• กลายเป็นดรามาเดือดบนโลกออนไลน์ กรณีการเสียชีวิตของ “แบงค์ เลสเตอร์” หรือ “ธนาคาร คันธี” วัย 21 ปี อินฟลูเอนเซอร์ที่ดังจากการแรปขายพวงมาลัยเลี้ยงคุณยาย เสียชีวิตจากการช็อกดับ หลังถูกจ้างให้ดื่มเหล้าหมดแบน แลกเงิน 3 หมื่นบาท

    ด้านผกก.ชื่อดังอย่าง “พชร์ อานนท์” ที่เคยมีประเด็นกับแบงค์ เลสเตอร์ในปี 66 ได้โพสต์ข้อความอาลัย ยอมรับตกใจที่เห็นข่าวนี้ “RIP เห็นข่าวแล้วตกใจเหมือนกัน ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวอะไรกับน้องเลย แต่เห็นน้องใช้ชีวิตแล้วน่าเป็นห่วงมาก เห็นในตต(ติ๊กต๊อก) บ่อยๆ เสียใจกับการจากไป ขออโหสิกรรมน้องด้วยที่เคยเป็นข่าวตอนนั้น พี่ไม่ได้ว่าอะไรกับน้องเลยก็บอกไปตามตรงว่าไม่รู้ว่า ขึ้นสวรรค์เป็นเทวดาน้อยๆ นะน้องนะ น้องอยู่วัดไหนอยากส่งพวงหรีดไปให้ ใครรู้บอกหน่อยนะ!! อนิจจาชีวิตคนเราไม่แน่นอนจริงๆ”อย่างไรก็ตาม ในเดือนก.พ.ปี 66 พชร์ อานนท์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความถึงรายการตีสิบ หลังได้เชิญ แบงค์ เลสเตอร์ ซึ่งอ้างว่าได้เสนอขายพวงมาลัยให้กับพชร์ อานนท์ และร้องแรปให้พชร์ฟัง จนพชร์สนใจ บอกให้มาร่วมแคสติ้งงานหนังด้วยกัน จนกระทั่งแคสงานผ่าน ได้เล่นหนังของพชร์ อานนท์ ซึ่งตอนนั้นเจ้าตัวยืนยันไม่เคยรู้จัก ไม่เคยเห็นหน้า แล้วจะชวนเข้าวงการได้อย่างไร พร้อมฉะตีสิบก่อนเสนอข่าวให้หาข้อมูลหน่อยได้ไหม และขอให้น้องหยุดเอาชื่อตนเองไปแอบอ้าง

    #MGROnline #แบงค์เลสเตอร์
    กลายเป็นดรามาเดือดบนโลกออนไลน์ กรณีการเสียชีวิตของ “แบงค์ เลสเตอร์” หรือ “ธนาคาร คันธี” วัย 21 ปี อินฟลูเอนเซอร์ที่ดังจากการแรปขายพวงมาลัยเลี้ยงคุณยาย เสียชีวิตจากการช็อกดับ หลังถูกจ้างให้ดื่มเหล้าหมดแบน แลกเงิน 3 หมื่นบาท • ด้านผกก.ชื่อดังอย่าง “พชร์ อานนท์” ที่เคยมีประเด็นกับแบงค์ เลสเตอร์ในปี 66 ได้โพสต์ข้อความอาลัย ยอมรับตกใจที่เห็นข่าวนี้ “RIP เห็นข่าวแล้วตกใจเหมือนกัน ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวอะไรกับน้องเลย แต่เห็นน้องใช้ชีวิตแล้วน่าเป็นห่วงมาก เห็นในตต(ติ๊กต๊อก) บ่อยๆ เสียใจกับการจากไป ขออโหสิกรรมน้องด้วยที่เคยเป็นข่าวตอนนั้น พี่ไม่ได้ว่าอะไรกับน้องเลยก็บอกไปตามตรงว่าไม่รู้ว่า ขึ้นสวรรค์เป็นเทวดาน้อยๆ นะน้องนะ น้องอยู่วัดไหนอยากส่งพวงหรีดไปให้ ใครรู้บอกหน่อยนะ!! อนิจจาชีวิตคนเราไม่แน่นอนจริงๆ”อย่างไรก็ตาม ในเดือนก.พ.ปี 66 พชร์ อานนท์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความถึงรายการตีสิบ หลังได้เชิญ แบงค์ เลสเตอร์ ซึ่งอ้างว่าได้เสนอขายพวงมาลัยให้กับพชร์ อานนท์ และร้องแรปให้พชร์ฟัง จนพชร์สนใจ บอกให้มาร่วมแคสติ้งงานหนังด้วยกัน จนกระทั่งแคสงานผ่าน ได้เล่นหนังของพชร์ อานนท์ ซึ่งตอนนั้นเจ้าตัวยืนยันไม่เคยรู้จัก ไม่เคยเห็นหน้า แล้วจะชวนเข้าวงการได้อย่างไร พร้อมฉะตีสิบก่อนเสนอข่าวให้หาข้อมูลหน่อยได้ไหม และขอให้น้องหยุดเอาชื่อตนเองไปแอบอ้าง • #MGROnline #แบงค์เลสเตอร์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 742 มุมมอง 0 รีวิว
  • เด-รัฐฉาน รู้ชะตากรรมแพ้คดี
    ระดมสร้างภาพทำประโยชน์ต่อสังคม หวังศาลลดโทษ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    เด-รัฐฉาน รู้ชะตากรรมแพ้คดี ระดมสร้างภาพทำประโยชน์ต่อสังคม หวังศาลลดโทษ #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Haha
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 249 มุมมอง 12 0 รีวิว
  • Hurry Xmas - L'Arc~En~Ciel

    https://www.youtube.com/watch?v=z9JEcItSUIY
    Hurry Xmas - L'Arc~En~Ciel https://www.youtube.com/watch?v=z9JEcItSUIY
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 72 มุมมอง 0 รีวิว
  • 9 ประเทศพันธมิตรใหม่ของBRICS
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 59 มุมมอง 0 รีวิว
  • 26 ธ.ค. 2024 -รายงานข่าวจากสื่อ South China Morning Post ระบุว่า ปักกิ่งปลดนายพลอีก 2 นายจากตำแหน่งสมาชิกรัฐสภาของกองทัพปลดแอกประชาชน (PLA) เนื่องจากจีนยังคงดำเนินการปราบปรามการทุจริตในกองทัพของประเทศ

    ในประกาศเมื่อวันพุธที่25 ธันวาคมนี้ คณะกรรมการถาวรของสภาประชาชนแห่งชาติ (NPC) ยืนยันว่าพลโทโยว ไห่เทา อดีตรองผู้บัญชาการกองทัพจีน และพลเรือเอกหลี่ เผิงเฉิง อดีตผู้บัญชาการกองทัพเรือของกองบัญชาการกองทัพภาคใต้ของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน ถูกปลดออกจากตำแหน่งสมาชิกรัฐสภาสูงสุดของประเทศ

    แถลงการณ์ของ NPC ฉบับหนึ่งระบุว่านายพลโยวและนายพลหลี่ถูกสงสัยว่า “ละเมิดกฎหมายและวินัยอย่างร้ายแรง” ซึ่งโดยปกติแล้วหมายถึงการทุจริต

    การปลดนายพลทั้งสองเกิดขึ้นท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงบุคลากรจำนวนมากภายในกองทัพปลดแอกประชาชนจีน โดยมีนายทหารอาวุโสหลายคนถูกปลดออกจากตำแหน่งเนื่องจากถูกกล่าวหาว่าทุจริต เช่น เหมียวฮัว สมาชิกคณะกรรมาธิการทหารกลางที่มีอำนาจและผู้อำนวยการฝ่ายงานการเมือง ถูกสอบสวนเรื่องการทุจริตในเดือนพฤศจิกายน นายพลคุณ วัย 66 ปี ได้รับตำแหน่งรองผู้บัญชาการกองทัพในช่วงต้นปี 2016 ก่อนหน้านี้ เขาเคยดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการกองทัพภาคหนานจิง และได้รับการเลื่อนยศเป็นพลโทในปี 2014

    นายพลเรือ หลี่ วัย 61 ปี เคยดำรงตำแหน่งต่างๆ มาก่อน รวมทั้งรองเสนาธิการกองเรือทะเลเหนือของกองทัพเรือ PLA ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยอุปกรณ์ของกองทัพเรือ และเสนาธิการกองเรือทะเลตะวันออก
    26 ธ.ค. 2024 -รายงานข่าวจากสื่อ South China Morning Post ระบุว่า ปักกิ่งปลดนายพลอีก 2 นายจากตำแหน่งสมาชิกรัฐสภาของกองทัพปลดแอกประชาชน (PLA) เนื่องจากจีนยังคงดำเนินการปราบปรามการทุจริตในกองทัพของประเทศ ในประกาศเมื่อวันพุธที่25 ธันวาคมนี้ คณะกรรมการถาวรของสภาประชาชนแห่งชาติ (NPC) ยืนยันว่าพลโทโยว ไห่เทา อดีตรองผู้บัญชาการกองทัพจีน และพลเรือเอกหลี่ เผิงเฉิง อดีตผู้บัญชาการกองทัพเรือของกองบัญชาการกองทัพภาคใต้ของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน ถูกปลดออกจากตำแหน่งสมาชิกรัฐสภาสูงสุดของประเทศ แถลงการณ์ของ NPC ฉบับหนึ่งระบุว่านายพลโยวและนายพลหลี่ถูกสงสัยว่า “ละเมิดกฎหมายและวินัยอย่างร้ายแรง” ซึ่งโดยปกติแล้วหมายถึงการทุจริต การปลดนายพลทั้งสองเกิดขึ้นท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงบุคลากรจำนวนมากภายในกองทัพปลดแอกประชาชนจีน โดยมีนายทหารอาวุโสหลายคนถูกปลดออกจากตำแหน่งเนื่องจากถูกกล่าวหาว่าทุจริต เช่น เหมียวฮัว สมาชิกคณะกรรมาธิการทหารกลางที่มีอำนาจและผู้อำนวยการฝ่ายงานการเมือง ถูกสอบสวนเรื่องการทุจริตในเดือนพฤศจิกายน นายพลคุณ วัย 66 ปี ได้รับตำแหน่งรองผู้บัญชาการกองทัพในช่วงต้นปี 2016 ก่อนหน้านี้ เขาเคยดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการกองทัพภาคหนานจิง และได้รับการเลื่อนยศเป็นพลโทในปี 2014 นายพลเรือ หลี่ วัย 61 ปี เคยดำรงตำแหน่งต่างๆ มาก่อน รวมทั้งรองเสนาธิการกองเรือทะเลเหนือของกองทัพเรือ PLA ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยอุปกรณ์ของกองทัพเรือ และเสนาธิการกองเรือทะเลตะวันออก
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 473 มุมมอง 0 รีวิว
  • แซนโต้ทีมรื้อคดีแตงโม (26/12/67) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #รือคดีแตงโม #กล่าวหาคนบนเรือ #จุดแตงโมตกเรือ #คลิปแตงโมตกเรือ
    แซนโต้ทีมรื้อคดีแตงโม (26/12/67) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #รือคดีแตงโม #กล่าวหาคนบนเรือ #จุดแตงโมตกเรือ #คลิปแตงโมตกเรือ
    Like
    Haha
    Angry
    Sad
    12
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1627 มุมมอง 38 1 รีวิว
  • ขสมก. Update เส้นทางรถเมล์
    เชื่อมต่อสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ และสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร) หมอชิต 2 มีสายใดบ้าง รู้ไว้ไม่หลง!

    เพื่อเป็นข้อมูลให้ประชาชนได้รับความสะดวกสบาย และสามารถใช้บริการรถโดยสารของ ขสมก. ในการเดินทาง จึงประชาสัมพันธ์เส้นทางรถเมล์เชื่อมต่อการเดินทาง ทั้ง 2 แห่ง คือ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ จำนวน 14 เส้นทาง และสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร) หมอชิต 2 จำนวน 15 เส้นทาง โดยระบุสายรถเมล์ที่ผ่าน และต้นทาง - ปลายทางของสายนั้น ๆ ดังนี้
    1. สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ จำนวน 14 เส้นทาง
    สาย 3 (2-37), สาย 5, สาย 26 (1-36), สาย 49 (2-43), สาย 96 (1-42), สาย 134 (2-20), สาย 136 (3-47), สาย 138 (4-22E), สาย 145 (3-18), สาย 204 (2-52), สาย 509 (4-60), สาย 536 (3-24E), สาย A1, สาย 3-19E

    2. สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร) หมอชิต 2 จำนวน 15 เส้นทาง
    สาย 3 (2-37), สาย 5, สาย 26 (1-36), สาย 49 (2-43), สาย 96 (1-42), สาย 134 (2-20), สาย 136 (3-47), สาย 138 (4-22E), สาย 145 (3-18), สาย 204 (2-52), สาย 509 (4-60), สาย 536 (3-24E), สาย A1, สาย 3-19E, สาย 4-33E

    อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : t.ly/jlzYH
    🚌ขสมก. Update เส้นทางรถเมล์ เชื่อมต่อสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ และสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร) หมอชิต 2 มีสายใดบ้าง รู้ไว้ไม่หลง! เพื่อเป็นข้อมูลให้ประชาชนได้รับความสะดวกสบาย และสามารถใช้บริการรถโดยสารของ ขสมก. ในการเดินทาง จึงประชาสัมพันธ์เส้นทางรถเมล์เชื่อมต่อการเดินทาง ทั้ง 2 แห่ง คือ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ จำนวน 14 เส้นทาง และสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร) หมอชิต 2 จำนวน 15 เส้นทาง โดยระบุสายรถเมล์ที่ผ่าน และต้นทาง - ปลายทางของสายนั้น ๆ ดังนี้ 📌 1. สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ จำนวน 14 เส้นทาง สาย 3 (2-37), สาย 5, สาย 26 (1-36), สาย 49 (2-43), สาย 96 (1-42), สาย 134 (2-20), สาย 136 (3-47), สาย 138 (4-22E), สาย 145 (3-18), สาย 204 (2-52), สาย 509 (4-60), สาย 536 (3-24E), สาย A1, สาย 3-19E 📌 2. สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร) หมอชิต 2 จำนวน 15 เส้นทาง สาย 3 (2-37), สาย 5, สาย 26 (1-36), สาย 49 (2-43), สาย 96 (1-42), สาย 134 (2-20), สาย 136 (3-47), สาย 138 (4-22E), สาย 145 (3-18), สาย 204 (2-52), สาย 509 (4-60), สาย 536 (3-24E), สาย A1, สาย 3-19E, สาย 4-33E อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : t.ly/jlzYH
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 612 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประชาสัมพันธ์หลักสูตร 2025 PUBLIC TRAINING PROGRAM ของแบรนด์ 10X CONSULTING

    "พลิกโฉมองค์กร สู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน"

    10X CONSULTING เชิญคุณเข้าร่วมหลักสูตรพัฒนาศักยภาพบุคคลและองค์กร 2025 PUBLIC TRAINING PROGRAM ที่จะช่วยให้คุณและทีมงานก้าวข้ามขีดจำกัด พัฒนาศักยภาพ และสร้างผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม พร้อมรับรองความรู้และทักษะจากสถาบันระดับโลก อาทิ OKR INSTITUTE, INTERNATIONAL MENTORING CENTER (IMC), THE JOHN C MAXWELL TEAM (JMT)

    ทำไมต้องเลือกหลักสูตรของ 10X CONSULTING?
    -ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง: วิทยากรของเราคือผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาองค์กรและการ--พัฒนาภาวะผู้นำ ที่พร้อมถ่ายทอดประสบการณ์และเทคนิคที่เป็นประโยชน์
    -หลักสูตรที่หลากหลาย: ครอบคลุมทุกระดับ ตั้งแต่พนักงานไปจนถึงผู้บริหาร เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันขององค์กร
    -เน้นการปฏิบัติจริง: หลักสูตรเน้นการฝึกปฏิบัติจริงผ่าน case study และกิจกรรมกลุ่ม เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสามารถนำความรู้ไปปรับใช้ได้ทันที
    -รับรองความรู้จากสถาบันระดับโลก: เพิ่มความน่าเชื่อถือและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล
    -สร้างเครือข่าย: ได้พบปะแลกเปลี่ยนความรู้กับผู้เข้าร่วมจากหลากหลายองค์กร

    ประโยชน์ที่คุณจะได้รับ:
    -พัฒนาภาวะผู้นำ: ฝึกฝนทักษะการเป็นผู้นำที่หลากหลาย เช่น การสร้างแรงบันดาลใจ การสร้างความสัมพันธ์ การตัดสินใจ และการแก้ปัญหา
    -เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน: เรียนรู้เทคนิคการทำงานที่เป็นระบบและมีประสิทธิภาพสูงสุด เช่น OKR, Agile, Lean
    -สร้างทีมที่มีประสิทธิภาพ: พัฒนาทักษะการทำงานเป็นทีม การสื่อสาร และการแก้ไขปัญหาร่วมกัน
    -ปรับปรุงกระบวนการทำงาน: ออกแบบและปรับปรุงกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
    -บรรลุเป้าหมายองค์กร: ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและวางแผนเพื่อบรรลุเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    -สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดี: สร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เอื้อต่อการเรียนรู้และการเติบโต
    -เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันขององค์กร: พัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถที่ตรงตามความต้องการของตลาด

    อย่าพลาดโอกาสในการพัฒนาองค์กรของคุณให้ก้าวไปข้างหน้าด้วยหลักสูตรที่เข้มข้นและวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ 10X CONSULTING พร้อมเป็นพันธมิตรในการพัฒนาองค์กรของคุณ
    สมัครเข้าร่วมหลักสูตร 2025 PUBLIC TRAINING PROGRAM ของ 10X CONSULTING ได้แล้ววันนี้

    สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:
    Line OA: @10xconsulting
    โทร. 084-995-9451
    #10XConsulting #พัฒนาองค์กร #Leadership #Mentoring #TheJohnMaxwellTeam #OKR #Agile

    www.10-xconsulting.com
    ประชาสัมพันธ์หลักสูตร 2025 PUBLIC TRAINING PROGRAM ของแบรนด์ 10X CONSULTING "พลิกโฉมองค์กร สู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน" 10X CONSULTING เชิญคุณเข้าร่วมหลักสูตรพัฒนาศักยภาพบุคคลและองค์กร 2025 PUBLIC TRAINING PROGRAM ที่จะช่วยให้คุณและทีมงานก้าวข้ามขีดจำกัด พัฒนาศักยภาพ และสร้างผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม พร้อมรับรองความรู้และทักษะจากสถาบันระดับโลก อาทิ OKR INSTITUTE, INTERNATIONAL MENTORING CENTER (IMC), THE JOHN C MAXWELL TEAM (JMT) ทำไมต้องเลือกหลักสูตรของ 10X CONSULTING? -ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง: วิทยากรของเราคือผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาองค์กรและการ--พัฒนาภาวะผู้นำ ที่พร้อมถ่ายทอดประสบการณ์และเทคนิคที่เป็นประโยชน์ -หลักสูตรที่หลากหลาย: ครอบคลุมทุกระดับ ตั้งแต่พนักงานไปจนถึงผู้บริหาร เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันขององค์กร -เน้นการปฏิบัติจริง: หลักสูตรเน้นการฝึกปฏิบัติจริงผ่าน case study และกิจกรรมกลุ่ม เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสามารถนำความรู้ไปปรับใช้ได้ทันที -รับรองความรู้จากสถาบันระดับโลก: เพิ่มความน่าเชื่อถือและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล -สร้างเครือข่าย: ได้พบปะแลกเปลี่ยนความรู้กับผู้เข้าร่วมจากหลากหลายองค์กร ประโยชน์ที่คุณจะได้รับ: -พัฒนาภาวะผู้นำ: ฝึกฝนทักษะการเป็นผู้นำที่หลากหลาย เช่น การสร้างแรงบันดาลใจ การสร้างความสัมพันธ์ การตัดสินใจ และการแก้ปัญหา -เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน: เรียนรู้เทคนิคการทำงานที่เป็นระบบและมีประสิทธิภาพสูงสุด เช่น OKR, Agile, Lean -สร้างทีมที่มีประสิทธิภาพ: พัฒนาทักษะการทำงานเป็นทีม การสื่อสาร และการแก้ไขปัญหาร่วมกัน -ปรับปรุงกระบวนการทำงาน: ออกแบบและปรับปรุงกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น -บรรลุเป้าหมายองค์กร: ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและวางแผนเพื่อบรรลุเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ -สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดี: สร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เอื้อต่อการเรียนรู้และการเติบโต -เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันขององค์กร: พัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถที่ตรงตามความต้องการของตลาด อย่าพลาดโอกาสในการพัฒนาองค์กรของคุณให้ก้าวไปข้างหน้าด้วยหลักสูตรที่เข้มข้นและวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ 10X CONSULTING พร้อมเป็นพันธมิตรในการพัฒนาองค์กรของคุณ สมัครเข้าร่วมหลักสูตร 2025 PUBLIC TRAINING PROGRAM ของ 10X CONSULTING ได้แล้ววันนี้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: Line OA: @10xconsulting โทร. 084-995-9451 #10XConsulting #พัฒนาองค์กร #Leadership #Mentoring #TheJohnMaxwellTeam #OKR #Agile www.10-xconsulting.com
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1365 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตามนโยบาย “เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” ของ “บอสพอล” ล่าสุด คดี ดิ ไอคอน กำลังจะแจ้งจับดีเจคนดังอีกคน

    #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ #ดิไอคอน #บอสพอล #ดีเจหนุ่ม

    ตามนโยบาย “เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” ของ “บอสพอล” ล่าสุด คดี ดิ ไอคอน กำลังจะแจ้งจับดีเจคนดังอีกคน #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ #ดิไอคอน #บอสพอล #ดีเจหนุ่ม
    Like
    Haha
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1495 มุมมอง 33 1 รีวิว
  • ได้รับหนังสือพี่โสแล้วค่ะ ดูข่าวต่างประเทศทีไร ต้องนึกถึงพี่โสทุกครั้งค่ะ
    ได้รับหนังสือพี่โสแล้วค่ะ ดูข่าวต่างประเทศทีไร ต้องนึกถึงพี่โสทุกครั้งค่ะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 295 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ปานเทพ” สวนกลับ “นพดล” ประชาชนควรเชื่อรัฐบาล-กระทรวงการต่างประเทศหรือ ทั้งที่เคยเสียท่าเขมรทำให้ไทยสูญเสียปราสาทพระวิหารและพื้นที่โดยรอบมาแล้ว ถาม MOU44 ยึดมั่น “เส้นมัธยะ” ตามพระบรมราชโองการ ร.9 จริงหรือ แล้วทำไม “ทักษิณ” บอกจะแบ่งผลประโยชน์ 50 ต่อ 50 ซึ่งเท่ากับรับรู้เส้นของกัมพูชา อนาคตหากเขมรอ้างเป็นการ “ตกลงกันเป็นอย่างอื่น” ไม่ต้องยึดตามเส้นมัธยะ ฟ้องศาลโลกเอาพื้นที่เป็นของตัวเอง ไทยแพ้อีกแน่

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000124192

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “ปานเทพ” สวนกลับ “นพดล” ประชาชนควรเชื่อรัฐบาล-กระทรวงการต่างประเทศหรือ ทั้งที่เคยเสียท่าเขมรทำให้ไทยสูญเสียปราสาทพระวิหารและพื้นที่โดยรอบมาแล้ว ถาม MOU44 ยึดมั่น “เส้นมัธยะ” ตามพระบรมราชโองการ ร.9 จริงหรือ แล้วทำไม “ทักษิณ” บอกจะแบ่งผลประโยชน์ 50 ต่อ 50 ซึ่งเท่ากับรับรู้เส้นของกัมพูชา อนาคตหากเขมรอ้างเป็นการ “ตกลงกันเป็นอย่างอื่น” ไม่ต้องยึดตามเส้นมัธยะ ฟ้องศาลโลกเอาพื้นที่เป็นของตัวเอง ไทยแพ้อีกแน่ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000124192 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    Haha
    22
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1673 มุมมอง 1 รีวิว
  • https://www.youtube.com/live/Yk4TNmjVpWg?si=ShYJPxkxJ2if1S0I
    https://www.youtube.com/live/Yk4TNmjVpWg?si=ShYJPxkxJ2if1S0I
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 112 มุมมอง 0 รีวิว
  • ร้านหอมเมือง #ข้าวซอย #ขนมจีนน้ำเงี้ยว #สมุทรปราการ #พาชิม #ร้านดีบอกต่อ #พิกัดของอร่อย #ครัวไทย #อาหารไทย #noodles #thaifood #food #เทรนด์วันนี้ #กินง่ายริมทาง #thaitimes #kaiaminute
    ร้านหอมเมือง #ข้าวซอย #ขนมจีนน้ำเงี้ยว #สมุทรปราการ #พาชิม #ร้านดีบอกต่อ #พิกัดของอร่อย #ครัวไทย #อาหารไทย #noodles #thaifood #food #เทรนด์วันนี้ #กินง่ายริมทาง #thaitimes #kaiaminute
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 987 มุมมอง 8 0 รีวิว
  • ‘นายกฯ’ มอบ ‘พีระพันธุ์’ นั่งหัวโต๊ะประชุม ‘บอร์ด กพช.’ ก่อนเคาะชะลอเซ็นสัญญาซื้อ ‘ไฟฟ้าสีเขียว’ 3.6 พันเมกะวัตต์ ขณะที่ ‘สภาผู้บริโภค-เครือข่าย’ ออกแถลงการณ์จี้ ‘กกพ.’ ยุติโครงการฯ ชี้ทำให้ค่าไฟฟ้าแพง 25 ปี

    ......................................

    เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. เวลา 14.00 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) มอบหมายให้นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน เป็นประธานการประชุม กพช. โดยมีวาระพิจารณาที่สนใจ คือ การพิจารณาแนวทางความเป็นไปได้ในการชะลอผลการคัดเลือกผู้ยื่นขอผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff ปี 2567-2573 (ไฟฟ้าสีเขียว) จำนวน 3,600 เมกะวัตต์ (MW)

    นายพีระพันธุ์ เปิดเผยหลังการประชุม กพช. ว่าตามที่ได้มีกระแสข่าว เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.2567 ว่าสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ได้ประกาศรายชื่อผู้ยื่นขอผลิตไฟฟ้าเพิ่มเติมที่ได้รับการคัดเลือกตามระเบียบคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานว่าด้วยการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed – in-Tariff (FiT) ปี 2565-2573 สำหรับกลุ่มไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง พ.ศ. 2565 (เพิ่มเติม) พ.ศ. 2567 ซึ่งทำให้เกิดข้อสงสัยกับประชาชนเรื่องความถูกต้องของกระบวนการ และวิธีการดำเนินงานรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนดังกล่าว และเพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติและราชการ นั้น

    ที่ประชุม กพช. จึงได้มีมติให้ชะลอการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเพิ่มเติม สำหรับกลุ่มที่ไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิงและขยะอุตสาหกรรม ตามแผนการเพิ่มการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด สำหรับปี 2565-2573 ปริมาณรวม 3,668.5 MW ที่ กพช. ได้ให้ความเห็นชอบไว้ เมื่อวันที่ 9 มี.ค.2566 โดยเป็นการชะลอการลงนามสัญญากับ 3 การไฟฟ้าไว้ก่อน เพื่อดำเนินการตรวจสอบความถูกต้อง

    รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ในวันเดียวกัน (25 ธ.ค.) สภาองค์กรของผู้บริโภคและเครือข่ายด้านพลังงาน ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องรัฐบาล และคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ยุติโครงการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนรอบใหม่ที่ใช้วิธีคัดเลือกแทนการประมูล เนื่องจากโครงการฯดังกล่าวจะสร้างภาระค่าไฟฟ้าให้กับประชาชนสูงถึง 65,000 ล้านบาท นาน 25 ปี ในขณะที่ต้นทุนเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์และลมลดลงอย่างรวดเร็ว

    สำหรับแถลงการณ์ฯดังกล่าว ระบุว่า ตามที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้ดำเนินการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (รอบเพิ่มเติม) จำนวน 2 กลุ่ม แบ่งเป็น ก) พลังงานแสงอาทิตย์แบบตั้งพื้นบนดิน จำนวน 1,580 เมกะวัตต์ ที่จะสามารถดำเนินการเชิงพาณิชย์หรือขายไฟฟ้าได้ในช่วงปี 2569-2573 และ ข) กังหันลมจำนวน 565.4 เมกะวัตต์ ที่จะสามารถขายไฟฟ้าได้ในช่วงปี 2571-2573 รวม 2,145.5 เมกะวัตต์ โดยไม่มีการประมูล

    แต่ใช้วิธีการคัดเลือก ซึ่งใช้ราคารับซื้อที่กำหนดโดยมติของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อเดือนพฤษภาคม 2565 คือ 2.17 บาทต่อหน่วย สำหรับไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ และราคา 3.10 บาทต่อหน่วยสำหรับไฟฟ้าจากพลังงานลม โดยที่ราคารับซื้อดังกล่าวจะคงที่ตลอดอายุสัญญา 25 ปี นั้น

    เป็นที่ทราบกันดีโดยทั่วไปว่า เทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ได้มีความก้าวหน้าและราคาลดต่ำลง อย่างรวดเร็วมาก โดยลดลงเฉลี่ยประมาณร้อยละ 10 ต่อปี เช่นเดียวกับเทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าจากกังหันลม แต่อัตราการลดลงของราคาจะช้ากว่าเล็กน้อย

    ดังนั้น การที่ กกพ. ใช้ราคาตามมติ กพช. ในปี 2565 ที่ไปกำหนดราคาที่ซื้อขายกันจริงของโซลาร์เซลล์ในปี 2569 หรืออีกประมาณ 4 ปีหลังจากนั้น จึงส่งผลให้ราคาสูงกว่ากว่าราคาที่ควรจะเป็นถึง 20-30% ส่วนกรณีของพลังงานลมซึ่งจะมีการซื้อขายกันจริงในปี 2571 จะช้ากว่าวันกำหนดราคาไว้ล่วงหน้า ถึง 6 ปี

    นอกจากการกำหนดราคาที่เรียกได้ว่าไม่มีประสิทธิภาพดังกล่าวข้างต้นแล้ว การไม่เปิดให้มีการแข่งขันโดยวิธีการประมูลราคาเพื่อหาราคาที่เหมาะที่สุด ก็จะเป็นภาระของผู้บริโภคที่จะต้องจ่ายค่าไฟฟ้าแพงไปนานถึง 25 ปี

    ผลการศึกษาขององค์กร IRENA (International Renewable Energy Agency) ซึ่งเป็นหน่วยงานขององค์การสหประชาชาติ (เรื่อง Renewable Power Generation Costs in 2023) ชี้ให้เห็นว่า ราคาไฟฟ้าเฉลี่ยตลอด โครงการ (LCOE) (ซึ่งเป็นการศึกษาจากทั่วโลก) จะมีราคาค่าไฟฟ้าเฉลี่ยของโลกจากโซลาร์เซลล์ขนาดใหญ่ในปี 2566 เท่ากับ 1.53 บาทต่อหน่วยเท่านั้น และหากมีการซื้อขายในปี 2569 ตามที่ กกพ. ประกาศ ราคาไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ก็จะน้อยกว่า 1.53 บาทต่อหน่วยอีก

    เพื่อเป็นการยืนยันว่าผลการศึกษาของ IRENA มีแนวโน้มที่ถูกต้องและเป็นไปได้จริง พบว่ารัฐบาลอินเดีย โดย SECI (Solar Energy Corporation of India) ได้ประกาศผลผู้ชนะการประมูลเมื่อเดือนสิงหาคม 2567 เพื่อขายไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์พร้อมกับการเก็บไฟฟ้าลงแบตเตอรี่ (ที่สามารถขายไฟฟ้าได้ตลอดเวลาแม้ในเวลากลางคืน) ในราคา 1.44 บาทต่อหน่วย ในขณะที่โครงการของประเทศไทยที่กำลังดำเนินการนี้ไม่มีแบตเตอรี่

    เมื่อนำข้อมูลจากผลการศึกษาดังกล่าวมาคำนวณอย่างเป็นระบบ (ตามข้อมูลในภาพและตารางแนบท้าย) และสมมุติว่ามีการขายไฟฟ้าจริงในปี 2568 จะส่งผลให้ค่าไฟฟ้าจากโครงการนี้แพงกว่าที่ควรจะเป็นคิดเป็นมูลค่า ตลอดอายุสัญญา 25 ปี อย่างน้อยรวม 65,000 ล้านบาท (หกหมื่นห้าพันล้านบาท)

    สภาองค์กรของผู้บริโภคได้ยื่นอุทธรณ์ประกาศ กกพ. ในการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (รอบเพิ่มเติม) ไปเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2567 พร้อมขอให้ยกเลิกประกาศฉบับดังกล่าว แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับจาก กกพ. แต่ประการใด ดังนั้น ในวันนี้สภาองค์กรของผู้บริโภคและภาคีเครือข่ายซึ่งได้ร่วมลงชื่อท้ายแถลงการณ์ฉบับนี้ จึงมีข้อเรียกร้องให้ กกพ. และรัฐบาลทบทวนโครงการดังกล่าวทั้งหมด เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับผู้บริโภคทั้งรุ่นนี้และรุ่นต่อไป

    พร้อมกันนี้ ขอเรียกร้องให้กระทรวงพลังงานเร่งดำเนินการจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า (PDP2024) ซึ่งได้ดำเนินการมานานกว่า 3 ปีแล้ว แต่ยังไม่แล้วเสร็จ

    ทั้งนี้ ในการจัดทำแผน PDP2024 หรือ PDP2025 ต้องเน้น การพึ่งตนเองของชาติ ภายใต้เทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียนที่มีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว และต้องเน้นให้ผู้บริโภค สามารถเป็นผู้ผลิตและผู้ขายไฟฟ้า (Prosumer) เพื่อสร้างงานและสร้างรายได้ให้กับประชาชนตามคำแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภาที่ว่า

    “รัฐบาลจะยึดมั่นในหลักนิธิธรรม ความโปร่งใส สร้างความชอบธรรมในการบริหาร ราชการแผ่นดินโดยการฟื้นฟูหลักนิติธรรมที่เข้มแข็ง มีประสิทธิภาพ...จะสนับสนุนให้ประชาชนผลิตไฟฟ้าระบบโซลาร์เซลล์ใช้ในครัวเรือนและมีรายได้จากการจำหน่ายกระแสไฟฟ้าที่ผลิตเกินกว่าความต้องการคืนให้รัฐ...จะเร่งออกมาตรการเพื่อลดราคาค่าพลังงานและสาธารณูปโภค”
    ‘นายกฯ’ มอบ ‘พีระพันธุ์’ นั่งหัวโต๊ะประชุม ‘บอร์ด กพช.’ ก่อนเคาะชะลอเซ็นสัญญาซื้อ ‘ไฟฟ้าสีเขียว’ 3.6 พันเมกะวัตต์ ขณะที่ ‘สภาผู้บริโภค-เครือข่าย’ ออกแถลงการณ์จี้ ‘กกพ.’ ยุติโครงการฯ ชี้ทำให้ค่าไฟฟ้าแพง 25 ปี ...................................... เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. เวลา 14.00 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) มอบหมายให้นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน เป็นประธานการประชุม กพช. โดยมีวาระพิจารณาที่สนใจ คือ การพิจารณาแนวทางความเป็นไปได้ในการชะลอผลการคัดเลือกผู้ยื่นขอผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff ปี 2567-2573 (ไฟฟ้าสีเขียว) จำนวน 3,600 เมกะวัตต์ (MW) นายพีระพันธุ์ เปิดเผยหลังการประชุม กพช. ว่าตามที่ได้มีกระแสข่าว เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.2567 ว่าสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ได้ประกาศรายชื่อผู้ยื่นขอผลิตไฟฟ้าเพิ่มเติมที่ได้รับการคัดเลือกตามระเบียบคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานว่าด้วยการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed – in-Tariff (FiT) ปี 2565-2573 สำหรับกลุ่มไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง พ.ศ. 2565 (เพิ่มเติม) พ.ศ. 2567 ซึ่งทำให้เกิดข้อสงสัยกับประชาชนเรื่องความถูกต้องของกระบวนการ และวิธีการดำเนินงานรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนดังกล่าว และเพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติและราชการ นั้น ที่ประชุม กพช. จึงได้มีมติให้ชะลอการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเพิ่มเติม สำหรับกลุ่มที่ไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิงและขยะอุตสาหกรรม ตามแผนการเพิ่มการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด สำหรับปี 2565-2573 ปริมาณรวม 3,668.5 MW ที่ กพช. ได้ให้ความเห็นชอบไว้ เมื่อวันที่ 9 มี.ค.2566 โดยเป็นการชะลอการลงนามสัญญากับ 3 การไฟฟ้าไว้ก่อน เพื่อดำเนินการตรวจสอบความถูกต้อง รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ในวันเดียวกัน (25 ธ.ค.) สภาองค์กรของผู้บริโภคและเครือข่ายด้านพลังงาน ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องรัฐบาล และคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ยุติโครงการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนรอบใหม่ที่ใช้วิธีคัดเลือกแทนการประมูล เนื่องจากโครงการฯดังกล่าวจะสร้างภาระค่าไฟฟ้าให้กับประชาชนสูงถึง 65,000 ล้านบาท นาน 25 ปี ในขณะที่ต้นทุนเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์และลมลดลงอย่างรวดเร็ว สำหรับแถลงการณ์ฯดังกล่าว ระบุว่า ตามที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้ดำเนินการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (รอบเพิ่มเติม) จำนวน 2 กลุ่ม แบ่งเป็น ก) พลังงานแสงอาทิตย์แบบตั้งพื้นบนดิน จำนวน 1,580 เมกะวัตต์ ที่จะสามารถดำเนินการเชิงพาณิชย์หรือขายไฟฟ้าได้ในช่วงปี 2569-2573 และ ข) กังหันลมจำนวน 565.4 เมกะวัตต์ ที่จะสามารถขายไฟฟ้าได้ในช่วงปี 2571-2573 รวม 2,145.5 เมกะวัตต์ โดยไม่มีการประมูล แต่ใช้วิธีการคัดเลือก ซึ่งใช้ราคารับซื้อที่กำหนดโดยมติของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อเดือนพฤษภาคม 2565 คือ 2.17 บาทต่อหน่วย สำหรับไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ และราคา 3.10 บาทต่อหน่วยสำหรับไฟฟ้าจากพลังงานลม โดยที่ราคารับซื้อดังกล่าวจะคงที่ตลอดอายุสัญญา 25 ปี นั้น เป็นที่ทราบกันดีโดยทั่วไปว่า เทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ได้มีความก้าวหน้าและราคาลดต่ำลง อย่างรวดเร็วมาก โดยลดลงเฉลี่ยประมาณร้อยละ 10 ต่อปี เช่นเดียวกับเทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าจากกังหันลม แต่อัตราการลดลงของราคาจะช้ากว่าเล็กน้อย ดังนั้น การที่ กกพ. ใช้ราคาตามมติ กพช. ในปี 2565 ที่ไปกำหนดราคาที่ซื้อขายกันจริงของโซลาร์เซลล์ในปี 2569 หรืออีกประมาณ 4 ปีหลังจากนั้น จึงส่งผลให้ราคาสูงกว่ากว่าราคาที่ควรจะเป็นถึง 20-30% ส่วนกรณีของพลังงานลมซึ่งจะมีการซื้อขายกันจริงในปี 2571 จะช้ากว่าวันกำหนดราคาไว้ล่วงหน้า ถึง 6 ปี นอกจากการกำหนดราคาที่เรียกได้ว่าไม่มีประสิทธิภาพดังกล่าวข้างต้นแล้ว การไม่เปิดให้มีการแข่งขันโดยวิธีการประมูลราคาเพื่อหาราคาที่เหมาะที่สุด ก็จะเป็นภาระของผู้บริโภคที่จะต้องจ่ายค่าไฟฟ้าแพงไปนานถึง 25 ปี ผลการศึกษาขององค์กร IRENA (International Renewable Energy Agency) ซึ่งเป็นหน่วยงานขององค์การสหประชาชาติ (เรื่อง Renewable Power Generation Costs in 2023) ชี้ให้เห็นว่า ราคาไฟฟ้าเฉลี่ยตลอด โครงการ (LCOE) (ซึ่งเป็นการศึกษาจากทั่วโลก) จะมีราคาค่าไฟฟ้าเฉลี่ยของโลกจากโซลาร์เซลล์ขนาดใหญ่ในปี 2566 เท่ากับ 1.53 บาทต่อหน่วยเท่านั้น และหากมีการซื้อขายในปี 2569 ตามที่ กกพ. ประกาศ ราคาไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ก็จะน้อยกว่า 1.53 บาทต่อหน่วยอีก เพื่อเป็นการยืนยันว่าผลการศึกษาของ IRENA มีแนวโน้มที่ถูกต้องและเป็นไปได้จริง พบว่ารัฐบาลอินเดีย โดย SECI (Solar Energy Corporation of India) ได้ประกาศผลผู้ชนะการประมูลเมื่อเดือนสิงหาคม 2567 เพื่อขายไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์พร้อมกับการเก็บไฟฟ้าลงแบตเตอรี่ (ที่สามารถขายไฟฟ้าได้ตลอดเวลาแม้ในเวลากลางคืน) ในราคา 1.44 บาทต่อหน่วย ในขณะที่โครงการของประเทศไทยที่กำลังดำเนินการนี้ไม่มีแบตเตอรี่ เมื่อนำข้อมูลจากผลการศึกษาดังกล่าวมาคำนวณอย่างเป็นระบบ (ตามข้อมูลในภาพและตารางแนบท้าย) และสมมุติว่ามีการขายไฟฟ้าจริงในปี 2568 จะส่งผลให้ค่าไฟฟ้าจากโครงการนี้แพงกว่าที่ควรจะเป็นคิดเป็นมูลค่า ตลอดอายุสัญญา 25 ปี อย่างน้อยรวม 65,000 ล้านบาท (หกหมื่นห้าพันล้านบาท) สภาองค์กรของผู้บริโภคได้ยื่นอุทธรณ์ประกาศ กกพ. ในการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (รอบเพิ่มเติม) ไปเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2567 พร้อมขอให้ยกเลิกประกาศฉบับดังกล่าว แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับจาก กกพ. แต่ประการใด ดังนั้น ในวันนี้สภาองค์กรของผู้บริโภคและภาคีเครือข่ายซึ่งได้ร่วมลงชื่อท้ายแถลงการณ์ฉบับนี้ จึงมีข้อเรียกร้องให้ กกพ. และรัฐบาลทบทวนโครงการดังกล่าวทั้งหมด เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับผู้บริโภคทั้งรุ่นนี้และรุ่นต่อไป พร้อมกันนี้ ขอเรียกร้องให้กระทรวงพลังงานเร่งดำเนินการจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า (PDP2024) ซึ่งได้ดำเนินการมานานกว่า 3 ปีแล้ว แต่ยังไม่แล้วเสร็จ ทั้งนี้ ในการจัดทำแผน PDP2024 หรือ PDP2025 ต้องเน้น การพึ่งตนเองของชาติ ภายใต้เทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียนที่มีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว และต้องเน้นให้ผู้บริโภค สามารถเป็นผู้ผลิตและผู้ขายไฟฟ้า (Prosumer) เพื่อสร้างงานและสร้างรายได้ให้กับประชาชนตามคำแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภาที่ว่า “รัฐบาลจะยึดมั่นในหลักนิธิธรรม ความโปร่งใส สร้างความชอบธรรมในการบริหาร ราชการแผ่นดินโดยการฟื้นฟูหลักนิติธรรมที่เข้มแข็ง มีประสิทธิภาพ...จะสนับสนุนให้ประชาชนผลิตไฟฟ้าระบบโซลาร์เซลล์ใช้ในครัวเรือนและมีรายได้จากการจำหน่ายกระแสไฟฟ้าที่ผลิตเกินกว่าความต้องการคืนให้รัฐ...จะเร่งออกมาตรการเพื่อลดราคาค่าพลังงานและสาธารณูปโภค”
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 891 มุมมอง 0 รีวิว
  • เท้ง ชงสภาฯแก้ข้อบังคับ แก้เผ็ดนายกฯ หนีกระทู้สด (26/12/67) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #หนีกระทู้สดในสภา #ฝ่ายค้าน #พรรคประชาชน
    เท้ง ชงสภาฯแก้ข้อบังคับ แก้เผ็ดนายกฯ หนีกระทู้สด (26/12/67) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #หนีกระทู้สดในสภา #ฝ่ายค้าน #พรรคประชาชน
    Haha
    Like
    Yay
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1199 มุมมอง 52 0 รีวิว
  • “เอ็ม เอกชาติ” ลูกชายเจ้าของงานที่ "แบงค์ เลสเตอร์" ได้ไปร่วมงานก่อนเสียชีวิต โพสต์อาลัยการสูญเสียครั้ง พร้อมรับผิดชอบ ยันจะดูแลยาย-แม่ แทนน้องแบงค์

    จากกรณีข่าวการเสียชีวิตของ "แบงค์ เลสเตอร์" หนุ่มอินฟลูฯ และคอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่โด่งดังจากแร็ปขายพวงมาลัยเลี้ยงคุณยาย ที่ต้องมาจบชีวิตลงเพราะคาดว่ามาจากการถูกจ้างดื่มเหล้าให้หมดแบน เพื่อแลกเงิน 3 หมื่น

    ล่าสุด วันนี้ (26 ธ.ค.) เฟซบุ๊ก “เอ็ม เอกชาติ” อินฟลูเอนเซอร์และคอนเทนต์ครีเอเตอร์สายแข่งรถชื่อดังจากจังหวัดจันทบุรี และเป็นลูกชายเจ้าของงานที่ "แบงค์ เลสเตอร์" ได้ไปร่วมงานในวันเกิดเหตุ ได้ออกมาโพสต์กรณีการสูญเสียที่เกิดขึ้น ระบุว่า “พี่มาส่งมึงได้แค่นี้นะน้องชาย ไปสบายนะไม่ต้องเหนื่อยไม่ต้องห่วงอะไรแล้ว ถึงเราจะรู้จักกันได้ไม่นานแต่น้องนิสัยดีมากพี่รับรู้ได้ ไม่ต้องห่วงอะไรนะเดี๋ยวพวกพี่จะดูแลต่อให้ ชาติหน้าเรามาเป็นพี่น้องกันใหม่นะ ไปสู่สุขคตินะน้องชาย

    และโพสต์เพิ่มเติมว่า “ไม่มีไครอยากไห้เกิดเรื่องแบบนี้หลอกครับ ชีวิตคนทั้งคน ผมเองเสียใจมากกว่าพวกคุณอีก น้องมางานผม 2 ครั้ง ผมให้เงินน้องใช้ทุกครั้ง ไม่เคยด่อยค่าน้องเลย น้องนิสัยดีมาก ส่วนเรื่องรับผิดชอบผมเป็นเจ้าของงานผมต้องรับผิดชอบแน่นอนครับ ผมจะดูแลยาย ดูแลแม่ น้องต่อจากน้องเองครับ”

    #MGROnline #แบงค์เลสเตอร์
    “เอ็ม เอกชาติ” ลูกชายเจ้าของงานที่ "แบงค์ เลสเตอร์" ได้ไปร่วมงานก่อนเสียชีวิต โพสต์อาลัยการสูญเสียครั้ง พร้อมรับผิดชอบ ยันจะดูแลยาย-แม่ แทนน้องแบงค์ • จากกรณีข่าวการเสียชีวิตของ "แบงค์ เลสเตอร์" หนุ่มอินฟลูฯ และคอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่โด่งดังจากแร็ปขายพวงมาลัยเลี้ยงคุณยาย ที่ต้องมาจบชีวิตลงเพราะคาดว่ามาจากการถูกจ้างดื่มเหล้าให้หมดแบน เพื่อแลกเงิน 3 หมื่น • ล่าสุด วันนี้ (26 ธ.ค.) เฟซบุ๊ก “เอ็ม เอกชาติ” อินฟลูเอนเซอร์และคอนเทนต์ครีเอเตอร์สายแข่งรถชื่อดังจากจังหวัดจันทบุรี และเป็นลูกชายเจ้าของงานที่ "แบงค์ เลสเตอร์" ได้ไปร่วมงานในวันเกิดเหตุ ได้ออกมาโพสต์กรณีการสูญเสียที่เกิดขึ้น ระบุว่า “พี่มาส่งมึงได้แค่นี้นะน้องชาย ไปสบายนะไม่ต้องเหนื่อยไม่ต้องห่วงอะไรแล้ว ถึงเราจะรู้จักกันได้ไม่นานแต่น้องนิสัยดีมากพี่รับรู้ได้ ไม่ต้องห่วงอะไรนะเดี๋ยวพวกพี่จะดูแลต่อให้ ชาติหน้าเรามาเป็นพี่น้องกันใหม่นะ ไปสู่สุขคตินะน้องชาย • และโพสต์เพิ่มเติมว่า “ไม่มีไครอยากไห้เกิดเรื่องแบบนี้หลอกครับ ชีวิตคนทั้งคน ผมเองเสียใจมากกว่าพวกคุณอีก น้องมางานผม 2 ครั้ง ผมให้เงินน้องใช้ทุกครั้ง ไม่เคยด่อยค่าน้องเลย น้องนิสัยดีมาก ส่วนเรื่องรับผิดชอบผมเป็นเจ้าของงานผมต้องรับผิดชอบแน่นอนครับ ผมจะดูแลยาย ดูแลแม่ น้องต่อจากน้องเองครับ” • #MGROnline #แบงค์เลสเตอร์
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 622 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถนนช้างม่อยตัดใหม่ วิ่งขวา-หนึ่งเดียวในเมืองไทย

    จาก แยกอุปคุต ถนนท่าแพ มองซ้ายมี ธ.ไทยพาณิชย์ +กิตติพานิช
    ขวามีแยกตรอกเล่าโจ๊ว หรือ คนยุคใหม่เรียกว่า ถนนข่วงเมรุ เสันนี้เป็น Oneway ไปกาดหลวง เข้าถนนช้างม่อยได้

    เราตรงไปตามถนนท่าแพ ซ้ายมี ธ.กรุงเทพ ขวา มี UFM สอนทำขนมอบ ตรงไปเรื่อยๆ มีสะพานเล็กๆข้ามคลองแม่ข่า ซ้ายมือ มีร้านวิมลท่าแพ
    ชิดขวา...นี่แหละ มีทางเลี้ยวขวา เข้าสู่ "ถนนช้างม่อยตัดใหม่" ถนนนี้แหละเมื่อเข้ามาต้องวิ่งชิดขวา..ตลอดเส้นทาง พอถึงสี่แยก ตรงไปเป็นวันเวย์
    หรือ เลี้ยวขวา(วันเวย์)คือ ถนนช้างม่อย

    รถที่มาจากถนนช้างม่อย เมื่อถึงสี่แยกที่มีซุ้มประตูจีน เลี้ยวขวาเข้า ถนนช้างม่อยตัดใหม่ ก็ต้องวิ่งชิดขวา..ตลอด ไปถึงถนนท่าแพ จะบังคับให้เลี้ยวขวาไปตามถนนท่าแพ(วันเวย์) เช่นกัน

    แผนที่ ถนนช้างม่อยตัดใหม่ ระบายด้วยสีเหลือง
    ถนนช้างม่อยตัดใหม่ วิ่งขวา-หนึ่งเดียวในเมืองไทย จาก แยกอุปคุต ถนนท่าแพ มองซ้ายมี ธ.ไทยพาณิชย์ +กิตติพานิช ขวามีแยกตรอกเล่าโจ๊ว หรือ คนยุคใหม่เรียกว่า ถนนข่วงเมรุ เสันนี้เป็น Oneway ไปกาดหลวง เข้าถนนช้างม่อยได้ เราตรงไปตามถนนท่าแพ ซ้ายมี ธ.กรุงเทพ ขวา มี UFM สอนทำขนมอบ ตรงไปเรื่อยๆ มีสะพานเล็กๆข้ามคลองแม่ข่า ซ้ายมือ มีร้านวิมลท่าแพ ชิดขวา...นี่แหละ มีทางเลี้ยวขวา เข้าสู่ "ถนนช้างม่อยตัดใหม่" ถนนนี้แหละเมื่อเข้ามาต้องวิ่งชิดขวา..ตลอดเส้นทาง พอถึงสี่แยก ตรงไปเป็นวันเวย์ หรือ เลี้ยวขวา(วันเวย์)คือ ถนนช้างม่อย รถที่มาจากถนนช้างม่อย เมื่อถึงสี่แยกที่มีซุ้มประตูจีน เลี้ยวขวาเข้า ถนนช้างม่อยตัดใหม่ ก็ต้องวิ่งชิดขวา..ตลอด ไปถึงถนนท่าแพ จะบังคับให้เลี้ยวขวาไปตามถนนท่าแพ(วันเวย์) เช่นกัน แผนที่ ถนนช้างม่อยตัดใหม่ ระบายด้วยสีเหลือง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 239 มุมมอง 0 รีวิว
  • กรมทางหลวงชนบท ชวนนักท่องเที่ยวเยือนสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย แวะกางเต็นท์รับลมชมดาว ริมอ่างเก็บน้ำบ้านสันกำแพง บนถนนสาย นม.3052 อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา

    นายมนตรี เดชาสกุลสม อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผยว่า กรมทางหลวงชนบท โดยหมวดบำรุงทางหลวงชนบทวังน้ำเขียว สังกัดแขวงทางหลวงชนบทนครราชสีมา ชวนนักท่องเที่ยวเยือนอีสาน สัมผัสอากาศหนาวเย็น พร้อมจัดบริการพื้นที่กางเต็นท์ฟรีสำหรับนักท่องเที่ยวเพื่อดื่มด่ำบรรยากาศริมอ่างเก็บน้ำบ้านสันกำแพง บนถนนทางหลวงชนบทสาย นม.3052 อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา

    อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา ถือเป็นดั่งสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย ด้วยความสวยงามทางธรรมชาติของอ่างเก็บน้ำบ้านสันกำแพงหรืออ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง 1 ที่ใสสะอาดสะท้อนกับฉากหลังสีเขียวจากหุบเขาน้อยใหญ่สลับกับพื้นที่ลาดชันที่รายล้อมโดยรอบ จึงเกิดเป็นทิวทัศน์ที่สวยงาม โดยเฉพาะในช่วงเช้าจะมีหมอกบาง ๆ ลอยอยู่เหนืออ่างเก็บน้ำและปกคลุมไปทั่วทั้งพื้นที่ ซึ่งเหมาะแก่การแวะพักเพื่อดื่มด่ำบรรยากาศเป็นอย่างมาก ดังนั้นเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและสนับสนุนการท่องเที่ยวภายในประเทศ หมวดบำรุงทางหลวงชนบทวังน้ำเขียว จึงได้จัดเตรียมพื้นที่ริมอ่างเก็บน้ำ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/business/detail/9670000124209

    #MGROnline #กรมทางหลวงชนบท #อ่างเก็บน้ำบ้านสันกำแพง
    กรมทางหลวงชนบท ชวนนักท่องเที่ยวเยือนสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย แวะกางเต็นท์รับลมชมดาว ริมอ่างเก็บน้ำบ้านสันกำแพง บนถนนสาย นม.3052 อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา • นายมนตรี เดชาสกุลสม อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผยว่า กรมทางหลวงชนบท โดยหมวดบำรุงทางหลวงชนบทวังน้ำเขียว สังกัดแขวงทางหลวงชนบทนครราชสีมา ชวนนักท่องเที่ยวเยือนอีสาน สัมผัสอากาศหนาวเย็น พร้อมจัดบริการพื้นที่กางเต็นท์ฟรีสำหรับนักท่องเที่ยวเพื่อดื่มด่ำบรรยากาศริมอ่างเก็บน้ำบ้านสันกำแพง บนถนนทางหลวงชนบทสาย นม.3052 อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา • อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา ถือเป็นดั่งสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย ด้วยความสวยงามทางธรรมชาติของอ่างเก็บน้ำบ้านสันกำแพงหรืออ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง 1 ที่ใสสะอาดสะท้อนกับฉากหลังสีเขียวจากหุบเขาน้อยใหญ่สลับกับพื้นที่ลาดชันที่รายล้อมโดยรอบ จึงเกิดเป็นทิวทัศน์ที่สวยงาม โดยเฉพาะในช่วงเช้าจะมีหมอกบาง ๆ ลอยอยู่เหนืออ่างเก็บน้ำและปกคลุมไปทั่วทั้งพื้นที่ ซึ่งเหมาะแก่การแวะพักเพื่อดื่มด่ำบรรยากาศเป็นอย่างมาก ดังนั้นเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและสนับสนุนการท่องเที่ยวภายในประเทศ หมวดบำรุงทางหลวงชนบทวังน้ำเขียว จึงได้จัดเตรียมพื้นที่ริมอ่างเก็บน้ำ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/business/detail/9670000124209 • #MGROnline #กรมทางหลวงชนบท #อ่างเก็บน้ำบ้านสันกำแพง
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 820 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ใบเตย” โล่งศาลสั่งพิพากษายกฟ้อง ได้ถอดกำไร EM ดีใจ “ดีเจแมน” ได้กลับบ้านไปหาลูกสาวเป็นของขวัญปีใหม่ ไม่รู้จะกลับมาจดทะเบียนสมรสกันไหม โฟกัสที่ลูกเป็นหลัก ขอบคุณทุกกำลังใจและขอบคุณทนายที่ช่วยมาตลอด ด้าน “แม่ป๋อง” เตรียมน้ำมนต์ไปรับลูกแล้ว เชื่อลูกเป็นคนดีเข้มแข็ง อนาคตต่อจากนี้จะไปได้ดีแน่นอน ทนายเผยพร้อมสู้ทุกศาล หากอัยการจะยื่นอุทธรณ์ต่อ ส่วนเรื่องสินไหมทดแทนต้องพิจารณากันอีกที

    หลังเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา (26 ธ.ค. 67) ศาลอาญามีคำสั่งพิพากษายกฟ้อง “ดีเจแมน พัฒนพล มินทะขิน”และ “ใบเตย สุธีวัน ทวีสิน” รวมถึง “นายแดริล ยังฮุย”สามีชาวสิงคโปร์ของสาว “ซาร่า คาซิงกินี” ในคดีฉ้อโกงแชร์ Forex-3D เหตุพยานหลักฐานยังมีข้อสงสัย

    ล่าสุดในช่วงบ่าย “ใบเตย” และ “แม่ป๋อง”พิมพ์แข กุญชร ณ อยุธยา ก็ได้ออกมาเปิดใจกับสื่อ พร้อมกับ ทนายอมร กุศลและ ทนายเฟิร์น ชลวิภา วิริยะกุลทนายความของใบเตย-ดีเจแมน โดยเผยว่ารู้สึกดีใจมาก จากนี้จะทางเดินไปรับดีแมนที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร คาดว่าดีแมจจะได้รับการปล่อยตัวในช่วง 2 ทุ่มของวันนี้ และในส่วนกำไล EM ของใบเตย ก็จะได้รับการถอดออกเช่นกัน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/entertainment/detail/9670000124121

    #MGROnline #ใบเตย #ใบเตยอาร์สยาม #ดีเจแมน #Forex3D #คดีForex3D #ยกฟ้อง #ศาลยกฟ้อง #ยกฟ้องคดีForex3D
    “ใบเตย” โล่งศาลสั่งพิพากษายกฟ้อง ได้ถอดกำไร EM ดีใจ “ดีเจแมน” ได้กลับบ้านไปหาลูกสาวเป็นของขวัญปีใหม่ ไม่รู้จะกลับมาจดทะเบียนสมรสกันไหม โฟกัสที่ลูกเป็นหลัก ขอบคุณทุกกำลังใจและขอบคุณทนายที่ช่วยมาตลอด ด้าน “แม่ป๋อง” เตรียมน้ำมนต์ไปรับลูกแล้ว เชื่อลูกเป็นคนดีเข้มแข็ง อนาคตต่อจากนี้จะไปได้ดีแน่นอน ทนายเผยพร้อมสู้ทุกศาล หากอัยการจะยื่นอุทธรณ์ต่อ ส่วนเรื่องสินไหมทดแทนต้องพิจารณากันอีกที • หลังเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา (26 ธ.ค. 67) ศาลอาญามีคำสั่งพิพากษายกฟ้อง “ดีเจแมน พัฒนพล มินทะขิน”และ “ใบเตย สุธีวัน ทวีสิน” รวมถึง “นายแดริล ยังฮุย”สามีชาวสิงคโปร์ของสาว “ซาร่า คาซิงกินี” ในคดีฉ้อโกงแชร์ Forex-3D เหตุพยานหลักฐานยังมีข้อสงสัย • ล่าสุดในช่วงบ่าย “ใบเตย” และ “แม่ป๋อง”พิมพ์แข กุญชร ณ อยุธยา ก็ได้ออกมาเปิดใจกับสื่อ พร้อมกับ ทนายอมร กุศลและ ทนายเฟิร์น ชลวิภา วิริยะกุลทนายความของใบเตย-ดีเจแมน โดยเผยว่ารู้สึกดีใจมาก จากนี้จะทางเดินไปรับดีแมนที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร คาดว่าดีแมจจะได้รับการปล่อยตัวในช่วง 2 ทุ่มของวันนี้ และในส่วนกำไล EM ของใบเตย ก็จะได้รับการถอดออกเช่นกัน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/entertainment/detail/9670000124121 • #MGROnline #ใบเตย #ใบเตยอาร์สยาม #ดีเจแมน #Forex3D #คดีForex3D #ยกฟ้อง #ศาลยกฟ้อง #ยกฟ้องคดีForex3D
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1222 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องวุ่นๆของลุงและส้ม อดทนจนกว่าจะแลนด์
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    เรื่องวุ่นๆของลุงและส้ม อดทนจนกว่าจะแลนด์ #คิงส์โพธิ์ดำ
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 388 มุมมอง 4 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 45 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 47 มุมมอง 0 รีวิว
  • #สุดซอย
    #ของขวัญปีใหม่ตามสัญญา
    เพจใหญ่นำเสนอที่หลายคนถามหา
    ขอทวงคืนความยุติธรรมให้กับ ผสห ทุกคน
    คิงส์โพธิ์แดง+โอม
    สุดซอย
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #สุดซอย #ของขวัญปีใหม่ตามสัญญา เพจใหญ่นำเสนอที่หลายคนถามหา ขอทวงคืนความยุติธรรมให้กับ ผสห ทุกคน คิงส์โพธิ์แดง+โอม สุดซอย #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 316 มุมมอง 0 รีวิว
  • อุ๊ย สรรพนามคุ้นๆ แฝด 2 ผ. มิ๊จฉ๋าชีีพ ออกเวิร์คพ็อยแล้ว ก็ต่อที่เนชั่นละกัน ส่งท้ายปีเก่า จัดปายยย
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    อุ๊ย สรรพนามคุ้นๆ แฝด 2 ผ. มิ๊จฉ๋าชีีพ ออกเวิร์คพ็อยแล้ว ก็ต่อที่เนชั่นละกัน ส่งท้ายปีเก่า จัดปายยย #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 462 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อวานอิป้าข้างบ้านประกาศลั่นจะเอาทะนายสาวปกป้องแฝด2แม่.ผ.มิ๊จฉ๋าชีพ ดึงสาวมาพัวพันกับมิจเฉย อิป้าพาชวย
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    เมื่อวานอิป้าข้างบ้านประกาศลั่นจะเอาทะนายสาวปกป้องแฝด2แม่.ผ.มิ๊จฉ๋าชีพ ดึงสาวมาพัวพันกับมิจเฉย อิป้าพาชวย #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 150 มุมมอง 0 รีวิว