• วัดเชียงแสน อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ แหล่งโบราณเก่าแก่ก่อนประวัติศาสตร์ 3000 ปี
    วัดเชียงแสน อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ แหล่งโบราณเก่าแก่ก่อนประวัติศาสตร์ 3000 ปี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 118 มุมมอง 0 รีวิว
  • Haaretz หนังสือพิมพ์ที่เก่าแก่ที่สุดของอิสราเอลรายงานว่า:
    ทรัมป์จะเสนอให้เนทันยาฮูยุติสงครามในกาซา หากเขาปฏิเสธข้อเสนอนี้ ทรัมป์อาจจะตัดความช่วยเหลือที่มีต่ออิสราเอล เนื่องจากที่ผ่านมาต้องจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อปกป้องอิสราเอลไว้
    Haaretz หนังสือพิมพ์ที่เก่าแก่ที่สุดของอิสราเอลรายงานว่า: ทรัมป์จะเสนอให้เนทันยาฮูยุติสงครามในกาซา หากเขาปฏิเสธข้อเสนอนี้ ทรัมป์อาจจะตัดความช่วยเหลือที่มีต่ออิสราเอล เนื่องจากที่ผ่านมาต้องจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อปกป้องอิสราเอลไว้
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 89 มุมมอง 0 รีวิว
  • เบื่อหาดใหญ่ ไปอลอร์สตาร์

    ในขณะที่ชาวมาเลเซียนิยมเข้ามาท่องเที่ยวที่หาดใหญ่ จ.สงขลาอย่างคึกคัก ในทางกลับกันยังมีคนไทยอีกส่วนหนึ่ง โดยเฉพาะชาวหาดใหญ่ นิยมไปเที่ยวประเทศมาเลเซีย หนึ่งในนั้นคือ อลอร์สตาร์ (Alor Setar) เมืองหลวงของรัฐเคดะห์ (Kedah) หากขับรถไปเองโดยใช้ทางด่วนเหนือ-ใต้ E1 จากด่านบูกิตกายูฮิตัม ตรงข้าม อ.สะเดา จ.สงขลา ระยะทางเพียง 50 กิโลเมตร

    แต่ส่วนมากนิยมเดินทางโดยรถไฟ KTM Komuter จากสถานีปาดังเบซาร์ (Padang Besar) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที ค่าโดยสาร 5.70 ริงกิตต่อเที่ยว (ประมาณ 45 บาท) หากเดินทางแบบไปเช้าเย็นกลับ นิยมจอดรถที่ด่านปาดังเบซาร์ฝั่งไทย ก่อนไปประทับตราหนังสือเดินทางที่ด่านพรมแดนปาดังเบซาร์ เปิดเวลา 05.00-21.00 น. ตามเวลาประเทศไทย กับศูนย์ ICQS ปาดังเบซาร์

    ชาวหาดใหญ่นิยมมาช้อปปิ้งที่ศูนย์การค้าอะมาน เซ็นทรัล (Aman Central) เนื่องจากมีร้านค้าที่ไม่มีในหาดใหญ่ เช่น ร้าน CHAGEE, ร้าน Krispy Kreme ที่มีโดนัทไซส์เล็ก, ไอศกรีม Llaollao (เหยาเหยา) นอกนั้นก็จะซื้อผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม ทั้งน้ำหอม สกินแคร์ และวิตามินต่างๆ บางรายการถูกกว่าประเทศไทย

    อะมาน เซ็นทรัล เป็นศูนย์การค้าขนาด 8 ชั้นของกลุ่มเบลล์วิลล์กรุ๊ป เปิดเมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2558 มีร้านค้าเช่ารวม 420 ร้าน แมกเนตหลักประกอบด้วย โลตัส (Lotus's) ห้างสรรพสินค้าพาร์คสัน (Parkson) และโรงภาพยนตร์โกลเด้นสกรีนซีนีม่าส์ (GSC)

    ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมประกอบด้วย Menara Alor Setar หอโทรคมนาคม สูง 4 ชั้น ยาว 165.5 เมตร (543 ฟุต) อันดับสามในมาเลเซีย เปิดเมื่อปี 2540 ราคาเข้าชมจุดชมวิวเริ่มต้นที่ 8 ริงกิต, มัสยิดซาฮีร์ (Zahir Mosque) ซึ่งเก่าแก่ที่สุดในมาเลเซีย นอกนั้นก็จะมี Kedah State Art Gallery หอศิลป์แห่งรัฐเคดาห์ ห่างออกไปจะเป็น Kedah Paddy Museum พิพิธภัณฑ์ข้าว

    เคดะห์เป็นรัฐ 5 อันดับแรกในมาเลเซียที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวสูงสุด เพราะมีแหล่งท่องเที่ยวอย่างเกาะลังกาวี โดยในปี 2566 มีนักท่องเที่ยวรวมทั้งสิ้น 6.45 ล้านคน โดยเมืองอลอร์สตาร์มีโรงแรมให้บริการรวม 2,552 ห้อง ส่วนสนามบินอลอร์สตาร์ (AOR) มีผู้โดยสารรวมทั้งสิ้น 588,771 คน มีเที่ยวบินจากสนามบินกัวลาลัมเปอร์ (KUL) 23 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ สนามบินซูบัง (SZB) 14 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และสนามบินเซไน รัฐยะโฮร์ (JHB) 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์

    ล่าสุด สายการบินบาติกแอร์ (Batik Air) ประกาศเปิดเส้นทางบินใหม่ กัวลาลัมเปอร์-อลอร์สตาร์ ด้วยเครื่องบินโบอิ้ง 737 ตั้งแต่วันที่ 5 ธ.ค. 2567 ให้บริการ 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์

    #Newskit #AlorSetar #Kedah
    เบื่อหาดใหญ่ ไปอลอร์สตาร์ ในขณะที่ชาวมาเลเซียนิยมเข้ามาท่องเที่ยวที่หาดใหญ่ จ.สงขลาอย่างคึกคัก ในทางกลับกันยังมีคนไทยอีกส่วนหนึ่ง โดยเฉพาะชาวหาดใหญ่ นิยมไปเที่ยวประเทศมาเลเซีย หนึ่งในนั้นคือ อลอร์สตาร์ (Alor Setar) เมืองหลวงของรัฐเคดะห์ (Kedah) หากขับรถไปเองโดยใช้ทางด่วนเหนือ-ใต้ E1 จากด่านบูกิตกายูฮิตัม ตรงข้าม อ.สะเดา จ.สงขลา ระยะทางเพียง 50 กิโลเมตร แต่ส่วนมากนิยมเดินทางโดยรถไฟ KTM Komuter จากสถานีปาดังเบซาร์ (Padang Besar) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที ค่าโดยสาร 5.70 ริงกิตต่อเที่ยว (ประมาณ 45 บาท) หากเดินทางแบบไปเช้าเย็นกลับ นิยมจอดรถที่ด่านปาดังเบซาร์ฝั่งไทย ก่อนไปประทับตราหนังสือเดินทางที่ด่านพรมแดนปาดังเบซาร์ เปิดเวลา 05.00-21.00 น. ตามเวลาประเทศไทย กับศูนย์ ICQS ปาดังเบซาร์ ชาวหาดใหญ่นิยมมาช้อปปิ้งที่ศูนย์การค้าอะมาน เซ็นทรัล (Aman Central) เนื่องจากมีร้านค้าที่ไม่มีในหาดใหญ่ เช่น ร้าน CHAGEE, ร้าน Krispy Kreme ที่มีโดนัทไซส์เล็ก, ไอศกรีม Llaollao (เหยาเหยา) นอกนั้นก็จะซื้อผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม ทั้งน้ำหอม สกินแคร์ และวิตามินต่างๆ บางรายการถูกกว่าประเทศไทย อะมาน เซ็นทรัล เป็นศูนย์การค้าขนาด 8 ชั้นของกลุ่มเบลล์วิลล์กรุ๊ป เปิดเมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2558 มีร้านค้าเช่ารวม 420 ร้าน แมกเนตหลักประกอบด้วย โลตัส (Lotus's) ห้างสรรพสินค้าพาร์คสัน (Parkson) และโรงภาพยนตร์โกลเด้นสกรีนซีนีม่าส์ (GSC) ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมประกอบด้วย Menara Alor Setar หอโทรคมนาคม สูง 4 ชั้น ยาว 165.5 เมตร (543 ฟุต) อันดับสามในมาเลเซีย เปิดเมื่อปี 2540 ราคาเข้าชมจุดชมวิวเริ่มต้นที่ 8 ริงกิต, มัสยิดซาฮีร์ (Zahir Mosque) ซึ่งเก่าแก่ที่สุดในมาเลเซีย นอกนั้นก็จะมี Kedah State Art Gallery หอศิลป์แห่งรัฐเคดาห์ ห่างออกไปจะเป็น Kedah Paddy Museum พิพิธภัณฑ์ข้าว เคดะห์เป็นรัฐ 5 อันดับแรกในมาเลเซียที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวสูงสุด เพราะมีแหล่งท่องเที่ยวอย่างเกาะลังกาวี โดยในปี 2566 มีนักท่องเที่ยวรวมทั้งสิ้น 6.45 ล้านคน โดยเมืองอลอร์สตาร์มีโรงแรมให้บริการรวม 2,552 ห้อง ส่วนสนามบินอลอร์สตาร์ (AOR) มีผู้โดยสารรวมทั้งสิ้น 588,771 คน มีเที่ยวบินจากสนามบินกัวลาลัมเปอร์ (KUL) 23 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ สนามบินซูบัง (SZB) 14 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และสนามบินเซไน รัฐยะโฮร์ (JHB) 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ล่าสุด สายการบินบาติกแอร์ (Batik Air) ประกาศเปิดเส้นทางบินใหม่ กัวลาลัมเปอร์-อลอร์สตาร์ ด้วยเครื่องบินโบอิ้ง 737 ตั้งแต่วันที่ 5 ธ.ค. 2567 ให้บริการ 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ #Newskit #AlorSetar #Kedah
    Like
    Love
    9
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 541 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ร้านเก่าแก่เดียวในกรุงเทพฯ ที่ได้ทั้งวิวของอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยกับเพลงบรรเลงเย็น ๆ เพราะ ๆ ตัวร้านบรรยากาศคลาสสิกมาก การตกแต่งก็ดี ชุดพนักงานช่างเข้ากับถนนราชดำเนินจริง ๆ เหมือนย้อนวัยสมัยยุคคุณพ่อคุณแม่ ทุกเมนูรสชาติจัดจ้าน เหมาะกับทั้งลิ้นคนไทยและต่างชาติ เมนูที่แนะนำคือ กระทงทอง ยำส้มโอ และต้มยำปลาเก๋าโหระพา

    #อาหารไทยดั้งเดิม #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    “ร้านเก่าแก่เดียวในกรุงเทพฯ ที่ได้ทั้งวิวของอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยกับเพลงบรรเลงเย็น ๆ เพราะ ๆ ตัวร้านบรรยากาศคลาสสิกมาก การตกแต่งก็ดี ชุดพนักงานช่างเข้ากับถนนราชดำเนินจริง ๆ เหมือนย้อนวัยสมัยยุคคุณพ่อคุณแม่ ทุกเมนูรสชาติจัดจ้าน เหมาะกับทั้งลิ้นคนไทยและต่างชาติ เมนูที่แนะนำคือ กระทงทอง ยำส้มโอ และต้มยำปลาเก๋าโหระพา #อาหารไทยดั้งเดิม #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 631 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมนูที่ห้ามพลาด เมื่อมาถึงเยาวราช ก็คือ หูฉลามน้ำแดง ! ถ้ายังคิดชื่อร้านไม่ออก เราขอแนะนำร้าน เล่าลี่ หูฉลาม เลยครับ ความเก๋าของร้านนี้อยู่ตรงที่ ความเก่าแก่ เพราะที่นี่เปิดให้บริการมาเป็นเวลายาวนาน รสชาติของเมนูหูฉลามก็ถูกส่งต่อ รุ่นต่อรุ่น อย่างเป็นความลับ เอาเป็นว่า มันดีมาก.

    พิกัด : https://goo.gl/maps/Aq4PjEsc3R5SXSw18
    ที่อยู่ : ถนนเยาวราช แขวง/เขต สัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ
    ร้านเปิดบริการ : 11.00 - 21.00 น.
    โทร : 0-2223-0325
    #เยาวราช #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    เมนูที่ห้ามพลาด เมื่อมาถึงเยาวราช ก็คือ หูฉลามน้ำแดง ! ถ้ายังคิดชื่อร้านไม่ออก เราขอแนะนำร้าน เล่าลี่ หูฉลาม เลยครับ ความเก๋าของร้านนี้อยู่ตรงที่ ความเก่าแก่ เพราะที่นี่เปิดให้บริการมาเป็นเวลายาวนาน รสชาติของเมนูหูฉลามก็ถูกส่งต่อ รุ่นต่อรุ่น อย่างเป็นความลับ เอาเป็นว่า มันดีมาก. พิกัด : https://goo.gl/maps/Aq4PjEsc3R5SXSw18 ที่อยู่ : ถนนเยาวราช แขวง/เขต สัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ ร้านเปิดบริการ : 11.00 - 21.00 น. โทร : 0-2223-0325 #เยาวราช #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 295 มุมมอง 0 รีวิว
  • "หมาหลง..."

    ที่ไม่ได้หมายถึง "หลงทาง" หรือหายตัวไปจากที่อยู่อาศัยนะครับ แต่หมายถึง "หลงลืม" จำอะไรต่ออะไรไม่ได้แล้ว ลืมเรื่องราวต่างๆไป

    ผมชอบไปกินข้าวตามสั่งอยู่ร้านนึง ตรง 5 แยกลำกระโหลก ตรงถนนพระยาสุเรนทร์ บ่อยๆ จะเจอน้องหมาตัวนึงประจำๆ น้องชื่อ "เซเว่น"

    ที่ชื่อ "เซเว่น" เพราะป้าๆแม่ค้าแถวนั้นร่วมใจกันตั้งชื่อไว้ให้ เค้าบอกว่า น้องอยู่หน้า 7/11 สาขานี้ตั้งแต่เด็กๆ แม่น้องคงคาบมาจากป่าข้างหลัง เป็นลูกโทน พี่น้องก็ไม่มีเลย เพราะอาจจะถูกพี่งูแถวนั้นรับประทาน หรือจะด้วยเหตุผลใดก็ไม่ทราบได้ ทำให้เว่นได้รับสัมปทาน เป็นหมาตัวเดียวใน 7/11 ตรงนั้น ไปโดยปริยาย

    แม่ค้าเเถวนี้เค้าเลยตั้งชื่อให้ตามชาติพันธุ์และเเหล่งกำเนิดของเว่น

    ผมเห็นเซเว่นตั้งแต่มาอยู่แถวนี้ใหม่ๆ ราวๆ 8-9 ปีก่อน เซเว่นจะเป็นที่รักของแม่ค้าและคนที่มานั่งกินอาหารแถวนี้มากๆ คือไม่เห่าไม่กัด เป็นมิตรกับทุกๆคน คืออยู่เป็นเลยทีเดียว ตอนเว่นเด็กคือน่ารักมากๆ อ้วนๆจ้ำม่ำ ปุ๊กลุ๊ก ชอบวิ่งขาพันกันหกล้มหกลุกอยู่ตรงนั้นทุกๆวัน

    กิจวัตรประจำวันของเซเว่น คือจะนอนขวางทางเข้าออกหน้า 7/11 หรือบางครั้งเค้าก็จะเข้ามานอนอยู่ข้างตู้ไอติม หรือใต้ชั้นหนังสือ ถ้าดึกๆจะได้เห็นเว่นนอนเย็นๆยาวๆ เพราะน้องๆพนักงาน 7/11 กะดึกก็คงรักและไม่อยากรบกวนเวลาหลับนอนอันแสนสบายของเว่น

    เกะกะบ้าง แต่ไม่เคยระรานหรือสร้างความเดือดร้อนให้ใคร พอหิวก็จะเดินมามอง ส่งสายตาและกระเเสจิต ตามโต๊ะอาหารที่ลูกค้ากำลังนั่งกิน ไม่ว่าเป็นร้าน ราดหน้า ข้าวมันไก่ บะหมี่เกี๊ยว ขออาหารด้วยสายวิงวอน ชนิดที่ว่า ต่อให้คุณจะเป็นองคุลีมาลกลับชาติมาเกิดคุณก็ต้องรีบถวายไก่ในจานข้าวมันไก่ให้มันซักชิ้นนึงทันที เหมือนเป็นหน้าที่ ที่ต้องทำ

    น้องจะเดินไถทุกโต๊ะด้วยความมั่นใจ และทำตัวเหมือนเป็นมิตรโดยไม่รู้สึกผิดและเคอะเขิน

    คือบอนทูบีเลย ว่างั้นเห่อะ...

    ล่าสุด ผมแวะไปกินข้าวร้านป้าวาส ผมไม่ได้มากินร้านป้าวาสบ่อยๆเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ร้านรวงที่เคยกินๆก็หายไปหลายร้าน เหลืออยู่แค่ 2-3 ร้านที่ยังขายอยู่ แต่ผมยังเห็นแกขายอยู่ เป็นร้านเก่าแก่ร้านเดียว ที่ผมคิดถึง ผมเลยสั่งอาหารจานเดิมๆที่ผมชอบสั่งตลอดมาทันทีจานนึง แล้วมานั่งรออาหารที่โต๊ะในร้าน

    ก็เหลือบไปเห็นเจ้าเซเว่นเดินออกมามองผมจากที่ไหนก็ไม่รู้ในหลืบๆแถวนั้น

    เซเว่นดูแก่ไปมาก ตอนแรกผมไม่คิดว่าจะเป็นเว่น จนป้าวาสบอกว่าไอ่นี่แหล่ะ ไอ้เว่น... ผมโคตรดีใจเหมือนเจอเพื่อนเก่า แต่ผมแอบเห็นเว่นเดินตุปั๊ดตุเป๋ เซไปเซมาเหมือนรถยังไม่ได้ตั้งศูนย์ มาด้อมๆมองๆ ป้าวาสแกก็เลยผัดข้าวไปเล่าไปให้ฟังว่า

    "มันหลงแล้วไอ่หนู... มันได้แต่เดินมามองๆไปงั้นแหล่ะ แต่มันจำใครไม่ได้แล้ว ใครเดินเข้าไปไกล้ๆก็ไม่ได้ด้วยนะ มันจะคอยแหง่มใส่เท้า แต่มันไม่มีฟันบน กัดใครก็ไม่เข้าแล้ว อย่าไปไกล้มันล่ะหนู.... "

    ส่วนตัวผมก็อยากรู้ว่า ป้าวาสแกรู้ได้ไงหว่า... ว่ามันหลง?
    มันแสดงอาการอะไรออกมา?
    ที่ทำให้แกฟันธงว่าว่ามันหลงลืมหรือเป็นอัลไซเมอร์ในหมา?

    พอถามแกไปแกก็แจงให้ทราบดังนี้

    1. พาไปหาหมอหมา พ่อค้าแม่ค้ารวมเงินกันพาไป จากแม่ค้าหมูปิ้ง ร้านเย็นตาโฟ น้ำปั่น ร้านราดหน้า เตี๋ยวน้ำตก แล้วก็ป้าวาส หมอเลยบอกว่าน้องเริ่มหลงเเล้วนะ

    2. น้องจำใครไม่ได้เลย จะแง่งใส่ทุกคน

    3. จำที่นอนกับข้าวของของตัวเองไม่ได้ เช่น เว่นจะมีผ้าเน่าอยู่ผืนนึงไว้ปูเป็นที่นอน น้องจะติดผ้าผืนนี้มาก และน้องจะชอบหาไม่เจอ ถึงจะปูไว้ที่เดิม ไม่เคยย้ายไปไหน แต่น้องจะวนเห่าตามหาตลอด พอเอามาให้แล้วจะเงียบทันที

    4. เวลาให้ของกิน น้องจะกินไปเรื่อยๆ กินซักพักแล้วก็หยุดแล้วกินใหม่ เดินเป็นวงกลม กินไปเดินไป กินไม่รู้อิ่ม กินอยู่อย่างนั้นแหล่ะ เหมือนไม่รู้ว่าตัวเองกินไปเท่าไหร่จำไม่ได้ ต้องคอยดูตลอดเวลา แต่ผมเห็นน้องไม่อ้วนเลย ป้าแกคิดว่าน่าจะมีพยาธิในท้องเยอะ

    จากคำบอกเล่าของป้าวาสอีกเรื่องนึงคือเมื่อวาน เว่นเดินก๊งๆ พยามไปนอนเกาะกลางถนนแล้วโดนมอเตอร์ไซด์ชนไปทีนึง ลุงหน่องร้านข้าวขาหมูเลยไปอุ้มเว่นกลับมา ทำให้วันนี้เลยเดินซะง๊อกซะแง้กอย่างที่เห็น

    ผมเองเกิดมา ก็ไม่เคยเห็นหมาเป็นโรคและอาการแบบนี้เลย ก็ได้เอาใจช่วยเซเว่นอยากให้น้องมีชีวิตอย่างปลอดภัยและมีความสุข แต่สิ่งนึงเลย ที่รู้สึกแปลกใจมากๆคือ เซเว่นเจอคนดีๆเยอะมากกกกก มีแต่คนน่ารักๆที่หยิบยื่นให้เว่นตลอด ป้าร้านหมูปิ้งตอนเช้าก็พาไปอาบน้ำ ป้าวาส ปูที่นอน หาข้าวให้กิน ลุงหน่องเอาขึ้นรถไปหาหมอ ฯลฯ

    เว่นถือว่าเป็นหมาที่ชีวิตมีความสุขมากๆตัวนึงเลย ในช่วงชีวิตนึงของเค้า กินอิ่มนอนหลับ มีที่อยู่ที่กิน และมีคนคอยพาไปหาหมอและช่วยกันดูแล ปัจจัย 4 คือพร้อมสรรพ เว่นโชคดีมากๆ ที่มาเกิดและโตในชุมชนเล็กๆที่เค้ารักสัตว์ทุกคนๆ ความโชคดีที่ ถ้าเป็นระดับเลเวลคือ เสมือนถูกสลากกินแบ่งรัดทะบานรางวัลที่ 1 เวอร์ชั่นหมาจรจัด

    ไอ้คำว่า "วาสนา" นี่ ผมว่ามันมีจริงๆนะ...
    "หมาหลง..." ที่ไม่ได้หมายถึง "หลงทาง" หรือหายตัวไปจากที่อยู่อาศัยนะครับ แต่หมายถึง "หลงลืม" จำอะไรต่ออะไรไม่ได้แล้ว ลืมเรื่องราวต่างๆไป ผมชอบไปกินข้าวตามสั่งอยู่ร้านนึง ตรง 5 แยกลำกระโหลก ตรงถนนพระยาสุเรนทร์ บ่อยๆ จะเจอน้องหมาตัวนึงประจำๆ น้องชื่อ "เซเว่น" ที่ชื่อ "เซเว่น" เพราะป้าๆแม่ค้าแถวนั้นร่วมใจกันตั้งชื่อไว้ให้ เค้าบอกว่า น้องอยู่หน้า 7/11 สาขานี้ตั้งแต่เด็กๆ แม่น้องคงคาบมาจากป่าข้างหลัง เป็นลูกโทน พี่น้องก็ไม่มีเลย เพราะอาจจะถูกพี่งูแถวนั้นรับประทาน หรือจะด้วยเหตุผลใดก็ไม่ทราบได้ ทำให้เว่นได้รับสัมปทาน เป็นหมาตัวเดียวใน 7/11 ตรงนั้น ไปโดยปริยาย แม่ค้าเเถวนี้เค้าเลยตั้งชื่อให้ตามชาติพันธุ์และเเหล่งกำเนิดของเว่น ผมเห็นเซเว่นตั้งแต่มาอยู่แถวนี้ใหม่ๆ ราวๆ 8-9 ปีก่อน เซเว่นจะเป็นที่รักของแม่ค้าและคนที่มานั่งกินอาหารแถวนี้มากๆ คือไม่เห่าไม่กัด เป็นมิตรกับทุกๆคน คืออยู่เป็นเลยทีเดียว ตอนเว่นเด็กคือน่ารักมากๆ อ้วนๆจ้ำม่ำ ปุ๊กลุ๊ก ชอบวิ่งขาพันกันหกล้มหกลุกอยู่ตรงนั้นทุกๆวัน กิจวัตรประจำวันของเซเว่น คือจะนอนขวางทางเข้าออกหน้า 7/11 หรือบางครั้งเค้าก็จะเข้ามานอนอยู่ข้างตู้ไอติม หรือใต้ชั้นหนังสือ ถ้าดึกๆจะได้เห็นเว่นนอนเย็นๆยาวๆ เพราะน้องๆพนักงาน 7/11 กะดึกก็คงรักและไม่อยากรบกวนเวลาหลับนอนอันแสนสบายของเว่น เกะกะบ้าง แต่ไม่เคยระรานหรือสร้างความเดือดร้อนให้ใคร พอหิวก็จะเดินมามอง ส่งสายตาและกระเเสจิต ตามโต๊ะอาหารที่ลูกค้ากำลังนั่งกิน ไม่ว่าเป็นร้าน ราดหน้า ข้าวมันไก่ บะหมี่เกี๊ยว ขออาหารด้วยสายวิงวอน ชนิดที่ว่า ต่อให้คุณจะเป็นองคุลีมาลกลับชาติมาเกิดคุณก็ต้องรีบถวายไก่ในจานข้าวมันไก่ให้มันซักชิ้นนึงทันที เหมือนเป็นหน้าที่ ที่ต้องทำ น้องจะเดินไถทุกโต๊ะด้วยความมั่นใจ และทำตัวเหมือนเป็นมิตรโดยไม่รู้สึกผิดและเคอะเขิน คือบอนทูบีเลย ว่างั้นเห่อะ... ล่าสุด ผมแวะไปกินข้าวร้านป้าวาส ผมไม่ได้มากินร้านป้าวาสบ่อยๆเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ร้านรวงที่เคยกินๆก็หายไปหลายร้าน เหลืออยู่แค่ 2-3 ร้านที่ยังขายอยู่ แต่ผมยังเห็นแกขายอยู่ เป็นร้านเก่าแก่ร้านเดียว ที่ผมคิดถึง ผมเลยสั่งอาหารจานเดิมๆที่ผมชอบสั่งตลอดมาทันทีจานนึง แล้วมานั่งรออาหารที่โต๊ะในร้าน ก็เหลือบไปเห็นเจ้าเซเว่นเดินออกมามองผมจากที่ไหนก็ไม่รู้ในหลืบๆแถวนั้น เซเว่นดูแก่ไปมาก ตอนแรกผมไม่คิดว่าจะเป็นเว่น จนป้าวาสบอกว่าไอ่นี่แหล่ะ ไอ้เว่น... ผมโคตรดีใจเหมือนเจอเพื่อนเก่า แต่ผมแอบเห็นเว่นเดินตุปั๊ดตุเป๋ เซไปเซมาเหมือนรถยังไม่ได้ตั้งศูนย์ มาด้อมๆมองๆ ป้าวาสแกก็เลยผัดข้าวไปเล่าไปให้ฟังว่า "มันหลงแล้วไอ่หนู... มันได้แต่เดินมามองๆไปงั้นแหล่ะ แต่มันจำใครไม่ได้แล้ว ใครเดินเข้าไปไกล้ๆก็ไม่ได้ด้วยนะ มันจะคอยแหง่มใส่เท้า แต่มันไม่มีฟันบน กัดใครก็ไม่เข้าแล้ว อย่าไปไกล้มันล่ะหนู.... " ส่วนตัวผมก็อยากรู้ว่า ป้าวาสแกรู้ได้ไงหว่า... ว่ามันหลง? มันแสดงอาการอะไรออกมา? ที่ทำให้แกฟันธงว่าว่ามันหลงลืมหรือเป็นอัลไซเมอร์ในหมา? พอถามแกไปแกก็แจงให้ทราบดังนี้ 1. พาไปหาหมอหมา พ่อค้าแม่ค้ารวมเงินกันพาไป จากแม่ค้าหมูปิ้ง ร้านเย็นตาโฟ น้ำปั่น ร้านราดหน้า เตี๋ยวน้ำตก แล้วก็ป้าวาส หมอเลยบอกว่าน้องเริ่มหลงเเล้วนะ 2. น้องจำใครไม่ได้เลย จะแง่งใส่ทุกคน 3. จำที่นอนกับข้าวของของตัวเองไม่ได้ เช่น เว่นจะมีผ้าเน่าอยู่ผืนนึงไว้ปูเป็นที่นอน น้องจะติดผ้าผืนนี้มาก และน้องจะชอบหาไม่เจอ ถึงจะปูไว้ที่เดิม ไม่เคยย้ายไปไหน แต่น้องจะวนเห่าตามหาตลอด พอเอามาให้แล้วจะเงียบทันที 4. เวลาให้ของกิน น้องจะกินไปเรื่อยๆ กินซักพักแล้วก็หยุดแล้วกินใหม่ เดินเป็นวงกลม กินไปเดินไป กินไม่รู้อิ่ม กินอยู่อย่างนั้นแหล่ะ เหมือนไม่รู้ว่าตัวเองกินไปเท่าไหร่จำไม่ได้ ต้องคอยดูตลอดเวลา แต่ผมเห็นน้องไม่อ้วนเลย ป้าแกคิดว่าน่าจะมีพยาธิในท้องเยอะ จากคำบอกเล่าของป้าวาสอีกเรื่องนึงคือเมื่อวาน เว่นเดินก๊งๆ พยามไปนอนเกาะกลางถนนแล้วโดนมอเตอร์ไซด์ชนไปทีนึง ลุงหน่องร้านข้าวขาหมูเลยไปอุ้มเว่นกลับมา ทำให้วันนี้เลยเดินซะง๊อกซะแง้กอย่างที่เห็น ผมเองเกิดมา ก็ไม่เคยเห็นหมาเป็นโรคและอาการแบบนี้เลย ก็ได้เอาใจช่วยเซเว่นอยากให้น้องมีชีวิตอย่างปลอดภัยและมีความสุข แต่สิ่งนึงเลย ที่รู้สึกแปลกใจมากๆคือ เซเว่นเจอคนดีๆเยอะมากกกกก มีแต่คนน่ารักๆที่หยิบยื่นให้เว่นตลอด ป้าร้านหมูปิ้งตอนเช้าก็พาไปอาบน้ำ ป้าวาส ปูที่นอน หาข้าวให้กิน ลุงหน่องเอาขึ้นรถไปหาหมอ ฯลฯ เว่นถือว่าเป็นหมาที่ชีวิตมีความสุขมากๆตัวนึงเลย ในช่วงชีวิตนึงของเค้า กินอิ่มนอนหลับ มีที่อยู่ที่กิน และมีคนคอยพาไปหาหมอและช่วยกันดูแล ปัจจัย 4 คือพร้อมสรรพ เว่นโชคดีมากๆ ที่มาเกิดและโตในชุมชนเล็กๆที่เค้ารักสัตว์ทุกคนๆ ความโชคดีที่ ถ้าเป็นระดับเลเวลคือ เสมือนถูกสลากกินแบ่งรัดทะบานรางวัลที่ 1 เวอร์ชั่นหมาจรจัด ไอ้คำว่า "วาสนา" นี่ ผมว่ามันมีจริงๆนะ...
    Love
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 233 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพการโจมตีทางอากาศจากกองกำลังอิสราเอลอย่างรุนแรงในเขตพื้นที่เมือง Baalbak

    ก่อนการโจมตีเพียงไม่กี่ชั่วโมง กำลังอิสราเอลเพิ่งออกคำสั่งให้ประชาชนกว่าแสนรายในเมือง Baalbak ซึ่งตั้งอยู่ในหุบเขา Beqaa ของเลบานอน และพื้นที่ใกล้เคียง ให้รีบอพยพออกจากพื้นที่โดยด่วน

    "ประชาชนทุกคนต้องอพยพทันทีโดยใช้เส้นทางอพยพที่กำหนดไว้ เรากำลังจะโจมตีพื้นที่เป้าหมายอย่างรุนแรงต่อเป้าหมายของกลุ่ม Hezbollah ที่นั่นในไม่ช้า" คำสั่งของอิสราเอล

    Baalbak (บาอัลบัก) หรือเมืองแห่งดวงอาทิตย์ คือสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก ที่มีหลักฐานว่ามนุษย์เริ่มรวมตัวอยู่กันเป็นชุมชนใหญ่ที่เก่าแก่ที่สุด (ประมาณ 11,000 ปี) กำลังถูกอิสราเอลโจมตีต่อสายตาของคนทั่วโลก
    ภาพการโจมตีทางอากาศจากกองกำลังอิสราเอลอย่างรุนแรงในเขตพื้นที่เมือง Baalbak ก่อนการโจมตีเพียงไม่กี่ชั่วโมง กำลังอิสราเอลเพิ่งออกคำสั่งให้ประชาชนกว่าแสนรายในเมือง Baalbak ซึ่งตั้งอยู่ในหุบเขา Beqaa ของเลบานอน และพื้นที่ใกล้เคียง ให้รีบอพยพออกจากพื้นที่โดยด่วน "ประชาชนทุกคนต้องอพยพทันทีโดยใช้เส้นทางอพยพที่กำหนดไว้ เรากำลังจะโจมตีพื้นที่เป้าหมายอย่างรุนแรงต่อเป้าหมายของกลุ่ม Hezbollah ที่นั่นในไม่ช้า" คำสั่งของอิสราเอล Baalbak (บาอัลบัก) หรือเมืองแห่งดวงอาทิตย์ คือสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก ที่มีหลักฐานว่ามนุษย์เริ่มรวมตัวอยู่กันเป็นชุมชนใหญ่ที่เก่าแก่ที่สุด (ประมาณ 11,000 ปี) กำลังถูกอิสราเอลโจมตีต่อสายตาของคนทั่วโลก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 71 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่วงค่ำวันนี้ (27 ต.ค.) พิธีสวดพระอภิธรรม และฌาปนกิจ คุณโสภณ องค์การณ์ ณ วัดโสมนัสราชวรวิหาร ศาลา 10 ในคืนที่สอง มีคุณสนธิ ลิ้มทองกุล สื่อในเครือ NEWS1-ผู้จัดการ เป็นเจ้าภาพเหมือนเคย นอกจากนี้ยังมี เพื่อนร่วมงานเก่าที่ The Nation มาร่วมเป็นเจ้าภาพโดย นำโดย คุณสุทธิชัย หยุ่น, คุณเทพชัย หย่อง, คุณธนาชัย ธีรพัฒนวงศ์, คุณสุภาพ คลี่ขจาย, คุณกวี จงกิจถาวร, คุณกนก รัตน์วงศ์สกุล, คุณอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีมิตรสหายเก่าแก่ของคุณโสภณมาร่วมงานอีกคับคั่ง
    .
    หลังพิธีเสร็จสิ้น คุณสนธิ ได้ลุกขึ้นคุยกับคุณสุทธิชัย และถ่ายภาพร่วมกันอย่างเป็นกันเอง จนหลายคนบอกว่าถ้าพี่โส ได้เห็นภาพดังกล่าวน่าจะปลื้มปิติมิใช่น้อย
    .
    สำหรับกำหนดการพิธีสวดพระอภิธรรม และฌาปนกิจ คุณโสภณ องค์การณ์ ณ วัดโสมนัสราชวรวิหาร ศาลา 10 นั้นเหลืออีกหนึ่งวันคือ วันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม 2567 โดยกำหนดการสวดพระอภิธรรมจะเริ่มในเวลา 18.00น. ส่วนพิธีฌาปนกิจจะมีขึ้นในวันอังคารที่ 29 ตุลาคม 2567 เวลา 14.00น.
    ช่วงค่ำวันนี้ (27 ต.ค.) พิธีสวดพระอภิธรรม และฌาปนกิจ คุณโสภณ องค์การณ์ ณ วัดโสมนัสราชวรวิหาร ศาลา 10 ในคืนที่สอง มีคุณสนธิ ลิ้มทองกุล สื่อในเครือ NEWS1-ผู้จัดการ เป็นเจ้าภาพเหมือนเคย นอกจากนี้ยังมี เพื่อนร่วมงานเก่าที่ The Nation มาร่วมเป็นเจ้าภาพโดย นำโดย คุณสุทธิชัย หยุ่น, คุณเทพชัย หย่อง, คุณธนาชัย ธีรพัฒนวงศ์, คุณสุภาพ คลี่ขจาย, คุณกวี จงกิจถาวร, คุณกนก รัตน์วงศ์สกุล, คุณอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีมิตรสหายเก่าแก่ของคุณโสภณมาร่วมงานอีกคับคั่ง . หลังพิธีเสร็จสิ้น คุณสนธิ ได้ลุกขึ้นคุยกับคุณสุทธิชัย และถ่ายภาพร่วมกันอย่างเป็นกันเอง จนหลายคนบอกว่าถ้าพี่โส ได้เห็นภาพดังกล่าวน่าจะปลื้มปิติมิใช่น้อย . สำหรับกำหนดการพิธีสวดพระอภิธรรม และฌาปนกิจ คุณโสภณ องค์การณ์ ณ วัดโสมนัสราชวรวิหาร ศาลา 10 นั้นเหลืออีกหนึ่งวันคือ วันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม 2567 โดยกำหนดการสวดพระอภิธรรมจะเริ่มในเวลา 18.00น. ส่วนพิธีฌาปนกิจจะมีขึ้นในวันอังคารที่ 29 ตุลาคม 2567 เวลา 14.00น.
    Like
    Love
    15
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 939 มุมมอง 0 รีวิว
  • สลามเมืองไทย EP04 กุฎีขาว ชุมชนเก่าแก่ มากมนต์เสน่ห์
    สลามเมืองไทย EP04 กุฎีขาว ชุมชนเก่าแก่ มากมนต์เสน่ห์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 126 มุมมอง 42 0 รีวิว
  • สลามเมืองไทย EP03 มัสยิดกมาลุลอิสลาม มัสยิดเก่าแก่ เรียนรู้อยู่อย่างสันติสุข [2022-02-05]
    สลามเมืองไทย EP03 มัสยิดกมาลุลอิสลาม มัสยิดเก่าแก่ เรียนรู้อยู่อย่างสันติสุข [2022-02-05]
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 119 มุมมอง 92 0 รีวิว
  • 22/10/67


    หาดห้าสี อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา สตูล # อุทยานธรณีสตูล

    เป็นหาดเล็กๆ หน้าหาดหันเข้าหาอ่าวละงู ตะวันตกเขาโต๊ะหงาย บนหาดทรายเล็กๆนั้นมีกลุ่มก้อนหินสี อยู่บนชายหาดอย่างละลานตา เป็นหินสีแดง ฟ้า เหลือง ขาว ดำ หินพวกนี้มาจากไหน?

    หินสีแดง มาจากหินภูเขาโต๊ะหงาย เป็นหินทรายเก่าแก่ในยุคแคมเบรียน อายุ.....๕๔๒- ๔๘๘ ล้านปี ซึ่งภูเขาโต๊ะหงายทางด้านตะวันตกเป็นหินนี้เกือบทั้งหมด

    หินสีฟ้า เป็นหินปูนยุคออโดวิเชียนอายุ ๔๘๘-๔๔๔ ซึ่งก็ต่อจากยุคแคมแบรียนนั่นเอง หินปูนนี้จะอยู่ฝั่งตะวันออกของเขาโต๊ะหงาย

    ส่วนสีขาว และดำ น่าจะเป็นเหมือนกรวด สีดำนั้นคล้ายบนหาดหินงาม

    ทุกก้อนกลม มน คิดว่าคงจะถูกคลื่นพัดพาขัดสีกันจนเป็นลักษณะมน พอมาอยู่รวมกันบนหาด มันเลย
    เหมือนสลิ่ม คละสี

    เป็นความมหัศจรรย์ทางธรณีที่น่าสนใจมาก
    ใครจะถ่ายรูป แนะให้มาตอนเย็น แดดจะเข้าทางตะวันตกพอดี แล้วดูพระอาทิตย์ตกด้วยรูปจะสวยกว่านี้

    ## ที่สำคัญ ต้องย้ำกันเลยว่า...อย่าเอาหินพวกนี้ไปนะ...มันเป็นสมบัติของประเทศชาติ อย่าเอาไปครอบครองส่วนตัว เก็บไว้ให้คนอื่นได้ดูและชื่นชมร่วมกัน เก็บเอาไปไว้ที่บ้าน มันจะเป็นแค่ก้อนหินธรรมดา แต่เมื่อมันอยู่บนหาด มันคือหาดห้าสีที่สวยงามของไทย หาไม่ได้ง่ายๆในโลก ควรช่วยกันเก็บรักษา ถ่ายรูป ถ่ายวีดีโอมา ไม่มีใครว่าอะไร​
    22/10/67 หาดห้าสี อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา สตูล # อุทยานธรณีสตูล เป็นหาดเล็กๆ หน้าหาดหันเข้าหาอ่าวละงู ตะวันตกเขาโต๊ะหงาย บนหาดทรายเล็กๆนั้นมีกลุ่มก้อนหินสี อยู่บนชายหาดอย่างละลานตา เป็นหินสีแดง ฟ้า เหลือง ขาว ดำ หินพวกนี้มาจากไหน? หินสีแดง มาจากหินภูเขาโต๊ะหงาย เป็นหินทรายเก่าแก่ในยุคแคมเบรียน อายุ.....๕๔๒- ๔๘๘ ล้านปี ซึ่งภูเขาโต๊ะหงายทางด้านตะวันตกเป็นหินนี้เกือบทั้งหมด หินสีฟ้า เป็นหินปูนยุคออโดวิเชียนอายุ ๔๘๘-๔๔๔ ซึ่งก็ต่อจากยุคแคมแบรียนนั่นเอง หินปูนนี้จะอยู่ฝั่งตะวันออกของเขาโต๊ะหงาย ส่วนสีขาว และดำ น่าจะเป็นเหมือนกรวด สีดำนั้นคล้ายบนหาดหินงาม ทุกก้อนกลม มน คิดว่าคงจะถูกคลื่นพัดพาขัดสีกันจนเป็นลักษณะมน พอมาอยู่รวมกันบนหาด มันเลย เหมือนสลิ่ม คละสี เป็นความมหัศจรรย์ทางธรณีที่น่าสนใจมาก ใครจะถ่ายรูป แนะให้มาตอนเย็น แดดจะเข้าทางตะวันตกพอดี แล้วดูพระอาทิตย์ตกด้วยรูปจะสวยกว่านี้ ## ที่สำคัญ ต้องย้ำกันเลยว่า...อย่าเอาหินพวกนี้ไปนะ...มันเป็นสมบัติของประเทศชาติ อย่าเอาไปครอบครองส่วนตัว เก็บไว้ให้คนอื่นได้ดูและชื่นชมร่วมกัน เก็บเอาไปไว้ที่บ้าน มันจะเป็นแค่ก้อนหินธรรมดา แต่เมื่อมันอยู่บนหาด มันคือหาดห้าสีที่สวยงามของไทย หาไม่ได้ง่ายๆในโลก ควรช่วยกันเก็บรักษา ถ่ายรูป ถ่ายวีดีโอมา ไม่มีใครว่าอะไร​
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 113 มุมมอง 0 รีวิว
  • ⇨ ภาพนี้ ... กำลังจะทำให้ประเทศไทยได้หลักฐานชิ้นสำคัญที่แสดงถึงการใช้ธงช้างเผือกเป็นธงชาติสยามที่เก่าแก่ที่สุดในโลกมาจัดแสดงที่ประเทศไทยอย่างถาวรครับ

    ⇨ เพราะล่าสุด หลังจากพยายามติดต่อและพูดคุยกับเจ้าของงานสะสมแผนที่โลกและผังธงโลกคนสำคัญ ซึ่งเป็นชาวฝรั่งเศสและอยู่ที่ปารีส ... ซึ่งเขาได้เห็นภาพนี้ที่ผมส่งไปให้ดู และเขาได้รับรู้ถึงความทุ่มเทและความตั้งใจของผมที่จะเผยแพร่ประวัติศาสตร์ชาติว่าด้วยเรื่องประวัติธงชาติไทยตลอดมา

    ⇨ อย่างน้อยในขณะนี้ เจ้าของผังธงโลกโบราณเขาก็เปิดใจและพร้อมคุยกันในรายละเอียดเรื่องที่จะจบกันที่เท่าไหร่ และทำอย่างไรถึงจะนำงานพิมพ์ธงช้างเผือกที่เก่าแก่ที่สุดในโลกซึ่งพิมพ์ในปี พ.ศ. 2380 ตรงกับรัชกาลที่ 3 นี้ ... ได้มาอยู่ที่ประเทศไทย! ...

    ⇨ ร่วมแรงส่งใจเพื่อความสำเร็จและความสมบูรณ์ของหลักฐานประวัติศาสตร์ชาติไทยกันครับ

    โดย พฦฒิพล ประชุมผล
    ขอบคุณเจ้าของเครดิต🙏

    #สาระดีbypank
    ⇨ ภาพนี้ ... กำลังจะทำให้ประเทศไทยได้หลักฐานชิ้นสำคัญที่แสดงถึงการใช้ธงช้างเผือกเป็นธงชาติสยามที่เก่าแก่ที่สุดในโลกมาจัดแสดงที่ประเทศไทยอย่างถาวรครับ ⇨ เพราะล่าสุด หลังจากพยายามติดต่อและพูดคุยกับเจ้าของงานสะสมแผนที่โลกและผังธงโลกคนสำคัญ ซึ่งเป็นชาวฝรั่งเศสและอยู่ที่ปารีส ... ซึ่งเขาได้เห็นภาพนี้ที่ผมส่งไปให้ดู และเขาได้รับรู้ถึงความทุ่มเทและความตั้งใจของผมที่จะเผยแพร่ประวัติศาสตร์ชาติว่าด้วยเรื่องประวัติธงชาติไทยตลอดมา ⇨ อย่างน้อยในขณะนี้ เจ้าของผังธงโลกโบราณเขาก็เปิดใจและพร้อมคุยกันในรายละเอียดเรื่องที่จะจบกันที่เท่าไหร่ และทำอย่างไรถึงจะนำงานพิมพ์ธงช้างเผือกที่เก่าแก่ที่สุดในโลกซึ่งพิมพ์ในปี พ.ศ. 2380 ตรงกับรัชกาลที่ 3 นี้ ... ได้มาอยู่ที่ประเทศไทย! ... ⇨ ร่วมแรงส่งใจเพื่อความสำเร็จและความสมบูรณ์ของหลักฐานประวัติศาสตร์ชาติไทยกันครับ โดย พฦฒิพล ประชุมผล ขอบคุณเจ้าของเครดิต🙏 #สาระดีbypank
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 64 มุมมอง 0 รีวิว
  • ต้นมะกอกที่เก่าแก่ที่สุดในปาเลสไตน์มีอายุประมาณ 5,000 ปี มันได้รับฉายาว่า “หญิงชรา” “มารดาแห่งมะกอก” และ “เจ้าสาวของปาเลสไตน์” มันสูง 13 เมตร มีเส้นรอบวงประมาณ 25 เมตร มีพื้นที่มากกว่า 250 ตารางเมตร และให้ผลผลิตมะกอก 500 กิโลกรัมต่อปี
    ต้นมะกอกที่เก่าแก่ที่สุดในปาเลสไตน์มีอายุประมาณ 5,000 ปี มันได้รับฉายาว่า “หญิงชรา” “มารดาแห่งมะกอก” และ “เจ้าสาวของปาเลสไตน์” มันสูง 13 เมตร มีเส้นรอบวงประมาณ 25 เมตร มีพื้นที่มากกว่า 250 ตารางเมตร และให้ผลผลิตมะกอก 500 กิโลกรัมต่อปี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 87 มุมมอง 0 รีวิว
  • เทวาลัยพระพิฆเนศ อำเภอเมืองนครราชสีมา เก่าแก่อายุมากกว่า1300ปี #LumixS9 50mm F1.8
    เทวาลัยพระพิฆเนศ อำเภอเมืองนครราชสีมา เก่าแก่อายุมากกว่า1300ปี #LumixS9 50mm F1.8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 68 มุมมอง 0 รีวิว
  • อัลซีฟ คือย่านเก่าแก่ริมคลองดูไบ ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวสุดฮิต
    ที่นี่คุณจะได้พบกับ

    📌Starbucks สวยที่สุดในดูไบ
    📌สถาปัตยกรรมสวยงาม
    📌ร้านค้าและร้านอาหารหลากหลาย
    📌นั่งเรือ Abra

    #กดLikeCenter #กดLikeDubai #กดLikeดูไบ
    #Airarabia #etravelwayรักกดLikeจังเลย #วีอาร์เอเจนซีรักกดLikeจังเลย

    รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21ปี eTravelWay.com🔥
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8
    LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f
    Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663
    Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626
    Tiktok : https://78s.me/903597
    ☎️: 021166395

    #ทัวร์ดูไบ #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    อัลซีฟ คือย่านเก่าแก่ริมคลองดูไบ ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวสุดฮิต ที่นี่คุณจะได้พบกับ 📌Starbucks สวยที่สุดในดูไบ 📌สถาปัตยกรรมสวยงาม 📌ร้านค้าและร้านอาหารหลากหลาย 📌นั่งเรือ Abra #กดLikeCenter #กดLikeDubai #กดLikeดูไบ #Airarabia #etravelwayรักกดLikeจังเลย #วีอาร์เอเจนซีรักกดLikeจังเลย รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21ปี eTravelWay.com🔥 ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8 LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663 Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626 Tiktok : https://78s.me/903597 ☎️: 021166395 #ทัวร์ดูไบ #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    Love
    Wow
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1002 มุมมอง 291 0 รีวิว
  • #ร้านอาหาร #hofbräuhaus #มิวนิค #เยอรมัน #ขาหมูเยอรมัน #ร้านดั้งเดิม #ร้านเก่าแก่
    #ร้านอาหาร #hofbräuhaus #มิวนิค #เยอรมัน #ขาหมูเยอรมัน #ร้านดั้งเดิม #ร้านเก่าแก่
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 191 มุมมอง 85 0 รีวิว
  • ระเบิด "ทรอปิคาน่า" คาสิโนระดับตำนานของเวกัส

    โรงแรมทรอปปิคาน่า คาสิโนในตำนานของลาส เวกัส ถูกระเบิดแหลกเป็นจุลเรียบร้อยแล้วเมื่อเช้ามืดของวันพุธที่ 9 ตุลาคม 2024 ท่ามกลางความสนใจของนักท่องเที่ยวจำนวนมาก

    ถือเป็นการระเบิดคาสิโนครั้งล่าสุดในรอบเกือบสิบปีของลาส เวกัส

    โดยการระเบิดโรงแรมที่เก่าแก่เป็นอันดับสามของย่านสตริปแห่งนี้ เริ่มต้นด้วยการแสดงแปรภาพของโดรน 550 เครื่อง และไพโรโดรน อีก 150 เครื่อง เป็นตัวเลขนับถอยหลัง และป้ายชื่อโรงแรม เป็นการไว้อาลัยก่อนที่จะมีการกดระเบิดโดยวิศวกรของบริษัท คอนโทรลล์ ดีโมลิชั่น ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการระเบิดทำลายอาคารขนาดใหญ่ และเป็นผู้รับผิดชอบการระเบิดทำลายอาคารโรงแรมและคาสิโนแทบทุกแห่งในลาส เวกัส นับจากปี 1995 เป็นต้นมา

    ทรอปิคาน่า ถือเป็นโรงแรมและคาสิโนระดับตำนานของลาส เวกัส เพราะเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1957 หรือ 67 ปีก่อนจะปิดกิจการเมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา โดยพื้นที่ที่เคยเป็นโรงแรมทรอปิคาน่า จะถูกสร้างเป็นสนามเบสบอลมาตรฐานของทีมโอ๊คแลนด์ แอทเลติก (Oakland Athletics) ขนาด 33,000 ที่นั่ง ซึ่งใช้ทุนสร้างสูงถึง 1.5 พันล้านดอลลาร์ ที่เชื่อว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในปี 2028.
    ระเบิด "ทรอปิคาน่า" คาสิโนระดับตำนานของเวกัส โรงแรมทรอปปิคาน่า คาสิโนในตำนานของลาส เวกัส ถูกระเบิดแหลกเป็นจุลเรียบร้อยแล้วเมื่อเช้ามืดของวันพุธที่ 9 ตุลาคม 2024 ท่ามกลางความสนใจของนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ถือเป็นการระเบิดคาสิโนครั้งล่าสุดในรอบเกือบสิบปีของลาส เวกัส โดยการระเบิดโรงแรมที่เก่าแก่เป็นอันดับสามของย่านสตริปแห่งนี้ เริ่มต้นด้วยการแสดงแปรภาพของโดรน 550 เครื่อง และไพโรโดรน อีก 150 เครื่อง เป็นตัวเลขนับถอยหลัง และป้ายชื่อโรงแรม เป็นการไว้อาลัยก่อนที่จะมีการกดระเบิดโดยวิศวกรของบริษัท คอนโทรลล์ ดีโมลิชั่น ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการระเบิดทำลายอาคารขนาดใหญ่ และเป็นผู้รับผิดชอบการระเบิดทำลายอาคารโรงแรมและคาสิโนแทบทุกแห่งในลาส เวกัส นับจากปี 1995 เป็นต้นมา ทรอปิคาน่า ถือเป็นโรงแรมและคาสิโนระดับตำนานของลาส เวกัส เพราะเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1957 หรือ 67 ปีก่อนจะปิดกิจการเมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา โดยพื้นที่ที่เคยเป็นโรงแรมทรอปิคาน่า จะถูกสร้างเป็นสนามเบสบอลมาตรฐานของทีมโอ๊คแลนด์ แอทเลติก (Oakland Athletics) ขนาด 33,000 ที่นั่ง ซึ่งใช้ทุนสร้างสูงถึง 1.5 พันล้านดอลลาร์ ที่เชื่อว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในปี 2028.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 74 มุมมอง 0 รีวิว
  • โบราณสถาน ในวัดใหญ่โพหัก อ.บางแพ จ.ราชบุรี ภายในวัดจะปรากฎให้เห็นถึงวิหารอุดหลังเก่า ที่แสดงให้เห็นถึงความเก่าแก่ของวัดใหญ่โพหัก ภายในวิหารเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปหินทรายแดง ลงรัก ปิดทอง เป็นศิลปะสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ปัจจุบันไม่ได้เปิดให้เข้าเนื่องจากประตูชำรุดเก่ามาก และรอการบูรณะจากกรมศิลปากร (กรมศิลปากร ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2543)#วัดใหญ่โพหัก #วัดเก่าแก่ #วัดสวย #โบราณสถาน #โบราณ #อนุรักษ์ของเก่า#ราชบุรีไม่ได้มีดีแค่โอ่ง #เที่ยวราชบุรี#tixtoxพาเที่ยว#ทริปนี้ที่รอคอย#ให้ภาพเล่าเรื่อง @ให้ภาพเล่าเรื่อง @ให้ภาพเล่าเรื่อง @ให้ภาพเล่าเรื่อง
    โบราณสถาน ในวัดใหญ่โพหัก อ.บางแพ จ.ราชบุรี ภายในวัดจะปรากฎให้เห็นถึงวิหารอุดหลังเก่า ที่แสดงให้เห็นถึงความเก่าแก่ของวัดใหญ่โพหัก ภายในวิหารเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปหินทรายแดง ลงรัก ปิดทอง เป็นศิลปะสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ปัจจุบันไม่ได้เปิดให้เข้าเนื่องจากประตูชำรุดเก่ามาก และรอการบูรณะจากกรมศิลปากร (กรมศิลปากร ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2543)#วัดใหญ่โพหัก #วัดเก่าแก่ #วัดสวย #โบราณสถาน #โบราณ #อนุรักษ์ของเก่า#ราชบุรีไม่ได้มีดีแค่โอ่ง #เที่ยวราชบุรี#tixtoxพาเที่ยว#ทริปนี้ที่รอคอย#ให้ภาพเล่าเรื่อง @ให้ภาพเล่าเรื่อง @ให้ภาพเล่าเรื่อง @ให้ภาพเล่าเรื่อง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 186 มุมมอง 9 0 รีวิว
  • วัดบางกะพ้อม เป็นวัดเก่าแก่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย วัดแห่งนี้มีชื่อเสียงมากๆ ในสมัยโบราณ เนื่องจาก ความโด่งดังของ พลวงพ่อคง พระเกจิชื่อดัง ซึ่งท่านดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบางกะพ้อมในสมัยนั้น #วัดบางกะพ้อม #สมุทรสงคราม #เที่ยวอัมพวา #หลวงพ่อคง #วัดสมุทรสงคราม #เที่ยววัด #TikTokกินเที่ยว @ที่ไหนปัง พี่จะพาไปมู @ที่ไหนปัง พี่จะพาไปมู @ที่ไหนปัง พี่จะพาไปมู
    วัดบางกะพ้อม เป็นวัดเก่าแก่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย วัดแห่งนี้มีชื่อเสียงมากๆ ในสมัยโบราณ เนื่องจาก ความโด่งดังของ พลวงพ่อคง พระเกจิชื่อดัง ซึ่งท่านดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบางกะพ้อมในสมัยนั้น #วัดบางกะพ้อม #สมุทรสงคราม #เที่ยวอัมพวา #หลวงพ่อคง #วัดสมุทรสงคราม #เที่ยววัด #TikTokกินเที่ยว @ที่ไหนปัง พี่จะพาไปมู @ที่ไหนปัง พี่จะพาไปมู @ที่ไหนปัง พี่จะพาไปมู
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 196 มุมมอง 17 0 รีวิว
  • ลวดลายเก่าแก่ ฝีมือเชิงชั้นบรมครู ลายรดน้ำปิดทองสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย
    ลวดลายเก่าแก่ ฝีมือเชิงชั้นบรมครู ลายรดน้ำปิดทองสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 82 มุมมอง 20 0 รีวิว
  • เพิ่งเปิดให้เข้าชมได้ไม่นานมานี้เองค่ะ 📍 พระวิหาร วัดราชนัดดาราม วรวิหาร เขตพระนคร กทม ✅เปิดทุกวัน ⏰ 08:00น. - 17:00 น. #วัดสวย #สายมู #เที่ยววัด #เก่าแก่ #ไหว้พระ #วัดราชนัดดารามวรวิหาร #กินเที่ยววัด #tiktokพาเที่ยว
    เพิ่งเปิดให้เข้าชมได้ไม่นานมานี้เองค่ะ 📍 พระวิหาร วัดราชนัดดาราม วรวิหาร เขตพระนคร กทม ✅เปิดทุกวัน ⏰ 08:00น. - 17:00 น. #วัดสวย #สายมู #เที่ยววัด #เก่าแก่ #ไหว้พระ #วัดราชนัดดารามวรวิหาร #กินเที่ยววัด #tiktokพาเที่ยว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 192 มุมมอง 24 0 รีวิว
  • ขออภัยนะคะ……ไปเที่ยวมานิดนึง แต่……ในฐานะติ่งอาวุโส ก็ต้องรีบกลับมาประจำที่ค่าาา……พี่ปูเค้ากำลังฮ็อต…!!!

    ตอนยี่สิบสอง……เรื่องการแทรกแซงในยูเครนไม่ใช่เรื่องใหม่……ยังไงก็ต้องเป็นสนามรบ……!!!

    2013 ในระหว่างที่รัสเซียกำลังพุ่งแรงในเรื่องของเศรษฐกิจและการส่งพลังงาน อเมริกาก็เริ่มอึดอัด……เพราะระหว่างสัมพันธภาพดีๆระหว่างรัสเซียกับอเมริกานั้น……ก็แค่ภาพลักษณ์ภายนอกในสำนักข่าวเท่านั้น
    ที่เหลือคือ…การคุมเชิงกันแบบไม่กระพริบตา……
    โชคได้เข้าข้างปูติน……แบบบุญหล่นทับ……ในวันที่ 23 มิถุนายน 2013
    ที่สายการบินแอโรฟลอตได้นำชายอเมริกันคนหนึ่งมาสู่แผ่นดินรัสเซีย
    เขาคนนั้นคือ Edward Snowden ชายวัย 40 ปี ที่เคยเป็นหนึ่งในทีมของบริษัท Dell และ Booz Allen Hamilton ที่เป็นบริษัทที่ดูแลระบบคอมพิวเตอร์ทั้งหมดของ NSA (National Security Agency) หรือ ฝ่ายความมั่นคงของสหรัฐอเมริกา
    สโนว์เดน……ได้พบกับความไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับรัฐบาลสหรัฐ ด้วยหลักฐานหลายๆอย่างที่มีการดักฟังโทรศัพท์ประชาชน และ ควบคุมเพื่อเข้าถึงคอมพิวเตอร์ในทุกที่ ที่ข้ามไปถึง แคนาดา, อังกฤษ, ออสเตรเลีย และ นิวซีแลนด์
    เขาได้ข้อมูลไปกระจายใน WikiLeaks และ หนังสือพิมพ์ออนไลน์ เช่น The Guardian, The Washington Post
    และได้หลบหนีไปยังฮ่องกง เพื่อไปพบกับใครบางคนที่สถานกงสุลรัสเซียที่นั่น……
    จากนั้นเขาตั้งใจจะไปที่คิวบา………แต่ทางสหรัฐอเมริกาได้ประกาศอายัดพาสปอร์ตของเขาและมีหมายจับ……นั่นหมายความว่าเขาจะไปที่ไหนไม่ได้ นอกจากจะต้องส่งกลับ หรือ ต้องติดอยู่ที่สนามบินที่ฮ่องกงเพื่อรอการจับกุมตัว

    แต่ทางฮ่องกงได้ส่งเขาขึ้นเครื่องบินไปที่มอสโคว์..…ที่ทางรัฐบาลของปูตินปูพรมแดงรอรับ……ที่หัวหน้าของ FSB ไปรอรับด้วยตัวเองในฐานะแขกผู้มีเกียรติและถือว่าเป็นว่าวีรบุรุษ……

    ปธน. บารัค โอบามา พยายามที่จะติดต่อขอตัว”ผู้ร้าย” กลับไป โดยอ้างว่าสโนว์เดนเป็นคนขายชาติ และเป็นพิษเป็นภัยกับความมั่นคง
    รวมทั้งสัญญาว่า……จะไม่มีการทำร้าย หรือ จับไปทารุณกรรม จะดำเนินคดีตามกฏหมายเท่านั้น……
    ปูตินตอกกลับไปว่า……เขาไม่ได้มีความผิดอะไรในรัสเซีย และ ด้วยสิทธิมนุษยชน เขามีสิทธิที่จะขออยู่ในรัสเซียได้ เพราะมีคุณสมบัติครบถ้วน
    ว่าแล้ว…สโนว์เดนก็ได้รับวีซ่าลี้ภัยให้อยู่ในรัสเซียแบบยาวนาน

    การเปิดเผยความลับของสโนว์เดนนี้ ผู้นำหลายชาติจึงได้ทราบว่า โทรศัพท์ของตัวเองมีการถูกดักฟัง เช่น นางแองเจลา เมอร์เคิล ด้วยระบบ
    SORM (System of Operative-Investigative Measures) ที่อเมริกาได้สร้างเป็นมุ้งคลุมไว้ทั่วเพื่อเป็นสปายทางระบบใยแก้ว

    เมื่อความลับจากสโนว์เดนที่แจกแจงออกมาให้ชาวโลกได้ทราบ
    โอบามายิ่งแค้นปูตินมากขึ้นเป็นทวีคูณ……เขามีกำหนดการที่จะต้องพบกับปูตินในเดือนกันยายน ที่เซนต์ ปีเตอร์สเบอร์ก ในการประชุม G20
    แต่…ขอยกเลิก……โดยอ้างกับนักข่าวว่า พบไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะรัสเซียทำตรงกันข้ามทุกอย่าง เช่นการเท่าเทียมทางกลุ่มรักร่วมเพศ,
    การลดขนาดการสร้างอาวุธ, ยกเลิกการรับเลี้ยงดูเด็ก และความวุ่นวายที่ตะวันออกกลาง
    แต่……โอบามาไม่ปริปากในเรื่องการรั่วไหลของความลับที่กำลังเป็นข่าวดังในขณะนั้น…
    ทางฝ่ายโฆษกของรัสเซียได้ออกมาตอบโต้ว่า……ตบมือข้างเดียวย่อมไม่ดัง……!!!

    ผลจากวิกิลีคส์ ที่เผยแพร่ไปได้สร้างความหวั่นไหวให้กับหลายๆชาติ
    ที่ตอนนี้เริ่มมองเห็นความสำคัญของรัสเซีย เพราะทุกคนเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่า……รัฐบาลรัสเซียได้ล่วงรู้ข้อมูลลับไปมากน้อยแค่ไหน
    สายตาทั้งหมดที่มองไปที่สหรัฐอเมริกา……มีแต่ความเคลือบแคลงและหมดความไว้ใจ
    แม้แต่นิตยสาร Forbes ได้ติดตำแหน่งให้ปูตินเป็นบุคคลที่ทรงอานุภาพที่สุดในโลก
    บุคคลที่ทรงอานุภาพ……ได้หันมาโฟกัสที่ยูเครนอย่างเป็นเรื่องเป็นราว
    เพราะเมื่อปี 2010 ที่ Viktor Yanukovych ได้ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี
    ได้มีความกลมเกลียวเป็นอันดีกับรัสเซีย แต่พอมาปลายสมัย คือ 2015
    เขาเริ่มเปลี่ยนไป……หันไปซบกับตะวันตก ที่กำลังขยายยุโรปมาจนติดชายขอบ เช่น Moldova, Georgia และ Armenia โดยเริ่มจากลงนามในสนธิสัญญาทางการค้า โดยหวังว่าจะต่อยอดไปจนถึงสมาชิกสภายูโรเปี้ยน

    สำหรับปูติน……การก้าวล่วงมาถึงยูเครน……มันเกินกว่าที่จะรับได้
    เพราะเขามองออกว่า……นั่นคือ สิ่งที่ตะวันตกต้องการมากที่สุด คือ พื้นที่ที่จะจัดตั้งเป็นเขตทหารในนามของนาโต้……
    และทางพลังงาน……ที่จะเข้ามาควบคุมแหล่งทรัพยากร……
    ถ้าเกิดมีสงครามระหว่าง รัสเซียกับอเมริกา (มีความเป็นไปได้สูง)
    ทางตะวันตกแทบไม่ต้องลงแรงรบเลย เพราะ มีพลังงานให้ใช้ไม่มีหมด
    มีการหนุนหลังเรื่องเสบียงจากยุโรปไม่อั้น และ สามารถปิดกั้นทะเลบอลติก……
    ดังนั้น ยูเครนคือกล่องดวงใจ……ที่ต้องเต้นตามจังหวะของรัสเซียเท่านั้น
    ปูตินตั้งใจที่จะสร้างกลุ่ม Eurasian Union ขึ้นมา คือ เป็นการรวมตัวของโลกฝั่งตะวันออก ( ตอนนี้ก็เริ่มแล้ว คือ BRICS)
    แต่หัวใจสำคัญคือ ยูเครนที่ปูตินถือว่า เป็นดินแดน(เก่าแก่)ต้นกำเนิดของรัสเซียจะต้องเป็นพื้นที่ที่ปลอดตะวันตก….โดยเริ่มความเป็น Eurasian Union จากพรมแดนตรงนั้น……
    แต่ไปๆมาๆ…ยูเครนได้หันไปโปรตะวันตกอย่างออกหน้าออกตา
    โดยเฉพาะกับนางฮิลลารี คลินตันที่เคยออกมาเย้ยเยาะว่า (2012)
    “ถ้าคิดว่ายูเครนคือหมูในอวย…ฝันไปเถอะ……”

    ก่อนที่ EU จะรับ Lithuania เข้าไปเป็นสมาชิก อียูได้หันมาเร่งให้ยูเครนรีบเซ็นสัญญาค้าขายกันเสียก่อน เพื่อจะได้เอาไว้เป็นเครดิตว่ามีกิจกรรมกับทางยุโรป
    ปูตินพยายามคัดค้าน และพยายามไปเยี่ยมเยียนบ่อยครั้ง แม้กระทั่งในเดือนกรกฎาคม 2013 ที่เป็นวันสำคัญทางศาสนาร่วมกัน ที่ปูตินได้ย้ำเตือนถึงความเป็นออโธด็อกซ์ที่ผูกพันมาตั้งแต่ ปี 988

    ฝ่ายพ่อค้ายูเครนที่โปรตะวันตก เช่น บริษัท Roshen (ขายขนมทอฟฟี่)
    ปูตินสั่งบอยคอต……ห้ามเข้า
    เขาได้พบกับประธานาธิบดี Yanukovych สองครั้งติดกันในเดือนตุลาคมและ พฤศจิกายน และบอกตรงๆว่า……ยูเครนจะต้องเจอกับอะไรบ้าง หากคิดที่จะหวังไปร่วมกับยุโรป……รวมทั้ง พลังงานทั้งหลายแหล่ จะต้องถูกตัดขาด……
    เมื่อโดนเข้าไปเต็มๆ……ท่าทีของยานุโควิชที่มีต่อยูโรปได้เปลี่ยนไปไม่กล้าที่จะออกความเห็นหรือตัดสินใจ เขาได้บอกกับทางอียูไปตรงๆว่า
    ยูเครนเป็นหนี้รัสเซียอยู่ แสนหกหมื่นล้านเหรียญ ถ้าทางสภายุโรปมีหนทางที่จะช่วยแบ่งเบาภาระตรงนี้ได้ ยูเครนก็จะได้มีโอกาสทำสัญญาทางการค้าด้วย
    สภายุโรปได้ยินจำนวนเงิน………ก็ลมจับ ไม่เสนอหน้ามาชวนอีกเลย

    แต่ก่อนที่จะโดนปูตินอัดเข้าไป ยานุโควิชได้ทำการโฆษณาให้ความหวังกับประชาชนไว้ล่วงหน้าแล้วว่า จะเปิดความสัมพันธ์กับยูโรป และจะพยายามเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในสภาอียู
    แต่เมื่อถึงเวลาการประชุม ที่ลิธัวเนีย ในวันที่ 21 พฤศจิกายน
    ยานุโควิช……ได้ประกาศออกสื่อให้ทราบทั่วกันว่า เขาเปลี่ยนใจแล้ว
    ไม่ขอเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของสัมพันธ์ทางพานิชย์กับอียู
    อยู่อย่างนี้เหมือนเดิม…
    ผลคือ……ประชาชนออกมาเดินขบวน แน่นหนาเต็มเมือง
    แต่คราวนี้ไม่ใช่ธงสีส้ม……แต่เป็นธงอียูสีฟ้าที่มีดาวเหลืองเป็นวงกลม

    ยานุโควิช……แทบไม่ต้องแก้ไขอะไรเพราะในเวลานั้นเป็นฤดูหนาวที่ใกล้เทศกาลปลายปี ชุมนุมกันก็ได้แค่เดี๋ยวเดียว เขาบินไปจีน ไปทำสัญญาการค้าขาย (แทนยุโรป) ก่อนไปที่จีน เขาแวะพบกับปูตินเพื่อทำการตกลงกันว่า ทางรัสเซียจะให้เงินอุดหนุนสภาพคล่องหมื่นห้าพันล้านเหรียญ
    และลดราคาก๊าส จาก$400 คิวบิตเมตร เป็น $268
    ที่จะเก็บเป็นความลับไปจนกว่าจะถึงวันที่ 9 มีนาคม 2014 ที่ผู้นำทั้งสองจะมีการพบปะกัน แล้วค่อยประกาศอย่างเป็นทางการ………

    เป็นอันว่า…ในยกนี้ ปูตินได้เอาชนะต่อคำเยาะเย้ยของนางคลินตันไปได้

    ตอนนั้นเป็นช่วงที่ใกล้จะเปิดพิธีกีฬาโอลิมปิกที่ Sochi ประมุขของประเทศต่างๆจะเข้ามาเป็นอาคันตุกะ เขาได้ทำการปล่อยนักโทษการเมือง ให้เป็นอิสระ อย่างเช่น Mikhaïl Khodorkovsky ที่จำคุกมาแล้ว10 ปี
    โดยมีการทำสัญญาว่าจะไม่มายุ่งกับการเมืองอีก…… และปลดปล่อยกลุ่มสาวห่าม ***** Riot ตามด้วยกลุ่มที่เคยประท้วงอื่นๆ
    สองวันก่อนที่จะมีพิธีเปิด….กลุ่มนักข่าวสามสิบกว่าคนได้ทำการเขียนข่าวในทำนองว่า เป็นการใช้เงินอย่างสิ้นเปลืองเพื่อสนองความต้องการของคนคนเดียว……
    ปูตินให้สัมภาษณ์โต้ว่า……”การทำให้คนรักเรา สรรเสริญเรา ชื่นชมเรา นั้นทำไม่ยากเลย..”
    นักข่าวถามว่า ต้องทำอย่างไร?
    คำตอบคือ……ก็เวลาที่เราลดขนาดกองทัพ…ยกพื้นที่ให้เขา…ขายทรัพยากรให้เขาอย่างถูกๆไงล่ะ ……แค่นั้นเขาก็จะรักเรา ดีกับเราสารพัด…!!
    แต่เมื่อพิธีงานเปิดผ่านไป.……คนที่เคยติ……คนที่เคยต่อต้านกลับมาชื่นชมในผลงานและภาคภูมิใจไปตามๆกัน

    สำหรับปูติน.……มันคือการเรียกศักดิ์ศรีของประเทศกลับคืนมา เฉกเช่นเมื่อครั้ง Yuri Gagarin ขึ้นสู่ห้วงอวกาศ……และกองทัพแดงได้ชัยชนะในสงครามกับนาซี
    ความยิ่งใหญ่ในครั้งนี้…ได้ส่งข้ามไปถึงสหรัฐอเมริกา ที่ ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ไม่ได้เข้ามาร่วม เพราะหนึ่งคือความขัดแย้ง
    สองคือ……ความบาดตาบาดใจ…!!!!


    Wiwanda W. Vichit
    ขออภัยนะคะ……ไปเที่ยวมานิดนึง แต่……ในฐานะติ่งอาวุโส ก็ต้องรีบกลับมาประจำที่ค่าาา……พี่ปูเค้ากำลังฮ็อต…!!! ตอนยี่สิบสอง……เรื่องการแทรกแซงในยูเครนไม่ใช่เรื่องใหม่……ยังไงก็ต้องเป็นสนามรบ……!!! 2013 ในระหว่างที่รัสเซียกำลังพุ่งแรงในเรื่องของเศรษฐกิจและการส่งพลังงาน อเมริกาก็เริ่มอึดอัด……เพราะระหว่างสัมพันธภาพดีๆระหว่างรัสเซียกับอเมริกานั้น……ก็แค่ภาพลักษณ์ภายนอกในสำนักข่าวเท่านั้น ที่เหลือคือ…การคุมเชิงกันแบบไม่กระพริบตา…… โชคได้เข้าข้างปูติน……แบบบุญหล่นทับ……ในวันที่ 23 มิถุนายน 2013 ที่สายการบินแอโรฟลอตได้นำชายอเมริกันคนหนึ่งมาสู่แผ่นดินรัสเซีย เขาคนนั้นคือ Edward Snowden ชายวัย 40 ปี ที่เคยเป็นหนึ่งในทีมของบริษัท Dell และ Booz Allen Hamilton ที่เป็นบริษัทที่ดูแลระบบคอมพิวเตอร์ทั้งหมดของ NSA (National Security Agency) หรือ ฝ่ายความมั่นคงของสหรัฐอเมริกา สโนว์เดน……ได้พบกับความไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับรัฐบาลสหรัฐ ด้วยหลักฐานหลายๆอย่างที่มีการดักฟังโทรศัพท์ประชาชน และ ควบคุมเพื่อเข้าถึงคอมพิวเตอร์ในทุกที่ ที่ข้ามไปถึง แคนาดา, อังกฤษ, ออสเตรเลีย และ นิวซีแลนด์ เขาได้ข้อมูลไปกระจายใน WikiLeaks และ หนังสือพิมพ์ออนไลน์ เช่น The Guardian, The Washington Post และได้หลบหนีไปยังฮ่องกง เพื่อไปพบกับใครบางคนที่สถานกงสุลรัสเซียที่นั่น…… จากนั้นเขาตั้งใจจะไปที่คิวบา………แต่ทางสหรัฐอเมริกาได้ประกาศอายัดพาสปอร์ตของเขาและมีหมายจับ……นั่นหมายความว่าเขาจะไปที่ไหนไม่ได้ นอกจากจะต้องส่งกลับ หรือ ต้องติดอยู่ที่สนามบินที่ฮ่องกงเพื่อรอการจับกุมตัว แต่ทางฮ่องกงได้ส่งเขาขึ้นเครื่องบินไปที่มอสโคว์..…ที่ทางรัฐบาลของปูตินปูพรมแดงรอรับ……ที่หัวหน้าของ FSB ไปรอรับด้วยตัวเองในฐานะแขกผู้มีเกียรติและถือว่าเป็นว่าวีรบุรุษ…… ปธน. บารัค โอบามา พยายามที่จะติดต่อขอตัว”ผู้ร้าย” กลับไป โดยอ้างว่าสโนว์เดนเป็นคนขายชาติ และเป็นพิษเป็นภัยกับความมั่นคง รวมทั้งสัญญาว่า……จะไม่มีการทำร้าย หรือ จับไปทารุณกรรม จะดำเนินคดีตามกฏหมายเท่านั้น…… ปูตินตอกกลับไปว่า……เขาไม่ได้มีความผิดอะไรในรัสเซีย และ ด้วยสิทธิมนุษยชน เขามีสิทธิที่จะขออยู่ในรัสเซียได้ เพราะมีคุณสมบัติครบถ้วน ว่าแล้ว…สโนว์เดนก็ได้รับวีซ่าลี้ภัยให้อยู่ในรัสเซียแบบยาวนาน การเปิดเผยความลับของสโนว์เดนนี้ ผู้นำหลายชาติจึงได้ทราบว่า โทรศัพท์ของตัวเองมีการถูกดักฟัง เช่น นางแองเจลา เมอร์เคิล ด้วยระบบ SORM (System of Operative-Investigative Measures) ที่อเมริกาได้สร้างเป็นมุ้งคลุมไว้ทั่วเพื่อเป็นสปายทางระบบใยแก้ว เมื่อความลับจากสโนว์เดนที่แจกแจงออกมาให้ชาวโลกได้ทราบ โอบามายิ่งแค้นปูตินมากขึ้นเป็นทวีคูณ……เขามีกำหนดการที่จะต้องพบกับปูตินในเดือนกันยายน ที่เซนต์ ปีเตอร์สเบอร์ก ในการประชุม G20 แต่…ขอยกเลิก……โดยอ้างกับนักข่าวว่า พบไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะรัสเซียทำตรงกันข้ามทุกอย่าง เช่นการเท่าเทียมทางกลุ่มรักร่วมเพศ, การลดขนาดการสร้างอาวุธ, ยกเลิกการรับเลี้ยงดูเด็ก และความวุ่นวายที่ตะวันออกกลาง แต่……โอบามาไม่ปริปากในเรื่องการรั่วไหลของความลับที่กำลังเป็นข่าวดังในขณะนั้น… ทางฝ่ายโฆษกของรัสเซียได้ออกมาตอบโต้ว่า……ตบมือข้างเดียวย่อมไม่ดัง……!!! ผลจากวิกิลีคส์ ที่เผยแพร่ไปได้สร้างความหวั่นไหวให้กับหลายๆชาติ ที่ตอนนี้เริ่มมองเห็นความสำคัญของรัสเซีย เพราะทุกคนเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่า……รัฐบาลรัสเซียได้ล่วงรู้ข้อมูลลับไปมากน้อยแค่ไหน สายตาทั้งหมดที่มองไปที่สหรัฐอเมริกา……มีแต่ความเคลือบแคลงและหมดความไว้ใจ แม้แต่นิตยสาร Forbes ได้ติดตำแหน่งให้ปูตินเป็นบุคคลที่ทรงอานุภาพที่สุดในโลก บุคคลที่ทรงอานุภาพ……ได้หันมาโฟกัสที่ยูเครนอย่างเป็นเรื่องเป็นราว เพราะเมื่อปี 2010 ที่ Viktor Yanukovych ได้ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี ได้มีความกลมเกลียวเป็นอันดีกับรัสเซีย แต่พอมาปลายสมัย คือ 2015 เขาเริ่มเปลี่ยนไป……หันไปซบกับตะวันตก ที่กำลังขยายยุโรปมาจนติดชายขอบ เช่น Moldova, Georgia และ Armenia โดยเริ่มจากลงนามในสนธิสัญญาทางการค้า โดยหวังว่าจะต่อยอดไปจนถึงสมาชิกสภายูโรเปี้ยน สำหรับปูติน……การก้าวล่วงมาถึงยูเครน……มันเกินกว่าที่จะรับได้ เพราะเขามองออกว่า……นั่นคือ สิ่งที่ตะวันตกต้องการมากที่สุด คือ พื้นที่ที่จะจัดตั้งเป็นเขตทหารในนามของนาโต้…… และทางพลังงาน……ที่จะเข้ามาควบคุมแหล่งทรัพยากร…… ถ้าเกิดมีสงครามระหว่าง รัสเซียกับอเมริกา (มีความเป็นไปได้สูง) ทางตะวันตกแทบไม่ต้องลงแรงรบเลย เพราะ มีพลังงานให้ใช้ไม่มีหมด มีการหนุนหลังเรื่องเสบียงจากยุโรปไม่อั้น และ สามารถปิดกั้นทะเลบอลติก…… ดังนั้น ยูเครนคือกล่องดวงใจ……ที่ต้องเต้นตามจังหวะของรัสเซียเท่านั้น ปูตินตั้งใจที่จะสร้างกลุ่ม Eurasian Union ขึ้นมา คือ เป็นการรวมตัวของโลกฝั่งตะวันออก ( ตอนนี้ก็เริ่มแล้ว คือ BRICS) แต่หัวใจสำคัญคือ ยูเครนที่ปูตินถือว่า เป็นดินแดน(เก่าแก่)ต้นกำเนิดของรัสเซียจะต้องเป็นพื้นที่ที่ปลอดตะวันตก….โดยเริ่มความเป็น Eurasian Union จากพรมแดนตรงนั้น…… แต่ไปๆมาๆ…ยูเครนได้หันไปโปรตะวันตกอย่างออกหน้าออกตา โดยเฉพาะกับนางฮิลลารี คลินตันที่เคยออกมาเย้ยเยาะว่า (2012) “ถ้าคิดว่ายูเครนคือหมูในอวย…ฝันไปเถอะ……” ก่อนที่ EU จะรับ Lithuania เข้าไปเป็นสมาชิก อียูได้หันมาเร่งให้ยูเครนรีบเซ็นสัญญาค้าขายกันเสียก่อน เพื่อจะได้เอาไว้เป็นเครดิตว่ามีกิจกรรมกับทางยุโรป ปูตินพยายามคัดค้าน และพยายามไปเยี่ยมเยียนบ่อยครั้ง แม้กระทั่งในเดือนกรกฎาคม 2013 ที่เป็นวันสำคัญทางศาสนาร่วมกัน ที่ปูตินได้ย้ำเตือนถึงความเป็นออโธด็อกซ์ที่ผูกพันมาตั้งแต่ ปี 988 ฝ่ายพ่อค้ายูเครนที่โปรตะวันตก เช่น บริษัท Roshen (ขายขนมทอฟฟี่) ปูตินสั่งบอยคอต……ห้ามเข้า เขาได้พบกับประธานาธิบดี Yanukovych สองครั้งติดกันในเดือนตุลาคมและ พฤศจิกายน และบอกตรงๆว่า……ยูเครนจะต้องเจอกับอะไรบ้าง หากคิดที่จะหวังไปร่วมกับยุโรป……รวมทั้ง พลังงานทั้งหลายแหล่ จะต้องถูกตัดขาด…… เมื่อโดนเข้าไปเต็มๆ……ท่าทีของยานุโควิชที่มีต่อยูโรปได้เปลี่ยนไปไม่กล้าที่จะออกความเห็นหรือตัดสินใจ เขาได้บอกกับทางอียูไปตรงๆว่า ยูเครนเป็นหนี้รัสเซียอยู่ แสนหกหมื่นล้านเหรียญ ถ้าทางสภายุโรปมีหนทางที่จะช่วยแบ่งเบาภาระตรงนี้ได้ ยูเครนก็จะได้มีโอกาสทำสัญญาทางการค้าด้วย สภายุโรปได้ยินจำนวนเงิน………ก็ลมจับ ไม่เสนอหน้ามาชวนอีกเลย แต่ก่อนที่จะโดนปูตินอัดเข้าไป ยานุโควิชได้ทำการโฆษณาให้ความหวังกับประชาชนไว้ล่วงหน้าแล้วว่า จะเปิดความสัมพันธ์กับยูโรป และจะพยายามเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในสภาอียู แต่เมื่อถึงเวลาการประชุม ที่ลิธัวเนีย ในวันที่ 21 พฤศจิกายน ยานุโควิช……ได้ประกาศออกสื่อให้ทราบทั่วกันว่า เขาเปลี่ยนใจแล้ว ไม่ขอเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของสัมพันธ์ทางพานิชย์กับอียู อยู่อย่างนี้เหมือนเดิม… ผลคือ……ประชาชนออกมาเดินขบวน แน่นหนาเต็มเมือง แต่คราวนี้ไม่ใช่ธงสีส้ม……แต่เป็นธงอียูสีฟ้าที่มีดาวเหลืองเป็นวงกลม ยานุโควิช……แทบไม่ต้องแก้ไขอะไรเพราะในเวลานั้นเป็นฤดูหนาวที่ใกล้เทศกาลปลายปี ชุมนุมกันก็ได้แค่เดี๋ยวเดียว เขาบินไปจีน ไปทำสัญญาการค้าขาย (แทนยุโรป) ก่อนไปที่จีน เขาแวะพบกับปูตินเพื่อทำการตกลงกันว่า ทางรัสเซียจะให้เงินอุดหนุนสภาพคล่องหมื่นห้าพันล้านเหรียญ และลดราคาก๊าส จาก$400 คิวบิตเมตร เป็น $268 ที่จะเก็บเป็นความลับไปจนกว่าจะถึงวันที่ 9 มีนาคม 2014 ที่ผู้นำทั้งสองจะมีการพบปะกัน แล้วค่อยประกาศอย่างเป็นทางการ……… เป็นอันว่า…ในยกนี้ ปูตินได้เอาชนะต่อคำเยาะเย้ยของนางคลินตันไปได้ ตอนนั้นเป็นช่วงที่ใกล้จะเปิดพิธีกีฬาโอลิมปิกที่ Sochi ประมุขของประเทศต่างๆจะเข้ามาเป็นอาคันตุกะ เขาได้ทำการปล่อยนักโทษการเมือง ให้เป็นอิสระ อย่างเช่น Mikhaïl Khodorkovsky ที่จำคุกมาแล้ว10 ปี โดยมีการทำสัญญาว่าจะไม่มายุ่งกับการเมืองอีก…… และปลดปล่อยกลุ่มสาวห่าม Pussy Riot ตามด้วยกลุ่มที่เคยประท้วงอื่นๆ สองวันก่อนที่จะมีพิธีเปิด….กลุ่มนักข่าวสามสิบกว่าคนได้ทำการเขียนข่าวในทำนองว่า เป็นการใช้เงินอย่างสิ้นเปลืองเพื่อสนองความต้องการของคนคนเดียว…… ปูตินให้สัมภาษณ์โต้ว่า……”การทำให้คนรักเรา สรรเสริญเรา ชื่นชมเรา นั้นทำไม่ยากเลย..” นักข่าวถามว่า ต้องทำอย่างไร? คำตอบคือ……ก็เวลาที่เราลดขนาดกองทัพ…ยกพื้นที่ให้เขา…ขายทรัพยากรให้เขาอย่างถูกๆไงล่ะ ……แค่นั้นเขาก็จะรักเรา ดีกับเราสารพัด…!! แต่เมื่อพิธีงานเปิดผ่านไป.……คนที่เคยติ……คนที่เคยต่อต้านกลับมาชื่นชมในผลงานและภาคภูมิใจไปตามๆกัน สำหรับปูติน.……มันคือการเรียกศักดิ์ศรีของประเทศกลับคืนมา เฉกเช่นเมื่อครั้ง Yuri Gagarin ขึ้นสู่ห้วงอวกาศ……และกองทัพแดงได้ชัยชนะในสงครามกับนาซี ความยิ่งใหญ่ในครั้งนี้…ได้ส่งข้ามไปถึงสหรัฐอเมริกา ที่ ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ไม่ได้เข้ามาร่วม เพราะหนึ่งคือความขัดแย้ง สองคือ……ความบาดตาบาดใจ…!!!! Wiwanda W. Vichit
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 527 มุมมอง 0 รีวิว
  • 📚รีเบคก้า


    ดีใจที่ห้องสมุดมี และดีใจที่ยืมมาอ่าน แม้นอรรถรสอาจจะได้ไม่เต็มที่เพราะเคยดูหนังที่ฮิตช์ค็อกสร้างมาก่อน ถึงอย่างนั้นก็ยังสัมผัสได้ถึงความเป็นสุดยอดของนิยายยอดเยี่ยมแห่งยุคเรื่องหนึ่ง ไม่สงสัยแล้วว่าเหตุใดจึงยังไม่ถูกลืม เพราะความดีงามของเรื่องนั้นสามารถข้ามผ่านกาลเวลามาใกล้ 90 ปีเต็มที

    ขนาดพอรู้เรื่องคร่าวๆแม้นจำไม่ได้มากเพราะหนังดูไว้นานหลายปีแล้ว แต่เมื่อได้จับฉบับหนังสือก็ยังอดลุ้นระทึกตามไปกับตัวละครนำไม่ได้ ต้องสรรเสริญผู้เขียนคือ ดาฟเน ดู โมริเยร์ ที่ให้กำเนิดรีเบคก้าขึ้นมาอวดโฉมสู่สายตานักอ่านในบรรณพิภพ

    หนังสือพิมพ์ในไทยครั้งแรกตั้งแต่ปี พ.ศ.2511 ฉบับที่อ่านนี้เป็นของ สนพ.สร้างสรรค์-วิชาการ เป็นพิมพ์ครั้งที่ 7 เมื่อปี พ.ศ.2538 หนา 387 หน้า มีช่วงระหว่างหน้าที่ 283-298 ทำเอาใจวูบ เพราะกำลังดำเนินเรื่องถึงช่วงจุดสูงสุดที่จะเฉลยปม เลขหน้าข้าม ทีแรกก็เศร้าว่าหน้าหายเยอะขนาดนี้คงจะพลาดอะไรสำคัญไปเยอะ พลิกตรวจดูจึงรู้ว่า เป็นความผิดพลาดของการเข้าเล่ม ที่ทำให้ต้องเปิดพลิกกลับอ่านแบบญี่ปุ่นจากขวามาซ้ายประมาณ 16 หน้า จึงกลับสู่การอ่านแบบปกติได้ น่าจะเป็นทั้งล็อตในการพิมพ์หรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ

    สองประการที่ลดคุณค่าของนิยายเล่มนี้ในฉบับพิมพ์ของสร้างสรรค์คือ หนึ่ง ตัวอักษรที่เลือกใช้ได้ทรมานสายตาคนอ่านอย่างมากคือทั้งเล็กและบาง เมื่อบวกกับแถวยาวเหยียดที่เบียดกันเป็นพรืด นาน ๆ จึงจะพบย่อหน้าสักครั้ง จึงต้องใช้พลังสมาธิและความพยายามอย่างยิ่งกว่าจะอ่านจบ นี่ถ้าไม่ใช่เพราะความดีงามในตัวของนิยายเองที่ทำให้อยากอ่านต่อ อาจยอมแพ้เสียก่อน และสอง กระดาษที่ใช้คุณภาพไม่ดีเลย ความหนาแน่นของเนื้อเยื่อกระดาษบางมาก

    🔻

    เนื้อเรื่องโดยย่อ

    หญิงสาววัยสัก20ปี ที่เป็นผู้มีบุคลิกใสซื่อ มีความเป็นตัวของตัวเองอย่างบริสุทธิ์ตามธรรมชาตินางหนึ่ง พ่อแม่ตายไปตั้งแต่ยังเล็ก จึงจำต้องหาเลี้ยงตนเองมาแบบอัตคัด จนได้มาติดตามเป็นหญิงรับใช้ให้กับคุณนายอึ่งอ่างนางหนึ่ง(ขออภัย เธอมีชื่อแต่ลักษณะภายนอกที่ถูกบรรยายทำให้นึกไปถึงอึ่งจริง ๆ นะ) ซึ่งคุณนายคนนี้ก็มีนิสัยแย่ ชอบจิกใช้งานหญิงสาว และพูดจาเหยียบย่ำน้ำใจบ่อย อีกทั้งชอบทำตัวเจ๋อแจ้น เที่ยวปั้นหน้าไปคุยกับคนในแวดวงสังคม ไม่ใช่เพื่ออะไรมากไปกว่าตักตวงข่าวสารมาพูดนินทาต่อให้คนอื่นฟังด้วยความสนุกปากตามพื้นนิสัยเดิม ซึ่งสถานที่ที่ทำให้นางเอกและพระเอกได้พบกันครั้งแรกคือที่ โรงแรมแห่งหนึ่งในมอนติคาโล คุณนายอึ่งอ่างถือวิสาสะไปคุยด้วยกับหนุ่มใหญ่เจ้าของคฤหาสน์ มันเดอลีย์ ที่กำลังอยู่ในระหว่างท่องเที่ยวเพื่อลืมเลือนเรื่องอดีตเกี่ยวกับภรรยาสาวที่เสียชีวิตไปไม่นาน ในห้องอาหารชั้นล่างซึ่งนางเอกก็จำต้องอยู่ใกล้ชิดร่วมโต๊ะแม้นไม่อยาก เพราะอับอายแทนผู้ว่าจ้างของตน ด้วยเธอเป็นคนหน้าบางและมีสมบัติผู้ดีมากกว่าคุณนายอึ่งอ่าง ทั้งที่โดนกดและดูถูกว่าเป็นพวกชั้นล่าง

    ก็การพบหน้าคราวนั้นเองคือจุดเริ่มต้นแห่งเรื่องราวชวนฝัน ที่ประจวบเหมาะว่าวันต่อมาเจ้านายเธอมีไข้ไม่สบาย หมอให้พักสักสองสัปดาห์ในห้อง จึงเป็นโอกาสให้นางเอกของเรื่องพอจะมีเวลาเป็นของตนเอง ได้ใช้ชีวิตอิสระในตอนลงมากินข้าวที่ห้องอาหารชั้นล่าง ซึ่งก็พอดีได้พบพระเอกเป็นครั้งที่สอง แม้จะเจียมตัวไม่กล้าไปทักหรือร่วมโต๊ะ แต่สุดท้ายเหตุการณ์ก็พาไปให้พระเอกคือมิสเตอร์ เดอวินเตอร์ ตะล่อมพูดจนเธอยอมมานั่งกินอาหารโต๊ะเดียวกับเขา และได้พูดคุยพอเป็นที่รู้เรื่องความเป็นมาของฝ่ายสาว และในโอกาสต่อมาจากวันนั้น กลายเป็นว่าช่วงเวลาที่คุณนายอึ่งอ่างนอนแซ่วบนเตียง ที่ก็ไม่ได้ป่วยอะไรมาก แต่อยากหาเหตุให้คนอื่นมาเยี่ยมจะได้ชวนคุยนินทาสารพัดกับเล่นไพ่นั้น เปิดโอกาสให้นางเอกได้สานความสัมพันธ์อันดีกับพระเอกที่ยังคงมีมาดสุขุม ลึกลับ ครุ่นคิดตลอดเวลา และไม่ค่อยพูดจาหรือเปิดเผยเรื่องราวของตน จนฝ่ายหญิงเริ่มมีความรู้สึกที่ดีกับฝ่ายชายอย่างมาก ถึงขั้นที่เรียกว่ารักแรก ทุกวันพระเอกจะพบกับนางเอกที่ห้องอาหาร กินด้วยกันแล้วพาไปนั่งรถแล่นกินลมชมวิวไปตามที่ต่างๆ

    แต่แล้วเมื่ออาการของเจ้านายดีขึ้น วันหนึ่งก็สั่งนางเอกว่าให้รีบไปจองตั๋วรถไฟ เพราะลูกสาวของนางติดต่อมาว่าจะไปนิวยอร์ก และเจ้านายก็จะตามไปอยู่ด้วย แน่นอนว่าต้องเอานางเอกตามไปรับใช้ เมื่อทราบข่าวเธอถึงกับหัวใจสลาย เข่าอ่อน เหมือนความสุขที่เพิ่งปรากฏไม่นานในชีวิตกำลังจะสูญสลายไปตลอดกาล เธอพยายามจะลงไปพบเจอพระเอก แต่เขาไม่อยู่ไปทำธุระ ทำให้ในเธอรุ่มร้อนเป็นไฟ ในวันเดินทางที่ถูกใช้ให้ไปเปลี่ยนตั๋วเพื่อเลื่อนเที่ยวรถให้เร็วขึ้นจากช่วงสายเป็นช่วงเช้า เธอสิ้นหวังแล้ว แต่ไม่อาจตัดใจจากไปทั้งยังไม่ได้บอกลา จึงอาศัยช่วงที่เจ้านายสั่งให้มาติดต่อเปลี่ยนเที่ยวนั้น วิ่งหน้าตั้งไปเคาะห้องที่รู้ว่าพระเอกพักอยู่เพื่อจะบอกให้ทราบ และเมื่อพระเอกได้ฟัง จึงถามว่าทำไมเธอต้องปล่อยชีวิตให้เป็นไปตามแต่เจ้านายจะบงการ เธอบอกเพราะเธอต้องใช้เงิน และการทำงานรับใช้ทั้งที่ไม่อยากก็เพื่อแลกกับค่าจ้างน้อยนิด พระเอกยื่นข้อเสนอให้เลือก ว่าเธอจะไปกับคุณนายอึ่งอ่างหรือจะไปกับเขา เธอไม่เข้าใจ เขาบอกอีกครั้งให้ชัดว่าเธอจะเลือกไปกับเขาในฐานะมิสซิส เดอวินเตอร์หรือไม่

    นั่นเอง คือการเดินทางครั้งใหม่ของนางเอก หลังเธอตกลงใจจะไปกับเขาเพราะความรัก ทั้งสองแต่งงานกันอย่างที่ไม่มีการสวมชุด เข้าโบสถ์หรือการเลี้ยงฉลอง เพราะเขาไม่ปรารถนา แล้วไปฮันนีมูนต่อที่อิตาลีอยู่หลายสัปดาห์ ก่อนที่ท้ายสุดจะตรงไปที่คฤหาสน์มันเดอลีย์อันแสนไกล งดงามตั้งตระหง่านอยู่ภายในวงล้อมของป่ารก ที่ซึ่งเธอต้องกลายจากนางสาวต็อกต๋อย ไร้ชื่อเสียง ไร้เงิน ไร้ศักดิ์ฐานะใดๆ ไปเป็นคุณนายภริยาคนใหม่ของเจ้าของคฤหาสน์หรูเก่าแก่ ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ด้วยตัวคนเดียวโดดเดี่ยว และต้องเผชิญหน้ากับการต้อนรับอันเย็นชา และน่ากลัวของหญิงสาวผู้เป็นต้นห้องคนเก่าของมิสซิส เดอวินเตอร์คนที่ตายไปแล้ว อันมีนามว่า รีเบคกา กับบริวารรับใช้ชายหญิงอีกหลายคนที่ล้วนแล้วแต่มีอะไรที่เหมือนจะให้ความรู้สึกที่ไม่น่าไว้ใจ หดหู่ เร้นลับ

    ท่ามกลางความใหญ่โตกว้างขวางของห้องหับนับไม่ถ้วน ดอกไม้ป่านานาพรรณ อีกไม้ป่ายืนต้นรกชัฏ กับชายหาดและอ่าวที่เงียบเชียบ ดูเปลี่ยวเหงาวังเวง เสียงคลื่นทะเลที่ซัดเข้าหาฝั่ง กระทบโขดหิน ความดำมืดของบรรยากาศที่ทึบทึม ผู้คนที่จะเป็นมิตรก็ไม่ใช่ จะศัตรูก็ไม่เชิง กับเงาร่างของภรรยาสาวคนเก่าที่เพิ่งตายไปไม่นานของคนรักของเธอ ที่เหมือนยังมีชีวิตและปรากฏตัวไปทั่วทุกแห่ง

    นางเอกที่ยังอายุน้อยมาก กับพระเอกในวัย42 จะฟันฝ่าอุปสรรคและนำพาชีวิตรักไปรอดหรือไม่ ในขณะที่มีพี่สาวของสามีและพี่เขย อีกทั้งผู้จัดการงานทั่วไปของสามี คล้ายจะอยู่ฝ่ายเดียวกับเธอ และเอาใจช่วยให้ชีวิตของคนทั้งคู่เดินหน้าต่อไปได้ แต่ทว่าปริศนาทั้งหลายเกี่ยวกับคุณนายคนเก่า คือรีเบคกา และอุปสรรคจากแม่บ้านที่แสดงตนชัดว่าชิงชังรังเกียจ และหาเรื่องคอยสร้างปัญหาให้ ล้วนเป็นปราการใหญ่ที่ทำให้ผู้อ่านต้องลุ้นเอาใจช่วยเธอไปอย่างตื่นเต้น

    🔶️

    เชื่อว่าคนที่ไม่เคยรู้เรื่องราว ไม่เคยดูหนังมาก่อน จะได้รับอรรถรสความสนุกเต็มที่มากสุด ส่วนผู้เคยดูหนังแล้วก็ยังคงจะได้รับความสนุกได้ ในแง่ของการได้ทบทวนเก็บเกี่ยวรายละเอียดอีกครั้ง หากใครที่มีไว้ในกองดองแต่ยังไม่ได้อ่าน น่าเสียดายอย่างมาก

    ผู้แต่งมีอัจฉริยภาพในการเขียนบรรยายฉากอย่างแท้จริง ขอชื่นชมและสรรเสริญ โดนเฉพาะฉากที่พูดถึงนกชนิดต่าง ๆ พรรณไม้หลากหลายชนิดที่ขึ้นและปลูกไว้รายรอบคฤหาสน์ รายละเอียดของชนิดอาหาร เครื่องประกอบ เฟอร์นิเจอร์ของตกแต่ง คือมีความรอบรู้อย่างลึกจริง ทำให้คนอ่านเห็นภาพตามชัดเจน ยิ่งใครที่รู้จักอาหารประเภทต่าง ๆ เหล่านั้น รู้จักดอกไม้มากมายหลายชนิดที่กล่าวถึง คงจะยิ่งดำดิ่งเห็นภาพชัดราวกับเห็นลอยอยู่ตรงหน้า

    การใช้รูปแบบของอุปมาโวหารเชิงเปรียบเทียบช่างเป็นภาษาที่งดงาม แม้จะโบราณแต่เข้ากันมากกับยุคสมัยและบรรยากาศตามท้องเรื่อง ยิ่งบวกกับโครงเรื่องและแก่นที่แน่นเปรี๊ยะ อีกทั้งวิธีการเล่าอันน่าทึ่ง ซึ่งไม่ใช่ใครที่เป็นนักเขียนโดยทั่วไปก็สามารถทำได้ แน่นอนว่านักเขียนทุกคนล้วนปรารถนาให้ตนสามารถสร้างสรรค์งานเขียนดีเยี่ยมชนิดเป็นมาสเตอร์พีซของตนเองได้สักเล่มในชั่วชีวิตที่ผลิตงาน แต่มีไม่กี่คนเท่านั้นที่ทำสำเร็จ และผมเชื่อว่า ดาฟเน ดู โมริเยร์ คือหนึ่งในนั้นได้อย่างเต็มภาคภูมิ ฉบับแปลไทยนี้ทำได้ดีทีเดียว แม้จะพบว่ามีบางคำออกจะแปลก ๆ ในความรู้สึกอยู่บ้าง เช่นใช้คำว่า กระท้อน ในความหมายที่สื่อถึงการ สะท้อน และอีก 2-3 คำ แต่พอเข้าใจได้ ไม่แน่ว่าในยุคสมัยที่ผู้แปลแปลไว้ คำไทยบางคำในเวลานั้นอาจใช้และสะกดต่างไปจากปัจจุบัน ซึ่งก็ได้แต่คาดเดาเพราะผมไม่มีความรู้มากพอในด้านนี้

    เรื่องนี้ทำให้เข้าใจถึงข้อด้อยที่น่ากำจัดหรือปรับปรุงแก้ไขให้ไม่มีอยู่ในอุปนิสัยของใครคนไหนก็ตามคือ "การคิดเองเออเอง" ซึ่งจะพบเห็นได้เยอะมากในตัวตนของนางเอก แทบจะตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งเป็นจุดตายที่มีส่วนจะทำให้ชีวิตรักของนางอาจต้องถึงกาลอับปางอย่างน่าหวดเสียว และผู้หญิงส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นกันด้วยสิ ความคิดระแวง คิดเป็นตุเป็นตะ คิดหมกมุ่นเพ้อฝันไปล่วงหน้าและมักเป็นไปในทางร้ายนั้น ได้แสดงให้เห็นอิทธิพลของมันชัดเจนยิ่งในเรื่อง ว่าส่งผลกระทบให้เกิดปัญหาตามมาอย่างไม่น่าเชื่อ สิ่งนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากหากผู้อ่านจะนำมาสำรวจตรวจตรากับการดำเนินชีวิตตนเอง ที่จะไม่ให้มี "อิตถีภาวะ"มากเกินไปแม้ในเพศชายก็ตาม

    มีบ้างทีอ่านแล้วอาจจะรู้สึก "ลำไย" ในอุปนิสัยของนางเอก ที่เธอจะอะไรกันนักหนานะกับแทบทุกเรื่อง แต่ก็ดีที่ผู้เขียนได้สร้างเหตุแล้วให้ตัวละครของตน ได้รู้จักเรียนรู้จากความผิดพลาดของตนเองแล้วพัฒนาเติบโตขึ้นในช่วงหลัง ที่ไม่อ่อนวัย ใจใสไร้เดียงสาดังเช่นตอนต้นเรื่อง

    เป็นความชาญฉลาดในการวางผังอย่างดี ที่ให้เหตุการณ์แต่ละเหตุการณ์ค่อยๆเปิดเผยให้ตัวนางเอกและคนอ่านได้ค่อยๆ รู้เรื่องเกี่ยวกับรีเบคกาเพิ่มขึ้นทีละน้อย ๆ เต็มไปด้วยความหวาดระแวง แคลงใจ จนนำไปสู่ความน่าตื่นตะลึงในช่วงที่เฉลยความจริงให้นางเอกและผู้อ่านทราบไปพร้อมกัน ต่อจากนั้นอีกร้อยกว่าหน้า ก็เป็นช่วงที่ไม่ได้มีแผ่วลงเลยแม้แต่น้อย มีแต่เร่งเร้า เขย่าขวัญ สั่นประสาท ให้ต้องตามลุ้นระทึกเอาใจช่วยให้พระนางผ่านพ้นเรื่องร้ายแรงไปได้ด้วยดีเถิด แต่ละหน้า แต่ละบทสนทนาล้วนแต่พาเราให้ตื่นตัว ตื่นเต้นไปกับอุปสรรคต่อเนื่องที่ดาหน้าเข้าใส่ทั้งสองอย่างต่อเนื่อง ราวคลื่นทะเลที่ซัดหาฝั่งลูกแล้วลูกเล่า เหมือนโดนคลื่นพาลอยขึ้นไปจนสูงแล้วบัดดลก็จับโยนลงมาสู่เบื้องต่ำ ก่อนจะถูกม้วนลอยขึ้นไปที่สูงใหม่

    ที่ชอบมากที่สุดคือวิธีที่ผู้เขียนเลือกใช้ในการหาทางพาให้พระนางดิ้นรนไปตามทางที่ถูกตัวร้ายนำไป ไม่อาจเป็นตัวของตัวเอง ไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่า จำนนต่อสิ่งที่ปรากฏและจู่โจม แต่แล้วก็พาให้ตัวละครและเรื่องราวทั้งหมดดำเนินไปสู่จุดอันคลี่คลายอย่างชนิดที่ต้องร้องในใจว่า คิดได้ยังไง ไม่มีจุดตำหนิได้เลย เพราะไม่ใช่ตอนจบที่เหมือนไม่รู้จะจัดการกับปมที่สร้างมาอย่างไรแล้วก็ใส่วิธีจัดการเข้ามาแบบไม่สนใจอะไร แต่ทุกอย่างคือถูกวางมาแล้วแต่แรก อย่างมีระเบียบ และเงียบเชียบ บอกใบ้ไว้แต่ไม่กระโตกกระตาก มีความลุ่มลึก ที่ถ้าหากใครมีเวลามากพอ ควรอ่านอย่างช้า ๆ เพื่อเก็บละเอียดทุกประโยคแล้วจะได้พบกับความไม่ธรรมดาของนิยานเรื่องนี้ที่น่าอึ้ง ชวนหลงใหลตั้งแต่เปิดเรื่องมาด้วยท่อนอมตะที่ว่า

    "เมื่อคืนนี้ดิฉันฝันว่า ได้ไปที่คฤหาสน์มันเดอลีย์อีกครั้งหนึ่ง"

    สุดท้ายคือ การที่ตลอดทั้งเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบ เรากลับไม่ได้รู้เลยว่าผู้เล่าเรื่องคือ ดิฉันนั้น แท้จริงชื่อเรียงเสียงไรกันแน่ เรารู้จักกับรีเบคกา ราวกับมีชีวิตทั้งที่ตายไปแล้ว กลับกันนางเอกหรือ ดิฉัน ที่ใกล้ชิดกับคนอ่านมากสุดราวกับคือตัวเราเองที่ยังไม่ตายนั้น เหมือนใกล้แต่ก็ไกล คือเป็นใครก็ได้ไม่ว่าผู้อ่านคือชายหรือหญิง เมื่อได้อ่านเรื่องนี้แล้วอดไม่ได้จะนำตนเองไปสวมเป็น ดิฉัน ไม่มากก็น้อย

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    ป.ล. (คนที่ยังไม่เคยอ่านหรือดูหนังมาเลย ควรข้าม)

    เรื่องนี้มีฉบับฝาแฝด ที่ได้รับแรงบันดาลใจ จนนักเขียนนิยายไทยท่านหนึ่ง นำโครงเรื่องมาดัดแปลง กลายเป็นนิยายแปลงชื่อ คุณหญิงสีวิกา ที่ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2534 สนพ.หมึกจีน เคยได้รับการนำไปสร้างเป็นละครช่อง 7 นำแสดงโดยคุณแอน อังคณา ทิมดี รับบทคุณหญิงสีวิกา และคุณจอห์นนี่ แอนโฟเน่ รับบทสามี ส่วนภรรยาสาวคนใหม่รับบทโดย คุณลูกศร ธนาภรณ์ รัตนเสน ผมยังได้รับชมเมื่อครั้งเรียนช่วงมัธยมปลายพอจำได้ ตอนนั้นก็สนุกนะ เพราะอยากทราบความจริงที่อยู่เบื้องหลัง ต้องตามอ่านจากไทยรัฐทุกวัน ซึ่งในเรื่องตัวคุณหญิงสีวิกามีอาการของคนที่ศัพท์เฉพาะใช้คำว่า "ฮิสทีเรีย" สมัยนั้นถึงกับมีดราม่ากันใหญ่โตว่าเรื่องนี้ไม่ใช่นิยายที่ควรนำมาทำเป็นละครฉายทางทีวีช่วงหลังข่าวภาคค่ำจบ ยุคนั้นละครมีประมาณชั่วโมงเดียว เริ่มสักสามทุ่มไปจบสี่ทุ่ม สุดท้ายกระแสต่อต้านเยอะจนไม่แน่ใจว่าถูกตัดทอนให้ตอนสั้นลงแล้วรีบตัดจบเอาดื้อ ๆ หรือไม่ จำไม่ค่อยได้แล้ว

    #thaitimes
    #รีเบคกา
    #นิยายแปล
    #นิยาย
    #ลึกลับ
    #ความวิปริตทางเพศ
    #มอนติคาโล
    #ท่องเที่ยว
    #บ้านริมหาด
    #คฤหาสน์
    #หนังสือดี
    #หนังสือน่าอ่าน
    #วรรณกรรมคลาสสิก
    📚รีเบคก้า ดีใจที่ห้องสมุดมี และดีใจที่ยืมมาอ่าน แม้นอรรถรสอาจจะได้ไม่เต็มที่เพราะเคยดูหนังที่ฮิตช์ค็อกสร้างมาก่อน ถึงอย่างนั้นก็ยังสัมผัสได้ถึงความเป็นสุดยอดของนิยายยอดเยี่ยมแห่งยุคเรื่องหนึ่ง ไม่สงสัยแล้วว่าเหตุใดจึงยังไม่ถูกลืม เพราะความดีงามของเรื่องนั้นสามารถข้ามผ่านกาลเวลามาใกล้ 90 ปีเต็มที ขนาดพอรู้เรื่องคร่าวๆแม้นจำไม่ได้มากเพราะหนังดูไว้นานหลายปีแล้ว แต่เมื่อได้จับฉบับหนังสือก็ยังอดลุ้นระทึกตามไปกับตัวละครนำไม่ได้ ต้องสรรเสริญผู้เขียนคือ ดาฟเน ดู โมริเยร์ ที่ให้กำเนิดรีเบคก้าขึ้นมาอวดโฉมสู่สายตานักอ่านในบรรณพิภพ หนังสือพิมพ์ในไทยครั้งแรกตั้งแต่ปี พ.ศ.2511 ฉบับที่อ่านนี้เป็นของ สนพ.สร้างสรรค์-วิชาการ เป็นพิมพ์ครั้งที่ 7 เมื่อปี พ.ศ.2538 หนา 387 หน้า มีช่วงระหว่างหน้าที่ 283-298 ทำเอาใจวูบ เพราะกำลังดำเนินเรื่องถึงช่วงจุดสูงสุดที่จะเฉลยปม เลขหน้าข้าม ทีแรกก็เศร้าว่าหน้าหายเยอะขนาดนี้คงจะพลาดอะไรสำคัญไปเยอะ พลิกตรวจดูจึงรู้ว่า เป็นความผิดพลาดของการเข้าเล่ม ที่ทำให้ต้องเปิดพลิกกลับอ่านแบบญี่ปุ่นจากขวามาซ้ายประมาณ 16 หน้า จึงกลับสู่การอ่านแบบปกติได้ น่าจะเป็นทั้งล็อตในการพิมพ์หรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ สองประการที่ลดคุณค่าของนิยายเล่มนี้ในฉบับพิมพ์ของสร้างสรรค์คือ หนึ่ง ตัวอักษรที่เลือกใช้ได้ทรมานสายตาคนอ่านอย่างมากคือทั้งเล็กและบาง เมื่อบวกกับแถวยาวเหยียดที่เบียดกันเป็นพรืด นาน ๆ จึงจะพบย่อหน้าสักครั้ง จึงต้องใช้พลังสมาธิและความพยายามอย่างยิ่งกว่าจะอ่านจบ นี่ถ้าไม่ใช่เพราะความดีงามในตัวของนิยายเองที่ทำให้อยากอ่านต่อ อาจยอมแพ้เสียก่อน และสอง กระดาษที่ใช้คุณภาพไม่ดีเลย ความหนาแน่นของเนื้อเยื่อกระดาษบางมาก 🔻 เนื้อเรื่องโดยย่อ หญิงสาววัยสัก20ปี ที่เป็นผู้มีบุคลิกใสซื่อ มีความเป็นตัวของตัวเองอย่างบริสุทธิ์ตามธรรมชาตินางหนึ่ง พ่อแม่ตายไปตั้งแต่ยังเล็ก จึงจำต้องหาเลี้ยงตนเองมาแบบอัตคัด จนได้มาติดตามเป็นหญิงรับใช้ให้กับคุณนายอึ่งอ่างนางหนึ่ง(ขออภัย เธอมีชื่อแต่ลักษณะภายนอกที่ถูกบรรยายทำให้นึกไปถึงอึ่งจริง ๆ นะ) ซึ่งคุณนายคนนี้ก็มีนิสัยแย่ ชอบจิกใช้งานหญิงสาว และพูดจาเหยียบย่ำน้ำใจบ่อย อีกทั้งชอบทำตัวเจ๋อแจ้น เที่ยวปั้นหน้าไปคุยกับคนในแวดวงสังคม ไม่ใช่เพื่ออะไรมากไปกว่าตักตวงข่าวสารมาพูดนินทาต่อให้คนอื่นฟังด้วยความสนุกปากตามพื้นนิสัยเดิม ซึ่งสถานที่ที่ทำให้นางเอกและพระเอกได้พบกันครั้งแรกคือที่ โรงแรมแห่งหนึ่งในมอนติคาโล คุณนายอึ่งอ่างถือวิสาสะไปคุยด้วยกับหนุ่มใหญ่เจ้าของคฤหาสน์ มันเดอลีย์ ที่กำลังอยู่ในระหว่างท่องเที่ยวเพื่อลืมเลือนเรื่องอดีตเกี่ยวกับภรรยาสาวที่เสียชีวิตไปไม่นาน ในห้องอาหารชั้นล่างซึ่งนางเอกก็จำต้องอยู่ใกล้ชิดร่วมโต๊ะแม้นไม่อยาก เพราะอับอายแทนผู้ว่าจ้างของตน ด้วยเธอเป็นคนหน้าบางและมีสมบัติผู้ดีมากกว่าคุณนายอึ่งอ่าง ทั้งที่โดนกดและดูถูกว่าเป็นพวกชั้นล่าง ก็การพบหน้าคราวนั้นเองคือจุดเริ่มต้นแห่งเรื่องราวชวนฝัน ที่ประจวบเหมาะว่าวันต่อมาเจ้านายเธอมีไข้ไม่สบาย หมอให้พักสักสองสัปดาห์ในห้อง จึงเป็นโอกาสให้นางเอกของเรื่องพอจะมีเวลาเป็นของตนเอง ได้ใช้ชีวิตอิสระในตอนลงมากินข้าวที่ห้องอาหารชั้นล่าง ซึ่งก็พอดีได้พบพระเอกเป็นครั้งที่สอง แม้จะเจียมตัวไม่กล้าไปทักหรือร่วมโต๊ะ แต่สุดท้ายเหตุการณ์ก็พาไปให้พระเอกคือมิสเตอร์ เดอวินเตอร์ ตะล่อมพูดจนเธอยอมมานั่งกินอาหารโต๊ะเดียวกับเขา และได้พูดคุยพอเป็นที่รู้เรื่องความเป็นมาของฝ่ายสาว และในโอกาสต่อมาจากวันนั้น กลายเป็นว่าช่วงเวลาที่คุณนายอึ่งอ่างนอนแซ่วบนเตียง ที่ก็ไม่ได้ป่วยอะไรมาก แต่อยากหาเหตุให้คนอื่นมาเยี่ยมจะได้ชวนคุยนินทาสารพัดกับเล่นไพ่นั้น เปิดโอกาสให้นางเอกได้สานความสัมพันธ์อันดีกับพระเอกที่ยังคงมีมาดสุขุม ลึกลับ ครุ่นคิดตลอดเวลา และไม่ค่อยพูดจาหรือเปิดเผยเรื่องราวของตน จนฝ่ายหญิงเริ่มมีความรู้สึกที่ดีกับฝ่ายชายอย่างมาก ถึงขั้นที่เรียกว่ารักแรก ทุกวันพระเอกจะพบกับนางเอกที่ห้องอาหาร กินด้วยกันแล้วพาไปนั่งรถแล่นกินลมชมวิวไปตามที่ต่างๆ แต่แล้วเมื่ออาการของเจ้านายดีขึ้น วันหนึ่งก็สั่งนางเอกว่าให้รีบไปจองตั๋วรถไฟ เพราะลูกสาวของนางติดต่อมาว่าจะไปนิวยอร์ก และเจ้านายก็จะตามไปอยู่ด้วย แน่นอนว่าต้องเอานางเอกตามไปรับใช้ เมื่อทราบข่าวเธอถึงกับหัวใจสลาย เข่าอ่อน เหมือนความสุขที่เพิ่งปรากฏไม่นานในชีวิตกำลังจะสูญสลายไปตลอดกาล เธอพยายามจะลงไปพบเจอพระเอก แต่เขาไม่อยู่ไปทำธุระ ทำให้ในเธอรุ่มร้อนเป็นไฟ ในวันเดินทางที่ถูกใช้ให้ไปเปลี่ยนตั๋วเพื่อเลื่อนเที่ยวรถให้เร็วขึ้นจากช่วงสายเป็นช่วงเช้า เธอสิ้นหวังแล้ว แต่ไม่อาจตัดใจจากไปทั้งยังไม่ได้บอกลา จึงอาศัยช่วงที่เจ้านายสั่งให้มาติดต่อเปลี่ยนเที่ยวนั้น วิ่งหน้าตั้งไปเคาะห้องที่รู้ว่าพระเอกพักอยู่เพื่อจะบอกให้ทราบ และเมื่อพระเอกได้ฟัง จึงถามว่าทำไมเธอต้องปล่อยชีวิตให้เป็นไปตามแต่เจ้านายจะบงการ เธอบอกเพราะเธอต้องใช้เงิน และการทำงานรับใช้ทั้งที่ไม่อยากก็เพื่อแลกกับค่าจ้างน้อยนิด พระเอกยื่นข้อเสนอให้เลือก ว่าเธอจะไปกับคุณนายอึ่งอ่างหรือจะไปกับเขา เธอไม่เข้าใจ เขาบอกอีกครั้งให้ชัดว่าเธอจะเลือกไปกับเขาในฐานะมิสซิส เดอวินเตอร์หรือไม่ นั่นเอง คือการเดินทางครั้งใหม่ของนางเอก หลังเธอตกลงใจจะไปกับเขาเพราะความรัก ทั้งสองแต่งงานกันอย่างที่ไม่มีการสวมชุด เข้าโบสถ์หรือการเลี้ยงฉลอง เพราะเขาไม่ปรารถนา แล้วไปฮันนีมูนต่อที่อิตาลีอยู่หลายสัปดาห์ ก่อนที่ท้ายสุดจะตรงไปที่คฤหาสน์มันเดอลีย์อันแสนไกล งดงามตั้งตระหง่านอยู่ภายในวงล้อมของป่ารก ที่ซึ่งเธอต้องกลายจากนางสาวต็อกต๋อย ไร้ชื่อเสียง ไร้เงิน ไร้ศักดิ์ฐานะใดๆ ไปเป็นคุณนายภริยาคนใหม่ของเจ้าของคฤหาสน์หรูเก่าแก่ ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ด้วยตัวคนเดียวโดดเดี่ยว และต้องเผชิญหน้ากับการต้อนรับอันเย็นชา และน่ากลัวของหญิงสาวผู้เป็นต้นห้องคนเก่าของมิสซิส เดอวินเตอร์คนที่ตายไปแล้ว อันมีนามว่า รีเบคกา กับบริวารรับใช้ชายหญิงอีกหลายคนที่ล้วนแล้วแต่มีอะไรที่เหมือนจะให้ความรู้สึกที่ไม่น่าไว้ใจ หดหู่ เร้นลับ ท่ามกลางความใหญ่โตกว้างขวางของห้องหับนับไม่ถ้วน ดอกไม้ป่านานาพรรณ อีกไม้ป่ายืนต้นรกชัฏ กับชายหาดและอ่าวที่เงียบเชียบ ดูเปลี่ยวเหงาวังเวง เสียงคลื่นทะเลที่ซัดเข้าหาฝั่ง กระทบโขดหิน ความดำมืดของบรรยากาศที่ทึบทึม ผู้คนที่จะเป็นมิตรก็ไม่ใช่ จะศัตรูก็ไม่เชิง กับเงาร่างของภรรยาสาวคนเก่าที่เพิ่งตายไปไม่นานของคนรักของเธอ ที่เหมือนยังมีชีวิตและปรากฏตัวไปทั่วทุกแห่ง นางเอกที่ยังอายุน้อยมาก กับพระเอกในวัย42 จะฟันฝ่าอุปสรรคและนำพาชีวิตรักไปรอดหรือไม่ ในขณะที่มีพี่สาวของสามีและพี่เขย อีกทั้งผู้จัดการงานทั่วไปของสามี คล้ายจะอยู่ฝ่ายเดียวกับเธอ และเอาใจช่วยให้ชีวิตของคนทั้งคู่เดินหน้าต่อไปได้ แต่ทว่าปริศนาทั้งหลายเกี่ยวกับคุณนายคนเก่า คือรีเบคกา และอุปสรรคจากแม่บ้านที่แสดงตนชัดว่าชิงชังรังเกียจ และหาเรื่องคอยสร้างปัญหาให้ ล้วนเป็นปราการใหญ่ที่ทำให้ผู้อ่านต้องลุ้นเอาใจช่วยเธอไปอย่างตื่นเต้น 🔶️ เชื่อว่าคนที่ไม่เคยรู้เรื่องราว ไม่เคยดูหนังมาก่อน จะได้รับอรรถรสความสนุกเต็มที่มากสุด ส่วนผู้เคยดูหนังแล้วก็ยังคงจะได้รับความสนุกได้ ในแง่ของการได้ทบทวนเก็บเกี่ยวรายละเอียดอีกครั้ง หากใครที่มีไว้ในกองดองแต่ยังไม่ได้อ่าน น่าเสียดายอย่างมาก ผู้แต่งมีอัจฉริยภาพในการเขียนบรรยายฉากอย่างแท้จริง ขอชื่นชมและสรรเสริญ โดนเฉพาะฉากที่พูดถึงนกชนิดต่าง ๆ พรรณไม้หลากหลายชนิดที่ขึ้นและปลูกไว้รายรอบคฤหาสน์ รายละเอียดของชนิดอาหาร เครื่องประกอบ เฟอร์นิเจอร์ของตกแต่ง คือมีความรอบรู้อย่างลึกจริง ทำให้คนอ่านเห็นภาพตามชัดเจน ยิ่งใครที่รู้จักอาหารประเภทต่าง ๆ เหล่านั้น รู้จักดอกไม้มากมายหลายชนิดที่กล่าวถึง คงจะยิ่งดำดิ่งเห็นภาพชัดราวกับเห็นลอยอยู่ตรงหน้า การใช้รูปแบบของอุปมาโวหารเชิงเปรียบเทียบช่างเป็นภาษาที่งดงาม แม้จะโบราณแต่เข้ากันมากกับยุคสมัยและบรรยากาศตามท้องเรื่อง ยิ่งบวกกับโครงเรื่องและแก่นที่แน่นเปรี๊ยะ อีกทั้งวิธีการเล่าอันน่าทึ่ง ซึ่งไม่ใช่ใครที่เป็นนักเขียนโดยทั่วไปก็สามารถทำได้ แน่นอนว่านักเขียนทุกคนล้วนปรารถนาให้ตนสามารถสร้างสรรค์งานเขียนดีเยี่ยมชนิดเป็นมาสเตอร์พีซของตนเองได้สักเล่มในชั่วชีวิตที่ผลิตงาน แต่มีไม่กี่คนเท่านั้นที่ทำสำเร็จ และผมเชื่อว่า ดาฟเน ดู โมริเยร์ คือหนึ่งในนั้นได้อย่างเต็มภาคภูมิ ฉบับแปลไทยนี้ทำได้ดีทีเดียว แม้จะพบว่ามีบางคำออกจะแปลก ๆ ในความรู้สึกอยู่บ้าง เช่นใช้คำว่า กระท้อน ในความหมายที่สื่อถึงการ สะท้อน และอีก 2-3 คำ แต่พอเข้าใจได้ ไม่แน่ว่าในยุคสมัยที่ผู้แปลแปลไว้ คำไทยบางคำในเวลานั้นอาจใช้และสะกดต่างไปจากปัจจุบัน ซึ่งก็ได้แต่คาดเดาเพราะผมไม่มีความรู้มากพอในด้านนี้ เรื่องนี้ทำให้เข้าใจถึงข้อด้อยที่น่ากำจัดหรือปรับปรุงแก้ไขให้ไม่มีอยู่ในอุปนิสัยของใครคนไหนก็ตามคือ "การคิดเองเออเอง" ซึ่งจะพบเห็นได้เยอะมากในตัวตนของนางเอก แทบจะตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งเป็นจุดตายที่มีส่วนจะทำให้ชีวิตรักของนางอาจต้องถึงกาลอับปางอย่างน่าหวดเสียว และผู้หญิงส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นกันด้วยสิ ความคิดระแวง คิดเป็นตุเป็นตะ คิดหมกมุ่นเพ้อฝันไปล่วงหน้าและมักเป็นไปในทางร้ายนั้น ได้แสดงให้เห็นอิทธิพลของมันชัดเจนยิ่งในเรื่อง ว่าส่งผลกระทบให้เกิดปัญหาตามมาอย่างไม่น่าเชื่อ สิ่งนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากหากผู้อ่านจะนำมาสำรวจตรวจตรากับการดำเนินชีวิตตนเอง ที่จะไม่ให้มี "อิตถีภาวะ"มากเกินไปแม้ในเพศชายก็ตาม มีบ้างทีอ่านแล้วอาจจะรู้สึก "ลำไย" ในอุปนิสัยของนางเอก ที่เธอจะอะไรกันนักหนานะกับแทบทุกเรื่อง แต่ก็ดีที่ผู้เขียนได้สร้างเหตุแล้วให้ตัวละครของตน ได้รู้จักเรียนรู้จากความผิดพลาดของตนเองแล้วพัฒนาเติบโตขึ้นในช่วงหลัง ที่ไม่อ่อนวัย ใจใสไร้เดียงสาดังเช่นตอนต้นเรื่อง เป็นความชาญฉลาดในการวางผังอย่างดี ที่ให้เหตุการณ์แต่ละเหตุการณ์ค่อยๆเปิดเผยให้ตัวนางเอกและคนอ่านได้ค่อยๆ รู้เรื่องเกี่ยวกับรีเบคกาเพิ่มขึ้นทีละน้อย ๆ เต็มไปด้วยความหวาดระแวง แคลงใจ จนนำไปสู่ความน่าตื่นตะลึงในช่วงที่เฉลยความจริงให้นางเอกและผู้อ่านทราบไปพร้อมกัน ต่อจากนั้นอีกร้อยกว่าหน้า ก็เป็นช่วงที่ไม่ได้มีแผ่วลงเลยแม้แต่น้อย มีแต่เร่งเร้า เขย่าขวัญ สั่นประสาท ให้ต้องตามลุ้นระทึกเอาใจช่วยให้พระนางผ่านพ้นเรื่องร้ายแรงไปได้ด้วยดีเถิด แต่ละหน้า แต่ละบทสนทนาล้วนแต่พาเราให้ตื่นตัว ตื่นเต้นไปกับอุปสรรคต่อเนื่องที่ดาหน้าเข้าใส่ทั้งสองอย่างต่อเนื่อง ราวคลื่นทะเลที่ซัดหาฝั่งลูกแล้วลูกเล่า เหมือนโดนคลื่นพาลอยขึ้นไปจนสูงแล้วบัดดลก็จับโยนลงมาสู่เบื้องต่ำ ก่อนจะถูกม้วนลอยขึ้นไปที่สูงใหม่ ที่ชอบมากที่สุดคือวิธีที่ผู้เขียนเลือกใช้ในการหาทางพาให้พระนางดิ้นรนไปตามทางที่ถูกตัวร้ายนำไป ไม่อาจเป็นตัวของตัวเอง ไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่า จำนนต่อสิ่งที่ปรากฏและจู่โจม แต่แล้วก็พาให้ตัวละครและเรื่องราวทั้งหมดดำเนินไปสู่จุดอันคลี่คลายอย่างชนิดที่ต้องร้องในใจว่า คิดได้ยังไง ไม่มีจุดตำหนิได้เลย เพราะไม่ใช่ตอนจบที่เหมือนไม่รู้จะจัดการกับปมที่สร้างมาอย่างไรแล้วก็ใส่วิธีจัดการเข้ามาแบบไม่สนใจอะไร แต่ทุกอย่างคือถูกวางมาแล้วแต่แรก อย่างมีระเบียบ และเงียบเชียบ บอกใบ้ไว้แต่ไม่กระโตกกระตาก มีความลุ่มลึก ที่ถ้าหากใครมีเวลามากพอ ควรอ่านอย่างช้า ๆ เพื่อเก็บละเอียดทุกประโยคแล้วจะได้พบกับความไม่ธรรมดาของนิยานเรื่องนี้ที่น่าอึ้ง ชวนหลงใหลตั้งแต่เปิดเรื่องมาด้วยท่อนอมตะที่ว่า "เมื่อคืนนี้ดิฉันฝันว่า ได้ไปที่คฤหาสน์มันเดอลีย์อีกครั้งหนึ่ง" สุดท้ายคือ การที่ตลอดทั้งเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบ เรากลับไม่ได้รู้เลยว่าผู้เล่าเรื่องคือ ดิฉันนั้น แท้จริงชื่อเรียงเสียงไรกันแน่ เรารู้จักกับรีเบคกา ราวกับมีชีวิตทั้งที่ตายไปแล้ว กลับกันนางเอกหรือ ดิฉัน ที่ใกล้ชิดกับคนอ่านมากสุดราวกับคือตัวเราเองที่ยังไม่ตายนั้น เหมือนใกล้แต่ก็ไกล คือเป็นใครก็ได้ไม่ว่าผู้อ่านคือชายหรือหญิง เมื่อได้อ่านเรื่องนี้แล้วอดไม่ได้จะนำตนเองไปสวมเป็น ดิฉัน ไม่มากก็น้อย . . . . . . . . . ป.ล. (คนที่ยังไม่เคยอ่านหรือดูหนังมาเลย ควรข้าม) เรื่องนี้มีฉบับฝาแฝด ที่ได้รับแรงบันดาลใจ จนนักเขียนนิยายไทยท่านหนึ่ง นำโครงเรื่องมาดัดแปลง กลายเป็นนิยายแปลงชื่อ คุณหญิงสีวิกา ที่ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2534 สนพ.หมึกจีน เคยได้รับการนำไปสร้างเป็นละครช่อง 7 นำแสดงโดยคุณแอน อังคณา ทิมดี รับบทคุณหญิงสีวิกา และคุณจอห์นนี่ แอนโฟเน่ รับบทสามี ส่วนภรรยาสาวคนใหม่รับบทโดย คุณลูกศร ธนาภรณ์ รัตนเสน ผมยังได้รับชมเมื่อครั้งเรียนช่วงมัธยมปลายพอจำได้ ตอนนั้นก็สนุกนะ เพราะอยากทราบความจริงที่อยู่เบื้องหลัง ต้องตามอ่านจากไทยรัฐทุกวัน ซึ่งในเรื่องตัวคุณหญิงสีวิกามีอาการของคนที่ศัพท์เฉพาะใช้คำว่า "ฮิสทีเรีย" สมัยนั้นถึงกับมีดราม่ากันใหญ่โตว่าเรื่องนี้ไม่ใช่นิยายที่ควรนำมาทำเป็นละครฉายทางทีวีช่วงหลังข่าวภาคค่ำจบ ยุคนั้นละครมีประมาณชั่วโมงเดียว เริ่มสักสามทุ่มไปจบสี่ทุ่ม สุดท้ายกระแสต่อต้านเยอะจนไม่แน่ใจว่าถูกตัดทอนให้ตอนสั้นลงแล้วรีบตัดจบเอาดื้อ ๆ หรือไม่ จำไม่ค่อยได้แล้ว #thaitimes #รีเบคกา #นิยายแปล #นิยาย #ลึกลับ #ความวิปริตทางเพศ #มอนติคาโล #ท่องเที่ยว #บ้านริมหาด #คฤหาสน์ #หนังสือดี #หนังสือน่าอ่าน #วรรณกรรมคลาสสิก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 993 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประตูเปิดทางทิศเหนือ

    เดือนนี้ ธุรกิจที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ จะประสบความสำเร็จเฮงๆสุดขีด ทำธุรกิจค้าของเก่าวัตถุโบราณจะได้ของดีมีราคา มีชื่อเสียง โชคดีมาเยือน (หากมีคนหัวล้านมาเยือนจะทำให้ยิ่งโชคดี) มีข่าวจากแดนไกล จะมีทรัพย์สมบัติสะสมได้รับมรดกทรัพย์สมบัติเก่าแก่จากบรรพบุรุษมาแบ่งปัน อีกทั้งลูกหนี้จะกลับมาติดต่อขอชำระหนี้แต่จะถูกใส่ร้ายป้ายสีให้ติดคุกติดตะรางได้หากไปทำสัญญาปกปิดไม่เปิดเผยในที่ๆลับตา ทั้งเจ้าที่จะทวงถามคำมั่นที่เคยบนบานศาลกล่าวกันไว้ให้แก้บนแล้วก็จะดีขึ้น สุขภาพจะมีปัญหาที่ระบบย่อย เด็กรุ่นๆจะเจ็บป่วยที่ท้อง ลำไส้ แผ่นหลัง กระดูกสันหลัง แขน ขา นิ้ว สตรีเพศจะป่วยทางจิตสาเหตุจากการเป็นม่าย
    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้

    🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG
    ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง)
    .
    .
    #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร
    #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    ประตูเปิดทางทิศเหนือ เดือนนี้ ธุรกิจที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ จะประสบความสำเร็จเฮงๆสุดขีด ทำธุรกิจค้าของเก่าวัตถุโบราณจะได้ของดีมีราคา มีชื่อเสียง โชคดีมาเยือน (หากมีคนหัวล้านมาเยือนจะทำให้ยิ่งโชคดี) มีข่าวจากแดนไกล จะมีทรัพย์สมบัติสะสมได้รับมรดกทรัพย์สมบัติเก่าแก่จากบรรพบุรุษมาแบ่งปัน อีกทั้งลูกหนี้จะกลับมาติดต่อขอชำระหนี้แต่จะถูกใส่ร้ายป้ายสีให้ติดคุกติดตะรางได้หากไปทำสัญญาปกปิดไม่เปิดเผยในที่ๆลับตา ทั้งเจ้าที่จะทวงถามคำมั่นที่เคยบนบานศาลกล่าวกันไว้ให้แก้บนแล้วก็จะดีขึ้น สุขภาพจะมีปัญหาที่ระบบย่อย เด็กรุ่นๆจะเจ็บป่วยที่ท้อง ลำไส้ แผ่นหลัง กระดูกสันหลัง แขน ขา นิ้ว สตรีเพศจะป่วยทางจิตสาเหตุจากการเป็นม่าย ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้ 🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง) . . #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 85 มุมมอง 0 รีวิว
  • อิหร่านประกาศว่าการโจมตีอิสราเอล ซึ่งถือเป็นการโจมตีทางทหารครั้งใหญ่ที่สุดของประเทศ ได้จบลงแล้ว เว้นแต่จะถูกยั่วยุอีก แต่อิสราเอลและอเมริกาเผยเตรียมล้างแค้นอย่างสาสม โหมกระพือความกังวลว่า ตะวันออกกลางกำลังจะลุกเป็นไฟ ล่าสุดกองทัพยิวยังส่งทหารราบและหน่วยยานเกราะร่วมปฏิบัติการบุกภาคพื้นดินทางใต้ของเลบานอนเพื่อเพิ่มความกดดันต่อฮิซบอลเลาะห์
    .
    การประกาศเมื่อวันพุธ (2 ต.ค.) เกี่ยวกับการเพิ่มทหารราบและหน่วยยานเกราะจากกองพลที่ 36 บ่งชี้ว่า ปฏิบัติการของอิสราเอลไปไกลกว่าการบุกแบบจำกัดของหน่วยคอมมานโด อย่างไรก็ดี กองทัพอิสราเอลระบุว่า ปฏิบัติการภาคพื้นดินมุ่งทำลายอุโมงค์และโครงสร้างพื้นฐานบริเวณชายแดนเป็นหลัก และไม่มีแผนขยายเป้าหมายไปยังกรุงเบรุตหรือเมืองใหญ่อื่นๆ ทางใต้ของเลบานอน
    .
    ท่ามกลางการเรียกร้องหยุดยิงจากสหประชาชาติ (ยูเอ็น) อเมริกา และสหภาพยุโรป (อียู) อิสราเอลยังคงสู้รบกับฮิซบอลเลาะห์ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน รวมทั้งทิ้งระเบิดถล่มชานเมืองด้านใต้ของเบรุต ซึ่งเป็นที่มั่นของกลุ่มติดอาวุธกลุ่มนี้ และออกคำสั่งอพยพใหม่ในบริเณดังกล่าว
    .
    จากข้อมูลของรัฐบาลเลบานอนเมื่อวันอังคาร (1 ต.ค.) มีผู้เสียชีวิตเกือบ 1,900 คน และบาดเจ็บกว่า 9,000 คนจากการสู้รบข้ามพรมแดนที่ดำเนินมาเกือบปี โดยการสูญเสียส่วนใหญ่เกิดขึ้นในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
    .
    ทางด้านฮิซบอลเลาะห์เผยว่า ได้เผชิญหน้าและผลักดันกองกำลังอิสราเอลที่พยายามรุกล้ำออกจากเมืองอะเดสเซห์เมื่อเช้าวันพุธ
    .
    เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นหลังจากเมื่อวันอังคารเตหะรานยิงขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกฟัตตาห์ระลอกใหญ่โจมตีอิสราเอล ซึ่งส่วนใหญ่มุ่งโจมตีที่ตั้งทางทหารเพื่อตอบโต้ที่อิสราเอลสังหารผู้นำกลุ่มติดอาวุธหลายคน ซึ่งรวมถึงฮัสซัน นาสรัลเลาะห์ ผู้นำกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ อีกทั้งยังรุกรานเลบานอนและกาซา โดยสำนักข่าวของทางการอิหร่านรายงานว่า เตหะรานล็อกเป้าโจมตีฐานทัพ 3 แห่งของอิสราเอล ทั้งนี้ กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติของอิหร่านอวดอ้างว่า ขีปนาวุธ 90 โจมตีเป้าหมายสำเร็จ
    .
    อับบาส อารากชี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์เมื่อเช้าวันพุธว่า การดำเนินการของเตหะรานสิ้นสุดลงแล้ว เว้นแต่อิสราเอลตัดสินใจยั่วยุอีก ซึ่งอิหร่านจะตอบโต้รุนแรงขึ้นกว่าเดิม
    .
    นอกจากนั้นเสนาธิการกองทัพบกอิหร่านยังออกแถลงการณ์เตือนว่า หากถูกตอบโต้ เตหะรานจะทำลายโครงสร้างพื้นฐานของอิสราเอล รวมถึงผลประโยชน์ของพันธมิตรของอิสราเอลที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่อยู่ในตะวันออกกลาง
    .
    ด้านนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ประกาศว่า อิสราเอลจะเอาคืนและเตือนว่า อิหร่านจะต้องจ่ายราคาแพง ขณะที่วอชิงตันขานรับว่า จะร่วมกับอิสราเอลที่เป็นพันธมิตรเก่าแก่เพื่อให้แน่ใจว่า อิหร่านจะเผชิญผลลัพธ์รุนแรงจากการโจมตีเมื่อวันอังคาร ซึ่งอิสราเอลระบุว่า มีการใช้ขีปนาวุธทิ้งตัวมากกว่า 180 ลูก
    .
    ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ หารือกับโยอาฟ กัลแลนต์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล เมื่อคืนวันอังคาร และเผยว่า วอชิงตันพร้อมปกป้องผลประโยชน์ของอเมริกาในตะวันออกกลาง ขณะที่เพนตากอนระบุว่า การโจมตีเมื่อวันอังคารมีขนาดใหญ่กว่าเมื่อครั้งที่อิหร่านโจมตีอิสราเอลในเดือนเมษายน
    .
    พลเรือตรีแดเนียล ฮาการีของอิสราเอล โพสต์บนเอ็กซ์ว่า อิสราเอลเปิดใช้งานระบบต่อต้านการโจมตีทางอากาศต่อการระดมโจมตีของอิหร่านเมื่อวันอังคาร และแนวร่วมป้องกันระหว่างอิสราเอลกับอเมริกาสามารถสกัดขีปนาวุธส่วนใหญ่ได้ ก่อนสำทับว่า การโจมตีของอิสราเอลทำให้สถานการณ์ลุกลามอันตรายอย่างยิ่ง
    .
    แอกซิออส เว็บไซต์ข่าวออนไลน์ของอเมริกา รายงานเมื่อวันพุธโดยอ้างอิงการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่อิสราเอลว่า อิสราเอลจะตอบโต้อย่างรุนแรงภายในไม่กี่วันโดยพุ่งเป้าที่สถานที่ผลิตน้ำมันภายในอิหร่าน รวมถึงที่ตั้งทางยุทธศาสตร์อื่นๆ
    .
    ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศสนับสนุนอิสราเอลเต็มที่ และวิจารณ์ว่า การโจมตีของอิหร่าน “ไร้น้ำยา” ขณะที่รองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งประธานาธิบดี สนับสนุนจุดยืนของไบเดน และเสริมว่า อเมริกาจะไม่ลังเลเลยในการปกป้องผลประโยชน์ของประเทศจากการโจมตีของอิหร่าน
    .
    ทั้งนี้ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งยูเอ็นกำหนดประชุมเกี่ยวกับความขัดแย้งในตะวันออกกลางในวันพุธ และอียูเรียกร้องให้หยุดยิงทันที
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000093355
    ..................
    Sondhi X
    อิหร่านประกาศว่าการโจมตีอิสราเอล ซึ่งถือเป็นการโจมตีทางทหารครั้งใหญ่ที่สุดของประเทศ ได้จบลงแล้ว เว้นแต่จะถูกยั่วยุอีก แต่อิสราเอลและอเมริกาเผยเตรียมล้างแค้นอย่างสาสม โหมกระพือความกังวลว่า ตะวันออกกลางกำลังจะลุกเป็นไฟ ล่าสุดกองทัพยิวยังส่งทหารราบและหน่วยยานเกราะร่วมปฏิบัติการบุกภาคพื้นดินทางใต้ของเลบานอนเพื่อเพิ่มความกดดันต่อฮิซบอลเลาะห์ . การประกาศเมื่อวันพุธ (2 ต.ค.) เกี่ยวกับการเพิ่มทหารราบและหน่วยยานเกราะจากกองพลที่ 36 บ่งชี้ว่า ปฏิบัติการของอิสราเอลไปไกลกว่าการบุกแบบจำกัดของหน่วยคอมมานโด อย่างไรก็ดี กองทัพอิสราเอลระบุว่า ปฏิบัติการภาคพื้นดินมุ่งทำลายอุโมงค์และโครงสร้างพื้นฐานบริเวณชายแดนเป็นหลัก และไม่มีแผนขยายเป้าหมายไปยังกรุงเบรุตหรือเมืองใหญ่อื่นๆ ทางใต้ของเลบานอน . ท่ามกลางการเรียกร้องหยุดยิงจากสหประชาชาติ (ยูเอ็น) อเมริกา และสหภาพยุโรป (อียู) อิสราเอลยังคงสู้รบกับฮิซบอลเลาะห์ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน รวมทั้งทิ้งระเบิดถล่มชานเมืองด้านใต้ของเบรุต ซึ่งเป็นที่มั่นของกลุ่มติดอาวุธกลุ่มนี้ และออกคำสั่งอพยพใหม่ในบริเณดังกล่าว . จากข้อมูลของรัฐบาลเลบานอนเมื่อวันอังคาร (1 ต.ค.) มีผู้เสียชีวิตเกือบ 1,900 คน และบาดเจ็บกว่า 9,000 คนจากการสู้รบข้ามพรมแดนที่ดำเนินมาเกือบปี โดยการสูญเสียส่วนใหญ่เกิดขึ้นในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา . ทางด้านฮิซบอลเลาะห์เผยว่า ได้เผชิญหน้าและผลักดันกองกำลังอิสราเอลที่พยายามรุกล้ำออกจากเมืองอะเดสเซห์เมื่อเช้าวันพุธ . เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นหลังจากเมื่อวันอังคารเตหะรานยิงขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกฟัตตาห์ระลอกใหญ่โจมตีอิสราเอล ซึ่งส่วนใหญ่มุ่งโจมตีที่ตั้งทางทหารเพื่อตอบโต้ที่อิสราเอลสังหารผู้นำกลุ่มติดอาวุธหลายคน ซึ่งรวมถึงฮัสซัน นาสรัลเลาะห์ ผู้นำกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ อีกทั้งยังรุกรานเลบานอนและกาซา โดยสำนักข่าวของทางการอิหร่านรายงานว่า เตหะรานล็อกเป้าโจมตีฐานทัพ 3 แห่งของอิสราเอล ทั้งนี้ กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติของอิหร่านอวดอ้างว่า ขีปนาวุธ 90 โจมตีเป้าหมายสำเร็จ . อับบาส อารากชี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์เมื่อเช้าวันพุธว่า การดำเนินการของเตหะรานสิ้นสุดลงแล้ว เว้นแต่อิสราเอลตัดสินใจยั่วยุอีก ซึ่งอิหร่านจะตอบโต้รุนแรงขึ้นกว่าเดิม . นอกจากนั้นเสนาธิการกองทัพบกอิหร่านยังออกแถลงการณ์เตือนว่า หากถูกตอบโต้ เตหะรานจะทำลายโครงสร้างพื้นฐานของอิสราเอล รวมถึงผลประโยชน์ของพันธมิตรของอิสราเอลที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่อยู่ในตะวันออกกลาง . ด้านนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ประกาศว่า อิสราเอลจะเอาคืนและเตือนว่า อิหร่านจะต้องจ่ายราคาแพง ขณะที่วอชิงตันขานรับว่า จะร่วมกับอิสราเอลที่เป็นพันธมิตรเก่าแก่เพื่อให้แน่ใจว่า อิหร่านจะเผชิญผลลัพธ์รุนแรงจากการโจมตีเมื่อวันอังคาร ซึ่งอิสราเอลระบุว่า มีการใช้ขีปนาวุธทิ้งตัวมากกว่า 180 ลูก . ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ หารือกับโยอาฟ กัลแลนต์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล เมื่อคืนวันอังคาร และเผยว่า วอชิงตันพร้อมปกป้องผลประโยชน์ของอเมริกาในตะวันออกกลาง ขณะที่เพนตากอนระบุว่า การโจมตีเมื่อวันอังคารมีขนาดใหญ่กว่าเมื่อครั้งที่อิหร่านโจมตีอิสราเอลในเดือนเมษายน . พลเรือตรีแดเนียล ฮาการีของอิสราเอล โพสต์บนเอ็กซ์ว่า อิสราเอลเปิดใช้งานระบบต่อต้านการโจมตีทางอากาศต่อการระดมโจมตีของอิหร่านเมื่อวันอังคาร และแนวร่วมป้องกันระหว่างอิสราเอลกับอเมริกาสามารถสกัดขีปนาวุธส่วนใหญ่ได้ ก่อนสำทับว่า การโจมตีของอิสราเอลทำให้สถานการณ์ลุกลามอันตรายอย่างยิ่ง . แอกซิออส เว็บไซต์ข่าวออนไลน์ของอเมริกา รายงานเมื่อวันพุธโดยอ้างอิงการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่อิสราเอลว่า อิสราเอลจะตอบโต้อย่างรุนแรงภายในไม่กี่วันโดยพุ่งเป้าที่สถานที่ผลิตน้ำมันภายในอิหร่าน รวมถึงที่ตั้งทางยุทธศาสตร์อื่นๆ . ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศสนับสนุนอิสราเอลเต็มที่ และวิจารณ์ว่า การโจมตีของอิหร่าน “ไร้น้ำยา” ขณะที่รองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งประธานาธิบดี สนับสนุนจุดยืนของไบเดน และเสริมว่า อเมริกาจะไม่ลังเลเลยในการปกป้องผลประโยชน์ของประเทศจากการโจมตีของอิหร่าน . ทั้งนี้ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งยูเอ็นกำหนดประชุมเกี่ยวกับความขัดแย้งในตะวันออกกลางในวันพุธ และอียูเรียกร้องให้หยุดยิงทันที . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000093355 .................. Sondhi X
    Like
    Sad
    Haha
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1309 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts