• 82 ปี ยิงเป้าประหาร! "ตุง แซ่หว่อง" คดีขวานจามคาบ้านสุดอุกอาจ ตำนานแรงอาฆาตฆ่าญาติกลางเมืองเลย 🔥

    📌 คดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญกลางเมืองเลย “ตุง แซ่หว่อง” ช่างไม้ผู้กลายเป็นนักโทษประหาร จากแรงอาฆาตเรื่องการงาน สู่การฆ่าญาติข้างห้องอย่างอุกอาจ อ่านเรื่องจริง ที่ลงเอยด้วยการยิงเป้าอย่างเย็นชา 🕵️‍♂️

    📚 คดีที่โลกไม่ลืม 82 ปีผ่านไป ยังสะเทือนใจ 💔 ถ้าพูดถึงคดีฆาตกรรมที่โหดเหี้ยม และกลายเป็นข่าวใหญ่ ในประวัติศาสตร์ไทย หนึ่งในนั้นคือคดีของ “ตุง แซ่หว่อง” ช่างไม้หนุ่มเชื้อสายจีน ที่ก่อเหตุฆ่าญาติเชื้อสายจีน อย่างโหดเหี้ยมกลางเมืองเลย 🪓

    คดีนี้ไม่ใช่เพียงแค่การฆ่าคน แต่คือเรื่องของความอาฆาต ริษยา การวางแผนอย่างแยบยล การฝังศพในบ้าน และการเบี่ยงเบนความผิดด้วยคำโกหก… จนต้องจบชีวิตลงด้วยโทษประหาร ด้วยการยิงเป้า 😨

    👤 จากช่างไม้สู่ฆาตกร 🧰 “ตุง แซ่หว่อง” เป็นชายหนุ่มเชื้อสายจีนอายุเพียง 25 ปี ณ เวลาที่ก่อเหตุ อาศัยอยู่กับญาติ “ยิด แซ่อึ๊ง” ซึ่งก็เป็นช่างไม้เช่นกัน ทั้งสองมาเช่าบ้านอยู่ที่หน้าเรือนจำจังหวัดเลย ชีวิตประจำวันของทั้งคู่ดูเรียบง่าย ทำงาน หาเงิน แล้วกลับบ้าน

    แต่สิ่งที่ซ่อนอยู่ใต้ความเรียบง่ายนั้นคือ ความอิจฉาริษยา และความเครียดจากการเป็น “คู่แข่งกันเอง” ทางอาชีพ ยิ่งเมื่อยิดมีงานเยอะกว่า มีคนจ้างมากกว่า ก็ยิ่งทำให้ตุง สะสมความไม่พอใจไว้ในใจ 😤

    📩 จดหมายปลอม จุดเริ่มต้นของความตาย 🧨 ทุกอย่างเริ่มต้นเมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2483 เมื่อยิดได้รับจดหมาย 2 ฉบับจากญาติในกรุงเทพฯ ชวนให้ไปทำงาน แต่เนื้อหาจดหมาย กลับมีความผิดปกติหลายจุด จนเจ้าตัวเริ่มสงสัยว่า เป็นของปลอม ❗

    ภายหลังเมื่อตรวจสอบ ตุงยอมรับว่าเป็นคนเขียนขึ้นเอง “เพื่อแกล้งเล่น” แต่ในความจริงแล้ว เจตนาอาจลึกซึ้งกว่านั้น เพื่อ “ลวง” ให้ยิดออกจากพื้นที่ หรือสร้างเหตุให้ทะเลาะ แล้วใช้เป็นข้ออ้างสังหาร ❓

    การทะเลาะรุนแรงจึงเกิดขึ้น จนมีเสียงดังไปถึงป้อมตำรวจหน้าคุก และเป็นเหตุการณ์นำไปสู่เรื่องสยอง ที่ไม่มีใครคาดคิด…

    🕵️‍♂️ จากการหายตัว…สู่การพบศพในสวนหลังบ้าน 🪦 วันเสาร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2483 นายยิดหายตัวไป ไม่มีใครพบเห็นอีกเลย ตุงอ้างว่า “ไปบ้านก้างปลา” แต่พยานหลายปากเห็นว่า เขาอยู่คนเดียว เด็กหญิงกุ๊ก ลูกสาวยิด ปีนเข้าไปนอนรอพ่อ แต่พ่อก็ไม่กลับมา...

    15 ตุลาคม ตำรวจพบกลิ่นเหม็นเน่าคลุ้งจากหลังบ้าน ขุดดินดูจึงพบว่า... ศพของยิดถูกฝังไว้ในหลุมตื้น ๆ มีรอยของมีคมฟันท้ายทอย 2 แผล 🪓 พบขวานเปื้อนเลือดในกล่องเครื่องมือตุง และผ้าขาวม้าตุงเปื้อนเลือด ไม้พื้นห้องนอนยิด มีรอยกบไสใหม่ ทุกอย่างบ่งบอกถึง การพยายามกลบเกลื่อนหลักฐาน อย่างมีแบบแผน

    🔬 หลักฐาน พยานเด็ด มัดตัวแน่น! 🧾 🔪 ขวานที่พบในบ้าน มีเลือดของยิด 🩸 ไม้พื้นและผนัง มีรอยเลือดกระเซ็น 🔑 ลูกกุญแจห้องยิดอยู่กับตุง แต่อ้างว่า ยืมจากเด็กหญิงกุ๊ก ซึ่งเด็กหญิงปฏิเสธว่าไม่เคยให้

    🕯️ พยานตำรวจ ได้ยินเสียงร้อง “โอ้ย ๆ” กลางดึก 🚲 รถจักรยานและรองเท้ายยิด ถูกซ่อนไว้ห่างบ้านประมาณ 800 เมตร

    หลักฐานทั้งหมดนี้ ทำให้ตำรวจเชื่อมั่นว่า ตุงคือฆาตกรแน่นอน 💯

    ⚖️ เส้นทางสู่ศาล คำพิพากษาประหารชีวิต 🧑‍⚖️ ศาลชั้นต้น พิจารณาหลักฐาน พยานแวดล้อม และพบว่า การฆ่ามีแรงจูงใจชัดเจน คือ “ความอาฆาตส่วนตัว” และความพยายาม “ซ่อนเร้นศพ”

    ✒️ คำพิพากษา “จำเลยมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ด้วยความพยาบาทมาดหมาย ให้ประหารชีวิตโดยไม่ลดหย่อนโทษ”

    แม้ตุงจะยื่นอุทธรณ์และฎีกา แต่ศาลทุกชั้นยืนตามคำพิพากษาเดิม ไม่มีการลดโทษใด ๆ ทั้งสิ้น ❌

    🔫 วันสุดท้ายของ “ตุง แซ่หว่อง” กับการประหารโดยยิงเป้า ⛓️ เช้าวันพฤหัสบดีที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2486 เวลา 04.30 น. ณ เรือนจำกลางบางขวาง นายตุงถูกเบิกตัวออกจากแดนควบคุม เพื่อเตรียมตัวเข้าสู่ห้องประหาร 😔

    ✅ รับฟังคำสั่งปฏิเสธฎีกา

    ✍️ เขียนพินัยกรรม

    🍱 ทานอาหารมื้อสุดท้าย

    🛐 ฟังธรรมเทศนา

    เวลา 6.07 น. ธงแดงสะบัดลง… เสียงปืนดังสนั่นไปทั่วบริเวณ ❗ ชีวิตของ “ตุง แซ่หว่อง” จบสิ้น ณ จุดนั้น

    🧠 ฆาตกรรมที่ไม่ใช่แค่ “อารมณ์ชั่ววูบ” 😢 เรื่องราวของตุง คือเครื่องเตือนใจ ถึงอันตรายของอารมณ์ริษยา ความอาฆาต และความไม่ยอมรับความจริง ความขัดแย้งที่เริ่มต้นจากเรื่องเล็กน้อยอย่าง “จำนวนงานที่ได้รับ” กลับจบลงด้วย การฆ่าญาติ และสูญเสียชีวิตทั้งสองฝ่าย

    หากเราปล่อยให้ความอิจฉาเข้าครอบงำ อาจกลายเป็นไฟที่เผาผลาญทุกสิ่ง 🧨🔥

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 161444 เม.ย. 2568

    📲 #ตุงแซ่หว่อง #คดีฆ่าญาติ #ยิงเป้าประหาร #คดีสะเทือนขวัญ #ฆาตกรรมไทย #ประหารชีวิต #เรื่องจริงจากคุก #ขวานฆ่าคน #คดีอาฆาต #ย้อนคดีดัง
    82 ปี ยิงเป้าประหาร! "ตุง แซ่หว่อง" คดีขวานจามคาบ้านสุดอุกอาจ ตำนานแรงอาฆาตฆ่าญาติกลางเมืองเลย 🔥 📌 คดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญกลางเมืองเลย “ตุง แซ่หว่อง” ช่างไม้ผู้กลายเป็นนักโทษประหาร จากแรงอาฆาตเรื่องการงาน สู่การฆ่าญาติข้างห้องอย่างอุกอาจ อ่านเรื่องจริง ที่ลงเอยด้วยการยิงเป้าอย่างเย็นชา 🕵️‍♂️ 📚 คดีที่โลกไม่ลืม 82 ปีผ่านไป ยังสะเทือนใจ 💔 ถ้าพูดถึงคดีฆาตกรรมที่โหดเหี้ยม และกลายเป็นข่าวใหญ่ ในประวัติศาสตร์ไทย หนึ่งในนั้นคือคดีของ “ตุง แซ่หว่อง” ช่างไม้หนุ่มเชื้อสายจีน ที่ก่อเหตุฆ่าญาติเชื้อสายจีน อย่างโหดเหี้ยมกลางเมืองเลย 🪓 คดีนี้ไม่ใช่เพียงแค่การฆ่าคน แต่คือเรื่องของความอาฆาต ริษยา การวางแผนอย่างแยบยล การฝังศพในบ้าน และการเบี่ยงเบนความผิดด้วยคำโกหก… จนต้องจบชีวิตลงด้วยโทษประหาร ด้วยการยิงเป้า 😨 👤 จากช่างไม้สู่ฆาตกร 🧰 “ตุง แซ่หว่อง” เป็นชายหนุ่มเชื้อสายจีนอายุเพียง 25 ปี ณ เวลาที่ก่อเหตุ อาศัยอยู่กับญาติ “ยิด แซ่อึ๊ง” ซึ่งก็เป็นช่างไม้เช่นกัน ทั้งสองมาเช่าบ้านอยู่ที่หน้าเรือนจำจังหวัดเลย ชีวิตประจำวันของทั้งคู่ดูเรียบง่าย ทำงาน หาเงิน แล้วกลับบ้าน แต่สิ่งที่ซ่อนอยู่ใต้ความเรียบง่ายนั้นคือ ความอิจฉาริษยา และความเครียดจากการเป็น “คู่แข่งกันเอง” ทางอาชีพ ยิ่งเมื่อยิดมีงานเยอะกว่า มีคนจ้างมากกว่า ก็ยิ่งทำให้ตุง สะสมความไม่พอใจไว้ในใจ 😤 📩 จดหมายปลอม จุดเริ่มต้นของความตาย 🧨 ทุกอย่างเริ่มต้นเมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2483 เมื่อยิดได้รับจดหมาย 2 ฉบับจากญาติในกรุงเทพฯ ชวนให้ไปทำงาน แต่เนื้อหาจดหมาย กลับมีความผิดปกติหลายจุด จนเจ้าตัวเริ่มสงสัยว่า เป็นของปลอม ❗ ภายหลังเมื่อตรวจสอบ ตุงยอมรับว่าเป็นคนเขียนขึ้นเอง “เพื่อแกล้งเล่น” แต่ในความจริงแล้ว เจตนาอาจลึกซึ้งกว่านั้น เพื่อ “ลวง” ให้ยิดออกจากพื้นที่ หรือสร้างเหตุให้ทะเลาะ แล้วใช้เป็นข้ออ้างสังหาร ❓ การทะเลาะรุนแรงจึงเกิดขึ้น จนมีเสียงดังไปถึงป้อมตำรวจหน้าคุก และเป็นเหตุการณ์นำไปสู่เรื่องสยอง ที่ไม่มีใครคาดคิด… 🕵️‍♂️ จากการหายตัว…สู่การพบศพในสวนหลังบ้าน 🪦 วันเสาร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2483 นายยิดหายตัวไป ไม่มีใครพบเห็นอีกเลย ตุงอ้างว่า “ไปบ้านก้างปลา” แต่พยานหลายปากเห็นว่า เขาอยู่คนเดียว เด็กหญิงกุ๊ก ลูกสาวยิด ปีนเข้าไปนอนรอพ่อ แต่พ่อก็ไม่กลับมา... 15 ตุลาคม ตำรวจพบกลิ่นเหม็นเน่าคลุ้งจากหลังบ้าน ขุดดินดูจึงพบว่า... ศพของยิดถูกฝังไว้ในหลุมตื้น ๆ มีรอยของมีคมฟันท้ายทอย 2 แผล 🪓 พบขวานเปื้อนเลือดในกล่องเครื่องมือตุง และผ้าขาวม้าตุงเปื้อนเลือด ไม้พื้นห้องนอนยิด มีรอยกบไสใหม่ ทุกอย่างบ่งบอกถึง การพยายามกลบเกลื่อนหลักฐาน อย่างมีแบบแผน 🔬 หลักฐาน พยานเด็ด มัดตัวแน่น! 🧾 🔪 ขวานที่พบในบ้าน มีเลือดของยิด 🩸 ไม้พื้นและผนัง มีรอยเลือดกระเซ็น 🔑 ลูกกุญแจห้องยิดอยู่กับตุง แต่อ้างว่า ยืมจากเด็กหญิงกุ๊ก ซึ่งเด็กหญิงปฏิเสธว่าไม่เคยให้ 🕯️ พยานตำรวจ ได้ยินเสียงร้อง “โอ้ย ๆ” กลางดึก 🚲 รถจักรยานและรองเท้ายยิด ถูกซ่อนไว้ห่างบ้านประมาณ 800 เมตร หลักฐานทั้งหมดนี้ ทำให้ตำรวจเชื่อมั่นว่า ตุงคือฆาตกรแน่นอน 💯 ⚖️ เส้นทางสู่ศาล คำพิพากษาประหารชีวิต 🧑‍⚖️ ศาลชั้นต้น พิจารณาหลักฐาน พยานแวดล้อม และพบว่า การฆ่ามีแรงจูงใจชัดเจน คือ “ความอาฆาตส่วนตัว” และความพยายาม “ซ่อนเร้นศพ” ✒️ คำพิพากษา “จำเลยมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ด้วยความพยาบาทมาดหมาย ให้ประหารชีวิตโดยไม่ลดหย่อนโทษ” แม้ตุงจะยื่นอุทธรณ์และฎีกา แต่ศาลทุกชั้นยืนตามคำพิพากษาเดิม ไม่มีการลดโทษใด ๆ ทั้งสิ้น ❌ 🔫 วันสุดท้ายของ “ตุง แซ่หว่อง” กับการประหารโดยยิงเป้า ⛓️ เช้าวันพฤหัสบดีที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2486 เวลา 04.30 น. ณ เรือนจำกลางบางขวาง นายตุงถูกเบิกตัวออกจากแดนควบคุม เพื่อเตรียมตัวเข้าสู่ห้องประหาร 😔 ✅ รับฟังคำสั่งปฏิเสธฎีกา ✍️ เขียนพินัยกรรม 🍱 ทานอาหารมื้อสุดท้าย 🛐 ฟังธรรมเทศนา เวลา 6.07 น. ธงแดงสะบัดลง… เสียงปืนดังสนั่นไปทั่วบริเวณ ❗ ชีวิตของ “ตุง แซ่หว่อง” จบสิ้น ณ จุดนั้น 🧠 ฆาตกรรมที่ไม่ใช่แค่ “อารมณ์ชั่ววูบ” 😢 เรื่องราวของตุง คือเครื่องเตือนใจ ถึงอันตรายของอารมณ์ริษยา ความอาฆาต และความไม่ยอมรับความจริง ความขัดแย้งที่เริ่มต้นจากเรื่องเล็กน้อยอย่าง “จำนวนงานที่ได้รับ” กลับจบลงด้วย การฆ่าญาติ และสูญเสียชีวิตทั้งสองฝ่าย หากเราปล่อยให้ความอิจฉาเข้าครอบงำ อาจกลายเป็นไฟที่เผาผลาญทุกสิ่ง 🧨🔥 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 161444 เม.ย. 2568 📲 #ตุงแซ่หว่อง #คดีฆ่าญาติ #ยิงเป้าประหาร #คดีสะเทือนขวัญ #ฆาตกรรมไทย #ประหารชีวิต #เรื่องจริงจากคุก #ขวานฆ่าคน #คดีอาฆาต #ย้อนคดีดัง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 147 มุมมอง 0 รีวิว
  • Elon Musk ได้ยื่นฟ้อง OpenAI โดยกล่าวหาว่าบริษัทกำลัง เปลี่ยนแปลงโครงสร้างองค์กร เพื่อให้สามารถระดมทุนจากนักลงทุนได้มากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลต่อ ภารกิจดั้งเดิมขององค์กรที่เน้นการพัฒนา AI เพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติ อย่างไรก็ตาม อัยการสูงสุดของรัฐแคลิฟอร์เนียปฏิเสธที่จะเข้าร่วมคดีนี้ โดยให้เหตุผลว่า ไม่เห็นว่าการดำเนินคดีของ Musk จะเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ

    ✅ Musk ฟ้อง OpenAI เรื่องการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างองค์กร
    - OpenAI ต้องการ ลบคณะกรรมการไม่แสวงหากำไรออกจากการควบคุมบริษัท
    - การเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้ OpenAI สามารถ ระดมทุน 40 พันล้านดอลลาร์ จากนักลงทุน

    ✅ อัยการสูงสุดของแคลิฟอร์เนียปฏิเสธที่จะเข้าร่วมคดี
    - Musk ขอให้รัฐแคลิฟอร์เนียเข้าร่วมคดีเพื่อ ปกป้องทรัพย์สินขององค์กรไม่แสวงหากำไร
    - อัยการสูงสุดระบุว่า Musk ไม่ได้แสดงหลักฐานเพียงพอว่าการเข้าร่วมคดีจะเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ

    ✅ Meta และกลุ่มนักลงทุนอื่นๆ สนับสนุนการตรวจสอบ OpenAI
    - Meta และกลุ่มผู้นำด้านการกุศลได้ส่งจดหมายถึงอัยการสูงสุดเพื่อ เรียกร้องให้ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของ OpenAI
    - OpenAI ยืนยันว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้บริษัทสามารถ เติบโตและดำเนินภารกิจต่อไปได้

    ✅ Musk เคยเสนอซื้อ OpenAI ในราคา 97 พันล้านดอลลาร์
    - Musk เคยพยายามเข้าควบคุม OpenAI แต่ข้อเสนอถูกปฏิเสธ
    - Altman อ้างว่า Musk พยายามชะลอการเติบโตของคู่แข่ง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/16/california-attorney-general-declines-to-join-musk039s-lawsuit-against-openai
    Elon Musk ได้ยื่นฟ้อง OpenAI โดยกล่าวหาว่าบริษัทกำลัง เปลี่ยนแปลงโครงสร้างองค์กร เพื่อให้สามารถระดมทุนจากนักลงทุนได้มากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลต่อ ภารกิจดั้งเดิมขององค์กรที่เน้นการพัฒนา AI เพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติ อย่างไรก็ตาม อัยการสูงสุดของรัฐแคลิฟอร์เนียปฏิเสธที่จะเข้าร่วมคดีนี้ โดยให้เหตุผลว่า ไม่เห็นว่าการดำเนินคดีของ Musk จะเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ✅ Musk ฟ้อง OpenAI เรื่องการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างองค์กร - OpenAI ต้องการ ลบคณะกรรมการไม่แสวงหากำไรออกจากการควบคุมบริษัท - การเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้ OpenAI สามารถ ระดมทุน 40 พันล้านดอลลาร์ จากนักลงทุน ✅ อัยการสูงสุดของแคลิฟอร์เนียปฏิเสธที่จะเข้าร่วมคดี - Musk ขอให้รัฐแคลิฟอร์เนียเข้าร่วมคดีเพื่อ ปกป้องทรัพย์สินขององค์กรไม่แสวงหากำไร - อัยการสูงสุดระบุว่า Musk ไม่ได้แสดงหลักฐานเพียงพอว่าการเข้าร่วมคดีจะเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ✅ Meta และกลุ่มนักลงทุนอื่นๆ สนับสนุนการตรวจสอบ OpenAI - Meta และกลุ่มผู้นำด้านการกุศลได้ส่งจดหมายถึงอัยการสูงสุดเพื่อ เรียกร้องให้ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของ OpenAI - OpenAI ยืนยันว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้บริษัทสามารถ เติบโตและดำเนินภารกิจต่อไปได้ ✅ Musk เคยเสนอซื้อ OpenAI ในราคา 97 พันล้านดอลลาร์ - Musk เคยพยายามเข้าควบคุม OpenAI แต่ข้อเสนอถูกปฏิเสธ - Altman อ้างว่า Musk พยายามชะลอการเติบโตของคู่แข่ง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/16/california-attorney-general-declines-to-join-musk039s-lawsuit-against-openai
    WWW.THESTAR.COM.MY
    California attorney general declines to join Musk's lawsuit against OpenAI
    SAN FRANCISCO (Reuters) - The California attorney general's office declined to join a lawsuit by Elon Musk against OpenAI, the agency wrote in a letter made public on Tuesday, saying that the office did not see how Musk's action serves the public interest of the state.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 98 มุมมอง 0 รีวิว
  • Mark Zuckerberg เคยพิจารณา แยก Instagram ออกเป็นบริษัทอิสระ ในปี 2018 เนื่องจากกังวลเกี่ยวกับ การตรวจสอบด้านการต่อต้านการผูกขาด ตามเอกสารที่ถูกเปิดเผยในศาลสหรัฐฯ

    ✅ Zuckerberg เคยพิจารณาแยก Instagram ออกจาก Meta
    - ในปี 2018 เขาเขียนบันทึกภายในว่าอาจต้อง แยก Instagram ออกเป็นบริษัทอิสระ
    - เหตุผลหลักคือ ความเสี่ยงจากการตรวจสอบด้านการต่อต้านการผูกขาด

    ✅ Meta ตัดสินใจรวมแอปแทนการแยกออก
    - แม้จะมีการพิจารณา แต่ Meta เลือกที่จะ รวม Instagram และ WhatsApp เข้ากับ Facebook
    - Zuckerberg เชื่อว่าการรวมกันจะช่วยให้บริษัทเติบโตได้ดีขึ้น

    ✅ การตรวจสอบด้านการต่อต้านการผูกขาดในสหรัฐฯ
    - คณะกรรมการการค้าของสหรัฐฯ (FTC) กำลังดำเนินคดีเพื่อ ยกเลิกการเข้าซื้อกิจการ Instagram และ WhatsApp
    - FTC อ้างว่า Meta ใช้กลยุทธ์ "ซื้อหรือทำลายคู่แข่ง" เพื่อรักษาการผูกขาด

    ✅ Zuckerberg ยอมรับว่า Instagram ดีกว่า Facebook ในบางด้าน
    - เขากล่าวว่า Instagram มี กล้องที่ดีกว่า ซึ่งเป็นเหตุผลที่ Meta ตัดสินใจซื้อกิจการ
    - Meta เคยพยายามสร้างแอปกล้องของตัวเอง แต่ไม่ประสบความสำเร็จ

    ℹ️ ผลกระทบต่ออนาคตของ Meta
    - หาก FTC ชนะคดี Meta อาจต้อง แยก Instagram และ WhatsApp ออกจากบริษัท

    ℹ️ ความท้าทายในการแข่งขันกับแพลตฟอร์มอื่น
    - Meta ต้องเผชิญกับการแข่งขันจาก TikTok, YouTube และ Apple Messages

    ℹ️ แนวโน้มของการควบคุมบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่
    - รัฐบาลสหรัฐฯ อาจเพิ่มมาตรการควบคุมบริษัทเทคโนโลยีเพื่อป้องกันการผูกขาด

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/16/at-us-antitrust-trial-meta039s-zuckerberg-admits-he-bought-instagram-because-it-was-039better039
    Mark Zuckerberg เคยพิจารณา แยก Instagram ออกเป็นบริษัทอิสระ ในปี 2018 เนื่องจากกังวลเกี่ยวกับ การตรวจสอบด้านการต่อต้านการผูกขาด ตามเอกสารที่ถูกเปิดเผยในศาลสหรัฐฯ ✅ Zuckerberg เคยพิจารณาแยก Instagram ออกจาก Meta - ในปี 2018 เขาเขียนบันทึกภายในว่าอาจต้อง แยก Instagram ออกเป็นบริษัทอิสระ - เหตุผลหลักคือ ความเสี่ยงจากการตรวจสอบด้านการต่อต้านการผูกขาด ✅ Meta ตัดสินใจรวมแอปแทนการแยกออก - แม้จะมีการพิจารณา แต่ Meta เลือกที่จะ รวม Instagram และ WhatsApp เข้ากับ Facebook - Zuckerberg เชื่อว่าการรวมกันจะช่วยให้บริษัทเติบโตได้ดีขึ้น ✅ การตรวจสอบด้านการต่อต้านการผูกขาดในสหรัฐฯ - คณะกรรมการการค้าของสหรัฐฯ (FTC) กำลังดำเนินคดีเพื่อ ยกเลิกการเข้าซื้อกิจการ Instagram และ WhatsApp - FTC อ้างว่า Meta ใช้กลยุทธ์ "ซื้อหรือทำลายคู่แข่ง" เพื่อรักษาการผูกขาด ✅ Zuckerberg ยอมรับว่า Instagram ดีกว่า Facebook ในบางด้าน - เขากล่าวว่า Instagram มี กล้องที่ดีกว่า ซึ่งเป็นเหตุผลที่ Meta ตัดสินใจซื้อกิจการ - Meta เคยพยายามสร้างแอปกล้องของตัวเอง แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ℹ️ ผลกระทบต่ออนาคตของ Meta - หาก FTC ชนะคดี Meta อาจต้อง แยก Instagram และ WhatsApp ออกจากบริษัท ℹ️ ความท้าทายในการแข่งขันกับแพลตฟอร์มอื่น - Meta ต้องเผชิญกับการแข่งขันจาก TikTok, YouTube และ Apple Messages ℹ️ แนวโน้มของการควบคุมบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ - รัฐบาลสหรัฐฯ อาจเพิ่มมาตรการควบคุมบริษัทเทคโนโลยีเพื่อป้องกันการผูกขาด https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/16/at-us-antitrust-trial-meta039s-zuckerberg-admits-he-bought-instagram-because-it-was-039better039
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Meta's Zuckerberg eyed Instagram spinoff amid antitrust scrutiny, document shows
    WASHINGTON (Reuters) -Meta CEO Mark Zuckerberg considered spinning off popular photo-sharing app Instagram in 2018 over concerns about the growing risk of antitrust scrutiny, according to a document shown at a trial in Washington on Tuesday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 101 มุมมอง 0 รีวิว
  • OpenAI กำลังพัฒนา แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของตัวเอง ซึ่งอาจเป็นคู่แข่งของ X (เดิมคือ Twitter) โดยแพลตฟอร์มนี้จะเน้นการใช้ ChatGPT ในการสร้างภาพและเนื้อหา และอาจรวมเข้ากับ ChatGPT หรือเปิดตัวเป็นแอปใหม่

    ✅ OpenAI กำลังพัฒนาแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย
    - แพลตฟอร์มนี้อยู่ในช่วงต้นของการพัฒนา และยังไม่แน่ชัดว่าจะเป็นแอปใหม่หรือรวมเข้ากับ ChatGPT
    - มีการใช้ ChatGPT ในการสร้างภาพและเนื้อหา พร้อมฟีดแบบโซเชียล

    ✅ ความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่าง Sam Altman และ Elon Musk
    - Musk เคยเสนอซื้อ OpenAI ในราคา 97.4 พันล้านดอลลาร์ แต่ถูก Altman ปฏิเสธ
    - OpenAI และ Musk ต่างก็มีคดีความต่อกันเกี่ยวกับการควบคุมเทคโนโลยี AI

    ✅ เป้าหมายของ OpenAI ในการสร้างแพลตฟอร์มนี้
    - OpenAI ต้องการ ข้อมูลแบบเรียลไทม์ เพื่อฝึก AI แทนการพึ่งพาข้อมูลจากแพลตฟอร์มอื่น
    - แพลตฟอร์มนี้อาจช่วยให้ OpenAI มี แหล่งข้อมูลของตัวเอง เหมือนกับที่ Musk ใช้ X ในการฝึก Grok

    ✅ แนวโน้มของตลาดโซเชียลมีเดียที่ใช้ AI
    - Meta กำลังใช้ Llama models ในการฝึก AI ด้วยข้อมูลจาก Facebook และ Instagram
    - OpenAI อาจต้องแข่งขันกับแพลตฟอร์มที่มีฐานผู้ใช้ขนาดใหญ่

    ℹ️ ความท้าทายในการเปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่
    - OpenAI กำลังเผชิญกับหลายประเด็น เช่น การพัฒนาโมเดลใหม่, คดีความ และการขยายธุรกิจ
    - ต้องติดตามว่าแพลตฟอร์มนี้จะสามารถดึงดูดผู้ใช้ได้หรือไม่

    ℹ️ ผลกระทบต่อการแข่งขันในตลาด AI
    - หาก OpenAI มีแพลตฟอร์มของตัวเอง อาจส่งผลต่อ การเข้าถึงข้อมูลของ AI คู่แข่ง
    - อาจมีการเปลี่ยนแปลงในแนวทางการพัฒนา AI ของบริษัทอื่น

    ℹ️ แนวโน้มของการใช้ AI ในโซเชียลมีเดีย
    - AI อาจมีบทบาทมากขึ้นในการสร้างเนื้อหาและวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้
    - อาจมีการพัฒนา AI ที่สามารถโต้ตอบกับผู้ใช้ในรูปแบบที่ซับซ้อนขึ้น

    https://www.neowin.net/news/openai-is-reportedly-working-on-its-own-social-media-platform-to-rival-the-likes-of-x/
    OpenAI กำลังพัฒนา แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของตัวเอง ซึ่งอาจเป็นคู่แข่งของ X (เดิมคือ Twitter) โดยแพลตฟอร์มนี้จะเน้นการใช้ ChatGPT ในการสร้างภาพและเนื้อหา และอาจรวมเข้ากับ ChatGPT หรือเปิดตัวเป็นแอปใหม่ ✅ OpenAI กำลังพัฒนาแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย - แพลตฟอร์มนี้อยู่ในช่วงต้นของการพัฒนา และยังไม่แน่ชัดว่าจะเป็นแอปใหม่หรือรวมเข้ากับ ChatGPT - มีการใช้ ChatGPT ในการสร้างภาพและเนื้อหา พร้อมฟีดแบบโซเชียล ✅ ความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่าง Sam Altman และ Elon Musk - Musk เคยเสนอซื้อ OpenAI ในราคา 97.4 พันล้านดอลลาร์ แต่ถูก Altman ปฏิเสธ - OpenAI และ Musk ต่างก็มีคดีความต่อกันเกี่ยวกับการควบคุมเทคโนโลยี AI ✅ เป้าหมายของ OpenAI ในการสร้างแพลตฟอร์มนี้ - OpenAI ต้องการ ข้อมูลแบบเรียลไทม์ เพื่อฝึก AI แทนการพึ่งพาข้อมูลจากแพลตฟอร์มอื่น - แพลตฟอร์มนี้อาจช่วยให้ OpenAI มี แหล่งข้อมูลของตัวเอง เหมือนกับที่ Musk ใช้ X ในการฝึก Grok ✅ แนวโน้มของตลาดโซเชียลมีเดียที่ใช้ AI - Meta กำลังใช้ Llama models ในการฝึก AI ด้วยข้อมูลจาก Facebook และ Instagram - OpenAI อาจต้องแข่งขันกับแพลตฟอร์มที่มีฐานผู้ใช้ขนาดใหญ่ ℹ️ ความท้าทายในการเปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่ - OpenAI กำลังเผชิญกับหลายประเด็น เช่น การพัฒนาโมเดลใหม่, คดีความ และการขยายธุรกิจ - ต้องติดตามว่าแพลตฟอร์มนี้จะสามารถดึงดูดผู้ใช้ได้หรือไม่ ℹ️ ผลกระทบต่อการแข่งขันในตลาด AI - หาก OpenAI มีแพลตฟอร์มของตัวเอง อาจส่งผลต่อ การเข้าถึงข้อมูลของ AI คู่แข่ง - อาจมีการเปลี่ยนแปลงในแนวทางการพัฒนา AI ของบริษัทอื่น ℹ️ แนวโน้มของการใช้ AI ในโซเชียลมีเดีย - AI อาจมีบทบาทมากขึ้นในการสร้างเนื้อหาและวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้ - อาจมีการพัฒนา AI ที่สามารถโต้ตอบกับผู้ใช้ในรูปแบบที่ซับซ้อนขึ้น https://www.neowin.net/news/openai-is-reportedly-working-on-its-own-social-media-platform-to-rival-the-likes-of-x/
    WWW.NEOWIN.NET
    OpenAI is reportedly working on its own social media platform to rival the likes of X
    OpenAI doesn't seem to be catching a break. A new report claims the company is quietly building a social media platform that could go head-to-head with X.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 71 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพอากาศสหรัฐฯ (USAF) ได้ลงนามในสัญญามูลค่า 10.8 ล้านดอลลาร์ กับ PsiQuantum เพื่อพัฒนาเทคโนโลยี Quantum Computing โดยความร่วมมือนี้จะช่วยให้ USAF สามารถเข้าถึง ชิปควอนตัมขั้นสูง และอุปกรณ์ที่ใช้ Barium Titanate Electro-Optic phase shifters ซึ่งเป็นวัสดุระดับโลกในการประมวลผลควอนตัม

    ✅ USAF ลงนามสัญญา 10.8 ล้านดอลลาร์กับ PsiQuantum
    - สัญญานี้เป็นการต่อยอดความร่วมมือที่เริ่มต้นในปี 2022
    - PsiQuantum จะออกแบบและจัดหาฮาร์ดแวร์ควอนตัมให้กับ USAF

    ✅ เทคโนโลยีที่ PsiQuantum นำเสนอ
    - ใช้ Photonic Quantum Computing ซึ่งแตกต่างจากแนวทางของ Microsoft ที่ใช้ Topological Qubits
    - ข้อดีของ Photon Qubits คือสามารถทำงานที่ อุณหภูมิห้อง และมีความเสถียรสูง

    ✅ เป้าหมายของโครงการ
    - PsiQuantum จะพัฒนา ชิปควอนตัม Omega ซึ่งมีองค์ประกอบครบถ้วนสำหรับการขยายไปถึง 1 ล้าน Qubits
    - USAF จะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในด้าน ความมั่นคงแห่งชาติ และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านควอนตัม

    ✅ บทบาทของนักการเมืองในการสนับสนุนโครงการ
    - สัญญานี้เกิดขึ้นได้เพราะการสนับสนุนจาก Senator Chuck Schumer และ Representative Elise Stefanik
    - ทั้งสองคนมีบทบาทสำคัญในการผลักดันอุตสาหกรรมควอนตัมในรัฐนิวยอร์ก

    ℹ️ ผลกระทบต่อการแข่งขันด้าน Quantum Computing
    - Microsoft กำลังพัฒนา Majorana 1 chip ซึ่งอาจเป็นคู่แข่งสำคัญของ PsiQuantum
    - ต้องติดตามว่า Photonic Quantum Computing จะสามารถแข่งขันกับเทคโนโลยีอื่นได้หรือไม่

    ℹ️ ความท้าทายในการขยายไปถึง 1 ล้าน Qubits
    - แม้ PsiQuantum จะมีแผนพัฒนา ชิป Omega แต่การขยายไปถึง 1 ล้าน Qubits ยังต้องใช้เวลาและทรัพยากรจำนวนมาก
    - ต้องจับตาว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายได้ภายในระยะเวลาที่กำหนดหรือไม่

    ℹ️ แนวโน้มของ Quantum Computing ในอนาคต
    - Quantum Computing อาจมีบทบาทสำคัญในด้าน การเข้ารหัสข้อมูล, การจำลองโมเลกุล และการพัฒนา AI
    - อาจมีการลงทุนเพิ่มเติมจากรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อเร่งการพัฒนาเทคโนโลยีนี้

    https://www.neowin.net/news/usaf-bolsters-quantum-advantage-with-108-million-
    psiquantum-contract/
    กองทัพอากาศสหรัฐฯ (USAF) ได้ลงนามในสัญญามูลค่า 10.8 ล้านดอลลาร์ กับ PsiQuantum เพื่อพัฒนาเทคโนโลยี Quantum Computing โดยความร่วมมือนี้จะช่วยให้ USAF สามารถเข้าถึง ชิปควอนตัมขั้นสูง และอุปกรณ์ที่ใช้ Barium Titanate Electro-Optic phase shifters ซึ่งเป็นวัสดุระดับโลกในการประมวลผลควอนตัม ✅ USAF ลงนามสัญญา 10.8 ล้านดอลลาร์กับ PsiQuantum - สัญญานี้เป็นการต่อยอดความร่วมมือที่เริ่มต้นในปี 2022 - PsiQuantum จะออกแบบและจัดหาฮาร์ดแวร์ควอนตัมให้กับ USAF ✅ เทคโนโลยีที่ PsiQuantum นำเสนอ - ใช้ Photonic Quantum Computing ซึ่งแตกต่างจากแนวทางของ Microsoft ที่ใช้ Topological Qubits - ข้อดีของ Photon Qubits คือสามารถทำงานที่ อุณหภูมิห้อง และมีความเสถียรสูง ✅ เป้าหมายของโครงการ - PsiQuantum จะพัฒนา ชิปควอนตัม Omega ซึ่งมีองค์ประกอบครบถ้วนสำหรับการขยายไปถึง 1 ล้าน Qubits - USAF จะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในด้าน ความมั่นคงแห่งชาติ และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านควอนตัม ✅ บทบาทของนักการเมืองในการสนับสนุนโครงการ - สัญญานี้เกิดขึ้นได้เพราะการสนับสนุนจาก Senator Chuck Schumer และ Representative Elise Stefanik - ทั้งสองคนมีบทบาทสำคัญในการผลักดันอุตสาหกรรมควอนตัมในรัฐนิวยอร์ก ℹ️ ผลกระทบต่อการแข่งขันด้าน Quantum Computing - Microsoft กำลังพัฒนา Majorana 1 chip ซึ่งอาจเป็นคู่แข่งสำคัญของ PsiQuantum - ต้องติดตามว่า Photonic Quantum Computing จะสามารถแข่งขันกับเทคโนโลยีอื่นได้หรือไม่ ℹ️ ความท้าทายในการขยายไปถึง 1 ล้าน Qubits - แม้ PsiQuantum จะมีแผนพัฒนา ชิป Omega แต่การขยายไปถึง 1 ล้าน Qubits ยังต้องใช้เวลาและทรัพยากรจำนวนมาก - ต้องจับตาว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายได้ภายในระยะเวลาที่กำหนดหรือไม่ ℹ️ แนวโน้มของ Quantum Computing ในอนาคต - Quantum Computing อาจมีบทบาทสำคัญในด้าน การเข้ารหัสข้อมูล, การจำลองโมเลกุล และการพัฒนา AI - อาจมีการลงทุนเพิ่มเติมจากรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อเร่งการพัฒนาเทคโนโลยีนี้ https://www.neowin.net/news/usaf-bolsters-quantum-advantage-with-108-million- psiquantum-contract/
    WWW.NEOWIN.NET
    USAF bolsters quantum advantage with $10.8 million PsiQuantum contract
    PsiQuantum has expanded its partnership with the Air Force Research Laboratory (AFRL) after being awarded a $10.8 million contract to provide the USAF with photonic quantum chips.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 90 มุมมอง 0 รีวิว
  • Grok ซึ่งเป็นแชทบอท AI ของ xAI กำลังได้รับการอัปเกรดครั้งใหญ่ โดยเพิ่มฟีเจอร์ "Personalise with Memories" ซึ่งช่วยให้สามารถจดจำบทสนทนาและอ้างอิงข้อมูลจากการพูดคุยก่อนหน้าได้

    ✅ Grok เพิ่มระบบความจำสำหรับการสนทนา
    - ระบบความจำช่วยให้ Grok สามารถ อ้างอิงบทสนทนาเก่า เช่น การวางแผนท่องเที่ยวหรือการเขียนบทภาพยนตร์
    - ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ Grok มีความสามารถใกล้เคียงกับ ChatGPT และ Google Gemini

    ✅ การควบคุมความจำของผู้ใช้
    - ผู้ใช้สามารถ จัดการข้อมูลที่ Grok จำได้ และลบความจำเฉพาะรายการหรือทั้งหมดได้
    - ฟีเจอร์นี้ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยในการใช้งาน

    ✅ การพัฒนาอื่นๆ ที่กำลังจะมา
    - Grok 3.5 คาดว่าจะเปิดตัวเร็วๆ นี้ และ Grok 4 จะเปิดตัวช่วงปลายปี
    - มีการพัฒนา โหมดเสียง ที่สามารถวิเคราะห์ภาพจากกล้องมือถือ
    - ฟีเจอร์ แก้ไขภาพ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถอัปโหลดรูปภาพและปรับแต่งสไตล์ได้

    ✅ Grok Workspaces: ระบบไวท์บอร์ดดิจิทัล
    - ฟีเจอร์ใหม่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ ทำงานร่วมกับ Grok ในโครงการขนาดใหญ่
    - ออกแบบมาเพื่อให้ Grok เป็นผู้ช่วยที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

    ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม
    ℹ️ ความท้าทายของระบบความจำ AI
    - แม้ Grok จะสามารถจดจำข้อมูลได้ แต่ต้องมีการพัฒนาเพื่อให้สามารถใช้ข้อมูลเหล่านั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    - ระบบความจำต้องมีการควบคุมเพื่อป้องกันการละเมิดความเป็นส่วนตัว

    ℹ️ การแข่งขันกับ AI อื่นๆ
    - ChatGPT และ Gemini ต่างก็มีระบบความจำที่พัฒนาไปไกลแล้ว
    - ต้องติดตามว่า Grok จะสามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้หรือไม่

    ℹ️ แนวโน้มของ AI ที่มีความสามารถด้านความจำ
    - AI ที่สามารถจดจำข้อมูลและบริหารจัดการความจำได้ดีขึ้น อาจกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของอุตสาหกรรม
    - อาจมีการพัฒนา AI ที่สามารถ จดจำข้อมูลข้ามแพลตฟอร์ม เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ต่อเนื่อง

    https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/grok-will-start-remembering-everything-you-ask-it-to-do
    Grok ซึ่งเป็นแชทบอท AI ของ xAI กำลังได้รับการอัปเกรดครั้งใหญ่ โดยเพิ่มฟีเจอร์ "Personalise with Memories" ซึ่งช่วยให้สามารถจดจำบทสนทนาและอ้างอิงข้อมูลจากการพูดคุยก่อนหน้าได้ ✅ Grok เพิ่มระบบความจำสำหรับการสนทนา - ระบบความจำช่วยให้ Grok สามารถ อ้างอิงบทสนทนาเก่า เช่น การวางแผนท่องเที่ยวหรือการเขียนบทภาพยนตร์ - ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ Grok มีความสามารถใกล้เคียงกับ ChatGPT และ Google Gemini ✅ การควบคุมความจำของผู้ใช้ - ผู้ใช้สามารถ จัดการข้อมูลที่ Grok จำได้ และลบความจำเฉพาะรายการหรือทั้งหมดได้ - ฟีเจอร์นี้ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยในการใช้งาน ✅ การพัฒนาอื่นๆ ที่กำลังจะมา - Grok 3.5 คาดว่าจะเปิดตัวเร็วๆ นี้ และ Grok 4 จะเปิดตัวช่วงปลายปี - มีการพัฒนา โหมดเสียง ที่สามารถวิเคราะห์ภาพจากกล้องมือถือ - ฟีเจอร์ แก้ไขภาพ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถอัปโหลดรูปภาพและปรับแต่งสไตล์ได้ ✅ Grok Workspaces: ระบบไวท์บอร์ดดิจิทัล - ฟีเจอร์ใหม่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ ทำงานร่วมกับ Grok ในโครงการขนาดใหญ่ - ออกแบบมาเพื่อให้ Grok เป็นผู้ช่วยที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม ℹ️ ความท้าทายของระบบความจำ AI - แม้ Grok จะสามารถจดจำข้อมูลได้ แต่ต้องมีการพัฒนาเพื่อให้สามารถใช้ข้อมูลเหล่านั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ - ระบบความจำต้องมีการควบคุมเพื่อป้องกันการละเมิดความเป็นส่วนตัว ℹ️ การแข่งขันกับ AI อื่นๆ - ChatGPT และ Gemini ต่างก็มีระบบความจำที่พัฒนาไปไกลแล้ว - ต้องติดตามว่า Grok จะสามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้หรือไม่ ℹ️ แนวโน้มของ AI ที่มีความสามารถด้านความจำ - AI ที่สามารถจดจำข้อมูลและบริหารจัดการความจำได้ดีขึ้น อาจกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของอุตสาหกรรม - อาจมีการพัฒนา AI ที่สามารถ จดจำข้อมูลข้ามแพลตฟอร์ม เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ต่อเนื่อง https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/grok-will-start-remembering-everything-you-ask-it-to-do
    WWW.TECHRADAR.COM
    Grok may start remembering everything you ask it to do, according to new reports
    xAI doesn't want ChatGPT or Gemini to be ahead on any AI feature
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 114 มุมมอง 0 รีวิว
  • AMD กำลังเตรียมเปิดตัว Radeon RX 9060 XT ซึ่งเป็นกราฟิกการ์ดรุ่นใหม่ที่ใช้สถาปัตยกรรม RDNA 4 โดยมีข่าวลือว่าการ์ดรุ่นนี้สามารถ เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกาได้สูงสุดถึง 3.3 GHz และอาจเปิดตัวในงาน Computex 2025

    ✅ สเปคและประสิทธิภาพของ RX 9060 XT
    - ใช้ชิป Navi 44 XT ซึ่งเป็นรุ่นลดสเปคจาก Navi 48
    - มี 2048 Stream Processors ซึ่งเป็นครึ่งหนึ่งของ Navi 48
    - ความเร็วสัญญาณนาฬิกา Game Clock อยู่ที่ 2620 MHz และ Boost Clock สูงสุด 3230 MHz
    - รุ่นที่โอเวอร์คล็อกอาจสามารถเพิ่มความเร็วได้ถึง 3.3 GHz

    ✅ การเปรียบเทียบกับคู่แข่ง
    - คาดว่า RX 9060 XT จะถูกออกแบบมาเพื่อแข่งขันกับ NVIDIA GeForce RTX 5060 Ti
    - อาจมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ RTX 4070 Non-SUPER ในบางสถานการณ์

    ✅ ข้อกำหนดด้านพลังงาน
    - ต้องใช้ Power Supply ขั้นต่ำ 500W และอาจต้องใช้ 550W สำหรับรุ่นที่โอเวอร์คล็อก
    - ใช้ 8-pin power connectors เป็นมาตรฐาน

    ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม
    ℹ️ ผลกระทบต่อการตลาดของ AMD
    - หากราคาสูงเกินไป อาจทำให้ RX 9060 XT สูญเสียความได้เปรียบด้านความคุ้มค่า
    - ต้องจับตาว่า AMD จะตั้งราคาที่แข่งขันได้หรือไม่

    ℹ️ ความท้าทายด้านการผลิต
    - การใช้ชิป Navi 44 XT อาจหมายถึงการนำชิปที่มีข้อบกพร่องจาก RX 9070 มาใช้ใหม่
    - ต้องดูว่า AMD จะสามารถรักษาคุณภาพและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ได้ดีแค่ไหน

    ℹ️ แนวโน้มของตลาด GPU ในปี 2025
    - NVIDIA และ AMD ต่างกำลังแข่งขันกันในตลาดกราฟิกการ์ดระดับกลาง
    - อาจมีการเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ เช่น FSR 4 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกม

    https://www.techpowerup.com/335455/amd-radeon-rx-9060-xt-reportedly-capable-of-boosting-up-to-3-3-ghz-new-leak-suggests-navi-44-xt-gpu
    AMD กำลังเตรียมเปิดตัว Radeon RX 9060 XT ซึ่งเป็นกราฟิกการ์ดรุ่นใหม่ที่ใช้สถาปัตยกรรม RDNA 4 โดยมีข่าวลือว่าการ์ดรุ่นนี้สามารถ เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกาได้สูงสุดถึง 3.3 GHz และอาจเปิดตัวในงาน Computex 2025 ✅ สเปคและประสิทธิภาพของ RX 9060 XT - ใช้ชิป Navi 44 XT ซึ่งเป็นรุ่นลดสเปคจาก Navi 48 - มี 2048 Stream Processors ซึ่งเป็นครึ่งหนึ่งของ Navi 48 - ความเร็วสัญญาณนาฬิกา Game Clock อยู่ที่ 2620 MHz และ Boost Clock สูงสุด 3230 MHz - รุ่นที่โอเวอร์คล็อกอาจสามารถเพิ่มความเร็วได้ถึง 3.3 GHz ✅ การเปรียบเทียบกับคู่แข่ง - คาดว่า RX 9060 XT จะถูกออกแบบมาเพื่อแข่งขันกับ NVIDIA GeForce RTX 5060 Ti - อาจมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ RTX 4070 Non-SUPER ในบางสถานการณ์ ✅ ข้อกำหนดด้านพลังงาน - ต้องใช้ Power Supply ขั้นต่ำ 500W และอาจต้องใช้ 550W สำหรับรุ่นที่โอเวอร์คล็อก - ใช้ 8-pin power connectors เป็นมาตรฐาน ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม ℹ️ ผลกระทบต่อการตลาดของ AMD - หากราคาสูงเกินไป อาจทำให้ RX 9060 XT สูญเสียความได้เปรียบด้านความคุ้มค่า - ต้องจับตาว่า AMD จะตั้งราคาที่แข่งขันได้หรือไม่ ℹ️ ความท้าทายด้านการผลิต - การใช้ชิป Navi 44 XT อาจหมายถึงการนำชิปที่มีข้อบกพร่องจาก RX 9070 มาใช้ใหม่ - ต้องดูว่า AMD จะสามารถรักษาคุณภาพและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ได้ดีแค่ไหน ℹ️ แนวโน้มของตลาด GPU ในปี 2025 - NVIDIA และ AMD ต่างกำลังแข่งขันกันในตลาดกราฟิกการ์ดระดับกลาง - อาจมีการเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ เช่น FSR 4 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกม https://www.techpowerup.com/335455/amd-radeon-rx-9060-xt-reportedly-capable-of-boosting-up-to-3-3-ghz-new-leak-suggests-navi-44-xt-gpu
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    AMD Radeon RX 9060 XT Reportedly Capable of Boosting Up To 3.3 GHz, New Leak Suggests "Navi 44 XT" GPU
    AMD has not publicly announced its Radeon RX 9060 XT 16 GB and 8 GB graphics cards, but board partners have inadvertently "revealed" the existence of forthcoming custom designs. Team Red's RDNA 4 kick-off events did tease a second quarter launch of a Radeon RX 9060 Series cards, but have remained co...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 117 มุมมอง 0 รีวิว
  • AMD ได้เปิดตัว EPYC 'Venice' ซึ่งเป็น ชิป 2nm ตัวแรกของอุตสาหกรรม HPC โดยใช้กระบวนการผลิต TSMC N2 นอกจากนี้ AMD ยังประกาศว่าชิป EPYC รุ่นปัจจุบันบางส่วนจะถูกผลิตในสหรัฐฯ ที่โรงงาน TSMC Fab 21 ในรัฐแอริโซนา

    ✅ EPYC 'Venice': ชิป 2nm ตัวแรกของอุตสาหกรรม HPC
    - ใช้สถาปัตยกรรม Zen 6 และคาดว่าจะเปิดตัวในปี 2026
    - เป็นชิป HPC ตัวแรกที่ใช้ TSMC N2 ซึ่งเป็นกระบวนการผลิต 2nm-class
    - ผ่านการทดสอบเบื้องต้นแล้ว และสามารถเปิดใช้งานได้สำเร็จ

    ✅ เทคโนโลยี TSMC N2 และข้อดีของกระบวนการผลิต
    - ใช้ Gate-All-Around (GAA) nanosheet transistors ซึ่งช่วยลดการใช้พลังงานลง 24-35% หรือเพิ่มประสิทธิภาพขึ้น 15%
    - มีความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์เพิ่มขึ้น 1.15 เท่า เมื่อเทียบกับ N3 (3nm-class)

    ✅ การผลิตชิป EPYC ในสหรัฐฯ
    - AMD ประกาศว่าชิป EPYC รุ่นที่ 5 จะถูกผลิตที่ TSMC Fab 21 ในรัฐแอริโซนา
    - เป็นการกระจายการผลิตเพื่อเพิ่มความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทาน

    ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม
    ℹ️ ผลกระทบต่อการแข่งขันในตลาด HPC
    - Intel กำลังพัฒนา Xeon 'Clearwater Forest' บนกระบวนการ Intel 18A ซึ่งเป็นคู่แข่งโดยตรงของ EPYC 'Venice'
    - ต้องติดตามว่า AMD จะสามารถรักษาความเป็นผู้นำในตลาด HPC ได้หรือไม่

    ℹ️ ความท้าทายของกระบวนการผลิต 2nm
    - แม้ TSMC N2 จะมีข้อดีด้านประสิทธิภาพ แต่การผลิตชิปที่ขนาดเล็กลงอาจมีความท้าทายด้าน yield และต้นทุน
    - ต้องจับตาว่า AMD จะสามารถผลิตชิปในปริมาณมากได้ตามแผนหรือไม่

    ℹ️ แนวโน้มของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
    - การแข่งขันระหว่าง Intel, AMD และ TSMC อาจส่งผลต่อการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ
    - อาจมีการเปลี่ยนแปลงในห่วงโซ่อุปทาน หากสหรัฐฯ ผลักดันให้มีการผลิตชิปภายในประเทศมากขึ้น

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amds-first-2nm-chip-is-out-of-the-fab-epyc-venice-fabbed-on-tsmc-n2-node
    AMD ได้เปิดตัว EPYC 'Venice' ซึ่งเป็น ชิป 2nm ตัวแรกของอุตสาหกรรม HPC โดยใช้กระบวนการผลิต TSMC N2 นอกจากนี้ AMD ยังประกาศว่าชิป EPYC รุ่นปัจจุบันบางส่วนจะถูกผลิตในสหรัฐฯ ที่โรงงาน TSMC Fab 21 ในรัฐแอริโซนา ✅ EPYC 'Venice': ชิป 2nm ตัวแรกของอุตสาหกรรม HPC - ใช้สถาปัตยกรรม Zen 6 และคาดว่าจะเปิดตัวในปี 2026 - เป็นชิป HPC ตัวแรกที่ใช้ TSMC N2 ซึ่งเป็นกระบวนการผลิต 2nm-class - ผ่านการทดสอบเบื้องต้นแล้ว และสามารถเปิดใช้งานได้สำเร็จ ✅ เทคโนโลยี TSMC N2 และข้อดีของกระบวนการผลิต - ใช้ Gate-All-Around (GAA) nanosheet transistors ซึ่งช่วยลดการใช้พลังงานลง 24-35% หรือเพิ่มประสิทธิภาพขึ้น 15% - มีความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์เพิ่มขึ้น 1.15 เท่า เมื่อเทียบกับ N3 (3nm-class) ✅ การผลิตชิป EPYC ในสหรัฐฯ - AMD ประกาศว่าชิป EPYC รุ่นที่ 5 จะถูกผลิตที่ TSMC Fab 21 ในรัฐแอริโซนา - เป็นการกระจายการผลิตเพื่อเพิ่มความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทาน ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม ℹ️ ผลกระทบต่อการแข่งขันในตลาด HPC - Intel กำลังพัฒนา Xeon 'Clearwater Forest' บนกระบวนการ Intel 18A ซึ่งเป็นคู่แข่งโดยตรงของ EPYC 'Venice' - ต้องติดตามว่า AMD จะสามารถรักษาความเป็นผู้นำในตลาด HPC ได้หรือไม่ ℹ️ ความท้าทายของกระบวนการผลิต 2nm - แม้ TSMC N2 จะมีข้อดีด้านประสิทธิภาพ แต่การผลิตชิปที่ขนาดเล็กลงอาจมีความท้าทายด้าน yield และต้นทุน - ต้องจับตาว่า AMD จะสามารถผลิตชิปในปริมาณมากได้ตามแผนหรือไม่ ℹ️ แนวโน้มของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ - การแข่งขันระหว่าง Intel, AMD และ TSMC อาจส่งผลต่อการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ - อาจมีการเปลี่ยนแปลงในห่วงโซ่อุปทาน หากสหรัฐฯ ผลักดันให้มีการผลิตชิปภายในประเทศมากขึ้น https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amds-first-2nm-chip-is-out-of-the-fab-epyc-venice-fabbed-on-tsmc-n2-node
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 96 มุมมอง 0 รีวิว
  • Apple Vision Pro ซึ่งเปิดตัวด้วยราคาสูงถึง $3,500 และน้ำหนัก 1.5 ปอนด์ (680 กรัม) ถูกวิจารณ์ว่าไม่สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้อย่างเต็มที่ Apple จึงตัดสินใจพัฒนารุ่นใหม่ที่มีน้ำหนักเบาและราคาถูกกว่า โดยคาดว่าจะเปิดตัวในปี 2027

    นอกจากนี้ Apple ยังพัฒนารุ่นที่สามารถเชื่อมต่อกับ Mac เพื่อใช้งานในระดับองค์กร เช่น การดูภาพในระหว่างการผ่าตัด หรือการใช้ในเครื่องจำลองการบิน โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างระบบที่มีความหน่วงต่ำมากสำหรับการสตรีมหน้าจอ Mac

    ในระยะยาว Apple มีเป้าหมายที่จะพัฒนาแว่นตา AR ที่สามารถสวมใส่ได้ตลอดทั้งวัน ซึ่งอาจมีลักษณะคล้ายกับแว่นตา Meta Ray-Ban แต่เพิ่มความสามารถของ Siri และ AI

    ✅ การพัฒนา Vision Pro รุ่นใหม่
    - Apple พัฒนารุ่นราคาถูกและน้ำหนักเบาเพื่อแก้ไขปัญหาของรุ่นปัจจุบัน
    - รุ่นราคาถูกคาดว่าจะเปิดตัวในปี 2027

    ✅ Vision Pro รุ่นเชื่อมต่อกับ Mac
    - สามารถเชื่อมต่อกับ Mac เพื่อใช้งานในระดับองค์กร
    - มีระบบที่มีความหน่วงต่ำสำหรับการสตรีมหน้าจอ Mac

    ✅ เป้าหมายระยะยาวของ Apple
    - พัฒนาแว่นตา AR ที่สามารถสวมใส่ได้ตลอดทั้งวัน
    - เพิ่มความสามารถของ Siri และ AI

    ℹ️ ความท้าทายในการพัฒนา
    - การลดน้ำหนักและราคาของ Vision Pro อาจต้องใช้ทรัพยากรและเวลา
    - การพัฒนาแว่นตา AR ที่สวมใส่ได้ตลอดทั้งวันอาจต้องเผชิญกับข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี

    ℹ️ ผลกระทบต่อคู่แข่งในตลาด
    - การพัฒนา Vision Pro รุ่นใหม่อาจเพิ่มแรงกดดันให้คู่แข่ง เช่น Meta และ LG
    - การแข่งขันในตลาด AR และ VR อาจเข้มข้นขึ้น

    https://www.neowin.net/news/apple-is-reportedly-developing-a-cheaper-vision-pro-and-a-new-mac-connected-version/
    Apple Vision Pro ซึ่งเปิดตัวด้วยราคาสูงถึง $3,500 และน้ำหนัก 1.5 ปอนด์ (680 กรัม) ถูกวิจารณ์ว่าไม่สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้อย่างเต็มที่ Apple จึงตัดสินใจพัฒนารุ่นใหม่ที่มีน้ำหนักเบาและราคาถูกกว่า โดยคาดว่าจะเปิดตัวในปี 2027 นอกจากนี้ Apple ยังพัฒนารุ่นที่สามารถเชื่อมต่อกับ Mac เพื่อใช้งานในระดับองค์กร เช่น การดูภาพในระหว่างการผ่าตัด หรือการใช้ในเครื่องจำลองการบิน โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างระบบที่มีความหน่วงต่ำมากสำหรับการสตรีมหน้าจอ Mac ในระยะยาว Apple มีเป้าหมายที่จะพัฒนาแว่นตา AR ที่สามารถสวมใส่ได้ตลอดทั้งวัน ซึ่งอาจมีลักษณะคล้ายกับแว่นตา Meta Ray-Ban แต่เพิ่มความสามารถของ Siri และ AI ✅ การพัฒนา Vision Pro รุ่นใหม่ - Apple พัฒนารุ่นราคาถูกและน้ำหนักเบาเพื่อแก้ไขปัญหาของรุ่นปัจจุบัน - รุ่นราคาถูกคาดว่าจะเปิดตัวในปี 2027 ✅ Vision Pro รุ่นเชื่อมต่อกับ Mac - สามารถเชื่อมต่อกับ Mac เพื่อใช้งานในระดับองค์กร - มีระบบที่มีความหน่วงต่ำสำหรับการสตรีมหน้าจอ Mac ✅ เป้าหมายระยะยาวของ Apple - พัฒนาแว่นตา AR ที่สามารถสวมใส่ได้ตลอดทั้งวัน - เพิ่มความสามารถของ Siri และ AI ℹ️ ความท้าทายในการพัฒนา - การลดน้ำหนักและราคาของ Vision Pro อาจต้องใช้ทรัพยากรและเวลา - การพัฒนาแว่นตา AR ที่สวมใส่ได้ตลอดทั้งวันอาจต้องเผชิญกับข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี ℹ️ ผลกระทบต่อคู่แข่งในตลาด - การพัฒนา Vision Pro รุ่นใหม่อาจเพิ่มแรงกดดันให้คู่แข่ง เช่น Meta และ LG - การแข่งขันในตลาด AR และ VR อาจเข้มข้นขึ้น https://www.neowin.net/news/apple-is-reportedly-developing-a-cheaper-vision-pro-and-a-new-mac-connected-version/
    WWW.NEOWIN.NET
    Apple is reportedly developing a cheaper Vision Pro and a new Mac-connected version
    The latest reports suggest that upcoming Vision Pro models aim to be cheaper and lighter while allowing you to connect the headset to a Mac device.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 85 มุมมอง 0 รีวิว
  • Canva ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่ชื่อว่า Canva AI Assistant ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างภาพ ก๊อบปี้ และไอเดียการออกแบบได้อย่างรวดเร็ว โดยมีการผสานรวมกับฟีเจอร์อื่นๆ เช่น Canva Code ที่ช่วยให้ผู้ใช้สร้างแอปขนาดเล็กแบบโต้ตอบ เช่น แผนที่และเครื่องคิดเลข โดยไม่ต้องมีความรู้ด้านการเขียนโค้ดลึกซึ้ง

    นอกจากนี้ Canva ยังเปิดตัว Canva Sheets ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ผสมผสานระหว่างแอปสเปรดชีตและแอปจัดการโครงการ โดยมีฟีเจอร์ AI อย่าง Magic Insights และ Magic Formulas ที่ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลและสร้างสูตรได้อย่างง่ายดาย

    การอัปเกรดครั้งนี้ยังรวมถึงฟีเจอร์ Magic Write สำหรับการเติมข้อความ และ Magic Resize ที่ช่วยปรับขนาดภาพให้เหมาะสมกับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ

    ✅ การเปิดตัว Canva Visual Suite 2.0
    - Canva เปิดตัว Visual Suite 2.0 ซึ่งเป็นการอัปเกรดครั้งใหญ่
    - รวมฟีเจอร์ใหม่ เช่น Canva AI Assistant, Canva Code และ Canva Sheets

    ✅ ฟีเจอร์ Canva AI Assistant
    - ช่วยสร้างภาพ ก๊อบปี้ และไอเดียการออกแบบ
    - ผสานรวมกับฟีเจอร์อื่นๆ เช่น Canva Code

    ✅ Canva Sheets และฟีเจอร์ AI
    - Canva Sheets ผสมผสานระหว่างแอปสเปรดชีตและแอปจัดการโครงการ
    - มีฟีเจอร์ AI อย่าง Magic Insights และ Magic Formulas

    ✅ ฟีเจอร์ Magic Write และ Magic Resize
    - Magic Write ช่วยเติมข้อความ
    - Magic Resize ช่วยปรับขนาดภาพสำหรับโซเชียลมีเดีย

    ℹ️ ความท้าทายในการใช้งาน AI
    - ผู้ใช้ที่ไม่มีประสบการณ์อาจต้องใช้เวลาในการเรียนรู้ฟีเจอร์ใหม่
    - การพึ่งพา AI มากเกินไปอาจลดความคิดสร้างสรรค์ของผู้ใช้

    ℹ️ ผลกระทบต่อคู่แข่งในตลาด
    - การอัปเกรดครั้งนี้อาจเพิ่มแรงกดดันให้คู่แข่ง เช่น Adobe ต้องปรับตัว
    - การแข่งขันที่รุนแรงอาจส่งผลต่อการพัฒนานวัตกรรมในระยะยาว

    https://www.techradar.com/pro/canva-launches-canva-ai-for-coding-photo-editing-and-spreadsheets
    Canva ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่ชื่อว่า Canva AI Assistant ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างภาพ ก๊อบปี้ และไอเดียการออกแบบได้อย่างรวดเร็ว โดยมีการผสานรวมกับฟีเจอร์อื่นๆ เช่น Canva Code ที่ช่วยให้ผู้ใช้สร้างแอปขนาดเล็กแบบโต้ตอบ เช่น แผนที่และเครื่องคิดเลข โดยไม่ต้องมีความรู้ด้านการเขียนโค้ดลึกซึ้ง นอกจากนี้ Canva ยังเปิดตัว Canva Sheets ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ผสมผสานระหว่างแอปสเปรดชีตและแอปจัดการโครงการ โดยมีฟีเจอร์ AI อย่าง Magic Insights และ Magic Formulas ที่ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลและสร้างสูตรได้อย่างง่ายดาย การอัปเกรดครั้งนี้ยังรวมถึงฟีเจอร์ Magic Write สำหรับการเติมข้อความ และ Magic Resize ที่ช่วยปรับขนาดภาพให้เหมาะสมกับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ ✅ การเปิดตัว Canva Visual Suite 2.0 - Canva เปิดตัว Visual Suite 2.0 ซึ่งเป็นการอัปเกรดครั้งใหญ่ - รวมฟีเจอร์ใหม่ เช่น Canva AI Assistant, Canva Code และ Canva Sheets ✅ ฟีเจอร์ Canva AI Assistant - ช่วยสร้างภาพ ก๊อบปี้ และไอเดียการออกแบบ - ผสานรวมกับฟีเจอร์อื่นๆ เช่น Canva Code ✅ Canva Sheets และฟีเจอร์ AI - Canva Sheets ผสมผสานระหว่างแอปสเปรดชีตและแอปจัดการโครงการ - มีฟีเจอร์ AI อย่าง Magic Insights และ Magic Formulas ✅ ฟีเจอร์ Magic Write และ Magic Resize - Magic Write ช่วยเติมข้อความ - Magic Resize ช่วยปรับขนาดภาพสำหรับโซเชียลมีเดีย ℹ️ ความท้าทายในการใช้งาน AI - ผู้ใช้ที่ไม่มีประสบการณ์อาจต้องใช้เวลาในการเรียนรู้ฟีเจอร์ใหม่ - การพึ่งพา AI มากเกินไปอาจลดความคิดสร้างสรรค์ของผู้ใช้ ℹ️ ผลกระทบต่อคู่แข่งในตลาด - การอัปเกรดครั้งนี้อาจเพิ่มแรงกดดันให้คู่แข่ง เช่น Adobe ต้องปรับตัว - การแข่งขันที่รุนแรงอาจส่งผลต่อการพัฒนานวัตกรรมในระยะยาว https://www.techradar.com/pro/canva-launches-canva-ai-for-coding-photo-editing-and-spreadsheets
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 79 มุมมอง 0 รีวิว
  • เสียงเริ่มต้นของ Windows 95 ซึ่งมีความยาวเพียง 6 วินาที ได้รับการออกแบบโดย Brian Eno นักดนตรีและโปรดิวเซอร์ชื่อดังในยุค 90 เสียงนี้ไม่ได้เป็นเพียงเสียงแจ้งเตือนว่าคอมพิวเตอร์พร้อมใช้งาน แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นยุคใหม่ของการใช้งานคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล

    Windows 95 เปิดตัวในปี 1995 และเป็นระบบปฏิบัติการที่เปลี่ยนแปลงวงการคอมพิวเตอร์ ด้วยการนำเสนอ Graphical User Interface (GUI) ที่ใช้งานง่าย ทำให้ผู้คนจำนวนมากสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้ง่ายขึ้น

    เสียงนี้ยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับการสร้าง โดย Eno ได้ออกแบบเสียงนี้บนคอมพิวเตอร์ Mac ซึ่งเป็นคู่แข่งของ Microsoft ในขณะนั้น

    ✅ การยกย่องเสียงเริ่มต้นของ Windows 95
    - เสียงนี้ได้รับการบันทึกใน National Recording Registry ของหอสมุดรัฐสภาสหรัฐฯ
    - เป็นการยกย่องความสำคัญทางวัฒนธรรมของเสียง

    ✅ การออกแบบเสียงโดย Brian Eno
    - เสียงนี้ถูกออกแบบโดย Brian Eno นักดนตรีชื่อดัง
    - ใช้คอมพิวเตอร์ Mac ในการสร้างเสียง

    ✅ ความสำคัญของ Windows 95
    - Windows 95 เปิดตัวในปี 1995 และเปลี่ยนแปลงวงการคอมพิวเตอร์
    - นำเสนอ GUI ที่ใช้งานง่าย ทำให้ผู้คนเข้าถึงเทคโนโลยีได้มากขึ้น

    ℹ️ ความท้าทายในการสร้างเสียง
    - การออกแบบเสียงที่มีความยาวเพียง 6 วินาทีต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์สูง
    - การใช้ Mac ในการสร้างเสียงอาจถูกมองว่าเป็นเรื่องขัดแย้ง

    ℹ️ ผลกระทบต่อวงการเทคโนโลยี
    - Windows 95 เป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงในวงการคอมพิวเตอร์
    - การบันทึกเสียงนี้ใน National Recording Registry ช่วยเน้นย้ำถึงความสำคัญของเทคโนโลยีในวัฒนธรรม

    https://www.tomshardware.com/software/windows/microsofts-windows-95-startup-sound-has-been-immortalized-in-the-library-of-congress
    เสียงเริ่มต้นของ Windows 95 ซึ่งมีความยาวเพียง 6 วินาที ได้รับการออกแบบโดย Brian Eno นักดนตรีและโปรดิวเซอร์ชื่อดังในยุค 90 เสียงนี้ไม่ได้เป็นเพียงเสียงแจ้งเตือนว่าคอมพิวเตอร์พร้อมใช้งาน แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นยุคใหม่ของการใช้งานคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล Windows 95 เปิดตัวในปี 1995 และเป็นระบบปฏิบัติการที่เปลี่ยนแปลงวงการคอมพิวเตอร์ ด้วยการนำเสนอ Graphical User Interface (GUI) ที่ใช้งานง่าย ทำให้ผู้คนจำนวนมากสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้ง่ายขึ้น เสียงนี้ยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับการสร้าง โดย Eno ได้ออกแบบเสียงนี้บนคอมพิวเตอร์ Mac ซึ่งเป็นคู่แข่งของ Microsoft ในขณะนั้น ✅ การยกย่องเสียงเริ่มต้นของ Windows 95 - เสียงนี้ได้รับการบันทึกใน National Recording Registry ของหอสมุดรัฐสภาสหรัฐฯ - เป็นการยกย่องความสำคัญทางวัฒนธรรมของเสียง ✅ การออกแบบเสียงโดย Brian Eno - เสียงนี้ถูกออกแบบโดย Brian Eno นักดนตรีชื่อดัง - ใช้คอมพิวเตอร์ Mac ในการสร้างเสียง ✅ ความสำคัญของ Windows 95 - Windows 95 เปิดตัวในปี 1995 และเปลี่ยนแปลงวงการคอมพิวเตอร์ - นำเสนอ GUI ที่ใช้งานง่าย ทำให้ผู้คนเข้าถึงเทคโนโลยีได้มากขึ้น ℹ️ ความท้าทายในการสร้างเสียง - การออกแบบเสียงที่มีความยาวเพียง 6 วินาทีต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์สูง - การใช้ Mac ในการสร้างเสียงอาจถูกมองว่าเป็นเรื่องขัดแย้ง ℹ️ ผลกระทบต่อวงการเทคโนโลยี - Windows 95 เป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงในวงการคอมพิวเตอร์ - การบันทึกเสียงนี้ใน National Recording Registry ช่วยเน้นย้ำถึงความสำคัญของเทคโนโลยีในวัฒนธรรม https://www.tomshardware.com/software/windows/microsofts-windows-95-startup-sound-has-been-immortalized-in-the-library-of-congress
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Microsoft's Windows 95 startup sound has been immortalized in the Library of Congress
    The National Recording Registry has officially added the Windows 95 startup sound.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 82 มุมมอง 0 รีวิว
  • Pavel Prass หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง Yandex กำลังเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท VK ซึ่งเป็นคู่แข่งในตลาดเทคโนโลยีของรัสเซีย โดยการเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงการรวมตัวในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของรัสเซีย

    ✅ การเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน VK:
    - Pavel Prass กำลังเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน VK ผ่านบริษัทที่เขามีหุ้นส่วนน้อย
    - VK กำลังออกหุ้นเพิ่มทุนเพื่อระดมเงิน 115 พันล้านรูเบิล (ประมาณ 1.37 พันล้านดอลลาร์) เพื่อลดภาระหนี้

    ✅ การเปลี่ยนแปลงใน Yandex:
    - ในเดือนกรกฎาคม 2024 Yandex ได้ขายสินทรัพย์ในรัสเซียให้กับกลุ่มนักลงทุนรัสเซีย ซึ่งรวมถึง Prass และบริษัทอื่นๆ
    - การขายนี้ช่วยลดการถือครองของต่างชาติใน Yandex และเพิ่มการควบคุมของรัฐบาลรัสเซีย

    ✅ สถานการณ์ทางการเงินของ VK:
    - VK รายงานผลขาดทุนสุทธิกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 และกำลังพยายามปรับโครงสร้างทางการเงิน

    ✅ การออกหุ้นเพิ่มทุน:
    - VK วางแผนออกหุ้นเพิ่มทุน 354 ล้านหุ้นในราคา 324.9 รูเบิลต่อหุ้น โดยผู้ซื้อจะถือครอง 61% ของทุนที่เพิ่มขึ้น

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/11/yandex-co-owner-to-increase-stake-in-rival-russian-tech-firm-vk
    Pavel Prass หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง Yandex กำลังเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท VK ซึ่งเป็นคู่แข่งในตลาดเทคโนโลยีของรัสเซีย โดยการเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงการรวมตัวในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของรัสเซีย ✅ การเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน VK: - Pavel Prass กำลังเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน VK ผ่านบริษัทที่เขามีหุ้นส่วนน้อย - VK กำลังออกหุ้นเพิ่มทุนเพื่อระดมเงิน 115 พันล้านรูเบิล (ประมาณ 1.37 พันล้านดอลลาร์) เพื่อลดภาระหนี้ ✅ การเปลี่ยนแปลงใน Yandex: - ในเดือนกรกฎาคม 2024 Yandex ได้ขายสินทรัพย์ในรัสเซียให้กับกลุ่มนักลงทุนรัสเซีย ซึ่งรวมถึง Prass และบริษัทอื่นๆ - การขายนี้ช่วยลดการถือครองของต่างชาติใน Yandex และเพิ่มการควบคุมของรัฐบาลรัสเซีย ✅ สถานการณ์ทางการเงินของ VK: - VK รายงานผลขาดทุนสุทธิกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 และกำลังพยายามปรับโครงสร้างทางการเงิน ✅ การออกหุ้นเพิ่มทุน: - VK วางแผนออกหุ้นเพิ่มทุน 354 ล้านหุ้นในราคา 324.9 รูเบิลต่อหุ้น โดยผู้ซื้อจะถือครอง 61% ของทุนที่เพิ่มขึ้น https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/11/yandex-co-owner-to-increase-stake-in-rival-russian-tech-firm-vk
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Yandex co-owner to increase stake in rival Russian tech firm VK
    (Reuters) - One of the co-owners of Russian tech company Yandex, Pavel Prass, is set to increase his stake in Yandex rival VK through another company he has a minority stake in, a VK statement published on Friday showed.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 75 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google Docs ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า Audio Overviews ซึ่งใช้ AI เพื่อช่วยผู้ใช้งานในการตรวจสอบและปรับปรุงเอกสาร โดยฟีเจอร์นี้สามารถอ่านเอกสารออกเสียงหรือสรุปเนื้อหาในรูปแบบคล้ายพอดแคสต์

    ✅ การทำงานของ Audio Overviews:
    - ฟีเจอร์นี้สามารถอ่านเอกสารออกเสียงเพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานตรวจสอบคำผิดหรือประโยคที่ไม่ลื่นไหล
    - มีตัวเลือกในการสรุปเนื้อหาในรูปแบบพอดแคสต์สำหรับเอกสารที่มีความยาว

    ✅ การผสานรวมกับ NotebookLM:
    - Audio Overviews ใช้โมเดล AI จาก NotebookLM ซึ่งมีเสียงที่ฟังดูเป็นธรรมชาติและใกล้เคียงกับเสียงมนุษย์

    ✅ ประโยชน์ด้านการเข้าถึง:
    - ฟีเจอร์นี้ช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ที่มีปัญหาด้านการมองเห็นหรือการอ่าน
    - ผู้ใช้งานสามารถฟังเอกสารขณะทำกิจกรรมอื่น เช่น ขับรถหรือทำงานบ้าน

    ✅ การเปรียบเทียบกับคู่แข่ง:
    - Google Docs กำลังแข่งขันกับ Microsoft และ Apple ที่พัฒนา AI สำหรับโปรแกรมประมวลผลคำเช่นกัน

    https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/google-docs-new-ai-voice-will-help-you-catch-mistakes
    Google Docs ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า Audio Overviews ซึ่งใช้ AI เพื่อช่วยผู้ใช้งานในการตรวจสอบและปรับปรุงเอกสาร โดยฟีเจอร์นี้สามารถอ่านเอกสารออกเสียงหรือสรุปเนื้อหาในรูปแบบคล้ายพอดแคสต์ ✅ การทำงานของ Audio Overviews: - ฟีเจอร์นี้สามารถอ่านเอกสารออกเสียงเพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานตรวจสอบคำผิดหรือประโยคที่ไม่ลื่นไหล - มีตัวเลือกในการสรุปเนื้อหาในรูปแบบพอดแคสต์สำหรับเอกสารที่มีความยาว ✅ การผสานรวมกับ NotebookLM: - Audio Overviews ใช้โมเดล AI จาก NotebookLM ซึ่งมีเสียงที่ฟังดูเป็นธรรมชาติและใกล้เคียงกับเสียงมนุษย์ ✅ ประโยชน์ด้านการเข้าถึง: - ฟีเจอร์นี้ช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ที่มีปัญหาด้านการมองเห็นหรือการอ่าน - ผู้ใช้งานสามารถฟังเอกสารขณะทำกิจกรรมอื่น เช่น ขับรถหรือทำงานบ้าน ✅ การเปรียบเทียบกับคู่แข่ง: - Google Docs กำลังแข่งขันกับ Microsoft และ Apple ที่พัฒนา AI สำหรับโปรแกรมประมวลผลคำเช่นกัน https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/google-docs-new-ai-voice-will-help-you-catch-mistakes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 125 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel CEO Lip-Bu Tan กำลังเผชิญกับข้อกังวลเกี่ยวกับการลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีจีนกว่า 600 แห่ง ซึ่งบางแห่งมีความเชื่อมโยงกับกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (PLA) และบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการผลิตชิป เช่น SMIC ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิปชั้นนำของจีน

    ✅ การลงทุนในบริษัทจีน:
    - Lip-Bu Tan มีการลงทุนในบริษัทจีนกว่า 600 แห่งผ่านบริษัท Walden International และบริษัทในฮ่องกง เช่น Sakarya Limited และ Seine Limited
    - บริษัทที่ลงทุนบางแห่งมีความเชื่อมโยงกับ PLA และรัฐบาลจีน เช่น Dapu Technologies และ HAI Robotics

    ✅ ความกังวลด้านความมั่นคง:
    - การลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับ PLA และการผลิตชิปสำหรับกองทัพรัสเซียสร้างความกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงของสหรัฐฯ
    - การถือหุ้นใน SMIC ซึ่งเป็นคู่แข่งของ Intel ในการผลิตชิป อาจสร้างความขัดแย้งในบทบาทของ Tan

    ✅ การตอบสนองของ Intel:
    - Intel ระบุว่า Tan ได้กรอกแบบฟอร์มการเปิดเผยข้อมูลตามข้อกำหนดของ SEC แต่ไม่ได้ให้ความคิดเห็นโดยตรงเกี่ยวกับการลงทุน

    ✅ ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ:
    - ผู้เชี่ยวชาญบางคนมองว่าประสบการณ์ของ Tan ในการลงทุนในจีนเป็นข้อได้เปรียบ ในขณะที่บางคนมองว่าเป็นความเสี่ยงต่อความมั่นคงของ Intel

    == ข้อเสนอแนะและคำเตือน ==
    ⚠️ ความเสี่ยงด้านภาพลักษณ์:
    - การลงทุนในบริษัทที่มีความเชื่อมโยงกับ PLA อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของ Intel ในสายตาสาธารณชน

    ⚠️ การตรวจสอบความโปร่งใส:
    - Intel ควรเพิ่มความโปร่งใสในการจัดการข้อกังวลเกี่ยวกับการลงทุนของ CEO เพื่อรักษาความเชื่อมั่นจากนักลงทุน

    ⚠️ การพิจารณาด้านจริยธรรม:
    - การลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการผลิตชิปสำหรับกองทัพรัสเซียอาจสร้างคำถามด้านจริยธรรมที่ Intel ต้องพิจารณา

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intel-ceo-lip-bu-tan-has-invested-in-600-chinese-firms-some-linked-to-the-chinese-military
    Intel CEO Lip-Bu Tan กำลังเผชิญกับข้อกังวลเกี่ยวกับการลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีจีนกว่า 600 แห่ง ซึ่งบางแห่งมีความเชื่อมโยงกับกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (PLA) และบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการผลิตชิป เช่น SMIC ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิปชั้นนำของจีน ✅ การลงทุนในบริษัทจีน: - Lip-Bu Tan มีการลงทุนในบริษัทจีนกว่า 600 แห่งผ่านบริษัท Walden International และบริษัทในฮ่องกง เช่น Sakarya Limited และ Seine Limited - บริษัทที่ลงทุนบางแห่งมีความเชื่อมโยงกับ PLA และรัฐบาลจีน เช่น Dapu Technologies และ HAI Robotics ✅ ความกังวลด้านความมั่นคง: - การลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับ PLA และการผลิตชิปสำหรับกองทัพรัสเซียสร้างความกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงของสหรัฐฯ - การถือหุ้นใน SMIC ซึ่งเป็นคู่แข่งของ Intel ในการผลิตชิป อาจสร้างความขัดแย้งในบทบาทของ Tan ✅ การตอบสนองของ Intel: - Intel ระบุว่า Tan ได้กรอกแบบฟอร์มการเปิดเผยข้อมูลตามข้อกำหนดของ SEC แต่ไม่ได้ให้ความคิดเห็นโดยตรงเกี่ยวกับการลงทุน ✅ ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ: - ผู้เชี่ยวชาญบางคนมองว่าประสบการณ์ของ Tan ในการลงทุนในจีนเป็นข้อได้เปรียบ ในขณะที่บางคนมองว่าเป็นความเสี่ยงต่อความมั่นคงของ Intel == ข้อเสนอแนะและคำเตือน == ⚠️ ความเสี่ยงด้านภาพลักษณ์: - การลงทุนในบริษัทที่มีความเชื่อมโยงกับ PLA อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของ Intel ในสายตาสาธารณชน ⚠️ การตรวจสอบความโปร่งใส: - Intel ควรเพิ่มความโปร่งใสในการจัดการข้อกังวลเกี่ยวกับการลงทุนของ CEO เพื่อรักษาความเชื่อมั่นจากนักลงทุน ⚠️ การพิจารณาด้านจริยธรรม: - การลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการผลิตชิปสำหรับกองทัพรัสเซียอาจสร้างคำถามด้านจริยธรรมที่ Intel ต้องพิจารณา https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intel-ceo-lip-bu-tan-has-invested-in-600-chinese-firms-some-linked-to-the-chinese-military
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Intel CEO Lip-Bu Tan has invested in 600 Chinese firms, some linked to the Chinese military
    Some believe it makes Lip-Bu Tan an experienced investor, others think it is unacceptable for an Intel CEO.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 129 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google DeepMind ถูกกล่าวหาว่าใช้ข้อจำกัดไม่แข่งขันและสัญญาที่บังคับให้พนักงานต้องหยุดทำงานด้าน AI เป็นเวลานาน เพื่อป้องกันการย้ายงานไปยังคู่แข่ง แม้ว่า Google จะอ้างว่าสัญญาดังกล่าวเป็นมาตรฐาน แต่ถูกวิจารณ์ว่าเป็นการใช้อำนาจในทางที่ผิด สถานการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความร้อนแรงของการแข่งขันในวงการ AI

    ✅ ล็อกทีมงานด้วยเงื่อนไขของสัญญาจ้าง:
    - ตามคำกล่าวของอดีตทีมงาน Google DeepMind อย่าง Nando de Freitas ผู้พัฒนา AI หลายคนต้องเผชิญกับสัญญาที่กำหนดระยะเวลาการบอกล่วงหน้ายาวนานหรือข้อจำกัดที่ห้ามย้ายงานไปยังคู่แข่ง
    - สิ่งนี้ถูกวิจารณ์ว่าอาจทำให้พนักงาน หมดโอกาสในการทำงานด้าน AI ในช่วงเวลาที่เทคโนโลยีกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

    ✅ ผลกระทบต่อพนักงาน:
    - พนักงานบางคนถึงกับติดต่อ Freitas เพื่อขอคำแนะนำในการหลบหลีกข้อกำหนดเหล่านี้ รวมถึงมองหางานใหม่เพราะการเลื่อนตำแหน่งถูกเชื่อมโยงกับการปฏิบัติตามเงื่อนไขเหล่านี้

    ✅ วิธีการรักษาผลประโยชน์ของ Google:
    - Google อ้างว่าสัญญาที่ใช้นั้นเป็นไปตาม มาตรฐานตลาด และการใช้ข้อจำกัดไม่แข่งขันเป็นไปเพื่อปกป้องงานวิจัยและข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/google-accused-of-paying-employees-to-do-nothing-for-up-to-a-year-to-stifle-ai-talent-migration
    Google DeepMind ถูกกล่าวหาว่าใช้ข้อจำกัดไม่แข่งขันและสัญญาที่บังคับให้พนักงานต้องหยุดทำงานด้าน AI เป็นเวลานาน เพื่อป้องกันการย้ายงานไปยังคู่แข่ง แม้ว่า Google จะอ้างว่าสัญญาดังกล่าวเป็นมาตรฐาน แต่ถูกวิจารณ์ว่าเป็นการใช้อำนาจในทางที่ผิด สถานการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความร้อนแรงของการแข่งขันในวงการ AI ✅ ล็อกทีมงานด้วยเงื่อนไขของสัญญาจ้าง: - ตามคำกล่าวของอดีตทีมงาน Google DeepMind อย่าง Nando de Freitas ผู้พัฒนา AI หลายคนต้องเผชิญกับสัญญาที่กำหนดระยะเวลาการบอกล่วงหน้ายาวนานหรือข้อจำกัดที่ห้ามย้ายงานไปยังคู่แข่ง - สิ่งนี้ถูกวิจารณ์ว่าอาจทำให้พนักงาน หมดโอกาสในการทำงานด้าน AI ในช่วงเวลาที่เทคโนโลยีกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ✅ ผลกระทบต่อพนักงาน: - พนักงานบางคนถึงกับติดต่อ Freitas เพื่อขอคำแนะนำในการหลบหลีกข้อกำหนดเหล่านี้ รวมถึงมองหางานใหม่เพราะการเลื่อนตำแหน่งถูกเชื่อมโยงกับการปฏิบัติตามเงื่อนไขเหล่านี้ ✅ วิธีการรักษาผลประโยชน์ของ Google: - Google อ้างว่าสัญญาที่ใช้นั้นเป็นไปตาม มาตรฐานตลาด และการใช้ข้อจำกัดไม่แข่งขันเป็นไปเพื่อปกป้องงานวิจัยและข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อน https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/google-accused-of-paying-employees-to-do-nothing-for-up-to-a-year-to-stifle-ai-talent-migration
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Google accused of paying employees to do nothing for up to a year to stifle AI talent migration
    Aggressive noncompete clauses and extended notice periods cause ‘despair’ among employees.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 122 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google เปิดตัว Gemini 2.5 Pro ซึ่งขับเคลื่อนฟีเจอร์ Deep Research ช่วยผู้ใช้งานสร้างรายงานที่ครบถ้วนและวิเคราะห์ข้อมูลจากแหล่งข้อมูลจำนวนมาก ด้วยคุณภาพที่เหนือกว่าคู่แข่ง ฟีเจอร์นี้ช่วยให้การวิจัยข้อมูลที่ซับซ้อนเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสำหรับผู้ใช้งานทั่วโลก

    ✅ ความสามารถในการวิเคราะห์ขั้นสูง Deep Research สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจากเว็บไซต์หลายร้อยแห่งพร้อมกัน และสร้างรายงานที่อ้างอิงจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ นอกจากนี้ยังเปลี่ยนรายงานเป็นบทสนทนาแบบ Podcast-style เพื่อเพิ่มความสะดวกในการนำเสนอ

    ✅ คุณภาพที่เหนือกว่าคู่แข่ง Google ระบุว่ารายงานที่สร้างจาก Gemini 2.5 Pro ได้รับการยอมรับจากผู้ใช้งานและผู้ประเมินว่ามีคุณภาพดีกว่ารายงานจาก OpenAI ถึง 2 ต่อ 1 โดยเน้นการวิเคราะห์ที่มีเหตุผลและข้อมูลที่เป็นเชิงลึก

    ✅ การใช้งานที่หลากหลาย ผู้ใช้งานสามารถใช้ Deep Research ผ่านเวอร์ชัน Gemini Advanced บนเว็บ, Android หรือ iOS และเลือกโมเดล Gemini 2.5 Pro (Experimental) ในเมนู

    Deep Research ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานที่ต้องวิจัยข้อมูลที่ซับซ้อน เช่น การรายงานสำหรับธุรกิจหรือการศึกษา โดยยังมีเวอร์ชัน Gemini 2.0 Flash ให้ทดลองใช้งานฟรีใน 150 ประเทศทั่วโลก

    https://www.neowin.net/news/google-launches-gemini-25-pro-powered-deep-research-outperforming-chatgpt-deep-research/
    Google เปิดตัว Gemini 2.5 Pro ซึ่งขับเคลื่อนฟีเจอร์ Deep Research ช่วยผู้ใช้งานสร้างรายงานที่ครบถ้วนและวิเคราะห์ข้อมูลจากแหล่งข้อมูลจำนวนมาก ด้วยคุณภาพที่เหนือกว่าคู่แข่ง ฟีเจอร์นี้ช่วยให้การวิจัยข้อมูลที่ซับซ้อนเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสำหรับผู้ใช้งานทั่วโลก ✅ ความสามารถในการวิเคราะห์ขั้นสูง Deep Research สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจากเว็บไซต์หลายร้อยแห่งพร้อมกัน และสร้างรายงานที่อ้างอิงจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ นอกจากนี้ยังเปลี่ยนรายงานเป็นบทสนทนาแบบ Podcast-style เพื่อเพิ่มความสะดวกในการนำเสนอ ✅ คุณภาพที่เหนือกว่าคู่แข่ง Google ระบุว่ารายงานที่สร้างจาก Gemini 2.5 Pro ได้รับการยอมรับจากผู้ใช้งานและผู้ประเมินว่ามีคุณภาพดีกว่ารายงานจาก OpenAI ถึง 2 ต่อ 1 โดยเน้นการวิเคราะห์ที่มีเหตุผลและข้อมูลที่เป็นเชิงลึก ✅ การใช้งานที่หลากหลาย ผู้ใช้งานสามารถใช้ Deep Research ผ่านเวอร์ชัน Gemini Advanced บนเว็บ, Android หรือ iOS และเลือกโมเดล Gemini 2.5 Pro (Experimental) ในเมนู Deep Research ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานที่ต้องวิจัยข้อมูลที่ซับซ้อน เช่น การรายงานสำหรับธุรกิจหรือการศึกษา โดยยังมีเวอร์ชัน Gemini 2.0 Flash ให้ทดลองใช้งานฟรีใน 150 ประเทศทั่วโลก https://www.neowin.net/news/google-launches-gemini-25-pro-powered-deep-research-outperforming-chatgpt-deep-research/
    WWW.NEOWIN.NET
    Google launches Gemini 2.5 Pro-powered Deep Research, outperforming ChatGPT Deep Research
    Google has updated its Deep Research feature in Gemini Advanced, now powering it with the new Gemini 2.5 Pro Experimental model.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 143 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลถึงเวลา แก้เกมสหรัฐ ก่อนจีดีพีไทยวูบ
    .
    ยิ่งนานวันเริ่มมีกระแสกดดันมายังรัฐบาลไทยอย่างต่อเนื่อง ภายหลังผู้นำสหรัฐอเมริกาเล่นเกมแรงด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าประเทศไทยถึง 36% ล่าสุด นายยรรยง ไทยเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานวิจัยเศรษฐกิจและความยั่งยืน ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (SCB EIC) แสดงความคิดเห็นว่า ไทยจะได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและอ้อม สำหรับผลกระทบทางตรง คือ การส่งออกไทยอาจจะลดลงเนื่องสหรัฐฯ หันไปนำเข้าจากประเทศคู่แข่งที่ขายราคาถูกและมีภาษีนำเข้าต่ำกว่าไทย และสหรัฐฯ อาจลดนำเข้าจากทุประเทศ เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐก็ได้รับผลกระทบจากนโยบายนี้ด้วย ทั้งนี้ไทยพึ่งสหรัฐฯ สูงถึง 18% โดยสินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ คอมพิวเตอร์ ผลิตภัณฑ์ยาง โทรศัพท์

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000033299

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    รัฐบาลถึงเวลา แก้เกมสหรัฐ ก่อนจีดีพีไทยวูบ . ยิ่งนานวันเริ่มมีกระแสกดดันมายังรัฐบาลไทยอย่างต่อเนื่อง ภายหลังผู้นำสหรัฐอเมริกาเล่นเกมแรงด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าประเทศไทยถึง 36% ล่าสุด นายยรรยง ไทยเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานวิจัยเศรษฐกิจและความยั่งยืน ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (SCB EIC) แสดงความคิดเห็นว่า ไทยจะได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและอ้อม สำหรับผลกระทบทางตรง คือ การส่งออกไทยอาจจะลดลงเนื่องสหรัฐฯ หันไปนำเข้าจากประเทศคู่แข่งที่ขายราคาถูกและมีภาษีนำเข้าต่ำกว่าไทย และสหรัฐฯ อาจลดนำเข้าจากทุประเทศ เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐก็ได้รับผลกระทบจากนโยบายนี้ด้วย ทั้งนี้ไทยพึ่งสหรัฐฯ สูงถึง 18% โดยสินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ คอมพิวเตอร์ ผลิตภัณฑ์ยาง โทรศัพท์ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000033299 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Yay
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 510 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลถึงเวลา แก้เกมสหรัฐ ก่อนจีดีพีไทยวูบ
    .
    ยิ่งนานวันเริ่มมีกระแสกดดันมายังรัฐบาลไทยอย่างต่อเนื่อง ภายหลังผู้นำสหรัฐอเมริกาเล่นเกมแรงด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าประเทศไทยถึง 36% ล่าสุด นายยรรยง ไทยเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานวิจัยเศรษฐกิจและความยั่งยืน ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (SCB EIC) แสดงความคิดเห็นว่า ไทยจะได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและอ้อม สำหรับผลกระทบทางตรง คือ การส่งออกไทยอาจจะลดลงเนื่องสหรัฐฯ หันไปนำเข้าจากประเทศคู่แข่งที่ขายราคาถูกและมีภาษีนำเข้าต่ำกว่าไทย และสหรัฐฯ อาจลดนำเข้าจากทุประเทศ เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐก็ได้รับผลกระทบจากนโยบายนี้ด้วย ทั้งนี้ไทยพึ่งสหรัฐฯ สูงถึง 18% โดยสินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ คอมพิวเตอร์ ผลิตภัณฑ์ยาง โทรศัพท์
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000033297

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    รัฐบาลถึงเวลา แก้เกมสหรัฐ ก่อนจีดีพีไทยวูบ . ยิ่งนานวันเริ่มมีกระแสกดดันมายังรัฐบาลไทยอย่างต่อเนื่อง ภายหลังผู้นำสหรัฐอเมริกาเล่นเกมแรงด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าประเทศไทยถึง 36% ล่าสุด นายยรรยง ไทยเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานวิจัยเศรษฐกิจและความยั่งยืน ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (SCB EIC) แสดงความคิดเห็นว่า ไทยจะได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและอ้อม สำหรับผลกระทบทางตรง คือ การส่งออกไทยอาจจะลดลงเนื่องสหรัฐฯ หันไปนำเข้าจากประเทศคู่แข่งที่ขายราคาถูกและมีภาษีนำเข้าต่ำกว่าไทย และสหรัฐฯ อาจลดนำเข้าจากทุประเทศ เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐก็ได้รับผลกระทบจากนโยบายนี้ด้วย ทั้งนี้ไทยพึ่งสหรัฐฯ สูงถึง 18% โดยสินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ คอมพิวเตอร์ ผลิตภัณฑ์ยาง โทรศัพท์ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000033297 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    Haha
    6
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1599 มุมมอง 0 รีวิว
  • ChatGPT กำลังเผชิญปัญหาในการให้บริการที่ไม่เสถียรเนื่องจากจำนวนผู้ใช้งานที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมถึงข้อจำกัดในฟีเจอร์ใหม่อย่าง Sora Video Generation แม้จะสะท้อนถึงความนิยมที่เพิ่มขึ้น แต่ผู้ใช้งานคาดหวังว่าการบริการจะตอบสนองได้ดีกว่านี้ในอนาคต

    ✅ ปัญหาการให้บริการที่ไม่เสถียร:
    - OpenAI รายงานว่าระบบ ChatGPT กำลังเจอการใช้งานอย่างหนัก ทำให้เกิดปัญหา Outages ซึ่งมักเกิดขึ้นในช่วงเช้า โดยเฉพาะในสัปดาห์ที่ผ่านมา

    ✅ ข้อจำกัดในฟีเจอร์ Sora Video Generation:
    - ผู้ใช้งานหลายคนที่สมัครสมาชิกระดับ Plus หรือแม้กระทั่งระดับ Pro ยังไม่สามารถใช้งานฟีเจอร์นี้ได้เนื่องจากมีการระงับใช้งานชั่วคราว

    ✅ การสื่อสารที่ไม่ชัดเจน:
    - แม้ว่าจะมีการแจ้งในหน้าช่วยเหลือของ OpenAI ว่าข้อจำกัดนี้เกิดจากการใช้งานที่ล้นหลาม แต่ข้อมูลในหน้าราคาไม่ได้ชี้แจงให้ชัดเจนจนสร้างความสับสนแก่ผู้ใช้งาน

    ✅ การเติบโตที่เหนือคาด:
    - COO ของ OpenAI ระบุว่าในสัปดาห์แรกของเดือน ผู้ใช้งานกว่า 130 ล้านคน ได้สร้าง 700 ล้านภาพ ผ่านฟีเจอร์ใหม่ ส่งผลให้มีการใช้งาน GPU อย่างหนัก

    ✅ คู่แข่งที่เริ่มดึงดูดความสนใจ:
    - Google Gemini และ Manus AI กำลังนำเสนอความสามารถใหม่ ๆ ที่มีศักยภาพสูง ซึ่งสร้างแรงกดดันให้ OpenAI เร่งพัฒนาการให้บริการที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้ดียิ่งขึ้น

    https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/chatgpt-subscribers-are-getting-frustrated-with-sora-restrictions-and-openai-outages-and-i-cant-blame-them
    ChatGPT กำลังเผชิญปัญหาในการให้บริการที่ไม่เสถียรเนื่องจากจำนวนผู้ใช้งานที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมถึงข้อจำกัดในฟีเจอร์ใหม่อย่าง Sora Video Generation แม้จะสะท้อนถึงความนิยมที่เพิ่มขึ้น แต่ผู้ใช้งานคาดหวังว่าการบริการจะตอบสนองได้ดีกว่านี้ในอนาคต ✅ ปัญหาการให้บริการที่ไม่เสถียร: - OpenAI รายงานว่าระบบ ChatGPT กำลังเจอการใช้งานอย่างหนัก ทำให้เกิดปัญหา Outages ซึ่งมักเกิดขึ้นในช่วงเช้า โดยเฉพาะในสัปดาห์ที่ผ่านมา ✅ ข้อจำกัดในฟีเจอร์ Sora Video Generation: - ผู้ใช้งานหลายคนที่สมัครสมาชิกระดับ Plus หรือแม้กระทั่งระดับ Pro ยังไม่สามารถใช้งานฟีเจอร์นี้ได้เนื่องจากมีการระงับใช้งานชั่วคราว ✅ การสื่อสารที่ไม่ชัดเจน: - แม้ว่าจะมีการแจ้งในหน้าช่วยเหลือของ OpenAI ว่าข้อจำกัดนี้เกิดจากการใช้งานที่ล้นหลาม แต่ข้อมูลในหน้าราคาไม่ได้ชี้แจงให้ชัดเจนจนสร้างความสับสนแก่ผู้ใช้งาน ✅ การเติบโตที่เหนือคาด: - COO ของ OpenAI ระบุว่าในสัปดาห์แรกของเดือน ผู้ใช้งานกว่า 130 ล้านคน ได้สร้าง 700 ล้านภาพ ผ่านฟีเจอร์ใหม่ ส่งผลให้มีการใช้งาน GPU อย่างหนัก ✅ คู่แข่งที่เริ่มดึงดูดความสนใจ: - Google Gemini และ Manus AI กำลังนำเสนอความสามารถใหม่ ๆ ที่มีศักยภาพสูง ซึ่งสร้างแรงกดดันให้ OpenAI เร่งพัฒนาการให้บริการที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้ดียิ่งขึ้น https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/chatgpt-subscribers-are-getting-frustrated-with-sora-restrictions-and-openai-outages-and-i-cant-blame-them
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 121 มุมมอง 0 รีวิว
  • กลุ่มสำนักพิมพ์ที่อยู่ภายใต้ News/Media Alliance ได้เปิดตัวแคมเปญชื่อ "Support Responsible AI" โดยเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ ออกนโยบายที่กำหนดให้บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จ่ายค่าตอบแทนแก่ผู้สร้างเนื้อหาที่ถูกนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์ AI ของพวกเขา แคมเปญนี้ชี้ว่าการดึงเนื้อหาเหล่านี้มาโดยไม่จ่ายค่าตอบแทนถือเป็นการ "ไม่ยุติธรรมและไม่ถูกต้อง"

    == จุดมุ่งหมายหลักของแคมเปญนี้ ==

    ✅ ขอค่าตอบแทนที่เหมาะสม
    - บริษัทเทคโนโลยีและ AI ควรจ่ายค่าตอบแทนให้แก่ผู้สร้างเนื้อหา ไม่ว่าจะเป็นนักข่าว ศิลปิน หรือผู้สร้างผลงานที่เนื้อหาเหล่านั้นถูกนำไปใช้ในการพัฒนาโมเดล AI

    ✅ สร้างความโปร่งใสในการใช้งาน AI
    - แคมเปญนี้เรียกร้องให้มีการกำหนดมาตรฐานที่ชัดเจนในการระบุแหล่งที่มาของข้อมูล และความโปร่งใสในเนื้อหาที่สร้างจาก AI

    ✅ ป้องกันการผูกขาดและการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม
    - เพื่อป้องกันไม่ให้บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ใช้อำนาจในตลาดที่เหนือกว่าเพื่อขัดขวางคู่แข่ง

    https://www.neowin.net/news/mainstream-media-calls-for-us-action-to-stop-ai-theft-by-companies-like-openai/
    กลุ่มสำนักพิมพ์ที่อยู่ภายใต้ News/Media Alliance ได้เปิดตัวแคมเปญชื่อ "Support Responsible AI" โดยเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ ออกนโยบายที่กำหนดให้บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จ่ายค่าตอบแทนแก่ผู้สร้างเนื้อหาที่ถูกนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์ AI ของพวกเขา แคมเปญนี้ชี้ว่าการดึงเนื้อหาเหล่านี้มาโดยไม่จ่ายค่าตอบแทนถือเป็นการ "ไม่ยุติธรรมและไม่ถูกต้อง" == จุดมุ่งหมายหลักของแคมเปญนี้ == ✅ ขอค่าตอบแทนที่เหมาะสม - บริษัทเทคโนโลยีและ AI ควรจ่ายค่าตอบแทนให้แก่ผู้สร้างเนื้อหา ไม่ว่าจะเป็นนักข่าว ศิลปิน หรือผู้สร้างผลงานที่เนื้อหาเหล่านั้นถูกนำไปใช้ในการพัฒนาโมเดล AI ✅ สร้างความโปร่งใสในการใช้งาน AI - แคมเปญนี้เรียกร้องให้มีการกำหนดมาตรฐานที่ชัดเจนในการระบุแหล่งที่มาของข้อมูล และความโปร่งใสในเนื้อหาที่สร้างจาก AI ✅ ป้องกันการผูกขาดและการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม - เพื่อป้องกันไม่ให้บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ใช้อำนาจในตลาดที่เหนือกว่าเพื่อขัดขวางคู่แข่ง https://www.neowin.net/news/mainstream-media-calls-for-us-action-to-stop-ai-theft-by-companies-like-openai/
    WWW.NEOWIN.NET
    Mainstream media calls for US action to stop "AI theft" by companies like OpenAI
    Prominent US publishers have started a campaign urging the government to prevent Big Tech from "stealing content from creators" to train AI.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 72 มุมมอง 0 รีวิว
  • หากคุณกำลังพิจารณาย้ายมาใช้ระบบปฏิบัติการ Linux การมีเครื่องมือที่เหมาะสมสามารถสร้างความแตกต่างอย่างมากต่อประสบการณ์การใช้งานของคุณ และนี่คือแอป FOSS (Free and Open Source Software) 10 อันดับแรกที่น่าสนใจ ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกและประสิทธิภาพการทำงานให้กับผู้ใช้ Linux ทุกระดับ

    == แอปที่น่าสนใจและจุดเด่นของแต่ละแอป ==
    1) Varia—ตัวช่วยดาวน์โหลดที่หลากหลาย
    - รองรับการดาวน์โหลดจาก YouTube, TikTok และเว็บไซต์ที่ต้องการการยืนยันตัวตน พร้อมฟีเจอร์การตั้งเวลาการดาวน์โหลด

    2) Micro—โปรแกรมแก้ไขไฟล์ใน Terminal ที่สมบูรณ์แบบ
    - เหมาะสำหรับการแก้ไขไฟล์ขนาดใหญ่ มีฟีเจอร์ครบครัน เช่น syntax highlighting และการรองรับเมาส์

    3) LocalSend—แชร์ไฟล์แบบปลอดภัยในเครือข่ายเดียวกัน
    - แอปข้ามแพลตฟอร์มที่ใช้ REST API เพื่อแชร์ไฟล์ระหว่างอุปกรณ์โดยไม่ต้องใช้อินเทอร์เน็ต

    4) mpv + uosc—เครื่องเล่นมีเดียที่ปรับแต่งได้สูง
    - รองรับไฟล์มีเดียเกือบทุกชนิด และสามารถเพิ่ม On-Screen Controller (uosc) เพื่อใช้งานสะดวกขึ้น

    5) FSearch—ทางเลือกสำหรับผู้ใช้ Linux ที่ต้องการการค้นหาไฟล์เร็วทันใจ
    - ค้นหาไฟล์อย่างรวดเร็วเหมือนแอป Everything บน Windows

    6) KDE Connect หรือ GSConnect—เครื่องมือเชื่อมต่ออุปกรณ์มือถือและคอมพิวเตอร์
    - ใช้แชร์คลิปบอร์ด การแจ้งเตือน และเปลี่ยนมือถือเป็นรีโมทได้

    7) Apostrophe—Markdown Editor สำหรับคนชอบความเรียบง่าย
    - มีโหมดตัดสิ่งรบกวน (Focus Mode) และรองรับการส่งออกเป็น PDF, Word และ HTML

    8) Switcheroo—แอปแปลงไฟล์ภาพ
    - รองรับการแปลงไฟล์ภาพเป็น JPEG, PNG, WebP และฟอร์แมตอื่น ๆ

    9) Newsflash—RSS Reader สุดล้ำ
    - ใช้ซิงค์ข้อมูลกับบริการ RSS ออนไลน์ เช่น Feedbin และ Inoreader

    10) LibreOffice—คู่แข่งที่สมบูรณ์แบบของ Office Suite เชิงพาณิชย์
    - ชุดโปรแกรมสำหรับจัดการเอกสารที่รองรับการใช้งานอย่างครอบคลุม

    https://www.neowin.net/guides/top-10-foss-apps-to-make-your-linux-experience-more-enjoyable/
    หากคุณกำลังพิจารณาย้ายมาใช้ระบบปฏิบัติการ Linux การมีเครื่องมือที่เหมาะสมสามารถสร้างความแตกต่างอย่างมากต่อประสบการณ์การใช้งานของคุณ และนี่คือแอป FOSS (Free and Open Source Software) 10 อันดับแรกที่น่าสนใจ ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกและประสิทธิภาพการทำงานให้กับผู้ใช้ Linux ทุกระดับ == แอปที่น่าสนใจและจุดเด่นของแต่ละแอป == 1) Varia—ตัวช่วยดาวน์โหลดที่หลากหลาย - รองรับการดาวน์โหลดจาก YouTube, TikTok และเว็บไซต์ที่ต้องการการยืนยันตัวตน พร้อมฟีเจอร์การตั้งเวลาการดาวน์โหลด 2) Micro—โปรแกรมแก้ไขไฟล์ใน Terminal ที่สมบูรณ์แบบ - เหมาะสำหรับการแก้ไขไฟล์ขนาดใหญ่ มีฟีเจอร์ครบครัน เช่น syntax highlighting และการรองรับเมาส์ 3) LocalSend—แชร์ไฟล์แบบปลอดภัยในเครือข่ายเดียวกัน - แอปข้ามแพลตฟอร์มที่ใช้ REST API เพื่อแชร์ไฟล์ระหว่างอุปกรณ์โดยไม่ต้องใช้อินเทอร์เน็ต 4) mpv + uosc—เครื่องเล่นมีเดียที่ปรับแต่งได้สูง - รองรับไฟล์มีเดียเกือบทุกชนิด และสามารถเพิ่ม On-Screen Controller (uosc) เพื่อใช้งานสะดวกขึ้น 5) FSearch—ทางเลือกสำหรับผู้ใช้ Linux ที่ต้องการการค้นหาไฟล์เร็วทันใจ - ค้นหาไฟล์อย่างรวดเร็วเหมือนแอป Everything บน Windows 6) KDE Connect หรือ GSConnect—เครื่องมือเชื่อมต่ออุปกรณ์มือถือและคอมพิวเตอร์ - ใช้แชร์คลิปบอร์ด การแจ้งเตือน และเปลี่ยนมือถือเป็นรีโมทได้ 7) Apostrophe—Markdown Editor สำหรับคนชอบความเรียบง่าย - มีโหมดตัดสิ่งรบกวน (Focus Mode) และรองรับการส่งออกเป็น PDF, Word และ HTML 8) Switcheroo—แอปแปลงไฟล์ภาพ - รองรับการแปลงไฟล์ภาพเป็น JPEG, PNG, WebP และฟอร์แมตอื่น ๆ 9) Newsflash—RSS Reader สุดล้ำ - ใช้ซิงค์ข้อมูลกับบริการ RSS ออนไลน์ เช่น Feedbin และ Inoreader 10) LibreOffice—คู่แข่งที่สมบูรณ์แบบของ Office Suite เชิงพาณิชย์ - ชุดโปรแกรมสำหรับจัดการเอกสารที่รองรับการใช้งานอย่างครอบคลุม https://www.neowin.net/guides/top-10-foss-apps-to-make-your-linux-experience-more-enjoyable/
    WWW.NEOWIN.NET
    Top 10 FOSS apps to make your Linux experience more enjoyable
    Microsoft's recent antics make it a great time to give Linux a shot. This guide highlights 10 FOSS apps to try when you make the switch.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 154 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft Corp ได้ประกาศแผนปรับปรุง Copilot ผู้ช่วยดิจิทัล AI โดยจะเปิดให้ผู้ใช้งานสามารถ ปรับแต่ง Copilot ให้สอดคล้องกับความชอบและความต้องการของพวกเขา เช่น การจดจำอาหารหรือภาพยนตร์ที่ชื่นชอบ และใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการสนทนาในอนาคต โดยฟีเจอร์ใหม่นี้จะเริ่มเปิดตัวในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

    ✅ ปรับแต่ง Copilot ให้เหมาะสมกับผู้ใช้งาน
    - ผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าให้ Copilot จำข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมที่เคยทำ เช่น การไปเที่ยวพักผ่อน ภาพยนตร์เรื่องโปรด หรือความชอบในอาหาร โดยสามารถเลือกเปิดปิดการจดจำข้อมูลตามความต้องการ

    ✅ AI ในแบบของคุณเอง:
    - ฟีเจอร์การปรับแต่งนี้คล้ายคลึงกับสิ่งที่คู่แข่งอย่าง Google และ OpenAI เสนอ โดย Google Gemini อ้างอิงประวัติการค้นหา และ Alexa+ จาก Amazon เชื่อมโยงกับประวัติการซื้อสินค้าและการสตรีมวิดีโอ

    ✅ ประสบการณ์ที่เหนือกว่าการสนทนาในระยะสั้น:
    - Mustafa Suleyman หัวหน้าทีม AI ของ Microsoft แสดงความเชื่อมั่นว่าการปรับแต่งนี้จะเปลี่ยนแปลงการใช้งานคอมพิวเตอร์อย่างถาวร โดยให้ AI ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยที่เข้าใจและตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้งาน

    ✅ การปกป้องข้อมูลส่วนตัว:
    - Microsoft เน้นว่าผู้ใช้งานจะสามารถเลือกประเภทข้อมูลที่ AI จดจำได้ หรือแม้กระทั่ง ปิดการปรับแต่ง ได้เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัว

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/07/microsoft-to-let-people-tailor-ai-assistant-to-their-needs
    Microsoft Corp ได้ประกาศแผนปรับปรุง Copilot ผู้ช่วยดิจิทัล AI โดยจะเปิดให้ผู้ใช้งานสามารถ ปรับแต่ง Copilot ให้สอดคล้องกับความชอบและความต้องการของพวกเขา เช่น การจดจำอาหารหรือภาพยนตร์ที่ชื่นชอบ และใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการสนทนาในอนาคต โดยฟีเจอร์ใหม่นี้จะเริ่มเปิดตัวในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ✅ ปรับแต่ง Copilot ให้เหมาะสมกับผู้ใช้งาน - ผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าให้ Copilot จำข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมที่เคยทำ เช่น การไปเที่ยวพักผ่อน ภาพยนตร์เรื่องโปรด หรือความชอบในอาหาร โดยสามารถเลือกเปิดปิดการจดจำข้อมูลตามความต้องการ ✅ AI ในแบบของคุณเอง: - ฟีเจอร์การปรับแต่งนี้คล้ายคลึงกับสิ่งที่คู่แข่งอย่าง Google และ OpenAI เสนอ โดย Google Gemini อ้างอิงประวัติการค้นหา และ Alexa+ จาก Amazon เชื่อมโยงกับประวัติการซื้อสินค้าและการสตรีมวิดีโอ ✅ ประสบการณ์ที่เหนือกว่าการสนทนาในระยะสั้น: - Mustafa Suleyman หัวหน้าทีม AI ของ Microsoft แสดงความเชื่อมั่นว่าการปรับแต่งนี้จะเปลี่ยนแปลงการใช้งานคอมพิวเตอร์อย่างถาวร โดยให้ AI ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยที่เข้าใจและตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้งาน ✅ การปกป้องข้อมูลส่วนตัว: - Microsoft เน้นว่าผู้ใช้งานจะสามารถเลือกประเภทข้อมูลที่ AI จดจำได้ หรือแม้กระทั่ง ปิดการปรับแต่ง ได้เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัว https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/07/microsoft-to-let-people-tailor-ai-assistant-to-their-needs
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Microsoft to let people tailor AI assistant to their needs
    Microsoft Corp, determined to hold its ground in artificial intelligence, will soon let consumers tailor the Copilot digital assistant to their own needs.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 112 มุมมอง 0 รีวิว
  • Nvidia RTX 5060 Ti พร้อมเปิดตัวในวันที่ 16 เมษายน โดยมุ่งเจาะตลาดผู้ใช้งานระดับกลางด้วยราคาที่คุ้มค่าและประสิทธิภาพที่ดีขึ้นเล็กน้อยจากรุ่นก่อน แม้ว่าจะไม่ได้เพิ่มความแรงมากนัก แต่รองรับ GDDR7 VRAM และราคาที่เหมาะสมทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักเล่นเกมงบประหยัด การแข่งขันกับ AMD Radeon RX 9060 ในตลาดกลางนี้จะเป็นสิ่งที่น่าจับตามองในช่วงกลางปี

    ✅ สเปกที่พัฒนาเล็กน้อยจากรุ่นก่อน
    - RTX 5060 Ti มาพร้อม 4,608 CUDA Cores, TGP 180W และความเร็วระหว่าง 2,407-2,572 MHz
    - ใช้หน่วยความจำ GDDR7 VRAM 28 Gbps บน 128-bit bus พร้อม Bandwidth 448 GB/s

    ✅ ตัวเลือก 8GB และ 16GB ที่รองรับการใช้งานหลากหลาย
    - รุ่นมาตรฐาน RTX 5060 มี 3,840 CUDA Cores และหน่วยความจำ 8GB เหมาะสำหรับงานทั่วไป แต่ความเร็วสัญญาณนาฬิกายังไม่ได้รับการเปิดเผย

    ✅ ราคาที่เข้าถึงง่าย
    - RTX 5060 และ 5060 Ti จะปรากฏในพีซีสำเร็จรูป เช่น CyberPowerPC (ราคาประมาณ 1,149 ดอลลาร์) และ Stormcraft (เริ่มต้นที่ 1,299 ดอลลาร์) ซึ่งมีราคาต่ำกว่า RTX 4060 Ti ในบางรุ่น

    ✅ การแข่งขันในตลาดระดับกลางที่ดุเดือด
    - Nvidia ตั้งราคาที่ก้าวร้าวเพื่อดึงความสนใจจากผู้ใช้งาน ก่อนคู่แข่งอย่าง AMD ที่กำลังจะเปิดตัว Radeon RX 9060 และ 9060 XT ซึ่งมีกำหนดในไตรมาสที่ 2 ปี 2025

    ✅ ประสิทธิภาพที่อัปเกรดไม่มากแต่คุ้มค่า
    - แม้จะเพิ่ม CUDA Cores เพียงเล็กน้อย แต่ RTX 5060 Ti ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ใช้งานงบจำกัด เน้นการประหยัดพลังงานและการใช้งานที่หลากหลาย

    https://www.techspot.com/news/107424-nvidia-rtx-5060-ti-reportedly-launching-april-16.html
    Nvidia RTX 5060 Ti พร้อมเปิดตัวในวันที่ 16 เมษายน โดยมุ่งเจาะตลาดผู้ใช้งานระดับกลางด้วยราคาที่คุ้มค่าและประสิทธิภาพที่ดีขึ้นเล็กน้อยจากรุ่นก่อน แม้ว่าจะไม่ได้เพิ่มความแรงมากนัก แต่รองรับ GDDR7 VRAM และราคาที่เหมาะสมทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักเล่นเกมงบประหยัด การแข่งขันกับ AMD Radeon RX 9060 ในตลาดกลางนี้จะเป็นสิ่งที่น่าจับตามองในช่วงกลางปี ✅ สเปกที่พัฒนาเล็กน้อยจากรุ่นก่อน - RTX 5060 Ti มาพร้อม 4,608 CUDA Cores, TGP 180W และความเร็วระหว่าง 2,407-2,572 MHz - ใช้หน่วยความจำ GDDR7 VRAM 28 Gbps บน 128-bit bus พร้อม Bandwidth 448 GB/s ✅ ตัวเลือก 8GB และ 16GB ที่รองรับการใช้งานหลากหลาย - รุ่นมาตรฐาน RTX 5060 มี 3,840 CUDA Cores และหน่วยความจำ 8GB เหมาะสำหรับงานทั่วไป แต่ความเร็วสัญญาณนาฬิกายังไม่ได้รับการเปิดเผย ✅ ราคาที่เข้าถึงง่าย - RTX 5060 และ 5060 Ti จะปรากฏในพีซีสำเร็จรูป เช่น CyberPowerPC (ราคาประมาณ 1,149 ดอลลาร์) และ Stormcraft (เริ่มต้นที่ 1,299 ดอลลาร์) ซึ่งมีราคาต่ำกว่า RTX 4060 Ti ในบางรุ่น ✅ การแข่งขันในตลาดระดับกลางที่ดุเดือด - Nvidia ตั้งราคาที่ก้าวร้าวเพื่อดึงความสนใจจากผู้ใช้งาน ก่อนคู่แข่งอย่าง AMD ที่กำลังจะเปิดตัว Radeon RX 9060 และ 9060 XT ซึ่งมีกำหนดในไตรมาสที่ 2 ปี 2025 ✅ ประสิทธิภาพที่อัปเกรดไม่มากแต่คุ้มค่า - แม้จะเพิ่ม CUDA Cores เพียงเล็กน้อย แต่ RTX 5060 Ti ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ใช้งานงบจำกัด เน้นการประหยัดพลังงานและการใช้งานที่หลากหลาย https://www.techspot.com/news/107424-nvidia-rtx-5060-ti-reportedly-launching-april-16.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Nvidia RTX 5060 Ti launch rumored for April 16, pre-built desktops appear starting at $1,149
    A tipster on Board Channels claims that Nvidia plans to launch the RTX 5060 Ti on April 16, aligning with prior rumors indicating a mid-April debut. The...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 123 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา Meta สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการเปิดตัวชุดโมเดล AI มัลติโหมดใหม่ในซีรีส์ Llama 4 ซึ่งประกอบด้วย Llama 4 Scout, Llama 4 Maverick และ Llama 4 Behemoth โดยทั้งสามโมเดลนี้ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นสูงสุดในงานด้านปัญญาประดิษฐ์

    == จุดเด่นของ Llama 4 ทั้งสามรุ่น ==
    ✅ Llama 4 Scout:
    - โมเดลขนาดเล็กที่สุดในซีรีส์ มี 17 พันล้าน active parameters พร้อม 16 experts
    - สามารถทำงานได้บน NVIDIA H100 GPU เพียงตัวเดียว
    - รองรับ context window ขนาด 10 ล้าน tokens ซึ่งถือว่าใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรม
    - ประสิทธิภาพสูงกว่าโมเดลคู่แข่ง เช่น Gemma 3 และ Mistral 3.1 ในการวัดมาตรฐาน AI

    ✅ Llama 4 Maverick:
    - โมเดลระดับ mainstream มี 17 พันล้าน active parameters เช่นกัน แต่เพิ่มผู้เชี่ยวชาญเป็น 128 experts
    - ได้รับการจัดอันดับที่สูงในการทดลอง เช่น คะแนน 1417 ใน LMArena ซึ่งอยู่ที่ลำดับสองของโมเดลชั้นนำทั้งหมด
    - ประสิทธิภาพเหนือ GPT-4o และ Gemini 2.0 Flash ในการเปรียบเทียบ

    ✅ Llama 4 Behemoth:
    - โมเดลขนาดใหญ่ที่สุดที่ยังอยู่ระหว่างการฝึก มี 288 พันล้าน active parameters และ 16 experts
    - Meta เคลมว่า Behemoth สามารถแสดงผลดีกว่า GPT-4.5 และ Gemini 2.0 Pro ในหลายมาตรฐาน AI

    == การนำไปใช้งานและความสำคัญต่ออุตสาหกรรม AI ==
    ✅ การเข้าถึงและใช้งาน:
    - Llama 4 Scout และ Maverick พร้อมให้ดาวน์โหลดได้บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Hugging Face และ Llama.com
    - สำหรับผู้ใช้ทั่วไป โมเดลเหล่านี้ได้เริ่มให้บริการใน WhatsApp, Messenger และ Instagram Direct แล้ว

    ✅ การรองรับใน Azure AI Foundry ของ Microsoft:
    - Microsoft ประกาศว่า Llama 4 รุ่น Scout และ Maverick ได้รวมอยู่ในบริการของ Azure AI แล้ว เพื่อให้ผู้พัฒนาสามารถเข้าถึงในรูปแบบ Managed Compute Offerings

    ✅ ประสิทธิภาพที่เหนือชั้นในโลกมัลติโหมด:
    - โมเดลเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับทั้งงานด้านข้อความและภาพ ทำให้เป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีมัลติโหมด เช่น AI สร้างสรรค์และการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่

    https://www.neowin.net/news/meta-launches-llama-4-advanced-multi-modal-llms-achieving-sota-results/
    ในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา Meta สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการเปิดตัวชุดโมเดล AI มัลติโหมดใหม่ในซีรีส์ Llama 4 ซึ่งประกอบด้วย Llama 4 Scout, Llama 4 Maverick และ Llama 4 Behemoth โดยทั้งสามโมเดลนี้ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นสูงสุดในงานด้านปัญญาประดิษฐ์ == จุดเด่นของ Llama 4 ทั้งสามรุ่น == ✅ Llama 4 Scout: - โมเดลขนาดเล็กที่สุดในซีรีส์ มี 17 พันล้าน active parameters พร้อม 16 experts - สามารถทำงานได้บน NVIDIA H100 GPU เพียงตัวเดียว - รองรับ context window ขนาด 10 ล้าน tokens ซึ่งถือว่าใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรม - ประสิทธิภาพสูงกว่าโมเดลคู่แข่ง เช่น Gemma 3 และ Mistral 3.1 ในการวัดมาตรฐาน AI ✅ Llama 4 Maverick: - โมเดลระดับ mainstream มี 17 พันล้าน active parameters เช่นกัน แต่เพิ่มผู้เชี่ยวชาญเป็น 128 experts - ได้รับการจัดอันดับที่สูงในการทดลอง เช่น คะแนน 1417 ใน LMArena ซึ่งอยู่ที่ลำดับสองของโมเดลชั้นนำทั้งหมด - ประสิทธิภาพเหนือ GPT-4o และ Gemini 2.0 Flash ในการเปรียบเทียบ ✅ Llama 4 Behemoth: - โมเดลขนาดใหญ่ที่สุดที่ยังอยู่ระหว่างการฝึก มี 288 พันล้าน active parameters และ 16 experts - Meta เคลมว่า Behemoth สามารถแสดงผลดีกว่า GPT-4.5 และ Gemini 2.0 Pro ในหลายมาตรฐาน AI == การนำไปใช้งานและความสำคัญต่ออุตสาหกรรม AI == ✅ การเข้าถึงและใช้งาน: - Llama 4 Scout และ Maverick พร้อมให้ดาวน์โหลดได้บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Hugging Face และ Llama.com - สำหรับผู้ใช้ทั่วไป โมเดลเหล่านี้ได้เริ่มให้บริการใน WhatsApp, Messenger และ Instagram Direct แล้ว ✅ การรองรับใน Azure AI Foundry ของ Microsoft: - Microsoft ประกาศว่า Llama 4 รุ่น Scout และ Maverick ได้รวมอยู่ในบริการของ Azure AI แล้ว เพื่อให้ผู้พัฒนาสามารถเข้าถึงในรูปแบบ Managed Compute Offerings ✅ ประสิทธิภาพที่เหนือชั้นในโลกมัลติโหมด: - โมเดลเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับทั้งงานด้านข้อความและภาพ ทำให้เป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีมัลติโหมด เช่น AI สร้างสรรค์และการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ https://www.neowin.net/news/meta-launches-llama-4-advanced-multi-modal-llms-achieving-sota-results/
    WWW.NEOWIN.NET
    Meta launches Llama 4, advanced multi-modal LLMs achieving SOTA results
    Meta has launched its new Llama 4 series, featuring three models: Scout, Maverick, and Behemoth. Scout and Maverick are available now.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 183 มุมมอง 0 รีวิว
  • MediaTek เปิดตัว Kompanio Ultra ชิปรุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อนำ AI สู่การใช้งานใน Chromebook ด้วยประสิทธิภาพที่สูงกว่าคู่แข่งเช่น Snapdragon X ชิปรุ่นนี้รองรับการใช้งานแบบ multitasking และการประมวลผล AI บนตัวเครื่องโดยไม่ต้องพึ่งพาอินเทอร์เน็ต นับเป็นก้าวสำคัญของ MediaTek ในการยกระดับตลาด Chromebook

    ✅ พลัง AI ที่เหนือกว่าด้วย 50 TOPS
    - Kompanio Ultra มาพร้อม 8th-generation neural processing unit (NPU) ที่ให้ประสิทธิภาพการประมวลผล AI สูงถึง 50 TOPS (trillion operations per second) ซึ่งมากกว่า Snapdragon X ที่ทำได้ 45 TOPS
    - รองรับงาน AI automation และ enhanced workflows โดยไม่ต้องพึ่งพาอินเทอร์เน็ต

    ✅ สถาปัตยกรรม CPU ใหม่พร้อมความเร็วสูงสุด
    - ใช้ Arm Cortex-X925 core ความเร็วสูงสุดถึง 3.62GHz พร้อมคอร์เสริมอีก 7 คอร์ (Cortex-X4 และ Cortex-A720) ที่ให้ประสิทธิภาพเร็วขึ้น 18% เมื่อเทียบกับชิปรุ่นเรือธงใน Chromebook

    ✅ การรองรับการเชื่อมต่อระดับสูงและการใช้งานแบบ multitasking
    - สนับสนุนหน้าจอหลายจอด้วยความละเอียด 4K สองจอ รวมถึงเสียง Hi-Fi สำหรับการใช้งานเช่น วิดีโอคอล หรือ ดูสื่อมัลติมีเดีย
    - เชื่อมต่อด้วย Wi-Fi 7 ที่มีความเสถียรและระยะสัญญาณที่ดีขึ้น

    ✅ การผลิตด้วยเทคโนโลยี 3nm
    - โปรเซสเซอร์ถูกสร้างด้วยเทคโนโลยี 3nm ที่ให้ ประสิทธิภาพพลังงานสูงขึ้นถึง 50%

    ✅ ความหมายสำหรับตลาด Chromebook:
    - Chromebooks ที่ใช้ Kompanio Ultra อาจกลายเป็นทางเลือกที่ถูกกว่าเมื่อเทียบกับ Copilot+ PC ของ Snapdragon X-powered system

    https://www.neowin.net/news/mediatek-kompanio-ultra-promises-faster-ai-performance-than-qualcomm-snapdragon-x/
    MediaTek เปิดตัว Kompanio Ultra ชิปรุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อนำ AI สู่การใช้งานใน Chromebook ด้วยประสิทธิภาพที่สูงกว่าคู่แข่งเช่น Snapdragon X ชิปรุ่นนี้รองรับการใช้งานแบบ multitasking และการประมวลผล AI บนตัวเครื่องโดยไม่ต้องพึ่งพาอินเทอร์เน็ต นับเป็นก้าวสำคัญของ MediaTek ในการยกระดับตลาด Chromebook ✅ พลัง AI ที่เหนือกว่าด้วย 50 TOPS - Kompanio Ultra มาพร้อม 8th-generation neural processing unit (NPU) ที่ให้ประสิทธิภาพการประมวลผล AI สูงถึง 50 TOPS (trillion operations per second) ซึ่งมากกว่า Snapdragon X ที่ทำได้ 45 TOPS - รองรับงาน AI automation และ enhanced workflows โดยไม่ต้องพึ่งพาอินเทอร์เน็ต ✅ สถาปัตยกรรม CPU ใหม่พร้อมความเร็วสูงสุด - ใช้ Arm Cortex-X925 core ความเร็วสูงสุดถึง 3.62GHz พร้อมคอร์เสริมอีก 7 คอร์ (Cortex-X4 และ Cortex-A720) ที่ให้ประสิทธิภาพเร็วขึ้น 18% เมื่อเทียบกับชิปรุ่นเรือธงใน Chromebook ✅ การรองรับการเชื่อมต่อระดับสูงและการใช้งานแบบ multitasking - สนับสนุนหน้าจอหลายจอด้วยความละเอียด 4K สองจอ รวมถึงเสียง Hi-Fi สำหรับการใช้งานเช่น วิดีโอคอล หรือ ดูสื่อมัลติมีเดีย - เชื่อมต่อด้วย Wi-Fi 7 ที่มีความเสถียรและระยะสัญญาณที่ดีขึ้น ✅ การผลิตด้วยเทคโนโลยี 3nm - โปรเซสเซอร์ถูกสร้างด้วยเทคโนโลยี 3nm ที่ให้ ประสิทธิภาพพลังงานสูงขึ้นถึง 50% ✅ ความหมายสำหรับตลาด Chromebook: - Chromebooks ที่ใช้ Kompanio Ultra อาจกลายเป็นทางเลือกที่ถูกกว่าเมื่อเทียบกับ Copilot+ PC ของ Snapdragon X-powered system https://www.neowin.net/news/mediatek-kompanio-ultra-promises-faster-ai-performance-than-qualcomm-snapdragon-x/
    WWW.NEOWIN.NET
    MediaTek Kompanio Ultra promises faster AI performance than Qualcomm Snapdragon X
    MediaTek launched its new Kompanio Ultra chipset for Chromebook Plus. It claims to beat Qualcomm Snapdragon X Plus in NPU performance.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 226 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts