
รายการ
ค้นพบผู้คนใหม่ๆ สร้างการเชื่อมต่อใหม่ๆ และรู้จักเพื่อนใหม่
- กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อกดถูกใจ แชร์ และแสดงความคิดเห็น!
- มุขเดิมๆ เพื่อเติมอาวุธ!
ฝรั่งเศสและสหราอาณาจักร เสนอข้อตกลงหยุดยิง 1 เดือนในยูเครน "ทั้งทางอากาศ ทะเลและโครงสร้างพื้นฐานทางพลังงาน" ตามหลังการหารือฉุกเฉินในลอนดอน จากการเปิดเผยของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศสมุขเดิมๆ เพื่อเติมอาวุธ! ฝรั่งเศสและสหราอาณาจักร เสนอข้อตกลงหยุดยิง 1 เดือนในยูเครน "ทั้งทางอากาศ ทะเลและโครงสร้างพื้นฐานทางพลังงาน" ตามหลังการหารือฉุกเฉินในลอนดอน จากการเปิดเผยของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 91 มุมมอง 0 รีวิว - 'ยุโรปต้องติดอาวุธใหม่อย่างเร่งด่วน' - วอน เดอร์ เลเยน
ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปที่ไม่ได้รับการเลือกตั้งเรียกร้องให้ 'เพิ่มการใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศ' และต้องการ 'แสดงให้สหรัฐฯ เห็น' ว่ายุโรปสามารถ 'ปกป้องประชาธิปไตย' ในยูเครนได้'ยุโรปต้องติดอาวุธใหม่อย่างเร่งด่วน' - วอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปที่ไม่ได้รับการเลือกตั้งเรียกร้องให้ 'เพิ่มการใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศ' และต้องการ 'แสดงให้สหรัฐฯ เห็น' ว่ายุโรปสามารถ 'ปกป้องประชาธิปไตย' ในยูเครนได้0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 89 มุมมอง 0 รีวิว - รัฐบาลอิสราเอลแถลง ออกคำสั่งปิดตายห้ามรถบรรเทาทุกข์ทั้งหมดส่งเข้าเขตฉนวนกาซา อ้างได้ไฟเขียวจากรัฐบาลสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ เล็งบีบฮามาสยอมตกลงดีลใหม่เพื่อขยายระยะเวลาหยุดยิงออกไป
.
เอบีซีนิวส์รายงานวันอาทิตย์ (2 มี.ค.) ว่า สำนักงานนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน ออกแถลงการณ์วันอาทิตย์ (2) ว่า อิสราเอลได้สั่งการห้ามการส่งบรรเทาทุกข์ทั้งหมดเข้าไปในเขตฉนวนกาซาเกิดขึ้นหลังข้อตกลงหยุดยิงเฟส 1 ที่เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลสหรัฐญ ของอดีตประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้สิ้นสุดลงในวันเสาร์ (1)
.
“นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ตัดสินใจเช้านี้ว่า สิ่งของทั้งหมดและปัจจัยส่งเข้าเขตฉนวนกาซาจะต้องหยุดลง” รายงานจากแถลงการณ์
.
พร้อมกันนี้ยังกล่าวหาว่ากลุ่มฮามาสปฏิเสธไม่ยอมรับร่างสำหรับการเจรจาที่จะเกิดขึ้นที่ออกมาจาก สตีฟ วิตค็อฟฟ์ (Steve Witkoff) ทูตตะวันออกกลางของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์
.
และในแถลงการณ์ของสำนักงานเนทันยาฮูยังยืนยันว่า ฝ่ายเทลอาวีฟจะไม่ให้มีการหยุดยิงเกิดขึ้นโดยที่ไม่มีการปล่อยตัวประกัน พร้อมข่มขู่ต่อว่า หากฮามาสยังคงปฏิเสธไม่ร่วมเจรจาจะมีผลกระทบอื่นตามมา
.
อ้างอิงจากแอกซิออส (axios) ของสหรัฐฯ พบว่า ยังมีตัวประกันอยู่ในมือฮามาสอีก 59 คนในกาซา ซึ่งทั้งสหรัฐฯ และอิสราเอลเชื่อว่า 22 คนจากทั้งหมดยังคงมีชีวิตอยู่รวมถึงพลเมืองสหรัฐฯ 1 คน ส่วนอีก 37 คนนั้นเชื่อว่าเสียชีวิตแล้ว
.
แหล่งข่าวเทลอาวีฟเปิดเผยกับเอบีซีนิวส์ว่า “การตัดสินใจของอิสราเอลในการปิดกั้นสิ่งของบรรเทาทุกข์เข้ากาซาทั้งหมดนั้นมีการประสานกับรัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์”
.
ขณะที่ฮามาสได้ออกแถลงการณ์วันอาทิตย์ (2) ออกมาตอบโต้การปิดกั้นสิ่งของบรรเทาทุกข์ทั้งหมดเพื่อประชาชนปาเลสไตน์ที่อยู่ด้านในนั้นเป็น “แบล็กเมล์สกปรก” และเป็น “สงครามอาชญากรรม” และเป็นการละเมิดในสิ่งได้ตกลงไว้ก่อนหน้า
.
“หนทางเดียวในการที่จะปลดปล่อยตัวประกันคือการบังคับใช้ข้อตกลงและเริ่มต้นการเจรจาสำหรับข้อตกลงเฟส 2”อ้างอิงจากแถลงการณ์ของฮามาส เอบีซีนิวส์รายงาน
.
เอพีรายงานว่า เทลอาวีฟใช้วิธีปิดกั้นการช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ทั้งหมดเพื่อต้องการให้ฝ่ายฮามาสยอมรับข้อเสนอใหม่เพื่อขยายเวลาการหยุดยิงออกไป ขณะที่ตัวกลางเช่น อียิปต์ กล่าวหาเทลอาวีฟว่า ใช้การขาดอาหารเป็นอาวุธ”
.
นับตั้งแต่ข้อตกลงหยุดยิงเริ่มมาตั้งแต่วันที่ 19 ม.ค.และสิ้นสุดลงในวันเสาร์ (1 ) มีรถบรรเทาทุกข์หลายร้อยคันผ่านเข้าเขตฉนวนกาซาเพื่อทำให้ภาวะการขาดอาหารที่บรรดาผู้เชี่ยวชาญวิตกบรรเทาลง
.
แต่ทว่าประชาชนกาซาต่างกล่าวว่า ราคาสินค้าเพิ่มเป็น 2 เท่าในทันทีที่ข่าวปิดด่านห้ามรถบรรเทาทุกข์เข้านั้นลามไปทั่ว
.
หนึ่งในประชาชนปาเลสไตน์คือ ซาอิด อัล-ดาอิรี (Sayed al-Dairi) อาศัยในกาซา ซิตี แสดงความเห็นว่า "ทุกคนพากันวิตก" และเสริมต่อว่า "นี่ไม่ใช่ชีวิตแม้แต่น้อย"
.
อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000020419
..............
Sondhi Xรัฐบาลอิสราเอลแถลง ออกคำสั่งปิดตายห้ามรถบรรเทาทุกข์ทั้งหมดส่งเข้าเขตฉนวนกาซา อ้างได้ไฟเขียวจากรัฐบาลสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ เล็งบีบฮามาสยอมตกลงดีลใหม่เพื่อขยายระยะเวลาหยุดยิงออกไป . เอบีซีนิวส์รายงานวันอาทิตย์ (2 มี.ค.) ว่า สำนักงานนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน ออกแถลงการณ์วันอาทิตย์ (2) ว่า อิสราเอลได้สั่งการห้ามการส่งบรรเทาทุกข์ทั้งหมดเข้าไปในเขตฉนวนกาซาเกิดขึ้นหลังข้อตกลงหยุดยิงเฟส 1 ที่เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลสหรัฐญ ของอดีตประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้สิ้นสุดลงในวันเสาร์ (1) . “นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ตัดสินใจเช้านี้ว่า สิ่งของทั้งหมดและปัจจัยส่งเข้าเขตฉนวนกาซาจะต้องหยุดลง” รายงานจากแถลงการณ์ . พร้อมกันนี้ยังกล่าวหาว่ากลุ่มฮามาสปฏิเสธไม่ยอมรับร่างสำหรับการเจรจาที่จะเกิดขึ้นที่ออกมาจาก สตีฟ วิตค็อฟฟ์ (Steve Witkoff) ทูตตะวันออกกลางของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ . และในแถลงการณ์ของสำนักงานเนทันยาฮูยังยืนยันว่า ฝ่ายเทลอาวีฟจะไม่ให้มีการหยุดยิงเกิดขึ้นโดยที่ไม่มีการปล่อยตัวประกัน พร้อมข่มขู่ต่อว่า หากฮามาสยังคงปฏิเสธไม่ร่วมเจรจาจะมีผลกระทบอื่นตามมา . อ้างอิงจากแอกซิออส (axios) ของสหรัฐฯ พบว่า ยังมีตัวประกันอยู่ในมือฮามาสอีก 59 คนในกาซา ซึ่งทั้งสหรัฐฯ และอิสราเอลเชื่อว่า 22 คนจากทั้งหมดยังคงมีชีวิตอยู่รวมถึงพลเมืองสหรัฐฯ 1 คน ส่วนอีก 37 คนนั้นเชื่อว่าเสียชีวิตแล้ว . แหล่งข่าวเทลอาวีฟเปิดเผยกับเอบีซีนิวส์ว่า “การตัดสินใจของอิสราเอลในการปิดกั้นสิ่งของบรรเทาทุกข์เข้ากาซาทั้งหมดนั้นมีการประสานกับรัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์” . ขณะที่ฮามาสได้ออกแถลงการณ์วันอาทิตย์ (2) ออกมาตอบโต้การปิดกั้นสิ่งของบรรเทาทุกข์ทั้งหมดเพื่อประชาชนปาเลสไตน์ที่อยู่ด้านในนั้นเป็น “แบล็กเมล์สกปรก” และเป็น “สงครามอาชญากรรม” และเป็นการละเมิดในสิ่งได้ตกลงไว้ก่อนหน้า . “หนทางเดียวในการที่จะปลดปล่อยตัวประกันคือการบังคับใช้ข้อตกลงและเริ่มต้นการเจรจาสำหรับข้อตกลงเฟส 2”อ้างอิงจากแถลงการณ์ของฮามาส เอบีซีนิวส์รายงาน . เอพีรายงานว่า เทลอาวีฟใช้วิธีปิดกั้นการช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ทั้งหมดเพื่อต้องการให้ฝ่ายฮามาสยอมรับข้อเสนอใหม่เพื่อขยายเวลาการหยุดยิงออกไป ขณะที่ตัวกลางเช่น อียิปต์ กล่าวหาเทลอาวีฟว่า ใช้การขาดอาหารเป็นอาวุธ” . นับตั้งแต่ข้อตกลงหยุดยิงเริ่มมาตั้งแต่วันที่ 19 ม.ค.และสิ้นสุดลงในวันเสาร์ (1 ) มีรถบรรเทาทุกข์หลายร้อยคันผ่านเข้าเขตฉนวนกาซาเพื่อทำให้ภาวะการขาดอาหารที่บรรดาผู้เชี่ยวชาญวิตกบรรเทาลง . แต่ทว่าประชาชนกาซาต่างกล่าวว่า ราคาสินค้าเพิ่มเป็น 2 เท่าในทันทีที่ข่าวปิดด่านห้ามรถบรรเทาทุกข์เข้านั้นลามไปทั่ว . หนึ่งในประชาชนปาเลสไตน์คือ ซาอิด อัล-ดาอิรี (Sayed al-Dairi) อาศัยในกาซา ซิตี แสดงความเห็นว่า "ทุกคนพากันวิตก" และเสริมต่อว่า "นี่ไม่ใช่ชีวิตแม้แต่น้อย" . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000020419 .............. Sondhi X - บรรดาสมาชิกระดับสูงของพรรครีพับลิกัน ที่เป็นพันธมิตรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กดดันประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ให้เปลี่ยนจุดยืนในสงครามกับรัสเซีย หรือไม่ก็ลาออกไป ยกระดับถาโถมแรงบีบเข้าใส่ผู้นำเคียฟ ตามหลังการประชุมที่เกิดศึกโต้เถียงกัน ณ ทำเนียบขาว เมื่อช่วงปลายสัปดาห์
.
บรรดาผู้นำยุโรป แสดงจุดยืนสนับสนุนเซเลนสกี ณ ที่ประชุมหนึ่งในลอนดอนเมื่อวันอาทิตย์ (2 มี.ค.) โดย เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร เรียกร้องให้บรรดาผู้นำยุโรปยกระดับความพยายามป้องกันตนเอง เพียง 2 วัน หลังจาก ทรัมป์ และรองประธานธิบดีเจดี แวนซ์ มีปากเสียงกับ เซเลนสกี ในห้องทำงานรูปไข่ ไล่เขาออกจากทำเนียบขาว โดยไม่มีการลงนามในข้อตกลงแร่ใดๆ ตามที่วางแผนไว้
.
ศึกวิวาทะดังกล่าวสร้างความตกตะลึงแก่พวกผู้นำทั่วโลก และก่อคำถามเกี่ยวกับก้าวย่างถัดไปของสงคราม ที่รัสเซียเป็นคนเริ่มด้วยการรุกรานยูเครนเมื่อ 3 ปีก่อน เช่นเดียวกับความพยายามของทรัมป์ ในการยุติความขัดแย้งนี้
.
เซเลนสกี อ้างในที่ประชุมว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ไม่ยึดมั่นในข้อตกลงหยุดยิงปี 2019 และให้คำจำกัดความ ปูติน ว่าเป็นฆาตกรและพวกก่อการร้าย
.
ไมค์ วอล์ทซ์ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของทรัมป์ ระบุรัฐบาลไม่แน่ใจว่า เซเลนสกี พร้อมเจรจายุติสงครามหรือไม่ และเน้นย้ำเป้าหมายของ ทรัมป์ สำหรับการมีสันติภาพที่ถาวรระหว่างมอสโกกับเคียฟ ที่เกี่ยวข้องกับการยอมอ่อนข้อด้านดินแดน แลกกับการรับประกันความมั่นคงที่นำโดยยุโรป
.
เมื่อถามว่า ทรัมป์ ต้องการให้ เซเลนสกี ลาออกหรือไม่ ทาง วอล์ทซ์ ให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็น ว่า "เราต้องการผู้นำรายหนึ่งที่สามารถตกลงกับเรา ในท้ายที่สุดตกลงกับรัสเซียและยุติสงครามนี้" เขาระบุ "ถ้ามันกลายเป็นว่าประธานาธิบดีเซเลนสกี มีทั้งแรงจูงใจส่วนตัวและแรงจูงใจทางการเมืองที่ผิดแผกไปจากการยุติการสู้รบในประเทศของเขา เมื่อนั้นผมคิดว่าเรามีประเด็นปัญหาที่แท้จริง"
.
ลินด์ซีย์ เกรแฮม วุฒิสมาชิกจากเซาท์แคโรไลนา พันธมิตรใกล้ชิดของทรัมป์และเคยเป็นผู้สนับสนุนยูเครนตัวยง ตั้งคำถามว่าสหรัฐฯ จะยังคงสามารถทำงานร่วมกับ เซเลนสกี ได้หรือไม่ ตามหลังการโต้เถียงในทำเนียบขาว ที่เกิดขึ้นต่อหน้าพวกผู้สื่อข่าวในวันศุกร์ (28 ก.พ.)
.
ไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ แสดงความคิดเห็นแบบเดียวกันในวันอาทิตย์ (2 มี.ค.) "บางอย่างจำเป็นต้องเปลี่ยน เขาจำเป็นทั้งต้องมีความสมเหตุสมผลและกลับสู่โต๊ะเจรจาด้วยความสำนึกบุญคุณ หรือไม่อย่างนั้นคนอื่นใครบางคนก็จำเป็นต้องก้าวมานำประเทศแห่งนี้ ให้ทำเช่นนั้น" เขาบอกกับสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซี "มันอยากเห็นปูตินพ่ายแพ้ พูดตรงๆ เขาเป็นศัตรูของสหรัฐฯ แต่ในความขัดแย้งนี้ เรากำลังหาทางให้มันถึงจุดจบของสงคราม"
.
อย่างไรก็ตาม ในฝ่ายเดโมแครต ไม่เห็นด้วยกับการชี้แนะให้ เซเลนสกี ลาออกจากตำแหน่ง และรู้สึกรังเกียจต่อภาพการประชุมที่เต็มไปด้วยการโต้เถียง ระหว่างทรัมป์กับผู้นำยูเครน
.
วุฒิสมาชิกคริส เมอร์ฟี จากคอนเนคทิคัต โวยวายใส่ทำเนียบขาว กรณีที่ขยับเข้าไปใกล้ชิดกับรัสเซีย มากกว่าชาติประชาธิปไตยด้วยกัน "แน่นอนว่า สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้ มันน่าอดสูอย่างที่สุด ทำเนียบขาวกลายเป็นอาวุธของเครมลิน" เขาบอกกับซีเอ็นเอ็น "บริษัทโดยรวมของการประชุมดังกล่าว เป็นความพยายามเขียนประวัติศาสตร์ขึ้นมาใหม่ เพื่อลงนามข้อตกลงกับปูติน ที่ส่งมอบยูเครนแก่ปูติน มันเป็นหายนะสำหรับความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ"
.
วอล์ทซ์ แก้ต่างว่า "มันเป็นเท็จโดยสิ้นเชิง" ที่มีการกล่าวหาว่าการประชุมในห้องทำงานรูปไข่ เป็นการซุ่มโจมตี และรัฐบาลทรัมป์โยนแรงกดดันใส่ยูเครน ให้เปลี่ยนจุดยืน "เราจะพร้อมกลับมาเจรจาใหม่ เมื่อพวกเขาพร้อมสร้างสันติภาพ" มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าว พร้อมเผยว่าไม่ได้คุยกับ เซเลนสกี และรัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน มาตั้งแต่การประชุมเมื่อวันศุกร์ (28 ก.พ.)
.
"ไม่มีใครที่นี่ เคลมว่าประธานาธิบดีปูติน กำลังได้รับโนเบลสันติภาพในปีนี้" รูบิโอ ระบุและอ้างว่าการเจรจากับรัสเซียเป็นสิ่งจำเป็น "คุณไม่อาจดึงพวกเขาสู้โต๊ะเจรจา หากว่าคุณไม่ยอมเรียกชื่อพวกเขา หากว่าคุณยังคงมองเขาเป็นศัตรู"
.
อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000020423
..............
Sondhi Xบรรดาสมาชิกระดับสูงของพรรครีพับลิกัน ที่เป็นพันธมิตรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กดดันประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ให้เปลี่ยนจุดยืนในสงครามกับรัสเซีย หรือไม่ก็ลาออกไป ยกระดับถาโถมแรงบีบเข้าใส่ผู้นำเคียฟ ตามหลังการประชุมที่เกิดศึกโต้เถียงกัน ณ ทำเนียบขาว เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ . บรรดาผู้นำยุโรป แสดงจุดยืนสนับสนุนเซเลนสกี ณ ที่ประชุมหนึ่งในลอนดอนเมื่อวันอาทิตย์ (2 มี.ค.) โดย เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร เรียกร้องให้บรรดาผู้นำยุโรปยกระดับความพยายามป้องกันตนเอง เพียง 2 วัน หลังจาก ทรัมป์ และรองประธานธิบดีเจดี แวนซ์ มีปากเสียงกับ เซเลนสกี ในห้องทำงานรูปไข่ ไล่เขาออกจากทำเนียบขาว โดยไม่มีการลงนามในข้อตกลงแร่ใดๆ ตามที่วางแผนไว้ . ศึกวิวาทะดังกล่าวสร้างความตกตะลึงแก่พวกผู้นำทั่วโลก และก่อคำถามเกี่ยวกับก้าวย่างถัดไปของสงคราม ที่รัสเซียเป็นคนเริ่มด้วยการรุกรานยูเครนเมื่อ 3 ปีก่อน เช่นเดียวกับความพยายามของทรัมป์ ในการยุติความขัดแย้งนี้ . เซเลนสกี อ้างในที่ประชุมว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ไม่ยึดมั่นในข้อตกลงหยุดยิงปี 2019 และให้คำจำกัดความ ปูติน ว่าเป็นฆาตกรและพวกก่อการร้าย . ไมค์ วอล์ทซ์ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของทรัมป์ ระบุรัฐบาลไม่แน่ใจว่า เซเลนสกี พร้อมเจรจายุติสงครามหรือไม่ และเน้นย้ำเป้าหมายของ ทรัมป์ สำหรับการมีสันติภาพที่ถาวรระหว่างมอสโกกับเคียฟ ที่เกี่ยวข้องกับการยอมอ่อนข้อด้านดินแดน แลกกับการรับประกันความมั่นคงที่นำโดยยุโรป . เมื่อถามว่า ทรัมป์ ต้องการให้ เซเลนสกี ลาออกหรือไม่ ทาง วอล์ทซ์ ให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็น ว่า "เราต้องการผู้นำรายหนึ่งที่สามารถตกลงกับเรา ในท้ายที่สุดตกลงกับรัสเซียและยุติสงครามนี้" เขาระบุ "ถ้ามันกลายเป็นว่าประธานาธิบดีเซเลนสกี มีทั้งแรงจูงใจส่วนตัวและแรงจูงใจทางการเมืองที่ผิดแผกไปจากการยุติการสู้รบในประเทศของเขา เมื่อนั้นผมคิดว่าเรามีประเด็นปัญหาที่แท้จริง" . ลินด์ซีย์ เกรแฮม วุฒิสมาชิกจากเซาท์แคโรไลนา พันธมิตรใกล้ชิดของทรัมป์และเคยเป็นผู้สนับสนุนยูเครนตัวยง ตั้งคำถามว่าสหรัฐฯ จะยังคงสามารถทำงานร่วมกับ เซเลนสกี ได้หรือไม่ ตามหลังการโต้เถียงในทำเนียบขาว ที่เกิดขึ้นต่อหน้าพวกผู้สื่อข่าวในวันศุกร์ (28 ก.พ.) . ไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ แสดงความคิดเห็นแบบเดียวกันในวันอาทิตย์ (2 มี.ค.) "บางอย่างจำเป็นต้องเปลี่ยน เขาจำเป็นทั้งต้องมีความสมเหตุสมผลและกลับสู่โต๊ะเจรจาด้วยความสำนึกบุญคุณ หรือไม่อย่างนั้นคนอื่นใครบางคนก็จำเป็นต้องก้าวมานำประเทศแห่งนี้ ให้ทำเช่นนั้น" เขาบอกกับสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซี "มันอยากเห็นปูตินพ่ายแพ้ พูดตรงๆ เขาเป็นศัตรูของสหรัฐฯ แต่ในความขัดแย้งนี้ เรากำลังหาทางให้มันถึงจุดจบของสงคราม" . อย่างไรก็ตาม ในฝ่ายเดโมแครต ไม่เห็นด้วยกับการชี้แนะให้ เซเลนสกี ลาออกจากตำแหน่ง และรู้สึกรังเกียจต่อภาพการประชุมที่เต็มไปด้วยการโต้เถียง ระหว่างทรัมป์กับผู้นำยูเครน . วุฒิสมาชิกคริส เมอร์ฟี จากคอนเนคทิคัต โวยวายใส่ทำเนียบขาว กรณีที่ขยับเข้าไปใกล้ชิดกับรัสเซีย มากกว่าชาติประชาธิปไตยด้วยกัน "แน่นอนว่า สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้ มันน่าอดสูอย่างที่สุด ทำเนียบขาวกลายเป็นอาวุธของเครมลิน" เขาบอกกับซีเอ็นเอ็น "บริษัทโดยรวมของการประชุมดังกล่าว เป็นความพยายามเขียนประวัติศาสตร์ขึ้นมาใหม่ เพื่อลงนามข้อตกลงกับปูติน ที่ส่งมอบยูเครนแก่ปูติน มันเป็นหายนะสำหรับความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ" . วอล์ทซ์ แก้ต่างว่า "มันเป็นเท็จโดยสิ้นเชิง" ที่มีการกล่าวหาว่าการประชุมในห้องทำงานรูปไข่ เป็นการซุ่มโจมตี และรัฐบาลทรัมป์โยนแรงกดดันใส่ยูเครน ให้เปลี่ยนจุดยืน "เราจะพร้อมกลับมาเจรจาใหม่ เมื่อพวกเขาพร้อมสร้างสันติภาพ" มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าว พร้อมเผยว่าไม่ได้คุยกับ เซเลนสกี และรัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน มาตั้งแต่การประชุมเมื่อวันศุกร์ (28 ก.พ.) . "ไม่มีใครที่นี่ เคลมว่าประธานาธิบดีปูติน กำลังได้รับโนเบลสันติภาพในปีนี้" รูบิโอ ระบุและอ้างว่าการเจรจากับรัสเซียเป็นสิ่งจำเป็น "คุณไม่อาจดึงพวกเขาสู้โต๊ะเจรจา หากว่าคุณไม่ยอมเรียกชื่อพวกเขา หากว่าคุณยังคงมองเขาเป็นศัตรู" . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000020423 .............. Sondhi X - พวกคนดังฮอลลีวูดที่เดินทางเยือนยูเครน เพื่อแสดงจุดยืนสนับสนุนประเทศแห่งนี้ ระหว่างความขัดแย้งกับรัสเซีย ไม่ได้ออกมาจากควาามรู้สึกเห็นอกเห็นใจ แต่เพราะว่าพวกเขาได้รับค่าจ้างหลายล้านดอลลาร์ จากการออกมาแฉของ วิคเตอร์ ออร์บาน นายกรัฐมนตรีฮังการี เมื่อช่วงสุดสัปดาห์
.
ออร์บาน ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ TV2 ของฮังการี เมื่อวันเสาร์ (1 มี.ค.) ว่า การเดินทางเยือนกรุงเคียฟ ของบรรดาดาราดังทั้งหลาย ได้รับค่าจ้างจากสำนักงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (USAID) กลไกหลักของวอชิงตัน สำหรับให้เงินอุดหนุนโครงการทางการเมืองต่างๆ ในต่างแดน
.
"มีคนได้รับเงินจากการแสดงออกของพวกเขา ผมกำลังพูดถึงพวกคนดังและดาราหนังทั้งหลาย พวกเขาได้รับเงินให้เดินทางไปยูเครน ดังนั้นพวกเขาไม่ได้ทำมันจากก้นบึ้งของหัวใจหรือรู้สึกเห็นอกเห็นใจชาวยูเครน จริงๆ แล้วบางทีพวกเขาอาจรู้สึกเช่นนั้น แต่ก็เพราะพวกเขาได้รับเงิน"
.
นายกรัฐมนตรีรายนี้กล่าวอ้างว่าเงินค่าจ้างที่มอบแก่เซเลบและดาราดังทั้งหลายนั้น คิดเป็นจำนวนหลายล้านยูโรหรือหลายล้านดอลลาร์ แต่เขาไม่ได้เอ่ยชื่อว่ามีใครบ้าง
.
ที่ผ่านมา แอนเจลีนา โจลี ฌอน เพนน์ เบน สติลเลอร์ และออร์ลันโด บลูม เป็นหนึ่งในบรรดาคนดังตะวันตก ที่เดินทางเยือนยูเครน นับตั้งแต่ความขัดแย้งระหว่างเคียฟกับมอสโกลุกลามบานปลาย และลากยาวมานานกว่า 3 ปี
.
ในเดือนกุมภาพันธ์ มีรายงานปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์ อ้างว่า โจลี ได้รับเงิน 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับทริปเดินทางไปยังเมืองลวิว ในเดือนเมษายน 2022 ส่วน เพนน์ สติลเลอร์ และบลูม ได้รับเช็ค 5 ล้านดอลลาร์ 4 ล้านดอลลาร์ และ 8 ล้านดอลลาร์ ตามลำดับ จาก USAID
.
ย้อนกลับไปในตอนนั้น สติลเลอร์ ปฏิเสธคำกล่าวหา อ้างว่าเป็นคำโกหกจากสื่อมวลชนรัสเซีย นักแสดงรายนี้โพสต์ยืนยันบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ บอกว่าเขาเดินทางไปยังเคียฟด้วยเงินทุนของตนเอง ส่วนทนายความของ เพนน์ ระบะเช่นกันว่ารายงานข่าวที่อ้างว่าลูกความของเขาได้รับค่าจ้างจาก USAID ให้พบปะกับ โวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน นั้น "ไม่ถูกต้องโดยสิ้นเชิง ชี้นำผิดๆ และขาดการไตร่ตรอง"
.
ไม่นานหลังจากเข้ารับตำแหน่ง ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ทำการกวาดล้าง USAID กล่าวหาหน่วยงานแห่งนี้ว่ามีการคอร์รัปชันอย่างกว้างขวางและไร้ประสิทธิภาพ เขาสั่งการให้ระงับเงินทุนที่ป้อนแก่ USAID เป็นเวลา 90 วัน และถ่ายโอนการกำกับดูแลโครงการต่างๆ ของหน่วยงานแห่งนี้ ให้ไปอยู่ภายใต้การควบคุมของกระทรวงการต่างประเทศโดยตรง
.
ระหว่างการให้สัมภาษณ์ ทาง ออร์บาน ระบุว่ากิจกรรมต่างๆ ของ USAID ในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา อาจเป็น "การคอร์รัปชันที่อื้อฉาวครั้งมโหฬารที่สุดในประวัติศาสตร์โลกตะวันตก"
.
"ผมไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน เงินหลายพันหลายหมื่นล้านดอลลาร์ถูกโอนย้ายจากงบประมาณสหรัฐฯ เข้าสู่กองทุนต่างๆ และรูปแบบการสนับสนุนต่างๆ และจากนั้นก็ถูกจัดสรรไปทั่วโลก มอบให้คนที่มีความคิด จิตวิญญาณ โครงการและผลประโยชน์อย่างเจาะจง ตรงตามความต้องการของอเมริกา และพวกเขาได้รับเงินสำหรับสิ่งนั้น"
.
อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000020425
..............
Sondhi Xพวกคนดังฮอลลีวูดที่เดินทางเยือนยูเครน เพื่อแสดงจุดยืนสนับสนุนประเทศแห่งนี้ ระหว่างความขัดแย้งกับรัสเซีย ไม่ได้ออกมาจากควาามรู้สึกเห็นอกเห็นใจ แต่เพราะว่าพวกเขาได้รับค่าจ้างหลายล้านดอลลาร์ จากการออกมาแฉของ วิคเตอร์ ออร์บาน นายกรัฐมนตรีฮังการี เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ . ออร์บาน ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ TV2 ของฮังการี เมื่อวันเสาร์ (1 มี.ค.) ว่า การเดินทางเยือนกรุงเคียฟ ของบรรดาดาราดังทั้งหลาย ได้รับค่าจ้างจากสำนักงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (USAID) กลไกหลักของวอชิงตัน สำหรับให้เงินอุดหนุนโครงการทางการเมืองต่างๆ ในต่างแดน . "มีคนได้รับเงินจากการแสดงออกของพวกเขา ผมกำลังพูดถึงพวกคนดังและดาราหนังทั้งหลาย พวกเขาได้รับเงินให้เดินทางไปยูเครน ดังนั้นพวกเขาไม่ได้ทำมันจากก้นบึ้งของหัวใจหรือรู้สึกเห็นอกเห็นใจชาวยูเครน จริงๆ แล้วบางทีพวกเขาอาจรู้สึกเช่นนั้น แต่ก็เพราะพวกเขาได้รับเงิน" . นายกรัฐมนตรีรายนี้กล่าวอ้างว่าเงินค่าจ้างที่มอบแก่เซเลบและดาราดังทั้งหลายนั้น คิดเป็นจำนวนหลายล้านยูโรหรือหลายล้านดอลลาร์ แต่เขาไม่ได้เอ่ยชื่อว่ามีใครบ้าง . ที่ผ่านมา แอนเจลีนา โจลี ฌอน เพนน์ เบน สติลเลอร์ และออร์ลันโด บลูม เป็นหนึ่งในบรรดาคนดังตะวันตก ที่เดินทางเยือนยูเครน นับตั้งแต่ความขัดแย้งระหว่างเคียฟกับมอสโกลุกลามบานปลาย และลากยาวมานานกว่า 3 ปี . ในเดือนกุมภาพันธ์ มีรายงานปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์ อ้างว่า โจลี ได้รับเงิน 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับทริปเดินทางไปยังเมืองลวิว ในเดือนเมษายน 2022 ส่วน เพนน์ สติลเลอร์ และบลูม ได้รับเช็ค 5 ล้านดอลลาร์ 4 ล้านดอลลาร์ และ 8 ล้านดอลลาร์ ตามลำดับ จาก USAID . ย้อนกลับไปในตอนนั้น สติลเลอร์ ปฏิเสธคำกล่าวหา อ้างว่าเป็นคำโกหกจากสื่อมวลชนรัสเซีย นักแสดงรายนี้โพสต์ยืนยันบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ บอกว่าเขาเดินทางไปยังเคียฟด้วยเงินทุนของตนเอง ส่วนทนายความของ เพนน์ ระบะเช่นกันว่ารายงานข่าวที่อ้างว่าลูกความของเขาได้รับค่าจ้างจาก USAID ให้พบปะกับ โวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน นั้น "ไม่ถูกต้องโดยสิ้นเชิง ชี้นำผิดๆ และขาดการไตร่ตรอง" . ไม่นานหลังจากเข้ารับตำแหน่ง ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ทำการกวาดล้าง USAID กล่าวหาหน่วยงานแห่งนี้ว่ามีการคอร์รัปชันอย่างกว้างขวางและไร้ประสิทธิภาพ เขาสั่งการให้ระงับเงินทุนที่ป้อนแก่ USAID เป็นเวลา 90 วัน และถ่ายโอนการกำกับดูแลโครงการต่างๆ ของหน่วยงานแห่งนี้ ให้ไปอยู่ภายใต้การควบคุมของกระทรวงการต่างประเทศโดยตรง . ระหว่างการให้สัมภาษณ์ ทาง ออร์บาน ระบุว่ากิจกรรมต่างๆ ของ USAID ในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา อาจเป็น "การคอร์รัปชันที่อื้อฉาวครั้งมโหฬารที่สุดในประวัติศาสตร์โลกตะวันตก" . "ผมไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน เงินหลายพันหลายหมื่นล้านดอลลาร์ถูกโอนย้ายจากงบประมาณสหรัฐฯ เข้าสู่กองทุนต่างๆ และรูปแบบการสนับสนุนต่างๆ และจากนั้นก็ถูกจัดสรรไปทั่วโลก มอบให้คนที่มีความคิด จิตวิญญาณ โครงการและผลประโยชน์อย่างเจาะจง ตรงตามความต้องการของอเมริกา และพวกเขาได้รับเงินสำหรับสิ่งนั้น" . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000020425 .............. Sondhi X - กรมราชทัณฑ์ แจงกรณีผู้ต้องขังชาวอุยกูร์ เขียนจดหมาย มีตราประทับจากเรือนจำคลองเปรม ขอยืนยันว่า จดหมายฉบับดังกล่าวไม่ใช่จดหมายที่ออกจากเรือนจำกลางคลองเปรม
ดังนั้น จึงน่าจะเป็นจดหมายที่ทำขึ้นมาอย่างไม่ถูกต้อง
…………
กรมราชทัณฑ์ ได้รับรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากเรือนจำกลางคลองเปรมแล้ว
ยืนยันว่าผู้ต้องขังชาวอุยกูร์ ให้การยืนยันว่า ไม่เคยเขียนจดหมายฉบับดังกล่าวตามที่ปรากฏในสื่อ และลายมือ ที่ปรากฏมิใช่ลายมือของพวกตน โดยในช่วงระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2567 ถึงปัจจุบัน ยังไม่เคยส่งจดหมายออกภายนอกเรือนจำแต่อย่างใด
เบื้องต้นเรือนจำฯ ได้เปรียบเทียบลายมือแล้วพบว่า แตกต่างกันอย่างชัดเจน
ทั้งนี้ เรือนจำกลางคลองเปรมได้ตรวจสอบข้อมูลการรับ-ส่งจดหมาย ไม่ปรากฏว่ามีจดหมายฉบับดังกล่าว อีกทั้งตราประทับที่ปรากฏบนจดหมายฉบับนั้น ก็มิใช่ตราประทับของเรือนจำกลางคลองเปรมแต่อย่างใด
โดยตามระเบียบกรมราชทัณฑ์ ก่อนส่งจดหมายถึงภายนอกเรือนจำฯ ต้องตรวจสอบเนื้อหาในจดหมายว่ามีผลกระทบต่อความมั่นคงหรือความสงบเรียบร้อยหรือไม่ ปรากฏว่าไม่มีจดหมายฉบับดังกล่าว และโดยเฉพาะจดหมายผู้ต้องขังจากเรือนจำจะไม่มีตราประทับของเรือนจำแต่อย่างใด อีกทั้งผู้ต้องขังดังกล่าวไม่มีญาติหรือทนายความมาเยียมเยียน
กรมราชทัณฑ์ ขอยืนยันว่า จดหมายฉบับดังกล่าวไม่ใช่จดหมายที่ออกจากเรือนจำกลางคลองเปรม
ดังนั้น จึงน่าจะเป็นจดหมายที่ทำขึ้นมาอย่างไม่ถูกต้องกรมราชทัณฑ์ แจงกรณีผู้ต้องขังชาวอุยกูร์ เขียนจดหมาย มีตราประทับจากเรือนจำคลองเปรม ขอยืนยันว่า จดหมายฉบับดังกล่าวไม่ใช่จดหมายที่ออกจากเรือนจำกลางคลองเปรม ดังนั้น จึงน่าจะเป็นจดหมายที่ทำขึ้นมาอย่างไม่ถูกต้อง ………… กรมราชทัณฑ์ ได้รับรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากเรือนจำกลางคลองเปรมแล้ว ยืนยันว่าผู้ต้องขังชาวอุยกูร์ ให้การยืนยันว่า ไม่เคยเขียนจดหมายฉบับดังกล่าวตามที่ปรากฏในสื่อ และลายมือ ที่ปรากฏมิใช่ลายมือของพวกตน โดยในช่วงระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2567 ถึงปัจจุบัน ยังไม่เคยส่งจดหมายออกภายนอกเรือนจำแต่อย่างใด เบื้องต้นเรือนจำฯ ได้เปรียบเทียบลายมือแล้วพบว่า แตกต่างกันอย่างชัดเจน ทั้งนี้ เรือนจำกลางคลองเปรมได้ตรวจสอบข้อมูลการรับ-ส่งจดหมาย ไม่ปรากฏว่ามีจดหมายฉบับดังกล่าว อีกทั้งตราประทับที่ปรากฏบนจดหมายฉบับนั้น ก็มิใช่ตราประทับของเรือนจำกลางคลองเปรมแต่อย่างใด โดยตามระเบียบกรมราชทัณฑ์ ก่อนส่งจดหมายถึงภายนอกเรือนจำฯ ต้องตรวจสอบเนื้อหาในจดหมายว่ามีผลกระทบต่อความมั่นคงหรือความสงบเรียบร้อยหรือไม่ ปรากฏว่าไม่มีจดหมายฉบับดังกล่าว และโดยเฉพาะจดหมายผู้ต้องขังจากเรือนจำจะไม่มีตราประทับของเรือนจำแต่อย่างใด อีกทั้งผู้ต้องขังดังกล่าวไม่มีญาติหรือทนายความมาเยียมเยียน กรมราชทัณฑ์ ขอยืนยันว่า จดหมายฉบับดังกล่าวไม่ใช่จดหมายที่ออกจากเรือนจำกลางคลองเปรม ดังนั้น จึงน่าจะเป็นจดหมายที่ทำขึ้นมาอย่างไม่ถูกต้อง0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 104 มุมมอง 0 รีวิว - ฝรั่งเศสและสหราอาณาจักร เสนอข้อตกลงหยุดยิง 1 เดือนในยูเครน "ทั้งทางอากาศ ทะเลและโครงสร้างพื้นฐานทางพลังงาน" ตามหลังการหารือฉุกเฉินในลอนดอน จากการเปิดเผยของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส
.
ในการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ ลา ฟิกาโร ของฝรั่งเศส ทางมาครง บอกว่าอย่างน้อยๆ ในเบื้องต้น ข้อตกลงดังกล่าวจะไม่ครอบคลุมถึงการสู้รบในภาคพื้น
.
"ปัญหาคือ จะเป็นเรื่องยากมากที่จะตรวจสอบว่าข้อตกลงได้รับความเคารพหรือไม่ สืบเนื่องจากขนาดของแนวหน้า" เขากล่าว พร้อมระบุกองกำลังสันติภาพจะถูกส่งเข้าประจำการหลังจากนั้น "จะยังไม่มีทหารยุโรปในแผ่นดินของยูเครน ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้"
.
มาครง แนะนำว่าบรรดาชาติยุโรปควรปรับเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหมเป็นระหว่าง 3.0% ถึง 3.5% ของจีดีพี ขานรับต่อลำดับความสำคัญที่เปลี่ยนไปของวอชิงตัน และยุทธาภิวัฒน์ของรัสเซีย "สำหรับ 3 ปี รัสเซียใช้จ่ายเงินด้านกลาโหม 10% ของจีดีพี" เขาบอกกับสื่อท้องถิ่น "ดังนั้น เราจำเป็นต้องเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นถัดจากนี้"
.
ในการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของอิตาลีแยกกัน มาครงบอกด้วยว่ายุโรปจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนอย่างแข็งขันจากอิตาลี ในการคลี่คลายความขัดแย้งในยูเครน
.
ณ ที่ประชุมวิกฤตเมื่อวันอาทิตย์ (2 มี.ค.) นายกรัฐมนตรีจอร์เจีย เมโลนี ของอิตาลี ดูเหมือนปฏิเสธแนวโน้มที่ประเทศของเธอจะสนับสนุนกองกำลังสันติภาพใดๆ ในยูเครน โดยบอกว่า "มันไม่เคยอยู่ในวาระการพิจารณา"
.
"เราต้องการอิตาลี อิตาลีที่ผู้เข้มแข็ง ที่ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับฝรั่งเศส กับเยอรมนี" มาครงกล่าว
.
อ่านเพิ่มเติม..
..............
Sondhi Xฝรั่งเศสและสหราอาณาจักร เสนอข้อตกลงหยุดยิง 1 เดือนในยูเครน "ทั้งทางอากาศ ทะเลและโครงสร้างพื้นฐานทางพลังงาน" ตามหลังการหารือฉุกเฉินในลอนดอน จากการเปิดเผยของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส . ในการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ ลา ฟิกาโร ของฝรั่งเศส ทางมาครง บอกว่าอย่างน้อยๆ ในเบื้องต้น ข้อตกลงดังกล่าวจะไม่ครอบคลุมถึงการสู้รบในภาคพื้น . "ปัญหาคือ จะเป็นเรื่องยากมากที่จะตรวจสอบว่าข้อตกลงได้รับความเคารพหรือไม่ สืบเนื่องจากขนาดของแนวหน้า" เขากล่าว พร้อมระบุกองกำลังสันติภาพจะถูกส่งเข้าประจำการหลังจากนั้น "จะยังไม่มีทหารยุโรปในแผ่นดินของยูเครน ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้" . มาครง แนะนำว่าบรรดาชาติยุโรปควรปรับเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหมเป็นระหว่าง 3.0% ถึง 3.5% ของจีดีพี ขานรับต่อลำดับความสำคัญที่เปลี่ยนไปของวอชิงตัน และยุทธาภิวัฒน์ของรัสเซีย "สำหรับ 3 ปี รัสเซียใช้จ่ายเงินด้านกลาโหม 10% ของจีดีพี" เขาบอกกับสื่อท้องถิ่น "ดังนั้น เราจำเป็นต้องเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นถัดจากนี้" . ในการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของอิตาลีแยกกัน มาครงบอกด้วยว่ายุโรปจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนอย่างแข็งขันจากอิตาลี ในการคลี่คลายความขัดแย้งในยูเครน . ณ ที่ประชุมวิกฤตเมื่อวันอาทิตย์ (2 มี.ค.) นายกรัฐมนตรีจอร์เจีย เมโลนี ของอิตาลี ดูเหมือนปฏิเสธแนวโน้มที่ประเทศของเธอจะสนับสนุนกองกำลังสันติภาพใดๆ ในยูเครน โดยบอกว่า "มันไม่เคยอยู่ในวาระการพิจารณา" . "เราต้องการอิตาลี อิตาลีที่ผู้เข้มแข็ง ที่ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับฝรั่งเศส กับเยอรมนี" มาครงกล่าว . อ่านเพิ่มเติม.. .............. Sondhi X - World Military and Political (การทหารและการเมืองโลก) เพิ่มวิดีโอแล้ว ข่าวและการเมืองยุโรปและแคนาดาตัดสินใจยุติแผนสันติภาพของทรัมป์ที่มีต่อยูเครน ทำให้ข้อตกลงสันติภาพใดๆ จะยังไม่เกิดขึ้นในตอนนี้!
ข้อสรุปมีดังต่อไปนี้:
1) จะมีการส่งความช่วยเหลือทางทหารให้กับยูเครน และมาตการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติม
2) ยูเครนจะต้องมีอำนาจอธิปไตยเต็มที่บนดินแดนของตนเอง นั่นหมายความว่ายูเครนต้องได้รับดินแดนทั้งหมดกลับคืน และยูเครนต้องมีส่วนร่วมในการเจรจาสัติภาพที่จะมีขึ้นในอนาคต
3) หลังจากข้อตกลงสันติภาพเกิดขึ้น ยูเครนจะสามารถสร้างกองทัพเป็นของตนเองได้
4) สหราชอาณาจักรและประเทศอื่นๆ จะจัดตั้งกองกำลังทหารสันติภาพเพื่อประจำการในยูเครน!!
-> จำคำประกาศนี้ เห็นได้ชัดว่ารัสเซียจะไม่ยอมรับข้อตกลงใดๆได้เลย
และคาดว่าสหรัฐคงจะต้องถอนตัวออกไปในที่สุด และยูเครนจะต่อสู้ต่อไปจนถึงยูเครนคนสุดท้าย!
ยุโรปและแคนาดาตัดสินใจยุติแผนสันติภาพของทรัมป์ที่มีต่อยูเครน ทำให้ข้อตกลงสันติภาพใดๆ จะยังไม่เกิดขึ้นในตอนนี้! ข้อสรุปมีดังต่อไปนี้: 1) จะมีการส่งความช่วยเหลือทางทหารให้กับยูเครน และมาตการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติม 2) ยูเครนจะต้องมีอำนาจอธิปไตยเต็มที่บนดินแดนของตนเอง นั่นหมายความว่ายูเครนต้องได้รับดินแดนทั้งหมดกลับคืน และยูเครนต้องมีส่วนร่วมในการเจรจาสัติภาพที่จะมีขึ้นในอนาคต 3) หลังจากข้อตกลงสันติภาพเกิดขึ้น ยูเครนจะสามารถสร้างกองทัพเป็นของตนเองได้ 4) สหราชอาณาจักรและประเทศอื่นๆ จะจัดตั้งกองกำลังทหารสันติภาพเพื่อประจำการในยูเครน!! -> จำคำประกาศนี้ เห็นได้ชัดว่ารัสเซียจะไม่ยอมรับข้อตกลงใดๆได้เลย และคาดว่าสหรัฐคงจะต้องถอนตัวออกไปในที่สุด และยูเครนจะต่อสู้ต่อไปจนถึงยูเครนคนสุดท้าย! - 24 ปี เที่ยวบิน TG114 “ระเบิดก่อนขึ้นบิน” นายกทักษิณรอดหวุดหวิด ลอบฆ่า หรือว่า... อุบัติเหตุ?
🛫 ย้อนรอย 24 ปี โศกนาฏกรรมทางการบินของไทย ที่ยังเป็นปริศนา เมื่อช่วงบ่ายวันเสาร์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2544 เหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด ได้เกิดขึ้นที่ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง กรุงเทพมหานคร เครื่องบินโบอิ้ง 737-400 ของการบินไทย เที่ยวบิน TG114 ได้เกิดระเบิดกลางลานจอด และถูกไฟไหม้เสียหายทั้งลำ เพียง 25 นาที ก่อนที่ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีขณะนั้น พร้อมด้วบบุตรชาย จะเดินทางไปเชียงใหม่
แม้ว่าจะไม่มีผู้โดยสารอยู่บนเครื่อง แต่ช่างเทคนิคการบิน 1 คน เสียชีวิต ทำให้เกิดคำถามมากมายว่า นี่เป็นอุบัติเหตุ หรือเป็นการวางแผนลอบสังหาร? 📌
🔎 เหตุการณ์ในวันเกิดเหตุ 3 มีนาคม 2544 เวลา 14:48 น. 📍 เที่ยวบิน TG114 ของการบินไทย ซึ่งเป็นเครื่องบิน โบอิ้ง 737-400 ทะเบียน HS-TDC ดอนเมือง-เชียงใหม่ ได้เกิดการระเบิดขณะจอดอยู่ที่ลานจอด สนามบินนานาชาติดอนเมือง กรุงเทพมหานคร เครื่องบินถูกไฟไหม้เสียหายทั้งลำ ไม่มีผู้โดยสารบนเครื่อง มีเพียงลูกเรือ 8 คน อยู่บนเครื่อง ซึ่งช่างเทคนิคการบินเสียชีวิต 1 คน
✈️ จุดหมายปลายทางของเที่ยวบิน เที่ยวบิน TG114 เดิมมีกำหนดออกเดินทางไปยัง ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ โดยมีบุคคลสำคัญเดินทางไปด้วย รวมถึง พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในขณะเนั้น และนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย
🛑 แต่เพียง 25 นาที ก่อนเครื่องออกเดินทาง เครื่องบินกลับระเบิดขึ้นก่อน
🚨 เหตุการณ์ครั้งนี้ จึงถูกตั้งข้อสังเกตว่า อาจเป็นการลอบสังหารทางการเมือง?
🔥 สาเหตุที่เป็นไปได้ วินาศกรรม หรืออุบัติเหตุ? มี 2 ทฤษฎีหลัก ที่ถูกหยิบยกขึ้นมา เกี่ยวกับเหตุการณ์ครั้งนี้ 🎯
💥 ทฤษฎีวินาศกรรม ลอบสังหารนายกรัฐมนตรี? หลังเหตุการณ์เกิดขึ้น พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า "นี่เป็นการก่อวินาศกรรม ที่มุ่งเป้าสังหารตนเอง"
หลักฐานที่ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า มีการวางระเบิด ได้แก่
🔎 พบร่องรอยสารระเบิด เจ้าหน้าที่ไทยตรวจพบ ร่องรอยของระเบิดซีโฟร์ (C-4) หรือเซมเท็กซ์ (Semtex)
🎯 นายกทักษิณกล่าวว่า อาจเป็นฝีมือของกลุ่มผู้เสียผลประโยชน์ จากนโยบายปราบปรามยาเสพติดของรัฐบาล เช่น ขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ เช่น กลุ่มว้าแดง
⏳ เวลาที่เกิดเหตุใกล้เคียงกับกำหนดการเดินทางของนายกฯ
📢 ตำรวจไทยในตอนแรกสรุปว่า เป็นการ "วางระเบิด" และคณะกรรมาธิการ ของสภาผู้แทนราษฎรเองก็มีแนวโน้มไปในทิศทางเดียวกัน
🛠️ ทฤษฎีอุบัติเหตุ ข้อสรุปของ NTSB คณะกรรมการความปลอดภัย ในการขนส่งแห่งชาติสหรัฐฯ (NTSB) ซึ่งส่งผู้เชี่ยวชาญเข้ามาร่วมสอบสวน ได้ออกแถลงการณ์ เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2544 ว่า
🚫 ไม่มีร่องรอยของวัตถุระเบิด
⚡ การระเบิดอาจเกิดจากระบบปรับอากาศ ที่ทำงานต่อเนื่อง ส่งผลให้ถังน้ำมันส่วนกลาง เกิดการสันดาป และระเบิด
✈️ ลักษณะคล้ายกับอุบัติเหตุของเที่ยวบิน 143 ของฟิลิปปินส์แอร์ไลน์ เมื่อปี 2543
ในท้ายที่สุด รัฐบาลไทยและ NTSB ได้ออกแถลงการณ์ร่วมกันว่า "เป็นอุบัติเหตุจากความร้อนสะสม ของอุปกรณ์ทำความเย็น ที่อยู่ใกล้ถังน้ำมัน"
💡 วินาศกรรมที่ล้มเหลว หรือโศกนาฏกรรมที่ไม่ได้ตั้งใจ? ข้อถกเถียงเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ ยังไม่จบง่ายๆ 🧐 เพราะ...
1️⃣ ผลการสอบสวนของไทยและสหรัฐฯ ต่างกัน ฝ่ายไทยเชื่อว่ามี หลักฐานของการวางระเบิด
NTSB แย้งว่า ไม่พบร่องรอยระเบิดเลย
2️⃣ ช่วงเวลาการระเบิดน่าสงสัย ทำไมถึงเกิดขึ้นก่อนนายกฯ เดินทางเพียง 25 นาที ถ้าเป็นเพียงอุบัติเหตุ ทำไมไม่เกิดกับเครื่องลำอื่น?
3️⃣ กลุ่มที่มีแรงจูงใจในการลอบสังหาร นโยบายปราบปรามยาเสพติดของนายกทักษิณ สร้างศัตรูจำนวนมาก ขบวนการค้ายาเสพติดอาจไม่พอใจ จนถึงขั้นต้องการลอบสังหาร
📌 หรืออาจเป็นเพียงการ "ใช้ข่าวระเบิด" เพื่อกลบกระแสเรื่องคดีซุกหุ้น?
🚨 เหตุการณ์ลอบสังหารนายกทักษิณ ที่เกิดขึ้นในเวลาต่อมา นี่ไม่ใช่ครั้งเดียว ที่มีความพยายามลอบสังหาร พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ 🎯
📍 ปี 2546 ข่าวลือว่า กลุ่มว้าแดงตั้งค่าหัว 80 ล้านบาท ทำให้ต้องเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย
📍 ปี 2549 คดี "คาร์บอมบ์" ที่บริเวณสี่แยกบางพลัด ใกล้บ้านพักของนายกทักษิณ ก่อนที่ รปภ. จะพบระเบิดก่อน
📍 ปี 2559 นายกทักษิณให้สัมภาษณ์กับ Al Jazeera ว่า "มีคนพยายามลอบสังหารผม 4 ครั้ง"
🎯 ระเบิดเที่ยวบิน TG114 ยังเป็นปริศนา?
📌 แม้ว่าผลสอบสวนทางการบินของสหรัฐฯ จะสรุปว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่คำถามยังคงอยู่
📌 หลายฝ่ายยังสงสัยว่า นี่อาจเป็นการลอบสังหารทางการเมือง ที่ไม่สำเร็จ
📌 หรือเป็นเพียง "เหตุบังเอิญ" ที่เกิดขึ้นอย่างมีเงื่อนงำ?
🔎 24 ปี ผ่านไป คำตอบของเหตุการณ์นี้ยังคงเป็นปริศนา และอาจไม่มีวันได้รับคำตอบที่ชัดเจน
ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 030847 มี.ค. 2568
📌 #ทักษิณ #เที่ยวบินTG114 #การบินไทย #วินาศกรรม #อุบัติเหตุ #เครื่องบินระเบิด #ข่าวการเมือง #ว้าแดง #คดีลึกลับ #ประวัติศาสตร์ไทย24 ปี เที่ยวบิน TG114 “ระเบิดก่อนขึ้นบิน” นายกทักษิณรอดหวุดหวิด ลอบฆ่า หรือว่า... อุบัติเหตุ? 🛫 ย้อนรอย 24 ปี โศกนาฏกรรมทางการบินของไทย ที่ยังเป็นปริศนา เมื่อช่วงบ่ายวันเสาร์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2544 เหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด ได้เกิดขึ้นที่ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง กรุงเทพมหานคร เครื่องบินโบอิ้ง 737-400 ของการบินไทย เที่ยวบิน TG114 ได้เกิดระเบิดกลางลานจอด และถูกไฟไหม้เสียหายทั้งลำ เพียง 25 นาที ก่อนที่ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีขณะนั้น พร้อมด้วบบุตรชาย จะเดินทางไปเชียงใหม่ แม้ว่าจะไม่มีผู้โดยสารอยู่บนเครื่อง แต่ช่างเทคนิคการบิน 1 คน เสียชีวิต ทำให้เกิดคำถามมากมายว่า นี่เป็นอุบัติเหตุ หรือเป็นการวางแผนลอบสังหาร? 📌 🔎 เหตุการณ์ในวันเกิดเหตุ 3 มีนาคม 2544 เวลา 14:48 น. 📍 เที่ยวบิน TG114 ของการบินไทย ซึ่งเป็นเครื่องบิน โบอิ้ง 737-400 ทะเบียน HS-TDC ดอนเมือง-เชียงใหม่ ได้เกิดการระเบิดขณะจอดอยู่ที่ลานจอด สนามบินนานาชาติดอนเมือง กรุงเทพมหานคร เครื่องบินถูกไฟไหม้เสียหายทั้งลำ ไม่มีผู้โดยสารบนเครื่อง มีเพียงลูกเรือ 8 คน อยู่บนเครื่อง ซึ่งช่างเทคนิคการบินเสียชีวิต 1 คน ✈️ จุดหมายปลายทางของเที่ยวบิน เที่ยวบิน TG114 เดิมมีกำหนดออกเดินทางไปยัง ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ โดยมีบุคคลสำคัญเดินทางไปด้วย รวมถึง พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในขณะเนั้น และนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย 🛑 แต่เพียง 25 นาที ก่อนเครื่องออกเดินทาง เครื่องบินกลับระเบิดขึ้นก่อน 🚨 เหตุการณ์ครั้งนี้ จึงถูกตั้งข้อสังเกตว่า อาจเป็นการลอบสังหารทางการเมือง? 🔥 สาเหตุที่เป็นไปได้ วินาศกรรม หรืออุบัติเหตุ? มี 2 ทฤษฎีหลัก ที่ถูกหยิบยกขึ้นมา เกี่ยวกับเหตุการณ์ครั้งนี้ 🎯 💥 ทฤษฎีวินาศกรรม ลอบสังหารนายกรัฐมนตรี? หลังเหตุการณ์เกิดขึ้น พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า "นี่เป็นการก่อวินาศกรรม ที่มุ่งเป้าสังหารตนเอง" หลักฐานที่ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า มีการวางระเบิด ได้แก่ 🔎 พบร่องรอยสารระเบิด เจ้าหน้าที่ไทยตรวจพบ ร่องรอยของระเบิดซีโฟร์ (C-4) หรือเซมเท็กซ์ (Semtex) 🎯 นายกทักษิณกล่าวว่า อาจเป็นฝีมือของกลุ่มผู้เสียผลประโยชน์ จากนโยบายปราบปรามยาเสพติดของรัฐบาล เช่น ขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ เช่น กลุ่มว้าแดง ⏳ เวลาที่เกิดเหตุใกล้เคียงกับกำหนดการเดินทางของนายกฯ 📢 ตำรวจไทยในตอนแรกสรุปว่า เป็นการ "วางระเบิด" และคณะกรรมาธิการ ของสภาผู้แทนราษฎรเองก็มีแนวโน้มไปในทิศทางเดียวกัน 🛠️ ทฤษฎีอุบัติเหตุ ข้อสรุปของ NTSB คณะกรรมการความปลอดภัย ในการขนส่งแห่งชาติสหรัฐฯ (NTSB) ซึ่งส่งผู้เชี่ยวชาญเข้ามาร่วมสอบสวน ได้ออกแถลงการณ์ เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2544 ว่า 🚫 ไม่มีร่องรอยของวัตถุระเบิด ⚡ การระเบิดอาจเกิดจากระบบปรับอากาศ ที่ทำงานต่อเนื่อง ส่งผลให้ถังน้ำมันส่วนกลาง เกิดการสันดาป และระเบิด ✈️ ลักษณะคล้ายกับอุบัติเหตุของเที่ยวบิน 143 ของฟิลิปปินส์แอร์ไลน์ เมื่อปี 2543 ในท้ายที่สุด รัฐบาลไทยและ NTSB ได้ออกแถลงการณ์ร่วมกันว่า "เป็นอุบัติเหตุจากความร้อนสะสม ของอุปกรณ์ทำความเย็น ที่อยู่ใกล้ถังน้ำมัน" 💡 วินาศกรรมที่ล้มเหลว หรือโศกนาฏกรรมที่ไม่ได้ตั้งใจ? ข้อถกเถียงเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ ยังไม่จบง่ายๆ 🧐 เพราะ... 1️⃣ ผลการสอบสวนของไทยและสหรัฐฯ ต่างกัน ฝ่ายไทยเชื่อว่ามี หลักฐานของการวางระเบิด NTSB แย้งว่า ไม่พบร่องรอยระเบิดเลย 2️⃣ ช่วงเวลาการระเบิดน่าสงสัย ทำไมถึงเกิดขึ้นก่อนนายกฯ เดินทางเพียง 25 นาที ถ้าเป็นเพียงอุบัติเหตุ ทำไมไม่เกิดกับเครื่องลำอื่น? 3️⃣ กลุ่มที่มีแรงจูงใจในการลอบสังหาร นโยบายปราบปรามยาเสพติดของนายกทักษิณ สร้างศัตรูจำนวนมาก ขบวนการค้ายาเสพติดอาจไม่พอใจ จนถึงขั้นต้องการลอบสังหาร 📌 หรืออาจเป็นเพียงการ "ใช้ข่าวระเบิด" เพื่อกลบกระแสเรื่องคดีซุกหุ้น? 🚨 เหตุการณ์ลอบสังหารนายกทักษิณ ที่เกิดขึ้นในเวลาต่อมา นี่ไม่ใช่ครั้งเดียว ที่มีความพยายามลอบสังหาร พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ 🎯 📍 ปี 2546 ข่าวลือว่า กลุ่มว้าแดงตั้งค่าหัว 80 ล้านบาท ทำให้ต้องเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย 📍 ปี 2549 คดี "คาร์บอมบ์" ที่บริเวณสี่แยกบางพลัด ใกล้บ้านพักของนายกทักษิณ ก่อนที่ รปภ. จะพบระเบิดก่อน 📍 ปี 2559 นายกทักษิณให้สัมภาษณ์กับ Al Jazeera ว่า "มีคนพยายามลอบสังหารผม 4 ครั้ง" 🎯 ระเบิดเที่ยวบิน TG114 ยังเป็นปริศนา? 📌 แม้ว่าผลสอบสวนทางการบินของสหรัฐฯ จะสรุปว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่คำถามยังคงอยู่ 📌 หลายฝ่ายยังสงสัยว่า นี่อาจเป็นการลอบสังหารทางการเมือง ที่ไม่สำเร็จ 📌 หรือเป็นเพียง "เหตุบังเอิญ" ที่เกิดขึ้นอย่างมีเงื่อนงำ? 🔎 24 ปี ผ่านไป คำตอบของเหตุการณ์นี้ยังคงเป็นปริศนา และอาจไม่มีวันได้รับคำตอบที่ชัดเจน ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 030847 มี.ค. 2568 📌 #ทักษิณ #เที่ยวบินTG114 #การบินไทย #วินาศกรรม #อุบัติเหตุ #เครื่องบินระเบิด #ข่าวการเมือง #ว้าแดง #คดีลึกลับ #ประวัติศาสตร์ไทย0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 109 มุมมอง 0 รีวิว - จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ว่าเขาเตรียมเข้าเฝ้าฯ กษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร พูดคุยเกี่ยวกับการปกป้องอธิปไตยของแคนาดา หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ส่งเสียงเรียกร้องซ้ำๆ ให้เข้ามาเป็นรัฐที่ 51 ของอเมริกา
.
คำพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่าของทรัมป์ โหมกระพือเสียงโวยวายในแคนาดา โดยพวกเจ้าหน้าที่ปฏิเสธอย่างหนักแน่น เกี่ยวกับการพูดคุยใดๆ กรณีที่พวกเขาจะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ
.
ครั้งที่เข้าเฝ้าฯ กษัตริย์ชาร์ลส์ ซึ่งทรงอยู่ในฐานะประมุขแห่งรัฐของแคนาดา ในวันจันทร์ (3 มี.ค.) ทรูโดเผยว่าเขาหวัง "หารือในประเด็นต่างๆ ที่มีความสำคัญกับแคนาดาและชาวแคนาดา"
.
"และผมสามารถบอกกับคุณได้ว่า เวลานี้ไม่มีอะไรสำคัญกับชาวแคนาดามากไปกว่าการยืนหยัดเพื่ออธิปไตยของเราและเอกราชของเรา ในฐานะประเทศหนึ่ง" นายกรัฐมนตรีแคนาดาระบุ ระหว่างอยู่ในลอนดอน เพื่อร่วมประชุมซัมมิตเกี่ยวกับยูเครน
.
ทรัมป์ ยึดติดอยู่กับอธิปไตยของแคนาดาโดยเฉพาะ นับตั้งแต่ได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายน กลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกสมัย
.
ผู้สำสหรัฐฯ พาดพิงแคนาดาบ่อยครั้งในฐานะ "รัฐที่ 51" และดูหมิ่น ทรูโด ด้วยการเรียกเขาว่าเป็น "ผู้ว่าการรัฐ" แทนที่จะเป็น "นายกรัฐมนตรี"
.
ทั้งนี้ ทรัมป์ ออกคำสั่งรีดภาษีบรรดาคู่ค้าหลีกของสหรัฐฯ ซึ่งมีกำหนดบังคับใช้ในวันอังคาร (4 มี.ค.) แต่บอกว่าแคนาดาสามารถหลีกเลี่ยงการถูกรีดภาษีได้ หากกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของอเมริกา
.
เมื่อเดือนที่แล้ว ทรูโด เตือนว่าการพูดจาอย่างไม่หยุดหย่อนของทรัมป์ เกี่ยวกับการดูดกลืนแคนาดา เพื่อเข้าถึงทรัพยากรธรรมชาตินั้น "เป็นของจริง"
.
ชาวแคนาดาบางส่วนส่งเสียงแสดงความสงสัยว่าทำไมกษัตริย์ชาร์ลส์ถึงไม่ออกมาตรัสอะไรบ้าง เกี่ยวกับการปกป้องแคนาดา อย่างไรก็ตาม ตามธรรมเนียมประเพณีแล้ว กษัตริย์มีหน้าที่ได้แค่เพียงให้คำแนะนำนายกรัฐมนตรี ในประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับชาติในเครือจักรภพ
.
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร เชิญ ทรัมป์ เดินทางเยือนสหราชอาณาจักรแบบรัฐพิธีเป็นครั้งที่ 2 อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งอาจเป็นการเปิดโอกาสให้กษัตริย์ชาร์ลส์ทรงหยิบยกประเด็นอธิปไตยของแคนาดาพูดคุยกับทรัมป์
.
ณ ที่ประชุมซัมมิตด้านความมั่นคงของยูเครน ในลอนดอน เมื่อวันอาทิตย์ (2 มี.ค.) ทรูโด เน้นย้ำว่า แคนาดา ยังคงให้การสนับสนุนยูเครน อย่างหนักแน่นและไม่เปลี่ยนแปลง และได้แถลงมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่เล่นงานรัสเซีย
.
อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000020426
..............
Sondhi Xจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ว่าเขาเตรียมเข้าเฝ้าฯ กษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร พูดคุยเกี่ยวกับการปกป้องอธิปไตยของแคนาดา หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ส่งเสียงเรียกร้องซ้ำๆ ให้เข้ามาเป็นรัฐที่ 51 ของอเมริกา . คำพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่าของทรัมป์ โหมกระพือเสียงโวยวายในแคนาดา โดยพวกเจ้าหน้าที่ปฏิเสธอย่างหนักแน่น เกี่ยวกับการพูดคุยใดๆ กรณีที่พวกเขาจะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ . ครั้งที่เข้าเฝ้าฯ กษัตริย์ชาร์ลส์ ซึ่งทรงอยู่ในฐานะประมุขแห่งรัฐของแคนาดา ในวันจันทร์ (3 มี.ค.) ทรูโดเผยว่าเขาหวัง "หารือในประเด็นต่างๆ ที่มีความสำคัญกับแคนาดาและชาวแคนาดา" . "และผมสามารถบอกกับคุณได้ว่า เวลานี้ไม่มีอะไรสำคัญกับชาวแคนาดามากไปกว่าการยืนหยัดเพื่ออธิปไตยของเราและเอกราชของเรา ในฐานะประเทศหนึ่ง" นายกรัฐมนตรีแคนาดาระบุ ระหว่างอยู่ในลอนดอน เพื่อร่วมประชุมซัมมิตเกี่ยวกับยูเครน . ทรัมป์ ยึดติดอยู่กับอธิปไตยของแคนาดาโดยเฉพาะ นับตั้งแต่ได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายน กลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกสมัย . ผู้สำสหรัฐฯ พาดพิงแคนาดาบ่อยครั้งในฐานะ "รัฐที่ 51" และดูหมิ่น ทรูโด ด้วยการเรียกเขาว่าเป็น "ผู้ว่าการรัฐ" แทนที่จะเป็น "นายกรัฐมนตรี" . ทั้งนี้ ทรัมป์ ออกคำสั่งรีดภาษีบรรดาคู่ค้าหลีกของสหรัฐฯ ซึ่งมีกำหนดบังคับใช้ในวันอังคาร (4 มี.ค.) แต่บอกว่าแคนาดาสามารถหลีกเลี่ยงการถูกรีดภาษีได้ หากกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของอเมริกา . เมื่อเดือนที่แล้ว ทรูโด เตือนว่าการพูดจาอย่างไม่หยุดหย่อนของทรัมป์ เกี่ยวกับการดูดกลืนแคนาดา เพื่อเข้าถึงทรัพยากรธรรมชาตินั้น "เป็นของจริง" . ชาวแคนาดาบางส่วนส่งเสียงแสดงความสงสัยว่าทำไมกษัตริย์ชาร์ลส์ถึงไม่ออกมาตรัสอะไรบ้าง เกี่ยวกับการปกป้องแคนาดา อย่างไรก็ตาม ตามธรรมเนียมประเพณีแล้ว กษัตริย์มีหน้าที่ได้แค่เพียงให้คำแนะนำนายกรัฐมนตรี ในประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับชาติในเครือจักรภพ . เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร เชิญ ทรัมป์ เดินทางเยือนสหราชอาณาจักรแบบรัฐพิธีเป็นครั้งที่ 2 อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งอาจเป็นการเปิดโอกาสให้กษัตริย์ชาร์ลส์ทรงหยิบยกประเด็นอธิปไตยของแคนาดาพูดคุยกับทรัมป์ . ณ ที่ประชุมซัมมิตด้านความมั่นคงของยูเครน ในลอนดอน เมื่อวันอาทิตย์ (2 มี.ค.) ทรูโด เน้นย้ำว่า แคนาดา ยังคงให้การสนับสนุนยูเครน อย่างหนักแน่นและไม่เปลี่ยนแปลง และได้แถลงมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่เล่นงานรัสเซีย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000020426 .............. Sondhi X - ก่อนเดินทางกลับยูเครน เซเลนสกีเข้าเฝ้าสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3ก่อนเดินทางกลับยูเครน เซเลนสกีเข้าเฝ้าสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3
- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ รีโพสต์ข้อความหนึ่งบนทรัตช์ โซเชียล สื่อสังคมออนไลน์ของเขาเอง ที่ระบุว่าประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน "ไม่มีทางเลือก" ยกเว้นแต่ยอมตามเงื่อนไขต่างๆ ของวอชิงตัน ในข้อตกลงแร่ เนื่องจากเคียฟไม่อาจอยู่รอดได้ในสงคราม หากปราศจากการสนับสนุนของอเมริกา
.
การรีโพสต์ความเห็นของ ไมเคิล แมคคูน มีขึ้นหลังจาก ทรัมป์ เปิดศึกโต้เถียงกับ เซเลนสกี ในห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาว เมื่อวันศุกร์ (28 ก.พ.) ทำให้แผนลงนามในข้อตกลงทรัพยากรแร่ระหว่างทั้ง 2 ประเทศพังครืนลง
.
"ทรัมป์เล่นเกมกับ 2 ฝ่าย ราวกับผู้เล่นหมากรุกชั้นเซียน ในท้ายที่สุดแล้ว เซเลนสกี จะไม่มีทางเลือกอื่น ยกเว้นแต่ยอมอ่อนข้อ หากปราศจากการสนับสนุนของสหรัฐฯ ยูเครนไม่อาจชนะในสงครามยืดเยื้อกับรัสเซีย" ทัมป์ รีโพสต์ข้อความนี้ บนทรัสต์โซเชียล "จริงๆ แล้ว ทรัมป์ กำลังปกป้องยูเครน โดยไม่จำเป็นต้องลากสหรัฐฯ เข้าสู่สงคราม นำเสนอข้อตกลงที่ฉลาดเป็นเลิศ"
.
ศึกโต้เถียงกันระหว่าง ทรัมป์ และรองประธานาธิบดีเจดี แวนซ์ กับ เซเลนสกี ปะทะขึ้นหลังจากประธานาธิบดียูเครน เน้นย้ำถึงความจำเป็นสำหรับการรับประกันความมั่นคง และบอกว่า เครมลิน ละเมิดข้อตกลงหยุดยิงซ้ำแล้วซ้ำเล่า กระตุ้นให้ฝ่ายสหรัฐฯ ตอบโต้เขาว่าไม่รู้จักสำนึกบุญคุณ และเตือนสติให้เห็นว่าเขาอยู่ในสถานะที่อ่อนแอ
.
ตามหลังศึกวิวาทะอันเผ็ดร้อน ทรัมป์ บอกว่า เซเลนสกี ไม่ใช่คนที่ต้องการสร้างสันติภาพ "ประธานาธิบดียูเครน กำลังมองหาอะไรบางอย่างที่ผมไม่ได้เสาะหา" พร้อมกล่าวอ้างอีกครั้งว่า เซเลนสกี "ต้องการ สู้ สู้ สู้ เพียงเท่านั้น"
.
เซเลนสกี ตอบโต้กลับความเห็นของทรัมป์ ระหว่างให้สัมภาษณ์กับฟ็อกซ์นิวส์ อ้างว่ายูเครน พร้อมสำหรับสันติภาพ "แต่เราจำเป็นต้องอยู่ในสถานะที่ดี เราต้องการสันติภาพ และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมผมถึงมาพบประธานาธิบดีทรัมป์"
.
ในข้อความที่โพสต์ ทรัมป์ อ้างว่าผลประโยชน์ทางธุรกิจของสหรัฐฯ ในยูเครน เพียงพอแล้วที่จะเป็นเครื่องรับประกันความมั่นคง เนื่องจากรัสเซียจะไม่สามารถคุกคามผลประโยชน์ทางธุรกิจเหล่านั้น "โดยปราศจากกระตุ้นการตอบโต้กลับครั้งใหญ่ในระดับนานาชาติ" ทรัมป์กล่าว "เพราะว่าการโจมตียูเครน จะหมายถึงการก่ออันตรายแก่ชีวิตชาวอเมริกา บางอย่างที่จะบีบให้สหรัฐฯ จำเป็นต้องตอบโต้"
.
พวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ จำนวนหนึ่งและสมาชิกสภาคองเกรสจากรีพับลิกัน ยังคงดาหน้ากันออกมาปกป้องทรัมป์ พร้อมกับส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์เซเลนสกี ตามหลังการโต้เถียงในห้องทำงานรูปไข่ โดยบางส่วนถึงขั้นชี้แนะว่า เซเลนสกี อาจจำเป็นต้องลาออกจากตำแหน่ง
.
อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000020444
..............
Sondhi Xประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ รีโพสต์ข้อความหนึ่งบนทรัตช์ โซเชียล สื่อสังคมออนไลน์ของเขาเอง ที่ระบุว่าประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน "ไม่มีทางเลือก" ยกเว้นแต่ยอมตามเงื่อนไขต่างๆ ของวอชิงตัน ในข้อตกลงแร่ เนื่องจากเคียฟไม่อาจอยู่รอดได้ในสงคราม หากปราศจากการสนับสนุนของอเมริกา . การรีโพสต์ความเห็นของ ไมเคิล แมคคูน มีขึ้นหลังจาก ทรัมป์ เปิดศึกโต้เถียงกับ เซเลนสกี ในห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาว เมื่อวันศุกร์ (28 ก.พ.) ทำให้แผนลงนามในข้อตกลงทรัพยากรแร่ระหว่างทั้ง 2 ประเทศพังครืนลง . "ทรัมป์เล่นเกมกับ 2 ฝ่าย ราวกับผู้เล่นหมากรุกชั้นเซียน ในท้ายที่สุดแล้ว เซเลนสกี จะไม่มีทางเลือกอื่น ยกเว้นแต่ยอมอ่อนข้อ หากปราศจากการสนับสนุนของสหรัฐฯ ยูเครนไม่อาจชนะในสงครามยืดเยื้อกับรัสเซีย" ทัมป์ รีโพสต์ข้อความนี้ บนทรัสต์โซเชียล "จริงๆ แล้ว ทรัมป์ กำลังปกป้องยูเครน โดยไม่จำเป็นต้องลากสหรัฐฯ เข้าสู่สงคราม นำเสนอข้อตกลงที่ฉลาดเป็นเลิศ" . ศึกโต้เถียงกันระหว่าง ทรัมป์ และรองประธานาธิบดีเจดี แวนซ์ กับ เซเลนสกี ปะทะขึ้นหลังจากประธานาธิบดียูเครน เน้นย้ำถึงความจำเป็นสำหรับการรับประกันความมั่นคง และบอกว่า เครมลิน ละเมิดข้อตกลงหยุดยิงซ้ำแล้วซ้ำเล่า กระตุ้นให้ฝ่ายสหรัฐฯ ตอบโต้เขาว่าไม่รู้จักสำนึกบุญคุณ และเตือนสติให้เห็นว่าเขาอยู่ในสถานะที่อ่อนแอ . ตามหลังศึกวิวาทะอันเผ็ดร้อน ทรัมป์ บอกว่า เซเลนสกี ไม่ใช่คนที่ต้องการสร้างสันติภาพ "ประธานาธิบดียูเครน กำลังมองหาอะไรบางอย่างที่ผมไม่ได้เสาะหา" พร้อมกล่าวอ้างอีกครั้งว่า เซเลนสกี "ต้องการ สู้ สู้ สู้ เพียงเท่านั้น" . เซเลนสกี ตอบโต้กลับความเห็นของทรัมป์ ระหว่างให้สัมภาษณ์กับฟ็อกซ์นิวส์ อ้างว่ายูเครน พร้อมสำหรับสันติภาพ "แต่เราจำเป็นต้องอยู่ในสถานะที่ดี เราต้องการสันติภาพ และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมผมถึงมาพบประธานาธิบดีทรัมป์" . ในข้อความที่โพสต์ ทรัมป์ อ้างว่าผลประโยชน์ทางธุรกิจของสหรัฐฯ ในยูเครน เพียงพอแล้วที่จะเป็นเครื่องรับประกันความมั่นคง เนื่องจากรัสเซียจะไม่สามารถคุกคามผลประโยชน์ทางธุรกิจเหล่านั้น "โดยปราศจากกระตุ้นการตอบโต้กลับครั้งใหญ่ในระดับนานาชาติ" ทรัมป์กล่าว "เพราะว่าการโจมตียูเครน จะหมายถึงการก่ออันตรายแก่ชีวิตชาวอเมริกา บางอย่างที่จะบีบให้สหรัฐฯ จำเป็นต้องตอบโต้" . พวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ จำนวนหนึ่งและสมาชิกสภาคองเกรสจากรีพับลิกัน ยังคงดาหน้ากันออกมาปกป้องทรัมป์ พร้อมกับส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์เซเลนสกี ตามหลังการโต้เถียงในห้องทำงานรูปไข่ โดยบางส่วนถึงขั้นชี้แนะว่า เซเลนสกี อาจจำเป็นต้องลาออกจากตำแหน่ง . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000020444 .............. Sondhi X - 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 26 มุมมอง 0 รีวิว
- ดมิทรี เมดเวเดฟ รองประธานสภาความมั่นคงรัสเซีย และอดีตประธานาธิบดีรัสเซีย:
กลุ่มต่อต้านทรัมป์ซึ่งต่อต้านรัสเซียด้วย กำลังรวมตัวกันในลอนดอนเพื่อสาบานตนว่าจะจงรักภักดีต่อพวกนาซีที่เคียฟ มันช่างเป็นภาพที่น่าอับอายยิ่งกว่าการเสียดสีด้วยวาจาของตัวตลกในห้องโอวัลออฟฟิศในทำเนียบขาวซะอีก พวกเขาต้องการสานต่อสงครามต่อไปจนถึงยูเครนคนสุดท้าย!ดมิทรี เมดเวเดฟ รองประธานสภาความมั่นคงรัสเซีย และอดีตประธานาธิบดีรัสเซีย: กลุ่มต่อต้านทรัมป์ซึ่งต่อต้านรัสเซียด้วย กำลังรวมตัวกันในลอนดอนเพื่อสาบานตนว่าจะจงรักภักดีต่อพวกนาซีที่เคียฟ มันช่างเป็นภาพที่น่าอับอายยิ่งกว่าการเสียดสีด้วยวาจาของตัวตลกในห้องโอวัลออฟฟิศในทำเนียบขาวซะอีก พวกเขาต้องการสานต่อสงครามต่อไปจนถึงยูเครนคนสุดท้าย!0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 96 มุมมอง 0 รีวิว - สื่อสหรัฐฯ วิเคราะห์เครื่องบินขับไล่ล่องหนรุ่นใหม่ของจีน J-35A (เจียน-35เอ) ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในงานแสดงอากาศยานเมืองจูไห่ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2567 อาจทำลายสมดุลอำนาจทางอากาศของกองทัพสหรัฐฯ ในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก โดยเครื่องรุ่นนี้มีขีดความสามารถล่องหนใกล้เคียงกับ F-35 ของสหรัฐฯ และจะทำหน้าที่เคียงคู่กับ J-20 เพื่อสร้างยุทธวิธี “เครือข่ายพิฆาตทางอากาศ” (Kill chain) ของกองทัพอากาศจีน
.
รายงานล่าสุดจากนิตยสาร National Interest ของสหรัฐฯ ชี้ว่ากองทัพอากาศจีนพัฒนาอย่างรวดเร็วมากในรอบทศวรรษที่ผ่านมา จีนสามารถผลิตทั้ง J-20 และ J-35A จำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว ตรงข้ามกับกระบวนการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ของสหรัฐฯ ที่ยังล่าช้าและซับซ้อน การเปิดตัว J-35A จึงกลายเป็นสัญญาณเตือนกองทัพอากาศสหรัฐฯ ในเอเชียว่าอำนาจทางอากาศที่เหนือชั้นของตนกำลังถูกท้าทายอย่างหนัก
.
ด้านนายพลจิลมาร์รี่ ฮอสเตจ ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ เคยระบุในปี 2556 ว่า อำนาจทางอากาศหมายถึงการปฏิบัติการที่เสรีไร้ข้อจำกัดในน่านฟ้า ทว่าด้วยศักยภาพใหม่ของจีน ไม่เพียงแต่ทำให้อำนาจนี้สั่นคลอน แต่ยังอาจถึงขั้นสูญเสียการครอบครองท้องฟ้าในแถบนี้ไปโดยสิ้นเชิง
.
J-35A เป็นเครื่องบินขับไล่ขนาดกลาง เครื่องยนต์คู่ ถูกออกแบบด้วยเทคนิคขั้นสูง มีความสามารถล่องหนสูงจากลักษณะทางกายภาพที่ซ่อนใบพัดเครื่องยนต์จากเรดาร์ ระบบช่องรับอากาศแบบไร้ขอบ (DSI) รูปตัว S และพื้นผิวเครื่องที่ราบเรียบแนบสนิทไม่มีรอยต่อ นักวิเคราะห์หลายสำนักเห็นตรงกันว่าศักยภาพล่องหนของ J-35A ใกล้เคียงหรืออาจเทียบเท่ากับ F-35 ของสหรัฐฯ แล้ว
.
ถึงแม้รายละเอียดสมรรถนะที่แท้จริงของ J-35A ยังถือเป็นข้อมูลลับสูงสุด แต่สิ่งหนึ่งที่นักวิเคราะห์สหรัฐฯ ระบุชัดคือ แม้เครื่องบินจีนจะมีศักยภาพใกล้เคียงสหรัฐฯ แต่ด้วยความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ ทำให้ในการรบที่ใกล้ชายฝั่งจีน เครื่องบินของจีนย่อมมีข้อได้เปรียบมหาศาล ทั้งเรื่องการส่งกำลังบำรุงและความสามารถในการเสริมกำลังอย่างรวดเร็วผ่านระบบป้องกันและต่อต้านการเข้าถึงพื้นที่ (Anti-Access/Area Denial: A2/AD) ของจีน
.
อีกด้านหนึ่ง หวัง หย่งชิ่ง ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบเครื่องบินรบจากสถาบันการบินเสิ่นหยาง (Shenyang Aircraft Corporation) ของจีน ออกมาระบุในรายการสัมภาษณ์ว่า J-35A มีบทบาทเหมือน “การ์ดจ่ายบอล” ในทีมบาสเกตบอล ซึ่งไม่เพียงทำคะแนนได้เอง ยังสามารถเชื่อมโยงยุทโธปกรณ์อื่นๆ ให้ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังเปิดเผยเบื้องหลังการออกแบบเครื่องบินรบว่ามีการดึงศิลปินมาออกแบบลายพรางบนตัวเครื่องด้วย เพื่อประสิทธิภาพการพรางตัวทางสายตา และย้ำว่าการออกแบบเครื่องบินรบที่ดีที่สุดนั้นไม่ได้อยู่ที่การรวมเทคโนโลยีขั้นสูงทั้งหมดเข้าไว้ด้วยกัน แต่ต้องอยู่ที่ภาพรวมและระบบการปฏิบัติการของเครื่องบินที่ต้องสามารถทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายได้ดีที่สุด
.
การเปิดตัวของ J-35A และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ของจีนในครั้งนี้ นับเป็นการส่งสัญญาณที่สหรัฐฯ ไม่อาจเพิกเฉยได้อีกต่อไป ในยุคที่การแข่งขันด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ทางอากาศของมหาอำนาจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกกำลังเข้มข้นขึ้นทุกขณะ
.
อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000020445
..............
Sondhi Xสื่อสหรัฐฯ วิเคราะห์เครื่องบินขับไล่ล่องหนรุ่นใหม่ของจีน J-35A (เจียน-35เอ) ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในงานแสดงอากาศยานเมืองจูไห่ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2567 อาจทำลายสมดุลอำนาจทางอากาศของกองทัพสหรัฐฯ ในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก โดยเครื่องรุ่นนี้มีขีดความสามารถล่องหนใกล้เคียงกับ F-35 ของสหรัฐฯ และจะทำหน้าที่เคียงคู่กับ J-20 เพื่อสร้างยุทธวิธี “เครือข่ายพิฆาตทางอากาศ” (Kill chain) ของกองทัพอากาศจีน . รายงานล่าสุดจากนิตยสาร National Interest ของสหรัฐฯ ชี้ว่ากองทัพอากาศจีนพัฒนาอย่างรวดเร็วมากในรอบทศวรรษที่ผ่านมา จีนสามารถผลิตทั้ง J-20 และ J-35A จำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว ตรงข้ามกับกระบวนการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ของสหรัฐฯ ที่ยังล่าช้าและซับซ้อน การเปิดตัว J-35A จึงกลายเป็นสัญญาณเตือนกองทัพอากาศสหรัฐฯ ในเอเชียว่าอำนาจทางอากาศที่เหนือชั้นของตนกำลังถูกท้าทายอย่างหนัก . ด้านนายพลจิลมาร์รี่ ฮอสเตจ ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ เคยระบุในปี 2556 ว่า อำนาจทางอากาศหมายถึงการปฏิบัติการที่เสรีไร้ข้อจำกัดในน่านฟ้า ทว่าด้วยศักยภาพใหม่ของจีน ไม่เพียงแต่ทำให้อำนาจนี้สั่นคลอน แต่ยังอาจถึงขั้นสูญเสียการครอบครองท้องฟ้าในแถบนี้ไปโดยสิ้นเชิง . J-35A เป็นเครื่องบินขับไล่ขนาดกลาง เครื่องยนต์คู่ ถูกออกแบบด้วยเทคนิคขั้นสูง มีความสามารถล่องหนสูงจากลักษณะทางกายภาพที่ซ่อนใบพัดเครื่องยนต์จากเรดาร์ ระบบช่องรับอากาศแบบไร้ขอบ (DSI) รูปตัว S และพื้นผิวเครื่องที่ราบเรียบแนบสนิทไม่มีรอยต่อ นักวิเคราะห์หลายสำนักเห็นตรงกันว่าศักยภาพล่องหนของ J-35A ใกล้เคียงหรืออาจเทียบเท่ากับ F-35 ของสหรัฐฯ แล้ว . ถึงแม้รายละเอียดสมรรถนะที่แท้จริงของ J-35A ยังถือเป็นข้อมูลลับสูงสุด แต่สิ่งหนึ่งที่นักวิเคราะห์สหรัฐฯ ระบุชัดคือ แม้เครื่องบินจีนจะมีศักยภาพใกล้เคียงสหรัฐฯ แต่ด้วยความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ ทำให้ในการรบที่ใกล้ชายฝั่งจีน เครื่องบินของจีนย่อมมีข้อได้เปรียบมหาศาล ทั้งเรื่องการส่งกำลังบำรุงและความสามารถในการเสริมกำลังอย่างรวดเร็วผ่านระบบป้องกันและต่อต้านการเข้าถึงพื้นที่ (Anti-Access/Area Denial: A2/AD) ของจีน . อีกด้านหนึ่ง หวัง หย่งชิ่ง ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบเครื่องบินรบจากสถาบันการบินเสิ่นหยาง (Shenyang Aircraft Corporation) ของจีน ออกมาระบุในรายการสัมภาษณ์ว่า J-35A มีบทบาทเหมือน “การ์ดจ่ายบอล” ในทีมบาสเกตบอล ซึ่งไม่เพียงทำคะแนนได้เอง ยังสามารถเชื่อมโยงยุทโธปกรณ์อื่นๆ ให้ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังเปิดเผยเบื้องหลังการออกแบบเครื่องบินรบว่ามีการดึงศิลปินมาออกแบบลายพรางบนตัวเครื่องด้วย เพื่อประสิทธิภาพการพรางตัวทางสายตา และย้ำว่าการออกแบบเครื่องบินรบที่ดีที่สุดนั้นไม่ได้อยู่ที่การรวมเทคโนโลยีขั้นสูงทั้งหมดเข้าไว้ด้วยกัน แต่ต้องอยู่ที่ภาพรวมและระบบการปฏิบัติการของเครื่องบินที่ต้องสามารถทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายได้ดีที่สุด . การเปิดตัวของ J-35A และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ของจีนในครั้งนี้ นับเป็นการส่งสัญญาณที่สหรัฐฯ ไม่อาจเพิกเฉยได้อีกต่อไป ในยุคที่การแข่งขันด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ทางอากาศของมหาอำนาจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกกำลังเข้มข้นขึ้นทุกขณะ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000020445 .............. Sondhi X - 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
- สนธิเล่าเรื่อง 3-3-68
.
เช้าวันจันทร์ วันนี้คุณสนธิมีหลายเรื่องมาเล่าให้ฟัง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องฮอต ๆ อย่าง "การส่งกลับชาวอุยกูร์" ที่หลบหนีเข้าเมือง และอาศัยอยู่ในประเทศไทยมาเป็นเวลากว่าสิบปีแล้ว, วิวาทะระหว่าง นายโดนัลด์ ทรัมป์-เจดี แแวนซ์ ประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ กับ นายโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนที่ทำเนียบขาวเมื่อวันศุกร์ รวมไปถึงคดีที่คุณสนธิฟ้อง "ทนายอั๋น" ที่ศาลมีคำพิพากษาลงมาแล้ว ... เชิญรับชม
.
คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=UnMK7GV-aJI
.
#สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #อุยกูร์ #ซินเกียง #ทรัมป์เซเลนสกีสนธิเล่าเรื่อง 3-3-68 . เช้าวันจันทร์ วันนี้คุณสนธิมีหลายเรื่องมาเล่าให้ฟัง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องฮอต ๆ อย่าง "การส่งกลับชาวอุยกูร์" ที่หลบหนีเข้าเมือง และอาศัยอยู่ในประเทศไทยมาเป็นเวลากว่าสิบปีแล้ว, วิวาทะระหว่าง นายโดนัลด์ ทรัมป์-เจดี แแวนซ์ ประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ กับ นายโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนที่ทำเนียบขาวเมื่อวันศุกร์ รวมไปถึงคดีที่คุณสนธิฟ้อง "ทนายอั๋น" ที่ศาลมีคำพิพากษาลงมาแล้ว ... เชิญรับชม . คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=UnMK7GV-aJI . #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #อุยกูร์ #ซินเกียง #ทรัมป์เซเลนสกี - #สนธิเล่าเรื่อง วันที่ 3 ก.พ. 2568 #SondhiTalk #SondhiX https://www.youtube.com/live/UnMK7GV-aJI- YouTubeเพลิดเพลินไปกับวิดีโอและเพลงที่คุณชอบ อัปโหลดเนื้อหาต้นฉบับ และแชร์เนื้อหาทั้งหมดกับเพื่อน ครอบครัว และผู้คนทั่วโลกบน YouTube0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 62 มุมมอง 0 รีวิว
- เส้นทางชีวิต หมายถึงจริยธรรม ซึ่งแตกต่างกันด้วยกรรมบท 10 ประกอบด้วยกายกรรม 3 วจีกรรม 4 และมโนกรรม 3
*กายกรรม 3 ได้แก่ การฆ่าและเบียดเบียนสัตว์ ลักทรัพย์ ผิดลูกเมียหรือละเมิดสิ่งรักหวงของเจ้าของ
**วจีกรรม 4 ได้แก่ พูดเท็จหรือพูดบิดเบือนจากความจริง พูดส่อเสียดให้แตกแยก พูดหยาบหรือพูดข้ามขั้นตอนของเหตุและผล พูดเพ้อเจ้อ เรื่อยเปื่อย ไร้สาระ
***มโนกรรม 3 ได้แก่ โลภเพ่งเล็งในอุปกรณ์แห่งทรัพย์ ฯ มีจิตพยาบาท และมีมิจฉาทิฏฐิไม่เห็นความจริง ๔ ประการหรือไม่เห็นอริยสัจจ์ ๔
😀
เส้นทางชีวิต หมายถึงจริยธรรม ซึ่งแตกต่างกันด้วยกรรมบท 10 ประกอบด้วยกายกรรม 3 วจีกรรม 4 และมโนกรรม 3 *กายกรรม 3 ได้แก่ การฆ่าและเบียดเบียนสัตว์ ลักทรัพย์ ผิดลูกเมียหรือละเมิดสิ่งรักหวงของเจ้าของ **วจีกรรม 4 ได้แก่ พูดเท็จหรือพูดบิดเบือนจากความจริง พูดส่อเสียดให้แตกแยก พูดหยาบหรือพูดข้ามขั้นตอนของเหตุและผล พูดเพ้อเจ้อ เรื่อยเปื่อย ไร้สาระ ***มโนกรรม 3 ได้แก่ โลภเพ่งเล็งในอุปกรณ์แห่งทรัพย์ ฯ มีจิตพยาบาท และมีมิจฉาทิฏฐิไม่เห็นความจริง ๔ ประการหรือไม่เห็นอริยสัจจ์ ๔ 😀คนดีเป็นได้ยาก แต่เป็นหน้าที่หลักของความเป็นคน
จึงต้องใช้ความเพียรยิ่งยวด เพื่อเจริญสติตามรู้ลมหายใจเข้า หายใจออก ให้เห็นจิตมีสมาธิตั้งมั่น ทำจิตให้ปราโมทยิ่ง และทำจิตให้ปล่อยอยู่
ทางปฏิบัติของคนดี จึงเป็นทางเฉพาะสำหรับอริยชน ซึ่งเป็นเส้นทางขนานกับทางโจร0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 44 มุมมอง 0 รีวิว - ป่าไม่ใช่แค่ต้นไม้แต่ #ป่าคือบ้านของทุกชีวิต 🌍❤️
มาเปลี่ยนการทำเกษตรให้เป็นมิตรกับธรรมชาติ
ด้วยผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรจาก TPI ที่ไม่มีสารเคมี
จึงทำให้
✔ ลดสารเคมีตกค้างในดิน
✔ ฟื้นฟูดิน
✔ รักษาความสมดุลของระบบนิเวศ
ปกป้องป่าด้วยทางเลือกที่ยั่งยืน
พร้อมมารักษ์โลกไปด้วยกันกับเรา🌍
#วันสัตว์ป่าและพืชป่าโลก #World Wildlife Day
#TPIรักษ์โลก #TPIPolene #ทีพีไอ #TPIป่าไม่ใช่แค่ต้นไม้แต่ #ป่าคือบ้านของทุกชีวิต 🌍❤️ มาเปลี่ยนการทำเกษตรให้เป็นมิตรกับธรรมชาติ ด้วยผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรจาก TPI ที่ไม่มีสารเคมี จึงทำให้ ✔ ลดสารเคมีตกค้างในดิน ✔ ฟื้นฟูดิน ✔ รักษาความสมดุลของระบบนิเวศ ปกป้องป่าด้วยทางเลือกที่ยั่งยืน พร้อมมารักษ์โลกไปด้วยกันกับเรา🌍 #วันสัตว์ป่าและพืชป่าโลก #World Wildlife Day #TPIรักษ์โลก #TPIPolene #ทีพีไอ #TPI0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 65 มุมมอง 0 รีวิว - ผ่านกันมานานเป็นเดือนกับบทความชุดเรื่องราวสิบสองภาพวาดกงซวิ่นถู (宫训图) จากละคร <เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่> ยังคุยกันไม่ครบสิบสองภาพ แต่ขอคั่นเปลี่ยนเรื่องคุยกันบ้าง เรื่องที่จะคุยในวันนี้ไม่เกี่ยวกับละครหรือนวนิยาย แต่เป็นเรื่องเล่าจากเพลงที่ Storyฯ ชอบมากเพลงหนึ่ง
เพลงนี้โด่งดังในประเทศจีนมาตั้งแต่ปี 2018 เป็นเพลงที่มีเอกลักษณ์เพราะมีกลิ่นอายของงิ้วแฝงอยู่ มีชื่อว่า ‘ชึหลิง’ (赤伶) หรือ ‘นักแสดงสีชาด’ ร้องโดย HITA แต่งเนื้อร้องโดย ชิงเยี่ยน (清彦) ดนตรีโดย หลี่เจี้ยนเหิง (李建衡) ต่อมามีหลายคนนำมาขับร้อง ทั้งที่เปลี่ยนเนื้อร้องและทั้งที่ใช้เนื้อร้องเดิม เชื่อว่าคงมีเพื่อนเพจบางท่านเคยได้ยิน แต่ Storyฯ มั่นใจว่าน้อยคนนักจะทราบถึงเรื่องราวที่แฝงไว้ในเพลงนี้
‘หลิง’ หมายถึงนักแสดงละครงิ้ว ส่วน ‘ชึ’ แปลตรงตัวว่าสีแดงชาด และอาจย่อมาจากคำว่า ‘ชึซิน’ ที่แปลว่าใจที่จงรักภักดีหรือปณิธานแรงกล้า ชื่อเพลงที่สั้นเพียงสองอักษรแต่มีความหมายสองชั้น เนื้อเพลงก็แฝงความหมายสองสามชั้นเช่นกัน เนื้อเพลงค่อนข้างยาว Storyฯ ขอแปลไว้ในรูปภาพที่สองแทน บางคำแปลอย่างตรงตัวเพื่อให้เพื่อนเพจได้ตีความและเห็นถึงเสน่ห์ของความหมายหลายชั้นของเพลงนี้
เรื่องราวเบื้องหลังของเนื้อเพลง ‘นักแสดงสีชาด’ เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นอิงประวัติศาสตร์สมัยสงครามโลกครั้งที่สองที่ญี่ปุ่นเข้าบุกและยึดครองหลายพื้นที่ของจีน กล่าวถึงนักแสดงงิ้วนามว่า เผยเยี่ยนจือ ที่โด่งดังในเมืองอันหย่วน เขาถูกทหารญี่ปุ่นเชิญแกมบังคับให้ขึ้นแสดงงิ้ว โดยขู่ว่าหากเขาไม่ยอมแสดง ทหารก็จะเผาโรงละครทิ้ง แต่เผยเยี่ยนจือรับคำอย่างไม่อิดออดและรับจัดแสดงเรื่อง ‘พัดดอกท้อ’ (桃花扇 / เถาฮวาซ่าน) ในคืนที่แสดงนั้น เผยเยี่ยนจืออยู่บนเวทีร้องออกมาว่า “จุดไฟ” กว่าทหารญี่ปุ่นจะรู้ตัวก็ถูกกักอยู่ในโรงละครที่ลุกเป็นไฟ เพราะก่อนหน้านี้คณะละครได้ราดน้ำมันเตรียมวางเพลิงไว้แล้ว ไฟลามไปเรื่อยๆ ทหารญี่ปุ่นพยายามหนีตายแต่หนีไม่พ้น ละครงิ้วก็แสดงไปเรื่อยๆ จวบจนลมหายใจเฮือกสุดท้ายของคณะละคร
มันเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นโดยใช้เผยเยี่ยนจือเป็นตัวแทนความรักชาติของประชาชนคนธรรมดา แต่เสน่ห์ของเพลงนี้คือความหมายหลายชั้นของคำที่ใช้ ยังมีอีกสองประเด็นที่จะทำให้เราเข้าใจเพลงนี้ได้ดียิ่งขึ้น
ประเด็นแรกคือปูมหลังทางวัฒนธรรม มีวลีจีนโบราณกล่าวไว้ว่า ‘นางคณิกาไร้ใจ นักแสดงไร้คุณธรรม’ ซึ่งมีบริบททางสังคมที่ดูถูกนักแสดงว่าเป็นชนชั้นต่ำ ทำทุกอย่างได้เพื่อความอยู่รอด เราจะเห็นในเนื้อเพลงนี้ว่า นักแสดงละครรำพันว่าแม้ตัวเองด้อยค่า แต่มิใช่ไร้ใจภักดีต่อชาติบ้านเมือง
ประเด็นที่สองคือเรื่องราวของ ‘พัดดอกท้อ’ มันเป็นละครงิ้วในสมัยชิงที่นิยมแสดงกันมาจวบปัจจุบัน เป็นเรื่องราวรักรันทดของหลี่เซียงจวินและโหวฟางอวี้
หลี่เซียงจวินเป็นคณิกาชื่อดังสมัยปลายราชวงศ์หมิง อันเป็นช่วงเวลาที่ราชสำนักวุ่นวาย ขุนนางทุจริตมากมาย ชาวบ้านเดือดร้อน ทั้งยังถูกรุกรานจากแมนจู นางเป็นหนึ่งในสุดยอดแปดนางคณิกาแห่งแม่น้ำฉินหวย เช่นเดียวกับหลิ่วหรูซื่อที่ Storyฯ เคยเขียนถึง (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/pfbid0yKKz9BJs6VheqVhGF7RAW67QKyFaA3PEVX5j9zxCpdd4VCaNpFdXo3pbB2xkAS2wl)
หลี่เซียงจวินเป็นลูกขุนนางที่ได้รับโทษเพราะไปมีส่วนพัวพันกับขบวนการต่อต้านขุนนางทุจริต ถูกเชื่อมโยงกลายเป็นต่อต้านราชสำนัก จึงถูกขายไปอยู่หอนางโลมเมื่ออายุเพียงแปดขวบ แต่ยังโชคดีที่แม่เล้ารับเป็นบุตรบุญธรรม จึงโตมาอย่างเพียบพร้อมด้านการศึกษาและความสามารถทางดนตรี เน้นขายศิลปะไม่ขายตัว นางพบรักกับโหวฟางอวี้ซึ่งเป็นราชบัณฑิตมาจากตระกูลขุนนาง แต่เพราะพ่อของเขามีส่วนพัวพันกับขบวนการต่อต้านขุนนางทุจริตและถูกกวาดล้างเช่นกัน ทางบ้านจึงตกอับยากจน ถึงขนาดต้องยืมเงินเพื่อนมาประมูลซื้อ ‘คืนแรก’ ของหลี่เซียงจวินเมื่อนางอายุครบสิบหกปี (เป็นธรรมเนียมของนางคณิกาสมัยนั้น เมื่ออายุสิบหกหากยังเป็นสาวพรหมจรรย์จะต้องเปิดประมูลซื้อตัว เป็นโอกาสที่จะได้แต่งงานเป็นฝั่งฝาไปกับผู้ชนะการประมูล แม้ว่าส่วนใหญ่เป็นได้เพียงอนุภรรยา) ต่อมาทั้งสองใช้ชีวิตคู่ด้วยกันในหอนางโลมนั้นเอง
พวกเขามารู้ความจริงทีหลังว่า เงินก้อนที่ยืมเพื่อนมานั้น จริงๆ แล้วเป็นเงินของหร่วนต้าเฉิง ขุนนางใจโหดที่กวาดล้างขบวนการต่อต้านราชสำนัก หร่วนต้าเฉิงประสงค์ใช้เงินก้อนนี้มาดึงโหวฟางอวี้เข้าเป็นพวกเพราะชื่นชมในความรู้ความสามารถของเขา แต่ทั้งคู่ไม่ต้องการมีส่วนเกี่ยวข้องกับหร่วนต้าเฉิง หลี่เซียงจวินจึงขายเครื่องประดับเอาเงินมาใช้หนี้ สร้างความโกรธแค้นให้หร่วนต้าเฉิงไม่น้อย เขาแก้แค้นด้วยการยัดเยียดข้อหาจับกลุ่มเพื่อนของโหวฟางอวี้ขังคุก โหวฟางอวี้ตัดสินใจหนีไปเข้าร่วมกับกองกำลังรักชาติ ก่อนไปเขามอบพัดเป็นของแทนใจให้นาง หร่วนต้าเฉิงจึงเอาความแค้นมาลงที่หลี่เซียงจวินแทน เขาวางแผนบีบให้นางแต่งไปเป็นอนุของขุนนางใกล้ชิดของฮ่องเต้ แต่นางเอาหัวชนเสาจนเลือดสาดไปบนพัดสลบไป เกิดเป็นคดีความใหญ่โตแต่ก็นับว่าหนีรอดจากการแต่งงานครั้งนี้ได้ ต่อมาเพื่อนของโหวฟางอวี้ได้วาดลายดอกท้อทับไปบนรอยเลือดบนพัด เกิดเป็นชื่อ ‘พัดดอกท้อ’ นี้ขึ้นมา
แต่เรื่องยังไม่จบ สุดท้ายหร่วนต้าเฉิงวางแผนทำให้หลี่เซียงจวินถูกรับเข้าวังเป็นสนม เมื่อพระราชวังถูกตีแตก นางหนีรอดออกมาได้แต่ได้รับบาดเจ็บ ทำให้คลาดกันกับโหวฟางอวี้ที่ย้อนกลับมาหานาง เรื่องเล่าบั้นปลายชีวิตของนางมีหลายเวอร์ชั่น เวอร์ชั่นหนึ่งคือต่อมานางป่วยหนักจนตาย ทิ้งไว้เพียงพัดที่เปื้อนเลือดให้โหวฟางอวี้ดูต่างหน้า
ส่วนโหวฟางอวี้นั้นอยู่กับกองกำลังรักชาติ แต่สุดท้ายชาติล่มสลาย บั้นปลายชีวิตไม่เหลือใคร จึงปลงผมออกบวช วรรคที่ถูกพูดเป็นงิ้วในเพลงนักแสดงสีชาดนี้ สื่อถึงการปล่อยวางความรักหญิงชาย เป็นวรรคที่ยกมาจากบทละครงิ้วเรื่องพัดดอกท้อในตอนที่เขาออกบวชนี้เอง
เพลงหนึ่งเพลงกับเรื่องราวซ้อนกันสองชั้น บนเวทีแสดงเรื่องราวรักรันทดพลัดพรากให้คนชม นักแสดงอยู่บนเวทีก็มองดูเรื่องราวบ้านเมืองที่เกิดขึ้นข้างล่างเวที ส่วนคนฟังอย่างเราก็ดูทั้งเรื่องราวบนและล่างเวที คงจะกล่าวได้ว่า ‘นักแสดงสีชาด’ เป็นเพลงที่สะท้อนถึงสัจธรรมชีวิต... แท้จริงแล้วโลกเรานี้คือละคร เรามองคนอื่น คนอื่นก็มองเรา
เข้าใจความหมายและเรื่องราวแล้ว ลองอ่านคำแปลเนื้อเพลงอีกครั้งและเชิญเพื่อนเพจอินกับเพลงกันได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=wIyq_jTZsBY&list=WL&index=245 หรือหาฟังเวอร์ชั่นอื่นได้ด้วยชื่อเพลง 赤伶 ค่ะ
(ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)
Credit รูปภาพจาก:
https://www.jitapuji.com/5258.html
https://www.art-mate.net/doc/63311?name=千珊粵劇工作坊《桃花扇》
https://ppfocus.com/0/en57cfaab.html
Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
https://kknews.cc/news/8yly6nl.html
https://www.sohu.com/a/475761718_120934298#google_vignette
https://baike.baidu.com/item/侯方域/380394
https://baike.baidu.com/item/桃花扇/5499
https://shidian.baike.com/wikiid/7245205732429414461?prd=mobile&anchor=lj2jc6p91rp7
https://so.gushiwen.cn/guwen/bookv_46653FD803893E4F8F70CCD565152E14.aspx
#ชึหลิง #HITA #หลี่เซียงจวิน #โหวเซียงอวี้ #พัดดอกท้อ #เถาฮวาซ่านผ่านกันมานานเป็นเดือนกับบทความชุดเรื่องราวสิบสองภาพวาดกงซวิ่นถู (宫训图) จากละคร <เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่> ยังคุยกันไม่ครบสิบสองภาพ แต่ขอคั่นเปลี่ยนเรื่องคุยกันบ้าง เรื่องที่จะคุยในวันนี้ไม่เกี่ยวกับละครหรือนวนิยาย แต่เป็นเรื่องเล่าจากเพลงที่ Storyฯ ชอบมากเพลงหนึ่ง เพลงนี้โด่งดังในประเทศจีนมาตั้งแต่ปี 2018 เป็นเพลงที่มีเอกลักษณ์เพราะมีกลิ่นอายของงิ้วแฝงอยู่ มีชื่อว่า ‘ชึหลิง’ (赤伶) หรือ ‘นักแสดงสีชาด’ ร้องโดย HITA แต่งเนื้อร้องโดย ชิงเยี่ยน (清彦) ดนตรีโดย หลี่เจี้ยนเหิง (李建衡) ต่อมามีหลายคนนำมาขับร้อง ทั้งที่เปลี่ยนเนื้อร้องและทั้งที่ใช้เนื้อร้องเดิม เชื่อว่าคงมีเพื่อนเพจบางท่านเคยได้ยิน แต่ Storyฯ มั่นใจว่าน้อยคนนักจะทราบถึงเรื่องราวที่แฝงไว้ในเพลงนี้ ‘หลิง’ หมายถึงนักแสดงละครงิ้ว ส่วน ‘ชึ’ แปลตรงตัวว่าสีแดงชาด และอาจย่อมาจากคำว่า ‘ชึซิน’ ที่แปลว่าใจที่จงรักภักดีหรือปณิธานแรงกล้า ชื่อเพลงที่สั้นเพียงสองอักษรแต่มีความหมายสองชั้น เนื้อเพลงก็แฝงความหมายสองสามชั้นเช่นกัน เนื้อเพลงค่อนข้างยาว Storyฯ ขอแปลไว้ในรูปภาพที่สองแทน บางคำแปลอย่างตรงตัวเพื่อให้เพื่อนเพจได้ตีความและเห็นถึงเสน่ห์ของความหมายหลายชั้นของเพลงนี้ เรื่องราวเบื้องหลังของเนื้อเพลง ‘นักแสดงสีชาด’ เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นอิงประวัติศาสตร์สมัยสงครามโลกครั้งที่สองที่ญี่ปุ่นเข้าบุกและยึดครองหลายพื้นที่ของจีน กล่าวถึงนักแสดงงิ้วนามว่า เผยเยี่ยนจือ ที่โด่งดังในเมืองอันหย่วน เขาถูกทหารญี่ปุ่นเชิญแกมบังคับให้ขึ้นแสดงงิ้ว โดยขู่ว่าหากเขาไม่ยอมแสดง ทหารก็จะเผาโรงละครทิ้ง แต่เผยเยี่ยนจือรับคำอย่างไม่อิดออดและรับจัดแสดงเรื่อง ‘พัดดอกท้อ’ (桃花扇 / เถาฮวาซ่าน) ในคืนที่แสดงนั้น เผยเยี่ยนจืออยู่บนเวทีร้องออกมาว่า “จุดไฟ” กว่าทหารญี่ปุ่นจะรู้ตัวก็ถูกกักอยู่ในโรงละครที่ลุกเป็นไฟ เพราะก่อนหน้านี้คณะละครได้ราดน้ำมันเตรียมวางเพลิงไว้แล้ว ไฟลามไปเรื่อยๆ ทหารญี่ปุ่นพยายามหนีตายแต่หนีไม่พ้น ละครงิ้วก็แสดงไปเรื่อยๆ จวบจนลมหายใจเฮือกสุดท้ายของคณะละคร มันเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นโดยใช้เผยเยี่ยนจือเป็นตัวแทนความรักชาติของประชาชนคนธรรมดา แต่เสน่ห์ของเพลงนี้คือความหมายหลายชั้นของคำที่ใช้ ยังมีอีกสองประเด็นที่จะทำให้เราเข้าใจเพลงนี้ได้ดียิ่งขึ้น ประเด็นแรกคือปูมหลังทางวัฒนธรรม มีวลีจีนโบราณกล่าวไว้ว่า ‘นางคณิกาไร้ใจ นักแสดงไร้คุณธรรม’ ซึ่งมีบริบททางสังคมที่ดูถูกนักแสดงว่าเป็นชนชั้นต่ำ ทำทุกอย่างได้เพื่อความอยู่รอด เราจะเห็นในเนื้อเพลงนี้ว่า นักแสดงละครรำพันว่าแม้ตัวเองด้อยค่า แต่มิใช่ไร้ใจภักดีต่อชาติบ้านเมือง ประเด็นที่สองคือเรื่องราวของ ‘พัดดอกท้อ’ มันเป็นละครงิ้วในสมัยชิงที่นิยมแสดงกันมาจวบปัจจุบัน เป็นเรื่องราวรักรันทดของหลี่เซียงจวินและโหวฟางอวี้ หลี่เซียงจวินเป็นคณิกาชื่อดังสมัยปลายราชวงศ์หมิง อันเป็นช่วงเวลาที่ราชสำนักวุ่นวาย ขุนนางทุจริตมากมาย ชาวบ้านเดือดร้อน ทั้งยังถูกรุกรานจากแมนจู นางเป็นหนึ่งในสุดยอดแปดนางคณิกาแห่งแม่น้ำฉินหวย เช่นเดียวกับหลิ่วหรูซื่อที่ Storyฯ เคยเขียนถึง (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/pfbid0yKKz9BJs6VheqVhGF7RAW67QKyFaA3PEVX5j9zxCpdd4VCaNpFdXo3pbB2xkAS2wl) หลี่เซียงจวินเป็นลูกขุนนางที่ได้รับโทษเพราะไปมีส่วนพัวพันกับขบวนการต่อต้านขุนนางทุจริต ถูกเชื่อมโยงกลายเป็นต่อต้านราชสำนัก จึงถูกขายไปอยู่หอนางโลมเมื่ออายุเพียงแปดขวบ แต่ยังโชคดีที่แม่เล้ารับเป็นบุตรบุญธรรม จึงโตมาอย่างเพียบพร้อมด้านการศึกษาและความสามารถทางดนตรี เน้นขายศิลปะไม่ขายตัว นางพบรักกับโหวฟางอวี้ซึ่งเป็นราชบัณฑิตมาจากตระกูลขุนนาง แต่เพราะพ่อของเขามีส่วนพัวพันกับขบวนการต่อต้านขุนนางทุจริตและถูกกวาดล้างเช่นกัน ทางบ้านจึงตกอับยากจน ถึงขนาดต้องยืมเงินเพื่อนมาประมูลซื้อ ‘คืนแรก’ ของหลี่เซียงจวินเมื่อนางอายุครบสิบหกปี (เป็นธรรมเนียมของนางคณิกาสมัยนั้น เมื่ออายุสิบหกหากยังเป็นสาวพรหมจรรย์จะต้องเปิดประมูลซื้อตัว เป็นโอกาสที่จะได้แต่งงานเป็นฝั่งฝาไปกับผู้ชนะการประมูล แม้ว่าส่วนใหญ่เป็นได้เพียงอนุภรรยา) ต่อมาทั้งสองใช้ชีวิตคู่ด้วยกันในหอนางโลมนั้นเอง พวกเขามารู้ความจริงทีหลังว่า เงินก้อนที่ยืมเพื่อนมานั้น จริงๆ แล้วเป็นเงินของหร่วนต้าเฉิง ขุนนางใจโหดที่กวาดล้างขบวนการต่อต้านราชสำนัก หร่วนต้าเฉิงประสงค์ใช้เงินก้อนนี้มาดึงโหวฟางอวี้เข้าเป็นพวกเพราะชื่นชมในความรู้ความสามารถของเขา แต่ทั้งคู่ไม่ต้องการมีส่วนเกี่ยวข้องกับหร่วนต้าเฉิง หลี่เซียงจวินจึงขายเครื่องประดับเอาเงินมาใช้หนี้ สร้างความโกรธแค้นให้หร่วนต้าเฉิงไม่น้อย เขาแก้แค้นด้วยการยัดเยียดข้อหาจับกลุ่มเพื่อนของโหวฟางอวี้ขังคุก โหวฟางอวี้ตัดสินใจหนีไปเข้าร่วมกับกองกำลังรักชาติ ก่อนไปเขามอบพัดเป็นของแทนใจให้นาง หร่วนต้าเฉิงจึงเอาความแค้นมาลงที่หลี่เซียงจวินแทน เขาวางแผนบีบให้นางแต่งไปเป็นอนุของขุนนางใกล้ชิดของฮ่องเต้ แต่นางเอาหัวชนเสาจนเลือดสาดไปบนพัดสลบไป เกิดเป็นคดีความใหญ่โตแต่ก็นับว่าหนีรอดจากการแต่งงานครั้งนี้ได้ ต่อมาเพื่อนของโหวฟางอวี้ได้วาดลายดอกท้อทับไปบนรอยเลือดบนพัด เกิดเป็นชื่อ ‘พัดดอกท้อ’ นี้ขึ้นมา แต่เรื่องยังไม่จบ สุดท้ายหร่วนต้าเฉิงวางแผนทำให้หลี่เซียงจวินถูกรับเข้าวังเป็นสนม เมื่อพระราชวังถูกตีแตก นางหนีรอดออกมาได้แต่ได้รับบาดเจ็บ ทำให้คลาดกันกับโหวฟางอวี้ที่ย้อนกลับมาหานาง เรื่องเล่าบั้นปลายชีวิตของนางมีหลายเวอร์ชั่น เวอร์ชั่นหนึ่งคือต่อมานางป่วยหนักจนตาย ทิ้งไว้เพียงพัดที่เปื้อนเลือดให้โหวฟางอวี้ดูต่างหน้า ส่วนโหวฟางอวี้นั้นอยู่กับกองกำลังรักชาติ แต่สุดท้ายชาติล่มสลาย บั้นปลายชีวิตไม่เหลือใคร จึงปลงผมออกบวช วรรคที่ถูกพูดเป็นงิ้วในเพลงนักแสดงสีชาดนี้ สื่อถึงการปล่อยวางความรักหญิงชาย เป็นวรรคที่ยกมาจากบทละครงิ้วเรื่องพัดดอกท้อในตอนที่เขาออกบวชนี้เอง เพลงหนึ่งเพลงกับเรื่องราวซ้อนกันสองชั้น บนเวทีแสดงเรื่องราวรักรันทดพลัดพรากให้คนชม นักแสดงอยู่บนเวทีก็มองดูเรื่องราวบ้านเมืองที่เกิดขึ้นข้างล่างเวที ส่วนคนฟังอย่างเราก็ดูทั้งเรื่องราวบนและล่างเวที คงจะกล่าวได้ว่า ‘นักแสดงสีชาด’ เป็นเพลงที่สะท้อนถึงสัจธรรมชีวิต... แท้จริงแล้วโลกเรานี้คือละคร เรามองคนอื่น คนอื่นก็มองเรา เข้าใจความหมายและเรื่องราวแล้ว ลองอ่านคำแปลเนื้อเพลงอีกครั้งและเชิญเพื่อนเพจอินกับเพลงกันได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=wIyq_jTZsBY&list=WL&index=245 หรือหาฟังเวอร์ชั่นอื่นได้ด้วยชื่อเพลง 赤伶 ค่ะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://www.jitapuji.com/5258.html https://www.art-mate.net/doc/63311?name=千珊粵劇工作坊《桃花扇》 https://ppfocus.com/0/en57cfaab.html Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://kknews.cc/news/8yly6nl.html https://www.sohu.com/a/475761718_120934298#google_vignette https://baike.baidu.com/item/侯方域/380394 https://baike.baidu.com/item/桃花扇/5499 https://shidian.baike.com/wikiid/7245205732429414461?prd=mobile&anchor=lj2jc6p91rp7 https://so.gushiwen.cn/guwen/bookv_46653FD803893E4F8F70CCD565152E14.aspx #ชึหลิง #HITA #หลี่เซียงจวิน #โหวเซียงอวี้ #พัดดอกท้อ #เถาฮวาซ่าน0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 117 มุมมอง 0 รีวิว - https://www.youtube.com/live/UnMK7GV-aJI?si=Os7WguHqlXvoOUpj- YouTubeเพลิดเพลินไปกับวิดีโอและเพลงที่คุณชอบ อัปโหลดเนื้อหาต้นฉบับ และแชร์เนื้อหาทั้งหมดกับเพื่อน ครอบครัว และผู้คนทั่วโลกบน YouTube
- สนธิเล่าเรื่อง 3-3-68
.
เช้าวันจันทร์ วันนี้คุณสนธิมีหลายเรื่องมาเล่าให้ฟัง ฃ "การส่งกลับชาวอุยกูร์" / วิวาทะระหว่าง นายโดนัลด์ ทรัมป์ กับ นายโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี รวมไปถึงคดีที่คุณสนธิฟ้อง "ทนายอั๋น" ที่ศาลมีคำพิพากษาลงมาแล้ว
https://www.youtube.com/watch?v=UnMK7GV-aJI
#สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #อุยกูร์ #ซินเกียง #ทรัมป์เซเลนสกีสนธิเล่าเรื่อง 3-3-68 . เช้าวันจันทร์ วันนี้คุณสนธิมีหลายเรื่องมาเล่าให้ฟัง ฃ "การส่งกลับชาวอุยกูร์" / วิวาทะระหว่าง นายโดนัลด์ ทรัมป์ กับ นายโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี รวมไปถึงคดีที่คุณสนธิฟ้อง "ทนายอั๋น" ที่ศาลมีคำพิพากษาลงมาแล้ว https://www.youtube.com/watch?v=UnMK7GV-aJI #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #อุยกูร์ #ซินเกียง #ทรัมป์เซเลนสกี - ส.ส.เป็นธรรม เผย เตรียมหลักฐานส่งอุยกูร์กลับจีน ไว้อภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ไม่กลัวถูกปั่นเฟคนิวส์ โวจะได้รู้ใครโกหกใครของจริง ลั่นดุดันหนักกว่าเดิม
อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000020376
#News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 14 มุมมอง 0 รีวิว