• ภาระกิจ Pacer 60 min
    ภาระกิจ Pacer 60 min
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 191 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/JwTFsCftevI?si=RmECx1uwceW26Kzu
    https://youtu.be/JwTFsCftevI?si=RmECx1uwceW26Kzu
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 135 มุมมอง 0 รีวิว
  • Like
    Wow
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 403 มุมมอง 0 รีวิว
  • Trinh Van Quyet อดีตเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ของเวียดนาม ประธานบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ใหญ่ FLC Group JSC ถูกศาลตัดสินจำคุก 21 ปี มีความผิดฐานฉ้อโกงและปั่นหุ้น

    5 สิงหาคม 2567-เว็บไซต์ข่าว VN Express รายงานว่า Trinh Van Quyet อดีตเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ของเวียดนาม ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งประธานบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ FLC Group JSC ถูกศาลตัดสินจำคุก 21 ปี มีความผิดฐานฉ้อโกงและปั่นหุ้น

    คดีอื้อฉาวนี้มีผู้ต้องหา 50 คน รวมทั้งอดีตเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ Quyet และน้องสาวอีก 2 คน ถูกกล่าวหาว่าฉ้อโกงและปั่นหุ้น5ตัวแสวงหากำไรที่ผิดกฎหมายประมาณ 723 พันล้านดอง (28.8 ล้านดอลลาร์)

    ศาลระบุว่ามีนักลงทุนมากกว่า 25,800 รายที่ตกเป็นเหยื่อของการฉ้อโกงและปั่นซื้อขายหุ้นใน FLC Faros Construction อัยการระบุในคำฟ้องว่า Quyet วางแผนการปั่นหุ้นและปั่นส่วนเงินทุนของ Faros ให้สูงขึ้นเป็น 4.3 ล้านล้านดองจากมูลค่าจริง 1.5 พันล้านดองเพื่อให้บริษัทสามารถจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์ (HoSE) ได้

    แม้ไม่สามารถระบุที่มาของเงินทุน4.3ล้านล้านดองที่บริษัทอ้างไว้ได้ แต่กรรมการตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์( HoSE )กลับอนุมัติการจดทะเบียนซื้อขายหุ้นบริษัทนี้ ส่งผลให้มีผู้ลงทุนซื้อหุ้นไป 391 ล้านหุ้น
    บริษัทอ้างไว้ได้ แต่ผู้บริหารของ HoSE กลับอนุมัติการจดทะเบียน ส่งผลให้ผู้ลงทุนซื้อหุ้นไป 391 ล้านหุ้น

    นอกจากนี้ Quyet วัย 49 ปี ยังถูกกล่าวหาว่าสั่งให้ Trinh Thi Minh Hue น้องสาวของเขา ซึ่งเป็นนักบัญชีของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ FLCเปิดบัญชีหุ้น 500 บัญชีในนามของผู้ร่วมสมคบคิด 45 คน ซึ่งใช้ในการซื้อขายปั่นหุ้นของ FLC และบริษัทในเครือ 4 แห่งไปมา ทำให้Hueน้องสาวของเขามีความผิด ถูกตัดสินจำคุก 14 ปี
    ขณะที่น้องสาวอีกคนของเขา คือ Trinh Thi Thuy Nga รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ BOS Securities ก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนการนี้ด้วยและถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 8 ปี และรองประธานFLC อีกคนถูกจำคุก 8 ปี 6 เดือน

    ระหว่างการให้การครั้งสุดท้ายในศาล นายQuyet และน้องสาวของเขาแสดงความสำนึกผิดและขอโทษจำเลยคนอื่นๆ ซึ่งเป็นสมาชิกในครอบครัว ที่ทำให้พวกเขาต้องเข้าไปพัวพันกับประเด็นคดีทางกฎหมาย และเขาได้แสวงหาผลประโยชน์จากความไว้วางใจ

    นายQuyet อดีตมหาเศรษฐีเวียดนา กล่าวถึงอาชญากรรมทางเศรษฐกิจนี้ว่า เป็นบทเรียนอันน่าสะเทือนขวัญ และยอมรับว่าการที่เขามุ่งมั่นไปสู่เป้าหมายที่ทะเยอทะยานเกินไปนั้น ทำให้เขาทำผิดทางกฏหมาย ละเลยขอบเขตทางกฎหมายไป

    #Thaitimes
    Trinh Van Quyet อดีตเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ของเวียดนาม ประธานบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ใหญ่ FLC Group JSC ถูกศาลตัดสินจำคุก 21 ปี มีความผิดฐานฉ้อโกงและปั่นหุ้น 5 สิงหาคม 2567-เว็บไซต์ข่าว VN Express รายงานว่า Trinh Van Quyet อดีตเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ของเวียดนาม ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งประธานบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ FLC Group JSC ถูกศาลตัดสินจำคุก 21 ปี มีความผิดฐานฉ้อโกงและปั่นหุ้น คดีอื้อฉาวนี้มีผู้ต้องหา 50 คน รวมทั้งอดีตเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ Quyet และน้องสาวอีก 2 คน ถูกกล่าวหาว่าฉ้อโกงและปั่นหุ้น5ตัวแสวงหากำไรที่ผิดกฎหมายประมาณ 723 พันล้านดอง (28.8 ล้านดอลลาร์) ศาลระบุว่ามีนักลงทุนมากกว่า 25,800 รายที่ตกเป็นเหยื่อของการฉ้อโกงและปั่นซื้อขายหุ้นใน FLC Faros Construction อัยการระบุในคำฟ้องว่า Quyet วางแผนการปั่นหุ้นและปั่นส่วนเงินทุนของ Faros ให้สูงขึ้นเป็น 4.3 ล้านล้านดองจากมูลค่าจริง 1.5 พันล้านดองเพื่อให้บริษัทสามารถจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์ (HoSE) ได้ แม้ไม่สามารถระบุที่มาของเงินทุน4.3ล้านล้านดองที่บริษัทอ้างไว้ได้ แต่กรรมการตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์( HoSE )กลับอนุมัติการจดทะเบียนซื้อขายหุ้นบริษัทนี้ ส่งผลให้มีผู้ลงทุนซื้อหุ้นไป 391 ล้านหุ้น บริษัทอ้างไว้ได้ แต่ผู้บริหารของ HoSE กลับอนุมัติการจดทะเบียน ส่งผลให้ผู้ลงทุนซื้อหุ้นไป 391 ล้านหุ้น นอกจากนี้ Quyet วัย 49 ปี ยังถูกกล่าวหาว่าสั่งให้ Trinh Thi Minh Hue น้องสาวของเขา ซึ่งเป็นนักบัญชีของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ FLCเปิดบัญชีหุ้น 500 บัญชีในนามของผู้ร่วมสมคบคิด 45 คน ซึ่งใช้ในการซื้อขายปั่นหุ้นของ FLC และบริษัทในเครือ 4 แห่งไปมา ทำให้Hueน้องสาวของเขามีความผิด ถูกตัดสินจำคุก 14 ปี ขณะที่น้องสาวอีกคนของเขา คือ Trinh Thi Thuy Nga รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ BOS Securities ก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนการนี้ด้วยและถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 8 ปี และรองประธานFLC อีกคนถูกจำคุก 8 ปี 6 เดือน ระหว่างการให้การครั้งสุดท้ายในศาล นายQuyet และน้องสาวของเขาแสดงความสำนึกผิดและขอโทษจำเลยคนอื่นๆ ซึ่งเป็นสมาชิกในครอบครัว ที่ทำให้พวกเขาต้องเข้าไปพัวพันกับประเด็นคดีทางกฎหมาย และเขาได้แสวงหาผลประโยชน์จากความไว้วางใจ นายQuyet อดีตมหาเศรษฐีเวียดนา กล่าวถึงอาชญากรรมทางเศรษฐกิจนี้ว่า เป็นบทเรียนอันน่าสะเทือนขวัญ และยอมรับว่าการที่เขามุ่งมั่นไปสู่เป้าหมายที่ทะเยอทะยานเกินไปนั้น ทำให้เขาทำผิดทางกฏหมาย ละเลยขอบเขตทางกฎหมายไป #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 581 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 202 มุมมอง 0 รีวิว
  • พอ..ถ้าพอ #กินดื่มง่ายๆ #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    พอ..ถ้าพอ #กินดื่มง่ายๆ #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 302 มุมมอง 0 รีวิว
  • สัญญาณสังเกตตลาดปรับฐาน
    สัญญาณสังเกตตลาดปรับฐาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 126 มุมมอง 10 0 รีวิว
  • ผู้คิดค้นวัคซีนโควิด-19 เผยข้อมูล: 'mRNA ถูกออกแบบมาเพื่อลดจำนวนประชากรโลก'
    https://thepeoplesvoice.tv/covid-vaccine-inventor-blows-whistle-mrna-was-designed-to-depopulate-the-world/

    ปล.ลิงก์นี้ลงเฟสบุ๊กไม่ได้ครับ
    ผู้คิดค้นวัคซีนโควิด-19 เผยข้อมูล: 'mRNA ถูกออกแบบมาเพื่อลดจำนวนประชากรโลก' https://thepeoplesvoice.tv/covid-vaccine-inventor-blows-whistle-mrna-was-designed-to-depopulate-the-world/ ปล.ลิงก์นี้ลงเฟสบุ๊กไม่ได้ครับ
    THEPEOPLESVOICE.TV
    Covid Vaccine Inventor Blows Whistle: 'mRNA Was Designed To Depopulate the World'
    The Covid vaccine was designed to sterilize the masses and depopulate the world, according to the inventor of the ill-fated Oxford Covid vaccine who has blown the whistle on the elite's real agenda behind the shots.
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 494 มุมมอง 0 รีวิว
  • หมอธีระวัฒน์” เผยผลการสืบสวนสอบสวนของคณะกรรมาธิการรัฐสภาสหรัฐฯ พบ “หมอใหญ่เฟาซี” แห่งสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ (NIH) อนุมัติทุนให้สร้างไวรัสฝีดาษลิงให้รุนแรงขึ้นและแพร่กระจายได้มากขึ้นในปี 2015 และมีการทดสอบยารักษาโดยได้รับทุนจาก NIH จนปัจจุบันมีการตั้งเป้าฉีดวัคซีนฝีดาษลิงแก่คนทั่วโลก
    เผยที่มาฝีดาษลิง เชื้อแรง-แพร่ได้ง่ายขึ้นเพราะอาจเป็นผลงานการสร้างของมนุษย์
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000071200
    หมอธีระวัฒน์” เผยผลการสืบสวนสอบสวนของคณะกรรมาธิการรัฐสภาสหรัฐฯ พบ “หมอใหญ่เฟาซี” แห่งสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ (NIH) อนุมัติทุนให้สร้างไวรัสฝีดาษลิงให้รุนแรงขึ้นและแพร่กระจายได้มากขึ้นในปี 2015 และมีการทดสอบยารักษาโดยได้รับทุนจาก NIH จนปัจจุบันมีการตั้งเป้าฉีดวัคซีนฝีดาษลิงแก่คนทั่วโลก เผยที่มาฝีดาษลิง เชื้อแรง-แพร่ได้ง่ายขึ้นเพราะอาจเป็นผลงานการสร้างของมนุษย์ https://mgronline.com/qol/detail/9670000071200 🙏
    MGRONLINE.COM
    “หมอธีระวัฒน์” เผยที่มาฝีดาษลิง เชื้อแรง-แพร่ได้ง่ายขึ้นเพราะผลงานการสร้างของมนุษย์
    “หมอธีระวัฒน์” เผยผลการสืบสวนสอบสวนของคณะกรรมาธิการรัฐสภาสหรัฐฯ พบ “หมอใหญ่เฟาซี” แห่งสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ (NIH) อนุมัติทุนให้สร้างไวรัสฝีดาษลิงให้รุนแรงขึ้นและแพร่กระจายได้มากขึ้นในปี 2015 และมีการทดสอบยารักษาโดยได้รับทุนจา
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 754 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://m.youtube.com/watch?v=mtnXbARdIR4&feature=shared

    เงินดิจิทัล - วาระเบื้องหลังการแจกเงิน 10,000บ ของรัฐบาล
    https://m.youtube.com/watch?v=mtnXbARdIR4&feature=shared เงินดิจิทัล - วาระเบื้องหลังการแจกเงิน 10,000บ ของรัฐบาล
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 295 มุมมอง 0 รีวิว
  • มหกรรมกีฬาหรือโรงจำอวด? Ep253 (live)

    SONDHITALK : ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง Ep253 (live)
    โอลิมปิก ปารีส 2024 ดรามาตั้งแต่วันเปิดการแข่งขัน ยัดความเป็นฝรั่งเศสฉีกกรอบจนเลยขอบเขต “มหกรรมกีฬาหรือโรงจำอวด” ?
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 237 มุมมอง 0 รีวิว
  • ‘Never Stop Believin'
    I'll come back stronger

    คนตีไม่เคยท้อ
    คนเชียร์อย่าพึ่งทิ้ง
    ประวัติศาสตร์พึ่งเริ่มเขียนครับ”

    กุลวุฒิ วิทิตศานต์ “วิว” กุลวุฒิ โพสต์หลังจากสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักแบดมินตันไทยคนแรกที่คว้าเหรียญเงินจากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ PARIS2024 กับวิคเตอร์ อักเซลเซ่น มือวางอันดับ 2 ของโลกจากเดนมาร์ก 0-2 เกม ด้วยคะแนน เกมแรก 11-21, เกมที่สอง 11-21 ในรอบชิงชนะเลิศ แบดมินตัน ชายเดี่ยว กีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ปอร์ เดอ ลา ชาแปลล์ อารีนา กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2567 หลังจากก่อนหน้านี้ทัพแบดมินตันไทยยังไม่เคยคว้าเหรียญรางวัลมาได้เลยในช่วงเวลา 32 ปี

    ในส่วนของเงินรางวัลอัดฉีดที่ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ จะได้รับจากการคว้าเหรียญเงินโอลิมปิกเกมส์ 2024 ครั้งนี้ ในเบื้องต้นจะได้รับเงินรางวัลหลักเกณฑ์กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ จำนวนเงิน 7.2 ล้านบาท โดยได้รับ 50 เปอร์เซ็นต์ก่อน ส่วนที่เหลือแบ่งจ่ายรายเดือนเป็นเวลา 4 ปี หรือจะเลือกรับจ่ายครั้งเดียวเป็นจำนวนเงิน 6 ล้านบาท

    #Thaitimes
    ‘Never Stop Believin' I'll come back stronger 💪😀✨🇹🇭 🥈 คนตีไม่เคยท้อ คนเชียร์อย่าพึ่งทิ้ง ประวัติศาสตร์พึ่งเริ่มเขียนครับ” 💪😀✨🇹🇭 🥈’ กุลวุฒิ วิทิตศานต์ “วิว” กุลวุฒิ โพสต์หลังจากสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักแบดมินตันไทยคนแรกที่คว้าเหรียญเงินจากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ PARIS2024 กับวิคเตอร์ อักเซลเซ่น มือวางอันดับ 2 ของโลกจากเดนมาร์ก 0-2 เกม ด้วยคะแนน เกมแรก 11-21, เกมที่สอง 11-21 ในรอบชิงชนะเลิศ แบดมินตัน ชายเดี่ยว กีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ปอร์ เดอ ลา ชาแปลล์ อารีนา กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2567 หลังจากก่อนหน้านี้ทัพแบดมินตันไทยยังไม่เคยคว้าเหรียญรางวัลมาได้เลยในช่วงเวลา 32 ปี ในส่วนของเงินรางวัลอัดฉีดที่ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ จะได้รับจากการคว้าเหรียญเงินโอลิมปิกเกมส์ 2024 ครั้งนี้ ในเบื้องต้นจะได้รับเงินรางวัลหลักเกณฑ์กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ จำนวนเงิน 7.2 ล้านบาท โดยได้รับ 50 เปอร์เซ็นต์ก่อน ส่วนที่เหลือแบ่งจ่ายรายเดือนเป็นเวลา 4 ปี หรือจะเลือกรับจ่ายครั้งเดียวเป็นจำนวนเงิน 6 ล้านบาท #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 876 มุมมอง 0 รีวิว
  • Black Monday 5 สิงหา 2024 วันเดียวตลาดหุ้นสหรัฐฯ มูลค่าหายไปกว่า 1.93 ล้านล้านดอลลาร์ เนื่องจาก Nasdaq ร่วงลงกว่า 1,000 จุด เจ้าหน้าที่กล่าวว่า Nasdaq ไม่เคยต่ำขนาดนี้มาก่อน

    5 สิงหาคม 2567 -ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันจันทร์ที่ 5สิงหาคม เนื่องมาจากแรงเทขายในตลาดโลกที่มุ่งเป้าไปที่ความกลัวเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ถดถอย ดัชนี Nikkei 225 ของญี่ปุ่นร่วงลง 12% ซึ่งถือเป็นวันตกต่ำที่สุดนับตั้งแต่เหตุการณ์ Black Monday เมื่อปี 1987 สำหรับตลาดหุ้นวอลล์สตรีท

    ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 1,031 จุด หรือ 2.6% ดัชนี Nasdaq Composite ลดลง 4.1% และดัชนี S&P 500 ลดลง 3.2%

    ความหวาดกลัวต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐฯ เป็นสาเหตุหลักของการล่มสลายของตลาดทุนตลาดการเงินโลก หลังจากรายงานการจ้างงานเดือนกรกฎาคมที่น่าผิดหวังเมื่อวันศุกร์ นักลงทุนยังกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ ล่าช้าในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นการชะลอตัวของเศรษฐกิจ โดยธนาคารกลางสหรัฐฯ เลือกที่จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับสูงสุดในรอบ 2 ทศวรรษเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

    #Thaitimes
    Black Monday 5 สิงหา 2024 วันเดียวตลาดหุ้นสหรัฐฯ มูลค่าหายไปกว่า 1.93 ล้านล้านดอลลาร์ เนื่องจาก Nasdaq ร่วงลงกว่า 1,000 จุด เจ้าหน้าที่กล่าวว่า Nasdaq ไม่เคยต่ำขนาดนี้มาก่อน 5 สิงหาคม 2567 -ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันจันทร์ที่ 5สิงหาคม เนื่องมาจากแรงเทขายในตลาดโลกที่มุ่งเป้าไปที่ความกลัวเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ถดถอย ดัชนี Nikkei 225 ของญี่ปุ่นร่วงลง 12% ซึ่งถือเป็นวันตกต่ำที่สุดนับตั้งแต่เหตุการณ์ Black Monday เมื่อปี 1987 สำหรับตลาดหุ้นวอลล์สตรีท ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 1,031 จุด หรือ 2.6% ดัชนี Nasdaq Composite ลดลง 4.1% และดัชนี S&P 500 ลดลง 3.2% ความหวาดกลัวต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐฯ เป็นสาเหตุหลักของการล่มสลายของตลาดทุนตลาดการเงินโลก หลังจากรายงานการจ้างงานเดือนกรกฎาคมที่น่าผิดหวังเมื่อวันศุกร์ นักลงทุนยังกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ ล่าช้าในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นการชะลอตัวของเศรษฐกิจ โดยธนาคารกลางสหรัฐฯ เลือกที่จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับสูงสุดในรอบ 2 ทศวรรษเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 918 มุมมอง 0 รีวิว
  • "Winning the Olympics is the pinnacle of an athlete's career” - @DjokerNole
    "การชนะการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกถือเป็นจุดสุดยอดของอาชีพนักกีฬา" -Novak Djokovic

    Novak Djokovic has completed tennis.

    1 x Olympics Gold Medal
    and
    10 x Australian Open
    3 x Roland-Garros
    7 x Wimbledon
    4 x US Open
    7 x ATP Finals
    8 x year-end No.1s
    2 x Career Golden Masters
    1 x Davis Cup
    428 weeks at No.1 (most ever)

    ที่มา : World of Statistics

    #Thaitimes
    "Winning the Olympics is the pinnacle of an athlete's career” - @DjokerNole "การชนะการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกถือเป็นจุดสุดยอดของอาชีพนักกีฬา" -Novak Djokovic Novak Djokovic has completed tennis. 1 x Olympics Gold Medal 🥇 and 10 x Australian Open 🇦🇺 3 x Roland-Garros 🇫🇷 7 x Wimbledon 🇬🇧 4 x US Open 🇺🇸 7 x ATP Finals 🏆 8 x year-end No.1s 2 x Career Golden Masters 1 x Davis Cup 🇷🇸 428 weeks at No.1 (most ever) ที่มา : World of Statistics #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 381 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 90 มุมมอง 0 รีวิว
  • HOP INN ชิงที่พักเมืองรอง

    มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. ถึง 30 พ.ย. 2567 กลายเป็นที่สนใจอีกครั้ง เมื่อบัดเจ็ตโฮเต็ลรายใหญ่ในประเทศไทย โรงแรมฮ็อปอินน์ (Hop Inn) ในเครือดิ เอราวัณ กรุ๊ป ประกาศว่า พร้อมให้บริการ E-Tax ตั้งแต่วันที่ 5 ส.ค. 2567 ผู้เข้าพักสามารถขอใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt ได้แล้ว

    โดยสาขาโรงแรมฮ็อปอินน์จังหวัดเมืองรองที่เข้าร่วมโครงการ รวม 24 จังหวัด ประกอบด้วย จันทบุรี เชียงราย ชุมพร ตาก (แม่สอด) นครพนม นครศรีธรรมราช นครสวรรค์ น่าน บุรีรัมย์ เพชรบูรณ์ พิษณุโลก มหาสารคาม มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ราชบุรี ลพบุรี ลำปาง สกลนคร สระแก้ว สุพรรณบุรี สุรินทร์ หนองคาย อุดรธานี และอุบลราชธานี

    ทั้งนี้ ผู้เข้าพักสามารถขอใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อนำไปลดหย่อนภาษี ปีภาษี 2567 สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดท่องเที่ยวรองได้ตามที่จ่ายจริง แต่ต้องไม่เกิน 15,000 บาท ซึ่งข้อมูลจะส่งไปยังกรมสรรพากร เช่นเดียวกับมาตรการช้อปดีมีคืน และมาตรการ Easy e-Receipt ที่เคยแสดงรายการซื้อสินค้าและบริการในเว็บไซต์ MyTax Account โดยอัตโนมัติ

    ที่ผ่านมา นับตั้งแต่เปิดตัวมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศ สำหรับจังหวัดเมืองรอง พบว่ามีเพียงโรงแรมขนาดเล็กที่เข้าร่วมโครงการ และยังมีจำนวนน้อย ไม่ได้มีโรงแรมเข้าร่วมโครงการจำนวนมากตามที่นักท่องเที่ยวคาดหวัง เมื่อเทียบกับมาตรการสนับสนุนการท่องเที่ยวในช่วงที่ผ่านมา เช่น โครงการชิมช้อปใช้ โครงการเราเที่ยวด้วยกัน

    ขณะที่โรงแรมขนาดใหญ่ พบว่ามีเครือโรงแรมเซ็นทาราเข้าร่วมโครงการ 5 แห่ง ใน 4 จังหวัด ได้แก่ โรงแรมเซ็นทารา เกาะช้าง ทรอปิคานา รีสอร์ท จ.ตราด, โรงแรมเซ็นทารา ชานทะเล รีสอร์ทและวิลลา จ.ตราด, โรงแรมเซ็นทารา อุบล จ.อุบลราชธานี, โรงแรมเซ็นทารา อุดร จ.อุดรธานี และโรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ แม่สอด จ.ตาก

    สำหรับโรงแรมฮ็อปอินน์ เฉพาะในประเทศไทย ที่ผ่านมาเปิดให้บริการแล้ว 4 สาขา ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี ศรีราชา จ.ชลบุรี และสาขาล่าสุด ราชบุรี ทำให้ในปัจจุบันมีเครือข่ายโรงแรมมากถึง 55 แห่ง 4,637 ห้องพัก สาขาต่อไปจะเปิดที่นครพนม จำนวน 79 ห้อง ประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 61 ห้อง สงขลา จำนวน 79 ห้อง และพะเยา จำนวน 79 ห้อง

    #Newskit #HopInn #พักเมืองรองลดหย่อนภาษี
    HOP INN ชิงที่พักเมืองรอง มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. ถึง 30 พ.ย. 2567 กลายเป็นที่สนใจอีกครั้ง เมื่อบัดเจ็ตโฮเต็ลรายใหญ่ในประเทศไทย โรงแรมฮ็อปอินน์ (Hop Inn) ในเครือดิ เอราวัณ กรุ๊ป ประกาศว่า พร้อมให้บริการ E-Tax ตั้งแต่วันที่ 5 ส.ค. 2567 ผู้เข้าพักสามารถขอใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt ได้แล้ว โดยสาขาโรงแรมฮ็อปอินน์จังหวัดเมืองรองที่เข้าร่วมโครงการ รวม 24 จังหวัด ประกอบด้วย จันทบุรี เชียงราย ชุมพร ตาก (แม่สอด) นครพนม นครศรีธรรมราช นครสวรรค์ น่าน บุรีรัมย์ เพชรบูรณ์ พิษณุโลก มหาสารคาม มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ราชบุรี ลพบุรี ลำปาง สกลนคร สระแก้ว สุพรรณบุรี สุรินทร์ หนองคาย อุดรธานี และอุบลราชธานี ทั้งนี้ ผู้เข้าพักสามารถขอใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อนำไปลดหย่อนภาษี ปีภาษี 2567 สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดท่องเที่ยวรองได้ตามที่จ่ายจริง แต่ต้องไม่เกิน 15,000 บาท ซึ่งข้อมูลจะส่งไปยังกรมสรรพากร เช่นเดียวกับมาตรการช้อปดีมีคืน และมาตรการ Easy e-Receipt ที่เคยแสดงรายการซื้อสินค้าและบริการในเว็บไซต์ MyTax Account โดยอัตโนมัติ ที่ผ่านมา นับตั้งแต่เปิดตัวมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศ สำหรับจังหวัดเมืองรอง พบว่ามีเพียงโรงแรมขนาดเล็กที่เข้าร่วมโครงการ และยังมีจำนวนน้อย ไม่ได้มีโรงแรมเข้าร่วมโครงการจำนวนมากตามที่นักท่องเที่ยวคาดหวัง เมื่อเทียบกับมาตรการสนับสนุนการท่องเที่ยวในช่วงที่ผ่านมา เช่น โครงการชิมช้อปใช้ โครงการเราเที่ยวด้วยกัน ขณะที่โรงแรมขนาดใหญ่ พบว่ามีเครือโรงแรมเซ็นทาราเข้าร่วมโครงการ 5 แห่ง ใน 4 จังหวัด ได้แก่ โรงแรมเซ็นทารา เกาะช้าง ทรอปิคานา รีสอร์ท จ.ตราด, โรงแรมเซ็นทารา ชานทะเล รีสอร์ทและวิลลา จ.ตราด, โรงแรมเซ็นทารา อุบล จ.อุบลราชธานี, โรงแรมเซ็นทารา อุดร จ.อุดรธานี และโรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ แม่สอด จ.ตาก สำหรับโรงแรมฮ็อปอินน์ เฉพาะในประเทศไทย ที่ผ่านมาเปิดให้บริการแล้ว 4 สาขา ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี ศรีราชา จ.ชลบุรี และสาขาล่าสุด ราชบุรี ทำให้ในปัจจุบันมีเครือข่ายโรงแรมมากถึง 55 แห่ง 4,637 ห้องพัก สาขาต่อไปจะเปิดที่นครพนม จำนวน 79 ห้อง ประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 61 ห้อง สงขลา จำนวน 79 ห้อง และพะเยา จำนวน 79 ห้อง #Newskit #HopInn #พักเมืองรองลดหย่อนภาษี
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1578 มุมมอง 0 รีวิว
  • 1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 143 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 168 มุมมอง 0 รีวิว
  • วิวพลาดเหรียญทอง แต่ชนะใจคนไทย

    การแข่งขันแบดมินตัน ในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก 2024 รอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง วิว กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มืออันดับ 8 ของโลก พบกับ วิคเตอร์ อเซลเซ่น มืออันดับ 2 ของโลก จากเดนมาร์ก แม้จะไม่สามารถเอาชนะความแข็งแกร่งของหนุ่มโคนมวัย 30 ปี จบการแข่งขันทำได้แค่เหรียญเงิน ตามที่หลายฝ่ายวิเคราะห์ออกมาเมื่อดูจากสถิติการแข่งขันที่ผ่านมา

    แต่สำหรับนักแบดมินตันหนุ่มวัยเพียง 23 ปี มาไกลขนาดนี้ ถือว่าชนะใจคนไทยทั้งประเทศ

    ช่วงค่ำวันที่ 5 ส.ค. ตามเวลาในไทย คนไทยทั้งประเทศต่างส่งแรงใจเชียร์ วิว กุลวุฒิ ทั่วทุกมุมเมือง แม้จะไม่ถึงขั้นถนนในกรุงเทพฯ โล่ง ตามคำบอกเล่าของคนรุ่นก่อนที่เคยดู เขาทราย แกแล็คซี่ ขึ้นชกป้องกันตำแหน่งแชมป์โลกในปี 2534 บนหน้าจอโทรทัศน์ ในยุคที่ความบันเทิงที่เข้าถึงทุกครัวเรือนมีเพียงวิทยุ และโทรทัศน์แอนะล็อกที่มีเพียงไม่กี่ช่องเท่านั้น

    วันที่วิว กุลวุฒิ ชิงเหรียญทอง ศูนย์การค้าหลายแห่ง ต่างถ่ายทอดสดผ่านหน้าจอโฆษณา ราวกับทีวีจอยักษ์ ให้คนไทยได้ร่วมลุ้นไปพร้อมกัน ขณะที่แพลตฟอร์ม OTT ก็มีผู้คนเข้าถึงจำนวนมาก ทำเอาแอปพลิเคชันชมการถ่ายทอดสดอย่าง AIS Play ล่มอีกครั้งในช่วงเวลาสำคัญ จากที่เคยล่มเมื่อคราวถ่ายทอดสด THE MATCH Bangkok Century Cup 2022 เมื่อปี 2565

    แต่ที่คนไทยยิ้มได้ก็คือ แม้ วิว กุลวุฒิ จะไม่ได้เหรียญทองกลับมา แต่ทุกคนมีความสุขมากกว่าเสียดาย เพราะสิ่งที่วิว กุลวุฒิ ได้แข่งขันนั้นมาไกลเกินกว่าที่คาดหวัง แม้จะอยู่ในยุคที่การบริโภคสื่อมีหลากหลาย ไม่ได้ใจจดใจจ่ออยู่ที่หน้าปัดวิทยุหรือจอตู้เหมือนแต่ก่อน แต่เมื่อถึงคราวชิงเหรียญทองโอลิมปิก เดิมพันศักดิ์ศรีของประเทศ กลายเป็นที่สนใจของคนไทยทั้งประเทศทันที

    วิว กุลวุฒิ ยอมรับว่าทั้งรูปแบบเกม สมาธิ และชั้นเชิงต่างๆ เป็นรองทุกอย่าง ยอมรับว่า วิคเตอร์ ยังคงเป็นสุดยอดนักแบดมินตันอยู่ดี ตนรู้สึกตื่นเต้นมากกว่าปกติ และวิคเตอร์วางรูปแบบเกมได้อย่างดี อีกทั้งตนมีจังหวะที่เร่งตัวเอง ทำให้ผิดพลาดมากขึ้น และทำให้แต้มไหล แต่โดยรวมสำหรับโอลิมปิกครั้งแรกค่อนข้างโอเค

    "แต่ถ้าเป็นไปได้ อีก 4 ปีข้างหน้าก็อยากจะคว้าเหรียญทอง" วิว กุลวุฒิ กล่าว

    วิว กุลวุฒิ กล่าวว่า มารอบนี้ จริงๆ ก็ไม่ได้หวังเหรียญอยู่แล้ว เพราะถ้าดูจากการแบ่งสาย หลายคนมองว่าจะแพ้ตั้งแต่เจอ ฉี ยู่ฉี นักแบดมินตันทีมชาติจีน มืออันดับ 1 ของโลก ในรอบ 8 คนสุดท้าย เพราะอีกฝ่ายแข็งแกร่งและเป็นมือหนึ่งของโลก พอตนสามารถเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศก็มีความสุขมาก ถึงไม่ได้เหรียญทอง แต่ก็รู้สึกมีความสุข"

    "ขอบคุณแฟนๆ ชาวไทยที่ส่งกำลังใจเชียร์ผม รวมถึงทัพนักกีฬาไทยแบดมินตัน วันนี้ผมก็ทำดีที่สุดแล้ว ถ้าเป็นไปได้ อีก 4 ข้างหน้าเราเจอกัน"

    นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงกระแสการเล่นแบดมินตัน หวังว่าจะมีมากขึ้น แบดมินตันก็มีเยาวชนเริ่มเล่นเยอะขึ้น หลังจากนี้ถ้ามีเพิ่มขึ้นอีกก็เป็นเรื่องที่ดี เพื่อให้วงการแบดมินตันมีช้างเผือกขึ้นมาใหม่ คอยต่อยอดจากรุ่นพี่ที่อายุมากขึ้น พร้อมฝากว่าอยากให้มีเป้าหมาย วางเป้าหมายของตัวเองก่อนว่าอยากไปจุดไหน ต้องเหนื่อย ต้องอดทน มุ่งมั่นตั้งใจ ถ้าทำได้ก็จะประสบความสำเร็จ

    วิว กุลวุฒิ คว้าเหรียญโอลิมปิกเหรียญแรก ของกีฬาแบดมินตันทีมชาติไทย เป็นสมาคมกีฬาที่ 4 ต่อจากมวยสากลสมัครเล่น ยกน้ำหนัก และเทควันโด นับตั้งแต่ทีมชาติไทยส่งนักกีฬาแบดมินตัน ไปแข่งขันในกีฬาโอลิมปิก ตั้งแต่ปี 2535 หรือเมื่อ 32 ปีก่อน โดยมีนักกีฬารับใช้ชาติไปแล้ว 35 คน แม้จะไม่สามารถคว้าเหรียญมาได้ แต่ความหวังก็ถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น

    เหนือสิ่งอื่นใด วิว กุลวุฒิ ก็ได้สร้างความสุขให้กับคนไทย และแฟนกีฬาแบดมินตัน รวมทั้งผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ ตั้งแต่โรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด ที่มีแม่ปุก กมลา ทองกร ผู้ก่อตั้งและประธานโรงเรียน เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง รวมทั้งโค้ชเป้ ภัทพล เงินศรีสุข และนักแบดมินตันรุ่นพี่อย่าง เมย์ รัชนก อินทนนท์ ผู้เป็นแรงบันดาลใจให้วิวมีวันนี้

    ขณะที่เฟซบุ๊ก "Kunlavut Vitidsarn - กุลวุฒิ วิทิตศานต์" แอดมินยังคงกล่าววรรคทองเรียกเสียงเชียร์จากคอกีฬาชาวไทย ว่า "คนตีไม่เคยท้อ คนเชียร์อย่าเพิ่งทิ้ง ประวัติศาสตร์เพิ่งเริ่มเขียนครับ"

    #Newskit #ViewKunlavut #Olympic2024
    วิวพลาดเหรียญทอง แต่ชนะใจคนไทย การแข่งขันแบดมินตัน ในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก 2024 รอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง วิว กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มืออันดับ 8 ของโลก พบกับ วิคเตอร์ อเซลเซ่น มืออันดับ 2 ของโลก จากเดนมาร์ก แม้จะไม่สามารถเอาชนะความแข็งแกร่งของหนุ่มโคนมวัย 30 ปี จบการแข่งขันทำได้แค่เหรียญเงิน ตามที่หลายฝ่ายวิเคราะห์ออกมาเมื่อดูจากสถิติการแข่งขันที่ผ่านมา แต่สำหรับนักแบดมินตันหนุ่มวัยเพียง 23 ปี มาไกลขนาดนี้ ถือว่าชนะใจคนไทยทั้งประเทศ ช่วงค่ำวันที่ 5 ส.ค. ตามเวลาในไทย คนไทยทั้งประเทศต่างส่งแรงใจเชียร์ วิว กุลวุฒิ ทั่วทุกมุมเมือง แม้จะไม่ถึงขั้นถนนในกรุงเทพฯ โล่ง ตามคำบอกเล่าของคนรุ่นก่อนที่เคยดู เขาทราย แกแล็คซี่ ขึ้นชกป้องกันตำแหน่งแชมป์โลกในปี 2534 บนหน้าจอโทรทัศน์ ในยุคที่ความบันเทิงที่เข้าถึงทุกครัวเรือนมีเพียงวิทยุ และโทรทัศน์แอนะล็อกที่มีเพียงไม่กี่ช่องเท่านั้น วันที่วิว กุลวุฒิ ชิงเหรียญทอง ศูนย์การค้าหลายแห่ง ต่างถ่ายทอดสดผ่านหน้าจอโฆษณา ราวกับทีวีจอยักษ์ ให้คนไทยได้ร่วมลุ้นไปพร้อมกัน ขณะที่แพลตฟอร์ม OTT ก็มีผู้คนเข้าถึงจำนวนมาก ทำเอาแอปพลิเคชันชมการถ่ายทอดสดอย่าง AIS Play ล่มอีกครั้งในช่วงเวลาสำคัญ จากที่เคยล่มเมื่อคราวถ่ายทอดสด THE MATCH Bangkok Century Cup 2022 เมื่อปี 2565 แต่ที่คนไทยยิ้มได้ก็คือ แม้ วิว กุลวุฒิ จะไม่ได้เหรียญทองกลับมา แต่ทุกคนมีความสุขมากกว่าเสียดาย เพราะสิ่งที่วิว กุลวุฒิ ได้แข่งขันนั้นมาไกลเกินกว่าที่คาดหวัง แม้จะอยู่ในยุคที่การบริโภคสื่อมีหลากหลาย ไม่ได้ใจจดใจจ่ออยู่ที่หน้าปัดวิทยุหรือจอตู้เหมือนแต่ก่อน แต่เมื่อถึงคราวชิงเหรียญทองโอลิมปิก เดิมพันศักดิ์ศรีของประเทศ กลายเป็นที่สนใจของคนไทยทั้งประเทศทันที วิว กุลวุฒิ ยอมรับว่าทั้งรูปแบบเกม สมาธิ และชั้นเชิงต่างๆ เป็นรองทุกอย่าง ยอมรับว่า วิคเตอร์ ยังคงเป็นสุดยอดนักแบดมินตันอยู่ดี ตนรู้สึกตื่นเต้นมากกว่าปกติ และวิคเตอร์วางรูปแบบเกมได้อย่างดี อีกทั้งตนมีจังหวะที่เร่งตัวเอง ทำให้ผิดพลาดมากขึ้น และทำให้แต้มไหล แต่โดยรวมสำหรับโอลิมปิกครั้งแรกค่อนข้างโอเค "แต่ถ้าเป็นไปได้ อีก 4 ปีข้างหน้าก็อยากจะคว้าเหรียญทอง" วิว กุลวุฒิ กล่าว วิว กุลวุฒิ กล่าวว่า มารอบนี้ จริงๆ ก็ไม่ได้หวังเหรียญอยู่แล้ว เพราะถ้าดูจากการแบ่งสาย หลายคนมองว่าจะแพ้ตั้งแต่เจอ ฉี ยู่ฉี นักแบดมินตันทีมชาติจีน มืออันดับ 1 ของโลก ในรอบ 8 คนสุดท้าย เพราะอีกฝ่ายแข็งแกร่งและเป็นมือหนึ่งของโลก พอตนสามารถเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศก็มีความสุขมาก ถึงไม่ได้เหรียญทอง แต่ก็รู้สึกมีความสุข" "ขอบคุณแฟนๆ ชาวไทยที่ส่งกำลังใจเชียร์ผม รวมถึงทัพนักกีฬาไทยแบดมินตัน วันนี้ผมก็ทำดีที่สุดแล้ว ถ้าเป็นไปได้ อีก 4 ข้างหน้าเราเจอกัน" นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงกระแสการเล่นแบดมินตัน หวังว่าจะมีมากขึ้น แบดมินตันก็มีเยาวชนเริ่มเล่นเยอะขึ้น หลังจากนี้ถ้ามีเพิ่มขึ้นอีกก็เป็นเรื่องที่ดี เพื่อให้วงการแบดมินตันมีช้างเผือกขึ้นมาใหม่ คอยต่อยอดจากรุ่นพี่ที่อายุมากขึ้น พร้อมฝากว่าอยากให้มีเป้าหมาย วางเป้าหมายของตัวเองก่อนว่าอยากไปจุดไหน ต้องเหนื่อย ต้องอดทน มุ่งมั่นตั้งใจ ถ้าทำได้ก็จะประสบความสำเร็จ วิว กุลวุฒิ คว้าเหรียญโอลิมปิกเหรียญแรก ของกีฬาแบดมินตันทีมชาติไทย เป็นสมาคมกีฬาที่ 4 ต่อจากมวยสากลสมัครเล่น ยกน้ำหนัก และเทควันโด นับตั้งแต่ทีมชาติไทยส่งนักกีฬาแบดมินตัน ไปแข่งขันในกีฬาโอลิมปิก ตั้งแต่ปี 2535 หรือเมื่อ 32 ปีก่อน โดยมีนักกีฬารับใช้ชาติไปแล้ว 35 คน แม้จะไม่สามารถคว้าเหรียญมาได้ แต่ความหวังก็ถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น เหนือสิ่งอื่นใด วิว กุลวุฒิ ก็ได้สร้างความสุขให้กับคนไทย และแฟนกีฬาแบดมินตัน รวมทั้งผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ ตั้งแต่โรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด ที่มีแม่ปุก กมลา ทองกร ผู้ก่อตั้งและประธานโรงเรียน เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง รวมทั้งโค้ชเป้ ภัทพล เงินศรีสุข และนักแบดมินตันรุ่นพี่อย่าง เมย์ รัชนก อินทนนท์ ผู้เป็นแรงบันดาลใจให้วิวมีวันนี้ ขณะที่เฟซบุ๊ก "Kunlavut Vitidsarn - กุลวุฒิ วิทิตศานต์" แอดมินยังคงกล่าววรรคทองเรียกเสียงเชียร์จากคอกีฬาชาวไทย ว่า "คนตีไม่เคยท้อ คนเชียร์อย่าเพิ่งทิ้ง ประวัติศาสตร์เพิ่งเริ่มเขียนครับ" #Newskit #ViewKunlavut #Olympic2024
    Like
    Love
    5
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1841 มุมมอง 0 รีวิว
  • "โดยรวมสำหรับโอลิมปิกครั้งแรกค่อนข้างโอเค แต่ถ้าเป็นไปได้ อีก 4 ปีข้างหน้าก็อยากจะคว้าเหรียญทอง"
    "โดยรวมสำหรับโอลิมปิกครั้งแรกค่อนข้างโอเค แต่ถ้าเป็นไปได้ อีก 4 ปีข้างหน้าก็อยากจะคว้าเหรียญทอง"
    วิวพลาดเหรียญทอง แต่ชนะใจคนไทย

    การแข่งขันแบดมินตัน ในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก 2024 รอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง วิว กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มืออันดับ 8 ของโลก พบกับ วิคเตอร์ อเซลเซ่น มืออันดับ 2 ของโลก จากเดนมาร์ก แม้จะไม่สามารถเอาชนะความแข็งแกร่งของหนุ่มโคนมวัย 30 ปี จบการแข่งขันทำได้แค่เหรียญเงิน ตามที่หลายฝ่ายวิเคราะห์ออกมาเมื่อดูจากสถิติการแข่งขันที่ผ่านมา

    แต่สำหรับนักแบดมินตันหนุ่มวัยเพียง 23 ปี มาไกลขนาดนี้ ถือว่าชนะใจคนไทยทั้งประเทศ

    ช่วงค่ำวันที่ 5 ส.ค. ตามเวลาในไทย คนไทยทั้งประเทศต่างส่งแรงใจเชียร์ วิว กุลวุฒิ ทั่วทุกมุมเมือง แม้จะไม่ถึงขั้นถนนในกรุงเทพฯ โล่ง ตามคำบอกเล่าของคนรุ่นก่อนที่เคยดู เขาทราย แกแล็คซี่ ขึ้นชกป้องกันตำแหน่งแชมป์โลกในปี 2534 บนหน้าจอโทรทัศน์ ในยุคที่ความบันเทิงที่เข้าถึงทุกครัวเรือนมีเพียงวิทยุ และโทรทัศน์แอนะล็อกที่มีเพียงไม่กี่ช่องเท่านั้น

    วันที่วิว กุลวุฒิ ชิงเหรียญทอง ศูนย์การค้าหลายแห่ง ต่างถ่ายทอดสดผ่านหน้าจอโฆษณา ราวกับทีวีจอยักษ์ ให้คนไทยได้ร่วมลุ้นไปพร้อมกัน ขณะที่แพลตฟอร์ม OTT ก็มีผู้คนเข้าถึงจำนวนมาก ทำเอาแอปพลิเคชันชมการถ่ายทอดสดอย่าง AIS Play ล่มอีกครั้งในช่วงเวลาสำคัญ จากที่เคยล่มเมื่อคราวถ่ายทอดสด THE MATCH Bangkok Century Cup 2022 เมื่อปี 2565

    แต่ที่คนไทยยิ้มได้ก็คือ แม้ วิว กุลวุฒิ จะไม่ได้เหรียญทองกลับมา แต่ทุกคนมีความสุขมากกว่าเสียดาย เพราะสิ่งที่วิว กุลวุฒิ ได้แข่งขันนั้นมาไกลเกินกว่าที่คาดหวัง แม้จะอยู่ในยุคที่การบริโภคสื่อมีหลากหลาย ไม่ได้ใจจดใจจ่ออยู่ที่หน้าปัดวิทยุหรือจอตู้เหมือนแต่ก่อน แต่เมื่อถึงคราวชิงเหรียญทองโอลิมปิก เดิมพันศักดิ์ศรีของประเทศ กลายเป็นที่สนใจของคนไทยทั้งประเทศทันที

    วิว กุลวุฒิ ยอมรับว่าทั้งรูปแบบเกม สมาธิ และชั้นเชิงต่างๆ เป็นรองทุกอย่าง ยอมรับว่า วิคเตอร์ ยังคงเป็นสุดยอดนักแบดมินตันอยู่ดี ตนรู้สึกตื่นเต้นมากกว่าปกติ และวิคเตอร์วางรูปแบบเกมได้อย่างดี อีกทั้งตนมีจังหวะที่เร่งตัวเอง ทำให้ผิดพลาดมากขึ้น และทำให้แต้มไหล แต่โดยรวมสำหรับโอลิมปิกครั้งแรกค่อนข้างโอเค

    "แต่ถ้าเป็นไปได้ อีก 4 ปีข้างหน้าก็อยากจะคว้าเหรียญทอง" วิว กุลวุฒิ กล่าว

    วิว กุลวุฒิ กล่าวว่า มารอบนี้ จริงๆ ก็ไม่ได้หวังเหรียญอยู่แล้ว เพราะถ้าดูจากการแบ่งสาย หลายคนมองว่าจะแพ้ตั้งแต่เจอ ฉี ยู่ฉี นักแบดมินตันทีมชาติจีน มืออันดับ 1 ของโลก ในรอบ 8 คนสุดท้าย เพราะอีกฝ่ายแข็งแกร่งและเป็นมือหนึ่งของโลก พอตนสามารถเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศก็มีความสุขมาก ถึงไม่ได้เหรียญทอง แต่ก็รู้สึกมีความสุข"

    "ขอบคุณแฟนๆ ชาวไทยที่ส่งกำลังใจเชียร์ผม รวมถึงทัพนักกีฬาไทยแบดมินตัน วันนี้ผมก็ทำดีที่สุดแล้ว ถ้าเป็นไปได้ อีก 4 ข้างหน้าเราเจอกัน"

    นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงกระแสการเล่นแบดมินตัน หวังว่าจะมีมากขึ้น แบดมินตันก็มีเยาวชนเริ่มเล่นเยอะขึ้น หลังจากนี้ถ้ามีเพิ่มขึ้นอีกก็เป็นเรื่องที่ดี เพื่อให้วงการแบดมินตันมีช้างเผือกขึ้นมาใหม่ คอยต่อยอดจากรุ่นพี่ที่อายุมากขึ้น พร้อมฝากว่าอยากให้มีเป้าหมาย วางเป้าหมายของตัวเองก่อนว่าอยากไปจุดไหน ต้องเหนื่อย ต้องอดทน มุ่งมั่นตั้งใจ ถ้าทำได้ก็จะประสบความสำเร็จ

    วิว กุลวุฒิ คว้าเหรียญโอลิมปิกเหรียญแรก ของกีฬาแบดมินตันทีมชาติไทย เป็นสมาคมกีฬาที่ 4 ต่อจากมวยสากลสมัครเล่น ยกน้ำหนัก และเทควันโด นับตั้งแต่ทีมชาติไทยส่งนักกีฬาแบดมินตัน ไปแข่งขันในกีฬาโอลิมปิก ตั้งแต่ปี 2535 หรือเมื่อ 32 ปีก่อน โดยมีนักกีฬารับใช้ชาติไปแล้ว 35 คน แม้จะไม่สามารถคว้าเหรียญมาได้ แต่ความหวังก็ถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น

    เหนือสิ่งอื่นใด วิว กุลวุฒิ ก็ได้สร้างความสุขให้กับคนไทย และแฟนกีฬาแบดมินตัน รวมทั้งผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ ตั้งแต่โรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด ที่มีแม่ปุก กมลา ทองกร ผู้ก่อตั้งและประธานโรงเรียน เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง รวมทั้งโค้ชเป้ ภัทพล เงินศรีสุข และนักแบดมินตันรุ่นพี่อย่าง เมย์ รัชนก อินทนนท์ ผู้เป็นแรงบันดาลใจให้วิวมีวันนี้

    ขณะที่เฟซบุ๊ก "Kunlavut Vitidsarn - กุลวุฒิ วิทิตศานต์" แอดมินยังคงกล่าววรรคทองเรียกเสียงเชียร์จากคอกีฬาชาวไทย ว่า "คนตีไม่เคยท้อ คนเชียร์อย่าเพิ่งทิ้ง ประวัติศาสตร์เพิ่งเริ่มเขียนครับ"

    #Newskit #ViewKunlavut #Olympic2024
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 207 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/damApmlA27A?si=G5b9Fpr33K7RGaAq
    https://youtu.be/damApmlA27A?si=G5b9Fpr33K7RGaAq
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 97 มุมมอง 0 รีวิว
  • Good morning everyone
    Good morning everyone
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 540 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 187 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อตอนใกล้รุ่งเป็นฝันที่น่ารักมาก
    ฝันว่ามีเหตุให้ได้กุมารทองมาจากชายแก่คนหนึ่ง ได้มาถึง 3 คนเลยทีเดียว เป็นเด็กหญิงหนึ่งคนน่ารักมากจำชื่อไม่ได้แต่จำได้ว่าชื่อแปลว่าดอกไม้ เด็กชายอีกคนตัวอ้วนช่างพูดช่างถาม ชื่ออะไรก็จำไม่ได้รู้แต่ว่าเป็นชื่อไทย ๆ ส่วนคนสุดท้ายเด็กชายคนนี้ไม่ได้พูดอะไรดูเรียบร้อยหน้าตาฉายแววฉลาดปราดเปรื่อง ชื่ออะไรก็จำไม่ได้อีกเช่นกัน เด็กทั้งสามเข้ามารายล้อม lit nit คนหนึ่งนั่งตัก คนหนึ่งกอดคอ อีกคนนั่งข้าง ๆ ดูวุ่นวายดีมาก
    ....
    นั่นแหละฝันประมาณนี้ ส่วนภาพที่ใช้ประกอบไม่เกี่ยวอะไรกัน เหตุที่ใช้ภาพนี้เพราะ lit nit ยังไม่เคยมีภาพที่ถ่ายกับกุมารทอง ถ้าวันไหนเจอตัวเป็น ๆ จะขอถ่ายรูปเอามาให้ดูก็แล้วกัน
    #ตอนนี้ขอไปนั่งจิบแฟนึกทบทวนชื่อกับเลขที่ไอ้หนูอ้วนมันให้มาก่อนนะ^^
    เมื่อตอนใกล้รุ่งเป็นฝันที่น่ารักมาก ฝันว่ามีเหตุให้ได้กุมารทองมาจากชายแก่คนหนึ่ง ได้มาถึง 3 คนเลยทีเดียว เป็นเด็กหญิงหนึ่งคนน่ารักมากจำชื่อไม่ได้แต่จำได้ว่าชื่อแปลว่าดอกไม้ เด็กชายอีกคนตัวอ้วนช่างพูดช่างถาม ชื่ออะไรก็จำไม่ได้รู้แต่ว่าเป็นชื่อไทย ๆ ส่วนคนสุดท้ายเด็กชายคนนี้ไม่ได้พูดอะไรดูเรียบร้อยหน้าตาฉายแววฉลาดปราดเปรื่อง ชื่ออะไรก็จำไม่ได้อีกเช่นกัน เด็กทั้งสามเข้ามารายล้อม lit nit คนหนึ่งนั่งตัก คนหนึ่งกอดคอ อีกคนนั่งข้าง ๆ ดูวุ่นวายดีมาก .... นั่นแหละฝันประมาณนี้ ส่วนภาพที่ใช้ประกอบไม่เกี่ยวอะไรกัน เหตุที่ใช้ภาพนี้เพราะ lit nit ยังไม่เคยมีภาพที่ถ่ายกับกุมารทอง ถ้าวันไหนเจอตัวเป็น ๆ จะขอถ่ายรูปเอามาให้ดูก็แล้วกัน #ตอนนี้ขอไปนั่งจิบแฟนึกทบทวนชื่อกับเลขที่ไอ้หนูอ้วนมันให้มาก่อนนะ^^
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 348 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 171 มุมมอง 0 รีวิว