• นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง”

    ตอนที่ 3 Emperor Bush !?

    George Herbert Walker Bush เป็นพวกคนรวย มาจากครอบครัวที่ทำมาหากินแถว New England ซึ่งเคยค้าขายกับอาณาจักร Reich ของ Hitler มาแล้ว และมาคบและค้า น้ำมันกับตระกูล Rockefeller เขาบอกกับคนสนิทว่า “เราชนะแล้ว” เหมือนเวลาแข่งขัน Super Bowl แล้วทีมที่ตัวเชียร์ชนะนั่นแหละ ชนะแบบนั้น ฮึกเหิมแบบนั้น มันรู้สึกว่ายิ่งใหญ่เหลือประมาณ ขนาดมีคนตั้งข้อสังเกตว่า ประธานาธิบดีอเมริกา ในยุค 1990 โดยเฉพาะนาย Bush คนนี้ เวลาจะเดินทางไปต่างประเทศ ขบวนใหญ่โตเหมือนองค์จักรพรรดิเสด็จ ฝ่ายความมั่นคงที่ยกทีมไปคุ้มกัน ดูเหมือนจะมากกว่าพลเมืองของประเทศที่ นาย Bush ไปปรากฎตัวเยี่ยมเสียอีก อเมริกากำลังฉาบตัวเองให้มีภาพเป็น ผู้ครองโลก ไม่ต่างกับสมัยนโปเลียน ตั้งตัวเองเป็นจักรพรรดิ โอ้โห ! เล่นกันเองแรงเหมือนกันนะพวกนักล่า สมันน้อยคิดในใจ

    เปล่าหรอก คนที่พูดไม่ใช่ใครอื่น เจ้าของหัวสมองที่อเมริกาบอกยอด แสนรู้ นาย Zbigniew Brzezinski เจ้าเก่านั่นเอง เขาไม่ได้พูดในฐานะคนนอก แต่พูดในฐานะคนใน และไม่ใช่ในธรรมดา แต่ในฐานะนายท้ายเรืออเมริกา ชื่อเขาไม่เคยหลุดจากการเป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของประธานาธิบดีมาเลย ไล่มาตั้งแต่สมัยแรกคือนาย Jimmy Carter จนเดี๋ยวนี้อายุ 90 แล้ว ยังเป็นที่ปรึกษาให้นาย Obama ด้วย
    นาย Brzezinski เป็นลูกศิษย์เอกของครูใหญ่ด้าน ภูมิศาสตร์การเมืองชาวอังกฤษ คือ Sir Halford Mackinder ซึ่งบอกว่าการแสดงความกร่างของการเป็นจักรวรรดิ มันก็คือบทสุดท้ายของการเป็นจักรวรรดิ ความกร่างนั่นแหละที่ทำให้จักรภพอังกฤษ ถึงจุดจบในศตรรษที่ 19 เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 เริ่ม

    นาย Brzezinski ยังบอกอีกว่า ไอ้ความอวดดี กดขี่และความกร่างของวอชิงตัน ในศตวรรษต่อมานี่แหละ จะทำลายอเมริกาเอง จากการที่เป็นผู้มีอำนาจใหญ่สุดหนึ่งเดียว หรือการเป็นจักรวรรดิอเมริกา แต่นาย Brzezinski นั่นเองแหละ ที่เป็นคนติดเครื่องให้อเมริกาเป็นจักรวรรดิ นักล่าหมายเลขหนึ่งครองโลก แต่เขาเตือนว่าอเมริกาจะต้องระมัดระวัง แม้ว่าจะเอาเสื้อคลุมประชาธิปไตยมาพรางตัวเองแล้วก็ตาม ก็จะต้องรักษามิตรเพื่องานใหญ่ข้างหน้า งานใหญ่นี้คือ การควบคุม Eurasia เขาไม่ได้โต้แย้งการจะเป็นจักรวรรดิอเมริกา เขาเพียงแต่เห็นต่างในวิธีการจะไปให้ถึงจุดหมาย

    Brzezinski บอกว่าเราจะไปให้ถึงจุดหมายของการเป็นจักรวรรดิอเมริกา เราต้องมีกองทัพของอเมริกาอยู่ที่ทั่วโลก วางกองกำลังไว้ทุกทวีป ครอบคลุมทุกมหาสมุทร เพิ่มการปะทะหรือการต่อสู้ในทุกที่ แบบนี้จะมีใครมาเทียบรัศมีกับอเมริกาได้ ไม่ว่าในทางการเมืองหรือกองทัพ

    และที่อเมริกาวางกองกำลังไว้แห่งหนึ่งก็คือ บริเวณพื้นที่ผืนเล็ก ๆ อยู่ในเอเซียกลาง ซึ่งเคยเป็นของสหภาพโซเวียต ที่ชื่อ Republic of Georgia นั่นแหละ ตั้งแต่ประมาณปี ค.ศ. 2003 เป็นต้นมา รัฐบาลอเมริกัน โดยคุณพ่อ Bush ได้ให้การสนับสนุนด้านกองกำลังแก่ Georgia รวมทั้งให้คำปรึกษา เป็นพี่เลี้ยง ให้กับรัฐเล็กๆ ที่ได้ประกาศตัวเป็นอิสระจากสหภาพโซเวียต ในปี 1990 มาตลอด
    คงจะเป็นการยาก ที่จะให้ใครเข้าใจเหตุการณ์ใน Georgia ในปี ค.ศ. 2008 ถ้าไม่ย้อนไปดูพฤติกรรมของอเม ริกา หลัง ค.ศ. 1990 เป็นต้นมา สมัยรัฐบาลคุณพ่อ Bush เขาหักหลังรัสเซียโดยให้ NATO ขยายตัวมาทางตะวันออก มาถึงคุณลูก Bush ก็มาสานต่อด้วยการกดดันสหภาพยุโรปและรัฐบาลของยุโรปตะวันตก ให้รับ Georgia และ Ukraine สองประเทศที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพ โซเวียตเข้าไปอยู่ในอ้อมอกของ NATO

    ต้นปี ค.ศ. 2007 อเมริกาประกาศว่า อเมริกามีแผนที่จะสร้างฐานยิงจรวด และสถานีเรดาร์ ใน 2 ประเทศที่เคยอยู่ใน Warsaw Pact และบัดนี้เป็นสมาชิกของ NATO คือ Poland และ Czech นาย Bush อ้างว่าอเมริกาต้องทำเพื่อป้องกันตัวเอง จากการโจมตีของประเทศที่พูดกันไม่รู้เรื่องเช่น Iran ข้ออ้างนี้ ถูกรัสเซียสวนกลับว่าไม่ใช่เป็นการป้องกันตัวหรอกเพื่อน แต่เป็นการแสดงการรุกคืบ เพื่อโชว์กำลังอำนาจด้านการทหารให้ Moscow ดูมากกว่า !

    เดือน ก.พ. 2007 คุณพี่ปูติน ในฐานะประธานาธิบดีของรัสเซีย ได้พูดในที่ประชุมเกี่ยวกับความมั่นคงระหว่างประเทศที่ Munich Germany ว่า วันนี้ไม่ขอพูดภาษานักการฑูต แต่ขอถามกันตรง ๆ ว่าNATO ตั้งใจจะก่อความยั่วยุ ให้เกิดความไม่ไว้วางใจกัน ระหว่างสมาชิกหรือยังไง ถามจริง ๆ เถอะ เป้าหมาย (ของการยั่วยุของ) NATO อยู่ที่ใคร และคำมั่นของบรรดาคู่สัญญาฝ่ายตะวันตก หลังเลิก Warsaw Pact นั้น มันหายไปไหนหมด

    คุณพี่ปูตินอาจจะไม่ใช่ประเภท “nice guy” แต่ที่แน่นอน คุณพี่ปูไม่ใช่คนโง่และขี้ขลาด เมื่อถึงเวลาที่จะต้องปกป้องผลประโยชน์ของชาวรัสเซีย กลิ่นของสงครามเย็นเริ่มโชยอีกครั้ง!

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    27 มิย. 2557
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง” ตอนที่ 3 Emperor Bush !? George Herbert Walker Bush เป็นพวกคนรวย มาจากครอบครัวที่ทำมาหากินแถว New England ซึ่งเคยค้าขายกับอาณาจักร Reich ของ Hitler มาแล้ว และมาคบและค้า น้ำมันกับตระกูล Rockefeller เขาบอกกับคนสนิทว่า “เราชนะแล้ว” เหมือนเวลาแข่งขัน Super Bowl แล้วทีมที่ตัวเชียร์ชนะนั่นแหละ ชนะแบบนั้น ฮึกเหิมแบบนั้น มันรู้สึกว่ายิ่งใหญ่เหลือประมาณ ขนาดมีคนตั้งข้อสังเกตว่า ประธานาธิบดีอเมริกา ในยุค 1990 โดยเฉพาะนาย Bush คนนี้ เวลาจะเดินทางไปต่างประเทศ ขบวนใหญ่โตเหมือนองค์จักรพรรดิเสด็จ ฝ่ายความมั่นคงที่ยกทีมไปคุ้มกัน ดูเหมือนจะมากกว่าพลเมืองของประเทศที่ นาย Bush ไปปรากฎตัวเยี่ยมเสียอีก อเมริกากำลังฉาบตัวเองให้มีภาพเป็น ผู้ครองโลก ไม่ต่างกับสมัยนโปเลียน ตั้งตัวเองเป็นจักรพรรดิ โอ้โห ! เล่นกันเองแรงเหมือนกันนะพวกนักล่า สมันน้อยคิดในใจ เปล่าหรอก คนที่พูดไม่ใช่ใครอื่น เจ้าของหัวสมองที่อเมริกาบอกยอด แสนรู้ นาย Zbigniew Brzezinski เจ้าเก่านั่นเอง เขาไม่ได้พูดในฐานะคนนอก แต่พูดในฐานะคนใน และไม่ใช่ในธรรมดา แต่ในฐานะนายท้ายเรืออเมริกา ชื่อเขาไม่เคยหลุดจากการเป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของประธานาธิบดีมาเลย ไล่มาตั้งแต่สมัยแรกคือนาย Jimmy Carter จนเดี๋ยวนี้อายุ 90 แล้ว ยังเป็นที่ปรึกษาให้นาย Obama ด้วย นาย Brzezinski เป็นลูกศิษย์เอกของครูใหญ่ด้าน ภูมิศาสตร์การเมืองชาวอังกฤษ คือ Sir Halford Mackinder ซึ่งบอกว่าการแสดงความกร่างของการเป็นจักรวรรดิ มันก็คือบทสุดท้ายของการเป็นจักรวรรดิ ความกร่างนั่นแหละที่ทำให้จักรภพอังกฤษ ถึงจุดจบในศตรรษที่ 19 เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 เริ่ม นาย Brzezinski ยังบอกอีกว่า ไอ้ความอวดดี กดขี่และความกร่างของวอชิงตัน ในศตวรรษต่อมานี่แหละ จะทำลายอเมริกาเอง จากการที่เป็นผู้มีอำนาจใหญ่สุดหนึ่งเดียว หรือการเป็นจักรวรรดิอเมริกา แต่นาย Brzezinski นั่นเองแหละ ที่เป็นคนติดเครื่องให้อเมริกาเป็นจักรวรรดิ นักล่าหมายเลขหนึ่งครองโลก แต่เขาเตือนว่าอเมริกาจะต้องระมัดระวัง แม้ว่าจะเอาเสื้อคลุมประชาธิปไตยมาพรางตัวเองแล้วก็ตาม ก็จะต้องรักษามิตรเพื่องานใหญ่ข้างหน้า งานใหญ่นี้คือ การควบคุม Eurasia เขาไม่ได้โต้แย้งการจะเป็นจักรวรรดิอเมริกา เขาเพียงแต่เห็นต่างในวิธีการจะไปให้ถึงจุดหมาย Brzezinski บอกว่าเราจะไปให้ถึงจุดหมายของการเป็นจักรวรรดิอเมริกา เราต้องมีกองทัพของอเมริกาอยู่ที่ทั่วโลก วางกองกำลังไว้ทุกทวีป ครอบคลุมทุกมหาสมุทร เพิ่มการปะทะหรือการต่อสู้ในทุกที่ แบบนี้จะมีใครมาเทียบรัศมีกับอเมริกาได้ ไม่ว่าในทางการเมืองหรือกองทัพ และที่อเมริกาวางกองกำลังไว้แห่งหนึ่งก็คือ บริเวณพื้นที่ผืนเล็ก ๆ อยู่ในเอเซียกลาง ซึ่งเคยเป็นของสหภาพโซเวียต ที่ชื่อ Republic of Georgia นั่นแหละ ตั้งแต่ประมาณปี ค.ศ. 2003 เป็นต้นมา รัฐบาลอเมริกัน โดยคุณพ่อ Bush ได้ให้การสนับสนุนด้านกองกำลังแก่ Georgia รวมทั้งให้คำปรึกษา เป็นพี่เลี้ยง ให้กับรัฐเล็กๆ ที่ได้ประกาศตัวเป็นอิสระจากสหภาพโซเวียต ในปี 1990 มาตลอด คงจะเป็นการยาก ที่จะให้ใครเข้าใจเหตุการณ์ใน Georgia ในปี ค.ศ. 2008 ถ้าไม่ย้อนไปดูพฤติกรรมของอเม ริกา หลัง ค.ศ. 1990 เป็นต้นมา สมัยรัฐบาลคุณพ่อ Bush เขาหักหลังรัสเซียโดยให้ NATO ขยายตัวมาทางตะวันออก มาถึงคุณลูก Bush ก็มาสานต่อด้วยการกดดันสหภาพยุโรปและรัฐบาลของยุโรปตะวันตก ให้รับ Georgia และ Ukraine สองประเทศที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพ โซเวียตเข้าไปอยู่ในอ้อมอกของ NATO ต้นปี ค.ศ. 2007 อเมริกาประกาศว่า อเมริกามีแผนที่จะสร้างฐานยิงจรวด และสถานีเรดาร์ ใน 2 ประเทศที่เคยอยู่ใน Warsaw Pact และบัดนี้เป็นสมาชิกของ NATO คือ Poland และ Czech นาย Bush อ้างว่าอเมริกาต้องทำเพื่อป้องกันตัวเอง จากการโจมตีของประเทศที่พูดกันไม่รู้เรื่องเช่น Iran ข้ออ้างนี้ ถูกรัสเซียสวนกลับว่าไม่ใช่เป็นการป้องกันตัวหรอกเพื่อน แต่เป็นการแสดงการรุกคืบ เพื่อโชว์กำลังอำนาจด้านการทหารให้ Moscow ดูมากกว่า ! เดือน ก.พ. 2007 คุณพี่ปูติน ในฐานะประธานาธิบดีของรัสเซีย ได้พูดในที่ประชุมเกี่ยวกับความมั่นคงระหว่างประเทศที่ Munich Germany ว่า วันนี้ไม่ขอพูดภาษานักการฑูต แต่ขอถามกันตรง ๆ ว่าNATO ตั้งใจจะก่อความยั่วยุ ให้เกิดความไม่ไว้วางใจกัน ระหว่างสมาชิกหรือยังไง ถามจริง ๆ เถอะ เป้าหมาย (ของการยั่วยุของ) NATO อยู่ที่ใคร และคำมั่นของบรรดาคู่สัญญาฝ่ายตะวันตก หลังเลิก Warsaw Pact นั้น มันหายไปไหนหมด คุณพี่ปูตินอาจจะไม่ใช่ประเภท “nice guy” แต่ที่แน่นอน คุณพี่ปูไม่ใช่คนโง่และขี้ขลาด เมื่อถึงเวลาที่จะต้องปกป้องผลประโยชน์ของชาวรัสเซีย กลิ่นของสงครามเย็นเริ่มโชยอีกครั้ง! สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 27 มิย. 2557
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 77 มุมมอง 0 รีวิว
  • กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือเรื่องสุขภาพประชาชน ด้วยศาสตร์ต่างๆ ดังนี้
    1.ศาสตร์แพทย์แผนไทย (Traditional Thai Medicine)
    ยาเบญจโลกวิเชียร(ห้าราก),ยาขาว,ยาใบมะขาม,ยาตรีผลา,ยาจันทลีลา,ยาเขียวหอม,ยาแสงหมึก,ยาประสะจันทน์แดง,ยามหานิลแท่งทอง,ยาสิงฆาณิกา,ยาธาตุบรรจบ,ยาเหลืองปิดสมุทร,ยาธาตุอบเชย,ยาปราบชมพูทวีป,ยาประสะมะแว้ง,ยาอัมฤควาที,ยาบำรุงโลหิต,ยาเลือดงาม,ยาถ่าย,ยาชุมเห็ดเทศ,ยาธรณีสัณฑฆาต,ยาตรีหอม,ยาลม300จำพวก,ยาหอม,ยาดองมะกรูด,ยาประสะกะเพรา,ยาประสะกานพลู,ยาวิสัมพยาใหญ่,ยามันทธาตุ,ยามหาจักรใหญ่,ยาประสะเจตพังคี,ยามะฮอกกานี,ยาแก้ไอมะขามป้อม,ยาพญายอ,สมุนไพรถ่ายพยาธิต่างๆ เช่น เมล็ดฟักทอง,เมล็ดมะขาม,เมล็ดเล็บมือนาง,เมล็ดสแก,ผงปวกหาด(มะหาด),ผลมะเกลือ,ยาเปลือกมังคุด,รางจืด,ฟ้าทลายโจร,โกฐจุฬาลัมพา,พลูคาว,ใบหนุมานประสานกาย,กระชาย,กัญชา,ขมิ้นชัน,อ้อยดำ,ฝาง,ผักบุ้งแดง,ดอกเกลือ,สมุนไพร ลมปราณ,ปัตจัตตัง เป็นต้น
    2.ศาสตร์แพทย์แผนจีน (Traditional Chinese Medicine)
    ยกตัวอย่าง สมุนไพรฉั่งฉิก ยาเขียวธรรมดา ยาเขียวพิเศษชิงเฟ่ยซองสีส้ม ยาชะลอวัย ยาวาสคิวล่าร์
    ถ้าเกี่ยวกับลิ่มเลือดอุดตันใช้ยา 脑心通胶囊 เหน่า ซิน ทง
    ถ้าก้อนเนื้องอกกำเริบ ใช้温胆汤加减 เวิน ต่าน ทัง เจีย เจี่ยน และศาสตร์การฝังเข็ม เป็นต้น
    3.ศาสตร์โฮมิโอพาธีร์ (Homeophathy) ยาสกัดพลังธรมชาติ จาก พืช สัตว์ แร่ธาตุ ได้แก่ ตำรับโฮมิโอพาธีร์ต่างๆ ตำรับยาหมออมร ดังนี้ Isopathy ของวัคซีน AstraZeneca และ Sinopharm ตำรับ Benjalo แก้แพ้วัคซีนและลองโควิด,TotalTox ล้างพิษที่ตกค้างในอาหาร,RJHT ล้างพิษฟอร์มาลีนและสารเคมีการเกษตร,CKDMHT ขจัดพิษตกค้างจากสารเคมีปรุงรส,CBZA ช่วยล้างพิษสารเคมีกันบูดในอาหาร
    4.การครอบแก้ว,กรอกเลือด (Wet Cupping) เพื่อให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น เอาเลือดที่
    คั่งค้างออก ซึ่งส่งผลทำให้ลดอาการปวดเมื่อยของกล้ามเนื้อและสามารถบรรเทาได้หลายโรค
    5.ศาสตร์ผสมผสาน (Integrative Medicine)
    การเหยียบดิน/หญ้า(Grounding),การอบตัว,อดอาหารเป็นระยะ(Intermittent Fasting),ศาสตร์ยา9เม็ดหมอเขียว,สวนล้างลำไส้(Enema),ล้างลำไส้แบบลึก(Colonics),Vitamin C Flush,เสียงบำบัด(Sound Therapy),ความถี่บำบัด(Frequency Therapy),ใช้แสงแดงFar Infrared,Reiki,แช่เท้า(Herbal Foot Bath),ล้างพิษตับ(Liver Compression,Castor Oil Pack,การใช้ทองแดง(Copper Tensor Rings),Crystals,การเขียนบันทึก (Journaling),Art Therapy,ภูษาบำบัด(Twisting Tourniquet Technique),การทำสมาธิ Pasitive Affirmations,ฝึกการหายใจ(Breathing Exercises),การตากแดด,เข้าใกล้มังสวิรัติ,คลอรีนไดออกไซด์โซลูชัน(CDS),ไฮดรอกซีคลอโรควีน(HCQ),เมทาลีนบลู(Methylene Blue),ดินภูเขาไฟเบนโทไนท์(Bentonite Clay),ซีโอไลท์(Zeolite),ซิลเวอร์คอลลอยด์(ColloidalSilver),DMSO,ไอโอดีน(Iodine),ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์(Hydrogen Peroxide),ไอเวอร์เมคติน(Ivermectin),เฟนเบนดาโซล (Fenbendazole),แอสไพลิน(Aspirin),น้ำเสริมไฮโดรเจน(hydrogen-rich water),บอแรกซ์(Borax),นัตโตะไคเนส(Nattokinase),โบรมิเลน(Bromelain),Magnesium Antisense(แมกนีเซียมแอนไทเซนส์),เพนท็อกซิฟิลลีน(Pentoxifylline),แมกนีเซียม(Magnesium),กลูตาไธโอน(Glutathione),สังกะสี(Zinc),แอสตาแซนธิน(Astaxanthin),ซิลิมาริน(Sillymarin),กรดอัลฟาไลโปอิก(Alpha Lipoic Acid),เมลาโทนิน(Melatonin),วิตามินดี(Vitamin D),NACหรือN-Acetylcysteine,CoQ10,ซิลิเนียม(Selenium),กรดฟูลวิค(Fulvic Acid),ผักชี(coriander),มะระขี้นก(Bitter gourd),สาหร่ายเกลียวทอง (Spirulina),มิลค์ทิสเซิล(Milk Thistle-Silymarin),พริกคาเยน(Chayenne Peper),ชาเขียว(Green Tea),เห็ดถั่งเช่า(Cordyceps Mushrooms),อาติโช๊ค(Artichoke),คลอเรลลา(Chlorella),สาหร่าย Dulse,Shilajit และอุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆที่โลกมี เป็นต้น

