• Microsoft ได้พัฒนา BitNet b1.58 2B4T ซึ่งเป็นโมเดล AI แบบ 1-bit LLM ที่มี 2 พันล้านพารามิเตอร์ และสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพบน CPU ทั่วไป โดยใช้หน่วยความจำเพียง 400MB ซึ่งน้อยกว่ารุ่นอื่นๆ ถึง 70%

    ✅ BitNet b1.58 2B4T เป็นโมเดล AI แบบ 1-bit ที่ใช้พลังงานต่ำ
    - ใช้ 1-bit weights ที่มีค่าเพียง -1, 0 และ +1 ซึ่งช่วยลดการใช้หน่วยความจำ
    - ใช้หน่วยความจำเพียง 400MB เทียบกับ 1.4GB ของ Gemma 3 1B

    ✅ สามารถทำงานบน CPU ทั่วไป เช่น Apple M2
    - ไม่ต้องใช้ GPU หรือ NPU ทำให้สามารถรันโมเดลได้บน ฮาร์ดแวร์ที่มีประสิทธิภาพต่ำกว่า
    - ช่วยให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถทดลองใช้ AI ได้โดยไม่ต้องใช้เซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่

    ✅ BitNet b1.58 2B4T มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับโมเดล AI ขนาดใหญ่
    - ทดสอบเทียบกับ LLaMa 3.2 1B, Gemma 3 1B และ Qwen 2.5 1.5B
    - มีคะแนนสูงกว่าในบางการทดสอบ เช่น ARC-Challenge และ BoolQ

    ✅ โมเดลนี้เปิดให้ใช้งานบน Hugging Face และ GitHub
    - ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดและทดลองใช้ได้ฟรี
    - ต้องใช้ bitnet.cpp inference framework เพื่อให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/microsoft-researchers-build-1-bit-ai-llm-with-2b-parameters-model-small-enough-to-run-on-some-cpus
    Microsoft ได้พัฒนา BitNet b1.58 2B4T ซึ่งเป็นโมเดล AI แบบ 1-bit LLM ที่มี 2 พันล้านพารามิเตอร์ และสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพบน CPU ทั่วไป โดยใช้หน่วยความจำเพียง 400MB ซึ่งน้อยกว่ารุ่นอื่นๆ ถึง 70% ✅ BitNet b1.58 2B4T เป็นโมเดล AI แบบ 1-bit ที่ใช้พลังงานต่ำ - ใช้ 1-bit weights ที่มีค่าเพียง -1, 0 และ +1 ซึ่งช่วยลดการใช้หน่วยความจำ - ใช้หน่วยความจำเพียง 400MB เทียบกับ 1.4GB ของ Gemma 3 1B ✅ สามารถทำงานบน CPU ทั่วไป เช่น Apple M2 - ไม่ต้องใช้ GPU หรือ NPU ทำให้สามารถรันโมเดลได้บน ฮาร์ดแวร์ที่มีประสิทธิภาพต่ำกว่า - ช่วยให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถทดลองใช้ AI ได้โดยไม่ต้องใช้เซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ ✅ BitNet b1.58 2B4T มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับโมเดล AI ขนาดใหญ่ - ทดสอบเทียบกับ LLaMa 3.2 1B, Gemma 3 1B และ Qwen 2.5 1.5B - มีคะแนนสูงกว่าในบางการทดสอบ เช่น ARC-Challenge และ BoolQ ✅ โมเดลนี้เปิดให้ใช้งานบน Hugging Face และ GitHub - ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดและทดลองใช้ได้ฟรี - ต้องใช้ bitnet.cpp inference framework เพื่อให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/microsoft-researchers-build-1-bit-ai-llm-with-2b-parameters-model-small-enough-to-run-on-some-cpus
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 43 มุมมอง 0 รีวิว
  • AMD กำลังเตรียมเปิดตัว RX 9070 GRE ซึ่งอาจเป็นคู่แข่งสำคัญของ Nvidia RTX 5060 Ti โดยมีรายงานว่า RX 9070 GRE จะมี 48 Compute Units (CUs) หรือ 3,072 Stream Processors และใช้ Navi 48 XT die

    ✅ RX 9070 GRE อาจมีประสิทธิภาพเหนือกว่า RTX 5060 Ti
    - มี 48 CUs และ 3,072 Stream Processors ซึ่งสูงกว่า RTX 5060 Ti
    - ใช้ Navi 48 XT die และมี Core Clock 2.79 GHz ต่ำกว่ารุ่น XT ที่ 2.97 GHz

    ✅ หน่วยความจำของ RX 9070 GRE มีความเร็วต่ำกว่ารุ่น XT
    - ใช้ Memory Clock 18 Gbps เทียบกับ 20 Gbps ของ RX 9070 XT
    - มี Memory Bandwidth ประมาณ 67.5% ของ RX 9070 XT

    ✅ ผลการทดสอบเบื้องต้นใน 3DMark Speed Way และ Steel Nomad
    - RX 9070 GRE มี ประสิทธิภาพในการเรนเดอร์สูงกว่า RTX 5060 Ti ถึง 34%
    - ในการทดสอบ Ray Tracing ประสิทธิภาพของ RX 9070 GRE ใกล้เคียงกับ RTX 5060 Ti

    ✅ ราคาที่คาดการณ์ของ RX 9070 GRE
    - อาจอยู่ที่ $449 ซึ่งสูงกว่า RTX 5060 Ti 16GB เพียง $20
    - อย่างไรก็ตาม RX 9070 GRE อาจเป็น รุ่นที่วางจำหน่ายเฉพาะในจีน

    https://www.neowin.net/news/alleged-amd-9070-gre-specs-and-performance-suggest-it-could-utterly-destroy-nvidia-5060-ti/
    AMD กำลังเตรียมเปิดตัว RX 9070 GRE ซึ่งอาจเป็นคู่แข่งสำคัญของ Nvidia RTX 5060 Ti โดยมีรายงานว่า RX 9070 GRE จะมี 48 Compute Units (CUs) หรือ 3,072 Stream Processors และใช้ Navi 48 XT die ✅ RX 9070 GRE อาจมีประสิทธิภาพเหนือกว่า RTX 5060 Ti - มี 48 CUs และ 3,072 Stream Processors ซึ่งสูงกว่า RTX 5060 Ti - ใช้ Navi 48 XT die และมี Core Clock 2.79 GHz ต่ำกว่ารุ่น XT ที่ 2.97 GHz ✅ หน่วยความจำของ RX 9070 GRE มีความเร็วต่ำกว่ารุ่น XT - ใช้ Memory Clock 18 Gbps เทียบกับ 20 Gbps ของ RX 9070 XT - มี Memory Bandwidth ประมาณ 67.5% ของ RX 9070 XT ✅ ผลการทดสอบเบื้องต้นใน 3DMark Speed Way และ Steel Nomad - RX 9070 GRE มี ประสิทธิภาพในการเรนเดอร์สูงกว่า RTX 5060 Ti ถึง 34% - ในการทดสอบ Ray Tracing ประสิทธิภาพของ RX 9070 GRE ใกล้เคียงกับ RTX 5060 Ti ✅ ราคาที่คาดการณ์ของ RX 9070 GRE - อาจอยู่ที่ $449 ซึ่งสูงกว่า RTX 5060 Ti 16GB เพียง $20 - อย่างไรก็ตาม RX 9070 GRE อาจเป็น รุ่นที่วางจำหน่ายเฉพาะในจีน https://www.neowin.net/news/alleged-amd-9070-gre-specs-and-performance-suggest-it-could-utterly-destroy-nvidia-5060-ti/
    WWW.NEOWIN.NET
    Alleged AMD 9070 GRE specs and performance suggest it could utterly destroy Nvidia 5060 Ti
    AMD RX 9070 GRE specs have allegedly leaked, and we have estimated how the card performs. As it turns out, Nvidia's newly released 5060 Ti could have a truly hard time standing up to it.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 29 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel กำลังผลักดันการใช้ High-NA EUV lithography ในการผลิตชิป โดยติดตั้งเครื่องมือใหม่และพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม ต้นทุนสูงและข้อจำกัดด้านโครงสร้างพื้นฐาน อาจทำให้การนำไปใช้ในอุตสาหกรรมล่าช้า

    ✅ Intel ติดตั้งเครื่อง High-NA EUV และพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง
    - บริษัทได้ติดตั้ง ASML Twinscan EXE:5000 และพัฒนา reticles, optical proximity correction (OPC) และ photomasks
    - มีการประมวลผล 30,000 wafers เพื่อทดสอบความเป็นไปได้ของเทคโนโลยี

    ✅ ต้นทุนของ High-NA EUV สูงกว่าระบบเดิม
    - เครื่องมือแต่ละเครื่องมีราคาประมาณ $380 - $400 ล้าน ซึ่งสูงกว่ารุ่น Low-NA EUV
    - การใช้ High-NA EUV มีค่าใช้จ่ายต่อการผลิตสูงกว่าถึง 2.5 เท่า เมื่อเทียบกับ Low-NA EUV

    ✅ Intel ใช้ High-NA EUV ในกระบวนการผลิต 14A (1.4nm-class)
    - เทคโนโลยีนี้ช่วยลดจำนวนขั้นตอนจาก 30 ขั้นตอนเหลือเพียง 1 ขั้นตอน ในบางชั้นของชิป
    - ผลการทดสอบแสดงให้เห็นว่า คุณภาพของ High-NA EUV เทียบเท่ากับเทคนิคเดิม

    ✅ ข้อจำกัดด้านโครงสร้างพื้นฐานและการผลิต
    - ขนาดของ exposure field เล็กลง ทำให้ต้องใช้ การซ้อนภาพ (stitched fields) ซึ่งอาจลดประสิทธิภาพ
    - Intel เสนอให้ใช้ photomask ขนาดใหญ่ขึ้น (6×12 นิ้วแทน 6×6 นิ้ว) เพื่อแก้ปัญหานี้

    ✅ แนวโน้มของการนำ High-NA EUV มาใช้ในอุตสาหกรรม
    - Intel คาดว่าเทคโนโลยีนี้จะถูกนำไปใช้ในวงกว้างเมื่อ กระบวนการผลิตต้องการ triple หรือ quadruple patterning
    - อาจต้องรอจนถึง 1.0nm-class generation เพื่อให้ต้นทุนและโครงสร้างพื้นฐานพร้อม

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/intel-has-championed-high-na-euv-chipmaking-tools-but-costs-and-other-limitations-could-delay-industry-wide-adoption-report
    Intel กำลังผลักดันการใช้ High-NA EUV lithography ในการผลิตชิป โดยติดตั้งเครื่องมือใหม่และพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม ต้นทุนสูงและข้อจำกัดด้านโครงสร้างพื้นฐาน อาจทำให้การนำไปใช้ในอุตสาหกรรมล่าช้า ✅ Intel ติดตั้งเครื่อง High-NA EUV และพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง - บริษัทได้ติดตั้ง ASML Twinscan EXE:5000 และพัฒนา reticles, optical proximity correction (OPC) และ photomasks - มีการประมวลผล 30,000 wafers เพื่อทดสอบความเป็นไปได้ของเทคโนโลยี ✅ ต้นทุนของ High-NA EUV สูงกว่าระบบเดิม - เครื่องมือแต่ละเครื่องมีราคาประมาณ $380 - $400 ล้าน ซึ่งสูงกว่ารุ่น Low-NA EUV - การใช้ High-NA EUV มีค่าใช้จ่ายต่อการผลิตสูงกว่าถึง 2.5 เท่า เมื่อเทียบกับ Low-NA EUV ✅ Intel ใช้ High-NA EUV ในกระบวนการผลิต 14A (1.4nm-class) - เทคโนโลยีนี้ช่วยลดจำนวนขั้นตอนจาก 30 ขั้นตอนเหลือเพียง 1 ขั้นตอน ในบางชั้นของชิป - ผลการทดสอบแสดงให้เห็นว่า คุณภาพของ High-NA EUV เทียบเท่ากับเทคนิคเดิม ✅ ข้อจำกัดด้านโครงสร้างพื้นฐานและการผลิต - ขนาดของ exposure field เล็กลง ทำให้ต้องใช้ การซ้อนภาพ (stitched fields) ซึ่งอาจลดประสิทธิภาพ - Intel เสนอให้ใช้ photomask ขนาดใหญ่ขึ้น (6×12 นิ้วแทน 6×6 นิ้ว) เพื่อแก้ปัญหานี้ ✅ แนวโน้มของการนำ High-NA EUV มาใช้ในอุตสาหกรรม - Intel คาดว่าเทคโนโลยีนี้จะถูกนำไปใช้ในวงกว้างเมื่อ กระบวนการผลิตต้องการ triple หรือ quadruple patterning - อาจต้องรอจนถึง 1.0nm-class generation เพื่อให้ต้นทุนและโครงสร้างพื้นฐานพร้อม https://www.tomshardware.com/tech-industry/intel-has-championed-high-na-euv-chipmaking-tools-but-costs-and-other-limitations-could-delay-industry-wide-adoption-report
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 41 มุมมอง 0 รีวิว
  • การทดสอบความทนทานของ SSD ที่ไม่ได้เสียบไฟเป็นเวลานาน พบว่ามี การสูญเสียข้อมูลและประสิทธิภาพลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยนักวิจัยเตือนว่าการเก็บข้อมูลสำคัญบน SSD ที่ไม่ได้ใช้งานเป็นเวลานานอาจเสี่ยงต่อการสูญหาย

    ✅ SSD ที่ไม่ได้เสียบไฟเป็นเวลานานอาจสูญเสียข้อมูล
    - การทดสอบพบว่า SSD ที่ถูกใช้งานหนักมีไฟล์เสียหายและประสิทธิภาพลดลง
    - SSD ที่ไม่ได้ใช้งานเลยยังคงมีข้อมูลครบถ้วน แต่มี ข้อผิดพลาดที่ต้องใช้ระบบแก้ไขข้อมูลอัตโนมัติ (ECC) มากขึ้น

    ✅ SSD ที่ถูกใช้งานหนักมีอัตราการสูญเสียข้อมูลสูงกว่า
    - SSD ที่ผ่านการเขียนข้อมูล 280 เทราไบต์ มีไฟล์เสียหายและใช้เวลาตรวจสอบข้อมูลนานขึ้นถึง 4 เท่า
    - พบว่ามี เซกเตอร์เสียหายและประสิทธิภาพลดลงอย่างชัดเจน

    ✅ การทดสอบใช้ SSD รุ่น Leven JS-600 ขนาด 128GB
    - SSD เหล่านี้มีอายุการใช้งานที่ระบุไว้ที่ 60 เทราไบต์ของข้อมูลที่เขียน
    - การทดสอบใช้ 100GB ของข้อมูลแบบสุ่ม และตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลหลังจากปล่อย SSD ไว้โดยไม่เสียบไฟ

    ✅ ข้อสรุปจากการทดสอบ
    - SSD ที่ไม่ได้ใช้งานเลยยังคงมีข้อมูลครบถ้วน แต่มี ข้อผิดพลาดที่ต้องใช้ ECC แก้ไขมากขึ้น
    - SSD ที่ถูกใช้งานหนักมี ไฟล์เสียหายและประสิทธิภาพลดลงอย่างมาก

    https://www.tomshardware.com/pc-components/storage/unpowered-ssd-endurance-investigation-finds-severe-data-loss-and-performance-issues-reminds-us-of-the-importance-of-refreshing-backups
    การทดสอบความทนทานของ SSD ที่ไม่ได้เสียบไฟเป็นเวลานาน พบว่ามี การสูญเสียข้อมูลและประสิทธิภาพลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยนักวิจัยเตือนว่าการเก็บข้อมูลสำคัญบน SSD ที่ไม่ได้ใช้งานเป็นเวลานานอาจเสี่ยงต่อการสูญหาย ✅ SSD ที่ไม่ได้เสียบไฟเป็นเวลานานอาจสูญเสียข้อมูล - การทดสอบพบว่า SSD ที่ถูกใช้งานหนักมีไฟล์เสียหายและประสิทธิภาพลดลง - SSD ที่ไม่ได้ใช้งานเลยยังคงมีข้อมูลครบถ้วน แต่มี ข้อผิดพลาดที่ต้องใช้ระบบแก้ไขข้อมูลอัตโนมัติ (ECC) มากขึ้น ✅ SSD ที่ถูกใช้งานหนักมีอัตราการสูญเสียข้อมูลสูงกว่า - SSD ที่ผ่านการเขียนข้อมูล 280 เทราไบต์ มีไฟล์เสียหายและใช้เวลาตรวจสอบข้อมูลนานขึ้นถึง 4 เท่า - พบว่ามี เซกเตอร์เสียหายและประสิทธิภาพลดลงอย่างชัดเจน ✅ การทดสอบใช้ SSD รุ่น Leven JS-600 ขนาด 128GB - SSD เหล่านี้มีอายุการใช้งานที่ระบุไว้ที่ 60 เทราไบต์ของข้อมูลที่เขียน - การทดสอบใช้ 100GB ของข้อมูลแบบสุ่ม และตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลหลังจากปล่อย SSD ไว้โดยไม่เสียบไฟ ✅ ข้อสรุปจากการทดสอบ - SSD ที่ไม่ได้ใช้งานเลยยังคงมีข้อมูลครบถ้วน แต่มี ข้อผิดพลาดที่ต้องใช้ ECC แก้ไขมากขึ้น - SSD ที่ถูกใช้งานหนักมี ไฟล์เสียหายและประสิทธิภาพลดลงอย่างมาก https://www.tomshardware.com/pc-components/storage/unpowered-ssd-endurance-investigation-finds-severe-data-loss-and-performance-issues-reminds-us-of-the-importance-of-refreshing-backups
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Unpowered SSD endurance investigation finds severe data loss and performance issues
    YouTuber SSD tests reveals problems all round on two-year-old TLC drives.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 32 มุมมอง 0 รีวิว
  • TikTok กำลังทดสอบฟีเจอร์ใหม่ที่ชื่อว่า Footnotes ซึ่งเป็นระบบที่คล้ายกับ Community Notes ของ X (Twitter เดิม) โดยให้ผู้ใช้สามารถเพิ่มข้อมูลเพิ่มเติมลงในวิดีโอเพื่อช่วยให้เนื้อหามีความเข้าใจมากขึ้น

    ✅ TikTok เปิดตัว Footnotes เพื่อให้ผู้ใช้ช่วยตรวจสอบเนื้อหา
    - ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ เพิ่มข้อมูลเพิ่มเติมลงในวิดีโอ เพื่อให้เนื้อหามีความโปร่งใสมากขึ้น
    - TikTok ระบุว่า Footnotes ถูกออกแบบมาเพื่อ ให้ชุมชนมีบริบทเพิ่มเติมเกี่ยวกับเนื้อหาที่พวกเขาดู

    ✅ Footnotes ใช้ระบบการให้คะแนนแบบ "bridge-based ranking"
    - ผู้ใช้ที่ได้รับอนุญาตสามารถ เพิ่มโน้ตและให้คะแนนโน้ตของผู้อื่น
    - โน้ตที่ได้รับการจัดอันดับว่า "มีประโยชน์" จากผู้ใช้ที่มีมุมมองแตกต่างกัน จะถูกเผยแพร่สู่สาธารณะ

    ✅ ข้อกำหนดสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการเป็นผู้เพิ่มโน้ต
    - ต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป
    - ต้องมี ประวัติการใช้งานที่ดี และอยู่บนแพลตฟอร์มมาอย่างน้อย 6 เดือน

    ✅ Footnotes ไม่ได้มาแทนที่ระบบตรวจสอบข้อเท็จจริงของ TikTok
    - TikTok ยังคงใช้ องค์กรตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ได้รับการรับรองจาก IFCN
    - Footnotes เป็นเพียง อีกหนึ่งชั้นของการตรวจสอบเนื้อหา

    ✅ แรงบันดาลใจจาก Community Notes ของ X
    - Community Notes เปิดตัวครั้งแรกในปี 2021 ภายใต้ชื่อ Birdwatch
    - Elon Musk นำระบบนี้มาใช้ใน X และเพิ่มการเข้าถึงให้กว้างขึ้น

    ℹ️ ความท้าทายในการใช้ระบบตรวจสอบเนื้อหาที่ขับเคลื่อนโดยชุมชน
    - แม้ระบบนี้จะช่วยให้ผู้ใช้มีส่วนร่วมในการตรวจสอบเนื้อหา แต่ก็อาจ เกิดข้อผิดพลาดหรือการบิดเบือนข้อมูล ได้

    ℹ️ ผลกระทบต่อการควบคุมข้อมูลผิดบนแพลตฟอร์ม
    - รายงานจาก Center for Countering Digital Hate พบว่า Community Notes ของ X พลาดการตรวจจับโพสต์ที่ให้ข้อมูลผิดเกี่ยวกับการเลือกตั้ง

    ℹ️ แนวโน้มของการใช้ AI และชุมชนในการตรวจสอบเนื้อหา
    - TikTok อาจต้อง ปรับปรุงระบบ Footnotes เพื่อให้สามารถตรวจจับข้อมูลผิดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    https://www.neowin.net/news/tiktok-is-testing-its-own-version-of-community-notes-called-footnotes/
    TikTok กำลังทดสอบฟีเจอร์ใหม่ที่ชื่อว่า Footnotes ซึ่งเป็นระบบที่คล้ายกับ Community Notes ของ X (Twitter เดิม) โดยให้ผู้ใช้สามารถเพิ่มข้อมูลเพิ่มเติมลงในวิดีโอเพื่อช่วยให้เนื้อหามีความเข้าใจมากขึ้น ✅ TikTok เปิดตัว Footnotes เพื่อให้ผู้ใช้ช่วยตรวจสอบเนื้อหา - ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ เพิ่มข้อมูลเพิ่มเติมลงในวิดีโอ เพื่อให้เนื้อหามีความโปร่งใสมากขึ้น - TikTok ระบุว่า Footnotes ถูกออกแบบมาเพื่อ ให้ชุมชนมีบริบทเพิ่มเติมเกี่ยวกับเนื้อหาที่พวกเขาดู ✅ Footnotes ใช้ระบบการให้คะแนนแบบ "bridge-based ranking" - ผู้ใช้ที่ได้รับอนุญาตสามารถ เพิ่มโน้ตและให้คะแนนโน้ตของผู้อื่น - โน้ตที่ได้รับการจัดอันดับว่า "มีประโยชน์" จากผู้ใช้ที่มีมุมมองแตกต่างกัน จะถูกเผยแพร่สู่สาธารณะ ✅ ข้อกำหนดสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการเป็นผู้เพิ่มโน้ต - ต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป - ต้องมี ประวัติการใช้งานที่ดี และอยู่บนแพลตฟอร์มมาอย่างน้อย 6 เดือน ✅ Footnotes ไม่ได้มาแทนที่ระบบตรวจสอบข้อเท็จจริงของ TikTok - TikTok ยังคงใช้ องค์กรตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ได้รับการรับรองจาก IFCN - Footnotes เป็นเพียง อีกหนึ่งชั้นของการตรวจสอบเนื้อหา ✅ แรงบันดาลใจจาก Community Notes ของ X - Community Notes เปิดตัวครั้งแรกในปี 2021 ภายใต้ชื่อ Birdwatch - Elon Musk นำระบบนี้มาใช้ใน X และเพิ่มการเข้าถึงให้กว้างขึ้น ℹ️ ความท้าทายในการใช้ระบบตรวจสอบเนื้อหาที่ขับเคลื่อนโดยชุมชน - แม้ระบบนี้จะช่วยให้ผู้ใช้มีส่วนร่วมในการตรวจสอบเนื้อหา แต่ก็อาจ เกิดข้อผิดพลาดหรือการบิดเบือนข้อมูล ได้ ℹ️ ผลกระทบต่อการควบคุมข้อมูลผิดบนแพลตฟอร์ม - รายงานจาก Center for Countering Digital Hate พบว่า Community Notes ของ X พลาดการตรวจจับโพสต์ที่ให้ข้อมูลผิดเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ℹ️ แนวโน้มของการใช้ AI และชุมชนในการตรวจสอบเนื้อหา - TikTok อาจต้อง ปรับปรุงระบบ Footnotes เพื่อให้สามารถตรวจจับข้อมูลผิดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น https://www.neowin.net/news/tiktok-is-testing-its-own-version-of-community-notes-called-footnotes/
    WWW.NEOWIN.NET
    TikTok is testing its own version of Community Notes, called Footnotes
    X's Community Notes model seems to be catching the attention of other social platforms, and now TikTok is the latest to take a swing at it.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 48 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft ได้เปิดเผยรายละเอียดใหม่เกี่ยวกับ Adobe PDF engine ที่จะมาแทนที่ เครื่องอ่าน PDF แบบเดิมใน Microsoft Edge โดยการเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้ผู้ใช้ได้รับ ประสบการณ์การอ่าน PDF ที่ดีขึ้น พร้อม ความปลอดภัยที่แข็งแกร่งขึ้น

    ✅ Microsoft Edge จะใช้ Adobe PDF engine แทนเครื่องอ่าน PDF แบบเดิม
    - Microsoft เริ่มเปิดตัวฟีเจอร์นี้ให้กับผู้ใช้ทั่วไปตั้งแต่ มีนาคม 2023
    - การเปิดตัวแบบ General Availability จะเริ่มใน ตุลาคม 2025

    ✅ ข้อดีของ Adobe PDF engine
    - การแสดงผลที่ดีขึ้น: รองรับสีและกราฟิกที่แม่นยำกว่าเดิม
    - ประสิทธิภาพที่สูงขึ้น: โหลดไฟล์ PDF ได้เร็วขึ้น
    - ความปลอดภัยที่แข็งแกร่งขึ้น: ป้องกันภัยคุกคามที่เกี่ยวข้องกับไฟล์ PDF
    - การเข้าถึงที่ดีขึ้น: รองรับการเลือกข้อความและการอ่านออกเสียง

    ✅ การเปลี่ยนแปลงสำหรับผู้ใช้ทั่วไปและองค์กร
    - ผู้ใช้ทั่วไปจะได้รับการอัปเดตโดยอัตโนมัติ
    - องค์กรที่ใช้ อุปกรณ์ที่มีการจัดการ จะได้รับการอัปเดตตามแผนการทดสอบ

    ✅ การเลื่อนกำหนดการเปิดตัว
    - Microsoft เคยวางแผนเปิดตัวใน กันยายน 2025 แต่เลื่อนเป็น ตุลาคม 2025
    - เครื่องอ่าน PDF แบบเดิมจะถูก ถอดออกจาก Microsoft Edge ในต้นปี 2026

    https://www.neowin.net/news/microsoft-shares-new-details-on-adobe-for-edge-that-replaces-native-legacy-pdf-reader/
    Microsoft ได้เปิดเผยรายละเอียดใหม่เกี่ยวกับ Adobe PDF engine ที่จะมาแทนที่ เครื่องอ่าน PDF แบบเดิมใน Microsoft Edge โดยการเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้ผู้ใช้ได้รับ ประสบการณ์การอ่าน PDF ที่ดีขึ้น พร้อม ความปลอดภัยที่แข็งแกร่งขึ้น ✅ Microsoft Edge จะใช้ Adobe PDF engine แทนเครื่องอ่าน PDF แบบเดิม - Microsoft เริ่มเปิดตัวฟีเจอร์นี้ให้กับผู้ใช้ทั่วไปตั้งแต่ มีนาคม 2023 - การเปิดตัวแบบ General Availability จะเริ่มใน ตุลาคม 2025 ✅ ข้อดีของ Adobe PDF engine - การแสดงผลที่ดีขึ้น: รองรับสีและกราฟิกที่แม่นยำกว่าเดิม - ประสิทธิภาพที่สูงขึ้น: โหลดไฟล์ PDF ได้เร็วขึ้น - ความปลอดภัยที่แข็งแกร่งขึ้น: ป้องกันภัยคุกคามที่เกี่ยวข้องกับไฟล์ PDF - การเข้าถึงที่ดีขึ้น: รองรับการเลือกข้อความและการอ่านออกเสียง ✅ การเปลี่ยนแปลงสำหรับผู้ใช้ทั่วไปและองค์กร - ผู้ใช้ทั่วไปจะได้รับการอัปเดตโดยอัตโนมัติ - องค์กรที่ใช้ อุปกรณ์ที่มีการจัดการ จะได้รับการอัปเดตตามแผนการทดสอบ ✅ การเลื่อนกำหนดการเปิดตัว - Microsoft เคยวางแผนเปิดตัวใน กันยายน 2025 แต่เลื่อนเป็น ตุลาคม 2025 - เครื่องอ่าน PDF แบบเดิมจะถูก ถอดออกจาก Microsoft Edge ในต้นปี 2026 https://www.neowin.net/news/microsoft-shares-new-details-on-adobe-for-edge-that-replaces-native-legacy-pdf-reader/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft shares new details on Adobe for Edge that replaces native legacy PDF reader
    Microsoft has shared some new details regarding Adobe PDF support on its Edge web browser. The company has also published when it will remove the native legacy reader.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว
  • Qualcomm กำลังพัฒนา Snapdragon X รุ่นที่สอง สำหรับ PC ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มประสิทธิภาพขึ้น 18-22% เมื่อเทียบกับรุ่นปัจจุบัน โดยมีการปรับปรุงด้าน ความเร็วสัญญาณนาฬิกา และ สถาปัตยกรรมภายใน

    ✅ Snapdragon X รุ่นที่สองจะเพิ่มประสิทธิภาพขึ้น 18-22%
    - ข้อมูลนี้มาจาก บล็อกเกอร์ชาวจีน ที่มีผู้ติดตามกว่า 2.2 ล้านคน
    - ความเร็วสูงสุดของซีพียูอาจเริ่มต้นที่ 4.40 GHz

    ✅ ใช้สถาปัตยกรรม Oryon และกระบวนการผลิต 4nm
    - Snapdragon X ใช้ Oryon cores ที่พัฒนาโดยทีม Nuvia
    - ผลิตด้วยเทคโนโลยี TSMC N4P (4nm-class)

    ✅ เปรียบเทียบกับรุ่นปัจจุบัน
    - Snapdragon X รุ่นแรกมีความเร็ว 3.0 GHz ถึง 3.80 GHz และบูสต์ได้ถึง 4.30 GHz
    - รุ่นใหม่อาจมีการปรับปรุงทั้ง ความเร็วสัญญาณนาฬิกาและสถาปัตยกรรม

    ✅ การเปิดตัวและการแข่งขันในตลาด
    - Qualcomm เปิดตัว Snapdragon X Elite รุ่นแรก (SC8380XP) ในปี 2024
    - รุ่นที่สอง (SC8480XP) เริ่มทดสอบภายในตั้งแต่เดือนกันยายน 2024

    ℹ️ ผลกระทบต่อการแข่งขันในตลาด PC
    - หาก Snapdragon X รุ่นที่สองเปิดตัวในปี 2025 อาจต้องแข่งขันกับ Intel และ AMD ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

    ℹ️ ความท้าทายในการเพิ่มประสิทธิภาพ
    - ต้องติดตามว่า การเพิ่มประสิทธิภาพ 20% มาจากการเพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกาหรือการปรับปรุงสถาปัตยกรรม

    ℹ️ แนวโน้มของ Snapdragon X ในอนาคต
    - หาก Qualcomm วางแผนเปิดตัวในปี 2026 อาจต้องเพิ่มประสิทธิภาพมากกว่า 20% เพื่อให้สามารถแข่งขันได้

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/second-gen-snapdragon-x-pc-chips-may-boost-performance-up-to-22-percent
    Qualcomm กำลังพัฒนา Snapdragon X รุ่นที่สอง สำหรับ PC ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มประสิทธิภาพขึ้น 18-22% เมื่อเทียบกับรุ่นปัจจุบัน โดยมีการปรับปรุงด้าน ความเร็วสัญญาณนาฬิกา และ สถาปัตยกรรมภายใน ✅ Snapdragon X รุ่นที่สองจะเพิ่มประสิทธิภาพขึ้น 18-22% - ข้อมูลนี้มาจาก บล็อกเกอร์ชาวจีน ที่มีผู้ติดตามกว่า 2.2 ล้านคน - ความเร็วสูงสุดของซีพียูอาจเริ่มต้นที่ 4.40 GHz ✅ ใช้สถาปัตยกรรม Oryon และกระบวนการผลิต 4nm - Snapdragon X ใช้ Oryon cores ที่พัฒนาโดยทีม Nuvia - ผลิตด้วยเทคโนโลยี TSMC N4P (4nm-class) ✅ เปรียบเทียบกับรุ่นปัจจุบัน - Snapdragon X รุ่นแรกมีความเร็ว 3.0 GHz ถึง 3.80 GHz และบูสต์ได้ถึง 4.30 GHz - รุ่นใหม่อาจมีการปรับปรุงทั้ง ความเร็วสัญญาณนาฬิกาและสถาปัตยกรรม ✅ การเปิดตัวและการแข่งขันในตลาด - Qualcomm เปิดตัว Snapdragon X Elite รุ่นแรก (SC8380XP) ในปี 2024 - รุ่นที่สอง (SC8480XP) เริ่มทดสอบภายในตั้งแต่เดือนกันยายน 2024 ℹ️ ผลกระทบต่อการแข่งขันในตลาด PC - หาก Snapdragon X รุ่นที่สองเปิดตัวในปี 2025 อาจต้องแข่งขันกับ Intel และ AMD ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ℹ️ ความท้าทายในการเพิ่มประสิทธิภาพ - ต้องติดตามว่า การเพิ่มประสิทธิภาพ 20% มาจากการเพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกาหรือการปรับปรุงสถาปัตยกรรม ℹ️ แนวโน้มของ Snapdragon X ในอนาคต - หาก Qualcomm วางแผนเปิดตัวในปี 2026 อาจต้องเพิ่มประสิทธิภาพมากกว่า 20% เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ https://www.tomshardware.com/tech-industry/second-gen-snapdragon-x-pc-chips-may-boost-performance-up-to-22-percent
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 129 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวก​พึง​ศึกษา​การอยู่ป่ากับการเจริญสมาธิสำหรับภิกษุบางรูป
    สัทธรรมลำดับที่ : 962
    ชื่อบทธรรม :- การอยู่ป่ากับการเจริญสมาธิสำหรับภิกษุบางรูป
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=962
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --การอยู่ป่ากับการเจริญสมาธิสำหรับภิกษุบางรูป
    --“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ข้าพระองค์
    มีความประสงค์จะเสพเสนาสนะอันสงัด คือ ป่าหรือป่าเปลี่ยว”.
    --อุบาลี ! เสนาสนะอันสงัด คือป่าหรือป่าเปลี่ยว
    http://etipitaka.com/read/pali/24/216/?keywords=อรญฺญวนปตฺถานิ+ปนฺตานิ+เสนาสนานิ
    อยู่ได้ยาก ปวิเวกทำได้ยาก ความอยู่คนเดียว
    เป็นสิ่งที่ยินดีได้ยาก ป่ามักจะนำไปเสีย ซึ่งใจของภิกษุผู้ไม่ได้สมาธิอยู่.
    --อุบาลี ! ผู้ใดพูดว่า
    “เราไม่ได้สมาธิ เราจักไปอยู่ในเสนาสนะอันสงัดคือป่าหรือป่าเปลี่ยว”
    http://etipitaka.com/read/pali/24/216/?keywords=วนานิ+สมาธึ
    ดังนี้
    เขานั้น พึงหวังผลข้อนี้ คือ จิตจักจมลงหรือจิตจักปลิวไป.
    --อุบาลี ! เปรียบเหมือนห้วงน้ำใหญ่ มีอยู่.
    ช้างพลายสูงเจ็ดรัตน์(๑๔​ ฟุต)​*--๑ หรือเจ็ดรัตน์ครึ่ง
    มาสู่ที่นั้นแล้วคิดว่า
    “เราจะลงสู่ห้วงน้ำนี้ แล้วเล่นน้ำ ล้างหูบ้าง เล่นน้ำ ล้างหลังบ้าง
    แล้วพึงอาบพึงดื่ม พึงขึ้นจากห้วงน้ำแล้วหลีกไปตามปรารถนา”
    ดังนี้;
    ช้างนั้น กระทำได้ดังนั้น, เพราะเหตุไร ?
    --อุบาลี ! เพราะเหตุว่า ช้างนั้นตัวใหญ่ จึงอาจหยั่งลงในห้วงน้ำลึกได้.
    ครั้งนั้น
    กระต่ายหรือแมวป่า มาเห็นช้างนั้นแล้วคิดว่า
    “ช้างจะเป็นอะไรที่ไหนมา เราก็จะเป็นอะไรที่ไหนไป
    ดังนั้น เราจะลงสู่ห้วงน้ำนี้ แล้วเล่นน้ำ ล้างหูบ้าง เล่นน้ำ ล้างหลังบ้าง
    แล้วพึงอาบพึงดื่ม พึงขึ้นจากห้วงน้ำแล้วหลีกไปตามปรารถนา”
    ดังนี้;
    กระต่าย หรือแมวป่านั้น กระโจนลงสู่ห้วงน้ำนั้น
    โดยไม่พิจารณา ผลที่มันหวังได้ก็คือ จมดิ่งลงไป หรือลอยไปตามกระแสน้ำ.
    ข้อนั้นเพราะเหตุไรเล่า ?
    เพราะว่ากระต่ายหรือแมวป่านั้นตัวมันเล็ก จึงไม่อาจหยั่งลงในห้วงน้ำลึก,
    นี้ฉันใด;
    --อุบาลี ! ข้อนี้ก็ฉันนั้น กล่าวคือ ผู้ใด พูดว่า
    “เราไม่ได้สมาธิ เราจักไปอยู่ในเสนาสนะอันสงัดคือป่า หรือป่าเปลี่ยว”
    ดังนี้
    เขานั้น พึงหวังผลข้อนี้คือ จิตจักจมลง หรือจิตจักปลิวไป.
    --อุบาลี ! เธอ จงอยู่ในหมู่สงฆ์เถิด ความผาสุกจักมีแก่เธอผู้อยู่ในหมู่สงฆ์,
    ดังนี้.-

    *--๑. หนึ่งรัตน์เท่ากับ ๒ วิทัตถิ,
    เท่าที่ทดสอบกันในประเทศไทยแล้ว ปรากฏว่า หนึ่งวิทัตถิ ประมาณเท่ากับ ๑ ฟุต.--

    (เนื้อความข้อนี้แสดงว่า การออกไปอยู่ป่ามิได้เหมาะสำหรับทุกคน.
    ผู้ใดคิดว่าจักบรรลุปฐมฌาน ทุติยฌาน กระทั่งถึงสัญญาเวทยิตนิโรธอันไม่มีอาสวะ
    ด้วยเหตุเพียงสักว่าอยู่ป่าอย่างเดียวนั้น ไม่อาจจะสำเร็จได้
    เพราะไม่ชื่อว่า เป็นผู้ตามถึงประโยชน์ตน (อนุปฺปตฺตสทตฺถ) ได้ด้วยเหตุสักว่าการอยู่ป่า ;
    ดังนั้นพระองค์จึงตรัสกะภิกษุอุบาลีว่า : -)

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ทสก. อํ. 24/172/99.
    http://etipitaka.com/read/thai/24/172/?keywords=%E0%B9%99%E0%B9%99
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ทสก. อํ. ๒๔/๒๑๖/๙๙.
    http://etipitaka.com/read/pali/24/216/?keywords=%E0%B9%99%E0%B9%99
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=962
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=82&id=962
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=82
    ลำดับสาธยายธรรม : 82 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_82.mp3
    อริยสาวก​พึง​ศึกษา​การอยู่ป่ากับการเจริญสมาธิสำหรับภิกษุบางรูป สัทธรรมลำดับที่ : 962 ชื่อบทธรรม :- การอยู่ป่ากับการเจริญสมาธิสำหรับภิกษุบางรูป https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=962 เนื้อความทั้งหมด :- --การอยู่ป่ากับการเจริญสมาธิสำหรับภิกษุบางรูป --“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ข้าพระองค์ มีความประสงค์จะเสพเสนาสนะอันสงัด คือ ป่าหรือป่าเปลี่ยว”. --อุบาลี ! เสนาสนะอันสงัด คือป่าหรือป่าเปลี่ยว http://etipitaka.com/read/pali/24/216/?keywords=อรญฺญวนปตฺถานิ+ปนฺตานิ+เสนาสนานิ อยู่ได้ยาก ปวิเวกทำได้ยาก ความอยู่คนเดียว เป็นสิ่งที่ยินดีได้ยาก ป่ามักจะนำไปเสีย ซึ่งใจของภิกษุผู้ไม่ได้สมาธิอยู่. --อุบาลี ! ผู้ใดพูดว่า “เราไม่ได้สมาธิ เราจักไปอยู่ในเสนาสนะอันสงัดคือป่าหรือป่าเปลี่ยว” http://etipitaka.com/read/pali/24/216/?keywords=วนานิ+สมาธึ ดังนี้ เขานั้น พึงหวังผลข้อนี้ คือ จิตจักจมลงหรือจิตจักปลิวไป. --อุบาลี ! เปรียบเหมือนห้วงน้ำใหญ่ มีอยู่. ช้างพลายสูงเจ็ดรัตน์(๑๔​ ฟุต)​*--๑ หรือเจ็ดรัตน์ครึ่ง มาสู่ที่นั้นแล้วคิดว่า “เราจะลงสู่ห้วงน้ำนี้ แล้วเล่นน้ำ ล้างหูบ้าง เล่นน้ำ ล้างหลังบ้าง แล้วพึงอาบพึงดื่ม พึงขึ้นจากห้วงน้ำแล้วหลีกไปตามปรารถนา” ดังนี้; ช้างนั้น กระทำได้ดังนั้น, เพราะเหตุไร ? --อุบาลี ! เพราะเหตุว่า ช้างนั้นตัวใหญ่ จึงอาจหยั่งลงในห้วงน้ำลึกได้. ครั้งนั้น กระต่ายหรือแมวป่า มาเห็นช้างนั้นแล้วคิดว่า “ช้างจะเป็นอะไรที่ไหนมา เราก็จะเป็นอะไรที่ไหนไป ดังนั้น เราจะลงสู่ห้วงน้ำนี้ แล้วเล่นน้ำ ล้างหูบ้าง เล่นน้ำ ล้างหลังบ้าง แล้วพึงอาบพึงดื่ม พึงขึ้นจากห้วงน้ำแล้วหลีกไปตามปรารถนา” ดังนี้; กระต่าย หรือแมวป่านั้น กระโจนลงสู่ห้วงน้ำนั้น โดยไม่พิจารณา ผลที่มันหวังได้ก็คือ จมดิ่งลงไป หรือลอยไปตามกระแสน้ำ. ข้อนั้นเพราะเหตุไรเล่า ? เพราะว่ากระต่ายหรือแมวป่านั้นตัวมันเล็ก จึงไม่อาจหยั่งลงในห้วงน้ำลึก, นี้ฉันใด; --อุบาลี ! ข้อนี้ก็ฉันนั้น กล่าวคือ ผู้ใด พูดว่า “เราไม่ได้สมาธิ เราจักไปอยู่ในเสนาสนะอันสงัดคือป่า หรือป่าเปลี่ยว” ดังนี้ เขานั้น พึงหวังผลข้อนี้คือ จิตจักจมลง หรือจิตจักปลิวไป. --อุบาลี ! เธอ จงอยู่ในหมู่สงฆ์เถิด ความผาสุกจักมีแก่เธอผู้อยู่ในหมู่สงฆ์, ดังนี้.- *--๑. หนึ่งรัตน์เท่ากับ ๒ วิทัตถิ, เท่าที่ทดสอบกันในประเทศไทยแล้ว ปรากฏว่า หนึ่งวิทัตถิ ประมาณเท่ากับ ๑ ฟุต.-- (เนื้อความข้อนี้แสดงว่า การออกไปอยู่ป่ามิได้เหมาะสำหรับทุกคน. ผู้ใดคิดว่าจักบรรลุปฐมฌาน ทุติยฌาน กระทั่งถึงสัญญาเวทยิตนิโรธอันไม่มีอาสวะ ด้วยเหตุเพียงสักว่าอยู่ป่าอย่างเดียวนั้น ไม่อาจจะสำเร็จได้ เพราะไม่ชื่อว่า เป็นผู้ตามถึงประโยชน์ตน (อนุปฺปตฺตสทตฺถ) ได้ด้วยเหตุสักว่าการอยู่ป่า ; ดังนั้นพระองค์จึงตรัสกะภิกษุอุบาลีว่า : -) #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ทสก. อํ. 24/172/99. http://etipitaka.com/read/thai/24/172/?keywords=%E0%B9%99%E0%B9%99 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ทสก. อํ. ๒๔/๒๑๖/๙๙. http://etipitaka.com/read/pali/24/216/?keywords=%E0%B9%99%E0%B9%99 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=962 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=82&id=962 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=82 ลำดับสาธยายธรรม : 82 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_82.mp3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 135 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวก​พึง​ศึกษา​ว่า​หลักการทดสอบตัวเองว่าเป็นอรหันต์หรือไม่
    สัทธรรมลำดับที่ : 594
    ชื่อบทธรรม : -หลักการทดสอบตัวเองว่าเป็นอรหันต์หรือไม่
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=594
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --หลักการทดสอบตัวเองว่าเป็นอรหันต์หรือไม่
    ....
    ภิกษุรูปหนึ่งเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับฯลฯ
    ครั้นแล้วได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า
    ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ที่พระองค์ตรัสว่า ภิกษุ​ผู้ถึงพร้อมด้วยอินทรีย์ๆ
    ดังนี้
    ภิกษุเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยอินทรีย์ด้วยเหตุเพียงเท่าไรหนอ พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
    --ดูกรภิกษุ ถ้าว่าภิกษุ
    พิจารณาเห็นความ เกิดขึ้นและความเสื่อมไป
    ใน เห็นรูปด้วยตา(จักขุนทรีย์)​ ย่อมเบื่อหน่ายใน จักขุนทรีย์
    http://etipitaka.com/read/pali/18/176/?keywords=จกฺขุนฺทฺริเย
    .. ฟังเสียงด้วยหู (โสตินทรีย์)..
    .. ดมกลิ่นด้วยจมูก (ฆานินทรีย์)..
    .. ลิ้มรสด้วยลิ้น (ชิวหินทรีย์)..
    .. ถูกต้องโผฏฐัพพะด้วยผิวกาย(โผฏฐัพินทรีย์)​ และ
    พิจารณาเห็นความ เกิดขึ้นและความเสื่อมไป
    ใน รับรู้ธรรมารมย์ด้วยใจ(มนินทรีย์)​ ย่อมเบื่อหน่ายใน มนินทรีย์
    http://etipitaka.com/read/pali/18/176/?keywords=มนินฺทฺริเย
    เมื่อเบื่อหน่าย ย่อมคลายกำหนัด
    เพราะคลายกำหนัด จึงหลุดพ้น เมื่อหลุดพ้นแล้ว
    ย่อมมีญาณหยั่งรู้ว่า หลุดพ้นแล้ว รู้ชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว
    พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำ ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี
    --ดูกรภิกษุภิกษุ​ #เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยอินทรีย์
    ด้วยเหตุเพียงเท่านี้แล​ฯ
    *--สฬา. สํ. ๑๘/๑๗๖/๒๔๓
    *--http://etipitaka.com/read/pali/18/176/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%94%E0%B9%93
    ....
    --ภิกษุ ท. ! หลักเกณฑ์นั้นมีอยู่ ซึ่งเมื่อบุคคลอาศัยแล้วไม่ต้องอาศัยความเชื่อ
    ความชอบใจ การฟังตาม ๆ กันมา
    การตริตรึกไปตามอาการการเห็นว่ามันเข้ากันได้กับทิฏฐิของตนเลย
    ก็อาจพยากรณ์ #การบรรลุอรหัตตผลของตนได้ โดยรู้ชัดว่า
    “ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำได้ทำสำเร็จแล้ว
    กิจอื่นที่จะต้องทำ เพื่อความเป็นอย่างนี้ มิได้มีอีก”
    ดังนี้.
    --ภิกษุ ท. ! หลักเกณฑ์นั้น เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้
    ๑.เห็นรูปด้วยตาแล้ว
    http://etipitaka.com/read/pali/18/174/?keywords=จกฺขุนา
    รู้ชัด ราคะ โทสะ โมหะ ซึ่งเกิดมีอยู่ในภายใน ว่าเกิดมีอยู่ในภายใน,
    รู้ชัด ราคะ โทสะ โมหะ อันไม่เกิดมีอยู่ในภายใน ว่าไม่เกิดมีอยู่ในภายใน.
    --ภิกษุ ท. ! เมื่อเธอรู้ชัดอยู่อย่างนี้แล้ว
    ยังจำเป็นอยู่อีกหรือ ที่จะต้องรู้ธรรมทั้งหลายด้วยอาศัยความเชื่อ ความชอบใจ
    การฟังตาม ๆ กันมา การตริตรึกไปตามอาการ การเห็นว่ามันเข้ากันได้กับทิฏฐิของตน ?
    “ข้อนั้นหามิได้ พระเจ้าข้า !”
    --ภิกษุ ท. ! ธรรมทั้งหลายเป็นสิ่งที่ต้องเห็นด้วยปัญญาแล้ว จึงรู้ มิใช่หรือ ?
    http://etipitaka.com/read/pali/18/175/?keywords=ธมฺมา+ปญฺญาย
    "ข้อนั้น เป็นอย่างนั้น พระเจ้าข้า !”
    --ภิกษุ ท. ! นี่แหละ หลักเกณฑ์ ซึ่งเมื่อบุคคลอาศัยแล้ว ไม่ต้องอาศัยความเชื่อ
    ความชอบใจ การฟังตาม ๆ กันมา
    การตริตรึกไปตามอาการการเห็นว่ามันเข้ากันได้กับทิฏฐิของตนเลย
    ก็อาจพยากรณ์การบรรลุอรหัตตผลของตนได้
    http://etipitaka.com/read/pali/18/175/?keywords=พฺยากโรติ
    โดยรู้ชัดว่า
    “ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำได้ทำสำเร็จแล้ว
    กิจอื่นที่จะต้องทำเพื่อความเป็นอย่างนี้ มิได้มีอีก”
    ดังนี้.

