• แบงค์ชาติเราสมควรผูกค่าเงินอ้างอิงค่าเงินใหม่,กำหนดทิศทางอ้างอิงราคาสินค้าช่วยเหลือการแลกเปลี่ยนซื้อขายทางธุรกรรมการเงินและการค้าการตลาดที่แท้จริงได้ด้วย,เช่นเมื่อเอาทองคำไปค้ำประกันการพิมพ์ตังออกมา,ก็สู้สมควรทำสุดซอยใหม่ในยุคนี้คือผูกอ้างอิงการขึ้นลงจริงของราคาทองคำกำหนดเป็นมาตราฐานมูลค่าเงินบาทในตัวด้วยตัดอัตราเงินเฟ้อทิ้งไปเลยได้ด้วย,1บาททองคำจับวันที่ราคาทองคำสูงสุดเป็นราคาฐานเทียบเงินบาทแบบ50,000บาทเงินก็ว่า,หากราคาทองคำขึ้นลง ให้ราคาสินค้าปรับขึ้นลงให้เรียลไทม์แต่ไม่เกินขั้นสูงขั้นต่ำของวันนั้นๆก็ว่า,เช่น ข้าวปกติขายราคาตันละ15,000บาทเงิน,เทียบราคาทองคำฐานคือ50,000บาท,ราคาข้าวในตลาดที่แท้จริงต้องทำการซื้อขายจริงนับจากวันนี้ตลอดไปที่ราคาขึ้นลงอ้างอิงราคาทองคำในแต่ละวันคูณทันที2.34,เท่ากับ35,100บาท เอาไปบวกราคาเดิม15,000บาทคือ50,100บาทเงินต่อข้าว1ตัน.,เงินเดือนคนทำงานทุกๆคนในประเทศไทยจะเอกชนหรือต่างชาติต้องทำเช่นเดียวกันนี้,ทุกๆอย่างที่ตีมูลค่าเป็นเงินบาทยกเว้นอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรากับชาติอื่นๆทั่วโลก ให้ทำเหมือนราคาขายข้าว สินค้าอุปโภคบริโภคและบริการตีมูลค่าใหม่ได้ทันที ส่วนใครจะพังจะล้มละลายต้องบริหารภายในกันเองให้ดี ปรับตัวให้ทัน,ก๋วยเตี๋ยวชามละ15บาท ขายทันทีชามละ50.10บาทหรือชามละ50บาทก็ราคาปกติทันที,เราจะทันค่าครองชีพที่แพง แก้อัตราเงินเฟ้อที่ทำลายมูลค่าเงินได้ทันทีด้วย.,ค่าเงินจะอ่อนค่าหรือแข็งค่าขึ้นมิใช่ใครจะเทขายหรือเข้าซื้อเงินบาทปั่นสาระพัดอิสระได้เสรีอีก,ค่าเงินบาทเสมือนอ้างอิงราคาทองคำจริงไปในตัวและสินค้าบริการทั้งประเทศไทยก็อ้างอิงราคาทองคำจริงสากลโลกด้วย.เมื่อเราเกาถูกที่คันก็แก้ไขทุกๆปัญหาได้ทันที,เช่นผีบ้าไทยที่เสือกไปอ้างอิงราคาน้ำมันสิงคโปร์ทั้งที่ประเทศไทยมีบ่อน้ำมันบนแผ่นดินไทยมากกว่าอีกแม้ผู้นำผู้ปกครองและข้าราชการไทยจะขายบ่อน้ำมันขายชาติยกบ่อน้ำมันให้ต่างชาติก็ตามจากการให้สัมปทานเกินไปกว่า20ครั้งไปแล้วก็ว่า,ตลอดอ่าวไทยสดๆร้อนๆอีก2แปลงขนาดใหญ่ก็ยกให้คนอื่น,ผู้นำผู้ปกครองไทยชั่งชั่วโง่กากไร้ฝีมือสิ้นดีเสือกอยากเป็นผู้นำผู้ปกครองผู้มีอำนาจบนแผ่นดินไทย,นี้คือวิถีปกครองที่ล้มเหลว เสือกยกความร่ำรวยมั่งคั่งให้คนอื่นมิใช่คนในชาติไทยตนเอง.,กระบวนการปล่อยกู้ก็เอารัดเอาเปรียบประชาชน ทวงหนี้ ยึดสาระพัดขายอะไรต่อมิอะไรของคนกู้ยึดทรัพย์จนครบตังครบดอกเบี้ยครบสาระพัดตังที่คิดตังเอาเปรียบคนกู้,ต่างชาติซื้อรถยึดรถก็จบคดีกัน,ซื้อบ้านยึดบ้านก็จบภาระหนี้กัน,มาดูไทยแมร่งปล่อยเอกชนรังแกคนกู้คนไทยสาระพัด,เราปกครองล้มเหลวจริงๆ.
    แบงค์ชาติเราสมควรผูกค่าเงินอ้างอิงค่าเงินใหม่,กำหนดทิศทางอ้างอิงราคาสินค้าช่วยเหลือการแลกเปลี่ยนซื้อขายทางธุรกรรมการเงินและการค้าการตลาดที่แท้จริงได้ด้วย,เช่นเมื่อเอาทองคำไปค้ำประกันการพิมพ์ตังออกมา,ก็สู้สมควรทำสุดซอยใหม่ในยุคนี้คือผูกอ้างอิงการขึ้นลงจริงของราคาทองคำกำหนดเป็นมาตราฐานมูลค่าเงินบาทในตัวด้วยตัดอัตราเงินเฟ้อทิ้งไปเลยได้ด้วย,1บาททองคำจับวันที่ราคาทองคำสูงสุดเป็นราคาฐานเทียบเงินบาทแบบ50,000บาทเงินก็ว่า,หากราคาทองคำขึ้นลง ให้ราคาสินค้าปรับขึ้นลงให้เรียลไทม์แต่ไม่เกินขั้นสูงขั้นต่ำของวันนั้นๆก็ว่า,เช่น ข้าวปกติขายราคาตันละ15,000บาทเงิน,เทียบราคาทองคำฐานคือ50,000บาท,ราคาข้าวในตลาดที่แท้จริงต้องทำการซื้อขายจริงนับจากวันนี้ตลอดไปที่ราคาขึ้นลงอ้างอิงราคาทองคำในแต่ละวันคูณทันที2.34,เท่ากับ35,100บาท เอาไปบวกราคาเดิม15,000บาทคือ50,100บาทเงินต่อข้าว1ตัน.,เงินเดือนคนทำงานทุกๆคนในประเทศไทยจะเอกชนหรือต่างชาติต้องทำเช่นเดียวกันนี้,ทุกๆอย่างที่ตีมูลค่าเป็นเงินบาทยกเว้นอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรากับชาติอื่นๆทั่วโลก ให้ทำเหมือนราคาขายข้าว สินค้าอุปโภคบริโภคและบริการตีมูลค่าใหม่ได้ทันที ส่วนใครจะพังจะล้มละลายต้องบริหารภายในกันเองให้ดี ปรับตัวให้ทัน,ก๋วยเตี๋ยวชามละ15บาท ขายทันทีชามละ50.10บาทหรือชามละ50บาทก็ราคาปกติทันที,เราจะทันค่าครองชีพที่แพง แก้อัตราเงินเฟ้อที่ทำลายมูลค่าเงินได้ทันทีด้วย.,ค่าเงินจะอ่อนค่าหรือแข็งค่าขึ้นมิใช่ใครจะเทขายหรือเข้าซื้อเงินบาทปั่นสาระพัดอิสระได้เสรีอีก,ค่าเงินบาทเสมือนอ้างอิงราคาทองคำจริงไปในตัวและสินค้าบริการทั้งประเทศไทยก็อ้างอิงราคาทองคำจริงสากลโลกด้วย.เมื่อเราเกาถูกที่คันก็แก้ไขทุกๆปัญหาได้ทันที,เช่นผีบ้าไทยที่เสือกไปอ้างอิงราคาน้ำมันสิงคโปร์ทั้งที่ประเทศไทยมีบ่อน้ำมันบนแผ่นดินไทยมากกว่าอีกแม้ผู้นำผู้ปกครองและข้าราชการไทยจะขายบ่อน้ำมันขายชาติยกบ่อน้ำมันให้ต่างชาติก็ตามจากการให้สัมปทานเกินไปกว่า20ครั้งไปแล้วก็ว่า,ตลอดอ่าวไทยสดๆร้อนๆอีก2แปลงขนาดใหญ่ก็ยกให้คนอื่น,ผู้นำผู้ปกครองไทยชั่งชั่วโง่กากไร้ฝีมือสิ้นดีเสือกอยากเป็นผู้นำผู้ปกครองผู้มีอำนาจบนแผ่นดินไทย,นี้คือวิถีปกครองที่ล้มเหลว เสือกยกความร่ำรวยมั่งคั่งให้คนอื่นมิใช่คนในชาติไทยตนเอง.,กระบวนการปล่อยกู้ก็เอารัดเอาเปรียบประชาชน ทวงหนี้ ยึดสาระพัดขายอะไรต่อมิอะไรของคนกู้ยึดทรัพย์จนครบตังครบดอกเบี้ยครบสาระพัดตังที่คิดตังเอาเปรียบคนกู้,ต่างชาติซื้อรถยึดรถก็จบคดีกัน,ซื้อบ้านยึดบ้านก็จบภาระหนี้กัน,มาดูไทยแมร่งปล่อยเอกชนรังแกคนกู้คนไทยสาระพัด,เราปกครองล้มเหลวจริงๆ.
    พายุลูกใหญ่..ผู้ว่า ธปท.เตือนรับมือภาษีทรัมป์กระทบไทย : คนเคาะข่าว 02-06-68
    : เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
    ผู้ว่าการพบสื่อมวลชน (Meet the Press) ครั้งที่ 1/68 วันที่ 9 พ.ค.2568
    #คนเคาะข่าว #ภาษีทรัมป์ #ผลกระทบเศรษฐกิจไทย #ธปท #เศรษฐพุฒิสุทธิวาทนฤพุฒิ #ธนาคารแห่งประเทศไทย #นโยบายการเงิน #MeetThePress #เศรษฐกิจโลก #ข่าวเศรษฐกิจ #สงครามการค้า #วิเคราะห์เศรษฐกิจ #thaitimes #การเงินไทย #พายุเศรษฐกิจ
    0 Comments 0 Shares 37 Views 1 0 Reviews
  • ฮุนเซน ประธานพฤฒสภา (สภาสูง) ของกัมพูชา ออกคำเตือนรุนแรงถึงไทยเกี่ยวกับข้อพิพาทเขตแดนที่ดำเนินอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประณามการใช้แผนที่ที่ไม่ได้รับอนุญาตและไม่ได้รับการยืนยันอย่างต่อเนื่อง ที่ตีตราว่าเป็นแผนที่โจร 2551 ที่เขาอ้างว่าฝ่ายไทยใช้แผนที่ดังกล่าวเพื่อบุกรุกดินแดนกัมพูชา สำนักข่าวเฟรชนิวส์ของกัมพูชารายงาน

    ฮุนเซนแสดงความเห็นรุนแรงดังกล่าวในบ่ายวันนี้ (2) ระหว่างการประชุมร่วมสองสภา

    ประธานสภาสูงกล่าวว่ากัมพูชายังคงเปิดกว้างสำหรับการหารือเกี่ยวกับแผนที่ที่มีมาตรส่วนต่างๆ เช่น 1/100,000 1/50,000 หรือ 1/25,000 แต่ยืนกรานว่าแผนที่ใดๆ ก็ตามที่นำมาใช้จะต้องมีแหล่งที่มาที่โปร่งใสและตรวจสอบได้ เขาย้ำว่าแผนที่ที่จัดทำขึ้นโดยฝ่ายเดียวนั้นเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ และยืนยันว่าทั้งสองฝ่ายจะต้องปฏิบัติตามสนธิสัญญาฝรั่งเศส-สยาม 2447-2450 เป็นพื้นฐานทางกฎหมายสำหรับการกำหนดเขตแดนและพัฒนาแผนที่

    “คุณไม่สามารถใช้แผนที่มาตรส่วน 1/50,000 ของคุณเพื่อละเมิดอำนาจอธิปไตยของกัมพูชาได้ กัมพูชาไม่ใช่เด็กไร้ทางสู้ที่จะถูกกลั่นแกล้งหรือถูกหลอกให้ยอมสละดินแดน แผนที่โจรปี 2551 ที่เคยใช้รุกรานเรา ต้องไม่ถูกนำมาใช้อีก เราขอชี้แจงให้ชัดเจน” ฮุนเซนกล่าวย้ำ

    เขาอธิบายต่อว่ากัมพูชาจะรักษาความโปร่งใสอย่างเต็มที่ในกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับแผนที่ รวมถึงการแจ้งให้สาธารณชนทราบ และอาจจำเป็นที่จะต้องติดต่อประธานาธิบดีฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการเพื่อขอให้ผู้เชี่ยวชาญทางเทคนิคปรับขนาด เขายังอ้างถึงความร่วมมือในอดีตกับเวียดนามและลาว ที่กัมพูชาได้เปลี่ยนจากแผนที่ Bonne 1/100,000 ดั้งเดิม เป็นแผนที่ UTM 1/50,000 ภายใต้คำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ

    ในการประชุมสภาครั้งนี้ ฮุนเซนยังเรียกร้องให้ประชาชนกัมพูชาเฝ้าระวังและติดตามความคืบหน้าตามแนวชายแดนกัมพูชา-ไทยอย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกันก็ให้อยู่ในความสงบและให้การสนับสนุนและกำลังใจกองกำลังทหารที่ประจำการอยู่แนวหน้า

    #MGROnline #ฮุนเซน #แผนที่
    ฮุนเซน ประธานพฤฒสภา (สภาสูง) ของกัมพูชา ออกคำเตือนรุนแรงถึงไทยเกี่ยวกับข้อพิพาทเขตแดนที่ดำเนินอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประณามการใช้แผนที่ที่ไม่ได้รับอนุญาตและไม่ได้รับการยืนยันอย่างต่อเนื่อง ที่ตีตราว่าเป็นแผนที่โจร 2551 ที่เขาอ้างว่าฝ่ายไทยใช้แผนที่ดังกล่าวเพื่อบุกรุกดินแดนกัมพูชา สำนักข่าวเฟรชนิวส์ของกัมพูชารายงาน • ฮุนเซนแสดงความเห็นรุนแรงดังกล่าวในบ่ายวันนี้ (2) ระหว่างการประชุมร่วมสองสภา • ประธานสภาสูงกล่าวว่ากัมพูชายังคงเปิดกว้างสำหรับการหารือเกี่ยวกับแผนที่ที่มีมาตรส่วนต่างๆ เช่น 1/100,000 1/50,000 หรือ 1/25,000 แต่ยืนกรานว่าแผนที่ใดๆ ก็ตามที่นำมาใช้จะต้องมีแหล่งที่มาที่โปร่งใสและตรวจสอบได้ เขาย้ำว่าแผนที่ที่จัดทำขึ้นโดยฝ่ายเดียวนั้นเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ และยืนยันว่าทั้งสองฝ่ายจะต้องปฏิบัติตามสนธิสัญญาฝรั่งเศส-สยาม 2447-2450 เป็นพื้นฐานทางกฎหมายสำหรับการกำหนดเขตแดนและพัฒนาแผนที่ “คุณไม่สามารถใช้แผนที่มาตรส่วน 1/50,000 ของคุณเพื่อละเมิดอำนาจอธิปไตยของกัมพูชาได้ กัมพูชาไม่ใช่เด็กไร้ทางสู้ที่จะถูกกลั่นแกล้งหรือถูกหลอกให้ยอมสละดินแดน แผนที่โจรปี 2551 ที่เคยใช้รุกรานเรา ต้องไม่ถูกนำมาใช้อีก เราขอชี้แจงให้ชัดเจน” ฮุนเซนกล่าวย้ำ • เขาอธิบายต่อว่ากัมพูชาจะรักษาความโปร่งใสอย่างเต็มที่ในกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับแผนที่ รวมถึงการแจ้งให้สาธารณชนทราบ และอาจจำเป็นที่จะต้องติดต่อประธานาธิบดีฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการเพื่อขอให้ผู้เชี่ยวชาญทางเทคนิคปรับขนาด เขายังอ้างถึงความร่วมมือในอดีตกับเวียดนามและลาว ที่กัมพูชาได้เปลี่ยนจากแผนที่ Bonne 1/100,000 ดั้งเดิม เป็นแผนที่ UTM 1/50,000 ภายใต้คำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ • ในการประชุมสภาครั้งนี้ ฮุนเซนยังเรียกร้องให้ประชาชนกัมพูชาเฝ้าระวังและติดตามความคืบหน้าตามแนวชายแดนกัมพูชา-ไทยอย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกันก็ให้อยู่ในความสงบและให้การสนับสนุนและกำลังใจกองกำลังทหารที่ประจำการอยู่แนวหน้า • #MGROnline #ฮุนเซน #แผนที่
    0 Comments 0 Shares 45 Views 0 Reviews
  • เกมคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน: การพึ่งพาฮาร์ดแวร์ กับการรีดความสามารถผ่านการเขียนโค้ด

    ในยุคปัจจุบัน เกมคอมพิวเตอร์ได้ก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดด ทั้งในด้านกราฟิกที่สมจริงราวกับภาพยนตร์ โลกเปิดขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยรายละเอียด และฟีเจอร์ที่หลากหลาย เช่น การจำลองฟิสิกส์ขั้นสูงหรือปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ชาญฉลาด อย่างไรก็ตาม ความก้าวหน้าเหล่านี้มาพร้อมกับความต้องการทรัพยากรระบบที่สูงขึ้นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น CPU, GPU หรือหน่วยความจำที่ต้องทรงพลังมากขึ้นเรื่อย ๆ คำถามที่เกิดขึ้นคือ เกมที่ดีควรพึ่งพาฮาร์ดแวร์ที่ทรงพลังเพียงอย่างเดียว หรือควรให้ความสำคัญกับการเขียนโค้ดอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อรีดประสิทธิภาพสูงสุด? บทความนี้จะวิเคราะห์ทั้งสองแนวทาง พร้อมเปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย และมองไปยังอนาคตของการพัฒนาเกม

    1️⃣ การพึ่งพาฮาร์ดแวร์ที่แรงขึ้น
    ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ เช่น GPU และ CPU รุ่นใหม่ ๆ ได้พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเทคโนโลยีอย่าง NVIDIA RTX ที่รองรับ Ray Tracing ซึ่งช่วยให้แสง สะท้อน และเงาในเกมสมจริงยิ่งขึ้น หรือ CPU ที่มีจำนวนคอร์และเธรดมากขึ้นเพื่อรองรับการประมวลผลที่ซับซ้อน เช่น AI Physics ในเกม AAA (เกมที่มีงบประมาณสูง) ตัวอย่างเช่น Cyberpunk 2077 หรือ Starfield ที่ใช้ทรัพยากรระบบมหาศาลเพื่อสร้างประสบการณ์ภาพที่ตระการตา

    นักพัฒนาเกม AAA มักเลือกแนวทาง “ปล่อยให้ฮาร์ดแวร์จัดการ” โดยอาศัยพลังของเครื่องรุ่นใหม่เพื่อลดความซับซ้อนในการพัฒนา

    ✅ ข้อดี ของแนวทางนี้คือ:
    - การพัฒนาเกมเร็วขึ้น เพราะไม่ต้องเสียเวลา optimize มาก
    - สามารถใช้ฟีเจอร์สมัยใหม่ เช่น Ray Tracing หรือ AI-driven NPC
    - กราฟิกที่สวยงามและสมจริง ตรงตามความคาดหวังของผู้เล่น

    ❌ ข้อเสีย:
    - ผู้เล่นที่ใช้เครื่องระดับกลางหรือล่างอาจไม่สามารถเล่นได้ หรือต้องลดกราฟิกลงจนเสียประสบการณ์
    - การใช้ทรัพยากรเกินความจำเป็น อาจทำให้เครื่องร้อนหรือสิ้นเปลืองพลังงาน
    - ค่าใช้จ่ายในการอัปเกรดฮาร์ดแวร์สูงสำหรับผู้เล่น

    2️⃣ การรีดประสิทธิภาพผ่านการเขียนโค้ด
    ในทางตรงกันข้าม การเขียนโค้ดที่มีประสิทธิภาพหรือ optimization เป็นหัวใจสำคัญของเกมที่ต้องการให้เล่นได้ลื่นไหลบนเครื่องหลากหลายระดับ เทคนิคที่นิยมใช้ ได้แก่:
    - ลด Draw Calls: ลดจำนวนครั้งที่ GPU ต้องวาดวัตถุในฉาก
    - Occlusion Culling: ตัดการประมวลผลวัตถุที่อยู่นอกมุมมองของผู้เล่น
    - Level of Detail (LOD): ปรับความละเอียดของโมเดลตามระยะห่างจากกล้อง
    - Multithreading: กระจายงานไปยังคอร์ CPU หลายตัวเพื่อประมวลผลพร้อมกัน
    - ตัวอย่างเกมอินดี้ เช่น Hollow Knight หรือ Stardew Valley แสดงให้เห็นว่า การ optimize ที่ดีสามารถสร้างเกมที่ลื่นไหลและสวยงามได้ แม้จะใช้ทรัพยากรน้อย

    ✅ ข้อดี ของแนวทางนี้:
    - รองรับเครื่องสเปคหลากหลาย ทำให้เข้าถึงผู้เล่นได้มากขึ้น
    - ระหยัดพลังงานและลดความร้อนของเครื่อง
    - มีเสถียรภาพสูง ลดปัญหาค้างหรือกระตุก

    ❌ ข้อเสีย:
    - ใช้เวลาและทรัพยากรในการพัฒนานานขึ้น
    - ต้องใช้ความรู้และประสบการณ์ของนักพัฒนาในระดับสูง

    3️⃣ ตัวอย่างเปรียบเทียบ
    ลองเปรียบเทียบเกม AAA เช่น Cyberpunk 2077 ที่ต้องการสเปคสูง (เช่น RTX 3080 เพื่อ Ray Tracing เต็มรูปแบบ) กับเกมอินดี้อย่าง Hollow Knight ที่ใช้ทรัพยากรน้อยแต่ให้ประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม:

    👉 ความลื่นไหล: Cyberpunk 2077 อาจกระตุกบนเครื่องสเปคต่ำ แม้ลดกราฟิกแล้ว ส่วน Hollow Knight ลื่นไหลแม้บนเครื่องเก่า
    👉 ความร้อนของเครื่อง: เกม AAA มักทำให้เครื่องร้อนและพัดลมทำงานหนัก ขณะที่เกมอินดี้ใช้พลังงานน้อยกว่า
    👉 ความเสถียร: เกมที่ optimize ดีมักมีบั๊กน้อยกว่าและรันได้นานโดยไม่ crash

    ประสบการณ์ของผู้เล่นจึงขึ้นอยู่กับว่าพวกเขามีเครื่องที่แรงพอหรือไม่ และนักพัฒนาให้ความสำคัญกับ optimization มากน้อยเพียงใด

    4️⃣ สรุปและมุมมองอนาคต
    นักพัฒนาในปัจจุบันต้องเผชิญกับทางเลือกที่ท้าทาย: ใช้ประโยชน์จากฮาร์ดแวร์ทรงพลังเพื่อสร้างเกมที่อลังการ หรือทุ่มเทให้กับการ optimize เพื่อให้เข้าถึงผู้เล่นทุกกลุ่ม? เกมเอนจินอย่าง Unreal Engine และ Unity ช่วยลดช่องว่างนี้ โดยมีเครื่องมือในตัวที่ช่วยทั้งด้านกราฟิกและ optimization เช่น การจัดการ LOD หรือการเรนเดอร์ที่มีประสิทธิภาพ

    ในอนาคต การบาลานซ์ระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์จะสำคัญยิ่งขึ้น นักพัฒนาควรคำนึงถึง ประสบการณ์ของผู้เล่น เป็นหลัก ไม่ใช่แค่กราฟิกที่สวยงาม การ optimize ที่ดีจะช่วยให้เกมเข้าถึงผู้เล่นได้กว้างขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องอัปเกรดเครื่องใหม่เสมอไป

    ℹ️ℹ️ บทส่งท้าย ℹ️ℹ️
    การพัฒนาเกมในอนาคตไม่ควรยึดติดที่กราฟิกหรือพลังของฮาร์ดแวร์เพียงอย่างเดียว แต่ควรเน้นที่ ประสบการณ์ที่สมดุล นักพัฒนาควรให้ความสำคัญกับการเขียนโค้ดที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกมสามารถเล่นได้อย่างลื่นไหลบนเครื่องทุกระดับ สร้างความพึงพอใจให้ผู้เล่นโดยไม่ต้องลงทุนซื้อฮาร์ดแวร์ราคาแพง การ optimize ไม่ใช่แค่เทคนิค แต่คือกุญแจสู่การสร้างเกมที่ยั่งยืนและเข้าถึงได้สำหรับทุกคน
    เกมคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน: การพึ่งพาฮาร์ดแวร์ กับการรีดความสามารถผ่านการเขียนโค้ด ในยุคปัจจุบัน เกมคอมพิวเตอร์ได้ก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดด ทั้งในด้านกราฟิกที่สมจริงราวกับภาพยนตร์ โลกเปิดขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยรายละเอียด และฟีเจอร์ที่หลากหลาย เช่น การจำลองฟิสิกส์ขั้นสูงหรือปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ชาญฉลาด อย่างไรก็ตาม ความก้าวหน้าเหล่านี้มาพร้อมกับความต้องการทรัพยากรระบบที่สูงขึ้นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น CPU, GPU หรือหน่วยความจำที่ต้องทรงพลังมากขึ้นเรื่อย ๆ คำถามที่เกิดขึ้นคือ เกมที่ดีควรพึ่งพาฮาร์ดแวร์ที่ทรงพลังเพียงอย่างเดียว หรือควรให้ความสำคัญกับการเขียนโค้ดอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อรีดประสิทธิภาพสูงสุด? บทความนี้จะวิเคราะห์ทั้งสองแนวทาง พร้อมเปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย และมองไปยังอนาคตของการพัฒนาเกม 1️⃣ การพึ่งพาฮาร์ดแวร์ที่แรงขึ้น ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ เช่น GPU และ CPU รุ่นใหม่ ๆ ได้พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเทคโนโลยีอย่าง NVIDIA RTX ที่รองรับ Ray Tracing ซึ่งช่วยให้แสง สะท้อน และเงาในเกมสมจริงยิ่งขึ้น หรือ CPU ที่มีจำนวนคอร์และเธรดมากขึ้นเพื่อรองรับการประมวลผลที่ซับซ้อน เช่น AI Physics ในเกม AAA (เกมที่มีงบประมาณสูง) ตัวอย่างเช่น Cyberpunk 2077 หรือ Starfield ที่ใช้ทรัพยากรระบบมหาศาลเพื่อสร้างประสบการณ์ภาพที่ตระการตา นักพัฒนาเกม AAA มักเลือกแนวทาง “ปล่อยให้ฮาร์ดแวร์จัดการ” โดยอาศัยพลังของเครื่องรุ่นใหม่เพื่อลดความซับซ้อนในการพัฒนา ✅ ข้อดี ของแนวทางนี้คือ: - การพัฒนาเกมเร็วขึ้น เพราะไม่ต้องเสียเวลา optimize มาก - สามารถใช้ฟีเจอร์สมัยใหม่ เช่น Ray Tracing หรือ AI-driven NPC - กราฟิกที่สวยงามและสมจริง ตรงตามความคาดหวังของผู้เล่น ❌ ข้อเสีย: - ผู้เล่นที่ใช้เครื่องระดับกลางหรือล่างอาจไม่สามารถเล่นได้ หรือต้องลดกราฟิกลงจนเสียประสบการณ์ - การใช้ทรัพยากรเกินความจำเป็น อาจทำให้เครื่องร้อนหรือสิ้นเปลืองพลังงาน - ค่าใช้จ่ายในการอัปเกรดฮาร์ดแวร์สูงสำหรับผู้เล่น 2️⃣ การรีดประสิทธิภาพผ่านการเขียนโค้ด ในทางตรงกันข้าม การเขียนโค้ดที่มีประสิทธิภาพหรือ optimization เป็นหัวใจสำคัญของเกมที่ต้องการให้เล่นได้ลื่นไหลบนเครื่องหลากหลายระดับ เทคนิคที่นิยมใช้ ได้แก่: - ลด Draw Calls: ลดจำนวนครั้งที่ GPU ต้องวาดวัตถุในฉาก - Occlusion Culling: ตัดการประมวลผลวัตถุที่อยู่นอกมุมมองของผู้เล่น - Level of Detail (LOD): ปรับความละเอียดของโมเดลตามระยะห่างจากกล้อง - Multithreading: กระจายงานไปยังคอร์ CPU หลายตัวเพื่อประมวลผลพร้อมกัน - ตัวอย่างเกมอินดี้ เช่น Hollow Knight หรือ Stardew Valley แสดงให้เห็นว่า การ optimize ที่ดีสามารถสร้างเกมที่ลื่นไหลและสวยงามได้ แม้จะใช้ทรัพยากรน้อย ✅ ข้อดี ของแนวทางนี้: - รองรับเครื่องสเปคหลากหลาย ทำให้เข้าถึงผู้เล่นได้มากขึ้น - ระหยัดพลังงานและลดความร้อนของเครื่อง - มีเสถียรภาพสูง ลดปัญหาค้างหรือกระตุก ❌ ข้อเสีย: - ใช้เวลาและทรัพยากรในการพัฒนานานขึ้น - ต้องใช้ความรู้และประสบการณ์ของนักพัฒนาในระดับสูง 3️⃣ ตัวอย่างเปรียบเทียบ ลองเปรียบเทียบเกม AAA เช่น Cyberpunk 2077 ที่ต้องการสเปคสูง (เช่น RTX 3080 เพื่อ Ray Tracing เต็มรูปแบบ) กับเกมอินดี้อย่าง Hollow Knight ที่ใช้ทรัพยากรน้อยแต่ให้ประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม: 👉 ความลื่นไหล: Cyberpunk 2077 อาจกระตุกบนเครื่องสเปคต่ำ แม้ลดกราฟิกแล้ว ส่วน Hollow Knight ลื่นไหลแม้บนเครื่องเก่า 👉 ความร้อนของเครื่อง: เกม AAA มักทำให้เครื่องร้อนและพัดลมทำงานหนัก ขณะที่เกมอินดี้ใช้พลังงานน้อยกว่า 👉 ความเสถียร: เกมที่ optimize ดีมักมีบั๊กน้อยกว่าและรันได้นานโดยไม่ crash ประสบการณ์ของผู้เล่นจึงขึ้นอยู่กับว่าพวกเขามีเครื่องที่แรงพอหรือไม่ และนักพัฒนาให้ความสำคัญกับ optimization มากน้อยเพียงใด 4️⃣ สรุปและมุมมองอนาคต นักพัฒนาในปัจจุบันต้องเผชิญกับทางเลือกที่ท้าทาย: ใช้ประโยชน์จากฮาร์ดแวร์ทรงพลังเพื่อสร้างเกมที่อลังการ หรือทุ่มเทให้กับการ optimize เพื่อให้เข้าถึงผู้เล่นทุกกลุ่ม? เกมเอนจินอย่าง Unreal Engine และ Unity ช่วยลดช่องว่างนี้ โดยมีเครื่องมือในตัวที่ช่วยทั้งด้านกราฟิกและ optimization เช่น การจัดการ LOD หรือการเรนเดอร์ที่มีประสิทธิภาพ ในอนาคต การบาลานซ์ระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์จะสำคัญยิ่งขึ้น นักพัฒนาควรคำนึงถึง ประสบการณ์ของผู้เล่น เป็นหลัก ไม่ใช่แค่กราฟิกที่สวยงาม การ optimize ที่ดีจะช่วยให้เกมเข้าถึงผู้เล่นได้กว้างขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องอัปเกรดเครื่องใหม่เสมอไป ℹ️ℹ️ บทส่งท้าย ℹ️ℹ️ การพัฒนาเกมในอนาคตไม่ควรยึดติดที่กราฟิกหรือพลังของฮาร์ดแวร์เพียงอย่างเดียว แต่ควรเน้นที่ ประสบการณ์ที่สมดุล นักพัฒนาควรให้ความสำคัญกับการเขียนโค้ดที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกมสามารถเล่นได้อย่างลื่นไหลบนเครื่องทุกระดับ สร้างความพึงพอใจให้ผู้เล่นโดยไม่ต้องลงทุนซื้อฮาร์ดแวร์ราคาแพง การ optimize ไม่ใช่แค่เทคนิค แต่คือกุญแจสู่การสร้างเกมที่ยั่งยืนและเข้าถึงได้สำหรับทุกคน
    0 Comments 0 Shares 53 Views 0 Reviews
  • บางทีปูตินอาจไม่ได้สนใจเครื่องบินทิ้งระเบิดที่เสียหายหรือถูกทำลาย เพราะนั่นแค่บางส่วน และเครื่องบินเหล่านั้นสามารถสร้างทดแทนได้ ปล่อยให้สื่อตะวันตก และยูเครนเล่นข่าวนี้ไป!

    👉โศกนาฏกรรมที่แท้จริงคือการสูญเสียชีวิตผู้บริสุทธิ์ในเหตุการณ์ก่อการร้ายลอบวางระเบิดสะพานข้ามทางรถไฟ - สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถทดแทนได้!

    👉รัสเซียมีเครื่องบินทิ้งระเบิดสำรองมากกว่าเครื่องบินทิ้งระเบิดที่ประจำการอยู่ 3 เท่า ซึ่งหมายความว่ารัสเซียสามารถทดแทนฝูงบินทั้งหมดได้ทันที!

    👉รัสเซียมีความสามารถในการสร้างเครื่องบินทิ้งระเบิดได้ทันที เมื่อมีการร้องขอถึงการขาดแคลน

    👉โดยสรุป รัสเซียเสียหน้า ใช่! นี่คือเรื่องจริง และต้องปรับปรุงด้านข่าวกรองด้วย!

    👉รัสเซียไม่ได้สูญเสียความแข็งแกร่งลงไป ถ้าหากยูเครนต้องการทำร้ายรัสเซียจริงๆ นั่นหมายถึงพวกเขาต้องไปทำลายถึงโรงงานผลิต

    👉แต่สิ่งที่ยูเครนเพิ่งทำลงไป และกำลังดีใจถึงสำเร็จแค่ฉากหน้าของพวกเขา โดยมีสื่อตะวันตกคอยเชิดชู คือการบังคับให้รัสเซียต้องเพิ่มปฏิบัติการในการโจมตีที่รุนแรงขึ้น อย่างช้าไม่เกินหนึ่งสัปดาห์ ผลลัพธ์นั้นจะเป็นรูปธรรมจากรัสเซีย

    👉 รัสเซียบอกเสมอว่า "การตอบโต้ จะทำในระดับเดียวกันกับที่ศัตรูโจมตีเรา" ชัดเจนว่าการสูญเสียแค่ระดับนี้ ยังไปไม่ถึงอาวุธนิวเคลียร์

    👉สิ่งสำคัญที่สุด ที่เซเลนสกีควรกังวลมากกว่าการโจมตีตอบโต้บนดินแดนยูเครน ที่ใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงก็จบลง นั่นคือแนวหน้าของรัสเซียจะมีการรุกคืบอย่างรุนแรงและรวดเร็ว "ซึ่งจะทำให้ยูเครนสูญเสียดินแดนไปตลอดกาล"
    บางทีปูตินอาจไม่ได้สนใจเครื่องบินทิ้งระเบิดที่เสียหายหรือถูกทำลาย เพราะนั่นแค่บางส่วน และเครื่องบินเหล่านั้นสามารถสร้างทดแทนได้ ปล่อยให้สื่อตะวันตก และยูเครนเล่นข่าวนี้ไป! 👉โศกนาฏกรรมที่แท้จริงคือการสูญเสียชีวิตผู้บริสุทธิ์ในเหตุการณ์ก่อการร้ายลอบวางระเบิดสะพานข้ามทางรถไฟ - สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถทดแทนได้! 👉รัสเซียมีเครื่องบินทิ้งระเบิดสำรองมากกว่าเครื่องบินทิ้งระเบิดที่ประจำการอยู่ 3 เท่า ซึ่งหมายความว่ารัสเซียสามารถทดแทนฝูงบินทั้งหมดได้ทันที! 👉รัสเซียมีความสามารถในการสร้างเครื่องบินทิ้งระเบิดได้ทันที เมื่อมีการร้องขอถึงการขาดแคลน 👉โดยสรุป รัสเซียเสียหน้า ใช่! นี่คือเรื่องจริง และต้องปรับปรุงด้านข่าวกรองด้วย! 👉รัสเซียไม่ได้สูญเสียความแข็งแกร่งลงไป ถ้าหากยูเครนต้องการทำร้ายรัสเซียจริงๆ นั่นหมายถึงพวกเขาต้องไปทำลายถึงโรงงานผลิต 👉แต่สิ่งที่ยูเครนเพิ่งทำลงไป และกำลังดีใจถึงสำเร็จแค่ฉากหน้าของพวกเขา โดยมีสื่อตะวันตกคอยเชิดชู คือการบังคับให้รัสเซียต้องเพิ่มปฏิบัติการในการโจมตีที่รุนแรงขึ้น อย่างช้าไม่เกินหนึ่งสัปดาห์ ผลลัพธ์นั้นจะเป็นรูปธรรมจากรัสเซีย 👉 รัสเซียบอกเสมอว่า "การตอบโต้ จะทำในระดับเดียวกันกับที่ศัตรูโจมตีเรา" ชัดเจนว่าการสูญเสียแค่ระดับนี้ ยังไปไม่ถึงอาวุธนิวเคลียร์ 👉สิ่งสำคัญที่สุด ที่เซเลนสกีควรกังวลมากกว่าการโจมตีตอบโต้บนดินแดนยูเครน ที่ใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงก็จบลง นั่นคือแนวหน้าของรัสเซียจะมีการรุกคืบอย่างรุนแรงและรวดเร็ว "ซึ่งจะทำให้ยูเครนสูญเสียดินแดนไปตลอดกาล"
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 87 Views 0 Reviews
  • ปรับ ครม.ยังไม่นิ่ง คาดรู้หลัง 13 มิ.ย. สมศักดิ์ ได้ลุ้น มท.1
    .
    การปรับครม. หลังทักษิณ ชินวัตร ส่งสัญญาณแรงๆ “กระทรวงมหาดไทย”ต้องถูกยึดกลับมาให้ เพื่อไทยดูแลแทน ทำให้ คาดว่าการปรับครม.คงเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ เพราะเข้าเดือนมิ.ย.มา เท่ากับรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร บริหารประเทศมา 9 เดือนเข้าไปแล้ว ทักษิณ จึงต้องการให้ปรับครม.โดยเฉพาะการเอามหาดไทยคืนมาจากภูมิใจไทย

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000051545

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    ปรับ ครม.ยังไม่นิ่ง คาดรู้หลัง 13 มิ.ย. สมศักดิ์ ได้ลุ้น มท.1 . การปรับครม. หลังทักษิณ ชินวัตร ส่งสัญญาณแรงๆ “กระทรวงมหาดไทย”ต้องถูกยึดกลับมาให้ เพื่อไทยดูแลแทน ทำให้ คาดว่าการปรับครม.คงเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ เพราะเข้าเดือนมิ.ย.มา เท่ากับรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร บริหารประเทศมา 9 เดือนเข้าไปแล้ว ทักษิณ จึงต้องการให้ปรับครม.โดยเฉพาะการเอามหาดไทยคืนมาจากภูมิใจไทย อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000051545 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Haha
    3
    0 Comments 0 Shares 216 Views 0 Reviews
  • ปรับ ครม.ยังไม่นิ่ง คาดรู้หลัง 13 มิ.ย. สมศักดิ์ ได้ลุ้น มท.1
    .
    การปรับครม. หลังทักษิณ ชินวัตร ส่งสัญญาณแรงๆ “กระทรวงมหาดไทย”ต้องถูกยึดกลับมาให้ เพื่อไทยดูแลแทน ทำให้ คาดว่าการปรับครม.คงเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ เพราะเข้าเดือนมิ.ย.มา เท่ากับรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร บริหารประเทศมา 9 เดือนเข้าไปแล้ว ทักษิณ จึงต้องการให้ปรับครม.โดยเฉพาะการเอามหาดไทยคืนมาจากภูมิใจไทย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000051541

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    ปรับ ครม.ยังไม่นิ่ง คาดรู้หลัง 13 มิ.ย. สมศักดิ์ ได้ลุ้น มท.1 . การปรับครม. หลังทักษิณ ชินวัตร ส่งสัญญาณแรงๆ “กระทรวงมหาดไทย”ต้องถูกยึดกลับมาให้ เพื่อไทยดูแลแทน ทำให้ คาดว่าการปรับครม.คงเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ เพราะเข้าเดือนมิ.ย.มา เท่ากับรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร บริหารประเทศมา 9 เดือนเข้าไปแล้ว ทักษิณ จึงต้องการให้ปรับครม.โดยเฉพาะการเอามหาดไทยคืนมาจากภูมิใจไทย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000051541 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Haha
    6
    0 Comments 0 Shares 280 Views 0 Reviews
  • 🎮 Microsoft Agility SDK DirectX: การอัปเดตครั้งใหญ่สำหรับ Ray Tracing
    Microsoft ได้เปิดตัว Agility SDK DirectX รุ่นใหม่ ซึ่งมาพร้อมกับ Shader Execution Reordering (SER) และ Opacity Micromaps (OMM) ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ Ray Tracing บนฮาร์ดแวร์ของ NVIDIA

    Agility SDK DirectX มี สองเวอร์ชันหลัก ได้แก่ 1.717-preview และ 1.616-retail โดยแต่ละเวอร์ชันมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้ นักพัฒนาสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของเกมที่ใช้ Ray Tracing ได้อย่างมีนัยสำคัญ

    Shader Execution Reordering (SER) ช่วยให้ GPU สามารถจัดเรียงเธรดใหม่ เพื่อให้การประมวลผลมีความต่อเนื่องมากขึ้น ลดความแตกต่างของการทำงาน และเพิ่มประสิทธิภาพได้สูงสุด 2 เท่า

    Opacity Micromaps (OMM) ช่วยให้ ฮาร์ดแวร์สามารถจัดการกับวัตถุที่มีความโปร่งใสได้ดีขึ้น ลดการเรียกใช้ AnyHit shader และเพิ่มประสิทธิภาพได้สูงสุด 2.3 เท่า

    นอกจากนี้ยังมี Direct3D Video Encoding Updates ที่เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ เช่น HEVC Reference List extension และ การเข้ารหัสแบบสองรอบ เพื่อปรับปรุงคุณภาพของวิดีโอ

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Microsoft เปิดตัว Agility SDK DirectX รุ่นใหม่ที่รองรับ SER และ OMM
    - SER ช่วยให้ GPU สามารถจัดเรียงเธรดใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพได้สูงสุด 2 เท่า
    - OMM ช่วยให้ฮาร์ดแวร์จัดการวัตถุโปร่งใสได้ดีขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพได้สูงสุด 2.3 เท่า
    - Direct3D Video Encoding Updates เพิ่มฟีเจอร์ HEVC Reference List extension และการเข้ารหัสแบบสองรอบ
    - NVIDIA เป็นผู้ผลิตรายแรกที่รองรับ OMM บน RTX GPUs

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - SER และ OMM ต้องใช้ฮาร์ดแวร์ที่รองรับ ซึ่งอาจไม่สามารถใช้งานได้บน GPU รุ่นเก่า
    - ต้องติดตามว่าผู้ผลิตรายอื่น เช่น AMD และ Intel จะเพิ่มการรองรับ OMM หรือไม่
    - การเปลี่ยนแปลงนี้อาจทำให้เกมที่ใช้ Ray Tracing ต้องปรับปรุงโค้ดเพื่อใช้ฟีเจอร์ใหม่
    - ต้องรอดูว่าการอัปเดตนี้จะส่งผลต่อประสิทธิภาพของเกมในระยะยาวอย่างไร

    Agility SDK DirectX รุ่นใหม่ช่วยให้ Ray Tracing มีประสิทธิภาพมากขึ้น และอาจทำให้ เกมที่ใช้เทคโนโลยีนี้สามารถรันได้เร็วขึ้นบนฮาร์ดแวร์ที่รองรับ อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าผู้พัฒนาเกมจะนำฟีเจอร์เหล่านี้ไปใช้มากน้อยเพียงใด

    https://wccftech.com/microsoft-agility-sdk-directx-shader-execution-reordering-opacity-micromaps-support-huge-ray-tracing-improvements-on-nvidia/
    🎮 Microsoft Agility SDK DirectX: การอัปเดตครั้งใหญ่สำหรับ Ray Tracing Microsoft ได้เปิดตัว Agility SDK DirectX รุ่นใหม่ ซึ่งมาพร้อมกับ Shader Execution Reordering (SER) และ Opacity Micromaps (OMM) ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ Ray Tracing บนฮาร์ดแวร์ของ NVIDIA Agility SDK DirectX มี สองเวอร์ชันหลัก ได้แก่ 1.717-preview และ 1.616-retail โดยแต่ละเวอร์ชันมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้ นักพัฒนาสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของเกมที่ใช้ Ray Tracing ได้อย่างมีนัยสำคัญ Shader Execution Reordering (SER) ช่วยให้ GPU สามารถจัดเรียงเธรดใหม่ เพื่อให้การประมวลผลมีความต่อเนื่องมากขึ้น ลดความแตกต่างของการทำงาน และเพิ่มประสิทธิภาพได้สูงสุด 2 เท่า Opacity Micromaps (OMM) ช่วยให้ ฮาร์ดแวร์สามารถจัดการกับวัตถุที่มีความโปร่งใสได้ดีขึ้น ลดการเรียกใช้ AnyHit shader และเพิ่มประสิทธิภาพได้สูงสุด 2.3 เท่า นอกจากนี้ยังมี Direct3D Video Encoding Updates ที่เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ เช่น HEVC Reference List extension และ การเข้ารหัสแบบสองรอบ เพื่อปรับปรุงคุณภาพของวิดีโอ ✅ ข้อมูลจากข่าว - Microsoft เปิดตัว Agility SDK DirectX รุ่นใหม่ที่รองรับ SER และ OMM - SER ช่วยให้ GPU สามารถจัดเรียงเธรดใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพได้สูงสุด 2 เท่า - OMM ช่วยให้ฮาร์ดแวร์จัดการวัตถุโปร่งใสได้ดีขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพได้สูงสุด 2.3 เท่า - Direct3D Video Encoding Updates เพิ่มฟีเจอร์ HEVC Reference List extension และการเข้ารหัสแบบสองรอบ - NVIDIA เป็นผู้ผลิตรายแรกที่รองรับ OMM บน RTX GPUs ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - SER และ OMM ต้องใช้ฮาร์ดแวร์ที่รองรับ ซึ่งอาจไม่สามารถใช้งานได้บน GPU รุ่นเก่า - ต้องติดตามว่าผู้ผลิตรายอื่น เช่น AMD และ Intel จะเพิ่มการรองรับ OMM หรือไม่ - การเปลี่ยนแปลงนี้อาจทำให้เกมที่ใช้ Ray Tracing ต้องปรับปรุงโค้ดเพื่อใช้ฟีเจอร์ใหม่ - ต้องรอดูว่าการอัปเดตนี้จะส่งผลต่อประสิทธิภาพของเกมในระยะยาวอย่างไร Agility SDK DirectX รุ่นใหม่ช่วยให้ Ray Tracing มีประสิทธิภาพมากขึ้น และอาจทำให้ เกมที่ใช้เทคโนโลยีนี้สามารถรันได้เร็วขึ้นบนฮาร์ดแวร์ที่รองรับ อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าผู้พัฒนาเกมจะนำฟีเจอร์เหล่านี้ไปใช้มากน้อยเพียงใด https://wccftech.com/microsoft-agility-sdk-directx-shader-execution-reordering-opacity-micromaps-support-huge-ray-tracing-improvements-on-nvidia/
    WCCFTECH.COM
    Microsoft Agility SDK DirectX Now Adds Shader Execution Reordering & Opacity Micromaps Support, Huge Ray Tracing Improvements On NVIDIA Hardware
    Microsoft has released its latest Agility SDK, DirectX, which brings major ray tracing improvements with SER & OMM support.
    0 Comments 0 Shares 47 Views 0 Reviews
  • 🛡️ AI-powered “Repeaters”: เทคนิคใหม่ของอาชญากรไซเบอร์
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก AU10TIX ได้ค้นพบกลยุทธ์ใหม่ที่อาชญากรไซเบอร์ใช้ในการเจาะระบบของ ธนาคารและแพลตฟอร์มคริปโต โดยใช้ AI-powered Repeaters ซึ่งเป็น ตัวตนดิจิทัลปลอมที่ถูกปรับแต่งเล็กน้อย เพื่อหลบเลี่ยงระบบตรวจจับ

    Repeaters ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อโจมตีทันที แต่จะ ทดสอบระบบป้องกันขององค์กร โดยใช้ ตัวตนดิจิทัลที่ถูกปรับแต่งเล็กน้อย เช่น เปลี่ยนใบหน้า, แก้ไขหมายเลขเอกสาร หรือปรับพื้นหลังของภาพ

    เมื่อระบบตรวจสอบแต่ละตัวตนแยกกัน จะไม่สามารถตรวจจับความผิดปกติได้ ทำให้ Repeaters สามารถ ผ่านกระบวนการยืนยันตัวตน (KYC) และการตรวจสอบไบโอเมตริกซ์ ได้อย่างง่ายดาย

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Repeaters เป็นตัวตนดิจิทัลปลอมที่ถูกปรับแต่งเล็กน้อยเพื่อทดสอบระบบป้องกันขององค์กร
    - ใช้เทคนิค deepfake เพื่อเปลี่ยนใบหน้า, หมายเลขเอกสาร และพื้นหลังของภาพ
    - สามารถหลบเลี่ยงระบบตรวจสอบไบโอเมตริกซ์และ KYC ได้อย่างง่ายดาย
    - AU10TIX เปิดตัว “consortium validation” เพื่อให้หลายองค์กรแชร์ข้อมูลและตรวจจับ Repeaters ได้ดีขึ้น
    - ระบบใหม่ช่วยให้สามารถตรวจจับตัวตนที่ถูกใช้ซ้ำในหลายแพลตฟอร์มได้แบบเรียลไทม์

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ระบบตรวจสอบตัวตนแบบดั้งเดิมอาจไม่สามารถรับมือกับ Repeaters ได้
    - อาชญากรไซเบอร์สามารถใช้ Repeaters เพื่อเจาะระบบของธนาคารและแพลตฟอร์มคริปโต
    - ต้องมีการตรวจสอบพฤติกรรมของผู้ใช้ในหลายแพลตฟอร์มเพื่อป้องกันการโจมตีแบบเงียบ
    - ไม่มีโซลูชันใดที่สามารถป้องกัน Repeaters ได้ 100% ต้องใช้การตรวจสอบแบบหลายชั้น

    Repeaters แสดงให้เห็นว่า AI กำลังถูกใช้เพื่อพัฒนาเทคนิคการโจมตีที่ซับซ้อนมากขึ้น องค์กรต้อง ปรับปรุงระบบตรวจสอบตัวตนให้สามารถตรวจจับตัวตนที่ถูกใช้ซ้ำ และ ใช้การตรวจสอบแบบพฤติกรรมเพื่อป้องกันการโจมตีในอนาคต

    https://www.techradar.com/pro/security/cybercriminals-are-deploying-deepfake-sentinels-to-test-detection-systems-of-businesses-heres-what-you-need-to-know
    🛡️ AI-powered “Repeaters”: เทคนิคใหม่ของอาชญากรไซเบอร์ นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก AU10TIX ได้ค้นพบกลยุทธ์ใหม่ที่อาชญากรไซเบอร์ใช้ในการเจาะระบบของ ธนาคารและแพลตฟอร์มคริปโต โดยใช้ AI-powered Repeaters ซึ่งเป็น ตัวตนดิจิทัลปลอมที่ถูกปรับแต่งเล็กน้อย เพื่อหลบเลี่ยงระบบตรวจจับ Repeaters ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อโจมตีทันที แต่จะ ทดสอบระบบป้องกันขององค์กร โดยใช้ ตัวตนดิจิทัลที่ถูกปรับแต่งเล็กน้อย เช่น เปลี่ยนใบหน้า, แก้ไขหมายเลขเอกสาร หรือปรับพื้นหลังของภาพ เมื่อระบบตรวจสอบแต่ละตัวตนแยกกัน จะไม่สามารถตรวจจับความผิดปกติได้ ทำให้ Repeaters สามารถ ผ่านกระบวนการยืนยันตัวตน (KYC) และการตรวจสอบไบโอเมตริกซ์ ได้อย่างง่ายดาย ✅ ข้อมูลจากข่าว - Repeaters เป็นตัวตนดิจิทัลปลอมที่ถูกปรับแต่งเล็กน้อยเพื่อทดสอบระบบป้องกันขององค์กร - ใช้เทคนิค deepfake เพื่อเปลี่ยนใบหน้า, หมายเลขเอกสาร และพื้นหลังของภาพ - สามารถหลบเลี่ยงระบบตรวจสอบไบโอเมตริกซ์และ KYC ได้อย่างง่ายดาย - AU10TIX เปิดตัว “consortium validation” เพื่อให้หลายองค์กรแชร์ข้อมูลและตรวจจับ Repeaters ได้ดีขึ้น - ระบบใหม่ช่วยให้สามารถตรวจจับตัวตนที่ถูกใช้ซ้ำในหลายแพลตฟอร์มได้แบบเรียลไทม์ ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ระบบตรวจสอบตัวตนแบบดั้งเดิมอาจไม่สามารถรับมือกับ Repeaters ได้ - อาชญากรไซเบอร์สามารถใช้ Repeaters เพื่อเจาะระบบของธนาคารและแพลตฟอร์มคริปโต - ต้องมีการตรวจสอบพฤติกรรมของผู้ใช้ในหลายแพลตฟอร์มเพื่อป้องกันการโจมตีแบบเงียบ - ไม่มีโซลูชันใดที่สามารถป้องกัน Repeaters ได้ 100% ต้องใช้การตรวจสอบแบบหลายชั้น Repeaters แสดงให้เห็นว่า AI กำลังถูกใช้เพื่อพัฒนาเทคนิคการโจมตีที่ซับซ้อนมากขึ้น องค์กรต้อง ปรับปรุงระบบตรวจสอบตัวตนให้สามารถตรวจจับตัวตนที่ถูกใช้ซ้ำ และ ใช้การตรวจสอบแบบพฤติกรรมเพื่อป้องกันการโจมตีในอนาคต https://www.techradar.com/pro/security/cybercriminals-are-deploying-deepfake-sentinels-to-test-detection-systems-of-businesses-heres-what-you-need-to-know
    WWW.TECHRADAR.COM
    This sneaky fraud tactic uses deepfakes to outsmart your favorite digital services
    Repeaters are used to test your system’s defense before large-scale attack
    0 Comments 0 Shares 45 Views 0 Reviews
  • 📱 Xiaomi XRING 01: ชิปเซ็ตเรือธงที่ท้าทาย Snapdragon และ Apple
    Xiaomi ได้เปิดตัว XRING 01 ซึ่งเป็น ชิปเซ็ตมือถือเรือธง ที่พัฒนาโดยบริษัทเอง หลังจากมีข่าวลือและการทดสอบภายในมานานหลายเดือน

    XRING 01 ใช้ กระบวนการผลิต 3 นาโนเมตร (N3E) ของ TSMC ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดียวกับที่ใช้ใน Apple A18 Pro และ Qualcomm Snapdragon 8 Elite

    ชิปเซ็ตนี้มี 10 คอร์ ประกอบด้วย 2 Cortex-X925, 4 Cortex-A725, 2 Cortex-A725 และ 2 Cortex-A520 พร้อม GPU Arm Immortalis-G925 MP16 และ NPU 6 คอร์ที่มีแคช 16 MB

    อย่างไรก็ตาม XRING 01 ไม่มีโมเด็ม 5G ในตัว โดยคาดว่า Xiaomi เลือกใช้ โมเด็มภายนอกจาก MediaTek ซึ่งช่วยให้ขนาดของชิปเล็กลง

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Xiaomi เปิดตัว XRING 01 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตมือถือเรือธงที่พัฒนาเอง
    - ใช้กระบวนการผลิต 3 นาโนเมตร (N3E) ของ TSMC เช่นเดียวกับ Apple และ Qualcomm
    - มี 10 คอร์ ประกอบด้วย Cortex-X925, Cortex-A725 และ Cortex-A520
    - มาพร้อมกับ GPU Arm Immortalis-G925 MP16 และ NPU 6 คอร์ที่มีแคช 16 MB
    - ไม่มีโมเด็ม 5G ในตัว คาดว่าใช้โมเด็มภายนอกจาก MediaTek

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - การไม่มีโมเด็ม 5G ในตัวอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพและการใช้พลังงาน
    - การตัดสินใจใช้โมเด็มภายนอกอาจเป็นผลจากข้อจำกัดด้านการออกแบบหรือการลดต้นทุน
    - การไม่มี SLC cache อาจทำให้ GPU ใช้พลังงานมากกว่าคู่แข่ง เช่น Dimensity
    - ต้องติดตามว่า Xiaomi จะสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพของ XRING 01 ในรุ่นต่อไปได้หรือไม่

    https://www.techpowerup.com/337496/xiaomi-xring-01-soc-die-shot-analyzed-by-chinese-tech-youtuber
    📱 Xiaomi XRING 01: ชิปเซ็ตเรือธงที่ท้าทาย Snapdragon และ Apple Xiaomi ได้เปิดตัว XRING 01 ซึ่งเป็น ชิปเซ็ตมือถือเรือธง ที่พัฒนาโดยบริษัทเอง หลังจากมีข่าวลือและการทดสอบภายในมานานหลายเดือน XRING 01 ใช้ กระบวนการผลิต 3 นาโนเมตร (N3E) ของ TSMC ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดียวกับที่ใช้ใน Apple A18 Pro และ Qualcomm Snapdragon 8 Elite ชิปเซ็ตนี้มี 10 คอร์ ประกอบด้วย 2 Cortex-X925, 4 Cortex-A725, 2 Cortex-A725 และ 2 Cortex-A520 พร้อม GPU Arm Immortalis-G925 MP16 และ NPU 6 คอร์ที่มีแคช 16 MB อย่างไรก็ตาม XRING 01 ไม่มีโมเด็ม 5G ในตัว โดยคาดว่า Xiaomi เลือกใช้ โมเด็มภายนอกจาก MediaTek ซึ่งช่วยให้ขนาดของชิปเล็กลง ✅ ข้อมูลจากข่าว - Xiaomi เปิดตัว XRING 01 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตมือถือเรือธงที่พัฒนาเอง - ใช้กระบวนการผลิต 3 นาโนเมตร (N3E) ของ TSMC เช่นเดียวกับ Apple และ Qualcomm - มี 10 คอร์ ประกอบด้วย Cortex-X925, Cortex-A725 และ Cortex-A520 - มาพร้อมกับ GPU Arm Immortalis-G925 MP16 และ NPU 6 คอร์ที่มีแคช 16 MB - ไม่มีโมเด็ม 5G ในตัว คาดว่าใช้โมเด็มภายนอกจาก MediaTek ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - การไม่มีโมเด็ม 5G ในตัวอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพและการใช้พลังงาน - การตัดสินใจใช้โมเด็มภายนอกอาจเป็นผลจากข้อจำกัดด้านการออกแบบหรือการลดต้นทุน - การไม่มี SLC cache อาจทำให้ GPU ใช้พลังงานมากกว่าคู่แข่ง เช่น Dimensity - ต้องติดตามว่า Xiaomi จะสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพของ XRING 01 ในรุ่นต่อไปได้หรือไม่ https://www.techpowerup.com/337496/xiaomi-xring-01-soc-die-shot-analyzed-by-chinese-tech-youtuber
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Xiaomi XRING 01 SoC Die Shot Analyzed by Chinese Tech YouTuber
    Three weeks ago, Kurnal and Geekerwan dived deep into Nintendo's alleged Switch 2 chipset. The very brave Chinese leakers are notorious for their acquiring of pre-release and early silicon samples. Last week, their collective attention turned to a brand-new Xiaomi mobile chip: the XRING 01. After mo...
    0 Comments 0 Shares 48 Views 0 Reviews
  • 🔌 Microsoft ปรับปรุงมาตรฐาน USB-C บน Windows 11 เพื่อแก้ปัญหาความสับสน

    Microsoft ได้ประกาศปรับปรุง Windows Hardware Compatibility Program (WHCP) เพื่อให้แน่ใจว่า ทุกพอร์ต USB-C บน Windows 11 รองรับการส่งข้อมูล, การชาร์จ และการแสดงผล โดยไม่มีข้อจำกัดที่แตกต่างกันในแต่ละอุปกรณ์

    ปัญหาหลักของ USB-C คือ การใช้งานที่ไม่สม่ำเสมอในแต่ละอุปกรณ์ บางพอร์ตรองรับเฉพาะการชาร์จ บางพอร์ตรองรับเฉพาะการส่งข้อมูล หรือบางพอร์ตรองรับการแสดงผลเท่านั้น

    WHCP ใหม่จะกำหนดให้ ทุกพอร์ต USB-C บนแล็ปท็อปและแท็บเล็ตที่ได้รับการรับรองจาก Windows 11 ต้องรองรับทั้งสามฟังก์ชัน ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถ เสียบสายชาร์จหรือจอแสดงผลที่พอร์ตใดก็ได้โดยไม่ต้องเดา

    นอกจากนี้ Microsoft ยังเพิ่มข้อกำหนดให้ พอร์ต USB 40Gbps รองรับทั้ง USB4 และ Thunderbolt 3 เพื่อให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ที่ใช้มาตรฐานเหล่านี้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - WHCP ใหม่กำหนดให้ทุกพอร์ต USB-C บน Windows 11 รองรับการส่งข้อมูล, การชาร์จ และการแสดงผล
    - ช่วยลดความสับสนของผู้ใช้เกี่ยวกับพอร์ต USB-C ที่มีฟังก์ชันแตกต่างกัน
    - พอร์ต USB 40Gbps ต้องรองรับทั้ง USB4 และ Thunderbolt 3
    - WHCP ใช้ Microsoft driver stack เพื่อให้แน่ใจว่าการอัปเดตด้านความปลอดภัยและฟีเจอร์จะมาผ่าน Windows Update
    - การเปลี่ยนแปลงนี้มีผลกับอุปกรณ์ที่มาพร้อมกับ Windows 11 24H2

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - แม้จะมีมาตรฐานใหม่ แต่ระดับการรองรับของแต่ละพอร์ต USB-C อาจยังแตกต่างกันไปตามอุปกรณ์
    - ผู้ใช้ต้องตรวจสอบว่าอุปกรณ์ของตนได้รับการรับรอง WHCP หรือไม่
    - การเปลี่ยนแปลงนี้อาจทำให้ผู้ผลิตต้องปรับปรุงฮาร์ดแวร์และไดรเวอร์เพิ่มเติม
    - ต้องติดตามว่าผู้ผลิตพีซีจะนำมาตรฐานนี้ไปใช้กับอุปกรณ์รุ่นเก่าหรือไม่

    การปรับปรุง WHCP นี้ช่วยให้ การใช้งานพอร์ต USB-C บน Windows 11 มีความสม่ำเสมอมากขึ้น และลดปัญหาความสับสน อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าผู้ผลิตพีซีจะนำมาตรฐานนี้ไปใช้กับอุปกรณ์รุ่นเก่าหรือไม่

    https://www.tomshardware.com/software/windows/microsoft-promises-it-is-ending-usb-c-port-confusion-with-updated-windows-11-certified-program
    🔌 Microsoft ปรับปรุงมาตรฐาน USB-C บน Windows 11 เพื่อแก้ปัญหาความสับสน Microsoft ได้ประกาศปรับปรุง Windows Hardware Compatibility Program (WHCP) เพื่อให้แน่ใจว่า ทุกพอร์ต USB-C บน Windows 11 รองรับการส่งข้อมูล, การชาร์จ และการแสดงผล โดยไม่มีข้อจำกัดที่แตกต่างกันในแต่ละอุปกรณ์ ปัญหาหลักของ USB-C คือ การใช้งานที่ไม่สม่ำเสมอในแต่ละอุปกรณ์ บางพอร์ตรองรับเฉพาะการชาร์จ บางพอร์ตรองรับเฉพาะการส่งข้อมูล หรือบางพอร์ตรองรับการแสดงผลเท่านั้น WHCP ใหม่จะกำหนดให้ ทุกพอร์ต USB-C บนแล็ปท็อปและแท็บเล็ตที่ได้รับการรับรองจาก Windows 11 ต้องรองรับทั้งสามฟังก์ชัน ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถ เสียบสายชาร์จหรือจอแสดงผลที่พอร์ตใดก็ได้โดยไม่ต้องเดา นอกจากนี้ Microsoft ยังเพิ่มข้อกำหนดให้ พอร์ต USB 40Gbps รองรับทั้ง USB4 และ Thunderbolt 3 เพื่อให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ที่ใช้มาตรฐานเหล่านี้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น ✅ ข้อมูลจากข่าว - WHCP ใหม่กำหนดให้ทุกพอร์ต USB-C บน Windows 11 รองรับการส่งข้อมูล, การชาร์จ และการแสดงผล - ช่วยลดความสับสนของผู้ใช้เกี่ยวกับพอร์ต USB-C ที่มีฟังก์ชันแตกต่างกัน - พอร์ต USB 40Gbps ต้องรองรับทั้ง USB4 และ Thunderbolt 3 - WHCP ใช้ Microsoft driver stack เพื่อให้แน่ใจว่าการอัปเดตด้านความปลอดภัยและฟีเจอร์จะมาผ่าน Windows Update - การเปลี่ยนแปลงนี้มีผลกับอุปกรณ์ที่มาพร้อมกับ Windows 11 24H2 ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - แม้จะมีมาตรฐานใหม่ แต่ระดับการรองรับของแต่ละพอร์ต USB-C อาจยังแตกต่างกันไปตามอุปกรณ์ - ผู้ใช้ต้องตรวจสอบว่าอุปกรณ์ของตนได้รับการรับรอง WHCP หรือไม่ - การเปลี่ยนแปลงนี้อาจทำให้ผู้ผลิตต้องปรับปรุงฮาร์ดแวร์และไดรเวอร์เพิ่มเติม - ต้องติดตามว่าผู้ผลิตพีซีจะนำมาตรฐานนี้ไปใช้กับอุปกรณ์รุ่นเก่าหรือไม่ การปรับปรุง WHCP นี้ช่วยให้ การใช้งานพอร์ต USB-C บน Windows 11 มีความสม่ำเสมอมากขึ้น และลดปัญหาความสับสน อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าผู้ผลิตพีซีจะนำมาตรฐานนี้ไปใช้กับอุปกรณ์รุ่นเก่าหรือไม่ https://www.tomshardware.com/software/windows/microsoft-promises-it-is-ending-usb-c-port-confusion-with-updated-windows-11-certified-program
    0 Comments 0 Shares 32 Views 0 Reviews
  • 🚀 บันทึกความเร็วใหม่ของอินเทอร์เน็ต: 1.02 เพตะบิตต่อวินาที
    นักวิจัยจาก สถาบันเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแห่งชาติญี่ปุ่น (NICT) ร่วมกับ Sumitomo Electric Industries ได้สร้างสถิติใหม่ในการส่งข้อมูลผ่าน สายไฟเบอร์ออปติก ด้วยความเร็ว 1.02 เพตะบิตต่อวินาที ซึ่งมากพอที่จะดาวน์โหลด ภาพยนตร์ทั้งหมดบน Netflix ได้ถึง 30 รอบ

    สายไฟเบอร์ออปติกที่ใช้ในงานวิจัยนี้มี 19 คอร์ ซึ่งแต่ละคอร์ทำหน้าที่เป็นช่องทางส่งข้อมูลแยกกัน เปรียบเสมือน ทางหลวง 19 เลน ที่อยู่ในพื้นที่เดียวกับสายไฟเบอร์แบบดั้งเดิม

    เทคโนโลยีนี้สามารถทำงานได้บน C และ L bands ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ใช้กันทั่วโลก โดยมีการปรับปรุงโครงสร้างภายในเพื่อ ลดการสูญเสียสัญญาณลง 40% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - NICT และ Sumitomo Electric Industries สร้างสถิติใหม่ในการส่งข้อมูลผ่านไฟเบอร์ออปติก
    - ความเร็วสูงสุดที่ทำได้คือ 1.02 เพตะบิตต่อวินาที
    - ใช้สายไฟเบอร์แบบ 19 คอร์ ซึ่งช่วยให้สามารถส่งข้อมูลได้มากขึ้นในพื้นที่เท่าเดิม
    - เทคโนโลยีนี้สามารถทำงานบน C และ L bands ซึ่งเป็นมาตรฐานสากล
    - ลดการสูญเสียสัญญาณลง 40% เมื่อเทียบกับไฟเบอร์รุ่นก่อนหน้า

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - แม้จะมีความเร็วสูง แต่ยังต้องพัฒนาเทคโนโลยีการขยายสัญญาณให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
    - การนำไปใช้ในระดับอุตสาหกรรมต้องมีการปรับปรุงกระบวนการผลิตให้รองรับการผลิตจำนวนมาก
    - ต้องติดตามว่าผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตจะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้จริงเมื่อใด
    - การขยายเครือข่ายระดับเพตะบิตอาจต้องใช้โครงสร้างพื้นฐานใหม่ในบางพื้นที่

    เทคโนโลยีนี้อาจช่วยให้ อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงระดับเพตะบิตกลายเป็นความจริง และอาจนำไปสู่ การพัฒนาเครือข่ายที่สามารถรองรับข้อมูลระดับศูนย์ข้อมูลทั้งแห่งได้ในเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมง

    https://www.techspot.com/news/108133-ultra-fast-fiber-sets-global-speed-record-102.html
    🚀 บันทึกความเร็วใหม่ของอินเทอร์เน็ต: 1.02 เพตะบิตต่อวินาที นักวิจัยจาก สถาบันเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแห่งชาติญี่ปุ่น (NICT) ร่วมกับ Sumitomo Electric Industries ได้สร้างสถิติใหม่ในการส่งข้อมูลผ่าน สายไฟเบอร์ออปติก ด้วยความเร็ว 1.02 เพตะบิตต่อวินาที ซึ่งมากพอที่จะดาวน์โหลด ภาพยนตร์ทั้งหมดบน Netflix ได้ถึง 30 รอบ สายไฟเบอร์ออปติกที่ใช้ในงานวิจัยนี้มี 19 คอร์ ซึ่งแต่ละคอร์ทำหน้าที่เป็นช่องทางส่งข้อมูลแยกกัน เปรียบเสมือน ทางหลวง 19 เลน ที่อยู่ในพื้นที่เดียวกับสายไฟเบอร์แบบดั้งเดิม เทคโนโลยีนี้สามารถทำงานได้บน C และ L bands ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ใช้กันทั่วโลก โดยมีการปรับปรุงโครงสร้างภายในเพื่อ ลดการสูญเสียสัญญาณลง 40% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ✅ ข้อมูลจากข่าว - NICT และ Sumitomo Electric Industries สร้างสถิติใหม่ในการส่งข้อมูลผ่านไฟเบอร์ออปติก - ความเร็วสูงสุดที่ทำได้คือ 1.02 เพตะบิตต่อวินาที - ใช้สายไฟเบอร์แบบ 19 คอร์ ซึ่งช่วยให้สามารถส่งข้อมูลได้มากขึ้นในพื้นที่เท่าเดิม - เทคโนโลยีนี้สามารถทำงานบน C และ L bands ซึ่งเป็นมาตรฐานสากล - ลดการสูญเสียสัญญาณลง 40% เมื่อเทียบกับไฟเบอร์รุ่นก่อนหน้า ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - แม้จะมีความเร็วสูง แต่ยังต้องพัฒนาเทคโนโลยีการขยายสัญญาณให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น - การนำไปใช้ในระดับอุตสาหกรรมต้องมีการปรับปรุงกระบวนการผลิตให้รองรับการผลิตจำนวนมาก - ต้องติดตามว่าผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตจะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้จริงเมื่อใด - การขยายเครือข่ายระดับเพตะบิตอาจต้องใช้โครงสร้างพื้นฐานใหม่ในบางพื้นที่ เทคโนโลยีนี้อาจช่วยให้ อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงระดับเพตะบิตกลายเป็นความจริง และอาจนำไปสู่ การพัฒนาเครือข่ายที่สามารถรองรับข้อมูลระดับศูนย์ข้อมูลทั้งแห่งได้ในเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมง https://www.techspot.com/news/108133-ultra-fast-fiber-sets-global-speed-record-102.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Ultra-fast fiber sets global speed record: 1.02 petabits per second over continental distance
    At the heart of this breakthrough – driven by Japan's National Institute of Information and Communications Technology (NICT) and Sumitomo Electric Industries – is a 19-core optical...
    0 Comments 0 Shares 40 Views 0 Reviews
  • ☕ Java ครบรอบ 30 ปี: ภาษาที่ไม่มีวันตาย
    Java ฉลองครบรอบ 30 ปี นับตั้งแต่เปิดตัวโดย Sun Microsystems เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 1995 โดยยังคงเป็นหนึ่งในภาษาการเขียนโปรแกรมที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโลก

    Java ถูกพัฒนาขึ้นโดย James Gosling และทีมงานที่ Sun Microsystems โดยมีเป้าหมายแรกเริ่มเพื่อใช้กับ ระบบโทรทัศน์แบบอินเทอร์แอคทีฟและอุปกรณ์ฝังตัว ก่อนจะเปลี่ยนไปเน้นที่ แอปพลิเคชันบนอินเทอร์เน็ต

    จุดเด่นของ Java คือ ความเป็นแพลตฟอร์มอิสระ ซึ่งช่วยให้โปรแกรมสามารถทำงานบนระบบปฏิบัติการใดก็ได้ที่มี Java Virtual Machine (JVM) ด้วยแนวคิด "Write Once, Run Anywhere"

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Java เปิดตัวเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 1995 โดย Sun Microsystems
    - James Gosling ออกแบบ Java ให้เป็น "C++ ที่ปลอดภัยกว่า"
    - Java มีความเป็นแพลตฟอร์มอิสระ ทำให้สามารถรันบนระบบปฏิบัติการใดก็ได้ที่มี JVM
    - Sun Microsystems เปิด OpenJDK ในปี 2006 เพื่อให้ Java เป็นโอเพ่นซอร์ส
    - Oracle ซื้อ Sun Microsystems ในปี 2010 และเปลี่ยนแปลงนโยบายการใช้งาน Java

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - Oracle มีการเปลี่ยนแปลงด้านลิขสิทธิ์ ทำให้บางองค์กรต้องหาทางเลือกอื่น เช่น OpenJDK จากผู้ให้บริการรายอื่น
    - แม้ Java จะยังคงได้รับความนิยม แต่ต้องแข่งขันกับภาษาใหม่ ๆ เช่น Python และ JavaScript
    - การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี เช่น Cloud Computing อาจทำให้ Java ต้องปรับตัวต่อไป
    - ต้องติดตามว่า Java จะสามารถรักษาความนิยมในยุค AI และ Quantum Computing ได้หรือไม่

    Java ยังคงเป็น ภาษาหลักในระบบองค์กร, Big Data และ Cloud Computing แม้จะมีคู่แข่งที่แข็งแกร่ง แต่ ความเสถียรและความเข้ากันได้ย้อนหลัง ทำให้ Java ยังคงเป็นตัวเลือกสำคัญสำหรับนักพัฒนา

    https://www.techspot.com/news/108136-java-turns-30-shows-no-signs-slowing-down.html
    ☕ Java ครบรอบ 30 ปี: ภาษาที่ไม่มีวันตาย Java ฉลองครบรอบ 30 ปี นับตั้งแต่เปิดตัวโดย Sun Microsystems เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 1995 โดยยังคงเป็นหนึ่งในภาษาการเขียนโปรแกรมที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโลก Java ถูกพัฒนาขึ้นโดย James Gosling และทีมงานที่ Sun Microsystems โดยมีเป้าหมายแรกเริ่มเพื่อใช้กับ ระบบโทรทัศน์แบบอินเทอร์แอคทีฟและอุปกรณ์ฝังตัว ก่อนจะเปลี่ยนไปเน้นที่ แอปพลิเคชันบนอินเทอร์เน็ต จุดเด่นของ Java คือ ความเป็นแพลตฟอร์มอิสระ ซึ่งช่วยให้โปรแกรมสามารถทำงานบนระบบปฏิบัติการใดก็ได้ที่มี Java Virtual Machine (JVM) ด้วยแนวคิด "Write Once, Run Anywhere" ✅ ข้อมูลจากข่าว - Java เปิดตัวเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 1995 โดย Sun Microsystems - James Gosling ออกแบบ Java ให้เป็น "C++ ที่ปลอดภัยกว่า" - Java มีความเป็นแพลตฟอร์มอิสระ ทำให้สามารถรันบนระบบปฏิบัติการใดก็ได้ที่มี JVM - Sun Microsystems เปิด OpenJDK ในปี 2006 เพื่อให้ Java เป็นโอเพ่นซอร์ส - Oracle ซื้อ Sun Microsystems ในปี 2010 และเปลี่ยนแปลงนโยบายการใช้งาน Java ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - Oracle มีการเปลี่ยนแปลงด้านลิขสิทธิ์ ทำให้บางองค์กรต้องหาทางเลือกอื่น เช่น OpenJDK จากผู้ให้บริการรายอื่น - แม้ Java จะยังคงได้รับความนิยม แต่ต้องแข่งขันกับภาษาใหม่ ๆ เช่น Python และ JavaScript - การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี เช่น Cloud Computing อาจทำให้ Java ต้องปรับตัวต่อไป - ต้องติดตามว่า Java จะสามารถรักษาความนิยมในยุค AI และ Quantum Computing ได้หรือไม่ Java ยังคงเป็น ภาษาหลักในระบบองค์กร, Big Data และ Cloud Computing แม้จะมีคู่แข่งที่แข็งแกร่ง แต่ ความเสถียรและความเข้ากันได้ย้อนหลัง ทำให้ Java ยังคงเป็นตัวเลือกสำคัญสำหรับนักพัฒนา https://www.techspot.com/news/108136-java-turns-30-shows-no-signs-slowing-down.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Java turns 30 and shows no signs of slowing down
    Java's origins trace back to the early 1990s, when a team at Sun Microsystems led by James Gosling set out to develop a language for interactive television...
    0 Comments 0 Shares 43 Views 0 Reviews
  • 🤖 การเติบโตของ AI Agent ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี
    AI Agent กำลังกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี โดยรายงานจาก EY Technology Pulse Poll พบว่า 50% ของบริษัทเทคโนโลยีได้เริ่มใช้งาน AI Agent แล้ว และแนวโน้มการลงทุนใน AI กำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

    AI Agent เป็นเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ากว่า Large Language Model (LLM) เช่น ChatGPT โดยสามารถ ดำเนินงานที่ซับซ้อนมากขึ้น และช่วยให้บริษัทสามารถ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ได้อย่างมีนัยสำคัญ

    บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ เช่น Google, Microsoft, Meta และ OpenAI กำลังลงทุนมหาศาลใน AI Agent โดย Google ได้ประกาศว่าจะใช้เงิน 100 พันล้านดอลลาร์ ในการพัฒนาเทคโนโลยี AI รุ่นใหม่

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - 50% ของบริษัทเทคโนโลยีได้เริ่มใช้งาน AI Agent แล้ว
    - AI Agent สามารถดำเนินงานที่ซับซ้อนมากกว่า LLM เช่น ChatGPT
    - Google ลงทุน 100 พันล้านดอลลาร์ใน AI รุ่นใหม่
    - 92% ของผู้บริหารเทคโนโลยีวางแผนเพิ่มงบประมาณด้าน AI ในปีหน้า
    - AI Agent อาจสร้างรูปแบบการทำงานใหม่ในองค์กร

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - AI Agent อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างองค์กร
    - ต้องมีการพัฒนาแนวทางการกำกับดูแล AI เพื่อป้องกันการใช้งานที่ผิดพลาด
    - การนำ AI มาใช้ในองค์กรต้องมีการปรับตัวของพนักงานและการฝึกอบรมใหม่
    - AI อาจไม่สามารถแทนที่การตัดสินใจของมนุษย์ได้ทั้งหมด

    🚀 ผลกระทบต่ออนาคตของการทำงาน
    AI Agent กำลังเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานของบริษัทเทคโนโลยี และอาจส่งผลต่ออุตสาหกรรมอื่น ๆ ในอนาคต อย่างไรก็ตาม ต้องมีการกำกับดูแลและการปรับตัวของพนักงาน เพื่อให้สามารถใช้ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/31/ai-agent-adoption-rates-are-at-50-in-tech-companies-is-this-the-future-of-work
    🤖 การเติบโตของ AI Agent ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี AI Agent กำลังกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี โดยรายงานจาก EY Technology Pulse Poll พบว่า 50% ของบริษัทเทคโนโลยีได้เริ่มใช้งาน AI Agent แล้ว และแนวโน้มการลงทุนใน AI กำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว AI Agent เป็นเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ากว่า Large Language Model (LLM) เช่น ChatGPT โดยสามารถ ดำเนินงานที่ซับซ้อนมากขึ้น และช่วยให้บริษัทสามารถ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ได้อย่างมีนัยสำคัญ บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ เช่น Google, Microsoft, Meta และ OpenAI กำลังลงทุนมหาศาลใน AI Agent โดย Google ได้ประกาศว่าจะใช้เงิน 100 พันล้านดอลลาร์ ในการพัฒนาเทคโนโลยี AI รุ่นใหม่ ✅ ข้อมูลจากข่าว - 50% ของบริษัทเทคโนโลยีได้เริ่มใช้งาน AI Agent แล้ว - AI Agent สามารถดำเนินงานที่ซับซ้อนมากกว่า LLM เช่น ChatGPT - Google ลงทุน 100 พันล้านดอลลาร์ใน AI รุ่นใหม่ - 92% ของผู้บริหารเทคโนโลยีวางแผนเพิ่มงบประมาณด้าน AI ในปีหน้า - AI Agent อาจสร้างรูปแบบการทำงานใหม่ในองค์กร ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - AI Agent อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างองค์กร - ต้องมีการพัฒนาแนวทางการกำกับดูแล AI เพื่อป้องกันการใช้งานที่ผิดพลาด - การนำ AI มาใช้ในองค์กรต้องมีการปรับตัวของพนักงานและการฝึกอบรมใหม่ - AI อาจไม่สามารถแทนที่การตัดสินใจของมนุษย์ได้ทั้งหมด 🚀 ผลกระทบต่ออนาคตของการทำงาน AI Agent กำลังเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานของบริษัทเทคโนโลยี และอาจส่งผลต่ออุตสาหกรรมอื่น ๆ ในอนาคต อย่างไรก็ตาม ต้องมีการกำกับดูแลและการปรับตัวของพนักงาน เพื่อให้สามารถใช้ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/31/ai-agent-adoption-rates-are-at-50-in-tech-companies-is-this-the-future-of-work
    WWW.THESTAR.COM.MY
    AI agent adoption rates are at 50% in tech companies. Is this the future of work?
    Technology executives have a more positive outlook on AI transformation than other business leaders, according to a new survey.
    0 Comments 0 Shares 41 Views 0 Reviews
  • วันนี้หายไปนาน ติดทำโจทย์ฟิสิกส์บ้าง ติดฟาร์มเลเวลบ้าง แต่วันนี้คงต้องปรับเปลี่ยนเวลาเล่นให้น้อยกว่าเดิม เพื่อเอาเวลาไปทำโจทย์ฟิสิกส์ให้เข้มข้นขึ้น ปลายมิถุนา-ต้นกรกฎา สมรภูมิสนามสอบกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว แต่ผมอย่าได้ชะล่าใจไป ต้องอ่านหนังสือฝึกทำโจทย์ควบคู่กับการพิชิตโทอิก เพราะที่ผ่านมาสอบโทอิกคะแนนไม่เกินครึ่ง เลยทำให้ผมต้องผลักดันการสอบภาษาอังกฤษให้เข้มข้นและเข้มงวดกับตัวเองมากขึ้นครับ และพยายามทำตัวให้มีความสุข ไม่อมทุกข์กับอดีต หันหน้าสู้กับปัจจุบัน
    วันนี้หายไปนาน ติดทำโจทย์ฟิสิกส์บ้าง ติดฟาร์มเลเวลบ้าง แต่วันนี้คงต้องปรับเปลี่ยนเวลาเล่นให้น้อยกว่าเดิม เพื่อเอาเวลาไปทำโจทย์ฟิสิกส์ให้เข้มข้นขึ้น ปลายมิถุนา-ต้นกรกฎา สมรภูมิสนามสอบกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว แต่ผมอย่าได้ชะล่าใจไป ต้องอ่านหนังสือฝึกทำโจทย์ควบคู่กับการพิชิตโทอิก เพราะที่ผ่านมาสอบโทอิกคะแนนไม่เกินครึ่ง เลยทำให้ผมต้องผลักดันการสอบภาษาอังกฤษให้เข้มข้นและเข้มงวดกับตัวเองมากขึ้นครับ และพยายามทำตัวให้มีความสุข ไม่อมทุกข์กับอดีต หันหน้าสู้กับปัจจุบัน
    0 Comments 0 Shares 34 Views 0 Reviews
  • การใช้ AI ปราบคอร์รัปชันในวงการเมืองเป็นแนวทางที่น่าสนใจและหลายประเทศกำลังทดลองใช้ โดยมีทั้งโอกาสและความท้าทาย ดังนี้

    ### ตัวอย่างการประยุกต์ใช้ AI ต้านคอร์รัปชัน:
    1. **วิเคราะห์ข้อมูลการเงิน (Financial Forensics)**
    - AI ตรวจสอบบัญชีธนาคาร ภาษี และรายงานทรัพย์สินของนักการเมืองเพื่อหา "รายได้ไม่สมทรัพย์สิน"
    - ตัวอย่าง: ยูเครนใช้ระบบ **ProZorro** + AI วิเคราะห์การจัดซื้อจัดจ้างรัฐ ส่งผลให้ประหยัดงบประมาณได้ 6 พันล้านดอลลาร์ใน 5 ปี

    2. **ตรวจจับการทุจริตโครงการรัฐ (Public Procurement Monitoring)**
    - ระบบ Machine Learning วิเคราะห์ราคากลาง/ผู้ชนะประมูลซ้ำๆ เช่น หากพบบริษัทเดียวกันชนะประมูลเกิน 70% ในเขตเลือกตั้งหนึ่ง อาจส่อพฤติกรรมเอื้อประโยชน์
    - อินโดนีเซียใช้ **e-LPSE** + AI ตรวจจับความผิดปกติในโครงการก่อสร้าง

    3. **เฝ้าระวังเครือข่ายทุจริต (Network Analysis)**
    - AI แมปความสัมพันธ์ระหว่างนักการเมือง-ธุรกิจ-ข้าราชการผ่านข้อมูลธุรกรรม การโอนหุ้น หรือการประชุมลับ
    - เกาหลีใต้ใช้วิธีนี้สืบสวนคดีทุจริตระดับสูง

    4. **แพลตฟอร์มรายงานแบบเปิด (Whistleblower Platforms)**
    - Chatbot ช่วยประชาชนรายงานการทุจริตแบบไม่เปิดเผยตัวตน พร้อม AI คัดกรองข้อมูล
    - ตัวอย่าง: **DoNotPay** (สหรัฐฯ) และ **I Paid a Bribe** (อินเดีย)

    ### ความท้าทายสำคัญ:
    - **ความแม่นยำของข้อมูล**: AI ต้องการข้อมูลเปิด (Open Data) ที่ครบถ้วน ในขณะที่หลายประเทศยังปิดบังข้อมูลสาธารณะ
    - **อคติของระบบ (Bias)**: หากข้อมูลฝึกสอนมาจากหน่วยงานทุจริต AI อาจถูกบิดเบือน
    - **การโจมตีทางไซเบอร์**: กลุ่มผลประโยชน์อาจแฮ็กระบบเพื่อทำลายหลักฐาน
    - **อุปสรรคทางกฎหมาย**: บางประเทศขาดกฎหมายรองรับการใช้ AI ในการสืบสวน

    ### กรณีศึกษาประเทศไทย:
    - **โครงการ "ไทยติดตาม" (Thai Open Data)**: ใช้ Data Visualization ตรวจสอบงบประมาณรัฐ
    - **สำนักงาน ป.ป.ช.**: ทดลอง AI วิเคราะห์รายงานทรัพย์สินส่อพิรุธ
    - **ความก้าวหน้า**: ยังต้องการการบูรณาการฐานข้อมูลระหว่างหน่วยงาน และปรับกฎหมายให้สอดคล้อง

    ### แนวทางเสริมประสิทธิภาพ:
    1. **ออกกฎหมายบังคับเปิดข้อมูลภาครัฐ** (Open Data Law)
    2. **สร้างระบบตรวจสอบอิสระ** เพื่อป้องกันการแทรกแซง AI
    3. **พัฒนาความรู้ AI ให้ประชาชน** เพื่อร่วมเป็น "ตาทิพย์" ตรวจสอบ
    4. **ผสานกับกลไกดั้งเดิม** เช่น สื่อมวลชน และองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน

    > สรุป: AI ไม่ใช่ "ไม้เท้าวิเศษ" ที่แก้คอร์รัปชันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เป็นเครื่องมือทรงพลังที่ต้องใช้ควบคู่กับ **ความโปร่งใสทางการเมือง (Political Will)** และ **การมีส่วนร่วมของประชาชน** เท่านั้นจึงจะได้ผลยั่งยืน

    ประเทศที่ประสบความสำเร็จเช่น **จอร์เจีย** และ **เอสโตเนีย** พิสูจน์แล้วว่าเทคโนโลยีช่วยลดคอร์รัปชันได้จริง หากมีเจตจำนงทางการเมืองที่ชัดเจน!
    การใช้ AI ปราบคอร์รัปชันในวงการเมืองเป็นแนวทางที่น่าสนใจและหลายประเทศกำลังทดลองใช้ โดยมีทั้งโอกาสและความท้าทาย ดังนี้ ### ตัวอย่างการประยุกต์ใช้ AI ต้านคอร์รัปชัน: 1. **วิเคราะห์ข้อมูลการเงิน (Financial Forensics)** - AI ตรวจสอบบัญชีธนาคาร ภาษี และรายงานทรัพย์สินของนักการเมืองเพื่อหา "รายได้ไม่สมทรัพย์สิน" - ตัวอย่าง: ยูเครนใช้ระบบ **ProZorro** + AI วิเคราะห์การจัดซื้อจัดจ้างรัฐ ส่งผลให้ประหยัดงบประมาณได้ 6 พันล้านดอลลาร์ใน 5 ปี 2. **ตรวจจับการทุจริตโครงการรัฐ (Public Procurement Monitoring)** - ระบบ Machine Learning วิเคราะห์ราคากลาง/ผู้ชนะประมูลซ้ำๆ เช่น หากพบบริษัทเดียวกันชนะประมูลเกิน 70% ในเขตเลือกตั้งหนึ่ง อาจส่อพฤติกรรมเอื้อประโยชน์ - อินโดนีเซียใช้ **e-LPSE** + AI ตรวจจับความผิดปกติในโครงการก่อสร้าง 3. **เฝ้าระวังเครือข่ายทุจริต (Network Analysis)** - AI แมปความสัมพันธ์ระหว่างนักการเมือง-ธุรกิจ-ข้าราชการผ่านข้อมูลธุรกรรม การโอนหุ้น หรือการประชุมลับ - เกาหลีใต้ใช้วิธีนี้สืบสวนคดีทุจริตระดับสูง 4. **แพลตฟอร์มรายงานแบบเปิด (Whistleblower Platforms)** - Chatbot ช่วยประชาชนรายงานการทุจริตแบบไม่เปิดเผยตัวตน พร้อม AI คัดกรองข้อมูล - ตัวอย่าง: **DoNotPay** (สหรัฐฯ) และ **I Paid a Bribe** (อินเดีย) ### ความท้าทายสำคัญ: - **ความแม่นยำของข้อมูล**: AI ต้องการข้อมูลเปิด (Open Data) ที่ครบถ้วน ในขณะที่หลายประเทศยังปิดบังข้อมูลสาธารณะ - **อคติของระบบ (Bias)**: หากข้อมูลฝึกสอนมาจากหน่วยงานทุจริต AI อาจถูกบิดเบือน - **การโจมตีทางไซเบอร์**: กลุ่มผลประโยชน์อาจแฮ็กระบบเพื่อทำลายหลักฐาน - **อุปสรรคทางกฎหมาย**: บางประเทศขาดกฎหมายรองรับการใช้ AI ในการสืบสวน ### กรณีศึกษาประเทศไทย: - **โครงการ "ไทยติดตาม" (Thai Open Data)**: ใช้ Data Visualization ตรวจสอบงบประมาณรัฐ - **สำนักงาน ป.ป.ช.**: ทดลอง AI วิเคราะห์รายงานทรัพย์สินส่อพิรุธ - **ความก้าวหน้า**: ยังต้องการการบูรณาการฐานข้อมูลระหว่างหน่วยงาน และปรับกฎหมายให้สอดคล้อง ### แนวทางเสริมประสิทธิภาพ: 1. **ออกกฎหมายบังคับเปิดข้อมูลภาครัฐ** (Open Data Law) 2. **สร้างระบบตรวจสอบอิสระ** เพื่อป้องกันการแทรกแซง AI 3. **พัฒนาความรู้ AI ให้ประชาชน** เพื่อร่วมเป็น "ตาทิพย์" ตรวจสอบ 4. **ผสานกับกลไกดั้งเดิม** เช่น สื่อมวลชน และองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน > สรุป: AI ไม่ใช่ "ไม้เท้าวิเศษ" ที่แก้คอร์รัปชันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เป็นเครื่องมือทรงพลังที่ต้องใช้ควบคู่กับ **ความโปร่งใสทางการเมือง (Political Will)** และ **การมีส่วนร่วมของประชาชน** เท่านั้นจึงจะได้ผลยั่งยืน ประเทศที่ประสบความสำเร็จเช่น **จอร์เจีย** และ **เอสโตเนีย** พิสูจน์แล้วว่าเทคโนโลยีช่วยลดคอร์รัปชันได้จริง หากมีเจตจำนงทางการเมืองที่ชัดเจน!
    0 Comments 0 Shares 104 Views 0 Reviews
  • แพทองธารส่งสัญญาณปรับ ครม. ย้ำ "ทุกอย่างเป็นไปได้" อนุทินเลี่ยงตอบโต้ ธรรมนัสชี้การเมืองต้องคุยกัน อย่ายึดติดหัวโขน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000051300

    #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes #SondhiX
    แพทองธารส่งสัญญาณปรับ ครม. ย้ำ "ทุกอย่างเป็นไปได้" อนุทินเลี่ยงตอบโต้ ธรรมนัสชี้การเมืองต้องคุยกัน อย่ายึดติดหัวโขน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000051300 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes #SondhiX
    Like
    Love
    Haha
    5
    0 Comments 0 Shares 486 Views 0 Reviews
  • ปรับพอร์ตยังไงดีเมื่ออเมริกาจะเก็บภาษีนักลงทุนต่างชาติ ?
    ปรับพอร์ตยังไงดีเมื่ออเมริกาจะเก็บภาษีนักลงทุนต่างชาติ ?
    0 Comments 0 Shares 45 Views 0 0 Reviews
  • ..มนุษย์โง่ลงจริงๆนั้นล่ะ,โง่จากกระบวนการปกครองเพื่อปกครองคนโง่ง่ายกว่าคนไม่โง่,ใช่กฎหมายปกครองคนโง่สะดวกสบายกว่าคนไม่โง่,ควบคุมคนโง่ง่ายกว่าคนไม่โง่,คนโง่มีลักษณะความเป็นทาสที่เชื่อฟังมากกว่าคนไม่โง่ในสายตาของชนชั้นปกครองแบบรัฐบาลที่ปกครองประเทศนั้นๆ,ปัจจุบันอีลิทdeep stateชั่วเลวได้ควบคุมปกครองผู้นำผู้ปกครองในแต่ละประเทศทั่วโลกแล้ว,จึงเป็นไปเพื่อปกครองมนุษย์ให้โง่แบบเชิงฝูงชนได้ง่าย ไปไหนไปด้วยกันไปทางเดียวกันแบบเหมือนคนโง่เข้าใจว่าตนเองตัดสินใจเองไร้บังคับและเต็มใจทำอย่างชาญฉลาดแล้วก็ว่าแต่หารู้ไม่ว่ามันคือกับดักในกรอบความโง่ขององค์รวมทั้งหมดรอบโลกหรือทั่วโลก,ใครที่หลุดงานฉลาดคิดค้นความฉลาดออกมาสาระพัดจะถูกรัฐบาลประเทศนั้นๆกำจัดทิ้งหรือปิดกั้นหรือสร้างเงื่อนไขกติกามิให้มีบริบทออกสู่สาธารณะเพื่อกระจายความฉลาดสร้งสรรค์ให้ขยายกว้างขวางหรือต่อยอดใดๆได้,จะปล่อยควบคุมให้รู้หรือไม่ให้รู้จากรัฐบาลสแกนก่อนเท่านัันจึงจะให้เผยแผ่ออกสู่สาธารณะได้,หรือสร้างกลไกราคาสิ่งนั้นๆแพงมหาศาลโดยอ้างความคิดสร้างสรรค์นัันทำราคารายได้หาผลประโยชน์แก่มันได้,นี้คือตย.วิถีปกครองควบคุมมนุษย์อีกมุมด้าน ทำโง่ลงแบบไม่รู้ตัวทีละนิดให้สะดวกแก่การปกครอง ใครต่อต้านไม่เห็นด้วยก็เอากฎหมายเขียนดักการกระทำลงโทษกำจัดคนแบบนั้นเนียนๆอย่างชอบธรรมในสายตาคนทั่วไปว่าปกครองตามกติกาซึ่งกติกาต่างๆมันเองตีตราออกมาเพื่อมิให้คนคัดค้านเพื่อมิให้เห็นต่างเพื่อสะดวกต่อการทำคนให้โง่ลงเรื่อยๆได้ดีผ่านกาลเวลาในแต่ละยุคสมัยจนควบคุมเบ็ดเสร็จ,ยิ่งถ้าไทยเราหรือย่อมาไทยหากdeep stateโลกปกครองประเทศไทยหลังฉากจริง เช่นบ่อน้ำมันเต็มประเทศไทยมันก็ยึดครอบครองเอาเองแทนคนไทยหมดบนแผ่นดินไทยที่อ้างว่าต่างชาติมาลงทุนในนามได้สัมปทานแดกจากต่างชาติ นักวิชาการเต็มบ้านเต็มเมืองไม่กล้าออกมาพูดผ่านสื่อหลักไทยสักแอะ,ข้าราชการและสส.เต็มบ้านเต็มเมืองก็ไม่ออกมาประชุมบอกความจริงอะไรแก่ประชาชนว่าคนไทยภูกเอาเปรียบและเสียเปรียบแต่แรก,ปตท.เข้าตลาดหลักทรัพย์กำไรกลับทำกำไรดีขึ้นเสมอ,แต่ประชาชนใช้น้ำมันราคาแพงเสีย สินค้าทั่วประเทศแบะบริการแพงทั่วหน้าพร้อมกันในทุกๆครั้งที่ราคาน้ำมันปรับขึ้นเพื่อทำกำไร,เมื่อผิดพลาดก็ไม่เอาปตท.ออกจากตลาดSETหรือยุบการทำหน้าที่ของปตท.ไปมิให้มีบทบาทใดๆต่อพลังงานไทยเพราะเสมือนเอกชนเต็มตัวไปแล้วในความเป็นจริงเช่นนั้นโรงเรียนหรือรัฐวิสาหกิจอื่นๆก็เข้าตลาดsetไปหมดแล้ว,ตลาดsetจริงๆคือเอกชนเท่านั้นเข้าไปเล่น,หน่วยงานรัฐทุกๆกรณีห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวทุกๆกรณี,เพราะในอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบมันส่งผลกระทบต่อภาพรวมของประชาชนทั้งประเทศ,นี้คือวิถีทำประชาชนให้โง่ให้การปกครองทำได้สำเร็จอีกมุม,ทรัพยากรมากมายมีค่าของประเทศไทยด้วยวิถีปกครองที่deep stateสากลโลกข้ามชาติปกครองหลังฉากเรื่อยมาจึงเป็นอันมากถูกผ่องถ่ายทัังความมั่งคั่งร่ำรวยจนมั่นคงจากประชาชนไทยไปเป็นของต่างชาติหรือเอกชนไทยเองที่เลวชั่วหรือเป็นสมุนรับใช้หรือเป็นนอมินีในหมากมุกอีกตัวในวางสนุ๊คสร้างภาพว่ามิใช่ของต่างชาตินะก็ว่า,ตลอดวิถีการออกกฎหมายมากมายเป็นไปเพื่อควบคุมทาสควบคุมให้คนโง่ขึ้น ตัดขาการพึ่งพาตนเอง และทำให้ยากจนยิ่งสะดวกปกครอง,อาทิ ค่าปรับมากๆในกฎหมายจราจรที่คนใช้มากๆง่ายๆวันนี้ปรับ2,000บาททั้งคนขับขี่และคนนั่งมาด้วยหากไม่สวมหมวกกันน็อค,จริงๆมันชีวิตเขา เขาสามารถทำวิถีชีวิตเขาอิสระเสรีได้หมด อยากใส่หรือไม่อยากใส่คือสิทธิ์อธิไปไตยส่วนตัวเขา ความเสี่ยงปัจเจกบุคคลเขา จะเป็นจะตายเขารับทราบรับรู้เองคนใช้มากๆคือกำไรคือผลประโยชน์แน่นอน ค่าไฟฟ้าเอยที่รัฐบาลผ่องถ่ายการผลิตไฟฟ้าหรือรับซื้อไฟฟ้าแพงๆจากเอกชนมาขายให้ครัวเรือนคนไทยแพงๆแทนได้ซึ่งกูรูมากมายออกมาแฉแล้ว ราคาน้ำมันขึ้นเอย การห้ามเผาฟางในนาข้าวอีกควบคุมคนทีละน้อยมิให้รู้ตัว หรือห้ามจับปลาของชาวบ้านในการเลี้ยงปากเลี้ยงท้องเองยิ่งในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจข้าวยากหมากแพงทำมาหากินลำบากเศรษฐกิจทั่วโลกพัง ตังขาดมือ ร่ำรวยหนี้สิน ตังหาลำบาก ทองแพงขึ้น คนตกงานมากมหาศาล โรงงานย้ายฐานการผลิตและปิดตัวในไทยมากมาย ร้านค้าร้านอาหารจำนวนมากปิดตัวลงเรื่อยๆคนตกงานในอัตราเร่งผิดปกติในขณะที่รายได้คนลงลดทันทีแน่นอน จำเป็นต้องพึ่งตนเองและธรรมชาติในอีกมุมมองของปากท้องของชาวบ้านเสือกห้ามพึ่งพาตนเองหากินในแหล่งธรรมชาติ มุกอีลิทปกครองต่อคนโง่จึงสร้างกติกาเนียนๆมากมายจริงๆนะ ลดบทบาทมิให้ผู้คนหากินพึ่งตนเองได้ ยิ่งคนชาวบ้านยากจนยิ่งสะดวกต่อเอาอ้างข้อกฎหมายเขียนกฎหมายออกมาไปบังคับใช้ประชาชน,เก็บเห็ดในป่าสงวนเอยกลัวคนเข้าไปเห็นการกระทำชั่วในป่า,อดีตถ้าพรบ.เมล็ดพันธ์เกิดขึ้นได้จริงประชาชนยิ่งอาจปลูกนั้นนี้กินเองลำบากอาจติดคุกอีกหากเอกชนเล่นงานเหมือนต่างชาติ ฉีกเมล็ดพันธ์เอกชนไว้ทำพันธ์ุปลูกต่อเป็นการผิดกฎหมายละอองเกษรปลิวไปผสมพันธุ์ไร่นาชาวบ้านต่างชาติมันยังฟ้องว่าชาวบ้านผิดได้,นี้เกิดในยุคยึดอำนาจนะถ้าพรบ.นี้ผ่านออกมาได้ ประชาชนประท้วงจึงถอนทิ้ง,พรบ.การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศอีกหรือพรบ.คาร์เครดิตก็ด้วยตัวควบคุมทาสมนุษย์อีกตัว ช่วงหนึ่งแบงค์โปรมาก หมายเอาคาร์บอนเครดิตใช้ร่วมกับการพิจารณาสินเชื่อเงินกู้เลยล่ะและอนาคตพวกมันเครือข่ายเอกชนในหลายๆวงการอุตสาหกรรมพร้อมใจกันร่วมเอาไปใช้เลยล่ะ คุณมีคาร์บอนเครดิตเท่าไรก็ว่า,แทนตังในอนาคตก็ว่าอีก,
    ..มันคือภัยเนียนๆที่ร้ายกาจมาก มิใช่คนโง่ลงแต่ถูกทำให้โง่ลงผ่านกระบวนการกฎหมาย ,และกฎหมายถูกบรรญัติขึ้นสมมุติขึ้นเพื่อเป็นข้ออ้างในการใช้ควบคุมผู้คนและอ้างว่าใช้บังคับร่วมกัน,จริงๆใช้บังคับคนโง่เพื่อควบคุมผู้คนปกครอง,ปกครองในวิถีปกครองได้ง่ายขึ้นของชนชั้นdeep stateอีลิทและเดอะแก๊งมันทั้งหมด.

    https://youtube.com/shorts/3ZRqhoMbdV4?si=kuUTM-AlatbhznZ_
    ..มนุษย์โง่ลงจริงๆนั้นล่ะ,โง่จากกระบวนการปกครองเพื่อปกครองคนโง่ง่ายกว่าคนไม่โง่,ใช่กฎหมายปกครองคนโง่สะดวกสบายกว่าคนไม่โง่,ควบคุมคนโง่ง่ายกว่าคนไม่โง่,คนโง่มีลักษณะความเป็นทาสที่เชื่อฟังมากกว่าคนไม่โง่ในสายตาของชนชั้นปกครองแบบรัฐบาลที่ปกครองประเทศนั้นๆ,ปัจจุบันอีลิทdeep stateชั่วเลวได้ควบคุมปกครองผู้นำผู้ปกครองในแต่ละประเทศทั่วโลกแล้ว,จึงเป็นไปเพื่อปกครองมนุษย์ให้โง่แบบเชิงฝูงชนได้ง่าย ไปไหนไปด้วยกันไปทางเดียวกันแบบเหมือนคนโง่เข้าใจว่าตนเองตัดสินใจเองไร้บังคับและเต็มใจทำอย่างชาญฉลาดแล้วก็ว่าแต่หารู้ไม่ว่ามันคือกับดักในกรอบความโง่ขององค์รวมทั้งหมดรอบโลกหรือทั่วโลก,ใครที่หลุดงานฉลาดคิดค้นความฉลาดออกมาสาระพัดจะถูกรัฐบาลประเทศนั้นๆกำจัดทิ้งหรือปิดกั้นหรือสร้างเงื่อนไขกติกามิให้มีบริบทออกสู่สาธารณะเพื่อกระจายความฉลาดสร้งสรรค์ให้ขยายกว้างขวางหรือต่อยอดใดๆได้,จะปล่อยควบคุมให้รู้หรือไม่ให้รู้จากรัฐบาลสแกนก่อนเท่านัันจึงจะให้เผยแผ่ออกสู่สาธารณะได้,หรือสร้างกลไกราคาสิ่งนั้นๆแพงมหาศาลโดยอ้างความคิดสร้างสรรค์นัันทำราคารายได้หาผลประโยชน์แก่มันได้,นี้คือตย.วิถีปกครองควบคุมมนุษย์อีกมุมด้าน ทำโง่ลงแบบไม่รู้ตัวทีละนิดให้สะดวกแก่การปกครอง ใครต่อต้านไม่เห็นด้วยก็เอากฎหมายเขียนดักการกระทำลงโทษกำจัดคนแบบนั้นเนียนๆอย่างชอบธรรมในสายตาคนทั่วไปว่าปกครองตามกติกาซึ่งกติกาต่างๆมันเองตีตราออกมาเพื่อมิให้คนคัดค้านเพื่อมิให้เห็นต่างเพื่อสะดวกต่อการทำคนให้โง่ลงเรื่อยๆได้ดีผ่านกาลเวลาในแต่ละยุคสมัยจนควบคุมเบ็ดเสร็จ,ยิ่งถ้าไทยเราหรือย่อมาไทยหากdeep stateโลกปกครองประเทศไทยหลังฉากจริง เช่นบ่อน้ำมันเต็มประเทศไทยมันก็ยึดครอบครองเอาเองแทนคนไทยหมดบนแผ่นดินไทยที่อ้างว่าต่างชาติมาลงทุนในนามได้สัมปทานแดกจากต่างชาติ นักวิชาการเต็มบ้านเต็มเมืองไม่กล้าออกมาพูดผ่านสื่อหลักไทยสักแอะ,ข้าราชการและสส.เต็มบ้านเต็มเมืองก็ไม่ออกมาประชุมบอกความจริงอะไรแก่ประชาชนว่าคนไทยภูกเอาเปรียบและเสียเปรียบแต่แรก,ปตท.เข้าตลาดหลักทรัพย์กำไรกลับทำกำไรดีขึ้นเสมอ,แต่ประชาชนใช้น้ำมันราคาแพงเสีย สินค้าทั่วประเทศแบะบริการแพงทั่วหน้าพร้อมกันในทุกๆครั้งที่ราคาน้ำมันปรับขึ้นเพื่อทำกำไร,เมื่อผิดพลาดก็ไม่เอาปตท.ออกจากตลาดSETหรือยุบการทำหน้าที่ของปตท.ไปมิให้มีบทบาทใดๆต่อพลังงานไทยเพราะเสมือนเอกชนเต็มตัวไปแล้วในความเป็นจริงเช่นนั้นโรงเรียนหรือรัฐวิสาหกิจอื่นๆก็เข้าตลาดsetไปหมดแล้ว,ตลาดsetจริงๆคือเอกชนเท่านั้นเข้าไปเล่น,หน่วยงานรัฐทุกๆกรณีห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวทุกๆกรณี,เพราะในอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบมันส่งผลกระทบต่อภาพรวมของประชาชนทั้งประเทศ,นี้คือวิถีทำประชาชนให้โง่ให้การปกครองทำได้สำเร็จอีกมุม,ทรัพยากรมากมายมีค่าของประเทศไทยด้วยวิถีปกครองที่deep stateสากลโลกข้ามชาติปกครองหลังฉากเรื่อยมาจึงเป็นอันมากถูกผ่องถ่ายทัังความมั่งคั่งร่ำรวยจนมั่นคงจากประชาชนไทยไปเป็นของต่างชาติหรือเอกชนไทยเองที่เลวชั่วหรือเป็นสมุนรับใช้หรือเป็นนอมินีในหมากมุกอีกตัวในวางสนุ๊คสร้างภาพว่ามิใช่ของต่างชาตินะก็ว่า,ตลอดวิถีการออกกฎหมายมากมายเป็นไปเพื่อควบคุมทาสควบคุมให้คนโง่ขึ้น ตัดขาการพึ่งพาตนเอง และทำให้ยากจนยิ่งสะดวกปกครอง,อาทิ ค่าปรับมากๆในกฎหมายจราจรที่คนใช้มากๆง่ายๆวันนี้ปรับ2,000บาททั้งคนขับขี่และคนนั่งมาด้วยหากไม่สวมหมวกกันน็อค,จริงๆมันชีวิตเขา เขาสามารถทำวิถีชีวิตเขาอิสระเสรีได้หมด อยากใส่หรือไม่อยากใส่คือสิทธิ์อธิไปไตยส่วนตัวเขา ความเสี่ยงปัจเจกบุคคลเขา จะเป็นจะตายเขารับทราบรับรู้เองคนใช้มากๆคือกำไรคือผลประโยชน์แน่นอน ค่าไฟฟ้าเอยที่รัฐบาลผ่องถ่ายการผลิตไฟฟ้าหรือรับซื้อไฟฟ้าแพงๆจากเอกชนมาขายให้ครัวเรือนคนไทยแพงๆแทนได้ซึ่งกูรูมากมายออกมาแฉแล้ว ราคาน้ำมันขึ้นเอย การห้ามเผาฟางในนาข้าวอีกควบคุมคนทีละน้อยมิให้รู้ตัว หรือห้ามจับปลาของชาวบ้านในการเลี้ยงปากเลี้ยงท้องเองยิ่งในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจข้าวยากหมากแพงทำมาหากินลำบากเศรษฐกิจทั่วโลกพัง ตังขาดมือ ร่ำรวยหนี้สิน ตังหาลำบาก ทองแพงขึ้น คนตกงานมากมหาศาล โรงงานย้ายฐานการผลิตและปิดตัวในไทยมากมาย ร้านค้าร้านอาหารจำนวนมากปิดตัวลงเรื่อยๆคนตกงานในอัตราเร่งผิดปกติในขณะที่รายได้คนลงลดทันทีแน่นอน จำเป็นต้องพึ่งตนเองและธรรมชาติในอีกมุมมองของปากท้องของชาวบ้านเสือกห้ามพึ่งพาตนเองหากินในแหล่งธรรมชาติ มุกอีลิทปกครองต่อคนโง่จึงสร้างกติกาเนียนๆมากมายจริงๆนะ ลดบทบาทมิให้ผู้คนหากินพึ่งตนเองได้ ยิ่งคนชาวบ้านยากจนยิ่งสะดวกต่อเอาอ้างข้อกฎหมายเขียนกฎหมายออกมาไปบังคับใช้ประชาชน,เก็บเห็ดในป่าสงวนเอยกลัวคนเข้าไปเห็นการกระทำชั่วในป่า,อดีตถ้าพรบ.เมล็ดพันธ์เกิดขึ้นได้จริงประชาชนยิ่งอาจปลูกนั้นนี้กินเองลำบากอาจติดคุกอีกหากเอกชนเล่นงานเหมือนต่างชาติ ฉีกเมล็ดพันธ์เอกชนไว้ทำพันธ์ุปลูกต่อเป็นการผิดกฎหมายละอองเกษรปลิวไปผสมพันธุ์ไร่นาชาวบ้านต่างชาติมันยังฟ้องว่าชาวบ้านผิดได้,นี้เกิดในยุคยึดอำนาจนะถ้าพรบ.นี้ผ่านออกมาได้ ประชาชนประท้วงจึงถอนทิ้ง,พรบ.การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศอีกหรือพรบ.คาร์เครดิตก็ด้วยตัวควบคุมทาสมนุษย์อีกตัว ช่วงหนึ่งแบงค์โปรมาก หมายเอาคาร์บอนเครดิตใช้ร่วมกับการพิจารณาสินเชื่อเงินกู้เลยล่ะและอนาคตพวกมันเครือข่ายเอกชนในหลายๆวงการอุตสาหกรรมพร้อมใจกันร่วมเอาไปใช้เลยล่ะ คุณมีคาร์บอนเครดิตเท่าไรก็ว่า,แทนตังในอนาคตก็ว่าอีก, ..มันคือภัยเนียนๆที่ร้ายกาจมาก มิใช่คนโง่ลงแต่ถูกทำให้โง่ลงผ่านกระบวนการกฎหมาย ,และกฎหมายถูกบรรญัติขึ้นสมมุติขึ้นเพื่อเป็นข้ออ้างในการใช้ควบคุมผู้คนและอ้างว่าใช้บังคับร่วมกัน,จริงๆใช้บังคับคนโง่เพื่อควบคุมผู้คนปกครอง,ปกครองในวิถีปกครองได้ง่ายขึ้นของชนชั้นdeep stateอีลิทและเดอะแก๊งมันทั้งหมด. https://youtube.com/shorts/3ZRqhoMbdV4?si=kuUTM-AlatbhznZ_
    0 Comments 0 Shares 151 Views 0 Reviews
  • 'พีระพันธุ์' เข้าสภาฯ ถกงบ 69 แจงเหตุไม่มาวันแรก ติดภารกิจไปจีนจัดหาระบบโซลาร์ ให้ ปชช.เข้าถึงง่าย-ปรับใช้กับเกษตรได้
    https://www.thai-tai.tv/news/19093/
    'พีระพันธุ์' เข้าสภาฯ ถกงบ 69 แจงเหตุไม่มาวันแรก ติดภารกิจไปจีนจัดหาระบบโซลาร์ ให้ ปชช.เข้าถึงง่าย-ปรับใช้กับเกษตรได้ https://www.thai-tai.tv/news/19093/
    0 Comments 0 Shares 37 Views 0 Reviews
  • นายกฯ บอกทุกอย่างเป็นไปได้ ปรับ ครม. - โยกกระทรวง ลั่นไม่ใช่คนพูดดึงมหาดไทยมาให้เพื่อไทย โยนถาม “ทักษิณ” เอง เชื่อไม่บั่นทอนจิตใจพรรคร่วมรัฐบาล ย้ำครอบงำไม่ได้ แต่พ่อให้คำปรึกษา ลูกรับไว้พิจารณา

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000051208

    #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    นายกฯ บอกทุกอย่างเป็นไปได้ ปรับ ครม. - โยกกระทรวง ลั่นไม่ใช่คนพูดดึงมหาดไทยมาให้เพื่อไทย โยนถาม “ทักษิณ” เอง เชื่อไม่บั่นทอนจิตใจพรรคร่วมรัฐบาล ย้ำครอบงำไม่ได้ แต่พ่อให้คำปรึกษา ลูกรับไว้พิจารณา อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000051208 #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Haha
    Love
    Angry
    4
    0 Comments 0 Shares 418 Views 0 Reviews
  • **ภาพวาด 24 กตัญญู**

    สวัสดีค่ะ สัปดาห์ที่แล้วคุยกันถึงฉากที่พระนางในเรื่อง <จิ่วฉงจื่อ บุปผาเหนือลิขิต> สวมหน้ากากร่วมทายปริศนากันในเทศกาลโคมไฟ วันนี้มาคุยกันต่ออีกนิดเกี่ยวกับฉากนี้ ในเนื้อเรื่องนางเอกชนะได้โคมไฟหนึ่งใบซึ่งนางมอบให้พระเอกและพระเอกให้คนส่งต่อไปให้พ่อของเขา โดยโคมไฟใบนี้เป็นลายภาพที่นางเอกเรียกว่า ‘ภาพวาด 24 กตัญญู’

    ‘24 กตัญญู’ (二十四孝/เอ้อร์สือซื่อเซี่ยว) เป็นเรื่องราวความกตัญญูยี่สิบสี่เรื่องที่ถูกเรียบเรียงขึ้นในสมัยหยวนโดยกัวจวีจิ้ง บัณฑิตชนบทธรรดาจากหมู่บ้านเล็กแห่งหนึ่งในมณฑลฝูเจี้ยน โดยเป็นการรวบรวมเรื่องเล่าความกตัญญูในประวัติศาสตร์จากหลายแหล่งมาเรียบเรียงเป็นประโยคกลอนสั้นประมาณสี่วรรค ทำให้ง่ายต่อการเล่าต่อและจดจำ จึงกลายเป็นหนึ่งในนิทานสอนเด็กที่ชาวบ้านนิยมอย่างแพร่หลาย ต่อมาถูกหยิบยกมาเป็นเนื้อหาของภาพวาดหรืองานแกะสลักโดยหลากหลายศิลปินหลายยุคสมัย

    เนื้อหาส่วนใหญ่ของบทกวี 24 กตัญญูมีที่มาจาก ‘ตำนานบุตรกตัญญู’ (孝子传/เซี่ยวจื่อจ้วน) ซึ่งถูกประพันธ์ขึ้นโดยหลิวเซี่ยง ราชนิกุลและนักประวัติศาสตร์อักษรศาสตร์สมัยฮั่นตะวันตก เป็นหนึ่งในบทประพันธ์ที่สะท้อนแนวคำสอนและปรัชญาของขงจื๊อ และต่อมา ‘ตำนานบุตรกตัญญู’ ถูกนำไปรวมอยู่ในอีกหลากหลายบทประพันธ์ในอีกหลายยุคสมัย หนึ่งในนั้นคือบันทึกเรื่องเล่าความกตัญญูยาวกว่าห้าม้วนที่ถูกค้นพบในห้องศิลาที่ตุนหวง

    24 กตัญญูกล่าวถึงอะไรบ้าง บทความยาวหน่อยนะคะ สรุปโดยสั้นได้ดังนี้ (ดูรูปประกอบ):

    1. กตัญญูสะเทือนสวรรค์: เป็นเรื่องราวของจักรพรรดิซุ่นกว่าสี่พันปีที่แล้ว (เป็นหนึ่งในสามราชันห้าจักรพรรดิในตำนาน) เมื่อครั้งเขายังเป็นชาวบ้านธรรมดาก็ถูกพ่อ แม่เลี้ยงและน้องต่างมารดาให้ร้ายสารพัดจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่เขาไม่คิดแค้นเคืองและยังคงดูแลพวกเขาอย่างดี จนสวรรค์เห็นใจจึงบันดาลให้มีช้างมาช่วยปรับผิวดินและมีนกมาช่วยหว่านเมล็ดพืชจนทำมาหาเลี้ยงชีพได้ ต่อมาจักรพรรดิ์เหยาได้ยินกิตติศัพท์ความกตัญญูของเขาก็รับเป็นราชบุตรเขยและสุดท้ายให้สืบทอดราชบัลลังก์ต่อไป

    2. แบกข้าวให้บุพการี: กล่าวถึงจงโหยว (นามรองจื่อลู่) หนึ่งในศิษย์เอกของขงจื๊อ ขุนนางชื่อดังแห่งแคว้นเว่ยในยุคสมัยชุนชิว เขามีพื้นเพยากจน ทุกวันจะกินแต่ผักผลไม้ป่าเพื่อประหยัดเงิน แต่ยอมเดินทางไกลกว่าร้อยหลี่เพื่อไปหาซื้อข้าวแบกกลับมาให้พ่อแม่กิน ต่อมาเมื่อชีวิตความเป็นอยู่ดีมีอันจะกินก็มักจะพร่ำเสียดายที่พ่อแม่ไม่มีชีวิตอยู่ดีกินดีกับเขา

    3. ฮ่องเต้ชิมยา: เป็นเรื่องราวของฮั่นเหวินตี้หลิวเหิง บุตรของป๋อไทเฮา ที่คอยดูแลป๋อไทเฮาในยามป่วยตลอดสามปีด้วยตนเองแม้จะเป็นถึงฮ่องเต้มีข้าราชบริพารมากมาย โดยจะชิมยาของแม่ก่อนป้อนให้แม่ทุกครั้งเพื่อทดสอบว่ายานั้นอุ่นกำลังดีไม่ร้อนเกินไป

    4. ขายตัวฝังศพพ่อ: เป็นเรื่องราวของบุรุษนามว่าตงหย่งในสมัยฮั่นที่กำพร้าแม่แต่เด็ก ต่อมาเมื่อพ่อเสียชีวิตก็ไม่มีเงินทำศพพ่อจึงยอมขายตัวเองไปเป็นทาส วันหนึ่งพบเข้ากับสตรีกำพร้าไร้ที่ไป นางขอให้เขาช่วยแต่งงานอยู่กินกันโดยนางยินดีเข้าไปช่วยทำงานที่เรือนเศรษฐีด้วย เศรษฐีตกลงว่าเมื่อนางทอผ้าได้ครบสามร้อยพับก็จะอนุญาตให้ทั้งคู่ไถ่ตัวได้ นางใช้เวลาเพียงเดือนเดียวก็ทำสำเร็จ ต่อมานางบอกความจริงว่านางเป็นเทพธิดาและสวรรค์ซาบซึ้งกับความกตัญญูของเขาจึงมอบหมายให้มาช่วยเขา จากนั้นก็อำลาจากไป

    5. สีสันบันเทิงเพื่อบุพการี: กล่าวถึงเหล่าช่ายจื่อ หนึ่งในบัณฑิตมากความรู้ที่เร้นกายอยู่ในป่าในสมัยชุนชิว เขารักพ่อแม่มากอยากให้พ่อแม่เบิกบานใจทุกวัน ถึงขนาดว่าตัวเองอยู่ในวัย 70 ปีแล้วแต่ก็ยังแต่งตัวสีสันฉูดฉาดเล่นเป็นเด็ก หกล้มลงก็แกล้งทำเป็นกลิ้งเล่นอยู่บนพื้นเพื่อให้พ่อแม่วัยเฒ่าหัวเราะแทนที่จะตกใจเสียใจ

    6. นิ้วแม่เชื่อมใจลูก: เป็นเรื่องราวของเจิงจื่อ นักปรัชญาแห่งราชสำนักโจวและลูกศิษย์ของขงจื๊อ ที่วันหนึ่งออกไปเก็บฟืน แต่มีแขกมาเยือน แม่ของเขาอยู่บ้านคนเดียวก็กระวนกระวายไม่รู้ว่าจะต้อนรับขับสู้อย่างไรดี จนถึงขนาดกัดนิ้วตนเองด้วยความเครียด เจิงจื่อที่อยู่ในป่ากลับรู้สึกได้ถึงความเจ็บนั้น จึงรีบรุดกลับบ้านมาดูแม่และรับรองแขกด้วยตนเอง บ่งบอกถึงสายใยเหนียวแน่นของแม่ลูก

    7. คัดผลไม้ให้แม่กิน: เป็นเรื่องราวของไช่ซุ่นในสมัยฮั่น เขาอาศัยเก็บผลหม่อนกินประทังชีวิตเพราะยากจนมากและข้าวของราคาแพงเพราะสงคราม อยู่มาวันหนึ่งมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่นำขบวนทหารผ่านมาเห็นเขาแยกผลหม่อน ถามได้ความว่าเขาแยกผลสุกสีเข้มให้แม่กิน ส่วนตัวเองกินที่สีแดงที่ยังเปรี้ยวเฝื่อน นายทหารเห็นแก่ความกตัญญูของเขาจึงแบ่งปันเสบียงทหารให้ชายหนุ่ม

    8. กราบไหว้รูปสลักบุพการี: กล่าวถึงบุรุษสมัยฮั่นตะวันออกนามว่าหลันติงที่กำพร้าพ่อแม่แต่เด็ก เขาแกะสลักรูปปั้นพ่อแม่ตั้งไว้ในบ้านกราบไหว้ทุกวันเพราะละอายใจที่ไม่มีโอกาสได้ทดแทนบุญคุณ ไม่เพียงกราบไหว้สามมื้อก่อนจะกินข้าว แต่มีเรื่องอะไรก็จะไปนั่งคุยให้รูปปั้นฟัง หนักเข้าภรรยาก็รำคาญ เลยลองเอาเข็มไปจิ้มรูปปั้น เมื่อเขากลับมาบ้านพบว่ารูปปั้นน้ำตาไหล เมื่อสืบสาวราวเรื่องได้แล้วเขาก็เลิกกับภรรยา

    9. น้ำนมกวางเพื่อบุพการี: กล่าวถึงถานจื่อ ประมุขแคว้นถานซึ่งเป็นแคว้นเล็กในสมัยราชวงศ์โจว ในสมัยเด็กเขายากจนและต้องดูแลพ่อแม่ที่แก่ชราแล้วและตาไม่ดี ต้องกินนมกวางช่วยบำรุงรักษา เขามักจะใช้หนังกวางคลุมตัวแล้วย่องเข้าไปปะปนอยู่ในฝูงกวางเพื่อเอานมกวางมาให้พ่อแม่กิน มีอยู่ครั้งหนึ่งเกือบโดนนายพรานยิง แต่เมื่อนายพรานได้ยินเรื่องราวความจำเป็นของเขาก็ยกนมกวางให้และยังส่งเขากลับบ้านด้วยตนเอง

    10. สวมเสื้อไส้ใยกก: เป็นเรื่องของหมินสุ่น (นามรองจื่อเชียน) หนึ่งในลูกศิษย์ของขงจื๊อ เขากำพร้าแม่ตั้งแต่เด็ก พ่อแต่งภรรยาใหม่มีลูกชายอีกสองคน เขาถูกแม่เลี้ยงกลั่นแกล้งบ่อยครั้ง ต้องสวมเสื้อใยกกในขณะที่น้องๆ ได้สวมเสื้อบุฝ้ายในยามหนาว วันหนึ่งเขาช่วยจูงรถให้พ่อแต่หนาวจนทำให้เชือกหลุดมือ พ่อบันดาลโทสะเฆี่ยนจนเสื้อขาดจึงพบว่าลูกชายคนนี้ใส่เสื้อผ้าที่ไม่ช่วยกันหนาว พ่อโกรธแม่เลี้ยงมากถึงกับเอ่ยปากบอกเลิกทันทีที่กลับถึงบ้าน แต่หมินสุ่นอ้อนวอนขออภัยแทนแม่เลี้ยง โดยให้เหตุผลว่า ตอนนี้มีลูกเพียงคนเดียวที่ลำบาก แต่ถ้าแม่เลี้ยงไม่อยู่จะมีลูกถึงสามคนที่ลำบาก สุดท้ายแม่เลี้ยงได้รับการให้อภัย นางจึงกลับตัวกลับใจดูแลหมินสุ่นอย่างดีนับแต่นั้นมา

    11. ฝังลูกเพื่อแม่: กล่าวถึงบุรุษนามว่ากัวจวี้ในสมัยฮั่น เขามีฐานะยากจน เมื่อพ่อเสียก็แลแม่เป็นอย่างดี ต่อมาเมื่อภรรยาคลอดบุตร เขาก็รู้สึกว่าเลี้ยงดูไม่ไหวและไม่อยากให้แม่ต้องมาอดมื้อกินมื้อไปกับเขา จึงตัดสินใจจะฝังลูกเพื่อจะได้ลดค่าใช้จ่ายโดยไม่ฟังคำทัดทานของภรรยา แต่เมื่อขุดดินลงไปกลับพบทองคำหนึ่งไห เรื่องราวจบลงด้วยดีโดยเขาไม่ต้องฆ่าลูกตัวเองและมีฐานะดีขึ้น

    12. ปลากระโดดจากบ่อน้ำ: กล่าวถึงบุรุษนามว่าเจียงซือในสมัยฮั่น เขามีภรรยาแซ่ผางที่กตัญญูกับแม่สามีมาก แม่สามีชอบกินปลาก็ออกไปจับปลามาให้กิน อยู่มาวันหนึ่งอากาศไม่ดีกว่านางแซ่ผางจะกลับถึงบ้านก็ดึกจึงถูกเจียงซือไล่ออกจากบ้านเพราะเข้าใจผิดว่านางตั้งใจละเลยแม่ของเขา เมื่อแม่ของเจียงซือรู้เรื่องให้เจียงซือไปรับนางกลับมา และตั้งแต่วันที่นางกลับเข้าบ้านมาก็ปรากฏปลาหลีฮื้อสองตัวกระโดดออกมาจากบ่อน้ำกลางบ้านทุกวัน ทำให้นางไม่ต้องไปจับปลาในแม่น้ำอีกต่อไป

    13. ซุกส้มให้แม่: เป็นเรื่องราวของลู่จี้ ขุนนางในสมัยราชวงศ์ฮั่นตอนปลาย กล่าวถึงเมื่อตอนเขาอายุหกขวบ ได้มีโอกาสติดตามพ่อไปพบแม่ทัพท่านหนึ่งที่จวน ครั้นพอเขาคารวะอำลากลับ ส้มสองลูกที่เขาซุกไว้อยู่ในแขนเสื้อกลิ้งหล่นออกมา สอบถามได้ใจความว่าเขาเห็นแม่ชอบกินส้มจึงตั้งใจเก็บเอาไปให้แม่กิน ทำให้แม่ทัพรู้สึกประหลาดใจและชมชอบในความกตัญญูของเด็กคนนี้

    14. ยินเสียงฟ้าร้องปลอบแม่ที่หลุมศพ: กล่าวถึงบัณฑิตหนุ่มจากแคว้นเว่ยนามว่าหวางโผว แม่ของเขาเป็นคนกลัวเสียงฟ้าร้องมาก แม้ว่าจะตายไปแล้วแต่ทุกครั้งที่ฝนตกหนักฟ้าร้อง หวางโผวจะไปกราบหลุมศพนางพร้อมกับปลอบให้นางไม่ต้องกลัว

    15. กอดเสือช่วยพ่อ: กล่าวถึงสตรีนางหนึ่งในสมัยราชวงศ์จิ้นนามว่าหยางเซียง เมื่อครั้งนางมีอายุสิบสี่ปีได้ออกไปทำนากับพ่อ แต่พลันปรากฏเสือตัวหนึ่งกระโจนใส่พ่อจนล้มไป นางไม่มีอาวุธใดแต่ก็กระโดดกอดคอเสือแน่นเพื่อไม่ให้เสือกัดพ่อ สุดท้ายเสือยอมแพ้ปล่อยพ่อของนางแล้วหนีไป

    16. ให้นมย่าทวด: เป็นเรื่องราวความกตัญญูของย่าของเจี๋ยตู้สื่อชุยซานหนานในสมัยถัง เล่าถึงเมื่อครั้งที่ย่าทวดของชุยซานหนานทั้งแก่ทั้งไม่สบายจนเคี้ยวอาหารหยาบไม่ได้เลย ย่าของเขาคอยดูแลโดยใช้น้ำนมของตนป้อนจนย่าทวดอิ่ม ต่อมาทั้งครอบครัวอยู่กันอย่างสงบสุขและรุ่นลูกรุ่นหลานล้วนแสดงความกตัญญูต่อย่าของเขาเช่นกัน

    17. พัดหมอนอุ่นผ้าห่ม: เป็นเรื่องราวของขุนนางชั้นผู้ใหญ่ในสมัยฮั่นนามว่าหวงเซียง เขากำพร้าแม่แต่เด็กและคอยดูแลพ่อ แม้ด้วยวัยเพียงเก้าขวบก็รู้จักพัดหมอนของพ่อให้คลายร้อนในหน้าร้อนและนอนอุ่นผ้าห่มของพ่อในหน้าหนาวเพื่อว่าพ่อของเขาจะได้นอนหลับสบาย

    18. ร่ำไห้จนเกิดหน่อไม้: กล่าวถึงขุนนางสมัยสามก๊กนามว่าเมิ่งจง เขากำพร้าพ่อแต่เด็ก เมื่อครั้งยังหนุ่มต้องดูแลแม่ที่ชราและป่วยหนัก หมอบอกว่าต้องให้แม่กินหน่อไม้สด แต่จนใจเป็นฤดูหนาว เขาหาจนทั่วก็ไม่มีจึงเสียใจคุกเข่าร้องไห้กลางป่า ปรากฏว่าอยู่ดีๆ พื้นดินก็แยกออกแล้วมีหน่อไม้ผุดขึ้นมาให้เขาเก็บกลับบ้านให้แม่กินจนหายป่วย

    19. ล่อยุงแทนพ่อ: กล่าวถึงอู๋เหมิ่ง นักพรตในสมัยสามก๊ก ที่ในสมัยเด็กครอบครัวยากจนไม่มีแม้แต่มุ้งจะกางนอน เขามักจะถอดเสื้อนอนล่อให้ยุงมากัด เพื่อว่าพ่อแม่จะได้นอนหลับสบาย

    20. ล้างกระโถนให้แม่: เป็นเรื่องราวของกวีและนักเขียนอักษรชื่อดังสมัยซ่งเหนือนามว่าหวงถิงเจียน เขาดูแลแม่อย่างเสมอต้นเสมอปลายแม้ว่าจะมีฐานะดี และจะเอากระโถนของแม่ไปเทล้างด้วยตนเองทุกวันไม่เคยขาด

    21. แบกแม่หลบภัย: กล่าวถึงเจียงเก๋อ ขุนนางตงฉินชื่อดังผู้ถูกยกย่องเป็นขุนนางยอดกตัญญูในรัชสมัยของกษัตริย์อู่ตี้แห่งราชวงศ์เหลียงในยุคราชวงศ์เหนือใต้ เจียงเก๋อกำพร้าพ่อแต่เด็กและกตัญญูต่อแม่มาก ครั้งหนึ่งเคยแบกแม่เดินทางหนีสงคราม พบเข้ากับโจรภูเขา เขาอ้อนวอนว่าถ้าเขาตายไป แม่ผู้ชราก็ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ สุดท้ายโจรภูเขาเลยย้อมไว้ชีวิตปล่อยตัวไปทั้งเขาและแม่

    22. ขอปลาบนน้ำแข็ง: เป็นเรื่องของหวางเสียง หนึ่งในขุนนางระดับสูงของราชวงศ์จิ้นตะวันตก เขากำพร้าแม่แต่เด็ก มีแม่เลี้ยงก็ถูกแม่เลี้ยงใส่ไฟจนพ่อไม่รัก อยู่มาวันหนึ่งแม่เลี้ยงไม่สบายมากเขาก็ดูแลนางอย่างใกล้ชิด ครั้นเห็นนางอยากกินปลาจึงออกไปจับปลา แต่จนใจอากาศหนาวจัดจนผิวน้ำเป็นน้ำแข็ง ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงถอดเสื้อลงนอนทาบน้ำแข็งโดยหวังว่ามันจะทำให้น้ำแข็งละลาย แล้วปาฏิหารย์ก็เกิดขึ้น น้ำแข็งละลายจริงและมีปลาโดดออกมาให้เขาจับกลับบ้าน เมื่อแม่เลี้ยงได้กินปลาก็หายป่วย

    23. ชิมอุจจาระดูอาการป่วยพ่อ: เป็นเรื่องของขุนนางสมัยฉีใต้นามว่าอวี่เฉียนโหลว อยู่มาวันหนึ่งเขารู้สึกใจคอว้าวุ่นคิดถึงพ่อที่อยู่บ้านนอก จึงตัดสินใจลาเกษียณกลับไปดูแลพ่อที่ชรามากแล้ว เมื่อถึงบ้านก็พบว่าพ่อของเขาไม่สบายมาก หมอบอกว่าอาการของพ่อเขาสาหัสมาก หากอุจจาระมีรสขมก็จะดีมีโอกาสหาย เขาจึงแอบชิมอุจจาระพ่อ พบว่ามันมีรสหวานก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจ กราบไหว้ฟ้าขอให้พ่อให้และยอมแลกด้วยชีวิตตัวเองแทน แต่หลังจากนั้นไม่กี่วันพ่อของเขาก็สิ้นใจ

    24. ออกจากราชการเพื่อตามหาแม่: กล่าวถึงขุนนางสมัยซ่งนามว่าจูโซ่วชาง เมื่อครั้งเขาอายุเพียงเจ็ดขวบ แม่ของเขาที่มีสถานะเป็นอนุภรรยาได้ถูกภรรยาเอกของพ่อบีบให้ต้องแต่งงานไปกับคนอื่นจนเขาต้องพลัดพรากจากแม่โดยไม่มีข่าวคราว แต่เขาไม่เคยหยุดที่จะสืบหาแม่ของเขา ต่อมาห้าสิบปีให้หลังเขาได้รับเบาะแสเกี่ยวกับแม่ จึงขอลาออกจากตำแหน่งขุนนางระดับสูงเพื่อออกตามหาแม่พร้อมประกาศกร้าวว่าถ้าไม่พบแม่จะไม่กลับเมืองหลวงอีก และเขาก็ทำสำเร็จพบแม่ที่มีอายุเจ็ดสิบกว่าปีแล้วและพานางกลับเมืองหลวงด้วยกัน

    อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น เรื่องราว 24 กตัญญูถูกเรียบเรียงเป็นกลอนสั้น แต่ละเรื่องยาวเพียงสี่วรรค ง่ายต่อการจดจำ เชื่อว่าเพื่อนเพจหลายท่านคงรู้สึกไม่อินกับบางเรื่อง และที่ประเทศจีนเองก็มีการถกกันในวงกว้างว่า การกระทำต่างๆ ที่ถูกกล่าวถึงในเรื่องราวเหล่านี้ยังเหมาะสมต่อบริบทสังคมปัจจุบันหรือไม่ แต่อย่างไรก็ดีเชื่อว่าเพื่อนเพจอ่านแล้วคงพอเห็นภาพว่า เหตุใดเรื่องราวเหล่านี้จึงถูกยกเป็นตัวอย่างเพื่อสะท้อนความดีงามของความกตัญญูต่อพ่อแม่และเป็นตัวอย่างของการทำดีแล้วได้ดี

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก:
    https://news.qq.com/rain/a/20241216A05PWX00
    http://www.n12345.com/wenji/24xiao.html?id=1
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.chinakongzi.org/zt/3419/tp/201705/t20170510_135104.htm
    http://www.chinaknowledge.de/Literature/Historiography/xiaozizhuan.html
    http://www.n12345.com/wenji/24xiao.html?id=1
    https://www.8bei8.com/book/24xiao_1.html

    #จิ่วฉงจื่อ #24กตัญญู #เรื่องเล่าจีนโบราณ #สาระจีน
    **ภาพวาด 24 กตัญญู** สวัสดีค่ะ สัปดาห์ที่แล้วคุยกันถึงฉากที่พระนางในเรื่อง <จิ่วฉงจื่อ บุปผาเหนือลิขิต> สวมหน้ากากร่วมทายปริศนากันในเทศกาลโคมไฟ วันนี้มาคุยกันต่ออีกนิดเกี่ยวกับฉากนี้ ในเนื้อเรื่องนางเอกชนะได้โคมไฟหนึ่งใบซึ่งนางมอบให้พระเอกและพระเอกให้คนส่งต่อไปให้พ่อของเขา โดยโคมไฟใบนี้เป็นลายภาพที่นางเอกเรียกว่า ‘ภาพวาด 24 กตัญญู’ ‘24 กตัญญู’ (二十四孝/เอ้อร์สือซื่อเซี่ยว) เป็นเรื่องราวความกตัญญูยี่สิบสี่เรื่องที่ถูกเรียบเรียงขึ้นในสมัยหยวนโดยกัวจวีจิ้ง บัณฑิตชนบทธรรดาจากหมู่บ้านเล็กแห่งหนึ่งในมณฑลฝูเจี้ยน โดยเป็นการรวบรวมเรื่องเล่าความกตัญญูในประวัติศาสตร์จากหลายแหล่งมาเรียบเรียงเป็นประโยคกลอนสั้นประมาณสี่วรรค ทำให้ง่ายต่อการเล่าต่อและจดจำ จึงกลายเป็นหนึ่งในนิทานสอนเด็กที่ชาวบ้านนิยมอย่างแพร่หลาย ต่อมาถูกหยิบยกมาเป็นเนื้อหาของภาพวาดหรืองานแกะสลักโดยหลากหลายศิลปินหลายยุคสมัย เนื้อหาส่วนใหญ่ของบทกวี 24 กตัญญูมีที่มาจาก ‘ตำนานบุตรกตัญญู’ (孝子传/เซี่ยวจื่อจ้วน) ซึ่งถูกประพันธ์ขึ้นโดยหลิวเซี่ยง ราชนิกุลและนักประวัติศาสตร์อักษรศาสตร์สมัยฮั่นตะวันตก เป็นหนึ่งในบทประพันธ์ที่สะท้อนแนวคำสอนและปรัชญาของขงจื๊อ และต่อมา ‘ตำนานบุตรกตัญญู’ ถูกนำไปรวมอยู่ในอีกหลากหลายบทประพันธ์ในอีกหลายยุคสมัย หนึ่งในนั้นคือบันทึกเรื่องเล่าความกตัญญูยาวกว่าห้าม้วนที่ถูกค้นพบในห้องศิลาที่ตุนหวง 24 กตัญญูกล่าวถึงอะไรบ้าง บทความยาวหน่อยนะคะ สรุปโดยสั้นได้ดังนี้ (ดูรูปประกอบ): 1. กตัญญูสะเทือนสวรรค์: เป็นเรื่องราวของจักรพรรดิซุ่นกว่าสี่พันปีที่แล้ว (เป็นหนึ่งในสามราชันห้าจักรพรรดิในตำนาน) เมื่อครั้งเขายังเป็นชาวบ้านธรรมดาก็ถูกพ่อ แม่เลี้ยงและน้องต่างมารดาให้ร้ายสารพัดจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่เขาไม่คิดแค้นเคืองและยังคงดูแลพวกเขาอย่างดี จนสวรรค์เห็นใจจึงบันดาลให้มีช้างมาช่วยปรับผิวดินและมีนกมาช่วยหว่านเมล็ดพืชจนทำมาหาเลี้ยงชีพได้ ต่อมาจักรพรรดิ์เหยาได้ยินกิตติศัพท์ความกตัญญูของเขาก็รับเป็นราชบุตรเขยและสุดท้ายให้สืบทอดราชบัลลังก์ต่อไป 2. แบกข้าวให้บุพการี: กล่าวถึงจงโหยว (นามรองจื่อลู่) หนึ่งในศิษย์เอกของขงจื๊อ ขุนนางชื่อดังแห่งแคว้นเว่ยในยุคสมัยชุนชิว เขามีพื้นเพยากจน ทุกวันจะกินแต่ผักผลไม้ป่าเพื่อประหยัดเงิน แต่ยอมเดินทางไกลกว่าร้อยหลี่เพื่อไปหาซื้อข้าวแบกกลับมาให้พ่อแม่กิน ต่อมาเมื่อชีวิตความเป็นอยู่ดีมีอันจะกินก็มักจะพร่ำเสียดายที่พ่อแม่ไม่มีชีวิตอยู่ดีกินดีกับเขา 3. ฮ่องเต้ชิมยา: เป็นเรื่องราวของฮั่นเหวินตี้หลิวเหิง บุตรของป๋อไทเฮา ที่คอยดูแลป๋อไทเฮาในยามป่วยตลอดสามปีด้วยตนเองแม้จะเป็นถึงฮ่องเต้มีข้าราชบริพารมากมาย โดยจะชิมยาของแม่ก่อนป้อนให้แม่ทุกครั้งเพื่อทดสอบว่ายานั้นอุ่นกำลังดีไม่ร้อนเกินไป 4. ขายตัวฝังศพพ่อ: เป็นเรื่องราวของบุรุษนามว่าตงหย่งในสมัยฮั่นที่กำพร้าแม่แต่เด็ก ต่อมาเมื่อพ่อเสียชีวิตก็ไม่มีเงินทำศพพ่อจึงยอมขายตัวเองไปเป็นทาส วันหนึ่งพบเข้ากับสตรีกำพร้าไร้ที่ไป นางขอให้เขาช่วยแต่งงานอยู่กินกันโดยนางยินดีเข้าไปช่วยทำงานที่เรือนเศรษฐีด้วย เศรษฐีตกลงว่าเมื่อนางทอผ้าได้ครบสามร้อยพับก็จะอนุญาตให้ทั้งคู่ไถ่ตัวได้ นางใช้เวลาเพียงเดือนเดียวก็ทำสำเร็จ ต่อมานางบอกความจริงว่านางเป็นเทพธิดาและสวรรค์ซาบซึ้งกับความกตัญญูของเขาจึงมอบหมายให้มาช่วยเขา จากนั้นก็อำลาจากไป 5. สีสันบันเทิงเพื่อบุพการี: กล่าวถึงเหล่าช่ายจื่อ หนึ่งในบัณฑิตมากความรู้ที่เร้นกายอยู่ในป่าในสมัยชุนชิว เขารักพ่อแม่มากอยากให้พ่อแม่เบิกบานใจทุกวัน ถึงขนาดว่าตัวเองอยู่ในวัย 70 ปีแล้วแต่ก็ยังแต่งตัวสีสันฉูดฉาดเล่นเป็นเด็ก หกล้มลงก็แกล้งทำเป็นกลิ้งเล่นอยู่บนพื้นเพื่อให้พ่อแม่วัยเฒ่าหัวเราะแทนที่จะตกใจเสียใจ 6. นิ้วแม่เชื่อมใจลูก: เป็นเรื่องราวของเจิงจื่อ นักปรัชญาแห่งราชสำนักโจวและลูกศิษย์ของขงจื๊อ ที่วันหนึ่งออกไปเก็บฟืน แต่มีแขกมาเยือน แม่ของเขาอยู่บ้านคนเดียวก็กระวนกระวายไม่รู้ว่าจะต้อนรับขับสู้อย่างไรดี จนถึงขนาดกัดนิ้วตนเองด้วยความเครียด เจิงจื่อที่อยู่ในป่ากลับรู้สึกได้ถึงความเจ็บนั้น จึงรีบรุดกลับบ้านมาดูแม่และรับรองแขกด้วยตนเอง บ่งบอกถึงสายใยเหนียวแน่นของแม่ลูก 7. คัดผลไม้ให้แม่กิน: เป็นเรื่องราวของไช่ซุ่นในสมัยฮั่น เขาอาศัยเก็บผลหม่อนกินประทังชีวิตเพราะยากจนมากและข้าวของราคาแพงเพราะสงคราม อยู่มาวันหนึ่งมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่นำขบวนทหารผ่านมาเห็นเขาแยกผลหม่อน ถามได้ความว่าเขาแยกผลสุกสีเข้มให้แม่กิน ส่วนตัวเองกินที่สีแดงที่ยังเปรี้ยวเฝื่อน นายทหารเห็นแก่ความกตัญญูของเขาจึงแบ่งปันเสบียงทหารให้ชายหนุ่ม 8. กราบไหว้รูปสลักบุพการี: กล่าวถึงบุรุษสมัยฮั่นตะวันออกนามว่าหลันติงที่กำพร้าพ่อแม่แต่เด็ก เขาแกะสลักรูปปั้นพ่อแม่ตั้งไว้ในบ้านกราบไหว้ทุกวันเพราะละอายใจที่ไม่มีโอกาสได้ทดแทนบุญคุณ ไม่เพียงกราบไหว้สามมื้อก่อนจะกินข้าว แต่มีเรื่องอะไรก็จะไปนั่งคุยให้รูปปั้นฟัง หนักเข้าภรรยาก็รำคาญ เลยลองเอาเข็มไปจิ้มรูปปั้น เมื่อเขากลับมาบ้านพบว่ารูปปั้นน้ำตาไหล เมื่อสืบสาวราวเรื่องได้แล้วเขาก็เลิกกับภรรยา 9. น้ำนมกวางเพื่อบุพการี: กล่าวถึงถานจื่อ ประมุขแคว้นถานซึ่งเป็นแคว้นเล็กในสมัยราชวงศ์โจว ในสมัยเด็กเขายากจนและต้องดูแลพ่อแม่ที่แก่ชราแล้วและตาไม่ดี ต้องกินนมกวางช่วยบำรุงรักษา เขามักจะใช้หนังกวางคลุมตัวแล้วย่องเข้าไปปะปนอยู่ในฝูงกวางเพื่อเอานมกวางมาให้พ่อแม่กิน มีอยู่ครั้งหนึ่งเกือบโดนนายพรานยิง แต่เมื่อนายพรานได้ยินเรื่องราวความจำเป็นของเขาก็ยกนมกวางให้และยังส่งเขากลับบ้านด้วยตนเอง 10. สวมเสื้อไส้ใยกก: เป็นเรื่องของหมินสุ่น (นามรองจื่อเชียน) หนึ่งในลูกศิษย์ของขงจื๊อ เขากำพร้าแม่ตั้งแต่เด็ก พ่อแต่งภรรยาใหม่มีลูกชายอีกสองคน เขาถูกแม่เลี้ยงกลั่นแกล้งบ่อยครั้ง ต้องสวมเสื้อใยกกในขณะที่น้องๆ ได้สวมเสื้อบุฝ้ายในยามหนาว วันหนึ่งเขาช่วยจูงรถให้พ่อแต่หนาวจนทำให้เชือกหลุดมือ พ่อบันดาลโทสะเฆี่ยนจนเสื้อขาดจึงพบว่าลูกชายคนนี้ใส่เสื้อผ้าที่ไม่ช่วยกันหนาว พ่อโกรธแม่เลี้ยงมากถึงกับเอ่ยปากบอกเลิกทันทีที่กลับถึงบ้าน แต่หมินสุ่นอ้อนวอนขออภัยแทนแม่เลี้ยง โดยให้เหตุผลว่า ตอนนี้มีลูกเพียงคนเดียวที่ลำบาก แต่ถ้าแม่เลี้ยงไม่อยู่จะมีลูกถึงสามคนที่ลำบาก สุดท้ายแม่เลี้ยงได้รับการให้อภัย นางจึงกลับตัวกลับใจดูแลหมินสุ่นอย่างดีนับแต่นั้นมา 11. ฝังลูกเพื่อแม่: กล่าวถึงบุรุษนามว่ากัวจวี้ในสมัยฮั่น เขามีฐานะยากจน เมื่อพ่อเสียก็แลแม่เป็นอย่างดี ต่อมาเมื่อภรรยาคลอดบุตร เขาก็รู้สึกว่าเลี้ยงดูไม่ไหวและไม่อยากให้แม่ต้องมาอดมื้อกินมื้อไปกับเขา จึงตัดสินใจจะฝังลูกเพื่อจะได้ลดค่าใช้จ่ายโดยไม่ฟังคำทัดทานของภรรยา แต่เมื่อขุดดินลงไปกลับพบทองคำหนึ่งไห เรื่องราวจบลงด้วยดีโดยเขาไม่ต้องฆ่าลูกตัวเองและมีฐานะดีขึ้น 12. ปลากระโดดจากบ่อน้ำ: กล่าวถึงบุรุษนามว่าเจียงซือในสมัยฮั่น เขามีภรรยาแซ่ผางที่กตัญญูกับแม่สามีมาก แม่สามีชอบกินปลาก็ออกไปจับปลามาให้กิน อยู่มาวันหนึ่งอากาศไม่ดีกว่านางแซ่ผางจะกลับถึงบ้านก็ดึกจึงถูกเจียงซือไล่ออกจากบ้านเพราะเข้าใจผิดว่านางตั้งใจละเลยแม่ของเขา เมื่อแม่ของเจียงซือรู้เรื่องให้เจียงซือไปรับนางกลับมา และตั้งแต่วันที่นางกลับเข้าบ้านมาก็ปรากฏปลาหลีฮื้อสองตัวกระโดดออกมาจากบ่อน้ำกลางบ้านทุกวัน ทำให้นางไม่ต้องไปจับปลาในแม่น้ำอีกต่อไป 13. ซุกส้มให้แม่: เป็นเรื่องราวของลู่จี้ ขุนนางในสมัยราชวงศ์ฮั่นตอนปลาย กล่าวถึงเมื่อตอนเขาอายุหกขวบ ได้มีโอกาสติดตามพ่อไปพบแม่ทัพท่านหนึ่งที่จวน ครั้นพอเขาคารวะอำลากลับ ส้มสองลูกที่เขาซุกไว้อยู่ในแขนเสื้อกลิ้งหล่นออกมา สอบถามได้ใจความว่าเขาเห็นแม่ชอบกินส้มจึงตั้งใจเก็บเอาไปให้แม่กิน ทำให้แม่ทัพรู้สึกประหลาดใจและชมชอบในความกตัญญูของเด็กคนนี้ 14. ยินเสียงฟ้าร้องปลอบแม่ที่หลุมศพ: กล่าวถึงบัณฑิตหนุ่มจากแคว้นเว่ยนามว่าหวางโผว แม่ของเขาเป็นคนกลัวเสียงฟ้าร้องมาก แม้ว่าจะตายไปแล้วแต่ทุกครั้งที่ฝนตกหนักฟ้าร้อง หวางโผวจะไปกราบหลุมศพนางพร้อมกับปลอบให้นางไม่ต้องกลัว 15. กอดเสือช่วยพ่อ: กล่าวถึงสตรีนางหนึ่งในสมัยราชวงศ์จิ้นนามว่าหยางเซียง เมื่อครั้งนางมีอายุสิบสี่ปีได้ออกไปทำนากับพ่อ แต่พลันปรากฏเสือตัวหนึ่งกระโจนใส่พ่อจนล้มไป นางไม่มีอาวุธใดแต่ก็กระโดดกอดคอเสือแน่นเพื่อไม่ให้เสือกัดพ่อ สุดท้ายเสือยอมแพ้ปล่อยพ่อของนางแล้วหนีไป 16. ให้นมย่าทวด: เป็นเรื่องราวความกตัญญูของย่าของเจี๋ยตู้สื่อชุยซานหนานในสมัยถัง เล่าถึงเมื่อครั้งที่ย่าทวดของชุยซานหนานทั้งแก่ทั้งไม่สบายจนเคี้ยวอาหารหยาบไม่ได้เลย ย่าของเขาคอยดูแลโดยใช้น้ำนมของตนป้อนจนย่าทวดอิ่ม ต่อมาทั้งครอบครัวอยู่กันอย่างสงบสุขและรุ่นลูกรุ่นหลานล้วนแสดงความกตัญญูต่อย่าของเขาเช่นกัน 17. พัดหมอนอุ่นผ้าห่ม: เป็นเรื่องราวของขุนนางชั้นผู้ใหญ่ในสมัยฮั่นนามว่าหวงเซียง เขากำพร้าแม่แต่เด็กและคอยดูแลพ่อ แม้ด้วยวัยเพียงเก้าขวบก็รู้จักพัดหมอนของพ่อให้คลายร้อนในหน้าร้อนและนอนอุ่นผ้าห่มของพ่อในหน้าหนาวเพื่อว่าพ่อของเขาจะได้นอนหลับสบาย 18. ร่ำไห้จนเกิดหน่อไม้: กล่าวถึงขุนนางสมัยสามก๊กนามว่าเมิ่งจง เขากำพร้าพ่อแต่เด็ก เมื่อครั้งยังหนุ่มต้องดูแลแม่ที่ชราและป่วยหนัก หมอบอกว่าต้องให้แม่กินหน่อไม้สด แต่จนใจเป็นฤดูหนาว เขาหาจนทั่วก็ไม่มีจึงเสียใจคุกเข่าร้องไห้กลางป่า ปรากฏว่าอยู่ดีๆ พื้นดินก็แยกออกแล้วมีหน่อไม้ผุดขึ้นมาให้เขาเก็บกลับบ้านให้แม่กินจนหายป่วย 19. ล่อยุงแทนพ่อ: กล่าวถึงอู๋เหมิ่ง นักพรตในสมัยสามก๊ก ที่ในสมัยเด็กครอบครัวยากจนไม่มีแม้แต่มุ้งจะกางนอน เขามักจะถอดเสื้อนอนล่อให้ยุงมากัด เพื่อว่าพ่อแม่จะได้นอนหลับสบาย 20. ล้างกระโถนให้แม่: เป็นเรื่องราวของกวีและนักเขียนอักษรชื่อดังสมัยซ่งเหนือนามว่าหวงถิงเจียน เขาดูแลแม่อย่างเสมอต้นเสมอปลายแม้ว่าจะมีฐานะดี และจะเอากระโถนของแม่ไปเทล้างด้วยตนเองทุกวันไม่เคยขาด 21. แบกแม่หลบภัย: กล่าวถึงเจียงเก๋อ ขุนนางตงฉินชื่อดังผู้ถูกยกย่องเป็นขุนนางยอดกตัญญูในรัชสมัยของกษัตริย์อู่ตี้แห่งราชวงศ์เหลียงในยุคราชวงศ์เหนือใต้ เจียงเก๋อกำพร้าพ่อแต่เด็กและกตัญญูต่อแม่มาก ครั้งหนึ่งเคยแบกแม่เดินทางหนีสงคราม พบเข้ากับโจรภูเขา เขาอ้อนวอนว่าถ้าเขาตายไป แม่ผู้ชราก็ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ สุดท้ายโจรภูเขาเลยย้อมไว้ชีวิตปล่อยตัวไปทั้งเขาและแม่ 22. ขอปลาบนน้ำแข็ง: เป็นเรื่องของหวางเสียง หนึ่งในขุนนางระดับสูงของราชวงศ์จิ้นตะวันตก เขากำพร้าแม่แต่เด็ก มีแม่เลี้ยงก็ถูกแม่เลี้ยงใส่ไฟจนพ่อไม่รัก อยู่มาวันหนึ่งแม่เลี้ยงไม่สบายมากเขาก็ดูแลนางอย่างใกล้ชิด ครั้นเห็นนางอยากกินปลาจึงออกไปจับปลา แต่จนใจอากาศหนาวจัดจนผิวน้ำเป็นน้ำแข็ง ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงถอดเสื้อลงนอนทาบน้ำแข็งโดยหวังว่ามันจะทำให้น้ำแข็งละลาย แล้วปาฏิหารย์ก็เกิดขึ้น น้ำแข็งละลายจริงและมีปลาโดดออกมาให้เขาจับกลับบ้าน เมื่อแม่เลี้ยงได้กินปลาก็หายป่วย 23. ชิมอุจจาระดูอาการป่วยพ่อ: เป็นเรื่องของขุนนางสมัยฉีใต้นามว่าอวี่เฉียนโหลว อยู่มาวันหนึ่งเขารู้สึกใจคอว้าวุ่นคิดถึงพ่อที่อยู่บ้านนอก จึงตัดสินใจลาเกษียณกลับไปดูแลพ่อที่ชรามากแล้ว เมื่อถึงบ้านก็พบว่าพ่อของเขาไม่สบายมาก หมอบอกว่าอาการของพ่อเขาสาหัสมาก หากอุจจาระมีรสขมก็จะดีมีโอกาสหาย เขาจึงแอบชิมอุจจาระพ่อ พบว่ามันมีรสหวานก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจ กราบไหว้ฟ้าขอให้พ่อให้และยอมแลกด้วยชีวิตตัวเองแทน แต่หลังจากนั้นไม่กี่วันพ่อของเขาก็สิ้นใจ 24. ออกจากราชการเพื่อตามหาแม่: กล่าวถึงขุนนางสมัยซ่งนามว่าจูโซ่วชาง เมื่อครั้งเขาอายุเพียงเจ็ดขวบ แม่ของเขาที่มีสถานะเป็นอนุภรรยาได้ถูกภรรยาเอกของพ่อบีบให้ต้องแต่งงานไปกับคนอื่นจนเขาต้องพลัดพรากจากแม่โดยไม่มีข่าวคราว แต่เขาไม่เคยหยุดที่จะสืบหาแม่ของเขา ต่อมาห้าสิบปีให้หลังเขาได้รับเบาะแสเกี่ยวกับแม่ จึงขอลาออกจากตำแหน่งขุนนางระดับสูงเพื่อออกตามหาแม่พร้อมประกาศกร้าวว่าถ้าไม่พบแม่จะไม่กลับเมืองหลวงอีก และเขาก็ทำสำเร็จพบแม่ที่มีอายุเจ็ดสิบกว่าปีแล้วและพานางกลับเมืองหลวงด้วยกัน อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น เรื่องราว 24 กตัญญูถูกเรียบเรียงเป็นกลอนสั้น แต่ละเรื่องยาวเพียงสี่วรรค ง่ายต่อการจดจำ เชื่อว่าเพื่อนเพจหลายท่านคงรู้สึกไม่อินกับบางเรื่อง และที่ประเทศจีนเองก็มีการถกกันในวงกว้างว่า การกระทำต่างๆ ที่ถูกกล่าวถึงในเรื่องราวเหล่านี้ยังเหมาะสมต่อบริบทสังคมปัจจุบันหรือไม่ แต่อย่างไรก็ดีเชื่อว่าเพื่อนเพจอ่านแล้วคงพอเห็นภาพว่า เหตุใดเรื่องราวเหล่านี้จึงถูกยกเป็นตัวอย่างเพื่อสะท้อนความดีงามของความกตัญญูต่อพ่อแม่และเป็นตัวอย่างของการทำดีแล้วได้ดี (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://news.qq.com/rain/a/20241216A05PWX00 http://www.n12345.com/wenji/24xiao.html?id=1 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.chinakongzi.org/zt/3419/tp/201705/t20170510_135104.htm http://www.chinaknowledge.de/Literature/Historiography/xiaozizhuan.html http://www.n12345.com/wenji/24xiao.html?id=1 https://www.8bei8.com/book/24xiao_1.html #จิ่วฉงจื่อ #24กตัญญู #เรื่องเล่าจีนโบราณ #สาระจีน
    NEWS.QQ.COM
    《九重紫》暴露了他好身材,长相人畜无害,却脱衣有肉穿衣显瘦_腾讯新闻
    由孟子义、李昀锐主演的电视剧《九重紫》,自开播以来,热度迅速攀升,播到15集,站内热度破了29000,有望展望30000了。 这个成绩在今年古装剧中是相当牛了,要知道,腾讯今年的古装剧热度....
    3 Comments 0 Shares 230 Views 0 Reviews
  • เหรียญสมเด็จเจ้าฟ้าภาณุรังษี สว่างวงษ์ ฉลองครบ 100 ปี เสนาบดีกระทรวงกลาโหม ปี2544
    เหรียญสมเด็จเจ้าฟ้าภาณุรังษี สว่างวงษ์ ( หลังตอกโค็ด ) ปี2544 //พระดีพิธีใหญ่ ฉลองครบ 100 ปี เสนาบดีกระทรวงกลาโหม ๒๔๔๔-๒๕๔๔ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณ ทำมาค้าคล่อง มีความสุขความเจริญ ตำแหน่งหน้าที่การงานก้าวไกล ให้มีโชคลาภในการประกอบอาชีพ ลาภยศสรรเสริญ ค้าขายดี เจริญรุ่งเรือง ร่ำรวยทรัพย์สิน ทำสิ่งใดก็ประสบความสำเร็จ คิดหวังสิ่งใดเป็นตามที่ใจปรารถนา >>

    ** สมเด็จเจ้าฟ้า กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช ทรงเป็นปูชนียบุคคลที่มีความสำคัญยิ่ง ด้วยทรงมีพระปรีชาสามารถและมีพระอิจฉริยภาพหลากหลายด้าน กอปรกับการที่ทรงประกอบพระราชกิจในด้านต่างๆ จึงเป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัยในการปฏิบัติราชการแทนพระองค์ โดยทรงงานถวายพระเจ้าอยู่หัวถึง 3 รัชกาล ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ถึงรัชกาลที่ 7 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกิจการทหาร พระองค์ทรงดำรงตำแหน่งที่สำคัญๆ อาทิ เสนาบดีว่าการกระทรวงยุทธนาธิการ เสนาบดีกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารเรือไทย นอกจากนี้ ทรงเป็นอธิบดีกรมไปรษณีย์เป็นพระองค์แรกของประเทศไทย โดยทรงปรับปรุงกิจการไปรษณีย์ของไทยให้มีความก้าวหน้าและทันสมัย ด้วยพระกรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อกิจการไปรษณีย์ของประเทศไทย พระองค์จึงได้รับการสดุดีพระเกียรติคุณเป็น “พระบิดาแห่งการไปรษณีย์ไทย” >>


    * พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญสมเด็จเจ้าฟ้าภาณุรังษี สว่างวงษ์ ฉลองครบ 100 ปี เสนาบดีกระทรวงกลาโหม ปี2544 เหรียญสมเด็จเจ้าฟ้าภาณุรังษี สว่างวงษ์ ( หลังตอกโค็ด ) ปี2544 //พระดีพิธีใหญ่ ฉลองครบ 100 ปี เสนาบดีกระทรวงกลาโหม ๒๔๔๔-๒๕๔๔ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณ ทำมาค้าคล่อง มีความสุขความเจริญ ตำแหน่งหน้าที่การงานก้าวไกล ให้มีโชคลาภในการประกอบอาชีพ ลาภยศสรรเสริญ ค้าขายดี เจริญรุ่งเรือง ร่ำรวยทรัพย์สิน ทำสิ่งใดก็ประสบความสำเร็จ คิดหวังสิ่งใดเป็นตามที่ใจปรารถนา >> ** สมเด็จเจ้าฟ้า กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช ทรงเป็นปูชนียบุคคลที่มีความสำคัญยิ่ง ด้วยทรงมีพระปรีชาสามารถและมีพระอิจฉริยภาพหลากหลายด้าน กอปรกับการที่ทรงประกอบพระราชกิจในด้านต่างๆ จึงเป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัยในการปฏิบัติราชการแทนพระองค์ โดยทรงงานถวายพระเจ้าอยู่หัวถึง 3 รัชกาล ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ถึงรัชกาลที่ 7 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกิจการทหาร พระองค์ทรงดำรงตำแหน่งที่สำคัญๆ อาทิ เสนาบดีว่าการกระทรวงยุทธนาธิการ เสนาบดีกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารเรือไทย นอกจากนี้ ทรงเป็นอธิบดีกรมไปรษณีย์เป็นพระองค์แรกของประเทศไทย โดยทรงปรับปรุงกิจการไปรษณีย์ของไทยให้มีความก้าวหน้าและทันสมัย ด้วยพระกรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อกิจการไปรษณีย์ของประเทศไทย พระองค์จึงได้รับการสดุดีพระเกียรติคุณเป็น “พระบิดาแห่งการไปรษณีย์ไทย” >> * พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 88 Views 0 Reviews
  • 💾 ราคาชิป DRAM พุ่งขึ้น 20% ติดต่อกันเป็นเดือนที่สอง

    ราคาชิป DRAM และ NAND เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ 8GB DDR4 ที่ราคาขยับจาก $1.65 ในเดือนเมษายน เป็น $2.10 ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 27%

    การเพิ่มขึ้นของราคาชิป DRAM ส่วนหนึ่งเกิดจาก การกักตุนสินค้าของบริษัทต่าง ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจาก ภาษีนำเข้าที่กำหนดโดยอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งให้ ระยะเวลาผ่อนผัน 90 วัน ก่อนที่ภาษีจะมีผลบังคับใช้

    นอกจากนี้ Samsung, Micron และ SK hynix ได้ประกาศ ยุติการผลิต DDR4 เนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรงจาก ผู้ผลิตจีน เช่น CXMT และ Fujian Jinhua ที่สามารถขาย DDR4 ในราคาถูกกว่าหน่วยความจำที่ได้รับการปรับปรุงใหม่จากผู้ผลิตรายใหญ่

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - ราคาชิป DRAM และ NAND เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ 8GB DDR4 ที่เพิ่มขึ้น 27% ในเดือนพฤษภาคม
    - บริษัทต่าง ๆ กักตุนสินค้าก่อนที่ภาษีนำเข้าจะมีผลบังคับใช้
    - Samsung, Micron และ SK hynix ประกาศยุติการผลิต DDR4
    - CXMT และ Fujian Jinhua ขาย DDR4 ในราคาถูกกว่าผู้ผลิตรายใหญ่
    - การลดลงของอุปทาน DDR4 อาจทำให้ราคาชิปเพิ่มขึ้นต่อไป

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - หากภาษีนำเข้ามีผลบังคับใช้ ราคาชิปอาจเพิ่มขึ้นอีกในไตรมาสถัดไป
    - การยุติการผลิต DDR4 อาจทำให้ผู้ใช้ต้องเปลี่ยนไปใช้ DDR5 ซึ่งมีราคาสูงกว่า
    - ตลาดหน่วยความจำยังคงมีความไม่แน่นอน และอาจส่งผลต่อราคาสินค้าอิเล็กทรอนิกส์
    - ต้องติดตามว่าผู้ผลิตจีนจะสามารถรักษาราคาที่ต่ำได้หรือไม่ในระยะยาว

    การเพิ่มขึ้นของราคาชิป DRAM อาจส่งผลต่อ ราคาคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะในกลุ่ม ผลิตภัณฑ์ที่ยังใช้ DDR4 อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าผู้ผลิตรายใหญ่จะปรับกลยุทธ์อย่างไร เพื่อรับมือกับการแข่งขันจากจีน

    ℹ️ℹ️ ลุงแนะนำว่าใครอยาก Upgrade RAM DDR4 ให้รีบทำในช่วงนี้เลยครับ เพราะข่าวนี้ และยังมีข่าว บ.จีน จะเลิกผลิต DDR4 ในกลางปีหน้าอีกด้วย

    https://www.tomshardware.com/pc-components/dram/dram-prices-have-jumped-by-20-percent-for-the-second-month-in-a-row-surging-demand-is-likely-due-to-stockpiling
    💾 ราคาชิป DRAM พุ่งขึ้น 20% ติดต่อกันเป็นเดือนที่สอง ราคาชิป DRAM และ NAND เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ 8GB DDR4 ที่ราคาขยับจาก $1.65 ในเดือนเมษายน เป็น $2.10 ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 27% การเพิ่มขึ้นของราคาชิป DRAM ส่วนหนึ่งเกิดจาก การกักตุนสินค้าของบริษัทต่าง ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจาก ภาษีนำเข้าที่กำหนดโดยอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งให้ ระยะเวลาผ่อนผัน 90 วัน ก่อนที่ภาษีจะมีผลบังคับใช้ นอกจากนี้ Samsung, Micron และ SK hynix ได้ประกาศ ยุติการผลิต DDR4 เนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรงจาก ผู้ผลิตจีน เช่น CXMT และ Fujian Jinhua ที่สามารถขาย DDR4 ในราคาถูกกว่าหน่วยความจำที่ได้รับการปรับปรุงใหม่จากผู้ผลิตรายใหญ่ ✅ ข้อมูลจากข่าว - ราคาชิป DRAM และ NAND เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ 8GB DDR4 ที่เพิ่มขึ้น 27% ในเดือนพฤษภาคม - บริษัทต่าง ๆ กักตุนสินค้าก่อนที่ภาษีนำเข้าจะมีผลบังคับใช้ - Samsung, Micron และ SK hynix ประกาศยุติการผลิต DDR4 - CXMT และ Fujian Jinhua ขาย DDR4 ในราคาถูกกว่าผู้ผลิตรายใหญ่ - การลดลงของอุปทาน DDR4 อาจทำให้ราคาชิปเพิ่มขึ้นต่อไป ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - หากภาษีนำเข้ามีผลบังคับใช้ ราคาชิปอาจเพิ่มขึ้นอีกในไตรมาสถัดไป - การยุติการผลิต DDR4 อาจทำให้ผู้ใช้ต้องเปลี่ยนไปใช้ DDR5 ซึ่งมีราคาสูงกว่า - ตลาดหน่วยความจำยังคงมีความไม่แน่นอน และอาจส่งผลต่อราคาสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ - ต้องติดตามว่าผู้ผลิตจีนจะสามารถรักษาราคาที่ต่ำได้หรือไม่ในระยะยาว การเพิ่มขึ้นของราคาชิป DRAM อาจส่งผลต่อ ราคาคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะในกลุ่ม ผลิตภัณฑ์ที่ยังใช้ DDR4 อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าผู้ผลิตรายใหญ่จะปรับกลยุทธ์อย่างไร เพื่อรับมือกับการแข่งขันจากจีน ℹ️ℹ️ ลุงแนะนำว่าใครอยาก Upgrade RAM DDR4 ให้รีบทำในช่วงนี้เลยครับ เพราะข่าวนี้ และยังมีข่าว บ.จีน จะเลิกผลิต DDR4 ในกลางปีหน้าอีกด้วย https://www.tomshardware.com/pc-components/dram/dram-prices-have-jumped-by-20-percent-for-the-second-month-in-a-row-surging-demand-is-likely-due-to-stockpiling
    0 Comments 0 Shares 119 Views 0 Reviews
  • 🚀 ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Doudna: ก้าวใหม่ของ AI และวิทยาศาสตร์
    กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ประกาศแผนสร้าง ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Doudna ซึ่งจะตั้งอยู่ที่ ห้องปฏิบัติการแห่งชาติ Lawrence Berkeley โดยระบบนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อเร่งความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และ AI

    Doudna ได้รับการตั้งชื่อตาม Jennifer Doudna นักวิทยาศาสตร์เจ้าของรางวัลโนเบลที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยี CRISPR gene editing

    ซูเปอร์คอมพิวเตอร์นี้จะใช้ แพลตฟอร์ม Vera Rubin ของ Nvidia ซึ่งรวมพลังของ AI และการจำลองทางวิทยาศาสตร์ เข้าด้วยกัน โดยใช้ ซีพียู Arm-based และ ชิป Rubin AI ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับงานด้าน AI และการจำลองข้อมูล

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Doudna จะตั้งอยู่ที่ Lawrence Berkeley National Laboratory และเริ่มใช้งานในปี 2026
    - Dell Technologies ได้รับเลือกให้สร้างระบบนี้ ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในวงการซูเปอร์คอมพิวเตอร์
    - ใช้แพลตฟอร์ม Vera Rubin ของ Nvidia ซึ่งรวมพลังของ AI และการจำลองทางวิทยาศาสตร์
    - Doudna จะเร็วกว่า Perlmutter ซูเปอร์คอมพิวเตอร์รุ่นปัจจุบันกว่า 10 เท่า
    - ระบบนี้จะช่วยนักวิทยาศาสตร์กว่า 11,000 คนในการวิจัยด้านพลังงานความร้อนใต้พิภพและควอนตัมคอมพิวติ้ง

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - การใช้ AI ในการจำลองข้อมูลอาจต้องปรับเปลี่ยนแนวทางการคำนวณแบบดั้งเดิม
    - การเปลี่ยนจากซีพียู Intel และ AMD ไปใช้ Arm-based อาจมีผลต่อการพัฒนาแอปพลิเคชันที่ต้องปรับตัว
    - ต้องติดตามว่าการรวม AI เข้ากับซูเปอร์คอมพิวเตอร์จะส่งผลต่อความแม่นยำของการจำลองข้อมูลอย่างไร
    - การลงทุนในระบบนี้อาจส่งผลต่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ในอนาคต

    Doudna เป็นตัวอย่างของการผสานรวม AI และการจำลองทางวิทยาศาสตร์ เพื่อเร่งความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี หากระบบนี้สามารถทำงานได้ตามที่คาดหวัง

    https://www.techspot.com/news/108119-energy-department-doudna-supercomputer-signals-new-era-ai.html
    🚀 ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Doudna: ก้าวใหม่ของ AI และวิทยาศาสตร์ กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ประกาศแผนสร้าง ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Doudna ซึ่งจะตั้งอยู่ที่ ห้องปฏิบัติการแห่งชาติ Lawrence Berkeley โดยระบบนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อเร่งความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และ AI Doudna ได้รับการตั้งชื่อตาม Jennifer Doudna นักวิทยาศาสตร์เจ้าของรางวัลโนเบลที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยี CRISPR gene editing ซูเปอร์คอมพิวเตอร์นี้จะใช้ แพลตฟอร์ม Vera Rubin ของ Nvidia ซึ่งรวมพลังของ AI และการจำลองทางวิทยาศาสตร์ เข้าด้วยกัน โดยใช้ ซีพียู Arm-based และ ชิป Rubin AI ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับงานด้าน AI และการจำลองข้อมูล ✅ ข้อมูลจากข่าว - Doudna จะตั้งอยู่ที่ Lawrence Berkeley National Laboratory และเริ่มใช้งานในปี 2026 - Dell Technologies ได้รับเลือกให้สร้างระบบนี้ ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในวงการซูเปอร์คอมพิวเตอร์ - ใช้แพลตฟอร์ม Vera Rubin ของ Nvidia ซึ่งรวมพลังของ AI และการจำลองทางวิทยาศาสตร์ - Doudna จะเร็วกว่า Perlmutter ซูเปอร์คอมพิวเตอร์รุ่นปัจจุบันกว่า 10 เท่า - ระบบนี้จะช่วยนักวิทยาศาสตร์กว่า 11,000 คนในการวิจัยด้านพลังงานความร้อนใต้พิภพและควอนตัมคอมพิวติ้ง ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - การใช้ AI ในการจำลองข้อมูลอาจต้องปรับเปลี่ยนแนวทางการคำนวณแบบดั้งเดิม - การเปลี่ยนจากซีพียู Intel และ AMD ไปใช้ Arm-based อาจมีผลต่อการพัฒนาแอปพลิเคชันที่ต้องปรับตัว - ต้องติดตามว่าการรวม AI เข้ากับซูเปอร์คอมพิวเตอร์จะส่งผลต่อความแม่นยำของการจำลองข้อมูลอย่างไร - การลงทุนในระบบนี้อาจส่งผลต่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ในอนาคต Doudna เป็นตัวอย่างของการผสานรวม AI และการจำลองทางวิทยาศาสตร์ เพื่อเร่งความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี หากระบบนี้สามารถทำงานได้ตามที่คาดหวัง https://www.techspot.com/news/108119-energy-department-doudna-supercomputer-signals-new-era-ai.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Dell, Nvidia, and Department of Energy join forces on "Doudna" supercomputer for science and AI
    The advanced system, to be housed at Lawrence Berkeley National Laboratory and scheduled to become operational in 2026, will be named "Doudna" in honor of Nobel laureate...
    0 Comments 0 Shares 120 Views 0 Reviews
  • ⚖️ Intel ชนะคดีสำคัญกับ VLSI ในข้อพิพาทด้านสิทธิบัตร
    Intel ได้รับชัยชนะในคดีความกับ VLSI Technology LLC ซึ่งเป็นบริษัทที่ถูกกล่าวหาว่าเป็น "Patent Troll" หรือบริษัทที่ใช้สิทธิบัตรเพื่อเรียกร้องค่าชดเชยโดยไม่ได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีจริง

    VLSI เป็นบริษัทที่อยู่ภายใต้การควบคุมของ Fortress Investment Group ซึ่งเคยฟ้องร้อง Intel ในข้อหาละเมิดสิทธิบัตรที่ได้มาจาก NXP Semiconductors NV โดยอ้างว่าเทคโนโลยีดังกล่าวเกี่ยวข้องกับกระบวนการออกแบบชิป

    ในปี 2022 Intel ถูกสั่งให้จ่ายค่าชดเชยเกือบ 1 พันล้านดอลลาร์ จากการละเมิดสิทธิบัตรของ VLSI อย่างไรก็ตาม Intel โต้แย้งว่าข้อตกลงด้านสิทธิบัตรที่ทำไว้กับ Finjan Inc. ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่ภายใต้การควบคุมของ Fortress เช่นเดียวกัน ครอบคลุมสิทธิบัตรที่เป็นข้อพิพาท

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Intel ชนะคดีความกับ VLSI Technology LLC ซึ่งอาจทำให้คำตัดสินก่อนหน้านี้ถูกยกเลิก
    - VLSI อยู่ภายใต้การควบคุมของ Fortress Investment Group ซึ่งเคยฟ้องร้อง Intel ในข้อหาละเมิดสิทธิบัตร
    - Intel ถูกสั่งให้จ่ายค่าชดเชยเกือบ 1 พันล้านดอลลาร์ในปี 2022 แต่โต้แย้งว่าข้อตกลงกับ Finjan Inc. ครอบคลุมสิทธิบัตรที่เป็นข้อพิพาท
    - คดีนี้อาจส่งผลให้คำตัดสินก่อนหน้านี้ที่มีมูลค่ารวมกว่า 3 พันล้านดอลลาร์ถูกยกเลิก
    - Fortress เคยใช้กลยุทธ์ฟ้องร้องบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่ง เช่น Apple และ HTC

    🏛️ สิทธิบัตรและบทบาทของ Patent Troll
    Patent Troll คือบริษัทที่ไม่ได้พัฒนาเทคโนโลยีเอง แต่ซื้อสิทธิบัตรมาเพื่อฟ้องร้องบริษัทอื่น ๆ เพื่อเรียกร้องค่าชดเชย โดยมักใช้ช่องโหว่ทางกฎหมายเพื่อสร้างรายได้จากการฟ้องร้อง

    Fortress Investment Group ถูกวิจารณ์ว่าใช้กลยุทธ์นี้เพื่อเรียกร้องเงินจากบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ เช่น Intel, Apple และ HTC อย่างไรก็ตาม คำตัดสินล่าสุดอาจทำให้กลยุทธ์นี้ต้องถูกปรับเปลี่ยน

    https://www.techspot.com/news/108123-intel-wins-crucial-verdict-legal-fight-against-patent.html
    ⚖️ Intel ชนะคดีสำคัญกับ VLSI ในข้อพิพาทด้านสิทธิบัตร Intel ได้รับชัยชนะในคดีความกับ VLSI Technology LLC ซึ่งเป็นบริษัทที่ถูกกล่าวหาว่าเป็น "Patent Troll" หรือบริษัทที่ใช้สิทธิบัตรเพื่อเรียกร้องค่าชดเชยโดยไม่ได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีจริง VLSI เป็นบริษัทที่อยู่ภายใต้การควบคุมของ Fortress Investment Group ซึ่งเคยฟ้องร้อง Intel ในข้อหาละเมิดสิทธิบัตรที่ได้มาจาก NXP Semiconductors NV โดยอ้างว่าเทคโนโลยีดังกล่าวเกี่ยวข้องกับกระบวนการออกแบบชิป ในปี 2022 Intel ถูกสั่งให้จ่ายค่าชดเชยเกือบ 1 พันล้านดอลลาร์ จากการละเมิดสิทธิบัตรของ VLSI อย่างไรก็ตาม Intel โต้แย้งว่าข้อตกลงด้านสิทธิบัตรที่ทำไว้กับ Finjan Inc. ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่ภายใต้การควบคุมของ Fortress เช่นเดียวกัน ครอบคลุมสิทธิบัตรที่เป็นข้อพิพาท ✅ ข้อมูลจากข่าว - Intel ชนะคดีความกับ VLSI Technology LLC ซึ่งอาจทำให้คำตัดสินก่อนหน้านี้ถูกยกเลิก - VLSI อยู่ภายใต้การควบคุมของ Fortress Investment Group ซึ่งเคยฟ้องร้อง Intel ในข้อหาละเมิดสิทธิบัตร - Intel ถูกสั่งให้จ่ายค่าชดเชยเกือบ 1 พันล้านดอลลาร์ในปี 2022 แต่โต้แย้งว่าข้อตกลงกับ Finjan Inc. ครอบคลุมสิทธิบัตรที่เป็นข้อพิพาท - คดีนี้อาจส่งผลให้คำตัดสินก่อนหน้านี้ที่มีมูลค่ารวมกว่า 3 พันล้านดอลลาร์ถูกยกเลิก - Fortress เคยใช้กลยุทธ์ฟ้องร้องบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่ง เช่น Apple และ HTC 🏛️ สิทธิบัตรและบทบาทของ Patent Troll Patent Troll คือบริษัทที่ไม่ได้พัฒนาเทคโนโลยีเอง แต่ซื้อสิทธิบัตรมาเพื่อฟ้องร้องบริษัทอื่น ๆ เพื่อเรียกร้องค่าชดเชย โดยมักใช้ช่องโหว่ทางกฎหมายเพื่อสร้างรายได้จากการฟ้องร้อง Fortress Investment Group ถูกวิจารณ์ว่าใช้กลยุทธ์นี้เพื่อเรียกร้องเงินจากบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ เช่น Intel, Apple และ HTC อย่างไรก็ตาม คำตัดสินล่าสุดอาจทำให้กลยุทธ์นี้ต้องถูกปรับเปลี่ยน https://www.techspot.com/news/108123-intel-wins-crucial-verdict-legal-fight-against-patent.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Intel wins crucial verdict in legal fight against patent troll VLSI
    After a three-day jury trial, the U.S. District Court for the Western District of Texas ruled that VLSI Technology LLC and Finjan Inc. are both under the...
    0 Comments 0 Shares 110 Views 0 Reviews
More Results