    โอเพนแชท "ล้างพิษ ยาฉีด"
    https://line.me/ti/g2/wTvY1gxHGpGKCt15sQN1jMHw02XoSC1uXsjUsQ?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default
    กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์
    ✅กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือเรื่องสุขภาพประชาชน ด้วยศาสตร์ต่างๆ ดังนี้ 🧐1.ศาสตร์แพทย์แผนไทย (Traditional Thai Medicine) ยาเบญจโลกวิเชียร(ห้าราก),ยาขาว,ยาใบมะขาม,ยาตรีผลา,ยาจันทลีลา,ยาเขียวหอม,ยาแสงหมึก,ยาประสะจันทน์แดง,ยามหานิลแท่งทอง,ยาสิงฆาณิกา,ยาธาตุบรรจบ,ยาเหลืองปิดสมุทร,ยาธาตุอบเชย,ยาปราบชมพูทวีป,ยาประสะมะแว้ง,ยาอัมฤควาที,ยาบำรุงโลหิต,ยาเลือดงาม,ยาถ่าย,ยาชุมเห็ดเทศ,ยาธรณีสัณฑฆาต,ยาตรีหอม,ยาลม300จำพวก,ยาหอม,ยาดองมะกรูด,ยาประสะกะเพรา,ยาประสะกานพลู,ยาวิสัมพยาใหญ่,ยามันทธาตุ,ยามหาจักรใหญ่,ยาประสะเจตพังคี,ยามะฮอกกานี,ยาแก้ไอมะขามป้อม,ยาพญายอ,สมุนไพรถ่ายพยาธิต่างๆ เช่น เมล็ดฟักทอง,เมล็ดมะขาม,เมล็ดเล็บมือนาง,เมล็ดสแก,ผงปวกหาด(มะหาด),ผลมะเกลือ,ยาเปลือกมังคุด,รางจืด,ฟ้าทลายโจร,โกฐจุฬาลัมพา,พลูคาว,ใบหนุมานประสานกาย,กระชาย,กัญชา,ขมิ้นชัน,อ้อยดำ,ฝาง,ผักบุ้งแดง,ดอกเกลือ,สมุนไพร ลมปราณ,ปัตจัตตัง เป็นต้น 🧐2.ศาสตร์แพทย์แผนจีน (Traditional Chinese Medicine) ยกตัวอย่าง สมุนไพรฉั่งฉิก ยาเขียวธรรมดา ยาเขียวพิเศษชิงเฟ่ยซองสีส้ม ยาชะลอวัย ยาวาสคิวล่าร์ ถ้าเกี่ยวกับลิ่มเลือดอุดตันใช้ยา 脑心通胶囊 เหน่า ซิน ทง ถ้าก้อนเนื้องอกกำเริบ ใช้温胆汤加减 เวิน ต่าน ทัง เจีย เจี่ยน และศาสตร์การฝังเข็ม เป็นต้น 🧐3.ศาสตร์โฮมิโอพาธีร์ (Homeophathy) ยาสกัดพลังธรมชาติ จาก พืช สัตว์ แร่ธาตุ ได้แก่ ตำรับโฮมิโอพาธีร์ต่างๆ ตำรับยาหมออมร ดังนี้ Isopathy ของวัคซีน AstraZeneca และ Sinopharm ตำรับ Benjalo แก้แพ้วัคซีนและลองโควิด,TotalTox ล้างพิษที่ตกค้างในอาหาร,RJHT ล้างพิษฟอร์มาลีนและสารเคมีการเกษตร,CKDMHT ขจัดพิษตกค้างจากสารเคมีปรุงรส,CBZA ช่วยล้างพิษสารเคมีกันบูดในอาหาร 🧐4.การครอบแก้ว,กรอกเลือด (Wet Cupping) เพื่อให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น เอาเลือดที่ คั่งค้างออก ซึ่งส่งผลทำให้ลดอาการปวดเมื่อยของกล้ามเนื้อและสามารถบรรเทาได้หลายโรค 🧐5.ศาสตร์ผสมผสาน (Integrative Medicine) การเหยียบดิน/หญ้า(Grounding),การอบตัว,อดอาหารเป็นระยะ(Intermittent Fasting),ศาสตร์ยา9เม็ดหมอเขียว,สวนล้างลำไส้(Enema),ล้างลำไส้แบบลึก(Colonics),Vitamin C Flush,เสียงบำบัด(Sound Therapy),ความถี่บำบัด(Frequency Therapy),ใช้แสงแดงFar Infrared,Reiki,แช่เท้า(Herbal Foot Bath),ล้างพิษตับ(Liver Compression,Castor Oil Pack,การใช้ทองแดง(Copper Tensor Rings),Crystals,การเขียนบันทึก (Journaling),Art Therapy,ภูษาบำบัด(Twisting Tourniquet Technique),การทำสมาธิ Pasitive Affirmations,ฝึกการหายใจ(Breathing Exercises),การตากแดด,เข้าใกล้มังสวิรัติ,คลอรีนไดออกไซด์โซลูชัน(CDS),ไฮดรอกซีคลอโรควีน(HCQ),เมทาลีนบลู(Methylene Blue),ดินภูเขาไฟเบนโทไนท์(Bentonite Clay),ซีโอไลท์(Zeolite),ซิลเวอร์คอลลอยด์(ColloidalSilver),DMSO,ไอโอดีน(Iodine),ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์(Hydrogen Peroxide),ไอเวอร์เมคติน(Ivermectin),เฟนเบนดาโซล (Fenbendazole),แอสไพลิน(Aspirin),น้ำเสริมไฮโดรเจน(hydrogen-rich water),บอแรกซ์(Borax),นัตโตะไคเนส(Nattokinase),โบรมิเลน(Bromelain),Magnesium Antisense(แมกนีเซียมแอนไทเซนส์),เพนท็อกซิฟิลลีน(Pentoxifylline),แมกนีเซียม(Magnesium),กลูตาไธโอน(Glutathione),สังกะสี(Zinc),แอสตาแซนธิน(Astaxanthin),ซิลิมาริน(Sillymarin),กรดอัลฟาไลโปอิก(Alpha Lipoic Acid),เมลาโทนิน(Melatonin),วิตามินดี(Vitamin D),NACหรือN-Acetylcysteine,CoQ10,ซิลิเนียม(Selenium),กรดฟูลวิค(Fulvic Acid),ผักชี(coriander),มะระขี้นก(Bitter gourd),สาหร่ายเกลียวทอง (Spirulina),มิลค์ทิสเซิล(Milk Thistle-Silymarin),พริกคาเยน(Chayenne Peper),ชาเขียว(Green Tea),เห็ดถั่งเช่า(Cordyceps Mushrooms),อาติโช๊ค(Artichoke),คลอเรลลา(Chlorella),สาหร่าย Dulse,Shilajit และอุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆที่โลกมี เป็นต้น โอเพนแชท "ล้างพิษ ยาฉีด" https://line.me/ti/g2/wTvY1gxHGpGKCt15sQN1jMHw02XoSC1uXsjUsQ?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 118 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Cirrus7 Nimbini v4 Pro Edition: พีซีจิ๋วไร้พัดลมที่แรงระดับเวิร์กสเตชัน พร้อม Intel Core Ultra และ RAM 128GB!”

    ลองนึกภาพว่าคุณต้องการคอมพิวเตอร์สำหรับงานธุรกิจหรือวิศวกรรมที่ต้องการความแรงระดับเวิร์กสเตชัน แต่ไม่อยากได้เสียงพัดลมดังรบกวน หรือเครื่องใหญ่เทอะทะ — Cirrus7 Nimbini v4 Pro Edition คือคำตอบที่น่าสนใจมากในปี 2025 นี้

    Cirrus7 เปิดตัวมินิพีซีรุ่นใหม่ที่ใช้ระบบระบายความร้อนแบบ passive cooling เต็มรูปแบบ ไม่มีพัดลมเลยแม้แต่ตัวเดียว ตัวเคสถูกออกแบบให้เป็นฮีตซิงก์ขนาดใหญ่ที่ช่วยระบายความร้อนจากซีพียูระดับแล็ปท็อปได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องพึ่งพาชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหว

    ภายในใช้เมนบอร์ด Intel NUC 15 Pro พร้อมรองรับซีพียูตั้งแต่ Core 3 100U ไปจนถึงตัวท็อปอย่าง Core Ultra 7 265H ที่มีความเร็วสูงสุดถึง 5.1GHz และมี iGPU Intel Arc 140T ในตัว รองรับ RAM DDR5-5600 สูงสุดถึง 128GB และ SSD แบบ M.2 PCIe 4.0 ความจุสูงสุด 4TB

    พอร์ตเชื่อมต่อก็จัดเต็ม ทั้ง Thunderbolt 4 สองช่อง, USB-A 3.2 Gen 2 สามช่อง, HDMI 2.0b สองช่อง, LAN 2.5GbE, Wi-Fi 7 และ Bluetooth 5.4 ผ่าน Intel BE201 รวมถึงมีตัวเลือกติดตั้ง Linux ฟรี หรือ Windows แบบมีลิขสิทธิ์ พร้อมการรับประกัน 3 ปีที่ขยายได้ถึง 5 ปี

    แม้จะมีรุ่นเริ่มต้นที่ราคา €728 แต่ถ้าคุณเลือกสเปกสูงสุด ราคาจะพุ่งไปถึง €2,796.20 ซึ่งถือว่าแพงไม่น้อยสำหรับมินิพีซี แต่ก็แลกกับความเงียบ ความแรง และดีไซน์ที่ดูเรียบหรูแบบมืออาชีพ

    สเปกของ Cirrus7 Nimbini v4 Pro Edition
    ใช้ Intel NUC 15 Pro motherboard รองรับ CPU ตั้งแต่ Core 3 100U ถึง Core Ultra 7 265H
    RAM รองรับสูงสุด 128GB DDR5-5600
    SSD แบบ M.2 PCIe 4.0 ความจุ 1TB–4TB
    มี iGPU Intel Arc 140T ในตัว

    ระบบระบายความร้อนแบบไร้พัดลม
    เคสออกแบบให้เป็นฮีตซิงก์ขนาดใหญ่
    ไม่มีชิ้นส่วนเคลื่อนไหว — ลดเสียงรบกวนและเพิ่มความทนทาน
    มีตัวเลือกเพิ่มจำนวนฟินระบายความร้อน หากใช้สเปกสูง

    พอร์ตและการเชื่อมต่อ
    2x Thunderbolt 4, 3x USB-A 3.2 Gen 2, 1x USB 2.0
    2x HDMI 2.0b, 1x 2.5GbE LAN, IR receiver, Wi-Fi antenna slots
    รองรับ Wi-Fi 7 และ Bluetooth 5.4 ผ่าน Intel BE201

    ระบบปฏิบัติการและการรับประกัน
    รองรับ Linux ฟรี เช่น Ubuntu 24/25 LTS และ Mint 22
    รองรับ Windows 11 Home/Pro แบบมีลิขสิทธิ์
    รับประกัน 3 ปี ขยายได้ถึง 5 ปี

    ราคาและตัวเลือก
    รุ่นเริ่มต้น €728 (Core 3 100U + 8GB RAM + 250GB SSD)
    รุ่นสูงสุด €2,796.20 (Core Ultra 7 265H + 128GB RAM + 4TB SSD)
    มีตัวเลือกติดตั้ง VESA mount และซีลกันฝุ่น

    https://www.techradar.com/pro/looking-for-a-silent-mini-pc-the-cirrus7-pairs-an-intel-core-ultra-7-265h-with-a-casing-that-looks-like-a-giant-heatsink-but-it-aint-cheap
    🖥️ “Cirrus7 Nimbini v4 Pro Edition: พีซีจิ๋วไร้พัดลมที่แรงระดับเวิร์กสเตชัน พร้อม Intel Core Ultra และ RAM 128GB!” ลองนึกภาพว่าคุณต้องการคอมพิวเตอร์สำหรับงานธุรกิจหรือวิศวกรรมที่ต้องการความแรงระดับเวิร์กสเตชัน แต่ไม่อยากได้เสียงพัดลมดังรบกวน หรือเครื่องใหญ่เทอะทะ — Cirrus7 Nimbini v4 Pro Edition คือคำตอบที่น่าสนใจมากในปี 2025 นี้ Cirrus7 เปิดตัวมินิพีซีรุ่นใหม่ที่ใช้ระบบระบายความร้อนแบบ passive cooling เต็มรูปแบบ ไม่มีพัดลมเลยแม้แต่ตัวเดียว ตัวเคสถูกออกแบบให้เป็นฮีตซิงก์ขนาดใหญ่ที่ช่วยระบายความร้อนจากซีพียูระดับแล็ปท็อปได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องพึ่งพาชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหว ภายในใช้เมนบอร์ด Intel NUC 15 Pro พร้อมรองรับซีพียูตั้งแต่ Core 3 100U ไปจนถึงตัวท็อปอย่าง Core Ultra 7 265H ที่มีความเร็วสูงสุดถึง 5.1GHz และมี iGPU Intel Arc 140T ในตัว รองรับ RAM DDR5-5600 สูงสุดถึง 128GB และ SSD แบบ M.2 PCIe 4.0 ความจุสูงสุด 4TB พอร์ตเชื่อมต่อก็จัดเต็ม ทั้ง Thunderbolt 4 สองช่อง, USB-A 3.2 Gen 2 สามช่อง, HDMI 2.0b สองช่อง, LAN 2.5GbE, Wi-Fi 7 และ Bluetooth 5.4 ผ่าน Intel BE201 รวมถึงมีตัวเลือกติดตั้ง Linux ฟรี หรือ Windows แบบมีลิขสิทธิ์ พร้อมการรับประกัน 3 ปีที่ขยายได้ถึง 5 ปี แม้จะมีรุ่นเริ่มต้นที่ราคา €728 แต่ถ้าคุณเลือกสเปกสูงสุด ราคาจะพุ่งไปถึง €2,796.20 ซึ่งถือว่าแพงไม่น้อยสำหรับมินิพีซี แต่ก็แลกกับความเงียบ ความแรง และดีไซน์ที่ดูเรียบหรูแบบมืออาชีพ ✅ สเปกของ Cirrus7 Nimbini v4 Pro Edition ➡️ ใช้ Intel NUC 15 Pro motherboard รองรับ CPU ตั้งแต่ Core 3 100U ถึง Core Ultra 7 265H ➡️ RAM รองรับสูงสุด 128GB DDR5-5600 ➡️ SSD แบบ M.2 PCIe 4.0 ความจุ 1TB–4TB ➡️ มี iGPU Intel Arc 140T ในตัว ✅ ระบบระบายความร้อนแบบไร้พัดลม ➡️ เคสออกแบบให้เป็นฮีตซิงก์ขนาดใหญ่ ➡️ ไม่มีชิ้นส่วนเคลื่อนไหว — ลดเสียงรบกวนและเพิ่มความทนทาน ➡️ มีตัวเลือกเพิ่มจำนวนฟินระบายความร้อน หากใช้สเปกสูง ✅ พอร์ตและการเชื่อมต่อ ➡️ 2x Thunderbolt 4, 3x USB-A 3.2 Gen 2, 1x USB 2.0 ➡️ 2x HDMI 2.0b, 1x 2.5GbE LAN, IR receiver, Wi-Fi antenna slots ➡️ รองรับ Wi-Fi 7 และ Bluetooth 5.4 ผ่าน Intel BE201 ✅ ระบบปฏิบัติการและการรับประกัน ➡️ รองรับ Linux ฟรี เช่น Ubuntu 24/25 LTS และ Mint 22 ➡️ รองรับ Windows 11 Home/Pro แบบมีลิขสิทธิ์ ➡️ รับประกัน 3 ปี ขยายได้ถึง 5 ปี ✅ ราคาและตัวเลือก ➡️ รุ่นเริ่มต้น €728 (Core 3 100U + 8GB RAM + 250GB SSD) ➡️ รุ่นสูงสุด €2,796.20 (Core Ultra 7 265H + 128GB RAM + 4TB SSD) ➡️ มีตัวเลือกติดตั้ง VESA mount และซีลกันฝุ่น https://www.techradar.com/pro/looking-for-a-silent-mini-pc-the-cirrus7-pairs-an-intel-core-ultra-7-265h-with-a-casing-that-looks-like-a-giant-heatsink-but-it-aint-cheap
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 169 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก CXL ถึง DDR5: เมื่อการ์ดเสริมกลายเป็นหน่วยความจำหลักของระบบ AI

    Gigabyte เปิดตัวการ์ดเสริมรุ่นใหม่ชื่อ AI Top CXL R5X4 ซึ่งเป็น add-in card (AIC) ที่ใช้เทคโนโลยี CXL 2.0/1.1 เพื่อเพิ่มหน่วยความจำ DDR5 ได้สูงสุดถึง 512GB ผ่านสล็อต PCIe 5.0 x16 โดยไม่ต้องพึ่ง DIMM บนเมนบอร์ดโดยตรง

    การ์ดนี้มีขนาด 120 × 254 มม. ใช้แผงวงจร 16-layer HDI PCB และควบคุมด้วยชิป Microchip PM8712 พร้อมระบบระบายความร้อนแบบ “CXL Thermal Armor” ที่เป็นโลหะเต็มตัว และพัดลม AIO สำหรับระบายความร้อนจากตัวควบคุมและสล็อตแรม

    จุดเด่นคือการรองรับ DDR5 RDIMM แบบ ECC ได้ถึง 4 ช่อง โดยแต่ละช่องรองรับโมดูลสูงสุด 128GB รวมเป็น 512GB ซึ่งต่างจากโมดูล CXL แบบสำเร็จรูปของ Samsung ที่มีขนาดตายตัว—การ์ดนี้ให้ผู้ใช้เลือกขนาดแรมเองได้

    แม้จะออกแบบมาสำหรับเมนบอร์ด Gigabyte รุ่น TRX50 AI Top และ W790 AI Top แต่หากเมนบอร์ดอื่นรองรับ PCIe 5.0 และ CXL ก็สามารถใช้งานได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม Gigabyte เตือนว่าบางสล็อตบน TRX50 เช่น PCIEX16_4 ไม่รองรับ CXL

    การ์ดใช้พลังงานประมาณ 70W ที่โหลดเต็ม และต้องต่อสายไฟ 8-pin EXT12V พร้อมไฟ LED แสดงสถานะการเชื่อมต่อพลังงาน ราคายังไม่เปิดเผย แต่คาดว่าจะอยู่ในช่วง $2,000–$3,000 ตามมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ CXL ระดับสูง

    สเปกของ AI Top CXL R5X4
    ใช้ PCIe 5.0 x16 และรองรับ CXL 2.0/1.1
    มี 4 ช่อง DDR5 RDIMM รองรับ ECC สูงสุด 512GB
    ใช้ Microchip PM8712 controller และระบบระบายความร้อนแบบโลหะเต็มตัว

    การใช้งานและความเข้ากันได้
    ออกแบบสำหรับ TRX50 AI Top และ W790 AI Top
    สามารถใช้กับเมนบอร์ดอื่นที่รองรับ PCIe 5.0 และ CXL
    ต้องตรวจสอบว่าแต่ละสล็อตรองรับ CXL จริง เช่น PCIEX16_4 บน TRX50 ไม่รองรับ

    จุดเด่นด้านการปรับแต่งและการขยาย
    ผู้ใช้สามารถเลือกขนาดแรมเองได้ ต่างจากโมดูล CXL แบบสำเร็จรูป
    รองรับการอัปเกรดในอนาคตโดยไม่ต้องเปลี่ยนการ์ด
    เหมาะสำหรับงาน AI training ที่ต้องการแรมระดับหลายร้อย GB

    ระบบพลังงานและการระบายความร้อน
    ใช้พลังงานประมาณ 70W ที่โหลดเต็ม
    ต้องต่อสายไฟ 8-pin EXT12V พร้อมไฟ LED แสดงสถานะ
    มีพัดลม AIO สำหรับระบายความร้อนจากตัวควบคุมและสล็อตแรม

    https://www.tomshardware.com/pc-components/ram/expansion-card-lets-you-insert-512gb-of-extra-ddr5-memory-into-your-pcie-slot-cxl-2-0-aic-designed-for-trx50-and-w790-workstation-motherboards
    🎙️ เรื่องเล่าจาก CXL ถึง DDR5: เมื่อการ์ดเสริมกลายเป็นหน่วยความจำหลักของระบบ AI Gigabyte เปิดตัวการ์ดเสริมรุ่นใหม่ชื่อ AI Top CXL R5X4 ซึ่งเป็น add-in card (AIC) ที่ใช้เทคโนโลยี CXL 2.0/1.1 เพื่อเพิ่มหน่วยความจำ DDR5 ได้สูงสุดถึง 512GB ผ่านสล็อต PCIe 5.0 x16 โดยไม่ต้องพึ่ง DIMM บนเมนบอร์ดโดยตรง การ์ดนี้มีขนาด 120 × 254 มม. ใช้แผงวงจร 16-layer HDI PCB และควบคุมด้วยชิป Microchip PM8712 พร้อมระบบระบายความร้อนแบบ “CXL Thermal Armor” ที่เป็นโลหะเต็มตัว และพัดลม AIO สำหรับระบายความร้อนจากตัวควบคุมและสล็อตแรม จุดเด่นคือการรองรับ DDR5 RDIMM แบบ ECC ได้ถึง 4 ช่อง โดยแต่ละช่องรองรับโมดูลสูงสุด 128GB รวมเป็น 512GB ซึ่งต่างจากโมดูล CXL แบบสำเร็จรูปของ Samsung ที่มีขนาดตายตัว—การ์ดนี้ให้ผู้ใช้เลือกขนาดแรมเองได้ แม้จะออกแบบมาสำหรับเมนบอร์ด Gigabyte รุ่น TRX50 AI Top และ W790 AI Top แต่หากเมนบอร์ดอื่นรองรับ PCIe 5.0 และ CXL ก็สามารถใช้งานได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม Gigabyte เตือนว่าบางสล็อตบน TRX50 เช่น PCIEX16_4 ไม่รองรับ CXL การ์ดใช้พลังงานประมาณ 70W ที่โหลดเต็ม และต้องต่อสายไฟ 8-pin EXT12V พร้อมไฟ LED แสดงสถานะการเชื่อมต่อพลังงาน ราคายังไม่เปิดเผย แต่คาดว่าจะอยู่ในช่วง $2,000–$3,000 ตามมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ CXL ระดับสูง ✅ สเปกของ AI Top CXL R5X4 ➡️ ใช้ PCIe 5.0 x16 และรองรับ CXL 2.0/1.1 ➡️ มี 4 ช่อง DDR5 RDIMM รองรับ ECC สูงสุด 512GB ➡️ ใช้ Microchip PM8712 controller และระบบระบายความร้อนแบบโลหะเต็มตัว ✅ การใช้งานและความเข้ากันได้ ➡️ ออกแบบสำหรับ TRX50 AI Top และ W790 AI Top ➡️ สามารถใช้กับเมนบอร์ดอื่นที่รองรับ PCIe 5.0 และ CXL ➡️ ต้องตรวจสอบว่าแต่ละสล็อตรองรับ CXL จริง เช่น PCIEX16_4 บน TRX50 ไม่รองรับ ✅ จุดเด่นด้านการปรับแต่งและการขยาย ➡️ ผู้ใช้สามารถเลือกขนาดแรมเองได้ ต่างจากโมดูล CXL แบบสำเร็จรูป ➡️ รองรับการอัปเกรดในอนาคตโดยไม่ต้องเปลี่ยนการ์ด ➡️ เหมาะสำหรับงาน AI training ที่ต้องการแรมระดับหลายร้อย GB ✅ ระบบพลังงานและการระบายความร้อน ➡️ ใช้พลังงานประมาณ 70W ที่โหลดเต็ม ➡️ ต้องต่อสายไฟ 8-pin EXT12V พร้อมไฟ LED แสดงสถานะ ➡️ มีพัดลม AIO สำหรับระบายความร้อนจากตัวควบคุมและสล็อตแรม https://www.tomshardware.com/pc-components/ram/expansion-card-lets-you-insert-512gb-of-extra-ddr5-memory-into-your-pcie-slot-cxl-2-0-aic-designed-for-trx50-and-w790-workstation-motherboards
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 173 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก Otherbranch: เมื่อการตามหาวิศวกรที่ “ดีที่สุด” กลายเป็นศัตรูของการจ้างคนที่ “ดีพอจะสร้างจริง”

    ในโลกของสตาร์ทอัพ การจ้างงานคือการตัดสินใจที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่ง แต่หลายบริษัทกลับติดกับดักความคิดว่า “เราต้องการคนที่ดีที่สุดเท่านั้น” โดยไม่รู้ว่าความคิดนี้กำลังทำให้พวกเขาเสียเวลา เสียโอกาส และเสีย momentum ไปอย่างเงียบ ๆ

    บทความจาก Otherbranch ชี้ให้เห็นว่า “วิศวกรที่ดีที่สุด” มักมีเงื่อนไขที่บริษัททั่วไปไม่สามารถให้ได้—เงินเดือนสูงกว่าทั้งทีม, ต้องการ remote work, ไม่ยอมรับเทคโนโลยีที่มี tech debt, และไม่สนใจบริษัทที่ยังไม่มี traction ชัดเจน พวกเขามีตัวเลือกมากมาย และไม่จำเป็นต้องเสี่ยงกับสตาร์ทอัพที่ยังไม่พิสูจน์ตัวเอง

    ในทางกลับกัน “วิศวกรที่ดีมาก” ซึ่งอาจไม่ใช่ระดับท็อปของโลก แต่มีความสามารถจริง พร้อมเรียนรู้ และสามารถ onboard ได้เร็ว กลับถูกมองข้ามเพราะไม่ตรงกับ “เช็กลิสต์ในฝัน” ที่ผู้ก่อตั้งตั้งไว้

    การจ้างงานคือการเจรจา ไม่ใช่การคัดเลือกฝ่ายเดียว และการยึดติดกับมาตรฐานที่ไม่มีใครผ่านได้ ทำให้บริษัทต้องรอเป็นเดือน ๆ โดยไม่มีใครเข้ามาเติมทีม ทั้งที่เวลาในสตาร์ทอัพคือทรัพยากรที่มีค่าที่สุด

    ปัญหาของการตั้งเป้าหมาย “ต้องการคนที่ดีที่สุด”
    คนที่ดีที่สุดมักมีเงื่อนไขที่บริษัททั่วไปไม่สามารถให้ได้
    พวกเขาไม่สนใจบริษัทที่ยังไม่มี traction หรือยัง early stage
    ต้องการเงินเดือนสูง, remote work, และอิสระในการตัดสินใจ

    ผลกระทบจากการยึดติดกับมาตรฐานสูงเกินไป
    ทำให้บริษัทต้องรอเป็นเดือน ๆ โดยไม่มีใครเข้ามาเติมทีม
    เสียเวลาในช่วงที่ควรเร่งสร้าง product และ iterate
    สุดท้ายต้อง “ยอม” จ้างคนที่ไม่ตรงสเปกหลังจากเสียเวลาไปนาน

    ทางเลือกที่ดีกว่า: จ้างคนที่ “ดีพอจะสร้างจริง”
    วิศวกร mid-level ที่มีความสามารถและพร้อมเรียนรู้ onboard ได้เร็ว
    สามารถทำงานได้เต็มที่ภายใน 2 สัปดาห์ แทนที่จะรอคนที่ “พร้อมตั้งแต่วันแรก”
    ช่วยให้บริษัทเดินหน้าได้เร็วขึ้น และลดความเสี่ยงจากการรอ

    แนวคิดการจ้างงานแบบมี trade-off
    การจ้างงานคือการเจรจา ไม่ใช่การคัดเลือกฝ่ายเดียว
    ต้องคิดว่า “วันนี้เราต้องการอะไรจริง ๆ” และยอมแลกบางอย่างเพื่อได้สิ่งนั้น
    การยอมลดบางเงื่อนไข เช่น ชั่วโมงทำงาน หรือประสบการณ์ startup อาจให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า

    https://www.otherbranch.com/shared/blog/no-you-dont-want-to-hire-the-best-engineers
    🎙️ เรื่องเล่าจาก Otherbranch: เมื่อการตามหาวิศวกรที่ “ดีที่สุด” กลายเป็นศัตรูของการจ้างคนที่ “ดีพอจะสร้างจริง” ในโลกของสตาร์ทอัพ การจ้างงานคือการตัดสินใจที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่ง แต่หลายบริษัทกลับติดกับดักความคิดว่า “เราต้องการคนที่ดีที่สุดเท่านั้น” โดยไม่รู้ว่าความคิดนี้กำลังทำให้พวกเขาเสียเวลา เสียโอกาส และเสีย momentum ไปอย่างเงียบ ๆ บทความจาก Otherbranch ชี้ให้เห็นว่า “วิศวกรที่ดีที่สุด” มักมีเงื่อนไขที่บริษัททั่วไปไม่สามารถให้ได้—เงินเดือนสูงกว่าทั้งทีม, ต้องการ remote work, ไม่ยอมรับเทคโนโลยีที่มี tech debt, และไม่สนใจบริษัทที่ยังไม่มี traction ชัดเจน พวกเขามีตัวเลือกมากมาย และไม่จำเป็นต้องเสี่ยงกับสตาร์ทอัพที่ยังไม่พิสูจน์ตัวเอง ในทางกลับกัน “วิศวกรที่ดีมาก” ซึ่งอาจไม่ใช่ระดับท็อปของโลก แต่มีความสามารถจริง พร้อมเรียนรู้ และสามารถ onboard ได้เร็ว กลับถูกมองข้ามเพราะไม่ตรงกับ “เช็กลิสต์ในฝัน” ที่ผู้ก่อตั้งตั้งไว้ การจ้างงานคือการเจรจา ไม่ใช่การคัดเลือกฝ่ายเดียว และการยึดติดกับมาตรฐานที่ไม่มีใครผ่านได้ ทำให้บริษัทต้องรอเป็นเดือน ๆ โดยไม่มีใครเข้ามาเติมทีม ทั้งที่เวลาในสตาร์ทอัพคือทรัพยากรที่มีค่าที่สุด ✅ ปัญหาของการตั้งเป้าหมาย “ต้องการคนที่ดีที่สุด” ➡️ คนที่ดีที่สุดมักมีเงื่อนไขที่บริษัททั่วไปไม่สามารถให้ได้ ➡️ พวกเขาไม่สนใจบริษัทที่ยังไม่มี traction หรือยัง early stage ➡️ ต้องการเงินเดือนสูง, remote work, และอิสระในการตัดสินใจ ✅ ผลกระทบจากการยึดติดกับมาตรฐานสูงเกินไป ➡️ ทำให้บริษัทต้องรอเป็นเดือน ๆ โดยไม่มีใครเข้ามาเติมทีม ➡️ เสียเวลาในช่วงที่ควรเร่งสร้าง product และ iterate ➡️ สุดท้ายต้อง “ยอม” จ้างคนที่ไม่ตรงสเปกหลังจากเสียเวลาไปนาน ✅ ทางเลือกที่ดีกว่า: จ้างคนที่ “ดีพอจะสร้างจริง” ➡️ วิศวกร mid-level ที่มีความสามารถและพร้อมเรียนรู้ onboard ได้เร็ว ➡️ สามารถทำงานได้เต็มที่ภายใน 2 สัปดาห์ แทนที่จะรอคนที่ “พร้อมตั้งแต่วันแรก” ➡️ ช่วยให้บริษัทเดินหน้าได้เร็วขึ้น และลดความเสี่ยงจากการรอ ✅ แนวคิดการจ้างงานแบบมี trade-off ➡️ การจ้างงานคือการเจรจา ไม่ใช่การคัดเลือกฝ่ายเดียว ➡️ ต้องคิดว่า “วันนี้เราต้องการอะไรจริง ๆ” และยอมแลกบางอย่างเพื่อได้สิ่งนั้น ➡️ การยอมลดบางเงื่อนไข เช่น ชั่วโมงทำงาน หรือประสบการณ์ startup อาจให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า https://www.otherbranch.com/shared/blog/no-you-dont-want-to-hire-the-best-engineers
    WWW.OTHERBRANCH.COM
    No, you don't want to hire "the best engineers" - Otherbranch
    I think this might be the meanest thing I've ever written.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 177 มุมมอง 0 รีวิว
  • กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือเรื่องสุขภาพประชาชน ด้วยศาสตร์ต่างๆ ดังนี้
    1.ศาสตร์แพทย์แผนไทย (Traditional Thai Medicine)
    ยาเบญจโลกวิเชียร(ห้าราก),ยาขาว,ยาใบมะขาม,ยาตรีผลา,ยาจันทลีลา,ยาเขียวหอม,ยาแสงหมึก,ยาประสะจันทน์แดง,ยามหานิลแท่งทอง,ยาสิงฆาณิกา,ยาธาตุบรรจบ,ยาเหลืองปิดสมุทร,ยาธาตุอบเชย,ยาปราบชมพูทวีป,ยาประสะมะแว้ง,ยาอัมฤควาที,ยาบำรุงโลหิต,ยาเลือดงาม,ยาถ่าย,ยาชุมเห็ดเทศ,ยาธรณีสัณฑฆาต,ยาตรีหอม,ยาลม300จำพวก,ยาหอม,ยาดองมะกรูด,ยาประสะกะเพรา,ยาประสะกานพลู,ยาวิสัมพยาใหญ่,ยามันทธาตุ,ยามหาจักรใหญ่,ยาประสะเจตพังคี,ยามะฮอกกานี,ยาแก้ไอมะขามป้อม,ยาพญายอ,สมุนไพรถ่ายพยาธิต่างๆ เช่น เมล็ดฟักทอง,เมล็ดมะขาม,เมล็ดเล็บมือนาง,เมล็ดสแก,ผงปวกหาด(มะหาด),ผลมะเกลือ,ยาเปลือกมังคุด,รางจืด,ฟ้าทลายโจร,โกฐจุฬาลัมพา,พลูคาว,ใบหนุมานประสานกาย,กระชาย,กัญชา,ขมิ้นชัน,อ้อยดำ,ฝาง,ผักบุ้งแดง,ดอกเกลือ,สมุนไพร ลมปราณ,ปัตจัตตัง เป็นต้น
    2.ศาสตร์แพทย์แผนจีน (Traditional Chinese Medicine)
    ยกตัวอย่าง สมุนไพรฉั่งฉิก ยาเขียวธรรมดา ยาเขียวพิเศษชิงเฟ่ยซองสีส้ม ยาชะลอวัย ยาวาสคิวล่าร์
    ถ้าเกี่ยวกับลิ่มเลือดอุดตันใช้ยา 脑心通胶囊 เหน่า ซิน ทง
    ถ้าก้อนเนื้องอกกำเริบ ใช้温胆汤加减 เวิน ต่าน ทัง เจีย เจี่ยน และศาสตร์การฝังเข็ม เป็นต้น
    3.ศาสตร์โฮมิโอพาธีร์ (Homeophathy) ยาสกัดพลังธรมชาติ จาก พืช สัตว์ แร่ธาตุ ได้แก่ ตำรับโฮมิโอพาธีร์ต่างๆ ตำรับยาหมออมร ดังนี้ Isopathy ของวัคซีน AstraZeneca และ Sinopharm ตำรับ Benjalo แก้แพ้วัคซีนและลองโควิด,TotalTox ล้างพิษที่ตกค้างในอาหาร,RJHT ล้างพิษฟอร์มาลีนและสารเคมีการเกษตร,CKDMHT ขจัดพิษตกค้างจากสารเคมีปรุงรส,CBZA ช่วยล้างพิษสารเคมีกันบูดในอาหาร
    4.การครอบแก้ว,กรอกเลือด (Wet Cupping) เพื่อให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น เอาเลือดที่
    คั่งค้างออก ซึ่งส่งผลทำให้ลดอาการปวดเมื่อยของกล้ามเนื้อและสามารถบรรเทาได้หลายโรค
    5.ศาสตร์ผสมผสาน (Integrative Medicine)
    การเหยียบดิน/หญ้า(Grounding),การอบตัว,อดอาหารเป็นระยะ(Intermittent Fasting),ศาสตร์ยา9เม็ดหมอเขียว,สวนล้างลำไส้(Enema),ล้างลำไส้แบบลึก(Colonics),Vitamin C Flush,เสียงบำบัด(Sound Therapy),ความถี่บำบัด(Frequency Therapy),ใช้แสงแดงFar Infrared,Reiki,แช่เท้า(Herbal Foot Bath),ล้างพิษตับ(Liver Compression,Castor Oil Pack,การใช้ทองแดง(Copper Tensor Rings),Crystals,การเขียนบันทึก (Journaling),Art Therapy,การทำสมาธิ Pasitive Affirmations,ฝึกการหายใจ(Breathing Exercises),การตากแดด,เข้าใกล้มังสวิรัติ,คลอรีนไดออกไซด์โซลูชัน(CDS),ไฮดรอกซีคลอโรควีน(HCQ),เมทาลีนบลู(Methylene Blue),ดินภูเขาไฟเบนโทไนท์(Bentonite Clay),ซีโอไลท์(Zeolite),ซิลเวอร์คอลลอยด์(ColloidalSilver),DMSO,ไอโอดีน(Iodine),ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์(Hydrogen Peroxide),ไอเวอร์เมคติน(Ivermectin),เฟนเบนดาโซล (Fenbendazole),แอสไพลิน(Aspirin),น้ำเสริมไฮโดรเจน(hydrogen-rich water),บอแรกซ์(Borax),นัตโตะไคเนส(Nattokinase),โบรมิเลน(Bromelain),Magnesium Antisense(แมกนีเซียมแอนไทเซนส์),เพนท็อกซิฟิลลีน(Pentoxifylline),แมกนีเซียม(Magnesium),กลูตาไธโอน(Glutathione),สังกะสี(Zinc),แอสตาแซนธิน(Astaxanthin),ซิลิมาริน(Sillymarin),กรดอัลฟาไลโปอิก(Alpha Lipoic Acid),เมลาโทนิน(Melatonin),วิตามินดี(Vitamin D),NACหรือN-Acetylcysteine,CoQ10,ซิลิเนียม(Selenium),กรดฟูลวิค(Fulvic Acid),ผักชี(coriander),มะระขี้นก(Bitter gourd),สาหร่ายเกลียวทอง (Spirulina),มิลค์ทิสเซิล(Milk Thistle-Silymarin),พริกคาเยน(Chayenne Peper),ชาเขียว(Green Tea),เห็ดถั่งเช่า(Cordyceps Mushrooms),อาติโช๊ค(Artichoke),คลอเรลลา(Chlorella),สาหร่าย Dulse,Shilajit และอุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆที่โลกมี เป็นต้น

    โอเพนแชท "ล้างพิษ ยาฉีด"
    https://line.me/ti/g2/wTvY1gxHGpGKCt15sQN1jMHw02XoSC1uXsjUsQ?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default
    ✅กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือเรื่องสุขภาพประชาชน ด้วยศาสตร์ต่างๆ ดังนี้ 🧐1.ศาสตร์แพทย์แผนไทย (Traditional Thai Medicine) ยาเบญจโลกวิเชียร(ห้าราก),ยาขาว,ยาใบมะขาม,ยาตรีผลา,ยาจันทลีลา,ยาเขียวหอม,ยาแสงหมึก,ยาประสะจันทน์แดง,ยามหานิลแท่งทอง,ยาสิงฆาณิกา,ยาธาตุบรรจบ,ยาเหลืองปิดสมุทร,ยาธาตุอบเชย,ยาปราบชมพูทวีป,ยาประสะมะแว้ง,ยาอัมฤควาที,ยาบำรุงโลหิต,ยาเลือดงาม,ยาถ่าย,ยาชุมเห็ดเทศ,ยาธรณีสัณฑฆาต,ยาตรีหอม,ยาลม300จำพวก,ยาหอม,ยาดองมะกรูด,ยาประสะกะเพรา,ยาประสะกานพลู,ยาวิสัมพยาใหญ่,ยามันทธาตุ,ยามหาจักรใหญ่,ยาประสะเจตพังคี,ยามะฮอกกานี,ยาแก้ไอมะขามป้อม,ยาพญายอ,สมุนไพรถ่ายพยาธิต่างๆ เช่น เมล็ดฟักทอง,เมล็ดมะขาม,เมล็ดเล็บมือนาง,เมล็ดสแก,ผงปวกหาด(มะหาด),ผลมะเกลือ,ยาเปลือกมังคุด,รางจืด,ฟ้าทลายโจร,โกฐจุฬาลัมพา,พลูคาว,ใบหนุมานประสานกาย,กระชาย,กัญชา,ขมิ้นชัน,อ้อยดำ,ฝาง,ผักบุ้งแดง,ดอกเกลือ,สมุนไพร ลมปราณ,ปัตจัตตัง เป็นต้น 🧐2.ศาสตร์แพทย์แผนจีน (Traditional Chinese Medicine) ยกตัวอย่าง สมุนไพรฉั่งฉิก ยาเขียวธรรมดา ยาเขียวพิเศษชิงเฟ่ยซองสีส้ม ยาชะลอวัย ยาวาสคิวล่าร์ ถ้าเกี่ยวกับลิ่มเลือดอุดตันใช้ยา 脑心通胶囊 เหน่า ซิน ทง ถ้าก้อนเนื้องอกกำเริบ ใช้温胆汤加减 เวิน ต่าน ทัง เจีย เจี่ยน และศาสตร์การฝังเข็ม เป็นต้น 🧐3.ศาสตร์โฮมิโอพาธีร์ (Homeophathy) ยาสกัดพลังธรมชาติ จาก พืช สัตว์ แร่ธาตุ ได้แก่ ตำรับโฮมิโอพาธีร์ต่างๆ ตำรับยาหมออมร ดังนี้ Isopathy ของวัคซีน AstraZeneca และ Sinopharm ตำรับ Benjalo แก้แพ้วัคซีนและลองโควิด,TotalTox ล้างพิษที่ตกค้างในอาหาร,RJHT ล้างพิษฟอร์มาลีนและสารเคมีการเกษตร,CKDMHT ขจัดพิษตกค้างจากสารเคมีปรุงรส,CBZA ช่วยล้างพิษสารเคมีกันบูดในอาหาร 🧐4.การครอบแก้ว,กรอกเลือด (Wet Cupping) เพื่อให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น เอาเลือดที่ คั่งค้างออก ซึ่งส่งผลทำให้ลดอาการปวดเมื่อยของกล้ามเนื้อและสามารถบรรเทาได้หลายโรค 🧐5.ศาสตร์ผสมผสาน (Integrative Medicine) การเหยียบดิน/หญ้า(Grounding),การอบตัว,อดอาหารเป็นระยะ(Intermittent Fasting),ศาสตร์ยา9เม็ดหมอเขียว,สวนล้างลำไส้(Enema),ล้างลำไส้แบบลึก(Colonics),Vitamin C Flush,เสียงบำบัด(Sound Therapy),ความถี่บำบัด(Frequency Therapy),ใช้แสงแดงFar Infrared,Reiki,แช่เท้า(Herbal Foot Bath),ล้างพิษตับ(Liver Compression,Castor Oil Pack,การใช้ทองแดง(Copper Tensor Rings),Crystals,การเขียนบันทึก (Journaling),Art Therapy,การทำสมาธิ Pasitive Affirmations,ฝึกการหายใจ(Breathing Exercises),การตากแดด,เข้าใกล้มังสวิรัติ,คลอรีนไดออกไซด์โซลูชัน(CDS),ไฮดรอกซีคลอโรควีน(HCQ),เมทาลีนบลู(Methylene Blue),ดินภูเขาไฟเบนโทไนท์(Bentonite Clay),ซีโอไลท์(Zeolite),ซิลเวอร์คอลลอยด์(ColloidalSilver),DMSO,ไอโอดีน(Iodine),ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์(Hydrogen Peroxide),ไอเวอร์เมคติน(Ivermectin),เฟนเบนดาโซล (Fenbendazole),แอสไพลิน(Aspirin),น้ำเสริมไฮโดรเจน(hydrogen-rich water),บอแรกซ์(Borax),นัตโตะไคเนส(Nattokinase),โบรมิเลน(Bromelain),Magnesium Antisense(แมกนีเซียมแอนไทเซนส์),เพนท็อกซิฟิลลีน(Pentoxifylline),แมกนีเซียม(Magnesium),กลูตาไธโอน(Glutathione),สังกะสี(Zinc),แอสตาแซนธิน(Astaxanthin),ซิลิมาริน(Sillymarin),กรดอัลฟาไลโปอิก(Alpha Lipoic Acid),เมลาโทนิน(Melatonin),วิตามินดี(Vitamin D),NACหรือN-Acetylcysteine,CoQ10,ซิลิเนียม(Selenium),กรดฟูลวิค(Fulvic Acid),ผักชี(coriander),มะระขี้นก(Bitter gourd),สาหร่ายเกลียวทอง (Spirulina),มิลค์ทิสเซิล(Milk Thistle-Silymarin),พริกคาเยน(Chayenne Peper),ชาเขียว(Green Tea),เห็ดถั่งเช่า(Cordyceps Mushrooms),อาติโช๊ค(Artichoke),คลอเรลลา(Chlorella),สาหร่าย Dulse,Shilajit และอุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆที่โลกมี เป็นต้น โอเพนแชท "ล้างพิษ ยาฉีด" https://line.me/ti/g2/wTvY1gxHGpGKCt15sQN1jMHw02XoSC1uXsjUsQ?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 347 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อ BIOS กลายเป็นตัวจุดไฟ – เบื้องหลังปัญหา AM5 socket ไหม้

    ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ผู้ใช้ Ryzen 9000 โดยเฉพาะรุ่น 9800X3D เริ่มรายงานปัญหาซีพียู “ไหม้” หรือ “burnout” บนเมนบอร์ด AM5 ของ ASRock จนเกิดความเสียหายทางกายภาพกับตัว socket และทำให้ซีพียูใช้งานไม่ได้

    AMD ได้ออกมาให้ข้อมูลว่า สาเหตุหลักเกิดจาก BIOS ที่ไม่เป็นไปตามค่าที่ AMD แนะนำ โดยเฉพาะจาก ODM (Original Design Manufacturer) ที่ปรับแต่งค่า PBO (Precision Boost Overdrive), EDC, TDC และ “shadow voltage” เกินขอบเขตที่ปลอดภัย แม้จะเป็นการปรับเล็กน้อยก็สามารถทำให้เกิดความร้อนสะสมจน socket เสียหายได้

    ASRock ได้ออก BIOS เวอร์ชัน 3.25 และ 3.30 เพื่อแก้ไขปัญหา โดยลดค่าการจ่ายไฟและปรับการฝึกหน่วยความจำ DDR5 ให้เสถียรมากขึ้น ซึ่งช่วยลดจำนวนเคสที่เกิด burnout ได้อย่างชัดเจน แต่ยังมีผู้ใช้บางรายที่พบปัญหาอยู่

    นอกจากนี้ยังพบว่า การเปิดใช้ EXPO (โปรไฟล์โอเวอร์คล็อกแรมของ AMD) บนเมนบอร์ด ASRock อาจทำให้ PBO ทำงานรุนแรงขึ้น แม้ในระบบที่ใช้แรมแบบ stock ก็ยังพบปัญหา ทำให้หลายคนเลือกปิดฟีเจอร์นี้เพื่อความปลอดภัย

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    AMD ยืนยันปัญหา AM5 socket burnout เกิดจาก BIOS ที่ไม่เป็นไปตามค่าที่แนะนำ
    เมนบอร์ด ASRock เป็นผู้ได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยเฉพาะกับ Ryzen 9800X3D
    ปัญหาเกิดจากการปรับแต่งค่า PBO, EDC, TDC และ shadow voltage เกินขอบเขต
    ASRock ออก BIOS เวอร์ชัน 3.25 และ 3.30 เพื่อแก้ไขปัญหา
    BIOS ใหม่ลดแรงดันไฟฟ้าและปรับการฝึกหน่วยความจำให้เสถียรขึ้น
    AMD แนะนำให้ผู้ใช้ทุกคนอัปเดต BIOS เป็นเวอร์ชันล่าสุด
    ปัญหาลดลงอย่างชัดเจนหลัง BIOS ใหม่ แต่ยังไม่หมดไปทั้งหมด
    Reddit มีการตั้ง megathread เพื่อรวบรวมเคสที่เกิดปัญหา
    AMD ทำงานร่วมกับพันธมิตรเพื่อแก้ไขปัญหาในระยะยาว
    ผู้ใช้บางรายพบว่า CPU ที่เคย “ตาย” กลับมาใช้งานได้เมื่อเปลี่ยนเมนบอร์ด

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    ASRock ยอมรับว่า EXPO และ auto PBO บน BIOS เดิมมีความรุนแรงเกินไป
    AGESA คือชุดคำสั่งที่ AMD ให้กับผู้ผลิตเมนบอร์ดเพื่อควบคุมการทำงานของ CPU
    การฝึกหน่วยความจำ DDR5 ที่ไม่เสถียรอาจทำให้ VSOC ต่ำเกินไป
    เมนบอร์ดจากแบรนด์อื่น เช่น Asus, MSI, Gigabyte พบปัญหาน้อยกว่ามาก
    การ rollback BIOS ไปเวอร์ชันก่อนหน้าอาจช่วยให้ CPU ที่ “bricked” กลับมาใช้งานได้
    AMD เคยออกคำเตือนเรื่อง BIOS ไม่ตรงมาตรฐานมาแล้วหลายครั้งในอดีต

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amd-comments-on-burning-am5-socket-chipmaker-blames-motherboard-vendors-for-not-following-official-bios-guidelines
    🎙️ เมื่อ BIOS กลายเป็นตัวจุดไฟ – เบื้องหลังปัญหา AM5 socket ไหม้ ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ผู้ใช้ Ryzen 9000 โดยเฉพาะรุ่น 9800X3D เริ่มรายงานปัญหาซีพียู “ไหม้” หรือ “burnout” บนเมนบอร์ด AM5 ของ ASRock จนเกิดความเสียหายทางกายภาพกับตัว socket และทำให้ซีพียูใช้งานไม่ได้ AMD ได้ออกมาให้ข้อมูลว่า สาเหตุหลักเกิดจาก BIOS ที่ไม่เป็นไปตามค่าที่ AMD แนะนำ โดยเฉพาะจาก ODM (Original Design Manufacturer) ที่ปรับแต่งค่า PBO (Precision Boost Overdrive), EDC, TDC และ “shadow voltage” เกินขอบเขตที่ปลอดภัย แม้จะเป็นการปรับเล็กน้อยก็สามารถทำให้เกิดความร้อนสะสมจน socket เสียหายได้ ASRock ได้ออก BIOS เวอร์ชัน 3.25 และ 3.30 เพื่อแก้ไขปัญหา โดยลดค่าการจ่ายไฟและปรับการฝึกหน่วยความจำ DDR5 ให้เสถียรมากขึ้น ซึ่งช่วยลดจำนวนเคสที่เกิด burnout ได้อย่างชัดเจน แต่ยังมีผู้ใช้บางรายที่พบปัญหาอยู่ นอกจากนี้ยังพบว่า การเปิดใช้ EXPO (โปรไฟล์โอเวอร์คล็อกแรมของ AMD) บนเมนบอร์ด ASRock อาจทำให้ PBO ทำงานรุนแรงขึ้น แม้ในระบบที่ใช้แรมแบบ stock ก็ยังพบปัญหา ทำให้หลายคนเลือกปิดฟีเจอร์นี้เพื่อความปลอดภัย 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ AMD ยืนยันปัญหา AM5 socket burnout เกิดจาก BIOS ที่ไม่เป็นไปตามค่าที่แนะนำ ➡️ เมนบอร์ด ASRock เป็นผู้ได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยเฉพาะกับ Ryzen 9800X3D ➡️ ปัญหาเกิดจากการปรับแต่งค่า PBO, EDC, TDC และ shadow voltage เกินขอบเขต ➡️ ASRock ออก BIOS เวอร์ชัน 3.25 และ 3.30 เพื่อแก้ไขปัญหา ➡️ BIOS ใหม่ลดแรงดันไฟฟ้าและปรับการฝึกหน่วยความจำให้เสถียรขึ้น ➡️ AMD แนะนำให้ผู้ใช้ทุกคนอัปเดต BIOS เป็นเวอร์ชันล่าสุด ➡️ ปัญหาลดลงอย่างชัดเจนหลัง BIOS ใหม่ แต่ยังไม่หมดไปทั้งหมด ➡️ Reddit มีการตั้ง megathread เพื่อรวบรวมเคสที่เกิดปัญหา ➡️ AMD ทำงานร่วมกับพันธมิตรเพื่อแก้ไขปัญหาในระยะยาว ➡️ ผู้ใช้บางรายพบว่า CPU ที่เคย “ตาย” กลับมาใช้งานได้เมื่อเปลี่ยนเมนบอร์ด ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ ASRock ยอมรับว่า EXPO และ auto PBO บน BIOS เดิมมีความรุนแรงเกินไป ➡️ AGESA คือชุดคำสั่งที่ AMD ให้กับผู้ผลิตเมนบอร์ดเพื่อควบคุมการทำงานของ CPU ➡️ การฝึกหน่วยความจำ DDR5 ที่ไม่เสถียรอาจทำให้ VSOC ต่ำเกินไป ➡️ เมนบอร์ดจากแบรนด์อื่น เช่น Asus, MSI, Gigabyte พบปัญหาน้อยกว่ามาก ➡️ การ rollback BIOS ไปเวอร์ชันก่อนหน้าอาจช่วยให้ CPU ที่ “bricked” กลับมาใช้งานได้ ➡️ AMD เคยออกคำเตือนเรื่อง BIOS ไม่ตรงมาตรฐานมาแล้วหลายครั้งในอดีต https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amd-comments-on-burning-am5-socket-chipmaker-blames-motherboard-vendors-for-not-following-official-bios-guidelines
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    AMD comments on burning AM5 sockets — chipmaker blames motherboard vendors for not following official BIOS guidelines
    AMD provides an official response to the latest AM5 burnout/failure issues primarily affecting ASRock motherboards.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 230 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อชิปโน้ตบุ๊กถูกปลดปล่อยสู่โลกเดสก์ท็อป – และมันแรงกว่าที่คิด

    ในโลกของฮาร์ดแวร์พีซี มีสิ่งหนึ่งที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก: การนำซีพียูโมบายมาใช้ในเมนบอร์ดเดสก์ท็อปอย่างเป็นทางการ แต่ Aoostar ผู้ผลิตจากจีนได้เปิดตัวเมนบอร์ด MoDT (Mobile on Desktop) รุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับ Ryzen 9 9955HX และ 9955HX3D ซึ่งเป็นชิปโมบายระดับสูงสุดของ AMD ในปี 2025

    ทั้งสองรุ่นเป็นซีพียู 16 คอร์ 32 เธรด บนสถาปัตยกรรม Zen 5 โดยรุ่น 9955HX3D มาพร้อมกับ 3D V-Cache ขนาด 144MB ซึ่งมากกว่ารุ่นธรรมดาถึงสองเท่า และมี boost clock สูงสุดที่ 5.4GHz พร้อม TDP เริ่มต้นที่ 54–55W แต่สามารถปรับได้ถึง 75W เมื่อใช้ระบบระบายความร้อนแบบเดสก์ท็อป

    เมนบอร์ดของ Aoostar มาในขนาด microATX พร้อม PCIe 5.0 x16 สำหรับการ์ดจอ, M.2 Gen5 x4 สองช่องสำหรับ SSD, และรองรับ DDR5 แบบ dual-channel สูงสุด 128GB โดยใช้ DIMM มาตรฐาน ไม่ใช่ SO-DIMM แบบโน้ตบุ๊ก

    แม้ซีพียูจะถูกบัดกรีติดกับเมนบอร์ด (ไม่สามารถเปลี่ยนได้) แต่ทุกอย่างอื่นเป็นมาตรฐานเดสก์ท็อป เช่น พอร์ต SATA, ระบบเสียง 7.1 channel, และการใช้พาวเวอร์ซัพพลายแบบ ATX ปกติ

    ราคาของชุดนี้ถือว่าน่าสนใจมาก: รุ่น 9955HX อยู่ที่ประมาณ $530 ส่วนรุ่น 9955HX3D อยู่ที่ $670 ซึ่งถูกกว่าการซื้อซีพียูเดสก์ท็อป Ryzen 9 9950X3D แยกต่างหาก และยังได้เมนบอร์ดมาด้วย

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    Aoostar เปิดตัวเมนบอร์ด MoDT ที่มาพร้อม Ryzen 9 9955HX และ 9955HX3D
    ทั้งสองรุ่นเป็นซีพียู 16 คอร์ 32 เธรด บนสถาปัตยกรรม Zen 5
    รุ่น 9955HX3D มี 3D V-Cache ขนาด 144MB ส่วนรุ่นธรรมดามี 72MB
    Boost clock สูงสุด 5.4GHz และ TDP เริ่มต้นที่ 54–55W ปรับได้ถึง 75W
    เมนบอร์ดขนาด microATX พร้อม PCIe 5.0 x16 และ M.2 Gen5 x4 สองช่อง
    รองรับ DDR5 dual-channel สูงสุด 128GB แบบ DIMM มาตรฐาน
    ใช้พาวเวอร์ซัพพลายแบบ ATX และมีระบบเสียง 7.1 channel
    มีระบบระบายความร้อนแบบ vapor chamber ติดมากับซีพียู
    ราคาชุด 9955HX อยู่ที่ $530 ส่วนรุ่น 9955HX3D อยู่ที่ $670
    ถูกกว่าซีพียูเดสก์ท็อป Ryzen 9 9950X3D ที่ขายแยก

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    MoDT (Mobile on Desktop) เป็นแนวทางที่นิยมในจีนเพื่อประหยัดงบ
    Aoostar เคยผลิต mini PC และเมนบอร์ดขนาดเล็กมาก่อน
    Ryzen 9 9955HX3D ใช้เทคโนโลยี 3D V-Cache รุ่นที่สอง
    เมนบอร์ดใช้ VRM แบบ 10-phase ซึ่งเทียบได้กับ B650 ระดับกลาง
    ใช้ retention bracket แบบ AM5 ทำให้รองรับฮีตซิงก์ทั่วไปในตลาด
    มีพอร์ต SATA III และ USB หลากหลาย รวมถึงพอร์ตเสียงแบบแยก

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amd-unleashes-the-power-of-mobile-fire-range-chips-on-a-desktop-pc-motherboard-ryzen-9-9955hx-and-ryzen-9-9955hx3d-debut-on-aoostar-board
    🎙️ เมื่อชิปโน้ตบุ๊กถูกปลดปล่อยสู่โลกเดสก์ท็อป – และมันแรงกว่าที่คิด ในโลกของฮาร์ดแวร์พีซี มีสิ่งหนึ่งที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก: การนำซีพียูโมบายมาใช้ในเมนบอร์ดเดสก์ท็อปอย่างเป็นทางการ แต่ Aoostar ผู้ผลิตจากจีนได้เปิดตัวเมนบอร์ด MoDT (Mobile on Desktop) รุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับ Ryzen 9 9955HX และ 9955HX3D ซึ่งเป็นชิปโมบายระดับสูงสุดของ AMD ในปี 2025 ทั้งสองรุ่นเป็นซีพียู 16 คอร์ 32 เธรด บนสถาปัตยกรรม Zen 5 โดยรุ่น 9955HX3D มาพร้อมกับ 3D V-Cache ขนาด 144MB ซึ่งมากกว่ารุ่นธรรมดาถึงสองเท่า และมี boost clock สูงสุดที่ 5.4GHz พร้อม TDP เริ่มต้นที่ 54–55W แต่สามารถปรับได้ถึง 75W เมื่อใช้ระบบระบายความร้อนแบบเดสก์ท็อป เมนบอร์ดของ Aoostar มาในขนาด microATX พร้อม PCIe 5.0 x16 สำหรับการ์ดจอ, M.2 Gen5 x4 สองช่องสำหรับ SSD, และรองรับ DDR5 แบบ dual-channel สูงสุด 128GB โดยใช้ DIMM มาตรฐาน ไม่ใช่ SO-DIMM แบบโน้ตบุ๊ก แม้ซีพียูจะถูกบัดกรีติดกับเมนบอร์ด (ไม่สามารถเปลี่ยนได้) แต่ทุกอย่างอื่นเป็นมาตรฐานเดสก์ท็อป เช่น พอร์ต SATA, ระบบเสียง 7.1 channel, และการใช้พาวเวอร์ซัพพลายแบบ ATX ปกติ ราคาของชุดนี้ถือว่าน่าสนใจมาก: รุ่น 9955HX อยู่ที่ประมาณ $530 ส่วนรุ่น 9955HX3D อยู่ที่ $670 ซึ่งถูกกว่าการซื้อซีพียูเดสก์ท็อป Ryzen 9 9950X3D แยกต่างหาก และยังได้เมนบอร์ดมาด้วย 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ Aoostar เปิดตัวเมนบอร์ด MoDT ที่มาพร้อม Ryzen 9 9955HX และ 9955HX3D ➡️ ทั้งสองรุ่นเป็นซีพียู 16 คอร์ 32 เธรด บนสถาปัตยกรรม Zen 5 ➡️ รุ่น 9955HX3D มี 3D V-Cache ขนาด 144MB ส่วนรุ่นธรรมดามี 72MB ➡️ Boost clock สูงสุด 5.4GHz และ TDP เริ่มต้นที่ 54–55W ปรับได้ถึง 75W ➡️ เมนบอร์ดขนาด microATX พร้อม PCIe 5.0 x16 และ M.2 Gen5 x4 สองช่อง ➡️ รองรับ DDR5 dual-channel สูงสุด 128GB แบบ DIMM มาตรฐาน ➡️ ใช้พาวเวอร์ซัพพลายแบบ ATX และมีระบบเสียง 7.1 channel ➡️ มีระบบระบายความร้อนแบบ vapor chamber ติดมากับซีพียู ➡️ ราคาชุด 9955HX อยู่ที่ $530 ส่วนรุ่น 9955HX3D อยู่ที่ $670 ➡️ ถูกกว่าซีพียูเดสก์ท็อป Ryzen 9 9950X3D ที่ขายแยก ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ MoDT (Mobile on Desktop) เป็นแนวทางที่นิยมในจีนเพื่อประหยัดงบ ➡️ Aoostar เคยผลิต mini PC และเมนบอร์ดขนาดเล็กมาก่อน ➡️ Ryzen 9 9955HX3D ใช้เทคโนโลยี 3D V-Cache รุ่นที่สอง ➡️ เมนบอร์ดใช้ VRM แบบ 10-phase ซึ่งเทียบได้กับ B650 ระดับกลาง ➡️ ใช้ retention bracket แบบ AM5 ทำให้รองรับฮีตซิงก์ทั่วไปในตลาด ➡️ มีพอร์ต SATA III และ USB หลากหลาย รวมถึงพอร์ตเสียงแบบแยก https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amd-unleashes-the-power-of-mobile-fire-range-chips-on-a-desktop-pc-motherboard-ryzen-9-9955hx-and-ryzen-9-9955hx3d-debut-on-aoostar-board
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 215 มุมมอง 0 รีวิว
  • AMD ปิดตำนาน B650 – เปิดทางสู่ B850 ที่แรงกว่าแต่แพงขึ้น

    ในโลกของฮาร์ดแวร์ที่เปลี่ยนแปลงเร็วเหมือนกระแสไฟ AMD ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะยุติการผลิตชิปเซ็ต B650 ซึ่งเคยเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ใช้งานระดับกลางที่ต้องการเข้าสู่แพลตฟอร์ม AM5 โดยราคาที่เคยเริ่มต้นราว $125 และลดลงต่ำกว่า $100 ทำให้ B650 เป็นขวัญใจสายประกอบคอมงบจำกัด

    แต่เมื่อเทคโนโลยีก้าวไปข้างหน้า AMD ก็ต้องปรับตัว โดยเปิดตัวชิปเซ็ต B850 และ B840 ซึ่งเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่ต้นปี 2025 โดย B850 มาพร้อมกับการรองรับ PCIe 5.0 ที่กว้างขึ้น ทั้งในช่องเสียบ GPU และ M.2 NVMe ซึ่งใน B650 นั้นยังเป็นตัวเลือกเสริม ไม่ได้บังคับให้มี

    AMD ระบุว่าการเปลี่ยนผ่านนี้จะช่วยให้แพลตฟอร์ม AM5 พร้อมสำหรับอนาคต ทั้งในด้านการเชื่อมต่อ ความเร็วในการจัดเก็บข้อมูล และการขยายระบบ โดยเฉพาะสำหรับผู้ใช้งาน Ryzen 9000 และรุ่นใหม่ ๆ ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด

    แม้จะมีข่าวดีเรื่องฟีเจอร์ใหม่ แต่ก็มีผลกระทบตามมา เพราะ B850 มีราคาสูงกว่า B650 และผู้ผลิตเมนบอร์ดไม่สามารถสั่งซื้อ B650 เพิ่มได้อีกแล้ว ทำให้ผู้ใช้งานที่ต้องการประกอบคอมราคาประหยัดต้องรีบคว้า B650 ที่ยังเหลืออยู่ในตลาดก่อนหมด

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    AMD ประกาศยุติการผลิตชิปเซ็ต B650 อย่างเป็นทางการ
    ผู้ผลิตเมนบอร์ดไม่สามารถสั่งซื้อ B650 เพิ่มได้อีก
    AMD แนะนำให้เปลี่ยนผ่านไปใช้ B850 และ B840 แทน
    B850 รองรับ PCIe 5.0 สำหรับ M.2 NVMe แบบบังคับ และ GPU แบบเลือกได้
    B650 รองรับ PCIe 5.0 เฉพาะบางรุ่น และไม่บังคับในช่อง GPU
    B850 ใช้ชิป Promontory 21 เหมือนกับ B650 แต่มีฟีเจอร์ที่ปรับปรุง
    B650 เปิดตัวในปี 2022 และได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานระดับกลาง
    B850 เปิดตัวต้นปี 2025 พร้อมฟีเจอร์ใหม่และรองรับ Ryzen 9000
    AMD ยืนยันว่าเมนบอร์ด B650 ที่มีอยู่ยังสามารถใช้งานกับ CPU รุ่นใหม่ได้
    ผู้ผลิตเมนบอร์ดกำลังทยอยขายสต็อก B650 ให้หมดภายในไตรมาส 3–4 ปี 2025

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    ราคาของ B650 เคยลดลงต่ำกว่า $100 ทำให้เป็นตัวเลือกยอดนิยม
    B850 มีแนวโน้มราคาสูงขึ้น โดยเฉพาะรุ่นที่รองรับ PCIe 5.0 เต็มรูปแบบ
    ผู้ใช้งานที่ต้องการประกอบคอมขนาดเล็กควรรีบซื้อ B650 ก่อนหมดตลาด
    B850 ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถใช้ GPU และ SSD รุ่นใหม่ได้เต็มประสิทธิภาพ
    การเปลี่ยนผ่านนี้เป็นส่วนหนึ่งของการรีเฟรชแพลตฟอร์ม AM5 ในปี 2024–2025

    https://www.tomshardware.com/pc-components/chipsets/amd-discontinues-b650-chipset-to-transition-to-the-newer-b850-chipset-affordable-am5-motherboards-just-got-a-bit-pricier
    🎙️ AMD ปิดตำนาน B650 – เปิดทางสู่ B850 ที่แรงกว่าแต่แพงขึ้น ในโลกของฮาร์ดแวร์ที่เปลี่ยนแปลงเร็วเหมือนกระแสไฟ AMD ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะยุติการผลิตชิปเซ็ต B650 ซึ่งเคยเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ใช้งานระดับกลางที่ต้องการเข้าสู่แพลตฟอร์ม AM5 โดยราคาที่เคยเริ่มต้นราว $125 และลดลงต่ำกว่า $100 ทำให้ B650 เป็นขวัญใจสายประกอบคอมงบจำกัด แต่เมื่อเทคโนโลยีก้าวไปข้างหน้า AMD ก็ต้องปรับตัว โดยเปิดตัวชิปเซ็ต B850 และ B840 ซึ่งเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่ต้นปี 2025 โดย B850 มาพร้อมกับการรองรับ PCIe 5.0 ที่กว้างขึ้น ทั้งในช่องเสียบ GPU และ M.2 NVMe ซึ่งใน B650 นั้นยังเป็นตัวเลือกเสริม ไม่ได้บังคับให้มี AMD ระบุว่าการเปลี่ยนผ่านนี้จะช่วยให้แพลตฟอร์ม AM5 พร้อมสำหรับอนาคต ทั้งในด้านการเชื่อมต่อ ความเร็วในการจัดเก็บข้อมูล และการขยายระบบ โดยเฉพาะสำหรับผู้ใช้งาน Ryzen 9000 และรุ่นใหม่ ๆ ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด แม้จะมีข่าวดีเรื่องฟีเจอร์ใหม่ แต่ก็มีผลกระทบตามมา เพราะ B850 มีราคาสูงกว่า B650 และผู้ผลิตเมนบอร์ดไม่สามารถสั่งซื้อ B650 เพิ่มได้อีกแล้ว ทำให้ผู้ใช้งานที่ต้องการประกอบคอมราคาประหยัดต้องรีบคว้า B650 ที่ยังเหลืออยู่ในตลาดก่อนหมด 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ AMD ประกาศยุติการผลิตชิปเซ็ต B650 อย่างเป็นทางการ ➡️ ผู้ผลิตเมนบอร์ดไม่สามารถสั่งซื้อ B650 เพิ่มได้อีก ➡️ AMD แนะนำให้เปลี่ยนผ่านไปใช้ B850 และ B840 แทน ➡️ B850 รองรับ PCIe 5.0 สำหรับ M.2 NVMe แบบบังคับ และ GPU แบบเลือกได้ ➡️ B650 รองรับ PCIe 5.0 เฉพาะบางรุ่น และไม่บังคับในช่อง GPU ➡️ B850 ใช้ชิป Promontory 21 เหมือนกับ B650 แต่มีฟีเจอร์ที่ปรับปรุง ➡️ B650 เปิดตัวในปี 2022 และได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานระดับกลาง ➡️ B850 เปิดตัวต้นปี 2025 พร้อมฟีเจอร์ใหม่และรองรับ Ryzen 9000 ➡️ AMD ยืนยันว่าเมนบอร์ด B650 ที่มีอยู่ยังสามารถใช้งานกับ CPU รุ่นใหม่ได้ ➡️ ผู้ผลิตเมนบอร์ดกำลังทยอยขายสต็อก B650 ให้หมดภายในไตรมาส 3–4 ปี 2025 ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ ราคาของ B650 เคยลดลงต่ำกว่า $100 ทำให้เป็นตัวเลือกยอดนิยม ➡️ B850 มีแนวโน้มราคาสูงขึ้น โดยเฉพาะรุ่นที่รองรับ PCIe 5.0 เต็มรูปแบบ ➡️ ผู้ใช้งานที่ต้องการประกอบคอมขนาดเล็กควรรีบซื้อ B650 ก่อนหมดตลาด ➡️ B850 ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถใช้ GPU และ SSD รุ่นใหม่ได้เต็มประสิทธิภาพ ➡️ การเปลี่ยนผ่านนี้เป็นส่วนหนึ่งของการรีเฟรชแพลตฟอร์ม AM5 ในปี 2024–2025 https://www.tomshardware.com/pc-components/chipsets/amd-discontinues-b650-chipset-to-transition-to-the-newer-b850-chipset-affordable-am5-motherboards-just-got-a-bit-pricier
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 196 มุมมอง 0 รีวิว
  • เคสคอมพิวเตอร์ฟรีจาก Teenage Engineering: ดีไซน์ล้ำ งบศูนย์บาท
    Teenage Engineering บริษัทดีไซน์สุดแนวจากสวีเดนที่เคยสร้างชื่อจากเครื่องดนตรีพกพาและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สุดครีเอทีฟ กลับมาอีกครั้งกับโปรเจกต์ใหม่ที่ชวนให้คนในวงการพีซีต้องหันมามอง นั่นคือ “Computer–2” เคสคอมพิวเตอร์ขนาด mini-ITX ที่แจกฟรี! ใช่ครับ ฟรีจริง ๆ (ยกเว้นค่าส่ง)

    เคสนี้ถูกออกแบบให้ประกอบจากแผ่นพลาสติกโปร่งแสงเพียงแผ่นเดียว โดยใช้ “living hinges” และ “snap hooks” ที่สามารถประกอบได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือหรือสกรูใด ๆ ทั้งสิ้น แค่ “กดแล้วคลิก” ก็เสร็จเรียบร้อย

    แม้จะดูเรียบง่าย แต่ Computer–2 รองรับฮาร์ดแวร์จริงจังได้พอสมควร เช่น
    - เมนบอร์ดขนาด mini-ITX
    - พาวเวอร์ซัพพลายแบบ SFX
    - การ์ดจอแบบ dual-slot ที่ยาวไม่เกิน 180 มม.
    - พัดลมขนาด 80 มม.
    - และฮีตซิงก์ซีพียูแบบ low-profile

    Teenage Engineering ตั้งเป้าให้เคสนี้เป็น “เคสคอมพิวเตอร์ที่ถูกที่สุดในโลก” และพวกเขาก็ทำสำเร็จ ด้วยต้นทุนที่ “เท่ากับศูนย์” โดยไม่รวมอุปกรณ์ภายใน

    อย่างไรก็ตาม เคสนี้ก็มีข้อจำกัดอยู่ไม่น้อย เช่น ความแข็งแรงที่อาจไม่เหมาะกับการพกพาไปงาน LAN party หรือการใช้งานระยะยาว รวมถึงระบบระบายความร้อนที่อาจไม่เพียงพอสำหรับฮาร์ดแวร์แรง ๆ

    Teenage Engineering เปิดตัวเคส Computer–2 แจกฟรี
    เคสทำจากแผ่นพลาสติกโปร่งแสงเพียงแผ่นเดียว
    ใช้ snap hooks และ living hinges ประกอบโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือ
    แจกฟรีแบบจำกัดจำนวน (1 ชิ้นต่อคน) โดยต้องจ่ายค่าส่งเอง

    รองรับฮาร์ดแวร์ขนาดเล็กแต่ใช้งานได้จริง
    รองรับเมนบอร์ด mini-ITX และพาวเวอร์ซัพพลายแบบ SFX
    รองรับการ์ดจอ dual-slot ยาวไม่เกิน 180 มม.
    รองรับพัดลมขนาด 80 มม. และฮีตซิงก์แบบ low-profile

    แนวคิดการออกแบบเพื่อความเรียบง่ายและต้นทุนต่ำ
    ไม่มีพอร์ต I/O ด้านหน้า มีเพียงสวิตช์เปิดปิดและไฟ LED
    ไม่มีสกรูหรือเครื่องมือใด ๆ ในการประกอบ
    เป็นการทดลองด้านดีไซน์และการตลาดของบริษัท

    https://www.tomshardware.com/pc-components/pc-cases/free-mini-itx-case-made-of-one-sheet-of-translucent-plastic-arrives-stock-evaporates-instantly-teenage-engineerings-foldable-computer-2-sports-odd-layout-with-the-gpu-above-the-motherboard
    🧩 เคสคอมพิวเตอร์ฟรีจาก Teenage Engineering: ดีไซน์ล้ำ งบศูนย์บาท Teenage Engineering บริษัทดีไซน์สุดแนวจากสวีเดนที่เคยสร้างชื่อจากเครื่องดนตรีพกพาและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สุดครีเอทีฟ กลับมาอีกครั้งกับโปรเจกต์ใหม่ที่ชวนให้คนในวงการพีซีต้องหันมามอง นั่นคือ “Computer–2” เคสคอมพิวเตอร์ขนาด mini-ITX ที่แจกฟรี! ใช่ครับ ฟรีจริง ๆ (ยกเว้นค่าส่ง) เคสนี้ถูกออกแบบให้ประกอบจากแผ่นพลาสติกโปร่งแสงเพียงแผ่นเดียว โดยใช้ “living hinges” และ “snap hooks” ที่สามารถประกอบได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือหรือสกรูใด ๆ ทั้งสิ้น แค่ “กดแล้วคลิก” ก็เสร็จเรียบร้อย แม้จะดูเรียบง่าย แต่ Computer–2 รองรับฮาร์ดแวร์จริงจังได้พอสมควร เช่น - เมนบอร์ดขนาด mini-ITX - พาวเวอร์ซัพพลายแบบ SFX - การ์ดจอแบบ dual-slot ที่ยาวไม่เกิน 180 มม. - พัดลมขนาด 80 มม. - และฮีตซิงก์ซีพียูแบบ low-profile Teenage Engineering ตั้งเป้าให้เคสนี้เป็น “เคสคอมพิวเตอร์ที่ถูกที่สุดในโลก” และพวกเขาก็ทำสำเร็จ ด้วยต้นทุนที่ “เท่ากับศูนย์” โดยไม่รวมอุปกรณ์ภายใน อย่างไรก็ตาม เคสนี้ก็มีข้อจำกัดอยู่ไม่น้อย เช่น ความแข็งแรงที่อาจไม่เหมาะกับการพกพาไปงาน LAN party หรือการใช้งานระยะยาว รวมถึงระบบระบายความร้อนที่อาจไม่เพียงพอสำหรับฮาร์ดแวร์แรง ๆ ✅ Teenage Engineering เปิดตัวเคส Computer–2 แจกฟรี ➡️ เคสทำจากแผ่นพลาสติกโปร่งแสงเพียงแผ่นเดียว ➡️ ใช้ snap hooks และ living hinges ประกอบโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือ ➡️ แจกฟรีแบบจำกัดจำนวน (1 ชิ้นต่อคน) โดยต้องจ่ายค่าส่งเอง ✅ รองรับฮาร์ดแวร์ขนาดเล็กแต่ใช้งานได้จริง ➡️ รองรับเมนบอร์ด mini-ITX และพาวเวอร์ซัพพลายแบบ SFX ➡️ รองรับการ์ดจอ dual-slot ยาวไม่เกิน 180 มม. ➡️ รองรับพัดลมขนาด 80 มม. และฮีตซิงก์แบบ low-profile ✅ แนวคิดการออกแบบเพื่อความเรียบง่ายและต้นทุนต่ำ ➡️ ไม่มีพอร์ต I/O ด้านหน้า มีเพียงสวิตช์เปิดปิดและไฟ LED ➡️ ไม่มีสกรูหรือเครื่องมือใด ๆ ในการประกอบ ➡️ เป็นการทดลองด้านดีไซน์และการตลาดของบริษัท https://www.tomshardware.com/pc-components/pc-cases/free-mini-itx-case-made-of-one-sheet-of-translucent-plastic-arrives-stock-evaporates-instantly-teenage-engineerings-foldable-computer-2-sports-odd-layout-with-the-gpu-above-the-motherboard
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 242 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากเมนบอร์ดไซส์เล็ก: เมื่อ “Strix Halo” มาอยู่ในร่างบางพร้อม RAM 128GB

    Sixunited เปิดตัวเมนบอร์ดรหัส STHT1 ที่ใช้ซีพียู Strix Halo (Ryzen AI Max) ซึ่งเป็นรุ่นเดสก์ท็อปที่ใช้สถาปัตยกรรม Zen 5 และกราฟิก RDNA 3.5 โดยซีพียูมีให้เลือกตั้งแต่ 8 ถึง 16 คอร์ ส่วนกราฟิก Radeon 8060S มีถึง 40 compute units — เทียบเท่ากับ GPU แบบแยกระดับกลาง

    เมนบอร์ดนี้ยังจัดเต็มแรม LPDDR5X ขนาด 128GB แบบ on-board (ฝังไว้) โดยใช้ชิป 16GB × 8 ตัว ล้อมรอบซีพียู ซึ่งแม้จะไม่สามารถอัปเกรดได้ แต่ก็เพียงพอสำหรับงาน AI inference, training เบื้องต้น หรือการสร้าง content ที่กิน RAM มาก

    จุดเด่นอีกอย่างคือขนาด “thin Mini-ITX” ขนาด 170×170 มม. แต่ความสูง (z-height) ต่ำมาก เหมาะกับเคสบาง หรือ AIO ที่ต้องการประหยัดพื้นที่

    เมนบอร์ด STHT1 จาก Sixunited ใช้ AMD Ryzen AI Max 300-series “Strix Halo”
    ซีพียู Zen 5 พร้อมกราฟิก RDNA 3.5 สูงสุด 16 คอร์ และ 40 CU

    แรม LPDDR5X ขนาด 128GB ติดตั้งแบบฝังบนบอร์ด
    ใช้ชิป 16GB × 8 ตัว ล้อมรอบตัวซีพียู

    ใช้ฟอร์มแฟกเตอร์ thin Mini-ITX ขนาด 170×170 มม. แต่บางกว่าปกติ
    เหมาะสำหรับเคส AIO และ SFF ที่มีพื้นที่จำกัด

    รองรับการติดตั้ง SSD M.2 แบบ PCIe 4.0 ได้ 2 ตัว
    สำหรับ M.2 2280 และมีสล็อต M.2 เพิ่มสำหรับโมดูล Wi-Fi (2230)

    มีพอร์ต HDMI 2.1 ×2 และ VGA ที่สามารถปรับเป็น DisplayPort หรือ COM ได้
    รองรับการต่อจอหลายแบบตามความต้องการ

    มีพอร์ต USB 3.2 Gen 2 ×2 และ USB 2.0 ×2 พร้อม header เพิ่มขยาย
    รองรับการต่ออุปกรณ์เสริม

    ใช้ไฟผ่านพอร์ต DC IN ขนาด 19V สำหรับการจ่ายพลังงานตรง
    รองรับซีพียูที่มีค่า cTDP ตั้งแต่ 45–120W ได้สบาย

    https://www.tomshardware.com/pc-components/motherboards/amd-strix-halo-mini-itx-motherboard-flaunts-128gb-lpddr5x-add-a-cpu-cooler-boot-drive-and-power-supply-for-a-slim-gaming-or-ai-rig
    🎙️ เรื่องเล่าจากเมนบอร์ดไซส์เล็ก: เมื่อ “Strix Halo” มาอยู่ในร่างบางพร้อม RAM 128GB Sixunited เปิดตัวเมนบอร์ดรหัส STHT1 ที่ใช้ซีพียู Strix Halo (Ryzen AI Max) ซึ่งเป็นรุ่นเดสก์ท็อปที่ใช้สถาปัตยกรรม Zen 5 และกราฟิก RDNA 3.5 โดยซีพียูมีให้เลือกตั้งแต่ 8 ถึง 16 คอร์ ส่วนกราฟิก Radeon 8060S มีถึง 40 compute units — เทียบเท่ากับ GPU แบบแยกระดับกลาง เมนบอร์ดนี้ยังจัดเต็มแรม LPDDR5X ขนาด 128GB แบบ on-board (ฝังไว้) โดยใช้ชิป 16GB × 8 ตัว ล้อมรอบซีพียู ซึ่งแม้จะไม่สามารถอัปเกรดได้ แต่ก็เพียงพอสำหรับงาน AI inference, training เบื้องต้น หรือการสร้าง content ที่กิน RAM มาก จุดเด่นอีกอย่างคือขนาด “thin Mini-ITX” ขนาด 170×170 มม. แต่ความสูง (z-height) ต่ำมาก เหมาะกับเคสบาง หรือ AIO ที่ต้องการประหยัดพื้นที่ ✅ เมนบอร์ด STHT1 จาก Sixunited ใช้ AMD Ryzen AI Max 300-series “Strix Halo” ➡️ ซีพียู Zen 5 พร้อมกราฟิก RDNA 3.5 สูงสุด 16 คอร์ และ 40 CU ✅ แรม LPDDR5X ขนาด 128GB ติดตั้งแบบฝังบนบอร์ด ➡️ ใช้ชิป 16GB × 8 ตัว ล้อมรอบตัวซีพียู ✅ ใช้ฟอร์มแฟกเตอร์ thin Mini-ITX ขนาด 170×170 มม. แต่บางกว่าปกติ ➡️ เหมาะสำหรับเคส AIO และ SFF ที่มีพื้นที่จำกัด ✅ รองรับการติดตั้ง SSD M.2 แบบ PCIe 4.0 ได้ 2 ตัว ➡️ สำหรับ M.2 2280 และมีสล็อต M.2 เพิ่มสำหรับโมดูล Wi-Fi (2230) ✅ มีพอร์ต HDMI 2.1 ×2 และ VGA ที่สามารถปรับเป็น DisplayPort หรือ COM ได้ ➡️ รองรับการต่อจอหลายแบบตามความต้องการ ✅ มีพอร์ต USB 3.2 Gen 2 ×2 และ USB 2.0 ×2 พร้อม header เพิ่มขยาย ➡️ รองรับการต่ออุปกรณ์เสริม ✅ ใช้ไฟผ่านพอร์ต DC IN ขนาด 19V สำหรับการจ่ายพลังงานตรง ➡️ รองรับซีพียูที่มีค่า cTDP ตั้งแต่ 45–120W ได้สบาย https://www.tomshardware.com/pc-components/motherboards/amd-strix-halo-mini-itx-motherboard-flaunts-128gb-lpddr5x-add-a-cpu-cooler-boot-drive-and-power-supply-for-a-slim-gaming-or-ai-rig
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 250 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากโลก Blackwell: Nvidia GB300 มาแน่ — แก้เกมระบบรั่ว พร้อมบุกตลาดเซิร์ฟเวอร์ AI

    หลังจาก GB200 ใช้ระบบ motherboard แบบครบชุดที่รวม GPU, CPU และหน่วยความจำไว้หมด Nvidia ได้ปรับเปลี่ยนแนวทางใน GB300 ด้วยการแยกทุกชิ้นส่วนให้เลือกได้อิสระ เช่น:
    - B300 GPU บนโมดูล SXM puck
    - Grace CPU แยกเป็นแพ็กเกจ BGA
    - HMC (Hardware Management Controller) จาก Axiado
    - หน่วยความจำเปลี่ยนเป็น SOCAMM ที่หาซื้อได้ทั่วไป
    - ลูกค้าต้องประกอบ motherboard ส่วนอื่นเอง
    - Nvidia ยังให้ switch tray และ copper backplane เหมือนเดิม

    แนวทางนี้ช่วยให้ผู้ผลิตเซิร์ฟเวอร์ (ODM) ลดเวลาในการเปลี่ยนผ่านจากรุ่นเก่า และมีอิสระในการปรับแต่งระบบได้มากขึ้น โดยไม่ต้องรื้อ motherboard ทั้งแผง

    Dell และพันธมิตรอื่น ๆ เริ่มการผลิตแล้ว แต่การส่งมอบแบบ mass-scale จะเริ่มในเดือน กันยายน 2025 และจะเพิ่มปริมาณอย่างมากในไตรมาส 4 ปีนี้

    แม้ GB200 จะประสบปัญหาน้ำหล่อเย็นรั่วจากข้อต่อ quick-connect แม้ผ่าน stress test แล้ว แต่ความต้องการใน data center ยัง “ไม่ตก” ทำให้ผู้ใช้งานเลือกเสี่ยงใช้งานต่อ พร้อมมาตรการป้องกันเช่น หยุดทำงานเฉพาะจุดหรือทดสอบการรั่วเชิงลึก

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/large-scale-shipments-of-nvidia-gb300-servers-tipped-to-start-in-september-gb200-demand-remains-robust-despite-widespread-coolant-leak-reports
    🎙️ เรื่องเล่าจากโลก Blackwell: Nvidia GB300 มาแน่ — แก้เกมระบบรั่ว พร้อมบุกตลาดเซิร์ฟเวอร์ AI หลังจาก GB200 ใช้ระบบ motherboard แบบครบชุดที่รวม GPU, CPU และหน่วยความจำไว้หมด Nvidia ได้ปรับเปลี่ยนแนวทางใน GB300 ด้วยการแยกทุกชิ้นส่วนให้เลือกได้อิสระ เช่น: - B300 GPU บนโมดูล SXM puck - Grace CPU แยกเป็นแพ็กเกจ BGA - HMC (Hardware Management Controller) จาก Axiado - หน่วยความจำเปลี่ยนเป็น SOCAMM ที่หาซื้อได้ทั่วไป - ลูกค้าต้องประกอบ motherboard ส่วนอื่นเอง - Nvidia ยังให้ switch tray และ copper backplane เหมือนเดิม แนวทางนี้ช่วยให้ผู้ผลิตเซิร์ฟเวอร์ (ODM) ลดเวลาในการเปลี่ยนผ่านจากรุ่นเก่า และมีอิสระในการปรับแต่งระบบได้มากขึ้น โดยไม่ต้องรื้อ motherboard ทั้งแผง Dell และพันธมิตรอื่น ๆ เริ่มการผลิตแล้ว แต่การส่งมอบแบบ mass-scale จะเริ่มในเดือน กันยายน 2025 และจะเพิ่มปริมาณอย่างมากในไตรมาส 4 ปีนี้ แม้ GB200 จะประสบปัญหาน้ำหล่อเย็นรั่วจากข้อต่อ quick-connect แม้ผ่าน stress test แล้ว แต่ความต้องการใน data center ยัง “ไม่ตก” ทำให้ผู้ใช้งานเลือกเสี่ยงใช้งานต่อ พร้อมมาตรการป้องกันเช่น หยุดทำงานเฉพาะจุดหรือทดสอบการรั่วเชิงลึก https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/large-scale-shipments-of-nvidia-gb300-servers-tipped-to-start-in-september-gb200-demand-remains-robust-despite-widespread-coolant-leak-reports
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 299 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากโลกฮาร์ดแวร์: ช่องโหว่ในเมนบอร์ด Gigabyte เปิดทางให้มัลแวร์ล่องหน

    นักวิจัยจาก Binarly และมหาวิทยาลัย Carnegie Mellon พบช่องโหว่ 4 จุดใน UEFI firmware ของเมนบอร์ด Gigabyte ที่ผลิตสำหรับซีพียู Intel รุ่นที่ 8 ถึง 11 (ปี 2017–2021) โดยช่องโหว่นี้อยู่ใน System Management Mode (SMM) ซึ่งเป็นโหมดที่มีสิทธิ์สูงสุดในระบบ และควรจะปลอดภัยจากการเข้าถึงของโค้ดภายนอก

    แต่เนื่องจากการออกแบบเฟิร์มแวร์ที่ผิดพลาด ผู้โจมตีที่ได้สิทธิ์ระดับแอดมิน—ไม่ว่าจะจากการโจมตีทางไกลหรือการเข้าถึงเครื่องโดยตรง—สามารถเจาะเข้า SMM ได้ และติดตั้งมัลแวร์ที่อยู่รอดแม้จะติดตั้งระบบใหม่

    มัลแวร์ระดับนี้สามารถปิดฟีเจอร์ความปลอดภัย เช่น Secure Boot และ Intel Boot Guard ได้ ทำให้เกิดภัยคุกคามขั้นสูง เช่น bootkits และ firmware rootkits ที่ตรวจจับได้ยากมาก

    แม้ American Megatrends (AMI) ซึ่งเป็นผู้พัฒนาเฟิร์มแวร์จะเคยส่งแพตช์ให้ Gigabyte แต่หลายรุ่นกลับไม่ได้รับการอัปเดตก่อนวางขาย ทำให้ผู้ใช้จำนวนมากยังตกอยู่ในความเสี่ยง

    Gigabyte เริ่มปล่อย BIOS อัปเดตตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2025 แต่มีปัญหาสำคัญคือเกือบครึ่งของเมนบอร์ดที่ได้รับผลกระทบอยู่ในสถานะ End of Life (EOL) แล้ว ซึ่งหมายความว่าไม่มีการสนับสนุนหรืออัปเดตอีกต่อไป

    ช่องโหว่พบในเมนบอร์ด Gigabyte กว่า 240 รุ่น (ปี 2017–2021)
    รองรับ Intel Gen 8–11 และใช้เฟิร์มแวร์จาก American Megatrends

    ช่องโหว่เกิดใน System Management Mode (SMM)
    เป็นโหมดที่มีสิทธิ์สูงสุดในระบบและควรปลอดภัยจากโค้ดภายนอก

    ผู้โจมตีสามารถติดตั้งมัลแวร์ที่อยู่รอดแม้ติดตั้งระบบใหม่
    และปิดฟีเจอร์ความปลอดภัย เช่น Secure Boot และ Boot Guard

    AMI เคยส่งแพตช์ให้ Gigabyte แต่บางรุ่นไม่ได้รับการอัปเดตก่อนวางขาย
    ทำให้ช่องโหว่ยังคงอยู่ในผลิตภัณฑ์ที่วางจำหน่าย

    Gigabyte เริ่มปล่อย BIOS อัปเดตตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2025
    พร้อมเผยรายชื่อรุ่นที่ได้รับผลกระทบบนเว็บไซต์

    เมนบอร์ดรุ่นใหม่ของ Gigabyte ไม่ได้รับผลกระทบ
    เพราะมีการเสริมระบบป้องกันในระดับเฟิร์มแวร์

    เมนบอร์ดเกือบครึ่งที่ได้รับผลกระทบอยู่ในสถานะ End of Life
    ไม่ได้รับการอัปเดตหรือสนับสนุนจาก Gigabyte อีกต่อไป

    Gigabyte แนะนำให้ติดต่อ Field Application Engineer สำหรับรุ่น EOL
    ซึ่งเป็นบริการที่เข้าถึงได้เฉพาะลูกค้าองค์กร ไม่ใช่ผู้ใช้ทั่วไป

    ผู้ใช้ทั่วไปอาจไม่มีทางแก้ไขช่องโหว่นี้ได้
    นอกจากเปลี่ยนฮาร์ดแวร์ใหม่ที่ปลอดภัยกว่า

    ช่องโหว่ระดับเฟิร์มแวร์สามารถหลบเลี่ยงเครื่องมือรักษาความปลอดภัยทั่วไป
    เช่น antivirus หรือ endpoint protection

    https://www.techspot.com/news/108688-firmware-flaws-over-200-gigabyte-motherboards-could-lead.html
    🎙️ เรื่องเล่าจากโลกฮาร์ดแวร์: ช่องโหว่ในเมนบอร์ด Gigabyte เปิดทางให้มัลแวร์ล่องหน นักวิจัยจาก Binarly และมหาวิทยาลัย Carnegie Mellon พบช่องโหว่ 4 จุดใน UEFI firmware ของเมนบอร์ด Gigabyte ที่ผลิตสำหรับซีพียู Intel รุ่นที่ 8 ถึง 11 (ปี 2017–2021) โดยช่องโหว่นี้อยู่ใน System Management Mode (SMM) ซึ่งเป็นโหมดที่มีสิทธิ์สูงสุดในระบบ และควรจะปลอดภัยจากการเข้าถึงของโค้ดภายนอก แต่เนื่องจากการออกแบบเฟิร์มแวร์ที่ผิดพลาด ผู้โจมตีที่ได้สิทธิ์ระดับแอดมิน—ไม่ว่าจะจากการโจมตีทางไกลหรือการเข้าถึงเครื่องโดยตรง—สามารถเจาะเข้า SMM ได้ และติดตั้งมัลแวร์ที่อยู่รอดแม้จะติดตั้งระบบใหม่ มัลแวร์ระดับนี้สามารถปิดฟีเจอร์ความปลอดภัย เช่น Secure Boot และ Intel Boot Guard ได้ ทำให้เกิดภัยคุกคามขั้นสูง เช่น bootkits และ firmware rootkits ที่ตรวจจับได้ยากมาก แม้ American Megatrends (AMI) ซึ่งเป็นผู้พัฒนาเฟิร์มแวร์จะเคยส่งแพตช์ให้ Gigabyte แต่หลายรุ่นกลับไม่ได้รับการอัปเดตก่อนวางขาย ทำให้ผู้ใช้จำนวนมากยังตกอยู่ในความเสี่ยง Gigabyte เริ่มปล่อย BIOS อัปเดตตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2025 แต่มีปัญหาสำคัญคือเกือบครึ่งของเมนบอร์ดที่ได้รับผลกระทบอยู่ในสถานะ End of Life (EOL) แล้ว ซึ่งหมายความว่าไม่มีการสนับสนุนหรืออัปเดตอีกต่อไป ✅ ช่องโหว่พบในเมนบอร์ด Gigabyte กว่า 240 รุ่น (ปี 2017–2021) ➡️ รองรับ Intel Gen 8–11 และใช้เฟิร์มแวร์จาก American Megatrends ✅ ช่องโหว่เกิดใน System Management Mode (SMM) ➡️ เป็นโหมดที่มีสิทธิ์สูงสุดในระบบและควรปลอดภัยจากโค้ดภายนอก ✅ ผู้โจมตีสามารถติดตั้งมัลแวร์ที่อยู่รอดแม้ติดตั้งระบบใหม่ ➡️ และปิดฟีเจอร์ความปลอดภัย เช่น Secure Boot และ Boot Guard ✅ AMI เคยส่งแพตช์ให้ Gigabyte แต่บางรุ่นไม่ได้รับการอัปเดตก่อนวางขาย ➡️ ทำให้ช่องโหว่ยังคงอยู่ในผลิตภัณฑ์ที่วางจำหน่าย ✅ Gigabyte เริ่มปล่อย BIOS อัปเดตตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2025 ➡️ พร้อมเผยรายชื่อรุ่นที่ได้รับผลกระทบบนเว็บไซต์ ✅ เมนบอร์ดรุ่นใหม่ของ Gigabyte ไม่ได้รับผลกระทบ ➡️ เพราะมีการเสริมระบบป้องกันในระดับเฟิร์มแวร์ ‼️ เมนบอร์ดเกือบครึ่งที่ได้รับผลกระทบอยู่ในสถานะ End of Life ⛔ ไม่ได้รับการอัปเดตหรือสนับสนุนจาก Gigabyte อีกต่อไป ‼️ Gigabyte แนะนำให้ติดต่อ Field Application Engineer สำหรับรุ่น EOL ⛔ ซึ่งเป็นบริการที่เข้าถึงได้เฉพาะลูกค้าองค์กร ไม่ใช่ผู้ใช้ทั่วไป ‼️ ผู้ใช้ทั่วไปอาจไม่มีทางแก้ไขช่องโหว่นี้ได้ ⛔ นอกจากเปลี่ยนฮาร์ดแวร์ใหม่ที่ปลอดภัยกว่า ‼️ ช่องโหว่ระดับเฟิร์มแวร์สามารถหลบเลี่ยงเครื่องมือรักษาความปลอดภัยทั่วไป ⛔ เช่น antivirus หรือ endpoint protection https://www.techspot.com/news/108688-firmware-flaws-over-200-gigabyte-motherboards-could-lead.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Firmware flaws in over 200 Gigabyte motherboards could lead to undetectable malware
    The vulnerabilities, discovered by researchers at Binarly and Carnegie Mellon University, affect the internal firmware of more than 240 Gigabyte motherboard models released between 2017 and 2021....
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 321 มุมมอง 0 รีวิว
  • NEX395 คือ Mini PC ที่ดูเหมือน SSD Enclosure มากกว่า Desktop — มีช่องระบายอากาศเต็มตัวเครื่องและดีไซน์บางผิดคาดจากเครื่องที่ใช้ APU แรงขนาดนี้

    ภายในใช้ Strix Halo APU ซึ่งมี
    - 16 คอร์ / 32 เธรด
    - GPU แบบในตัวคือ Radeon 8060S (แรงกว่า RX 7600 XT!)
    - รองรับ RAM สูงสุด 128GB (น่าจะเป็น LPDDR5X)

    แต่น่าสงสัยมาก: ไม่มีข้อมูลเรื่อง cooling, ระบบจัดการความร้อน, หรือแม้แต่ layout ภายในของบอร์ด! → ทำให้ผู้เชี่ยวชาญตั้งคำถามว่า: นี่ใช้งานแบบ full-load ได้จริงไหม? หรือแค่เร่งแรงเพื่อโชว์เฉย ๆ

    แม้จะมีช่อง HDMI, DisplayPort, USB-A, USB-C และ Ethernet 2 ช่อง — แต่ไม่มีพอร์ต OCuLink สำหรับต่อ eGPU แบบเต็มสปีด → มีขาย eGPU เพิ่มแยก โดยใช้ Radeon RX 7600 XT (แต่จริง ๆ GPU ในตัวแรงกว่าอีก!)

    ราคาไม่เปิดเผย แต่จากการเปรียบเทียบกับรุ่นคล้าย ๆ เช่น HP Z2 Mini G1a และ GMKTEC EVO-X2 ก็น่าจะอยู่ที่ $1,500–$2,000

    AOOSTAR NEX395 เป็น Mini PC ใช้ AMD Ryzen AI MAX+ 395 (Strix Halo APU)  
    • CPU 16-core / 32-thread / Boost 5.1GHz  
    • GPU ในตัวคือ Radeon 8060S แบบใหม่  
    • รองรับ RAM สูงสุด 128GB (น่าจะเป็น LPDDR5X)

    ดีไซน์ตัวเครื่องแปลกตา → เหมือน SSD Dock มากกว่า PC  
    • ถือในมือได้ / น้ำหนักเบา / มีพอร์ตครบ

    มี GPU ในตัว + ขาย eGPU เพิ่ม → แต่ eGPU ใช้ RX 7600 XT ที่สเปกต่ำกว่า GPU ในตัวอีก

    ไม่มีข้อมูลเรื่องการระบายความร้อนหรือโครงสร้างภายใน

    พอร์ตเชื่อมต่อหลัก:  
    • USB-A 4 ช่อง / USB-C / HDMI / DisplayPort / Ethernet 2 ช่อง / พาวเวอร์ input แยก

    คาดว่าราคาอาจอยู่ในช่วง $1500–$2000  
    • เทียบกับรุ่นที่มี GPU ภายนอก / เน้น AI เช่น HP Z2 Mini หรือ GMKTEC

    ไม่มีข้อมูลระบบระบายความร้อนเลย → อาจมีปัญหาเรื่อง thermal throttling หากใช้งานหนัก

    ตัว GPU ใน APU (Radeon 8060S) สเปกแรงกว่า eGPU ที่ขายแยก (RX 7600 XT) → ทำให้การต่อ eGPU ดูไม่คุ้มค่า

    ไม่มีพอร์ต OCuLink หรือการเชื่อมต่อ PCIe เร็วสำหรับ eGPU → อาจเกิดคอขวดถ้าใช้งานกราฟิกจากภายนอก

    ดีไซน์บางเบาแม้จะใช้ APU ระดับ workstation → ทำให้สงสัยว่าสามารถให้ประสิทธิภาพเต็มรูปแบบได้หรือไม่

    ไม่มีข้อมูล storage, fan layout หรือแม้แต่ motherboard ที่ใช้จริง → อาจทำให้ผู้ใช้สาย dev/AI ที่ต้องการความเสถียรลังเล

    https://www.techradar.com/pro/this-is-the-weirdest-looking-ai-max-395-mini-pc-that-ive-ever-seen-and-you-can-apparently-hold-it-comfortably-in-the-palm-of-your-hand
    NEX395 คือ Mini PC ที่ดูเหมือน SSD Enclosure มากกว่า Desktop — มีช่องระบายอากาศเต็มตัวเครื่องและดีไซน์บางผิดคาดจากเครื่องที่ใช้ APU แรงขนาดนี้ ภายในใช้ Strix Halo APU ซึ่งมี - 16 คอร์ / 32 เธรด - GPU แบบในตัวคือ Radeon 8060S (แรงกว่า RX 7600 XT!) - รองรับ RAM สูงสุด 128GB (น่าจะเป็น LPDDR5X) แต่น่าสงสัยมาก: ไม่มีข้อมูลเรื่อง cooling, ระบบจัดการความร้อน, หรือแม้แต่ layout ภายในของบอร์ด! → ทำให้ผู้เชี่ยวชาญตั้งคำถามว่า: นี่ใช้งานแบบ full-load ได้จริงไหม? หรือแค่เร่งแรงเพื่อโชว์เฉย ๆ แม้จะมีช่อง HDMI, DisplayPort, USB-A, USB-C และ Ethernet 2 ช่อง — แต่ไม่มีพอร์ต OCuLink สำหรับต่อ eGPU แบบเต็มสปีด → มีขาย eGPU เพิ่มแยก โดยใช้ Radeon RX 7600 XT (แต่จริง ๆ GPU ในตัวแรงกว่าอีก!) ราคาไม่เปิดเผย แต่จากการเปรียบเทียบกับรุ่นคล้าย ๆ เช่น HP Z2 Mini G1a และ GMKTEC EVO-X2 ก็น่าจะอยู่ที่ $1,500–$2,000 ✅ AOOSTAR NEX395 เป็น Mini PC ใช้ AMD Ryzen AI MAX+ 395 (Strix Halo APU)   • CPU 16-core / 32-thread / Boost 5.1GHz   • GPU ในตัวคือ Radeon 8060S แบบใหม่   • รองรับ RAM สูงสุด 128GB (น่าจะเป็น LPDDR5X) ✅ ดีไซน์ตัวเครื่องแปลกตา → เหมือน SSD Dock มากกว่า PC   • ถือในมือได้ / น้ำหนักเบา / มีพอร์ตครบ ✅ มี GPU ในตัว + ขาย eGPU เพิ่ม → แต่ eGPU ใช้ RX 7600 XT ที่สเปกต่ำกว่า GPU ในตัวอีก ✅ ไม่มีข้อมูลเรื่องการระบายความร้อนหรือโครงสร้างภายใน ✅ พอร์ตเชื่อมต่อหลัก:   • USB-A 4 ช่อง / USB-C / HDMI / DisplayPort / Ethernet 2 ช่อง / พาวเวอร์ input แยก ✅ คาดว่าราคาอาจอยู่ในช่วง $1500–$2000   • เทียบกับรุ่นที่มี GPU ภายนอก / เน้น AI เช่น HP Z2 Mini หรือ GMKTEC ‼️ ไม่มีข้อมูลระบบระบายความร้อนเลย → อาจมีปัญหาเรื่อง thermal throttling หากใช้งานหนัก ‼️ ตัว GPU ใน APU (Radeon 8060S) สเปกแรงกว่า eGPU ที่ขายแยก (RX 7600 XT) → ทำให้การต่อ eGPU ดูไม่คุ้มค่า ‼️ ไม่มีพอร์ต OCuLink หรือการเชื่อมต่อ PCIe เร็วสำหรับ eGPU → อาจเกิดคอขวดถ้าใช้งานกราฟิกจากภายนอก ‼️ ดีไซน์บางเบาแม้จะใช้ APU ระดับ workstation → ทำให้สงสัยว่าสามารถให้ประสิทธิภาพเต็มรูปแบบได้หรือไม่ ‼️ ไม่มีข้อมูล storage, fan layout หรือแม้แต่ motherboard ที่ใช้จริง → อาจทำให้ผู้ใช้สาย dev/AI ที่ต้องการความเสถียรลังเล https://www.techradar.com/pro/this-is-the-weirdest-looking-ai-max-395-mini-pc-that-ive-ever-seen-and-you-can-apparently-hold-it-comfortably-in-the-palm-of-your-hand
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 331 มุมมอง 0 รีวิว
  • ก่อนอื่นต้องอธิบายก่อนว่า CAMM2 (Compression Attached Memory Module 2) คือฟอร์มแฟกเตอร์ใหม่ที่จะมาแทน SO-DIMM และ UDIMM ที่เราใช้กันบนโน้ตบุ๊กและพีซีในปัจจุบัน → มันบางกว่า เสียบแน่นกว่า ต้านทานสัญญาณน้อยกว่า และเร็วกว่าเยอะ! → ผลคือ “โอเวอร์คล็อกได้ดีกว่า” และใช้ในอุปกรณ์บางเฉียบหรือโมดูล AI ที่ต้องการพื้นที่คุมความร้อน

    G.Skill ใช้โมดูล CAMM2 DDR5 ขนาด 64GB บนเมนบอร์ด ASUS ROG Maximus Z890 Hero รุ่นพิเศษที่ดัดแปลงให้รองรับ CAMM2 โดยจับคู่กับ Intel Core Ultra 7 265K → แล้วจัดการโอเวอร์คล็อกจนไปถึง DDR5-10000 MT/s และรัน Memtest แบบเสถียรได้!

    แม้สถิติโลกตอนนี้จะยังสูงกว่า (DDR5-12054 โดย saltycroissant) แต่ความต่างคือ สถิตินั้นใช้แบบ DIMM ปกติ + air cooling, ขณะที่ CAMM2 ยังมีศักยภาพเหลืออีกเยอะ — ถ้าทำตลาดจริงเมื่อไหร่ อาจเป็นมาตรฐานใหม่ของหน่วยความจำยุคถัดไปเลยก็ได้

    G.Skill ทำลายสถิติโอเวอร์คล็อกของ CAMM2 ได้ถึง DDR5-10000 MT/s  
    • ใช้กับแรม CAMM2 ความจุ 64GB  
    • ทดสอบบนเมนบอร์ด ASUS Maximus Z890 Hero ที่ดัดแปลงพิเศษ  
    • จับคู่กับซีพียู Intel Core Ultra 7 265K  
    • ผ่านการทดสอบเสถียรด้วย Memtest

    CAMM2 คือฟอร์มแฟกเตอร์หน่วยความจำแบบใหม่แทน SO-DIMM/UDIMM  
    • บางกว่า เร็วกว่า มีศักยภาพ overclock สูง  
    • ถูกนำเสนอครั้งแรกกลางปี 2024  
    • มีแค่ Crucial ที่เริ่มขาย LPCAMM2 LPDDR5X-7500 (32/64GB)

    เหมาะกับโน้ตบุ๊ก/แท็บเล็ตที่ไม่อยากใช้ RAM แบบฝัง (soldered)  
    • ช่วยให้ซ่อม–อัปเกรดได้ง่ายขึ้น  
    • ลดต้นทุนผลิต เพราะใช้สายการผลิตเดียวได้หลายขนาด

    G.Skill, Kingston, TeamGroup เริ่มโชว์ CAMM2 ที่ Computex 2025 แล้ว  
    • แต่ยังไม่มีเมนบอร์ด consumer รุ่น CAMM2 วางจำหน่ายทั่วไป

    https://www.tomshardware.com/pc-components/ddr5/g-skill-pushing-new-camm2-ddr5-memory-modules-to-the-overclocking-limit-hits-ddr5-10000-speeds-on-modified-asus-motherboard
    ก่อนอื่นต้องอธิบายก่อนว่า CAMM2 (Compression Attached Memory Module 2) คือฟอร์มแฟกเตอร์ใหม่ที่จะมาแทน SO-DIMM และ UDIMM ที่เราใช้กันบนโน้ตบุ๊กและพีซีในปัจจุบัน → มันบางกว่า เสียบแน่นกว่า ต้านทานสัญญาณน้อยกว่า และเร็วกว่าเยอะ! → ผลคือ “โอเวอร์คล็อกได้ดีกว่า” และใช้ในอุปกรณ์บางเฉียบหรือโมดูล AI ที่ต้องการพื้นที่คุมความร้อน G.Skill ใช้โมดูล CAMM2 DDR5 ขนาด 64GB บนเมนบอร์ด ASUS ROG Maximus Z890 Hero รุ่นพิเศษที่ดัดแปลงให้รองรับ CAMM2 โดยจับคู่กับ Intel Core Ultra 7 265K → แล้วจัดการโอเวอร์คล็อกจนไปถึง DDR5-10000 MT/s และรัน Memtest แบบเสถียรได้! แม้สถิติโลกตอนนี้จะยังสูงกว่า (DDR5-12054 โดย saltycroissant) แต่ความต่างคือ สถิตินั้นใช้แบบ DIMM ปกติ + air cooling, ขณะที่ CAMM2 ยังมีศักยภาพเหลืออีกเยอะ — ถ้าทำตลาดจริงเมื่อไหร่ อาจเป็นมาตรฐานใหม่ของหน่วยความจำยุคถัดไปเลยก็ได้ ✅ G.Skill ทำลายสถิติโอเวอร์คล็อกของ CAMM2 ได้ถึง DDR5-10000 MT/s   • ใช้กับแรม CAMM2 ความจุ 64GB   • ทดสอบบนเมนบอร์ด ASUS Maximus Z890 Hero ที่ดัดแปลงพิเศษ   • จับคู่กับซีพียู Intel Core Ultra 7 265K   • ผ่านการทดสอบเสถียรด้วย Memtest ✅ CAMM2 คือฟอร์มแฟกเตอร์หน่วยความจำแบบใหม่แทน SO-DIMM/UDIMM   • บางกว่า เร็วกว่า มีศักยภาพ overclock สูง   • ถูกนำเสนอครั้งแรกกลางปี 2024   • มีแค่ Crucial ที่เริ่มขาย LPCAMM2 LPDDR5X-7500 (32/64GB) ✅ เหมาะกับโน้ตบุ๊ก/แท็บเล็ตที่ไม่อยากใช้ RAM แบบฝัง (soldered)   • ช่วยให้ซ่อม–อัปเกรดได้ง่ายขึ้น   • ลดต้นทุนผลิต เพราะใช้สายการผลิตเดียวได้หลายขนาด ✅ G.Skill, Kingston, TeamGroup เริ่มโชว์ CAMM2 ที่ Computex 2025 แล้ว   • แต่ยังไม่มีเมนบอร์ด consumer รุ่น CAMM2 วางจำหน่ายทั่วไป https://www.tomshardware.com/pc-components/ddr5/g-skill-pushing-new-camm2-ddr5-memory-modules-to-the-overclocking-limit-hits-ddr5-10000-speeds-on-modified-asus-motherboard
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 364 มุมมอง 0 รีวิว
  • ใครที่รู้จัก Raspberry Pi ก็คงคุ้นกับคำว่า SBC (Single-Board Computer) — คือคอมพิวเตอร์ย่อส่วนที่ประกอบทุกอย่างไว้บนแผ่นเดียว มีพอร์ตครบ ใช้ต่อใช้งานได้เลย ซึ่งปกติพวกนี้จะใช้ชิป ARM แบบเบา ๆ

    แต่ de next-RAP8 จาก AAEON มัน “ยกระดับทั้งวงการ” เพราะใช้ Intel Core i3/i5/i7 รุ่น U-Series (15W) ได้จริง บนบอร์ดขนาด 84 x 55 mm — แค่กว้างยาวกว่า Raspberry Pi 5 ไม่กี่มิล!

    สิ่งที่น่าทึ่งคือสเปกมันเทียบกับโน้ตบุ๊ก mid-range ได้เลย:
    - CPU สูงสุดถึง i7-1365UE (10 คอร์ / 12 เทรด)
    - RAM LPDDR5x สูงสุด 16GB
    - iGPU Intel Iris Xe รองรับ media acceleration
    - พอร์ต Ethernet x2, USB 3.2 Gen 2, HDMI, GPIO, และ M.2 สำหรับใส่ Wi-Fi/4G/SSD
    - มีโมดูลเสริมของ AAEON สำหรับ AI acceleration และการเชื่อมต่อแบบพิเศษ (ผ่าน PCIe/FPC)

    แต่แน่นอน มันไม่ได้ออกแบบมาสำหรับใช้เป็นคอมพิวเตอร์สำนักงานทั่วไป เพราะต้องใช้ความรู้เชิงเทคนิคเยอะ โดยเฉพาะการต่อกับอุปกรณ์ในโรงงาน, หุ่นยนต์, หรือโดรนแบบ custom

    de next-RAP8 จาก AAEON เป็น SBC ขนาด 84mm x 55mm ที่มาพร้อม Intel Core 13th Gen  
    • รองรับ Core i3-1315UE, i5-1335UE หรือ i7-1365UE  
    • ใช้พลังงานต่ำเพียง 15W เทียบกับพีซีขนาดใหญ่

    สเปกเทียบเท่าคอมพิวเตอร์ระดับโน้ตบุ๊ก:  
    • RAM LPDDR5x สูงสุด 16GB  
    • iGPU Iris Xe รองรับการประมวลผล media และกราฟิกเบา ๆ

    การเชื่อมต่อครบครัน:  
    • Ethernet 2.5GbE และ 1GbE, USB 3.2 Gen 2, HDMI 1.2a, 12V DC  
    • 40-pin header รองรับ GPIO, USB 2.0, RS-232/422/485, SMBus/I2C

    รองรับ M.2 2280 และ FPC connector สำหรับต่อ AI module, SSD หรือ Wi-Fi/4G  
    • มีโมดูลเสริม เช่น PER-T642 หรือ PER-R41P สำหรับเพิ่มพลัง AI หรืออุปกรณ์ industrial

    ออกแบบมาเพื่อใช้งานในระบบ edge computing, หุ่นยนต์, โดรน, คีออส, หรือ embedded system อื่น ๆ  
    • รองรับการทำงานในพื้นที่จำกัดที่ต้องใช้กำลังประมวลผลสูง

    https://www.techradar.com/pro/this-intel-core-i7-motherboard-is-probably-the-worlds-most-powerful-sbc-and-yet-it-is-as-small-as-the-raspberry-pi-5
    ใครที่รู้จัก Raspberry Pi ก็คงคุ้นกับคำว่า SBC (Single-Board Computer) — คือคอมพิวเตอร์ย่อส่วนที่ประกอบทุกอย่างไว้บนแผ่นเดียว มีพอร์ตครบ ใช้ต่อใช้งานได้เลย ซึ่งปกติพวกนี้จะใช้ชิป ARM แบบเบา ๆ แต่ de next-RAP8 จาก AAEON มัน “ยกระดับทั้งวงการ” เพราะใช้ Intel Core i3/i5/i7 รุ่น U-Series (15W) ได้จริง บนบอร์ดขนาด 84 x 55 mm — แค่กว้างยาวกว่า Raspberry Pi 5 ไม่กี่มิล! สิ่งที่น่าทึ่งคือสเปกมันเทียบกับโน้ตบุ๊ก mid-range ได้เลย: - CPU สูงสุดถึง i7-1365UE (10 คอร์ / 12 เทรด) - RAM LPDDR5x สูงสุด 16GB - iGPU Intel Iris Xe รองรับ media acceleration - พอร์ต Ethernet x2, USB 3.2 Gen 2, HDMI, GPIO, และ M.2 สำหรับใส่ Wi-Fi/4G/SSD - มีโมดูลเสริมของ AAEON สำหรับ AI acceleration และการเชื่อมต่อแบบพิเศษ (ผ่าน PCIe/FPC) แต่แน่นอน มันไม่ได้ออกแบบมาสำหรับใช้เป็นคอมพิวเตอร์สำนักงานทั่วไป เพราะต้องใช้ความรู้เชิงเทคนิคเยอะ โดยเฉพาะการต่อกับอุปกรณ์ในโรงงาน, หุ่นยนต์, หรือโดรนแบบ custom ✅ de next-RAP8 จาก AAEON เป็น SBC ขนาด 84mm x 55mm ที่มาพร้อม Intel Core 13th Gen   • รองรับ Core i3-1315UE, i5-1335UE หรือ i7-1365UE   • ใช้พลังงานต่ำเพียง 15W เทียบกับพีซีขนาดใหญ่ ✅ สเปกเทียบเท่าคอมพิวเตอร์ระดับโน้ตบุ๊ก:   • RAM LPDDR5x สูงสุด 16GB   • iGPU Iris Xe รองรับการประมวลผล media และกราฟิกเบา ๆ ✅ การเชื่อมต่อครบครัน:   • Ethernet 2.5GbE และ 1GbE, USB 3.2 Gen 2, HDMI 1.2a, 12V DC   • 40-pin header รองรับ GPIO, USB 2.0, RS-232/422/485, SMBus/I2C ✅ รองรับ M.2 2280 และ FPC connector สำหรับต่อ AI module, SSD หรือ Wi-Fi/4G   • มีโมดูลเสริม เช่น PER-T642 หรือ PER-R41P สำหรับเพิ่มพลัง AI หรืออุปกรณ์ industrial ✅ ออกแบบมาเพื่อใช้งานในระบบ edge computing, หุ่นยนต์, โดรน, คีออส, หรือ embedded system อื่น ๆ   • รองรับการทำงานในพื้นที่จำกัดที่ต้องใช้กำลังประมวลผลสูง https://www.techradar.com/pro/this-intel-core-i7-motherboard-is-probably-the-worlds-most-powerful-sbc-and-yet-it-is-as-small-as-the-raspberry-pi-5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 319 มุมมอง 0 รีวิว
  • หมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ ดร.ออย
    https://youtube.com/shorts/zXWA2Jo9vbE?si=WHuK-v63kKnV2zUV
    #ดรออย #t1team
    Line: @t1herb
    หมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ ดร.ออย https://youtube.com/shorts/zXWA2Jo9vbE?si=WHuK-v63kKnV2zUV #ดรออย #t1team Line: @t1herb
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 123 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมนบอร์ด PS1 ใหม่จากการย้อนรอยวิศวกรรม
    Lorentio Brodesco นักอิเล็กทรอนิกส์ชาวอิตาลีได้ออกแบบและสร้าง เมนบอร์ด PlayStation 1 ใหม่ โดยใช้เทคนิคย้อนรอยวิศวกรรม ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปีที่มีการสร้างเมนบอร์ด PS1 ใหม่จากศูนย์

    รายละเอียดของเมนบอร์ด nsOne
    - เมนบอร์ด nsOne สามารถใช้กับ ชิปดั้งเดิมของ PS1 ได้ เช่น CPU, GPU, SPU, RAM และตัวควบคุมแรงดันไฟฟ้า
    - ไม่ใช่ อีมูเลเตอร์ หรือ FPGA แต่เป็น เมนบอร์ดจริง ที่สามารถใช้กับชิ้นส่วนของ PS1 ได้โดยตรง
    - รองรับ เคสของ PS1 รุ่นดั้งเดิม และเพิ่ม พอร์ตขนาน ที่เคยถูกตัดออกจากรุ่น SCPH-900X
    - เปิดตัวผ่าน Kickstarter โดยมีราคาเริ่มต้นที่ $40 สำหรับบอร์ดเปล่า และ $95 สำหรับบอร์ดที่มีชิปครบชุด

    ข้อควรระวัง
    - ผู้ซื้อบอร์ดเปล่าต้องมีทักษะในการบัดกรีชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้สามารถใช้งานได้
    - การสนับสนุนโครงการ Kickstarter ไม่รับประกันว่าจะได้รับผลิตภัณฑ์ เนื่องจากเป็นการลงทุนในโครงการพัฒนา
    - ต้องใช้ชิ้นส่วนจาก PS1 ดั้งเดิม ซึ่งอาจหายากหรือมีราคาสูง

    แนวโน้มของการย้อนรอยวิศวกรรมในวงการเกม
    การฟื้นฟูฮาร์ดแวร์เกมเก่า
    - มีการพัฒนา FPGA และอีมูเลเตอร์ เพื่อให้สามารถเล่นเกมเก่าได้โดยไม่ต้องใช้ฮาร์ดแวร์ดั้งเดิม
    - นักพัฒนาอิสระเริ่มสร้าง เมนบอร์ดใหม่สำหรับเครื่องเกมเก่า เช่น SNES และ Sega Genesis
    - การย้อนรอยวิศวกรรมช่วยให้ นักสะสมสามารถซ่อมแซมเครื่องเกมเก่า ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาชิ้นส่วนจาก Sony

    ข้อควรระวังเกี่ยวกับการย้อนรอยวิศวกรรม
    - ต้องมีความรู้ด้านอิเล็กทรอนิกส์และการบัดกรี เพื่อให้สามารถใช้งานบอร์ดใหม่ได้
    - อาจมีข้อจำกัดด้านลิขสิทธิ์ หากมีการใช้ชิ้นส่วนที่ออกแบบโดย Sony
    - ต้องตรวจสอบความเข้ากันได้ของชิ้นส่วน เพื่อให้แน่ใจว่าเครื่องสามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์

    อนาคตของการซ่อมแซมเครื่องเกมเก่า
    การพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับเครื่องเกมคลาสสิก
    - มีการพัฒนา ชิป FPGA ที่จำลองการทำงานของ CPU และ GPU ดั้งเดิม เพื่อให้สามารถเล่นเกมเก่าได้
    - นักพัฒนาเริ่มสร้าง อุปกรณ์เสริมสำหรับเครื่องเกมเก่า เช่น HDMI mod สำหรับ Nintendo 64
    - การใช้ 3D Printing ช่วยให้สามารถสร้างชิ้นส่วนที่หายากได้ เช่น ปุ่มและเคสของเครื่องเกมเก่า

    ข้อควรระวังเกี่ยวกับการซ่อมแซมเครื่องเกมเก่า
    - ต้องตรวจสอบแหล่งที่มาของชิ้นส่วน เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นของแท้และมีคุณภาพดี
    - ต้องมีความรู้เกี่ยวกับการทำงานของระบบเกม เพื่อป้องกันความเสียหายระหว่างการซ่อมแซม
    - ต้องมีการทดสอบก่อนใช้งานจริง เพื่อให้แน่ใจว่าเครื่องสามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง

    https://www.tomshardware.com/video-games/playstation/first-reverse-engineered-sony-ps1-motherboard-enables-fixing-broken-systems-bare-pcbs-for-usd40-boards-with-chips-for-usd95
    🎮 เมนบอร์ด PS1 ใหม่จากการย้อนรอยวิศวกรรม Lorentio Brodesco นักอิเล็กทรอนิกส์ชาวอิตาลีได้ออกแบบและสร้าง เมนบอร์ด PlayStation 1 ใหม่ โดยใช้เทคนิคย้อนรอยวิศวกรรม ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปีที่มีการสร้างเมนบอร์ด PS1 ใหม่จากศูนย์ ✅ รายละเอียดของเมนบอร์ด nsOne - เมนบอร์ด nsOne สามารถใช้กับ ชิปดั้งเดิมของ PS1 ได้ เช่น CPU, GPU, SPU, RAM และตัวควบคุมแรงดันไฟฟ้า - ไม่ใช่ อีมูเลเตอร์ หรือ FPGA แต่เป็น เมนบอร์ดจริง ที่สามารถใช้กับชิ้นส่วนของ PS1 ได้โดยตรง - รองรับ เคสของ PS1 รุ่นดั้งเดิม และเพิ่ม พอร์ตขนาน ที่เคยถูกตัดออกจากรุ่น SCPH-900X - เปิดตัวผ่าน Kickstarter โดยมีราคาเริ่มต้นที่ $40 สำหรับบอร์ดเปล่า และ $95 สำหรับบอร์ดที่มีชิปครบชุด ‼️ ข้อควรระวัง - ผู้ซื้อบอร์ดเปล่าต้องมีทักษะในการบัดกรีชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้สามารถใช้งานได้ - การสนับสนุนโครงการ Kickstarter ไม่รับประกันว่าจะได้รับผลิตภัณฑ์ เนื่องจากเป็นการลงทุนในโครงการพัฒนา - ต้องใช้ชิ้นส่วนจาก PS1 ดั้งเดิม ซึ่งอาจหายากหรือมีราคาสูง 🔍 แนวโน้มของการย้อนรอยวิศวกรรมในวงการเกม ✅ การฟื้นฟูฮาร์ดแวร์เกมเก่า - มีการพัฒนา FPGA และอีมูเลเตอร์ เพื่อให้สามารถเล่นเกมเก่าได้โดยไม่ต้องใช้ฮาร์ดแวร์ดั้งเดิม - นักพัฒนาอิสระเริ่มสร้าง เมนบอร์ดใหม่สำหรับเครื่องเกมเก่า เช่น SNES และ Sega Genesis - การย้อนรอยวิศวกรรมช่วยให้ นักสะสมสามารถซ่อมแซมเครื่องเกมเก่า ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาชิ้นส่วนจาก Sony ‼️ ข้อควรระวังเกี่ยวกับการย้อนรอยวิศวกรรม - ต้องมีความรู้ด้านอิเล็กทรอนิกส์และการบัดกรี เพื่อให้สามารถใช้งานบอร์ดใหม่ได้ - อาจมีข้อจำกัดด้านลิขสิทธิ์ หากมีการใช้ชิ้นส่วนที่ออกแบบโดย Sony - ต้องตรวจสอบความเข้ากันได้ของชิ้นส่วน เพื่อให้แน่ใจว่าเครื่องสามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์ 🌍 อนาคตของการซ่อมแซมเครื่องเกมเก่า ✅ การพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับเครื่องเกมคลาสสิก - มีการพัฒนา ชิป FPGA ที่จำลองการทำงานของ CPU และ GPU ดั้งเดิม เพื่อให้สามารถเล่นเกมเก่าได้ - นักพัฒนาเริ่มสร้าง อุปกรณ์เสริมสำหรับเครื่องเกมเก่า เช่น HDMI mod สำหรับ Nintendo 64 - การใช้ 3D Printing ช่วยให้สามารถสร้างชิ้นส่วนที่หายากได้ เช่น ปุ่มและเคสของเครื่องเกมเก่า ‼️ ข้อควรระวังเกี่ยวกับการซ่อมแซมเครื่องเกมเก่า - ต้องตรวจสอบแหล่งที่มาของชิ้นส่วน เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นของแท้และมีคุณภาพดี - ต้องมีความรู้เกี่ยวกับการทำงานของระบบเกม เพื่อป้องกันความเสียหายระหว่างการซ่อมแซม - ต้องมีการทดสอบก่อนใช้งานจริง เพื่อให้แน่ใจว่าเครื่องสามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง https://www.tomshardware.com/video-games/playstation/first-reverse-engineered-sony-ps1-motherboard-enables-fixing-broken-systems-bare-pcbs-for-usd40-boards-with-chips-for-usd95
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 398 มุมมอง 0 รีวิว
  • กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือเรื่องสุขภาพประชาชน ด้วยศาสตร์ต่างๆ ดังนี้
    1.ศาสตร์แพทย์แผนไทย (Traditional Thai Medicine)
    ยาเบญจโลกวิเชียร(ห้าราก),ยาขาว,ยาใบมะขาม,ยาตรีผลา,ยาจันทลีลา,ยาเขียวหอม,ยาแสงหมึก, ยาประสะจันทน์แดง,ยามหานิลแท่งทอง,ยาสิงฆาณิกา,ยาธาตุบรรจบ,ยาเหลืองปิดสมุทร,ยาธาตุอบเชย,ยาปราบชมพูทวีป,ยาประสะมะแว้ง,ยาอัมฤควาที,ยาบำรุงโลหิต,ยาเลือดงาม,ยาชุมเห็ดเทศ, ยาธรณีสัณฑฆาต,ยาตรีหอม,ยาลม300จำพวก,ยาหอม,ยาดองมะกรูด,ยาประสะกะเพรา,ยาประสะกานพลู,ยาวิสัมพยาใหญ่,ยามันทธาตุ,ยามหาจักรใหญ่,ยาประสะเจตพังคี,ยามะฮอกกานี,ยาแก้ไอมะขามป้อม,ยาพญายอ,สมุนไพรถ่ายพยาธิต่างๆ เช่น ผงปวกหาด(มะหาด),ยาเปลือกมังคุด,รางจืด,
    ฟ้าทลายโจร,โกฐจุฬาลัมพา,พลูคาว,ใบหนุมานประสานกาย,กระชาย,กัญชา,ขมิ้นชัน,อ้อยดำ,ฝาง, ดอกเกลือ เป็นต้น
    2.ศาสตร์แพทย์แผนจีน (Traditional Chinese Medicine)
    ยกตัวอย่าง สมุนไพรฉั่งฉิก ยาเขียวธรรมดา ยาเขียวพิเศษชิงเฟ่ยซองสีส้ม ยาชะลอวัย ยาวาสคิวล่าร์
    ถ้าเกี่ยวกับลิ่มเลือดอุดตันใช้ยา 脑心通胶囊 เหน่า ซิน ทง
    ถ้าก้อนเนื้องอกกำเริบ ใช้温胆汤加减 เวิน ต่าน ทัง เจีย เจี่ยน และศาสตร์การฝังเข็ม เป็นต้น
    3.ศาสตร์โฮมิโอพาธีร์ (Homeophathy) ยาสกัดพลังธรมชาติ จาก พืช สัตว์ แร่ธาตุ
    ตำรับพื้นฐานต่างๆ และตำรับยาหมออมร (Benjalo แก้แพ้วัคซีนและลองโควิด TotalTox ล้างพิษที่ตกค้างในอาหาร RJHT ล้างพิษฟอร์มาลีนและสารเคมีการเกษตร CKDMHT ขจัดพิษตกค้างจากสารเคมีปรุงรส CBZA ช่วยล้างพิษสารเคมีกันบูดในอาหาร)
    4.การครอบแก้ว,กรอกเลือด (Wet Cupping) เพื่อให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น เอาเลือดที่
    คั่งค้างออก ซึ่งส่งผลทำให้ลดอาการปวดเมื่อยของกล้ามเนื้อและสามารถบรรเทาได้หลายโรค
    5.ศาสตร์ผสมผสาน (Integrative Medicine)
    การเหยียบดิน/หญ้า(Grounding),การอบตัว,อดอาหารเป็นระยะ(Intermittent Fasting),ศาสตร์ยา9เม็ดหมอเขียว,สวนล้างลำไส้(Enema),ล้างลำไส้แบบลึก(Colonics),Vitamin C Flush,เสียงบำบัด(Sound Therapy),ความถี่บำบัด(Frequency Therapy),ใช้แสงแดงFar Infrared,Reiki,แช่เท้า(Herbal Foot Bath),ล้างพิษตับ(Liver Compression,Castor Oil Pack,การใช้ทองแดง(Copper Tensor Rings),Crystals,การเขียนบันทึก (Journaling),Art Therapy,การทำสมาธิ Pasitive Affirmations,ฝึกการหายใจ(Breathing Exercises),การตากแดด,เข้าใกล้มังสวิรัติ,คลอรีนไดออกไซด์โซลูชัน(CDS),ไฮดรอกซีคลอโรควีน(HCQ),เมทาลีนบลู(Methylene Blue),ดินภูเขาไฟเบนโทไนท์(Bentonite Clay),ซีโอไลท์(Zeolite),ซิลเวอร์คอลลอยด์(ColloidalSilver),DMSO,ไอโอดีน(Iodine),ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์(Hydrogen Peroxide),ไอเวอร์เมคติน(Ivermectin),เฟนเบนดาโซล (Fenbendazole),แอสไพลิน(Aspirin),บอแรกซ์(Borax),นัตโตะไคเนส(Nattokinase),โบรมิเลน(Bromelain),Magnesium Antisense(แมกนีเซียมแอนไทเซนส์),เพนท็อกซิฟิลลีน(Pentoxifylline),แมกนีเซียม(Magnesium),กลูตาไธโอน(Glutathione),สังกะสี(Zinc),แอสตาแซนธิน(Astaxanthin),ซิลิมาริน(Sillymarin),กรดอัลฟาไลโปอิก(Alpha Lipoic Acid),เมลาโทนิน(Melatonin),วิตามินดี(Vitamin D),NACหรือN-Acetylcysteine,CoQ10,ซิลิเนียม(Selenium),กรดฟูลวิค(Fulvic Acid),ผักชี(coriander),มะระขี้นก(Bitter gourd),สาหร่ายเกลียวทอง (Spirulina),มิลค์ทิสเซิล(Milk Thistle-Silymarin),พริกคาเยน(Chayenne Peper),ชาเขียว(Green Tea),เห็ด
    ถั่งเช่า(Cordyceps Mushrooms),อาติโช๊ค(Artichoke),คลอเรลลา(Chlorella),สาหร่าย Dulse และอุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆที่โลกมี เป็นต้น

    โอเพนแชท "ล้างพิษ ยาฉีด"
    https://line.me/ti/g2/wTvY1gxHGpGKCt15sQN1jMHw02XoSC1uXsjUsQ?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default

    กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์
    ✍️กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือเรื่องสุขภาพประชาชน ด้วยศาสตร์ต่างๆ ดังนี้ 🥸1.ศาสตร์แพทย์แผนไทย (Traditional Thai Medicine) ยาเบญจโลกวิเชียร(ห้าราก),ยาขาว,ยาใบมะขาม,ยาตรีผลา,ยาจันทลีลา,ยาเขียวหอม,ยาแสงหมึก, ยาประสะจันทน์แดง,ยามหานิลแท่งทอง,ยาสิงฆาณิกา,ยาธาตุบรรจบ,ยาเหลืองปิดสมุทร,ยาธาตุอบเชย,ยาปราบชมพูทวีป,ยาประสะมะแว้ง,ยาอัมฤควาที,ยาบำรุงโลหิต,ยาเลือดงาม,ยาชุมเห็ดเทศ, ยาธรณีสัณฑฆาต,ยาตรีหอม,ยาลม300จำพวก,ยาหอม,ยาดองมะกรูด,ยาประสะกะเพรา,ยาประสะกานพลู,ยาวิสัมพยาใหญ่,ยามันทธาตุ,ยามหาจักรใหญ่,ยาประสะเจตพังคี,ยามะฮอกกานี,ยาแก้ไอมะขามป้อม,ยาพญายอ,สมุนไพรถ่ายพยาธิต่างๆ เช่น ผงปวกหาด(มะหาด),ยาเปลือกมังคุด,รางจืด, ฟ้าทลายโจร,โกฐจุฬาลัมพา,พลูคาว,ใบหนุมานประสานกาย,กระชาย,กัญชา,ขมิ้นชัน,อ้อยดำ,ฝาง, ดอกเกลือ เป็นต้น 🥸2.ศาสตร์แพทย์แผนจีน (Traditional Chinese Medicine) ยกตัวอย่าง สมุนไพรฉั่งฉิก ยาเขียวธรรมดา ยาเขียวพิเศษชิงเฟ่ยซองสีส้ม ยาชะลอวัย ยาวาสคิวล่าร์ ถ้าเกี่ยวกับลิ่มเลือดอุดตันใช้ยา 脑心通胶囊 เหน่า ซิน ทง ถ้าก้อนเนื้องอกกำเริบ ใช้温胆汤加减 เวิน ต่าน ทัง เจีย เจี่ยน และศาสตร์การฝังเข็ม เป็นต้น 🥸3.ศาสตร์โฮมิโอพาธีร์ (Homeophathy) ยาสกัดพลังธรมชาติ จาก พืช สัตว์ แร่ธาตุ ตำรับพื้นฐานต่างๆ และตำรับยาหมออมร (Benjalo แก้แพ้วัคซีนและลองโควิด TotalTox ล้างพิษที่ตกค้างในอาหาร RJHT ล้างพิษฟอร์มาลีนและสารเคมีการเกษตร CKDMHT ขจัดพิษตกค้างจากสารเคมีปรุงรส CBZA ช่วยล้างพิษสารเคมีกันบูดในอาหาร) 🥸4.การครอบแก้ว,กรอกเลือด (Wet Cupping) เพื่อให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น เอาเลือดที่ คั่งค้างออก ซึ่งส่งผลทำให้ลดอาการปวดเมื่อยของกล้ามเนื้อและสามารถบรรเทาได้หลายโรค 🥸5.ศาสตร์ผสมผสาน (Integrative Medicine) การเหยียบดิน/หญ้า(Grounding),การอบตัว,อดอาหารเป็นระยะ(Intermittent Fasting),ศาสตร์ยา9เม็ดหมอเขียว,สวนล้างลำไส้(Enema),ล้างลำไส้แบบลึก(Colonics),Vitamin C Flush,เสียงบำบัด(Sound Therapy),ความถี่บำบัด(Frequency Therapy),ใช้แสงแดงFar Infrared,Reiki,แช่เท้า(Herbal Foot Bath),ล้างพิษตับ(Liver Compression,Castor Oil Pack,การใช้ทองแดง(Copper Tensor Rings),Crystals,การเขียนบันทึก (Journaling),Art Therapy,การทำสมาธิ Pasitive Affirmations,ฝึกการหายใจ(Breathing Exercises),การตากแดด,เข้าใกล้มังสวิรัติ,คลอรีนไดออกไซด์โซลูชัน(CDS),ไฮดรอกซีคลอโรควีน(HCQ),เมทาลีนบลู(Methylene Blue),ดินภูเขาไฟเบนโทไนท์(Bentonite Clay),ซีโอไลท์(Zeolite),ซิลเวอร์คอลลอยด์(ColloidalSilver),DMSO,ไอโอดีน(Iodine),ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์(Hydrogen Peroxide),ไอเวอร์เมคติน(Ivermectin),เฟนเบนดาโซล (Fenbendazole),แอสไพลิน(Aspirin),บอแรกซ์(Borax),นัตโตะไคเนส(Nattokinase),โบรมิเลน(Bromelain),Magnesium Antisense(แมกนีเซียมแอนไทเซนส์),เพนท็อกซิฟิลลีน(Pentoxifylline),แมกนีเซียม(Magnesium),กลูตาไธโอน(Glutathione),สังกะสี(Zinc),แอสตาแซนธิน(Astaxanthin),ซิลิมาริน(Sillymarin),กรดอัลฟาไลโปอิก(Alpha Lipoic Acid),เมลาโทนิน(Melatonin),วิตามินดี(Vitamin D),NACหรือN-Acetylcysteine,CoQ10,ซิลิเนียม(Selenium),กรดฟูลวิค(Fulvic Acid),ผักชี(coriander),มะระขี้นก(Bitter gourd),สาหร่ายเกลียวทอง (Spirulina),มิลค์ทิสเซิล(Milk Thistle-Silymarin),พริกคาเยน(Chayenne Peper),ชาเขียว(Green Tea),เห็ด ถั่งเช่า(Cordyceps Mushrooms),อาติโช๊ค(Artichoke),คลอเรลลา(Chlorella),สาหร่าย Dulse และอุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆที่โลกมี เป็นต้น โอเพนแชท "ล้างพิษ ยาฉีด" https://line.me/ti/g2/wTvY1gxHGpGKCt15sQN1jMHw02XoSC1uXsjUsQ?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 956 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปัญหาความเข้ากันได้ของ RTX 50 Series กับเมนบอร์ด EVGA
    ผู้ใช้เมนบอร์ด EVGA Z690 กำลังเผชิญกับ ปัญหาการบูตเครื่องเมื่อใช้กับการ์ดจอ RTX 50 Series โดยพบว่า SMBUS pins บนเมนบอร์ดทำให้เกิดความขัดแย้งกับ GPU ของ Nvidia

    EVGA ถอนตัวจากตลาด GPU ในปี 2022 และลดขนาดธุรกิจลงอย่างมาก ส่งผลให้ การสนับสนุนซอฟต์แวร์ลดลง และอาจเป็น สาเหตุของปัญหาความเข้ากันได้กับการ์ดจอรุ่นใหม่

    ข้อมูลจากข่าว
    - ผู้ใช้เมนบอร์ด EVGA Z690 พบปัญหาบูตเครื่องเมื่อใช้กับ RTX 50 Series
    - SMBUS pins บนเมนบอร์ดทำให้เกิดความขัดแย้งกับ GPU ของ Nvidia
    - EVGA ถอนตัวจากตลาด GPU ในปี 2022 และลดขนาดธุรกิจลง
    - ผู้ใช้บางรายแก้ปัญหาโดยใช้เทป Kapton ปิด SMBUS pins บน PCIe connector ของ GPU
    - เมนบอร์ด EVGA รุ่นอื่น ๆ เช่น Z790 ไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหานี้

    วิธีแก้ปัญหาที่ผู้ใช้ค้นพบ
    ผู้ใช้บางราย ใช้เทป Kapton กว้าง 2 มม. ปิด SMBUS pins (pins 5 และ 6) บน PCIe connector ของ GPU เพื่อ หยุดสัญญาณ SMBUS ไม่ให้ส่งไปยังการ์ดจอ

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - การใช้เทป Kapton ต้องทำอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้ส่งผลต่อการเชื่อมต่ออื่น ๆ
    - EVGA ยังไม่มีการประกาศแก้ไขปัญหานี้อย่างเป็นทางการ
    - การแก้ไขด้วยเทปเป็นเพียงวิธีชั่วคราว และอาจไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดในระยะยาว
    - ต้องติดตามว่า Nvidia หรือ EVGA จะออกอัปเดต BIOS เพื่อแก้ไขปัญหานี้หรือไม่

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/evga-motherboard-owners-furious-over-modern-gpu-issues-diy-users-resort-to-taping-over-pins-to-fix-rtx-50-series-problem-on-z690-boards
    🔧 ปัญหาความเข้ากันได้ของ RTX 50 Series กับเมนบอร์ด EVGA ผู้ใช้เมนบอร์ด EVGA Z690 กำลังเผชิญกับ ปัญหาการบูตเครื่องเมื่อใช้กับการ์ดจอ RTX 50 Series โดยพบว่า SMBUS pins บนเมนบอร์ดทำให้เกิดความขัดแย้งกับ GPU ของ Nvidia EVGA ถอนตัวจากตลาด GPU ในปี 2022 และลดขนาดธุรกิจลงอย่างมาก ส่งผลให้ การสนับสนุนซอฟต์แวร์ลดลง และอาจเป็น สาเหตุของปัญหาความเข้ากันได้กับการ์ดจอรุ่นใหม่ ✅ ข้อมูลจากข่าว - ผู้ใช้เมนบอร์ด EVGA Z690 พบปัญหาบูตเครื่องเมื่อใช้กับ RTX 50 Series - SMBUS pins บนเมนบอร์ดทำให้เกิดความขัดแย้งกับ GPU ของ Nvidia - EVGA ถอนตัวจากตลาด GPU ในปี 2022 และลดขนาดธุรกิจลง - ผู้ใช้บางรายแก้ปัญหาโดยใช้เทป Kapton ปิด SMBUS pins บน PCIe connector ของ GPU - เมนบอร์ด EVGA รุ่นอื่น ๆ เช่น Z790 ไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหานี้ 🔥 วิธีแก้ปัญหาที่ผู้ใช้ค้นพบ ผู้ใช้บางราย ใช้เทป Kapton กว้าง 2 มม. ปิด SMBUS pins (pins 5 และ 6) บน PCIe connector ของ GPU เพื่อ หยุดสัญญาณ SMBUS ไม่ให้ส่งไปยังการ์ดจอ ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - การใช้เทป Kapton ต้องทำอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้ส่งผลต่อการเชื่อมต่ออื่น ๆ - EVGA ยังไม่มีการประกาศแก้ไขปัญหานี้อย่างเป็นทางการ - การแก้ไขด้วยเทปเป็นเพียงวิธีชั่วคราว และอาจไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดในระยะยาว - ต้องติดตามว่า Nvidia หรือ EVGA จะออกอัปเดต BIOS เพื่อแก้ไขปัญหานี้หรือไม่ https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/evga-motherboard-owners-furious-over-modern-gpu-issues-diy-users-resort-to-taping-over-pins-to-fix-rtx-50-series-problem-on-z690-boards
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 276 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลุงรออยู่พอดี รีบๆ ออกมาขายนะ !!

    AMD Ryzen 9000G APUs: สัญญาณการเปิดตัวที่ใกล้เข้ามา
    Gigabyte ได้อัปเดต หน้าความเข้ากันได้ของหน่วยความจำสำหรับเมนบอร์ด B650 โดยเปลี่ยนจาก Ryzen 9000 series เป็น Ryzen 9000G series ซึ่งเป็นสัญญาณว่า AMD อาจเตรียมเปิดตัว Ryzen 9000G APUs อย่างเป็นทางการในไตรมาสที่ 4 ปี 2025

    Ryzen 9000G APUs คาดว่าจะใช้ Zen 5 CPU cores และ RDNA 3.5 iGPU ซึ่งแตกต่างจาก Ryzen 9000 รุ่นปกติที่มี iGPU เพียงเพื่อการแสดงผลพื้นฐาน

    นอกจากนี้ มีข่าวลือว่า Ryzen 9000G อาจมาพร้อมกับ Radeon 890M ซึ่งเป็น iGPU ที่ใช้ใน Windows gaming handhelds หลายรุ่น ทำให้สามารถเล่นเกม e-sports และเกมที่ใช้ทรัพยากรต่ำได้

    ข้อมูลจากข่าว
    - Gigabyte อัปเดตข้อมูลเมนบอร์ด B650 โดยเพิ่ม Ryzen 9000G series
    - Ryzen 9000G คาดว่าจะใช้ Zen 5 CPU cores และ RDNA 3.5 iGPU
    - iGPU ใน Ryzen 9000G อาจรองรับการเล่นเกม e-sports และเกมเบา ๆ
    - AMD อาจเปิดตัว Ryzen 9000G ในไตรมาสที่ 4 ปี 2025
    - Radeon 890M อาจเป็น iGPU ที่ใช้ใน Ryzen 9000G

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ยังไม่มีการยืนยันจาก AMD เกี่ยวกับสเปกของ Ryzen 9000G
    - การเปลี่ยนแปลงข้อมูลของ Gigabyte อาจเป็นเพียงการเตรียมความพร้อม ไม่ใช่การยืนยันการเปิดตัว
    - Ryzen 9000G อาจมีข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพเมื่อเทียบกับ CPU ที่ใช้ GPU แยก
    - ต้องรอติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับราคาและวันวางจำหน่าย

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    หาก AMD เปิดตัว Ryzen 9000G พร้อม iGPU ที่มีประสิทธิภาพสูง อาจช่วยให้ตลาด APUs สำหรับเกมเมอร์และผู้ใช้ทั่วไป มีตัวเลือกที่น่าสนใจมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องรอดูว่าประสิทธิภาพของ RDNA 3.5 iGPU จะสามารถแข่งขันกับ GPU แยกได้หรือไม่

    AMD กำลังเตรียมขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ของตน และ Ryzen 9000G อาจเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการ APU ที่สามารถเล่นเกมได้โดยไม่ต้องใช้ GPU แยก

    https://www.techpowerup.com/337466/amd-ryzen-9000g-apus-appear-in-gigabyte-am5-motherboard-leak
    ลุงรออยู่พอดี รีบๆ ออกมาขายนะ !! 🔥 AMD Ryzen 9000G APUs: สัญญาณการเปิดตัวที่ใกล้เข้ามา Gigabyte ได้อัปเดต หน้าความเข้ากันได้ของหน่วยความจำสำหรับเมนบอร์ด B650 โดยเปลี่ยนจาก Ryzen 9000 series เป็น Ryzen 9000G series ซึ่งเป็นสัญญาณว่า AMD อาจเตรียมเปิดตัว Ryzen 9000G APUs อย่างเป็นทางการในไตรมาสที่ 4 ปี 2025 Ryzen 9000G APUs คาดว่าจะใช้ Zen 5 CPU cores และ RDNA 3.5 iGPU ซึ่งแตกต่างจาก Ryzen 9000 รุ่นปกติที่มี iGPU เพียงเพื่อการแสดงผลพื้นฐาน นอกจากนี้ มีข่าวลือว่า Ryzen 9000G อาจมาพร้อมกับ Radeon 890M ซึ่งเป็น iGPU ที่ใช้ใน Windows gaming handhelds หลายรุ่น ทำให้สามารถเล่นเกม e-sports และเกมที่ใช้ทรัพยากรต่ำได้ ✅ ข้อมูลจากข่าว - Gigabyte อัปเดตข้อมูลเมนบอร์ด B650 โดยเพิ่ม Ryzen 9000G series - Ryzen 9000G คาดว่าจะใช้ Zen 5 CPU cores และ RDNA 3.5 iGPU - iGPU ใน Ryzen 9000G อาจรองรับการเล่นเกม e-sports และเกมเบา ๆ - AMD อาจเปิดตัว Ryzen 9000G ในไตรมาสที่ 4 ปี 2025 - Radeon 890M อาจเป็น iGPU ที่ใช้ใน Ryzen 9000G ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ยังไม่มีการยืนยันจาก AMD เกี่ยวกับสเปกของ Ryzen 9000G - การเปลี่ยนแปลงข้อมูลของ Gigabyte อาจเป็นเพียงการเตรียมความพร้อม ไม่ใช่การยืนยันการเปิดตัว - Ryzen 9000G อาจมีข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพเมื่อเทียบกับ CPU ที่ใช้ GPU แยก - ต้องรอติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับราคาและวันวางจำหน่าย 🚀 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม หาก AMD เปิดตัว Ryzen 9000G พร้อม iGPU ที่มีประสิทธิภาพสูง อาจช่วยให้ตลาด APUs สำหรับเกมเมอร์และผู้ใช้ทั่วไป มีตัวเลือกที่น่าสนใจมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องรอดูว่าประสิทธิภาพของ RDNA 3.5 iGPU จะสามารถแข่งขันกับ GPU แยกได้หรือไม่ AMD กำลังเตรียมขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ของตน และ Ryzen 9000G อาจเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการ APU ที่สามารถเล่นเกมได้โดยไม่ต้องใช้ GPU แยก https://www.techpowerup.com/337466/amd-ryzen-9000g-apus-appear-in-gigabyte-am5-motherboard-leak
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    AMD Ryzen 9000G APUs Appear in Gigabyte AM5 Motherboard Leak
    It seems as though an official international launch for the elusive AMD Ryzen 9000G APUs might still be on the cards for later this year, after all. While an announcement was expected at Computex 2025, along with a full-scale retail launch later this year, AMD was suspiciously quiet about its CPUs a...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 314 มุมมอง 0 รีวิว
  • ASRock ยืนยันปัญหา BIOS ทำให้ Ryzen 9000 เสียหาย
    ASRock ได้ออกมายอมรับว่า BIOS เวอร์ชันก่อนหน้ามีการตั้งค่าที่ผิดพลาด ซึ่งทำให้ Ryzen 9000 CPUs บางตัวเสียหาย โดยบริษัทได้ออก BIOS เวอร์ชัน 3.25 เพื่อแก้ไขปัญหานี้

    ปัญหานี้เกี่ยวข้องกับ Precision Boost Overdrive (PBO) ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ CPU โดย ASRock ตั้งค่า Electric Design Current (EDC), Thermal Design Current (TDC) และ shadow voltages สูงเกินไปใน BIOS เวอร์ชันก่อนหน้า ทำให้ CPU บางตัวเสียหาย

    ASRock ยืนยันว่า AMD ไม่ได้เป็นต้นเหตุของปัญหานี้ และบริษัทจะรับผิดชอบค่าขนส่งสำหรับการ RMA (Return Merchandise Authorization) ของเมนบอร์ดที่ได้รับผลกระทบ

    ข้อมูลจากข่าว
    - ASRock ยืนยันว่า BIOS เวอร์ชันก่อนหน้ามีการตั้งค่าที่ผิดพลาด ทำให้ Ryzen 9000 CPUs บางตัวเสียหาย
    - BIOS เวอร์ชัน 3.25 ได้รับการปรับปรุง เพื่อลดค่าของ EDC, TDC และ shadow voltages
    - AMD ไม่ได้เป็นต้นเหตุของปัญหานี้ ASRock รับผิดชอบทั้งหมด
    - ASRock จะรับผิดชอบค่าขนส่งสำหรับการ RMA ของเมนบอร์ด
    - ผู้ใช้ควรตรวจสอบว่า BIOS เวอร์ชัน 3.25 ถูกติดตั้งบนเมนบอร์ดใหม่

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - แม้จะมี BIOS เวอร์ชันใหม่ แต่ยังมีรายงานว่า Ryzen 7 9800X3D บางตัวเสียหาย
    - ASRock เคยแก้ไขปัญหานี้มาก่อน แต่ยังไม่สามารถแก้ไขได้อย่างสมบูรณ์
    - ผู้ใช้ควรตรวจสอบการตั้งค่า PBO ด้วยตนเอง เพื่อป้องกันความเสียหายเพิ่มเติม
    - ต้องจับตาดูว่า BIOS เวอร์ชัน 3.25 จะสามารถแก้ไขปัญหาได้จริงหรือไม่

    ผลกระทบต่อผู้ใช้และอุตสาหกรรม
    การตั้งค่า BIOS ที่ผิดพลาดของ ASRock ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ Ryzen 9000 และอาจทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับ ความน่าเชื่อถือของเมนบอร์ด ASRock ในอนาคต อย่างไรก็ตาม การที่บริษัทออกมายอมรับและเสนอการแก้ไขปัญหาแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบต่อผู้บริโภค

    หากคุณใช้ AM5 ASRock motherboard ควรตรวจสอบว่า BIOS เวอร์ชันล่าสุดถูกติดตั้งแล้ว และหากพบปัญหา ควรติดต่อ ASRock เพื่อดำเนินการ RMA

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/asrock-confirms-its-bios-settings-are-killing-ryzen-cpus-is-fully-committed-to-fixing-any-damaged-motherboards
    🔧 ASRock ยืนยันปัญหา BIOS ทำให้ Ryzen 9000 เสียหาย ASRock ได้ออกมายอมรับว่า BIOS เวอร์ชันก่อนหน้ามีการตั้งค่าที่ผิดพลาด ซึ่งทำให้ Ryzen 9000 CPUs บางตัวเสียหาย โดยบริษัทได้ออก BIOS เวอร์ชัน 3.25 เพื่อแก้ไขปัญหานี้ ปัญหานี้เกี่ยวข้องกับ Precision Boost Overdrive (PBO) ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ CPU โดย ASRock ตั้งค่า Electric Design Current (EDC), Thermal Design Current (TDC) และ shadow voltages สูงเกินไปใน BIOS เวอร์ชันก่อนหน้า ทำให้ CPU บางตัวเสียหาย ASRock ยืนยันว่า AMD ไม่ได้เป็นต้นเหตุของปัญหานี้ และบริษัทจะรับผิดชอบค่าขนส่งสำหรับการ RMA (Return Merchandise Authorization) ของเมนบอร์ดที่ได้รับผลกระทบ ✅ ข้อมูลจากข่าว - ASRock ยืนยันว่า BIOS เวอร์ชันก่อนหน้ามีการตั้งค่าที่ผิดพลาด ทำให้ Ryzen 9000 CPUs บางตัวเสียหาย - BIOS เวอร์ชัน 3.25 ได้รับการปรับปรุง เพื่อลดค่าของ EDC, TDC และ shadow voltages - AMD ไม่ได้เป็นต้นเหตุของปัญหานี้ ASRock รับผิดชอบทั้งหมด - ASRock จะรับผิดชอบค่าขนส่งสำหรับการ RMA ของเมนบอร์ด - ผู้ใช้ควรตรวจสอบว่า BIOS เวอร์ชัน 3.25 ถูกติดตั้งบนเมนบอร์ดใหม่ ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - แม้จะมี BIOS เวอร์ชันใหม่ แต่ยังมีรายงานว่า Ryzen 7 9800X3D บางตัวเสียหาย - ASRock เคยแก้ไขปัญหานี้มาก่อน แต่ยังไม่สามารถแก้ไขได้อย่างสมบูรณ์ - ผู้ใช้ควรตรวจสอบการตั้งค่า PBO ด้วยตนเอง เพื่อป้องกันความเสียหายเพิ่มเติม - ต้องจับตาดูว่า BIOS เวอร์ชัน 3.25 จะสามารถแก้ไขปัญหาได้จริงหรือไม่ 🔎 ผลกระทบต่อผู้ใช้และอุตสาหกรรม การตั้งค่า BIOS ที่ผิดพลาดของ ASRock ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ Ryzen 9000 และอาจทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับ ความน่าเชื่อถือของเมนบอร์ด ASRock ในอนาคต อย่างไรก็ตาม การที่บริษัทออกมายอมรับและเสนอการแก้ไขปัญหาแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบต่อผู้บริโภค หากคุณใช้ AM5 ASRock motherboard ควรตรวจสอบว่า BIOS เวอร์ชันล่าสุดถูกติดตั้งแล้ว และหากพบปัญหา ควรติดต่อ ASRock เพื่อดำเนินการ RMA https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/asrock-confirms-its-bios-settings-are-killing-ryzen-cpus-is-fully-committed-to-fixing-any-damaged-motherboards
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 440 มุมมอง 0 รีวิว
  • Realtek เปิดตัวอแดปเตอร์เครือข่าย 10GbE ราคาประหยัดสำหรับเมนบอร์ด

    Realtek เตรียมเปิดตัวชิปเซ็ตเครือข่าย RTL8127 ซึ่งเป็นอแดปเตอร์ 10GbE ที่มีขนาดเล็กและราคาถูก โดยคาดว่าจะ เริ่มวางจำหน่ายในช่วงปลายปี 2025 และจะถูกนำไปใช้ใน เมนบอร์ดระดับสูงและอุปกรณ์เครือข่ายอื่น ๆ

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Realtek RTL8127
    RTL8127 เป็นชิปเซ็ตเครือข่ายขนาดเล็กเพียง 9mm x 9mm
    - ใช้ อินเทอร์เฟซ PCIe 4.0 x2 และรองรับความเร็ว 2.5Gbps, 5Gbps และ 10Gbps

    มีการใช้พลังงานต่ำเพียง 1.95W และรองรับโหมดสแตนด์บาย
    - เหมาะสำหรับ โน้ตบุ๊กและอุปกรณ์ที่ต้องการประหยัดพลังงาน

    รองรับเทคโนโลยี 10GBase-T ซึ่งเคยใช้ในเซิร์ฟเวอร์และเวิร์กสเตชันระดับสูง
    - ช่วยให้ ผู้ใช้ทั่วไปสามารถเข้าถึงเครือข่ายความเร็วสูงได้ง่ายขึ้น

    มีฟีเจอร์แก้ไขข้อผิดพลาดระดับฮาร์ดแวร์ (ECC) และตรวจสอบข้อมูล (CRC)
    - เพิ่ม ความเสถียรของการเชื่อมต่อและความถูกต้องของข้อมูล

    Realtek ตั้งราคาชิปเซ็ตไว้ที่ประมาณ $10
    - ทำให้ เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้ผลิตเมนบอร์ด

    ลุงก็อยากใช้นะ แต่ Switch ที่รองรับมันแพงมากเลย

    https://www.tomshardware.com/networking/realteks-usd10-tiny-10gbe-network-adapter-is-coming-to-motherboards-later-this-year
    Realtek เปิดตัวอแดปเตอร์เครือข่าย 10GbE ราคาประหยัดสำหรับเมนบอร์ด Realtek เตรียมเปิดตัวชิปเซ็ตเครือข่าย RTL8127 ซึ่งเป็นอแดปเตอร์ 10GbE ที่มีขนาดเล็กและราคาถูก โดยคาดว่าจะ เริ่มวางจำหน่ายในช่วงปลายปี 2025 และจะถูกนำไปใช้ใน เมนบอร์ดระดับสูงและอุปกรณ์เครือข่ายอื่น ๆ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Realtek RTL8127 ✅ RTL8127 เป็นชิปเซ็ตเครือข่ายขนาดเล็กเพียง 9mm x 9mm - ใช้ อินเทอร์เฟซ PCIe 4.0 x2 และรองรับความเร็ว 2.5Gbps, 5Gbps และ 10Gbps ✅ มีการใช้พลังงานต่ำเพียง 1.95W และรองรับโหมดสแตนด์บาย - เหมาะสำหรับ โน้ตบุ๊กและอุปกรณ์ที่ต้องการประหยัดพลังงาน ✅ รองรับเทคโนโลยี 10GBase-T ซึ่งเคยใช้ในเซิร์ฟเวอร์และเวิร์กสเตชันระดับสูง - ช่วยให้ ผู้ใช้ทั่วไปสามารถเข้าถึงเครือข่ายความเร็วสูงได้ง่ายขึ้น ✅ มีฟีเจอร์แก้ไขข้อผิดพลาดระดับฮาร์ดแวร์ (ECC) และตรวจสอบข้อมูล (CRC) - เพิ่ม ความเสถียรของการเชื่อมต่อและความถูกต้องของข้อมูล ✅ Realtek ตั้งราคาชิปเซ็ตไว้ที่ประมาณ $10 - ทำให้ เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้ผลิตเมนบอร์ด ℹ️ℹ️ ลุงก็อยากใช้นะ แต่ Switch ที่รองรับมันแพงมากเลย https://www.tomshardware.com/networking/realteks-usd10-tiny-10gbe-network-adapter-is-coming-to-motherboards-later-this-year
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 277 มุมมอง 0 รีวิว
  • MSI เปิดตัวเมนบอร์ด PinSafe Design ลดปัญหานิ้วถูกแทงจากขาเมนบอร์ด

    MSI เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ "PinSafe Design" สำหรับเมนบอร์ดรุ่น B850MPOWER ซึ่งช่วยให้ ผู้ใช้สามารถประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์ได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องขาเมนบอร์ดที่แหลมคม

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ PinSafe Design
    PinSafe Design ช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกขาเมนบอร์ดแทงนิ้วระหว่างการประกอบเครื่อง
    - ใช้ เทคนิคการบัดกรีที่ทำให้ด้านหลัง PCB เรียบขึ้น ลดจำนวนขาแหลม

    ช่วยเพิ่มความเสถียรของระบบและป้องกันไฟฟ้าสถิต (ESD)
    - ลดโอกาสที่ วัตถุแปลกปลอมจะติดอยู่ระหว่างขาเมนบอร์ดและทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร

    PinSafe Design จะเปิดตัวครั้งแรกบนเมนบอร์ด MSI MPOWER สำหรับชิปเซ็ต AMD
    - รุ่นแรกที่ใช้เทคโนโลยีนี้คือ B850MPOWER ซึ่งออกแบบมาสำหรับนักโอเวอร์คล็อกและผู้ใช้ระดับสูง

    MPOWER มาพร้อมฟีเจอร์ EZ Dashboard ที่รวมปุ่ม Power, Reset, Clear CMOS และ Debug LED
    - ช่วยให้ การแก้ไขปัญหาทำได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือเพิ่มเติม

    MSI ร่วมมือกับ Dragon Alliance เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการโอเวอร์คล็อกแรม DDR5
    - ใช้ สล็อตแรมแบบ 2 DIMM เพื่อให้การโอเวอร์คล็อกมีเสถียรภาพมากขึ้น

    https://www.tomshardware.com/pc-components/motherboards/msis-new-pinsafe-design-motherboard-promises-no-more-pricked-fingers
    MSI เปิดตัวเมนบอร์ด PinSafe Design ลดปัญหานิ้วถูกแทงจากขาเมนบอร์ด MSI เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ "PinSafe Design" สำหรับเมนบอร์ดรุ่น B850MPOWER ซึ่งช่วยให้ ผู้ใช้สามารถประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์ได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องขาเมนบอร์ดที่แหลมคม 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ PinSafe Design ✅ PinSafe Design ช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกขาเมนบอร์ดแทงนิ้วระหว่างการประกอบเครื่อง - ใช้ เทคนิคการบัดกรีที่ทำให้ด้านหลัง PCB เรียบขึ้น ลดจำนวนขาแหลม ✅ ช่วยเพิ่มความเสถียรของระบบและป้องกันไฟฟ้าสถิต (ESD) - ลดโอกาสที่ วัตถุแปลกปลอมจะติดอยู่ระหว่างขาเมนบอร์ดและทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร ✅ PinSafe Design จะเปิดตัวครั้งแรกบนเมนบอร์ด MSI MPOWER สำหรับชิปเซ็ต AMD - รุ่นแรกที่ใช้เทคโนโลยีนี้คือ B850MPOWER ซึ่งออกแบบมาสำหรับนักโอเวอร์คล็อกและผู้ใช้ระดับสูง ✅ MPOWER มาพร้อมฟีเจอร์ EZ Dashboard ที่รวมปุ่ม Power, Reset, Clear CMOS และ Debug LED - ช่วยให้ การแก้ไขปัญหาทำได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือเพิ่มเติม ✅ MSI ร่วมมือกับ Dragon Alliance เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการโอเวอร์คล็อกแรม DDR5 - ใช้ สล็อตแรมแบบ 2 DIMM เพื่อให้การโอเวอร์คล็อกมีเสถียรภาพมากขึ้น https://www.tomshardware.com/pc-components/motherboards/msis-new-pinsafe-design-motherboard-promises-no-more-pricked-fingers
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    MSI’s new PinSafe Design motherboard promises no more pricked fingers
    Set to debut on the first AMD chipset MPOWER motherboard from MSI, the B850MPOWER.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 286 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักวิทย์ซินโครตรอนร่วมมือบริษัทเอกชนพัฒนายาสีฟันสมุนไพรป้องกันฟันผุ-ลดการเสียวฟัน

    นักวิทยาศาสตร์สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) ร่วมมือบริษัทเอกชน พัฒนายาสีฟันสมุนไพรป้องกันผุ-ลดการเสียวฟัน โดยมีส่วนผสมของเปปไทด์จากข้าวไรซ์เบอร์รี่ ล่าสุดคว้า 2 เหรียญรางวัลจากงานแสดงนวัตกรรม ณ นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ พร้อมรางวัลพิเศษจาก French Federation of Inventors

    นครราชสีมา - ดร.ศิริวรรณ ณะวงษ์ หัวหน้าส่วนวิจัยด้านอาหารและการเกษตร สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน กล่าวว่า “สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอนได้มีส่วนร่วมกับ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด พัฒนายาสีฟันสมุนไพร 2 สูตร ได้แก่ ยาสีฟัน Nature’s Touch ที่เสริมสร้างเคลือบฟันและป้องกันฟันผุด้วยกรดอะมิโนและเปปไทด์จากรำข้าวไรซ์เบอร์รี่ และยาสีฟัน Hi-Herb ที่ป้องกันการเสียวฟันด้วยกรดอะมิโนและเปปไทด์จากรำข้าวไรซ์เบอร์รี่ โดยได้ใช้เทคนิคแสงซินโครตรอนศึกษาประสิทธิภาพของยาสีฟันทั้งสองสูตร”

    “ในการศึกษาประสิทธิภาพยาสีฟัน Nature’s Touch ที่เสริมสร้างเคลือบฟันและป้องกันฟันผุนั้น ทีมวิจัยได้ใช้เทคนิคอินฟราเรดสเปกโตรสโกปีจากแสงซินโครตรอนติดตามการทำงานของกรดอะมิโนและเปปไทด์ในการยึดติดกับฟันหลังจากการแปรงฟัน ส่วนการศึกษาประสิทธิภาพยาสีฟัน Hi-Herb ที่ป้องกันการเสียวฟันนั้น ทีมวิจัยใช้ 3 เทคนิคแสงซินโครตรอน ได้แก่ เทคนิคอินฟราเรดสเปกโตรสโกปี เทคนิคการกระเจิงรังสีเอกซ์ (SAXS/WAXS) และเทคนิคเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (XTM) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของยาสีฟันสูตรป้องกันการเสียวฟัน โดยติดตามการเรียงตัวของกรดอะมิโนและเปปไทด์ที่เข้าไปในรูฟันเพื่อช่วยป้องกันการเสียวฟัน”

    “งานวิจัยนี้เป็นตัวอย่างหนึ่งของการใช้ประโยชน์แสงซินโครตรอนเพื่อวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งล่าสุดยังได้รับรางวัลจากประกวดภายในงาน The 50th Geneva International Exhibition of Inventions 2025 ที่จัดขึ้นเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ณ ศูนย์การประชุม Palexpo นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ โดยยาสีฟันสูตรเสริมสร้างเคลือบฟันและป้องกันฟันผุได้รับเหรียญเงินจากการประกวดหลักภายในงาน และได้รับรางวัลพิเศษจากสาธารณรัฐฝรั่งเศส โดย French Federation of Inventors และยาสีฟันสูตรป้องกันการเสียวฟันได้รับรางวัลเหรียญทองแดงจากการประกวดหลักภายในงาน นอกจากนี้ทั้งสองผลงานจากยังได้รับประกาศนียบัตรจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ซึ่งมีพิธีมอบภายในงานจัดแสดงนวัตกรรมที่สวิตเซอร์แลนด์ด้วย" ดร.ศิริวรรณ ณะวงษ์ กล่าวสรุป

    สำหรับผู้ประกอบการผู้สนใจในการใช้ประโยชน์แสงซินโครตรอนเพื่อส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ สามารถติดต่อได้ที่ ส่วนบริการอุตสาหกรรมและสังคม ฝ่ายยุทธศาสตร์องค์กร สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) โทร.08 9949 7313 หรือ อีเมล bds@slri.or.th
    นักวิทย์ซินโครตรอนร่วมมือบริษัทเอกชนพัฒนายาสีฟันสมุนไพรป้องกันฟันผุ-ลดการเสียวฟัน นักวิทยาศาสตร์สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) ร่วมมือบริษัทเอกชน พัฒนายาสีฟันสมุนไพรป้องกันผุ-ลดการเสียวฟัน โดยมีส่วนผสมของเปปไทด์จากข้าวไรซ์เบอร์รี่ ล่าสุดคว้า 2 เหรียญรางวัลจากงานแสดงนวัตกรรม ณ นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ พร้อมรางวัลพิเศษจาก French Federation of Inventors นครราชสีมา - ดร.ศิริวรรณ ณะวงษ์ หัวหน้าส่วนวิจัยด้านอาหารและการเกษตร สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน กล่าวว่า “สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอนได้มีส่วนร่วมกับ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด พัฒนายาสีฟันสมุนไพร 2 สูตร ได้แก่ ยาสีฟัน Nature’s Touch ที่เสริมสร้างเคลือบฟันและป้องกันฟันผุด้วยกรดอะมิโนและเปปไทด์จากรำข้าวไรซ์เบอร์รี่ และยาสีฟัน Hi-Herb ที่ป้องกันการเสียวฟันด้วยกรดอะมิโนและเปปไทด์จากรำข้าวไรซ์เบอร์รี่ โดยได้ใช้เทคนิคแสงซินโครตรอนศึกษาประสิทธิภาพของยาสีฟันทั้งสองสูตร” “ในการศึกษาประสิทธิภาพยาสีฟัน Nature’s Touch ที่เสริมสร้างเคลือบฟันและป้องกันฟันผุนั้น ทีมวิจัยได้ใช้เทคนิคอินฟราเรดสเปกโตรสโกปีจากแสงซินโครตรอนติดตามการทำงานของกรดอะมิโนและเปปไทด์ในการยึดติดกับฟันหลังจากการแปรงฟัน ส่วนการศึกษาประสิทธิภาพยาสีฟัน Hi-Herb ที่ป้องกันการเสียวฟันนั้น ทีมวิจัยใช้ 3 เทคนิคแสงซินโครตรอน ได้แก่ เทคนิคอินฟราเรดสเปกโตรสโกปี เทคนิคการกระเจิงรังสีเอกซ์ (SAXS/WAXS) และเทคนิคเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (XTM) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของยาสีฟันสูตรป้องกันการเสียวฟัน โดยติดตามการเรียงตัวของกรดอะมิโนและเปปไทด์ที่เข้าไปในรูฟันเพื่อช่วยป้องกันการเสียวฟัน” “งานวิจัยนี้เป็นตัวอย่างหนึ่งของการใช้ประโยชน์แสงซินโครตรอนเพื่อวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งล่าสุดยังได้รับรางวัลจากประกวดภายในงาน The 50th Geneva International Exhibition of Inventions 2025 ที่จัดขึ้นเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ณ ศูนย์การประชุม Palexpo นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ โดยยาสีฟันสูตรเสริมสร้างเคลือบฟันและป้องกันฟันผุได้รับเหรียญเงินจากการประกวดหลักภายในงาน และได้รับรางวัลพิเศษจากสาธารณรัฐฝรั่งเศส โดย French Federation of Inventors และยาสีฟันสูตรป้องกันการเสียวฟันได้รับรางวัลเหรียญทองแดงจากการประกวดหลักภายในงาน นอกจากนี้ทั้งสองผลงานจากยังได้รับประกาศนียบัตรจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ซึ่งมีพิธีมอบภายในงานจัดแสดงนวัตกรรมที่สวิตเซอร์แลนด์ด้วย" ดร.ศิริวรรณ ณะวงษ์ กล่าวสรุป สำหรับผู้ประกอบการผู้สนใจในการใช้ประโยชน์แสงซินโครตรอนเพื่อส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ สามารถติดต่อได้ที่ ส่วนบริการอุตสาหกรรมและสังคม ฝ่ายยุทธศาสตร์องค์กร สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) โทร.08 9949 7313 หรือ อีเมล bds@slri.or.th
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 425 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts