• Intel กำลังปรับโครงสร้างองค์กรภายใต้การนำของ Lip-Bu Tan CEO คนใหม่ โดยมีการลดชั้นการบริหารและแต่งตั้ง Sachin Katti เป็นหัวหน้าเทคโนโลยีและ AI เพื่อเร่งพัฒนาแนวทางแข่งขันกับ Nvidia

    ✅ Intel ลดชั้นการบริหารเพื่อให้การตัดสินใจรวดเร็วขึ้น
    - กลุ่มชิป Data Center & AI และ Personal Computer จะรายงานตรงต่อ CEO
    - ก่อนหน้านี้กลุ่มเหล่านี้อยู่ภายใต้การดูแลของ Michelle Johnston Holthaus ซึ่งยังคงดำรงตำแหน่ง CEO ของ Intel Products

    ✅ Sachin Katti ได้รับแต่งตั้งเป็นหัวหน้าเทคโนโลยีและ AI
    - Katti จะเป็นผู้นำ กลยุทธ์ AI และแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ AI
    - เขาจะดูแล Intel Labs และความสัมพันธ์กับสตาร์ทอัพและนักพัฒนา

    ✅ Intel มุ่งเน้นการเป็นบริษัทที่ขับเคลื่อนด้วยวิศวกรรม
    - Tan ระบุว่า โครงสร้างองค์กรที่ซับซ้อนและระบบราชการกำลังขัดขวางนวัตกรรม
    - การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยให้ ผู้บริหารทำงานใกล้ชิดกับทีมวิศวกรรมมากขึ้น

    ✅ Intel ต้องแข่งขันกับ Nvidia ในตลาด AI
    - Nvidia ครองตลาดชิป AI และ Intel ต้องเร่งพัฒนา กลยุทธ์ใหม่เพื่อแข่งขัน
    - Intel เคยพยายามพัฒนา Falcon Shores แต่โครงการถูกยกเลิกในเดือนมกราคม

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/18/exclusive-intel-ceo-lip-bu-tan-streamlines-leadership-team-names-new-technology-chief-memo-says
    Intel กำลังปรับโครงสร้างองค์กรภายใต้การนำของ Lip-Bu Tan CEO คนใหม่ โดยมีการลดชั้นการบริหารและแต่งตั้ง Sachin Katti เป็นหัวหน้าเทคโนโลยีและ AI เพื่อเร่งพัฒนาแนวทางแข่งขันกับ Nvidia ✅ Intel ลดชั้นการบริหารเพื่อให้การตัดสินใจรวดเร็วขึ้น - กลุ่มชิป Data Center & AI และ Personal Computer จะรายงานตรงต่อ CEO - ก่อนหน้านี้กลุ่มเหล่านี้อยู่ภายใต้การดูแลของ Michelle Johnston Holthaus ซึ่งยังคงดำรงตำแหน่ง CEO ของ Intel Products ✅ Sachin Katti ได้รับแต่งตั้งเป็นหัวหน้าเทคโนโลยีและ AI - Katti จะเป็นผู้นำ กลยุทธ์ AI และแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ AI - เขาจะดูแล Intel Labs และความสัมพันธ์กับสตาร์ทอัพและนักพัฒนา ✅ Intel มุ่งเน้นการเป็นบริษัทที่ขับเคลื่อนด้วยวิศวกรรม - Tan ระบุว่า โครงสร้างองค์กรที่ซับซ้อนและระบบราชการกำลังขัดขวางนวัตกรรม - การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยให้ ผู้บริหารทำงานใกล้ชิดกับทีมวิศวกรรมมากขึ้น ✅ Intel ต้องแข่งขันกับ Nvidia ในตลาด AI - Nvidia ครองตลาดชิป AI และ Intel ต้องเร่งพัฒนา กลยุทธ์ใหม่เพื่อแข่งขัน - Intel เคยพยายามพัฒนา Falcon Shores แต่โครงการถูกยกเลิกในเดือนมกราคม https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/18/exclusive-intel-ceo-lip-bu-tan-streamlines-leadership-team-names-new-technology-chief-memo-says
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Intel CEO Lip-Bu Tan flattens leadership structure, names new AI chief, memo says
    SAN FRANCISCO (Reuters) - Intel's new CEO, Lip-Bu Tan, is flattening the semiconductor giant's leadership team, with important chip groups reporting directly to him, according to a memo from Tan seen by Reuters.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 59 มุมมอง 0 รีวิว
  • "จีนส่งสัญญาณเปิดกว้างต่อการเจรจาการค้ากับสหรัฐ"

    และทันทีที่มีข่าวนี้ออกมาเมื่อหลายชั่วโมงก่อน หุ้นดีดตัวสูงขึ้นทันที
    ดูเหมือนว่าแหล่งข่าวเดียวที่นำเสนอรายงานนี้มาจากสำนักข่าว Bloomberg

    Bloomberg ยังกล่าวอีกว่า แม้ว่าจีนจะแสดงความพร้อมเข้าสู่การเจรจากับสหรัฐแต่ต้องอยู่บนเงื่อนไขบางประการ:

    👉ประการที่แรก ปักกิ่งต้องการให้สหรัฐแต่งตั้งบุคคลสำคัญในการเจรจาที่ได้รับการสนับสนุนจากประธานาธิบดีและสามารถช่วยเตรียมข้อตกลงที่ทรัมป์และสีจิ้นผิง ผู้นำจีนสามารถลงนามได้เมื่อพวกเขาพบกัน

    👉ประการที่สอง จีนต้องการให้สหรัฐแสดงจุดยืนที่ชัดเจนและดำเนินการที่สอดคล้องกันให้มากขึ้นในการตอบสนองต่อประเด็นความกังวลของปักกิ่งเกี่ยวกับไต้หวัน

    👉ประการที่สาม ปักกิ่งต้องการให้รัฐบาลของทรัมป์แสดง "ความเคารพ" ต่อจีนให้มากขึ้น ด้วยการควบคุมคำพูดดูหมิ่นของสมาชิกคณะรัฐมนตรีบางคน

    สำหรับประเด็นที่สาม แม้ว่าจีนไม่ได้เอ่ยชื่อใคร แต่หลายฝ่ายเชื่อว่าคือ รองประธานาธิบดีสหรัฐ "เจดี แวนซ์" เนื่องจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แวนซ์ เรียกชาวจีนซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตรายใหญ่ของโลกว่าเป็นเพียง "ชาวนาจีน" (“Chinese peasants) ที่ทำหน้าที่ผลิตสิ่งของป้อนให้สหรัฐ “เพื่อให้ชัดเจนยิ่งขึ้นอีกเล็กน้อย เราขอยืมเงินจากชาวนาจีนเพื่อซื้อสิ่งของที่ชาวนาจีนผลิตขึ้น นั่นไม่ใช่สูตรสำหรับความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ” ( "To make it a little more crystal clear, we borrow money from Chinese peasants to buy the things those Chinese peasants manufacture. That is not a recipe for economic prosperity.")

    คำพูดของแวนซ์ ที่เรียกชาวจีนว่า "ชาวนา" ถือเป็นคำดูหมื่นชาวจีนอย่างมาก เนื่องจากถูกมองว่าเป็นประเทศที่ล้าหลัง ด้อยพัฒนา ทำให้เกิดการต่อต้านจากชาวจีนเป็นจำนวนมาก และมีการโต้กลับคำพูดดูหมิ่นนี้จากชาวเน็ตจีน โดยชี้ให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ประเทศของพวกเขาได้พัฒนาในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา เช่น การสื่อสาร 5G และรถไฟความเร็วสูง

    นอกจากนี้รัฐบาลจีน โดยโฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน "หลิน เจี้ยน" เรียกคำพูดดังกล่าวของแวนซ์ว่า “ไร้ความรู้และไม่ให้เกียรติ” ซึ่งถือเป็นการตำหนิผู้นำระดับสูงของสหรัฐโดยตรง ที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยเท่าไหร่นัก


    เจ้าหน้าที่ปักกิ่งเชื่อว่า ไม่ว่าใครในคณะทำงานของทรัมป์ออกมากล่าวบางอย่างเกี่ยวกับจีน และหากทรัมป์ไม่ปฏิเสธความเห็นเหล่านั้น เจ้าหน้าที่จีนก็ถือว่าทรัมป์เห็นด้วยกับเจ้าหน้าที่เหล่านั้นเช่นกัน
    "จีนส่งสัญญาณเปิดกว้างต่อการเจรจาการค้ากับสหรัฐ" และทันทีที่มีข่าวนี้ออกมาเมื่อหลายชั่วโมงก่อน หุ้นดีดตัวสูงขึ้นทันที ดูเหมือนว่าแหล่งข่าวเดียวที่นำเสนอรายงานนี้มาจากสำนักข่าว Bloomberg Bloomberg ยังกล่าวอีกว่า แม้ว่าจีนจะแสดงความพร้อมเข้าสู่การเจรจากับสหรัฐแต่ต้องอยู่บนเงื่อนไขบางประการ: 👉ประการที่แรก ปักกิ่งต้องการให้สหรัฐแต่งตั้งบุคคลสำคัญในการเจรจาที่ได้รับการสนับสนุนจากประธานาธิบดีและสามารถช่วยเตรียมข้อตกลงที่ทรัมป์และสีจิ้นผิง ผู้นำจีนสามารถลงนามได้เมื่อพวกเขาพบกัน 👉ประการที่สอง จีนต้องการให้สหรัฐแสดงจุดยืนที่ชัดเจนและดำเนินการที่สอดคล้องกันให้มากขึ้นในการตอบสนองต่อประเด็นความกังวลของปักกิ่งเกี่ยวกับไต้หวัน 👉ประการที่สาม ปักกิ่งต้องการให้รัฐบาลของทรัมป์แสดง "ความเคารพ" ต่อจีนให้มากขึ้น ด้วยการควบคุมคำพูดดูหมิ่นของสมาชิกคณะรัฐมนตรีบางคน สำหรับประเด็นที่สาม แม้ว่าจีนไม่ได้เอ่ยชื่อใคร แต่หลายฝ่ายเชื่อว่าคือ รองประธานาธิบดีสหรัฐ "เจดี แวนซ์" เนื่องจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แวนซ์ เรียกชาวจีนซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตรายใหญ่ของโลกว่าเป็นเพียง "ชาวนาจีน" (“Chinese peasants) ที่ทำหน้าที่ผลิตสิ่งของป้อนให้สหรัฐ “เพื่อให้ชัดเจนยิ่งขึ้นอีกเล็กน้อย เราขอยืมเงินจากชาวนาจีนเพื่อซื้อสิ่งของที่ชาวนาจีนผลิตขึ้น นั่นไม่ใช่สูตรสำหรับความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ” ( "To make it a little more crystal clear, we borrow money from Chinese peasants to buy the things those Chinese peasants manufacture. That is not a recipe for economic prosperity.") คำพูดของแวนซ์ ที่เรียกชาวจีนว่า "ชาวนา" ถือเป็นคำดูหมื่นชาวจีนอย่างมาก เนื่องจากถูกมองว่าเป็นประเทศที่ล้าหลัง ด้อยพัฒนา ทำให้เกิดการต่อต้านจากชาวจีนเป็นจำนวนมาก และมีการโต้กลับคำพูดดูหมิ่นนี้จากชาวเน็ตจีน โดยชี้ให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ประเทศของพวกเขาได้พัฒนาในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา เช่น การสื่อสาร 5G และรถไฟความเร็วสูง นอกจากนี้รัฐบาลจีน โดยโฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน "หลิน เจี้ยน" เรียกคำพูดดังกล่าวของแวนซ์ว่า “ไร้ความรู้และไม่ให้เกียรติ” ซึ่งถือเป็นการตำหนิผู้นำระดับสูงของสหรัฐโดยตรง ที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยเท่าไหร่นัก เจ้าหน้าที่ปักกิ่งเชื่อว่า ไม่ว่าใครในคณะทำงานของทรัมป์ออกมากล่าวบางอย่างเกี่ยวกับจีน และหากทรัมป์ไม่ปฏิเสธความเห็นเหล่านั้น เจ้าหน้าที่จีนก็ถือว่าทรัมป์เห็นด้วยกับเจ้าหน้าที่เหล่านั้นเช่นกัน
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 179 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เล่าถึงความท้าทายของ Meta ในการพัฒนาโครงการ Metaverse ซึ่งใช้เงินลงทุนไปแล้วกว่า 45 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา แต่ยังไม่สามารถสร้างผลลัพธ์ที่น่าพอใจได้

    Meta ซึ่งนำโดย Mark Zuckerberg ได้เปลี่ยนชื่อจาก Facebook เพื่อมุ่งเน้นการพัฒนา Metaverse แต่โครงการนี้กลับกลายเป็นปัญหาทางการเงินที่ใหญ่หลวง โดยมีการสูญเสียเงินถึง 16 พันล้านดอลลาร์ในปี 2023 และอีก 3.8 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกของปี 2024 สาเหตุหลักมาจากการขาดความชัดเจนในกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์และการบริหารที่ไม่เหมาะสม เช่น การแต่งตั้งผู้บริหารที่ไม่มีประสบการณ์ในด้าน AR และ VR

    นอกจากนี้ รายได้ประจำปีของ Reality Labs ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการ Metaverse ลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2021 เนื่องจากยอดขายที่อ่อนแอและการไม่สามารถเข้าถึงตลาดหลักได้

    ✅ การลงทุนในโครงการ Metaverse
    - Meta ใช้เงินลงทุนกว่า 45 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา
    - สูญเสียเงินถึง 16 พันล้านดอลลาร์ในปี 2023 และอีก 3.8 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกของปี 2024

    ✅ ปัญหาด้านการบริหารและกลยุทธ์
    - การแต่งตั้งผู้บริหารที่ไม่มีประสบการณ์ในด้าน AR และ VR
    - ขาดความชัดเจนในกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์

    ✅ ผลกระทบต่อรายได้ของ Reality Labs
    - รายได้ประจำปีลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2021
    - ยอดขายอ่อนแอและไม่สามารถเข้าถึงตลาดหลักได้

    ℹ️ ความเสี่ยงต่อความยั่งยืนของโครงการ
    - การสูญเสียเงินจำนวนมากอาจทำให้โครงการ Metaverse ไม่สามารถดำเนินต่อไปได้
    - ความล้มเหลวในการเข้าถึงตลาดหลักอาจลดความเชื่อมั่นของนักลงทุน

    ℹ️ คำแนะนำสำหรับการปรับปรุง
    - Meta ควรพัฒนากลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ที่ชัดเจนและตอบสนองความต้องการของตลาด
    - การแต่งตั้งผู้บริหารที่มีประสบการณ์ในด้าน AR และ VR เป็นสิ่งสำคัญ

    https://www.techspot.com/news/107530-four-years-meta-has-burned-through-45-billion.html
    ข่าวนี้เล่าถึงความท้าทายของ Meta ในการพัฒนาโครงการ Metaverse ซึ่งใช้เงินลงทุนไปแล้วกว่า 45 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา แต่ยังไม่สามารถสร้างผลลัพธ์ที่น่าพอใจได้ Meta ซึ่งนำโดย Mark Zuckerberg ได้เปลี่ยนชื่อจาก Facebook เพื่อมุ่งเน้นการพัฒนา Metaverse แต่โครงการนี้กลับกลายเป็นปัญหาทางการเงินที่ใหญ่หลวง โดยมีการสูญเสียเงินถึง 16 พันล้านดอลลาร์ในปี 2023 และอีก 3.8 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกของปี 2024 สาเหตุหลักมาจากการขาดความชัดเจนในกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์และการบริหารที่ไม่เหมาะสม เช่น การแต่งตั้งผู้บริหารที่ไม่มีประสบการณ์ในด้าน AR และ VR นอกจากนี้ รายได้ประจำปีของ Reality Labs ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการ Metaverse ลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2021 เนื่องจากยอดขายที่อ่อนแอและการไม่สามารถเข้าถึงตลาดหลักได้ ✅ การลงทุนในโครงการ Metaverse - Meta ใช้เงินลงทุนกว่า 45 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา - สูญเสียเงินถึง 16 พันล้านดอลลาร์ในปี 2023 และอีก 3.8 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกของปี 2024 ✅ ปัญหาด้านการบริหารและกลยุทธ์ - การแต่งตั้งผู้บริหารที่ไม่มีประสบการณ์ในด้าน AR และ VR - ขาดความชัดเจนในกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ ✅ ผลกระทบต่อรายได้ของ Reality Labs - รายได้ประจำปีลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2021 - ยอดขายอ่อนแอและไม่สามารถเข้าถึงตลาดหลักได้ ℹ️ ความเสี่ยงต่อความยั่งยืนของโครงการ - การสูญเสียเงินจำนวนมากอาจทำให้โครงการ Metaverse ไม่สามารถดำเนินต่อไปได้ - ความล้มเหลวในการเข้าถึงตลาดหลักอาจลดความเชื่อมั่นของนักลงทุน ℹ️ คำแนะนำสำหรับการปรับปรุง - Meta ควรพัฒนากลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ที่ชัดเจนและตอบสนองความต้องการของตลาด - การแต่งตั้งผู้บริหารที่มีประสบการณ์ในด้าน AR และ VR เป็นสิ่งสำคัญ https://www.techspot.com/news/107530-four-years-meta-has-burned-through-45-billion.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Four years in, Meta has burned through $45 billion chasing its metaverse dream
    Insiders say the metaverse project has become a financial sinkhole, consuming $45 billion by early 2025. That's nearly equal to the combined market caps of social media...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 139 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2568 เวลา 12.30 น. นายแพทย์ เฉก ธนะสิริ ได้ถึงแก่กรรมอย่างสงบที่บ้านพัก สิริอายุ 99 ปี ทั้งนี้ นายแพทย์ เฉก ได้แสดงความประสงค์บริจาคร่างกายให้แก่โรงพยาบาลศิริราช เพื่อใช้ในการศึกษาและเป็น ‘อาจารย์ใหญ่’ แก่นักศึกษาแพทย์ ตามเจตนารมณ์ในการอุทิศตนเพื่อวงการแพทย์และสาธารณประโยชน์ จึงงดการจัดพิธีสวดอภิธรรมและพิธีศพรายงานข่าวเพิ่มเติมว่า นายแพทย์ เฉก เกิดเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2468 ที่กรุงเทพมหานคร เป็นบุตรของหลวงจินดาสหกิจ (ละม้าย ธนะสิริ) กับนางประวัติ จินดาสหกิจ (สกุลเดิม สหัสสานนท์) สมรสกับแพทย์หญิง วิลิศ วีรานุวัตติ์ มีบุตรสาวชื่อ เฉลยลัคน์นายแพทย์ เฉก จบการศึกษาจากโรงเรียนเทพศิรินทร์ โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ปริญญาตรีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ปริญญาโทคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และศึกษาต่อด้านสาธารณสุขศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยจอนส์ฮอปกินส์ รัฐแมริแลนด์ สหรัฐอเมริกานายแพทย์ เฉก รับราชการกองควบคุมกามโรคและคุดทะราด กรมอนามัย เป็นนายแพทย์อนามัยจังหวัดนครราชสีมา เป็นผู้อำนวยการสำนักอนามัย (นักบริหาร 10) กรุงเทพมหานคร และเป็นรองปลัดกรุงเทพมหานคร (นักบริหาร 10) เคยได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในปี พ.ศ. 2516 กรรมการอำนวยการสภาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กรรมการวางแผนสาธารณสุขแห่งชาติ กรรมการอำนวยการสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย นายกสมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทย นายกสมาคมศิษย์เก่าแพทย์ศิริราช ผู้ก่อตั้งมูลนิธิฟื้นฟูส่งเสริมการแพทย์ไทยเดิม และได้รับรางวัลมหิดลทยากร จาก สมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยมหิดล ประจำปี พ.ศ. 2546 เจ้าของรางวัลนราธิป ประจำปี พ.ศ. 2549 และรางวัลผู้สูงอายุแห่งชาติ ประจำปี 2564 ของกรมกิจการผู้สูงอายุ และผู้เขียนหนังสือ ‘อายุ 120 ปี ทำไมจะทำให้ไม่ได้’
    เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2568 เวลา 12.30 น. นายแพทย์ เฉก ธนะสิริ ได้ถึงแก่กรรมอย่างสงบที่บ้านพัก สิริอายุ 99 ปี ทั้งนี้ นายแพทย์ เฉก ได้แสดงความประสงค์บริจาคร่างกายให้แก่โรงพยาบาลศิริราช เพื่อใช้ในการศึกษาและเป็น ‘อาจารย์ใหญ่’ แก่นักศึกษาแพทย์ ตามเจตนารมณ์ในการอุทิศตนเพื่อวงการแพทย์และสาธารณประโยชน์ จึงงดการจัดพิธีสวดอภิธรรมและพิธีศพรายงานข่าวเพิ่มเติมว่า นายแพทย์ เฉก เกิดเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2468 ที่กรุงเทพมหานคร เป็นบุตรของหลวงจินดาสหกิจ (ละม้าย ธนะสิริ) กับนางประวัติ จินดาสหกิจ (สกุลเดิม สหัสสานนท์) สมรสกับแพทย์หญิง วิลิศ วีรานุวัตติ์ มีบุตรสาวชื่อ เฉลยลัคน์นายแพทย์ เฉก จบการศึกษาจากโรงเรียนเทพศิรินทร์ โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ปริญญาตรีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ปริญญาโทคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และศึกษาต่อด้านสาธารณสุขศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยจอนส์ฮอปกินส์ รัฐแมริแลนด์ สหรัฐอเมริกานายแพทย์ เฉก รับราชการกองควบคุมกามโรคและคุดทะราด กรมอนามัย เป็นนายแพทย์อนามัยจังหวัดนครราชสีมา เป็นผู้อำนวยการสำนักอนามัย (นักบริหาร 10) กรุงเทพมหานคร และเป็นรองปลัดกรุงเทพมหานคร (นักบริหาร 10) เคยได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในปี พ.ศ. 2516 กรรมการอำนวยการสภาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กรรมการวางแผนสาธารณสุขแห่งชาติ กรรมการอำนวยการสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย นายกสมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทย นายกสมาคมศิษย์เก่าแพทย์ศิริราช ผู้ก่อตั้งมูลนิธิฟื้นฟูส่งเสริมการแพทย์ไทยเดิม และได้รับรางวัลมหิดลทยากร จาก สมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยมหิดล ประจำปี พ.ศ. 2546 เจ้าของรางวัลนราธิป ประจำปี พ.ศ. 2549 และรางวัลผู้สูงอายุแห่งชาติ ประจำปี 2564 ของกรมกิจการผู้สูงอายุ และผู้เขียนหนังสือ ‘อายุ 120 ปี ทำไมจะทำให้ไม่ได้’
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 233 มุมมอง 0 รีวิว
  • เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระบรมราชโองการ ประกาศแต่งตั้งให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร เป็นนายทหารราชองครักษ์ในพระองค์ และนายตำรวจราชองครักษ์ในพระองค์

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000034934

    #News1live #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระบรมราชโองการ ประกาศแต่งตั้งให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร เป็นนายทหารราชองครักษ์ในพระองค์ และนายตำรวจราชองครักษ์ในพระองค์ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000034934 #News1live #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 601 มุมมอง 0 รีวิว
  • 8 เม.ย. ฟังคำพิพากษา!
    “ไตรรัตน์” ฟ้อง 4 กสทช. ลงมติปลด ”กลั่นแกล้ง?“
    ไม่ใช่แค่เรื่องใครถูก-ผิด แต่สะท้อนความเหลวแหลกของระบบ!

    วันที่ 8 เมษายน 2568 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นัดฟังคำพิพากษาคดีที่ นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล ฟ้องกรรมการ กสทช. 4 ราย ประกอบด้วย
    พล.อ.ท. ดร. ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ
    รศ.ดร. ศุภัช ศุภชลาศัย
    รศ.ดร. สมภพ ภูริวิกรัยพงศ์​
    และ ศ.กิตติคุณ ดร. พิรงรอง รามสูต
    ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีมีมติปลดเขาออกจากตำแหน่งรักษาการเลขาธิการ กสทช.

    ดูเผิน ๆ อาจคิดว่าเป็นความขัดแย้งภายในระหว่าง รักษาการเลขาฯ กับ 4 กรรมการกสทช.เสียงข้างมาก แต่คดีนี้ไม่ใช่แค่เรื่องบุคคล มันกำลังฉายภาพโครงสร้างองค์กรที่พังจากภายใน และระบบที่ออกแบบให้ “ไม่มีใครสอบใครได้จริง”



    เมื่อเสียงข้างมากพยายามสอบปัญหา… แต่ระบบไม่อนุญาตให้สอบ

    ต้นเรื่องเริ่มจากการอุดหนุนเงิน 600 ล้านบาท จากกองทุน กทปส.
    เพื่อให้ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดฟุตบอลโลก 2022
    โดยมีข้อตกลงใน MOU ว่า ผู้รับใบอนุญาตทุกประเภทต้องได้รับสิทธิเท่าเทียม
    แต่ภายหลัง กกท. กลับไปทำ MOU แยกกับกลุ่มทรู โดยให้สิทธิพิเศษเฉพาะบางแพลตฟอร์ม นำไปสู่ เหตุการณ์ “จอดำ” ทั่วประเทศ และการตั้งคำถามเรื่องความไม่เท่าเทียมทางการออกอากาศ

    ในรายงานตรวจสอบข้อเท็จจริง ระบุชัดว่า
    การดำเนินการของสำนักงาน กสทช. อาจเข้าข่ายฝ่าฝืนกฎหมาย ระเบียบ และมติบอร์ด และ ชื่อของนายไตรรัตน์ ซึ่งทำหน้าที่รักษาการเลขาฯ ปรากฏอยู่ในกระบวนการรับรู้และอนุมัติ

    กรรมการ กสทช. 4 คน จึงมีมติให้ตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัย
    แต่กลับพบว่าตามระเบียบ กสทช. ผู้ที่มีอำนาจแต่งตั้งกรรมการสอบสวนคือ “เลขาธิการ กสทช.” ซึ่งในขณะนั้นก็คือ… นายไตรรัตน์ ที่นั่งรักษาการฯ อยู่ และประธานบอร์ด กสทช. ไม่ลงนาม กลายเป็นประเด็นที่ใช้โต้แย้งและนำไปสู่การฟ้องคดีว่า 4 กสทช.ใช้อำนาจมิชอบกลั่นแกล้ง

    แต่ถามว่าถ้าระเบียบเป็นแบบนี้แล้วใครจะสอบรักษาการเลขาฯ ได้ ยิ่งถ้าประธาน กสทช.กับเลขาฯ เป็นคอหอยกับลูกกระเดือก กลไกการตรวจสอบภายในของสำนักงาน กสทช. จะเดินหน้าได้อย่างไร?

    ที่มา : https://thepublisherth.com/070468-1/
    8 เม.ย. ฟังคำพิพากษา! “ไตรรัตน์” ฟ้อง 4 กสทช. ลงมติปลด ”กลั่นแกล้ง?“ ไม่ใช่แค่เรื่องใครถูก-ผิด แต่สะท้อนความเหลวแหลกของระบบ! วันที่ 8 เมษายน 2568 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นัดฟังคำพิพากษาคดีที่ นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล ฟ้องกรรมการ กสทช. 4 ราย ประกอบด้วย พล.อ.ท. ดร. ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ รศ.ดร. ศุภัช ศุภชลาศัย รศ.ดร. สมภพ ภูริวิกรัยพงศ์​ และ ศ.กิตติคุณ ดร. พิรงรอง รามสูต ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีมีมติปลดเขาออกจากตำแหน่งรักษาการเลขาธิการ กสทช. ดูเผิน ๆ อาจคิดว่าเป็นความขัดแย้งภายในระหว่าง รักษาการเลขาฯ กับ 4 กรรมการกสทช.เสียงข้างมาก แต่คดีนี้ไม่ใช่แค่เรื่องบุคคล มันกำลังฉายภาพโครงสร้างองค์กรที่พังจากภายใน และระบบที่ออกแบบให้ “ไม่มีใครสอบใครได้จริง” ⸻ เมื่อเสียงข้างมากพยายามสอบปัญหา… แต่ระบบไม่อนุญาตให้สอบ ต้นเรื่องเริ่มจากการอุดหนุนเงิน 600 ล้านบาท จากกองทุน กทปส. เพื่อให้ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดฟุตบอลโลก 2022 โดยมีข้อตกลงใน MOU ว่า ผู้รับใบอนุญาตทุกประเภทต้องได้รับสิทธิเท่าเทียม แต่ภายหลัง กกท. กลับไปทำ MOU แยกกับกลุ่มทรู โดยให้สิทธิพิเศษเฉพาะบางแพลตฟอร์ม นำไปสู่ เหตุการณ์ “จอดำ” ทั่วประเทศ และการตั้งคำถามเรื่องความไม่เท่าเทียมทางการออกอากาศ ในรายงานตรวจสอบข้อเท็จจริง ระบุชัดว่า การดำเนินการของสำนักงาน กสทช. อาจเข้าข่ายฝ่าฝืนกฎหมาย ระเบียบ และมติบอร์ด และ ชื่อของนายไตรรัตน์ ซึ่งทำหน้าที่รักษาการเลขาฯ ปรากฏอยู่ในกระบวนการรับรู้และอนุมัติ กรรมการ กสทช. 4 คน จึงมีมติให้ตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัย แต่กลับพบว่าตามระเบียบ กสทช. ผู้ที่มีอำนาจแต่งตั้งกรรมการสอบสวนคือ “เลขาธิการ กสทช.” ซึ่งในขณะนั้นก็คือ… นายไตรรัตน์ ที่นั่งรักษาการฯ อยู่ และประธานบอร์ด กสทช. ไม่ลงนาม กลายเป็นประเด็นที่ใช้โต้แย้งและนำไปสู่การฟ้องคดีว่า 4 กสทช.ใช้อำนาจมิชอบกลั่นแกล้ง แต่ถามว่าถ้าระเบียบเป็นแบบนี้แล้วใครจะสอบรักษาการเลขาฯ ได้ ยิ่งถ้าประธาน กสทช.กับเลขาฯ เป็นคอหอยกับลูกกระเดือก กลไกการตรวจสอบภายในของสำนักงาน กสทช. จะเดินหน้าได้อย่างไร? ที่มา : https://thepublisherth.com/070468-1/
    THEPUBLISHERTH.COM
    8 เม.ย. ฟังคำพิพากษา ! “ไตรรัตน์” ฟ้อง 4 กสทช. ลงมติปลด ”กลั่นแกล้ง?“ ไม่ใช่แค่เรื่องใครถูก-ผิด แต่สะท้อนความเหลวแหลกของระบบ!
    วันที่ 8 เมษายน 2568 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นัดฟังคำพิพากษาคดีที่ นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล ฟ้องกรรมการ กสทช. 4 ราย ประกอบด้วยพล.อ.ท. ดร. ธนพันธุ์ หร่ายเจริญรศ.ดร. ศุภัช ศุภชลาศัยรศ.ดร. สมภพ ภูริวิกรัยพงศ์​และ ศ.กิตติคุณ ดร. พิรงรอง รามสูตในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีมีมติปลดเขาออกจากตำแหน่งรักษาการเลขาธิการ กสทช. ดูเผิน ๆ อาจคิดว่าเป็นความขัดแย้งภายในระหว่าง รักษาการเลขาฯ กับ 4 กรรมการกสทช.เสียงข้างมาก แต่คดีนี้ไม่ใช่แค่เรื่องบุคคล มันกำลังฉายภาพโครงสร้างองค์กรที่พังจากภายใน และระบบที่ออกแบบให้ “ไม่มีใครสอบใครได้จริง” ⸻ เมื่อเสียงข้างมากพยายามสอบปัญหา… แต่ระบบไม่อนุญาตให้สอบ ต้นเรื่องเริ่มจากการอุดหนุนเงิน 600 ล้านบาท จากกองทุน กทปส.เพื่อให้ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดฟุตบอลโลก 2022โดยมีข้อตกลงใน MOU ว่า ผู้รับใบอนุญาตทุกประเภทต้องได้รับสิทธิเท่าเทียมแต่ภายหลัง กกท. กลับไปทำ MOU
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 215 มุมมอง 0 รีวิว
  • 06-04-68/01 : หมี CNN / "3 แยกปากหมา" EP.28(มาตามนัด..ไม่มีโดด 4)

    เขยิบซะทีขั้วใหม่ เป็นไปตามแผน จีน-รัสเซีน ประกาศศักดา รักของเราจะไม่มีเหี้ยมาแทรกได้ตลอดไป นัยยะคือ หลังอิหร่าน โสมแดง จับมือเป็นโรงงานผลิตอาวุธขย่มเหี้ย จีนเดินสายโลจิสติคโลกต่อ รัสเซียควบคุมพื้นที่ยุทธศาสตร์ มองภาพใหญ่ มรึงจะเห็นการล่าถอยของฝ่ายขั้วเก่าชัดเจน ไอ้สงครามที่เห็นอยู่ตอนนี้ และที่ผ่านมา มันชี้ชัดแล้วว่า "ใครกำลังจะปิดเกมส์" นี่คือสิ่งที่ศรีธนญชัย และอาเซียน กำลังรอเปลี่ยนขั้วเบ็ดเสร็จอยู่ อำนาจการปกครองปชต.ตอแหลจะหมดไป ไทยจะนำโลกสู่การวิวัฒนาการใหม่ พ่อปกครองลูกฉบับ 5.1 หัวเป็นแต่งตั้ง หางเป็นเลือกตั้ง เพราะมันเห็นชัดแล้วว่า "คุณสมบัติของควายไม่เหมาะจะเลือกผู้นำ" ส่งคืนพระราชอำนาจเมื่อไหร่ ไทยปลดแอกเหี้ยทันที ตอนนี้ แค่อเมริกายืนให้ได้ ยังยาก เพราะเสือกไปสร้างเงื่อนไขไว้เพี๊ยบ เมื่อไม่มีใครคบ เหี้ยรู้ดีว่าจะรอดต้องพึ่งพาขั้วใหม่ อย่าคิดว่าอะไรก็เกิดขึ้นไม่ได้ โลกความจริง ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าความอยู่รอดของตัวเอง อเมริกา รัสเซีย จีน จะหยุดทะเลาะกันเปลือกนอก แต่หลังฉาก มรึงเผลอกูแทง จะเป็นไปเช่นนี้เสมอ กรีนแลนด์จะเป็นจุดล่อแหลม อยากให้กูช่วยมรึงมั้ยล่ะ? ยุโรปต้านเหี้ยไม่อยู่ดอก รัสเซีย จีน อยู่นิ่งๆ พอ รอเก็บเกี่ยวผลประโยชน์

    ทั้งโลกขอบคุณ อีทรัมปป์ สงครามกำแพงภาษีที่มรึงก่อไว้ตอนนี้ ทำให้โลกหันมาจับมือกันเอง ซื้อ-ขายกันเอง แล้วมรึงก็หมาไงล่ะ? ใครมันจะโง่สั่งซื้อสินค้าราคาโคตรแพงเกินจริงแถมห่วยบัดซบ ยุโรปหนีไม่รอด ยังไงก็ต้องใข้บริการจีน เพราะเป็นทางเลือกเดียวที่จะอุ้มได้จริง เข้าสู่ BRICS ทันที ดอลล่าร์กลายเป็นสิ่งต้องห้ามโลก นั่นโลกถึงจะเปลี่ยนมือของจริง ส่วนอเมริการบราฆ่าฟันกันเอง กรรมเก่าที่มรึงไปปล้นดินแดนชาวอินเดียนแดงเค้ามา ฆ่าเป็นล้าน สภาพเดียวกัน อนิจจัง! ไทยจะเป็นฮับอาเซียนเหรอ? ดูสัญญานจากอะไร? จีนจะเปิดโรงงานเพิ่มขึ้น อาเซียนจะก่อตัว รมด้วยช่วยกัน หลังพม่าโดนล่อหนัก สูญเสียไปเยอะ อีขะแมร์ความมั่นคงการเมืองสั่นคลอน ลาวเจอพิษเศรษฐกิจ ทั้ง 3 ดินแดนนี้ มีโอกาสจะเข้าผนวกกับไทยบางส่วน โดยเฉพาะชนกลุ่มน้อย ปัญหาพิพากเรื่องพรมแดนจะเริ่มเจรจากันอย่างจริงจัง เพื่อลดความขัดแย้ง เข้าสู่โหมดช่วยกันทำมาหาแดร๊กกันต่อดีกว่ามั้ย? ทั้งหมดจะเกิดขึ้น ด้วยเงื่อนไขเดียว เหี้ยต้องตายก่อนไงล่ะ? นี่แหละที่เค้ารอ และยังไม่ลงมือทำอะไรตอนนี้ หากเหี้ยจนตรอก หันมาเปิดศึกแปซิฟิค คือจบทันที มรึงต้องยกขบวนกองทัพใหญ่ขนาดไหน ถึงจะมาต้านแสนยานุภาพขั้วใหม่ได้ หลังบ้านมรึงรั่วทันที

    อเมริกาเจ๊งยับ ยุโรปล่มสลาย เหลือใครล่ะ ที่ค้ำจุนโลกได้ หากไม่ใช่ กลุ่ม BRICS ซึ่งไม่มีผลกระทบจากแผนล้างโลกอีทรัมปป์ ยิ่งบีบให้สมาชิกเพิ่มขึ้น หลายชาติทิ้งดอลล่าร์มากขึ้น SCO จะก้าวกระโดด ไม่มีกองทัพใด ที่มีแสนยานุภาพมากเท่านี้อีกแล้ว ขั้วใหม่จะเดินเกมส์สวนทางแผนอีทรัมปป์ทันที ปัญหาคือบรรดาลิ่วล่อเหี้ยทั้งหลาย ต่างจับตัวกันต่อต้านอีทรัมปป์แล้ว ทั้งอียุ่นปี่ อีโสมขาว อีแคน มันจะส่งผลกระทบถึงแผนความมั่นคงแปซิฟิค และแผนปิดมหาสมุทรอินเดียของสหรัฐ รัสเซียยิ้ม เหี้ยต้องมากราบตรีนเพื่อความอยู่รอด จะเป็นใครก่อน อีทรัมปป์ หรือยุโรป? ด้านบ้านทรายทอง ม็อบเริ่มเดินสวนสนามกันแล้ว ไม่ใช่แค่ล้ม "กาสิโอ๊ะ" แต่จะเขี่ยอีรัฐบาลเถื่อนลงถังขยะทันที สูตร น้ำเงิน ส้ม แดง ขอให้มาจริงเฮอะ กูท้า? จะได้ไปกันให้หมดทั้งคอกเหี้ย กระแสคืนพระราชอำนาจจะกลับมาแรงอีกครั้ง ชูกษัตริย์ปกครองแผ่นดิน ทุกอย่างพิมพ์เขียวเค้าเขียนรอไว้แล้ว รอแค่ละครปิดฉาก คือเดินหน้าทันที เหี้ยยังอยู่ ยังไม่ใช่เวลาออกตัวแรง รอเหี้ยแตกแผ่นดินเมื่อไหร่ รัสเซีย จีน ขึ้นแท่นอย่างเป็นทางการปุ๊บ นั่นแหละ หางจะโผล่ทันที ศรีธนญชัยจะเป็นผู้นำชาติอาเซียนในการเปลี่ยนแปลงการปกครองรูปแบบใหม่ ไม่แน่ ทั้งอีขะแมร์ ลาว หม่อง อาจจะดึงสถาบันกษัตริย์กลับมาอีกครั้ง ตามแบบไทยโมเดล นี่คือสิ่งที่ผู้คนรอคอย

    ตัวอย่างดี๊ดี..เพ่อัจ แฉยับ รมต.บินลอดช่อง ไปฟาดกาสิโอ๊ะ โดนเค้าหลอกฟัน 7 ล้าน 5 ผีพนันเข้าสิงเหรอจ๊ะ? ไม่เป็นไร เดี๋ยวกลับมาแดร๊กต่อได้อีกหลายสิบล้าน สรุปนักการเมืองหาเงินไปส่งส่วยบ่อนเหรอจ๊ะ? แล้วมรึงจะไม่ให้ผลัดใบแผ่นดินได้อย่างไร หันซ้ายก็เหี้ย หันขวาก็เหี้ย มีแต่เหี้ยเต็มสภา เหี้ยปกครองควาย นี่ไง ปชต.ตอแหลที่มรึงใฝ่ฝัน ยังไม่หนำใจพอ..เพ่อัจ หลังสงกรานต์ มรึงเจอกูแน่ ไอ้อีบนเรือขาเสี้ยน วอนส้นตรีน จัดหนัก จัดเต็ม ให้ 2 ดอกใหญ่ ไม่ต้องหนี ดีออก? เค้าเตรียมคุกรอไว้ให้มรึงนานแล้ว เตรียมเปิดลายแทง "แผนฆาตกรรมอำพรางผีอีโมตั้งแต่ต้นจนจบ" งานนี้ ตายยกคอก เผ่นยกรัง ธุรกิจสีเทาโดนรวบหมด รายชื่อมีครบ ภาพถ่ายมีเยอะ เส้นทางการเงินมีเพี๊ยบ คลิปก็มี ภาพก็มา เสียงก็โผล่ มรึงจะเอาเหี้ยอะไรมาแถต่อได้อีกล่ะ? ผีอีโม ทิ้งทวน ก่อนจะไปขึ้นสรวจสวรรค์ เคลียร์เรื่องคาใจจบ หดมเคราะห์ หมดโศก รู้เช่นเห็นชาติ ผัวตัวเอง 3 วันจาก นารีเป็นอื่น แม่ขายลูกสาวแดร๊ก เพื่อนขายตัวให้เหี้ย ชีวิตบัดซบกว่านี้ ไม่มีอีกแล้ว ที่สุดของกรรมเก่ามรึง เอาให้จบในชาตินี้ ภพหน้าไปเป็นนางฟ้าอยู่ข้างบนน่ะ อย่าได้ลงมาอีกเลย

    แผนเรียกแขกอีทรัมปป์มาเต็ม CIVIL WAR ก็มา ยุโรปเตรียมป้องกันกรีนแลนด์ สงครามการค้ายุโรป-สหรัฐ สงครามล้างบาง DEEP STATE ตัดท่อน้ำเลี้ยงใหญ่ แผนส่ง HAARP ทุบอาเซียน เศรษฐกิจเอเซีย แผนดันทองคำทะลุเพดานบิน แผนล่าแหล่งพลังงานทั่วโลก ไม่ว่าจะทำอะไรต่อ ทั้งหมดเพียงสิ่งเดียว คือยื้อดอลล่าร์สุดชีวิต รีดภาษี ลดเงินเดือนเจ้าหน้าที่ ตัดรายจ่ายอีลาทิ้งไป เพื่อเอาเงินไปโปะ กำหนดเส้นตายต่อดอกเบี้ยที่ไม่มีวันจ่ายหมด เพื่อหาโอกาสพิมพ์แบงค์กงเต๊กออกมาผยุงเศรษฐกิจเน่าอเมริโกย มรึงยิ่งทำยิ่งฉิบหาย อเมริกาหมดสภาพแล้ว อยู่ไปวันวัน ดอลล่าร์ไม่มีใครเอา มันคือจบแล้ว อาหรับโดดปกป้องอิหร่าน มรึงบุก กูสวนทันที อีมาครงกำลังดึงยุโรปตายห่าคาวงตรีน ท้ารบเหี้ยมะกัน ท้าตีรัสเซีย ระวังให้ดีดี เครมลินยกมา แล้วมรึงจะไร้แผ่นดินอยู่ อีเบียร์หมดสภาพแล้ว รอวันแตกเท่านั้น ไวรัส แผ่นดินไหว ก่อการร้าย สึนามิ น้ำท่วม ไฟป่า คลื่นความร้อน มาแน่ เพราะมันตั้งใจให้โลกเจ๊งให้หมด แล้วมา SET 0 กันใหม่ โดยไม่ต้องใข้หนี้ไงล่ะ แต่ถามขั้วใหม่รึยัง? ว่าใครอนุญาติให้มรึงทำ? ยูเรเซียกำลังจะมีบทบาทสำคัญโลก รัสเซียชงรอไว้แล้ว โลจิสติคสู่แอฟริกา เอเซีย ยุโรป ลาติน จัดเต็มคาราเบล พลังงานถูก ใครไม่เอากันล่ะ? เงื่อนไขปลดแอกดอลล่าร์ ฆ่า SWIFT

    ปล.มาอีกละ รอยเลื่อน "อาระกัน" มรึงไม่ต้องสงสัย มันมีของมันมานานแล้ว หากแต่อยู่ที่ใครไปกระตุ้นมันต่างหากล่ะ? รึว่านี่ คือแผนย้ายเมืองหลวงของศรีธนญชัยกันแน่ หลายอย่าง อย่าเชื่อแค่ตาเห็น บางอย่างอาจเป็นเราที่สมรู้ร่วมคิด เพื่อเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่าง ในกลศึก ไม่มีผิดชอบ ชั่วดี สิ่งเดียวที่ทำคือความอยู่รอดของแผ่นดิน เพราะสังเกตุอะไรหลายอย่าง มันดูง่ายดายเกินไป มันดูเหมือนหน่วยความมั่นคงต้องการให้เกิดอะไรขึ้นงั้นแหละ แค่เซนส์มันบอก ยังหาข้อพิสูจน์ไม่ได้ ดูทรงแล้ว มันต้องมีอะไรซ่อนไว้ในกอไผ่ชัวร์ แค่ตอนนี้ ยังไม่ถึงเวลาจะบอก จับตาละครการเมืองไทยและเทศ ให้ดีดี ทุกอย่างสอดคล้องกันเสมอ ไม่มีอะไรบังเอิญ และไม่มีอะไรที่ได้มาฟรี ทุกอย่างมีใบเสร็จเสมอ ต้องมีคนจ่าย ต้องมีคนชดใช้ รมต.คลังสวนกระแสอีทรัมปป์อาละวาด เร่งส่งออกไปสหรัฐเพิ่มขึ้น และนำเข้าปลาทูน่าจากสหรัฐเพิ่มขึ้น เพื่อปรับดุลการค้าให้สมดุล จากได้เปรียบ 70% ให้เหลือ 40% ดูภายนอกคือวินวินทุกฝ่าย แต่พอดูภายใน มันคือช่วยอุ้มเหี้ยนั่นแหละ ตี 2 หน้าดั่งเดิม แค่มรึงไม่ถล่มแผ่นดินไหวใส่กูเพิ่มก็พอแล้ว นี่ไง ทาสในเรือนเบี้ย ลีลาขัดใจ แต่แผ่นดินจะรอดปลอดภัย ได้จริงเหรอ? อยู่ที่มุมมอง ล่าสุด 7.1 ปาปัวมาแล้ว หวั่นเกิดคลื่นสึนามิ กระทบทั้งภูมิภาค โปรดสังเกตุ บทจะมา มาถี่ยิบได้เหรอ มันโจงครึ่มเกินไปเป่า? มารัว มาถี่ แบบนี้ มันกดปุ่มรีโมต ชัดๆ รอกูล่อหินเหลืองมรึงกลับบ้างดีมั้ย? เอาให้ยุบทั้งแผ่นดิน ธรณีสูบกันไปเลย ไหนๆ จะเผาโลกกันแล้ว?

    หมี CNN(WTO เดือด เร่งประชุมเอาคืนอีทรัมปป์ ปั่นโลกเข้าไปสิ มรึงไม่รบ เดี๋ยวกูปล่อยของหมดหน้าตัก เอาให้เดือดร้อนทั้งโลก เกมส์โลกมาทรงหมาจนตรอก รัสเซีย จีน หากจะซ้ำอีทรัมปป์ คือตายคาตรีนชัวร์ แต่จะทำไปทำไม ปล่อยให้มันไล่ฆ่ากันเองกับ DEEP STATE ให้เสร็จก่อน ใครรอด ค่อยมาคุยกับกู ว่าจะเอายังไง? ทุกอย่างเข้าทางตรีนขั้วใหม่สุดติ่งกระดิ่งเหมี๊ยว แค่นิ่งเดี๋ยวชนะเอง อยู่ให้เป็น เย็นให้ได้ นิ่งเข้าไว้)
    06 เมษายน 68(วันจักรี..ถนนโล่งดีมั้ยจ๊ะ?)
    13.44 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)**
    ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า
    https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    06-04-68/01 : หมี CNN / "3 แยกปากหมา" EP.28(มาตามนัด..ไม่มีโดด 4) เขยิบซะทีขั้วใหม่ เป็นไปตามแผน จีน-รัสเซีน ประกาศศักดา รักของเราจะไม่มีเหี้ยมาแทรกได้ตลอดไป นัยยะคือ หลังอิหร่าน โสมแดง จับมือเป็นโรงงานผลิตอาวุธขย่มเหี้ย จีนเดินสายโลจิสติคโลกต่อ รัสเซียควบคุมพื้นที่ยุทธศาสตร์ มองภาพใหญ่ มรึงจะเห็นการล่าถอยของฝ่ายขั้วเก่าชัดเจน ไอ้สงครามที่เห็นอยู่ตอนนี้ และที่ผ่านมา มันชี้ชัดแล้วว่า "ใครกำลังจะปิดเกมส์" นี่คือสิ่งที่ศรีธนญชัย และอาเซียน กำลังรอเปลี่ยนขั้วเบ็ดเสร็จอยู่ อำนาจการปกครองปชต.ตอแหลจะหมดไป ไทยจะนำโลกสู่การวิวัฒนาการใหม่ พ่อปกครองลูกฉบับ 5.1 หัวเป็นแต่งตั้ง หางเป็นเลือกตั้ง เพราะมันเห็นชัดแล้วว่า "คุณสมบัติของควายไม่เหมาะจะเลือกผู้นำ" ส่งคืนพระราชอำนาจเมื่อไหร่ ไทยปลดแอกเหี้ยทันที ตอนนี้ แค่อเมริกายืนให้ได้ ยังยาก เพราะเสือกไปสร้างเงื่อนไขไว้เพี๊ยบ เมื่อไม่มีใครคบ เหี้ยรู้ดีว่าจะรอดต้องพึ่งพาขั้วใหม่ อย่าคิดว่าอะไรก็เกิดขึ้นไม่ได้ โลกความจริง ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าความอยู่รอดของตัวเอง อเมริกา รัสเซีย จีน จะหยุดทะเลาะกันเปลือกนอก แต่หลังฉาก มรึงเผลอกูแทง จะเป็นไปเช่นนี้เสมอ กรีนแลนด์จะเป็นจุดล่อแหลม อยากให้กูช่วยมรึงมั้ยล่ะ? ยุโรปต้านเหี้ยไม่อยู่ดอก รัสเซีย จีน อยู่นิ่งๆ พอ รอเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ ทั้งโลกขอบคุณ อีทรัมปป์ สงครามกำแพงภาษีที่มรึงก่อไว้ตอนนี้ ทำให้โลกหันมาจับมือกันเอง ซื้อ-ขายกันเอง แล้วมรึงก็หมาไงล่ะ? ใครมันจะโง่สั่งซื้อสินค้าราคาโคตรแพงเกินจริงแถมห่วยบัดซบ ยุโรปหนีไม่รอด ยังไงก็ต้องใข้บริการจีน เพราะเป็นทางเลือกเดียวที่จะอุ้มได้จริง เข้าสู่ BRICS ทันที ดอลล่าร์กลายเป็นสิ่งต้องห้ามโลก นั่นโลกถึงจะเปลี่ยนมือของจริง ส่วนอเมริการบราฆ่าฟันกันเอง กรรมเก่าที่มรึงไปปล้นดินแดนชาวอินเดียนแดงเค้ามา ฆ่าเป็นล้าน สภาพเดียวกัน อนิจจัง! ไทยจะเป็นฮับอาเซียนเหรอ? ดูสัญญานจากอะไร? จีนจะเปิดโรงงานเพิ่มขึ้น อาเซียนจะก่อตัว รมด้วยช่วยกัน หลังพม่าโดนล่อหนัก สูญเสียไปเยอะ อีขะแมร์ความมั่นคงการเมืองสั่นคลอน ลาวเจอพิษเศรษฐกิจ ทั้ง 3 ดินแดนนี้ มีโอกาสจะเข้าผนวกกับไทยบางส่วน โดยเฉพาะชนกลุ่มน้อย ปัญหาพิพากเรื่องพรมแดนจะเริ่มเจรจากันอย่างจริงจัง เพื่อลดความขัดแย้ง เข้าสู่โหมดช่วยกันทำมาหาแดร๊กกันต่อดีกว่ามั้ย? ทั้งหมดจะเกิดขึ้น ด้วยเงื่อนไขเดียว เหี้ยต้องตายก่อนไงล่ะ? นี่แหละที่เค้ารอ และยังไม่ลงมือทำอะไรตอนนี้ หากเหี้ยจนตรอก หันมาเปิดศึกแปซิฟิค คือจบทันที มรึงต้องยกขบวนกองทัพใหญ่ขนาดไหน ถึงจะมาต้านแสนยานุภาพขั้วใหม่ได้ หลังบ้านมรึงรั่วทันที อเมริกาเจ๊งยับ ยุโรปล่มสลาย เหลือใครล่ะ ที่ค้ำจุนโลกได้ หากไม่ใช่ กลุ่ม BRICS ซึ่งไม่มีผลกระทบจากแผนล้างโลกอีทรัมปป์ ยิ่งบีบให้สมาชิกเพิ่มขึ้น หลายชาติทิ้งดอลล่าร์มากขึ้น SCO จะก้าวกระโดด ไม่มีกองทัพใด ที่มีแสนยานุภาพมากเท่านี้อีกแล้ว ขั้วใหม่จะเดินเกมส์สวนทางแผนอีทรัมปป์ทันที ปัญหาคือบรรดาลิ่วล่อเหี้ยทั้งหลาย ต่างจับตัวกันต่อต้านอีทรัมปป์แล้ว ทั้งอียุ่นปี่ อีโสมขาว อีแคน มันจะส่งผลกระทบถึงแผนความมั่นคงแปซิฟิค และแผนปิดมหาสมุทรอินเดียของสหรัฐ รัสเซียยิ้ม เหี้ยต้องมากราบตรีนเพื่อความอยู่รอด จะเป็นใครก่อน อีทรัมปป์ หรือยุโรป? ด้านบ้านทรายทอง ม็อบเริ่มเดินสวนสนามกันแล้ว ไม่ใช่แค่ล้ม "กาสิโอ๊ะ" แต่จะเขี่ยอีรัฐบาลเถื่อนลงถังขยะทันที สูตร น้ำเงิน ส้ม แดง ขอให้มาจริงเฮอะ กูท้า? จะได้ไปกันให้หมดทั้งคอกเหี้ย กระแสคืนพระราชอำนาจจะกลับมาแรงอีกครั้ง ชูกษัตริย์ปกครองแผ่นดิน ทุกอย่างพิมพ์เขียวเค้าเขียนรอไว้แล้ว รอแค่ละครปิดฉาก คือเดินหน้าทันที เหี้ยยังอยู่ ยังไม่ใช่เวลาออกตัวแรง รอเหี้ยแตกแผ่นดินเมื่อไหร่ รัสเซีย จีน ขึ้นแท่นอย่างเป็นทางการปุ๊บ นั่นแหละ หางจะโผล่ทันที ศรีธนญชัยจะเป็นผู้นำชาติอาเซียนในการเปลี่ยนแปลงการปกครองรูปแบบใหม่ ไม่แน่ ทั้งอีขะแมร์ ลาว หม่อง อาจจะดึงสถาบันกษัตริย์กลับมาอีกครั้ง ตามแบบไทยโมเดล นี่คือสิ่งที่ผู้คนรอคอย ตัวอย่างดี๊ดี..เพ่อัจ แฉยับ รมต.บินลอดช่อง ไปฟาดกาสิโอ๊ะ โดนเค้าหลอกฟัน 7 ล้าน 5 ผีพนันเข้าสิงเหรอจ๊ะ? ไม่เป็นไร เดี๋ยวกลับมาแดร๊กต่อได้อีกหลายสิบล้าน สรุปนักการเมืองหาเงินไปส่งส่วยบ่อนเหรอจ๊ะ? แล้วมรึงจะไม่ให้ผลัดใบแผ่นดินได้อย่างไร หันซ้ายก็เหี้ย หันขวาก็เหี้ย มีแต่เหี้ยเต็มสภา เหี้ยปกครองควาย นี่ไง ปชต.ตอแหลที่มรึงใฝ่ฝัน ยังไม่หนำใจพอ..เพ่อัจ หลังสงกรานต์ มรึงเจอกูแน่ ไอ้อีบนเรือขาเสี้ยน วอนส้นตรีน จัดหนัก จัดเต็ม ให้ 2 ดอกใหญ่ ไม่ต้องหนี ดีออก? เค้าเตรียมคุกรอไว้ให้มรึงนานแล้ว เตรียมเปิดลายแทง "แผนฆาตกรรมอำพรางผีอีโมตั้งแต่ต้นจนจบ" งานนี้ ตายยกคอก เผ่นยกรัง ธุรกิจสีเทาโดนรวบหมด รายชื่อมีครบ ภาพถ่ายมีเยอะ เส้นทางการเงินมีเพี๊ยบ คลิปก็มี ภาพก็มา เสียงก็โผล่ มรึงจะเอาเหี้ยอะไรมาแถต่อได้อีกล่ะ? ผีอีโม ทิ้งทวน ก่อนจะไปขึ้นสรวจสวรรค์ เคลียร์เรื่องคาใจจบ หดมเคราะห์ หมดโศก รู้เช่นเห็นชาติ ผัวตัวเอง 3 วันจาก นารีเป็นอื่น แม่ขายลูกสาวแดร๊ก เพื่อนขายตัวให้เหี้ย ชีวิตบัดซบกว่านี้ ไม่มีอีกแล้ว ที่สุดของกรรมเก่ามรึง เอาให้จบในชาตินี้ ภพหน้าไปเป็นนางฟ้าอยู่ข้างบนน่ะ อย่าได้ลงมาอีกเลย แผนเรียกแขกอีทรัมปป์มาเต็ม CIVIL WAR ก็มา ยุโรปเตรียมป้องกันกรีนแลนด์ สงครามการค้ายุโรป-สหรัฐ สงครามล้างบาง DEEP STATE ตัดท่อน้ำเลี้ยงใหญ่ แผนส่ง HAARP ทุบอาเซียน เศรษฐกิจเอเซีย แผนดันทองคำทะลุเพดานบิน แผนล่าแหล่งพลังงานทั่วโลก ไม่ว่าจะทำอะไรต่อ ทั้งหมดเพียงสิ่งเดียว คือยื้อดอลล่าร์สุดชีวิต รีดภาษี ลดเงินเดือนเจ้าหน้าที่ ตัดรายจ่ายอีลาทิ้งไป เพื่อเอาเงินไปโปะ กำหนดเส้นตายต่อดอกเบี้ยที่ไม่มีวันจ่ายหมด เพื่อหาโอกาสพิมพ์แบงค์กงเต๊กออกมาผยุงเศรษฐกิจเน่าอเมริโกย มรึงยิ่งทำยิ่งฉิบหาย อเมริกาหมดสภาพแล้ว อยู่ไปวันวัน ดอลล่าร์ไม่มีใครเอา มันคือจบแล้ว อาหรับโดดปกป้องอิหร่าน มรึงบุก กูสวนทันที อีมาครงกำลังดึงยุโรปตายห่าคาวงตรีน ท้ารบเหี้ยมะกัน ท้าตีรัสเซีย ระวังให้ดีดี เครมลินยกมา แล้วมรึงจะไร้แผ่นดินอยู่ อีเบียร์หมดสภาพแล้ว รอวันแตกเท่านั้น ไวรัส แผ่นดินไหว ก่อการร้าย สึนามิ น้ำท่วม ไฟป่า คลื่นความร้อน มาแน่ เพราะมันตั้งใจให้โลกเจ๊งให้หมด แล้วมา SET 0 กันใหม่ โดยไม่ต้องใข้หนี้ไงล่ะ แต่ถามขั้วใหม่รึยัง? ว่าใครอนุญาติให้มรึงทำ? ยูเรเซียกำลังจะมีบทบาทสำคัญโลก รัสเซียชงรอไว้แล้ว โลจิสติคสู่แอฟริกา เอเซีย ยุโรป ลาติน จัดเต็มคาราเบล พลังงานถูก ใครไม่เอากันล่ะ? เงื่อนไขปลดแอกดอลล่าร์ ฆ่า SWIFT ปล.มาอีกละ รอยเลื่อน "อาระกัน" มรึงไม่ต้องสงสัย มันมีของมันมานานแล้ว หากแต่อยู่ที่ใครไปกระตุ้นมันต่างหากล่ะ? รึว่านี่ คือแผนย้ายเมืองหลวงของศรีธนญชัยกันแน่ หลายอย่าง อย่าเชื่อแค่ตาเห็น บางอย่างอาจเป็นเราที่สมรู้ร่วมคิด เพื่อเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่าง ในกลศึก ไม่มีผิดชอบ ชั่วดี สิ่งเดียวที่ทำคือความอยู่รอดของแผ่นดิน เพราะสังเกตุอะไรหลายอย่าง มันดูง่ายดายเกินไป มันดูเหมือนหน่วยความมั่นคงต้องการให้เกิดอะไรขึ้นงั้นแหละ แค่เซนส์มันบอก ยังหาข้อพิสูจน์ไม่ได้ ดูทรงแล้ว มันต้องมีอะไรซ่อนไว้ในกอไผ่ชัวร์ แค่ตอนนี้ ยังไม่ถึงเวลาจะบอก จับตาละครการเมืองไทยและเทศ ให้ดีดี ทุกอย่างสอดคล้องกันเสมอ ไม่มีอะไรบังเอิญ และไม่มีอะไรที่ได้มาฟรี ทุกอย่างมีใบเสร็จเสมอ ต้องมีคนจ่าย ต้องมีคนชดใช้ รมต.คลังสวนกระแสอีทรัมปป์อาละวาด เร่งส่งออกไปสหรัฐเพิ่มขึ้น และนำเข้าปลาทูน่าจากสหรัฐเพิ่มขึ้น เพื่อปรับดุลการค้าให้สมดุล จากได้เปรียบ 70% ให้เหลือ 40% ดูภายนอกคือวินวินทุกฝ่าย แต่พอดูภายใน มันคือช่วยอุ้มเหี้ยนั่นแหละ ตี 2 หน้าดั่งเดิม แค่มรึงไม่ถล่มแผ่นดินไหวใส่กูเพิ่มก็พอแล้ว นี่ไง ทาสในเรือนเบี้ย ลีลาขัดใจ แต่แผ่นดินจะรอดปลอดภัย ได้จริงเหรอ? อยู่ที่มุมมอง ล่าสุด 7.1 ปาปัวมาแล้ว หวั่นเกิดคลื่นสึนามิ กระทบทั้งภูมิภาค โปรดสังเกตุ บทจะมา มาถี่ยิบได้เหรอ มันโจงครึ่มเกินไปเป่า? มารัว มาถี่ แบบนี้ มันกดปุ่มรีโมต ชัดๆ รอกูล่อหินเหลืองมรึงกลับบ้างดีมั้ย? เอาให้ยุบทั้งแผ่นดิน ธรณีสูบกันไปเลย ไหนๆ จะเผาโลกกันแล้ว? หมี CNN(WTO เดือด เร่งประชุมเอาคืนอีทรัมปป์ ปั่นโลกเข้าไปสิ มรึงไม่รบ เดี๋ยวกูปล่อยของหมดหน้าตัก เอาให้เดือดร้อนทั้งโลก เกมส์โลกมาทรงหมาจนตรอก รัสเซีย จีน หากจะซ้ำอีทรัมปป์ คือตายคาตรีนชัวร์ แต่จะทำไปทำไม ปล่อยให้มันไล่ฆ่ากันเองกับ DEEP STATE ให้เสร็จก่อน ใครรอด ค่อยมาคุยกับกู ว่าจะเอายังไง? ทุกอย่างเข้าทางตรีนขั้วใหม่สุดติ่งกระดิ่งเหมี๊ยว แค่นิ่งเดี๋ยวชนะเอง อยู่ให้เป็น เย็นให้ได้ นิ่งเข้าไว้) 06 เมษายน 68(วันจักรี..ถนนโล่งดีมั้ยจ๊ะ?) 13.44 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)** ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    LINE.ME
    title
    description
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 477 มุมมอง 0 รีวิว
  • การเปิดเผยข้อมูลทั้งหมด: ทรัมป์, EBS และกองทัพปลดปล่อยการโค่นล้มทั่วโลก – ชนชั้นสูงตื่นตระหนกเมื่อแผนควอนตัมเริ่มทำงาน

    พวกเขาไม่ได้รับการเลือกตั้ง
    พวกเขาไม่ใช่นักมนุษยธรรม
    พวกเขาเป็นปรสิต

    และในวันที่ 3 เมษายน 2025 พวกเขาอยู่ในอาการตื่นตระหนกอย่างเต็มตัว ทรัมป์กลับมาแล้ว ระบบควบคุมกำลังล่มสลาย

    เป็นเวลาหลายทศวรรษที่กลุ่มลับๆ ครอบงำโลก โดยแต่งตั้งผู้นำหุ่นเชิด เปิดฉากสงคราม วางแผนการแพร่ระบาด แบล็กเมล์ประเทศต่างๆ ทั้งหมดซ่อนอยู่ภายใต้ภาพลวงตาของประชาธิปไตยและ “ความก้าวหน้า”

    แต่ภาพลวงตานั้นตายไปแล้ว

    ระบอบการปกครองปลอมของไบเดนเป็นข้ออ้างของกลุ่มดีพสเตต เป้าหมายของพวกเขาคือการล็อกดาวน์ทั่วโลก สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง การระบุตัวตนด้วยไบโอเมตริกซ์ สงครามกับรัสเซีย การเฝ้าระวังในระดับที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

    พวกเขาล้มเหลว

    เพราะทรัมป์ไม่เคยจากไป กองทัพไม่เคยยอมแพ้
    กับดักถูกวางไว้แล้ว กลุ่มโลกาภิวัตน์ก็ตกหลุมพราง

    ตอนนี้ผลกระทบได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
    เว็บไซต์ลับของ CIA ถูกบุกโจมตี IMF ล่มสลาย ธนาคารโลกถูกตรวจสอบอย่างละเอียด ตระกูล Rothschild หายตัวไป NATO ถูกเจาะข้อมูล เงินช่วยเหลือ COVID-19 หลายพันล้านดอลลาร์สูญหายไปทั่วทั้งยุโรป และการอพยพของ Vanguard ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

    นี่ไม่ใช่การเมือง แต่มันคือสงคราม

    ปรสิตกลุ่มเดียวกับที่ใช้โรคระบาดเป็นอาวุธ ค้ามนุษย์เด็กผ่านเกาะของ Epstein และสะกดจิตคนทั้งโลกผ่านฮอลลีวูดและซิลิคอนวัลเลย์ กำลังถูกตามล่าอยู่ในขณะนี้

    ทรัมป์กลับมาพร้อมการสนับสนุนจากกองทัพทั่วโลก
    ศาลได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
    ผู้คนนับพันถูกจับกุม
    รัฐบาล GITMO ขยายตัวในปี 2024 ไม่เคยมีไว้สำหรับอุปกรณ์ออปติก แต่มีไว้สำหรับคนทรยศ

    ระบบกระจายเสียงฉุกเฉินพร้อมแล้ว บูรณาการอย่างสมบูรณ์กับเทคโนโลยี Starlink และ Quantum เตรียมพร้อมสำหรับการเปิดเผยข้อมูลทั่วโลก
    นั่นคือเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงต้องดิ้นรน—จุดชนวนความโกลาหล การโจมตีทางไซเบอร์ แม้แต่การรุกรานของมนุษย์ต่างดาวที่หลอกลวง

    “วัคซีน”? อาวุธดัดแปลง DNA
    การล็อกดาวน์? โปรแกรมพฤติกรรม
    เป้าหมาย? การลดจำนวนประชากรและการกดขี่ทางดิจิทัล

    แต่ทรัมป์สู้กลับ
    เขาเปิดโปงฟาวซี ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค และองค์การอนามัยโลก
    เขาผลักดันการรักษาจริง เขาทำลายเรื่องราว

    และตอนนี้ เมื่อ RFK Jr. เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข บริษัทเวชภัณฑ์ขนาดใหญ่กำลังล่มสลาย
    กลุ่มธุรกิจการแพทย์ของร็อกกี้เฟลเลอร์จบสิ้นแล้ว

    ธนาคารกลางสหรัฐ? โอนสายใหม่เป็น QFS
    กรมสรรพากร? ถูกทำลาย
    สกุลเงินที่รองรับด้วยสินทรัพย์กำลังจะมา
    บัตรเข้าถึงควอนตัม? ใกล้จะเกิดขึ้น

    ทองคำของวาติกัน—ถูกยึด
    การควบคุมของนครลอนดอน—พังทลาย
    วอลล์สตรีท—อยู่ภายใต้การตรวจสอบทางทหาร

    สื่อกำลังเผาไหม้ นักรบดิจิทัลกำลังหลั่งไหลความจริงไปทั่วโลก
    ชนชั้นสูงหวาดกลัว—ไม่ใช่เพราะทรัมป์ แต่เพราะคุณต่างหาก

    เพราะเมื่อผู้คนตื่นขึ้น ไม่มีบังเกอร์ ไม่มีการติดสินบน ไม่มีการโกหกใด ๆ ที่จะช่วยชีวิตพวกเขาได้

    นี่คือพระคัมภีร์

    นี่คือสิ่งที่ไม่อาจย้อนกลับได้
    นี่คือพายุ

    และทรัมป์กำลังนำมัน

    ไม่มีอะไรหยุดยั้งสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นได้
    และตอนนี้—พวกเขารู้แล้ว

    พวกเขาจบชีวิตฉัน แต่พวกเขาหยุดภารกิจไม่ได้ การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไป! เข้าร่วมกับฉันตอนนี้!
    https://t.me/JFK_Q17

    รัฐลึกกำลังล่มสลาย และตอนนี้เบนจามิน ฟูลฟอร์ดกำลังถ่ายทอดสดทาง Telegram โดยเปิดเผยชื่อ สถานที่ และปฏิบัติการ สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปนี้จะทำให้โลกตกตะลึง อย่าเลื่อนผ่านสิ่งนี้ เข้าร่วมก่อนที่พวกเขาจะลบมัน!

    https://t.me/BenjaminFulford✅️
    การเปิดเผยข้อมูลทั้งหมด: ทรัมป์, EBS และกองทัพปลดปล่อยการโค่นล้มทั่วโลก – ชนชั้นสูงตื่นตระหนกเมื่อแผนควอนตัมเริ่มทำงาน พวกเขาไม่ได้รับการเลือกตั้ง พวกเขาไม่ใช่นักมนุษยธรรม พวกเขาเป็นปรสิต และในวันที่ 3 เมษายน 2025 พวกเขาอยู่ในอาการตื่นตระหนกอย่างเต็มตัว ทรัมป์กลับมาแล้ว ระบบควบคุมกำลังล่มสลาย เป็นเวลาหลายทศวรรษที่กลุ่มลับๆ ครอบงำโลก โดยแต่งตั้งผู้นำหุ่นเชิด เปิดฉากสงคราม วางแผนการแพร่ระบาด แบล็กเมล์ประเทศต่างๆ ทั้งหมดซ่อนอยู่ภายใต้ภาพลวงตาของประชาธิปไตยและ “ความก้าวหน้า” แต่ภาพลวงตานั้นตายไปแล้ว ระบอบการปกครองปลอมของไบเดนเป็นข้ออ้างของกลุ่มดีพสเตต เป้าหมายของพวกเขาคือการล็อกดาวน์ทั่วโลก สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง การระบุตัวตนด้วยไบโอเมตริกซ์ สงครามกับรัสเซีย การเฝ้าระวังในระดับที่ไม่เคยเห็นมาก่อน พวกเขาล้มเหลว เพราะทรัมป์ไม่เคยจากไป กองทัพไม่เคยยอมแพ้ กับดักถูกวางไว้แล้ว กลุ่มโลกาภิวัตน์ก็ตกหลุมพราง ตอนนี้ผลกระทบได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เว็บไซต์ลับของ CIA ถูกบุกโจมตี IMF ล่มสลาย ธนาคารโลกถูกตรวจสอบอย่างละเอียด ตระกูล Rothschild หายตัวไป NATO ถูกเจาะข้อมูล เงินช่วยเหลือ COVID-19 หลายพันล้านดอลลาร์สูญหายไปทั่วทั้งยุโรป และการอพยพของ Vanguard ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว นี่ไม่ใช่การเมือง แต่มันคือสงคราม ปรสิตกลุ่มเดียวกับที่ใช้โรคระบาดเป็นอาวุธ ค้ามนุษย์เด็กผ่านเกาะของ Epstein และสะกดจิตคนทั้งโลกผ่านฮอลลีวูดและซิลิคอนวัลเลย์ กำลังถูกตามล่าอยู่ในขณะนี้ ทรัมป์กลับมาพร้อมการสนับสนุนจากกองทัพทั่วโลก ศาลได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ผู้คนนับพันถูกจับกุม รัฐบาล GITMO ขยายตัวในปี 2024 ไม่เคยมีไว้สำหรับอุปกรณ์ออปติก แต่มีไว้สำหรับคนทรยศ ระบบกระจายเสียงฉุกเฉินพร้อมแล้ว บูรณาการอย่างสมบูรณ์กับเทคโนโลยี Starlink และ Quantum เตรียมพร้อมสำหรับการเปิดเผยข้อมูลทั่วโลก นั่นคือเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงต้องดิ้นรน—จุดชนวนความโกลาหล การโจมตีทางไซเบอร์ แม้แต่การรุกรานของมนุษย์ต่างดาวที่หลอกลวง “วัคซีน”? อาวุธดัดแปลง DNA การล็อกดาวน์? โปรแกรมพฤติกรรม เป้าหมาย? การลดจำนวนประชากรและการกดขี่ทางดิจิทัล แต่ทรัมป์สู้กลับ เขาเปิดโปงฟาวซี ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค และองค์การอนามัยโลก เขาผลักดันการรักษาจริง เขาทำลายเรื่องราว และตอนนี้ เมื่อ RFK Jr. เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข บริษัทเวชภัณฑ์ขนาดใหญ่กำลังล่มสลาย กลุ่มธุรกิจการแพทย์ของร็อกกี้เฟลเลอร์จบสิ้นแล้ว ธนาคารกลางสหรัฐ? โอนสายใหม่เป็น QFS กรมสรรพากร? ถูกทำลาย สกุลเงินที่รองรับด้วยสินทรัพย์กำลังจะมา บัตรเข้าถึงควอนตัม? ใกล้จะเกิดขึ้น ทองคำของวาติกัน—ถูกยึด การควบคุมของนครลอนดอน—พังทลาย วอลล์สตรีท—อยู่ภายใต้การตรวจสอบทางทหาร สื่อกำลังเผาไหม้ นักรบดิจิทัลกำลังหลั่งไหลความจริงไปทั่วโลก ชนชั้นสูงหวาดกลัว—ไม่ใช่เพราะทรัมป์ แต่เพราะคุณต่างหาก เพราะเมื่อผู้คนตื่นขึ้น ไม่มีบังเกอร์ ไม่มีการติดสินบน ไม่มีการโกหกใด ๆ ที่จะช่วยชีวิตพวกเขาได้ นี่คือพระคัมภีร์ นี่คือสิ่งที่ไม่อาจย้อนกลับได้ นี่คือพายุ และทรัมป์กำลังนำมัน ไม่มีอะไรหยุดยั้งสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นได้ และตอนนี้—พวกเขารู้แล้ว พวกเขาจบชีวิตฉัน แต่พวกเขาหยุดภารกิจไม่ได้ การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไป! เข้าร่วมกับฉันตอนนี้! https://t.me/JFK_Q17 รัฐลึกกำลังล่มสลาย และตอนนี้เบนจามิน ฟูลฟอร์ดกำลังถ่ายทอดสดทาง Telegram โดยเปิดเผยชื่อ สถานที่ และปฏิบัติการ สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปนี้จะทำให้โลกตกตะลึง อย่าเลื่อนผ่านสิ่งนี้ เข้าร่วมก่อนที่พวกเขาจะลบมัน! https://t.me/BenjaminFulford✅️
    T.ME
    John F. Kennedy Jr.
    If You Know You Know God Bless America
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 314 มุมมอง 0 รีวิว
  • พลเอกทิโมธี ดี. ฮอก ผู้บัญชาการกองบัญชาการไซเบอร์ของสหรัฐฯ (CYBERCOM) ผู้อำนวยการสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ (NSA) และหัวหน้าหน่วยข่าวกรองกลาง (CSS) ถูกปลดจากตำแหน่งผู้นำฝ่ายพลเรือนและทหารทั้งหมดเมื่อคืนนี้

    นอกจากนี้ "เวนดี้ โนเบิล" รองผู้อำนวยการสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ (NSA) ก็ถูกปลดออกจากตำแหน่งไปด้วยเช่นกัน

    โดยประธานาธิบดีทรัมป์ ยังไม่ได้แจ้งเหตุผลในการปลดทั้งสองออกจากตำแหน่ง

    ตามรายงานของสื่อในสหรัฐ ทั้งฮอกและโนเบิล ถูกแต่งตั้งเข้ามาในสมัยของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน
    พลเอกทิโมธี ดี. ฮอก ผู้บัญชาการกองบัญชาการไซเบอร์ของสหรัฐฯ (CYBERCOM) ผู้อำนวยการสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ (NSA) และหัวหน้าหน่วยข่าวกรองกลาง (CSS) ถูกปลดจากตำแหน่งผู้นำฝ่ายพลเรือนและทหารทั้งหมดเมื่อคืนนี้ นอกจากนี้ "เวนดี้ โนเบิล" รองผู้อำนวยการสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ (NSA) ก็ถูกปลดออกจากตำแหน่งไปด้วยเช่นกัน โดยประธานาธิบดีทรัมป์ ยังไม่ได้แจ้งเหตุผลในการปลดทั้งสองออกจากตำแหน่ง ตามรายงานของสื่อในสหรัฐ ทั้งฮอกและโนเบิล ถูกแต่งตั้งเข้ามาในสมัยของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 246 มุมมอง 0 รีวิว
  • "การเมืองมันก็แค่เรื่องผลประโยชน์"

    นาง "บ." แบกคนหนึ่ง จะเป็นจะตาย เมื่อ "มิน อ่อง หล่าย" ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา เดินทางมาเยือนไทย

    ก่อนหน้านี้นาง "บ." แบกรายนี้ จะเป็นจะตายร้อนรุ่มเรื่องรัฐบาลไทยส่งกลับชาวอุยกูร์ไปครั้งหนึ่งแล้ว

    อยากรู้จริงๆว่ากรณี มิน อ่อง หล่าย แตกต่างจาก อิสเราเอลกับซีเรีย หรือเปล่า นาง "บ." แบกรายนี้เคยจะเป็นจะตายมั่งมั้ย

    หรือเธอคนนี้ "แกล้งไม่รู้" ว่า การเมืองระหว่างประเทศมันอยู่บน "ผลประโยชน์" ทั้งนั้น ก็แค่เล่นไปตามบทของตัวเอง "กลัวไม่มีแสงในโซเชียล"



    อิสราเอล
    👉ทำข้อตกลงหยุดยิงกับ ฮิซบอลเลาะห์ ฮามาส แต่ยังละเมิดและสังหารพลเรือนอยู่เรื่อยๆ - นาง "บ." แบกคนนี้เคยวิจารณ์มั่งมั้ย
    👉เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอลโดนหข้อกล่าวหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฉนวนกาซาจากศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) - นาง "บ." แบกคนนี้เคยวิจารณ์มั่งมั้ย
    👉มีผู้สังเวยชีวิตไปแล้วมากกว่าห้าหมื่นรายเฉพาะในกาซา ส่วนใหญ่เป็นเด็กและผู้หญิง - นาง "บ." แบกคนนี้เคยวิจารณ์มั่งมั้ย
    👉พยายามขับไล่พลเรือนออกจากดินแดนของพวกเขา - นาง "บ." แบกคนนี้เคยวิจารณ์มั่งมั้ย
    👉ตัดขาดความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมทุกช่องทาง - นาง "บ." แบกคนนี้เคยวิจารณ์มั่งมั้ย
    👉ทีมสื่อมวลชน เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือจากองค์กรนานาชาติต่างๆเสียชีวิตรวมกันเกือบร้อยรายตั้งแต่เริ่มสงครามเมื่อตุลาคม 2023 - นาง "บ." แบกคนนี้เคยวิจารณ์มั่งมั้ย
    👉ล่าสุด เนทันยาฮู เดินทางเยือาฮังการี โดยไม่สนหมายจับจาก ICC ด้วยซ้ำ!! - นาง "บ." แบกคนนี้เคยวิจารณ์มั่งมั้ย

    ซีเรีย
    👉ผู้นำกลุ่มก่อการร้ายที่มีค่านำจับสิบล้านดอลลาร์สหรัฐ โค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง และแต่งตั้งตนเองปกครอง👉ประเทศ - นาง "บ." แบกคนนี้เคยวิจารณ์มั่งมั้ย
    👉หลังจากชนั้นถูกถอดรายชื่อออกจากสถานะ "ผู้ก่อการร้าย" - นาง "บ." แบกคนนี้เคยวิจารณ์มั่งมั้ย
    👉ตกลงว่ากลุ่มก่อการร้าย หรือตัวผู้ก่อการร้าย เกิดจากนโยบายการเมือง หรือการกระทำของกลุ่มหรือของบุคคล - นาง "บ." แบกคนนี้เคยวิจารณ์มั่งมั้ย
    👉ผู้นำยุโรปและอเมริกาต่างเดินทางเข้าพบร่วมยินดีกับอดีตผู้นำกลุ่มก่อการร้ายไม่ขาดสาย - นาง "บ." แบกคนนี้เคยวิจารณ์มั่งมั้ย
    "การเมืองมันก็แค่เรื่องผลประโยชน์" นาง "บ." แบกคนหนึ่ง จะเป็นจะตาย เมื่อ "มิน อ่อง หล่าย" ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา เดินทางมาเยือนไทย ก่อนหน้านี้นาง "บ." แบกรายนี้ จะเป็นจะตายร้อนรุ่มเรื่องรัฐบาลไทยส่งกลับชาวอุยกูร์ไปครั้งหนึ่งแล้ว อยากรู้จริงๆว่ากรณี มิน อ่อง หล่าย แตกต่างจาก อิสเราเอลกับซีเรีย หรือเปล่า นาง "บ." แบกรายนี้เคยจะเป็นจะตายมั่งมั้ย หรือเธอคนนี้ "แกล้งไม่รู้" ว่า การเมืองระหว่างประเทศมันอยู่บน "ผลประโยชน์" ทั้งนั้น ก็แค่เล่นไปตามบทของตัวเอง "กลัวไม่มีแสงในโซเชียล" อิสราเอล 👉ทำข้อตกลงหยุดยิงกับ ฮิซบอลเลาะห์ ฮามาส แต่ยังละเมิดและสังหารพลเรือนอยู่เรื่อยๆ - นาง "บ." แบกคนนี้เคยวิจารณ์มั่งมั้ย 👉เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอลโดนหข้อกล่าวหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฉนวนกาซาจากศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) - นาง "บ." แบกคนนี้เคยวิจารณ์มั่งมั้ย 👉มีผู้สังเวยชีวิตไปแล้วมากกว่าห้าหมื่นรายเฉพาะในกาซา ส่วนใหญ่เป็นเด็กและผู้หญิง - นาง "บ." แบกคนนี้เคยวิจารณ์มั่งมั้ย 👉พยายามขับไล่พลเรือนออกจากดินแดนของพวกเขา - นาง "บ." แบกคนนี้เคยวิจารณ์มั่งมั้ย 👉ตัดขาดความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมทุกช่องทาง - นาง "บ." แบกคนนี้เคยวิจารณ์มั่งมั้ย 👉ทีมสื่อมวลชน เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือจากองค์กรนานาชาติต่างๆเสียชีวิตรวมกันเกือบร้อยรายตั้งแต่เริ่มสงครามเมื่อตุลาคม 2023 - นาง "บ." แบกคนนี้เคยวิจารณ์มั่งมั้ย 👉ล่าสุด เนทันยาฮู เดินทางเยือาฮังการี โดยไม่สนหมายจับจาก ICC ด้วยซ้ำ!! - นาง "บ." แบกคนนี้เคยวิจารณ์มั่งมั้ย ซีเรีย 👉ผู้นำกลุ่มก่อการร้ายที่มีค่านำจับสิบล้านดอลลาร์สหรัฐ โค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง และแต่งตั้งตนเองปกครอง👉ประเทศ - นาง "บ." แบกคนนี้เคยวิจารณ์มั่งมั้ย 👉หลังจากชนั้นถูกถอดรายชื่อออกจากสถานะ "ผู้ก่อการร้าย" - นาง "บ." แบกคนนี้เคยวิจารณ์มั่งมั้ย 👉ตกลงว่ากลุ่มก่อการร้าย หรือตัวผู้ก่อการร้าย เกิดจากนโยบายการเมือง หรือการกระทำของกลุ่มหรือของบุคคล - นาง "บ." แบกคนนี้เคยวิจารณ์มั่งมั้ย 👉ผู้นำยุโรปและอเมริกาต่างเดินทางเข้าพบร่วมยินดีกับอดีตผู้นำกลุ่มก่อการร้ายไม่ขาดสาย - นาง "บ." แบกคนนี้เคยวิจารณ์มั่งมั้ย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 381 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel และ TSMC บรรลุข้อตกลงร่วมทุน โดย TSMC ถือหุ้น 20% ในบริษัทใหม่ที่บริหารโรงงานของ Intel ในสหรัฐฯ ทำเนียบขาวผลักดันให้เกิดข้อตกลงนี้เพื่อช่วยให้ Intel กลับมาแข็งแกร่งในตลาด ขณะที่ TSMC วางแผนลงทุน $100 พันล้านสร้างโรงงานเพิ่มอีก 5 แห่งในสหรัฐฯ ข้อตกลงนี้จะเป็นก้าวสำคัญในการพลิกฟื้นอุตสาหกรรมชิปในอเมริกา

    ✅ รัฐบาลสหรัฐฯ กดดันให้ Intel และ TSMC ตกลงร่วมทุน
    - ทำเนียบขาวและกระทรวงพาณิชย์ ผลักดันให้เกิดความร่วมมือครั้งนี้
    - ความร่วมมือนี้จะช่วยให้ Intel ฟื้นตัวจากวิกฤติ และแข่งขันกับผู้ผลิตชิปรายอื่นได้ดีขึ้น

    ✅ TSMC เคยเสนอให้ Nvidia, AMD และ Broadcom เข้าร่วมโครงการนี้
    - มีรายงานว่า TSMC เคยเชิญบริษัทชั้นนำเข้าร่วมถือหุ้นในโรงงานของ Intel แต่ไม่มีข้อตกลงเกิดขึ้น
    - ข้อตกลงนี้จึงถือเป็นการจับมือกันระหว่างผู้ผลิตชิปอันดับต้น ๆ ของโลก

    ✅ Intel กำลังเผชิญปัญหาหลังพลาดโอกาสในยุค AI
    - Intel มุ่งเน้นพัฒนาโรงงานผลิตชิปของตัวเองมาหลายปี แต่ ไม่สามารถให้บริการลูกค้าได้ดีเท่า TSMC
    - ส่งผลให้ เกิดความล่าช้าและการทดสอบล้มเหลว จนทำให้บริษัทขาดทุน

    ✅ Lip-Bu Tan ถูกแต่งตั้งเป็น CEO เพื่อพลิกฟื้นสถานการณ์ของ Intel
    - เขาเป็นอดีตสมาชิกบอร์ดและผู้เชี่ยวชาญในวงการชิป ซึ่งอาจช่วยให้ Intel กลับมาแข่งขันได้อีกครั้ง

    ✅ TSMC วางแผนลงทุน $100 พันล้านในสหรัฐฯ
    - การลงทุนนี้รวมถึงการสร้าง โรงงานผลิตชิป 5 แห่งเพิ่มเติม ซึ่งอาจช่วยเร่งฟื้นฟูอุตสาหกรรมชิปในอเมริกา

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/04/intel-tsmc-tentatively-agree-to-form-chipmaking-joint-venture-information-reports
    Intel และ TSMC บรรลุข้อตกลงร่วมทุน โดย TSMC ถือหุ้น 20% ในบริษัทใหม่ที่บริหารโรงงานของ Intel ในสหรัฐฯ ทำเนียบขาวผลักดันให้เกิดข้อตกลงนี้เพื่อช่วยให้ Intel กลับมาแข็งแกร่งในตลาด ขณะที่ TSMC วางแผนลงทุน $100 พันล้านสร้างโรงงานเพิ่มอีก 5 แห่งในสหรัฐฯ ข้อตกลงนี้จะเป็นก้าวสำคัญในการพลิกฟื้นอุตสาหกรรมชิปในอเมริกา ✅ รัฐบาลสหรัฐฯ กดดันให้ Intel และ TSMC ตกลงร่วมทุน - ทำเนียบขาวและกระทรวงพาณิชย์ ผลักดันให้เกิดความร่วมมือครั้งนี้ - ความร่วมมือนี้จะช่วยให้ Intel ฟื้นตัวจากวิกฤติ และแข่งขันกับผู้ผลิตชิปรายอื่นได้ดีขึ้น ✅ TSMC เคยเสนอให้ Nvidia, AMD และ Broadcom เข้าร่วมโครงการนี้ - มีรายงานว่า TSMC เคยเชิญบริษัทชั้นนำเข้าร่วมถือหุ้นในโรงงานของ Intel แต่ไม่มีข้อตกลงเกิดขึ้น - ข้อตกลงนี้จึงถือเป็นการจับมือกันระหว่างผู้ผลิตชิปอันดับต้น ๆ ของโลก ✅ Intel กำลังเผชิญปัญหาหลังพลาดโอกาสในยุค AI - Intel มุ่งเน้นพัฒนาโรงงานผลิตชิปของตัวเองมาหลายปี แต่ ไม่สามารถให้บริการลูกค้าได้ดีเท่า TSMC - ส่งผลให้ เกิดความล่าช้าและการทดสอบล้มเหลว จนทำให้บริษัทขาดทุน ✅ Lip-Bu Tan ถูกแต่งตั้งเป็น CEO เพื่อพลิกฟื้นสถานการณ์ของ Intel - เขาเป็นอดีตสมาชิกบอร์ดและผู้เชี่ยวชาญในวงการชิป ซึ่งอาจช่วยให้ Intel กลับมาแข่งขันได้อีกครั้ง ✅ TSMC วางแผนลงทุน $100 พันล้านในสหรัฐฯ - การลงทุนนี้รวมถึงการสร้าง โรงงานผลิตชิป 5 แห่งเพิ่มเติม ซึ่งอาจช่วยเร่งฟื้นฟูอุตสาหกรรมชิปในอเมริกา https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/04/intel-tsmc-tentatively-agree-to-form-chipmaking-joint-venture-information-reports
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Intel, TSMC tentatively agree to form chipmaking joint venture, Information reports
    (Reuters) - Intel and Taiwan Semiconductor Manufacturing Co have reached a preliminary agreement to form a joint venture to operate the U.S. chipmaker's factories, the Information reported on Thursday, citing two people involved in the discussions.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 188 มุมมอง 0 รีวิว
  • "เสือกเฉพาะเรื่อง" EP5 (ซัดเลย..รออะไรล่ะ)

    พิมพ์เขียวศรีธนญชัย เมื่อรู้แล้วว่า ไทย-จีน สอดประสาน การล้างบางคอรัปชั่นมันไม่ง่าย ต้องให้ขาใหญ่ช่วย ทั้งเส้นทางฟอกเงิน ระบบ AI หน่วยข่าวกรอง ทีมปฎิบัติการพิเศษ นอกเหนือจากหน่วยงานรัฐ ในชั้นระดับบัญชาการ เค้าคุยกันไว้หมดแล้ว มรึงคิดว่า อยู่ดีดี ตั้งแต่คดีไอคอน ยันมาถึงตอนนี้ มันจะเข้าสู่ขบวนการศาลได้ยังไง หากไม่มีคนชง อยู่เบื้องหลัง พูดสั้นๆ คือ ก่อนทหารจะออก มันต้องมีปัจจัยเสริมช่วยจ๊ะ ประชาชนเอือมระอา บ้านเมืองไร้กฎเกณฑ์ ขบวนการยุติธรรมต้นน้ำเป็นพิษ เกมส์นอกเข้าขั้นวิกฤต หลักการปกครองนับตั้งแต่สมัยก่อนสุโขทัย หากมีอะไรที่ควบคุมไม่ได้ เค้าจะดึงกองกำลังทั้งหมดมาไว้ในมือ(วัง) เพื่อเตรียมการปฎิวัติ แย่งชิง เผด็จศึกศัตรูแผ่นดิน ไม่สนวิธีการ แต่สนแค่ "เป้าหมายและผลลัพธ์" หมีกำลังจะบอกว่า ใครที่เคยคิดว่า เราจะผูกติดกับระบอบปชต.ตอแหลไปจนวันตาย มรึงคิดผิด กูบอกไบ้ไปแล้วว่า หัวเปลี่ยน อะไรก็เปลี่ยนตาม จีน รัสเซีย กำลังใช้ไทยเป็น "ต้นแบบ" พลิกการปกครองโลกยุคใหม่ ใครใคร่ค้าก็ค้า ใครใคร่ขาย ก็ขาย แต่ละประเทศปกครองตัวเองในรูปแบบที่ไม่ต้องเหมือนใคร นี่แหละ BRICS แท้จริง ของจริง เรายังใช้ปชต.ตอแหล เพื่อบังหน้า แต่พ่อปกครองลูกคือ "แก่นแท้" ของแผ่นดิน ปชต.ไม่จำเป็นต้องเลือกตั้งเสมอไป เมื่อคืนพระราชอำนาจให้พ่อท่าน อำนาจสิทธิ์ขาดอยู่ที่วัง ใครก็แตะต้องไม่ได้อีก ใช้รูปแบบปชต.กึ่งกษัตริย์ปกครอง เปลี่ยนจากเลือกตั้งเป็นแต่งตั้ง เพราะหากควายมันเลือก มรึงจะได้ควายมาทำหน้าที่ แต่หากให้วังแต่งตั้ง มรึงจะได้คนดี มีฝีมือ โปร่งใส และซื่อตรง แต่การจะเปลี่ยนแบบนี้ได้จริง มันต้องมีการวัดกำลังกันอยู่แล้ว เริ่มตั้งแต่ตอนนี้ คปท.นำร่องไปก่อน อะไรจะตามมา กูคงไม่ต้องบอก แต่ไม่จำเป็นต้องไปนอนกลางถนนเป็นเดือนๆ เหมือนที่ผ่านมา ภาระกิจนินจาฮาโตริ ล่อทีละเรื่อง ไล่ไปทีละจุด กองทัพจะออกก็ต่อเมื่อ ประชาชนมีภัยไงล่ะ ไม่เอาเหยื่อไปล่อ แล้วเหี้ยมันจะกินเบ็ดเหรอ มันคงถึงเวลาจริงๆ แล้วสิน่ะ งานนี้ อีเหลี่ยมชาติหมาถึงขั้นชะตาขาด เค้าไม่เก็บมันไว้อีกแล้ว เพราะเกมส์การเมืองมันสุดทางตันแล้ว อีลูกสาวร่านตกเก้าอี้เมื่อไหร่ เผ่นทันที ปิดประตูก็ได้ หรือจะเปิดช่องหมาลอดก็ดี อยู่ที่ตกลงกันไว้ยังไง? แต่ดูทรงแล้ว ทหารไม่เก็บเอาไว้เป็นหอกข้างแคร่อีกต่อไป "หัวขาด" ภาพมันฟ้อง สวรรค์ให้มรึงเดินได้ถึงแค่นี้ บุญหมดไปแล้ว จากนี้คือรับวิบากกรรมขั้นสูงสุดทันที คปท.คึกจัดสุดขีด มากันตรึม มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ มีกองกำลังจัดตั้งชัวร์ อย่างน้อย 4 กลุ่มใหญ่ และมีประชาชนขาจรตามมาอีกเพี๊ยบ งานนี้ เค้าเล่นเกมส์ใหญ่กันแล้ว เตรียมยุบสภาหนีตามฟอร์ม ยุบแล้ว ยุบเลย ไม่ได้กลับมาอีกตลอดชาตินี้ดอกน่ะ? ม็อบขนาดใหญ่ ต้องมีรายจ่าย และสิ่งอำนวยความสะดวก ความปลอดภัยและขุมกำลัง เราผ่านอะไรกันมาเยอะ มันไม่ต้องมาเริ่มนับ 1 กันใหม่อีกต่อไป พร้อมเสิร์ฟหากสดชื่น? ทำไมอีเหลี่ยมเหี้ยถึงพยายามจะดัน "กาสิโอ๊ะ" ไม่ใช่เพื่อรายได้ดอก แต่เพื่อ ฟอกเงินทุนสีเทาของโลกทั้งหมดต่างหาก มันวางเราเป็นแหล่งฟอกเงินโลกไงล่ะ อ้างมีนักท่องเที่ยวติด TOP3 โลก กระแสเงินสะพัด แท้จริงมาฟอกที่ "กาสิโอ๊ะ" จีนรู้ ว่าหากไทยเปิด มันจะกระทบถึงทั้งอาเซียน ขบวนการฟอกเงินโต มันคือเงินที่ภาครัฐสูญเสีย และเป็นแหล่งท่อน้ำเลี้ยงก่อการร้ายโลกไปในตัว ใครที่ยังมองไม่เห็นภาพแท้ ตัวจริง ของ "กาสิโอ๊ะ" มรึงอย่าเที่ยวไปเถียงใครเค้า อายหมามัน? มันคือแหล่งฟอกเงิน รายได้ไม่สน สนแค่เป็นเงินตาย เป็นเงินเป็น เข้าใจยัง? คปท.งวดนี้ไม่ธรรมดา ทั้งอริเก่าอีเหลี่ยมมาเต็ม ปชป.เก่า(กปปส)ก็ร่วมแจม ภาคประชาชนก็ร่วมด้วย รอแค่บ้านพระอาทิตย์นำทัพหลวงออกถนน นั่นคือ "ปิดเกมส์" เพราะออกทุกครั้ง รัฐบาลไปหมดทุกไอ้อี ความมันส์เพิ่งจะเริ่ม อย่าเพิ่งรีบนับศพเหี้ยจ๊ะ ยังมีตายห่ากันอีกเยอะ เก็บแรงเอาไว้ ดอก2 ดอก3 มีตามมาแน่ รองเท้าผ้าใบกูพร้อม ใจกูเกิน 150% จะออกทั้งที มันต้องปิดเกมส์โว๊ย "มรึงไม่ได้ไปต่อ" จบแค่ตรงนี้ ล้างเหี้ยให้สิ้นซาก!

    หมี CNN(ฮาแตก! อีทรัมปป์ยั่ว ปูตินรู้ทัน ไม่หลงกล ดาหน้าถล่มยูเครนจนขี้แตก เสียรวดเดียว 12 เมืองใหญ่ 2 แค้วนรอการประกาศรับรอง เตรียมสั่งคว่ำบาตรรัสเซียอีกรอบ ถามจริง? นี่คือสิ่งที่มรึงคิดและทำได้แค่นี้เหรอ? รัสเซียต้องใช้อะไรจากมรึง และมรึงต้องใช้อะไรจากรัสเซีย หากยังหาคำตอบไม่ได้ ก็ไปลาตายซะน่ะ โลกความจริง รัสเซีย จีน กำหนดทางเดินให้เหี้ยแล้วตอนนี้ มรึงไม่มีทางหนีไปไหนได้อีก หมากล้อมจีน หมากรุกรัสเซีย เค้า "รุกฆาตมรึง" ตั้งแต่เปิดยูเครนแล้ว)
    03 เมษายน 68
    "เสือกเฉพาะเรื่อง" EP5 (ซัดเลย..รออะไรล่ะ) พิมพ์เขียวศรีธนญชัย เมื่อรู้แล้วว่า ไทย-จีน สอดประสาน การล้างบางคอรัปชั่นมันไม่ง่าย ต้องให้ขาใหญ่ช่วย ทั้งเส้นทางฟอกเงิน ระบบ AI หน่วยข่าวกรอง ทีมปฎิบัติการพิเศษ นอกเหนือจากหน่วยงานรัฐ ในชั้นระดับบัญชาการ เค้าคุยกันไว้หมดแล้ว มรึงคิดว่า อยู่ดีดี ตั้งแต่คดีไอคอน ยันมาถึงตอนนี้ มันจะเข้าสู่ขบวนการศาลได้ยังไง หากไม่มีคนชง อยู่เบื้องหลัง พูดสั้นๆ คือ ก่อนทหารจะออก มันต้องมีปัจจัยเสริมช่วยจ๊ะ ประชาชนเอือมระอา บ้านเมืองไร้กฎเกณฑ์ ขบวนการยุติธรรมต้นน้ำเป็นพิษ เกมส์นอกเข้าขั้นวิกฤต หลักการปกครองนับตั้งแต่สมัยก่อนสุโขทัย หากมีอะไรที่ควบคุมไม่ได้ เค้าจะดึงกองกำลังทั้งหมดมาไว้ในมือ(วัง) เพื่อเตรียมการปฎิวัติ แย่งชิง เผด็จศึกศัตรูแผ่นดิน ไม่สนวิธีการ แต่สนแค่ "เป้าหมายและผลลัพธ์" หมีกำลังจะบอกว่า ใครที่เคยคิดว่า เราจะผูกติดกับระบอบปชต.ตอแหลไปจนวันตาย มรึงคิดผิด กูบอกไบ้ไปแล้วว่า หัวเปลี่ยน อะไรก็เปลี่ยนตาม จีน รัสเซีย กำลังใช้ไทยเป็น "ต้นแบบ" พลิกการปกครองโลกยุคใหม่ ใครใคร่ค้าก็ค้า ใครใคร่ขาย ก็ขาย แต่ละประเทศปกครองตัวเองในรูปแบบที่ไม่ต้องเหมือนใคร นี่แหละ BRICS แท้จริง ของจริง เรายังใช้ปชต.ตอแหล เพื่อบังหน้า แต่พ่อปกครองลูกคือ "แก่นแท้" ของแผ่นดิน ปชต.ไม่จำเป็นต้องเลือกตั้งเสมอไป เมื่อคืนพระราชอำนาจให้พ่อท่าน อำนาจสิทธิ์ขาดอยู่ที่วัง ใครก็แตะต้องไม่ได้อีก ใช้รูปแบบปชต.กึ่งกษัตริย์ปกครอง เปลี่ยนจากเลือกตั้งเป็นแต่งตั้ง เพราะหากควายมันเลือก มรึงจะได้ควายมาทำหน้าที่ แต่หากให้วังแต่งตั้ง มรึงจะได้คนดี มีฝีมือ โปร่งใส และซื่อตรง แต่การจะเปลี่ยนแบบนี้ได้จริง มันต้องมีการวัดกำลังกันอยู่แล้ว เริ่มตั้งแต่ตอนนี้ คปท.นำร่องไปก่อน อะไรจะตามมา กูคงไม่ต้องบอก แต่ไม่จำเป็นต้องไปนอนกลางถนนเป็นเดือนๆ เหมือนที่ผ่านมา ภาระกิจนินจาฮาโตริ ล่อทีละเรื่อง ไล่ไปทีละจุด กองทัพจะออกก็ต่อเมื่อ ประชาชนมีภัยไงล่ะ ไม่เอาเหยื่อไปล่อ แล้วเหี้ยมันจะกินเบ็ดเหรอ มันคงถึงเวลาจริงๆ แล้วสิน่ะ งานนี้ อีเหลี่ยมชาติหมาถึงขั้นชะตาขาด เค้าไม่เก็บมันไว้อีกแล้ว เพราะเกมส์การเมืองมันสุดทางตันแล้ว อีลูกสาวร่านตกเก้าอี้เมื่อไหร่ เผ่นทันที ปิดประตูก็ได้ หรือจะเปิดช่องหมาลอดก็ดี อยู่ที่ตกลงกันไว้ยังไง? แต่ดูทรงแล้ว ทหารไม่เก็บเอาไว้เป็นหอกข้างแคร่อีกต่อไป "หัวขาด" ภาพมันฟ้อง สวรรค์ให้มรึงเดินได้ถึงแค่นี้ บุญหมดไปแล้ว จากนี้คือรับวิบากกรรมขั้นสูงสุดทันที คปท.คึกจัดสุดขีด มากันตรึม มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ มีกองกำลังจัดตั้งชัวร์ อย่างน้อย 4 กลุ่มใหญ่ และมีประชาชนขาจรตามมาอีกเพี๊ยบ งานนี้ เค้าเล่นเกมส์ใหญ่กันแล้ว เตรียมยุบสภาหนีตามฟอร์ม ยุบแล้ว ยุบเลย ไม่ได้กลับมาอีกตลอดชาตินี้ดอกน่ะ? ม็อบขนาดใหญ่ ต้องมีรายจ่าย และสิ่งอำนวยความสะดวก ความปลอดภัยและขุมกำลัง เราผ่านอะไรกันมาเยอะ มันไม่ต้องมาเริ่มนับ 1 กันใหม่อีกต่อไป พร้อมเสิร์ฟหากสดชื่น? ทำไมอีเหลี่ยมเหี้ยถึงพยายามจะดัน "กาสิโอ๊ะ" ไม่ใช่เพื่อรายได้ดอก แต่เพื่อ ฟอกเงินทุนสีเทาของโลกทั้งหมดต่างหาก มันวางเราเป็นแหล่งฟอกเงินโลกไงล่ะ อ้างมีนักท่องเที่ยวติด TOP3 โลก กระแสเงินสะพัด แท้จริงมาฟอกที่ "กาสิโอ๊ะ" จีนรู้ ว่าหากไทยเปิด มันจะกระทบถึงทั้งอาเซียน ขบวนการฟอกเงินโต มันคือเงินที่ภาครัฐสูญเสีย และเป็นแหล่งท่อน้ำเลี้ยงก่อการร้ายโลกไปในตัว ใครที่ยังมองไม่เห็นภาพแท้ ตัวจริง ของ "กาสิโอ๊ะ" มรึงอย่าเที่ยวไปเถียงใครเค้า อายหมามัน? มันคือแหล่งฟอกเงิน รายได้ไม่สน สนแค่เป็นเงินตาย เป็นเงินเป็น เข้าใจยัง? คปท.งวดนี้ไม่ธรรมดา ทั้งอริเก่าอีเหลี่ยมมาเต็ม ปชป.เก่า(กปปส)ก็ร่วมแจม ภาคประชาชนก็ร่วมด้วย รอแค่บ้านพระอาทิตย์นำทัพหลวงออกถนน นั่นคือ "ปิดเกมส์" เพราะออกทุกครั้ง รัฐบาลไปหมดทุกไอ้อี ความมันส์เพิ่งจะเริ่ม อย่าเพิ่งรีบนับศพเหี้ยจ๊ะ ยังมีตายห่ากันอีกเยอะ เก็บแรงเอาไว้ ดอก2 ดอก3 มีตามมาแน่ รองเท้าผ้าใบกูพร้อม ใจกูเกิน 150% จะออกทั้งที มันต้องปิดเกมส์โว๊ย "มรึงไม่ได้ไปต่อ" จบแค่ตรงนี้ ล้างเหี้ยให้สิ้นซาก! หมี CNN(ฮาแตก! อีทรัมปป์ยั่ว ปูตินรู้ทัน ไม่หลงกล ดาหน้าถล่มยูเครนจนขี้แตก เสียรวดเดียว 12 เมืองใหญ่ 2 แค้วนรอการประกาศรับรอง เตรียมสั่งคว่ำบาตรรัสเซียอีกรอบ ถามจริง? นี่คือสิ่งที่มรึงคิดและทำได้แค่นี้เหรอ? รัสเซียต้องใช้อะไรจากมรึง และมรึงต้องใช้อะไรจากรัสเซีย หากยังหาคำตอบไม่ได้ ก็ไปลาตายซะน่ะ โลกความจริง รัสเซีย จีน กำหนดทางเดินให้เหี้ยแล้วตอนนี้ มรึงไม่มีทางหนีไปไหนได้อีก หมากล้อมจีน หมากรุกรัสเซีย เค้า "รุกฆาตมรึง" ตั้งแต่เปิดยูเครนแล้ว) 03 เมษายน 68
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 467 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อเสียงสมน้ำหน้า เคล้าก่นด่า ดังกว่า... ตึก สตง. ถล่ม! วิกฤตศรัทธาหน่วยตรวจ ลืมสำรวจตัวเอง? ไม่ใช่แค่ตึกที่พัง แต่ความเชื่อมั่น ในกระบวนการของภาครัฐเอง ก็สั่นสะเทือนไปทั่วประเทศ 😓

    🏢 เหตุการณ์ถล่ม ของตึกเดียวในประเทศไทย จากแผ่นดินไหว จุดชนวนคำถามถึงความโปร่งใส ในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างของรัฐ และทำให้หน่วยงาน “ผู้ตรวจ” กลายเป็น “ผู้ถูกตรวจสอบ” เสียเอง

    🔎 เมื่อคำถามไม่ได้มีแค่ “ทำไมตึกถล่ม” แต่เป็น “ใครจะรับผิดชอบ?” 28 มีนาคม 2568 เวลา 14.37 น. กรุงเทพฯ สะเทือนจากแรงแผ่นดินไหวขนาด 8.2 แมกนิจูด ศูนย์กลางที่เมียนมา 🌏 ในขณะที่อาคารสูงทั่วกรุงเทพฯ แกว่งไกวเล็กน้อยเพียงชั่วครู่ แต่กลับมีตึกหนึ่งที่ “พังลงทั้งหลัง” 😱 ตึกแห่งนั้นคือ อาคารสำนักงานแห่งใหม่ของ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง

    เสียงระเบิดของโครงสร้างถล่มลงมา เสียงผู้รอดชีวิตร้องขอความช่วยเหลือ... และเสียง “ประชาชน” ที่เริ่มตั้งคำถามดังยิ่งกว่าเสียงไหน ๆ

    ทำไมตึกเดียวในไทยถึงถล่มทั้งหลัง?

    สตง. ไม่ตรวจสอบโครงการของตนเองหรือ?

    หรือระบบรัฐไทยล้มเหลวในระดับโครงสร้าง... ทั้งจริง ๆ และเชิงเปรียบเทียบ?

    📘 สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) หรือ Office of the Auditor General of Thailand คือหน่วยงานอิสระตามรัฐธรรมนูญ 🇹🇭 มีภารกิจสำคัญในการตรวจสอบ การใช้เงินของภาครัฐให้ถูกต้อง โปร่งใส และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน

    📌 ภารกิจหลักของ สตง.
    1. ตรวจสอบงบประมาณหน่วยงานรัฐ (Financial Audit)
    2. ตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎหมาย (Compliance Audit)
    3. ตรวจสอบประสิทธิภาพการดำเนินงาน (Performance Audit)

    นอกจากบทบาทในการตรวจสอบ สตง. ยังเสนอแนะการบริหาร และใช้จ่ายงบประมาณ พร้อมจัดทำรายงานประจำปีต่อรัฐสภา และประชาชนผ่านเว็บไซต์ www.audit.go.th เพื่อให้เกิด “ธรรมาภิบาล” ที่แท้จริง

    สตง. ทำหน้าที่เป็น “ผู้ตรวจสอบความโปร่งใสของรัฐ” แต่เมื่อสำนักงานของตัวเองถล่ม... ใครจะตรวจสอบ “ผู้ตรวจสอบ”?

    🧱 โครงการตึกใหม่ สตง. ต้นทุน 2,560 ล้านบาท แลกกับภาพลักษณ์องค์กร

    🏗️ ข้อมูลโครงการ
    สร้างที่:ถนนกำแพงเพชร 2 เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร

    ขนาดอาคาร 30 ชั้น บนพื้นที่ 11 ไร่

    งบประมาณรวม 2,560 ล้านบาท

    ผู้รับเหมาคือ กิจการร่วมค้า ITD-CREC เป็นบริษัทร่วมลงทุนระหว่างบริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จํากัด (มหาชน) และบริษัทไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด

    บริษัทควบคุมงานคือ กิจการร่วมค้าพีเคดับเบิลยู (PKW) ที่ร่วมทุนระหว่างบริษัทพี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จํากัด, บริษัท ว.และ สหาย คอนซัลแตนตส์ จํากัด และบริษัท เคพี คอนซัลแทนส์ แอนด์ แมเนจเม้น จํากัด

    การก่อสร้างเริ่มตั้งแต่ปี 2563 คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2569 โดยตั้งเป้าเป็นอาคารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รองรับการขยายตัวขององค์กรในอนาคต 🌱

    แต่ในวันที่ 28 มีนาคม 2568 หลังจากสร้างมาได้เพียง 30%... ตึกก็ถล่มทั้งหลัง 😰

    💣 สาเหตุ? อุบัติเหตุ? หรือสะท้อนปัญหาลึกของระบบ?

    📍 แรงแผ่นดินไหว หรือโครงสร้างอ่อนแอ? แม้แผ่นดินไหวขนาด 8.2 จะถือว่ารุนแรง แต่บริเวณกรุงเทพฯ โดยเฉพาะจตุจักร ได้รับแรงสั่นสะเทือนประมาณ 5.1 เท่านั้น ซึ่งถือว่า ไม่แรงพอที่จะทำให้อาคารพังราบทั้งหลัง ตามมาตรฐานของกรมโยธาธิการและผังเมือง

    แล้วอะไรคือปัจจัยสำคัญที่ทำให้อาคารพัง?

    วัสดุก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน? 🧱

    โครงสร้างไม่รองรับแรงสั่น?

    ขั้นตอนตรวจสอบขาดความรัดกุม?

    จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เหล็กเส้นที่ใช้ในอาคารส่วนใหญ่ มาจากบริษัทต่างชาติ ที่ถูกสั่งปิดโรงงานในปลายปี 2567 เนื่องจากไม่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย ‼️

    🧪 ตรวจสอบวัสดุจริง กับข้อเท็จจริงที่น่าหวั่นใจ กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับ สวทช. และวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ได้เข้าตรวจสอบเหล็กเส้น จากสถานที่เกิดเหตุ พบว่า เหล็ก 5 จาก 6 ประเภท มาจากโรงงานเดียวกัน โรงงานนี้เคยมีประวัติการระเบิด และเครนหล่น อีกทั้งยังเคยถูกสั่งปิดชั่วคราว จากเหตุผลด้านความปลอดภัย

    ❗ คำถามคือ เหล็กจากแหล่งที่ไม่มีคุณภาพเหล่านี้ ผ่านการอนุมัติเข้าโครงการระดับพันล้าน ได้อย่างไร?

    🧠 เมื่อ “ผู้ตรวจ” ลืม “ตรวจสอบตัวเอง”? กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐไทย แม้จะมีกฎหมายและระเบียบที่รัดกุม แต่ในทางปฏิบัติ กลับพบว่า…

    การประมูลมักให้น้ำหนักกับ “ราคาถูก” มากกว่าคุณภาพ ผู้รับเหมาจึงใช้วัสดุราคาต่ำกว่ามาตรฐาน การกำกับดูแลไม่ทั่วถึง เพราะผู้ควบคุมโครงการ ก็อยู่ภายใต้งบจำกัด

    น่าเจ็บปวดที่เหตุการณ์นี้เกิดกับ “สตง.” ผู้ที่ควรจะเป็นต้นแบบของความโปร่งใส

    ⚖️ การเมืองในองค์กรอิสระ: อิสระจริง หรือเลือกกันเอง? โครงสร้าง คตง. และการสรรหา คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) มาจากการสรรหาโดย ส.ว. ปัจจุบันผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ได้รับการแต่งตั้งโดย ส.ว. ชุดพิเศษ การแต่งตั้งกรรมการหลายคน มีข้อครหาว่าไม่โปร่งใส และถูกฟ้องต่อศาลปกครอง

    ⛔ จุดนี้เองที่ทำให้ประชาชนเริ่มตั้งคำถามถึง “อิสรภาพ” ขององค์กรที่ควรเป็นอิสระจากการเมือง

    📣 กระแสโซเชียล & ประชาชน “เสียงสมน้ำหน้า” ดังยิ่งกว่าความเศร้า ในขณะที่ครอบครัวผู้เสียชีวิต ยังรอการกู้ร่างในซากตึก โลกออนไลน์กลับเต็มไปด้วยเสียงแดกดัน เช่น

    “ผู้ตรวจ ลืมตรวจตึกตัวเอง”

    “สมน้ำหน้าที่พังเพราะไม่โปร่งใส”

    “เงินภาษีคนไทยพังลงต่อหน้า”

    คำพูดเหล่านี้อาจดูโหดร้าย แต่ก็สะท้อนความรู้สึกของคนจำนวนมาก ที่รู้สึกว่า “แม้แต่หน่วยงานตรวจสอบ ก็ยังไม่รอดจากระบบที่พัง”

    📉 วิกฤตศรัทธา & บทเรียนราคาแพง สิ่งที่สูญเสียไม่ใช่แค่งบประมาณ หรือชีวิต… แต่คือ ความเชื่อมั่นต่อระบบรัฐ

    🚨 บทเรียนสำคัญที่รัฐต้องรับให้ได้ การคัดเลือกผู้รับเหมา ควรมีระบบที่ยึด “คุณภาพ” เป็นหลัก ต้องมีการตรวจสอบหลายชั้น โดยอิสระจริง ๆ ปฏิรูประบบจัดซื้อจัดจ้าง ให้ประชาชนมีส่วนร่วม เพิ่มบทลงโทษกรณีวัสดุหรือผู้รับเหมาไม่ได้มาตรฐาน

    📌 จากตึกถล่ม สู่การตรวจสอบศรัทธาประชาชน เหตุการณ์ตึก สตง. ถล่ม อาจเป็นจุดเปลี่ยนที่เจ็บปวดของประเทศไทย 🕯️ แต่ในขณะเดียวกัน... นี่อาจเป็นโอกาสในการทบทวนระบบราชการ และการบริหารงบประมาณของรัฐอย่างแท้จริง

    อย่าให้เสียง “สมน้ำหน้า” ดังกลบเสียงของผู้เสียชีวิต อย่าให้ตึกที่พัง เป็นเพียงข่าวแค่ไม่กี่วัน แต่ให้มันเป็นบทเรียนที่สร้าง “การเปลี่ยนแปลง”

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 021119 เม.ย. 2568

    📢#ตึกสตงถล่ม #ผู้ตรวจถูกตรวจ #แผ่นดินไหว2568 #ข่าวด่วน #เหล็กไม่ได้มาตรฐาน #สตงคือใคร #ความโปร่งใสภาครัฐ #อาคารถล่มกรุงเทพ #ITDCREC #ข่าวไทย
    เมื่อเสียงสมน้ำหน้า เคล้าก่นด่า ดังกว่า... ตึก สตง. ถล่ม! วิกฤตศรัทธาหน่วยตรวจ ลืมสำรวจตัวเอง? ไม่ใช่แค่ตึกที่พัง แต่ความเชื่อมั่น ในกระบวนการของภาครัฐเอง ก็สั่นสะเทือนไปทั่วประเทศ 😓 🏢 เหตุการณ์ถล่ม ของตึกเดียวในประเทศไทย จากแผ่นดินไหว จุดชนวนคำถามถึงความโปร่งใส ในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างของรัฐ และทำให้หน่วยงาน “ผู้ตรวจ” กลายเป็น “ผู้ถูกตรวจสอบ” เสียเอง 🔎 เมื่อคำถามไม่ได้มีแค่ “ทำไมตึกถล่ม” แต่เป็น “ใครจะรับผิดชอบ?” 28 มีนาคม 2568 เวลา 14.37 น. กรุงเทพฯ สะเทือนจากแรงแผ่นดินไหวขนาด 8.2 แมกนิจูด ศูนย์กลางที่เมียนมา 🌏 ในขณะที่อาคารสูงทั่วกรุงเทพฯ แกว่งไกวเล็กน้อยเพียงชั่วครู่ แต่กลับมีตึกหนึ่งที่ “พังลงทั้งหลัง” 😱 ตึกแห่งนั้นคือ อาคารสำนักงานแห่งใหม่ของ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง เสียงระเบิดของโครงสร้างถล่มลงมา เสียงผู้รอดชีวิตร้องขอความช่วยเหลือ... และเสียง “ประชาชน” ที่เริ่มตั้งคำถามดังยิ่งกว่าเสียงไหน ๆ ทำไมตึกเดียวในไทยถึงถล่มทั้งหลัง? สตง. ไม่ตรวจสอบโครงการของตนเองหรือ? หรือระบบรัฐไทยล้มเหลวในระดับโครงสร้าง... ทั้งจริง ๆ และเชิงเปรียบเทียบ? 📘 สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) หรือ Office of the Auditor General of Thailand คือหน่วยงานอิสระตามรัฐธรรมนูญ 🇹🇭 มีภารกิจสำคัญในการตรวจสอบ การใช้เงินของภาครัฐให้ถูกต้อง โปร่งใส และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน 📌 ภารกิจหลักของ สตง. 1. ตรวจสอบงบประมาณหน่วยงานรัฐ (Financial Audit) 2. ตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎหมาย (Compliance Audit) 3. ตรวจสอบประสิทธิภาพการดำเนินงาน (Performance Audit) นอกจากบทบาทในการตรวจสอบ สตง. ยังเสนอแนะการบริหาร และใช้จ่ายงบประมาณ พร้อมจัดทำรายงานประจำปีต่อรัฐสภา และประชาชนผ่านเว็บไซต์ www.audit.go.th เพื่อให้เกิด “ธรรมาภิบาล” ที่แท้จริง สตง. ทำหน้าที่เป็น “ผู้ตรวจสอบความโปร่งใสของรัฐ” แต่เมื่อสำนักงานของตัวเองถล่ม... ใครจะตรวจสอบ “ผู้ตรวจสอบ”? 🧱 โครงการตึกใหม่ สตง. ต้นทุน 2,560 ล้านบาท แลกกับภาพลักษณ์องค์กร 🏗️ ข้อมูลโครงการ สร้างที่:ถนนกำแพงเพชร 2 เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ขนาดอาคาร 30 ชั้น บนพื้นที่ 11 ไร่ งบประมาณรวม 2,560 ล้านบาท ผู้รับเหมาคือ กิจการร่วมค้า ITD-CREC เป็นบริษัทร่วมลงทุนระหว่างบริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จํากัด (มหาชน) และบริษัทไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทควบคุมงานคือ กิจการร่วมค้าพีเคดับเบิลยู (PKW) ที่ร่วมทุนระหว่างบริษัทพี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จํากัด, บริษัท ว.และ สหาย คอนซัลแตนตส์ จํากัด และบริษัท เคพี คอนซัลแทนส์ แอนด์ แมเนจเม้น จํากัด การก่อสร้างเริ่มตั้งแต่ปี 2563 คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2569 โดยตั้งเป้าเป็นอาคารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รองรับการขยายตัวขององค์กรในอนาคต 🌱 แต่ในวันที่ 28 มีนาคม 2568 หลังจากสร้างมาได้เพียง 30%... ตึกก็ถล่มทั้งหลัง 😰 💣 สาเหตุ? อุบัติเหตุ? หรือสะท้อนปัญหาลึกของระบบ? 📍 แรงแผ่นดินไหว หรือโครงสร้างอ่อนแอ? แม้แผ่นดินไหวขนาด 8.2 จะถือว่ารุนแรง แต่บริเวณกรุงเทพฯ โดยเฉพาะจตุจักร ได้รับแรงสั่นสะเทือนประมาณ 5.1 เท่านั้น ซึ่งถือว่า ไม่แรงพอที่จะทำให้อาคารพังราบทั้งหลัง ตามมาตรฐานของกรมโยธาธิการและผังเมือง แล้วอะไรคือปัจจัยสำคัญที่ทำให้อาคารพัง? วัสดุก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน? 🧱 โครงสร้างไม่รองรับแรงสั่น? ขั้นตอนตรวจสอบขาดความรัดกุม? จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เหล็กเส้นที่ใช้ในอาคารส่วนใหญ่ มาจากบริษัทต่างชาติ ที่ถูกสั่งปิดโรงงานในปลายปี 2567 เนื่องจากไม่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย ‼️ 🧪 ตรวจสอบวัสดุจริง กับข้อเท็จจริงที่น่าหวั่นใจ กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับ สวทช. และวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ได้เข้าตรวจสอบเหล็กเส้น จากสถานที่เกิดเหตุ พบว่า เหล็ก 5 จาก 6 ประเภท มาจากโรงงานเดียวกัน โรงงานนี้เคยมีประวัติการระเบิด และเครนหล่น อีกทั้งยังเคยถูกสั่งปิดชั่วคราว จากเหตุผลด้านความปลอดภัย ❗ คำถามคือ เหล็กจากแหล่งที่ไม่มีคุณภาพเหล่านี้ ผ่านการอนุมัติเข้าโครงการระดับพันล้าน ได้อย่างไร? 🧠 เมื่อ “ผู้ตรวจ” ลืม “ตรวจสอบตัวเอง”? กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐไทย แม้จะมีกฎหมายและระเบียบที่รัดกุม แต่ในทางปฏิบัติ กลับพบว่า… การประมูลมักให้น้ำหนักกับ “ราคาถูก” มากกว่าคุณภาพ ผู้รับเหมาจึงใช้วัสดุราคาต่ำกว่ามาตรฐาน การกำกับดูแลไม่ทั่วถึง เพราะผู้ควบคุมโครงการ ก็อยู่ภายใต้งบจำกัด น่าเจ็บปวดที่เหตุการณ์นี้เกิดกับ “สตง.” ผู้ที่ควรจะเป็นต้นแบบของความโปร่งใส ⚖️ การเมืองในองค์กรอิสระ: อิสระจริง หรือเลือกกันเอง? โครงสร้าง คตง. และการสรรหา คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) มาจากการสรรหาโดย ส.ว. ปัจจุบันผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ได้รับการแต่งตั้งโดย ส.ว. ชุดพิเศษ การแต่งตั้งกรรมการหลายคน มีข้อครหาว่าไม่โปร่งใส และถูกฟ้องต่อศาลปกครอง ⛔ จุดนี้เองที่ทำให้ประชาชนเริ่มตั้งคำถามถึง “อิสรภาพ” ขององค์กรที่ควรเป็นอิสระจากการเมือง 📣 กระแสโซเชียล & ประชาชน “เสียงสมน้ำหน้า” ดังยิ่งกว่าความเศร้า ในขณะที่ครอบครัวผู้เสียชีวิต ยังรอการกู้ร่างในซากตึก โลกออนไลน์กลับเต็มไปด้วยเสียงแดกดัน เช่น “ผู้ตรวจ ลืมตรวจตึกตัวเอง” “สมน้ำหน้าที่พังเพราะไม่โปร่งใส” “เงินภาษีคนไทยพังลงต่อหน้า” คำพูดเหล่านี้อาจดูโหดร้าย แต่ก็สะท้อนความรู้สึกของคนจำนวนมาก ที่รู้สึกว่า “แม้แต่หน่วยงานตรวจสอบ ก็ยังไม่รอดจากระบบที่พัง” 📉 วิกฤตศรัทธา & บทเรียนราคาแพง สิ่งที่สูญเสียไม่ใช่แค่งบประมาณ หรือชีวิต… แต่คือ ความเชื่อมั่นต่อระบบรัฐ 🚨 บทเรียนสำคัญที่รัฐต้องรับให้ได้ การคัดเลือกผู้รับเหมา ควรมีระบบที่ยึด “คุณภาพ” เป็นหลัก ต้องมีการตรวจสอบหลายชั้น โดยอิสระจริง ๆ ปฏิรูประบบจัดซื้อจัดจ้าง ให้ประชาชนมีส่วนร่วม เพิ่มบทลงโทษกรณีวัสดุหรือผู้รับเหมาไม่ได้มาตรฐาน 📌 จากตึกถล่ม สู่การตรวจสอบศรัทธาประชาชน เหตุการณ์ตึก สตง. ถล่ม อาจเป็นจุดเปลี่ยนที่เจ็บปวดของประเทศไทย 🕯️ แต่ในขณะเดียวกัน... นี่อาจเป็นโอกาสในการทบทวนระบบราชการ และการบริหารงบประมาณของรัฐอย่างแท้จริง อย่าให้เสียง “สมน้ำหน้า” ดังกลบเสียงของผู้เสียชีวิต อย่าให้ตึกที่พัง เป็นเพียงข่าวแค่ไม่กี่วัน แต่ให้มันเป็นบทเรียนที่สร้าง “การเปลี่ยนแปลง” ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 021119 เม.ย. 2568 📢#ตึกสตงถล่ม #ผู้ตรวจถูกตรวจ #แผ่นดินไหว2568 #ข่าวด่วน #เหล็กไม่ได้มาตรฐาน #สตงคือใคร #ความโปร่งใสภาครัฐ #อาคารถล่มกรุงเทพ #ITDCREC #ข่าวไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 646 มุมมอง 0 รีวิว
  • เชื่อว่าเพื่อนเพจต้องคุ้นหูคุ้นตากับ ‘คทาหรูอี้’ (หรูอี้/如意 แปลตรงตัวได้ว่า สมดังปรารถนา) บริบทที่เรามักเห็นในนิยาย/ละครจีนบ่อยๆ คือ ฮ่องเต้พระราชทานคทาหรูอี้หยกให้เป็นรางวัลต่อขุนนาง หรือบุรุษสูงศักดิ์มอบคทาหรูอี้ให้สตรีที่ถูกเลือกเป็นภรรยา อย่างเช่นตัวอย่างภาพประกอบยกมาจากละคร <หรูอี้ จอมนางเคียงบัลลังก์> ตอนที่องค์ชายหงอี้ทรงเลือกชิงอิงเป็นพระชายา (รูปประกอบ1 ซ้าย) หรือเป็นวัตถุมงคลเหมาะกับการมอบให้เป็นของขวัญ

    เคยมีคนเขียนถึงคทาหรูอี้มาแล้วบ้าง ด้วยความหมายที่กล่าวถึงข้างต้น และเพื่อนเพจอาจเคยคุ้นกับการที่มีคทาหรูอี้ปรากฏในรูปภาพและรูปปั้นเทพเจ้าจีน และนักบวชนิยมถือคทาหรูอี้ยามสวดมนต์ ว่ากันว่าการใช้คทาหรูอี้เป็นสัญลักษณ์ทางศาสนานั้นได้รับอิทธิพลมาจากอินเดียโบราณ

    แต่วันนี้ Storyฯ มาคุยเกี่ยวกับคทาหรูอี้ในอีกแง่มุมหนึ่ง... เพื่อนเพจเคยสงสัยเหมือน Storyฯ หรือไม่ว่า เข้าใจล่ะว่าชื่อเป็นมงคล แต่คทาหรูอี้ออกจะเทอะทะ... มันไม่มีประโยชน์อื่นนอกจากตั้งโชว์หรือถือไว้เท่ๆ เลยหรือ?

    จากภาพวาดโบราณ (รูปประกอบ 1 ขวา) จะเห็นว่าคทาหรูอี้เป็นของใช้ติดมือของชาวบ้าน โดยเฉพาะผู้แก่ผู้เฒ่า... แสดงว่ามันต้องมีประโยชน์สิน่ะ เพื่อนเพจพอจะเดากันออกหรือไม่?

    จากข้อมูลที่ทางพิพิธภัณฑ์พระราชวังต้องห้ามรวบรวมได้ คทาหรูอี้มีมาแต่สมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันออก (ประมาณปี 206 ก่อนคริสตศักราช - ปีค.ศ. 220) เดิมถูกใช้เป็นไม้เกาหลัง เรียกว่า ‘หรูอี้’ หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า ‘ไม่ง้อใคร’ (不求人/ปู้ฉิวเหริน) แรกเริ่มมีรูปทรงคล้ายมือ โดยในบันทึกสมัยราชวงศ์ชิง (事物异名录/ซื่ออู้อี้หมิงลู่) ได้เขียนไว้ว่า “หรูอี้นั้นไซร้ เป็นไม้กรงเล็บ”

    นอกจากนี้ ยังมีบทความสมัยราชวงศ์เหนือใต้ว่ามีการใช้คทาหรูอี้เป็นไม้ส่งสัญญาณเคลื่อนทัพในยามศึก นัยว่าเพื่อให้ชนะศึกได้ดังใจหมาย

    คทาหรูอี้กลายเป็นวัตถุประจำตัวที่คนนิยมพกพาเพราะชื่อเป็นมงคลและใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ใช้เป็นอาวุธป้องกันตัวก็ได้ จึงพัฒนารูปแบบให้สวยงามมากขึ้น ว่ากันว่าในสมัยราชวงศ์เหนือใต้นั้นใช้กันแพร่หลายในหลายแคว้นทั้งในวังและนอกวัง โดยสมัยนั้นนิยมให้ด้ามจับโค้งเป็นทรงกลุ่มดาวจระเข้ ตัวด้ามกลมมนเพื่อให้จับถนัดมือ ทำจากไม้ ไม้ไผ่หรือโลหะ มีใช้กันตั้งแต่ในวังยันชาวบ้านธรรมดานอกวัง ต่อมาในยุคสมัยราชวงศ์ถังจึงทำด้ามจับให้แบนลงและเป็นเส้นตรง โค้งที่ปลายหัว

    นานวันเข้า เมื่อถึงสมัยหมิงและชิง คทาหรูอี้กลายเป็นที่นิยมอย่างมากในฐานะวัตถุมงคลที่ใช้ประดับบ้านเรือนหรือของขวัญ เป็นหนึ่งในสิ่งที่ควรมีในสินสอดของหมั้นของแต่งงาน จึงมีรูปแบบที่วิจิตรขึ้น รูปทรงที่เราคุ้นตาคือหัวเป็นทรงเห็ดหลินจือ โดยเฉพาะในยุคสมัยชิงนั้น คทาหรูอี้เป็นที่นิยมมากในวัง ไม่ว่าจะในงานราชประเพณี การแต่งตั้งขุนนาง การรับทูตจากต่างแดน ฯลฯ ล้วนต้องมีการถือคทาหรูอี้เพื่อเป็นสัญลักษณ์มงคล

    ปัจจุบันในพิพิธภัณฑ์พระราชวังต้องห้ามมีการเก็บรักษาคทาหรูอี้โบราณไว้กว่าสองพันชิ้นโดยส่วนใหญ่เป็นของสมัยชิง วัสดุที่ใช้ทำคทาหรูอี้นั้นหลากหลาย มีทั้งหยกชนิดต่างๆ ปะการัง ทองคำ เงิน ทองเหลือง งาช้าง ไม้ไผ่และไม้ชนิดต่างๆ และมีการแกะสลักลวดลายมากมายลงบนคทา

    Storyฯ เคยไปเที่ยวเมื่อนานมากแล้ว จำไม่ได้เลยว่าได้เคยเห็นอะไรในพิพิธภัณฑ์นี้บ้าง เพื่อนเพจท่านใดเคยผ่านตาก็มาเล่าสู่กันฟังได้นะคะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก:
    https://www.jianshu.com/p/faa99f5d9868
    https://new.qq.com/rain/a/20211210A027EU00
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.mct.gov.cn/whzx/zsdw/ggbwy/202102/t20210210_921534.htm
    https://www.sohu.com/a/508658629_322551
    https://baike.baidu.com/item/如意/254746
    https://new.qq.com/rain/a/20220728A054CG00

    #หรูอี้จอมนางเคียงบัลลังก์ #คทาหรูอี้ #วัตถุมงคลจีน #ไม้เกาหลัง
    เชื่อว่าเพื่อนเพจต้องคุ้นหูคุ้นตากับ ‘คทาหรูอี้’ (หรูอี้/如意 แปลตรงตัวได้ว่า สมดังปรารถนา) บริบทที่เรามักเห็นในนิยาย/ละครจีนบ่อยๆ คือ ฮ่องเต้พระราชทานคทาหรูอี้หยกให้เป็นรางวัลต่อขุนนาง หรือบุรุษสูงศักดิ์มอบคทาหรูอี้ให้สตรีที่ถูกเลือกเป็นภรรยา อย่างเช่นตัวอย่างภาพประกอบยกมาจากละคร <หรูอี้ จอมนางเคียงบัลลังก์> ตอนที่องค์ชายหงอี้ทรงเลือกชิงอิงเป็นพระชายา (รูปประกอบ1 ซ้าย) หรือเป็นวัตถุมงคลเหมาะกับการมอบให้เป็นของขวัญ เคยมีคนเขียนถึงคทาหรูอี้มาแล้วบ้าง ด้วยความหมายที่กล่าวถึงข้างต้น และเพื่อนเพจอาจเคยคุ้นกับการที่มีคทาหรูอี้ปรากฏในรูปภาพและรูปปั้นเทพเจ้าจีน และนักบวชนิยมถือคทาหรูอี้ยามสวดมนต์ ว่ากันว่าการใช้คทาหรูอี้เป็นสัญลักษณ์ทางศาสนานั้นได้รับอิทธิพลมาจากอินเดียโบราณ แต่วันนี้ Storyฯ มาคุยเกี่ยวกับคทาหรูอี้ในอีกแง่มุมหนึ่ง... เพื่อนเพจเคยสงสัยเหมือน Storyฯ หรือไม่ว่า เข้าใจล่ะว่าชื่อเป็นมงคล แต่คทาหรูอี้ออกจะเทอะทะ... มันไม่มีประโยชน์อื่นนอกจากตั้งโชว์หรือถือไว้เท่ๆ เลยหรือ? จากภาพวาดโบราณ (รูปประกอบ 1 ขวา) จะเห็นว่าคทาหรูอี้เป็นของใช้ติดมือของชาวบ้าน โดยเฉพาะผู้แก่ผู้เฒ่า... แสดงว่ามันต้องมีประโยชน์สิน่ะ เพื่อนเพจพอจะเดากันออกหรือไม่? จากข้อมูลที่ทางพิพิธภัณฑ์พระราชวังต้องห้ามรวบรวมได้ คทาหรูอี้มีมาแต่สมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันออก (ประมาณปี 206 ก่อนคริสตศักราช - ปีค.ศ. 220) เดิมถูกใช้เป็นไม้เกาหลัง เรียกว่า ‘หรูอี้’ หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า ‘ไม่ง้อใคร’ (不求人/ปู้ฉิวเหริน) แรกเริ่มมีรูปทรงคล้ายมือ โดยในบันทึกสมัยราชวงศ์ชิง (事物异名录/ซื่ออู้อี้หมิงลู่) ได้เขียนไว้ว่า “หรูอี้นั้นไซร้ เป็นไม้กรงเล็บ” นอกจากนี้ ยังมีบทความสมัยราชวงศ์เหนือใต้ว่ามีการใช้คทาหรูอี้เป็นไม้ส่งสัญญาณเคลื่อนทัพในยามศึก นัยว่าเพื่อให้ชนะศึกได้ดังใจหมาย คทาหรูอี้กลายเป็นวัตถุประจำตัวที่คนนิยมพกพาเพราะชื่อเป็นมงคลและใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ใช้เป็นอาวุธป้องกันตัวก็ได้ จึงพัฒนารูปแบบให้สวยงามมากขึ้น ว่ากันว่าในสมัยราชวงศ์เหนือใต้นั้นใช้กันแพร่หลายในหลายแคว้นทั้งในวังและนอกวัง โดยสมัยนั้นนิยมให้ด้ามจับโค้งเป็นทรงกลุ่มดาวจระเข้ ตัวด้ามกลมมนเพื่อให้จับถนัดมือ ทำจากไม้ ไม้ไผ่หรือโลหะ มีใช้กันตั้งแต่ในวังยันชาวบ้านธรรมดานอกวัง ต่อมาในยุคสมัยราชวงศ์ถังจึงทำด้ามจับให้แบนลงและเป็นเส้นตรง โค้งที่ปลายหัว นานวันเข้า เมื่อถึงสมัยหมิงและชิง คทาหรูอี้กลายเป็นที่นิยมอย่างมากในฐานะวัตถุมงคลที่ใช้ประดับบ้านเรือนหรือของขวัญ เป็นหนึ่งในสิ่งที่ควรมีในสินสอดของหมั้นของแต่งงาน จึงมีรูปแบบที่วิจิตรขึ้น รูปทรงที่เราคุ้นตาคือหัวเป็นทรงเห็ดหลินจือ โดยเฉพาะในยุคสมัยชิงนั้น คทาหรูอี้เป็นที่นิยมมากในวัง ไม่ว่าจะในงานราชประเพณี การแต่งตั้งขุนนาง การรับทูตจากต่างแดน ฯลฯ ล้วนต้องมีการถือคทาหรูอี้เพื่อเป็นสัญลักษณ์มงคล ปัจจุบันในพิพิธภัณฑ์พระราชวังต้องห้ามมีการเก็บรักษาคทาหรูอี้โบราณไว้กว่าสองพันชิ้นโดยส่วนใหญ่เป็นของสมัยชิง วัสดุที่ใช้ทำคทาหรูอี้นั้นหลากหลาย มีทั้งหยกชนิดต่างๆ ปะการัง ทองคำ เงิน ทองเหลือง งาช้าง ไม้ไผ่และไม้ชนิดต่างๆ และมีการแกะสลักลวดลายมากมายลงบนคทา Storyฯ เคยไปเที่ยวเมื่อนานมากแล้ว จำไม่ได้เลยว่าได้เคยเห็นอะไรในพิพิธภัณฑ์นี้บ้าง เพื่อนเพจท่านใดเคยผ่านตาก็มาเล่าสู่กันฟังได้นะคะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://www.jianshu.com/p/faa99f5d9868 https://new.qq.com/rain/a/20211210A027EU00 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.mct.gov.cn/whzx/zsdw/ggbwy/202102/t20210210_921534.htm https://www.sohu.com/a/508658629_322551 https://baike.baidu.com/item/如意/254746 https://new.qq.com/rain/a/20220728A054CG00 #หรูอี้จอมนางเคียงบัลลังก์ #คทาหรูอี้ #วัตถุมงคลจีน #ไม้เกาหลัง
    WWW.JIANSHU.COM
    【如懿传|如懿】年少情深,也可以走到相看两厌
    一出墙头马上,两心相许。山河依旧,唯人兰因絮果。 如懿的一生都把真心付给了自己的少年郎,年少时的扶持,无人之巅的陪伴,病榻前的守护,相比于甄嬛,她更加令人心疼。 执着勇敢是她...
    Like
    1
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 602 มุมมอง 0 รีวิว
  • เดาข้อสอบ ตอบยังไง? ให้แม่นเวอร์! ยอดผู้สมัครสอบ อปท. 438,277 คน รอบแรกบรรจุ 1 ธ.ค. 8,439 คน สถ.โกยค่าสมัครกว่า 188 ล้าน เทคนิคสอบ อปท. 2568 ที่ต้องรู้ 📚🔥

    ✨ Unlock เคล็ดลับสอบติด อปท. พร้อมเจาะลึกเทคนิคเดาข้อสอบแบบมือโปร

    📌 เจาะลึกการสอบ อปท. 2568 ตั้งแต่ขั้นตอนการสอบ รายละเอียดตำแหน่ง เทคนิคการเตรียมตัว ไปจนถึง "เดาข้อสอบ" อย่างไรให้แม่นเวอร์ พร้อมเทคนิคแบบจิตวิทยา ที่จะช่วยให้สอบผ่านได้แบบมืออาชีพ!

    อปท. 2568 ปีทองของคนอยากเป็นข้าราชการ 🎯 ปีนี้ถือเป็นโอกาสทอง ของผู้ที่มีความฝันอยากเป็น "ข้าราชการท้องถิ่น" หรือที่รู้จักกันในชื่อการสอบ อปท. ซึ่งมีผู้สมัครกว่า 438,277 คนทั่วประเทศ 😲

    โดยในรอบแรก จะมีการบรรจุเข้ารับราชการในวันที่ 1 ธันวาคม 2568 จำนวนถึง 8,439 อัตรา และที่น่าจับตาไม่แพ้กันคือ "ค่าสมัครสอบ" ที่กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น สามารถรวบรวมได้กว่า 188 ล้านบาท 💸

    แต่…ด้วยจำนวนผู้สมัครมหาศาล การสอบให้ผ่านจึงไม่ใช่เรื่องง่าย! โดยเฉพาะเมื่อมี "กฎเหล็ก" อย่าง ต้องสอบผ่านวิชาภาษาอังกฤษอย่างน้อย 10 จาก 20 ข้อ ถึงจะผ่านภาค ก 😱

    🤔 อปท. ย่อมาจาก องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งเป็นการสอบแข่งขัน เพื่อบรรจุเป็น ข้าราชการ หรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ภายใต้การดูแลของ กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย

    สาเหตุที่คนแห่สมัครกันเยอะ? เพราะ...
    🏢 เป็นงานราชการ มีความมั่นคง
    💰 เงินเดือนและสวัสดิการดี
    📍 ทำงานในพื้นที่บ้านเกิดได้
    ⏳ ขึ้นบัญชีได้นานถึง 2 ปี ขยายได้อีก 30 วัน

    ขั้นตอนสำคัญของการสอบ อปท. 2568 📅
    2 ก.ค. 2568 ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบ
    19 ก.ค. 2568 สอบภาค ก และ ข
    1 ต.ค. 2568 ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบภาค ค
    18-19 ต.ค. 2568 สอบสัมภาษณ์ ภาค ค
    31 ต.ค. 2568 ประกาศบัญชีผู้สอบแข่งขันได้
    3-7 พ.ย. 2568 รายงานตัว และเลือกสถานที่
    1 ธ.ค. 2568 บรรจุแต่งตั้งเข้ารับราชการ

    📝 อย่าลืมบันทึกวันสำคัญไว้ให้ดี!

    กลุ่มภาคที่เปิดสอบ และตำแหน่งยอดฮิต 🎯
    🗺️ กลุ่มภาค 10 โซนทั่วประเทศ
    มีตั้งแต่ ภาคเหนือ เขต 1–2, ภาคกลาง เขต 1–3, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 1–3, ไปจนถึง ภาคใต้ เขต 1–2 โดยแต่ละพื้นที่เปิดสอบในตำแหน่งต่างกัน ตามอัตราว่าง

    📋 ประเภทของตำแหน่งที่เปิดสอบ
    - ครูผู้ช่วย 👩‍🏫👨‍🏫 ป.ตรี 4 ปี เริ่มต้น 16,560 บาท ป.ตรี 5 ปี เริ่มต้น 17,380 บาท

    - ตำแหน่งประเภททั่วไป วุฒิ ปวช./ปวท./ปวส. เช่น เจ้าพนักงานธุรการ, เจ้าพนักงานการคลัง ฯลฯ เงินเดือนเริ่มต้น 10,340 – 12,730 บาท

    - ตำแหน่งประเภทวิชาการ วุฒิปริญญาตรี เช่น นักวิชาการเงิน, วิศวกรโยธา, นักทรัพยากรบุคคล ฯลฯ เงินเดือนเริ่มต้น 16,600 บาท

    💡 ตำแหน่งยอดฮิตที่มีอัตรารับมากสุดคือ “นักวิชาการตรวจสอบภายใน” ถึง 779 อัตราเลยทีเดียว!

    ✍️ การสอบแบ่งออกเป็น 3 ภาค

    🔸 ภาค ก ความรู้ทั่วไป 100 คะแนน
    - วิเคราะห์เหตุผล 30 คะแนน
    - กฎหมายที่เกี่ยวข้อง 30 คะแนน
    - ภาษาไทย 20 คะแนน
    - ภาษาอังกฤษ 20 คะแนน ต้องได้อย่างน้อย 10 คะแนน

    🔸 ภาค ข ความรู้เฉพาะตำแหน่ง 100 คะแนน ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่สมัคร เช่น
    - นักวิชาการศึกษา → พัฒนาหลักสูตร
    - นักพัฒนาชุมชน → กฎหมายพัฒนาชุมชน
    - นักบัญชี → การเงิน-บัญชี

    🔸 ภาค ค สัมภาษณ์ 100 คะแนน
    - บุคลิกภาพ
    - ทัศนคติ
    - ความสามารถในการสื่อสาร
    - ความเหมาะสมกับตำแหน่ง

    เทคนิคเตรียมสอบ อปท. แบบจับมือทำ 📖
    ✅ วางแผนอ่านหนังสือล่วงหน้า อย่ารอใกล้วันสอบ! ควรวางแผนเตรียมตัว ล่วงหน้าอย่างน้อย 3-4 เดือน แบ่งเวลาอ่านให้ครอบคลุมทั้งภาค ก และ ข

    ✅ อ่านกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ระเบียบราชการท้องถิ่น พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดฯ

    ✅ ฝึกทำข้อสอบเก่า ค้นหาแนวข้อสอบ อปท. จากปีเก่า ๆ มาฝึกให้คล่อง ฝึกทำโจทย์วันละ 20–30 ข้อทุกวัน ✍️

    ✅ ภาษาอังกฤษต้องไม่พลาด เน้น Reading comprehension ศัพท์พื้นฐาน และ Grammar เบื้องต้น ฝึกโจทย์แบบ multiple choice

    🔥 เทคนิคเดาข้อสอบให้แม่นเวอร์! ไม่ต้องงม ไม่ต้องมั่ว 🤖 เมื่อเจอข้อสอบที่ “คิดไม่ออก” หรือ “ไม่มั่นใจ” ใช้เทคนิคเหล่านี้ ช่วยให้เดาอย่างมีหลักการ ได้แม่นยำขึ้น!

    🎯 เทคนิคที่ 1 ตัดตัวเลือกสุดโต่ง ระวังคำว่า “เสมอ”, “ทั้งหมด”, “ไม่มีข้อยกเว้น”, “ห้ามโดยเด็ดขาด” เพราะมักผิด ❌

    🎯 เทคนิคที่ 2 คำที่ให้ความยืดหยุ่นมักจะถูก คำว่า “มักจะ”, “อาจจะ”, “บางครั้ง” มักถูกมากกว่า ✅

    🎯 เทคนิคที่ 3 สแกนคำถาม – คำตอบที่คล้ายกัน ถ้ามีคำจากคำถามโผล่ในคำตอบ = โอกาสถูกสูง!

    🎯 เทคนิคที่ 4 เดาตามแพทเทิร์น ถ้าต้องเดาจริง ๆ → เลือก “ข” หรือ “ค” เพราะมักเป็นตำแหน่งกลางที่ผู้ออกข้อสอบนิยมใช้

    🎯 เทคนิคที่ 5 ตัวเลือกยาวมักถูก เพราะอาจารย์มักใส่รายละเอียดมาก ในคำตอบที่ถูก 📝

    ❌ ข้อห้ามเด็ดขาดในการทำข้อสอบ
    - อย่าทิ้งข้อ – ตอบดีกว่าเว้น!
    - อย่าเปลี่ยนคำตอบไปมา ถ้าไม่มีเหตุผลชัดเจน
    - อย่ามองข้ามคำว่า “ไม่ใช่” หรือ “ยกเว้น” ในคำถาม

    📚 เตรียมตัววันนี้ พรุ่งนี้สอบติด! 🌈 การสอบ อปท. 2568 คือโอกาสครั้งใหญ่ของใครหลายคน และยิ่งมีเทคนิคที่ดี + เตรียมตัวอย่างเป็นระบบ = โอกาส “สอบติด” ก็สูงขึ้นตามไปด้วย! 💪

    ไม่ว่าจะเป็น… วางแผนอ่านหนังสือ ฝึกทำข้อสอบเก่า รู้เทคนิคเดาข้อสอบแบบมีหลักการ ทั้งหมดนี้คืออาวุธสำคัญ ที่ต้องมีในการสอบครั้งนี้!

    ✨ ขอให้โชคดีในการสอบ และได้เป็นข้าราชการในฝัน! ✨

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 311115 มี.ค. 2568

    📌 #สอบอปท2568 #แนวข้อสอบราชการ #เดาข้อสอบแม่นเวอร์ #เทคนิคสอบราชการ #สอบภาคก #สอบภาคข #ภาษาอังกฤษอปท #สอบราชการ2568 #สมัครงานราชการ #สอบสัมภาษณ์อปท
    เดาข้อสอบ ตอบยังไง? ให้แม่นเวอร์! ยอดผู้สมัครสอบ อปท. 438,277 คน รอบแรกบรรจุ 1 ธ.ค. 8,439 คน สถ.โกยค่าสมัครกว่า 188 ล้าน เทคนิคสอบ อปท. 2568 ที่ต้องรู้ 📚🔥 ✨ Unlock เคล็ดลับสอบติด อปท. พร้อมเจาะลึกเทคนิคเดาข้อสอบแบบมือโปร 📌 เจาะลึกการสอบ อปท. 2568 ตั้งแต่ขั้นตอนการสอบ รายละเอียดตำแหน่ง เทคนิคการเตรียมตัว ไปจนถึง "เดาข้อสอบ" อย่างไรให้แม่นเวอร์ พร้อมเทคนิคแบบจิตวิทยา ที่จะช่วยให้สอบผ่านได้แบบมืออาชีพ! อปท. 2568 ปีทองของคนอยากเป็นข้าราชการ 🎯 ปีนี้ถือเป็นโอกาสทอง ของผู้ที่มีความฝันอยากเป็น "ข้าราชการท้องถิ่น" หรือที่รู้จักกันในชื่อการสอบ อปท. ซึ่งมีผู้สมัครกว่า 438,277 คนทั่วประเทศ 😲 โดยในรอบแรก จะมีการบรรจุเข้ารับราชการในวันที่ 1 ธันวาคม 2568 จำนวนถึง 8,439 อัตรา และที่น่าจับตาไม่แพ้กันคือ "ค่าสมัครสอบ" ที่กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น สามารถรวบรวมได้กว่า 188 ล้านบาท 💸 แต่…ด้วยจำนวนผู้สมัครมหาศาล การสอบให้ผ่านจึงไม่ใช่เรื่องง่าย! โดยเฉพาะเมื่อมี "กฎเหล็ก" อย่าง ต้องสอบผ่านวิชาภาษาอังกฤษอย่างน้อย 10 จาก 20 ข้อ ถึงจะผ่านภาค ก 😱 🤔 อปท. ย่อมาจาก องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งเป็นการสอบแข่งขัน เพื่อบรรจุเป็น ข้าราชการ หรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ภายใต้การดูแลของ กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย สาเหตุที่คนแห่สมัครกันเยอะ? เพราะ... 🏢 เป็นงานราชการ มีความมั่นคง 💰 เงินเดือนและสวัสดิการดี 📍 ทำงานในพื้นที่บ้านเกิดได้ ⏳ ขึ้นบัญชีได้นานถึง 2 ปี ขยายได้อีก 30 วัน ขั้นตอนสำคัญของการสอบ อปท. 2568 📅 2 ก.ค. 2568 ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบ 19 ก.ค. 2568 สอบภาค ก และ ข 1 ต.ค. 2568 ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบภาค ค 18-19 ต.ค. 2568 สอบสัมภาษณ์ ภาค ค 31 ต.ค. 2568 ประกาศบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ 3-7 พ.ย. 2568 รายงานตัว และเลือกสถานที่ 1 ธ.ค. 2568 บรรจุแต่งตั้งเข้ารับราชการ 📝 อย่าลืมบันทึกวันสำคัญไว้ให้ดี! กลุ่มภาคที่เปิดสอบ และตำแหน่งยอดฮิต 🎯 🗺️ กลุ่มภาค 10 โซนทั่วประเทศ มีตั้งแต่ ภาคเหนือ เขต 1–2, ภาคกลาง เขต 1–3, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 1–3, ไปจนถึง ภาคใต้ เขต 1–2 โดยแต่ละพื้นที่เปิดสอบในตำแหน่งต่างกัน ตามอัตราว่าง 📋 ประเภทของตำแหน่งที่เปิดสอบ - ครูผู้ช่วย 👩‍🏫👨‍🏫 ป.ตรี 4 ปี เริ่มต้น 16,560 บาท ป.ตรี 5 ปี เริ่มต้น 17,380 บาท - ตำแหน่งประเภททั่วไป วุฒิ ปวช./ปวท./ปวส. เช่น เจ้าพนักงานธุรการ, เจ้าพนักงานการคลัง ฯลฯ เงินเดือนเริ่มต้น 10,340 – 12,730 บาท - ตำแหน่งประเภทวิชาการ วุฒิปริญญาตรี เช่น นักวิชาการเงิน, วิศวกรโยธา, นักทรัพยากรบุคคล ฯลฯ เงินเดือนเริ่มต้น 16,600 บาท 💡 ตำแหน่งยอดฮิตที่มีอัตรารับมากสุดคือ “นักวิชาการตรวจสอบภายใน” ถึง 779 อัตราเลยทีเดียว! ✍️ การสอบแบ่งออกเป็น 3 ภาค 🔸 ภาค ก ความรู้ทั่วไป 100 คะแนน - วิเคราะห์เหตุผล 30 คะแนน - กฎหมายที่เกี่ยวข้อง 30 คะแนน - ภาษาไทย 20 คะแนน - ภาษาอังกฤษ 20 คะแนน ต้องได้อย่างน้อย 10 คะแนน 🔸 ภาค ข ความรู้เฉพาะตำแหน่ง 100 คะแนน ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่สมัคร เช่น - นักวิชาการศึกษา → พัฒนาหลักสูตร - นักพัฒนาชุมชน → กฎหมายพัฒนาชุมชน - นักบัญชี → การเงิน-บัญชี 🔸 ภาค ค สัมภาษณ์ 100 คะแนน - บุคลิกภาพ - ทัศนคติ - ความสามารถในการสื่อสาร - ความเหมาะสมกับตำแหน่ง เทคนิคเตรียมสอบ อปท. แบบจับมือทำ 📖 ✅ วางแผนอ่านหนังสือล่วงหน้า อย่ารอใกล้วันสอบ! ควรวางแผนเตรียมตัว ล่วงหน้าอย่างน้อย 3-4 เดือน แบ่งเวลาอ่านให้ครอบคลุมทั้งภาค ก และ ข ✅ อ่านกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ระเบียบราชการท้องถิ่น พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดฯ ✅ ฝึกทำข้อสอบเก่า ค้นหาแนวข้อสอบ อปท. จากปีเก่า ๆ มาฝึกให้คล่อง ฝึกทำโจทย์วันละ 20–30 ข้อทุกวัน ✍️ ✅ ภาษาอังกฤษต้องไม่พลาด เน้น Reading comprehension ศัพท์พื้นฐาน และ Grammar เบื้องต้น ฝึกโจทย์แบบ multiple choice 🔥 เทคนิคเดาข้อสอบให้แม่นเวอร์! ไม่ต้องงม ไม่ต้องมั่ว 🤖 เมื่อเจอข้อสอบที่ “คิดไม่ออก” หรือ “ไม่มั่นใจ” ใช้เทคนิคเหล่านี้ ช่วยให้เดาอย่างมีหลักการ ได้แม่นยำขึ้น! 🎯 เทคนิคที่ 1 ตัดตัวเลือกสุดโต่ง ระวังคำว่า “เสมอ”, “ทั้งหมด”, “ไม่มีข้อยกเว้น”, “ห้ามโดยเด็ดขาด” เพราะมักผิด ❌ 🎯 เทคนิคที่ 2 คำที่ให้ความยืดหยุ่นมักจะถูก คำว่า “มักจะ”, “อาจจะ”, “บางครั้ง” มักถูกมากกว่า ✅ 🎯 เทคนิคที่ 3 สแกนคำถาม – คำตอบที่คล้ายกัน ถ้ามีคำจากคำถามโผล่ในคำตอบ = โอกาสถูกสูง! 🎯 เทคนิคที่ 4 เดาตามแพทเทิร์น ถ้าต้องเดาจริง ๆ → เลือก “ข” หรือ “ค” เพราะมักเป็นตำแหน่งกลางที่ผู้ออกข้อสอบนิยมใช้ 🎯 เทคนิคที่ 5 ตัวเลือกยาวมักถูก เพราะอาจารย์มักใส่รายละเอียดมาก ในคำตอบที่ถูก 📝 ❌ ข้อห้ามเด็ดขาดในการทำข้อสอบ - อย่าทิ้งข้อ – ตอบดีกว่าเว้น! - อย่าเปลี่ยนคำตอบไปมา ถ้าไม่มีเหตุผลชัดเจน - อย่ามองข้ามคำว่า “ไม่ใช่” หรือ “ยกเว้น” ในคำถาม 📚 เตรียมตัววันนี้ พรุ่งนี้สอบติด! 🌈 การสอบ อปท. 2568 คือโอกาสครั้งใหญ่ของใครหลายคน และยิ่งมีเทคนิคที่ดี + เตรียมตัวอย่างเป็นระบบ = โอกาส “สอบติด” ก็สูงขึ้นตามไปด้วย! 💪 ไม่ว่าจะเป็น… วางแผนอ่านหนังสือ ฝึกทำข้อสอบเก่า รู้เทคนิคเดาข้อสอบแบบมีหลักการ ทั้งหมดนี้คืออาวุธสำคัญ ที่ต้องมีในการสอบครั้งนี้! ✨ ขอให้โชคดีในการสอบ และได้เป็นข้าราชการในฝัน! ✨ ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 311115 มี.ค. 2568 📌 #สอบอปท2568 #แนวข้อสอบราชการ #เดาข้อสอบแม่นเวอร์ #เทคนิคสอบราชการ #สอบภาคก #สอบภาคข #ภาษาอังกฤษอปท #สอบราชการ2568 #สมัครงานราชการ #สอบสัมภาษณ์อปท
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 646 มุมมอง 0 รีวิว
  • สอบคดีฮั้ว ส.ว. วางสูตรพีรามิด ไล่เส้นเงิน 1 ด.ถึงวันเลือก
    .
    กระบวนการตรวจสอบการเลือกส.ว.ในมือของกรมสอบสวนคดีพิเศษยังเป็นไปอย่างเข้มข้น ภายหลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. มีมติแต่งตั้งข้าราชการจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นเจ้าพนักงานตามมาตรา 42 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยกกต. เพื่อเดินหน้าตรวจสอบกรณีนี้อย่างเต็มที่

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000030446
    สอบคดีฮั้ว ส.ว. วางสูตรพีรามิด ไล่เส้นเงิน 1 ด.ถึงวันเลือก . กระบวนการตรวจสอบการเลือกส.ว.ในมือของกรมสอบสวนคดีพิเศษยังเป็นไปอย่างเข้มข้น ภายหลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. มีมติแต่งตั้งข้าราชการจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นเจ้าพนักงานตามมาตรา 42 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยกกต. เพื่อเดินหน้าตรวจสอบกรณีนี้อย่างเต็มที่ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000030446
    Like
    Haha
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 594 มุมมอง 0 รีวิว
  • Wolfspeed กำลังเผชิญวิกฤตหลังหุ้นตกต่ำที่สุดในรอบ 27 ปี เนื่องจากความไม่แน่นอนของเงินทุนจากกฎหมาย CHIPS Act บริษัทตั้งเป้าหมายใช้เงินทุนเพื่อผลิตชิปซิลิคอนคาร์ไบด์สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า แต่ยังไม่ได้รับการอนุมัติภายใต้รัฐบาลใหม่ พร้อมแต่งตั้ง CEO คนใหม่เพื่อช่วยนำพาองค์กรผ่านช่วงวิกฤต

    ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง:
    - ประธานาธิบดีทรัมป์เสนอให้ยกเลิกกฎหมาย CHIPS Act และนำเงินไปใช้ชำระหนี้ของประเทศ ซึ่งทำให้โครงการของ Wolfspeed มีความเสี่ยงสูงที่จะไม่ได้รับเงินทุน.

    ความสำคัญของเงินทุน:
    - Wolfspeed ตั้งเป้าหมายใช้เงินทุนนี้เพื่อเร่งการผลิตชิป ซิลิคอนคาร์ไบด์ ที่มีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าและพลังงานหมุนเวียน.

    การปรับตัวของบริษัท:
    - บริษัทได้แต่งตั้ง CEO คนใหม่ Robert Feurle เพื่อช่วยนำพาองค์กรผ่านช่วงวิกฤต และวางแผนใช้เครดิตภาษีมูลค่า 865 ล้านดอลลาร์ เพื่อเสริมโครงสร้างเงินทุน.

    ความคาดหวังในตลาด:
    - ตลาดยังคงมองว่าหุ้นของ Wolfspeed มีแนวโน้มลดลง โดยมีการถือหุ้นในสถานะ short position สูงถึง 32.5% ซึ่งสะท้อนถึงความไม่มั่นใจในอนาคตของบริษัท.

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/28/chipmaker-wolfspeed039s-shares-plunge-over-45-to-27-year-low
    Wolfspeed กำลังเผชิญวิกฤตหลังหุ้นตกต่ำที่สุดในรอบ 27 ปี เนื่องจากความไม่แน่นอนของเงินทุนจากกฎหมาย CHIPS Act บริษัทตั้งเป้าหมายใช้เงินทุนเพื่อผลิตชิปซิลิคอนคาร์ไบด์สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า แต่ยังไม่ได้รับการอนุมัติภายใต้รัฐบาลใหม่ พร้อมแต่งตั้ง CEO คนใหม่เพื่อช่วยนำพาองค์กรผ่านช่วงวิกฤต ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง: - ประธานาธิบดีทรัมป์เสนอให้ยกเลิกกฎหมาย CHIPS Act และนำเงินไปใช้ชำระหนี้ของประเทศ ซึ่งทำให้โครงการของ Wolfspeed มีความเสี่ยงสูงที่จะไม่ได้รับเงินทุน. ความสำคัญของเงินทุน: - Wolfspeed ตั้งเป้าหมายใช้เงินทุนนี้เพื่อเร่งการผลิตชิป ซิลิคอนคาร์ไบด์ ที่มีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าและพลังงานหมุนเวียน. การปรับตัวของบริษัท: - บริษัทได้แต่งตั้ง CEO คนใหม่ Robert Feurle เพื่อช่วยนำพาองค์กรผ่านช่วงวิกฤต และวางแผนใช้เครดิตภาษีมูลค่า 865 ล้านดอลลาร์ เพื่อเสริมโครงสร้างเงินทุน. ความคาดหวังในตลาด: - ตลาดยังคงมองว่าหุ้นของ Wolfspeed มีแนวโน้มลดลง โดยมีการถือหุ้นในสถานะ short position สูงถึง 32.5% ซึ่งสะท้อนถึงความไม่มั่นใจในอนาคตของบริษัท. https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/28/chipmaker-wolfspeed039s-shares-plunge-over-45-to-27-year-low
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Chipmaker Wolfspeed's shares hit 27-year low over uncertain federal funding
    (Reuters) - Wolfspeed's shares lost half their value on Friday, hitting their lowest level since 1998, as funding through a Joe Biden-era legislation that promised subsidies for chip making in the United States remains uncertain.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 267 มุมมอง 0 รีวิว
  • อะห์หมัด อัล-ชารา ผู้ปกครองซีเรียในขณะนี้ เพิ่งประกาศรื้อฟื้นตำแหน่งมุฟตีใหญ่(Grand Mufti) "ชีคโอซามา อัล-ริฟาย" ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้นำคนแรก

    นอกจากนี้ ยังประกาศให้มีการจัดตั้งสภาสูงสุดสำหรับฟัตวาขึ้นเพื่อมีส่วนร่วมสำคัญในกรตัดสินทางศาสนา โดยที่สภาจะควบคุมการอภิปรายทางศาสนาโดยรักษาความสมดุลระหว่างประเพณีและความทันสมัยใน


    สำหรับ อะห์หมัด อัล-ชารา คืออดีตผู้นำกลุ่มก่อการร้าย HTS ที่มีค่าตัวนำจับสิบล้านดอลลาร์สหรัฐ ได้แต่งตั้งตนเองปกครองซีเรีย หลังจากโค่นล้มรัฐบาลประชาธิปไตยที่มาจากการเลือกตั้งของอีตประธานาธิบดีอัสซาด
    อะห์หมัด อัล-ชารา ผู้ปกครองซีเรียในขณะนี้ เพิ่งประกาศรื้อฟื้นตำแหน่งมุฟตีใหญ่(Grand Mufti) "ชีคโอซามา อัล-ริฟาย" ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้นำคนแรก นอกจากนี้ ยังประกาศให้มีการจัดตั้งสภาสูงสุดสำหรับฟัตวาขึ้นเพื่อมีส่วนร่วมสำคัญในกรตัดสินทางศาสนา โดยที่สภาจะควบคุมการอภิปรายทางศาสนาโดยรักษาความสมดุลระหว่างประเพณีและความทันสมัยใน สำหรับ อะห์หมัด อัล-ชารา คืออดีตผู้นำกลุ่มก่อการร้าย HTS ที่มีค่าตัวนำจับสิบล้านดอลลาร์สหรัฐ ได้แต่งตั้งตนเองปกครองซีเรีย หลังจากโค่นล้มรัฐบาลประชาธิปไตยที่มาจากการเลือกตั้งของอีตประธานาธิบดีอัสซาด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 325 มุมมอง 0 รีวิว
  • **คุยเรื่องสีแดงจาก <ต้นตำนานอาภรณ์จักรพรรดิ>**

    สวัสดีค่ะ วันนี้มาคุยกันเกี่ยวกับบทกวีและสีแดงหลากเฉดที่ถูกนำมาใช้ในเรื่อง <ต้นตํานานอาภรณ์จักรพรรดิ> ซึ่งเดินเรื่องราวด้วยสูตรสีย้อมผ้าไหมสูจิ่นสีแดงของพ่อนางเอกที่ในเรื่องเรียกว่า ‘สู่หง’ ซึ่งถูกยกย่องขึ้นเป็นสุดยอดของสีแดงตามจินตนาการของผู้แต่งนิยายต้นฉบับ

    เพื่อนเพจที่ได้ดูเรื่องนี้จะจำได้ว่าก่อนที่นางเอกจะค้นคว้าสูตรลับนี้ของพ่อขึ้นมาอีกได้สำเร็จ นางเอกได้พัฒนาสีแดงขึ้นสามสีโดยอธิบายว่า ‘สู่หง’ แท้จริงแล้วหมายถึงสีแดงจากพื้นที่สู่ (สองสัปดาห์ก่อนเรากล่าวถึงดินแดนแคว้นสู่ไปแล้วลองย้อนอ่านดูได้) และนางได้จัดงานแฟชั่นโชว์ขึ้นเพื่อแสดงชุดที่ทอจากไหมสามสีใหม่นี้ โดยนางและพี่ชายได้บรรยายถึงสีเหล่านี้ด้วยการกล่าวอิงกับบทกวี วันนี้เรามาคุยถึงเกร็ดวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่แฝงอยู่ในนี้กัน

    เริ่มจากชุดแรกที่นางเอกกล่าวว่าสีแดงนี้ได้อารมณ์อิสระและความมีชีวิตชีวาจากบทกวีของกวีผู้ที่นางเรียกว่า ‘บัณฑิตจากชิงเหลียน’

    ในเรื่องไม่ได้กล่าวไว้ว่าเขาผู้นี้คือใครและคำแปลซับไทยอาจทำให้เข้าใจเป็นอื่น แต่จริงๆ แล้ว ‘บัณฑิตจากชิงเหลียน’ (青莲居士 / ชิงเหลียนจวีซื่อ) เป็นฉายาของกวีเอกสมัยถังหลี่ไป๋ และเป็นฉายาที่เราชาวไทยไม่คุ้นหู ซึ่งสาเหตุที่หลี่ไป๋ถูกเรียกขานเช่นนี้เป็นเพราะว่าบ้านเกิดของเขาคือหมู่บ้านชิงเหลียน (ปัจจุบันคือตำบลชิงเหลียน อำเภอจิ่นหยาง มณฑลเสฉวน) และกลอนบทที่พูดถึงในตอนนี้มีชื่อว่า ‘ซานจงอวี่โยวเหรินตุ้ยจั๋ว’ (山中与幽人对酌 แปลได้ว่าร่ำสุรากลางเขาคู่กับสหายผู้ปลีกวิเวก) ในบทกวีไม่ได้กล่าวถึงสีแดง แต่บรรยายถึงความสนุกสุขสันต์ที่ได้ร่ำสุรากับผู้รู้ใจท่ามกลางวิวดอกไม้บานเต็มเขา

    ต่อมาชุดที่สองนี้มีหลากเฉดสีเช่นแดง ชมพูและส้มเหลือง โดยบอกว่าได้แรงบันดาลใจมาจากบทกวีของ ‘เลขาธิการหญิง’ (女校书 / หนี่ว์เจี้ยวซู) ซึ่งในเรื่องไม่ได้กล่าวไว้ว่าคือใคร

    กวีที่ถูกกล่าวถึงนี้คือเซวียเทา (薛涛) ผู้ที่ถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในสี่กวีเอกสตรีแห่งราชวงศ์ถัง มีผลงานกว่าห้าร้อยชิ้น มีบทกลอนที่ยังคงสืบทอดมาจวบจนปัจจุบันกว่าเก้าสิบบท เกิดที่ฉางอันแต่ติดตามบิดาผู้เป็นขุนนางมารับราชการที่เมืองเฉิงตู นางได้รับการศึกษาอย่างดีและเป็นคนมีพรสวรรค์ด้านดนตรีและบทกวี แต่งกลอนยาวได้ตั้งแต่อายุเพียงแปดปี เชี่ยวชาญด้านการออกเสียงและดนตรี

    เมื่อเซวียเทาอายุได้สิบสี่ปี บิดาของนางป่วยตายในระหว่างไปปฏิบัติหน้าที่ต่างเมือง นางและมารดาพยายามหาเลี้ยงชีพอย่างยากลำบาก ในที่สุดนางตัดสินใจเข้าเป็นนางคณิกาหลวงประเภทขับร้อง (ในสมัยนั้นเรียกว่า ‘เกอจี้’) เพื่อจะได้มีเงินเดือนหลวงยังชีพ โดยรับหน้าที่ขับร้องในงานเลี้ยงของทางการต่างๆ มีโอกาสได้แต่งบทกวีในงานเลี้ยงต่อหน้าขุนนางชั้นผู้ใหญ่จนเป็นที่โด่งดัง ต่อมาได้รับการเคารพยกย่องจากผู้คนมากมายด้วยความปราดเปรื่องด้านงานกวี และได้รู้จักสนิทสนมกับเหวยเกาเริ่น เจี๋ยตู้สื่อผู้ปกครองเขตพื้นที่นั้น

    เจี๋ยตู้สื่อเหวยเกาเริ่นชื่นชมผลงานและความสามารถของเซวียเทาถึงขนาดยื่นฎีกาต่อฮ่องเต้เพื่อขอให้แต่งตั้งนางเป็น ‘เจี้ยวซูหลาง’ (校书郎) ซึ่งเป็นตำแหน่งเลขาธิการผู้ดูแลงานด้านพิสูจน์อักษรของเอกสารทางการและบันทึกโบราณ จัดเป็นตำแหน่งขุนนางขั้นที่เก้า แต่ไม่เคยมีสตรีดำรงตำแหน่งนี้มาก่อนจึงมีข้อจำกัดมากมาย สุดท้ายนางก็ไม่ได้รับการอนุมัติให้ดำรงตำแหน่งนี้ แต่อย่างไรก็ดีเรื่องที่นางได้รับการเสนอชื่อไม่ใช่ความลับ ชาวเมืองเฉิงตูจึงเรียกนางอย่างยกย่องว่า ‘เลขาธิการหญิง’ นั่นเอง

    บทกวีของเซวียเทาที่ถูกยกมากล่าวในซีรีส์นี้บรรยายถึงสีสันสวยงามบนแดนสวรรค์ที่แต่งแต้มจนดอกไม้ดารดาษมีสีสันสวยงาม แต่ที่ Storyฯ คิดว่าน่าสนใจยิ่งกว่าบทกวีนี้คือสีแดงที่เกี่ยวข้องกับเซวียเทา ว่ากันว่านางชื่นชอบสีแดงมาก มักแต่งกายด้วยสีแดง และได้คิดค้นกระดาษสีแดงขึ้นไว้สำหรับเขียนบทกลอนของตัวเอง บทกลอนบนกระดาษแดงสีพิเศษที่เขียนและลงนามโดยเซวียเทาถือว่าเป็นของที่มีค่าอันทรงเกียรติมากในสมัยนั้น โดยมีบางแผ่นมีลายวาดดอกไม้ที่บางคนตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นฝีมือการวาดของเซวียเทาเอง ต่อมากระดาษดังกล่าวเป็นที่นิยมแพร่หลายสำหรับชนชั้นมีการศึกษาในสมัยนั้นและกลายมาเป็นสินค้าที่นางผลิตขายยังชีพได้ในที่สุด เป็นที่จดจำในประวัติศาสตร์จีนว่ากระดาษเซวียเทา (薛涛笺 / เซวียเทาเจียน โดย ‘เจียน’ เป็นคำเรียกทั่วไปของกระดาษเขียนหนังสือ)

    Storyฯ เคยเขียนถึงวิธีการทำกระดาษจีนโบราณในบทความอื่น (ดูลิ้งค์ได้ที่ท้ายเรื่อง) ซึ่งมีกรรมวิธีการทำคล้ายกระดาษสา และกวีโบราณหลายท่านจะทำกระดาษของตัวเองไว้ใช้จนเกิดเป็นเอกลักษณ์ประจำตัว เซวียเทาก็เช่นกัน หลังจากที่นางถอนตนออกจากการเป็นนางคณิกาหลวงแล้วก็พำนักอยู่ในบริเวณห่วนฮวาซีที่เมืองเฉิงตูนี้ (คือสถานที่ล้างไหมของนางเอกในซีรีส์ที่ Storyฯ เขียนถึงเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว) ซึ่งพื้นที่บริเวณนี้ยังเป็นแหล่งผลิตกระดาษชื่อดังในสมัยราชวงศ์ถังอีกด้วย ว่ากันว่าเป็นเพราะคุณสมบัติของแหล่งน้ำแถวนี้เหมาะสมต่อการผสมเยื่อกระดาษ และกระดาษเซวียเทาถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่ากระดาษห่วนฮวา (浣花笺 / ห่วนฮวาเจียน)

    เซวียเทาใช้น้ำจากลำธารห่วนฮวาซี เยื่อไม้จากเปลือกต้นพุดตาน และสีที่คั้นจากกลีบดอกพุดตานทำกระดาษเซวียเทานี้ จากงานเขียนของท่านอื่นในสมัยนั้นมีการกล่าวว่าจริงๆ แล้วเนื้อกระดาษเซวียเทาไม่ได้มีอะไรพิเศษ แต่มันมีความโดดเด่นด้วยสีของกระดาษที่สวยงามไม่มีใครเทียม และบางครั้งยังมีเศษดอกไม้อัดติดมาในกระดาษด้วย แต่สีของกระดาษที่แท้จริงแล้วนั้นเป็นสีอะไรยังคงเป็นที่ถกเถียงกันจวบจนปัจจุบัน บ้างว่าเป็นสีชมพูแดงของดอกท้อซึ่งเป็นสีโปรดของนาง บ้างอ้างอิงจากกระดาษจริงของผลงานบทกวีของเซวียเทาที่มีคนสะสมไว้ พบว่ามีร่วมสิบเฉดสีไล่ไปตั้งแต่ชมพูแดง ม่วง ชมพูอมส้ม ส้มเขียว ส้มเหลือง จนถึงเหลืองนวล

    เซวียเทาเป็นหนึ่งบุคคลสำคัญที่เป็นความภาคภูมิใจของเมืองเฉิงตู มีรูปปั้นของนางตั้งอยู่ที่สวนวั่งเจียงโหลว เพื่อนเพจที่ไปเที่ยวเมืองเฉิงตูลองสังเกตดูนะคะ เผื่อว่าจะเห็นร่องรอยเกี่ยวกับเซวียเทาบ้าง

    ส่วนชุดที่สามในซีรีส์ นางเอกบอกไว้ว่าเป็นชุดที่ได้แรงบันดาลใจมาจากบทกวี ‘อวี๋เหม่ยเหริน’ (虞美人 / โฉมงามอวี๋) แต่ในซีรีส์ยังไม่ทันได้ท่องบทกวีนี้ก็เกิดเหตุการณ์อื่นขึ้นเสียก่อน

    บทกวี ‘อวี๋เหม่ยเหริน’ นี้มีวลีเด็ดที่หลายท่านอาจร้อง “อ๋อ” คือวลี ‘บุปผาวสันต์จันทราสารทฤดู’ Storyฯ เคยเขียนถึงบทกวีนี้เมื่อนานมาแล้วแต่ถูกลบไป เข้าใจว่าเป็นเพราะมันมีลิ้งค์ต้องห้าม เดี๋ยว Storyฯ จะแก้ไขและลงให้อ่านใหม่ในสัปดาห์หน้า ส่วนสีแดงที่เกี่ยวข้องก็คือสีแดงดอกป๊อปปี้ เพราะอวี๋เหม่ยเหรินคือชื่อเรียกของดอกป๊อปปี้ในภาษาจีนค่ะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    ลิ้งค์บทความเกี่ยวกับกระดาษไป๋ลู่จากเรื่อง <เล่ห์รักวังคุนหนิง> https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/953057363489223

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก:
    https://news.agentm.tw/310261/
    https://news.qq.com/rain/a/20200731A0U80V00
    https://www.yeeyi.com/news/details/629504/
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://baike.baidu.com/item/李白/1043
    https://baike.baidu.com/item/薛涛/2719
    http://scdfz.sc.gov.cn/scyx/scrw/sclsmr/depsclsmr/xt/content_40259
    https://baike.baidu.com/item/薛涛笺/5523904
    https://www.sohu.com/a/538839040_355475
    http://scdfz.sc.gov.cn/whzh/slzc1/content_105211#

    #ต้นตำนานอาภรณ์จักรพรรดิ #เฉิงตู #สีแดงหงสู่ #บัณฑิตชิงเหลียน #เลขาธิการหญิง #โฉมงามอวี๋ #เซวียเทา #กระดาษจีนโบราณ #สาระจีน
    **คุยเรื่องสีแดงจาก <ต้นตำนานอาภรณ์จักรพรรดิ>** สวัสดีค่ะ วันนี้มาคุยกันเกี่ยวกับบทกวีและสีแดงหลากเฉดที่ถูกนำมาใช้ในเรื่อง <ต้นตํานานอาภรณ์จักรพรรดิ> ซึ่งเดินเรื่องราวด้วยสูตรสีย้อมผ้าไหมสูจิ่นสีแดงของพ่อนางเอกที่ในเรื่องเรียกว่า ‘สู่หง’ ซึ่งถูกยกย่องขึ้นเป็นสุดยอดของสีแดงตามจินตนาการของผู้แต่งนิยายต้นฉบับ เพื่อนเพจที่ได้ดูเรื่องนี้จะจำได้ว่าก่อนที่นางเอกจะค้นคว้าสูตรลับนี้ของพ่อขึ้นมาอีกได้สำเร็จ นางเอกได้พัฒนาสีแดงขึ้นสามสีโดยอธิบายว่า ‘สู่หง’ แท้จริงแล้วหมายถึงสีแดงจากพื้นที่สู่ (สองสัปดาห์ก่อนเรากล่าวถึงดินแดนแคว้นสู่ไปแล้วลองย้อนอ่านดูได้) และนางได้จัดงานแฟชั่นโชว์ขึ้นเพื่อแสดงชุดที่ทอจากไหมสามสีใหม่นี้ โดยนางและพี่ชายได้บรรยายถึงสีเหล่านี้ด้วยการกล่าวอิงกับบทกวี วันนี้เรามาคุยถึงเกร็ดวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่แฝงอยู่ในนี้กัน เริ่มจากชุดแรกที่นางเอกกล่าวว่าสีแดงนี้ได้อารมณ์อิสระและความมีชีวิตชีวาจากบทกวีของกวีผู้ที่นางเรียกว่า ‘บัณฑิตจากชิงเหลียน’ ในเรื่องไม่ได้กล่าวไว้ว่าเขาผู้นี้คือใครและคำแปลซับไทยอาจทำให้เข้าใจเป็นอื่น แต่จริงๆ แล้ว ‘บัณฑิตจากชิงเหลียน’ (青莲居士 / ชิงเหลียนจวีซื่อ) เป็นฉายาของกวีเอกสมัยถังหลี่ไป๋ และเป็นฉายาที่เราชาวไทยไม่คุ้นหู ซึ่งสาเหตุที่หลี่ไป๋ถูกเรียกขานเช่นนี้เป็นเพราะว่าบ้านเกิดของเขาคือหมู่บ้านชิงเหลียน (ปัจจุบันคือตำบลชิงเหลียน อำเภอจิ่นหยาง มณฑลเสฉวน) และกลอนบทที่พูดถึงในตอนนี้มีชื่อว่า ‘ซานจงอวี่โยวเหรินตุ้ยจั๋ว’ (山中与幽人对酌 แปลได้ว่าร่ำสุรากลางเขาคู่กับสหายผู้ปลีกวิเวก) ในบทกวีไม่ได้กล่าวถึงสีแดง แต่บรรยายถึงความสนุกสุขสันต์ที่ได้ร่ำสุรากับผู้รู้ใจท่ามกลางวิวดอกไม้บานเต็มเขา ต่อมาชุดที่สองนี้มีหลากเฉดสีเช่นแดง ชมพูและส้มเหลือง โดยบอกว่าได้แรงบันดาลใจมาจากบทกวีของ ‘เลขาธิการหญิง’ (女校书 / หนี่ว์เจี้ยวซู) ซึ่งในเรื่องไม่ได้กล่าวไว้ว่าคือใคร กวีที่ถูกกล่าวถึงนี้คือเซวียเทา (薛涛) ผู้ที่ถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในสี่กวีเอกสตรีแห่งราชวงศ์ถัง มีผลงานกว่าห้าร้อยชิ้น มีบทกลอนที่ยังคงสืบทอดมาจวบจนปัจจุบันกว่าเก้าสิบบท เกิดที่ฉางอันแต่ติดตามบิดาผู้เป็นขุนนางมารับราชการที่เมืองเฉิงตู นางได้รับการศึกษาอย่างดีและเป็นคนมีพรสวรรค์ด้านดนตรีและบทกวี แต่งกลอนยาวได้ตั้งแต่อายุเพียงแปดปี เชี่ยวชาญด้านการออกเสียงและดนตรี เมื่อเซวียเทาอายุได้สิบสี่ปี บิดาของนางป่วยตายในระหว่างไปปฏิบัติหน้าที่ต่างเมือง นางและมารดาพยายามหาเลี้ยงชีพอย่างยากลำบาก ในที่สุดนางตัดสินใจเข้าเป็นนางคณิกาหลวงประเภทขับร้อง (ในสมัยนั้นเรียกว่า ‘เกอจี้’) เพื่อจะได้มีเงินเดือนหลวงยังชีพ โดยรับหน้าที่ขับร้องในงานเลี้ยงของทางการต่างๆ มีโอกาสได้แต่งบทกวีในงานเลี้ยงต่อหน้าขุนนางชั้นผู้ใหญ่จนเป็นที่โด่งดัง ต่อมาได้รับการเคารพยกย่องจากผู้คนมากมายด้วยความปราดเปรื่องด้านงานกวี และได้รู้จักสนิทสนมกับเหวยเกาเริ่น เจี๋ยตู้สื่อผู้ปกครองเขตพื้นที่นั้น เจี๋ยตู้สื่อเหวยเกาเริ่นชื่นชมผลงานและความสามารถของเซวียเทาถึงขนาดยื่นฎีกาต่อฮ่องเต้เพื่อขอให้แต่งตั้งนางเป็น ‘เจี้ยวซูหลาง’ (校书郎) ซึ่งเป็นตำแหน่งเลขาธิการผู้ดูแลงานด้านพิสูจน์อักษรของเอกสารทางการและบันทึกโบราณ จัดเป็นตำแหน่งขุนนางขั้นที่เก้า แต่ไม่เคยมีสตรีดำรงตำแหน่งนี้มาก่อนจึงมีข้อจำกัดมากมาย สุดท้ายนางก็ไม่ได้รับการอนุมัติให้ดำรงตำแหน่งนี้ แต่อย่างไรก็ดีเรื่องที่นางได้รับการเสนอชื่อไม่ใช่ความลับ ชาวเมืองเฉิงตูจึงเรียกนางอย่างยกย่องว่า ‘เลขาธิการหญิง’ นั่นเอง บทกวีของเซวียเทาที่ถูกยกมากล่าวในซีรีส์นี้บรรยายถึงสีสันสวยงามบนแดนสวรรค์ที่แต่งแต้มจนดอกไม้ดารดาษมีสีสันสวยงาม แต่ที่ Storyฯ คิดว่าน่าสนใจยิ่งกว่าบทกวีนี้คือสีแดงที่เกี่ยวข้องกับเซวียเทา ว่ากันว่านางชื่นชอบสีแดงมาก มักแต่งกายด้วยสีแดง และได้คิดค้นกระดาษสีแดงขึ้นไว้สำหรับเขียนบทกลอนของตัวเอง บทกลอนบนกระดาษแดงสีพิเศษที่เขียนและลงนามโดยเซวียเทาถือว่าเป็นของที่มีค่าอันทรงเกียรติมากในสมัยนั้น โดยมีบางแผ่นมีลายวาดดอกไม้ที่บางคนตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นฝีมือการวาดของเซวียเทาเอง ต่อมากระดาษดังกล่าวเป็นที่นิยมแพร่หลายสำหรับชนชั้นมีการศึกษาในสมัยนั้นและกลายมาเป็นสินค้าที่นางผลิตขายยังชีพได้ในที่สุด เป็นที่จดจำในประวัติศาสตร์จีนว่ากระดาษเซวียเทา (薛涛笺 / เซวียเทาเจียน โดย ‘เจียน’ เป็นคำเรียกทั่วไปของกระดาษเขียนหนังสือ) Storyฯ เคยเขียนถึงวิธีการทำกระดาษจีนโบราณในบทความอื่น (ดูลิ้งค์ได้ที่ท้ายเรื่อง) ซึ่งมีกรรมวิธีการทำคล้ายกระดาษสา และกวีโบราณหลายท่านจะทำกระดาษของตัวเองไว้ใช้จนเกิดเป็นเอกลักษณ์ประจำตัว เซวียเทาก็เช่นกัน หลังจากที่นางถอนตนออกจากการเป็นนางคณิกาหลวงแล้วก็พำนักอยู่ในบริเวณห่วนฮวาซีที่เมืองเฉิงตูนี้ (คือสถานที่ล้างไหมของนางเอกในซีรีส์ที่ Storyฯ เขียนถึงเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว) ซึ่งพื้นที่บริเวณนี้ยังเป็นแหล่งผลิตกระดาษชื่อดังในสมัยราชวงศ์ถังอีกด้วย ว่ากันว่าเป็นเพราะคุณสมบัติของแหล่งน้ำแถวนี้เหมาะสมต่อการผสมเยื่อกระดาษ และกระดาษเซวียเทาถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่ากระดาษห่วนฮวา (浣花笺 / ห่วนฮวาเจียน) เซวียเทาใช้น้ำจากลำธารห่วนฮวาซี เยื่อไม้จากเปลือกต้นพุดตาน และสีที่คั้นจากกลีบดอกพุดตานทำกระดาษเซวียเทานี้ จากงานเขียนของท่านอื่นในสมัยนั้นมีการกล่าวว่าจริงๆ แล้วเนื้อกระดาษเซวียเทาไม่ได้มีอะไรพิเศษ แต่มันมีความโดดเด่นด้วยสีของกระดาษที่สวยงามไม่มีใครเทียม และบางครั้งยังมีเศษดอกไม้อัดติดมาในกระดาษด้วย แต่สีของกระดาษที่แท้จริงแล้วนั้นเป็นสีอะไรยังคงเป็นที่ถกเถียงกันจวบจนปัจจุบัน บ้างว่าเป็นสีชมพูแดงของดอกท้อซึ่งเป็นสีโปรดของนาง บ้างอ้างอิงจากกระดาษจริงของผลงานบทกวีของเซวียเทาที่มีคนสะสมไว้ พบว่ามีร่วมสิบเฉดสีไล่ไปตั้งแต่ชมพูแดง ม่วง ชมพูอมส้ม ส้มเขียว ส้มเหลือง จนถึงเหลืองนวล เซวียเทาเป็นหนึ่งบุคคลสำคัญที่เป็นความภาคภูมิใจของเมืองเฉิงตู มีรูปปั้นของนางตั้งอยู่ที่สวนวั่งเจียงโหลว เพื่อนเพจที่ไปเที่ยวเมืองเฉิงตูลองสังเกตดูนะคะ เผื่อว่าจะเห็นร่องรอยเกี่ยวกับเซวียเทาบ้าง ส่วนชุดที่สามในซีรีส์ นางเอกบอกไว้ว่าเป็นชุดที่ได้แรงบันดาลใจมาจากบทกวี ‘อวี๋เหม่ยเหริน’ (虞美人 / โฉมงามอวี๋) แต่ในซีรีส์ยังไม่ทันได้ท่องบทกวีนี้ก็เกิดเหตุการณ์อื่นขึ้นเสียก่อน บทกวี ‘อวี๋เหม่ยเหริน’ นี้มีวลีเด็ดที่หลายท่านอาจร้อง “อ๋อ” คือวลี ‘บุปผาวสันต์จันทราสารทฤดู’ Storyฯ เคยเขียนถึงบทกวีนี้เมื่อนานมาแล้วแต่ถูกลบไป เข้าใจว่าเป็นเพราะมันมีลิ้งค์ต้องห้าม เดี๋ยว Storyฯ จะแก้ไขและลงให้อ่านใหม่ในสัปดาห์หน้า ส่วนสีแดงที่เกี่ยวข้องก็คือสีแดงดอกป๊อปปี้ เพราะอวี๋เหม่ยเหรินคือชื่อเรียกของดอกป๊อปปี้ในภาษาจีนค่ะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) ลิ้งค์บทความเกี่ยวกับกระดาษไป๋ลู่จากเรื่อง <เล่ห์รักวังคุนหนิง> https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/953057363489223 Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://news.agentm.tw/310261/ https://news.qq.com/rain/a/20200731A0U80V00 https://www.yeeyi.com/news/details/629504/ Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://baike.baidu.com/item/李白/1043 https://baike.baidu.com/item/薛涛/2719 http://scdfz.sc.gov.cn/scyx/scrw/sclsmr/depsclsmr/xt/content_40259 https://baike.baidu.com/item/薛涛笺/5523904 https://www.sohu.com/a/538839040_355475 http://scdfz.sc.gov.cn/whzh/slzc1/content_105211# #ต้นตำนานอาภรณ์จักรพรรดิ #เฉิงตู #สีแดงหงสู่ #บัณฑิตชิงเหลียน #เลขาธิการหญิง #โฉมงามอวี๋ #เซวียเทา #กระดาษจีนโบราณ #สาระจีน
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 838 มุมมอง 0 รีวิว
  • “มีเหตุผลหลายประการที่จะเชื่อว่ากองทัพรัสเซียจะจัดการกับกองกำลังยูเครนให้สิ้นซาก”
    -- ประธานาธิบดีปูตินกล่าวระหว่างการสนทนากับลูกเรือของเรือดำน้ำอาร์คันเกลสค์ (Arkhangelsk submarine)
    “เราจะค่อยๆดำเนินการไปทีละน้อย ไม่เร่งรีบอย่างที่หลายคนคาดหวัง เพราะเราต้องการเดินหน้าต่อไปอย่างมั่นคงและมั่นใจ เพื่อบรรลุเป้าหมายทั้งหมดที่ประกาศไว้ในช่วงเริ่มต้นปฏิบัติการพิเศษทางทหารครั้งนี้ กองกำลังของเรามีแผนยุทธศาสตร์ตลอดทั้งแนวรบ ผมเพิ่งพูดไปเมื่อไม่นานนี้ว่า “เราจะจัดการกับพวกเขาให้สิ้นซาก” มันมีเหตุผลหลายประการที่จะเชื่อได้ว่าเราจะต้องจัดการกับพวกเขา และกองกำลังยูเครนจะต้องยอมรับถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น”

    นอกจากนี้ ยังมีคำพูดอื่นๆที่น่าสนใจของปูติน:
    👉 ปูตินเสนอให้หารือเรื่องการนำการปกครองชั่วคราวมาใช้ในยูเครนภายใต้การรับรองของสหประชาชาติและประเทศต่างๆ เพื่อจัดการเลือกตั้งที่นั่น
    👉 หากเซเลนสกีดำรงตำแหน่งโดยไม่มีกฎหมายรองรับ ส่งผลให้เจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ที่เกิดจากการแต่งตั้งของเซเลนสกีก็เช่นกัน โดยรวมแล้วน่าจะทั้งหมด
    👉รัสเซียยังไม่รู้เลยว่า ควรลงนามอะไรกับใครในยูเครน
    👉"พวกนาซี" มีอิทธิพลอย่างมากในยูเครน "เราจะคุยกับคนพวกนี้ได้อย่างไร" เช่นพวก “อาซอฟ” (Azov) (องค์กรก่อการร้ายที่ถูกห้ามในสหพันธรัฐรัสเซีย) และหน่วยชาตินิยมอื่นๆ กำลังมีอิทธิพลอย่างมากในยูเครน
    👉รัสเซียพร้อมที่จะทำงานเพื่อยุติปัญหายูเครนกับยุโรป แต่ "พวกเขาพยายามจะมีอิทธิพลสั่งให้เราทำตาม" ซึ่งมันไม่ถูกต้อง
    👉กองทัพรัสเซียได้ปลดปล่อยดินแดนลูฮันสก์ (LPR) ไปแล้ว 99%
    👉รัสเซียต้องการความจริงใจโดยไม่มีอะไรแอบแฝงจากทรัมป์ในการยุติความขัดแย้งในยูเครน
    👉รัสเซียจะไม่ทำผิดพลาดอีกต่อไป ในเรื่องความไว้วางใจที่มากเกินไปกับพันธมิตร
    👉รัสเซียต้องการแก้ไขความขัดแย้งด้วยสันติวิธี แต่มีเงื่อนไขว่าต้อง "กำจัดสาเหตุที่แท้จริง" ให้หมดไปด้วย
    👉รัสเซียของเราเป็นหนึ่งในสี่ของโลกในด้านเศรษฐกิจ รองจากจีน สหรัฐฯ และอินเดีย
    👉เศรษฐกิจและการเงินของรัสเซียอยู่ในสภาพที่มั่นคงและน่าพอใจ แม้ว่าเราต้องทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างเม็ดเงินอยู่บ้าง
    👉อังกฤษ ชาติที่มีพฤติกรรมก้าวร้าวต่อรัสเซีย แต่เศรษฐกิจของพวกเขาอยู่ในอันดับที่ 9-10 ของโลก และมีกองทัพที่ขนาดเล็กมาก
    “มีเหตุผลหลายประการที่จะเชื่อว่ากองทัพรัสเซียจะจัดการกับกองกำลังยูเครนให้สิ้นซาก” -- ประธานาธิบดีปูตินกล่าวระหว่างการสนทนากับลูกเรือของเรือดำน้ำอาร์คันเกลสค์ (Arkhangelsk submarine) “เราจะค่อยๆดำเนินการไปทีละน้อย ไม่เร่งรีบอย่างที่หลายคนคาดหวัง เพราะเราต้องการเดินหน้าต่อไปอย่างมั่นคงและมั่นใจ เพื่อบรรลุเป้าหมายทั้งหมดที่ประกาศไว้ในช่วงเริ่มต้นปฏิบัติการพิเศษทางทหารครั้งนี้ กองกำลังของเรามีแผนยุทธศาสตร์ตลอดทั้งแนวรบ ผมเพิ่งพูดไปเมื่อไม่นานนี้ว่า “เราจะจัดการกับพวกเขาให้สิ้นซาก” มันมีเหตุผลหลายประการที่จะเชื่อได้ว่าเราจะต้องจัดการกับพวกเขา และกองกำลังยูเครนจะต้องยอมรับถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น” นอกจากนี้ ยังมีคำพูดอื่นๆที่น่าสนใจของปูติน: 👉 ปูตินเสนอให้หารือเรื่องการนำการปกครองชั่วคราวมาใช้ในยูเครนภายใต้การรับรองของสหประชาชาติและประเทศต่างๆ เพื่อจัดการเลือกตั้งที่นั่น 👉 หากเซเลนสกีดำรงตำแหน่งโดยไม่มีกฎหมายรองรับ ส่งผลให้เจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ที่เกิดจากการแต่งตั้งของเซเลนสกีก็เช่นกัน โดยรวมแล้วน่าจะทั้งหมด 👉รัสเซียยังไม่รู้เลยว่า ควรลงนามอะไรกับใครในยูเครน 👉"พวกนาซี" มีอิทธิพลอย่างมากในยูเครน "เราจะคุยกับคนพวกนี้ได้อย่างไร" เช่นพวก “อาซอฟ” (Azov) (องค์กรก่อการร้ายที่ถูกห้ามในสหพันธรัฐรัสเซีย) และหน่วยชาตินิยมอื่นๆ กำลังมีอิทธิพลอย่างมากในยูเครน 👉รัสเซียพร้อมที่จะทำงานเพื่อยุติปัญหายูเครนกับยุโรป แต่ "พวกเขาพยายามจะมีอิทธิพลสั่งให้เราทำตาม" ซึ่งมันไม่ถูกต้อง 👉กองทัพรัสเซียได้ปลดปล่อยดินแดนลูฮันสก์ (LPR) ไปแล้ว 99% 👉รัสเซียต้องการความจริงใจโดยไม่มีอะไรแอบแฝงจากทรัมป์ในการยุติความขัดแย้งในยูเครน 👉รัสเซียจะไม่ทำผิดพลาดอีกต่อไป ในเรื่องความไว้วางใจที่มากเกินไปกับพันธมิตร 👉รัสเซียต้องการแก้ไขความขัดแย้งด้วยสันติวิธี แต่มีเงื่อนไขว่าต้อง "กำจัดสาเหตุที่แท้จริง" ให้หมดไปด้วย 👉รัสเซียของเราเป็นหนึ่งในสี่ของโลกในด้านเศรษฐกิจ รองจากจีน สหรัฐฯ และอินเดีย 👉เศรษฐกิจและการเงินของรัสเซียอยู่ในสภาพที่มั่นคงและน่าพอใจ แม้ว่าเราต้องทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างเม็ดเงินอยู่บ้าง 👉อังกฤษ ชาติที่มีพฤติกรรมก้าวร้าวต่อรัสเซีย แต่เศรษฐกิจของพวกเขาอยู่ในอันดับที่ 9-10 ของโลก และมีกองทัพที่ขนาดเล็กมาก
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 559 มุมมอง 11 0 รีวิว
  • นายกฯ ร่วม ถก ก.ตร.แต่งตั้งนายพลแก้มลิง 53 ตำแหน่ง "อัคราเดช-ธนายุตม์" นั่งที่ปรึกษาพิเศษ ตร. บรรยากาศเงียบเหงาไร้เงาผบ.ตร. ติดภารกิจราชการ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000029274
    นายกฯ ร่วม ถก ก.ตร.แต่งตั้งนายพลแก้มลิง 53 ตำแหน่ง "อัคราเดช-ธนายุตม์" นั่งที่ปรึกษาพิเศษ ตร. บรรยากาศเงียบเหงาไร้เงาผบ.ตร. ติดภารกิจราชการ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000029274
    Like
    Love
    Haha
    Angry
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 829 มุมมอง 0 รีวิว
  • อธิบดีสรรพากรอย่ารีบสรุป

    ข่าวระบุว่า

    [อธิบดีกรมสรรพากรเคลียร์ปมภาษี นายกฯ กรณีออกตั๋ว P/N ที่ฝ่ายค้านอภิปราย

    ชี้เป็นกรณีการซื้อขายหุ้นนอกตลาด ออกตั๋ว P/N แทนสัญญากู้ มีภาระภาษีเสียตามจริงเมื่อจ่ายเงิน
    ...

    โดยออกตั๋ว P/N จะเปรียบเสมือนสัญญาเงินกู้ระหว่าง 2 ฝ่าย ได้แก่ ผู้ออกตั๋ว (ลูกหนี้) และผู้รับเงิน (เจ้าหนี้)ซึ่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ระบุว่าสามารถออกได้ 2 แบบ คือ

    ออกแบบกำหนดระยะเวลาที่จะชำระเงินชัดเจน หรือออกแบบไม่ได้กำหนดระยะเวลาในการชำระเงิน

    ซึ่งการออกแบบที่ไม่ได้ระบุเวลาในการชำระเงินนั้นจะต้องจ่ายเงินทันทีเมื่อถูกเรียกหรือถูกทวงถาม

    ส่วนเรื่องการกำหนดอัตราดอกเบี้ยนั้น ประมวลกฎหมายแพ่งฯ ระบุว่า จะกำหนดหรือไม่กำหนดก็ได้]

    ผมตั้งข้อสังเกต ดังนี้

    1 อธิบดีต้องดูแลสิทธิของรัฐในการเก็บภาษี

    ภาษีการรับให้ คือ ภาษีเงินได้
    บุคคลธรรมดาที่จัดเก็บจากทรัพย์สินที่ให้หรือรับแก่บุตร คู่สมรส ญาติ หรือบุคคลอื่น ก่อนผู้ให้เสียชีวิต โดยการกำหนดภาษีนี้มีขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับการจัดเก็บภาษีการรับมรดก

    มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์
    2559 ตามพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 40) พ.ศ. 2558 และ(ฉบับที่ 43) พ.ศ. 2559

    อธิบดีสรรพากรจึงมีหน้าที่ จะต้องดูแลให้รัฐสามารถเก็บภาษีการรับให้ได้อย่างถูกต้อง

    กรณีที่มีผู้สำแดงซื้อขายหุ้น ที่ระหว่างบุคคลในเครือญาติใกล้ชิด ที่มีมูลค่าสูงถึง 4.4 พันล้านบาท

    อธิบดีจึงมีหน้าที่ต้องสั่งให้มีการตรวจสอบให้ครบถ้วนก่อน ให้แน่ใจว่า ไม่มีนิติกรรมอำพรางเพื่อเลี่ยงภาษีการรับให้

    ขอให้อธิบดีตอบว่า ตลอดระยะเวลา 9 ปีที่ผ่านมา กรมสรรพากรได้สอดส่องตรวจตราอย่างไร และถ้าไม่มีการอภิปรายเรื่องนี้ในสภา รัฐจะสามารถเก็บภาษีได้จริงหรือไม่

    ต้องไม่ลืมว่า กรณีถ้าหากถือว่าเป็นการรับให้ นายกฯ ในฐานะผู้รับหุ้น มีภาระต้องจ่ายภาษีทันทีในวันที่ได้รับ เมื่อไม่ได้จ่าย ก็อาจเข้าข่ายหนีภาษี

    2 กรมพอใจให้นายกฯ เป็นผู้กำหนด taxing point ใช่ไหม?

    กรณีสมมุติว่า เป็นการซื้อขายหุ้น

    -การที่นายกฯ ค้างชำระเงิน ทั้งที่มีฐานะที่จะชำระเงินได้ มีทรัพย์สินกว่า1 หมื่น 3 พัน 9 ร้อยล้านบาท

    -การที่นายกฯ ไม่กำหนดดอกเบี้ย ทั้งที่มีฐานะที่จะจ่ายดอกเบี้ยได้ โดยมีรายได้เงินปันผลในปีที่รายงาน ปปช. มากถึง 259 ล้านบาท

    กรมสรรพากรต้องแถลงให้ประชาชนทราบว่า กรณีเช่นนี้ กรมพอใจที่จะให้นายกฯ เป็นผู้กำหนดว่า ผู้ขายหุ้น จะชำระภาษีหรือไม่ จะชำระภาษีเมื่อใด ใช่หรือไม่?

    และกรมจะว่าอย่างไร ถ้าหากตั๋ว PN นี้ลากยาวไปอีกหลายสิบปี อาจจะไปจนถึงผู้ขายหุ้นตายไป โดยไม่มีดอกเบี้ย รัฐจะเก็บภาษีได้เมื่อไหร่?

    อีกประการหนึ่ง

    การที่นายกฯ โดยครรลองการค้าปกติ จะต้องจ่ายดอกเบี้ย ซึ่ง ปพพ. กำหนดให้เรียกได้ 3% ต่อปี แต่การที่ไม่ต้องจ่าย ทั้งที่มีฐานะสามารถจ่าย กรมจะถือเป็นประโยชน์ที่จะต้องเสียภาษีหรือไม่

    ไม่ว่าประโยชน์ ที่ควรจะได้เกิดขึ้นแก่นายกฯ หรือที่ควรจะได้เกิดขึ้นแก่ผู้ขายหุ้น

    3 กรมต้องตรวจสอบที่มาของผู้ขายหุ้น

    กรมสรรพากรมีหน้าที่จะต้องตรวจสอบที่มาของหุ้นในอดีต ที่ตกเป็นของผู้ขาย เพื่อให้แน่ชัดว่า

    (ก) ผู้ขายได้หุ้นมาฟรีหรือไม่ หรือมีต้นทุนเท่าใด

    (ข) ในการได้หุ้นมานั้น ผู้ขายได้จ่ายค่าหุ้นจริงๆ หรือไม่ อย่างไร

    หรือมีการใช้เทคนิคตั๋ว PN แบบไม่มีกำหนดชำระ และไม่มีดอกเบี้ย เช่นนี้หรือไม่?

    (ค) หุ้นเหล่านี้ เป็นการซุกหุ้นของนักการเมืองผู้ใดหรือไม่? เพื่อส่งข้อมูลให้แก่ ปปช. ต่อไป

    ผมขอเรียกร้องให้อธิบดีชี้แจงทุกข้อ

    ถึงแม้ท่านได้รับแต่งตั้งในรัฐบาลนี้ แต่ท่านเป็นลูกหม้อกรมสรรพากร และย่อมมีความรู้ความเข้าใจเจตนารมณ์ของกฎหมาย

    ท่านจึงควรแสดงจุดยืน ที่จะปกป้องผลประโยชน์ของรัฐและของประชาชนโดยรวมอย่างเต็มที่

    ท่านจะต้องไม่ไปตีความเฉพาะแกะบรรทัดอ่านตามตัวอักษร เพราะการทำงานเช่นนั้น ไม่จำเป็นต้องใช้บุคคลที่มีความรอบรู้ระดับสูง

    วันที่ 26 มีนาคม 2568

    นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ
    ประธานคณะกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ

    https://www.facebook.com/share/p/1ACAvPBLdV/
    อธิบดีสรรพากรอย่ารีบสรุป ข่าวระบุว่า [อธิบดีกรมสรรพากรเคลียร์ปมภาษี นายกฯ กรณีออกตั๋ว P/N ที่ฝ่ายค้านอภิปราย ชี้เป็นกรณีการซื้อขายหุ้นนอกตลาด ออกตั๋ว P/N แทนสัญญากู้ มีภาระภาษีเสียตามจริงเมื่อจ่ายเงิน ... โดยออกตั๋ว P/N จะเปรียบเสมือนสัญญาเงินกู้ระหว่าง 2 ฝ่าย ได้แก่ ผู้ออกตั๋ว (ลูกหนี้) และผู้รับเงิน (เจ้าหนี้)ซึ่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ระบุว่าสามารถออกได้ 2 แบบ คือ ออกแบบกำหนดระยะเวลาที่จะชำระเงินชัดเจน หรือออกแบบไม่ได้กำหนดระยะเวลาในการชำระเงิน ซึ่งการออกแบบที่ไม่ได้ระบุเวลาในการชำระเงินนั้นจะต้องจ่ายเงินทันทีเมื่อถูกเรียกหรือถูกทวงถาม ส่วนเรื่องการกำหนดอัตราดอกเบี้ยนั้น ประมวลกฎหมายแพ่งฯ ระบุว่า จะกำหนดหรือไม่กำหนดก็ได้] ผมตั้งข้อสังเกต ดังนี้ 1 อธิบดีต้องดูแลสิทธิของรัฐในการเก็บภาษี ภาษีการรับให้ คือ ภาษีเงินได้ บุคคลธรรมดาที่จัดเก็บจากทรัพย์สินที่ให้หรือรับแก่บุตร คู่สมรส ญาติ หรือบุคคลอื่น ก่อนผู้ให้เสียชีวิต โดยการกำหนดภาษีนี้มีขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับการจัดเก็บภาษีการรับมรดก มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2559 ตามพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 40) พ.ศ. 2558 และ(ฉบับที่ 43) พ.ศ. 2559 อธิบดีสรรพากรจึงมีหน้าที่ จะต้องดูแลให้รัฐสามารถเก็บภาษีการรับให้ได้อย่างถูกต้อง กรณีที่มีผู้สำแดงซื้อขายหุ้น ที่ระหว่างบุคคลในเครือญาติใกล้ชิด ที่มีมูลค่าสูงถึง 4.4 พันล้านบาท อธิบดีจึงมีหน้าที่ต้องสั่งให้มีการตรวจสอบให้ครบถ้วนก่อน ให้แน่ใจว่า ไม่มีนิติกรรมอำพรางเพื่อเลี่ยงภาษีการรับให้ ขอให้อธิบดีตอบว่า ตลอดระยะเวลา 9 ปีที่ผ่านมา กรมสรรพากรได้สอดส่องตรวจตราอย่างไร และถ้าไม่มีการอภิปรายเรื่องนี้ในสภา รัฐจะสามารถเก็บภาษีได้จริงหรือไม่ ต้องไม่ลืมว่า กรณีถ้าหากถือว่าเป็นการรับให้ นายกฯ ในฐานะผู้รับหุ้น มีภาระต้องจ่ายภาษีทันทีในวันที่ได้รับ เมื่อไม่ได้จ่าย ก็อาจเข้าข่ายหนีภาษี 2 กรมพอใจให้นายกฯ เป็นผู้กำหนด taxing point ใช่ไหม? กรณีสมมุติว่า เป็นการซื้อขายหุ้น -การที่นายกฯ ค้างชำระเงิน ทั้งที่มีฐานะที่จะชำระเงินได้ มีทรัพย์สินกว่า1 หมื่น 3 พัน 9 ร้อยล้านบาท -การที่นายกฯ ไม่กำหนดดอกเบี้ย ทั้งที่มีฐานะที่จะจ่ายดอกเบี้ยได้ โดยมีรายได้เงินปันผลในปีที่รายงาน ปปช. มากถึง 259 ล้านบาท กรมสรรพากรต้องแถลงให้ประชาชนทราบว่า กรณีเช่นนี้ กรมพอใจที่จะให้นายกฯ เป็นผู้กำหนดว่า ผู้ขายหุ้น จะชำระภาษีหรือไม่ จะชำระภาษีเมื่อใด ใช่หรือไม่? และกรมจะว่าอย่างไร ถ้าหากตั๋ว PN นี้ลากยาวไปอีกหลายสิบปี อาจจะไปจนถึงผู้ขายหุ้นตายไป โดยไม่มีดอกเบี้ย รัฐจะเก็บภาษีได้เมื่อไหร่? อีกประการหนึ่ง การที่นายกฯ โดยครรลองการค้าปกติ จะต้องจ่ายดอกเบี้ย ซึ่ง ปพพ. กำหนดให้เรียกได้ 3% ต่อปี แต่การที่ไม่ต้องจ่าย ทั้งที่มีฐานะสามารถจ่าย กรมจะถือเป็นประโยชน์ที่จะต้องเสียภาษีหรือไม่ ไม่ว่าประโยชน์ ที่ควรจะได้เกิดขึ้นแก่นายกฯ หรือที่ควรจะได้เกิดขึ้นแก่ผู้ขายหุ้น 3 กรมต้องตรวจสอบที่มาของผู้ขายหุ้น กรมสรรพากรมีหน้าที่จะต้องตรวจสอบที่มาของหุ้นในอดีต ที่ตกเป็นของผู้ขาย เพื่อให้แน่ชัดว่า (ก) ผู้ขายได้หุ้นมาฟรีหรือไม่ หรือมีต้นทุนเท่าใด (ข) ในการได้หุ้นมานั้น ผู้ขายได้จ่ายค่าหุ้นจริงๆ หรือไม่ อย่างไร หรือมีการใช้เทคนิคตั๋ว PN แบบไม่มีกำหนดชำระ และไม่มีดอกเบี้ย เช่นนี้หรือไม่? (ค) หุ้นเหล่านี้ เป็นการซุกหุ้นของนักการเมืองผู้ใดหรือไม่? เพื่อส่งข้อมูลให้แก่ ปปช. ต่อไป ผมขอเรียกร้องให้อธิบดีชี้แจงทุกข้อ ถึงแม้ท่านได้รับแต่งตั้งในรัฐบาลนี้ แต่ท่านเป็นลูกหม้อกรมสรรพากร และย่อมมีความรู้ความเข้าใจเจตนารมณ์ของกฎหมาย ท่านจึงควรแสดงจุดยืน ที่จะปกป้องผลประโยชน์ของรัฐและของประชาชนโดยรวมอย่างเต็มที่ ท่านจะต้องไม่ไปตีความเฉพาะแกะบรรทัดอ่านตามตัวอักษร เพราะการทำงานเช่นนั้น ไม่จำเป็นต้องใช้บุคคลที่มีความรอบรู้ระดับสูง วันที่ 26 มีนาคม 2568 นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ ประธานคณะกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ https://www.facebook.com/share/p/1ACAvPBLdV/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 530 มุมมอง 0 รีวิว
  • สมาคมสหพันธ์กีฬาคนพิการแห่งอาเซียน แต่งตั้ง "อนุพงษ์ มาคำ" เป็นที่ปรึกษา เพื่อพัฒนากีฬาคนพิการในภูมิภาคอาเซียน
    https://www.thai-tai.tv/news/17777/
    สมาคมสหพันธ์กีฬาคนพิการแห่งอาเซียน แต่งตั้ง "อนุพงษ์ มาคำ" เป็นที่ปรึกษา เพื่อพัฒนากีฬาคนพิการในภูมิภาคอาเซียน https://www.thai-tai.tv/news/17777/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 155 มุมมอง 0 รีวิว
  • 111 ปี สิ้น “เจ้าน้อยศุขเกษม” ปิดตำนานรักสาวชาวพม่า “มะเมียะ” เรื่องจริง หรือแค่…อิงนิยาย?

    🕰️ ตำนานรักข้ามชาติ ที่คนรุ่นหลังยังคงกล่าวขาน 🕰️

    📝 111 ปีที่ผ่านไป…เรื่องราวความรักระหว่าง "เจ้าน้อยศุขเกษม" แห่งนครเชียงใหม่ และ "มะเมียะ" สาวงามจากเมืองมะละแหม่ง ยังคงเป็นเรื่องเล่าที่อบอวล ด้วยกลิ่นอายของความโรแมนติก และโศกเศร้า แต่คำถามที่หลายคนยังสงสัยคือ... เรื่องนี้มีมูลความจริงแค่ไหน? หรือเป็นเพียงตำนาน ที่แต่งเติมเสริมสีสันให้ดูหวานซึ้งเท่านั้น?

    ย้อนรอยตำนานรักข้ามพรมแดน พร้อมเปิดหลักฐานทางประวัติศาสตร์ เพื่อค้นหาคำตอบ ว่าความจริงในตำนานรักอมตะนี้ เป็นเรื่องจริง...หรือเป็นเพียงนิยายที่แต่งขึ้นมา ให้คนล้านนาหลงใหล 💔✨

    💡 "เจ้าน้อยศุขเกษม" หรือในบรรดาศักดิ์ที่รู้จักกันในนาม "เจ้าอุตรการโกศล" เป็นโอรสองค์โตของ เจ้าแก้วนวรัฐ ผู้ครองนครเชียงใหม่คนสุดท้าย กับเจ้าจามรีวงศ์ เป็นผู้มีเชื้อสายแห่งราชวงศ์ทิพย์จักรแห่งล้านนา

    เจ้าน้อยเกิดปี พ.ศ. 2423 ต่อมาในปี พ.ศ. 2441 ถูกส่งไปศึกษา ที่เมืองมะละแหม่ง ประเทศพม่า ซึ่งได้พบ "มะเมียะ" หญิงสาวแม่ค้าชาวพม่า ผู้เปลี่ยนชะตาชีวิตเจ้าน้อยศุขเกษม ไปตลอดกาล

    ได้รับแต่งตั้งเป็น "เจ้าอุตรการโกศล" ถือศักดินา 1,600 แต่ไม่ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าหลวง เนื่องจากอุปนิสัยรักสนุก ไม่เอาการเอางาน กระทั่งถึงแก่กรรม ในวันศุกร์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2457 สิริอายุ 32 ปี (หากนับแบบโบราณ ตรงกับ พ.ศ. 2456 อายุ 33 ปี)

    🌸 ตำนานรักที่กล่าวขาน “มะเมียะ” หญิงงามจากแดนพม่า ถูกขนานนามว่า เป็นแม่ค้าสาวงามชาวพม่าจากเมืองมะละแหม่ง ทั้งสองพบรักกันขณะเจ้าน้อยไปศึกษายังโรงเรียนเซนต์แพทริค โดยคำบอกเล่าต่างๆ ระบุว่า

    ❤️ เจ้าน้อยศุขเกษมใช้ชีวิตร่วมกับมะเมียะฉันสามีภรรยา ด้วยการสนับสนุนจากทางบ้านของฝ่ายหญิง
    ❤️ ต่อมาเมื่อข่าวแพร่ถึงเชียงใหม่ เจ้าน้อยถูกเรียกกลับคุ้ม พร้อมคำสั่งให้เลิกคบหากับมะเมียะ อย่างเด็ดขาด
    ❤️ มะเมียะจำต้องปลอมตัวเป็นชาย เพื่อตามขบวนเจ้าน้อยกลับเชียงใหม่ แต่สุดท้ายก็ไม่อาจหลีกพ้นคำสั่ง ของผู้มีอำนาจในคุ้มเชียงใหม่ได้
    ❤️ เรื่องราวจบลงด้วยการที่มะเมียะ ถูกบีบให้เดินทางกลับบ้านเกิด น้ำตารินไหลพรากจากชายคนรักตลอดกาล…😢

    📚 ข้อเท็จจริงในหน้าประวัติศาสตร์ จากเอกสาร และหลักฐานทางประวัติศาสตร์ต่างๆ พบว่า

    📌 ไม่มีหลักฐานใดยืนยันได้ว่า "เจ้าน้อยศุขเกษม" มีความสัมพันธ์กับ "มะเมียะ" จริงในประวัติศาสตร์
    📌 เรื่องราวที่ "ปราณี ศิริธร ณ พัทลุง" นำไปเผยแพร่ในหนังสือ "เพ็ชร์ลานนา" และ ชีวิตรักเจ้าเชียงใหม่ อาจมีโครงเรื่องบางส่วน ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเหตุการณ์ของ "เจ้าวงษ์ตวัน ณ เชียงใหม่" ผู้เป็นน้องชายต่างพระมารดาของเจ้าน้อย
    📌 หลักฐานต่างๆ ชี้ชัดว่า เจ้าน้อยศุขเกษมไม่ได้มีบทบาทสำคัญ ในการสืบราชสันตติวงศ์ของเชียงใหม่ และมีนิสัยไม่รับผิดชอบ จึงได้รับแต่งตั้งเพียงตำแหน่ง "เจ้าอุตรการโกศล"
    📌 เจ้าศุขเกษมสิ้นชีพ ด้วยโรคเส้นประสาทพิการเรื้อรัง ไม่ใช่เพราะตรอมใจ จากการพลัดพรากกับคนรัก

    🧐 ตำนานที่สร้างจากเรื่องจริง…หรือเพียงจินตนาการ? การบอกเล่าต่อๆ กันในหมู่เจ้านายฝ่ายเหนือและประชาชนล้านนาในยุคหลัง ได้ขยายความ และเติมแต่งจนเรื่องราวความรักนี้ กลายเป็นนิยายโศกนาฏกรรม ที่ชวนให้คนฟังหลงใหล

    🌿 "จรัล มโนเพ็ชร" นำเรื่องนี้ไปประพันธ์เป็นบทเพลง "มะเมี้ยะ" และขับร้องด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย ทำให้ตำนานนี้ กลายเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย
    🌿 เมื่อเรื่องราวถูกถ่ายทอดผ่านเพลง และสื่อหนังสือพิมพ์มากขึ้น ผู้คนจำนวนมากเชื่อว่า นี่คือเรื่องจริงของ "เจ้าน้อยศุขเกษม"
    🌿 แท้จริงแล้ว ตำนานดังกล่าว น่าจะได้รับแรงบันดาลใจจากชีวิตของ "เจ้าวงษ์ตวัน" ซึ่งเคยมีปัญหาเรื่องพาผู้หญิงหลบหนี และถูกส่งตัวกลับเชียงใหม่ ตามจดหมายเหตุในสมัยรัชกาลที่ 5 และ 6

    📖 หลักฐานสนับสนุนจากประวัติศาสตร์ล้านนา
    📜 จดหมายเหตุรายวัน ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
    📜 รายงานการศึกษาของเจ้าวงษ์ตวัน ณ เชียงใหม่ ที่เล่าเรียนในโรงเรียนราชวิทยาลัย
    📜 บันทึกการแต่งตั้งตำแหน่ง "เจ้าอุตรการโกศล" ของเจ้าน้อยศุขเกษม
    📜 บทสัมภาษณ์เจ้าดวงเดือน ณ เชียงใหม่ ผู้ร่วมสมัยที่กล่าวถึงเหตุการณ์ เรียกตัวเจ้าน้อยศุขเกษมกลับเชียงใหม่

    🔍 วิเคราะห์และตีความใหม่ เรื่องราวความรักที่เล่าขานระหว่าง "เจ้าน้อยศุขเกษม" กับ "มะเมียะ"
    ✅ มีเค้าโครงจากเรื่องจริงบางส่วน ในราชสำนักเชียงใหม่
    ✅ ถูกเติมแต่งให้มีความโรแมนติกและดราม่า เพื่อให้ชาวบ้านและคนรุ่นหลังเข้าถึง และจดจำได้ง่าย
    ✅ สะท้อนภาพชีวิตในยุคล้านนา ที่ยังคงเคร่งครัดในระบบชนชั้น และการสมรสตามขนบธรรมเนียม
    ✅ ใช้เป็นสัญลักษณ์ของความรักต้องห้าม และการต่อสู้กับกรอบประเพณีเก่าก่อน

    ❤️ "เจ้าน้อยศุขเกษม" กับ "มะเมียะ" ตำนานที่ยังคงมีชีวิต แม้จะไม่มีหลักฐานชี้ชัดว่า ความรักครั้งนี้เป็นจริง แต่เรื่องราว "เจ้าน้อยศุขเกษม" และ "มะเมียะ" ก็ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของ "รักแท้ที่ไม่มีวันสมหวัง"

    🌸 ถูกถ่ายทอดเป็นนิยาย เพลง บทละคร และศิลปวัฒนธรรมในล้านนา
    🌸 กลายเป็นเครื่องเตือนใจ ถึงข้อจำกัดทางชนชั้น และการเมืองในอดีต
    🌸 ยังเป็นตำนานที่คนรุ่นใหม่ศึกษา ซาบซึ้งในแง่มุมของความรัก และความเสียสละ

    📌 สรุปข้อเท็จจริง
    📝 ตำนานรัก "เจ้าน้อยศุขเกษม กับ มะเมียะ" คือ นิยายประวัติศาสตร์ ที่แต่งเติมจากเรื่องจริงบางส่วน
    📝 ข้อเท็จจริงประวัติศาสตร์ยืนยันว่า "เจ้าวงษ์ตวัน" มีชีวิตที่คล้ายกับตำนานดังกล่าวมากกว่า
    📝 การเล่าขานที่ต่อเติมจากรุ่นสู่รุ่น ทำให้ความจริงและเรื่องแต่ง ผสมปนเปกันอย่างลงตัว
    📝 ตำนานนี้ยังคงมีเสน่ห์และคุณค่า ในฐานะเรื่องเล่าแห่งความรักของชาวล้านนา

    🌟 ความรักอาจไม่มีพรมแดน... แต่ขนบธรรมเนียมและประเพณีในอดีตต่างหาก ที่เป็นกำแพงยากจะข้ามได้ 🌟

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 200807 มี.ค. 2568

    📚 🏷️ #ตำนานรักมะเมียะ #เจ้าน้อยศุขเกษม #ล้านนาประวัติศาสตร์ #เชียงใหม่ในอดีต #เพลงมะเมี้ยะ #เรื่องจริงหรือนิยาย #ประวัติศาสตร์ล้านนา #เชียงใหม่เมืองโบราณ #ตำนานล้านนา #รักข้ามพรมแดน
    111 ปี สิ้น “เจ้าน้อยศุขเกษม” ปิดตำนานรักสาวชาวพม่า “มะเมียะ” เรื่องจริง หรือแค่…อิงนิยาย? 🕰️ ตำนานรักข้ามชาติ ที่คนรุ่นหลังยังคงกล่าวขาน 🕰️ 📝 111 ปีที่ผ่านไป…เรื่องราวความรักระหว่าง "เจ้าน้อยศุขเกษม" แห่งนครเชียงใหม่ และ "มะเมียะ" สาวงามจากเมืองมะละแหม่ง ยังคงเป็นเรื่องเล่าที่อบอวล ด้วยกลิ่นอายของความโรแมนติก และโศกเศร้า แต่คำถามที่หลายคนยังสงสัยคือ... เรื่องนี้มีมูลความจริงแค่ไหน? หรือเป็นเพียงตำนาน ที่แต่งเติมเสริมสีสันให้ดูหวานซึ้งเท่านั้น? ย้อนรอยตำนานรักข้ามพรมแดน พร้อมเปิดหลักฐานทางประวัติศาสตร์ เพื่อค้นหาคำตอบ ว่าความจริงในตำนานรักอมตะนี้ เป็นเรื่องจริง...หรือเป็นเพียงนิยายที่แต่งขึ้นมา ให้คนล้านนาหลงใหล 💔✨ 💡 "เจ้าน้อยศุขเกษม" หรือในบรรดาศักดิ์ที่รู้จักกันในนาม "เจ้าอุตรการโกศล" เป็นโอรสองค์โตของ เจ้าแก้วนวรัฐ ผู้ครองนครเชียงใหม่คนสุดท้าย กับเจ้าจามรีวงศ์ เป็นผู้มีเชื้อสายแห่งราชวงศ์ทิพย์จักรแห่งล้านนา เจ้าน้อยเกิดปี พ.ศ. 2423 ต่อมาในปี พ.ศ. 2441 ถูกส่งไปศึกษา ที่เมืองมะละแหม่ง ประเทศพม่า ซึ่งได้พบ "มะเมียะ" หญิงสาวแม่ค้าชาวพม่า ผู้เปลี่ยนชะตาชีวิตเจ้าน้อยศุขเกษม ไปตลอดกาล ได้รับแต่งตั้งเป็น "เจ้าอุตรการโกศล" ถือศักดินา 1,600 แต่ไม่ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าหลวง เนื่องจากอุปนิสัยรักสนุก ไม่เอาการเอางาน กระทั่งถึงแก่กรรม ในวันศุกร์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2457 สิริอายุ 32 ปี (หากนับแบบโบราณ ตรงกับ พ.ศ. 2456 อายุ 33 ปี) 🌸 ตำนานรักที่กล่าวขาน “มะเมียะ” หญิงงามจากแดนพม่า ถูกขนานนามว่า เป็นแม่ค้าสาวงามชาวพม่าจากเมืองมะละแหม่ง ทั้งสองพบรักกันขณะเจ้าน้อยไปศึกษายังโรงเรียนเซนต์แพทริค โดยคำบอกเล่าต่างๆ ระบุว่า ❤️ เจ้าน้อยศุขเกษมใช้ชีวิตร่วมกับมะเมียะฉันสามีภรรยา ด้วยการสนับสนุนจากทางบ้านของฝ่ายหญิง ❤️ ต่อมาเมื่อข่าวแพร่ถึงเชียงใหม่ เจ้าน้อยถูกเรียกกลับคุ้ม พร้อมคำสั่งให้เลิกคบหากับมะเมียะ อย่างเด็ดขาด ❤️ มะเมียะจำต้องปลอมตัวเป็นชาย เพื่อตามขบวนเจ้าน้อยกลับเชียงใหม่ แต่สุดท้ายก็ไม่อาจหลีกพ้นคำสั่ง ของผู้มีอำนาจในคุ้มเชียงใหม่ได้ ❤️ เรื่องราวจบลงด้วยการที่มะเมียะ ถูกบีบให้เดินทางกลับบ้านเกิด น้ำตารินไหลพรากจากชายคนรักตลอดกาล…😢 📚 ข้อเท็จจริงในหน้าประวัติศาสตร์ จากเอกสาร และหลักฐานทางประวัติศาสตร์ต่างๆ พบว่า 📌 ไม่มีหลักฐานใดยืนยันได้ว่า "เจ้าน้อยศุขเกษม" มีความสัมพันธ์กับ "มะเมียะ" จริงในประวัติศาสตร์ 📌 เรื่องราวที่ "ปราณี ศิริธร ณ พัทลุง" นำไปเผยแพร่ในหนังสือ "เพ็ชร์ลานนา" และ ชีวิตรักเจ้าเชียงใหม่ อาจมีโครงเรื่องบางส่วน ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเหตุการณ์ของ "เจ้าวงษ์ตวัน ณ เชียงใหม่" ผู้เป็นน้องชายต่างพระมารดาของเจ้าน้อย 📌 หลักฐานต่างๆ ชี้ชัดว่า เจ้าน้อยศุขเกษมไม่ได้มีบทบาทสำคัญ ในการสืบราชสันตติวงศ์ของเชียงใหม่ และมีนิสัยไม่รับผิดชอบ จึงได้รับแต่งตั้งเพียงตำแหน่ง "เจ้าอุตรการโกศล" 📌 เจ้าศุขเกษมสิ้นชีพ ด้วยโรคเส้นประสาทพิการเรื้อรัง ไม่ใช่เพราะตรอมใจ จากการพลัดพรากกับคนรัก 🧐 ตำนานที่สร้างจากเรื่องจริง…หรือเพียงจินตนาการ? การบอกเล่าต่อๆ กันในหมู่เจ้านายฝ่ายเหนือและประชาชนล้านนาในยุคหลัง ได้ขยายความ และเติมแต่งจนเรื่องราวความรักนี้ กลายเป็นนิยายโศกนาฏกรรม ที่ชวนให้คนฟังหลงใหล 🌿 "จรัล มโนเพ็ชร" นำเรื่องนี้ไปประพันธ์เป็นบทเพลง "มะเมี้ยะ" และขับร้องด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย ทำให้ตำนานนี้ กลายเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย 🌿 เมื่อเรื่องราวถูกถ่ายทอดผ่านเพลง และสื่อหนังสือพิมพ์มากขึ้น ผู้คนจำนวนมากเชื่อว่า นี่คือเรื่องจริงของ "เจ้าน้อยศุขเกษม" 🌿 แท้จริงแล้ว ตำนานดังกล่าว น่าจะได้รับแรงบันดาลใจจากชีวิตของ "เจ้าวงษ์ตวัน" ซึ่งเคยมีปัญหาเรื่องพาผู้หญิงหลบหนี และถูกส่งตัวกลับเชียงใหม่ ตามจดหมายเหตุในสมัยรัชกาลที่ 5 และ 6 📖 หลักฐานสนับสนุนจากประวัติศาสตร์ล้านนา 📜 จดหมายเหตุรายวัน ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว 📜 รายงานการศึกษาของเจ้าวงษ์ตวัน ณ เชียงใหม่ ที่เล่าเรียนในโรงเรียนราชวิทยาลัย 📜 บันทึกการแต่งตั้งตำแหน่ง "เจ้าอุตรการโกศล" ของเจ้าน้อยศุขเกษม 📜 บทสัมภาษณ์เจ้าดวงเดือน ณ เชียงใหม่ ผู้ร่วมสมัยที่กล่าวถึงเหตุการณ์ เรียกตัวเจ้าน้อยศุขเกษมกลับเชียงใหม่ 🔍 วิเคราะห์และตีความใหม่ เรื่องราวความรักที่เล่าขานระหว่าง "เจ้าน้อยศุขเกษม" กับ "มะเมียะ" ✅ มีเค้าโครงจากเรื่องจริงบางส่วน ในราชสำนักเชียงใหม่ ✅ ถูกเติมแต่งให้มีความโรแมนติกและดราม่า เพื่อให้ชาวบ้านและคนรุ่นหลังเข้าถึง และจดจำได้ง่าย ✅ สะท้อนภาพชีวิตในยุคล้านนา ที่ยังคงเคร่งครัดในระบบชนชั้น และการสมรสตามขนบธรรมเนียม ✅ ใช้เป็นสัญลักษณ์ของความรักต้องห้าม และการต่อสู้กับกรอบประเพณีเก่าก่อน ❤️ "เจ้าน้อยศุขเกษม" กับ "มะเมียะ" ตำนานที่ยังคงมีชีวิต แม้จะไม่มีหลักฐานชี้ชัดว่า ความรักครั้งนี้เป็นจริง แต่เรื่องราว "เจ้าน้อยศุขเกษม" และ "มะเมียะ" ก็ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของ "รักแท้ที่ไม่มีวันสมหวัง" 🌸 ถูกถ่ายทอดเป็นนิยาย เพลง บทละคร และศิลปวัฒนธรรมในล้านนา 🌸 กลายเป็นเครื่องเตือนใจ ถึงข้อจำกัดทางชนชั้น และการเมืองในอดีต 🌸 ยังเป็นตำนานที่คนรุ่นใหม่ศึกษา ซาบซึ้งในแง่มุมของความรัก และความเสียสละ 📌 สรุปข้อเท็จจริง 📝 ตำนานรัก "เจ้าน้อยศุขเกษม กับ มะเมียะ" คือ นิยายประวัติศาสตร์ ที่แต่งเติมจากเรื่องจริงบางส่วน 📝 ข้อเท็จจริงประวัติศาสตร์ยืนยันว่า "เจ้าวงษ์ตวัน" มีชีวิตที่คล้ายกับตำนานดังกล่าวมากกว่า 📝 การเล่าขานที่ต่อเติมจากรุ่นสู่รุ่น ทำให้ความจริงและเรื่องแต่ง ผสมปนเปกันอย่างลงตัว 📝 ตำนานนี้ยังคงมีเสน่ห์และคุณค่า ในฐานะเรื่องเล่าแห่งความรักของชาวล้านนา 🌟 ความรักอาจไม่มีพรมแดน... แต่ขนบธรรมเนียมและประเพณีในอดีตต่างหาก ที่เป็นกำแพงยากจะข้ามได้ 🌟 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 200807 มี.ค. 2568 📚 🏷️ #ตำนานรักมะเมียะ #เจ้าน้อยศุขเกษม #ล้านนาประวัติศาสตร์ #เชียงใหม่ในอดีต #เพลงมะเมี้ยะ #เรื่องจริงหรือนิยาย #ประวัติศาสตร์ล้านนา #เชียงใหม่เมืองโบราณ #ตำนานล้านนา #รักข้ามพรมแดน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 700 มุมมอง 0 รีวิว
  • เส้นทางชีวิต พ.ต.อ. พกโพยสะเทือนยุติธรรม

    วีดีโอคลิปที่ตำรวจยศพันตำรวจเอก (พ.ต.อ.) นายหนึ่ง ถูกกรรมการคุมสอบจับได้ว่าพกเอกสารเข้ามาในห้องสอบ ในการสอบคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งเป็นตุลาการประจำศาลปกครองชั้นต้น ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 15 มี.ค. เป็นที่วิจารณ์อย่างมาก ทำให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. สั่งให้ต้นสังกัดดำเนินการทางวินัยทันที หากเป็นความผิดฐานทุจริตการสอบจริงให้ถือเป็นวินัยร้ายแรง รวมทั้งให้พิจารณาสั่งให้พักหรือออกจากราชการไว้ก่อนด้วย

    พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พ.ต.อ. รายนี้เป็นข้าราชการตำรวจ ตำแหน่งรองผู้บังคับการอำนวยการตำรวจภูธรภาค 8 แต่มีคำสั่งไปช่วยราชการที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 (กอ.รมน.ภาค 4) ซึ่ง ผบ.ตร.สั่งตรวจสอบที่มาที่ไปของการไปช่วยราชการ ว่าเป็นการขาดจากต้นสังกัดหรือไม่ มีหน้าที่อะไร เป็นเวลาราชการหรือไม่ มีการลาถูกต้องตามระเบียบหรือไม่ ย้ำว่าจะดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญา เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง

    ขณะที่ พ.ต.อ. กล่าวกับสื่อว่า อยู่ระหว่างดำเนินการด้านเอกสาร พร้อมยินดีชี้แจง แต่ไม่ขอก้าวล่วงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอปรึกษาผู้บังคับบัญชาว่าสามารถให้คำตอบได้มากน้อยเพียงใด เพราะไม่อยากสื่อสารให้เกิดความเข้าใจผิดหรือข้อมูลที่คลาดเคลื่อน ส่วนสำนักงานศาลปกครองชี้แจงว่า เอกสารที่พบเป็นการคัดลอกตัวบทกฎหมาย ไม่ใช่แนวคำวินิจฉัยของศาล หรือธงคำตอบ อีกทั้งข้อสอบออกในวันที่มีการสอบ ผู้ออกข้อสอบไม่สามารถออกจากห้องสอบได้ และถูกตัดการสื่อสารทั้งหมด จนกว่าหมดเวลาเข้าห้องสอบ เพราะฉะนั้นข้อสอบไม่สามารถเล็ดลอดออกไปสู่บุคคลภายนอกได้

    สำหรับ พ.ต.อ. คนดังกล่าวอายุ 57 ปี ผ่านการเปลี่ยนชื่อมาแล้ว 3 ครั้ง เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 44 การศึกษาสูงสุดปริญญาเอก มีผลงานทางวิชาการสมัยเป็นนักศึกษาสาขาอาชญวิทยา มหาวิทยาลัยของรัฐแห่งหนึ่ง เคยถูกย้ายไปเป็นรองผู้บังคับการฝึกพิเศษ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน เมื่อปี 2562 และรองผู้บังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 2 เมื่อปี 2566 ก่อนย้ายมาสังกัดปัจจุบัน แต่กลับไปช่วยราชการที่ กอ.รมน.ภาค 4 ทำหน้าที่ด้านกฎหมายและสิทธิมนุษยชนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่ปี 2565 โดยไม่ไปที่ทำงานต้นสังกัด อ้างว่าไปช่วยราชการหน่วยอื่น

    แหล่งข่าวจากแวดวงตำรวจเปิดเผยผ่าน Newskit ตั้งข้อสังเกตว่า แรงจูงใจที่ไปช่วยราชการที่ กอ.รมน.ภาค 4 แทนที่จะอยู่ต้นสังกัด หนึ่งในนั้นอาจเป็นเรื่องวันทวีคูณ ที่หากใครเคยไปอยู่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ก็จะได้สิทธิ์นั้น

    #Newskit
    เส้นทางชีวิต พ.ต.อ. พกโพยสะเทือนยุติธรรม วีดีโอคลิปที่ตำรวจยศพันตำรวจเอก (พ.ต.อ.) นายหนึ่ง ถูกกรรมการคุมสอบจับได้ว่าพกเอกสารเข้ามาในห้องสอบ ในการสอบคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งเป็นตุลาการประจำศาลปกครองชั้นต้น ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 15 มี.ค. เป็นที่วิจารณ์อย่างมาก ทำให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. สั่งให้ต้นสังกัดดำเนินการทางวินัยทันที หากเป็นความผิดฐานทุจริตการสอบจริงให้ถือเป็นวินัยร้ายแรง รวมทั้งให้พิจารณาสั่งให้พักหรือออกจากราชการไว้ก่อนด้วย พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พ.ต.อ. รายนี้เป็นข้าราชการตำรวจ ตำแหน่งรองผู้บังคับการอำนวยการตำรวจภูธรภาค 8 แต่มีคำสั่งไปช่วยราชการที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 (กอ.รมน.ภาค 4) ซึ่ง ผบ.ตร.สั่งตรวจสอบที่มาที่ไปของการไปช่วยราชการ ว่าเป็นการขาดจากต้นสังกัดหรือไม่ มีหน้าที่อะไร เป็นเวลาราชการหรือไม่ มีการลาถูกต้องตามระเบียบหรือไม่ ย้ำว่าจะดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญา เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ขณะที่ พ.ต.อ. กล่าวกับสื่อว่า อยู่ระหว่างดำเนินการด้านเอกสาร พร้อมยินดีชี้แจง แต่ไม่ขอก้าวล่วงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอปรึกษาผู้บังคับบัญชาว่าสามารถให้คำตอบได้มากน้อยเพียงใด เพราะไม่อยากสื่อสารให้เกิดความเข้าใจผิดหรือข้อมูลที่คลาดเคลื่อน ส่วนสำนักงานศาลปกครองชี้แจงว่า เอกสารที่พบเป็นการคัดลอกตัวบทกฎหมาย ไม่ใช่แนวคำวินิจฉัยของศาล หรือธงคำตอบ อีกทั้งข้อสอบออกในวันที่มีการสอบ ผู้ออกข้อสอบไม่สามารถออกจากห้องสอบได้ และถูกตัดการสื่อสารทั้งหมด จนกว่าหมดเวลาเข้าห้องสอบ เพราะฉะนั้นข้อสอบไม่สามารถเล็ดลอดออกไปสู่บุคคลภายนอกได้ สำหรับ พ.ต.อ. คนดังกล่าวอายุ 57 ปี ผ่านการเปลี่ยนชื่อมาแล้ว 3 ครั้ง เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 44 การศึกษาสูงสุดปริญญาเอก มีผลงานทางวิชาการสมัยเป็นนักศึกษาสาขาอาชญวิทยา มหาวิทยาลัยของรัฐแห่งหนึ่ง เคยถูกย้ายไปเป็นรองผู้บังคับการฝึกพิเศษ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน เมื่อปี 2562 และรองผู้บังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 2 เมื่อปี 2566 ก่อนย้ายมาสังกัดปัจจุบัน แต่กลับไปช่วยราชการที่ กอ.รมน.ภาค 4 ทำหน้าที่ด้านกฎหมายและสิทธิมนุษยชนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่ปี 2565 โดยไม่ไปที่ทำงานต้นสังกัด อ้างว่าไปช่วยราชการหน่วยอื่น แหล่งข่าวจากแวดวงตำรวจเปิดเผยผ่าน Newskit ตั้งข้อสังเกตว่า แรงจูงใจที่ไปช่วยราชการที่ กอ.รมน.ภาค 4 แทนที่จะอยู่ต้นสังกัด หนึ่งในนั้นอาจเป็นเรื่องวันทวีคูณ ที่หากใครเคยไปอยู่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ก็จะได้สิทธิ์นั้น #Newskit
    Like
    Sad
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 697 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts