• กัมพูชาสหรัฐฯ เปิดศึก “ตัดเส้นเลือด” อาชญากรรมไซเบอร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อ Huione Group จากกัมพูชา บริษัทของญาติฮุน เซน กลายเป็นตัวอย่างของสงครามการเงินยุคดิจิทัลเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้ขยับหมากชุดใหญ่ ด้วยการออกประกาศตาม มาตรา 311 ของกฎหมาย PATRIOT Actเพื่อตัดการเชื่อมต่อกลุ่มทุนจากกัมพูชาที่ชื่อว่า Huione Groupออกจากระบบการเงินสหรัฐฯ อย่างถาวรนี่ไม่ใช่การคว่ำบาตรแบบที่เราคุ้นชินจาก OFAC ที่แค่ “แช่แข็งบัญชี”แต่นี่คือการ ตัดเส้นเลือดใหญ่ ขององค์กรอาชญากรรมไซเบอร์ข้ามชาติที่ผูกโยงกันระหว่างโลกเงินสด ธนาคารดั้งเดิม และโลกคริปโตเคอร์เรนซีHuione Group คือ “หัวใจโลกการเงิน” ของอุตสาหกรรมโกงออนไลน์ในเอเชียตามประกาศของ FinCEN (หน่วยงานปราบปรามการฟอกเงิน)Huione Group ฟอกเงินรวมกันกว่า 4 พันล้านดอลลาร์ ในเวลาไม่ถึง 4 ปี!•37 ล้านดอลลาร์ มาจากปฏิบัติการไซเบอร์ที่ได้รับการหนุนหลังโดยรัฐเกาหลีเหนือ•36 ล้านดอลลาร์ จากกลโกงลงทุนแบบ “Pig Butchering” (หลอกลงทุนจนหมดตัว)•และ 300 ล้านดอลลาร์ จากอาชญากรรมไซเบอร์รูปแบบอื่นๆสิ่งที่น่ากลัวคือ Huione ไม่ได้ทำแค่ในโลกออนไลน์แต่มันมีทั้งสาขาในโลกจริง และโครงสร้างที่ดูเหมือนถูกกฎหมาย เช่น• Huione Pay สถาบันประมวลผลการชำระเงินในกัมพูชาที่มีใบอนุญาต•Huione Crypto แพลตฟอร์มบริการสินทรัพย์ดิจิทัล•Haowang Guarantee ตลาดออนไลน์ขายบริการผิดกฎหมายเว็บไซต์ของ Huione Guarantee ถูกอ้างถึงในรายงานของ UN ว่าเป็น “กลไกกลาง” ของอุตสาหกรรมโกงออนไลน์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเคยประมวลผลธุรกรรมไปมากกว่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์ ตั้งแต่ปี 2021!มาตรา 311 คือ อาวุธลับที่ไม่มีใครพูดถึงหลายคนรู้จักมาตรการคว่ำบาตรของ OFACแต่น้อยคนนักจะรู้ว่า “มาตรการแรงที่สุด” ของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ คือ Section 311เพราะมันไม่ได้แค่แช่แข็งเงิน แต่เป็นการ ตัดการเชื่อมต่อโดยสิ้นเชิง กับระบบดอลลาร์ความต่างระหว่าง 311 vs OFACหัวข้อมาตรา 311OFAC Sanctionsบังคับใช้โดย FinCENOFACจุดประสงค์เพื่อต่อต้านฟอกเงิน & ก่อการร้ายความมั่นคงชาติ (การค้า อาวุธ มนุษยชน)สิ่วที่จะเกิดขึ้น คือการจำกัดการเข้าถึงระบบธนาคารสหรัฐฯอายัดทรัพย์สินทันที (หากเป็น “interim final rule”)หลังประกาศธนาคารทั่วโลกจะ “เลิกยุ่ง” โดยสมัครใจ เพราะไม่คุ้มเสี่ยงต้องปฏิบัติตามทันทีกล่าวง่ายๆ คือ ถ้า OFAC เป็น “ตำรวจล้อมจับ” Section 311 คือ “ตัดสายเลือด” ไม่ให้เงินไหลเข้า-ออกระบบเลยทำไม Huione ถึงน่ากลัว?เพราะ Huione ไม่ได้เป็นแค่แพลตฟอร์มแต่มันคือ ระบบนิเวศของอาชญากรรม ที่เชื่อมโลกการเงินดั้งเดิมเข้ากับคริปโตอย่างแนบเนียน•มีทั้ง Stablecoin (USDH) ที่โฆษณาชัดว่า “ไม่มีระบบอายัดทรัพย์สิน”•มี Blockchain ของตัวเอง เพื่อหลีกเลี่ยงการติดตามธุรกรรม•มีการเคลื่อนย้ายเงิน ข้าม Chain (Ethereum, BSC, Tron, Huione Chain)•และยังมีบริการแปลง Fiat → Crypto → Fiat ที่ทำให้ธนาคารตามไม่ทันระบบธนาคารทั่วไปเห็นแค่ “ถอนเงินปกติ” แต่ Blockchain วิเคราะห์ลึกถึงขั้นพบว่าเงินมาจากการโกงออนไลน์ดังนั้น ถ้าไม่มีระบบที่เชื่อมต่อข้อมูลโลก “on-chain” และ “off-chain”ธนาคารก็จะมองไม่เห็นความเสี่ยงเลยแม้ว่า Section 311 จะมีเวลาให้แสดงความเห็น 30 วันแต่ในทางปฏิบัติผลกระทบจะเริ่มต้นทันทีเพราะธนาคารต้อง1.รีบตรวจสอบ ว่ามีลูกค้าหรือพาร์ทเนอร์ที่เกี่ยวข้องกับ Huione หรือไม่2.ย้อนดูธุรกรรมย้อนหลัง หลายปี เพื่อทำ Suspicious Activity Report (SAR)3.ขยายขอบเขต ไปยังบุคคลที่ 3 ที่อาจเกี่ยวข้องโดยอ้อม4.รับมือกับข่าวสารใหม่ ที่หลั่งไหลเข้ามาทุกวันเกี่ยวกับเครือข่ายนี้กรณี Huione สอนเราว่าการฟอกเงินยุคใหม่ ไม่ใช่แค่ใส่เงินเข้าเครื่องซัก แล้วออกมาใหม่ แต่มันคือกาใช้กลไกซับซ้อนระหว่างโลกคริปโต และธนาคาร ซ่อนเงินไว้หลาย Layer ที่ไม่มีใครคนเดียวมองเห็นทั้งหมด ต้องใช้เทคโนโลยีเข้าช่วย องค์กรที่ไม่มี ระบบ compliance ที่เชื่อมโลกเก่ากับโลกใหม่เข้าด้วยกันจะกลายเป็นเหยื่อรายต่อไป ไม่ใช่แค่เสียชื่อเสียง แต่อาจถูกตั้งข้อหา “ละเลยความเสี่ยง” และเสียใบอนุญาตได้Huione Group ไม่ใช่แค่บริษัทหนึ่งแต่มันคือสัญลักษณ์ของยุคที่อาชญากรใช้เทคโนโลยีล้ำหน้ากว่า Regulatorและโลกการเงินต้องตื่นตัว ปรับตัวอย่างไม่รีรอตัดท่อน้ำเลี้ยงให้เร็ว ก่อนที่ระบบจะล่มทั้งเครือข่าย ที่มา : https://x.com/galadriel_tx/status/1934425378522828961?s=46&t=nn3z3yuHSlOFcPbFyzmrQA
    กัมพูชาสหรัฐฯ เปิดศึก “ตัดเส้นเลือด” อาชญากรรมไซเบอร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อ Huione Group จากกัมพูชา บริษัทของญาติฮุน เซน กลายเป็นตัวอย่างของสงครามการเงินยุคดิจิทัลเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้ขยับหมากชุดใหญ่ ด้วยการออกประกาศตาม มาตรา 311 ของกฎหมาย PATRIOT Actเพื่อตัดการเชื่อมต่อกลุ่มทุนจากกัมพูชาที่ชื่อว่า Huione Groupออกจากระบบการเงินสหรัฐฯ อย่างถาวรนี่ไม่ใช่การคว่ำบาตรแบบที่เราคุ้นชินจาก OFAC ที่แค่ “แช่แข็งบัญชี”แต่นี่คือการ ตัดเส้นเลือดใหญ่ ขององค์กรอาชญากรรมไซเบอร์ข้ามชาติที่ผูกโยงกันระหว่างโลกเงินสด ธนาคารดั้งเดิม และโลกคริปโตเคอร์เรนซีHuione Group คือ “หัวใจโลกการเงิน” ของอุตสาหกรรมโกงออนไลน์ในเอเชียตามประกาศของ FinCEN (หน่วยงานปราบปรามการฟอกเงิน)Huione Group ฟอกเงินรวมกันกว่า 4 พันล้านดอลลาร์ ในเวลาไม่ถึง 4 ปี!•37 ล้านดอลลาร์ มาจากปฏิบัติการไซเบอร์ที่ได้รับการหนุนหลังโดยรัฐเกาหลีเหนือ•36 ล้านดอลลาร์ จากกลโกงลงทุนแบบ “Pig Butchering” (หลอกลงทุนจนหมดตัว)•และ 300 ล้านดอลลาร์ จากอาชญากรรมไซเบอร์รูปแบบอื่นๆสิ่งที่น่ากลัวคือ Huione ไม่ได้ทำแค่ในโลกออนไลน์แต่มันมีทั้งสาขาในโลกจริง และโครงสร้างที่ดูเหมือนถูกกฎหมาย เช่น• Huione Pay สถาบันประมวลผลการชำระเงินในกัมพูชาที่มีใบอนุญาต•Huione Crypto แพลตฟอร์มบริการสินทรัพย์ดิจิทัล•Haowang Guarantee ตลาดออนไลน์ขายบริการผิดกฎหมายเว็บไซต์ของ Huione Guarantee ถูกอ้างถึงในรายงานของ UN ว่าเป็น “กลไกกลาง” ของอุตสาหกรรมโกงออนไลน์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเคยประมวลผลธุรกรรมไปมากกว่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์ ตั้งแต่ปี 2021!มาตรา 311 คือ อาวุธลับที่ไม่มีใครพูดถึงหลายคนรู้จักมาตรการคว่ำบาตรของ OFACแต่น้อยคนนักจะรู้ว่า “มาตรการแรงที่สุด” ของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ คือ Section 311เพราะมันไม่ได้แค่แช่แข็งเงิน แต่เป็นการ ตัดการเชื่อมต่อโดยสิ้นเชิง กับระบบดอลลาร์ความต่างระหว่าง 311 vs OFACหัวข้อมาตรา 311OFAC Sanctionsบังคับใช้โดย FinCENOFACจุดประสงค์เพื่อต่อต้านฟอกเงิน & ก่อการร้ายความมั่นคงชาติ (การค้า อาวุธ มนุษยชน)สิ่วที่จะเกิดขึ้น คือการจำกัดการเข้าถึงระบบธนาคารสหรัฐฯอายัดทรัพย์สินทันที (หากเป็น “interim final rule”)หลังประกาศธนาคารทั่วโลกจะ “เลิกยุ่ง” โดยสมัครใจ เพราะไม่คุ้มเสี่ยงต้องปฏิบัติตามทันทีกล่าวง่ายๆ คือ ถ้า OFAC เป็น “ตำรวจล้อมจับ” Section 311 คือ “ตัดสายเลือด” ไม่ให้เงินไหลเข้า-ออกระบบเลยทำไม Huione ถึงน่ากลัว?เพราะ Huione ไม่ได้เป็นแค่แพลตฟอร์มแต่มันคือ ระบบนิเวศของอาชญากรรม ที่เชื่อมโลกการเงินดั้งเดิมเข้ากับคริปโตอย่างแนบเนียน•มีทั้ง Stablecoin (USDH) ที่โฆษณาชัดว่า “ไม่มีระบบอายัดทรัพย์สิน”•มี Blockchain ของตัวเอง เพื่อหลีกเลี่ยงการติดตามธุรกรรม•มีการเคลื่อนย้ายเงิน ข้าม Chain (Ethereum, BSC, Tron, Huione Chain)•และยังมีบริการแปลง Fiat → Crypto → Fiat ที่ทำให้ธนาคารตามไม่ทันระบบธนาคารทั่วไปเห็นแค่ “ถอนเงินปกติ” แต่ Blockchain วิเคราะห์ลึกถึงขั้นพบว่าเงินมาจากการโกงออนไลน์ดังนั้น ถ้าไม่มีระบบที่เชื่อมต่อข้อมูลโลก “on-chain” และ “off-chain”ธนาคารก็จะมองไม่เห็นความเสี่ยงเลยแม้ว่า Section 311 จะมีเวลาให้แสดงความเห็น 30 วันแต่ในทางปฏิบัติผลกระทบจะเริ่มต้นทันทีเพราะธนาคารต้อง1.รีบตรวจสอบ ว่ามีลูกค้าหรือพาร์ทเนอร์ที่เกี่ยวข้องกับ Huione หรือไม่2.ย้อนดูธุรกรรมย้อนหลัง หลายปี เพื่อทำ Suspicious Activity Report (SAR)3.ขยายขอบเขต ไปยังบุคคลที่ 3 ที่อาจเกี่ยวข้องโดยอ้อม4.รับมือกับข่าวสารใหม่ ที่หลั่งไหลเข้ามาทุกวันเกี่ยวกับเครือข่ายนี้กรณี Huione สอนเราว่าการฟอกเงินยุคใหม่ ไม่ใช่แค่ใส่เงินเข้าเครื่องซัก แล้วออกมาใหม่ แต่มันคือกาใช้กลไกซับซ้อนระหว่างโลกคริปโต และธนาคาร ซ่อนเงินไว้หลาย Layer ที่ไม่มีใครคนเดียวมองเห็นทั้งหมด ต้องใช้เทคโนโลยีเข้าช่วย องค์กรที่ไม่มี ระบบ compliance ที่เชื่อมโลกเก่ากับโลกใหม่เข้าด้วยกันจะกลายเป็นเหยื่อรายต่อไป ไม่ใช่แค่เสียชื่อเสียง แต่อาจถูกตั้งข้อหา “ละเลยความเสี่ยง” และเสียใบอนุญาตได้Huione Group ไม่ใช่แค่บริษัทหนึ่งแต่มันคือสัญลักษณ์ของยุคที่อาชญากรใช้เทคโนโลยีล้ำหน้ากว่า Regulatorและโลกการเงินต้องตื่นตัว ปรับตัวอย่างไม่รีรอตัดท่อน้ำเลี้ยงให้เร็ว ก่อนที่ระบบจะล่มทั้งเครือข่าย ที่มา : https://x.com/galadriel_tx/status/1934425378522828961?s=46&t=nn3z3yuHSlOFcPbFyzmrQA
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 102 มุมมอง 0 รีวิว
  • 📈 Coinbase เตรียมเปิดตัวบริการซื้อขาย Perpetual Futures ในสหรัฐฯ
    Coinbase กำลังเตรียมเปิดตัว บริการซื้อขาย Perpetual Futures ที่สอดคล้องกับข้อกำหนดของ CFTC ซึ่งเป็น ก้าวสำคัญในการขยายตลาดอนุพันธ์คริปโตในสหรัฐฯ

    Perpetual Futures เป็น ตราสารอนุพันธ์ที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถเดิมพันราคาของสินทรัพย์ดิจิทัลโดยไม่มีวันหมดอายุ และ มีการซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมง

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Coinbase เตรียมเปิดตัวบริการซื้อขาย Perpetual Futures ในสหรัฐฯ
    - บริการนี้จะสอดคล้องกับข้อกำหนดของ Commodity Futures Trading Commission (CFTC)
    - Perpetual Futures ช่วยให้นักลงทุนสามารถเดิมพันราคาของสินทรัพย์ดิจิทัลโดยไม่มีวันหมดอายุ
    - Max Branzburg รองประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ Coinbase ประกาศข่าวนี้ในงาน State of Crypto Summit ที่นิวยอร์ก
    - ตลาดคริปโตได้รับแรงหนุนจากความหวังเกี่ยวกับกฎระเบียบที่ผ่อนคลายและความต้องการความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น

    🔥 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมคริปโต
    Coinbase เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่ผลักดันให้ตลาดอนุพันธ์คริปโตเติบโตในสหรัฐฯ โดย นักลงทุนสามารถใช้ตราสารอนุพันธ์เพื่อป้องกันความเสี่ยงหรือเพิ่มผลตอบแทน

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - Perpetual Futures มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากมีเลเวอเรจสูงและสามารถทำให้เกิดการขาดทุนจำนวนมาก
    - ตลาดอนุพันธ์คริปโตยังคงอยู่ภายใต้การตรวจสอบจากหน่วยงานกำกับดูแล
    - ต้องติดตามว่า CFTC จะมีข้อกำหนดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซื้อขายตราสารอนุพันธ์คริปโตหรือไม่
    - นักลงทุนควรศึกษาความเสี่ยงก่อนเข้าร่วมตลาดอนุพันธ์คริปโต

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/13/coinbase-to-launch-cftc-compliant-perpetual-futures-trading-in-us
    📈 Coinbase เตรียมเปิดตัวบริการซื้อขาย Perpetual Futures ในสหรัฐฯ Coinbase กำลังเตรียมเปิดตัว บริการซื้อขาย Perpetual Futures ที่สอดคล้องกับข้อกำหนดของ CFTC ซึ่งเป็น ก้าวสำคัญในการขยายตลาดอนุพันธ์คริปโตในสหรัฐฯ Perpetual Futures เป็น ตราสารอนุพันธ์ที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถเดิมพันราคาของสินทรัพย์ดิจิทัลโดยไม่มีวันหมดอายุ และ มีการซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมง ✅ ข้อมูลจากข่าว - Coinbase เตรียมเปิดตัวบริการซื้อขาย Perpetual Futures ในสหรัฐฯ - บริการนี้จะสอดคล้องกับข้อกำหนดของ Commodity Futures Trading Commission (CFTC) - Perpetual Futures ช่วยให้นักลงทุนสามารถเดิมพันราคาของสินทรัพย์ดิจิทัลโดยไม่มีวันหมดอายุ - Max Branzburg รองประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ Coinbase ประกาศข่าวนี้ในงาน State of Crypto Summit ที่นิวยอร์ก - ตลาดคริปโตได้รับแรงหนุนจากความหวังเกี่ยวกับกฎระเบียบที่ผ่อนคลายและความต้องการความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น 🔥 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมคริปโต Coinbase เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่ผลักดันให้ตลาดอนุพันธ์คริปโตเติบโตในสหรัฐฯ โดย นักลงทุนสามารถใช้ตราสารอนุพันธ์เพื่อป้องกันความเสี่ยงหรือเพิ่มผลตอบแทน ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - Perpetual Futures มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากมีเลเวอเรจสูงและสามารถทำให้เกิดการขาดทุนจำนวนมาก - ตลาดอนุพันธ์คริปโตยังคงอยู่ภายใต้การตรวจสอบจากหน่วยงานกำกับดูแล - ต้องติดตามว่า CFTC จะมีข้อกำหนดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซื้อขายตราสารอนุพันธ์คริปโตหรือไม่ - นักลงทุนควรศึกษาความเสี่ยงก่อนเข้าร่วมตลาดอนุพันธ์คริปโต https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/13/coinbase-to-launch-cftc-compliant-perpetual-futures-trading-in-us
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Coinbase to launch CFTC-compliant perpetual futures trading in US
    (Reuters) -Coinbase plans to launch perpetual futures trading in the United States, with the offering set to comply with regulatory standards outlined by the Commodity Futures Trading Commission, a top executive at the crypto exchange said on Thursday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 78 มุมมอง 0 รีวิว
  • 📈 กองทุนคริปโตทำสถิติสูงสุด นักลงทุนใช้เป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยง
    สินทรัพย์ที่ถือครองโดย กองทุนคริปโต ทำสถิติสูงสุดในเดือนพฤษภาคม 2025 โดยมี เงินไหลเข้าสุทธิ 7.05 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2024 ทำให้ มูลค่ารวมของสินทรัพย์ภายใต้การบริหารเพิ่มขึ้นเป็น 167 พันล้านดอลลาร์

    🔍 เหตุผลที่นักลงทุนหันมาใช้คริปโต
    การผ่อนคลายความตึงเครียดทางการค้า ช่วยเพิ่มความต้องการสินทรัพย์เสี่ยง และนักลงทุนบางส่วน ใช้คริปโตเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด รวมถึง กระจายพอร์ตการลงทุนออกจากสินทรัพย์ในสหรัฐฯ

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - กองทุนคริปโตมีเงินไหลเข้าสุทธิ 7.05 พันล้านดอลลาร์ในเดือนพฤษภาคม
    - มูลค่ารวมของสินทรัพย์ภายใต้การบริหารเพิ่มขึ้นเป็น 167 พันล้านดอลลาร์
    - Bitcoin เพิ่มขึ้นกว่า 15% ในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา
    - Bitcoin มีผลตอบแทนสูงกว่าดัชนี MSCI World (+3.6%) และทองคำ (+13.3%)
    - การอนุมัติ ETF ของ Bitcoin และ Ether ในสหรัฐฯ ช่วยเพิ่มการลงทุนจากสถาบัน

    🔥 การเปลี่ยนแปลงในพอร์ตการลงทุน
    ในขณะที่กองทุนคริปโตมีเงินไหลเข้า กองทุนหุ้นทั่วโลกมีเงินไหลออกสุทธิ 5.9 พันล้านดอลลาร์ และ กองทุนทองคำมีเงินไหลออกครั้งแรกในรอบ 15 เดือน

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - แม้ Bitcoin จะมีผลตอบแทนสูง แต่ยังคงเป็นสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูง
    - การลดลงของเงินไหลเข้าสู่กองทุนหุ้นและทองคำ อาจสะท้อนถึงความไม่แน่นอนของตลาด
    - ต้องติดตามว่าการลงทุนในคริปโตจะยังคงแข็งแกร่งหรือไม่ หลังจากกระแส ETF เริ่มนิ่ง
    - นักลงทุนควรพิจารณาความเสี่ยงของคริปโตในระยะยาว แม้ว่าจะมีการใช้เป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/09/crypto-funds039-assets-hit-record-high-as-investors-hedge-and-diversify
    📈 กองทุนคริปโตทำสถิติสูงสุด นักลงทุนใช้เป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยง สินทรัพย์ที่ถือครองโดย กองทุนคริปโต ทำสถิติสูงสุดในเดือนพฤษภาคม 2025 โดยมี เงินไหลเข้าสุทธิ 7.05 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2024 ทำให้ มูลค่ารวมของสินทรัพย์ภายใต้การบริหารเพิ่มขึ้นเป็น 167 พันล้านดอลลาร์ 🔍 เหตุผลที่นักลงทุนหันมาใช้คริปโต การผ่อนคลายความตึงเครียดทางการค้า ช่วยเพิ่มความต้องการสินทรัพย์เสี่ยง และนักลงทุนบางส่วน ใช้คริปโตเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด รวมถึง กระจายพอร์ตการลงทุนออกจากสินทรัพย์ในสหรัฐฯ ✅ ข้อมูลจากข่าว - กองทุนคริปโตมีเงินไหลเข้าสุทธิ 7.05 พันล้านดอลลาร์ในเดือนพฤษภาคม - มูลค่ารวมของสินทรัพย์ภายใต้การบริหารเพิ่มขึ้นเป็น 167 พันล้านดอลลาร์ - Bitcoin เพิ่มขึ้นกว่า 15% ในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา - Bitcoin มีผลตอบแทนสูงกว่าดัชนี MSCI World (+3.6%) และทองคำ (+13.3%) - การอนุมัติ ETF ของ Bitcoin และ Ether ในสหรัฐฯ ช่วยเพิ่มการลงทุนจากสถาบัน 🔥 การเปลี่ยนแปลงในพอร์ตการลงทุน ในขณะที่กองทุนคริปโตมีเงินไหลเข้า กองทุนหุ้นทั่วโลกมีเงินไหลออกสุทธิ 5.9 พันล้านดอลลาร์ และ กองทุนทองคำมีเงินไหลออกครั้งแรกในรอบ 15 เดือน ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - แม้ Bitcoin จะมีผลตอบแทนสูง แต่ยังคงเป็นสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูง - การลดลงของเงินไหลเข้าสู่กองทุนหุ้นและทองคำ อาจสะท้อนถึงความไม่แน่นอนของตลาด - ต้องติดตามว่าการลงทุนในคริปโตจะยังคงแข็งแกร่งหรือไม่ หลังจากกระแส ETF เริ่มนิ่ง - นักลงทุนควรพิจารณาความเสี่ยงของคริปโตในระยะยาว แม้ว่าจะมีการใช้เป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/09/crypto-funds039-assets-hit-record-high-as-investors-hedge-and-diversify
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Crypto funds' assets hit record high as investors hedge and diversify
    (Reuters) -Assets held in crypto funds hit a record high in May as easing trade tensions lifted risk appetite and some investors used the digital currencies to hedge against market volatility and diversify from their U.S. holdings.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 147 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🚨 แอปหลอกลวงบน Play Store: มิจฉาชีพใช้แอปคริปโตปลอมเพื่อขโมยข้อมูล
    นักวิจัยจาก Cyble Research and Intelligence Labs พบว่า มีแอปคริปโตหลอกลวงอย่างน้อย 20 แอปบน Google Play Store ที่ปลอมตัวเป็น แอปกระเป๋าเงินคริปโตที่ถูกต้อง เพื่อหลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลสำคัญ เช่น 12-word mnemonic phrase ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการเข้าถึงกระเป๋าเงินดิจิทัล

    🔍 วิธีการทำงานของแอปหลอกลวง
    แอปเหล่านี้ใช้ บัญชีผู้พัฒนาที่เคยเผยแพร่แอปถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับจาก Google และ ใช้โครงสร้างฟิชชิ่งที่เชื่อมโยงกับกว่า 50 โดเมน ทำให้ สามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Cyble พบแอปคริปโตหลอกลวงอย่างน้อย 20 แอปบน Play Store
    - แอปเหล่านี้ปลอมตัวเป็นแอปกระเป๋าเงินคริปโตที่ถูกต้อง
    - ใช้บัญชีผู้พัฒนาที่เคยเผยแพร่แอปถูกต้องตามกฎหมายเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ
    - มีโครงสร้างฟิชชิ่งที่เชื่อมโยงกับกว่า 50 โดเมน
    - ผู้ใช้ถูกหลอกให้กรอก 12-word mnemonic phrase ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการเข้าถึงกระเป๋าเงิน

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - หากคุณดาวน์โหลดแอปเหล่านี้ ควรลบออกทันทีเพื่อป้องกันการสูญเสียสินทรัพย์ดิจิทัล
    - Google Play Store แม้จะมีมาตรการตรวจสอบ แต่ยังคงมีแอปหลอกลวงเล็ดลอดเข้ามาได้
    - บัญชีผู้พัฒนาที่เคยเผยแพร่แอปถูกต้องตามกฎหมายอาจถูกแฮกและนำไปใช้เผยแพร่แอปหลอกลวง
    - ต้องติดตามว่ามาตรการของ Google จะสามารถป้องกันแอปประเภทนี้ได้ดีขึ้นหรือไม่

    🚀 วิธีป้องกันการตกเป็นเหยื่อ
    ผู้ใช้ควร ตรวจสอบชื่อผู้พัฒนาและรีวิวของแอปก่อนดาวน์โหลด และ ใช้กระเป๋าเงินคริปโตจากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้น

    https://www.neowin.net/news/these-20-crypto-phishing-applications-are-scamming-play-store-users/
    🚨 แอปหลอกลวงบน Play Store: มิจฉาชีพใช้แอปคริปโตปลอมเพื่อขโมยข้อมูล นักวิจัยจาก Cyble Research and Intelligence Labs พบว่า มีแอปคริปโตหลอกลวงอย่างน้อย 20 แอปบน Google Play Store ที่ปลอมตัวเป็น แอปกระเป๋าเงินคริปโตที่ถูกต้อง เพื่อหลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลสำคัญ เช่น 12-word mnemonic phrase ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการเข้าถึงกระเป๋าเงินดิจิทัล 🔍 วิธีการทำงานของแอปหลอกลวง แอปเหล่านี้ใช้ บัญชีผู้พัฒนาที่เคยเผยแพร่แอปถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับจาก Google และ ใช้โครงสร้างฟิชชิ่งที่เชื่อมโยงกับกว่า 50 โดเมน ทำให้ สามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว ✅ ข้อมูลจากข่าว - Cyble พบแอปคริปโตหลอกลวงอย่างน้อย 20 แอปบน Play Store - แอปเหล่านี้ปลอมตัวเป็นแอปกระเป๋าเงินคริปโตที่ถูกต้อง - ใช้บัญชีผู้พัฒนาที่เคยเผยแพร่แอปถูกต้องตามกฎหมายเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ - มีโครงสร้างฟิชชิ่งที่เชื่อมโยงกับกว่า 50 โดเมน - ผู้ใช้ถูกหลอกให้กรอก 12-word mnemonic phrase ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการเข้าถึงกระเป๋าเงิน ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - หากคุณดาวน์โหลดแอปเหล่านี้ ควรลบออกทันทีเพื่อป้องกันการสูญเสียสินทรัพย์ดิจิทัล - Google Play Store แม้จะมีมาตรการตรวจสอบ แต่ยังคงมีแอปหลอกลวงเล็ดลอดเข้ามาได้ - บัญชีผู้พัฒนาที่เคยเผยแพร่แอปถูกต้องตามกฎหมายอาจถูกแฮกและนำไปใช้เผยแพร่แอปหลอกลวง - ต้องติดตามว่ามาตรการของ Google จะสามารถป้องกันแอปประเภทนี้ได้ดีขึ้นหรือไม่ 🚀 วิธีป้องกันการตกเป็นเหยื่อ ผู้ใช้ควร ตรวจสอบชื่อผู้พัฒนาและรีวิวของแอปก่อนดาวน์โหลด และ ใช้กระเป๋าเงินคริปโตจากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้น https://www.neowin.net/news/these-20-crypto-phishing-applications-are-scamming-play-store-users/
    WWW.NEOWIN.NET
    These 20 crypto phishing applications are scamming Play Store users
    A cybersecurity firm has discovered over 20 crypto phishing apps on the Google Play Store that are trying to steal users' crypto wallet data.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 184 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหราชอาณาจักรเตรียมยกเลิกการแบน ETNs ด้านคริปโตสำหรับนักลงทุนรายย่อย
    Financial Conduct Authority (FCA) ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินของสหราชอาณาจักร ได้ประกาศแผน ยกเลิกการแบนการซื้อขาย Crypto Exchange-Traded Notes (ETNs) สำหรับนักลงทุนรายย่อย ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในแนวทางของรัฐบาลต่อสินทรัพย์ดิจิทัล

    ก่อนหน้านี้ FCA ได้ อนุมัติการซื้อขาย ETNs สำหรับนักลงทุนมืออาชีพ แต่ยังคงแบนสำหรับนักลงทุนรายย่อย โดยให้เหตุผลว่า ETNs เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความเสี่ยงสูงและอาจก่อให้เกิดความเสียหายทางการเงิน

    อย่างไรก็ตาม FCA ได้เปลี่ยนจุดยืน โดยระบุว่า การยกเลิกการแบนจะช่วยสนับสนุนการเติบโตและความสามารถในการแข่งขันของตลาดคริปโต ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ แผนเศรษฐกิจดิจิทัลของรัฐบาลอังกฤษ

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - FCA เตรียมยกเลิกการแบน Crypto ETNs สำหรับนักลงทุนรายย่อย
    - ก่อนหน้านี้ ETNs ถูกจำกัดให้เฉพาะนักลงทุนมืออาชีพเท่านั้น
    - การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนเศรษฐกิจดิจิทัลของรัฐบาลอังกฤษ
    - ETNs ที่ขายให้กับนักลงทุนรายย่อยต้องอยู่บนแพลตฟอร์มที่ได้รับการอนุมัติจาก FCA
    - สหราชอาณาจักรเลือกแนวทางที่คล้ายกับสหรัฐฯ มากกว่าสหภาพยุโรป

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ETNs ยังคงเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง นักลงทุนอาจสูญเสียเงินทั้งหมด
    - FCA ยังคงแบนการซื้อขาย Crypto Derivatives สำหรับนักลงทุนรายย่อย
    - ต้องติดตามว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลต่อกฎระเบียบด้านคริปโตในอนาคตหรือไม่
    - นักลงทุนควรศึกษาความเสี่ยงของ ETNs ก่อนตัดสินใจลงทุน

    การยกเลิกการแบนนี้ อาจช่วยให้ตลาดคริปโตในสหราชอาณาจักรเติบโตขึ้น และ เพิ่มโอกาสในการลงทุนสำหรับนักลงทุนรายย่อย อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลต่อเสถียรภาพของตลาดหรือไม่

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/06/uk-to-end-ban-on-retail-investors-buying-crypto-exchange-traded-notes
    สหราชอาณาจักรเตรียมยกเลิกการแบน ETNs ด้านคริปโตสำหรับนักลงทุนรายย่อย Financial Conduct Authority (FCA) ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินของสหราชอาณาจักร ได้ประกาศแผน ยกเลิกการแบนการซื้อขาย Crypto Exchange-Traded Notes (ETNs) สำหรับนักลงทุนรายย่อย ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในแนวทางของรัฐบาลต่อสินทรัพย์ดิจิทัล ก่อนหน้านี้ FCA ได้ อนุมัติการซื้อขาย ETNs สำหรับนักลงทุนมืออาชีพ แต่ยังคงแบนสำหรับนักลงทุนรายย่อย โดยให้เหตุผลว่า ETNs เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความเสี่ยงสูงและอาจก่อให้เกิดความเสียหายทางการเงิน อย่างไรก็ตาม FCA ได้เปลี่ยนจุดยืน โดยระบุว่า การยกเลิกการแบนจะช่วยสนับสนุนการเติบโตและความสามารถในการแข่งขันของตลาดคริปโต ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ แผนเศรษฐกิจดิจิทัลของรัฐบาลอังกฤษ ✅ ข้อมูลจากข่าว - FCA เตรียมยกเลิกการแบน Crypto ETNs สำหรับนักลงทุนรายย่อย - ก่อนหน้านี้ ETNs ถูกจำกัดให้เฉพาะนักลงทุนมืออาชีพเท่านั้น - การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนเศรษฐกิจดิจิทัลของรัฐบาลอังกฤษ - ETNs ที่ขายให้กับนักลงทุนรายย่อยต้องอยู่บนแพลตฟอร์มที่ได้รับการอนุมัติจาก FCA - สหราชอาณาจักรเลือกแนวทางที่คล้ายกับสหรัฐฯ มากกว่าสหภาพยุโรป ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ETNs ยังคงเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง นักลงทุนอาจสูญเสียเงินทั้งหมด - FCA ยังคงแบนการซื้อขาย Crypto Derivatives สำหรับนักลงทุนรายย่อย - ต้องติดตามว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลต่อกฎระเบียบด้านคริปโตในอนาคตหรือไม่ - นักลงทุนควรศึกษาความเสี่ยงของ ETNs ก่อนตัดสินใจลงทุน การยกเลิกการแบนนี้ อาจช่วยให้ตลาดคริปโตในสหราชอาณาจักรเติบโตขึ้น และ เพิ่มโอกาสในการลงทุนสำหรับนักลงทุนรายย่อย อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลต่อเสถียรภาพของตลาดหรือไม่ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/06/uk-to-end-ban-on-retail-investors-buying-crypto-exchange-traded-notes
    WWW.THESTAR.COM.MY
    UK to end ban on retail investors buying crypto exchange-traded notes
    LONDON (Reuters) -Britain's financial regulator is to remove a ban on consumers buying crypto exchange-traded notes (ETNs), ditching its previous position of wanting to keep them out of the hands of retail investors.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 160 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบว่ามีการโจมตี Docker instances ที่ตั้งค่าผิดพลาด โดยแฮกเกอร์ใช้ช่องโหว่ของ Docker API ที่เปิดให้เข้าถึงจากอินเทอร์เน็ตเพื่อสร้าง botnet สำหรับขุดเหรียญ Dero cryptocurrency

    Docker เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถรันแอปพลิเคชันใน containers ซึ่งช่วยให้การจัดการซอฟต์แวร์มีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตาม หากตั้งค่า API ผิดพลาด อาจทำให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงและควบคุมระบบได้

    Dero เป็น privacy-focused blockchain ที่คล้ายกับ Monero โดยเน้นการทำธุรกรรมที่ไม่สามารถติดตามได้ ซึ่งทำให้เป็นที่นิยมในหมู่แฮกเกอร์ที่ต้องการขุดเหรียญโดยไม่ถูกตรวจสอบ

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Docker instances ที่ตั้งค่าผิดพลาด ถูกใช้เป็น botnet ขุดเหรียญ Dero
    - แฮกเกอร์ใช้ช่องโหว่ของ Docker API ที่เปิดให้เข้าถึงจากอินเทอร์เน็ต
    - มัลแวร์ที่ใช้มีสองส่วน ได้แก่ ตัวแพร่กระจาย (nginx) และ ตัวขุดเหรียญ
    - มัลแวร์ถูกเขียนด้วย Golang ทำให้ตรวจจับได้ยาก
    - แคมเปญนี้ไม่ใช้ command & control (C2) server แต่แพร่กระจายแบบ worm

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ผู้ใช้ Docker ควรตรวจสอบการตั้งค่า API และปิดการเข้าถึงจากอินเทอร์เน็ต
    - ควรใช้รหัสผ่านที่แข็งแกร่ง และเปิดใช้งานการตรวจสอบสิทธิ์แบบหลายขั้นตอน
    - ควรทำการตรวจสอบความปลอดภัยของระบบอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดความเสี่ยง
    - แฮกเกอร์อาจใช้เทคนิคใหม่ในการโจมตี ดังนั้นผู้ดูแลระบบควรติดตามข่าวสารด้านความปลอดภัย

    การโจมตีครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการตั้งค่าความปลอดภัยใน Docker instances และการป้องกันช่องโหว่ที่อาจถูกใช้โดยแฮกเกอร์

    https://www.techradar.com/pro/security/misconfigured-docker-instances-are-being-hacked-to-mine-cryptocurrency
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบว่ามีการโจมตี Docker instances ที่ตั้งค่าผิดพลาด โดยแฮกเกอร์ใช้ช่องโหว่ของ Docker API ที่เปิดให้เข้าถึงจากอินเทอร์เน็ตเพื่อสร้าง botnet สำหรับขุดเหรียญ Dero cryptocurrency Docker เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถรันแอปพลิเคชันใน containers ซึ่งช่วยให้การจัดการซอฟต์แวร์มีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตาม หากตั้งค่า API ผิดพลาด อาจทำให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงและควบคุมระบบได้ Dero เป็น privacy-focused blockchain ที่คล้ายกับ Monero โดยเน้นการทำธุรกรรมที่ไม่สามารถติดตามได้ ซึ่งทำให้เป็นที่นิยมในหมู่แฮกเกอร์ที่ต้องการขุดเหรียญโดยไม่ถูกตรวจสอบ ✅ ข้อมูลจากข่าว - Docker instances ที่ตั้งค่าผิดพลาด ถูกใช้เป็น botnet ขุดเหรียญ Dero - แฮกเกอร์ใช้ช่องโหว่ของ Docker API ที่เปิดให้เข้าถึงจากอินเทอร์เน็ต - มัลแวร์ที่ใช้มีสองส่วน ได้แก่ ตัวแพร่กระจาย (nginx) และ ตัวขุดเหรียญ - มัลแวร์ถูกเขียนด้วย Golang ทำให้ตรวจจับได้ยาก - แคมเปญนี้ไม่ใช้ command & control (C2) server แต่แพร่กระจายแบบ worm ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ผู้ใช้ Docker ควรตรวจสอบการตั้งค่า API และปิดการเข้าถึงจากอินเทอร์เน็ต - ควรใช้รหัสผ่านที่แข็งแกร่ง และเปิดใช้งานการตรวจสอบสิทธิ์แบบหลายขั้นตอน - ควรทำการตรวจสอบความปลอดภัยของระบบอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดความเสี่ยง - แฮกเกอร์อาจใช้เทคนิคใหม่ในการโจมตี ดังนั้นผู้ดูแลระบบควรติดตามข่าวสารด้านความปลอดภัย การโจมตีครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการตั้งค่าความปลอดภัยใน Docker instances และการป้องกันช่องโหว่ที่อาจถูกใช้โดยแฮกเกอร์ https://www.techradar.com/pro/security/misconfigured-docker-instances-are-being-hacked-to-mine-cryptocurrency
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 213 มุมมอง 0 รีวิว
  • GameStop บริษัทค้าปลีกวิดีโอเกมที่เคยเป็นกระแสจากปรากฏการณ์หุ้นมีมในปี 2021 ได้ลงทุนซื้อ Bitcoin มูลค่า 513 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อปรับกลยุทธ์ธุรกิจให้สอดคล้องกับแนวโน้มการยอมรับสกุลเงินดิจิทัลทั่วโลก โดยบริษัทซื้อ Bitcoin จำนวน 4,710 เหรียญ แม้ว่าจะไม่ได้เปิดเผยช่วงเวลาที่ทำการซื้อก็ตาม

    GameStop ดำเนินกลยุทธ์ที่คล้ายคลึงกับบริษัท Strategy ของ Michael Saylor ซึ่งเป็นบริษัทด้านซอฟต์แวร์ระดับองค์กรที่ถือครอง Bitcoin มากที่สุด และราคาหุ้นของ Strategy มักจะปรับตัวขึ้นตามราคาของ Bitcoin ทำให้นักลงทุนบางรายสนใจลงทุนในบริษัทนี้แทนการลงทุนใน Bitcoin โดยตรง

    การลงทุนใน Bitcoin ของ GameStop อาจช่วยกระตุ้นความสนใจของนักลงทุนและฟื้นฟูธุรกิจที่กำลังประสบปัญหาในการปรับตัวสู่ยุคดิจิทัล นอกจากนี้ หุ้นของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.4% ในช่วงก่อนเปิดตลาด ซึ่งสะท้อนถึงความหวังของนักลงทุนที่อาจมองว่าการเข้าสู่ตลาดคริปโตเป็นโอกาสใหม่

    🔍 สรุปข้อมูลหลักและคำเตือน
    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - GameStop ซื้อ Bitcoin มูลค่า 513 ล้านเหรียญ
    - ซื้อ Bitcoin จำนวน 4,710 เหรียญ
    - ราคาของ Bitcoin อยู่ที่ 108,903 เหรียญ ณ เวลา 7:00 น. ET
    - เป็นการซื้อ Bitcoin ครั้งแรกของบริษัทหลังประกาศแผนลงทุนในเดือนมีนาคม
    - หุ้นของ GameStop เพิ่มขึ้น 4.4% ในช่วงก่อนเปิดตลาด
    - บริษัทมีเงินสดและหลักทรัพย์มูลค่า 4.78 พันล้านเหรียญ ณ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2025

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - การลงทุนใน Bitcoin มีความเสี่ยงสูงเนื่องจากมูลค่าของสกุลเงินดิจิทัลมีความผันผวนอย่างมาก
    - นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนลงทุน เนื่องจาก Bitcoin อาจมีแนวโน้มลดลงหรือเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
    - เกมสต็อปกำลังเผชิญความท้าทายในการเปลี่ยนแปลงธุรกิจ และการซื้อ Bitcoin อาจเป็นเพียงกลยุทธ์ชั่วคราว
    - นักลงทุนที่สนใจหุ้น GameStop ควรพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ เช่น ศักยภาพในการฟื้นตัวของธุรกิจหลัก ไม่ใช่เพียงแค่การลงทุนใน Bitcoin

    GameStop อาจพยายามใช้กลยุทธ์นี้เพื่อสร้างความสนใจจากตลาดและนักลงทุน แต่ก็ยังคงต้องพิสูจน์ว่าการลงทุนใน Bitcoin จะช่วยให้ธุรกิจฟื้นตัวได้จริงหรือไม่

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/28/gamestop-buys-bitcoin-worth-513-million-in-crypto-push
    GameStop บริษัทค้าปลีกวิดีโอเกมที่เคยเป็นกระแสจากปรากฏการณ์หุ้นมีมในปี 2021 ได้ลงทุนซื้อ Bitcoin มูลค่า 513 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อปรับกลยุทธ์ธุรกิจให้สอดคล้องกับแนวโน้มการยอมรับสกุลเงินดิจิทัลทั่วโลก โดยบริษัทซื้อ Bitcoin จำนวน 4,710 เหรียญ แม้ว่าจะไม่ได้เปิดเผยช่วงเวลาที่ทำการซื้อก็ตาม GameStop ดำเนินกลยุทธ์ที่คล้ายคลึงกับบริษัท Strategy ของ Michael Saylor ซึ่งเป็นบริษัทด้านซอฟต์แวร์ระดับองค์กรที่ถือครอง Bitcoin มากที่สุด และราคาหุ้นของ Strategy มักจะปรับตัวขึ้นตามราคาของ Bitcoin ทำให้นักลงทุนบางรายสนใจลงทุนในบริษัทนี้แทนการลงทุนใน Bitcoin โดยตรง การลงทุนใน Bitcoin ของ GameStop อาจช่วยกระตุ้นความสนใจของนักลงทุนและฟื้นฟูธุรกิจที่กำลังประสบปัญหาในการปรับตัวสู่ยุคดิจิทัล นอกจากนี้ หุ้นของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.4% ในช่วงก่อนเปิดตลาด ซึ่งสะท้อนถึงความหวังของนักลงทุนที่อาจมองว่าการเข้าสู่ตลาดคริปโตเป็นโอกาสใหม่ 🔍 สรุปข้อมูลหลักและคำเตือน ✅ ข้อมูลจากข่าว - GameStop ซื้อ Bitcoin มูลค่า 513 ล้านเหรียญ - ซื้อ Bitcoin จำนวน 4,710 เหรียญ - ราคาของ Bitcoin อยู่ที่ 108,903 เหรียญ ณ เวลา 7:00 น. ET - เป็นการซื้อ Bitcoin ครั้งแรกของบริษัทหลังประกาศแผนลงทุนในเดือนมีนาคม - หุ้นของ GameStop เพิ่มขึ้น 4.4% ในช่วงก่อนเปิดตลาด - บริษัทมีเงินสดและหลักทรัพย์มูลค่า 4.78 พันล้านเหรียญ ณ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2025 ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - การลงทุนใน Bitcoin มีความเสี่ยงสูงเนื่องจากมูลค่าของสกุลเงินดิจิทัลมีความผันผวนอย่างมาก - นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนลงทุน เนื่องจาก Bitcoin อาจมีแนวโน้มลดลงหรือเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว - เกมสต็อปกำลังเผชิญความท้าทายในการเปลี่ยนแปลงธุรกิจ และการซื้อ Bitcoin อาจเป็นเพียงกลยุทธ์ชั่วคราว - นักลงทุนที่สนใจหุ้น GameStop ควรพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ เช่น ศักยภาพในการฟื้นตัวของธุรกิจหลัก ไม่ใช่เพียงแค่การลงทุนใน Bitcoin GameStop อาจพยายามใช้กลยุทธ์นี้เพื่อสร้างความสนใจจากตลาดและนักลงทุน แต่ก็ยังคงต้องพิสูจน์ว่าการลงทุนใน Bitcoin จะช่วยให้ธุรกิจฟื้นตัวได้จริงหรือไม่ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/28/gamestop-buys-bitcoin-worth-513-million-in-crypto-push
    WWW.THESTAR.COM.MY
    GameStop buys bitcoin worth $513 million in crypto push
    (Reuters) -GameStop has purchased bitcoin worth about $513 million, the company said on Wednesday as the ailing video game retailer looks to capitalize on the growing adoption of cryptocurrencies globally.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 250 มุมมอง 0 รีวิว
  • Windows 11 เตรียมรับมือภัยคุกคามจาก Quantum Computing ด้วยระบบเข้ารหัสใหม่

    Microsoft ประกาศว่า Windows 11 จะรองรับ Post-Quantum Cryptography (PQC) เพื่อป้องกันการโจมตีจาก Quantum Computer โดยเริ่มต้นใน Canary build 27852 และรุ่นที่ใหม่กว่า ซึ่งจะใช้ ML-KEM และ ML-DSA เพื่อเพิ่มความปลอดภัยของข้อมูล

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการอัปเกรดระบบเข้ารหัสของ Windows 11
    ✅ Microsoft อัปเกรด SymCrypt (ไลบรารีเข้ารหัสของบริษัท) ให้รองรับ ML-KEM และ ML-DSA
    - ML-KEM ช่วยป้องกันการโจมตีแบบ "Harvest Now, Decrypt Later"
    - ML-DSA ช่วยรักษาความสมบูรณ์ของลายเซ็นดิจิทัล

    ✅ PQC ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันการโจมตีจาก Quantum Computer
    - ใช้ สมการทางคณิตศาสตร์ที่ยากต่อการถอดรหัสทั้งบนคอมพิวเตอร์ทั่วไปและ Quantum Computer

    ✅ PQC จะถูกนำไปใช้ในมาตรฐานความปลอดภัยหลายรูปแบบ เช่น TLS, SSH และ IPSec
    - ทำให้ กลายเป็นมาตรฐานหลักในการป้องกันภัยคุกคามจาก Quantum Computing

    ✅ SymCrypt ถูกใช้ในบริการต่าง ๆ ของ Microsoft เช่น Microsoft 365, Azure และ Windows Server 2025
    - ช่วยปกป้อง อีเมล, การจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ และการท่องเว็บ

    ✅ Microsoft กำลังทดสอบ PQC ใน Windows 11 และมีแผนจะนำไปใช้กับ Linux ในอนาคต
    - แต่ยังไม่มีข้อมูลว่า BitLocker จะได้รับการอัปเกรดเมื่อใด

    ✅ ภัยคุกคามจาก Quantum Computing เป็นเรื่องจริง
    - นักวิจัยจีน เคยใช้ Quantum Computer เจาะระบบเข้ารหัสระดับทหารสำเร็จ

    ‼️ PQC ต้องใช้ทรัพยากรฮาร์ดแวร์มากขึ้น
    - อาจทำให้ ต้องใช้คีย์ขนาดใหญ่ขึ้นและใช้เวลาในการประมวลผลนานขึ้น

    https://www.tomshardware.com/software/windows/windows-11-gets-quantum-hardened-cryptography-technology
    Windows 11 เตรียมรับมือภัยคุกคามจาก Quantum Computing ด้วยระบบเข้ารหัสใหม่ Microsoft ประกาศว่า Windows 11 จะรองรับ Post-Quantum Cryptography (PQC) เพื่อป้องกันการโจมตีจาก Quantum Computer โดยเริ่มต้นใน Canary build 27852 และรุ่นที่ใหม่กว่า ซึ่งจะใช้ ML-KEM และ ML-DSA เพื่อเพิ่มความปลอดภัยของข้อมูล 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการอัปเกรดระบบเข้ารหัสของ Windows 11 ✅ Microsoft อัปเกรด SymCrypt (ไลบรารีเข้ารหัสของบริษัท) ให้รองรับ ML-KEM และ ML-DSA - ML-KEM ช่วยป้องกันการโจมตีแบบ "Harvest Now, Decrypt Later" - ML-DSA ช่วยรักษาความสมบูรณ์ของลายเซ็นดิจิทัล ✅ PQC ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันการโจมตีจาก Quantum Computer - ใช้ สมการทางคณิตศาสตร์ที่ยากต่อการถอดรหัสทั้งบนคอมพิวเตอร์ทั่วไปและ Quantum Computer ✅ PQC จะถูกนำไปใช้ในมาตรฐานความปลอดภัยหลายรูปแบบ เช่น TLS, SSH และ IPSec - ทำให้ กลายเป็นมาตรฐานหลักในการป้องกันภัยคุกคามจาก Quantum Computing ✅ SymCrypt ถูกใช้ในบริการต่าง ๆ ของ Microsoft เช่น Microsoft 365, Azure และ Windows Server 2025 - ช่วยปกป้อง อีเมล, การจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ และการท่องเว็บ ✅ Microsoft กำลังทดสอบ PQC ใน Windows 11 และมีแผนจะนำไปใช้กับ Linux ในอนาคต - แต่ยังไม่มีข้อมูลว่า BitLocker จะได้รับการอัปเกรดเมื่อใด ✅ ภัยคุกคามจาก Quantum Computing เป็นเรื่องจริง - นักวิจัยจีน เคยใช้ Quantum Computer เจาะระบบเข้ารหัสระดับทหารสำเร็จ ‼️ PQC ต้องใช้ทรัพยากรฮาร์ดแวร์มากขึ้น - อาจทำให้ ต้องใช้คีย์ขนาดใหญ่ขึ้นและใช้เวลาในการประมวลผลนานขึ้น https://www.tomshardware.com/software/windows/windows-11-gets-quantum-hardened-cryptography-technology
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Windows 11 gets quantum-hardened cryptography technology
    Microsoft is already preparing Windows 11 for future quantum computer attacks
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 184 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google เผยผลวิจัยใหม่ ชี้ให้เห็นว่า Quantum Computer อาจสามารถเจาะระบบเข้ารหัส RSA ได้เร็วกว่าที่คาด

    Google เปิดเผยผลการศึกษาล่าสุดเกี่ยวกับความสามารถของ Quantum Computer ในการถอดรหัส RSA โดยนักวิจัยพบว่า คอมพิวเตอร์ควอนตัมที่มีน้อยกว่าหนึ่งล้าน qubits อาจสามารถเจาะระบบเข้ารหัส 2,048-bit RSA ได้ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ ซึ่งเป็นการลดลงอย่างมากจากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ต้องใช้ ประมาณ 20 ล้าน qubits

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับภัยคุกคามจาก Quantum Computing
    ✅ การศึกษานี้นำโดย Craig Gidney และเผยแพร่บน arXiv
    - แสดงให้เห็นว่า การพัฒนาอัลกอริธึมควอนตัมและเทคนิคการแก้ไขข้อผิดพลาดช่วยลดจำนวน qubits ที่ต้องใช้

    ✅ การใช้ Approximate Modular Exponentiation ช่วยลดจำนวน qubits ที่ต้องใช้ในการถอดรหัส
    - ทำให้ การโจมตี RSA มีความเป็นไปได้มากขึ้นในอนาคต

    ✅ เทคนิคใหม่ เช่น "Yoked Surface Codes" และ "Magic State Cultivation" ช่วยลดทรัพยากรที่ต้องใช้
    - ทำให้ Quantum Computer สามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

    ✅ แม้ว่าคอมพิวเตอร์ควอนตัมที่มีหนึ่งล้าน qubits ยังไม่มีอยู่จริง แต่การพัฒนาในอุตสาหกรรมกำลังเร่งตัวขึ้น
    - IBM ตั้งเป้าสร้าง Quantum Computer 100,000 qubits ภายในปี 2033
    - Quantinuum ตั้งเป้าสร้าง Quantum Computer ที่มีความทนทานต่อข้อผิดพลาดภายในปี 2029

    ✅ RSA เป็นระบบเข้ารหัสที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการสื่อสารออนไลน์ เช่น ธนาคารและลายเซ็นดิจิทัล
    - หากถูกเจาะได้ อาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของข้อมูลทั่วโลก

    ✅ สถาบันมาตรฐานและเทคโนโลยีแห่งชาติสหรัฐฯ (NIST) ได้เผยแพร่อัลกอริธึม Post-Quantum Cryptography (PQC) แล้ว
    - แนะนำให้ เริ่มเปลี่ยนไปใช้ระบบเข้ารหัสที่ทนต่อ Quantum Computing ภายในปี 2030

    https://www.techspot.com/news/108052-google-research-brings-quantum-attack-rsa-encryption-closer.html
    Google เผยผลวิจัยใหม่ ชี้ให้เห็นว่า Quantum Computer อาจสามารถเจาะระบบเข้ารหัส RSA ได้เร็วกว่าที่คาด Google เปิดเผยผลการศึกษาล่าสุดเกี่ยวกับความสามารถของ Quantum Computer ในการถอดรหัส RSA โดยนักวิจัยพบว่า คอมพิวเตอร์ควอนตัมที่มีน้อยกว่าหนึ่งล้าน qubits อาจสามารถเจาะระบบเข้ารหัส 2,048-bit RSA ได้ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ ซึ่งเป็นการลดลงอย่างมากจากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ต้องใช้ ประมาณ 20 ล้าน qubits 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับภัยคุกคามจาก Quantum Computing ✅ การศึกษานี้นำโดย Craig Gidney และเผยแพร่บน arXiv - แสดงให้เห็นว่า การพัฒนาอัลกอริธึมควอนตัมและเทคนิคการแก้ไขข้อผิดพลาดช่วยลดจำนวน qubits ที่ต้องใช้ ✅ การใช้ Approximate Modular Exponentiation ช่วยลดจำนวน qubits ที่ต้องใช้ในการถอดรหัส - ทำให้ การโจมตี RSA มีความเป็นไปได้มากขึ้นในอนาคต ✅ เทคนิคใหม่ เช่น "Yoked Surface Codes" และ "Magic State Cultivation" ช่วยลดทรัพยากรที่ต้องใช้ - ทำให้ Quantum Computer สามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ✅ แม้ว่าคอมพิวเตอร์ควอนตัมที่มีหนึ่งล้าน qubits ยังไม่มีอยู่จริง แต่การพัฒนาในอุตสาหกรรมกำลังเร่งตัวขึ้น - IBM ตั้งเป้าสร้าง Quantum Computer 100,000 qubits ภายในปี 2033 - Quantinuum ตั้งเป้าสร้าง Quantum Computer ที่มีความทนทานต่อข้อผิดพลาดภายในปี 2029 ✅ RSA เป็นระบบเข้ารหัสที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการสื่อสารออนไลน์ เช่น ธนาคารและลายเซ็นดิจิทัล - หากถูกเจาะได้ อาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของข้อมูลทั่วโลก ✅ สถาบันมาตรฐานและเทคโนโลยีแห่งชาติสหรัฐฯ (NIST) ได้เผยแพร่อัลกอริธึม Post-Quantum Cryptography (PQC) แล้ว - แนะนำให้ เริ่มเปลี่ยนไปใช้ระบบเข้ารหัสที่ทนต่อ Quantum Computing ภายในปี 2030 https://www.techspot.com/news/108052-google-research-brings-quantum-attack-rsa-encryption-closer.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Google research shows quantum computers could break RSA encryption sooner than expected
    The finding is a dramatic reduction from earlier estimates that put the requirement at around 20 million qubits just a few years ago.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 214 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่องโหว่ใน OpenPGP.js ทำให้ระบบเข้ารหัสกุญแจสาธารณะถูกเจาะ

    นักวิจัยด้านความปลอดภัย พบช่องโหว่ร้ายแรงใน OpenPGP.js ซึ่งเป็นไลบรารี JavaScript สำหรับการเข้ารหัสและลงนามดิจิทัล โดยช่องโหว่นี้ ช่วยให้ผู้โจมตีสามารถปลอมแปลงข้อความให้ดูเหมือนมีลายเซ็นที่ถูกต้อง ซึ่งอาจนำไปสู่การฉ้อโกงทางการเงินและการละเมิดความปลอดภัยของข้อมูล

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับช่องโหว่ใน OpenPGP.js
    ✅ ช่องโหว่ช่วยให้ผู้โจมตีสามารถปลอมแปลงข้อความที่มีลายเซ็นดิจิทัล
    - ทำให้ สามารถเปลี่ยนแปลงเนื้อหาข้อความโดยที่ยังดูเหมือนถูกต้องตามลายเซ็น

    ✅ ช่องโหว่นี้ส่งผลกระทบต่อหลายเวอร์ชันของ OpenPGP.js
    - เวอร์ชันที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ 5.0.1 ถึง 5.12.2 และ 6.0.0-alpha.0 ถึง 6.1.0

    ✅ แพตช์สำหรับช่องโหว่นี้มีให้ใช้งานแล้วในเวอร์ชัน 5.11.3 และ 6.1.1
    - ผู้ใช้ ควรอัปเดตไลบรารีทันทีเพื่อป้องกันการโจมตี

    ✅ ช่องโหว่นี้ถูกติดตามภายใต้รหัส CVE-2025-47934 และมีระดับความรุนแรง 8.7/10
    - ถือเป็น ช่องโหว่ระดับสูงที่ต้องได้รับการแก้ไขโดยเร็ว

    ✅ ยังไม่มีรายงานการโจมตีจริงที่ใช้ช่องโหว่นี้ในขณะนี้
    - แต่ นักวิจัยเตือนว่าผู้โจมตีอาจใช้ช่องโหว่นี้เพื่อปลอมแปลงคำขอชำระเงิน

    https://www.techradar.com/pro/security/an-openpgp-js-flaw-just-broke-public-key-cryptography
    ช่องโหว่ใน OpenPGP.js ทำให้ระบบเข้ารหัสกุญแจสาธารณะถูกเจาะ นักวิจัยด้านความปลอดภัย พบช่องโหว่ร้ายแรงใน OpenPGP.js ซึ่งเป็นไลบรารี JavaScript สำหรับการเข้ารหัสและลงนามดิจิทัล โดยช่องโหว่นี้ ช่วยให้ผู้โจมตีสามารถปลอมแปลงข้อความให้ดูเหมือนมีลายเซ็นที่ถูกต้อง ซึ่งอาจนำไปสู่การฉ้อโกงทางการเงินและการละเมิดความปลอดภัยของข้อมูล 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับช่องโหว่ใน OpenPGP.js ✅ ช่องโหว่ช่วยให้ผู้โจมตีสามารถปลอมแปลงข้อความที่มีลายเซ็นดิจิทัล - ทำให้ สามารถเปลี่ยนแปลงเนื้อหาข้อความโดยที่ยังดูเหมือนถูกต้องตามลายเซ็น ✅ ช่องโหว่นี้ส่งผลกระทบต่อหลายเวอร์ชันของ OpenPGP.js - เวอร์ชันที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ 5.0.1 ถึง 5.12.2 และ 6.0.0-alpha.0 ถึง 6.1.0 ✅ แพตช์สำหรับช่องโหว่นี้มีให้ใช้งานแล้วในเวอร์ชัน 5.11.3 และ 6.1.1 - ผู้ใช้ ควรอัปเดตไลบรารีทันทีเพื่อป้องกันการโจมตี ✅ ช่องโหว่นี้ถูกติดตามภายใต้รหัส CVE-2025-47934 และมีระดับความรุนแรง 8.7/10 - ถือเป็น ช่องโหว่ระดับสูงที่ต้องได้รับการแก้ไขโดยเร็ว ✅ ยังไม่มีรายงานการโจมตีจริงที่ใช้ช่องโหว่นี้ในขณะนี้ - แต่ นักวิจัยเตือนว่าผู้โจมตีอาจใช้ช่องโหว่นี้เพื่อปลอมแปลงคำขอชำระเงิน https://www.techradar.com/pro/security/an-openpgp-js-flaw-just-broke-public-key-cryptography
    WWW.TECHRADAR.COM
    An OpenPGP.js flaw just broke public key cryptography
    Researchers found a bug that allowed malicious actors to spoof messages
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 244 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft นำระบบเข้ารหัสควอนตัมมาสู่ Windows เพื่อป้องกันภัยคุกคามในอนาคต

    Microsoft ประกาศในงาน BUILD 2025 ว่ากำลังนำระบบเข้ารหัสหลังยุคควอนตัม (Post-Quantum Cryptography - PQC) มาสู่ Windows เพื่อป้องกันภัยคุกคามจากคอมพิวเตอร์ควอนตัมที่สามารถถอดรหัสข้อมูลแบบดั้งเดิมได้อย่างรวดเร็ว

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการเข้ารหัสควอนตัมใน Windows
    ✅ Microsoft กำลังรวม PQC เข้ากับ Windows Insiders Build 27852 และสูงกว่า
    - ช่วยให้ ผู้ใช้สามารถเริ่มทดลองใช้ระบบเข้ารหัสควอนตัมในสภาพแวดล้อมของตนเอง

    ✅ PQC จะถูกนำมาใช้ใน SymCrypt-OpenSSL 1.9.0 และสูงกว่า
    - รองรับ การเข้ารหัสที่ปลอดภัยจากการโจมตีของคอมพิวเตอร์ควอนตัม

    ✅ Microsoft ใช้ ML-KEM และ ML-DSA ซึ่งเป็นอัลกอริธึมเข้ารหัสควอนตัมที่ได้รับการรับรองจาก NIST
    - อัลกอริธึมเหล่านี้ ถูกเพิ่มเข้าไปในไลบรารีเข้ารหัส SymCrypt ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2024

    ✅ Linux สามารถใช้ SymCrypt ผ่าน OpenSSL API ที่มีใน SymCrypt-OpenSSL (SCOSSL)
    - ทำให้ ระบบปฏิบัติการอื่น ๆ สามารถใช้เทคโนโลยีเข้ารหัสควอนตัมของ Microsoft ได้

    ✅ Microsoft หวังว่าการนำ PQC มาใช้ก่อนที่คอมพิวเตอร์ควอนตัมจะกลายเป็นภัยคุกคามจริง จะช่วยลดความเสี่ยงจากการโจมตีแบบ "Harvest Now, Decrypt Later"
    - ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่แฮกเกอร์ ขโมยข้อมูลที่เข้ารหัสในปัจจุบันและรอให้คอมพิวเตอร์ควอนตัมสามารถถอดรหัสได้ในอนาคต

    https://www.neowin.net/news/microsoft-is-now-putting-quantum-encryption-in-windows-builds/
    Microsoft นำระบบเข้ารหัสควอนตัมมาสู่ Windows เพื่อป้องกันภัยคุกคามในอนาคต Microsoft ประกาศในงาน BUILD 2025 ว่ากำลังนำระบบเข้ารหัสหลังยุคควอนตัม (Post-Quantum Cryptography - PQC) มาสู่ Windows เพื่อป้องกันภัยคุกคามจากคอมพิวเตอร์ควอนตัมที่สามารถถอดรหัสข้อมูลแบบดั้งเดิมได้อย่างรวดเร็ว 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการเข้ารหัสควอนตัมใน Windows ✅ Microsoft กำลังรวม PQC เข้ากับ Windows Insiders Build 27852 และสูงกว่า - ช่วยให้ ผู้ใช้สามารถเริ่มทดลองใช้ระบบเข้ารหัสควอนตัมในสภาพแวดล้อมของตนเอง ✅ PQC จะถูกนำมาใช้ใน SymCrypt-OpenSSL 1.9.0 และสูงกว่า - รองรับ การเข้ารหัสที่ปลอดภัยจากการโจมตีของคอมพิวเตอร์ควอนตัม ✅ Microsoft ใช้ ML-KEM และ ML-DSA ซึ่งเป็นอัลกอริธึมเข้ารหัสควอนตัมที่ได้รับการรับรองจาก NIST - อัลกอริธึมเหล่านี้ ถูกเพิ่มเข้าไปในไลบรารีเข้ารหัส SymCrypt ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2024 ✅ Linux สามารถใช้ SymCrypt ผ่าน OpenSSL API ที่มีใน SymCrypt-OpenSSL (SCOSSL) - ทำให้ ระบบปฏิบัติการอื่น ๆ สามารถใช้เทคโนโลยีเข้ารหัสควอนตัมของ Microsoft ได้ ✅ Microsoft หวังว่าการนำ PQC มาใช้ก่อนที่คอมพิวเตอร์ควอนตัมจะกลายเป็นภัยคุกคามจริง จะช่วยลดความเสี่ยงจากการโจมตีแบบ "Harvest Now, Decrypt Later" - ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่แฮกเกอร์ ขโมยข้อมูลที่เข้ารหัสในปัจจุบันและรอให้คอมพิวเตอร์ควอนตัมสามารถถอดรหัสได้ในอนาคต https://www.neowin.net/news/microsoft-is-now-putting-quantum-encryption-in-windows-builds/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft is now putting quantum encryption in Windows builds
    Microsoft has announced that it's beginning to put quantum encryption algorithms into Windows so that developers can start using them. It is designed to keep data safe from future quantum computers.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 100 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐฯ จับกุม 12 ผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงคริปโทมูลค่า 263 ล้านดอลลาร์

    กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เปิดเผยว่ามีการจับกุม 12 ผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงคริปโทที่มีมูลค่ากว่า 263 ล้านดอลลาร์ โดยกลุ่มนี้ใช้ เทคนิควิศวกรรมสังคม (Social Engineering) เพื่อหลอกลวงเหยื่อให้เปิดเผยข้อมูลบัญชีคริปโท และนำเงินไปฟอกผ่าน กระเป๋าเงินดิจิทัลและบริการแลกเปลี่ยนที่ไม่สามารถติดตามได้

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับคดีฉ้อโกงคริปโท
    ✅ กลุ่มผู้ต้องหาประกอบด้วยชาวอเมริกันและชาวต่างชาติ
    - ถูกกล่าวหาว่า มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมไซเบอร์ที่ดำเนินการทั้งในสหรัฐฯ และต่างประเทศ

    ✅ ใช้เทคนิควิศวกรรมสังคมเพื่อหลอกลวงเหยื่อ
    - โทรศัพท์หาเหยื่อ อ้างว่าบัญชีถูกโจมตี และต้องรีบกู้คืนข้อมูล

    ✅ ฟอกเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัลและบริการแลกเปลี่ยนที่ไม่สามารถติดตามได้
    - ใช้ "peel chains" และ VPN เพื่อปกปิดตัวตน

    ✅ ในไตรมาสแรกของปี 2025 มีเงินคริปโทถูกขโมยไปกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์
    - เพิ่มขึ้น 300% จากปีที่แล้ว

    ✅ เหตุการณ์ใหญ่ที่สุดคือการแฮก Bybit ที่ทำให้สูญเสียเงินกว่า 1 พันล้านดอลลาร์
    - ถือเป็น การโจรกรรมคริปโทครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์

    https://www.techradar.com/pro/security/rico-crypto-fraud-investigation-leads-to-twelve-more-arrests
    สหรัฐฯ จับกุม 12 ผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงคริปโทมูลค่า 263 ล้านดอลลาร์ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เปิดเผยว่ามีการจับกุม 12 ผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงคริปโทที่มีมูลค่ากว่า 263 ล้านดอลลาร์ โดยกลุ่มนี้ใช้ เทคนิควิศวกรรมสังคม (Social Engineering) เพื่อหลอกลวงเหยื่อให้เปิดเผยข้อมูลบัญชีคริปโท และนำเงินไปฟอกผ่าน กระเป๋าเงินดิจิทัลและบริการแลกเปลี่ยนที่ไม่สามารถติดตามได้ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับคดีฉ้อโกงคริปโท ✅ กลุ่มผู้ต้องหาประกอบด้วยชาวอเมริกันและชาวต่างชาติ - ถูกกล่าวหาว่า มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมไซเบอร์ที่ดำเนินการทั้งในสหรัฐฯ และต่างประเทศ ✅ ใช้เทคนิควิศวกรรมสังคมเพื่อหลอกลวงเหยื่อ - โทรศัพท์หาเหยื่อ อ้างว่าบัญชีถูกโจมตี และต้องรีบกู้คืนข้อมูล ✅ ฟอกเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัลและบริการแลกเปลี่ยนที่ไม่สามารถติดตามได้ - ใช้ "peel chains" และ VPN เพื่อปกปิดตัวตน ✅ ในไตรมาสแรกของปี 2025 มีเงินคริปโทถูกขโมยไปกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ - เพิ่มขึ้น 300% จากปีที่แล้ว ✅ เหตุการณ์ใหญ่ที่สุดคือการแฮก Bybit ที่ทำให้สูญเสียเงินกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ - ถือเป็น การโจรกรรมคริปโทครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ https://www.techradar.com/pro/security/rico-crypto-fraud-investigation-leads-to-twelve-more-arrests
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 336 มุมมอง 0 รีวิว
  • คริปโทเคอร์เรนซีและทรัมป์: ความสัมพันธ์ที่สร้างความกังวลในสหรัฐฯ

    คริปโทเคอร์เรนซี ถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงและเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง มาโดยตลอด ล่าสุด การเชื่อมโยงของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กับคริปโทเคอร์เรนซี ได้สร้างความกังวลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ความโปร่งใสและความถูกต้องตามกฎหมายของสินทรัพย์ดิจิทัล

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างทรัมป์และคริปโทเคอร์เรนซี
    ✅ ทรัมป์ออกคำสั่งยกเลิกกฎระเบียบเกี่ยวกับคริปโทเคอร์เรนซีเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2025
    - เพื่อ ส่งเสริมความเป็นผู้นำของสหรัฐฯ ในสินทรัพย์ดิจิทัลและเทคโนโลยีทางการเงิน

    ✅ เหรียญ $TRUMP ถูกโปรโมตโดยทรัมป์และครอบครัว
    - ผู้ถือเหรียญรายใหญ่ ได้รับสิทธิ์เข้าร่วมงานดินเนอร์ส่วนตัวกับทรัมป์

    ✅ นักลงทุนต่างชาติซื้อเหรียญ $TRUMP เป็นจำนวนมาก
    - อาจเป็น ช่องทางหลีกเลี่ยงกฎหมายห้ามชาวต่างชาติบริจาคเงินให้การเมืองสหรัฐฯ

    ✅ นักการเมืองสหรัฐฯ เรียกร้องให้ตรวจสอบความเชื่อมโยงระหว่างทรัมป์และคริปโทเคอร์เรนซี
    - วุฒิสมาชิก Adam Schiff และ Elizabeth Warren เสนอร่างกฎหมาย "End Crypto Corruption Act"

    ✅ บริษัทคริปโทในสหรัฐฯ ได้รับประโยชน์จากนโยบายของทรัมป์
    - SEC ยกเลิกคดีฟ้องร้องหลายกรณี รวมถึง Coinbase และ Ripple

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/17/opinion-crypto-was-already-in-bad-odour-before-jumping-into-bed-with-trump-now-it-smells-worse
    คริปโทเคอร์เรนซีและทรัมป์: ความสัมพันธ์ที่สร้างความกังวลในสหรัฐฯ คริปโทเคอร์เรนซี ถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงและเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง มาโดยตลอด ล่าสุด การเชื่อมโยงของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กับคริปโทเคอร์เรนซี ได้สร้างความกังวลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ความโปร่งใสและความถูกต้องตามกฎหมายของสินทรัพย์ดิจิทัล 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างทรัมป์และคริปโทเคอร์เรนซี ✅ ทรัมป์ออกคำสั่งยกเลิกกฎระเบียบเกี่ยวกับคริปโทเคอร์เรนซีเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2025 - เพื่อ ส่งเสริมความเป็นผู้นำของสหรัฐฯ ในสินทรัพย์ดิจิทัลและเทคโนโลยีทางการเงิน ✅ เหรียญ $TRUMP ถูกโปรโมตโดยทรัมป์และครอบครัว - ผู้ถือเหรียญรายใหญ่ ได้รับสิทธิ์เข้าร่วมงานดินเนอร์ส่วนตัวกับทรัมป์ ✅ นักลงทุนต่างชาติซื้อเหรียญ $TRUMP เป็นจำนวนมาก - อาจเป็น ช่องทางหลีกเลี่ยงกฎหมายห้ามชาวต่างชาติบริจาคเงินให้การเมืองสหรัฐฯ ✅ นักการเมืองสหรัฐฯ เรียกร้องให้ตรวจสอบความเชื่อมโยงระหว่างทรัมป์และคริปโทเคอร์เรนซี - วุฒิสมาชิก Adam Schiff และ Elizabeth Warren เสนอร่างกฎหมาย "End Crypto Corruption Act" ✅ บริษัทคริปโทในสหรัฐฯ ได้รับประโยชน์จากนโยบายของทรัมป์ - SEC ยกเลิกคดีฟ้องร้องหลายกรณี รวมถึง Coinbase และ Ripple https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/17/opinion-crypto-was-already-in-bad-odour-before-jumping-into-bed-with-trump-now-it-smells-worse
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Opinion: Crypto was already in bad odour before jumping into bed with Trump. Now it smells worse
    Since Trump returned to the presidency, his and his family's involvement in crypto-related deals has critics charging that crypto has become an entirely new path for official corruption and conflicts of interest in the White House.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 340 มุมมอง 0 รีวิว
  • Lucky Miner USB Stick: อุปกรณ์ขุด Bitcoin ที่มีโอกาสชนะเท่ากับลอตเตอรี่

    Lucky Miner SOLO-LV02 เป็น อุปกรณ์ขุด Bitcoin ขนาดเล็กที่เชื่อมต่อผ่าน USB-C ใช้พลังงานเพียง 1W และต้องการเพียง Wi-Fi และกระเป๋าเงิน Bitcoin เพื่อเริ่มต้นการขุด อย่างไรก็ตาม อัตราการขุดของอุปกรณ์นี้ต่ำมาก โดยมีโอกาส 210.7 ล้านล้านต่อหนึ่ง ที่จะขุดบล็อก Bitcoin ได้ภายในหนึ่งปี

    ✅ Lucky Miner SOLO-LV02 เป็นอุปกรณ์ขุด Bitcoin ที่มีขนาดเล็กและใช้พลังงานต่ำ
    - ใช้พลังงานเพียง 1W และเชื่อมต่อผ่าน USB-C

    ✅ อัตราการขุดอยู่ที่ 72 KH/s ซึ่งต่ำมากเมื่อเทียบกับเครื่องขุด ASIC ทั่วไป
    - ASIC ขุด Bitcoin ทั่วไปมีอัตราการขุด หลายร้อย TH/s

    ✅ อุปกรณ์นี้มีโอกาสขุดบล็อก Bitcoin ได้เท่ากับการถูกลอตเตอรี่หลายครั้งติดกัน
    - โอกาสขุดบล็อก Bitcoin อยู่ที่ 210.7 ล้านล้านต่อหนึ่ง

    ✅ Bitaxe เป็นอุปกรณ์ขุดที่มีโอกาสสูงกว่า Lucky Miner
    - Bitaxe มีอัตราการขุด 500 GH/s และเคยขุดได้ 6.25 BTC มูลค่า $206,000

    ✅ Lucky Miner SOLO-LV02 ใช้ชิป ESP32 และมีหน้าจอสี TFT ขนาด 1.9 นิ้ว
    - อาจถูกนำไปใช้ในโครงการ DIY เช่น NerdSoloMiner v2

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cryptomining/the-lucky-miner-usb-stick-is-a-usd24-bitcoin-lottery-ticket-with-210-7-trillion-to-one-odds-of-mining-a-btc-block-in-a-year
    Lucky Miner USB Stick: อุปกรณ์ขุด Bitcoin ที่มีโอกาสชนะเท่ากับลอตเตอรี่ Lucky Miner SOLO-LV02 เป็น อุปกรณ์ขุด Bitcoin ขนาดเล็กที่เชื่อมต่อผ่าน USB-C ใช้พลังงานเพียง 1W และต้องการเพียง Wi-Fi และกระเป๋าเงิน Bitcoin เพื่อเริ่มต้นการขุด อย่างไรก็ตาม อัตราการขุดของอุปกรณ์นี้ต่ำมาก โดยมีโอกาส 210.7 ล้านล้านต่อหนึ่ง ที่จะขุดบล็อก Bitcoin ได้ภายในหนึ่งปี ✅ Lucky Miner SOLO-LV02 เป็นอุปกรณ์ขุด Bitcoin ที่มีขนาดเล็กและใช้พลังงานต่ำ - ใช้พลังงานเพียง 1W และเชื่อมต่อผ่าน USB-C ✅ อัตราการขุดอยู่ที่ 72 KH/s ซึ่งต่ำมากเมื่อเทียบกับเครื่องขุด ASIC ทั่วไป - ASIC ขุด Bitcoin ทั่วไปมีอัตราการขุด หลายร้อย TH/s ✅ อุปกรณ์นี้มีโอกาสขุดบล็อก Bitcoin ได้เท่ากับการถูกลอตเตอรี่หลายครั้งติดกัน - โอกาสขุดบล็อก Bitcoin อยู่ที่ 210.7 ล้านล้านต่อหนึ่ง ✅ Bitaxe เป็นอุปกรณ์ขุดที่มีโอกาสสูงกว่า Lucky Miner - Bitaxe มีอัตราการขุด 500 GH/s และเคยขุดได้ 6.25 BTC มูลค่า $206,000 ✅ Lucky Miner SOLO-LV02 ใช้ชิป ESP32 และมีหน้าจอสี TFT ขนาด 1.9 นิ้ว - อาจถูกนำไปใช้ในโครงการ DIY เช่น NerdSoloMiner v2 https://www.tomshardware.com/tech-industry/cryptomining/the-lucky-miner-usb-stick-is-a-usd24-bitcoin-lottery-ticket-with-210-7-trillion-to-one-odds-of-mining-a-btc-block-in-a-year
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 202 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ข่าวเมื่อ2021นะ
    ..ผลงานอาจเริ่มจริงๆช่วงนี้,ดูดีๆนะ ว่ากันจริง พวกdeep stateโลกและสมุนขี้ข้าเครือข่ายมันล่ะ ดิ้นรนตายโดยมาก ซวยๆคือประชาชนธรรมดาแบบเราๆที่เป็นทาสในระบบทาสตังทาสแรงงานในกิจการบริษัทมันเสียนานจนพึ่งพาตนเองไม่ได้เพราะมันล่อลวงเราไปเป็นทาสในกิจการโรงงานต่างๆบริษัททั้งแม่มั้งในเครือข่ายลูกมันสาขามันสารพัดตรึม,กิจการเครือข่ายมันล้ม ปิดโลกงาน ถูกทุบ เป็นธรรมดาคนต้องตกงานออกจากกิจการเครือข่ายของพวกบริษัทซาตานมัน รวมถึงที่ไทยเรา
    ..ถ้าเดอะทีมทรัมป์คือฝ่ายแสงจริง มุกกวาดล้างฝ่ายมืดจริง ละครฉากใหญ่(ถ้าจริง) ก็ถือว่าคนทั้งโลกกำลังจะเป็นอิสระภาพ,โดยมีผู้เสียสละรับบทเจ็บจริงตายจริงปรากฎเช่นกัน,ละครระหว่างพระเจ้าฝ่ายแสงกับฝ่ายมืด มันเกินสถานะเราจะควบคุมก็ว่า,ใครติดตามพวกนี้มานานอาจรู้แล้ว เราๆตามมาทีหลัง งูปูๆตาๆก็ว่า มโนสารพัดทางนั้นล่ะ จริงเท็จไม่รู้กับเขาหรอก ชั่วชนะโลกก็ชั่วปกติ ดีชนะก็พลิกดีทั้งโลกจากเคยถูกชั่วปกครองมานานก็ต้องลุยกัน ว่าจะจริงดีจริงหรือชั่วหมด.
    ..
    ..ดูตามคลิปเก่าๆนี้ พวกเขาจับมือกันเพื่อทำลายความชั่วเลวที่ครองโลกก็ได้อีก ธรรมดาคนพวกนี้ไม่แสดงความเป็นมิตรลงตัวเนียนแบบนี้ได้ ดูคิมกับทรัมป์สิ หรือทรัมป์กับสี ทรัมป์กับปูติน พวกนี้เขาสนิทกันแน่นอน,และที่เราเห็นปัจจุบันคือละครแน่นอน ซวยๆจริงๆคือพวกdeep stateและขี้ข้าสมุนรับใช้&เครือข่ายทั่วโลกล่ะ รวมสมุนในไทยด้วย,ในไทยหากใครไม่กลับใจ ตายสถานเดียวแน่นอน.
    ..
    ..ทวนแนวทางความเชื่อเห็นของเก่าในอดีต คนหลับก็ตาย ซวยแบบโดยฉีดวัคซีนนั้นล่ะ ฝ่ายมืดมันแจ้งเตือนบอกขออนุญาตเอาชีวิตคนล่วงหน้าแล้วก็ว่า เพราะเวลาพระเจ้าฝ่ายตรงข้ามที่เล่นหมากกันถามมัน มันจะได้ไม่น่าเกียจตอบหรือโดนพระเจ้าฝ่ายดีทุบหัวเอาข้อหาไม่บอกแจ้งนัยๆนัยยะอะไรว่าจะจัดการมนุษย์บนโลกก็ว่า ไม่ขออนุญาตพระเจ้าบอกผ่านสายมนุษย์ขอเขาอนุญาตเขามนุษย์ในการเอาชีวิตคนบนโลกก็ว่า,
    ..ยุคสมัยหน้าจะเปลี่ยนไปทางดีหรือเลวชั่วแบบใด ต้องรอดชีวิตก่อนนะในบทพิสูจน์บททดสอบการรอดชีวิตในหัวข้อนี้เพื่อเลื่อนชั้นเรียนก็ได้ หรือสู่ยุคสัมมาชีวิตอีกยุคสมัยต่อไป,ไม่มีใครบังเอิญเช่นกัน ที่ได้มาอ่าน เดินมาผ่านในข้อความนี้.

    ..💥BQQQQQQQM💥ข่าวกรองใหม่ - FOXWOLF17

    จะมีเหตุการณ์ใหญ่ๆ ตามพระคัมภีร์เกิดขึ้น โดยพวกเขาอ้างว่าเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 แต่จริงๆ แล้วพวกเขากำลังเปิดใช้งานกองทหาร จากนั้นก็ทิ้งระเบิดสถานที่สำคัญของกลุ่มลูเซอริเฟเรียนที่เป็นซาตานทั้งหมด ออกเงินกองทุน GESARA และพวกเราประชาชนก็สร้างขึ้นใหม่
    เหตุการณ์นี้ เป็นเรื่องราวตามพระคัมภีร์
    สถานที่สำคัญของกลุ่มอิลลูมินาติที่เป็นซาตานที่ใหญ่โตมโหฬารในโลกมีที่ไหนบ้าง? คำถามคือ วาติกัน พระราชวังบักกิงฮัน ทำเนียบขาว 2 แห่ง (สหรัฐอเมริกา เยอรมนี) 3GD ในจีน อาจมีกลุ่มเซิร์นที่ชายแดนสวิส/ฝรั่งเศสก็ได้

    บริษัทยาขนาดใหญ่ในอู่ฮั่น = อิสราเอล
    อิสราเอล/คาซาเรียนควบคุมพรรคคอมมิวนิสต์จีน
    สื่อ ฯลฯ
    อาคารและเขื่อนของซาตาน 34 แห่งจะพังทลาย Rods of God/DEW
    ทั่วโลก

    เครื่องบินและรถไฟลงดิน
    ไฟ/ไฟฟ้าถูกปิด
    เปลี่ยนเป็นพลังงานฟรีของ Tesla
    เซิร์ฟเวอร์/ศูนย์ข้อมูล Bitcoin ถูกโจมตีและถูกปิดไปตลอดกาล
    99.5% ของ Crypto หายไปจากเหรียญจีน เข้าสู่เหรียญ ISO20022 ที่ได้รับการสนับสนุนจากโลหะมีค่า
    เหตุการณ์สะเทือนขวัญสงครามโลกครั้งที่ 3 ไซเรนนิวเคลียร์
    เหตุการณ์น้ำ
    ตลาดหุ้นตกต่ำ
    กฎอัยการศึกโลก
    CASTLE ROCK - สถานการณ์จูเลียน แอสซานจ์
    ระบบควอนตัม เปิดใช้งานโปรเจกต์โอดิน
    Nesara/Gesara/RV
    การพลิกผลการเลือกตั้งผ่านศาลทหาร - FISA
    ศาลทหาร/คำสารภาพ/ภาพยนตร์ 10 วัน - เซสชั่น 3 × 8 ชั่วโมง
    10 ประเทศจะใช้ EBS เพื่อครอบคลุมทั่วโลก
    เปิดเผย
    พิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง
    MOSSAD ของอิสราเอลควบคุมสื่อของโลกนอกเหนือจากสหรัฐอเมริกา แนบ Q1871 ที่สรุปเรื่องนี้
    Project Odin ตามที่ Ron CodeMonkeyz กล่าวไว้เป็นเครื่องมือต่อต้านการล้มแพลตฟอร์มอันทรงพลัง
    Project Odin เป็นส่วนหนึ่งของ Quantum Starlink ระบบควอนตัมใหม่ของเราจะได้รับการคุ้มครองโดยโปรแกรมอวกาศลับนอกเหนือขอบเขตของกลุ่มลับ
    Q2337 บอกคุณว่าทรัพยากรสื่อของ Mossad จะถูกลบออก ลองนึกถึงคนอย่าง Alex Jones, Anderson Cooper เป็นต้น รวมถึงดาวเทียมของ Mossad
    หน่วยข่าวกรองของอิสราเอล - ถอนตัว
    [TERM_3720x380-293476669283001]
    ทรัพยากรสื่อจะถูกลบออก
    ส่วนนี้ของ 2527 บอกคุณว่ามีบางสิ่งที่ทรงพลังกำลังจะล้มดาวเทียมสื่อของ Mossad สิ่งนี้จะทำให้สื่อทั่วโลกไม่สามารถรับชมได้ โปรดเปลี่ยนเราเป็นระบบควอนตัม นี่คือโครงการ ODIN ทั้งหมดนี้ให้เหตุผลในการเปิดใช้งานระบบ EBS ของกองทัพ หากคุณลองค้นหาจรวด TURKSAT ที่ปล่อยจากสหรัฐอเมริกาในเดือนมกราคม คุณจะเห็นว่าจรวดนี้ออกแบบมาเพื่อการสื่อสารทางทหารโดยเฉพาะกับโทรทัศน์และวิทยุในแอฟริกา ตะวันออกกลาง ยุโรป และเอเชียกลาง

    งานนี้ยังมีอีกหลายแง่มุม
    การดับทั่วโลกจะเปลี่ยนเป็นพลังงาน TESLA ทำลายดาวเทียมสื่อ QFS แท่งพระเจ้าบนเขื่อนและอาคาร 34 หลัง และอื่นๆ อีกมากมาย
    อาคาร 34 หลังจะอยู่ในงานนี้
    อาคารเหล่านี้มีความสำคัญมาก
    เช่น ทำเนียบขาว ปราสาทหลวง พระราชวังบักกิงแฮม วาติกัน พิพิธภัณฑ์เก็ตตี้ คฤหาสน์เพลย์บอย และอื่นๆ
    เหตุการณ์นี้จะทำให้ตลาดหุ้นพังทลายอย่างแน่นอน รวมถึง Precision Cyber ​​ที่เชื่อมโยงกับคำสั่งผู้บริหาร 13818 และ 13848 ทั้งหมดนี้เป็นการแสดง การเปลี่ยนจากธนบัตรธนาคารกลางของ Rothschild เป็นธนบัตรกระทรวงการคลังสายรุ้งซึ่งปัจจุบันได้รับการหนุนหลังด้วยโลหะมีค่า (ไม่ใช่น้ำมัน/สงคราม)
    เรายังคงสบายใจอยู่หรือไม่?
    หรือเราหวาดกลัว?
    การมีทั้งสองอย่างเล็กน้อยเป็นเรื่องปกติ
    ทรัมป์รักษาสัญญาของเขา
    จงศรัทธาในพระเจ้าของเรา
    พระองค์จะทรงปลอบโยนคุณผ่านพายุ

    ใครเห็นในเดือนมกราคม ประเทศต่างๆ มากถึง 10 ประเทศถูกตัดกระแสไฟฟ้าพร้อมกันโดยกองกำลังอวกาศ?
    ก่อนหน้านั้น อิสราเอลก็เคยเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นเป็นเวลา 30 นาทีเช่นกัน
    หากพวกเขาสามารถปิดเครื่อง 10 ประเทศพร้อมกันได้ พวกเขาก็สามารถทำได้ทั้งหมด ยินดีต้อนรับสู่ Tesla
    จำเป็นต้องปิดเครื่อง
    ลองดู "การฝึกซ้อม" ทางทหารทั่วโลกที่กำลังดำเนินการอยู่ตอนนี้
    ทุกอย่างเกิดขึ้นต่อหน้าคุณ
    เป็นปฏิบัติการทางทหารระดับโลกที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของโลก
    การเปลี่ยนผ่านสู่ Gesara/ความยิ่งใหญ่ ตอนนี้พวกเขาเพียงแค่ต้องเล่นบทสงครามโลกครั้งที่ 3 ปลอมๆ เพื่อส่งเสียงไซเรนในศูนย์บัญชาการทหารแห่งชาติทุกแห่ง
    นี่เป็นการพิสูจน์ให้ทั้งโลกเห็นว่าหลายๆ อย่างที่เกิดขึ้นแล้วนั้นถูกต้องแล้ว ความจริงที่ว่ากฎหมายทหาร Gesara มีผลบังคับใช้แล้ว ศาลทหารลับ คำสารภาพ ฯลฯ การประหารชีวิตทั้งหมด และเช่นเดียวกับกองทัพอื่นๆ พวกเขาจะช่วยสร้างสิ่งใหม่ๆ ขึ้นมา พระเจ้าชนะผู้รักชาติ ยึดแนวไว้ รัดเข็มขัดนิรภัย และเชื่อใจในแผน! ขอให้พระเจ้าอวยพร FOXWOLF17

    ที่มา
    @QNewsOfficialTV
    สนับสนุนโดย
    @DUMBSandUNDERGROUND
    @SpaceForceGalacticFederation
    ..ข่าวเมื่อ2021นะ ..ผลงานอาจเริ่มจริงๆช่วงนี้,ดูดีๆนะ ว่ากันจริง พวกdeep stateโลกและสมุนขี้ข้าเครือข่ายมันล่ะ ดิ้นรนตายโดยมาก ซวยๆคือประชาชนธรรมดาแบบเราๆที่เป็นทาสในระบบทาสตังทาสแรงงานในกิจการบริษัทมันเสียนานจนพึ่งพาตนเองไม่ได้เพราะมันล่อลวงเราไปเป็นทาสในกิจการโรงงานต่างๆบริษัททั้งแม่มั้งในเครือข่ายลูกมันสาขามันสารพัดตรึม,กิจการเครือข่ายมันล้ม ปิดโลกงาน ถูกทุบ เป็นธรรมดาคนต้องตกงานออกจากกิจการเครือข่ายของพวกบริษัทซาตานมัน รวมถึงที่ไทยเรา ..ถ้าเดอะทีมทรัมป์คือฝ่ายแสงจริง มุกกวาดล้างฝ่ายมืดจริง ละครฉากใหญ่(ถ้าจริง) ก็ถือว่าคนทั้งโลกกำลังจะเป็นอิสระภาพ,โดยมีผู้เสียสละรับบทเจ็บจริงตายจริงปรากฎเช่นกัน,ละครระหว่างพระเจ้าฝ่ายแสงกับฝ่ายมืด มันเกินสถานะเราจะควบคุมก็ว่า,ใครติดตามพวกนี้มานานอาจรู้แล้ว เราๆตามมาทีหลัง งูปูๆตาๆก็ว่า มโนสารพัดทางนั้นล่ะ จริงเท็จไม่รู้กับเขาหรอก ชั่วชนะโลกก็ชั่วปกติ ดีชนะก็พลิกดีทั้งโลกจากเคยถูกชั่วปกครองมานานก็ต้องลุยกัน ว่าจะจริงดีจริงหรือชั่วหมด. .. ..ดูตามคลิปเก่าๆนี้ พวกเขาจับมือกันเพื่อทำลายความชั่วเลวที่ครองโลกก็ได้อีก ธรรมดาคนพวกนี้ไม่แสดงความเป็นมิตรลงตัวเนียนแบบนี้ได้ ดูคิมกับทรัมป์สิ หรือทรัมป์กับสี ทรัมป์กับปูติน พวกนี้เขาสนิทกันแน่นอน,และที่เราเห็นปัจจุบันคือละครแน่นอน ซวยๆจริงๆคือพวกdeep stateและขี้ข้าสมุนรับใช้&เครือข่ายทั่วโลกล่ะ รวมสมุนในไทยด้วย,ในไทยหากใครไม่กลับใจ ตายสถานเดียวแน่นอน. .. ..ทวนแนวทางความเชื่อเห็นของเก่าในอดีต คนหลับก็ตาย ซวยแบบโดยฉีดวัคซีนนั้นล่ะ ฝ่ายมืดมันแจ้งเตือนบอกขออนุญาตเอาชีวิตคนล่วงหน้าแล้วก็ว่า เพราะเวลาพระเจ้าฝ่ายตรงข้ามที่เล่นหมากกันถามมัน มันจะได้ไม่น่าเกียจตอบหรือโดนพระเจ้าฝ่ายดีทุบหัวเอาข้อหาไม่บอกแจ้งนัยๆนัยยะอะไรว่าจะจัดการมนุษย์บนโลกก็ว่า ไม่ขออนุญาตพระเจ้าบอกผ่านสายมนุษย์ขอเขาอนุญาตเขามนุษย์ในการเอาชีวิตคนบนโลกก็ว่า, ..ยุคสมัยหน้าจะเปลี่ยนไปทางดีหรือเลวชั่วแบบใด ต้องรอดชีวิตก่อนนะในบทพิสูจน์บททดสอบการรอดชีวิตในหัวข้อนี้เพื่อเลื่อนชั้นเรียนก็ได้ หรือสู่ยุคสัมมาชีวิตอีกยุคสมัยต่อไป,ไม่มีใครบังเอิญเช่นกัน ที่ได้มาอ่าน เดินมาผ่านในข้อความนี้. ..💥BQQQQQQQM💥ข่าวกรองใหม่ - FOXWOLF17 จะมีเหตุการณ์ใหญ่ๆ ตามพระคัมภีร์เกิดขึ้น โดยพวกเขาอ้างว่าเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 แต่จริงๆ แล้วพวกเขากำลังเปิดใช้งานกองทหาร จากนั้นก็ทิ้งระเบิดสถานที่สำคัญของกลุ่มลูเซอริเฟเรียนที่เป็นซาตานทั้งหมด ออกเงินกองทุน GESARA และพวกเราประชาชนก็สร้างขึ้นใหม่ เหตุการณ์นี้ เป็นเรื่องราวตามพระคัมภีร์ สถานที่สำคัญของกลุ่มอิลลูมินาติที่เป็นซาตานที่ใหญ่โตมโหฬารในโลกมีที่ไหนบ้าง? คำถามคือ วาติกัน พระราชวังบักกิงฮัน ทำเนียบขาว 2 แห่ง (สหรัฐอเมริกา เยอรมนี) 3GD ในจีน อาจมีกลุ่มเซิร์นที่ชายแดนสวิส/ฝรั่งเศสก็ได้ บริษัทยาขนาดใหญ่ในอู่ฮั่น = อิสราเอล อิสราเอล/คาซาเรียนควบคุมพรรคคอมมิวนิสต์จีน สื่อ ฯลฯ อาคารและเขื่อนของซาตาน 34 แห่งจะพังทลาย Rods of God/DEW ทั่วโลก เครื่องบินและรถไฟลงดิน ไฟ/ไฟฟ้าถูกปิด เปลี่ยนเป็นพลังงานฟรีของ Tesla เซิร์ฟเวอร์/ศูนย์ข้อมูล Bitcoin ถูกโจมตีและถูกปิดไปตลอดกาล 99.5% ของ Crypto หายไปจากเหรียญจีน เข้าสู่เหรียญ ISO20022 ที่ได้รับการสนับสนุนจากโลหะมีค่า เหตุการณ์สะเทือนขวัญสงครามโลกครั้งที่ 3 ไซเรนนิวเคลียร์ เหตุการณ์น้ำ ตลาดหุ้นตกต่ำ กฎอัยการศึกโลก CASTLE ROCK - สถานการณ์จูเลียน แอสซานจ์ ระบบควอนตัม เปิดใช้งานโปรเจกต์โอดิน Nesara/Gesara/RV การพลิกผลการเลือกตั้งผ่านศาลทหาร - FISA ศาลทหาร/คำสารภาพ/ภาพยนตร์ 10 วัน - เซสชั่น 3 × 8 ชั่วโมง 10 ประเทศจะใช้ EBS เพื่อครอบคลุมทั่วโลก เปิดเผย พิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง MOSSAD ของอิสราเอลควบคุมสื่อของโลกนอกเหนือจากสหรัฐอเมริกา แนบ Q1871 ที่สรุปเรื่องนี้ Project Odin ตามที่ Ron CodeMonkeyz กล่าวไว้เป็นเครื่องมือต่อต้านการล้มแพลตฟอร์มอันทรงพลัง Project Odin เป็นส่วนหนึ่งของ Quantum Starlink ระบบควอนตัมใหม่ของเราจะได้รับการคุ้มครองโดยโปรแกรมอวกาศลับนอกเหนือขอบเขตของกลุ่มลับ Q2337 บอกคุณว่าทรัพยากรสื่อของ Mossad จะถูกลบออก ลองนึกถึงคนอย่าง Alex Jones, Anderson Cooper เป็นต้น รวมถึงดาวเทียมของ Mossad หน่วยข่าวกรองของอิสราเอล - ถอนตัว [TERM_3720x380-293476669283001] ทรัพยากรสื่อจะถูกลบออก ส่วนนี้ของ 2527 บอกคุณว่ามีบางสิ่งที่ทรงพลังกำลังจะล้มดาวเทียมสื่อของ Mossad สิ่งนี้จะทำให้สื่อทั่วโลกไม่สามารถรับชมได้ โปรดเปลี่ยนเราเป็นระบบควอนตัม นี่คือโครงการ ODIN ทั้งหมดนี้ให้เหตุผลในการเปิดใช้งานระบบ EBS ของกองทัพ หากคุณลองค้นหาจรวด TURKSAT ที่ปล่อยจากสหรัฐอเมริกาในเดือนมกราคม คุณจะเห็นว่าจรวดนี้ออกแบบมาเพื่อการสื่อสารทางทหารโดยเฉพาะกับโทรทัศน์และวิทยุในแอฟริกา ตะวันออกกลาง ยุโรป และเอเชียกลาง งานนี้ยังมีอีกหลายแง่มุม การดับทั่วโลกจะเปลี่ยนเป็นพลังงาน TESLA ทำลายดาวเทียมสื่อ QFS แท่งพระเจ้าบนเขื่อนและอาคาร 34 หลัง และอื่นๆ อีกมากมาย อาคาร 34 หลังจะอยู่ในงานนี้ อาคารเหล่านี้มีความสำคัญมาก เช่น ทำเนียบขาว ปราสาทหลวง พระราชวังบักกิงแฮม วาติกัน พิพิธภัณฑ์เก็ตตี้ คฤหาสน์เพลย์บอย และอื่นๆ เหตุการณ์นี้จะทำให้ตลาดหุ้นพังทลายอย่างแน่นอน รวมถึง Precision Cyber ​​ที่เชื่อมโยงกับคำสั่งผู้บริหาร 13818 และ 13848 ทั้งหมดนี้เป็นการแสดง การเปลี่ยนจากธนบัตรธนาคารกลางของ Rothschild เป็นธนบัตรกระทรวงการคลังสายรุ้งซึ่งปัจจุบันได้รับการหนุนหลังด้วยโลหะมีค่า (ไม่ใช่น้ำมัน/สงคราม) เรายังคงสบายใจอยู่หรือไม่? หรือเราหวาดกลัว? การมีทั้งสองอย่างเล็กน้อยเป็นเรื่องปกติ ทรัมป์รักษาสัญญาของเขา จงศรัทธาในพระเจ้าของเรา พระองค์จะทรงปลอบโยนคุณผ่านพายุ ใครเห็นในเดือนมกราคม ประเทศต่างๆ มากถึง 10 ประเทศถูกตัดกระแสไฟฟ้าพร้อมกันโดยกองกำลังอวกาศ? ก่อนหน้านั้น อิสราเอลก็เคยเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นเป็นเวลา 30 นาทีเช่นกัน หากพวกเขาสามารถปิดเครื่อง 10 ประเทศพร้อมกันได้ พวกเขาก็สามารถทำได้ทั้งหมด ยินดีต้อนรับสู่ Tesla จำเป็นต้องปิดเครื่อง ลองดู "การฝึกซ้อม" ทางทหารทั่วโลกที่กำลังดำเนินการอยู่ตอนนี้ ทุกอย่างเกิดขึ้นต่อหน้าคุณ เป็นปฏิบัติการทางทหารระดับโลกที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของโลก การเปลี่ยนผ่านสู่ Gesara/ความยิ่งใหญ่ ตอนนี้พวกเขาเพียงแค่ต้องเล่นบทสงครามโลกครั้งที่ 3 ปลอมๆ เพื่อส่งเสียงไซเรนในศูนย์บัญชาการทหารแห่งชาติทุกแห่ง นี่เป็นการพิสูจน์ให้ทั้งโลกเห็นว่าหลายๆ อย่างที่เกิดขึ้นแล้วนั้นถูกต้องแล้ว ความจริงที่ว่ากฎหมายทหาร Gesara มีผลบังคับใช้แล้ว ศาลทหารลับ คำสารภาพ ฯลฯ การประหารชีวิตทั้งหมด และเช่นเดียวกับกองทัพอื่นๆ พวกเขาจะช่วยสร้างสิ่งใหม่ๆ ขึ้นมา พระเจ้าชนะผู้รักชาติ ยึดแนวไว้ รัดเข็มขัดนิรภัย และเชื่อใจในแผน! ขอให้พระเจ้าอวยพร FOXWOLF17 ที่มา @QNewsOfficialTV สนับสนุนโดย @DUMBSandUNDERGROUND @SpaceForceGalacticFederation
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 754 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • Bitcoin กลับมาโดดเด่นอีกครั้ง ท่ามกลางความไม่แน่นอนของตลาดสหรัฐฯ Bitcoin กำลังได้รับความสนใจจากนักลงทุนอีกครั้ง หลังจากที่ตลาดเริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับ ความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเฉพาะผลกระทบจาก สงครามการค้าของประธานาธิบดี Donald Trump

    แม้ว่า Bitcoin จะร่วงลงไปแตะระดับต่ำสุดของปีนี้หลังจาก Trump ประกาศภาษี Liberation Day เมื่อวันที่ 2 เมษายน แต่สกุลเงินดิจิทัลนี้สามารถ ฟื้นตัวขึ้นมาได้อย่างแข็งแกร่ง โดยมี มูลค่าเพิ่มขึ้น 15% ในเดือนเมษายน และเข้าใกล้ระดับ $100,000 อีกครั้ง

    ✅ Bitcoin ฟื้นตัวขึ้น 33% จากระดับต่ำสุดในเดือนเมษายน
    - แม้จะได้รับผลกระทบจาก นโยบายภาษีของสหรัฐฯ

    ✅ Bitcoin มีแนวโน้มเป็นสินทรัพย์ที่ช่วยกระจายความเสี่ยง
    - นักลงทุนเริ่มมองว่า Bitcoin ไม่ใช่แค่สินทรัพย์ที่เคลื่อนไหวตามตลาดหุ้น

    ✅ Bitcoin มีความสัมพันธ์กลับด้านกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ
    - เป็นครั้งแรกในรอบสองปีที่ Bitcoin มีความสัมพันธ์กลับด้านกับความชันของเส้นอัตราผลตอบแทน

    ✅ นักลงทุนเริ่มเข้าซื้อสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น
    - มีเงินไหลเข้าสู่ กองทุนสินทรัพย์ดิจิทัลกว่า $5.5 พันล้านในช่วงสามสัปดาห์ที่ผ่านมา

    ✅ นักวิเคราะห์คาดว่า Bitcoin อาจแตะระดับสูงสุดใหม่ที่ $120,000 ในไตรมาสที่สองของปี 2025
    - หากนักลงทุนยังคงลดการถือครองสินทรัพย์สหรัฐฯ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/08/cryptoverse-as-markets-question-us-exceptionalism-bitcoin-starts-to-shine
    Bitcoin กลับมาโดดเด่นอีกครั้ง ท่ามกลางความไม่แน่นอนของตลาดสหรัฐฯ Bitcoin กำลังได้รับความสนใจจากนักลงทุนอีกครั้ง หลังจากที่ตลาดเริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับ ความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเฉพาะผลกระทบจาก สงครามการค้าของประธานาธิบดี Donald Trump แม้ว่า Bitcoin จะร่วงลงไปแตะระดับต่ำสุดของปีนี้หลังจาก Trump ประกาศภาษี Liberation Day เมื่อวันที่ 2 เมษายน แต่สกุลเงินดิจิทัลนี้สามารถ ฟื้นตัวขึ้นมาได้อย่างแข็งแกร่ง โดยมี มูลค่าเพิ่มขึ้น 15% ในเดือนเมษายน และเข้าใกล้ระดับ $100,000 อีกครั้ง ✅ Bitcoin ฟื้นตัวขึ้น 33% จากระดับต่ำสุดในเดือนเมษายน - แม้จะได้รับผลกระทบจาก นโยบายภาษีของสหรัฐฯ ✅ Bitcoin มีแนวโน้มเป็นสินทรัพย์ที่ช่วยกระจายความเสี่ยง - นักลงทุนเริ่มมองว่า Bitcoin ไม่ใช่แค่สินทรัพย์ที่เคลื่อนไหวตามตลาดหุ้น ✅ Bitcoin มีความสัมพันธ์กลับด้านกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ - เป็นครั้งแรกในรอบสองปีที่ Bitcoin มีความสัมพันธ์กลับด้านกับความชันของเส้นอัตราผลตอบแทน ✅ นักลงทุนเริ่มเข้าซื้อสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น - มีเงินไหลเข้าสู่ กองทุนสินทรัพย์ดิจิทัลกว่า $5.5 พันล้านในช่วงสามสัปดาห์ที่ผ่านมา ✅ นักวิเคราะห์คาดว่า Bitcoin อาจแตะระดับสูงสุดใหม่ที่ $120,000 ในไตรมาสที่สองของปี 2025 - หากนักลงทุนยังคงลดการถือครองสินทรัพย์สหรัฐฯ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/08/cryptoverse-as-markets-question-us-exceptionalism-bitcoin-starts-to-shine
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Cryptoverse: As markets question US exceptionalism, bitcoin starts to shine
    (Reuters) -It's late to the sell-USA party. But bitcoin is finally reclaiming its place as a big alternative for investors spooked by President Donald Trump's trade war and keen to dump U.S. stocks, Treasuries and the dollar.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 382 มุมมอง 0 รีวิว
  • **ควอนตัมคอมพิวติ้ง (Quantum Computing)** คือ สาขาหนึ่งของการคำนวณที่ใช้หลักการของ **กลศาสตร์ควอนตัม** เพื่อประมวลผลข้อมูล แทนที่การใช้บิตแบบคลาสสิก (0 หรือ 1) ในคอมพิวเตอร์ทั่วไป ควอนตัมคอมพิวเตอร์ใช้ **คิวบิต (Qubit)** ซึ่งสามารถอยู่ในสถานะ **ซ้อนทับ (Superposition)** และ **纠缠 (Entanglement)** ได้ ทำให้มีความสามารถในการคำนวณที่เร็วกว่าในบางงานเฉพาะทาง

    ### **หลักการสำคัญของควอนตัมคอมพิวติ้ง**
    1. **Superposition (สถานะซ้อนทับ)**
    - คิวบิตสามารถเป็นได้ทั้ง 0 และ 1 ในเวลาเดียวกัน (ต่างจากบิตแบบคลาสสิกที่เป็นได้เพียง 0 หรือ 1)
    - ทำให้ควอนตัมคอมพิวเตอร์ประมวลผลข้อมูลหลายสถานะพร้อมกัน

    2. **Entanglement (การ纠缠)**
    - คิวบิตสามารถเชื่อมโยงกันแม้จะอยู่ห่างไกล การเปลี่ยนแปลงหนึ่งคิวบิตส่งผลต่อคิวบิตที่纠缠กันทันที
    - ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการคำนวณแบบขนาน

    3. **Quantum Interference (การแทรกสอดควอนตัม)**
    - ใช้เพื่อขยายความน่าจะเป็นของผลลัพธ์ที่ถูกต้องและลดผลลัพธ์ที่ผิด

    ### **ความได้เปรียบของควอนตัมคอมพิวติ้ง**
    - **แก้ปัญหาบางประเภทได้เร็วกว่า** เช่น:
    - **การแยกตัวประกอบจำนวนใหญ่** (สำคัญต่อการ破解การเข้ารหัส RSA) → อัลกอริทึม **Shor's Algorithm**
    - **การค้นหาข้อมูลในฐานข้อมูลขนาดใหญ่** → อัลกอริทึม **Grover's Algorithm**
    - **การจำลองระบบควอนตัม** (เช่น โมเลกุลสำหรับการพัฒนายา)
    - **ปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่อง (Quantum Machine Learning)**

    ### **ความท้าทาย**
    1. **สัญญาณรบกวนและความผิดพลาด (Noise and Decoherence)**
    - คิวบิตมีความเปราะบางต่อสิ่งรบกวนจากสิ่งแวดล้อม ทำให้สูญเสียสถานะควอนตัม (Quantum Decoherence)
    2. **การแก้ไขข้อผิดพลาด (Quantum Error Correction)**
    - ต้องใช้คิวบิตจำนวนมากเพื่อสร้าง "Logical Qubit" ที่เสถียร
    3. **อุณหภูมิต่ำมาก (Cryogenic Cooling)**
    - ควอนตัมคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ต้องทำงานที่อุณหภูมิใกล้ **ศูนย์สัมบูรณ์ (−273°C)**

    ### **สถานะปัจจุบัน (2024)**
    - **บริษัทชั้นนำ** เช่น Google, IBM, Microsoft, และ startups เช่น Rigetti, IonQ กำลังพัฒนาควอนตัมคอมพิวเตอร์
    - **IBM** มีระบบ **Quantum Processor** ขนาด **1,000+ คิวบิต** (แต่ยังไม่เสถียรเต็มที่)
    - **Google** อ้างว่าได้บรรลุ **Quantum Supremacy** (แก้ปัญหาที่ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ทำไม่ได้ในเวลาที่สมเหตุสมผล)

    ### **การประยุกต์ใช้ในอนาคต**
    - **การเข้ารหัสและความปลอดภัย** (Post-Quantum Cryptography)
    - **การออกแบบวัสดุใหม่**
    - **การปรับปรุงระบบ logistics และ supply chain**
    - **การพัฒนายาและเคมีควอนตัม**

    ### **สรุป**
    ควอนตัมคอมพิวติ้งยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่มีศักยภาพปฏิวัติหลายอุตสาหกรรมในอนาคต อย่างไรก็ตาม ยังต้องแก้ไขปัญหาทางเทคนิคอีกมากก่อนที่จะนำมาใช้อย่างแพร่หลาย

    **ควอนตัมคอมพิวติ้ง (Quantum Computing)** คือ สาขาหนึ่งของการคำนวณที่ใช้หลักการของ **กลศาสตร์ควอนตัม** เพื่อประมวลผลข้อมูล แทนที่การใช้บิตแบบคลาสสิก (0 หรือ 1) ในคอมพิวเตอร์ทั่วไป ควอนตัมคอมพิวเตอร์ใช้ **คิวบิต (Qubit)** ซึ่งสามารถอยู่ในสถานะ **ซ้อนทับ (Superposition)** และ **纠缠 (Entanglement)** ได้ ทำให้มีความสามารถในการคำนวณที่เร็วกว่าในบางงานเฉพาะทาง ### **หลักการสำคัญของควอนตัมคอมพิวติ้ง** 1. **Superposition (สถานะซ้อนทับ)** - คิวบิตสามารถเป็นได้ทั้ง 0 และ 1 ในเวลาเดียวกัน (ต่างจากบิตแบบคลาสสิกที่เป็นได้เพียง 0 หรือ 1) - ทำให้ควอนตัมคอมพิวเตอร์ประมวลผลข้อมูลหลายสถานะพร้อมกัน 2. **Entanglement (การ纠缠)** - คิวบิตสามารถเชื่อมโยงกันแม้จะอยู่ห่างไกล การเปลี่ยนแปลงหนึ่งคิวบิตส่งผลต่อคิวบิตที่纠缠กันทันที - ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการคำนวณแบบขนาน 3. **Quantum Interference (การแทรกสอดควอนตัม)** - ใช้เพื่อขยายความน่าจะเป็นของผลลัพธ์ที่ถูกต้องและลดผลลัพธ์ที่ผิด ### **ความได้เปรียบของควอนตัมคอมพิวติ้ง** - **แก้ปัญหาบางประเภทได้เร็วกว่า** เช่น: - **การแยกตัวประกอบจำนวนใหญ่** (สำคัญต่อการ破解การเข้ารหัส RSA) → อัลกอริทึม **Shor's Algorithm** - **การค้นหาข้อมูลในฐานข้อมูลขนาดใหญ่** → อัลกอริทึม **Grover's Algorithm** - **การจำลองระบบควอนตัม** (เช่น โมเลกุลสำหรับการพัฒนายา) - **ปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่อง (Quantum Machine Learning)** ### **ความท้าทาย** 1. **สัญญาณรบกวนและความผิดพลาด (Noise and Decoherence)** - คิวบิตมีความเปราะบางต่อสิ่งรบกวนจากสิ่งแวดล้อม ทำให้สูญเสียสถานะควอนตัม (Quantum Decoherence) 2. **การแก้ไขข้อผิดพลาด (Quantum Error Correction)** - ต้องใช้คิวบิตจำนวนมากเพื่อสร้าง "Logical Qubit" ที่เสถียร 3. **อุณหภูมิต่ำมาก (Cryogenic Cooling)** - ควอนตัมคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ต้องทำงานที่อุณหภูมิใกล้ **ศูนย์สัมบูรณ์ (−273°C)** ### **สถานะปัจจุบัน (2024)** - **บริษัทชั้นนำ** เช่น Google, IBM, Microsoft, และ startups เช่น Rigetti, IonQ กำลังพัฒนาควอนตัมคอมพิวเตอร์ - **IBM** มีระบบ **Quantum Processor** ขนาด **1,000+ คิวบิต** (แต่ยังไม่เสถียรเต็มที่) - **Google** อ้างว่าได้บรรลุ **Quantum Supremacy** (แก้ปัญหาที่ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ทำไม่ได้ในเวลาที่สมเหตุสมผล) ### **การประยุกต์ใช้ในอนาคต** - **การเข้ารหัสและความปลอดภัย** (Post-Quantum Cryptography) - **การออกแบบวัสดุใหม่** - **การปรับปรุงระบบ logistics และ supply chain** - **การพัฒนายาและเคมีควอนตัม** ### **สรุป** ควอนตัมคอมพิวติ้งยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่มีศักยภาพปฏิวัติหลายอุตสาหกรรมในอนาคต อย่างไรก็ตาม ยังต้องแก้ไขปัญหาทางเทคนิคอีกมากก่อนที่จะนำมาใช้อย่างแพร่หลาย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 256 มุมมอง 0 รีวิว
  • การคอร์รัปชันระดับโลก (Global Corruption) เป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนาที่มักมีระบบตรวจสอบและกลไกต่อต้านคอร์รัปชันที่อ่อนแอ

    ### **รูปแบบของการคอร์รัปชันระดับโลก**
    1. **การทุจริตข้ามชาติ (Transnational Corruption)**
    - การติดสินบนระหว่างประเทศ (เช่น บริษัทข้ามชาติให้สินบนเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อชนะโครงการใหญ่)
    - การฟอกเงินผ่านระบบการเงินระหว่างประเทศ

    2. **การหลีกเลี่ยงภาษี (Tax Evasion)**
    - การใช้บัญชีธนาคารลับในต่างประเทศ (เช่น เอกสารลับ Panama Papers, Paradise Papers)
    - การโอนผลกำไรไปยังประเทศที่มีภาษีต่ำ (Tax Havens)

    3. **การคอร์รัปชันในองค์กรระหว่างประเทศ**
    - การทุจริตในโครงการช่วยเหลือของสหประชาชาติ (UN) หรือกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)
    - การใช้อำนาจในองค์กรโลกบาลเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว

    4. **การคอร์รัปชันในห่วงโซ่อุปทานโลก**
    - การใช้แรงงานบังคับหรือการจ่ายเงินใต้โต๊ะในอุตสาหกรรมเหมืองแร่และพลังงาน

    ### **กรณีศึกษาที่โดดเด่น**
    - **Panama Papers (2016)** – เอกสารรั่วไหลเผยให้เห็นว่าผู้นำโลกและคนรวยใช้บริษัทหลอกเพื่อซ่อนทรัพย์สิน
    - **Operation Car Wash (巴西洗车行动)** – คดีทุจริตใหญ่ในบราซิลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทน้ำมัน Petrobras และนักการเมืองหลายประเทศ
    - **1MDB Scandal (มาเลเซีย)** – อดีตนายกฯ นาจิบ ราซัก ถูกกล่าวหาลักลอบใช้เงินกองทุนรัฐ

    ### **ผลกระทบ**
    - **เศรษฐกิจ** : สร้างความเสียหายมหาศาล ทำลายความเชื่อมั่นนักลงทุน
    - **สังคม** : เพิ่มความเหลื่อมล้ำ ทำลายระบบสวัสดิการ
    - **การเมือง** : บ่อนทำลายประชาธิปไตย สร้างระบอบอำนาจนิยม

    ### **ความพยายามต่อต้านคอร์รัปชันระดับโลก**
    - **UN Convention Against Corruption (UNCAC)** – ข้อตกลงระหว่างประเทศเพื่อปราบปรามคอร์รัปชัน
    - **OECD Anti-Bribery Convention** – ควบคุมการติดสินบนข้ามชาติของบริษัท
    - **Transparency International** – องค์กรนอกภาครัฐที่จัดดัชนีชี้วัดความโปร่งใส (CPI)

    ### **ความท้าทาย**
    - การบังคับใช้กฎหมายในบางประเทศยังอ่อนแอ
    - การใช้เทคโนโลยี (Cryptocurrency, Shell Companies) ทำให้การตรวจจับยากขึ้น

    การแก้ปัญหาคอร์รัปชันระดับโลกต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศ การบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง และการสร้างวัฒนธรรมความโปร่งใสในภาครัฐและเอกชน
    การคอร์รัปชันระดับโลก (Global Corruption) เป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนาที่มักมีระบบตรวจสอบและกลไกต่อต้านคอร์รัปชันที่อ่อนแอ ### **รูปแบบของการคอร์รัปชันระดับโลก** 1. **การทุจริตข้ามชาติ (Transnational Corruption)** - การติดสินบนระหว่างประเทศ (เช่น บริษัทข้ามชาติให้สินบนเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อชนะโครงการใหญ่) - การฟอกเงินผ่านระบบการเงินระหว่างประเทศ 2. **การหลีกเลี่ยงภาษี (Tax Evasion)** - การใช้บัญชีธนาคารลับในต่างประเทศ (เช่น เอกสารลับ Panama Papers, Paradise Papers) - การโอนผลกำไรไปยังประเทศที่มีภาษีต่ำ (Tax Havens) 3. **การคอร์รัปชันในองค์กรระหว่างประเทศ** - การทุจริตในโครงการช่วยเหลือของสหประชาชาติ (UN) หรือกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) - การใช้อำนาจในองค์กรโลกบาลเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว 4. **การคอร์รัปชันในห่วงโซ่อุปทานโลก** - การใช้แรงงานบังคับหรือการจ่ายเงินใต้โต๊ะในอุตสาหกรรมเหมืองแร่และพลังงาน ### **กรณีศึกษาที่โดดเด่น** - **Panama Papers (2016)** – เอกสารรั่วไหลเผยให้เห็นว่าผู้นำโลกและคนรวยใช้บริษัทหลอกเพื่อซ่อนทรัพย์สิน - **Operation Car Wash (巴西洗车行动)** – คดีทุจริตใหญ่ในบราซิลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทน้ำมัน Petrobras และนักการเมืองหลายประเทศ - **1MDB Scandal (มาเลเซีย)** – อดีตนายกฯ นาจิบ ราซัก ถูกกล่าวหาลักลอบใช้เงินกองทุนรัฐ ### **ผลกระทบ** - **เศรษฐกิจ** : สร้างความเสียหายมหาศาล ทำลายความเชื่อมั่นนักลงทุน - **สังคม** : เพิ่มความเหลื่อมล้ำ ทำลายระบบสวัสดิการ - **การเมือง** : บ่อนทำลายประชาธิปไตย สร้างระบอบอำนาจนิยม ### **ความพยายามต่อต้านคอร์รัปชันระดับโลก** - **UN Convention Against Corruption (UNCAC)** – ข้อตกลงระหว่างประเทศเพื่อปราบปรามคอร์รัปชัน - **OECD Anti-Bribery Convention** – ควบคุมการติดสินบนข้ามชาติของบริษัท - **Transparency International** – องค์กรนอกภาครัฐที่จัดดัชนีชี้วัดความโปร่งใส (CPI) ### **ความท้าทาย** - การบังคับใช้กฎหมายในบางประเทศยังอ่อนแอ - การใช้เทคโนโลยี (Cryptocurrency, Shell Companies) ทำให้การตรวจจับยากขึ้น การแก้ปัญหาคอร์รัปชันระดับโลกต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศ การบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง และการสร้างวัฒนธรรมความโปร่งใสในภาครัฐและเอกชน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 572 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้กล่าวถึง การลักพาตัวนักลงทุนคริปโตในฝรั่งเศสและยุโรป ซึ่งกลุ่มอาชญากรใช้ วิธีการรุนแรงเพื่อบังคับให้เหยื่อจ่ายค่าไถ่เป็นคริปโต

    เหตุการณ์ล่าสุดเกิดขึ้นใน กรุงปารีส เมื่อชายวัย 60 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทการตลาดคริปโต ถูกลักพาตัวกลางวันแสกๆ และถูกบังคับให้ลูกชายของเขาจ่ายค่าไถ่ระหว่าง $5.3 ล้านถึง $8 ล้าน ในคริปโต เหยื่อถูกกักขังเป็นเวลา สองวัน และถูกตัดนิ้วเพื่อส่งไปให้ลูกชายของเขา

    ✅ นักลงทุนคริปโตในฝรั่งเศสและยุโรปตกเป็นเป้าหมายของกลุ่มอาชญากร
    - กลุ่มอาชญากรใช้ วิธีการรุนแรงเพื่อบังคับให้เหยื่อจ่ายค่าไถ่เป็นคริปโต
    - เหยื่อถูกลักพาตัวและถูกทำร้ายเพื่อกดดันให้จ่ายเงิน

    ✅ เหตุการณ์ล่าสุดเกิดขึ้นในกรุงปารีส
    - ชายวัย 60 ปี ถูกลักพาตัวกลางวันแสกๆ
    - ถูกบังคับให้ลูกชายของเขาจ่ายค่าไถ่ระหว่าง $5.3 ล้านถึง $8 ล้าน ในคริปโต

    ✅ เหยื่อถูกกักขังเป็นเวลา 2 วันและถูกตัดนิ้วเพื่อส่งไปให้ลูกชายของเขา
    - ตำรวจติดตามและช่วยเหลือเหยื่อได้สำเร็จ
    - ผู้ต้องสงสัย 5 คนถูกจับกุม

    ✅ เหตุการณ์คล้ายกันเกิดขึ้นกับ David Balland ผู้ร่วมก่อตั้ง Ledger
    - ถูกลักพาตัวและถูกตัดนิ้วเพื่อกดดันให้จ่ายค่าไถ่ $11.3 ล้าน ในคริปโต
    - ตำรวจช่วยเหลือเขาได้สำเร็จ

    ✅ มีกรณีลักพาตัวนักลงทุนคริปโตในสเปนและเบลเยียมในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา
    - ยังไม่แน่ชัดว่าคดีเหล่านี้เกี่ยวข้องกันหรือไม่

    https://www.techspot.com/news/107816-crypto-millionaires-targeted-brutal-kidnappings-across-france-europe.html
    ข่าวนี้กล่าวถึง การลักพาตัวนักลงทุนคริปโตในฝรั่งเศสและยุโรป ซึ่งกลุ่มอาชญากรใช้ วิธีการรุนแรงเพื่อบังคับให้เหยื่อจ่ายค่าไถ่เป็นคริปโต เหตุการณ์ล่าสุดเกิดขึ้นใน กรุงปารีส เมื่อชายวัย 60 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทการตลาดคริปโต ถูกลักพาตัวกลางวันแสกๆ และถูกบังคับให้ลูกชายของเขาจ่ายค่าไถ่ระหว่าง $5.3 ล้านถึง $8 ล้าน ในคริปโต เหยื่อถูกกักขังเป็นเวลา สองวัน และถูกตัดนิ้วเพื่อส่งไปให้ลูกชายของเขา ✅ นักลงทุนคริปโตในฝรั่งเศสและยุโรปตกเป็นเป้าหมายของกลุ่มอาชญากร - กลุ่มอาชญากรใช้ วิธีการรุนแรงเพื่อบังคับให้เหยื่อจ่ายค่าไถ่เป็นคริปโต - เหยื่อถูกลักพาตัวและถูกทำร้ายเพื่อกดดันให้จ่ายเงิน ✅ เหตุการณ์ล่าสุดเกิดขึ้นในกรุงปารีส - ชายวัย 60 ปี ถูกลักพาตัวกลางวันแสกๆ - ถูกบังคับให้ลูกชายของเขาจ่ายค่าไถ่ระหว่าง $5.3 ล้านถึง $8 ล้าน ในคริปโต ✅ เหยื่อถูกกักขังเป็นเวลา 2 วันและถูกตัดนิ้วเพื่อส่งไปให้ลูกชายของเขา - ตำรวจติดตามและช่วยเหลือเหยื่อได้สำเร็จ - ผู้ต้องสงสัย 5 คนถูกจับกุม ✅ เหตุการณ์คล้ายกันเกิดขึ้นกับ David Balland ผู้ร่วมก่อตั้ง Ledger - ถูกลักพาตัวและถูกตัดนิ้วเพื่อกดดันให้จ่ายค่าไถ่ $11.3 ล้าน ในคริปโต - ตำรวจช่วยเหลือเขาได้สำเร็จ ✅ มีกรณีลักพาตัวนักลงทุนคริปโตในสเปนและเบลเยียมในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา - ยังไม่แน่ชัดว่าคดีเหล่านี้เกี่ยวข้องกันหรือไม่ https://www.techspot.com/news/107816-crypto-millionaires-targeted-brutal-kidnappings-across-france-europe.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Crypto millionaires targeted in brutal kidnappings across France and Europe
    The unidentified 60-year-old man was abducted in broad daylight at 10.30am on Thursday morning while walking down Paris' 14th arrondissement, writes The Guardian. Four men forced him...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 368 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้กล่าวถึง ความตึงเครียดในสภาคองเกรสเกี่ยวกับโครงการคริปโตของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งส่งผลให้ สมาชิกพรรคเดโมแครตชะลอการพิจารณาร่างกฎหมายเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล

    ก่อนหน้านี้ สภาคองเกรสมีแนวโน้มที่จะผ่านกฎหมายควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นครั้งแรก แต่ความขัดแย้งเริ่มรุนแรงขึ้นเมื่อ ทรัมป์และสมาชิกในครอบครัวของเขาเริ่มโปรโมตโครงการคริปโตส่วนตัว ทำให้พรรคเดโมแครตไม่พอใจและตัดสินใจ ชะลอการอภิปรายร่างกฎหมาย

    ✅ สภาคองเกรสมีแนวโน้มที่จะผ่านกฎหมายควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นครั้งแรก
    - ก่อนหน้านี้มีการสนับสนุนจากทั้งสองพรรค
    - กฎหมายนี้มีเป้าหมายเพื่อ กำหนดกรอบการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล

    ✅ ความขัดแย้งเริ่มรุนแรงขึ้นเมื่อทรัมป์และครอบครัวโปรโมตโครงการคริปโตส่วนตัว
    - พรรคเดโมแครตไม่พอใจที่ ทรัมป์ใช้ตำแหน่งทางการเมืองเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว
    - ส่งผลให้ การอภิปรายร่างกฎหมายถูกชะลอออกไป

    ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล
    - ความล่าช้าในการออกกฎหมายอาจ ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน
    - อาจทำให้ บริษัทคริปโตต้องรอแนวทางการกำกับดูแลที่ชัดเจน

    ✅ แนวโน้มของการพัฒนาในอนาคต
    - หากความขัดแย้งยังคงดำเนินต่อไป อาจทำให้ กฎหมายสินทรัพย์ดิจิทัลถูกเลื่อนออกไปอีก

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/07/trump039s-crypto-ventures-cause-tensions-to-bubble-over-as-democratic-lawmaker-scuttles-key-hearing
    ข่าวนี้กล่าวถึง ความตึงเครียดในสภาคองเกรสเกี่ยวกับโครงการคริปโตของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งส่งผลให้ สมาชิกพรรคเดโมแครตชะลอการพิจารณาร่างกฎหมายเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล ก่อนหน้านี้ สภาคองเกรสมีแนวโน้มที่จะผ่านกฎหมายควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นครั้งแรก แต่ความขัดแย้งเริ่มรุนแรงขึ้นเมื่อ ทรัมป์และสมาชิกในครอบครัวของเขาเริ่มโปรโมตโครงการคริปโตส่วนตัว ทำให้พรรคเดโมแครตไม่พอใจและตัดสินใจ ชะลอการอภิปรายร่างกฎหมาย ✅ สภาคองเกรสมีแนวโน้มที่จะผ่านกฎหมายควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นครั้งแรก - ก่อนหน้านี้มีการสนับสนุนจากทั้งสองพรรค - กฎหมายนี้มีเป้าหมายเพื่อ กำหนดกรอบการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล ✅ ความขัดแย้งเริ่มรุนแรงขึ้นเมื่อทรัมป์และครอบครัวโปรโมตโครงการคริปโตส่วนตัว - พรรคเดโมแครตไม่พอใจที่ ทรัมป์ใช้ตำแหน่งทางการเมืองเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว - ส่งผลให้ การอภิปรายร่างกฎหมายถูกชะลอออกไป ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล - ความล่าช้าในการออกกฎหมายอาจ ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน - อาจทำให้ บริษัทคริปโตต้องรอแนวทางการกำกับดูแลที่ชัดเจน ✅ แนวโน้มของการพัฒนาในอนาคต - หากความขัดแย้งยังคงดำเนินต่อไป อาจทำให้ กฎหมายสินทรัพย์ดิจิทัลถูกเลื่อนออกไปอีก https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/07/trump039s-crypto-ventures-cause-tensions-to-bubble-over-as-democratic-lawmaker-scuttles-key-hearing
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Trump's crypto ventures cause tensions to bubble over as Democratic lawmaker scuttles key hearing
    (Reuters) -Tensions on Capitol Hill over President Donald Trump's various cryptocurrency ventures escalated on Tuesday and threatened to derail the digital asset sector's hope of legislation by the end of this year as a top Democratic lawmaker stalled efforts to debate a bill.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 227 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทางการคูเวตได้ดำเนินการ ปราบปรามการขุดคริปโต ในเมือง Al-Wafrah ซึ่งส่งผลให้ การใช้พลังงานลดลงถึง 55% ภายในสัปดาห์เดียว โดยรัฐบาลระบุว่าการขุดคริปโต เป็นการใช้ไฟฟ้าอย่างผิดกฎหมาย และอาจทำให้เกิด ไฟฟ้าดับในพื้นที่อยู่อาศัยและธุรกิจ

    แม้ว่าการซื้อขายคริปโตจะ ผิดกฎหมายในคูเวต แต่การขุดคริปโตยังไม่มีข้อห้ามชัดเจน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้บุกตรวจค้นบ้านกว่า 100 หลัง ที่ต้องสงสัยว่ามีการขุดคริปโต โดยบางแห่งใช้ไฟฟ้ามากกว่าบ้านทั่วไปถึง 20 เท่า

    ✅ การใช้พลังงานลดลง 55% หลังจากปราบปรามการขุดคริปโต
    - เมือง Al-Wafrah พบว่าการใช้ไฟฟ้าลดลงอย่างมากหลังจากรัฐบาลดำเนินการ

    ✅ รัฐบาลคูเวตระบุว่าการขุดคริปโตเป็นการใช้ไฟฟ้าอย่างผิดกฎหมาย
    - อาจทำให้เกิด ไฟฟ้าดับในพื้นที่อยู่อาศัยและธุรกิจ
    - ส่งผลกระทบต่อ ความปลอดภัยของประชาชน

    ✅ การตรวจค้นบ้านกว่า 100 หลังที่ต้องสงสัยว่ามีการขุดคริปโต
    - บางแห่งใช้ไฟฟ้ามากกว่าบ้านทั่วไปถึง 20 เท่า
    - การขุด Bitcoin ใช้พลังงานมากกว่า 1,047 kWh ต่อธุรกรรม ซึ่งเทียบเท่ากับ การใช้ไฟฟ้าของบ้านในสหรัฐฯ หนึ่งเดือน

    ✅ เหตุผลที่คูเวตเป็นพื้นที่น่าสนใจสำหรับนักขุดคริปโต
    - คูเวตเป็นประเทศที่ มีราคาพลังงานต่ำ เนื่องจากเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมัน
    - นักขุดคริปโตเลือกคูเวตเพราะ ต้นทุนไฟฟ้าถูกกว่าประเทศอื่น ๆ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cryptomining/energy-use-in-a-kuwaiti-city-fell-by-over-50-percent-after-authorities-cracked-down-on-crypto-mining
    ทางการคูเวตได้ดำเนินการ ปราบปรามการขุดคริปโต ในเมือง Al-Wafrah ซึ่งส่งผลให้ การใช้พลังงานลดลงถึง 55% ภายในสัปดาห์เดียว โดยรัฐบาลระบุว่าการขุดคริปโต เป็นการใช้ไฟฟ้าอย่างผิดกฎหมาย และอาจทำให้เกิด ไฟฟ้าดับในพื้นที่อยู่อาศัยและธุรกิจ แม้ว่าการซื้อขายคริปโตจะ ผิดกฎหมายในคูเวต แต่การขุดคริปโตยังไม่มีข้อห้ามชัดเจน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้บุกตรวจค้นบ้านกว่า 100 หลัง ที่ต้องสงสัยว่ามีการขุดคริปโต โดยบางแห่งใช้ไฟฟ้ามากกว่าบ้านทั่วไปถึง 20 เท่า ✅ การใช้พลังงานลดลง 55% หลังจากปราบปรามการขุดคริปโต - เมือง Al-Wafrah พบว่าการใช้ไฟฟ้าลดลงอย่างมากหลังจากรัฐบาลดำเนินการ ✅ รัฐบาลคูเวตระบุว่าการขุดคริปโตเป็นการใช้ไฟฟ้าอย่างผิดกฎหมาย - อาจทำให้เกิด ไฟฟ้าดับในพื้นที่อยู่อาศัยและธุรกิจ - ส่งผลกระทบต่อ ความปลอดภัยของประชาชน ✅ การตรวจค้นบ้านกว่า 100 หลังที่ต้องสงสัยว่ามีการขุดคริปโต - บางแห่งใช้ไฟฟ้ามากกว่าบ้านทั่วไปถึง 20 เท่า - การขุด Bitcoin ใช้พลังงานมากกว่า 1,047 kWh ต่อธุรกรรม ซึ่งเทียบเท่ากับ การใช้ไฟฟ้าของบ้านในสหรัฐฯ หนึ่งเดือน ✅ เหตุผลที่คูเวตเป็นพื้นที่น่าสนใจสำหรับนักขุดคริปโต - คูเวตเป็นประเทศที่ มีราคาพลังงานต่ำ เนื่องจากเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมัน - นักขุดคริปโตเลือกคูเวตเพราะ ต้นทุนไฟฟ้าถูกกว่าประเทศอื่น ๆ https://www.tomshardware.com/tech-industry/cryptomining/energy-use-in-a-kuwaiti-city-fell-by-over-50-percent-after-authorities-cracked-down-on-crypto-mining
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 284 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลสหราชอาณาจักรเตรียมออกกฎหมายใหม่เพื่อ ห้ามไม่ให้ผู้บริโภคใช้บัตรเครดิตซื้อคริปโต และจำกัดการเข้าถึงผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่เกี่ยวข้องกับคริปโต โดยมีเป้าหมายเพื่อ เพิ่มการคุ้มครองผู้บริโภค ในขณะที่อุตสาหกรรมคริปโตถูกนำเข้าสู่การกำกับดูแลเป็นครั้งแรก

    กระทรวงการคลังของอังกฤษประกาศว่า จะบังคับใช้กฎระเบียบกับตลาดคริปโต โดยให้ แพลตฟอร์มซื้อขาย, ผู้ให้บริการ และผู้ออกเหรียญคริปโต อยู่ภายใต้กฎหมายที่มีอยู่

    หน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงิน (FCA) ระบุว่า 14% ของนักลงทุนคริปโตในสหราชอาณาจักรใช้บัตรเครดิตซื้อคริปโตในปี 2024 เพิ่มขึ้นจาก 6% ในปี 2022 ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้รัฐบาลต้องออกมาตรการควบคุม

    ✅ การห้ามใช้บัตรเครดิตซื้อคริปโต
    - รัฐบาลต้องการ ลดความเสี่ยงทางการเงินของผู้บริโภค
    - FCA พบว่า 14% ของนักลงทุนคริปโตใช้บัตรเครดิตซื้อคริปโตในปี 2024

    ✅ การกำกับดูแลตลาดคริปโต
    - กระทรวงการคลังจะบังคับใช้กฎระเบียบกับ แพลตฟอร์มซื้อขาย, ผู้ให้บริการ และผู้ออกเหรียญคริปโต
    - ต้องการ กำจัดผู้เล่นที่ไม่โปร่งใส และสนับสนุน นวัตกรรมที่ถูกต้องตามกฎหมาย

    ✅ ข้อจำกัดเกี่ยวกับสินเชื่อคริปโต
    - FCA กำลังพิจารณา การตรวจสอบเครดิตของผู้ลงทุน และ ทดสอบความรู้เกี่ยวกับการลงทุน
    - การให้สินเชื่อคริปโตอาจมี ความเสี่ยงด้านสภาพคล่องและการสูญเสียความเป็นเจ้าของสินทรัพย์

    ✅ ข้อยกเว้นสำหรับ Stablecoins
    - ผู้บริโภคยังสามารถใช้สินเชื่อซื้อ Stablecoins ที่ออกโดยบริษัทที่ได้รับการกำกับดูแลจาก FCA

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/02/britain-to-bar-consumers-from-borrowing-to-buy-crypto-under-new-regime
    รัฐบาลสหราชอาณาจักรเตรียมออกกฎหมายใหม่เพื่อ ห้ามไม่ให้ผู้บริโภคใช้บัตรเครดิตซื้อคริปโต และจำกัดการเข้าถึงผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่เกี่ยวข้องกับคริปโต โดยมีเป้าหมายเพื่อ เพิ่มการคุ้มครองผู้บริโภค ในขณะที่อุตสาหกรรมคริปโตถูกนำเข้าสู่การกำกับดูแลเป็นครั้งแรก กระทรวงการคลังของอังกฤษประกาศว่า จะบังคับใช้กฎระเบียบกับตลาดคริปโต โดยให้ แพลตฟอร์มซื้อขาย, ผู้ให้บริการ และผู้ออกเหรียญคริปโต อยู่ภายใต้กฎหมายที่มีอยู่ หน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงิน (FCA) ระบุว่า 14% ของนักลงทุนคริปโตในสหราชอาณาจักรใช้บัตรเครดิตซื้อคริปโตในปี 2024 เพิ่มขึ้นจาก 6% ในปี 2022 ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้รัฐบาลต้องออกมาตรการควบคุม ✅ การห้ามใช้บัตรเครดิตซื้อคริปโต - รัฐบาลต้องการ ลดความเสี่ยงทางการเงินของผู้บริโภค - FCA พบว่า 14% ของนักลงทุนคริปโตใช้บัตรเครดิตซื้อคริปโตในปี 2024 ✅ การกำกับดูแลตลาดคริปโต - กระทรวงการคลังจะบังคับใช้กฎระเบียบกับ แพลตฟอร์มซื้อขาย, ผู้ให้บริการ และผู้ออกเหรียญคริปโต - ต้องการ กำจัดผู้เล่นที่ไม่โปร่งใส และสนับสนุน นวัตกรรมที่ถูกต้องตามกฎหมาย ✅ ข้อจำกัดเกี่ยวกับสินเชื่อคริปโต - FCA กำลังพิจารณา การตรวจสอบเครดิตของผู้ลงทุน และ ทดสอบความรู้เกี่ยวกับการลงทุน - การให้สินเชื่อคริปโตอาจมี ความเสี่ยงด้านสภาพคล่องและการสูญเสียความเป็นเจ้าของสินทรัพย์ ✅ ข้อยกเว้นสำหรับ Stablecoins - ผู้บริโภคยังสามารถใช้สินเชื่อซื้อ Stablecoins ที่ออกโดยบริษัทที่ได้รับการกำกับดูแลจาก FCA https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/02/britain-to-bar-consumers-from-borrowing-to-buy-crypto-under-new-regime
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Britain to bar consumers from borrowing to buy crypto under new regime
    LONDON (Reuters) -Britain is to restrict consumers' use of credit cards to buy crypto and their access to crypto lending products, the regulator said on Friday, a move aimed at improving protection as cryptoassets are regulated for the first time.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 302 มุมมอง 0 รีวิว
  • คูเวตกำลังเผชิญกับ วิกฤตพลังงาน ที่รุนแรง ซึ่งส่งผลให้รัฐบาลต้องดำเนินการ ปราบปรามการขุดคริปโตเคอร์เรนซี เนื่องจากกิจกรรมนี้ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนไฟฟ้า

    กระทรวงมหาดไทยของคูเวตได้เริ่ม ปฏิบัติการด้านความมั่นคง เพื่อตรวจสอบบ้านที่ใช้สำหรับการขุดคริปโต ซึ่งถือเป็นการใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างผิดกฎหมาย โดยมีรายงานว่าบ้านบางหลังใช้พลังงานมากกว่าปกติถึง 20 เท่า

    แม้ว่าคูเวตจะ ห้ามการซื้อขายคริปโต แต่ยังไม่มี กฎหมายเฉพาะที่ควบคุมการขุดคริปโต ทำให้ผู้ขุดสามารถใช้ประโยชน์จากราคาพลังงานที่ถูกและการขาดการกำกับดูแลเพื่อดำเนินกิจกรรมของตน

    ✅ การดำเนินการของรัฐบาล
    - กระทรวงมหาดไทยเริ่มปฏิบัติการตรวจสอบบ้านที่ใช้ขุดคริปโต
    - บ้านบางหลังใช้พลังงานมากกว่าปกติถึง 20 เท่า

    ✅ สถานการณ์พลังงานในคูเวต
    - คูเวตกำลังเผชิญกับวิกฤตพลังงานจากการเติบโตของประชากรและอุณหภูมิที่สูงขึ้น
    - การบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าล่าช้าทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนไฟฟ้า

    ✅ กฎหมายเกี่ยวกับคริปโตในคูเวต
    - คูเวตห้ามการซื้อขายคริปโต แต่ยังไม่มีข้อบังคับเฉพาะเกี่ยวกับการขุด
    - ผู้ขุดใช้ประโยชน์จากราคาพลังงานที่ถูกและการขาดการกำกับดูแล

    ✅ ผลกระทบของการปราบปราม
    - การใช้พลังงานในพื้นที่ Al-Wafrah ลดลง 55% หลังจากปฏิบัติการของรัฐบาล

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/01/kuwait-cracks-down-on-cryptocurrency-mining-amid-power-crisis
    คูเวตกำลังเผชิญกับ วิกฤตพลังงาน ที่รุนแรง ซึ่งส่งผลให้รัฐบาลต้องดำเนินการ ปราบปรามการขุดคริปโตเคอร์เรนซี เนื่องจากกิจกรรมนี้ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนไฟฟ้า กระทรวงมหาดไทยของคูเวตได้เริ่ม ปฏิบัติการด้านความมั่นคง เพื่อตรวจสอบบ้านที่ใช้สำหรับการขุดคริปโต ซึ่งถือเป็นการใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างผิดกฎหมาย โดยมีรายงานว่าบ้านบางหลังใช้พลังงานมากกว่าปกติถึง 20 เท่า แม้ว่าคูเวตจะ ห้ามการซื้อขายคริปโต แต่ยังไม่มี กฎหมายเฉพาะที่ควบคุมการขุดคริปโต ทำให้ผู้ขุดสามารถใช้ประโยชน์จากราคาพลังงานที่ถูกและการขาดการกำกับดูแลเพื่อดำเนินกิจกรรมของตน ✅ การดำเนินการของรัฐบาล - กระทรวงมหาดไทยเริ่มปฏิบัติการตรวจสอบบ้านที่ใช้ขุดคริปโต - บ้านบางหลังใช้พลังงานมากกว่าปกติถึง 20 เท่า ✅ สถานการณ์พลังงานในคูเวต - คูเวตกำลังเผชิญกับวิกฤตพลังงานจากการเติบโตของประชากรและอุณหภูมิที่สูงขึ้น - การบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าล่าช้าทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนไฟฟ้า ✅ กฎหมายเกี่ยวกับคริปโตในคูเวต - คูเวตห้ามการซื้อขายคริปโต แต่ยังไม่มีข้อบังคับเฉพาะเกี่ยวกับการขุด - ผู้ขุดใช้ประโยชน์จากราคาพลังงานที่ถูกและการขาดการกำกับดูแล ✅ ผลกระทบของการปราบปราม - การใช้พลังงานในพื้นที่ Al-Wafrah ลดลง 55% หลังจากปฏิบัติการของรัฐบาล https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/01/kuwait-cracks-down-on-cryptocurrency-mining-amid-power-crisis
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Kuwait cracks down on cryptocurrency mining amid power crisis
    KUWAIT (Reuters) -Kuwait has launched a crackdown on cryptocurrency miners it accuses of being a "major" cause of a power crisis that has led to blackouts, as authorities seek to ease pressure on the grid before the start of a sweltering summer.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 289 มุมมอง 0 รีวิว
  • Marks & Spencer กำลังเผชิญกับเหตุการณ์ cyber incident ที่ส่งผลกระทบต่อระบบของบริษัทมานานกว่าหนึ่งสัปดาห์ โดยมีรายงานว่าเหตุการณ์นี้อาจเป็นฝีมือของ Scattered Spider ซึ่งเป็นกลุ่มแฮกเกอร์ที่มีชื่อเสียงด้านการโจมตีทางไซเบอร์

    แม้ว่าบริษัทจะยังไม่ได้ยืนยันว่าเป็นการโจมตีด้วย ransomware แต่แหล่งข่าวจาก BleepingComputer ระบุว่า Scattered Spider ได้ใช้ DragonForce encryptor เพื่อเข้ารหัส VMware ESXi hosts ของ Marks & Spencer เมื่อวันที่ 24 เมษายน

    ผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ทำให้ Marks & Spencer ต้อง ปิดระบบบางส่วน และหยุดให้บริการ Click and Collect ในทุกสาขา รวมถึงการสั่งซื้อออนไลน์

    ✅ ผลกระทบต่อระบบของบริษัท
    - Marks & Spencer ต้องปิดระบบบางส่วนเพื่อควบคุมสถานการณ์
    - บริการ Click and Collect ถูกระงับในทุกสาขา

    ✅ กลุ่มแฮกเกอร์ที่อยู่เบื้องหลัง
    - Scattered Spider เป็นกลุ่มแฮกเกอร์ที่มีชื่อเสียงด้านการโจมตีทางไซเบอร์
    - ใช้ DragonForce encryptor เพื่อเข้ารหัส VMware ESXi hosts

    ✅ การตอบสนองของ Marks & Spencer
    - บริษัทนำระบบบางส่วนออฟไลน์เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของมัลแวร์
    - CrowdStrike, Microsoft และ Fenix24 ถูกเรียกเข้ามาช่วยตรวจสอบและกู้คืนระบบ

    ✅ ผลกระทบต่อการดำเนินงาน
    - ร้านค้าบางแห่งไม่สามารถรับชำระเงินแบบ contactless ได้
    - การสั่งซื้อออนไลน์ถูกระงับชั่วคราว

    https://www.techradar.com/pro/security/marks-and-spencer-outage-allegedly-linked-to-scatteredspider-ransomware-attack
    Marks & Spencer กำลังเผชิญกับเหตุการณ์ cyber incident ที่ส่งผลกระทบต่อระบบของบริษัทมานานกว่าหนึ่งสัปดาห์ โดยมีรายงานว่าเหตุการณ์นี้อาจเป็นฝีมือของ Scattered Spider ซึ่งเป็นกลุ่มแฮกเกอร์ที่มีชื่อเสียงด้านการโจมตีทางไซเบอร์ แม้ว่าบริษัทจะยังไม่ได้ยืนยันว่าเป็นการโจมตีด้วย ransomware แต่แหล่งข่าวจาก BleepingComputer ระบุว่า Scattered Spider ได้ใช้ DragonForce encryptor เพื่อเข้ารหัส VMware ESXi hosts ของ Marks & Spencer เมื่อวันที่ 24 เมษายน ผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ทำให้ Marks & Spencer ต้อง ปิดระบบบางส่วน และหยุดให้บริการ Click and Collect ในทุกสาขา รวมถึงการสั่งซื้อออนไลน์ ✅ ผลกระทบต่อระบบของบริษัท - Marks & Spencer ต้องปิดระบบบางส่วนเพื่อควบคุมสถานการณ์ - บริการ Click and Collect ถูกระงับในทุกสาขา ✅ กลุ่มแฮกเกอร์ที่อยู่เบื้องหลัง - Scattered Spider เป็นกลุ่มแฮกเกอร์ที่มีชื่อเสียงด้านการโจมตีทางไซเบอร์ - ใช้ DragonForce encryptor เพื่อเข้ารหัส VMware ESXi hosts ✅ การตอบสนองของ Marks & Spencer - บริษัทนำระบบบางส่วนออฟไลน์เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของมัลแวร์ - CrowdStrike, Microsoft และ Fenix24 ถูกเรียกเข้ามาช่วยตรวจสอบและกู้คืนระบบ ✅ ผลกระทบต่อการดำเนินงาน - ร้านค้าบางแห่งไม่สามารถรับชำระเงินแบบ contactless ได้ - การสั่งซื้อออนไลน์ถูกระงับชั่วคราว https://www.techradar.com/pro/security/marks-and-spencer-outage-allegedly-linked-to-scatteredspider-ransomware-attack
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 210 มุมมอง 0 รีวิว
  • Nike กำลังเผชิญกับการฟ้องร้องในศาลสหรัฐฯ หลังจากปิดตัวธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคริปโตและ NFT ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยงาน RTFKT ที่บริษัทเข้าซื้อในปี 2021 โดยผู้ซื้อ NFT และสินทรัพย์คริปโตที่เกี่ยวข้องกล่าวว่าการปิดตัวธุรกิจนี้ในเดือนธันวาคม 2024 ส่งผลให้ความต้องการในสินทรัพย์ของพวกเขาลดลงอย่างมาก และพวกเขาอ้างว่าหากทราบล่วงหน้าว่า NFT เหล่านี้เป็นหลักทรัพย์ที่ไม่ได้จดทะเบียน พวกเขาจะไม่ซื้อในราคาที่สูงหรืออาจไม่ซื้อเลย

    การฟ้องร้องนี้เป็นคดีแบบกลุ่มที่นำโดย Jagdeep Cheema ชาวออสเตรเลีย ซึ่งเรียกร้องค่าเสียหายมากกว่า 5 ล้านดอลลาร์ โดยอ้างว่าการปิดตัวธุรกิจนี้ละเมิดกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคในรัฐนิวยอร์ก แคลิฟอร์เนีย ฟลอริดา และโอเรกอน

    Nike ระบุว่าแม้จะปิดตัว RTFKT แต่ยังคงมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการสร้างสรรค์และนวัตกรรมที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก RTFKT

    ✅ การปิดตัวธุรกิจ RTFKT
    - Nike ปิดตัวธุรกิจ RTFKT ในเดือนธันวาคม 2024
    - ผู้ซื้อ NFT และสินทรัพย์คริปโตกล่าวว่าความต้องการในสินทรัพย์ของพวกเขาลดลง

    ✅ การฟ้องร้องในศาลสหรัฐฯ
    - คดีแบบกลุ่มนำโดย Jagdeep Cheema ชาวออสเตรเลีย
    - เรียกร้องค่าเสียหายมากกว่า 5 ล้านดอลลาร์

    ✅ ผลกระทบต่อผู้ซื้อ NFT
    - ผู้ซื้ออ้างว่าหากทราบล่วงหน้าว่า NFT เป็นหลักทรัพย์ที่ไม่ได้จดทะเบียน พวกเขาจะไม่ซื้อ

    ✅ การตอบสนองของ Nike
    - Nike ระบุว่ายังคงมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการสร้างสรรค์และนวัตกรรม

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/26/nike-sued-over-closure-of-crypto-business
    Nike กำลังเผชิญกับการฟ้องร้องในศาลสหรัฐฯ หลังจากปิดตัวธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคริปโตและ NFT ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยงาน RTFKT ที่บริษัทเข้าซื้อในปี 2021 โดยผู้ซื้อ NFT และสินทรัพย์คริปโตที่เกี่ยวข้องกล่าวว่าการปิดตัวธุรกิจนี้ในเดือนธันวาคม 2024 ส่งผลให้ความต้องการในสินทรัพย์ของพวกเขาลดลงอย่างมาก และพวกเขาอ้างว่าหากทราบล่วงหน้าว่า NFT เหล่านี้เป็นหลักทรัพย์ที่ไม่ได้จดทะเบียน พวกเขาจะไม่ซื้อในราคาที่สูงหรืออาจไม่ซื้อเลย การฟ้องร้องนี้เป็นคดีแบบกลุ่มที่นำโดย Jagdeep Cheema ชาวออสเตรเลีย ซึ่งเรียกร้องค่าเสียหายมากกว่า 5 ล้านดอลลาร์ โดยอ้างว่าการปิดตัวธุรกิจนี้ละเมิดกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคในรัฐนิวยอร์ก แคลิฟอร์เนีย ฟลอริดา และโอเรกอน Nike ระบุว่าแม้จะปิดตัว RTFKT แต่ยังคงมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการสร้างสรรค์และนวัตกรรมที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก RTFKT ✅ การปิดตัวธุรกิจ RTFKT - Nike ปิดตัวธุรกิจ RTFKT ในเดือนธันวาคม 2024 - ผู้ซื้อ NFT และสินทรัพย์คริปโตกล่าวว่าความต้องการในสินทรัพย์ของพวกเขาลดลง ✅ การฟ้องร้องในศาลสหรัฐฯ - คดีแบบกลุ่มนำโดย Jagdeep Cheema ชาวออสเตรเลีย - เรียกร้องค่าเสียหายมากกว่า 5 ล้านดอลลาร์ ✅ ผลกระทบต่อผู้ซื้อ NFT - ผู้ซื้ออ้างว่าหากทราบล่วงหน้าว่า NFT เป็นหลักทรัพย์ที่ไม่ได้จดทะเบียน พวกเขาจะไม่ซื้อ ✅ การตอบสนองของ Nike - Nike ระบุว่ายังคงมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการสร้างสรรค์และนวัตกรรม https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/26/nike-sued-over-closure-of-crypto-business
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Nike sued over closure of crypto business
    NEW YORK (Reuters) -Nike was sued on Friday by purchasers of Nike-themed non-fungible tokens (NFTs) and other cryptocurrency assets who said they suffered significant losses when the athletic wear company abruptly closed the business that created those assets.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 342 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts