• เซเลนสกีเดินทางถึงซาอุดิอาระเบียแล้ว

    ตามกำหนดการ วันนี้เขาจะได้พบกับมกุฎราชกุมารซาอุดิอาระเบีย โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน (MBS)

    สำหรับการเจรจาระหว่างยูเครนและสหรัฐฯ เกี่ยวกับการแก้ปัญหาวิกฤตยูเครน จะเกิดขึ้นที่เมืองเจดดาห์ในวันถัดไป

    รายงานระบุว่า เซเลนสกีจะเจรจากับสหรัฐฯ ภายใต้การกำกับดูแลของอังกฤษอย่างใกล้ชิด!! (หรืออาจเรียกอีกอย่างว่า อังกฤษจะคอบควบคุมเซเลนสกีอย่างใกล้ชิด) ซึ่งน่าจะช่วยป้องกันไม่ให้เขาทำพลาดเหมือนที่ทำเนียบขาว
    เซเลนสกีเดินทางถึงซาอุดิอาระเบียแล้ว ตามกำหนดการ วันนี้เขาจะได้พบกับมกุฎราชกุมารซาอุดิอาระเบีย โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน (MBS) สำหรับการเจรจาระหว่างยูเครนและสหรัฐฯ เกี่ยวกับการแก้ปัญหาวิกฤตยูเครน จะเกิดขึ้นที่เมืองเจดดาห์ในวันถัดไป รายงานระบุว่า เซเลนสกีจะเจรจากับสหรัฐฯ ภายใต้การกำกับดูแลของอังกฤษอย่างใกล้ชิด!! (หรืออาจเรียกอีกอย่างว่า อังกฤษจะคอบควบคุมเซเลนสกีอย่างใกล้ชิด) ซึ่งน่าจะช่วยป้องกันไม่ให้เขาทำพลาดเหมือนที่ทำเนียบขาว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 95 มุมมอง 0 รีวิว
  • NVIDIA ต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่หลังจากการเปิดตัวการ์ดจอซีรีส์ RTX 50 โดยพบปัญหาหลายอย่าง เช่น การขาดแคลนสินค้า การลดประสิทธิภาพจากส่วนที่ขาดหายไปในโครงสร้างชิป และล่าสุดคือ ปัญหาหน้าจอดำ (Black Screen) ที่สร้างความปวดหัวให้กับทั้งผู้ใช้และทีมวิศวกรของ NVIDIA

    เมื่อเร็ว ๆ นี้ NVIDIA ได้ปล่อยไดรเวอร์ Hotfix เวอร์ชัน 572.75 ซึ่งเป็นครั้งที่ 5 ในการพยายามแก้ปัญหาดังกล่าว โดยไดรเวอร์นี้ออกแบบมาเพื่อจัดการสองปัญหาหลัก:
    1) การทำงานที่ไม่เต็มประสิทธิภาพหลังการรีบูต (สำหรับ RTX 5080/5090): ปัญหานี้อาจเกิดจากการโอเวอร์คล็อกที่ทำให้การ์ดจอไม่ทำงานเต็มศักยภาพหลังจากระบบเริ่มต้นใหม่
    2) ปัญหาหน้าจอดำในซีรีส์ RTX 50: ผู้ใช้หลายรายรายงานว่าปัญหานี้ยังคงเกิดขึ้นในเกมที่ใช้เทคโนโลยี Frame Generation แม้จะอัปเดตไดรเวอร์ก่อนหน้านี้แล้ว

    NVIDIA แนะนำให้ผู้ใช้ทำการอัปเดตไดรเวอร์เวอร์ชันล่าสุด เนื่องจากอาจช่วยแก้ปัญหาให้กับผู้ใช้จำนวนมากที่ได้รับผลกระทบ

    ปัญหาหน้าจอดำใน RTX 50 ถือเป็นบททดสอบสำคัญของ NVIDIA ในการรักษาความไว้วางใจจากผู้ใช้ ด้วยความพยายามอย่างต่อเนื่องในการแก้ไขผ่านไดรเวอร์และการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ เราจะต้องติดตามต่อไปว่าไดรเวอร์ใหม่นี้จะช่วยบรรเทาปัญหาได้จริงหรือไม่

    https://wccftech.com/nvidia-releases-another-hotfix-driver-to-resolve-black-screen-issues/
    NVIDIA ต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่หลังจากการเปิดตัวการ์ดจอซีรีส์ RTX 50 โดยพบปัญหาหลายอย่าง เช่น การขาดแคลนสินค้า การลดประสิทธิภาพจากส่วนที่ขาดหายไปในโครงสร้างชิป และล่าสุดคือ ปัญหาหน้าจอดำ (Black Screen) ที่สร้างความปวดหัวให้กับทั้งผู้ใช้และทีมวิศวกรของ NVIDIA เมื่อเร็ว ๆ นี้ NVIDIA ได้ปล่อยไดรเวอร์ Hotfix เวอร์ชัน 572.75 ซึ่งเป็นครั้งที่ 5 ในการพยายามแก้ปัญหาดังกล่าว โดยไดรเวอร์นี้ออกแบบมาเพื่อจัดการสองปัญหาหลัก: 1) การทำงานที่ไม่เต็มประสิทธิภาพหลังการรีบูต (สำหรับ RTX 5080/5090): ปัญหานี้อาจเกิดจากการโอเวอร์คล็อกที่ทำให้การ์ดจอไม่ทำงานเต็มศักยภาพหลังจากระบบเริ่มต้นใหม่ 2) ปัญหาหน้าจอดำในซีรีส์ RTX 50: ผู้ใช้หลายรายรายงานว่าปัญหานี้ยังคงเกิดขึ้นในเกมที่ใช้เทคโนโลยี Frame Generation แม้จะอัปเดตไดรเวอร์ก่อนหน้านี้แล้ว NVIDIA แนะนำให้ผู้ใช้ทำการอัปเดตไดรเวอร์เวอร์ชันล่าสุด เนื่องจากอาจช่วยแก้ปัญหาให้กับผู้ใช้จำนวนมากที่ได้รับผลกระทบ ปัญหาหน้าจอดำใน RTX 50 ถือเป็นบททดสอบสำคัญของ NVIDIA ในการรักษาความไว้วางใจจากผู้ใช้ ด้วยความพยายามอย่างต่อเนื่องในการแก้ไขผ่านไดรเวอร์และการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ เราจะต้องติดตามต่อไปว่าไดรเวอร์ใหม่นี้จะช่วยบรรเทาปัญหาได้จริงหรือไม่ https://wccftech.com/nvidia-releases-another-hotfix-driver-to-resolve-black-screen-issues/
    WCCFTECH.COM
    NVIDIA Releases Another Hotfix Driver to Resolve Black Screen Issues, Marking the Firm's Fifth Attempt to Address The Problem
    NVIDIA has released another "hotfix driver" to address issues with the RTX 50 GPUs, including the troublesome black-screen problem.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 65 มุมมอง 0 รีวิว
  • การ์ดจอ NVIDIA RTX 5090 ที่เพิ่งเปิดตัวกำลังเผชิญปัญหาเกี่ยวกับความร้อนในขั้วต่อไฟฟ้า 16-pin อย่างรุนแรง Andreas Schilling ผู้เชี่ยวชาญด้านฮาร์ดแวร์จากเว็บไซต์ Hardware Luxx ได้รายงานผ่านภาพถ่ายจากกล้องถ่ายความร้อนว่า ขั้วต่อไฟฟ้าของ RTX 5090 สามารถร้อนสูงถึง 150 องศาเซลเซียส

    == สาเหตุและผลกระทบ ==
    - ความเสียหายจากความร้อน: แม้ว่าขั้วต่อไฟฟ้าจะไม่ถึงจุดหลอมเหลวของวัสดุที่ใช้ (Nylon 66 และ LCP) ซึ่งอยู่ที่ 255-335 องศาเซลเซียส แต่นี่เป็นจุดอ่อนสำคัญที่อาจส่งผลต่อความปลอดภัยและอายุการใช้งานของอุปกรณ์
    - การเชื่อมต่อที่ไม่ทนทาน: Corsair ผู้ผลิตชิ้นส่วน PC ระบุว่าขั้วต่อ 16-pin มีวงจรการเชื่อมต่อ/ถอดที่รองรับได้เพียง 30 ครั้ง แต่ในกรณีนี้ ขั้วต่อถูกใช้งานเกินหลายร้อยครั้งแล้ว ทำให้เกิดความไม่เสถียร
    - ความไม่ไว้วางใจในตัวเลือกนี้: Schilling แสดงความคิดเห็นอย่างหนักแน่นว่า การออกแบบขั้วต่อ 12V-2x6 "จะเป็นจุดอ่อนสำคัญตลอดการใช้งานของการ์ดจอรุ่นนี้"

    การ์ดจอที่ทดสอบคือ Inno3D RTX 5090 Frostbite ซึ่งใช้น้ำเป็นตัวระบายความร้อน และแหล่งจ่ายไฟคือ be quiet! Dark Power 13 ที่รองรับพลังงาน 600W ในระหว่างการทดสอบ แม้ตัว GPU จะเย็นแต่ขั้วต่อไฟฟ้ากลับมีอุณหภูมิสูงจนกังวล

    แนวทางที่ควรคำนึง
    - การปรับปรุงการออกแบบขั้วต่อไฟฟ้า: NVIDIA อาจต้องหาวิธีแก้ปัญหาขั้วต่อไฟฟ้าในรุ่นนี้หรือในรุ่นต่อไป เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความเชื่อมั่นของผู้ใช้งาน
    - คำแนะนำแก่ผู้ใช้: ผู้ใช้งาน RTX 5090 ควรตรวจสอบความร้อนของขั้วต่อไฟฟ้า และหลีกเลี่ยงการใช้งานที่มีโหลดสูงในระยะเวลานาน

    https://www.tomshardware.com/pc-components/power-supplies/nvidia-rtx-5090s-16-pin-power-connector-hits-150c-in-reviewers-thermal-camera-shots
    การ์ดจอ NVIDIA RTX 5090 ที่เพิ่งเปิดตัวกำลังเผชิญปัญหาเกี่ยวกับความร้อนในขั้วต่อไฟฟ้า 16-pin อย่างรุนแรง Andreas Schilling ผู้เชี่ยวชาญด้านฮาร์ดแวร์จากเว็บไซต์ Hardware Luxx ได้รายงานผ่านภาพถ่ายจากกล้องถ่ายความร้อนว่า ขั้วต่อไฟฟ้าของ RTX 5090 สามารถร้อนสูงถึง 150 องศาเซลเซียส == สาเหตุและผลกระทบ == - ความเสียหายจากความร้อน: แม้ว่าขั้วต่อไฟฟ้าจะไม่ถึงจุดหลอมเหลวของวัสดุที่ใช้ (Nylon 66 และ LCP) ซึ่งอยู่ที่ 255-335 องศาเซลเซียส แต่นี่เป็นจุดอ่อนสำคัญที่อาจส่งผลต่อความปลอดภัยและอายุการใช้งานของอุปกรณ์ - การเชื่อมต่อที่ไม่ทนทาน: Corsair ผู้ผลิตชิ้นส่วน PC ระบุว่าขั้วต่อ 16-pin มีวงจรการเชื่อมต่อ/ถอดที่รองรับได้เพียง 30 ครั้ง แต่ในกรณีนี้ ขั้วต่อถูกใช้งานเกินหลายร้อยครั้งแล้ว ทำให้เกิดความไม่เสถียร - ความไม่ไว้วางใจในตัวเลือกนี้: Schilling แสดงความคิดเห็นอย่างหนักแน่นว่า การออกแบบขั้วต่อ 12V-2x6 "จะเป็นจุดอ่อนสำคัญตลอดการใช้งานของการ์ดจอรุ่นนี้" การ์ดจอที่ทดสอบคือ Inno3D RTX 5090 Frostbite ซึ่งใช้น้ำเป็นตัวระบายความร้อน และแหล่งจ่ายไฟคือ be quiet! Dark Power 13 ที่รองรับพลังงาน 600W ในระหว่างการทดสอบ แม้ตัว GPU จะเย็นแต่ขั้วต่อไฟฟ้ากลับมีอุณหภูมิสูงจนกังวล แนวทางที่ควรคำนึง - การปรับปรุงการออกแบบขั้วต่อไฟฟ้า: NVIDIA อาจต้องหาวิธีแก้ปัญหาขั้วต่อไฟฟ้าในรุ่นนี้หรือในรุ่นต่อไป เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความเชื่อมั่นของผู้ใช้งาน - คำแนะนำแก่ผู้ใช้: ผู้ใช้งาน RTX 5090 ควรตรวจสอบความร้อนของขั้วต่อไฟฟ้า และหลีกเลี่ยงการใช้งานที่มีโหลดสูงในระยะเวลานาน https://www.tomshardware.com/pc-components/power-supplies/nvidia-rtx-5090s-16-pin-power-connector-hits-150c-in-reviewers-thermal-camera-shots
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Nvidia RTX 5090's 16-pin power connector hits 150C in reviewer's thermal camera shots
    Andreas Schilling of Germany's Hardware Luxx says the power connector issue will 'forever remain a weak point of this generation.'
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 111 มุมมอง 0 รีวิว
  • แม้ว่ารัสเซียจะเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรจากหลายประเทศ แต่อุตสาหกรรมไมโครอิเล็กทรอนิกส์กลับเติบโตอย่างก้าวกระโดดในปี 2024 โดยมีการเพิ่มจำนวนพนักงานถึง 13% ในหลายบริษัท เช่น Element Group ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Mikron (ผู้ผลิตชิประดับสูงรายใหญ่ที่สุดของรัสเซีย) และอื่น ๆ เช่น Graviton และ RDV Technology

    == การเพิ่มจำนวนและคุณภาพบุคลากร ==
    1) การเติบโตของพนักงาน: บริษัท Element Group มีพนักงานถึง 9,500 คน โดย 42% เป็นวิศวกร และ Graviton เพิ่มบุคลากรในสาย R&D ถึงสามเท่าในปีที่ผ่านมา
    2) แรงจูงใจผ่านเงินเดือน: อัตราเงินเดือนวิศวกรเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ เช่น มอสโกและเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก โดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 15-22% พร้อมกับการมอบผลประโยชน์เพิ่มเติมเพื่อแข่งขันแย่งบุคลากรที่มีความสามารถ

    == ผลผลิตและนวัตกรรมที่เพิ่มขึ้น ==
    - RDV Technology ขยายสายการผลิตเพิ่มขึ้นสองสาย พร้อมเปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ใหม่สองรุ่นชื่อ Altai และ Caucasus
    - Aquarius เพิ่มบุคลากรสายอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น และเน้นนวัตกรรมในระบบเซิร์ฟเวอร์และ PC

    มีการคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมจะเติบโตต่อเนื่องในปี 2025 โดยบริษัทในรัสเซียตั้งเป้าที่จะเพิ่มจำนวนพนักงานอีก 8% โดยบริษัทบางแห่งวางแผนเพิ่มถึง 20% ภายในปีหน้า เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในตลาดไมโครอิเล็กทรอนิกส์

    ในขณะที่อุตสาหกรรมกำลังเติบโต แต่รัสเซียเผชิญกับการขาดแคลนแรงงาน เนื่องจากมีบุคลากรหลายคนย้ายออกนอกประเทศจากสงครามในยูเครน เพื่อแก้ปัญหานี้ บริษัทต่าง ๆ ได้เสนอโครงการฝึกอบรมสำหรับนักศึกษาและเพิ่มโควต้าผู้เรียนในมหาวิทยาลัย นอกจากนี้ บริษัทต่าง ๆ ยังลงทุนในโครงการฝึกงานที่มอบโอกาสการจ้างงานแก่ผู้สำเร็จการศึกษา

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/russia-sees-tech-boom-amid-sanctions-microelectronics-industry-sees-massive-hiring-surge-and-increased-salaries
    แม้ว่ารัสเซียจะเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรจากหลายประเทศ แต่อุตสาหกรรมไมโครอิเล็กทรอนิกส์กลับเติบโตอย่างก้าวกระโดดในปี 2024 โดยมีการเพิ่มจำนวนพนักงานถึง 13% ในหลายบริษัท เช่น Element Group ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Mikron (ผู้ผลิตชิประดับสูงรายใหญ่ที่สุดของรัสเซีย) และอื่น ๆ เช่น Graviton และ RDV Technology == การเพิ่มจำนวนและคุณภาพบุคลากร == 1) การเติบโตของพนักงาน: บริษัท Element Group มีพนักงานถึง 9,500 คน โดย 42% เป็นวิศวกร และ Graviton เพิ่มบุคลากรในสาย R&D ถึงสามเท่าในปีที่ผ่านมา 2) แรงจูงใจผ่านเงินเดือน: อัตราเงินเดือนวิศวกรเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ เช่น มอสโกและเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก โดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 15-22% พร้อมกับการมอบผลประโยชน์เพิ่มเติมเพื่อแข่งขันแย่งบุคลากรที่มีความสามารถ == ผลผลิตและนวัตกรรมที่เพิ่มขึ้น == - RDV Technology ขยายสายการผลิตเพิ่มขึ้นสองสาย พร้อมเปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ใหม่สองรุ่นชื่อ Altai และ Caucasus - Aquarius เพิ่มบุคลากรสายอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น และเน้นนวัตกรรมในระบบเซิร์ฟเวอร์และ PC มีการคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมจะเติบโตต่อเนื่องในปี 2025 โดยบริษัทในรัสเซียตั้งเป้าที่จะเพิ่มจำนวนพนักงานอีก 8% โดยบริษัทบางแห่งวางแผนเพิ่มถึง 20% ภายในปีหน้า เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในตลาดไมโครอิเล็กทรอนิกส์ ในขณะที่อุตสาหกรรมกำลังเติบโต แต่รัสเซียเผชิญกับการขาดแคลนแรงงาน เนื่องจากมีบุคลากรหลายคนย้ายออกนอกประเทศจากสงครามในยูเครน เพื่อแก้ปัญหานี้ บริษัทต่าง ๆ ได้เสนอโครงการฝึกอบรมสำหรับนักศึกษาและเพิ่มโควต้าผู้เรียนในมหาวิทยาลัย นอกจากนี้ บริษัทต่าง ๆ ยังลงทุนในโครงการฝึกงานที่มอบโอกาสการจ้างงานแก่ผู้สำเร็จการศึกษา https://www.tomshardware.com/tech-industry/russia-sees-tech-boom-amid-sanctions-microelectronics-industry-sees-massive-hiring-surge-and-increased-salaries
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 139 มุมมอง 0 รีวิว
  • 2/
    อิหร่านปฏิเสธข้อเสนอของทรัมป์ในการพูดคุยเรื่องข้อตกลงนิวเคลียร์

    ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน อิหม่าม คาเมเนอี เพิ่งปฏิเสธข้อเสนอของทรัมป์ในการพูดคุยเรื่องข้อตกลงนิวเคลียร์ โดยยืนยันว่า เตหะรานจะไม่ยอมรับข้อเรียกร้องใดๆ หลังจากที่ทรัมป์เสนอให้มีการเจรจารอบใหม่ นอกจากนี้ เขายังประกาศด้วยว่าอิหร่านจะ “ไม่มีวัน” ยอมรับข้อเรียกร้องที่จะให้ใครมาควบคุมโครงการขีปนาวุธของตน

    นอกจากนี้ ผู้นำสูงสุดของอิหร่านยังกล่าาโจมตีสหรัฐว่าเป็นฝ่ายที่รังแกประเทศอื่น หากไม่มีใครทำตามความต้องการ "รัฐบาลที่รังแกผู้อื่น – และพูดตามตรง เรานึกไม่ออกจริงๆ ว่าจะมีคำใดที่ถูกต้องกว่าคำว่า “รังแก” สำหรับผู้นำและหัวหน้ารัฐต่างประเทศ (หมายถึงทรัมป์) เขายืนกรานให้มีการเจรจา แต่การเจรจาของพวกเขาไม่ใช่เพื่อแก้ไขปัญหา แต่เป็นเรื่องของอำนาจ พวกเขาใช้การเจรจาเป็นเครื่องมือเพื่อบังคับให้ทำตามข้อเรียกร้องของพวกเขา และหากอีกฝ่ายไม่ยอมรับ พวกเขาก็จะหาเหตุผลสร้างความวุ่นวาย โดยกล่าวหาว่าอีกฝ่ายเริ่มเป็นฝ่ายเริ่มต้นเดินออกไปจากโต๊ะเพื่อทิ้งการเจรจา"

    ก่อนหน้านี้ ทรัมป์กล่าวถึงเรื่องการเจรจากับอิหร่านว่า:
    "จะมีวันที่น่าสนใจอีกหลายวันข้างหน้ากับอิหร่าน เราเหลือเวลาอีกแค่ไม่กี่เล็กน้อยกับอิหร่านเท่านั้น เราไม่สามารถปล่อยให้พวกเขามีอาวุธนิวเคลียร์ได้ บางอย่างกำลังจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ ผมอยากได้ข้อตกลงสันติภาพมากกว่าทางเลือกอื่น แต่ทางเลือกอื่นก็อาจจะใช้แก้ปัญหาได้ เราจะรอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น"
    2/ อิหร่านปฏิเสธข้อเสนอของทรัมป์ในการพูดคุยเรื่องข้อตกลงนิวเคลียร์ ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน อิหม่าม คาเมเนอี เพิ่งปฏิเสธข้อเสนอของทรัมป์ในการพูดคุยเรื่องข้อตกลงนิวเคลียร์ โดยยืนยันว่า เตหะรานจะไม่ยอมรับข้อเรียกร้องใดๆ หลังจากที่ทรัมป์เสนอให้มีการเจรจารอบใหม่ นอกจากนี้ เขายังประกาศด้วยว่าอิหร่านจะ “ไม่มีวัน” ยอมรับข้อเรียกร้องที่จะให้ใครมาควบคุมโครงการขีปนาวุธของตน นอกจากนี้ ผู้นำสูงสุดของอิหร่านยังกล่าาโจมตีสหรัฐว่าเป็นฝ่ายที่รังแกประเทศอื่น หากไม่มีใครทำตามความต้องการ "รัฐบาลที่รังแกผู้อื่น – และพูดตามตรง เรานึกไม่ออกจริงๆ ว่าจะมีคำใดที่ถูกต้องกว่าคำว่า “รังแก” สำหรับผู้นำและหัวหน้ารัฐต่างประเทศ (หมายถึงทรัมป์) เขายืนกรานให้มีการเจรจา แต่การเจรจาของพวกเขาไม่ใช่เพื่อแก้ไขปัญหา แต่เป็นเรื่องของอำนาจ พวกเขาใช้การเจรจาเป็นเครื่องมือเพื่อบังคับให้ทำตามข้อเรียกร้องของพวกเขา และหากอีกฝ่ายไม่ยอมรับ พวกเขาก็จะหาเหตุผลสร้างความวุ่นวาย โดยกล่าวหาว่าอีกฝ่ายเริ่มเป็นฝ่ายเริ่มต้นเดินออกไปจากโต๊ะเพื่อทิ้งการเจรจา" ก่อนหน้านี้ ทรัมป์กล่าวถึงเรื่องการเจรจากับอิหร่านว่า: "จะมีวันที่น่าสนใจอีกหลายวันข้างหน้ากับอิหร่าน เราเหลือเวลาอีกแค่ไม่กี่เล็กน้อยกับอิหร่านเท่านั้น เราไม่สามารถปล่อยให้พวกเขามีอาวุธนิวเคลียร์ได้ บางอย่างกำลังจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ ผมอยากได้ข้อตกลงสันติภาพมากกว่าทางเลือกอื่น แต่ทางเลือกอื่นก็อาจจะใช้แก้ปัญหาได้ เราจะรอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น"
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 282 มุมมอง 23 0 รีวิว
  • 1/
    อิหร่านปฏิเสธข้อเสนอของทรัมป์ในการพูดคุยเรื่องข้อตกลงนิวเคลียร์

    ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน อิหม่าม คาเมเนอี เพิ่งปฏิเสธข้อเสนอของทรัมป์ในการพูดคุยเรื่องข้อตกลงนิวเคลียร์ โดยยืนยันว่า เตหะรานจะไม่ยอมรับข้อเรียกร้องใดๆ หลังจากที่ทรัมป์เสนอให้มีการเจรจารอบใหม่ นอกจากนี้ เขายังประกาศด้วยว่าอิหร่านจะ “ไม่มีวัน” ยอมรับข้อเรียกร้องที่จะให้ใครมาควบคุมโครงการขีปนาวุธของตน

    นอกจากนี้ ผู้นำสูงสุดของอิหร่านยังกล่าาโจมตีสหรัฐว่าเป็นฝ่ายที่รังแกประเทศอื่น หากไม่มีใครทำตามความต้องการ "รัฐบาลที่รังแกผู้อื่น – และพูดตามตรง เรานึกไม่ออกจริงๆ ว่าจะมีคำใดที่ถูกต้องกว่าคำว่า “รังแก” สำหรับผู้นำและหัวหน้ารัฐต่างประเทศ (หมายถึงทรัมป์) เขายืนกรานให้มีการเจรจา แต่การเจรจาของพวกเขาไม่ใช่เพื่อแก้ไขปัญหา แต่เป็นเรื่องของอำนาจ พวกเขาใช้การเจรจาเป็นเครื่องมือเพื่อบังคับให้ทำตามข้อเรียกร้องของพวกเขา และหากอีกฝ่ายไม่ยอมรับ พวกเขาก็จะหาเหตุผลสร้างความวุ่นวาย โดยกล่าวหาว่าอีกฝ่ายเริ่มเป็นฝ่ายเริ่มต้นเดินออกไปจากโต๊ะเพื่อทิ้งการเจรจา"

    ก่อนหน้านี้ ทรัมป์กล่าวถึงเรื่องการเจรจากับอิหร่านว่า:
    "จะมีวันที่น่าสนใจอีกหลายวันข้างหน้ากับอิหร่าน เราเหลือเวลาอีกแค่ไม่กี่เล็กน้อยกับอิหร่านเท่านั้น เราไม่สามารถปล่อยให้พวกเขามีอาวุธนิวเคลียร์ได้ บางอย่างกำลังจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ ผมอยากได้ข้อตกลงสันติภาพมากกว่าทางเลือกอื่น แต่ทางเลือกอื่นก็อาจจะใช้แก้ปัญหาได้ เราจะรอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น"
    1/ อิหร่านปฏิเสธข้อเสนอของทรัมป์ในการพูดคุยเรื่องข้อตกลงนิวเคลียร์ ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน อิหม่าม คาเมเนอี เพิ่งปฏิเสธข้อเสนอของทรัมป์ในการพูดคุยเรื่องข้อตกลงนิวเคลียร์ โดยยืนยันว่า เตหะรานจะไม่ยอมรับข้อเรียกร้องใดๆ หลังจากที่ทรัมป์เสนอให้มีการเจรจารอบใหม่ นอกจากนี้ เขายังประกาศด้วยว่าอิหร่านจะ “ไม่มีวัน” ยอมรับข้อเรียกร้องที่จะให้ใครมาควบคุมโครงการขีปนาวุธของตน นอกจากนี้ ผู้นำสูงสุดของอิหร่านยังกล่าาโจมตีสหรัฐว่าเป็นฝ่ายที่รังแกประเทศอื่น หากไม่มีใครทำตามความต้องการ "รัฐบาลที่รังแกผู้อื่น – และพูดตามตรง เรานึกไม่ออกจริงๆ ว่าจะมีคำใดที่ถูกต้องกว่าคำว่า “รังแก” สำหรับผู้นำและหัวหน้ารัฐต่างประเทศ (หมายถึงทรัมป์) เขายืนกรานให้มีการเจรจา แต่การเจรจาของพวกเขาไม่ใช่เพื่อแก้ไขปัญหา แต่เป็นเรื่องของอำนาจ พวกเขาใช้การเจรจาเป็นเครื่องมือเพื่อบังคับให้ทำตามข้อเรียกร้องของพวกเขา และหากอีกฝ่ายไม่ยอมรับ พวกเขาก็จะหาเหตุผลสร้างความวุ่นวาย โดยกล่าวหาว่าอีกฝ่ายเริ่มเป็นฝ่ายเริ่มต้นเดินออกไปจากโต๊ะเพื่อทิ้งการเจรจา" ก่อนหน้านี้ ทรัมป์กล่าวถึงเรื่องการเจรจากับอิหร่านว่า: "จะมีวันที่น่าสนใจอีกหลายวันข้างหน้ากับอิหร่าน เราเหลือเวลาอีกแค่ไม่กี่เล็กน้อยกับอิหร่านเท่านั้น เราไม่สามารถปล่อยให้พวกเขามีอาวุธนิวเคลียร์ได้ บางอย่างกำลังจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ ผมอยากได้ข้อตกลงสันติภาพมากกว่าทางเลือกอื่น แต่ทางเลือกอื่นก็อาจจะใช้แก้ปัญหาได้ เราจะรอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น"
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 202 มุมมอง 0 รีวิว
  • รีโพสต์จากเพจเฟซบุ๊กPaisan Apacnews ของ ไพสันต์พรหมน้อย 8 มีนาคม 2568“คาสิโนเหรอ...ผมสั่งรื้อมาแล้ว โดย นาวิน ขันธหิรัญเมื่อปี 2541กระทรวงได้ย้ายผมจากนครพนมมาเป็นผู้ว่าสระแก้ว ขณะนั้นปอยเปตในฝั่งเขมรกำลังบูมการก่อสร้างเมืองขนานใหญ่มีการสร้างEntertainment Complexขนาดใหญ่ที่มีCasinoอยู่ด้วยทุกแห่งและมีนักการเมืองใหญ่ทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายเขมรเป็นหุ้นส่วนและมีนายซ๊ก อาน มหาเศรษฐีชาวเขมรเป็นผู้ประสานงานเมื่อสร้างเสร็จก็มีการเชิญผู้ใหญ่ฝั่งไทยไปเยี่ยมชมและประชาสัมพันธ์ว่าสร้างขึ้น มาเพื่อรับแขกชาวไทยเป็นหลัก เพื่อเห็นแก่สัมพันธภาพผมก็ไปร่วมชมความเจริญของเพื่อนบ้าน เดินชมไปมาไปพบว่าคาสิโนแห่งหนึ่งปลูกล้ำคลองพรมแดนเข้ามาในเขตไทย ผมจึงเรียกผู้จัดการมาแจ้งให้ทราบว่าคุณสร้างคาสิโนรุกแผ่นดินไทยแล้วยื่นคำขาดให้รื้อถอนออกไป ผู้จัดการเถึยงคอเป็นเอ็นแล้วยืนยันว่าไม่มีใครรื้อได้เพราะเจ้าของใหญ่มากอยู่ในพนมเปญ ผมไม่อยากเถียงกับผู้จัดการจึงตัดบทไปว่า...ไม่เป็นไรถ้าไม่รื้อผมจะปิดพรมแดนไม่ให้คนไทยข้ามมา(ผู้ว่าสามารถเสนอรัฐบาลปิดพรมแดนได้) จากนั้นผมก็เดินทางกลับเช้าวันรุ่งขึ้น11.00น.หน้าห้องได้เข้ามารายงานว่า นายจุม คาดาล ประธานที่ปรึกษานายกฮุนเซนขอเข้าพบอะไรจะรวดเร็วขนาดนั้น ผมพูดเรื่องปิดพรมแดนไม่ถึง24ชั่วโมงประธานที่ปรึกษานายกเขมรก็ถึงตัวผมแล้วถึงตรงนี้เพื่อนๆคงรู้แล้วว่าใครเป็นเจ้าของสถานบริการครบวงจรที่ปอยเปตฝั่งเขมร แล้วฝั่งไทยล่ะ ประเดี๋ยวตัวละครจะค่อยๆโผล่ออกมาเองครับผมออกไปเชิญนายจุม คาดาล ประธานที่ปรึกษานายกด้วยตัวเองแล้วทักทายด้วยอัธยาศัยไมตรีแล้วเชิญเข้ามานั่งเจรจากันในห้องนายจุม คาดาล เล่าให้ผมฟังว่าเมื่อวานนี้เมื่อทราบข่าวว่าคาสิโนแห่งหนึ่งสร้างล้ำเข้าไปในแผ่นดินไทยท่านนายกได้สั่งการให้ผมไปดูข้อเท็จจริงและแก้ปัญหาโดยด่วน เช้านี้ผมเลยใช้ฮ.บินจากพนมเปญมาดูข้อเท็จจริงที่หน้างานพบว่าเป็นไปตามที่ท่านผู้ว่าทักท้วงจริงผมจึงนัดรถแบคโฮลเข้าพื้นที่เพื่อทำการรื้อถอนคาสิโนในส่วนที่ล้ำเข้ามาในแผ่นดินไทยและขอเชิญท่านผู้ว่าไปชี้ว่าจะให้รื้อเข้าไปแค่ไหน บ่ายวันนั้นผมและนายจุม คาดาล จึงไปควบคุมการรื้อคาสิโนเป็นที่เรียบร้อย ผมทวงแผ่นดินไทยกลับมาได้ด้วยศิลปของนักปกครองโดยไม่ต้องเสียเลือดเนื้อและชีวิต ซึ่งน่าจะได้รับคำชมเชยแต่มันไม่เป็นเช่นนั้นครับไม่ถึงเดือนต่อมาก็มีคำสั่งย้ายผมจากสระแก้วไปสมุทรสงครามซึ่งเป็นจังหวัดเล็กกว่าในสายตาของชาวมหาดไทยถือว่าเป็นการลงโทษผมจึงถามผู้บังคับบัญชาว่าย้ายผมทำไมครับท่านตอบว่าคุณไม่รู้หรือว่าคาสิโนนี้เป็นของใคร ท่านขอให้ย้ายคุณเป็นผู้ตรวจด้วยซ้ำ แต่ทางกระทรวงทักท้วงไว้ว่าคุณไม่ได้มีความผิดอะไร แถมยังรักษาแผ่นดินไว้ให้คนไทย เอาแค่ย้ายออกจากสระแก้วและให้ลงจังหวัดเล็กลงก็น่าจะเพียงพอสำหรับผมย้ายไปจังหวัดไหนก็ทำงานได้ทั้งนั้นจังหวัดเล็กลงยิ่งทำงานง่ายขึ้นเมื่อไปรับงานที่สมุทรสงครามผมก็ทำงานอย่างมีความสุข แต่มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งท่านข้องใจไม่หายว่าทำไมผมถูกย้ายลงจังหวัดเล็กลง ทั้งๆที่ผมไม่เคยบอกท่าน ท่านผู้นั้นคือพลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ………………………..ถึงตอนนี้เพื่อนๆคงรู้แล้วว่านักการเมืองใหญ่ที่เป็นหุ้นส่วนสถานบันเทิงครบวงจรในปอยเปตนั้นคือใครถ้านึกไม่ออกผมจะบอกให้เจ้าพ่อวังน้ำเย็นไงครับและเป็นคนที่สั่งย้ายผมด้วย ..ถามว่าก่อนสั่งผมรู้ไหมว่าคาสิโนแห่งนี้เป็นของสองผู้ยิ่งใหญ่คู่นี้รู้ครับวันที่ผมสั่งผู้จัดการให้รื้ิอคาสิโนแกตกใจปากคอสั่นและยืนยีนว่ารื้อไม่ได้เป็นอันขาดเพราะเป็นของผู้ใหญ่ในพนมเปญ ซึ่งผมรู้อยู่แล้วว่าเป็นใคร จึงตัดบทไม่เจรจาด้วยส่วนเจ้าพ่อรู้สึกเสียฟอร์มที่คุ้มครองคาสิโนไม่ได้โดยเฉพาะกับฮุนเซนทางเดียวที่พอจะกู้หน้าได้คือเตะโด่งผู้ว่าไปให้พ้นหูพ้นตาเสียจะได้ไม่มายุ่งกับสถานบันเทิงของท่านอีกสะใจจริงๆนาวินใช้ชีวิตได้ผาดโผนน่าสนุกรื้อคาสิโนของนายกบ้าง ของเจ้าพ่อบ้างปัจจุบันรัฐบาลไทยกำลังจะสร้างสถานบันเทิงครบวงจรตามอย่างเขมร ผมอาจจะต้องออกมาช่วยพี่น้องชาวไทยรื้อคาสิโนในเมืองไทยอีกครั้งก็ได้ครับก่อนจบภาคแรกไปผมโปรยทิ้งไว้ว่า มีผู้ใหญ้ท่านหนึ่งข้องใจไม่หายว่าผมถูกย้ายเพราะอะไรท่านนั้นคือพลเอก เปรม ติณสูลานนท์เพื่อนๆคงสงสัยว่าท่านมาเกี่ยวข้องกับผมได้อย่างไรจึงขอย้อนอดีตเล็กน้อย..เมื่อปี 2530กรมย้ายผมมาเป็นนายอำเภอสามพรานโดยอธิบดีดำรง สุนทรศาลทูล เลือกเอามาเองเพราะว่าบ้านอธิบดีอยู่สามพราน เมื่อมารับงานก็พบว่าพลเอกเปรม..รัฐบุรุษท่านตีกอล์ฟอยู่ที่สนามสามพรานทุกอาทิตย์ผมเป็นเจ้าของพื้นที่จึงไปต้อนรับท่าน ปรากฏว่าท่านถูกใจอะไรไม่ทราบชวนผมไปตีกอล์ฟก๊วนเดียวกับท่าน ซึ่งปกติจะไม่มีใครมีโอกาสเข้าร่วมก๊วนเลย ท่านจะตีอยู่กับหมอประสบ รัตนากร เพื่อนท่านและนายทหารคนสนิทเท่านั้นในก๊วนไม่มีการพนันเล่นเพื่อออกกำลังกายเฉยๆ ผมเล่นก๊อล์ฟกับท่านรัฐบุรุษเป็นเวลาหลายปีจนสนิทกันเหมือนญาติผู้ใหญ่ผมได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ว่านครพนมท่านก็เดินทางไปเยี่ยมผม พอผมถูกย้ายมาสมุทรสงครามท่านก็มาอีกและบอกผู้ติดตามทั้งหลายว่าขอคุยกับท่านผู้ว่าเป็นการส่วนตัวดังภาพ...ทันทีที่อยู่กันสองต่อสองท่านก็ยิงคำถามใส่ผมทันที ...ผู้ว่าถูกย้ายเพราะไร ผมไปสั่งรื้อคาสิโนของนายกเขมรและนักการเมืองไทยที่ปลูกล้ำพรมแดนไทยครับ.,..ผมตอบ ...เอางั้นเลยเหรอ แล้วใครสั่งย้ายนักการเมืองไทยครับเขาคงเสียหน้า ท่านพยักหน้ารับทราบและดูยิ้มแย้มขี้น จากนั้นผมก็ส่งท่านขึ้นรถกลับพรัอมทั้งผมถอนหายใจใหญ่โล่งอกที่ไม่ได้ทำให้ท่านรัฐบุรุษผิดหวังท่านเป็นคนสะอาดมากนะครับและจะไม่ยอมให้คนสีเทาเข้ามาใกล้ตัว………………………..ขอคารวะคุณนาวิน ขันธหิรัญ อดีตผู้ว่าสระแก้วที่หาญกล้าทำให้ 2 มหามาเฟียทั้งไทยและเขมรยอมรื้อคาสิโนเขมรที่รุกล้ำพรมแดนไทย สุดยอดจริง ๆ ขอให้ท่านนำการรื้อในไทยอีกนะ ถ้ามาเฟียคนเดิมของเขมรและคนใหม่ไทยในก๊วนเก่าลงมือสร้างขึ้นอีก เท่าที่รวบรวมได้คุณนาวินเป็นผู้ว่าฯจ.นครพนม,จ.สระแก้ว จ.สมุทรสงคราม และเกษียณอายุราชการวันที่ 1 ตุลาคม 2547จากผู้ว่าฯจ.นครปฐม (นักปกครอง 10 ) เพราะอายุครบ 60 ปี ปัจจุบันท่านจะมีอายุ 80 ปีเศษ( บรรยายภาพ - เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 25 เมษายน 2556 นายนาวิน ขันธหิรัญ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ให้เกียรติมาบรรยายพิเศษให้แก่นักศึกษาหลักสูตรปลัดอำเภอ รุ่นที่ 201 รุ่นที่ 202 และรุ่นที่ 203 ในหัวข้อ "ประสบการณ์นักปกครองในการแก้ไขปัญหายาเสพติด" ณ ห้องประชุมใหญ่ ชั้น 4 อาคารสำนักอธิการ วิทยาลัยการปกครอง)”
    รีโพสต์จากเพจเฟซบุ๊กPaisan Apacnews ของ ไพสันต์พรหมน้อย 8 มีนาคม 2568“คาสิโนเหรอ...ผมสั่งรื้อมาแล้ว โดย นาวิน ขันธหิรัญเมื่อปี 2541กระทรวงได้ย้ายผมจากนครพนมมาเป็นผู้ว่าสระแก้ว ขณะนั้นปอยเปตในฝั่งเขมรกำลังบูมการก่อสร้างเมืองขนานใหญ่มีการสร้างEntertainment Complexขนาดใหญ่ที่มีCasinoอยู่ด้วยทุกแห่งและมีนักการเมืองใหญ่ทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายเขมรเป็นหุ้นส่วนและมีนายซ๊ก อาน มหาเศรษฐีชาวเขมรเป็นผู้ประสานงานเมื่อสร้างเสร็จก็มีการเชิญผู้ใหญ่ฝั่งไทยไปเยี่ยมชมและประชาสัมพันธ์ว่าสร้างขึ้น มาเพื่อรับแขกชาวไทยเป็นหลัก เพื่อเห็นแก่สัมพันธภาพผมก็ไปร่วมชมความเจริญของเพื่อนบ้าน เดินชมไปมาไปพบว่าคาสิโนแห่งหนึ่งปลูกล้ำคลองพรมแดนเข้ามาในเขตไทย ผมจึงเรียกผู้จัดการมาแจ้งให้ทราบว่าคุณสร้างคาสิโนรุกแผ่นดินไทยแล้วยื่นคำขาดให้รื้อถอนออกไป ผู้จัดการเถึยงคอเป็นเอ็นแล้วยืนยันว่าไม่มีใครรื้อได้เพราะเจ้าของใหญ่มากอยู่ในพนมเปญ ผมไม่อยากเถียงกับผู้จัดการจึงตัดบทไปว่า...ไม่เป็นไรถ้าไม่รื้อผมจะปิดพรมแดนไม่ให้คนไทยข้ามมา(ผู้ว่าสามารถเสนอรัฐบาลปิดพรมแดนได้) จากนั้นผมก็เดินทางกลับเช้าวันรุ่งขึ้น11.00น.หน้าห้องได้เข้ามารายงานว่า นายจุม คาดาล ประธานที่ปรึกษานายกฮุนเซนขอเข้าพบอะไรจะรวดเร็วขนาดนั้น ผมพูดเรื่องปิดพรมแดนไม่ถึง24ชั่วโมงประธานที่ปรึกษานายกเขมรก็ถึงตัวผมแล้วถึงตรงนี้เพื่อนๆคงรู้แล้วว่าใครเป็นเจ้าของสถานบริการครบวงจรที่ปอยเปตฝั่งเขมร แล้วฝั่งไทยล่ะ ประเดี๋ยวตัวละครจะค่อยๆโผล่ออกมาเองครับผมออกไปเชิญนายจุม คาดาล ประธานที่ปรึกษานายกด้วยตัวเองแล้วทักทายด้วยอัธยาศัยไมตรีแล้วเชิญเข้ามานั่งเจรจากันในห้องนายจุม คาดาล เล่าให้ผมฟังว่าเมื่อวานนี้เมื่อทราบข่าวว่าคาสิโนแห่งหนึ่งสร้างล้ำเข้าไปในแผ่นดินไทยท่านนายกได้สั่งการให้ผมไปดูข้อเท็จจริงและแก้ปัญหาโดยด่วน เช้านี้ผมเลยใช้ฮ.บินจากพนมเปญมาดูข้อเท็จจริงที่หน้างานพบว่าเป็นไปตามที่ท่านผู้ว่าทักท้วงจริงผมจึงนัดรถแบคโฮลเข้าพื้นที่เพื่อทำการรื้อถอนคาสิโนในส่วนที่ล้ำเข้ามาในแผ่นดินไทยและขอเชิญท่านผู้ว่าไปชี้ว่าจะให้รื้อเข้าไปแค่ไหน บ่ายวันนั้นผมและนายจุม คาดาล จึงไปควบคุมการรื้อคาสิโนเป็นที่เรียบร้อย ผมทวงแผ่นดินไทยกลับมาได้ด้วยศิลปของนักปกครองโดยไม่ต้องเสียเลือดเนื้อและชีวิต ซึ่งน่าจะได้รับคำชมเชยแต่มันไม่เป็นเช่นนั้นครับไม่ถึงเดือนต่อมาก็มีคำสั่งย้ายผมจากสระแก้วไปสมุทรสงครามซึ่งเป็นจังหวัดเล็กกว่าในสายตาของชาวมหาดไทยถือว่าเป็นการลงโทษผมจึงถามผู้บังคับบัญชาว่าย้ายผมทำไมครับท่านตอบว่าคุณไม่รู้หรือว่าคาสิโนนี้เป็นของใคร ท่านขอให้ย้ายคุณเป็นผู้ตรวจด้วยซ้ำ แต่ทางกระทรวงทักท้วงไว้ว่าคุณไม่ได้มีความผิดอะไร แถมยังรักษาแผ่นดินไว้ให้คนไทย เอาแค่ย้ายออกจากสระแก้วและให้ลงจังหวัดเล็กลงก็น่าจะเพียงพอสำหรับผมย้ายไปจังหวัดไหนก็ทำงานได้ทั้งนั้นจังหวัดเล็กลงยิ่งทำงานง่ายขึ้นเมื่อไปรับงานที่สมุทรสงครามผมก็ทำงานอย่างมีความสุข แต่มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งท่านข้องใจไม่หายว่าทำไมผมถูกย้ายลงจังหวัดเล็กลง ทั้งๆที่ผมไม่เคยบอกท่าน ท่านผู้นั้นคือพลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ………………………..ถึงตอนนี้เพื่อนๆคงรู้แล้วว่านักการเมืองใหญ่ที่เป็นหุ้นส่วนสถานบันเทิงครบวงจรในปอยเปตนั้นคือใครถ้านึกไม่ออกผมจะบอกให้เจ้าพ่อวังน้ำเย็นไงครับและเป็นคนที่สั่งย้ายผมด้วย ..ถามว่าก่อนสั่งผมรู้ไหมว่าคาสิโนแห่งนี้เป็นของสองผู้ยิ่งใหญ่คู่นี้รู้ครับวันที่ผมสั่งผู้จัดการให้รื้ิอคาสิโนแกตกใจปากคอสั่นและยืนยีนว่ารื้อไม่ได้เป็นอันขาดเพราะเป็นของผู้ใหญ่ในพนมเปญ ซึ่งผมรู้อยู่แล้วว่าเป็นใคร จึงตัดบทไม่เจรจาด้วยส่วนเจ้าพ่อรู้สึกเสียฟอร์มที่คุ้มครองคาสิโนไม่ได้โดยเฉพาะกับฮุนเซนทางเดียวที่พอจะกู้หน้าได้คือเตะโด่งผู้ว่าไปให้พ้นหูพ้นตาเสียจะได้ไม่มายุ่งกับสถานบันเทิงของท่านอีกสะใจจริงๆนาวินใช้ชีวิตได้ผาดโผนน่าสนุกรื้อคาสิโนของนายกบ้าง ของเจ้าพ่อบ้างปัจจุบันรัฐบาลไทยกำลังจะสร้างสถานบันเทิงครบวงจรตามอย่างเขมร ผมอาจจะต้องออกมาช่วยพี่น้องชาวไทยรื้อคาสิโนในเมืองไทยอีกครั้งก็ได้ครับก่อนจบภาคแรกไปผมโปรยทิ้งไว้ว่า มีผู้ใหญ้ท่านหนึ่งข้องใจไม่หายว่าผมถูกย้ายเพราะอะไรท่านนั้นคือพลเอก เปรม ติณสูลานนท์เพื่อนๆคงสงสัยว่าท่านมาเกี่ยวข้องกับผมได้อย่างไรจึงขอย้อนอดีตเล็กน้อย..เมื่อปี 2530กรมย้ายผมมาเป็นนายอำเภอสามพรานโดยอธิบดีดำรง สุนทรศาลทูล เลือกเอามาเองเพราะว่าบ้านอธิบดีอยู่สามพราน เมื่อมารับงานก็พบว่าพลเอกเปรม..รัฐบุรุษท่านตีกอล์ฟอยู่ที่สนามสามพรานทุกอาทิตย์ผมเป็นเจ้าของพื้นที่จึงไปต้อนรับท่าน ปรากฏว่าท่านถูกใจอะไรไม่ทราบชวนผมไปตีกอล์ฟก๊วนเดียวกับท่าน ซึ่งปกติจะไม่มีใครมีโอกาสเข้าร่วมก๊วนเลย ท่านจะตีอยู่กับหมอประสบ รัตนากร เพื่อนท่านและนายทหารคนสนิทเท่านั้นในก๊วนไม่มีการพนันเล่นเพื่อออกกำลังกายเฉยๆ ผมเล่นก๊อล์ฟกับท่านรัฐบุรุษเป็นเวลาหลายปีจนสนิทกันเหมือนญาติผู้ใหญ่ผมได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ว่านครพนมท่านก็เดินทางไปเยี่ยมผม พอผมถูกย้ายมาสมุทรสงครามท่านก็มาอีกและบอกผู้ติดตามทั้งหลายว่าขอคุยกับท่านผู้ว่าเป็นการส่วนตัวดังภาพ...ทันทีที่อยู่กันสองต่อสองท่านก็ยิงคำถามใส่ผมทันที ...ผู้ว่าถูกย้ายเพราะไร ผมไปสั่งรื้อคาสิโนของนายกเขมรและนักการเมืองไทยที่ปลูกล้ำพรมแดนไทยครับ.,..ผมตอบ ...เอางั้นเลยเหรอ แล้วใครสั่งย้ายนักการเมืองไทยครับเขาคงเสียหน้า ท่านพยักหน้ารับทราบและดูยิ้มแย้มขี้น จากนั้นผมก็ส่งท่านขึ้นรถกลับพรัอมทั้งผมถอนหายใจใหญ่โล่งอกที่ไม่ได้ทำให้ท่านรัฐบุรุษผิดหวังท่านเป็นคนสะอาดมากนะครับและจะไม่ยอมให้คนสีเทาเข้ามาใกล้ตัว………………………..ขอคารวะคุณนาวิน ขันธหิรัญ อดีตผู้ว่าสระแก้วที่หาญกล้าทำให้ 2 มหามาเฟียทั้งไทยและเขมรยอมรื้อคาสิโนเขมรที่รุกล้ำพรมแดนไทย สุดยอดจริง ๆ ขอให้ท่านนำการรื้อในไทยอีกนะ ถ้ามาเฟียคนเดิมของเขมรและคนใหม่ไทยในก๊วนเก่าลงมือสร้างขึ้นอีก เท่าที่รวบรวมได้คุณนาวินเป็นผู้ว่าฯจ.นครพนม,จ.สระแก้ว จ.สมุทรสงคราม และเกษียณอายุราชการวันที่ 1 ตุลาคม 2547จากผู้ว่าฯจ.นครปฐม (นักปกครอง 10 ) เพราะอายุครบ 60 ปี ปัจจุบันท่านจะมีอายุ 80 ปีเศษ( บรรยายภาพ - เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 25 เมษายน 2556 นายนาวิน ขันธหิรัญ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ให้เกียรติมาบรรยายพิเศษให้แก่นักศึกษาหลักสูตรปลัดอำเภอ รุ่นที่ 201 รุ่นที่ 202 และรุ่นที่ 203 ในหัวข้อ "ประสบการณ์นักปกครองในการแก้ไขปัญหายาเสพติด" ณ ห้องประชุมใหญ่ ชั้น 4 อาคารสำนักอธิการ วิทยาลัยการปกครอง)”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 241 มุมมอง 0 รีวิว
  • "พิชัย" ผุดไอเดีย ปลูกกล้วยแทนทำนา แก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำ
    https://www.thai-tai.tv/news/17523/
    "พิชัย" ผุดไอเดีย ปลูกกล้วยแทนทำนา แก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำ https://www.thai-tai.tv/news/17523/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 84 มุมมอง 0 รีวิว
  • AMD FSR 4 เป็นเทคโนโลยีการยกระดับภาพใหม่ล่าสุดจาก AMD ที่ได้รับการยกย่องว่ามีคุณภาพของภาพที่ดีกว่า FSR 3 และ DLSS ของ NVIDIA แม้จะยังไม่ถึงคุณภาพของ DLSS 4 ที่ใช้โมเดล Transformer ใหม่ก็ตาม

    Digital Foundry ได้ทำการทดสอบและพบว่า FSR 4 มีการปรับปรุงในหลายด้าน เช่น การแก้ปัญหาภาพเหลื่อม (ghosting) ที่เห็นได้ชัดเจนจาก FSR 3 โดยเฉพาะในฉากที่มีการเคลื่อนไหวซับซ้อน การแสดงผลที่มีความละเอียดสูงขึ้น และการลดความผิดเพี้ยนในภาพที่มีการเคลื่อนไหวต่ำ

    อย่างไรก็ตาม FSR 4 มีค่าใช้จ่ายในการประมวลผลสูงกว่า FSR 3 ประมาณ 8% ในฉากเปิดของเกม Ratchet & Clank: Rift Apart ถึงแม้ว่าค่าใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้น แต่ Digital Foundry ระบุว่าความสามารถในการปรับปรุงคุณภาพของภาพนั้นคุ้มค่า

    "ค่าใช้จ่ายในการประมวลผล" หมายถึงทรัพยากรที่ระบบคอมพิวเตอร์ต้องใช้ในการดำเนินการประมวลผลข้อมูล โดยรวมถึงการใช้พลังงาน การทำงานของ CPU และ GPU และหน่วยความจำที่ใช้ในการประมวลผล

    เมื่อเปรียบเทียบกับ DLSS ของ NVIDIA ที่ใช้โมเดล CNN แบบเก่า FSR 4 สามารถให้ภาพที่มีรายละเอียดมากกว่าในบางกรณี เช่น วัตถุที่ไม่เคลื่อนไหวหรือมีความเร็วต่ำ แต่เมื่อเทียบกับ DLSS ที่ใช้โมเดล Transformer ใหม่ NVIDIA ยังคงเป็นผู้นำในการแสดงรายละเอียดของภาพ

    FSR 4 จะใช้งานได้เฉพาะกับการ์ดกราฟิก RDNA 4 ของ AMD ซึ่งรวมถึง RX 9070 และ RX 9070 XT การทดสอบเบื้องต้นระบุว่าการ์ดกราฟิกรุ่นใหม่นี้นำความคุ้มค่าและประสิทธิภาพที่ดีขึ้นให้กับการเล่นเกมที่ความละเอียด 4K และ 1440p

    https://wccftech.com/amd-fsr-4-better-fsr3-dlss-cnn/
    AMD FSR 4 เป็นเทคโนโลยีการยกระดับภาพใหม่ล่าสุดจาก AMD ที่ได้รับการยกย่องว่ามีคุณภาพของภาพที่ดีกว่า FSR 3 และ DLSS ของ NVIDIA แม้จะยังไม่ถึงคุณภาพของ DLSS 4 ที่ใช้โมเดล Transformer ใหม่ก็ตาม Digital Foundry ได้ทำการทดสอบและพบว่า FSR 4 มีการปรับปรุงในหลายด้าน เช่น การแก้ปัญหาภาพเหลื่อม (ghosting) ที่เห็นได้ชัดเจนจาก FSR 3 โดยเฉพาะในฉากที่มีการเคลื่อนไหวซับซ้อน การแสดงผลที่มีความละเอียดสูงขึ้น และการลดความผิดเพี้ยนในภาพที่มีการเคลื่อนไหวต่ำ อย่างไรก็ตาม FSR 4 มีค่าใช้จ่ายในการประมวลผลสูงกว่า FSR 3 ประมาณ 8% ในฉากเปิดของเกม Ratchet & Clank: Rift Apart ถึงแม้ว่าค่าใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้น แต่ Digital Foundry ระบุว่าความสามารถในการปรับปรุงคุณภาพของภาพนั้นคุ้มค่า "ค่าใช้จ่ายในการประมวลผล" หมายถึงทรัพยากรที่ระบบคอมพิวเตอร์ต้องใช้ในการดำเนินการประมวลผลข้อมูล โดยรวมถึงการใช้พลังงาน การทำงานของ CPU และ GPU และหน่วยความจำที่ใช้ในการประมวลผล เมื่อเปรียบเทียบกับ DLSS ของ NVIDIA ที่ใช้โมเดล CNN แบบเก่า FSR 4 สามารถให้ภาพที่มีรายละเอียดมากกว่าในบางกรณี เช่น วัตถุที่ไม่เคลื่อนไหวหรือมีความเร็วต่ำ แต่เมื่อเทียบกับ DLSS ที่ใช้โมเดล Transformer ใหม่ NVIDIA ยังคงเป็นผู้นำในการแสดงรายละเอียดของภาพ FSR 4 จะใช้งานได้เฉพาะกับการ์ดกราฟิก RDNA 4 ของ AMD ซึ่งรวมถึง RX 9070 และ RX 9070 XT การทดสอบเบื้องต้นระบุว่าการ์ดกราฟิกรุ่นใหม่นี้นำความคุ้มค่าและประสิทธิภาพที่ดีขึ้นให้กับการเล่นเกมที่ความละเอียด 4K และ 1440p https://wccftech.com/amd-fsr-4-better-fsr3-dlss-cnn/
    WCCFTECH.COM
    AMD FSR 4 is a Massive Leap Forward, Delivering Better Image Quality Than FSR 3, DLSS With CNN Model
    AMD FSR 4 is a big leap forward over the previous version of the upscaler, but still cannot reach the quality of the NVIDIA DLSS 4 Tranformer model
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 99 มุมมอง 0 รีวิว
  • สงครามการค้าระหว่างอเมริกากับหุ้นส่วนเศรษฐกิจและคู่ค้ารายใหญ่ที่สุด 3 ชาติยิ่งบานปลายขยายตัว หลังจากทรัมป์ยืนยันว่ามาตรการขึ้นอัตราภาษีศุลกากรที่เงื้อง่าอยู่ เริ่มมีผลบังคับใช้กับแคนาดา เม็กซิโก และจีนแน่นอนส่งผลให้ปักกิ่งและออตตาวาประกาศตอบโต้แบบทันควัน ขณะที่เม็กซิโกก็ระบุเอาคืนแน่นอน แต่ยังไม่ได้ให้รายละเอียด
    .
    หลังเวลาเที่ยงคืนของวันจันทร์ (3 มี.ค.) ตามเวลาภาคตะวันออกของสหรัฐฯ (ซึ่งช้ากว่าเวลาเมืองไทย 12 ชั่วโมง) สินค้าแคนาดาและเม็กซิโกที่นำเข้าไปยังอเมริกา ซึ่งมีมูลค่ารวมกันสูงกว่า 918,000 ล้านดอลลาร์จะถูกเรียกเก็บภาษีศุลกากรสูงขึ้น 25% รวด เวลาเดียวกันประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังรีดภาษีจากสินค้านำเข้าจากจีนสูงขึ้นอีก 10% จากที่เพิ่มขึ้นไปแล้ว 10% เมื่อเดือนกุมภาพันธ์
    .
    ด้านนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด แถลงว่า แคนาดาจะตอบโต้โดยเรียกเก็บภาษีศุลกากรเพิ่ม 25% จากสินค้าอเมริกันมูลค่ากว่า 100,000 ล้านดอลลาร์ในช่วง 21 วัน ขณะที่ประธานาธิบดี เกลาเดีย เชย์นเบาม์ ระบุว่าความเคลื่อนไหวช่นนี้ของสหรัฐฯไม่มีความชอบธรรม และประกาศจะตอบโต้กลับด้วยมาตรการภาษีของตัวเอง
    .
    ผู้นำหญิงของเม็กซิโกบอกว่า เธอจะประกาศรายการสินค้านำเข้าจากอเมริกาที่จะตกเป็นเป้าถูกขึ้นภาษีตอบโต้ในวันอาทิตย์ (9) นี้ ณ งานพิธีซึ่งกำหนดจัดขึ้นที่จัตุรัสใจกลางเมืองหลวงเม็กซิโกซิตี ท่าทีเช่นนี้ทำให้มองกันว่าการเลื่อนช้าออกไปเช่นนี้บ่งชี้ว่าเม็กซิโกยังคงมีความหวังที่จะเจรจาต่อรองกันก่อนเพื่อไม่ให้สงครามการค้าบานปลาย
    .
    แรกทีเดียวนั้น มาตรการภาษีศุลกากรสินค้าแคนาดาและเม็กซิโกจะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ทว่า ทรัมป์ตกลงขยายเวลาออกไป 30 วันเพื่อเจรจาเพิ่มเติมกับสองประเทศคู่ค้าใหญ่ที่สุดของอเมริกา สำหรับเหตุผลในการขึ้นภาษีคือ เพื่อให้สองประเทศเพื่อนบ้านนี้จัดการปัญหาการลักลอบขนยาเสพติด โดยเฉพาะ เฟนทานิล และปัญหาการลักลอบเข้าเมืองผ่านดินแดนของประเทศทั้งสองเข้ามายังสหรัฐฯ
    .
    ขณะที่ทั้งสองชาติต่างยืนยันว่า มีความคืบหน้าในการแก้ปัญหา ทว่า ทรัมป์กลับบอกเพิ่มเติมว่า จะลดภาษีศุลกากรต่อเมื่อการขาดดุลการค้าของอเมริกาต่อเม็กซิโกและแคนาดาสิ้นสุดลง ถึงแม้เรื่องหลังนี้ย่อมเป็นกระบวนการที่ไม่สามารถแก้ไขได้ตามกรอบเวลาทางการเมือง
    .
    มีผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์กันว่า มาตรการที่สหรัฐฯขึ้นภาษีศุลกากรกับแคนาดาและเม็กซิโก น่าจะส่งผลสะท้อนกลับกระทบถึงเศรษฐกิจอเมริกันอย่างแรงๆ และดังนั้นจึงอาจบังคับใช้ได้เพียงช่วงสั้นๆ และสิ่งที่ทรัมป์อาจเลือกกระทำต่อไป อาจเป็นการหันไปรีดภาษีจากสินค้านำเข้าจากสหภาพยุโรป และอินเดีย รวมทั้งพวก ชิปคอมพิวเตอร์ ยานยนต์ และยาเวชภัณฑ์นำเข้าเพิ่มมากขึ้น
    .
    ในส่วนของจีนนั้น ปักกิ่งประณามการบังคับใช้มาตรการ “ตามอำเภอใจฝ่ายเดียว” เช่นนี้ของอเมริกา และประกาศตอบโต้ทันทีด้วยการเรียกเก็บภาษีศุลกากรเพิ่ม 15% จากสินค้าเกษตรและอาหารของอเมริกามูลค่า 21,000 ล้านดอลลาร์ มีผลตั้งแต่สัปดาห์หน้า รวมทั้งเพิ่มบริษัทอเมริกันอีก 25 แห่งในบัญชีรายชื่อบริษัทที่ถูกจำกัดการส่งออกและการลงทุนภายใต้เหตุผลด้านความมั่นคงแห่งชาติ
    .
    ทั้งนี้ จีนเป็นตลาดใหญ่ที่สุดที่รองรับสินค้าเกษตรของอเมริกา โดยปีที่แล้ว แม้จีนนำเข้าสินค้าเกษตรสหรัฐฯ ลดลงเป็นปีที่สอง แต่ก็ยังคงมีมูลค่าถึง 29,250 ล้านดอลลาร์ เท่าที่ผ่านมาภาคเศรษฐกิจนี้มักถูกใช้เป็นกระสอบทรายในยามที่สถานการณ์การค้าระหว่าง 2 ประเทศตึงเครียด โดยเฉพาะในเมื่อพวกรัฐที่เศรษฐกิจพึ่งพาการเกษตรอย่างมาก ยังเป็นพวกรัฐฐานเสียงของทรัมป์และรีพับลิกันอีกด้วย
    .
    ในวันอังคาร (3) กระทรวงการต่างประเทศจีนออกมาแถลงว่า จีนจะไม่ยอมจำนนต่อการรังแกหรือข่มขู่ และสำทับว่า การพยายามกดดันจีนเป็นการคำนวณผิดพลาด
    .
    อย่างไรก็ดี พวกนักวิเคราะห์เชื่อว่า ปักกิ่งยังหวังว่าจะสามารถเปิดการเจรจาสงบศึกกับคณะบริหารของทรัมป์ จึงกำหนดภาษีตอบโต้ในอัตราต่ำกว่า 20% เพื่อให้คณะผู้เจรจาของตนสามารถต่อรองและบรรลุข้อตกลงได้สำเร็จ ทว่าเมื่อการตอบโต้กันไปมาชักบานปลายออกไป มันก็อาจลดโอกาสที่ทั้งสองฝ่ายจะประนีประนอมกันได้
    .
    เวลาเดียวกัน สำนักข่าวเอพีเสนอรายงานข่าวที่ระบุว่า ผู้นำสหรัฐฯ กำลังทำให้เศรษฐกิจของทั่วโลกผันผวนและไร้ความแน่นอน เนื่องจากไม่มีใครคาดเดาได้ว่า ทรัมป์จะทำอะไรต่อไป
    .
    การเรียกเก็บภาษีศุลกากรสินค้าแคนาดาและเม็กซิโกแบบเหวี่ยงแหยังมีแนวโน้มส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานของภาคอุตสาหกรรมสำคัญ เช่น ยานยนต์และวัสดุก่อสร้าง และเสี่ยงทำให้ค่าครองชีพของประชาชนเพิ่มขึ้น
    .
    นักเศรษฐศาสตร์ตั้งข้อสังเกตว่า มาตรการภาษีของทรัมป์อาจทำให้ราคาผู้บริโภคในสหรัฐฯพุ่งขึ้น และเพิ่มความกดดันต่อการเติบโตและการจ้างงานในอเมริกา
    .
    มูลนิธิแท็กซ์ ฟาวน์เดชัน ของสหรัฐฯประเมินว่า มาตรการภาษีต่อแคนาดา เม็กซิโก และจีนจะทำให้อัตราเติบโตของอเมริกาหายไป 0.1% ทั้งนี้ ยังไม่คำนวณผลกระทบจากมาตรการตอบโต้ของทั้งสามชาติ
    .
    ไดแอน สวองค์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเคพีเอ็มจี เตือนว่า ถ้าทรัมป์ยังเดินตามแผนรีดภาษีต่อไป อัตราภาษีศุลกากรของอเมริกาอาจเพิ่มขึ้นถึงระดับสูงสุดนับจากปี 1936 ภายในต้นปีหน้า โดยที่ทั้งผู้บริโภคและผู้ผลิตของสหรัฐฯจะต้องเป็นผู้รับภาระหนักจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากภาษีศุลกากร ซึ่งอาจส่งผลตามมาทำให้ดีมานด์ลดลง และภาคธุรกิจต้องปลดพนักงานเพื่อควบคุมต้นทุน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000021232
    ..............
    Sondhi X
    สงครามการค้าระหว่างอเมริกากับหุ้นส่วนเศรษฐกิจและคู่ค้ารายใหญ่ที่สุด 3 ชาติยิ่งบานปลายขยายตัว หลังจากทรัมป์ยืนยันว่ามาตรการขึ้นอัตราภาษีศุลกากรที่เงื้อง่าอยู่ เริ่มมีผลบังคับใช้กับแคนาดา เม็กซิโก และจีนแน่นอนส่งผลให้ปักกิ่งและออตตาวาประกาศตอบโต้แบบทันควัน ขณะที่เม็กซิโกก็ระบุเอาคืนแน่นอน แต่ยังไม่ได้ให้รายละเอียด . หลังเวลาเที่ยงคืนของวันจันทร์ (3 มี.ค.) ตามเวลาภาคตะวันออกของสหรัฐฯ (ซึ่งช้ากว่าเวลาเมืองไทย 12 ชั่วโมง) สินค้าแคนาดาและเม็กซิโกที่นำเข้าไปยังอเมริกา ซึ่งมีมูลค่ารวมกันสูงกว่า 918,000 ล้านดอลลาร์จะถูกเรียกเก็บภาษีศุลกากรสูงขึ้น 25% รวด เวลาเดียวกันประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังรีดภาษีจากสินค้านำเข้าจากจีนสูงขึ้นอีก 10% จากที่เพิ่มขึ้นไปแล้ว 10% เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ . ด้านนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด แถลงว่า แคนาดาจะตอบโต้โดยเรียกเก็บภาษีศุลกากรเพิ่ม 25% จากสินค้าอเมริกันมูลค่ากว่า 100,000 ล้านดอลลาร์ในช่วง 21 วัน ขณะที่ประธานาธิบดี เกลาเดีย เชย์นเบาม์ ระบุว่าความเคลื่อนไหวช่นนี้ของสหรัฐฯไม่มีความชอบธรรม และประกาศจะตอบโต้กลับด้วยมาตรการภาษีของตัวเอง . ผู้นำหญิงของเม็กซิโกบอกว่า เธอจะประกาศรายการสินค้านำเข้าจากอเมริกาที่จะตกเป็นเป้าถูกขึ้นภาษีตอบโต้ในวันอาทิตย์ (9) นี้ ณ งานพิธีซึ่งกำหนดจัดขึ้นที่จัตุรัสใจกลางเมืองหลวงเม็กซิโกซิตี ท่าทีเช่นนี้ทำให้มองกันว่าการเลื่อนช้าออกไปเช่นนี้บ่งชี้ว่าเม็กซิโกยังคงมีความหวังที่จะเจรจาต่อรองกันก่อนเพื่อไม่ให้สงครามการค้าบานปลาย . แรกทีเดียวนั้น มาตรการภาษีศุลกากรสินค้าแคนาดาและเม็กซิโกจะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ทว่า ทรัมป์ตกลงขยายเวลาออกไป 30 วันเพื่อเจรจาเพิ่มเติมกับสองประเทศคู่ค้าใหญ่ที่สุดของอเมริกา สำหรับเหตุผลในการขึ้นภาษีคือ เพื่อให้สองประเทศเพื่อนบ้านนี้จัดการปัญหาการลักลอบขนยาเสพติด โดยเฉพาะ เฟนทานิล และปัญหาการลักลอบเข้าเมืองผ่านดินแดนของประเทศทั้งสองเข้ามายังสหรัฐฯ . ขณะที่ทั้งสองชาติต่างยืนยันว่า มีความคืบหน้าในการแก้ปัญหา ทว่า ทรัมป์กลับบอกเพิ่มเติมว่า จะลดภาษีศุลกากรต่อเมื่อการขาดดุลการค้าของอเมริกาต่อเม็กซิโกและแคนาดาสิ้นสุดลง ถึงแม้เรื่องหลังนี้ย่อมเป็นกระบวนการที่ไม่สามารถแก้ไขได้ตามกรอบเวลาทางการเมือง . มีผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์กันว่า มาตรการที่สหรัฐฯขึ้นภาษีศุลกากรกับแคนาดาและเม็กซิโก น่าจะส่งผลสะท้อนกลับกระทบถึงเศรษฐกิจอเมริกันอย่างแรงๆ และดังนั้นจึงอาจบังคับใช้ได้เพียงช่วงสั้นๆ และสิ่งที่ทรัมป์อาจเลือกกระทำต่อไป อาจเป็นการหันไปรีดภาษีจากสินค้านำเข้าจากสหภาพยุโรป และอินเดีย รวมทั้งพวก ชิปคอมพิวเตอร์ ยานยนต์ และยาเวชภัณฑ์นำเข้าเพิ่มมากขึ้น . ในส่วนของจีนนั้น ปักกิ่งประณามการบังคับใช้มาตรการ “ตามอำเภอใจฝ่ายเดียว” เช่นนี้ของอเมริกา และประกาศตอบโต้ทันทีด้วยการเรียกเก็บภาษีศุลกากรเพิ่ม 15% จากสินค้าเกษตรและอาหารของอเมริกามูลค่า 21,000 ล้านดอลลาร์ มีผลตั้งแต่สัปดาห์หน้า รวมทั้งเพิ่มบริษัทอเมริกันอีก 25 แห่งในบัญชีรายชื่อบริษัทที่ถูกจำกัดการส่งออกและการลงทุนภายใต้เหตุผลด้านความมั่นคงแห่งชาติ . ทั้งนี้ จีนเป็นตลาดใหญ่ที่สุดที่รองรับสินค้าเกษตรของอเมริกา โดยปีที่แล้ว แม้จีนนำเข้าสินค้าเกษตรสหรัฐฯ ลดลงเป็นปีที่สอง แต่ก็ยังคงมีมูลค่าถึง 29,250 ล้านดอลลาร์ เท่าที่ผ่านมาภาคเศรษฐกิจนี้มักถูกใช้เป็นกระสอบทรายในยามที่สถานการณ์การค้าระหว่าง 2 ประเทศตึงเครียด โดยเฉพาะในเมื่อพวกรัฐที่เศรษฐกิจพึ่งพาการเกษตรอย่างมาก ยังเป็นพวกรัฐฐานเสียงของทรัมป์และรีพับลิกันอีกด้วย . ในวันอังคาร (3) กระทรวงการต่างประเทศจีนออกมาแถลงว่า จีนจะไม่ยอมจำนนต่อการรังแกหรือข่มขู่ และสำทับว่า การพยายามกดดันจีนเป็นการคำนวณผิดพลาด . อย่างไรก็ดี พวกนักวิเคราะห์เชื่อว่า ปักกิ่งยังหวังว่าจะสามารถเปิดการเจรจาสงบศึกกับคณะบริหารของทรัมป์ จึงกำหนดภาษีตอบโต้ในอัตราต่ำกว่า 20% เพื่อให้คณะผู้เจรจาของตนสามารถต่อรองและบรรลุข้อตกลงได้สำเร็จ ทว่าเมื่อการตอบโต้กันไปมาชักบานปลายออกไป มันก็อาจลดโอกาสที่ทั้งสองฝ่ายจะประนีประนอมกันได้ . เวลาเดียวกัน สำนักข่าวเอพีเสนอรายงานข่าวที่ระบุว่า ผู้นำสหรัฐฯ กำลังทำให้เศรษฐกิจของทั่วโลกผันผวนและไร้ความแน่นอน เนื่องจากไม่มีใครคาดเดาได้ว่า ทรัมป์จะทำอะไรต่อไป . การเรียกเก็บภาษีศุลกากรสินค้าแคนาดาและเม็กซิโกแบบเหวี่ยงแหยังมีแนวโน้มส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานของภาคอุตสาหกรรมสำคัญ เช่น ยานยนต์และวัสดุก่อสร้าง และเสี่ยงทำให้ค่าครองชีพของประชาชนเพิ่มขึ้น . นักเศรษฐศาสตร์ตั้งข้อสังเกตว่า มาตรการภาษีของทรัมป์อาจทำให้ราคาผู้บริโภคในสหรัฐฯพุ่งขึ้น และเพิ่มความกดดันต่อการเติบโตและการจ้างงานในอเมริกา . มูลนิธิแท็กซ์ ฟาวน์เดชัน ของสหรัฐฯประเมินว่า มาตรการภาษีต่อแคนาดา เม็กซิโก และจีนจะทำให้อัตราเติบโตของอเมริกาหายไป 0.1% ทั้งนี้ ยังไม่คำนวณผลกระทบจากมาตรการตอบโต้ของทั้งสามชาติ . ไดแอน สวองค์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเคพีเอ็มจี เตือนว่า ถ้าทรัมป์ยังเดินตามแผนรีดภาษีต่อไป อัตราภาษีศุลกากรของอเมริกาอาจเพิ่มขึ้นถึงระดับสูงสุดนับจากปี 1936 ภายในต้นปีหน้า โดยที่ทั้งผู้บริโภคและผู้ผลิตของสหรัฐฯจะต้องเป็นผู้รับภาระหนักจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากภาษีศุลกากร ซึ่งอาจส่งผลตามมาทำให้ดีมานด์ลดลง และภาคธุรกิจต้องปลดพนักงานเพื่อควบคุมต้นทุน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000021232 .............. Sondhi X
    Like
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2063 มุมมอง 0 รีวิว
  • VTT Technical Research Centre of Finland ร่วมกับ IQM Quantum Computers ได้เปิดตัวคอมพิวเตอร์ควอนตัมแบบใหม่ที่มีขนาด 50-qubit เป็นครั้งแรกในยุโรป โดยคอมพิวเตอร์ควอนตัมตัวใหม่นี้จะเปิดให้ใช้งานสำหรับนักวิจัยและบริษัทต่างๆ ผ่านบริการ VTT QX quantum computing service การเปิดตัวครั้งนี้ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับฟินแลนด์ในฐานะประเทศที่สามารถพัฒนาและลงทุนในเทคโนโลยีควอนตัมได้อย่างยิ่งใหญ่

    ย้อนกลับไปในเดือนพฤศจิกายนปี 2020 รัฐบาลฟินแลนด์ได้ประกาศแผนการพัฒนาคอมพิวเตอร์ควอนตัมขนาด 50-qubit ด้วยงบประมาณทั้งหมด 20.7 ล้านยูโร และในวันนี้คอมพิวเตอร์ควอนตัมตัวใหม่นี้ก็พร้อมใช้งานแล้ว เพื่อให้บริษัทและนักวิจัยสามารถพัฒนาแอปพลิเคชันควอนตัมคอมพิวติ้งในด้านต่างๆ อย่างการจำลองและโมเดลลิ่งวัสดุ การแก้ปัญหาการปรับปรุงประสิทธิภาพ และปัญญาประดิษฐ์

    รองประธานบริหารของ VTT, Erja Turunen, กล่าวว่าการพัฒนาและสร้างคอมพิวเตอร์ควอนตัมขนาด 50-qubit แสดงให้เห็นว่าฟินแลนด์เป็นผู้นำระดับโลกในด้านนี้ คอมพิวเตอร์ควอนตัมตัวใหม่นี้จะช่วยให้พัฒนาการแอปพลิเคชันและอัลกอริทึมใหม่ๆ สำหรับการจำลองและโมเดลลิ่งวัสดุ ปัญหาการปรับปรุงประสิทธิภาพ และปัญญาประดิษฐ์ได้อย่างมาก

    การพัฒนาโครงการนี้แบ่งออกเป็นสามช่วง เริ่มจากการพัฒนาคอมพิวเตอร์ควอนตัมขนาด 5-qubit ในปี 2021 และต่อมาในฤดูใบไม้ผลิปี 2022 ได้มีการเชื่อมต่อกับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ LUMI ของ CSC สำหรับการใช้งานของนักวิจัยชาวฟินแลนด์ และยังเปิดใช้งานให้กับผู้ใช้งานทางธุรกิจอีกด้วย คอมพิวเตอร์ควอนตัมขนาด 20-qubit ได้รับการพัฒนาในปี 2023 และในขั้นตอนสุดท้ายได้ถูกยกระดับเป็น 50 qubits ทำให้สามารถทำการคำนวณที่ไม่สามารถทำได้ด้วยคอมพิวเตอร์คลาสสิก

    การเปิดตัวคอมพิวเตอร์ควอนตัมขนาด 50 qubits เป็นก้าวสำคัญในเทคโนโลยีนี้ โดยทำให้สามารถลดเสียงรบกวนของคอมพิวเตอร์และเพิ่มจำนวน qubits ที่ใช้ในการคำนวณอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    https://www.techpowerup.com/333563/vtt-and-iqm-launch-first-50-qubit-quantum-computer-developed-in-europe
    VTT Technical Research Centre of Finland ร่วมกับ IQM Quantum Computers ได้เปิดตัวคอมพิวเตอร์ควอนตัมแบบใหม่ที่มีขนาด 50-qubit เป็นครั้งแรกในยุโรป โดยคอมพิวเตอร์ควอนตัมตัวใหม่นี้จะเปิดให้ใช้งานสำหรับนักวิจัยและบริษัทต่างๆ ผ่านบริการ VTT QX quantum computing service การเปิดตัวครั้งนี้ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับฟินแลนด์ในฐานะประเทศที่สามารถพัฒนาและลงทุนในเทคโนโลยีควอนตัมได้อย่างยิ่งใหญ่ ย้อนกลับไปในเดือนพฤศจิกายนปี 2020 รัฐบาลฟินแลนด์ได้ประกาศแผนการพัฒนาคอมพิวเตอร์ควอนตัมขนาด 50-qubit ด้วยงบประมาณทั้งหมด 20.7 ล้านยูโร และในวันนี้คอมพิวเตอร์ควอนตัมตัวใหม่นี้ก็พร้อมใช้งานแล้ว เพื่อให้บริษัทและนักวิจัยสามารถพัฒนาแอปพลิเคชันควอนตัมคอมพิวติ้งในด้านต่างๆ อย่างการจำลองและโมเดลลิ่งวัสดุ การแก้ปัญหาการปรับปรุงประสิทธิภาพ และปัญญาประดิษฐ์ รองประธานบริหารของ VTT, Erja Turunen, กล่าวว่าการพัฒนาและสร้างคอมพิวเตอร์ควอนตัมขนาด 50-qubit แสดงให้เห็นว่าฟินแลนด์เป็นผู้นำระดับโลกในด้านนี้ คอมพิวเตอร์ควอนตัมตัวใหม่นี้จะช่วยให้พัฒนาการแอปพลิเคชันและอัลกอริทึมใหม่ๆ สำหรับการจำลองและโมเดลลิ่งวัสดุ ปัญหาการปรับปรุงประสิทธิภาพ และปัญญาประดิษฐ์ได้อย่างมาก การพัฒนาโครงการนี้แบ่งออกเป็นสามช่วง เริ่มจากการพัฒนาคอมพิวเตอร์ควอนตัมขนาด 5-qubit ในปี 2021 และต่อมาในฤดูใบไม้ผลิปี 2022 ได้มีการเชื่อมต่อกับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ LUMI ของ CSC สำหรับการใช้งานของนักวิจัยชาวฟินแลนด์ และยังเปิดใช้งานให้กับผู้ใช้งานทางธุรกิจอีกด้วย คอมพิวเตอร์ควอนตัมขนาด 20-qubit ได้รับการพัฒนาในปี 2023 และในขั้นตอนสุดท้ายได้ถูกยกระดับเป็น 50 qubits ทำให้สามารถทำการคำนวณที่ไม่สามารถทำได้ด้วยคอมพิวเตอร์คลาสสิก การเปิดตัวคอมพิวเตอร์ควอนตัมขนาด 50 qubits เป็นก้าวสำคัญในเทคโนโลยีนี้ โดยทำให้สามารถลดเสียงรบกวนของคอมพิวเตอร์และเพิ่มจำนวน qubits ที่ใช้ในการคำนวณอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น https://www.techpowerup.com/333563/vtt-and-iqm-launch-first-50-qubit-quantum-computer-developed-in-europe
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    VTT and IQM Launch First 50-Qubit Quantum Computer Developed in Europe
    VTT Technical Research Centre of Finland and IQM Quantum Computers, one of the global leaders in superconducting quantum computers, have completed and launched Europe's first 50-qubit superconducting quantum computer, now open to researchers and companies through the VTT QX quantum computing service...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 128 มุมมอง 0 รีวิว
  • “พิชัย”แจงปมราคาข้าวตก ขอชาวนาใจเย็น กำลังแก้ปัญหาอยู่
    https://www.thai-tai.tv/news/17461/
    “พิชัย”แจงปมราคาข้าวตก ขอชาวนาใจเย็น กำลังแก้ปัญหาอยู่ https://www.thai-tai.tv/news/17461/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 57 มุมมอง 0 รีวิว
  • Nvidia ได้ปล่อย Hotfix Driver รุ่น 572.65 เพื่อแก้ปัญหาหน้าจอดำหลังจากการอัปเดตไดรเวอร์รุ่น 572.60 ที่ปล่อยออกมาเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ไดรเวอร์นี้มีความสำคัญเนื่องจากผู้ใช้หลายรายยังคงประสบปัญหาหน้าจอดำเมื่อใช้การเชื่อมต่อผ่าน DisplayPort กับมอนิเตอร์บางรุ่น

    Nvidia ได้ระบุว่าไดรเวอร์ GeForce นั้นเป็นซอฟต์แวร์ที่ซับซ้อนมาก โดยมีทีมงานวิศวกรซอฟต์แวร์ขนาดใหญ่ที่ทำงานเพิ่มฟีเจอร์และแก้ไขข้อบกพร่องอย่างต่อเนื่อง การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบคุณภาพขนาดใหญ่ก่อนที่จะปล่อยให้ผู้ใช้ทั่วไป

    แม้ว่าไดรเวอร์รุ่น 572.60 จะมีการแก้ปัญหาหลายอย่างเกี่ยวกับหน้าจอดำสำหรับการ์ดจอ RTX 50 Series แต่การแก้ไขนี้ไม่ครอบคลุมถึงการ์ดจอรุ่นอื่น ๆ ทำให้มีผู้ใช้หลายรายที่ยังคงประสบปัญหาอยู่ ซึ่ง Hotfix Driver รุ่น 572.65 นี้ได้ขยายการแก้ไขปัญหาให้ครอบคลุมการ์ดจอรุ่นอื่น ๆ ด้วย เช่น RTX 3060, RTX 4090, และ RTX 5070 Ti

    สิ่งที่น่าสนใจคือ Nvidia ยังคงสามารถปล่อย Hotfix ได้อย่างรวดเร็วเพื่อแก้ปัญหาที่ผู้ใช้ประสบอยู่ และในขณะเดียวกันยังคงเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ อย่างเช่น DLSS 4 และ Multi Frame Generation (MFG) ในเกม Naraka: Bladepoint รวมถึงการรองรับมอนิเตอร์ G-Sync Compatible เพิ่มอีก 29 รุ่น

    การเปิดตัว Hotfix Driver รุ่น 572.65 นี้จึงเป็นการตอบสนองที่ดีของ Nvidia ในการแก้ไขปัญหาหน้าจอดำที่ยังคงมีอยู่ และเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของการ์ดจอให้ดียิ่งขึ้น

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpu-drivers/nvidia-hotfix-arrives-to-address-black-screen-issues-remaining-after-thursdays-driver-release
    Nvidia ได้ปล่อย Hotfix Driver รุ่น 572.65 เพื่อแก้ปัญหาหน้าจอดำหลังจากการอัปเดตไดรเวอร์รุ่น 572.60 ที่ปล่อยออกมาเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ไดรเวอร์นี้มีความสำคัญเนื่องจากผู้ใช้หลายรายยังคงประสบปัญหาหน้าจอดำเมื่อใช้การเชื่อมต่อผ่าน DisplayPort กับมอนิเตอร์บางรุ่น Nvidia ได้ระบุว่าไดรเวอร์ GeForce นั้นเป็นซอฟต์แวร์ที่ซับซ้อนมาก โดยมีทีมงานวิศวกรซอฟต์แวร์ขนาดใหญ่ที่ทำงานเพิ่มฟีเจอร์และแก้ไขข้อบกพร่องอย่างต่อเนื่อง การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบคุณภาพขนาดใหญ่ก่อนที่จะปล่อยให้ผู้ใช้ทั่วไป แม้ว่าไดรเวอร์รุ่น 572.60 จะมีการแก้ปัญหาหลายอย่างเกี่ยวกับหน้าจอดำสำหรับการ์ดจอ RTX 50 Series แต่การแก้ไขนี้ไม่ครอบคลุมถึงการ์ดจอรุ่นอื่น ๆ ทำให้มีผู้ใช้หลายรายที่ยังคงประสบปัญหาอยู่ ซึ่ง Hotfix Driver รุ่น 572.65 นี้ได้ขยายการแก้ไขปัญหาให้ครอบคลุมการ์ดจอรุ่นอื่น ๆ ด้วย เช่น RTX 3060, RTX 4090, และ RTX 5070 Ti สิ่งที่น่าสนใจคือ Nvidia ยังคงสามารถปล่อย Hotfix ได้อย่างรวดเร็วเพื่อแก้ปัญหาที่ผู้ใช้ประสบอยู่ และในขณะเดียวกันยังคงเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ อย่างเช่น DLSS 4 และ Multi Frame Generation (MFG) ในเกม Naraka: Bladepoint รวมถึงการรองรับมอนิเตอร์ G-Sync Compatible เพิ่มอีก 29 รุ่น การเปิดตัว Hotfix Driver รุ่น 572.65 นี้จึงเป็นการตอบสนองที่ดีของ Nvidia ในการแก้ไขปัญหาหน้าจอดำที่ยังคงมีอยู่ และเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของการ์ดจอให้ดียิ่งขึ้น https://www.tomshardware.com/pc-components/gpu-drivers/nvidia-hotfix-arrives-to-address-black-screen-issues-remaining-after-thursdays-driver-release
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Nvidia Hotfix arrives to address black screen issues remaining after Thursday's driver release
    "A GeForce driver is an incredibly complex piece of software," bleats the green team.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 125 มุมมอง 0 รีวิว
  • ABI Research ได้ทำการคาดการณ์เกี่ยวกับตลาดเทคโนโลยีในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยระบุถึงเทคโนโลยีที่กำลังจะเติบโตและจะหดตัว โดยสิ่งที่น่าสนใจคือการคาดการณ์ว่าโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLMs) จะเติบโตขึ้นอย่างมาก รวมถึงเครื่องมือจัดการข้อมูลที่จะสร้างมูลค่ามากมาย

    ==เทคโนโลยีที่เติบโตอย่างรวดเร็ว==
    1) โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLMs): จะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ 35% เนื่องจากการใช้งานเพิ่มขึ้นในซอฟต์แวร์องค์กรต่างๆ
    2) เครื่องมือจัดการข้อมูล: การเติบโตของเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น การเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) และปัญญาประดิษฐ์จะสร้างโอกาสมูลค่ามากกว่า 200 พันล้านดอลลาร์ในปี 2029
    3) อุปกรณ์สมาร์ทโฮม: คาดว่าอุปกรณ์สำหรับความปลอดภัยและความสะดวกสบายในบ้านจะเติบโตเฉลี่ย 14% ต่อปี และมีการจัดส่งถึง 500 ล้านหน่วย
    4) แว่นตาอัจฉริยะ (Smart Glasses): คาดว่าการใช้แว่นตาอัจฉริยะในการทำงานจะเติบโตขึ้น โดยมียอดส่งถึง 20.23 ล้านหน่วยในปี 2029
    5) หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ (Humanoid Robots): คาดว่าจะมีการส่งออกถึง 180,000 หน่วยต่อปีภายในปี 2030 เนื่องจากต้นทุนที่ลดลงและความต้องการในด้านการบริการและบันเทิง
    6) ซอฟต์แวร์และบริการด้านความปลอดภัย: ความต้องการซอฟต์แวร์ความปลอดภัยบนเครือข่าย 5G และบริการที่เกี่ยวข้องจะเติบโตอย่างมาก
    7) ระบบการจัดการคลังสินค้า: คาดว่าจะมีการลงทุนถึง 8.6 พันล้านดอลลาร์ โดยได้รับการสนับสนุนจากการวางแผนและวิเคราะห์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
    8) การวิเคราะห์ข้อมูลสำหรับประสิทธิภาพการดำเนินงาน: การแก้ปัญหาด้านข้อมูลจะเติบโตเฉลี่ย 13% ต่อปี เนื่องจากความสำคัญของการใช้ข้อมูลและความโปร่งใสในการดำเนินงาน

    ==เทคโนโลยีที่อาจมีการหดตัวหรือลดลง==
    1) แท็บเล็ตคอมพิวเตอร์: แม้ว่าจะมีการเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในปี 2024 แต่การส่งแท็บเล็ตคาดว่าจะลดลงอย่างช้าๆ จนถึงปี 2029
    2) สมาร์ทโฟน: คาดว่าตลาดสมาร์ทโฟนจะเติบโตแบบไม่ต่อเนื่องเนื่องจากความต้องการที่ลดลงและรอบการเปลี่ยนทดแทนที่ยาวขึ้น
    3) ชิปเซ็ต CPU ของดาต้าเซ็นเตอร์: ส่วนแบ่งตลาดจะลดลงจาก 26% เป็น 18% ในอีก 5 ปีข้างหน้า
    4) บล็อกเชนอุตสาหกรรม: รายได้จะลดลง 2% ต่อปีเนื่องจากแอปพลิเคชันส่วนใหญ่ไม่สามารถพัฒนาขึ้นมาได้
    5) ศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Cloud Hyperscalers): คาดว่าจะเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจากศูนย์ข้อมูลท้องถิ่นที่มีความเข้าใจในข้อบังคับท้องถิ่น
    6) ฮาร์ดแวร์ด้านความปลอดภัย: อัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีจะอยู่ที่ 7% เนื่องจากมีซอฟต์แวร์ที่ทำงานแทนฮาร์ดแวร์แบบดั้งเดิม
    7) ซอฟต์แวร์การโปรแกรมหุ่นยนต์แบบออฟไลน์: คาดว่ารายได้จะเติบโตเฉลี่ย 8.5% ต่อปี ทำให้บริษัทซอฟต์แวร์ขนาดเล็กเผชิญกับความท้าทาย
    8) อุปกรณ์ VR แบบมีสายและมือถือ: การส่งออกของอุปกรณ์เหล่านี้จะคงที่และคิดเป็นเพียง 34% ของการส่งออกทั้งหมดในปี 2029

    การคาดการณ์นี้แสดงถึงทิศทางของตลาดเทคโนโลยีในอนาคต ซึ่งผู้ประกอบการสามารถใช้ข้อมูลนี้เพื่อวางแผนการลงทุนและพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ

    https://www.zdnet.com/article/this-5-year-tech-industry-forecast-predicts-some-surprising-winners-and-losers/
    ABI Research ได้ทำการคาดการณ์เกี่ยวกับตลาดเทคโนโลยีในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยระบุถึงเทคโนโลยีที่กำลังจะเติบโตและจะหดตัว โดยสิ่งที่น่าสนใจคือการคาดการณ์ว่าโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLMs) จะเติบโตขึ้นอย่างมาก รวมถึงเครื่องมือจัดการข้อมูลที่จะสร้างมูลค่ามากมาย ==เทคโนโลยีที่เติบโตอย่างรวดเร็ว== 1) โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLMs): จะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ 35% เนื่องจากการใช้งานเพิ่มขึ้นในซอฟต์แวร์องค์กรต่างๆ 2) เครื่องมือจัดการข้อมูล: การเติบโตของเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น การเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) และปัญญาประดิษฐ์จะสร้างโอกาสมูลค่ามากกว่า 200 พันล้านดอลลาร์ในปี 2029 3) อุปกรณ์สมาร์ทโฮม: คาดว่าอุปกรณ์สำหรับความปลอดภัยและความสะดวกสบายในบ้านจะเติบโตเฉลี่ย 14% ต่อปี และมีการจัดส่งถึง 500 ล้านหน่วย 4) แว่นตาอัจฉริยะ (Smart Glasses): คาดว่าการใช้แว่นตาอัจฉริยะในการทำงานจะเติบโตขึ้น โดยมียอดส่งถึง 20.23 ล้านหน่วยในปี 2029 5) หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ (Humanoid Robots): คาดว่าจะมีการส่งออกถึง 180,000 หน่วยต่อปีภายในปี 2030 เนื่องจากต้นทุนที่ลดลงและความต้องการในด้านการบริการและบันเทิง 6) ซอฟต์แวร์และบริการด้านความปลอดภัย: ความต้องการซอฟต์แวร์ความปลอดภัยบนเครือข่าย 5G และบริการที่เกี่ยวข้องจะเติบโตอย่างมาก 7) ระบบการจัดการคลังสินค้า: คาดว่าจะมีการลงทุนถึง 8.6 พันล้านดอลลาร์ โดยได้รับการสนับสนุนจากการวางแผนและวิเคราะห์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น 8) การวิเคราะห์ข้อมูลสำหรับประสิทธิภาพการดำเนินงาน: การแก้ปัญหาด้านข้อมูลจะเติบโตเฉลี่ย 13% ต่อปี เนื่องจากความสำคัญของการใช้ข้อมูลและความโปร่งใสในการดำเนินงาน ==เทคโนโลยีที่อาจมีการหดตัวหรือลดลง== 1) แท็บเล็ตคอมพิวเตอร์: แม้ว่าจะมีการเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในปี 2024 แต่การส่งแท็บเล็ตคาดว่าจะลดลงอย่างช้าๆ จนถึงปี 2029 2) สมาร์ทโฟน: คาดว่าตลาดสมาร์ทโฟนจะเติบโตแบบไม่ต่อเนื่องเนื่องจากความต้องการที่ลดลงและรอบการเปลี่ยนทดแทนที่ยาวขึ้น 3) ชิปเซ็ต CPU ของดาต้าเซ็นเตอร์: ส่วนแบ่งตลาดจะลดลงจาก 26% เป็น 18% ในอีก 5 ปีข้างหน้า 4) บล็อกเชนอุตสาหกรรม: รายได้จะลดลง 2% ต่อปีเนื่องจากแอปพลิเคชันส่วนใหญ่ไม่สามารถพัฒนาขึ้นมาได้ 5) ศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Cloud Hyperscalers): คาดว่าจะเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจากศูนย์ข้อมูลท้องถิ่นที่มีความเข้าใจในข้อบังคับท้องถิ่น 6) ฮาร์ดแวร์ด้านความปลอดภัย: อัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีจะอยู่ที่ 7% เนื่องจากมีซอฟต์แวร์ที่ทำงานแทนฮาร์ดแวร์แบบดั้งเดิม 7) ซอฟต์แวร์การโปรแกรมหุ่นยนต์แบบออฟไลน์: คาดว่ารายได้จะเติบโตเฉลี่ย 8.5% ต่อปี ทำให้บริษัทซอฟต์แวร์ขนาดเล็กเผชิญกับความท้าทาย 8) อุปกรณ์ VR แบบมีสายและมือถือ: การส่งออกของอุปกรณ์เหล่านี้จะคงที่และคิดเป็นเพียง 34% ของการส่งออกทั้งหมดในปี 2029 การคาดการณ์นี้แสดงถึงทิศทางของตลาดเทคโนโลยีในอนาคต ซึ่งผู้ประกอบการสามารถใช้ข้อมูลนี้เพื่อวางแผนการลงทุนและพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ https://www.zdnet.com/article/this-5-year-tech-industry-forecast-predicts-some-surprising-winners-and-losers/
    WWW.ZDNET.COM
    This 5-year tech industry forecast predicts some surprising winners - and losers
    Here's what will be hot or not in technology markets over the next five years, as projected by ABI Research. Do you agree?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 178 มุมมอง 0 รีวิว
  • 📌 พลังของคำพูด: พูดลบ → ดึงอัปมงคล | พูดบวก → ดึงโชคดี


    ---

    ❌ "คำพูดลบ" เป็นอัปมงคลจริงหรือ?

    ✅ พูดลบครั้งสองครั้ง → อาจไม่มีผลมาก
    ✅ พูดลบบ่อย → กลายเป็น "นิสัย" และ "พลังงานชีวิต"
    ✅ คำพูดลบ = สร้าง "หลุมดำ" ดูดสิ่งไม่ดีเข้ามา

    🎯 ถ้าพูดบ่น พูดด่า พูดเป็นลางร้ายทุกวัน → ชีวิตจะยิ่งจมลง
    🎯 เพราะพลังงานลบจากคำพูด → กลายเป็นแม่เหล็กดึงโชคร้าย


    ---

    📌 "คำพูดลบ" ส่งผลร้ายได้อย่างไร?

    1️⃣ ทำให้จิตใจ "จมดิ่ง" เองโดยไม่รู้ตัว

    ❌ บ่นทุกวัน = ใจหดหู่ทุกวัน
    ❌ ด่าทุกวัน = ใจร้อนทุกวัน
    ❌ สาปแช่งทุกวัน = ใจเป็นพิษทุกวัน

    🎯 "พูดแย่ → ใจแย่ → ดึงดูดสิ่งแย่เข้ามา"


    ---

    2️⃣ ทำให้คนรอบข้าง "รังเกียจ"

    ❌ คนที่พูดแง่ลบ → ทำให้คนอื่น "รู้สึกแย่"
    ❌ พลังงานลบจากคำพูด → ทำให้คนฟังหมดกำลังใจ
    ❌ คนที่ฟังบ่อยๆ → จะเริ่มตีตัวออกห่าง

    🎯 "พูดลบเยอะ → คนรอบข้างถอยห่าง → เหลือตัวคนเดียว"


    ---

    3️⃣ ดึง "เคราะห์ร้าย" เข้าตัวจริงๆ

    ❌ พูดลบ → จิตกลายเป็นลบ → ดึงดูดโชคร้าย
    ❌ พูดดี → จิตกลายเป็นบวก → ดึงดูดโชคดี

    🎯 "คำพูด = คำพยากรณ์ชีวิต"
    🎯 "พูดว่าแย่ → จิตสร้างความแย่ → ชีวิตก็แย่"
    🎯 "พูดว่าโชคดี → จิตสร้างโชคดี → ชีวิตก็ดีขึ้น"


    ---

    🔥 เปลี่ยนชีวิตด้วย "คำพูดบวก" 🔥

    ✅ 1️⃣ เปลี่ยน "คำพูดลบ" เป็น "คำพูดสร้างพลัง"

    ❌ "แย่จัง" → ✅ "มีอะไรดีที่เราเรียนรู้จากเรื่องนี้?"
    ❌ "ซวยอีกแล้ว" → ✅ "นี่คือโอกาสให้ฉันแก้ปัญหา"
    ❌ "ไม่มีทางสำเร็จ" → ✅ "ต้องมีทางไหนสักทางที่เวิร์ก"

    🎯 "พูดเปลี่ยน → ใจเปลี่ยน → ชีวิตเปลี่ยน"


    ---

    ✅ 2️⃣ ฝึก "มองหาสิ่งดีๆ" ในเรื่องแย่ๆ

    ❌ ล้มเหลว → ✅ ได้บทเรียน
    ❌ โดนหักหลัง → ✅ ได้รู้จักคน
    ❌ สูญเสียบางสิ่ง → ✅ ได้รับบางอย่างกลับมา

    🎯 "คิดดีได้ → พูดดีได้ → ดึงดูดสิ่งดีๆได้"


    ---

    ✅ 3️⃣ ฝึกพูดให้ "ตัวเองมีพลัง" และ "คนอื่นรู้สึกดี"

    ✅ พูดให้กำลังใจตัวเอง → "ฉันทำได้"
    ✅ พูดให้กำลังใจคนอื่น → "เธอเก่งมาก"
    ✅ พูดให้ชีวิตเป็นพลังบวก → "ทุกอย่างกำลังดีขึ้น"

    🎯 "พลังคำพูด = พลังชีวิต"
    🎯 "พูดดีบ่อยๆ → จิตใจสว่าง → ชีวิตมีโชค"


    ---

    🎯 สรุป: พลังของคำพูด สร้างชีวิตได้จริง!

    ✔ พูดลบ = ดึงดูดอัปมงคล
    ✔ พูดบวก = ดึงดูดโชคดี
    ✔ คำพูด = คำพยากรณ์ชีวิต

    🔥 "พูดดี = ดึงดูดสิ่งดีเข้ามา"
    🔥 "พูดลบ = ดูดโชคร้ายเข้าตัว"

    🎯 เริ่มเปลี่ยนได้วันนี้ → ฝึกพูดดี → ชีวิตจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นแน่นอน!

    📌 พลังของคำพูด: พูดลบ → ดึงอัปมงคล | พูดบวก → ดึงโชคดี --- ❌ "คำพูดลบ" เป็นอัปมงคลจริงหรือ? ✅ พูดลบครั้งสองครั้ง → อาจไม่มีผลมาก ✅ พูดลบบ่อย → กลายเป็น "นิสัย" และ "พลังงานชีวิต" ✅ คำพูดลบ = สร้าง "หลุมดำ" ดูดสิ่งไม่ดีเข้ามา 🎯 ถ้าพูดบ่น พูดด่า พูดเป็นลางร้ายทุกวัน → ชีวิตจะยิ่งจมลง 🎯 เพราะพลังงานลบจากคำพูด → กลายเป็นแม่เหล็กดึงโชคร้าย --- 📌 "คำพูดลบ" ส่งผลร้ายได้อย่างไร? 1️⃣ ทำให้จิตใจ "จมดิ่ง" เองโดยไม่รู้ตัว ❌ บ่นทุกวัน = ใจหดหู่ทุกวัน ❌ ด่าทุกวัน = ใจร้อนทุกวัน ❌ สาปแช่งทุกวัน = ใจเป็นพิษทุกวัน 🎯 "พูดแย่ → ใจแย่ → ดึงดูดสิ่งแย่เข้ามา" --- 2️⃣ ทำให้คนรอบข้าง "รังเกียจ" ❌ คนที่พูดแง่ลบ → ทำให้คนอื่น "รู้สึกแย่" ❌ พลังงานลบจากคำพูด → ทำให้คนฟังหมดกำลังใจ ❌ คนที่ฟังบ่อยๆ → จะเริ่มตีตัวออกห่าง 🎯 "พูดลบเยอะ → คนรอบข้างถอยห่าง → เหลือตัวคนเดียว" --- 3️⃣ ดึง "เคราะห์ร้าย" เข้าตัวจริงๆ ❌ พูดลบ → จิตกลายเป็นลบ → ดึงดูดโชคร้าย ❌ พูดดี → จิตกลายเป็นบวก → ดึงดูดโชคดี 🎯 "คำพูด = คำพยากรณ์ชีวิต" 🎯 "พูดว่าแย่ → จิตสร้างความแย่ → ชีวิตก็แย่" 🎯 "พูดว่าโชคดี → จิตสร้างโชคดี → ชีวิตก็ดีขึ้น" --- 🔥 เปลี่ยนชีวิตด้วย "คำพูดบวก" 🔥 ✅ 1️⃣ เปลี่ยน "คำพูดลบ" เป็น "คำพูดสร้างพลัง" ❌ "แย่จัง" → ✅ "มีอะไรดีที่เราเรียนรู้จากเรื่องนี้?" ❌ "ซวยอีกแล้ว" → ✅ "นี่คือโอกาสให้ฉันแก้ปัญหา" ❌ "ไม่มีทางสำเร็จ" → ✅ "ต้องมีทางไหนสักทางที่เวิร์ก" 🎯 "พูดเปลี่ยน → ใจเปลี่ยน → ชีวิตเปลี่ยน" --- ✅ 2️⃣ ฝึก "มองหาสิ่งดีๆ" ในเรื่องแย่ๆ ❌ ล้มเหลว → ✅ ได้บทเรียน ❌ โดนหักหลัง → ✅ ได้รู้จักคน ❌ สูญเสียบางสิ่ง → ✅ ได้รับบางอย่างกลับมา 🎯 "คิดดีได้ → พูดดีได้ → ดึงดูดสิ่งดีๆได้" --- ✅ 3️⃣ ฝึกพูดให้ "ตัวเองมีพลัง" และ "คนอื่นรู้สึกดี" ✅ พูดให้กำลังใจตัวเอง → "ฉันทำได้" ✅ พูดให้กำลังใจคนอื่น → "เธอเก่งมาก" ✅ พูดให้ชีวิตเป็นพลังบวก → "ทุกอย่างกำลังดีขึ้น" 🎯 "พลังคำพูด = พลังชีวิต" 🎯 "พูดดีบ่อยๆ → จิตใจสว่าง → ชีวิตมีโชค" --- 🎯 สรุป: พลังของคำพูด สร้างชีวิตได้จริง! ✔ พูดลบ = ดึงดูดอัปมงคล ✔ พูดบวก = ดึงดูดโชคดี ✔ คำพูด = คำพยากรณ์ชีวิต 🔥 "พูดดี = ดึงดูดสิ่งดีเข้ามา" 🔥 "พูดลบ = ดูดโชคร้ายเข้าตัว" 🎯 เริ่มเปลี่ยนได้วันนี้ → ฝึกพูดดี → ชีวิตจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นแน่นอน!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 107 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายภูมิธรรม​ เวชยชัย​ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เผยถึงการส่งชาวอุยกูร์กลับจีน ทางจีนมีสิทธิขอตัวชาวอุยกูร์​ เนื่องจากบุคคลเหล่านี้ถูกคุมตัวในไทยมานานกว่า 11 ปี​ เราพยายามแก้ปัญหา​ประสานส่งตัวไปประเทศที่ 3​ ตลอด 11 ปี เช่น สหรัฐอเมริกา  แต่ไม่ได้รับการตอบรับจากชาติใดเลย แม้จะเสนอให้ประเทศตะวันตกรับไป แต่ถูกปฏิเสธ เนื่องจากคำนึงถึงผลประโยชน์ของตนเอง เราขังชาวอุยกูร์​ก็ถูกร้องเรียนมาตลอดว่าเป็นการทรมาน​ ขัดต่อพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย​ การส่งอุยกูร์​กลับจีน​จึงเป็นทางออกดีที่สุด​ รัฐบาลไทยไม่มีเจตนาโหดเหี้ยม แต่ต้องแก้ปัญหาภายในให้เหมาะสม ขอสื่อไทยและต่างประเทศเข้าใจ โดยเฉพาะบางสื่อในไทยที่นำเสนอเหมือนอยากให้ประเด็นไม่จบ ซึ่งไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ

    -สว.ยื่นฟัน ทวี-ดีเอสไอ
    -กม.กาสิโน รอยืนยัน
    -ช้อปชิมสวนแก้วฟู้ดเฟสติวัด#2
    -ตั้งคณะผลักดันข้าวจริงจัง
    นายภูมิธรรม​ เวชยชัย​ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เผยถึงการส่งชาวอุยกูร์กลับจีน ทางจีนมีสิทธิขอตัวชาวอุยกูร์​ เนื่องจากบุคคลเหล่านี้ถูกคุมตัวในไทยมานานกว่า 11 ปี​ เราพยายามแก้ปัญหา​ประสานส่งตัวไปประเทศที่ 3​ ตลอด 11 ปี เช่น สหรัฐอเมริกา  แต่ไม่ได้รับการตอบรับจากชาติใดเลย แม้จะเสนอให้ประเทศตะวันตกรับไป แต่ถูกปฏิเสธ เนื่องจากคำนึงถึงผลประโยชน์ของตนเอง เราขังชาวอุยกูร์​ก็ถูกร้องเรียนมาตลอดว่าเป็นการทรมาน​ ขัดต่อพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย​ การส่งอุยกูร์​กลับจีน​จึงเป็นทางออกดีที่สุด​ รัฐบาลไทยไม่มีเจตนาโหดเหี้ยม แต่ต้องแก้ปัญหาภายในให้เหมาะสม ขอสื่อไทยและต่างประเทศเข้าใจ โดยเฉพาะบางสื่อในไทยที่นำเสนอเหมือนอยากให้ประเด็นไม่จบ ซึ่งไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ -สว.ยื่นฟัน ทวี-ดีเอสไอ -กม.กาสิโน รอยืนยัน -ช้อปชิมสวนแก้วฟู้ดเฟสติวัด#2 -ตั้งคณะผลักดันข้าวจริงจัง
    Like
    Haha
    8
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1139 มุมมอง 79 0 รีวิว
  • สื่อไทย-เทศงง "มาริษ" ชิ่งทันที หลังแถลงไตรภาคี "ไทย-จีน-เมียนมา"แก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ คาดเลี่ยงอุยกูร์ เจ้าตัวแถลง ยัน 3 ประเทศแชร์ข้อมูล ร่วมมืออย่างดี บอก “จีน-เมียนมา” ชมไทย ติดตามแก้ปัญหาจริงจัง

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000019937

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    สื่อไทย-เทศงง "มาริษ" ชิ่งทันที หลังแถลงไตรภาคี "ไทย-จีน-เมียนมา"แก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ คาดเลี่ยงอุยกูร์ เจ้าตัวแถลง ยัน 3 ประเทศแชร์ข้อมูล ร่วมมืออย่างดี บอก “จีน-เมียนมา” ชมไทย ติดตามแก้ปัญหาจริงจัง อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000019937 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Angry
    Sad
    10
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1122 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตะวันตกเมินรับอุยกูร์​ กลับจีนดีที่สุด : [THE MESSAGE]

    นายภูมิธรรม​ เวชยชัย​ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เผยถึงการส่งชาวอุยกูร์กลับจีน ทางจีนมีสิทธิขอตัวชาวอุยกูร์​ เนื่องจากบุคคลเหล่านี้ถูกคุมตัวในไทยมานานกว่า 11 ปี​ เราพยายามแก้ปัญหา​ประสานส่งตัวไปประเทศที่ 3​ ตลอด 11 ปีแต่ไม่ได้รับการตอบรับจากชาติใดเลย แม้จะเสนอให้ประเทศตะวันตกรับไป แต่กลับถูกปฏิเสธ เนื่องจากคำนึงถึงผลประโยชน์ของตนเอง ที่เราขังชาวอุยกูร์​ก็ถูกร้องเรียนมาตลอดว่าเป็นการทรมาน​ ขัดต่อพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย​ การส่งอุยกูร์​กลับจีน​จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด​ ยืนยัน รัฐบาลไทยไม่มีเจตนาร้ายหรือโหดเหี้ยม แต่ต้องแก้ปัญหาภายในให้เหมาะสม
    ตะวันตกเมินรับอุยกูร์​ กลับจีนดีที่สุด : [THE MESSAGE] นายภูมิธรรม​ เวชยชัย​ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เผยถึงการส่งชาวอุยกูร์กลับจีน ทางจีนมีสิทธิขอตัวชาวอุยกูร์​ เนื่องจากบุคคลเหล่านี้ถูกคุมตัวในไทยมานานกว่า 11 ปี​ เราพยายามแก้ปัญหา​ประสานส่งตัวไปประเทศที่ 3​ ตลอด 11 ปีแต่ไม่ได้รับการตอบรับจากชาติใดเลย แม้จะเสนอให้ประเทศตะวันตกรับไป แต่กลับถูกปฏิเสธ เนื่องจากคำนึงถึงผลประโยชน์ของตนเอง ที่เราขังชาวอุยกูร์​ก็ถูกร้องเรียนมาตลอดว่าเป็นการทรมาน​ ขัดต่อพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย​ การส่งอุยกูร์​กลับจีน​จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด​ ยืนยัน รัฐบาลไทยไม่มีเจตนาร้ายหรือโหดเหี้ยม แต่ต้องแก้ปัญหาภายในให้เหมาะสม
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1088 มุมมอง 53 1 รีวิว
  • 28/2/68

    เนื้อหายาวมาก แต่คุ้มค่าแก่การอ่านค่ะ

    หมอพจนีย์ #ไม่เชื่อว่าพระพุทธเจ้ามีจริง
    แล้ววันหนึ่ง....

    แพทย์หญิงพจนีย์ พงษ์ประภาพันธ์....เรียนจบมัธยมปลายที่เตรียมอุดมฯ
    จบแพทย์ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ต่อแพทย์เฉพาะทางด้านสูตินรีเวช

    อยู่กับครอบครัวที่อบอุ่น
    มีนิสัยร่าเริงสนุกสนาน
    มีเพื่อนฝูงรักชอบหมอมากมาย

    หมอเล่าว่า เมื่อก่อนเคยใช้ชีวิตฟุ่มเฟือย เที่ยวทุกคืน อาศัยเข้าไปกินบรรยากาศ
    ดื่มพอมึน ๆ ฟังพวกเพื่อนที่กินเหล้าคุยกัน มันรู้สึกสนุก บ้าๆ บอๆ สะใจ หัวเราะกันได้ทั้งคืน
    บ่อยครั้งที่ดื่มจนถึงเช้าแล้วค่อยแยกจากกัน

    มันก็แปลกเหมือนกันที่หมอเองเป็นผู้หญิงคนเดียวที่อยู่ในเพื่อนผู้ชายกลุ่มใหญ่
    แต่ก็ไม่รู้สึกกลัวอะไร กลับรู้สึกว่า ทำแบบนี้ เก๋มาก ภูมิใจ เป็นการเข้าสังคมกลุ่มพี่น้องหมอด้วยกัน

    ก่อนหน้านั้น หมอเป็นคนห่างไกลศาสนา มองไม่เห็นความจำเป็นว่า ศาสนาจะเข้ามาช่วยชีวิตให้สมบูรณ์ได้อย่างไร
    เพราะที่เราเป็นอยู่ทุกวันนี้ ก็ดีอยู่แล้ว ทำบุญวันเกิดปีละครั้งตามประเพณี
    ก็น่าจะเพียงพอแล้ว

    ยิ่งมาเรียนจบหมอก็ยิ่งเชื่อมั่นในความเห็นของตนยิ่ง ขึ้นไปอีก คือ ไม่เชื่อว่าพระพุทธเจ้ามีจริง

    ยิ่งเรียนสูติฯ ด้วยก็ไม่เคยเห็นเด็กที่คลอดออกมาแล้วเดินได้ 7 ก้าวเลย
    มันไม่น่าจะเป็นไปได้ที่ว่าพระพุทธเจ้าพอคลอดออกมาก็เดินได้ 7 ก้าว

    ยังนั่งคุยกับเพื่อน ๆ เลยว่า
    สมัยก่อนคงมีนักคิดที่เก่ง ๆ ที่คิดจัดระเบียบทางสังคมให้ดีขึ้น จึงแต่งเรื่องพระพุทธเจ้าขึ้นมา แล้วก็ใส่ปาฏิหาริย์ เพื่อเพิ่มความศรัทธาไปเท่านั้น

    ตอนนั้นหมอคิดว่า อะไรที่พิสูจน์ด้วยวิทยาศาสตร์ไม่ได้ หรือจับต้องไม่ได้
    เราก็ไม่ควรเชื่อ

    ในที่สุด วันร้ายคืนร้ายก็มาถึง หมอล้มป่วยลงอย่างกะทันหัน ด้วยโรคหมอนรองกระดูกแตก โดยไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง
    ซึ่งเจ็บปวดทรมานมาก ถึงขั้นเดินไม่ได้ หมอต้องเข้ารับการผ่าตัดและนอนพักฟื้นอย่างยาวนาน

    ฉีดยาเข้าไขสันหลังเพื่อบรรเทาปวด ก็ยังไม่หาย แม้แต่อาจารย์หมอที่ว่าเก่ง ๆ ที่เชี่ยวชาญมาก ๆ ทั่วทั้งโรงพยาบาลมารุมวินิจฉัยดูอาการ ก็ยังไม่มีใครรักษาเราได้

    ได้รักษาทุกวิถีทางแล้ว จนรู้สึกท้อแท้ หมดหวังเหมือนหมดหวังทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต กินยา ก็กินไม่ได้ ทรมานอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน น้ำหนักลดจาก 47 กิโลกรัม เหลือ 42 กิโลกรัม
    ภายใน 2-3 วัน จนอาจารย์หมอมาพูดกับเราว่า ให้ทนอย่างนี้อีก 10 ปี ทนอีก 10 ปีนะ แล้วเราก็จะชินไปเอง…

    ได้ยินประโยคนี้ เรารับไม่ได้ เลยหันมาตั้งสติใหม่ มาคิดว่า มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตนี่…ผ่าตัดก็ไม่หาย ฉีดยาเข้าช่องไขสันหลัง
    น้ำไขสันหลังก็รั่ว กินยาก็แพ้

    อาจารย์หมอทุกคนและเพื่อนหมอด้วยกัน ก็มาช่วยดูแลรักษาอาการของเราทั้งหมด แต่เราก็ยังไม่หาย เราเองก็เป็นหมอด้วย
    มันช่างไม่ตรงไปตรงมาเสียเลย หมอเก่ง ๆ ก็น่าจะรักษาให้หายได้ แต่ทำไมไม่หาย…ทำไมเรื่องแบบนี้
    ต้องมาเกิดขึ้นกับเราเล่า…
    ทำไมต้องเป็นเราด้วย…

    วิชาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีที่ว่าแน่ๆ
    วิชาหมอที่เรียนมาเกือบ 10 ปี ก็ไม่สามารถหาสาเหตุที่แท้จริงของการป่วยของเราเองได้ ซ้ำถูกบอกได้แค่ว่าให้ทนรออีก 10 ปี แล้วจะชินไปเอง……

    มันน่าจะมีอะไร ที่อยู่เบื้องหน้าเบื้องหลังที่ยิ่งใหญ่มากกว่านี้ แล้วสิ่งนั้นคืออะไรกันแน่……

    ความรู้สึกเชื่อมั่นในทางวิทยาศาสตร์ตอนนั้น
    ได้ลดลงไปเลย เพราะเราสู้มาทุกทาง ใช้เทคโนโลยีที่ว่าทันสมัยทุกอย่างรักษามาหมด กลับสู้ไม่ได้…..

    โชคดีที่ช่วงนั้น คุณน้าแนะนำให้เราใช้พุทธศาสตร์เข้ามาช่วย
    ก็ในเมื่อเราลองมาทุกทางแล้วนี่ แต่ไม่เห็นว่าจะมีอะไรดีขึ้น ก็เลยหันมาศึกษาธรรมะ

    ลองหัดทำสมาธิ หัดทำใจให้สงบ ขยันฟังธรรมะทุกวัน…รู้สึกโปร่งโล่งเบากายเบาใจขึ้น รู้สึกเริ่มเข้าใจ
    ในเบื้องหน้าเบื้องหลังของชีวิตมากขึ้น จนทำให้รู้ว่า เบื้องหลังของการป่วยของเรา มันคือวิบากกรรมที่เราเคยทำไว้ในอดีตนั่นเอง

    ก่อนหน้านั้น มีแต่คนบอกว่า คนเราเกิดมาเพื่อใช้กรรม มาชดใช้วิบากกรรมที่เคยทำไว้ฟังแล้วก็รู้สึกว่ามันไม่น่าเกิดมาเลยนะ
    เหมือนเกิดมาเพื่อโดนลงโทษ ก็รู้สึกห่อเหี่ยว คิดว่าเราจะไม่สามารถมีโอกาส หรือหาหนทางแก้ไขได้เลยหรือ ?

    แต่พอมาศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่พระองค์ทรงเน้นย้ำว่าเราเกิดมาเพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง…… พอรู้เป้าหมายอย่างนี้ ก็รู้สึกชุ่มใจ
    เกิดมาเหมือนชีวิตมีโอกาสที่จะแก้ไขและปรับปรุงในสิ่งที่เรายังบกพร่องได้

    มีคำถามในใจว่า...
    “ การรู้เพียงว่ามันคือวิบากกรรม มันจะช่วยให้อะไรดีขึ้นได้บ้างล่ะ หากยังไม่รู้ถึงวิธีการแก้ไข ”

    ด้วยคำถามนี้เอง ทำให้หมอประทับใจในคำสอนของพระพุทธเจ้าเพิ่มมากขึ้น เพราะพระพุทธเจ้าทรงสอนให้รู้ถึงวิธีแก้ไขวิบากกรรม จากหนักให้เป็นเบา
    จากเบาก็จะหาย ถ้าจะตายก็จะไปดี ด้วยการบำเพ็ญบุญกุศลให้ถึงพร้อม

    หมอขอยืนยันเลยว่า วิทยาศาสตร์และวิชาหมอไม่ได้สอนไว้เลย ซึ่งหมอได้พิสูจน์จุดนี้อย่างเด่นชัด
    ด้วยตัวเองแล้ว

    ทั้งนี้เพราะอาการของหมอหมดหนทาง
    ที่จะเยียวยาแล้ว แม้กินยา ก็ยังไม่ได้ เพราะแพ้ยา หมอจึงหันมารักษาด้วยการศึกษาและปฏิบัติธรรม
    ทำบุญทำทาน รักษาศีล ทำสมาธิ และอธิษฐานจิต...

    ในที่สุด หมอก็พบว่าอาการของหมอดีขึ้นตามลำดับอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งสามารถทำงานเป็นหมอได้ดังเดิม

    เมื่อก่อน หมอไม่เคยคิดเลยว่า พุทธศาสตร์จะเป็นศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่และมหัศจรรย์ถึงขนาดนี้ คิดแต่ว่าเป็นสิ่งเหลือเชื่อ งมงาย แต่พอมาได้ศึกษาปฏิบัติแล้ว ก็พบว่าวิทยาศาสตร์เป็นศาสตร์ที่
    ยังล้าหลังพุทธศาสตร์อยู่มาก

    อย่างเราเองเรียนหมอ วิชาแพทย์ ก็อธิบายได้แค่การเกิดของคนจนถึงตาย
    แต่ก่อนที่จะเกิด และหลังจากความตายเป็นอย่างไรนั้น วิทยาศาสตร์ตอบไม่ได้…

    การเจ็บป่วย เช่น โรคมะเร็ง ความดัน เบาหวาน หัวใจ สารพัดโรค ทางการแพทย์เองก็ไม่สามารถบอกได้แน่ชัด บอกได้แต่สมมติฐาน และพยาธิสภาพรวมๆว่า มาจากหลายสาเหตุ ยังหาสาเหตุที่แท้จริงไม่ได้

    แต่พอมาศึกษาพุทธศาสตร์ มาหยั่งใจใคร่ครวญด้วยสมาธิ
    ในเรื่องกฎของกรรม ก็สามารถตอบได้หมด
    ถึงสาเหตุและต้นตอของโรคว่าที่เป็นโรคนี้ เพราะกรรมอะไร จากชาติไหน
    และต้องแก้ไขอย่างไร ซึ่งตัวเราเองก็อัศจรรย์ใจมาก

    ทุกวันนี้ หมอเชื่อมั่นถึงการมีจริงของพระพุทธเจ้า เชื่อว่าพระพุทธเจ้าประสูติแล้วสามารถเดินได้ 7 ก้าวจริง ๆ

    พอมาถึงทุกวันนี้ เมื่อหมอย้อนไปในอดีต ก็อดนึกขำตัวเองไม่หายว่าทำไมเราหลงคิดผิด ๆด้วยมานะทิฐิอยู่ได้ตั้งนาน ไม่ยอมเปิดโอกาสให้กับตัวเองได้ลองศึกษาก่อน จนเกือบจะสายเกินไป หรือหมดโอกาสไปเสียเลย

    แต่พอมาศึกษาจริง ๆ จึงได้เข้าใจ
    และเห็นพระคุณของพุทธศาสตร์อย่างลึกซึ้ง
    จนต่อให้วิชาทางโลก ที่ว่าเจ๋ง ๆ นั้น แม้จะไม่รู้ก็ยังไม่เป็นไร แต่หากไม่มาเรียนรู้พุทธศาสตร์แล้ว ก็จะไม่สามารถเอาตัวรอดอย่างปลอดภัยในวัฏสงสารได้เลย

    พุทธศาสตร์นั้น จะสอนให้เรารู้จักเลือกและเลี่ยงได้ สอนให้เรารู้ว่าตอนที่เรา
    ยังมีชีวิตอยู่นั้น เราควรดำเนินชีวิตอย่างไร จึงจะมีชีวิตที่ดีและมีคุณค่า ตลอดจนวิธีการที่จะกำจัดกิเลสอาสวะให้หมดสิ้นไปได้อย่างไร

    การที่จะไม่เกิดอีกนั้น ต้องทำอย่างไร ซึ่งสิ่งนี้เราสามารถเรียนรู้จากการศึกษาปฏิบัติธรรมในพระพุทธศาสนา เมื่อเราได้ศึกษาไป ปฏิบัติไป เราก็จะเข้าใจชีวิตและโลกเพิ่มมากขึ้นๆ แล้วจะมีชีวิตที่ดีขึ้นอย่างเห็นความแตกต่างได้ชัด อย่างที่ตัวของหมอเองได้ประสบมา…

    สังคมทุกวันนี้ หมอสังเกตเห็นชัดว่าเด็กที่ฝากท้องกับหมอ จำนวนของเด็กวัยรุ่น 16 – 17 ปี ที่กำลังเป็นวัยเรียนได้เพิ่มสูงขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก บางคนมาขอให้หมอทำแท้งให้ ซึ่งเราก็ให้ความรู้เขาไปว่ามันเป็นบาปนะ มันจะกลับมาเป็นเวรกรรมให้กับตัวเองด้วย

    ปัญหาเด็กและเยาวชนเพิ่มมากขึ้น เพราะสื่อทุกอย่างเป็นสื่อของกระแสกาม
    พ่อแม่เลี้ยงลูกด้วยรายการทีวี เด็กซึมซับพฤติกรรมอะไร ๆ โดยได้รับอิทธิลจากทีวีสูงมาก

    สังคมที่ยังขาดความรู้ทางพุทธศาสตร์ จะแก้ปัญหาให้เกิดความสันติสุขไม่ได้เลย แผนพัฒนาประเทศชาติควรต้องคำนึงถึง
    เรื่องนี้ให้มาก

    หมอคิดว่า แม้ว่าเราจะมีความรู้สูง ฉลาด ก็อย่าฉลาดอย่างงมงายอย่างที่หมอเคยเป็นมาก่อน คือ
    ไม่เปิดโอกาสให้ตัวเองได้มาศึกษาก่อน แถมยังปิดกั้นสิ่งที่ดีนั้นไว้ นั่นจะทำให้เราไม่ได้รับประโยชน์จากสิ่งที่ดีที่สุดไปตลอดชีวิตเลย

    คนเราอาจผิดพลาดในชีวิต คิดผิดด้วยความยึดมั่นในความรู้และความพร้อมของตัวเองได้ก็จริง
    แต่สิ่งที่เราไม่ควรผิดพลาดเลยสำหรับชีวิตนี้
    ก็คือ การปิดกั้นตัวเองจากสิ่งที่ยังไม่ได้ลองศึกษา
    แล้วด่วนสรุปด้วยตัวเองแทนการลงมือพิสูจน์ด้วยตัวเอง

    การเปิดโอกาส ให้ตัวเองได้ศึกษาธรรมะ เป็นการเปิดโอกาสให้เราได้ศึกษา
    วิชาที่สำคัญและจำเป็นที่สุดในชีวิต ที่มิใช่เป็นเพียงทางเลือก แต่เป็นสิ่งที่ต้องรู้ ถ้าไม่รู้ ก็เสียชาติเกิด…

    /////////

    ขอขอบคุณและอนุโมทนาบุญกับแพทย์หญิงพจนีย์ พงษ์ประภาพันธ์ ที่ให้ประสบการณ์ชีวิตเป็นธรรมทานค่ะ

    สำหรับผู้ได้อ่านแล้วเห็นว่าเป็นธรรมะที่ดีช่วยกันแชร์เป็นธรรมทานนะคะ 😊🙏✨
    28/2/68 เนื้อหายาวมาก แต่คุ้มค่าแก่การอ่านค่ะ หมอพจนีย์ #ไม่เชื่อว่าพระพุทธเจ้ามีจริง แล้ววันหนึ่ง.... แพทย์หญิงพจนีย์ พงษ์ประภาพันธ์....เรียนจบมัธยมปลายที่เตรียมอุดมฯ จบแพทย์ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ต่อแพทย์เฉพาะทางด้านสูตินรีเวช อยู่กับครอบครัวที่อบอุ่น มีนิสัยร่าเริงสนุกสนาน มีเพื่อนฝูงรักชอบหมอมากมาย หมอเล่าว่า เมื่อก่อนเคยใช้ชีวิตฟุ่มเฟือย เที่ยวทุกคืน อาศัยเข้าไปกินบรรยากาศ ดื่มพอมึน ๆ ฟังพวกเพื่อนที่กินเหล้าคุยกัน มันรู้สึกสนุก บ้าๆ บอๆ สะใจ หัวเราะกันได้ทั้งคืน บ่อยครั้งที่ดื่มจนถึงเช้าแล้วค่อยแยกจากกัน มันก็แปลกเหมือนกันที่หมอเองเป็นผู้หญิงคนเดียวที่อยู่ในเพื่อนผู้ชายกลุ่มใหญ่ แต่ก็ไม่รู้สึกกลัวอะไร กลับรู้สึกว่า ทำแบบนี้ เก๋มาก ภูมิใจ เป็นการเข้าสังคมกลุ่มพี่น้องหมอด้วยกัน ก่อนหน้านั้น หมอเป็นคนห่างไกลศาสนา มองไม่เห็นความจำเป็นว่า ศาสนาจะเข้ามาช่วยชีวิตให้สมบูรณ์ได้อย่างไร เพราะที่เราเป็นอยู่ทุกวันนี้ ก็ดีอยู่แล้ว ทำบุญวันเกิดปีละครั้งตามประเพณี ก็น่าจะเพียงพอแล้ว ยิ่งมาเรียนจบหมอก็ยิ่งเชื่อมั่นในความเห็นของตนยิ่ง ขึ้นไปอีก คือ ไม่เชื่อว่าพระพุทธเจ้ามีจริง ยิ่งเรียนสูติฯ ด้วยก็ไม่เคยเห็นเด็กที่คลอดออกมาแล้วเดินได้ 7 ก้าวเลย มันไม่น่าจะเป็นไปได้ที่ว่าพระพุทธเจ้าพอคลอดออกมาก็เดินได้ 7 ก้าว ยังนั่งคุยกับเพื่อน ๆ เลยว่า สมัยก่อนคงมีนักคิดที่เก่ง ๆ ที่คิดจัดระเบียบทางสังคมให้ดีขึ้น จึงแต่งเรื่องพระพุทธเจ้าขึ้นมา แล้วก็ใส่ปาฏิหาริย์ เพื่อเพิ่มความศรัทธาไปเท่านั้น ตอนนั้นหมอคิดว่า อะไรที่พิสูจน์ด้วยวิทยาศาสตร์ไม่ได้ หรือจับต้องไม่ได้ เราก็ไม่ควรเชื่อ ในที่สุด วันร้ายคืนร้ายก็มาถึง หมอล้มป่วยลงอย่างกะทันหัน ด้วยโรคหมอนรองกระดูกแตก โดยไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง ซึ่งเจ็บปวดทรมานมาก ถึงขั้นเดินไม่ได้ หมอต้องเข้ารับการผ่าตัดและนอนพักฟื้นอย่างยาวนาน ฉีดยาเข้าไขสันหลังเพื่อบรรเทาปวด ก็ยังไม่หาย แม้แต่อาจารย์หมอที่ว่าเก่ง ๆ ที่เชี่ยวชาญมาก ๆ ทั่วทั้งโรงพยาบาลมารุมวินิจฉัยดูอาการ ก็ยังไม่มีใครรักษาเราได้ ได้รักษาทุกวิถีทางแล้ว จนรู้สึกท้อแท้ หมดหวังเหมือนหมดหวังทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต กินยา ก็กินไม่ได้ ทรมานอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน น้ำหนักลดจาก 47 กิโลกรัม เหลือ 42 กิโลกรัม ภายใน 2-3 วัน จนอาจารย์หมอมาพูดกับเราว่า ให้ทนอย่างนี้อีก 10 ปี ทนอีก 10 ปีนะ แล้วเราก็จะชินไปเอง… ได้ยินประโยคนี้ เรารับไม่ได้ เลยหันมาตั้งสติใหม่ มาคิดว่า มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตนี่…ผ่าตัดก็ไม่หาย ฉีดยาเข้าช่องไขสันหลัง น้ำไขสันหลังก็รั่ว กินยาก็แพ้ อาจารย์หมอทุกคนและเพื่อนหมอด้วยกัน ก็มาช่วยดูแลรักษาอาการของเราทั้งหมด แต่เราก็ยังไม่หาย เราเองก็เป็นหมอด้วย มันช่างไม่ตรงไปตรงมาเสียเลย หมอเก่ง ๆ ก็น่าจะรักษาให้หายได้ แต่ทำไมไม่หาย…ทำไมเรื่องแบบนี้ ต้องมาเกิดขึ้นกับเราเล่า… ทำไมต้องเป็นเราด้วย… วิชาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีที่ว่าแน่ๆ วิชาหมอที่เรียนมาเกือบ 10 ปี ก็ไม่สามารถหาสาเหตุที่แท้จริงของการป่วยของเราเองได้ ซ้ำถูกบอกได้แค่ว่าให้ทนรออีก 10 ปี แล้วจะชินไปเอง…… มันน่าจะมีอะไร ที่อยู่เบื้องหน้าเบื้องหลังที่ยิ่งใหญ่มากกว่านี้ แล้วสิ่งนั้นคืออะไรกันแน่…… ความรู้สึกเชื่อมั่นในทางวิทยาศาสตร์ตอนนั้น ได้ลดลงไปเลย เพราะเราสู้มาทุกทาง ใช้เทคโนโลยีที่ว่าทันสมัยทุกอย่างรักษามาหมด กลับสู้ไม่ได้….. โชคดีที่ช่วงนั้น คุณน้าแนะนำให้เราใช้พุทธศาสตร์เข้ามาช่วย ก็ในเมื่อเราลองมาทุกทางแล้วนี่ แต่ไม่เห็นว่าจะมีอะไรดีขึ้น ก็เลยหันมาศึกษาธรรมะ ลองหัดทำสมาธิ หัดทำใจให้สงบ ขยันฟังธรรมะทุกวัน…รู้สึกโปร่งโล่งเบากายเบาใจขึ้น รู้สึกเริ่มเข้าใจ ในเบื้องหน้าเบื้องหลังของชีวิตมากขึ้น จนทำให้รู้ว่า เบื้องหลังของการป่วยของเรา มันคือวิบากกรรมที่เราเคยทำไว้ในอดีตนั่นเอง ก่อนหน้านั้น มีแต่คนบอกว่า คนเราเกิดมาเพื่อใช้กรรม มาชดใช้วิบากกรรมที่เคยทำไว้ฟังแล้วก็รู้สึกว่ามันไม่น่าเกิดมาเลยนะ เหมือนเกิดมาเพื่อโดนลงโทษ ก็รู้สึกห่อเหี่ยว คิดว่าเราจะไม่สามารถมีโอกาส หรือหาหนทางแก้ไขได้เลยหรือ ? แต่พอมาศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่พระองค์ทรงเน้นย้ำว่าเราเกิดมาเพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง…… พอรู้เป้าหมายอย่างนี้ ก็รู้สึกชุ่มใจ เกิดมาเหมือนชีวิตมีโอกาสที่จะแก้ไขและปรับปรุงในสิ่งที่เรายังบกพร่องได้ มีคำถามในใจว่า... “ การรู้เพียงว่ามันคือวิบากกรรม มันจะช่วยให้อะไรดีขึ้นได้บ้างล่ะ หากยังไม่รู้ถึงวิธีการแก้ไข ” ด้วยคำถามนี้เอง ทำให้หมอประทับใจในคำสอนของพระพุทธเจ้าเพิ่มมากขึ้น เพราะพระพุทธเจ้าทรงสอนให้รู้ถึงวิธีแก้ไขวิบากกรรม จากหนักให้เป็นเบา จากเบาก็จะหาย ถ้าจะตายก็จะไปดี ด้วยการบำเพ็ญบุญกุศลให้ถึงพร้อม หมอขอยืนยันเลยว่า วิทยาศาสตร์และวิชาหมอไม่ได้สอนไว้เลย ซึ่งหมอได้พิสูจน์จุดนี้อย่างเด่นชัด ด้วยตัวเองแล้ว ทั้งนี้เพราะอาการของหมอหมดหนทาง ที่จะเยียวยาแล้ว แม้กินยา ก็ยังไม่ได้ เพราะแพ้ยา หมอจึงหันมารักษาด้วยการศึกษาและปฏิบัติธรรม ทำบุญทำทาน รักษาศีล ทำสมาธิ และอธิษฐานจิต... ในที่สุด หมอก็พบว่าอาการของหมอดีขึ้นตามลำดับอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งสามารถทำงานเป็นหมอได้ดังเดิม เมื่อก่อน หมอไม่เคยคิดเลยว่า พุทธศาสตร์จะเป็นศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่และมหัศจรรย์ถึงขนาดนี้ คิดแต่ว่าเป็นสิ่งเหลือเชื่อ งมงาย แต่พอมาได้ศึกษาปฏิบัติแล้ว ก็พบว่าวิทยาศาสตร์เป็นศาสตร์ที่ ยังล้าหลังพุทธศาสตร์อยู่มาก อย่างเราเองเรียนหมอ วิชาแพทย์ ก็อธิบายได้แค่การเกิดของคนจนถึงตาย แต่ก่อนที่จะเกิด และหลังจากความตายเป็นอย่างไรนั้น วิทยาศาสตร์ตอบไม่ได้… การเจ็บป่วย เช่น โรคมะเร็ง ความดัน เบาหวาน หัวใจ สารพัดโรค ทางการแพทย์เองก็ไม่สามารถบอกได้แน่ชัด บอกได้แต่สมมติฐาน และพยาธิสภาพรวมๆว่า มาจากหลายสาเหตุ ยังหาสาเหตุที่แท้จริงไม่ได้ แต่พอมาศึกษาพุทธศาสตร์ มาหยั่งใจใคร่ครวญด้วยสมาธิ ในเรื่องกฎของกรรม ก็สามารถตอบได้หมด ถึงสาเหตุและต้นตอของโรคว่าที่เป็นโรคนี้ เพราะกรรมอะไร จากชาติไหน และต้องแก้ไขอย่างไร ซึ่งตัวเราเองก็อัศจรรย์ใจมาก ทุกวันนี้ หมอเชื่อมั่นถึงการมีจริงของพระพุทธเจ้า เชื่อว่าพระพุทธเจ้าประสูติแล้วสามารถเดินได้ 7 ก้าวจริง ๆ พอมาถึงทุกวันนี้ เมื่อหมอย้อนไปในอดีต ก็อดนึกขำตัวเองไม่หายว่าทำไมเราหลงคิดผิด ๆด้วยมานะทิฐิอยู่ได้ตั้งนาน ไม่ยอมเปิดโอกาสให้กับตัวเองได้ลองศึกษาก่อน จนเกือบจะสายเกินไป หรือหมดโอกาสไปเสียเลย แต่พอมาศึกษาจริง ๆ จึงได้เข้าใจ และเห็นพระคุณของพุทธศาสตร์อย่างลึกซึ้ง จนต่อให้วิชาทางโลก ที่ว่าเจ๋ง ๆ นั้น แม้จะไม่รู้ก็ยังไม่เป็นไร แต่หากไม่มาเรียนรู้พุทธศาสตร์แล้ว ก็จะไม่สามารถเอาตัวรอดอย่างปลอดภัยในวัฏสงสารได้เลย พุทธศาสตร์นั้น จะสอนให้เรารู้จักเลือกและเลี่ยงได้ สอนให้เรารู้ว่าตอนที่เรา ยังมีชีวิตอยู่นั้น เราควรดำเนินชีวิตอย่างไร จึงจะมีชีวิตที่ดีและมีคุณค่า ตลอดจนวิธีการที่จะกำจัดกิเลสอาสวะให้หมดสิ้นไปได้อย่างไร การที่จะไม่เกิดอีกนั้น ต้องทำอย่างไร ซึ่งสิ่งนี้เราสามารถเรียนรู้จากการศึกษาปฏิบัติธรรมในพระพุทธศาสนา เมื่อเราได้ศึกษาไป ปฏิบัติไป เราก็จะเข้าใจชีวิตและโลกเพิ่มมากขึ้นๆ แล้วจะมีชีวิตที่ดีขึ้นอย่างเห็นความแตกต่างได้ชัด อย่างที่ตัวของหมอเองได้ประสบมา… สังคมทุกวันนี้ หมอสังเกตเห็นชัดว่าเด็กที่ฝากท้องกับหมอ จำนวนของเด็กวัยรุ่น 16 – 17 ปี ที่กำลังเป็นวัยเรียนได้เพิ่มสูงขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก บางคนมาขอให้หมอทำแท้งให้ ซึ่งเราก็ให้ความรู้เขาไปว่ามันเป็นบาปนะ มันจะกลับมาเป็นเวรกรรมให้กับตัวเองด้วย ปัญหาเด็กและเยาวชนเพิ่มมากขึ้น เพราะสื่อทุกอย่างเป็นสื่อของกระแสกาม พ่อแม่เลี้ยงลูกด้วยรายการทีวี เด็กซึมซับพฤติกรรมอะไร ๆ โดยได้รับอิทธิลจากทีวีสูงมาก สังคมที่ยังขาดความรู้ทางพุทธศาสตร์ จะแก้ปัญหาให้เกิดความสันติสุขไม่ได้เลย แผนพัฒนาประเทศชาติควรต้องคำนึงถึง เรื่องนี้ให้มาก หมอคิดว่า แม้ว่าเราจะมีความรู้สูง ฉลาด ก็อย่าฉลาดอย่างงมงายอย่างที่หมอเคยเป็นมาก่อน คือ ไม่เปิดโอกาสให้ตัวเองได้มาศึกษาก่อน แถมยังปิดกั้นสิ่งที่ดีนั้นไว้ นั่นจะทำให้เราไม่ได้รับประโยชน์จากสิ่งที่ดีที่สุดไปตลอดชีวิตเลย คนเราอาจผิดพลาดในชีวิต คิดผิดด้วยความยึดมั่นในความรู้และความพร้อมของตัวเองได้ก็จริง แต่สิ่งที่เราไม่ควรผิดพลาดเลยสำหรับชีวิตนี้ ก็คือ การปิดกั้นตัวเองจากสิ่งที่ยังไม่ได้ลองศึกษา แล้วด่วนสรุปด้วยตัวเองแทนการลงมือพิสูจน์ด้วยตัวเอง การเปิดโอกาส ให้ตัวเองได้ศึกษาธรรมะ เป็นการเปิดโอกาสให้เราได้ศึกษา วิชาที่สำคัญและจำเป็นที่สุดในชีวิต ที่มิใช่เป็นเพียงทางเลือก แต่เป็นสิ่งที่ต้องรู้ ถ้าไม่รู้ ก็เสียชาติเกิด… ///////// ขอขอบคุณและอนุโมทนาบุญกับแพทย์หญิงพจนีย์ พงษ์ประภาพันธ์ ที่ให้ประสบการณ์ชีวิตเป็นธรรมทานค่ะ สำหรับผู้ได้อ่านแล้วเห็นว่าเป็นธรรมะที่ดีช่วยกันแชร์เป็นธรรมทานนะคะ 😊🙏✨
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 381 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักวิจัยในโตเกียวได้พัฒนา AIREC หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อช่วยเหลือประชากรผู้สูงอายุในญี่ปุ่น หุ่นยนต์นี้สามารถเคลื่อนไหวผู้สูงอายุเพื่อเปลี่ยนผ้าอ้อมหรือป้องกันแผลกดทับได้โดยง่าย ซึ่งเป็นงานที่สำคัญในการดูแลผู้สูงอายุ

    AIREC ถูกพัฒนาโดยศาสตราจารย์ Shigeki Sugano จากมหาวิทยาลัยวาเซดะ ด้วยเงินทุนจากรัฐบาลญี่ปุ่น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนพนักงานดูแลผู้สูงอายุในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศที่มีอัตราส่วนประชากรผู้สูงอายุสูงที่สุดในโลกและมีอัตราการเกิดต่ำลง

    ปัญหาการขาดแคลนพนักงานดูแลผู้สูงอายุ ญี่ปุ่นเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนพนักงานดูแลผู้สูงอายุอย่างหนัก โดยในเดือนธันวาคม 2024 ตำแหน่งงานว่างในภาคการดูแลผู้สูงอายุมีเพียงผู้สมัครคนเดียวต่อทุกๆ 4.25 ตำแหน่ง ซึ่งแย่กว่าค่าเฉลี่ยของประเทศที่มีผู้สมัคร 1.22 คนต่อหนึ่งตำแหน่ง

    ในขณะเดียวกัน รัฐบาลญี่ปุ่นได้พยายามนำเข้าพนักงานจากต่างประเทศ แต่จำนวนพนักงานต่างชาติในภาคการดูแลผู้สูงอายุยังคงต่ำอยู่

    การนำเทคโนโลยีมาใช้ในภาคการดูแลผู้สูงอายุ Sugano กล่าวว่า การนำหุ่นยนต์มาช่วยเหลือในภาคการดูแลผู้สูงอายุเป็นทางออกที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหานี้ อย่างไรก็ตาม หุ่นยนต์ที่สามารถทำงานทางกายภาพร่วมกับมนุษย์ได้อย่างปลอดภัยนั้นต้องการความแม่นยำและสติปัญญาระดับสูง

    AIREC สามารถช่วยผู้สูงอายุลุกนั่ง ใส่ถุงเท้า ทำอาหารง่ายๆ และงานบ้านอื่นๆ แต่ Sugano คาดว่า AIREC จะพร้อมใช้งานในสถานดูแลผู้สูงอายุประมาณปี 2030 โดยมีราคาประมาณ 10 ล้านเยน ($67,000) ในระยะแรก

    อนาคตของการดูแลผู้สูงอายุ Takaki Ito, พนักงานดูแลผู้สูงอายุที่ Zenkoukai กล่าวอย่างระมัดระวังว่า หากหุ่นยนต์ที่มี AI สามารถเข้าใจสภาพชีวิตและลักษณะเฉพาะของผู้รับการดูแลได้ ก็อาจมีอนาคตที่หุ่นยนต์จะสามารถดูแลผู้สูงอายุได้โดยตรง แต่เขายังเชื่อว่าหุ่นยนต์และมนุษย์ควรทำงานร่วมกันเพื่อปรับปรุงการดูแลผู้สูงอายุ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/28/ai-robots-may-hold-key-to-nursing-japan039s-ageing-population
    นักวิจัยในโตเกียวได้พัฒนา AIREC หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อช่วยเหลือประชากรผู้สูงอายุในญี่ปุ่น หุ่นยนต์นี้สามารถเคลื่อนไหวผู้สูงอายุเพื่อเปลี่ยนผ้าอ้อมหรือป้องกันแผลกดทับได้โดยง่าย ซึ่งเป็นงานที่สำคัญในการดูแลผู้สูงอายุ AIREC ถูกพัฒนาโดยศาสตราจารย์ Shigeki Sugano จากมหาวิทยาลัยวาเซดะ ด้วยเงินทุนจากรัฐบาลญี่ปุ่น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนพนักงานดูแลผู้สูงอายุในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศที่มีอัตราส่วนประชากรผู้สูงอายุสูงที่สุดในโลกและมีอัตราการเกิดต่ำลง ปัญหาการขาดแคลนพนักงานดูแลผู้สูงอายุ ญี่ปุ่นเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนพนักงานดูแลผู้สูงอายุอย่างหนัก โดยในเดือนธันวาคม 2024 ตำแหน่งงานว่างในภาคการดูแลผู้สูงอายุมีเพียงผู้สมัครคนเดียวต่อทุกๆ 4.25 ตำแหน่ง ซึ่งแย่กว่าค่าเฉลี่ยของประเทศที่มีผู้สมัคร 1.22 คนต่อหนึ่งตำแหน่ง ในขณะเดียวกัน รัฐบาลญี่ปุ่นได้พยายามนำเข้าพนักงานจากต่างประเทศ แต่จำนวนพนักงานต่างชาติในภาคการดูแลผู้สูงอายุยังคงต่ำอยู่ การนำเทคโนโลยีมาใช้ในภาคการดูแลผู้สูงอายุ Sugano กล่าวว่า การนำหุ่นยนต์มาช่วยเหลือในภาคการดูแลผู้สูงอายุเป็นทางออกที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหานี้ อย่างไรก็ตาม หุ่นยนต์ที่สามารถทำงานทางกายภาพร่วมกับมนุษย์ได้อย่างปลอดภัยนั้นต้องการความแม่นยำและสติปัญญาระดับสูง AIREC สามารถช่วยผู้สูงอายุลุกนั่ง ใส่ถุงเท้า ทำอาหารง่ายๆ และงานบ้านอื่นๆ แต่ Sugano คาดว่า AIREC จะพร้อมใช้งานในสถานดูแลผู้สูงอายุประมาณปี 2030 โดยมีราคาประมาณ 10 ล้านเยน ($67,000) ในระยะแรก อนาคตของการดูแลผู้สูงอายุ Takaki Ito, พนักงานดูแลผู้สูงอายุที่ Zenkoukai กล่าวอย่างระมัดระวังว่า หากหุ่นยนต์ที่มี AI สามารถเข้าใจสภาพชีวิตและลักษณะเฉพาะของผู้รับการดูแลได้ ก็อาจมีอนาคตที่หุ่นยนต์จะสามารถดูแลผู้สูงอายุได้โดยตรง แต่เขายังเชื่อว่าหุ่นยนต์และมนุษย์ควรทำงานร่วมกันเพื่อปรับปรุงการดูแลผู้สูงอายุ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/28/ai-robots-may-hold-key-to-nursing-japan039s-ageing-population
    WWW.THESTAR.COM.MY
    AI robots may hold key to nursing Japan's ageing population
    TOKYO (Reuters) - Recently in Tokyo an AI-driven robot leaned over a man lying on his back and gently put a hand on his knee and another on a shoulder and rolled him onto his side -- a manoeuvre used to change diapers or prevent bedsores in the elderly.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 171 มุมมอง 0 รีวิว
  • สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลส่วนบุคคลของแคนาดาได้เปิดการสอบสวนเกี่ยวกับ X ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่เป็นเจ้าของโดย Elon Musk เพื่อดูว่า X ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของชาวแคนาดาในการฝึกอบรมโมเดลปัญญาประดิษฐ์ (AI) อย่างถูกต้องตามกฎหมายความเป็นส่วนตัวของแคนาดาหรือไม่ การสอบสวนนี้เกิดขึ้นหลังจากมีการร้องเรียนถึงการใช้ข้อมูลของผู้ใช้โดยไม่ได้รับความยินยอมที่เหมาะสม

    สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลส่วนบุคคลของแคนาดากล่าวว่าจะมุ่งเน้นการสอบสวนในเรื่องของการปฏิบัติตามกฎหมายความเป็นส่วนตัวของรัฐบาลกลาง โดยเฉพาะเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม การใช้งาน และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของชาวแคนาดาเพื่อฝึกอบรมโมเดลปัญญาประดิษฐ์ โดยยังไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับลักษณะของการร้องเรียนนี้

    Brian Masse สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรค New Democratic Party (NDP) กล่าวว่ายินดีที่เห็นสำนักงานคณะกรรมการข้อมูลส่วนบุคคลเปิดการสอบสวนเกี่ยวกับการใช้ข้อมูลของ X และเน้นว่าความโปร่งใสเป็นสิ่งสำคัญในช่วงเวลาที่อัลกอริทึมอาจถูกบิดเบือนเพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท็จ

    การสอบสวนนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่มีความตึงเครียดเพิ่มขึ้นระหว่างแคนาดาและสหรัฐฯ ในเรื่องการค้า การรักษาความปลอดภัยชายแดน และภาษีบริการดิจิทัลที่มีผลต่อบริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ในขณะเดียวกัน Elon Musk ที่ได้รับมอบหมายให้ลดขนาดรัฐบาลของสหรัฐฯ โดยประธานาธิบดี Donald Trump ได้สัญญาว่าจะดำเนินการตามภาษี 25% สำหรับสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโก เนื่องจากปัญหายาเสพติดที่ยังคงเข้ามาในสหรัฐฯ จากประเทศเหล่านี้

    X ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเดิมชื่อ Twitter มีโมเดลปัญญาประดิษฐ์ที่ชื่อว่า Grok ซึ่งเปิดให้ผู้ใช้ใช้งานเพื่อทำงานต่าง ๆ เช่น ตอบคำถาม แก้ปัญหา และระดมความคิด Grok-3 ซึ่งเป็นเวอร์ชันล่าสุดของโมเดลนี้ เพิ่งเปิดตัวให้กับสมาชิกระดับ Premium+ บน X

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/28/canada039s-privacy-watchdog-opens-investigation-into-x-following-complaint
    สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลส่วนบุคคลของแคนาดาได้เปิดการสอบสวนเกี่ยวกับ X ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่เป็นเจ้าของโดย Elon Musk เพื่อดูว่า X ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของชาวแคนาดาในการฝึกอบรมโมเดลปัญญาประดิษฐ์ (AI) อย่างถูกต้องตามกฎหมายความเป็นส่วนตัวของแคนาดาหรือไม่ การสอบสวนนี้เกิดขึ้นหลังจากมีการร้องเรียนถึงการใช้ข้อมูลของผู้ใช้โดยไม่ได้รับความยินยอมที่เหมาะสม สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลส่วนบุคคลของแคนาดากล่าวว่าจะมุ่งเน้นการสอบสวนในเรื่องของการปฏิบัติตามกฎหมายความเป็นส่วนตัวของรัฐบาลกลาง โดยเฉพาะเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม การใช้งาน และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของชาวแคนาดาเพื่อฝึกอบรมโมเดลปัญญาประดิษฐ์ โดยยังไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับลักษณะของการร้องเรียนนี้ Brian Masse สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรค New Democratic Party (NDP) กล่าวว่ายินดีที่เห็นสำนักงานคณะกรรมการข้อมูลส่วนบุคคลเปิดการสอบสวนเกี่ยวกับการใช้ข้อมูลของ X และเน้นว่าความโปร่งใสเป็นสิ่งสำคัญในช่วงเวลาที่อัลกอริทึมอาจถูกบิดเบือนเพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท็จ การสอบสวนนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่มีความตึงเครียดเพิ่มขึ้นระหว่างแคนาดาและสหรัฐฯ ในเรื่องการค้า การรักษาความปลอดภัยชายแดน และภาษีบริการดิจิทัลที่มีผลต่อบริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ในขณะเดียวกัน Elon Musk ที่ได้รับมอบหมายให้ลดขนาดรัฐบาลของสหรัฐฯ โดยประธานาธิบดี Donald Trump ได้สัญญาว่าจะดำเนินการตามภาษี 25% สำหรับสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโก เนื่องจากปัญหายาเสพติดที่ยังคงเข้ามาในสหรัฐฯ จากประเทศเหล่านี้ X ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเดิมชื่อ Twitter มีโมเดลปัญญาประดิษฐ์ที่ชื่อว่า Grok ซึ่งเปิดให้ผู้ใช้ใช้งานเพื่อทำงานต่าง ๆ เช่น ตอบคำถาม แก้ปัญหา และระดมความคิด Grok-3 ซึ่งเป็นเวอร์ชันล่าสุดของโมเดลนี้ เพิ่งเปิดตัวให้กับสมาชิกระดับ Premium+ บน X https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/28/canada039s-privacy-watchdog-opens-investigation-into-x-following-complaint
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Canada watchdog probing X's use of personal data in AI models' training
    TORONTO (Reuters) - Canada's privacy watchdog has opened an investigation into X, the social media platform owned by billionaire tech mogul Elon Musk, on whether its use of Canadians' personal data to train artificial intelligence (AI) models broke privacy rules.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 169 มุมมอง 0 รีวิว
  • "อิ๊งค์" ตอบกระทู้ครั้งแรก ร่ายงานปราบแก๊งคอล : [NEWS UPDATE]

    น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตอบกระทู้ถามต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรด้วยตนเองครั้งแรกตั้งแต่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แจกแจงผลการแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เตรียมลงพื้นที่ จ.สระแก้ว ติดตามสิ่งที่สั่งการ คิดว่าได้ผลจากก่อนหน้านี้เกิดความเสียหายกว่า 100 ล้านบาทต่อวัน ลดเหลือ 50 ล้านบาทต่อวัน ขอทุกคนมั่นใจ ไม่ว่าใครตำแหน่งสูงใหญ่แค่ไหน หากทำผิดจะจัดการอย่างเด็ดขาด ทั้งเรื่องคอลเซ็นเตอร์และยาเสพติด รัฐบาลไม่จบไม่เลิกแน่นอน จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้ออกจากห้องประชุมสภา ในระหว่างเข้าสู่วาระกระทู้ถามทั่วไป


    ข้องใจนายกชิ่งฝ่ายค้าน

    ล็อคเป้าซักฟอกนายก

    เรื่องความมั่นคงไม่พูดเยอะ

    ดึงอุปทานออกจากตลาด
    "อิ๊งค์" ตอบกระทู้ครั้งแรก ร่ายงานปราบแก๊งคอล : [NEWS UPDATE] น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตอบกระทู้ถามต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรด้วยตนเองครั้งแรกตั้งแต่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แจกแจงผลการแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เตรียมลงพื้นที่ จ.สระแก้ว ติดตามสิ่งที่สั่งการ คิดว่าได้ผลจากก่อนหน้านี้เกิดความเสียหายกว่า 100 ล้านบาทต่อวัน ลดเหลือ 50 ล้านบาทต่อวัน ขอทุกคนมั่นใจ ไม่ว่าใครตำแหน่งสูงใหญ่แค่ไหน หากทำผิดจะจัดการอย่างเด็ดขาด ทั้งเรื่องคอลเซ็นเตอร์และยาเสพติด รัฐบาลไม่จบไม่เลิกแน่นอน จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้ออกจากห้องประชุมสภา ในระหว่างเข้าสู่วาระกระทู้ถามทั่วไป ข้องใจนายกชิ่งฝ่ายค้าน ล็อคเป้าซักฟอกนายก เรื่องความมั่นคงไม่พูดเยอะ ดึงอุปทานออกจากตลาด
    Haha
    Like
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1364 มุมมอง 70 0 รีวิว
  • รัฐบาลรุกคืบปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กัดไม่ปล่อย “ไม่จบ ไม่เลิก” เร่งแก้ราคาสินค้าเกษตร-ประมง คุมเข้มบุหรี่ไฟฟ้าในเยาวชน

    📅 มติประชุมคณะรัฐมนตรี วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 รัฐบาลเดินหน้ามาตรการเชิงรุก ปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์ ควบคู่กับการแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน ทั้งเรื่องราคาสินค้าเกษตร การเยียวยาอุตสาหกรรมประมง และการคุมเข้มบุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มเยาวชน โดยเน้นนโยบาย "กัดไม่ปล่อย ไม่จบ ไม่เลิก" เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม

    ปราบปรามคอลเซ็นเตอร์ “ไม่จบ ไม่เลิก” สองกระทรวงหลักร่วมรับผิดชอบ
    การระบาดของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนอย่างหนัก รัฐบาลจึงดำเนินมาตรการเข้มข้น โดยมอบหมายให้กระทรวงกลาโหม และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นหน่วยงานหลักในการปราบปราม

    กระทรวงกลาโหม ปิดช่องทางข้ามแดน ตัดเส้นทางเครือข่ายอาชญากรรม
    🔹 Seal ชายแดน 14 จังหวัด เพื่อสกัดเส้นทางลำเลียงอาชญากรข้ามชาติ
    🔹 กวาดล้างคอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์ การค้ามนุษย์ ที่มีฐานปฏิบัติการอยู่บริเวณชายแดน
    🔹 ดำเนินมาตรการ "ตัดไฟ ตัดทางน้ำมัน" เพื่อทำลายโครงสร้างสนับสนุน ของเครือข่ายมิจฉาชีพ
    🔹 ประสานงานกับประเทศปลายทาง เช่น จีนและเมียนมา เพื่อนำผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
    🔹 คุมเข้มเจ้าหน้าที่รัฐ ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้อง หากพบการทุจริต ดำเนินการลงโทษทันที

    กระทรวงดิจิทัลฯ ปิดช่องทางสื่อสารของแก๊งคอลเซ็นเตอร์
    🔸 รื้อถอนเสาสัญญาณใกล้ชายแดน โดยปรับลดความสูง ความแรงของสัญญาณ และควบคุมทิศทางของคลื่นความถี่
    🔸 ตัดสัญญาณซิมบ็อกซ์ที่ผิดกฎหมาย เพื่อลดการโทรศัพท์หลอกลวงจากต่างประเทศ
    🔸 คัดกรองเบอร์โทรต้องสงสัย (Cleansing System) ปิดกั้นหมายเลข ที่มีแนวโน้มใช้ในทางมิชอบ

    🛡️ เป้าหมายคือ การทำลายโครงสร้างพื้นฐาน ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ให้หมดสิ้นจากประเทศไทย!

    แก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตร ยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกร
    เศรษฐกิจภาคเกษตร เป็นหัวใจสำคัญของประเทศไทย แต่ราคาพืชผลยังคงผันผวน รัฐบาลจึงเร่งดำเนินมาตรการระยะสั้น และระยะยาว เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร

    มาตรการเร่งด่วน
    ✔️ ตรึงราคาข้าวเปลือก, มันสำปะหลัง, ข้าวโพด, ปาล์มน้ำมัน และยางพารา
    ✔️ อุดหนุนเกษตรกร ที่ได้รับผลกระทบจากราคาตกต่ำ
    ✔️ ควบคุมต้นทุนการผลิต เช่น ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง และค่าแรง

    มาตรการระยะยาว
    🌱 พัฒนาพันธุ์พืชใหม่ๆ ให้เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศ และความต้องการของตลาด
    📡 นำเทคโนโลยี และนวัตกรรมเกษตรอัจฉริยะ (Smart Farming) มาช่วยเพิ่มผลผลิต
    📊 เชื่อมโยงข้อมูลตลาดล่วงหน้า (Agri-Market Intelligence) เพื่อลดความเสี่ยงจากราคาตกต่ำ

    👩‍🌾 เกษตรกรไทยต้องมีรายได้ที่มั่นคง และสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้!

    แก้ปัญหาวิกฤติอุตสาหกรรมประมง เร่งจ่ายเงินเยียวยา
    อุตสาหกรรมประมงของไทย ได้รับผลกระทบหนักจากนโยบาย "นำเรือออกนอกระบบ" เพื่อลดปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย (IUU Fishing) ทำให้เจ้าของเรือจำนวนมาก ยังไม่ได้รับเงินเยียวยา

    แนวทางการช่วยเหลือ
    ✅ กรมประมง และกระทรวงเกษตรฯ เร่งจ่ายเงินเยียวยา ให้เจ้าของเรือที่ได้รับผลกระทบ
    ✅ เสนอที่ประชุม ครม. เพื่ออนุมัติงบประมาณเพิ่มเติม
    ✅ ปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมประมง ให้สอดคล้องกับกฎระเบียบสากล โดยไม่กระทบต่อผู้ประกอบการ

    🎣 รัฐบาลยืนยันว่า ประมงไทยจะต้องอยู่รอด และสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้!

    คุมเข้มบุหรี่ไฟฟ้าในเยาวชน ปรับกฎหมายให้รัดกุมขึ้น
    ปัญหาบุหรี่ไฟฟ้า กำลังระบาดในกลุ่มเยาวชนอย่างหนัก ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพ และการเสพติดในระยะยาว รัฐบาลจึงเร่งหามาตรการควบคุมอย่างจริงจัง

    มาตรการเร่งด่วน
    🚫 ปรับแก้ข้อกฎหมาย เพื่อให้การครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า ผิดกฎหมายชัดเจนยิ่งขึ้น
    🚫 เพิ่มโทษสำหรับการนำเข้า และจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า โดยไม่ได้รับอนุญาต
    🚫 คุมเข้มโซเชียลมีเดีย และแพลตฟอร์มออนไลน์ ที่โฆษณาขายบุหรี่ไฟฟ้า

    มาตรการให้ความรู้เยาวชน
    📢 จัดแคมเปญให้ความรู้ เรื่องอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้าในโรงเรียน
    📢 สร้างระบบแจ้งเบาะแส เพื่อให้ประชาชนช่วยกันสอดส่อง

    🚭 รัฐบาลมุ่งมั่นปกป้องสุขภาพเยาวชนไทย จากภัยของบุหรี่ไฟฟ้า!

    เดินหน้าปฏิบัติการ กัดไม่ปล่อย! การประชุม ครม. ครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงแนวทางการทำงาน ที่จริงจังของรัฐบาล ในการแก้ไขปัญหาสำคัญของประเทศ

    ✅ กวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทำลายเครือข่ายอาชญากรรม
    ✅ ตรึงราคาสินค้าเกษตร ยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกร
    ✅ ฟื้นฟูอุตสาหกรรมประมง ช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ
    ✅ คุมเข้มบุหรี่ไฟฟ้าในเยาวชน ป้องกันภัยสุขภาพและการเสพติด

    🏛️ รัฐบาลยืนยัน! จะเดินหน้าแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง และไม่ยอมแพ้จนกว่าจะเห็นผล!

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 262122 ก.พ. 2568

    📌 #รัฐบาลไทย #ปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ #ราคาสินค้าเกษตร #ปัญหาประมง #บุหรี่ไฟฟ้า #ปกป้องเยาวชน #นโยบายรัฐ #ครม2568 #เกษตรกรไทย #หยุดแก๊งมิจฉาชีพ
    รัฐบาลรุกคืบปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กัดไม่ปล่อย “ไม่จบ ไม่เลิก” เร่งแก้ราคาสินค้าเกษตร-ประมง คุมเข้มบุหรี่ไฟฟ้าในเยาวชน 📅 มติประชุมคณะรัฐมนตรี วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 รัฐบาลเดินหน้ามาตรการเชิงรุก ปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์ ควบคู่กับการแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน ทั้งเรื่องราคาสินค้าเกษตร การเยียวยาอุตสาหกรรมประมง และการคุมเข้มบุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มเยาวชน โดยเน้นนโยบาย "กัดไม่ปล่อย ไม่จบ ไม่เลิก" เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม ปราบปรามคอลเซ็นเตอร์ “ไม่จบ ไม่เลิก” สองกระทรวงหลักร่วมรับผิดชอบ การระบาดของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนอย่างหนัก รัฐบาลจึงดำเนินมาตรการเข้มข้น โดยมอบหมายให้กระทรวงกลาโหม และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นหน่วยงานหลักในการปราบปราม กระทรวงกลาโหม ปิดช่องทางข้ามแดน ตัดเส้นทางเครือข่ายอาชญากรรม 🔹 Seal ชายแดน 14 จังหวัด เพื่อสกัดเส้นทางลำเลียงอาชญากรข้ามชาติ 🔹 กวาดล้างคอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์ การค้ามนุษย์ ที่มีฐานปฏิบัติการอยู่บริเวณชายแดน 🔹 ดำเนินมาตรการ "ตัดไฟ ตัดทางน้ำมัน" เพื่อทำลายโครงสร้างสนับสนุน ของเครือข่ายมิจฉาชีพ 🔹 ประสานงานกับประเทศปลายทาง เช่น จีนและเมียนมา เพื่อนำผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม 🔹 คุมเข้มเจ้าหน้าที่รัฐ ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้อง หากพบการทุจริต ดำเนินการลงโทษทันที กระทรวงดิจิทัลฯ ปิดช่องทางสื่อสารของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 🔸 รื้อถอนเสาสัญญาณใกล้ชายแดน โดยปรับลดความสูง ความแรงของสัญญาณ และควบคุมทิศทางของคลื่นความถี่ 🔸 ตัดสัญญาณซิมบ็อกซ์ที่ผิดกฎหมาย เพื่อลดการโทรศัพท์หลอกลวงจากต่างประเทศ 🔸 คัดกรองเบอร์โทรต้องสงสัย (Cleansing System) ปิดกั้นหมายเลข ที่มีแนวโน้มใช้ในทางมิชอบ 🛡️ เป้าหมายคือ การทำลายโครงสร้างพื้นฐาน ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ให้หมดสิ้นจากประเทศไทย! แก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตร ยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกร เศรษฐกิจภาคเกษตร เป็นหัวใจสำคัญของประเทศไทย แต่ราคาพืชผลยังคงผันผวน รัฐบาลจึงเร่งดำเนินมาตรการระยะสั้น และระยะยาว เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร มาตรการเร่งด่วน ✔️ ตรึงราคาข้าวเปลือก, มันสำปะหลัง, ข้าวโพด, ปาล์มน้ำมัน และยางพารา ✔️ อุดหนุนเกษตรกร ที่ได้รับผลกระทบจากราคาตกต่ำ ✔️ ควบคุมต้นทุนการผลิต เช่น ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง และค่าแรง มาตรการระยะยาว 🌱 พัฒนาพันธุ์พืชใหม่ๆ ให้เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศ และความต้องการของตลาด 📡 นำเทคโนโลยี และนวัตกรรมเกษตรอัจฉริยะ (Smart Farming) มาช่วยเพิ่มผลผลิต 📊 เชื่อมโยงข้อมูลตลาดล่วงหน้า (Agri-Market Intelligence) เพื่อลดความเสี่ยงจากราคาตกต่ำ 👩‍🌾 เกษตรกรไทยต้องมีรายได้ที่มั่นคง และสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้! แก้ปัญหาวิกฤติอุตสาหกรรมประมง เร่งจ่ายเงินเยียวยา อุตสาหกรรมประมงของไทย ได้รับผลกระทบหนักจากนโยบาย "นำเรือออกนอกระบบ" เพื่อลดปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย (IUU Fishing) ทำให้เจ้าของเรือจำนวนมาก ยังไม่ได้รับเงินเยียวยา แนวทางการช่วยเหลือ ✅ กรมประมง และกระทรวงเกษตรฯ เร่งจ่ายเงินเยียวยา ให้เจ้าของเรือที่ได้รับผลกระทบ ✅ เสนอที่ประชุม ครม. เพื่ออนุมัติงบประมาณเพิ่มเติม ✅ ปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมประมง ให้สอดคล้องกับกฎระเบียบสากล โดยไม่กระทบต่อผู้ประกอบการ 🎣 รัฐบาลยืนยันว่า ประมงไทยจะต้องอยู่รอด และสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้! คุมเข้มบุหรี่ไฟฟ้าในเยาวชน ปรับกฎหมายให้รัดกุมขึ้น ปัญหาบุหรี่ไฟฟ้า กำลังระบาดในกลุ่มเยาวชนอย่างหนัก ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพ และการเสพติดในระยะยาว รัฐบาลจึงเร่งหามาตรการควบคุมอย่างจริงจัง มาตรการเร่งด่วน 🚫 ปรับแก้ข้อกฎหมาย เพื่อให้การครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า ผิดกฎหมายชัดเจนยิ่งขึ้น 🚫 เพิ่มโทษสำหรับการนำเข้า และจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า โดยไม่ได้รับอนุญาต 🚫 คุมเข้มโซเชียลมีเดีย และแพลตฟอร์มออนไลน์ ที่โฆษณาขายบุหรี่ไฟฟ้า มาตรการให้ความรู้เยาวชน 📢 จัดแคมเปญให้ความรู้ เรื่องอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้าในโรงเรียน 📢 สร้างระบบแจ้งเบาะแส เพื่อให้ประชาชนช่วยกันสอดส่อง 🚭 รัฐบาลมุ่งมั่นปกป้องสุขภาพเยาวชนไทย จากภัยของบุหรี่ไฟฟ้า! เดินหน้าปฏิบัติการ กัดไม่ปล่อย! การประชุม ครม. ครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงแนวทางการทำงาน ที่จริงจังของรัฐบาล ในการแก้ไขปัญหาสำคัญของประเทศ ✅ กวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทำลายเครือข่ายอาชญากรรม ✅ ตรึงราคาสินค้าเกษตร ยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกร ✅ ฟื้นฟูอุตสาหกรรมประมง ช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ ✅ คุมเข้มบุหรี่ไฟฟ้าในเยาวชน ป้องกันภัยสุขภาพและการเสพติด 🏛️ รัฐบาลยืนยัน! จะเดินหน้าแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง และไม่ยอมแพ้จนกว่าจะเห็นผล! ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 262122 ก.พ. 2568 📌 #รัฐบาลไทย #ปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ #ราคาสินค้าเกษตร #ปัญหาประมง #บุหรี่ไฟฟ้า #ปกป้องเยาวชน #นโยบายรัฐ #ครม2568 #เกษตรกรไทย #หยุดแก๊งมิจฉาชีพ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 363 มุมมอง 0 รีวิว
  • สองวันหลังยกเลิกงานที่ไม่ไหวจะเคลียร์ ทำต่อไม่ไหว คือจะทำเท่าที่ทำได้ แต่อยากให้ผมแก้ปัญหาคนเดียว และอีกปัจจัยนึงคือเพื่อนโปรแกรมเมอร์ที่ประสบการณ์มากกว่าเขาไม่ว่างกัน คือผมไปขอความช่วยเหลือเพื่อศึกษาจากรุ่นพี่ก็ไม่ได้ ให้ผมแก้ แต่กว่าจะได้เงินมาก็ไส้แห้งพอดี ได้เงินก็ได้มาน้อยมาก จนผมตัดสินใจยกเลิกไม่รับงานมันไปทำอย่างอื่นที่ตอบโจทย์กว่านี้ดีกว่า แต่สุดท้ายต้องยกเลิกเพราะทำต่อไปไม่ไหวจริงๆ แต่ไม่ค่อยมีใครโทรตามไปแก้ คือลูกค้าเขาเอือมระอาและโกรธแค้นผมมากที่ผมทำงานของคนที่จ้างผม(เขามีลูกค้าของเขาและเป็นลูกค้าของลูกค้าของผม)จนคนที่จ้างผมอมขี้ฟันลูกค้ามาด่าและแทงใจดำ จนผมนอยด์และดิ่ง ทนกับมันมานาน เกรงใจคนในครอบครัวมานาน แน่นอนครอบครัวไม่ใช่เซฟโซนนานแล้ว และกกลับบ้านเกิดก็ไม่ใช่เซฟโซนอีก เพราะทุกคนในครอบครัวกดดันให้ผมสอบงานราชการซึ่งไม่ใช่ทางผมตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ผมสอบ กพ. เพื่อเป็นทางผ่านไปสอบ TOEIC รอบแก้แค้นแทน และ CU-TEP ต่อ เพื่อสร้างตัวตนที่ดีกว่านี้ แต่ผมสามารถอยู่ยืนได้ด้วยลำแข้งลำขาตนเองได้ แต่ผมคงกร่อยต่อไปไม่ได้แล้ว พรุ่งนี้ที่จะปลูกต้นกล้าผักกาดที่เบียดกันอยู่ต่อขอหยุดทำไปก่อนเพราะทางบ้านเขาเริ่มไม่พอใจผมแล้ว เลยต้องหยุดทำไว้ก่อนเพื่อลดแรงเสียดทานก่อนที่จะบานปลายและรุนแรงไปมากกว่านี้ แต่ทนอยู่กับทางบ้านและครอบครัวที่ทั้งครอบครัวไม่ถูกกับผมเพื่ออนาคตวันข้างหน้าและถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจจริงๆและเด็ดขาดชัดเจนว่าจะไม่อยู่ร่วมกัน ต่างคนต่างอยู่ ผมไม่ตัดตัวเองออกจากครอบครัว ถึงทั้งครอบครัวจะตัดผมเพราะผมคือมะเร็งเนื้อร้ายก็ตัดไป เพราะก่อนจะทำเพื่อครอบครัว ทำเพื่อตัวเองก่อน ตัวเองยังเอาไม่รอดเลย ครอบครัวกดดัน ตัวเองก็พยายามจะไม่ตามครอบครัวไปทุกเรื่องจนผมเสียความเป็นตัวตน เงินหาใหม่ได้ หาเมื่อไหร่ก็ได้ งานเราสร้างมาเองได้ ไม่ต้องฝากประวัติเพื่อทำงานเป็นลูกจ้างใคร คือทางบ้านเขาติดมูหนักมากจนเขาพยายามห้ามไม่ให้กินเนื้อวัว สุดท้ายก็ต้องกิน ส่วนเรื่องกินเนื้อแพะฟรีไม่ได้กิน ไม่รู้ทางบ้านกับครอบครัวเขาเคร่งมูจัดอะไรนักหนา ผมนับถือแค่พุทธโดยแก่นแท้ แต่มูมากเกินไปกฎเกณฑ์มากเกินไปจนผมรู้สึกแพนิก หวาดระแวง แบบผ่อนส่งไปแล้ว
    สองวันหลังยกเลิกงานที่ไม่ไหวจะเคลียร์ ทำต่อไม่ไหว คือจะทำเท่าที่ทำได้ แต่อยากให้ผมแก้ปัญหาคนเดียว และอีกปัจจัยนึงคือเพื่อนโปรแกรมเมอร์ที่ประสบการณ์มากกว่าเขาไม่ว่างกัน คือผมไปขอความช่วยเหลือเพื่อศึกษาจากรุ่นพี่ก็ไม่ได้ ให้ผมแก้ แต่กว่าจะได้เงินมาก็ไส้แห้งพอดี ได้เงินก็ได้มาน้อยมาก จนผมตัดสินใจยกเลิกไม่รับงานมันไปทำอย่างอื่นที่ตอบโจทย์กว่านี้ดีกว่า แต่สุดท้ายต้องยกเลิกเพราะทำต่อไปไม่ไหวจริงๆ แต่ไม่ค่อยมีใครโทรตามไปแก้ คือลูกค้าเขาเอือมระอาและโกรธแค้นผมมากที่ผมทำงานของคนที่จ้างผม(เขามีลูกค้าของเขาและเป็นลูกค้าของลูกค้าของผม)จนคนที่จ้างผมอมขี้ฟันลูกค้ามาด่าและแทงใจดำ จนผมนอยด์และดิ่ง ทนกับมันมานาน เกรงใจคนในครอบครัวมานาน แน่นอนครอบครัวไม่ใช่เซฟโซนนานแล้ว และกกลับบ้านเกิดก็ไม่ใช่เซฟโซนอีก เพราะทุกคนในครอบครัวกดดันให้ผมสอบงานราชการซึ่งไม่ใช่ทางผมตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ผมสอบ กพ. เพื่อเป็นทางผ่านไปสอบ TOEIC รอบแก้แค้นแทน และ CU-TEP ต่อ เพื่อสร้างตัวตนที่ดีกว่านี้ แต่ผมสามารถอยู่ยืนได้ด้วยลำแข้งลำขาตนเองได้ แต่ผมคงกร่อยต่อไปไม่ได้แล้ว พรุ่งนี้ที่จะปลูกต้นกล้าผักกาดที่เบียดกันอยู่ต่อขอหยุดทำไปก่อนเพราะทางบ้านเขาเริ่มไม่พอใจผมแล้ว เลยต้องหยุดทำไว้ก่อนเพื่อลดแรงเสียดทานก่อนที่จะบานปลายและรุนแรงไปมากกว่านี้ แต่ทนอยู่กับทางบ้านและครอบครัวที่ทั้งครอบครัวไม่ถูกกับผมเพื่ออนาคตวันข้างหน้าและถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจจริงๆและเด็ดขาดชัดเจนว่าจะไม่อยู่ร่วมกัน ต่างคนต่างอยู่ ผมไม่ตัดตัวเองออกจากครอบครัว ถึงทั้งครอบครัวจะตัดผมเพราะผมคือมะเร็งเนื้อร้ายก็ตัดไป เพราะก่อนจะทำเพื่อครอบครัว ทำเพื่อตัวเองก่อน ตัวเองยังเอาไม่รอดเลย ครอบครัวกดดัน ตัวเองก็พยายามจะไม่ตามครอบครัวไปทุกเรื่องจนผมเสียความเป็นตัวตน เงินหาใหม่ได้ หาเมื่อไหร่ก็ได้ งานเราสร้างมาเองได้ ไม่ต้องฝากประวัติเพื่อทำงานเป็นลูกจ้างใคร คือทางบ้านเขาติดมูหนักมากจนเขาพยายามห้ามไม่ให้กินเนื้อวัว สุดท้ายก็ต้องกิน ส่วนเรื่องกินเนื้อแพะฟรีไม่ได้กิน ไม่รู้ทางบ้านกับครอบครัวเขาเคร่งมูจัดอะไรนักหนา ผมนับถือแค่พุทธโดยแก่นแท้ แต่มูมากเกินไปกฎเกณฑ์มากเกินไปจนผมรู้สึกแพนิก หวาดระแวง แบบผ่อนส่งไปแล้ว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 163 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิด 3 แนวทาง แก้ปัญหาบุหรี่ไฟฟ้า ส่วยใต้ดิน เด็กสูบแล้วปอดหาย : ถอนหมุดข่าว 26/02/68
    เปิด 3 แนวทาง แก้ปัญหาบุหรี่ไฟฟ้า ส่วยใต้ดิน เด็กสูบแล้วปอดหาย : ถอนหมุดข่าว 26/02/68
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 249 มุมมอง 7 0 รีวิว
Pages Boosts