• 🌊✨ ภาพบรรยากาศ Costa Serena | 15-19 ก.พ. 68 ✨🌊

    🚢 เส้นทาง: แหลมฉบัง - เกาะฟูก๊วก (เวียดนาม) - สมุย - แหลมฉบัง 5 วัน 4 คืน

    📢 ตอนนี้เปิดให้นักท่องเที่ยวเช็คอินแล้ว! 🎉
    เตรียมสัมผัสความหรูหราบนเรือ พร้อมกิจกรรม และบรรยากาศสุดชิล! 🌊✨

    ดูเรือที่ขึ้นแหลมฉบัง เส้นทางสิงคโปร์
    https://78s.me/e8e26b

    ✅ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด
    https://cruisedomain.com/
    LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029
    Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121
    Youytube : CruiseDomain 78s.me/8af620
    ☎️: 0 2116 9696

    #เรือCOSTA #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #CruiseDomain #ล่องเรือสำราญ #เรือแหลมฉบัง
    🌊✨ ภาพบรรยากาศ Costa Serena | 15-19 ก.พ. 68 ✨🌊 🚢 เส้นทาง: แหลมฉบัง - เกาะฟูก๊วก (เวียดนาม) - สมุย - แหลมฉบัง 5 วัน 4 คืน 📢 ตอนนี้เปิดให้นักท่องเที่ยวเช็คอินแล้ว! 🎉 เตรียมสัมผัสความหรูหราบนเรือ พร้อมกิจกรรม และบรรยากาศสุดชิล! 🌊✨ ดูเรือที่ขึ้นแหลมฉบัง เส้นทางสิงคโปร์ https://78s.me/e8e26b ✅ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด https://cruisedomain.com/ LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029 Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121 Youytube : CruiseDomain 78s.me/8af620 ☎️: 0 2116 9696 #เรือCOSTA #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #CruiseDomain #ล่องเรือสำราญ #เรือแหลมฉบัง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 196 มุมมอง 0 รีวิว
  • มาแล้ว! เรือ USS Carl Vinson บรรทุกทหารเรืออเมริกัน 5,400 นาย ขึ้นบก ณ ท่าเทียบเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี เพื่อท่องเที่ยวและพักผ่อนในเมืองพัทยา เป็นเวลา 5 วัน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000008389

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    มาแล้ว! เรือ USS Carl Vinson บรรทุกทหารเรืออเมริกัน 5,400 นาย ขึ้นบก ณ ท่าเทียบเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี เพื่อท่องเที่ยวและพักผ่อนในเมืองพัทยา เป็นเวลา 5 วัน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000008389 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Wow
    7
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 877 มุมมอง 0 รีวิว
  • 27-31 ม.ค.​ 68 นี้​ นาวิกะเย่เย้ทิน​
    อเมริกาโม่​ ประมาณ 5,400 นาย
    จะบุกเข้าถล่ม​ กะเทย​ &​ กะหรี่​
    ใน​ พัทยา ให้พังราบเป็นหน้าปิเทย
    ขอเชิญเหล่ากะเทย​ &​ กะหรี่
    ร่วมออกเรือต้อนเละ​ กลางทะเลและท่าเรือแหลมฉบัง เป็นเจ้าบ้านที่ดี
    27-31 ม.ค.​ 68 นี้​ นาวิกะเย่เย้ทิน​ อเมริกาโม่​ ประมาณ 5,400 นาย จะบุกเข้าถล่ม​ กะเทย​ &​ กะหรี่​ ใน​ พัทยา ให้พังราบเป็นหน้าปิเทย ขอเชิญเหล่ากะเทย​ &​ กะหรี่ ร่วมออกเรือต้อนเละ​ กลางทะเลและท่าเรือแหลมฉบัง เป็นเจ้าบ้านที่ดี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 167 มุมมอง 0 รีวิว
  • BAN เรียกร้อง MAERSK ชี้แจงแผนเดินเรือใหม่ของเรือ 2 ลำที่ขนขยะพิษฝุ่นแดง หลังพบเรือ “แคมป์ตัน” ผ่านสิงคโปร์ไปแล้วโดยไม่จอด ขณะที่ “แคนดอร์” เงียบหายไม่แสดงตัวมาแล้ว 6 วัน พร้อมทั้งขอคำรับรองจาก MAERSK ว่าจะไม่ฝ่าฝืนมาตรฐานเรื่องการเดินเรือขนส่งสินค้าและปฏิบัติตามกฎกติการที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด จนกว่าที่ตู้คอนเทนเนอร์ต้องสงสัยว่าบรรจุขยะพิษทั้ง 100 ตู้บนเรือ “เมอรส์กแคมป์ตัน” และ “เมอรส์ก แคนดอร์” จะถูกส่งถึงแอลเบเนีย
    .
    16 สิงหาคม 2567- เครือข่ายปฏิบัติการบาเซล หรือ Basel Action Network (BAN) ซึ่งเป็นองค์กรพัฒนาเอกชนในประเทศสหรัฐอเมริกาที่ทำงานตรวจสอบเกี่ยวกับการปฏิบัติตามอนุสัญญาบาเซลว่าด้วยการควบคุมการเคลื่อนย้ายข้ามแดนของของเสียอันตรายและการกำจัด หรือที่เรียกกันโดยย่อว่า “อนุสัญญาบาเซล” (Basel Convention) ได้ส่งจดหมายผ่านทางอีเมล ลงวันที่ 15 สิงหาคม 2567 (เวลาช้ากว่าไทยประมาณ 12 ชั่วโมง) ถึงผู้บริหารของบริษัท เมอส์ก (MAERSK) ระบุว่า เป็นความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องสอบถามถึงเจตนารมณ์ของ Maersk เกี่ยวกับตู้คอนเทนเนอร์ต้องสงสัยว่าบรรจุขยะอันตรายที่ขนส่งมาบนเรือของบริษัทที่ชื่อ “เมอรส์กแคมป์ตัน” และ “เมอรส์ก แคนดอร์”
    .
    BAN ได้กล่าวอ้างอิงถึงข่าวจากบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รวมทั้งเนื้อหาในจดหมายของบริษัท เมอส์ก ไลน์ (ไทยแลนด์) จำกัด ที่ส่งถึงผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง เรื่อง “การชี้แจงข้อมูลเส้นทางการเดินเรือ” ซึ่งแจ้งไว้ว่าจะส่งคืนตู้คอนเทนเนอร์ทั้งหมดจำนวน 100 ตู้บนเรือทั้งสองลำดังกล่าวกลับไปยังแอลเบเนีย ซึ่ง BAN ระบุว่า “เราปรบมือให้กับการตัดสินใจนั้น”
    .
    จดหมายของ BAN ที่ลงนามโดยจิม พักเก็ตต์ กล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตาม เรือแคมป์ตันซึ่งควรที่จะจอดยังท่าเรือในสิงคโปร์ และมีขนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์ต้องสงสัย ตามแผนการเดิม กลับเพิ่งมีรายงานข่าวว่าได้แล่นผ่านสิงคโปร์ไปแล้วเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยไม่มีการหยุด ซึ่งในจดหมายได้มีการแนบแผนที่แสดงเส้นทางและตำแหน่งการเดินเรือของ “เมอรส์กแคมป์ตัน” ไว้ด้วย
    .
    จดหมายของ BAN แจ้งอีกว่า ในขณะที่ทางด้านเรือแคนดอร์ก็ได้เงียบหายไปตลอดช่วงหกวันที่ผ่านมา หลังจากที่พบว่ามีการปิดระบบสัญญาณ AIS (Automatic Identification System) หรือสัญญาณการระบุตัวตนอัตโนมัติครั้งสุดท้ายที่นอกชายฝั่งแอฟริกาใต้ ซึ่งปรากฏการณ์ล่าสุดเหล่านี้ได้ “สร้างความกังวลอย่างยิ่งยวด” ให้เกิดขึ้นตามหลังจากการแถลงของบริษัท
    .
    ดังนั้น BAN จึงเรียกร้องให้บริษัท MAERSK ชี้แจงและอธิบายให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและสื่อที่เกี่ยวข้องทั้งหลายโดยทันที ว่าเหตุใดจึงมีการปรับเปลี่ยนแผนการเดินเรือ และแผนใหม่คืออะไร ตลอดจนชี้แจงถึงตําแหน่งและจุดหมายปลายทางของเรือทั้งสองลําด้วย โดยที่ MAERSK จะต้องรับรองว่าจะไม่ฝ่าฝืนต่อกฎเกณฑ์สากลของการเดินเรือขนส่งสินค้า รวมถึงระเบียบกติกาทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง
    .
    และที่สำคัญคือ ต้องรักษาไว้ซึ่งความมุ่งมั่นที่จะส่งคอนเทนเนอร์บรรจุของเสียอันตรายต้องสงสัยกลับไปยังประเทศต้นทาง ให้ถึงมือรัฐบาลแอลเบเนีย เพื่อที่จะจัดการส่งกลับไปยังประเทศต้นทางได้ต่อ

    ดูเรื่องที่เกี่ยวข้องได้ที่
    - MAERSK ยอมส่งเรือกลับแอลเบเนีย!?! แต่ไม่ยอมรับว่ามีการขนส่งขยะอันตราย: https://shorturl.at/hivjM

    - "กรณีการขนย้ายฝุ่นแดงจากประเทศแอลเบเนีย ถือเป็นอาชญากรรมสิ่งแวดล้อมข้ามชาติ": https://shorturl.at/th5yX

    ที่มา : มูลนิธิบูรณะนิเวศ

    #Thaitimes
    BAN เรียกร้อง MAERSK ชี้แจงแผนเดินเรือใหม่ของเรือ 2 ลำที่ขนขยะพิษฝุ่นแดง หลังพบเรือ “แคมป์ตัน” ผ่านสิงคโปร์ไปแล้วโดยไม่จอด ขณะที่ “แคนดอร์” เงียบหายไม่แสดงตัวมาแล้ว 6 วัน พร้อมทั้งขอคำรับรองจาก MAERSK ว่าจะไม่ฝ่าฝืนมาตรฐานเรื่องการเดินเรือขนส่งสินค้าและปฏิบัติตามกฎกติการที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด จนกว่าที่ตู้คอนเทนเนอร์ต้องสงสัยว่าบรรจุขยะพิษทั้ง 100 ตู้บนเรือ “เมอรส์กแคมป์ตัน” และ “เมอรส์ก แคนดอร์” จะถูกส่งถึงแอลเบเนีย . 16 สิงหาคม 2567- เครือข่ายปฏิบัติการบาเซล หรือ Basel Action Network (BAN) ซึ่งเป็นองค์กรพัฒนาเอกชนในประเทศสหรัฐอเมริกาที่ทำงานตรวจสอบเกี่ยวกับการปฏิบัติตามอนุสัญญาบาเซลว่าด้วยการควบคุมการเคลื่อนย้ายข้ามแดนของของเสียอันตรายและการกำจัด หรือที่เรียกกันโดยย่อว่า “อนุสัญญาบาเซล” (Basel Convention) ได้ส่งจดหมายผ่านทางอีเมล ลงวันที่ 15 สิงหาคม 2567 (เวลาช้ากว่าไทยประมาณ 12 ชั่วโมง) ถึงผู้บริหารของบริษัท เมอส์ก (MAERSK) ระบุว่า เป็นความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องสอบถามถึงเจตนารมณ์ของ Maersk เกี่ยวกับตู้คอนเทนเนอร์ต้องสงสัยว่าบรรจุขยะอันตรายที่ขนส่งมาบนเรือของบริษัทที่ชื่อ “เมอรส์กแคมป์ตัน” และ “เมอรส์ก แคนดอร์” . BAN ได้กล่าวอ้างอิงถึงข่าวจากบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รวมทั้งเนื้อหาในจดหมายของบริษัท เมอส์ก ไลน์ (ไทยแลนด์) จำกัด ที่ส่งถึงผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง เรื่อง “การชี้แจงข้อมูลเส้นทางการเดินเรือ” ซึ่งแจ้งไว้ว่าจะส่งคืนตู้คอนเทนเนอร์ทั้งหมดจำนวน 100 ตู้บนเรือทั้งสองลำดังกล่าวกลับไปยังแอลเบเนีย ซึ่ง BAN ระบุว่า “เราปรบมือให้กับการตัดสินใจนั้น” . จดหมายของ BAN ที่ลงนามโดยจิม พักเก็ตต์ กล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตาม เรือแคมป์ตันซึ่งควรที่จะจอดยังท่าเรือในสิงคโปร์ และมีขนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์ต้องสงสัย ตามแผนการเดิม กลับเพิ่งมีรายงานข่าวว่าได้แล่นผ่านสิงคโปร์ไปแล้วเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยไม่มีการหยุด ซึ่งในจดหมายได้มีการแนบแผนที่แสดงเส้นทางและตำแหน่งการเดินเรือของ “เมอรส์กแคมป์ตัน” ไว้ด้วย . จดหมายของ BAN แจ้งอีกว่า ในขณะที่ทางด้านเรือแคนดอร์ก็ได้เงียบหายไปตลอดช่วงหกวันที่ผ่านมา หลังจากที่พบว่ามีการปิดระบบสัญญาณ AIS (Automatic Identification System) หรือสัญญาณการระบุตัวตนอัตโนมัติครั้งสุดท้ายที่นอกชายฝั่งแอฟริกาใต้ ซึ่งปรากฏการณ์ล่าสุดเหล่านี้ได้ “สร้างความกังวลอย่างยิ่งยวด” ให้เกิดขึ้นตามหลังจากการแถลงของบริษัท . ดังนั้น BAN จึงเรียกร้องให้บริษัท MAERSK ชี้แจงและอธิบายให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและสื่อที่เกี่ยวข้องทั้งหลายโดยทันที ว่าเหตุใดจึงมีการปรับเปลี่ยนแผนการเดินเรือ และแผนใหม่คืออะไร ตลอดจนชี้แจงถึงตําแหน่งและจุดหมายปลายทางของเรือทั้งสองลําด้วย โดยที่ MAERSK จะต้องรับรองว่าจะไม่ฝ่าฝืนต่อกฎเกณฑ์สากลของการเดินเรือขนส่งสินค้า รวมถึงระเบียบกติกาทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง . และที่สำคัญคือ ต้องรักษาไว้ซึ่งความมุ่งมั่นที่จะส่งคอนเทนเนอร์บรรจุของเสียอันตรายต้องสงสัยกลับไปยังประเทศต้นทาง ให้ถึงมือรัฐบาลแอลเบเนีย เพื่อที่จะจัดการส่งกลับไปยังประเทศต้นทางได้ต่อ ดูเรื่องที่เกี่ยวข้องได้ที่ - MAERSK ยอมส่งเรือกลับแอลเบเนีย!?! แต่ไม่ยอมรับว่ามีการขนส่งขยะอันตราย: https://shorturl.at/hivjM - "กรณีการขนย้ายฝุ่นแดงจากประเทศแอลเบเนีย ถือเป็นอาชญากรรมสิ่งแวดล้อมข้ามชาติ": https://shorturl.at/th5yX ที่มา : มูลนิธิบูรณะนิเวศ #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 542 มุมมอง 0 รีวิว
  • อธิบดีกรมโรงงานสั่งเข้มติดตามร่วมกับกรมศุลกากรป้องกันขยะกากฝุ่นแดงพิษที่จะขนมาทางเรือจากแอลบาเนียมาทิ้งที่ไทยโดยไทยไม่อนุญาติ หลังจากปีที่แล้วไทยเคยทำหนังสือไม่ยินยอมให้เคลื่อนย้ายขยะกากพิษนี้มาไทย

    14 สิงหาคม 2567-อธิบดีกรมโรงงานฯ สั่งติดตามการขนย้ายฝุ่นแดง จากประเทศแอลบาเนีย อย่างใกล้ชิด

    นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม มอบหมายกองบริหารจัดการกากอุตสาหกรรม ดำเนินการร่วมกับหน่วยข่าวกรองและส่วนงานปราบปรามของกรมศุลกากร เพื่อเฝ้าระวังและยับยั้งการขนย้ายของเสียอันตรายแบบผิดกฎหมาย (illegal traffic) คาดว่าเป็น Electric Arc Furnace (EAF) dust หรือ ฝุ่นแดง จากอุตสาหกรรมถลุงเหล็ก จำนวน 816 ตัน (ประมาณ 100 ตู้คอนเทนเนอร์) จากประเทศแอลบาเนีย ซึ่งเป็นของเสียอันตรายตามอนุสัญญาบาเซล และเป็นของเสียเคมีวัตถุ ตาม พ.ร.บ. วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 อย่างใกล้ชิด

    สืบเนื่องจากกรมโรงงานฯ ในฐานะหน่วยงานผู้มีอำนาจ (Competent Authority : CA) ของประเทศไทย ภายใต้ “อนุสัญญาบาเซลว่าด้วยการควบคุมการเคลื่อนย้ายข้ามแดนของของเสียอันตรายและการกำจัด” ได้รับการประสานงานและแจ้งข่าวการขนส่งของเสียดังกล่าวจากองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรหรือ NGO ด้านสิ่งแวดล้อม 3 แห่ง ได้แก่ 1.เครือข่าย Basel Action Network (BAN) สหรัฐอเมริกา 2.องค์กร Friends of the Earth ประเทศแอฟริกาใต้ และ 3.มูลนิธิบูรณะนิเวศ หรือ EARTH ประเทศไทย เพื่อยับยั้งการเคลื่อนย้ายของเสียแบบผิดกฎหมายด้วยเรือขนส่งสินค้าจำนวน 2 ลำ ที่มีต้นทางจากประเทศแอลบาเนีย ปลายทางประเทศไทย โดย ประเทศไทย ไม่เคยได้รับการแจ้งขอความยินยอมการนำเข้าของเสียดังกล่าว รวมทั้งไม่เคยยินยอมหรืออนุญาตให้มีการนำเข้าของเสียดังกล่าวแต่อย่างใด จึงถือเป็นการเคลื่อนย้ายของของเสียอันตรายแบบผิดกฎหมายภายใต้อนุสัญญาบาเซล

    โดยเมื่อปี 2565 ประเทศไทยเคยมีหนังสือถึงรัฐบาลประเทศแอลบาเนียไม่ยินยอมให้นำเข้าของเสียดังกล่าวมายังราชอาณาจักรไทย

    ล่าสุดกรมโรงงานฯ ได้ประสานงานอย่างใกล้ชิด กับหน่วยงานผู้มีอำนาจ (CA) ของประเทศแอลบาเนีย (ประเทศต้นทาง) และหน่วยงาน National Environment Agency (CA ของประเทศสิงคโปร์) ซึ่งเป็นประเทศผู้นำผ่าน และคาดการณ์ว่า จะมีการถ่ายลำเรือของเสียดังกล่าว เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ จึงให้เฝ้าระวังบริเวณท่าเรือและยับยั้งการเคลื่อนย้ายของเสียดังกล่าว

    ทั้งนี้ กรมโรงงานฯ ได้ประสานงานกับกรมศุลกากร เพื่อติดตามตรวจสอบการนำ “ของเสียอันตรายที่ไม่ได้รับอนุญาต” เข้ามาในราชอาณาจักรไทยอย่างต่อเนื่อง

    ขณะที่มูลนิธิบูรณะนิเวศ (EARTH)เตือนภัยว่า““กรณีนี้ถือเป็นอาชญากรรมสิ่งแวดล้อมข้ามชาติ...เพราะว่าเป็นการขนส่ง/เคลื่อนย้ายกากของเสียอันตรายแบบเถื่อน ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและกฎหมายของประเทศที่เป็นเป้าหมายปลายทางอย่างประเทศไทยเองด้วย ดังนั้นการดำเนินการที่จะรับมือและจัดการจึงต้องระมัดระวังอย่างมาก เพราะคู่กรณีของเราในกรณีนี้คืออาชญากรระหว่างประเทศ” เพ็ญโฉม แซ่ตั้ง ผู้อำนวยการมูลนิธิบูรณะนิเวศ กล่าวอธิบายถึงกรณีเรื่องการขนย้ายฝุ่นแดงจากประเทศแอลเบเนีย หรือชื่อทางการว่าสาธารณรัฐแอลเบเนีย (Albania) ภายหลังจากที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ได้ออกมาเปิดเผยว่า ขณะนี้ทาง กรอ. กำลังประสานงานกับกรมศุลกากร เพื่อติดตามตรวจสอบกรณีดังกล่าวอย่างใกล้ชิด
    .
    ทั้งนี้ มูลนิธิบูรณะนิเวศได้รับการประสานเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวจากเครือข่าย BAN หรือ Basel Action Network ซึ่งเป็นองค์กรพัฒนาเอกชนในประเทศสหรัฐอเมริกาที่ทำงานตรวจสอบเกี่ยวกับการปฏิบัติตามอนุสัญญาบาเซลว่าด้วยการควบคุมการเคลื่อนย้ายข้ามแดนของของเสียอันตรายและการกำจัด หรือที่เรียกกันโดยย่อว่า “อนุสัญญาบาเซล” (Basel Convention) ตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา
    .
    ประเด็นสาระสำคัญที่ทางเครือข่าย BAN แจ้งมาในเบื้องต้นคือ ทราบว่าจะมีการขนส่งกากของเสียอันตรายที่ตามอนุสัญญาบาเซลและภาคแก้ไขของอนุสัญญาบาเซลถือเป็นของเสียอันตรายที่ห้ามเคลื่อนย้ายออกนอกประเทศที่เป็นแหล่งกำเนิด มายังประเทศไทย โดยขนส่งมาทางเรือจำนวน 2 ลำ
    .
    ในช่วงที่ผ่านมา ทางมูลนิธิบูรณะนิเวศจึงได้พยายามหาทางสื่อสารและส่งผ่านข้อมูลให้กับหน่วยงานราชการที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้อง จากนั้นจึงมีกระบวนการประสานงานด้านข้อมูลในรายละเอียดกันทั้งภายในและภายนอกประเทศ กระทั่งทราบว่าเรือทั้งสองลำจะเข้าเทียบท่าที่ท่าเรือประเทศสิงคโปร์ ก่อนที่จะเข้าสู่ท่าเรือของประเทศไทย ซึ่งขณะนี้เรือใกล้จะถึงสิงคโปร์แล้ว
    .
    อย่างไรก็ตาม ด้วยเหตุที่กรณีนี้เป็นการดำเนินการที่ผิดกฎหมายอย่างแน่นอน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่อาจต้องระมัดระวังในประเด็นการไหวตัวของคนร้าย ซึ่งคาดว่ามีลักษณะเป็นขบวนการใหญ่ และพวกเขาย่อมพยายามดิ้นรนทุกวิถีทางเพื่อหาช่องทางลอดหนีจากการสกัดกั้นและการจับกุมไปให้ได้ ดังที่พบว่า ก่อนหน้านี้ก็มีเรือ 1 ใน 2 ลำที่ขนส่งกากอันตรายกรณีนี้หายออกไปจากสารบบการติดตามระหว่างประเทศ

    ทั้งนี้คาดว่าเรือขนกากพิษฝุ่นแดงจากแอลบาเนียม800 ตันจะมาถึงท่าเรือแหลมฉบังในวันที่ 20 สิงหาคม 2567นี้

    #Thaitimes
    อธิบดีกรมโรงงานสั่งเข้มติดตามร่วมกับกรมศุลกากรป้องกันขยะกากฝุ่นแดงพิษที่จะขนมาทางเรือจากแอลบาเนียมาทิ้งที่ไทยโดยไทยไม่อนุญาติ หลังจากปีที่แล้วไทยเคยทำหนังสือไม่ยินยอมให้เคลื่อนย้ายขยะกากพิษนี้มาไทย 14 สิงหาคม 2567-อธิบดีกรมโรงงานฯ สั่งติดตามการขนย้ายฝุ่นแดง จากประเทศแอลบาเนีย อย่างใกล้ชิด นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม มอบหมายกองบริหารจัดการกากอุตสาหกรรม ดำเนินการร่วมกับหน่วยข่าวกรองและส่วนงานปราบปรามของกรมศุลกากร เพื่อเฝ้าระวังและยับยั้งการขนย้ายของเสียอันตรายแบบผิดกฎหมาย (illegal traffic) คาดว่าเป็น Electric Arc Furnace (EAF) dust หรือ ฝุ่นแดง จากอุตสาหกรรมถลุงเหล็ก จำนวน 816 ตัน (ประมาณ 100 ตู้คอนเทนเนอร์) จากประเทศแอลบาเนีย ซึ่งเป็นของเสียอันตรายตามอนุสัญญาบาเซล และเป็นของเสียเคมีวัตถุ ตาม พ.ร.บ. วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 อย่างใกล้ชิด สืบเนื่องจากกรมโรงงานฯ ในฐานะหน่วยงานผู้มีอำนาจ (Competent Authority : CA) ของประเทศไทย ภายใต้ “อนุสัญญาบาเซลว่าด้วยการควบคุมการเคลื่อนย้ายข้ามแดนของของเสียอันตรายและการกำจัด” ได้รับการประสานงานและแจ้งข่าวการขนส่งของเสียดังกล่าวจากองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรหรือ NGO ด้านสิ่งแวดล้อม 3 แห่ง ได้แก่ 1.เครือข่าย Basel Action Network (BAN) สหรัฐอเมริกา 2.องค์กร Friends of the Earth ประเทศแอฟริกาใต้ และ 3.มูลนิธิบูรณะนิเวศ หรือ EARTH ประเทศไทย เพื่อยับยั้งการเคลื่อนย้ายของเสียแบบผิดกฎหมายด้วยเรือขนส่งสินค้าจำนวน 2 ลำ ที่มีต้นทางจากประเทศแอลบาเนีย ปลายทางประเทศไทย โดย ประเทศไทย ไม่เคยได้รับการแจ้งขอความยินยอมการนำเข้าของเสียดังกล่าว รวมทั้งไม่เคยยินยอมหรืออนุญาตให้มีการนำเข้าของเสียดังกล่าวแต่อย่างใด จึงถือเป็นการเคลื่อนย้ายของของเสียอันตรายแบบผิดกฎหมายภายใต้อนุสัญญาบาเซล โดยเมื่อปี 2565 ประเทศไทยเคยมีหนังสือถึงรัฐบาลประเทศแอลบาเนียไม่ยินยอมให้นำเข้าของเสียดังกล่าวมายังราชอาณาจักรไทย ล่าสุดกรมโรงงานฯ ได้ประสานงานอย่างใกล้ชิด กับหน่วยงานผู้มีอำนาจ (CA) ของประเทศแอลบาเนีย (ประเทศต้นทาง) และหน่วยงาน National Environment Agency (CA ของประเทศสิงคโปร์) ซึ่งเป็นประเทศผู้นำผ่าน และคาดการณ์ว่า จะมีการถ่ายลำเรือของเสียดังกล่าว เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ จึงให้เฝ้าระวังบริเวณท่าเรือและยับยั้งการเคลื่อนย้ายของเสียดังกล่าว ทั้งนี้ กรมโรงงานฯ ได้ประสานงานกับกรมศุลกากร เพื่อติดตามตรวจสอบการนำ “ของเสียอันตรายที่ไม่ได้รับอนุญาต” เข้ามาในราชอาณาจักรไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่มูลนิธิบูรณะนิเวศ (EARTH)เตือนภัยว่า““กรณีนี้ถือเป็นอาชญากรรมสิ่งแวดล้อมข้ามชาติ...เพราะว่าเป็นการขนส่ง/เคลื่อนย้ายกากของเสียอันตรายแบบเถื่อน ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและกฎหมายของประเทศที่เป็นเป้าหมายปลายทางอย่างประเทศไทยเองด้วย ดังนั้นการดำเนินการที่จะรับมือและจัดการจึงต้องระมัดระวังอย่างมาก เพราะคู่กรณีของเราในกรณีนี้คืออาชญากรระหว่างประเทศ” เพ็ญโฉม แซ่ตั้ง ผู้อำนวยการมูลนิธิบูรณะนิเวศ กล่าวอธิบายถึงกรณีเรื่องการขนย้ายฝุ่นแดงจากประเทศแอลเบเนีย หรือชื่อทางการว่าสาธารณรัฐแอลเบเนีย (Albania) ภายหลังจากที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ได้ออกมาเปิดเผยว่า ขณะนี้ทาง กรอ. กำลังประสานงานกับกรมศุลกากร เพื่อติดตามตรวจสอบกรณีดังกล่าวอย่างใกล้ชิด . ทั้งนี้ มูลนิธิบูรณะนิเวศได้รับการประสานเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวจากเครือข่าย BAN หรือ Basel Action Network ซึ่งเป็นองค์กรพัฒนาเอกชนในประเทศสหรัฐอเมริกาที่ทำงานตรวจสอบเกี่ยวกับการปฏิบัติตามอนุสัญญาบาเซลว่าด้วยการควบคุมการเคลื่อนย้ายข้ามแดนของของเสียอันตรายและการกำจัด หรือที่เรียกกันโดยย่อว่า “อนุสัญญาบาเซล” (Basel Convention) ตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา . ประเด็นสาระสำคัญที่ทางเครือข่าย BAN แจ้งมาในเบื้องต้นคือ ทราบว่าจะมีการขนส่งกากของเสียอันตรายที่ตามอนุสัญญาบาเซลและภาคแก้ไขของอนุสัญญาบาเซลถือเป็นของเสียอันตรายที่ห้ามเคลื่อนย้ายออกนอกประเทศที่เป็นแหล่งกำเนิด มายังประเทศไทย โดยขนส่งมาทางเรือจำนวน 2 ลำ . ในช่วงที่ผ่านมา ทางมูลนิธิบูรณะนิเวศจึงได้พยายามหาทางสื่อสารและส่งผ่านข้อมูลให้กับหน่วยงานราชการที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้อง จากนั้นจึงมีกระบวนการประสานงานด้านข้อมูลในรายละเอียดกันทั้งภายในและภายนอกประเทศ กระทั่งทราบว่าเรือทั้งสองลำจะเข้าเทียบท่าที่ท่าเรือประเทศสิงคโปร์ ก่อนที่จะเข้าสู่ท่าเรือของประเทศไทย ซึ่งขณะนี้เรือใกล้จะถึงสิงคโปร์แล้ว . อย่างไรก็ตาม ด้วยเหตุที่กรณีนี้เป็นการดำเนินการที่ผิดกฎหมายอย่างแน่นอน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่อาจต้องระมัดระวังในประเด็นการไหวตัวของคนร้าย ซึ่งคาดว่ามีลักษณะเป็นขบวนการใหญ่ และพวกเขาย่อมพยายามดิ้นรนทุกวิถีทางเพื่อหาช่องทางลอดหนีจากการสกัดกั้นและการจับกุมไปให้ได้ ดังที่พบว่า ก่อนหน้านี้ก็มีเรือ 1 ใน 2 ลำที่ขนส่งกากอันตรายกรณีนี้หายออกไปจากสารบบการติดตามระหว่างประเทศ ทั้งนี้คาดว่าเรือขนกากพิษฝุ่นแดงจากแอลบาเนียม800 ตันจะมาถึงท่าเรือแหลมฉบังในวันที่ 20 สิงหาคม 2567นี้ #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 642 มุมมอง 0 รีวิว