• อัจฉริยะ หอบหลักฐานจำลองเหตุการณ์แตงโมตกน้ำ ร้องดีเอสไอ พิจารณารับเป็นคดีพิเศษ จี้สอบ จนท.รัฐ เข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ด้านโฆษกดีเอสไอ ระบุ สำนวนคดีหลักยังอยู่ในชั้นศาล ไม่อาจก้าวล่วงได้ และต้องรับข้อมูลประกอบการพิจารณาอย่างระมัดระวัง ต้องดูข้อกฎหมาย ดูว่ามีอำนาจหรือไม่ ก่อนชงอธิบดีฯ รับหรือไม่รับเป็นคดีพิเศษ
    .
    วันนี้ (17 ม.ค.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ยื่นเรื่องต่อ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ ขอให้ตั้งคณะทำงานสืบสวนสอบสวนคดีของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม นักแสดงชื่อดัง ขอให้สืบสวนสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องในคดี ซึ่งมีข้อพิรุธอันเป็นเหตุสงสัยที่เชื่อว่าไม่ตรงกับความเป็นจริง มีการบิดเบือนพยานหลักฐานกระบวนการยุติธรรมในคดี และพิจารณารับเป็นคดีพิเศษ โดยมี พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และในฐานะโฆษกดีเอสไอ
    .
    นายอัจฉริยะ กล่าวว่า จากการจำลองเหตุการณ์แตงโมตกเรือ วันที่ 15-16 ม.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งมีคำถามเกิดขึ้นมากมาย โดยตนเองได้นำหลักฐานทั้งหมดมาใช้ในคดีใหม่ และมามอบให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ รับเป็นคดีพิเศษ ทำการสืบสวนสอบสวนเอาผิดกลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำสำนวนคดีการเสียชีวิตของแตงโม รวมทั้งคนบนเรือ เนื่องจากการสืบสวนส่อในทางไม่สุจริต มีการให้การเท็จ พยานเท็จ มีลักษณะให้ความช่วยเหลือฝ่ายจำเลย เข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
    .
    วันนี้ขอให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ รับดำเนินการตั้งเลขสืบสวน อ้างอิงจากคดีของนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส และคดีของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ ที่เคยรับไว้เป็นคดีพิเศษก่อนหน้านี้ เนื่องจากมีลักษณะคดีคล้ายกัน ทำให้สามารถเรียกพยานบุคคลมาสอบปากคำได้ ส่วนสาเหตุไม่ไปร้อง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เนื่องจากไม่เชื่อมั่นการทำงานหน่วยงานดังกล่าว เพราะเป็นองค์กรตำรวจ
    .
    นอกจากนี้ การยังไม่ไปร้องสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพราะมองว่าต้องการให้มีการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงก่อนโดยหากไปร้องทั้งที่ยังไม่มีการสอบสวน ก็ไม่มีประโยชน์อะไร บาดแผลแตงโมเกิดก่อนการตกน้ำเสียชีวิต และขาดอากาศหายใจ ซึ่งหมอก็ตอบไม่ได้ว่าการเสียชีวิตเกิดจากอะไร แต่ตำรวจสรุปว่าเสียชีวิตจากการพลัดตกกราบเรือด้านซ้ายโดนใบพัดเรือ
    .
    ประกอบกับศาลอาญาสืบพยานทั้ง 2 ฝ่ายเชื่อได้ว่าแตงโม ไม่ได้พลัดตกเรือ บาดแผลก็ไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือ ส่วนเส้นผม 3 เส้นบนเรือก็ไม่น่าเชื่อถือ ตนอยากเรียกร้องกระบวนการยุติธรรมเพราะบางคดีอาจมีการตั้งธงไว้ก่อน ทำให้ชาวบ้านไม่ศรัทธาหันไปร้องขอความช่วยเหลือจากเพจหรือคนที่ช่วยสังคม ซึ่งตนคาดหวังว่าคดีนี้ต้องมีคนรับโทษ
    .
    ด้าน พ.ต.ต.วรณัน กล่าวหลังรับหนังสือ ว่า สำหรับประเด็นดังกล่าว ขอแบ่งออกเป็นสองส่วน คือ ประเด็นแรก ตัวคดีหลักอยู่ในการพิจารณาของศาล ดังนั้น เป็นสิ่งที่ดีเอสไอก้าวล่วงไม่ได้ ส่วนประเด็นที่สอง คือ กรณีที่ผู้ร้องได้มายื่นขอให้ตรวจสอบการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งก็ต้องมาพิจารณาในรายละเอียดว่าเป็นการยื่นขอให้มีการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาคนใหม่ในข้อหาใหม่หรือไม่อย่างไร
    .
    ทั้งนี้ จะมีโอกาสมากน้อยแค่ไหนที่ดีเอสไอจะรับไปดำเนินการนั้น ย้ำว่าเราต้องดูพยานหลักฐาน ซึ่งการจะรับเรื่องใดไว้เป็นคดีพิเศษ อย่างที่ย้ำไปว่าคดีหลักยังอยู่ในกระบวนการศาล ฉะนั้น สิ่งที่ดีเอสไอจะทำต่อก็ต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวัง เพราะต้องดูข้อกฎหมายเป็นหลัก แต่ส่วนประเด็นที่ผู้ร้องได้ให้ข้อเท็จจริงมา อันนี้ก็ต้องนำไปพิจารณาประกอบกันว่าจะนำไปสู่การดำเนินการใหม่ได้หรือไม่
    .
    ส่วนกรณีเมื่อวันที่ 16 ม.ค. เจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้เข้าร่วมสังเกตการณ์การจำลองสถานการณ์การเสียชีวิตของคุณแตงโมของภาคประชาชน ทราบว่ารายละเอียดข้อมูลต่าง ๆ ทางเจ้าหน้าที่ได้รับข้อมูลไปแล้ว คาดว่าอาจนำไปดูประกอบกับข้อมูลของผู้ร้องในวันนี้ ทั้งนี้ ที่ผ่านมาคดีใดที่อยู่ในระหว่างชั้นศาล ดีเอสไอต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวัง เพราะคดีดังกล่าวมีผู้กระทำความผิดที่อยู่ในกระบวนการชั้นศาล ซึ่งโดยหลักการเมื่อคดีไปอยู่ในชั้นศาล เจ้าพนักงานสอบสวนจะไม่มีอำนาจหน้าที่ เว้นแต่เป็นกรณีที่มีข้อเท็จจริงอย่างอื่นที่นำไปสู่การสอบสวนได้ ซึ่งก็ต้องไปดูรายละเอียดก่อน ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงาน
    .
    เมื่อถามว่ามองอย่างไรที่สังคมค่อนข้างให้การจับตามองในประเด็นดังกล่าว พ.ต.ต.วรณัน ระบุว่า ตนมองว่าเป็นปรากฎการณ์ที่ดีเพราะการที่ภาคประชาชนให้ความสำคัญในเรื่องของการทำงานร่วมกับภาครัฐถือเป็นเรื่องที่ดี แต่กลไกทางกฎหมายก็ต้องมาดูรายละเอียดกันด้วย ซึ่งรายละเอียดต่าง ๆ ที่ภาคประชาชนได้มา คาดว่าทางเจ้าหน้าที่ดีเอสไอที่ไปร่วมสังเกตการณ์น่าจะได้มีการรายงานต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษไปแล้ว
    .
    โดยกรอบเวลาการทำงานเพื่อดูความชัดเจนนั้น เบื้องต้นทราบว่าเป็นเรื่องของการตรวจสอบอยู่ ถ้าหากมีการตรวจสอบรายละเอียดข้อมูลใดของเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายก็ต้องการรายงานไปยังอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ว่ามีเหตุที่สามารถใช้อำนาจในการสืบสวนต่อไปได้หรือไม่ ซึ่งก็ต้องทำตามขั้นตอน ส่วนกรอบระยะเวลาเร็วหรือช้า ต้องขอให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานก่อนอย่าพึ่งไปบอกว่าเร็วหรือช้า ต้องดูก่อนว่าในเรื่องดังกล่าวดีเอสไอมีอำนาจหรือไม่ ถ้าหากผ่านขั้นตอนแรกไปแล้วก็จะได้ไปสู่ขั้นตอนที่สองในการพิจารณารับหรือไม่รับเป็นคดีพิเศษต่อไป
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000005212
    .........
    Sondhi X
    อัจฉริยะ หอบหลักฐานจำลองเหตุการณ์แตงโมตกน้ำ ร้องดีเอสไอ พิจารณารับเป็นคดีพิเศษ จี้สอบ จนท.รัฐ เข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ด้านโฆษกดีเอสไอ ระบุ สำนวนคดีหลักยังอยู่ในชั้นศาล ไม่อาจก้าวล่วงได้ และต้องรับข้อมูลประกอบการพิจารณาอย่างระมัดระวัง ต้องดูข้อกฎหมาย ดูว่ามีอำนาจหรือไม่ ก่อนชงอธิบดีฯ รับหรือไม่รับเป็นคดีพิเศษ . วันนี้ (17 ม.ค.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ยื่นเรื่องต่อ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ ขอให้ตั้งคณะทำงานสืบสวนสอบสวนคดีของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม นักแสดงชื่อดัง ขอให้สืบสวนสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องในคดี ซึ่งมีข้อพิรุธอันเป็นเหตุสงสัยที่เชื่อว่าไม่ตรงกับความเป็นจริง มีการบิดเบือนพยานหลักฐานกระบวนการยุติธรรมในคดี และพิจารณารับเป็นคดีพิเศษ โดยมี พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และในฐานะโฆษกดีเอสไอ . นายอัจฉริยะ กล่าวว่า จากการจำลองเหตุการณ์แตงโมตกเรือ วันที่ 15-16 ม.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งมีคำถามเกิดขึ้นมากมาย โดยตนเองได้นำหลักฐานทั้งหมดมาใช้ในคดีใหม่ และมามอบให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ รับเป็นคดีพิเศษ ทำการสืบสวนสอบสวนเอาผิดกลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำสำนวนคดีการเสียชีวิตของแตงโม รวมทั้งคนบนเรือ เนื่องจากการสืบสวนส่อในทางไม่สุจริต มีการให้การเท็จ พยานเท็จ มีลักษณะให้ความช่วยเหลือฝ่ายจำเลย เข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ . วันนี้ขอให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ รับดำเนินการตั้งเลขสืบสวน อ้างอิงจากคดีของนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส และคดีของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ ที่เคยรับไว้เป็นคดีพิเศษก่อนหน้านี้ เนื่องจากมีลักษณะคดีคล้ายกัน ทำให้สามารถเรียกพยานบุคคลมาสอบปากคำได้ ส่วนสาเหตุไม่ไปร้อง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เนื่องจากไม่เชื่อมั่นการทำงานหน่วยงานดังกล่าว เพราะเป็นองค์กรตำรวจ . นอกจากนี้ การยังไม่ไปร้องสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพราะมองว่าต้องการให้มีการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงก่อนโดยหากไปร้องทั้งที่ยังไม่มีการสอบสวน ก็ไม่มีประโยชน์อะไร บาดแผลแตงโมเกิดก่อนการตกน้ำเสียชีวิต และขาดอากาศหายใจ ซึ่งหมอก็ตอบไม่ได้ว่าการเสียชีวิตเกิดจากอะไร แต่ตำรวจสรุปว่าเสียชีวิตจากการพลัดตกกราบเรือด้านซ้ายโดนใบพัดเรือ . ประกอบกับศาลอาญาสืบพยานทั้ง 2 ฝ่ายเชื่อได้ว่าแตงโม ไม่ได้พลัดตกเรือ บาดแผลก็ไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือ ส่วนเส้นผม 3 เส้นบนเรือก็ไม่น่าเชื่อถือ ตนอยากเรียกร้องกระบวนการยุติธรรมเพราะบางคดีอาจมีการตั้งธงไว้ก่อน ทำให้ชาวบ้านไม่ศรัทธาหันไปร้องขอความช่วยเหลือจากเพจหรือคนที่ช่วยสังคม ซึ่งตนคาดหวังว่าคดีนี้ต้องมีคนรับโทษ . ด้าน พ.ต.ต.วรณัน กล่าวหลังรับหนังสือ ว่า สำหรับประเด็นดังกล่าว ขอแบ่งออกเป็นสองส่วน คือ ประเด็นแรก ตัวคดีหลักอยู่ในการพิจารณาของศาล ดังนั้น เป็นสิ่งที่ดีเอสไอก้าวล่วงไม่ได้ ส่วนประเด็นที่สอง คือ กรณีที่ผู้ร้องได้มายื่นขอให้ตรวจสอบการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งก็ต้องมาพิจารณาในรายละเอียดว่าเป็นการยื่นขอให้มีการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาคนใหม่ในข้อหาใหม่หรือไม่อย่างไร . ทั้งนี้ จะมีโอกาสมากน้อยแค่ไหนที่ดีเอสไอจะรับไปดำเนินการนั้น ย้ำว่าเราต้องดูพยานหลักฐาน ซึ่งการจะรับเรื่องใดไว้เป็นคดีพิเศษ อย่างที่ย้ำไปว่าคดีหลักยังอยู่ในกระบวนการศาล ฉะนั้น สิ่งที่ดีเอสไอจะทำต่อก็ต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวัง เพราะต้องดูข้อกฎหมายเป็นหลัก แต่ส่วนประเด็นที่ผู้ร้องได้ให้ข้อเท็จจริงมา อันนี้ก็ต้องนำไปพิจารณาประกอบกันว่าจะนำไปสู่การดำเนินการใหม่ได้หรือไม่ . ส่วนกรณีเมื่อวันที่ 16 ม.ค. เจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้เข้าร่วมสังเกตการณ์การจำลองสถานการณ์การเสียชีวิตของคุณแตงโมของภาคประชาชน ทราบว่ารายละเอียดข้อมูลต่าง ๆ ทางเจ้าหน้าที่ได้รับข้อมูลไปแล้ว คาดว่าอาจนำไปดูประกอบกับข้อมูลของผู้ร้องในวันนี้ ทั้งนี้ ที่ผ่านมาคดีใดที่อยู่ในระหว่างชั้นศาล ดีเอสไอต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวัง เพราะคดีดังกล่าวมีผู้กระทำความผิดที่อยู่ในกระบวนการชั้นศาล ซึ่งโดยหลักการเมื่อคดีไปอยู่ในชั้นศาล เจ้าพนักงานสอบสวนจะไม่มีอำนาจหน้าที่ เว้นแต่เป็นกรณีที่มีข้อเท็จจริงอย่างอื่นที่นำไปสู่การสอบสวนได้ ซึ่งก็ต้องไปดูรายละเอียดก่อน ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงาน . เมื่อถามว่ามองอย่างไรที่สังคมค่อนข้างให้การจับตามองในประเด็นดังกล่าว พ.ต.ต.วรณัน ระบุว่า ตนมองว่าเป็นปรากฎการณ์ที่ดีเพราะการที่ภาคประชาชนให้ความสำคัญในเรื่องของการทำงานร่วมกับภาครัฐถือเป็นเรื่องที่ดี แต่กลไกทางกฎหมายก็ต้องมาดูรายละเอียดกันด้วย ซึ่งรายละเอียดต่าง ๆ ที่ภาคประชาชนได้มา คาดว่าทางเจ้าหน้าที่ดีเอสไอที่ไปร่วมสังเกตการณ์น่าจะได้มีการรายงานต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษไปแล้ว . โดยกรอบเวลาการทำงานเพื่อดูความชัดเจนนั้น เบื้องต้นทราบว่าเป็นเรื่องของการตรวจสอบอยู่ ถ้าหากมีการตรวจสอบรายละเอียดข้อมูลใดของเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายก็ต้องการรายงานไปยังอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ว่ามีเหตุที่สามารถใช้อำนาจในการสืบสวนต่อไปได้หรือไม่ ซึ่งก็ต้องทำตามขั้นตอน ส่วนกรอบระยะเวลาเร็วหรือช้า ต้องขอให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานก่อนอย่าพึ่งไปบอกว่าเร็วหรือช้า ต้องดูก่อนว่าในเรื่องดังกล่าวดีเอสไอมีอำนาจหรือไม่ ถ้าหากผ่านขั้นตอนแรกไปแล้วก็จะได้ไปสู่ขั้นตอนที่สองในการพิจารณารับหรือไม่รับเป็นคดีพิเศษต่อไป . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000005212 ......... Sondhi X
    Like
    Love
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 882 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ปอ-แซน" บิดอีก !?! อ้าง "แตงโม" เกาะเรือ 10 วิ จำลองเหตุไม่ตรงเรื่องจริง
    .
    "ปอ ตนุภัทร" พร้อมด้วย "แซน วิศาพัช" โต้กรณีจำลองเหตุการณ์ "แตงโม ภัทรธิดา" ตกน้ำ อ้างไม่ตรงกันเพราะตอนตกน้ำมีการเกาะเครื่องเอาต์บอร์ดท้ายเรือ ถูกใบพัดเรือ แนะลองแช่แล้วจุ่มสักครึ่งตัว เกาะเครื่อง 10 วิ.แล้วดูว่าขาถึงใบพัดไหม แต่ไม่อยากให้อุบัติเหตุซ้ำอีก ด้านแซนกล่าว ถ้าหมอธวัชชัยอยากจะทำ ติดเครื่องยนต์ก็ได้ อ้างไม่ตรงกันมีรายละเอียดปลีกย่อย ถามกลับมีเจตนาทวงคืนความยุติธรรมจริงหรือไม่
    .
    วันนี้ (16 ม.ค.) ที่โชว์รูมวัฒนาออโต้เซลล์ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ กรุงเทพฯ นายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือปอ พร้อมด้วย นายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือแซน สองผู้อยู่ในเหตุการณ์ที่ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม ที่เสียชีวิตเพราะตกจากเรือสปีดโบ้ทลงแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณท่าเรือพิบูลสงคราม 1 ต.สวนใหญ่ อ.เมืองฯ จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2565 หรือเมื่อ 3 ปีก่อน แถลงข่าวถึงปฎิกิริยาการทดสอบเหตุการณ์จำลองการตกเรือของแตงโม ภัทรธิดา นำโดย อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    .
    นายตนุภัทร กล่าวว่า ตนเห็นด้วยที่มีการจำลองเหตุการณ์ตกเรือให้ชัดเจนและกระจ่าง ทำให้ประชาชนได้เห็นภาพจากเรือรุ่นเดียวกัน คือเรือโคบอลต์ 25 เอสซี แต่สิ่งที่รู้สึกว่าไม่ตรง คือ การตกไม่ได้ตกในลักษณะที่แซน วิศาพัช เคยให้ข้อมูลในการออกรายการโหนกระแส และให้การกับศาล ตนมองว่าไม่ตรง ทำไมไม่จำลองให้เหมือนกัน การที่แตงโมนั่งและจับขาแซน พบว่าการจำลองเหตุการณ์มีการเฉียงออกทางซ้ายของเรือ ไม่ตรงกับที่แซน วิศาพัช ให้การว่าตกไปแล้วต้องเกาะ แต่ไม่ใช่ดีดตัวออกจากเรือ เพราะฉะนั้นตำแหน่งที่คิดว่าควรจะเป็นคือ ตกเรือแล้วเกาะเครื่องยนต์ซึ่งจะถูกใบพัดดูด
    .
    แต่ถ้าตกแล้วดีดออกจากเรือ ถามผู้เชี่ยวชาญยังไงก็ไม่โดนใบพัดเรือ และจากการที่แซน วิศาพัช กล่าวและสาธิตในรายการโหนกระแส สาระก็คือตกไปแล้ว ต้องเกาะถึงจะหลุด แต่ถ้าตกแล้วดีดออกจากเรือเลย คนละเหตุการณ์กัน เพราะฉะนั้นมีคำถามว่า ทำไมการจำลองเหตุการณ์ครั้งนี้ถึงจำลองไม่ตรง ฝากถึงทีมผู้จัดการทดสอบว่า เราเห็นด้วยและขอบคุณที่ให้ความกระจ่าง แต่มีคำถามว่าถ้าจำลองแล้วไม่เหมือนเหตุการณ์ 100% จะจำลองทำไม ถ้าจะจำลองให้เหมือนจะจำลองแบบไหน
    .
    ทั้งนี้ บนแพลตฟอร์มของเรือโคบอลต์ 25 เอสซี จะมีเครื่องยนต์อยู่ท้ายเรือ เรียกว่าเครื่องเอาต์บอร์ด (Outboard) จะมีใบพัดอยู่ด้านข้าง จากที่แซน วิศาพัช เล่าในรายการโหนกระแสและให้การในชั้นศาล ตนนั่งอยู่ที่เบาะหลังและยืดขา ตำแหน่งที่ตกขาจะยื่นอยู่ใกล้เครื่องเอาต์บอร์ด ขาจะยื่นอยู่ในช่วงใบพัด เพราะฉะนั้นการจำลองแบบง่ายๆ ต้องอยู่ใกล้เครื่องเอาต์บอร์ด ลักษณะที่ตกต้องตกอยู่ข้างเครื่อง แต่ไม่ใช่ตกทะแยง 45 องศา กระโดดออกนอกเรือ มันคนละเรื่องกัน และต้องเกาะเครื่องก่อนสักประมาณ 10 วินาทีแล้วค่อยนับ เพราะใบพัดจะปัด ดูวิถีร่างจะเข้าที่เครื่องไหม
    .
    ตนได้ทราบจากทนายความว่า ได้ไปขอคัดพยานหลักฐาน พบว่าทางตำรวจจำลองเหตุการณ์แล้ว ทดสอบว่าจุดที่ตกดูดไปทางไหน ถ้าสมมติตกแล้วอยู่ด้านข้างของเรือจะไม่มีการดูด แต่ถ้าตกแล้วอยู่โซนเครื่องเอาต์บอร์ดมันจะมีการดูด สิ่งที่ตำรวจทำเท่าที่ทราบคือการใช้สีเทลงไปเพื่อดูสีของน้ำ ให้เห็นว่าน้ำวนแล้วดูดมาทางใบพัดเรือหรือไม่ อย่างที่สอง ให้คนใส่เสื้อชูชีพแล้วเกาะโดยไม่ติดเครื่องยนต์ ดูทิศทางของน้ำที่มีแรงดัน คนจะไหลตรงใบพัดหรือไม่ เขาทดสอบแล้วมันไหลและพัดเข้ามา อย่างที่สาม ใช้สุกรที่มีน้ำหนักเท่ากับแตงโม ภัทรธิดา มาเกาะ แล้วใบพัดดูดเข้ามามีรอยฟันหรือไม่ พบว่าแผลเข้า ทำให้พบว่ามีข้อมูลที่มาที่ไป จึงบอกว่าถ้าจะจำลองเหตุการณ์ อยากให้จำลองให้ตรง แต่บอกตรงๆ ไม่อยากให้อุบัติเหตุเกิดขึ้นอีก
    .
    "ถ้าจำลองง่ายๆ ลองจำลองตามที่ผมว่า ให้บุคคลที่มีอัตลักษณ์ความสูง 165 เซนติเมตร แล้วลองไปแช่ ไม่ต้องติดเครื่อง ลองจุ่มไปสักครึ่งตัว ดูที่ขาคุณจะถึงใบพัดไหม เอาแค่นี้พอ ถ้าถึง ผมว่าจบได้นะ"
    .
    ด้านนายวิศาพัช หรือแซน กล่าวตอบโต้ นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ ที่ออกมาเคลื่อนไหวคดีการเสียชีวิตของแตงโม ภัทรธิดา ว่า ถ้าคุณหมอฟังอยู่ นี่ก็คือคำตอบที่เมื่อกี้ท้ากันอยู่
    .
    นายตนุภัทร กล่าวว่า ขอย้ำว่าไม่อยากทดสอบโดยการติดเครื่องยนต์ เพราะถ้าตกอยู่ในวิถี ตำแหน่งอยู่ใกล้เครื่องเอาต์บอร์ดท้ายเรือ ไม่ได้อยู่นอกเรือ แล้วมีการดูด ตนเชื่อว่าใบพัดมีโอกาสสูงมาก ปัจจัยมีทั้งแรงดันของน้ำ ช่วงเวลาน้ำขึ้นน้ำลง และความเร็วของเรือ เพราะฉะนั้นสิ่งที่อยากจะให้ทดสอบก็คือ ให้บุคคลที่บอกอัตลักษณ์เท่าแตงโม ภัทรธิดา ลองมาทาบดูก่อน เครื่องที่ไม่ติดมันคงไม่บาด แต่ถ้าเครื่องติดอาจจะเกิดความเสียหาย เท่านี้ตอบสังคมได้เพียงพอแล้ว
    .
    ส่วนเรื่องการทดสอบเรือนั้น ลักษณะของการล่อง เรือ 8 นอต เห็นว่าบางเหตุการณ์เรือจะเชิดขึ้น ถ้าจะเปียกน้ำไม่มีทางนั่งได้ เพราะเรือเพิ่งออกตัว เรือเวลาออกตัวใหม่ๆ หน้าจะเชิดขึ้น แต่พอเรือออกตัวไปถึงจุดหนึ่งแล้ว เรือจะบิน ทำให้เรือจะอยู่ในสถานการณ์ลอยตัว ตนเชื่อว่าความเร็วที่ 8 นอต ตนเดาว่าทำให้เพื่อนไม่กังวล ณ ตอนนั้น และเราดื่มไวน์เรื่อยๆ ตั้งแต่ช่วงเย็น ทำให้คนปวดปัสสาวะปราศจากความกังวลที่คิดเยอะ (แซน วิศาพัช กล่าวเสริมว่า เรือมันนิ่งมาก) เพราะฉะนั้นการจำลองอยากให้จำลองให้เหมือนจริง และอยากให้ความเป็นธรรมกับทุกคน หมายถึงผู้เสียหาย
    .
    "ถ้าจะจำลองต้องจำลองให้เหมือนจริง และเพื่อนผม (แตงโม) เขาไปสงบแล้ว เพื่อนผมเนี่ยเราสูญเสีย ต้องมาคิดว่ามีหลายๆ คนที่สูญเสียตามมา คือบุคคลรอบข้างที่เสียใจ เพราะฉะนั้นการที่เพื่อนผมสูญเสียไปแล้ว ยังมาเป็นประเด็น มาเป็นกระแส ผมไม่เห็นด้วย อย่างที่สอง ผมยังยืนยันว่า ถ้าคุณจะทดสอบ ทดสอบแบบตรงไปตรงมา ให้เหมือนเหตุการณ์เดียวกัน"
    .
    นายวิศาพัช หรือแซน กล่าวว่า ฝากไปถึง นพ.ธวัชชัย และนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ว่ามาพูดหรือท้าอะไรกับตน สมควรที่จะปรึกษาผู้ที่มีความรู้ความสามารถ ความเชี่ยวชาญ วัยวุฒิ คุณวุฒิทุกอย่างก่อน จะได้ดูเหมือนกลั่นกรองมาแล้วค่อยมาถาม ส่วนการท้าด้วยจำนวนเงิน 1 แสนบาท 5 ล้านบาทนั้น ตนไม่ติดการพนัน เพราะฉะนั้นไม่ชอบเล่นแบบท้าด้วยเงินอยู่แล้ว ไปดูเรื่องการพนันของตัวเองดีกว่าไหม ไม่ได้พูดถึงใคร อันนี้พูดลอยๆ
    .
    นายตนุภัทร กล่าวว่า ตนขอขยายว่า ขอบคุณทีมงานของนายอัจฉริยะที่ทำความกระจ่าง ตอนที่เกิดเหตุใหม่ๆ ย้อนไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว มีประเด็นที่สังคมถามกันเยอะมากว่าท้ายเรือนั่งได้จริงไหม เพราะเรือมีหลายแพลตฟอร์ม มีเรือยอร์ช สปีดโบ้ท เรือพาย เรือแจว มันจะนั่งยังไง เชื่อว่าประชาชนได้เห็นแล้วว่า แตงโมตัวเล็ก แพทย์ที่นั่งทดสอบเมื่อวานตัวใหญ่กว่าแตงโมตั้งเยอะยังนั่งได้ เพราะฉะนั้นข้อแรกเราเห็นได้ชัดแล้วว่า นั่งท้ายเรือได้จริง ส่วนนั่งเสร็จแล้วปัสสาวะได้ไหม ขึ้นอยู่กับบุคคลว่าเขาเลือกจะทำอะไร เป็นความคิดเห็นส่วนตัว ณ ช่วงเวลานั้นคนปวดปัสสาวะ เขาอยากจะปัสสาวะหรือใดๆ เราไปก้าวล่วงไม่ได้
    .
    "แต่ที่แน่ๆ ผมอยากถามว่าคนที่ใส่บอดี้สูทวันนี้ที่ไปทดสอบ คุณนั่งได้แน่ๆ ขนาดคุณหมอยังนั่งได้ คุณนั่งได้แน่ๆ คุณลองสิ นั่งแล้วเอามือทำท่าที่อย่างคุณแซนเล่า ทำได้ไหม อันนี้ที่ผมฝากทดสอบ ... และจุดตก ผมย้ำอีกที จุดตกต้องตกข้างเครื่อง (เอาต์บอร์ด) แล้วตกลงไปก่อน แล้วเกาะ (เครื่องเอาต์บอร์ด) ก่อน อย่างน้อยสัก 10 วินาที แต่ผมย้ำอีกที ผมไม่อยากทดสอบในลักษณะติดเครื่อง เพราะถ้าติดเครื่องแล้วเกิดความสูญเสีย ผมว่าเราจะเสียหายมากกว่าได้แค่ทดสอบ ติดเครื่องในลักษณะที่ใบพัดไม่ทำงานมันจะรู้แล้วว่าโดน ไม่โดน แช่อยู่ในน้ำ ขอคนที่ความสูง 165 เซนติเมตร ซึ่งผมเห็นพี่ณวัฒน์ (นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล) ได้คัดสรรมาอย่างดีแล้ว ขอบคุณพี่ณวัฒน์ด้วย"
    .
    "เพราะฉะนั้นผมขออนุญาตขยายว่า ขอบคุณสำหรับการทดสอบในครั้งนี้ แล้วมันจะดีมากๆ ที่สร้างความกระจ่างให้กับประชาชนคนไทยทั้งประเทศ สร้างความกระจ่างให้กับ 5 คนบนเรือ และครอบครัวของน้องแตงโม ที่จะได้รู้ข้อเท็จจริงว่าถ้าตกตามเหตุการณ์จริง ที่คุณแซนเป็นผู้เดียวที่เห็นเหตุการณ์ และได้ให้ปากคำ กับประชาชนคนไทยทั้งประเทศที่ดูรายการโหนกระแส และได้ให้ปากคำในชั้นศาล เป็นข้อมูลเดิมทั้งหมด เพราะฉะนั้นคุณแซนยังไม่ได้บิดเบือน คุณแซนพูดทุกอย่างตามข้อเท็จจริง ทำไมวันนี้การทดสอบถึงบิดเบือนหรือไม่ตรง ในเมื่อเจ้าตัวยังพูดคำเดิม ผ่านมา 3 ปี คุณแซนยังยืนคำเดิมว่าตกท้ายเรือ เกาะไหม (แซน กล่าวว่า เกาะแปบนึง) เพราะฉะนั้นคุณแซนบอกแล้วว่าเกาะ ถ้าเกาะแล้วคุณต้องจำลองก่อน"
    .
    นายวิศาพัช หรือแซน กล่าวว่า ติดเครื่องยนต์เลยก็ได้ เพราะ นพ.ธวัชชัย กล่าวว่า เขาจะจำลองเอง แล้วเขาถามแซน ตรงนี้ถ้าเขาบอกว่าปลอดภัย 100% คุณหมอลองทำดู จะไม่ท้า ถ้าอยากทำก็ทำ ส่วนนายอัจฉริยะท้าเดิมพัน 2 ล้านบาท ถ้าถนัดทางนั้นไปสนามมวยดีกว่า ไม่ต้องคุยกับตนเรื่องนี้ และว่า การทดสอบในวันนี้เป็นการละครเรื่องหนึ่งมากกว่า เอาไว้ดูเพื่อความบันเทิงเท่านั้น เพราะไม่ได้ใกล้เคียงกับข้อเท็จจริงเลย มันไม่ตรงตั้งแต่ที่เคยแนะนำไป 4 ข้อ ถ้าเกิดจะทำให้เหมือน และการตกท้ายเรือมีรายละเอียดปลีกย่อยเล็กๆ น้อยๆ ถ้า นพ.ธวัชชัยอยากทราบ นายตนุภัทรก็ได้แจ้งไปแล้ว ให้ทำตามที่บอกแบบนั้นดู
    .
    ทั้งนี้ ตนไม่กังวลใจถึงการทดสอบและการร้องเรียนของนายอัจฉริยะ ยังยืนยันเหมือนเดิมว่ามั่นใจมากด้วยซ้ำ เพราะยังรอดูว่าจะเปิดอะไรออกมา จะใช้ข้อวิชาการ หลักวิทยาศาสตร์ข้อไหน เอามาสนับสนุนให้สิ่งที่กำลังทำมีเนื้อหาสาระสำคัญพอที่จะเอามาเปลี่ยนสำนวนคดีได้ ส่วนวัตถุประสงค์ในการทดสอบเหตุการณ์ตนไม่ทราบ ตนรู้สึกว่าโดนทำลายชื่อเสียงแต่ไม่รู้ว่าเจตนาเขาคืออะไร ส่วนจะฟ้องกลับคนที่ตัวตั้งตัวตีในการทดสอบนั้น เท่าที่คิดก็ไม่ทำ อโหสิกรรมไป เผื่อเจ้ากรรมนายเวรจะได้หมดสิ้นไปบ้าง ระหว่างนั้นทนายความกล่าวเสริมว่า ต้องดูว่ามากไปไหม กระทบถึงใครบ้าง ไปถึงครอบครัวไหมต้องพิจารณาดู แต่ส่วนตัวเชื่อว่าหน่วยงานรัฐคงไม่ได้เพิกเฉยอยู่แล้ว เพราะเรื่องนี้กระทบหน่วยงานรัฐหลายหน่วย
    .
    นายวิศาพัช หรือแซน กล่าวว่า อยากให้ประชาชนดูให้ดีว่าสิ่งที่เขาทำ เขามีเจตนาเพื่อหาความยุติธรรมจริงหรือเปล่า หรือหาประโยชน์ให้กับใคร กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น อันนี้ตนไม่ได้ยืนยัน แค่อยากให้ประชาชนตรองกันดูบ้าง จากสิ่งที่เราได้ยินเข้ามา แล้วก็กลั่นกรองกันหน่อย ไม่ใช่ได้ยินปุ๊บแล้วมาด่าเลย มันไม่ได้ ไม่อย่างนั้นประเทศเราก็เป็นประเทศขวัญใจแก๊งคอลเซ็นเตอร์
    .
    นายตนุภัทร กล่าวว่า คนที่สูญเสียวันนี้ขั้นต้นคือเพื่อนเรา เพราะฉะนั้นวันนี้เราเชื่อมั่นว่าไม่มีใครอยากให้เกิด แต่การหาประโยชน์จากการสูญเสีย ตนว่าควรจะไม่เอาการสูญเสียมาเป็นโอกาส ถ้าถามว่ารู้สึกอย่างไร เรารู้สึกแบบนี้ เพราะฉะนั้นวันนี้เพื่อนเรา แตงโม ภัทรธิดา จากไปอย่างสงบแล้ว วันนี้ขอบคุณที่ได้มาทำการจำลอง แล้วขอให้ทำให้ตรงไปตรงมา มันจะได้ความชัดเจน
    .
    ขณะที่ทนายความกล่าวเสริมว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับแตงโมนำมาจำลอง เห็นว่าเป็นการนำเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่ออดีตมา คนที่สูญเสียอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นผู้เสียหายจริงๆ คือคุณแม่ อยากให้มีการขออนุญาตคุณแม่สักนิดนึง กรณีการทำจำลองควรจะขออนุญาตกับผู้เสียหาย เพราะเขาเป็นแม่ของลูก การนำเรื่องราวของเขามานำเสนอเห็นว่าส่วนหนึ่งเหมือนซ้ำเติมคนตาย ส่วนการยื่นเรื่องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รื้อฟื้นคดีอีกรอบ ในทางกฎหมายไม่กังวล เพราะพยานหลักฐานใหม่ ต้องเป็นพยานหลักฐานที่มีอยู่แล้ว และไม่ได้สร้างขึ้นมาใหม่ การสร้างขึ้นมาใหม่ต้องมีความน่าเชื่อถือต่อหน่วยงานรัฐ มีการสืบสวนสอบสวนที่ถูกต้อง
    .
    การทดสอบครั้งนี้ชัดเจนว่าเป็นการสร้างขึ้นมาใหม่เพื่อที่จะพิสูจน์ความจริง แต่ต้องใกล้เคียงอย่างที่นายตนุภัทรพูด สิ่งที่นายตนุภัทรพูดทั้งหมดมีการเบิกความจากพยานผู้เชี่ยวชาญ ที่ได้มีการทดลอง จำลอง อยู่ในสำนวนของศาล และได้เบิกความไปแล้ว แต่คดียังอยู่ในระหว่างการพิจารณา ยังคงเปิดเผยอะไรมากไม่ได้ วันนี้เปิดเผยเท่าที่เห็นว่าเหมาะสมกับ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000004865
    ..............
    Sondhi X
    "ปอ-แซน" บิดอีก !?! อ้าง "แตงโม" เกาะเรือ 10 วิ จำลองเหตุไม่ตรงเรื่องจริง . "ปอ ตนุภัทร" พร้อมด้วย "แซน วิศาพัช" โต้กรณีจำลองเหตุการณ์ "แตงโม ภัทรธิดา" ตกน้ำ อ้างไม่ตรงกันเพราะตอนตกน้ำมีการเกาะเครื่องเอาต์บอร์ดท้ายเรือ ถูกใบพัดเรือ แนะลองแช่แล้วจุ่มสักครึ่งตัว เกาะเครื่อง 10 วิ.แล้วดูว่าขาถึงใบพัดไหม แต่ไม่อยากให้อุบัติเหตุซ้ำอีก ด้านแซนกล่าว ถ้าหมอธวัชชัยอยากจะทำ ติดเครื่องยนต์ก็ได้ อ้างไม่ตรงกันมีรายละเอียดปลีกย่อย ถามกลับมีเจตนาทวงคืนความยุติธรรมจริงหรือไม่ . วันนี้ (16 ม.ค.) ที่โชว์รูมวัฒนาออโต้เซลล์ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ กรุงเทพฯ นายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือปอ พร้อมด้วย นายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือแซน สองผู้อยู่ในเหตุการณ์ที่ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม ที่เสียชีวิตเพราะตกจากเรือสปีดโบ้ทลงแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณท่าเรือพิบูลสงคราม 1 ต.สวนใหญ่ อ.เมืองฯ จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2565 หรือเมื่อ 3 ปีก่อน แถลงข่าวถึงปฎิกิริยาการทดสอบเหตุการณ์จำลองการตกเรือของแตงโม ภัทรธิดา นำโดย อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต . นายตนุภัทร กล่าวว่า ตนเห็นด้วยที่มีการจำลองเหตุการณ์ตกเรือให้ชัดเจนและกระจ่าง ทำให้ประชาชนได้เห็นภาพจากเรือรุ่นเดียวกัน คือเรือโคบอลต์ 25 เอสซี แต่สิ่งที่รู้สึกว่าไม่ตรง คือ การตกไม่ได้ตกในลักษณะที่แซน วิศาพัช เคยให้ข้อมูลในการออกรายการโหนกระแส และให้การกับศาล ตนมองว่าไม่ตรง ทำไมไม่จำลองให้เหมือนกัน การที่แตงโมนั่งและจับขาแซน พบว่าการจำลองเหตุการณ์มีการเฉียงออกทางซ้ายของเรือ ไม่ตรงกับที่แซน วิศาพัช ให้การว่าตกไปแล้วต้องเกาะ แต่ไม่ใช่ดีดตัวออกจากเรือ เพราะฉะนั้นตำแหน่งที่คิดว่าควรจะเป็นคือ ตกเรือแล้วเกาะเครื่องยนต์ซึ่งจะถูกใบพัดดูด . แต่ถ้าตกแล้วดีดออกจากเรือ ถามผู้เชี่ยวชาญยังไงก็ไม่โดนใบพัดเรือ และจากการที่แซน วิศาพัช กล่าวและสาธิตในรายการโหนกระแส สาระก็คือตกไปแล้ว ต้องเกาะถึงจะหลุด แต่ถ้าตกแล้วดีดออกจากเรือเลย คนละเหตุการณ์กัน เพราะฉะนั้นมีคำถามว่า ทำไมการจำลองเหตุการณ์ครั้งนี้ถึงจำลองไม่ตรง ฝากถึงทีมผู้จัดการทดสอบว่า เราเห็นด้วยและขอบคุณที่ให้ความกระจ่าง แต่มีคำถามว่าถ้าจำลองแล้วไม่เหมือนเหตุการณ์ 100% จะจำลองทำไม ถ้าจะจำลองให้เหมือนจะจำลองแบบไหน . ทั้งนี้ บนแพลตฟอร์มของเรือโคบอลต์ 25 เอสซี จะมีเครื่องยนต์อยู่ท้ายเรือ เรียกว่าเครื่องเอาต์บอร์ด (Outboard) จะมีใบพัดอยู่ด้านข้าง จากที่แซน วิศาพัช เล่าในรายการโหนกระแสและให้การในชั้นศาล ตนนั่งอยู่ที่เบาะหลังและยืดขา ตำแหน่งที่ตกขาจะยื่นอยู่ใกล้เครื่องเอาต์บอร์ด ขาจะยื่นอยู่ในช่วงใบพัด เพราะฉะนั้นการจำลองแบบง่ายๆ ต้องอยู่ใกล้เครื่องเอาต์บอร์ด ลักษณะที่ตกต้องตกอยู่ข้างเครื่อง แต่ไม่ใช่ตกทะแยง 45 องศา กระโดดออกนอกเรือ มันคนละเรื่องกัน และต้องเกาะเครื่องก่อนสักประมาณ 10 วินาทีแล้วค่อยนับ เพราะใบพัดจะปัด ดูวิถีร่างจะเข้าที่เครื่องไหม . ตนได้ทราบจากทนายความว่า ได้ไปขอคัดพยานหลักฐาน พบว่าทางตำรวจจำลองเหตุการณ์แล้ว ทดสอบว่าจุดที่ตกดูดไปทางไหน ถ้าสมมติตกแล้วอยู่ด้านข้างของเรือจะไม่มีการดูด แต่ถ้าตกแล้วอยู่โซนเครื่องเอาต์บอร์ดมันจะมีการดูด สิ่งที่ตำรวจทำเท่าที่ทราบคือการใช้สีเทลงไปเพื่อดูสีของน้ำ ให้เห็นว่าน้ำวนแล้วดูดมาทางใบพัดเรือหรือไม่ อย่างที่สอง ให้คนใส่เสื้อชูชีพแล้วเกาะโดยไม่ติดเครื่องยนต์ ดูทิศทางของน้ำที่มีแรงดัน คนจะไหลตรงใบพัดหรือไม่ เขาทดสอบแล้วมันไหลและพัดเข้ามา อย่างที่สาม ใช้สุกรที่มีน้ำหนักเท่ากับแตงโม ภัทรธิดา มาเกาะ แล้วใบพัดดูดเข้ามามีรอยฟันหรือไม่ พบว่าแผลเข้า ทำให้พบว่ามีข้อมูลที่มาที่ไป จึงบอกว่าถ้าจะจำลองเหตุการณ์ อยากให้จำลองให้ตรง แต่บอกตรงๆ ไม่อยากให้อุบัติเหตุเกิดขึ้นอีก . "ถ้าจำลองง่ายๆ ลองจำลองตามที่ผมว่า ให้บุคคลที่มีอัตลักษณ์ความสูง 165 เซนติเมตร แล้วลองไปแช่ ไม่ต้องติดเครื่อง ลองจุ่มไปสักครึ่งตัว ดูที่ขาคุณจะถึงใบพัดไหม เอาแค่นี้พอ ถ้าถึง ผมว่าจบได้นะ" . ด้านนายวิศาพัช หรือแซน กล่าวตอบโต้ นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ ที่ออกมาเคลื่อนไหวคดีการเสียชีวิตของแตงโม ภัทรธิดา ว่า ถ้าคุณหมอฟังอยู่ นี่ก็คือคำตอบที่เมื่อกี้ท้ากันอยู่ . นายตนุภัทร กล่าวว่า ขอย้ำว่าไม่อยากทดสอบโดยการติดเครื่องยนต์ เพราะถ้าตกอยู่ในวิถี ตำแหน่งอยู่ใกล้เครื่องเอาต์บอร์ดท้ายเรือ ไม่ได้อยู่นอกเรือ แล้วมีการดูด ตนเชื่อว่าใบพัดมีโอกาสสูงมาก ปัจจัยมีทั้งแรงดันของน้ำ ช่วงเวลาน้ำขึ้นน้ำลง และความเร็วของเรือ เพราะฉะนั้นสิ่งที่อยากจะให้ทดสอบก็คือ ให้บุคคลที่บอกอัตลักษณ์เท่าแตงโม ภัทรธิดา ลองมาทาบดูก่อน เครื่องที่ไม่ติดมันคงไม่บาด แต่ถ้าเครื่องติดอาจจะเกิดความเสียหาย เท่านี้ตอบสังคมได้เพียงพอแล้ว . ส่วนเรื่องการทดสอบเรือนั้น ลักษณะของการล่อง เรือ 8 นอต เห็นว่าบางเหตุการณ์เรือจะเชิดขึ้น ถ้าจะเปียกน้ำไม่มีทางนั่งได้ เพราะเรือเพิ่งออกตัว เรือเวลาออกตัวใหม่ๆ หน้าจะเชิดขึ้น แต่พอเรือออกตัวไปถึงจุดหนึ่งแล้ว เรือจะบิน ทำให้เรือจะอยู่ในสถานการณ์ลอยตัว ตนเชื่อว่าความเร็วที่ 8 นอต ตนเดาว่าทำให้เพื่อนไม่กังวล ณ ตอนนั้น และเราดื่มไวน์เรื่อยๆ ตั้งแต่ช่วงเย็น ทำให้คนปวดปัสสาวะปราศจากความกังวลที่คิดเยอะ (แซน วิศาพัช กล่าวเสริมว่า เรือมันนิ่งมาก) เพราะฉะนั้นการจำลองอยากให้จำลองให้เหมือนจริง และอยากให้ความเป็นธรรมกับทุกคน หมายถึงผู้เสียหาย . "ถ้าจะจำลองต้องจำลองให้เหมือนจริง และเพื่อนผม (แตงโม) เขาไปสงบแล้ว เพื่อนผมเนี่ยเราสูญเสีย ต้องมาคิดว่ามีหลายๆ คนที่สูญเสียตามมา คือบุคคลรอบข้างที่เสียใจ เพราะฉะนั้นการที่เพื่อนผมสูญเสียไปแล้ว ยังมาเป็นประเด็น มาเป็นกระแส ผมไม่เห็นด้วย อย่างที่สอง ผมยังยืนยันว่า ถ้าคุณจะทดสอบ ทดสอบแบบตรงไปตรงมา ให้เหมือนเหตุการณ์เดียวกัน" . นายวิศาพัช หรือแซน กล่าวว่า ฝากไปถึง นพ.ธวัชชัย และนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ว่ามาพูดหรือท้าอะไรกับตน สมควรที่จะปรึกษาผู้ที่มีความรู้ความสามารถ ความเชี่ยวชาญ วัยวุฒิ คุณวุฒิทุกอย่างก่อน จะได้ดูเหมือนกลั่นกรองมาแล้วค่อยมาถาม ส่วนการท้าด้วยจำนวนเงิน 1 แสนบาท 5 ล้านบาทนั้น ตนไม่ติดการพนัน เพราะฉะนั้นไม่ชอบเล่นแบบท้าด้วยเงินอยู่แล้ว ไปดูเรื่องการพนันของตัวเองดีกว่าไหม ไม่ได้พูดถึงใคร อันนี้พูดลอยๆ . นายตนุภัทร กล่าวว่า ตนขอขยายว่า ขอบคุณทีมงานของนายอัจฉริยะที่ทำความกระจ่าง ตอนที่เกิดเหตุใหม่ๆ ย้อนไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว มีประเด็นที่สังคมถามกันเยอะมากว่าท้ายเรือนั่งได้จริงไหม เพราะเรือมีหลายแพลตฟอร์ม มีเรือยอร์ช สปีดโบ้ท เรือพาย เรือแจว มันจะนั่งยังไง เชื่อว่าประชาชนได้เห็นแล้วว่า แตงโมตัวเล็ก แพทย์ที่นั่งทดสอบเมื่อวานตัวใหญ่กว่าแตงโมตั้งเยอะยังนั่งได้ เพราะฉะนั้นข้อแรกเราเห็นได้ชัดแล้วว่า นั่งท้ายเรือได้จริง ส่วนนั่งเสร็จแล้วปัสสาวะได้ไหม ขึ้นอยู่กับบุคคลว่าเขาเลือกจะทำอะไร เป็นความคิดเห็นส่วนตัว ณ ช่วงเวลานั้นคนปวดปัสสาวะ เขาอยากจะปัสสาวะหรือใดๆ เราไปก้าวล่วงไม่ได้ . "แต่ที่แน่ๆ ผมอยากถามว่าคนที่ใส่บอดี้สูทวันนี้ที่ไปทดสอบ คุณนั่งได้แน่ๆ ขนาดคุณหมอยังนั่งได้ คุณนั่งได้แน่ๆ คุณลองสิ นั่งแล้วเอามือทำท่าที่อย่างคุณแซนเล่า ทำได้ไหม อันนี้ที่ผมฝากทดสอบ ... และจุดตก ผมย้ำอีกที จุดตกต้องตกข้างเครื่อง (เอาต์บอร์ด) แล้วตกลงไปก่อน แล้วเกาะ (เครื่องเอาต์บอร์ด) ก่อน อย่างน้อยสัก 10 วินาที แต่ผมย้ำอีกที ผมไม่อยากทดสอบในลักษณะติดเครื่อง เพราะถ้าติดเครื่องแล้วเกิดความสูญเสีย ผมว่าเราจะเสียหายมากกว่าได้แค่ทดสอบ ติดเครื่องในลักษณะที่ใบพัดไม่ทำงานมันจะรู้แล้วว่าโดน ไม่โดน แช่อยู่ในน้ำ ขอคนที่ความสูง 165 เซนติเมตร ซึ่งผมเห็นพี่ณวัฒน์ (นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล) ได้คัดสรรมาอย่างดีแล้ว ขอบคุณพี่ณวัฒน์ด้วย" . "เพราะฉะนั้นผมขออนุญาตขยายว่า ขอบคุณสำหรับการทดสอบในครั้งนี้ แล้วมันจะดีมากๆ ที่สร้างความกระจ่างให้กับประชาชนคนไทยทั้งประเทศ สร้างความกระจ่างให้กับ 5 คนบนเรือ และครอบครัวของน้องแตงโม ที่จะได้รู้ข้อเท็จจริงว่าถ้าตกตามเหตุการณ์จริง ที่คุณแซนเป็นผู้เดียวที่เห็นเหตุการณ์ และได้ให้ปากคำ กับประชาชนคนไทยทั้งประเทศที่ดูรายการโหนกระแส และได้ให้ปากคำในชั้นศาล เป็นข้อมูลเดิมทั้งหมด เพราะฉะนั้นคุณแซนยังไม่ได้บิดเบือน คุณแซนพูดทุกอย่างตามข้อเท็จจริง ทำไมวันนี้การทดสอบถึงบิดเบือนหรือไม่ตรง ในเมื่อเจ้าตัวยังพูดคำเดิม ผ่านมา 3 ปี คุณแซนยังยืนคำเดิมว่าตกท้ายเรือ เกาะไหม (แซน กล่าวว่า เกาะแปบนึง) เพราะฉะนั้นคุณแซนบอกแล้วว่าเกาะ ถ้าเกาะแล้วคุณต้องจำลองก่อน" . นายวิศาพัช หรือแซน กล่าวว่า ติดเครื่องยนต์เลยก็ได้ เพราะ นพ.ธวัชชัย กล่าวว่า เขาจะจำลองเอง แล้วเขาถามแซน ตรงนี้ถ้าเขาบอกว่าปลอดภัย 100% คุณหมอลองทำดู จะไม่ท้า ถ้าอยากทำก็ทำ ส่วนนายอัจฉริยะท้าเดิมพัน 2 ล้านบาท ถ้าถนัดทางนั้นไปสนามมวยดีกว่า ไม่ต้องคุยกับตนเรื่องนี้ และว่า การทดสอบในวันนี้เป็นการละครเรื่องหนึ่งมากกว่า เอาไว้ดูเพื่อความบันเทิงเท่านั้น เพราะไม่ได้ใกล้เคียงกับข้อเท็จจริงเลย มันไม่ตรงตั้งแต่ที่เคยแนะนำไป 4 ข้อ ถ้าเกิดจะทำให้เหมือน และการตกท้ายเรือมีรายละเอียดปลีกย่อยเล็กๆ น้อยๆ ถ้า นพ.ธวัชชัยอยากทราบ นายตนุภัทรก็ได้แจ้งไปแล้ว ให้ทำตามที่บอกแบบนั้นดู . ทั้งนี้ ตนไม่กังวลใจถึงการทดสอบและการร้องเรียนของนายอัจฉริยะ ยังยืนยันเหมือนเดิมว่ามั่นใจมากด้วยซ้ำ เพราะยังรอดูว่าจะเปิดอะไรออกมา จะใช้ข้อวิชาการ หลักวิทยาศาสตร์ข้อไหน เอามาสนับสนุนให้สิ่งที่กำลังทำมีเนื้อหาสาระสำคัญพอที่จะเอามาเปลี่ยนสำนวนคดีได้ ส่วนวัตถุประสงค์ในการทดสอบเหตุการณ์ตนไม่ทราบ ตนรู้สึกว่าโดนทำลายชื่อเสียงแต่ไม่รู้ว่าเจตนาเขาคืออะไร ส่วนจะฟ้องกลับคนที่ตัวตั้งตัวตีในการทดสอบนั้น เท่าที่คิดก็ไม่ทำ อโหสิกรรมไป เผื่อเจ้ากรรมนายเวรจะได้หมดสิ้นไปบ้าง ระหว่างนั้นทนายความกล่าวเสริมว่า ต้องดูว่ามากไปไหม กระทบถึงใครบ้าง ไปถึงครอบครัวไหมต้องพิจารณาดู แต่ส่วนตัวเชื่อว่าหน่วยงานรัฐคงไม่ได้เพิกเฉยอยู่แล้ว เพราะเรื่องนี้กระทบหน่วยงานรัฐหลายหน่วย . นายวิศาพัช หรือแซน กล่าวว่า อยากให้ประชาชนดูให้ดีว่าสิ่งที่เขาทำ เขามีเจตนาเพื่อหาความยุติธรรมจริงหรือเปล่า หรือหาประโยชน์ให้กับใคร กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น อันนี้ตนไม่ได้ยืนยัน แค่อยากให้ประชาชนตรองกันดูบ้าง จากสิ่งที่เราได้ยินเข้ามา แล้วก็กลั่นกรองกันหน่อย ไม่ใช่ได้ยินปุ๊บแล้วมาด่าเลย มันไม่ได้ ไม่อย่างนั้นประเทศเราก็เป็นประเทศขวัญใจแก๊งคอลเซ็นเตอร์ . นายตนุภัทร กล่าวว่า คนที่สูญเสียวันนี้ขั้นต้นคือเพื่อนเรา เพราะฉะนั้นวันนี้เราเชื่อมั่นว่าไม่มีใครอยากให้เกิด แต่การหาประโยชน์จากการสูญเสีย ตนว่าควรจะไม่เอาการสูญเสียมาเป็นโอกาส ถ้าถามว่ารู้สึกอย่างไร เรารู้สึกแบบนี้ เพราะฉะนั้นวันนี้เพื่อนเรา แตงโม ภัทรธิดา จากไปอย่างสงบแล้ว วันนี้ขอบคุณที่ได้มาทำการจำลอง แล้วขอให้ทำให้ตรงไปตรงมา มันจะได้ความชัดเจน . ขณะที่ทนายความกล่าวเสริมว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับแตงโมนำมาจำลอง เห็นว่าเป็นการนำเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่ออดีตมา คนที่สูญเสียอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นผู้เสียหายจริงๆ คือคุณแม่ อยากให้มีการขออนุญาตคุณแม่สักนิดนึง กรณีการทำจำลองควรจะขออนุญาตกับผู้เสียหาย เพราะเขาเป็นแม่ของลูก การนำเรื่องราวของเขามานำเสนอเห็นว่าส่วนหนึ่งเหมือนซ้ำเติมคนตาย ส่วนการยื่นเรื่องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รื้อฟื้นคดีอีกรอบ ในทางกฎหมายไม่กังวล เพราะพยานหลักฐานใหม่ ต้องเป็นพยานหลักฐานที่มีอยู่แล้ว และไม่ได้สร้างขึ้นมาใหม่ การสร้างขึ้นมาใหม่ต้องมีความน่าเชื่อถือต่อหน่วยงานรัฐ มีการสืบสวนสอบสวนที่ถูกต้อง . การทดสอบครั้งนี้ชัดเจนว่าเป็นการสร้างขึ้นมาใหม่เพื่อที่จะพิสูจน์ความจริง แต่ต้องใกล้เคียงอย่างที่นายตนุภัทรพูด สิ่งที่นายตนุภัทรพูดทั้งหมดมีการเบิกความจากพยานผู้เชี่ยวชาญ ที่ได้มีการทดลอง จำลอง อยู่ในสำนวนของศาล และได้เบิกความไปแล้ว แต่คดียังอยู่ในระหว่างการพิจารณา ยังคงเปิดเผยอะไรมากไม่ได้ วันนี้เปิดเผยเท่าที่เห็นว่าเหมาะสมกับ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000004865 .............. Sondhi X
    Haha
    Like
    Love
    Sad
    12
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1222 มุมมอง 0 รีวิว
  • แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย TikTok ที่ให้บริการผู้ใช้ชาวอเมริกันมากกว่า 170 ล้านบัญชี อาจต้องยุติการดำเนินงานในสหรัฐตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 19 ม.ค. นี้ ซึ่งเป็นวันที่คำสั่งห้ามของรัฐบาลกลางมีผลบังคับใช้

    เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทีมกฎหมายของ TikTok ได้ยื่นเรื่องต่อศาลฎีกาเกี่ยวกับกฎหมายที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนลงนามเมื่อเดือนเมษายนนั้นถูกต้องตามรัฐธรรมนูญหรือไม่

    กฎหมายของไบเดนกำหนดให้ TikTok ต้องถอนการลงทุนจากบริษัทแม่ในจีนอย่าง ByteDance และขายให้กับนิติบุคคลในสหรัฐเท่านั้น และหากกฎหมายนี้มีผลบังคับใช้ TikTok จะต้องยุติให้บริการในวันที่ 19 มกราคม หนึ่งวันก่อนที่โดนัลด์ ทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่ง

    หากการตัดสินของศาลเป็นผลดีต่อ TikTok จะทำให้แพลตฟอร์มนี้สามารถกลับมาให้บริการชาวอเมริกันต่อไปได้

    มีการคาดเดากันว่า การเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของโดนัลด์ ทรัมป์ จะไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ของ TikTok ดีขึ้น เนื่องจากคำมั่นสัญญาของทรัมป์ที่จะใช้จุดยืนที่เข้มงวดยิ่งขึ้นกับปักกิ่งนั่นเอง

    ขณะเดียวกัน ในบันทึกภายในขององค์กร มีการแจ้งพนักงานกว่า 7,000 คนในสหรัฐว่าความเป็นอยู่ที่ดีของพวกเขาคือ "สิ่งสำคัญที่สุด" และจะยังคงจ่ายเงินให้พวกเขาต่อไป

    "เราขอย้ำว่า ความเป็นอยู่ของพนักงานคือสิ่งสำคัญที่สุด การจ้างงาน เงินเดือน และสวัสดิการของคุณยังมีความปลอดภัย และสำนักงานของเราจะยังคงเปิดทำการ แม้ว่าสถานการณ์นี้จะยังไม่ได้รับการแก้ไขก่อนกำหนดเส้นตายในวันที่ 19 มกราคมก็ตาม" บางส่วนของบันทึกที่ส่งถึงพนักงาน TikTok

    อย่างไรก็ตาม กฎหมายไม่ได้กำหนดให้ TikTok ต้องปิดตัวลงทันที เมื่อมีผลบังคับใช้วันที่ 19 มกราคมนี้ เพียงแต่ห้ามการติดตั้ง TikTok ใหม่ และถอดแอปออกจาก App Store ของ Apple หรือ Google เท่านั้น

    ผู้ใช้ปัจจุบันยังคงใช้แอปได้ต่อไปอีกสักระยะหนึ่ง แต่การถอดออกจาก App Store จะทำให้แอปไม่ได้รับการอัปเดตเกี่ยวกับจุดบกพร่องหรือข้อบกพร่องด้านความปลอดภัยอีกต่อไป

    TikTok ยังระบุถึงการรายงานข่าวเกี่ยวกับการขาย TikTok ให้กับ Elon Musk ว่าเป็น "เรื่องแต่งล้วนๆ"

    นอกจากนี้ ความโกรธแค้นของชาวอเมริกันที่มีต่อรัฐบาลสหรัฐ ทำให้ ผู้ใช้ TikTok หันไปใช้แอปจีนอื่นๆ และขณะนี้มากกว่าครึ่งล้านคนหันมาใช้แอป RedNote ของจีน

    บน RedNote ซึ่งในจีนเรียกว่า Xiaohongshu มีผู้ใช้ชาวอเมริกันและจีนเข้าร่วมห้องที่ชื่อว่า "ผู้ลี้ภัย TikTok" (TikTok Refugees) เฉพาะห้องนี้ห้องเดียวมีมากกว่า 50,000 คน ซึ่งเป็นตัวเลขล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

    Lemon8 แอปโซเชียลมีเดียอีกแอปหนึ่งที่ ByteDance เป็นเจ้าของ ได้รับความนิยมเป็นอันดับสองในรายชื่อ App Store ของ Apple เมื่อวันอังคาร โดยพบการเพิ่มขึ้นที่คล้ายคลึงกันในเดือนที่แล้ว โดยมียอดดาวน์โหลดเพิ่มขึ้น 190% ในเดือนธันวาคม เป็นประมาณ 3.4 ล้านครั้ง
    แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย TikTok ที่ให้บริการผู้ใช้ชาวอเมริกันมากกว่า 170 ล้านบัญชี อาจต้องยุติการดำเนินงานในสหรัฐตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 19 ม.ค. นี้ ซึ่งเป็นวันที่คำสั่งห้ามของรัฐบาลกลางมีผลบังคับใช้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทีมกฎหมายของ TikTok ได้ยื่นเรื่องต่อศาลฎีกาเกี่ยวกับกฎหมายที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนลงนามเมื่อเดือนเมษายนนั้นถูกต้องตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ กฎหมายของไบเดนกำหนดให้ TikTok ต้องถอนการลงทุนจากบริษัทแม่ในจีนอย่าง ByteDance และขายให้กับนิติบุคคลในสหรัฐเท่านั้น และหากกฎหมายนี้มีผลบังคับใช้ TikTok จะต้องยุติให้บริการในวันที่ 19 มกราคม หนึ่งวันก่อนที่โดนัลด์ ทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่ง หากการตัดสินของศาลเป็นผลดีต่อ TikTok จะทำให้แพลตฟอร์มนี้สามารถกลับมาให้บริการชาวอเมริกันต่อไปได้ มีการคาดเดากันว่า การเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของโดนัลด์ ทรัมป์ จะไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ของ TikTok ดีขึ้น เนื่องจากคำมั่นสัญญาของทรัมป์ที่จะใช้จุดยืนที่เข้มงวดยิ่งขึ้นกับปักกิ่งนั่นเอง ขณะเดียวกัน ในบันทึกภายในขององค์กร มีการแจ้งพนักงานกว่า 7,000 คนในสหรัฐว่าความเป็นอยู่ที่ดีของพวกเขาคือ "สิ่งสำคัญที่สุด" และจะยังคงจ่ายเงินให้พวกเขาต่อไป "เราขอย้ำว่า ความเป็นอยู่ของพนักงานคือสิ่งสำคัญที่สุด การจ้างงาน เงินเดือน และสวัสดิการของคุณยังมีความปลอดภัย และสำนักงานของเราจะยังคงเปิดทำการ แม้ว่าสถานการณ์นี้จะยังไม่ได้รับการแก้ไขก่อนกำหนดเส้นตายในวันที่ 19 มกราคมก็ตาม" บางส่วนของบันทึกที่ส่งถึงพนักงาน TikTok อย่างไรก็ตาม กฎหมายไม่ได้กำหนดให้ TikTok ต้องปิดตัวลงทันที เมื่อมีผลบังคับใช้วันที่ 19 มกราคมนี้ เพียงแต่ห้ามการติดตั้ง TikTok ใหม่ และถอดแอปออกจาก App Store ของ Apple หรือ Google เท่านั้น ผู้ใช้ปัจจุบันยังคงใช้แอปได้ต่อไปอีกสักระยะหนึ่ง แต่การถอดออกจาก App Store จะทำให้แอปไม่ได้รับการอัปเดตเกี่ยวกับจุดบกพร่องหรือข้อบกพร่องด้านความปลอดภัยอีกต่อไป TikTok ยังระบุถึงการรายงานข่าวเกี่ยวกับการขาย TikTok ให้กับ Elon Musk ว่าเป็น "เรื่องแต่งล้วนๆ" นอกจากนี้ ความโกรธแค้นของชาวอเมริกันที่มีต่อรัฐบาลสหรัฐ ทำให้ ผู้ใช้ TikTok หันไปใช้แอปจีนอื่นๆ และขณะนี้มากกว่าครึ่งล้านคนหันมาใช้แอป RedNote ของจีน บน RedNote ซึ่งในจีนเรียกว่า Xiaohongshu มีผู้ใช้ชาวอเมริกันและจีนเข้าร่วมห้องที่ชื่อว่า "ผู้ลี้ภัย TikTok" (TikTok Refugees) เฉพาะห้องนี้ห้องเดียวมีมากกว่า 50,000 คน ซึ่งเป็นตัวเลขล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา Lemon8 แอปโซเชียลมีเดียอีกแอปหนึ่งที่ ByteDance เป็นเจ้าของ ได้รับความนิยมเป็นอันดับสองในรายชื่อ App Store ของ Apple เมื่อวันอังคาร โดยพบการเพิ่มขึ้นที่คล้ายคลึงกันในเดือนที่แล้ว โดยมียอดดาวน์โหลดเพิ่มขึ้น 190% ในเดือนธันวาคม เป็นประมาณ 3.4 ล้านครั้ง
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 322 มุมมอง 0 รีวิว
  • "อัจฉริยะ-หมอธวัชชัย" พร้อมทีมงาน 4 ราย เข้าพบดีเอสไอให้ข้อมูลปม "แตงโม" ตกเรือเสียชีวิต ก่อนพิสูจน์ความจริงวันที่ 15-16 ม.ค. ยันจะเอาผิดข้อหาใหม่

    วันนี้ (14 ม.ค.) เวลา 09.00 น. ห้องประชุม ชั้น 2 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) อาคารเอ ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ พร้อม นายแพทย์ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตศัลยแพทย์โรงพยาบาลพระมงกุฎ , ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการขับเรือ และ โปรแกรมเมอร์ รวม 4 คน เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อเข้าให้ข้อมูลเกี่ยวกับคดี "แตงโม" นิดา พัชรวีระพงษ์ หลังเคยเข้ามายื่นเรื่องกับทางกระทรวงยุติธรรม เมื่อช่วงเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา

    นายอัจฉริยะ กล่าวว่า วันนี้มาเปิดคดีแตงโมกับดีเอสไอ จึงนำพยานมา 4 ปาก คือ ตนเอง , หมอธวัชชัย , ผู้เชี่ยวชาญขับเรือซึ่งเคยขึ้นเบิกความที่ศาลอาญา และ ผู้วิเคราะห์ GPS (โปรแกรมเมอร์) เพื่อหาความเชื่อมโยงแต่ไม่เคยขึ้นศาลมาก่อน มาพูดคุยกับดีเอสไอทุกประเด็นเพื่อให้พิจารณารับเป็นเลขสืบสวนสอบสวน แต่วันสำคัญเป็นวันที่ 15 ม.ค. จะมีการซักซ้อมเหตุการณ์ ถึงเวลาเที่ยงคืน ส่วนวันที่ 16 ม.ค.นี้ จะมีการจำลองเหตุการณ์จริงใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ มีโดรนบินจับภาพบนอากาศและมีเครื่องถ่ายภาพใต้น้ำ บนเรือมีการจับภาพทั้งหมด โดยมีพนักงานสอบสวนดีเอสไอร่วมสังเกตการณ์

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000004008

    #MGROnline #อัจฉริยะ #หมอธวัชชัย #ดีเอสไอ #แตงโม
    "อัจฉริยะ-หมอธวัชชัย" พร้อมทีมงาน 4 ราย เข้าพบดีเอสไอให้ข้อมูลปม "แตงโม" ตกเรือเสียชีวิต ก่อนพิสูจน์ความจริงวันที่ 15-16 ม.ค. ยันจะเอาผิดข้อหาใหม่ • วันนี้ (14 ม.ค.) เวลา 09.00 น. ห้องประชุม ชั้น 2 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) อาคารเอ ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ พร้อม นายแพทย์ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตศัลยแพทย์โรงพยาบาลพระมงกุฎ , ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการขับเรือ และ โปรแกรมเมอร์ รวม 4 คน เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อเข้าให้ข้อมูลเกี่ยวกับคดี "แตงโม" นิดา พัชรวีระพงษ์ หลังเคยเข้ามายื่นเรื่องกับทางกระทรวงยุติธรรม เมื่อช่วงเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา • นายอัจฉริยะ กล่าวว่า วันนี้มาเปิดคดีแตงโมกับดีเอสไอ จึงนำพยานมา 4 ปาก คือ ตนเอง , หมอธวัชชัย , ผู้เชี่ยวชาญขับเรือซึ่งเคยขึ้นเบิกความที่ศาลอาญา และ ผู้วิเคราะห์ GPS (โปรแกรมเมอร์) เพื่อหาความเชื่อมโยงแต่ไม่เคยขึ้นศาลมาก่อน มาพูดคุยกับดีเอสไอทุกประเด็นเพื่อให้พิจารณารับเป็นเลขสืบสวนสอบสวน แต่วันสำคัญเป็นวันที่ 15 ม.ค. จะมีการซักซ้อมเหตุการณ์ ถึงเวลาเที่ยงคืน ส่วนวันที่ 16 ม.ค.นี้ จะมีการจำลองเหตุการณ์จริงใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ มีโดรนบินจับภาพบนอากาศและมีเครื่องถ่ายภาพใต้น้ำ บนเรือมีการจับภาพทั้งหมด โดยมีพนักงานสอบสวนดีเอสไอร่วมสังเกตการณ์ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000004008 • #MGROnline #อัจฉริยะ #หมอธวัชชัย #ดีเอสไอ #แตงโม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 203 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ณวัฒน์” เผยเคส “ชาล็อต” ตอนนี้ทางปปง.ได้ยึดเงินจากมิจฉาชีพมาได้แล้ว 70 ล้าน ภายใน 1 ปีเตรียมเฉลี่ยคืนให้กับผู้เสียหายที่โดนในเคสเดียวกันนี้ ยอมรับเป็นเคสคนดังที่โชคดีได้เงินคืนและดำเนินการเร็ว บอกมีการเสนอให้ยื่นเรื่องเข้าสภาฯ ให้ทุกธนาคารมีส่วนต้องรับผิดชอบ 70:30 เพราะทุกวันนี้แม้จะร่วมคืนแล้ว 50% แต่ก็ไม่เพึยงพอ และขอให้คนที่ต้องการเปิดบัญชีที่มากกว่า 10 บัญชี ต้องไปขออนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทยก่อน ถึงจะมาเปิดเพิ่มได้

    ถือว่าเป็นเคสที่โดนมิจฉาชีพหลอกเงินและมีความคืบหน้าที่เร็วมาก ในกรณีที่ “ชาล็อต ออสติน” โดนมิจฉาชีพหลอกโอนเงินไป 4 ล้านบาท และตอนนี้สามารถจับคนที่เป็นบัญชีม้าที่รับโอนไปได้เรียบร้อย ล่าสุดทาง “บอสณวัฒน์ อิสรไกลศีล” ได้ออกมาบอกความคืบหน้าว่า ได้มีการเข้าประชุมกับคณะกรรมาธิการตำรวจแห่งชาติ พร้อมกับปปง. ว่ามีการยึดเงินจากเคสนี้มาได้ 70 กว่าล้าน เตรียมเฉลี่ยคืนผู้เสียหายภายใน 1 ปี

    “เรื่องชาล็อตยังไม่เรียบร้อย มันก็เหมือนความรักแหละ รู้ว่ามีแต่ไม่มา คือเมื่อวันก่อนได้ข้อสรุปว่าเราไปประชุมกับคณะกรรมาธิการตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับปปง. และทางผู้การตำรวจ มากันคณะใหญ่ องค์ประชุมประมาณ 50 คน เยอะมากๆ เป็นวาระที่ใหญ่มากๆ ก็ได้สรุปคุยกันเยอะแยะ ข้อสรุปเลยก็คือตอนนี้ได้ยึดเงินมา 70 กว่าล้านบาท จากโครงสร้างคนที่เป็นเจ้าของบัญชีที่ชาล็อตโอนไป และเจ้าของบัญชีนี้ไม่น่าจะใช่เป็นเพียงบัญชีม้า น่าจะเป็นคนที่ร่วมขบวนการ เพราะมีประวัติข้ามไปประเทศเพื่อนบ้าน ไปและกลับๆ และบัญชีที่ได้มาส่วนมากแล้วจะไปซื้อบิทคอยน์ทันที แต่ก่อนบัญชีม้าจะมีหลายเลเยอร์ คนนี้เอาไป 2 ล้าน ไปกระจายคนละแสนๆ 20 บัญชีก็ถอยไปอีกคนละ 2-3 บัญชี มันก็จะย่อยลงไป"

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000003263

    #MGROnline #ณวัฒน์ #ชาล็อต
    “ณวัฒน์” เผยเคส “ชาล็อต” ตอนนี้ทางปปง.ได้ยึดเงินจากมิจฉาชีพมาได้แล้ว 70 ล้าน ภายใน 1 ปีเตรียมเฉลี่ยคืนให้กับผู้เสียหายที่โดนในเคสเดียวกันนี้ ยอมรับเป็นเคสคนดังที่โชคดีได้เงินคืนและดำเนินการเร็ว บอกมีการเสนอให้ยื่นเรื่องเข้าสภาฯ ให้ทุกธนาคารมีส่วนต้องรับผิดชอบ 70:30 เพราะทุกวันนี้แม้จะร่วมคืนแล้ว 50% แต่ก็ไม่เพึยงพอ และขอให้คนที่ต้องการเปิดบัญชีที่มากกว่า 10 บัญชี ต้องไปขออนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทยก่อน ถึงจะมาเปิดเพิ่มได้ • ถือว่าเป็นเคสที่โดนมิจฉาชีพหลอกเงินและมีความคืบหน้าที่เร็วมาก ในกรณีที่ “ชาล็อต ออสติน” โดนมิจฉาชีพหลอกโอนเงินไป 4 ล้านบาท และตอนนี้สามารถจับคนที่เป็นบัญชีม้าที่รับโอนไปได้เรียบร้อย ล่าสุดทาง “บอสณวัฒน์ อิสรไกลศีล” ได้ออกมาบอกความคืบหน้าว่า ได้มีการเข้าประชุมกับคณะกรรมาธิการตำรวจแห่งชาติ พร้อมกับปปง. ว่ามีการยึดเงินจากเคสนี้มาได้ 70 กว่าล้าน เตรียมเฉลี่ยคืนผู้เสียหายภายใน 1 ปี • “เรื่องชาล็อตยังไม่เรียบร้อย มันก็เหมือนความรักแหละ รู้ว่ามีแต่ไม่มา คือเมื่อวันก่อนได้ข้อสรุปว่าเราไปประชุมกับคณะกรรมาธิการตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับปปง. และทางผู้การตำรวจ มากันคณะใหญ่ องค์ประชุมประมาณ 50 คน เยอะมากๆ เป็นวาระที่ใหญ่มากๆ ก็ได้สรุปคุยกันเยอะแยะ ข้อสรุปเลยก็คือตอนนี้ได้ยึดเงินมา 70 กว่าล้านบาท จากโครงสร้างคนที่เป็นเจ้าของบัญชีที่ชาล็อตโอนไป และเจ้าของบัญชีนี้ไม่น่าจะใช่เป็นเพียงบัญชีม้า น่าจะเป็นคนที่ร่วมขบวนการ เพราะมีประวัติข้ามไปประเทศเพื่อนบ้าน ไปและกลับๆ และบัญชีที่ได้มาส่วนมากแล้วจะไปซื้อบิทคอยน์ทันที แต่ก่อนบัญชีม้าจะมีหลายเลเยอร์ คนนี้เอาไป 2 ล้าน ไปกระจายคนละแสนๆ 20 บัญชีก็ถอยไปอีกคนละ 2-3 บัญชี มันก็จะย่อยลงไป" • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000003263 • #MGROnline #ณวัฒน์ #ชาล็อต
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 225 มุมมอง 0 รีวิว
  • (7 ม.ค. 68) รายงานข่าวCh7.com ระบุว่าศาลเกาหลีใต้อนุมัติหมายจับฉบับใหม่ต่อนายยุน ซอกยอล อดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้ หลังหมายจับฉบับเดิมหมดอายุลงเมื่อวานนี้ทั้งนี้ สำนักงานสอบสวนการทุจริตของเจ้าหน้าที่ระดับสูง (CIO) ของเกาหลีใต้, สำนักงานสอบสวนแห่งชาติ (NOI) และสำนักงานสอบสวนของกระทรวงกลาโหม ออกแถลงการณ์ระบุว่า ศาลได้อนุมัติหมายจับดังกล่าวในบ่ายวันนี้ หลังจากที่การจับกุมนายยุนประสบความล้มเหลวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เนื่องจากถูกขัดขวางจากหน่วยอารักขาประธานาธิบดี ซึ่งอ้างว่าการจับกุมดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมายรัฐสภาเกาหลีใต้มีมติถอดถอนนายยุนออกจากตำแหน่งในเดือนที่แล้ว โดยระบุว่าการประกาศกฎอัยการศึกของนายยุนเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. เป็นการกระทำที่ลุแก่อำนาจ และขัดต่อรัฐธรรมนูญต่อมารัฐสภาได้ยื่นเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งกระบวนการตัดสินของศาลอาจต้องใช้เวลานานถึง 180 วัน ซึ่งหากศาลมีคำพิพากษาให้นายยุนพ้นจากตำแหน่ง รัฐบาลก็จะต้องประกาศจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีใหม่ภายใน 60 วัน ที่มาhttps://news.ch7.com/detail/777282 :
    (7 ม.ค. 68) รายงานข่าวCh7.com ระบุว่าศาลเกาหลีใต้อนุมัติหมายจับฉบับใหม่ต่อนายยุน ซอกยอล อดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้ หลังหมายจับฉบับเดิมหมดอายุลงเมื่อวานนี้ทั้งนี้ สำนักงานสอบสวนการทุจริตของเจ้าหน้าที่ระดับสูง (CIO) ของเกาหลีใต้, สำนักงานสอบสวนแห่งชาติ (NOI) และสำนักงานสอบสวนของกระทรวงกลาโหม ออกแถลงการณ์ระบุว่า ศาลได้อนุมัติหมายจับดังกล่าวในบ่ายวันนี้ หลังจากที่การจับกุมนายยุนประสบความล้มเหลวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เนื่องจากถูกขัดขวางจากหน่วยอารักขาประธานาธิบดี ซึ่งอ้างว่าการจับกุมดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมายรัฐสภาเกาหลีใต้มีมติถอดถอนนายยุนออกจากตำแหน่งในเดือนที่แล้ว โดยระบุว่าการประกาศกฎอัยการศึกของนายยุนเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. เป็นการกระทำที่ลุแก่อำนาจ และขัดต่อรัฐธรรมนูญต่อมารัฐสภาได้ยื่นเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งกระบวนการตัดสินของศาลอาจต้องใช้เวลานานถึง 180 วัน ซึ่งหากศาลมีคำพิพากษาให้นายยุนพ้นจากตำแหน่ง รัฐบาลก็จะต้องประกาศจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีใหม่ภายใน 60 วัน ที่มาhttps://news.ch7.com/detail/777282 :
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 250 มุมมอง 0 รีวิว
  • ## "มูลนิธิกระจกเงา" พยายามจะช่วย "พม่า" ให้ได้ "สัญชาติไทย" ซึ่งมีแววว่า พม่า 2 คนนั้น อาจจะใช้เอกสารเท็จ ##
    ..
    ..
    กฎหมายระบุว่า ถ้าเกิดในประเทศไทยจะได้สัญชาติไทย อันนี้ทุกคนเข้าใจ
    .
    ต่อมาเจ้าหน้าที่ต้องตรวจสอบเอกสาร ตรวจสอบพยาน เมื่อเคลียร์ทุกประเด็นแล้ว ก็ทำตามขั้นตอนต่อไปได้
    .
    แต่...!!!
    .
    กรณีนี้ เจ้าหน้าที่ พบเอกสารที่มีความผิดปกติ สอบไปแล้ว โรงพยาบาลตอบมาว่า...
    .
    "ใบรับรองการเกิด" เป็นการแต่งเติมเอกสาร
    .
    พม่ารายนี้ เกิดในปี พ.ศ.2539 ซึ่งในขณะนั้น ประเทศไทยยังไม่มีการ ระบุเลข 13 หลัก ให้คนต่างด้าวที่เกิดในประเทศไทย
    .
    แต่ใน "ใบรับรองการเกิด" ของพม่ารายนี้ กลับมีเลขประจำตัว 13 หลักอยู่ นั่นหมายความว่าเอกสารมีความผิดปกติอย่างร้ายแรง...!!!
    .
    ดังนั้นจึงต้องมีการเรียก พม่ารายนี้มาสอบต่อ...
    .
    แต่พม่ารายนี้กลับไม่ยอมมาให้สอบจนพ้นระยะเวลา และ อยู่ๆก็โผล่มาขอสัญชาติ และ ไปร้องเรียนเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน ทั้งสำนักนายก NGO รวมทั้งฟ้องศาลด้วย...
    ....
    ....
    ในคลิป เราจะเห็น เสียงผู้หญิงที่ ผู้ชายอีก 2 ท่าน เรียกว่า อาจารย์...
    .
    พยายามจะทำตัวเป็นคนกลาง แต่เนื้อหา กลับต้องการทำทุกอย่างเพื่อผลักดันให้ กระบวนการยื่นเรื่องสัญชาติแก่ พม่า รายนี้ ดำเนินต่อไปได้ ทั้งๆที่เอกสารหลักฐานมีปัญหา...
    .
    โดยไม่ต้องสนใจ เอกสารที่เป็นเท็จ และ ไม่ต้องสนใจ การดำเนิน คดีอาญา แก่ พม่าผู้ที่กระทำผิดกฎหมาย ซึ้งใช้เอกสารเท็จ ในการขอสัญชาติไทย
    ...
    ...
    ผมงงจริงๆ ไม่รู้ที่เรียกผู้หญิงว่า อาจารย์ เนี่ย เป็น อาจารย์ทางกฎหมายหรืออย่างไร...???
    .
    ทำไมพูดจาจับประเด็นปัญหาอะไรไม่ได้เลย...???
    .
    นัยยะคือ ปฎิเสธว่าปัญหาจริงๆแล้วอยู่ที่ตัว พม่าทั้ง 2 คน รวมทั้ง การใช้เอกสารเท็จ มายื่นขอสัญชาติไทยด้วย...!!!
    .
    เมื่อมีการกระทำความผิดเกิดขึ้น เจ้าหน้าที่เห็นแล้ว ต้องทำหน้าที่ สอบข้อเท็จจริงให้เคลียร์...!!!
    .
    ผู้หญิงที่ถูกเรียกว่า อาจารย์ ทำทีแนะนำ จะให้เจ้าพนักงานละเว้นปฎิบัติหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เอาผิดทางอาญา แก่ต่างด้าว ผู้ใช้เอกสารเท็จ เพื่อขอสัญชาติไทย...!!!
    ...
    ...
    ข้อมูลเพิ่มเติมชัดเจนว่า บ.ก.ลายจุดคือ ผู้ก่อตั้ง มูลนิธิกระจกเงา...
    .
    ทีนี้ก็ชัดนะครับว่า บ.ก.ลายจุด มีแนวคิดแบบไหน ชื่นชม พรรคการเมืองไหน มีความสัมพันธุ์ และ การดำเนินการร่วมกัน ในงานด้านไหนบ้าง...
    .
    และ แนวคิดของพวกเขาดันไป "บังเอิญอย่างร้ายกาจ" ที่เหมือนกับ โรเบิร์ต เอฟ. โกเดค ท่านทูต อเมริกา ประจำประเทศไทย ซึ่งเคยแถลงต่อ สภาคองเกรส ราวกับลอกออกมาจาก คำแถลงของ นาย โรเบิร์ต เอฟ. โกเดค เลยก็มิปาน...
    ...
    ...
    จะเรียก มูลนิธิเพื่อพม่า หรือ พรรคประชาชนพม่า อะไร ผมไม่ค่อยเห็นด้วยหรอกครับ เพราะจริงๆแล้ว พวกเขาไม่ได้ทำเพื่อ ประชาชนพม่า ครับ...
    .
    เขาทำเพื่อคุณพ่อ อเมริกา ครับ...!!!
    .
    https://youtu.be/G6JdYdNdTgI?si=Vb38cXN5keeCT_3q
    ## "มูลนิธิกระจกเงา" พยายามจะช่วย "พม่า" ให้ได้ "สัญชาติไทย" ซึ่งมีแววว่า พม่า 2 คนนั้น อาจจะใช้เอกสารเท็จ ## .. .. กฎหมายระบุว่า ถ้าเกิดในประเทศไทยจะได้สัญชาติไทย อันนี้ทุกคนเข้าใจ . ต่อมาเจ้าหน้าที่ต้องตรวจสอบเอกสาร ตรวจสอบพยาน เมื่อเคลียร์ทุกประเด็นแล้ว ก็ทำตามขั้นตอนต่อไปได้ . แต่...!!! . กรณีนี้ เจ้าหน้าที่ พบเอกสารที่มีความผิดปกติ สอบไปแล้ว โรงพยาบาลตอบมาว่า... . "ใบรับรองการเกิด" เป็นการแต่งเติมเอกสาร . พม่ารายนี้ เกิดในปี พ.ศ.2539 ซึ่งในขณะนั้น ประเทศไทยยังไม่มีการ ระบุเลข 13 หลัก ให้คนต่างด้าวที่เกิดในประเทศไทย . แต่ใน "ใบรับรองการเกิด" ของพม่ารายนี้ กลับมีเลขประจำตัว 13 หลักอยู่ นั่นหมายความว่าเอกสารมีความผิดปกติอย่างร้ายแรง...!!! . ดังนั้นจึงต้องมีการเรียก พม่ารายนี้มาสอบต่อ... . แต่พม่ารายนี้กลับไม่ยอมมาให้สอบจนพ้นระยะเวลา และ อยู่ๆก็โผล่มาขอสัญชาติ และ ไปร้องเรียนเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน ทั้งสำนักนายก NGO รวมทั้งฟ้องศาลด้วย... .... .... ในคลิป เราจะเห็น เสียงผู้หญิงที่ ผู้ชายอีก 2 ท่าน เรียกว่า อาจารย์... . พยายามจะทำตัวเป็นคนกลาง แต่เนื้อหา กลับต้องการทำทุกอย่างเพื่อผลักดันให้ กระบวนการยื่นเรื่องสัญชาติแก่ พม่า รายนี้ ดำเนินต่อไปได้ ทั้งๆที่เอกสารหลักฐานมีปัญหา... . โดยไม่ต้องสนใจ เอกสารที่เป็นเท็จ และ ไม่ต้องสนใจ การดำเนิน คดีอาญา แก่ พม่าผู้ที่กระทำผิดกฎหมาย ซึ้งใช้เอกสารเท็จ ในการขอสัญชาติไทย ... ... ผมงงจริงๆ ไม่รู้ที่เรียกผู้หญิงว่า อาจารย์ เนี่ย เป็น อาจารย์ทางกฎหมายหรืออย่างไร...??? . ทำไมพูดจาจับประเด็นปัญหาอะไรไม่ได้เลย...??? . นัยยะคือ ปฎิเสธว่าปัญหาจริงๆแล้วอยู่ที่ตัว พม่าทั้ง 2 คน รวมทั้ง การใช้เอกสารเท็จ มายื่นขอสัญชาติไทยด้วย...!!! . เมื่อมีการกระทำความผิดเกิดขึ้น เจ้าหน้าที่เห็นแล้ว ต้องทำหน้าที่ สอบข้อเท็จจริงให้เคลียร์...!!! . ผู้หญิงที่ถูกเรียกว่า อาจารย์ ทำทีแนะนำ จะให้เจ้าพนักงานละเว้นปฎิบัติหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เอาผิดทางอาญา แก่ต่างด้าว ผู้ใช้เอกสารเท็จ เพื่อขอสัญชาติไทย...!!! ... ... ข้อมูลเพิ่มเติมชัดเจนว่า บ.ก.ลายจุดคือ ผู้ก่อตั้ง มูลนิธิกระจกเงา... . ทีนี้ก็ชัดนะครับว่า บ.ก.ลายจุด มีแนวคิดแบบไหน ชื่นชม พรรคการเมืองไหน มีความสัมพันธุ์ และ การดำเนินการร่วมกัน ในงานด้านไหนบ้าง... . และ แนวคิดของพวกเขาดันไป "บังเอิญอย่างร้ายกาจ" ที่เหมือนกับ โรเบิร์ต เอฟ. โกเดค ท่านทูต อเมริกา ประจำประเทศไทย ซึ่งเคยแถลงต่อ สภาคองเกรส ราวกับลอกออกมาจาก คำแถลงของ นาย โรเบิร์ต เอฟ. โกเดค เลยก็มิปาน... ... ... จะเรียก มูลนิธิเพื่อพม่า หรือ พรรคประชาชนพม่า อะไร ผมไม่ค่อยเห็นด้วยหรอกครับ เพราะจริงๆแล้ว พวกเขาไม่ได้ทำเพื่อ ประชาชนพม่า ครับ... . เขาทำเพื่อคุณพ่อ อเมริกา ครับ...!!! . https://youtu.be/G6JdYdNdTgI?si=Vb38cXN5keeCT_3q
    Angry
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 319 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลจังหวีดนนทบุรี นัดสืบพยานคดี แตงโม ธิดาคุณแม่แจงไม่อยากให้รื้อคดีลูกสาวเสียชีวิตปริษนา ย้ำหลักฐานเก่า ยอมรับเหนื่อยหารื้อคดีขึ้นทำใหม่“แซน”อ้างมีขบวรการตอบทรัพย์ยืนยันไม่กังวล
    .
    วันนี้( 26 ธ.ค.)เมื่อเวลา 09.00น. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ศาลจังหวัดนนทบุรี ผู้เกี่ยวข้องในคดีการเสียชีวิตของดาราสาว แตงโม นิดาขึ้นเรือเร็วสปีทโบทเสียชีวิตไปอย่างเป็นปริศนา โดยมีผู้เกี่ยวข้องในคดีจำนวน 5 คน อยู่บนเรือที่อยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งเป็นผลให้มีการดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดจนขั้นตอนอยู่ในระหว่างการดำเนินคดีในชั้นศาล ที่ผ่านมาเกือบ 3ปีแล้ว
    .
    ศาลจังหวัดนนทบุรีได้มีหมายนัดบุคคลที่เกี่ยวข้องนัดไต่สวนสืบพยานฯทางคดีเพิ่มเติมในบางส่วน อาทิ แม่แตงโม พร้อมทนายเดชา กระติก แซนพร้อมทนายตุ้ย และจ็อบ โดยมีสื่อมวลชนเฝ้าติดตามรายงานข่าวอย่างต่อเนื่องบริเวณหน้าศาลจังหวัดนนทบุรี
    .
    แซนกล่าวว่าขอชี้แจงเหตุผลเดียวยุคนี้มันเป็นมุมมืดของกระบวนการยุติธรรมปล่อยให้นักร้องนักตบทรัพย์ออกมาทำได้อย่างอุกอาจ มากล่าวหาหน่วยงานรัฐมากล่าวหาผู้ต้องหามากล่าวหาจำเลยได้โดยที่ไม่มีใครทำอะไรเป็นยุคมืดของขบวนการยุติธรรมตอนนี้ตนไม่ขอบอกว่ามีคนพยายามตบทรัพย์ อยู่หรือไม่เจ้าตัวน่าจะทราบดี ถ้าคนที่เจตนาจะทำต้องลองถามเขาดูว่าเขาคิดแบบนั้นหรือเปล่า พยายามกล่าวหาทุกคนบนเรือ คิดไปอย่างอื่นไม่ได้ ในการรื้อคดีตนก็รู้สึกยินดีถ้ามีหลักฐานอะไรช่วยนำมาให้ช่วยพิจารณา จะได้สิ้นข้อสงสัย ถ้าพวกตนผิดยุคนี้คงไม่เอาไว้
    .
    ตนอยากฝากถึงคุณหมอประเด็นที่ออกมาพูด ว่าตัดคุณหมอจากพยานคดีนี้ไม่ทราบว่าคุณหมอมีหน้าที่ทำหน้าที่อะไรกับคดีนี้ตั้งแต่แรก คุณหมอถึงใช้คำว่าถูกตัด ตนไม่กังวลใจ ขบวนการมาถึงขนาดนี้แค่กังวลว่าจะล่าช้าอยากให้ขบวนการเสร็จสิ้นโดยเร็ว จริงๆตนไม่อยากฟ้องใคร จบคดีก็ไม่อยากมาศาล คนขี้ฟ้องทำตัวเหมือนเด็กๆไม่รู้ใครเขียนคำฟ้องและเปรียบเทียบว่าเขาเหมือนหมา ตนไม่ได้มีเจตนาแค่ลงภาพกับสัตว์เลี้ยงเป็นปกติธุระอยู่แล้ว วันนี้ทัวร์มาลงตนอีกรอบอยากฝากบอกประชาชนเวลาฟังอยากให้คิดตามด้วย อย่ามาด่าคนอื่นที่คุณไม่รู้จักเพราะถ้าคุณโดนด่าคุณก็ไม่ชอบเหมือนกัน
    .
    ตนเคยถามว่าที่คุณออกมาพูดว่ามีคลิปตนไม่เคยได้รับคำตอบสัก 1 ครั้ง ที่เห็นว่ามีใครออกมาเอามีดกรีดขา ใครเป็นคนสั่งพูดว่าจะเปิดมา 2 ปี 10 เดือน ปัจจุบันอยากถามว่าไหนคลิป ตนเลยถามว่าศาลไหน คุณเคยมาสักครั้งไหม ศาลที่คุณไปเปิดคือศาลหมิ่นประมาทคดีหมิ่นประมาทของคุณเกี่ยวอะไรกับคดีของเรา จะมาบอกว่าให้ไปดูในศาลอย่ามาปัดเก่งคำว่าหลักฐานใหม่หลักฐานเก่าขอให้มีก่อนคิดว่าวิจารณ์โดยสุจริต อยู่ดีๆมาฟ้องตนข้อหาหมิ่นประมาท อยากให้ใจกว้าง มีหลักฐานอะไรมาเปิดได้เลยมาบอกว่าเดี๋ยวจะกลัวว่าจะโดนเปลี่ยนแปลงหลักฐานเปิดมาจะได้จบ อยากให้มาเล่าความคิดโดยรวมให้ฟังหน่อยถ้าไม่ใช่เป็นแบบที่ตนบอกแล้วมันเกิดอะไรขึ้นใครฆ่าใครใครทำอะไร ตนอยากทราบเหมือนกันว่าคิดอะไรในความคิดของเขา พอพูดความจริงหาว่าโกหก อยากให้ทำตัวให้ทันยุคทันสมัย ยุคนี้เป็นยุคที่กฎหมายกำลังจะบังคับใช้สมรสเท่าเทียมถ้าแฟนหัวโปกมาเรียกนายจะไม่ติดถึงแม้จะเป็นผู้ใหญ่ควรทำตัวให้ทันยุคทันสมัย
    นายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ หรือทนายตุ๋ย ทนายความของแซน กล่าวว่าทุกคนทำหน้าที่อยากจะพิสูจน์ความจริงแซน บอกว่าให้พิสูจน์มาได้เลย อย่างตนดูสำนวนคดีสิ่งที่นำเสนอออกไปกับสิ่งที่อยู่ในสำนวน มันแตกต่างกันแต่ตนเปิดเผยไม่ได้ ส่วนคนบนเรือยินดีถ้าอยากให้พิสูจน์
    .
    ทางด้านทนายเดชากล่าวว่า วันนี้ตนมาศาลในฐานะทนายแม่แตงโม เดินทางมาแถลงศาลขอเลื่อนคดีเพื่อที่จะรอว่าอัยการสูงสุดจะมีคำสั่งเรื่องรื้อฟื้นคดีหรือแก้ฟ้องตามที่นายอัจฉริยะมายื่นเรื่อง หลัง 29 มกราคม มีเวลาถึงเดือนเมษายน พิจารณาคดีเสร็จเวลา 2 เดือนครึ่ง เขียนคำพิพากษา 1 เดือน ส่งให้อธิบดี 1 เดือน ประมาณเดือนเมษายน ถ้าอัยการสูงสุดมีคำสั่งจะแก้ฟ้องมายื่นที่ศาลนนทบุรีได้ได้
    นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่จิ๋ม กล่าวว่าวันนี้เดินทางมาในฐานะโจทก์ร่วม ส่วนตัวตนไม่อยากให้รื้อคดีมันเรื่องมากหลักฐานใหม่ก็ไม่มี มีแต่หลักฐานเก่า 2-3 ปีที่แล้ว อยากฝากบอกน้องแตงโมว่าให้ช่วยแม่เรื่องคดี จากที่คดีผิดให้เป็นคดีที่ถูกต้อง ทุกคนบนเรือปิดปากเงียบจะไปเอาหลักฐานที่ไหน ตนคิดว่าแล้วแต่เวรกรรม ตนไม่เคยรู้จักคุณอัจฉริยะมาก่อนไม่เคยเสวนาหรือสังสรรค์กัน มีครั้งเดียวที่ควงขึ้นบันไดเลื่อนที่ตำรวจไซเบอร์ เนื่องจากบันไดเลื่อนเสีย
    .
    ส่วนจะไปปรึกษาเรื่องคดีไม่เคยคุยกัน คดีนี้ฟังแล้วเหนื่อยถ้าจะรื้อขอหลักฐานมาให้ตนดูสักอย่างคดีนี้เขายังมาเอาหลักฐานของคุณแม่ฟ้องศาลเอง แม่ต้องมาถอนออกแล้วก็ไม่เคยคุยกันอีกเลย คดีแตงโมนานแล้วถ้ามีต้องมาโชว์ก่อนหน้านี้แล้ว ในส่วนของจำเลย 6 คน มีการพูดคุยกันปกติ ที่สนิทมากคือแซน ส่วนกระติ๊กโดนไต่สวนนาน 3 ชั่วโมงแล้ว ยังไม่มีโอกาสได้คุยกัน แม่คุยกับคนบนเรือได้ทุกคน เลิกโกรธแล้วลูกของตนเสียไปนานจะเอากลับคืนมาคงไม่ได้แล้ว
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000124109
    ..............
    Sondhi X
    ศาลจังหวีดนนทบุรี นัดสืบพยานคดี แตงโม ธิดาคุณแม่แจงไม่อยากให้รื้อคดีลูกสาวเสียชีวิตปริษนา ย้ำหลักฐานเก่า ยอมรับเหนื่อยหารื้อคดีขึ้นทำใหม่“แซน”อ้างมีขบวรการตอบทรัพย์ยืนยันไม่กังวล . วันนี้( 26 ธ.ค.)เมื่อเวลา 09.00น. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ศาลจังหวัดนนทบุรี ผู้เกี่ยวข้องในคดีการเสียชีวิตของดาราสาว แตงโม นิดาขึ้นเรือเร็วสปีทโบทเสียชีวิตไปอย่างเป็นปริศนา โดยมีผู้เกี่ยวข้องในคดีจำนวน 5 คน อยู่บนเรือที่อยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งเป็นผลให้มีการดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดจนขั้นตอนอยู่ในระหว่างการดำเนินคดีในชั้นศาล ที่ผ่านมาเกือบ 3ปีแล้ว . ศาลจังหวัดนนทบุรีได้มีหมายนัดบุคคลที่เกี่ยวข้องนัดไต่สวนสืบพยานฯทางคดีเพิ่มเติมในบางส่วน อาทิ แม่แตงโม พร้อมทนายเดชา กระติก แซนพร้อมทนายตุ้ย และจ็อบ โดยมีสื่อมวลชนเฝ้าติดตามรายงานข่าวอย่างต่อเนื่องบริเวณหน้าศาลจังหวัดนนทบุรี . แซนกล่าวว่าขอชี้แจงเหตุผลเดียวยุคนี้มันเป็นมุมมืดของกระบวนการยุติธรรมปล่อยให้นักร้องนักตบทรัพย์ออกมาทำได้อย่างอุกอาจ มากล่าวหาหน่วยงานรัฐมากล่าวหาผู้ต้องหามากล่าวหาจำเลยได้โดยที่ไม่มีใครทำอะไรเป็นยุคมืดของขบวนการยุติธรรมตอนนี้ตนไม่ขอบอกว่ามีคนพยายามตบทรัพย์ อยู่หรือไม่เจ้าตัวน่าจะทราบดี ถ้าคนที่เจตนาจะทำต้องลองถามเขาดูว่าเขาคิดแบบนั้นหรือเปล่า พยายามกล่าวหาทุกคนบนเรือ คิดไปอย่างอื่นไม่ได้ ในการรื้อคดีตนก็รู้สึกยินดีถ้ามีหลักฐานอะไรช่วยนำมาให้ช่วยพิจารณา จะได้สิ้นข้อสงสัย ถ้าพวกตนผิดยุคนี้คงไม่เอาไว้ . ตนอยากฝากถึงคุณหมอประเด็นที่ออกมาพูด ว่าตัดคุณหมอจากพยานคดีนี้ไม่ทราบว่าคุณหมอมีหน้าที่ทำหน้าที่อะไรกับคดีนี้ตั้งแต่แรก คุณหมอถึงใช้คำว่าถูกตัด ตนไม่กังวลใจ ขบวนการมาถึงขนาดนี้แค่กังวลว่าจะล่าช้าอยากให้ขบวนการเสร็จสิ้นโดยเร็ว จริงๆตนไม่อยากฟ้องใคร จบคดีก็ไม่อยากมาศาล คนขี้ฟ้องทำตัวเหมือนเด็กๆไม่รู้ใครเขียนคำฟ้องและเปรียบเทียบว่าเขาเหมือนหมา ตนไม่ได้มีเจตนาแค่ลงภาพกับสัตว์เลี้ยงเป็นปกติธุระอยู่แล้ว วันนี้ทัวร์มาลงตนอีกรอบอยากฝากบอกประชาชนเวลาฟังอยากให้คิดตามด้วย อย่ามาด่าคนอื่นที่คุณไม่รู้จักเพราะถ้าคุณโดนด่าคุณก็ไม่ชอบเหมือนกัน . ตนเคยถามว่าที่คุณออกมาพูดว่ามีคลิปตนไม่เคยได้รับคำตอบสัก 1 ครั้ง ที่เห็นว่ามีใครออกมาเอามีดกรีดขา ใครเป็นคนสั่งพูดว่าจะเปิดมา 2 ปี 10 เดือน ปัจจุบันอยากถามว่าไหนคลิป ตนเลยถามว่าศาลไหน คุณเคยมาสักครั้งไหม ศาลที่คุณไปเปิดคือศาลหมิ่นประมาทคดีหมิ่นประมาทของคุณเกี่ยวอะไรกับคดีของเรา จะมาบอกว่าให้ไปดูในศาลอย่ามาปัดเก่งคำว่าหลักฐานใหม่หลักฐานเก่าขอให้มีก่อนคิดว่าวิจารณ์โดยสุจริต อยู่ดีๆมาฟ้องตนข้อหาหมิ่นประมาท อยากให้ใจกว้าง มีหลักฐานอะไรมาเปิดได้เลยมาบอกว่าเดี๋ยวจะกลัวว่าจะโดนเปลี่ยนแปลงหลักฐานเปิดมาจะได้จบ อยากให้มาเล่าความคิดโดยรวมให้ฟังหน่อยถ้าไม่ใช่เป็นแบบที่ตนบอกแล้วมันเกิดอะไรขึ้นใครฆ่าใครใครทำอะไร ตนอยากทราบเหมือนกันว่าคิดอะไรในความคิดของเขา พอพูดความจริงหาว่าโกหก อยากให้ทำตัวให้ทันยุคทันสมัย ยุคนี้เป็นยุคที่กฎหมายกำลังจะบังคับใช้สมรสเท่าเทียมถ้าแฟนหัวโปกมาเรียกนายจะไม่ติดถึงแม้จะเป็นผู้ใหญ่ควรทำตัวให้ทันยุคทันสมัย นายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ หรือทนายตุ๋ย ทนายความของแซน กล่าวว่าทุกคนทำหน้าที่อยากจะพิสูจน์ความจริงแซน บอกว่าให้พิสูจน์มาได้เลย อย่างตนดูสำนวนคดีสิ่งที่นำเสนอออกไปกับสิ่งที่อยู่ในสำนวน มันแตกต่างกันแต่ตนเปิดเผยไม่ได้ ส่วนคนบนเรือยินดีถ้าอยากให้พิสูจน์ . ทางด้านทนายเดชากล่าวว่า วันนี้ตนมาศาลในฐานะทนายแม่แตงโม เดินทางมาแถลงศาลขอเลื่อนคดีเพื่อที่จะรอว่าอัยการสูงสุดจะมีคำสั่งเรื่องรื้อฟื้นคดีหรือแก้ฟ้องตามที่นายอัจฉริยะมายื่นเรื่อง หลัง 29 มกราคม มีเวลาถึงเดือนเมษายน พิจารณาคดีเสร็จเวลา 2 เดือนครึ่ง เขียนคำพิพากษา 1 เดือน ส่งให้อธิบดี 1 เดือน ประมาณเดือนเมษายน ถ้าอัยการสูงสุดมีคำสั่งจะแก้ฟ้องมายื่นที่ศาลนนทบุรีได้ได้ นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่จิ๋ม กล่าวว่าวันนี้เดินทางมาในฐานะโจทก์ร่วม ส่วนตัวตนไม่อยากให้รื้อคดีมันเรื่องมากหลักฐานใหม่ก็ไม่มี มีแต่หลักฐานเก่า 2-3 ปีที่แล้ว อยากฝากบอกน้องแตงโมว่าให้ช่วยแม่เรื่องคดี จากที่คดีผิดให้เป็นคดีที่ถูกต้อง ทุกคนบนเรือปิดปากเงียบจะไปเอาหลักฐานที่ไหน ตนคิดว่าแล้วแต่เวรกรรม ตนไม่เคยรู้จักคุณอัจฉริยะมาก่อนไม่เคยเสวนาหรือสังสรรค์กัน มีครั้งเดียวที่ควงขึ้นบันไดเลื่อนที่ตำรวจไซเบอร์ เนื่องจากบันไดเลื่อนเสีย . ส่วนจะไปปรึกษาเรื่องคดีไม่เคยคุยกัน คดีนี้ฟังแล้วเหนื่อยถ้าจะรื้อขอหลักฐานมาให้ตนดูสักอย่างคดีนี้เขายังมาเอาหลักฐานของคุณแม่ฟ้องศาลเอง แม่ต้องมาถอนออกแล้วก็ไม่เคยคุยกันอีกเลย คดีแตงโมนานแล้วถ้ามีต้องมาโชว์ก่อนหน้านี้แล้ว ในส่วนของจำเลย 6 คน มีการพูดคุยกันปกติ ที่สนิทมากคือแซน ส่วนกระติ๊กโดนไต่สวนนาน 3 ชั่วโมงแล้ว ยังไม่มีโอกาสได้คุยกัน แม่คุยกับคนบนเรือได้ทุกคน เลิกโกรธแล้วลูกของตนเสียไปนานจะเอากลับคืนมาคงไม่ได้แล้ว . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000124109 .............. Sondhi X
    Like
    Angry
    Sad
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1190 มุมมอง 0 รีวิว
  • อัยการโซลมีรายงานจับกุมรัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ คิม ยอง-ฮยุน (Kim Yong-hyun) ฐานอยู่เบื้องหลังประธานาธิบดีออกคำสั่งกฎอัยการศึกที่ผู้นำประกาศใช้วันคืนวันอังคาร (4 ธ.ค.) จนประชาชนออกมาขวาง คิมลาออกก่อนโดนจับ ถูกส่งเข้าเรือนจำกรุงโซล โทรศัพท์มือถือถูกยึด ที่ทำงานและบ้านพักโดนบุกค้นในคดีเกี่ยวข้องกับการก่อกบฏเกาหลีใต้ ส่วนลูกน้อง 3 คนโดนกระทรวงสั่งพักงาน
    .
    รอยเตอร์รายงานวันนี้ (8 ธ.ค.) ว่า คิม ยอง-ฮยุน (Kim Yong-hyun) ลาออกก่อนหน้าวันพุธ (4) จากตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ถูกมองว่าเป็นศูนย์กลางในการประกาศใช้กฎอัยการศึกเกาหลีใต้อายุสั้นคืนวันอังคาร (3) ของประธานาธิบดี ยุน ซอกยอล ที่รอดพ้นจากการโดนขับออกจากตำแหน่งหวุดหวิด
    .
    สื่อท้องถิ่นแดนโสมรายงานว่า อัยการเกาหลีใต้ที่ทรงอำนาจได้จับกุมอดีตรัฐมนตรีกลาโหม
    .
    อ้างอิงจากคำบอกเล่าของเจ้าหน้าที่ระดับสูงในกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้และเนื้อหาของการยื่นเรื่องเพื่อมีมติสั่งขับยุนออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีต่างระบุว่า คิม ยอง-ฮยุน เป็นคนยื่นข้อเสนอต่อประธานาธิบดียุน
    .
    หนังสือพิมพ์นิวยอร์กโพสต์ของสหรัฐฯ รายงานเพิ่มเติมว่า คิมถือเป็นศูนย์กลางของการบังคับใช้กฎอัยการศึกของประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ที่มีการส่งกำลังมาปิดล้อมอาคารสภานิติบัญญัติแห่งชาติและมีการส่งเฮลิคอปเตอร์ทหารบินวนเหนือรัฐสภา
    .
    อย่างไรก็ตาม กองกำลังทหารได้ถอนออกไปหลังสภามีมติเป็นเอกฉันท์โหวตยกเลิกคำสั่งการใช้กฎอัยการศึกของยุน ส่งผลทำให้คณะ ครม.ของเขาต้องสั่งยกเลิกคำสั่งก่อนพระอาทิตย์ขึ้นในวันพุธ (3)
    .
    ปาร์ค เซ-ฮยุน (Park Se-hyun) หัวหน้าสำนักงานอัยการสูงสุดเกาหลีใต้กล่าวในแถลงการณ์ทางโทรทัศน์ว่า ทางสำนักงานเวลานี้กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนเหตุการณ์สั่งกฎอัยการศึกโดยมีทีมสมาชิก 62 คนที่มาจากทั้งอัยการรัฐและอัยการกองทัพ พร้อมประกาศจะทำการสอบสวนอย่างครอบคลุมที่จะไม่เหลือสิ่งใดให้สงสัยได้
    .
    นิวยอร์กโพสต์รายงานว่า ทั้งนี้วันอาทิตย์ (8) อดีตรัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ คิม ยอง ฮยุน เดินทางมาที่สำนักงานอัยการสูงสุดด้วยตนเองก่อนที่โทรศัพท์มือถือส่วนตัวจะโดนยึดและเขาถูกจับกุม อ้างอิงจากสำนักข่าวยอนฮับ
    .
    รอยเตอร์รายงานว่า คิมปรากฏตัวที่สำนักงานอัยการสูงสุดเกาหลีใต้เวลา 13.30 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันอาทิตย์ (8) และเขาถูกสอบปากคำ
    .
    การจับกุมคิมวันนี้ (8) ทำให้เขากลายเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงเกาหลีใต้รายแรกที่ถูกจับในคดีนี้
    .
    สื่ออื่นของเกาหลีใต้ต่างรายงานตรงกันที่ว่า คิมถูกส่งไปยังเรือนจำกรุงโซล และกำลังตำรวจเข้าบุกค้นสำนักงานและบ้านพักของเขาในวันอาทิตย์ (8)
    .
    ทั้งนี้ กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ออกแถลงการณ์วันพุธ (4) มีใจความว่ารัฐมนตรีคิมระบุว่า
    .
    “กำลังพลทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวข้องกับกฎอัยการศึกนั้นทำหน้าที่ตามคำสั่งของผม และทุกความรับผิดชอบจะตกอยู่ที่ตัวผม”
    .
    อัยการสูงสุดเกาหลีใต้ ชิม วู จุง (Shim Woo Jung) ได้ให้สัมภาษณ์กับนักข่าววันพฤหัสบดี (5) ว่า อัยการกำลังวางแผนที่จะสอบสวนประธานาธิบดียุนในข้อหาการเป็นกบฏซึ่งเป็นการฟ้องโดยฝ่ายค้านเกาหลีใต้
    .
    ทั้งนี้ ถึงแม้ประธานาธิบดีเกาหลีใต้จะมีภูมิคุ้มกันส่วนใหญ่จากการถูกดำเนินคดีในระหว่างอยู่ในตำแหน่ง แต่ทว่าภูมิคุ้มกันที่ว่าไม่ได้ครอบคลุมไปถึงข้อหาการก่อกบฏหรือการทรยศ
    .
    กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ยังประกาศว่า ได้ออกคำสั่งยุติการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวต่อ 3 ผู้บัญชาการระดับสูงของกองทัพในบทบาทที่เกี่ยวข้องต่อการใช้กฎอัยการศึก ซึ่งคนเหล่านั้นรวมอยู่ในกลุ่มที่ฝ่ายค้านเกาหลีใต้ยื่นฟ้องคดีการก่อกบฏ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000118047
    ..................
    Sondhi X
    อัยการโซลมีรายงานจับกุมรัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ คิม ยอง-ฮยุน (Kim Yong-hyun) ฐานอยู่เบื้องหลังประธานาธิบดีออกคำสั่งกฎอัยการศึกที่ผู้นำประกาศใช้วันคืนวันอังคาร (4 ธ.ค.) จนประชาชนออกมาขวาง คิมลาออกก่อนโดนจับ ถูกส่งเข้าเรือนจำกรุงโซล โทรศัพท์มือถือถูกยึด ที่ทำงานและบ้านพักโดนบุกค้นในคดีเกี่ยวข้องกับการก่อกบฏเกาหลีใต้ ส่วนลูกน้อง 3 คนโดนกระทรวงสั่งพักงาน . รอยเตอร์รายงานวันนี้ (8 ธ.ค.) ว่า คิม ยอง-ฮยุน (Kim Yong-hyun) ลาออกก่อนหน้าวันพุธ (4) จากตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ถูกมองว่าเป็นศูนย์กลางในการประกาศใช้กฎอัยการศึกเกาหลีใต้อายุสั้นคืนวันอังคาร (3) ของประธานาธิบดี ยุน ซอกยอล ที่รอดพ้นจากการโดนขับออกจากตำแหน่งหวุดหวิด . สื่อท้องถิ่นแดนโสมรายงานว่า อัยการเกาหลีใต้ที่ทรงอำนาจได้จับกุมอดีตรัฐมนตรีกลาโหม . อ้างอิงจากคำบอกเล่าของเจ้าหน้าที่ระดับสูงในกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้และเนื้อหาของการยื่นเรื่องเพื่อมีมติสั่งขับยุนออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีต่างระบุว่า คิม ยอง-ฮยุน เป็นคนยื่นข้อเสนอต่อประธานาธิบดียุน . หนังสือพิมพ์นิวยอร์กโพสต์ของสหรัฐฯ รายงานเพิ่มเติมว่า คิมถือเป็นศูนย์กลางของการบังคับใช้กฎอัยการศึกของประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ที่มีการส่งกำลังมาปิดล้อมอาคารสภานิติบัญญัติแห่งชาติและมีการส่งเฮลิคอปเตอร์ทหารบินวนเหนือรัฐสภา . อย่างไรก็ตาม กองกำลังทหารได้ถอนออกไปหลังสภามีมติเป็นเอกฉันท์โหวตยกเลิกคำสั่งการใช้กฎอัยการศึกของยุน ส่งผลทำให้คณะ ครม.ของเขาต้องสั่งยกเลิกคำสั่งก่อนพระอาทิตย์ขึ้นในวันพุธ (3) . ปาร์ค เซ-ฮยุน (Park Se-hyun) หัวหน้าสำนักงานอัยการสูงสุดเกาหลีใต้กล่าวในแถลงการณ์ทางโทรทัศน์ว่า ทางสำนักงานเวลานี้กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนเหตุการณ์สั่งกฎอัยการศึกโดยมีทีมสมาชิก 62 คนที่มาจากทั้งอัยการรัฐและอัยการกองทัพ พร้อมประกาศจะทำการสอบสวนอย่างครอบคลุมที่จะไม่เหลือสิ่งใดให้สงสัยได้ . นิวยอร์กโพสต์รายงานว่า ทั้งนี้วันอาทิตย์ (8) อดีตรัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ คิม ยอง ฮยุน เดินทางมาที่สำนักงานอัยการสูงสุดด้วยตนเองก่อนที่โทรศัพท์มือถือส่วนตัวจะโดนยึดและเขาถูกจับกุม อ้างอิงจากสำนักข่าวยอนฮับ . รอยเตอร์รายงานว่า คิมปรากฏตัวที่สำนักงานอัยการสูงสุดเกาหลีใต้เวลา 13.30 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันอาทิตย์ (8) และเขาถูกสอบปากคำ . การจับกุมคิมวันนี้ (8) ทำให้เขากลายเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงเกาหลีใต้รายแรกที่ถูกจับในคดีนี้ . สื่ออื่นของเกาหลีใต้ต่างรายงานตรงกันที่ว่า คิมถูกส่งไปยังเรือนจำกรุงโซล และกำลังตำรวจเข้าบุกค้นสำนักงานและบ้านพักของเขาในวันอาทิตย์ (8) . ทั้งนี้ กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ออกแถลงการณ์วันพุธ (4) มีใจความว่ารัฐมนตรีคิมระบุว่า . “กำลังพลทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวข้องกับกฎอัยการศึกนั้นทำหน้าที่ตามคำสั่งของผม และทุกความรับผิดชอบจะตกอยู่ที่ตัวผม” . อัยการสูงสุดเกาหลีใต้ ชิม วู จุง (Shim Woo Jung) ได้ให้สัมภาษณ์กับนักข่าววันพฤหัสบดี (5) ว่า อัยการกำลังวางแผนที่จะสอบสวนประธานาธิบดียุนในข้อหาการเป็นกบฏซึ่งเป็นการฟ้องโดยฝ่ายค้านเกาหลีใต้ . ทั้งนี้ ถึงแม้ประธานาธิบดีเกาหลีใต้จะมีภูมิคุ้มกันส่วนใหญ่จากการถูกดำเนินคดีในระหว่างอยู่ในตำแหน่ง แต่ทว่าภูมิคุ้มกันที่ว่าไม่ได้ครอบคลุมไปถึงข้อหาการก่อกบฏหรือการทรยศ . กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ยังประกาศว่า ได้ออกคำสั่งยุติการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวต่อ 3 ผู้บัญชาการระดับสูงของกองทัพในบทบาทที่เกี่ยวข้องต่อการใช้กฎอัยการศึก ซึ่งคนเหล่านั้นรวมอยู่ในกลุ่มที่ฝ่ายค้านเกาหลีใต้ยื่นฟ้องคดีการก่อกบฏ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000118047 .................. Sondhi X
    Haha
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 655 มุมมอง 0 รีวิว
  • กฤษณะพงศ์ บุก ป.ป.ช.ขอเปลี่ยนตัวคณะทำงานคดี บิ๊กโจ๊กเก็บส่วยคาราโอเกะ เผยพร้อมเป็นพยานให้การด้วยตนเอง

    จากกรณี พ.ต.ท.มนต์ชัย บุญเลิศ รองผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.สอท.) ได้ดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน กองบังคับการป้องกัน ปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ในสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ คือ นายสมบัติ ธรธรรม อดีตอนุกรรมการกลั่นกรองเรื่องกล่าวหา ประจำสำนักการไต่สวนทุจริตภาครัฐ 1 และ 2, นายจัตุรงค์ พานิชเจริญ เจ้าหน้าที่ไต่สวน สำนักไต่สวนการทุจริตภาครัฐวิสาหกิจ 2 และ นางสาวอารยา งามล้วน เจ้าหน้าที่สำนัก ตรวจสอบทรัพย์สินภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ 3 ในความผิดฐาน "เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด และมีข้าราชการตำรวจระดับสูงร่วมกันกระทำความผิดฐาน "สนับสนุนเจ้าพนักงานของรัฐกระทำความผิด” โดยกองบังคับการกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ได้ส่งเรื่องให้สำนักงานสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติรับเรื่องไว้ดำเนินการแล้วนั้น

    ความคืบหน้าเมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ (6 ธ.ค.) พ.ต.อ.กฤษณะพงศ์ กัญจน์ชัยกิจ รองผู้บังคับการกองร้องทุกข์ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ เตรียมเอกสารเดินทางไปที่ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จังหวัดนนทบุรี เพื่อยื่นหนังสือคัดค้านการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่และประสงค์ให้การเป็นพยานปากสำคัญในคดีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีต รอง ผบ.ตร.กับพวกถูกกล่าวหาเรื่องเรียกรับเงินจากส่วยร้านคาราโอเกะ ตั้งแต่ในสมัยดำรงค์ตำแหน่งเป็นผู้กำกับการกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) โดย พ.ต.อ.กฤษณะพงศ์ ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนเพื่อขอให้เปลี่ยนตัวจาก นายเอกวิทย์ วัชชวัลคุ ที่เป็นหัวหน้าคณะซึ่งมี นายสมบัติ ธรธรรม เป็นอนุกรรมการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/crime/detail/9670000117536

    #MGROnline #บิ๊กโจ๊ก #เก็บส่วย #คาราโอเกะ
    กฤษณะพงศ์ บุก ป.ป.ช.ขอเปลี่ยนตัวคณะทำงานคดี บิ๊กโจ๊กเก็บส่วยคาราโอเกะ เผยพร้อมเป็นพยานให้การด้วยตนเอง • จากกรณี พ.ต.ท.มนต์ชัย บุญเลิศ รองผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.สอท.) ได้ดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน กองบังคับการป้องกัน ปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ในสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ คือ นายสมบัติ ธรธรรม อดีตอนุกรรมการกลั่นกรองเรื่องกล่าวหา ประจำสำนักการไต่สวนทุจริตภาครัฐ 1 และ 2, นายจัตุรงค์ พานิชเจริญ เจ้าหน้าที่ไต่สวน สำนักไต่สวนการทุจริตภาครัฐวิสาหกิจ 2 และ นางสาวอารยา งามล้วน เจ้าหน้าที่สำนัก ตรวจสอบทรัพย์สินภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ 3 ในความผิดฐาน "เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด และมีข้าราชการตำรวจระดับสูงร่วมกันกระทำความผิดฐาน "สนับสนุนเจ้าพนักงานของรัฐกระทำความผิด” โดยกองบังคับการกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ได้ส่งเรื่องให้สำนักงานสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติรับเรื่องไว้ดำเนินการแล้วนั้น • ความคืบหน้าเมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ (6 ธ.ค.) พ.ต.อ.กฤษณะพงศ์ กัญจน์ชัยกิจ รองผู้บังคับการกองร้องทุกข์ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ เตรียมเอกสารเดินทางไปที่ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จังหวัดนนทบุรี เพื่อยื่นหนังสือคัดค้านการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่และประสงค์ให้การเป็นพยานปากสำคัญในคดีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีต รอง ผบ.ตร.กับพวกถูกกล่าวหาเรื่องเรียกรับเงินจากส่วยร้านคาราโอเกะ ตั้งแต่ในสมัยดำรงค์ตำแหน่งเป็นผู้กำกับการกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) โดย พ.ต.อ.กฤษณะพงศ์ ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนเพื่อขอให้เปลี่ยนตัวจาก นายเอกวิทย์ วัชชวัลคุ ที่เป็นหัวหน้าคณะซึ่งมี นายสมบัติ ธรธรรม เป็นอนุกรรมการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9670000117536 • #MGROnline #บิ๊กโจ๊ก #เก็บส่วย #คาราโอเกะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 344 มุมมอง 0 รีวิว
  • แม้ว่าความขัดแย้งกับเกาหลีเหนือจะอยู่ในขั้นวิกฤติอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แต่หากพิจารณาอย่างแท้จริง เกาหลีเหนือก็ยังไม่ใช่ "ภัยคุกคาม" ต่ออธิปไตยของเกาหลีใต้โดยตรง พฤติกรรมที่ผ่านมาของเกาหลีเหนือเป็นเพียงการยั่วยุรายวัน ซึ่งพวกเขาทำลักษณะนี้มานานแล้ว

    การเมืองในเกาหลีใต้เองต่างหากที่กำลังเข้าสู่ช่วงวิกฤติ เนื่องจากงบประมาณของรัฐบาลไม่ผ่าน คะแนนนิยมของตัวประธานาธิบดีตกต่ำ และกระแสข่าวพรรคฝ่ายค้านเตรียมยื่นเรื่องถอดถอนยุนออกจากตำแหน่ง

    การกระทำของ ปธน.ยุน เท่ากับเป็นการรัฐประหารตัวเอง โดยใช้อำนาจที่ตัวเองมี เพื่อรักษาอำนาจของตัวเองไว้ หลังจากนี้คงต้องรอดูว่าการเมืองเกาหลีใต้จะไปในทิศทางใด
    แม้ว่าความขัดแย้งกับเกาหลีเหนือจะอยู่ในขั้นวิกฤติอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แต่หากพิจารณาอย่างแท้จริง เกาหลีเหนือก็ยังไม่ใช่ "ภัยคุกคาม" ต่ออธิปไตยของเกาหลีใต้โดยตรง พฤติกรรมที่ผ่านมาของเกาหลีเหนือเป็นเพียงการยั่วยุรายวัน ซึ่งพวกเขาทำลักษณะนี้มานานแล้ว การเมืองในเกาหลีใต้เองต่างหากที่กำลังเข้าสู่ช่วงวิกฤติ เนื่องจากงบประมาณของรัฐบาลไม่ผ่าน คะแนนนิยมของตัวประธานาธิบดีตกต่ำ และกระแสข่าวพรรคฝ่ายค้านเตรียมยื่นเรื่องถอดถอนยุนออกจากตำแหน่ง การกระทำของ ปธน.ยุน เท่ากับเป็นการรัฐประหารตัวเอง โดยใช้อำนาจที่ตัวเองมี เพื่อรักษาอำนาจของตัวเองไว้ หลังจากนี้คงต้องรอดูว่าการเมืองเกาหลีใต้จะไปในทิศทางใด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 180 มุมมอง 0 รีวิว
  • ด่วนที่สุด! เกาหลีใต้ประกาศกฎอัยการศึก

    ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ยุน ซอก ยอล ประกาศกฎอัยการศึกจากการรัฐประหารตัวเอง โดยอ้างเหตุผลว่า พรรคฝ่ายค้านที่กุมอำนาจในรัฐสภาของประเทศแสดงออกอย่างเปิดเผยในการเห็นอกเห็นใจเกาหลีเหนือ และพยายามทำกิจกรรมต่อต้านรัฐ

    ประธานาธิบดีเกาหลีใต้อ้างถึงมติของพรรคประชาธิปไตยซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่มีเสียงข้างมากในรัฐสภา กำลังยื่นเรื่องเพื่อถอดถอนอัยการสูงสุดและไม่เห็นชอบเกี่ยวกับร่างกฎหมทายงบประมาณของรัฐบาล

    “เพื่อปกป้องเกาหลีใต้เสรีนิยมจากภัยคุกคามจากกองกำลังคอมมิวนิสต์ของเกาหลีเหนือ และเพื่อกำจัดกลุ่มต่อต้านรัฐ… ข้าพเจ้าขอประกาศกฎอัยการศึกฉุกเฉิน” ยูน กล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์

    ยังไม่มีความชัดเจนว่าการประกาศกฎอัยการศึกของยุนในครั้งนี้ จะส่งผลต่อการบริหารประเทศในระบอบประชาธิปไตยอย่างไร

    การกระทำของยุนมีกระแสต่อต้านทันทีจากนักการเมือง รวมถึงฮัน ดงฮุน หัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยมของเขาเอง ซึ่งกล่าวว่าการตัดสินใจครั้งนี้ “ผิดมหันต์” และสัญญาว่าจะหาทางยุติมัน

    ทางด้าน อี แจ-มยอง หัวหน้าฝ่ายค้าน ซึ่งแพ้ให้ยุนอย่างหวุดหวิดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2022 เรียกการประกาศของยุนว่า “ผิดกฎหมายและขัดต่อรัฐธรรมนูญ”
    ด่วนที่สุด! เกาหลีใต้ประกาศกฎอัยการศึก ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ยุน ซอก ยอล ประกาศกฎอัยการศึกจากการรัฐประหารตัวเอง โดยอ้างเหตุผลว่า พรรคฝ่ายค้านที่กุมอำนาจในรัฐสภาของประเทศแสดงออกอย่างเปิดเผยในการเห็นอกเห็นใจเกาหลีเหนือ และพยายามทำกิจกรรมต่อต้านรัฐ ประธานาธิบดีเกาหลีใต้อ้างถึงมติของพรรคประชาธิปไตยซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่มีเสียงข้างมากในรัฐสภา กำลังยื่นเรื่องเพื่อถอดถอนอัยการสูงสุดและไม่เห็นชอบเกี่ยวกับร่างกฎหมทายงบประมาณของรัฐบาล “เพื่อปกป้องเกาหลีใต้เสรีนิยมจากภัยคุกคามจากกองกำลังคอมมิวนิสต์ของเกาหลีเหนือ และเพื่อกำจัดกลุ่มต่อต้านรัฐ… ข้าพเจ้าขอประกาศกฎอัยการศึกฉุกเฉิน” ยูน กล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ ยังไม่มีความชัดเจนว่าการประกาศกฎอัยการศึกของยุนในครั้งนี้ จะส่งผลต่อการบริหารประเทศในระบอบประชาธิปไตยอย่างไร การกระทำของยุนมีกระแสต่อต้านทันทีจากนักการเมือง รวมถึงฮัน ดงฮุน หัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยมของเขาเอง ซึ่งกล่าวว่าการตัดสินใจครั้งนี้ “ผิดมหันต์” และสัญญาว่าจะหาทางยุติมัน ทางด้าน อี แจ-มยอง หัวหน้าฝ่ายค้าน ซึ่งแพ้ให้ยุนอย่างหวุดหวิดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2022 เรียกการประกาศของยุนว่า “ผิดกฎหมายและขัดต่อรัฐธรรมนูญ”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 214 มุมมอง 0 รีวิว
  • สนธิเล่าเรื่อง 27-11-67
    .
    วันนี้มีหลายประเด็นมาเล่าให้ฟังด้วยกันทั้งเรื่องที่จะไปยื่นเรื่องที่ทำเนียบรัฐบาลให้ชี้แจงMOU 2544 , ความคืบหน้าของคดีฉ้อโกงพี่อ้อย และความเป็นอยู่ของ "ทนายตั้ม" ษิทราในเรือนจำ รวมไปถึง "หมอบุญ" และ การจับกุม "จ๊อบ สามารถ" ในคดีกรรโชกทรัพย์บอส ดิ ไอคอนด้วย
    https://www.youtube.com/live/Kwv7EzOhgTI?si=gOQExpXN0nkSCZLO
    สนธิเล่าเรื่อง 27-11-67 . วันนี้มีหลายประเด็นมาเล่าให้ฟังด้วยกันทั้งเรื่องที่จะไปยื่นเรื่องที่ทำเนียบรัฐบาลให้ชี้แจงMOU 2544 , ความคืบหน้าของคดีฉ้อโกงพี่อ้อย และความเป็นอยู่ของ "ทนายตั้ม" ษิทราในเรือนจำ รวมไปถึง "หมอบุญ" และ การจับกุม "จ๊อบ สามารถ" ในคดีกรรโชกทรัพย์บอส ดิ ไอคอนด้วย https://www.youtube.com/live/Kwv7EzOhgTI?si=gOQExpXN0nkSCZLO
    Like
    Love
    Haha
    35
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 4114 มุมมอง 1 รีวิว
  • สนธิเล่าเรื่อง 27-11-67
    .
    วันนี้คุณสนธิมีหลายประเด็นมาเล่าให้ฟังด้วยกัน ทั้งเรื่องที่จะไปยื่นเรื่องที่ทำเนียบรัฐบาลให้ชี้แจงเอ็มโอยูไทย-กัมพูชา 2544 ซึ่งสร้างความปั่นป่วนให้กับ คนในทำเนียบรัฐบาลมากไม่ว่าจะเป็น "อ้วน" ภูมิธรรม รองนายกฯ, "หนู" อนุทิน, "เต้น" ณัฐวุฒิ, ความคืบหน้าของคดีฉ้อโกงพี่อ้อย และความเป็นอยู่ของ "ทนายตั้ม" ษิทราในเรือนจำ รวมไปถึง "หมอบุญ" และ การจับกุม "จ๊อบ สามารถ" ในคดีกรรโชกทรัพย์บอส ดิ ไอคอนด้วย
    .
    คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=Kwv7EzOhgTI
    สนธิเล่าเรื่อง 27-11-67 . วันนี้คุณสนธิมีหลายประเด็นมาเล่าให้ฟังด้วยกัน ทั้งเรื่องที่จะไปยื่นเรื่องที่ทำเนียบรัฐบาลให้ชี้แจงเอ็มโอยูไทย-กัมพูชา 2544 ซึ่งสร้างความปั่นป่วนให้กับ คนในทำเนียบรัฐบาลมากไม่ว่าจะเป็น "อ้วน" ภูมิธรรม รองนายกฯ, "หนู" อนุทิน, "เต้น" ณัฐวุฒิ, ความคืบหน้าของคดีฉ้อโกงพี่อ้อย และความเป็นอยู่ของ "ทนายตั้ม" ษิทราในเรือนจำ รวมไปถึง "หมอบุญ" และ การจับกุม "จ๊อบ สามารถ" ในคดีกรรโชกทรัพย์บอส ดิ ไอคอนด้วย . คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=Kwv7EzOhgTI
    Like
    Love
    5
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 578 มุมมอง 0 รีวิว
  • สมคิดเผยรัฐบาลยินดี สนธิ ยื่นเรื่อง MOU44 (26/11/67) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #ไม่กลัวสนธิ ลิ้มทองกุล #ยื่นเรื่อง MOU44
    สมคิดเผยรัฐบาลยินดี สนธิ ยื่นเรื่อง MOU44 (26/11/67) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #ไม่กลัวสนธิ ลิ้มทองกุล #ยื่นเรื่อง MOU44
    Like
    Love
    Haha
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1173 มุมมอง 91 0 รีวิว
  • “สนธิ-ปานเทพ” ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อสภาทนายความ.วันนี้ (21 พ.ย.) เวลา 13.00น. คุณสนธิ ลิ้มทองกุล และ อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อสภาทนายความ โดยมี นายสุชาติ ชมกุล อุปนายกฝ่ายกิจการพิเศษ สภาทนายความ.จากนั้นจึงเข้าหารือกับ นายคณิต วัลยะเพ็ชร์ ประธานกรรมการมรรยาททนายความ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลประมาณ 20 นาที.#คุยทุกเรื่องกับสนธิ #ทนายตั้ม #สภาทนายความ #ทนายตั้มษิทรา #sondhitalk
    “สนธิ-ปานเทพ” ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อสภาทนายความ.วันนี้ (21 พ.ย.) เวลา 13.00น. คุณสนธิ ลิ้มทองกุล และ อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อสภาทนายความ โดยมี นายสุชาติ ชมกุล อุปนายกฝ่ายกิจการพิเศษ สภาทนายความ.จากนั้นจึงเข้าหารือกับ นายคณิต วัลยะเพ็ชร์ ประธานกรรมการมรรยาททนายความ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลประมาณ 20 นาที.#คุยทุกเรื่องกับสนธิ #ทนายตั้ม #สภาทนายความ #ทนายตั้มษิทรา #sondhitalk
    Like
    Love
    Yay
    12
    3 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 731 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักร้องยื่นเรื่องไม่เคลียร์ กกต.ข้องใจกลัวโดนฟ้อง ทนายตั้ม ยังไม่หลุดบัญชี ส.ว.
    .
    หลังจากที่มีสรพัดเรื่องร้องเรียนเข้ามายังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.เป็นจำนวนมาก เวลานี้เริ่มมีเสียงท้วงติงจากกกต.แล้วข้อร้องเรียนหลายเรื่องขาดความชัดเจนที่ไม่อาจนำไปสู่การพิจารณาได้
    .
    นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. เปิดเผยว่า เมื่อมีการร้องเข้ามา กกต.ก็จะต้องนำมาพิจารณาดูก่อน ไม่ว่าจะเป็นคำร้องของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมาร้องความผิดตามกฎหมายพรรคการเมือง กฎหมายเลือกตั้ง ซึ่งมีการยื่นคำร้องเข้ามาเป็นจำนวนมาก ยอมรับว่า กกต.อยากให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบมากขึ้น แต่หากจะยื่นเรื่องร้องเรียนขอให้มีข้อมูลให้มากกว่านี้ ไม่ใช่เป็นการมาตั้งคำถาม
    .
    "ส่วนมากทุกเรื่องจะยื่นมาในลักษณะตั้งคำถามในลักษณะผิดหรือไม่ เข้าใจว่าอาจจะเป็นการหลบหลีกในเรื่องของการถูกฟ้องร้องหรือไม่ แต่สำนักงาน กกต.ก็ไม่เคยทิ้ง แต่ต้องใช้ความเข้มงวดมากขึ้น ในอดีตให้โอกาสเพราะเป็นหน้าที่ของ กกต. การจะรับคำร้องก็ต้องดูที่ข้อเท็จจริง ส่วนรูปแบบการร้องหรือสาระสำคัญในการยื่นคำร้อง ขอให้ผู้ร้องได้คำนึงถึงข้อเท็จจริงและผิดกฎหมายมาตราใด ไม่ใช่มาถามว่าผิดหรือไม่"
    .
    ขณะเดียวกัน นายแสวง ระบุว่า กรณีที่กกต.จังหวัดสมุทรสาคร เข้าไปสอบปากคำ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ในเรือนจำ ซึ่งถูกร้องเรียนว่าขาดคุณสมบัติในการสมัครสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เนื่องจากทำงานภาคประชาสังคมไม่ถึง 10 ปี นั้น เป็นขั้นตอนตามกระบวนการ กล่าวคือ เมื่อมีคนร้องว่ามีลักษณะต้องห้ามของการเป็น ส.ว. จึงต้องไปสอบตามคำร้อง ซึ่งเท่าที่ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น ถือว่านายษิทรายังมีคุณสมบัติการเป็น ส.ว.ตามกฎหมาย สามารถอยู่ในบัญชีสำรองได้จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา ไม่ว่าจะชั้นไหน
    ..............
    Sondhi X
    นักร้องยื่นเรื่องไม่เคลียร์ กกต.ข้องใจกลัวโดนฟ้อง ทนายตั้ม ยังไม่หลุดบัญชี ส.ว. . หลังจากที่มีสรพัดเรื่องร้องเรียนเข้ามายังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.เป็นจำนวนมาก เวลานี้เริ่มมีเสียงท้วงติงจากกกต.แล้วข้อร้องเรียนหลายเรื่องขาดความชัดเจนที่ไม่อาจนำไปสู่การพิจารณาได้ . นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. เปิดเผยว่า เมื่อมีการร้องเข้ามา กกต.ก็จะต้องนำมาพิจารณาดูก่อน ไม่ว่าจะเป็นคำร้องของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมาร้องความผิดตามกฎหมายพรรคการเมือง กฎหมายเลือกตั้ง ซึ่งมีการยื่นคำร้องเข้ามาเป็นจำนวนมาก ยอมรับว่า กกต.อยากให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบมากขึ้น แต่หากจะยื่นเรื่องร้องเรียนขอให้มีข้อมูลให้มากกว่านี้ ไม่ใช่เป็นการมาตั้งคำถาม . "ส่วนมากทุกเรื่องจะยื่นมาในลักษณะตั้งคำถามในลักษณะผิดหรือไม่ เข้าใจว่าอาจจะเป็นการหลบหลีกในเรื่องของการถูกฟ้องร้องหรือไม่ แต่สำนักงาน กกต.ก็ไม่เคยทิ้ง แต่ต้องใช้ความเข้มงวดมากขึ้น ในอดีตให้โอกาสเพราะเป็นหน้าที่ของ กกต. การจะรับคำร้องก็ต้องดูที่ข้อเท็จจริง ส่วนรูปแบบการร้องหรือสาระสำคัญในการยื่นคำร้อง ขอให้ผู้ร้องได้คำนึงถึงข้อเท็จจริงและผิดกฎหมายมาตราใด ไม่ใช่มาถามว่าผิดหรือไม่" . ขณะเดียวกัน นายแสวง ระบุว่า กรณีที่กกต.จังหวัดสมุทรสาคร เข้าไปสอบปากคำ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ในเรือนจำ ซึ่งถูกร้องเรียนว่าขาดคุณสมบัติในการสมัครสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เนื่องจากทำงานภาคประชาสังคมไม่ถึง 10 ปี นั้น เป็นขั้นตอนตามกระบวนการ กล่าวคือ เมื่อมีคนร้องว่ามีลักษณะต้องห้ามของการเป็น ส.ว. จึงต้องไปสอบตามคำร้อง ซึ่งเท่าที่ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น ถือว่านายษิทรายังมีคุณสมบัติการเป็น ส.ว.ตามกฎหมาย สามารถอยู่ในบัญชีสำรองได้จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา ไม่ว่าจะชั้นไหน .............. Sondhi X
    Haha
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1045 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ทนายจุ๊กกรู้" ที่ผมก็ไม่อยากรู้จักด้วย
    .
    เมื่อวันจันทร์ที่ 4พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทนายเดชาออกรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7 กับคุณอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ในรายการ ทนายเดชากล่าวพาดพิงตอบโต้คณะกรรมการสภาทนายความ กรณีจะจัดการทนายโซเชียลที่เดินสายออกทีวี เนื่องจากได้ละเมิดต่อข้อบังคับของสภาทนายความว่าด้วยมรรยาททนายความ จนส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงองค์กรและสมาชิกทนายความส่วนใหญ่
    .
    นายเดชาอ้างว่าสภาทนายความไม่ได้มีอำนาจพิพากษาทนายทำผิด ถือเป็นการกระทำเกินบทบาท เพราะสภาทนายความเป็นสภาวิชาชีพ แต่คนที่เป็นนายก และอุปนายก มาจากการเลือกตั้ง สามปีก็ไปแล้ว เป็นผู้ประกอบวิชาชีพ ไม่ใช่อยู่ดีๆ จะทำตัวเป็นศาล จะจัดระเบียบทนายโซเชียล จะไปเอากฎหมายอะไรมาจัดการได้
    .
    อย่างที่ผมกล่าวไปแล้วในรายการวันศุกร์ที่แล้วว่าผมจะยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการสภาทนายความชุดปัจจุบันให้ถอดถอนตั๋วทนายหรือใบอนุญาตเป็นทนายความของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เสีย เนื่องจากมีการกระทำผิดกฎหมายและละเมิดมรรยาททนายความอย่างร้ายแรงในหลายประเด็นด้วยกัน
    .
    แม้ผมจะไม่ใช่นักกฎหมาย ไม่ใช่ทนาย แต่ผมระแคะระคายว่าทนายตั้ม ษิทรา เคยถูกร้องเรียนเรื่องราวต่อสภาทนายความมาแล้วเยอะแยะเลย รวมถึงคุณเดชาเองก็เคยร้องเรียนทนายตั้มเสียด้วยซ้ำ ตัวเองเคยร้องเรียนเอง แต่พอไกล่เกลี่ย เกี้ยเซียะกัน จะเกี้ยเซียะกันด้วยอะไร ผมไม่รู้ ทนายเดชาก็ถอนเรื่องไป แต่เรื่องก็ยังคาอยู่ที่การพิจารณาของคณะกรรมการมรรยาทฯ แม้คุณจะถอนเรื่องออกไปแล้วก็ตาม
    .
    จริงๆ วิธีการวางหมากของทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด ในการจัดการเรื่องราวร้องเรียนต่อสภาทนายความที่มาถึงตนเองเป็นสิบเรื่องนั้น ไม่ได้แตกต่างกว่าวิธีของนายของทนายตั้ม คือ สุรเชชษฐ์ หักพาล ใช้เพื่อจัดการเรื่องราวร้องเรียนของตัวเองที่ถูกส่งไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เหมือนกัน โดยสุรเชชษฐ์ ใช้วิธีวางคนของตัวเองไว้ใน ป.ป.ช. ตั้งแต่ระดับกรรมการ ป.ป.ช. เรื่อยไปจนถึงเจ้าหน้าที่ระดับต่างๆ ของ ป.ป.ช. ยกตัวอย่างเช่น นายสมบัติ ธรธรรม แต่กรณีทนายตั้ม ษิทรา นั้น อาจจะเรียกได้ว่าหนักหนากว่า เพราะไม่ได้วางคนทั่วไป แต่วางญาติตัวเองไว้ในคณะกรรมการมรรยาทสภาทนายความชุดเก่าเลยทีเดียว ผมไม่อยากจะเอ่ยชื่อ ชื่อย่อก็ไม่อยากจะเอ่ย
    .
    ทนายเดชาและคุณษิทรา เรื่องของพวกคุณกับแก๊งทนายหิวแสงนั้น ยังมีอีกเยอะ แค่ข้อมูลของคุณษิทราที่มีคน inbox ส่งเรื่องเข้ามาให้ผมได้รับรู้ รับทราบ และคัดกรองนั้นคุณเดชา คุณษิทรา รู้ไหม มากมายมหาศาล วันๆ พวกผมไม่ต้องทำงานอื่นแล้ว เพราะเรื่องฉาวๆ ของแก๊งพวกคุณมันเยอะจริงๆ ผมนึกไม่ถึงว่าจะมีเรื่องราวที่เลวทรามต่ำช้าแบบนี้เกิดขึ้นในสังคมไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกิดขึ้นกับแวดวงทนาย ที่ผมบอกแล้วว่าเอาโจรมาเป็นทนาย
    .
    ทนายเดชา คุณใจเย็นๆ ผมจะค่อยๆ ทยอยเอามานำเสนอทีละเรื่องๆ คุณคอยฝึกร้องจุ๊กกรู้ๆ เหมือนที่คุณชอบร้องเวลาไลฟ์สดอยู่ประจำก็แล้วกัน เวลามีเรื่องจริงๆ กรุณาอย่าหายหน้าหายตาหลบไปเหมือนทนายษิทราเลยนะครับ

    ที่มา คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    https://www.facebook.com/share/p/18cR1aRJcH/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    "ทนายจุ๊กกรู้" ที่ผมก็ไม่อยากรู้จักด้วย . เมื่อวันจันทร์ที่ 4พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทนายเดชาออกรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7 กับคุณอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ในรายการ ทนายเดชากล่าวพาดพิงตอบโต้คณะกรรมการสภาทนายความ กรณีจะจัดการทนายโซเชียลที่เดินสายออกทีวี เนื่องจากได้ละเมิดต่อข้อบังคับของสภาทนายความว่าด้วยมรรยาททนายความ จนส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงองค์กรและสมาชิกทนายความส่วนใหญ่ . นายเดชาอ้างว่าสภาทนายความไม่ได้มีอำนาจพิพากษาทนายทำผิด ถือเป็นการกระทำเกินบทบาท เพราะสภาทนายความเป็นสภาวิชาชีพ แต่คนที่เป็นนายก และอุปนายก มาจากการเลือกตั้ง สามปีก็ไปแล้ว เป็นผู้ประกอบวิชาชีพ ไม่ใช่อยู่ดีๆ จะทำตัวเป็นศาล จะจัดระเบียบทนายโซเชียล จะไปเอากฎหมายอะไรมาจัดการได้ . อย่างที่ผมกล่าวไปแล้วในรายการวันศุกร์ที่แล้วว่าผมจะยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการสภาทนายความชุดปัจจุบันให้ถอดถอนตั๋วทนายหรือใบอนุญาตเป็นทนายความของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เสีย เนื่องจากมีการกระทำผิดกฎหมายและละเมิดมรรยาททนายความอย่างร้ายแรงในหลายประเด็นด้วยกัน . แม้ผมจะไม่ใช่นักกฎหมาย ไม่ใช่ทนาย แต่ผมระแคะระคายว่าทนายตั้ม ษิทรา เคยถูกร้องเรียนเรื่องราวต่อสภาทนายความมาแล้วเยอะแยะเลย รวมถึงคุณเดชาเองก็เคยร้องเรียนทนายตั้มเสียด้วยซ้ำ ตัวเองเคยร้องเรียนเอง แต่พอไกล่เกลี่ย เกี้ยเซียะกัน จะเกี้ยเซียะกันด้วยอะไร ผมไม่รู้ ทนายเดชาก็ถอนเรื่องไป แต่เรื่องก็ยังคาอยู่ที่การพิจารณาของคณะกรรมการมรรยาทฯ แม้คุณจะถอนเรื่องออกไปแล้วก็ตาม . จริงๆ วิธีการวางหมากของทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด ในการจัดการเรื่องราวร้องเรียนต่อสภาทนายความที่มาถึงตนเองเป็นสิบเรื่องนั้น ไม่ได้แตกต่างกว่าวิธีของนายของทนายตั้ม คือ สุรเชชษฐ์ หักพาล ใช้เพื่อจัดการเรื่องราวร้องเรียนของตัวเองที่ถูกส่งไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เหมือนกัน โดยสุรเชชษฐ์ ใช้วิธีวางคนของตัวเองไว้ใน ป.ป.ช. ตั้งแต่ระดับกรรมการ ป.ป.ช. เรื่อยไปจนถึงเจ้าหน้าที่ระดับต่างๆ ของ ป.ป.ช. ยกตัวอย่างเช่น นายสมบัติ ธรธรรม แต่กรณีทนายตั้ม ษิทรา นั้น อาจจะเรียกได้ว่าหนักหนากว่า เพราะไม่ได้วางคนทั่วไป แต่วางญาติตัวเองไว้ในคณะกรรมการมรรยาทสภาทนายความชุดเก่าเลยทีเดียว ผมไม่อยากจะเอ่ยชื่อ ชื่อย่อก็ไม่อยากจะเอ่ย . ทนายเดชาและคุณษิทรา เรื่องของพวกคุณกับแก๊งทนายหิวแสงนั้น ยังมีอีกเยอะ แค่ข้อมูลของคุณษิทราที่มีคน inbox ส่งเรื่องเข้ามาให้ผมได้รับรู้ รับทราบ และคัดกรองนั้นคุณเดชา คุณษิทรา รู้ไหม มากมายมหาศาล วันๆ พวกผมไม่ต้องทำงานอื่นแล้ว เพราะเรื่องฉาวๆ ของแก๊งพวกคุณมันเยอะจริงๆ ผมนึกไม่ถึงว่าจะมีเรื่องราวที่เลวทรามต่ำช้าแบบนี้เกิดขึ้นในสังคมไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกิดขึ้นกับแวดวงทนาย ที่ผมบอกแล้วว่าเอาโจรมาเป็นทนาย . ทนายเดชา คุณใจเย็นๆ ผมจะค่อยๆ ทยอยเอามานำเสนอทีละเรื่องๆ คุณคอยฝึกร้องจุ๊กกรู้ๆ เหมือนที่คุณชอบร้องเวลาไลฟ์สดอยู่ประจำก็แล้วกัน เวลามีเรื่องจริงๆ กรุณาอย่าหายหน้าหายตาหลบไปเหมือนทนายษิทราเลยนะครับ ที่มา คุยทุกเรื่องกับสนธิ https://www.facebook.com/share/p/18cR1aRJcH/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    Like
    5
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 996 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ทนายจุ๊กกรู้" ที่ผมก็ไม่อยากรู้จักด้วย
    .
    เมื่อวันจันทร์ที่่4พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทนายเดชาออกรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7 กับคุณอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ในรายการ "ถกไม่เถียง" ทนายเดชากล่าวพาดพิงตอบโต้คณะกรรมการสภาทนายความ กรณีจะจัดการทนายโซเชียลที่เดินสายออกทีวี เนื่องจากได้ละเมิดต่อข้อบังคับของสภาทนายความว่าด้วยมรรยาททนายความ จนส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงองค์กรและสมาชิกทนายความส่วนใหญ่
    .
    นายเดชาอ้างว่าสภาทนายความไม่ได้มีอำนาจพิพากษาทนายทำผิด ถือเป็นการกระทำเกินบทบาท เพราะสภาทนายความเป็นสภาวิชาชีพ แต่คนที่เป็นนายก และอุปนายก มาจากการเลือกตั้ง สามปีก็ไปแล้ว เป็นผู้ประกอบวิชาชีพ ไม่ใช่อยู่ดีๆ จะทำตัวเป็นศาล จะจัดระเบียบทนายโซเชียล จะไปเอากฎหมายอะไรมาจัดการได้
    .
    อย่างที่ผมกล่าวไปแล้วในรายการวันศุกร์ที่แล้วว่าผมจะยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการสภาทนายความชุดปัจจุบันให้ถอดถอนตั๋วทนายหรือใบอนุญาตเป็นทนายความของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เสีย เนื่องจากมีการกระทำผิดกฎหมายและละเมิดมรรยาททนายความอย่างร้ายแรงในหลายประเด็นด้วยกัน
    .
    แม้ผมจะไม่ใช่นักกฎหมาย ไม่ใช่ทนาย แต่ผมระแคะระคายว่าทนายตั้ม ษิทรา เคยถูกร้องเรียนเรื่องราวต่อสภาทนายความมาแล้วเยอะแยะเลย รวมถึงคุณเดชาเองก็เคยร้องเรียนทนายตั้มเสียด้วยซ้ำ ตัวเองเคยร้องเรียนเอง แต่พอไกล่เกลี่ย เกี้ยเซียะกัน จะเกี้ยเซียะกันด้วยอะไร ผมไม่รู้ ทนายเดชาก็ถอนเรื่องไป แต่เรื่องก็ยังคาอยู่ที่การพิจารณาของคณะกรรมการมรรยาทฯ แม้คุณจะถอนเรื่องออกไปแล้วก็ตาม
    .
    จริงๆ วิธีการวางหมากของทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด ในการจัดการเรื่องราวร้องเรียนต่อสภาทนายความที่มาถึงตนเองเป็นสิบเรื่องนั้น ไม่ได้แตกต่างกว่าวิธีของนายของทนายตั้ม คือ สุรเชชษฐ์ หักพาล ใช้เพื่อจัดการเรื่องราวร้องเรียนของตัวเองที่ถูกส่งไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เหมือนกัน โดยสุรเชชษฐ์ ใช้วิธีวางคนของตัวเองไว้ใน ป.ป.ช. ตั้งแต่ระดับกรรมการ ป.ป.ช. เรื่อยไปจนถึงเจ้าหน้าที่ระดับต่างๆ ของ ป.ป.ช. ยกตัวอย่างเช่น นายสมบัติ ธรธรรม แต่กรณีทนายตั้ม ษิทรา นั้น อาจจะเรียกได้ว่าหนักหนากว่า เพราะไม่ได้วางคนทั่วไป แต่วางญาติตัวเองไว้ในคณะกรรมการมรรยาทสภาทนายความชุดเก่าเลยทีเดียว ผมไม่อยากจะเอ่ยชื่อ ชื่อย่อก็ไม่อยากจะเอ่ย
    .
    ทนายเดชาและคุณษิทรา เรื่องของพวกคุณกับแก๊งทนายหิวแสงนั้น ยังมีอีกเยอะ แค่ข้อมูลของคุณษิทราที่มีคน inbox ส่งเรื่องเข้ามาให้ผมได้รับรู้ รับทราบ และคัดกรองนั้นคุณเดชา คุณษิทรา รู้ไหม มากมายมหาศาล วันๆ พวกผมไม่ต้องทำงานอื่นแล้ว เพราะเรื่องฉาวๆ ของแก๊งพวกคุณมันเยอะจริงๆ ผมนึกไม่ถึงว่าจะมีเรื่องราวที่เลวทรามต่ำช้าแบบนี้เกิดขึ้นในสังคมไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกิดขึ้นกับแวดวงทนาย ที่ผมบอกแล้วว่าเอาโจรมาเป็นทนาย
    .
    ทนายเดชา คุณใจเย็นๆ ผมจะค่อยๆ ทยอยเอามานำเสนอทีละเรื่องๆ คุณคอยฝึกร้องจุ๊กกรู้ๆ เหมือนที่คุณชอบร้องเวลาไลฟ์สดอยู่ประจำก็แล้วกัน เวลามีเรื่องจริงๆ กรุณาอย่าหายหน้าหายตาหลบไปเหมือนทนายษิทราเลยนะครับ
    "ทนายจุ๊กกรู้" ที่ผมก็ไม่อยากรู้จักด้วย . เมื่อวันจันทร์ที่่4พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทนายเดชาออกรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7 กับคุณอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ในรายการ "ถกไม่เถียง" ทนายเดชากล่าวพาดพิงตอบโต้คณะกรรมการสภาทนายความ กรณีจะจัดการทนายโซเชียลที่เดินสายออกทีวี เนื่องจากได้ละเมิดต่อข้อบังคับของสภาทนายความว่าด้วยมรรยาททนายความ จนส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงองค์กรและสมาชิกทนายความส่วนใหญ่ . นายเดชาอ้างว่าสภาทนายความไม่ได้มีอำนาจพิพากษาทนายทำผิด ถือเป็นการกระทำเกินบทบาท เพราะสภาทนายความเป็นสภาวิชาชีพ แต่คนที่เป็นนายก และอุปนายก มาจากการเลือกตั้ง สามปีก็ไปแล้ว เป็นผู้ประกอบวิชาชีพ ไม่ใช่อยู่ดีๆ จะทำตัวเป็นศาล จะจัดระเบียบทนายโซเชียล จะไปเอากฎหมายอะไรมาจัดการได้ . อย่างที่ผมกล่าวไปแล้วในรายการวันศุกร์ที่แล้วว่าผมจะยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการสภาทนายความชุดปัจจุบันให้ถอดถอนตั๋วทนายหรือใบอนุญาตเป็นทนายความของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เสีย เนื่องจากมีการกระทำผิดกฎหมายและละเมิดมรรยาททนายความอย่างร้ายแรงในหลายประเด็นด้วยกัน . แม้ผมจะไม่ใช่นักกฎหมาย ไม่ใช่ทนาย แต่ผมระแคะระคายว่าทนายตั้ม ษิทรา เคยถูกร้องเรียนเรื่องราวต่อสภาทนายความมาแล้วเยอะแยะเลย รวมถึงคุณเดชาเองก็เคยร้องเรียนทนายตั้มเสียด้วยซ้ำ ตัวเองเคยร้องเรียนเอง แต่พอไกล่เกลี่ย เกี้ยเซียะกัน จะเกี้ยเซียะกันด้วยอะไร ผมไม่รู้ ทนายเดชาก็ถอนเรื่องไป แต่เรื่องก็ยังคาอยู่ที่การพิจารณาของคณะกรรมการมรรยาทฯ แม้คุณจะถอนเรื่องออกไปแล้วก็ตาม . จริงๆ วิธีการวางหมากของทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด ในการจัดการเรื่องราวร้องเรียนต่อสภาทนายความที่มาถึงตนเองเป็นสิบเรื่องนั้น ไม่ได้แตกต่างกว่าวิธีของนายของทนายตั้ม คือ สุรเชชษฐ์ หักพาล ใช้เพื่อจัดการเรื่องราวร้องเรียนของตัวเองที่ถูกส่งไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เหมือนกัน โดยสุรเชชษฐ์ ใช้วิธีวางคนของตัวเองไว้ใน ป.ป.ช. ตั้งแต่ระดับกรรมการ ป.ป.ช. เรื่อยไปจนถึงเจ้าหน้าที่ระดับต่างๆ ของ ป.ป.ช. ยกตัวอย่างเช่น นายสมบัติ ธรธรรม แต่กรณีทนายตั้ม ษิทรา นั้น อาจจะเรียกได้ว่าหนักหนากว่า เพราะไม่ได้วางคนทั่วไป แต่วางญาติตัวเองไว้ในคณะกรรมการมรรยาทสภาทนายความชุดเก่าเลยทีเดียว ผมไม่อยากจะเอ่ยชื่อ ชื่อย่อก็ไม่อยากจะเอ่ย . ทนายเดชาและคุณษิทรา เรื่องของพวกคุณกับแก๊งทนายหิวแสงนั้น ยังมีอีกเยอะ แค่ข้อมูลของคุณษิทราที่มีคน inbox ส่งเรื่องเข้ามาให้ผมได้รับรู้ รับทราบ และคัดกรองนั้นคุณเดชา คุณษิทรา รู้ไหม มากมายมหาศาล วันๆ พวกผมไม่ต้องทำงานอื่นแล้ว เพราะเรื่องฉาวๆ ของแก๊งพวกคุณมันเยอะจริงๆ ผมนึกไม่ถึงว่าจะมีเรื่องราวที่เลวทรามต่ำช้าแบบนี้เกิดขึ้นในสังคมไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกิดขึ้นกับแวดวงทนาย ที่ผมบอกแล้วว่าเอาโจรมาเป็นทนาย . ทนายเดชา คุณใจเย็นๆ ผมจะค่อยๆ ทยอยเอามานำเสนอทีละเรื่องๆ คุณคอยฝึกร้องจุ๊กกรู้ๆ เหมือนที่คุณชอบร้องเวลาไลฟ์สดอยู่ประจำก็แล้วกัน เวลามีเรื่องจริงๆ กรุณาอย่าหายหน้าหายตาหลบไปเหมือนทนายษิทราเลยนะครับ
    Like
    13
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1030 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดเอกสารสัญญา-หลักฐานถึงพี่เมียทนายตั้ม
    .
    วันนี้ผมเปิดเผยเอกสารชิ้นหนึ่งที่หลายๆ คนเฝ้ารอ และยังไม่มีใครเปิดเผยมาก่อน เอกสารชิ้นนี้คือสัญญาและหลักฐานสำคัญในการจ้างที่ปรึกษาดูแลผลประโยชน์ทางธุรกิจ ระหว่างคุณจตุพร อุบลเลิศ กับบริษัท ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม อ้างอิงอยู่ในใบบันทึกคำให้การผู้กล่าวหา หรือใบแจ้งความของคุณจตุพร อุบลเลิศ เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2567
    .
    สิ่งที่น่าสนใจของสัญญาฉบับนี้ สัญญาฉบับนี้มีระยะเวลา 1 ปีตั้งแต่เมษายน 2565 มีการจ่ายเงินค่าจ้างเดือนละ 3 แสนบาท และจ่ายเงินค่าจ้างงวดสุดท้ายเมื่อเดือนมีนาคม 2566 ทำจดหมายยกเลิกสัญญาจ้างอย่างเป็นทางการ เนื่องจากสำนักทนายความของทนายตั้มไม่ได้ทำอะไรสมกับค่าจ้างที่ได้รับไปและยังขนครอบครัวไปต่างประเทศแทบทุกเดือน ไปพักโรงแรมหรูๆ แล้วให้เขารับผิดชอบค่าใช้จ่าย
    .
    แต่ประเด็นที่น่าสนใจมากคือ หลักฐานการเงินระบุชัดเจนว่าฝั่งพี่อ้อยไม่เคยโอนเงินเข้าบริษัท ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม แต่ษิทราระบุว่าให้โอนเข้าบัญชีของบุคคลที่ชื่อ ปิณฑิรา การิวัลย์ โดยตลอด มีเพจ CSILA ที่ไม่กี่วันมานี้ ออกมาตั้งคำถามว่า "อยากให้ตำรวจและนักข่าวตรวจสอบพี่สาวเมียทนายตั้ม น.ส.ปิณฑิรา การิวัลย์ ซึ่งมีอาชีพคือคนใช้กับเลี้ยงลูกตั้ม แต่เงินในบัญชีเยอะมาก ถ้าตรวจสอบเส้นเงินได้ก็เกมส์"
    .
    เมื่อเราไปเปิดดูงบการเงินบริษัท ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม ตั้งอยู่ที่อาคารเอ็มไพร์ทาวเวอร์ ถนนสาทร แจ้งงบการเงิน 5 ปีย้อนหลัง มีรายได้รวมประมาณ 37 ล้านบาท มีรายได้ดีอยู่ปีเดียว คือปี 2565 ซึ่งมีรายได้รวม 21.9 ล้านบาท ก่อนหน้านั้นรายได้อยู่ในระดับประมาณ 2 ล้านบาทและขาดทุนมากกว่า
    .
    หลายคนถามว่า คุณษิทราเอาเงินที่ไหนไปซื้อบ้านราคาหลายสิบล้าน มีรถหรูอีกหลายคัน นาฬิกาหรู เสื้อแบรนด์เนมอีกเพียบ ส่วนที่ไปเที่ยวเมืองนอกบ่อยๆ คุณรู้แล้วใช่ไหมว่าคุณใช้เงินของพี่อ้อยนั่นเอง
    .
    ผมเอารูปรถให้ดูนะครับ Porsche Cayenne ที่ทนายตั้มขับมาที่กองปราบ วันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน 2567 รถหรูราคาแพงที่นายษิทราใช้อยู่นั้น ซื้อด้วยเงินสด แต่ไม่มีชื่อนายษิทราเป็นเจ้าของเลยแม้แต่คันเดียว อนุมานได้ไหมครับคุณษิทรา ว่าคุณกำลังซ่อนเร้นเรื่องเงินก้อนนี้อยู่ โดยที่ให้คนอื่นมาเป็นเจ้าของรถแทนคุณ มันเป็นวิธีการง่ายๆ ของคนที่ชอบฟอกเงินในอดีต
    .
    ด้วยเหตุนี้ มีผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีจึงชี้ให้เห็นว่า การกระทำของทนายตั้มในการรับค่าจ้างที่ปรึกษาพี่อ้อย แต่กลับโอนเงินเข้าคนอื่น ในทางภาษี ในทางกฎหมาย มันเข้าข่ายเลี่ยงภาษีอย่างชัดเจน
    .
    เรื่องนี้เป็นเหตุบังเอิญอย่างร้ายกาจ เรื่องราวที่คุณชูวิทย์เล่าเมื่อปีที่แล้ว มันช่างคล้ายๆ กับทนายแบรนด์เนมคนหนึ่งซึ่งผมไม่รู้ว่าเป็นใคร จะใช่ทนายตั้ม ษิทรา สำนักกฎหมายษิทรา ลอว์เฟิร์ม กับพี่สาวภรรยาที่ขึ้นต้นด้วย ป. ที่ชื่อ ปิณฑิรา การิวัลย์ หรือไม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ กรุณาช่วยสืบค้นข้อเท็จจริงเรื่องนี้ให้ผมหน่อย
    .
    และผมอยากให้กรมสรรพากร ซึ่งผมจะไปยื่นเรื่องร้องเรียนอย่างเป็นทางการว่าคุณปิณฑิราได้รับเงินมาจากแหล่งที่มาที่ไม่ทราบ เป็นประจำเดือน มีหลักฐานเงินโอนเข้าบัญชีให้ เดือนละ 3 แสนบาท ปีหนึ่งเป็นเงิน 3 ล้าน 6 แสนบาท ผมใคร่จะถามด้วยความเคารพว่า ผู้รับเงินรายได้นี้ ได้เสียภาษีเงินได้หรือเปล่า ถ้าไม่ได้เสียเลยเป็นเวลา 12 เดือน ควรจะต้องถูกเสียภาษีย้อนหลังประมาณเท่าไร และจะต้องถูกเบี้ยปรับอีกเท่าไร ถ้าตอบผมได้ก็จะเป็นพระคุณยิ่ง อันนี้เข้าข่ายในการฟอกเงินหรือเปล่า ขึ้นอยู่กับผู้เกี่ยวข้องที่ดูแลกฎหมายอยู่จะต้องเป็นคนตัดสินใจครับ
    เปิดเอกสารสัญญา-หลักฐานถึงพี่เมียทนายตั้ม . วันนี้ผมเปิดเผยเอกสารชิ้นหนึ่งที่หลายๆ คนเฝ้ารอ และยังไม่มีใครเปิดเผยมาก่อน เอกสารชิ้นนี้คือสัญญาและหลักฐานสำคัญในการจ้างที่ปรึกษาดูแลผลประโยชน์ทางธุรกิจ ระหว่างคุณจตุพร อุบลเลิศ กับบริษัท ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม อ้างอิงอยู่ในใบบันทึกคำให้การผู้กล่าวหา หรือใบแจ้งความของคุณจตุพร อุบลเลิศ เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2567 . สิ่งที่น่าสนใจของสัญญาฉบับนี้ สัญญาฉบับนี้มีระยะเวลา 1 ปีตั้งแต่เมษายน 2565 มีการจ่ายเงินค่าจ้างเดือนละ 3 แสนบาท และจ่ายเงินค่าจ้างงวดสุดท้ายเมื่อเดือนมีนาคม 2566 ทำจดหมายยกเลิกสัญญาจ้างอย่างเป็นทางการ เนื่องจากสำนักทนายความของทนายตั้มไม่ได้ทำอะไรสมกับค่าจ้างที่ได้รับไปและยังขนครอบครัวไปต่างประเทศแทบทุกเดือน ไปพักโรงแรมหรูๆ แล้วให้เขารับผิดชอบค่าใช้จ่าย . แต่ประเด็นที่น่าสนใจมากคือ หลักฐานการเงินระบุชัดเจนว่าฝั่งพี่อ้อยไม่เคยโอนเงินเข้าบริษัท ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม แต่ษิทราระบุว่าให้โอนเข้าบัญชีของบุคคลที่ชื่อ ปิณฑิรา การิวัลย์ โดยตลอด มีเพจ CSILA ที่ไม่กี่วันมานี้ ออกมาตั้งคำถามว่า "อยากให้ตำรวจและนักข่าวตรวจสอบพี่สาวเมียทนายตั้ม น.ส.ปิณฑิรา การิวัลย์ ซึ่งมีอาชีพคือคนใช้กับเลี้ยงลูกตั้ม แต่เงินในบัญชีเยอะมาก ถ้าตรวจสอบเส้นเงินได้ก็เกมส์" . เมื่อเราไปเปิดดูงบการเงินบริษัท ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม ตั้งอยู่ที่อาคารเอ็มไพร์ทาวเวอร์ ถนนสาทร แจ้งงบการเงิน 5 ปีย้อนหลัง มีรายได้รวมประมาณ 37 ล้านบาท มีรายได้ดีอยู่ปีเดียว คือปี 2565 ซึ่งมีรายได้รวม 21.9 ล้านบาท ก่อนหน้านั้นรายได้อยู่ในระดับประมาณ 2 ล้านบาทและขาดทุนมากกว่า . หลายคนถามว่า คุณษิทราเอาเงินที่ไหนไปซื้อบ้านราคาหลายสิบล้าน มีรถหรูอีกหลายคัน นาฬิกาหรู เสื้อแบรนด์เนมอีกเพียบ ส่วนที่ไปเที่ยวเมืองนอกบ่อยๆ คุณรู้แล้วใช่ไหมว่าคุณใช้เงินของพี่อ้อยนั่นเอง . ผมเอารูปรถให้ดูนะครับ Porsche Cayenne ที่ทนายตั้มขับมาที่กองปราบ วันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน 2567 รถหรูราคาแพงที่นายษิทราใช้อยู่นั้น ซื้อด้วยเงินสด แต่ไม่มีชื่อนายษิทราเป็นเจ้าของเลยแม้แต่คันเดียว อนุมานได้ไหมครับคุณษิทรา ว่าคุณกำลังซ่อนเร้นเรื่องเงินก้อนนี้อยู่ โดยที่ให้คนอื่นมาเป็นเจ้าของรถแทนคุณ มันเป็นวิธีการง่ายๆ ของคนที่ชอบฟอกเงินในอดีต . ด้วยเหตุนี้ มีผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีจึงชี้ให้เห็นว่า การกระทำของทนายตั้มในการรับค่าจ้างที่ปรึกษาพี่อ้อย แต่กลับโอนเงินเข้าคนอื่น ในทางภาษี ในทางกฎหมาย มันเข้าข่ายเลี่ยงภาษีอย่างชัดเจน . เรื่องนี้เป็นเหตุบังเอิญอย่างร้ายกาจ เรื่องราวที่คุณชูวิทย์เล่าเมื่อปีที่แล้ว มันช่างคล้ายๆ กับทนายแบรนด์เนมคนหนึ่งซึ่งผมไม่รู้ว่าเป็นใคร จะใช่ทนายตั้ม ษิทรา สำนักกฎหมายษิทรา ลอว์เฟิร์ม กับพี่สาวภรรยาที่ขึ้นต้นด้วย ป. ที่ชื่อ ปิณฑิรา การิวัลย์ หรือไม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ กรุณาช่วยสืบค้นข้อเท็จจริงเรื่องนี้ให้ผมหน่อย . และผมอยากให้กรมสรรพากร ซึ่งผมจะไปยื่นเรื่องร้องเรียนอย่างเป็นทางการว่าคุณปิณฑิราได้รับเงินมาจากแหล่งที่มาที่ไม่ทราบ เป็นประจำเดือน มีหลักฐานเงินโอนเข้าบัญชีให้ เดือนละ 3 แสนบาท ปีหนึ่งเป็นเงิน 3 ล้าน 6 แสนบาท ผมใคร่จะถามด้วยความเคารพว่า ผู้รับเงินรายได้นี้ ได้เสียภาษีเงินได้หรือเปล่า ถ้าไม่ได้เสียเลยเป็นเวลา 12 เดือน ควรจะต้องถูกเสียภาษีย้อนหลังประมาณเท่าไร และจะต้องถูกเบี้ยปรับอีกเท่าไร ถ้าตอบผมได้ก็จะเป็นพระคุณยิ่ง อันนี้เข้าข่ายในการฟอกเงินหรือเปล่า ขึ้นอยู่กับผู้เกี่ยวข้องที่ดูแลกฎหมายอยู่จะต้องเป็นคนตัดสินใจครับ
    Like
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1086 มุมมอง 0 รีวิว
  • แอฟริกาใต้ยื่นหลักฐานการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของอิสราเอลต่อศาลกรุงเฮก

    วันนี้ แอฟริกาใต้ได้ยื่นคำร้องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศซึ่งตั้งอยู่ในกรุงเฮก คำร้องดังกล่าวสรุปข้อโต้แย้งของแอฟริกาใต้ที่กล่าวว่าอิสราเอลกำลังฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซ่า

    แอฟริกาใต้ให้เหตุผลว่าอิสราเอลไม่ปฏิบัติตามอนุสัญญาหลายข้อของอนุสัญญาว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรมการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และได้ละเมิดพันธกรณีระหว่างประเทศอีกด้วย

    แม้ว่าแอฟริกาใต้ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่ออิสราเอลในกรุงเฮกหลายครั้ง แต่พริทอเรียก็จำเป็นต้องนำเสนอข้อโต้แย้งที่ครอบคลุมในการออกคำพิพากษาถึงที่สุดในกรณีดังกล่าวต่อหน่วยงานตุลาการสูงสุดของสหประชาชาติ
    แอฟริกาใต้ยื่นหลักฐานการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของอิสราเอลต่อศาลกรุงเฮก วันนี้ แอฟริกาใต้ได้ยื่นคำร้องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศซึ่งตั้งอยู่ในกรุงเฮก คำร้องดังกล่าวสรุปข้อโต้แย้งของแอฟริกาใต้ที่กล่าวว่าอิสราเอลกำลังฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซ่า แอฟริกาใต้ให้เหตุผลว่าอิสราเอลไม่ปฏิบัติตามอนุสัญญาหลายข้อของอนุสัญญาว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรมการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และได้ละเมิดพันธกรณีระหว่างประเทศอีกด้วย แม้ว่าแอฟริกาใต้ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่ออิสราเอลในกรุงเฮกหลายครั้ง แต่พริทอเรียก็จำเป็นต้องนำเสนอข้อโต้แย้งที่ครอบคลุมในการออกคำพิพากษาถึงที่สุดในกรณีดังกล่าวต่อหน่วยงานตุลาการสูงสุดของสหประชาชาติ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 164 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลทุจริตฯรับไต่สวนคดี ‘วีระ’ ฟ้อง ป.ป.ช.จงใจปกปิดสอบสวนสำนวนคดี ‘นาฬิกาเพื่อน’
    .
    อังคารที่ 22 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบ ภาค 1 มีคำสั่งให้รับคดีคุณวีระ สมความคิด ที่ฟ้อง ป.ป.ช. ไว้ไต่สวนมูลฟ้อง เป็นคดีหมายเลขดำที่ อท 95/2567 ลงวันที่ 22 ตุลาคม ในคำสั่งระบุว่า ตรวจคำฟ้องของโจทก์แล้วเห็นว่าเป็นคดีที่อยู่ในอำนาจของศาลอาญาทุจริตภาค 1 ฟ้องเป็นไปตามพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีทุจริตประพฤติมิชอบ 2559 มาตรา 15 จึงเห็นควรรับฟ้องโจทก์ไว้ไต่สวนมูลฟ้อง
    .
    กรณี "แหวนแม่-นาฬิกาเพื่อน" ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติตั้งแต่ปี 2561 ว่าคดีเรื่องการจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน หนี้สิน ข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงนั้น ป.ป.ช. มีมติว่าไม่มีมูลเพียงพอ สร้างแรงสั่นสะเทือนและข้อกังขาให้ผู้คนในสังคมวงกว้าง
    .
    จนกระทั่ง "นักร้องระดับชาติ" คุณวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน ได้ยื่นเรื่องให้มีการเปิดเผยสำนวนการสอบสวนคดีดังกล่าว แต่ ป.ป.ช. ไม่ยอมให้เสียที แม้กระทั่งมีคำสั่งศาลปกครองแล้ว ศาลสั่งปรับก็แล้ว องค์กร ป.ป.ช. ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. กับนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. ที่เกษียณแล้วทั้งคู่ ไม่ยอมเปิดเผยข้อมูล ยังใช้เล่ห์เหลี่ยมต่างๆจงใจปกปิดข้อมูล
    .
    กรณีนี้เนื่องจากคุณวีระ สมความคิด เป็นผู้เสียหายโดยตรงอย่างชัดเจน เพราะมีคำสั่งศาลมาแล้วในหลายครั้ง กรณีนี้ศาลอาญาคดีทุจริตฯ จึงต้องรับไว้ไต่สวนมูลฟ้องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
    .
    อย่างไรก็ตาม คุณวีระ ก็มีข้อจำกัด คือต้องรวบรวมเอกสารหลักฐานทั้งหมดเพื่อส่งศาลให้ได้ภายใน 7 วัน คือภายในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ วันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม 2567 คุณวีระ ต้องรวบรวมเอกสารส่งศาลให้ครบถ้วน ซึ่งเวลาก็รวบรัดมาก คดีนี้พวกเรามาให้กำลังใจคุณวีระ กันหน่อยครับ ถือว่าเป็นคดีที่คุณวีระ สุ่มเสี่ยงเรื่องความปลอดภัยในชีวิตอย่างมาก เพราะถ้าคุณวีระตายคนเดียว อีก 12 คน ก็จะรอด แต่ถ้าคุณวีระรอด อีก 12 คน ก็อาจจะตายแทนก็ได้ครับ

    ที่มา https://www.facebook.com/share/p/iXeVUMagHP8Ewo9T/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    ศาลทุจริตฯรับไต่สวนคดี ‘วีระ’ ฟ้อง ป.ป.ช.จงใจปกปิดสอบสวนสำนวนคดี ‘นาฬิกาเพื่อน’ . อังคารที่ 22 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบ ภาค 1 มีคำสั่งให้รับคดีคุณวีระ สมความคิด ที่ฟ้อง ป.ป.ช. ไว้ไต่สวนมูลฟ้อง เป็นคดีหมายเลขดำที่ อท 95/2567 ลงวันที่ 22 ตุลาคม ในคำสั่งระบุว่า ตรวจคำฟ้องของโจทก์แล้วเห็นว่าเป็นคดีที่อยู่ในอำนาจของศาลอาญาทุจริตภาค 1 ฟ้องเป็นไปตามพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีทุจริตประพฤติมิชอบ 2559 มาตรา 15 จึงเห็นควรรับฟ้องโจทก์ไว้ไต่สวนมูลฟ้อง . กรณี "แหวนแม่-นาฬิกาเพื่อน" ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติตั้งแต่ปี 2561 ว่าคดีเรื่องการจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน หนี้สิน ข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงนั้น ป.ป.ช. มีมติว่าไม่มีมูลเพียงพอ สร้างแรงสั่นสะเทือนและข้อกังขาให้ผู้คนในสังคมวงกว้าง . จนกระทั่ง "นักร้องระดับชาติ" คุณวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน ได้ยื่นเรื่องให้มีการเปิดเผยสำนวนการสอบสวนคดีดังกล่าว แต่ ป.ป.ช. ไม่ยอมให้เสียที แม้กระทั่งมีคำสั่งศาลปกครองแล้ว ศาลสั่งปรับก็แล้ว องค์กร ป.ป.ช. ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. กับนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. ที่เกษียณแล้วทั้งคู่ ไม่ยอมเปิดเผยข้อมูล ยังใช้เล่ห์เหลี่ยมต่างๆจงใจปกปิดข้อมูล . กรณีนี้เนื่องจากคุณวีระ สมความคิด เป็นผู้เสียหายโดยตรงอย่างชัดเจน เพราะมีคำสั่งศาลมาแล้วในหลายครั้ง กรณีนี้ศาลอาญาคดีทุจริตฯ จึงต้องรับไว้ไต่สวนมูลฟ้องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ . อย่างไรก็ตาม คุณวีระ ก็มีข้อจำกัด คือต้องรวบรวมเอกสารหลักฐานทั้งหมดเพื่อส่งศาลให้ได้ภายใน 7 วัน คือภายในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ วันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม 2567 คุณวีระ ต้องรวบรวมเอกสารส่งศาลให้ครบถ้วน ซึ่งเวลาก็รวบรัดมาก คดีนี้พวกเรามาให้กำลังใจคุณวีระ กันหน่อยครับ ถือว่าเป็นคดีที่คุณวีระ สุ่มเสี่ยงเรื่องความปลอดภัยในชีวิตอย่างมาก เพราะถ้าคุณวีระตายคนเดียว อีก 12 คน ก็จะรอด แต่ถ้าคุณวีระรอด อีก 12 คน ก็อาจจะตายแทนก็ได้ครับ ที่มา https://www.facebook.com/share/p/iXeVUMagHP8Ewo9T/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    Like
    Love
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 847 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลทุจริตฯรับไต่สวนคดี ‘วีระ’ ฟ้อง ป.ป.ช.จงใจปกปิดสอบสวนสำนวนคดี ‘นาฬิกาเพื่อน’
    .
    อังคารที่ 22 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบ ภาค 1 มีคำสั่งให้รับคดีคุณวีระ สมความคิด ที่ฟ้อง ป.ป.ช. ไว้ไต่สวนมูลฟ้อง เป็นคดีหมายเลขดำที่ อท 95/2567 ลงวันที่ 22 ตุลาคม ในคำสั่งระบุว่า ตรวจคำฟ้องของโจทก์แล้วเห็นว่าเป็นคดีที่อยู่ในอำนาจของศาลอาญาทุจริตภาค 1 ฟ้องเป็นไปตามพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีทุจริตประพฤติมิชอบ 2559 มาตรา 15 จึงเห็นควรรับฟ้องโจทก์ไว้ไต่สวนมูลฟ้อง
    .
    กรณี "แหวนแม่-นาฬิกาเพื่อน" ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติตั้งแต่ปี 2561 ว่าคดีเรื่องการจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน หนี้สิน ข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงนั้น ป.ป.ช. มีมติว่าไม่มีมูลเพียงพอ สร้างแรงสั่นสะเทือนและข้อกังขาให้ผู้คนในสังคมวงกว้าง
    .
    จนกระทั่ง "นักร้องระดับชาติ" คุณวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน ได้ยื่นเรื่องให้มีการเปิดเผยสำนวนการสอบสวนคดีดังกล่าว แต่ ป.ป.ช. ไม่ยอมให้เสียที แม้กระทั่งมีคำสั่งศาลปกครองแล้ว ศาลสั่งปรับก็แล้ว องค์กร ป.ป.ช. ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. กับนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. ที่เกษียณแล้วทั้งคู่ ไม่ยอมเปิดเผยข้อมูล ยังใช้เล่ห์เหลี่ยมต่างๆจงใจปกปิดข้อมูล
    .
    กรณีนี้เนื่องจากคุณวีระ สมความคิด เป็นผู้เสียหายโดยตรงอย่างชัดเจน เพราะมีคำสั่งศาลมาแล้วในหลายครั้ง กรณีนี้ศาลอาญาคดีทุจริตฯ จึงต้องรับไว้ไต่สวนมูลฟ้องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
    .
    อย่างไรก็ตาม คุณวีระ ก็มีข้อจำกัด คือต้องรวบรวมเอกสารหลักฐานทั้งหมดเพื่อส่งศาลให้ได้ภายใน 7 วัน คือภายในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ วันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม 2567 คุณวีระ ต้องรวบรวมเอกสารส่งศาลให้ครบถ้วน ซึ่งเวลาก็รวบรัดมาก คดีนี้พวกเรามาให้กำลังใจคุณวีระ กันหน่อยครับ ถือว่าเป็นคดีที่คุณวีระ สุ่มเสี่ยงเรื่องความปลอดภัยในชีวิตอย่างมาก เพราะถ้าคุณวีระตายคนเดียว อีก 12 คน ก็จะรอด แต่ถ้าคุณวีระรอด อีก 12 คน ก็อาจจะตายแทนก็ได้ครับ
    ศาลทุจริตฯรับไต่สวนคดี ‘วีระ’ ฟ้อง ป.ป.ช.จงใจปกปิดสอบสวนสำนวนคดี ‘นาฬิกาเพื่อน’ . อังคารที่ 22 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบ ภาค 1 มีคำสั่งให้รับคดีคุณวีระ สมความคิด ที่ฟ้อง ป.ป.ช. ไว้ไต่สวนมูลฟ้อง เป็นคดีหมายเลขดำที่ อท 95/2567 ลงวันที่ 22 ตุลาคม ในคำสั่งระบุว่า ตรวจคำฟ้องของโจทก์แล้วเห็นว่าเป็นคดีที่อยู่ในอำนาจของศาลอาญาทุจริตภาค 1 ฟ้องเป็นไปตามพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีทุจริตประพฤติมิชอบ 2559 มาตรา 15 จึงเห็นควรรับฟ้องโจทก์ไว้ไต่สวนมูลฟ้อง . กรณี "แหวนแม่-นาฬิกาเพื่อน" ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติตั้งแต่ปี 2561 ว่าคดีเรื่องการจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน หนี้สิน ข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงนั้น ป.ป.ช. มีมติว่าไม่มีมูลเพียงพอ สร้างแรงสั่นสะเทือนและข้อกังขาให้ผู้คนในสังคมวงกว้าง . จนกระทั่ง "นักร้องระดับชาติ" คุณวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน ได้ยื่นเรื่องให้มีการเปิดเผยสำนวนการสอบสวนคดีดังกล่าว แต่ ป.ป.ช. ไม่ยอมให้เสียที แม้กระทั่งมีคำสั่งศาลปกครองแล้ว ศาลสั่งปรับก็แล้ว องค์กร ป.ป.ช. ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. กับนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. ที่เกษียณแล้วทั้งคู่ ไม่ยอมเปิดเผยข้อมูล ยังใช้เล่ห์เหลี่ยมต่างๆจงใจปกปิดข้อมูล . กรณีนี้เนื่องจากคุณวีระ สมความคิด เป็นผู้เสียหายโดยตรงอย่างชัดเจน เพราะมีคำสั่งศาลมาแล้วในหลายครั้ง กรณีนี้ศาลอาญาคดีทุจริตฯ จึงต้องรับไว้ไต่สวนมูลฟ้องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ . อย่างไรก็ตาม คุณวีระ ก็มีข้อจำกัด คือต้องรวบรวมเอกสารหลักฐานทั้งหมดเพื่อส่งศาลให้ได้ภายใน 7 วัน คือภายในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ วันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม 2567 คุณวีระ ต้องรวบรวมเอกสารส่งศาลให้ครบถ้วน ซึ่งเวลาก็รวบรัดมาก คดีนี้พวกเรามาให้กำลังใจคุณวีระ กันหน่อยครับ ถือว่าเป็นคดีที่คุณวีระ สุ่มเสี่ยงเรื่องความปลอดภัยในชีวิตอย่างมาก เพราะถ้าคุณวีระตายคนเดียว อีก 12 คน ก็จะรอด แต่ถ้าคุณวีระรอด อีก 12 คน ก็อาจจะตายแทนก็ได้ครับ
    Like
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1147 มุมมอง 0 รีวิว
  • พรุ่งนี้บริษัทดังเตรียมปลดป้ายโฆษณา THE ICON GROUP ทั้งหมด เริ่ม 11-12 ต.ค. หลังจากรองโฆษกตร. เผยไม่เกิน 48 ชม. ออกหมายจับ เหล่า ‘บอสบริษัทดัง’ แน่นอน

    11 ตุลาคม 2567-รายงานข่าว เพจดัง อีซ้อขยี้ข่าว ได้โพสต์ข้อความว่า บริษัทดังจะปลดป้ายทั้งหมด ภายในวันพรุ่งนี้ โดยกำหนดงานรื้อภาพสินค้า THE ICON GROUP จำนวน 19 ป้าย ตามเมล์แจ้งเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม โดยมีกำหนดรื้อภาพตั้งแต่วันที่ 10-12 ตุลาคม 2024

    ทั้งนี้การสั่งปลดป้ายทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นหลังจาก พ.ต.อ.อุเทน นุ้ยพิน รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกมาให้สัมภาษณ์ยืนยันว่าภายใน 48 ชั่วโมงจะมีการออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดอย่างแน่นอน หลังจากที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปอท.) และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำงานกันร่วมกันรวบรวมหลักฐานของผู้เสียหายรวมตัวกันนำหลักฐานการร่วมลงทุนจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์หลายชนิดกับบริษัทมายื่นเรื่องร้องเรียน ให้ตำรวจกองบังคับการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) ตรวจสอบว่าบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป เข้าข่ายกระทำความผิดฉ้อโกงตามกฏหมายหรือไม่ และตั้งข้อสงสัยว่าธุรกิจตลาดตรงหรือแชร์ลูกโซ่

    ต่อมากองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ได้ทำหนังสือถึง สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) รายงานคดี ดิไอคอน กรุ๊ป หลังจากมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความเพื่อให้ดำเนินคดี

    #Thaitimes
    พรุ่งนี้บริษัทดังเตรียมปลดป้ายโฆษณา THE ICON GROUP ทั้งหมด เริ่ม 11-12 ต.ค. หลังจากรองโฆษกตร. เผยไม่เกิน 48 ชม. ออกหมายจับ เหล่า ‘บอสบริษัทดัง’ แน่นอน 11 ตุลาคม 2567-รายงานข่าว เพจดัง อีซ้อขยี้ข่าว ได้โพสต์ข้อความว่า บริษัทดังจะปลดป้ายทั้งหมด ภายในวันพรุ่งนี้ โดยกำหนดงานรื้อภาพสินค้า THE ICON GROUP จำนวน 19 ป้าย ตามเมล์แจ้งเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม โดยมีกำหนดรื้อภาพตั้งแต่วันที่ 10-12 ตุลาคม 2024 ทั้งนี้การสั่งปลดป้ายทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นหลังจาก พ.ต.อ.อุเทน นุ้ยพิน รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกมาให้สัมภาษณ์ยืนยันว่าภายใน 48 ชั่วโมงจะมีการออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดอย่างแน่นอน หลังจากที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปอท.) และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำงานกันร่วมกันรวบรวมหลักฐานของผู้เสียหายรวมตัวกันนำหลักฐานการร่วมลงทุนจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์หลายชนิดกับบริษัทมายื่นเรื่องร้องเรียน ให้ตำรวจกองบังคับการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) ตรวจสอบว่าบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป เข้าข่ายกระทำความผิดฉ้อโกงตามกฏหมายหรือไม่ และตั้งข้อสงสัยว่าธุรกิจตลาดตรงหรือแชร์ลูกโซ่ ต่อมากองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ได้ทำหนังสือถึง สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) รายงานคดี ดิไอคอน กรุ๊ป หลังจากมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความเพื่อให้ดำเนินคดี #Thaitimes
    Like
    3
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 693 มุมมอง 0 รีวิว
  • “สนธิ” ย้ำเตรียมยื่นข้อเรียกร้องให้รัฐบาล 3 เรื่อง พร้อมตอบข้อสงสัย คดีถูกลอบสังหารสมัยลุงตู่อยู่ 9 ปี ทำไมไม่ยื่น ต้องมายื่นเรื่องกับ “อุ๊งอิ๋ง” ฟังให้ดีสนธิมีคำตอบให้
    “สนธิ” ย้ำเตรียมยื่นข้อเรียกร้องให้รัฐบาล 3 เรื่อง พร้อมตอบข้อสงสัย คดีถูกลอบสังหารสมัยลุงตู่อยู่ 9 ปี ทำไมไม่ยื่น ต้องมายื่นเรื่องกับ “อุ๊งอิ๋ง” ฟังให้ดีสนธิมีคำตอบให้
    Like
    Love
    Yay
    Haha
    101
    3 ความคิดเห็น 8 การแบ่งปัน 5444 มุมมอง 3046 0 รีวิว
Pages Boosts