• โฆษก ตร.แจง ปมแต่งตั้ง พ.ต.อ.ไพรัตน์ รอง ผบก.อก.ภ.9 เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น เป็นไปตามระเบียบ กฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ โดยหน่วยเสนอเป็นผู้เหมาะสม อยู่ในกลุ่มอาวุโสร้อยละ 50 แม้ถูกออกหมายจับก็ยังไม่เข้าเกณฑ์ที่จะพรากสิทธิ์ แต่ไม่ได้นิ่งนอนใจ สั่งตรวจสอบทุกมิติ หากพบมีมูลทางวินัยพร้อมจะดำเนินการต่อไป

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000005567

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    โฆษก ตร.แจง ปมแต่งตั้ง พ.ต.อ.ไพรัตน์ รอง ผบก.อก.ภ.9 เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น เป็นไปตามระเบียบ กฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ โดยหน่วยเสนอเป็นผู้เหมาะสม อยู่ในกลุ่มอาวุโสร้อยละ 50 แม้ถูกออกหมายจับก็ยังไม่เข้าเกณฑ์ที่จะพรากสิทธิ์ แต่ไม่ได้นิ่งนอนใจ สั่งตรวจสอบทุกมิติ หากพบมีมูลทางวินัยพร้อมจะดำเนินการต่อไป อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000005567 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    0 Comments 0 Shares 45 Views 0 Reviews
  • ภาพวิดีโอภายในโรงงานแห่งหนึ่งใน Chasiv Yar ที่ได้รับการปลดปล่อยโดยกรมทหารที่ 331 กองพลทหารอากาศที่ 98 แห่งกองทัพรัสเซีย
    ภาพวิดีโอภายในโรงงานแห่งหนึ่งใน Chasiv Yar ที่ได้รับการปลดปล่อยโดยกรมทหารที่ 331 กองพลทหารอากาศที่ 98 แห่งกองทัพรัสเซีย
    0 Comments 0 Shares 77 Views 0 Reviews
  • ทริกดูแลผิวหน้าแห้งขาดน้ำให้ปัง!!!! โดย หนุ่ย Look@MebyBP
    ทริกดูแลผิวหน้าแห้งขาดน้ำให้ปัง!!!! โดย หนุ่ย Look@MebyBP
    0 Comments 0 Shares 75 Views 11 0 Reviews
  • ไมค์ วอลท์ซ (Mike Waltz) ว่าที่ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ (National Security Adviser) (ตำแหน่งของเจค ซัลลิแวน ในรัฐบาลไบเดน) ระบุว่าข้อตกลงหยุดยิงที่กำหลังจะเกิดขึ้น ไม่ใช่การสิ้นสุดของสงคราม เนื่องจากเป้าหมายทุกอย่างยังคงเดิม นั่นคือ "การปลดอาวุธอย่างสมบูรณ์" ในฉนวนกาซา และ "การทำลายล้าง" กลุ่มฮามาส

    หลังจากตัวประกันชาวอิสราเอล-อเมริกันได้รับการปล่อยตัวออกไปแล้ว เป้าหมายเหล่านั้นจะบรรลุผลได้ต่อไป คำกล่าวของวอลทซ์ชัดเจนว่า ไม่ได้ต้องการให้สงครามสิ้นสุดลงอย่างแท้จริง
    ไมค์ วอลท์ซ (Mike Waltz) ว่าที่ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ (National Security Adviser) (ตำแหน่งของเจค ซัลลิแวน ในรัฐบาลไบเดน) ระบุว่าข้อตกลงหยุดยิงที่กำหลังจะเกิดขึ้น ไม่ใช่การสิ้นสุดของสงคราม เนื่องจากเป้าหมายทุกอย่างยังคงเดิม นั่นคือ "การปลดอาวุธอย่างสมบูรณ์" ในฉนวนกาซา และ "การทำลายล้าง" กลุ่มฮามาส หลังจากตัวประกันชาวอิสราเอล-อเมริกันได้รับการปล่อยตัวออกไปแล้ว เป้าหมายเหล่านั้นจะบรรลุผลได้ต่อไป คำกล่าวของวอลทซ์ชัดเจนว่า ไม่ได้ต้องการให้สงครามสิ้นสุดลงอย่างแท้จริง
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 181 Views 15 0 Reviews
  • รัฐบาลอิสราเอลเพิ่งให้การอนุมัติขั้นสุดท้ายสำหรับการหยุดยิงในฉนวนกาซา ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม ตั้งแต่เวลา 12.00 น. (ตามเวลาปาเลสไตน์)

    ภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงนี้:
    - ในช่วงเฟสแรก จะมีการปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอลชุดแรกจำนวน 33 คน ที่ถูกกลุ่มฮามาสจับอยู่ในกาซามานาน 15 เดือนแล้ว เพื่อแลกกับการปล่อยตัวนักโทษปาเลสไตน์หลายร้อยคนจากเรือนจำอิสราเอล ขณะที่กองทัพอิสราเอลจะถอนทหารออกจากพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่นในกาซาและชาวปาเลสไตน์ที่หนีภัยสู้รบจะสามารถกลับสู่บ้านเรือนของตนเองได้ และจะมีการเปิดทางให้รถบรรทุกความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปนำส่งความช่วยเหลือในกาซาได้วันละ 600 คัน ในเฟสแรกนี้จะใช้เวลานาน 6 สัปดาห์ และอาจขยายเวลาออกไปได้ หากภารกิจยังไม่เสร็จสิ้น

    - ก่อนเข้าสู่เฟสที่ 2 จะมีการเจรจากันเพิ่มเติมของข้อตกลงหยุดยิง โดยจะมีการปล่อยตัวประกันอิสราเอลที่เหลืออยู่ ขณะกองทัพอิสราเอลจะถอนกำลังออกไปทั้งหมด

    - ส่วนเฟสที่ 3 ซึ่งเป็นช่วงสุดท้าย จะเป็นระยะการฟื้นฟูกาซาที่อาจต้องใช้เวลาหลายปีและการส่งร่างของตัวประกันที่เสียชีวิตแล้วทั้งหมดคืนแก่อิสราเอล
    .
    ผู้ติดตามทางการเมืองหลายรายแสดงความเห็น ข้อตกลงหยุดยิงนี้ไม่ใช่การนิรโทษกรรมให้กับอิสราเอล หรือเนทันยาฮูที่กำลังโดนข้อกล่าวหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และอาชญากรรมสงคราม พวกเขายังคงต้องถูกดำเนินคดี มิฉะนั้น หไม่มีใครควรอยู่เหนือกฎหมายระหว่างประเทศที่ประชาคมโลกใช้ร่วมกัน
    .
    (วิดีโอ1) อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ข้อตกลงหยุดยิงจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันอาทิตย์ เวลา 12.00 น. อิสราเอลได้เพิ่มระดับความรุนแรงในการโจมตี โดยหนึ่งในเป้าหมายที่ได้รับผลกระทบคือศูนย์การติดต่อสื่อสารแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกของกาซา
    .
    นอกจากนี้ ตามรายงานของหน่วยงานสาธารณะสุขของปาเลสไตน์ มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตมากกว่า 116 ราย รวมถึงผู้หญิงและเด็ก ตั้งแต่เย็นวันพุธ หลังการประกาศข้อตกงหยุดยิง เนื่องจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลที่โจมตีชุมชนหลายแห่งทั่วฉนวนกาซา รวมถึงจาบาเลีย และพื้นที่ตอนกลาง เช่น นูไซรัต


    รัฐบาลอิสราเอลเพิ่งให้การอนุมัติขั้นสุดท้ายสำหรับการหยุดยิงในฉนวนกาซา ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม ตั้งแต่เวลา 12.00 น. (ตามเวลาปาเลสไตน์) ภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงนี้: - ในช่วงเฟสแรก จะมีการปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอลชุดแรกจำนวน 33 คน ที่ถูกกลุ่มฮามาสจับอยู่ในกาซามานาน 15 เดือนแล้ว เพื่อแลกกับการปล่อยตัวนักโทษปาเลสไตน์หลายร้อยคนจากเรือนจำอิสราเอล ขณะที่กองทัพอิสราเอลจะถอนทหารออกจากพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่นในกาซาและชาวปาเลสไตน์ที่หนีภัยสู้รบจะสามารถกลับสู่บ้านเรือนของตนเองได้ และจะมีการเปิดทางให้รถบรรทุกความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปนำส่งความช่วยเหลือในกาซาได้วันละ 600 คัน ในเฟสแรกนี้จะใช้เวลานาน 6 สัปดาห์ และอาจขยายเวลาออกไปได้ หากภารกิจยังไม่เสร็จสิ้น - ก่อนเข้าสู่เฟสที่ 2 จะมีการเจรจากันเพิ่มเติมของข้อตกลงหยุดยิง โดยจะมีการปล่อยตัวประกันอิสราเอลที่เหลืออยู่ ขณะกองทัพอิสราเอลจะถอนกำลังออกไปทั้งหมด - ส่วนเฟสที่ 3 ซึ่งเป็นช่วงสุดท้าย จะเป็นระยะการฟื้นฟูกาซาที่อาจต้องใช้เวลาหลายปีและการส่งร่างของตัวประกันที่เสียชีวิตแล้วทั้งหมดคืนแก่อิสราเอล . ผู้ติดตามทางการเมืองหลายรายแสดงความเห็น ข้อตกลงหยุดยิงนี้ไม่ใช่การนิรโทษกรรมให้กับอิสราเอล หรือเนทันยาฮูที่กำลังโดนข้อกล่าวหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และอาชญากรรมสงคราม พวกเขายังคงต้องถูกดำเนินคดี มิฉะนั้น หไม่มีใครควรอยู่เหนือกฎหมายระหว่างประเทศที่ประชาคมโลกใช้ร่วมกัน . (วิดีโอ1) อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ข้อตกลงหยุดยิงจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันอาทิตย์ เวลา 12.00 น. อิสราเอลได้เพิ่มระดับความรุนแรงในการโจมตี โดยหนึ่งในเป้าหมายที่ได้รับผลกระทบคือศูนย์การติดต่อสื่อสารแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกของกาซา . นอกจากนี้ ตามรายงานของหน่วยงานสาธารณะสุขของปาเลสไตน์ มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตมากกว่า 116 ราย รวมถึงผู้หญิงและเด็ก ตั้งแต่เย็นวันพุธ หลังการประกาศข้อตกงหยุดยิง เนื่องจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลที่โจมตีชุมชนหลายแห่งทั่วฉนวนกาซา รวมถึงจาบาเลีย และพื้นที่ตอนกลาง เช่น นูไซรัต
    0 Comments 0 Shares 142 Views 0 Reviews
  • "ของเล่นใหม่ของสหภาพยุโรป"

    ผู้แทนระดับสูงของสหภาพยุโรป ฮัจญะห์ ลาบิบ (Hadja Lahbib) เข้าพบกับผู้นำซีเรีย อาห์เหม็ด อัล-ชารา ในกรุงดามัสกัส เพื่อประกาศแพ็คเกจช่วยเหลือมูลค่า 235 ล้านยูโรจากสหภาพยุโรป

    พร้อมกันนี้ ฮัจญะห์ ลาบิบ ยังโพสต์วิดีโอการไปเยือนกรุงดามัสกัสของเธอ พร้อมข้อความ "ซาบซึ้งใจ" ที่ได้เห็นและได้ยินเรื่องราวแห่งความหวังสำหรับอนาคตที่สดใส ของประชาชนชาวซีเรียที่กำลังสร้างประวัติศาสตร์บทใหม่ พร้อมให้คำสัญญาว่า "สหภาพยุโรปจะยืนเคียงข้างคุณ"

    (รูปที่3-4) ในขณะที่การละเมิดสิทธิมนุษยชนเพิ่มสูงขึ้น จากการกระทำของกลุ่มก่อการร้าย HTS ที่ปกครองซีเรีย แต่ยุโรปกลับมองข้ามเรื่องเหล่านี้ไป!



    "ของเล่นใหม่ของสหภาพยุโรป" ผู้แทนระดับสูงของสหภาพยุโรป ฮัจญะห์ ลาบิบ (Hadja Lahbib) เข้าพบกับผู้นำซีเรีย อาห์เหม็ด อัล-ชารา ในกรุงดามัสกัส เพื่อประกาศแพ็คเกจช่วยเหลือมูลค่า 235 ล้านยูโรจากสหภาพยุโรป พร้อมกันนี้ ฮัจญะห์ ลาบิบ ยังโพสต์วิดีโอการไปเยือนกรุงดามัสกัสของเธอ พร้อมข้อความ "ซาบซึ้งใจ" ที่ได้เห็นและได้ยินเรื่องราวแห่งความหวังสำหรับอนาคตที่สดใส ของประชาชนชาวซีเรียที่กำลังสร้างประวัติศาสตร์บทใหม่ พร้อมให้คำสัญญาว่า "สหภาพยุโรปจะยืนเคียงข้างคุณ" (รูปที่3-4) ในขณะที่การละเมิดสิทธิมนุษยชนเพิ่มสูงขึ้น จากการกระทำของกลุ่มก่อการร้าย HTS ที่ปกครองซีเรีย แต่ยุโรปกลับมองข้ามเรื่องเหล่านี้ไป!
    0 Comments 0 Shares 138 Views 0 Reviews
  • “ยุทธหัตถีแห่งหนองสาหร่าย”

    ดินแดนแห่งศักดิ์ศรี กรุงศรีอยุธยา เสียงกลองศึกดังก้อง พม่ายกทัพเข้ามา สมเด็จพระนเรศ ทรงนำทัพกู้แผ่นดิน ด้วยพระแสงของ้าวแสนพลพ่าย ชัยชนะเหนือศัตรู

    * ณ หนองสาหร่าย เสียงช้างร้องก้องไพร พระองค์ดำ พระองค์ขาว จารึกไว้ในหัวใจ ชนช้างฟาดฟัน บั่นคอมังสามเกียด เลือดหลั่งรินบนหลังช้าง เพื่อชาติไทยเรา

    พระองค์ขาวทรงพลายปราบไตรจักร ฟันมางจาชโร จบสิ้นศึกเหนือสายน้ำ ไพร่พลไทยลุกฮือ รวมพลังเกินขวางกั้น ประวัติศาสตร์ย้ำเตือนเรา ให้ยืนหยัดสู้เพื่อไทย

    ซ้ำ *

    พระองค์ขาวทรงพลายปราบไตรจักร

    ** ช้างศึกยิ่งใหญ่ ฟาดงวงฟาดงา วิญญาณนักรบสืบมา ด้วยเลือดนักสู้ไม่เสื่อมคลาย เกียรติยศของผืนแผ่นดิน ค่าควรเมืองแห่งชนไทย เพลงยุทธหัตถี ขับขานไปให้โลกรู้

    ซ้ำ *, **

    ดินแดนแห่งศักดิ์ศรี ไทยเรานี้ไม่มีวันลืม เสียงกลองศึกดังก้อง ในหัวใจเราตลอดไป ยุทธหัตถีแห่งหนองสาหร่าย คือความภาคภูมิของคนไทย

    ขอสดุดีแด่วีรชน ให้คงอยู่ในใจนิรันดร์

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 180850 ม.ค. 2568
    “ยุทธหัตถีแห่งหนองสาหร่าย” ดินแดนแห่งศักดิ์ศรี กรุงศรีอยุธยา เสียงกลองศึกดังก้อง พม่ายกทัพเข้ามา สมเด็จพระนเรศ ทรงนำทัพกู้แผ่นดิน ด้วยพระแสงของ้าวแสนพลพ่าย ชัยชนะเหนือศัตรู * ณ หนองสาหร่าย เสียงช้างร้องก้องไพร พระองค์ดำ พระองค์ขาว จารึกไว้ในหัวใจ ชนช้างฟาดฟัน บั่นคอมังสามเกียด เลือดหลั่งรินบนหลังช้าง เพื่อชาติไทยเรา พระองค์ขาวทรงพลายปราบไตรจักร ฟันมางจาชโร จบสิ้นศึกเหนือสายน้ำ ไพร่พลไทยลุกฮือ รวมพลังเกินขวางกั้น ประวัติศาสตร์ย้ำเตือนเรา ให้ยืนหยัดสู้เพื่อไทย ซ้ำ * พระองค์ขาวทรงพลายปราบไตรจักร ** ช้างศึกยิ่งใหญ่ ฟาดงวงฟาดงา วิญญาณนักรบสืบมา ด้วยเลือดนักสู้ไม่เสื่อมคลาย เกียรติยศของผืนแผ่นดิน ค่าควรเมืองแห่งชนไทย เพลงยุทธหัตถี ขับขานไปให้โลกรู้ ซ้ำ *, ** ดินแดนแห่งศักดิ์ศรี ไทยเรานี้ไม่มีวันลืม เสียงกลองศึกดังก้อง ในหัวใจเราตลอดไป ยุทธหัตถีแห่งหนองสาหร่าย คือความภาคภูมิของคนไทย ขอสดุดีแด่วีรชน ให้คงอยู่ในใจนิรันดร์ ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 180850 ม.ค. 2568
    0 Comments 0 Shares 188 Views 18 0 Reviews
  • 433 ปี ยุทธหัตถีหนองสาหร่าย ศึกแห่งเกียรติยศขององค์ดำ-องค์ขาว 🇹🇭🐘

    ย้อนไปเมื่อ 433 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2135 เป็นวันที่ประวัติศาสตร์ไทย ต้องจารึกไว้ด้วยความภาคภูมิใจ นั่นคือเหตุการณ์ “ยุทธหัตถีหนองสาหร่าย” ที่แสดงถึงความกล้าหาญ และพระปรีชาสามารถ ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช (พระองค์ดำ) และสมเด็จพระเอกาทศรถ (พระองค์ขาว) ในการต่อสู้กับทัพพม่า ณ ตำบลหนองสาหร่าย อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี

    สงครามครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงการต่อสู้ เพื่ออาณาจักรเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงถึง ศักดิ์ศรีของพระมหากษัตริย์ไทย ผู้ยอมเสี่ยงชีวิต เพื่อปกป้องผืนแผ่นดิน และประชาชนชาวไทย การยุทธหัตถีครั้งนี้ ไม่เพียงเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ แต่ยังกลายเป็นมรดกทางวัฒนธรรม ที่ยังคงมีการเล่าขาน และรำลึกถึงจนถึงทุกวันนี้

    สงครามบนหลังช้างที่สะท้อนศักดิ์ศรี
    ยุทธหัตถี หมายถึง การทำสงครามบนหลังช้าง โดยผู้บัญชาการสูงสุด ของกองทัพทั้งสองฝ่าย จะเผชิญหน้ากันบนหลังช้างศึก เป็นการต่อสู้ ที่ต้องอาศัยทั้งความสามารถ การฝึกฝน ความกล้าหาญของกษัตริย์ และช้างศึก การชนช้างนี้ถือว่า เป็นการทำศึกที่มีเกียรติยศ และเป็นที่ยอมรับ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในประเทศไทย พม่า และกัมพูชา

    ในยุคโบราณ ช้างถือว่าเป็นสัตว์คู่บารมี ของพระมหากษัตริย์ และเป็นสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่ การทำยุทธหัตถี จึงไม่เพียงแต่เป็นการต่อสู้ เพื่อชัยชนะทางการทหารเท่านั้น แต่ยังแสดงถึงความกล้าหาญและความสามารถของผู้ปกครอง ที่นำทัพด้วยตัวเอง

    สงครามยุทธหัตถีในปี พ.ศ. 2135 มีต้นเหตุจากการที่กรุงหงสาวดี (พม่า) มีความต้องการ จะยึดครองกรุงศรีอยุธยา พระเจ้านันทบุเรง ผู้ปกครองหงสาวดีในเวลานั้น จึงส่งกองทัพใหญ่กว่า 240,000 นาย นำโดย พระมหาอุปราชา (มังสามเกียด) และมางจาชโร เจ้าเมืองจาปะโร เข้ารุกรานกรุงศรีอยุธยา

    พระองค์ดำทรงทราบถึง การเคลื่อนทัพของพม่า จึงทรงระดมกำลังพลหนึ่งแสนนาย และเตรียมการป้องกันเมือง พร้อมกับทรงออกคำประกาศอิสรภาพที่เมืองแครง ในปี พ.ศ. 2127 ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้น ของการต่อต้านการปกครองของพม่า อย่างเต็มตัว

    เมื่อกองทัพของมังสามเกียด เคลื่อนมาถึงสุพรรณบุรี พระองค์ดำทรงนำทัพหลวงไปตั้งค่าย ที่ตำบลหนองสาหร่าย พร้อมกับพระองค์ขาว

    เช้าวันจันทร์ แรม 2 ค่ำ เดือนยี่ ปีมะโรง องค์ดำและองค์ขาว ทรงเครื่องพิชัยยุทธเต็มยศ พร้อมด้วยช้างศึกทรง 2 เชือก คือ

    เจ้าพระยาไชยานุภาพ (พลายภูเขาทอง) ช้างทรงของพระองค์ดำ
    เจ้าพระยาปราบไตรจักร (พลายบุญเรือง) ช้างทรงของพระองค์ขาว

    ทั้งสองพระองค์ทรงนำช้างศึกเข้าสู่สนามรบ แต่ระหว่างที่เคลื่อนทัพเกิดความวุ่นวาย ทำให้ช้างทรงของทั้งสองพระองค์ หลุดเข้าไปในวงล้อมของทัพพม่า และเผชิญหน้ากับมังสามเกียด และมางจาชโร โดยตรง

    เผชิญหน้าบนหลังช้าง
    พระองค์ดำทรงเรียกท้ามังสามเกียด ซึ่งสนิทสนมกันตั้งแต่วัยพระเยาว์ เมื่อครั้งองค์ดำ ทรงเป็นองค์ประกัน อยู่ที่กรุงหงสาวดี ให้มาทำยุทธหัตถี ด้วยพระดำรัส ที่แสดงถึงความองอาจว่า

    “พระเจ้าพี่เรา จะยืนอยู่ใยในร่มไม้เล่า เชิญออกมาทำยุทธหัตถีด้วยกัน ให้เป็นเกียรติยศไว้ในแผ่นดินเถิด”

    มังสามเกียดจึงไสช้าง เข้าชนเจ้าพระยาไชยานุภาพ เกิดการต่อสู้ที่ดุเดือด เมื่อถึงจังหวะสำคัญ พระองค์ดำทรงใช้พระแสงของ้าวแสนพลพ่าย ฟันเข้าที่พระอังสะขวา ของมังสามเกียด จนสิ้นพระชนม์บนหลังช้าง

    ในขณะเดียวกัน พระองค์ขาวทรงฟันมางจาชโร จนสิ้นพระชนม์บนหลังช้างเช่นกัน เป็นการปิดฉาก ศึกยุทธหัตถีอันยิ่งใหญ่

    ชัยชนะของพระองค์ดำ ในยุทธหัตถีครั้งนี้ ทำให้กรุงศรีอยุธยา สามารถรักษาเอกราชไว้ได้ และสร้างความเกรงขามให้แก่กรุงหงสาวดี จนไม่มีการรุกรานอีก เป็นเวลาหลายปี

    หลังสงคราม พระเจ้านันทบุเรงทรงเสียพระทัยอย่างยิ่ง ที่ต้องสูญเสียพระราชโอรสไป ในศึกครั้งนี้ และกรุงศรีอยุธยาก็ได้สร้าง พระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์อันสำคัญนี้

    ความสำคัญของยุทธหัตถี ในประวัติศาสตร์ไทย
    สัญลักษณ์ของเอกราช ยุทธหัตถีครั้งนี้ เป็นเหตุการณ์ที่สะท้อนถึง ความสามัคคีและการต่อสู้ เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ

    พระปรีชาสามารถของกษัตริย์ไทย สมเด็จพระนเรศวร และสมเด็จพระเอกาทศรถ ได้ทรงแสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญ และพระปรีชาสามารถในการนำทัพ

    มรดกทางวัฒนธรรม การยุทธหัตถีได้กลายเป็นตำนาน ที่มีการเล่าขาน และเป็นแรงบันดาลใจในงานศิลปะ วรรณกรรม และภาพยนตร์

    คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับยุทธหัตถี
    1. ยุทธหัตถีเกิดขึ้นที่ไหน?
    ยุทธหัตถีเกิดขึ้นที่ตำบลหนองสาหร่าย อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี

    2. ช้างศึกคืออะไร?
    ช้างศึกคือช้างที่ได้รับการฝึกฝน เพื่อใช้ในการทำสงคราม มีลักษณะเด่นตามตำราคชลักษณ์

    3. ทำไมยุทธหัตถีถึงมีเกียรติ?
    เพราะเป็นการต่อสู้ ระหว่างกษัตริย์ทั้งสองฝ่าย อย่างตรงไปตรงมา และแสดงถึงความกล้าหาญ

    ยุทธหัตถีหนองสาหร่ายในปี พ.ศ. 2135 เป็นสงครามที่แสดงถึงความกล้าหาญ และพระปรีชาสามารถ ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และสมเด็จพระเอกาทศรถ ซึ่งทำให้กรุงศรีอยุธยา สามารถรักษาเอกราช และศักดิ์ศรีของชาติไว้ได้

    เหตุการณ์นี้ ยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้แก่คนไทย ในการต่อสู้เพื่อสิ่งที่ถูกต้อง และรักษาเกียรติภูมิของตน

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 180833 ม.ค. 2568

    #สมเด็จพระนเรศวร #ยุทธหัตถี #ประวัติศาสตร์ไทย #สงครามชนช้าง #กรุงศรีอยุธยา #ดอนเจดีย์ #หงสาวดี #ชาติไทย #วีรกรรมไทย #สงครามไทย

    🎉
    433 ปี ยุทธหัตถีหนองสาหร่าย ศึกแห่งเกียรติยศขององค์ดำ-องค์ขาว 🇹🇭🐘 ย้อนไปเมื่อ 433 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2135 เป็นวันที่ประวัติศาสตร์ไทย ต้องจารึกไว้ด้วยความภาคภูมิใจ นั่นคือเหตุการณ์ “ยุทธหัตถีหนองสาหร่าย” ที่แสดงถึงความกล้าหาญ และพระปรีชาสามารถ ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช (พระองค์ดำ) และสมเด็จพระเอกาทศรถ (พระองค์ขาว) ในการต่อสู้กับทัพพม่า ณ ตำบลหนองสาหร่าย อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี สงครามครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงการต่อสู้ เพื่ออาณาจักรเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงถึง ศักดิ์ศรีของพระมหากษัตริย์ไทย ผู้ยอมเสี่ยงชีวิต เพื่อปกป้องผืนแผ่นดิน และประชาชนชาวไทย การยุทธหัตถีครั้งนี้ ไม่เพียงเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ แต่ยังกลายเป็นมรดกทางวัฒนธรรม ที่ยังคงมีการเล่าขาน และรำลึกถึงจนถึงทุกวันนี้ สงครามบนหลังช้างที่สะท้อนศักดิ์ศรี ยุทธหัตถี หมายถึง การทำสงครามบนหลังช้าง โดยผู้บัญชาการสูงสุด ของกองทัพทั้งสองฝ่าย จะเผชิญหน้ากันบนหลังช้างศึก เป็นการต่อสู้ ที่ต้องอาศัยทั้งความสามารถ การฝึกฝน ความกล้าหาญของกษัตริย์ และช้างศึก การชนช้างนี้ถือว่า เป็นการทำศึกที่มีเกียรติยศ และเป็นที่ยอมรับ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในประเทศไทย พม่า และกัมพูชา ในยุคโบราณ ช้างถือว่าเป็นสัตว์คู่บารมี ของพระมหากษัตริย์ และเป็นสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่ การทำยุทธหัตถี จึงไม่เพียงแต่เป็นการต่อสู้ เพื่อชัยชนะทางการทหารเท่านั้น แต่ยังแสดงถึงความกล้าหาญและความสามารถของผู้ปกครอง ที่นำทัพด้วยตัวเอง สงครามยุทธหัตถีในปี พ.ศ. 2135 มีต้นเหตุจากการที่กรุงหงสาวดี (พม่า) มีความต้องการ จะยึดครองกรุงศรีอยุธยา พระเจ้านันทบุเรง ผู้ปกครองหงสาวดีในเวลานั้น จึงส่งกองทัพใหญ่กว่า 240,000 นาย นำโดย พระมหาอุปราชา (มังสามเกียด) และมางจาชโร เจ้าเมืองจาปะโร เข้ารุกรานกรุงศรีอยุธยา พระองค์ดำทรงทราบถึง การเคลื่อนทัพของพม่า จึงทรงระดมกำลังพลหนึ่งแสนนาย และเตรียมการป้องกันเมือง พร้อมกับทรงออกคำประกาศอิสรภาพที่เมืองแครง ในปี พ.ศ. 2127 ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้น ของการต่อต้านการปกครองของพม่า อย่างเต็มตัว เมื่อกองทัพของมังสามเกียด เคลื่อนมาถึงสุพรรณบุรี พระองค์ดำทรงนำทัพหลวงไปตั้งค่าย ที่ตำบลหนองสาหร่าย พร้อมกับพระองค์ขาว เช้าวันจันทร์ แรม 2 ค่ำ เดือนยี่ ปีมะโรง องค์ดำและองค์ขาว ทรงเครื่องพิชัยยุทธเต็มยศ พร้อมด้วยช้างศึกทรง 2 เชือก คือ เจ้าพระยาไชยานุภาพ (พลายภูเขาทอง) ช้างทรงของพระองค์ดำ เจ้าพระยาปราบไตรจักร (พลายบุญเรือง) ช้างทรงของพระองค์ขาว ทั้งสองพระองค์ทรงนำช้างศึกเข้าสู่สนามรบ แต่ระหว่างที่เคลื่อนทัพเกิดความวุ่นวาย ทำให้ช้างทรงของทั้งสองพระองค์ หลุดเข้าไปในวงล้อมของทัพพม่า และเผชิญหน้ากับมังสามเกียด และมางจาชโร โดยตรง เผชิญหน้าบนหลังช้าง พระองค์ดำทรงเรียกท้ามังสามเกียด ซึ่งสนิทสนมกันตั้งแต่วัยพระเยาว์ เมื่อครั้งองค์ดำ ทรงเป็นองค์ประกัน อยู่ที่กรุงหงสาวดี ให้มาทำยุทธหัตถี ด้วยพระดำรัส ที่แสดงถึงความองอาจว่า “พระเจ้าพี่เรา จะยืนอยู่ใยในร่มไม้เล่า เชิญออกมาทำยุทธหัตถีด้วยกัน ให้เป็นเกียรติยศไว้ในแผ่นดินเถิด” มังสามเกียดจึงไสช้าง เข้าชนเจ้าพระยาไชยานุภาพ เกิดการต่อสู้ที่ดุเดือด เมื่อถึงจังหวะสำคัญ พระองค์ดำทรงใช้พระแสงของ้าวแสนพลพ่าย ฟันเข้าที่พระอังสะขวา ของมังสามเกียด จนสิ้นพระชนม์บนหลังช้าง ในขณะเดียวกัน พระองค์ขาวทรงฟันมางจาชโร จนสิ้นพระชนม์บนหลังช้างเช่นกัน เป็นการปิดฉาก ศึกยุทธหัตถีอันยิ่งใหญ่ ชัยชนะของพระองค์ดำ ในยุทธหัตถีครั้งนี้ ทำให้กรุงศรีอยุธยา สามารถรักษาเอกราชไว้ได้ และสร้างความเกรงขามให้แก่กรุงหงสาวดี จนไม่มีการรุกรานอีก เป็นเวลาหลายปี หลังสงคราม พระเจ้านันทบุเรงทรงเสียพระทัยอย่างยิ่ง ที่ต้องสูญเสียพระราชโอรสไป ในศึกครั้งนี้ และกรุงศรีอยุธยาก็ได้สร้าง พระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์อันสำคัญนี้ ความสำคัญของยุทธหัตถี ในประวัติศาสตร์ไทย สัญลักษณ์ของเอกราช ยุทธหัตถีครั้งนี้ เป็นเหตุการณ์ที่สะท้อนถึง ความสามัคคีและการต่อสู้ เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ พระปรีชาสามารถของกษัตริย์ไทย สมเด็จพระนเรศวร และสมเด็จพระเอกาทศรถ ได้ทรงแสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญ และพระปรีชาสามารถในการนำทัพ มรดกทางวัฒนธรรม การยุทธหัตถีได้กลายเป็นตำนาน ที่มีการเล่าขาน และเป็นแรงบันดาลใจในงานศิลปะ วรรณกรรม และภาพยนตร์ คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับยุทธหัตถี 1. ยุทธหัตถีเกิดขึ้นที่ไหน? ยุทธหัตถีเกิดขึ้นที่ตำบลหนองสาหร่าย อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี 2. ช้างศึกคืออะไร? ช้างศึกคือช้างที่ได้รับการฝึกฝน เพื่อใช้ในการทำสงคราม มีลักษณะเด่นตามตำราคชลักษณ์ 3. ทำไมยุทธหัตถีถึงมีเกียรติ? เพราะเป็นการต่อสู้ ระหว่างกษัตริย์ทั้งสองฝ่าย อย่างตรงไปตรงมา และแสดงถึงความกล้าหาญ ยุทธหัตถีหนองสาหร่ายในปี พ.ศ. 2135 เป็นสงครามที่แสดงถึงความกล้าหาญ และพระปรีชาสามารถ ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และสมเด็จพระเอกาทศรถ ซึ่งทำให้กรุงศรีอยุธยา สามารถรักษาเอกราช และศักดิ์ศรีของชาติไว้ได้ เหตุการณ์นี้ ยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้แก่คนไทย ในการต่อสู้เพื่อสิ่งที่ถูกต้อง และรักษาเกียรติภูมิของตน ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 180833 ม.ค. 2568 #สมเด็จพระนเรศวร #ยุทธหัตถี #ประวัติศาสตร์ไทย #สงครามชนช้าง #กรุงศรีอยุธยา #ดอนเจดีย์ #หงสาวดี #ชาติไทย #วีรกรรมไทย #สงครามไทย 🎉
    0 Comments 0 Shares 149 Views 0 Reviews
  • นักข่าวโดนล็อคคอนำตัวออกจากห้องแถลงข่าวของบลิงเคน หลังยิงคำถามไม่ถูกใจ!!

    เกิดเหตุการณ์วุ่นวายในการแถลงข่าวครั้งสุดท้ายของนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ก่อนที่เขาจะหมดวาระจากตำแหน่ง หลังการประกาศข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและฮามาส รวมทั้งข้อตกลงเรื่องตัวประกัน

    แซม ฮัสเซนี นักข่าวอเมริกันเชื้อสายจอร์แดน-ปาเลสไตน์ และคอลัมนิสต์ในสื่อหลายแห่ง ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของกระทรวงต่างประเทศล็อคคอลากออกจากห้องแถลงข่าว หลังจากที่เขาพยายามถามเกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิงในกาซา ซึ่งบลิงเคนอ้างว่าเป็นความสำเร็จทางการทูตในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา

    บลิงเคนไม่ยอมตอบคำถามของฮัสเซนี หลังจากเขาพยายามถามว่าทำไมสหรัฐถึงยอมให้ฝ่ายอิสราเอลจบสงครามในกาซา ซึ่งดำเนินมาเป็นเวลา 15 เดือนและคร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์หลายหมื่นคนอย่างง่ายดาย

    ในระหว่างที่ฮัสเซนีรัวคำถามอยู่นั้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกลับพยายามนำตัวเขา ออกจากห้องแถลงข่าว ทำให้เขาโกรธมากและตะโกนออกไปว่า "ไอ้ฆาตกร! ทำไมแกไม่อยู่ในกรุงเฮก!" (กรุงเฮก ในเนเธอร์แลนด์ เป็นที่ตั้งของศาลอาญาระหว่างประเทศ)

    ฮัสเซนีกล่าวภายหลังว่า เขาถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมเพียงแค่พยายามตั้งคำถามทั่วไปเกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิง แต่บลิงเคนไม่รู้คิดอะไรอยู่ ถึงไม่ยินยอมตอบคำถาม โดยเฉพาะคำถามเกี่ยวกับระเบียบฮันนิบาล ไดเร็กทีฟ (Hannibal Directive) ซึ่งอนุญาตให้ทหารอิสราเอลดำเนินการโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของพลเรือนและทหารของตนเอง เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวประกันตกไปอยู่ในมือศัตรู

    นักข่าวโดนล็อคคอนำตัวออกจากห้องแถลงข่าวของบลิงเคน หลังยิงคำถามไม่ถูกใจ!! เกิดเหตุการณ์วุ่นวายในการแถลงข่าวครั้งสุดท้ายของนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ก่อนที่เขาจะหมดวาระจากตำแหน่ง หลังการประกาศข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและฮามาส รวมทั้งข้อตกลงเรื่องตัวประกัน แซม ฮัสเซนี นักข่าวอเมริกันเชื้อสายจอร์แดน-ปาเลสไตน์ และคอลัมนิสต์ในสื่อหลายแห่ง ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของกระทรวงต่างประเทศล็อคคอลากออกจากห้องแถลงข่าว หลังจากที่เขาพยายามถามเกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิงในกาซา ซึ่งบลิงเคนอ้างว่าเป็นความสำเร็จทางการทูตในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา บลิงเคนไม่ยอมตอบคำถามของฮัสเซนี หลังจากเขาพยายามถามว่าทำไมสหรัฐถึงยอมให้ฝ่ายอิสราเอลจบสงครามในกาซา ซึ่งดำเนินมาเป็นเวลา 15 เดือนและคร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์หลายหมื่นคนอย่างง่ายดาย ในระหว่างที่ฮัสเซนีรัวคำถามอยู่นั้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกลับพยายามนำตัวเขา ออกจากห้องแถลงข่าว ทำให้เขาโกรธมากและตะโกนออกไปว่า "ไอ้ฆาตกร! ทำไมแกไม่อยู่ในกรุงเฮก!" (กรุงเฮก ในเนเธอร์แลนด์ เป็นที่ตั้งของศาลอาญาระหว่างประเทศ) ฮัสเซนีกล่าวภายหลังว่า เขาถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมเพียงแค่พยายามตั้งคำถามทั่วไปเกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิง แต่บลิงเคนไม่รู้คิดอะไรอยู่ ถึงไม่ยินยอมตอบคำถาม โดยเฉพาะคำถามเกี่ยวกับระเบียบฮันนิบาล ไดเร็กทีฟ (Hannibal Directive) ซึ่งอนุญาตให้ทหารอิสราเอลดำเนินการโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของพลเรือนและทหารของตนเอง เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวประกันตกไปอยู่ในมือศัตรู
    0 Comments 0 Shares 235 Views 17 0 Reviews
  • Saloma Link สะพานที่มากกว่าไฟสวย