    (ในกรณีแห่งการ
    ๒.ฟังเสียงด้วยหู
    ๓.ดมกลิ่นด้วยจมูก
    ๔.ลิ้มรสด้วยลิ้น
    ๕.ถูกต้องโผฏฐัพพะด้วยผิวกาย และ
    ๖.รู้แจ้งธรรมารมณ์ด้วยใจ
    ก็ได้ตรัสต่อไปอีกโดยนัยอย่างเดียวกันกับในกรณีแห่งการเห็นรูปด้วยตา ทุกประการ ต่างกันแต่ชื่อเท่านั้น).-

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. 18/233-235/239-242.
    http://etipitaka.com/read/thai/18/233/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%93%E0%B9%99
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. ๑๘/๑๗๓-๑๗๕/๒๓๙-๒๔๒.
    http://etipitaka.com/read/pali/18/173/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%93%E0%B9%99
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=594
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=40&id=594
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=40
    ลำดับสาธยายธรรม : 40​ ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_40.mp3
    อริยสาวก​พึง​ศึกษา​ว่า​หลักการทดสอบตัวเองว่าเป็นอรหันต์หรือไม่ สัทธรรมลำดับที่ : 594 ชื่อบทธรรม : -หลักการทดสอบตัวเองว่าเป็นอรหันต์หรือไม่ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=594 เนื้อความทั้งหมด :- --หลักการทดสอบตัวเองว่าเป็นอรหันต์หรือไม่ .... ภิกษุรูปหนึ่งเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับฯลฯ ครั้นแล้วได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ที่พระองค์ตรัสว่า ภิกษุ​ผู้ถึงพร้อมด้วยอินทรีย์ๆ ดังนี้ ภิกษุเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยอินทรีย์ด้วยเหตุเพียงเท่าไรหนอ พระผู้มีพระภาคตรัสว่า --ดูกรภิกษุ ถ้าว่าภิกษุ พิจารณาเห็นความ เกิดขึ้นและความเสื่อมไป ใน เห็นรูปด้วยตา(จักขุนทรีย์)​ ย่อมเบื่อหน่ายใน จักขุนทรีย์ http://etipitaka.com/read/pali/18/176/?keywords=จกฺขุนฺทฺริเย .. ฟังเสียงด้วยหู (โสตินทรีย์).. .. ดมกลิ่นด้วยจมูก (ฆานินทรีย์).. .. ลิ้มรสด้วยลิ้น (ชิวหินทรีย์).. .. ถูกต้องโผฏฐัพพะด้วยผิวกาย(โผฏฐัพินทรีย์)​ และ พิจารณาเห็นความ เกิดขึ้นและความเสื่อมไป ใน รับรู้ธรรมารมย์ด้วยใจ(มนินทรีย์)​ ย่อมเบื่อหน่ายใน มนินทรีย์ http://etipitaka.com/read/pali/18/176/?keywords=มนินฺทฺริเย เมื่อเบื่อหน่าย ย่อมคลายกำหนัด เพราะคลายกำหนัด จึงหลุดพ้น เมื่อหลุดพ้นแล้ว ย่อมมีญาณหยั่งรู้ว่า หลุดพ้นแล้ว รู้ชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำ ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี --ดูกรภิกษุภิกษุ​ #เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยอินทรีย์ ด้วยเหตุเพียงเท่านี้แล​ฯ *--สฬา. สํ. ๑๘/๑๗๖/๒๔๓ *--http://etipitaka.com/read/pali/18/176/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%94%E0%B9%93 .... --ภิกษุ ท. ! หลักเกณฑ์นั้นมีอยู่ ซึ่งเมื่อบุคคลอาศัยแล้วไม่ต้องอาศัยความเชื่อ ความชอบใจ การฟังตาม ๆ กันมา การตริตรึกไปตามอาการการเห็นว่ามันเข้ากันได้กับทิฏฐิของตนเลย ก็อาจพยากรณ์ #การบรรลุอรหัตตผลของตนได้ โดยรู้ชัดว่า “ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำได้ทำสำเร็จแล้ว กิจอื่นที่จะต้องทำ เพื่อความเป็นอย่างนี้ มิได้มีอีก” ดังนี้. --ภิกษุ ท. ! หลักเกณฑ์นั้น เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ ๑.เห็นรูปด้วยตาแล้ว http://etipitaka.com/read/pali/18/174/?keywords=จกฺขุนา รู้ชัด ราคะ โทสะ โมหะ ซึ่งเกิดมีอยู่ในภายใน ว่าเกิดมีอยู่ในภายใน, รู้ชัด ราคะ โทสะ โมหะ อันไม่เกิดมีอยู่ในภายใน ว่าไม่เกิดมีอยู่ในภายใน. --ภิกษุ ท. ! เมื่อเธอรู้ชัดอยู่อย่างนี้แล้ว ยังจำเป็นอยู่อีกหรือ ที่จะต้องรู้ธรรมทั้งหลายด้วยอาศัยความเชื่อ ความชอบใจ การฟังตาม ๆ กันมา การตริตรึกไปตามอาการ การเห็นว่ามันเข้ากันได้กับทิฏฐิของตน ? “ข้อนั้นหามิได้ พระเจ้าข้า !” --ภิกษุ ท. ! ธรรมทั้งหลายเป็นสิ่งที่ต้องเห็นด้วยปัญญาแล้ว จึงรู้ มิใช่หรือ ? http://etipitaka.com/read/pali/18/175/?keywords=ธมฺมา+ปญฺญาย "ข้อนั้น เป็นอย่างนั้น พระเจ้าข้า !” --ภิกษุ ท. ! นี่แหละ หลักเกณฑ์ ซึ่งเมื่อบุคคลอาศัยแล้ว ไม่ต้องอาศัยความเชื่อ ความชอบใจ การฟังตาม ๆ กันมา การตริตรึกไปตามอาการการเห็นว่ามันเข้ากันได้กับทิฏฐิของตนเลย ก็อาจพยากรณ์การบรรลุอรหัตตผลของตนได้ http://etipitaka.com/read/pali/18/175/?keywords=พฺยากโรติ โดยรู้ชัดว่า “ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำได้ทำสำเร็จแล้ว กิจอื่นที่จะต้องทำเพื่อความเป็นอย่างนี้ มิได้มีอีก” ดังนี้. (ในกรณีแห่งการ ๒.ฟังเสียงด้วยหู ๓.ดมกลิ่นด้วยจมูก ๔.ลิ้มรสด้วยลิ้น ๕.ถูกต้องโผฏฐัพพะด้วยผิวกาย และ ๖.รู้แจ้งธรรมารมณ์ด้วยใจ ก็ได้ตรัสต่อไปอีกโดยนัยอย่างเดียวกันกับในกรณีแห่งการเห็นรูปด้วยตา ทุกประการ ต่างกันแต่ชื่อเท่านั้น).- #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. 18/233-235/239-242. http://etipitaka.com/read/thai/18/233/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%93%E0%B9%99 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. ๑๘/๑๗๓-๑๗๕/๒๓๙-๒๔๒. http://etipitaka.com/read/pali/18/173/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%93%E0%B9%99 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=594 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=40&id=594 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=40 ลำดับสาธยายธรรม : 40​ ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_40.mp3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 155 มุมมอง 0 รีวิว
  • สิงคโปร์ประกาศยุบสภาในวันนี้ (15 เม.ย.) เพื่อเปิดทางไปสู่ศึกเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 พ.ค. ตามประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ซึ่งจะถือว่าเป็นบททดสอบใหญ่ครั้งแรกสำหรับนายกรัฐมนตรี ลอว์เรนซ์ หว่อง ที่เข้ารับไม้ต่อจากอดีตนายกรัฐมนตรี ลี เซียน ลุง ที่สละตำแหน่งหัวหน้าพรรคกิจประชาชน (People’s Action Party - PAP) เมื่อเดือน พ.ค. ปี 2024

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000035711
    สิงคโปร์ประกาศยุบสภาในวันนี้ (15 เม.ย.) เพื่อเปิดทางไปสู่ศึกเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 พ.ค. ตามประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ซึ่งจะถือว่าเป็นบททดสอบใหญ่ครั้งแรกสำหรับนายกรัฐมนตรี ลอว์เรนซ์ หว่อง ที่เข้ารับไม้ต่อจากอดีตนายกรัฐมนตรี ลี เซียน ลุง ที่สละตำแหน่งหัวหน้าพรรคกิจประชาชน (People’s Action Party - PAP) เมื่อเดือน พ.ค. ปี 2024 อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000035711
    Like
    Love
    6
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 640 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google Messages กำลังทดสอบฟีเจอร์ใหม่หลายรายการ ซึ่งอาจช่วยปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานให้ดีขึ้น โดยมีการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจ เช่น การขยายช่องพิมพ์ข้อความ, ป้ายกำกับ RCS, ปุ่มยกเลิกข้อความอัตโนมัติ, การปรับปรุงการแสดงผล Read Receipts และการส่งภาพ/วิดีโอคุณภาพต้นฉบับ

    ✅ การขยายช่องพิมพ์ข้อความ
    - เดิมที Google Messages จำกัดการแสดงผลข้อความที่พิมพ์ไว้เพียง 4 บรรทัด
    - เวอร์ชันเบต้าล่าสุดขยายช่องพิมพ์เป็น 14 บรรทัด ทำให้สามารถตรวจสอบข้อความยาวได้ง่ายขึ้น

    ✅ ป้ายกำกับ RCS
    - Google กำลังทดสอบ ป้ายกำกับ RCS ที่ช่วยให้ผู้ใช้ทราบว่ากำลังส่งข้อความแบบ RCS หรือ SMS
    - ป้ายกำกับนี้จะปรากฏข้างชื่อหรือหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ติดต่อ

    ✅ ปุ่มยกเลิกข้อความอัตโนมัติ
    - ผู้ใช้สามารถ ยกเลิกการสมัครรับข้อความอัตโนมัติ ได้ง่ายขึ้น
    - เมื่อกดปุ่ม ระบบจะส่งข้อความ STOP ไปยังผู้ให้บริการโดยอัตโนมัติ

    ✅ การปรับปรุง Read Receipts
    - Google กำลังเปลี่ยนตำแหน่งของ เครื่องหมายเช็ก ที่แสดงว่าอีกฝ่ายอ่านข้อความแล้ว
    - เครื่องหมายนี้จะถูกย้ายเข้าไปอยู่ใน ฟองข้อความ แทนที่จะอยู่ด้านล่าง

    ✅ การส่งภาพและวิดีโอคุณภาพต้นฉบับ
    - Google Messages อาจเพิ่มตัวเลือกให้ผู้ใช้เลือกส่ง ไฟล์ภาพ/วิดีโอแบบต้นฉบับ
    - มีสองตัวเลือก: "Optimize for chat" (ส่งเร็วแต่ลดคุณภาพ) และ "Original quality" (ส่งไฟล์แบบไม่ถูกบีบอัด)

    ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม
    ℹ️ การเปลี่ยนแปลงอาจยังไม่เปิดให้ใช้งานทั่วไป
    - ฟีเจอร์เหล่านี้ยังอยู่ในช่วง ทดสอบเบต้า และอาจมีการเปลี่ยนแปลงก่อนเปิดตัวจริง

    ℹ️ ผลกระทบต่อการใช้งาน RCS
    - แม้ RCS จะช่วยให้ส่งข้อความได้สะดวกขึ้น แต่ยังต้องพึ่งพาการรองรับจากผู้ให้บริการเครือข่าย

    ℹ️ ความท้าทายในการส่งไฟล์คุณภาพสูง
    - การส่งภาพ/วิดีโอแบบต้นฉบับอาจใช้ ปริมาณข้อมูลมากขึ้น และอาจมีข้อจำกัดในการส่งผ่านเครือข่ายมือถือ

    https://www.techradar.com/computing/software/google-messages-is-testing-some-useful-upgrades-here-are-5-features-that-could-be-coming
    Google Messages กำลังทดสอบฟีเจอร์ใหม่หลายรายการ ซึ่งอาจช่วยปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานให้ดีขึ้น โดยมีการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจ เช่น การขยายช่องพิมพ์ข้อความ, ป้ายกำกับ RCS, ปุ่มยกเลิกข้อความอัตโนมัติ, การปรับปรุงการแสดงผล Read Receipts และการส่งภาพ/วิดีโอคุณภาพต้นฉบับ ✅ การขยายช่องพิมพ์ข้อความ - เดิมที Google Messages จำกัดการแสดงผลข้อความที่พิมพ์ไว้เพียง 4 บรรทัด - เวอร์ชันเบต้าล่าสุดขยายช่องพิมพ์เป็น 14 บรรทัด ทำให้สามารถตรวจสอบข้อความยาวได้ง่ายขึ้น ✅ ป้ายกำกับ RCS - Google กำลังทดสอบ ป้ายกำกับ RCS ที่ช่วยให้ผู้ใช้ทราบว่ากำลังส่งข้อความแบบ RCS หรือ SMS - ป้ายกำกับนี้จะปรากฏข้างชื่อหรือหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ติดต่อ ✅ ปุ่มยกเลิกข้อความอัตโนมัติ - ผู้ใช้สามารถ ยกเลิกการสมัครรับข้อความอัตโนมัติ ได้ง่ายขึ้น - เมื่อกดปุ่ม ระบบจะส่งข้อความ STOP ไปยังผู้ให้บริการโดยอัตโนมัติ ✅ การปรับปรุง Read Receipts - Google กำลังเปลี่ยนตำแหน่งของ เครื่องหมายเช็ก ที่แสดงว่าอีกฝ่ายอ่านข้อความแล้ว - เครื่องหมายนี้จะถูกย้ายเข้าไปอยู่ใน ฟองข้อความ แทนที่จะอยู่ด้านล่าง ✅ การส่งภาพและวิดีโอคุณภาพต้นฉบับ - Google Messages อาจเพิ่มตัวเลือกให้ผู้ใช้เลือกส่ง ไฟล์ภาพ/วิดีโอแบบต้นฉบับ - มีสองตัวเลือก: "Optimize for chat" (ส่งเร็วแต่ลดคุณภาพ) และ "Original quality" (ส่งไฟล์แบบไม่ถูกบีบอัด) ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม ℹ️ การเปลี่ยนแปลงอาจยังไม่เปิดให้ใช้งานทั่วไป - ฟีเจอร์เหล่านี้ยังอยู่ในช่วง ทดสอบเบต้า และอาจมีการเปลี่ยนแปลงก่อนเปิดตัวจริง ℹ️ ผลกระทบต่อการใช้งาน RCS - แม้ RCS จะช่วยให้ส่งข้อความได้สะดวกขึ้น แต่ยังต้องพึ่งพาการรองรับจากผู้ให้บริการเครือข่าย ℹ️ ความท้าทายในการส่งไฟล์คุณภาพสูง - การส่งภาพ/วิดีโอแบบต้นฉบับอาจใช้ ปริมาณข้อมูลมากขึ้น และอาจมีข้อจำกัดในการส่งผ่านเครือข่ายมือถือ https://www.techradar.com/computing/software/google-messages-is-testing-some-useful-upgrades-here-are-5-features-that-could-be-coming
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 117 มุมมอง 0 รีวิว
  • AMD ได้เปิดตัว EPYC 'Venice' ซึ่งเป็น ชิป 2nm ตัวแรกของอุตสาหกรรม HPC โดยใช้กระบวนการผลิต TSMC N2 นอกจากนี้ AMD ยังประกาศว่าชิป EPYC รุ่นปัจจุบันบางส่วนจะถูกผลิตในสหรัฐฯ ที่โรงงาน TSMC Fab 21 ในรัฐแอริโซนา

    ✅ EPYC 'Venice': ชิป 2nm ตัวแรกของอุตสาหกรรม HPC
    - ใช้สถาปัตยกรรม Zen 6 และคาดว่าจะเปิดตัวในปี 2026
    - เป็นชิป HPC ตัวแรกที่ใช้ TSMC N2 ซึ่งเป็นกระบวนการผลิต 2nm-class
    - ผ่านการทดสอบเบื้องต้นแล้ว และสามารถเปิดใช้งานได้สำเร็จ

    ✅ เทคโนโลยี TSMC N2 และข้อดีของกระบวนการผลิต
    - ใช้ Gate-All-Around (GAA) nanosheet transistors ซึ่งช่วยลดการใช้พลังงานลง 24-35% หรือเพิ่มประสิทธิภาพขึ้น 15%
    - มีความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์เพิ่มขึ้น 1.15 เท่า เมื่อเทียบกับ N3 (3nm-class)

    ✅ การผลิตชิป EPYC ในสหรัฐฯ
    - AMD ประกาศว่าชิป EPYC รุ่นที่ 5 จะถูกผลิตที่ TSMC Fab 21 ในรัฐแอริโซนา
    - เป็นการกระจายการผลิตเพื่อเพิ่มความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทาน

    ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม
    ℹ️ ผลกระทบต่อการแข่งขันในตลาด HPC
    - Intel กำลังพัฒนา Xeon 'Clearwater Forest' บนกระบวนการ Intel 18A ซึ่งเป็นคู่แข่งโดยตรงของ EPYC 'Venice'
    - ต้องติดตามว่า AMD จะสามารถรักษาความเป็นผู้นำในตลาด HPC ได้หรือไม่

    ℹ️ ความท้าทายของกระบวนการผลิต 2nm
    - แม้ TSMC N2 จะมีข้อดีด้านประสิทธิภาพ แต่การผลิตชิปที่ขนาดเล็กลงอาจมีความท้าทายด้าน yield และต้นทุน
    - ต้องจับตาว่า AMD จะสามารถผลิตชิปในปริมาณมากได้ตามแผนหรือไม่

    ℹ️ แนวโน้มของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
    - การแข่งขันระหว่าง Intel, AMD และ TSMC อาจส่งผลต่อการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ
    - อาจมีการเปลี่ยนแปลงในห่วงโซ่อุปทาน หากสหรัฐฯ ผลักดันให้มีการผลิตชิปภายในประเทศมากขึ้น

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amds-first-2nm-chip-is-out-of-the-fab-epyc-venice-fabbed-on-tsmc-n2-node
    AMD ได้เปิดตัว EPYC 'Venice' ซึ่งเป็น ชิป 2nm ตัวแรกของอุตสาหกรรม HPC โดยใช้กระบวนการผลิต TSMC N2 นอกจากนี้ AMD ยังประกาศว่าชิป EPYC รุ่นปัจจุบันบางส่วนจะถูกผลิตในสหรัฐฯ ที่โรงงาน TSMC Fab 21 ในรัฐแอริโซนา ✅ EPYC 'Venice': ชิป 2nm ตัวแรกของอุตสาหกรรม HPC - ใช้สถาปัตยกรรม Zen 6 และคาดว่าจะเปิดตัวในปี 2026 - เป็นชิป HPC ตัวแรกที่ใช้ TSMC N2 ซึ่งเป็นกระบวนการผลิต 2nm-class - ผ่านการทดสอบเบื้องต้นแล้ว และสามารถเปิดใช้งานได้สำเร็จ ✅ เทคโนโลยี TSMC N2 และข้อดีของกระบวนการผลิต - ใช้ Gate-All-Around (GAA) nanosheet transistors ซึ่งช่วยลดการใช้พลังงานลง 24-35% หรือเพิ่มประสิทธิภาพขึ้น 15% - มีความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์เพิ่มขึ้น 1.15 เท่า เมื่อเทียบกับ N3 (3nm-class) ✅ การผลิตชิป EPYC ในสหรัฐฯ - AMD ประกาศว่าชิป EPYC รุ่นที่ 5 จะถูกผลิตที่ TSMC Fab 21 ในรัฐแอริโซนา - เป็นการกระจายการผลิตเพื่อเพิ่มความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทาน ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม ℹ️ ผลกระทบต่อการแข่งขันในตลาด HPC - Intel กำลังพัฒนา Xeon 'Clearwater Forest' บนกระบวนการ Intel 18A ซึ่งเป็นคู่แข่งโดยตรงของ EPYC 'Venice' - ต้องติดตามว่า AMD จะสามารถรักษาความเป็นผู้นำในตลาด HPC ได้หรือไม่ ℹ️ ความท้าทายของกระบวนการผลิต 2nm - แม้ TSMC N2 จะมีข้อดีด้านประสิทธิภาพ แต่การผลิตชิปที่ขนาดเล็กลงอาจมีความท้าทายด้าน yield และต้นทุน - ต้องจับตาว่า AMD จะสามารถผลิตชิปในปริมาณมากได้ตามแผนหรือไม่ ℹ️ แนวโน้มของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ - การแข่งขันระหว่าง Intel, AMD และ TSMC อาจส่งผลต่อการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ - อาจมีการเปลี่ยนแปลงในห่วงโซ่อุปทาน หากสหรัฐฯ ผลักดันให้มีการผลิตชิปภายในประเทศมากขึ้น https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amds-first-2nm-chip-is-out-of-the-fab-epyc-venice-fabbed-on-tsmc-n2-node
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 126 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Monash ได้พัฒนา เทคโนโลยีกรองน้ำแบบใหม่ ที่สามารถกำจัดสารเคมีตกค้างที่เรียกว่า PFAS ซึ่งเป็นสารที่มีความทนทานสูงและเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เทคโนโลยีนี้ใช้ กราฟีนออกไซด์ ร่วมกับ เบต้าไซโคลเด็กซ์ทริน ซึ่งเป็นโมเลกุลน้ำตาลที่สามารถดักจับสารเคมีได้

    ✅ การใช้กราฟีนออกไซด์ร่วมกับเบต้าไซโคลเด็กซ์ทริน
    - กราฟีนออกไซด์ถูกพัฒนาให้มีโครงสร้างนาโนที่สามารถดักจับสาร PFAS ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    - เบต้าไซโคลเด็กซ์ทรินทำหน้าที่เป็น กรงโมเลกุล ที่ช่วยกักเก็บสารเคมีอันตราย

    ✅ ประสิทธิภาพในการกำจัดสารเคมีตกค้าง
    - สามารถกำจัด PFAS ขนาดเล็ก ที่มักเล็ดลอดผ่านระบบกรองทั่วไป
    - เทคโนโลยีนี้ช่วยให้กระบวนการกรองน้ำมีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง

    ✅ การนำไปใช้ในระดับอุตสาหกรรม
    - ใช้เทคนิค Shear Alignment Printing เพื่อผลิตแผ่นกรองขนาดใหญ่
    - สามารถนำไปใช้ใน โรงงานบำบัดน้ำเสีย, โรงงานอุตสาหกรรม และระบบกรองน้ำประปา

    ✅ ความร่วมมือในการพัฒนา
    - โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจาก Monash University, Clean TeQ Water และ NematiQ
    - มีเป้าหมายพัฒนา ระบบกรองน้ำที่สามารถปรับแต่งให้เหมาะกับสารปนเปื้อนชนิดต่างๆ

    ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม
    ℹ️ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
    - แม้เทคโนโลยีนี้จะช่วยกำจัดสารเคมีตกค้าง แต่ต้องมีการศึกษาผลกระทบต่อระบบนิเวศเพิ่มเติม
    - การกำจัด PFAS ที่ถูกดักจับต้องใช้กระบวนการที่ปลอดภัยเพื่อไม่ให้เกิดการปนเปื้อนซ้ำ

    ℹ️ ความท้าทายในการนำไปใช้จริง
    - แม้จะมีศักยภาพสูง แต่ต้องมีการทดสอบเพิ่มเติมเพื่อให้มั่นใจว่า สามารถใช้งานได้ในทุกสภาพแวดล้อม
    - อาจต้องใช้เงินลงทุนสูงในการติดตั้งระบบกรองน้ำแบบใหม่นี้ในระดับอุตสาหกรรม

    ℹ️ แนวโน้มการพัฒนาเทคโนโลยีกรองน้ำ
    - นักวิจัยกำลังพัฒนา ระบบกรองน้ำที่สามารถกำจัดสารปนเปื้อนอื่นๆ เช่น ยา, สารกำจัดศัตรูพืช และโลหะหนัก
    - อาจมีการนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ใน ระบบกรองน้ำสำหรับพื้นที่ที่ขาดแคลนน้ำสะอาด

    https://www.techspot.com/news/107545-breakthrough-water-filter-eliminates-forever-chemicals-using-modified.html
    นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Monash ได้พัฒนา เทคโนโลยีกรองน้ำแบบใหม่ ที่สามารถกำจัดสารเคมีตกค้างที่เรียกว่า PFAS ซึ่งเป็นสารที่มีความทนทานสูงและเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เทคโนโลยีนี้ใช้ กราฟีนออกไซด์ ร่วมกับ เบต้าไซโคลเด็กซ์ทริน ซึ่งเป็นโมเลกุลน้ำตาลที่สามารถดักจับสารเคมีได้ ✅ การใช้กราฟีนออกไซด์ร่วมกับเบต้าไซโคลเด็กซ์ทริน - กราฟีนออกไซด์ถูกพัฒนาให้มีโครงสร้างนาโนที่สามารถดักจับสาร PFAS ได้อย่างมีประสิทธิภาพ - เบต้าไซโคลเด็กซ์ทรินทำหน้าที่เป็น กรงโมเลกุล ที่ช่วยกักเก็บสารเคมีอันตราย ✅ ประสิทธิภาพในการกำจัดสารเคมีตกค้าง - สามารถกำจัด PFAS ขนาดเล็ก ที่มักเล็ดลอดผ่านระบบกรองทั่วไป - เทคโนโลยีนี้ช่วยให้กระบวนการกรองน้ำมีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง ✅ การนำไปใช้ในระดับอุตสาหกรรม - ใช้เทคนิค Shear Alignment Printing เพื่อผลิตแผ่นกรองขนาดใหญ่ - สามารถนำไปใช้ใน โรงงานบำบัดน้ำเสีย, โรงงานอุตสาหกรรม และระบบกรองน้ำประปา ✅ ความร่วมมือในการพัฒนา - โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจาก Monash University, Clean TeQ Water และ NematiQ - มีเป้าหมายพัฒนา ระบบกรองน้ำที่สามารถปรับแต่งให้เหมาะกับสารปนเปื้อนชนิดต่างๆ ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม ℹ️ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม - แม้เทคโนโลยีนี้จะช่วยกำจัดสารเคมีตกค้าง แต่ต้องมีการศึกษาผลกระทบต่อระบบนิเวศเพิ่มเติม - การกำจัด PFAS ที่ถูกดักจับต้องใช้กระบวนการที่ปลอดภัยเพื่อไม่ให้เกิดการปนเปื้อนซ้ำ ℹ️ ความท้าทายในการนำไปใช้จริง - แม้จะมีศักยภาพสูง แต่ต้องมีการทดสอบเพิ่มเติมเพื่อให้มั่นใจว่า สามารถใช้งานได้ในทุกสภาพแวดล้อม - อาจต้องใช้เงินลงทุนสูงในการติดตั้งระบบกรองน้ำแบบใหม่นี้ในระดับอุตสาหกรรม ℹ️ แนวโน้มการพัฒนาเทคโนโลยีกรองน้ำ - นักวิจัยกำลังพัฒนา ระบบกรองน้ำที่สามารถกำจัดสารปนเปื้อนอื่นๆ เช่น ยา, สารกำจัดศัตรูพืช และโลหะหนัก - อาจมีการนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ใน ระบบกรองน้ำสำหรับพื้นที่ที่ขาดแคลนน้ำสะอาด https://www.techspot.com/news/107545-breakthrough-water-filter-eliminates-forever-chemicals-using-modified.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Breakthrough water filter eliminates forever chemicals using modified graphene oxide
    Researchers at Monash University have introduced a new water filtration technology that could shift the fight against PFAS – chemicals known for their environmental persistence and health...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 125 มุมมอง 0 รีวิว
  • Nvidia ได้ประกาศย้ายฐานการผลิตซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI ไปยังสหรัฐฯ เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นการตอบสนองต่อแนวโน้มอุตสาหกรรมที่มุ่งเน้นการผลิตภายในประเทศเพื่อรับมือกับนโยบายการค้าของสหรัฐฯ

    ✅ การย้ายฐานการผลิตไปยังสหรัฐฯ
    - Nvidia จะผลิตและทดสอบชิป Blackwell และซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI ในโรงงานที่รัฐแอริโซนาและเท็กซัส
    - โรงงานผลิตครอบคลุมพื้นที่กว่า 1 ล้านตารางฟุต และเริ่มดำเนินการแล้ว
    - คาดว่าจะเริ่มการผลิตจำนวนมากภายใน 12-15 เดือนข้างหน้า

    ✅ ความร่วมมือกับบริษัทผู้ผลิตรายใหญ่
    - TSMC จะผลิตชิป Blackwell ในเมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา
    - Foxconn และ Wistron จะดูแลการประกอบซูเปอร์คอมพิวเตอร์ในรัฐเท็กซัส
    - Amkor และ SPIL จะรับผิดชอบด้านบรรจุภัณฑ์และการทดสอบชิปในแอริโซนา

    ✅ เป้าหมายการลงทุนและผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    - Nvidia วางแผนลงทุนสูงถึง 500 พันล้านดอลลาร์ในโครงสร้างพื้นฐาน AI ภายใน 4 ปีข้างหน้า
    - การผลิตในสหรัฐฯ ช่วยเสริมความแข็งแกร่งของห่วงโซ่อุปทานและลดความเสี่ยงจากข้อจำกัดทางการค้า

    ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม
    ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
    - การย้ายฐานผลิตอาจส่งผลต่อซัพพลายเชนของบริษัทที่พึ่งพาการผลิตในเอเชีย
    - อาจเกิดความท้าทายด้านต้นทุนและการจัดหาวัตถุดิบสำหรับการผลิตในสหรัฐฯ

    ℹ️ ข้อกังวลด้านภูมิรัฐศาสตร์
    - การตัดสินใจของ Nvidia อาจเป็นผลจากแรงกดดันทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน
    - อดีตประธานาธิบดีทรัมป์เคยเตือน TSMC ว่าอาจเผชิญภาษีนำเข้าสูงถึง 100% หากไม่ตั้งโรงงานในสหรัฐฯ

    ℹ️ อนาคตของอุตสาหกรรม AI และซูเปอร์คอมพิวเตอร์
    - Nvidia วางแผนสร้าง "AI factories" หรือศูนย์ข้อมูลเฉพาะสำหรับงาน AI ซึ่งจะเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญในอนาคต
    - บริษัทจะใช้แพลตฟอร์ม Omniverse เพื่อสร้างแบบจำลองดิจิทัลของโรงงาน และใช้หุ่นยนต์ Isaac GR00T ในกระบวนการผลิต

    https://www.techspot.com/news/107542-nvidia-shifts-ai-supercomputer-production-us-first-time.html
    Nvidia ได้ประกาศย้ายฐานการผลิตซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI ไปยังสหรัฐฯ เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นการตอบสนองต่อแนวโน้มอุตสาหกรรมที่มุ่งเน้นการผลิตภายในประเทศเพื่อรับมือกับนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ✅ การย้ายฐานการผลิตไปยังสหรัฐฯ - Nvidia จะผลิตและทดสอบชิป Blackwell และซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI ในโรงงานที่รัฐแอริโซนาและเท็กซัส - โรงงานผลิตครอบคลุมพื้นที่กว่า 1 ล้านตารางฟุต และเริ่มดำเนินการแล้ว - คาดว่าจะเริ่มการผลิตจำนวนมากภายใน 12-15 เดือนข้างหน้า ✅ ความร่วมมือกับบริษัทผู้ผลิตรายใหญ่ - TSMC จะผลิตชิป Blackwell ในเมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา - Foxconn และ Wistron จะดูแลการประกอบซูเปอร์คอมพิวเตอร์ในรัฐเท็กซัส - Amkor และ SPIL จะรับผิดชอบด้านบรรจุภัณฑ์และการทดสอบชิปในแอริโซนา ✅ เป้าหมายการลงทุนและผลกระทบต่ออุตสาหกรรม - Nvidia วางแผนลงทุนสูงถึง 500 พันล้านดอลลาร์ในโครงสร้างพื้นฐาน AI ภายใน 4 ปีข้างหน้า - การผลิตในสหรัฐฯ ช่วยเสริมความแข็งแกร่งของห่วงโซ่อุปทานและลดความเสี่ยงจากข้อจำกัดทางการค้า ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ - การย้ายฐานผลิตอาจส่งผลต่อซัพพลายเชนของบริษัทที่พึ่งพาการผลิตในเอเชีย - อาจเกิดความท้าทายด้านต้นทุนและการจัดหาวัตถุดิบสำหรับการผลิตในสหรัฐฯ ℹ️ ข้อกังวลด้านภูมิรัฐศาสตร์ - การตัดสินใจของ Nvidia อาจเป็นผลจากแรงกดดันทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน - อดีตประธานาธิบดีทรัมป์เคยเตือน TSMC ว่าอาจเผชิญภาษีนำเข้าสูงถึง 100% หากไม่ตั้งโรงงานในสหรัฐฯ ℹ️ อนาคตของอุตสาหกรรม AI และซูเปอร์คอมพิวเตอร์ - Nvidia วางแผนสร้าง "AI factories" หรือศูนย์ข้อมูลเฉพาะสำหรับงาน AI ซึ่งจะเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญในอนาคต - บริษัทจะใช้แพลตฟอร์ม Omniverse เพื่อสร้างแบบจำลองดิจิทัลของโรงงาน และใช้หุ่นยนต์ Isaac GR00T ในกระบวนการผลิต https://www.techspot.com/news/107542-nvidia-shifts-ai-supercomputer-production-us-first-time.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Nvidia shifts AI supercomputer production to the US for the first time
    The project spans more than a million square feet of manufacturing space, with operations already underway. Nvidia's Blackwell chips are being produced at TSMC facilities in Phoenix,...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 157 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เล่าถึง ภัยคุกคามไซเบอร์รูปแบบใหม่ที่เรียกว่า Slopsquatting ซึ่งเกิดจาก AI hallucinations หรือข้อผิดพลาดของโมเดล AI ที่แนะนำแพ็กเกจซอฟต์แวร์ที่ไม่มีอยู่จริง

    ✅ Slopsquatting คืออะไร?
    Slopsquatting เป็นเทคนิคที่แฮกเกอร์ใช้เพื่อสร้างแพ็กเกจซอฟต์แวร์ปลอม โดยอาศัยข้อผิดพลาดของ Generative AI ที่แนะนำแพ็กเกจที่ไม่มีอยู่จริงให้กับนักพัฒนา เมื่อ AI เช่น GPT-4, CodeLlama หรือ DeepSeek แนะนำแพ็กเกจที่ไม่มีอยู่จริง แฮกเกอร์สามารถลงทะเบียนชื่อแพ็กเกจนั้นและใส่โค้ดอันตรายเข้าไป

    นักวิจัยจาก University of Texas at San Antonio, Virginia Tech และ University of Oklahoma พบว่า 19.7% ของแพ็กเกจที่ AI แนะนำเป็นแพ็กเกจปลอม โดยเฉพาะโมเดล CodeLlama ที่มีอัตราการแนะนำแพ็กเกจปลอมสูงถึง 33% ขณะที่ GPT-4 Turbo มีอัตราการแนะนำแพ็กเกจปลอมต่ำสุดที่ 3.59%

    ✅ ผลกระทบของ Slopsquatting
    ภัยคุกคามนี้อันตรายเพราะแพ็กเกจปลอมที่ถูกสร้างขึ้นมักมีชื่อคล้ายกับแพ็กเกจจริง ทำให้นักพัฒนาอาจติดตั้งโดยไม่รู้ตัว นักวิจัยพบว่า 43% ของแพ็กเกจปลอมที่ถูกแนะนำซ้ำกันในการทดสอบ 10 ครั้ง ซึ่งหมายความว่า AI มีแนวโน้มที่จะแนะนำแพ็กเกจปลอมเดิมซ้ำๆ

    ✅ มาตรการป้องกัน
    นักวิจัยแนะนำให้ นักพัฒนาใช้เครื่องมือสแกนแพ็กเกจก่อนนำไปใช้งาน และหลีกเลี่ยงการติดตั้งแพ็กเกจที่ไม่มีการตรวจสอบความถูกต้อง นอกจากนี้ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับ การลดเวลาทดสอบโมเดล AI ซึ่งอาจทำให้ AI มีแนวโน้มเกิดข้อผิดพลาดมากขึ้น

    https://www.csoonline.com/article/3961304/ai-hallucinations-lead-to-new-cyber-threat-slopsquatting.html
    ข่าวนี้เล่าถึง ภัยคุกคามไซเบอร์รูปแบบใหม่ที่เรียกว่า Slopsquatting ซึ่งเกิดจาก AI hallucinations หรือข้อผิดพลาดของโมเดล AI ที่แนะนำแพ็กเกจซอฟต์แวร์ที่ไม่มีอยู่จริง ✅ Slopsquatting คืออะไร? Slopsquatting เป็นเทคนิคที่แฮกเกอร์ใช้เพื่อสร้างแพ็กเกจซอฟต์แวร์ปลอม โดยอาศัยข้อผิดพลาดของ Generative AI ที่แนะนำแพ็กเกจที่ไม่มีอยู่จริงให้กับนักพัฒนา เมื่อ AI เช่น GPT-4, CodeLlama หรือ DeepSeek แนะนำแพ็กเกจที่ไม่มีอยู่จริง แฮกเกอร์สามารถลงทะเบียนชื่อแพ็กเกจนั้นและใส่โค้ดอันตรายเข้าไป นักวิจัยจาก University of Texas at San Antonio, Virginia Tech และ University of Oklahoma พบว่า 19.7% ของแพ็กเกจที่ AI แนะนำเป็นแพ็กเกจปลอม โดยเฉพาะโมเดล CodeLlama ที่มีอัตราการแนะนำแพ็กเกจปลอมสูงถึง 33% ขณะที่ GPT-4 Turbo มีอัตราการแนะนำแพ็กเกจปลอมต่ำสุดที่ 3.59% ✅ ผลกระทบของ Slopsquatting ภัยคุกคามนี้อันตรายเพราะแพ็กเกจปลอมที่ถูกสร้างขึ้นมักมีชื่อคล้ายกับแพ็กเกจจริง ทำให้นักพัฒนาอาจติดตั้งโดยไม่รู้ตัว นักวิจัยพบว่า 43% ของแพ็กเกจปลอมที่ถูกแนะนำซ้ำกันในการทดสอบ 10 ครั้ง ซึ่งหมายความว่า AI มีแนวโน้มที่จะแนะนำแพ็กเกจปลอมเดิมซ้ำๆ ✅ มาตรการป้องกัน นักวิจัยแนะนำให้ นักพัฒนาใช้เครื่องมือสแกนแพ็กเกจก่อนนำไปใช้งาน และหลีกเลี่ยงการติดตั้งแพ็กเกจที่ไม่มีการตรวจสอบความถูกต้อง นอกจากนี้ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับ การลดเวลาทดสอบโมเดล AI ซึ่งอาจทำให้ AI มีแนวโน้มเกิดข้อผิดพลาดมากขึ้น https://www.csoonline.com/article/3961304/ai-hallucinations-lead-to-new-cyber-threat-slopsquatting.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    AI hallucinations lead to a new cyber threat: Slopsquatting
    Attackers can weaponize and distribute a large number of packages recommended by AI models that don’t really exist.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 68 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เล่าถึงการขยายการรองรับ Windows on Arm runners ใน GitHub Actions สำหรับ ทุก public repository ซึ่งเป็นก้าวสำคัญของ Microsoft ในการสนับสนุนการพัฒนาแอปพลิเคชันบนแพลตฟอร์ม Arm

    ย้อนกลับไปในเดือนกันยายน 2022 Microsoft เปิดตัว self-hosted runners สำหรับ Windows on Arm ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสามารถทดสอบและสร้างซอฟต์แวร์บนอุปกรณ์ที่ใช้ Arm-based Windows ได้โดยไม่ต้องตั้งค่าโครงสร้างพื้นฐานเอง จากนั้นในปี 2024 GitHub ได้เปิดตัว public beta สำหรับ Arm-based Linux และ Windows runners และในเดือนกันยายน 2024 ฟีเจอร์นี้ก็ได้รับการเปิดให้ใช้งานทั่วไป

    ล่าสุด Microsoft ได้ประกาศขยายการรองรับ Windows on Arm runners ไปยัง ทุก public repository รวมถึงบัญชีที่ใช้ GitHub Free tier ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสามารถใช้ Arm runners ได้โดยไม่ต้องมีโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติม

    Windows on Arm กำลังได้รับความสนใจมากขึ้น โดยเฉพาะจากนักพัฒนา เนื่องจาก Microsoft ได้ลงทุนอย่างต่อเนื่องในการปรับปรุงเครื่องมือสำหรับ Copilot+ PCs ที่ใช้ชิป Qualcomm

    ✅ การขยายการรองรับ Windows on Arm runners
    - Microsoft เปิดให้ใช้งาน Windows on Arm runners ในทุก public repository
    - รวมถึงบัญชีที่ใช้ GitHub Free tier

    ✅ ประโยชน์ของการใช้ Arm runners
    - ช่วยให้นักพัฒนาสามารถทดสอบและสร้างซอฟต์แวร์บน Arm-based Windows ได้ง่ายขึ้น
    - ไม่ต้องตั้งค่าโครงสร้างพื้นฐานเอง

    ✅ การลงทุนของ Microsoft ใน Windows on Arm
    - Microsoft ปรับปรุงเครื่องมือสำหรับ Copilot+ PCs ที่ใช้ชิป Qualcomm
    - Windows on Arm ได้รับความสนใจมากขึ้นจากนักพัฒนา

    ℹ️ ข้อจำกัดของ Windows on Arm runners
    - นักพัฒนาอาจต้องปรับแต่ง workflow เพื่อรองรับ Arm architecture
    - การใช้งานบางอย่างอาจยังไม่สมบูรณ์เท่ากับแพลตฟอร์ม x86

    ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมซอฟต์แวร์
    - การขยายการรองรับ Arm อาจช่วยให้แพลตฟอร์มนี้ได้รับการยอมรับมากขึ้น
    - นักพัฒนาอาจต้องปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสถาปัตยกรรม

    https://www.neowin.net/news/microsoft-brings-windows-on-arm-runner-support-to-github-actions-for-all-public-repositories/
    ข่าวนี้เล่าถึงการขยายการรองรับ Windows on Arm runners ใน GitHub Actions สำหรับ ทุก public repository ซึ่งเป็นก้าวสำคัญของ Microsoft ในการสนับสนุนการพัฒนาแอปพลิเคชันบนแพลตฟอร์ม Arm ย้อนกลับไปในเดือนกันยายน 2022 Microsoft เปิดตัว self-hosted runners สำหรับ Windows on Arm ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสามารถทดสอบและสร้างซอฟต์แวร์บนอุปกรณ์ที่ใช้ Arm-based Windows ได้โดยไม่ต้องตั้งค่าโครงสร้างพื้นฐานเอง จากนั้นในปี 2024 GitHub ได้เปิดตัว public beta สำหรับ Arm-based Linux และ Windows runners และในเดือนกันยายน 2024 ฟีเจอร์นี้ก็ได้รับการเปิดให้ใช้งานทั่วไป ล่าสุด Microsoft ได้ประกาศขยายการรองรับ Windows on Arm runners ไปยัง ทุก public repository รวมถึงบัญชีที่ใช้ GitHub Free tier ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสามารถใช้ Arm runners ได้โดยไม่ต้องมีโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติม Windows on Arm กำลังได้รับความสนใจมากขึ้น โดยเฉพาะจากนักพัฒนา เนื่องจาก Microsoft ได้ลงทุนอย่างต่อเนื่องในการปรับปรุงเครื่องมือสำหรับ Copilot+ PCs ที่ใช้ชิป Qualcomm ✅ การขยายการรองรับ Windows on Arm runners - Microsoft เปิดให้ใช้งาน Windows on Arm runners ในทุก public repository - รวมถึงบัญชีที่ใช้ GitHub Free tier ✅ ประโยชน์ของการใช้ Arm runners - ช่วยให้นักพัฒนาสามารถทดสอบและสร้างซอฟต์แวร์บน Arm-based Windows ได้ง่ายขึ้น - ไม่ต้องตั้งค่าโครงสร้างพื้นฐานเอง ✅ การลงทุนของ Microsoft ใน Windows on Arm - Microsoft ปรับปรุงเครื่องมือสำหรับ Copilot+ PCs ที่ใช้ชิป Qualcomm - Windows on Arm ได้รับความสนใจมากขึ้นจากนักพัฒนา ℹ️ ข้อจำกัดของ Windows on Arm runners - นักพัฒนาอาจต้องปรับแต่ง workflow เพื่อรองรับ Arm architecture - การใช้งานบางอย่างอาจยังไม่สมบูรณ์เท่ากับแพลตฟอร์ม x86 ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ - การขยายการรองรับ Arm อาจช่วยให้แพลตฟอร์มนี้ได้รับการยอมรับมากขึ้น - นักพัฒนาอาจต้องปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสถาปัตยกรรม https://www.neowin.net/news/microsoft-brings-windows-on-arm-runner-support-to-github-actions-for-all-public-repositories/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft brings Windows on Arm runner support to GitHub Actions for all public repositories
    Developers can now finally integrate Windows on Arm runners into their CI workflows across all public GitHub repositories.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เล่าถึงผลการวิจัยที่ชี้ให้เห็นว่า การฝึกอบรมปัญญาประดิษฐ์ (AI) มากเกินไป อาจส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพของโมเดล โดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยชั้นนำในสหรัฐฯ เช่น Carnegie Mellon, Stanford, Harvard และ Princeton ได้ค้นพบปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “Catastrophic Overtraining”

    นักวิจัยพบว่าเมื่อโมเดล AI ถูกฝึกอบรมด้วยข้อมูลจำนวนมากเกินไป เช่น การเพิ่มจำนวนโทเค็นจาก 2.3 ล้านล้านเป็น 3 ล้านล้านในโมเดล OLMo-1B ประสิทธิภาพของโมเดลกลับลดลงถึง 3% ในการทดสอบมาตรฐาน เช่น AlpacaEval และ ARC สาเหตุหลักมาจาก “Progressive Sensitivity” ซึ่งทำให้โมเดลมีความเปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เช่น การปรับแต่งหรือการเพิ่มเสียงรบกวน

    นักวิจัยยังชี้ให้เห็นว่า “Inflection Point” หรือจุดที่การฝึกอบรมเพิ่มเติมเริ่มส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพ มักเกิดขึ้นเมื่อจำนวนโทเค็นเกิน 2.5 ล้านล้านในโมเดลขนาดเล็ก การค้นพบนี้เรียกร้องให้มีการพิจารณาใหม่เกี่ยวกับการปรับขนาดโมเดล AI โดยเน้นที่กระบวนการฝึกอบรมทั้งหมดแทนที่จะมุ่งเน้นที่การเพิ่มข้อมูลเพียงอย่างเดียว

    ✅ การค้นพบปรากฏการณ์ Catastrophic Overtraining
    - การฝึกอบรม AI มากเกินไปอาจลดประสิทธิภาพของโมเดล
    - Progressive Sensitivity ทำให้โมเดลเปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย

    ✅ ผลกระทบของการฝึกอบรมเพิ่มเติม
    - โมเดล OLMo-1B ที่ฝึกอบรมด้วยข้อมูล 3 ล้านล้านโทเค็นมีประสิทธิภาพลดลงถึง 3%
    - Inflection Point มักเกิดขึ้นเมื่อจำนวนโทเค็นเกิน 2.5 ล้านล้าน

    ✅ ข้อเสนอแนะจากนักวิจัย
    - ควรพิจารณากระบวนการฝึกอบรมทั้งหมดแทนการเพิ่มข้อมูลเพียงอย่างเดียว
    - การปรับขนาดโมเดล AI ควรคำนึงถึงความสมดุลระหว่างข้อมูลและความเสถียร

    ℹ️ ความเสี่ยงจากการฝึกอบรมมากเกินไป
    - การฝึกอบรมมากเกินไปอาจทำให้โมเดลเปราะบางและลดประสิทธิภาพ
    - การเพิ่มเสียงรบกวนหรือการปรับแต่งอาจส่งผลเสียต่อโมเดลที่ฝึกอบรมมากเกินไป

    ℹ️ คำแนะนำสำหรับนักพัฒนา AI
    - ควรพิจารณาจำนวนข้อมูลที่เหมาะสมสำหรับการฝึกอบรม
    - การพัฒนาโมเดล AI ควรเน้นที่ความสมดุลระหว่างข้อมูลและความเสถียร

    https://www.techradar.com/pro/catastrophic-overtraining-could-harm-large-language-ai-models-that-are-trained-on-more-data-for-the-sake-of-training
    ข่าวนี้เล่าถึงผลการวิจัยที่ชี้ให้เห็นว่า การฝึกอบรมปัญญาประดิษฐ์ (AI) มากเกินไป อาจส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพของโมเดล โดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยชั้นนำในสหรัฐฯ เช่น Carnegie Mellon, Stanford, Harvard และ Princeton ได้ค้นพบปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “Catastrophic Overtraining” นักวิจัยพบว่าเมื่อโมเดล AI ถูกฝึกอบรมด้วยข้อมูลจำนวนมากเกินไป เช่น การเพิ่มจำนวนโทเค็นจาก 2.3 ล้านล้านเป็น 3 ล้านล้านในโมเดล OLMo-1B ประสิทธิภาพของโมเดลกลับลดลงถึง 3% ในการทดสอบมาตรฐาน เช่น AlpacaEval และ ARC สาเหตุหลักมาจาก “Progressive Sensitivity” ซึ่งทำให้โมเดลมีความเปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เช่น การปรับแต่งหรือการเพิ่มเสียงรบกวน นักวิจัยยังชี้ให้เห็นว่า “Inflection Point” หรือจุดที่การฝึกอบรมเพิ่มเติมเริ่มส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพ มักเกิดขึ้นเมื่อจำนวนโทเค็นเกิน 2.5 ล้านล้านในโมเดลขนาดเล็ก การค้นพบนี้เรียกร้องให้มีการพิจารณาใหม่เกี่ยวกับการปรับขนาดโมเดล AI โดยเน้นที่กระบวนการฝึกอบรมทั้งหมดแทนที่จะมุ่งเน้นที่การเพิ่มข้อมูลเพียงอย่างเดียว ✅ การค้นพบปรากฏการณ์ Catastrophic Overtraining - การฝึกอบรม AI มากเกินไปอาจลดประสิทธิภาพของโมเดล - Progressive Sensitivity ทำให้โมเดลเปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ✅ ผลกระทบของการฝึกอบรมเพิ่มเติม - โมเดล OLMo-1B ที่ฝึกอบรมด้วยข้อมูล 3 ล้านล้านโทเค็นมีประสิทธิภาพลดลงถึง 3% - Inflection Point มักเกิดขึ้นเมื่อจำนวนโทเค็นเกิน 2.5 ล้านล้าน ✅ ข้อเสนอแนะจากนักวิจัย - ควรพิจารณากระบวนการฝึกอบรมทั้งหมดแทนการเพิ่มข้อมูลเพียงอย่างเดียว - การปรับขนาดโมเดล AI ควรคำนึงถึงความสมดุลระหว่างข้อมูลและความเสถียร ℹ️ ความเสี่ยงจากการฝึกอบรมมากเกินไป - การฝึกอบรมมากเกินไปอาจทำให้โมเดลเปราะบางและลดประสิทธิภาพ - การเพิ่มเสียงรบกวนหรือการปรับแต่งอาจส่งผลเสียต่อโมเดลที่ฝึกอบรมมากเกินไป ℹ️ คำแนะนำสำหรับนักพัฒนา AI - ควรพิจารณาจำนวนข้อมูลที่เหมาะสมสำหรับการฝึกอบรม - การพัฒนาโมเดล AI ควรเน้นที่ความสมดุลระหว่างข้อมูลและความเสถียร https://www.techradar.com/pro/catastrophic-overtraining-could-harm-large-language-ai-models-that-are-trained-on-more-data-for-the-sake-of-training
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 117 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เล่าถึงการพัฒนา Broadband Optical SSD ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่พัฒนาโดยบริษัทญี่ปุ่นชั้นนำ ได้แก่ Kioxia, AIO Core และ Kyocera โดย SSD รุ่นใหม่นี้ใช้การเชื่อมต่อแบบออปติคัลแทนการเชื่อมต่อแบบไฟฟ้า

    Broadband Optical SSD ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่ต้องการการจัดการข้อมูลปริมาณมหาศาล เช่น การประมวลผล AI และการจัดเก็บข้อมูลในระดับเพตะไบต์ การใช้การเชื่อมต่อแบบออปติคัลช่วยลดข้อจำกัดทางกายภาพของการเชื่อมต่อแบบไฟฟ้า และยังช่วยลดการใช้พลังงานได้ถึง 40% เมื่อเทียบกับระบบปัจจุบัน

    โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาเทคโนโลยีศูนย์ข้อมูลสีเขียวของญี่ปุ่น (Next Generation Green Data Center Technology Development) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากองค์กร NEDO โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

    ✅ การพัฒนา Broadband Optical SSD
    - พัฒนาโดย Kioxia, AIO Core และ Kyocera
    - ใช้การเชื่อมต่อแบบออปติคัลแทนการเชื่อมต่อแบบไฟฟ้า

    ✅ ประโยชน์ของเทคโนโลยีนี้
    - รองรับการใช้งานในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่
    - ลดการใช้พลังงานได้ถึง 40%

    ✅ โครงการพัฒนาเทคโนโลยีศูนย์ข้อมูลสีเขียว
    - เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Next Generation Green Data Center Technology Development
    - ได้รับการสนับสนุนจากองค์กร NEDO

    ℹ️ ข้อจำกัดของเทคโนโลยี
    - การพัฒนาเทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในขั้นตอนต้นแบบ
    - อาจต้องใช้เวลาและทรัพยากรเพิ่มเติมในการทดสอบและปรับปรุง

    ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    - การเปลี่ยนแปลงนี้อาจเพิ่มแรงกดดันให้บริษัทอื่นๆ ต้องปรับตัว
    - การแข่งขันในวงการเซมิคอนดักเตอร์อาจเข้มข้นขึ้น

    https://www.techradar.com/pro/its-broadband-jim-but-not-as-we-know-it-japanese-tech-giants-are-developing-a-broadband-optical-ssd-for-data-centers
    ข่าวนี้เล่าถึงการพัฒนา Broadband Optical SSD ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่พัฒนาโดยบริษัทญี่ปุ่นชั้นนำ ได้แก่ Kioxia, AIO Core และ Kyocera โดย SSD รุ่นใหม่นี้ใช้การเชื่อมต่อแบบออปติคัลแทนการเชื่อมต่อแบบไฟฟ้า Broadband Optical SSD ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่ต้องการการจัดการข้อมูลปริมาณมหาศาล เช่น การประมวลผล AI และการจัดเก็บข้อมูลในระดับเพตะไบต์ การใช้การเชื่อมต่อแบบออปติคัลช่วยลดข้อจำกัดทางกายภาพของการเชื่อมต่อแบบไฟฟ้า และยังช่วยลดการใช้พลังงานได้ถึง 40% เมื่อเทียบกับระบบปัจจุบัน โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาเทคโนโลยีศูนย์ข้อมูลสีเขียวของญี่ปุ่น (Next Generation Green Data Center Technology Development) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากองค์กร NEDO โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ✅ การพัฒนา Broadband Optical SSD - พัฒนาโดย Kioxia, AIO Core และ Kyocera - ใช้การเชื่อมต่อแบบออปติคัลแทนการเชื่อมต่อแบบไฟฟ้า ✅ ประโยชน์ของเทคโนโลยีนี้ - รองรับการใช้งานในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ - ลดการใช้พลังงานได้ถึง 40% ✅ โครงการพัฒนาเทคโนโลยีศูนย์ข้อมูลสีเขียว - เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Next Generation Green Data Center Technology Development - ได้รับการสนับสนุนจากองค์กร NEDO ℹ️ ข้อจำกัดของเทคโนโลยี - การพัฒนาเทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในขั้นตอนต้นแบบ - อาจต้องใช้เวลาและทรัพยากรเพิ่มเติมในการทดสอบและปรับปรุง ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม - การเปลี่ยนแปลงนี้อาจเพิ่มแรงกดดันให้บริษัทอื่นๆ ต้องปรับตัว - การแข่งขันในวงการเซมิคอนดักเตอร์อาจเข้มข้นขึ้น https://www.techradar.com/pro/its-broadband-jim-but-not-as-we-know-it-japanese-tech-giants-are-developing-a-broadband-optical-ssd-for-data-centers
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 132 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เล่าถึงการค้นพบวิธีใหม่ในการลดอาการเมารถหรือ Motion Sickness โดยทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น ได้พัฒนาอุปกรณ์ที่ใช้คลื่นเสียงกระตุ้นระบบประสาทในหูชั้นใน ซึ่งช่วยลดอาการเวียนหัวและคลื่นไส้ได้ภายในเวลาเพียง 1 นาที

    ทีมวิจัยนำโดย Takumi Kagawa และ Masashi Kato พบว่าการใช้คลื่นเสียงที่มีความถี่ 100 Hz ซึ่งเป็นเสียงระดับ Mid-Bass สามารถกระตุ้นระบบประสาทในหูชั้นในที่ควบคุมการทรงตัวและการรับรู้ตำแหน่งในอวกาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยคลื่นเสียงนี้ช่วยกระตุ้นระบบประสาทซิมพาเทติกที่มักเสียสมดุลในผู้ที่มีอาการเมารถ

    การทดลองใช้คลื่นเสียงนี้กับผู้เข้าร่วมที่ถูกกระตุ้นอาการเมารถด้วยการนั่งรถจำลองและการแกว่ง พบว่าผู้เข้าร่วมมีอาการลดลงอย่างชัดเจน เช่น อาการเวียนหัวและคลื่นไส้ นอกจากนี้ยังมีการวัดผลด้วยการทดสอบการทรงตัว การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ และแบบสอบถามเกี่ยวกับอาการเมารถ

    ✅ การค้นพบวิธีลดอาการเมารถ
    - ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยนาโกย่าพัฒนาอุปกรณ์ที่ใช้คลื่นเสียงกระตุ้นระบบประสาทในหูชั้นใน
    - คลื่นเสียงที่มีความถี่ 100 Hz ช่วยลดอาการเวียนหัวและคลื่นไส้

    ✅ ผลการทดลอง
    - ผู้เข้าร่วมมีอาการเมารถลดลงหลังการใช้คลื่นเสียง
    - การวัดผลด้วยการทดสอบการทรงตัวและการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจแสดงผลลัพธ์ที่ดี

    ✅ ความปลอดภัยของเทคโนโลยี
    - คลื่นเสียงนี้มีระดับต่ำกว่ามาตรฐานความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน
    - เทคโนโลยีนี้คาดว่าจะปลอดภัยเมื่อใช้งานอย่างเหมาะสม

    ℹ️ ข้อจำกัดของการใช้งาน
    - การใช้งานต้องอยู่ในพื้นที่ที่มีอุปกรณ์ส่งคลื่นเสียง
    - อาจต้องมีการปรับปรุงเทคโนโลยีเพื่อรองรับการใช้งานในสถานการณ์ต่างๆ

    ℹ️ ผลกระทบต่อการเดินทาง
    - เทคโนโลยีนี้อาจช่วยลดอาการเมารถในการเดินทางทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ
    - การพัฒนาเพิ่มเติมอาจช่วยให้เทคโนโลยีนี้เข้าถึงผู้ใช้งานได้มากขึ้น

    https://www.neowin.net/news/are-you-motion-sick-study-shows-how-just-a-minute-of-a-mid-bass-frequency-could-help-you/
    ข่าวนี้เล่าถึงการค้นพบวิธีใหม่ในการลดอาการเมารถหรือ Motion Sickness โดยทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น ได้พัฒนาอุปกรณ์ที่ใช้คลื่นเสียงกระตุ้นระบบประสาทในหูชั้นใน ซึ่งช่วยลดอาการเวียนหัวและคลื่นไส้ได้ภายในเวลาเพียง 1 นาที ทีมวิจัยนำโดย Takumi Kagawa และ Masashi Kato พบว่าการใช้คลื่นเสียงที่มีความถี่ 100 Hz ซึ่งเป็นเสียงระดับ Mid-Bass สามารถกระตุ้นระบบประสาทในหูชั้นในที่ควบคุมการทรงตัวและการรับรู้ตำแหน่งในอวกาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยคลื่นเสียงนี้ช่วยกระตุ้นระบบประสาทซิมพาเทติกที่มักเสียสมดุลในผู้ที่มีอาการเมารถ การทดลองใช้คลื่นเสียงนี้กับผู้เข้าร่วมที่ถูกกระตุ้นอาการเมารถด้วยการนั่งรถจำลองและการแกว่ง พบว่าผู้เข้าร่วมมีอาการลดลงอย่างชัดเจน เช่น อาการเวียนหัวและคลื่นไส้ นอกจากนี้ยังมีการวัดผลด้วยการทดสอบการทรงตัว การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ และแบบสอบถามเกี่ยวกับอาการเมารถ ✅ การค้นพบวิธีลดอาการเมารถ - ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยนาโกย่าพัฒนาอุปกรณ์ที่ใช้คลื่นเสียงกระตุ้นระบบประสาทในหูชั้นใน - คลื่นเสียงที่มีความถี่ 100 Hz ช่วยลดอาการเวียนหัวและคลื่นไส้ ✅ ผลการทดลอง - ผู้เข้าร่วมมีอาการเมารถลดลงหลังการใช้คลื่นเสียง - การวัดผลด้วยการทดสอบการทรงตัวและการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจแสดงผลลัพธ์ที่ดี ✅ ความปลอดภัยของเทคโนโลยี - คลื่นเสียงนี้มีระดับต่ำกว่ามาตรฐานความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน - เทคโนโลยีนี้คาดว่าจะปลอดภัยเมื่อใช้งานอย่างเหมาะสม ℹ️ ข้อจำกัดของการใช้งาน - การใช้งานต้องอยู่ในพื้นที่ที่มีอุปกรณ์ส่งคลื่นเสียง - อาจต้องมีการปรับปรุงเทคโนโลยีเพื่อรองรับการใช้งานในสถานการณ์ต่างๆ ℹ️ ผลกระทบต่อการเดินทาง - เทคโนโลยีนี้อาจช่วยลดอาการเมารถในการเดินทางทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ - การพัฒนาเพิ่มเติมอาจช่วยให้เทคโนโลยีนี้เข้าถึงผู้ใช้งานได้มากขึ้น https://www.neowin.net/news/are-you-motion-sick-study-shows-how-just-a-minute-of-a-mid-bass-frequency-could-help-you/
    WWW.NEOWIN.NET
    Are you motion sick? Study shows how just a minute of bass could help you
    Scientists conducted a study and found that just a minute of a particular mid-bass sound frequency can help cure motion sicknesses like car sickness.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 100 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เล่าถึงการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่น่าตื่นเต้นในวงการเซมิคอนดักเตอร์ โดยบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของญี่ปุ่น ได้แก่ Kioxia, AIO Core และ Kyocera ได้ร่วมมือกันพัฒนา Broadband Optical SSD ซึ่งเป็น SSD ที่ใช้การเชื่อมต่อแบบออปติคัลแทนการเชื่อมต่อแบบไฟฟ้า

    Broadband Optical SSD นี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่ต้องการการจัดการข้อมูลปริมาณมหาศาล เช่น การประมวลผล AI และการจัดเก็บข้อมูลในระดับเพตะไบต์ การใช้การเชื่อมต่อแบบออปติคัลช่วยลดข้อจำกัดทางกายภาพของการเชื่อมต่อแบบไฟฟ้า และยังช่วยลดการใช้พลังงานได้ถึง 40% เมื่อเทียบกับระบบปัจจุบัน

    โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาเทคโนโลยีศูนย์ข้อมูลสีเขียวของญี่ปุ่น (Next Generation Green Data Center Technology Development) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากองค์กร NEDO โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

    ✅ การพัฒนา Broadband Optical SSD
    - พัฒนาโดย Kioxia, AIO Core และ Kyocera
    - ใช้การเชื่อมต่อแบบออปติคัลแทนการเชื่อมต่อแบบไฟฟ้า

    ✅ ประโยชน์ของเทคโนโลยีนี้
    - รองรับการใช้งานในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่
    - ลดการใช้พลังงานได้ถึง 40%

    ✅ โครงการพัฒนาเทคโนโลยีศูนย์ข้อมูลสีเขียว
    - เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Next Generation Green Data Center Technology Development
    - ได้รับการสนับสนุนจากองค์กร NEDO

    ℹ️ ข้อจำกัดของเทคโนโลยี
    - การพัฒนาเทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในขั้นตอนต้นแบบ
    - อาจต้องใช้เวลาและทรัพยากรเพิ่มเติมในการทดสอบและปรับปรุง

    ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    - การเปลี่ยนแปลงนี้อาจเพิ่มแรงกดดันให้บริษัทอื่นๆ ต้องปรับตัว
    - การแข่งขันในวงการเซมิคอนดักเตอร์อาจเข้มข้นขึ้น

    https://www.techradar.com/pro/its-broadband-jim-but-not-as-we-know-it-japanese-tech-giants-are-developing-a-broadband-optical-ssd-for-data-centers
    ข่าวนี้เล่าถึงการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่น่าตื่นเต้นในวงการเซมิคอนดักเตอร์ โดยบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของญี่ปุ่น ได้แก่ Kioxia, AIO Core และ Kyocera ได้ร่วมมือกันพัฒนา Broadband Optical SSD ซึ่งเป็น SSD ที่ใช้การเชื่อมต่อแบบออปติคัลแทนการเชื่อมต่อแบบไฟฟ้า Broadband Optical SSD นี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่ต้องการการจัดการข้อมูลปริมาณมหาศาล เช่น การประมวลผล AI และการจัดเก็บข้อมูลในระดับเพตะไบต์ การใช้การเชื่อมต่อแบบออปติคัลช่วยลดข้อจำกัดทางกายภาพของการเชื่อมต่อแบบไฟฟ้า และยังช่วยลดการใช้พลังงานได้ถึง 40% เมื่อเทียบกับระบบปัจจุบัน โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาเทคโนโลยีศูนย์ข้อมูลสีเขียวของญี่ปุ่น (Next Generation Green Data Center Technology Development) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากองค์กร NEDO โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ✅ การพัฒนา Broadband Optical SSD - พัฒนาโดย Kioxia, AIO Core และ Kyocera - ใช้การเชื่อมต่อแบบออปติคัลแทนการเชื่อมต่อแบบไฟฟ้า ✅ ประโยชน์ของเทคโนโลยีนี้ - รองรับการใช้งานในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ - ลดการใช้พลังงานได้ถึง 40% ✅ โครงการพัฒนาเทคโนโลยีศูนย์ข้อมูลสีเขียว - เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Next Generation Green Data Center Technology Development - ได้รับการสนับสนุนจากองค์กร NEDO ℹ️ ข้อจำกัดของเทคโนโลยี - การพัฒนาเทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในขั้นตอนต้นแบบ - อาจต้องใช้เวลาและทรัพยากรเพิ่มเติมในการทดสอบและปรับปรุง ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม - การเปลี่ยนแปลงนี้อาจเพิ่มแรงกดดันให้บริษัทอื่นๆ ต้องปรับตัว - การแข่งขันในวงการเซมิคอนดักเตอร์อาจเข้มข้นขึ้น https://www.techradar.com/pro/its-broadband-jim-but-not-as-we-know-it-japanese-tech-giants-are-developing-a-broadband-optical-ssd-for-data-centers
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 147 มุมมอง 0 รีวิว
  • Meta ได้เปิดตัว Llama 4 ซึ่งเป็นชุดโมเดล AI ที่ประกอบด้วย Scout, Maverick และ Behemoth โดยในช่วงแรก Llama 4 Maverick ได้รับการจัดอันดับสูงในผลการทดสอบ แต่ต่อมาผู้ใช้พบว่าเวอร์ชันที่ใช้ในการทดสอบแตกต่างจากเวอร์ชันที่เปิดให้ใช้งานจริง ทำให้เกิดข้อกล่าวหาว่า Meta ใช้วิธีการที่ไม่โปร่งใส

    Meta ได้ออกมาชี้แจงว่าเวอร์ชันทดสอบได้รับการปรับแต่งเป็นพิเศษเพื่อการสนทนา และยืนยันว่าเวอร์ชันที่เปิดให้ใช้งานจริงยังคงมีศักยภาพสูง นอกจากนี้ Meta ยังได้เผยแพร่ผลการทดสอบกว่า 2,000 รายการเพื่อความโปร่งใส

    ✅ การเปิดตัว Llama 4
    - Meta เปิดตัวโมเดล AI รุ่นใหม่ Llama 4 ซึ่งประกอบด้วย Scout, Maverick และ Behemoth
    - Llama 4 Maverick ได้รับการจัดอันดับสูงในผลการทดสอบ

    ✅ ข้อกล่าวหาเรื่องความโปร่งใส
    - ผู้ใช้พบว่าเวอร์ชันทดสอบแตกต่างจากเวอร์ชันที่เปิดให้ใช้งานจริง
    - Meta ถูกกล่าวหาว่าใช้วิธีการที่ไม่โปร่งใสในการทดสอบ

    ✅ การตอบสนองของ Meta
    - Meta ชี้แจงว่าเวอร์ชันทดสอบได้รับการปรับแต่งเพื่อการสนทนา
    - เผยแพร่ผลการทดสอบกว่า 2,000 รายการเพื่อความโปร่งใส

    ℹ️ ความเสี่ยงต่อความน่าเชื่อถือ
    - ข้อกล่าวหาอาจลดความเชื่อมั่นของผู้ใช้ในผลิตภัณฑ์ของ Meta
    - การใช้เวอร์ชันทดสอบที่แตกต่างอาจถูกมองว่าเป็นการหลอกลวง

    ℹ️ ผลกระทบต่อวงการ AI
    -กรณีนี้อาจกระตุ้นให้บริษัทอื่นๆ ต้องเพิ่มความโปร่งใสในการทดสอบ AI
    - การแข่งขันในวงการ AI อาจเข้มข้นขึ้นเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์

    https://www.neowin.net/news/unmodified-llama-4-maverick-ranks-below-rivals-following-meta-cheating-allegations/
    Meta ได้เปิดตัว Llama 4 ซึ่งเป็นชุดโมเดล AI ที่ประกอบด้วย Scout, Maverick และ Behemoth โดยในช่วงแรก Llama 4 Maverick ได้รับการจัดอันดับสูงในผลการทดสอบ แต่ต่อมาผู้ใช้พบว่าเวอร์ชันที่ใช้ในการทดสอบแตกต่างจากเวอร์ชันที่เปิดให้ใช้งานจริง ทำให้เกิดข้อกล่าวหาว่า Meta ใช้วิธีการที่ไม่โปร่งใส Meta ได้ออกมาชี้แจงว่าเวอร์ชันทดสอบได้รับการปรับแต่งเป็นพิเศษเพื่อการสนทนา และยืนยันว่าเวอร์ชันที่เปิดให้ใช้งานจริงยังคงมีศักยภาพสูง นอกจากนี้ Meta ยังได้เผยแพร่ผลการทดสอบกว่า 2,000 รายการเพื่อความโปร่งใส ✅ การเปิดตัว Llama 4 - Meta เปิดตัวโมเดล AI รุ่นใหม่ Llama 4 ซึ่งประกอบด้วย Scout, Maverick และ Behemoth - Llama 4 Maverick ได้รับการจัดอันดับสูงในผลการทดสอบ ✅ ข้อกล่าวหาเรื่องความโปร่งใส - ผู้ใช้พบว่าเวอร์ชันทดสอบแตกต่างจากเวอร์ชันที่เปิดให้ใช้งานจริง - Meta ถูกกล่าวหาว่าใช้วิธีการที่ไม่โปร่งใสในการทดสอบ ✅ การตอบสนองของ Meta - Meta ชี้แจงว่าเวอร์ชันทดสอบได้รับการปรับแต่งเพื่อการสนทนา - เผยแพร่ผลการทดสอบกว่า 2,000 รายการเพื่อความโปร่งใส ℹ️ ความเสี่ยงต่อความน่าเชื่อถือ - ข้อกล่าวหาอาจลดความเชื่อมั่นของผู้ใช้ในผลิตภัณฑ์ของ Meta - การใช้เวอร์ชันทดสอบที่แตกต่างอาจถูกมองว่าเป็นการหลอกลวง ℹ️ ผลกระทบต่อวงการ AI -กรณีนี้อาจกระตุ้นให้บริษัทอื่นๆ ต้องเพิ่มความโปร่งใสในการทดสอบ AI - การแข่งขันในวงการ AI อาจเข้มข้นขึ้นเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ https://www.neowin.net/news/unmodified-llama-4-maverick-ranks-below-rivals-following-meta-cheating-allegations/
    WWW.NEOWIN.NET
    Unmodified Llama 4 Maverick ranks below rivals following Meta cheating allegations
    Meta's Llama 4 release was no doubt controversial for its ranking on the LMArena dashboard. Now, an unmodified version of Llama 4 Maverick has seen its ranking fall below months-old rivals.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 0 รีวิว
  • Maxwell Labs กำลังพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่ใช้เลเซอร์ในการระบายความร้อนจากชิปประมวลผล โดยเทคโนโลยีนี้มีศักยภาพในการเพิ่มประสิทธิภาพและลดการสูญเสียพลังงานในระบบคอมพิวเตอร์ขั้นสูง

    ✅ การใช้เลเซอร์ในการระบายความร้อน:
    - Maxwell Labs ใช้แผ่นเย็นที่ทำจาก Gallium Arsenide (GaAs) ซึ่งสามารถระบายความร้อนเมื่อได้รับแสงเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่นเฉพาะ
    - เทคนิคนี้ช่วยระบายความร้อนเฉพาะจุดที่มีความร้อนสูงในชิปประมวลผล

    ✅ การเพิ่มประสิทธิภาพพลังงาน:
    - พลังงานความร้อนที่ถูกดึงออกจากชิปสามารถเปลี่ยนเป็นโฟตอนที่นำกลับมาใช้เป็นพลังงานไฟฟ้าได้
    - เทคโนโลยีนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพพลังงานในระบบคอมพิวเตอร์

    ✅ ความท้าทายด้านต้นทุน:
    - การผลิต GaAs ที่มีความบริสุทธิ์สูงต้องใช้เทคนิคที่ซับซ้อนและมีต้นทุนสูง เช่น Molecular Beam Epitaxy (MBE)
    - แผ่น GaAs ขนาด 200 มม. มีราคาประมาณ $5,000 เทียบกับแผ่นซิลิคอนที่มีราคาเพียง $5

    ✅ สถานะปัจจุบันของโครงการ:
    - เทคโนโลยียังอยู่ในขั้นตอนการทดลองและการจำลอง โดยคาดว่าจะมีต้นแบบที่ใช้งานได้ในปี 2025

    ⚠️ ความท้าทายด้านการผลิต:
    - การผลิต GaAs ที่มีความบริสุทธิ์สูงอาจเป็นอุปสรรคต่อการนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในเชิงพาณิชย์

    ⚠️ การพัฒนาเทคโนโลยี:
    - Maxwell Labs ควรเร่งการพัฒนาและทดสอบต้นแบบเพื่อพิสูจน์ความสามารถของเทคโนโลยีนี้

    ⚠️ การลดต้นทุน:
    - ควรมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อหาวิธีลดต้นทุนการผลิต GaAs เพื่อให้เทคโนโลยีนี้สามารถเข้าถึงตลาดได้กว้างขึ้น

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cooling-chips-with-lasers-innovative-cooling-method-removes-heat-precisely-from-hot-spots-recycles-heat-into-energy
    Maxwell Labs กำลังพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่ใช้เลเซอร์ในการระบายความร้อนจากชิปประมวลผล โดยเทคโนโลยีนี้มีศักยภาพในการเพิ่มประสิทธิภาพและลดการสูญเสียพลังงานในระบบคอมพิวเตอร์ขั้นสูง ✅ การใช้เลเซอร์ในการระบายความร้อน: - Maxwell Labs ใช้แผ่นเย็นที่ทำจาก Gallium Arsenide (GaAs) ซึ่งสามารถระบายความร้อนเมื่อได้รับแสงเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่นเฉพาะ - เทคนิคนี้ช่วยระบายความร้อนเฉพาะจุดที่มีความร้อนสูงในชิปประมวลผล ✅ การเพิ่มประสิทธิภาพพลังงาน: - พลังงานความร้อนที่ถูกดึงออกจากชิปสามารถเปลี่ยนเป็นโฟตอนที่นำกลับมาใช้เป็นพลังงานไฟฟ้าได้ - เทคโนโลยีนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพพลังงานในระบบคอมพิวเตอร์ ✅ ความท้าทายด้านต้นทุน: - การผลิต GaAs ที่มีความบริสุทธิ์สูงต้องใช้เทคนิคที่ซับซ้อนและมีต้นทุนสูง เช่น Molecular Beam Epitaxy (MBE) - แผ่น GaAs ขนาด 200 มม. มีราคาประมาณ $5,000 เทียบกับแผ่นซิลิคอนที่มีราคาเพียง $5 ✅ สถานะปัจจุบันของโครงการ: - เทคโนโลยียังอยู่ในขั้นตอนการทดลองและการจำลอง โดยคาดว่าจะมีต้นแบบที่ใช้งานได้ในปี 2025 ⚠️ ความท้าทายด้านการผลิต: - การผลิต GaAs ที่มีความบริสุทธิ์สูงอาจเป็นอุปสรรคต่อการนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในเชิงพาณิชย์ ⚠️ การพัฒนาเทคโนโลยี: - Maxwell Labs ควรเร่งการพัฒนาและทดสอบต้นแบบเพื่อพิสูจน์ความสามารถของเทคโนโลยีนี้ ⚠️ การลดต้นทุน: - ควรมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อหาวิธีลดต้นทุนการผลิต GaAs เพื่อให้เทคโนโลยีนี้สามารถเข้าถึงตลาดได้กว้างขึ้น https://www.tomshardware.com/tech-industry/cooling-chips-with-lasers-innovative-cooling-method-removes-heat-precisely-from-hot-spots-recycles-heat-into-energy
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 93 มุมมอง 0 รีวิว
  • OpenAI กำลังเผชิญกับข้อวิจารณ์เกี่ยวกับการลดระยะเวลาการทดสอบความปลอดภัยของโมเดล AI รุ่นใหม่ ซึ่งอาจส่งผลต่อความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ในระยะยาว

    ✅ การลดระยะเวลาการทดสอบ:
    - OpenAI เคยใช้เวลามากกว่า 6 เดือนในการทดสอบ GPT-4 แต่สำหรับ GPT-4 Omni ใช้เวลาเพียง 1 สัปดาห์เพื่อให้ทันกำหนดการเปิดตัวในเดือนพฤษภาคม 2024
    - การลดระยะเวลาการทดสอบเกิดจากการแข่งขันในตลาด AI ที่มีความเร่งรีบในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์

    ✅ ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น:
    - การลดการทดสอบอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหา เช่น การสร้างข้อมูลที่ผิดพลาดหรือความเสียหายจากผลลัพธ์ของโมเดล
    - ผู้เชี่ยวชาญบางคนเรียกการลดระยะเวลานี้ว่า "ประมาท" และ "สูตรสำหรับหายนะ"

    ✅ การปรับปรุงกระบวนการทดสอบ:
    - OpenAI อ้างว่าใช้ AI ในกระบวนการทดสอบเพื่อเพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพ
    - มีการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการความปลอดภัยและความมั่นคงให้มีอำนาจในการชะลอการเปิดตัวโมเดล

    https://www.csoonline.com/article/3960456/openai-slammed-for-putting-speed-over-safety.html
    OpenAI กำลังเผชิญกับข้อวิจารณ์เกี่ยวกับการลดระยะเวลาการทดสอบความปลอดภัยของโมเดล AI รุ่นใหม่ ซึ่งอาจส่งผลต่อความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ในระยะยาว ✅ การลดระยะเวลาการทดสอบ: - OpenAI เคยใช้เวลามากกว่า 6 เดือนในการทดสอบ GPT-4 แต่สำหรับ GPT-4 Omni ใช้เวลาเพียง 1 สัปดาห์เพื่อให้ทันกำหนดการเปิดตัวในเดือนพฤษภาคม 2024 - การลดระยะเวลาการทดสอบเกิดจากการแข่งขันในตลาด AI ที่มีความเร่งรีบในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ ✅ ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น: - การลดการทดสอบอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหา เช่น การสร้างข้อมูลที่ผิดพลาดหรือความเสียหายจากผลลัพธ์ของโมเดล - ผู้เชี่ยวชาญบางคนเรียกการลดระยะเวลานี้ว่า "ประมาท" และ "สูตรสำหรับหายนะ" ✅ การปรับปรุงกระบวนการทดสอบ: - OpenAI อ้างว่าใช้ AI ในกระบวนการทดสอบเพื่อเพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพ - มีการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการความปลอดภัยและความมั่นคงให้มีอำนาจในการชะลอการเปิดตัวโมเดล https://www.csoonline.com/article/3960456/openai-slammed-for-putting-speed-over-safety.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    OpenAI slammed for putting speed over safety
    Testers allege newer models are being pushed for launch with much-reduced testing time.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 78 มุมมอง 0 รีวิว
  • เชียงราย – เผยหลังเหมืองทองทุนจีน โผล่ทั้งพื้นที่เมืองยอน เขตอุทธิพลว้าแดง-ตอนเหนือท่าขี้เหล็ก..พบสารหนูปนเปื้อนเกินมาตรฐาน ทั้งน้ำกก ที่ไหลเข้าไทยทางแม่อาย เชียงใหม่-เชียงแสน เชียงราย / น้ำสาย เส้นกั้นพรมแดนไทย-เมียนมา ด้านแม่สาย

    หลังจากสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 (เชียงใหม่) แจ้งว่าแม่น้ำกกตั้งแต่ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ และ อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ปนปื้อนสารหนูเกินมาตรฐานโดยที่ อ.แม่อาย สูงถึง 0.026 มิลลิกรัมต่อลิตร และ อ.เมืองเชียงราย 0.012-13 มิลลิกรัมต่อลิตร ขณะที่ค่ามาตรฐานคือไม่เกิน 0.01 มิลลิกรัมต่อลิตร

    ล่าสุดที่ว่าการ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ชายแดนไทย-เมียนมา ซึ่งมีแม่น้ำสายไหลมาจากประเทศเมียนมา ได้เผยแพร่ข้อมูลคุณภาพน้ำในแม่น้ำสาย ว่าการประปาส่วนภูมิภาค (กฟภ.) สาขาเชียงราย ได้เก็บตัวอย่างน้ำสายตั้งแต่ 17 ก.พ.ค ส่งหน่วยงานภายนอกคือบริษัทห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด วิเคราะห์ทดสอบ ผลออกมาเมื่อวันที่ 9 เม.ย.พบแม่น้ำสายมีสารหนูปนเปื้อนเกินกว่ามาตรฐาน แต่ในการผลิตน้ำประปามีการใช้กระบวนการผลิตกำจัดโลหะหนักทำให้คุณภาพน้ำยังคงได้มาตรฐานสามารถอุปโภคบริโภคได้ตามปกติ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/local/detail/9680000034555

    #MGROnline #เชียงราย #สารหนูปนเปื้อน
    เชียงราย – เผยหลังเหมืองทองทุนจีน โผล่ทั้งพื้นที่เมืองยอน เขตอุทธิพลว้าแดง-ตอนเหนือท่าขี้เหล็ก..พบสารหนูปนเปื้อนเกินมาตรฐาน ทั้งน้ำกก ที่ไหลเข้าไทยทางแม่อาย เชียงใหม่-เชียงแสน เชียงราย / น้ำสาย เส้นกั้นพรมแดนไทย-เมียนมา ด้านแม่สาย • หลังจากสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 (เชียงใหม่) แจ้งว่าแม่น้ำกกตั้งแต่ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ และ อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ปนปื้อนสารหนูเกินมาตรฐานโดยที่ อ.แม่อาย สูงถึง 0.026 มิลลิกรัมต่อลิตร และ อ.เมืองเชียงราย 0.012-13 มิลลิกรัมต่อลิตร ขณะที่ค่ามาตรฐานคือไม่เกิน 0.01 มิลลิกรัมต่อลิตร • ล่าสุดที่ว่าการ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ชายแดนไทย-เมียนมา ซึ่งมีแม่น้ำสายไหลมาจากประเทศเมียนมา ได้เผยแพร่ข้อมูลคุณภาพน้ำในแม่น้ำสาย ว่าการประปาส่วนภูมิภาค (กฟภ.) สาขาเชียงราย ได้เก็บตัวอย่างน้ำสายตั้งแต่ 17 ก.พ.ค ส่งหน่วยงานภายนอกคือบริษัทห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด วิเคราะห์ทดสอบ ผลออกมาเมื่อวันที่ 9 เม.ย.พบแม่น้ำสายมีสารหนูปนเปื้อนเกินกว่ามาตรฐาน แต่ในการผลิตน้ำประปามีการใช้กระบวนการผลิตกำจัดโลหะหนักทำให้คุณภาพน้ำยังคงได้มาตรฐานสามารถอุปโภคบริโภคได้ตามปกติ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/local/detail/9680000034555 • #MGROnline #เชียงราย #สารหนูปนเปื้อน
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 231 มุมมอง 0 รีวิว
  • Nvidia RTX 5060 Ti ซึ่งยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ ได้มีการรั่วไหลของข้อมูลการทดสอบประสิทธิภาพที่แสดงให้เห็นถึงการปรับปรุงเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า RTX 4060 Ti โดยมีการคาดการณ์ว่าจะมีราคาถูกกว่า แต่ยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับราคาที่อาจเพิ่มขึ้นในตลาด GPU ปัจจุบัน

    ✅ การปรับปรุงประสิทธิภาพ:
    - RTX 5060 Ti มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นถึง 14% เมื่อเทียบกับ RTX 4060 Ti ในการทดสอบด้วย Vulkan API
    - GPU รุ่นใหม่นี้มีฟีเจอร์ Multi-Frame Generation ที่ช่วยเพิ่มประสบการณ์การเล่นเกมด้วยการสร้างเฟรมเพิ่มเติมโดยใช้ AI

    ✅ ความจุ VRAM:
    - RTX 5060 Ti มีรุ่น 16GB และ 8GB ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับ RTX 5070 ที่มี VRAM 12GB

    ✅ ความกังวลด้านราคา:
    - แม้จะมีการคาดการณ์ว่าราคาจะถูกกว่า RTX 4060 Ti แต่ตลาด GPU ปัจจุบันยังคงมีปัญหาเรื่องราคาที่สูงเกินไป

    ✅ การเปิดตัว:
    - มีการคาดการณ์ว่า RTX 5060 Ti จะเปิดตัวในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

    https://www.techradar.com/computing/gpu/nvidia-rtx-5060-ti-benchmark-leak-hints-at-performance-boost-over-its-predecessor-but-it-wont-matter-if-it-doesnt-stay-at-retail-price
    Nvidia RTX 5060 Ti ซึ่งยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ ได้มีการรั่วไหลของข้อมูลการทดสอบประสิทธิภาพที่แสดงให้เห็นถึงการปรับปรุงเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า RTX 4060 Ti โดยมีการคาดการณ์ว่าจะมีราคาถูกกว่า แต่ยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับราคาที่อาจเพิ่มขึ้นในตลาด GPU ปัจจุบัน ✅ การปรับปรุงประสิทธิภาพ: - RTX 5060 Ti มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นถึง 14% เมื่อเทียบกับ RTX 4060 Ti ในการทดสอบด้วย Vulkan API - GPU รุ่นใหม่นี้มีฟีเจอร์ Multi-Frame Generation ที่ช่วยเพิ่มประสบการณ์การเล่นเกมด้วยการสร้างเฟรมเพิ่มเติมโดยใช้ AI ✅ ความจุ VRAM: - RTX 5060 Ti มีรุ่น 16GB และ 8GB ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับ RTX 5070 ที่มี VRAM 12GB ✅ ความกังวลด้านราคา: - แม้จะมีการคาดการณ์ว่าราคาจะถูกกว่า RTX 4060 Ti แต่ตลาด GPU ปัจจุบันยังคงมีปัญหาเรื่องราคาที่สูงเกินไป ✅ การเปิดตัว: - มีการคาดการณ์ว่า RTX 5060 Ti จะเปิดตัวในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า https://www.techradar.com/computing/gpu/nvidia-rtx-5060-ti-benchmark-leak-hints-at-performance-boost-over-its-predecessor-but-it-wont-matter-if-it-doesnt-stay-at-retail-price
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 125 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts