• เริ่มไม่แน่ใจ ว่า app นี้ทำงานแบบไหน พิมอะไรไป ไม่ขึ้นซ้ะงั้น
    เริ่มไม่แน่ใจ ว่า app นี้ทำงานแบบไหน พิมอะไรไป ไม่ขึ้นซ้ะงั้น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 50 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์ชี้ “ดีปซีค” (DeepSeek) แชตบอตเอไอจีน ที่เขย่าหุ้นบริษัทยักษ์ใหญ่ไฮเทคของสหรัฐฯ ร่วงหนักเมื่อวันจันทร์ (27 ม.ค.) ควรเป็น “สัญญาณเตือน” ซิลลิคอนแวลลีย์ให้ยิ่งมุ่งมั่นทุ่มเทความสนใจเพื่อเอาชนะจีน
    .
    ถึงแม้การเปิดตัวโมเดลล่าสุดของดีปซีค บริษัทสตาร์ทอัปปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ซึ่งตั้งสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ทางภาคตะวันออกของจีน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในช่วงแรกๆ ถูกกลบจนเงียบสนิทจากข่าวพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จัดขึ้นในวันเดียวกัน อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แชตบอตของดีปซีค สามารถโค่นยักษ์แชตจีพีทีของค่ายโอเพ่นเอไอ กลายเป็นแอปฟรีที่มีการดาวน์โหลดมากที่สุดบนแอปสโตร์ของแอปเปิลในอเมริกา
    .
    สิ่งที่ทำให้อุตสาหกรรมไฮเทคของสหรัฐฯ และค่ายตะวันตกโดยรวมนั่งไม่ติด คือ การที่ดีปซีคระบุว่า พัฒนาโมเดลล่าสุดที่ใช้ชื่อว่า อาร์1 นี้ ด้วยต้นทุนแค่เศษเงินของที่บรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่ลงทุนในการพัฒนาเอไอ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วอิงอยู่กับชิป และซอฟต์แวร์ราคาแพงของเอ็นวิเดีย
    .
    พัฒนาการดังกล่าวมีความสำคัญมากเนื่องจากกระแสเอไอที่จุดชนวนจากการเปิดตัวแชตจีพีทีเมื่อปลายปี 2022 นั้น กลายเป็นกระแสร้อนแรงต่อเนื่อง ส่งผลให้หุ้นไฮเทคในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ และโลกตะวันตกอื่นๆ พุ่งแรงไม่มีตกเรื่อยมา โดยเฉพาะทำให้เอ็นวิเดียกลายเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีมูลค่าตามราคาตลาดสูงที่สุดในโลกในขณะนี้
    .
    ข่าวความฮิตฮอตของดีปซีค กำลังสั่นสะเทือนทั่ววงการเทคโนโลยีของอเมริกา และปลุกเร้าความกังวลสำคัญที่ว่า บรรดาบริษัทไฮเทคยักษ์ใหญ่ยังควรยึดโมเดลเดิม ด้วยการลงทุนเป็นแสนๆ ล้านดอลลาร์กับเอไอแบบราคาแพงต่อไปหรือไม่ ในเมื่อบริษัทจีนอย่างดีปซีค สามารถพัฒนาโมเดลเอไอที่มีประสิทธิภาพทัดเทียมด้วยต้นทุนต่ำกว่ามากมาย
    .
    นอกจากนั้น ความก้าวหน้าอย่างชัดเจนของดีปซีค ยังควรสร้างความขุ่นเคืองและตระหนกให้แก่วอชิงตัน เนื่องจากมันฟ้องว่า การที่รัฐบาลสหรัฐฯ ตั้งแต่ยุค โจ ไบเดน พยายามรักษาสถานะผู้นำด้านเทคโนโลยีของอเมริกาเอาไว้ ด้วยการกีดกันแซงก์ชันไม่ให้จีนเข้าถึงเทคโนโลยีล่าสุดทางด้านเซมิคอนดักเตอร์ ที่ถูกมองว่าเป็นฮาร์ดแวร์อันจำเป็นสำหรับการพัฒนาเอไอที่ล้ำยุคนั้น กลับไม่ได้ผลโดยสิ้นเชิง
    .
    ประธานาธิบดีทรัมป์ออกมาแสดงความเห็นทันควันในวันจันทร์ (27) ว่า การเปิดตัวดีปซีคควรถือเป็นสัญญาณเตือนว่า อุตสาหกรรมไฮเทคของอเมริกาต้องทุ่มเทความสนใจในการเอาชนะจีน
    .
    อย่างไรก็ดี ทรัมป์สำทับว่า นี่อาจเป็นเรื่องที่ดีสำหรับบิ๊กเทคอเมริกา เพราะไม่ต้องลงทุนเป็นหมื่นล้านป็นแสนล้านดอลลาร์ ก็มีโซลูชันแบบเดียวกันได้
    .
    ทางด้าน แซม อัลต์แมน ประธานบริหารโอเพ่นเอไอ โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ว่า การมีคู่แข่งใหม่ๆ ทำให้ทั้งวงการมีความกระปรี้กระเปร่าขึ้นมา พร้อมชมดีปซีค อาร์1 เป็นโมเดลที่น่าประทับใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงความสามารถที่นำเสนอจากต้นทุนระดับนั้น เขายังให้สัญญว่า โอเพ่นเอไอ จะเร่งปล่อยโมเดลใหม่ๆ ออกมา
    .
    ขณะที่ เดวิด แซคส์ ที่ปรึกษาด้านเอไอของทรัมป์และเป็นนักลงทุนด้านเทคโนโลยีชื่อดัง ชี้ว่า ความสำเร็จของดีปซีคยืนยันว่า ทำเนียบขาวตัดสินใจถูกต้องแล้วในการยกเลิกคำสั่งฝ่ายบริหารของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่กำหนดมาตรฐานความปลอดภัยสำหรับการพัฒนาเอไอ เนื่องจากคำสั่งดังกล่าวเป็นอุปสรรคต่อบริษัทเอไอของอเมริกาโดยไม่มีหลักประกันว่า จีนจะไล่ตามไม่ทัน
    .
    สำหรับ มาร์ก แอนเดรสเซน นักลงทุนด้านเทคโนโลยีที่เป็นพันธมิตรอีกคนหนึ่งของทรัมป์ ระบุว่า ดีปซีค อาร์1 เป็น “สปุตนิก โมเมนต์” ซึ่งหมายถึงเหตุการณ์ที่สหภาพโซเวียตปล่อยสปุตนิก กลายเป็นดาวเทียมโคจรรอบโลกดวงแรกของโลก เมื่อปี 1957 โดยเวลานั้นสหรัฐฯ ยังทำเช่นนั้นไม่ได้ โลกตะวันตกจึงทั้งทึ่งและตกตะลึงไปตามๆ กัน
    .
    แคธลีน บรูคส์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของเอ็กซ์ทีบี ตั้งข้อสังเกตว่า ถ้าจีนไล่ตามอเมริกาในการแข่งขันด้านเอไอได้เร็วขนาดนี้ เศรษฐศาสตร์ของเอไอจะต้องเปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง
    .
    สัตยา นาเดลลา ซีอีโอไมโครซอฟท์ โพสต์ก่อนที่ตลาดจะเปิดทำการในวันจันทร์ว่า เอไอต้นทุนต่ำเป็นสิ่งที่ดีสำหรับทุกคน กระนั้น ในที่ประชุมเวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรัมที่ดาวอส เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เขาเตือนว่า ตะวันตกควรจับตาพัฒนาการของจีนอย่างจริงจังมาก
    .
    ไมโครซอฟท์นั้นประกาศเอาไว้ว่า ปีนี้มีแผนลงทุนในเอไอ 80,000 ล้านดอลลาร์ ส่วนคู่แข่งอย่างเมตา ก็ประกาศลงทุนอย่างน้อย 60,000 ล้านดอลลาร์
    .
    คาดกันไว้ว่าเม็ดเงินเหล่านี้จำนวนมากจะไปตกอยู่กับเอ็นวิเดีย ซึ่งเวลานี้เป็นเจ้าในเรื่องชิปเอไอระดับล้ำยุคที่ใช้กับเอไอ แต่เมื่อมีข่าวดีปชีคออกมา ราคาหุ้นของเอ็นวิเดีย จึงกลับร่วงหนักถึง 17% ในการซื้อขายเมื่อวันจันทร์
    .
    ถือว่าสถานการณ์พิเศษมากที่ดีปซีค ซึ่งก็เช่นเดียวกับพวกบริษัทจีนอื่นๆ ถูกมาตรการจำกัดกีดกันของรัฐบาลสหรัฐฯ จึงไม่สามารถเข้าถึงเซมิคอนดักเตอร์ระดับล้ำยุคของเอ็นวิเดียได้ กลับสามารถพัฒนาโมเดลเอไอของตนลลจนทัดเทียมกับพวกยักษ์แนวหน้าระดับโลกได้
    .
    วารสาร เอ็มไอที เทคโนโลยี รีวิว ชี้ว่า มาตรการควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯนั่นเอง ที่ผลักดันให้สตาร์ทอัปจีนอย่างดีปซีค ต้องค้นหาหนทางที่เป็นนวัตกรรม ซึ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนาด้านซอฟต์แวร์ มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพของชิปรุ่นเก่ากว่าเท่าที่จะหาได้ ตลอดจนเน้นการรวมเครือข่ายทรัพยากร และการร่วมมือประสานงานกัน
    .
    กระนั้น อีลอน มัสก์ ที่ลงทุนก้อนใหญ่ในชิปเอ็นวิเดียสำหรับบริษัทเอไอของตนเองคือ เอ็กซ์เอไอ รวมทั้งยังเป็นซีอีโอของสเกลเอไอ สตาร์ทอัปชื่อดังแห่งซิลลิคอนแวลลีย์ที่ได้รับการสนับสนุนจากแอมะซอนและเมตา ออกมาแสดงความสงสัยข้องใจว่า ดีปซีค น่าจะแอบเข้าถึงชิปเอช100 ของเอ็นวิเดียอย่างผิดกฎหมาย
    .
    อย่างไรก็ดี เอ็นวิเดียออกคำแถลงยืนยันว่า เทคโนโลยีของดีปซีคปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ อย่างครบถ้วน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009080
    ..............
    Sondhi X
    ทรัมป์ชี้ “ดีปซีค” (DeepSeek) แชตบอตเอไอจีน ที่เขย่าหุ้นบริษัทยักษ์ใหญ่ไฮเทคของสหรัฐฯ ร่วงหนักเมื่อวันจันทร์ (27 ม.ค.) ควรเป็น “สัญญาณเตือน” ซิลลิคอนแวลลีย์ให้ยิ่งมุ่งมั่นทุ่มเทความสนใจเพื่อเอาชนะจีน . ถึงแม้การเปิดตัวโมเดลล่าสุดของดีปซีค บริษัทสตาร์ทอัปปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ซึ่งตั้งสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ทางภาคตะวันออกของจีน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในช่วงแรกๆ ถูกกลบจนเงียบสนิทจากข่าวพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จัดขึ้นในวันเดียวกัน อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แชตบอตของดีปซีค สามารถโค่นยักษ์แชตจีพีทีของค่ายโอเพ่นเอไอ กลายเป็นแอปฟรีที่มีการดาวน์โหลดมากที่สุดบนแอปสโตร์ของแอปเปิลในอเมริกา . สิ่งที่ทำให้อุตสาหกรรมไฮเทคของสหรัฐฯ และค่ายตะวันตกโดยรวมนั่งไม่ติด คือ การที่ดีปซีคระบุว่า พัฒนาโมเดลล่าสุดที่ใช้ชื่อว่า อาร์1 นี้ ด้วยต้นทุนแค่เศษเงินของที่บรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่ลงทุนในการพัฒนาเอไอ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วอิงอยู่กับชิป และซอฟต์แวร์ราคาแพงของเอ็นวิเดีย . พัฒนาการดังกล่าวมีความสำคัญมากเนื่องจากกระแสเอไอที่จุดชนวนจากการเปิดตัวแชตจีพีทีเมื่อปลายปี 2022 นั้น กลายเป็นกระแสร้อนแรงต่อเนื่อง ส่งผลให้หุ้นไฮเทคในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ และโลกตะวันตกอื่นๆ พุ่งแรงไม่มีตกเรื่อยมา โดยเฉพาะทำให้เอ็นวิเดียกลายเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีมูลค่าตามราคาตลาดสูงที่สุดในโลกในขณะนี้ . ข่าวความฮิตฮอตของดีปซีค กำลังสั่นสะเทือนทั่ววงการเทคโนโลยีของอเมริกา และปลุกเร้าความกังวลสำคัญที่ว่า บรรดาบริษัทไฮเทคยักษ์ใหญ่ยังควรยึดโมเดลเดิม ด้วยการลงทุนเป็นแสนๆ ล้านดอลลาร์กับเอไอแบบราคาแพงต่อไปหรือไม่ ในเมื่อบริษัทจีนอย่างดีปซีค สามารถพัฒนาโมเดลเอไอที่มีประสิทธิภาพทัดเทียมด้วยต้นทุนต่ำกว่ามากมาย . นอกจากนั้น ความก้าวหน้าอย่างชัดเจนของดีปซีค ยังควรสร้างความขุ่นเคืองและตระหนกให้แก่วอชิงตัน เนื่องจากมันฟ้องว่า การที่รัฐบาลสหรัฐฯ ตั้งแต่ยุค โจ ไบเดน พยายามรักษาสถานะผู้นำด้านเทคโนโลยีของอเมริกาเอาไว้ ด้วยการกีดกันแซงก์ชันไม่ให้จีนเข้าถึงเทคโนโลยีล่าสุดทางด้านเซมิคอนดักเตอร์ ที่ถูกมองว่าเป็นฮาร์ดแวร์อันจำเป็นสำหรับการพัฒนาเอไอที่ล้ำยุคนั้น กลับไม่ได้ผลโดยสิ้นเชิง . ประธานาธิบดีทรัมป์ออกมาแสดงความเห็นทันควันในวันจันทร์ (27) ว่า การเปิดตัวดีปซีคควรถือเป็นสัญญาณเตือนว่า อุตสาหกรรมไฮเทคของอเมริกาต้องทุ่มเทความสนใจในการเอาชนะจีน . อย่างไรก็ดี ทรัมป์สำทับว่า นี่อาจเป็นเรื่องที่ดีสำหรับบิ๊กเทคอเมริกา เพราะไม่ต้องลงทุนเป็นหมื่นล้านป็นแสนล้านดอลลาร์ ก็มีโซลูชันแบบเดียวกันได้ . ทางด้าน แซม อัลต์แมน ประธานบริหารโอเพ่นเอไอ โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ว่า การมีคู่แข่งใหม่ๆ ทำให้ทั้งวงการมีความกระปรี้กระเปร่าขึ้นมา พร้อมชมดีปซีค อาร์1 เป็นโมเดลที่น่าประทับใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงความสามารถที่นำเสนอจากต้นทุนระดับนั้น เขายังให้สัญญว่า โอเพ่นเอไอ จะเร่งปล่อยโมเดลใหม่ๆ ออกมา . ขณะที่ เดวิด แซคส์ ที่ปรึกษาด้านเอไอของทรัมป์และเป็นนักลงทุนด้านเทคโนโลยีชื่อดัง ชี้ว่า ความสำเร็จของดีปซีคยืนยันว่า ทำเนียบขาวตัดสินใจถูกต้องแล้วในการยกเลิกคำสั่งฝ่ายบริหารของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่กำหนดมาตรฐานความปลอดภัยสำหรับการพัฒนาเอไอ เนื่องจากคำสั่งดังกล่าวเป็นอุปสรรคต่อบริษัทเอไอของอเมริกาโดยไม่มีหลักประกันว่า จีนจะไล่ตามไม่ทัน . สำหรับ มาร์ก แอนเดรสเซน นักลงทุนด้านเทคโนโลยีที่เป็นพันธมิตรอีกคนหนึ่งของทรัมป์ ระบุว่า ดีปซีค อาร์1 เป็น “สปุตนิก โมเมนต์” ซึ่งหมายถึงเหตุการณ์ที่สหภาพโซเวียตปล่อยสปุตนิก กลายเป็นดาวเทียมโคจรรอบโลกดวงแรกของโลก เมื่อปี 1957 โดยเวลานั้นสหรัฐฯ ยังทำเช่นนั้นไม่ได้ โลกตะวันตกจึงทั้งทึ่งและตกตะลึงไปตามๆ กัน . แคธลีน บรูคส์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของเอ็กซ์ทีบี ตั้งข้อสังเกตว่า ถ้าจีนไล่ตามอเมริกาในการแข่งขันด้านเอไอได้เร็วขนาดนี้ เศรษฐศาสตร์ของเอไอจะต้องเปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง . สัตยา นาเดลลา ซีอีโอไมโครซอฟท์ โพสต์ก่อนที่ตลาดจะเปิดทำการในวันจันทร์ว่า เอไอต้นทุนต่ำเป็นสิ่งที่ดีสำหรับทุกคน กระนั้น ในที่ประชุมเวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรัมที่ดาวอส เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เขาเตือนว่า ตะวันตกควรจับตาพัฒนาการของจีนอย่างจริงจังมาก . ไมโครซอฟท์นั้นประกาศเอาไว้ว่า ปีนี้มีแผนลงทุนในเอไอ 80,000 ล้านดอลลาร์ ส่วนคู่แข่งอย่างเมตา ก็ประกาศลงทุนอย่างน้อย 60,000 ล้านดอลลาร์ . คาดกันไว้ว่าเม็ดเงินเหล่านี้จำนวนมากจะไปตกอยู่กับเอ็นวิเดีย ซึ่งเวลานี้เป็นเจ้าในเรื่องชิปเอไอระดับล้ำยุคที่ใช้กับเอไอ แต่เมื่อมีข่าวดีปชีคออกมา ราคาหุ้นของเอ็นวิเดีย จึงกลับร่วงหนักถึง 17% ในการซื้อขายเมื่อวันจันทร์ . ถือว่าสถานการณ์พิเศษมากที่ดีปซีค ซึ่งก็เช่นเดียวกับพวกบริษัทจีนอื่นๆ ถูกมาตรการจำกัดกีดกันของรัฐบาลสหรัฐฯ จึงไม่สามารถเข้าถึงเซมิคอนดักเตอร์ระดับล้ำยุคของเอ็นวิเดียได้ กลับสามารถพัฒนาโมเดลเอไอของตนลลจนทัดเทียมกับพวกยักษ์แนวหน้าระดับโลกได้ . วารสาร เอ็มไอที เทคโนโลยี รีวิว ชี้ว่า มาตรการควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯนั่นเอง ที่ผลักดันให้สตาร์ทอัปจีนอย่างดีปซีค ต้องค้นหาหนทางที่เป็นนวัตกรรม ซึ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนาด้านซอฟต์แวร์ มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพของชิปรุ่นเก่ากว่าเท่าที่จะหาได้ ตลอดจนเน้นการรวมเครือข่ายทรัพยากร และการร่วมมือประสานงานกัน . กระนั้น อีลอน มัสก์ ที่ลงทุนก้อนใหญ่ในชิปเอ็นวิเดียสำหรับบริษัทเอไอของตนเองคือ เอ็กซ์เอไอ รวมทั้งยังเป็นซีอีโอของสเกลเอไอ สตาร์ทอัปชื่อดังแห่งซิลลิคอนแวลลีย์ที่ได้รับการสนับสนุนจากแอมะซอนและเมตา ออกมาแสดงความสงสัยข้องใจว่า ดีปซีค น่าจะแอบเข้าถึงชิปเอช100 ของเอ็นวิเดียอย่างผิดกฎหมาย . อย่างไรก็ดี เอ็นวิเดียออกคำแถลงยืนยันว่า เทคโนโลยีของดีปซีคปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ อย่างครบถ้วน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009080 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Love
    9
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1703 มุมมอง 0 รีวิว
  • การเปิดตัวโมเดลเอไอล่าสุดที่ดีปซีคคุยว่า ดีพอๆ กับ หรือดีกว่าโมเดลที่เป็นผู้นำในวงการอุตสาหกรรมนี้ของอเมริกา แถมใช้ต้นทุนแค่เศษเงินของบิ๊กเทคเหล่านั้นด้วย กำลังทำให้ระเบียบโลกเทคโนโลยีปั่นป่วนหนัก
    .
    สตาร์ทอัปจีนแห่งนี้ดึงดูดความสนใจในแวดวงเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ทั่วโลก หลังจากเปิดเผยเมื่อเดือนที่แล้วว่า การเทรน ดีปซีค-วี3 ใช้พลังการคำนวณจากชิปเอช800 ของเอ็นวิเดีย มูลค่าไม่ถึง 6 ล้านดอลลาร์
    .
    ผู้ช่วยเอไอของดีปซีคที่ขับเคลื่อนโดยดีปซีค-วี3 สามารถแซงแชตจีพีทีขึ้นเป็นแอปฟรีที่มีการดาวน์โหลดมากที่สุดบนแอปสโตร์ของแอปเปิลในอเมริกาเมื่อวันจันทร์ (27 ม.ค.)
    .
    ข่าวนี้ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับเหตุผลที่บริษัทเทคโนโลยีบางแห่งของอเมริกาตัดสินใจทุ่มเงินหลักหมื่นล้านแสนล้านดอลลาร์ไปกับเอไอ และยังทำให้ราคาหุ้นบิ๊กเทคหลายแห่งที่รวมถึงเอ็นวิเดียร่วงหนัก
    .
    ต่อไปนี้คือข้อเท็จจริงบางอย่างเกี่ยวกับบริษัทที่กำลังเขย่าวงการเอไอทั่วโลกอยู่ในขณะนี้
    .
    สั่นสะเทือนวงการเอไอ
    .
    ย้อนกลับไปเมื่อปลายปี 2022 ที่โอเพ่นเอไอเปิดตัวแชตจีพีที ตอนนั้นบริษัทเทคโนโลยีจีนต่างร้อนรนสร้างแชตบอตที่ขับเคลื่อนด้วยเอไอออกมาแข่ง แต่การเปิดตัวแชตบอตของยักษ์จีนอย่าง ไป่ตู้ กลับสร้างความผิดหวังอย่างกว้างขวาง เนื่องจากสะท้อนว่าศักยภาพด้านเอไอระหว่างบริษัทอเมริกันกับบริษัทจีน ยังแตกต่างห่างชั้นกันมาก
    .
    อย่างไรก็ตาม เวลานี้คุณภาพและประสิทธิภาพด้านต้นทุนของโมเดลเอไอของดีปซีคทำให้ความรู้สึกพลิกกลับตาลปัตร สตาร์ทอัปเอไอแห่งนี้ของจีนระบุว่า ดีปซีค-วี3 และดีปซีค-อาร์1 ที่ได้รับการยกย่องจากพวกผู้บริหารในซิลลิคอนแวลลีย์ รวมถึงวิศวกรในบริษัทไฮเทคอเมริกานั้น มีประสิทธิภาพเทียบเท่าโมเดลเอไอรุ่นที่ล้ำสมัยที่สุดของโอเพ่นเอไอและเมตา แถมต้นทุนถูกกว่าแบบเทียบกันไม่ได้
    .
    โพสต์ของดีปซีคบนวีแชตระบุว่า ดีปซีค-อาร์1 ที่เปิดตัวสัปดาห์ที่แล้วนั้น ต้นทุนถูกกว่าโอเพ่นเอไอ o1 ถึง 20-50 เท่า ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับงาน
    .
    ทว่า ยังมีบางคนแสดงความข้องใจอย่างเปิดเผยต่อเรื่องราวความสำเร็จของดีปซีค ตัวอย่างเช่น อเล็กซานเดอร์ หวัง ซีอีโอสเกล เอไอที่กล่าวโดยไม่ได้โชว์หลักฐานระหว่างให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นบีซีเมื่อวันพฤหัสฯ (23) ที่แล้ว ว่า ดีปซีคมีการแอบใช้ชิปเอช100 ของเอ็นวิเดีย 50,000 ชิ้น แต่เปิดเผยไม่ได้เนื่องจากละเมิดมาตรการควบคุมการส่งออกของวอชิงตันที่แบนการขายชิปเอไอขั้นสูงให้บริษัทจีน
    .
    ต่อมาในวันจันทร์ นักวิเคราะห์ของเบิร์นสไตน์ย้ำในบันทึกการวิจัยว่า แม้ต้นทุนการเทรนเอไอวี3 ไม่เป็นที่รับรู้ แต่คิดว่า น่าจะมากกว่า 5.58 ล้านดอลลาร์ตามที่ดีปซีคบอก นอกจากนั้นยังไม่มีการเปิดเผยต้นทุนการเทรนอาร์1 อีกด้วย
    .
    เบื้องหลังดีปซีค
    .
    ดีปซีคเป็นบริษัทสตาร์ทอัปที่ตั้งสำนักงานอยู่ในเมืองหางโจว ทางภาคตะวันออกของจีน ผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิควบคุมบริษัทคือ เหลียง เหวินเฟิง ผู้ร่วมก่อตั้งกองทุนบริหารความเสี่ยงเชิงปริมาณ “ไฮ-ฟลายเออร์”
    .
    เดือนมีนาคม 2023 กองทุนของเหลียงประกาศผ่านวีแชตว่า กำลังทุ่มเททรัพยากรในการสร้างกลุ่มการวิจัยอิสระใหม่เพื่อสำรวจองค์ประกอบสำคัญของปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป (Artificial General Intelligence) ที่โอเพ่นเอไอระบุว่า หมายถึงระบบอัตโนมัติที่มีความสามารถเหนือมนุษย์ในงานที่มีมูลค่าทางเศรษฐศาสตร์เกือบทั้งหมด และปลายปีนั้นดีปซีคก็ถือกำเนิดขึ้น
    .
    ไม่มีข้อมูลชัดเจนว่า ไฮ-ฟลายเออร์ลงทุนในดีปซีคเท่าไร แต่ออฟฟิศของกองทุนแห่งนี้อยู่ในตึกเดียวกับดีปซีค และยังเป็นเจ้าของสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องกับคลัสเตอร์ชิปที่ใช้ในการเทรนโมเดลเอไอ
    .
    ดีปซีคในสายตาปักกิ่ง
    .
    แวดวงนักการเมืองระดับสูงของจีนต่างรับรู้ถึงความสำเร็จของดีปซีค สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า วันจันทร์ (20) ที่ผ่านมา ซึ่งมีการเปิดตัวดีปซีค-อาร์1 เหลียงได้ไปเข้าร่วมการประชุมเชิงสัมมนาแบบปิด ร่วมกับนักธุรกิจและผู้เชี่ยวชาญจำนวนหนึ่ง โดยมีนายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียงเป็นเจ้าภาพ
    .
    การที่เหลียงได้รับเชิญในวันนั้นเป็นสัญญาณว่า ความสำเร็จของดีปซีคน่าจะมีความสำคัญต่อเป้าหมายของปักกิ่งในการเอาชนะมาตรการควบคุมการส่งออกของวอชิงตัน และหาทางประสบความสำเร็จได้ด้วยตัวเองในอุตสาหกรรมเชิงยุทธศาสตร์อย่างเอไอ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009081
    ..............
    Sondhi X
    การเปิดตัวโมเดลเอไอล่าสุดที่ดีปซีคคุยว่า ดีพอๆ กับ หรือดีกว่าโมเดลที่เป็นผู้นำในวงการอุตสาหกรรมนี้ของอเมริกา แถมใช้ต้นทุนแค่เศษเงินของบิ๊กเทคเหล่านั้นด้วย กำลังทำให้ระเบียบโลกเทคโนโลยีปั่นป่วนหนัก . สตาร์ทอัปจีนแห่งนี้ดึงดูดความสนใจในแวดวงเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ทั่วโลก หลังจากเปิดเผยเมื่อเดือนที่แล้วว่า การเทรน ดีปซีค-วี3 ใช้พลังการคำนวณจากชิปเอช800 ของเอ็นวิเดีย มูลค่าไม่ถึง 6 ล้านดอลลาร์ . ผู้ช่วยเอไอของดีปซีคที่ขับเคลื่อนโดยดีปซีค-วี3 สามารถแซงแชตจีพีทีขึ้นเป็นแอปฟรีที่มีการดาวน์โหลดมากที่สุดบนแอปสโตร์ของแอปเปิลในอเมริกาเมื่อวันจันทร์ (27 ม.ค.) . ข่าวนี้ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับเหตุผลที่บริษัทเทคโนโลยีบางแห่งของอเมริกาตัดสินใจทุ่มเงินหลักหมื่นล้านแสนล้านดอลลาร์ไปกับเอไอ และยังทำให้ราคาหุ้นบิ๊กเทคหลายแห่งที่รวมถึงเอ็นวิเดียร่วงหนัก . ต่อไปนี้คือข้อเท็จจริงบางอย่างเกี่ยวกับบริษัทที่กำลังเขย่าวงการเอไอทั่วโลกอยู่ในขณะนี้ . สั่นสะเทือนวงการเอไอ . ย้อนกลับไปเมื่อปลายปี 2022 ที่โอเพ่นเอไอเปิดตัวแชตจีพีที ตอนนั้นบริษัทเทคโนโลยีจีนต่างร้อนรนสร้างแชตบอตที่ขับเคลื่อนด้วยเอไอออกมาแข่ง แต่การเปิดตัวแชตบอตของยักษ์จีนอย่าง ไป่ตู้ กลับสร้างความผิดหวังอย่างกว้างขวาง เนื่องจากสะท้อนว่าศักยภาพด้านเอไอระหว่างบริษัทอเมริกันกับบริษัทจีน ยังแตกต่างห่างชั้นกันมาก . อย่างไรก็ตาม เวลานี้คุณภาพและประสิทธิภาพด้านต้นทุนของโมเดลเอไอของดีปซีคทำให้ความรู้สึกพลิกกลับตาลปัตร สตาร์ทอัปเอไอแห่งนี้ของจีนระบุว่า ดีปซีค-วี3 และดีปซีค-อาร์1 ที่ได้รับการยกย่องจากพวกผู้บริหารในซิลลิคอนแวลลีย์ รวมถึงวิศวกรในบริษัทไฮเทคอเมริกานั้น มีประสิทธิภาพเทียบเท่าโมเดลเอไอรุ่นที่ล้ำสมัยที่สุดของโอเพ่นเอไอและเมตา แถมต้นทุนถูกกว่าแบบเทียบกันไม่ได้ . โพสต์ของดีปซีคบนวีแชตระบุว่า ดีปซีค-อาร์1 ที่เปิดตัวสัปดาห์ที่แล้วนั้น ต้นทุนถูกกว่าโอเพ่นเอไอ o1 ถึง 20-50 เท่า ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับงาน . ทว่า ยังมีบางคนแสดงความข้องใจอย่างเปิดเผยต่อเรื่องราวความสำเร็จของดีปซีค ตัวอย่างเช่น อเล็กซานเดอร์ หวัง ซีอีโอสเกล เอไอที่กล่าวโดยไม่ได้โชว์หลักฐานระหว่างให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นบีซีเมื่อวันพฤหัสฯ (23) ที่แล้ว ว่า ดีปซีคมีการแอบใช้ชิปเอช100 ของเอ็นวิเดีย 50,000 ชิ้น แต่เปิดเผยไม่ได้เนื่องจากละเมิดมาตรการควบคุมการส่งออกของวอชิงตันที่แบนการขายชิปเอไอขั้นสูงให้บริษัทจีน . ต่อมาในวันจันทร์ นักวิเคราะห์ของเบิร์นสไตน์ย้ำในบันทึกการวิจัยว่า แม้ต้นทุนการเทรนเอไอวี3 ไม่เป็นที่รับรู้ แต่คิดว่า น่าจะมากกว่า 5.58 ล้านดอลลาร์ตามที่ดีปซีคบอก นอกจากนั้นยังไม่มีการเปิดเผยต้นทุนการเทรนอาร์1 อีกด้วย . เบื้องหลังดีปซีค . ดีปซีคเป็นบริษัทสตาร์ทอัปที่ตั้งสำนักงานอยู่ในเมืองหางโจว ทางภาคตะวันออกของจีน ผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิควบคุมบริษัทคือ เหลียง เหวินเฟิง ผู้ร่วมก่อตั้งกองทุนบริหารความเสี่ยงเชิงปริมาณ “ไฮ-ฟลายเออร์” . เดือนมีนาคม 2023 กองทุนของเหลียงประกาศผ่านวีแชตว่า กำลังทุ่มเททรัพยากรในการสร้างกลุ่มการวิจัยอิสระใหม่เพื่อสำรวจองค์ประกอบสำคัญของปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป (Artificial General Intelligence) ที่โอเพ่นเอไอระบุว่า หมายถึงระบบอัตโนมัติที่มีความสามารถเหนือมนุษย์ในงานที่มีมูลค่าทางเศรษฐศาสตร์เกือบทั้งหมด และปลายปีนั้นดีปซีคก็ถือกำเนิดขึ้น . ไม่มีข้อมูลชัดเจนว่า ไฮ-ฟลายเออร์ลงทุนในดีปซีคเท่าไร แต่ออฟฟิศของกองทุนแห่งนี้อยู่ในตึกเดียวกับดีปซีค และยังเป็นเจ้าของสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องกับคลัสเตอร์ชิปที่ใช้ในการเทรนโมเดลเอไอ . ดีปซีคในสายตาปักกิ่ง . แวดวงนักการเมืองระดับสูงของจีนต่างรับรู้ถึงความสำเร็จของดีปซีค สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า วันจันทร์ (20) ที่ผ่านมา ซึ่งมีการเปิดตัวดีปซีค-อาร์1 เหลียงได้ไปเข้าร่วมการประชุมเชิงสัมมนาแบบปิด ร่วมกับนักธุรกิจและผู้เชี่ยวชาญจำนวนหนึ่ง โดยมีนายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียงเป็นเจ้าภาพ . การที่เหลียงได้รับเชิญในวันนั้นเป็นสัญญาณว่า ความสำเร็จของดีปซีคน่าจะมีความสำคัญต่อเป้าหมายของปักกิ่งในการเอาชนะมาตรการควบคุมการส่งออกของวอชิงตัน และหาทางประสบความสำเร็จได้ด้วยตัวเองในอุตสาหกรรมเชิงยุทธศาสตร์อย่างเอไอ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009081 .............. Sondhi X
    Like
    Wow
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1815 มุมมอง 0 รีวิว
  • เสียงปืนต่อสู้ดังตลอดทั่วบางส่วนของพื้นที่เมืองโกมา (Goma) สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ที่โดนกบฏ M23 ร่วมกับกำลังทหารรวันดาบุกยึดแบบสายฟ้าแลบ ขณะที่ผู้ประท้วงบุกโจมตีสถานทูตสหรัฐฯ เบลเยียม รวันดาในกรุงคินชาซา ส่วนสถานทูตฝรั่งเศสโดนบุกเผาถึงด้านใน
    .
    เอเอฟพีรายงานวันนี้ (27 ม.ค.) ว่า กลุ่มกบโ M23 ที่ย่อมาจากกลุ่ม “23 มีนาคม” ซึ่งมีรวันดาให้การสนับสนุนในวันจันทร์ (26) อ้างว่า สามารถยึดเมืองโกมา (Goma) ทางตะวันออกของสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกสำเร็จ
    .
    โกมาของดีอาร์คองโกถือเป็นเมืองสำคัญที่อุดมด้วยแร่ธาตุไม่ต่างจากเกาะกรีนแลนด์ของเดนมาร์กที่ผู้นำสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ต้องการอยากได้ เพราะโกมามีทรัพยากรธรรมชาติสำคัญ ทั้งแร่แทนทาลัมและโคลบอลต์ที่สำคัญสำหรับแบตเตอรี่ของรถไฟฟ้า และยังมีแร่โคลแทน (coltan) และทองคำ
    .
    โคลแทนซึ่งเป็นแร่ที่มีคุณสมบัติทนความร้อนและเป็นวัตถุดิบพื้นฐานในการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ตั้งแต่โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ กล้อง รวมแบตเตอรี่รถไฟฟ้า
    .
    เอพีรายงานว่า ไม่เป็นที่แน่ชัดว่ากลุ่มกบฏ M23 สามารถยึดเมืองโกมาได้มากน้อยเพียงใด
    .
    อย่างไรก็ตาม รัฐบาลดีอาร์คองโกยืนยันการปรากฏตัวของกลุ่มกบฏ M23 ในเมืองโกมาซึ่งห่างจากกรุงคินชาฮา (Kinshasa)ไปทางตะวันออกราว 1,500 กม.
    .
    โฆษกรัฐบาลดีอาร์คองโกออกแถลงการณ์ยืนยันทางแพลตฟอร์ม X จะไม่ยอมเสียพื้นไปแม้แต่ตารางเซนเดียว แต่ไม่ยอมกล่าวว่า กลุ่มกบฏกำลังเข้ายึดเมืองโกมา เอพีรายงาน
    .
    เอเอฟพีรายงานว่า กลุ่มกบฏ M23 ซึ่งมีทหารจากรวันดาเข้าช่วยเดินทางเข้าสู่ย่านใจกลางเมืองโกมาในคืนวันอาทิตย์ (26) หลังใช้เวลาแค่สัปดาห์ในการรุกคืบอย่างรวดเร็วทั่วภูมิภาค
    .
    ขณะเดียวกัน ที่กรุงคินชาซา กลุ่มผู้ประท้วงบุกโจมตีสถานทูตต่างชาติที่ตั้งอยู่ในกลางกรุงทั้งสถานทูตสหรัฐฯ สถานทูตเบลเยียม สถานทูตรวันดา รวมถึงสถานทูตฝรั่งเศส
    .
    เอเอฟพีรายงานว่า สถานทูตสหรัฐฯ ได้ออกคำแนะนำให้พลเมืองสหรัฐฯ หลบอยู่ในที่ปลอดภัยและหลีกเลี่ยงการเดินทาง
    .
    ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส ฌอง-โนเอล บาร์โรต์ (Jean-Noel Barrot) ออกมาประณามว่า เป็นการโจมตีอย่างรับไม่ได้ พร้อมเปิดเผยว่า ไฟที่ไหม้ในตึกที่ทำการสถานทูตในเวลานี้อยู่ในการควบคุมแล้ว
    .
    ล่าสุด กลุ่มกบฏ M23 และกองกำลังทหารรวันดาสามารถควบคุมสนามบินโกมาได้สำเร็จในวันอังคาร (28) แหล่งข่าวทางความมั่นคงให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี
    .
    “พวกเขาเข้ายึดสนามบิน พวกนักรบกลุ่ม M23 อยู่ที่นั่น” แหล่งข่าวเปิดเผย พร้อมเสริมต่อว่า มีทหารดีอาร์คองโกไม่ต่ำกว่า 1,200 นายยอมจำนน และถูกควบคุมที่ฐานทัพของกองกำลังสหประชาชาติ MONUSC ที่สนามบิน
    .
    โดยในวันอังคาร (28) เสียงปืนต่อสู้ยังคงได้ยินถึงแม้ว่าความหนักหน่วงในการสู้รบจะน้อยลง
    .
    มีนักรบกลุ่ม M23 หลายสิบคนเดินมาร์ชผ่านถนนสายหลักในโกมา มีบางส่วนสวมเสื้อเกราะกันกระสุนและถืออาวุธของทหารดีอาร์คองโก
    .
    เอเอฟพีรายงานว่า ชาวโกมาไม่กี่คนออกมาเปิดเผยว่า พวกเขาโดนปล้นสะดมจากทหารดีอาร์คองโกหรือจากกลุ่มกบฏ
    .
    ทั้งนี้ ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าส่วนใดของโกมาที่โดนยึดโดยกบฏที่ออกมาอ้างว่ายึดได้ตั้งแต่คืนวันอาทิตย์ (26)
    .
    มีไม่ต่ำกว่า 17 คนเสียชีวิต และอีก 367 คนได้รับบาดเจ็บระหว่างการต่อสู้ 2 วันอ้างอิงจากโรงพยาบาลต่างๆ ในพื้นที่
    .
    องค์การกาชาดออกมาเตือนความเสี่ยงหากตัวอย่างเชื้อไวรัสอีโบลาที่ทำให้มนุษย์เสียชีวิตหลังเลือดไหลออกไม่หยุดจากทั้งปาก จมูก หู ตา ที่มีสาเหตุจากการกินค้างคาวหรือลิง ที่เกิดระบาดอย่างรุนแรงเมื่อปี 2014-2016 ในไลบีเรียจนเห็นคนตายกลาดเกลื่อนถนน และหมออเมริกัน 2 คนซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นหมอมิชชันนารีต้องถูกหามส่งกลับสหรัฐฯ อย่างเร่งด่วนเพราะติดเชื้อนั้นอาจหลุดออกไปจากห้องแล็บได้เนื่องมาจากการสู้รบระหว่างกบฏ M23 และทหารรัฐบาลดีอาร์คองโก
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009082
    ..............
    Sondhi X
    เสียงปืนต่อสู้ดังตลอดทั่วบางส่วนของพื้นที่เมืองโกมา (Goma) สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ที่โดนกบฏ M23 ร่วมกับกำลังทหารรวันดาบุกยึดแบบสายฟ้าแลบ ขณะที่ผู้ประท้วงบุกโจมตีสถานทูตสหรัฐฯ เบลเยียม รวันดาในกรุงคินชาซา ส่วนสถานทูตฝรั่งเศสโดนบุกเผาถึงด้านใน . เอเอฟพีรายงานวันนี้ (27 ม.ค.) ว่า กลุ่มกบโ M23 ที่ย่อมาจากกลุ่ม “23 มีนาคม” ซึ่งมีรวันดาให้การสนับสนุนในวันจันทร์ (26) อ้างว่า สามารถยึดเมืองโกมา (Goma) ทางตะวันออกของสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกสำเร็จ . โกมาของดีอาร์คองโกถือเป็นเมืองสำคัญที่อุดมด้วยแร่ธาตุไม่ต่างจากเกาะกรีนแลนด์ของเดนมาร์กที่ผู้นำสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ต้องการอยากได้ เพราะโกมามีทรัพยากรธรรมชาติสำคัญ ทั้งแร่แทนทาลัมและโคลบอลต์ที่สำคัญสำหรับแบตเตอรี่ของรถไฟฟ้า และยังมีแร่โคลแทน (coltan) และทองคำ . โคลแทนซึ่งเป็นแร่ที่มีคุณสมบัติทนความร้อนและเป็นวัตถุดิบพื้นฐานในการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ตั้งแต่โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ กล้อง รวมแบตเตอรี่รถไฟฟ้า . เอพีรายงานว่า ไม่เป็นที่แน่ชัดว่ากลุ่มกบฏ M23 สามารถยึดเมืองโกมาได้มากน้อยเพียงใด . อย่างไรก็ตาม รัฐบาลดีอาร์คองโกยืนยันการปรากฏตัวของกลุ่มกบฏ M23 ในเมืองโกมาซึ่งห่างจากกรุงคินชาฮา (Kinshasa)ไปทางตะวันออกราว 1,500 กม. . โฆษกรัฐบาลดีอาร์คองโกออกแถลงการณ์ยืนยันทางแพลตฟอร์ม X จะไม่ยอมเสียพื้นไปแม้แต่ตารางเซนเดียว แต่ไม่ยอมกล่าวว่า กลุ่มกบฏกำลังเข้ายึดเมืองโกมา เอพีรายงาน . เอเอฟพีรายงานว่า กลุ่มกบฏ M23 ซึ่งมีทหารจากรวันดาเข้าช่วยเดินทางเข้าสู่ย่านใจกลางเมืองโกมาในคืนวันอาทิตย์ (26) หลังใช้เวลาแค่สัปดาห์ในการรุกคืบอย่างรวดเร็วทั่วภูมิภาค . ขณะเดียวกัน ที่กรุงคินชาซา กลุ่มผู้ประท้วงบุกโจมตีสถานทูตต่างชาติที่ตั้งอยู่ในกลางกรุงทั้งสถานทูตสหรัฐฯ สถานทูตเบลเยียม สถานทูตรวันดา รวมถึงสถานทูตฝรั่งเศส . เอเอฟพีรายงานว่า สถานทูตสหรัฐฯ ได้ออกคำแนะนำให้พลเมืองสหรัฐฯ หลบอยู่ในที่ปลอดภัยและหลีกเลี่ยงการเดินทาง . ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส ฌอง-โนเอล บาร์โรต์ (Jean-Noel Barrot) ออกมาประณามว่า เป็นการโจมตีอย่างรับไม่ได้ พร้อมเปิดเผยว่า ไฟที่ไหม้ในตึกที่ทำการสถานทูตในเวลานี้อยู่ในการควบคุมแล้ว . ล่าสุด กลุ่มกบฏ M23 และกองกำลังทหารรวันดาสามารถควบคุมสนามบินโกมาได้สำเร็จในวันอังคาร (28) แหล่งข่าวทางความมั่นคงให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี . “พวกเขาเข้ายึดสนามบิน พวกนักรบกลุ่ม M23 อยู่ที่นั่น” แหล่งข่าวเปิดเผย พร้อมเสริมต่อว่า มีทหารดีอาร์คองโกไม่ต่ำกว่า 1,200 นายยอมจำนน และถูกควบคุมที่ฐานทัพของกองกำลังสหประชาชาติ MONUSC ที่สนามบิน . โดยในวันอังคาร (28) เสียงปืนต่อสู้ยังคงได้ยินถึงแม้ว่าความหนักหน่วงในการสู้รบจะน้อยลง . มีนักรบกลุ่ม M23 หลายสิบคนเดินมาร์ชผ่านถนนสายหลักในโกมา มีบางส่วนสวมเสื้อเกราะกันกระสุนและถืออาวุธของทหารดีอาร์คองโก . เอเอฟพีรายงานว่า ชาวโกมาไม่กี่คนออกมาเปิดเผยว่า พวกเขาโดนปล้นสะดมจากทหารดีอาร์คองโกหรือจากกลุ่มกบฏ . ทั้งนี้ ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าส่วนใดของโกมาที่โดนยึดโดยกบฏที่ออกมาอ้างว่ายึดได้ตั้งแต่คืนวันอาทิตย์ (26) . มีไม่ต่ำกว่า 17 คนเสียชีวิต และอีก 367 คนได้รับบาดเจ็บระหว่างการต่อสู้ 2 วันอ้างอิงจากโรงพยาบาลต่างๆ ในพื้นที่ . องค์การกาชาดออกมาเตือนความเสี่ยงหากตัวอย่างเชื้อไวรัสอีโบลาที่ทำให้มนุษย์เสียชีวิตหลังเลือดไหลออกไม่หยุดจากทั้งปาก จมูก หู ตา ที่มีสาเหตุจากการกินค้างคาวหรือลิง ที่เกิดระบาดอย่างรุนแรงเมื่อปี 2014-2016 ในไลบีเรียจนเห็นคนตายกลาดเกลื่อนถนน และหมออเมริกัน 2 คนซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นหมอมิชชันนารีต้องถูกหามส่งกลับสหรัฐฯ อย่างเร่งด่วนเพราะติดเชื้อนั้นอาจหลุดออกไปจากห้องแล็บได้เนื่องมาจากการสู้รบระหว่างกบฏ M23 และทหารรัฐบาลดีอาร์คองโก . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009082 .............. Sondhi X
    Like
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1909 มุมมอง 0 รีวิว
  • 蛇年大吉,新年快乐🧧🏮🀄️🐍♥️
    蛇年大吉,新年快乐🧧🏮🀄️🐍♥️
    Like
    Love
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 124 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 23 มุมมอง 0 รีวิว
  • มาร์ค รุตต์ เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ(นาโต) และ เมตเต เฟรเดอริกเซน นายกรัฐมนตรีหญิงเดนมาร์ก เห็นพ้องระหว่างการพบปะประชุมกันว่าพันธมิตรแห่งนี้จำเป็นต้องมุ่งเน้นเสริมความเข้มแข็งแก่การป้องกันตนเองในอาร์กติก ท่ามกลางการแสดงออกอย่างชัดเจนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่ปรารถนาอยากได้เกาะกรีนแลนด์ของเดนมาร์ก ไว้ในครอบครอง
    .
    แหล่งข่าวใกล้ชิดกับการหารือ เปิดเผยหลังการประชุมระหว่าง รุตต์ กับ เฟรเดอริกเซน ว่า "ทั้ง 2 คน เห็นพ้องกันว่าในความพยายามนี้ พันธมิตรทั้งมวลต้องมีบทบาท"
    .
    การพบปะพูดคุยครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลอย่างกว้างขวาง เกี่ยวกับกรณีที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ แสดงความสนใจมาตั้งแต่ได้รับเลือกตั้งกลับมาดำรงตำแหน่งอีกสมัยในเดือนพฤศจิกายน ในการทำให้เกาะกรีนแลนด์ ดินแดนปกครองตนเองของเดนมาร์ก กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของอเมริกา
    .
    "เราหารือเกี่ยวกับแนวทางที่เราจะทำงานร่วมกันเพื่อเสริมความมั่นคงในทะเลบอลติก สนับสนุนยูคเรน และลงทุนเพิ่มเติมในด้านกลาโหม ในนั้นรวมถึงในแถบอาร์กติก" รุตต์เขียนบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์หลังเสร็จสิ้นการประชุม
    .
    ทรัมป์ บอกว่าเกาะกรีนแลนด์ มีความสำคัญต่อความมั่นคงของสหรัฐฯและเดนมาร์กควรยอมสละการควบคุมเกาะยุทธศาสตร์สำคัญในอาร์กติกแห่งนี้ ทั้งนี้ผู้นำอเมริกาไม่ตัดความเป็นไปได้ในการใช้กำลังทหารหรือพลังอำนาจทางเศรษฐกิจ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว
    .
    ที่ผ่านมา ทรัมป์ ก็อยู่ในความขัดแย้งกับบรรดาพันธมิตรนาโตและยุโรป เกี่ยวกับการใช้จ่ายด้านกลาโหม และบอกว่าภายใต้การเป็นประธานาธิบดีของเขา สหรัฐฯจะทบทวนโดยพื้นฐานกี่ยวกับวัตถุประสงค์และภารกิจของนาโต
    .
    ในส่วนของเดนมาร์ก ได้แถลงเมื่อวันจันทร์(27ม.ค.) จะใช้จ่ายงบประมาณ 14,600 ล้านโครเนอเดนมาร์ก (ประมาณ 2,050 ล้านดอลลาร์ หรือ 69,000 ล้านบาท) เสริมประจำการทางทหารในอาร์กติก ดินแดนยุทธศาสตร์ใกล้กับทั้งสหรัฐฯ และรัสเซีย
    .
    "เราต้องเผชิญหน้ากับข้อเท็จจริงที่ว่า มีความท้าทายร้ายแรงในเรื่องความมั่นคงและด้านการป้องกันตนเองในอาร์กติกและนอร์ทแอตแลนติก" โทรเอลส์ ลุนด์ โพลเซน รัฐมนตรีกลาโหมเดนมาร์กระบุในถ้อยแถลง
    .
    เมตเต เฟรเดอริกเซน ยังได้พบปะกับ เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และบอกว่าพวกผู้นำทางการเมืองในยุโรปและที่อื่นๆ ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่กับหลักการแห่งการธำรงไว้ซึ่งความเคารพเขตแดนระหว่างประเทศ
    .
    ผลสำรวจความคิดเห็นหนึ่งที่เผยแพร่ในวันอังคาร(28ม.ค.) พบว่ามีชาวกรีนแลนด์ถึง 85% ที่ไม่ปรารถนาให้เกาะแอตแลนติกแห่งนี้ ซึ่งเป็นดินแดนกึ่งปกครองตนเองของเดนมาร์ก เข้าเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ ตามรายงานของ Berlingske หนังสือพิมพ์เดนมาร์ก
    .
    โพลที่จัดทำโดย Verian ตามที่ได้รับมอบหมายจาก Berlingske พบว่ามีชาวกรีนแลนด์แค่ 6% ที่อยากเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ ส่วนที่เหลืออีก 9% บอกว่ายังไม่ตัดสินใจ
    .
    เกาะกรีนแลนด์ ดินแดนที่มีขนาดใหญ่กว่าเม็กซิโก และมีประชากร 57,000 คน ได้รับอำนาจในการปกครองตนเองอย่างกว้างขวางในปี 2009 ในนั้นรวมถึงสิทธิในการประกาศเอกราชจากเดนมาร์กผ่านการทำประชามติ
    .
    มูเต เอเกเด นายกรัฐมนตรีเกาะกรีนแลนด์ ซึ่งยกระดับผลักดันความเป็นเอกราช เน้นย้ำว่าเกาะแห่งนี้ไม่ได้มีไว้ขาย และขึ้นอยู่กับประชาชนของเกาะที่จะตัดสินใจอนาคตของตนเอง
    .
    สำหรับกองทัพสหรัฐฯ พวกเขามีกำลังพลประจำการถาวรอยู่ ณ ฐานทัพอวกาศพิทัฟฟิก ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะกรีนแลนด์ ตำแหน่งยุทธศาสตร์ซึ่งเป็นที่ตั้งของระบบแจ้งเตือนขีปนาวุธล่วงหน้า ในขณะที่จุดดังกล่าวเป็นเส้นทางที่สั้นที่สุดสำหรับเดินทางจากยุโรปไปยังอเมริกาเหนือ ผ่านเกาะแห่งนี้
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009085
    ..............
    Sondhi X
    มาร์ค รุตต์ เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ(นาโต) และ เมตเต เฟรเดอริกเซน นายกรัฐมนตรีหญิงเดนมาร์ก เห็นพ้องระหว่างการพบปะประชุมกันว่าพันธมิตรแห่งนี้จำเป็นต้องมุ่งเน้นเสริมความเข้มแข็งแก่การป้องกันตนเองในอาร์กติก ท่ามกลางการแสดงออกอย่างชัดเจนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่ปรารถนาอยากได้เกาะกรีนแลนด์ของเดนมาร์ก ไว้ในครอบครอง . แหล่งข่าวใกล้ชิดกับการหารือ เปิดเผยหลังการประชุมระหว่าง รุตต์ กับ เฟรเดอริกเซน ว่า "ทั้ง 2 คน เห็นพ้องกันว่าในความพยายามนี้ พันธมิตรทั้งมวลต้องมีบทบาท" . การพบปะพูดคุยครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลอย่างกว้างขวาง เกี่ยวกับกรณีที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ แสดงความสนใจมาตั้งแต่ได้รับเลือกตั้งกลับมาดำรงตำแหน่งอีกสมัยในเดือนพฤศจิกายน ในการทำให้เกาะกรีนแลนด์ ดินแดนปกครองตนเองของเดนมาร์ก กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของอเมริกา . "เราหารือเกี่ยวกับแนวทางที่เราจะทำงานร่วมกันเพื่อเสริมความมั่นคงในทะเลบอลติก สนับสนุนยูคเรน และลงทุนเพิ่มเติมในด้านกลาโหม ในนั้นรวมถึงในแถบอาร์กติก" รุตต์เขียนบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์หลังเสร็จสิ้นการประชุม . ทรัมป์ บอกว่าเกาะกรีนแลนด์ มีความสำคัญต่อความมั่นคงของสหรัฐฯและเดนมาร์กควรยอมสละการควบคุมเกาะยุทธศาสตร์สำคัญในอาร์กติกแห่งนี้ ทั้งนี้ผู้นำอเมริกาไม่ตัดความเป็นไปได้ในการใช้กำลังทหารหรือพลังอำนาจทางเศรษฐกิจ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว . ที่ผ่านมา ทรัมป์ ก็อยู่ในความขัดแย้งกับบรรดาพันธมิตรนาโตและยุโรป เกี่ยวกับการใช้จ่ายด้านกลาโหม และบอกว่าภายใต้การเป็นประธานาธิบดีของเขา สหรัฐฯจะทบทวนโดยพื้นฐานกี่ยวกับวัตถุประสงค์และภารกิจของนาโต . ในส่วนของเดนมาร์ก ได้แถลงเมื่อวันจันทร์(27ม.ค.) จะใช้จ่ายงบประมาณ 14,600 ล้านโครเนอเดนมาร์ก (ประมาณ 2,050 ล้านดอลลาร์ หรือ 69,000 ล้านบาท) เสริมประจำการทางทหารในอาร์กติก ดินแดนยุทธศาสตร์ใกล้กับทั้งสหรัฐฯ และรัสเซีย . "เราต้องเผชิญหน้ากับข้อเท็จจริงที่ว่า มีความท้าทายร้ายแรงในเรื่องความมั่นคงและด้านการป้องกันตนเองในอาร์กติกและนอร์ทแอตแลนติก" โทรเอลส์ ลุนด์ โพลเซน รัฐมนตรีกลาโหมเดนมาร์กระบุในถ้อยแถลง . เมตเต เฟรเดอริกเซน ยังได้พบปะกับ เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และบอกว่าพวกผู้นำทางการเมืองในยุโรปและที่อื่นๆ ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่กับหลักการแห่งการธำรงไว้ซึ่งความเคารพเขตแดนระหว่างประเทศ . ผลสำรวจความคิดเห็นหนึ่งที่เผยแพร่ในวันอังคาร(28ม.ค.) พบว่ามีชาวกรีนแลนด์ถึง 85% ที่ไม่ปรารถนาให้เกาะแอตแลนติกแห่งนี้ ซึ่งเป็นดินแดนกึ่งปกครองตนเองของเดนมาร์ก เข้าเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ ตามรายงานของ Berlingske หนังสือพิมพ์เดนมาร์ก . โพลที่จัดทำโดย Verian ตามที่ได้รับมอบหมายจาก Berlingske พบว่ามีชาวกรีนแลนด์แค่ 6% ที่อยากเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ ส่วนที่เหลืออีก 9% บอกว่ายังไม่ตัดสินใจ . เกาะกรีนแลนด์ ดินแดนที่มีขนาดใหญ่กว่าเม็กซิโก และมีประชากร 57,000 คน ได้รับอำนาจในการปกครองตนเองอย่างกว้างขวางในปี 2009 ในนั้นรวมถึงสิทธิในการประกาศเอกราชจากเดนมาร์กผ่านการทำประชามติ . มูเต เอเกเด นายกรัฐมนตรีเกาะกรีนแลนด์ ซึ่งยกระดับผลักดันความเป็นเอกราช เน้นย้ำว่าเกาะแห่งนี้ไม่ได้มีไว้ขาย และขึ้นอยู่กับประชาชนของเกาะที่จะตัดสินใจอนาคตของตนเอง . สำหรับกองทัพสหรัฐฯ พวกเขามีกำลังพลประจำการถาวรอยู่ ณ ฐานทัพอวกาศพิทัฟฟิก ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะกรีนแลนด์ ตำแหน่งยุทธศาสตร์ซึ่งเป็นที่ตั้งของระบบแจ้งเตือนขีปนาวุธล่วงหน้า ในขณะที่จุดดังกล่าวเป็นเส้นทางที่สั้นที่สุดสำหรับเดินทางจากยุโรปไปยังอเมริกาเหนือ ผ่านเกาะแห่งนี้ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009085 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Love
    14
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1922 มุมมอง 0 รีวิว
  • 22 ปี จากจลาจลกัมพูชา สู่ปฏิบัติการโปเชนตง เบื้องหลังความขัดแย้ง ปฏิบัติการที่โลกต้องจดจำ

    ย้อนกลับไปเมื่อ 22 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2546 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในกรุงพนมเปญ
    ประเทศกัมพูชา ไม่เพียงแต่สร้างความสูญเสีย ทางกายภาพ แต่ยังเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ในความสัมพันธ์ ระหว่างไทยและกัมพูชา เหตุจลาจลครั้งนี้ มีจุดเริ่มต้นจากบทความ ในหนังสือพิมพ์กัมพูชา"รัศมี อังกอร์" ที่พาดพิงถึงนักแสดงหญิงชาวไทย "กบ-สุวนันท์ คงยิ่ง" ว่าได้กล่าวหากัมพูชาเรื่องนครวัด จนนำไปสู่ความโกรธแค้น และความรุนแรง ที่ลุกลามไปถึงการเผาสถานทูตไทย ในกรุงพนมเปญ

    จากบทความหนังสือพิมพ์ สู่ความโกลาหล
    ในวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2546 หนังสือพิมพ์ "รัศมี อังกอร์" ของกัมพูชา ได้ตีพิทพ์เผยแพร่บทความ ที่กล่าวอ้างว่า นักแสดงหญิงชาวไทย "กบ-สุวนันท์ คงยิ่ง" พูดว่านครวัดเป็นของไทย และกัมพูชาเป็นฝ่ายที่ "ขโมย" นครวัดไป ข้อความนี้แพร่กระจาย ออกไปอย่างรวดเร็ว สร้างกระแสความโกรธเคือง ในหมู่ชาวกัมพูชา แม้ว่ากบ-สุวนันท์ จะออกมาปฏิเสธว่า เธอไม่เคยพูดเช่นนั้น แต่ก็ไม่สามารถหยุดยั้ง กระแสความไม่พอใจได้

    การตอบสนองของฮุนเซ็น
    นายกรัฐมนตรีกัมพูชา "ฮุนเซ็น" ได้กล่าวสนับสนุนข้อความ ในบทความดังกล่าว โดยเปรียบเทียบว่า นักแสดงชาวไทยคนนี้ "ไม่มีค่าเทียบเท่าใบหญ้า ที่ขึ้นใกล้นครวัด" พร้อมทั้งสั่งให้สถานีโทรทัศน์กัมพูชา หยุดการเผยแพร่ละครไทยทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีการปลุกระดม ให้ประชาชนกัมพูชา ระลึกถึงรากเหง้าของตนเอง ซึ่งยิ่งกระพือความไม่พอใจ ในวงกว้าง

    จากชุมนุมสู่เหตุการณ์จลาจล เริ่มต้นที่สถานทูตไทย
    เช้าวันที่ 29 มกราคม 2546 กลุ่มชาวกัมพูชาหลายร้อยคน เริ่มรวมตัวกัน ที่หน้าสถานทูตไทย ในกรุงพนมเปญ การประท้วงเริ่มจาก การแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เช่น เผาธงชาติไทย และป้ายของสถานทูต ก่อนที่จะบานปลายไปสู่ความรุนแรง เมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มบุกเข้าไป ในบริเวณสถานทูต

    อพยพเจ้าหน้าที่สถานทูต
    เอกอัครราชทูตไทย ประจำกัมพูชาในขณะนั้น "ชัชเวทย์ ชาติสุวรรณ" ตัดสินใจสั่งการ ให้เจ้าหน้าที่สถานทูต อพยพออกจากอาคาร โดยปีนรั้วด้านหลังของสถานทูต ไปยังแม่น้ำบาสัก และบางส่วนหลบหนีไปยังสถานทูตญี่ปุ่น ที่อยู่ติดกัน การตัดสินใจที่เด็ดขาดนี้ ช่วยรักษาชีวิตของทุกคน ไว้ได้อย่างปลอดภัย

    ทำลายสถานทูตไทย
    ในช่วงเวลาต่อมา กลุ่มผู้ชุมนุมได้เผา และปล้นสดมสถานทูตไทย รวมถึงทำลายทรัพย์สิ นของธุรกิจไทยในกรุงพนมเปญ เช่น โรงแรม สำนักงาน และร้านค้าต่าง ๆ เหตุการณ์นี้ยิ่งเลวร้ายขึ้น เมื่อมีข่าวลือว่า คนกัมพูชาถูกทำร้ายในประเทศไทย ซึ่งทำให้การจลาจลในพนมเปญ รุนแรงขึ้นไปอีก

    ปฏิบัติการโปเชนตง ความช่วยเหลือจากฟากฟ้า
    หลังจากเกิดเหตุการณ์จลาจล รัฐบาลไทยภายใต้การนำ ของนายกรัฐมนตรี "ดร.ทักษิณ ชินวัตร" ได้ตัดสินใจเปิดปฏิบัติการ "โปเชนตง" เพื่ออพยพคนไทยออกจากกัมพูชา โดยใช้สนามบินเก่า "โปเชนตง" ในกรุงพนมเปญ เป็นจุดรับส่ง โดยได้รับความร่วมมือจากรัฐบาลกัมพูชา ที่เริ่มเปลี่ยนท่าที และยินยอมให้เครื่องบินทหารไทยเข้าประเทศ

    รายละเอียดของปฏิบัติการ
    วันที่ 30 มกราคม 2546 เวลา 05.15 น. เครื่องบินลำเลียงแบบ C-130H และ G-222 พร้อมหน่วยรบพิเศษ ได้บินจากฐานทัพดอนเมือง ไปยังสนามบินโปเชนตง เพื่ออพยพคนไทยกว่า 700 คน การดำเนินงานเป็นไปอย่างรวดเร็ว และมีการคุ้มกันอย่างเข้มงวด โดยสามารถนำคนไทย กลับมาได้อย่างปลอดภัยทั้งหมด ในวันเดียว

    ผลกระทบที่เกิดขึ้น ความสัมพันธ์ระหว่างไทยและกัมพูชา
    เหตุการณ์ครั้งนี้ ส่งผลให้ความสัมพันธ์ ระหว่างไทยและกัมพูชา เลวร้ายลงอย่างมาก ไทยตัดสินใจ ลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูต และปิดชายแดนระหว่างสองประเทศ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวในภูมิภาค

    เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญ ของการสื่อสารระหว่างประเทศ และการป้องกันการปลุกระดม ที่อาจนำไปสู่ความรุนแรง การตอบสนองที่รวดเร็ว และเด็ดขาดของรัฐบาลไทยในครั้งนั้น ยังเป็นตัวอย่างของการจัดการวิกฤต ที่มีประสิทธิภาพ

    22 ปี หลังเหตุการณ์จลาจลในพนมเปญ และปฏิบัติการโปเชนตง ยังคงเป็นบทเรียนสำคัญ ในประวัติศาสตร์ไทยและกัมพูชา ทั้งในแง่ของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และการจัดการวิกฤตระดับชาติ เหตุการณ์นี้เน้นย้ำถึง ความสำคัญของความร่วมมือ ความเข้าใจ และการสื่อสารที่ถูกต้อง ระหว่างประชาชน และผู้นำของทั้งสองประเทศ เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งในอนาคต

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 290850 ม.ค. 2568

    #จลาจลกัมพูชา #ปฏิบัติการโปเชนตง #ไทยกัมพูชา #สถานทูตไทย #ประวัติศาสตร์ไทย #การเมืองระหว่างประเทศ #บทเรียนความขัดแย้ง #ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ #เหตุการณ์ในอดีต







    22 ปี จากจลาจลกัมพูชา สู่ปฏิบัติการโปเชนตง เบื้องหลังความขัดแย้ง ปฏิบัติการที่โลกต้องจดจำ ย้อนกลับไปเมื่อ 22 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2546 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ไม่เพียงแต่สร้างความสูญเสีย ทางกายภาพ แต่ยังเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ในความสัมพันธ์ ระหว่างไทยและกัมพูชา เหตุจลาจลครั้งนี้ มีจุดเริ่มต้นจากบทความ ในหนังสือพิมพ์กัมพูชา"รัศมี อังกอร์" ที่พาดพิงถึงนักแสดงหญิงชาวไทย "กบ-สุวนันท์ คงยิ่ง" ว่าได้กล่าวหากัมพูชาเรื่องนครวัด จนนำไปสู่ความโกรธแค้น และความรุนแรง ที่ลุกลามไปถึงการเผาสถานทูตไทย ในกรุงพนมเปญ จากบทความหนังสือพิมพ์ สู่ความโกลาหล ในวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2546 หนังสือพิมพ์ "รัศมี อังกอร์" ของกัมพูชา ได้ตีพิทพ์เผยแพร่บทความ ที่กล่าวอ้างว่า นักแสดงหญิงชาวไทย "กบ-สุวนันท์ คงยิ่ง" พูดว่านครวัดเป็นของไทย และกัมพูชาเป็นฝ่ายที่ "ขโมย" นครวัดไป ข้อความนี้แพร่กระจาย ออกไปอย่างรวดเร็ว สร้างกระแสความโกรธเคือง ในหมู่ชาวกัมพูชา แม้ว่ากบ-สุวนันท์ จะออกมาปฏิเสธว่า เธอไม่เคยพูดเช่นนั้น แต่ก็ไม่สามารถหยุดยั้ง กระแสความไม่พอใจได้ การตอบสนองของฮุนเซ็น นายกรัฐมนตรีกัมพูชา "ฮุนเซ็น" ได้กล่าวสนับสนุนข้อความ ในบทความดังกล่าว โดยเปรียบเทียบว่า นักแสดงชาวไทยคนนี้ "ไม่มีค่าเทียบเท่าใบหญ้า ที่ขึ้นใกล้นครวัด" พร้อมทั้งสั่งให้สถานีโทรทัศน์กัมพูชา หยุดการเผยแพร่ละครไทยทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีการปลุกระดม ให้ประชาชนกัมพูชา ระลึกถึงรากเหง้าของตนเอง ซึ่งยิ่งกระพือความไม่พอใจ ในวงกว้าง จากชุมนุมสู่เหตุการณ์จลาจล เริ่มต้นที่สถานทูตไทย เช้าวันที่ 29 มกราคม 2546 กลุ่มชาวกัมพูชาหลายร้อยคน เริ่มรวมตัวกัน ที่หน้าสถานทูตไทย ในกรุงพนมเปญ การประท้วงเริ่มจาก การแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เช่น เผาธงชาติไทย และป้ายของสถานทูต ก่อนที่จะบานปลายไปสู่ความรุนแรง เมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มบุกเข้าไป ในบริเวณสถานทูต อพยพเจ้าหน้าที่สถานทูต เอกอัครราชทูตไทย ประจำกัมพูชาในขณะนั้น "ชัชเวทย์ ชาติสุวรรณ" ตัดสินใจสั่งการ ให้เจ้าหน้าที่สถานทูต อพยพออกจากอาคาร โดยปีนรั้วด้านหลังของสถานทูต ไปยังแม่น้ำบาสัก และบางส่วนหลบหนีไปยังสถานทูตญี่ปุ่น ที่อยู่ติดกัน การตัดสินใจที่เด็ดขาดนี้ ช่วยรักษาชีวิตของทุกคน ไว้ได้อย่างปลอดภัย ทำลายสถานทูตไทย ในช่วงเวลาต่อมา กลุ่มผู้ชุมนุมได้เผา และปล้นสดมสถานทูตไทย รวมถึงทำลายทรัพย์สิ นของธุรกิจไทยในกรุงพนมเปญ เช่น โรงแรม สำนักงาน และร้านค้าต่าง ๆ เหตุการณ์นี้ยิ่งเลวร้ายขึ้น เมื่อมีข่าวลือว่า คนกัมพูชาถูกทำร้ายในประเทศไทย ซึ่งทำให้การจลาจลในพนมเปญ รุนแรงขึ้นไปอีก ปฏิบัติการโปเชนตง ความช่วยเหลือจากฟากฟ้า หลังจากเกิดเหตุการณ์จลาจล รัฐบาลไทยภายใต้การนำ ของนายกรัฐมนตรี "ดร.ทักษิณ ชินวัตร" ได้ตัดสินใจเปิดปฏิบัติการ "โปเชนตง" เพื่ออพยพคนไทยออกจากกัมพูชา โดยใช้สนามบินเก่า "โปเชนตง" ในกรุงพนมเปญ เป็นจุดรับส่ง โดยได้รับความร่วมมือจากรัฐบาลกัมพูชา ที่เริ่มเปลี่ยนท่าที และยินยอมให้เครื่องบินทหารไทยเข้าประเทศ รายละเอียดของปฏิบัติการ วันที่ 30 มกราคม 2546 เวลา 05.15 น. เครื่องบินลำเลียงแบบ C-130H และ G-222 พร้อมหน่วยรบพิเศษ ได้บินจากฐานทัพดอนเมือง ไปยังสนามบินโปเชนตง เพื่ออพยพคนไทยกว่า 700 คน การดำเนินงานเป็นไปอย่างรวดเร็ว และมีการคุ้มกันอย่างเข้มงวด โดยสามารถนำคนไทย กลับมาได้อย่างปลอดภัยทั้งหมด ในวันเดียว ผลกระทบที่เกิดขึ้น ความสัมพันธ์ระหว่างไทยและกัมพูชา เหตุการณ์ครั้งนี้ ส่งผลให้ความสัมพันธ์ ระหว่างไทยและกัมพูชา เลวร้ายลงอย่างมาก ไทยตัดสินใจ ลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูต และปิดชายแดนระหว่างสองประเทศ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวในภูมิภาค เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญ ของการสื่อสารระหว่างประเทศ และการป้องกันการปลุกระดม ที่อาจนำไปสู่ความรุนแรง การตอบสนองที่รวดเร็ว และเด็ดขาดของรัฐบาลไทยในครั้งนั้น ยังเป็นตัวอย่างของการจัดการวิกฤต ที่มีประสิทธิภาพ 22 ปี หลังเหตุการณ์จลาจลในพนมเปญ และปฏิบัติการโปเชนตง ยังคงเป็นบทเรียนสำคัญ ในประวัติศาสตร์ไทยและกัมพูชา ทั้งในแง่ของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และการจัดการวิกฤตระดับชาติ เหตุการณ์นี้เน้นย้ำถึง ความสำคัญของความร่วมมือ ความเข้าใจ และการสื่อสารที่ถูกต้อง ระหว่างประชาชน และผู้นำของทั้งสองประเทศ เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งในอนาคต ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 290850 ม.ค. 2568 #จลาจลกัมพูชา #ปฏิบัติการโปเชนตง #ไทยกัมพูชา #สถานทูตไทย #ประวัติศาสตร์ไทย #การเมืองระหว่างประเทศ #บทเรียนความขัดแย้ง #ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ #เหตุการณ์ในอดีต
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 365 มุมมอง 0 รีวิว
  • โปเชนตง เส้นทางแห่งความหวัง

    เสียงลมพัดผ่านนครวัดที่เงียบงัน ใต้เงาอดีตที่ถูกเติมแต้มด้วยควันไฟ บทความรัศมีอังกอร์ เปลี่ยนแปลงชีวิตไป เปลวเพลิงแห่งความแค้น เผาฝันให้เลือนราง

    เสียงกลองก้องในหัวใจทุกคน ความจริงและคำโกหกซ้อนทับกัน แดนสันติกลับกลายเป็นสนามสงคราม เมื่อชาติถูกท้าทาย ความสงบหายไป

    * โปเชนตง จุดหมายสุดท้ายแห่งทางรอด แสงแห่งความหวังในคืนที่มืดมน เสียงเครื่องบิน ซีร้อยสามสิบก้องฟ้า นำพา กว่าเจ็ดร้อยคนไทยกลับบ้าน ด้วยศรัทธาในใจ

    ในพนมเปญ เสียงม็อบดังสนั่นไกล สถานทูตไทยลุกไหม้ด้วยเปลวไฟ เบื้องหลังความวุ่นวาย คือเกมที่ถูกวางไว้ ใครกันที่บงการ ใครกันที่ชักใยในมุมมืด

    ธงชาติที่เผาไหม้ แต่ใจไม่ยอมแพ้ พี่น้องรวมใจกันในยามที่สิ้นหวัง สนามบินเก่าแห่งนี้ คือจุดรวมพลัง โปเชนตง จะเป็นที่พิงสุดท้าย

    ซ้ำ *

    ในยามที่ความหวังเลือนราง ศรัทธากลับเป็นดั่งแสงนำทาง ถึงแม้ไฟแห่งความแค้นจะลุกโชน แต่ความรักในบ้านเกิดนั้นยังคง

    ซ้ำ *

    โปเชนตง เส้นทางแห่งความหวัง เผชิญหน้าความจริง แม้เจ็บปวดเพียงใด เพราะเราจะกลับมา ในอ้อมกอดของแผ่นดินไทย ด้วยหัวใจที่ยังไม่ยอมแพ้

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 290852 ม.ค. 2568

    #โปเชนตง #เส้นทางแห่งความหวัง #จลาจลพนมเปญ #C130กลับบ้าน #บทเรียนประวัติศาสตร์ #ความหวังและศรัทธา #ปฏิบัติการกู้ภัย #พลังใจคนไทย #ดนตรีปลุกพลัง #เรื่องจริงที่ต้องเล่า

    โปเชนตง เส้นทางแห่งความหวัง เสียงลมพัดผ่านนครวัดที่เงียบงัน ใต้เงาอดีตที่ถูกเติมแต้มด้วยควันไฟ บทความรัศมีอังกอร์ เปลี่ยนแปลงชีวิตไป เปลวเพลิงแห่งความแค้น เผาฝันให้เลือนราง เสียงกลองก้องในหัวใจทุกคน ความจริงและคำโกหกซ้อนทับกัน แดนสันติกลับกลายเป็นสนามสงคราม เมื่อชาติถูกท้าทาย ความสงบหายไป * โปเชนตง จุดหมายสุดท้ายแห่งทางรอด แสงแห่งความหวังในคืนที่มืดมน เสียงเครื่องบิน ซีร้อยสามสิบก้องฟ้า นำพา กว่าเจ็ดร้อยคนไทยกลับบ้าน ด้วยศรัทธาในใจ ในพนมเปญ เสียงม็อบดังสนั่นไกล สถานทูตไทยลุกไหม้ด้วยเปลวไฟ เบื้องหลังความวุ่นวาย คือเกมที่ถูกวางไว้ ใครกันที่บงการ ใครกันที่ชักใยในมุมมืด ธงชาติที่เผาไหม้ แต่ใจไม่ยอมแพ้ พี่น้องรวมใจกันในยามที่สิ้นหวัง สนามบินเก่าแห่งนี้ คือจุดรวมพลัง โปเชนตง จะเป็นที่พิงสุดท้าย ซ้ำ * ในยามที่ความหวังเลือนราง ศรัทธากลับเป็นดั่งแสงนำทาง ถึงแม้ไฟแห่งความแค้นจะลุกโชน แต่ความรักในบ้านเกิดนั้นยังคง ซ้ำ * โปเชนตง เส้นทางแห่งความหวัง เผชิญหน้าความจริง แม้เจ็บปวดเพียงใด เพราะเราจะกลับมา ในอ้อมกอดของแผ่นดินไทย ด้วยหัวใจที่ยังไม่ยอมแพ้ ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 290852 ม.ค. 2568 #โปเชนตง #เส้นทางแห่งความหวัง #จลาจลพนมเปญ #C130กลับบ้าน #บทเรียนประวัติศาสตร์ #ความหวังและศรัทธา #ปฏิบัติการกู้ภัย #พลังใจคนไทย #ดนตรีปลุกพลัง #เรื่องจริงที่ต้องเล่า
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 384 มุมมอง 24 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 32 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 137 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • สนธิเล่าเรื่อง 29-1-68
    .
    ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ สุขสันต์วันตรุษจีนแฟน ๆ รายการทุกท่าน วันนี้คุณสนธิจะมาเล่าเรื่องเบาๆ กันก่อน เกี่ยวกับอาหารเช้า แมว ก่อนที่จะเรื่องบ้านเมืองเรื่องอื่นๆ ต่อ พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง
    https://www.youtube.com/watch?v=EVrMQhX38vg

    #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk
    สนธิเล่าเรื่อง 29-1-68 . ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ สุขสันต์วันตรุษจีนแฟน ๆ รายการทุกท่าน วันนี้คุณสนธิจะมาเล่าเรื่องเบาๆ กันก่อน เกี่ยวกับอาหารเช้า แมว ก่อนที่จะเรื่องบ้านเมืองเรื่องอื่นๆ ต่อ พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง https://www.youtube.com/watch?v=EVrMQhX38vg #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk
    Like
    Love
    Yay
    Haha
    73
    8 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2535 มุมมอง 4 รีวิว
  • สนธิเล่าเรื่อง 29-1-68
    .
    ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ สุขสันต์วันตรุษจีนแฟน ๆ รายการทุกท่าน วันนี้คุณสนธิจะมาเล่าเรื่องเบาๆ กันก่อน เกี่ยวกับอาหารเช้า แมว ก่อนที่จะเรื่องบ้านเมืองเรื่องอื่นๆ ต่อ พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง
    .
    คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=EVrMQhX38vg
    .
    #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk
    สนธิเล่าเรื่อง 29-1-68 . ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ สุขสันต์วันตรุษจีนแฟน ๆ รายการทุกท่าน วันนี้คุณสนธิจะมาเล่าเรื่องเบาๆ กันก่อน เกี่ยวกับอาหารเช้า แมว ก่อนที่จะเรื่องบ้านเมืองเรื่องอื่นๆ ต่อ พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง . คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=EVrMQhX38vg . #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk
    Like
    Love
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 206 มุมมอง 0 รีวิว
  • แคลอรี่ว่างเปล่า (Empty Calories)

    อาหารทุกชนิดมีแคลอรี และร่างกายจะใช้แคลอรีทั้งหมดเป็นพลังงานทันที และอาจเก็บไว้เป็นไกลโคเจนเพื่อเป็นแหล่งพลังงานในอนาคตหรือเปลี่ยนเป็นไขมัน ขึ้นอยู่กับจำนวนแคลอรีที่คุณกินในช่วงระยะเวลาหนึ่ง อาหารบางชนิดอาจมีแคลอรีต่ำมาก เช่น ผักและผลไม้บางชนิด แต่นอกจากน้ำและสารให้ความหวานเทียมแล้ว ไม่มีอะไรที่คุณกินได้โดยไม่มีแคลอรีเลย

    สิ่งที่เรากินควรมีมากกว่าแค่แคลอรี่

    แน่นอนว่าเราต้องการแคลอรีเพื่อการดำรงชีวิต แต่ร่างกายต้องการอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น คาร์โบไฮเดรต แร่ธาตุ โปรตีน วิตามิน ไฟเบอร์ และไขมันดี

    ผักมีวิตามิน แร่ธาตุ และสารอาหารสำคัญที่ร่างกายต้องการเพื่อให้ทำงานได้อย่างปกติ เนื้อไม่ติดมันและปลาเป็นแหล่งโปรตีนชั้นดีซึ่งมีความสำคัญต่อกระบวนการซ่อมแซม การเจริญเติบโต และพัฒนาการของร่างกาย ไฟเบอร์ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยให้รู้สึกอิ่ม เป็นแหล่งที่อยู่ของจุลชีพฝั่งดีในลำไส้และกระตุ้นการขับถ่ายให้เป็นปกติ ส่วนไขมันดีช่วยให้ร่างกายดูดซึมวิตามินบางชนิดได้ดี

    แคลอรีว่างเปล่าก็คืออาหารที่มีแต่แคลอรี ซึ่งให้ประโยชน์แก่ร่างกายไม่ครบถ้วน

    แคลอรี่ว่างเปล่าสามารถให้พลังงานได้ทันที ส่งเสริมความอิ่ม แต่ไม่สามารถใช้สร้างกล้ามเนื้อ ไม่ให้วิตามินหรือให้ประโยชน์ทางโภชนาการอื่นๆ ได้ นอกจากนี้แคลอรี่ว่างเปล่าที่ไม่ได้ใช้เป็นพลังงานจะถูกเก็บไว้ในรูปแบบของ ไขมัน

    ตามหลักการทั่วไป หากอาหารไม่มีสารอาหารหรือมีแคลอรีจากน้ำตาลและไขมันมากกว่าสารอาหาร ก็ถือว่าเป็นแหล่งแคลอรีว่างเปล่า หลักๆได้แก่:

    • เครื่องดื่มอัดลม เครื่องดื่มสำหรับนักกีฬา ชาหวาน น้ำมะนาว และเครื่องดื่มชูกำลัง

    • อาหารขยะและอาหารจานด่วน

    • ลูกอม รวมทั้งลูกอมแข็งและลูกอมเคี้ยวหวานหรือเปรี้ยว

    • เค้กและโดนัท

    ทำไมแคลอรี่ว่างเปล่าถึงไม่ดี

    เมื่อคุณกินแคลอรีว่างเปล่า คุณมักจะกินเข้าไปเมื่อพิจารณาถึง ความเร่งรีบ ความอิ่มและการลดน้ำหนัก การรับประทานแคลอรี่ว่างเปล่ามากเกินไปอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงและเกิดการอักเสบ ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวานและโรคหัวใจได้

    ร่างกายต้องการอาหารที่ครบถ้วนในแต่ละมื้อ แคลอรีจำเป็นเพื่อให้พลังงานเท่านั้น
    สิ่งที่น่าห่วงใยที่สุด ก็คือสมอง

    เมื่อสมองขาดสารอาหารที่จำเป็นโดยเฉพาะอย่างยิ่งแร่ธาตุ ต่อมาคุณก็จะมีปัญหาเกี่ยวกับการนอนหลับ การคิดอย่างมีสมาธิ การมีสติสัมปชัญญะ และความสามารถในการควบคุมอวัยวะอื่นๆ

    ด้วยรักและห่วงใยจากใจจริง

    Cr. Santi Manadee
    แคลอรี่ว่างเปล่า (Empty Calories) อาหารทุกชนิดมีแคลอรี และร่างกายจะใช้แคลอรีทั้งหมดเป็นพลังงานทันที และอาจเก็บไว้เป็นไกลโคเจนเพื่อเป็นแหล่งพลังงานในอนาคตหรือเปลี่ยนเป็นไขมัน ขึ้นอยู่กับจำนวนแคลอรีที่คุณกินในช่วงระยะเวลาหนึ่ง อาหารบางชนิดอาจมีแคลอรีต่ำมาก เช่น ผักและผลไม้บางชนิด แต่นอกจากน้ำและสารให้ความหวานเทียมแล้ว ไม่มีอะไรที่คุณกินได้โดยไม่มีแคลอรีเลย สิ่งที่เรากินควรมีมากกว่าแค่แคลอรี่ แน่นอนว่าเราต้องการแคลอรีเพื่อการดำรงชีวิต แต่ร่างกายต้องการอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น คาร์โบไฮเดรต แร่ธาตุ โปรตีน วิตามิน ไฟเบอร์ และไขมันดี ผักมีวิตามิน แร่ธาตุ และสารอาหารสำคัญที่ร่างกายต้องการเพื่อให้ทำงานได้อย่างปกติ เนื้อไม่ติดมันและปลาเป็นแหล่งโปรตีนชั้นดีซึ่งมีความสำคัญต่อกระบวนการซ่อมแซม การเจริญเติบโต และพัฒนาการของร่างกาย ไฟเบอร์ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยให้รู้สึกอิ่ม เป็นแหล่งที่อยู่ของจุลชีพฝั่งดีในลำไส้และกระตุ้นการขับถ่ายให้เป็นปกติ ส่วนไขมันดีช่วยให้ร่างกายดูดซึมวิตามินบางชนิดได้ดี แคลอรีว่างเปล่าก็คืออาหารที่มีแต่แคลอรี ซึ่งให้ประโยชน์แก่ร่างกายไม่ครบถ้วน แคลอรี่ว่างเปล่าสามารถให้พลังงานได้ทันที ส่งเสริมความอิ่ม แต่ไม่สามารถใช้สร้างกล้ามเนื้อ ไม่ให้วิตามินหรือให้ประโยชน์ทางโภชนาการอื่นๆ ได้ นอกจากนี้แคลอรี่ว่างเปล่าที่ไม่ได้ใช้เป็นพลังงานจะถูกเก็บไว้ในรูปแบบของ ไขมัน ตามหลักการทั่วไป หากอาหารไม่มีสารอาหารหรือมีแคลอรีจากน้ำตาลและไขมันมากกว่าสารอาหาร ก็ถือว่าเป็นแหล่งแคลอรีว่างเปล่า หลักๆได้แก่: • เครื่องดื่มอัดลม เครื่องดื่มสำหรับนักกีฬา ชาหวาน น้ำมะนาว และเครื่องดื่มชูกำลัง • อาหารขยะและอาหารจานด่วน • ลูกอม รวมทั้งลูกอมแข็งและลูกอมเคี้ยวหวานหรือเปรี้ยว • เค้กและโดนัท ทำไมแคลอรี่ว่างเปล่าถึงไม่ดี เมื่อคุณกินแคลอรีว่างเปล่า คุณมักจะกินเข้าไปเมื่อพิจารณาถึง ความเร่งรีบ ความอิ่มและการลดน้ำหนัก การรับประทานแคลอรี่ว่างเปล่ามากเกินไปอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงและเกิดการอักเสบ ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวานและโรคหัวใจได้ ร่างกายต้องการอาหารที่ครบถ้วนในแต่ละมื้อ แคลอรีจำเป็นเพื่อให้พลังงานเท่านั้น สิ่งที่น่าห่วงใยที่สุด ก็คือสมอง เมื่อสมองขาดสารอาหารที่จำเป็นโดยเฉพาะอย่างยิ่งแร่ธาตุ ต่อมาคุณก็จะมีปัญหาเกี่ยวกับการนอนหลับ การคิดอย่างมีสมาธิ การมีสติสัมปชัญญะ และความสามารถในการควบคุมอวัยวะอื่นๆ ด้วยรักและห่วงใยจากใจจริง Cr. Santi Manadee
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 180 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลุงก็ได้ลองใช้ DeepSeek มาแล้ว แจ่มจริง มาดู บทความของน้อง David Gewirtz ซึ่งเป็น Senior Contributing Editor ของ ZDNET ซึ่งคนนี้เก่งจริง เป็นผู้เขียนหนังสือหลายเล่ม ได้รับรางวัล Sigma Xi Research Award ในด้านวิศวกรรม และเคยเป็นศาสตราจารย์ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ที่มหาวิทยาลัย Princeton, University of California, Berkeley, UCLA, และ Stanford นอกจากนี้ เขายังเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์และเป็นที่ปรึกษาด้านนโยบายของสหรัฐอเมริกา

    บทความนี้กล่าวถึงการทดสอบความสามารถในการเขียนโค้ดของ DeepSeek R1 และ V3 ซึ่งเป็น AI chatbot จากประเทศจีน โดยผู้เขียนได้ทำการทดสอบ AI ทั้งสองรุ่นในหลายด้าน เช่น การเขียนปลั๊กอินสำหรับ WordPress การเขียนฟังก์ชันการจัดการสตริง การหาบั๊กที่น่ารำคาญ และการเขียนสคริปต์

    DeepSeek V3 และ R1 มีความสามารถที่น่าประทับใจในการเขียนโค้ด แต่ยังมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง ตัวอย่างเช่น DeepSeek V3 สามารถสร้างทั้งส่วนติดต่อผู้ใช้และตรรกะของโปรแกรมได้ตามที่กำหนด แต่ DeepSeek R1 มีการวิเคราะห์ที่ยาวเกินไปก่อนที่จะให้โค้ด นอกจากนี้ DeepSeek V3 ยังสามารถเขียนฟังก์ชันการจัดการสตริงได้ดี แต่ DeepSeek R1 มีปัญหาในการจัดการข้อมูลที่ไม่ใช่สตริง

    ในด้านการหาบั๊ก DeepSeek V3 และ R1 สามารถผ่านการทดสอบได้ แต่ในการเขียนสคริปต์ DeepSeek ทั้งสองรุ่นยังไม่สามารถทำได้ดีเท่าที่ควร

    ในภาพรวม DeepSeek V3 มีความสามารถที่ดีกว่า DeepSeek R1 แต่ยังคงมีพื้นที่ให้พัฒนาอยู่ โดยเฉพาะในด้านการเขียนสคริปต์และการจัดการข้อมูลที่ซับซ้อน

    นอกจากนี้ บทความยังกล่าวถึงความท้าทายในการใช้งาน DeepSeek เช่น การต้องใช้ที่อยู่อีเมลสาธารณะในการลงทะเบียน และปัญหาด้านความเร็วในการตอบสนอง

    DeepSeek เป็น AI ที่น่าจับตามองในอนาคต แม้ว่าจะยังมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง แต่ก็มีศักยภาพในการพัฒนาและปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น

    https://www.zdnet.com/article/i-tested-deepseeks-r1-and-v3-coding-skills-and-were-not-all-doomed-yet/
    ลุงก็ได้ลองใช้ DeepSeek มาแล้ว แจ่มจริง มาดู บทความของน้อง David Gewirtz ซึ่งเป็น Senior Contributing Editor ของ ZDNET ซึ่งคนนี้เก่งจริง เป็นผู้เขียนหนังสือหลายเล่ม ได้รับรางวัล Sigma Xi Research Award ในด้านวิศวกรรม และเคยเป็นศาสตราจารย์ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ที่มหาวิทยาลัย Princeton, University of California, Berkeley, UCLA, และ Stanford นอกจากนี้ เขายังเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์และเป็นที่ปรึกษาด้านนโยบายของสหรัฐอเมริกา บทความนี้กล่าวถึงการทดสอบความสามารถในการเขียนโค้ดของ DeepSeek R1 และ V3 ซึ่งเป็น AI chatbot จากประเทศจีน โดยผู้เขียนได้ทำการทดสอบ AI ทั้งสองรุ่นในหลายด้าน เช่น การเขียนปลั๊กอินสำหรับ WordPress การเขียนฟังก์ชันการจัดการสตริง การหาบั๊กที่น่ารำคาญ และการเขียนสคริปต์ DeepSeek V3 และ R1 มีความสามารถที่น่าประทับใจในการเขียนโค้ด แต่ยังมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง ตัวอย่างเช่น DeepSeek V3 สามารถสร้างทั้งส่วนติดต่อผู้ใช้และตรรกะของโปรแกรมได้ตามที่กำหนด แต่ DeepSeek R1 มีการวิเคราะห์ที่ยาวเกินไปก่อนที่จะให้โค้ด นอกจากนี้ DeepSeek V3 ยังสามารถเขียนฟังก์ชันการจัดการสตริงได้ดี แต่ DeepSeek R1 มีปัญหาในการจัดการข้อมูลที่ไม่ใช่สตริง ในด้านการหาบั๊ก DeepSeek V3 และ R1 สามารถผ่านการทดสอบได้ แต่ในการเขียนสคริปต์ DeepSeek ทั้งสองรุ่นยังไม่สามารถทำได้ดีเท่าที่ควร ในภาพรวม DeepSeek V3 มีความสามารถที่ดีกว่า DeepSeek R1 แต่ยังคงมีพื้นที่ให้พัฒนาอยู่ โดยเฉพาะในด้านการเขียนสคริปต์และการจัดการข้อมูลที่ซับซ้อน นอกจากนี้ บทความยังกล่าวถึงความท้าทายในการใช้งาน DeepSeek เช่น การต้องใช้ที่อยู่อีเมลสาธารณะในการลงทะเบียน และปัญหาด้านความเร็วในการตอบสนอง DeepSeek เป็น AI ที่น่าจับตามองในอนาคต แม้ว่าจะยังมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง แต่ก็มีศักยภาพในการพัฒนาและปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น https://www.zdnet.com/article/i-tested-deepseeks-r1-and-v3-coding-skills-and-were-not-all-doomed-yet/
    WWW.ZDNET.COM
    I tested DeepSeek's R1 and V3 coding skills - and we're not all doomed (yet)
    Are DeepSeek V3 and R1 the next big things in AI? How this Chinese open-source chatbot outperformed some big-name AIs in coding tests, despite using vastly less infrastructure than its competitors.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 201 มุมมอง 0 รีวิว
  • เครื่องบินโดยสารแอร์บัสของสายการบินแอร์ปูซาน (Air Busan) ของเกาหลีใต้เกิดเพลิงลุกไหม้ที่ท่าอากาศยานนานาชาติกิมแฮทางตอนใต้ของเกาหลีใต้ ขณะกำลังตรียมเดินทางไปยังฮ่องกงเมื่อค่ำวานนี้ (28 ม.ค.) แต่โชคดีที่ผู้โดยสารทั้ง 169 คนและลูกเรืออีก 7 คนถูกอพยพได้ทัน และมีผู้บาดเจ็บเล็กน้อยเพียง 3 คน
    .
    สำนักงานดับเพลิงปูซานได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ซึ่งปะทุขึ้นภายในลำตัวเครื่องบินเมื่อเวลาราว 22.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่สำนักข่าวยอนฮัปรายงานว่าต้นเพลิงเกิดที่ส่วนหางของเครื่อง
    .
    คลิปเหตุการณ์ที่สถานีโทรทัศน์ YTN เผยแพร่ทำให้เห็นว่ามีการใช้สไลด์อพยพผู้โดยสารลงจากเครื่องบินทั้ง 2 ฝั่ง ขณะที่หน่วยกู้ภัยเร่งจัดการกับควันและไฟที่ไหม้เครื่องบิน
    .
    ต่อมาสำนักข่าวยอนฮัปได้เผยแพร่คลิปแนวหลังคาห้องโดยสารที่เป็นรูโหว่อันเกิดจากการถูกไฟไหม้
    .
    เหตุระทึกครั้งนี้เกิดขึ้นเพียง 1 เดือนหลังจากที่เครื่องบินโบอิ้งของสายการบินเจจูแอร์ (Jeju Air) ซึ่งเดินทางจากกรุงเทพมหานครประสบอุบัติเหตุลื่นไถลหลุดรันเวย์ที่สนามบินนานาชาติมูอัน หลังลงจอดในสภาพล้อไม่กาง ซึ่งทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือเสียชีวิตรวม 179 คน และมีลูกเรือที่นั่งอยู่บริเวณส่วนหางรอดมาได้เพียง 2 คน
    .
    สำหรับแอร์ปูซานเป็นสายการบินต้นทุนต่ำในเครือเอเชียนาแอร์ไลน์ส (Asiana Airlines) ซึ่งเพิ่งจะถูกควบกิจการโดยโคเรียนแอร์ (Korean Air) เมื่อเดือน ธ.ค.
    .
    แอร์บัสซึ่งเป็นผู้ผู้ผลิตเครื่องบินยืนยันว่าได้รับรายงานอุบัติเหตุดังกล่าวแล้ว และอยู่ระหว่างประสานงานกับทางแอร์ปูซาน
    .
    เครื่องบินลำเกิดเหตุเป็นแอร์บัส A321 neo หมายเลขท้ายเครื่อง HL7763 ซึ่งผ่านการใช้งานมาแล้ว 17 ปี ตามข้อมูลจาก Aviation Safety Network
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009127
    ..............
    Sondhi X
    เครื่องบินโดยสารแอร์บัสของสายการบินแอร์ปูซาน (Air Busan) ของเกาหลีใต้เกิดเพลิงลุกไหม้ที่ท่าอากาศยานนานาชาติกิมแฮทางตอนใต้ของเกาหลีใต้ ขณะกำลังตรียมเดินทางไปยังฮ่องกงเมื่อค่ำวานนี้ (28 ม.ค.) แต่โชคดีที่ผู้โดยสารทั้ง 169 คนและลูกเรืออีก 7 คนถูกอพยพได้ทัน และมีผู้บาดเจ็บเล็กน้อยเพียง 3 คน . สำนักงานดับเพลิงปูซานได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ซึ่งปะทุขึ้นภายในลำตัวเครื่องบินเมื่อเวลาราว 22.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่สำนักข่าวยอนฮัปรายงานว่าต้นเพลิงเกิดที่ส่วนหางของเครื่อง . คลิปเหตุการณ์ที่สถานีโทรทัศน์ YTN เผยแพร่ทำให้เห็นว่ามีการใช้สไลด์อพยพผู้โดยสารลงจากเครื่องบินทั้ง 2 ฝั่ง ขณะที่หน่วยกู้ภัยเร่งจัดการกับควันและไฟที่ไหม้เครื่องบิน . ต่อมาสำนักข่าวยอนฮัปได้เผยแพร่คลิปแนวหลังคาห้องโดยสารที่เป็นรูโหว่อันเกิดจากการถูกไฟไหม้ . เหตุระทึกครั้งนี้เกิดขึ้นเพียง 1 เดือนหลังจากที่เครื่องบินโบอิ้งของสายการบินเจจูแอร์ (Jeju Air) ซึ่งเดินทางจากกรุงเทพมหานครประสบอุบัติเหตุลื่นไถลหลุดรันเวย์ที่สนามบินนานาชาติมูอัน หลังลงจอดในสภาพล้อไม่กาง ซึ่งทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือเสียชีวิตรวม 179 คน และมีลูกเรือที่นั่งอยู่บริเวณส่วนหางรอดมาได้เพียง 2 คน . สำหรับแอร์ปูซานเป็นสายการบินต้นทุนต่ำในเครือเอเชียนาแอร์ไลน์ส (Asiana Airlines) ซึ่งเพิ่งจะถูกควบกิจการโดยโคเรียนแอร์ (Korean Air) เมื่อเดือน ธ.ค. . แอร์บัสซึ่งเป็นผู้ผู้ผลิตเครื่องบินยืนยันว่าได้รับรายงานอุบัติเหตุดังกล่าวแล้ว และอยู่ระหว่างประสานงานกับทางแอร์ปูซาน . เครื่องบินลำเกิดเหตุเป็นแอร์บัส A321 neo หมายเลขท้ายเครื่อง HL7763 ซึ่งผ่านการใช้งานมาแล้ว 17 ปี ตามข้อมูลจาก Aviation Safety Network . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009127 .............. Sondhi X
    Like
    Sad
    Love
    Wow
    17
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1860 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดให้เช่าเหรียญ ครุฑ ครบรอบ50 ปี เครื่องบินโจมตีธุรการ แบบที่2 AU-23A ของฝูงบิน501 กองบิน5
    เปิดให้เช่าเหรียญ ครุฑ ครบรอบ50 ปี เครื่องบินโจมตีธุรการ แบบที่2 AU-23A ของฝูงบิน501 กองบิน5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 48 มุมมอง 0 รีวิว
  • Talen Energy ได้ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์ของสหรัฐฯ เพื่อพิจารณาการตัดสินใจของคณะกรรมการกำกับดูแลพลังงานแห่งชาติ (FERC) ที่ปฏิเสธข้อตกลงพลังงานสำหรับศูนย์ข้อมูลของ Amazon ที่ตั้งอยู่ร่วมกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของ Talen ในรัฐเพนซิลเวเนีย

    ในปีที่ผ่านมา Talen ได้ขายพื้นที่ศูนย์ข้อมูลให้กับ Amazon ซึ่งจะทำให้ศูนย์ข้อมูลได้รับพลังงานเกือบ 1 กิกะวัตต์ ซึ่งเพียงพอที่จะจ่ายพลังงานให้กับบ้านเรือนทั้งหมดในเมืองฟิลาเดลเฟีย อย่างไรก็ตาม FERC ได้ปฏิเสธคำขอของ Talen ในการแก้ไขข้อตกลงการเชื่อมต่อเพื่อเพิ่มการจ่ายพลังงานให้กับศูนย์ข้อมูล การเชื่อมต่อศูนย์ข้อมูลกับโรงไฟฟ้าโดยตรง (co-location) เป็นวิธีที่น่าสนใจสำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในการได้รับพลังงานจำนวนมากอย่างรวดเร็ว แต่การเปลี่ยนแปลงการจ่ายพลังงานในลักษณะนี้อาจส่งผลกระทบต่อความเสถียรของระบบไฟฟ้าในภูมิภาค

    Talen จึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์เพื่อขอให้พิจารณาการตัดสินใจของ FERC ซึ่งหากศาลรับคำร้องนี้ อาจส่งผลให้การตัดสินใจของ FERC ถูกยกเลิกหรือถูกส่งกลับไปให้คณะกรรมการพิจารณาใหม่

    นอกจากนี้ บทความยังกล่าวถึงแนวโน้มของการตั้งศูนย์ข้อมูลร่วมกับโรงไฟฟ้า ซึ่งเป็นวิธีที่น่าสนใจสำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในการได้รับพลังงานจำนวนมากอย่างรวดเร็ว

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/29/talen-goes-to-court-over-ferc039s-amazon-co-located-data-center-rejection
    Talen Energy ได้ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์ของสหรัฐฯ เพื่อพิจารณาการตัดสินใจของคณะกรรมการกำกับดูแลพลังงานแห่งชาติ (FERC) ที่ปฏิเสธข้อตกลงพลังงานสำหรับศูนย์ข้อมูลของ Amazon ที่ตั้งอยู่ร่วมกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของ Talen ในรัฐเพนซิลเวเนีย ในปีที่ผ่านมา Talen ได้ขายพื้นที่ศูนย์ข้อมูลให้กับ Amazon ซึ่งจะทำให้ศูนย์ข้อมูลได้รับพลังงานเกือบ 1 กิกะวัตต์ ซึ่งเพียงพอที่จะจ่ายพลังงานให้กับบ้านเรือนทั้งหมดในเมืองฟิลาเดลเฟีย อย่างไรก็ตาม FERC ได้ปฏิเสธคำขอของ Talen ในการแก้ไขข้อตกลงการเชื่อมต่อเพื่อเพิ่มการจ่ายพลังงานให้กับศูนย์ข้อมูล การเชื่อมต่อศูนย์ข้อมูลกับโรงไฟฟ้าโดยตรง (co-location) เป็นวิธีที่น่าสนใจสำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในการได้รับพลังงานจำนวนมากอย่างรวดเร็ว แต่การเปลี่ยนแปลงการจ่ายพลังงานในลักษณะนี้อาจส่งผลกระทบต่อความเสถียรของระบบไฟฟ้าในภูมิภาค Talen จึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์เพื่อขอให้พิจารณาการตัดสินใจของ FERC ซึ่งหากศาลรับคำร้องนี้ อาจส่งผลให้การตัดสินใจของ FERC ถูกยกเลิกหรือถูกส่งกลับไปให้คณะกรรมการพิจารณาใหม่ นอกจากนี้ บทความยังกล่าวถึงแนวโน้มของการตั้งศูนย์ข้อมูลร่วมกับโรงไฟฟ้า ซึ่งเป็นวิธีที่น่าสนใจสำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในการได้รับพลังงานจำนวนมากอย่างรวดเร็ว https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/29/talen-goes-to-court-over-ferc039s-amazon-co-located-data-center-rejection
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Talen goes to court over FERC's Amazon co-located data center rejection
    NEW YORK (Reuters) - Talen Energy is asking a U.S. appeals court to weigh in on a decision by federal regulators last year to reject a power agreement for an Amazon data center connected directly to Talen's Pennsylvania nuclear plant, according to court filings this week.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 98 มุมมอง 0 รีวิว
  • Logitech International ได้ปรับเพิ่มการคาดการณ์ยอดขายประจำปี 2025 หลังจากรายงานยอดขายและกำไรที่สูงขึ้นในไตรมาสก่อนวันหยุดที่สำคัญ โดยได้รับการสนับสนุนจากความต้องการที่แข็งแกร่งสำหรับผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์สำหรับธุรกิจและเกมเมอร์

    Logitech International ผลิตสินค้าต่างๆ เช่น คีย์บอร์ด เมาส์ และเว็บแคม รายงานว่ายอดขายเพิ่มขึ้นเกือบ 7% เป็น 1.34 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ใหญ่ที่สุดของปี ซึ่งสูงกว่าประมาณการที่ 1.25 พันล้านดอลลาร์ กำไรจากการดำเนินงานที่ปรับปรุงแล้วสำหรับไตรมาสที่สามสิ้นสุดเดือนธันวาคมก็เพิ่มขึ้น 7% เป็น 266 ล้านดอลลาร์

    ซีอีโอของ Logitech, Hanneke Faber กล่าวว่ายอดขายเกมใกล้เคียงกับระดับสูงสุดในช่วงการระบาดใหญ่ เนื่องจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ก่อนวันหยุด "เราส่งมอบยอดขายใกล้เคียงกับระดับสูงสุดในพอร์ตโฟลิโอ Pro Gaming และ MX ของเรา"

    บริษัทคาดว่ายอดขายในปีงบประมาณ 2025 จะอยู่ในช่วง 4.54 พันล้านดอลลาร์ถึง 4.57 พันล้านดอลลาร์ เทียบกับการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 4.39 พันล้านดอลลาร์ถึง 4.47 พันล้านดอลลาร์.

    นอกจากนี้ บทความยังกล่าวถึงแนวโน้มของตลาดเทคโนโลยีที่ยังคงมีความต้องการสูงสำหรับผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจและเกมเมอร์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/29/computer-parts-maker-logitech-raises-2025-forecast
    Logitech International ได้ปรับเพิ่มการคาดการณ์ยอดขายประจำปี 2025 หลังจากรายงานยอดขายและกำไรที่สูงขึ้นในไตรมาสก่อนวันหยุดที่สำคัญ โดยได้รับการสนับสนุนจากความต้องการที่แข็งแกร่งสำหรับผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์สำหรับธุรกิจและเกมเมอร์ Logitech International ผลิตสินค้าต่างๆ เช่น คีย์บอร์ด เมาส์ และเว็บแคม รายงานว่ายอดขายเพิ่มขึ้นเกือบ 7% เป็น 1.34 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ใหญ่ที่สุดของปี ซึ่งสูงกว่าประมาณการที่ 1.25 พันล้านดอลลาร์ กำไรจากการดำเนินงานที่ปรับปรุงแล้วสำหรับไตรมาสที่สามสิ้นสุดเดือนธันวาคมก็เพิ่มขึ้น 7% เป็น 266 ล้านดอลลาร์ ซีอีโอของ Logitech, Hanneke Faber กล่าวว่ายอดขายเกมใกล้เคียงกับระดับสูงสุดในช่วงการระบาดใหญ่ เนื่องจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ก่อนวันหยุด "เราส่งมอบยอดขายใกล้เคียงกับระดับสูงสุดในพอร์ตโฟลิโอ Pro Gaming และ MX ของเรา" บริษัทคาดว่ายอดขายในปีงบประมาณ 2025 จะอยู่ในช่วง 4.54 พันล้านดอลลาร์ถึง 4.57 พันล้านดอลลาร์ เทียบกับการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 4.39 พันล้านดอลลาร์ถึง 4.47 พันล้านดอลลาร์. นอกจากนี้ บทความยังกล่าวถึงแนวโน้มของตลาดเทคโนโลยีที่ยังคงมีความต้องการสูงสำหรับผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจและเกมเมอร์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/29/computer-parts-maker-logitech-raises-2025-forecast
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Computer parts maker Logitech raises 2025 sales forecast on strong demand
    ZURICH (Reuters) -Logitech International raised its full-year forecast on Tuesday, after reporting higher sales and profit for its important pre-holiday quarter, supported by strong demand for computer hardware products for businesses and gamers.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 134 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้กล่าวถึงความสำเร็จของ DeepSeek ในการฝึกโมเดลภาษา Mixture-of-Experts (MoE) ที่มีพารามิเตอร์ถึง 671 พันล้านตัว โดยใช้คลัสเตอร์ที่มี 2,048 Nvidia H800 GPUs ในเวลาประมาณสองเดือน ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่า AI ชั้นนำในอุตสาหกรรมเช่น Meta ถึง 10 เท่า

    DeepSeek ประสบความสำเร็จนี้โดยการใช้การปรับแต่งที่ละเอียดอ่อนและการใช้โปรแกรม PTX (Parallel Thread Execution) ของ Nvidia แทนการใช้ CUDA PTX เป็นชุดคำสั่งระดับกลางที่ออกแบบโดย Nvidia สำหรับ GPUs ของตน ซึ่งช่วยให้สามารถปรับแต่งการทำงานของ GPU ได้อย่างละเอียด เช่น การจัดสรรรีจิสเตอร์และการปรับแต่งระดับเธรด/วาร์ป

    ตัวอย่างเช่น ในการฝึกโมเดล V3 ของ DeepSeek ได้ทำการปรับแต่ง Nvidia H800 GPUs โดยจัดสรร 20 จาก 132 streaming multiprocessors สำหรับการสื่อสารระหว่างเซิร์ฟเวอร์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบีบอัดและคลายบีบอัดข้อมูล การปรับแต่งเหล่านี้เกินกว่าการพัฒนาระดับ CUDA มาตรฐาน แต่ก็ยากที่จะรักษาไว้ เนื่องจากต้องใช้ทักษะและความรู้เฉพาะทางในการปรับแต่งและดูแลรักษา การปรับแต่งเหล่านี้สะท้อนถึงทักษะพิเศษของวิศวกรของ DeepSeek ที่สามารถทำให้ GPU ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด แม้ว่าจะต้องเผชิญกับความท้าทายในการรักษาการปรับแต่งเหล่านี้ให้คงอยู่

    ความสำเร็จนี้ทำให้ตลาดเกิดความผันผวน เนื่องจากนักลงทุนบางคนเชื่อว่าความต้องการฮาร์ดแวร์ประสิทธิภาพสูงสำหรับโมเดล AI ใหม่จะลดลง ซึ่งส่งผลกระทบต่อยอดขายของบริษัทเช่น Nvidia อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเช่น Pat Gelsinger อดีตซีอีโอของ Intel เชื่อว่า AI สามารถใช้ประโยชน์จากพลังการประมวลผลทั้งหมดที่สามารถเข้าถึงได้

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/deepseeks-ai-breakthrough-bypasses-industry-standard-cuda-uses-assembly-like-ptx-programming-instead
    บทความนี้กล่าวถึงความสำเร็จของ DeepSeek ในการฝึกโมเดลภาษา Mixture-of-Experts (MoE) ที่มีพารามิเตอร์ถึง 671 พันล้านตัว โดยใช้คลัสเตอร์ที่มี 2,048 Nvidia H800 GPUs ในเวลาประมาณสองเดือน ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่า AI ชั้นนำในอุตสาหกรรมเช่น Meta ถึง 10 เท่า DeepSeek ประสบความสำเร็จนี้โดยการใช้การปรับแต่งที่ละเอียดอ่อนและการใช้โปรแกรม PTX (Parallel Thread Execution) ของ Nvidia แทนการใช้ CUDA PTX เป็นชุดคำสั่งระดับกลางที่ออกแบบโดย Nvidia สำหรับ GPUs ของตน ซึ่งช่วยให้สามารถปรับแต่งการทำงานของ GPU ได้อย่างละเอียด เช่น การจัดสรรรีจิสเตอร์และการปรับแต่งระดับเธรด/วาร์ป ตัวอย่างเช่น ในการฝึกโมเดล V3 ของ DeepSeek ได้ทำการปรับแต่ง Nvidia H800 GPUs โดยจัดสรร 20 จาก 132 streaming multiprocessors สำหรับการสื่อสารระหว่างเซิร์ฟเวอร์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบีบอัดและคลายบีบอัดข้อมูล การปรับแต่งเหล่านี้เกินกว่าการพัฒนาระดับ CUDA มาตรฐาน แต่ก็ยากที่จะรักษาไว้ เนื่องจากต้องใช้ทักษะและความรู้เฉพาะทางในการปรับแต่งและดูแลรักษา การปรับแต่งเหล่านี้สะท้อนถึงทักษะพิเศษของวิศวกรของ DeepSeek ที่สามารถทำให้ GPU ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด แม้ว่าจะต้องเผชิญกับความท้าทายในการรักษาการปรับแต่งเหล่านี้ให้คงอยู่ ความสำเร็จนี้ทำให้ตลาดเกิดความผันผวน เนื่องจากนักลงทุนบางคนเชื่อว่าความต้องการฮาร์ดแวร์ประสิทธิภาพสูงสำหรับโมเดล AI ใหม่จะลดลง ซึ่งส่งผลกระทบต่อยอดขายของบริษัทเช่น Nvidia อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเช่น Pat Gelsinger อดีตซีอีโอของ Intel เชื่อว่า AI สามารถใช้ประโยชน์จากพลังการประมวลผลทั้งหมดที่สามารถเข้าถึงได้ https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/deepseeks-ai-breakthrough-bypasses-industry-standard-cuda-uses-assembly-like-ptx-programming-instead
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 183 มุมมอง 0 รีวิว
  • *****.....28.....ประสบการณ์จริง.....เหตุการณ์จริง.....ครบทุกด้าน.....เนื้อกะไหล่ทอง.....( กรรมการ ).....เลข.....454.....455.....575.....646.....*****

    *****.....ขอน้อมนำ.....3.....สิ่งศักดิ์สิทธิ์.....แห่งแดนใต้.....มารวมไว้.....ในเหรียญเดียวกัน.....รุ่น.....ไตรบารมี 56.....*****

    *****.....1.หลวงปู่ทวด.....เหยียบน้ำทะเลจืด.....*****
    *****.....2.พ่อท่าน คล้าย วาจาสิทธิ์.....*****
    *****.....3.ปลุกเสกภายใต้ร่มเงาบารมี.....พระบรมสารีริกธาตุ.....ของ.....สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า.....ประดิษฐานอยู่ที่.....วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร.....จ.นครศรีธรรมราช.....มานานนับ.....1,000.....ปี.....พระบารมีแผ่ไพศาล.....ไปทั้ง.....3....โลก.....*****

    *****.....line : oak_999.....หรือ.....โทร.....089-471-5666.....*****

    #พระเก๊มีทุกรุ่น #พระใหม่ดีกว่าพระเก๊แน่นอน #พระใหม่พิธีดี #เจตนาการสร้างดี #พระใหม่ยอดนิยม #พระสายใต้ #พระเครื่อง #พระเครื่องยอดนิยม #หลวงปู่ทวด #หลวงพ่อทวด #พ่อท่านคล้าย #ไตรบารมี56 #ทวดคล้าย #หน้าทวดหลังคล้าย #ประสบการณ์จริงเพียบ #รับประกันพระแท้ตลอดชีพ #ทุกเหรียญตอกโค๊ดตอกเลขรันนัมเบอร์
    *****.....28.....ประสบการณ์จริง.....เหตุการณ์จริง.....ครบทุกด้าน.....เนื้อกะไหล่ทอง.....( กรรมการ ).....เลข.....454.....455.....575.....646.....***** *****.....ขอน้อมนำ.....3.....สิ่งศักดิ์สิทธิ์.....แห่งแดนใต้.....มารวมไว้.....ในเหรียญเดียวกัน.....รุ่น.....ไตรบารมี 56.....***** *****.....1.หลวงปู่ทวด.....เหยียบน้ำทะเลจืด.....***** *****.....2.พ่อท่าน คล้าย วาจาสิทธิ์.....***** *****.....3.ปลุกเสกภายใต้ร่มเงาบารมี.....พระบรมสารีริกธาตุ.....ของ.....สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า.....ประดิษฐานอยู่ที่.....วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร.....จ.นครศรีธรรมราช.....มานานนับ.....1,000.....ปี.....พระบารมีแผ่ไพศาล.....ไปทั้ง.....3....โลก.....***** *****.....line : oak_999.....หรือ.....โทร.....089-471-5666.....***** #พระเก๊มีทุกรุ่น #พระใหม่ดีกว่าพระเก๊แน่นอน #พระใหม่พิธีดี #เจตนาการสร้างดี #พระใหม่ยอดนิยม #พระสายใต้ #พระเครื่อง #พระเครื่องยอดนิยม #หลวงปู่ทวด #หลวงพ่อทวด #พ่อท่านคล้าย #ไตรบารมี56 #ทวดคล้าย #หน้าทวดหลังคล้าย #ประสบการณ์จริงเพียบ #รับประกันพระแท้ตลอดชีพ #ทุกเหรียญตอกโค๊ดตอกเลขรันนัมเบอร์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 211 มุมมอง 0 รีวิว
  • DeepSeek ประสบความสำเร็จในการใช้ชิป AI Ascend 910C ของ Huawei ในการวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของอุตสาหกรรม AI ในประเทศจีนในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

    DeepSeek ได้ประกาศโมเดล R1 LLM ที่สามารถทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ สูญเสียมูลค่าถึง 2 ล้านล้านดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนเกิดความตื่นตระหนก แม้ว่าจะมีการถกเถียงเกี่ยวกับพลังการประมวลผลที่ DeepSeek ใช้ในการฝึกโมเดล R1 แต่ดูเหมือนว่า Huawei มีบทบาทสำคัญในการนี้ โดย DeepSeek R1 ใช้ชิป Ascend 910C ของ Huawei ในการวิเคราะห์ข้อมูล

    ชิป AI Ascend 910C ของ Huawei เป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Nvidia Hopper H100 AI accelerators และมีการคาดการณ์ว่า Huawei จะเริ่มการผลิตจำนวนมากในไตรมาสแรกของปี 2025 โดยมีความสนใจจากบริษัท AI ชั้นนำของจีน เช่น ByteDance และ Tencent

    การใช้ชิปของ Huawei ในการวิเคราะห์ข้อมูลเป็นเรื่องที่น่าสนใจ เนื่องจากชิปเหล่านี้มีปริมาณมากและราคาถูกเมื่อเทียบกับชิปของ Nvidia ซึ่งทำให้ Huawei มีส่วนแบ่งตลาดที่มากขึ้น

    ความสำเร็จนี้ทำให้ตลาดเกิดความผันผวน เนื่องจากนักลงทุนบางคนเชื่อว่าความต้องการฮาร์ดแวร์ประสิทธิภาพสูงสำหรับโมเดล AI ใหม่จะลดลง ซึ่งส่งผลกระทบต่อยอดขายของบริษัทเช่น Nvidia อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเช่น Pat Gelsinger อดีตซีอีโอของ Intel เชื่อว่า AI สามารถใช้ประโยชน์จากพลังการประมวลผลทั้งหมดที่สามารถเข้าถึงได้

    https://wccftech.com/deepseek-r1-is-reportedly-running-inference-on-huawei-ascend-910c-ai-chip/
    DeepSeek ประสบความสำเร็จในการใช้ชิป AI Ascend 910C ของ Huawei ในการวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของอุตสาหกรรม AI ในประเทศจีนในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา DeepSeek ได้ประกาศโมเดล R1 LLM ที่สามารถทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ สูญเสียมูลค่าถึง 2 ล้านล้านดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนเกิดความตื่นตระหนก แม้ว่าจะมีการถกเถียงเกี่ยวกับพลังการประมวลผลที่ DeepSeek ใช้ในการฝึกโมเดล R1 แต่ดูเหมือนว่า Huawei มีบทบาทสำคัญในการนี้ โดย DeepSeek R1 ใช้ชิป Ascend 910C ของ Huawei ในการวิเคราะห์ข้อมูล ชิป AI Ascend 910C ของ Huawei เป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Nvidia Hopper H100 AI accelerators และมีการคาดการณ์ว่า Huawei จะเริ่มการผลิตจำนวนมากในไตรมาสแรกของปี 2025 โดยมีความสนใจจากบริษัท AI ชั้นนำของจีน เช่น ByteDance และ Tencent การใช้ชิปของ Huawei ในการวิเคราะห์ข้อมูลเป็นเรื่องที่น่าสนใจ เนื่องจากชิปเหล่านี้มีปริมาณมากและราคาถูกเมื่อเทียบกับชิปของ Nvidia ซึ่งทำให้ Huawei มีส่วนแบ่งตลาดที่มากขึ้น ความสำเร็จนี้ทำให้ตลาดเกิดความผันผวน เนื่องจากนักลงทุนบางคนเชื่อว่าความต้องการฮาร์ดแวร์ประสิทธิภาพสูงสำหรับโมเดล AI ใหม่จะลดลง ซึ่งส่งผลกระทบต่อยอดขายของบริษัทเช่น Nvidia อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเช่น Pat Gelsinger อดีตซีอีโอของ Intel เชื่อว่า AI สามารถใช้ประโยชน์จากพลังการประมวลผลทั้งหมดที่สามารถเข้าถึงได้ https://wccftech.com/deepseek-r1-is-reportedly-running-inference-on-huawei-ascend-910c-ai-chip/
    WCCFTECH.COM
    DeepSeek R1 Is Reportedly Running Inference On Huawei's Ascend 910C AI Chips, Showing China's Growing AI Capabilities
    DeepSeek's AI model is running inference workloads on Huawei's Ascend 910C chips, showing how massively China's AI industry has evolved.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 180 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลุงว่าแล้วววว .... กองทัพเรือสหรัฐฯ ได้สั่งห้ามการใช้แพลตฟอร์ม AI ของจีนที่ชื่อว่า DeepSeek บนเรือของตน เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยและจริยธรรมในการใช้งาน

    DeepSeek เป็นแพลตฟอร์ม AI ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงเดือนที่ผ่านมา หลังจากที่แสดงประสิทธิภาพที่ใกล้เคียงกับโมเดลชั้นนำของ OpenAI และบริษัทอเมริกันอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ความกังวลเกี่ยวกับต้นทุนการฝึก AI ที่สูงเกินไปทำให้เกิดการขายหุ้นในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลให้มูลค่าหุ้นของบริษัทศูนย์ข้อมูลลดลงหลายพันล้านดอลลาร์

    กองทัพเรือสหรัฐฯ ได้ส่งอีเมลถึงทหารเรือและสมาชิกบริการอื่นๆ เพื่อเตือนเกี่ยวกับแหล่งที่มาของโมเดล AI นี้ และชี้ให้เห็นถึงความกังวลด้านความปลอดภัยและจริยธรรมในการใช้งาน โดยระบุว่า "ความกังวลด้านความปลอดภัยและจริยธรรมที่เกี่ยวข้องกับแหล่งที่มาและการใช้งานของโมเดลนี้" ทำให้ต้องห้ามการใช้งานโดยสมาชิกบริการทั้งในงานที่เกี่ยวข้องกับงานและการใช้งานส่วนตัว

    อีเมลยังขอให้ผู้รับ "งดการดาวน์โหลด ติดตั้ง หรือใช้งานโมเดล DeepSeek ในทุกกรณี" การห้ามนี้เกิดขึ้นหลังจากที่กองทัพเรือได้สั่งห้ามการใช้แอปพลิเคชันของจีน เช่น TikTok เนื่องจากความกังวลด้านความปลอดภัยในการเก็บข้อมูล

    การตัดสินใจนี้สะท้อนถึงความกังวลของรัฐบาลสหรัฐฯ เกี่ยวกับการใช้ซอฟต์แวร์ที่มีแหล่งที่มาจากจีน ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อความปลอดภัยของชาติ

    ผู้ใช้ธรรมดาในสหรัฐจะโดนห้ามและ Block การเข้าถึงเป็นรายต่อไป... ลุงฟันธง!!

    https://wccftech.com/chinas-deepseek-ai-faces-first-us-ban-after-navy-email-tells-members-to-stop-using-it/
    ลุงว่าแล้วววว .... กองทัพเรือสหรัฐฯ ได้สั่งห้ามการใช้แพลตฟอร์ม AI ของจีนที่ชื่อว่า DeepSeek บนเรือของตน เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยและจริยธรรมในการใช้งาน DeepSeek เป็นแพลตฟอร์ม AI ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงเดือนที่ผ่านมา หลังจากที่แสดงประสิทธิภาพที่ใกล้เคียงกับโมเดลชั้นนำของ OpenAI และบริษัทอเมริกันอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ความกังวลเกี่ยวกับต้นทุนการฝึก AI ที่สูงเกินไปทำให้เกิดการขายหุ้นในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลให้มูลค่าหุ้นของบริษัทศูนย์ข้อมูลลดลงหลายพันล้านดอลลาร์ กองทัพเรือสหรัฐฯ ได้ส่งอีเมลถึงทหารเรือและสมาชิกบริการอื่นๆ เพื่อเตือนเกี่ยวกับแหล่งที่มาของโมเดล AI นี้ และชี้ให้เห็นถึงความกังวลด้านความปลอดภัยและจริยธรรมในการใช้งาน โดยระบุว่า "ความกังวลด้านความปลอดภัยและจริยธรรมที่เกี่ยวข้องกับแหล่งที่มาและการใช้งานของโมเดลนี้" ทำให้ต้องห้ามการใช้งานโดยสมาชิกบริการทั้งในงานที่เกี่ยวข้องกับงานและการใช้งานส่วนตัว อีเมลยังขอให้ผู้รับ "งดการดาวน์โหลด ติดตั้ง หรือใช้งานโมเดล DeepSeek ในทุกกรณี" การห้ามนี้เกิดขึ้นหลังจากที่กองทัพเรือได้สั่งห้ามการใช้แอปพลิเคชันของจีน เช่น TikTok เนื่องจากความกังวลด้านความปลอดภัยในการเก็บข้อมูล การตัดสินใจนี้สะท้อนถึงความกังวลของรัฐบาลสหรัฐฯ เกี่ยวกับการใช้ซอฟต์แวร์ที่มีแหล่งที่มาจากจีน ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อความปลอดภัยของชาติ ผู้ใช้ธรรมดาในสหรัฐจะโดนห้ามและ Block การเข้าถึงเป็นรายต่อไป... ลุงฟันธง!! https://wccftech.com/chinas-deepseek-ai-faces-first-us-ban-after-navy-email-tells-members-to-stop-using-it/
    WCCFTECH.COM
    China's DeepSeek AI Faces First Ban After Navy Email Tells Members To Stop Using It
    In a striking but unsurprising move, the United States Navy has banned the use of China's DeepSeek AI platform on its vessels. DeepSeek took the AI world by storm this month after it demonstrated performance similar to leading models by OpenAI and other American firms. However, the model's true shock came after NVIDIA and other data center stocks led a multi-billion dollar stock market wipeout yesterday over investor concerns about overblown AI training costs. The Navy's ban was first reported by CNBC, which confirmed its authenticity through a spokesperson for the armed forces branch. Related Story OpenAI CEO Sam Altman […]
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 198 มุมมอง 0 รีวิว
  • Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI เคยกล่าวไว้ในปี 2023 ว่า สตาร์ทอัพที่มีงบประมาณเพียง 10 ล้านดอลลาร์นั้น "ไม่มีทางแข่งขันกับเราได้" ในการฝึกโมเดลพื้นฐาน (foundation models) อย่างไรก็ตาม ในปี 2025 DeepSeek ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าความคิดเห็นนี้ไม่ถูกต้อง โดยสามารถฝึกโมเดลที่มีประสิทธิภาพสูงด้วยงบประมาณเพียง 5.6 ล้านดอลลาร์

    ในปี 2023 Altman ได้ตอบคำถามของนักลงทุนในอินเดียเกี่ยวกับความสามารถของสตาร์ทอัพที่มีงบประมาณจำกัดในการสร้างสิ่งที่มีความสำคัญในวงการ AI โดย Altman ได้กล่าวว่า "มันเป็นไปไม่ได้ที่จะแข่งขันกับเราในการฝึกโมเดลพื้นฐาน" ซึ่งคำตอบนี้ถูกวิจารณ์ว่าเป็นการมองข้ามศักยภาพของสตาร์ทอัพ

    อย่างไรก็ตาม ในปี 2025 DeepSeek ได้เปิดตัวโมเดล R1 ที่มีประสิทธิภาพสูงและใช้ต้นทุนต่ำ ซึ่งทำให้เกิดความผันผวนในตลาด AI และทำให้มูลค่าหุ้นของบริษัทศูนย์ข้อมูลลดลงหลายพันล้านดอลลาร์

    Altman ได้โพสต์ข้อความบนโซเชียลมีเดียเพื่อยอมรับว่าโมเดลของ DeepSeek นั้น "น่าประทับใจ" และสามารถทำได้ดีในราคาที่ต่ำ อย่างไรก็ตาม เขายังยืนยันว่า OpenAI จะยังคงพัฒนาโมเดลที่ดียิ่งขึ้นในอนาคต

    ความสำเร็จของ DeepSeek แสดงให้เห็นว่าการแข่งขันในวงการ AI ยังคงเปิดกว้างสำหรับสตาร์ทอัพที่มีความคิดสร้างสรรค์และสามารถใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/sam-altman-said-startups-with-only-usd10-million-were-totally-hopeless-competing-with-openai-deepseeks-disruption-says-otherwise
    Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI เคยกล่าวไว้ในปี 2023 ว่า สตาร์ทอัพที่มีงบประมาณเพียง 10 ล้านดอลลาร์นั้น "ไม่มีทางแข่งขันกับเราได้" ในการฝึกโมเดลพื้นฐาน (foundation models) อย่างไรก็ตาม ในปี 2025 DeepSeek ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าความคิดเห็นนี้ไม่ถูกต้อง โดยสามารถฝึกโมเดลที่มีประสิทธิภาพสูงด้วยงบประมาณเพียง 5.6 ล้านดอลลาร์ ในปี 2023 Altman ได้ตอบคำถามของนักลงทุนในอินเดียเกี่ยวกับความสามารถของสตาร์ทอัพที่มีงบประมาณจำกัดในการสร้างสิ่งที่มีความสำคัญในวงการ AI โดย Altman ได้กล่าวว่า "มันเป็นไปไม่ได้ที่จะแข่งขันกับเราในการฝึกโมเดลพื้นฐาน" ซึ่งคำตอบนี้ถูกวิจารณ์ว่าเป็นการมองข้ามศักยภาพของสตาร์ทอัพ อย่างไรก็ตาม ในปี 2025 DeepSeek ได้เปิดตัวโมเดล R1 ที่มีประสิทธิภาพสูงและใช้ต้นทุนต่ำ ซึ่งทำให้เกิดความผันผวนในตลาด AI และทำให้มูลค่าหุ้นของบริษัทศูนย์ข้อมูลลดลงหลายพันล้านดอลลาร์ Altman ได้โพสต์ข้อความบนโซเชียลมีเดียเพื่อยอมรับว่าโมเดลของ DeepSeek นั้น "น่าประทับใจ" และสามารถทำได้ดีในราคาที่ต่ำ อย่างไรก็ตาม เขายังยืนยันว่า OpenAI จะยังคงพัฒนาโมเดลที่ดียิ่งขึ้นในอนาคต ความสำเร็จของ DeepSeek แสดงให้เห็นว่าการแข่งขันในวงการ AI ยังคงเปิดกว้างสำหรับสตาร์ทอัพที่มีความคิดสร้างสรรค์และสามารถใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/sam-altman-said-startups-with-only-usd10-million-were-totally-hopeless-competing-with-openai-deepseeks-disruption-says-otherwise
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 196 มุมมอง 0 รีวิว