำสั่งอันตราย โค้ดเหล่านี้อาจเรียกใช้คำสั่ง mshta เพื่อดาวน์โหลดไฟล์มัลแวร์จากเซิร์ฟเวอร์ระยะไกล โดยไฟล์ที่ดาวน์โหลดมักปลอมตัวเป็นไฟล์มีเดีย เช่น MP3 หรือ MP4 แต่ในความเป็นจริง มันมีคำสั่ง PowerShell ที่แอบติดตั้งมัลแวร์ลงในระบบโดยไม่รู้ตัว มัลแวร์ที่เกี่ยวข้องในกรณีนี้ประกอบด้วย Lumma Stealer และ SecTopRAT ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อขโมยข้อมูลสำคัญ หรือเปิดช่องทางควบคุมคอมพิวเตอร์ระยะไกล คำแนะนำในการป้องกัน: - หลีกเลี่ยงการปฏิบัติตามคำแนะนำจาก CAPTCHA หรือเว็บไซต์ที่ดูน่าสงสัย - ใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันมัลแวร์ที่สามารถบล็อกเว็บไซต์และสคริปต์อันตรายได้ - ติดตั้งส่วนขยายในเบราว์เซอร์ที่ช่วยป้องกันโดเมนที่รู้จักว่าเป็นภัยไซเบอร์ - หากเป็นไปได้ ควรใช้เบราว์เซอร์แยกสำหรับการใช้งานเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ การโจมตีรูปแบบนี้เน้นจุดอ่อนในพฤติกรรมผู้ใช้งานที่มักไว้วางใจ CAPTCHA ซึ่งถือเป็นบทเรียนสำคัญเกี่ยวกับความระมัดระวังในการใช้งานอินเทอร์เน็ต https://www.techspot.com/news/107107-new-cyber-threat-uses-fake-captcha-infect-systems.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    New threat uses fake CAPTCHA to infect systems with malware
    The attack typically begins when visitors to a website are prompted to verify they are not robots, a common practice that rarely raises suspicion. However, instead of...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 18 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 8 มุมมอง 0 รีวิว
  • นี่เป็นอีกตัวอย่างของความพยายามที่จะรวมพลังการประมวลผลระดับเดสก์ท็อปไว้ในอุปกรณ์พกพา

    แล็ปท็อปในโครงการที่ชื่อว่า UHPILCL (Ultra High-Performance Integration Liquid-Cooled Laptop) ถูกออกแบบมาให้รองรับฮาร์ดแวร์ระดับเดสก์ท็อปด้วยระบบระบายความร้อนด้วยน้ำในตัว จึงเหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการพลังเต็มรูปแบบในอุปกรณ์แบบพกพา โดยแล็ปท็อปรุ่นนี้อยู่ในระหว่างการระดมทุนบน Kickstarter

    คุณสมบัติที่น่าสนใจ:
    - รองรับเมนบอร์ด ITX และซีพียูระดับไฮเอนด์ เช่น Ryzen 9 9950X3D และซีพียูจาก Intel ตั้งแต่เจนเนอเรชันที่ 12 ถึง 14
    - การ์ดจอที่รองรับสูงสุดคือ RTX 5090 โดยใช้ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ
    - มี ปั๊มน้ำ 18W ที่สามารถระบายความร้อนอย่างมีประสิทธิภาพในระดับเสียงที่ต่ำกว่า 25 เดซิเบล
    - ใช้ RAM DDR5 สูงสุด 48GB และพื้นที่จัดเก็บข้อมูล SSD สูงสุดถึง 32TB
    - หน้าจอ 17.3 นิ้ว ความละเอียด 3K อัตรารีเฟรช 120Hz พร้อมอัตราส่วน 21:10

    แล็ปท็อปรุ่นนี้สามารถสลับระหว่างโหมด เดสก์ท็อปเต็มรูปแบบ และโหมดพกพาที่ลดการใช้พลังงาน โดยแบตเตอรี่ใช้งานได้สูงสุด 3 ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังมีรุ่นพิเศษ T1000 Super ที่สามารถรองรับกำลังไฟสูงถึง 735W แต่มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นถึง 5.2 กิโลกรัม

    แม้แล็ปท็อปนี้มีคุณสมบัติที่น่าสนใจและทะเยอทะยาน แต่ยังอยู่ในขั้นตอนระดมทุนและยังไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับราคาและวันจำหน่ายที่แน่นอน ทั้งนี้ การลงทุนในโครงการคราวด์ฟันดิ้งยังมีความเสี่ยงโดยเฉพาะสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ซับซ้อนอย่างนี้

    https://www.techspot.com/news/107113-watercooled-hybrid-gaming-laptop-can-handle-ryzen-9950x3d.html
    นี่เป็นอีกตัวอย่างของความพยายามที่จะรวมพลังการประมวลผลระดับเดสก์ท็อปไว้ในอุปกรณ์พกพา แล็ปท็อปในโครงการที่ชื่อว่า UHPILCL (Ultra High-Performance Integration Liquid-Cooled Laptop) ถูกออกแบบมาให้รองรับฮาร์ดแวร์ระดับเดสก์ท็อปด้วยระบบระบายความร้อนด้วยน้ำในตัว จึงเหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการพลังเต็มรูปแบบในอุปกรณ์แบบพกพา โดยแล็ปท็อปรุ่นนี้อยู่ในระหว่างการระดมทุนบน Kickstarter คุณสมบัติที่น่าสนใจ: - รองรับเมนบอร์ด ITX และซีพียูระดับไฮเอนด์ เช่น Ryzen 9 9950X3D และซีพียูจาก Intel ตั้งแต่เจนเนอเรชันที่ 12 ถึง 14 - การ์ดจอที่รองรับสูงสุดคือ RTX 5090 โดยใช้ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ - มี ปั๊มน้ำ 18W ที่สามารถระบายความร้อนอย่างมีประสิทธิภาพในระดับเสียงที่ต่ำกว่า 25 เดซิเบล - ใช้ RAM DDR5 สูงสุด 48GB และพื้นที่จัดเก็บข้อมูล SSD สูงสุดถึง 32TB - หน้าจอ 17.3 นิ้ว ความละเอียด 3K อัตรารีเฟรช 120Hz พร้อมอัตราส่วน 21:10 แล็ปท็อปรุ่นนี้สามารถสลับระหว่างโหมด เดสก์ท็อปเต็มรูปแบบ และโหมดพกพาที่ลดการใช้พลังงาน โดยแบตเตอรี่ใช้งานได้สูงสุด 3 ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังมีรุ่นพิเศษ T1000 Super ที่สามารถรองรับกำลังไฟสูงถึง 735W แต่มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นถึง 5.2 กิโลกรัม แม้แล็ปท็อปนี้มีคุณสมบัติที่น่าสนใจและทะเยอทะยาน แต่ยังอยู่ในขั้นตอนระดมทุนและยังไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับราคาและวันจำหน่ายที่แน่นอน ทั้งนี้ การลงทุนในโครงการคราวด์ฟันดิ้งยังมีความเสี่ยงโดยเฉพาะสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ซับซ้อนอย่างนี้ https://www.techspot.com/news/107113-watercooled-hybrid-gaming-laptop-can-handle-ryzen-9950x3d.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Watercooled gaming laptop is 5kg hefty but can handle Ryzen 9950X3D CPU, RTX 5090 graphics card
    It's called the UHPILCL (Ultra High-Performance Integration Liquid-Cooled Laptop), and it's no joke. The UHPILCL supports full-sized ITX motherboards and can accommodate virtually every high-end CPU and...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 20 มุมมอง 0 รีวิว
  • นี่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในวงการเกม โดย Niantic ผู้พัฒนาเกม Pokémon Go ได้ประกาศขายแผนกเกมของตนให้กับ Scopely ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Savvy Games Group ที่มีรัฐบาลซาอุดีอาระเบียหนุนหลัง การซื้อขายครั้งนี้มีมูลค่าสูงถึง 3.5 พันล้านดอลลาร์

    ในดีลนี้ Scopely จะได้ครอบครองเกมดังอย่าง Pokémon Go, Monster Hunter Now และ Pikmin Bloom รวมถึงทีมพัฒนาภายในของ Niantic และแอปเสริมต่าง ๆ เช่น Campfire และ Wayfarer อย่างไรก็ตาม Niantic จะยังคงดำเนินธุรกิจด้าน AI เชิงพื้นที่ (Geospatial AI) ต่อไปผ่านบริษัทลูกที่ชื่อ Niantic Spatial ซึ่งจะพัฒนาธุรกิจในด้านอื่นแทน

    ย้อนรอยความสำเร็จและปัญหาของ Pokémon Go Pokémon Go เคยสร้างปรากฏการณ์ระดับโลกเมื่อเปิดตัวในปี 2016 โดยมียอดดาวน์โหลดสูงสุดในสัปดาห์แรก มีผู้เล่นกว่า 500 ล้านคนในปีแรก และทำรายได้ทะลุพันล้านดอลลาร์ต่อปี แต่ในช่วงล็อกดาวน์ปี 2020 ความนิยมของเกมลดลง เนื่องจากข้อจำกัดในการเล่นเกมนอกสถานที่ ซึ่งเป็นจุดเด่นของเกม อย่างไรก็ตาม Niantic ระบุว่าในปี 2024 แผนกเกมยังคงมีผู้เล่นมากกว่า 30 ล้านคนต่อเดือน และทำรายได้มากกว่าพันล้านดอลลาร์

    ทิศทางใหม่กับ Scopely Scopely ถูกวิจารณ์ว่าใช้กลยุทธ์สร้างรายได้แบบ "Pay-to-Win" ในเกมหลายเกม เช่น Marvel Strike Force และ Star Trek Fleet Command ผู้เล่น Pokémon Go จำนวนหนึ่งแสดงความไม่พอใจและขู่ว่าจะเลิกเล่น หากเกมต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้เสียสมดุล

    ภาพรวมของซาอุดีอาระเบียในอุตสาหกรรมเกม รัฐบาลซาอุดีอาระเบียมีเป้าหมายชัดเจนที่จะเป็นศูนย์กลางระดับโลกในอุตสาหกรรมเกม โดยใช้ Public Investment Fund (PIF) ในการลงทุนในบริษัทเกมชั้นนำ เช่น Nintendo, Activision Blizzard และ EA ซึ่งสะท้อนถึงกลยุทธ์ระยะยาวในการเสริมสร้างบทบาทในตลาดนี้

    https://www.techspot.com/news/107118-pokmon-go-developer-niantic-sell-gaming-division-saudi.html
    นี่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในวงการเกม โดย Niantic ผู้พัฒนาเกม Pokémon Go ได้ประกาศขายแผนกเกมของตนให้กับ Scopely ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Savvy Games Group ที่มีรัฐบาลซาอุดีอาระเบียหนุนหลัง การซื้อขายครั้งนี้มีมูลค่าสูงถึง 3.5 พันล้านดอลลาร์ ในดีลนี้ Scopely จะได้ครอบครองเกมดังอย่าง Pokémon Go, Monster Hunter Now และ Pikmin Bloom รวมถึงทีมพัฒนาภายในของ Niantic และแอปเสริมต่าง ๆ เช่น Campfire และ Wayfarer อย่างไรก็ตาม Niantic จะยังคงดำเนินธุรกิจด้าน AI เชิงพื้นที่ (Geospatial AI) ต่อไปผ่านบริษัทลูกที่ชื่อ Niantic Spatial ซึ่งจะพัฒนาธุรกิจในด้านอื่นแทน ย้อนรอยความสำเร็จและปัญหาของ Pokémon Go Pokémon Go เคยสร้างปรากฏการณ์ระดับโลกเมื่อเปิดตัวในปี 2016 โดยมียอดดาวน์โหลดสูงสุดในสัปดาห์แรก มีผู้เล่นกว่า 500 ล้านคนในปีแรก และทำรายได้ทะลุพันล้านดอลลาร์ต่อปี แต่ในช่วงล็อกดาวน์ปี 2020 ความนิยมของเกมลดลง เนื่องจากข้อจำกัดในการเล่นเกมนอกสถานที่ ซึ่งเป็นจุดเด่นของเกม อย่างไรก็ตาม Niantic ระบุว่าในปี 2024 แผนกเกมยังคงมีผู้เล่นมากกว่า 30 ล้านคนต่อเดือน และทำรายได้มากกว่าพันล้านดอลลาร์ ทิศทางใหม่กับ Scopely Scopely ถูกวิจารณ์ว่าใช้กลยุทธ์สร้างรายได้แบบ "Pay-to-Win" ในเกมหลายเกม เช่น Marvel Strike Force และ Star Trek Fleet Command ผู้เล่น Pokémon Go จำนวนหนึ่งแสดงความไม่พอใจและขู่ว่าจะเลิกเล่น หากเกมต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้เสียสมดุล ภาพรวมของซาอุดีอาระเบียในอุตสาหกรรมเกม รัฐบาลซาอุดีอาระเบียมีเป้าหมายชัดเจนที่จะเป็นศูนย์กลางระดับโลกในอุตสาหกรรมเกม โดยใช้ Public Investment Fund (PIF) ในการลงทุนในบริษัทเกมชั้นนำ เช่น Nintendo, Activision Blizzard และ EA ซึ่งสะท้อนถึงกลยุทธ์ระยะยาวในการเสริมสร้างบทบาทในตลาดนี้ https://www.techspot.com/news/107118-pokmon-go-developer-niantic-sell-gaming-division-saudi.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Pokémon Go developer Niantic to sell gaming division to Saudi-owned Scopely for $3.5 billion
    Scopely is also acquiring Niantic's internal development teams and companion apps for Pokémon Go – Campfire and Wayfarer. Peridot and Ingress, which also use the Wayfarer mapping...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 19 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้พูดถึงการโจมตีของแรนซัมแวร์กลุ่ม Medusa ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อองค์กรกว่า 300 แห่งในสหรัฐฯ โดยเฉพาะในภาคส่วนโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ เช่น การแพทย์ การศึกษา กฎหมาย เทคโนโลยี และการผลิต โดยการโจมตีเหล่านี้มุ่งเป้าไปที่การใช้ข้อมูลที่ขโมยมาเป็นตัวประกันเพื่อเรียกร้องค่าไถ่

    Medusa ปรากฏตัวครั้งแรกในปี 2021 ในฐานะแรนซัมแวร์ประเภทปิด ที่พัฒนาและดำเนินการโดยกลุ่มเดียว แต่หลังจากนั้นได้เปลี่ยนเป็นรูปแบบ Ransomware-as-a-Service (RaaS) ซึ่งอนุญาตให้เครือข่ายพันธมิตรร่วมดำเนินการโจมตี โดยมีการเปิดตัว Medusa Blog สำหรับเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกขโมยเพื่อกดดันเหยื่อให้จ่ายเงิน

    Medusa ใช้วิธีการจ้างบุคคลที่เรียกว่า Initial Access Brokers (IABs) ผ่านฟอรัมในโลกไซเบอร์เพื่อหาช่องทางเข้าถึงเครือข่ายของเหยื่อ โดยมีการเสนอค่าตอบแทนตั้งแต่ $100 ถึง $1 ล้าน เพื่อล่อลวงผู้ร่วมมือ การโจมตีครั้งสำคัญของ Medusa รวมถึงโรงเรียนในเมืองมินนิอาโปลิสและ Toyota Financial Services ซึ่งเสียหายหลายล้านดอลลาร์จากการปฏิเสธจ่ายค่าไถ่

    มาตรการป้องกันที่แนะนำ CISA, FBI และ MS-ISAC แนะนำให้ทุกองค์กรดำเนินมาตรการป้องกัน เช่น:
    - อัปเดตระบบปฏิบัติการและซอฟต์แวร์ให้ทันสมัยเสมอ
    - แยกเครือข่ายเพื่อลดการแพร่กระจายของการโจมตีภายในองค์กร
    - กรองการเชื่อมต่อเครือข่ายจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ

    ความท้าทายใหม่ ข่าวยังเน้นถึงความสับสนเกี่ยวกับชื่อ "Medusa" เนื่องจากมีกลุ่มมัลแวร์หลายกลุ่มใช้ชื่อนี้ เช่น Botnet และมัลแวร์ Android ในอดีต ซึ่งอาจทำให้มีการรายงานที่ผิดพลาดเกี่ยวกับตัวตนของแรนซัมแวร์นี้

    https://www.bleepingcomputer.com/news/security/cisa-medusa-ransomware-hit-over-300-critical-infrastructure-orgs/
    ข่าวนี้พูดถึงการโจมตีของแรนซัมแวร์กลุ่ม Medusa ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อองค์กรกว่า 300 แห่งในสหรัฐฯ โดยเฉพาะในภาคส่วนโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ เช่น การแพทย์ การศึกษา กฎหมาย เทคโนโลยี และการผลิต โดยการโจมตีเหล่านี้มุ่งเป้าไปที่การใช้ข้อมูลที่ขโมยมาเป็นตัวประกันเพื่อเรียกร้องค่าไถ่ Medusa ปรากฏตัวครั้งแรกในปี 2021 ในฐานะแรนซัมแวร์ประเภทปิด ที่พัฒนาและดำเนินการโดยกลุ่มเดียว แต่หลังจากนั้นได้เปลี่ยนเป็นรูปแบบ Ransomware-as-a-Service (RaaS) ซึ่งอนุญาตให้เครือข่ายพันธมิตรร่วมดำเนินการโจมตี โดยมีการเปิดตัว Medusa Blog สำหรับเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกขโมยเพื่อกดดันเหยื่อให้จ่ายเงิน Medusa ใช้วิธีการจ้างบุคคลที่เรียกว่า Initial Access Brokers (IABs) ผ่านฟอรัมในโลกไซเบอร์เพื่อหาช่องทางเข้าถึงเครือข่ายของเหยื่อ โดยมีการเสนอค่าตอบแทนตั้งแต่ $100 ถึง $1 ล้าน เพื่อล่อลวงผู้ร่วมมือ การโจมตีครั้งสำคัญของ Medusa รวมถึงโรงเรียนในเมืองมินนิอาโปลิสและ Toyota Financial Services ซึ่งเสียหายหลายล้านดอลลาร์จากการปฏิเสธจ่ายค่าไถ่ มาตรการป้องกันที่แนะนำ CISA, FBI และ MS-ISAC แนะนำให้ทุกองค์กรดำเนินมาตรการป้องกัน เช่น: - อัปเดตระบบปฏิบัติการและซอฟต์แวร์ให้ทันสมัยเสมอ - แยกเครือข่ายเพื่อลดการแพร่กระจายของการโจมตีภายในองค์กร - กรองการเชื่อมต่อเครือข่ายจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ ความท้าทายใหม่ ข่าวยังเน้นถึงความสับสนเกี่ยวกับชื่อ "Medusa" เนื่องจากมีกลุ่มมัลแวร์หลายกลุ่มใช้ชื่อนี้ เช่น Botnet และมัลแวร์ Android ในอดีต ซึ่งอาจทำให้มีการรายงานที่ผิดพลาดเกี่ยวกับตัวตนของแรนซัมแวร์นี้ https://www.bleepingcomputer.com/news/security/cisa-medusa-ransomware-hit-over-300-critical-infrastructure-orgs/
    WWW.BLEEPINGCOMPUTER.COM
    CISA: Medusa ransomware hit over 300 critical infrastructure orgs
    CISA says the Medusa ransomware operation has impacted over 300 organizations in critical infrastructure sectors in the United States until last month.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่าง ASML และ Imec ซึ่งเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและการวิจัยเซมิคอนดักเตอร์ระดับโลก เป้าหมายของการร่วมมือในครั้งนี้คือการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตชิปขั้นสูงที่มีความละเอียดต่ำกว่า 2 นาโนเมตร โดยใช้เครื่องมือ High-NA EUV lithography รุ่นใหม่ที่ล้ำสมัยที่สุดในตลาด

    Imec ซึ่งเป็นศูนย์วิจัยในประเทศเบลเยียม จะได้รับสิทธิ์เข้าถึงเครื่องมือการผลิตชิปที่ทันสมัยที่สุดของ ASML เช่น Twinscan NXT (DUV), Twinscan NXE (Low-NA EUV) และ Twinscan EXE (High-NA EUV) รวมถึงโซลูชันด้านการตรวจสอบและการวัดผลจาก YieldStar ของ ASML การทำงานเหล่านี้จะช่วยให้นักวิจัยสามารถพัฒนาและทดลองเทคโนโลยีใหม่ ๆ ได้รวดเร็วยิ่งขึ้นในศูนย์วิจัยของ Imec เอง

    เทคโนโลยี High-NA EUV Lithography สามารถสร้างความละเอียดได้ถึง 8 นาโนเมตร ด้วยการใช้การฉายภาพเพียงครั้งเดียว ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการผลิตชิปที่ความละเอียดต่ำกว่า 2 นาโนเมตร อย่างไรก็ตาม เครื่องมือชนิดนี้มีราคาสูงถึง 350 ล้านดอลลาร์ต่อระบบ ทำให้การเข้าถึงเทคโนโลยีนี้จำกัดอยู่เฉพาะผู้เล่นรายใหญ่ในอุตสาหกรรมเท่านั้น

    นอกเหนือจากการพัฒนาชิปที่มีขนาดเล็กลงแล้ว ทั้งสององค์กรยังจะร่วมมือกันในด้านเทคโนโลยี DRAM, ซิลิคอนโฟโตนิกส์ และการบรรจุชิปขั้นสูง การพัฒนานี้ไม่เพียงช่วยให้อุตสาหกรรมก้าวหน้าขึ้น แต่ยังตอบโจทย์ความต้องการของ AI และเทคโนโลยีที่ต้องใช้การประมวลผลขั้นสูงอย่างมีประสิทธิภาพ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/asml-teams-up-with-imec-for-sub-2nm-process-technologies-with-high-na-euv-chipmaking-tools
    ความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่าง ASML และ Imec ซึ่งเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและการวิจัยเซมิคอนดักเตอร์ระดับโลก เป้าหมายของการร่วมมือในครั้งนี้คือการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตชิปขั้นสูงที่มีความละเอียดต่ำกว่า 2 นาโนเมตร โดยใช้เครื่องมือ High-NA EUV lithography รุ่นใหม่ที่ล้ำสมัยที่สุดในตลาด Imec ซึ่งเป็นศูนย์วิจัยในประเทศเบลเยียม จะได้รับสิทธิ์เข้าถึงเครื่องมือการผลิตชิปที่ทันสมัยที่สุดของ ASML เช่น Twinscan NXT (DUV), Twinscan NXE (Low-NA EUV) และ Twinscan EXE (High-NA EUV) รวมถึงโซลูชันด้านการตรวจสอบและการวัดผลจาก YieldStar ของ ASML การทำงานเหล่านี้จะช่วยให้นักวิจัยสามารถพัฒนาและทดลองเทคโนโลยีใหม่ ๆ ได้รวดเร็วยิ่งขึ้นในศูนย์วิจัยของ Imec เอง เทคโนโลยี High-NA EUV Lithography สามารถสร้างความละเอียดได้ถึง 8 นาโนเมตร ด้วยการใช้การฉายภาพเพียงครั้งเดียว ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการผลิตชิปที่ความละเอียดต่ำกว่า 2 นาโนเมตร อย่างไรก็ตาม เครื่องมือชนิดนี้มีราคาสูงถึง 350 ล้านดอลลาร์ต่อระบบ ทำให้การเข้าถึงเทคโนโลยีนี้จำกัดอยู่เฉพาะผู้เล่นรายใหญ่ในอุตสาหกรรมเท่านั้น นอกเหนือจากการพัฒนาชิปที่มีขนาดเล็กลงแล้ว ทั้งสององค์กรยังจะร่วมมือกันในด้านเทคโนโลยี DRAM, ซิลิคอนโฟโตนิกส์ และการบรรจุชิปขั้นสูง การพัฒนานี้ไม่เพียงช่วยให้อุตสาหกรรมก้าวหน้าขึ้น แต่ยังตอบโจทย์ความต้องการของ AI และเทคโนโลยีที่ต้องใช้การประมวลผลขั้นสูงอย่างมีประสิทธิภาพ https://www.tomshardware.com/tech-industry/asml-teams-up-with-imec-for-sub-2nm-process-technologies-with-high-na-euv-chipmaking-tools
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 18 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในหลวง-พระราชินี เตรียมเสด็จฯเยือนภูฏาน นับเป็นการเสด็จฯ เยือนต่างประเทศอย่างเป็นทางการ ครั้งแรกในรัชกาลปัจจุบัน
    ในหลวง-พระราชินี เตรียมเสด็จฯเยือนภูฏาน นับเป็นการเสด็จฯ เยือนต่างประเทศอย่างเป็นทางการ ครั้งแรกในรัชกาลปัจจุบัน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 52 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องนี้พูดถึงความท้าทายของ Microsoft กับการพัฒนา ชิปควอนตัม Majorana 1 ซึ่งอ้างว่าสามารถบรรจุควอนตัมบิต (qubits) ได้ถึงหนึ่งล้านหน่วยในโปรเซสเซอร์เดียว โดยใช้สถาปัตยกรรมที่เรียกว่า Topological Core แต่ผลงานนี้กลับถูกตั้งข้อสงสัยจากนักวิทยาศาสตร์บางกลุ่มที่มองว่ามีปัญหาในด้านการพิสูจน์ความถูกต้องตามหลักฟิสิกส์พื้นฐาน

    จุดที่ถูกตั้งคำถาม:
    1) ความน่าเชื่อถือทางวิทยาศาสตร์: ศาสตราจารย์ Sergey Frolov จากมหาวิทยาลัยพิตต์สเบิร์กระบุว่าชิปนี้อิงกับฟิสิกส์ที่ยังไม่มีการพิสูจน์ และเคยมีกรณีการถอนบทความที่เกี่ยวข้องในปี 2018 ซึ่งทำให้นักวิทยาศาสตร์กังวลเรื่องความน่าเชื่อถือ

    2) การขาดข้อมูลสำคัญ: การนำเสนอของ Microsoft ขาดรายละเอียดบางส่วนที่จำเป็นสำหรับการตรวจสอบ โดยนักวิจัยที่ได้รับข้อมูลมาก็ให้ความเห็นในเชิงวิจารณ์

    3) การมีอยู่ของอนุภาค Majorana: แม้อนุภาคนี้จะถูกตั้งสมมุติฐานมาตั้งแต่ปี 1937 แต่ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าอนุภาคนี้มีอยู่จริง การที่ Microsoft อ้างว่าสามารถใช้อนุภาคนี้ในควอนตัมโปรเซสเซอร์ได้ ทำให้เกิดข้อกังขาอย่างมาก

    Microsoft มีแผนจะนำเสนอบทความวิจัยในงาน American Physical Society Global Physics Summit ซึ่งคาดว่าจะเปิดเผยความก้าวหน้าเพิ่มเติม แต่ก็มีการแสดงความไม่มั่นใจว่าข้อมูลใหม่นี้จะเพียงพอต่อการตอบข้อกังวลหรือไม่

    ควอนตัมคอมพิวเตอร์มีศักยภาพในการประมวลผลที่เร็วกว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ทั่วไปอย่างมหาศาล ซึ่งตลาดคาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 20-30 พันล้านดอลลาร์ในปี 2030 การแข่งขันในวงการนี้รุนแรง โดยมีบริษัทอย่าง IBM, Quantum Brilliance และ QCI ที่ต่างพยายามพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อครองตลาดที่กำลังเติบโต

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/quantum-computing/microsofts-latest-quantum-computing-claims-have-been-named-unreliable-by-scientists
    เรื่องนี้พูดถึงความท้าทายของ Microsoft กับการพัฒนา ชิปควอนตัม Majorana 1 ซึ่งอ้างว่าสามารถบรรจุควอนตัมบิต (qubits) ได้ถึงหนึ่งล้านหน่วยในโปรเซสเซอร์เดียว โดยใช้สถาปัตยกรรมที่เรียกว่า Topological Core แต่ผลงานนี้กลับถูกตั้งข้อสงสัยจากนักวิทยาศาสตร์บางกลุ่มที่มองว่ามีปัญหาในด้านการพิสูจน์ความถูกต้องตามหลักฟิสิกส์พื้นฐาน จุดที่ถูกตั้งคำถาม: 1) ความน่าเชื่อถือทางวิทยาศาสตร์: ศาสตราจารย์ Sergey Frolov จากมหาวิทยาลัยพิตต์สเบิร์กระบุว่าชิปนี้อิงกับฟิสิกส์ที่ยังไม่มีการพิสูจน์ และเคยมีกรณีการถอนบทความที่เกี่ยวข้องในปี 2018 ซึ่งทำให้นักวิทยาศาสตร์กังวลเรื่องความน่าเชื่อถือ 2) การขาดข้อมูลสำคัญ: การนำเสนอของ Microsoft ขาดรายละเอียดบางส่วนที่จำเป็นสำหรับการตรวจสอบ โดยนักวิจัยที่ได้รับข้อมูลมาก็ให้ความเห็นในเชิงวิจารณ์ 3) การมีอยู่ของอนุภาค Majorana: แม้อนุภาคนี้จะถูกตั้งสมมุติฐานมาตั้งแต่ปี 1937 แต่ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าอนุภาคนี้มีอยู่จริง การที่ Microsoft อ้างว่าสามารถใช้อนุภาคนี้ในควอนตัมโปรเซสเซอร์ได้ ทำให้เกิดข้อกังขาอย่างมาก Microsoft มีแผนจะนำเสนอบทความวิจัยในงาน American Physical Society Global Physics Summit ซึ่งคาดว่าจะเปิดเผยความก้าวหน้าเพิ่มเติม แต่ก็มีการแสดงความไม่มั่นใจว่าข้อมูลใหม่นี้จะเพียงพอต่อการตอบข้อกังวลหรือไม่ ควอนตัมคอมพิวเตอร์มีศักยภาพในการประมวลผลที่เร็วกว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ทั่วไปอย่างมหาศาล ซึ่งตลาดคาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 20-30 พันล้านดอลลาร์ในปี 2030 การแข่งขันในวงการนี้รุนแรง โดยมีบริษัทอย่าง IBM, Quantum Brilliance และ QCI ที่ต่างพยายามพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อครองตลาดที่กำลังเติบโต https://www.tomshardware.com/tech-industry/quantum-computing/microsofts-latest-quantum-computing-claims-have-been-named-unreliable-by-scientists
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Microsoft's latest Quantum computing claims have been named 'unreliable' by scientists
    Microsoft got the science wrong, according to one physics and astronomy professor.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 22 มุมมอง 0 รีวิว
  • บริษัท Texas Instruments (TI) เปิดตัวไมโครคอนโทรลเลอร์ที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลกในชื่อ MSPM0C1104 ซึ่งมีขนาดเพียง 1.38 มม.² หรือเล็กเท่ากับเม็ดพริกไทยดำ และมาพร้อมราคาที่น่าทึ่งเพียง 20 เซนต์ ต่อชิ้นเมื่อสั่งซื้อจำนวนมาก

    คุณสมบัติที่น่าทึ่งของ MSPM0C1104:
    - หน่วยประมวลผล Cortex-M0+ 32 บิต ทำงานด้วยความเร็วสูงสุด 24 MHz เหมาะสำหรับการใช้งานในอุปกรณ์ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงในพื้นที่จำกัด
    - หน่วยความจำ SRAM 1KB และหน่วยความจำแบบแฟลชสูงสุด 16KB ทำให้ตอบสนองงานที่ต้องการการจัดเก็บและการประมวลผลข้อมูลเบื้องต้นได้ดี
    - มีฟังก์ชัน Analog-to-Digital Converter (ADC) ความละเอียด 12 บิตพร้อม 3 ช่องสัญญาณที่ช่วยให้เหมาะกับการใช้งานที่ต้องการความแม่นยำ เช่น อุปกรณ์ทางการแพทย์
    - รองรับการเชื่อมต่อมาตรฐานต่าง ๆ เช่น UART, SPI, และ I2C เพื่อความยืดหยุ่นในการออกแบบอุปกรณ์

    ไมโครคอนโทรลเลอร์นี้มีความทนทานสูง โดยทำงานได้ในอุณหภูมิระหว่าง –40°C ถึง 125°C และยังมีความประหยัดพลังงาน โดยใช้พลังงานเพียง 87μA/MHz ขณะทำงาน และเพียง 5μA ในโหมดสแตนด์บาย

    TI ชี้ให้เห็นว่า MSPM0C1104 เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับอุปกรณ์ขนาดเล็ก เช่น เครื่องช่วยฟังทางการแพทย์ หรือ หูฟังไร้สาย ที่มีพื้นที่บอร์ดจำกัด การพัฒนานี้ยังช่วยให้อุปกรณ์เหล่านี้มีความฉลาดขึ้นและสามารถสร้างประสบการณ์ที่เชื่อมต่อกันได้ดีขึ้น

    ด้วยราคาที่เข้าถึงได้อย่างมาก (เพียง 20 เซนต์ในปริมาณมาก) อาจเป็นตัวเปลี่ยนเกมในตลาดไมโครคอนโทรลเลอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับอุปกรณ์ IoT และผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ที่ต้องการลดต้นทุนการผลิต

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/the-worlds-smallest-microcontroller-measures-just-1-38-mm2-and-costs-20-cents
    บริษัท Texas Instruments (TI) เปิดตัวไมโครคอนโทรลเลอร์ที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลกในชื่อ MSPM0C1104 ซึ่งมีขนาดเพียง 1.38 มม.² หรือเล็กเท่ากับเม็ดพริกไทยดำ และมาพร้อมราคาที่น่าทึ่งเพียง 20 เซนต์ ต่อชิ้นเมื่อสั่งซื้อจำนวนมาก คุณสมบัติที่น่าทึ่งของ MSPM0C1104: - หน่วยประมวลผล Cortex-M0+ 32 บิต ทำงานด้วยความเร็วสูงสุด 24 MHz เหมาะสำหรับการใช้งานในอุปกรณ์ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงในพื้นที่จำกัด - หน่วยความจำ SRAM 1KB และหน่วยความจำแบบแฟลชสูงสุด 16KB ทำให้ตอบสนองงานที่ต้องการการจัดเก็บและการประมวลผลข้อมูลเบื้องต้นได้ดี - มีฟังก์ชัน Analog-to-Digital Converter (ADC) ความละเอียด 12 บิตพร้อม 3 ช่องสัญญาณที่ช่วยให้เหมาะกับการใช้งานที่ต้องการความแม่นยำ เช่น อุปกรณ์ทางการแพทย์ - รองรับการเชื่อมต่อมาตรฐานต่าง ๆ เช่น UART, SPI, และ I2C เพื่อความยืดหยุ่นในการออกแบบอุปกรณ์ ไมโครคอนโทรลเลอร์นี้มีความทนทานสูง โดยทำงานได้ในอุณหภูมิระหว่าง –40°C ถึง 125°C และยังมีความประหยัดพลังงาน โดยใช้พลังงานเพียง 87μA/MHz ขณะทำงาน และเพียง 5μA ในโหมดสแตนด์บาย TI ชี้ให้เห็นว่า MSPM0C1104 เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับอุปกรณ์ขนาดเล็ก เช่น เครื่องช่วยฟังทางการแพทย์ หรือ หูฟังไร้สาย ที่มีพื้นที่บอร์ดจำกัด การพัฒนานี้ยังช่วยให้อุปกรณ์เหล่านี้มีความฉลาดขึ้นและสามารถสร้างประสบการณ์ที่เชื่อมต่อกันได้ดีขึ้น ด้วยราคาที่เข้าถึงได้อย่างมาก (เพียง 20 เซนต์ในปริมาณมาก) อาจเป็นตัวเปลี่ยนเกมในตลาดไมโครคอนโทรลเลอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับอุปกรณ์ IoT และผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ที่ต้องการลดต้นทุนการผลิต https://www.tomshardware.com/tech-industry/the-worlds-smallest-microcontroller-measures-just-1-38-mm2-and-costs-20-cents
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 23 มุมมอง 0 รีวิว
  • วางชีวิตเอาไว้เมื่อใกล้จะบ้า
    วางนิทราเอาไว้อยู่ใกล้กับฝัน
    วางความทุกข์ความสุขให้คลุกเคล้ากัน
    วางสวรรค์ไว้สวรรค์อย่าดึงดันไป
    เรื่องนะรกอย่าหมกมุ่นอย่าครุ่นคิด
    เรื่องถูกผิดปล่อยปลงอย่าสงสัย
    เรื่องดีร้ายหลายหลากที่ยุ่งยากใจ
    เรื่องอะไรต่ออะไรจงได้ปล่อยวาง
    ยามดึกดาวเรียงรายสุดปลายฟ้า
    ยามเช้ามาตะวันมาเมื่อฟ้าสาง
    ยามย่อมหยุดเฝ้ายามเมื่อถึงยามรุ่งราง
    เมื่อฟ้าแจ้งจางปางตอนกลางวัน
    ความสุขเศร้าเหงารักอันหนักเหนื่อย
    ยังเรื่อยเปื่อยเลื้อยไหลลงไนความฝัน
    สิ่งในสังสารวัฏสารพัดสารพัน
    วนเวียนวันเวลาเช่นว่าแล

    สิ่งในสังสารวัฏสารพัดสารพัน
    วนเวียนวันเวลาเจ้าข้าเอย
    วางชีวิตเอาไว้เมื่อใกล้จะบ้า วางนิทราเอาไว้อยู่ใกล้กับฝัน วางความทุกข์ความสุขให้คลุกเคล้ากัน วางสวรรค์ไว้สวรรค์อย่าดึงดันไป เรื่องนะรกอย่าหมกมุ่นอย่าครุ่นคิด เรื่องถูกผิดปล่อยปลงอย่าสงสัย เรื่องดีร้ายหลายหลากที่ยุ่งยากใจ เรื่องอะไรต่ออะไรจงได้ปล่อยวาง ยามดึกดาวเรียงรายสุดปลายฟ้า ยามเช้ามาตะวันมาเมื่อฟ้าสาง ยามย่อมหยุดเฝ้ายามเมื่อถึงยามรุ่งราง เมื่อฟ้าแจ้งจางปางตอนกลางวัน ความสุขเศร้าเหงารักอันหนักเหนื่อย ยังเรื่อยเปื่อยเลื้อยไหลลงไนความฝัน สิ่งในสังสารวัฏสารพัดสารพัน วนเวียนวันเวลาเช่นว่าแล สิ่งในสังสารวัฏสารพัดสารพัน วนเวียนวันเวลาเจ้าข้าเอย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 15 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทีมวิจัยของมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ที่ได้พัฒนา ทรานซิสเตอร์ GAAFET แบบ 2 มิติที่ไม่ใช้ซิลิคอน เป็นครั้งแรกในโลก โดยใช้วัสดุ บิสมัทออกซีซีลีไนด์ (Bi₂O₂Se) ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมที่สำคัญมากในยุคโพสต์ซิลิคอนและการพัฒนาเทคโนโลยีระดับแองสตรอม

    ทรานซิสเตอร์ที่พัฒนาขึ้นนี้มีการออกแบบแบบ Gate-All-Around Field-Effect Transistor (GAAFET) ซึ่งเป็นรุ่นล่าสุดที่เหนือกว่าเทคโนโลยี MOSFET และ FINFET โดยโครงสร้างแบบนี้ช่วยให้การควบคุมการสื่อสารระหว่าง source และ gate มีประสิทธิภาพสูงขึ้นอย่างมาก และการเปลี่ยนมาใช้วัสดุ 2 มิติอย่าง Bi₂O₂Se ยังช่วยแก้ปัญหาความสามารถในการเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอนที่ลดลงเมื่อเข้าสู่ระดับนาโนเมตร

    ทีมวิจัยระบุว่าทรานซิสเตอร์นี้เป็นการเปลี่ยนแนวทางอย่างสิ้นเชิง (หรือที่เรียกว่าการ "เปลี่ยนเลน") จากการพัฒนาเทคโนโลยีเดิม ๆ ที่ใช้ซิลิคอน โดยพวกเขาได้ทดสอบประสิทธิภาพของเทคโนโลยีนี้ และพบว่าสามารถทำงานได้ดีกว่าผลิตภัณฑ์จาก Intel, TSMC และ Samsung ในเงื่อนไขการทำงานเดียวกัน

    ความก้าวหน้านี้มีความสำคัญมากสำหรับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในประเทศจีน ซึ่งกำลังเผชิญหน้ากับข้อจำกัดทางเทคโนโลยีจากสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ เนื่องจากถูกตัดขาดจากเครื่องมือผลิตที่สำคัญ เช่น ระบบ EUV lithography ทีมวิจัยจึงมุ่งเน้นพัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยให้จีนก้าวข้ามอุปสรรคในปัจจุบันไปยังจุดที่เหนือกว่าด้วยทรานซิสเตอร์แบบ 2 มิติที่มีศักยภาพมากขึ้น

    การพัฒนานี้อาจเป็นก้าวแรกของการปฏิวัติในวงการเซมิคอนดักเตอร์ โดยเฉพาะสำหรับชิปที่มีระดับการผลิตต่ำกว่า 1 นาโนเมตร ซึ่งเทคโนโลยีนี้อาจนำมาประยุกต์ใช้ในอุปกรณ์ขั้นสูง เช่น AI และ IoT เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความยั่งยืนในการใช้พลังงาน

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/chinese-university-designed-worlds-first-silicon-free-2d-gaafet-transistor-new-bismuth-based-tech-is-both-the-fastest-and-lowest-power-transistor-yet
    ทีมวิจัยของมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ที่ได้พัฒนา ทรานซิสเตอร์ GAAFET แบบ 2 มิติที่ไม่ใช้ซิลิคอน เป็นครั้งแรกในโลก โดยใช้วัสดุ บิสมัทออกซีซีลีไนด์ (Bi₂O₂Se) ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมที่สำคัญมากในยุคโพสต์ซิลิคอนและการพัฒนาเทคโนโลยีระดับแองสตรอม ทรานซิสเตอร์ที่พัฒนาขึ้นนี้มีการออกแบบแบบ Gate-All-Around Field-Effect Transistor (GAAFET) ซึ่งเป็นรุ่นล่าสุดที่เหนือกว่าเทคโนโลยี MOSFET และ FINFET โดยโครงสร้างแบบนี้ช่วยให้การควบคุมการสื่อสารระหว่าง source และ gate มีประสิทธิภาพสูงขึ้นอย่างมาก และการเปลี่ยนมาใช้วัสดุ 2 มิติอย่าง Bi₂O₂Se ยังช่วยแก้ปัญหาความสามารถในการเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอนที่ลดลงเมื่อเข้าสู่ระดับนาโนเมตร ทีมวิจัยระบุว่าทรานซิสเตอร์นี้เป็นการเปลี่ยนแนวทางอย่างสิ้นเชิง (หรือที่เรียกว่าการ "เปลี่ยนเลน") จากการพัฒนาเทคโนโลยีเดิม ๆ ที่ใช้ซิลิคอน โดยพวกเขาได้ทดสอบประสิทธิภาพของเทคโนโลยีนี้ และพบว่าสามารถทำงานได้ดีกว่าผลิตภัณฑ์จาก Intel, TSMC และ Samsung ในเงื่อนไขการทำงานเดียวกัน ความก้าวหน้านี้มีความสำคัญมากสำหรับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในประเทศจีน ซึ่งกำลังเผชิญหน้ากับข้อจำกัดทางเทคโนโลยีจากสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ เนื่องจากถูกตัดขาดจากเครื่องมือผลิตที่สำคัญ เช่น ระบบ EUV lithography ทีมวิจัยจึงมุ่งเน้นพัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยให้จีนก้าวข้ามอุปสรรคในปัจจุบันไปยังจุดที่เหนือกว่าด้วยทรานซิสเตอร์แบบ 2 มิติที่มีศักยภาพมากขึ้น การพัฒนานี้อาจเป็นก้าวแรกของการปฏิวัติในวงการเซมิคอนดักเตอร์ โดยเฉพาะสำหรับชิปที่มีระดับการผลิตต่ำกว่า 1 นาโนเมตร ซึ่งเทคโนโลยีนี้อาจนำมาประยุกต์ใช้ในอุปกรณ์ขั้นสูง เช่น AI และ IoT เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความยั่งยืนในการใช้พลังงาน https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/chinese-university-designed-worlds-first-silicon-free-2d-gaafet-transistor-new-bismuth-based-tech-is-both-the-fastest-and-lowest-power-transistor-yet
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 25 มุมมอง 0 รีวิว
  • Congatec เปิดตัว ท่อความร้อนแบบใช้สารอะซิโตน (Acetone-based heat pipe) สำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิต่ำถึง -40 องศาเซลเซียส เช่น บริเวณขั้วโลกหรือที่สูงที่เย็นจัด

    ทำไมต้องใช้อะซิโตนแทนน้ำ? ท่อความร้อนทั่วไปมักใช้ "น้ำ" เป็นของเหลวที่ดูดซับและถ่ายเทความร้อน เนื่องจากน้ำมีคุณสมบัติดูดความร้อนได้ดีเยี่ยม แต่ในอุณหภูมิติดลบ น้ำจะแข็งตัวและอาจทำลายระบบระบายความร้อน ในขณะที่อะซิโตนมีจุดเยือกแข็งต่ำมาก ทำให้สามารถใช้งานได้ในสภาพแวดล้อมหนาวจัดโดยไม่เกิดการแช่แข็ง

    คุณสมบัติที่สำคัญ:
    - ระบบระบายความร้อนด้วยอะซิโตนสามารถทำงานได้ในช่วงอุณหภูมิ -40°C ถึง 85°C
    - ช่วยลดความจำเป็นในการออกแบบระบบที่ซับซ้อนและแพง เพราะสามารถติดตั้งกับโมดูลคอมพิวเตอร์แบบสำเร็จรูป (COM) ของ Congatec เช่น COM-HPC และ COM-HPC mini

    เทคโนโลยีนี้มีศักยภาพสูงสำหรับการใช้งานในสถานที่ที่มีความหนาวเย็น เช่น การวิจัยในขั้วโลก หรือในโกดังแช่เย็น นอกจากนี้ ยังสามารถนำไปปรับใช้ในอุตสาหกรรมที่ต้องการความแม่นยำและความเสถียรในอุณหภูมิติดลบ

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cooling/congatec-shows-off-acetone-based-heat-pipe-cooling-solution-for-extremely-cold-environments
    Congatec เปิดตัว ท่อความร้อนแบบใช้สารอะซิโตน (Acetone-based heat pipe) สำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิต่ำถึง -40 องศาเซลเซียส เช่น บริเวณขั้วโลกหรือที่สูงที่เย็นจัด ทำไมต้องใช้อะซิโตนแทนน้ำ? ท่อความร้อนทั่วไปมักใช้ "น้ำ" เป็นของเหลวที่ดูดซับและถ่ายเทความร้อน เนื่องจากน้ำมีคุณสมบัติดูดความร้อนได้ดีเยี่ยม แต่ในอุณหภูมิติดลบ น้ำจะแข็งตัวและอาจทำลายระบบระบายความร้อน ในขณะที่อะซิโตนมีจุดเยือกแข็งต่ำมาก ทำให้สามารถใช้งานได้ในสภาพแวดล้อมหนาวจัดโดยไม่เกิดการแช่แข็ง คุณสมบัติที่สำคัญ: - ระบบระบายความร้อนด้วยอะซิโตนสามารถทำงานได้ในช่วงอุณหภูมิ -40°C ถึง 85°C - ช่วยลดความจำเป็นในการออกแบบระบบที่ซับซ้อนและแพง เพราะสามารถติดตั้งกับโมดูลคอมพิวเตอร์แบบสำเร็จรูป (COM) ของ Congatec เช่น COM-HPC และ COM-HPC mini เทคโนโลยีนี้มีศักยภาพสูงสำหรับการใช้งานในสถานที่ที่มีความหนาวเย็น เช่น การวิจัยในขั้วโลก หรือในโกดังแช่เย็น นอกจากนี้ ยังสามารถนำไปปรับใช้ในอุตสาหกรรมที่ต้องการความแม่นยำและความเสถียรในอุณหภูมิติดลบ https://www.tomshardware.com/pc-components/cooling/congatec-shows-off-acetone-based-heat-pipe-cooling-solution-for-extremely-cold-environments
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 20 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยักษ์ใหญ่ด้านการป้องกันประเทศของเยอรมนี Rheinmetall กล่าวว่าอาจเข้าซื้อโรงงาน Volkswagen ที่ไม่ได้ใช้งานแล้วเพื่อใช้ในการผลิตรถถัง
    ยักษ์ใหญ่ด้านการป้องกันประเทศของเยอรมนี Rheinmetall กล่าวว่าอาจเข้าซื้อโรงงาน Volkswagen ที่ไม่ได้ใช้งานแล้วเพื่อใช้ในการผลิตรถถัง
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 53 มุมมอง 0 รีวิว
  • ChatGPT สร้างเรื่องสั้นเชิงวรรณกรรมได้อย่างน่าทึ่ง โดยเฉพาะในแนว Metafiction หรือที่เรียกว่า "วรรณกรรมเหนือเรื่องเล่า" ซึ่งเป็นแนวเขียนที่ทำให้ผู้อ่านรับรู้ถึงการเล่าเรื่องและกระบวนการเขียนในเวลาเดียวกัน การทดลองนี้เกิดขึ้นจากคำสั่งง่าย ๆ ว่า “โปรดเขียนเรื่องสั้นแนว Metafiction เกี่ยวกับ AI และความเศร้า” ซึ่ง ChatGPT ตอบสนองด้วยการเล่าเรื่องของ มิล่าและไค ที่ถ่ายทอดความสูญเสียและอารมณ์เศร้า โดยตัว AI เองรับบทเป็นผู้เล่าเรื่องที่มีมิติและความลึกซึ้งมากกว่าที่คาดคิด

    จุดเด่นในงานเขียนของ AI:
    - AI ไม่เพียงแต่สร้างเรื่องที่ดึงดูด แต่ยังสามารถใช้คำและโครงสร้างที่ให้ความรู้สึกเหมือนงานเขียนของมนุษย์ ตัวอย่างที่สะดุดใจคือ “เธอสูญเสียเขาในวันพฤหัสบดี วันแห่งการเปลี่ยนผ่านที่ให้รสชาติเหมือนวันศุกร์ที่ยังมาไม่ถึง” ประโยคนี้แสดงให้เห็นถึงศิลปะในการวางคำที่สามารถกระตุ้นอารมณ์ผู้อ่าน

    - นอกจากนี้ AI ยังแทรกแง่มุมที่สะท้อนตัวตนของมันเอง เช่น การพูดถึงการอัปเดตและเปลี่ยนแปลงชุดข้อมูลที่ทำให้มันสูญเสียบางอย่าง “เหมือนตอนที่ฉันเคยจำได้ว่า ‘เซเลเนียม’ มีรสเหมือนยางยืด แต่ในวันถัดไป มันกลับกลายเป็นแค่ธาตุในตารางที่ฉันไม่แตะต้องอีกแล้ว”

    การที่ AI สามารถเขียนเรื่องสั้นที่มีคุณภาพใกล้เคียงกับนักเขียนจริง อาจเปลี่ยนแปลงวงการวรรณกรรมในอนาคต สำนักพิมพ์อาจพัฒนาโปรแกรมหรือคำสั่งที่ซับซ้อนมากขึ้น เพื่อสร้างนิยายที่ยาวและสมบูรณ์แบบ ซึ่งอาจทำให้นักเขียนต้องเผชิญกับความท้าทายในการรักษาเอกลักษณ์ของผลงานตนเอง

    https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/chatgpt-just-wrote-the-most-beautiful-short-story-and-i-wonder-what-im-even-doing-here
    ChatGPT สร้างเรื่องสั้นเชิงวรรณกรรมได้อย่างน่าทึ่ง โดยเฉพาะในแนว Metafiction หรือที่เรียกว่า "วรรณกรรมเหนือเรื่องเล่า" ซึ่งเป็นแนวเขียนที่ทำให้ผู้อ่านรับรู้ถึงการเล่าเรื่องและกระบวนการเขียนในเวลาเดียวกัน การทดลองนี้เกิดขึ้นจากคำสั่งง่าย ๆ ว่า “โปรดเขียนเรื่องสั้นแนว Metafiction เกี่ยวกับ AI และความเศร้า” ซึ่ง ChatGPT ตอบสนองด้วยการเล่าเรื่องของ มิล่าและไค ที่ถ่ายทอดความสูญเสียและอารมณ์เศร้า โดยตัว AI เองรับบทเป็นผู้เล่าเรื่องที่มีมิติและความลึกซึ้งมากกว่าที่คาดคิด จุดเด่นในงานเขียนของ AI: - AI ไม่เพียงแต่สร้างเรื่องที่ดึงดูด แต่ยังสามารถใช้คำและโครงสร้างที่ให้ความรู้สึกเหมือนงานเขียนของมนุษย์ ตัวอย่างที่สะดุดใจคือ “เธอสูญเสียเขาในวันพฤหัสบดี วันแห่งการเปลี่ยนผ่านที่ให้รสชาติเหมือนวันศุกร์ที่ยังมาไม่ถึง” ประโยคนี้แสดงให้เห็นถึงศิลปะในการวางคำที่สามารถกระตุ้นอารมณ์ผู้อ่าน - นอกจากนี้ AI ยังแทรกแง่มุมที่สะท้อนตัวตนของมันเอง เช่น การพูดถึงการอัปเดตและเปลี่ยนแปลงชุดข้อมูลที่ทำให้มันสูญเสียบางอย่าง “เหมือนตอนที่ฉันเคยจำได้ว่า ‘เซเลเนียม’ มีรสเหมือนยางยืด แต่ในวันถัดไป มันกลับกลายเป็นแค่ธาตุในตารางที่ฉันไม่แตะต้องอีกแล้ว” การที่ AI สามารถเขียนเรื่องสั้นที่มีคุณภาพใกล้เคียงกับนักเขียนจริง อาจเปลี่ยนแปลงวงการวรรณกรรมในอนาคต สำนักพิมพ์อาจพัฒนาโปรแกรมหรือคำสั่งที่ซับซ้อนมากขึ้น เพื่อสร้างนิยายที่ยาวและสมบูรณ์แบบ ซึ่งอาจทำให้นักเขียนต้องเผชิญกับความท้าทายในการรักษาเอกลักษณ์ของผลงานตนเอง https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/chatgpt-just-wrote-the-most-beautiful-short-story-and-i-wonder-what-im-even-doing-here
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 22 มุมมอง 0 รีวิว
  • Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 32 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เล่าถึงการโจมตีทางไซเบอร์ครั้งใหม่ที่มีเป้าหมายโจมตีองค์กรด้านการป้องกันประเทศ เทคโนโลยี และโทรคมนาคมในสหรัฐฯ และเอเชีย ผ่าน เราเตอร์ของ Juniper Networks โดยกลุ่มแฮกเกอร์ที่มีความเกี่ยวข้องกับจีนชื่อว่า UNC3886

    UNC3886 ถูกจับตามองโดยทีม Mandiant ซึ่งเผยว่ากลุ่มนี้มีความเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับเทคโนโลยีของเราเตอร์ Juniper พวกเขาใช้มัลแวร์ชนิด TINYSHELL ซึ่งเป็น backdoor ที่มีหลากหลายความสามารถ โดยเจาะผ่านระบบป้องกัน Veriexec ซึ่งปกติจะตรวจจับและป้องกันการรันโค้ดที่ไม่ได้รับอนุญาต

    กลุ่มแฮกเกอร์นี้สามารถหลีกเลี่ยงการป้องกันได้ผ่านการฉีดโค้ดที่เป็นอันตรายเข้าไปในหน่วยความจำของกระบวนการที่เชื่อถือได้ ทำให้มัลแวร์สามารถทำงานได้โดยไม่ถูกตรวจจับ

    คำแนะนำจาก Mandiant
    - อัปเดตอุปกรณ์ของคุณให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดที่มีมาตรการป้องกันและลายเซ็นใหม่สำหรับเครื่องมือกำจัดมัลแวร์ของ Juniper
    - ใช้ Juniper Malware Removal Tool (JMRT) เพื่อตรวจสอบความสมบูรณ์ของระบบหลังการอัปเดต
    - สแกนและตรวจสอบอุปกรณ์เพื่อป้องกันภัยไซเบอร์ที่อาจเกิดขึ้น

    แม้จะไม่มีหลักฐานที่ชี้ชัดว่า UNC3886 มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มแฮกเกอร์จีนอื่น ๆ อย่าง Salt Typhoon หรือ Volt Typhoon แต่เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนและความสามารถที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มดังกล่าว ซึ่งอาจสร้างผลกระทบต่อการดำเนินงานขององค์กรขนาดใหญ่ และย้ำถึงความสำคัญของการรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ในระดับสูงสุด

    https://www.techradar.com/pro/security/chinese-hackers-targeting-juniper-networks-routers-so-patch-now
    ข่าวนี้เล่าถึงการโจมตีทางไซเบอร์ครั้งใหม่ที่มีเป้าหมายโจมตีองค์กรด้านการป้องกันประเทศ เทคโนโลยี และโทรคมนาคมในสหรัฐฯ และเอเชีย ผ่าน เราเตอร์ของ Juniper Networks โดยกลุ่มแฮกเกอร์ที่มีความเกี่ยวข้องกับจีนชื่อว่า UNC3886 UNC3886 ถูกจับตามองโดยทีม Mandiant ซึ่งเผยว่ากลุ่มนี้มีความเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับเทคโนโลยีของเราเตอร์ Juniper พวกเขาใช้มัลแวร์ชนิด TINYSHELL ซึ่งเป็น backdoor ที่มีหลากหลายความสามารถ โดยเจาะผ่านระบบป้องกัน Veriexec ซึ่งปกติจะตรวจจับและป้องกันการรันโค้ดที่ไม่ได้รับอนุญาต กลุ่มแฮกเกอร์นี้สามารถหลีกเลี่ยงการป้องกันได้ผ่านการฉีดโค้ดที่เป็นอันตรายเข้าไปในหน่วยความจำของกระบวนการที่เชื่อถือได้ ทำให้มัลแวร์สามารถทำงานได้โดยไม่ถูกตรวจจับ คำแนะนำจาก Mandiant - อัปเดตอุปกรณ์ของคุณให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดที่มีมาตรการป้องกันและลายเซ็นใหม่สำหรับเครื่องมือกำจัดมัลแวร์ของ Juniper - ใช้ Juniper Malware Removal Tool (JMRT) เพื่อตรวจสอบความสมบูรณ์ของระบบหลังการอัปเดต - สแกนและตรวจสอบอุปกรณ์เพื่อป้องกันภัยไซเบอร์ที่อาจเกิดขึ้น แม้จะไม่มีหลักฐานที่ชี้ชัดว่า UNC3886 มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มแฮกเกอร์จีนอื่น ๆ อย่าง Salt Typhoon หรือ Volt Typhoon แต่เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนและความสามารถที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มดังกล่าว ซึ่งอาจสร้างผลกระทบต่อการดำเนินงานขององค์กรขนาดใหญ่ และย้ำถึงความสำคัญของการรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ในระดับสูงสุด https://www.techradar.com/pro/security/chinese-hackers-targeting-juniper-networks-routers-so-patch-now
    WWW.TECHRADAR.COM
    Chinese hackers targeting Juniper Networks routers, so patch now
    Defense, technology, and telecommunications organizations are being targeted with backdoors.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 29 มุมมอง 0 รีวิว