    มาเลเซียเป็นอีกประเทศหนึ่งที่มีแหล่งท่องเที่ยวเพื่อนันทนาการ (Recreational Attraction) จำนวนมาก ซึ่งมนุษย์สร้างขึ้นเพื่อการพักผ่อนและเสริมสร้างสุขภาพ ให้ความสนุกสนาน บันเทิง และการศึกษาหาความรู้ แม้ไม่มีความสำคัญในแง่ประวัติศาสตร์ ศาสนา วัฒนธรรม แต่มีลักษณะเป็นแหล่งท่องเที่ยวร่วมสมัย ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ที่ได้รับความนิยม ได้แก่ River of Life บริเวณสถานีรถไฟฟ้า LRT Masjid Jamek และสะพาน Saloma Link บริเวณสถานีรถไฟฟ้า LRT Kampung Baru

    กล่าวถึงสะพาน Saloma Link (ซาโลมาลิงก์) เป็นสะพานขนาดไม่ใหญ่ ยาว 69 เมตร กว้าง 3 เมตร สูง 7 เมตร ข้ามทางด่วนสาย E12 อัมปัง-กัวลาลัมเปอร์ (AKLEH) และแม่น้ำแคลงที่อยู่เกาะกลาง มีทางลาดลงไปยังด้านข้างสุสานอิสลามจาลันอัมปัง แล้วออกทางแยกหน้าอาคารปิโตรนาส ทวิน ทาวเวอร์ ย่าน KLCC เปิดให้เข้าชมครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 ก.พ. 2563 โดยมีบริษัท VERITAS Design Group ออกแบบโครงสร้าง ใช้งบก่อสร้าง 31 ล้านริงกิต (237 ล้านบาท)

    จุดเด่นของสะพานซาโลมาลิงก์ คือการออกแบบโครงสร้างเหล็ก โดยได้แรงบันดาลใจจากการจัดช่อดอกไม้มงคลที่เรียกว่า ซิเระ จุนจุง (Sireh Junjung) ในพิธีแต่งงานของชาวมาเลย์ ประดับด้วยกระจกและแผงไฟ LED รูปทรงเพชร ฉายแสงในรูปแบบต่างๆ หลากสีสัน ชื่อสะพานมาจาก ซาโลมา ชื่อเรียกของ ซัลมาห์ อิสมาอิล (Salmah Ismail) นักร้อง นักแสดงชื่อดังชาวสิงคโปร์-มาเลเซีย ฉายามาริลิน มอนโรแห่งเอเชีย ที่เสียชีวิตเมื่อปี 2526 ด้วยวัย 48 ปี และถูกฝังอยู่ในสุสานอิสลามจาลันอัมปัง

    ก่อนจะมาเป็นสะพานที่สวยงามแห่งนี้ แต่เดิมเคยเป็นสะพานข้ามแม่น้ำแคลง จากกัวลาลัมเปอร์ไปยังกำปุงบารู (Kampung Baru) ชุมชนที่อยู่อีกฝั่ง แต่ได้รื้อสะพานเมื่อปี 2539 เพื่อก่อสร้างทางด่วนที่ยกสูงขึ้น เสมือนเป็นเขื่อนกั้นแม่น้ำที่อยู่ตรงกลาง

    ในยามค่ำคืน สะพานแห่งนี้จะเปิดไฟ LED หลากสีสันอย่างสวยงาม ล้อไปกับตึกแฝดปิโตรนาสทาวเวอร์ ที่เปิดไฟส่องไสวไปทั่วตึกเช่นกัน นักท่องเที่ยวนิยมถ่ายรูปสะพานโดยเฉพาะฝั่งกำปุงบารู จะเห็นด้านหลังทั้งสะพานและตึกปิโตรนาส เป็นจุดเช็กอินยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนมาเลเซียต้องไม่พลาด ซึ่งฝั่งกำปุงบารูจะเป็นชุมชนเก่าแก่ขนาดเล็ก มีร้านอาหารแบบสตรีทฟู้ดจำหน่าย ขึ้นลงได้จากบันไดและลิฟต์ และมีทางเดินไปถึงสถานีรถไฟฟ้า LRT Kampung Baru ซึ่งเป็นสถานีใต้ดิน

    สะพานแห่งนี้เปิดให้เข้าชมฟรี ตั้งแต่ 05.00-24.00 น. โปรดปฎิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ใช้ความระมัดระวังในการถ่ายรูป ไม่ปีนป่ายราวสะพาน และระวังสิ่งของที่ติดตัวตกจากสะพาน

    #Newskit
    -----
    ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes ร่วมสนุกได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 คลิก >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9
    Saloma Link สะพานที่มากกว่าไฟสวย มาเลเซียเป็นอีกประเทศหนึ่งที่มีแหล่งท่องเที่ยวเพื่อนันทนาการ (Recreational Attraction) จำนวนมาก ซึ่งมนุษย์สร้างขึ้นเพื่อการพักผ่อนและเสริมสร้างสุขภาพ ให้ความสนุกสนาน บันเทิง และการศึกษาหาความรู้ แม้ไม่มีความสำคัญในแง่ประวัติศาสตร์ ศาสนา วัฒนธรรม แต่มีลักษณะเป็นแหล่งท่องเที่ยวร่วมสมัย ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ที่ได้รับความนิยม ได้แก่ River of Life บริเวณสถานีรถไฟฟ้า LRT Masjid Jamek และสะพาน Saloma Link บริเวณสถานีรถไฟฟ้า LRT Kampung Baru กล่าวถึงสะพาน Saloma Link (ซาโลมาลิงก์) เป็นสะพานขนาดไม่ใหญ่ ยาว 69 เมตร กว้าง 3 เมตร สูง 7 เมตร ข้ามทางด่วนสาย E12 อัมปัง-กัวลาลัมเปอร์ (AKLEH) และแม่น้ำแคลงที่อยู่เกาะกลาง มีทางลาดลงไปยังด้านข้างสุสานอิสลามจาลันอัมปัง แล้วออกทางแยกหน้าอาคารปิโตรนาส ทวิน ทาวเวอร์ ย่าน KLCC เปิดให้เข้าชมครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 ก.พ. 2563 โดยมีบริษัท VERITAS Design Group ออกแบบโครงสร้าง ใช้งบก่อสร้าง 31 ล้านริงกิต (237 ล้านบาท) จุดเด่นของสะพานซาโลมาลิงก์ คือการออกแบบโครงสร้างเหล็ก โดยได้แรงบันดาลใจจากการจัดช่อดอกไม้มงคลที่เรียกว่า ซิเระ จุนจุง (Sireh Junjung) ในพิธีแต่งงานของชาวมาเลย์ ประดับด้วยกระจกและแผงไฟ LED รูปทรงเพชร ฉายแสงในรูปแบบต่างๆ หลากสีสัน ชื่อสะพานมาจาก ซาโลมา ชื่อเรียกของ ซัลมาห์ อิสมาอิล (Salmah Ismail) นักร้อง นักแสดงชื่อดังชาวสิงคโปร์-มาเลเซีย ฉายามาริลิน มอนโรแห่งเอเชีย ที่เสียชีวิตเมื่อปี 2526 ด้วยวัย 48 ปี และถูกฝังอยู่ในสุสานอิสลามจาลันอัมปัง ก่อนจะมาเป็นสะพานที่สวยงามแห่งนี้ แต่เดิมเคยเป็นสะพานข้ามแม่น้ำแคลง จากกัวลาลัมเปอร์ไปยังกำปุงบารู (Kampung Baru) ชุมชนที่อยู่อีกฝั่ง แต่ได้รื้อสะพานเมื่อปี 2539 เพื่อก่อสร้างทางด่วนที่ยกสูงขึ้น เสมือนเป็นเขื่อนกั้นแม่น้ำที่อยู่ตรงกลาง ในยามค่ำคืน สะพานแห่งนี้จะเปิดไฟ LED หลากสีสันอย่างสวยงาม ล้อไปกับตึกแฝดปิโตรนาสทาวเวอร์ ที่เปิดไฟส่องไสวไปทั่วตึกเช่นกัน นักท่องเที่ยวนิยมถ่ายรูปสะพานโดยเฉพาะฝั่งกำปุงบารู จะเห็นด้านหลังทั้งสะพานและตึกปิโตรนาส เป็นจุดเช็กอินยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนมาเลเซียต้องไม่พลาด ซึ่งฝั่งกำปุงบารูจะเป็นชุมชนเก่าแก่ขนาดเล็ก มีร้านอาหารแบบสตรีทฟู้ดจำหน่าย ขึ้นลงได้จากบันไดและลิฟต์ และมีทางเดินไปถึงสถานีรถไฟฟ้า LRT Kampung Baru ซึ่งเป็นสถานีใต้ดิน สะพานแห่งนี้เปิดให้เข้าชมฟรี ตั้งแต่ 05.00-24.00 น. โปรดปฎิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ใช้ความระมัดระวังในการถ่ายรูป ไม่ปีนป่ายราวสะพาน และระวังสิ่งของที่ติดตัวตกจากสะพาน #Newskit ----- ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes ร่วมสนุกได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 คลิก >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9
    Like
    5
    0 Comments 0 Shares 223 Views 0 Reviews
  • กระทรวงกลาโหมรัสเซียยืนยันรายงานการโจมตีโรงเก็บก๊าซหลักของยูเครน

    โรงเก็บก๊าซแห่งนี้ถูกรัสเซียโจมตีมาอย่างต่อเนื่องหลายครั้ง โดยครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2568 มีรายงานว่า สถานีจ่ายก๊าซซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคลังเก็บก๊าซ Bilche-Volytsko-Uherske อาคารหลักทั้งหมด ห้องควบคุมหลัก หน่วยสูบจ่ายแก๊ส อยู่ในสถานะเสียหายอย่างรุนแรง

    รายงานล่าสุด โรงงานนี้ถูกปิดตัวลงแล้ว เนื่องจากการโจมตีของรัสเซีย ไม่ได้มุ่งเป้าไปที่โรงเก็บก๊าซที่อยู่ลึกลงไปใต้ดิน แต่เป็นการโจมตีสถานีจ่ายก๊าซซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคลังเก็บก๊าซที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานบนดิน เป้าหมายเพื่อไม่ให้มีการนำก๊าซออกไปใช้งานได้อีกต่อไป

    โรงเก็บก๊าซใต้ดิน Bilche-Volytsko-Uherske ของยูเครนเป็นโรงงานเก็บก๊าซที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ตั้งอยู่ในเมืองสตรัย (Stryi) ภูมิภาคลวิฟ (Lviv) เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี 1985

    โรงจัดเก็บก๊าซใต้ดิน Bilche-Volytsko-Uherske แห่งนี้ดำเนินการโดย Ukrtransgaz ซึ่งเป็นหนึ่งในหน่วยงานด้านพลังงานของยูเครน มีความจุ 17 bcm (billion cubic metres) และสามารถจัดเก็บได้มากกว่าคลังเก็บก๊าซที่ใหญ่ที่สุดในเยอรมนีถึง 4 เท่า

    ทางด้านยูเครนออกมาปฏิเสธการหยุดดำเนินการของโรงเก็บก๊าซแห่งนี้ โดยกล่าวว่าทุกอย่างยังคงเปิดดำเนินการตามปกติ
    กระทรวงกลาโหมรัสเซียยืนยันรายงานการโจมตีโรงเก็บก๊าซหลักของยูเครน โรงเก็บก๊าซแห่งนี้ถูกรัสเซียโจมตีมาอย่างต่อเนื่องหลายครั้ง โดยครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2568 มีรายงานว่า สถานีจ่ายก๊าซซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคลังเก็บก๊าซ Bilche-Volytsko-Uherske อาคารหลักทั้งหมด ห้องควบคุมหลัก หน่วยสูบจ่ายแก๊ส อยู่ในสถานะเสียหายอย่างรุนแรง รายงานล่าสุด โรงงานนี้ถูกปิดตัวลงแล้ว เนื่องจากการโจมตีของรัสเซีย ไม่ได้มุ่งเป้าไปที่โรงเก็บก๊าซที่อยู่ลึกลงไปใต้ดิน แต่เป็นการโจมตีสถานีจ่ายก๊าซซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคลังเก็บก๊าซที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานบนดิน เป้าหมายเพื่อไม่ให้มีการนำก๊าซออกไปใช้งานได้อีกต่อไป โรงเก็บก๊าซใต้ดิน Bilche-Volytsko-Uherske ของยูเครนเป็นโรงงานเก็บก๊าซที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ตั้งอยู่ในเมืองสตรัย (Stryi) ภูมิภาคลวิฟ (Lviv) เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี 1985 โรงจัดเก็บก๊าซใต้ดิน Bilche-Volytsko-Uherske แห่งนี้ดำเนินการโดย Ukrtransgaz ซึ่งเป็นหนึ่งในหน่วยงานด้านพลังงานของยูเครน มีความจุ 17 bcm (billion cubic metres) และสามารถจัดเก็บได้มากกว่าคลังเก็บก๊าซที่ใหญ่ที่สุดในเยอรมนีถึง 4 เท่า ทางด้านยูเครนออกมาปฏิเสธการหยุดดำเนินการของโรงเก็บก๊าซแห่งนี้ โดยกล่าวว่าทุกอย่างยังคงเปิดดำเนินการตามปกติ
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 160 Views 0 Reviews
  • จเรตำรวจแห่งชาติ-ผู้ว่าฯตาก นำ จนท.ทั้งปกครอง-ฝ่ายความปกครองมั่นคง จัดระเบียบนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าแม่สอด สั่งตรวจสอบเข้มตั้งแต่นครสวรรค์-กำแพงเพชร-จุดตรวจ-สนามบิน ยันชายแดน ย้ำเจอคนไม่มีแผนเดินทางชัดเจนแจ้งสถานทูตทันที

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000005317

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    จเรตำรวจแห่งชาติ-ผู้ว่าฯตาก นำ จนท.ทั้งปกครอง-ฝ่ายความปกครองมั่นคง จัดระเบียบนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าแม่สอด สั่งตรวจสอบเข้มตั้งแต่นครสวรรค์-กำแพงเพชร-จุดตรวจ-สนามบิน ยันชายแดน ย้ำเจอคนไม่มีแผนเดินทางชัดเจนแจ้งสถานทูตทันที อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000005317 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Sad
    9
    0 Comments 0 Shares 675 Views 0 Reviews
  • จเรตำรวจแห่งชาติ เผยความคืบหน้ากรณีนายแบบจีนหายตัว ล่าสุดพบตัวแล้ว ส่งกลับบ้านเกิดอย่างปลอดภัย จับมือสถานทูตแก้ปัญหาคนจีนถูกหลอกไปทำงานประเทศเพื่อนบ้าน

    วันนี้ (17 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่อ.แม่สอด จ.ตาก พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (จตช./ผอ.ศพดส.ตร.) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีนายหยาง เจ๋ออฉี นายแบบชาวจีนที่ทางครอบครัวเดินทางเข้าร้องขอความช่วยเหลือจากพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.เมื่อวันที่ 16 มกราคม ที่ผ่านมา ว่า จากการตรวจสอบล่าสุดกับทางสถานทูตจีน ได้รับการยืนยันว่าขณะนี้นายแบบคนดังกล่าวกลับประเทศจีนโดยปลอดภัยแล้ว

    ส่วนกรณีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มีการแจ้งความว่าหายตัวไปหรือติดต่อไม่ได้นั้น พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมีการสืบสวนขยายผลทุกกรณี ในกรณีชาวจีนเช่นกัน ได้มีการพูดคุยกับทางสถานทูตจีนโดยเสนอว่าเมื่อพบนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไปในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ไทยเราจะมีการประสานกับไปทางสถานทูต เพื่อให้สถานทูตช่วยตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งแนวทางนี้ทางสถานทูตก็เห็นด้วย อย่างไรก็ตาม โดยปกติแล้วตำรวจไทยมีการประสานทํางานร่วมกับสถานทูตต่าง ๆ อยู่แล้ว ในการช่วยเหลือติดตามในกรณีที่เกี่ยวข้องกับคนของชาตินั้น ๆ

    ด้านนายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ กล่าวว่า ล่าสุดได้รับการยืนยันจากทางครอบครัวของนายหยาง เจ๋อ ฉี เช่นเดียวกันว่า นายแบบคนดังกล่าวได้รับการช่วยเหลือกลับประเทศปลอดภัยแล้วจริง โดยทางครอบครัวจะทำหนังสือขอบคุณทางสถานทูตจีนและทางการไทยต่อไป

    #MGROnline #หยางเจ๋อฉี #นายแบบ #จีน #เมียนมา #ชายแดนไทย #ชายแดนเมียนมา #ชายแดนไทยเมียนมา
    จเรตำรวจแห่งชาติ เผยความคืบหน้ากรณีนายแบบจีนหายตัว ล่าสุดพบตัวแล้ว ส่งกลับบ้านเกิดอย่างปลอดภัย จับมือสถานทูตแก้ปัญหาคนจีนถูกหลอกไปทำงานประเทศเพื่อนบ้าน • วันนี้ (17 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่อ.แม่สอด จ.ตาก พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (จตช./ผอ.ศพดส.ตร.) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีนายหยาง เจ๋ออฉี นายแบบชาวจีนที่ทางครอบครัวเดินทางเข้าร้องขอความช่วยเหลือจากพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.เมื่อวันที่ 16 มกราคม ที่ผ่านมา ว่า จากการตรวจสอบล่าสุดกับทางสถานทูตจีน ได้รับการยืนยันว่าขณะนี้นายแบบคนดังกล่าวกลับประเทศจีนโดยปลอดภัยแล้ว • ส่วนกรณีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มีการแจ้งความว่าหายตัวไปหรือติดต่อไม่ได้นั้น พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมีการสืบสวนขยายผลทุกกรณี ในกรณีชาวจีนเช่นกัน ได้มีการพูดคุยกับทางสถานทูตจีนโดยเสนอว่าเมื่อพบนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไปในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ไทยเราจะมีการประสานกับไปทางสถานทูต เพื่อให้สถานทูตช่วยตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งแนวทางนี้ทางสถานทูตก็เห็นด้วย อย่างไรก็ตาม โดยปกติแล้วตำรวจไทยมีการประสานทํางานร่วมกับสถานทูตต่าง ๆ อยู่แล้ว ในการช่วยเหลือติดตามในกรณีที่เกี่ยวข้องกับคนของชาตินั้น ๆ • ด้านนายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ กล่าวว่า ล่าสุดได้รับการยืนยันจากทางครอบครัวของนายหยาง เจ๋อ ฉี เช่นเดียวกันว่า นายแบบคนดังกล่าวได้รับการช่วยเหลือกลับประเทศปลอดภัยแล้วจริง โดยทางครอบครัวจะทำหนังสือขอบคุณทางสถานทูตจีนและทางการไทยต่อไป • #MGROnline #หยางเจ๋อฉี #นายแบบ #จีน #เมียนมา #ชายแดนไทย #ชายแดนเมียนมา #ชายแดนไทยเมียนมา
    0 Comments 0 Shares 178 Views 0 Reviews
  • 🚌 ขสมก. แจ้งประชาชนวางแผนการเดินทาง และรถโดยสาร 12 เส้นทางที่อาจได้รับผลกระทบ เนื่องจากการ "ปิดสะพานข้ามแยกราชเทวี" (ถนนเพชรบุรี ฝั่งขาออก) เพื่อดำเนินการก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าราชเทวี (OR08) โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 17 มกราคม 2568 จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2571 เวลา 22.00 น. เป็นต้นไป

    📌 รถโดยสาร ขสมก. ที่ได้รับผลกระทบ มีจำนวน 12 เส้นทาง ดังนี้
    สาย 23E (3-4E) : สมุทรปราการ - เทเวศร์ (ทางด่วน)
    สาย 23 (3-5) : ปู่เจ้าสมิงพราย - เทเวศร์
    สาย 50 (2-7) : ท่าเรือพระราม 7 - สถานีรถไฟฟ้าลุมพินี
    สาย 59 (เดิม) : รังสิต - สนามหลวง
    สาย 60 (1-38) : สวนสยาม - สถานีรถไฟฟ้าสนามไชย
    สาย 79 (4-42) : บรมราชชนนี - ราชประสงค์
    สาย 511 : ปากน้ำ - สถานีขนส่งฯ (ตลิ่งชัน) สายใต้ใหม่
    สาย 511 : ปากน้ำ - สถานีขนส่งฯ (ตลิ่งชัน) สายใต้ใหม่ (ทางด่วน)
    สาย 1-7E : รังสิต - สนามหลวง (ทางด่วน)
    สาย 1-80E : สวนสยาม - สถานีรถไฟฟ้าสนามไชย (ทางด่วน)
    สาย 2-2 : ท่าเรือปากเกร็ด - ท่าเรือสี่พระยา
    สาย 4-35 : คลองสาน - เทเวศร์ (วงกลม)
    📍ทั้งนี้จากการปิดช่องจราจรดังกล่าวอาจมีปริมาณรถสะสมเป็นจำนวนมาก จึงขอให้ประชาชนวางแผนการเดินทาง และ สามารถสอบถามข้อมูลเส้นทางเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน Call Center โทร. 1348 ได้ทุกวัน ในเวลา 05.00 – 22.00 น.

    อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : t.ly/XjIIL
    🚌 ขสมก. แจ้งประชาชนวางแผนการเดินทาง และรถโดยสาร 12 เส้นทางที่อาจได้รับผลกระทบ เนื่องจากการ "ปิดสะพานข้ามแยกราชเทวี" (ถนนเพชรบุรี ฝั่งขาออก) เพื่อดำเนินการก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าราชเทวี (OR08) โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 17 มกราคม 2568 จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2571 เวลา 22.00 น. เป็นต้นไป 📌 รถโดยสาร ขสมก. ที่ได้รับผลกระทบ มีจำนวน 12 เส้นทาง ดังนี้ สาย 23E (3-4E) : สมุทรปราการ - เทเวศร์ (ทางด่วน) สาย 23 (3-5) : ปู่เจ้าสมิงพราย - เทเวศร์ สาย 50 (2-7) : ท่าเรือพระราม 7 - สถานีรถไฟฟ้าลุมพินี สาย 59 (เดิม) : รังสิต - สนามหลวง สาย 60 (1-38) : สวนสยาม - สถานีรถไฟฟ้าสนามไชย สาย 79 (4-42) : บรมราชชนนี - ราชประสงค์ สาย 511 : ปากน้ำ - สถานีขนส่งฯ (ตลิ่งชัน) สายใต้ใหม่ สาย 511 : ปากน้ำ - สถานีขนส่งฯ (ตลิ่งชัน) สายใต้ใหม่ (ทางด่วน) สาย 1-7E : รังสิต - สนามหลวง (ทางด่วน) สาย 1-80E : สวนสยาม - สถานีรถไฟฟ้าสนามไชย (ทางด่วน) สาย 2-2 : ท่าเรือปากเกร็ด - ท่าเรือสี่พระยา สาย 4-35 : คลองสาน - เทเวศร์ (วงกลม) 📍ทั้งนี้จากการปิดช่องจราจรดังกล่าวอาจมีปริมาณรถสะสมเป็นจำนวนมาก จึงขอให้ประชาชนวางแผนการเดินทาง และ สามารถสอบถามข้อมูลเส้นทางเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน Call Center โทร. 1348 ได้ทุกวัน ในเวลา 05.00 – 22.00 น. อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : t.ly/XjIIL
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 152 Views 0 Reviews
  • จเรตำรวจแห่งชาติ เผยความคืบหน้ากรณีนายแบบจีนหายตัว ล่าสุดพบตัวแล้ว ส่งกลับบ้านเกิดอย่างปลอดภัย จับมือสถานทูตแก้ปัญหาคนจีนถูกหลอกไปทำงานประเทศเพื่อนบ้าน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000005263

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    จเรตำรวจแห่งชาติ เผยความคืบหน้ากรณีนายแบบจีนหายตัว ล่าสุดพบตัวแล้ว ส่งกลับบ้านเกิดอย่างปลอดภัย จับมือสถานทูตแก้ปัญหาคนจีนถูกหลอกไปทำงานประเทศเพื่อนบ้าน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000005263 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    11
    0 Comments 0 Shares 707 Views 0 Reviews
  • “อ่าวเขาควาย เกาะกำตก” อ่าวโค้งแสนสวยแห่งทะเลระนอง

    อ่าวเขาควาย มีความสวยงามแปลกตาไม่เหมือนหาดไหน ๆ เพราะมีลักษณะเป็นโค้งอ่าวครึ่งวงกลมดูคล้ายกับเขาควาย ทั้งยังมีชายหาดที่ขาวเนียนละเอียด สะอาด น้ำทะเลโดยรอบสีฟ้าใส สามารถลงไปเล่นน้ำ ชมปะการังความสวยงามปะการังใต้ท้องทะเลกันได้อย่างเพลิดเพลิน
    นอกจากนี้ด้านบนเกาะยังธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ยังมีต้นสน ขึ้นเรียงรายเต็มแนวชายหาดอีกด้วย ส่วนตามแนวชายหาด ก็มีต้นหูกวาง และต้นจิกทะเล ที่คอยให้ร่มเงา สร้างความสบาย ร่มรื่นให้กับหาดนี้อย่างมาก ที่สำคัญ เงียบสงบมากๆ เพราะ ไม่มีร้านค้า ร้านอาหาร และที่พัก หรือสถานบันเทิงใดๆ ที่นี่จึงเหมาะสำหรับการมาเที่ยวพักผ่อนอย่างแท้จริง
    #อ่าวเขาควาย
    #ระนอง
    “อ่าวเขาควาย เกาะกำตก” อ่าวโค้งแสนสวยแห่งทะเลระนอง อ่าวเขาควาย มีความสวยงามแปลกตาไม่เหมือนหาดไหน ๆ เพราะมีลักษณะเป็นโค้งอ่าวครึ่งวงกลมดูคล้ายกับเขาควาย ทั้งยังมีชายหาดที่ขาวเนียนละเอียด สะอาด น้ำทะเลโดยรอบสีฟ้าใส สามารถลงไปเล่นน้ำ ชมปะการังความสวยงามปะการังใต้ท้องทะเลกันได้อย่างเพลิดเพลิน นอกจากนี้ด้านบนเกาะยังธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ยังมีต้นสน ขึ้นเรียงรายเต็มแนวชายหาดอีกด้วย ส่วนตามแนวชายหาด ก็มีต้นหูกวาง และต้นจิกทะเล ที่คอยให้ร่มเงา สร้างความสบาย ร่มรื่นให้กับหาดนี้อย่างมาก ที่สำคัญ เงียบสงบมากๆ เพราะ ไม่มีร้านค้า ร้านอาหาร และที่พัก หรือสถานบันเทิงใดๆ ที่นี่จึงเหมาะสำหรับการมาเที่ยวพักผ่อนอย่างแท้จริง #อ่าวเขาควาย #ระนอง
    0 Comments 0 Shares 68 Views 0 Reviews
  • แบบนี้ ...มันแสดงวิธีคิด...คุณใช้มา 20 ปี มันบอกผลลัพธ์คุณอยู่แล้ว...ถ้ามีคนว่า ไม่ดี คุณต้องเปลี่ยนเหรอ .หรือถ้าว่าดี แล้วไง..? ชีวิตคุณ ..คุณต้องเลิกเอง...เพราะผลแห่งการตัดใจนั้น...ผู้ที่ได้รับ คือ คุณ และอาจรวมไปถึงคนใกล้ตัว..ถ้ามันจะผิด จงผิดด้วยตัวเอง..แล้วมันจะไม่เจ็บใจ..ที่หลงเชื่อ พวกโง่อวดฉลาด.. (ถ้าเจอผู้รู้จริงก็ดีไป)
    แบบนี้ ...มันแสดงวิธีคิด...คุณใช้มา 20 ปี มันบอกผลลัพธ์คุณอยู่แล้ว...ถ้ามีคนว่า ไม่ดี คุณต้องเปลี่ยนเหรอ .หรือถ้าว่าดี แล้วไง..? ชีวิตคุณ ..คุณต้องเลิกเอง...เพราะผลแห่งการตัดใจนั้น...ผู้ที่ได้รับ คือ คุณ และอาจรวมไปถึงคนใกล้ตัว..ถ้ามันจะผิด จงผิดด้วยตัวเอง..แล้วมันจะไม่เจ็บใจ..ที่หลงเชื่อ พวกโง่อวดฉลาด.. (ถ้าเจอผู้รู้จริงก็ดีไป)
    0 Comments 0 Shares 33 Views 0 Reviews
  • ปอกับลุงแซน สร้างทฤษฏีใหม่ที่ผิดหลักฟิสิกซ์กลศาสตร์ซ้ำแล้วซ้ำอีก ปีนี้เมิงเอาโนเบลไปเลย สาขานวรรตกรรมตอแหล๋ยอดเยี่ยมแห่งศตวรรษ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    ปอกับลุงแซน สร้างทฤษฏีใหม่ที่ผิดหลักฟิสิกซ์กลศาสตร์ซ้ำแล้วซ้ำอีก ปีนี้เมิงเอาโนเบลไปเลย สาขานวรรตกรรมตอแหล๋ยอดเยี่ยมแห่งศตวรรษ #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    0 Comments 0 Shares 170 Views 0 Reviews
  • ประจบทุกคนที่มีอำนาจ
    กิ๊งก่าแห่งการเมืองไทย
    วันชัย สอนศิริ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    ประจบทุกคนที่มีอำนาจ กิ๊งก่าแห่งการเมืองไทย วันชัย สอนศิริ #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 150 Views 0 Reviews
  • ขอแชร์เรื่องราวคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวท่านหนึงที่ต้องเลี้ยงลูกสาวเพียงลำพัง และลูกสาวคุณแม่ป่วยเป็นโรคน้ำในโพรงสมอง ศรีษะใหญ่ผิดปกติไม่สามารถลุกนั่งหรือขยับตัวได้ต้งนอนติดเตียงและมีคุณแม่น้องดูแลเพียงลำพัง คุณแม่หารายได้จาดการ live tiktok เพืาอเลี้ยงน้อง ดิฉันขอเป็นสะพานบุญให้กับท่านใดที่มีความประสงค์จะช่วยเหลือน้องโดยการมอบสิ่งของกินของใช้ประจำของน้องหรือจะให้เงินโอนเข้าบัญชีแม่ของน้องโดยตรง สิ่งของที่น้องใช้ประจำคือ
    แพมเพิด3XL,ทิชชู่เปียก,ทิชชู่แห้ง,นมหนองโพรสหวาน,น้ำยาซักผ้าเด็ก โดยท่านสามานถส่งสิ่งของมาที่ น้องอัญญารินทร์ บ้านเลขที่ 164/5 ต.สำราญ อ.สามชัย จ.กาฬสินธิ์ 46150 โทร 0855354910
    หรือสะดวกโอนเงินช่วยน้องเข้าบัญชีชื่อ จิราพร อันทรบุตร ธนาคารกรุงไทย 2920253085 🙏🙏ขอขอบคุณท่านผู้ใจบุญท่านและอนุโมทนาบุญให้ทุกท่านเจริญรุ่งเรืองร่ำรวยเงินทองสุขภาพแข็งแรง🙏🙏
    ถ้าเจอคุณแม่และน้องใน tiktok ฝากกดติดตามให้กำลังใจน้องด้วยนะคะ
    ขอแชร์เรื่องราวคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวท่านหนึงที่ต้องเลี้ยงลูกสาวเพียงลำพัง และลูกสาวคุณแม่ป่วยเป็นโรคน้ำในโพรงสมอง ศรีษะใหญ่ผิดปกติไม่สามารถลุกนั่งหรือขยับตัวได้ต้งนอนติดเตียงและมีคุณแม่น้องดูแลเพียงลำพัง คุณแม่หารายได้จาดการ live tiktok เพืาอเลี้ยงน้อง ดิฉันขอเป็นสะพานบุญให้กับท่านใดที่มีความประสงค์จะช่วยเหลือน้องโดยการมอบสิ่งของกินของใช้ประจำของน้องหรือจะให้เงินโอนเข้าบัญชีแม่ของน้องโดยตรง สิ่งของที่น้องใช้ประจำคือ แพมเพิด3XL,ทิชชู่เปียก,ทิชชู่แห้ง,นมหนองโพรสหวาน,น้ำยาซักผ้าเด็ก โดยท่านสามานถส่งสิ่งของมาที่ น้องอัญญารินทร์ บ้านเลขที่ 164/5 ต.สำราญ อ.สามชัย จ.กาฬสินธิ์ 46150 โทร 0855354910 หรือสะดวกโอนเงินช่วยน้องเข้าบัญชีชื่อ จิราพร อันทรบุตร ธนาคารกรุงไทย 2920253085 🙏🙏ขอขอบคุณท่านผู้ใจบุญท่านและอนุโมทนาบุญให้ทุกท่านเจริญรุ่งเรืองร่ำรวยเงินทองสุขภาพแข็งแรง🙏🙏 ถ้าเจอคุณแม่และน้องใน tiktok ฝากกดติดตามให้กำลังใจน้องด้วยนะคะ
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 85 Views 0 Reviews
  • 🚨 #อันตรายจากราแป้ง: ศัตรูร้ายทำลายความหวานเมล่อน!

    🔍 สัญญาณเตือนการระบาดของราแป้ง:
    - หมอกหนาในตอนเช้า
    - ลมพัดเบาๆ
    - อากาศเย็นชื้น

    🌿 ลักษณะอาการที่พบ:
    - คราบผงสีขาวคล้ายแป้งบนใบ
    - เส้นใยฟูสีขาวเป็นหย่อมๆ
    - ใบเริ่มเหลืองและแห้ง

    ⚠️ ผลกระทบต่อผลผลิต:
    1. เชื้อราแทงเส้นใยดูดอาหารจากใบ
    2. ต้นเมล่อนชะงักการเจริญเติบโต
    3. ความหวานของผลลดลงอย่างมาก
    4. ผลผลิตเสียหายรุนแรง

    🛡️ แนวทางการป้องกัน:
    1. ก่อนปลูก:
    - ทำความสะอาดโรงเรือนด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ
    - กำจัดเศษพืชที่เป็นแหล่งสะสมโรค

    2. ระหว่างปลูก:
    - พ่น #ไตรโคบิวพลัส ทุก 5 วัน
    - ควบคุมความชื้นในโรงเรือน
    - ตรวจสอบต้นเมล่อนสม่ำเสมอ

    🏥 วิธีรักษาเมื่อพบการระบาด:
    1. ระบาดเล็กน้อย:
    - พ่น #ไตรโคบิวพลัส ทุก 3 วัน
    - ตัดใบที่เป็นโรครุนแรงทิ้ง

    2. ระบาดรุนแรง:
    - ผสมกำมะถัน 40 กรัม/น้ำ 20 ลิตร
    - พ่นทุก 3 วันจนควบคุมได้
    - กำจัดใบที่เป็นโรคเผาทำลาย

    ⚡ ข้อควรระวัง:
    - ราแป้งสามารถระบาดได้ทุกระยะการเจริญเติบโต
    - เชื้อสามารถพักตัวและกลับมาระบาดซ้ำได้
    - ต้องป้องกันอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ

    🌱 ลิตเติ้ลฟาร์ม พร้อมให้คำปรึกษา:
    - เมล็ดพันธุ์เมล่อนคุณภาพ
    - ชีวภัณฑ์ป้องกันกำจัดโรค
    - ปุ๋ย AB คุณภาพสูง
    - ธาตุอาหารเสริม

    📱 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม:
    - Inbox
    - โทร: 093-696-2691

    #การปลูกเมล่อน #โรคพืช #เกษตรปลอดภัย #ลิตเติ้ลฟาร์ม
    🚨 #อันตรายจากราแป้ง: ศัตรูร้ายทำลายความหวานเมล่อน! 🔍 สัญญาณเตือนการระบาดของราแป้ง: - หมอกหนาในตอนเช้า - ลมพัดเบาๆ - อากาศเย็นชื้น 🌿 ลักษณะอาการที่พบ: - คราบผงสีขาวคล้ายแป้งบนใบ - เส้นใยฟูสีขาวเป็นหย่อมๆ - ใบเริ่มเหลืองและแห้ง ⚠️ ผลกระทบต่อผลผลิต: 1. เชื้อราแทงเส้นใยดูดอาหารจากใบ 2. ต้นเมล่อนชะงักการเจริญเติบโต 3. ความหวานของผลลดลงอย่างมาก 4. ผลผลิตเสียหายรุนแรง 🛡️ แนวทางการป้องกัน: 1. ก่อนปลูก: - ทำความสะอาดโรงเรือนด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ - กำจัดเศษพืชที่เป็นแหล่งสะสมโรค 2. ระหว่างปลูก: - พ่น #ไตรโคบิวพลัส ทุก 5 วัน - ควบคุมความชื้นในโรงเรือน - ตรวจสอบต้นเมล่อนสม่ำเสมอ 🏥 วิธีรักษาเมื่อพบการระบาด: 1. ระบาดเล็กน้อย: - พ่น #ไตรโคบิวพลัส ทุก 3 วัน - ตัดใบที่เป็นโรครุนแรงทิ้ง 2. ระบาดรุนแรง: - ผสมกำมะถัน 40 กรัม/น้ำ 20 ลิตร - พ่นทุก 3 วันจนควบคุมได้ - กำจัดใบที่เป็นโรคเผาทำลาย ⚡ ข้อควรระวัง: - ราแป้งสามารถระบาดได้ทุกระยะการเจริญเติบโต - เชื้อสามารถพักตัวและกลับมาระบาดซ้ำได้ - ต้องป้องกันอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ 🌱 ลิตเติ้ลฟาร์ม พร้อมให้คำปรึกษา: - เมล็ดพันธุ์เมล่อนคุณภาพ - ชีวภัณฑ์ป้องกันกำจัดโรค - ปุ๋ย AB คุณภาพสูง - ธาตุอาหารเสริม 📱 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม: - Inbox - โทร: 093-696-2691 #การปลูกเมล่อน #โรคพืช #เกษตรปลอดภัย #ลิตเติ้ลฟาร์ม
    0 Comments 0 Shares 81 Views 0 Reviews
  • อัจฉริยะ หอบหลักฐานจำลองเหตุการณ์แตงโมตกน้ำ ร้องดีเอสไอ พิจารณารับเป็นคดีพิเศษ จี้สอบ จนท.รัฐ เข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ด้านโฆษกดีเอสไอ ระบุ สำนวนคดีหลักยังอยู่ในชั้นศาล ไม่อาจก้าวล่วงได้ และต้องรับข้อมูลประกอบการพิจารณาอย่างระมัดระวัง ต้องดูข้อกฎหมาย ดูว่ามีอำนาจหรือไม่ ก่อนชงอธิบดีฯ รับหรือไม่รับเป็นคดีพิเศษ
    .
    วันนี้ (17 ม.ค.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ยื่นเรื่องต่อ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ ขอให้ตั้งคณะทำงานสืบสวนสอบสวนคดีของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม นักแสดงชื่อดัง ขอให้สืบสวนสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องในคดี ซึ่งมีข้อพิรุธอันเป็นเหตุสงสัยที่เชื่อว่าไม่ตรงกับความเป็นจริง มีการบิดเบือนพยานหลักฐานกระบวนการยุติธรรมในคดี และพิจารณารับเป็นคดีพิเศษ โดยมี พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และในฐานะโฆษกดีเอสไอ
    .
    นายอัจฉริยะ กล่าวว่า จากการจำลองเหตุการณ์แตงโมตกเรือ วันที่ 15-16 ม.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งมีคำถามเกิดขึ้นมากมาย โดยตนเองได้นำหลักฐานทั้งหมดมาใช้ในคดีใหม่ และมามอบให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ รับเป็นคดีพิเศษ ทำการสืบสวนสอบสวนเอาผิดกลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำสำนวนคดีการเสียชีวิตของแตงโม รวมทั้งคนบนเรือ เนื่องจากการสืบสวนส่อในทางไม่สุจริต มีการให้การเท็จ พยานเท็จ มีลักษณะให้ความช่วยเหลือฝ่ายจำเลย เข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
    .
    วันนี้ขอให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ รับดำเนินการตั้งเลขสืบสวน อ้างอิงจากคดีของนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส และคดีของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ ที่เคยรับไว้เป็นคดีพิเศษก่อนหน้านี้ เนื่องจากมีลักษณะคดีคล้ายกัน ทำให้สามารถเรียกพยานบุคคลมาสอบปากคำได้ ส่วนสาเหตุไม่ไปร้อง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เนื่องจากไม่เชื่อมั่นการทำงานหน่วยงานดังกล่าว เพราะเป็นองค์กรตำรวจ
    .
    นอกจากนี้ การยังไม่ไปร้องสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพราะมองว่าต้องการให้มีการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงก่อนโดยหากไปร้องทั้งที่ยังไม่มีการสอบสวน ก็ไม่มีประโยชน์อะไร บาดแผลแตงโมเกิดก่อนการตกน้ำเสียชีวิต และขาดอากาศหายใจ ซึ่งหมอก็ตอบไม่ได้ว่าการเสียชีวิตเกิดจากอะไร แต่ตำรวจสรุปว่าเสียชีวิตจากการพลัดตกกราบเรือด้านซ้ายโดนใบพัดเรือ
    .
    ประกอบกับศาลอาญาสืบพยานทั้ง 2 ฝ่ายเชื่อได้ว่าแตงโม ไม่ได้พลัดตกเรือ บาดแผลก็ไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือ ส่วนเส้นผม 3 เส้นบนเรือก็ไม่น่าเชื่อถือ ตนอยากเรียกร้องกระบวนการยุติธรรมเพราะบางคดีอาจมีการตั้งธงไว้ก่อน ทำให้ชาวบ้านไม่ศรัทธาหันไปร้องขอความช่วยเหลือจากเพจหรือคนที่ช่วยสังคม ซึ่งตนคาดหวังว่าคดีนี้ต้องมีคนรับโทษ
    .
    ด้าน พ.ต.ต.วรณัน กล่าวหลังรับหนังสือ ว่า สำหรับประเด็นดังกล่าว ขอแบ่งออกเป็นสองส่วน คือ ประเด็นแรก ตัวคดีหลักอยู่ในการพิจารณาของศาล ดังนั้น เป็นสิ่งที่ดีเอสไอก้าวล่วงไม่ได้ ส่วนประเด็นที่สอง คือ กรณีที่ผู้ร้องได้มายื่นขอให้ตรวจสอบการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งก็ต้องมาพิจารณาในรายละเอียดว่าเป็นการยื่นขอให้มีการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาคนใหม่ในข้อหาใหม่หรือไม่อย่างไร
    .
    ทั้งนี้ จะมีโอกาสมากน้อยแค่ไหนที่ดีเอสไอจะรับไปดำเนินการนั้น ย้ำว่าเราต้องดูพยานหลักฐาน ซึ่งการจะรับเรื่องใดไว้เป็นคดีพิเศษ อย่างที่ย้ำไปว่าคดีหลักยังอยู่ในกระบวนการศาล ฉะนั้น สิ่งที่ดีเอสไอจะทำต่อก็ต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวัง เพราะต้องดูข้อกฎหมายเป็นหลัก แต่ส่วนประเด็นที่ผู้ร้องได้ให้ข้อเท็จจริงมา อันนี้ก็ต้องนำไปพิจารณาประกอบกันว่าจะนำไปสู่การดำเนินการใหม่ได้หรือไม่
    .
    ส่วนกรณีเมื่อวันที่ 16 ม.ค. เจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้เข้าร่วมสังเกตการณ์การจำลองสถานการณ์การเสียชีวิตของคุณแตงโมของภาคประชาชน ทราบว่ารายละเอียดข้อมูลต่าง ๆ ทางเจ้าหน้าที่ได้รับข้อมูลไปแล้ว คาดว่าอาจนำไปดูประกอบกับข้อมูลของผู้ร้องในวันนี้ ทั้งนี้ ที่ผ่านมาคดีใดที่อยู่ในระหว่างชั้นศาล ดีเอสไอต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวัง เพราะคดีดังกล่าวมีผู้กระทำความผิดที่อยู่ในกระบวนการชั้นศาล ซึ่งโดยหลักการเมื่อคดีไปอยู่ในชั้นศาล เจ้าพนักงานสอบสวนจะไม่มีอำนาจหน้าที่ เว้นแต่เป็นกรณีที่มีข้อเท็จจริงอย่างอื่นที่นำไปสู่การสอบสวนได้ ซึ่งก็ต้องไปดูรายละเอียดก่อน ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงาน
    .
    เมื่อถามว่ามองอย่างไรที่สังคมค่อนข้างให้การจับตามองในประเด็นดังกล่าว พ.ต.ต.วรณัน ระบุว่า ตนมองว่าเป็นปรากฎการณ์ที่ดีเพราะการที่ภาคประชาชนให้ความสำคัญในเรื่องของการทำงานร่วมกับภาครัฐถือเป็นเรื่องที่ดี แต่กลไกทางกฎหมายก็ต้องมาดูรายละเอียดกันด้วย ซึ่งรายละเอียดต่าง ๆ ที่ภาคประชาชนได้มา คาดว่าทางเจ้าหน้าที่ดีเอสไอที่ไปร่วมสังเกตการณ์น่าจะได้มีการรายงานต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษไปแล้ว
    .
    โดยกรอบเวลาการทำงานเพื่อดูความชัดเจนนั้น เบื้องต้นทราบว่าเป็นเรื่องของการตรวจสอบอยู่ ถ้าหากมีการตรวจสอบรายละเอียดข้อมูลใดของเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายก็ต้องการรายงานไปยังอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ว่ามีเหตุที่สามารถใช้อำนาจในการสืบสวนต่อไปได้หรือไม่ ซึ่งก็ต้องทำตามขั้นตอน ส่วนกรอบระยะเวลาเร็วหรือช้า ต้องขอให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานก่อนอย่าพึ่งไปบอกว่าเร็วหรือช้า ต้องดูก่อนว่าในเรื่องดังกล่าวดีเอสไอมีอำนาจหรือไม่ ถ้าหากผ่านขั้นตอนแรกไปแล้วก็จะได้ไปสู่ขั้นตอนที่สองในการพิจารณารับหรือไม่รับเป็นคดีพิเศษต่อไป
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000005212
    .........
    Sondhi X
    อัจฉริยะ หอบหลักฐานจำลองเหตุการณ์แตงโมตกน้ำ ร้องดีเอสไอ พิจารณารับเป็นคดีพิเศษ จี้สอบ จนท.รัฐ เข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ด้านโฆษกดีเอสไอ ระบุ สำนวนคดีหลักยังอยู่ในชั้นศาล ไม่อาจก้าวล่วงได้ และต้องรับข้อมูลประกอบการพิจารณาอย่างระมัดระวัง ต้องดูข้อกฎหมาย ดูว่ามีอำนาจหรือไม่ ก่อนชงอธิบดีฯ รับหรือไม่รับเป็นคดีพิเศษ . วันนี้ (17 ม.ค.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ยื่นเรื่องต่อ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ ขอให้ตั้งคณะทำงานสืบสวนสอบสวนคดีของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม นักแสดงชื่อดัง ขอให้สืบสวนสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องในคดี ซึ่งมีข้อพิรุธอันเป็นเหตุสงสัยที่เชื่อว่าไม่ตรงกับความเป็นจริง มีการบิดเบือนพยานหลักฐานกระบวนการยุติธรรมในคดี และพิจารณารับเป็นคดีพิเศษ โดยมี พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และในฐานะโฆษกดีเอสไอ . นายอัจฉริยะ กล่าวว่า จากการจำลองเหตุการณ์แตงโมตกเรือ วันที่ 15-16 ม.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งมีคำถามเกิดขึ้นมากมาย โดยตนเองได้นำหลักฐานทั้งหมดมาใช้ในคดีใหม่ และมามอบให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ รับเป็นคดีพิเศษ ทำการสืบสวนสอบสวนเอาผิดกลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำสำนวนคดีการเสียชีวิตของแตงโม รวมทั้งคนบนเรือ เนื่องจากการสืบสวนส่อในทางไม่สุจริต มีการให้การเท็จ พยานเท็จ มีลักษณะให้ความช่วยเหลือฝ่ายจำเลย เข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ . วันนี้ขอให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ รับดำเนินการตั้งเลขสืบสวน อ้างอิงจากคดีของนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส และคดีของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ ที่เคยรับไว้เป็นคดีพิเศษก่อนหน้านี้ เนื่องจากมีลักษณะคดีคล้ายกัน ทำให้สามารถเรียกพยานบุคคลมาสอบปากคำได้ ส่วนสาเหตุไม่ไปร้อง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เนื่องจากไม่เชื่อมั่นการทำงานหน่วยงานดังกล่าว เพราะเป็นองค์กรตำรวจ . นอกจากนี้ การยังไม่ไปร้องสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพราะมองว่าต้องการให้มีการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงก่อนโดยหากไปร้องทั้งที่ยังไม่มีการสอบสวน ก็ไม่มีประโยชน์อะไร บาดแผลแตงโมเกิดก่อนการตกน้ำเสียชีวิต และขาดอากาศหายใจ ซึ่งหมอก็ตอบไม่ได้ว่าการเสียชีวิตเกิดจากอะไร แต่ตำรวจสรุปว่าเสียชีวิตจากการพลัดตกกราบเรือด้านซ้ายโดนใบพัดเรือ . ประกอบกับศาลอาญาสืบพยานทั้ง 2 ฝ่ายเชื่อได้ว่าแตงโม ไม่ได้พลัดตกเรือ บาดแผลก็ไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือ ส่วนเส้นผม 3 เส้นบนเรือก็ไม่น่าเชื่อถือ ตนอยากเรียกร้องกระบวนการยุติธรรมเพราะบางคดีอาจมีการตั้งธงไว้ก่อน ทำให้ชาวบ้านไม่ศรัทธาหันไปร้องขอความช่วยเหลือจากเพจหรือคนที่ช่วยสังคม ซึ่งตนคาดหวังว่าคดีนี้ต้องมีคนรับโทษ . ด้าน พ.ต.ต.วรณัน กล่าวหลังรับหนังสือ ว่า สำหรับประเด็นดังกล่าว ขอแบ่งออกเป็นสองส่วน คือ ประเด็นแรก ตัวคดีหลักอยู่ในการพิจารณาของศาล ดังนั้น เป็นสิ่งที่ดีเอสไอก้าวล่วงไม่ได้ ส่วนประเด็นที่สอง คือ กรณีที่ผู้ร้องได้มายื่นขอให้ตรวจสอบการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งก็ต้องมาพิจารณาในรายละเอียดว่าเป็นการยื่นขอให้มีการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาคนใหม่ในข้อหาใหม่หรือไม่อย่างไร . ทั้งนี้ จะมีโอกาสมากน้อยแค่ไหนที่ดีเอสไอจะรับไปดำเนินการนั้น ย้ำว่าเราต้องดูพยานหลักฐาน ซึ่งการจะรับเรื่องใดไว้เป็นคดีพิเศษ อย่างที่ย้ำไปว่าคดีหลักยังอยู่ในกระบวนการศาล ฉะนั้น สิ่งที่ดีเอสไอจะทำต่อก็ต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวัง เพราะต้องดูข้อกฎหมายเป็นหลัก แต่ส่วนประเด็นที่ผู้ร้องได้ให้ข้อเท็จจริงมา อันนี้ก็ต้องนำไปพิจารณาประกอบกันว่าจะนำไปสู่การดำเนินการใหม่ได้หรือไม่ . ส่วนกรณีเมื่อวันที่ 16 ม.ค. เจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้เข้าร่วมสังเกตการณ์การจำลองสถานการณ์การเสียชีวิตของคุณแตงโมของภาคประชาชน ทราบว่ารายละเอียดข้อมูลต่าง ๆ ทางเจ้าหน้าที่ได้รับข้อมูลไปแล้ว คาดว่าอาจนำไปดูประกอบกับข้อมูลของผู้ร้องในวันนี้ ทั้งนี้ ที่ผ่านมาคดีใดที่อยู่ในระหว่างชั้นศาล ดีเอสไอต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวัง เพราะคดีดังกล่าวมีผู้กระทำความผิดที่อยู่ในกระบวนการชั้นศาล ซึ่งโดยหลักการเมื่อคดีไปอยู่ในชั้นศาล เจ้าพนักงานสอบสวนจะไม่มีอำนาจหน้าที่ เว้นแต่เป็นกรณีที่มีข้อเท็จจริงอย่างอื่นที่นำไปสู่การสอบสวนได้ ซึ่งก็ต้องไปดูรายละเอียดก่อน ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงาน . เมื่อถามว่ามองอย่างไรที่สังคมค่อนข้างให้การจับตามองในประเด็นดังกล่าว พ.ต.ต.วรณัน ระบุว่า ตนมองว่าเป็นปรากฎการณ์ที่ดีเพราะการที่ภาคประชาชนให้ความสำคัญในเรื่องของการทำงานร่วมกับภาครัฐถือเป็นเรื่องที่ดี แต่กลไกทางกฎหมายก็ต้องมาดูรายละเอียดกันด้วย ซึ่งรายละเอียดต่าง ๆ ที่ภาคประชาชนได้มา คาดว่าทางเจ้าหน้าที่ดีเอสไอที่ไปร่วมสังเกตการณ์น่าจะได้มีการรายงานต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษไปแล้ว . โดยกรอบเวลาการทำงานเพื่อดูความชัดเจนนั้น เบื้องต้นทราบว่าเป็นเรื่องของการตรวจสอบอยู่ ถ้าหากมีการตรวจสอบรายละเอียดข้อมูลใดของเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายก็ต้องการรายงานไปยังอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ว่ามีเหตุที่สามารถใช้อำนาจในการสืบสวนต่อไปได้หรือไม่ ซึ่งก็ต้องทำตามขั้นตอน ส่วนกรอบระยะเวลาเร็วหรือช้า ต้องขอให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานก่อนอย่าพึ่งไปบอกว่าเร็วหรือช้า ต้องดูก่อนว่าในเรื่องดังกล่าวดีเอสไอมีอำนาจหรือไม่ ถ้าหากผ่านขั้นตอนแรกไปแล้วก็จะได้ไปสู่ขั้นตอนที่สองในการพิจารณารับหรือไม่รับเป็นคดีพิเศษต่อไป . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000005212 ......... Sondhi X
    Like
    Love
    9
    0 Comments 0 Shares 673 Views 0 Reviews
  • ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ในพื้นที่โรงไฟฟ้า Moss Landing รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา

    "เพลิงลุกไหม้ในส่วนที่เป็นสถานที่จัดเก็บแบตเตอรี่ลิเธียมที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก"

    มีคำสั่งให้ประชาชรอพยพออกนอกพื้นที่ทันที เนื่องจากสารพิษอันตรายถูกปล่อยสู่บรรยากาศ

    นอกจากนี้ ทางหลวงหมายเลข 1 บางส่วนยังถูกปิดอีกด้วย
    ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ในพื้นที่โรงไฟฟ้า Moss Landing รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา "เพลิงลุกไหม้ในส่วนที่เป็นสถานที่จัดเก็บแบตเตอรี่ลิเธียมที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก" มีคำสั่งให้ประชาชรอพยพออกนอกพื้นที่ทันที เนื่องจากสารพิษอันตรายถูกปล่อยสู่บรรยากาศ นอกจากนี้ ทางหลวงหมายเลข 1 บางส่วนยังถูกปิดอีกด้วย
    Like
    4
    0 Comments 1 Shares 318 Views 25 0 Reviews
  • รัฐบาลถูกครอบงำด้วยคนหลง ยึดมั่นในความมีตัวตนในตน..โลภเพ็งเล็งในอุปกรณ์แห่งทรัพย์ของชาติ, มีความพยาบาท อาฆาตแค้น, มีความเห็นผิด(มิจฉาทิฏฐิ) ก็จะสร้างนโยบายตอบสนองตัวตนของตน เป็นหลัก..แต่แอบอ้างประชาชนเป็นตัวประกัน
    รัฐบาลถูกครอบงำด้วยคนหลง ยึดมั่นในความมีตัวตนในตน..โลภเพ็งเล็งในอุปกรณ์แห่งทรัพย์ของชาติ, มีความพยาบาท อาฆาตแค้น, มีความเห็นผิด(มิจฉาทิฏฐิ) ก็จะสร้างนโยบายตอบสนองตัวตนของตน เป็นหลัก..แต่แอบอ้างประชาชนเป็นตัวประกัน
    0 Comments 0 Shares 302 Views 1 0 Reviews
  • ChatGPT ใช้น้ำเยอะเกินไปจนไม่พอดับไฟป่าแคลิฟอร์เนียจริงหรือ?

    ในช่วงที่เกิดไฟป่ารุนแรงในแคลิฟอร์เนีย ผู้ใช้โซเชียลมีเดียเริ่มมองหาผู้รับผิดชอบในการดับไฟป่า และมีการกล่าวโทษว่าโมเดล AI อย่าง ChatGPT ใช้น้ำเยอะเกินไปจนทำให้น้ำไม่พอดับไฟป่า โดยมีการรณรงค์ให้ชาวแคลิฟอร์เนียหยุดใช้งาน ChatGPT เพื่อประหยัดน้ำ

    การฝึกโมเดล AI ต้องใช้พลังประมวลผลมหาศาล ซึ่งทำให้เกิดความร้อนสูงและต้องใช้น้ำในการระบายความร้อน ตัวอย่างเช่น หากผู้ใช้ขอให้ ChatGPT เขียนอีเมล 1 ฉบับต่อสัปดาห์ เป็นเวลา 1 ปี ChatGPT จะใช้น้ำ 27 ลิตร และหากชาวอเมริกัน 1 ใน 10 คน หรือ 16 ล้านคนทำเช่นเดียวกันนี้ จะต้องใช้น้ำมากกว่า 435 ล้านลิตร

    อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการน้ำในเขตเมืองออกความเห็นว่า การใช้น้ำของ AI ไม่ใช่ตัวการทำให้มีน้ำไม่พอดับไฟ แต่เป็นเพราะระบบน้ำที่มีอยู่ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อรับมือภัยพิบัติระดับนี้ เหตุไฟไหม้ป่าลอสแองเจลิส แคลิฟอร์เนีย ถือว่ารุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของเมือง โดยมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 25 คน และพื้นที่เสียหายกว่า 40,000 เอเคอร์

    ChatGPT รวมถึงโมเดล AI อื่นๆ มีรอยเท้าคาร์บอนจำนวนมาก ซึ่งส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทำให้เกิดสภาพอากาศแห้งแล้งและอุณหภูมิที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดไฟป่าและลุกลามรวดเร็วเมื่อผนวกกับลมแรง

    การใช้น้ำของ ChatGPT และโมเดล AI อื่นๆ เป็นเรื่องที่น่ากังวล แต่ไม่ใช่สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดไฟป่าและน้ำไม่พอดับไฟ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าการย้ายศูนย์ข้อมูลไปยังพื้นที่ที่อากาศหนาวเย็นกว่าเดิม หรือการใช้เทคโนโลยีการหล่อเย็นแบบจุ่ม (immersion cooling) อาจช่วยลดการใช้น้ำได้

    ในขณะที่นักรณรงค์บนโซเชียลมีเดียบอกว่า หากอยากประหยัดน้ำจริง หยุดใช้ ChatGPT คงไม่พอ คงต้องหยุดใช้โมเดล AI อื่นๆ ด้วย เช่น Claude, Grok, Gemini, Copilot, Midjourney, Leonardo, DALL-E, Firefly, ElevenLabs, Shortwave, Runway, Mem, Suno, Jasper, Notion, Bard, Alphacode, MetaAI, Wordtune และ Stable Diffusion

    การจัดการน้ำในแคลิฟอร์เนียยังคงเป็นปัญหาที่ต้องการการแก้ไขอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดภัยพิบัติระดับใหญ่เช่นนี้

    ขอบคุณบทความจากเวบ Thairath ครับ

    https://plus.thairath.co.th/topic/politics&society/105099
    ChatGPT ใช้น้ำเยอะเกินไปจนไม่พอดับไฟป่าแคลิฟอร์เนียจริงหรือ? ในช่วงที่เกิดไฟป่ารุนแรงในแคลิฟอร์เนีย ผู้ใช้โซเชียลมีเดียเริ่มมองหาผู้รับผิดชอบในการดับไฟป่า และมีการกล่าวโทษว่าโมเดล AI อย่าง ChatGPT ใช้น้ำเยอะเกินไปจนทำให้น้ำไม่พอดับไฟป่า โดยมีการรณรงค์ให้ชาวแคลิฟอร์เนียหยุดใช้งาน ChatGPT เพื่อประหยัดน้ำ การฝึกโมเดล AI ต้องใช้พลังประมวลผลมหาศาล ซึ่งทำให้เกิดความร้อนสูงและต้องใช้น้ำในการระบายความร้อน ตัวอย่างเช่น หากผู้ใช้ขอให้ ChatGPT เขียนอีเมล 1 ฉบับต่อสัปดาห์ เป็นเวลา 1 ปี ChatGPT จะใช้น้ำ 27 ลิตร และหากชาวอเมริกัน 1 ใน 10 คน หรือ 16 ล้านคนทำเช่นเดียวกันนี้ จะต้องใช้น้ำมากกว่า 435 ล้านลิตร อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการน้ำในเขตเมืองออกความเห็นว่า การใช้น้ำของ AI ไม่ใช่ตัวการทำให้มีน้ำไม่พอดับไฟ แต่เป็นเพราะระบบน้ำที่มีอยู่ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อรับมือภัยพิบัติระดับนี้ เหตุไฟไหม้ป่าลอสแองเจลิส แคลิฟอร์เนีย ถือว่ารุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของเมือง โดยมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 25 คน และพื้นที่เสียหายกว่า 40,000 เอเคอร์ ChatGPT รวมถึงโมเดล AI อื่นๆ มีรอยเท้าคาร์บอนจำนวนมาก ซึ่งส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทำให้เกิดสภาพอากาศแห้งแล้งและอุณหภูมิที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดไฟป่าและลุกลามรวดเร็วเมื่อผนวกกับลมแรง การใช้น้ำของ ChatGPT และโมเดล AI อื่นๆ เป็นเรื่องที่น่ากังวล แต่ไม่ใช่สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดไฟป่าและน้ำไม่พอดับไฟ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าการย้ายศูนย์ข้อมูลไปยังพื้นที่ที่อากาศหนาวเย็นกว่าเดิม หรือการใช้เทคโนโลยีการหล่อเย็นแบบจุ่ม (immersion cooling) อาจช่วยลดการใช้น้ำได้ ในขณะที่นักรณรงค์บนโซเชียลมีเดียบอกว่า หากอยากประหยัดน้ำจริง หยุดใช้ ChatGPT คงไม่พอ คงต้องหยุดใช้โมเดล AI อื่นๆ ด้วย เช่น Claude, Grok, Gemini, Copilot, Midjourney, Leonardo, DALL-E, Firefly, ElevenLabs, Shortwave, Runway, Mem, Suno, Jasper, Notion, Bard, Alphacode, MetaAI, Wordtune และ Stable Diffusion การจัดการน้ำในแคลิฟอร์เนียยังคงเป็นปัญหาที่ต้องการการแก้ไขอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดภัยพิบัติระดับใหญ่เช่นนี้ ขอบคุณบทความจากเวบ Thairath ครับ https://plus.thairath.co.th/topic/politics&society/105099
    0 Comments 0 Shares 116 Views 0 Reviews
More Results