• 0 Comments 0 Shares 21 Views 0 Reviews
  • พนักงานคอลเซ็นเตอร์จาก Neta Auto บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากจีน โดนทัวร์ลง หลังลืมกดวางสายโทรศัพท์ นินทาลูกค้าฉ่ำ แถมยังใช้คำหยาบคาย

    เนื่องจากปัญหาด้านการบำรุงรักษา เจ้าของรถจึงได้มีการติดต่อพูดคุยกับทางคอลเซ็นเตอร์ของบริษัท อย่างไรก็ตาม การบริการของพนักงานทั้งต่อหน้า และลับหลังกลับแตกต่างกันอย่างลิบลับ

    "เข้าใจแล้วค่ะ จะเร่งให้เดี๋ยวนี้ มีเรื่องอื่นต้องการให้ช่วยอีกไหมคะ?" "ขอบคุณที่โทร.มานะคะ ขอให้มีความสุข สวัสดีค่ะ" คำพูดของพนักงานคอลเซ็นเตอร์ จากนั้นไม่นาน ก็มีเสียงเธอพูดขึ้นมาว่า "ถามอยู่นั่นแหละว่าจะจัดการยังไง! จัดการโคตรแม่งสิ! กูจะรู้ไหมว่าจะจัดการยังไง!" จากนั้นเธอก็สบถคำหยาบ และจบท้ายด้วย "รำคาญจะตายแล้ว!"

    ด้านเจ้าของรถก็ถึงกับอึ้ง ก่อนถามสมาชิกในครอบครัวว่า “เธอพูดอะไรน่ะ?" ซึ่งสมาชิกในครอบครัวก็ตอบว่า “เธอพูดว่า จัดการกับโคตรแม่งสิ”

    ทั้งนี้ เพื่อตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทาง Neta Auto ระบุว่า พวกเขาได้โทร.ไปขอโทษเจ้าของรถ พร้อมสั่งพักงานพนักงานคนดังกล่าว เพื่อเป็นการลงโทษ

    #MGROnline #คอลเซ็นเตอร์
    พนักงานคอลเซ็นเตอร์จาก Neta Auto บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากจีน โดนทัวร์ลง หลังลืมกดวางสายโทรศัพท์ นินทาลูกค้าฉ่ำ แถมยังใช้คำหยาบคาย • เนื่องจากปัญหาด้านการบำรุงรักษา เจ้าของรถจึงได้มีการติดต่อพูดคุยกับทางคอลเซ็นเตอร์ของบริษัท อย่างไรก็ตาม การบริการของพนักงานทั้งต่อหน้า และลับหลังกลับแตกต่างกันอย่างลิบลับ • "เข้าใจแล้วค่ะ จะเร่งให้เดี๋ยวนี้ มีเรื่องอื่นต้องการให้ช่วยอีกไหมคะ?" "ขอบคุณที่โทร.มานะคะ ขอให้มีความสุข สวัสดีค่ะ" คำพูดของพนักงานคอลเซ็นเตอร์ จากนั้นไม่นาน ก็มีเสียงเธอพูดขึ้นมาว่า "ถามอยู่นั่นแหละว่าจะจัดการยังไง! จัดการโคตรแม่งสิ! กูจะรู้ไหมว่าจะจัดการยังไง!" จากนั้นเธอก็สบถคำหยาบ และจบท้ายด้วย "รำคาญจะตายแล้ว!" • ด้านเจ้าของรถก็ถึงกับอึ้ง ก่อนถามสมาชิกในครอบครัวว่า “เธอพูดอะไรน่ะ?" ซึ่งสมาชิกในครอบครัวก็ตอบว่า “เธอพูดว่า จัดการกับโคตรแม่งสิ” • ทั้งนี้ เพื่อตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทาง Neta Auto ระบุว่า พวกเขาได้โทร.ไปขอโทษเจ้าของรถ พร้อมสั่งพักงานพนักงานคนดังกล่าว เพื่อเป็นการลงโทษ • #MGROnline #คอลเซ็นเตอร์
    0 Comments 0 Shares 87 Views 0 Reviews
  • ช่วงเวลาที่ "ราเชล รีฟส์" รัฐมนตรีคลังอังกฤษ ลงนามข้อตกลงอนุมัติเงินกู้ 2,600 ล้านปอนด์ (3,300 ล้านดอลลาร์ หรือเกือบหนึ่งแสนล้านบาท) เพื่อสนับสนุนยูเครน

    รายงานระบุว่าเงินกู้จะได้รับการชำระคืนโดยใช้กำไรจากสินทรัพย์ของรัสเซียที่ถูกอายัด ซึ่งมีมูลค่ารวม 236,000 ล้านปอนด์ในยุโรป

    รัสเซียยืนกรานว่าความพยายามใดๆ ที่จะยึดทรัพย์สินถือเป็นการโจรกรรม ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และจะลอยนวลไปไม่ได้
    ช่วงเวลาที่ "ราเชล รีฟส์" รัฐมนตรีคลังอังกฤษ ลงนามข้อตกลงอนุมัติเงินกู้ 2,600 ล้านปอนด์ (3,300 ล้านดอลลาร์ หรือเกือบหนึ่งแสนล้านบาท) เพื่อสนับสนุนยูเครน รายงานระบุว่าเงินกู้จะได้รับการชำระคืนโดยใช้กำไรจากสินทรัพย์ของรัสเซียที่ถูกอายัด ซึ่งมีมูลค่ารวม 236,000 ล้านปอนด์ในยุโรป รัสเซียยืนกรานว่าความพยายามใดๆ ที่จะยึดทรัพย์สินถือเป็นการโจรกรรม ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และจะลอยนวลไปไม่ได้
    Sad
    1
    0 Comments 0 Shares 78 Views 0 Reviews
  • 2/3/68

    กินวิถีญี่ปุ่น 3 อาหาร "ต้านมะเร็ง" แถมยืดอายุยืน ไทยมีครบทุกอย่าง และราคาถูกกว่าด้วย!

    จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า อายุขัยเฉลี่ยของชาวญี่ปุ่นอยู่ที่ประมาณ 84.3 ปี ซึ่งถือว่าสูงเป็นอันดับ 1 ของโลก ไม่เพียงแต่ได้รับการสนับสนุนจากระบบการแพทย์ที่ทันสมัย และการตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอเท่านั้น ต่ยังรวมถึงการรับประทานอาหารที่มีหลักการทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการช่วยป้องกันโรคต่างๆ โดยเฉพาะโรคมะเร็ง

    ในขณะเดียวกัน การศึกษาหลายชิ้นพบว่า มะเร็งเป็นโรคที่มีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับการรับประทานอาหาร ตามข้อมูลจากสถาบันวิจัยมะเร็งแห่งสหรัฐอเมริกา (AICR) ระบุว่า ประมาณ 30–50% ของเคสมะเร็ง สามารถป้องกันได้ด้วยการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต รวมถึงการรับประทานอาหารที่มีสุขภาพดีขึ้น แล้วคนญี่ปุ่นมักกินอะไร เพื่อปกป้องสุขภาพและลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง?

    3 เมนูต้านมะเร็ง ที่คนญี่ปุ่นชื่นชอบ อุดมไปด้วยสารอาหาร!

    1.กระเทียม: ยารักษามะเร็งจากธรรมชาติ
    คนญี่ปุ่นมักใส่กระเทียมเข้าไปในอาหารประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการปรุงซุป ผัดผัก ไปจนถึงการทำน้ำจิ้ม ขณะเดียวกัน กระเทียมนั้นเป็นหนึ่งในอาหารต้านมะเร็งชั้นนำที่คนญี่ปุ่นบริโภคทุกวัน

    ตามการวิจัยของสถาบันมะเร็งแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (NCI) กระเทียมมีสารออร์แกโนซัลเฟอร์ ซึ่งสามารถกระตุ้นเอนไซม์กำจัดสารพิษในตับได้ จึงช่วยกำจัดสารก่อมะเร็งออกจากร่างกายได้

    นอกจากนี้ กระเทียมยังยับยั้งการสร้างไนโตรซามีน ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งที่เกิดจากไนไตรต์ที่พบในอาหารแปรรูปอีกด้วย และยังมีอัลลิซิน ซึ่งเป็นสารต้านการอักเสบที่มีประสิทธิภาพซึ่งช่วยทำลายเซลล์มะเร็งได้อีกด้วย โดยการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Nutrition แสดงให้เห็นว่าผู้ที่บริโภคกระเทียมเป็นประจำ มีความเสี่ยงเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารและลำไส้ลดลง 30–50% เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ค่อยรับประทานกระเทียม

    2.ชาเขียว: เคล็ดลับอายุยืนของคนญี่ปุ่น
    ในญี่ปุ่น ชาเขียวไม่เพียงแต่เป็นเครื่องดื่มยอดนิยมเท่านั้น แต่ยังถูกมองว่าเป็นยาสำหรับการปกป้องสุขภาพด้วย ตามการศึกษาที่ตีพิมพ์ใน Cancer Epidemiology, Biomarkers & Prevention ผู้ที่ดื่มชาเขียว 5 แก้วต่อวัน หรือมากกว่านั้น มีความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งน้อยกว่าผู้ที่ดื่มน้อยกว่าอย่างมีนัยสำคัญ

    ชาเขียวมีสารคาเทชินและอีจีซีจี (Epigallocatechin gallate) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็ง
    โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมาก
    มะเร็งปอด
    และมะเร็งกระเพาะอาหาร,
    ป้องกันการสร้างเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงก้อนมะเร็ง ซึ่งช่วยยับยั้งการขยายตัวของมะเร็ง, ขับสารพิษและปกป้องตับ เนื่องจากความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระที่เป็นอันตรายในร่างกาย

    ไม่เพียงเท่านั้น แอล-ธีอะนีน (L-theanine) ในชาเขียวยังช่วยลดความเครียดและปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานได้อย่างเต็มที่ ด้วยเหตุนี้ ชาวญี่ปุ่นหลายคนจึงมีนิสัยดื่มชาเขียวทุกวัน และบางคนยังสร้างสรรค์มัทฉะ - ผงชาเขียวบริสุทธิ์ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงกว่าชาเขียวปกติหลายเท่า

    3.กล้วยที่มีจุดดำ:
    ซูเปอร์ฟู้ดเสริมภูมิคุ้มกัน
    ชาวญี่ปุ่นมีนิสัยที่ค่อนข้างพิเศษ คือพวกเขาชอบกินกล้วยที่มีจุดดำบนเปลือก แทนที่จะกินสุกสีเหลืองธรรมดาเหมือนประเทศอื่นๆ

    จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยโตเกียว พบว่ากล้วยที่สุกจนมีจุดดำจะมีสาร TNF (Tumor Necrosis Factor) ในปริมาณสูง ซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้โจมตีเซลล์มะเร็ง

    ประโยชน์ของกล้วยที่มีจุดดำคือ เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยให้ร่างกายสามารถระบุและทำลายเซลล์มะเร็งได้เร็วขึ้น,
    มีสารต้านอนุมูลอิสระจำนวนมาก
    ปกป้องเซลล์จากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ,
    ช่วยในการย่อยอาหาร
    ช่วยปรับสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ ลดความเสี่ยงของการอักเสบและมะเร็งลำไส้ใหญ่ และจากการศึกษาของสถาบันเทคโนโลยีอาหารญี่ปุ่นยังพบว่า กล้วยที่มีจุดดำช่วยเพิ่มจำนวนเม็ดเลือดขาว เสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้มากกว่ากล้วยที่ยังไม่สุกถึง 8 เท่า

    ท้ายที่สุด วิธีการรับประทานอาหารของชาวญี่ปุ่นเป็นหลักฐานชัดเจนว่า อาหารสามารถมีบทบาทสำคัญในการป้องกันมะเร็งและยืดอายุขัย แทนที่จะไปมองหา "ซูเปอร์ฟู้ด" ที่มีราคาสูง พวกเขาเลือกอาหารที่ใกล้ตัวและให้คุณค่าทางสุขภาพสูง!
    cr:sanook
    2/3/68 กินวิถีญี่ปุ่น 3 อาหาร "ต้านมะเร็ง" แถมยืดอายุยืน ไทยมีครบทุกอย่าง และราคาถูกกว่าด้วย! จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า อายุขัยเฉลี่ยของชาวญี่ปุ่นอยู่ที่ประมาณ 84.3 ปี ซึ่งถือว่าสูงเป็นอันดับ 1 ของโลก ไม่เพียงแต่ได้รับการสนับสนุนจากระบบการแพทย์ที่ทันสมัย และการตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอเท่านั้น ต่ยังรวมถึงการรับประทานอาหารที่มีหลักการทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการช่วยป้องกันโรคต่างๆ โดยเฉพาะโรคมะเร็ง ในขณะเดียวกัน การศึกษาหลายชิ้นพบว่า มะเร็งเป็นโรคที่มีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับการรับประทานอาหาร ตามข้อมูลจากสถาบันวิจัยมะเร็งแห่งสหรัฐอเมริกา (AICR) ระบุว่า ประมาณ 30–50% ของเคสมะเร็ง สามารถป้องกันได้ด้วยการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต รวมถึงการรับประทานอาหารที่มีสุขภาพดีขึ้น แล้วคนญี่ปุ่นมักกินอะไร เพื่อปกป้องสุขภาพและลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง? 3 เมนูต้านมะเร็ง ที่คนญี่ปุ่นชื่นชอบ อุดมไปด้วยสารอาหาร! 1.กระเทียม: ยารักษามะเร็งจากธรรมชาติ คนญี่ปุ่นมักใส่กระเทียมเข้าไปในอาหารประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการปรุงซุป ผัดผัก ไปจนถึงการทำน้ำจิ้ม ขณะเดียวกัน กระเทียมนั้นเป็นหนึ่งในอาหารต้านมะเร็งชั้นนำที่คนญี่ปุ่นบริโภคทุกวัน ตามการวิจัยของสถาบันมะเร็งแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (NCI) กระเทียมมีสารออร์แกโนซัลเฟอร์ ซึ่งสามารถกระตุ้นเอนไซม์กำจัดสารพิษในตับได้ จึงช่วยกำจัดสารก่อมะเร็งออกจากร่างกายได้ นอกจากนี้ กระเทียมยังยับยั้งการสร้างไนโตรซามีน ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งที่เกิดจากไนไตรต์ที่พบในอาหารแปรรูปอีกด้วย และยังมีอัลลิซิน ซึ่งเป็นสารต้านการอักเสบที่มีประสิทธิภาพซึ่งช่วยทำลายเซลล์มะเร็งได้อีกด้วย โดยการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Nutrition แสดงให้เห็นว่าผู้ที่บริโภคกระเทียมเป็นประจำ มีความเสี่ยงเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารและลำไส้ลดลง 30–50% เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ค่อยรับประทานกระเทียม 2.ชาเขียว: เคล็ดลับอายุยืนของคนญี่ปุ่น ในญี่ปุ่น ชาเขียวไม่เพียงแต่เป็นเครื่องดื่มยอดนิยมเท่านั้น แต่ยังถูกมองว่าเป็นยาสำหรับการปกป้องสุขภาพด้วย ตามการศึกษาที่ตีพิมพ์ใน Cancer Epidemiology, Biomarkers & Prevention ผู้ที่ดื่มชาเขียว 5 แก้วต่อวัน หรือมากกว่านั้น มีความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งน้อยกว่าผู้ที่ดื่มน้อยกว่าอย่างมีนัยสำคัญ ชาเขียวมีสารคาเทชินและอีจีซีจี (Epigallocatechin gallate) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งปอด และมะเร็งกระเพาะอาหาร, ป้องกันการสร้างเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงก้อนมะเร็ง ซึ่งช่วยยับยั้งการขยายตัวของมะเร็ง, ขับสารพิษและปกป้องตับ เนื่องจากความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระที่เป็นอันตรายในร่างกาย ไม่เพียงเท่านั้น แอล-ธีอะนีน (L-theanine) ในชาเขียวยังช่วยลดความเครียดและปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานได้อย่างเต็มที่ ด้วยเหตุนี้ ชาวญี่ปุ่นหลายคนจึงมีนิสัยดื่มชาเขียวทุกวัน และบางคนยังสร้างสรรค์มัทฉะ - ผงชาเขียวบริสุทธิ์ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงกว่าชาเขียวปกติหลายเท่า 3.กล้วยที่มีจุดดำ: ซูเปอร์ฟู้ดเสริมภูมิคุ้มกัน ชาวญี่ปุ่นมีนิสัยที่ค่อนข้างพิเศษ คือพวกเขาชอบกินกล้วยที่มีจุดดำบนเปลือก แทนที่จะกินสุกสีเหลืองธรรมดาเหมือนประเทศอื่นๆ จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยโตเกียว พบว่ากล้วยที่สุกจนมีจุดดำจะมีสาร TNF (Tumor Necrosis Factor) ในปริมาณสูง ซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้โจมตีเซลล์มะเร็ง ประโยชน์ของกล้วยที่มีจุดดำคือ เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยให้ร่างกายสามารถระบุและทำลายเซลล์มะเร็งได้เร็วขึ้น, มีสารต้านอนุมูลอิสระจำนวนมาก ปกป้องเซลล์จากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ, ช่วยในการย่อยอาหาร ช่วยปรับสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ ลดความเสี่ยงของการอักเสบและมะเร็งลำไส้ใหญ่ และจากการศึกษาของสถาบันเทคโนโลยีอาหารญี่ปุ่นยังพบว่า กล้วยที่มีจุดดำช่วยเพิ่มจำนวนเม็ดเลือดขาว เสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้มากกว่ากล้วยที่ยังไม่สุกถึง 8 เท่า ท้ายที่สุด วิธีการรับประทานอาหารของชาวญี่ปุ่นเป็นหลักฐานชัดเจนว่า อาหารสามารถมีบทบาทสำคัญในการป้องกันมะเร็งและยืดอายุขัย แทนที่จะไปมองหา "ซูเปอร์ฟู้ด" ที่มีราคาสูง พวกเขาเลือกอาหารที่ใกล้ตัวและให้คุณค่าทางสุขภาพสูง! cr:sanook
    0 Comments 0 Shares 99 Views 0 Reviews
  • กระแสการเรียกร้องให้สหรัฐออกจากนาโต้เริ่มดังขึ้น เมื่อวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ ไมค์ ลี เรียกร้องให้สหรัฐฯออกจากนาโต และอีลอน มัสก์ "ก็เห็นด้วย"
    กระแสการเรียกร้องให้สหรัฐออกจากนาโต้เริ่มดังขึ้น เมื่อวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ ไมค์ ลี เรียกร้องให้สหรัฐฯออกจากนาโต และอีลอน มัสก์ "ก็เห็นด้วย"
    0 Comments 0 Shares 78 Views 0 Reviews
  • กองกำลัง HTS ของรัฐบาลซีเรีย กำลังมุ่งหน้าไปยังเมืองจารามานา ทางใต้ของกรุงดามัสกัส ประเทศซีเรีย เพื่อปราบปรามชุมชนขาวดรูซ ขณะที่อิสราเอลประกาศจะเคลื่อนพลเข้าปกป้องชุมชนแห่งเช่นกัน แม้จะอยู่ในดินแดนซีเรียก็ตาม
    กองกำลัง HTS ของรัฐบาลซีเรีย กำลังมุ่งหน้าไปยังเมืองจารามานา ทางใต้ของกรุงดามัสกัส ประเทศซีเรีย เพื่อปราบปรามชุมชนขาวดรูซ ขณะที่อิสราเอลประกาศจะเคลื่อนพลเข้าปกป้องชุมชนแห่งเช่นกัน แม้จะอยู่ในดินแดนซีเรียก็ตาม
    0 Comments 0 Shares 90 Views 0 Reviews
  • จากการสำรวจนิด้าโพลเมื่อถามถึงความพึงพอใจของประชาชนต่อการทำงานของรัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ในรอบ 6 เดือน พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 34.58 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 32.60 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 20.00 ระบุว่า ไม่พอใจเลย และร้อยละ 12.82 ระบุว่า พอใจมาก ด้านความพึงพอใจของประชาชนต่อการทำงานของนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ในรอบ 6 เดือน พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 32.60 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 31.76 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 22.28 ระบุว่า ไม่พอใจเลย และร้อยละ 13.36 ระบุว่า พอใจมาก สำหรับความเชื่อมั่นของประชาชนต่อการทำงานของรัฐบาลนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ในการแก้ไขปัญหาของประเทศ พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 36.41 ระบุว่า ไม่ค่อยเชื่อมั่น รองลงมา ร้อยละ 26.26 ระบุว่า ไม่เชื่อมั่นเลย ร้อยละ 25.04 ระบุว่า ค่อนข้างเชื่อมั่น และร้อยละ 12.29 ระบุว่า เชื่อมั่นมาก ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงความพึงพอใจของประชาชนต่อการทำงานในแต่ละกระทรวงของรัฐบาลนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ในรอบ 6 เดือน พบว่า กระทรวงสาธารณสุข ตัวอย่าง ร้อยละ 32.45 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ รองลงมา ร้อยละ 29.16 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ ร้อยละ 19.08 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 17.02 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 2.29 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตัวอย่าง ร้อยละ 32.14 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ รองลงมา ร้อยละ 27.25 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ ร้อยละ 17.02 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 15.04 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 8.55 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงพลังงาน ตัวอย่าง ร้อยละ 32.98 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 30.84 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 20.31 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 14.11 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 1.76 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงการคลัง ตัวอย่าง ร้อยละ 33.82 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 27.79 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 22.75 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 13.59 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 2.05 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ตัวอย่าง ร้อยละ 30.38 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ รองลงมา ร้อยละ 29.47 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ ร้อยละ 21.14 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 13.44 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 5.57 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตัวอย่าง ร้อยละ 32.29 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ รองลงมา ร้อยละ 29.39 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ ร้อยละ 18.70 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 13.21 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 6.41 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงการต่างประเทศ ตัวอย่าง ร้อยละ 30.84 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 27.48 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 20.46 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 12.98 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 8.24 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ตัวอย่าง ร้อยละ 29.92 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 28.55 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 18.09 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 12.52 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 10.92 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลสำนักนายกรัฐมนตรี ตัวอย่าง ร้อยละ 34.35 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 28.70 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 22.14 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 12.29 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 2.52 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงวัฒนธรรม ตัวอย่าง ร้อยละ 31.53 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ รองลงมา ร้อยละ 29.54 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ ร้อยละ 17.94 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 12.29 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 8.70 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงศึกษาธิการ ตัวอย่าง ร้อยละ 35.04 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ รองลงมา ร้อยละ 30.08 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ ร้อยละ 19.08 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 12.29 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 3.51 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงมหาดไทย ตัวอย่าง ร้อยละ 36.03 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 26.26 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 24.27 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 11.91 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 1.53 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตัวอย่าง ร้อยละ 32.82 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 30.00 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 21.99 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 11.91 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 3.28 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงอุตสาหกรรม ตัวอย่าง ร้อยละ 30.92 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ รองลงมา ร้อยละ 30.84 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ ร้อยละ 18.01 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 11.68 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 8.55 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงยุติธรรม ตัวอย่าง ร้อยละ 32.90 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 27.02 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 24.50 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 11.53 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 4.05 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงคมนาคม ตัวอย่าง ร้อยละ 36.03 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 29.47 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 21.37 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 10.92 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 2.21 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตัวอย่าง ร้อยละ 33.44 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ รองลงมา ร้อยละ 31.00 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ ร้อยละ 19.69 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 10.76 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 5.11 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงแรงงาน ตัวอย่าง ร้อยละ 35.80 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 25.65 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 25.42 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 10.53 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 2.60 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงกลาโหม ตัวอย่าง ร้อยละ 36.56 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 28.63 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 21.60 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 10.31 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 2.90 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงพาณิชย์ ตัวอย่าง ร้อยละ 35.95 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 26.49 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 25.80 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 9.39 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 2.37 ระบุว่า ไม่มีข้อมูล
    จากการสำรวจนิด้าโพลเมื่อถามถึงความพึงพอใจของประชาชนต่อการทำงานของรัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ในรอบ 6 เดือน พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 34.58 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 32.60 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 20.00 ระบุว่า ไม่พอใจเลย และร้อยละ 12.82 ระบุว่า พอใจมาก ด้านความพึงพอใจของประชาชนต่อการทำงานของนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ในรอบ 6 เดือน พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 32.60 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 31.76 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 22.28 ระบุว่า ไม่พอใจเลย และร้อยละ 13.36 ระบุว่า พอใจมาก สำหรับความเชื่อมั่นของประชาชนต่อการทำงานของรัฐบาลนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ในการแก้ไขปัญหาของประเทศ พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 36.41 ระบุว่า ไม่ค่อยเชื่อมั่น รองลงมา ร้อยละ 26.26 ระบุว่า ไม่เชื่อมั่นเลย ร้อยละ 25.04 ระบุว่า ค่อนข้างเชื่อมั่น และร้อยละ 12.29 ระบุว่า เชื่อมั่นมาก ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงความพึงพอใจของประชาชนต่อการทำงานในแต่ละกระทรวงของรัฐบาลนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ในรอบ 6 เดือน พบว่า กระทรวงสาธารณสุข ตัวอย่าง ร้อยละ 32.45 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ รองลงมา ร้อยละ 29.16 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ ร้อยละ 19.08 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 17.02 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 2.29 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตัวอย่าง ร้อยละ 32.14 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ รองลงมา ร้อยละ 27.25 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ ร้อยละ 17.02 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 15.04 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 8.55 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงพลังงาน ตัวอย่าง ร้อยละ 32.98 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 30.84 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 20.31 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 14.11 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 1.76 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงการคลัง ตัวอย่าง ร้อยละ 33.82 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 27.79 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 22.75 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 13.59 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 2.05 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ตัวอย่าง ร้อยละ 30.38 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ รองลงมา ร้อยละ 29.47 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ ร้อยละ 21.14 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 13.44 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 5.57 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตัวอย่าง ร้อยละ 32.29 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ รองลงมา ร้อยละ 29.39 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ ร้อยละ 18.70 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 13.21 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 6.41 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงการต่างประเทศ ตัวอย่าง ร้อยละ 30.84 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 27.48 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 20.46 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 12.98 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 8.24 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ตัวอย่าง ร้อยละ 29.92 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 28.55 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 18.09 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 12.52 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 10.92 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลสำนักนายกรัฐมนตรี ตัวอย่าง ร้อยละ 34.35 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 28.70 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 22.14 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 12.29 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 2.52 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงวัฒนธรรม ตัวอย่าง ร้อยละ 31.53 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ รองลงมา ร้อยละ 29.54 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ ร้อยละ 17.94 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 12.29 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 8.70 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงศึกษาธิการ ตัวอย่าง ร้อยละ 35.04 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ รองลงมา ร้อยละ 30.08 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ ร้อยละ 19.08 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 12.29 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 3.51 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงมหาดไทย ตัวอย่าง ร้อยละ 36.03 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 26.26 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 24.27 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 11.91 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 1.53 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตัวอย่าง ร้อยละ 32.82 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 30.00 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 21.99 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 11.91 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 3.28 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงอุตสาหกรรม ตัวอย่าง ร้อยละ 30.92 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ รองลงมา ร้อยละ 30.84 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ ร้อยละ 18.01 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 11.68 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 8.55 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงยุติธรรม ตัวอย่าง ร้อยละ 32.90 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 27.02 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 24.50 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 11.53 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 4.05 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงคมนาคม ตัวอย่าง ร้อยละ 36.03 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 29.47 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 21.37 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 10.92 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 2.21 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตัวอย่าง ร้อยละ 33.44 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ รองลงมา ร้อยละ 31.00 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ ร้อยละ 19.69 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 10.76 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 5.11 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงแรงงาน ตัวอย่าง ร้อยละ 35.80 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 25.65 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 25.42 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 10.53 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 2.60 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงกลาโหม ตัวอย่าง ร้อยละ 36.56 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 28.63 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 21.60 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 10.31 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 2.90 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงพาณิชย์ ตัวอย่าง ร้อยละ 35.95 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 26.49 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 25.80 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 9.39 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 2.37 ระบุว่า ไม่มีข้อมูล
    0 Comments 0 Shares 98 Views 0 Reviews
  • มีใครที่ไปญี่ปุ่นแล้วจะเดินไปบอกคนญี่ปุ่นว่าสนับสนุนรัสเชีย

    "ไปเที่ยวก็คือไปเที่ยว"
    มีใครที่ไปญี่ปุ่นแล้วจะเดินไปบอกคนญี่ปุ่นว่าสนับสนุนรัสเชีย "ไปเที่ยวก็คือไปเที่ยว"
    0 Comments 0 Shares 89 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 62 Views 0 Reviews
  • จัดฉากเพื่อปิดเกมเซเลนสกี้Scott Ritter (สก็อตต์ ริตเตอร์) อดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองนาวิกโยธินสหรัฐฯ เปิดเผยต่อสำนักข่าว RT ว่าการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของวลาดิมีร์ เซเลนสกี้ผู้นำยูเครนได้สิ้นสุดลงแล้ว โดยระบุว่าการพบปะกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่ทำเนียบขาวเป็น "การจัดฉาก" เพื่อทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงและนำไปสู่การปลดผู้นำยูเครนออกจากตำแหน่ง ริตเตอร์ชี้แจงว่า แม้วาระการดำรงตำแหน่ง 5 ปีของเซเลนสกี้จะสิ้นสุดลงแล้วตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2567 แต่เขาปฏิเสธที่จะจัดการเลือกตั้งใหม่ โดยอ้างเหตุผลด้านกฎอัยการศึก ตามคำกล่าวของริตเตอร์ วอชิงตันเริ่ม "เบื่อหน่าย" กับเซเลนสกี้ ซึ่งล่าสุดประธานาธิบดีทรัมป์ถึงกับเรียกเขาว่าเป็น "เผด็จการที่ไม่มีการเลือกตั้ง" และกำลังดำเนินการเพื่อปลดเขาออกจากตำแหน่ง ความเห็นของริตเตอร์มีขึ้นหลังจากการประชุมที่ทำเนียบขาวเมื่อวันศุกร์ระหว่างเซเลนสกี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ และรองประธานาธิบดีเจ.ดี. แวนซ์ ซึ่งเกิดการโต้เถียงอย่างดุเดือดหลังจากทรัมป์บอกผู้นำยูเครนว่าเขาจะต้องเจรจาสันติภาพกับรัสเซีย เซเลนสกี้โต้แย้งว่าไม่สามารถไว้วางใจมอสโกได้และยืนยันว่าสหรัฐฯ ควรให้การสนับสนุนเคียฟต่อไป ทรัมป์ตอบโต้ว่าเซเลนสกี้ "ไม่อยู่ในสถานะที่จะสั่งการ" สหรัฐฯ โดยกล่าวหาว่าเขาไม่รู้จักสำนึกบุญคุณต่อความช่วยเหลือมหาศาลของอเมริกา และตั้งคำถามถึงความเต็มใจของเขาที่จะยุติความขัดแย้งกับรัสเซีย ริตเตอร์วิเคราะห์ว่าการพบปะครั้งนี้เป็น "การจัดฉาก" อย่างจงใจเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของเซเลนสกี้และ "เผชิญหน้ากับความไม่สอดคล้องในจุดยืนของเขา""เซเลนสกี้ไม่ใช่ประธานาธิบดีที่ได้รับการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย... นี่เป็นการจัดฉากโดยเจตนาของประธานาธิบดีสหรัฐฯ รัฐบาลทรัมป์เบื่อหน่ายกับเซเลนสกี้แล้ว" ริตเตอร์กล่าว โดยอธิบายว่าเซเลนสกี้เป็นผู้นำมาสู่สถานการณ์นี้ด้วยตัวเองจากการเปิดเผยความเป็นปฏิปักษ์ต่อทรัมป์วุฒิสมาชิกรูบิโอได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ในภายหลัง โดยระบุว่าเซเลนสกี้ควรขอโทษสำหรับ "ความล้มเหลว" ในการพบปะกับทรัมป์ครั้งนี้. https://www.imctnews.com/news_details-news-7005.html. 2/3/2025
    จัดฉากเพื่อปิดเกมเซเลนสกี้Scott Ritter (สก็อตต์ ริตเตอร์) อดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองนาวิกโยธินสหรัฐฯ เปิดเผยต่อสำนักข่าว RT ว่าการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของวลาดิมีร์ เซเลนสกี้ผู้นำยูเครนได้สิ้นสุดลงแล้ว โดยระบุว่าการพบปะกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่ทำเนียบขาวเป็น "การจัดฉาก" เพื่อทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงและนำไปสู่การปลดผู้นำยูเครนออกจากตำแหน่ง ริตเตอร์ชี้แจงว่า แม้วาระการดำรงตำแหน่ง 5 ปีของเซเลนสกี้จะสิ้นสุดลงแล้วตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2567 แต่เขาปฏิเสธที่จะจัดการเลือกตั้งใหม่ โดยอ้างเหตุผลด้านกฎอัยการศึก ตามคำกล่าวของริตเตอร์ วอชิงตันเริ่ม "เบื่อหน่าย" กับเซเลนสกี้ ซึ่งล่าสุดประธานาธิบดีทรัมป์ถึงกับเรียกเขาว่าเป็น "เผด็จการที่ไม่มีการเลือกตั้ง" และกำลังดำเนินการเพื่อปลดเขาออกจากตำแหน่ง ความเห็นของริตเตอร์มีขึ้นหลังจากการประชุมที่ทำเนียบขาวเมื่อวันศุกร์ระหว่างเซเลนสกี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ และรองประธานาธิบดีเจ.ดี. แวนซ์ ซึ่งเกิดการโต้เถียงอย่างดุเดือดหลังจากทรัมป์บอกผู้นำยูเครนว่าเขาจะต้องเจรจาสันติภาพกับรัสเซีย เซเลนสกี้โต้แย้งว่าไม่สามารถไว้วางใจมอสโกได้และยืนยันว่าสหรัฐฯ ควรให้การสนับสนุนเคียฟต่อไป ทรัมป์ตอบโต้ว่าเซเลนสกี้ "ไม่อยู่ในสถานะที่จะสั่งการ" สหรัฐฯ โดยกล่าวหาว่าเขาไม่รู้จักสำนึกบุญคุณต่อความช่วยเหลือมหาศาลของอเมริกา และตั้งคำถามถึงความเต็มใจของเขาที่จะยุติความขัดแย้งกับรัสเซีย ริตเตอร์วิเคราะห์ว่าการพบปะครั้งนี้เป็น "การจัดฉาก" อย่างจงใจเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของเซเลนสกี้และ "เผชิญหน้ากับความไม่สอดคล้องในจุดยืนของเขา""เซเลนสกี้ไม่ใช่ประธานาธิบดีที่ได้รับการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย... นี่เป็นการจัดฉากโดยเจตนาของประธานาธิบดีสหรัฐฯ รัฐบาลทรัมป์เบื่อหน่ายกับเซเลนสกี้แล้ว" ริตเตอร์กล่าว โดยอธิบายว่าเซเลนสกี้เป็นผู้นำมาสู่สถานการณ์นี้ด้วยตัวเองจากการเปิดเผยความเป็นปฏิปักษ์ต่อทรัมป์วุฒิสมาชิกรูบิโอได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ในภายหลัง โดยระบุว่าเซเลนสกี้ควรขอโทษสำหรับ "ความล้มเหลว" ในการพบปะกับทรัมป์ครั้งนี้. https://www.imctnews.com/news_details-news-7005.html. 2/3/2025
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 93 Views 0 Reviews
  • กองทัพรัสเซียโจมตีฐานฝึกของกองทัพยูเครนในภูมิภาคดนีโปรเปตรอฟสค์ (Dnepropetrovsk) ด้วยขีปนาวุธ "Iskander" ส่งผลให้ทหารยูเครนเสียชีวิต 150 นาย และครูฝึกชาวต่างชาติเสียชีวิต 30 นาย ตามรายงานของกระทรวงกลาโหมรัสเซีย
    กองทัพรัสเซียโจมตีฐานฝึกของกองทัพยูเครนในภูมิภาคดนีโปรเปตรอฟสค์ (Dnepropetrovsk) ด้วยขีปนาวุธ "Iskander" ส่งผลให้ทหารยูเครนเสียชีวิต 150 นาย และครูฝึกชาวต่างชาติเสียชีวิต 30 นาย ตามรายงานของกระทรวงกลาโหมรัสเซีย
    0 Comments 0 Shares 190 Views 13 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 29 Views 0 Reviews
  • Like
    1
    0 Comments 0 Shares 65 Views 0 Reviews
  • เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ ออกคำสั่งปลดพระครูภัทรญาณวิโรจน์ เจ้าอาวาสวัดดงป่างิ้ว จังหวัดเชียงใหม่ หลังว่าจ้างให้พระภิกษุรูปอื่น เข้าสอบบาลีสนามหลวง ประโยค ป.ธ.5 แทนตน ถือเป็นความผิดร้ายแรง และเป็นเหตุเสื่อมเสียแก่พระพุทธศาสนา

    วันนี้ (2 มี.ค.) เฟซบุ๊กเพจ The Buddh เผยแพร่คำสั่งเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 02/2568 เรื่อง ปลดพระครูภัทรญาณวิโรจน์ (ศิวภัช ภทรญาโณ, ป.ธ.4, ศศบ.) จากตําแหน่งเจ้าอาวาสวัดดงป่างิ้ว และเจ้าคณะตําบลมะขุนหวาน อําเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ ด้วยปรากฏว่า พระครูภัทรญาณวิโรจน์ (ศิวภัช ภทรญาโณ, ป.ธ.4, ศศบ.) อายุ 35 พรรษา 15 เจ้าอาวาสวัดดงป่างิ้ว ตําบลมะขุนหวาน อําเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ และดํารงตําแหน่งเจ้าคณะตําบลมะขุนหวาน ได้กระทําการอันเป็นความผิดร้ายแรง และเป็นเหตุเสื่อมเสียแก่พระพุทธศาสนา ด้วยการว่าจ้างให้พระภิกษุรูปอื่น เข้าสอบบาลีสนามหลวง ประโยค ป.ธ.5 แทนตนซึ่งการกระทําดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนพระธรรมวินัย กฎมหาเถรสมาคม ระเบียบ คําสั่ง ข้อบังคับ และประกาศของมหาเถรสมาคม อีกทั้งยังเป็นการทุจริตในการสอบบาลีสนามหลวง อันเป็นกิจการสําาคัญของคณะสงฆ์

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000020289

    #MGROnline #เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ #ปลดพระครูภัทรญาณวิโรจน์ #เจ้าอาวาสวัดดงป่างิ้ว #จังหวัดเชียงใหม่
    เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ ออกคำสั่งปลดพระครูภัทรญาณวิโรจน์ เจ้าอาวาสวัดดงป่างิ้ว จังหวัดเชียงใหม่ หลังว่าจ้างให้พระภิกษุรูปอื่น เข้าสอบบาลีสนามหลวง ประโยค ป.ธ.5 แทนตน ถือเป็นความผิดร้ายแรง และเป็นเหตุเสื่อมเสียแก่พระพุทธศาสนา • วันนี้ (2 มี.ค.) เฟซบุ๊กเพจ The Buddh เผยแพร่คำสั่งเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 02/2568 เรื่อง ปลดพระครูภัทรญาณวิโรจน์ (ศิวภัช ภทรญาโณ, ป.ธ.4, ศศบ.) จากตําแหน่งเจ้าอาวาสวัดดงป่างิ้ว และเจ้าคณะตําบลมะขุนหวาน อําเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ ด้วยปรากฏว่า พระครูภัทรญาณวิโรจน์ (ศิวภัช ภทรญาโณ, ป.ธ.4, ศศบ.) อายุ 35 พรรษา 15 เจ้าอาวาสวัดดงป่างิ้ว ตําบลมะขุนหวาน อําเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ และดํารงตําแหน่งเจ้าคณะตําบลมะขุนหวาน ได้กระทําการอันเป็นความผิดร้ายแรง และเป็นเหตุเสื่อมเสียแก่พระพุทธศาสนา ด้วยการว่าจ้างให้พระภิกษุรูปอื่น เข้าสอบบาลีสนามหลวง ประโยค ป.ธ.5 แทนตนซึ่งการกระทําดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนพระธรรมวินัย กฎมหาเถรสมาคม ระเบียบ คําสั่ง ข้อบังคับ และประกาศของมหาเถรสมาคม อีกทั้งยังเป็นการทุจริตในการสอบบาลีสนามหลวง อันเป็นกิจการสําาคัญของคณะสงฆ์ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000020289 • #MGROnline #เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ #ปลดพระครูภัทรญาณวิโรจน์ #เจ้าอาวาสวัดดงป่างิ้ว #จังหวัดเชียงใหม่
    0 Comments 0 Shares 120 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 28 Views 0 Reviews
  • "เอกนัฏ" ปิดเกมเร็ว "มหากาพย์ วิน โพรเสส" ขนย้ายสารพิษอลูมิเนียมดรอสเสร็จใน 46 วัน เซฟงบประมาณอื้อ
    https://www.thai-tai.tv/news/17446/
    "เอกนัฏ" ปิดเกมเร็ว "มหากาพย์ วิน โพรเสส" ขนย้ายสารพิษอลูมิเนียมดรอสเสร็จใน 46 วัน เซฟงบประมาณอื้อ https://www.thai-tai.tv/news/17446/
    0 Comments 0 Shares 31 Views 0 Reviews
  • อเมริกาต้องมาก่อน ภาษาอังกฤษเท่านั้น? ทรัมป์เพิ่งลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารกำหนดให้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาทางการของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศสหรัฐฯ มีผู้พูดภาษาสเปนประมาณ 42 ล้านคน และในเปอร์โตริโก ซึ่งเป็นดินแดนของสหรัฐฯ มีผู้พูดภาษาสเปนถึง 94%นักวิจารณ์กล่าวว่าการดำเนินการครั้งนี้อาจส่งผลกระทบต่อชุมชนผู้อพยพและทำลายความหลากหลายทางภาษาของประเทศ
    อเมริกาต้องมาก่อน ภาษาอังกฤษเท่านั้น? ทรัมป์เพิ่งลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารกำหนดให้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาทางการของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศสหรัฐฯ มีผู้พูดภาษาสเปนประมาณ 42 ล้านคน และในเปอร์โตริโก ซึ่งเป็นดินแดนของสหรัฐฯ มีผู้พูดภาษาสเปนถึง 94%นักวิจารณ์กล่าวว่าการดำเนินการครั้งนี้อาจส่งผลกระทบต่อชุมชนผู้อพยพและทำลายความหลากหลายทางภาษาของประเทศ
    0 Comments 0 Shares 78 Views 0 Reviews
  • จากการสัมภาษณ์เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ประธานาธิบดีปูติน ระบุชัดเจนว่า ยื่นข้อเสนอของข้อตกลงแร่ธาตุหายากให้กับสหรัฐ และยังกล่าวอีกว่า รัสเซียมีปริมาณสำรองแร่ธาตุหายากมากกว่ายูเครนอย่างมาก

    รัสเซียมีประสบการณ์ เทคโนโลยี และความพร้อมมากกว่าสหรัฐที่จะไปลงทุนทำเองในยูเครน
    จากการสัมภาษณ์เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ประธานาธิบดีปูติน ระบุชัดเจนว่า ยื่นข้อเสนอของข้อตกลงแร่ธาตุหายากให้กับสหรัฐ และยังกล่าวอีกว่า รัสเซียมีปริมาณสำรองแร่ธาตุหายากมากกว่ายูเครนอย่างมาก รัสเซียมีประสบการณ์ เทคโนโลยี และความพร้อมมากกว่าสหรัฐที่จะไปลงทุนทำเองในยูเครน
    0 Comments 0 Shares 181 Views 10 0 Reviews
  • "รู้ยังใครอยู่บนสุดของห่วงโซ่"

    ในขณะที่ทรัมป์เรียกเงินคืนจากยูเครน แต่กลับส่งความช่วยเหลือไปยังอิสราเอลไม่หยุดหย่อน

    รัฐบาลทรัมป์เพิ่งอนุมัติการขายอาวุธฉุกเฉินมูลค่า 2,000 ล้านดอลลาร์ ให้กับอิสราเอล ด้วยขั้นตอนบายพาสที่ไม่ผ่านการอนุมัติจากรัฐสภา ทำให้การโอนย้ายระเบิดหลายหมื่นลูกเป็นไปอย่างรวดเร็ว

    ➤ การอนุมัติดังกล่าวรวมถึงระเบิดทำลายล้างสูง MK 84 และ BLU-117 น้ำหนัก 2,000 ปอนด์กว่า 35,529 ลูก และระเบิด "บังเกอร์บัสเตอร์" (Bunker Buster) น้ำหนัก 2,000 ปอนด์ (I-2000) จำนวน 4,000 ลูก

    ➤ รัฐมนตรีต่างประเทศรูบิโอ ให้เหตุผลในการดำเนินการดังกล่าวว่าเป็น "สถานการณ์ฉุกเฉิน" บนผลประโยชน์ด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ซึ่งกำหนดให้ต้องขายอาวุธให้กับรัฐบาลอิสราเอลทันที จึงยกเว้นข้อกำหนดการตรวจสอบของรัฐสภาภายใต้มาตรา 36(b) ของพระราชบัญญัติควบคุมการส่งออกอาวุธ
    "รู้ยังใครอยู่บนสุดของห่วงโซ่" ในขณะที่ทรัมป์เรียกเงินคืนจากยูเครน แต่กลับส่งความช่วยเหลือไปยังอิสราเอลไม่หยุดหย่อน รัฐบาลทรัมป์เพิ่งอนุมัติการขายอาวุธฉุกเฉินมูลค่า 2,000 ล้านดอลลาร์ ให้กับอิสราเอล ด้วยขั้นตอนบายพาสที่ไม่ผ่านการอนุมัติจากรัฐสภา ทำให้การโอนย้ายระเบิดหลายหมื่นลูกเป็นไปอย่างรวดเร็ว ➤ การอนุมัติดังกล่าวรวมถึงระเบิดทำลายล้างสูง MK 84 และ BLU-117 น้ำหนัก 2,000 ปอนด์กว่า 35,529 ลูก และระเบิด "บังเกอร์บัสเตอร์" (Bunker Buster) น้ำหนัก 2,000 ปอนด์ (I-2000) จำนวน 4,000 ลูก ➤ รัฐมนตรีต่างประเทศรูบิโอ ให้เหตุผลในการดำเนินการดังกล่าวว่าเป็น "สถานการณ์ฉุกเฉิน" บนผลประโยชน์ด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ซึ่งกำหนดให้ต้องขายอาวุธให้กับรัฐบาลอิสราเอลทันที จึงยกเว้นข้อกำหนดการตรวจสอบของรัฐสภาภายใต้มาตรา 36(b) ของพระราชบัญญัติควบคุมการส่งออกอาวุธ
    0 Comments 0 Shares 129 Views 0 Reviews
  • ไม่ต้องไปถึงประตูผี ร้านตี๋เย็นตาโฟรสเด็ด #ประเวศ #พิกัดของอร่อย #อร่อยบอกต่อ #ร้านดีบอกต่อ #พาชิม #ชวนชิม #พากิน #กินอะไรดี #หิว #กิน #กินเก่ง #ร้านอร่อย #เทรนด์วันนี้ #food #thaifood #thailand #กินง่ายริมทาง #thaitimes #kaiaminute
    ไม่ต้องไปถึงประตูผี ร้านตี๋เย็นตาโฟรสเด็ด #ประเวศ #พิกัดของอร่อย #อร่อยบอกต่อ #ร้านดีบอกต่อ #พาชิม #ชวนชิม #พากิน #กินอะไรดี #หิว #กิน #กินเก่ง #ร้านอร่อย #เทรนด์วันนี้ #food #thaifood #thailand #กินง่ายริมทาง #thaitimes #kaiaminute
    0 Comments 0 Shares 187 Views 4 0 Reviews
  • ทีมงานเพจสายไหมต้องรอด เตรียมพาชายขี่ จยย.ถูกคนขับเก๋งสีแดงเฉี่ยวชน บนถนนราชพฤกษ์ เข้าแจ้งความเอาผิด อาจเข้าข่ายพยายามฆ่า

    จากกรณีโซเชียลมีเดียมีการแชร์คลิปเหตุการณ์จากกล้องหน้ารถยนต์เก๋งสีแดงขับเฉี่ยวรถจักรยานยนต์บนถนนเลนขวาสุด ซึ่งต่อมาคนในสังคมโซเชียลมีเดีย ต่างเข้าแสดงความคิดเห็น และตั้งคำถามว่า คนขับขี่รถยนต์เก๋งสีแดงขับรถแบบนี้ มีเจตนาชนรถจักรยานยนต์หรือไม่นั้น

    ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (2 มี.ค.) ที่เพจสายไหมต้องรอด นายจินตการ อายุ 49 ปี ผู้ขี่รถจักรยานยนต์ที่ปรากฏในคลิป เปิดเผยว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา ช่วงประมาณ 8.00 น. ขณะที่ตนขับขี่รถจักรยานยนต์บนเส้นถนนราชพฤกษ์ขาออกมุ่งหน้าไปยังท่าอิฐปากเกร็ด เมื่อมาถึงบริเวณใต้ทางต่างระดับ ตนได้ยินเสียงบีบแตรดังมาจากข้างหลัง และรถยนต์คันก่อเหตุก็เฉี่ยวชนรถของตนทันทีโดยไม่ทันตั้งตัว ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นไวมาก โชคดีที่วันนั้นตนสามารถประคองรถเอาไว้ได้เลย ทำให้รถไม่ล้มแต่ก็เซเล็กน้อย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000020301

    #MGROnline #มาสด้าแดง #พี่แว่นมาสด้าแดง #ตั้งใจชน #พยายามฆ่า #สายไหมต้องรอด
    ทีมงานเพจสายไหมต้องรอด เตรียมพาชายขี่ จยย.ถูกคนขับเก๋งสีแดงเฉี่ยวชน บนถนนราชพฤกษ์ เข้าแจ้งความเอาผิด อาจเข้าข่ายพยายามฆ่า • จากกรณีโซเชียลมีเดียมีการแชร์คลิปเหตุการณ์จากกล้องหน้ารถยนต์เก๋งสีแดงขับเฉี่ยวรถจักรยานยนต์บนถนนเลนขวาสุด ซึ่งต่อมาคนในสังคมโซเชียลมีเดีย ต่างเข้าแสดงความคิดเห็น และตั้งคำถามว่า คนขับขี่รถยนต์เก๋งสีแดงขับรถแบบนี้ มีเจตนาชนรถจักรยานยนต์หรือไม่นั้น • ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (2 มี.ค.) ที่เพจสายไหมต้องรอด นายจินตการ อายุ 49 ปี ผู้ขี่รถจักรยานยนต์ที่ปรากฏในคลิป เปิดเผยว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา ช่วงประมาณ 8.00 น. ขณะที่ตนขับขี่รถจักรยานยนต์บนเส้นถนนราชพฤกษ์ขาออกมุ่งหน้าไปยังท่าอิฐปากเกร็ด เมื่อมาถึงบริเวณใต้ทางต่างระดับ ตนได้ยินเสียงบีบแตรดังมาจากข้างหลัง และรถยนต์คันก่อเหตุก็เฉี่ยวชนรถของตนทันทีโดยไม่ทันตั้งตัว ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นไวมาก โชคดีที่วันนั้นตนสามารถประคองรถเอาไว้ได้เลย ทำให้รถไม่ล้มแต่ก็เซเล็กน้อย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000020301 • #MGROnline #มาสด้าแดง #พี่แว่นมาสด้าแดง #ตั้งใจชน #พยายามฆ่า #สายไหมต้องรอด
    0 Comments 0 Shares 133 Views 0 Reviews
  • "นิด้าโพล" เผยประชาชนส่วนใหญ่ไม่ค่อยพอใจผลงาน6เดือน รัฐบาลนายกฯอุ๊งอิ๊ง
    https://www.thai-tai.tv/news/17447/
    "นิด้าโพล" เผยประชาชนส่วนใหญ่ไม่ค่อยพอใจผลงาน6เดือน รัฐบาลนายกฯอุ๊งอิ๊ง https://www.thai-tai.tv/news/17447/
    0 Comments 0 Shares 44 Views 0 Reviews
  • ยังมีชาวยูเครนที่โชคร้ายทุกวัน พวกเขาเฝ้ารอวันยุติของสงคราม เพื่อจะได้กลับมาใช้ชีวิตปกติ ออกจากบ้านของพวกเขาได้อย่างสบายใจ
    ยังมีชาวยูเครนที่โชคร้ายทุกวัน พวกเขาเฝ้ารอวันยุติของสงคราม เพื่อจะได้กลับมาใช้ชีวิตปกติ ออกจากบ้านของพวกเขาได้อย่างสบายใจ
    0 Comments 0 Shares 207 Views 25 0 Reviews
  • ประตูเปิดทางทิศเหนือ

    เดือนนี้ ทุกๆปัญหาเกิดจากเหตุปัจจัยในเรื่องของเงินๆทองๆ เป็นผลสืบเนื่องจากผลประโยชน์ที่ไม่ลงตัว จึงเกิด การแข่งขันชิงดีชิงเด่นให้เกิดการแตกแยก ใส่ร้ายป้ายสี นินทาว่าร้ายต่อกัน จนกระทั่งเกิดเรื่องทะเลาะเบาะแว้ง วิวาทะ ใช้กำลังชกต่อยต่อสู้ห้ำหั่นกัน เป็นผลให้เกิดคดีความยืดเยื้อต้องขึ้นโรงขึ้นศาลยาวนาน รวมทั้งต้องระวัง ป้องกันภัยจากพวกมิจฉาชีพ เพื่อหลีกห่างปัญหาจากการปล้นโจรกรรม อีกประเด็นหนึ่งที่ผู้สูงวัยควรจะต้องใช้ สติข่มอารมณ์ เพื่อยับยั้งชั่งใจต่อเสน่ห์เด็กสาววัยรุ่น จะได้ไม่เกิดเรื่องวุ่นๆทางชู้สาวคาวโลกีย์ให้เสียผู้เสียคน อีกทั้งระมัดระวังอุบัติเหตุจากยวดยานพาหนะขณะสัญจรเดินทางไปมา ตลอดจนของมีคมให้บาดเจ็บเลือดตก ยางออก ต้องผ่าตัดรักษาอาการเจ็บไข้ได้ป่วย

    เสริมมงคล : ปลาโลหะสีทอง/เงิน/ขาว

    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้

    🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG
    ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง)
    .
    .
    #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร
    #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    ประตูเปิดทางทิศเหนือ เดือนนี้ ทุกๆปัญหาเกิดจากเหตุปัจจัยในเรื่องของเงินๆทองๆ เป็นผลสืบเนื่องจากผลประโยชน์ที่ไม่ลงตัว จึงเกิด การแข่งขันชิงดีชิงเด่นให้เกิดการแตกแยก ใส่ร้ายป้ายสี นินทาว่าร้ายต่อกัน จนกระทั่งเกิดเรื่องทะเลาะเบาะแว้ง วิวาทะ ใช้กำลังชกต่อยต่อสู้ห้ำหั่นกัน เป็นผลให้เกิดคดีความยืดเยื้อต้องขึ้นโรงขึ้นศาลยาวนาน รวมทั้งต้องระวัง ป้องกันภัยจากพวกมิจฉาชีพ เพื่อหลีกห่างปัญหาจากการปล้นโจรกรรม อีกประเด็นหนึ่งที่ผู้สูงวัยควรจะต้องใช้ สติข่มอารมณ์ เพื่อยับยั้งชั่งใจต่อเสน่ห์เด็กสาววัยรุ่น จะได้ไม่เกิดเรื่องวุ่นๆทางชู้สาวคาวโลกีย์ให้เสียผู้เสียคน อีกทั้งระมัดระวังอุบัติเหตุจากยวดยานพาหนะขณะสัญจรเดินทางไปมา ตลอดจนของมีคมให้บาดเจ็บเลือดตก ยางออก ต้องผ่าตัดรักษาอาการเจ็บไข้ได้ป่วย เสริมมงคล : ปลาโลหะสีทอง/เงิน/ขาว ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้ 🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง) . . #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    0 Comments 0 Shares 70 Views 0 Reviews
  • จีน โต้เดือดแบบเจ็บๆ ปม 40 อุยกูร์ ยันดูแลคุ้มครองสิทธิมนุษยชนเต็มที่
    https://www.thai-tai.tv/news/17448/
    จีน โต้เดือดแบบเจ็บๆ ปม 40 อุยกูร์ ยันดูแลคุ้มครองสิทธิมนุษยชนเต็มที่ https://www.thai-tai.tv/news/17448/
    0 Comments 0 Shares 39 Views 0 Reviews