• รื้อฟื้น ตม.6 ออนไลน์ ต่างชาติเข้าไทยต้องกรอก

    ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2568 เป็นต้นไป ชาวต่างชาติทุกคนที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทย จะต้องกรอกแบบฟอร์มที่เรียกว่า TM6 หรือ ตม.6 ผ่านช่องทางออนไลน์ก่อนเข้าประเทศไทย ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเตรียมประชาสัมพันธ์ขั้นตอนดังกล่าว หลังการขยายเวลายกเว้นการยื่นแบบ ตม. 6 ที่บริเวณด่านตรวจคนเข้าเมืองเป็นการชั่วคราวทั้งด่านทางบกและทางน้ำ รวม 16 ด่าน จะสิ้นสุดลงในวันที่ 30 เม.ย. 2568 ที่จะถึงนี้

    แบบฟอร์ม ตม.6 (TM6) คือแบบรายการของคนต่างด้าวซึ่งเดินทางเข้ามาในหรือออกไปนอกราชอาณาจักร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบและติดตามคนต่างด้าว และรักษาความมั่นคงของประเทศ ที่ผ่านมาคนไทยได้รับการยกเว้นไม่ต้องกรอกบัตรขาออกและบัตรขาเข้า มาตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. 2560 ตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อแก้ปัญหาคอขวด ลดความล่าช้าในการเข้าออกเมือง เพราะข้อมูลคนไทยตรวจสอบได้จากทะเบียนราษฎรอยู่แล้ว

    กระทั่งกระทรวงมหาดไทยได้ยกเว้นการยื่นแบบ ตม.6 สำหรับชาวต่างชาติมาตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค. 2565 โดยเริ่มจากทางอากาศก่อน ต่อมาวันที่ 1 พ.ย. 2566 ได้ยกเว้นที่ด่านพรมแดนสะเดา จ.สงขลา ซึ่งตรงกับช่วงฤดูการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย กระทั่งวันที่ 15 เม.ย. 2567 ขยายเพิ่มอีก 12 จุดทั้งทางบกและทางน้ำ เฉพาะที่เดินทางมากับเรือสำราญและกีฬา (เรือยอร์ช) และปัจจุบันขยายเวลาถึงวันที่ 30 เม.ย. 2568 ได้แก่ ด่านทางบก 8 ด่าน และด่านทางน้ำ 8 ด่าน

    น.ส.นัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยกับหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ว่า แบบฟอร์ม ตม.6 ออนไลน์ จะช่วยติดตามนักท่องเที่ยวขณะอยู่ในประเทศไทย เพิ่มความมั่นใจต่อความปลอดภัย ซึ่งในวันที่ 31 ม.ค. จะประชุมร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงการต่างประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สายการบิน โรงแรม และบริษัทนำเที่ยว เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมและช่วยประชาสัมพันธ์ขั้นตอนดังกล่าวให้ชาวต่างชาติทราบอีกด้วย

    อนึ่ง บางประเทศในภูมิภาคอาเซียน มีมาตรการให้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่กรอกแบบฟอร์มขาเข้าดิจิทัลก่อนเข้าประเทศ เช่น SG Arrival Card (SGAC) ของสิงคโปร์, eTravel ของฟิลิปปินส์, E-Arrival Card ของบรูไน, Malaysia Digital Arrival Card (MDAC) ของมาเลเซีย และ Cambodia e-Arrival ของกัมพูชา (เฉพาะสนามบินพนมเปญและเสียมราฐ) ส่วนอินโดนีเซียกรอกแบบฟอร์มสำแดงต่อศุลกากร Indonesian Customs Declaration (e-CD) และใบอนุญาตสุขภาพ SATUSEHAT (SSHP) ขณะที่เวียดนาม ลาว และเมียนมา ยังคงใช้แบบฟอร์มบัตรขาเข้าเมืองกระดาษ

    #Newskit
    -----
    ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes ร่วมสนุกได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 คลิก >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9
    รื้อฟื้น ตม.6 ออนไลน์ ต่างชาติเข้าไทยต้องกรอก ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2568 เป็นต้นไป ชาวต่างชาติทุกคนที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทย จะต้องกรอกแบบฟอร์มที่เรียกว่า TM6 หรือ ตม.6 ผ่านช่องทางออนไลน์ก่อนเข้าประเทศไทย ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเตรียมประชาสัมพันธ์ขั้นตอนดังกล่าว หลังการขยายเวลายกเว้นการยื่นแบบ ตม. 6 ที่บริเวณด่านตรวจคนเข้าเมืองเป็นการชั่วคราวทั้งด่านทางบกและทางน้ำ รวม 16 ด่าน จะสิ้นสุดลงในวันที่ 30 เม.ย. 2568 ที่จะถึงนี้ แบบฟอร์ม ตม.6 (TM6) คือแบบรายการของคนต่างด้าวซึ่งเดินทางเข้ามาในหรือออกไปนอกราชอาณาจักร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบและติดตามคนต่างด้าว และรักษาความมั่นคงของประเทศ ที่ผ่านมาคนไทยได้รับการยกเว้นไม่ต้องกรอกบัตรขาออกและบัตรขาเข้า มาตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. 2560 ตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อแก้ปัญหาคอขวด ลดความล่าช้าในการเข้าออกเมือง เพราะข้อมูลคนไทยตรวจสอบได้จากทะเบียนราษฎรอยู่แล้ว กระทั่งกระทรวงมหาดไทยได้ยกเว้นการยื่นแบบ ตม.6 สำหรับชาวต่างชาติมาตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค. 2565 โดยเริ่มจากทางอากาศก่อน ต่อมาวันที่ 1 พ.ย. 2566 ได้ยกเว้นที่ด่านพรมแดนสะเดา จ.สงขลา ซึ่งตรงกับช่วงฤดูการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย กระทั่งวันที่ 15 เม.ย. 2567 ขยายเพิ่มอีก 12 จุดทั้งทางบกและทางน้ำ เฉพาะที่เดินทางมากับเรือสำราญและกีฬา (เรือยอร์ช) และปัจจุบันขยายเวลาถึงวันที่ 30 เม.ย. 2568 ได้แก่ ด่านทางบก 8 ด่าน และด่านทางน้ำ 8 ด่าน น.ส.นัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยกับหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ว่า แบบฟอร์ม ตม.6 ออนไลน์ จะช่วยติดตามนักท่องเที่ยวขณะอยู่ในประเทศไทย เพิ่มความมั่นใจต่อความปลอดภัย ซึ่งในวันที่ 31 ม.ค. จะประชุมร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงการต่างประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สายการบิน โรงแรม และบริษัทนำเที่ยว เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมและช่วยประชาสัมพันธ์ขั้นตอนดังกล่าวให้ชาวต่างชาติทราบอีกด้วย อนึ่ง บางประเทศในภูมิภาคอาเซียน มีมาตรการให้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่กรอกแบบฟอร์มขาเข้าดิจิทัลก่อนเข้าประเทศ เช่น SG Arrival Card (SGAC) ของสิงคโปร์, eTravel ของฟิลิปปินส์, E-Arrival Card ของบรูไน, Malaysia Digital Arrival Card (MDAC) ของมาเลเซีย และ Cambodia e-Arrival ของกัมพูชา (เฉพาะสนามบินพนมเปญและเสียมราฐ) ส่วนอินโดนีเซียกรอกแบบฟอร์มสำแดงต่อศุลกากร Indonesian Customs Declaration (e-CD) และใบอนุญาตสุขภาพ SATUSEHAT (SSHP) ขณะที่เวียดนาม ลาว และเมียนมา ยังคงใช้แบบฟอร์มบัตรขาเข้าเมืองกระดาษ #Newskit ----- ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes ร่วมสนุกได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 คลิก >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 351 มุมมอง 0 รีวิว
  • บริษัทต่างๆ กำลังเผชิญกับ "ขีดจำกัดความเร็ว" ในการนำปัญญาประดิษฐ์เชิงสร้างสรรค์ (Gen AI) มาใช้งานจริง รายงานจาก Deloitte พบว่ามีเพียงไม่กี่บริษัทที่พร้อมจะนำ Gen AI มาใช้งานในระดับการผลิต โดยมีเพียงหนึ่งในสามของการทดลอง Gen AI ที่จะสามารถขยายขนาดได้เต็มที่ในอีกสามถึงหกเดือนข้างหน้า

    ปัญหาหลักที่ทำให้การนำ Gen AI มาใช้งานช้าคือความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบและการจัดการความเสี่ยง 38% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่าปัญหาด้านกฎระเบียบเป็นอุปสรรคหลักในการนำ Gen AI มาใช้งาน นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงในองค์กรยังเกิดขึ้นช้ากว่าการพัฒนาเทคโนโลยี ทำให้การนำ Gen AI มาใช้งานต้องใช้เวลานานขึ้น

    แม้ว่าบริษัทต่างๆ จะเห็นผลตอบแทนที่น่าสนใจจากการลงทุนใน AI แต่การสร้างมูลค่าจาก Gen AI และการนำมาใช้งานในระดับใหญ่ยังคงเป็นงานที่ยาก บางฟังก์ชันขององค์กรที่เห็นผลตอบแทนที่ดีที่สุดจากการใช้ Gen AI ได้แก่ IT, การดำเนินงาน และการตลาด ในขณะที่ฟังก์ชันอื่นๆ เช่น การขาย การเงิน และการวิจัยและพัฒนา ยังต้องเผชิญกับความท้าทายในการสร้างผลตอบแทนที่คาดหวัง

    https://www.zdnet.com/article/enterprises-are-hitting-a-speed-limit-in-deploying-gen-ai-heres-why/
    บริษัทต่างๆ กำลังเผชิญกับ "ขีดจำกัดความเร็ว" ในการนำปัญญาประดิษฐ์เชิงสร้างสรรค์ (Gen AI) มาใช้งานจริง รายงานจาก Deloitte พบว่ามีเพียงไม่กี่บริษัทที่พร้อมจะนำ Gen AI มาใช้งานในระดับการผลิต โดยมีเพียงหนึ่งในสามของการทดลอง Gen AI ที่จะสามารถขยายขนาดได้เต็มที่ในอีกสามถึงหกเดือนข้างหน้า ปัญหาหลักที่ทำให้การนำ Gen AI มาใช้งานช้าคือความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบและการจัดการความเสี่ยง 38% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่าปัญหาด้านกฎระเบียบเป็นอุปสรรคหลักในการนำ Gen AI มาใช้งาน นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงในองค์กรยังเกิดขึ้นช้ากว่าการพัฒนาเทคโนโลยี ทำให้การนำ Gen AI มาใช้งานต้องใช้เวลานานขึ้น แม้ว่าบริษัทต่างๆ จะเห็นผลตอบแทนที่น่าสนใจจากการลงทุนใน AI แต่การสร้างมูลค่าจาก Gen AI และการนำมาใช้งานในระดับใหญ่ยังคงเป็นงานที่ยาก บางฟังก์ชันขององค์กรที่เห็นผลตอบแทนที่ดีที่สุดจากการใช้ Gen AI ได้แก่ IT, การดำเนินงาน และการตลาด ในขณะที่ฟังก์ชันอื่นๆ เช่น การขาย การเงิน และการวิจัยและพัฒนา ยังต้องเผชิญกับความท้าทายในการสร้างผลตอบแทนที่คาดหวัง https://www.zdnet.com/article/enterprises-are-hitting-a-speed-limit-in-deploying-gen-ai-heres-why/
    WWW.ZDNET.COM
    Enterprises are hitting a 'speed limit' in deploying Gen AI - here's why
    Many C-suite executives have been cheerleaders for their company's work in AI despite slow progress, finds Deloitte's latest survey.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 80 มุมมอง 0 รีวิว
  • DeepSeek ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) จากจีนที่กำลังสร้างความฮือฮาในวงการ AI DeepSeek ก่อตั้งโดย Liang Wenfeng ในเดือนพฤษภาคม 2023 และได้รับการสนับสนุนจาก High-Flyer ซึ่งเป็นกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่ Wenfeng เป็นผู้บริหาร ความโดดเด่นของ DeepSeek คือการใช้โมเดล AI แบบโอเพ่นซอร์สที่เรียกว่า R1 ซึ่งสามารถทำงานได้ดีกว่าโมเดล o1 ของ OpenAI ในหลายด้าน เช่น คณิตศาสตร์ การเขียนโค้ด และการให้เหตุผล

    เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว DeepSeek ได้เปิดตัวเวอร์ชันเต็มของ R1 และได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว โดยมีการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน AI ของ DeepSeek ใน App Store มากกว่า ChatGPT ซึ่งเคยเป็นแอปฟรีที่มีการดาวน์โหลดมากที่สุด นอกจากนี้ DeepSeek ยังขึ้นเป็นอันดับสามใน HuggingFace's Chatbot Arena รองจากโมเดล Gemini และ ChatGPT-4o

    อย่างไรก็ตาม DeepSeek ต้องจำกัดการสมัครสมาชิกเนื่องจากการโจมตีทางไซเบอร์ที่เกิดขึ้น. แม้จะมีปัญหาด้านความปลอดภัย แต่ DeepSeek ยังคงได้รับความสนใจจากผู้ใช้และนักวิจัยในวงการ AI

    นอกจากนี้ยังมีความกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของข้อมูลที่ DeepSeek อาจเก็บรวบรวมและแชร์กับรัฐบาลจีน นโยบายความเป็นส่วนตัวของ DeepSeek ระบุว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมอาจถูกเก็บไว้ในเซิร์ฟเวอร์ที่ตั้งอยู่ในประเทศจีน อย่างไรก็ตาม การที่ R1 เป็นโอเพ่นซอร์สทำให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบโค้ดของโมเดลเพื่อดูว่ามีการเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับความเป็นส่วนตัวหรือไม่

    ความสำเร็จของ R1 แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในวงการ AI ที่อาจช่วยให้นักวิจัยและห้องปฏิบัติการขนาดเล็กสามารถสร้างโมเดลที่แข่งขันได้และเพิ่มความหลากหลายในตัวเลือกที่มีอยู่ การพัฒนา AI แบบโอเพ่นซอร์สนี้อาจทำให้การลงทุนใน AI ลดลงและเปิดโอกาสให้กับผู้เล่นรายใหม่ในวงการ

    https://www.zdnet.com/article/why-you-should-pay-attention-to-deepseek-ai/
    DeepSeek ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) จากจีนที่กำลังสร้างความฮือฮาในวงการ AI DeepSeek ก่อตั้งโดย Liang Wenfeng ในเดือนพฤษภาคม 2023 และได้รับการสนับสนุนจาก High-Flyer ซึ่งเป็นกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่ Wenfeng เป็นผู้บริหาร ความโดดเด่นของ DeepSeek คือการใช้โมเดล AI แบบโอเพ่นซอร์สที่เรียกว่า R1 ซึ่งสามารถทำงานได้ดีกว่าโมเดล o1 ของ OpenAI ในหลายด้าน เช่น คณิตศาสตร์ การเขียนโค้ด และการให้เหตุผล เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว DeepSeek ได้เปิดตัวเวอร์ชันเต็มของ R1 และได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว โดยมีการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน AI ของ DeepSeek ใน App Store มากกว่า ChatGPT ซึ่งเคยเป็นแอปฟรีที่มีการดาวน์โหลดมากที่สุด นอกจากนี้ DeepSeek ยังขึ้นเป็นอันดับสามใน HuggingFace's Chatbot Arena รองจากโมเดล Gemini และ ChatGPT-4o อย่างไรก็ตาม DeepSeek ต้องจำกัดการสมัครสมาชิกเนื่องจากการโจมตีทางไซเบอร์ที่เกิดขึ้น. แม้จะมีปัญหาด้านความปลอดภัย แต่ DeepSeek ยังคงได้รับความสนใจจากผู้ใช้และนักวิจัยในวงการ AI นอกจากนี้ยังมีความกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของข้อมูลที่ DeepSeek อาจเก็บรวบรวมและแชร์กับรัฐบาลจีน นโยบายความเป็นส่วนตัวของ DeepSeek ระบุว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมอาจถูกเก็บไว้ในเซิร์ฟเวอร์ที่ตั้งอยู่ในประเทศจีน อย่างไรก็ตาม การที่ R1 เป็นโอเพ่นซอร์สทำให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบโค้ดของโมเดลเพื่อดูว่ามีการเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับความเป็นส่วนตัวหรือไม่ ความสำเร็จของ R1 แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในวงการ AI ที่อาจช่วยให้นักวิจัยและห้องปฏิบัติการขนาดเล็กสามารถสร้างโมเดลที่แข่งขันได้และเพิ่มความหลากหลายในตัวเลือกที่มีอยู่ การพัฒนา AI แบบโอเพ่นซอร์สนี้อาจทำให้การลงทุนใน AI ลดลงและเปิดโอกาสให้กับผู้เล่นรายใหม่ในวงการ https://www.zdnet.com/article/why-you-should-pay-attention-to-deepseek-ai/
    WWW.ZDNET.COM
    Why you should pay attention to DeepSeek AI
    Despite a cyber attack, the open-source startup is rapidly climbing over its more established competitors. Here's what we know.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 216 มุมมอง 0 รีวิว
  • ⛔ ครุภัณฑ์มัลติมีเดียโปรเจคเตอร์
    ⛔ จอรับภาพ เครื่องฉายภาพสามมิติ
    ⛔ เครื่องขยายเสียง ไมค์ประชุม
    ⛔ กล้องวงจรปิด
    ⛔ มอเตอร์-เกียร์ รอกไฟฟ้า
    ⛔ เครนไฟฟ้า ลิฟท์
    ⛔ ครุภัณฑ์มัลติมีเดียโปรเจคเตอร์ ⛔ จอรับภาพ เครื่องฉายภาพสามมิติ ⛔ เครื่องขยายเสียง ไมค์ประชุม ⛔ กล้องวงจรปิด ⛔ มอเตอร์-เกียร์ รอกไฟฟ้า ⛔ เครนไฟฟ้า ลิฟท์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 90 มุมมอง 1 0 รีวิว
  • 🔴 ครุภัณฑ์มัลติมีเดียโปรเจ็คเตอร์
    🔴 จอรับภาพ เครื่องฉายภาพสามมิติ
    🔴 เครื่องขยายเสียง ไมค์ประชุม
    🔴 กล้องวงจรปิด cctv
    🔴 มอเตอร์-เกียร์ รอกไฟฟ้า
    🔴 เครนไฟฟ้า ลิฟท์
    🔴 ครุภัณฑ์มัลติมีเดียโปรเจ็คเตอร์ 🔴 จอรับภาพ เครื่องฉายภาพสามมิติ 🔴 เครื่องขยายเสียง ไมค์ประชุม 🔴 กล้องวงจรปิด cctv 🔴 มอเตอร์-เกียร์ รอกไฟฟ้า 🔴 เครนไฟฟ้า ลิฟท์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 86 มุมมอง 3 0 รีวิว
  • Paul McCartney นักดนตรีจากวง The Beatles ที่ออกมาเตือนว่าปัญญาประดิษฐ์ (AI) อาจถูกใช้เพื่อ "ขโมย" ผลงานของศิลปิน โดยเรียกร้องให้รัฐบาลอังกฤษปกป้องอุตสาหกรรมสร้างสรรค์จากการเปลี่ยนแปลงกฎหมายลิขสิทธิ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น

    ในปัจจุบัน อุตสาหกรรมเพลงและภาพยนตร์ทั่วโลกกำลังเผชิญกับปัญหาทางกฎหมายและจริยธรรมเกี่ยวกับ AI ที่สามารถสร้างผลงานใหม่ๆ ได้หลังจากได้รับการฝึกฝนจากผลงานที่มีชื่อเสียง โดยไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้กับผู้สร้างผลงานต้นฉบับ. ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา อังกฤษได้เสนอวิธีให้ศิลปินสามารถให้สิทธิ์ในการใช้ผลงานของตนในการฝึกฝน AI แต่ก็ยังมีข้อยกเว้นเพื่อสนับสนุนการใช้งานในวงกว้างของ AI

    McCartney กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ BBC ว่าเขากังวลว่าเทคโนโลยี AI จะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ๆ เท่านั้น หากลิขสิทธิ์ไม่ได้รับการปกป้องอย่างเหมาะสม เขาเน้นว่า AI เป็นสิ่งที่ดี แต่ไม่ควร "ขโมย" ผลงานของคนที่มีความคิดสร้างสรรค์

    นอกจากนี้ McCartney ยังได้ใช้ AI ในการสร้างเสียงของ John Lennon สมาชิกวง The Beatles ที่เสียชีวิตไปแล้ว จากการบันทึกเสียงในเทปเก่าๆ เขากล่าวว่ามีความเสี่ยงที่ศิลปินจะสูญเสียสิทธิ์ในผลงานของตนหากการเปลี่ยนแปลงกฎหมายลิขสิทธิ์ไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/26/don039t-let-ai-039rip-off039-artists-beatles-star-mccartney-warns-uk-government
    Paul McCartney นักดนตรีจากวง The Beatles ที่ออกมาเตือนว่าปัญญาประดิษฐ์ (AI) อาจถูกใช้เพื่อ "ขโมย" ผลงานของศิลปิน โดยเรียกร้องให้รัฐบาลอังกฤษปกป้องอุตสาหกรรมสร้างสรรค์จากการเปลี่ยนแปลงกฎหมายลิขสิทธิ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น ในปัจจุบัน อุตสาหกรรมเพลงและภาพยนตร์ทั่วโลกกำลังเผชิญกับปัญหาทางกฎหมายและจริยธรรมเกี่ยวกับ AI ที่สามารถสร้างผลงานใหม่ๆ ได้หลังจากได้รับการฝึกฝนจากผลงานที่มีชื่อเสียง โดยไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้กับผู้สร้างผลงานต้นฉบับ. ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา อังกฤษได้เสนอวิธีให้ศิลปินสามารถให้สิทธิ์ในการใช้ผลงานของตนในการฝึกฝน AI แต่ก็ยังมีข้อยกเว้นเพื่อสนับสนุนการใช้งานในวงกว้างของ AI McCartney กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ BBC ว่าเขากังวลว่าเทคโนโลยี AI จะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ๆ เท่านั้น หากลิขสิทธิ์ไม่ได้รับการปกป้องอย่างเหมาะสม เขาเน้นว่า AI เป็นสิ่งที่ดี แต่ไม่ควร "ขโมย" ผลงานของคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ นอกจากนี้ McCartney ยังได้ใช้ AI ในการสร้างเสียงของ John Lennon สมาชิกวง The Beatles ที่เสียชีวิตไปแล้ว จากการบันทึกเสียงในเทปเก่าๆ เขากล่าวว่ามีความเสี่ยงที่ศิลปินจะสูญเสียสิทธิ์ในผลงานของตนหากการเปลี่ยนแปลงกฎหมายลิขสิทธิ์ไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/26/don039t-let-ai-039rip-off039-artists-beatles-star-mccartney-warns-uk-government
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Don't let AI 'rip off' artists, Beatles star McCartney warns UK government
    LONDON (Reuters) - Beatles musician Paul McCartney has warned that artificial intelligence could be used to "rip off" artists, urging the British government to make sure upcoming copyright reforms protect its creative industries.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 120 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🛡 ครุภัณฑ์มัลติมีเดียโปรเจ็คเตอร์
    🛡 เครื่องใช้สำนักงาน
    🛡 ชุดเครื่องเสียง ชุดประชุม
    🛡 cctv กล้องวงจรปิด visualizer
    🛡 เครน รอกไฟฟ้า ลิฟท์
    🛡 มอเตอร์เกียร์ไฟฟ้า
    🛡 ครุภัณฑ์มัลติมีเดียโปรเจ็คเตอร์ 🛡 เครื่องใช้สำนักงาน 🛡 ชุดเครื่องเสียง ชุดประชุม 🛡 cctv กล้องวงจรปิด visualizer 🛡 เครน รอกไฟฟ้า ลิฟท์ 🛡 มอเตอร์เกียร์ไฟฟ้า
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 105 มุมมอง 2 0 รีวิว
  • 🔰 ครุภัณฑ์มัลติมีเดียโปรเจ็คเตอร์
    🔰 จอรับภาพ เครื่องฉายภาพ 3 มิติ
    🔰 เครื่องขยายเสียง ไมค์ประชุม
    🔰 กล้องวงจรปิด cctv
    🔰 มอเตอร์-เกียร์ รอกไฟฟ้า
    🔰 เครนไฟฟ้า ลิฟท์
    🔰 ครุภัณฑ์มัลติมีเดียโปรเจ็คเตอร์ 🔰 จอรับภาพ เครื่องฉายภาพ 3 มิติ 🔰 เครื่องขยายเสียง ไมค์ประชุม 🔰 กล้องวงจรปิด cctv 🔰 มอเตอร์-เกียร์ รอกไฟฟ้า 🔰 เครนไฟฟ้า ลิฟท์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 109 มุมมอง 2 0 รีวิว
  • Humanity Protocol บริษัทที่พัฒนาเทคโนโลยีการยืนยันตัวตนผ่านบล็อกเชน โดยใช้การสแกนฝ่ามือเพื่อยืนยันว่าบัญชีออนไลน์นั้นเป็นของบุคคลจริง เพิ่งได้รับการประเมินมูลค่าเต็มที่ถึง 1.1 พันล้านดอลลาร์ หลังจากระดมทุนได้ 20 ล้านดอลลาร์ในรอบการระดมทุนที่นำโดย Pantera Capital และ Jump Crypto

    Humanity Protocol มีเป้าหมายที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของตนในวงกว้างในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เทคโนโลยีนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถพิสูจน์ตัวตนได้โดยไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับบอท บัญชีปลอม และการฉ้อโกงออนไลน์

    การยืนยันตัวตนดิจิทัลกำลังได้รับความสนใจมากขึ้น เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของปัญญาประดิษฐ์ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับ deepfakes และการฉ้อโกงทางไซเบอร์ บริษัทสตาร์ทอัพด้านบล็อกเชนกำลังหันมาใช้ไบโอเมตริกส์เพื่อตอบสนองความต้องการนี้

    นอกจากนี้ Humanity Protocol ยังเตรียมเปิดตัวโทเค็นคริปโตของตนเอง โดยกำลังทำการเตรียมการขั้นสุดท้ายเพื่อให้การเปิดตัวเป็นไปอย่างราบรื่น การสนับสนุนจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่กลับมาดำรงตำแหน่งในทำเนียบขาวอีกครั้ง ทำให้บริษัทสตาร์ทอัพด้านคริปโตและบล็อกเชนคาดหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนและการลงทุนมากขึ้น

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/27/humanity-protocol-valued-at-11-billion-after-latest-fundraise
    Humanity Protocol บริษัทที่พัฒนาเทคโนโลยีการยืนยันตัวตนผ่านบล็อกเชน โดยใช้การสแกนฝ่ามือเพื่อยืนยันว่าบัญชีออนไลน์นั้นเป็นของบุคคลจริง เพิ่งได้รับการประเมินมูลค่าเต็มที่ถึง 1.1 พันล้านดอลลาร์ หลังจากระดมทุนได้ 20 ล้านดอลลาร์ในรอบการระดมทุนที่นำโดย Pantera Capital และ Jump Crypto Humanity Protocol มีเป้าหมายที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของตนในวงกว้างในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เทคโนโลยีนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถพิสูจน์ตัวตนได้โดยไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับบอท บัญชีปลอม และการฉ้อโกงออนไลน์ การยืนยันตัวตนดิจิทัลกำลังได้รับความสนใจมากขึ้น เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของปัญญาประดิษฐ์ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับ deepfakes และการฉ้อโกงทางไซเบอร์ บริษัทสตาร์ทอัพด้านบล็อกเชนกำลังหันมาใช้ไบโอเมตริกส์เพื่อตอบสนองความต้องการนี้ นอกจากนี้ Humanity Protocol ยังเตรียมเปิดตัวโทเค็นคริปโตของตนเอง โดยกำลังทำการเตรียมการขั้นสุดท้ายเพื่อให้การเปิดตัวเป็นไปอย่างราบรื่น การสนับสนุนจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่กลับมาดำรงตำแหน่งในทำเนียบขาวอีกครั้ง ทำให้บริษัทสตาร์ทอัพด้านคริปโตและบล็อกเชนคาดหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนและการลงทุนมากขึ้น https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/27/humanity-protocol-valued-at-11-billion-after-latest-fundraise
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Humanity Protocol valued at $1.1 billion after latest fundraise
    (Reuters) - Humanity Protocol has secured a fully diluted valuation of $1.1 billion after raising $20 million in a funding round co-led by Pantera Capital and Jump Crypto, the identity verification blockchain firm said on Monday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 129 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🛑 ครุภัณฑ์มัลติมีเดียโปรเจ็คเตอร์
    🛑 เครื่องใช้สำนักงาน
    🛑 ชุดเครื่องเสียง ชุดประชุม
    🛑 cctv กล้องวงจรปิด visualizer
    🛑 เครน รอกไฟฟ้า ลิฟท์
    🛑 มอเตอร์เกียร์ไฟฟ้า
    🛑 ครุภัณฑ์มัลติมีเดียโปรเจ็คเตอร์ 🛑 เครื่องใช้สำนักงาน 🛑 ชุดเครื่องเสียง ชุดประชุม 🛑 cctv กล้องวงจรปิด visualizer 🛑 เครน รอกไฟฟ้า ลิฟท์ 🛑 มอเตอร์เกียร์ไฟฟ้า
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 129 มุมมอง 4 0 รีวิว
  • Billfold​ 6​ card​s wallet
    Billfold​ 6​ card​s wallet
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 17 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💢 ครุภัณฑ์มัลติมีเดียโปรเจ็คเตอร์
    💢 จอรับภาพ เครื่องฉายภาพ 3 มิติ
    💢 เครื่องขยายเสียง ไมค์ประชุม
    💢 กล้องวงจรปิด cctv
    💢 มอเตอร์-เกียร์ รอกไฟฟ้า
    💢 เครนไฟฟ้า ลิฟท์
    💢 ครุภัณฑ์มัลติมีเดียโปรเจ็คเตอร์ 💢 จอรับภาพ เครื่องฉายภาพ 3 มิติ 💢 เครื่องขยายเสียง ไมค์ประชุม 💢 กล้องวงจรปิด cctv 💢 มอเตอร์-เกียร์ รอกไฟฟ้า 💢 เครนไฟฟ้า ลิฟท์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 120 มุมมอง 4 0 รีวิว
  • 📌 ครุภัณฑ์มัลติมีเดียโปรเจ็คเตอร์
    📌 จอรับภาพ เครื่องฉายภาพ3มิติ
    📌 เครื่องขยายเสียง ไมค์ประชุม
    📌 กล้องวงจรปิด ᴄᴄᴛѵ
    📌 มอเตอร์-เกียร์ รอกไฟฟ้า
    📌 เครนไฟฟ้า ลิฟท์
    📌 ครุภัณฑ์มัลติมีเดียโปรเจ็คเตอร์ 📌 จอรับภาพ เครื่องฉายภาพ3มิติ 📌 เครื่องขยายเสียง ไมค์ประชุม 📌 กล้องวงจรปิด ᴄᴄᴛѵ 📌 มอเตอร์-เกียร์ รอกไฟฟ้า 📌 เครนไฟฟ้า ลิฟท์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 125 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • Dario Amoedi ซีอีโอของ Anthropic ได้กล่าวในงาน World Economic Forum 2025 ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ว่า AI อาจช่วยเพิ่มอายุขัยของมนุษย์เป็นสองเท่าในระยะเวลา 5 ถึง 10 ปี เขาเชื่อว่าเทคโนโลยี AI จะสามารถเร่งการพัฒนาในด้านชีววิทยาและการแพทย์ได้อย่างมาก

    Amoedi กล่าวว่าหากเราคิดถึงสิ่งที่มนุษย์อาจทำได้ในด้านชีววิทยาในระยะเวลา 100 ปี การเพิ่มอายุขัยของมนุษย์เป็นสองเท่าไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เขายังเสริมว่า AI อาจช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายนี้ได้ในระยะเวลาเพียง 5 ถึง 10 ปี

    นอกจากนี้ Amoedi ยังเชื่อว่าในปี 2026 หรือ 2027 เราจะมีระบบ AI ที่สามารถทำงานได้ดีกว่ามนุษย์ในเกือบทุกด้าน ความเชื่อนี้ไม่ได้เป็นของเขาเพียงคนเดียว ซีอีโอของ Nvidia และ SoftBank ก็มีความเชื่อเช่นเดียวกันว่า AI จะมีความสามารถเหนือกว่ามนุษย์ในอนาคตอันใกล้

    https://www.techspot.com/news/106515-anthropic-ceo-ai-could-double-human-lifespan-within.html
    Dario Amoedi ซีอีโอของ Anthropic ได้กล่าวในงาน World Economic Forum 2025 ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ว่า AI อาจช่วยเพิ่มอายุขัยของมนุษย์เป็นสองเท่าในระยะเวลา 5 ถึง 10 ปี เขาเชื่อว่าเทคโนโลยี AI จะสามารถเร่งการพัฒนาในด้านชีววิทยาและการแพทย์ได้อย่างมาก Amoedi กล่าวว่าหากเราคิดถึงสิ่งที่มนุษย์อาจทำได้ในด้านชีววิทยาในระยะเวลา 100 ปี การเพิ่มอายุขัยของมนุษย์เป็นสองเท่าไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เขายังเสริมว่า AI อาจช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายนี้ได้ในระยะเวลาเพียง 5 ถึง 10 ปี นอกจากนี้ Amoedi ยังเชื่อว่าในปี 2026 หรือ 2027 เราจะมีระบบ AI ที่สามารถทำงานได้ดีกว่ามนุษย์ในเกือบทุกด้าน ความเชื่อนี้ไม่ได้เป็นของเขาเพียงคนเดียว ซีอีโอของ Nvidia และ SoftBank ก็มีความเชื่อเช่นเดียวกันว่า AI จะมีความสามารถเหนือกว่ามนุษย์ในอนาคตอันใกล้ https://www.techspot.com/news/106515-anthropic-ceo-ai-could-double-human-lifespan-within.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Anthropic CEO says AI could double human lifespan within a decade
    Speaking during a panel titled "Technology in the World" at the 2025 World Economic Forum in Davos, Switzerland, Anthropic's Dario Amoedi said, "If you think about what...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 99 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🍁 ครุภัณฑ์มัลติมีเดียโปรเจ็คเตอร์
    🍁 จอรับภาพ เครื่องฉายภาพ3มิติ
    🍁 เครื่องขยายเสียง ไมค์ประชุม
    🍁 กล้องวงจรปิด ᴄᴄᴛѵ
    🍁 มอเตอร์-เกียร์ รอกไฟฟ้า
    🍁 เครนไฟฟ้า ลิฟท์
    🍁 ครุภัณฑ์มัลติมีเดียโปรเจ็คเตอร์ 🍁 จอรับภาพ เครื่องฉายภาพ3มิติ 🍁 เครื่องขยายเสียง ไมค์ประชุม 🍁 กล้องวงจรปิด ᴄᴄᴛѵ 🍁 มอเตอร์-เกียร์ รอกไฟฟ้า 🍁 เครนไฟฟ้า ลิฟท์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 129 มุมมอง 1 0 รีวิว
  • District MM​ damier​ ebene Shoulder bag *discontinued item *
    District MM​ damier​ ebene Shoulder bag *discontinued item *
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🚩 ครุภัณฑ์มัลติมีเดียโปรเจ็คเตอร์
    🚩 จอรับภาพ เครื่องฉายภาพ 3 มิติ
    🚩 เครื่องขยายเสียง ไมค์ประชุม
    🚩 กล้องวงจรปิด cctv
    🚩 มอเตอร์-เกียร์ รอกไฟฟ้า
    🚩 เครนไฟฟ้า ลิฟท์
    🚩 ครุภัณฑ์มัลติมีเดียโปรเจ็คเตอร์ 🚩 จอรับภาพ เครื่องฉายภาพ 3 มิติ 🚩 เครื่องขยายเสียง ไมค์ประชุม 🚩 กล้องวงจรปิด cctv 🚩 มอเตอร์-เกียร์ รอกไฟฟ้า 🚩 เครนไฟฟ้า ลิฟท์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 131 มุมมอง 1 0 รีวิว
  • รัฐมิชิแกนได้ผ่านกฎหมายใหม่ที่กำหนดให้โรงเรียนมัธยมทุกแห่งในรัฐต้องเปิดสอนวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์อย่างน้อยหนึ่งวิชาเริ่มตั้งแต่ปี 2027 เป็นต้นไป กฎหมายนี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มทักษะด้านเทคโนโลยีและเตรียมความพร้อมให้กับนักเรียนสำหรับงานในอนาคต

    กฎหมายนี้ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ๆ เช่น Amazon และ Microsoft รวมถึงกลุ่มไม่แสวงหาผลกำไรที่พวกเขาสนับสนุน เช่น Code.org นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากสมาคมครูวิทยาการคอมพิวเตอร์และกลุ่มล็อบบี้อุตสาหกรรมเทคโนโลยี เช่น TechNet ซึ่งมีสมาชิกเป็นบริษัทใหญ่ๆ เช่น Apple, Google, Meta และอื่นๆ

    กฎหมายนี้กำหนดให้โรงเรียนมัธยมทุกแห่งในรัฐมิชิแกนต้องมีการสอนวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ในรูปแบบการเรียนการสอนในห้องเรียนตามมาตรฐานที่กำหนดโดยคณะกรรมการการศึกษาของรัฐ หากไม่สามารถจัดการเรียนการสอนในห้องเรียนได้ สามารถใช้ตัวเลือกการเรียนการสอนแบบเสมือนจริงได้ ยกเว้นโรงเรียนที่เป็นออนไลน์ทั้งหมด

    นอกจากนี้ รัฐมิชิแกนยังได้ผ่านกฎหมายอีกฉบับที่ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับศูนย์ข้อมูลที่ตั้งอยู่ในรัฐ กฎหมายนี้มีเป้าหมายเพื่อดึงดูดการลงทุนและสร้างงานในรัฐมิชิแกน

    การที่รัฐมิชิแกนกำหนดให้มีการสอนวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ในโรงเรียนมัธยมแสดงให้เห็นถึงความพยายามในการเตรียมความพร้อมให้กับนักเรียนสำหรับงานในอนาคตและการพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐ

    https://www.techspot.com/news/106514-michigan-passes-law-mandating-computer-science-classes-high.html
    รัฐมิชิแกนได้ผ่านกฎหมายใหม่ที่กำหนดให้โรงเรียนมัธยมทุกแห่งในรัฐต้องเปิดสอนวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์อย่างน้อยหนึ่งวิชาเริ่มตั้งแต่ปี 2027 เป็นต้นไป กฎหมายนี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มทักษะด้านเทคโนโลยีและเตรียมความพร้อมให้กับนักเรียนสำหรับงานในอนาคต กฎหมายนี้ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ๆ เช่น Amazon และ Microsoft รวมถึงกลุ่มไม่แสวงหาผลกำไรที่พวกเขาสนับสนุน เช่น Code.org นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากสมาคมครูวิทยาการคอมพิวเตอร์และกลุ่มล็อบบี้อุตสาหกรรมเทคโนโลยี เช่น TechNet ซึ่งมีสมาชิกเป็นบริษัทใหญ่ๆ เช่น Apple, Google, Meta และอื่นๆ กฎหมายนี้กำหนดให้โรงเรียนมัธยมทุกแห่งในรัฐมิชิแกนต้องมีการสอนวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ในรูปแบบการเรียนการสอนในห้องเรียนตามมาตรฐานที่กำหนดโดยคณะกรรมการการศึกษาของรัฐ หากไม่สามารถจัดการเรียนการสอนในห้องเรียนได้ สามารถใช้ตัวเลือกการเรียนการสอนแบบเสมือนจริงได้ ยกเว้นโรงเรียนที่เป็นออนไลน์ทั้งหมด นอกจากนี้ รัฐมิชิแกนยังได้ผ่านกฎหมายอีกฉบับที่ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับศูนย์ข้อมูลที่ตั้งอยู่ในรัฐ กฎหมายนี้มีเป้าหมายเพื่อดึงดูดการลงทุนและสร้างงานในรัฐมิชิแกน การที่รัฐมิชิแกนกำหนดให้มีการสอนวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ในโรงเรียนมัธยมแสดงให้เห็นถึงความพยายามในการเตรียมความพร้อมให้กับนักเรียนสำหรับงานในอนาคตและการพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐ https://www.techspot.com/news/106514-michigan-passes-law-mandating-computer-science-classes-high.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Michigan new law mandates Computer Science classes in high schools
    The bipartisan bill, signed into law last week by Governor Gretchen Whitmer, aims to increase technological literacy across the state. It mandates that every Michigan high school...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 203 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🚩 ครุภัณฑ์มัลติมีเดียโปรเจ็คเตอร์
    🚩 จอรับภาพ เครื่องฉายภาพ 3 มิติ
    🚩 เครื่องขยายเสียง ไมค์ประชุม
    🚩 กล้องวงจรปิด cctv
    🚩 มอเตอร์-เกียร์ รอกไฟฟ้า
    🚩 เครนไฟฟ้า ลิฟท์
    🚩 ครุภัณฑ์มัลติมีเดียโปรเจ็คเตอร์ 🚩 จอรับภาพ เครื่องฉายภาพ 3 มิติ 🚩 เครื่องขยายเสียง ไมค์ประชุม 🚩 กล้องวงจรปิด cctv 🚩 มอเตอร์-เกียร์ รอกไฟฟ้า 🚩 เครนไฟฟ้า ลิฟท์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 134 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ข่าวนี้ทำให้รู้สึกตกใจและผิดหวังมากที่ Alexander Beckman และภรรยาของเขา Valerie Lau Beckman ถูกฟ้องในข้อหาฉ้อโกงนักลงทุนมูลค่า 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การที่ผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพ AI และภรรยาของเขาถูกกล่าวหาว่าปลอมแปลงเอกสารและหลอกลวงนักลงทุนเป็นเรื่องที่น่าตกใจและน่าผิดหวังอย่างยิ่ง

    การฉ้อโกงนี้ไม่เพียงแต่ทำลายความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่สูญเสียเงินทุน แต่ยังทำลายความเชื่อมั่นในวงการสตาร์ทอัพและเทคโนโลยีอีกด้วย การที่บริษัทที่เคยมีชื่อเสียงและลูกค้าชื่อดังหลายรายต้องเผชิญกับปัญหาทางการเงินและการฉ้อโกงเป็นเรื่องที่น่าเศร้าและน่าผิดหวัง

    หวังว่าเหตุการณ์นี้จะเป็นบทเรียนสำคัญให้กับนักลงทุนและผู้ประกอบการในการตรวจสอบและป้องกันการฉ้อโกงในอนาคต. การรักษาความซื่อสัตย์และความโปร่งใสเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นและความสำเร็จในวงการธุรกิจและเทคโนโลยีครับ

    https://www.techspot.com/news/106525-san-francisco-ai-startup-founder-wife-indicted-60.html
    ข่าวนี้ทำให้รู้สึกตกใจและผิดหวังมากที่ Alexander Beckman และภรรยาของเขา Valerie Lau Beckman ถูกฟ้องในข้อหาฉ้อโกงนักลงทุนมูลค่า 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การที่ผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพ AI และภรรยาของเขาถูกกล่าวหาว่าปลอมแปลงเอกสารและหลอกลวงนักลงทุนเป็นเรื่องที่น่าตกใจและน่าผิดหวังอย่างยิ่ง การฉ้อโกงนี้ไม่เพียงแต่ทำลายความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่สูญเสียเงินทุน แต่ยังทำลายความเชื่อมั่นในวงการสตาร์ทอัพและเทคโนโลยีอีกด้วย การที่บริษัทที่เคยมีชื่อเสียงและลูกค้าชื่อดังหลายรายต้องเผชิญกับปัญหาทางการเงินและการฉ้อโกงเป็นเรื่องที่น่าเศร้าและน่าผิดหวัง หวังว่าเหตุการณ์นี้จะเป็นบทเรียนสำคัญให้กับนักลงทุนและผู้ประกอบการในการตรวจสอบและป้องกันการฉ้อโกงในอนาคต. การรักษาความซื่อสัตย์และความโปร่งใสเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นและความสำเร็จในวงการธุรกิจและเทคโนโลยีครับ https://www.techspot.com/news/106525-san-francisco-ai-startup-founder-wife-indicted-60.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    San Francisco AI startup founder and wife indicted in $60 million fraud scheme
    Alexander Beckman, founder of the AI startup GameOn Technology (now ON Platform), and his wife, attorney Valerie Lau Beckman, were indicted on 25 charges, including conspiracy, wire...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 118 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔻 ครุภัณฑ์มัลติมีเดียโปรเจ็คเตอร์
    🔻 จอรับภาพ เครื่องฉายภาพ 3 มิติ
    🔻 เครื่องขยายเสียง ไมค์ประชุม
    🔻 กล้องวงจรปิด cctv
    🔻 มอเตอร์-เกียร์ รอกไฟฟ้า
    🔻 เครนไฟฟ้า ลิฟท์
    🔻 ครุภัณฑ์มัลติมีเดียโปรเจ็คเตอร์ 🔻 จอรับภาพ เครื่องฉายภาพ 3 มิติ 🔻 เครื่องขยายเสียง ไมค์ประชุม 🔻 กล้องวงจรปิด cctv 🔻 มอเตอร์-เกียร์ รอกไฟฟ้า 🔻 เครนไฟฟ้า ลิฟท์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 144 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • **Limited edition​**
    L​V​xKusama​Yayoi​ Monogram​Wave​s Neverfull​ MM Jaune​ tote bag
    **Limited edition​** L​V​xKusama​Yayoi​ Monogram​Wave​s Neverfull​ MM Jaune​ tote bag
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 35 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🚫 ครุภัณฑ์มัลติมีเดียโปรเจคเตอร์
    🚫 จอรับภาพ เครื่องฉายภาพสามมิติ
    🚫 เครื่องขยายเสียง ไมค์ประชุม
    🚫 กล้องวงจรปิด
    🚫 มอเตอร์-เกียร์ รอกไฟฟ้า
    🚫 เครนไฟฟ้า ลิฟท์
    🚫 ครุภัณฑ์มัลติมีเดียโปรเจคเตอร์ 🚫 จอรับภาพ เครื่องฉายภาพสามมิติ 🚫 เครื่องขยายเสียง ไมค์ประชุม 🚫 กล้องวงจรปิด 🚫 มอเตอร์-เกียร์ รอกไฟฟ้า 🚫 เครนไฟฟ้า ลิฟท์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 155 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 26 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เกี่ยวกับการโจมตีทางไซเบอร์ที่เรียกว่า "Clone2Leak" ซึ่งใช้ช่องโหว่ใน Git เพื่อขโมยข้อมูลรับรองการเข้าสู่ระบบ การโจมตีนี้สามารถขโมยรหัสผ่านและโทเค็นการเข้าถึงใน GitHub Desktop, Git LFS, GitHub CLI/Codespaces และ Git Credential Manager ได้

    การโจมตี Clone2Leak มีสามรูปแบบที่แตกต่างกัน แต่เกี่ยวข้องกันทั้งหมด:

    1) Carriage Return Smuggling: ใช้ช่องโหว่ใน GitHub Desktop และ Git Credential Manager ที่ไม่สามารถจัดการกับตัวอักษร carriage return (\\r) ใน URL ได้อย่างถูกต้อง ทำให้ผู้โจมตีสามารถส่งข้อมูลรับรองไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่ควบคุมโดยผู้โจมตีแทนที่จะเป็นโฮสต์ที่ตั้งใจไว้.

    2) Newline Injection: ใช้ช่องโหว่ใน Git LFS ที่อนุญาตให้ตัวอักษร newline (\\n) ในไฟล์ .lfsconfig ทำให้ผู้โจมตีสามารถเปลี่ยนแปลงคำขอรับรองเพื่อส่งข้อมูลรับรองไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่ควบคุมโดยผู้โจมตี.

    3) Logic Flaws in Credential Retrieval: ใช้ช่องโหว่ใน GitHub CLI และ GitHub Codespaces ที่มีตัวช่วยรับรองที่อนุญาตให้ส่งโทเค็นการเข้าถึงไปยังโฮสต์ที่ไม่ตั้งใจ ทำให้ผู้โจมตีสามารถขโมยโทเค็นการเข้าถึงได้.

    ช่องโหว่ทั้งหมดนี้ได้รับการแก้ไขแล้ว แต่ผู้ใช้ควรอัปเดตเครื่องมือของตนให้เป็นเวอร์ชันที่ปลอดภัย เช่น GitHub Desktop 3.4.12 หรือใหม่กว่า, Git Credential Manager 2.6.1 หรือใหม่กว่า, Git LFS 3.6.1 หรือใหม่กว่า และ gh cli 2.63.0 หรือใหม่กว่า นอกจากนี้ยังแนะนำให้เปิดใช้งาน Git's 'credential.protectProtocol' เพื่อเพิ่มการป้องกัน

    https://www.bleepingcomputer.com/news/security/clone2leak-attacks-exploit-git-flaws-to-steal-credentials/
    ข่าวนี้เกี่ยวกับการโจมตีทางไซเบอร์ที่เรียกว่า "Clone2Leak" ซึ่งใช้ช่องโหว่ใน Git เพื่อขโมยข้อมูลรับรองการเข้าสู่ระบบ การโจมตีนี้สามารถขโมยรหัสผ่านและโทเค็นการเข้าถึงใน GitHub Desktop, Git LFS, GitHub CLI/Codespaces และ Git Credential Manager ได้ การโจมตี Clone2Leak มีสามรูปแบบที่แตกต่างกัน แต่เกี่ยวข้องกันทั้งหมด: 1) Carriage Return Smuggling: ใช้ช่องโหว่ใน GitHub Desktop และ Git Credential Manager ที่ไม่สามารถจัดการกับตัวอักษร carriage return (\\r) ใน URL ได้อย่างถูกต้อง ทำให้ผู้โจมตีสามารถส่งข้อมูลรับรองไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่ควบคุมโดยผู้โจมตีแทนที่จะเป็นโฮสต์ที่ตั้งใจไว้. 2) Newline Injection: ใช้ช่องโหว่ใน Git LFS ที่อนุญาตให้ตัวอักษร newline (\\n) ในไฟล์ .lfsconfig ทำให้ผู้โจมตีสามารถเปลี่ยนแปลงคำขอรับรองเพื่อส่งข้อมูลรับรองไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่ควบคุมโดยผู้โจมตี. 3) Logic Flaws in Credential Retrieval: ใช้ช่องโหว่ใน GitHub CLI และ GitHub Codespaces ที่มีตัวช่วยรับรองที่อนุญาตให้ส่งโทเค็นการเข้าถึงไปยังโฮสต์ที่ไม่ตั้งใจ ทำให้ผู้โจมตีสามารถขโมยโทเค็นการเข้าถึงได้. ช่องโหว่ทั้งหมดนี้ได้รับการแก้ไขแล้ว แต่ผู้ใช้ควรอัปเดตเครื่องมือของตนให้เป็นเวอร์ชันที่ปลอดภัย เช่น GitHub Desktop 3.4.12 หรือใหม่กว่า, Git Credential Manager 2.6.1 หรือใหม่กว่า, Git LFS 3.6.1 หรือใหม่กว่า และ gh cli 2.63.0 หรือใหม่กว่า นอกจากนี้ยังแนะนำให้เปิดใช้งาน Git's 'credential.protectProtocol' เพื่อเพิ่มการป้องกัน https://www.bleepingcomputer.com/news/security/clone2leak-attacks-exploit-git-flaws-to-steal-credentials/
    WWW.BLEEPINGCOMPUTER.COM
    Clone2Leak attacks exploit Git flaws to steal credentials
    A set of three distinct but related attacks, dubbed 'Clone2Leak,' can leak credentials by exploiting how Git and its credential helpers handle authentication requests.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 108 มุมมอง 0 รีวิว