• บทความกฎหมาย EP.27
    เรื่อง การชดใช้ค่าเสียหาย: หลักกฎหมายสู่การเยียวยาที่เป็นธรรม

    การชดใช้ค่าเสียหายคือหัวใจสำคัญของระบบกฎหมายที่มุ่งธำรงไว้ซึ่งความเป็นธรรมและแก้ไขเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการกระทำอันมิชอบ ไม่ว่าจะเป็นการละเมิดสิทธิ หน้าที่ หรือการผิดสัญญาที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลอื่น การชดใช้ค่าเสียหายจึงเป็นกลไกในการฟื้นฟูสภาพความเสียหายให้กลับคืนสู่สถานะเดิมหรือใกล้เคียงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยมักจะแสดงออกในรูปของการชำระเงินทดแทน หรือการกระทำอื่นใดที่เป็นการเยียวยาความสูญเสียนั้น ในทางกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หลักการชดใช้ค่าเสียหายถูกกำหนดไว้เพื่อคุ้มครองประโยชน์ของคู่กรณีที่ได้รับความเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นความเสียหายทางกายภาพ ทรัพย์สิน ชื่อเสียง หรือแม้กระทั่งความเสียหายทางจิตใจ ซึ่งความเสียหายเหล่านี้ต้องสามารถคำนวณและประเมินค่าได้ การพิจารณาประเภทและขอบเขตของค่าเสียหายนั้นขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงของแต่ละกรณีอย่างละเอียดรอบคอบ รวมถึงเจตนารมณ์ของกฎหมายที่ต้องการให้ผู้ที่ได้รับความเสียหายได้รับการเยียวยาอย่างเหมาะสมและเป็นธรรม การละเมิดซึ่งเป็นบ่อเกิดแห่งหนี้ประเภทหนึ่ง หมายถึงการที่บุคคลใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมาย เป็นเหตุให้เขาเสียหายถึงแก่ชีวิต ร่างกาย อนามัย เสรีภาพ ทรัพย์สิน หรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใด ค่าเสียหายอันเกิดจากการละเมิดอาจรวมถึงค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ค่าขาดไร้ประโยชน์ ค่าเสียหายทางจิตใจ หรือแม้กระทั่งค่าปลงศพและค่าอุปการะเลี้ยงดูในกรณีที่ถึงแก่ความตาย ส่วนการผิดสัญญาเป็นกรณีที่คู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงที่ระบุไว้ในสัญญา ก่อให้เกิดความเสียหายแก่อีกฝ่ายหนึ่ง การชดใช้ค่าเสียหายจากการผิดสัญญามักมุ่งเน้นไปที่การชดเชยเพื่อให้ผู้เสียหายอยู่ในฐานะเสมือนว่าสัญญานั้นได้มีการปฏิบัติตามอย่างสมบูรณ์ ซึ่งอาจรวมถึงค่าเสียหายโดยตรงที่เกิดขึ้นจากการผิดสัญญา และค่าเสียหายที่คาดการณ์ได้ว่าจะเกิดขึ้นจากการผิดสัญญานั้นด้วย นอกจากนี้ กฎหมายยังให้ความสำคัญกับการพิสูจน์ความเสียหายและมูลค่าของความเสียหาย เพื่อให้การชดใช้เป็นไปอย่างสมเหตุสมผลและไม่เกินกว่าความเป็นจริง ผู้เสียหายมีภาระในการนำสืบให้ศาลเห็นว่าตนได้รับความเสียหายจริงและมูลค่าของความเสียหายนั้นเป็นเท่าใด ซึ่งต้องอาศัยพยานหลักฐานที่น่าเชื่อถือประกอบการพิจารณา กระบวนการทางกฎหมายจึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการไกล่เกลี่ยและตัดสินข้อพิพาท เพื่อให้ผู้เสียหายได้รับการเยียวยาอย่างถูกต้องตามครรลองของกฎหมาย

    ดังนั้น การชดใช้ค่าเสียหายจึงไม่ใช่เพียงแค่การจ่ายเงิน แต่เป็นการแสดงออกถึงความรับผิดชอบทางกฎหมายและการคืนความเป็นธรรมให้แก่สังคม กฎหมายได้วางหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนเพื่อประเมินและกำหนดค่าเสียหายให้สอดคล้องกับสภาพความจริงและความรุนแรงของความเสียหายที่เกิดขึ้น ทั้งนี้เพื่อให้ผู้เสียหายได้รับการเยียวยาอย่างเต็มที่และสมเหตุสมผล ขณะเดียวกันก็เป็นการสร้างบรรทัดฐานให้ผู้กระทำความผิดตระหนักถึงผลของการกระทำและป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์เช่นว่านั้นขึ้นอีก การทำความเข้าใจหลักการและประเภทของการชดใช้ค่าเสียหายจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ไม่เพียงแต่สำหรับนักกฎหมายเท่านั้น แต่รวมถึงประชาชนทั่วไปด้วย เพื่อที่จะสามารถปกป้องสิทธิของตนเองและเรียกร้องความเป็นธรรมได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายเมื่อเกิดความเสียหายขึ้น การเยียวยาด้วยการชดใช้ค่าเสียหายจึงเป็นกลไกที่จำเป็นในการสร้างสมดุลและธำรงไว้ซึ่งความสงบสุขในสังคม.
    บทความกฎหมาย EP.27 เรื่อง การชดใช้ค่าเสียหาย: หลักกฎหมายสู่การเยียวยาที่เป็นธรรม การชดใช้ค่าเสียหายคือหัวใจสำคัญของระบบกฎหมายที่มุ่งธำรงไว้ซึ่งความเป็นธรรมและแก้ไขเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการกระทำอันมิชอบ ไม่ว่าจะเป็นการละเมิดสิทธิ หน้าที่ หรือการผิดสัญญาที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลอื่น การชดใช้ค่าเสียหายจึงเป็นกลไกในการฟื้นฟูสภาพความเสียหายให้กลับคืนสู่สถานะเดิมหรือใกล้เคียงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยมักจะแสดงออกในรูปของการชำระเงินทดแทน หรือการกระทำอื่นใดที่เป็นการเยียวยาความสูญเสียนั้น ในทางกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หลักการชดใช้ค่าเสียหายถูกกำหนดไว้เพื่อคุ้มครองประโยชน์ของคู่กรณีที่ได้รับความเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นความเสียหายทางกายภาพ ทรัพย์สิน ชื่อเสียง หรือแม้กระทั่งความเสียหายทางจิตใจ ซึ่งความเสียหายเหล่านี้ต้องสามารถคำนวณและประเมินค่าได้ การพิจารณาประเภทและขอบเขตของค่าเสียหายนั้นขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงของแต่ละกรณีอย่างละเอียดรอบคอบ รวมถึงเจตนารมณ์ของกฎหมายที่ต้องการให้ผู้ที่ได้รับความเสียหายได้รับการเยียวยาอย่างเหมาะสมและเป็นธรรม การละเมิดซึ่งเป็นบ่อเกิดแห่งหนี้ประเภทหนึ่ง หมายถึงการที่บุคคลใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมาย เป็นเหตุให้เขาเสียหายถึงแก่ชีวิต ร่างกาย อนามัย เสรีภาพ ทรัพย์สิน หรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใด ค่าเสียหายอันเกิดจากการละเมิดอาจรวมถึงค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ค่าขาดไร้ประโยชน์ ค่าเสียหายทางจิตใจ หรือแม้กระทั่งค่าปลงศพและค่าอุปการะเลี้ยงดูในกรณีที่ถึงแก่ความตาย ส่วนการผิดสัญญาเป็นกรณีที่คู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงที่ระบุไว้ในสัญญา ก่อให้เกิดความเสียหายแก่อีกฝ่ายหนึ่ง การชดใช้ค่าเสียหายจากการผิดสัญญามักมุ่งเน้นไปที่การชดเชยเพื่อให้ผู้เสียหายอยู่ในฐานะเสมือนว่าสัญญานั้นได้มีการปฏิบัติตามอย่างสมบูรณ์ ซึ่งอาจรวมถึงค่าเสียหายโดยตรงที่เกิดขึ้นจากการผิดสัญญา และค่าเสียหายที่คาดการณ์ได้ว่าจะเกิดขึ้นจากการผิดสัญญานั้นด้วย นอกจากนี้ กฎหมายยังให้ความสำคัญกับการพิสูจน์ความเสียหายและมูลค่าของความเสียหาย เพื่อให้การชดใช้เป็นไปอย่างสมเหตุสมผลและไม่เกินกว่าความเป็นจริง ผู้เสียหายมีภาระในการนำสืบให้ศาลเห็นว่าตนได้รับความเสียหายจริงและมูลค่าของความเสียหายนั้นเป็นเท่าใด ซึ่งต้องอาศัยพยานหลักฐานที่น่าเชื่อถือประกอบการพิจารณา กระบวนการทางกฎหมายจึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการไกล่เกลี่ยและตัดสินข้อพิพาท เพื่อให้ผู้เสียหายได้รับการเยียวยาอย่างถูกต้องตามครรลองของกฎหมาย ดังนั้น การชดใช้ค่าเสียหายจึงไม่ใช่เพียงแค่การจ่ายเงิน แต่เป็นการแสดงออกถึงความรับผิดชอบทางกฎหมายและการคืนความเป็นธรรมให้แก่สังคม กฎหมายได้วางหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนเพื่อประเมินและกำหนดค่าเสียหายให้สอดคล้องกับสภาพความจริงและความรุนแรงของความเสียหายที่เกิดขึ้น ทั้งนี้เพื่อให้ผู้เสียหายได้รับการเยียวยาอย่างเต็มที่และสมเหตุสมผล ขณะเดียวกันก็เป็นการสร้างบรรทัดฐานให้ผู้กระทำความผิดตระหนักถึงผลของการกระทำและป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์เช่นว่านั้นขึ้นอีก การทำความเข้าใจหลักการและประเภทของการชดใช้ค่าเสียหายจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ไม่เพียงแต่สำหรับนักกฎหมายเท่านั้น แต่รวมถึงประชาชนทั่วไปด้วย เพื่อที่จะสามารถปกป้องสิทธิของตนเองและเรียกร้องความเป็นธรรมได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายเมื่อเกิดความเสียหายขึ้น การเยียวยาด้วยการชดใช้ค่าเสียหายจึงเป็นกลไกที่จำเป็นในการสร้างสมดุลและธำรงไว้ซึ่งความสงบสุขในสังคม.
    0 Comments 0 Shares 17 Views 0 Reviews
  • “Cloudflare Global Network Outage – การหยุดชะงักครั้งใหญ่ที่ถูกแก้ไขแล้ว”

    เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2025 Cloudflare รายงานว่าเครือข่ายทั่วโลกของตนประสบปัญหาการทำงานผิดปกติ ส่งผลให้บริการหลายส่วน เช่น Access, Bot Management, CDN/Cache, Dashboard, Firewall, Network, WARP และ Workers ได้รับผลกระทบ ผู้ใช้งานบางส่วนพบความล่าช้าในการเชื่อมต่อ รวมถึงไม่สามารถเข้าสู่ระบบ Dashboard ได้ตามปกติ

    ทีมวิศวกรของ Cloudflareได้ทำการตรวจสอบและแก้ไขอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงแรกมีการปิดการเข้าถึง WARP ใน London เพื่อควบคุมสถานการณ์ ก่อนจะค่อย ๆ ฟื้นฟูบริการต่าง ๆ ให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ การอัปเดตสถานะระบุว่า Bot Scores และการทำงานของระบบยังคงได้รับผลกระทบเป็นระยะ แต่ภายหลังสามารถแก้ไขได้จนกลับสู่ระดับปกติ

    ในช่วงการฟื้นฟู Cloudflare ยืนยันว่าได้ใช้มาตรการหลายอย่างเพื่อเร่งการแก้ไขและลดผลกระทบต่อผู้ใช้งานทั่วโลก โดยมีการปรับปรุงระบบ Access และ WARP ให้กลับมาทำงานได้ รวมถึงการปรับเปลี่ยนการตั้งค่าบางส่วนเพื่อให้ Dashboard และบริการอื่น ๆ ฟื้นตัวเร็วขึ้น

    ล่าสุด Cloudflare ประกาศว่า เหตุขัดข้องได้รับการแก้ไขแล้ว และบริการทั้งหมดกลับมาทำงานตามปกติ พร้อมย้ำว่าจะมีการทำ Post-incident Investigation เพื่อเปิดเผยรายละเอียดเชิงลึกของสาเหตุและแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำในอนาคต

    สรุปสาระสำคัญ
    เหตุการณ์เกิดขึ้นวันที่ 18 พฤศจิกายน 2025
    กระทบหลายบริการของ Cloudflare เช่น Access, WARP, Dashboard, Firewall

    การแก้ไขเบื้องต้น
    ปิดการเข้าถึง WARP ใน London และปรับปรุงระบบ Access

    การฟื้นฟูบริการ
    Dashboard และ Bot Scores ค่อย ๆ กลับสู่ระดับปกติ

    สถานะล่าสุด
    Cloudflare ยืนยันว่าเหตุการณ์ได้รับการแก้ไขแล้ว

    ผลกระทบต่อผู้ใช้งานทั่วโลก
    ผู้ใช้บางรายไม่สามารถเข้าสู่ระบบ Dashboard และพบความล่าช้าในการเชื่อมต่อ

    ความเสี่ยงจากการหยุดชะงักของเครือข่าย
    อาจกระทบธุรกิจที่พึ่งพา Cloudflare ในการรักษาความปลอดภัยและการเชื่อมต่อเว็บไซต์

    https://www.cloudflarestatus.com/incidents/8gmgl950y3h7
    📰 “Cloudflare Global Network Outage – การหยุดชะงักครั้งใหญ่ที่ถูกแก้ไขแล้ว” เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2025 Cloudflare รายงานว่าเครือข่ายทั่วโลกของตนประสบปัญหาการทำงานผิดปกติ ส่งผลให้บริการหลายส่วน เช่น Access, Bot Management, CDN/Cache, Dashboard, Firewall, Network, WARP และ Workers ได้รับผลกระทบ ผู้ใช้งานบางส่วนพบความล่าช้าในการเชื่อมต่อ รวมถึงไม่สามารถเข้าสู่ระบบ Dashboard ได้ตามปกติ ทีมวิศวกรของ Cloudflareได้ทำการตรวจสอบและแก้ไขอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงแรกมีการปิดการเข้าถึง WARP ใน London เพื่อควบคุมสถานการณ์ ก่อนจะค่อย ๆ ฟื้นฟูบริการต่าง ๆ ให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ การอัปเดตสถานะระบุว่า Bot Scores และการทำงานของระบบยังคงได้รับผลกระทบเป็นระยะ แต่ภายหลังสามารถแก้ไขได้จนกลับสู่ระดับปกติ ในช่วงการฟื้นฟู Cloudflare ยืนยันว่าได้ใช้มาตรการหลายอย่างเพื่อเร่งการแก้ไขและลดผลกระทบต่อผู้ใช้งานทั่วโลก โดยมีการปรับปรุงระบบ Access และ WARP ให้กลับมาทำงานได้ รวมถึงการปรับเปลี่ยนการตั้งค่าบางส่วนเพื่อให้ Dashboard และบริการอื่น ๆ ฟื้นตัวเร็วขึ้น ล่าสุด Cloudflare ประกาศว่า เหตุขัดข้องได้รับการแก้ไขแล้ว และบริการทั้งหมดกลับมาทำงานตามปกติ พร้อมย้ำว่าจะมีการทำ Post-incident Investigation เพื่อเปิดเผยรายละเอียดเชิงลึกของสาเหตุและแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำในอนาคต 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ เหตุการณ์เกิดขึ้นวันที่ 18 พฤศจิกายน 2025 ➡️ กระทบหลายบริการของ Cloudflare เช่น Access, WARP, Dashboard, Firewall ✅ การแก้ไขเบื้องต้น ➡️ ปิดการเข้าถึง WARP ใน London และปรับปรุงระบบ Access ✅ การฟื้นฟูบริการ ➡️ Dashboard และ Bot Scores ค่อย ๆ กลับสู่ระดับปกติ ✅ สถานะล่าสุด ➡️ Cloudflare ยืนยันว่าเหตุการณ์ได้รับการแก้ไขแล้ว ‼️ ผลกระทบต่อผู้ใช้งานทั่วโลก ⛔ ผู้ใช้บางรายไม่สามารถเข้าสู่ระบบ Dashboard และพบความล่าช้าในการเชื่อมต่อ ‼️ ความเสี่ยงจากการหยุดชะงักของเครือข่าย ⛔ อาจกระทบธุรกิจที่พึ่งพา Cloudflare ในการรักษาความปลอดภัยและการเชื่อมต่อเว็บไซต์ https://www.cloudflarestatus.com/incidents/8gmgl950y3h7
    WWW.CLOUDFLARESTATUS.COM
    Cloudflare Global Network experiencing issues
    Cloudflare's Status Page - Cloudflare Global Network experiencing issues.
    0 Comments 0 Shares 21 Views 0 Reviews
  • “ไฟหน้ารถ LED สว่างเกินไป – ปัญหาที่รัฐบาลอังกฤษเตรียมแก้ไข”

    งานวิจัยที่จัดทำโดย Department for Transport (DfT) ของสหราชอาณาจักร พบว่า 97% ของผู้ขับขี่รู้สึกถูกรบกวนจากแสงไฟหน้ารถที่สว่างเกินไป และ 96% เชื่อว่าไฟหน้ารถส่วนใหญ่สว่างเกินมาตรฐาน ปัญหานี้เกิดขึ้นบ่อยจนบางคนถึงขั้นเลี่ยงการขับรถกลางคืน โดย 33% เลิกขับกลางคืนหรือขับน้อยลง และอีก 22% อยากเลี่ยงแต่ไม่มีทางเลือก

    ผู้เชี่ยวชาญจาก Transport Research Laboratory (TRL) ระบุว่าไฟ LED และไฟสีขาวเข้มมีแนวโน้มสร้างแสงจ้าที่ทำให้สายตามนุษย์ปรับตัวได้ยากในเวลากลางคืน ข้อมูลนี้สอดคล้องกับการรณรงค์ของ RAC (Royal Automobile Club) ที่เคยเรียกร้องให้รัฐบาลตรวจสอบเรื่องนี้ เพราะแม้ไฟหน้าสว่างจะช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นได้ดีขึ้น แต่ก็สร้างความเสี่ยงต่อผู้ใช้ถนนคนอื่น ๆ

    รัฐบาลอังกฤษประกาศว่าจะบรรจุประเด็นนี้ใน Road Safety Strategy ที่จะออกมาเร็ว ๆ นี้ โดยมีแนวทางทบทวนมาตรฐานไฟหน้ารถ เพื่อหาสมดุลระหว่าง “ความสว่างเพื่อความปลอดภัย” และ “การลดแสงจ้าที่รบกวนสายตา” ขณะเดียวกัน นักทัศนมาตรวิทยาแนะนำให้มีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อปรับปรุงกฎเกณฑ์ให้ทันสมัยและสอดคล้องกับเทคโนโลยีไฟรถที่เปลี่ยนไป

    สรุปสาระสำคัญ
    ผลสำรวจจาก DfT
    97% ของผู้ขับขี่ถูกรบกวนจากไฟหน้ารถ, 96% เชื่อว่าไฟหน้าสว่างเกินไป

    ผลกระทบต่อพฤติกรรมการขับขี่
    33% เลิกขับกลางคืน, 22% อยากเลี่ยงแต่จำเป็นต้องขับ

    ไฟ LED และไฟสีขาวเข้ม
    มีแนวโน้มสร้างแสงจ้าที่สายตามนุษย์ปรับได้ยาก

    รัฐบาลอังกฤษเตรียมแก้ไข
    จะบรรจุใน Road Safety Strategy เพื่อทบทวนมาตรฐานไฟหน้า

    ความเสี่ยงต่อความปลอดภัยบนท้องถนน
    ไฟหน้าสว่างเกินไปอาจทำให้ผู้ขับขี่ตาพร่าและเกิดอุบัติเหตุ

    การพึ่งพาเทคโนโลยีโดยไม่ปรับกฎเกณฑ์
    หากไม่แก้ไข อาจทำให้ปัญหาลุกลามเมื่อรถรุ่นใหม่ใช้ไฟ LED มากขึ้น

    https://www.bbc.com/news/articles/c1j8ewy1p86o
    📰 “ไฟหน้ารถ LED สว่างเกินไป – ปัญหาที่รัฐบาลอังกฤษเตรียมแก้ไข” งานวิจัยที่จัดทำโดย Department for Transport (DfT) ของสหราชอาณาจักร พบว่า 97% ของผู้ขับขี่รู้สึกถูกรบกวนจากแสงไฟหน้ารถที่สว่างเกินไป และ 96% เชื่อว่าไฟหน้ารถส่วนใหญ่สว่างเกินมาตรฐาน ปัญหานี้เกิดขึ้นบ่อยจนบางคนถึงขั้นเลี่ยงการขับรถกลางคืน โดย 33% เลิกขับกลางคืนหรือขับน้อยลง และอีก 22% อยากเลี่ยงแต่ไม่มีทางเลือก ผู้เชี่ยวชาญจาก Transport Research Laboratory (TRL) ระบุว่าไฟ LED และไฟสีขาวเข้มมีแนวโน้มสร้างแสงจ้าที่ทำให้สายตามนุษย์ปรับตัวได้ยากในเวลากลางคืน ข้อมูลนี้สอดคล้องกับการรณรงค์ของ RAC (Royal Automobile Club) ที่เคยเรียกร้องให้รัฐบาลตรวจสอบเรื่องนี้ เพราะแม้ไฟหน้าสว่างจะช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นได้ดีขึ้น แต่ก็สร้างความเสี่ยงต่อผู้ใช้ถนนคนอื่น ๆ รัฐบาลอังกฤษประกาศว่าจะบรรจุประเด็นนี้ใน Road Safety Strategy ที่จะออกมาเร็ว ๆ นี้ โดยมีแนวทางทบทวนมาตรฐานไฟหน้ารถ เพื่อหาสมดุลระหว่าง “ความสว่างเพื่อความปลอดภัย” และ “การลดแสงจ้าที่รบกวนสายตา” ขณะเดียวกัน นักทัศนมาตรวิทยาแนะนำให้มีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อปรับปรุงกฎเกณฑ์ให้ทันสมัยและสอดคล้องกับเทคโนโลยีไฟรถที่เปลี่ยนไป 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ผลสำรวจจาก DfT ➡️ 97% ของผู้ขับขี่ถูกรบกวนจากไฟหน้ารถ, 96% เชื่อว่าไฟหน้าสว่างเกินไป ✅ ผลกระทบต่อพฤติกรรมการขับขี่ ➡️ 33% เลิกขับกลางคืน, 22% อยากเลี่ยงแต่จำเป็นต้องขับ ✅ ไฟ LED และไฟสีขาวเข้ม ➡️ มีแนวโน้มสร้างแสงจ้าที่สายตามนุษย์ปรับได้ยาก ✅ รัฐบาลอังกฤษเตรียมแก้ไข ➡️ จะบรรจุใน Road Safety Strategy เพื่อทบทวนมาตรฐานไฟหน้า ‼️ ความเสี่ยงต่อความปลอดภัยบนท้องถนน ⛔ ไฟหน้าสว่างเกินไปอาจทำให้ผู้ขับขี่ตาพร่าและเกิดอุบัติเหตุ ‼️ การพึ่งพาเทคโนโลยีโดยไม่ปรับกฎเกณฑ์ ⛔ หากไม่แก้ไข อาจทำให้ปัญหาลุกลามเมื่อรถรุ่นใหม่ใช้ไฟ LED มากขึ้น https://www.bbc.com/news/articles/c1j8ewy1p86o
    WWW.BBC.COM
    Nearly all drivers say vehicles' lights are too bright in study
    The study, commissioned by the Department for Transport, was completed by Berkshire's TRL.
    0 Comments 0 Shares 22 Views 0 Reviews
  • RustDesk เพิ่มฟีเจอร์ Multi-Scaled Display บน Wayland

    RustDesk ซึ่งเป็นโครงการ remote desktop แบบโอเพนซอร์ส ได้ประกาศอัปเดตสำคัญใน nightly build ล่าสุด โดยเพิ่มการรองรับ multi-scaled display สำหรับผู้ใช้ Linux ที่ใช้ Wayland โดยเฉพาะบน KDE และ GNOME ฟีเจอร์นี้ช่วยแก้ปัญหาที่ผู้ใช้หลายจอที่มีความละเอียดและการปรับสเกลต่างกันมักเจอ เช่น pointer ไม่ตรงตำแหน่งที่คลิกจริง

    ปัญหาที่ถูกแก้ไข
    ก่อนหน้านี้ หากผู้ใช้มีจอ 4K ที่ปรับสเกล 200% และจอ Full HD ที่ปรับสเกล 100% การใช้งาน remote desktop มักจะเกิดปัญหา pointer misalignment ทำให้การทำงานแทบเป็นไปไม่ได้ การอัปเดตครั้งนี้ทำให้ RustDesk กลายเป็น remote desktop ตัวแรกที่รองรับ multi-scaled display บน Wayland ซึ่งคู่แข่งเชิงพาณิชย์อย่าง TeamViewer และ AnyDesk ยังไม่สามารถแก้ไขได้เต็มที่

    ความสำคัญต่อผู้ใช้ Linux
    การแก้ไขนี้ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับผู้ใช้ Linux ที่ทำงานกับหลายจอ เพราะ Wayland เองยังมีความท้าทายในการจัดการ multi-monitor ที่ซับซ้อน RustDesk จึงกลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความเสถียรและความปลอดภัย โดยเฉพาะเมื่อมันเป็นโอเพนซอร์สและรองรับหลายแพลตฟอร์มทั้ง Windows, macOS, Android และ iOS

    อนาคตของ RustDesk
    ฟีเจอร์นี้ยังอยู่ใน nightly build และจะถูกปล่อยในเวอร์ชัน stable หลังจากผ่านการทดสอบแล้ว หาก RustDeskสามารถรักษาความเร็วและความเสถียรได้ ก็อาจกลายเป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งของโซลูชันเชิงพาณิชย์ และเป็นตัวเลือกหลักสำหรับองค์กรที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายด้าน remote desktop

    สรุปสาระสำคัญ
    ฟีเจอร์ใหม่
    รองรับ multi-scaled display บน Wayland (KDE, GNOME)
    แก้ปัญหา pointer misalignment บนหลายจอ

    ความแตกต่างจากคู่แข่ง
    RustDesk เป็น remote desktop ตัวแรกที่รองรับฟีเจอร์นี้บน Wayland
    TeamViewer และ AnyDesk ยังไม่แก้ไขได้เต็มที่

    ความสำคัญต่อผู้ใช้
    ช่วยให้การทำงานบนหลายจอเสถียรขึ้น
    รองรับ cross-platform และเป็นโอเพนซอร์ส

    คำเตือน
    ฟีเจอร์ยังอยู่ใน nightly build อาจมีบั๊กหรือไม่เสถียร
    ต้องรอการปล่อยใน stable version เพื่อใช้งานจริงในองค์กร
    ผู้ใช้ควรทดสอบก่อนนำไปใช้ในงานสำคัญ

    https://itsfoss.com/news/rustdesk-multi-scaled-display-support/
    🖥️ RustDesk เพิ่มฟีเจอร์ Multi-Scaled Display บน Wayland RustDesk ซึ่งเป็นโครงการ remote desktop แบบโอเพนซอร์ส ได้ประกาศอัปเดตสำคัญใน nightly build ล่าสุด โดยเพิ่มการรองรับ multi-scaled display สำหรับผู้ใช้ Linux ที่ใช้ Wayland โดยเฉพาะบน KDE และ GNOME ฟีเจอร์นี้ช่วยแก้ปัญหาที่ผู้ใช้หลายจอที่มีความละเอียดและการปรับสเกลต่างกันมักเจอ เช่น pointer ไม่ตรงตำแหน่งที่คลิกจริง ⚙️ ปัญหาที่ถูกแก้ไข ก่อนหน้านี้ หากผู้ใช้มีจอ 4K ที่ปรับสเกล 200% และจอ Full HD ที่ปรับสเกล 100% การใช้งาน remote desktop มักจะเกิดปัญหา pointer misalignment ทำให้การทำงานแทบเป็นไปไม่ได้ การอัปเดตครั้งนี้ทำให้ RustDesk กลายเป็น remote desktop ตัวแรกที่รองรับ multi-scaled display บน Wayland ซึ่งคู่แข่งเชิงพาณิชย์อย่าง TeamViewer และ AnyDesk ยังไม่สามารถแก้ไขได้เต็มที่ 🌐 ความสำคัญต่อผู้ใช้ Linux การแก้ไขนี้ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับผู้ใช้ Linux ที่ทำงานกับหลายจอ เพราะ Wayland เองยังมีความท้าทายในการจัดการ multi-monitor ที่ซับซ้อน RustDesk จึงกลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความเสถียรและความปลอดภัย โดยเฉพาะเมื่อมันเป็นโอเพนซอร์สและรองรับหลายแพลตฟอร์มทั้ง Windows, macOS, Android และ iOS 🔮 อนาคตของ RustDesk ฟีเจอร์นี้ยังอยู่ใน nightly build และจะถูกปล่อยในเวอร์ชัน stable หลังจากผ่านการทดสอบแล้ว หาก RustDeskสามารถรักษาความเร็วและความเสถียรได้ ก็อาจกลายเป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งของโซลูชันเชิงพาณิชย์ และเป็นตัวเลือกหลักสำหรับองค์กรที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายด้าน remote desktop 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ฟีเจอร์ใหม่ ➡️ รองรับ multi-scaled display บน Wayland (KDE, GNOME) ➡️ แก้ปัญหา pointer misalignment บนหลายจอ ✅ ความแตกต่างจากคู่แข่ง ➡️ RustDesk เป็น remote desktop ตัวแรกที่รองรับฟีเจอร์นี้บน Wayland ➡️ TeamViewer และ AnyDesk ยังไม่แก้ไขได้เต็มที่ ✅ ความสำคัญต่อผู้ใช้ ➡️ ช่วยให้การทำงานบนหลายจอเสถียรขึ้น ➡️ รองรับ cross-platform และเป็นโอเพนซอร์ส ‼️ คำเตือน ⛔ ฟีเจอร์ยังอยู่ใน nightly build อาจมีบั๊กหรือไม่เสถียร ⛔ ต้องรอการปล่อยใน stable version เพื่อใช้งานจริงในองค์กร ⛔ ผู้ใช้ควรทดสอบก่อนนำไปใช้ในงานสำคัญ https://itsfoss.com/news/rustdesk-multi-scaled-display-support/
    ITSFOSS.COM
    RustDesk Pulls Ahead of TeamViewer, AnyDesk with Wayland Multi-Scaled Display Support
    New nightly build brings support for monitors with different scaling factors.
    0 Comments 0 Shares 24 Views 0 Reviews
  • SecurityMetrics คว้ารางวัลใหญ่ด้าน Cybersecurity

    SecurityMetrics ได้รับรางวัล “Data Leak Detection Solution of the Year” จากงาน CyberSecurity Breakthrough Awards 2025 โดยผลงานที่โดดเด่นคือ Shopping Cart Inspect (SCI) ซึ่งช่วยตรวจจับการโจมตีแบบ web skimming ที่มักเกิดขึ้นกับเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ

    จุดเด่นของ Shopping Cart Inspect (SCI)
    SCI ใช้เทคโนโลยี WIM (Web Inject Monitoring) ที่สามารถตรวจจับการโจมตีด้วย JavaScript ได้ทันทีที่เกิดขึ้น โดยทีม Forensic Analysts ของ SecurityMetrics จะทำการตรวจสอบโค้ดที่รันบนหน้าเว็บ เพื่อหาหลักฐานการโจมตีและสร้างรายงานความเสี่ยงที่จัดลำดับตามมาตรฐาน CVSS พร้อมคำแนะนำในการแก้ไข

    ผลกระทบต่อธุรกิจอีคอมเมิร์ซ
    การโจมตีแบบ web skimming เป็นภัยที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะกับร้านค้าออนไลน์ที่ใช้ระบบตะกร้าสินค้า SCI ช่วยให้ธุรกิจสามารถตรวจจับและแก้ไขได้โดยไม่กระทบต่อการดำเนินงาน ทำให้ลูกค้ามั่นใจในความปลอดภัยของข้อมูลการชำระเงิน และช่วยลดความเสี่ยงต่อการสูญเสียชื่อเสียงและรายได้

    ความสำคัญในระดับโลก
    งาน CyberSecurity Breakthrough Awards มีผู้เข้าร่วมจากกว่า 20 ประเทศ และ SCI ถูกเลือกให้เป็นโซลูชันที่โดดเด่นที่สุดในปีนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการป้องกันข้อมูลรั่วไหลในยุคที่ธุรกิจออนไลน์เติบโตอย่างรวดเร็ว และภัยคุกคามไซเบอร์มีความซับซ้อนมากขึ้น

    สรุปสาระสำคัญ
    รางวัลที่ได้รับ
    SecurityMetrics ได้รับรางวัล “Data Leak Detection Solution of the Year” ปี 2025
    มอบโดย CyberSecurity Breakthrough Awards

    จุดเด่นของ SCI
    ใช้ WIM Technology ตรวจจับ web skimming แบบ real-time
    ทีม Forensic Analysts ตรวจสอบโค้ดและสร้างรายงานความเสี่ยงตาม CVSS

    ผลกระทบต่อธุรกิจ
    ป้องกันข้อมูลการชำระเงินรั่วไหล
    ลดความเสี่ยงต่อชื่อเสียงและรายได้ของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ

    คำเตือนจากเหตุการณ์
    ร้านค้าออนไลน์ที่ไม่ตรวจสอบระบบตะกร้าสินค้าเสี่ยงต่อการถูกโจมตี
    การโจมตี web skimming มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและซับซ้อนขึ้น
    ธุรกิจควรมีระบบตรวจจับและทีมผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับมืออย่างต่อเนื่อง

    https://securityonline.info/securitymetrics-wins-data-leak-detection-solution-of-the-year-in-2025-cybersecurity-breakthrough-awards-program/
    🏆 SecurityMetrics คว้ารางวัลใหญ่ด้าน Cybersecurity SecurityMetrics ได้รับรางวัล “Data Leak Detection Solution of the Year” จากงาน CyberSecurity Breakthrough Awards 2025 โดยผลงานที่โดดเด่นคือ Shopping Cart Inspect (SCI) ซึ่งช่วยตรวจจับการโจมตีแบบ web skimming ที่มักเกิดขึ้นกับเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ 🔍 จุดเด่นของ Shopping Cart Inspect (SCI) SCI ใช้เทคโนโลยี WIM (Web Inject Monitoring) ที่สามารถตรวจจับการโจมตีด้วย JavaScript ได้ทันทีที่เกิดขึ้น โดยทีม Forensic Analysts ของ SecurityMetrics จะทำการตรวจสอบโค้ดที่รันบนหน้าเว็บ เพื่อหาหลักฐานการโจมตีและสร้างรายงานความเสี่ยงที่จัดลำดับตามมาตรฐาน CVSS พร้อมคำแนะนำในการแก้ไข 🛡️ ผลกระทบต่อธุรกิจอีคอมเมิร์ซ การโจมตีแบบ web skimming เป็นภัยที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะกับร้านค้าออนไลน์ที่ใช้ระบบตะกร้าสินค้า SCI ช่วยให้ธุรกิจสามารถตรวจจับและแก้ไขได้โดยไม่กระทบต่อการดำเนินงาน ทำให้ลูกค้ามั่นใจในความปลอดภัยของข้อมูลการชำระเงิน และช่วยลดความเสี่ยงต่อการสูญเสียชื่อเสียงและรายได้ 🌐 ความสำคัญในระดับโลก งาน CyberSecurity Breakthrough Awards มีผู้เข้าร่วมจากกว่า 20 ประเทศ และ SCI ถูกเลือกให้เป็นโซลูชันที่โดดเด่นที่สุดในปีนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการป้องกันข้อมูลรั่วไหลในยุคที่ธุรกิจออนไลน์เติบโตอย่างรวดเร็ว และภัยคุกคามไซเบอร์มีความซับซ้อนมากขึ้น 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ รางวัลที่ได้รับ ➡️ SecurityMetrics ได้รับรางวัล “Data Leak Detection Solution of the Year” ปี 2025 ➡️ มอบโดย CyberSecurity Breakthrough Awards ✅ จุดเด่นของ SCI ➡️ ใช้ WIM Technology ตรวจจับ web skimming แบบ real-time ➡️ ทีม Forensic Analysts ตรวจสอบโค้ดและสร้างรายงานความเสี่ยงตาม CVSS ✅ ผลกระทบต่อธุรกิจ ➡️ ป้องกันข้อมูลการชำระเงินรั่วไหล ➡️ ลดความเสี่ยงต่อชื่อเสียงและรายได้ของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ‼️ คำเตือนจากเหตุการณ์ ⛔ ร้านค้าออนไลน์ที่ไม่ตรวจสอบระบบตะกร้าสินค้าเสี่ยงต่อการถูกโจมตี ⛔ การโจมตี web skimming มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและซับซ้อนขึ้น ⛔ ธุรกิจควรมีระบบตรวจจับและทีมผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับมืออย่างต่อเนื่อง https://securityonline.info/securitymetrics-wins-data-leak-detection-solution-of-the-year-in-2025-cybersecurity-breakthrough-awards-program/
    0 Comments 0 Shares 25 Views 0 Reviews
  • มัลแวร์ใหม่ DigitStealer โจมตี Mac รุ่น M2+

    Jamf Threat Labs เปิดเผยการค้นพบมัลแวร์ใหม่ชื่อ DigitStealer ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเจาะระบบ macOS โดยเฉพาะรุ่นที่ใช้ชิป Apple Silicon M2 หรือใหม่กว่า จุดเด่นคือการใช้เทคนิคขั้นสูง เช่น multi-stage payload, JXA (JavaScript for Automation) และการซ่อนตัวผ่าน Cloudflare Pages เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ

    เป้าหมายหลัก: กระเป๋าเงินคริปโต Ledger Live
    หนึ่งในเป้าหมายสำคัญของ DigitStealer คือการแก้ไขและเปลี่ยนการตั้งค่าในแอป Ledger Live เพื่อส่งข้อมูล seed phrase และการตั้งค่ากระเป๋าเงินไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้โจมตี มัลแวร์นี้ยังสามารถเข้าถึงข้อมูลจาก Electrum, Exodus, Coinomi และแม้แต่ macOS Keychain, VPN, Telegram ได้อีกด้วย

    เทคนิคการโจมตีที่ซับซ้อน
    DigitStealer ใช้การตรวจสอบฮาร์ดแวร์และ locale เพื่อตัดสินใจว่าจะทำงานหรือไม่ โดยมันจะไม่ทำงานบน VM, Intel Macs หรือแม้แต่ M1 Macs แต่จะทำงานเฉพาะบน M2 ขึ้นไป นอกจากนี้ยังใช้ AppleScript เพื่อหลอกให้ผู้ใช้กรอกรหัสผ่าน macOS และเก็บข้อมูล credential พร้อมทั้งสร้าง Launch Agent ที่ดึง payload จาก DNS TXT record เพื่อสร้าง backdoor ที่ทำงานต่อเนื่อง

    ความเสี่ยงและบทเรียน
    เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่าแม้ macOS จะถูกมองว่าปลอดภัย แต่ผู้โจมตีก็พัฒนาเทคนิคใหม่ๆ ที่เจาะจงไปยังสถาปัตยกรรมล่าสุดของ Apple ได้โดยตรง ผู้ใช้ที่เกี่ยวข้องกับคริปโตหรือข้อมูลสำคัญควรระวังเป็นพิเศษ และองค์กรควรเตรียมระบบตรวจจับภัยคุกคามที่ทันสมัยเพื่อรับมือกับมัลแวร์ที่ซับซ้อนเช่นนี้

    สรุปสาระสำคัญ
    การค้นพบมัลแวร์ DigitStealer
    เจาะระบบ macOS M2+ โดยใช้ JXA และ Cloudflare Pages
    ใช้ multi-stage payload เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ

    เป้าหมายการโจมตี
    มุ่งเป้าไปที่กระเป๋าเงินคริปโต Ledger Live
    สามารถเข้าถึงข้อมูลจาก Keychain, VPN, Telegram และ browser

    เทคนิคที่ใช้
    ตรวจสอบ locale และฮาร์ดแวร์เพื่อเลือกเป้าหมาย
    ใช้ AppleScript หลอกขอรหัสผ่าน macOS
    สร้าง Launch Agent ที่ดึง payload จาก DNS TXT record

    คำเตือนจากเหตุการณ์
    macOS ไม่ได้ปลอดภัยสมบูรณ์ ผู้โจมตีเริ่มเจาะจงรุ่นใหม่โดยตรง
    ผู้ใช้คริปโตควรระวังเป็นพิเศษ เนื่องจาก seed phrase อาจถูกขโมย
    องค์กรควรมีระบบตรวจจับภัยคุกคามที่ทันสมัยและแผนรับมือมัลแวร์ขั้นสูง

    https://securityonline.info/advanced-macos-digitstealer-targets-m2-macs-hijacking-ledger-live-via-jxa-and-dns-based-c2/
    🖥️ มัลแวร์ใหม่ DigitStealer โจมตี Mac รุ่น M2+ Jamf Threat Labs เปิดเผยการค้นพบมัลแวร์ใหม่ชื่อ DigitStealer ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเจาะระบบ macOS โดยเฉพาะรุ่นที่ใช้ชิป Apple Silicon M2 หรือใหม่กว่า จุดเด่นคือการใช้เทคนิคขั้นสูง เช่น multi-stage payload, JXA (JavaScript for Automation) และการซ่อนตัวผ่าน Cloudflare Pages เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ 🔑 เป้าหมายหลัก: กระเป๋าเงินคริปโต Ledger Live หนึ่งในเป้าหมายสำคัญของ DigitStealer คือการแก้ไขและเปลี่ยนการตั้งค่าในแอป Ledger Live เพื่อส่งข้อมูล seed phrase และการตั้งค่ากระเป๋าเงินไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้โจมตี มัลแวร์นี้ยังสามารถเข้าถึงข้อมูลจาก Electrum, Exodus, Coinomi และแม้แต่ macOS Keychain, VPN, Telegram ได้อีกด้วย 🛡️ เทคนิคการโจมตีที่ซับซ้อน DigitStealer ใช้การตรวจสอบฮาร์ดแวร์และ locale เพื่อตัดสินใจว่าจะทำงานหรือไม่ โดยมันจะไม่ทำงานบน VM, Intel Macs หรือแม้แต่ M1 Macs แต่จะทำงานเฉพาะบน M2 ขึ้นไป นอกจากนี้ยังใช้ AppleScript เพื่อหลอกให้ผู้ใช้กรอกรหัสผ่าน macOS และเก็บข้อมูล credential พร้อมทั้งสร้าง Launch Agent ที่ดึง payload จาก DNS TXT record เพื่อสร้าง backdoor ที่ทำงานต่อเนื่อง ⚠️ ความเสี่ยงและบทเรียน เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่าแม้ macOS จะถูกมองว่าปลอดภัย แต่ผู้โจมตีก็พัฒนาเทคนิคใหม่ๆ ที่เจาะจงไปยังสถาปัตยกรรมล่าสุดของ Apple ได้โดยตรง ผู้ใช้ที่เกี่ยวข้องกับคริปโตหรือข้อมูลสำคัญควรระวังเป็นพิเศษ และองค์กรควรเตรียมระบบตรวจจับภัยคุกคามที่ทันสมัยเพื่อรับมือกับมัลแวร์ที่ซับซ้อนเช่นนี้ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การค้นพบมัลแวร์ DigitStealer ➡️ เจาะระบบ macOS M2+ โดยใช้ JXA และ Cloudflare Pages ➡️ ใช้ multi-stage payload เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ ✅ เป้าหมายการโจมตี ➡️ มุ่งเป้าไปที่กระเป๋าเงินคริปโต Ledger Live ➡️ สามารถเข้าถึงข้อมูลจาก Keychain, VPN, Telegram และ browser ✅ เทคนิคที่ใช้ ➡️ ตรวจสอบ locale และฮาร์ดแวร์เพื่อเลือกเป้าหมาย ➡️ ใช้ AppleScript หลอกขอรหัสผ่าน macOS ➡️ สร้าง Launch Agent ที่ดึง payload จาก DNS TXT record ‼️ คำเตือนจากเหตุการณ์ ⛔ macOS ไม่ได้ปลอดภัยสมบูรณ์ ผู้โจมตีเริ่มเจาะจงรุ่นใหม่โดยตรง ⛔ ผู้ใช้คริปโตควรระวังเป็นพิเศษ เนื่องจาก seed phrase อาจถูกขโมย ⛔ องค์กรควรมีระบบตรวจจับภัยคุกคามที่ทันสมัยและแผนรับมือมัลแวร์ขั้นสูง https://securityonline.info/advanced-macos-digitstealer-targets-m2-macs-hijacking-ledger-live-via-jxa-and-dns-based-c2/
    SECURITYONLINE.INFO
    Advanced macOS DigitStealer Targets M2+ Macs, Hijacking Ledger Live via JXA and DNS-Based C2
    Jamf exposed DigitStealer, an advanced macOS infostealer that checks for Apple M2+ chips. It uses Cloudflare Pages for delivery, JXA for stealth, and modifies Ledger Live to steal crypto wallets via DNS TXT C2.
    0 Comments 0 Shares 20 Views 0 Reviews
  • วิกฤติ Cloudflare สะเทือนทั่วโลก: จาก X ถึง McDonald’s

    การล่มของระบบ Cloudflare ล่าสุดสร้างผลกระทบเป็นวงกว้างต่อบริการออนไลน์ทั่วโลก ตั้งแต่แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่าง X (Twitter เดิม) ไปจนถึงระบบสั่งอาหารของ McDonald’s และแม้แต่บริการ AI อย่าง ChatGPT ก็ได้รับผลกระทบด้วย เหตุการณ์นี้เกิดจาก “traffic spike” ที่ผิดปกติ จนทำให้ระบบเครือข่ายของ Cloudflareล้มเหลวในหลายส่วน แม้จะมีการยืนยันว่าไม่ใช่การโจมตี แต่ความผิดพลาดจากการปรับแต่งระบบภายในกลับสร้างความเสียหายครั้งใหญ่

    เบื้องหลังปัญหา: Bug ที่ซ่อนอยู่ในระบบ
    CTO ของ Cloudflare ออกมายอมรับตรงไปตรงมาว่าเป็นความผิดพลาดจากการปรับค่าการทำงานของระบบ bot mitigation ที่มี bug แฝงอยู่ เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยก็ทำให้ระบบ crash และลุกลามไปทั่วเครือข่าย ผลที่ตามมาคือการหยุดชะงักของบริการจำนวนมาก ทั้งเว็บไซต์ข่าว, เกมออนไลน์อย่าง RuneScape, ไปจนถึงเครื่องมือทำงานอย่าง Canva และ VPN หลายเจ้า

    ผลกระทบที่ไม่คาดคิด: จากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ถึงโรงเรียนอนุบาล
    สิ่งที่น่าตกใจคือระบบ PADS ซึ่งใช้ตรวจสอบบุคลากรในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ก็ได้รับผลกระทบ ทำให้การเข้าถึงบุคลากรต้องหยุดชะงัก แม้จะไม่กระทบต่อการเดินเครื่อง แต่ก็สะท้อนให้เห็นถึงความเสี่ยงของการพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานเดียวกัน ขณะเดียวกันในชีวิตประจำวัน เช่น ศูนย์เด็กเล็กที่เคยใช้แอปเชื่อมต่อกับผู้ปกครอง ก็ต้องหันกลับไปใช้วิธีบันทึกด้วยมือเหมือนยุค 90

    บทเรียนและอนาคตของโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ต
    เหตุการณ์นี้ตอกย้ำความเปราะบางของระบบอินเทอร์เน็ตที่พึ่งพาผู้ให้บริการรายใหญ่เพียงไม่กี่เจ้า แม้ Cloudflare จะเร่งแก้ไขและสัญญาว่าจะไม่ให้เกิดซ้ำ แต่ก็เป็นสัญญาณเตือนว่าธุรกิจและสังคมควรมีระบบสำรองและแผนรับมือที่ดีกว่าเดิม เพื่อไม่ให้การหยุดชะงักของผู้ให้บริการรายเดียวส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ไปทั่วโลก

    สรุปสาระสำคัญ
    สาเหตุของการล่ม
    เกิดจาก bug ในระบบ bot mitigation หลังการปรับค่าการทำงาน
    ไม่ใช่การโจมตี DDoS แต่เป็นความผิดพลาดภายใน

    ผลกระทบที่เกิดขึ้น
    บริการออนไลน์ทั่วโลก เช่น X, ChatGPT, McDonald’s, Canva, RuneScape ได้รับผลกระทบ
    ระบบตรวจสอบบุคลากรโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ (PADS) หยุดชะงักชั่วคราว
    ศูนย์เด็กเล็กและธุรกิจรายย่อยต้องหันกลับไปใช้วิธี manual

    การแก้ไขและคำชี้แจง
    Cloudflare ยืนยันว่ากำลังแก้ไขและระบบเริ่มกลับมาทำงาน
    CTO ออกมาขอโทษและสัญญาว่าจะปรับปรุงเพื่อไม่ให้เกิดซ้ำ

    คำเตือนจากเหตุการณ์
    การพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานจากผู้ให้บริการรายเดียวเสี่ยงต่อการหยุดชะงักวงกว้าง
    ธุรกิจและองค์กรควรมีระบบสำรองและแผนรับมือกรณีฉุกเฉิน
    เหตุการณ์นี้สะท้อนความเปราะบางของอินเทอร์เน็ตโลกที่อาจเกิดซ้ำได้

    https://www.tomshardware.com/news/live/cloudflare-outage-under-investigation-as-twitter-downdetector-go-down-company-confirms-global-network-issue-clone
    🌐 วิกฤติ Cloudflare สะเทือนทั่วโลก: จาก X ถึง McDonald’s การล่มของระบบ Cloudflare ล่าสุดสร้างผลกระทบเป็นวงกว้างต่อบริการออนไลน์ทั่วโลก ตั้งแต่แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่าง X (Twitter เดิม) ไปจนถึงระบบสั่งอาหารของ McDonald’s และแม้แต่บริการ AI อย่าง ChatGPT ก็ได้รับผลกระทบด้วย เหตุการณ์นี้เกิดจาก “traffic spike” ที่ผิดปกติ จนทำให้ระบบเครือข่ายของ Cloudflareล้มเหลวในหลายส่วน แม้จะมีการยืนยันว่าไม่ใช่การโจมตี แต่ความผิดพลาดจากการปรับแต่งระบบภายในกลับสร้างความเสียหายครั้งใหญ่ ⚙️ เบื้องหลังปัญหา: Bug ที่ซ่อนอยู่ในระบบ CTO ของ Cloudflare ออกมายอมรับตรงไปตรงมาว่าเป็นความผิดพลาดจากการปรับค่าการทำงานของระบบ bot mitigation ที่มี bug แฝงอยู่ เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยก็ทำให้ระบบ crash และลุกลามไปทั่วเครือข่าย ผลที่ตามมาคือการหยุดชะงักของบริการจำนวนมาก ทั้งเว็บไซต์ข่าว, เกมออนไลน์อย่าง RuneScape, ไปจนถึงเครื่องมือทำงานอย่าง Canva และ VPN หลายเจ้า 🏭 ผลกระทบที่ไม่คาดคิด: จากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ถึงโรงเรียนอนุบาล สิ่งที่น่าตกใจคือระบบ PADS ซึ่งใช้ตรวจสอบบุคลากรในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ก็ได้รับผลกระทบ ทำให้การเข้าถึงบุคลากรต้องหยุดชะงัก แม้จะไม่กระทบต่อการเดินเครื่อง แต่ก็สะท้อนให้เห็นถึงความเสี่ยงของการพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานเดียวกัน ขณะเดียวกันในชีวิตประจำวัน เช่น ศูนย์เด็กเล็กที่เคยใช้แอปเชื่อมต่อกับผู้ปกครอง ก็ต้องหันกลับไปใช้วิธีบันทึกด้วยมือเหมือนยุค 90 🔮 บทเรียนและอนาคตของโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ต เหตุการณ์นี้ตอกย้ำความเปราะบางของระบบอินเทอร์เน็ตที่พึ่งพาผู้ให้บริการรายใหญ่เพียงไม่กี่เจ้า แม้ Cloudflare จะเร่งแก้ไขและสัญญาว่าจะไม่ให้เกิดซ้ำ แต่ก็เป็นสัญญาณเตือนว่าธุรกิจและสังคมควรมีระบบสำรองและแผนรับมือที่ดีกว่าเดิม เพื่อไม่ให้การหยุดชะงักของผู้ให้บริการรายเดียวส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ไปทั่วโลก 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ สาเหตุของการล่ม ➡️ เกิดจาก bug ในระบบ bot mitigation หลังการปรับค่าการทำงาน ➡️ ไม่ใช่การโจมตี DDoS แต่เป็นความผิดพลาดภายใน ✅ ผลกระทบที่เกิดขึ้น ➡️ บริการออนไลน์ทั่วโลก เช่น X, ChatGPT, McDonald’s, Canva, RuneScape ได้รับผลกระทบ ➡️ ระบบตรวจสอบบุคลากรโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ (PADS) หยุดชะงักชั่วคราว ➡️ ศูนย์เด็กเล็กและธุรกิจรายย่อยต้องหันกลับไปใช้วิธี manual ✅ การแก้ไขและคำชี้แจง ➡️ Cloudflare ยืนยันว่ากำลังแก้ไขและระบบเริ่มกลับมาทำงาน ➡️ CTO ออกมาขอโทษและสัญญาว่าจะปรับปรุงเพื่อไม่ให้เกิดซ้ำ ‼️ คำเตือนจากเหตุการณ์ ⛔ การพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานจากผู้ให้บริการรายเดียวเสี่ยงต่อการหยุดชะงักวงกว้าง ⛔ ธุรกิจและองค์กรควรมีระบบสำรองและแผนรับมือกรณีฉุกเฉิน ⛔ เหตุการณ์นี้สะท้อนความเปราะบางของอินเทอร์เน็ตโลกที่อาจเกิดซ้ำได้ https://www.tomshardware.com/news/live/cloudflare-outage-under-investigation-as-twitter-downdetector-go-down-company-confirms-global-network-issue-clone
    0 Comments 0 Shares 26 Views 0 Reviews
  • Asus เพิ่มการจัดการพลังงานแยก E-Core/P-Core บน ROG Ally X

    Asus ได้เปิดตัวอัปเดต Armory Crate SE เวอร์ชันใหม่ที่มาพร้อมการปรับปรุงครั้งใหญ่สำหรับเครื่องเกมพกพา ROG Ally และ Ally X โดยฟีเจอร์ที่โดดเด่นที่สุดคือการเพิ่มตัวเลือก การจัดการพลังงานแยกสำหรับ Efficiency Core (E-Core) และ Performance Core (P-Core) บนชิป AMD Z2 Extreme (Z2E) ที่ใช้ใน ROG Ally X ซึ่งเป็นการออกแบบแบบไฮบริดที่รวม 3 Zen 5 P-Core และ 5 Zen 5C E-Core เข้าด้วยกัน

    ก่อนหน้านี้ผู้ใช้ไม่สามารถควบคุมการใช้พลังงานของแต่ละกลุ่มคอร์ได้ แต่การอัปเดตนี้ทำให้สามารถปรับแต่ง TDP ของแต่ละกลุ่มคอร์ ได้ตามต้องการ เช่น ลดพลังงานของ P-Core เพื่อยืดอายุแบตเตอรี่เมื่อเล่นเกมเบา ๆ หรือเพิ่มพลังงานให้ P-Core เพื่อดันเฟรมเรตในเกมที่ต้องการประสิทธิภาพสูง

    นอกจากฟีเจอร์หลักแล้ว Asus ยังได้ปรับปรุง FPS Limiter โดยเปลี่ยนค่า Preset จาก 45 FPS เป็น 40 FPS เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานจริง รวมถึงเพิ่มตัวเลือก Windows Power Mode ในโหมด Manual และแก้ไขบั๊กต่าง ๆ ที่เคยสร้างปัญหาในการใช้งาน อีกทั้งยังมีการปรับปรุง UI สีสันใหม่ และเพิ่มการรองรับ Xbox Fullscreen Experience ที่สามารถเข้าออกได้ด้วยปุ่มลัดที่ผู้ใช้กำหนดเอง

    การอัปเดตนี้ยังมาพร้อม MCU และ BIOS update ที่ช่วยปรับปรุงการใช้พลังงานในโหมด Windows Modern Standby, เพิ่มแรงสั่นสะเทือนของ impulse triggers และทำให้ระบบ Cloud Recovery ทำงานได้ราบรื่นขึ้น ถือเป็นการยกระดับประสบการณ์การเล่นเกมบน ROG Ally ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Armory Crate SE อัปเดตใหม่บน ROG Ally และ Ally X
    เพิ่มการจัดการพลังงานแยกสำหรับ E-Core และ P-Core บนชิป Z2 Extreme

    ผู้ใช้สามารถปรับแต่ง TDP ของแต่ละกลุ่มคอร์ได้
    เลือกเน้นประสิทธิภาพหรือยืดอายุแบตเตอรี่ตามการใช้งาน

    FPS Limiter ถูกปรับจาก 45 FPS เป็น 40 FPS
    เพื่อให้เหมาะสมกับการเล่นเกมจริงและการประหยัดพลังงาน

    เพิ่ม Windows Power Mode และ Xbox Fullscreen Experience
    ใช้งานได้สะดวกขึ้นด้วยปุ่มลัดที่กำหนดเอง

    MCU และ BIOS update ปรับปรุงระบบโดยรวม
    ลดการใช้พลังงาน, ปรับปรุงแรงสั่นสะเทือน และทำให้ Cloud Recovery ราบรื่นขึ้น

    การปรับแต่งพลังงานผิดพลาดอาจทำให้เครื่องไม่เสถียร
    ผู้ใช้ควรระวังการตั้งค่า TDP ที่สูงหรือต่ำเกินไป

    FPS Limiter ที่ต่ำลงอาจไม่เหมาะกับเกมที่ต้องการความลื่นไหลสูง
    ผู้เล่นที่เน้นเฟรมเรตสูงควรปรับแต่งเองตามความเหมาะสม

    https://www.tomshardware.com/video-games/handheld-gaming/asus-adds-separate-e-core-and-p-core-power-management-to-the-z2-extreme-powered-rog-xbox-ally-x-major-armory-crate-se-update-released-for-all-of-its-gaming-handhelds
    🎮 Asus เพิ่มการจัดการพลังงานแยก E-Core/P-Core บน ROG Ally X Asus ได้เปิดตัวอัปเดต Armory Crate SE เวอร์ชันใหม่ที่มาพร้อมการปรับปรุงครั้งใหญ่สำหรับเครื่องเกมพกพา ROG Ally และ Ally X โดยฟีเจอร์ที่โดดเด่นที่สุดคือการเพิ่มตัวเลือก การจัดการพลังงานแยกสำหรับ Efficiency Core (E-Core) และ Performance Core (P-Core) บนชิป AMD Z2 Extreme (Z2E) ที่ใช้ใน ROG Ally X ซึ่งเป็นการออกแบบแบบไฮบริดที่รวม 3 Zen 5 P-Core และ 5 Zen 5C E-Core เข้าด้วยกัน ก่อนหน้านี้ผู้ใช้ไม่สามารถควบคุมการใช้พลังงานของแต่ละกลุ่มคอร์ได้ แต่การอัปเดตนี้ทำให้สามารถปรับแต่ง TDP ของแต่ละกลุ่มคอร์ ได้ตามต้องการ เช่น ลดพลังงานของ P-Core เพื่อยืดอายุแบตเตอรี่เมื่อเล่นเกมเบา ๆ หรือเพิ่มพลังงานให้ P-Core เพื่อดันเฟรมเรตในเกมที่ต้องการประสิทธิภาพสูง นอกจากฟีเจอร์หลักแล้ว Asus ยังได้ปรับปรุง FPS Limiter โดยเปลี่ยนค่า Preset จาก 45 FPS เป็น 40 FPS เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานจริง รวมถึงเพิ่มตัวเลือก Windows Power Mode ในโหมด Manual และแก้ไขบั๊กต่าง ๆ ที่เคยสร้างปัญหาในการใช้งาน อีกทั้งยังมีการปรับปรุง UI สีสันใหม่ และเพิ่มการรองรับ Xbox Fullscreen Experience ที่สามารถเข้าออกได้ด้วยปุ่มลัดที่ผู้ใช้กำหนดเอง การอัปเดตนี้ยังมาพร้อม MCU และ BIOS update ที่ช่วยปรับปรุงการใช้พลังงานในโหมด Windows Modern Standby, เพิ่มแรงสั่นสะเทือนของ impulse triggers และทำให้ระบบ Cloud Recovery ทำงานได้ราบรื่นขึ้น ถือเป็นการยกระดับประสบการณ์การเล่นเกมบน ROG Ally ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Armory Crate SE อัปเดตใหม่บน ROG Ally และ Ally X ➡️ เพิ่มการจัดการพลังงานแยกสำหรับ E-Core และ P-Core บนชิป Z2 Extreme ✅ ผู้ใช้สามารถปรับแต่ง TDP ของแต่ละกลุ่มคอร์ได้ ➡️ เลือกเน้นประสิทธิภาพหรือยืดอายุแบตเตอรี่ตามการใช้งาน ✅ FPS Limiter ถูกปรับจาก 45 FPS เป็น 40 FPS ➡️ เพื่อให้เหมาะสมกับการเล่นเกมจริงและการประหยัดพลังงาน ✅ เพิ่ม Windows Power Mode และ Xbox Fullscreen Experience ➡️ ใช้งานได้สะดวกขึ้นด้วยปุ่มลัดที่กำหนดเอง ✅ MCU และ BIOS update ปรับปรุงระบบโดยรวม ➡️ ลดการใช้พลังงาน, ปรับปรุงแรงสั่นสะเทือน และทำให้ Cloud Recovery ราบรื่นขึ้น ‼️ การปรับแต่งพลังงานผิดพลาดอาจทำให้เครื่องไม่เสถียร ⛔ ผู้ใช้ควรระวังการตั้งค่า TDP ที่สูงหรือต่ำเกินไป ‼️ FPS Limiter ที่ต่ำลงอาจไม่เหมาะกับเกมที่ต้องการความลื่นไหลสูง ⛔ ผู้เล่นที่เน้นเฟรมเรตสูงควรปรับแต่งเองตามความเหมาะสม https://www.tomshardware.com/video-games/handheld-gaming/asus-adds-separate-e-core-and-p-core-power-management-to-the-z2-extreme-powered-rog-xbox-ally-x-major-armory-crate-se-update-released-for-all-of-its-gaming-handhelds
    0 Comments 0 Shares 75 Views 0 Reviews
  • Proton อัปเดต VKD3D-Proton 3.0 รองรับ FSR4 และฟีเจอร์ใหม่

    Valve ได้ปล่อยอัปเดตครั้งสำคัญให้กับ VKD3D-Proton ซึ่งเป็นเครื่องมือแปลคำสั่งจาก DirectX 12 ไปเป็น Vulkan ที่ใช้ใน Proton เพื่อให้เกม Windows สามารถรันบน Linux ได้ โดยเวอร์ชัน 3.0 นี้ถือเป็นการอัปเดตครั้งใหญ่ที่สุด มีการเพิ่ม AMD FSR4 (FidelityFX Super Resolution 4) และระบบ Anti-Lag เข้ามา ทำให้ผู้เล่นเกมบน Linux ได้ประสบการณ์ที่ลื่นไหลและภาพคมชัดมากขึ้น

    สิ่งที่น่าสนใจคือ FSR4 ไม่ได้จำกัดเฉพาะการ์ดจอรุ่นใหม่อย่าง RDNA4 เท่านั้น แต่ยังมีโหมด fallback ที่ทำให้สามารถใช้งานได้บน GPU รุ่นเก่า แม้จะทำงานช้ากว่าก็ตาม ถือเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ฮาร์ดแวร์หลากหลายสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีนี้ได้ ขณะที่ฝั่ง Nvidia DLSS4 ยังไม่รองรับใน Proton ซึ่งทำให้ AMD ได้เปรียบในแง่การใช้งานจริงบน Linux

    นอกจากนี้ VKD3D-Proton 3.0 ยังมีการ เขียนใหม่ Shader Backend (DXBC) เพื่อแก้ปัญหาที่เคยทำให้เกมบางเกมไม่สามารถรันได้ และเพิ่มความเข้ากันได้กับ DXVK ซึ่งเป็นเครื่องมือแปล DirectX 8–11 ไปเป็น Vulkan ทำให้การพัฒนาและแก้ไขโค้ดง่ายขึ้น อีกทั้งยังมีการทดลองเพิ่มฟีเจอร์ Work Graphs ที่ช่วยลดการใช้ VRAM อย่างมหาศาล เช่นจาก 38GB เหลือเพียง 52KB ในการเรนเดอร์วัตถุ 3D บางประเภท

    การอัปเดตนี้สะท้อนให้เห็นว่า Linux Gaming กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และ Proton กลายเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ผู้ใช้ Steam Deck และผู้เล่นบน Linux สามารถเข้าถึงเกม Windows ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    สรุปประเด็นสำคัญ
    VKD3D-Proton เวอร์ชัน 3.0 อัปเดตครั้งใหญ่
    รองรับ AMD FSR4 และ Anti-Lag เพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกมบน Linux

    FSR4 ใช้งานได้บน GPU รุ่นเก่า
    แม้จะทำงานช้ากว่า แต่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ฮาร์ดแวร์หลากหลายเข้าถึงเทคโนโลยี

    Shader Backend ถูกเขียนใหม่
    แก้ปัญหาเกมที่เคยรันไม่ได้ และทำงานร่วมกับ DXVK ได้ดีขึ้น

    เพิ่มฟีเจอร์ Work Graphs แบบทดลอง
    ลดการใช้ VRAM อย่างมหาศาลในการเรนเดอร์วัตถุ 3D

    DLSS4 ของ Nvidia ยังไม่รองรับใน Proton
    ผู้ใช้การ์ดจอ Nvidia อาจเสียเปรียบเมื่อเล่นเกมบน Linux

    โหมด fallback ของ FSR4 ทำงานช้ากว่าเวอร์ชันเต็ม
    ประสิทธิภาพไม่เทียบเท่ากับการใช้งานบน GPU รุ่นใหม่

    https://www.tomshardware.com/video-games/pc-gaming/vulkan-to-directx-12-translation-tool-used-in-valves-proton-now-supports-amds-fsr4-and-anti-lag-while-nvidias-dlss4-remains-unsupported-fsr4-now-also-works-on-older-gpus-vkd3d-proton-v3-0-brings-other-performance-improvements
    🎮 Proton อัปเดต VKD3D-Proton 3.0 รองรับ FSR4 และฟีเจอร์ใหม่ Valve ได้ปล่อยอัปเดตครั้งสำคัญให้กับ VKD3D-Proton ซึ่งเป็นเครื่องมือแปลคำสั่งจาก DirectX 12 ไปเป็น Vulkan ที่ใช้ใน Proton เพื่อให้เกม Windows สามารถรันบน Linux ได้ โดยเวอร์ชัน 3.0 นี้ถือเป็นการอัปเดตครั้งใหญ่ที่สุด มีการเพิ่ม AMD FSR4 (FidelityFX Super Resolution 4) และระบบ Anti-Lag เข้ามา ทำให้ผู้เล่นเกมบน Linux ได้ประสบการณ์ที่ลื่นไหลและภาพคมชัดมากขึ้น สิ่งที่น่าสนใจคือ FSR4 ไม่ได้จำกัดเฉพาะการ์ดจอรุ่นใหม่อย่าง RDNA4 เท่านั้น แต่ยังมีโหมด fallback ที่ทำให้สามารถใช้งานได้บน GPU รุ่นเก่า แม้จะทำงานช้ากว่าก็ตาม ถือเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ฮาร์ดแวร์หลากหลายสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีนี้ได้ ขณะที่ฝั่ง Nvidia DLSS4 ยังไม่รองรับใน Proton ซึ่งทำให้ AMD ได้เปรียบในแง่การใช้งานจริงบน Linux นอกจากนี้ VKD3D-Proton 3.0 ยังมีการ เขียนใหม่ Shader Backend (DXBC) เพื่อแก้ปัญหาที่เคยทำให้เกมบางเกมไม่สามารถรันได้ และเพิ่มความเข้ากันได้กับ DXVK ซึ่งเป็นเครื่องมือแปล DirectX 8–11 ไปเป็น Vulkan ทำให้การพัฒนาและแก้ไขโค้ดง่ายขึ้น อีกทั้งยังมีการทดลองเพิ่มฟีเจอร์ Work Graphs ที่ช่วยลดการใช้ VRAM อย่างมหาศาล เช่นจาก 38GB เหลือเพียง 52KB ในการเรนเดอร์วัตถุ 3D บางประเภท การอัปเดตนี้สะท้อนให้เห็นว่า Linux Gaming กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และ Proton กลายเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ผู้ใช้ Steam Deck และผู้เล่นบน Linux สามารถเข้าถึงเกม Windows ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ VKD3D-Proton เวอร์ชัน 3.0 อัปเดตครั้งใหญ่ ➡️ รองรับ AMD FSR4 และ Anti-Lag เพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกมบน Linux ✅ FSR4 ใช้งานได้บน GPU รุ่นเก่า ➡️ แม้จะทำงานช้ากว่า แต่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ฮาร์ดแวร์หลากหลายเข้าถึงเทคโนโลยี ✅ Shader Backend ถูกเขียนใหม่ ➡️ แก้ปัญหาเกมที่เคยรันไม่ได้ และทำงานร่วมกับ DXVK ได้ดีขึ้น ✅ เพิ่มฟีเจอร์ Work Graphs แบบทดลอง ➡️ ลดการใช้ VRAM อย่างมหาศาลในการเรนเดอร์วัตถุ 3D ‼️ DLSS4 ของ Nvidia ยังไม่รองรับใน Proton ⛔ ผู้ใช้การ์ดจอ Nvidia อาจเสียเปรียบเมื่อเล่นเกมบน Linux ‼️ โหมด fallback ของ FSR4 ทำงานช้ากว่าเวอร์ชันเต็ม ⛔ ประสิทธิภาพไม่เทียบเท่ากับการใช้งานบน GPU รุ่นใหม่ https://www.tomshardware.com/video-games/pc-gaming/vulkan-to-directx-12-translation-tool-used-in-valves-proton-now-supports-amds-fsr4-and-anti-lag-while-nvidias-dlss4-remains-unsupported-fsr4-now-also-works-on-older-gpus-vkd3d-proton-v3-0-brings-other-performance-improvements
    0 Comments 0 Shares 82 Views 0 Reviews
  • ข่าวใหญ่: Cloudflare ล่มทั่วโลก กระทบหลายบริการออนไลน์

    ในช่วงค่ำวันที่ 18 พฤศจิกายน 2025 มีรายงานว่า Cloudflare ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตระดับโลกประสบปัญหาขัดข้องครั้งใหญ่ ส่งผลให้เว็บไซต์และแอปพลิเคชันจำนวนมากไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ ทั้งแพลตฟอร์มใหญ่ ๆ อย่าง X (Twitter เดิม), Canva, Gemini, Perplexity รวมถึงเว็บไซต์ติดตามสถานะการล่มอย่าง Downdetector ก็ได้รับผลกระทบไปด้วย ทำให้ผู้ใช้งานทั่วโลกต่างพากันรายงานปัญหาในเวลาใกล้เคียงกัน

    Cloudflare ยืนยันว่ากำลังตรวจสอบสาเหตุและเร่งแก้ไข โดยเบื้องต้นพบว่าเกิด HTTP 500 errors และระบบ Dashboard รวมถึง API ของ Cloudflare เองก็ไม่สามารถใช้งานได้ ปัญหานี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของ Cloudflare ที่เป็นเสมือน “โครงสร้างพื้นฐานหลัก” ของอินเทอร์เน็ตยุคใหม่ เพราะเว็บไซต์จำนวนมหาศาลพึ่งพาบริการของบริษัทนี้ในการป้องกัน DDoS, การจัดการทราฟฟิก และการกระจายคอนเทนต์

    ผลกระทบครั้งนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่โซเชียลมีเดีย แต่ยังลามไปถึง บริการธุรกิจออนไลน์และเว็บส่วนตัว ที่ใช้ระบบของ Cloudflare ทำให้ผู้ใช้งานจำนวนมากไม่สามารถเข้าสู่ระบบหรือทำธุรกรรมได้ตามปกติ นักวิเคราะห์บางรายชี้ว่าปัญหานี้อาจเกี่ยวข้องกับการบำรุงรักษาระบบที่ทำให้เกิดความผิดพลาดในโครงสร้างเครือข่าย แต่ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ

    สิ่งที่น่าสนใจคือ เหตุการณ์นี้ตอกย้ำความเสี่ยงของการพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานจากผู้ให้บริการรายใหญ่เพียงไม่กี่เจ้า เมื่อเกิดการล่มเพียงครั้งเดียวสามารถสร้างผลกระทบเป็นลูกโซ่ไปทั่วโลก คล้ายกับเหตุการณ์ AWS ล่มในอดีตที่ทำให้หลายบริการหยุดชะงักไปหลายชั่วโมง
    ====================
    update 22:30

    สาเหตุเบื้องต้นที่ Cloudflare เปิดเผยคือ การพุ่งขึ้นผิดปกติของทราฟฟิก (unusual traffic spike) ที่เกิดขึ้นตั้งแต่เวลา 11:20 UTC ทำให้บางส่วนของเครือข่ายไม่สามารถจัดการทราฟฟิกได้ และส่งผลให้เกิด HTTP 500 errors ในหลายบริการ ขณะนี้ทีมงานกำลังเร่งแก้ไขและเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

    สิ่งที่น่าสนใจคือผลกระทบครั้งนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่โซเชียลมีเดีย แต่ยังลามไปถึง ธุรกิจและบริการสาธารณะ เช่น ระบบตรวจสอบบุคคลเข้าโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ (PADS) ที่ไม่สามารถใช้งานได้ รวมถึงศูนย์เด็กเล็กที่ต้องกลับไปใช้วิธีบันทึกข้อมูลด้วยมือแทนการใช้แอปพลิเคชันออนไลน์

    นักวิเคราะห์บางรายตั้งข้อสังเกตว่าเหตุการณ์นี้อาจเกี่ยวข้องกับการโจมตี DDoS ขนาดใหญ่ เนื่องจาก Cloudflare เคยถูกโจมตีด้วยทราฟฟิกมหาศาลมาก่อน แต่ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการจากบริษัท

    ====================
    สรุปประเด็นสำคัญ
    Cloudflare ยืนยันการล่มทั่วโลก
    ส่งผลกระทบต่อเว็บไซต์และแอปพลิเคชันจำนวนมาก เช่น X, Canva, Gemini, Perplexity

    เกิด HTTP 500 errors และ Dashboard ใช้งานไม่ได้
    ผู้ดูแลเว็บไซต์ไม่สามารถเข้าถึงระบบเพื่อแก้ไขหรือจัดการบริการได้

    Downdetector และบริการติดตามสถานะก็ล่มไปด้วย
    ผู้ใช้งานไม่สามารถตรวจสอบสถานะการล่มได้ตามปกติ

    ผลกระทบต่อธุรกิจและผู้ใช้งานทั่วโลก
    ทั้งเว็บไซต์ใหญ่และบล็อกส่วนตัวที่ใช้ Cloudflare ต่างหยุดชะงัก

    ความเสี่ยงจากการพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานรายใหญ่เพียงเจ้าเดียว
    หากเกิดการล่มจะกระทบเป็นวงกว้างทั่วโลกทันที

    ความไม่แน่นอนของสาเหตุที่แท้จริง
    อาจเกี่ยวข้องกับการบำรุงรักษาระบบ แต่ยังไม่มีการยืนยันแน่ชัด

    https://www.tomshardware.com/news/live/cloudflare-outage-under-investigation-as-twitter-downdetector-go-down-company-confirms-global-network-issue-clone
    🌐 ข่าวใหญ่: Cloudflare ล่มทั่วโลก กระทบหลายบริการออนไลน์ ในช่วงค่ำวันที่ 18 พฤศจิกายน 2025 มีรายงานว่า Cloudflare ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตระดับโลกประสบปัญหาขัดข้องครั้งใหญ่ ส่งผลให้เว็บไซต์และแอปพลิเคชันจำนวนมากไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ ทั้งแพลตฟอร์มใหญ่ ๆ อย่าง X (Twitter เดิม), Canva, Gemini, Perplexity รวมถึงเว็บไซต์ติดตามสถานะการล่มอย่าง Downdetector ก็ได้รับผลกระทบไปด้วย ทำให้ผู้ใช้งานทั่วโลกต่างพากันรายงานปัญหาในเวลาใกล้เคียงกัน Cloudflare ยืนยันว่ากำลังตรวจสอบสาเหตุและเร่งแก้ไข โดยเบื้องต้นพบว่าเกิด HTTP 500 errors และระบบ Dashboard รวมถึง API ของ Cloudflare เองก็ไม่สามารถใช้งานได้ ปัญหานี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของ Cloudflare ที่เป็นเสมือน “โครงสร้างพื้นฐานหลัก” ของอินเทอร์เน็ตยุคใหม่ เพราะเว็บไซต์จำนวนมหาศาลพึ่งพาบริการของบริษัทนี้ในการป้องกัน DDoS, การจัดการทราฟฟิก และการกระจายคอนเทนต์ ผลกระทบครั้งนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่โซเชียลมีเดีย แต่ยังลามไปถึง บริการธุรกิจออนไลน์และเว็บส่วนตัว ที่ใช้ระบบของ Cloudflare ทำให้ผู้ใช้งานจำนวนมากไม่สามารถเข้าสู่ระบบหรือทำธุรกรรมได้ตามปกติ นักวิเคราะห์บางรายชี้ว่าปัญหานี้อาจเกี่ยวข้องกับการบำรุงรักษาระบบที่ทำให้เกิดความผิดพลาดในโครงสร้างเครือข่าย แต่ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ สิ่งที่น่าสนใจคือ เหตุการณ์นี้ตอกย้ำความเสี่ยงของการพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานจากผู้ให้บริการรายใหญ่เพียงไม่กี่เจ้า เมื่อเกิดการล่มเพียงครั้งเดียวสามารถสร้างผลกระทบเป็นลูกโซ่ไปทั่วโลก คล้ายกับเหตุการณ์ AWS ล่มในอดีตที่ทำให้หลายบริการหยุดชะงักไปหลายชั่วโมง ==================== ‼️‼️‼️‼️ update 22:30 ‼️‼️‼️‼️ สาเหตุเบื้องต้นที่ Cloudflare เปิดเผยคือ การพุ่งขึ้นผิดปกติของทราฟฟิก (unusual traffic spike) ที่เกิดขึ้นตั้งแต่เวลา 11:20 UTC ทำให้บางส่วนของเครือข่ายไม่สามารถจัดการทราฟฟิกได้ และส่งผลให้เกิด HTTP 500 errors ในหลายบริการ ขณะนี้ทีมงานกำลังเร่งแก้ไขและเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด สิ่งที่น่าสนใจคือผลกระทบครั้งนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่โซเชียลมีเดีย แต่ยังลามไปถึง ธุรกิจและบริการสาธารณะ เช่น ระบบตรวจสอบบุคคลเข้าโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ (PADS) ที่ไม่สามารถใช้งานได้ รวมถึงศูนย์เด็กเล็กที่ต้องกลับไปใช้วิธีบันทึกข้อมูลด้วยมือแทนการใช้แอปพลิเคชันออนไลน์ นักวิเคราะห์บางรายตั้งข้อสังเกตว่าเหตุการณ์นี้อาจเกี่ยวข้องกับการโจมตี DDoS ขนาดใหญ่ เนื่องจาก Cloudflare เคยถูกโจมตีด้วยทราฟฟิกมหาศาลมาก่อน แต่ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการจากบริษัท ==================== 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Cloudflare ยืนยันการล่มทั่วโลก ➡️ ส่งผลกระทบต่อเว็บไซต์และแอปพลิเคชันจำนวนมาก เช่น X, Canva, Gemini, Perplexity ✅ เกิด HTTP 500 errors และ Dashboard ใช้งานไม่ได้ ➡️ ผู้ดูแลเว็บไซต์ไม่สามารถเข้าถึงระบบเพื่อแก้ไขหรือจัดการบริการได้ ✅ Downdetector และบริการติดตามสถานะก็ล่มไปด้วย ➡️ ผู้ใช้งานไม่สามารถตรวจสอบสถานะการล่มได้ตามปกติ ✅ ผลกระทบต่อธุรกิจและผู้ใช้งานทั่วโลก ➡️ ทั้งเว็บไซต์ใหญ่และบล็อกส่วนตัวที่ใช้ Cloudflare ต่างหยุดชะงัก ‼️ ความเสี่ยงจากการพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานรายใหญ่เพียงเจ้าเดียว ⛔ หากเกิดการล่มจะกระทบเป็นวงกว้างทั่วโลกทันที ‼️ ความไม่แน่นอนของสาเหตุที่แท้จริง ⛔ อาจเกี่ยวข้องกับการบำรุงรักษาระบบ แต่ยังไม่มีการยืนยันแน่ชัด https://www.tomshardware.com/news/live/cloudflare-outage-under-investigation-as-twitter-downdetector-go-down-company-confirms-global-network-issue-clone
    0 Comments 0 Shares 243 Views 0 Reviews
  • I Will Walk Away … พี่เผ่นก่อนนะน้อง ตอนที่ 5 – 6

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” I will walk away …พี่เผ่นก่อนนะน้อง”
    ตอน 5
    เป็นไปได้หรือว่า อเมริกาแสนจะชาญฉลาดกำโลกอยู่ในมือจนกระดิกไม่ออกมาตั้ง 70 ปี จะมาเสียทีให้กับอิหร่าน คงมีคนคิดกัน ตกลงอิหร่านต้มอเมริกา หรืออเมริกาต้มอิหร่านกันแน่ ก่อนจะลงความเห็น ลองฟังความเห็นอีกสักชิ้น เอามาจากบทความที่ลงในวารสาร Foreign Affairs วารสารที่ออกเป็นประจำของ CFR เมื่อปี ค.ศ.2012 ก่อนที่อเมริกาคิดจะเจรจากับอิหร่านไม่นาน
    คงมีคนสงสัย ทำไมลุงนิทานอ้างแต่ CFR ก็เขาเป็นผู้กำกับรัฐบาลอเมริกา ผมไม่ตามผู้กำกับ ผมก็ไม่รู้ว่าดาราคนไหน เล่นบทอะไร แล้วเล่นได้สมบทบาทแค่ไหน
    บทความนี้ชื่อ ” Time to Attack Iran” โดย Matthew Kroenig
    นายโคร เขาบอกว่า บรรดานักคิด และผู้วางนโยบายของอเมริกา ต่างโต้เถียงกันว่า อเมริกาควรจะจัดการเรื่องอิหร่านอย่างไรดี
    ความเห็นหนึ่ง บอกว่า เราควรบุกอิหร่าน และทำลายอุปกรณ์ทั้งปวงที่อิหร่านใช้ในการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ให้เหี้ยนเลย
    ฝ่ายไม่เห็นด้วยกับการบุก บอกว่า การใช้กำลังทหารกับอิหร่านเป็นเรื่องที่ไม่เข้าท่า และจะไม่เข้าท่าหนักขึ้น ถ้าเราไปเจออาวุธนิวเคลียร์ของ จริงของอิหร่าน นอกจากนี้ การบุกอิหร่าน โอกาสไม่สำเร็จมีสูง และถึงจะทำสำเร็จ มันอาจจะเป็นการจุดไม้ขีด ให้เรื่องบานปลาย กลายเป็นสงคราม และอาจสร้างวิกฤติทางเศรษฐกืจ ให้กับอเมริกา และอาจลามไปทั้งโลกด้วยก็ได้
    นอกจากนี้ ยังมีฝ่ายที่แนะนำให้อเมริกาใช้วิธีการที่ไม่ใช่ทางทหาร เช่นใช้การเจรจาทางการทูต การคว่ำบาตร หรือการปฏิบัติการณ์ลับ เพราะการใช้กำลังทางทหารเต็มรูปแบบ มีค่าใช้จ่ายและต้นทุนด้านต่างๆสูง จนใจไม่ถึงที่จะควักกระเป๋าให้ (ตอนนั้น)
    ยังมีพวกนักวิเคราะห์ ที่บอกว่า พวกไม่เห็นด้วยกับการบุกอิหร่าน มองไม่เห็นอันตรายที่แท้จริง ที่อาจเกิดขึ้นกับผลประโยชน์ของอเมริกา ที่อยู่ในและนอกตะวันออกกลาง จากการปล่อยให้อิหร่านที่มีนิวเคลียร์ ลอยนวลอยู่ตามสบาย มันเป็นการคุกคามผลประโยชน์ของอเมริกาโดยตรง
    ส่วนนายโครเอง มีชื่อเสียงว่า สนับสนุนการบุกอิหร่าน เขาบอกว่า โดยการใช้กำลังทหาร และใช้อาวุธที่มีประสิทธิภาพสูง ล๊อคเป้าจ่อไปที่โครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่าน แค่นั้นเรื่องก็จบ อเมริกาและตะวันออกกลาง ก็จะได้อยู่อย่างสงบจากเรื่องนิวเคลียร์ของอิหร่านเสียที
    โลกฝ่ายตะวันตก หรือฝ่ายอเมริกานั่นแหละ พยายามกดดันที่โครงการพัฒนานิวเคลียร์ของอิหร่านมานานแล้ว แต่ทำไม่สำเร็จ ขนาดปล่อยไวรัส Stuxnet เข้าไปในระบบของอิหร่าน ไม่นาน อิหร่านก็แก้ไขฟื้นขึ้นมาใหม่ Institute of Science and International Security บอกว่า นอกจากอิหร่านฟื้นเร็วแล้ว ระยะเวลาการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่าน แต่ละครั้งยังเร็วขึ้นอีกด้วย น่าจะใช้เวลาเพียง 6 เดือนเท่านั้น และอิหร่านมีแผนที่จะย้ายโครงการผลิตนิวเคลียร์นี้ ไปไว้ในสถานที่ ที่ยากแก่เข้าถึง ทำให้โอกาสที่จะการใช้กำลังทหารแคบลงไปอีก ขณะเดียวกัน หลายประเทศในภูมิภาคเริ่มสงสัยในสมรรถภาพ ของอเมริกาว่า อเมริกาทำอะไรอยู่ ปล่อยอิหร่านผลิตนิวเคลียร์ยังกับผลิตของเล่น
    อเมริกาไม่ได้อยู่เฉย อเมริกาคิด แต่ยังคิดไม่ตก อเมริกาคิดจะใช้ cold war model เหมือนตอนสงครามเย็นปิดล้อมสหภาพโซเวียต แต่สภาพประเทศในตะวันออกกลาง ต่างกับประเทศในยุโรป อย่างหน้ามือกับหลังมือเลย อย่าว่าจะไปปิดล้อมใครเลย แค่พร้อมพอที่จะป้องกันตัวเองยัง ทำไม่ได้ เพราะฉนั้น ถ้าคิดจะปิดล้อมอิหร่าน ต้องใช้งบบาน เพราะโดยสภาพภูมิประเทศ และทำเลที่ตั้งของอิหร่าน อเมริกาต้องส่งทั้ง กองทัพเรือ กองทัพบก รวมทั้งอาจจะต้องจัดส่งนิวเคลียร์ ไปให้ทั้งตะวันออกกลาง คอยจ่อคอหอยอิหร่าน แล้วทั้งหมด ไม่ใช่ไปอยู่วันสองวัน แล้วกลับบ้านนอน แต่ต้องอยู่ถาวรเป็นหลาย 10 ปี ไม่คุ้มค่าน้ำมันที่ไปต้มพวกเสี่ยปั้มมา ไหนจะลาดตระเวน ไหนจะป้องกัน ไหนจะตามเฝ้าอิหร่าน ไหนจะตรวจสอบอิหร่าน ฯลฯ
    พอเห็นแล้วนะครับ ว่า อเมริการู้ว่า อิหร่านกำลังทำอะไร คิดอะไร และอเมริกาน่าจะทำอะไร ปัญหาอยู่ที่ว่า แล้วทำไมอเมริกาถึงเลือกทำ อย่างที่กำลังโดนพวกตัวเองด่า และถ้า วันที่ 7 กรกฎาคมนี้ ยังเจรจากันไม่เสร็จ อเมริกาจะทำอย่างไรต่อไป และผลมันจะเป็นอย่างไร
    ###############
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” I will walk away …พี่เผ่นก่อนนะน้อง”

    ตอน 6 (จบ)
    ก่อนไปถึงอเมริกา ขอย้อนกลับมาที่อิหร่าน ที่เขี้ยวลากดินหน่อย สมันน้อยแดนสยามจะได้เข้าใจว่า การจะออกจากคอกนั้นทำได้ ถ้าใช้สติปัญญา มีความตั้งใจทำจริง มีความอดทน ยอมลำบาก ไม่เห็นแก่ตัว และที่สำคัญต้องสามัคคี พร้อมใจกันทั้งชาติ
    อิหร่านโดนนักล่า ทั้งที่มาจากเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้าย จนถึงนักล่าใบตองแห้ง ร่วมมือกัน แย่งชิงกัน เพื่อหลอกเอาทรัพยากรมีค่ามหา ศาลของอิหร่าน ด้วยการต้มเปื่อย ยุแยง แทรกแซง ปั่นหัว ฟอกย้อม ชาวอิหร่านทุกระดับ จนอิหร่านเสียทรัพยากร เสียพลเมือง เสียผู้นำประเทศ อย่างน่าเสียดายไปมากมาย ตั้งแต่ปี 1900 ต้นๆ โดนต้มมา 100 กว่าปี ไม่คิดปีนขึ้นมาจากหม้อ ก็.. คงต้องปล่อยไปตามกรรม
    แต่อิหร่าน ฮึดสู้ แม้จะถูกคว่ำบาตรอย่างหนักหนาสา หัส การฮึดสู้ อาจมีความลำบากยากเข็ญ ต่อการดำรงชีวิตประจำวัน และการทำธุกิจ ฯลฯ แต่ เพื่อรักษาประเทศ มีชาวอิหร่านที่คิดทำ และอดทน พวกเขาจะทำสำเร็จหรือไม่ ต้องดูกันต่อไป แต่ถ้าไม่ฮึดสู้ ก็มีแต่ถูกเขาจูงกลับเข้าคอก แล้วปอกลอกเอาสมบัติของประเทศไป….. เหมือนเดิม
    อิหร่านเชื่อว่า ทางออกจากกำมือของตะวันตกมีทางเดียวคือ ต้องพึ่งตัวเองให้ได้ อิหร่านวางยุทธศาสตร์ สร้างชาติใหม่ที่พึ่งตัวเองได้ หนึ่งในกระบวนการสร้างชาติคือ การหาพลังงานใช้ในประเทศด้วยวิธีอื่นด้วย ไม่ใช่จากการขุดน้ำมันมาใช้อย่างเดียว น้ำมันของประเทศเอาไว้ขายเป็นรายได้ อิหร่านจึงคิดพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์ คิดได้ 1 ก็ไป ถึง 2 แล้วก็เลยไปถึงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ อิหร่านบอก ไม่ใช่มีไว้เพื่อเป็นการรุกราน แต่ไว้ใช้เป็นการป้องกันตัว และเป็นเครื่องต่อรอง ประเทศที่มองการณ์ไกล ไม่อยากถูกครอบงำชักจูง อยู่ในกำมือผู้อื่นตลอดกาล ก็ย่อมคิดอย่างนี้
    เมื่อแรกๆ ไม่มีใครเชื่อว่า อิหร่านจะพัฒนาได้ แต่จากการเมืองของอิหร่านเอง ทำให้คนใน เอาความมาบอกคนนอก แล้วอเมริกาก็เลยรู้ แต่รู้ช้าไปนิด เมื่ออิหร่านเดินหน้าไปไกลพอสมควร อเมริกาคิดหนัก อย่างที่นายโคร เอามาเขียนนั่นแหละ่
    อเมริกาคิดว่า ยังไม่ใช่เวลาทำสงครามกับอิหร่าน อเมริกาเพิ่งขูดเนื้ออิรัคเสร็จ จะมาขูดเนื้ออิหร่านต่อ เหนื่อยตายชัก ทหารก็ยังไม่ฟื้นตัว ส่วนการปิดล้อม ก็ค่าใช้จ่ายสูงสะบั้น อเมริกาจึงใช้วิธีทางการเมือง แยงให้ตะวันออกกลางวุ่นวาย บวกกับ การคว่ำบาตร น่าจะทำให้อิหร่าน เหนื่อยและสยบ แต่อเมริกา คงลืมคิดไป โลกตอนนี้ กับโลก เมื่อ 50 ปีก่อน ต่างกันแยะ
    และยิ่งต่างกันแยะมากขึ้น ตั้งแต่ปี ค.ศ.2000 เป็นต้นมา โลกไม่ได้มีขั้วเดียว ที่มีอเมริกาและพวก เป็นผู้อำนวยการใหญ่ของโลกเท่านั้น จากการบีบคั้น แสดงอำนาจ เอาเปรียบ และความไม่เป็นธรรมของอเมริกาเอง จึงค่อยๆมีแยกตัว และจับมือ สร้างกลุ่มใหม่กันขึ้น มาถึงวันนี้ ขั้วอำนาจดูเหมือนจะเริ่มแบ่งชัดขึ้น ระหว่างแองโกลอเมริกัน บวกยุโรป และสมุนค่ายหนึ่ง และ มี รัสเซีย จีน กับพวกอยู่อีกค่ายหนึ่ง
    ดอลล่าร์กำลังถูกท้าทาย เหมือนที่เงินปอนด์เคยถูกชิงตำแหน่ง จากผลของสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 โลกก็แบ่งเป็น 2 ค่าย นี่เรากำลังเดินเข้าไปสู่วัฏฏะ เดิมอีกหรือ โดยมีเรื่องของอิหร่าน เป็นตัวแปร หรือเป็นชนวน…
    อิหร่านยอมที่จะเจรจากับอเมริกา เรื่องลดการพัฒนานิวเคลียร์ เพราะเป็นการเจรจาที่อิหร่าน มีแต่ได้ กับเสมอตัว อิหร่านต้องการให้ฝ่ายตะวันตก ปลดการคว่ำบาตรทั้งหมด ที่เกี่ยวกับอิหร่าน ถ้าได้ตามต้องการ อิหร่านจะกลายเป็นเสี่ยใหญ่แห่ง ตะวันออกกลาง เขาว่าเป็นเงินมากมาย ประเมินกันไม่ถูก เพราะอิหร่านอุบเงียบ แถมใช้ตัวแทน ทำหลายซับหลายซ้อน ขณะเดียวกัน ในระหว่างเจรจา อิหร่านก็เดินหน้าโครงการต่อ แถมโยกย้าย แยกแยะ จนยากแก่การติดตาม ถ้าการเจรจาไม่สำเร็จ อิหร่านก็กลับมาอยู่สภาพ เดินหน้าพัฒนาต่ออย่างที่ทำอยู่ ชีวิตก็เหมือนเดิม เคยลำบากมาแล้ว ก็ลำบากต่ออีกนิด แต่เมื่อมีนิวเคลียร์ครบ เสียงของอิหร่านที่จะเจรจา หรือ พูดอะไรต่อไป ก็คงต่างไปบ้าง อเมริกาก็คิดเองแล้วกัน จะเป็นเสียงอย่างไหน อเมริกาก็เคยใช้มาสาระพัดเสียงแล้วนี่
    วันที่ 7 กรกฎาคมนี้ ถ้า ฝ่าย P5+1 ตกลงกับอิหร่านได้ครบถ้วน ตามความต้องการของทั้ง 2 ฝ่าย บทที่แสดงหน้าจอ ก็คงชนิดได้ตุ๊กตาทอง มีการจับมือ เอาบุญเอาคุญ ตามธรรมเนียม และมันคงเป็นแค่ “การซื้อเวลา” เมื่อไหร่ที่อิหร่านพร้อม เราคงได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในตะวันออกกลางอย่างเห็นชัด เสี่ยปั้มทั้งหลาย ก็เฝ้าปั้มไว้ให้ดีก็แล้วกัน
    สำหรับอเมริกา อเมริกายอมเล่นบทคว่ำบาตร เพราะอเมริกา “ยังไม่พร้อม” เล่นบทอื่น ไม่ใช่อเมริกา ประเมินผิด ไอ้ถังขยะต่างๆ ที่ออกมาทำเสียงเขียว มันเป็นการเล่นละคร กันทั้งนั้น ต่างก็รู้คิวกัน เจรจาให้ยาว ทำเป็นตกลง ให้อิหร่านถลาเข้ามา แล้วก็ตวัดกลับ เพราะอเมริกา ไม่มีทางยกเลิกการคว่ำบาตร อิหร่านอย่างจริงจัง แม้จะทำเป็นตกลง ท้ายที่สุดอิหร่านก็จะได้แต่กินแห้ว อเมริกาแค่ซื้อเวลา รอให้มีความพร้อมทางฝั่งของตนเองมากที่สุด
    อเมริกา โดยไอ้ถังขยะ CFR (อีกแล้ว) ลงทุนติวเข้มให้แก่ อิสราเอล และซาอุดิ 2 มิตรชิดใกล้ของอเมริกาในตะวันออกกลาง เกี่ยวกับเรื่องอิหร่าน ตั้งแต่ปีที่แล้ว ล่าสุด ประชุมติวกัน เมื่อต้นเดือนมิถุนายนนี้เอง ข่าวหลุดมาจาก นาย Anwar Eshski อดีตนายพล และทูตซาอุดิ ประจำอเมริกา อีกฝ่ายคือ นาย Dore Gold อดีตทูตอิสราเอล ประจำสหประชาชาติ มีการประชุมเช่นนี้ มาแล้ว 5 ครั้ง ตั้งแต่ปี ค.ศ.2014 อเมริกา ไม่ได้หลุดคิวเลย
    นอกจากนี้ เมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่าน เช่นเดียวกัน อเมริกายังส่งนาย John Brennan ผอ CIA บินตรงไปสรุปข้อมูลลับเกี่ยวกับอิหร่าน ให้กับหน่วยงานข่าวกรองของอิสราเอล Mossad
    แปลว่า อเมริกาน่าจะคิดขยับหมากแล้ว เรื่องการเจรจาก็ปล่อยไป เจรจาสำเร็จ หรือไม่สำเร็จ สำหรับอเมริกา ไม่มีอะไรต่างกัน เพราะอเมริกาน่าจะมีโผอยู่ในใจแล้ว เรื่องนิวเคลียร์อิหร่าน เป็นเหมือนหนังฮอลลีวู้ดสร้าง ซี่รี่ส์ยาว ให้เราดูติดต่อกันมา 2 ปี เท่านั้นเอง
    อเมริกาไม่มีวันจะปล่อยมือที่บีบคออิหร่าน แม้อเมริกาจะนับรัสเซีย เป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งตลอดกาล และนับจีนเป็นคู่แข่งหมายเลขหนี่ง ซี่งแข่งมากๆ ก็จะถูกเปลี่ยนสถานะเป็นศัตรูไปด้วย แต่กรณีของรัสเซีย เป็นเรื่องของ “ความอยากได้ ” ทรัพยากรของรัสเซีย บวกกับความแหยงสภาพการฟื้นคืนชีพอย่างรวดเร็วของรัสเซีย อเมริกาไม่มีผลประโยชน์โดยตรง มากมายในภูมิภาคของรัสเซีย มันเป็นเรื่องของยุทธศาสตร์และภูมิศาสตร์การเมืองมากกว่า กรณีของจีน ก็ใกล้เคียงกับกรณีรัสเซีย แต่หนักไปในแง่ที่อเมริกาถือว่า แปซิฟิกและเอเซีย เป็นเหมือนบ้านที่ 2 ของอเมริกา มีแต่เด็กๆ ในความปกครองทั้งนั้น เพราะฉะนั้น แค่คิดว่าจีนจะมาใหญ่กว่า หรือแค่เป็นคู่แข็ง อเมริกาก็ทนไม่ได้อยู่แล้ว
    แต่กรณีอิหร่าน ขณะที่อเมริกาอยากได้ ทรัพยากรของอิหร่าน แต่อิหร่านวันนี้ เป็นอิหร่านที่มีพิษ และอเมริกายังคิดเซรุ่มกันพิษรอบใหม่ของอิหร่านยังไม่ได้ ถ้าอเมริกาขยับผิด ผลประโยชน์มหาศาลของอเมริกา ในตะวันออกกลางจะฉิบหายเกลี้ยงไปด้วย ไม่ใช่แค่ไม่ได้สมบัติของอิหร่านอย่างเดียว เรื่องอิหร่าน เป็นเรื่องกระทบตรงกับผลประโยชน์ของอเมริกา เป็นเรื่องที่อเมริการู้อยู่แก่ใจ กำลังทำใจ และกำลังหาทางขจัดปัญหาแบบเบ็ดเสร็จ เมื่ออเมริกาพร้อม โลกคงสะเทือน
    แต่การขยับหมากของอเมริกา ไล่มาตั้งแต่ ยูเครน ตะวันออกกลาง มาถึงหมากญี่ปุ่น (จะสำเร็จหรือไม่ ไม่รู้ แต่ผมว่า ร่อแร่ แก้รัฐธรรมนูญเพื่อไปแบกถาดให้เขานี่ คนญี่ปุ่นน่าจะคิดออกนะ ว่าถูกเขาหลอกใช้ขนาดไหน) เหมือนความพร้อมของอเมริกา จะใกล้เข้ามาทุกที จะพร้อมลุยอิหร่านประเทศเล็กแต่มีพิษ หรือแค่พร้อมตั้งรับ เพราะรู้ว่า พิษคงจะเริ่มออกฤทธิ์อีกไม่ช้า และแพร่กระจายไปหลายทิศ ในอีกไม่นาน ก็ต้องดูกันต่อไป
    กลับมาที่อิหร่านอีกที ถ้า วันที่ 7 กรกฏาคมนี่ อิหร่านต้องฟังเพลง I will walk away … อิหร่านจะเดินหมากอย่างไรต่อ จะหงิมๆ เก็บของ กลับบ้านไหม อิหร่านก็คงทำอย่างนั้น แต่กลับบ้านไปทำอะไร ผมไม่รู้ด้วย แต่ผมตั้งใจว่า ถ้าต้องฟัง พณฯใบตองแห้งครวญเพลง หลังจากวันที่ 7 กรกฏาคม ผมคง ตั้งสติให้นิ่ง ตามข่าวถี่หน่อย กินให้อร่อย นอนให้อิ่ม เก็บสะสมไว้ยามจำเป็นครับ
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    7 ก.ค. 2558
    I Will Walk Away … พี่เผ่นก่อนนะน้อง ตอนที่ 5 – 6 นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” I will walk away …พี่เผ่นก่อนนะน้อง” ตอน 5 เป็นไปได้หรือว่า อเมริกาแสนจะชาญฉลาดกำโลกอยู่ในมือจนกระดิกไม่ออกมาตั้ง 70 ปี จะมาเสียทีให้กับอิหร่าน คงมีคนคิดกัน ตกลงอิหร่านต้มอเมริกา หรืออเมริกาต้มอิหร่านกันแน่ ก่อนจะลงความเห็น ลองฟังความเห็นอีกสักชิ้น เอามาจากบทความที่ลงในวารสาร Foreign Affairs วารสารที่ออกเป็นประจำของ CFR เมื่อปี ค.ศ.2012 ก่อนที่อเมริกาคิดจะเจรจากับอิหร่านไม่นาน คงมีคนสงสัย ทำไมลุงนิทานอ้างแต่ CFR ก็เขาเป็นผู้กำกับรัฐบาลอเมริกา ผมไม่ตามผู้กำกับ ผมก็ไม่รู้ว่าดาราคนไหน เล่นบทอะไร แล้วเล่นได้สมบทบาทแค่ไหน บทความนี้ชื่อ ” Time to Attack Iran” โดย Matthew Kroenig นายโคร เขาบอกว่า บรรดานักคิด และผู้วางนโยบายของอเมริกา ต่างโต้เถียงกันว่า อเมริกาควรจะจัดการเรื่องอิหร่านอย่างไรดี ความเห็นหนึ่ง บอกว่า เราควรบุกอิหร่าน และทำลายอุปกรณ์ทั้งปวงที่อิหร่านใช้ในการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ให้เหี้ยนเลย ฝ่ายไม่เห็นด้วยกับการบุก บอกว่า การใช้กำลังทหารกับอิหร่านเป็นเรื่องที่ไม่เข้าท่า และจะไม่เข้าท่าหนักขึ้น ถ้าเราไปเจออาวุธนิวเคลียร์ของ จริงของอิหร่าน นอกจากนี้ การบุกอิหร่าน โอกาสไม่สำเร็จมีสูง และถึงจะทำสำเร็จ มันอาจจะเป็นการจุดไม้ขีด ให้เรื่องบานปลาย กลายเป็นสงคราม และอาจสร้างวิกฤติทางเศรษฐกืจ ให้กับอเมริกา และอาจลามไปทั้งโลกด้วยก็ได้ นอกจากนี้ ยังมีฝ่ายที่แนะนำให้อเมริกาใช้วิธีการที่ไม่ใช่ทางทหาร เช่นใช้การเจรจาทางการทูต การคว่ำบาตร หรือการปฏิบัติการณ์ลับ เพราะการใช้กำลังทางทหารเต็มรูปแบบ มีค่าใช้จ่ายและต้นทุนด้านต่างๆสูง จนใจไม่ถึงที่จะควักกระเป๋าให้ (ตอนนั้น) ยังมีพวกนักวิเคราะห์ ที่บอกว่า พวกไม่เห็นด้วยกับการบุกอิหร่าน มองไม่เห็นอันตรายที่แท้จริง ที่อาจเกิดขึ้นกับผลประโยชน์ของอเมริกา ที่อยู่ในและนอกตะวันออกกลาง จากการปล่อยให้อิหร่านที่มีนิวเคลียร์ ลอยนวลอยู่ตามสบาย มันเป็นการคุกคามผลประโยชน์ของอเมริกาโดยตรง ส่วนนายโครเอง มีชื่อเสียงว่า สนับสนุนการบุกอิหร่าน เขาบอกว่า โดยการใช้กำลังทหาร และใช้อาวุธที่มีประสิทธิภาพสูง ล๊อคเป้าจ่อไปที่โครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่าน แค่นั้นเรื่องก็จบ อเมริกาและตะวันออกกลาง ก็จะได้อยู่อย่างสงบจากเรื่องนิวเคลียร์ของอิหร่านเสียที โลกฝ่ายตะวันตก หรือฝ่ายอเมริกานั่นแหละ พยายามกดดันที่โครงการพัฒนานิวเคลียร์ของอิหร่านมานานแล้ว แต่ทำไม่สำเร็จ ขนาดปล่อยไวรัส Stuxnet เข้าไปในระบบของอิหร่าน ไม่นาน อิหร่านก็แก้ไขฟื้นขึ้นมาใหม่ Institute of Science and International Security บอกว่า นอกจากอิหร่านฟื้นเร็วแล้ว ระยะเวลาการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่าน แต่ละครั้งยังเร็วขึ้นอีกด้วย น่าจะใช้เวลาเพียง 6 เดือนเท่านั้น และอิหร่านมีแผนที่จะย้ายโครงการผลิตนิวเคลียร์นี้ ไปไว้ในสถานที่ ที่ยากแก่เข้าถึง ทำให้โอกาสที่จะการใช้กำลังทหารแคบลงไปอีก ขณะเดียวกัน หลายประเทศในภูมิภาคเริ่มสงสัยในสมรรถภาพ ของอเมริกาว่า อเมริกาทำอะไรอยู่ ปล่อยอิหร่านผลิตนิวเคลียร์ยังกับผลิตของเล่น อเมริกาไม่ได้อยู่เฉย อเมริกาคิด แต่ยังคิดไม่ตก อเมริกาคิดจะใช้ cold war model เหมือนตอนสงครามเย็นปิดล้อมสหภาพโซเวียต แต่สภาพประเทศในตะวันออกกลาง ต่างกับประเทศในยุโรป อย่างหน้ามือกับหลังมือเลย อย่าว่าจะไปปิดล้อมใครเลย แค่พร้อมพอที่จะป้องกันตัวเองยัง ทำไม่ได้ เพราะฉนั้น ถ้าคิดจะปิดล้อมอิหร่าน ต้องใช้งบบาน เพราะโดยสภาพภูมิประเทศ และทำเลที่ตั้งของอิหร่าน อเมริกาต้องส่งทั้ง กองทัพเรือ กองทัพบก รวมทั้งอาจจะต้องจัดส่งนิวเคลียร์ ไปให้ทั้งตะวันออกกลาง คอยจ่อคอหอยอิหร่าน แล้วทั้งหมด ไม่ใช่ไปอยู่วันสองวัน แล้วกลับบ้านนอน แต่ต้องอยู่ถาวรเป็นหลาย 10 ปี ไม่คุ้มค่าน้ำมันที่ไปต้มพวกเสี่ยปั้มมา ไหนจะลาดตระเวน ไหนจะป้องกัน ไหนจะตามเฝ้าอิหร่าน ไหนจะตรวจสอบอิหร่าน ฯลฯ พอเห็นแล้วนะครับ ว่า อเมริการู้ว่า อิหร่านกำลังทำอะไร คิดอะไร และอเมริกาน่าจะทำอะไร ปัญหาอยู่ที่ว่า แล้วทำไมอเมริกาถึงเลือกทำ อย่างที่กำลังโดนพวกตัวเองด่า และถ้า วันที่ 7 กรกฎาคมนี้ ยังเจรจากันไม่เสร็จ อเมริกาจะทำอย่างไรต่อไป และผลมันจะเป็นอย่างไร ############### นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” I will walk away …พี่เผ่นก่อนนะน้อง” ตอน 6 (จบ) ก่อนไปถึงอเมริกา ขอย้อนกลับมาที่อิหร่าน ที่เขี้ยวลากดินหน่อย สมันน้อยแดนสยามจะได้เข้าใจว่า การจะออกจากคอกนั้นทำได้ ถ้าใช้สติปัญญา มีความตั้งใจทำจริง มีความอดทน ยอมลำบาก ไม่เห็นแก่ตัว และที่สำคัญต้องสามัคคี พร้อมใจกันทั้งชาติ อิหร่านโดนนักล่า ทั้งที่มาจากเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้าย จนถึงนักล่าใบตองแห้ง ร่วมมือกัน แย่งชิงกัน เพื่อหลอกเอาทรัพยากรมีค่ามหา ศาลของอิหร่าน ด้วยการต้มเปื่อย ยุแยง แทรกแซง ปั่นหัว ฟอกย้อม ชาวอิหร่านทุกระดับ จนอิหร่านเสียทรัพยากร เสียพลเมือง เสียผู้นำประเทศ อย่างน่าเสียดายไปมากมาย ตั้งแต่ปี 1900 ต้นๆ โดนต้มมา 100 กว่าปี ไม่คิดปีนขึ้นมาจากหม้อ ก็.. คงต้องปล่อยไปตามกรรม แต่อิหร่าน ฮึดสู้ แม้จะถูกคว่ำบาตรอย่างหนักหนาสา หัส การฮึดสู้ อาจมีความลำบากยากเข็ญ ต่อการดำรงชีวิตประจำวัน และการทำธุกิจ ฯลฯ แต่ เพื่อรักษาประเทศ มีชาวอิหร่านที่คิดทำ และอดทน พวกเขาจะทำสำเร็จหรือไม่ ต้องดูกันต่อไป แต่ถ้าไม่ฮึดสู้ ก็มีแต่ถูกเขาจูงกลับเข้าคอก แล้วปอกลอกเอาสมบัติของประเทศไป….. เหมือนเดิม อิหร่านเชื่อว่า ทางออกจากกำมือของตะวันตกมีทางเดียวคือ ต้องพึ่งตัวเองให้ได้ อิหร่านวางยุทธศาสตร์ สร้างชาติใหม่ที่พึ่งตัวเองได้ หนึ่งในกระบวนการสร้างชาติคือ การหาพลังงานใช้ในประเทศด้วยวิธีอื่นด้วย ไม่ใช่จากการขุดน้ำมันมาใช้อย่างเดียว น้ำมันของประเทศเอาไว้ขายเป็นรายได้ อิหร่านจึงคิดพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์ คิดได้ 1 ก็ไป ถึง 2 แล้วก็เลยไปถึงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ อิหร่านบอก ไม่ใช่มีไว้เพื่อเป็นการรุกราน แต่ไว้ใช้เป็นการป้องกันตัว และเป็นเครื่องต่อรอง ประเทศที่มองการณ์ไกล ไม่อยากถูกครอบงำชักจูง อยู่ในกำมือผู้อื่นตลอดกาล ก็ย่อมคิดอย่างนี้ เมื่อแรกๆ ไม่มีใครเชื่อว่า อิหร่านจะพัฒนาได้ แต่จากการเมืองของอิหร่านเอง ทำให้คนใน เอาความมาบอกคนนอก แล้วอเมริกาก็เลยรู้ แต่รู้ช้าไปนิด เมื่ออิหร่านเดินหน้าไปไกลพอสมควร อเมริกาคิดหนัก อย่างที่นายโคร เอามาเขียนนั่นแหละ่ อเมริกาคิดว่า ยังไม่ใช่เวลาทำสงครามกับอิหร่าน อเมริกาเพิ่งขูดเนื้ออิรัคเสร็จ จะมาขูดเนื้ออิหร่านต่อ เหนื่อยตายชัก ทหารก็ยังไม่ฟื้นตัว ส่วนการปิดล้อม ก็ค่าใช้จ่ายสูงสะบั้น อเมริกาจึงใช้วิธีทางการเมือง แยงให้ตะวันออกกลางวุ่นวาย บวกกับ การคว่ำบาตร น่าจะทำให้อิหร่าน เหนื่อยและสยบ แต่อเมริกา คงลืมคิดไป โลกตอนนี้ กับโลก เมื่อ 50 ปีก่อน ต่างกันแยะ และยิ่งต่างกันแยะมากขึ้น ตั้งแต่ปี ค.ศ.2000 เป็นต้นมา โลกไม่ได้มีขั้วเดียว ที่มีอเมริกาและพวก เป็นผู้อำนวยการใหญ่ของโลกเท่านั้น จากการบีบคั้น แสดงอำนาจ เอาเปรียบ และความไม่เป็นธรรมของอเมริกาเอง จึงค่อยๆมีแยกตัว และจับมือ สร้างกลุ่มใหม่กันขึ้น มาถึงวันนี้ ขั้วอำนาจดูเหมือนจะเริ่มแบ่งชัดขึ้น ระหว่างแองโกลอเมริกัน บวกยุโรป และสมุนค่ายหนึ่ง และ มี รัสเซีย จีน กับพวกอยู่อีกค่ายหนึ่ง ดอลล่าร์กำลังถูกท้าทาย เหมือนที่เงินปอนด์เคยถูกชิงตำแหน่ง จากผลของสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 โลกก็แบ่งเป็น 2 ค่าย นี่เรากำลังเดินเข้าไปสู่วัฏฏะ เดิมอีกหรือ โดยมีเรื่องของอิหร่าน เป็นตัวแปร หรือเป็นชนวน… อิหร่านยอมที่จะเจรจากับอเมริกา เรื่องลดการพัฒนานิวเคลียร์ เพราะเป็นการเจรจาที่อิหร่าน มีแต่ได้ กับเสมอตัว อิหร่านต้องการให้ฝ่ายตะวันตก ปลดการคว่ำบาตรทั้งหมด ที่เกี่ยวกับอิหร่าน ถ้าได้ตามต้องการ อิหร่านจะกลายเป็นเสี่ยใหญ่แห่ง ตะวันออกกลาง เขาว่าเป็นเงินมากมาย ประเมินกันไม่ถูก เพราะอิหร่านอุบเงียบ แถมใช้ตัวแทน ทำหลายซับหลายซ้อน ขณะเดียวกัน ในระหว่างเจรจา อิหร่านก็เดินหน้าโครงการต่อ แถมโยกย้าย แยกแยะ จนยากแก่การติดตาม ถ้าการเจรจาไม่สำเร็จ อิหร่านก็กลับมาอยู่สภาพ เดินหน้าพัฒนาต่ออย่างที่ทำอยู่ ชีวิตก็เหมือนเดิม เคยลำบากมาแล้ว ก็ลำบากต่ออีกนิด แต่เมื่อมีนิวเคลียร์ครบ เสียงของอิหร่านที่จะเจรจา หรือ พูดอะไรต่อไป ก็คงต่างไปบ้าง อเมริกาก็คิดเองแล้วกัน จะเป็นเสียงอย่างไหน อเมริกาก็เคยใช้มาสาระพัดเสียงแล้วนี่ วันที่ 7 กรกฎาคมนี้ ถ้า ฝ่าย P5+1 ตกลงกับอิหร่านได้ครบถ้วน ตามความต้องการของทั้ง 2 ฝ่าย บทที่แสดงหน้าจอ ก็คงชนิดได้ตุ๊กตาทอง มีการจับมือ เอาบุญเอาคุญ ตามธรรมเนียม และมันคงเป็นแค่ “การซื้อเวลา” เมื่อไหร่ที่อิหร่านพร้อม เราคงได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในตะวันออกกลางอย่างเห็นชัด เสี่ยปั้มทั้งหลาย ก็เฝ้าปั้มไว้ให้ดีก็แล้วกัน สำหรับอเมริกา อเมริกายอมเล่นบทคว่ำบาตร เพราะอเมริกา “ยังไม่พร้อม” เล่นบทอื่น ไม่ใช่อเมริกา ประเมินผิด ไอ้ถังขยะต่างๆ ที่ออกมาทำเสียงเขียว มันเป็นการเล่นละคร กันทั้งนั้น ต่างก็รู้คิวกัน เจรจาให้ยาว ทำเป็นตกลง ให้อิหร่านถลาเข้ามา แล้วก็ตวัดกลับ เพราะอเมริกา ไม่มีทางยกเลิกการคว่ำบาตร อิหร่านอย่างจริงจัง แม้จะทำเป็นตกลง ท้ายที่สุดอิหร่านก็จะได้แต่กินแห้ว อเมริกาแค่ซื้อเวลา รอให้มีความพร้อมทางฝั่งของตนเองมากที่สุด อเมริกา โดยไอ้ถังขยะ CFR (อีกแล้ว) ลงทุนติวเข้มให้แก่ อิสราเอล และซาอุดิ 2 มิตรชิดใกล้ของอเมริกาในตะวันออกกลาง เกี่ยวกับเรื่องอิหร่าน ตั้งแต่ปีที่แล้ว ล่าสุด ประชุมติวกัน เมื่อต้นเดือนมิถุนายนนี้เอง ข่าวหลุดมาจาก นาย Anwar Eshski อดีตนายพล และทูตซาอุดิ ประจำอเมริกา อีกฝ่ายคือ นาย Dore Gold อดีตทูตอิสราเอล ประจำสหประชาชาติ มีการประชุมเช่นนี้ มาแล้ว 5 ครั้ง ตั้งแต่ปี ค.ศ.2014 อเมริกา ไม่ได้หลุดคิวเลย นอกจากนี้ เมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่าน เช่นเดียวกัน อเมริกายังส่งนาย John Brennan ผอ CIA บินตรงไปสรุปข้อมูลลับเกี่ยวกับอิหร่าน ให้กับหน่วยงานข่าวกรองของอิสราเอล Mossad แปลว่า อเมริกาน่าจะคิดขยับหมากแล้ว เรื่องการเจรจาก็ปล่อยไป เจรจาสำเร็จ หรือไม่สำเร็จ สำหรับอเมริกา ไม่มีอะไรต่างกัน เพราะอเมริกาน่าจะมีโผอยู่ในใจแล้ว เรื่องนิวเคลียร์อิหร่าน เป็นเหมือนหนังฮอลลีวู้ดสร้าง ซี่รี่ส์ยาว ให้เราดูติดต่อกันมา 2 ปี เท่านั้นเอง อเมริกาไม่มีวันจะปล่อยมือที่บีบคออิหร่าน แม้อเมริกาจะนับรัสเซีย เป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งตลอดกาล และนับจีนเป็นคู่แข่งหมายเลขหนี่ง ซี่งแข่งมากๆ ก็จะถูกเปลี่ยนสถานะเป็นศัตรูไปด้วย แต่กรณีของรัสเซีย เป็นเรื่องของ “ความอยากได้ ” ทรัพยากรของรัสเซีย บวกกับความแหยงสภาพการฟื้นคืนชีพอย่างรวดเร็วของรัสเซีย อเมริกาไม่มีผลประโยชน์โดยตรง มากมายในภูมิภาคของรัสเซีย มันเป็นเรื่องของยุทธศาสตร์และภูมิศาสตร์การเมืองมากกว่า กรณีของจีน ก็ใกล้เคียงกับกรณีรัสเซีย แต่หนักไปในแง่ที่อเมริกาถือว่า แปซิฟิกและเอเซีย เป็นเหมือนบ้านที่ 2 ของอเมริกา มีแต่เด็กๆ ในความปกครองทั้งนั้น เพราะฉะนั้น แค่คิดว่าจีนจะมาใหญ่กว่า หรือแค่เป็นคู่แข็ง อเมริกาก็ทนไม่ได้อยู่แล้ว แต่กรณีอิหร่าน ขณะที่อเมริกาอยากได้ ทรัพยากรของอิหร่าน แต่อิหร่านวันนี้ เป็นอิหร่านที่มีพิษ และอเมริกายังคิดเซรุ่มกันพิษรอบใหม่ของอิหร่านยังไม่ได้ ถ้าอเมริกาขยับผิด ผลประโยชน์มหาศาลของอเมริกา ในตะวันออกกลางจะฉิบหายเกลี้ยงไปด้วย ไม่ใช่แค่ไม่ได้สมบัติของอิหร่านอย่างเดียว เรื่องอิหร่าน เป็นเรื่องกระทบตรงกับผลประโยชน์ของอเมริกา เป็นเรื่องที่อเมริการู้อยู่แก่ใจ กำลังทำใจ และกำลังหาทางขจัดปัญหาแบบเบ็ดเสร็จ เมื่ออเมริกาพร้อม โลกคงสะเทือน แต่การขยับหมากของอเมริกา ไล่มาตั้งแต่ ยูเครน ตะวันออกกลาง มาถึงหมากญี่ปุ่น (จะสำเร็จหรือไม่ ไม่รู้ แต่ผมว่า ร่อแร่ แก้รัฐธรรมนูญเพื่อไปแบกถาดให้เขานี่ คนญี่ปุ่นน่าจะคิดออกนะ ว่าถูกเขาหลอกใช้ขนาดไหน) เหมือนความพร้อมของอเมริกา จะใกล้เข้ามาทุกที จะพร้อมลุยอิหร่านประเทศเล็กแต่มีพิษ หรือแค่พร้อมตั้งรับ เพราะรู้ว่า พิษคงจะเริ่มออกฤทธิ์อีกไม่ช้า และแพร่กระจายไปหลายทิศ ในอีกไม่นาน ก็ต้องดูกันต่อไป กลับมาที่อิหร่านอีกที ถ้า วันที่ 7 กรกฏาคมนี่ อิหร่านต้องฟังเพลง I will walk away … อิหร่านจะเดินหมากอย่างไรต่อ จะหงิมๆ เก็บของ กลับบ้านไหม อิหร่านก็คงทำอย่างนั้น แต่กลับบ้านไปทำอะไร ผมไม่รู้ด้วย แต่ผมตั้งใจว่า ถ้าต้องฟัง พณฯใบตองแห้งครวญเพลง หลังจากวันที่ 7 กรกฏาคม ผมคง ตั้งสติให้นิ่ง ตามข่าวถี่หน่อย กินให้อร่อย นอนให้อิ่ม เก็บสะสมไว้ยามจำเป็นครับ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 7 ก.ค. 2558
    0 Comments 0 Shares 136 Views 0 Reviews
  • ผู้หญิงในอุตสาหกรรมเกมยังคงเผชิญช่องว่างค่าจ้างเฉลี่ย 24% เมื่อเทียบกับผู้ชาย

    รายงานระบุว่า ผู้หญิงและบุคคล non-binary ในบริษัทเกมสหรัฐฯ ได้รับค่าจ้างเฉลี่ยน้อยกว่าผู้ชายถึง 24% ซึ่งสูงกว่าช่องว่างค่าจ้างโดยรวมในสหรัฐฯ ที่อยู่ราว 15% ข้อมูลจากการสำรวจคนทำงานเกม 562 คนในเดือนกรกฎาคมเผยว่า สองในสามของผู้ชายที่มีประสบการณ์ 6 ปีขึ้นไปได้รับเงินเดือนมากกว่า 125,000 ดอลลาร์สหรัฐ แต่มีเพียง 38% ของผู้หญิงและ non-binary ที่ได้ระดับเดียวกัน

    ความรู้สึกและการรับรู้ของแรงงาน
    กว่า 60% ของผู้หญิงและ non-binary เชื่อว่าตนเองถูกจ่ายค่าจ้างต่ำกว่าที่ควร ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลจริงที่พบในรายงาน แม้ว่าโดยรวมแล้วคนทำงานเกมมีรายได้เฉลี่ยสูงกว่าค่าเฉลี่ยชาวอเมริกัน (142,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี) แต่ความเหลื่อมล้ำทางเพศยังคงชัดเจนและต่อเนื่องthestar.com.my

    ปัญหาความเท่าเทียมและวัฒนธรรมองค์กร
    อุตสาหกรรมเกมถูกวิจารณ์มานานเรื่อง วัฒนธรรมชายเป็นใหญ่และการเลือกปฏิบัติทางเพศ บริษัทใหญ่เช่น Riot Games, Ubisoft และ Activision Blizzard เคยถูกกล่าวหาว่าสร้างสภาพแวดล้อมที่ไม่เป็นมิตรต่อผู้หญิง และบางแห่งต้องจ่ายเงินชดเชยให้พนักงานที่ถูกละเมิด แม้หลายบริษัทพยายามเพิ่มจำนวนผู้หญิงในทีม แต่ปัจจุบันยังมีเพียง 25% ของแรงงานในอุตสาหกรรมเกมที่เป็นผู้หญิง

    แนวโน้มและความท้าทาย
    แม้รายได้เฉลี่ยของคนทำงานเกมจะสูงขึ้นเล็กน้อยจากปี 2024 แต่การเลิกจ้างจำนวนมากในปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมยังอยู่ในภาวะหดตัว การแก้ไขช่องว่างค่าจ้างและสร้างวัฒนธรรมที่เท่าเทียมจึงเป็นความท้าทายสำคัญ หากไม่ปรับปรุง อุตสาหกรรมอาจสูญเสียแรงงานที่มีศักยภาพและความหลากหลายทางความคิด

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ผู้หญิงและ non-binary ได้ค่าจ้างเฉลี่ยน้อยกว่าผู้ชาย 24%
    ช่องว่างนี้กว้างกว่าค่าเฉลี่ยสหรัฐฯ ที่ 15%

    ผู้ชาย 2/3 ได้เงินเดือน ≥125,000 ดอลลาร์สหรัฐ
    แต่ผู้หญิงและ non-binary มีเพียง 38% เท่านั้น

    แรงงานเกมมีรายได้เฉลี่ยสูงกว่าค่าเฉลี่ยอเมริกัน
    เฉลี่ย 142,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี

    ผู้หญิงในอุตสาหกรรมเกมมีเพียง 25% ของแรงงานทั้งหมด
    แม้บริษัทพยายามเพิ่มจำนวน แต่ยังต่ำมาก

    ความเสี่ยงจากวัฒนธรรมชายเป็นใหญ่และการเลือกปฏิบัติ
    บริษัทใหญ่หลายแห่งเคยถูกกล่าวหาว่าสร้างสภาพแวดล้อมไม่ปลอดภัย

    การเลิกจ้างจำนวนมากในปีที่ผ่านมา
    อาจทำให้แรงงานหญิงและ non-binary เสี่ยงตกงานมากขึ้น

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/18/women-in-games-industry-paid-24-less-than-men-survey-shows
    🙍‍♀️ ผู้หญิงในอุตสาหกรรมเกมยังคงเผชิญช่องว่างค่าจ้างเฉลี่ย 24% เมื่อเทียบกับผู้ชาย รายงานระบุว่า ผู้หญิงและบุคคล non-binary ในบริษัทเกมสหรัฐฯ ได้รับค่าจ้างเฉลี่ยน้อยกว่าผู้ชายถึง 24% ซึ่งสูงกว่าช่องว่างค่าจ้างโดยรวมในสหรัฐฯ ที่อยู่ราว 15% ข้อมูลจากการสำรวจคนทำงานเกม 562 คนในเดือนกรกฎาคมเผยว่า สองในสามของผู้ชายที่มีประสบการณ์ 6 ปีขึ้นไปได้รับเงินเดือนมากกว่า 125,000 ดอลลาร์สหรัฐ แต่มีเพียง 38% ของผู้หญิงและ non-binary ที่ได้ระดับเดียวกัน 📊 ความรู้สึกและการรับรู้ของแรงงาน กว่า 60% ของผู้หญิงและ non-binary เชื่อว่าตนเองถูกจ่ายค่าจ้างต่ำกว่าที่ควร ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลจริงที่พบในรายงาน แม้ว่าโดยรวมแล้วคนทำงานเกมมีรายได้เฉลี่ยสูงกว่าค่าเฉลี่ยชาวอเมริกัน (142,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี) แต่ความเหลื่อมล้ำทางเพศยังคงชัดเจนและต่อเนื่องthestar.com.my ⚖️ ปัญหาความเท่าเทียมและวัฒนธรรมองค์กร อุตสาหกรรมเกมถูกวิจารณ์มานานเรื่อง วัฒนธรรมชายเป็นใหญ่และการเลือกปฏิบัติทางเพศ บริษัทใหญ่เช่น Riot Games, Ubisoft และ Activision Blizzard เคยถูกกล่าวหาว่าสร้างสภาพแวดล้อมที่ไม่เป็นมิตรต่อผู้หญิง และบางแห่งต้องจ่ายเงินชดเชยให้พนักงานที่ถูกละเมิด แม้หลายบริษัทพยายามเพิ่มจำนวนผู้หญิงในทีม แต่ปัจจุบันยังมีเพียง 25% ของแรงงานในอุตสาหกรรมเกมที่เป็นผู้หญิง 🔮 แนวโน้มและความท้าทาย แม้รายได้เฉลี่ยของคนทำงานเกมจะสูงขึ้นเล็กน้อยจากปี 2024 แต่การเลิกจ้างจำนวนมากในปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมยังอยู่ในภาวะหดตัว การแก้ไขช่องว่างค่าจ้างและสร้างวัฒนธรรมที่เท่าเทียมจึงเป็นความท้าทายสำคัญ หากไม่ปรับปรุง อุตสาหกรรมอาจสูญเสียแรงงานที่มีศักยภาพและความหลากหลายทางความคิด 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ผู้หญิงและ non-binary ได้ค่าจ้างเฉลี่ยน้อยกว่าผู้ชาย 24% ➡️ ช่องว่างนี้กว้างกว่าค่าเฉลี่ยสหรัฐฯ ที่ 15% ✅ ผู้ชาย 2/3 ได้เงินเดือน ≥125,000 ดอลลาร์สหรัฐ ➡️ แต่ผู้หญิงและ non-binary มีเพียง 38% เท่านั้น ✅ แรงงานเกมมีรายได้เฉลี่ยสูงกว่าค่าเฉลี่ยอเมริกัน ➡️ เฉลี่ย 142,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี ✅ ผู้หญิงในอุตสาหกรรมเกมมีเพียง 25% ของแรงงานทั้งหมด ➡️ แม้บริษัทพยายามเพิ่มจำนวน แต่ยังต่ำมาก ‼️ ความเสี่ยงจากวัฒนธรรมชายเป็นใหญ่และการเลือกปฏิบัติ ⛔ บริษัทใหญ่หลายแห่งเคยถูกกล่าวหาว่าสร้างสภาพแวดล้อมไม่ปลอดภัย ‼️ การเลิกจ้างจำนวนมากในปีที่ผ่านมา ⛔ อาจทำให้แรงงานหญิงและ non-binary เสี่ยงตกงานมากขึ้น https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/18/women-in-games-industry-paid-24-less-than-men-survey-shows
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Women in games industry paid 24% less than men, survey shows
    Women working in the video-game industry earn 24% less than their male colleagues on average, according to a new survey – a wider gap than in the US at large that suggests the sector is still struggling to shed its male-dominated culture.
    0 Comments 0 Shares 68 Views 0 Reviews
  • พ่อสร้าง Synth ให้ลูกสาว

    บทความ I Built a Synth for My Daughter โดย Alastair Roberts เล่าประสบการณ์การสร้าง เครื่องสังเคราะห์เสียงแบบพกพา (portable step-sequencer synthesizer) สำหรับลูกสาววัย 3 ขวบ โดยเริ่มจากแรงบันดาลใจจากบอร์ดกิจกรรม Montessori ที่เต็มไปด้วยสวิตช์และไฟ LED จนเกิดไอเดียทำเป็นของเล่นดนตรีที่เด็กสามารถเลื่อนสไลด์เพื่อเปลี่ยนเสียงได้

    จาก Arduino สู่ PCB จริง
    Alastair เริ่มต้นด้วย Arduino Inventors Kit และเขียนโค้ดให้ potentiometer ส่งค่า MIDI ไปยัง Logic Pro เพื่อทดสอบเสียง ต่อมาเขาเพิ่มโมดูล synth ราคาถูก SAM2695 พร้อมลำโพงในตัว และจอ OLED ที่แสดงภาพแพนด้าน้อยเต้นตามจังหวะ แม้จะเจอปัญหาเรื่องหน่วยความจำและการอัปเดตหน้าจอที่ทำให้เสียงหน่วง แต่ก็แก้ไขด้วยการอัปเดตเป็นแพตช์เล็ก ๆ

    การออกแบบและพิมพ์ 3D
    เมื่อวงจรเริ่มเสถียร เขาใช้ Fusion 360 ออกแบบกล่องและพิมพ์ด้วยเครื่อง 3D printer ของเพื่อน หลังจากนั้นจึงพัฒนาเป็น PCB แบบสองชั้น ผ่านบริการ JLCPCB เพื่อให้ประกอบง่ายและทนทานขึ้น พร้อมปรับระบบพลังงานจากแบตเตอรี่ AA 4 ก้อนเป็น 3 ก้อนร่วมกับ Adafruit Miniboost เพื่อให้แรงดันไฟฟ้าเสถียร

    ผลลัพธ์และอนาคต
    Synth ที่สร้างขึ้นกลายเป็นของเล่นที่ลูกสาวชอบเล่นเป็นประจำ และยังเป็นโครงการเรียนรู้ที่ทำให้ Alastair เข้าใจทั้ง microcontroller, CAD, PCB design และการผลิตต้นแบบ เขามองว่าอาจต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์จริง แต่ก็ยอมรับว่ามีอุปสรรคด้านต้นทุนการผลิตและการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย

    สรุปประเด็นสำคัญ
    แรงบันดาลใจจากบอร์ด Montessori
    นำไปสู่การสร้างของเล่นดนตรีที่เด็กเล่นได้ง่าย

    เริ่มจาก Arduino และ MIDI
    พัฒนาไปสู่ synth module และจอ OLED

    ออกแบบกล่องด้วย Fusion 360 และพิมพ์ 3D
    ต่อมาเปลี่ยนเป็น PCB ที่ทนทานและประกอบง่าย

    ปรับระบบพลังงานให้เสถียรด้วย Miniboost
    ลดน้ำหนักและเพิ่มความทนทานของเครื่อง

    ข้อจำกัดด้านการผลิตเชิงพาณิชย์
    ต้องใช้ทุนสูงและการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย

    ปัญหาทางเทคนิคที่ยังต้องแก้ไข
    เช่น การหน่วงเสียงจากการอัปเดตหน้าจอ OLED

    https://bitsnpieces.dev/posts/a-synth-for-my-daughter/
    🎹 พ่อสร้าง Synth ให้ลูกสาว บทความ I Built a Synth for My Daughter โดย Alastair Roberts เล่าประสบการณ์การสร้าง เครื่องสังเคราะห์เสียงแบบพกพา (portable step-sequencer synthesizer) สำหรับลูกสาววัย 3 ขวบ โดยเริ่มจากแรงบันดาลใจจากบอร์ดกิจกรรม Montessori ที่เต็มไปด้วยสวิตช์และไฟ LED จนเกิดไอเดียทำเป็นของเล่นดนตรีที่เด็กสามารถเลื่อนสไลด์เพื่อเปลี่ยนเสียงได้ 🛠️ จาก Arduino สู่ PCB จริง Alastair เริ่มต้นด้วย Arduino Inventors Kit และเขียนโค้ดให้ potentiometer ส่งค่า MIDI ไปยัง Logic Pro เพื่อทดสอบเสียง ต่อมาเขาเพิ่มโมดูล synth ราคาถูก SAM2695 พร้อมลำโพงในตัว และจอ OLED ที่แสดงภาพแพนด้าน้อยเต้นตามจังหวะ แม้จะเจอปัญหาเรื่องหน่วยความจำและการอัปเดตหน้าจอที่ทำให้เสียงหน่วง แต่ก็แก้ไขด้วยการอัปเดตเป็นแพตช์เล็ก ๆ 🖨️ การออกแบบและพิมพ์ 3D เมื่อวงจรเริ่มเสถียร เขาใช้ Fusion 360 ออกแบบกล่องและพิมพ์ด้วยเครื่อง 3D printer ของเพื่อน หลังจากนั้นจึงพัฒนาเป็น PCB แบบสองชั้น ผ่านบริการ JLCPCB เพื่อให้ประกอบง่ายและทนทานขึ้น พร้อมปรับระบบพลังงานจากแบตเตอรี่ AA 4 ก้อนเป็น 3 ก้อนร่วมกับ Adafruit Miniboost เพื่อให้แรงดันไฟฟ้าเสถียร 🌟 ผลลัพธ์และอนาคต Synth ที่สร้างขึ้นกลายเป็นของเล่นที่ลูกสาวชอบเล่นเป็นประจำ และยังเป็นโครงการเรียนรู้ที่ทำให้ Alastair เข้าใจทั้ง microcontroller, CAD, PCB design และการผลิตต้นแบบ เขามองว่าอาจต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์จริง แต่ก็ยอมรับว่ามีอุปสรรคด้านต้นทุนการผลิตและการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ แรงบันดาลใจจากบอร์ด Montessori ➡️ นำไปสู่การสร้างของเล่นดนตรีที่เด็กเล่นได้ง่าย ✅ เริ่มจาก Arduino และ MIDI ➡️ พัฒนาไปสู่ synth module และจอ OLED ✅ ออกแบบกล่องด้วย Fusion 360 และพิมพ์ 3D ➡️ ต่อมาเปลี่ยนเป็น PCB ที่ทนทานและประกอบง่าย ✅ ปรับระบบพลังงานให้เสถียรด้วย Miniboost ➡️ ลดน้ำหนักและเพิ่มความทนทานของเครื่อง ‼️ ข้อจำกัดด้านการผลิตเชิงพาณิชย์ ⛔ ต้องใช้ทุนสูงและการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย ‼️ ปัญหาทางเทคนิคที่ยังต้องแก้ไข ⛔ เช่น การหน่วงเสียงจากการอัปเดตหน้าจอ OLED https://bitsnpieces.dev/posts/a-synth-for-my-daughter/
    BITSNPIECES.DEV
    I Built a Synth for My Daughter
    How I built a portable synthesizer for my three year old daughter.
    0 Comments 0 Shares 51 Views 0 Reviews
  • Finnix 251 เปิดตัวพร้อม OCI Container Images

    ทีมพัฒนา Finnix ได้ประกาศเปิดตัว Finnix 251 ซึ่งเป็นเวอร์ชันล่าสุดของดิสโทร Linux แบบ Live ที่ออกแบบมาสำหรับผู้ดูแลระบบ (Sysadmins) จุดเด่นของรุ่นนี้คือการเพิ่มการรองรับ OCI Container Images อย่างเป็นทางการ ทำให้ผู้ใช้สามารถรัน Finnix ได้โดยตรงผ่าน Podman, Docker, Kubernetes และเครื่องมือจัดการคอนเทนเนอร์อื่น ๆ ได้ทันที

    นอกจากนี้ Finnix 251 ยังได้อัปเดต Linux Kernel จาก 6.12 LTS เป็น 6.16 เพื่อรองรับฮาร์ดแวร์รุ่นใหม่ ๆ ได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะเมื่อใช้งานผ่าน USB Live System ซึ่งช่วยให้การบูตและการทำงานบนเครื่องสมัยใหม่มีความเสถียรมากขึ้น

    อีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงสำคัญคือการเพิ่มแพ็กเกจ dc3dd ซึ่งเป็นเวอร์ชันปรับปรุงของ GNU dd ที่มีฟีเจอร์สำหรับงาน Computer Forensics เช่น การตรวจสอบและการกู้ข้อมูล ถือเป็นการเพิ่มความสามารถให้ Finnix ในการใช้งานด้านความปลอดภัยและการวิเคราะห์ระบบ

    Finnix 251 ยังรวมการอัปเดตแพ็กเกจจาก Debian 14 “Forky” (Testing) และ Debian Sid พร้อมแก้ไขบั๊กและปรับปรุงเล็กน้อยหลายรายการ โดยยังคงจุดแข็งคือการเป็นดิสโทรที่มี footprint เล็ก แต่บรรจุเครื่องมือสำหรับการกู้คืนระบบ การบำรุงรักษา และการทดสอบจำนวนมาก

    สรุปสาระสำคัญ
    การรองรับ OCI Container Images
    ใช้งานได้กับ Podman, Docker, Kubernetes
    รองรับสถาปัตยกรรม amd64, arm64 และ riscv64

    การอัปเดต Kernel
    จาก Linux 6.12 LTS เป็น Linux 6.16
    รองรับฮาร์ดแวร์ใหม่ ๆ ได้ดียิ่งขึ้น

    การเพิ่มแพ็กเกจใหม่
    dc3dd สำหรับงาน Computer Forensics
    รวมอัปเดตจาก Debian 14 “Forky” และ Debian Sid

    คุณสมบัติของ Finnix
    footprint เล็กแต่มีเครื่องมือมากมายสำหรับ Sysadmins
    ใช้งานได้ทั้งการกู้คืนระบบและการบำรุงรักษา

    ข้อควรระวัง
    ผู้ใช้ควรตรวจสอบ compatibility ของ container runtime ที่ใช้
    การใช้งาน dc3dd ต้องระวัง เนื่องจากเป็นเครื่องมือที่สามารถเขียนทับข้อมูลได้

    https://9to5linux.com/finnix-251-linux-distro-for-sysadmins-introduces-official-oci-container-images
    🐧 Finnix 251 เปิดตัวพร้อม OCI Container Images ทีมพัฒนา Finnix ได้ประกาศเปิดตัว Finnix 251 ซึ่งเป็นเวอร์ชันล่าสุดของดิสโทร Linux แบบ Live ที่ออกแบบมาสำหรับผู้ดูแลระบบ (Sysadmins) จุดเด่นของรุ่นนี้คือการเพิ่มการรองรับ OCI Container Images อย่างเป็นทางการ ทำให้ผู้ใช้สามารถรัน Finnix ได้โดยตรงผ่าน Podman, Docker, Kubernetes และเครื่องมือจัดการคอนเทนเนอร์อื่น ๆ ได้ทันที นอกจากนี้ Finnix 251 ยังได้อัปเดต Linux Kernel จาก 6.12 LTS เป็น 6.16 เพื่อรองรับฮาร์ดแวร์รุ่นใหม่ ๆ ได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะเมื่อใช้งานผ่าน USB Live System ซึ่งช่วยให้การบูตและการทำงานบนเครื่องสมัยใหม่มีความเสถียรมากขึ้น อีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงสำคัญคือการเพิ่มแพ็กเกจ dc3dd ซึ่งเป็นเวอร์ชันปรับปรุงของ GNU dd ที่มีฟีเจอร์สำหรับงาน Computer Forensics เช่น การตรวจสอบและการกู้ข้อมูล ถือเป็นการเพิ่มความสามารถให้ Finnix ในการใช้งานด้านความปลอดภัยและการวิเคราะห์ระบบ Finnix 251 ยังรวมการอัปเดตแพ็กเกจจาก Debian 14 “Forky” (Testing) และ Debian Sid พร้อมแก้ไขบั๊กและปรับปรุงเล็กน้อยหลายรายการ โดยยังคงจุดแข็งคือการเป็นดิสโทรที่มี footprint เล็ก แต่บรรจุเครื่องมือสำหรับการกู้คืนระบบ การบำรุงรักษา และการทดสอบจำนวนมาก 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การรองรับ OCI Container Images ➡️ ใช้งานได้กับ Podman, Docker, Kubernetes ➡️ รองรับสถาปัตยกรรม amd64, arm64 และ riscv64 ✅ การอัปเดต Kernel ➡️ จาก Linux 6.12 LTS เป็น Linux 6.16 ➡️ รองรับฮาร์ดแวร์ใหม่ ๆ ได้ดียิ่งขึ้น ✅ การเพิ่มแพ็กเกจใหม่ ➡️ dc3dd สำหรับงาน Computer Forensics ➡️ รวมอัปเดตจาก Debian 14 “Forky” และ Debian Sid ✅ คุณสมบัติของ Finnix ➡️ footprint เล็กแต่มีเครื่องมือมากมายสำหรับ Sysadmins ➡️ ใช้งานได้ทั้งการกู้คืนระบบและการบำรุงรักษา ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ ผู้ใช้ควรตรวจสอบ compatibility ของ container runtime ที่ใช้ ⛔ การใช้งาน dc3dd ต้องระวัง เนื่องจากเป็นเครื่องมือที่สามารถเขียนทับข้อมูลได้ https://9to5linux.com/finnix-251-linux-distro-for-sysadmins-introduces-official-oci-container-images
    9TO5LINUX.COM
    Finnix 251 Linux Distro for Sysadmins Introduces Official OCI Container Images - 9to5Linux
    Debian-based Finnix 251 Linux distribution for sysadmins is now available for download powered by Linux kernel 6.16.
    0 Comments 0 Shares 40 Views 0 Reviews
  • Git 2.52 เพิ่มคำสั่งใหม่เพื่อจัดการ Repository ได้ง่ายขึ้น

    ทีมพัฒนา Git ได้ปล่อย Git 2.52 ซึ่งเป็นการอัปเดตใหญ่ที่มาพร้อมกับคำสั่งใหม่หลายตัว โดยหนึ่งในฟีเจอร์สำคัญคือคำสั่ง git repo ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถดึงข้อมูลคุณลักษณะต่าง ๆ ของ repository ได้สะดวกขึ้น เช่น โครงสร้าง repo, refs ที่มีอยู่ และ object format ที่ใช้ใน repository นั้น ๆ

    อีกคำสั่งที่น่าสนใจคือ git last-modified ซึ่งสามารถตรวจสอบ commit ล่าสุดที่แก้ไขไฟล์หรือ path ที่กำหนดได้ ทำให้ผู้ใช้สามารถติดตามการเปลี่ยนแปลงได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในโปรเจกต์ขนาดใหญ่ที่มีไฟล์จำนวนมาก

    นอกจากนี้ Git 2.52 ยังเพิ่มคำสั่ง git refs exists ที่ทำงานคล้ายกับ git show-ref --exists และปรับปรุงการทำงานของ git commit-graph โดยเพิ่มตัวเลือก --changed-paths ให้เปิดใช้งานได้โดยค่าเริ่มต้น รวมถึงการปรับปรุงคำสั่ง git stash ให้สามารถจำลองการทำงานเหมือนใช้ --index ได้

    การอัปเดตนี้ยังรวมถึงการปรับปรุงคำสั่งอื่น ๆ เช่น git diff-tree ที่เพิ่มตัวเลือก --max-depth, git fast-import ที่รองรับ signed tags, และ git sparse-checkout ที่เพิ่ม action ใหม่ชื่อ “clean” สำหรับลบไฟล์ที่ไม่ใช้งานออกจาก working tree

    สรุปสาระสำคัญ
    คำสั่งใหม่ใน Git 2.52
    git repo สำหรับดึงข้อมูลคุณลักษณะของ repository
    git last-modified สำหรับตรวจสอบ commit ล่าสุดที่แก้ไขไฟล์
    git refs exists สำหรับตรวจสอบการมีอยู่ของ refs

    การปรับปรุงคำสั่งเดิม
    git commit-graph รองรับ --changed-paths โดยค่าเริ่มต้น
    git stash รองรับการจำลอง --index
    git diff-tree เพิ่มตัวเลือก --max-depth

    การจัดการ repository ที่ดีขึ้น
    git fast-import รองรับ signed tags
    git sparse-checkout เพิ่ม action “clean” สำหรับลบไฟล์ที่ไม่ใช้งาน

    ข้อควรระวัง
    ผู้ใช้ควรตรวจสอบการเปลี่ยนแปลง configuration เช่น stash.index และ commitGraph.changedPaths
    การใช้คำสั่งใหม่อาจต้องอัปเดตสคริปต์หรือ workflow ที่มีอยู่ให้รองรับ

    https://9to5linux.com/git-2-52-introduces-new-command-for-grabbing-various-repository-characteristics
    📂 Git 2.52 เพิ่มคำสั่งใหม่เพื่อจัดการ Repository ได้ง่ายขึ้น ทีมพัฒนา Git ได้ปล่อย Git 2.52 ซึ่งเป็นการอัปเดตใหญ่ที่มาพร้อมกับคำสั่งใหม่หลายตัว โดยหนึ่งในฟีเจอร์สำคัญคือคำสั่ง git repo ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถดึงข้อมูลคุณลักษณะต่าง ๆ ของ repository ได้สะดวกขึ้น เช่น โครงสร้าง repo, refs ที่มีอยู่ และ object format ที่ใช้ใน repository นั้น ๆ อีกคำสั่งที่น่าสนใจคือ git last-modified ซึ่งสามารถตรวจสอบ commit ล่าสุดที่แก้ไขไฟล์หรือ path ที่กำหนดได้ ทำให้ผู้ใช้สามารถติดตามการเปลี่ยนแปลงได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในโปรเจกต์ขนาดใหญ่ที่มีไฟล์จำนวนมาก นอกจากนี้ Git 2.52 ยังเพิ่มคำสั่ง git refs exists ที่ทำงานคล้ายกับ git show-ref --exists และปรับปรุงการทำงานของ git commit-graph โดยเพิ่มตัวเลือก --changed-paths ให้เปิดใช้งานได้โดยค่าเริ่มต้น รวมถึงการปรับปรุงคำสั่ง git stash ให้สามารถจำลองการทำงานเหมือนใช้ --index ได้ การอัปเดตนี้ยังรวมถึงการปรับปรุงคำสั่งอื่น ๆ เช่น git diff-tree ที่เพิ่มตัวเลือก --max-depth, git fast-import ที่รองรับ signed tags, และ git sparse-checkout ที่เพิ่ม action ใหม่ชื่อ “clean” สำหรับลบไฟล์ที่ไม่ใช้งานออกจาก working tree 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ คำสั่งใหม่ใน Git 2.52 ➡️ git repo สำหรับดึงข้อมูลคุณลักษณะของ repository ➡️ git last-modified สำหรับตรวจสอบ commit ล่าสุดที่แก้ไขไฟล์ ➡️ git refs exists สำหรับตรวจสอบการมีอยู่ของ refs ✅ การปรับปรุงคำสั่งเดิม ➡️ git commit-graph รองรับ --changed-paths โดยค่าเริ่มต้น ➡️ git stash รองรับการจำลอง --index ➡️ git diff-tree เพิ่มตัวเลือก --max-depth ✅ การจัดการ repository ที่ดีขึ้น ➡️ git fast-import รองรับ signed tags ➡️ git sparse-checkout เพิ่ม action “clean” สำหรับลบไฟล์ที่ไม่ใช้งาน ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ ผู้ใช้ควรตรวจสอบการเปลี่ยนแปลง configuration เช่น stash.index และ commitGraph.changedPaths ⛔ การใช้คำสั่งใหม่อาจต้องอัปเดตสคริปต์หรือ workflow ที่มีอยู่ให้รองรับ https://9to5linux.com/git-2-52-introduces-new-command-for-grabbing-various-repository-characteristics
    9TO5LINUX.COM
    Git 2.52 Introduces New Command for Grabbing Various Repository Characteristics - 9to5Linux
    Git 2.52 open-source distributed version control system is now available for download with numerous new features and improvements.
    0 Comments 0 Shares 43 Views 0 Reviews
  • VKD3D-Proton 3.0 มาพร้อม FSR4 และ Shader Backend Rewrite

    ทีมพัฒนา VKD3D-Proton ได้ปล่อยเวอร์ชัน 3.0 ซึ่งถือเป็นการอัปเดตครั้งใหญ่หลังจาก Proton 10 โดยมีการเพิ่มการรองรับ AMD FidelityFX Super Resolution 4 (FSR4) ผ่านการใช้ Vulkan extensions เช่น VK_KHR_cooperative_matrix และ VK_KHR_shader_float8 ทำให้เกมที่รองรับสามารถเรนเดอร์ได้คมชัดขึ้นและมีประสิทธิภาพสูงขึ้นบน Linux

    หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงสำคัญคือการเขียนระบบ DXBC Shader Backend ใหม่ทั้งหมด แทนที่ระบบเก่า (vkd3d-shader) ที่มีบั๊กและฟีเจอร์ไม่ครบ ส่งผลให้เกมที่เคยไม่สามารถรันได้ เช่น Red Dead Redemption 2 ตอนนี้สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์ในโหมด D3D12

    นอกจากนี้ VKD3D-Proton 3.0 ยังเพิ่มการรองรับ D3D12 Work Graphs, ปรับปรุงการทำงานกับ AgilitySDK, และเพิ่มการจัดการทรัพยากรใหม่ เช่น Sparse TIER_4 รวมถึงระบบ batching logic ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในหลายเกม อีกทั้งยังแก้ไขปัญหาการทำงานกับ Halo Infinite, The Last of Us Part 1, และเกมดังอื่น ๆ เช่น Death Stranding, Helldivers II, Star Citizen, Final Fantasy VII Rebirth, Monster Hunter Wilds, Starfield และอีกมากมาย

    การอัปเดตนี้ยังช่วยให้ VKD3D-Proton ใช้งานง่ายขึ้นในโปรเจกต์ Linux-native และปรับปรุงการทำงานกับการบีบอัด GDeflate รวมถึงการจัดการภาพแบบ depth/stencil ↔ color copies ได้ดีขึ้น ถือเป็นก้าวสำคัญในการทำให้ Linux กลายเป็นแพลตฟอร์มที่รองรับเกม Windows ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

    สรุปสาระสำคัญ
    ฟีเจอร์ใหม่ใน VKD3D-Proton 3.0
    รองรับ AMD FSR4 ผ่าน Vulkan extensions
    เขียน DXBC Shader Backend ใหม่ทั้งหมด

    การปรับปรุงเกมที่รองรับ
    Red Dead Redemption 2 รันได้ในโหมด D3D12
    ปรับปรุงเกมดัง เช่น Halo Infinite, The Last of Us Part 1, Death Stranding, Starfield

    ฟีเจอร์ด้านเทคนิคเพิ่มเติม
    รองรับ D3D12 Work Graphs และ Sparse TIER_4
    ปรับปรุง batching logic และการจัดการ GDeflate

    การใช้งานใน Linux-native projects
    ทำให้การนำ VKD3D-Proton ไปใช้ในโปรเจกต์ Linux ง่ายขึ้น
    ปรับปรุงการจัดการ depth/stencil ↔ color copies

    ข้อควรระวัง
    ผู้ใช้ต้องใช้ Vulkan extensions รุ่นใหม่เพื่อให้ฟีเจอร์ทำงานได้เต็มที่
    เกมบางเกมอาจยังมีบั๊กที่ต้องรอการแก้ไขเพิ่มเติม

    https://9to5linux.com/vkd3d-proton-3-0-released-with-fsr4-support-dxbc-shader-backend-rewrite
    🎮 VKD3D-Proton 3.0 มาพร้อม FSR4 และ Shader Backend Rewrite ทีมพัฒนา VKD3D-Proton ได้ปล่อยเวอร์ชัน 3.0 ซึ่งถือเป็นการอัปเดตครั้งใหญ่หลังจาก Proton 10 โดยมีการเพิ่มการรองรับ AMD FidelityFX Super Resolution 4 (FSR4) ผ่านการใช้ Vulkan extensions เช่น VK_KHR_cooperative_matrix และ VK_KHR_shader_float8 ทำให้เกมที่รองรับสามารถเรนเดอร์ได้คมชัดขึ้นและมีประสิทธิภาพสูงขึ้นบน Linux หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงสำคัญคือการเขียนระบบ DXBC Shader Backend ใหม่ทั้งหมด แทนที่ระบบเก่า (vkd3d-shader) ที่มีบั๊กและฟีเจอร์ไม่ครบ ส่งผลให้เกมที่เคยไม่สามารถรันได้ เช่น Red Dead Redemption 2 ตอนนี้สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์ในโหมด D3D12 นอกจากนี้ VKD3D-Proton 3.0 ยังเพิ่มการรองรับ D3D12 Work Graphs, ปรับปรุงการทำงานกับ AgilitySDK, และเพิ่มการจัดการทรัพยากรใหม่ เช่น Sparse TIER_4 รวมถึงระบบ batching logic ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในหลายเกม อีกทั้งยังแก้ไขปัญหาการทำงานกับ Halo Infinite, The Last of Us Part 1, และเกมดังอื่น ๆ เช่น Death Stranding, Helldivers II, Star Citizen, Final Fantasy VII Rebirth, Monster Hunter Wilds, Starfield และอีกมากมาย การอัปเดตนี้ยังช่วยให้ VKD3D-Proton ใช้งานง่ายขึ้นในโปรเจกต์ Linux-native และปรับปรุงการทำงานกับการบีบอัด GDeflate รวมถึงการจัดการภาพแบบ depth/stencil ↔ color copies ได้ดีขึ้น ถือเป็นก้าวสำคัญในการทำให้ Linux กลายเป็นแพลตฟอร์มที่รองรับเกม Windows ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ฟีเจอร์ใหม่ใน VKD3D-Proton 3.0 ➡️ รองรับ AMD FSR4 ผ่าน Vulkan extensions ➡️ เขียน DXBC Shader Backend ใหม่ทั้งหมด ✅ การปรับปรุงเกมที่รองรับ ➡️ Red Dead Redemption 2 รันได้ในโหมด D3D12 ➡️ ปรับปรุงเกมดัง เช่น Halo Infinite, The Last of Us Part 1, Death Stranding, Starfield ✅ ฟีเจอร์ด้านเทคนิคเพิ่มเติม ➡️ รองรับ D3D12 Work Graphs และ Sparse TIER_4 ➡️ ปรับปรุง batching logic และการจัดการ GDeflate ✅ การใช้งานใน Linux-native projects ➡️ ทำให้การนำ VKD3D-Proton ไปใช้ในโปรเจกต์ Linux ง่ายขึ้น ➡️ ปรับปรุงการจัดการ depth/stencil ↔ color copies ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ ผู้ใช้ต้องใช้ Vulkan extensions รุ่นใหม่เพื่อให้ฟีเจอร์ทำงานได้เต็มที่ ⛔ เกมบางเกมอาจยังมีบั๊กที่ต้องรอการแก้ไขเพิ่มเติม https://9to5linux.com/vkd3d-proton-3-0-released-with-fsr4-support-dxbc-shader-backend-rewrite
    9TO5LINUX.COM
    VKD3D-Proton 3.0 Released with FSR4 Support, DXBC Shader Backend Rewrite - 9to5Linux
    VKD3D-Proton 3.0 open-source implementation of the full Direct3D 12 API on top of Vulkan is now available for download as a major update.
    0 Comments 0 Shares 45 Views 0 Reviews
  • OpenVPN 2.6.15 คืนฟีเจอร์ Broadcast Address

    ทีมพัฒนา OpenVPN ได้ปล่อย เวอร์ชัน 2.6.15 ซึ่งถือเป็นการแก้ไขปัญหาสำคัญที่เกิดขึ้นในรุ่นก่อนหน้า โดยฟีเจอร์การตั้งค่า Broadcast Address ที่เคยถูกถอดออกไป ถูกนำกลับมาใช้งานอีกครั้ง เนื่องจากการปล่อยให้ระบบ Kernel จัดการเองทำให้เกิดปัญหาการตั้งค่า IP Address เป็น “0.0.0.0” ส่งผลให้แอปพลิเคชันที่ต้องอาศัย Broadcast ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ

    นอกจากนั้นยังมีการปรับปรุงการตรวจสอบ DNS Domain Name Validation โดยใช้รายการตัวอักษรที่อนุญาตอย่างเข้มงวด รวมถึงรองรับ UTF-8 เพื่อป้องกันการโจมตีผ่านการส่งค่า Domain ที่ไม่ถูกต้องเข้าสู่ PowerShell

    อีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงคือการเพิ่มการตรวจสอบ TLS Handshake Packets ก่อนที่จะสร้าง State ใหม่ ซึ่งช่วยแก้ปัญหากับ Client ที่เชื่อมต่อเร็วเกินไปและส่งข้อมูลจาก IP ที่ยังไม่ถูกยืนยัน ทำให้การเชื่อมต่อมีความปลอดภัยและเสถียรมากขึ้น

    การอัปเดตนี้สะท้อนให้เห็นว่า OpenVPN ยังคงมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในระบบใช้งาน เพื่อให้ผู้ใช้ทั้งองค์กรและบุคคลทั่วไปสามารถใช้งาน VPN ได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย

    สรุปสาระสำคัญ
    การคืนฟีเจอร์ Broadcast Address
    รองรับการตั้งค่า Broadcast Address บน Linux อีกครั้ง
    แก้ปัญหา IP “0.0.0.0” ที่ทำให้แอปพลิเคชัน Broadcast ใช้งานไม่ได้

    การตรวจสอบ DNS Domain Name
    ใช้รายการตัวอักษรที่อนุญาตอย่างเข้มงวด
    รองรับ UTF-8 เพื่อความปลอดภัย

    การปรับปรุง TLS Handshake
    ตรวจสอบแพ็กเก็ตก่อนสร้าง State ใหม่
    ลดปัญหา Client ที่เชื่อมต่อเร็วเกินไป

    ข้อควรระวังในการใช้งาน
    หากใช้ดิสโทร Linux รุ่นใหม่ อาจต้องตรวจสอบความเข้ากันได้
    การตั้งค่า DNS และ TLS ที่เข้มงวดขึ้นอาจทำให้บางสคริปต์หรือปลั๊กอินเดิมไม่ทำงาน

    https://9to5linux.com/openvpn-2-6-15-re-adds-support-for-explicitly-configuring-the-broadcast-address
    🔒 OpenVPN 2.6.15 คืนฟีเจอร์ Broadcast Address ทีมพัฒนา OpenVPN ได้ปล่อย เวอร์ชัน 2.6.15 ซึ่งถือเป็นการแก้ไขปัญหาสำคัญที่เกิดขึ้นในรุ่นก่อนหน้า โดยฟีเจอร์การตั้งค่า Broadcast Address ที่เคยถูกถอดออกไป ถูกนำกลับมาใช้งานอีกครั้ง เนื่องจากการปล่อยให้ระบบ Kernel จัดการเองทำให้เกิดปัญหาการตั้งค่า IP Address เป็น “0.0.0.0” ส่งผลให้แอปพลิเคชันที่ต้องอาศัย Broadcast ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ นอกจากนั้นยังมีการปรับปรุงการตรวจสอบ DNS Domain Name Validation โดยใช้รายการตัวอักษรที่อนุญาตอย่างเข้มงวด รวมถึงรองรับ UTF-8 เพื่อป้องกันการโจมตีผ่านการส่งค่า Domain ที่ไม่ถูกต้องเข้าสู่ PowerShell อีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงคือการเพิ่มการตรวจสอบ TLS Handshake Packets ก่อนที่จะสร้าง State ใหม่ ซึ่งช่วยแก้ปัญหากับ Client ที่เชื่อมต่อเร็วเกินไปและส่งข้อมูลจาก IP ที่ยังไม่ถูกยืนยัน ทำให้การเชื่อมต่อมีความปลอดภัยและเสถียรมากขึ้น การอัปเดตนี้สะท้อนให้เห็นว่า OpenVPN ยังคงมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในระบบใช้งาน เพื่อให้ผู้ใช้ทั้งองค์กรและบุคคลทั่วไปสามารถใช้งาน VPN ได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การคืนฟีเจอร์ Broadcast Address ➡️ รองรับการตั้งค่า Broadcast Address บน Linux อีกครั้ง ➡️ แก้ปัญหา IP “0.0.0.0” ที่ทำให้แอปพลิเคชัน Broadcast ใช้งานไม่ได้ ✅ การตรวจสอบ DNS Domain Name ➡️ ใช้รายการตัวอักษรที่อนุญาตอย่างเข้มงวด ➡️ รองรับ UTF-8 เพื่อความปลอดภัย ✅ การปรับปรุง TLS Handshake ➡️ ตรวจสอบแพ็กเก็ตก่อนสร้าง State ใหม่ ➡️ ลดปัญหา Client ที่เชื่อมต่อเร็วเกินไป ‼️ ข้อควรระวังในการใช้งาน ⛔ หากใช้ดิสโทร Linux รุ่นใหม่ อาจต้องตรวจสอบความเข้ากันได้ ⛔ การตั้งค่า DNS และ TLS ที่เข้มงวดขึ้นอาจทำให้บางสคริปต์หรือปลั๊กอินเดิมไม่ทำงาน https://9to5linux.com/openvpn-2-6-15-re-adds-support-for-explicitly-configuring-the-broadcast-address
    9TO5LINUX.COM
    OpenVPN 2.6.16 Released with a Security Fix and Various Bug Fixes - 9to5Linux
    OpenVPN 2.6.16 open-source VPN system is now available for download with various improvements and security fixes.
    0 Comments 0 Shares 34 Views 0 Reviews
  • ช่องโหว่ร้ายแรงใน W3 Total Cache (CVE-2025-9501)

    มีการเปิดเผยช่องโหว่ความปลอดภัยระดับ Critical ในปลั๊กอิน W3 Total Cache (W3TC) ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายบน WordPress โดยมีการติดตั้งมากกว่า 1 ล้านเว็บไซต์ทั่วโลก ช่องโหว่นี้ถูกระบุว่าเป็น CVE-2025-9501 และได้รับคะแนนความรุนแรง CVSS 9.0 ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับสูงสุดที่อาจนำไปสู่การโจมตีแบบ Remote Code Execution (RCE) โดยไม่ต้องมีการยืนยันตัวตน

    รายละเอียดช่องโหว่
    ปัญหานี้เกิดจากการจัดการที่ไม่ถูกต้องในฟังก์ชันภายในของปลั๊กอินชื่อ _parse_dynamic_mfunc ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถส่งคอมเมนต์ที่มี payload อันตราย เมื่อระบบทำการ parse คอมเมนต์นั้น เว็บไซต์จะรันโค้ด PHP ที่ผู้โจมตีใส่เข้ามา ส่งผลให้สามารถเข้าควบคุมเว็บไซต์ได้เต็มรูปแบบ เช่น การขโมยข้อมูล, ติดตั้ง backdoor, หรือกระจายมัลแวร์

    การแพตช์และการป้องกัน
    ช่องโหว่นี้ได้รับการแก้ไขแล้วในเวอร์ชัน W3 Total Cache 2.8.13 ผู้ดูแลเว็บไซต์ทุกคนถูกแนะนำให้อัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการโจมตี เนื่องจากการโจมตีนี้ไม่ต้องใช้สิทธิ์ใด ๆ และสามารถทำได้ง่ายเพียงแค่โพสต์คอมเมนต์บนเว็บไซต์ที่ยังไม่ได้แพตช์

    ผลกระทบและแนวโน้ม
    ด้วยจำนวนการติดตั้งที่มากกว่า 1 ล้านเว็บไซต์ แม้เพียงส่วนน้อยที่ไม่ได้อัปเดต ก็สามารถสร้าง attack surface ขนาดใหญ่ ให้กับผู้โจมตีที่ใช้เครื่องมืออัตโนมัติในการสแกนและโจมตีเว็บไซต์ WordPress ที่ยังมีช่องโหว่ การเปิดเผย Proof-of-Concept (PoC) ถูกกำหนดไว้ในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2025 เพื่อให้ผู้ดูแลมีเวลาอัปเดตก่อนที่โค้ดโจมตีจะถูกเผยแพร่สู่สาธารณะ

    สรุปสาระสำคัญ
    รายละเอียดช่องโหว่ CVE-2025-9501
    เกิดจากฟังก์ชัน _parse_dynamic_mfunc ใน W3TC
    เปิดทางให้โจมตีแบบ Remote Code Execution โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน

    การแพตช์ที่ปลอดภัย
    แก้ไขแล้วใน W3 Total Cache เวอร์ชัน 2.8.13
    ผู้ดูแลเว็บไซต์ควรอัปเดตทันที

    ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
    การเข้าควบคุมเว็บไซต์เต็มรูปแบบ
    การขโมยข้อมูลและติดตั้ง backdoor

    คำเตือนด้านความปลอดภัย
    เว็บไซต์ที่ยังไม่ได้อัปเดตเสี่ยงต่อการถูกโจมตีอัตโนมัติ
    PoC จะถูกเผยแพร่ในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2025 เพิ่มความเสี่ยงต่อการโจมตีจำนวนมาก

    https://securityonline.info/critical-w3-total-cache-flaw-cve-2025-9501-cvss-9-0-risks-unauthenticated-rce-on-1-million-wordpress-sites/
    ⚠️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน W3 Total Cache (CVE-2025-9501) มีการเปิดเผยช่องโหว่ความปลอดภัยระดับ Critical ในปลั๊กอิน W3 Total Cache (W3TC) ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายบน WordPress โดยมีการติดตั้งมากกว่า 1 ล้านเว็บไซต์ทั่วโลก ช่องโหว่นี้ถูกระบุว่าเป็น CVE-2025-9501 และได้รับคะแนนความรุนแรง CVSS 9.0 ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับสูงสุดที่อาจนำไปสู่การโจมตีแบบ Remote Code Execution (RCE) โดยไม่ต้องมีการยืนยันตัวตน 🛠️ รายละเอียดช่องโหว่ ปัญหานี้เกิดจากการจัดการที่ไม่ถูกต้องในฟังก์ชันภายในของปลั๊กอินชื่อ _parse_dynamic_mfunc ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถส่งคอมเมนต์ที่มี payload อันตราย เมื่อระบบทำการ parse คอมเมนต์นั้น เว็บไซต์จะรันโค้ด PHP ที่ผู้โจมตีใส่เข้ามา ส่งผลให้สามารถเข้าควบคุมเว็บไซต์ได้เต็มรูปแบบ เช่น การขโมยข้อมูล, ติดตั้ง backdoor, หรือกระจายมัลแวร์ 🔒 การแพตช์และการป้องกัน ช่องโหว่นี้ได้รับการแก้ไขแล้วในเวอร์ชัน W3 Total Cache 2.8.13 ผู้ดูแลเว็บไซต์ทุกคนถูกแนะนำให้อัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการโจมตี เนื่องจากการโจมตีนี้ไม่ต้องใช้สิทธิ์ใด ๆ และสามารถทำได้ง่ายเพียงแค่โพสต์คอมเมนต์บนเว็บไซต์ที่ยังไม่ได้แพตช์ 🌍 ผลกระทบและแนวโน้ม ด้วยจำนวนการติดตั้งที่มากกว่า 1 ล้านเว็บไซต์ แม้เพียงส่วนน้อยที่ไม่ได้อัปเดต ก็สามารถสร้าง attack surface ขนาดใหญ่ ให้กับผู้โจมตีที่ใช้เครื่องมืออัตโนมัติในการสแกนและโจมตีเว็บไซต์ WordPress ที่ยังมีช่องโหว่ การเปิดเผย Proof-of-Concept (PoC) ถูกกำหนดไว้ในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2025 เพื่อให้ผู้ดูแลมีเวลาอัปเดตก่อนที่โค้ดโจมตีจะถูกเผยแพร่สู่สาธารณะ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ รายละเอียดช่องโหว่ CVE-2025-9501 ➡️ เกิดจากฟังก์ชัน _parse_dynamic_mfunc ใน W3TC ➡️ เปิดทางให้โจมตีแบบ Remote Code Execution โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ✅ การแพตช์ที่ปลอดภัย ➡️ แก้ไขแล้วใน W3 Total Cache เวอร์ชัน 2.8.13 ➡️ ผู้ดูแลเว็บไซต์ควรอัปเดตทันที ✅ ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ➡️ การเข้าควบคุมเว็บไซต์เต็มรูปแบบ ➡️ การขโมยข้อมูลและติดตั้ง backdoor ‼️ คำเตือนด้านความปลอดภัย ⛔ เว็บไซต์ที่ยังไม่ได้อัปเดตเสี่ยงต่อการถูกโจมตีอัตโนมัติ ⛔ PoC จะถูกเผยแพร่ในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2025 เพิ่มความเสี่ยงต่อการโจมตีจำนวนมาก https://securityonline.info/critical-w3-total-cache-flaw-cve-2025-9501-cvss-9-0-risks-unauthenticated-rce-on-1-million-wordpress-sites/
    SECURITYONLINE.INFO
    Critical W3 Total Cache Flaw (CVE-2025-9501, CVSS 9.0) Risks Unauthenticated RCE on 1 Million WordPress Sites
    A Critical (CVSS 9.0) flaw in W3 Total Cache (CVE-2025-9501) allows unauthenticated attackers to execute arbitrary PHP code via a crafted comment. 1M+ sites are at risk. Update to v2.8.13.
    0 Comments 0 Shares 41 Views 0 Reviews
  • Google ออกแพตช์ฉุกเฉินแก้ไขช่องโหว่ Zero-Day บน Chrome

    Google ได้ปล่อยการอัปเดตฉุกเฉินสำหรับ Chrome Stable Channel เพื่อแก้ไขช่องโหว่ร้ายแรงใน V8 JavaScript Engine โดยเฉพาะ CVE-2025-13223 ซึ่งเป็นช่องโหว่แบบ Type Confusion ที่ถูกพบว่ามีการโจมตีจริงแล้วในโลกไซเบอร์ ช่องโหว่นี้สามารถนำไปสู่การ Heap Corruption และอาจทำให้ผู้โจมตีสามารถรันโค้ดอันตรายบนเครื่องเหยื่อได้ เพียงแค่เหยื่อเข้าเว็บไซต์ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อโจมตี

    รายละเอียดช่องโหว่และการโจมตี
    ช่องโหว่ CVE-2025-13223 ถูกค้นพบโดย Google Threat Analysis Group (TAG) ซึ่งมักติดตามการโจมตีขั้นสูงที่มีเป้าหมายเฉพาะ การโจมตีนี้ถือเป็น Drive-by Attack ที่อันตรายมาก เพราะผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดไฟล์ใด ๆ เพียงแค่เข้าเว็บที่ฝังโค้ดอันตรายก็สามารถถูกโจมตีได้ทันที นอกจากนี้ Google ยังแก้ไขช่องโหว่อีกหนึ่งรายการใน V8 Engine คือ CVE-2025-13224 แม้ยังไม่มีรายงานการโจมตี แต่ก็ถูกจัดเป็นช่องโหว่ระดับสูงเช่นกัน

    คำแนะนำจาก Google
    Google แนะนำให้ผู้ใช้ อัปเดต Chrome ทันที โดยเวอร์ชันที่ปลอดภัยคือ 142.0.7444.175/.176 บน Windows, 142.0.7444.176 บน Mac และ 142.0.7444.175 บน Linux การอัปเดตสามารถทำได้ง่าย ๆ ผ่านเมนู Help → About Google Chrome ซึ่งจะตรวจสอบและดาวน์โหลดแพตช์โดยอัตโนมัติ จากนั้นผู้ใช้ต้องกด Relaunch เพื่อให้การแก้ไขมีผล

    ความสำคัญในระดับโลก
    การออกแพตช์ฉุกเฉินครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความรุนแรงของช่องโหว่ที่ถูกใช้โจมตีจริง และตอกย้ำว่าการอัปเดตซอฟต์แวร์อย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งจำเป็นต่อการป้องกันภัยคุกคามไซเบอร์ โดยเฉพาะเบราว์เซอร์ที่เป็นเครื่องมือหลักในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต หากผู้ใช้ละเลยการอัปเดต อาจเสี่ยงต่อการถูกโจมตีโดยไม่รู้ตัว

    สรุปสาระสำคัญ
    ช่องโหว่ CVE-2025-13223
    Type Confusion ใน V8 Engine
    ถูกโจมตีจริงแล้ว (Zero-Day)

    ช่องโหว่ CVE-2025-13224
    Type Confusion เช่นกัน
    ยังไม่มีรายงานการโจมตี แต่จัดเป็น High Severity

    การอัปเดตที่ปลอดภัย
    Windows: 142.0.7444.175/.176
    Mac: 142.0.7444.176
    Linux: 142.0.7444.175

    คำเตือนด้านความปลอดภัย
    ผู้ใช้เสี่ยงถูกโจมตีเพียงแค่เข้าเว็บที่ฝังโค้ดอันตราย
    หากไม่อัปเดต Chrome ทันที อาจถูกโจมตีแบบ Drive-by Attack

    https://securityonline.info/google-patches-actively-exploited-chrome-zero-day-flaw-cve-2025-13223-in-emergency-update/
    🌐 Google ออกแพตช์ฉุกเฉินแก้ไขช่องโหว่ Zero-Day บน Chrome Google ได้ปล่อยการอัปเดตฉุกเฉินสำหรับ Chrome Stable Channel เพื่อแก้ไขช่องโหว่ร้ายแรงใน V8 JavaScript Engine โดยเฉพาะ CVE-2025-13223 ซึ่งเป็นช่องโหว่แบบ Type Confusion ที่ถูกพบว่ามีการโจมตีจริงแล้วในโลกไซเบอร์ ช่องโหว่นี้สามารถนำไปสู่การ Heap Corruption และอาจทำให้ผู้โจมตีสามารถรันโค้ดอันตรายบนเครื่องเหยื่อได้ เพียงแค่เหยื่อเข้าเว็บไซต์ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อโจมตี 🛠️ รายละเอียดช่องโหว่และการโจมตี ช่องโหว่ CVE-2025-13223 ถูกค้นพบโดย Google Threat Analysis Group (TAG) ซึ่งมักติดตามการโจมตีขั้นสูงที่มีเป้าหมายเฉพาะ การโจมตีนี้ถือเป็น Drive-by Attack ที่อันตรายมาก เพราะผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดไฟล์ใด ๆ เพียงแค่เข้าเว็บที่ฝังโค้ดอันตรายก็สามารถถูกโจมตีได้ทันที นอกจากนี้ Google ยังแก้ไขช่องโหว่อีกหนึ่งรายการใน V8 Engine คือ CVE-2025-13224 แม้ยังไม่มีรายงานการโจมตี แต่ก็ถูกจัดเป็นช่องโหว่ระดับสูงเช่นกัน ⚡ คำแนะนำจาก Google Google แนะนำให้ผู้ใช้ อัปเดต Chrome ทันที โดยเวอร์ชันที่ปลอดภัยคือ 142.0.7444.175/.176 บน Windows, 142.0.7444.176 บน Mac และ 142.0.7444.175 บน Linux การอัปเดตสามารถทำได้ง่าย ๆ ผ่านเมนู Help → About Google Chrome ซึ่งจะตรวจสอบและดาวน์โหลดแพตช์โดยอัตโนมัติ จากนั้นผู้ใช้ต้องกด Relaunch เพื่อให้การแก้ไขมีผล 🌍 ความสำคัญในระดับโลก การออกแพตช์ฉุกเฉินครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความรุนแรงของช่องโหว่ที่ถูกใช้โจมตีจริง และตอกย้ำว่าการอัปเดตซอฟต์แวร์อย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งจำเป็นต่อการป้องกันภัยคุกคามไซเบอร์ โดยเฉพาะเบราว์เซอร์ที่เป็นเครื่องมือหลักในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต หากผู้ใช้ละเลยการอัปเดต อาจเสี่ยงต่อการถูกโจมตีโดยไม่รู้ตัว 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ช่องโหว่ CVE-2025-13223 ➡️ Type Confusion ใน V8 Engine ➡️ ถูกโจมตีจริงแล้ว (Zero-Day) ✅ ช่องโหว่ CVE-2025-13224 ➡️ Type Confusion เช่นกัน ➡️ ยังไม่มีรายงานการโจมตี แต่จัดเป็น High Severity ✅ การอัปเดตที่ปลอดภัย ➡️ Windows: 142.0.7444.175/.176 ➡️ Mac: 142.0.7444.176 ➡️ Linux: 142.0.7444.175 ‼️ คำเตือนด้านความปลอดภัย ⛔ ผู้ใช้เสี่ยงถูกโจมตีเพียงแค่เข้าเว็บที่ฝังโค้ดอันตราย ⛔ หากไม่อัปเดต Chrome ทันที อาจถูกโจมตีแบบ Drive-by Attack https://securityonline.info/google-patches-actively-exploited-chrome-zero-day-flaw-cve-2025-13223-in-emergency-update/
    SECURITYONLINE.INFO
    Google Patches Actively Exploited Chrome Zero-Day Flaw (CVE-2025-13223) in Emergency Update
    Google released an emergency Chrome update (142.0.7444.175) to patch two V8 Type Confusion flaws. One zero-day (CVE-2025-13223) is actively exploited. Update now!
    0 Comments 0 Shares 44 Views 0 Reviews
  • ตัดโซ่หรือตายซาก ตอนที่ 3 – 4

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” ตัดโซ่ หรือ ตายซาก”
    ตอน 3
    แล้วโซ่คล้องคอชาวกรีซล่ะ หน้าตาเป็นอย่างไร สมันน้อยน่าจะรู้จักนะ เพราะเคยต้องใช้อยู่ช่วงนึง แต่อาจจะขนาดเล็กกว่า สั้นกว่า บางคนอาจโตไม่ทัน หรือโตแล้ว แต่ไม่รู้เรื่อง ก็ทำความรู้จักไว้หน่อยก็ดี เผื่อเหตุการณ์เก่า มันจะกลับมาเยี่ยม จะได้รู้จัก รู้ขนาดโซ่ว่า รับไหวไหม ยิ่งมีข่าวกระฉ่อนว่า หนุ่มหน้าใส อดีตผู้เชี่ยวชาญของธนาคารโลก พวกเสือหิวด้วยกัน กำลังเป็นตัวเต็ง จะมาเป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย คนใหม่ แทนคนปัจจุบัน ที่กำลังจะหมดวาระในเดือนสิงหาคมนี้ เผื่อแกยังรสนิยมเดิมๆ
    ปี ค.ศ.2010 เสือหิว Troika บอกเราจัดหาเงินให้กรีซได้จำนวน ประมาณบรรทุกรถสิบล้อ 340 คัน ตีว่า บรรทุกได้ คันละ 1 พันล้านยูโร ใครไม่ตกเลข ก็คำนวณเองนะครับ ว่าเป็นเงินเท่าไหร่ ดอกแค่ร้อยละ 5 ถูกจะตาย เงื่อนไขไม่มีอะไรมากมาย ใช้แบบเงื่อนตายเหมือนผูกตราสังข์ ตามแบบฟอร์มของ IMF ที่เรียกว่า SAP หรือ Structural Adjustment Policy ส่วนคนกู้ เรียกสัญญาแบบนี้ว่า แบบ DOA หรือ Dead on Arrival เป็นศพตั้งแต่มาถึงแล้ว คือ ตาย(ห่า) ตั้งแต่กู้ สัญญาแบบนี้ใช้มากว่า 35 ปีแล้วในประเทศแถบละติน อาฟริกา ยุโรปตะวันออกที่เคยเป็นสมาชิกของสหภาพโซเวียต และเอเซีย ตัวอย่างของผู้ที่ใช้สัญญานี้ และเป็นที่รู้จักกันดี ถูกนำมายกเป็นกรณีศึกษาจนแทบจะท่องกันได้คือ ประเทศอาร์เจนตินา
    สัญญาแบบ DOA เป็นอย่างไร ก็แค่ตัดงบใช้จ่ายในบ้านเมืองจนเหี้ยน ซึ่งรวมไปถึงการลดสวัสดิการทาง สังคม การรักษาพยาบาล เบี้ยบำนาญ ลดการจ่ายค่าแรงค่าจ้าง แต่เน้นให้เพิ่มงาน เพิ่มการลงทุน เพิ่มการส่งออก เพิ่มการแข่งขันทางการค้า เพิ่มภาษี และต้องแปรรูปรัฐวิสาหกิจ คือให้รัฐนำออกมาขายเพื่อเอามาใช้หนี้ และลดค่าเงินของประเทศผู้กู้ แต่เนื่องจากกรีซใช้ยูโร ขืนบังคับใช้ข้อนี้ก็ฉิบหายกันหมด เพราะฉนั้น ข้อนี้ เลยกลายเป็นไปเพิ่มการลดค่าใช้จ่ายในประเทศลงแยะๆ แทน
    ผมก็งงนะ ไม่รู้มันเอาส่วนไหนคิด ลดค่าแรง ลดการจ้างงาน แต่ให้เพิ่มงาน เพิ่มการลงทุน แปลว่า ชาวกรีซ นอนผึ่งพุงอยู่กับบ้าน เพราะไม่มีงานทำ ทำไปก็ไม่มีได้ค่าจ้าง เพราะเขาสั่งให้ลด แล้ว”ใคร” มาเพิ่มงาน “ใคร” มาลงทุน ” ใคร” มาซื้อรัฐวิสาหกิจ ที่ไอ้เสือหิวสั่งให้ขาย พอนึกออกนะครับว่า ในที่สุดแล้ว “ใคร” จะเป็นเจ้าของเกาะกรีซอันสวยงาม
    เสือหิว Troika บอกว่า มาตรการนี้ คงใช้ไม่นาน ไม่เกิน 2 ปี กรีซก็คงฟื้นตัว แต่มันตรงกันข้าม นอกจากไม่ฟื้นแล้ว กรีซยิ่งทรุดหนัก ชาวกรีซออกมาประท้วง สื่อกรีซเริ่มออกข่าวด่าไอ้เสือหิว อียู และ IMF บอกว่า ที่ไม่ดีขึ้น เพราะกรีซไม่ยอมปฏิบัติตามเงื่อนไข ไม่ยอมลำบาก ยังอยากสบายด้วยเงินของคนอื่น อันนี้เจ็บมาก ชาวกรีซบอกว่า นี่เป็นการบิดเบือนความจริงที่เลวร้าย รัฐบาลกรีซเดินตามเงื่อนไข DOA อย่างเคร่งครัด งบค่าจ้างตัดทิ้งเป็นพันๆล้านยู โร การรักษาพยาบาลของกรีซ ลดไปถึง 50% ไม่ใช่ชาวกรีซ แข็งแรง ไม่เจ็บ ไม่ป่วย แต่พวกเขาไม่มีเงิน ไปหาหมอ ไปโรงพยาบาลต่างหาก การศึกษาก็เช่นกัน ลดลงไปมากมาย ธุรกิจขนาดเล็กปิดตัวเกือบหมด และอัตราคนว่างงานในปี 2011 ก็ขึ้นพรวด และรายรับของภาษี ก็ลดลงอย่างมากเช่นเดียวกัน มัน DOA จริงๆ
    เสือหิว Troika ยังปากแข็ง ไม่ยอมรับความผิดพลาดในการจ่ายยาของตัวให้แก่คนป่วยชื่อก รีซ จะไปรับได้อย่างไร เขาให้ยาถูกแล้ว เขาตั้งใจให้ยา DOA นี้กับกรีซ กรีซต่างหากเล่า ที่ทำผิดพลาดซ้ำซาก ยอมกินยานี้ (ซ้ำซาก) เอง
    กรีซนึกว่า กินยานี้ครั้งเดียวแล้วทุกอย่าง จะดีขึ้นตามที่ IMF บอก แต่ในที่สุด กรีซก็ต้องขอรับยางวดสอง ในปี 2012 เอะ งวดแรก กินเข้าไปก็ตายแล้ว งวดสองกินแล้วจะเป็นอย่างไร ก็ตายซากละสิครับ
    เงื่อนไขงวดสอง เพิ่มชัดเจนว่า ต้องลดการจ้างงานภาครัฐลงไป 150,000 คน ภายในสิ้นปี 2015 และขายรัฐวิสาหกิจแบบเทกระจาด เรื่องนี้ทำให้มีป้ายขึ้นกลางเมืองใหญ่ของกรีซว่า “A Nation for Sale” มีประเทศขาย ไม่ใช่ขายแค่บ้าน ขายประเทศ ภาวนาอย่าให้มีป้ายแบบนี้ขึ้นในแดนสยามของเราก็แล้วกัน
    ทรัพย์สินที่กรีซขายไป ที่สำคัญ เช่น ท่าเรือ Piraeus ท่าเรือ Thessaloniki ซึ่งเป็นท่าเรือใหญ่ และมีคุณค่า ทั้งทางประวัติศาสตร์ และ เศรษฐกิจ (บางข้อมูลบอกท่าเรือ ทั้ง 2 ยังเจรจากันอยู่ ยังไม่ได้ขายออกไป) บริษัทเทเลคอม OTE สลากกินแบ่งกรีซ ที่ดินหลายแปลง ที่อยู่ในถิ่นดีที่สุดของประเทศ prime area และ postal bank การขายทรัพย์สินของประเทศครั้งใหญ่นี้ ทำให้พรรค Syriza ซึ่งประกาศคัดค้านขายรัฐวิสาหกิจ และการขายทรัพย์สิน ซึ่งได้คะแนนเสียงเพียง 4.6 % ในปี 2009 กระโดดมาเป็น 26.89% ในปี 2012 และได้เป็นรัฐบาลในปี 2015
    ระหว่าง ที่เสือหิว Troika ให้กรีซกินยา DOA งวดสอง อัตราคนว่างงานก็เพิ่มเป็น 22% และกำลังจะเป็น 25% ในไม่ช้า ชาวกรีซที่มีการศึกษาดี และยังอายุน้อย ต่างพากัน ทิ้งประเทศของตน ไปหางานทำที่เยอรมัน ที่เศรษฐกิจกำลังรุ่ง มันเป็นการประชดชีวิตชาวกรีซอย่างน่าเศร้า โลกนี้มันไม่สวยทั้งหมดอย่างที่เราคิด และที่กรีซ ก็คงจะเหลือแต่คนแก่ คนรายได้ต่ำ คนการศึกษาไม่สูง และชาวต่างชาติที่หนีระเบิดรายวันมาแย่งกันกิน
    ##############
    “ตัดโซ่ หรือ ตายซาก”

    ตอน 4
    นักวิเคราะห์เศรษฐศาสตร์การเมือง บอกว่า กรีซมาถึงจุดวิกฤตินี้ จากการที่มีนักการเมือง หรือรัฐบาลสายตาสั้น มองไม่ได้ไกล ขี้โกง เห็นแก่ประโยชน์พรรคและพวก ทำให้กรีซตกเป็นเหยื่อของระบบ ที่สร้างขี้นมา เพื่อทำให้ประเทศที่อ่อนแอจากปัจจัย ต่างๆ อย่างกรีซ ไม่คิดพึ่งตัวเอง ไม่คิดเปลี่ยนแปลง ไม่คิดปฏิรูป ไม่รู้จักเรียนรู้ เพื่อแก้ไข มักง่าย และในที่สุดก็จะหมดตัว หมดประเทศ หรือ เหลือแต่ซาก
    ส่วนนักวิเคราะห์การเงินบอกว่า อย่าเอะอะไป เรื่องหนี้กรีซ ไม่ใช่เรื่องของหนี้กรีซ เอะ พูดยังไง เราพูดเรื่องเดียวกันหรือเปล่า ครับ นักการเงินบอก ไม่มีใครเขาสนใจประเทศกรีซ ที่เล็กกระจิดริด ถึงจะสวยงามก็เถอะ กรีซจะมีเงินใช้หนี้ไหม กรีซจะอยู่ หรือจะไปจากอียู เขาไม่ได้สนใจ แต่ที่เป็นข่าวกันถี่ ไม่ใช่เรื่องอะไรหรอก พวกเขากลัวมันกระทบกับระบบธนาคาร กลัวนายทุนจะเจ๊ง ไม่ได้กลัวชาวกรีซจะอดตาย ไม่ได้กลัวรัฐบาลกรีซ จะล่ม เข้าใจไหมครับ
    แต่สื่อใหญ่รุ่นเก๋า Dennis Gartman บอกว่า…. กรีซยังอยู่ในอียู เพราะเยอรมันต้องการอย่างนั้น เยอรมันยังไม่อยากเฉดกรีซออกไป เยอรมันต้องการให้ค่าเงินยูโรอ่อน ยูโรอ่อนดีสำหรับการส่งออก คนซื้อจะได้นึกว่าตัวซื้อของได้ถูก เยอรมันเป็นประเทศขายของ ที่ ยามนี้กำลังต้องการขายอย่างยิ่ง ใครขายได้ ต้องรีบขาย Bayer, Thyssenkrupp, Daimler เจ้าพ่อธุรกิจการค้าเยอรมัน ต้องการให้กรีซ ยังอยู่ในอียูทั้งนั้น …
    …..ถ้า ผมเป็นนายกรัฐมนตรีกรีซ ผมคงไม่วิ่งเจรจาให้เหนื่อย ผมคงปล่อยให้กรีซผิดนัดหนี้นานมาแล้ว และกลับไปใช้เงินสกุลของกรีซ และผมก็ลดค่าของกรีซ อุตสาหกรรมทอผ้าของกรีซก็จะกลายเป็นสินค้า ที่ใครๆต้องการเพราะราคาถูกลง กิจการท่องเที่ยวของกรีซ ก็กลับมาฟื้น เพราะใครๆ ก็อยากกลับมาอยู่เกาะสวย ในราคาไม่แพง กิจการเดินเรือของกรีซก็กลับมารุ่งใหม่ ทำไมผมต้องง้อเยอรมันอยู่ข้างเดียว ผมจะบอกกับพวกเจ้าหนี้โหดๆ ว่าเชิญเลย เชิญเอาตูดผมไปเลย อยากทำอะไรก็ทำ แล้วผมก็ออกจากอียู ก็แค่นั้น…
    ความคิดอย่างนาย Gartman ชาวกรีซเกือบทุกคน คงอยากทำอย่างนั้น คิดได้ แต่ไม่รู้ทำได้จริงไหม กรีซมีหนี้ก้อนใหญ่หมึมา เบี้ยวหนี้ก้อนหนี้ ก็กลายเป็นประเทศล้มละลาย คนล้มละลาย จะไปค้าขายกับใครได้ ขายของได้เงินมา เจ้าหนี้ก็คอยมาคว้าไป แต่ไม่ใช่ว่า เรื่องแบบนี้ เล่นไม่ได้เอาเลย อาร์เจนตินา เคยตัดโซ่ แหกคอกออกมา ยอมอด แต่ก็หืดขึ้นคอ กว่าจะยืนตรงได้เหมือนเดิม
    พรรค Syriza คงไม่คิดให้ชาวกรีซอยู่ในเหว และมีโซ่คล้องคอตลอดไป แต่จะเลือกทำด้วยวิธีไหน และเมื่อไหร่ เท่านั้น การตัดสินใจของ Syriza ในช่วงไม่กี่วันนี้ คงต้องตามดูกันทุกยก เพราะมันสามารถ สร้างระดับความสะเทือน เหมือนแผ่นดินไหวในยุโรปได้ ตั้งแต่ 4 ริกเตอร์ ไปจนถึงระดับ 9 ริกเตอร์ และอาจจะตามมา ด้วยอาฟเตอร์ขนาดไหน ถึงไหน และนานเท่าไหร่ และจะต่อด้วยซึนามิหรือไม่ พวกแมงเม่า อย่ามัวแต่เหม่อดูแต่จอบ้านตัวเอง เดี๋ยวปีกจะไหม้ร่วงหลุดเป็นแถวๆ
    ล่าสุดขณะที่ผมกำลังเขียนนิทาน ( 25 มิย.) ข่าวว่า คุณน้องยานิส รัฐมนตรีคลัง ยืนกรานว่า ต้องมีการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ใหม่ ฝ่ายเจ้าหนี้บอก เราไม่มีความคิดเช่นนั้น ถ้ากรีซไม่มีอะไรใหม่มาเสนอ เช่นจะรัดคอหอยเข้าไปอีกกี่นิ้ว หรือจะมีวิธีชำระหนี้อย่างไร เราก็ไม่มีอะไรพูด แล้วการประชุมระหว่าง รัฐมนตรีคลังของกรีซกับฝ่ายอี ยู 18 คน ที่ สนง อียู กรุงบรัสเซล เมื่อเย็นวันที่ 24 มิย. ก็จบลงอย่างรวดเร็ว ใช้เวลาประชุมไม่ถึง 1 ชั่วโมง แล้วต่างก็ทำหน้าไร้อารมณ์ เก็บของกลับบ้าน
    ร้อนถึงนายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซึ่งข่าวว่า บินด่วนมาบรัสเซล มาคุยต่อกับพวก บิกกี้ของ อียู และคุณนายหน้าเค็มของไอเอมเอฟ ต่ออีก 7 ชั่วโมง แล้วก็กลับไปตอนดึก โดยไม่ให้ข่าว ทั้งหมดนี้ ผมอ่านจากทวิต ของนักข่าวต่างประเทศ ที่ไปเกาะติดสถานการณ์
    แปลว่าอะไรครับ แปลว่า ทั้ง 2 ฝ่ายยังกำไต๋ ไม่แผลมให้อีกฝ่ายรู้ ดูผ่านๆ เหมือนกรีซ กำลังเป็นฝ่ายอาการหนัก แต่สำหรับผม ผมว่า อียูหนักกว่า สำหรับกรีซ เหมือนคนใกล้ตาย หรือตายไปแล้ว จะมีอะไรแย่ไปกว่านี้ได้อีกมาก ถึงมีชิวิตที่เป็นอยู่ก็เลวสุดอยู่แล้ว แต่สำหรับ อียู ยังไม่เคยใกล้ตาย เจียนตาย คราวนี้อาจจะได้รู้จัก
    สมมุติว่า ถ้ากรีซตัดสินใจไม่รับเงินกู้อีกต่อไป หนี้ที่ค้างกันอยู่ ก็ค่อยว่ากัน นี่ไม่ใช่การเบี้ยวหนี้ แต่เป็นการแสดงความไม่ต้องการเป็นหนี้เพิ่ม เอาแค่นี้ จะเรียกเป็นประเทศล้มละลาย หรืออะไรก็แล้วแต่ ความสะเทือนในระบบการเงินในยุโรป ก็น่าจะเกิน 6 ริกเตอร์แล้ว เพราะมันหมายถึง deposits run เงินฝากไหลออกจะเกิดขึ้นแบบของจริง ระบบแบงค์ในกรีซ ไปก่อน หลังจากนั้นก็ลามไปนอกกรีซ ก็ขึ้นกับธนาคารกลางของอียู จะเอาอยู่ไหม สมาชิกอียู ใครจะเป็นผู้กล้าหาญ ถมเงินมาให้ธนาคารกลาง คงเกี่ยงกันอยู่นาน เพราะทั้งเค็ม ทั้งคม กันทั้งนั้น คมเฉือนคม กว่าจะตกลงกันได้ ระหว่างนั้น เลือดยุโรปก็ไหลโกรก
    สมมุติไปอีกทางหนึ่ง ถึงคุณน้องยานิส จะทำหน้าขรึมว่า เจ้าหนี้ต้องตกลงเรื่องปรับโครงสร้างหนี้ก่อน แต่ นายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ประกาศว่า เรายอมให้โซ่รัดคอเราแน่นอีกหน่อย เกี่ยวกับเรื่องเงินบำนาญ ยืดอายุคนรับบำนาญไป อีก 2 ปี ทนไหวน่าลุงและจำนวนที่ต้องจ่ายบำนาญก็จะลดลง
    มี ข่าวว่า เจ้าหนี้ ต้องการรัดคออีกหลายเปลาะ เช่นเรื่อง ขยายฐานเก็บภาษี ไปถึง เรื่อง การซื้อยาและขึ้นอัตรา vat ร้านอาหารและที่พักโรงแรม สำหรับกรีซ ที่เป็นเมืองขายการท่องเที่ยว ขึ้นภาษี 2 รายการนี่ ก็ เปลี่ยนร้านอาหาร เป็นป่าช้า อาจได้ลูกค้ามากกว่า
    ข่าวนี้ทำให้เกิดเสียงแตกในพรรค Syriza เอง พวกเข้มบอกไม่ได้นะ นายกฯ ไปตกลงเองไม่ได้ ต้องเอามาเข้าสภาก่อน และรับรองเลย มติแบบนี้ ไม่ผ่านสภาแน่
    ถ้าเป็นข้อสมมุติตามนี้ ความสะเทือน อาจจะไม่เกิน 4 ริกเตอร์ ในตอนแรก ระหว่างรอเข้าสภา และไม่ว่าสภาจะลงมติอะไร การถอนเงินฝาก ก็จะเกิดขึ้น เหมือนกรณีแรก และความสะเทือนก็จะค่อยๆเพิ่มริกเตอร์ขึ้น ไม่ต่างกว่ากรณีแรก เพียงแต่ใช้เวลานานกว่า
    เห็นไหมครับ ไม่ว่ากรีซจะเล่นบทไหน ก็เกิดผลกระทบกับอียูทั้งสิ้น เพราะมันเป็นการจัดการที่ผิดของอียูเองตั้งแต่ต้น ผลมาจากเหตุ เมื่อมีการเอาเงินก้อนใหญ่ที่ควรใส่ไปที่กรีซ แต่ไปไม่ถึงกรีซ ไปถึงเจ้าหนี้อื่นแทน ถึงเวลากรีซจะเอาเงินที่ไหนมาใช้ ก็ต้องเบิกเงินกู้ต่อไปเรื่อยๆ อาการของกรีซก็หนักไปเรื่อยๆ จากเงื่อนไข ที่รัดคอ ผูกมือผูกตีน ไม่ให้กระดิก ไม่ต้องจบปริญญาเอกทางเศรษฐศาสตร์จากอังกฤษ ก็พอรู้ว่า ไปต่อสภาพนี้จะเป็นอย่างไร ยิ่งจบมาอย่างคุณน้องยานิส ถึงได้พูดเหมือนท่องมนตร์ว่า ต้องปรับปรุงโครงสร้างหนี้ คือ ลดหนี้ ผ่อนผันเงื่อนไข เพื่อให้กรีซมีโอกาสต้ังหลัก และยืดอายุการชำระออกไปอีก หรือ มีเงินใหม่จากที่อื่น มาล้างหนี้ DOA และเริ่มต้นกระบวนการฟื้นชีวิตชาวกรีซกันใหม่
    จะมีไหมครับ เงินใหม่ จะมาจากไหน
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    27 มิ.ย. 2558
    ตัดโซ่หรือตายซาก ตอนที่ 3 – 4 นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” ตัดโซ่ หรือ ตายซาก” ตอน 3 แล้วโซ่คล้องคอชาวกรีซล่ะ หน้าตาเป็นอย่างไร สมันน้อยน่าจะรู้จักนะ เพราะเคยต้องใช้อยู่ช่วงนึง แต่อาจจะขนาดเล็กกว่า สั้นกว่า บางคนอาจโตไม่ทัน หรือโตแล้ว แต่ไม่รู้เรื่อง ก็ทำความรู้จักไว้หน่อยก็ดี เผื่อเหตุการณ์เก่า มันจะกลับมาเยี่ยม จะได้รู้จัก รู้ขนาดโซ่ว่า รับไหวไหม ยิ่งมีข่าวกระฉ่อนว่า หนุ่มหน้าใส อดีตผู้เชี่ยวชาญของธนาคารโลก พวกเสือหิวด้วยกัน กำลังเป็นตัวเต็ง จะมาเป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย คนใหม่ แทนคนปัจจุบัน ที่กำลังจะหมดวาระในเดือนสิงหาคมนี้ เผื่อแกยังรสนิยมเดิมๆ ปี ค.ศ.2010 เสือหิว Troika บอกเราจัดหาเงินให้กรีซได้จำนวน ประมาณบรรทุกรถสิบล้อ 340 คัน ตีว่า บรรทุกได้ คันละ 1 พันล้านยูโร ใครไม่ตกเลข ก็คำนวณเองนะครับ ว่าเป็นเงินเท่าไหร่ ดอกแค่ร้อยละ 5 ถูกจะตาย เงื่อนไขไม่มีอะไรมากมาย ใช้แบบเงื่อนตายเหมือนผูกตราสังข์ ตามแบบฟอร์มของ IMF ที่เรียกว่า SAP หรือ Structural Adjustment Policy ส่วนคนกู้ เรียกสัญญาแบบนี้ว่า แบบ DOA หรือ Dead on Arrival เป็นศพตั้งแต่มาถึงแล้ว คือ ตาย(ห่า) ตั้งแต่กู้ สัญญาแบบนี้ใช้มากว่า 35 ปีแล้วในประเทศแถบละติน อาฟริกา ยุโรปตะวันออกที่เคยเป็นสมาชิกของสหภาพโซเวียต และเอเซีย ตัวอย่างของผู้ที่ใช้สัญญานี้ และเป็นที่รู้จักกันดี ถูกนำมายกเป็นกรณีศึกษาจนแทบจะท่องกันได้คือ ประเทศอาร์เจนตินา สัญญาแบบ DOA เป็นอย่างไร ก็แค่ตัดงบใช้จ่ายในบ้านเมืองจนเหี้ยน ซึ่งรวมไปถึงการลดสวัสดิการทาง สังคม การรักษาพยาบาล เบี้ยบำนาญ ลดการจ่ายค่าแรงค่าจ้าง แต่เน้นให้เพิ่มงาน เพิ่มการลงทุน เพิ่มการส่งออก เพิ่มการแข่งขันทางการค้า เพิ่มภาษี และต้องแปรรูปรัฐวิสาหกิจ คือให้รัฐนำออกมาขายเพื่อเอามาใช้หนี้ และลดค่าเงินของประเทศผู้กู้ แต่เนื่องจากกรีซใช้ยูโร ขืนบังคับใช้ข้อนี้ก็ฉิบหายกันหมด เพราะฉนั้น ข้อนี้ เลยกลายเป็นไปเพิ่มการลดค่าใช้จ่ายในประเทศลงแยะๆ แทน ผมก็งงนะ ไม่รู้มันเอาส่วนไหนคิด ลดค่าแรง ลดการจ้างงาน แต่ให้เพิ่มงาน เพิ่มการลงทุน แปลว่า ชาวกรีซ นอนผึ่งพุงอยู่กับบ้าน เพราะไม่มีงานทำ ทำไปก็ไม่มีได้ค่าจ้าง เพราะเขาสั่งให้ลด แล้ว”ใคร” มาเพิ่มงาน “ใคร” มาลงทุน ” ใคร” มาซื้อรัฐวิสาหกิจ ที่ไอ้เสือหิวสั่งให้ขาย พอนึกออกนะครับว่า ในที่สุดแล้ว “ใคร” จะเป็นเจ้าของเกาะกรีซอันสวยงาม เสือหิว Troika บอกว่า มาตรการนี้ คงใช้ไม่นาน ไม่เกิน 2 ปี กรีซก็คงฟื้นตัว แต่มันตรงกันข้าม นอกจากไม่ฟื้นแล้ว กรีซยิ่งทรุดหนัก ชาวกรีซออกมาประท้วง สื่อกรีซเริ่มออกข่าวด่าไอ้เสือหิว อียู และ IMF บอกว่า ที่ไม่ดีขึ้น เพราะกรีซไม่ยอมปฏิบัติตามเงื่อนไข ไม่ยอมลำบาก ยังอยากสบายด้วยเงินของคนอื่น อันนี้เจ็บมาก ชาวกรีซบอกว่า นี่เป็นการบิดเบือนความจริงที่เลวร้าย รัฐบาลกรีซเดินตามเงื่อนไข DOA อย่างเคร่งครัด งบค่าจ้างตัดทิ้งเป็นพันๆล้านยู โร การรักษาพยาบาลของกรีซ ลดไปถึง 50% ไม่ใช่ชาวกรีซ แข็งแรง ไม่เจ็บ ไม่ป่วย แต่พวกเขาไม่มีเงิน ไปหาหมอ ไปโรงพยาบาลต่างหาก การศึกษาก็เช่นกัน ลดลงไปมากมาย ธุรกิจขนาดเล็กปิดตัวเกือบหมด และอัตราคนว่างงานในปี 2011 ก็ขึ้นพรวด และรายรับของภาษี ก็ลดลงอย่างมากเช่นเดียวกัน มัน DOA จริงๆ เสือหิว Troika ยังปากแข็ง ไม่ยอมรับความผิดพลาดในการจ่ายยาของตัวให้แก่คนป่วยชื่อก รีซ จะไปรับได้อย่างไร เขาให้ยาถูกแล้ว เขาตั้งใจให้ยา DOA นี้กับกรีซ กรีซต่างหากเล่า ที่ทำผิดพลาดซ้ำซาก ยอมกินยานี้ (ซ้ำซาก) เอง กรีซนึกว่า กินยานี้ครั้งเดียวแล้วทุกอย่าง จะดีขึ้นตามที่ IMF บอก แต่ในที่สุด กรีซก็ต้องขอรับยางวดสอง ในปี 2012 เอะ งวดแรก กินเข้าไปก็ตายแล้ว งวดสองกินแล้วจะเป็นอย่างไร ก็ตายซากละสิครับ เงื่อนไขงวดสอง เพิ่มชัดเจนว่า ต้องลดการจ้างงานภาครัฐลงไป 150,000 คน ภายในสิ้นปี 2015 และขายรัฐวิสาหกิจแบบเทกระจาด เรื่องนี้ทำให้มีป้ายขึ้นกลางเมืองใหญ่ของกรีซว่า “A Nation for Sale” มีประเทศขาย ไม่ใช่ขายแค่บ้าน ขายประเทศ ภาวนาอย่าให้มีป้ายแบบนี้ขึ้นในแดนสยามของเราก็แล้วกัน ทรัพย์สินที่กรีซขายไป ที่สำคัญ เช่น ท่าเรือ Piraeus ท่าเรือ Thessaloniki ซึ่งเป็นท่าเรือใหญ่ และมีคุณค่า ทั้งทางประวัติศาสตร์ และ เศรษฐกิจ (บางข้อมูลบอกท่าเรือ ทั้ง 2 ยังเจรจากันอยู่ ยังไม่ได้ขายออกไป) บริษัทเทเลคอม OTE สลากกินแบ่งกรีซ ที่ดินหลายแปลง ที่อยู่ในถิ่นดีที่สุดของประเทศ prime area และ postal bank การขายทรัพย์สินของประเทศครั้งใหญ่นี้ ทำให้พรรค Syriza ซึ่งประกาศคัดค้านขายรัฐวิสาหกิจ และการขายทรัพย์สิน ซึ่งได้คะแนนเสียงเพียง 4.6 % ในปี 2009 กระโดดมาเป็น 26.89% ในปี 2012 และได้เป็นรัฐบาลในปี 2015 ระหว่าง ที่เสือหิว Troika ให้กรีซกินยา DOA งวดสอง อัตราคนว่างงานก็เพิ่มเป็น 22% และกำลังจะเป็น 25% ในไม่ช้า ชาวกรีซที่มีการศึกษาดี และยังอายุน้อย ต่างพากัน ทิ้งประเทศของตน ไปหางานทำที่เยอรมัน ที่เศรษฐกิจกำลังรุ่ง มันเป็นการประชดชีวิตชาวกรีซอย่างน่าเศร้า โลกนี้มันไม่สวยทั้งหมดอย่างที่เราคิด และที่กรีซ ก็คงจะเหลือแต่คนแก่ คนรายได้ต่ำ คนการศึกษาไม่สูง และชาวต่างชาติที่หนีระเบิดรายวันมาแย่งกันกิน ############## “ตัดโซ่ หรือ ตายซาก” ตอน 4 นักวิเคราะห์เศรษฐศาสตร์การเมือง บอกว่า กรีซมาถึงจุดวิกฤตินี้ จากการที่มีนักการเมือง หรือรัฐบาลสายตาสั้น มองไม่ได้ไกล ขี้โกง เห็นแก่ประโยชน์พรรคและพวก ทำให้กรีซตกเป็นเหยื่อของระบบ ที่สร้างขี้นมา เพื่อทำให้ประเทศที่อ่อนแอจากปัจจัย ต่างๆ อย่างกรีซ ไม่คิดพึ่งตัวเอง ไม่คิดเปลี่ยนแปลง ไม่คิดปฏิรูป ไม่รู้จักเรียนรู้ เพื่อแก้ไข มักง่าย และในที่สุดก็จะหมดตัว หมดประเทศ หรือ เหลือแต่ซาก ส่วนนักวิเคราะห์การเงินบอกว่า อย่าเอะอะไป เรื่องหนี้กรีซ ไม่ใช่เรื่องของหนี้กรีซ เอะ พูดยังไง เราพูดเรื่องเดียวกันหรือเปล่า ครับ นักการเงินบอก ไม่มีใครเขาสนใจประเทศกรีซ ที่เล็กกระจิดริด ถึงจะสวยงามก็เถอะ กรีซจะมีเงินใช้หนี้ไหม กรีซจะอยู่ หรือจะไปจากอียู เขาไม่ได้สนใจ แต่ที่เป็นข่าวกันถี่ ไม่ใช่เรื่องอะไรหรอก พวกเขากลัวมันกระทบกับระบบธนาคาร กลัวนายทุนจะเจ๊ง ไม่ได้กลัวชาวกรีซจะอดตาย ไม่ได้กลัวรัฐบาลกรีซ จะล่ม เข้าใจไหมครับ แต่สื่อใหญ่รุ่นเก๋า Dennis Gartman บอกว่า…. กรีซยังอยู่ในอียู เพราะเยอรมันต้องการอย่างนั้น เยอรมันยังไม่อยากเฉดกรีซออกไป เยอรมันต้องการให้ค่าเงินยูโรอ่อน ยูโรอ่อนดีสำหรับการส่งออก คนซื้อจะได้นึกว่าตัวซื้อของได้ถูก เยอรมันเป็นประเทศขายของ ที่ ยามนี้กำลังต้องการขายอย่างยิ่ง ใครขายได้ ต้องรีบขาย Bayer, Thyssenkrupp, Daimler เจ้าพ่อธุรกิจการค้าเยอรมัน ต้องการให้กรีซ ยังอยู่ในอียูทั้งนั้น … …..ถ้า ผมเป็นนายกรัฐมนตรีกรีซ ผมคงไม่วิ่งเจรจาให้เหนื่อย ผมคงปล่อยให้กรีซผิดนัดหนี้นานมาแล้ว และกลับไปใช้เงินสกุลของกรีซ และผมก็ลดค่าของกรีซ อุตสาหกรรมทอผ้าของกรีซก็จะกลายเป็นสินค้า ที่ใครๆต้องการเพราะราคาถูกลง กิจการท่องเที่ยวของกรีซ ก็กลับมาฟื้น เพราะใครๆ ก็อยากกลับมาอยู่เกาะสวย ในราคาไม่แพง กิจการเดินเรือของกรีซก็กลับมารุ่งใหม่ ทำไมผมต้องง้อเยอรมันอยู่ข้างเดียว ผมจะบอกกับพวกเจ้าหนี้โหดๆ ว่าเชิญเลย เชิญเอาตูดผมไปเลย อยากทำอะไรก็ทำ แล้วผมก็ออกจากอียู ก็แค่นั้น… ความคิดอย่างนาย Gartman ชาวกรีซเกือบทุกคน คงอยากทำอย่างนั้น คิดได้ แต่ไม่รู้ทำได้จริงไหม กรีซมีหนี้ก้อนใหญ่หมึมา เบี้ยวหนี้ก้อนหนี้ ก็กลายเป็นประเทศล้มละลาย คนล้มละลาย จะไปค้าขายกับใครได้ ขายของได้เงินมา เจ้าหนี้ก็คอยมาคว้าไป แต่ไม่ใช่ว่า เรื่องแบบนี้ เล่นไม่ได้เอาเลย อาร์เจนตินา เคยตัดโซ่ แหกคอกออกมา ยอมอด แต่ก็หืดขึ้นคอ กว่าจะยืนตรงได้เหมือนเดิม พรรค Syriza คงไม่คิดให้ชาวกรีซอยู่ในเหว และมีโซ่คล้องคอตลอดไป แต่จะเลือกทำด้วยวิธีไหน และเมื่อไหร่ เท่านั้น การตัดสินใจของ Syriza ในช่วงไม่กี่วันนี้ คงต้องตามดูกันทุกยก เพราะมันสามารถ สร้างระดับความสะเทือน เหมือนแผ่นดินไหวในยุโรปได้ ตั้งแต่ 4 ริกเตอร์ ไปจนถึงระดับ 9 ริกเตอร์ และอาจจะตามมา ด้วยอาฟเตอร์ขนาดไหน ถึงไหน และนานเท่าไหร่ และจะต่อด้วยซึนามิหรือไม่ พวกแมงเม่า อย่ามัวแต่เหม่อดูแต่จอบ้านตัวเอง เดี๋ยวปีกจะไหม้ร่วงหลุดเป็นแถวๆ ล่าสุดขณะที่ผมกำลังเขียนนิทาน ( 25 มิย.) ข่าวว่า คุณน้องยานิส รัฐมนตรีคลัง ยืนกรานว่า ต้องมีการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ใหม่ ฝ่ายเจ้าหนี้บอก เราไม่มีความคิดเช่นนั้น ถ้ากรีซไม่มีอะไรใหม่มาเสนอ เช่นจะรัดคอหอยเข้าไปอีกกี่นิ้ว หรือจะมีวิธีชำระหนี้อย่างไร เราก็ไม่มีอะไรพูด แล้วการประชุมระหว่าง รัฐมนตรีคลังของกรีซกับฝ่ายอี ยู 18 คน ที่ สนง อียู กรุงบรัสเซล เมื่อเย็นวันที่ 24 มิย. ก็จบลงอย่างรวดเร็ว ใช้เวลาประชุมไม่ถึง 1 ชั่วโมง แล้วต่างก็ทำหน้าไร้อารมณ์ เก็บของกลับบ้าน ร้อนถึงนายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซึ่งข่าวว่า บินด่วนมาบรัสเซล มาคุยต่อกับพวก บิกกี้ของ อียู และคุณนายหน้าเค็มของไอเอมเอฟ ต่ออีก 7 ชั่วโมง แล้วก็กลับไปตอนดึก โดยไม่ให้ข่าว ทั้งหมดนี้ ผมอ่านจากทวิต ของนักข่าวต่างประเทศ ที่ไปเกาะติดสถานการณ์ แปลว่าอะไรครับ แปลว่า ทั้ง 2 ฝ่ายยังกำไต๋ ไม่แผลมให้อีกฝ่ายรู้ ดูผ่านๆ เหมือนกรีซ กำลังเป็นฝ่ายอาการหนัก แต่สำหรับผม ผมว่า อียูหนักกว่า สำหรับกรีซ เหมือนคนใกล้ตาย หรือตายไปแล้ว จะมีอะไรแย่ไปกว่านี้ได้อีกมาก ถึงมีชิวิตที่เป็นอยู่ก็เลวสุดอยู่แล้ว แต่สำหรับ อียู ยังไม่เคยใกล้ตาย เจียนตาย คราวนี้อาจจะได้รู้จัก สมมุติว่า ถ้ากรีซตัดสินใจไม่รับเงินกู้อีกต่อไป หนี้ที่ค้างกันอยู่ ก็ค่อยว่ากัน นี่ไม่ใช่การเบี้ยวหนี้ แต่เป็นการแสดงความไม่ต้องการเป็นหนี้เพิ่ม เอาแค่นี้ จะเรียกเป็นประเทศล้มละลาย หรืออะไรก็แล้วแต่ ความสะเทือนในระบบการเงินในยุโรป ก็น่าจะเกิน 6 ริกเตอร์แล้ว เพราะมันหมายถึง deposits run เงินฝากไหลออกจะเกิดขึ้นแบบของจริง ระบบแบงค์ในกรีซ ไปก่อน หลังจากนั้นก็ลามไปนอกกรีซ ก็ขึ้นกับธนาคารกลางของอียู จะเอาอยู่ไหม สมาชิกอียู ใครจะเป็นผู้กล้าหาญ ถมเงินมาให้ธนาคารกลาง คงเกี่ยงกันอยู่นาน เพราะทั้งเค็ม ทั้งคม กันทั้งนั้น คมเฉือนคม กว่าจะตกลงกันได้ ระหว่างนั้น เลือดยุโรปก็ไหลโกรก สมมุติไปอีกทางหนึ่ง ถึงคุณน้องยานิส จะทำหน้าขรึมว่า เจ้าหนี้ต้องตกลงเรื่องปรับโครงสร้างหนี้ก่อน แต่ นายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ประกาศว่า เรายอมให้โซ่รัดคอเราแน่นอีกหน่อย เกี่ยวกับเรื่องเงินบำนาญ ยืดอายุคนรับบำนาญไป อีก 2 ปี ทนไหวน่าลุงและจำนวนที่ต้องจ่ายบำนาญก็จะลดลง มี ข่าวว่า เจ้าหนี้ ต้องการรัดคออีกหลายเปลาะ เช่นเรื่อง ขยายฐานเก็บภาษี ไปถึง เรื่อง การซื้อยาและขึ้นอัตรา vat ร้านอาหารและที่พักโรงแรม สำหรับกรีซ ที่เป็นเมืองขายการท่องเที่ยว ขึ้นภาษี 2 รายการนี่ ก็ เปลี่ยนร้านอาหาร เป็นป่าช้า อาจได้ลูกค้ามากกว่า ข่าวนี้ทำให้เกิดเสียงแตกในพรรค Syriza เอง พวกเข้มบอกไม่ได้นะ นายกฯ ไปตกลงเองไม่ได้ ต้องเอามาเข้าสภาก่อน และรับรองเลย มติแบบนี้ ไม่ผ่านสภาแน่ ถ้าเป็นข้อสมมุติตามนี้ ความสะเทือน อาจจะไม่เกิน 4 ริกเตอร์ ในตอนแรก ระหว่างรอเข้าสภา และไม่ว่าสภาจะลงมติอะไร การถอนเงินฝาก ก็จะเกิดขึ้น เหมือนกรณีแรก และความสะเทือนก็จะค่อยๆเพิ่มริกเตอร์ขึ้น ไม่ต่างกว่ากรณีแรก เพียงแต่ใช้เวลานานกว่า เห็นไหมครับ ไม่ว่ากรีซจะเล่นบทไหน ก็เกิดผลกระทบกับอียูทั้งสิ้น เพราะมันเป็นการจัดการที่ผิดของอียูเองตั้งแต่ต้น ผลมาจากเหตุ เมื่อมีการเอาเงินก้อนใหญ่ที่ควรใส่ไปที่กรีซ แต่ไปไม่ถึงกรีซ ไปถึงเจ้าหนี้อื่นแทน ถึงเวลากรีซจะเอาเงินที่ไหนมาใช้ ก็ต้องเบิกเงินกู้ต่อไปเรื่อยๆ อาการของกรีซก็หนักไปเรื่อยๆ จากเงื่อนไข ที่รัดคอ ผูกมือผูกตีน ไม่ให้กระดิก ไม่ต้องจบปริญญาเอกทางเศรษฐศาสตร์จากอังกฤษ ก็พอรู้ว่า ไปต่อสภาพนี้จะเป็นอย่างไร ยิ่งจบมาอย่างคุณน้องยานิส ถึงได้พูดเหมือนท่องมนตร์ว่า ต้องปรับปรุงโครงสร้างหนี้ คือ ลดหนี้ ผ่อนผันเงื่อนไข เพื่อให้กรีซมีโอกาสต้ังหลัก และยืดอายุการชำระออกไปอีก หรือ มีเงินใหม่จากที่อื่น มาล้างหนี้ DOA และเริ่มต้นกระบวนการฟื้นชีวิตชาวกรีซกันใหม่ จะมีไหมครับ เงินใหม่ จะมาจากไหน สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 27 มิ.ย. 2558
    0 Comments 0 Shares 210 Views 0 Reviews
  • ตัดโซ่หรือตายซาก ตอนที่ 1 – 2

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” ตัดโซ่ หรือ ตายซาก”
    ตอน 1
    เรื่องหนี้ของกรีซยก 2 นี่ ถ้าเป็นหนังก็ออกรสตื่นเต้น ประเภท เกทับบลั้ฟแหลก คมเฉือนคม อะไรทำนองนั้น เพราะมันจะมีการพลิกเกมกันอยู่ตลอดเวลา ต่างฝ่ายก็เอามือล้วงกระเป๋า เหมือนมีของดีแอบอยู่ จะงัดเอาออกมาใช้เมื่อไหร่เท่า นั้น แต่จริงๆแล้ว ของดีมีจริง หรือมีปลอม ยังไม่มีใครรู้แน่ ระหว่างนั้น ก็ทำหน้าขรึม หน้าเครียดเจรจากัน สื่อก็รายงานของจริงแถมใบสั่ง เป็นโอกาสล่อให้แมงเม่าเข้าไปเล่นกองไฟ มีคนฉิบหายตายเพราะหนี้ท่วมประเทศยังไม่พอ ต้องหาแมงเม่าเข้ามาสังเวยด้วย มันถึงจะได้อารมณ์ สร้างกำไร จากความหายนะ ความคิดแบบนี้ มีทุกสัญชาติแหละครับ มากน้อย ตามสันดาน และตัณหา
    พระเอกที่จะเล่นเกมเกทับ ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นรัฐบาลชุดปัจจุบันนี้ของกรีซ ที่มาจากพรรค Syriza ซึ่งเป็นพวกที่เอนไปทางสังคมนิยม ก่อต้ังเมื่อปี ค.ศ. 2004 จากการรวมตัวของกลุ่มฝ่ายซ้ายต่างๆ ประมาณ 10 กว่ากลุ่ม Syriza เคยมีชื่อเสียงว่า เป็นพวก anti establishment เป็นพวกไม่เอาทุนนิยมว่างั้นเถอะ แม้ตอนหลังพวกเขาจะไม่เน้นเรื่อ งนี้ แต่เมื่อ Syriza ชนะเลือกตั้ง เมื่อต้นปี 2015 แน่นอน ทำให้อียูเริ่มขมวดคิ้ว เพราะดูเหมือน Syriza จะมาทำให้ชาวกรีซร้องคนเพลงกับอียู ยิ่งหัวหน้าพรรคที่ชื่อ Alexis Tsipras ประกาศชัดเจนว่า “euro is not my fetish” เงินยูโรมันก็ไม่ได้วิเศษอะไรนักหนา คำประกาศเขาให้รสชาดแบบนั้นนะครับ
    ในการเลือกต้ังดังกล่าว Syriza ขาดไปแค่ 2 คะแนน ที่จะเป็นเสียงข้างมาก พวกเขาเลยต้องผสมกับพรรคอื่นตั้ง รัฐบาล แต่ยังไงก็ได้นาย Alexis Tsipras เป็นนายกรัฐมนตรีหนุ่มแน่น อายุแค่ 40 และมีนาย Yanis Varoufakis เป็นรัฐมนตรีคลัง ที่จะมาช่วยหาวิธีถอดโซ่ ที่พวกเจ้าหนี้กรีซ เอามาคล้องคอชาวกรีซออกไป หรือทำให้โซ่คล้องคอมันหลวมหน่อย ไม่ใช่รัดติ้ว ท้องกิ่ว หายใจจะไม่ออก ไม่มีจะกินกันทั้งประเทศอย่างนี้
    นาย Alexis Tsipras เป็นลูกชาวกรีซ ที่อพยพมาจากตุรกี ตามโครงการแลกเปลี่ยนประชาชน ระหว่าง 2 ประเทศ เขาเป็นคนชอบเล่นกีฬา และทำกิจกรรมมาต้ังแต่เป็นเด็กนักเรียน หลังจากนั้นก็เริ่มเป็นนักเคลื่อนไหวไฟแรง แหม เหมือนกับจะเขียนเรื่องเจ้ายะใส หนุ่มหน้ามนของสาวๆแดนสยามเลยนะ แต่ยะใส คงต้องติวใหม่อีกแยะนะ เอาเรื่องนายอเล็กซิส ต่อแล้วกัน เขาเรียนจบด้านวิศวกรรมจากวิทยาลัยเทคนิคของกรีซ ระหว่างเรียน ก็เริ่มเข้ากลุ่มการเมืองฝ่ายซ้ายของกรีซ และได้เป็นหัวหน้านักศึกษาทางกิจกรรมการเมือง ก็คงเหมือน สนนท. ของบ้านเรานะครับ หลังจากนั้น ก็เข้าการเมืองท้องถิ่นเต็มตัว ก่อนลงสนามใหญ่
    เมื่อบรรดาพรรคฝ่ายซ้าย จับมือรวมกันเป็นพรรค Syriza นายอเล็กซิส ก็ไปเข้าร่วม แล้วในที่สุด ในปี คศ 2009 หนุ่มอเล็กซิส อายุ 30 กว่า ก็ได้เป็นหัวหน้าพรรค Syriza เป็นดาวรุ่งพุ่งแรง จะมีใครอุ้ม ใครดันหรือเปล่า ข่าวไม่บอก แล้วเขาก็พา Syriza เข้าลงเลือกต้ังในสนามใหญ่ ต้ังแต่ปี 2012 แม้ไม่ได้เป็นรัฐบาล แต่ก็ได้เข้าอยู่ในสภา ในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายค้าน ไม่เบาเหมือนกันสำหรับ หนุ่มวัย 30 กว่า
    เมื่อ สภากรีซล่มในปี ค.ศ. 2014 และประกาศจะมีการเลือกต้ังใหม่ ในเดือนมกราคม ปี ค.ศ.2015 อเล็กซิส ระดมพลพรรค ประกาศลงเลือกต้ัง และประกาศ Thessaloniki Programme ในเดือนสิงหาคม ปี 2014 ซึ่งเป็นนโยบายที่เสนอให้มีการปรับปรุงโครงสร้างทางเศรษฐกิจ และการเมืองของกรีซเสียใหม่ นอกจากนี้ ยังประกาศใช้นโยบายการหาเสียงว่า พรรค Syriza ต้ังใจจะเข้าไปแก้ไขเงื่อนไขมหาโหด ในสัญญาเงินกู้ ที่บรรดาเจ้าหนี้ต่างประเทศกำหนดไว้ เหมือนเอาโซ่มาคล้องคอชาวกรีซและทำให้ชีวิตชาวกรีซสุดแสนจะลำเค็ญ
    ในส่วนนโยบายต่างประเทศ ระหว่างการหาเสียง อเล็กซิส แสดงความไม่พอใจอย่างเผ็ดร้อน กับการตัดสินใจหลายเรื่องของยุโรป ที่คัดท้ายโดยรัฐบาลเยอรมัน ภายใต้การนำของป้าเข็มขัดเหล็ก แน่นอน มันเป็นการฝาก “รอย” ให้ไว้กับป้าเข็มขัดเหล็ก ที่ทำให้การเจรจาต่อมาระหว่างอเล็กซิส ในฐานะนายกรัฐมนตรีกรีซ กับป้าเข็มขัดเหล็ก เกี่ยวกับเรื่องหนี้ของกรีซ ฝืดสิ้นดี
    เหมือนจะให้ผู้คนแน่ใจว่าเขาคิดอย่างไร เมื่อได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี งานแรกที่ Alexis Tsipras ทำ คือ เขานำดอกกุหลาบแดงช่อใหญ่ ไปวางแสดงความเคารพที่อนุสรณ์สถานของชาวกรีซ 200 คน ที่เสียชีวิตจากการฆ่าของเยอรมัน เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ค.ศ.1944 ….ช่างเล่นนะไอ้หนุ่ม
    งานเดินสายต่างประเทศ รายการแรกของนายกรัฐมนตรีหนุ่ม คือ ไปพบนายกรัฐมนตรี Matteo Renzi ที่โรม เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ค.ศ.2015 จับเข่าคุยในฐานะ คนเป็นลูกหนี้ ที่มีโซ่คล้องคอเหมือนกัน คุยกันเสร็จ นาย Renzi ก็มอบเนคไทไหมอิตาเลียน ให้เป็นที่ระลึกแก่ นายอเล็กซิส ซึ่งมีชื่อเสียงว่า ไม่นิยมการผูกเนคไท เขารับไว้ แล้วบอกว่า เขาจะผูกเนคไทนี้ ในวันที่ชาวกรีซ ตัดโซ่คล้องคอสำเร็จ… อยากได้ยินคำพูดแบบนี้ ในแดนสยามบ้างครับ
    ส่วน นาย Yanis Varoufakis มาคนละทางกับอเล็กซิส
    ยานิส ไม่ได้เป็นนักการเมือง เขาออกไปทางนักวิชาการ เป็นนักเศรษฐศาสตร์ และเป็นอาจารย์สอนเศรษฐศาสตร์มีชื่อเสียง แต่ใช่ว่าเขาไม่สนใจการเมือง พ่อเขาร่วมรบในสงครามกลางเมืองกรีซ โดยอยู่ฝั่งคอมมิวนิสต์ แพ้สงครามก็ถูกจับไปนอนคุกอยู่หลายปี ออกจากคุกมาทำธุรกิจ กลายเป็นผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ที่สุดของกรีซ ส่วนแม่ก็เป็นพวกคอการเมือง ครอบครัวนี้ สนับสนุนกลุ่มไอร์แลนด์เหนือให้สู้กับอังกฤษ พวกเขานับ Belfast เมืองหลวงของไอร์แลนด์เหนือเป็นบ้านที่ 2
    สำหรับคนรุ่นหลังๆ คงไม่ค่อยรู้จักวีรกรรมของชาวไอริช ที่ต้องการแยกตัวจากอังกฤษ นอกจากรู้จากดูหนัง จริงๆ คนไอริช หรือขบวนการ IRA เป็นขบวนการ ที่ถูกอังกฤษและพวก รวมทั้งสื่อ เรียกว่า เป็นผู้ก่อการร้าย ทั้งๆ ที่พวกเขาคิดการดี ในช่วงประมาณปี ค.ศ.1970 เป็นต้นมา ขบวนการ IRA จะเป็นข่าวเกือบรายวัน ในการวางระเบิดใส่อังกฤษ ผู้คนบาดเจ็บล้มตายมาก ตึกรามบ้านช่องพังวินาศ
    ไม่มีการต่อสู้เพื่อเอกราชใด หรือปลดพันธนาการใดจะได้มาง่ายๆ มันต้องลงแรงลงใจลงชีวิตทั้งนั้น ชาวแดนสยาม สบายจนเคยตัว บางพวกทำตัว ยิ่งกว่าตามสบาย เห็นแต่ประโยชน์ส่วนตัว หาความสุข สนุกไปวันๆ ไม่สนใจประเทศ และเพื่อนร่วมชาติ จนน่ารังเกียจ น่าเสียดายครับ มีของดี ไม่รู้จักคุณค่า ไม่รู้จักรักษา ชอบอยู่แต่ใน “ครอบ” ไม่อยากใช้คำว่า “คอก” ปล่อยให้มัน ฟอกย้อม ต้มตุ๋นเอาจนชิน วันไหนไม่ถูกย้อม ไม่ถูกต้ม คงกินไม่ได้นอนไม่หลับ เฮ้อ! คุยเรื่อง นายยานิสต่อดีกว่า
    เมื่อพ่อรวย ก็ส่งลูกไปเรียนที่อังกฤษ ยานิส จึงเรียน พูด และด่าเป็นภาษาอังกฤษ ได้ชัด และคมคายเอาเรื่อง สรุปว่า เขาเรียนต้ังแต่ ปริญญาตรี จนจบปริญญาเอกจากอังกฤษแล้วกัน
    เรียนจบแล้ว ก็ไปสอนหนังสือ ที่หลายมหาวิทยาลัย หลายประเทศ แล้วยังเดินทางไปดูโลกกว้างในแง่มุมของเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากสร้างให้เกิด ที่ต้องมองกันอย่างลึกซึ้ง กลับมาก็เปิดบล๊อกของตัวเอง ให้ความรู้ ความเห็น สอนคนนอกมหาวิทยาลัยไปเรื่อยๆ ที่สำคัญ เขาบอกว่า เขาไม่เห็นด้วยกับการที่กรีซ ไปกู้เงินพวกเจ้าหนี้หน้าเลือดเหล่านั้น ไม่เห็นด้วยกับเงื่อนไขที่เจ้า หนี้ต้ัง ไม่เห็นด้วยๆๆๆ สาระพัด ไม่เห็นด้วย และบอกว่า ถ้ากรีซ ปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไป ชาวกรีก ก็คงแห้งตายซาก และเกาะกรีซอันสวยงาม ก็คงล่มจมหายไปในเมดิเตอร์เรเนียน อย่างน่าเสียดาย …
    เพราะเขียนในบล๊อกแบบนี้ จนดังระเบิด เมื่อ พรรค Syriza ได้เป็นรัฐบาล จึงส่งเทียบมาเชิญ ท่านพี่ยานิส ท่านอย่ามัวแต่นั่งเขียนให้คนอ่านเลย แบบนั้นมันง่าย ( เหมือนที่ลุงนิทานทำ แค่นั่งเขียนอยู่ในบ้าน) ท่านจงออกมาใช้ภูมิปัญญา ลงมือแก้ไขปัญหาบ้านเมืองอย่าง จริงจังกับเราเถิด นายยานิส ก็ไม่เล่นตัว ไม่เรื่องมาก แค่บอกว่า พูดกันให้รู้เรื่องก่อนนะ ถ้าเอาผมไปนั่งคลัง ผมจะใช้นโยบาย อย่างที่ผมเขียน คือ เราต้องตัดโซ่ของเจ้าหนี้ ที่เอามาคล้องคอชาวกรีซ ออกเสียนะ
    นายกรัฐมนตรีหนุ่มบอก นั่นแหล่ะพี่ เราพูดเรื่องเดียวกัน พี่เอาคีมเบอร์ใหญ่สุดมาเลยนะ มาช่วยพวกผมตัดโซ่ด่วนเลย แล้วยานิสก็ไปนั่งเป็นรัฐมนตรีคลังในรัฐบาล แต่ไม่สังกัดพรรค อืม…
    เป็นต้ัง พณฯ ท่านรัฐมนตรี เขาก็ส่งทั้งรถยนต์ คนขับ ผู้ติดตาม เครื่องยศ มาให้พร้อม ยานิส ก็ส่งคืนกลับไปหมด รถยนต์ ผมมีแล้วครับ เก่าหน่อย แต่ยังวิ่งได้ดีอยู่ วันไหนอากาศดี ผมก็ไม่ใช้รถ ขี่มอร์ไซด์ไปเร็ว และประหยัดกว่า มิน่า เลยติดใส่เสื้อหนัง ส่วนผู้ติดตาม ก็ไม่จำเป็นครับ ไม่รู้จะเอามาทำอะไร ถ้าประชาชนเขาไม่พอใจผม เอาไข่ปาผมไม่กี่ที ผมก็รู้หน้าที่ว่า ควรลาออกแล้วครับ ประเทศเราจนมากนะครับ ยังมีหนี้อีกแยะ จะใช้อะไร จะทำอะไร ก็ต้องเอาแต่จำเป็น รู้จักประหยัดบ้าง รับรอง ลุงนิทานไม่ได้เขียนเอง แดกใคร คุณน้องยานิส ให้สัมภาษณ์อย่างนี้จริงๆ
    ###############
    “ตัดโซ่ หรือ ตายซาก”

    ตอน 2
    ก่อนจะเดินหน้าไปตัดโซ่ มาทบทวนกันหน่อยว่า หนี้กรีซ นี่มันอะไรนักหนา แล้วเงื่อนไขเจ้าหนี้มันทารุณเหมือนเอาโซ่มาคล้องคอชาวกรีกจริงหรือเปล่า หรือพวกหนุ่มๆ เขาเลือดร้อน ฮอร์โมนพุ่งตามวัย เห็นอะไรขัดใจนิด ขัดใจหน่อย ก็คิดชนมันซะเลย
    บรรดาขาใหญ่นักวิเคราะห์การเมือง ไม่ใช่ พวกนักวิเคราะห์การเงิน ที่เอาไว้หลอกพวกแมงเม่า บอกว่า มันไม่ใช่เป็นเรื่องว่า กรีซ ประเทศเล็กๆ ที่อยู่ในสหภาพยุโรป จะผิดนัดชำระหนี้ไหม และจะพากันจูงมือ เดินออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป หรืออียู หรือเปล่า แต่เรื่องหนี้กรีซ อาจกลายเป็นซึนามิ ทางการเงิน เศรษฐกิจ และการเมืองของยุโรปได้อย่างนึกไม่ถึง และถ้าเข้าทาง …มันอาจจะไปไกลกว่านั้น....
    ปัญหาหนี้ของกรีซ เริ่มมาต้ังแต่ปี ค.ศ.2001 ก็ต้ังแต่ กรีซ เริ่มเปลี่ยนมาใช้เงินสกุลยูโร แทนเงินสกุลดรักมาร์ของตัวเองนั่นแหละ กรีซเป็นสมาชิกอียูโซนมาต้ังแต่ปี ค.ศ.1981 แต่กรีซมีงบประมาณขาดดุลยสูงเกินเกณท์ของอียู ที่เรียกว่า Maastricht Criteria อยู่ตลอดมา ถึงจะเกินเกณท์ แต่ ปีแรกๆ ก็ไม่มีปัญหา เพราะดูเหมือนหลายประเทศในอียู ก็เกินกันทั้งนั้น และกรีซ ก็ได้ประโยชน์จากการกู้ดอกถูก ในฐานะเป็นสมาชิกอียู และมีเงินลงทุนเข้ามาเพิ่ม
    นี่คือ ความผิดพลาดของกรีซ รายการแรก ที่มองการเข้าไปอยู่ในคอกอียู แต่ด้านบวก ด้านได้ โดยไม่มองด้านลบ หรือไม่คิดว่ามีด้านลบ
    ถึง ปี ค.ศ.2004 กรีซ หลุดปากบอกว่า ตัวเองแต่งตัวเลข เพื่อไม่ให้ผิดหลักเกณฑ์อียู แต่น่าประหลาด อียูทำเหมือนไม่ได้ยิน เกิดหูบอดกระทันหันเสียอย่างนั้น ไม่เตือน ไม่ด่า ไม่ทำโทษกรีซ เพราะอะไรหรือ เพราะ ใครๆก็ทำกัน โดยเฉพาะ ฝรั่งเศส และเยอรมัน ลูกพี่ใหญ่ของอียู ด่ากรีซ ก็เหมือนด่าตัวเองด้วย แล้วถ้าจะทำโทษ จะทำอะไรล่ะ ยังไม่มีกฏกติกา เรื่องนี้เลย ไล่กรีซออกจากอียูเลยดีไหม อียูน่าจะทำได้ แต่มันจะทำให้ภาพพจน์อียู หมดท่า เหมือนแก้ผ้าประจานตัวเอง แถมตอนนั้น สมาชิกอียูยังน้อยอยู่ อยากได้ไอ้พวกพี่เบิ้ม อย่างอังกฤษ ก็ยังยักท่า หรือ รวยๆ อย่างสวีเดน เดนมาร์ก ตอนนั้น ก็ยังทำหยิ่งไม่เข้ามา นี่ถ้ารู้ว่า กรีซ แต่งตัวเลข ใครจะมา มีแต่จะไป แล้วทุกฝ่ายก็ปิดปากเงียบ หลอกตัวเอง หลอกกันเอง และหลอกคนอื่นต่อไป นี่คือความผิดส่วนของอียู ที่ไม่ได้มีเพียงครั้งเดียว
    แต่พอถึงปี ค.ศ.2009 ฝีแตก กรีซปิดต่อไปอีกไม่ไหว เพราะเงินทำท่าจะหมดประเทศ จริงๆ ก็หมดแล้ว มีแต่เงินกู้เขามา อ้อมแอ้ม ออกมาว่า มีตัวเลขงบประมาณขาดดุลย ประมาณ 12.9 % ของ จีดีพี ( ผลิตภัณท์มวลรวมภายใน ) ซึ่งเป็นตัวเลขที่เกินกว่าเกณท์ที่ อียู กำหนดไว้ ที่ 3% พูดภาษาเข้าใจง่ายๆ แปลว่า มีจ่ายจ่ายมากกว่ารายรับอยู่แยะมาก จะทำไงดีครับลูกพี่ เป็นคนธรรมดา ก็ต้องบอกว่าอยู่ในสภาพ เป็นหนี้หัวโต นอนเอามือก่ายหน้าผากจนบุบ ก็ยังไม่เห็นทางแก้ปัญหา
    ลูกพี่ยังคิดไม่ออกว่าจะใช้แผน พิฆาตชุดไหน แต่ สามหมาไน บริษัท จัดอันดับ ratings agency Standard & Poor , Fitch และ Moody’s ได้กลิ่น รีบประกาศลดอันดับความน่าเชื่อ ถือของ กรีซลงอย่างรวดเร็ว เหลือเป็นระดับ junk bond หรือระดับขยะ คือ อยู่ในสภาพล้มละลาย พันธบัตรกรีซ มีค่าไม่ต่างกับกระดาษชำระ การประกาศของ 3 หมาไน ได้ผลอย่างดียิ่ง กลางปี 2010 กรีซก็ถูกตัดขาดจากเส้นทางกู้เงินในตลาดทุนของโลก เหลือแต่เส้นทางไปสู่การเป็นประเทศล้มละลายอย่างสมบูรณ์
    กรีซแทบไม่เหลือทางเลือก จะตายช้า หรือตายเร็วเท่านั้น แล้วอัศวิน ชื่อ Troika ก็โผล่มา Troika เป็นชื่อเรียก ของสามเสือหิว IMF, ECB (European Central Bank) และ European Commission เล่นบทลูกพี่ใจดี จับมือกันจัดการให้เงินกู้ ที่อ้างว่า เป็นการช่วยฉุดกรีซขึ้นมาจากเหว รอบแรก จำนวน 340 พันล้านยูโร
    เงินจำนวนนี้ ถือว่ามากมาย และน่าจะผิดหลักเกณท์ของ IMF เสียด้วยซ้ำ แต่ทำไมอัศวิน หรือ Trioka รีบจัดการให้ สงสารกรีซมากหรือไง อ้อ ไม่ใช่ มันเป็นพวกไอ้เสือหิว มองหาเหยื่อแบบนี้ มานานแล้วต่างหาก พอเข้าใจนะครับ
    เงินกู้ ฉุดจากเหว มาพร้อมกับโซ่เหล็กคล้องคอกรีซ เป็นเงื่อนไขที่อ้างว่า เพื่อสร้างวินัยในการใช้จ่ายของกรีซ ที่กรีซ ไม่มีโอกาสต่อรอง ต้องก้มหน้ารับอย่างเดียว แต่ที่น่าสนใจ เงินกู้แลกโซ่ ควรจะมาช่วยให้สถานะของกรีซในสายตาของตลาดทุนดีขึ้น ตรงกันข้าม เงินกู้ลอยผ่านหน้ารัฐบาลกรีซ ไปเข้ากระเป๋าธนาคารต่างประเทศ ที่ให้กรีซกู้ไปก่อนหน้านี้
    เงินกู้ฉุดจากเหว กลายเป็นการใช้หนี้ ฉุดธนาคารต่างประเทศ ขึ้นมาจากเหวก่อน ชาวกรีซยังคงอยู่ในเหวต่อไป แต่มีโซ่มาคล้องคอหนักรัดติ้ว นั่งท้องกิ่วอยู่ก้นเหว ตกลงอัศวิน Troika มาช่วยใคร นี่คือ การเสียค่าโง่ครั้งที่เท่าไหร่ของกรีซ
    แล้วธนาคารต่างประเทศไหนล่ะ ที่ได้รับการชำระหนี้ไปก่อน เปิดดูอากู ก็รู้ว่า ธนาคารในอียูเองเป็นเจ้าหนี้กรี ซ ทั้งนั้น และเจ้าหนี้รายใหญ่สุด คือ เยอรมัน รองมา คือ ฝรั่งเศส พอเข้าใจแล้วนะครับว่า ทำไมนายกรัฐมนตรี อเล็กซิส ถึงเอาดอกกุหลาบแดงไปวางที่อนุสรณ์สถาน
    ก่อนการให้เงินกู้ จำนวนมโหฬาร IMF หัวหน้าใหญ่ของกลุ่มเสือหิว ที่เป็นผู้นำการกำหนดเงื่อนไข ลายโซ่คล้องคอชาวกรีซ บอกว่าการใช้จ่ายของกรีซ หนักไปที่ค่าจ้าง เป็นจำนวน ถึง 75% ของงบประมาณรายจ่าย แยกเป็นค่าจ้าง พนักงานของรัฐ ทั้งประจำ และชั่วคราว ค่าจ้างแรงงานคนทำงาน ค่าสวัสดิการ ค่าเบี้ยบำนาญ ของคนที่ทำงานมาจนแก่เหลือแต่เหงือก
    ถ้ายังจำกันได้ กรีซจัดงานแข่งกีฬาโอลิมปิค ในปี ค.ศ. 2004 ยิ่งใหญ่ และสวยงาม แน่นอนก่อนจัดงาน ต้องมีการปรับปรุงสาธารณูปโภค ถนนหนทาง ไฟฟ้า น้ำประปา ทั้งประเทศรวมทั้ง การก่อสร้าง สนามกีฬา บ้านพักนักกีฬา และอีกหลายๆอย่าง เพื่อรองรับการแข่งขัน และผู้มาชม ล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 3 ปี รายจ่ายของกรีซทั้งด้านแรงงาน และด้านก่อสร้าง ไม่บานทะโล่ ก็คงแปลกอยู่
    นอกจากนี้ยังมีหนี้ส่วนบุคคลของ ชาวกรีก ที่เห็นเป็นโอกาสที่ทำเงิน ด้วยการสร้างที่พัก สำหรับนักท่องเที่ยว ร้านอาหาร บริการรถเช่า ฯลฯ ซึ่งสร้างขึ้นมาจากเงินกู้เกือบทั้งสิ้น
    และ นี่ ก็เป็นอีกความผิดพลาด อีกรายการของกรีซ กีฬาโอลิมปิคสวยงาม สร้างชื่อเสียงให้กับกรีซ และก็สร้างหนี้ให้กับกรีซด้วย กรีซขาดทุนย่อยยับ ขายของ ไม่ได้ราคาคุ้มทุนที่ลง แถมมีหนี้ติดค้างทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน เลยเป็นโอกาสให้ IMF ผู้ชำนาญการ สั่งให้กรีซ ตัดรายการจ้างงาน และสวัสดิการ ขณะที่กรีซ พยายามขายการท่องเที่ยวประเทศของตัวเองต่อ เพื่อเอาทุนคืนจากการขาดทุนโอลิมปิค IMF ปิดประตูการจ้างงาน เปิดให้ครึ่งบานและครึ่งวัน ที่พัก ร้านอาหารเริ่มโทรม เมื่อมีลูกจ้างมาทำงานไม่พอให้บริการ นักท่องเที่ยวที่ไหน อยากจะไปเที่ยว แล้วยกกระเป๋า และ ล้างจานเอง
    ถ้าไม่แน่ใจว่า การจัดงานกีฬาโอลิมปิค ไม่ได้สร้างกำไรเสมอไป ก็ลองไปถามคุณปากจีบ นายกรัฐมนตรี ของชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ ได้ว่า หลังจาก กระเสือกกระสน จัดการแข่งกีฬาโอลิมปิค เมื่อปี 2012 แล้วเป็นไง ตอนนี้ เลยต้องตัดงบสาระพัด รวมทั้งงบด้านกองทัพ เล่นเอาคุณพีปูตินของผม หัวร่อ ฮิ ฮิ
    จึงไม่เป็นเรื่องน่าแปลกใจ ที่ ในปี 2010 อัตราว่างงานของกรีซ เพิ่มขึ้นเป็น 15% ทุก 7 คนกรีก จะมีคนว่างงาน 1 คน ! เริ่มมีการประท้วงรัฐบาล การเมืองง่อนแง่น และกรีซ ก็ต้อง กู้เงินจาก อัศวิน Troika เพิ่มขึ้นอีก และโซ่คล้องคอชาวกรีซ ก็หนักขึ้นทุกที ชาวกรีซ ก็จมลงในเหวลึกลงไปทุกที
    ปี ค.ศ.2011 สถานการณ์ของกรีซ แย่ลงกว่าเดิม รัฐบาลไหนมาก็แก้ปัญหาไม่ได้ ได้แต่กู้เพิ่มเพื่อเอามาใช้หนี้เก่า หมุนไปเรื่อยๆ รัฐบาลกรีซคิดหาทางทางออกไม่เจอ เขิญผู้เชี่ยวชาญมาช่วยคิด
    OECD ซึ่งเป็นหน่วยงาน ที่อ้างว่ามีหน้าที่คอยแนะนำประ เทศ ที่มีปัญหาด้านเศรษฐกิจ ภายใต้เสื้อคลุม ที่ไอ้นักล่าใบตองแห้ง คิดขึ้นมาหลังจากคิดสร้าง World Bank, IMF บอกกรีซต้องหารายได้เพิ่มด้วยการเก็บภาษีเพิ่ม ใช้มาตรการเด็ดขาดกับผู้หนีภาษี และขายรัฐวิสาหกิจที่สร้างกำไรอ อกไปให้กับนักธุรกิจ และขายทรัพย์สินของประเทศ เพื่อเอามาใช้หนี้ ชาวกรีก เริ่มรู้ตัวว่า กำลังถูกแร้งลง ออกมาประท้วง ไม่ยอมให้รัฐบาลขายรัฐวิสาหกิจ กับทรัพย์สินของประเทศ บอกไปเก็บภาษีจากพวกคนรวยๆ และพวกหนี้ภาษีด่วนเลย
    กรีซ น่าจะเห็นแล้วว่า ตัวเองถูกต้ม และเป็นเหยื่อ ของเหล่านักล่า หมาไน และก่อนสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ ถ้าตัดสินใจผิดอีก คราวนี้ คงถึงแร้งลง
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    26 มิ.ย. 2558
    ตัดโซ่หรือตายซาก ตอนที่ 1 – 2 นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” ตัดโซ่ หรือ ตายซาก” ตอน 1 เรื่องหนี้ของกรีซยก 2 นี่ ถ้าเป็นหนังก็ออกรสตื่นเต้น ประเภท เกทับบลั้ฟแหลก คมเฉือนคม อะไรทำนองนั้น เพราะมันจะมีการพลิกเกมกันอยู่ตลอดเวลา ต่างฝ่ายก็เอามือล้วงกระเป๋า เหมือนมีของดีแอบอยู่ จะงัดเอาออกมาใช้เมื่อไหร่เท่า นั้น แต่จริงๆแล้ว ของดีมีจริง หรือมีปลอม ยังไม่มีใครรู้แน่ ระหว่างนั้น ก็ทำหน้าขรึม หน้าเครียดเจรจากัน สื่อก็รายงานของจริงแถมใบสั่ง เป็นโอกาสล่อให้แมงเม่าเข้าไปเล่นกองไฟ มีคนฉิบหายตายเพราะหนี้ท่วมประเทศยังไม่พอ ต้องหาแมงเม่าเข้ามาสังเวยด้วย มันถึงจะได้อารมณ์ สร้างกำไร จากความหายนะ ความคิดแบบนี้ มีทุกสัญชาติแหละครับ มากน้อย ตามสันดาน และตัณหา พระเอกที่จะเล่นเกมเกทับ ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นรัฐบาลชุดปัจจุบันนี้ของกรีซ ที่มาจากพรรค Syriza ซึ่งเป็นพวกที่เอนไปทางสังคมนิยม ก่อต้ังเมื่อปี ค.ศ. 2004 จากการรวมตัวของกลุ่มฝ่ายซ้ายต่างๆ ประมาณ 10 กว่ากลุ่ม Syriza เคยมีชื่อเสียงว่า เป็นพวก anti establishment เป็นพวกไม่เอาทุนนิยมว่างั้นเถอะ แม้ตอนหลังพวกเขาจะไม่เน้นเรื่อ งนี้ แต่เมื่อ Syriza ชนะเลือกตั้ง เมื่อต้นปี 2015 แน่นอน ทำให้อียูเริ่มขมวดคิ้ว เพราะดูเหมือน Syriza จะมาทำให้ชาวกรีซร้องคนเพลงกับอียู ยิ่งหัวหน้าพรรคที่ชื่อ Alexis Tsipras ประกาศชัดเจนว่า “euro is not my fetish” เงินยูโรมันก็ไม่ได้วิเศษอะไรนักหนา คำประกาศเขาให้รสชาดแบบนั้นนะครับ ในการเลือกต้ังดังกล่าว Syriza ขาดไปแค่ 2 คะแนน ที่จะเป็นเสียงข้างมาก พวกเขาเลยต้องผสมกับพรรคอื่นตั้ง รัฐบาล แต่ยังไงก็ได้นาย Alexis Tsipras เป็นนายกรัฐมนตรีหนุ่มแน่น อายุแค่ 40 และมีนาย Yanis Varoufakis เป็นรัฐมนตรีคลัง ที่จะมาช่วยหาวิธีถอดโซ่ ที่พวกเจ้าหนี้กรีซ เอามาคล้องคอชาวกรีซออกไป หรือทำให้โซ่คล้องคอมันหลวมหน่อย ไม่ใช่รัดติ้ว ท้องกิ่ว หายใจจะไม่ออก ไม่มีจะกินกันทั้งประเทศอย่างนี้ นาย Alexis Tsipras เป็นลูกชาวกรีซ ที่อพยพมาจากตุรกี ตามโครงการแลกเปลี่ยนประชาชน ระหว่าง 2 ประเทศ เขาเป็นคนชอบเล่นกีฬา และทำกิจกรรมมาต้ังแต่เป็นเด็กนักเรียน หลังจากนั้นก็เริ่มเป็นนักเคลื่อนไหวไฟแรง แหม เหมือนกับจะเขียนเรื่องเจ้ายะใส หนุ่มหน้ามนของสาวๆแดนสยามเลยนะ แต่ยะใส คงต้องติวใหม่อีกแยะนะ เอาเรื่องนายอเล็กซิส ต่อแล้วกัน เขาเรียนจบด้านวิศวกรรมจากวิทยาลัยเทคนิคของกรีซ ระหว่างเรียน ก็เริ่มเข้ากลุ่มการเมืองฝ่ายซ้ายของกรีซ และได้เป็นหัวหน้านักศึกษาทางกิจกรรมการเมือง ก็คงเหมือน สนนท. ของบ้านเรานะครับ หลังจากนั้น ก็เข้าการเมืองท้องถิ่นเต็มตัว ก่อนลงสนามใหญ่ เมื่อบรรดาพรรคฝ่ายซ้าย จับมือรวมกันเป็นพรรค Syriza นายอเล็กซิส ก็ไปเข้าร่วม แล้วในที่สุด ในปี คศ 2009 หนุ่มอเล็กซิส อายุ 30 กว่า ก็ได้เป็นหัวหน้าพรรค Syriza เป็นดาวรุ่งพุ่งแรง จะมีใครอุ้ม ใครดันหรือเปล่า ข่าวไม่บอก แล้วเขาก็พา Syriza เข้าลงเลือกต้ังในสนามใหญ่ ต้ังแต่ปี 2012 แม้ไม่ได้เป็นรัฐบาล แต่ก็ได้เข้าอยู่ในสภา ในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายค้าน ไม่เบาเหมือนกันสำหรับ หนุ่มวัย 30 กว่า เมื่อ สภากรีซล่มในปี ค.ศ. 2014 และประกาศจะมีการเลือกต้ังใหม่ ในเดือนมกราคม ปี ค.ศ.2015 อเล็กซิส ระดมพลพรรค ประกาศลงเลือกต้ัง และประกาศ Thessaloniki Programme ในเดือนสิงหาคม ปี 2014 ซึ่งเป็นนโยบายที่เสนอให้มีการปรับปรุงโครงสร้างทางเศรษฐกิจ และการเมืองของกรีซเสียใหม่ นอกจากนี้ ยังประกาศใช้นโยบายการหาเสียงว่า พรรค Syriza ต้ังใจจะเข้าไปแก้ไขเงื่อนไขมหาโหด ในสัญญาเงินกู้ ที่บรรดาเจ้าหนี้ต่างประเทศกำหนดไว้ เหมือนเอาโซ่มาคล้องคอชาวกรีซและทำให้ชีวิตชาวกรีซสุดแสนจะลำเค็ญ ในส่วนนโยบายต่างประเทศ ระหว่างการหาเสียง อเล็กซิส แสดงความไม่พอใจอย่างเผ็ดร้อน กับการตัดสินใจหลายเรื่องของยุโรป ที่คัดท้ายโดยรัฐบาลเยอรมัน ภายใต้การนำของป้าเข็มขัดเหล็ก แน่นอน มันเป็นการฝาก “รอย” ให้ไว้กับป้าเข็มขัดเหล็ก ที่ทำให้การเจรจาต่อมาระหว่างอเล็กซิส ในฐานะนายกรัฐมนตรีกรีซ กับป้าเข็มขัดเหล็ก เกี่ยวกับเรื่องหนี้ของกรีซ ฝืดสิ้นดี เหมือนจะให้ผู้คนแน่ใจว่าเขาคิดอย่างไร เมื่อได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี งานแรกที่ Alexis Tsipras ทำ คือ เขานำดอกกุหลาบแดงช่อใหญ่ ไปวางแสดงความเคารพที่อนุสรณ์สถานของชาวกรีซ 200 คน ที่เสียชีวิตจากการฆ่าของเยอรมัน เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ค.ศ.1944 ….ช่างเล่นนะไอ้หนุ่ม งานเดินสายต่างประเทศ รายการแรกของนายกรัฐมนตรีหนุ่ม คือ ไปพบนายกรัฐมนตรี Matteo Renzi ที่โรม เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ค.ศ.2015 จับเข่าคุยในฐานะ คนเป็นลูกหนี้ ที่มีโซ่คล้องคอเหมือนกัน คุยกันเสร็จ นาย Renzi ก็มอบเนคไทไหมอิตาเลียน ให้เป็นที่ระลึกแก่ นายอเล็กซิส ซึ่งมีชื่อเสียงว่า ไม่นิยมการผูกเนคไท เขารับไว้ แล้วบอกว่า เขาจะผูกเนคไทนี้ ในวันที่ชาวกรีซ ตัดโซ่คล้องคอสำเร็จ… อยากได้ยินคำพูดแบบนี้ ในแดนสยามบ้างครับ ส่วน นาย Yanis Varoufakis มาคนละทางกับอเล็กซิส ยานิส ไม่ได้เป็นนักการเมือง เขาออกไปทางนักวิชาการ เป็นนักเศรษฐศาสตร์ และเป็นอาจารย์สอนเศรษฐศาสตร์มีชื่อเสียง แต่ใช่ว่าเขาไม่สนใจการเมือง พ่อเขาร่วมรบในสงครามกลางเมืองกรีซ โดยอยู่ฝั่งคอมมิวนิสต์ แพ้สงครามก็ถูกจับไปนอนคุกอยู่หลายปี ออกจากคุกมาทำธุรกิจ กลายเป็นผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ที่สุดของกรีซ ส่วนแม่ก็เป็นพวกคอการเมือง ครอบครัวนี้ สนับสนุนกลุ่มไอร์แลนด์เหนือให้สู้กับอังกฤษ พวกเขานับ Belfast เมืองหลวงของไอร์แลนด์เหนือเป็นบ้านที่ 2 สำหรับคนรุ่นหลังๆ คงไม่ค่อยรู้จักวีรกรรมของชาวไอริช ที่ต้องการแยกตัวจากอังกฤษ นอกจากรู้จากดูหนัง จริงๆ คนไอริช หรือขบวนการ IRA เป็นขบวนการ ที่ถูกอังกฤษและพวก รวมทั้งสื่อ เรียกว่า เป็นผู้ก่อการร้าย ทั้งๆ ที่พวกเขาคิดการดี ในช่วงประมาณปี ค.ศ.1970 เป็นต้นมา ขบวนการ IRA จะเป็นข่าวเกือบรายวัน ในการวางระเบิดใส่อังกฤษ ผู้คนบาดเจ็บล้มตายมาก ตึกรามบ้านช่องพังวินาศ ไม่มีการต่อสู้เพื่อเอกราชใด หรือปลดพันธนาการใดจะได้มาง่ายๆ มันต้องลงแรงลงใจลงชีวิตทั้งนั้น ชาวแดนสยาม สบายจนเคยตัว บางพวกทำตัว ยิ่งกว่าตามสบาย เห็นแต่ประโยชน์ส่วนตัว หาความสุข สนุกไปวันๆ ไม่สนใจประเทศ และเพื่อนร่วมชาติ จนน่ารังเกียจ น่าเสียดายครับ มีของดี ไม่รู้จักคุณค่า ไม่รู้จักรักษา ชอบอยู่แต่ใน “ครอบ” ไม่อยากใช้คำว่า “คอก” ปล่อยให้มัน ฟอกย้อม ต้มตุ๋นเอาจนชิน วันไหนไม่ถูกย้อม ไม่ถูกต้ม คงกินไม่ได้นอนไม่หลับ เฮ้อ! คุยเรื่อง นายยานิสต่อดีกว่า เมื่อพ่อรวย ก็ส่งลูกไปเรียนที่อังกฤษ ยานิส จึงเรียน พูด และด่าเป็นภาษาอังกฤษ ได้ชัด และคมคายเอาเรื่อง สรุปว่า เขาเรียนต้ังแต่ ปริญญาตรี จนจบปริญญาเอกจากอังกฤษแล้วกัน เรียนจบแล้ว ก็ไปสอนหนังสือ ที่หลายมหาวิทยาลัย หลายประเทศ แล้วยังเดินทางไปดูโลกกว้างในแง่มุมของเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากสร้างให้เกิด ที่ต้องมองกันอย่างลึกซึ้ง กลับมาก็เปิดบล๊อกของตัวเอง ให้ความรู้ ความเห็น สอนคนนอกมหาวิทยาลัยไปเรื่อยๆ ที่สำคัญ เขาบอกว่า เขาไม่เห็นด้วยกับการที่กรีซ ไปกู้เงินพวกเจ้าหนี้หน้าเลือดเหล่านั้น ไม่เห็นด้วยกับเงื่อนไขที่เจ้า หนี้ต้ัง ไม่เห็นด้วยๆๆๆ สาระพัด ไม่เห็นด้วย และบอกว่า ถ้ากรีซ ปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไป ชาวกรีก ก็คงแห้งตายซาก และเกาะกรีซอันสวยงาม ก็คงล่มจมหายไปในเมดิเตอร์เรเนียน อย่างน่าเสียดาย … เพราะเขียนในบล๊อกแบบนี้ จนดังระเบิด เมื่อ พรรค Syriza ได้เป็นรัฐบาล จึงส่งเทียบมาเชิญ ท่านพี่ยานิส ท่านอย่ามัวแต่นั่งเขียนให้คนอ่านเลย แบบนั้นมันง่าย ( เหมือนที่ลุงนิทานทำ แค่นั่งเขียนอยู่ในบ้าน) ท่านจงออกมาใช้ภูมิปัญญา ลงมือแก้ไขปัญหาบ้านเมืองอย่าง จริงจังกับเราเถิด นายยานิส ก็ไม่เล่นตัว ไม่เรื่องมาก แค่บอกว่า พูดกันให้รู้เรื่องก่อนนะ ถ้าเอาผมไปนั่งคลัง ผมจะใช้นโยบาย อย่างที่ผมเขียน คือ เราต้องตัดโซ่ของเจ้าหนี้ ที่เอามาคล้องคอชาวกรีซ ออกเสียนะ นายกรัฐมนตรีหนุ่มบอก นั่นแหล่ะพี่ เราพูดเรื่องเดียวกัน พี่เอาคีมเบอร์ใหญ่สุดมาเลยนะ มาช่วยพวกผมตัดโซ่ด่วนเลย แล้วยานิสก็ไปนั่งเป็นรัฐมนตรีคลังในรัฐบาล แต่ไม่สังกัดพรรค อืม… เป็นต้ัง พณฯ ท่านรัฐมนตรี เขาก็ส่งทั้งรถยนต์ คนขับ ผู้ติดตาม เครื่องยศ มาให้พร้อม ยานิส ก็ส่งคืนกลับไปหมด รถยนต์ ผมมีแล้วครับ เก่าหน่อย แต่ยังวิ่งได้ดีอยู่ วันไหนอากาศดี ผมก็ไม่ใช้รถ ขี่มอร์ไซด์ไปเร็ว และประหยัดกว่า มิน่า เลยติดใส่เสื้อหนัง ส่วนผู้ติดตาม ก็ไม่จำเป็นครับ ไม่รู้จะเอามาทำอะไร ถ้าประชาชนเขาไม่พอใจผม เอาไข่ปาผมไม่กี่ที ผมก็รู้หน้าที่ว่า ควรลาออกแล้วครับ ประเทศเราจนมากนะครับ ยังมีหนี้อีกแยะ จะใช้อะไร จะทำอะไร ก็ต้องเอาแต่จำเป็น รู้จักประหยัดบ้าง รับรอง ลุงนิทานไม่ได้เขียนเอง แดกใคร คุณน้องยานิส ให้สัมภาษณ์อย่างนี้จริงๆ ############### “ตัดโซ่ หรือ ตายซาก” ตอน 2 ก่อนจะเดินหน้าไปตัดโซ่ มาทบทวนกันหน่อยว่า หนี้กรีซ นี่มันอะไรนักหนา แล้วเงื่อนไขเจ้าหนี้มันทารุณเหมือนเอาโซ่มาคล้องคอชาวกรีกจริงหรือเปล่า หรือพวกหนุ่มๆ เขาเลือดร้อน ฮอร์โมนพุ่งตามวัย เห็นอะไรขัดใจนิด ขัดใจหน่อย ก็คิดชนมันซะเลย บรรดาขาใหญ่นักวิเคราะห์การเมือง ไม่ใช่ พวกนักวิเคราะห์การเงิน ที่เอาไว้หลอกพวกแมงเม่า บอกว่า มันไม่ใช่เป็นเรื่องว่า กรีซ ประเทศเล็กๆ ที่อยู่ในสหภาพยุโรป จะผิดนัดชำระหนี้ไหม และจะพากันจูงมือ เดินออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป หรืออียู หรือเปล่า แต่เรื่องหนี้กรีซ อาจกลายเป็นซึนามิ ทางการเงิน เศรษฐกิจ และการเมืองของยุโรปได้อย่างนึกไม่ถึง และถ้าเข้าทาง …มันอาจจะไปไกลกว่านั้น.... ปัญหาหนี้ของกรีซ เริ่มมาต้ังแต่ปี ค.ศ.2001 ก็ต้ังแต่ กรีซ เริ่มเปลี่ยนมาใช้เงินสกุลยูโร แทนเงินสกุลดรักมาร์ของตัวเองนั่นแหละ กรีซเป็นสมาชิกอียูโซนมาต้ังแต่ปี ค.ศ.1981 แต่กรีซมีงบประมาณขาดดุลยสูงเกินเกณท์ของอียู ที่เรียกว่า Maastricht Criteria อยู่ตลอดมา ถึงจะเกินเกณท์ แต่ ปีแรกๆ ก็ไม่มีปัญหา เพราะดูเหมือนหลายประเทศในอียู ก็เกินกันทั้งนั้น และกรีซ ก็ได้ประโยชน์จากการกู้ดอกถูก ในฐานะเป็นสมาชิกอียู และมีเงินลงทุนเข้ามาเพิ่ม นี่คือ ความผิดพลาดของกรีซ รายการแรก ที่มองการเข้าไปอยู่ในคอกอียู แต่ด้านบวก ด้านได้ โดยไม่มองด้านลบ หรือไม่คิดว่ามีด้านลบ ถึง ปี ค.ศ.2004 กรีซ หลุดปากบอกว่า ตัวเองแต่งตัวเลข เพื่อไม่ให้ผิดหลักเกณฑ์อียู แต่น่าประหลาด อียูทำเหมือนไม่ได้ยิน เกิดหูบอดกระทันหันเสียอย่างนั้น ไม่เตือน ไม่ด่า ไม่ทำโทษกรีซ เพราะอะไรหรือ เพราะ ใครๆก็ทำกัน โดยเฉพาะ ฝรั่งเศส และเยอรมัน ลูกพี่ใหญ่ของอียู ด่ากรีซ ก็เหมือนด่าตัวเองด้วย แล้วถ้าจะทำโทษ จะทำอะไรล่ะ ยังไม่มีกฏกติกา เรื่องนี้เลย ไล่กรีซออกจากอียูเลยดีไหม อียูน่าจะทำได้ แต่มันจะทำให้ภาพพจน์อียู หมดท่า เหมือนแก้ผ้าประจานตัวเอง แถมตอนนั้น สมาชิกอียูยังน้อยอยู่ อยากได้ไอ้พวกพี่เบิ้ม อย่างอังกฤษ ก็ยังยักท่า หรือ รวยๆ อย่างสวีเดน เดนมาร์ก ตอนนั้น ก็ยังทำหยิ่งไม่เข้ามา นี่ถ้ารู้ว่า กรีซ แต่งตัวเลข ใครจะมา มีแต่จะไป แล้วทุกฝ่ายก็ปิดปากเงียบ หลอกตัวเอง หลอกกันเอง และหลอกคนอื่นต่อไป นี่คือความผิดส่วนของอียู ที่ไม่ได้มีเพียงครั้งเดียว แต่พอถึงปี ค.ศ.2009 ฝีแตก กรีซปิดต่อไปอีกไม่ไหว เพราะเงินทำท่าจะหมดประเทศ จริงๆ ก็หมดแล้ว มีแต่เงินกู้เขามา อ้อมแอ้ม ออกมาว่า มีตัวเลขงบประมาณขาดดุลย ประมาณ 12.9 % ของ จีดีพี ( ผลิตภัณท์มวลรวมภายใน ) ซึ่งเป็นตัวเลขที่เกินกว่าเกณท์ที่ อียู กำหนดไว้ ที่ 3% พูดภาษาเข้าใจง่ายๆ แปลว่า มีจ่ายจ่ายมากกว่ารายรับอยู่แยะมาก จะทำไงดีครับลูกพี่ เป็นคนธรรมดา ก็ต้องบอกว่าอยู่ในสภาพ เป็นหนี้หัวโต นอนเอามือก่ายหน้าผากจนบุบ ก็ยังไม่เห็นทางแก้ปัญหา ลูกพี่ยังคิดไม่ออกว่าจะใช้แผน พิฆาตชุดไหน แต่ สามหมาไน บริษัท จัดอันดับ ratings agency Standard & Poor , Fitch และ Moody’s ได้กลิ่น รีบประกาศลดอันดับความน่าเชื่อ ถือของ กรีซลงอย่างรวดเร็ว เหลือเป็นระดับ junk bond หรือระดับขยะ คือ อยู่ในสภาพล้มละลาย พันธบัตรกรีซ มีค่าไม่ต่างกับกระดาษชำระ การประกาศของ 3 หมาไน ได้ผลอย่างดียิ่ง กลางปี 2010 กรีซก็ถูกตัดขาดจากเส้นทางกู้เงินในตลาดทุนของโลก เหลือแต่เส้นทางไปสู่การเป็นประเทศล้มละลายอย่างสมบูรณ์ กรีซแทบไม่เหลือทางเลือก จะตายช้า หรือตายเร็วเท่านั้น แล้วอัศวิน ชื่อ Troika ก็โผล่มา Troika เป็นชื่อเรียก ของสามเสือหิว IMF, ECB (European Central Bank) และ European Commission เล่นบทลูกพี่ใจดี จับมือกันจัดการให้เงินกู้ ที่อ้างว่า เป็นการช่วยฉุดกรีซขึ้นมาจากเหว รอบแรก จำนวน 340 พันล้านยูโร เงินจำนวนนี้ ถือว่ามากมาย และน่าจะผิดหลักเกณท์ของ IMF เสียด้วยซ้ำ แต่ทำไมอัศวิน หรือ Trioka รีบจัดการให้ สงสารกรีซมากหรือไง อ้อ ไม่ใช่ มันเป็นพวกไอ้เสือหิว มองหาเหยื่อแบบนี้ มานานแล้วต่างหาก พอเข้าใจนะครับ เงินกู้ ฉุดจากเหว มาพร้อมกับโซ่เหล็กคล้องคอกรีซ เป็นเงื่อนไขที่อ้างว่า เพื่อสร้างวินัยในการใช้จ่ายของกรีซ ที่กรีซ ไม่มีโอกาสต่อรอง ต้องก้มหน้ารับอย่างเดียว แต่ที่น่าสนใจ เงินกู้แลกโซ่ ควรจะมาช่วยให้สถานะของกรีซในสายตาของตลาดทุนดีขึ้น ตรงกันข้าม เงินกู้ลอยผ่านหน้ารัฐบาลกรีซ ไปเข้ากระเป๋าธนาคารต่างประเทศ ที่ให้กรีซกู้ไปก่อนหน้านี้ เงินกู้ฉุดจากเหว กลายเป็นการใช้หนี้ ฉุดธนาคารต่างประเทศ ขึ้นมาจากเหวก่อน ชาวกรีซยังคงอยู่ในเหวต่อไป แต่มีโซ่มาคล้องคอหนักรัดติ้ว นั่งท้องกิ่วอยู่ก้นเหว ตกลงอัศวิน Troika มาช่วยใคร นี่คือ การเสียค่าโง่ครั้งที่เท่าไหร่ของกรีซ แล้วธนาคารต่างประเทศไหนล่ะ ที่ได้รับการชำระหนี้ไปก่อน เปิดดูอากู ก็รู้ว่า ธนาคารในอียูเองเป็นเจ้าหนี้กรี ซ ทั้งนั้น และเจ้าหนี้รายใหญ่สุด คือ เยอรมัน รองมา คือ ฝรั่งเศส พอเข้าใจแล้วนะครับว่า ทำไมนายกรัฐมนตรี อเล็กซิส ถึงเอาดอกกุหลาบแดงไปวางที่อนุสรณ์สถาน ก่อนการให้เงินกู้ จำนวนมโหฬาร IMF หัวหน้าใหญ่ของกลุ่มเสือหิว ที่เป็นผู้นำการกำหนดเงื่อนไข ลายโซ่คล้องคอชาวกรีซ บอกว่าการใช้จ่ายของกรีซ หนักไปที่ค่าจ้าง เป็นจำนวน ถึง 75% ของงบประมาณรายจ่าย แยกเป็นค่าจ้าง พนักงานของรัฐ ทั้งประจำ และชั่วคราว ค่าจ้างแรงงานคนทำงาน ค่าสวัสดิการ ค่าเบี้ยบำนาญ ของคนที่ทำงานมาจนแก่เหลือแต่เหงือก ถ้ายังจำกันได้ กรีซจัดงานแข่งกีฬาโอลิมปิค ในปี ค.ศ. 2004 ยิ่งใหญ่ และสวยงาม แน่นอนก่อนจัดงาน ต้องมีการปรับปรุงสาธารณูปโภค ถนนหนทาง ไฟฟ้า น้ำประปา ทั้งประเทศรวมทั้ง การก่อสร้าง สนามกีฬา บ้านพักนักกีฬา และอีกหลายๆอย่าง เพื่อรองรับการแข่งขัน และผู้มาชม ล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 3 ปี รายจ่ายของกรีซทั้งด้านแรงงาน และด้านก่อสร้าง ไม่บานทะโล่ ก็คงแปลกอยู่ นอกจากนี้ยังมีหนี้ส่วนบุคคลของ ชาวกรีก ที่เห็นเป็นโอกาสที่ทำเงิน ด้วยการสร้างที่พัก สำหรับนักท่องเที่ยว ร้านอาหาร บริการรถเช่า ฯลฯ ซึ่งสร้างขึ้นมาจากเงินกู้เกือบทั้งสิ้น และ นี่ ก็เป็นอีกความผิดพลาด อีกรายการของกรีซ กีฬาโอลิมปิคสวยงาม สร้างชื่อเสียงให้กับกรีซ และก็สร้างหนี้ให้กับกรีซด้วย กรีซขาดทุนย่อยยับ ขายของ ไม่ได้ราคาคุ้มทุนที่ลง แถมมีหนี้ติดค้างทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน เลยเป็นโอกาสให้ IMF ผู้ชำนาญการ สั่งให้กรีซ ตัดรายการจ้างงาน และสวัสดิการ ขณะที่กรีซ พยายามขายการท่องเที่ยวประเทศของตัวเองต่อ เพื่อเอาทุนคืนจากการขาดทุนโอลิมปิค IMF ปิดประตูการจ้างงาน เปิดให้ครึ่งบานและครึ่งวัน ที่พัก ร้านอาหารเริ่มโทรม เมื่อมีลูกจ้างมาทำงานไม่พอให้บริการ นักท่องเที่ยวที่ไหน อยากจะไปเที่ยว แล้วยกกระเป๋า และ ล้างจานเอง ถ้าไม่แน่ใจว่า การจัดงานกีฬาโอลิมปิค ไม่ได้สร้างกำไรเสมอไป ก็ลองไปถามคุณปากจีบ นายกรัฐมนตรี ของชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ ได้ว่า หลังจาก กระเสือกกระสน จัดการแข่งกีฬาโอลิมปิค เมื่อปี 2012 แล้วเป็นไง ตอนนี้ เลยต้องตัดงบสาระพัด รวมทั้งงบด้านกองทัพ เล่นเอาคุณพีปูตินของผม หัวร่อ ฮิ ฮิ จึงไม่เป็นเรื่องน่าแปลกใจ ที่ ในปี 2010 อัตราว่างงานของกรีซ เพิ่มขึ้นเป็น 15% ทุก 7 คนกรีก จะมีคนว่างงาน 1 คน ! เริ่มมีการประท้วงรัฐบาล การเมืองง่อนแง่น และกรีซ ก็ต้อง กู้เงินจาก อัศวิน Troika เพิ่มขึ้นอีก และโซ่คล้องคอชาวกรีซ ก็หนักขึ้นทุกที ชาวกรีซ ก็จมลงในเหวลึกลงไปทุกที ปี ค.ศ.2011 สถานการณ์ของกรีซ แย่ลงกว่าเดิม รัฐบาลไหนมาก็แก้ปัญหาไม่ได้ ได้แต่กู้เพิ่มเพื่อเอามาใช้หนี้เก่า หมุนไปเรื่อยๆ รัฐบาลกรีซคิดหาทางทางออกไม่เจอ เขิญผู้เชี่ยวชาญมาช่วยคิด OECD ซึ่งเป็นหน่วยงาน ที่อ้างว่ามีหน้าที่คอยแนะนำประ เทศ ที่มีปัญหาด้านเศรษฐกิจ ภายใต้เสื้อคลุม ที่ไอ้นักล่าใบตองแห้ง คิดขึ้นมาหลังจากคิดสร้าง World Bank, IMF บอกกรีซต้องหารายได้เพิ่มด้วยการเก็บภาษีเพิ่ม ใช้มาตรการเด็ดขาดกับผู้หนีภาษี และขายรัฐวิสาหกิจที่สร้างกำไรอ อกไปให้กับนักธุรกิจ และขายทรัพย์สินของประเทศ เพื่อเอามาใช้หนี้ ชาวกรีก เริ่มรู้ตัวว่า กำลังถูกแร้งลง ออกมาประท้วง ไม่ยอมให้รัฐบาลขายรัฐวิสาหกิจ กับทรัพย์สินของประเทศ บอกไปเก็บภาษีจากพวกคนรวยๆ และพวกหนี้ภาษีด่วนเลย กรีซ น่าจะเห็นแล้วว่า ตัวเองถูกต้ม และเป็นเหยื่อ ของเหล่านักล่า หมาไน และก่อนสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ ถ้าตัดสินใจผิดอีก คราวนี้ คงถึงแร้งลง สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 26 มิ.ย. 2558
    0 Comments 0 Shares 242 Views 0 Reviews
  • พริษฐ์ วอนทุกภาคส่วนร่วมมือ เร่งพิจารณาร่างแก้ไข รธน. ให้เสร็จสิ้น พ.ย. เพื่อเลี่ยง เงื่อนไขยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ
    https://www.thai-tai.tv/news/22410/
    .
    #ไทยไท #พริษฐ์วัชรสินธุ #แก้รัฐธรรมนูญ #สูตร20หยิบ1 #อภิปรายไม่ไว้วางใจ #ผูกขาดอำนาจ

    พริษฐ์ วอนทุกภาคส่วนร่วมมือ เร่งพิจารณาร่างแก้ไข รธน. ให้เสร็จสิ้น พ.ย. เพื่อเลี่ยง เงื่อนไขยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ https://www.thai-tai.tv/news/22410/ . #ไทยไท #พริษฐ์วัชรสินธุ #แก้รัฐธรรมนูญ #สูตร20หยิบ1 #อภิปรายไม่ไว้วางใจ #ผูกขาดอำนาจ
    0 Comments 0 Shares 57 Views 0 Reviews
  • Windows เจอแรงต้านแนวคิด Agentic OS

    เมื่อต้นเดือน Microsoft เปิดตัววิสัยทัศน์ใหม่ของ Windows ในฐานะ “Agentic OS” ที่สามารถดำเนินการแทนผู้ใช้ได้โดยอัตโนมัติ แต่แนวคิดนี้กลับสร้างกระแสต่อต้านทันที ผู้ใช้จำนวนมากตั้งคำถามว่าทำไมบริษัทไม่แก้ไขปัญหาที่มีอยู่เดิม เช่น ความเร็วที่ลดลง การออกแบบที่กระจัดกระจาย และการตั้งค่าเริ่มต้นที่ไม่เป็นมิตรต่อผู้พัฒนา

    คำตอบจากผู้บริหาร Windows
    Pavan Davuluri ตอบกลับผ่านโพสต์บน X โดยยอมรับว่ามี “ความคิดเห็นจำนวนมาก” และทีมงานกำลังรับฟังทั้งจากระบบ Feedback และจากผู้ใช้โดยตรง เขาเน้นว่าบริษัท “ใส่ใจนักพัฒนา” และกำลังหารือเรื่องความน่าเชื่อถือ ประสิทธิภาพ และความง่ายในการใช้งาน แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดชัดเจนว่าจะมีการแก้ไขหรือปรับปรุงเมื่อใด

    เสียงวิจารณ์จากชุมชน
    แม้คำตอบจะมีน้ำเสียงประนีประนอม แต่หลายฝ่ายมองว่าเป็นการเลี่ยงประเด็นสำคัญ เช่น ปัญหา System Bloat, Hardware Lock-in และการผนวก Copilot เข้ามาโดยไม่แก้ไขปัญหาการออกแบบเดิม ความไม่ชัดเจนใน Roadmap ของ Agentic OS ทำให้ผู้ใช้และนักพัฒนารู้สึกว่าบริษัทไม่ได้ตอบสนองต่อข้อกังวลจริงๆ

    ผลกระทบต่อผู้ใช้และนักพัฒนา
    ช่องว่างระหว่าง “ข้อความสื่อสาร” และ “การลงมือแก้ไขจริง” ยังคงชัดเจน ผู้ใช้ทั่วไปและ Power User ต่างรอคอยการเปลี่ยนแปลงที่จับต้องได้ แต่จนถึงตอนนี้ Microsoft ยังไม่ได้ประกาศแผนงานที่ชัดเจนว่าจะปรับปรุง Windows อย่างไรในอนาคต

    สรุปสาระสำคัญ
    แนวคิด Agentic OS ของ Microsoft
    ระบบที่ทำงานแทนผู้ใช้อัตโนมัติ
    ถูกวิจารณ์ว่าละเลยปัญหาพื้นฐาน

    คำตอบจาก Pavan Davuluri
    ยอมรับว่ามี Feedback จำนวนมาก
    เน้นว่าบริษัทใส่ใจนักพัฒนา แต่ไม่ให้รายละเอียด

    ประเด็นที่ผู้ใช้กังวล
    System Bloat และ Hardware Lock-in
    Copilot ถูกเพิ่มเข้ามาโดยไม่แก้ปัญหา UX

    ผลกระทบต่อผู้ใช้และนักพัฒนา
    ช่องว่างระหว่างคำพูดกับการกระทำยังคงอยู่
    ไม่มี Roadmap ที่ชัดเจนสำหรับอนาคต

    ข้อควรระวังและข้อจำกัด การตอบกลับที่ไม่ชัดเจนอาจทำให้ผู้ใช้หมดความเชื่อมั่น หาก Microsoft ไม่แก้ไขปัญหาพื้นฐาน อาจกระทบต่อการเลือกใช้ Windows ของนักพัฒนา ความไม่โปร่งใสใน Roadmap อาจทำให้ตลาดเกิดความไม่แน่นอน

    https://www.tomshardware.com/software/windows/windows-boss-posts-lacklustre-response-to-agentic-os-backlash
    📰 Windows เจอแรงต้านแนวคิด Agentic OS เมื่อต้นเดือน Microsoft เปิดตัววิสัยทัศน์ใหม่ของ Windows ในฐานะ “Agentic OS” ที่สามารถดำเนินการแทนผู้ใช้ได้โดยอัตโนมัติ แต่แนวคิดนี้กลับสร้างกระแสต่อต้านทันที ผู้ใช้จำนวนมากตั้งคำถามว่าทำไมบริษัทไม่แก้ไขปัญหาที่มีอยู่เดิม เช่น ความเร็วที่ลดลง การออกแบบที่กระจัดกระจาย และการตั้งค่าเริ่มต้นที่ไม่เป็นมิตรต่อผู้พัฒนา 💬 คำตอบจากผู้บริหาร Windows Pavan Davuluri ตอบกลับผ่านโพสต์บน X โดยยอมรับว่ามี “ความคิดเห็นจำนวนมาก” และทีมงานกำลังรับฟังทั้งจากระบบ Feedback และจากผู้ใช้โดยตรง เขาเน้นว่าบริษัท “ใส่ใจนักพัฒนา” และกำลังหารือเรื่องความน่าเชื่อถือ ประสิทธิภาพ และความง่ายในการใช้งาน แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดชัดเจนว่าจะมีการแก้ไขหรือปรับปรุงเมื่อใด ⚠️ เสียงวิจารณ์จากชุมชน แม้คำตอบจะมีน้ำเสียงประนีประนอม แต่หลายฝ่ายมองว่าเป็นการเลี่ยงประเด็นสำคัญ เช่น ปัญหา System Bloat, Hardware Lock-in และการผนวก Copilot เข้ามาโดยไม่แก้ไขปัญหาการออกแบบเดิม ความไม่ชัดเจนใน Roadmap ของ Agentic OS ทำให้ผู้ใช้และนักพัฒนารู้สึกว่าบริษัทไม่ได้ตอบสนองต่อข้อกังวลจริงๆ 🌍 ผลกระทบต่อผู้ใช้และนักพัฒนา ช่องว่างระหว่าง “ข้อความสื่อสาร” และ “การลงมือแก้ไขจริง” ยังคงชัดเจน ผู้ใช้ทั่วไปและ Power User ต่างรอคอยการเปลี่ยนแปลงที่จับต้องได้ แต่จนถึงตอนนี้ Microsoft ยังไม่ได้ประกาศแผนงานที่ชัดเจนว่าจะปรับปรุง Windows อย่างไรในอนาคต 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ แนวคิด Agentic OS ของ Microsoft ➡️ ระบบที่ทำงานแทนผู้ใช้อัตโนมัติ ➡️ ถูกวิจารณ์ว่าละเลยปัญหาพื้นฐาน ✅ คำตอบจาก Pavan Davuluri ➡️ ยอมรับว่ามี Feedback จำนวนมาก ➡️ เน้นว่าบริษัทใส่ใจนักพัฒนา แต่ไม่ให้รายละเอียด ✅ ประเด็นที่ผู้ใช้กังวล ➡️ System Bloat และ Hardware Lock-in ➡️ Copilot ถูกเพิ่มเข้ามาโดยไม่แก้ปัญหา UX ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้และนักพัฒนา ➡️ ช่องว่างระหว่างคำพูดกับการกระทำยังคงอยู่ ➡️ ไม่มี Roadmap ที่ชัดเจนสำหรับอนาคต ‼️ ข้อควรระวังและข้อจำกัด ⛔ การตอบกลับที่ไม่ชัดเจนอาจทำให้ผู้ใช้หมดความเชื่อมั่น ⛔ หาก Microsoft ไม่แก้ไขปัญหาพื้นฐาน อาจกระทบต่อการเลือกใช้ Windows ของนักพัฒนา ⛔ ความไม่โปร่งใสใน Roadmap อาจทำให้ตลาดเกิดความไม่แน่นอน https://www.tomshardware.com/software/windows/windows-boss-posts-lacklustre-response-to-agentic-os-backlash
    0 Comments 0 Shares 104 Views 0 Reviews
  • “การ์ดจอ 3dfx Voodoo 2 เสี่ยงเสียหายจาก Pyroelectric Capacitors – ควรรีบทำ Preventive Maintenance”

    การ์ดจอ 3dfx Voodoo 2 ถือเป็นหนึ่งในฮาร์ดแวร์ที่ทรงพลังที่สุดในยุคปลาย 90s และยังคงเป็นที่นิยมในกลุ่มนักสะสมและผู้สร้างเครื่อง Retro PC แต่ล่าสุดช่อง YouTube Bits und Bolts พบว่า คาปาซิเตอร์ในวงจรพลังงานของ Voodoo 2 กำลังเสื่อมสภาพจากปรากฏการณ์ pyroelectric effect ซึ่งทำให้ค่าทางไฟฟ้าเปลี่ยนไปเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นหรือลดลง

    ผลคือการ์ดจะเริ่มมีอาการ ภาพผิดเพี้ยน (graphical corruption) หลังใช้งานไปสักระยะ และยิ่งตรวจสอบพบว่าคาปาซิเตอร์บางตัวร้อนผิดปกติเมื่อใช้กล้องตรวจจับความร้อน การเปลี่ยนคาปาซิเตอร์เหล่านี้ช่วยแก้ปัญหาได้ แต่ก็เป็นสัญญาณว่า ทุกการ์ด Voodoo 2 มีแนวโน้มจะเสียหายเมื่อเวลาผ่านไป

    นักรีโทรคอมพิวติ้งจึงแนะนำว่า หากคุณเป็นเจ้าของ Voodoo 2 ควรทำ Preventive Maintenance โดยการเปลี่ยนคาปาซิเตอร์ในวงจรพลังงานทั้งหมดตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียเวลาในการตรวจสอบทีละตัว และเพื่อยืดอายุการใช้งานของการ์ด

    สรุปสาระสำคัญ
    ปัญหาที่พบใน Voodoo 2
    คาปาซิเตอร์เสื่อมสภาพจาก pyroelectric effect
    ทำให้เกิดอาการภาพผิดเพี้ยนและการ์ดทำงานไม่เสถียร
    ทุกการ์ดมีแนวโน้มจะเสียหายเมื่อเวลาผ่านไป

    การตรวจสอบและแก้ไข
    ใช้กล้องตรวจจับความร้อนเพื่อหาคาปาซิเตอร์ที่ผิดปกติ
    เปลี่ยนคาปาซิเตอร์ที่ร้อนหรือเสื่อมสภาพ
    แนะนำให้เปลี่ยนทั้งหมดเพื่อป้องกันล่วงหน้า

    คำเตือนสำหรับนักสะสม
    หากไม่ทำ Preventive Maintenance การ์ดอาจเสียหายจนไม่สามารถใช้งานได้
    การซ่อมแซมทีหลังอาจใช้เวลามากและเสี่ยงต่อการสูญเสียชิ้นส่วนหายาก
    ปัญหานี้ไม่ใช่ “ถ้าเกิด” แต่เป็น “เมื่อเกิด”

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/vintage-3dfx-voodoo-2-cards-may-inevitably-fail-due-to-pyroelectric-capacitors-retrocomputing-channel-investigates-and-recommends-preventive-maintenance
    🖥️ “การ์ดจอ 3dfx Voodoo 2 เสี่ยงเสียหายจาก Pyroelectric Capacitors – ควรรีบทำ Preventive Maintenance” การ์ดจอ 3dfx Voodoo 2 ถือเป็นหนึ่งในฮาร์ดแวร์ที่ทรงพลังที่สุดในยุคปลาย 90s และยังคงเป็นที่นิยมในกลุ่มนักสะสมและผู้สร้างเครื่อง Retro PC แต่ล่าสุดช่อง YouTube Bits und Bolts พบว่า คาปาซิเตอร์ในวงจรพลังงานของ Voodoo 2 กำลังเสื่อมสภาพจากปรากฏการณ์ pyroelectric effect ซึ่งทำให้ค่าทางไฟฟ้าเปลี่ยนไปเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นหรือลดลง ผลคือการ์ดจะเริ่มมีอาการ ภาพผิดเพี้ยน (graphical corruption) หลังใช้งานไปสักระยะ และยิ่งตรวจสอบพบว่าคาปาซิเตอร์บางตัวร้อนผิดปกติเมื่อใช้กล้องตรวจจับความร้อน การเปลี่ยนคาปาซิเตอร์เหล่านี้ช่วยแก้ปัญหาได้ แต่ก็เป็นสัญญาณว่า ทุกการ์ด Voodoo 2 มีแนวโน้มจะเสียหายเมื่อเวลาผ่านไป นักรีโทรคอมพิวติ้งจึงแนะนำว่า หากคุณเป็นเจ้าของ Voodoo 2 ควรทำ Preventive Maintenance โดยการเปลี่ยนคาปาซิเตอร์ในวงจรพลังงานทั้งหมดตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียเวลาในการตรวจสอบทีละตัว และเพื่อยืดอายุการใช้งานของการ์ด 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ปัญหาที่พบใน Voodoo 2 ➡️ คาปาซิเตอร์เสื่อมสภาพจาก pyroelectric effect ➡️ ทำให้เกิดอาการภาพผิดเพี้ยนและการ์ดทำงานไม่เสถียร ➡️ ทุกการ์ดมีแนวโน้มจะเสียหายเมื่อเวลาผ่านไป ✅ การตรวจสอบและแก้ไข ➡️ ใช้กล้องตรวจจับความร้อนเพื่อหาคาปาซิเตอร์ที่ผิดปกติ ➡️ เปลี่ยนคาปาซิเตอร์ที่ร้อนหรือเสื่อมสภาพ ➡️ แนะนำให้เปลี่ยนทั้งหมดเพื่อป้องกันล่วงหน้า ‼️ คำเตือนสำหรับนักสะสม ⛔ หากไม่ทำ Preventive Maintenance การ์ดอาจเสียหายจนไม่สามารถใช้งานได้ ⛔ การซ่อมแซมทีหลังอาจใช้เวลามากและเสี่ยงต่อการสูญเสียชิ้นส่วนหายาก ⛔ ปัญหานี้ไม่ใช่ “ถ้าเกิด” แต่เป็น “เมื่อเกิด” https://www.tomshardware.com/tech-industry/vintage-3dfx-voodoo-2-cards-may-inevitably-fail-due-to-pyroelectric-capacitors-retrocomputing-channel-investigates-and-recommends-preventive-maintenance
    0 Comments 0 Shares 102 Views 0 Reviews
  • "วัชระ" ชี้ สส.ภัทรพงษ์ "อ่อนด้อยข้อมูล" กล่าวหา รมว.สุชาติ "หนีการประชุม" ชี้ข้อมูลสารหนูแม่น้ำโขงเปิดเผย และได้สั่งการแก้ไขเร่งด่วนแล้ว
    https://www.thai-tai.tv/news/22400/
    .
    #ไทยไท #วัชระกรรณิการ์ #สารหนู #หาเสียงตีกิน #โฆษกทส. #ความขัดแย้งทางการเมือง

    "วัชระ" ชี้ สส.ภัทรพงษ์ "อ่อนด้อยข้อมูล" กล่าวหา รมว.สุชาติ "หนีการประชุม" ชี้ข้อมูลสารหนูแม่น้ำโขงเปิดเผย และได้สั่งการแก้ไขเร่งด่วนแล้ว https://www.thai-tai.tv/news/22400/ . #ไทยไท #วัชระกรรณิการ์ #สารหนู #หาเสียงตีกิน #โฆษกทส. #ความขัดแย้งทางการเมือง
    0 Comments 0 Shares 48 Views 0 Reviews
More Results