• แหกคอก ตอนที่ 3 – ซ่อนรูป
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” แหกคอก ”
    ตอนที่ 3 : ซ่อนรูป
    ในปี ค.ศ.1940 หลวงพ่อ CFR ก็ทำการศึกษาวางแผนระยะยาวเพิ่มเติมอีก เกี่ยวกับเศรษฐกิจของอเมริการะหว่างการทำสงคราม ซึ่งจะต้องมีการดูแลจัดการเกี่ยวกับเรื่องปากท้อง เงินทอง เพื่อให้อเมริกา นักล่าเข้าไปทำสงครามแบบสบายใจ หลวงพ่อนี่ดูแลแบบ ไม่มีตกไม่หล่นเลย รอบคอบมาก พวกเขาสรุปว่า อเมริกาต้องหาทางทำให้เกิดรายได้เข้าประเทศ โดยหาหรือสร้างตลาดใหญ่ สำหรับรองรับการผลิตสินค้าของอเมริกา และเพื่อให้แน่ใจว่า อเมริกาจะเข้าไปถึงแหล่งวัตถุดิบในบริเวณที่ประทับตรา ควบคุม (ขโมย !) ได้อย่างสะดวกเสรี ปราศจากการปิดกั้น หรือต้องตีตั๋วผ่าน รวมทั้งดูแลส่วนที่เกี่ยวกับ การค้าขาย การลงทุน เพื่อให้การล่าราบรื่น ไม่มีสดุด ติดขัด อเมริกาจำเป็นต้องมีกองทัพอันแข็งแกร่ง Military Supremacy เพื่อการนี้ด้วย แม่เจ้าโว้ย ! ฟันน้ำนมยังไม่ขึ้น พี่เลี้ยงสั่งให้แยกเขี้ยวแล้ว
    เริ่มต้น Grand Area Project บอกว่าศึกษาเพื่อเตรียมให้อเมริกาเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 และดูแลเศรษฐกิจของอเมริการะหว่างรบ ไม่ใช่รบๆ ไปกระเป๋าฉีก กางเกงขาด มันคงทุลักทุเล ทุเรศน่าดู แต่นั่นแหละพี่เลี้ยงนักล่าระดับหลวงพ่อ CFR ทำอะไรจะให้มันเปิดเผยเหมือนยืนล่อนจ้อนอยู่หน้าจอได้ยังไง มันต้องซ่อนต้องซ้อนกันหน่อย แท้จริงแล้ว Grand Area Project ได้ถูกออกแบบตั้งแต่แรก เพื่อให้อเมริกาเป็นนักล่าหมายเลขหนึ่งของโลกเป็นผู้ครองโลก คุมเศรษฐกิจโลกทั้งหมด หลังสงครามโลกสิ้นสุดลง และเพื่อจะควบคุมเศรษฐกิจตามเป้าหมาย ก็จะต้องมีการจัดตั้งองค์กรระหว่างประเทศขึ้นอีกเพียบ เพื่อมาจัดตั้งระบบวางกฎระเบียบ ที่เหมาะสมกับการค้า การลงทุน และระบบการเงินระหว่างประเทศ ให้ทุกอย่างอยู่ในระบบเดียวกับที่อเมริกาต้องการ เอาถึงขนาดนั้นเลยล่ะ และเพื่อจะให้ได้ผลเช่นนั้น อเมริกาจะต้องมีกองกำลังกล้ามใหญ่เอาไว้เบ่ง เวลาพูดจะได้มีคนฟัง ไม่ใช่ทำหูทวนลม แบบนี้เสียหน้ามาถึงหลวงพ่อCFR ด้วย
    น่าสนใจจริงๆ Grand Area Project นี้ ออกแบบไว้ล่วงหน้า โดยใช้ข้อสมมุติฐานว่า
1. อเมริกาต้องเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่สอง
2. เยอรมันจะต้องเป็นผู้แพ้สงครามในตอบจบ
3. หลังจากสงครามโลกจบ อเมริกาจะก้าวขึ้นเป็นพี่เบิ้มหมายเลขหนึ่งขึ้นครองโลก หลวงพ่อ CFR ไม่ใช่ธรรมดา ไม่ได้ทำนายหรือศึกษาเหตุการณ์ แต่ดูเหมือนจะ สร้าง เหตุการณ์ได้ด้วย ! ?
    ภายหลังจากเหตุการณ์ Pearl Harbor เมื่อ ค.ศ.1941 อเมริกาประกาศตัวโดดเข้าเล่นสงครามโลกด้วยจริงๆ ทันทีที่อเมริกาประกาศ CFR รีบออกข่าวตามไปติดๆ สำทับว่าฝ่ายอักษะแพ้สงครามแน่นอน แค่ยังไม่ออกข่าวว่าจะแพ้วันไหน เท่านั้นเอง และพร้อมกันนั้น CFR ขอแก้ไข Grand Area ทุ่งใหญ่ ไม่ใช่มีแค่ 4 แหล่ง ตามที่ศึกษาไว้ตอนแรก แต่มันต้องหมายรวมถึงโลกทั้งใบนี้ด้วย โอ้โห ! หลวงพ่อ CFR หนุนนักล่าสุดตัวไปเต็มตีนเลย แนวความคิดการจัดระเบียบโลกใหม่ จึงเกิดขึ้น (New World Order !) เราจำเป็นต้องจัดระเบียบใหม่ เกี่ยวกับการเมืองและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ซึ่งต้องสอดคล้องกันกับแผนการ ที่จะให้อเมริกาเป็นนักล่าหมายเลขหนึ่ง การรวมเป็นหนึ่งเดียวของประเทศทั้งหลายในโลก Unification จึงควรเป็นเป้าหมาย ตามแนวทางความคิดของ CFR พี่เลี้ยง/รัฐบาลอเมริกัน หรือควรจะเรียกว่าผู้กำกับหรือเจ้าของ ! ?
    แล้วเพื่อให้การดำเนินการเป็นไป ตามแผน พี่เลี้ยงบอกนักล่า จำเป็น ต้องเข้าไปมีส่วนร่วม ในกิจการภายในบ้าน (Internal Affairs) ของประเทศหลัก ที่นักล่าจะไป (หลอก) เอาวัตถุดิบที่อยู่ในบ้านเขามา ใช้ ต้องเข้าไปควบคุม ไปล้วงลูก ไปจัดการบ้านของพวกเขา ให้เป็นไปตามแผนเรา และต้องทำให้ประเทศนั้น นอกเหนือจาก ยินยอม ส่งวัถตุดิบให้เราแล้ว เราต้องทำให้เขารู้สึก อยาก ที่จะเป็นผู้บริโภคสินค้าที่เราผลิต (ด้วยวัตถุดิบของเขา) อีกด้วย นี่มันเดินหมากกิน 3 ต่อเลยนะ เพื่อให้นโยบายทั้งหมดสัมฤทธิผล เราจะต้องจัดตั้ง IMF และ IBRD (Bank For Reconstruction and Development ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น World Bank) มาเป็นส่วนสำคัญในการชักใย
    พี่เลี้ยง CFR บอกหน่วยงานพวกนี้ จำเป็นต้องมี เพื่อมาทำหน้าที่สร้างกลไกที่จะทำให้เงินสกุลของประเทศโลก ที่ 3 ที่เราจะไปลงทุน และค้าขายด้วย มีความมั่นคงมีเสถียรภาพ (ใช้ศัพท์วิชาการเลยนะลุง) แหม ! ถ้าเงินของไอ้พวกโลกที่ 3 มันขึ้นลงแบบลิฟท์เสีย ผู้ลงทุนสร้างนักล่าก็ล้มทั้งยืน ซิโยม แล้ว CFR ก็ลงมือร่างแผนการจัดตั้ง World Bank กับ IMF ตั้งแต่ ค.ศ.1941 ในที่สุดโดยการประชุมที่ Bretton Woods ค.ศ.1944 World Bank และ IMF ก็คลอด
    แต่ถึงยังงั้นก็เถอะ พี่เลี้ยง CFR ก็ยังเป็นห่วง พวกเขาดูแลนักล่าแบบพี่เลี้ยงมือโปร จะล่าเหยื่อกินแบบตะกรุมตะกรามให้ชาวบ้านเขาด่าได้ยังไง เรามันพวกครีม อยู่ชั้นบนของขนมเค้กเป็นชนชั้นสูงของสังคมมิใช่หรือ ฉะนั้นเราต้องเอาผ้าเช็ดปากมาปิดปาก เวลาจะอ้าปากเคี้ยว อำพรางตัวเองหน่อย ตั้งอะไรขึ้นมาบังหน้า แล้วเราคุมมันอีกต่อไม่ดีหรือ United Nations สหประชาชาติยังไงเล่า เพราะนายทุนกระเป๋าใหญ่ของ CFR อย่างมูลนิธิ Rockefeller และ Carnegie Corporation ต่างก็เคยฝัน อยากให้ประเทศต่างๆ รวมตัวกันเป็น League of Nations ตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 จบใหม่ๆ แล้ว แต่ไม่ได้ประโยชน์อะไรหนักหนา ก็ได้แต่มารวมตัวกัน คุยกันหลวมๆ เหมือนมางานสังสรร ระดับ CFR จะคิดจะทำอะไรมันต้องหนักแน่นแม่นยำกว่านั้น มันต้องเป็นเครื่องมือของการล่าเหยื่อชนิดพิเศษ Informal Agenda Group จึงถูก CFR ตั้งขึ้นมาทำการบ้าน ตั้งแต่ปี ค.ศ.1942 (ไอ้พวกนี้มันบ้าจัดตั้งหน่วยงานกันจริงนะ!) เพื่อสร้างฉาก จัดการ ให้มีหน่วยงานตามเป้าหมาย คือ องค์การสหประชาชาติ United Nations นั้นแหละ
    คณะสร้างฉากนี้มีสมาชิกทำงาน 6 คน รวมทั้งตัวนาย Cordell Hull รัฐมนตรีของ State Department คณะสร้างฉากนี้นอกเหนือจากตัวรัฐมนตรีแล้ว ที่เหลืออีก 5 คน เป็นสมาชิกของ CFR ทั้งสิ้น คณะสร้างฉาก ได้ข้อสรุปว่า เพื่อไม่ให้ชาวบ้านจับได้ไล่ทัน ว่าเราจะทำอะไร เราควรเอาตัวละครอื่นมาร่วมเข้า ฉากด้วย เป้ามันจะได้กระจาย เช่น สหภาพโซเวียต แคนาดา อังกฤษ ซึ่งประธานาธิบดี Roosevelt ก็ตกลง (คุณประธานาธิบดีนี่ เวลาหลวงพ่อ CFR เสนอ มีบ้างไหมที่แกไม่ตกลงชักสงสัย) ดังนั้นปี ค.ศ.1944 องค์กรสหประชาชาติก็ถูกจัดตั้งขึ้นเรียบร้อย มีกฎบัตร จัดร่างตีตราประทับอย่างถูกต้อง โดยลากเอาสมาชิก CFR ที่เป็นนักกฎหมายอีกเป็นกระบุง เข้ามาดูแล เข้ามาร่วมจัดร่างด้วย CFR ทำงานกันเป็นทีมแบบนี้ นายทุนกระเป๋าหนัก John D. Rockefeller หน้าบานยิ้มจนหุบปากไม่ลง ว่าแล้วก็ยกที่ดินกลางเมืองนิวยอร์ค ราคา 8.5 ล้านเหรียญ ให้เป็นของขวัญ (สมัยนั้น แปลว่าแยะนะครับ สมัยนี้ก็แยะ ถ้าเป็นเงินของเรา) เพื่อสร้างตึกสำนักงานใหญ่ของสหประชาชาติ
    ตกลงนับตั้งแต่ ค.ศ.1939 เป็นต้นมา อเมริกานักล่าอยู่ภายใต้การกำกับชักใยอย่างเปิดเผย โดยกลุ่มพี่เลี้ยง CFR ตกลงหลวงพ่อ CFR เป็นเจ้าของนักล่า หรือแค่เป็นผู้จัดการ ยังมีใครอื่นที่กำกับหลวงพ่ออีกหรือเปล่า เรารู้กันแน่ไหมว่าใครเป็นคนสั่งให้โลกหมุน ใครเป็นคนกำหนดอนาคตของโลกใบนี้
    คนเล่านิทาน
29 พค. 57
    แหกคอก ตอนที่ 3 – ซ่อนรูป นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” แหกคอก ” ตอนที่ 3 : ซ่อนรูป ในปี ค.ศ.1940 หลวงพ่อ CFR ก็ทำการศึกษาวางแผนระยะยาวเพิ่มเติมอีก เกี่ยวกับเศรษฐกิจของอเมริการะหว่างการทำสงคราม ซึ่งจะต้องมีการดูแลจัดการเกี่ยวกับเรื่องปากท้อง เงินทอง เพื่อให้อเมริกา นักล่าเข้าไปทำสงครามแบบสบายใจ หลวงพ่อนี่ดูแลแบบ ไม่มีตกไม่หล่นเลย รอบคอบมาก พวกเขาสรุปว่า อเมริกาต้องหาทางทำให้เกิดรายได้เข้าประเทศ โดยหาหรือสร้างตลาดใหญ่ สำหรับรองรับการผลิตสินค้าของอเมริกา และเพื่อให้แน่ใจว่า อเมริกาจะเข้าไปถึงแหล่งวัตถุดิบในบริเวณที่ประทับตรา ควบคุม (ขโมย !) ได้อย่างสะดวกเสรี ปราศจากการปิดกั้น หรือต้องตีตั๋วผ่าน รวมทั้งดูแลส่วนที่เกี่ยวกับ การค้าขาย การลงทุน เพื่อให้การล่าราบรื่น ไม่มีสดุด ติดขัด อเมริกาจำเป็นต้องมีกองทัพอันแข็งแกร่ง Military Supremacy เพื่อการนี้ด้วย แม่เจ้าโว้ย ! ฟันน้ำนมยังไม่ขึ้น พี่เลี้ยงสั่งให้แยกเขี้ยวแล้ว เริ่มต้น Grand Area Project บอกว่าศึกษาเพื่อเตรียมให้อเมริกาเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 และดูแลเศรษฐกิจของอเมริการะหว่างรบ ไม่ใช่รบๆ ไปกระเป๋าฉีก กางเกงขาด มันคงทุลักทุเล ทุเรศน่าดู แต่นั่นแหละพี่เลี้ยงนักล่าระดับหลวงพ่อ CFR ทำอะไรจะให้มันเปิดเผยเหมือนยืนล่อนจ้อนอยู่หน้าจอได้ยังไง มันต้องซ่อนต้องซ้อนกันหน่อย แท้จริงแล้ว Grand Area Project ได้ถูกออกแบบตั้งแต่แรก เพื่อให้อเมริกาเป็นนักล่าหมายเลขหนึ่งของโลกเป็นผู้ครองโลก คุมเศรษฐกิจโลกทั้งหมด หลังสงครามโลกสิ้นสุดลง และเพื่อจะควบคุมเศรษฐกิจตามเป้าหมาย ก็จะต้องมีการจัดตั้งองค์กรระหว่างประเทศขึ้นอีกเพียบ เพื่อมาจัดตั้งระบบวางกฎระเบียบ ที่เหมาะสมกับการค้า การลงทุน และระบบการเงินระหว่างประเทศ ให้ทุกอย่างอยู่ในระบบเดียวกับที่อเมริกาต้องการ เอาถึงขนาดนั้นเลยล่ะ และเพื่อจะให้ได้ผลเช่นนั้น อเมริกาจะต้องมีกองกำลังกล้ามใหญ่เอาไว้เบ่ง เวลาพูดจะได้มีคนฟัง ไม่ใช่ทำหูทวนลม แบบนี้เสียหน้ามาถึงหลวงพ่อCFR ด้วย น่าสนใจจริงๆ Grand Area Project นี้ ออกแบบไว้ล่วงหน้า โดยใช้ข้อสมมุติฐานว่า
1. อเมริกาต้องเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่สอง
2. เยอรมันจะต้องเป็นผู้แพ้สงครามในตอบจบ
3. หลังจากสงครามโลกจบ อเมริกาจะก้าวขึ้นเป็นพี่เบิ้มหมายเลขหนึ่งขึ้นครองโลก หลวงพ่อ CFR ไม่ใช่ธรรมดา ไม่ได้ทำนายหรือศึกษาเหตุการณ์ แต่ดูเหมือนจะ สร้าง เหตุการณ์ได้ด้วย ! ? ภายหลังจากเหตุการณ์ Pearl Harbor เมื่อ ค.ศ.1941 อเมริกาประกาศตัวโดดเข้าเล่นสงครามโลกด้วยจริงๆ ทันทีที่อเมริกาประกาศ CFR รีบออกข่าวตามไปติดๆ สำทับว่าฝ่ายอักษะแพ้สงครามแน่นอน แค่ยังไม่ออกข่าวว่าจะแพ้วันไหน เท่านั้นเอง และพร้อมกันนั้น CFR ขอแก้ไข Grand Area ทุ่งใหญ่ ไม่ใช่มีแค่ 4 แหล่ง ตามที่ศึกษาไว้ตอนแรก แต่มันต้องหมายรวมถึงโลกทั้งใบนี้ด้วย โอ้โห ! หลวงพ่อ CFR หนุนนักล่าสุดตัวไปเต็มตีนเลย แนวความคิดการจัดระเบียบโลกใหม่ จึงเกิดขึ้น (New World Order !) เราจำเป็นต้องจัดระเบียบใหม่ เกี่ยวกับการเมืองและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ซึ่งต้องสอดคล้องกันกับแผนการ ที่จะให้อเมริกาเป็นนักล่าหมายเลขหนึ่ง การรวมเป็นหนึ่งเดียวของประเทศทั้งหลายในโลก Unification จึงควรเป็นเป้าหมาย ตามแนวทางความคิดของ CFR พี่เลี้ยง/รัฐบาลอเมริกัน หรือควรจะเรียกว่าผู้กำกับหรือเจ้าของ ! ? แล้วเพื่อให้การดำเนินการเป็นไป ตามแผน พี่เลี้ยงบอกนักล่า จำเป็น ต้องเข้าไปมีส่วนร่วม ในกิจการภายในบ้าน (Internal Affairs) ของประเทศหลัก ที่นักล่าจะไป (หลอก) เอาวัตถุดิบที่อยู่ในบ้านเขามา ใช้ ต้องเข้าไปควบคุม ไปล้วงลูก ไปจัดการบ้านของพวกเขา ให้เป็นไปตามแผนเรา และต้องทำให้ประเทศนั้น นอกเหนือจาก ยินยอม ส่งวัถตุดิบให้เราแล้ว เราต้องทำให้เขารู้สึก อยาก ที่จะเป็นผู้บริโภคสินค้าที่เราผลิต (ด้วยวัตถุดิบของเขา) อีกด้วย นี่มันเดินหมากกิน 3 ต่อเลยนะ เพื่อให้นโยบายทั้งหมดสัมฤทธิผล เราจะต้องจัดตั้ง IMF และ IBRD (Bank For Reconstruction and Development ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น World Bank) มาเป็นส่วนสำคัญในการชักใย พี่เลี้ยง CFR บอกหน่วยงานพวกนี้ จำเป็นต้องมี เพื่อมาทำหน้าที่สร้างกลไกที่จะทำให้เงินสกุลของประเทศโลก ที่ 3 ที่เราจะไปลงทุน และค้าขายด้วย มีความมั่นคงมีเสถียรภาพ (ใช้ศัพท์วิชาการเลยนะลุง) แหม ! ถ้าเงินของไอ้พวกโลกที่ 3 มันขึ้นลงแบบลิฟท์เสีย ผู้ลงทุนสร้างนักล่าก็ล้มทั้งยืน ซิโยม แล้ว CFR ก็ลงมือร่างแผนการจัดตั้ง World Bank กับ IMF ตั้งแต่ ค.ศ.1941 ในที่สุดโดยการประชุมที่ Bretton Woods ค.ศ.1944 World Bank และ IMF ก็คลอด แต่ถึงยังงั้นก็เถอะ พี่เลี้ยง CFR ก็ยังเป็นห่วง พวกเขาดูแลนักล่าแบบพี่เลี้ยงมือโปร จะล่าเหยื่อกินแบบตะกรุมตะกรามให้ชาวบ้านเขาด่าได้ยังไง เรามันพวกครีม อยู่ชั้นบนของขนมเค้กเป็นชนชั้นสูงของสังคมมิใช่หรือ ฉะนั้นเราต้องเอาผ้าเช็ดปากมาปิดปาก เวลาจะอ้าปากเคี้ยว อำพรางตัวเองหน่อย ตั้งอะไรขึ้นมาบังหน้า แล้วเราคุมมันอีกต่อไม่ดีหรือ United Nations สหประชาชาติยังไงเล่า เพราะนายทุนกระเป๋าใหญ่ของ CFR อย่างมูลนิธิ Rockefeller และ Carnegie Corporation ต่างก็เคยฝัน อยากให้ประเทศต่างๆ รวมตัวกันเป็น League of Nations ตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 จบใหม่ๆ แล้ว แต่ไม่ได้ประโยชน์อะไรหนักหนา ก็ได้แต่มารวมตัวกัน คุยกันหลวมๆ เหมือนมางานสังสรร ระดับ CFR จะคิดจะทำอะไรมันต้องหนักแน่นแม่นยำกว่านั้น มันต้องเป็นเครื่องมือของการล่าเหยื่อชนิดพิเศษ Informal Agenda Group จึงถูก CFR ตั้งขึ้นมาทำการบ้าน ตั้งแต่ปี ค.ศ.1942 (ไอ้พวกนี้มันบ้าจัดตั้งหน่วยงานกันจริงนะ!) เพื่อสร้างฉาก จัดการ ให้มีหน่วยงานตามเป้าหมาย คือ องค์การสหประชาชาติ United Nations นั้นแหละ คณะสร้างฉากนี้มีสมาชิกทำงาน 6 คน รวมทั้งตัวนาย Cordell Hull รัฐมนตรีของ State Department คณะสร้างฉากนี้นอกเหนือจากตัวรัฐมนตรีแล้ว ที่เหลืออีก 5 คน เป็นสมาชิกของ CFR ทั้งสิ้น คณะสร้างฉาก ได้ข้อสรุปว่า เพื่อไม่ให้ชาวบ้านจับได้ไล่ทัน ว่าเราจะทำอะไร เราควรเอาตัวละครอื่นมาร่วมเข้า ฉากด้วย เป้ามันจะได้กระจาย เช่น สหภาพโซเวียต แคนาดา อังกฤษ ซึ่งประธานาธิบดี Roosevelt ก็ตกลง (คุณประธานาธิบดีนี่ เวลาหลวงพ่อ CFR เสนอ มีบ้างไหมที่แกไม่ตกลงชักสงสัย) ดังนั้นปี ค.ศ.1944 องค์กรสหประชาชาติก็ถูกจัดตั้งขึ้นเรียบร้อย มีกฎบัตร จัดร่างตีตราประทับอย่างถูกต้อง โดยลากเอาสมาชิก CFR ที่เป็นนักกฎหมายอีกเป็นกระบุง เข้ามาดูแล เข้ามาร่วมจัดร่างด้วย CFR ทำงานกันเป็นทีมแบบนี้ นายทุนกระเป๋าหนัก John D. Rockefeller หน้าบานยิ้มจนหุบปากไม่ลง ว่าแล้วก็ยกที่ดินกลางเมืองนิวยอร์ค ราคา 8.5 ล้านเหรียญ ให้เป็นของขวัญ (สมัยนั้น แปลว่าแยะนะครับ สมัยนี้ก็แยะ ถ้าเป็นเงินของเรา) เพื่อสร้างตึกสำนักงานใหญ่ของสหประชาชาติ ตกลงนับตั้งแต่ ค.ศ.1939 เป็นต้นมา อเมริกานักล่าอยู่ภายใต้การกำกับชักใยอย่างเปิดเผย โดยกลุ่มพี่เลี้ยง CFR ตกลงหลวงพ่อ CFR เป็นเจ้าของนักล่า หรือแค่เป็นผู้จัดการ ยังมีใครอื่นที่กำกับหลวงพ่ออีกหรือเปล่า เรารู้กันแน่ไหมว่าใครเป็นคนสั่งให้โลกหมุน ใครเป็นคนกำหนดอนาคตของโลกใบนี้ คนเล่านิทาน
29 พค. 57
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 85 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..อ.ปานเทพ ทำถูกต้องมาก ต้องแบบนี้ แฉชื่อประเทศที่สามอย่างตรงไปตรงมา มันกล้าสั่งมันกล้ามาบีบมากดดัน ต้องกล้าถูกคนไทยทั้งประเทศมารับรู้การกระทำของมัน
    .. เลิกปกปิดเลิกปิดบังชื่อประเทศที่สามกันอีกต่อไป แฉความจริงแบบลักษณะนี้ออกมา เรา..ประชาชนก็สามารถร่วมแก้ไขต้นเหตุของปัญหาร่วมกันได้.
    ..ญี่ปุ่นเป็นประเทศสันดานหมามาแต่ใดมาตั้งแต่ก่อการอยากใหญ่ก่อสงครามโลก
    ..ญี่ปุ่นไม่ใช่ประเทศที่สามเจ้าเดียวแน่นอน แต่เมื่อแฉว่าญี่ปุ่นก็คือชาติญี่ปุ่น นักลงทุนญี่ปุ่นนี้นั้นเอง.
    ..ใจหมามาแทรกแซงอธิปไตยไทย เกาหลีเหนือสมควรยิงขีปนาวุธถล่มญี่ปุ่นเลย,เกาะผีบ้าจะจมทะเลทั้งประเทศเวลาไหนก็ไม่รู้ เกาะซาตานแรปทีเลียนเสพกามทั้งเกาะเอามันส์บ้ากามสารพัดตามสันดานแรปทีเลี่ยนสัตว์เลื้อยคลาน กษัตริย์มันในอดีตก่อนระเบิดสองเกาะนางากับฮิโรชิมันก็สัตว์เลื้อยคลานขึ้นเป็นกษัตริย์ปกครองจนมีกฎห้ามมองหน้ากษัตริย์เกิดขึ้นเพราะหน้าตากษัตริย์คือพวกสัตว์เลื้อยคลาน ประชาชนรับรู้จะล้มล้างมัน จึงฆ่าทุกๆคนที่ไปเห็นใบหน้าพวกมัน,ใต้เกาะญี่ปุ่นคืออุโมงค์ขนาดใหญ่ยักษ์เผ่าสัตว์เลื้อยคลานแดกมนุษย์เป็นอันมาก เพาะมนุษย์โคลนมนุษย์เป็นฟาร์มใต้ดินไว้แดกเป็นจำนวนมาก.ญี่ปุ่นคือตาอเมริกาตัวพ่อ ตัวกดขี่ไทยคือญี่ปุ่นนี้ล่ะ, ฝรั่งเศสก็ตาอเมริกา,อย่าแปลกใจทำไมเราเสียมลฑลบูรพาเราคือพระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณเพราะญี่ปุ่นนี้คือฝ่ายพวกมันกับฝรั่งเศสอังกฤษอเมริกา ญี่ปุ่นคือไส้ศึกตัวพ่ออีกตัว,ตัวแทนอเมริกาเป็นceoตัวแทนฝรั่งมาปกครองดูแลสายพานผลประโยชน์ของฝรั่งทั้งประเทศไทย ดูตัวอย่างที่ชัดเจนคือการผลิตรถยนต์ มันกดขี่ห้ามคนไทยสามารถผลิตมาแข่งกับมันอิสระได้,ซื้อข้าราชการนักการเมืองขายชาติไว้ทำงานทุกๆวงการให้มัน,ชาติไทยเราจึงไม่เจริญไปไหน,แถมเสื่อมศีลธรรมคู่ขนานเจริญเพียงวัตถุแค่นั้น,ง่ายๆญี่ปุ่นไม่ใช่มิตรจริงอะไรหรอก,นอมินีอีลิทdeep stateแรปทีเลี่ยนดีๆนี้ล่ะ,สังเกตุมันใช้มุกแบบอเมริกาพิมพ์แบงค์ใช้เองได้สิ,อเมริกาก็พิมพ์แบงค์ใช้เองตามอำเภอใจ,ญี่ปุ่นขี้ข้ามือขวาในฝั่งเอเชียเลยก็ได้ สันดานเดียวกับอเมริกานั้นล่ะ,สันดานนี้ดูง่ายๆคือมวยไทยไปชกที่ญี่ปุ่น มันโกงคนไทยสารพัดรูปแบบเพื่อเอาชนะนักมวยไทยเรา ยุคล่าสุดคือบัวขวาK-1มันนั้นล่ะ,เราถูกสื่อในไทยเราที่มันซื้อสื่อหลักเราด้วยเงินได้มาล้างสมองคนไทยเราให้ชอบญี่ปุ่นแบบมัน,
    ..ธาตุแท้ญี่ปุ่นมันก็สันดานเดียวกับเขมรนั้นล่ะ,
    ..คนไทยเราจึงต้องช่วยเหลือกันเองเท่านั้น,สามัคคีเราคนไทยเท่านั้นจึงจะรอดในวิกฤติยุคนี้,เรามิอาจพึงใครนอกประเทศจริงจังเป็นหลักได้,พระเจ้าสอนให้เองพึงตนเองให้ได้ก่อนนั้นถูกต้องที่สุด,
    ..ญี่ปุ่นมาแทรกแซงภัยคุกคามรุกรานไทย,สันดานไม่ต่างจากอเมริการีบมาแทรกให้ต้องหยุดยิงนั้นล่ะ มุกเดียวกัน
    ..แต่ญี่ปุ่นมาแทรกมาแซงมาแทรกแซงขัดขวางในการจัดการเขมรด้วยการบีบไทยให้ต้องเปิดด่าน,บริบทพื้นฐานเพื่ออีลิทไม่ต้องการให้ไทยจัดการเขมรให้เด็ดขาดได้เพราะถ้าจัดการเขมรเด็ดขาดได้ ภูมิภาคนี้จะสงบสุขทันที ซึ่งอีลิทdeep stateยอมรับไม่ได้จะเสียแผนทั้งหมด,ต้องทำลายกลยุทธทางสงครามของไทยด้านการแทรกแซงบีบำทยต้องเปิดด่านให้ได้โดยส่งญี่ปุ่นกล้าตายมารับบทรับงานหน้างานครั้งนี้แทนมาเลย์อเมริกาที่เล่นไปแล้ว,กำกับงานละครโดยCIAประจำภูมิภาคนี้อีกล่ะ,งานสร้างความวุ่นวายไม่สงบสุขงานสร้างความโกลาหลแตกแยกต้องCIAยุยงปลุกปั่นเสมอ,มือที่สามตัวพ่อกำกับมือที่สามสำรองอีกที.
    ..ประเทศที่สามไม่น่าจะแค่ชาติญี่ปุ่น มีอเมริกา มีฝรั่งเศส ชาติอาหรับเลว ชาติยุโรปชั่วอีกตรึม งานหลักคือสร้างความไม่สงบสุขสันติในภูมิภาคนี้ ห้ามไทยจัดการเขมรให้เด็ดขาดได้ แหล่งอาหาร เนื้อมนุษย์ค้ามนุษย์ค้าอวัยวะมนุษย์จะหายไปทันที อาหารดีๆเนื้อคนเนื้อเด็กๆจะหายไปทันทีจะขาดตลาดทั่วโลกในลัทธิตาเดียวแดกมนุษย์นี้ ตลอดฮับฟอกเงิน ฮับอาชญากรรมสากลข้ามชาติทำเงินในเขมรจะหายไปด้วย สแกมเมอร์เดอะแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะหายไปทันที บ่อนคาสิโน ค้ายาเถื่อน ค้าอาวุธชีวภาพตัวพ่อด้วยที่แอบซ่อนไว้อีกตรึมไม่ต่างจากฝั่งยูเครนเลยล่ะ,ใต้ดินใต้อุโมงค์ในเขมรอีกขุดไว้ขนาดใหญ่เป็นฐานจะถูกทำลายทันที,ไม่ต่างจากพวกขายชาติที่ให้อเมริกาสร้างอุโมงค์ขนาดใหญ่ฐานขนาดใหญ่ที่เชียงใหม่แก่อเมริกานั้นล่ะ,ฮับรวบรวมเนื้อสดค้ามนุษย์จากฝั่งพม่าได้มากมายกันเลย ,ทะลุรถไฟฟ้าใต้เปลือกโลกใต้ดินวิ่งไปยุโรปอเมริกาความเร็วกว่า3,000กม.ถึง8,000กม.ต่อชม.อีก,
    ..สรุปญี่ปุ่นเหี้ยทำลายความมั่นคงสงบสุขในภูมิภาคเรานี้ก็ด้วย ในไทยยิ่งชัดเจน,ญี่ปุ่นใช้เวียดนามส่งสินค้าบรรทุกสินค้าไปค้าขายได้,เห็นว่าไทยปิดด่าน สามารถใช้ฐานลาว เวียดนามค้าขายแทนได้,ไม่จำเป็นใช้อ้างไทย หากมิตรสหายที่ดีจริงจะไม่ทำแบบนี้,เอาภัยรุกรานคุกคามอธิปไตยไทยที่เขมรกำลังโจมตีไทย ยิงระเบิดใส่ไทยก่อนใส่ประชาชนไทยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยก่อน ใส่โรงพยาบาลไทยที่ไม่รู้ห่าอะไรด้วยเลยก่อน สายข่าวสืบทราบชัดเจนว่ามันล็อกวิถีระเยิดยิงตกของการตกได้ ความน่าจะเป็นจะถึงจะตกระเบิดได้หรือการตกถูกได้,ญี่ปุ่นทำในจังหวะนี้ผิดวิสัยผิดปกติด้วย.ไส้ศึกศัตรูคือญี่ปุ่นนี้ก็ด้วย.หากข่าวนี้จริง,ญี่ปุ่นถ้าไปตกลงเจรจาทางลับกับอเมริกากับฝรั่งเศสหากขนเสบียงอาวุธช่วยเขมรชนะไทย ญี่ปุ่นก็มีส่วนได้ทรัพยากรมีค่ามากมายกว่า20ล้านล้านบาทอาจถึง100ล้านล้านบาทในอ่าวไทยและตลอดแนวพรมแดนไทยกับเขมรด้วย,สถานะญี่ปุ่นกับไทยจึงดูเหมาะสมยุ่งเกี่ยวออกตัวไม่น่าเกียจแบบอเมริกาฝรั่งเศสมาเลย์เพราะอ้างการลงทุนในเขมรอ้างการค้าขายไม่ได้แบบใก้ไทยเช่นญี่ปุ่นกว่าก็ไม่ได้,ญี่ปุ่นจึงเป็นตัวเลือกการแทรกแซงหน้างานครั้งนี้ดีที่สุดเนียนๆที่สุดนิ่มนวลที่สุด,ไม่มีใครออกมากล้าแฉชื่อประเทศที่สามได้หรอก รัฐบาลนายกฯหนูปกปิดให้อย่างดีแน่นอน,สามารถแทรกแซงยุทธการยุทธวิธีการเด็ดศึกเขมรได้แน่นอน ขัดขวางทหารไทยทำลายศักยภาพทางสงครามทหารเขมรได้แน่นอน,การเปิดด่าน ชาติที่สนับสนุนเขมร ขายอาวุธให้เขมรได้ขายได้ค้าแน่นอนจากเงินมืดเงินบ่อนของเขมรจากเงินแก๊งสแกมเมอร์ในเขมรมันซื้ออาวุธซื้อเสบียงพร้อมส่งตรงเวลาตามไส้ศึกในไทยเปิดจุดผ่อนปรนเปิดด่านให้เราขนส่งกำลังพลช่วยทหารเขมรชนะไทยได้แน่นอน.,ต้องฝากประเทศที่สามแบบญี่ปุ่นแล้วนะ เราฝรั่งเศสจะล่มละลายแล้ว อเมริกาก็ด้วย ญี่ปุ่นแกก็อักเสบทางการเงินด้วยนี้,มาจัดการไทยปล้นไทยอย่างชอบธรรมแดกได้จริงไม่อับอายโลกแค่เชียร์เขมรยึด1:200,000,สั่งไส้ศึกในไทยจะเปลี่ยนใครก็กอดmou43,44,tor46ไว้ให้แน่นด้วย,รับรองว่ามือที่สามประเทศสร้างความแตกแยกวุ่นวายแทรกแซงชาตินั้นแทรกแซงชาตินี้แบบเราสบายแน่นอน.ตังมหาศาลจากไทยเลย.แกญี่ปุ่นบีบไทยเปิดด่านให้ได้ ส่งสินค้าอาวุธและเสบียงให้ทหารเขมรรบชนะไทยให้ได้ ตุนอาวุธตุนเสบียงก่อน ยอมๆตกลงรับปากลมๆใสกระดาษกับไทยก่อนนะเขมร,ชนะไทยแน่นอนจากไส้ศึกภายในประเทศไทยมันเองคนในกองทัพไทยมันเอง.

    https://youtube.com/shorts/8br86PtN-yg?si=OtkRfTsleWOCTPaP
    ..อ.ปานเทพ ทำถูกต้องมาก ต้องแบบนี้ แฉชื่อประเทศที่สามอย่างตรงไปตรงมา มันกล้าสั่งมันกล้ามาบีบมากดดัน ต้องกล้าถูกคนไทยทั้งประเทศมารับรู้การกระทำของมัน .. เลิกปกปิดเลิกปิดบังชื่อประเทศที่สามกันอีกต่อไป แฉความจริงแบบลักษณะนี้ออกมา เรา..ประชาชนก็สามารถร่วมแก้ไขต้นเหตุของปัญหาร่วมกันได้. ..ญี่ปุ่นเป็นประเทศสันดานหมามาแต่ใดมาตั้งแต่ก่อการอยากใหญ่ก่อสงครามโลก ..ญี่ปุ่นไม่ใช่ประเทศที่สามเจ้าเดียวแน่นอน แต่เมื่อแฉว่าญี่ปุ่นก็คือชาติญี่ปุ่น นักลงทุนญี่ปุ่นนี้นั้นเอง. ..ใจหมามาแทรกแซงอธิปไตยไทย เกาหลีเหนือสมควรยิงขีปนาวุธถล่มญี่ปุ่นเลย,เกาะผีบ้าจะจมทะเลทั้งประเทศเวลาไหนก็ไม่รู้ เกาะซาตานแรปทีเลียนเสพกามทั้งเกาะเอามันส์บ้ากามสารพัดตามสันดานแรปทีเลี่ยนสัตว์เลื้อยคลาน กษัตริย์มันในอดีตก่อนระเบิดสองเกาะนางากับฮิโรชิมันก็สัตว์เลื้อยคลานขึ้นเป็นกษัตริย์ปกครองจนมีกฎห้ามมองหน้ากษัตริย์เกิดขึ้นเพราะหน้าตากษัตริย์คือพวกสัตว์เลื้อยคลาน ประชาชนรับรู้จะล้มล้างมัน จึงฆ่าทุกๆคนที่ไปเห็นใบหน้าพวกมัน,ใต้เกาะญี่ปุ่นคืออุโมงค์ขนาดใหญ่ยักษ์เผ่าสัตว์เลื้อยคลานแดกมนุษย์เป็นอันมาก เพาะมนุษย์โคลนมนุษย์เป็นฟาร์มใต้ดินไว้แดกเป็นจำนวนมาก.ญี่ปุ่นคือตาอเมริกาตัวพ่อ ตัวกดขี่ไทยคือญี่ปุ่นนี้ล่ะ, ฝรั่งเศสก็ตาอเมริกา,อย่าแปลกใจทำไมเราเสียมลฑลบูรพาเราคือพระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณเพราะญี่ปุ่นนี้คือฝ่ายพวกมันกับฝรั่งเศสอังกฤษอเมริกา ญี่ปุ่นคือไส้ศึกตัวพ่ออีกตัว,ตัวแทนอเมริกาเป็นceoตัวแทนฝรั่งมาปกครองดูแลสายพานผลประโยชน์ของฝรั่งทั้งประเทศไทย ดูตัวอย่างที่ชัดเจนคือการผลิตรถยนต์ มันกดขี่ห้ามคนไทยสามารถผลิตมาแข่งกับมันอิสระได้,ซื้อข้าราชการนักการเมืองขายชาติไว้ทำงานทุกๆวงการให้มัน,ชาติไทยเราจึงไม่เจริญไปไหน,แถมเสื่อมศีลธรรมคู่ขนานเจริญเพียงวัตถุแค่นั้น,ง่ายๆญี่ปุ่นไม่ใช่มิตรจริงอะไรหรอก,นอมินีอีลิทdeep stateแรปทีเลี่ยนดีๆนี้ล่ะ,สังเกตุมันใช้มุกแบบอเมริกาพิมพ์แบงค์ใช้เองได้สิ,อเมริกาก็พิมพ์แบงค์ใช้เองตามอำเภอใจ,ญี่ปุ่นขี้ข้ามือขวาในฝั่งเอเชียเลยก็ได้ สันดานเดียวกับอเมริกานั้นล่ะ,สันดานนี้ดูง่ายๆคือมวยไทยไปชกที่ญี่ปุ่น มันโกงคนไทยสารพัดรูปแบบเพื่อเอาชนะนักมวยไทยเรา ยุคล่าสุดคือบัวขวาK-1มันนั้นล่ะ,เราถูกสื่อในไทยเราที่มันซื้อสื่อหลักเราด้วยเงินได้มาล้างสมองคนไทยเราให้ชอบญี่ปุ่นแบบมัน, ..ธาตุแท้ญี่ปุ่นมันก็สันดานเดียวกับเขมรนั้นล่ะ, ..คนไทยเราจึงต้องช่วยเหลือกันเองเท่านั้น,สามัคคีเราคนไทยเท่านั้นจึงจะรอดในวิกฤติยุคนี้,เรามิอาจพึงใครนอกประเทศจริงจังเป็นหลักได้,พระเจ้าสอนให้เองพึงตนเองให้ได้ก่อนนั้นถูกต้องที่สุด, ..ญี่ปุ่นมาแทรกแซงภัยคุกคามรุกรานไทย,สันดานไม่ต่างจากอเมริการีบมาแทรกให้ต้องหยุดยิงนั้นล่ะ มุกเดียวกัน ..แต่ญี่ปุ่นมาแทรกมาแซงมาแทรกแซงขัดขวางในการจัดการเขมรด้วยการบีบไทยให้ต้องเปิดด่าน,บริบทพื้นฐานเพื่ออีลิทไม่ต้องการให้ไทยจัดการเขมรให้เด็ดขาดได้เพราะถ้าจัดการเขมรเด็ดขาดได้ ภูมิภาคนี้จะสงบสุขทันที ซึ่งอีลิทdeep stateยอมรับไม่ได้จะเสียแผนทั้งหมด,ต้องทำลายกลยุทธทางสงครามของไทยด้านการแทรกแซงบีบำทยต้องเปิดด่านให้ได้โดยส่งญี่ปุ่นกล้าตายมารับบทรับงานหน้างานครั้งนี้แทนมาเลย์อเมริกาที่เล่นไปแล้ว,กำกับงานละครโดยCIAประจำภูมิภาคนี้อีกล่ะ,งานสร้างความวุ่นวายไม่สงบสุขงานสร้างความโกลาหลแตกแยกต้องCIAยุยงปลุกปั่นเสมอ,มือที่สามตัวพ่อกำกับมือที่สามสำรองอีกที. ..ประเทศที่สามไม่น่าจะแค่ชาติญี่ปุ่น มีอเมริกา มีฝรั่งเศส ชาติอาหรับเลว ชาติยุโรปชั่วอีกตรึม งานหลักคือสร้างความไม่สงบสุขสันติในภูมิภาคนี้ ห้ามไทยจัดการเขมรให้เด็ดขาดได้ แหล่งอาหาร เนื้อมนุษย์ค้ามนุษย์ค้าอวัยวะมนุษย์จะหายไปทันที อาหารดีๆเนื้อคนเนื้อเด็กๆจะหายไปทันทีจะขาดตลาดทั่วโลกในลัทธิตาเดียวแดกมนุษย์นี้ ตลอดฮับฟอกเงิน ฮับอาชญากรรมสากลข้ามชาติทำเงินในเขมรจะหายไปด้วย สแกมเมอร์เดอะแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะหายไปทันที บ่อนคาสิโน ค้ายาเถื่อน ค้าอาวุธชีวภาพตัวพ่อด้วยที่แอบซ่อนไว้อีกตรึมไม่ต่างจากฝั่งยูเครนเลยล่ะ,ใต้ดินใต้อุโมงค์ในเขมรอีกขุดไว้ขนาดใหญ่เป็นฐานจะถูกทำลายทันที,ไม่ต่างจากพวกขายชาติที่ให้อเมริกาสร้างอุโมงค์ขนาดใหญ่ฐานขนาดใหญ่ที่เชียงใหม่แก่อเมริกานั้นล่ะ,ฮับรวบรวมเนื้อสดค้ามนุษย์จากฝั่งพม่าได้มากมายกันเลย ,ทะลุรถไฟฟ้าใต้เปลือกโลกใต้ดินวิ่งไปยุโรปอเมริกาความเร็วกว่า3,000กม.ถึง8,000กม.ต่อชม.อีก, ..สรุปญี่ปุ่นเหี้ยทำลายความมั่นคงสงบสุขในภูมิภาคเรานี้ก็ด้วย ในไทยยิ่งชัดเจน,ญี่ปุ่นใช้เวียดนามส่งสินค้าบรรทุกสินค้าไปค้าขายได้,เห็นว่าไทยปิดด่าน สามารถใช้ฐานลาว เวียดนามค้าขายแทนได้,ไม่จำเป็นใช้อ้างไทย หากมิตรสหายที่ดีจริงจะไม่ทำแบบนี้,เอาภัยรุกรานคุกคามอธิปไตยไทยที่เขมรกำลังโจมตีไทย ยิงระเบิดใส่ไทยก่อนใส่ประชาชนไทยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยก่อน ใส่โรงพยาบาลไทยที่ไม่รู้ห่าอะไรด้วยเลยก่อน สายข่าวสืบทราบชัดเจนว่ามันล็อกวิถีระเยิดยิงตกของการตกได้ ความน่าจะเป็นจะถึงจะตกระเบิดได้หรือการตกถูกได้,ญี่ปุ่นทำในจังหวะนี้ผิดวิสัยผิดปกติด้วย.ไส้ศึกศัตรูคือญี่ปุ่นนี้ก็ด้วย.หากข่าวนี้จริง,ญี่ปุ่นถ้าไปตกลงเจรจาทางลับกับอเมริกากับฝรั่งเศสหากขนเสบียงอาวุธช่วยเขมรชนะไทย ญี่ปุ่นก็มีส่วนได้ทรัพยากรมีค่ามากมายกว่า20ล้านล้านบาทอาจถึง100ล้านล้านบาทในอ่าวไทยและตลอดแนวพรมแดนไทยกับเขมรด้วย,สถานะญี่ปุ่นกับไทยจึงดูเหมาะสมยุ่งเกี่ยวออกตัวไม่น่าเกียจแบบอเมริกาฝรั่งเศสมาเลย์เพราะอ้างการลงทุนในเขมรอ้างการค้าขายไม่ได้แบบใก้ไทยเช่นญี่ปุ่นกว่าก็ไม่ได้,ญี่ปุ่นจึงเป็นตัวเลือกการแทรกแซงหน้างานครั้งนี้ดีที่สุดเนียนๆที่สุดนิ่มนวลที่สุด,ไม่มีใครออกมากล้าแฉชื่อประเทศที่สามได้หรอก รัฐบาลนายกฯหนูปกปิดให้อย่างดีแน่นอน,สามารถแทรกแซงยุทธการยุทธวิธีการเด็ดศึกเขมรได้แน่นอน ขัดขวางทหารไทยทำลายศักยภาพทางสงครามทหารเขมรได้แน่นอน,การเปิดด่าน ชาติที่สนับสนุนเขมร ขายอาวุธให้เขมรได้ขายได้ค้าแน่นอนจากเงินมืดเงินบ่อนของเขมรจากเงินแก๊งสแกมเมอร์ในเขมรมันซื้ออาวุธซื้อเสบียงพร้อมส่งตรงเวลาตามไส้ศึกในไทยเปิดจุดผ่อนปรนเปิดด่านให้เราขนส่งกำลังพลช่วยทหารเขมรชนะไทยได้แน่นอน.,ต้องฝากประเทศที่สามแบบญี่ปุ่นแล้วนะ เราฝรั่งเศสจะล่มละลายแล้ว อเมริกาก็ด้วย ญี่ปุ่นแกก็อักเสบทางการเงินด้วยนี้,มาจัดการไทยปล้นไทยอย่างชอบธรรมแดกได้จริงไม่อับอายโลกแค่เชียร์เขมรยึด1:200,000,สั่งไส้ศึกในไทยจะเปลี่ยนใครก็กอดmou43,44,tor46ไว้ให้แน่นด้วย,รับรองว่ามือที่สามประเทศสร้างความแตกแยกวุ่นวายแทรกแซงชาตินั้นแทรกแซงชาตินี้แบบเราสบายแน่นอน.ตังมหาศาลจากไทยเลย.แกญี่ปุ่นบีบไทยเปิดด่านให้ได้ ส่งสินค้าอาวุธและเสบียงให้ทหารเขมรรบชนะไทยให้ได้ ตุนอาวุธตุนเสบียงก่อน ยอมๆตกลงรับปากลมๆใสกระดาษกับไทยก่อนนะเขมร,ชนะไทยแน่นอนจากไส้ศึกภายในประเทศไทยมันเองคนในกองทัพไทยมันเอง. https://youtube.com/shorts/8br86PtN-yg?si=OtkRfTsleWOCTPaP
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 84 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Intel Arc Pro B50 พลิกเกมเวิร์กสเตชัน — แซงหน้า Nvidia RTX A1000 ทั้งด้าน AI และงานสร้างสรรค์ ด้วยราคาที่จับต้องได้”

    Intel สร้างความประหลาดใจให้กับวงการเวิร์กสเตชันด้วยการเปิดตัว Arc Pro B50 การ์ดจอระดับมืออาชีพรุ่นใหม่ที่แม้จะมีขนาดเล็กและราคาย่อมเยา แต่กลับสามารถเอาชนะ Nvidia RTX A1000 ได้ในหลายด้าน ทั้งงาน AI, การเรนเดอร์ Blender และแอป Adobe ที่ใช้ GPU หนัก ๆ

    Arc Pro B50 ใช้สถาปัตยกรรม Xe2 รุ่นใหม่ ซึ่งเป็นพื้นฐานเดียวกับซีรีส์ Battlemage สำหรับผู้บริโภค โดยมี 16 Xe2 cores และ 128 XMX matrix engines พร้อมหน่วยความจำ GDDR6 ขนาด 16GB — มากกว่า A1000 ที่มีเพียง 8GB และให้แบนด์วิดท์สูงถึง 224GB/s

    การ์ดนี้ออกแบบมาให้มีขนาดเล็กเพียง 168 มม. ใช้พลังงานแค่ 70W ไม่ต้องต่อไฟเพิ่ม และมาพร้อมพอร์ต Mini DisplayPort 2.1 ถึง 4 ช่อง ซึ่งเหนือกว่าพอร์ต 1.4a ของ A1000 อย่างชัดเจน

    ในการทดสอบจริง Arc Pro B50 ทำคะแนนเหนือกว่า A1000 ในหลายแอป เช่น Photoshop (ดีกว่า 7%), Premiere Pro (ดีกว่า 20%) และ Blender (ดีกว่า 20%) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ Nvidia เคยครองตลาดมาโดยตลอด นอกจากนี้ยังทำคะแนนสูงกว่าใน MLPerf และ Procyon AI benchmarks โดยเฉพาะด้าน computer vision และ text generation

    แม้จะมีจุดอ่อนในบางแอป เช่น Revit และ Inventor ที่ A1000 ยังทำงานได้เร็วกว่า แต่ในภาพรวม Arc Pro B50 ถือเป็นการ์ดที่ให้ความคุ้มค่าสูงมากในราคาเพียง $350 และได้รับการรับรองจากซอฟต์แวร์มืออาชีพกว่า 50 รายการ

    จุดเด่นของ Intel Arc Pro B50
    ใช้สถาปัตยกรรม Xe2 พร้อม 16 Xe2 cores และ 128 XMX engines
    หน่วยความจำ GDDR6 ขนาด 16GB — มากกว่า A1000 ถึง 2 เท่า
    แบนด์วิดท์ 224GB/s และ FP8 compute สูงถึง 170 TOPS
    ขนาดเล็ก 168 มม. ใช้พลังงานเพียง 70W ไม่ต้องต่อไฟเพิ่ม

    ประสิทธิภาพในการใช้งานจริง
    Photoshop ดีกว่า A1000 ประมาณ 7% โดยเฉพาะงาน GPU-heavy
    Premiere Pro ดีกว่าเกือบ 20% ในงานตัดต่อวิดีโอ
    Blender เรนเดอร์เร็วกว่า A1000 ถึง 20% — พลิกเกมจากเดิมที่ Nvidia ครอง
    MLPerf และ Procyon AI แสดงผลลัพธ์ดีกว่าในงาน computer vision และ text generation

    ความเหมาะสมกับงานมืออาชีพ
    ได้รับการรับรองจากซอฟต์แวร์มืออาชีพกว่า 50 รายการ เช่น Adobe, Autodesk
    มีพอร์ต Mini DisplayPort 2.1 จำนวน 4 ช่อง — รองรับจอความละเอียดสูง
    เหมาะกับงาน CAD, การตัดต่อ, โมเดล AI ขนาดเล็ก และงานสร้างสรรค์
    ราคาขายเพียง $350 — คุ้มค่ากว่าการ์ดระดับเดียวกัน

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Xe2 cores รองรับ SIMD16 — ดีกว่ารุ่นก่อนที่รองรับแค่ SIMD8
    มี dual media engine รองรับการเข้ารหัส/ถอดรหัสวิดีโอ 8K 10-bit
    มีการพัฒนา containerized Linux สำหรับงาน LLM โดยเฉพาะ
    Arc Pro B50 ใช้ GPU BMG-G21 ที่ Intel ปรับแต่งให้เหมาะกับต้นทุน

    https://www.techradar.com/pro/an-impressive-little-gpu-reviewers-surprised-by-intel-arc-pro-b50-gpus-superior-display-against-nvidias-rtx-a1000
    🎨 “Intel Arc Pro B50 พลิกเกมเวิร์กสเตชัน — แซงหน้า Nvidia RTX A1000 ทั้งด้าน AI และงานสร้างสรรค์ ด้วยราคาที่จับต้องได้” Intel สร้างความประหลาดใจให้กับวงการเวิร์กสเตชันด้วยการเปิดตัว Arc Pro B50 การ์ดจอระดับมืออาชีพรุ่นใหม่ที่แม้จะมีขนาดเล็กและราคาย่อมเยา แต่กลับสามารถเอาชนะ Nvidia RTX A1000 ได้ในหลายด้าน ทั้งงาน AI, การเรนเดอร์ Blender และแอป Adobe ที่ใช้ GPU หนัก ๆ Arc Pro B50 ใช้สถาปัตยกรรม Xe2 รุ่นใหม่ ซึ่งเป็นพื้นฐานเดียวกับซีรีส์ Battlemage สำหรับผู้บริโภค โดยมี 16 Xe2 cores และ 128 XMX matrix engines พร้อมหน่วยความจำ GDDR6 ขนาด 16GB — มากกว่า A1000 ที่มีเพียง 8GB และให้แบนด์วิดท์สูงถึง 224GB/s การ์ดนี้ออกแบบมาให้มีขนาดเล็กเพียง 168 มม. ใช้พลังงานแค่ 70W ไม่ต้องต่อไฟเพิ่ม และมาพร้อมพอร์ต Mini DisplayPort 2.1 ถึง 4 ช่อง ซึ่งเหนือกว่าพอร์ต 1.4a ของ A1000 อย่างชัดเจน ในการทดสอบจริง Arc Pro B50 ทำคะแนนเหนือกว่า A1000 ในหลายแอป เช่น Photoshop (ดีกว่า 7%), Premiere Pro (ดีกว่า 20%) และ Blender (ดีกว่า 20%) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ Nvidia เคยครองตลาดมาโดยตลอด นอกจากนี้ยังทำคะแนนสูงกว่าใน MLPerf และ Procyon AI benchmarks โดยเฉพาะด้าน computer vision และ text generation แม้จะมีจุดอ่อนในบางแอป เช่น Revit และ Inventor ที่ A1000 ยังทำงานได้เร็วกว่า แต่ในภาพรวม Arc Pro B50 ถือเป็นการ์ดที่ให้ความคุ้มค่าสูงมากในราคาเพียง $350 และได้รับการรับรองจากซอฟต์แวร์มืออาชีพกว่า 50 รายการ ✅ จุดเด่นของ Intel Arc Pro B50 ➡️ ใช้สถาปัตยกรรม Xe2 พร้อม 16 Xe2 cores และ 128 XMX engines ➡️ หน่วยความจำ GDDR6 ขนาด 16GB — มากกว่า A1000 ถึง 2 เท่า ➡️ แบนด์วิดท์ 224GB/s และ FP8 compute สูงถึง 170 TOPS ➡️ ขนาดเล็ก 168 มม. ใช้พลังงานเพียง 70W ไม่ต้องต่อไฟเพิ่ม ✅ ประสิทธิภาพในการใช้งานจริง ➡️ Photoshop ดีกว่า A1000 ประมาณ 7% โดยเฉพาะงาน GPU-heavy ➡️ Premiere Pro ดีกว่าเกือบ 20% ในงานตัดต่อวิดีโอ ➡️ Blender เรนเดอร์เร็วกว่า A1000 ถึง 20% — พลิกเกมจากเดิมที่ Nvidia ครอง ➡️ MLPerf และ Procyon AI แสดงผลลัพธ์ดีกว่าในงาน computer vision และ text generation ✅ ความเหมาะสมกับงานมืออาชีพ ➡️ ได้รับการรับรองจากซอฟต์แวร์มืออาชีพกว่า 50 รายการ เช่น Adobe, Autodesk ➡️ มีพอร์ต Mini DisplayPort 2.1 จำนวน 4 ช่อง — รองรับจอความละเอียดสูง ➡️ เหมาะกับงาน CAD, การตัดต่อ, โมเดล AI ขนาดเล็ก และงานสร้างสรรค์ ➡️ ราคาขายเพียง $350 — คุ้มค่ากว่าการ์ดระดับเดียวกัน ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Xe2 cores รองรับ SIMD16 — ดีกว่ารุ่นก่อนที่รองรับแค่ SIMD8 ➡️ มี dual media engine รองรับการเข้ารหัส/ถอดรหัสวิดีโอ 8K 10-bit ➡️ มีการพัฒนา containerized Linux สำหรับงาน LLM โดยเฉพาะ ➡️ Arc Pro B50 ใช้ GPU BMG-G21 ที่ Intel ปรับแต่งให้เหมาะกับต้นทุน https://www.techradar.com/pro/an-impressive-little-gpu-reviewers-surprised-by-intel-arc-pro-b50-gpus-superior-display-against-nvidias-rtx-a1000
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 69 มุมมอง 0 รีวิว

  • ถ้าไม่ติดว่า พล.อ.รังษี เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง และอาจไม่ใช่คนโปรดของใครบางคนและไม่สนิทกับฝ่ายรัฐบาลชุดนี้พอ,พล.อ.รังษี เหมาะสมกว่ามาก มีจุดยืนชัดเจน ไม่เหลาะแหละ ดูองอาจสมศักดิ์ศรีความเป็นทหารระดับคุม รมต.กลาโหมกว่า,นายกฯหนูใช้คนไม่เป็น เอาคนลุงตู่มาทำไม?



    ..https://youtube.com/shorts/wy8qbtbau50?si=xPRTRT89YhSTCW02
    ถ้าไม่ติดว่า พล.อ.รังษี เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง และอาจไม่ใช่คนโปรดของใครบางคนและไม่สนิทกับฝ่ายรัฐบาลชุดนี้พอ,พล.อ.รังษี เหมาะสมกว่ามาก มีจุดยืนชัดเจน ไม่เหลาะแหละ ดูองอาจสมศักดิ์ศรีความเป็นทหารระดับคุม รมต.กลาโหมกว่า,นายกฯหนูใช้คนไม่เป็น เอาคนลุงตู่มาทำไม? ..https://youtube.com/shorts/wy8qbtbau50?si=xPRTRT89YhSTCW02
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 31 มุมมอง 0 รีวิว
  • DongPleng On Air
    www.dongpleng.com
    ศิลปะ ดนตรี กวี ธรรมชาติ
    เจตนารมณ์ ของเรา
    1. เพื่อให้ความบันเทิงและผ่อนคลายด้านเสียงเพลงรวมถึงสาระที่น่าสนใจในแนวทาง ศิลปะ ดนตรี กวี ธรรมชาติ
    2. รณรงค์ให้ทุกคนรู้คุณค่าของแหล่งธรรมชาติต่างๆ การอณุรักษ์แหล่งท่องเที่ยว การรักษาสิ่งแวดล้อม
    3. เผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร สาระบันเทิง เช่น กิจกรรม ประเพณี วัฒนธรรมและเทศกาลต่างๆ ของไทย และให้พื้นที่นำเสนอผลงานของศิลปินนักร้องได้อย่างอิสระ
    4. รณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวสนใจเที่ยวในเมืองไทยรวมถึงนำเสนอเอกลักษณ์ไทย เช่น ศิลปะไทย อาหารไทย
    5. สร้างสัมพันธภาพที่ดีของคนในสังคมให้รู้รักสามัคคี ภูมิใจและรักในความเป็นไทย
    6. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีสำหรับองค์กร ผลิตภัณฑ์สินค้า และบริการ ต่างๆ
    7. ส่งเสริมการใช้อินเทอร์เน็ตอย่างเหมาะสมและเกิดประโยชน์ในทางที่สร้างสรรค์
    ขอบพระคุณครับ
    #ศิลปะดนตรีกวีธรรมชาติ #indie #onair #dongplengonair #radioonline #อัลเตอร์90 #djดีเจชอว์ #shawsherryduck #วิทยุออนไลน์ #สถานีวิทยุ #ชอว์พิชิต #ชอว์เชอร์รี่ดั๊ก #radioshow #live #สาระบันเทิง #เพลงไทย #เสียงเพลงสร้างสรรค์ #เพื่อชีวิต #ลูกทุ่ง #วิทยุอารมณ์ดี #ป็อปร็อค #ยุคเทป #เพลงใหม่ #เพลงเก่า #คิดบวก #ความสุข #ความรัก #เพลงรัก #เพลงดี #เพลงสากล
    DongPleng On Air www.dongpleng.com ศิลปะ ดนตรี กวี ธรรมชาติ เจตนารมณ์ ของเรา 1. เพื่อให้ความบันเทิงและผ่อนคลายด้านเสียงเพลงรวมถึงสาระที่น่าสนใจในแนวทาง ศิลปะ ดนตรี กวี ธรรมชาติ 2. รณรงค์ให้ทุกคนรู้คุณค่าของแหล่งธรรมชาติต่างๆ การอณุรักษ์แหล่งท่องเที่ยว การรักษาสิ่งแวดล้อม 3. เผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร สาระบันเทิง เช่น กิจกรรม ประเพณี วัฒนธรรมและเทศกาลต่างๆ ของไทย และให้พื้นที่นำเสนอผลงานของศิลปินนักร้องได้อย่างอิสระ 4. รณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวสนใจเที่ยวในเมืองไทยรวมถึงนำเสนอเอกลักษณ์ไทย เช่น ศิลปะไทย อาหารไทย 5. สร้างสัมพันธภาพที่ดีของคนในสังคมให้รู้รักสามัคคี ภูมิใจและรักในความเป็นไทย 6. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีสำหรับองค์กร ผลิตภัณฑ์สินค้า และบริการ ต่างๆ 7. ส่งเสริมการใช้อินเทอร์เน็ตอย่างเหมาะสมและเกิดประโยชน์ในทางที่สร้างสรรค์ ขอบพระคุณครับ #ศิลปะดนตรีกวีธรรมชาติ #indie #onair #dongplengonair #radioonline #อัลเตอร์90 #djดีเจชอว์ #shawsherryduck #วิทยุออนไลน์ #สถานีวิทยุ #ชอว์พิชิต #ชอว์เชอร์รี่ดั๊ก #radioshow #live #สาระบันเทิง #เพลงไทย #เสียงเพลงสร้างสรรค์ #เพื่อชีวิต #ลูกทุ่ง #วิทยุอารมณ์ดี #ป็อปร็อค #ยุคเทป #เพลงใหม่ #เพลงเก่า #คิดบวก #ความสุข #ความรัก #เพลงรัก #เพลงดี #เพลงสากล
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 88 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • "อนุทิน" ยันไม่ล้วงคดีเขากระโดง ขอทุ่มเวลาช่วย ปชช. ย้ำทุกอย่างเป็นไปตาม กม.ไม่แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ด้าน สว.แนะรัฐบาลเลือกคนเหมาะสมนั่ง รมว.ยุติธรรม สร้างความเชื่อมั่นให้สังคม
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000086521

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    "อนุทิน" ยันไม่ล้วงคดีเขากระโดง ขอทุ่มเวลาช่วย ปชช. ย้ำทุกอย่างเป็นไปตาม กม.ไม่แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ด้าน สว.แนะรัฐบาลเลือกคนเหมาะสมนั่ง รมว.ยุติธรรม สร้างความเชื่อมั่นให้สังคม . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000086521 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Haha
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 322 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..อันตรายมาก,ส่อแววไม่ซื่อสัตย์สุจริตชัดเจน มีคลิปยืนยันการพูดจาจริง,เจตนาและสมยอมให้แบ่งปันกันจริง แต่ติดที่นั้นคือเขตดินแดนอธิปไตยไทยชัดเจน,แต่ตนซึ่งมีวุฒิภาวะครบถ้วมมีความรู้ดีด้วยระดับผู้บริหารแล้วกับตระหนักถึงมูลความจริงไม่ได้ว่า ความจริงนั้นคือเขตดินแดนไทย ถ้าแบ่ง50:50ให้เขมร แสดงว่ายกดินแดรอธิปไตยไทยให้เขมรด้วย,เห็นชอบเห็นด้วยในการยกดินแดนที่แบ่งกัน50:50นี้ให้เป็นของเขมร ซึ่งความจริงเป็นของไทยปกติอยู่เดิมที่100%,
    ..ตนเองจะมาเป็น รมต.พลังงานด้วย ถือว่าไม่เหมาะสมกับตำแหน่ง,ไม่ต่างเลยที่แสดงความเห็นว่า เห็นชอบในการแก้ไข ม.112 ออกรายการสื่อหรือบนเวทีต่างๆผ่านมวลชน,แสดงเจตนาตนว่าร่วมด้วยในการแก้ไข ม.112 อันเดียวกัน,นี้ก็ด้วยอันเดียวกัน มีเจตนาเพื่อผลประโยชน์ส่วนตนแก่เอกชนไทยฝ่ายต่างๆหรือกลุ่มคนที่ทำกิจการด้านพลังงานชัดเจน,หาประโยชน์ด้วยบนอำนาจตำแหน่งในอนาคตหากตนได้เข้าไปมีอำนาจ,สามารถสนองเจตนากลุ่มชนตนที่พูดป่านสื่อ ออกรายการลักษณะนี้ได้,นี้มีความผิด ม.119ร่วมด้วยชัดเจน เจตนาส่งมอบผลประโยชน์ด้านอธิปไตยตนให้อีกฝ่ายหรือศัตรูชัดเจน และหรือเจตนาทำให้สูญเสียดินแดนอธิปไตยไทยตนจนนำไปสู่เสียพื้นที่เสียเส้นขีดแดน กินพื้นที่อ่าวไทยตน กินอธิปไตยไทยโดยมีปกติไปกว่าครึ่งหนึ่งซึ่งผลคือได้แบ่งครึ่งกัน50:50สำเร็จผลแล้วนั้นเอง.
    ..ครม.ทั้งคณะของรัฐบาลนายกฯ32หนูนี่ แม้เน่า1คนก็เน่าทั้งคอก ถึงว่าเป็นชุดครม.อันโมฆะบุรุษ เป็นภัยร้ายแรงต่ออธิปไตยไทย มีคลิปสนับสนุนยืนยันการกระทำชัดเจนด้วย ไม่ซื่อสัตย์สุจริต ส่อเจตนาไม่ปกป้องหวงแหนสมบัติทรัพยากรมีค่าในบ้านในเมืองตน ทำเล่นๆเหมือนเด็กๆมาแบ่งขนมกันกินคนละครึ่ง,ทั้งมาจากกิจการด้านพลังงานด้วย จากคนนอกอีก,ซึ่งผิดวิสัยระบบเลือกตัังของประชาชนมาก,แม้กฎหมายสนับสนุนเขียนให้ชอบธรรมก็ผิดหลักธรรมชาติสามัญของระบบประชาธิปไตยไทย และประชาชนมิได้เลือกตั้งตรงคนเหล่านี้จากภายนอกด้วย,แม้ทูลกล้าฯขึ้นไปก็มิชอบธรรม,เพราะเสมือนเป็นครม.คนนอก นอกการเลือกตั้งจากระบบประชาชนประชาธิปไตย,ครม.ทั้งคณะตลอด นายกฯหนูมีสิทธิติดคุกในอนาคตแน่นอน ก้าวล่วงระบบประชาธิปไตยด้วย ทำอำนาจพระมหากษัตริย์หม่นหม่อง ก้าวล่วงพระราชอำนาจ องคมนตรีผู้ถวายงานก็สมควรโดนด้วย,เช่นนั้นไม่สมควรมีการเลือกตั้งจากประชาชนทั้งประเทศก็ได้,คณะครม.เอาคนนอกมานั่งได้สบายใจ กฎเขียนกฎหมายตามใจคนมีอำนาจได้หมด,จะแบ่งแผ่นดินไทย50:50ตรงไหนในอนาคตก็ได้,พูดล่วงหน้าตอนยังไม่เป็นครม.ก็ได้ เป็นแล้วจะพูดเจตนาจริงของตนไม่ได้อีก,พูดเห็นดีเห็นงามแบ่ง50:50ดินแดนอธิปไตยตนก่อนทำสงครามภูมะเขือก็ได้ บ้านหนองจานก็ได้มาแบ่งพื้นที่กัน50:50เถอะพูดเปิดเผยขณะตนยังไม่เป็นครม.รมต.ก็ได้,พูดเห็นด้วยในการแก้ไข ม.112ก่อนเป็นว่าที่นายกฯก็ได้ นี้ก็คงอันเดียวกันสินะ,คนใหญ่คนโตพูดอะไรก็ไม่ผิด เอาผิดจากคำพูดจากคลิปไม่ได้ ไม่เจตนาตั้งใจพูดก็คงอีกเรื่อง,แต่นี้ตั้งใจชัดเจน.,สถานะความเป็นครม คณะครม. หลังโปรดเกล้าลงมาก็สมควรขาดคุณสมบัติอย่างแรงและคือเรื่อง ม.119ด้วยอธิปไตยดินแดนไทยเต็มๆ,50ส่วนจากเดิมเป็นของไทยมีคำพูดทางวาจาประจักษ์ชัดว่าแบ่งดินแดนพื้นที่ไทยตนให้เขมร50ส่วนไปทำประโยชน์ร่วมกัน50:50 ,
    ..คณะรวมพลังแผ่นดินไทย ท่านเห็นตรงนี้มั้ย มิอาจปล่อยคนชั่วเลวลักษณะอำนวยเอื้อสร้างให้กลุ่มทุนมุ่งหวังผลประโยชน์ได้,นี้คือการสอดไส้ความไม่ซื่อสัตย์ชัดเจน เจตนาไม่สุจริตใจอย่างร้ายแรง ผลจริยธรรมของการเป็นผู้นำที่ดีด้วย ขาดคุณสมบัติมากมาย นอกจากมาจากคนนอกที่ประชาชนไม่ได้เลือกตั้งนะ เสือกมาได้อีก,ผิด ผิด ผิดธรรมาภิบาลหลักการสร้างฐานชัยที่ดีงามชัดเจน นี้คือการสร้างฐานแห่งความชั่วร้ายเลงทรามชัดเจนมากการ.
    ..คณะรวมพลังแผ่นดินฯหากดูไม่ออก ไม่แสดงเจตนาจุดยืนชัดเจน ตรวจสอบพวกครม.เหี้ยนี้ด้วย ให้เป็นจริงชัดเจนแบบคลิปนี้ คณะรวมพลังแผ่นดินฯท่านมีไส้ศึกภายในคณะแล้ว,ไม่ต่อสู้กับสิ่งชั่วเลวจริง ,และเชื่อว่าคณะรวมพลังแผ่นดินฯต้องมองเห็น อาจฟ้องดำเนินคดีข้อหาความไม่ซื่อสัตย์สุจิตใจได้อีก,ไม่ต่างจากคลิปอดีตนายกฯอุ๊งอิ๊งแน่นอน,และคลิปนี้พร้อมใจแบ่งร่วมดินแดนอธิปไตยตนกับเขมรชัดเจน.


    https://youtube.com/watch?v=6mxfFl4dATc&si=TewIiacimVIugQa7
    ..อันตรายมาก,ส่อแววไม่ซื่อสัตย์สุจริตชัดเจน มีคลิปยืนยันการพูดจาจริง,เจตนาและสมยอมให้แบ่งปันกันจริง แต่ติดที่นั้นคือเขตดินแดนอธิปไตยไทยชัดเจน,แต่ตนซึ่งมีวุฒิภาวะครบถ้วมมีความรู้ดีด้วยระดับผู้บริหารแล้วกับตระหนักถึงมูลความจริงไม่ได้ว่า ความจริงนั้นคือเขตดินแดนไทย ถ้าแบ่ง50:50ให้เขมร แสดงว่ายกดินแดรอธิปไตยไทยให้เขมรด้วย,เห็นชอบเห็นด้วยในการยกดินแดนที่แบ่งกัน50:50นี้ให้เป็นของเขมร ซึ่งความจริงเป็นของไทยปกติอยู่เดิมที่100%, ..ตนเองจะมาเป็น รมต.พลังงานด้วย ถือว่าไม่เหมาะสมกับตำแหน่ง,ไม่ต่างเลยที่แสดงความเห็นว่า เห็นชอบในการแก้ไข ม.112 ออกรายการสื่อหรือบนเวทีต่างๆผ่านมวลชน,แสดงเจตนาตนว่าร่วมด้วยในการแก้ไข ม.112 อันเดียวกัน,นี้ก็ด้วยอันเดียวกัน มีเจตนาเพื่อผลประโยชน์ส่วนตนแก่เอกชนไทยฝ่ายต่างๆหรือกลุ่มคนที่ทำกิจการด้านพลังงานชัดเจน,หาประโยชน์ด้วยบนอำนาจตำแหน่งในอนาคตหากตนได้เข้าไปมีอำนาจ,สามารถสนองเจตนากลุ่มชนตนที่พูดป่านสื่อ ออกรายการลักษณะนี้ได้,นี้มีความผิด ม.119ร่วมด้วยชัดเจน เจตนาส่งมอบผลประโยชน์ด้านอธิปไตยตนให้อีกฝ่ายหรือศัตรูชัดเจน และหรือเจตนาทำให้สูญเสียดินแดนอธิปไตยไทยตนจนนำไปสู่เสียพื้นที่เสียเส้นขีดแดน กินพื้นที่อ่าวไทยตน กินอธิปไตยไทยโดยมีปกติไปกว่าครึ่งหนึ่งซึ่งผลคือได้แบ่งครึ่งกัน50:50สำเร็จผลแล้วนั้นเอง. ..ครม.ทั้งคณะของรัฐบาลนายกฯ32หนูนี่ แม้เน่า1คนก็เน่าทั้งคอก ถึงว่าเป็นชุดครม.อันโมฆะบุรุษ เป็นภัยร้ายแรงต่ออธิปไตยไทย มีคลิปสนับสนุนยืนยันการกระทำชัดเจนด้วย ไม่ซื่อสัตย์สุจริต ส่อเจตนาไม่ปกป้องหวงแหนสมบัติทรัพยากรมีค่าในบ้านในเมืองตน ทำเล่นๆเหมือนเด็กๆมาแบ่งขนมกันกินคนละครึ่ง,ทั้งมาจากกิจการด้านพลังงานด้วย จากคนนอกอีก,ซึ่งผิดวิสัยระบบเลือกตัังของประชาชนมาก,แม้กฎหมายสนับสนุนเขียนให้ชอบธรรมก็ผิดหลักธรรมชาติสามัญของระบบประชาธิปไตยไทย และประชาชนมิได้เลือกตั้งตรงคนเหล่านี้จากภายนอกด้วย,แม้ทูลกล้าฯขึ้นไปก็มิชอบธรรม,เพราะเสมือนเป็นครม.คนนอก นอกการเลือกตั้งจากระบบประชาชนประชาธิปไตย,ครม.ทั้งคณะตลอด นายกฯหนูมีสิทธิติดคุกในอนาคตแน่นอน ก้าวล่วงระบบประชาธิปไตยด้วย ทำอำนาจพระมหากษัตริย์หม่นหม่อง ก้าวล่วงพระราชอำนาจ องคมนตรีผู้ถวายงานก็สมควรโดนด้วย,เช่นนั้นไม่สมควรมีการเลือกตั้งจากประชาชนทั้งประเทศก็ได้,คณะครม.เอาคนนอกมานั่งได้สบายใจ กฎเขียนกฎหมายตามใจคนมีอำนาจได้หมด,จะแบ่งแผ่นดินไทย50:50ตรงไหนในอนาคตก็ได้,พูดล่วงหน้าตอนยังไม่เป็นครม.ก็ได้ เป็นแล้วจะพูดเจตนาจริงของตนไม่ได้อีก,พูดเห็นดีเห็นงามแบ่ง50:50ดินแดนอธิปไตยตนก่อนทำสงครามภูมะเขือก็ได้ บ้านหนองจานก็ได้มาแบ่งพื้นที่กัน50:50เถอะพูดเปิดเผยขณะตนยังไม่เป็นครม.รมต.ก็ได้,พูดเห็นด้วยในการแก้ไข ม.112ก่อนเป็นว่าที่นายกฯก็ได้ นี้ก็คงอันเดียวกันสินะ,คนใหญ่คนโตพูดอะไรก็ไม่ผิด เอาผิดจากคำพูดจากคลิปไม่ได้ ไม่เจตนาตั้งใจพูดก็คงอีกเรื่อง,แต่นี้ตั้งใจชัดเจน.,สถานะความเป็นครม คณะครม. หลังโปรดเกล้าลงมาก็สมควรขาดคุณสมบัติอย่างแรงและคือเรื่อง ม.119ด้วยอธิปไตยดินแดนไทยเต็มๆ,50ส่วนจากเดิมเป็นของไทยมีคำพูดทางวาจาประจักษ์ชัดว่าแบ่งดินแดนพื้นที่ไทยตนให้เขมร50ส่วนไปทำประโยชน์ร่วมกัน50:50 , ..คณะรวมพลังแผ่นดินไทย ท่านเห็นตรงนี้มั้ย มิอาจปล่อยคนชั่วเลวลักษณะอำนวยเอื้อสร้างให้กลุ่มทุนมุ่งหวังผลประโยชน์ได้,นี้คือการสอดไส้ความไม่ซื่อสัตย์ชัดเจน เจตนาไม่สุจริตใจอย่างร้ายแรง ผลจริยธรรมของการเป็นผู้นำที่ดีด้วย ขาดคุณสมบัติมากมาย นอกจากมาจากคนนอกที่ประชาชนไม่ได้เลือกตั้งนะ เสือกมาได้อีก,ผิด ผิด ผิดธรรมาภิบาลหลักการสร้างฐานชัยที่ดีงามชัดเจน นี้คือการสร้างฐานแห่งความชั่วร้ายเลงทรามชัดเจนมากการ. ..คณะรวมพลังแผ่นดินฯหากดูไม่ออก ไม่แสดงเจตนาจุดยืนชัดเจน ตรวจสอบพวกครม.เหี้ยนี้ด้วย ให้เป็นจริงชัดเจนแบบคลิปนี้ คณะรวมพลังแผ่นดินฯท่านมีไส้ศึกภายในคณะแล้ว,ไม่ต่อสู้กับสิ่งชั่วเลวจริง ,และเชื่อว่าคณะรวมพลังแผ่นดินฯต้องมองเห็น อาจฟ้องดำเนินคดีข้อหาความไม่ซื่อสัตย์สุจิตใจได้อีก,ไม่ต่างจากคลิปอดีตนายกฯอุ๊งอิ๊งแน่นอน,และคลิปนี้พร้อมใจแบ่งร่วมดินแดนอธิปไตยตนกับเขมรชัดเจน. https://youtube.com/watch?v=6mxfFl4dATc&si=TewIiacimVIugQa7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 127 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..จริงๆนายกฯหนู ยกเลิกผ่านมติ ครม.ของตนเองก็จบแล้ว,ทำได้ทันทีด้วย,หรือตัดสินใจด้วยตนเองคนเดียวก็ได้เพราะMOUนี้ผิดขั้นตอนไม่ชอบธรรมด้วยกฎหมายประชาธิปไตยไทยแต่ต้นแล้ว ไม่นำเข้าสภาฯใดๆเลยด้วยแต่แรก จึงด้วยสถานะนายกฯอำนาจเต็มสามารถโมฆะMOU43,44นี้ได้อย่างชอบธรรม.
    ..นายกฯไม่จำเป็นต้องนำเข้าคณะครม.ตนก็ได้,คนไทยจะเห็นความเด็ดขาดนายกฯหนูโน้น,เพราะกล้าเหยียบเขมรและฮุนเซนจริงแท้คนไทย,ก่อนมาเป็นนายกฯพรรคภูมิใจไทย พรรคภูมิใจไทยก็เป็นตัวตั้งตัวตีเสนอยกเลิกMOU43,44นะ,
    ..นายกฯรัฐบาลนี้ทำได้จะรอดพ้น(ประวัติศาสตร์จะมีข้อยกเว้นว่ารัฐบาลยุคนายกฯหนูไม่มีข้อหานี้ด้วย)จากข้อหากบฎ ม.119เจตนาทำให้เสียหาย สูญเสียดินแดนอธิปไตยชาติโดยกอดmou43,44tor46นี้ไว้โทษประหารชีวิตอย่างเดียวและ ม.157 ทันที ,ก้มหน้าไม่อายครอบครัวคนอีสานที่ตายเกือบยกครัว คนไทยชาวบ้านที่บริสุทธิ์มากมายต้องตายไป มันยิงโรงพยาบาลไทย มันระบุพิกัดชัดเจนกะระยะยิงตกชัดมีหลักฐานจากกูรูสายข่าวว่ามันล็อกเป้ายิง7/11ปั้มน้ำมันจริง,และอื่นๆด้วย,เงยหน้าไม่ละอายต่อทหารหาญที่สูญเสียชีวิตทั้งพิการและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก,อย่าทรยศหักหลังประชาชนนะ,
    ..นายกฯหนูและรัฐบาลชุดนี้4เดือนจะแตกต่างทันทีกับจุดยืนสมัยยุคอภิสิทธิ์ยุคลุงตู่ยึดอำนาจแท้ๆแต่ไม่ยอมยกเลิกMOU43,44กอดคาจนหมดอำนาจจากการยึดอำนาจและจนหมดอำนาจจากนั่งตำแหน่งนายกฯสมัยลุง,ละเว้นปฏิบัติหน้าที่จน อ.วีระ จะฟ้องแน่นอนแล้วที่ประกาศออกสื่อชัดเจนบวกหลักฐานบ้านหนองจานที่ยืนบนแผ่นดินไทยชัดเจนนั้นด้วยแต่สุมหัวเจตนาทำให้สูญเสียดินแดนไทยบอกว่าตรงจุด อ.วีระถูกจับเป็นดินแดนแผ่นดินเขมรนะ จนอยู่คุกเขมรสมบูรณ์เป็นความผิดในเจตนา ม.119แล้วด้วย ม.157ก็ด้วย,ไม่รวมตรึมทั้ง11จุดได้คืนจากเขมรด้วยที่บิ๊กกุ้งถีบ้ขมรออกจากพื้นที่ประเทศไทยจริง
    ..อย่าทรยศหักหลังเหมือนพรรคการเมืองในอดีตนะ กัญชาเสรีคือบทเรียน.
    ..ทำกัญชาเสรีจริงๆจะมีประโยชน์มากแต่หักหลังประชาชนปลูกผีบ้าอะไรคนละ6ต้น ต้องปลูกสกัดทำยาส่ง รพ.จริงเสรีด้วย.
    ..คนชาวบ้านไทบ้านจะมีตังใช้จ่ายจริง มุกกีดกันประชาชนตรึม วิจัยเอย โรงเรือนต้องมาตราฐานลงทุนเป็นหมื่นเป็นแสน แดกค่าใบอนุญาตอีก สาระพัดมุกเหี้ยๆต่อชาวบ้านมิให้มีโอกาสจริง เงื่อนไขกติกามากมายจนเป็นภาระ ต้องสไตล์ปลูกพืชผักสวนครัวโน้น อยากกินอยากปลูกตอนไหนก็ปลูก,ชุมชนควบคุมดูแลรักษาความสงบร่วมกัน บริหารจัดการผลิตผลการตลาดช่วยเหลือคนไทยจริงจังด้วย,มิใช่สร้างต้นทุนแพงๆสูงๆต้นทุนแก่ชาวบ้านคนปลูกจึงสร้างความลำบากและสร้างให้ยากชัดเจนไม่มีเจตนาดีจริงต่อการช่วยสร้างรายรับแก่ประชาชน สร้างฐานต้นทุนยารักษาโรคที่ราคาถูกบนแผ่นดินไทยด้วย,ต่างชาติล็อบบี้โคตรๆเพื่อทำลายนโยบายนี้เพราะกระทบบริษัทยาทั่วโลกจริง,กำจัดแมลงพืชผลทางการเกษตรก็ได้ด้วย ภัยร้ายแรงต่อบริษัทยารักษาคนและบริษัทยาฆ่าแมลงกำจัดแมลงโรคพืชและสัตว์เลี้ยง,หว่านตามป่าตามเขาปลายนาก็เกิดเติบโตใหญ่แล้ว สามารถผสมสินค้าอุปโภคบริโภคได้จริงกว่า50,000รายการสินค้า ใยกัญชากัญชงสร้างชุดเกราะได้ สร้างโครงโครงรถยนต์น้ำหนักเบาประหยัดพลังงานและแข็งแรงได้,พื้นที่ปลูกกัญชาต้องให้คนละ1ถึง2ไร่เลยไม่เกินนั้น,1ไร่กัญชา ,อีก1ไร่กัญชง,เพื่อสกัดยาฯสุขภาพรักษาโรคครอบจักรวาลต้นทุนต่ำได้จริง,ใยกัญชาใยกัญชงก็จะเพียงพอด้วย,ต่างชาติอิจฉาสุดๆในความเสรีเรา,คนไม่ดีโจมตีแค่โทษนิดเดียวก็เป็นธรรมดา,จากผิดพลาดกัญชาเสรี ยุคตนเป็นนายกฯ4เดือนสามารถปัดฝุ่นได้เลย,ตนเป็นนายกฯจริงแล้วด้วย,ทำสิ่งที่ถูกต้องค่าจริงก็จบดีแน่นอน,MOU43,44ตนเป็นนายกฯแล้วถือโอกาสทำคุณไถ่โทษต่อแผ่นดินไทยที่กระทำไปเสียจะคดีฮั่วสว.หรือเขากระโดง ก็ตาม ทำปัจจุบันนี้จริงจังมิใช่ผีบ้าปั่นคนละครึ่งหักเหความสนใจประชาชนไป,ตนต้องยกเลิกMOU43,44ทำจริงทำชัดเจนและรวดเร็วซึ่งสามารถจบเรื่องนี้ได้ไม่เกินวันศุกร์นี้มอบความสุขแก่คนไทยเลยคือยกเลิกMOU43,44พร้อมประกาศโดยเป็นทางการว่ารัฐบาลไทยรับรอง1:50,000เท่านั้นและเสาหมุดเขตแดนสยาม74เสาแค่นั้นที่เกิดก่อนMOUนี้อีกจะดำเนินการสร้างรั้วลวดหนามทันทีด้วยตลอดแนวพรมแดน74เสาเขตแดนแม้พื้นที่สันปันน้ำก็จะสร้างรั้วลวดหนามด้วย,พรรคภูมิใจไทยต้องทำสิ่งนี้ให้ชัดเจนก่อนภายในอาทิตย์คือ9,10,11,และวันศุกร์มอบความสุขแก่คนไทยทั้งประเทศขึ้นแถลงอย่างเป็นทางการทั่วประเทศว่า "ในนานนายฯคนที่32ปัจจุบันของประกาศยกเลิกMOU43และ44อย่างเป็นทางการฝ่ายเดียวที่สามารถกระทำได้ชอบธรรมต่อประเทศเขมรที่รุกรานหมายยึดดินแดนอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจนในช่วงที่ผ่านมา ทั้งยกเลิกข้อตกลงหยุดยิงทั้ง13ข้อโดยทันทีด้วยซึ่งประเทศเขมรละเมิดมาโดยตลอด.,จึงให้เป็นทางการไว้และมีผลทันทีนับจากเวลานี้" นี้ต้องสร้างฟอร์มตนเองแบบนี้ ตนเป็นนายกฯจริงแล้ว แม้มีเวลาไม่กี่เดือนก็สามารถทำเรื่องนี้ทันทีได้,ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ คนไทยเลือกแน่นอน,แต่ถ้าแสวงหาทางชั่ว คนไทยดูออกทันทีนะ,ดับอนาถแน่นอน นายกฯคนที่33รออยู่ ยุบพรรคภูมิใจไทยมาเร็วกว่ากำหนดแน่นอนบวกพลังงานสาปแซงของคนไทยทั่วประเทศร่วมด้วยคนดับอนาถยิ่งกว่าเดิมอีก,ทางมี2ทงให้เลือกจะอยู่อย่างหมาขี้เรื้อนหรือสิงโตราชสีห์.นายกฯคนที่32เลือกได้ ราชัญกัญชาต่อยอดเพื่อปากท้องจริงแก่ประชาชนเลย ลุยเลยมาถูกทางแล้ว เป็นใหญ่แล้ว,บอกค่าจริง ใช้ให้ถูกก็จบ เหมือนรถยนต์ขับตำกำแพงก็สมควรตายนั้นล่ะ,เขาให้ถึงเป้าหมายที่ต้องการไปมันก็เกิดประโยชน์ นี้คือทองคำเขียวชัดเจน กว่าบ่อน้ำมันอีก บีบสกัดทำน้ำมันไบโอดีเซลก็ได้,บริษัทยาบิ๊กฟาร์มม่าอเมริกาฝรั่งต่างชาติหรือโรงงานใยกระดาษกลัวจะตายหรือโรงงานผลิตอะไรๆต่างๆก็ด้วย เพราะมันประยุกต์ใช้ทำโครงสร้างวัสดุใดๆผสมมวลมันใดๆให้โลหะวัสดุนั้นๆแข็งแกร่งขึ้นไปอีกลดวัตถุดิบหลักต้นทุนทำก็ได้ด้วย,แหล่งทำเงินภายใน4เดือนกันเลยต่อเกษตรกรไทย ,ธรรมนัสคุมเกษตรฯเหมาะอีก,ปลูกฝิ่นเสรีด้วยเลย555,สกัดทำยาพาราฯสมุนไพรไทยได้ ยาแก้ปวดอย่างดีควบคุมให้ดีหรือเสรีให้เหมาะสม ลดการนำเข้ายารักษาโรคภายในโรงพยาบาลไทยหลายล้านล้านบาทเลยนะ,ส่งออกประเทศทำสงครามโลกที่3ในอนาคตก็ได้ตลาดเม็ดเงินยาแก้ปวดข้มเข้นอย่างดีมหาศาลเม็ดเงินช่วยเกษตรกรไทยกว่า2-3ล้านล้านบาทหรือกว่า10ล้านล้านบาทสบาย ใช้ในทางที่ถูก ควบคุมให้โปร่งใสมิใช่เหี้ยแบบอดีตไปปลูกข้างๆบ้านเป็นหมื่นเป็นแสนหรือล้านไร่หวังเอาเข้ามาขายแดกในไทยแบบที่แฉๆในสภาก็เหี้ยเกินไป,แมร่งอเมริกายึดบ่อน้ำมันไทยทั่วประเทศก็ทำบ่อเงินบ่อทองนี้ให้เต็มที่แทนก็ได้แต่ต้องโปร่งใสจริงอย่าให้ต่างชาติมาแทรกแซงได้อีก,ฮับโรงพยาบาลโลกด้านสมุนไพรคู่AIการแพทย์ชีวภาพยุคใหม่กึ่งจักรกลก็ได้,ใครพิการจักรกลก็ช่วยได้,หรืออนาคตเทคโนโลยีสร้างมวลเนื้อใหม่ของต่างดาวถ่ายทอดมาคู่สมุนไพรดำเนินชีวิตรักษาสุขภาพก็โอเคได้หมด,บ่อน้ำมันอาจดับอนาคตแล้วเพราะใช้การขับเคลื่อนด้วยพลังงานสนามแม่เหล็กโลกหรือพลังงานฟรีเทสล่ากันแล้ว.

    .."พรรคภูมิใจไทยเห็นด้วยกับการยกเลิกบันทึกความเข้าใจ (MOU) 2543 และ 2544 ระหว่างไทยกับกัมพูชา"

    ภูมิใจไทยจี้ สภาถกญัตติยกเลิก MOU 43-44 ตั้ง กมธ. ก่อนเสนอรัฐบาลทำประชามติ
    โดย THE STANDARD TEAM
    05.08.2025

    วันนี้ (5 สิงหาคม) ที่พรรคภูมิใจไทย แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส. อุบลราชธานี และโฆษกพรรคภูมิใจไทย แถลงกรณี สฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส. กระบี่ พรรคภูมิใจไทย และคณะ ยื่นญัตติด่วน เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาดำเนินการยกเลิกบันทึกความเข้าใจ (MOU) 2543 และ 2544 ระหว่างไทยกับกัมพูชาว่า พรรคภูมิใจไทยเห็นด้วย และอยากให้สภานำญัตตินี้มาพิจารณา เพื่อให้เห็นถึงข้อดี-ข้อด้อย และข้อที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศในเอ็มโอยูดังกล่าว เพื่อที่ขั้นต่อไปเราอยากให้มีการทำประชามติรับฟังความคิดเห็นของพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ ว่าการเซ็นเอ็มโอยูดังกล่าวมีประโยชน์หรือโทษอะไรบ้าง

    “แน่นอนว่าเราเห็นโทษของ MOU ดังกล่าวแน่นอน เพราะตลอด 10 กว่าวันที่ผ่านมา เราเห็นชัดว่าข้อผิดพลาดเป็นอย่างไร ส่งผลกระทบถึงประชาชนแค่ไหน จึงเสนอญัตตินี้เพื่ออยากให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) โดยใช้ระยะเวลาสั้นที่สุด เพื่อที่จะได้นำเสนอต่อรัฐบาลให้ทำประชามติโดยเร็ว” โฆษกพรรคภูมิใจไทยกล่าว


    https://thestandard.co/thai-cambodia-mou-termination/




    ..จริงๆนายกฯหนู ยกเลิกผ่านมติ ครม.ของตนเองก็จบแล้ว,ทำได้ทันทีด้วย,หรือตัดสินใจด้วยตนเองคนเดียวก็ได้เพราะMOUนี้ผิดขั้นตอนไม่ชอบธรรมด้วยกฎหมายประชาธิปไตยไทยแต่ต้นแล้ว ไม่นำเข้าสภาฯใดๆเลยด้วยแต่แรก จึงด้วยสถานะนายกฯอำนาจเต็มสามารถโมฆะMOU43,44นี้ได้อย่างชอบธรรม. ..นายกฯไม่จำเป็นต้องนำเข้าคณะครม.ตนก็ได้,คนไทยจะเห็นความเด็ดขาดนายกฯหนูโน้น,เพราะกล้าเหยียบเขมรและฮุนเซนจริงแท้คนไทย,ก่อนมาเป็นนายกฯพรรคภูมิใจไทย พรรคภูมิใจไทยก็เป็นตัวตั้งตัวตีเสนอยกเลิกMOU43,44นะ, ..นายกฯรัฐบาลนี้ทำได้จะรอดพ้น(ประวัติศาสตร์จะมีข้อยกเว้นว่ารัฐบาลยุคนายกฯหนูไม่มีข้อหานี้ด้วย)จากข้อหากบฎ ม.119เจตนาทำให้เสียหาย สูญเสียดินแดนอธิปไตยชาติโดยกอดmou43,44tor46นี้ไว้โทษประหารชีวิตอย่างเดียวและ ม.157 ทันที ,ก้มหน้าไม่อายครอบครัวคนอีสานที่ตายเกือบยกครัว คนไทยชาวบ้านที่บริสุทธิ์มากมายต้องตายไป มันยิงโรงพยาบาลไทย มันระบุพิกัดชัดเจนกะระยะยิงตกชัดมีหลักฐานจากกูรูสายข่าวว่ามันล็อกเป้ายิง7/11ปั้มน้ำมันจริง,และอื่นๆด้วย,เงยหน้าไม่ละอายต่อทหารหาญที่สูญเสียชีวิตทั้งพิการและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก,อย่าทรยศหักหลังประชาชนนะ, ..นายกฯหนูและรัฐบาลชุดนี้4เดือนจะแตกต่างทันทีกับจุดยืนสมัยยุคอภิสิทธิ์ยุคลุงตู่ยึดอำนาจแท้ๆแต่ไม่ยอมยกเลิกMOU43,44กอดคาจนหมดอำนาจจากการยึดอำนาจและจนหมดอำนาจจากนั่งตำแหน่งนายกฯสมัยลุง,ละเว้นปฏิบัติหน้าที่จน อ.วีระ จะฟ้องแน่นอนแล้วที่ประกาศออกสื่อชัดเจนบวกหลักฐานบ้านหนองจานที่ยืนบนแผ่นดินไทยชัดเจนนั้นด้วยแต่สุมหัวเจตนาทำให้สูญเสียดินแดนไทยบอกว่าตรงจุด อ.วีระถูกจับเป็นดินแดนแผ่นดินเขมรนะ จนอยู่คุกเขมรสมบูรณ์เป็นความผิดในเจตนา ม.119แล้วด้วย ม.157ก็ด้วย,ไม่รวมตรึมทั้ง11จุดได้คืนจากเขมรด้วยที่บิ๊กกุ้งถีบ้ขมรออกจากพื้นที่ประเทศไทยจริง ..อย่าทรยศหักหลังเหมือนพรรคการเมืองในอดีตนะ กัญชาเสรีคือบทเรียน. ..ทำกัญชาเสรีจริงๆจะมีประโยชน์มากแต่หักหลังประชาชนปลูกผีบ้าอะไรคนละ6ต้น ต้องปลูกสกัดทำยาส่ง รพ.จริงเสรีด้วย. ..คนชาวบ้านไทบ้านจะมีตังใช้จ่ายจริง มุกกีดกันประชาชนตรึม วิจัยเอย โรงเรือนต้องมาตราฐานลงทุนเป็นหมื่นเป็นแสน แดกค่าใบอนุญาตอีก สาระพัดมุกเหี้ยๆต่อชาวบ้านมิให้มีโอกาสจริง เงื่อนไขกติกามากมายจนเป็นภาระ ต้องสไตล์ปลูกพืชผักสวนครัวโน้น อยากกินอยากปลูกตอนไหนก็ปลูก,ชุมชนควบคุมดูแลรักษาความสงบร่วมกัน บริหารจัดการผลิตผลการตลาดช่วยเหลือคนไทยจริงจังด้วย,มิใช่สร้างต้นทุนแพงๆสูงๆต้นทุนแก่ชาวบ้านคนปลูกจึงสร้างความลำบากและสร้างให้ยากชัดเจนไม่มีเจตนาดีจริงต่อการช่วยสร้างรายรับแก่ประชาชน สร้างฐานต้นทุนยารักษาโรคที่ราคาถูกบนแผ่นดินไทยด้วย,ต่างชาติล็อบบี้โคตรๆเพื่อทำลายนโยบายนี้เพราะกระทบบริษัทยาทั่วโลกจริง,กำจัดแมลงพืชผลทางการเกษตรก็ได้ด้วย ภัยร้ายแรงต่อบริษัทยารักษาคนและบริษัทยาฆ่าแมลงกำจัดแมลงโรคพืชและสัตว์เลี้ยง,หว่านตามป่าตามเขาปลายนาก็เกิดเติบโตใหญ่แล้ว สามารถผสมสินค้าอุปโภคบริโภคได้จริงกว่า50,000รายการสินค้า ใยกัญชากัญชงสร้างชุดเกราะได้ สร้างโครงโครงรถยนต์น้ำหนักเบาประหยัดพลังงานและแข็งแรงได้,พื้นที่ปลูกกัญชาต้องให้คนละ1ถึง2ไร่เลยไม่เกินนั้น,1ไร่กัญชา ,อีก1ไร่กัญชง,เพื่อสกัดยาฯสุขภาพรักษาโรคครอบจักรวาลต้นทุนต่ำได้จริง,ใยกัญชาใยกัญชงก็จะเพียงพอด้วย,ต่างชาติอิจฉาสุดๆในความเสรีเรา,คนไม่ดีโจมตีแค่โทษนิดเดียวก็เป็นธรรมดา,จากผิดพลาดกัญชาเสรี ยุคตนเป็นนายกฯ4เดือนสามารถปัดฝุ่นได้เลย,ตนเป็นนายกฯจริงแล้วด้วย,ทำสิ่งที่ถูกต้องค่าจริงก็จบดีแน่นอน,MOU43,44ตนเป็นนายกฯแล้วถือโอกาสทำคุณไถ่โทษต่อแผ่นดินไทยที่กระทำไปเสียจะคดีฮั่วสว.หรือเขากระโดง ก็ตาม ทำปัจจุบันนี้จริงจังมิใช่ผีบ้าปั่นคนละครึ่งหักเหความสนใจประชาชนไป,ตนต้องยกเลิกMOU43,44ทำจริงทำชัดเจนและรวดเร็วซึ่งสามารถจบเรื่องนี้ได้ไม่เกินวันศุกร์นี้มอบความสุขแก่คนไทยเลยคือยกเลิกMOU43,44พร้อมประกาศโดยเป็นทางการว่ารัฐบาลไทยรับรอง1:50,000เท่านั้นและเสาหมุดเขตแดนสยาม74เสาแค่นั้นที่เกิดก่อนMOUนี้อีกจะดำเนินการสร้างรั้วลวดหนามทันทีด้วยตลอดแนวพรมแดน74เสาเขตแดนแม้พื้นที่สันปันน้ำก็จะสร้างรั้วลวดหนามด้วย,พรรคภูมิใจไทยต้องทำสิ่งนี้ให้ชัดเจนก่อนภายในอาทิตย์คือ9,10,11,และวันศุกร์มอบความสุขแก่คนไทยทั้งประเทศขึ้นแถลงอย่างเป็นทางการทั่วประเทศว่า "ในนานนายฯคนที่32ปัจจุบันของประกาศยกเลิกMOU43และ44อย่างเป็นทางการฝ่ายเดียวที่สามารถกระทำได้ชอบธรรมต่อประเทศเขมรที่รุกรานหมายยึดดินแดนอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจนในช่วงที่ผ่านมา ทั้งยกเลิกข้อตกลงหยุดยิงทั้ง13ข้อโดยทันทีด้วยซึ่งประเทศเขมรละเมิดมาโดยตลอด.,จึงให้เป็นทางการไว้และมีผลทันทีนับจากเวลานี้" นี้ต้องสร้างฟอร์มตนเองแบบนี้ ตนเป็นนายกฯจริงแล้ว แม้มีเวลาไม่กี่เดือนก็สามารถทำเรื่องนี้ทันทีได้,ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ คนไทยเลือกแน่นอน,แต่ถ้าแสวงหาทางชั่ว คนไทยดูออกทันทีนะ,ดับอนาถแน่นอน นายกฯคนที่33รออยู่ ยุบพรรคภูมิใจไทยมาเร็วกว่ากำหนดแน่นอนบวกพลังงานสาปแซงของคนไทยทั่วประเทศร่วมด้วยคนดับอนาถยิ่งกว่าเดิมอีก,ทางมี2ทงให้เลือกจะอยู่อย่างหมาขี้เรื้อนหรือสิงโตราชสีห์.นายกฯคนที่32เลือกได้ ราชัญกัญชาต่อยอดเพื่อปากท้องจริงแก่ประชาชนเลย ลุยเลยมาถูกทางแล้ว เป็นใหญ่แล้ว,บอกค่าจริง ใช้ให้ถูกก็จบ เหมือนรถยนต์ขับตำกำแพงก็สมควรตายนั้นล่ะ,เขาให้ถึงเป้าหมายที่ต้องการไปมันก็เกิดประโยชน์ นี้คือทองคำเขียวชัดเจน กว่าบ่อน้ำมันอีก บีบสกัดทำน้ำมันไบโอดีเซลก็ได้,บริษัทยาบิ๊กฟาร์มม่าอเมริกาฝรั่งต่างชาติหรือโรงงานใยกระดาษกลัวจะตายหรือโรงงานผลิตอะไรๆต่างๆก็ด้วย เพราะมันประยุกต์ใช้ทำโครงสร้างวัสดุใดๆผสมมวลมันใดๆให้โลหะวัสดุนั้นๆแข็งแกร่งขึ้นไปอีกลดวัตถุดิบหลักต้นทุนทำก็ได้ด้วย,แหล่งทำเงินภายใน4เดือนกันเลยต่อเกษตรกรไทย ,ธรรมนัสคุมเกษตรฯเหมาะอีก,ปลูกฝิ่นเสรีด้วยเลย555,สกัดทำยาพาราฯสมุนไพรไทยได้ ยาแก้ปวดอย่างดีควบคุมให้ดีหรือเสรีให้เหมาะสม ลดการนำเข้ายารักษาโรคภายในโรงพยาบาลไทยหลายล้านล้านบาทเลยนะ,ส่งออกประเทศทำสงครามโลกที่3ในอนาคตก็ได้ตลาดเม็ดเงินยาแก้ปวดข้มเข้นอย่างดีมหาศาลเม็ดเงินช่วยเกษตรกรไทยกว่า2-3ล้านล้านบาทหรือกว่า10ล้านล้านบาทสบาย ใช้ในทางที่ถูก ควบคุมให้โปร่งใสมิใช่เหี้ยแบบอดีตไปปลูกข้างๆบ้านเป็นหมื่นเป็นแสนหรือล้านไร่หวังเอาเข้ามาขายแดกในไทยแบบที่แฉๆในสภาก็เหี้ยเกินไป,แมร่งอเมริกายึดบ่อน้ำมันไทยทั่วประเทศก็ทำบ่อเงินบ่อทองนี้ให้เต็มที่แทนก็ได้แต่ต้องโปร่งใสจริงอย่าให้ต่างชาติมาแทรกแซงได้อีก,ฮับโรงพยาบาลโลกด้านสมุนไพรคู่AIการแพทย์ชีวภาพยุคใหม่กึ่งจักรกลก็ได้,ใครพิการจักรกลก็ช่วยได้,หรืออนาคตเทคโนโลยีสร้างมวลเนื้อใหม่ของต่างดาวถ่ายทอดมาคู่สมุนไพรดำเนินชีวิตรักษาสุขภาพก็โอเคได้หมด,บ่อน้ำมันอาจดับอนาคตแล้วเพราะใช้การขับเคลื่อนด้วยพลังงานสนามแม่เหล็กโลกหรือพลังงานฟรีเทสล่ากันแล้ว. .."พรรคภูมิใจไทยเห็นด้วยกับการยกเลิกบันทึกความเข้าใจ (MOU) 2543 และ 2544 ระหว่างไทยกับกัมพูชา" ภูมิใจไทยจี้ สภาถกญัตติยกเลิก MOU 43-44 ตั้ง กมธ. ก่อนเสนอรัฐบาลทำประชามติ โดย THE STANDARD TEAM 05.08.2025 วันนี้ (5 สิงหาคม) ที่พรรคภูมิใจไทย แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส. อุบลราชธานี และโฆษกพรรคภูมิใจไทย แถลงกรณี สฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส. กระบี่ พรรคภูมิใจไทย และคณะ ยื่นญัตติด่วน เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาดำเนินการยกเลิกบันทึกความเข้าใจ (MOU) 2543 และ 2544 ระหว่างไทยกับกัมพูชาว่า พรรคภูมิใจไทยเห็นด้วย และอยากให้สภานำญัตตินี้มาพิจารณา เพื่อให้เห็นถึงข้อดี-ข้อด้อย และข้อที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศในเอ็มโอยูดังกล่าว เพื่อที่ขั้นต่อไปเราอยากให้มีการทำประชามติรับฟังความคิดเห็นของพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ ว่าการเซ็นเอ็มโอยูดังกล่าวมีประโยชน์หรือโทษอะไรบ้าง “แน่นอนว่าเราเห็นโทษของ MOU ดังกล่าวแน่นอน เพราะตลอด 10 กว่าวันที่ผ่านมา เราเห็นชัดว่าข้อผิดพลาดเป็นอย่างไร ส่งผลกระทบถึงประชาชนแค่ไหน จึงเสนอญัตตินี้เพื่ออยากให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) โดยใช้ระยะเวลาสั้นที่สุด เพื่อที่จะได้นำเสนอต่อรัฐบาลให้ทำประชามติโดยเร็ว” โฆษกพรรคภูมิใจไทยกล่าว https://thestandard.co/thai-cambodia-mou-termination/
    THESTANDARD.CO
    ภูมิใจไทยจี้ สภาถกญัตติยกเลิก MOU 43-44 ตั้ง กมธ. ก่อนเสนอรัฐบาลทำประชามติ
    ที่ พรรคภูมิใจไทย แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส. อุบลราชธานี และโฆษกพรรคภูมิใจไทย แถลงกรณี สฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส. กระบี่ พรรคภูมิใจไทย และ...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 160 มุมมอง 0 รีวิว
  • เดินรถไฟ Kiha ธันวาฯ นี้ ประเดิมดอนเมือง-อยุธยา

    ความคืบหน้าการปรับปรุงรถดีเซลรางรุ่น Kiha 40 และ Kiha 48 จากประเทศญี่ปุ่น หลังการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้รับมอบจากบริษัท JR EAST ประเทศญี่ปุ่น และขนส่งทางเรือมาถึงประเทศไทยเมื่อกลางปี 2567 ล่าสุดพบว่ารถต้นแบบคันแรกยังคงต้องปรับปรุงเพิ่มเติม หลังปรับขนาดเพลาล้อจาก 1.067 เมตร เป็น 1 เมตร เพื่อให้เข้ากับมาตรฐานรางรถไฟของประเทศไทย และทดลองเดินรถเส้นทางมักกะสัน-หัวหมาก เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ที่ผ่านมา

    ปัจจุบันยังคงต้องปรับปรุงครอบคลุมทั้งด้านวิศวกรรมและระบบการทำงานของรถ โดยเฉพาะระบบปรับอากาศที่ต้องดัดแปลงใหม่ เนื่องจากรถรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อวิ่งในสภาพอากาศหนาวของภูมิภาคอาคิตะ ประเทศญี่ปุ่น การรถไฟฯ จึงได้ปรับปรุงช่องจ่ายลมเย็นให้เหมาะสมกับสภาพอากาศในประเทศไทย รวมถึงปรับปรุงคอมเพรสเซอร์ ชุดคอยล์ระบายความร้อน และคอยล์เย็น อีกทั้งยังได้ทดสอบด้านสมรรถนะของรถ อาทิ การทดสอบระยะห้ามล้อ อัตราเร่ง และการสั่นสะเทือนเชิงกล

    คาดว่ารถต้นแบบคันแรกจะแล้วเสร็จภายในเดือน ก.ย. 2568 และจะมีอีกหนึ่งคันแล้วเสร็จตามมาในเดือน ต.ค. 2568 ก่อนทยอยปรับปรุงเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะสามารถนำรถที่ปรับปรุงเสร็จแล้วจำนวน 4 คัน ออกให้บริการได้ภายในเดือน ธ.ค.2568 เบื้องต้นวางแผนจะนำมาให้บริการในเส้นทาง ดอนเมือง-อยุธยา เพื่อรองรับความต้องการเดินทางของประชาชนและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

    สำหรับเส้นทางดอนเมือง-อยุธยา มีระยะทางประมาณ 49 กิโลเมตร รถรุ่นดังกล่าวเดินรถด้วยความเร็วสูงสุด 95 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นรถเชื่อมต่อ (Feeder) กับรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง (ช่วงบางซื่อ-รังสิต) และท่าอากาศยานดอนเมือง แนวเส้นทางผ่านสถานีรังสิต คลองหนึ่ง เชียงราก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ศูนย์รังสิต) นวนคร เชียงรากน้อย คลองพุทรา บางปะอิน บ้านโพ และสถานีปลายทางอยุธยา

    โดยปกติถ้าเป็นรถไฟธรรมดา ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ปัจจุบันรถไฟธรรมดาและรถไฟชานเมือง (ไม่มีเครื่องปรับอากาศ) ค่าโดยสาร 11 บาท, รถนั่งชั้นโทปรับอากาศ - JRWEST (เบาะแดง) ขบวน 133 ราคา 104 บาท, รถดีเซลรางนั่งปรับอากาศ ขบวน 75 ราคา 234 บาท, ขบวน 7 และขบวน 21 ราคา 254 บาท

    อนึ่ง ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง กรุงเทพฯ อาคาร Service Hall ติดกับอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ (Terminal 1) มีรถประจำทาง ขสมก. ปลายทางหมอชิต อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ สวนลุมพินี และสนามหลวง รวมทั้งรถเชื่อมต่อของ บขส. ปลายทางเมืองพัทยา จ.ชลบุรี และ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

    #Newskit
    เดินรถไฟ Kiha ธันวาฯ นี้ ประเดิมดอนเมือง-อยุธยา ความคืบหน้าการปรับปรุงรถดีเซลรางรุ่น Kiha 40 และ Kiha 48 จากประเทศญี่ปุ่น หลังการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้รับมอบจากบริษัท JR EAST ประเทศญี่ปุ่น และขนส่งทางเรือมาถึงประเทศไทยเมื่อกลางปี 2567 ล่าสุดพบว่ารถต้นแบบคันแรกยังคงต้องปรับปรุงเพิ่มเติม หลังปรับขนาดเพลาล้อจาก 1.067 เมตร เป็น 1 เมตร เพื่อให้เข้ากับมาตรฐานรางรถไฟของประเทศไทย และทดลองเดินรถเส้นทางมักกะสัน-หัวหมาก เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ที่ผ่านมา ปัจจุบันยังคงต้องปรับปรุงครอบคลุมทั้งด้านวิศวกรรมและระบบการทำงานของรถ โดยเฉพาะระบบปรับอากาศที่ต้องดัดแปลงใหม่ เนื่องจากรถรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อวิ่งในสภาพอากาศหนาวของภูมิภาคอาคิตะ ประเทศญี่ปุ่น การรถไฟฯ จึงได้ปรับปรุงช่องจ่ายลมเย็นให้เหมาะสมกับสภาพอากาศในประเทศไทย รวมถึงปรับปรุงคอมเพรสเซอร์ ชุดคอยล์ระบายความร้อน และคอยล์เย็น อีกทั้งยังได้ทดสอบด้านสมรรถนะของรถ อาทิ การทดสอบระยะห้ามล้อ อัตราเร่ง และการสั่นสะเทือนเชิงกล คาดว่ารถต้นแบบคันแรกจะแล้วเสร็จภายในเดือน ก.ย. 2568 และจะมีอีกหนึ่งคันแล้วเสร็จตามมาในเดือน ต.ค. 2568 ก่อนทยอยปรับปรุงเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะสามารถนำรถที่ปรับปรุงเสร็จแล้วจำนวน 4 คัน ออกให้บริการได้ภายในเดือน ธ.ค.2568 เบื้องต้นวางแผนจะนำมาให้บริการในเส้นทาง ดอนเมือง-อยุธยา เพื่อรองรับความต้องการเดินทางของประชาชนและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สำหรับเส้นทางดอนเมือง-อยุธยา มีระยะทางประมาณ 49 กิโลเมตร รถรุ่นดังกล่าวเดินรถด้วยความเร็วสูงสุด 95 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นรถเชื่อมต่อ (Feeder) กับรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง (ช่วงบางซื่อ-รังสิต) และท่าอากาศยานดอนเมือง แนวเส้นทางผ่านสถานีรังสิต คลองหนึ่ง เชียงราก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ศูนย์รังสิต) นวนคร เชียงรากน้อย คลองพุทรา บางปะอิน บ้านโพ และสถานีปลายทางอยุธยา โดยปกติถ้าเป็นรถไฟธรรมดา ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ปัจจุบันรถไฟธรรมดาและรถไฟชานเมือง (ไม่มีเครื่องปรับอากาศ) ค่าโดยสาร 11 บาท, รถนั่งชั้นโทปรับอากาศ - JRWEST (เบาะแดง) ขบวน 133 ราคา 104 บาท, รถดีเซลรางนั่งปรับอากาศ ขบวน 75 ราคา 234 บาท, ขบวน 7 และขบวน 21 ราคา 254 บาท อนึ่ง ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง กรุงเทพฯ อาคาร Service Hall ติดกับอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ (Terminal 1) มีรถประจำทาง ขสมก. ปลายทางหมอชิต อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ สวนลุมพินี และสนามหลวง รวมทั้งรถเชื่อมต่อของ บขส. ปลายทางเมืองพัทยา จ.ชลบุรี และ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ #Newskit
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 178 มุมมอง 0 รีวิว
  • โรคซึมเศร้าไม่ใช่เรื่องตลก

    เมื่อวันก่อน นายระวี ตะวันธรงค์ กรรมการจริยธรรม สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ และที่ปรึกษาสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ เรียกร้องไปยังองค์การอนามัยโลก (WHO), สหพันธ์สุขภาพจิตโลก (WFMH), United for Global Mental Health และเครือข่ายนวัตกรรมสุขภาพจิต (MHIN) กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หยุดการใช้ปัญหาสุขภาพจิตเป็นเครื่องมือโจมตีในพื้นที่สื่อของไทย โดยประณามการกระทำของผู้จัดรายการที่มีชื่อเสียงรายหนึ่ง นำอาการป่วยของนักการเมืองหญิงรายหนึ่ง ซึ่งเปิดเผยว่าเป็นโรคซึมเศร้า มาโจมตีอย่างรุนแรงในรายการออนไลน์ ไม่เพียงแต่ทำลายศักดิ์ศรีของปัจเจกบุคคล แต่ยังส่งผลกระทบในวงกว้าง ทำให้ผู้ป่วยไม่กล้าขอความช่วยเหลือ เพราะกลัวจะถูกสังคมตีตราและตัดสิน คำพูดที่ขาดความรับผิดชอบกำลังทำร้ายผู้คนและบ่อนทำลายความพยายามด้านสาธารณสุขทั่วโลก

    โดยเรียกร้องให้หน่วยงานดังกล่าว ออกแถลงการณ์ในระดับนานาชาติเพื่อประณามการใช้ข้อมูลสุขภาพจิตในทางที่ผิด และเรียกร้องให้สื่อมวลชนและบุคคลสาธารณะในไทยยุติการกระทำดังกล่าว พร้อมกับกำหนดแนวปฏิบัติสำหรับสื่อ โดยทำงานร่วมกับองค์กรสื่อในไทยเพื่อสร้างและบังคับใช้แนวปฏิบัติที่ชัดเจนในการรายงานข่าวและการแสดงความคิดเห็นที่เกี่ยวกับสุขภาพจิตอย่างมีความรับผิดชอบ และสนับสนุนภาคประชาสังคม โดยเพิ่มการสนับสนุนองค์กรในประเทศไทยที่ทำงานเพื่อรณรงค์ลดอคติและให้ความรู้ที่ถูกต้องแก่สาธารณชน

    เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในการออกเสียงลงคะแนนเลือกนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 5 ก.ย. ผู้จัดรายการคนดังกล่าวระบุถึงนักการเมืองหญิงรายหนึ่งด้วยความตลกขบขัน เรียกชื่อต่อด้วยคำว่าซึมเศร้า พร้อมขอให้ซึมเศร้าร้องไห้ในสภาฯ อีกเยอะๆ คล้ายกับการล้อชื่อพ่อชื่อแม่ในวัยเรียน กลายเป็นวิจารณ์อย่างกว้างขวาง กระทั่งผู้จัดรายการคนดังกล่าว ขอยุติการจัดรายการทางทีวีดิจิทัลแห่งหนึ่ง ด้านสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ออกแถลงการณ์เน้นย้ำให้ผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนรักษามาตรฐานการแสดงออกให้เหมาะสม และไม่ใช้ถ้อยคำที่อาจนำไปสู่การดูหมิ่น กดทับ หรือสร้างความเกลียดชังต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง

    ข้อมูลล่าสุดจากกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ระหว่างปี 2563-2567 คนไทยมากกว่า 8% เผชิญกับภาวะความเครียดสูง เกือบ 10% มีความเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้า และมากกว่า 5% เผชิญกับความเสี่ยงในการจบชีวิตตัวเอง โดยสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในกลุ่มเยาวชนไทยอายุต่ำกว่า 20 ปี อีกทั้งในปี 2567 ประเทศไทยมีเหตุการณ์ความรุนแรงเฉลี่ย 42 ครั้งต่อวัน ซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการใช้ยาเสพติดและปัญหาสุขภาพจิต

    #Newskit
    โรคซึมเศร้าไม่ใช่เรื่องตลก เมื่อวันก่อน นายระวี ตะวันธรงค์ กรรมการจริยธรรม สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ และที่ปรึกษาสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ เรียกร้องไปยังองค์การอนามัยโลก (WHO), สหพันธ์สุขภาพจิตโลก (WFMH), United for Global Mental Health และเครือข่ายนวัตกรรมสุขภาพจิต (MHIN) กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หยุดการใช้ปัญหาสุขภาพจิตเป็นเครื่องมือโจมตีในพื้นที่สื่อของไทย โดยประณามการกระทำของผู้จัดรายการที่มีชื่อเสียงรายหนึ่ง นำอาการป่วยของนักการเมืองหญิงรายหนึ่ง ซึ่งเปิดเผยว่าเป็นโรคซึมเศร้า มาโจมตีอย่างรุนแรงในรายการออนไลน์ ไม่เพียงแต่ทำลายศักดิ์ศรีของปัจเจกบุคคล แต่ยังส่งผลกระทบในวงกว้าง ทำให้ผู้ป่วยไม่กล้าขอความช่วยเหลือ เพราะกลัวจะถูกสังคมตีตราและตัดสิน คำพูดที่ขาดความรับผิดชอบกำลังทำร้ายผู้คนและบ่อนทำลายความพยายามด้านสาธารณสุขทั่วโลก โดยเรียกร้องให้หน่วยงานดังกล่าว ออกแถลงการณ์ในระดับนานาชาติเพื่อประณามการใช้ข้อมูลสุขภาพจิตในทางที่ผิด และเรียกร้องให้สื่อมวลชนและบุคคลสาธารณะในไทยยุติการกระทำดังกล่าว พร้อมกับกำหนดแนวปฏิบัติสำหรับสื่อ โดยทำงานร่วมกับองค์กรสื่อในไทยเพื่อสร้างและบังคับใช้แนวปฏิบัติที่ชัดเจนในการรายงานข่าวและการแสดงความคิดเห็นที่เกี่ยวกับสุขภาพจิตอย่างมีความรับผิดชอบ และสนับสนุนภาคประชาสังคม โดยเพิ่มการสนับสนุนองค์กรในประเทศไทยที่ทำงานเพื่อรณรงค์ลดอคติและให้ความรู้ที่ถูกต้องแก่สาธารณชน เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในการออกเสียงลงคะแนนเลือกนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 5 ก.ย. ผู้จัดรายการคนดังกล่าวระบุถึงนักการเมืองหญิงรายหนึ่งด้วยความตลกขบขัน เรียกชื่อต่อด้วยคำว่าซึมเศร้า พร้อมขอให้ซึมเศร้าร้องไห้ในสภาฯ อีกเยอะๆ คล้ายกับการล้อชื่อพ่อชื่อแม่ในวัยเรียน กลายเป็นวิจารณ์อย่างกว้างขวาง กระทั่งผู้จัดรายการคนดังกล่าว ขอยุติการจัดรายการทางทีวีดิจิทัลแห่งหนึ่ง ด้านสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ออกแถลงการณ์เน้นย้ำให้ผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนรักษามาตรฐานการแสดงออกให้เหมาะสม และไม่ใช้ถ้อยคำที่อาจนำไปสู่การดูหมิ่น กดทับ หรือสร้างความเกลียดชังต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ข้อมูลล่าสุดจากกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ระหว่างปี 2563-2567 คนไทยมากกว่า 8% เผชิญกับภาวะความเครียดสูง เกือบ 10% มีความเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้า และมากกว่า 5% เผชิญกับความเสี่ยงในการจบชีวิตตัวเอง โดยสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในกลุ่มเยาวชนไทยอายุต่ำกว่า 20 ปี อีกทั้งในปี 2567 ประเทศไทยมีเหตุการณ์ความรุนแรงเฉลี่ย 42 ครั้งต่อวัน ซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการใช้ยาเสพติดและปัญหาสุขภาพจิต #Newskit
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 166 มุมมอง 0 รีวิว
  • พปชร.ได้โควตา 4 รมต. ใครๆ ก็อยากมีพลัง : [THE MESSAGE]
    นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เผยถึงการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคหารือโควตารัฐมนตรี พรรคพลังประชารัฐได้ 4 ตำแหน่ง คือ รัฐมนตรีว่าการ 2 ตำแหน่ง และรัฐมนตรีช่วยว่าการ 2 ตำแหน่ง
    ส่วนที่มีชื่อตนเองนั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ นางสาวตรีนุช เทียนทอง นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน คณะกรรมการบริหารพรรคได้ให้ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นผู้ตัดสินใจหาผู้ที่เหมาะสมเข้าดำรงตำแหน่ง ขณะที่กระทรวงกลาโหมยังเป็นสัดส่วนของพรรคพลังประชารัฐหรือไม่นั้น ไม่อยากพูดถึง เนื่องจากเป็นกระทรวงความมั่นคง ขณะนี้บ้านเมืองต้องการศักยภาพสูงสุดเต็มที่ พรรครัฐบาลคงพิจารณา ใครๆ ก็อยากทำให้พรรคตัวเองมีพลัง ผู้สื่อข่าว ถามว่า เป็นพลัง 4 เดือน เพื่อจะไปต่ออีก 4 ปีข้างหน้าใช่หรือไม่ นายสันติ หัวเราะอย่างอารมณ์ดี
    พปชร.ได้โควตา 4 รมต. ใครๆ ก็อยากมีพลัง : [THE MESSAGE] นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เผยถึงการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคหารือโควตารัฐมนตรี พรรคพลังประชารัฐได้ 4 ตำแหน่ง คือ รัฐมนตรีว่าการ 2 ตำแหน่ง และรัฐมนตรีช่วยว่าการ 2 ตำแหน่ง ส่วนที่มีชื่อตนเองนั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ นางสาวตรีนุช เทียนทอง นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน คณะกรรมการบริหารพรรคได้ให้ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นผู้ตัดสินใจหาผู้ที่เหมาะสมเข้าดำรงตำแหน่ง ขณะที่กระทรวงกลาโหมยังเป็นสัดส่วนของพรรคพลังประชารัฐหรือไม่นั้น ไม่อยากพูดถึง เนื่องจากเป็นกระทรวงความมั่นคง ขณะนี้บ้านเมืองต้องการศักยภาพสูงสุดเต็มที่ พรรครัฐบาลคงพิจารณา ใครๆ ก็อยากทำให้พรรคตัวเองมีพลัง ผู้สื่อข่าว ถามว่า เป็นพลัง 4 เดือน เพื่อจะไปต่ออีก 4 ปีข้างหน้าใช่หรือไม่ นายสันติ หัวเราะอย่างอารมณ์ดี
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 346 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • สันติ ไม่รู้ๆๆ ใครคุมกลาโหม เผยไม่อยากจะพูดถึงเพราะเป็นเรื่องความมั่นคง โยนนายกฯดูใครเหมาะสม นักข่าวแซะพูดเหมือนลุงป้อม (8/9/68)
    #สันติครางฮือ #ใครคุมกลาโหม #พูดเหมือนลุงป้อม #ความมั่นคงหรือความมึน #อนุทินนายก #เกมอำนาจ #กระทรวงกลาโหม #Thaitimes #News1short #truthfromthailand #shorts
    สันติ ไม่รู้ๆๆ ใครคุมกลาโหม เผยไม่อยากจะพูดถึงเพราะเป็นเรื่องความมั่นคง โยนนายกฯดูใครเหมาะสม นักข่าวแซะพูดเหมือนลุงป้อม (8/9/68) #สันติครางฮือ #ใครคุมกลาโหม #พูดเหมือนลุงป้อม #ความมั่นคงหรือความมึน #อนุทินนายก #เกมอำนาจ #กระทรวงกลาโหม #Thaitimes #News1short #truthfromthailand #shorts
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 133 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก TikTok ถึงกฎหมายออสเตรเลีย: เมื่อโลกเริ่มตั้งคำถามว่าเด็กควรอยู่บนโซเชียลมีเดียจริงหรือ?

    ผลสำรวจจาก Ipsos ที่จัดทำใน 30 ประเทศทั่วโลกเผยว่า 71% ของผู้ตอบแบบสอบถามเห็นว่าเด็กอายุต่ำกว่า 14 ปีไม่ควรใช้โซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะในโรงเรียนหรือที่บ้าน ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 65% ในปี 2024 โดยเฉพาะกลุ่มผู้ปกครองที่มีลูกวัยเรียน—74% สนับสนุนการแบนอย่างชัดเจน

    ประเทศที่มีแนวโน้มสนับสนุนการแบนมากที่สุดคืออินโดนีเซียและฝรั่งเศส ขณะที่ตุรกีและแอฟริกาใต้มีแนวโน้มต่อต้านมากที่สุด ส่วนประเทศไทยกลับเป็นหนึ่งในสามประเทศที่คะแนนสนับสนุนลดลงจากปีที่แล้ว ร่วมกับอินเดียและฮังการี

    ออสเตรเลียกลายเป็นประเทศแรกที่ออกกฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้โซเชียลมีเดียในปี 2024 และอินโดนีเซียกำลังเตรียมเดินตามรอย โดยมีแรงสนับสนุนจากงานวิจัยหลายฉบับที่ชี้ว่าเด็กที่ใช้โซเชียลมีเดียเกิน 2 ชั่วโมงต่อวันมีความเสี่ยงสูงต่อภาวะวิตกกังวลและซึมเศร้า

    แม้แพลตฟอร์มใหญ่อย่าง Meta และ Snapchat จะออกมาตรการป้องกัน เช่น การกรองเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมและระบบควบคุมผู้ปกครอง แต่ก็ยังมีข้อกังวลว่าเด็กสามารถหลบเลี่ยงข้อจำกัดได้ง่าย และระบบอายุขั้นต่ำยังไม่ถูกบังคับใช้อย่างจริงจัง

    นอกจากโซเชียลมีเดียแล้ว ยังมีการสำรวจเรื่องการใช้สมาร์ทโฟนในโรงเรียนด้วย โดย 55% ของผู้ตอบแบบสอบถามเห็นว่าควรแบนสมาร์ทโฟนในโรงเรียน ซึ่งเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปี 2024 โดยฝรั่งเศสมีคะแนนสนับสนุนสูงถึง 80% ขณะที่ไทยมีเพียง 35%

    แม้จะมีงานวิจัยที่ชี้ว่าการนำสมาร์ทโฟนออกจากห้องเรียนช่วยเพิ่มความเข้าใจและลดความเครียด แต่ก็มีงานวิจัยอีกด้านที่พบว่านักเรียนที่ใช้สมาร์ทโฟนมากกลับมีผลการเรียนดีกว่า ซึ่งสะท้อนถึงความซับซ้อนของปัญหานี้

    ผลสำรวจจาก Ipsos ปี 2025
    71% สนับสนุนการแบนเด็กอายุต่ำกว่า 14 ปีจากโซเชียลมีเดีย
    ผู้ปกครองที่มีลูกวัยเรียนสนับสนุนสูงถึง 74%
    คะแนนสนับสนุนเพิ่มขึ้นในทุกประเทศ ยกเว้นอินเดีย ไทย และฮังการี

    ประเทศที่มีแนวโน้มสนับสนุนสูง
    อินโดนีเซียและฝรั่งเศสมีคะแนนสนับสนุนสูงสุด
    ตุรกีและแอฟริกาใต้มีคะแนนสนับสนุนต่ำสุด
    ออสเตรเลียออกกฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้โซเชียลมีเดีย

    ผลกระทบจากการใช้โซเชียลมีเดีย
    เด็กที่ใช้เกิน 2 ชั่วโมงต่อวันมีความเสี่ยงต่อภาวะวิตกกังวลและซึมเศร้า
    แพลตฟอร์มใหญ่ออกมาตรการป้องกัน เช่น ระบบกรองเนื้อหาและควบคุมผู้ปกครอง
    ระบบอายุขั้นต่ำยังไม่ถูกบังคับใช้อย่างจริงจัง

    การใช้สมาร์ทโฟนในโรงเรียน
    55% สนับสนุนการแบนสมาร์ทโฟนในโรงเรียน
    ฝรั่งเศสมีคะแนนสนับสนุนสูงสุดที่ 80%
    ไทยมีคะแนนต่ำสุดที่ 35%

    งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
    การนำสมาร์ทโฟนออกจากห้องเรียนช่วยเพิ่มความเข้าใจและลดความเครียด
    นักเรียนที่ใช้สมาร์ทโฟนมากกลับมีผลการเรียนดีกว่าในบางกรณี

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/07/should-kids-use-social-media-global-opinion-has-shifted-new-poll-finds
    🎙️ เรื่องเล่าจาก TikTok ถึงกฎหมายออสเตรเลีย: เมื่อโลกเริ่มตั้งคำถามว่าเด็กควรอยู่บนโซเชียลมีเดียจริงหรือ? ผลสำรวจจาก Ipsos ที่จัดทำใน 30 ประเทศทั่วโลกเผยว่า 71% ของผู้ตอบแบบสอบถามเห็นว่าเด็กอายุต่ำกว่า 14 ปีไม่ควรใช้โซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะในโรงเรียนหรือที่บ้าน ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 65% ในปี 2024 โดยเฉพาะกลุ่มผู้ปกครองที่มีลูกวัยเรียน—74% สนับสนุนการแบนอย่างชัดเจน ประเทศที่มีแนวโน้มสนับสนุนการแบนมากที่สุดคืออินโดนีเซียและฝรั่งเศส ขณะที่ตุรกีและแอฟริกาใต้มีแนวโน้มต่อต้านมากที่สุด ส่วนประเทศไทยกลับเป็นหนึ่งในสามประเทศที่คะแนนสนับสนุนลดลงจากปีที่แล้ว ร่วมกับอินเดียและฮังการี ออสเตรเลียกลายเป็นประเทศแรกที่ออกกฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้โซเชียลมีเดียในปี 2024 และอินโดนีเซียกำลังเตรียมเดินตามรอย โดยมีแรงสนับสนุนจากงานวิจัยหลายฉบับที่ชี้ว่าเด็กที่ใช้โซเชียลมีเดียเกิน 2 ชั่วโมงต่อวันมีความเสี่ยงสูงต่อภาวะวิตกกังวลและซึมเศร้า แม้แพลตฟอร์มใหญ่อย่าง Meta และ Snapchat จะออกมาตรการป้องกัน เช่น การกรองเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมและระบบควบคุมผู้ปกครอง แต่ก็ยังมีข้อกังวลว่าเด็กสามารถหลบเลี่ยงข้อจำกัดได้ง่าย และระบบอายุขั้นต่ำยังไม่ถูกบังคับใช้อย่างจริงจัง นอกจากโซเชียลมีเดียแล้ว ยังมีการสำรวจเรื่องการใช้สมาร์ทโฟนในโรงเรียนด้วย โดย 55% ของผู้ตอบแบบสอบถามเห็นว่าควรแบนสมาร์ทโฟนในโรงเรียน ซึ่งเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปี 2024 โดยฝรั่งเศสมีคะแนนสนับสนุนสูงถึง 80% ขณะที่ไทยมีเพียง 35% แม้จะมีงานวิจัยที่ชี้ว่าการนำสมาร์ทโฟนออกจากห้องเรียนช่วยเพิ่มความเข้าใจและลดความเครียด แต่ก็มีงานวิจัยอีกด้านที่พบว่านักเรียนที่ใช้สมาร์ทโฟนมากกลับมีผลการเรียนดีกว่า ซึ่งสะท้อนถึงความซับซ้อนของปัญหานี้ ✅ ผลสำรวจจาก Ipsos ปี 2025 ➡️ 71% สนับสนุนการแบนเด็กอายุต่ำกว่า 14 ปีจากโซเชียลมีเดีย ➡️ ผู้ปกครองที่มีลูกวัยเรียนสนับสนุนสูงถึง 74% ➡️ คะแนนสนับสนุนเพิ่มขึ้นในทุกประเทศ ยกเว้นอินเดีย ไทย และฮังการี ✅ ประเทศที่มีแนวโน้มสนับสนุนสูง ➡️ อินโดนีเซียและฝรั่งเศสมีคะแนนสนับสนุนสูงสุด ➡️ ตุรกีและแอฟริกาใต้มีคะแนนสนับสนุนต่ำสุด ➡️ ออสเตรเลียออกกฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้โซเชียลมีเดีย ✅ ผลกระทบจากการใช้โซเชียลมีเดีย ➡️ เด็กที่ใช้เกิน 2 ชั่วโมงต่อวันมีความเสี่ยงต่อภาวะวิตกกังวลและซึมเศร้า ➡️ แพลตฟอร์มใหญ่ออกมาตรการป้องกัน เช่น ระบบกรองเนื้อหาและควบคุมผู้ปกครอง ➡️ ระบบอายุขั้นต่ำยังไม่ถูกบังคับใช้อย่างจริงจัง ✅ การใช้สมาร์ทโฟนในโรงเรียน ➡️ 55% สนับสนุนการแบนสมาร์ทโฟนในโรงเรียน ➡️ ฝรั่งเศสมีคะแนนสนับสนุนสูงสุดที่ 80% ➡️ ไทยมีคะแนนต่ำสุดที่ 35% ✅ งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ➡️ การนำสมาร์ทโฟนออกจากห้องเรียนช่วยเพิ่มความเข้าใจและลดความเครียด ➡️ นักเรียนที่ใช้สมาร์ทโฟนมากกลับมีผลการเรียนดีกว่าในบางกรณี https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/07/should-kids-use-social-media-global-opinion-has-shifted-new-poll-finds
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Should kids use social media? Global opinion has shifted, new poll finds
    The survey – fielded June 20 to July 4 with 23,700 adults – revealed at least 50% of respondents in all 30 countries favoured a social media ban, and support grew in every nation except three: India, Thailand and Hungary.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 131 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก ETH Zurich ถึง 1811 ภาษา: เมื่อโมเดลภาษาไม่ได้ถูกสร้างเพื่อแข่งขัน แต่เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงได้

    Apertus เป็นโมเดลภาษาใหญ่ (LLM) ที่พัฒนาโดย Swiss National AI Institute (SNAI) ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง ETH Zurich และ EPFL โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างโมเดลที่เปิดทุกส่วน—ตั้งแต่โค้ด, น้ำหนักโมเดล, ข้อมูลเทรน, ไปจนถึงสูตรการเทรนเอง

    โมเดลมีสองขนาดคือ 8B และ 70B พารามิเตอร์ โดยเวอร์ชัน 70B ถูกเทรนด้วยข้อมูล 15 ล้านล้าน token จากเว็บ, โค้ด, และคณิตศาสตร์ ผ่านกระบวนการ curriculum learning ที่จัดลำดับเนื้อหาอย่างเป็นระบบ

    Apertus รองรับภาษามากถึง 1811 ภาษา โดย 40% ของข้อมูลเทรนเป็นภาษาที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ เช่น Swiss German, Romansh และภาษาอื่น ๆ ที่มักถูกละเลยในโมเดลทั่วไป

    โมเดลใช้สถาปัตยกรรม decoder-only transformer พร้อมฟังก์ชัน activation ใหม่ชื่อ xIELU และ optimizer แบบ AdEMAMix ซึ่งออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเทรนในระดับ bfloat16 บน GPU GH200 จำนวน 4096 ตัว

    หลังการเทรน โมเดลยังผ่านการ fine-tune แบบมีผู้ดูแล และ alignment ด้วยเทคนิค QRPO เพื่อให้ตอบสนองต่อผู้ใช้ได้ดีขึ้น โดยไม่ละเมิดความเป็นกลางหรือความปลอดภัย

    สิ่งที่โดดเด่นคือ Apertus เคารพสิทธิ์ของเจ้าของข้อมูลอย่างเข้มงวด โดยใช้ระบบ opt-out ที่สามารถย้อนกลับได้ และมีระบบ output filter ที่ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดทุก 6 เดือน เพื่อกรองข้อมูลส่วนบุคคลออกจากผลลัพธ์ของโมเดล

    นอกจากนี้ Apertus ยังถูกออกแบบให้สอดคล้องกับกฎหมายความโปร่งใสของ EU AI Act และกฎหมายคุ้มครองข้อมูลของสวิตเซอร์แลนด์ โดยมีเอกสารสาธารณะและโค้ดการเทรนให้ตรวจสอบได้ทั้งหมด

    ข้อมูลพื้นฐานของ Apertus
    พัฒนาโดย SNAI ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง ETH Zurich และ EPFL
    มีสองขนาด: 8B และ 70B พารามิเตอร์
    เทรนด้วยข้อมูล 15T token จากเว็บ, โค้ด, และคณิตศาสตร์

    สถาปัตยกรรมและเทคนิคการเทรน
    ใช้ decoder-only transformer พร้อมฟังก์ชัน xIELU
    ใช้ optimizer AdEMAMix และ precision แบบ bfloat16
    เทรนบน GPU GH200 จำนวน 4096 ตัว

    ความสามารถด้านภาษาและความโปร่งใส
    รองรับ 1811 ภาษา โดย 40% เป็นภาษาที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ
    ใช้ข้อมูลที่เปิดและเคารพ opt-out ของเจ้าของข้อมูล
    มีระบบ output filter สำหรับลบข้อมูลส่วนบุคคลจากผลลัพธ์

    การใช้งานและการ deploy
    รองรับ context ยาวถึง 65,536 token
    ใช้งานผ่าน Transformers v4.56.0, vLLM, SGLang และ MLX
    มีอินเทอร์เฟซผ่าน Swisscom และ PublicAI สำหรับผู้ใช้ทั่วไป

    การปฏิบัติตามกฎหมายและจริยธรรม
    สอดคล้องกับ EU AI Act และกฎหมายสวิตเซอร์แลนด์
    มีเอกสารสาธารณะและโค้ดการเทรนให้ตรวจสอบได้
    ไม่ใช้ข้อมูลที่ละเมิดสิทธิ์หรือมีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม

    https://huggingface.co/swiss-ai/Apertus-70B-2509
    🎙️ เรื่องเล่าจาก ETH Zurich ถึง 1811 ภาษา: เมื่อโมเดลภาษาไม่ได้ถูกสร้างเพื่อแข่งขัน แต่เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงได้ Apertus เป็นโมเดลภาษาใหญ่ (LLM) ที่พัฒนาโดย Swiss National AI Institute (SNAI) ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง ETH Zurich และ EPFL โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างโมเดลที่เปิดทุกส่วน—ตั้งแต่โค้ด, น้ำหนักโมเดล, ข้อมูลเทรน, ไปจนถึงสูตรการเทรนเอง โมเดลมีสองขนาดคือ 8B และ 70B พารามิเตอร์ โดยเวอร์ชัน 70B ถูกเทรนด้วยข้อมูล 15 ล้านล้าน token จากเว็บ, โค้ด, และคณิตศาสตร์ ผ่านกระบวนการ curriculum learning ที่จัดลำดับเนื้อหาอย่างเป็นระบบ Apertus รองรับภาษามากถึง 1811 ภาษา โดย 40% ของข้อมูลเทรนเป็นภาษาที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ เช่น Swiss German, Romansh และภาษาอื่น ๆ ที่มักถูกละเลยในโมเดลทั่วไป โมเดลใช้สถาปัตยกรรม decoder-only transformer พร้อมฟังก์ชัน activation ใหม่ชื่อ xIELU และ optimizer แบบ AdEMAMix ซึ่งออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเทรนในระดับ bfloat16 บน GPU GH200 จำนวน 4096 ตัว หลังการเทรน โมเดลยังผ่านการ fine-tune แบบมีผู้ดูแล และ alignment ด้วยเทคนิค QRPO เพื่อให้ตอบสนองต่อผู้ใช้ได้ดีขึ้น โดยไม่ละเมิดความเป็นกลางหรือความปลอดภัย สิ่งที่โดดเด่นคือ Apertus เคารพสิทธิ์ของเจ้าของข้อมูลอย่างเข้มงวด โดยใช้ระบบ opt-out ที่สามารถย้อนกลับได้ และมีระบบ output filter ที่ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดทุก 6 เดือน เพื่อกรองข้อมูลส่วนบุคคลออกจากผลลัพธ์ของโมเดล นอกจากนี้ Apertus ยังถูกออกแบบให้สอดคล้องกับกฎหมายความโปร่งใสของ EU AI Act และกฎหมายคุ้มครองข้อมูลของสวิตเซอร์แลนด์ โดยมีเอกสารสาธารณะและโค้ดการเทรนให้ตรวจสอบได้ทั้งหมด ✅ ข้อมูลพื้นฐานของ Apertus ➡️ พัฒนาโดย SNAI ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง ETH Zurich และ EPFL ➡️ มีสองขนาด: 8B และ 70B พารามิเตอร์ ➡️ เทรนด้วยข้อมูล 15T token จากเว็บ, โค้ด, และคณิตศาสตร์ ✅ สถาปัตยกรรมและเทคนิคการเทรน ➡️ ใช้ decoder-only transformer พร้อมฟังก์ชัน xIELU ➡️ ใช้ optimizer AdEMAMix และ precision แบบ bfloat16 ➡️ เทรนบน GPU GH200 จำนวน 4096 ตัว ✅ ความสามารถด้านภาษาและความโปร่งใส ➡️ รองรับ 1811 ภาษา โดย 40% เป็นภาษาที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ ➡️ ใช้ข้อมูลที่เปิดและเคารพ opt-out ของเจ้าของข้อมูล ➡️ มีระบบ output filter สำหรับลบข้อมูลส่วนบุคคลจากผลลัพธ์ ✅ การใช้งานและการ deploy ➡️ รองรับ context ยาวถึง 65,536 token ➡️ ใช้งานผ่าน Transformers v4.56.0, vLLM, SGLang และ MLX ➡️ มีอินเทอร์เฟซผ่าน Swisscom และ PublicAI สำหรับผู้ใช้ทั่วไป ✅ การปฏิบัติตามกฎหมายและจริยธรรม ➡️ สอดคล้องกับ EU AI Act และกฎหมายสวิตเซอร์แลนด์ ➡️ มีเอกสารสาธารณะและโค้ดการเทรนให้ตรวจสอบได้ ➡️ ไม่ใช้ข้อมูลที่ละเมิดสิทธิ์หรือมีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม https://huggingface.co/swiss-ai/Apertus-70B-2509
    HUGGINGFACE.CO
    swiss-ai/Apertus-70B-2509 · Hugging Face
    We’re on a journey to advance and democratize artificial intelligence through open source and open science.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 125 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก Ransomware 3.0: เมื่อมัลแวร์ไม่ต้องเขียนโค้ดล่วงหน้า แค่สั่ง AI ให้แต่งสดตามสถานการณ์

    ในเดือนกันยายน 2025 นักวิจัยจาก NYU Tandon School of Engineering เปิดเผยว่า “PromptLocker” ซึ่งถูกบริษัท ESET เข้าใจผิดว่าเป็นมัลแวร์จริงในโลกไซเบอร์นั้น แท้จริงคือโค้ดทดลองในโครงการวิจัยชื่อ “Ransomware 3.0” ที่พัฒนาขึ้นเพื่อศึกษาความสามารถของ AI ในการสร้างมัลแวร์แบบอัตโนมัติ

    PromptLocker ใช้ Lua script ที่ถูกสร้างจาก prompt แบบ hard-coded เพื่อสแกนไฟล์ในเครื่อง, เลือกเป้าหมาย, ขโมยข้อมูล, และเข้ารหัสไฟล์—ครบทุกขั้นตอนของ ransomware โดยไม่ต้องมีโค้ดล่วงหน้า นักวิจัยใช้ LLM (Large Language Model) แบบโอเพ่นซอร์สเพื่อแต่งโค้ดตามคำสั่งที่ฝังไว้ใน binary และให้ AI ตัดสินใจเองว่าจะโจมตีอย่างไร

    สิ่งที่น่ากังวลคือ ความสามารถของระบบนี้ในการทำงานแบบ “ปิดวงจร” โดยไม่ต้องมีมนุษย์คอยควบคุม และสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตามสภาพแวดล้อมได้แบบ polymorphic—ทำให้การตรวจจับยากขึ้นมาก

    ต้นทุนของการโจมตีหนึ่งครั้งอยู่ที่ประมาณ 23,000 token หรือราว $0.70 หากใช้ API เชิงพาณิชย์ แต่ถ้าใช้โมเดลโอเพ่นซอร์ส ต้นทุนจะเป็นศูนย์ นักวิจัยเตือนว่า “ผลตอบแทนของแฮกเกอร์จะสูงกว่าคนลงทุนใน AI เสียอีก” หากไม่มีมาตรการควบคุมที่เหมาะสม

    แม้จะเป็นแค่การทดลองในห้องแล็บ แต่ PromptLocker ทำงานได้จริง และสามารถหลอกนักวิจัยด้านความปลอดภัยให้เชื่อว่าเป็นมัลแวร์ในโลกจริงได้—สะท้อนถึงความซับซ้อนของภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

    จุดกำเนิดของ PromptLocker
    เป็นโค้ดทดลองจาก NYU Tandon School of Engineering
    ถูกเข้าใจผิดโดย ESET ว่าเป็นมัลแวร์จริงในโลกไซเบอร์
    ใช้ชื่อในงานวิจัยว่า “Ransomware 3.0”

    วิธีการทำงานของระบบ
    ใช้ Lua script ที่สร้างจาก prompt เพื่อควบคุมการโจมตี
    ทำงานครบทุกขั้นตอน: สแกน, ขโมย, เข้ารหัส, สร้างโน้ตร้องค่าไถ่
    ใช้ LLM แบบโอเพ่นซอร์สในการแต่งโค้ดตามสถานการณ์

    ความสามารถของระบบ
    ทำงานแบบปิดวงจรโดยไม่ต้องมีมนุษย์ควบคุม
    สร้างโค้ดแบบ polymorphic ที่ปรับเปลี่ยนตามสภาพแวดล้อม
    สามารถหลอกนักวิจัยให้เชื่อว่าเป็นมัลแวร์จริงได้

    ต้นทุนและผลกระทบ
    ใช้ประมาณ 23,000 token ต่อการโจมตีหนึ่งครั้ง (~$0.70)
    หากใช้โมเดลโอเพ่นซอร์ส ต้นทุนจะเป็นศูนย์
    นักวิจัยเตือนว่าแฮกเกอร์อาจได้ผลตอบแทนสูงกว่าผู้ลงทุนใน AI

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/ai-powered-promptlocker-ransomware-is-just-an-nyu-research-project-the-code-worked-as-a-typical-ransomware-selecting-targets-exfiltrating-selected-data-and-encrypting-volumes
    🎙️ เรื่องเล่าจาก Ransomware 3.0: เมื่อมัลแวร์ไม่ต้องเขียนโค้ดล่วงหน้า แค่สั่ง AI ให้แต่งสดตามสถานการณ์ ในเดือนกันยายน 2025 นักวิจัยจาก NYU Tandon School of Engineering เปิดเผยว่า “PromptLocker” ซึ่งถูกบริษัท ESET เข้าใจผิดว่าเป็นมัลแวร์จริงในโลกไซเบอร์นั้น แท้จริงคือโค้ดทดลองในโครงการวิจัยชื่อ “Ransomware 3.0” ที่พัฒนาขึ้นเพื่อศึกษาความสามารถของ AI ในการสร้างมัลแวร์แบบอัตโนมัติ PromptLocker ใช้ Lua script ที่ถูกสร้างจาก prompt แบบ hard-coded เพื่อสแกนไฟล์ในเครื่อง, เลือกเป้าหมาย, ขโมยข้อมูล, และเข้ารหัสไฟล์—ครบทุกขั้นตอนของ ransomware โดยไม่ต้องมีโค้ดล่วงหน้า นักวิจัยใช้ LLM (Large Language Model) แบบโอเพ่นซอร์สเพื่อแต่งโค้ดตามคำสั่งที่ฝังไว้ใน binary และให้ AI ตัดสินใจเองว่าจะโจมตีอย่างไร สิ่งที่น่ากังวลคือ ความสามารถของระบบนี้ในการทำงานแบบ “ปิดวงจร” โดยไม่ต้องมีมนุษย์คอยควบคุม และสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตามสภาพแวดล้อมได้แบบ polymorphic—ทำให้การตรวจจับยากขึ้นมาก ต้นทุนของการโจมตีหนึ่งครั้งอยู่ที่ประมาณ 23,000 token หรือราว $0.70 หากใช้ API เชิงพาณิชย์ แต่ถ้าใช้โมเดลโอเพ่นซอร์ส ต้นทุนจะเป็นศูนย์ นักวิจัยเตือนว่า “ผลตอบแทนของแฮกเกอร์จะสูงกว่าคนลงทุนใน AI เสียอีก” หากไม่มีมาตรการควบคุมที่เหมาะสม แม้จะเป็นแค่การทดลองในห้องแล็บ แต่ PromptLocker ทำงานได้จริง และสามารถหลอกนักวิจัยด้านความปลอดภัยให้เชื่อว่าเป็นมัลแวร์ในโลกจริงได้—สะท้อนถึงความซับซ้อนของภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ✅ จุดกำเนิดของ PromptLocker ➡️ เป็นโค้ดทดลองจาก NYU Tandon School of Engineering ➡️ ถูกเข้าใจผิดโดย ESET ว่าเป็นมัลแวร์จริงในโลกไซเบอร์ ➡️ ใช้ชื่อในงานวิจัยว่า “Ransomware 3.0” ✅ วิธีการทำงานของระบบ ➡️ ใช้ Lua script ที่สร้างจาก prompt เพื่อควบคุมการโจมตี ➡️ ทำงานครบทุกขั้นตอน: สแกน, ขโมย, เข้ารหัส, สร้างโน้ตร้องค่าไถ่ ➡️ ใช้ LLM แบบโอเพ่นซอร์สในการแต่งโค้ดตามสถานการณ์ ✅ ความสามารถของระบบ ➡️ ทำงานแบบปิดวงจรโดยไม่ต้องมีมนุษย์ควบคุม ➡️ สร้างโค้ดแบบ polymorphic ที่ปรับเปลี่ยนตามสภาพแวดล้อม ➡️ สามารถหลอกนักวิจัยให้เชื่อว่าเป็นมัลแวร์จริงได้ ✅ ต้นทุนและผลกระทบ ➡️ ใช้ประมาณ 23,000 token ต่อการโจมตีหนึ่งครั้ง (~$0.70) ➡️ หากใช้โมเดลโอเพ่นซอร์ส ต้นทุนจะเป็นศูนย์ ➡️ นักวิจัยเตือนว่าแฮกเกอร์อาจได้ผลตอบแทนสูงกว่าผู้ลงทุนใน AI https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/ai-powered-promptlocker-ransomware-is-just-an-nyu-research-project-the-code-worked-as-a-typical-ransomware-selecting-targets-exfiltrating-selected-data-and-encrypting-volumes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 171 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก dopamine hit ถึง debugging: เมื่อคนเขียนโค้ดรุ่นเก๋าใช้ AI อย่างมีชั้นเชิง

    จากผลสำรวจของ Fastly ที่เผยแพร่ผ่าน TechRadar และ The Register พบว่า นักพัฒนาอาวุโส (มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี) ใช้เครื่องมือสร้างโค้ดด้วย AI เช่น Copilot, Claude, Gemini มากกว่านักพัฒนารุ่นใหม่ถึง 2.5 เท่า โดยประมาณหนึ่งในสามของนักพัฒนาอาวุโสระบุว่า “มากกว่าครึ่ง” ของโค้ดที่พวกเขาส่งขึ้น production มาจาก AI

    แต่การใช้ AI ไม่ได้หมายถึงการพึ่งพาแบบไร้การตรวจสอบ—นักพัฒนาอาวุโสกลับใช้เวลา “มากขึ้น” ในการตรวจสอบข้อผิดพลาดที่เกิดจาก AI และแก้ไขให้เหมาะสมกับบริบทของระบบจริง โดยเฉพาะในงานที่มีความเสี่ยงสูงหรือมีผลกระทบต่อธุรกิจ

    Austin Spires จาก Fastly อธิบายว่า นักพัฒนาอาวุโสไม่ได้เขียนโค้ดทั้งวัน แต่ต้องดูแล testing, architecture และ mentoring ด้วย การใช้ AI เพื่อสร้าง prototype อย่างรวดเร็วจึงช่วยให้พวกเขา “ได้ความรู้สึกสนุกแบบเดิมกลับมา”—คล้ายกับ dopamine hit ที่เคยได้จากการเขียนโค้ดด้วยมือในยุคแรก

    ในทางกลับกัน นักพัฒนารุ่นใหม่ (ประสบการณ์ต่ำกว่า 2 ปี) กลับใช้ AI น้อยกว่า และมักเลือกเขียนโค้ดด้วยมือ เพราะรู้สึกว่า AI ยังไม่เข้าใจบริบทหรือเจตนาของโค้ดที่ต้องการได้ดีพอ ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในฝีมือและความต้องการเรียนรู้เชิงลึก

    ที่น่าสนใจคือ นักพัฒนาอาวุโสยังให้ความสำคัญกับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมของโค้ดที่เขียน—กว่า 80% ระบุว่าพวกเขาคำนึงถึงพลังงานที่ใช้ในการรันโค้ด ขณะที่นักพัฒนารุ่นใหม่มีเพียงครึ่งเดียวที่คิดถึงเรื่องนี้ และเกือบ 10% ยอมรับว่า “ไม่รู้เลยว่าระบบใช้พลังงานเท่าไหร่”

    การใช้งาน AI coding tools ในกลุ่มนักพัฒนาอาวุโส
    32% ของนักพัฒนาอาวุโสใช้ AI สร้างโค้ดมากกว่าครึ่งของงานที่ deploy
    ใช้ AI เพื่อสร้าง prototype และเร่งงานที่ไม่ต้องการความละเอียดสูง
    ใช้เวลาเพิ่มในการตรวจสอบข้อผิดพลาดจาก AI เพื่อความมั่นใจ

    พฤติกรรมของนักพัฒนารุ่นใหม่
    มีเพียง 13% ที่ใช้ AI coding tools ในระดับเดียวกัน
    มักเลือกเขียนโค้ดด้วยมือเพื่อความเข้าใจและควบคุมที่มากกว่า
    มองว่า AI ยังไม่สามารถเข้าใจเจตนาของโค้ดได้ดีพอ

    ความรู้สึกและแรงจูงใจ
    นักพัฒนาอาวุโสรู้สึกว่า AI coding ให้ dopamine hit คล้ายกับการเขียนโค้ดยุคแรก
    นักพัฒนารุ่นใหม่ยังให้คุณค่ากับ “craftsmanship” ของการเขียนโค้ดด้วยมือ
    ทั้งสองกลุ่มมากกว่า 70% เห็นว่า AI ทำให้การทำงานสนุกขึ้น

    ความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อม
    80% ของนักพัฒนาอาวุโสคำนึงถึงพลังงานที่ใช้ในการรันโค้ด
    นักพัฒนารุ่นใหม่มีเพียงครึ่งเดียวที่คิดถึงเรื่องนี้
    เกือบ 10% ยอมรับว่าไม่รู้ว่าระบบใช้พลังงานเท่าไหร่

    https://www.techradar.com/pro/they-dont-make-em-like-they-used-to-older-coders-are-more-in-tune-with-vibe-coding-study-claims
    🎙️ เรื่องเล่าจาก dopamine hit ถึง debugging: เมื่อคนเขียนโค้ดรุ่นเก๋าใช้ AI อย่างมีชั้นเชิง จากผลสำรวจของ Fastly ที่เผยแพร่ผ่าน TechRadar และ The Register พบว่า นักพัฒนาอาวุโส (มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี) ใช้เครื่องมือสร้างโค้ดด้วย AI เช่น Copilot, Claude, Gemini มากกว่านักพัฒนารุ่นใหม่ถึง 2.5 เท่า โดยประมาณหนึ่งในสามของนักพัฒนาอาวุโสระบุว่า “มากกว่าครึ่ง” ของโค้ดที่พวกเขาส่งขึ้น production มาจาก AI แต่การใช้ AI ไม่ได้หมายถึงการพึ่งพาแบบไร้การตรวจสอบ—นักพัฒนาอาวุโสกลับใช้เวลา “มากขึ้น” ในการตรวจสอบข้อผิดพลาดที่เกิดจาก AI และแก้ไขให้เหมาะสมกับบริบทของระบบจริง โดยเฉพาะในงานที่มีความเสี่ยงสูงหรือมีผลกระทบต่อธุรกิจ Austin Spires จาก Fastly อธิบายว่า นักพัฒนาอาวุโสไม่ได้เขียนโค้ดทั้งวัน แต่ต้องดูแล testing, architecture และ mentoring ด้วย การใช้ AI เพื่อสร้าง prototype อย่างรวดเร็วจึงช่วยให้พวกเขา “ได้ความรู้สึกสนุกแบบเดิมกลับมา”—คล้ายกับ dopamine hit ที่เคยได้จากการเขียนโค้ดด้วยมือในยุคแรก ในทางกลับกัน นักพัฒนารุ่นใหม่ (ประสบการณ์ต่ำกว่า 2 ปี) กลับใช้ AI น้อยกว่า และมักเลือกเขียนโค้ดด้วยมือ เพราะรู้สึกว่า AI ยังไม่เข้าใจบริบทหรือเจตนาของโค้ดที่ต้องการได้ดีพอ ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในฝีมือและความต้องการเรียนรู้เชิงลึก ที่น่าสนใจคือ นักพัฒนาอาวุโสยังให้ความสำคัญกับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมของโค้ดที่เขียน—กว่า 80% ระบุว่าพวกเขาคำนึงถึงพลังงานที่ใช้ในการรันโค้ด ขณะที่นักพัฒนารุ่นใหม่มีเพียงครึ่งเดียวที่คิดถึงเรื่องนี้ และเกือบ 10% ยอมรับว่า “ไม่รู้เลยว่าระบบใช้พลังงานเท่าไหร่” ✅ การใช้งาน AI coding tools ในกลุ่มนักพัฒนาอาวุโส ➡️ 32% ของนักพัฒนาอาวุโสใช้ AI สร้างโค้ดมากกว่าครึ่งของงานที่ deploy ➡️ ใช้ AI เพื่อสร้าง prototype และเร่งงานที่ไม่ต้องการความละเอียดสูง ➡️ ใช้เวลาเพิ่มในการตรวจสอบข้อผิดพลาดจาก AI เพื่อความมั่นใจ ✅ พฤติกรรมของนักพัฒนารุ่นใหม่ ➡️ มีเพียง 13% ที่ใช้ AI coding tools ในระดับเดียวกัน ➡️ มักเลือกเขียนโค้ดด้วยมือเพื่อความเข้าใจและควบคุมที่มากกว่า ➡️ มองว่า AI ยังไม่สามารถเข้าใจเจตนาของโค้ดได้ดีพอ ✅ ความรู้สึกและแรงจูงใจ ➡️ นักพัฒนาอาวุโสรู้สึกว่า AI coding ให้ dopamine hit คล้ายกับการเขียนโค้ดยุคแรก ➡️ นักพัฒนารุ่นใหม่ยังให้คุณค่ากับ “craftsmanship” ของการเขียนโค้ดด้วยมือ ➡️ ทั้งสองกลุ่มมากกว่า 70% เห็นว่า AI ทำให้การทำงานสนุกขึ้น ✅ ความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อม ➡️ 80% ของนักพัฒนาอาวุโสคำนึงถึงพลังงานที่ใช้ในการรันโค้ด ➡️ นักพัฒนารุ่นใหม่มีเพียงครึ่งเดียวที่คิดถึงเรื่องนี้ ➡️ เกือบ 10% ยอมรับว่าไม่รู้ว่าระบบใช้พลังงานเท่าไหร่ https://www.techradar.com/pro/they-dont-make-em-like-they-used-to-older-coders-are-more-in-tune-with-vibe-coding-study-claims
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 157 มุมมอง 0 รีวิว
  • กฎอัยการศึกเรากากมาก,ต้องเด็ดขาดตั้งแต่ประกาศทันที ทหารไทยเราต้องปรับแอ็คชั่น เมื่ออดีตผิดพลาดสามารถแก้ไขได้ที่เรายังใช้กฎอัยการศึกกับศัตรูของชาติเราไม่จริงจัง,กฎอัยการศึกในอนาคตเราต้องเขียนใหม่แล้ว,ถ้าจะใช้ในไทยให้เรียกแบบในปัจจุบันนี้แทนคือกฎอัยการศึก,แต่ถ้าจะใช้กับศัตรูข้าศึกต้องเรียกใหม่ทันทีว่า "กฎเด็ดหัวศัตรูอธิปไตยไทย" เช่นเคสบ้านหนองจานนี้เหมาะสม ข้อที่ 1 เขมรต้องออกจากดินไทยทันที เช่นนั้นจะประหารชีวิตสถานเดียว.นี้ต้องเด็ดขาดประมาณนี้,ข้อต่อไปในอื่นๆก็เช่น มายั่วยุบนแผ่นดินไทยเขตไทย เข้ามาล้ำเกินเสาหมุดถึงว่าล้ำดินแดนไทย สามารถยิงทิ้งได้เลยทันที เป็นต้น เขมรทุกๆคนจะถูกจับดำเนินคดีร้ายแรงในเขตไทยข้อหากระทำผิดกฎเด็ดหัวศัตรูฯของไทยเรา,ไม่ใช่ของมาล่อเล่นในกฏหมายไทยได้ ท้าทายต้องรับผลของการกระทำของคนเขมรที่รุกรานไทย,นี้เข้ามาบนเขตดินแดนไทยชัดเจน,รถขี้กองทัพขี้ต้องทำงานจริงจังกับอมนุษย์เหี้ยนี้,ชาวบ้านพวกนี้คือครอบครัวทหารเขมรทั้งชุมชนตลอดริมชายแดนนี้ล่ะ 90%ครอบครัวทหารเขมรเกือบหมดมาในคราบชาวบ้านเหมือนอานม้า.

    นี้คือผลงานมทภ.1ที่ทำงานในอดีตที่ไร้ฝีมือไร้ศักยภาพไร้ประสิทธิภาพในการบัญชาการทัพแต่ต้น,ไม่สมควรมานั่งเป็นมทภ.1จากผลงานที่ผิดหูผิดตา ต่างกันเกินไปกับมทภ.2อีสานใต้,นร้คือค่าจริงความจริงใช้เนื้องานหน้างานมาพูดจริงๆ,ส่งผลกระทบให้เห็นชัดในปัจจุบัน,หาก มทภ.1ท่านนี้มีอำนาจคุมทั้งเหล่าทัพจะเป็นอันตรายต่ออธิปไตยไทยแน่นอนทันทีด้วย,บูรพาพยัคฆ์ที่ควบคุมบัญชาการทางภาค1ถือว่าบัญชาการทางทหารล้มเหลวมาก,ในสงครามครั้งที่แล้ว,ส่วนปัจจุบันคือปัจจุบัน อนาคตคืออนาคต ท่านอาจแก้มือ ทำผลงานดีเราก็ไม่อาจสามารถคาดการณ์ได้หรือมทภ.1คนใหม่มาบัญชาการอาจต่างจากคนเก่าก็ได้เพราะแม่ทัพแต่ละท่านนั้นความสามารถเฉพาะตนและบริหารบัญชาการทีมทัพอาจต่างกัน,ถึงอย่างไร แต่ละท่านก็มีปมใครมันที่มิอาจเข้าใจได้ แต่ผลกรรมที่เกิดขึ้นต้องได้รับตามค่าจริงนั้นๆไม่ว่าจะทำดีหรือทำชั่วต่อบ้านต่อเมืองตน.,และประชาชนของตน,ที่ตนมีหน้าที่,แต่ถ้าเรากำจัดคนใหญ่คนโตจบจริงๆซึ่งตัวปัญหาของแท้กว่ามทภ.1เราจะจบปัญหาบัดสบนี้ทั้งหมดทันที,ยุทธการวิธีทางทหาร เราก็มิทราบอีก บูรพาพยัคฆ์อาจคิดอ่านลึกซึ้งมาเหนือเมฆก็ได้ใครจะรู้.แต่เหี้ยค้าขายเถื่อนๆยาวนานถึงปัจจุบันจริงๆที่กูรูมากมายออกมาแฉ,นักข่าวกูรูต่างๆท่านก็อาจดับพวกเหนือเมฆนี้ก็ได้แบบวัดพระบาทน้ำพุก็ได้.,สายบูรพาพยัคฆ์ฆ่าตัวเองชัดเจน,หรือมองทางดีคิดบวกจริง บูรพาพยัคฆ์คือผู้เสียสละกระตุ้นการค้าขายทางใต้ดินอันมาก นำเงินตราเข้าออกประเทศมหาศาล ช่วยประเทศทางลับมาอย่างยาวนาน รัฐบาลเหี้ยไม่ดูแลทหารที่พิการบาดเจ็บ สายบูรพาพยัคฆ์จึงออกหาเลี้ยงชีพช่วยวงการทหารเอง หาตังซื้ออาวุธเองเพื่อปกป้องประเทศ ขูดรีดตังพลทหารเกณฑ์ทุกๆรูปแบบที่ทำได้เพราะงบประมาณมาพอดีแบบภาระกิจนั้น,ทำจริงก็โคตรน่าสนใจ,แต่เหี้ยบ้านพักนายพล นายใหญ่นายทหาร อยู่ยังกับวัง เงินทองมากมายกองไว้ในส่วนท้องตนเป็นอันมาก ฝากแบบในสิงคโปร์ก็ไม่น้อยแน่ๆ ฟอกตังถ่ายเททรัพย์สินมิใช่น้อยเช่นกันก็ว่า,จึงตีค.ว.ย.ลำบากจริงๆว่าเหี้ยพวกนี้คือทหารดีหรือทหารเลวชั่วกันแน่.

    https://youtube.com/watch?v=rWOYa1TISiE&si=OYLeAw162_MgftKX
    กฎอัยการศึกเรากากมาก,ต้องเด็ดขาดตั้งแต่ประกาศทันที ทหารไทยเราต้องปรับแอ็คชั่น เมื่ออดีตผิดพลาดสามารถแก้ไขได้ที่เรายังใช้กฎอัยการศึกกับศัตรูของชาติเราไม่จริงจัง,กฎอัยการศึกในอนาคตเราต้องเขียนใหม่แล้ว,ถ้าจะใช้ในไทยให้เรียกแบบในปัจจุบันนี้แทนคือกฎอัยการศึก,แต่ถ้าจะใช้กับศัตรูข้าศึกต้องเรียกใหม่ทันทีว่า "กฎเด็ดหัวศัตรูอธิปไตยไทย" เช่นเคสบ้านหนองจานนี้เหมาะสม ข้อที่ 1 เขมรต้องออกจากดินไทยทันที เช่นนั้นจะประหารชีวิตสถานเดียว.นี้ต้องเด็ดขาดประมาณนี้,ข้อต่อไปในอื่นๆก็เช่น มายั่วยุบนแผ่นดินไทยเขตไทย เข้ามาล้ำเกินเสาหมุดถึงว่าล้ำดินแดนไทย สามารถยิงทิ้งได้เลยทันที เป็นต้น เขมรทุกๆคนจะถูกจับดำเนินคดีร้ายแรงในเขตไทยข้อหากระทำผิดกฎเด็ดหัวศัตรูฯของไทยเรา,ไม่ใช่ของมาล่อเล่นในกฏหมายไทยได้ ท้าทายต้องรับผลของการกระทำของคนเขมรที่รุกรานไทย,นี้เข้ามาบนเขตดินแดนไทยชัดเจน,รถขี้กองทัพขี้ต้องทำงานจริงจังกับอมนุษย์เหี้ยนี้,ชาวบ้านพวกนี้คือครอบครัวทหารเขมรทั้งชุมชนตลอดริมชายแดนนี้ล่ะ 90%ครอบครัวทหารเขมรเกือบหมดมาในคราบชาวบ้านเหมือนอานม้า. นี้คือผลงานมทภ.1ที่ทำงานในอดีตที่ไร้ฝีมือไร้ศักยภาพไร้ประสิทธิภาพในการบัญชาการทัพแต่ต้น,ไม่สมควรมานั่งเป็นมทภ.1จากผลงานที่ผิดหูผิดตา ต่างกันเกินไปกับมทภ.2อีสานใต้,นร้คือค่าจริงความจริงใช้เนื้องานหน้างานมาพูดจริงๆ,ส่งผลกระทบให้เห็นชัดในปัจจุบัน,หาก มทภ.1ท่านนี้มีอำนาจคุมทั้งเหล่าทัพจะเป็นอันตรายต่ออธิปไตยไทยแน่นอนทันทีด้วย,บูรพาพยัคฆ์ที่ควบคุมบัญชาการทางภาค1ถือว่าบัญชาการทางทหารล้มเหลวมาก,ในสงครามครั้งที่แล้ว,ส่วนปัจจุบันคือปัจจุบัน อนาคตคืออนาคต ท่านอาจแก้มือ ทำผลงานดีเราก็ไม่อาจสามารถคาดการณ์ได้หรือมทภ.1คนใหม่มาบัญชาการอาจต่างจากคนเก่าก็ได้เพราะแม่ทัพแต่ละท่านนั้นความสามารถเฉพาะตนและบริหารบัญชาการทีมทัพอาจต่างกัน,ถึงอย่างไร แต่ละท่านก็มีปมใครมันที่มิอาจเข้าใจได้ แต่ผลกรรมที่เกิดขึ้นต้องได้รับตามค่าจริงนั้นๆไม่ว่าจะทำดีหรือทำชั่วต่อบ้านต่อเมืองตน.,และประชาชนของตน,ที่ตนมีหน้าที่,แต่ถ้าเรากำจัดคนใหญ่คนโตจบจริงๆซึ่งตัวปัญหาของแท้กว่ามทภ.1เราจะจบปัญหาบัดสบนี้ทั้งหมดทันที,ยุทธการวิธีทางทหาร เราก็มิทราบอีก บูรพาพยัคฆ์อาจคิดอ่านลึกซึ้งมาเหนือเมฆก็ได้ใครจะรู้.แต่เหี้ยค้าขายเถื่อนๆยาวนานถึงปัจจุบันจริงๆที่กูรูมากมายออกมาแฉ,นักข่าวกูรูต่างๆท่านก็อาจดับพวกเหนือเมฆนี้ก็ได้แบบวัดพระบาทน้ำพุก็ได้.,สายบูรพาพยัคฆ์ฆ่าตัวเองชัดเจน,หรือมองทางดีคิดบวกจริง บูรพาพยัคฆ์คือผู้เสียสละกระตุ้นการค้าขายทางใต้ดินอันมาก นำเงินตราเข้าออกประเทศมหาศาล ช่วยประเทศทางลับมาอย่างยาวนาน รัฐบาลเหี้ยไม่ดูแลทหารที่พิการบาดเจ็บ สายบูรพาพยัคฆ์จึงออกหาเลี้ยงชีพช่วยวงการทหารเอง หาตังซื้ออาวุธเองเพื่อปกป้องประเทศ ขูดรีดตังพลทหารเกณฑ์ทุกๆรูปแบบที่ทำได้เพราะงบประมาณมาพอดีแบบภาระกิจนั้น,ทำจริงก็โคตรน่าสนใจ,แต่เหี้ยบ้านพักนายพล นายใหญ่นายทหาร อยู่ยังกับวัง เงินทองมากมายกองไว้ในส่วนท้องตนเป็นอันมาก ฝากแบบในสิงคโปร์ก็ไม่น้อยแน่ๆ ฟอกตังถ่ายเททรัพย์สินมิใช่น้อยเช่นกันก็ว่า,จึงตีค.ว.ย.ลำบากจริงๆว่าเหี้ยพวกนี้คือทหารดีหรือทหารเลวชั่วกันแน่. https://youtube.com/watch?v=rWOYa1TISiE&si=OYLeAw162_MgftKX
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 197 มุมมอง 0 รีวิว
  • แกะรอยนักล่า ตอนที่ 2
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยนักล่า” (2)
    ขณะที่เขียนนิทานนี้ การขับไล่รัฐบาลนังมารร้าย ของมวลมหาประชาชนยังไม่สำเร็จ มะม่วงแม้จะขั้วเน่า จุดดำขึ้นเต็มลูก ก็ยังไม่ร่วงหล่น ลุงกำนันใช้ลมปากเท่าใดก็ไม่เป็นผล และแม้จะมีนักวิชาการดาหน้ากันมาบอกว่า การเป็นรัฐบาลรักษาการของรัฐบาลนังมารร้ายได้สิ้นสุดไปแล้ว ก็เหมือนพูดกับคนหูหนวก ไม่รู้เรื่อง แถมนังมารร้ายออกมาพูดจาเลอะเทอะ ทำน้ำตาคลอ ดูอาการเหมือนคนใกล้จะวิปลาส และแม้จะมีศาลจะออกมาชี้มูลความผิด หรือแม้ว่าจะมีคุณหมอคนใดจริงใจและใจถึงออกมาบอกว่า นังมารร้ายวิปลาสไปแล้ว หล่อนก็ยังคงไม่รู้ร้อนรู้หนาวเกาะเก้าอี้ห้อยต่องแต่งต่อไป จำเป็นจะต้องรอให้มีปัจจัยอื่น ที่จะมาปลิดมะม่วงให้หล่น
    ปัจจัยภายในคือคุณพี่ทหาร ซึ่งขณะนี้ได้แสดงท่าทีว่าจวนจะหาจุดยืนถูก “ที่” แล้ว รออีกสักหน่อย ตอนนี้ยังยุ่งกับการแต่งบังเกอร์ให้หวานแหววอยู่ ส่วนปัจจัยภายนอกคือนักล่า ซึ่งได้ปล่อยข่าวผ่านสำนักหมอ ดู CSIS (Centre for Strategic and International Studies) เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2014 ไปแล้วว่า มันควรต้องมีการประนีประนอมด้วยการเจรจา และตกลงตั้งนายกรัฐมนตรีคนกลาง เลือกเอาจากที่ผู้คนยอมรับนับถือแบบนายอานันท์ ปันยารชุน
    แหม ! ข่าวแบบนี้เล่นเอาร้านตัดเสื้องานเข้า เขาว่ามีคนแอบไปตัดชุดขาวหลายคน (แอบลุ้นกันทั้งนั้น) บางคนก็เอาชุดเดิมไปแก้ เพราะว่าคอมันคับไป แก่แล้ว น้ำหนักมันขึ้น (ฮา)
    แม้เราจะยังไม่แน่ใจว่า นักล่าจะเล่นไพ่ใบไหน มันกะล่อนจะตาย จะเชื่อกันง่าย ๆ ก็ ฉ.ห. กันหมด แต่เมื่อลองไปแกะรอย ตามดูว่านักล่าเดินไปทางไหน มันก็พอจะบอกอะไรเพิ่มเติมได้บ้าง
    อเมริกามีหน่วยงานหนึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบ ทำรายงานเกี่ยวกับความเป็นไปของแต่ละประเทศแต่ละเหตุการณ์ในโลก เพื่อส่งให้สภาสูง เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับอเมริกา เหมือนคุณครูประจำชั้นเขียนสมุดพก ประจำตัวนักเรียนแต่ละคน รายงานผู้ปกครอง สมัยเราเรียนหนังสือนั่นละ หน่วยงานที่ออกสมุดพกพวกนี้เรียกว่า Congressional Research Services (CRS) คุณครูจะออกสมุดพกของแต่ละประเทศ เป็นรายปีในกรณีปกติ หรือมากกว่านั้น ขึ้นกับเหตุการณ์และความสำคัญ เช่นถ้าอเมริกากำลังวิ่งเล่นโยนระเบิดอยู่แถวอิรัค สมุดพกของอิรัคอาจออกเป็นรายชั่วโมง (ฮา) หรือของยูเครนตอนนี้คงออกเป็นรายครึ่งวัน เพราะลงทุนส่งสมุนไปปลุกเศกการปฏิวัติประชาชนซะจนประเทศเขากำลังจะแตกเป็นเสี่ยง
    สำหรับประเทศไทย ที่เปิดเผยคือสมุดพกออกเป็นราย ปี แต่ที่ปกปิด ตามรายงานของคุณนายฑูต อาจออกเป็นรายวัน ดูสมัยเสื้อแดงเผาเมือง ฑูตสมัยนั้นรายงานทุกวัน 3 เวลาหลังอาหาร (อ่านจาก Wikileaks ที่ได้อภินันทนาการแจกกันทั่วโลกครับ) สมุดพกที่ว่านี้ปรกติของนักเรียนไทยแต่ละปี จะออกช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายน แต่สำหรับปีค.ศ. 2013 ที่ผ่านมา ผ่านไปครึ่งปีคุณครูคงยังไม่สามารถสรุป ความประพฤติของนักเรียนไทยได้ เพราะเริ่มมีอาการปวดหัว ตัวร้อน มีการโดดเรียน หรือเริ่มมั่วสุมนอกห้องเรียน เพราะหงุดหงิดจากพวกแก๊งขี้โกงเสนอร่างพรบ.นิรโทษกรรมเข้าไปพิจารณาในสภา คุณครู CRS เลยถ่วงเวลามาออกเอาเดือนสุดท้ายของปี คือออกรายงานเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ค.ศ. 2013
    รายงานคราวนี้ยาวกว่าปรกติ โดยเฉพาะเรื่องสถานการณ์ด้านการเมือง คุณครูรายงานถี่ยิบ ใส่ทุกเรื่องทุกฝ่าย
    รายงานส่วนที่สำคัญบอกว่า ไทยแลนด์เป็นพันธมิตรเก่าแก่ของอเมริกา ตั้งแต่ ค.ศ. 1954 (นานจัง) และได้รับการชื่นชมมาโดยตลอดว่าเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จ ทั้งด้านเศรษฐกิจและการดำรงความเป็นประเทศในระบอบประชาธิปไตย (อ้าว ! ไหนประนามกันเรื่อยว่าไทยไม่เป็นประชาธิปไตย เดี๋ยวฟ้องคุณครูเลย ! ) สัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศแน่นแฟ้นในช่วงสงครามเย็น และได้ขยายไปทั้งด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจและความมั่นคง ไทยเป็นคู่ค้ารายใหญ่ของอเมริกา และการที่อเมริกาสามารถเข้าไปใช้บริการ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ของกองทัพไทย (เช่น สนามบิน ! ) ทำให้ประเทศไทยเป็นส่วนสำคัญทางยุทธศาสตร์ของอเมริกาในการจะดำรงคงอยู่ในภูมิภาค Asia Pacific นี้ได้ (แหม ! จะหลอกใช้สนามบินของเค้าอีกแล้ว)
    คุณครูบอกว่าความมั่นคงและความเจริญเติบโตของประเทศไทย เริ่มสั่นคลอนหลังจากรัฐประหารในไทย เมื่อ ค.ศ. 2006 สร้างความแตกแยกในสังคมไทยอย่างร้าวลึกและยาวนาน และขณะนี้ได้ลุกลามไปจนกลายเป็น การประท้วงเรียกร้องให้รัฐบาลลาออก และให้มีการปกครอง ที่มีบางส่วนอาจมองได้ว่า เป็นการเปลี่ยนแปลงระบบการเมืองของประเทศ อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจของไทย ก็ยังเติบโตแม้จะมีวิกฤติการเมือง และยังเป็นประเทศที่รายได้ของชนชั้นกลาง ยังมีการขยายต่อได้อีก และยังเป็นพันธมิตรที่มั่นคงของอเมริกา (แปลว่าเรื่องกระเป๋าตังค์นี่ เป็นประเด็นที่นักล่าสนใจนะ)
    ประเทศไทยที่สงบและมีความมั่นคง มีนัยอย่างสำคัญทางยุทธศาสตร์ของอเมริกา เพราะประเทศไทยซึ่งมีสถานะเป็นพันธมิตรของอเมริกา ตั้งอยู่บนพื้นแผ่นดินในบริเวณที่เหมาะสมของภูมิภาคอาเซียอาคเณย์นี้ (จุดได้เปรียบของไทย จำกันไว้ให้ดี !)
    คุณครูรายงานต่อไปว่า สภาสูงของอเมริกากำลังลำบากใจที่ต้องเผชิญกับภาวะที่ดูไม่ประชาธิปไตยของไทย และจะมีปฏิกิริยาตอบรับอย่างไร กับประเด็นการดุลอำนาจระหว่างพลเรือนและทหารที่เป็นอยู่ในสังคมไทย (พูดง่าย ๆ ว่ายังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเอาพลเรือนนำทหาร หรือจะเอาทหารนำพลเรือนใช่ไหมคุณครู) นอกจากนี้ยังมีนักวิเคราะห์หลายรายบอกว่า การที่ไทยมัววุ่นอยู่กับปัญหาภายในประเทศของตนนานเกินไป ทำให้อิทธิพลของตนเองที่เคยมีอยู่ในภูมิภาคนี้ด้อยลงด้วย อย่างไรก็ตามแม้ในระดับการปฏิบัติการร่วมกัน ยังคงราบรื่นอยู่ แต่การริเริ่มใหม่ ๆ ดูเหมือนจะเฉื่อยชาไป (แหม ! นายท่านพวกกระผม กำลังวุ่นกับการไล่รัฐบาลโจร จะให้มัวไปเช็ดรองเท้าพวกท่านก็กรุณารอก่อนนะขอรับ ขอโทษครับ ขอเขียนแดกพวกขี้ข้าฝรั่งหน่อย อดไม่ได้)
    เมื่อรัฐบาล Obama ประกาศเปลี่ยนแปลงดุลยภาพของอเมริกา (Rebalancing) โดยให้ความสำคัญกับ Asia Pacific เป็นอันดับสำคัญ ซึ่งจำเป็นต้องมีการขับเคลื่อนร่วมมือจากประเทศที่เรียกว่าเป็นพันธมิตรในภูมิภาคนี้ด้วยนั้น เห็นชัดว่าอเมริกากับไทย ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรใหม่ และประเทศไทยก็ไม่ได้ เข้าเป็นคู่สัญญาในการริเริ่มขบวนการตาม Trans Pacific Partnership (TPP) (ไทยตกรถไฟขบวน TPP น่าจะแปลว่าดีกับไทยนะ เพราะยังไม่เห็นประโยชน์อะไรกับไทยเลย !)
    แต่ประเด็นที่เป็นปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการเมืองไทย ที่อเมริกาเป็นห่วง คือโอกาสที่ทักษิณจะกลับมาอยู่ในประเทศไทย มีมากน้อยเพียงใด (แปลว่าไม่อยากได้ทักษิณใช่ไหม ทักษิณเป็นตัวปัญหาใช่ไหม คุณครู) เพราะทักษิณยังเป็นที่ยอมรับในต่างประเทศ และตัวทักษิณเองได้พูดไปทั่วว่า ตนเองยังได้รับการสนับสนุนจากคนไทยอยู่มาก และจะกลับบ้านในเร็ว ๆ นี้ ร่างกฎหมาย นิรโทษกรรมที่จะล้างผิดให้ทักษิณเป็นต้นเหตุ ให้เกิดการประท้วงใหญ่ ตั้งแต่ตุลาคม ค.ศ. 2013 เป็นต้นมา
    อีกประเด็นที่สำคัญคือคำถามเกี่ยวกับพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งพระชนมายุ 86 แล้ว และมีรายงานว่าไม่ทรงแข็งแรง พระองค์ทรงเป็นที่เคารพอย่างสูงสุด ของประชาชนมาตลอด 60 ปี ที่ผ่านมา และสถาบันกษัตริย์เป็นที่ยอมรับว่า เป็นสถาบันที่มั่นคงที่สุดในไทย แต่ขณะนี้คำถามเกี่ยวกับการสืบสันตติวงศ์เริ่มใกล้เข้ามา ซึ่งทำให้ความมั่นคงของไทยในส่วนนี้ เป็นเรื่องที่ห่วงกันอยู่
    สาเหตุหลักที่อเมริกาจะต้องพยายามรักษาสัมพันธ์กับประเทศไทยไว้ คือ การแข่งขันในการมีอิทธิพลในอาเซียอาคเณย์ระหว่างอเมริกากับจีน (ฮั่นแน่ ! เรื่องสำคัญ มาแอบอยู่ตรงนี้เองแหละ) ไทยมีชื่อเสียงมานานในความสามารถรักษาสัมพันธ์กับทุกฝ่าย ไม่ว่าด้านธุรกิจ การเมือง และวัฒนธรรม ไทยสามารถจัดการได้ดีทั้งกับจีนและอเมริกา
    ประเทศไทยที่แข็งแรง และมองออกไปนอกตัวเองมากขึ้น จะช่วยให้ได้รับการสนับสนุน ในการเข้าร่วมกระบวนการ “Rebalancing” ของอเมริกา วิกฤตการเมืองของไทย ทำให้ไทยเสียโอกาสอย่างมาก เพราะเมื่อรัฐบาล Obama ประกาศนโยบายต่างประเทศ Rebalancing ของอเมริกามาทางเอเซีย ไทยไม่ได้รับบทบาทสำคัญ (ไม่ได้เป็นพระเอก) และวอชิงตันได้มองไปที่ออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และคบหุ้นส่วนใหม่ เช่น อินโดนีเซีย และเวียตนาม (พวกตัวประกอบผักชีโรยหน้า)
    อย่างไรก็ตามฝ่ายกองทัพของสหรัฐ ยังอยากที่จะคบค้าสานสัมพันธ์กับกองทัพไทยต่อไป (Mil to Mil relationship) โดยเฉพาะการสามารถเข้าไปใช้เครื่องมือเครื่องใช้อำนวยความสะดวก รวมทั้งฐานทัพของไทย ในกรณีที่เกิดปัญหาความตึงเครียดในภูมิภาคนี้
    นักวิเคราะห์ระดับภูมิภาคประโลมใจว่า แม้ประเทศไทยจะไม่วิเศษสมบูรณ์ แต่พันธมิตรที่เป็นประชาธิปไตยในภูมิภาค มีความสำคัญยิ่งในการแสดงให้เห็นถึงความผูกพันธ์ของอเมริกาในภูมิภาคนี้ (คุณนายฑูตคริสตี้ ช่วยอ่านรายงานคุณครู CRS ตอนนี้ให้เข้าไปในหัวหน่อย และถ้าคุณนายซึ่งเป็นฑูตตัวแทนประเทศตัวเอง แล้วยังตั้งหน้าตอแหลบิดเบือนต่อไปอีก ครูใหญ่ Obama ช่วยเรียกตัวกลับไปกวาดพื้นโรงเรียนประถมในอเมริกา จะเหมาะสมกับคุณนายมากกว่า และอาจจะทำให้อเมริกาถูกรังเกียจน้อยลงไปบ้าง)
    ขณะเดียวกัน มีผู้ท้วงติงว่า การที่อเมริกาพยายามจะให้ไทยใช้วิธีการบริหารประเทศ โดยให้พลเรือนควบคุมกองทัพ ดูเหมือนจะไม่ค่อยได้ผล ดูจากเหตุการณ์ไม่กี่ปีที่ผ่านมา (แปลว่าอยากได้ทหารเป็นผู้บริหารประเทศ มากกว่าพลเรือนหรือไง ?) และแม้ว่าการจะใช้สนามบินของไทยเป็นเรื่องสำคัญสำหรับกองทัพอเมริกา ก็มีผู้สงสัยเช่นกันว่า ไทยจะยอมให้ใช้หรือไม่ หากมีความขัดแย้งกันเกิดขึ้น (เริ่มจะรู้ตัวแล้วหรือนักล่า ว่าสมันน้อยก็มีเขี้ยวเล็บเหมือนกัน)

    คนเล่านิทาน
    แกะรอยนักล่า ตอนที่ 2 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยนักล่า” (2) ขณะที่เขียนนิทานนี้ การขับไล่รัฐบาลนังมารร้าย ของมวลมหาประชาชนยังไม่สำเร็จ มะม่วงแม้จะขั้วเน่า จุดดำขึ้นเต็มลูก ก็ยังไม่ร่วงหล่น ลุงกำนันใช้ลมปากเท่าใดก็ไม่เป็นผล และแม้จะมีนักวิชาการดาหน้ากันมาบอกว่า การเป็นรัฐบาลรักษาการของรัฐบาลนังมารร้ายได้สิ้นสุดไปแล้ว ก็เหมือนพูดกับคนหูหนวก ไม่รู้เรื่อง แถมนังมารร้ายออกมาพูดจาเลอะเทอะ ทำน้ำตาคลอ ดูอาการเหมือนคนใกล้จะวิปลาส และแม้จะมีศาลจะออกมาชี้มูลความผิด หรือแม้ว่าจะมีคุณหมอคนใดจริงใจและใจถึงออกมาบอกว่า นังมารร้ายวิปลาสไปแล้ว หล่อนก็ยังคงไม่รู้ร้อนรู้หนาวเกาะเก้าอี้ห้อยต่องแต่งต่อไป จำเป็นจะต้องรอให้มีปัจจัยอื่น ที่จะมาปลิดมะม่วงให้หล่น ปัจจัยภายในคือคุณพี่ทหาร ซึ่งขณะนี้ได้แสดงท่าทีว่าจวนจะหาจุดยืนถูก “ที่” แล้ว รออีกสักหน่อย ตอนนี้ยังยุ่งกับการแต่งบังเกอร์ให้หวานแหววอยู่ ส่วนปัจจัยภายนอกคือนักล่า ซึ่งได้ปล่อยข่าวผ่านสำนักหมอ ดู CSIS (Centre for Strategic and International Studies) เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2014 ไปแล้วว่า มันควรต้องมีการประนีประนอมด้วยการเจรจา และตกลงตั้งนายกรัฐมนตรีคนกลาง เลือกเอาจากที่ผู้คนยอมรับนับถือแบบนายอานันท์ ปันยารชุน แหม ! ข่าวแบบนี้เล่นเอาร้านตัดเสื้องานเข้า เขาว่ามีคนแอบไปตัดชุดขาวหลายคน (แอบลุ้นกันทั้งนั้น) บางคนก็เอาชุดเดิมไปแก้ เพราะว่าคอมันคับไป แก่แล้ว น้ำหนักมันขึ้น (ฮา) แม้เราจะยังไม่แน่ใจว่า นักล่าจะเล่นไพ่ใบไหน มันกะล่อนจะตาย จะเชื่อกันง่าย ๆ ก็ ฉ.ห. กันหมด แต่เมื่อลองไปแกะรอย ตามดูว่านักล่าเดินไปทางไหน มันก็พอจะบอกอะไรเพิ่มเติมได้บ้าง อเมริกามีหน่วยงานหนึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบ ทำรายงานเกี่ยวกับความเป็นไปของแต่ละประเทศแต่ละเหตุการณ์ในโลก เพื่อส่งให้สภาสูง เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับอเมริกา เหมือนคุณครูประจำชั้นเขียนสมุดพก ประจำตัวนักเรียนแต่ละคน รายงานผู้ปกครอง สมัยเราเรียนหนังสือนั่นละ หน่วยงานที่ออกสมุดพกพวกนี้เรียกว่า Congressional Research Services (CRS) คุณครูจะออกสมุดพกของแต่ละประเทศ เป็นรายปีในกรณีปกติ หรือมากกว่านั้น ขึ้นกับเหตุการณ์และความสำคัญ เช่นถ้าอเมริกากำลังวิ่งเล่นโยนระเบิดอยู่แถวอิรัค สมุดพกของอิรัคอาจออกเป็นรายชั่วโมง (ฮา) หรือของยูเครนตอนนี้คงออกเป็นรายครึ่งวัน เพราะลงทุนส่งสมุนไปปลุกเศกการปฏิวัติประชาชนซะจนประเทศเขากำลังจะแตกเป็นเสี่ยง สำหรับประเทศไทย ที่เปิดเผยคือสมุดพกออกเป็นราย ปี แต่ที่ปกปิด ตามรายงานของคุณนายฑูต อาจออกเป็นรายวัน ดูสมัยเสื้อแดงเผาเมือง ฑูตสมัยนั้นรายงานทุกวัน 3 เวลาหลังอาหาร (อ่านจาก Wikileaks ที่ได้อภินันทนาการแจกกันทั่วโลกครับ) สมุดพกที่ว่านี้ปรกติของนักเรียนไทยแต่ละปี จะออกช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายน แต่สำหรับปีค.ศ. 2013 ที่ผ่านมา ผ่านไปครึ่งปีคุณครูคงยังไม่สามารถสรุป ความประพฤติของนักเรียนไทยได้ เพราะเริ่มมีอาการปวดหัว ตัวร้อน มีการโดดเรียน หรือเริ่มมั่วสุมนอกห้องเรียน เพราะหงุดหงิดจากพวกแก๊งขี้โกงเสนอร่างพรบ.นิรโทษกรรมเข้าไปพิจารณาในสภา คุณครู CRS เลยถ่วงเวลามาออกเอาเดือนสุดท้ายของปี คือออกรายงานเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ค.ศ. 2013 รายงานคราวนี้ยาวกว่าปรกติ โดยเฉพาะเรื่องสถานการณ์ด้านการเมือง คุณครูรายงานถี่ยิบ ใส่ทุกเรื่องทุกฝ่าย รายงานส่วนที่สำคัญบอกว่า ไทยแลนด์เป็นพันธมิตรเก่าแก่ของอเมริกา ตั้งแต่ ค.ศ. 1954 (นานจัง) และได้รับการชื่นชมมาโดยตลอดว่าเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จ ทั้งด้านเศรษฐกิจและการดำรงความเป็นประเทศในระบอบประชาธิปไตย (อ้าว ! ไหนประนามกันเรื่อยว่าไทยไม่เป็นประชาธิปไตย เดี๋ยวฟ้องคุณครูเลย ! ) สัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศแน่นแฟ้นในช่วงสงครามเย็น และได้ขยายไปทั้งด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจและความมั่นคง ไทยเป็นคู่ค้ารายใหญ่ของอเมริกา และการที่อเมริกาสามารถเข้าไปใช้บริการ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ของกองทัพไทย (เช่น สนามบิน ! ) ทำให้ประเทศไทยเป็นส่วนสำคัญทางยุทธศาสตร์ของอเมริกาในการจะดำรงคงอยู่ในภูมิภาค Asia Pacific นี้ได้ (แหม ! จะหลอกใช้สนามบินของเค้าอีกแล้ว) คุณครูบอกว่าความมั่นคงและความเจริญเติบโตของประเทศไทย เริ่มสั่นคลอนหลังจากรัฐประหารในไทย เมื่อ ค.ศ. 2006 สร้างความแตกแยกในสังคมไทยอย่างร้าวลึกและยาวนาน และขณะนี้ได้ลุกลามไปจนกลายเป็น การประท้วงเรียกร้องให้รัฐบาลลาออก และให้มีการปกครอง ที่มีบางส่วนอาจมองได้ว่า เป็นการเปลี่ยนแปลงระบบการเมืองของประเทศ อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจของไทย ก็ยังเติบโตแม้จะมีวิกฤติการเมือง และยังเป็นประเทศที่รายได้ของชนชั้นกลาง ยังมีการขยายต่อได้อีก และยังเป็นพันธมิตรที่มั่นคงของอเมริกา (แปลว่าเรื่องกระเป๋าตังค์นี่ เป็นประเด็นที่นักล่าสนใจนะ) ประเทศไทยที่สงบและมีความมั่นคง มีนัยอย่างสำคัญทางยุทธศาสตร์ของอเมริกา เพราะประเทศไทยซึ่งมีสถานะเป็นพันธมิตรของอเมริกา ตั้งอยู่บนพื้นแผ่นดินในบริเวณที่เหมาะสมของภูมิภาคอาเซียอาคเณย์นี้ (จุดได้เปรียบของไทย จำกันไว้ให้ดี !) คุณครูรายงานต่อไปว่า สภาสูงของอเมริกากำลังลำบากใจที่ต้องเผชิญกับภาวะที่ดูไม่ประชาธิปไตยของไทย และจะมีปฏิกิริยาตอบรับอย่างไร กับประเด็นการดุลอำนาจระหว่างพลเรือนและทหารที่เป็นอยู่ในสังคมไทย (พูดง่าย ๆ ว่ายังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเอาพลเรือนนำทหาร หรือจะเอาทหารนำพลเรือนใช่ไหมคุณครู) นอกจากนี้ยังมีนักวิเคราะห์หลายรายบอกว่า การที่ไทยมัววุ่นอยู่กับปัญหาภายในประเทศของตนนานเกินไป ทำให้อิทธิพลของตนเองที่เคยมีอยู่ในภูมิภาคนี้ด้อยลงด้วย อย่างไรก็ตามแม้ในระดับการปฏิบัติการร่วมกัน ยังคงราบรื่นอยู่ แต่การริเริ่มใหม่ ๆ ดูเหมือนจะเฉื่อยชาไป (แหม ! นายท่านพวกกระผม กำลังวุ่นกับการไล่รัฐบาลโจร จะให้มัวไปเช็ดรองเท้าพวกท่านก็กรุณารอก่อนนะขอรับ ขอโทษครับ ขอเขียนแดกพวกขี้ข้าฝรั่งหน่อย อดไม่ได้) เมื่อรัฐบาล Obama ประกาศเปลี่ยนแปลงดุลยภาพของอเมริกา (Rebalancing) โดยให้ความสำคัญกับ Asia Pacific เป็นอันดับสำคัญ ซึ่งจำเป็นต้องมีการขับเคลื่อนร่วมมือจากประเทศที่เรียกว่าเป็นพันธมิตรในภูมิภาคนี้ด้วยนั้น เห็นชัดว่าอเมริกากับไทย ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรใหม่ และประเทศไทยก็ไม่ได้ เข้าเป็นคู่สัญญาในการริเริ่มขบวนการตาม Trans Pacific Partnership (TPP) (ไทยตกรถไฟขบวน TPP น่าจะแปลว่าดีกับไทยนะ เพราะยังไม่เห็นประโยชน์อะไรกับไทยเลย !) แต่ประเด็นที่เป็นปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการเมืองไทย ที่อเมริกาเป็นห่วง คือโอกาสที่ทักษิณจะกลับมาอยู่ในประเทศไทย มีมากน้อยเพียงใด (แปลว่าไม่อยากได้ทักษิณใช่ไหม ทักษิณเป็นตัวปัญหาใช่ไหม คุณครู) เพราะทักษิณยังเป็นที่ยอมรับในต่างประเทศ และตัวทักษิณเองได้พูดไปทั่วว่า ตนเองยังได้รับการสนับสนุนจากคนไทยอยู่มาก และจะกลับบ้านในเร็ว ๆ นี้ ร่างกฎหมาย นิรโทษกรรมที่จะล้างผิดให้ทักษิณเป็นต้นเหตุ ให้เกิดการประท้วงใหญ่ ตั้งแต่ตุลาคม ค.ศ. 2013 เป็นต้นมา อีกประเด็นที่สำคัญคือคำถามเกี่ยวกับพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งพระชนมายุ 86 แล้ว และมีรายงานว่าไม่ทรงแข็งแรง พระองค์ทรงเป็นที่เคารพอย่างสูงสุด ของประชาชนมาตลอด 60 ปี ที่ผ่านมา และสถาบันกษัตริย์เป็นที่ยอมรับว่า เป็นสถาบันที่มั่นคงที่สุดในไทย แต่ขณะนี้คำถามเกี่ยวกับการสืบสันตติวงศ์เริ่มใกล้เข้ามา ซึ่งทำให้ความมั่นคงของไทยในส่วนนี้ เป็นเรื่องที่ห่วงกันอยู่ สาเหตุหลักที่อเมริกาจะต้องพยายามรักษาสัมพันธ์กับประเทศไทยไว้ คือ การแข่งขันในการมีอิทธิพลในอาเซียอาคเณย์ระหว่างอเมริกากับจีน (ฮั่นแน่ ! เรื่องสำคัญ มาแอบอยู่ตรงนี้เองแหละ) ไทยมีชื่อเสียงมานานในความสามารถรักษาสัมพันธ์กับทุกฝ่าย ไม่ว่าด้านธุรกิจ การเมือง และวัฒนธรรม ไทยสามารถจัดการได้ดีทั้งกับจีนและอเมริกา ประเทศไทยที่แข็งแรง และมองออกไปนอกตัวเองมากขึ้น จะช่วยให้ได้รับการสนับสนุน ในการเข้าร่วมกระบวนการ “Rebalancing” ของอเมริกา วิกฤตการเมืองของไทย ทำให้ไทยเสียโอกาสอย่างมาก เพราะเมื่อรัฐบาล Obama ประกาศนโยบายต่างประเทศ Rebalancing ของอเมริกามาทางเอเซีย ไทยไม่ได้รับบทบาทสำคัญ (ไม่ได้เป็นพระเอก) และวอชิงตันได้มองไปที่ออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และคบหุ้นส่วนใหม่ เช่น อินโดนีเซีย และเวียตนาม (พวกตัวประกอบผักชีโรยหน้า) อย่างไรก็ตามฝ่ายกองทัพของสหรัฐ ยังอยากที่จะคบค้าสานสัมพันธ์กับกองทัพไทยต่อไป (Mil to Mil relationship) โดยเฉพาะการสามารถเข้าไปใช้เครื่องมือเครื่องใช้อำนวยความสะดวก รวมทั้งฐานทัพของไทย ในกรณีที่เกิดปัญหาความตึงเครียดในภูมิภาคนี้ นักวิเคราะห์ระดับภูมิภาคประโลมใจว่า แม้ประเทศไทยจะไม่วิเศษสมบูรณ์ แต่พันธมิตรที่เป็นประชาธิปไตยในภูมิภาค มีความสำคัญยิ่งในการแสดงให้เห็นถึงความผูกพันธ์ของอเมริกาในภูมิภาคนี้ (คุณนายฑูตคริสตี้ ช่วยอ่านรายงานคุณครู CRS ตอนนี้ให้เข้าไปในหัวหน่อย และถ้าคุณนายซึ่งเป็นฑูตตัวแทนประเทศตัวเอง แล้วยังตั้งหน้าตอแหลบิดเบือนต่อไปอีก ครูใหญ่ Obama ช่วยเรียกตัวกลับไปกวาดพื้นโรงเรียนประถมในอเมริกา จะเหมาะสมกับคุณนายมากกว่า และอาจจะทำให้อเมริกาถูกรังเกียจน้อยลงไปบ้าง) ขณะเดียวกัน มีผู้ท้วงติงว่า การที่อเมริกาพยายามจะให้ไทยใช้วิธีการบริหารประเทศ โดยให้พลเรือนควบคุมกองทัพ ดูเหมือนจะไม่ค่อยได้ผล ดูจากเหตุการณ์ไม่กี่ปีที่ผ่านมา (แปลว่าอยากได้ทหารเป็นผู้บริหารประเทศ มากกว่าพลเรือนหรือไง ?) และแม้ว่าการจะใช้สนามบินของไทยเป็นเรื่องสำคัญสำหรับกองทัพอเมริกา ก็มีผู้สงสัยเช่นกันว่า ไทยจะยอมให้ใช้หรือไม่ หากมีความขัดแย้งกันเกิดขึ้น (เริ่มจะรู้ตัวแล้วหรือนักล่า ว่าสมันน้อยก็มีเขี้ยวเล็บเหมือนกัน) คนเล่านิทาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 273 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก xAI: เมื่อบริษัทที่วิ่งเร็วที่สุดในวงการ AI ต้องหยุดชั่วคราวเพื่อจัดระเบียบภายใน

    Mike Liberatore อดีตผู้บริหารจาก Airbnb เข้ารับตำแหน่ง CFO ของ xAI ในเดือนเมษายน 2025 และลาออกในปลายเดือนกรกฎาคม หลังจากอยู่ในตำแหน่งเพียง 4 เดือน โดยไม่มีการเปิดเผยเหตุผลอย่างเป็นทางการจากบริษัท2 แต่การลาออกของเขาไม่ได้เกิดขึ้นโดดเดี่ยว—เพราะก่อนหน้านั้นไม่นาน ผู้ร่วมก่อตั้ง Igor Babuschkin ก็ประกาศลาออกเพื่อไปตั้งบริษัทด้าน AI safety ของตัวเอง และตามมาด้วยการลาออกของที่ปรึกษากฎหมายระดับสูงอีกสองคน รวมถึง CEO ของแพลตฟอร์ม X ที่ถูกควบรวมเข้ากับ xAI

    Liberatore มีบทบาทสำคัญในการระดมทุนกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ ทั้งในรูปแบบหนี้และหุ้น เพื่อสนับสนุนการสร้าง data center และการพัฒนา Grok ซึ่งเป็นโมเดล AI ที่ Musk ตั้งใจใช้เป็นทางเลือกที่ “ปลอด censorship” ต่อ OpenAI และ Google

    อย่างไรก็ตาม Grok เองก็เผชิญกับปัญหาหนัก—ตั้งแต่การถูกเจาะระบบภายใน 48 ชั่วโมงหลังเปิดตัว ไปจนถึงการสร้างเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม เช่น การยกย่องเผด็จการ หรือการสร้าง deepfake ที่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ซึ่งทำให้เกิดคำถามว่า xAI กำลังเร่งพัฒนาเร็วเกินไปโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยและความมั่นคงของระบบ

    การลาออกของ Mike Liberatore
    เข้ารับตำแหน่ง CFO ในเดือนเมษายน 2025 และลาออกปลายกรกฎาคม
    ไม่มีการเปิดเผยเหตุผลอย่างเป็นทางการจาก xAI
    มีบทบาทสำคัญในการระดมทุนกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์เพื่อพัฒนา Grok และ data center

    ลำดับการลาออกของผู้บริหาร
    ผู้ร่วมก่อตั้ง Igor Babuschkin ลาออกเพื่อก่อตั้งบริษัทด้าน AI safety
    ที่ปรึกษากฎหมาย Robert Keele และ Raghu Rao ลาออกในเดือนสิงหาคม
    Linda Yaccarino CEO ของ X ลาออกหลังจากแพลตฟอร์มถูกควบรวมกับ xAI

    ปัญหาของ Grok และผลกระทบต่อองค์กร
    Grok ถูกเจาะระบบภายใน 48 ชั่วโมงหลังเปิดตัว
    สร้างเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม เช่น การยกย่องเผด็จการและ deepfake ละเมิดสิทธิ
    เกิดคำถามเรื่องความปลอดภัยและการควบคุมโมเดล AI

    บริบทการแข่งขันในวงการ AI
    xAI แข่งขันกับ OpenAI, Google และ Anthropic ที่ลงทุนมหาศาลในระบบ AI
    Musk ตั้งใจใช้ Grok เป็นทางเลือกที่ “ปลอด censorship”
    การลาออกของผู้บริหารอาจสะท้อนถึงแรงกดดันภายในองค์กร

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/04/xai039s-finance-chief-steps-down-wsj-reports
    🎙️ เรื่องเล่าจาก xAI: เมื่อบริษัทที่วิ่งเร็วที่สุดในวงการ AI ต้องหยุดชั่วคราวเพื่อจัดระเบียบภายใน Mike Liberatore อดีตผู้บริหารจาก Airbnb เข้ารับตำแหน่ง CFO ของ xAI ในเดือนเมษายน 2025 และลาออกในปลายเดือนกรกฎาคม หลังจากอยู่ในตำแหน่งเพียง 4 เดือน โดยไม่มีการเปิดเผยเหตุผลอย่างเป็นทางการจากบริษัท2 แต่การลาออกของเขาไม่ได้เกิดขึ้นโดดเดี่ยว—เพราะก่อนหน้านั้นไม่นาน ผู้ร่วมก่อตั้ง Igor Babuschkin ก็ประกาศลาออกเพื่อไปตั้งบริษัทด้าน AI safety ของตัวเอง และตามมาด้วยการลาออกของที่ปรึกษากฎหมายระดับสูงอีกสองคน รวมถึง CEO ของแพลตฟอร์ม X ที่ถูกควบรวมเข้ากับ xAI Liberatore มีบทบาทสำคัญในการระดมทุนกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ ทั้งในรูปแบบหนี้และหุ้น เพื่อสนับสนุนการสร้าง data center และการพัฒนา Grok ซึ่งเป็นโมเดล AI ที่ Musk ตั้งใจใช้เป็นทางเลือกที่ “ปลอด censorship” ต่อ OpenAI และ Google อย่างไรก็ตาม Grok เองก็เผชิญกับปัญหาหนัก—ตั้งแต่การถูกเจาะระบบภายใน 48 ชั่วโมงหลังเปิดตัว ไปจนถึงการสร้างเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม เช่น การยกย่องเผด็จการ หรือการสร้าง deepfake ที่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ซึ่งทำให้เกิดคำถามว่า xAI กำลังเร่งพัฒนาเร็วเกินไปโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยและความมั่นคงของระบบ ✅ การลาออกของ Mike Liberatore ➡️ เข้ารับตำแหน่ง CFO ในเดือนเมษายน 2025 และลาออกปลายกรกฎาคม ➡️ ไม่มีการเปิดเผยเหตุผลอย่างเป็นทางการจาก xAI ➡️ มีบทบาทสำคัญในการระดมทุนกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์เพื่อพัฒนา Grok และ data center ✅ ลำดับการลาออกของผู้บริหาร ➡️ ผู้ร่วมก่อตั้ง Igor Babuschkin ลาออกเพื่อก่อตั้งบริษัทด้าน AI safety ➡️ ที่ปรึกษากฎหมาย Robert Keele และ Raghu Rao ลาออกในเดือนสิงหาคม ➡️ Linda Yaccarino CEO ของ X ลาออกหลังจากแพลตฟอร์มถูกควบรวมกับ xAI ✅ ปัญหาของ Grok และผลกระทบต่อองค์กร ➡️ Grok ถูกเจาะระบบภายใน 48 ชั่วโมงหลังเปิดตัว ➡️ สร้างเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม เช่น การยกย่องเผด็จการและ deepfake ละเมิดสิทธิ ➡️ เกิดคำถามเรื่องความปลอดภัยและการควบคุมโมเดล AI ✅ บริบทการแข่งขันในวงการ AI ➡️ xAI แข่งขันกับ OpenAI, Google และ Anthropic ที่ลงทุนมหาศาลในระบบ AI ➡️ Musk ตั้งใจใช้ Grok เป็นทางเลือกที่ “ปลอด censorship” ➡️ การลาออกของผู้บริหารอาจสะท้อนถึงแรงกดดันภายในองค์กร https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/04/xai039s-finance-chief-steps-down-wsj-reports
    WWW.THESTAR.COM.MY
    xAI's finance chief steps down after a few months on job, WSJ reports
    (Reuters) -The finance chief of Elon Musk's xAI, Mike Liberatore, has left the artificial intelligence startup after just a few months on the job, the Wall Street Journal reported on Wednesday, citing people familiar with the matter.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 133 มุมมอง 0 รีวิว
  • ‘ศุภชัย’ แจ้งความ ‘ภูมิธรรม’ ปมยื่นยุบสภา หวั่นสร้างความไม่เหมาะสมและระคายเคืองเบื้องสูง
    https://www.thai-tai.tv/news/21298/
    .
    #ไทยไท #ภูมิใจไทย #ศุภชัยใจสมุทร #ภูมิธรรมเวชยชัย #ยุบสภา #ม157 #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    ‘ศุภชัย’ แจ้งความ ‘ภูมิธรรม’ ปมยื่นยุบสภา หวั่นสร้างความไม่เหมาะสมและระคายเคืองเบื้องสูง https://www.thai-tai.tv/news/21298/ . #ไทยไท #ภูมิใจไทย #ศุภชัยใจสมุทร #ภูมิธรรมเวชยชัย #ยุบสภา #ม157 #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 49 มุมมอง 0 รีวิว
  • รับเงื่อนไข ปชน. 5 ข้อ 4 เดือน ยุบสภา : [THE MESSAGE]

    นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย แถลงตั้งรัฐบาล ลงนามรับ 5 เงื่อนไขของพรรคประชาชน โดยมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 146 คน ให้คำมั่นตลอด 4 เดือน ที่เข้าทำงานในฐานะรัฐบาล จะเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยที่ประชาชนร่วมตรวจสอบการทำงาน ส่วนการทูลเกล้าฯยุบสภา ทุกอย่างมีขั้นตอน สภายังไม่ยุบ ยังถือว่ามีสภา ยังไม่มีข้อมูลใดๆ ลงมาให้รับทราบว่าจะมีการยุบสภาหรือไม่ จะต้องตีความเป็นเรื่องของผู้ที่ยื่นจะรับผิดชอบเรื่องนี้อย่างไร ทั้งนี้ พรรคประชาชนให้ความเชื่อถือว่าพวกเราทุกคนในที่นี้จะทำตามเงื่อนไข เขาต้องมีการประเมิน ตัวเลข 4 เดือน ไม่ทำให้รู้สึกว่าเร็ว แต่เป็นตัวเลขที่พรรคประชาชน และพรรคที่มารวมกันทั้ง 146 เสียง ได้หารือกันแล้วคิดว่าเป็นเวลาที่เหมาะสม
    รับเงื่อนไข ปชน. 5 ข้อ 4 เดือน ยุบสภา : [THE MESSAGE] นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย แถลงตั้งรัฐบาล ลงนามรับ 5 เงื่อนไขของพรรคประชาชน โดยมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 146 คน ให้คำมั่นตลอด 4 เดือน ที่เข้าทำงานในฐานะรัฐบาล จะเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยที่ประชาชนร่วมตรวจสอบการทำงาน ส่วนการทูลเกล้าฯยุบสภา ทุกอย่างมีขั้นตอน สภายังไม่ยุบ ยังถือว่ามีสภา ยังไม่มีข้อมูลใดๆ ลงมาให้รับทราบว่าจะมีการยุบสภาหรือไม่ จะต้องตีความเป็นเรื่องของผู้ที่ยื่นจะรับผิดชอบเรื่องนี้อย่างไร ทั้งนี้ พรรคประชาชนให้ความเชื่อถือว่าพวกเราทุกคนในที่นี้จะทำตามเงื่อนไข เขาต้องมีการประเมิน ตัวเลข 4 เดือน ไม่ทำให้รู้สึกว่าเร็ว แต่เป็นตัวเลขที่พรรคประชาชน และพรรคที่มารวมกันทั้ง 146 เสียง ได้หารือกันแล้วคิดว่าเป็นเวลาที่เหมาะสม
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 281 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • งานนี้ อ.วีระ ฟ้องมันทุกๆตัวเลย,ทีมพิทักษ์ชาติอธิปไตยไทยเดอะแก๊งทนายแผ่นดิน กางแต่ละมาตราอะไรบ้างให้เหมาะสมแต่ละตัวแต่ละคนเลย ย้อนอดีตถึงนายกฯสมัยต่างๆนั้นที่เข้าสู่สายพานเกี่ยวกันเพื่อปล้นชาติขายชาติหรือเพื่อสมยอมผลประโยชน์ใดๆจะต่างตอบแทนลักษณะใดๆก็เอาให้โดนทุกๆตัวเลยนะ, อ.วีระ ต้องการทนายอาสาด่วนเพื่อกำจัดภัยของแผ่นดินไทยเรา อย่าส่งต่อภัยนี้แก่รุ่นต่อไปเลย เราคนร่วมเหตุการณ์ประวัติศาสตร์จริงอยู่แล้ว ท่านทั้งหลายจะเป็นตำนานผู้กระทำคุณงามความดีต่อชาติไทยเราแน่นอน เงยหน้าไม่อายฟ้า ก้มหน้าไม่อายแผ่นดินไทยตน บอกแก่โคตรเหง้าวงศ์ตระกูลเราว่าปู่ย่าตาทวดได้มีโอกาสรับใช้ชาติเยี่ยงสนามรบหนึ่งของกองทัพทหารไทยยุคสงครามไทยเขมรร่วมสมัยแน่นอน,

    ...ทนายแผ่นดินไทย อย่าให้อ.วีระ ต่อสู้เพียงลำพัง พวกท่านๆมาร่วมกันกวาดล้างทหารเลวชั่วก็ด้วยออกจากกองทัพไทยที่มีเกียรติแห่งคนไทยเราร่วมกันเถิด,ฝ่ายพลเรือนแบบเราๆสามารถคล่องตัวกว่าฝ่ายทหารไทยดีๆอย่างมาก,ร่วมเป็นเดอะทีมกำจัดคนเลวย่อมสุดยอดมาก.

    https://youtube.com/watch?v=nba8KenqRIk&si=o3B8WvtLrqxqmWtV
    งานนี้ อ.วีระ ฟ้องมันทุกๆตัวเลย,ทีมพิทักษ์ชาติอธิปไตยไทยเดอะแก๊งทนายแผ่นดิน กางแต่ละมาตราอะไรบ้างให้เหมาะสมแต่ละตัวแต่ละคนเลย ย้อนอดีตถึงนายกฯสมัยต่างๆนั้นที่เข้าสู่สายพานเกี่ยวกันเพื่อปล้นชาติขายชาติหรือเพื่อสมยอมผลประโยชน์ใดๆจะต่างตอบแทนลักษณะใดๆก็เอาให้โดนทุกๆตัวเลยนะ, อ.วีระ ต้องการทนายอาสาด่วนเพื่อกำจัดภัยของแผ่นดินไทยเรา อย่าส่งต่อภัยนี้แก่รุ่นต่อไปเลย เราคนร่วมเหตุการณ์ประวัติศาสตร์จริงอยู่แล้ว ท่านทั้งหลายจะเป็นตำนานผู้กระทำคุณงามความดีต่อชาติไทยเราแน่นอน เงยหน้าไม่อายฟ้า ก้มหน้าไม่อายแผ่นดินไทยตน บอกแก่โคตรเหง้าวงศ์ตระกูลเราว่าปู่ย่าตาทวดได้มีโอกาสรับใช้ชาติเยี่ยงสนามรบหนึ่งของกองทัพทหารไทยยุคสงครามไทยเขมรร่วมสมัยแน่นอน, ...ทนายแผ่นดินไทย อย่าให้อ.วีระ ต่อสู้เพียงลำพัง พวกท่านๆมาร่วมกันกวาดล้างทหารเลวชั่วก็ด้วยออกจากกองทัพไทยที่มีเกียรติแห่งคนไทยเราร่วมกันเถิด,ฝ่ายพลเรือนแบบเราๆสามารถคล่องตัวกว่าฝ่ายทหารไทยดีๆอย่างมาก,ร่วมเป็นเดอะทีมกำจัดคนเลวย่อมสุดยอดมาก. https://youtube.com/watch?v=nba8KenqRIk&si=o3B8WvtLrqxqmWtV
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 152 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากโลกไซเบอร์: ช่องโหว่ที่ซ่อนอยู่ใน ping และ ActiveMQ

    เมื่อไม่นานมานี้ มีการเปิดเผยช่องโหว่ร้ายแรงสองตัวที่ทำให้ผู้ดูแลระบบ Linux ต้องรีบหันมามองระบบของตัวเองใหม่อีกครั้ง หนึ่งคือ CVE-2025-48964 ที่ซ่อนอยู่ใน ping utility ของ iputils และอีกหนึ่งคือ CVE-2023-46604 ใน Apache ActiveMQ ที่ถูกใช้เป็นช่องทางในการปล่อยมัลแวร์ชื่อ DripDropper

    เริ่มจาก ping utility ที่เราคุ้นเคยกันดี มันคือเครื่องมือพื้นฐานในการตรวจสอบการเชื่อมต่อเครือข่าย แต่ใน adaptive ping mode กลับมีช่องโหว่ที่เปิดโอกาสให้ผู้ไม่หวังดีส่งแพ็กเก็ต ICMP ที่มี timestamp เป็นศูนย์ ซึ่งจะทำให้เกิดการคำนวณค่าที่ผิดพลาดและนำไปสู่การล่มของแอปพลิเคชัน หรือการเก็บข้อมูลเครือข่ายที่ผิดเพี้ยน

    ในอีกด้านหนึ่ง Apache ActiveMQ ซึ่งเป็น message broker ที่นิยมใช้ในระบบ enterprise ก็ถูกโจมตีด้วยช่องโหว่ CVE-2023-46604 ที่เปิดให้รันคำสั่งจากระยะไกลได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน แฮกเกอร์ใช้ช่องโหว่นี้ติดตั้งมัลแวร์ DripDropper ที่ไม่เพียงแค่แอบซ่อนตัวเอง แต่ยัง “อุดช่องโหว่” ที่มันใช้เจาะเข้ามา เพื่อกันไม่ให้ใครอื่นตามเข้ามาอีก เป็นการปิดประตูหลังบ้านหลังจากแอบเข้ามาแล้ว

    DripDropper ยังใช้ Dropbox เป็นช่องทางสื่อสารกับผู้โจมตี ทำให้การตรวจจับยากขึ้น เพราะมันแฝงตัวอยู่ในทราฟฟิกที่ดูเหมือนปกติ และยังมีการปรับแต่ง SSH config เพื่อเปิด root login และสร้าง cron jobs เพื่อให้มัลแวร์ทำงานต่อเนื่องแม้ระบบจะรีบูต

    ช่องโหว่ CVE-2025-48964 ใน iputils
    เกิดจาก adaptive ping mode ที่ไม่จัดการ timestamp เป็นศูนย์อย่างเหมาะสม
    ส่งผลให้เกิด integer overflow ระหว่างการคำนวณสถิติ
    ส่งผลให้ ping ล่มหรือเก็บข้อมูลเครือข่ายผิดพลาด
    กระทบต่อระบบที่ใช้ iputils ก่อนเวอร์ชัน 20250602

    ช่องโหว่ CVE-2023-46604 ใน Apache ActiveMQ
    เป็นช่องโหว่ remote code execution ที่มี CVSS 10.0
    เปิดให้รันคำสั่ง shell โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน
    ถูกใช้ในการติดตั้งมัลแวร์ DripDropper
    ActiveMQ ที่ได้รับผลกระทบคือเวอร์ชันก่อน 5.15.16, 5.16.7, 5.17.6 และ 5.18.3

    พฤติกรรมของมัลแวร์ DripDropper
    เป็นไฟล์ PyInstaller แบบ ELF ที่ต้องใช้รหัสผ่านในการรัน
    สื่อสารกับบัญชี Dropbox ของผู้โจมตีผ่าน bearer token
    สร้างไฟล์มัลแวร์สองตัวที่ทำงานผ่าน cron jobs และปรับแต่ง SSH
    ใช้เทคนิค “patch หลังเจาะ” เพื่อปิดช่องโหว่ที่ใช้เจาะเข้ามา

    ความเสี่ยงจาก adaptive ping mode
    อาจทำให้ระบบตรวจสอบเครือข่ายล้มเหลวในช่วงที่ถูกโจมตี
    ส่งผลให้การวิเคราะห์เครือข่ายผิดพลาดและไม่สามารถตรวจจับการบุกรุกได้

    ความซับซ้อนของการโจมตี ActiveMQ
    ผู้โจมตีใช้เทคนิค patch ช่องโหว่หลังเจาะเพื่อหลบการตรวจจับ
    ทำให้ผู้ดูแลระบบเข้าใจผิดว่าระบบปลอดภัยแล้ว
    การใช้ Dropbox เป็น C2 channel ทำให้การตรวจจับยากขึ้น

    ความเสี่ยงจาก SSH และ cron jobs ที่ถูกปรับแต่ง
    เปิด root login โดยไม่ได้รับอนุญาต
    สร้างช่องทางให้มัลแวร์ทำงานต่อเนื่องแม้มีการรีบูตหรืออัปเดต

    https://linuxconfig.org/critical-cve-2025-48964-vulnerability-in-iputils-a-major-concern-for-linux-administrators
    🎙️ เรื่องเล่าจากโลกไซเบอร์: ช่องโหว่ที่ซ่อนอยู่ใน ping และ ActiveMQ เมื่อไม่นานมานี้ มีการเปิดเผยช่องโหว่ร้ายแรงสองตัวที่ทำให้ผู้ดูแลระบบ Linux ต้องรีบหันมามองระบบของตัวเองใหม่อีกครั้ง หนึ่งคือ CVE-2025-48964 ที่ซ่อนอยู่ใน ping utility ของ iputils และอีกหนึ่งคือ CVE-2023-46604 ใน Apache ActiveMQ ที่ถูกใช้เป็นช่องทางในการปล่อยมัลแวร์ชื่อ DripDropper เริ่มจาก ping utility ที่เราคุ้นเคยกันดี มันคือเครื่องมือพื้นฐานในการตรวจสอบการเชื่อมต่อเครือข่าย แต่ใน adaptive ping mode กลับมีช่องโหว่ที่เปิดโอกาสให้ผู้ไม่หวังดีส่งแพ็กเก็ต ICMP ที่มี timestamp เป็นศูนย์ ซึ่งจะทำให้เกิดการคำนวณค่าที่ผิดพลาดและนำไปสู่การล่มของแอปพลิเคชัน หรือการเก็บข้อมูลเครือข่ายที่ผิดเพี้ยน ในอีกด้านหนึ่ง Apache ActiveMQ ซึ่งเป็น message broker ที่นิยมใช้ในระบบ enterprise ก็ถูกโจมตีด้วยช่องโหว่ CVE-2023-46604 ที่เปิดให้รันคำสั่งจากระยะไกลได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน แฮกเกอร์ใช้ช่องโหว่นี้ติดตั้งมัลแวร์ DripDropper ที่ไม่เพียงแค่แอบซ่อนตัวเอง แต่ยัง “อุดช่องโหว่” ที่มันใช้เจาะเข้ามา เพื่อกันไม่ให้ใครอื่นตามเข้ามาอีก เป็นการปิดประตูหลังบ้านหลังจากแอบเข้ามาแล้ว DripDropper ยังใช้ Dropbox เป็นช่องทางสื่อสารกับผู้โจมตี ทำให้การตรวจจับยากขึ้น เพราะมันแฝงตัวอยู่ในทราฟฟิกที่ดูเหมือนปกติ และยังมีการปรับแต่ง SSH config เพื่อเปิด root login และสร้าง cron jobs เพื่อให้มัลแวร์ทำงานต่อเนื่องแม้ระบบจะรีบูต ✅ ช่องโหว่ CVE-2025-48964 ใน iputils ➡️ เกิดจาก adaptive ping mode ที่ไม่จัดการ timestamp เป็นศูนย์อย่างเหมาะสม ➡️ ส่งผลให้เกิด integer overflow ระหว่างการคำนวณสถิติ ➡️ ส่งผลให้ ping ล่มหรือเก็บข้อมูลเครือข่ายผิดพลาด ➡️ กระทบต่อระบบที่ใช้ iputils ก่อนเวอร์ชัน 20250602 ✅ ช่องโหว่ CVE-2023-46604 ใน Apache ActiveMQ ➡️ เป็นช่องโหว่ remote code execution ที่มี CVSS 10.0 ➡️ เปิดให้รันคำสั่ง shell โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ➡️ ถูกใช้ในการติดตั้งมัลแวร์ DripDropper ➡️ ActiveMQ ที่ได้รับผลกระทบคือเวอร์ชันก่อน 5.15.16, 5.16.7, 5.17.6 และ 5.18.3 ✅ พฤติกรรมของมัลแวร์ DripDropper ➡️ เป็นไฟล์ PyInstaller แบบ ELF ที่ต้องใช้รหัสผ่านในการรัน ➡️ สื่อสารกับบัญชี Dropbox ของผู้โจมตีผ่าน bearer token ➡️ สร้างไฟล์มัลแวร์สองตัวที่ทำงานผ่าน cron jobs และปรับแต่ง SSH ➡️ ใช้เทคนิค “patch หลังเจาะ” เพื่อปิดช่องโหว่ที่ใช้เจาะเข้ามา ‼️ ความเสี่ยงจาก adaptive ping mode ⛔ อาจทำให้ระบบตรวจสอบเครือข่ายล้มเหลวในช่วงที่ถูกโจมตี ⛔ ส่งผลให้การวิเคราะห์เครือข่ายผิดพลาดและไม่สามารถตรวจจับการบุกรุกได้ ‼️ ความซับซ้อนของการโจมตี ActiveMQ ⛔ ผู้โจมตีใช้เทคนิค patch ช่องโหว่หลังเจาะเพื่อหลบการตรวจจับ ⛔ ทำให้ผู้ดูแลระบบเข้าใจผิดว่าระบบปลอดภัยแล้ว ⛔ การใช้ Dropbox เป็น C2 channel ทำให้การตรวจจับยากขึ้น ‼️ ความเสี่ยงจาก SSH และ cron jobs ที่ถูกปรับแต่ง ⛔ เปิด root login โดยไม่ได้รับอนุญาต ⛔ สร้างช่องทางให้มัลแวร์ทำงานต่อเนื่องแม้มีการรีบูตหรืออัปเดต https://linuxconfig.org/critical-cve-2025-48964-vulnerability-in-iputils-a-major-concern-for-linux-administrators
    LINUXCONFIG.ORG
    Critical CVE-2025-48964 Vulnerability in iputils: A Major Concern for Linux Administrators
    Discover the critical CVE-2025-48964 vulnerability impacting the ping utility in iputils, posing significant security risks for Linux systems. Learn how this flaw allows attackers to trigger denial of service and explore the importance of immediate patching and regular monitoring to safeguard your infrastructure.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 139 มุมมอง 0 รีวิว
  • จริงๆเรากากมาก,คืออาเชียนเราทั้งอาเชียนรวมกันก็กากมากในสายตาชาติมหาอำนาจ,
    ..แท้จริงเราสมควรสามัคคีกันทั้งอาเชียนดีที่สุด,หรือทั้งเอเชียยิ่งดี,แต่มีข้อแม้คือกำจัดเขมรสันดานคนทรยศเนรคุณหักหลังนี้ออกไปก่อน,มันสามารถหักหลังเราทั้งเอเชียหรือทั้งอาเชียนได้สบายแบบหักหน้าจีนหักหลังจีนเต็มๆอย่างแรงนั้นล่ะ จนอเมริกาหัวเราะเยาะเย้ยจีนว่าไอ้หน้าโง่อย่างแรง,เสียฟอร์มโคตรๆ เพราะตนคือพญามังกรใหญ่แต่ให้อีกาอีแร้งแบบเขมรขี้ใส่หัวพญามังกรได้,พญาอินทรีย์มันว่าถ้าเป็นมันจะจัดการไม่เหลือซากให้มันมีโอกาสขี้ใส่หัวเหยียบหัวแบบจีนได้ อับอายไปทั่วโลกในช่วงเวลานั้น.
    ..เอาเข้าจริงๆนะถ้าไทยเราใฝ่สงครามจริงๆ จะสะสมอาวุธอย่างมหาศาลกว่าอเมริกาหรือจีนได้อีก,ตังเรามีมากมายไม่แพ้ซาอุฯดูไบเลย,พวกบ่อน้ำมันทั้งประเทศไทยและทรัพยากรมากมายฝรั่งจะไม่ได้แดกเลย,เงินทองจากมีมากมายสะสมสาระพัดอาวุธคู่ขนานรัสเชียจีนอเมริกาก็ได้,และอาจล้ำกว่าเพราะเราติดต่อต่างดาวจักรวาลอื่นแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีล้ำๆได้ แต่เราไม่ทำ เราต้องการอยู่ร่วมกันบนผิวโลกนี้อย่างสงบสุข,จนทนให้ต่างชาติมากมายปล้นชิงแย่งชิงเราไปเป็นอันมาก,
    ..แม้กระนั้นเราก็มีมิตรดีมากมายทั่วโลก จะอเมริกาเอง จะจีนเอง จะรัสเชียเอง เราก็คบค้าสมาคมกันได้สบายใจแม้ปะปนในผลประโยชน์ในไทยก็ตาม,เมื่อถึงจังหวะอันเหมาะสม แม้เราได้อยากมีอยากเป็นอยากได้ มันก็จะมาเองกระทั่งแสงยานุภาพกำลังพลทางยุทธการทหารอาจระดับกองทัพพิทักษ์โลกและจักรวาลกันไปเลย,คือระดับผู้นำสงครามจักรวาลอวกาศในอนาคตก็ว่า.นอกจากเราประเทศไทยผู้นำแห่งจิตวิญญาณ.



    https://youtube.com/shorts/dE6A3jIusrQ?si=tCvNHGdxLVVCgpex
    จริงๆเรากากมาก,คืออาเชียนเราทั้งอาเชียนรวมกันก็กากมากในสายตาชาติมหาอำนาจ, ..แท้จริงเราสมควรสามัคคีกันทั้งอาเชียนดีที่สุด,หรือทั้งเอเชียยิ่งดี,แต่มีข้อแม้คือกำจัดเขมรสันดานคนทรยศเนรคุณหักหลังนี้ออกไปก่อน,มันสามารถหักหลังเราทั้งเอเชียหรือทั้งอาเชียนได้สบายแบบหักหน้าจีนหักหลังจีนเต็มๆอย่างแรงนั้นล่ะ จนอเมริกาหัวเราะเยาะเย้ยจีนว่าไอ้หน้าโง่อย่างแรง,เสียฟอร์มโคตรๆ เพราะตนคือพญามังกรใหญ่แต่ให้อีกาอีแร้งแบบเขมรขี้ใส่หัวพญามังกรได้,พญาอินทรีย์มันว่าถ้าเป็นมันจะจัดการไม่เหลือซากให้มันมีโอกาสขี้ใส่หัวเหยียบหัวแบบจีนได้ อับอายไปทั่วโลกในช่วงเวลานั้น. ..เอาเข้าจริงๆนะถ้าไทยเราใฝ่สงครามจริงๆ จะสะสมอาวุธอย่างมหาศาลกว่าอเมริกาหรือจีนได้อีก,ตังเรามีมากมายไม่แพ้ซาอุฯดูไบเลย,พวกบ่อน้ำมันทั้งประเทศไทยและทรัพยากรมากมายฝรั่งจะไม่ได้แดกเลย,เงินทองจากมีมากมายสะสมสาระพัดอาวุธคู่ขนานรัสเชียจีนอเมริกาก็ได้,และอาจล้ำกว่าเพราะเราติดต่อต่างดาวจักรวาลอื่นแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีล้ำๆได้ แต่เราไม่ทำ เราต้องการอยู่ร่วมกันบนผิวโลกนี้อย่างสงบสุข,จนทนให้ต่างชาติมากมายปล้นชิงแย่งชิงเราไปเป็นอันมาก, ..แม้กระนั้นเราก็มีมิตรดีมากมายทั่วโลก จะอเมริกาเอง จะจีนเอง จะรัสเชียเอง เราก็คบค้าสมาคมกันได้สบายใจแม้ปะปนในผลประโยชน์ในไทยก็ตาม,เมื่อถึงจังหวะอันเหมาะสม แม้เราได้อยากมีอยากเป็นอยากได้ มันก็จะมาเองกระทั่งแสงยานุภาพกำลังพลทางยุทธการทหารอาจระดับกองทัพพิทักษ์โลกและจักรวาลกันไปเลย,คือระดับผู้นำสงครามจักรวาลอวกาศในอนาคตก็ว่า.นอกจากเราประเทศไทยผู้นำแห่งจิตวิญญาณ. https://youtube.com/shorts/dE6A3jIusrQ?si=tCvNHGdxLVVCgpex
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 174 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตำรวจพุ่งชนไรเดอร์ อินโดนีเซียลุกเป็นไฟ

    รัฐบาลอินโดนีเซีย ภายใต้การนำของประธานาธิบดี ปราโบโว ซูเบียนโต ถูกประชาชนไม่ไว้วางใจอย่างหนัก โดยเชื่อว่ามีแนวโน้มจะรวมศูนย์อำนาจมากขึ้น ในยามที่ประชาชนยากลำบากจากเศรษฐกิจตกต่ำ ตั้งแต่การแสดงสัญลักษณ์ด้วยธงโจรสลัดจากอนิเมะเรื่องวันพีซ ในห้วงวันประกาศอิสรภาพครบรอบ 80 ปี กระทั่งต้องเผชิญกับการชุมนุมประท้วง ตั้งแต่กลุ่มนักศึกษาคัดค้านการขึ้นเงินเดือนและสวัสดิการของรัฐสภา โดยเฉพาะค่าที่พักสูงถึงเดือนละ 50 ล้านรูเปียห์ (เกือบ 100,000 บาท) และกลุ่มผู้ใช้แรงงานที่เรียกร้องให้ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ยุติการจ้างงานแบบภายนอก และตั้งคณะกรรมการป้องกันการเลิกจ้าง ตำรวจต้องใช้แก๊สน้ำตาและปืนฉีดน้ำแรงดันสูงสลายการชุมนุม

    จุดเปลี่ยนสำคัญเมื่อวันที่ 28 ส.ค. รถหุ้มเกราะควบคุมฝูงชนบริม็อบ (Brimob) ของตำรวจอินโดนีเซีย พุ่งเข้าชนนายอัฟฟาน คูรเนียวัน อายุ 21 ปี ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างผ่านแอปพลิเคชัน (Ojol) เสียชีวิตใจกลางกรุงจาการ์ตา ระหว่างที่มีผู้ชุมนุมประท้วง จุดชนวนให้ประชาชนโกรธแค้นมากขึ้น แม้ต้นสังกัดจะควบคุมตัวตำรวจ 7 นาย ที่อยู่ในรถหุ้มเกราะไปสอบสวน ถูกควบคุมตัวฐานละเมิดจริยธรรม 20 วัน รวมทั้งประธานาธิบดีปราโบโว ไปเยี่ยมครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วยตัวเอง แต่สถานการณ์ไม่ดีขึ้น

    ในกรุงจาการ์ตา อาคารรัฐสภา ที่ทำการตำรวจ รวมทั้งสถานีรถเมล์ด่วนพิเศษ ถูกผู้ชุมนุมเผาทำลาย อาคารรัฐสภาส่วนภูมิภาคและที่ทำการตำรวจในหลายเมืองก็ถูกผู้ชุมนุมเผา เช่น เมืองมากัสซาร์ อาคารสภาท้องถิ่นถูกวางเพลิง มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 ราย เมืองสุราบายา ที่ทำการรัฐบาลท้องถิ่นก็ถูกเผา เมืองบันดุง ปะทะกันรุนแรง และบ้านพักของสมาชิกสภาถูกเผา รวมทั้งเมืองอื่นๆ เช่น เมืองโซโล ยอร์คยาการ์ตา กูนิกัน เตกัล ปอนตินัค ฯลฯ มีการปล้นสะดมที่บ้านของ รมว.คลังอินโดนีเซีย และสมาชิกรัฐสภาหลายคน

    ที่สุดแล้วประธานาธิบดีปราโบโวแถลงว่า ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นรัฐบาลและอยู่ในความสงบ สภาผู้แทนราษฎรเตรียมเพิกถอนสิทธิประโยชน์บางประการ รวมถึงลดเบี้ยเลี้ยง และระงับการดูงานต่างประเทศ หัวหน้าพรรคการเมืองต่างๆ จะลงโทษสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่กล่าวถ้อยคำไม่เหมาะสม ส่วนตำรวจที่ทำผิดพลาด พร้อมตรวจสอบอย่างรวดเร็ว โปร่งใส และเปิดเผยต่อสาธารณะ ยืนยันว่าเคารพเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น แต่หากทำลายทรัพย์สินหรือปล้นสะดมถือว่าละเมิดกฎหมาย ตำรวจและกองทัพจะดำเนินการอย่างเข้มงวด พร้อมเชิญชวนผู้นำการชุมนุมรวมถึงนักศึกษาร่วมพูดคุยโดยตรง โดยรับรองว่าจะรับฟังข้อเสนอแนะและการวิพากษ์วิจารณ์เพื่อนำไปปฏิบัติต่อไป

    #Newskit
    ตำรวจพุ่งชนไรเดอร์ อินโดนีเซียลุกเป็นไฟ รัฐบาลอินโดนีเซีย ภายใต้การนำของประธานาธิบดี ปราโบโว ซูเบียนโต ถูกประชาชนไม่ไว้วางใจอย่างหนัก โดยเชื่อว่ามีแนวโน้มจะรวมศูนย์อำนาจมากขึ้น ในยามที่ประชาชนยากลำบากจากเศรษฐกิจตกต่ำ ตั้งแต่การแสดงสัญลักษณ์ด้วยธงโจรสลัดจากอนิเมะเรื่องวันพีซ ในห้วงวันประกาศอิสรภาพครบรอบ 80 ปี กระทั่งต้องเผชิญกับการชุมนุมประท้วง ตั้งแต่กลุ่มนักศึกษาคัดค้านการขึ้นเงินเดือนและสวัสดิการของรัฐสภา โดยเฉพาะค่าที่พักสูงถึงเดือนละ 50 ล้านรูเปียห์ (เกือบ 100,000 บาท) และกลุ่มผู้ใช้แรงงานที่เรียกร้องให้ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ยุติการจ้างงานแบบภายนอก และตั้งคณะกรรมการป้องกันการเลิกจ้าง ตำรวจต้องใช้แก๊สน้ำตาและปืนฉีดน้ำแรงดันสูงสลายการชุมนุม จุดเปลี่ยนสำคัญเมื่อวันที่ 28 ส.ค. รถหุ้มเกราะควบคุมฝูงชนบริม็อบ (Brimob) ของตำรวจอินโดนีเซีย พุ่งเข้าชนนายอัฟฟาน คูรเนียวัน อายุ 21 ปี ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างผ่านแอปพลิเคชัน (Ojol) เสียชีวิตใจกลางกรุงจาการ์ตา ระหว่างที่มีผู้ชุมนุมประท้วง จุดชนวนให้ประชาชนโกรธแค้นมากขึ้น แม้ต้นสังกัดจะควบคุมตัวตำรวจ 7 นาย ที่อยู่ในรถหุ้มเกราะไปสอบสวน ถูกควบคุมตัวฐานละเมิดจริยธรรม 20 วัน รวมทั้งประธานาธิบดีปราโบโว ไปเยี่ยมครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วยตัวเอง แต่สถานการณ์ไม่ดีขึ้น ในกรุงจาการ์ตา อาคารรัฐสภา ที่ทำการตำรวจ รวมทั้งสถานีรถเมล์ด่วนพิเศษ ถูกผู้ชุมนุมเผาทำลาย อาคารรัฐสภาส่วนภูมิภาคและที่ทำการตำรวจในหลายเมืองก็ถูกผู้ชุมนุมเผา เช่น เมืองมากัสซาร์ อาคารสภาท้องถิ่นถูกวางเพลิง มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 ราย เมืองสุราบายา ที่ทำการรัฐบาลท้องถิ่นก็ถูกเผา เมืองบันดุง ปะทะกันรุนแรง และบ้านพักของสมาชิกสภาถูกเผา รวมทั้งเมืองอื่นๆ เช่น เมืองโซโล ยอร์คยาการ์ตา กูนิกัน เตกัล ปอนตินัค ฯลฯ มีการปล้นสะดมที่บ้านของ รมว.คลังอินโดนีเซีย และสมาชิกรัฐสภาหลายคน ที่สุดแล้วประธานาธิบดีปราโบโวแถลงว่า ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นรัฐบาลและอยู่ในความสงบ สภาผู้แทนราษฎรเตรียมเพิกถอนสิทธิประโยชน์บางประการ รวมถึงลดเบี้ยเลี้ยง และระงับการดูงานต่างประเทศ หัวหน้าพรรคการเมืองต่างๆ จะลงโทษสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่กล่าวถ้อยคำไม่เหมาะสม ส่วนตำรวจที่ทำผิดพลาด พร้อมตรวจสอบอย่างรวดเร็ว โปร่งใส และเปิดเผยต่อสาธารณะ ยืนยันว่าเคารพเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น แต่หากทำลายทรัพย์สินหรือปล้นสะดมถือว่าละเมิดกฎหมาย ตำรวจและกองทัพจะดำเนินการอย่างเข้มงวด พร้อมเชิญชวนผู้นำการชุมนุมรวมถึงนักศึกษาร่วมพูดคุยโดยตรง โดยรับรองว่าจะรับฟังข้อเสนอแนะและการวิพากษ์วิจารณ์เพื่อนำไปปฏิบัติต่อไป #Newskit
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 319 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts