• ..อยู่ในแผนของกองทัพอยู่แล้วพะนะ.
    ..55แสดงว่าเตรียมยกพังงาให้เป็นฐานกองทัพอเมริกานะสิ.
    ..บอกแล้วว่า คนเขียนกฎหมายเลือกตั้งจากยุครัฐบาลยึดอำนาจที่กปปส.ถวายพานให้มีปัญหาจริงๆ นายกฯไม่ซื่อสัตย์พ้นสถานะก็สมควรสิ้นสมันทั้งสภา ต้องเลือกตั้งกันใหม่ ปัญหามากมายจะตัดตอนทันที,จะเกิดปัญหาใหม่หลังเลือกตั้งใหม่ก็อีกเรื่อง จัดการคนไม่ซื่อสัตย์ในจังหวะหน้างานนั้นตามปกติช่วงเวลานั้นได้เสมอ,นี้อะไรพ้นสถานะนายกฯไม่ซื่อสัตย์เสือกเขียนในกฎหมายใหม่ให้ไม่ต้องเลือกตั้งใหม่ เสนอนานกฯคนใหม่ได้ทันที,และนายกฯก็เสือกไม่เลือกตั้งตรงจากประชาชนด้วย ไม่เป็นที่ยอมรับ มีชื่อเสียงมีผลงานให้คนไทยพิจารณาทางตรงว่าจะเลือกหรือไม่เลือก มีกิริยาลงพบปะช่วยเหลือประชาชนห่าเหวลงพื้นที่จริงอะไรบ้าง,เสือกเสนอหน้าอยากเป็นนายกโดยไม่มีผลงานและเป็นที่รู้จักแก่ประชาขนเลย,ยึดอำนาจสมัยนั้นเลวมาก,สัมปทานก็ต่ออายุให้ต่างชาติเสือกไม่ยึดทำเอง,เปิดสัมปทานใหม่ก็ไม่แก้กฎหมายเอาเข้าสภา จึงสมควรโมฆะทั้งหมดแบบmou43&44นั้น.
    ..น่าเบื่อกลไกการลงโทษอดีตผู้นำที่ทำชั่วเลวต่อแผ่นดินไทยจริงๆ คนไม่ดี ย่ำยีคนดีคนซื่อสัตย์ในแผ่นดินไทยตน ทำประชาชนคนไทยทุกข์ยาก มีบัตรคนจนเพิ่มขึ้นหรือบัตรคนจนถือกำหนดขึ้นในสมัยผีบ้านี้ล่ะ.ข้าราชการล้นประเทศแดกเงินเดือนสวัสดิการรายได้หลวงส่วนมากกว่าไปช่วยเหลือคนไทยทั่วประเทศที่ยากจนตังขาดมือที่ขยันแทบตายก็สนับสนุนเจ้าสัวร่ำรวยทวีคูณสม่ำเสมอจากอ้างอิงอำนาจรัฐ,ผูกขาดการบริโภคทางส่วนมาก ค่าไฟฟ้าคือตย.ชัดที่รัฐถ่ายโอนประโยชน์รายได้ให้เอกชนร่ำรวย โรงงานที่ไม่ผลิตจริงก็ต้องจ่าย,เกินกำลังการผลิตปกติไปมาก เอาไปปั่นขุดบิตคอยน์เหรอ,
    ..สรุปไม่จบไม่ถีบออกไม่สิ้นสถานะการบริหารจริงอะไรเลย.,ตลอดจะให้อเมริกาจะมาตั้งฐานทัพอีก ทำลายประเทศไทยไปในตัวนะ ก็รู้ชัดเจนว่า จีนกับอเมริกาคือศัตรูกันตามภาพข่าวที่ออกโหนกัน,เสือกมาทำตัวไม่เป็นกลาง,เพื่อไม่เขาไปยุ่งในมหาสงครามนี้ด้วย,อเมริกาฝรั่งมันเห็นแก่ตัว เอาแต่ประโยชน์พวกมันเองชัดเจน ฝรั่งมันปล้นประเทศไทยเสียดินแดนไทยเป็นอันมากสมควรพอได้แล้วในยุคเรา,
    ..กลางสิงหา พันธมิตรคณะแกนนำร่วมทั้งหมดในนามคณะรวมพลังแผ่นดินไทยสมควรปฏิวัติยึดอำนาจในนามมวลมหาประชาชนสายตรงอำนาจประชาชนกันจริงๆ ขึ้นบริหารปกครองประเทศในสถานะพิเศษฉุกเฉินโดยมาทหารสนับสนุนการบริหารจัดการปกครองประเทศเพราะทหารหากเปิดหน้าเองจะไม่ราบรื่น ประชาโลกมีข้ออ้างยิ่งอีลิทพวกdeep stateมีมุกแกล้งหาความได้,ประชาชนยึดอำนาจเองโดยมาแอ็คชั่นเอง ทหารแค่หลบไปข้างหลังระวังภัยก็พอ,เราจะก้าวกระโดดทันที,พักงานสถาบันนักการเมืองอำนาจตัวแทนประชาชนไปก่อนสัก10-20ปี,วัดกันดูว่าจะดีกว่าแบบเหี้ยๆปัจจุบันมั้ย.
    https://youtube.com/watch?v=bb_Ky9ejyoc&si=B5SEbHPqKcxQffzz
    ..อยู่ในแผนของกองทัพอยู่แล้วพะนะ. ..55แสดงว่าเตรียมยกพังงาให้เป็นฐานกองทัพอเมริกานะสิ. ..บอกแล้วว่า คนเขียนกฎหมายเลือกตั้งจากยุครัฐบาลยึดอำนาจที่กปปส.ถวายพานให้มีปัญหาจริงๆ นายกฯไม่ซื่อสัตย์พ้นสถานะก็สมควรสิ้นสมันทั้งสภา ต้องเลือกตั้งกันใหม่ ปัญหามากมายจะตัดตอนทันที,จะเกิดปัญหาใหม่หลังเลือกตั้งใหม่ก็อีกเรื่อง จัดการคนไม่ซื่อสัตย์ในจังหวะหน้างานนั้นตามปกติช่วงเวลานั้นได้เสมอ,นี้อะไรพ้นสถานะนายกฯไม่ซื่อสัตย์เสือกเขียนในกฎหมายใหม่ให้ไม่ต้องเลือกตั้งใหม่ เสนอนานกฯคนใหม่ได้ทันที,และนายกฯก็เสือกไม่เลือกตั้งตรงจากประชาชนด้วย ไม่เป็นที่ยอมรับ มีชื่อเสียงมีผลงานให้คนไทยพิจารณาทางตรงว่าจะเลือกหรือไม่เลือก มีกิริยาลงพบปะช่วยเหลือประชาชนห่าเหวลงพื้นที่จริงอะไรบ้าง,เสือกเสนอหน้าอยากเป็นนายกโดยไม่มีผลงานและเป็นที่รู้จักแก่ประชาขนเลย,ยึดอำนาจสมัยนั้นเลวมาก,สัมปทานก็ต่ออายุให้ต่างชาติเสือกไม่ยึดทำเอง,เปิดสัมปทานใหม่ก็ไม่แก้กฎหมายเอาเข้าสภา จึงสมควรโมฆะทั้งหมดแบบmou43&44นั้น. ..น่าเบื่อกลไกการลงโทษอดีตผู้นำที่ทำชั่วเลวต่อแผ่นดินไทยจริงๆ คนไม่ดี ย่ำยีคนดีคนซื่อสัตย์ในแผ่นดินไทยตน ทำประชาชนคนไทยทุกข์ยาก มีบัตรคนจนเพิ่มขึ้นหรือบัตรคนจนถือกำหนดขึ้นในสมัยผีบ้านี้ล่ะ.ข้าราชการล้นประเทศแดกเงินเดือนสวัสดิการรายได้หลวงส่วนมากกว่าไปช่วยเหลือคนไทยทั่วประเทศที่ยากจนตังขาดมือที่ขยันแทบตายก็สนับสนุนเจ้าสัวร่ำรวยทวีคูณสม่ำเสมอจากอ้างอิงอำนาจรัฐ,ผูกขาดการบริโภคทางส่วนมาก ค่าไฟฟ้าคือตย.ชัดที่รัฐถ่ายโอนประโยชน์รายได้ให้เอกชนร่ำรวย โรงงานที่ไม่ผลิตจริงก็ต้องจ่าย,เกินกำลังการผลิตปกติไปมาก เอาไปปั่นขุดบิตคอยน์เหรอ, ..สรุปไม่จบไม่ถีบออกไม่สิ้นสถานะการบริหารจริงอะไรเลย.,ตลอดจะให้อเมริกาจะมาตั้งฐานทัพอีก ทำลายประเทศไทยไปในตัวนะ ก็รู้ชัดเจนว่า จีนกับอเมริกาคือศัตรูกันตามภาพข่าวที่ออกโหนกัน,เสือกมาทำตัวไม่เป็นกลาง,เพื่อไม่เขาไปยุ่งในมหาสงครามนี้ด้วย,อเมริกาฝรั่งมันเห็นแก่ตัว เอาแต่ประโยชน์พวกมันเองชัดเจน ฝรั่งมันปล้นประเทศไทยเสียดินแดนไทยเป็นอันมากสมควรพอได้แล้วในยุคเรา, ..กลางสิงหา พันธมิตรคณะแกนนำร่วมทั้งหมดในนามคณะรวมพลังแผ่นดินไทยสมควรปฏิวัติยึดอำนาจในนามมวลมหาประชาชนสายตรงอำนาจประชาชนกันจริงๆ ขึ้นบริหารปกครองประเทศในสถานะพิเศษฉุกเฉินโดยมาทหารสนับสนุนการบริหารจัดการปกครองประเทศเพราะทหารหากเปิดหน้าเองจะไม่ราบรื่น ประชาโลกมีข้ออ้างยิ่งอีลิทพวกdeep stateมีมุกแกล้งหาความได้,ประชาชนยึดอำนาจเองโดยมาแอ็คชั่นเอง ทหารแค่หลบไปข้างหลังระวังภัยก็พอ,เราจะก้าวกระโดดทันที,พักงานสถาบันนักการเมืองอำนาจตัวแทนประชาชนไปก่อนสัก10-20ปี,วัดกันดูว่าจะดีกว่าแบบเหี้ยๆปัจจุบันมั้ย. https://youtube.com/watch?v=bb_Ky9ejyoc&si=B5SEbHPqKcxQffzz
    0 Comments 0 Shares 71 Views 0 Reviews
  • #เหตุใดโจโฉจึงยืนกรานที่จะฆ่าหมอฮวาโถว(华佗)?
    #12ปีต่อมาเขาก็พบว่าการตัดสินใจของเขาถูกต้อง

    สามก๊ก หรือ ซานกั๋วเหยี่ยนอี้(Romance of the Three Kingdoms三国演义)เป็นผลงานชิ้นเอกในประวัติศาสตร์วรรณกรรมจีนที่ใครๆ ก็รู้จัก หนังสือเล่มนี้มีโครงเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากมายซึ่งชวนติดตาม ในงานนี้ ผู้เขียนไม่ได้แยกแยะระหว่างตัวเอกและตัวประกอบอย่างชัดเจน เพราะในใจของผู้อ่านที่ชื่นชอบผลงานชิ้นนี้ ตัวละครแต่ละตัวจะเปล่งประกายด้วยความเฉลียวฉลาดและเสน่ห์เฉพาะตัว

    เชื่อว่าหลายๆ คนคิดเหมือนกันว่าตัวละครที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งมากที่สุดคือโจโฉ(曹操) บางคนมองว่าเขาเป็นรัฐมนตรีที่ฉลาดและสามารถควบคุมสถานการณ์ในยามยากลำบากได้ ในขณะที่บางคนมองว่าเขาเป็นคนร้ายที่ทรยศและวางแผนร้าย

    บางทีในสายตาของโจโฉ(曹操) ความซื่อสัตย์ภักดีและการทรยศคตโกงอาจไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด สิ่งที่เขาแสวงหาคือการรวมประเทศเป็นหนึ่ง และปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการบรรลุการรวมกันเป็นหนึ่งคือความแข็งแกร่งและความสามารถ ด้วยค่านิยมที่ว่า “ผู้มีความสามารถคือประมุข” เขาจึงให้ความสำคัญกับผลลัพธ์มากกว่าที่จะยึดติดกับข้อจำกัดทางศีลธรรมแบบเดิมๆ สิ่งนี้ยังทำให้วิธีการทำสิ่งต่างๆ (曹操) มีความพิเศษ มีเอกลักษณ์และมักจะผสมผสาน และไม่ยึดหลักเกณฑ์ธรรมดาด้วย

    จากมุมมองของผู้คนในปัจจุบัน เขาสามารถถูกมองว่าเป็นนักการเมืองที่มีแนวคิดก้าวหน้าและแนวคิดทางเลือกอีกแนวทางหนึ่ง หากต้องการเข้าใจความซับซ้อนของสามก๊ก(三国)อย่างแท้จริง ต้องเข้าใจความภายในใจของโจโฉ(曹操)และวิธีการจัดการกับผู้คนพร้อมกับการปฏิบัติวานของเขาเสียก่อน

    นอกจากนี้ บุคคลที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์จำนวนมากในช่วงยุคสามก๊ก(三国)มีปฏิสัมพันธ์สำคัญกับโจโฉ(曹操) และทั้งหมดนี้คนที่คลาสสิกที่สุดคือหมอฮวาโถว(华佗)ผู้โด่งดัง ดังที่เราทราบกันดีว่า ฮวาโถว(华佗)เสียชีวิตในท้ายที่สุดจากน้ำมือของโจโฉ(曹操) แต่หากเราหยุดอยู่แค่คำคร่ำครวญเรื่อง "หมอชื่อดังถูกฆ่า" เท่านั้น มันก็จะดูผิวเผินเกินไป ภูมิหลังทางประวัติศาสตร์และความสัมพันธ์ของตัวละครที่อยู่เบื้องหลัง มันดูจะซับซ้อนกว่าการที่จะเอาแต่แค่ระบายอารมณ์เพียงอย่างเดียว แม้จากมุมมองบางประการ การตัดสินใจเช่นนี้อาจสมเหตุสมผลในสมัยขณะนั้น เพื่อที่จะชี้แจงประวัติศาสตร์เรื่องนี้ให้ชัดเจนขึ้น จำเป็นจะต้องเริ่มต้นจากฮวาโถว(华佗) ปราชญ์ทางการแพทย์

    ฮวาโถว(华佗) เป็นหนึ่งในสี่หมอผู้ยิ่งใหญ่ในจีนโบราณ ผลงานที่มีชื่อเสียงที่สุดของฮฮวาโถว(华佗)ได้แก่ การออกกำลังกายห้าอย่างลอกเลียนท่าทางตามสัตว์ “อู๋ชินซี(Wuqinxi五禽戏)” “ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”และนิทานปรัมปราเรื่อง “กวนอู(关羽)ขูดกระดูกรักษาพิษ”

    การออกกำลังกายห้าอย่างลอกเลียนท่าทางตามสัตว์ “อู๋ชินซี(Wuqinxi五禽戏)” เป็นการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่เก่าแก่ที่สุดที่คิดค้นโดยฮวาโถว(华佗)ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี ฮวาโถว(华佗)ทราบดีถึงความสำคัญของการออกกำลังกายของมนุษย์ต่อสุขภาพ และสนับสนุนให้การออกกำลังกายเป็นจังหวะและสอดประสานกัน และเน้นย้ำถึงการผสมผสานระหว่างการรับประทานอาหารที่เหมาะสมและการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง

    การออกกำลังกายชุดนี้จะช่วยยืดเหยียดและออกกำลังกายไหล่ คอ ท้อง หลัง และแขนขาได้อย่างเต็มที่ โดยเลียนแบบการเคลื่อนไหวของสัตว์ทั้ง 5 ชนิด ได้แก่ เสือ กวาง หมี ลิง และนก ฮวาโถว(华佗)สนับสนุนให้ “เดินตามธรรมชาติ เดินตามทางแห่งสวรรค์” ซึ่งไม่เพียงป้องกันโรคได้เท่านั้น แต่ยังทำให้ผู้คนรู้สึกสบายกายและใจและเพิ่มความอยากอาหารอีกด้วย

    ศิษย์ของท่านอาจารย์หวู่ปู้(吴普)ยืนกรานที่จะฝึกท่าบริหารสัตว์ทั้งห้าทุกวัน และในที่สุดก็ได้มีชีวิตที่ยืนยาวและมีสุขภาพดี โดยมีอายุยืนยาวถึง 90 ปี คงทราบดีว่าในสมัยโบราณ เมื่ออายุขัยเฉลี่ยอยู่ที่ 40 หรือ 50 ปีเท่านั้น การมีชีวิตที่ยืนยาวและมีพลังมากขนาดนี้ถือเป็นเรื่องมหัศจรรย์ นี่ก็เป็นเหตุผลที่ท่าบริหารสัตว์ทั้งห้ายังคงได้รับความนิยมตลอดหลายปีที่ผ่านมา และยังคงได้รับการเคารพและสืบทอดโดยแพทย์แผนจีนแบบดั้งเดิมหลายคน

    อย่างไรก็ตาม เรื่องราวของ“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”ยังคงเป็นที่ถกเถียงกัน

    “ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”ที่ฮวาโถว(华佗)คิดค้นขึ้นเป็นยาชาที่รับประทานร่วมกับแอลกอฮอล์ ซึ่งสามารถทำให้คนไข้หมดสติชั่วคราว ช่วยให้ทำการผ่าตัดรักษาผู้บาดเจ็บได้ง่ายขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับการรักษาด้วยยาแผนจีนแบบดั้งเดิม วิธีนี้ถือว่ามีประสิทธิภาพมากกว่าและสามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้ และถือได้ว่าเป็นผลงานบุกเบิกของการผ่าตัดแบบจีนโบราณ

    อย่างไรก็ตาม เมื่อเรื่อง “กวนอู(关羽)ขูดกระดูกรักษาพิษ”เขาไม่ได้รับใช้“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)” ตามบันทึกทางประวัติศาสตร์ ฮวาโถว(华佗)และกวนอูกำลังดื่มเหล้าและเล่นหมากรุกเพื่อผ่อนคลายก่อนที่เขาจะกล้าขูดพิษลูกศรออกจากกระดูก หนังสือเล่มนี้บรรยายว่าใบมีดเสียดสีกับกระดูก ทำให้เกิดเสียง “เสียดสี” และเลือดออก แต่กวนอู(关羽)ไม่แสดงความกลัว ทำให้ฮวาโถว(华佗)อุทานออกมาว่า “ท่านแม่ทัพเป็นเทพเจ้าจริงๆ”

    แม้ว่า“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”จะไม่ได้ถูกใช้กับกวนอู(关羽) แต่มันก็แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและกล้าหาญของเขา น่าเสียดายที่ปฏิบัติการนี้อาจเป็นเครื่องพิสูจน์ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดของ“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”แต่ก็ไม่เคยเกิดขึ้นจริง

    นอกเหนือจากทักษะทางการแพทย์แล้ว ฮวาโถว(华佗)ยังเป็นบุคคลที่มีความรู้และความสามารถอีกด้วย

    ในช่วงต้นยุคสามก๊ก(三国) ผู้ที่ต้องการเข้าสู่ตำแหน่งทางการมักจะอาศัยระบบการแนะนำมากกว่าระบบการสอบของจักรพรรดิในยุคหลัง ระบบการแนะนำไม่เพียงแต่ประเมินระดับความรู้การศึกษาเท่านั้น แต่ยังกำหนดให้ต้องได้รับการแนะนำจากเจ้าหน้าที่ข้าราชการที่มีฐานะหรือบุคคลที่มีคุณธรรมสูง ยิ่งตำแหน่งทางการของผู้แนะนำสูงขึ้นเท่าใด ผู้ที่ได้รับการแนะนำก็จะได้รับตำแหน่งที่สูงขึ้นตามไปด้วยเท่านั้น

    อย่างไรก็ตาม แพทย์ไม่ได้มีสถานะทางสังคมที่สูงส่งในสมัยนั้น ภายใต้แนวคิดดั้งเดิมที่ว่า นักวิชาการ ชาวนา พ่อค้า และช่างฝีมือ มีเพียงเจ้าหน้าที่ทางข้าราชการเท่านั้นที่ได้รับการเคารพนับถือ แพทย์ไม่ได้รับการพิจารณาให้เป็นหนึ่งในสี่ชนชั้น ได้แก่ นักวิชาการ เกษตรกร พ่อค้า และช่างฝีมือเสียด้วยซ้ำ และสถานะของพวกเขาก็คล้ายคลึงกับพ่อมดแม่มด นักแสดง และอาชีพบริการอื่นๆ

    ฮวาโถว(华佗)มีความขยันพรากเพียรเรียนหนักมาตั้งแต่เด็ก และมีความต้องการที่จะประกอบอาชีพข้าราชการ ครั้งหนึ่งเขาเคยทิ้งบันทึกไว้ใน "บันทึกซานกั๋วจื้อ(Records of the Three Kingdoms三国志)" ว่า "แต่ก่อนข้าเป็นนักวิชาการ แต่ข้าหาเลี้ยงชีพด้วยการประกอบวิชาชีพทางการแพทย์ และข้าก็มักจะรู้สึกผิดหวังเสียใจ" นั่นหมายความว่าเขาต้องการมีอาชีพทางข้าราชการที่ราบรื่น อย่างไรก็ตาม เขาพลาดโอกาสที่จะเข้าสู่ตำแหน่งทางข้าราชการเพราะมีอาชีพทางการแพทย์ของเขา

    ทักษะทางการแพทย์ของเขาทำให้เขามีชื่อเสียง ผู้คนมากมายต่างเข้ามาหาเขาราวกับว่าเขาเกิดมาเพื่อเป็นหมอ อย่างไรก็ตาม ฮวาโถว(华佗)ยังไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่ข้าราชการท้องถิ่นเหล่านั้นจะเป็นผู้แนะนำ โดยคิดว่าคำแนะนำเหล่านั้นจะไม่ช่วยให้เขาได้ไปสู่ตำแหน่งสูงได้ จึงละทิ้งโอกาสที่จะเป็นข้าราชการระดับล่างซ้ำแล้วซ้ำเล่า

    ถึงกระนั้น เขาก็ยังคงปรารถนาที่จะประกอบอาชีพในสายข้าราชการ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงจิตวิทยาที่ขัดแย้งกันในสมัยโบราณที่ว่า "หมอไม่รักษาให้ตัวเอง" แม้ว่าคนๆ หนึ่งจะประสบความสำเร็จก็ตาม มันเป็นเรื่องยากที่จะหลุดพ้นจากความคิดเรื่องลำดับชั้นของสังคมศักดินา

    เมื่อชื่อเสียงเลื่องลือแพร่กระจายออกไปทั่ว ระดับตำแหน่งคนไข้ของฮวาโถว(华佗)ก็กลายเป็นผู้มีอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ โดยรวมไปถึงผู้ปกครองสูงสุดอย่างโจโฉ(曹操)ด้วย

    แล้วฮวาโถว(华佗)ถูกโจโฉ(曹操)บังคับให้รักษาจริงหรือ? เขาเป็นคนริเริ่มสมยอมในเรื่องนี้หรือเปล่า?

    คำตอบอาจจะใช่ก็ได้ เพราะฮวาโถว(华佗)ก็หวังที่จะได้ทำงานในหน่วยงานรัฐบาล แต่เนื่องจากคนที่แนะนำเขามีฐานะต่ำต้อย เขาจึงหางานได้ยาก ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงขยายเครือข่ายด้วยการประกอบวิชาชีพแพทย์เท่านั้น

    ใครจะมีพลังอำนาจมากกว่าโจโฉในเวลานี้? ถ้าเขาได้รับการชื่นชมจากโจโฉ(曹操)นั่นไม่ใช่เหมือนกับว่าเขาจะต้องโด่งดังชั่วข้ามคืนใช่ไหม?

    นอกจากนี้ ฮวาโถว(华佗)ยังมั่นใจในทักษะทางการแพทย์ของตน และเชื่อว่าตนสามารถรักษาอาการปวดหัวของโจโฉ(曹操)ได้ ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยคำเชิญอย่างเป็นทางการของโจโฉ(曹操) ฮวาโถว(华佗)จึงอาสาไป

    โจโฉ(曹操)ต้องทนทุกข์ทรมานจากอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง อันเนื่องมาจากการทำงานหนักในกิจการราชการและสงครามเป็นเวลานาน หลังจากที่ฮวาโถว(华佗)เดินทางมาถึง เขาได้ใช้การฝังเข็มเพื่อบรรเทาอาการป่วยลงอย่างมาก ซึ่งทำให้โจโฉ(曹操)มีความสุขมาก

    แต่โจโฉ(曹操)ต้องการการรักษาให้หายขาด ไม่ใช่แค่บรรเทาให้หายลงชั่วคราวเท่านั้น เมื่อได้รับคำร้องขอนี้ ฮวาโถว(华佗)ยอมรับว่าเขาสามารถใช้การฝังเข็มเพื่อชะลอโรคลงเท่านั้น ถ้าต้องการรักษาให้หายขาด จำเป็นต้องทำการผ่าตัดกระโหลกศีรษะ

    โจโฉ(曹操)โกรธมากเมื่อฮวาโถว(华佗)พูดเช่นนี้ การผ่าตัดกระโหลกศีรษะถือเป็นเรื่องที่พบได้ยากและอันตรายมากในสมัยนั้น และไม่มีใครกล้าลองโดยง่าย นิสัยขี้ระแวงของโจโฉ(曹操)ทำให้เขาไม่อาจยอมรับข้อเสนอของฮวาโถว(华佗)ได้

    ใน "บันทึกซานกั๋วจื้อ(Records of the Three Kingdoms三国志)" ได้บันทึกไว้ในหลายตอนถึงลักษณะบุคลิกนิสัยขี้ระแวงของโจโฉ(曹操) ในช่วงแรกๆ เขาล้มเหลวในการลอบสังหารตั๋งโต๊ะ(Dong Zhuo董卓) ขณะที่กำลังหลบหนี เขาได้ฆ่า ลิแปะเฉีย หรือ ลฺหวี่โป๋เชอ (Lü Boshe呂伯奢) เพื่อนที่ดีของพ่อของเขาและครอบครัวทั้งหมดโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงปรัชญาอันโหดร้ายของเขาที่ว่า "ข้ายอมทรยศโลก ดีกว่าปล่อยให้โลกทรยศข้า"

    โจโฉ(曹操)ระมัดระวังชีวิตของตนเองอย่างมาก และถึงขั้นระแวงการกระทำอันดีงามขององครักษ์ ครั้งหนึ่งเขาเคยฆ่าองครักษ์ส่วนตัวเพราะความเข้าใจผิด

    ดังนั้นเขาจะไม่ยอมให้ใครมาคุกคามความปลอดภัยของเขา และการผ่าตัดกระโหลกศีรษะเป็นเพียงภัยคุกคามในสายตาของเขาและเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้

    ในทางกลับกัน โจโฉ(曹操)ก็มีความสงสัยในนิสัยของฮวาโถว(华佗)เช่นกัน โดยคิดว่าเขาเป็นคนหยิ่งยโสและหลงตัวเอง และเขาอาจมีเจตนาอื่นใดที่เสนอวิธีการรักษาที่รุนแรงเช่นนี้ ดังนั้น โจโฉ(曹操)จึงเลือกการรักษาแบบประคับประคองและให้ฮวาโถว(华佗)ทำการฝังเข็มเป็นประจำเพื่อบรรเทาอาการ

    หลังจากเวลาผ่านไปนาน ฮวาโถว(华佗)เห็นว่าโจโฉไม่ยอมรับการผ่าตัด และไม่มีความตั้งใจที่จะให้เขาได้รับตำแหน่งสูงๆ และเงินเดือนที่สูง จึงขอลาและกลับบ้านโดยอ้างว่าภรรยาของเขาป่วยหนัก

    แม้ว่าโจโฉ(曹操)จะไม่เต็มใจ แต่เขาก็ยังคงเห็นชอบ

    ต่อมาอาการปวดหัวของโจโฉก็กลับมาอีก เขาจึงส่งคนไปขอให้ฮัวโต่วกลับมารักษาให้อีกหลายครั้ง แต่ฮวาโถว(华佗)กลับปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่า

    ในที่สุดโจโฉ(曹操)ก็ส่งคนไปตรวจสอบและพบว่าภรรยาของฮวาโถว(华佗)ไม่ได้ป่วย แต่ฮวาโถว(华佗)ไม่เต็มใจที่จะกลับมา

    ด้วยความโกรธ โจโฉ(曹操)จึงให้ควบคุมตัวฮวาโถว(华佗)และจำคุกในข้อกล่าวหา "ไม่ให้ความเคารพอย่างยิ่ง" และ "ฝ่าฝืนคำสั่ง"

    คนใกล้ชิดของเขาได้แนะนำให้โจโฉ(曹操)เมตตา แต่โจโฉ(曹操)กลับมุ่งมั่นที่จะฆ่าเขา หมอผู้ยิ่งใหญ่ผู้นี้จึงได้เสียชีวิตลงอย่างน่าเศร้า

    หลังจากสังหารฮัวโตวแล้ว โจโฉเคยเสียใจบ้างไหม? อย่างไรก็ตาม อาการปวดหัวของเขาก็ยังไม่สามารถรักษาหายได้

    ความขี้ระแวงสงสัยและความโกรธในเรื่องทางจิตใจนั้นเลวร้ายยิ่งกว่าความเจ็บปวดทางกายเสียอีก อาจจะบางทีเมื่อความเจ็บปวดกลับมาอีกครั้ง เขาอาจจะนึกถึงฮวาโถว(华佗) แต่เขาไม่เคยนึกเสียใจเลย

    ในสายตาของโจโฉ(曹操) หมอเป็นเพียงเครื่องมือและคนรับใช้ ไม่คู่ควรแก่การเคารพนับถือ หากฮวาโถว(华佗)กล้าคุกคามชีวิตตนเอง มันจะเป็นความท้าทายต่ออำนาจของเขา และจะไม่มีวันได้รับการยอมรับ

    การฆ่าฮวาโถว(华佗)เป็นเพียงการแสดงอำนาจและเป็นการเตือนทุกคนว่าไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใครก็ไม่มีใครสามารถล่วงเกินเขาได้

    ในเวลานั้น โจโฉ(曹操)กำลังเตรียมตัวสำหรับการรบที่เซ็กเพ็ก ผาแดง (Red Cliffs or Chib赤壁之戰) และจำเป็นต้องรักษาขวัญกำลังใจของกองทหารของเขา เสริมสร้างชื่อเสียง และสร้างศักดิ์ศรีที่ไม่สามารถละเมิดได้ของเขา

    การไม่ควรปล่อยให้แพทย์ควบคุมร่างกายและชีวิตของตนเองโดยเด็ดขาด ดังนั้นการฆ่าฮวาโถว(华佗)จึงกลายเป็นกลยุทธ์ทางจิตวิทยาที่จำเป็น

    ขณะที่สงครามกำลังใกล้เข้ามา โจโฉ(曹操)ในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้ขอให้ฆ่าฮวาโถว(华佗)อยู่เคียงข้างเพื่อรับการรักษา แม้ภายนอกจะแสดงให้เห็นว่าเขาใส่ใจสุขภาพของตนเอง แต่แท้จริงแล้ว นี่ถือเป็นการประกาศถึงความแข็งแกร่งของเขาต่อโลกภายนอกด้วยเช่นกัน

    การสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)เป็นการส่งสัญญาณทางอ้อมว่า "ฉันไม่กลัว" ทำให้ขวัญกำลังใจของกองทัพมั่นคงและปราบปรามศัตรูได้

    แม้ว่าสุดท้ายแล้วจะพ่ายแพ้ในยุทธการที่ผาแดง (Red Cliffs 赤壁之戰)แต่ก็ถือเป็นความผิดพลาดทางยุทธวิธี และไม่มีผลต่อเสถียรภาพของสงครามจิตวิทยาแต่อย่างใด

    จากมุมมองทางประวัติศาสตร์ การตัดสินใจของโจโฉ(曹操)ที่จะสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)นั้นถูกต้องหรือไม่นั้นเป็นคำถามที่ควรค่าแก่การหารือถกเถียง

    สิบสองปีต่อมา โจผี หรือ เฉาพี (Cao Pi曹丕)ได้สืบทอดบัลลังก์และสืบสานสไตล์ที่เด็ดขาดและเข้มแข็งของบิดาของเขา

    การกระทำของบิดาของเขาในการสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)แสดงให้โลกเห็นถึงการควบคุมที่แท้จริงของตระกูลเฉา(Cao曹)และสถานะการปกครองที่ไม่อาจท้าทายได้อย่างแน่นอน

    นอกจากนี้ยังกลายมาเป็นหลักสูตรเบื้องต้นของ เฉาพี (Cao Pi曹丕)ในหัวข้อ"ศิลปศาสตร์ของจักรพรรดิ(帝王学)" อีกด้วย

    เฉาพี (Cao Pi曹丕)สืบทอดเจตนารมณ์ และใช้การยับยั้งป้องปรามเพื่อปราบปราม สุมาอี้ หรือ ซือหม่าอี้(Sima Yi司马懿) เพื่อให้แน่ใจว่าการสืบทอดบัลลังก์ของตระกูลเฉา(Cao曹)จะมั่นคงและสืบสานราชวงศ์ต่อไปเป็นเวลาสามชั่วอายุคน

    โปรดติดตามบทความที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า

    กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ
    🤠#เหตุใดโจโฉจึงยืนกรานที่จะฆ่าหมอฮวาโถว(华佗)?🤠 🤠#12ปีต่อมาเขาก็พบว่าการตัดสินใจของเขาถูกต้อง🤠 สามก๊ก หรือ ซานกั๋วเหยี่ยนอี้(Romance of the Three Kingdoms三国演义)เป็นผลงานชิ้นเอกในประวัติศาสตร์วรรณกรรมจีนที่ใครๆ ก็รู้จัก หนังสือเล่มนี้มีโครงเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากมายซึ่งชวนติดตาม ในงานนี้ ผู้เขียนไม่ได้แยกแยะระหว่างตัวเอกและตัวประกอบอย่างชัดเจน เพราะในใจของผู้อ่านที่ชื่นชอบผลงานชิ้นนี้ ตัวละครแต่ละตัวจะเปล่งประกายด้วยความเฉลียวฉลาดและเสน่ห์เฉพาะตัว เชื่อว่าหลายๆ คนคิดเหมือนกันว่าตัวละครที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งมากที่สุดคือโจโฉ(曹操) บางคนมองว่าเขาเป็นรัฐมนตรีที่ฉลาดและสามารถควบคุมสถานการณ์ในยามยากลำบากได้ ในขณะที่บางคนมองว่าเขาเป็นคนร้ายที่ทรยศและวางแผนร้าย บางทีในสายตาของโจโฉ(曹操) ความซื่อสัตย์ภักดีและการทรยศคตโกงอาจไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด สิ่งที่เขาแสวงหาคือการรวมประเทศเป็นหนึ่ง และปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการบรรลุการรวมกันเป็นหนึ่งคือความแข็งแกร่งและความสามารถ ด้วยค่านิยมที่ว่า “ผู้มีความสามารถคือประมุข” เขาจึงให้ความสำคัญกับผลลัพธ์มากกว่าที่จะยึดติดกับข้อจำกัดทางศีลธรรมแบบเดิมๆ สิ่งนี้ยังทำให้วิธีการทำสิ่งต่างๆ (曹操) มีความพิเศษ มีเอกลักษณ์และมักจะผสมผสาน และไม่ยึดหลักเกณฑ์ธรรมดาด้วย จากมุมมองของผู้คนในปัจจุบัน เขาสามารถถูกมองว่าเป็นนักการเมืองที่มีแนวคิดก้าวหน้าและแนวคิดทางเลือกอีกแนวทางหนึ่ง หากต้องการเข้าใจความซับซ้อนของสามก๊ก(三国)อย่างแท้จริง ต้องเข้าใจความภายในใจของโจโฉ(曹操)และวิธีการจัดการกับผู้คนพร้อมกับการปฏิบัติวานของเขาเสียก่อน นอกจากนี้ บุคคลที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์จำนวนมากในช่วงยุคสามก๊ก(三国)มีปฏิสัมพันธ์สำคัญกับโจโฉ(曹操) และทั้งหมดนี้คนที่คลาสสิกที่สุดคือหมอฮวาโถว(华佗)ผู้โด่งดัง ดังที่เราทราบกันดีว่า ฮวาโถว(华佗)เสียชีวิตในท้ายที่สุดจากน้ำมือของโจโฉ(曹操) แต่หากเราหยุดอยู่แค่คำคร่ำครวญเรื่อง "หมอชื่อดังถูกฆ่า" เท่านั้น มันก็จะดูผิวเผินเกินไป ภูมิหลังทางประวัติศาสตร์และความสัมพันธ์ของตัวละครที่อยู่เบื้องหลัง มันดูจะซับซ้อนกว่าการที่จะเอาแต่แค่ระบายอารมณ์เพียงอย่างเดียว แม้จากมุมมองบางประการ การตัดสินใจเช่นนี้อาจสมเหตุสมผลในสมัยขณะนั้น เพื่อที่จะชี้แจงประวัติศาสตร์เรื่องนี้ให้ชัดเจนขึ้น จำเป็นจะต้องเริ่มต้นจากฮวาโถว(华佗) ปราชญ์ทางการแพทย์ 🥰ฮวาโถว(华佗) เป็นหนึ่งในสี่หมอผู้ยิ่งใหญ่ในจีนโบราณ ผลงานที่มีชื่อเสียงที่สุดของฮฮวาโถว(华佗)ได้แก่ การออกกำลังกายห้าอย่างลอกเลียนท่าทางตามสัตว์ “อู๋ชินซี(Wuqinxi五禽戏)” “ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”และนิทานปรัมปราเรื่อง “กวนอู(关羽)ขูดกระดูกรักษาพิษ”🥰 การออกกำลังกายห้าอย่างลอกเลียนท่าทางตามสัตว์ “อู๋ชินซี(Wuqinxi五禽戏)” เป็นการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่เก่าแก่ที่สุดที่คิดค้นโดยฮวาโถว(华佗)ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี ฮวาโถว(华佗)ทราบดีถึงความสำคัญของการออกกำลังกายของมนุษย์ต่อสุขภาพ และสนับสนุนให้การออกกำลังกายเป็นจังหวะและสอดประสานกัน และเน้นย้ำถึงการผสมผสานระหว่างการรับประทานอาหารที่เหมาะสมและการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง การออกกำลังกายชุดนี้จะช่วยยืดเหยียดและออกกำลังกายไหล่ คอ ท้อง หลัง และแขนขาได้อย่างเต็มที่ โดยเลียนแบบการเคลื่อนไหวของสัตว์ทั้ง 5 ชนิด ได้แก่ เสือ กวาง หมี ลิง และนก ฮวาโถว(华佗)สนับสนุนให้ “เดินตามธรรมชาติ เดินตามทางแห่งสวรรค์” ซึ่งไม่เพียงป้องกันโรคได้เท่านั้น แต่ยังทำให้ผู้คนรู้สึกสบายกายและใจและเพิ่มความอยากอาหารอีกด้วย ศิษย์ของท่านอาจารย์หวู่ปู้(吴普)ยืนกรานที่จะฝึกท่าบริหารสัตว์ทั้งห้าทุกวัน และในที่สุดก็ได้มีชีวิตที่ยืนยาวและมีสุขภาพดี โดยมีอายุยืนยาวถึง 90 ปี คงทราบดีว่าในสมัยโบราณ เมื่ออายุขัยเฉลี่ยอยู่ที่ 40 หรือ 50 ปีเท่านั้น การมีชีวิตที่ยืนยาวและมีพลังมากขนาดนี้ถือเป็นเรื่องมหัศจรรย์ นี่ก็เป็นเหตุผลที่ท่าบริหารสัตว์ทั้งห้ายังคงได้รับความนิยมตลอดหลายปีที่ผ่านมา และยังคงได้รับการเคารพและสืบทอดโดยแพทย์แผนจีนแบบดั้งเดิมหลายคน อย่างไรก็ตาม เรื่องราวของ“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”ยังคงเป็นที่ถกเถียงกัน “ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”ที่ฮวาโถว(华佗)คิดค้นขึ้นเป็นยาชาที่รับประทานร่วมกับแอลกอฮอล์ ซึ่งสามารถทำให้คนไข้หมดสติชั่วคราว ช่วยให้ทำการผ่าตัดรักษาผู้บาดเจ็บได้ง่ายขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับการรักษาด้วยยาแผนจีนแบบดั้งเดิม วิธีนี้ถือว่ามีประสิทธิภาพมากกว่าและสามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้ และถือได้ว่าเป็นผลงานบุกเบิกของการผ่าตัดแบบจีนโบราณ อย่างไรก็ตาม เมื่อเรื่อง “กวนอู(关羽)ขูดกระดูกรักษาพิษ”เขาไม่ได้รับใช้“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)” ตามบันทึกทางประวัติศาสตร์ ฮวาโถว(华佗)และกวนอูกำลังดื่มเหล้าและเล่นหมากรุกเพื่อผ่อนคลายก่อนที่เขาจะกล้าขูดพิษลูกศรออกจากกระดูก หนังสือเล่มนี้บรรยายว่าใบมีดเสียดสีกับกระดูก ทำให้เกิดเสียง “เสียดสี” และเลือดออก แต่กวนอู(关羽)ไม่แสดงความกลัว ทำให้ฮวาโถว(华佗)อุทานออกมาว่า “ท่านแม่ทัพเป็นเทพเจ้าจริงๆ” แม้ว่า“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”จะไม่ได้ถูกใช้กับกวนอู(关羽) แต่มันก็แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและกล้าหาญของเขา น่าเสียดายที่ปฏิบัติการนี้อาจเป็นเครื่องพิสูจน์ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดของ“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”แต่ก็ไม่เคยเกิดขึ้นจริง นอกเหนือจากทักษะทางการแพทย์แล้ว ฮวาโถว(华佗)ยังเป็นบุคคลที่มีความรู้และความสามารถอีกด้วย ในช่วงต้นยุคสามก๊ก(三国) ผู้ที่ต้องการเข้าสู่ตำแหน่งทางการมักจะอาศัยระบบการแนะนำมากกว่าระบบการสอบของจักรพรรดิในยุคหลัง ระบบการแนะนำไม่เพียงแต่ประเมินระดับความรู้การศึกษาเท่านั้น แต่ยังกำหนดให้ต้องได้รับการแนะนำจากเจ้าหน้าที่ข้าราชการที่มีฐานะหรือบุคคลที่มีคุณธรรมสูง ยิ่งตำแหน่งทางการของผู้แนะนำสูงขึ้นเท่าใด ผู้ที่ได้รับการแนะนำก็จะได้รับตำแหน่งที่สูงขึ้นตามไปด้วยเท่านั้น อย่างไรก็ตาม แพทย์ไม่ได้มีสถานะทางสังคมที่สูงส่งในสมัยนั้น ภายใต้แนวคิดดั้งเดิมที่ว่า นักวิชาการ ชาวนา พ่อค้า และช่างฝีมือ มีเพียงเจ้าหน้าที่ทางข้าราชการเท่านั้นที่ได้รับการเคารพนับถือ แพทย์ไม่ได้รับการพิจารณาให้เป็นหนึ่งในสี่ชนชั้น ได้แก่ นักวิชาการ เกษตรกร พ่อค้า และช่างฝีมือเสียด้วยซ้ำ และสถานะของพวกเขาก็คล้ายคลึงกับพ่อมดแม่มด นักแสดง และอาชีพบริการอื่นๆ ฮวาโถว(华佗)มีความขยันพรากเพียรเรียนหนักมาตั้งแต่เด็ก และมีความต้องการที่จะประกอบอาชีพข้าราชการ ครั้งหนึ่งเขาเคยทิ้งบันทึกไว้ใน "บันทึกซานกั๋วจื้อ(Records of the Three Kingdoms三国志)" ว่า "แต่ก่อนข้าเป็นนักวิชาการ แต่ข้าหาเลี้ยงชีพด้วยการประกอบวิชาชีพทางการแพทย์ และข้าก็มักจะรู้สึกผิดหวังเสียใจ" นั่นหมายความว่าเขาต้องการมีอาชีพทางข้าราชการที่ราบรื่น อย่างไรก็ตาม เขาพลาดโอกาสที่จะเข้าสู่ตำแหน่งทางข้าราชการเพราะมีอาชีพทางการแพทย์ของเขา ทักษะทางการแพทย์ของเขาทำให้เขามีชื่อเสียง ผู้คนมากมายต่างเข้ามาหาเขาราวกับว่าเขาเกิดมาเพื่อเป็นหมอ อย่างไรก็ตาม ฮวาโถว(华佗)ยังไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่ข้าราชการท้องถิ่นเหล่านั้นจะเป็นผู้แนะนำ โดยคิดว่าคำแนะนำเหล่านั้นจะไม่ช่วยให้เขาได้ไปสู่ตำแหน่งสูงได้ จึงละทิ้งโอกาสที่จะเป็นข้าราชการระดับล่างซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถึงกระนั้น เขาก็ยังคงปรารถนาที่จะประกอบอาชีพในสายข้าราชการ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงจิตวิทยาที่ขัดแย้งกันในสมัยโบราณที่ว่า "หมอไม่รักษาให้ตัวเอง" แม้ว่าคนๆ หนึ่งจะประสบความสำเร็จก็ตาม มันเป็นเรื่องยากที่จะหลุดพ้นจากความคิดเรื่องลำดับชั้นของสังคมศักดินา เมื่อชื่อเสียงเลื่องลือแพร่กระจายออกไปทั่ว ระดับตำแหน่งคนไข้ของฮวาโถว(华佗)ก็กลายเป็นผู้มีอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ โดยรวมไปถึงผู้ปกครองสูงสุดอย่างโจโฉ(曹操)ด้วย 🥰แล้วฮวาโถว(华佗)ถูกโจโฉ(曹操)บังคับให้รักษาจริงหรือ? เขาเป็นคนริเริ่มสมยอมในเรื่องนี้หรือเปล่า?🥰 คำตอบอาจจะใช่ก็ได้ เพราะฮวาโถว(华佗)ก็หวังที่จะได้ทำงานในหน่วยงานรัฐบาล แต่เนื่องจากคนที่แนะนำเขามีฐานะต่ำต้อย เขาจึงหางานได้ยาก ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงขยายเครือข่ายด้วยการประกอบวิชาชีพแพทย์เท่านั้น 🥰ใครจะมีพลังอำนาจมากกว่าโจโฉในเวลานี้? ถ้าเขาได้รับการชื่นชมจากโจโฉ(曹操)นั่นไม่ใช่เหมือนกับว่าเขาจะต้องโด่งดังชั่วข้ามคืนใช่ไหม? 🥰 นอกจากนี้ ฮวาโถว(华佗)ยังมั่นใจในทักษะทางการแพทย์ของตน และเชื่อว่าตนสามารถรักษาอาการปวดหัวของโจโฉ(曹操)ได้ ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยคำเชิญอย่างเป็นทางการของโจโฉ(曹操) ฮวาโถว(华佗)จึงอาสาไป โจโฉ(曹操)ต้องทนทุกข์ทรมานจากอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง อันเนื่องมาจากการทำงานหนักในกิจการราชการและสงครามเป็นเวลานาน หลังจากที่ฮวาโถว(华佗)เดินทางมาถึง เขาได้ใช้การฝังเข็มเพื่อบรรเทาอาการป่วยลงอย่างมาก ซึ่งทำให้โจโฉ(曹操)มีความสุขมาก แต่โจโฉ(曹操)ต้องการการรักษาให้หายขาด ไม่ใช่แค่บรรเทาให้หายลงชั่วคราวเท่านั้น เมื่อได้รับคำร้องขอนี้ ฮวาโถว(华佗)ยอมรับว่าเขาสามารถใช้การฝังเข็มเพื่อชะลอโรคลงเท่านั้น ถ้าต้องการรักษาให้หายขาด จำเป็นต้องทำการผ่าตัดกระโหลกศีรษะ โจโฉ(曹操)โกรธมากเมื่อฮวาโถว(华佗)พูดเช่นนี้ การผ่าตัดกระโหลกศีรษะถือเป็นเรื่องที่พบได้ยากและอันตรายมากในสมัยนั้น และไม่มีใครกล้าลองโดยง่าย นิสัยขี้ระแวงของโจโฉ(曹操)ทำให้เขาไม่อาจยอมรับข้อเสนอของฮวาโถว(华佗)ได้ 🥰ใน "บันทึกซานกั๋วจื้อ(Records of the Three Kingdoms三国志)" ได้บันทึกไว้ในหลายตอนถึงลักษณะบุคลิกนิสัยขี้ระแวงของโจโฉ(曹操) ในช่วงแรกๆ เขาล้มเหลวในการลอบสังหารตั๋งโต๊ะ(Dong Zhuo董卓) ขณะที่กำลังหลบหนี เขาได้ฆ่า ลิแปะเฉีย หรือ ลฺหวี่โป๋เชอ (Lü Boshe呂伯奢) เพื่อนที่ดีของพ่อของเขาและครอบครัวทั้งหมดโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงปรัชญาอันโหดร้ายของเขาที่ว่า "ข้ายอมทรยศโลก ดีกว่าปล่อยให้โลกทรยศข้า"🥰 โจโฉ(曹操)ระมัดระวังชีวิตของตนเองอย่างมาก และถึงขั้นระแวงการกระทำอันดีงามขององครักษ์ ครั้งหนึ่งเขาเคยฆ่าองครักษ์ส่วนตัวเพราะความเข้าใจผิด ดังนั้นเขาจะไม่ยอมให้ใครมาคุกคามความปลอดภัยของเขา และการผ่าตัดกระโหลกศีรษะเป็นเพียงภัยคุกคามในสายตาของเขาและเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ ในทางกลับกัน โจโฉ(曹操)ก็มีความสงสัยในนิสัยของฮวาโถว(华佗)เช่นกัน โดยคิดว่าเขาเป็นคนหยิ่งยโสและหลงตัวเอง และเขาอาจมีเจตนาอื่นใดที่เสนอวิธีการรักษาที่รุนแรงเช่นนี้ ดังนั้น โจโฉ(曹操)จึงเลือกการรักษาแบบประคับประคองและให้ฮวาโถว(华佗)ทำการฝังเข็มเป็นประจำเพื่อบรรเทาอาการ หลังจากเวลาผ่านไปนาน ฮวาโถว(华佗)เห็นว่าโจโฉไม่ยอมรับการผ่าตัด และไม่มีความตั้งใจที่จะให้เขาได้รับตำแหน่งสูงๆ และเงินเดือนที่สูง จึงขอลาและกลับบ้านโดยอ้างว่าภรรยาของเขาป่วยหนัก แม้ว่าโจโฉ(曹操)จะไม่เต็มใจ แต่เขาก็ยังคงเห็นชอบ ต่อมาอาการปวดหัวของโจโฉก็กลับมาอีก เขาจึงส่งคนไปขอให้ฮัวโต่วกลับมารักษาให้อีกหลายครั้ง แต่ฮวาโถว(华佗)กลับปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในที่สุดโจโฉ(曹操)ก็ส่งคนไปตรวจสอบและพบว่าภรรยาของฮวาโถว(华佗)ไม่ได้ป่วย แต่ฮวาโถว(华佗)ไม่เต็มใจที่จะกลับมา ด้วยความโกรธ โจโฉ(曹操)จึงให้ควบคุมตัวฮวาโถว(华佗)และจำคุกในข้อกล่าวหา "ไม่ให้ความเคารพอย่างยิ่ง" และ "ฝ่าฝืนคำสั่ง" คนใกล้ชิดของเขาได้แนะนำให้โจโฉ(曹操)เมตตา แต่โจโฉ(曹操)กลับมุ่งมั่นที่จะฆ่าเขา หมอผู้ยิ่งใหญ่ผู้นี้จึงได้เสียชีวิตลงอย่างน่าเศร้า 🥰หลังจากสังหารฮัวโตวแล้ว โจโฉเคยเสียใจบ้างไหม? อย่างไรก็ตาม อาการปวดหัวของเขาก็ยังไม่สามารถรักษาหายได้🥰 ความขี้ระแวงสงสัยและความโกรธในเรื่องทางจิตใจนั้นเลวร้ายยิ่งกว่าความเจ็บปวดทางกายเสียอีก อาจจะบางทีเมื่อความเจ็บปวดกลับมาอีกครั้ง เขาอาจจะนึกถึงฮวาโถว(华佗) แต่เขาไม่เคยนึกเสียใจเลย ในสายตาของโจโฉ(曹操) หมอเป็นเพียงเครื่องมือและคนรับใช้ ไม่คู่ควรแก่การเคารพนับถือ หากฮวาโถว(华佗)กล้าคุกคามชีวิตตนเอง มันจะเป็นความท้าทายต่ออำนาจของเขา และจะไม่มีวันได้รับการยอมรับ การฆ่าฮวาโถว(华佗)เป็นเพียงการแสดงอำนาจและเป็นการเตือนทุกคนว่าไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใครก็ไม่มีใครสามารถล่วงเกินเขาได้ 🥰ในเวลานั้น โจโฉ(曹操)กำลังเตรียมตัวสำหรับการรบที่เซ็กเพ็ก ผาแดง (Red Cliffs or Chib赤壁之戰) และจำเป็นต้องรักษาขวัญกำลังใจของกองทหารของเขา เสริมสร้างชื่อเสียง และสร้างศักดิ์ศรีที่ไม่สามารถละเมิดได้ของเขา🥰 การไม่ควรปล่อยให้แพทย์ควบคุมร่างกายและชีวิตของตนเองโดยเด็ดขาด ดังนั้นการฆ่าฮวาโถว(华佗)จึงกลายเป็นกลยุทธ์ทางจิตวิทยาที่จำเป็น ขณะที่สงครามกำลังใกล้เข้ามา โจโฉ(曹操)ในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้ขอให้ฆ่าฮวาโถว(华佗)อยู่เคียงข้างเพื่อรับการรักษา แม้ภายนอกจะแสดงให้เห็นว่าเขาใส่ใจสุขภาพของตนเอง แต่แท้จริงแล้ว นี่ถือเป็นการประกาศถึงความแข็งแกร่งของเขาต่อโลกภายนอกด้วยเช่นกัน การสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)เป็นการส่งสัญญาณทางอ้อมว่า "ฉันไม่กลัว" ทำให้ขวัญกำลังใจของกองทัพมั่นคงและปราบปรามศัตรูได้ แม้ว่าสุดท้ายแล้วจะพ่ายแพ้ในยุทธการที่ผาแดง (Red Cliffs 赤壁之戰)แต่ก็ถือเป็นความผิดพลาดทางยุทธวิธี และไม่มีผลต่อเสถียรภาพของสงครามจิตวิทยาแต่อย่างใด 🥰จากมุมมองทางประวัติศาสตร์ การตัดสินใจของโจโฉ(曹操)ที่จะสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)นั้นถูกต้องหรือไม่นั้นเป็นคำถามที่ควรค่าแก่การหารือถกเถียง🥰 สิบสองปีต่อมา โจผี หรือ เฉาพี (Cao Pi曹丕)ได้สืบทอดบัลลังก์และสืบสานสไตล์ที่เด็ดขาดและเข้มแข็งของบิดาของเขา การกระทำของบิดาของเขาในการสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)แสดงให้โลกเห็นถึงการควบคุมที่แท้จริงของตระกูลเฉา(Cao曹)และสถานะการปกครองที่ไม่อาจท้าทายได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังกลายมาเป็นหลักสูตรเบื้องต้นของ เฉาพี (Cao Pi曹丕)ในหัวข้อ"ศิลปศาสตร์ของจักรพรรดิ(帝王学)" อีกด้วย เฉาพี (Cao Pi曹丕)สืบทอดเจตนารมณ์ และใช้การยับยั้งป้องปรามเพื่อปราบปราม สุมาอี้ หรือ ซือหม่าอี้(Sima Yi司马懿) เพื่อให้แน่ใจว่าการสืบทอดบัลลังก์ของตระกูลเฉา(Cao曹)จะมั่นคงและสืบสานราชวงศ์ต่อไปเป็นเวลาสามชั่วอายุคน 💓โปรดติดตามบทความที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า💓 😍กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ😍
    0 Comments 0 Shares 220 Views 0 Reviews
  • ..555,เอาจริงๆนะ จะทหารจะตำรวจ จะข้าราชการระดับหัวหน้าส่วนหัวหน้าแผนกขึ้นไปในทุกๆหน่วยงานของระบบราชการไทย แค่ตั้งคำถามว่า เงินที่เกินมากมายนี้ท่านได้แต่ใดมา?ก็อาจเพียงพอแล้ว ในคนพวกนี้ ตรวจสอบคนรอบข้างในสายสัมพันธ์เขาอีก โอนเข้ามากมายเกินวิสัยคนมีงานทำมีเงินเดือนจะเก็บได้มากขนาดนั่นอีกอาจมีหนาวทั่วประเทศ,ตรวจสอบกระแสบัญชีเงินไหลเข้าไหลออกผ่านบัญชีอีกทั้งคนรู้จักคนแปลกหน้าคนรับเหมางานประมูลก่อสร้าง เงินผิดปกติเหล่านี้ท่านได้อย่างไรมา?ก็ว่าอีก,อาจมีคุกหลายๆคนทั่วประเทศ,เขายายเช้าเขายายสายเขายายเที่ยงเขายายเย็นอีกและเขาสาระพัดเขาก็ว่าที่ทั้งราชการนักการเมืองเจ้าสัวพ่อค้าครอบครองที่สาธารณะของหลวงทั่วไทยมีตรึมแน่นอน,หากตรวจสอบพบ ในปัจจุบัน เจ้าหน้าที่ที่ผ่านมาและรับผิดชอบปัจจุบันโดนคดีหมด,ถ้านายกฯใหม่พูดแบบนี้นะเชื่อว่า อาจมีคนติดคุกเยอะแยะมากๆ,หากรายงานก่อนกำหนดตามความเป็นจริงจะไม่ดำเนินคดีใดๆย้อนหลังทั้งหมด,ให้โอกาสกลับเนื้อกลับตัวกลับใจ,หาไม่สำนึก จะถูกยึดทรัพย์สินทั้งหมดพร้อมดำเนินคดีทุจริตต่อแผ่นดินและทุจริตในหน้าที่ถึงที่สุด.,นี้จะเป็นจังหวะเก็บกวาด กวาดล้างของจริงด้วย.

    https://youtube.com/shorts/62p7tM2rW3c?si=1NiYxA1H_azGf6KX
    ..555,เอาจริงๆนะ จะทหารจะตำรวจ จะข้าราชการระดับหัวหน้าส่วนหัวหน้าแผนกขึ้นไปในทุกๆหน่วยงานของระบบราชการไทย แค่ตั้งคำถามว่า เงินที่เกินมากมายนี้ท่านได้แต่ใดมา?ก็อาจเพียงพอแล้ว ในคนพวกนี้ ตรวจสอบคนรอบข้างในสายสัมพันธ์เขาอีก โอนเข้ามากมายเกินวิสัยคนมีงานทำมีเงินเดือนจะเก็บได้มากขนาดนั่นอีกอาจมีหนาวทั่วประเทศ,ตรวจสอบกระแสบัญชีเงินไหลเข้าไหลออกผ่านบัญชีอีกทั้งคนรู้จักคนแปลกหน้าคนรับเหมางานประมูลก่อสร้าง เงินผิดปกติเหล่านี้ท่านได้อย่างไรมา?ก็ว่าอีก,อาจมีคุกหลายๆคนทั่วประเทศ,เขายายเช้าเขายายสายเขายายเที่ยงเขายายเย็นอีกและเขาสาระพัดเขาก็ว่าที่ทั้งราชการนักการเมืองเจ้าสัวพ่อค้าครอบครองที่สาธารณะของหลวงทั่วไทยมีตรึมแน่นอน,หากตรวจสอบพบ ในปัจจุบัน เจ้าหน้าที่ที่ผ่านมาและรับผิดชอบปัจจุบันโดนคดีหมด,ถ้านายกฯใหม่พูดแบบนี้นะเชื่อว่า อาจมีคนติดคุกเยอะแยะมากๆ,หากรายงานก่อนกำหนดตามความเป็นจริงจะไม่ดำเนินคดีใดๆย้อนหลังทั้งหมด,ให้โอกาสกลับเนื้อกลับตัวกลับใจ,หาไม่สำนึก จะถูกยึดทรัพย์สินทั้งหมดพร้อมดำเนินคดีทุจริตต่อแผ่นดินและทุจริตในหน้าที่ถึงที่สุด.,นี้จะเป็นจังหวะเก็บกวาด กวาดล้างของจริงด้วย. https://youtube.com/shorts/62p7tM2rW3c?si=1NiYxA1H_azGf6KX
    0 Comments 0 Shares 94 Views 0 Reviews
  • บริษัทไหนอยากเลิกงานไวๆ
    ทำแบบรัฐบาล ให้พนักงานโหวต
    เผื่อได้กลับบ้านก่อนบ่าย
    สส.รัฐบาลทำงานไม่คุ้มเงินเดือน
    #7ดอกจิก
    บริษัทไหนอยากเลิกงานไวๆ ทำแบบรัฐบาล ให้พนักงานโหวต เผื่อได้กลับบ้านก่อนบ่าย สส.รัฐบาลทำงานไม่คุ้มเงินเดือน #7ดอกจิก
    0 Comments 0 Shares 105 Views 0 Reviews
  • เมื่อก่อน ถ้าเรียนคอมฯ ก็ต้องเรียนเขียนโค้ด จดจำ syntax จัดการอัลกอริธึม…แต่วันนี้ AI อย่าง Copilot, ChatGPT หรือ Claude ก็ “เขียนให้เราได้หมด” → ทำให้หลายคนเริ่มตั้งคำถามว่า “จำเป็นไหมที่นักศึกษายังต้องเรียนเขียนโค้ดจาก 0?”

    จากรายงานของ TechSpot พบว่า:
    - หลายมหาวิทยาลัย เช่น Carnegie Mellon University (CMU) กำลัง “รีเซ็ต” หลักสูตร
    - เน้น “การคิดเชิงระบบ + ความเข้าใจพื้นฐาน AI” มากกว่าทักษะเชิงเทคนิคล้วน ๆ
    - นักศึกษาเริ่มใช้ AI เป็น “ไม้เท้า” แต่อาจลืมว่า “ยังต้องรู้ว่ากำลังเดินไปไหน”

    บางวิชาก็อนุญาตให้ใช้ AI ได้ตั้งแต่ปีแรก → สุดท้ายพบว่า นักศึกษาใช้ AI ทำการบ้าน แล้ว “ไม่เข้าใจโค้ดครึ่งหนึ่งที่ได้มา” → ทำให้หลายคนเริ่มกลับไปตั้งใจเรียนเขียนโค้ดเอง

    ผลกระทบยังไปไกลถึงตลาดแรงงาน → งานสาย software entry-level ถูกลดลงอย่างชัดเจน (ลด 65% ในรอบ 3 ปี ตามข้อมูลของ CompTIA) → นักศึกษาที่เคยคิดว่า “เรียนคอม = จบแล้วได้เงินเดือนดี” ก็เริ่มวางแผนเรียน minor ด้านอื่น ๆ เพิ่ม เช่น ความมั่นคงปลอดภัย, ปัญญาสังคม, หรือการเมือง

    มีข้อเสนอว่าวิทยาการคอมพิวเตอร์จะกลายเป็นเหมือน “วิชาศิลปศาสตร์ยุคใหม่” ที่ต้องผสานทักษะด้านเทคนิค + ความคิดเชิงวิพากษ์ + การสื่อสาร เพื่ออยู่รอดในยุคที่ AI เป็นเพื่อนร่วมงานทุกที่

    หลายมหาวิทยาลัยสหรัฐฯ ปรับหลักสูตรคอมพิวเตอร์ เน้น “AI literacy” และ “computational thinking”  
    • ลดการเน้น syntax ของภาษาโปรแกรม  
    • สนับสนุนวิชาข้ามศาสตร์ เช่น คอมพิวเตอร์ + ชีววิทยา, คอมฯ + นโยบาย

    Carnegie Mellon University เป็นหนึ่งในผู้นำการเปลี่ยนแปลง  
    • บางวิชาอนุญาตให้นักศึกษาใช้ AI ทำการบ้าน  
    • แต่พบว่า AI ทำให้ “หลงทาง” และไม่เข้าใจโค้ดจริง  
    • ทำให้นักศึกษาหลายคนกลับมาสนใจเรียน code อย่างตั้งใจอีกครั้ง

    NSF จัดโครงการ ‘Level Up AI’ เพื่อร่วมกำหนด “พื้นฐานด้าน AI” สำหรับนักศึกษาสายคอม  
    • ร่วมมือกับสมาคมวิจัย (Computing Research Association) และมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ  
    • ระยะโครงการ 18 เดือน

    แนวโน้ม: คอมพิวเตอร์อาจกลายเป็นวิชา “พื้นฐาน” ที่เหมือนศิลปศาสตร์ยุคใหม่  
    • ต้องใช้ทักษะคิดวิเคราะห์–สื่อสาร–เข้าใจสังคมควบคู่กับเทคนิค

    หลายคนใช้ AI ช่วย coding แต่เริ่มระวังไม่ให้ใช้จน “ทื่อ” หรือไม่มีพื้นฐาน

    https://www.techspot.com/news/108574-universities-rethinking-computer-science-curriculum-response-ai-tools.html
    เมื่อก่อน ถ้าเรียนคอมฯ ก็ต้องเรียนเขียนโค้ด จดจำ syntax จัดการอัลกอริธึม…แต่วันนี้ AI อย่าง Copilot, ChatGPT หรือ Claude ก็ “เขียนให้เราได้หมด” → ทำให้หลายคนเริ่มตั้งคำถามว่า “จำเป็นไหมที่นักศึกษายังต้องเรียนเขียนโค้ดจาก 0?” จากรายงานของ TechSpot พบว่า: - หลายมหาวิทยาลัย เช่น Carnegie Mellon University (CMU) กำลัง “รีเซ็ต” หลักสูตร - เน้น “การคิดเชิงระบบ + ความเข้าใจพื้นฐาน AI” มากกว่าทักษะเชิงเทคนิคล้วน ๆ - นักศึกษาเริ่มใช้ AI เป็น “ไม้เท้า” แต่อาจลืมว่า “ยังต้องรู้ว่ากำลังเดินไปไหน” บางวิชาก็อนุญาตให้ใช้ AI ได้ตั้งแต่ปีแรก → สุดท้ายพบว่า นักศึกษาใช้ AI ทำการบ้าน แล้ว “ไม่เข้าใจโค้ดครึ่งหนึ่งที่ได้มา” → ทำให้หลายคนเริ่มกลับไปตั้งใจเรียนเขียนโค้ดเอง ผลกระทบยังไปไกลถึงตลาดแรงงาน → งานสาย software entry-level ถูกลดลงอย่างชัดเจน (ลด 65% ในรอบ 3 ปี ตามข้อมูลของ CompTIA) → นักศึกษาที่เคยคิดว่า “เรียนคอม = จบแล้วได้เงินเดือนดี” ก็เริ่มวางแผนเรียน minor ด้านอื่น ๆ เพิ่ม เช่น ความมั่นคงปลอดภัย, ปัญญาสังคม, หรือการเมือง มีข้อเสนอว่าวิทยาการคอมพิวเตอร์จะกลายเป็นเหมือน “วิชาศิลปศาสตร์ยุคใหม่” ที่ต้องผสานทักษะด้านเทคนิค + ความคิดเชิงวิพากษ์ + การสื่อสาร เพื่ออยู่รอดในยุคที่ AI เป็นเพื่อนร่วมงานทุกที่ ✅ หลายมหาวิทยาลัยสหรัฐฯ ปรับหลักสูตรคอมพิวเตอร์ เน้น “AI literacy” และ “computational thinking”   • ลดการเน้น syntax ของภาษาโปรแกรม   • สนับสนุนวิชาข้ามศาสตร์ เช่น คอมพิวเตอร์ + ชีววิทยา, คอมฯ + นโยบาย ✅ Carnegie Mellon University เป็นหนึ่งในผู้นำการเปลี่ยนแปลง   • บางวิชาอนุญาตให้นักศึกษาใช้ AI ทำการบ้าน   • แต่พบว่า AI ทำให้ “หลงทาง” และไม่เข้าใจโค้ดจริง   • ทำให้นักศึกษาหลายคนกลับมาสนใจเรียน code อย่างตั้งใจอีกครั้ง ✅ NSF จัดโครงการ ‘Level Up AI’ เพื่อร่วมกำหนด “พื้นฐานด้าน AI” สำหรับนักศึกษาสายคอม   • ร่วมมือกับสมาคมวิจัย (Computing Research Association) และมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ   • ระยะโครงการ 18 เดือน ✅ แนวโน้ม: คอมพิวเตอร์อาจกลายเป็นวิชา “พื้นฐาน” ที่เหมือนศิลปศาสตร์ยุคใหม่   • ต้องใช้ทักษะคิดวิเคราะห์–สื่อสาร–เข้าใจสังคมควบคู่กับเทคนิค ✅ หลายคนใช้ AI ช่วย coding แต่เริ่มระวังไม่ให้ใช้จน “ทื่อ” หรือไม่มีพื้นฐาน https://www.techspot.com/news/108574-universities-rethinking-computer-science-curriculum-response-ai-tools.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Universities are rethinking computer science curriculum in response to AI tools
    Generative AI is making its presence felt across academia, but its impact is most pronounced in computer science. The introduction of AI assistants by major tech companies...
    0 Comments 0 Shares 158 Views 0 Reviews
  • ตอนที่พูดถึง “งานเงินดีในวงการเซมิคอนดักเตอร์” ส่วนใหญ่คนมักจะนึกถึง TSMC — เจ้าพ่อโรงงานผลิตชิปของโลกที่รับผลิตให้ Apple, Nvidia ฯลฯ แต่ข้อมูลล่าสุดจากรายงานของ ITHome กลับเผยสิ่งตรงกันข้ามเล็กน้อย: → พนักงานทั่วไป (non-executive, full-time) ที่ MediaTek ได้เงินเดือนเฉลี่ยสูงสุดในไต้หวัน คือ NT$4.31 ล้าน/ปี (~$149,000) → ขณะที่ TSMC อยู่อันดับ 7 เท่านั้น ด้วยค่าเฉลี่ย NT$3.391 ล้าน/ปี (~$117,000) → Realtek ตามมาในอันดับ 2 ด้วย NT$3.915 ล้าน/ปี (~$135,000)

    นั่นหมายความว่า MediaTek เป็นบริษัทเดียวที่จ่ายเกิน 4 ล้านไต้หวันดอลลาร์/ปี ให้พนักงานทั่วไป และที่น่าทึ่งยิ่งกว่าคือ… ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นถึง 14.81% จากปี 2023 สวนทางกับหลายบริษัทที่กำลังรัดเข็มขัด

    เหตุผลอาจมาจากหลายด้าน เช่น
    - MediaTek มีพนักงานเพียง ~22,000 คน เทียบกับ TSMC ที่มีมากถึง ~83,000 คน
    - แปลว่าอาจบริหารสัดส่วนค่าตอบแทน–ประสิทธิภาพเฉลี่ยได้เข้มข้นกว่า
    - และที่สำคัญ — MediaTek ยังได้รับเลือกเป็นหนึ่งใน “บริษัทน่าทำงานด้วยที่สุด” ของไต้หวันด้วย

    https://wccftech.com/mediatek-only-taiwan-listed-company-whose-employees-are-paid-nt4-million-annually/
    ตอนที่พูดถึง “งานเงินดีในวงการเซมิคอนดักเตอร์” ส่วนใหญ่คนมักจะนึกถึง TSMC — เจ้าพ่อโรงงานผลิตชิปของโลกที่รับผลิตให้ Apple, Nvidia ฯลฯ แต่ข้อมูลล่าสุดจากรายงานของ ITHome กลับเผยสิ่งตรงกันข้ามเล็กน้อย: → พนักงานทั่วไป (non-executive, full-time) ที่ MediaTek ได้เงินเดือนเฉลี่ยสูงสุดในไต้หวัน คือ NT$4.31 ล้าน/ปี (~$149,000) → ขณะที่ TSMC อยู่อันดับ 7 เท่านั้น ด้วยค่าเฉลี่ย NT$3.391 ล้าน/ปี (~$117,000) → Realtek ตามมาในอันดับ 2 ด้วย NT$3.915 ล้าน/ปี (~$135,000) นั่นหมายความว่า MediaTek เป็นบริษัทเดียวที่จ่ายเกิน 4 ล้านไต้หวันดอลลาร์/ปี ให้พนักงานทั่วไป และที่น่าทึ่งยิ่งกว่าคือ… ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นถึง 14.81% จากปี 2023 สวนทางกับหลายบริษัทที่กำลังรัดเข็มขัด เหตุผลอาจมาจากหลายด้าน เช่น - MediaTek มีพนักงานเพียง ~22,000 คน เทียบกับ TSMC ที่มีมากถึง ~83,000 คน - แปลว่าอาจบริหารสัดส่วนค่าตอบแทน–ประสิทธิภาพเฉลี่ยได้เข้มข้นกว่า - และที่สำคัญ — MediaTek ยังได้รับเลือกเป็นหนึ่งใน “บริษัทน่าทำงานด้วยที่สุด” ของไต้หวันด้วย https://wccftech.com/mediatek-only-taiwan-listed-company-whose-employees-are-paid-nt4-million-annually/
    0 Comments 0 Shares 128 Views 0 Reviews
  • เรื่องเริ่มจาก Suhail Doshi อดีต CEO ของ Mixpanel ออกมาโพสต์เตือนบน X ว่า

    “ระวังผู้ชายชื่อ Soham Parekh เขาทำงานให้สตาร์ทอัป 3–4 แห่งพร้อมกัน และยังไม่หยุด แม้ผมจะไล่เขาออกตั้งแต่สัปดาห์แรก”

    หลังจากนั้นผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัปอื่น ๆ ก็เริ่มออกมาเล่าประสบการณ์คล้ายกัน → Parekh มักจะทำผลงานได้ดีมากในการสัมภาษณ์ (ถึงขั้น “ชนะขาดจากผู้สมัคร 50 คน”) → ได้รับข้อเสนองานที่เงินเดือนสูงถึง $200,000 ต่อปี → แต่พอเริ่มงานจริง เขามักอ้างเหตุฉุกเฉินเช่น น้ำท่วม ป่วย หรือแม้แต่ “โดรนโจมตีตึก” แล้วไม่ส่งงาน

    บางคนตรวจพบจาก GitHub ว่าเขายัง commit โค้ดอยู่ ในช่วงที่อ้างว่าป่วย → และมีคลิปวิดีโอที่แสดงว่าเขาทำงานให้บริษัทอื่นอยู่จริง → มีหลายบริษัทในกลุ่ม Y Combinator ที่ค้นพบว่าจ้าง Parekh พร้อมกันโดยไม่รู้ตัว

    สุดท้าย Parekh ยอมรับแบบตรง ๆ ในรายการ TBPN ว่า

    “มันจริง ผมไม่ได้ภูมิใจ และไม่แนะนำใครทำตาม…แต่ผมทำเพราะสถานการณ์การเงินแย่มาก” และตอนนี้เขาประกาศว่าจะทำงานให้บริษัทเดียวเท่านั้น โดยได้รับโอกาสใหม่จากสตาร์ทอัปชื่อ Darwin ซึ่งออกมายืนยันว่า “เรายังเชื่อในความสามารถของเขา”

    https://www.techspot.com/news/108566-crushed-interview-silicon-valley-duped-software-engineer-secretly.html
    เรื่องเริ่มจาก Suhail Doshi อดีต CEO ของ Mixpanel ออกมาโพสต์เตือนบน X ว่า “ระวังผู้ชายชื่อ Soham Parekh เขาทำงานให้สตาร์ทอัป 3–4 แห่งพร้อมกัน และยังไม่หยุด แม้ผมจะไล่เขาออกตั้งแต่สัปดาห์แรก” หลังจากนั้นผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัปอื่น ๆ ก็เริ่มออกมาเล่าประสบการณ์คล้ายกัน → Parekh มักจะทำผลงานได้ดีมากในการสัมภาษณ์ (ถึงขั้น “ชนะขาดจากผู้สมัคร 50 คน”) → ได้รับข้อเสนองานที่เงินเดือนสูงถึง $200,000 ต่อปี → แต่พอเริ่มงานจริง เขามักอ้างเหตุฉุกเฉินเช่น น้ำท่วม ป่วย หรือแม้แต่ “โดรนโจมตีตึก” แล้วไม่ส่งงาน บางคนตรวจพบจาก GitHub ว่าเขายัง commit โค้ดอยู่ ในช่วงที่อ้างว่าป่วย → และมีคลิปวิดีโอที่แสดงว่าเขาทำงานให้บริษัทอื่นอยู่จริง → มีหลายบริษัทในกลุ่ม Y Combinator ที่ค้นพบว่าจ้าง Parekh พร้อมกันโดยไม่รู้ตัว 😲 สุดท้าย Parekh ยอมรับแบบตรง ๆ ในรายการ TBPN ว่า “มันจริง ผมไม่ได้ภูมิใจ และไม่แนะนำใครทำตาม…แต่ผมทำเพราะสถานการณ์การเงินแย่มาก” และตอนนี้เขาประกาศว่าจะทำงานให้บริษัทเดียวเท่านั้น โดยได้รับโอกาสใหม่จากสตาร์ทอัปชื่อ Darwin ซึ่งออกมายืนยันว่า “เรายังเชื่อในความสามารถของเขา” https://www.techspot.com/news/108566-crushed-interview-silicon-valley-duped-software-engineer-secretly.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    "He crushed the interview": Silicon Valley duped by software engineer secretly working four jobs
    The story first gained traction when Suhail Doshi, co-founder and former CEO of Mixpanel, issued a public warning on X. "PSA: there's a guy named Soham Parekh...
    0 Comments 0 Shares 133 Views 0 Reviews
  • พรรคเพื่อพ่อเพื่อลุง ส่งนายกมาถึง 2 คนเก่งมากๆ บริษัท โรงงาน ร้านค้า ต่างต่างพาหยุดกิจการไปเพื่อประหยัดเงินทอง ต่างหนีตายไปทำอย่างอื่น หรือไม่ทำเลยจะได้ไม่ต้องเสียภาษีและเงินเดือนเลี้ยงลูกน้อง.
    เขาจะสะกดคำว่า "เจ็ง" และ"ฉิบหายเป็นไหม"
    พรรคเพื่อพ่อเพื่อลุง ส่งนายกมาถึง 2 คนเก่งมากๆ บริษัท โรงงาน ร้านค้า ต่างต่างพาหยุดกิจการไปเพื่อประหยัดเงินทอง ต่างหนีตายไปทำอย่างอื่น หรือไม่ทำเลยจะได้ไม่ต้องเสียภาษีและเงินเดือนเลี้ยงลูกน้อง. เขาจะสะกดคำว่า "เจ็ง" และ"ฉิบหายเป็นไหม"
    0 Comments 0 Shares 98 Views 0 Reviews
  • ..ข่าวอีกมุม ตรองกันเองเน้อ,จริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้,เพราะปัจจุบันค่าความจริงยังไม่เห็นปรากฎชัดเจนอะไรนัก เห็นตอนนีัคือรักษาคลื่นความถี่ควอนตัม สร้างเชลล์สร้างร่างกายใหม่นี้ล่ะ กำลังขุดขึ้นมาใช้จากใต้ดินที่ฝ่ายมืดกั๊กใช้เองเสียนาน,เตียง medbedeก็ใช่,nesara&gesaraจะจริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้เช่นกัน,อ่านเพลินๆเน้อ,บังเอิญมาเจอ อาจมิใช่บังเอิญ.

    ..NESARA GESARA BOMBSHELL: 31 โปรโตคอล
    BOOM #1: การยกหนี้ – รีเซ็ตการเงินโดยรวม!

    ปุ๊ฟ! หนี้ก้อนโตของคุณหายไปไหนหมด! ยอดเงินในบัตรเครดิต จำนอง และเงินกู้ของคุณหายไปหมดทำอย่างไรล่ะ? เพราะระบบธนาคารทั้งหมดที่ทำให้คุณเป็นทาสของหนี้ไม่รู้จบนั้นสร้างขึ้นจาก กิจกรรมที่ผิดกฎหมายนั่นถูกต้องแล้ว—นี่ไม่ใช่แค่การช่วยเหลือหรือการช่วยเหลือ NESARA กำลัง แก้ไขอาชญากรรม ทางการเงินหลายสิบปี ที่ก่อขึ้นโดยธนาคารและรัฐบาลเหมือนกัน นี่คือ การเฉลิมฉลอง ทางการเงิน ที่โลกไม่เคยพบเห็นมาก่อน

    แต่ไม่ต้องสบายใจจนเกินไป เรื่องนี้ใช้ได้กับหนี้ที่ผูกติดกับระบบธนาคารที่ทุจริตเท่านั้น หากคุณเป็นหนี้นอกเหนือจากระบบนี้ คุณยังต้องรับผิดชอบ นี่คือ กระบวนการยุติธรรมแบบเลือกปฏิบัติที่มุ่งเป้าไปที่ แกนกลางของอาณาจักรการเงินที่ทุจริต

    BOOM #2: การปลดแอกภาษี – IRS โดนทุบ!

    คุณเบื่อไหมที่ต้องจ่ายเงินที่คุณหามาอย่างยากลำบากให้กับกรมสรรพากรทุกปี บอกลา ฝันร้ายนั้นได้เลย! กรมสรรพากรซึ่งทำหน้าที่ขัด ต่อรัฐธรรมนูญ มาตั้งแต่ต้นกำลังจะ ตายและถูกฝังแล้วภาษีเงินได้? หายไปแล้วถูกต้องแล้ว! NESARA กำจัด ภาษีเงินได้ และถึงเวลาแล้ว เป็นเวลาหลายปีที่รัฐบาลได้ดูดเงินจากเงินเดือนของคุณอย่างผิดกฎหมาย และ NESARA จะมาหยุดการปล้นครั้งนี้

    NESARA จัดเก็บภาษีสินค้าที่ไม่จำเป็นในอัตราคงที่ 14% ซึ่งหมายความว่า จะไม่มีการเก็บภาษีอาหาร ยา หรือสินค้าใช้แล้ว ถือเป็นเรื่องยุติธรรมและเรียบง่าย และที่สำคัญที่สุดคือ รัฐบาลจะไม่เอาเปรียบคุณ

    BOOM #3: ธนาคารกลางสหรัฐฯ—เกมจบแล้ว!

    ธนาคาร กลางสหรัฐซึ่งเป็นสถาบันลึกลับที่อยู่เบื้องหลังมานาน หลายทศวรรษกำลังจะถูก กำจัด NESARA ไม่เพียงแต่ควบคุมธนาคารกลางเท่านั้น แต่ยัง ทำลาย ระบบทั้งหมดอีกด้วย ในที่สุด เราก็จะ กำจัดธนาคารกลางสหรัฐ และควบคุมเงินของเราอีกครั้ง

    “สกุลเงินสายรุ้ง” ที่ได้รับการหนุนหลังโดยกระทรวงการคลังสหรัฐฉบับใหม่จะมาแทนที่ดอลลาร์กระดาษไร้ค่าที่เราใช้กันมาโดยตลอด และลองเดาดูสิว่าอะไรจะเกิดขึ้น สกุลเงินใหม่นี้จะได้รับการหนุนหลังด้วย ทองคำ เงิน และแพลตตินัมซึ่ง เป็นสินทรัพย์ ที่แท้จริง ไม่ใช่เงินปลอมที่ธนาคารกลางสหรัฐพิมพ์ออกมาเป็นเวลาหลายปี นี่ไม่ใช่แค่การปฏิรูปเท่านั้น แต่เป็นการ ปฏิวัติทางการเงินโดยสมบูรณ์

    BOOM #4: กฎหมายรัฐธรรมนูญได้รับการฟื้นฟู – การรีเซ็ตอเมริกา!
    จบสิ้นแล้ว สำหรับผู้ที่บิดเบือนกฎหมายและขายอำนาจอธิปไตยของเราให้กับผู้เสนอราคาสูงสุด! NESARA นำสหรัฐฯ กลับคืนสู่รากฐานที่ถูกต้อง: กฎหมายรัฐธรรมนูญซึ่งหมายความว่าจะไม่มีกฎหมายที่ถูกสร้างขึ้นในห้องลับโดยผลประโยชน์จากต่างประเทศหรืออำนาจลึกลับอีกต่อไป การแก้ไขตำแหน่งขุนนาง จะได้รับการฟื้นคืน และนี่คือประเด็นสำคัญ: ชาวอเมริกัน หลายแสน คนที่ภักดีต่ออำนาจต่างชาติทั้งสองอย่างจะถูก เพิกถอนสัญชาติ

    ลองคิดดูดีๆ นะปริญญาตรีเหรอ? กระดาษไร้ค่า ! หากคุณทำงานภายใต้การควบคุมของต่างชาติ เกมของคุณก็จบลงแล้ว NESARA กำลังส่งคนทรยศเหล่านี้ออกไป—พวกเขาจะ ถูกเนรเทศและห้าม เหยียบแผ่นดินสหรัฐฯ อีก นี่เป็นมากกว่าการรีเซ็ตใหม่ เป็นการ กวาดล้าง ผู้ที่ขายชาติของเราออกไป

    BOOM #5: การเลือกตั้งใหม่ – การปฏิรูปการเมืองแบบองค์รวม!

    ระบบการเมืองปัจจุบัน? เสร็จสิ้นแล้วการทุจริตคอร์รัปชันได้ทำลายการเลือกตั้งของเรามาหลายปีแล้ว และ NESARA อยู่ที่นี่เพื่อ ล้างมันออกไปในเวลาเพียง 120 วันการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภาในปัจจุบันทั้งหมดจะถูก ยกเลิกและการเลือกตั้งครั้งใหม่จะจัดขึ้นภายใต้การปกครองของกฎหมายรัฐธรรมนูญ สถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติ ทุกครั้ง ที่ประกาศโดยระบอบการปกครองก่อนหน้านี้จะ ถูกลบล้าง

    ไม่มีการเลือกตั้งที่ทุจริตอีกต่อไป! ระบบการลงคะแนนเสียง NewQFS กำลังจะมา และมัน ไม่สามารถ แฮ็กได้ การโกงการเลือกตั้ง? เป็นไปไม่ได้ภายใต้ NESARA เฉพาะผู้ที่ผ่านการตรวจสอบผ่านระบบบล็อคเชนที่ปลอดภัยเท่านั้นที่จะได้รับอนุญาตให้ลงคะแนนเสียง หากคุณคิดว่านักการเมืองที่ทุจริตมีโอกาสที่จะยึดครองอำนาจได้ คิดใหม่ซะ NESARA กำลัง เผาทำลาย บ้านที่ทุจริตที่พวกเขาสร้างขึ้น

    BOOM #6: ความเป็นส่วนตัวทางการเงินกลับคืนมา – เงินของคุณ ธุรกิจของคุณ!

    บอกลา การเฝ้าติดตามและ แฮ็ก การเงินส่วนบุคคลของคุณไปได้เลย ภายใต้ NESARA ความเป็นส่วนตัวทางการเงินของคุณจะ ได้รับการคืนกลับมาระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ฉบับใหม่จะ ปกป้อง เงินของคุณจากโจร แฮกเกอร์ และสายตาสอดส่องของบิ๊กบราเธอร์ ยุคที่รัฐบาลรู้ทุกการเคลื่อนไหวของคุณสิ้นสุดลงแล้ว!

    นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของความปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับ การกลับมา ควบคุมชีวิตทางการเงินของคุณอีกครั้ง ไม่ต้องติดตามอีกต่อไป ไม่ต้องเฝ้าติดตามอีกต่อไป เงินของคุณเป็น ของคุณ และไม่มีใครอื่น

    BOOM #7: ระเบิดเทคโนโลยีที่ถูกระงับ – สิทธิบัตร 6,000 ฉบับถูกเปิดเผย!

    นี่คือสิ่ง ที่ยิ่งใหญ่เทคโนโลยีที่คุณไม่เคยได้ยินมาก่อน—สิ่งที่ถูกซ่อนไว้ในห้องนิรภัยอันลึกล้ำโดยกลุ่มคนชั้นนำระดับโลก—กำลังจะเปิดเผยต่อสาธารณชน เรากำลังพูดถึง สิทธิบัตรมากกว่า 6,000 ฉบับ สำหรับเทคโนโลยีที่น่าตื่นตาตื่นใจ ตั้งแต่ อุปกรณ์ พลังงานฟรี ไป จนถึง การรักษาทางการแพทย์ที่น่าอัศจรรย์

    นี่ไม่ใช่นิยายวิทยาศาสตร์ แต่เป็นอนาคตที่ถูกปกปิดไว้จากเรามานานหลายทศวรรษ ภาคส่วนพลังงาน การดูแลสุขภาพ การขนส่งทุกอย่าง กำลังจะเปลี่ยนแปลง เหตุผลที่เทคโนโลยีเหล่านี้ถูกปิดกั้น? เพราะมันจะ ทำลาย โครงสร้างอำนาจที่ปกครองโลกมายาวนาน NESARA กำลังจะ เผยแพร่ เทคโนโลยีเหล่านี้สู่สาธารณะและ ทำลายล้าง สถานะเดิม

    BOOM #8: โครงการด้านมนุษยธรรม – สึนามิแห่งการเปลี่ยนแปลงระดับโลก!

    ไม่ใช่แค่ การรื้อถอน ระบบเก่าเท่านั้น แต่ยังรวมถึง การสร้างระบบที่ดีกว่าด้วย NESARA ไม่ได้หยุดอยู่แค่การปฏิรูปทางการเงินเท่านั้น แต่ยังเปิดตัว โครงการด้านมนุษยธรรม มากมาย ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนทั่วโลก ประชาชนจะได้รับเงินทุนเพื่อเข้าร่วมโครงการใหญ่ๆ ตั้งแต่การจัดหา ที่อยู่อาศัยให้กับคนไร้บ้าน ไปจนถึง การปฏิวัติการดูแลสุขภาพ และการศึกษา

    นี่คือการเคลื่อนไหวระดับโลกอิทธิพลของ NESARA จะแผ่ขยายไปไกลเกินพรมแดนสหรัฐฯ และเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้คนนับล้าน ยุคแห่ง ความโลภและความขาดแคลน กำลังจะสิ้นสุดลง และ NESARA กำลังนำพายุคแห่ง ความอุดมสมบูรณ์และความเจริญรุ่งเรือง มาสู่ทุกคน

    BOOM #9: การคืนสภาพและการไถ่ถอน – การได้คืนสิ่งที่เป็นของเราโดยชอบธรรม!

    NESARA ไม่เพียงแต่หยุดอยู่ที่ การปฏิรูป ปัจจุบันเท่านั้น แต่ยังมุ่งเน้นไปที่การแก้ไข สิ่งที่ผิดในอดีตด้วย ชนชั้นสูงที่ฉ้อฉลซึ่งขโมยของจากเรามานานหลายชั่วอายุคน พวกเขาจะต้อง ชดใช้เรากำลังพูดถึง การชดใช้คืน สำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญทุกประการที่กระทำต่อมนุษยชาติ ภาษีที่ซ่อนอยู่การ จ่ายดอกเบี้ยและ การเป็นทาสหนี้ ทั้งหมด จะต้องถูกนำมาพิจารณา

    และแล้วก็มีกระบวนการ ไถ่ถอนสกุลเงินและพันธบัตรของคุณ รวมถึง พันธบัตร ZIMจะถูกแลกเปลี่ยนเป็น อัตราที่สูงขึ้นโดยส่วนหนึ่งของเงินจะถูกจัดสรรไว้สำหรับ ใช้ส่วนตัว และส่วนที่เหลือจะถูกจัดสรรไว้สำหรับ โครงการด้านมนุษยธรรมนี่ไม่ใช่แค่เรื่องของเงินเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของ ความยุติธรรมถึงเวลาแล้วที่จะนำสิ่งที่ถูกขโมยไปจากเรากลับคืนมา และสร้างอนาคต ที่ปราศจากการกดขี่

    BOOM #10: ระบบการลงคะแนน QFS – ยุคใหม่ของประชาธิปไตยที่ไม่สามารถแฮ็กได้!

    ยอมรับกันเถอะว่าระบบการเลือกตั้งในปัจจุบันเป็นเรื่อง ตลกมันถูกควบคุม บิดเบือน และ ทุจริตถึงแก่น NESARA กำลังรื้อระบบเก่าออกและแทนที่ด้วย ระบบการลงคะแนนเสียง NewQFSซึ่งเป็น แพลตฟอร์มที่ปลอดภัยด้วยระบบบล็อคเชนและ ไม่สามารถแฮ็กได้ วันแห่งการทุจริตการเลือกตั้ง สิ้นสุดลงแล้วเฉพาะผู้ที่รับสิทธิประโยชน์จาก NESARA เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง

    ไม่มีผู้ลงคะแนนเสียงที่ตายไปอีกต่อไป ไม่มีเครื่องจักรที่ถูกควบคุมอีกต่อไป ทุกคะแนนเสียงจะได้ รับการตรวจสอบและรักษาความปลอดภัยเพื่อให้แน่ใจว่าเสียงของประชาชนจะได้รับการรับฟังอย่างแท้จริง นี่ไม่ใช่แค่การแก้ไขปัญหา แต่เป็นการ สร้างภาพ ประชาธิปไตยใหม่ทั้งหมด

    บทบัญญัติหลัก 30+1 ของ NESARA GESARA: โครงร่างขั้นสุดท้ายสำหรับการเปลี่ยนแปลงระดับโลก

    1. การยกหนี้ : การขจัดหนี้ที่เกี่ยวข้องกับธนาคารทั้งหมด (บัตรเครดิต จำนอง เงินกู้) ที่เกิดจากการปฏิบัติทางการเงินที่ผิดกฎหมาย ถือเป็น “วันแห่งความสำเร็จ” ทางการเงินของประชาชน ช่วยให้พวกเขาหลุดพ้นจากเงื้อมมือของสถาบันทางการเงินที่กดขี่

    2. การยกเลิกภาษีเงินได้ : ยกเลิกภาษีเงินได้และภาษีจากการลงทุนและบัญชีเงินเกษียณ (IRA, 401k เป็นต้น) ที่ถูกบังคับใช้โดยขัดต่อรัฐธรรมนูญโดยสมบูรณ์

    3. การยุติการทำงานของ IRS : IRS จะถูกปิดตัวลงอย่างถาวร และพนักงานจะถูกย้ายไปใช้ระบบการจัดเก็บภาษีตามระบบใหม่ของกระทรวงการคลัง

    4. ภาษีขายแบบอัตราคงที่ : การนำภาษีขายแบบอัตราคงที่ 14% มาใช้ในสินค้าใหม่ที่ไม่จำเป็น (ไม่รวมอาหาร ยา และสินค้าใช้แล้ว) เพื่อระดมทุนสำหรับการดำเนินงานของรัฐบาล ระบบภาษีจะยุติธรรมและโปร่งใสมากขึ้น

    5. เพิ่มสวัสดิการให้กับผู้สูงอายุ : เพิ่มสวัสดิการให้กับผู้สูงอายุ โดยให้แน่ใจว่าพวกเขาจะได้รับการสนับสนุนทางการเงินเป็นอย่างดีในช่วงบั้นปลายชีวิต

    6. กลับสู่กฎหมายรัฐธรรมนูญ: การฟื้นฟูกฎหมายรัฐธรรมนูญในระบบกฎหมายของสหรัฐฯ ขจัดการปฏิบัติที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญซึ่งกัดกร่อนหลักการทางกฎหมายพื้นฐานของประเทศ

    7. การฟื้นฟูการแก้ไขตำแหน่งขุนนาง: ชาวอเมริกันที่อยู่ภายใต้อิทธิพลหรือการควบคุมจากต่างประเทศจะสูญเสียสัญชาติและถูกเนรเทศ เพื่อป้องกันการแทรกแซงจากต่างประเทศในกิจการภายในประเทศ

    8. การเลือกตั้งใหม่: การดำเนินการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภาใหม่ทันทีภายใน 120 วันหลังจากการประกาศของ NESARA เพื่อล้างมลทินของระบอบการปกครองที่ทุจริตในอดีต

    9. สิ้นสุดสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติ: การยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติทั้งหมดที่ประกาศ คืนสถานะประเทศสู่สภาวะปกติและกฎหมายรัฐธรรมนูญ

    10. การติดตามการเลือกตั้ง: ระบบใหม่ในการตรวจสอบการเลือกตั้ง ป้องกันกิจกรรมที่ผิดกฎหมายโดยกลุ่มผลประโยชน์พิเศษ และรับรองการเลือกตั้งที่ยุติธรรมและโปร่งใส

    11. การสร้างสกุลเงินรุ้ง: การนำสกุลเงินใหม่ของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ มาใช้โดยมีทองคำ เงิน และแพลตตินัมค้ำประกัน ซึ่งถือเป็นการยุติระบบสกุลเงินเฟียตในปัจจุบัน

    12. การคุ้มครองใบสูติบัตร: ห้ามการขายบันทึกใบสูติบัตรของสหรัฐฯ ในลักษณะทรัพย์สินส่วนบุคคล เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะมีอำนาจอธิปไตยส่วนบุคคลจากการถูกแสวงหาประโยชน์จากองค์กร

    13. การจัดตั้งระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ: ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะถูกยุบเลิก และจะมีการนำระบบธนาคารใหม่มาใช้ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ

    14. การจัดทำดัชนีใหม่ของโลหะมีค่า: ทองคำ เงิน และโลหะมีค่าอื่นๆ จะถูกจัดทำดัชนีใหม่ภายใน 30 วันหลังจากที่ NESARA เสร็จสิ้น เพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับเศรษฐกิจ

    15. การเลิกใช้ระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ: ระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ จะถูกยุบเลิกภายในระยะเวลาหนึ่งปี โดยเปลี่ยนการควบคุมการเงินทั้งหมดไปที่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ

    16. การฟื้นฟูความเป็นส่วนตัวทางการเงิน: การนำระบบมาใช้เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวทางการเงิน ยุติการโจรกรรมข้อมูลและการแฮ็กข้อมูลอย่างแพร่หลาย

    17. การฝึกอบรมผู้พิพากษาและทนายความใหม่: ผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมายทุกคนจะได้รับการฝึกอบรมใหม่ในกฎหมายรัฐธรรมนูญเพื่อรักษาความยุติธรรมและปกป้องสิทธิของพลเมือง

    18. ความคิดริเริ่มเพื่อสันติภาพทั่วโลก: สหรัฐฯ จะยุติการดำเนินการทางทหารที่ก้าวร้าวทั้งหมด โดยเปลี่ยนโฟกัสไปที่ความสัมพันธ์ทางการทูตที่สันติทั่วโลก

    19. การเปิดเผยเทคโนโลยีที่ถูกระงับ: สิทธิบัตรที่ซ่อนอยู่มากกว่า 6,000 รายการสำหรับเทคโนโลยีขั้นสูง (รวมถึงพลังงานฟรีและการรักษาทางการแพทย์) จะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ

    20. การจัดหาเงินทุนสำหรับโครงการด้านมนุษยธรรม: การจัดหาเงินทุนจำนวนมากสำหรับโครงการด้านมนุษยธรรมในประเทศและทั่วโลก ช่วยให้สังคมได้รับการปรับปรุงอย่างกว้างขวาง

    21. ห้ามผู้ค้าเงินตราและโลหะมีค่า: การซื้อและขายโลหะมีค่าจะดำเนินการเฉพาะผ่านระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เท่านั้น โดยจะขจัดคนกลางเอกชนออกไป

    22. ประชาชนสามารถเข้าถึงเหรียญที่ผลิตได้: ประชาชนจะสามารถแปลงทองคำและเงินที่ตนถือครองเป็นเหรียญที่ผลิตได้ซึ่งได้รับการอนุมัติจากกระทรวงการคลังสหรัฐฯ

    23. ดัชนีโลหะมีค่ารายวัน: กระทรวงการคลังสหรัฐฯ จะรักษาดัชนีรายวันสำหรับการกำหนดราคาโลหะมีค่า เพื่อให้แน่ใจว่ามีความโปร่งใสและมีเสถียรภาพในตลาด

    24. การแปรรูปบริการไปรษณีย์สหรัฐฯ: USPS จะถูกแปรรูปโดยปรับปรุงกระบวนการทำงานและทำให้บริการมีประสิทธิภาพและแข่งขันได้มากขึ้น


    25. การปรับโครงสร้างของระบบประกันสังคม: ระบบประกันสังคมสหรัฐฯ จะได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อให้มั่นใจถึงความยั่งยืนและความยุติธรรมในระยะยาว
    26. QFS (ระบบการเงินควอนตัม): การแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศและพันธบัตรส่วนใหญ่ของ NESARA จะถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัยในบัญชีบล็อคเชนผ่านระบบการเงินควอนตัม

    27. การปฏิรูประบบธนาคาร: ธนาคารจะเผชิญกับข้อจำกัดใหม่เกี่ยวกับอัตราและค่าธรรมเนียม ในขณะที่ประชาชนได้รับสิทธิในการดูแลเงินทุนของตนที่แข็งแกร่งขึ้น ธนาคารจะถูกยกเลิกภายใน 3-5 ปีหลังจาก NESARA

    28. การเรียกคืนทรัพย์สินที่ถูกขโมย: NESARA จะเรียกคืนทรัพย์สินที่ถูกขโมยโดยสถาบันที่ทุจริต รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐ วอลล์สตรีท และกลุ่มคนชั้นสูง โดยคืนทรัพย์สินเหล่านั้นให้กับเจ้าของที่ถูกต้อง

    29. การคืนทรัพย์สินสำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ: จะมีการชดใช้ทางการเงินสำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เช่น การเก็บภาษีที่ผิดกฎหมาย การกู้ยืมที่ไม่เป็นธรรม และการยึดทรัพย์สินที่ผิดกฎหมาย
    30. การแลกเงินตราและพันธบัตร: บุคคลจะมีโอกาสในการแลกหรือแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและพันธบัตร ZIM ในอัตราที่กำหนดเพื่อใช้ส่วนตัวและโครงการด้านมนุษยธรรม

    ระบบการลงคะแนนเสียง QFS ใหม่

    31 ระบบการลงคะแนนเสียงปฏิวัติ: ระบบการเลือกตั้งปัจจุบันจะถูกแทนที่ด้วยกระบวนการลงคะแนนเสียงตามระบบการเงินควอนตัม รายชื่อผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงจะถูกสร้างขึ้นที่ศูนย์แลกรับของ NESARA และการเลือกตั้งในอนาคตจะดำเนินการโดยใช้ระบบ XRPL-QFS-5D ที่ปลอดภัย เฉพาะผู้ที่เข้าร่วมสิทธิประโยชน์ของ NESARA เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง ซึ่งรับประกันความซื่อสัตย์สุจริตและความปลอดภัยในการเลือกตั้ง

    บทบัญญัติ 30+1 เหล่านี้ถือเป็นแก่นของ NESARA GESARA ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ที่ความยุติธรรม ความเป็นธรรม และเสรีภาพครองอำนาจสูงสุด โลกที่เรารู้จักกำลังจะเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล คุณพร้อมหรือยังสำหรับคลื่นกระแทก?
    ..ข่าวอีกมุม ตรองกันเองเน้อ,จริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้,เพราะปัจจุบันค่าความจริงยังไม่เห็นปรากฎชัดเจนอะไรนัก เห็นตอนนีัคือรักษาคลื่นความถี่ควอนตัม สร้างเชลล์สร้างร่างกายใหม่นี้ล่ะ กำลังขุดขึ้นมาใช้จากใต้ดินที่ฝ่ายมืดกั๊กใช้เองเสียนาน,เตียง medbedeก็ใช่,nesara&gesaraจะจริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้เช่นกัน,อ่านเพลินๆเน้อ,บังเอิญมาเจอ อาจมิใช่บังเอิญ. ..NESARA GESARA BOMBSHELL: 31 โปรโตคอล BOOM #1: การยกหนี้ – รีเซ็ตการเงินโดยรวม! ปุ๊ฟ! หนี้ก้อนโตของคุณหายไปไหนหมด! ยอดเงินในบัตรเครดิต จำนอง และเงินกู้ของคุณหายไปหมดทำอย่างไรล่ะ? เพราะระบบธนาคารทั้งหมดที่ทำให้คุณเป็นทาสของหนี้ไม่รู้จบนั้นสร้างขึ้นจาก กิจกรรมที่ผิดกฎหมายนั่นถูกต้องแล้ว—นี่ไม่ใช่แค่การช่วยเหลือหรือการช่วยเหลือ NESARA กำลัง แก้ไขอาชญากรรม ทางการเงินหลายสิบปี ที่ก่อขึ้นโดยธนาคารและรัฐบาลเหมือนกัน นี่คือ การเฉลิมฉลอง ทางการเงิน ที่โลกไม่เคยพบเห็นมาก่อน แต่ไม่ต้องสบายใจจนเกินไป เรื่องนี้ใช้ได้กับหนี้ที่ผูกติดกับระบบธนาคารที่ทุจริตเท่านั้น หากคุณเป็นหนี้นอกเหนือจากระบบนี้ คุณยังต้องรับผิดชอบ นี่คือ กระบวนการยุติธรรมแบบเลือกปฏิบัติที่มุ่งเป้าไปที่ แกนกลางของอาณาจักรการเงินที่ทุจริต BOOM #2: การปลดแอกภาษี – IRS โดนทุบ! คุณเบื่อไหมที่ต้องจ่ายเงินที่คุณหามาอย่างยากลำบากให้กับกรมสรรพากรทุกปี บอกลา ฝันร้ายนั้นได้เลย! กรมสรรพากรซึ่งทำหน้าที่ขัด ต่อรัฐธรรมนูญ มาตั้งแต่ต้นกำลังจะ ตายและถูกฝังแล้วภาษีเงินได้? หายไปแล้วถูกต้องแล้ว! NESARA กำจัด ภาษีเงินได้ และถึงเวลาแล้ว เป็นเวลาหลายปีที่รัฐบาลได้ดูดเงินจากเงินเดือนของคุณอย่างผิดกฎหมาย และ NESARA จะมาหยุดการปล้นครั้งนี้ NESARA จัดเก็บภาษีสินค้าที่ไม่จำเป็นในอัตราคงที่ 14% ซึ่งหมายความว่า จะไม่มีการเก็บภาษีอาหาร ยา หรือสินค้าใช้แล้ว ถือเป็นเรื่องยุติธรรมและเรียบง่าย และที่สำคัญที่สุดคือ รัฐบาลจะไม่เอาเปรียบคุณ BOOM #3: ธนาคารกลางสหรัฐฯ—เกมจบแล้ว! ธนาคาร กลางสหรัฐซึ่งเป็นสถาบันลึกลับที่อยู่เบื้องหลังมานาน หลายทศวรรษกำลังจะถูก กำจัด NESARA ไม่เพียงแต่ควบคุมธนาคารกลางเท่านั้น แต่ยัง ทำลาย ระบบทั้งหมดอีกด้วย ในที่สุด เราก็จะ กำจัดธนาคารกลางสหรัฐ และควบคุมเงินของเราอีกครั้ง “สกุลเงินสายรุ้ง” ที่ได้รับการหนุนหลังโดยกระทรวงการคลังสหรัฐฉบับใหม่จะมาแทนที่ดอลลาร์กระดาษไร้ค่าที่เราใช้กันมาโดยตลอด และลองเดาดูสิว่าอะไรจะเกิดขึ้น สกุลเงินใหม่นี้จะได้รับการหนุนหลังด้วย ทองคำ เงิน และแพลตตินัมซึ่ง เป็นสินทรัพย์ ที่แท้จริง ไม่ใช่เงินปลอมที่ธนาคารกลางสหรัฐพิมพ์ออกมาเป็นเวลาหลายปี นี่ไม่ใช่แค่การปฏิรูปเท่านั้น แต่เป็นการ ปฏิวัติทางการเงินโดยสมบูรณ์ BOOM #4: กฎหมายรัฐธรรมนูญได้รับการฟื้นฟู – การรีเซ็ตอเมริกา! จบสิ้นแล้ว สำหรับผู้ที่บิดเบือนกฎหมายและขายอำนาจอธิปไตยของเราให้กับผู้เสนอราคาสูงสุด! NESARA นำสหรัฐฯ กลับคืนสู่รากฐานที่ถูกต้อง: กฎหมายรัฐธรรมนูญซึ่งหมายความว่าจะไม่มีกฎหมายที่ถูกสร้างขึ้นในห้องลับโดยผลประโยชน์จากต่างประเทศหรืออำนาจลึกลับอีกต่อไป การแก้ไขตำแหน่งขุนนาง จะได้รับการฟื้นคืน และนี่คือประเด็นสำคัญ: ชาวอเมริกัน หลายแสน คนที่ภักดีต่ออำนาจต่างชาติทั้งสองอย่างจะถูก เพิกถอนสัญชาติ ลองคิดดูดีๆ นะปริญญาตรีเหรอ? กระดาษไร้ค่า ! หากคุณทำงานภายใต้การควบคุมของต่างชาติ เกมของคุณก็จบลงแล้ว NESARA กำลังส่งคนทรยศเหล่านี้ออกไป—พวกเขาจะ ถูกเนรเทศและห้าม เหยียบแผ่นดินสหรัฐฯ อีก นี่เป็นมากกว่าการรีเซ็ตใหม่ เป็นการ กวาดล้าง ผู้ที่ขายชาติของเราออกไป BOOM #5: การเลือกตั้งใหม่ – การปฏิรูปการเมืองแบบองค์รวม! ระบบการเมืองปัจจุบัน? เสร็จสิ้นแล้วการทุจริตคอร์รัปชันได้ทำลายการเลือกตั้งของเรามาหลายปีแล้ว และ NESARA อยู่ที่นี่เพื่อ ล้างมันออกไปในเวลาเพียง 120 วันการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภาในปัจจุบันทั้งหมดจะถูก ยกเลิกและการเลือกตั้งครั้งใหม่จะจัดขึ้นภายใต้การปกครองของกฎหมายรัฐธรรมนูญ สถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติ ทุกครั้ง ที่ประกาศโดยระบอบการปกครองก่อนหน้านี้จะ ถูกลบล้าง ไม่มีการเลือกตั้งที่ทุจริตอีกต่อไป! ระบบการลงคะแนนเสียง NewQFS กำลังจะมา และมัน ไม่สามารถ แฮ็กได้ การโกงการเลือกตั้ง? เป็นไปไม่ได้ภายใต้ NESARA เฉพาะผู้ที่ผ่านการตรวจสอบผ่านระบบบล็อคเชนที่ปลอดภัยเท่านั้นที่จะได้รับอนุญาตให้ลงคะแนนเสียง หากคุณคิดว่านักการเมืองที่ทุจริตมีโอกาสที่จะยึดครองอำนาจได้ คิดใหม่ซะ NESARA กำลัง เผาทำลาย บ้านที่ทุจริตที่พวกเขาสร้างขึ้น BOOM #6: ความเป็นส่วนตัวทางการเงินกลับคืนมา – เงินของคุณ ธุรกิจของคุณ! บอกลา การเฝ้าติดตามและ แฮ็ก การเงินส่วนบุคคลของคุณไปได้เลย ภายใต้ NESARA ความเป็นส่วนตัวทางการเงินของคุณจะ ได้รับการคืนกลับมาระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ฉบับใหม่จะ ปกป้อง เงินของคุณจากโจร แฮกเกอร์ และสายตาสอดส่องของบิ๊กบราเธอร์ ยุคที่รัฐบาลรู้ทุกการเคลื่อนไหวของคุณสิ้นสุดลงแล้ว! นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของความปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับ การกลับมา ควบคุมชีวิตทางการเงินของคุณอีกครั้ง ไม่ต้องติดตามอีกต่อไป ไม่ต้องเฝ้าติดตามอีกต่อไป เงินของคุณเป็น ของคุณ และไม่มีใครอื่น BOOM #7: ระเบิดเทคโนโลยีที่ถูกระงับ – สิทธิบัตร 6,000 ฉบับถูกเปิดเผย! นี่คือสิ่ง ที่ยิ่งใหญ่เทคโนโลยีที่คุณไม่เคยได้ยินมาก่อน—สิ่งที่ถูกซ่อนไว้ในห้องนิรภัยอันลึกล้ำโดยกลุ่มคนชั้นนำระดับโลก—กำลังจะเปิดเผยต่อสาธารณชน เรากำลังพูดถึง สิทธิบัตรมากกว่า 6,000 ฉบับ สำหรับเทคโนโลยีที่น่าตื่นตาตื่นใจ ตั้งแต่ อุปกรณ์ พลังงานฟรี ไป จนถึง การรักษาทางการแพทย์ที่น่าอัศจรรย์ นี่ไม่ใช่นิยายวิทยาศาสตร์ แต่เป็นอนาคตที่ถูกปกปิดไว้จากเรามานานหลายทศวรรษ ภาคส่วนพลังงาน การดูแลสุขภาพ การขนส่งทุกอย่าง กำลังจะเปลี่ยนแปลง เหตุผลที่เทคโนโลยีเหล่านี้ถูกปิดกั้น? เพราะมันจะ ทำลาย โครงสร้างอำนาจที่ปกครองโลกมายาวนาน NESARA กำลังจะ เผยแพร่ เทคโนโลยีเหล่านี้สู่สาธารณะและ ทำลายล้าง สถานะเดิม BOOM #8: โครงการด้านมนุษยธรรม – สึนามิแห่งการเปลี่ยนแปลงระดับโลก! ไม่ใช่แค่ การรื้อถอน ระบบเก่าเท่านั้น แต่ยังรวมถึง การสร้างระบบที่ดีกว่าด้วย NESARA ไม่ได้หยุดอยู่แค่การปฏิรูปทางการเงินเท่านั้น แต่ยังเปิดตัว โครงการด้านมนุษยธรรม มากมาย ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนทั่วโลก ประชาชนจะได้รับเงินทุนเพื่อเข้าร่วมโครงการใหญ่ๆ ตั้งแต่การจัดหา ที่อยู่อาศัยให้กับคนไร้บ้าน ไปจนถึง การปฏิวัติการดูแลสุขภาพ และการศึกษา นี่คือการเคลื่อนไหวระดับโลกอิทธิพลของ NESARA จะแผ่ขยายไปไกลเกินพรมแดนสหรัฐฯ และเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้คนนับล้าน ยุคแห่ง ความโลภและความขาดแคลน กำลังจะสิ้นสุดลง และ NESARA กำลังนำพายุคแห่ง ความอุดมสมบูรณ์และความเจริญรุ่งเรือง มาสู่ทุกคน BOOM #9: การคืนสภาพและการไถ่ถอน – การได้คืนสิ่งที่เป็นของเราโดยชอบธรรม! NESARA ไม่เพียงแต่หยุดอยู่ที่ การปฏิรูป ปัจจุบันเท่านั้น แต่ยังมุ่งเน้นไปที่การแก้ไข สิ่งที่ผิดในอดีตด้วย ชนชั้นสูงที่ฉ้อฉลซึ่งขโมยของจากเรามานานหลายชั่วอายุคน พวกเขาจะต้อง ชดใช้เรากำลังพูดถึง การชดใช้คืน สำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญทุกประการที่กระทำต่อมนุษยชาติ ภาษีที่ซ่อนอยู่การ จ่ายดอกเบี้ยและ การเป็นทาสหนี้ ทั้งหมด จะต้องถูกนำมาพิจารณา และแล้วก็มีกระบวนการ ไถ่ถอนสกุลเงินและพันธบัตรของคุณ รวมถึง พันธบัตร ZIMจะถูกแลกเปลี่ยนเป็น อัตราที่สูงขึ้นโดยส่วนหนึ่งของเงินจะถูกจัดสรรไว้สำหรับ ใช้ส่วนตัว และส่วนที่เหลือจะถูกจัดสรรไว้สำหรับ โครงการด้านมนุษยธรรมนี่ไม่ใช่แค่เรื่องของเงินเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของ ความยุติธรรมถึงเวลาแล้วที่จะนำสิ่งที่ถูกขโมยไปจากเรากลับคืนมา และสร้างอนาคต ที่ปราศจากการกดขี่ BOOM #10: ระบบการลงคะแนน QFS – ยุคใหม่ของประชาธิปไตยที่ไม่สามารถแฮ็กได้! ยอมรับกันเถอะว่าระบบการเลือกตั้งในปัจจุบันเป็นเรื่อง ตลกมันถูกควบคุม บิดเบือน และ ทุจริตถึงแก่น NESARA กำลังรื้อระบบเก่าออกและแทนที่ด้วย ระบบการลงคะแนนเสียง NewQFSซึ่งเป็น แพลตฟอร์มที่ปลอดภัยด้วยระบบบล็อคเชนและ ไม่สามารถแฮ็กได้ วันแห่งการทุจริตการเลือกตั้ง สิ้นสุดลงแล้วเฉพาะผู้ที่รับสิทธิประโยชน์จาก NESARA เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง ไม่มีผู้ลงคะแนนเสียงที่ตายไปอีกต่อไป ไม่มีเครื่องจักรที่ถูกควบคุมอีกต่อไป ทุกคะแนนเสียงจะได้ รับการตรวจสอบและรักษาความปลอดภัยเพื่อให้แน่ใจว่าเสียงของประชาชนจะได้รับการรับฟังอย่างแท้จริง นี่ไม่ใช่แค่การแก้ไขปัญหา แต่เป็นการ สร้างภาพ ประชาธิปไตยใหม่ทั้งหมด บทบัญญัติหลัก 30+1 ของ NESARA GESARA: โครงร่างขั้นสุดท้ายสำหรับการเปลี่ยนแปลงระดับโลก 1. การยกหนี้ : การขจัดหนี้ที่เกี่ยวข้องกับธนาคารทั้งหมด (บัตรเครดิต จำนอง เงินกู้) ที่เกิดจากการปฏิบัติทางการเงินที่ผิดกฎหมาย ถือเป็น “วันแห่งความสำเร็จ” ทางการเงินของประชาชน ช่วยให้พวกเขาหลุดพ้นจากเงื้อมมือของสถาบันทางการเงินที่กดขี่ 2. การยกเลิกภาษีเงินได้ : ยกเลิกภาษีเงินได้และภาษีจากการลงทุนและบัญชีเงินเกษียณ (IRA, 401k เป็นต้น) ที่ถูกบังคับใช้โดยขัดต่อรัฐธรรมนูญโดยสมบูรณ์ 3. การยุติการทำงานของ IRS : IRS จะถูกปิดตัวลงอย่างถาวร และพนักงานจะถูกย้ายไปใช้ระบบการจัดเก็บภาษีตามระบบใหม่ของกระทรวงการคลัง 4. ภาษีขายแบบอัตราคงที่ : การนำภาษีขายแบบอัตราคงที่ 14% มาใช้ในสินค้าใหม่ที่ไม่จำเป็น (ไม่รวมอาหาร ยา และสินค้าใช้แล้ว) เพื่อระดมทุนสำหรับการดำเนินงานของรัฐบาล ระบบภาษีจะยุติธรรมและโปร่งใสมากขึ้น 5. เพิ่มสวัสดิการให้กับผู้สูงอายุ : เพิ่มสวัสดิการให้กับผู้สูงอายุ โดยให้แน่ใจว่าพวกเขาจะได้รับการสนับสนุนทางการเงินเป็นอย่างดีในช่วงบั้นปลายชีวิต 6. กลับสู่กฎหมายรัฐธรรมนูญ: การฟื้นฟูกฎหมายรัฐธรรมนูญในระบบกฎหมายของสหรัฐฯ ขจัดการปฏิบัติที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญซึ่งกัดกร่อนหลักการทางกฎหมายพื้นฐานของประเทศ 7. การฟื้นฟูการแก้ไขตำแหน่งขุนนาง: ชาวอเมริกันที่อยู่ภายใต้อิทธิพลหรือการควบคุมจากต่างประเทศจะสูญเสียสัญชาติและถูกเนรเทศ เพื่อป้องกันการแทรกแซงจากต่างประเทศในกิจการภายในประเทศ 8. การเลือกตั้งใหม่: การดำเนินการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภาใหม่ทันทีภายใน 120 วันหลังจากการประกาศของ NESARA เพื่อล้างมลทินของระบอบการปกครองที่ทุจริตในอดีต 9. สิ้นสุดสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติ: การยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติทั้งหมดที่ประกาศ คืนสถานะประเทศสู่สภาวะปกติและกฎหมายรัฐธรรมนูญ 10. การติดตามการเลือกตั้ง: ระบบใหม่ในการตรวจสอบการเลือกตั้ง ป้องกันกิจกรรมที่ผิดกฎหมายโดยกลุ่มผลประโยชน์พิเศษ และรับรองการเลือกตั้งที่ยุติธรรมและโปร่งใส 11. การสร้างสกุลเงินรุ้ง: การนำสกุลเงินใหม่ของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ มาใช้โดยมีทองคำ เงิน และแพลตตินัมค้ำประกัน ซึ่งถือเป็นการยุติระบบสกุลเงินเฟียตในปัจจุบัน 12. การคุ้มครองใบสูติบัตร: ห้ามการขายบันทึกใบสูติบัตรของสหรัฐฯ ในลักษณะทรัพย์สินส่วนบุคคล เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะมีอำนาจอธิปไตยส่วนบุคคลจากการถูกแสวงหาประโยชน์จากองค์กร 13. การจัดตั้งระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ: ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะถูกยุบเลิก และจะมีการนำระบบธนาคารใหม่มาใช้ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ 14. การจัดทำดัชนีใหม่ของโลหะมีค่า: ทองคำ เงิน และโลหะมีค่าอื่นๆ จะถูกจัดทำดัชนีใหม่ภายใน 30 วันหลังจากที่ NESARA เสร็จสิ้น เพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับเศรษฐกิจ 15. การเลิกใช้ระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ: ระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ จะถูกยุบเลิกภายในระยะเวลาหนึ่งปี โดยเปลี่ยนการควบคุมการเงินทั้งหมดไปที่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ 16. การฟื้นฟูความเป็นส่วนตัวทางการเงิน: การนำระบบมาใช้เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวทางการเงิน ยุติการโจรกรรมข้อมูลและการแฮ็กข้อมูลอย่างแพร่หลาย 17. การฝึกอบรมผู้พิพากษาและทนายความใหม่: ผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมายทุกคนจะได้รับการฝึกอบรมใหม่ในกฎหมายรัฐธรรมนูญเพื่อรักษาความยุติธรรมและปกป้องสิทธิของพลเมือง 18. ความคิดริเริ่มเพื่อสันติภาพทั่วโลก: สหรัฐฯ จะยุติการดำเนินการทางทหารที่ก้าวร้าวทั้งหมด โดยเปลี่ยนโฟกัสไปที่ความสัมพันธ์ทางการทูตที่สันติทั่วโลก 19. การเปิดเผยเทคโนโลยีที่ถูกระงับ: สิทธิบัตรที่ซ่อนอยู่มากกว่า 6,000 รายการสำหรับเทคโนโลยีขั้นสูง (รวมถึงพลังงานฟรีและการรักษาทางการแพทย์) จะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ 20. การจัดหาเงินทุนสำหรับโครงการด้านมนุษยธรรม: การจัดหาเงินทุนจำนวนมากสำหรับโครงการด้านมนุษยธรรมในประเทศและทั่วโลก ช่วยให้สังคมได้รับการปรับปรุงอย่างกว้างขวาง 21. ห้ามผู้ค้าเงินตราและโลหะมีค่า: การซื้อและขายโลหะมีค่าจะดำเนินการเฉพาะผ่านระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เท่านั้น โดยจะขจัดคนกลางเอกชนออกไป 22. ประชาชนสามารถเข้าถึงเหรียญที่ผลิตได้: ประชาชนจะสามารถแปลงทองคำและเงินที่ตนถือครองเป็นเหรียญที่ผลิตได้ซึ่งได้รับการอนุมัติจากกระทรวงการคลังสหรัฐฯ 23. ดัชนีโลหะมีค่ารายวัน: กระทรวงการคลังสหรัฐฯ จะรักษาดัชนีรายวันสำหรับการกำหนดราคาโลหะมีค่า เพื่อให้แน่ใจว่ามีความโปร่งใสและมีเสถียรภาพในตลาด 24. การแปรรูปบริการไปรษณีย์สหรัฐฯ: USPS จะถูกแปรรูปโดยปรับปรุงกระบวนการทำงานและทำให้บริการมีประสิทธิภาพและแข่งขันได้มากขึ้น 25. การปรับโครงสร้างของระบบประกันสังคม: ระบบประกันสังคมสหรัฐฯ จะได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อให้มั่นใจถึงความยั่งยืนและความยุติธรรมในระยะยาว 26. QFS (ระบบการเงินควอนตัม): การแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศและพันธบัตรส่วนใหญ่ของ NESARA จะถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัยในบัญชีบล็อคเชนผ่านระบบการเงินควอนตัม 27. การปฏิรูประบบธนาคาร: ธนาคารจะเผชิญกับข้อจำกัดใหม่เกี่ยวกับอัตราและค่าธรรมเนียม ในขณะที่ประชาชนได้รับสิทธิในการดูแลเงินทุนของตนที่แข็งแกร่งขึ้น ธนาคารจะถูกยกเลิกภายใน 3-5 ปีหลังจาก NESARA 28. การเรียกคืนทรัพย์สินที่ถูกขโมย: NESARA จะเรียกคืนทรัพย์สินที่ถูกขโมยโดยสถาบันที่ทุจริต รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐ วอลล์สตรีท และกลุ่มคนชั้นสูง โดยคืนทรัพย์สินเหล่านั้นให้กับเจ้าของที่ถูกต้อง 29. การคืนทรัพย์สินสำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ: จะมีการชดใช้ทางการเงินสำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เช่น การเก็บภาษีที่ผิดกฎหมาย การกู้ยืมที่ไม่เป็นธรรม และการยึดทรัพย์สินที่ผิดกฎหมาย 30. การแลกเงินตราและพันธบัตร: บุคคลจะมีโอกาสในการแลกหรือแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและพันธบัตร ZIM ในอัตราที่กำหนดเพื่อใช้ส่วนตัวและโครงการด้านมนุษยธรรม ระบบการลงคะแนนเสียง QFS ใหม่ 31 ระบบการลงคะแนนเสียงปฏิวัติ: ระบบการเลือกตั้งปัจจุบันจะถูกแทนที่ด้วยกระบวนการลงคะแนนเสียงตามระบบการเงินควอนตัม รายชื่อผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงจะถูกสร้างขึ้นที่ศูนย์แลกรับของ NESARA และการเลือกตั้งในอนาคตจะดำเนินการโดยใช้ระบบ XRPL-QFS-5D ที่ปลอดภัย เฉพาะผู้ที่เข้าร่วมสิทธิประโยชน์ของ NESARA เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง ซึ่งรับประกันความซื่อสัตย์สุจริตและความปลอดภัยในการเลือกตั้ง บทบัญญัติ 30+1 เหล่านี้ถือเป็นแก่นของ NESARA GESARA ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ที่ความยุติธรรม ความเป็นธรรม และเสรีภาพครองอำนาจสูงสุด โลกที่เรารู้จักกำลังจะเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล คุณพร้อมหรือยังสำหรับคลื่นกระแทก?
    0 Comments 0 Shares 555 Views 0 Reviews
  • รวมพลังแผ่นดินยึดอำนาจโดยมวลมหาพลังชนคนแผ่นดินไทยเลย,วิจัยสัก10-20ปีว่ารูปแบบบริหารจัดการโดยภาคประชาชนเป็นผู้นำประเทศจะเป็นแบบใด,ดีกว่านักการเมืองบริหารราชการหรือภาคประชาชนบริหารราชการไทยดีกว่า,อนาคตกฎหมายอะไรที่ออกมาแล้วที่ผ่านๆมาจากกฎกระทรวงทบวงกรมเขียนออกเองแล้วเหี้ยๆมากมายสามารถฉีกทิ้งได้เลยด้วยทีมเฉพาะพิเศษของภาคประชาชนมาดูเรื่องนี้โดยเฉพาะ,เช่นกฎหมายที่ดินมากมายที่นายทุนทั้งในและต่างประเทศใช้กฎหมายบัดสบนั้นย่ำยีอธิปไตยในที่ดินชาติไทยมานานยึดครองแทนประชาชนคนไทยไปเป็นอันมากโดยอาศัยกฎหมายนั้นๆเขียนเอื้ออำนวยสร้างให้พวกมันจะจัดการใหม่ทั้งหมด เมื่อภาคประชาชนยึดอำนาจได้แล้ว สิ้นสุดสถาบันนักการเมือง มาเป็นสถาบันของประชาชนเลยปกครองเอง เขียนกฎหมายที่ดำรงไว้เพื่อประชาชนจริงมิใช่เพื่อคนต่างชาติต่างประเทศเพื่อนายทุนซึ่งส่วนใหญ่คืออีลิทdeep stateต้องการปกครองประชาชนคนไทยผ่านลักษณะภาคการเมืองและภาคกิจการบริษัทการยึดกิจการผูกขาดต่างๆภายในประเทศ ชาวไทยเรากำหนดราคาสินค้าที่เหมาะสมไม่ได้เลย,เช่นสินค้าทุกๆชนิดต้องขึ้นลงตามราคาทองคำเพราะทองคำยังอ้างอิงใช้เป็นหลักค้ำประกันการพิมพ์พันธบัตรได้หรือค้ำประกันตังดิจิดัลของรัฐบาลตนก็ว่า,สามารถควบคุมอัตราเงินเฟ้อทันทีได้,ตลอดเงินเดือนค่าแรงงานคนไทยต้องอ้างอิงราคาทองคำเรียลไทม์ด้วยเช่นกันเพื่อสามารถชนะค่าครองชีพให้ทันความเป็นจริง,ราคาสินค้า100บาทต่อชิ้น,เงินเดือนยัง9,000บาทต่อเดือนมันใข่เหรอ,จาก100บาทเคยซื้อของได้5-6ชิ้นหรือมากกว่า,หรือ15,000บาทต่อเดือนก็ตาม,แต่สถานะค่าดำรงชีพจริงและการใช้จ่ายไทบ้านประชาชนปกติธรรมดายังหาตังหารายได้ได้น้อยกว่าที่เป็นจริง,หรือสูงกว่ารายได้,หรือค่าใช้จ่ายต่างๆทั่วชุมชนส่งคมรอบๆตนแพงสูงขึ้นนั้นเอง,การปกครองหากแก้ต้นเหตุได้จะจบสิ้นทันที,ทุกๆอย่างหากควบคุมที่ต้นเหตุได้จริง คนไทยเราจะใช้ชีวิตไม่ลำบากมาถึงทุกๆวันนี้เพราะสถาบันภาคนักการเมืองเสื่อมสถานะแล้วขาดคุณสมบัติให้บริหารชาติปกครองประเทศอีกต่อไปโดยสิ้นเชิง,อบต.ต้องยุบทั่วประเทศสิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดิน,เรามีข้าราชการมากเกินไปและเป็นระบบอุปถัมภ์เสียมาก,พี่น้องวงศ์ตระกูลทั้งสิ้นเสียมากต่างฝาดต่างให้คะแนนผ่านสอบกัน,หายุติธรรมลำบาก,เป็นไปด้วยการทุจริตใต้โต๊ะโดยมากโดยผู้หลักผู้ใหญ่ภายในองค์กรคัดเลือกนี้เอง,เงินกว่า60-70%ของงบประเทศจะเป็นไปเพื่อค่าสาระพัดต่างๆที่เสียไปแก่คนในระบบราชการนี้,เงินเดือนไม่พอ มีสวัสดิการ ค่าเบี้ยเลี้ยงเบี้ยประชุมสัมมนาอีกไม่รวมโบนัสค่าตำแหน่งค่าน้ำมันรถค่าบ้านค่าไฟเบิกหลวงทางอ้อมได้หมดนอกจากทางตรงแค่ตังเงินเดือน,ส่วนประชาชนกินแกลบเสียค่าปรับค่าธรรมเนียมค่าบำรุงคนของข้าราชการรัฐตรึมภาษีสาระพัดค่าใบอนุญาตจิปาถะ ,พื้นๆไปดูโรงเรียนเลย เก็บค่านั้นนี้กับผู้ปกครองเด็กๆสาระพัด ค่ากิจกรรมต่างๆอีก เรี่ยไรสร้างสาระพัดสิ่งในโรงเรียนอีก,เคสสถานศึกษาดูง่ายที่สุด.
    ..คือประเทศไทยต้องเปลี่ยนแปลงต้องพลิกประเทศจริงๆ,มีบ่อน้ำมันเต็มประเทศบ่อทองคำมากล้นเป็นสายทางแร่ แต่จากการปกครองผ่านมาหลายทศวรรษพิสูจน์แล้วว่าเหี้ยหมด,ตกประเมินก็ได้,ขาดคุณสมบัติก็ด้วย,ล้มเหลวทางการปกครองยิ่งชัด,ดูได้ชัดเจนจากสถาบันภาคการเมืองบริหารปกครองระบบราชการไม่ดี ปล่อยบ่อน้ำมันให้ตกไปแก่เอกชนต่างชาติและเอกชนภายในประเทศที่ถูกครอบงำจากคนไม่ดีไปตกแก่พวกนี้เกือบ100% รัฐบาลเองโดยสถาบันภาคนักการเมืองต้องบริหารอย่างซื่อสัตย์สุจริตใจต่อประชาชนต่อประเทศต่ออธิปไตยตนเองเพราะแน่นอนบ่อน้ำมันนั้นหากเขาได้ไปจะเสียสิทธิ์ทางอธิปไตยพื้นที่สัมปทานไปทันทีคือแปลงที่ดินนั้นเขาได้สิทธิเหนือกฎหมายอธิปไตยชาติไทยทันที,สะดวกต่อกิจกรรมใดๆเอกชนนั้นทันที,กว่าเสียอธิปไตยพรมแดนเขมรอีกที่เป็นเรื่องในตอนนี้,สัมปทานไปกว่า21ครั้งแล้ว เสียพื้นที่บริหารจัดการทางที่ดินไปกี่ล้านไร่แล้วทั่วประเทศ,ชาวบ้านขุดเจอน้ำมันบนที่ดินตนเองปกติสมควรเป็นของส่วนรวมแต่เหี้ยเอกชนนั้นๆมันมายึดครองทันที เช่นแปลงสัมปทานที่มันได้กินพื้นที่อุดร สกล หนองคาย หากชาวบ้านขุดบ่อบาดาลแล้วเจอน้ำมัน พวกมันมายึดไปขุดแทนที่ทันที,นี้คือกฎหมายและสัมปทานขายอธิปไตยความมั่นคงทางพลังงานและอธิปไตยเหนือที่ดินประชาชนชาวไทยเราทันที,ต้องฉีกทิ้งกฎหมายนี้ทั้งหมดทันทีเช่นกัน ,นี้คือหน้าที่ภาคประชาชนคนไทยต้องจบในรุ่นยุคเราให้ได้,มันบัดสบพอแล้ว,อิหร่านมีบ่อน้ำมันมีโรงกลั่นน้ำมันน้อยกว่าไทยเสือกขายน้ำมันภายในประเทศอิหร่านแค่ลิตรละ1-2บาทได้,นั้นแสดงว่าวิถีปกครองเรามีปัญหาและคือตัวถ่วงความอยู่ดีมีสุขของประชาชนคนไทยเราทั้งประเทศจริง,และตัวการใหญ่ที่ทำไมจึงตั้งใจปกครองให้ประชาชนโง่ไม่ให้รู้ความจริงตรงนีัและอัดสถานะเพิ่มบัตรคนจนให้มากๆคงความมั่นคงทางความยากจนความจนให้คนไทยมากๆ.
    ..เราต้องการเห็นภาคประชาชนชนะและยึดอำนาจรัฐบาลจริงจังได้เสียที,ไล่ออกรัฐบาลสมคบคิดต่อศัตรูภัยอธิปไตยชาติไทยตนเองภัยคุกคามแผ่นดินไทยตนเองทันทีแล้วทำให้สุดซอยยึดอำนาจโดยภาคประชาชนเลยเคียงคู่ทหารไทยเราที่ยืนเคียงข้างประชาชนคนไทยตนเองเพราะทหารทุกๆคนก็ประชาชนคนไทยเรานี้ไปเป็นทหารในชื่อว่าทหารแทนชื่ิอว่าประชาชนคนไทยคนหนึ่งเท่านั้น,ประเทศไทยถึงเวลาเปลี่ยนแปลงกันอย่างจริงจังครั่งใหญ่แล้ว,เพราะนี้คือสงครามย่อยบทท้าทายเบื้องต้นแค่นั่น,รัฐบาลที่มาจากภาคประชาชนยึดอำนาจปกครองเองที่มิใช่ทหาร ประเทศทั่วโลกไหนจะเหี้ยประนามเรา,เราสมควรเลิกชุมนุมแล้วให้ทหารรับกรรมว่ายึดอำนาจรัฐประหารเถอะ,เรา..ประชาชนยึดอำนาจเองเลย ทำให้สุดซอยเลย,ไม่มีใครผิดกฎหมายในกระบวนการยึดอำนาจจริงคืนมาจากตัวแทนที่เลวชั่วใช้อำนาจเราไปทางที่ชั่วเลวนั่นเองจนสู่ภัยคุกคามที่ร้ายแรงถึงอธิปไตยชาติไทยตนเองจะปล่อยไว้ทำซากอะไรให้เนินนานขนาดนี้.

    https://youtu.be/MGtFbJDl1lc?si=EXDyGbqUgRSqHBov
    รวมพลังแผ่นดินยึดอำนาจโดยมวลมหาพลังชนคนแผ่นดินไทยเลย,วิจัยสัก10-20ปีว่ารูปแบบบริหารจัดการโดยภาคประชาชนเป็นผู้นำประเทศจะเป็นแบบใด,ดีกว่านักการเมืองบริหารราชการหรือภาคประชาชนบริหารราชการไทยดีกว่า,อนาคตกฎหมายอะไรที่ออกมาแล้วที่ผ่านๆมาจากกฎกระทรวงทบวงกรมเขียนออกเองแล้วเหี้ยๆมากมายสามารถฉีกทิ้งได้เลยด้วยทีมเฉพาะพิเศษของภาคประชาชนมาดูเรื่องนี้โดยเฉพาะ,เช่นกฎหมายที่ดินมากมายที่นายทุนทั้งในและต่างประเทศใช้กฎหมายบัดสบนั้นย่ำยีอธิปไตยในที่ดินชาติไทยมานานยึดครองแทนประชาชนคนไทยไปเป็นอันมากโดยอาศัยกฎหมายนั้นๆเขียนเอื้ออำนวยสร้างให้พวกมันจะจัดการใหม่ทั้งหมด เมื่อภาคประชาชนยึดอำนาจได้แล้ว สิ้นสุดสถาบันนักการเมือง มาเป็นสถาบันของประชาชนเลยปกครองเอง เขียนกฎหมายที่ดำรงไว้เพื่อประชาชนจริงมิใช่เพื่อคนต่างชาติต่างประเทศเพื่อนายทุนซึ่งส่วนใหญ่คืออีลิทdeep stateต้องการปกครองประชาชนคนไทยผ่านลักษณะภาคการเมืองและภาคกิจการบริษัทการยึดกิจการผูกขาดต่างๆภายในประเทศ ชาวไทยเรากำหนดราคาสินค้าที่เหมาะสมไม่ได้เลย,เช่นสินค้าทุกๆชนิดต้องขึ้นลงตามราคาทองคำเพราะทองคำยังอ้างอิงใช้เป็นหลักค้ำประกันการพิมพ์พันธบัตรได้หรือค้ำประกันตังดิจิดัลของรัฐบาลตนก็ว่า,สามารถควบคุมอัตราเงินเฟ้อทันทีได้,ตลอดเงินเดือนค่าแรงงานคนไทยต้องอ้างอิงราคาทองคำเรียลไทม์ด้วยเช่นกันเพื่อสามารถชนะค่าครองชีพให้ทันความเป็นจริง,ราคาสินค้า100บาทต่อชิ้น,เงินเดือนยัง9,000บาทต่อเดือนมันใข่เหรอ,จาก100บาทเคยซื้อของได้5-6ชิ้นหรือมากกว่า,หรือ15,000บาทต่อเดือนก็ตาม,แต่สถานะค่าดำรงชีพจริงและการใช้จ่ายไทบ้านประชาชนปกติธรรมดายังหาตังหารายได้ได้น้อยกว่าที่เป็นจริง,หรือสูงกว่ารายได้,หรือค่าใช้จ่ายต่างๆทั่วชุมชนส่งคมรอบๆตนแพงสูงขึ้นนั้นเอง,การปกครองหากแก้ต้นเหตุได้จะจบสิ้นทันที,ทุกๆอย่างหากควบคุมที่ต้นเหตุได้จริง คนไทยเราจะใช้ชีวิตไม่ลำบากมาถึงทุกๆวันนี้เพราะสถาบันภาคนักการเมืองเสื่อมสถานะแล้วขาดคุณสมบัติให้บริหารชาติปกครองประเทศอีกต่อไปโดยสิ้นเชิง,อบต.ต้องยุบทั่วประเทศสิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดิน,เรามีข้าราชการมากเกินไปและเป็นระบบอุปถัมภ์เสียมาก,พี่น้องวงศ์ตระกูลทั้งสิ้นเสียมากต่างฝาดต่างให้คะแนนผ่านสอบกัน,หายุติธรรมลำบาก,เป็นไปด้วยการทุจริตใต้โต๊ะโดยมากโดยผู้หลักผู้ใหญ่ภายในองค์กรคัดเลือกนี้เอง,เงินกว่า60-70%ของงบประเทศจะเป็นไปเพื่อค่าสาระพัดต่างๆที่เสียไปแก่คนในระบบราชการนี้,เงินเดือนไม่พอ มีสวัสดิการ ค่าเบี้ยเลี้ยงเบี้ยประชุมสัมมนาอีกไม่รวมโบนัสค่าตำแหน่งค่าน้ำมันรถค่าบ้านค่าไฟเบิกหลวงทางอ้อมได้หมดนอกจากทางตรงแค่ตังเงินเดือน,ส่วนประชาชนกินแกลบเสียค่าปรับค่าธรรมเนียมค่าบำรุงคนของข้าราชการรัฐตรึมภาษีสาระพัดค่าใบอนุญาตจิปาถะ ,พื้นๆไปดูโรงเรียนเลย เก็บค่านั้นนี้กับผู้ปกครองเด็กๆสาระพัด ค่ากิจกรรมต่างๆอีก เรี่ยไรสร้างสาระพัดสิ่งในโรงเรียนอีก,เคสสถานศึกษาดูง่ายที่สุด. ..คือประเทศไทยต้องเปลี่ยนแปลงต้องพลิกประเทศจริงๆ,มีบ่อน้ำมันเต็มประเทศบ่อทองคำมากล้นเป็นสายทางแร่ แต่จากการปกครองผ่านมาหลายทศวรรษพิสูจน์แล้วว่าเหี้ยหมด,ตกประเมินก็ได้,ขาดคุณสมบัติก็ด้วย,ล้มเหลวทางการปกครองยิ่งชัด,ดูได้ชัดเจนจากสถาบันภาคการเมืองบริหารปกครองระบบราชการไม่ดี ปล่อยบ่อน้ำมันให้ตกไปแก่เอกชนต่างชาติและเอกชนภายในประเทศที่ถูกครอบงำจากคนไม่ดีไปตกแก่พวกนี้เกือบ100% รัฐบาลเองโดยสถาบันภาคนักการเมืองต้องบริหารอย่างซื่อสัตย์สุจริตใจต่อประชาชนต่อประเทศต่ออธิปไตยตนเองเพราะแน่นอนบ่อน้ำมันนั้นหากเขาได้ไปจะเสียสิทธิ์ทางอธิปไตยพื้นที่สัมปทานไปทันทีคือแปลงที่ดินนั้นเขาได้สิทธิเหนือกฎหมายอธิปไตยชาติไทยทันที,สะดวกต่อกิจกรรมใดๆเอกชนนั้นทันที,กว่าเสียอธิปไตยพรมแดนเขมรอีกที่เป็นเรื่องในตอนนี้,สัมปทานไปกว่า21ครั้งแล้ว เสียพื้นที่บริหารจัดการทางที่ดินไปกี่ล้านไร่แล้วทั่วประเทศ,ชาวบ้านขุดเจอน้ำมันบนที่ดินตนเองปกติสมควรเป็นของส่วนรวมแต่เหี้ยเอกชนนั้นๆมันมายึดครองทันที เช่นแปลงสัมปทานที่มันได้กินพื้นที่อุดร สกล หนองคาย หากชาวบ้านขุดบ่อบาดาลแล้วเจอน้ำมัน พวกมันมายึดไปขุดแทนที่ทันที,นี้คือกฎหมายและสัมปทานขายอธิปไตยความมั่นคงทางพลังงานและอธิปไตยเหนือที่ดินประชาชนชาวไทยเราทันที,ต้องฉีกทิ้งกฎหมายนี้ทั้งหมดทันทีเช่นกัน ,นี้คือหน้าที่ภาคประชาชนคนไทยต้องจบในรุ่นยุคเราให้ได้,มันบัดสบพอแล้ว,อิหร่านมีบ่อน้ำมันมีโรงกลั่นน้ำมันน้อยกว่าไทยเสือกขายน้ำมันภายในประเทศอิหร่านแค่ลิตรละ1-2บาทได้,นั้นแสดงว่าวิถีปกครองเรามีปัญหาและคือตัวถ่วงความอยู่ดีมีสุขของประชาชนคนไทยเราทั้งประเทศจริง,และตัวการใหญ่ที่ทำไมจึงตั้งใจปกครองให้ประชาชนโง่ไม่ให้รู้ความจริงตรงนีัและอัดสถานะเพิ่มบัตรคนจนให้มากๆคงความมั่นคงทางความยากจนความจนให้คนไทยมากๆ. ..เราต้องการเห็นภาคประชาชนชนะและยึดอำนาจรัฐบาลจริงจังได้เสียที,ไล่ออกรัฐบาลสมคบคิดต่อศัตรูภัยอธิปไตยชาติไทยตนเองภัยคุกคามแผ่นดินไทยตนเองทันทีแล้วทำให้สุดซอยยึดอำนาจโดยภาคประชาชนเลยเคียงคู่ทหารไทยเราที่ยืนเคียงข้างประชาชนคนไทยตนเองเพราะทหารทุกๆคนก็ประชาชนคนไทยเรานี้ไปเป็นทหารในชื่อว่าทหารแทนชื่ิอว่าประชาชนคนไทยคนหนึ่งเท่านั้น,ประเทศไทยถึงเวลาเปลี่ยนแปลงกันอย่างจริงจังครั่งใหญ่แล้ว,เพราะนี้คือสงครามย่อยบทท้าทายเบื้องต้นแค่นั่น,รัฐบาลที่มาจากภาคประชาชนยึดอำนาจปกครองเองที่มิใช่ทหาร ประเทศทั่วโลกไหนจะเหี้ยประนามเรา,เราสมควรเลิกชุมนุมแล้วให้ทหารรับกรรมว่ายึดอำนาจรัฐประหารเถอะ,เรา..ประชาชนยึดอำนาจเองเลย ทำให้สุดซอยเลย,ไม่มีใครผิดกฎหมายในกระบวนการยึดอำนาจจริงคืนมาจากตัวแทนที่เลวชั่วใช้อำนาจเราไปทางที่ชั่วเลวนั่นเองจนสู่ภัยคุกคามที่ร้ายแรงถึงอธิปไตยชาติไทยตนเองจะปล่อยไว้ทำซากอะไรให้เนินนานขนาดนี้. https://youtu.be/MGtFbJDl1lc?si=EXDyGbqUgRSqHBov
    0 Comments 0 Shares 349 Views 0 Reviews
  • ทุกวันนี้บริษัทเทคโนโลยีต่างพูดถึงว่า AI ทำให้คนทำงานได้เร็วขึ้น ผลิตได้มากขึ้นในเวลาน้อยลง แต่ความจริงคือ...หลายบริษัทกลับใช้ AI เป็นเหตุผลในการปลดพนักงาน แล้วเราควรรู้สึกดียังไง?

    Bernie Sanders ให้สัมภาษณ์ในรายการ Joe Rogan Experience โดยตั้งคำถามว่า "ถ้าเราสร้าง AI เพื่อให้คนทำงานง่ายขึ้น ทำไมถึงเอาเวลาที่เหลือไปไล่คนออก?" เขาเสนอทางเลือกใหม่: "ลดชั่วโมงทำงานเหลือ 32 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ (4 วัน) โดยไม่ลดเงินเดือน"

    เขายกตัวอย่างประเทศอย่าง อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี และญี่ปุ่น ที่กำลังทดลองสัปดาห์ทำงาน 4 วัน โดยผลลัพธ์ที่ออกมาก็น่าสนใจ:
    - รายได้บริษัทเพิ่มขึ้น 8%
    - ความเหนื่อยล้าของพนักงานลดลง 10%
    - ความเครียดลดลง 35%
    - และในกรณีของ Microsoft Japan — ผลิตภาพเพิ่มขึ้นถึง 40%

    แต่ในโลกจริงกลับตรงข้าม — บริษัทยักษ์ใหญ่ยังปลดพนักงานนับพัน เช่น Microsoft เพิ่งประกาศเลย์ออฟอีกครั้ง แม้กำลังทุ่มงบกว่า $80 พันล้านดอลลาร์ พัฒนา AI ภายในปีเดียว

    สรุปคือ: “AI ควรให้เวลาคืนกลับคนทำงาน ไม่ใช่พรากงานไปจากพวกเขา”

    https://www.techspot.com/news/108462-bernie-sanders-productivity-boosting-ai-mean-4-day.html
    ทุกวันนี้บริษัทเทคโนโลยีต่างพูดถึงว่า AI ทำให้คนทำงานได้เร็วขึ้น ผลิตได้มากขึ้นในเวลาน้อยลง แต่ความจริงคือ...หลายบริษัทกลับใช้ AI เป็นเหตุผลในการปลดพนักงาน แล้วเราควรรู้สึกดียังไง? Bernie Sanders ให้สัมภาษณ์ในรายการ Joe Rogan Experience โดยตั้งคำถามว่า "ถ้าเราสร้าง AI เพื่อให้คนทำงานง่ายขึ้น ทำไมถึงเอาเวลาที่เหลือไปไล่คนออก?" เขาเสนอทางเลือกใหม่: "ลดชั่วโมงทำงานเหลือ 32 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ (4 วัน) โดยไม่ลดเงินเดือน" เขายกตัวอย่างประเทศอย่าง อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี และญี่ปุ่น ที่กำลังทดลองสัปดาห์ทำงาน 4 วัน โดยผลลัพธ์ที่ออกมาก็น่าสนใจ: - รายได้บริษัทเพิ่มขึ้น 8% - ความเหนื่อยล้าของพนักงานลดลง 10% - ความเครียดลดลง 35% - และในกรณีของ Microsoft Japan — ผลิตภาพเพิ่มขึ้นถึง 40% แต่ในโลกจริงกลับตรงข้าม — บริษัทยักษ์ใหญ่ยังปลดพนักงานนับพัน เช่น Microsoft เพิ่งประกาศเลย์ออฟอีกครั้ง แม้กำลังทุ่มงบกว่า $80 พันล้านดอลลาร์ พัฒนา AI ภายในปีเดียว สรุปคือ: “AI ควรให้เวลาคืนกลับคนทำงาน ไม่ใช่พรากงานไปจากพวกเขา” https://www.techspot.com/news/108462-bernie-sanders-productivity-boosting-ai-mean-4-day.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Bernie Sanders says AI's "productivity boost" should mean 4-day workweeks, not layoffs
    During a recent interview on the Joe Rogan Experience, Sanders pointed out that the extra time that workers save through the use of AI tools should be...
    0 Comments 0 Shares 163 Views 0 Reviews
  • วันนี้นึกได้ว่าเคยได้รับช็อป เกียร์ และแหวน เพราะความสามารถในการจับกลุ่มพากันกัดฟันสู้ทนฝ่าฟัน ร้องเพลงลั่น คอแทบแห้ง กว่าจะได้มาไม่ใช่ง่ายๆ ตอนรับเนกไทไม่ได้ยืนอย่างลำบาก แต่ตอนรับการสวมช็อป แหวน เกียร์ จากรุ่นพี่ ผมพยายามยืนให้นิ่งที่สุดเพื่อฝึกสมาธิสั่นตัว ทำให้กลายเป็นที่จดจำตลอดกาล สุดท้ายเวลาที่ผมดิ่งดาวน์ลง ผมนึกถึงรุ่นพี่ นึกถึงความยากลำบากที่ทำให้ได้เสื้อช็อป เกียร์ แหวน ทำให้ผมมีแรงฮึดสู้ชีวิตต่อ และสิ่งที่ได้มาจากความพยายาม มุมานะ มุ่งมั่น บากบั่น อดทน อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ก็มีค่ากว่าเงินเดือนอยู่เสมอ เงินเดือนน้อย เงินเดือนมาก ไม่เกี่ยว หารายได้ต่อเดือนมากกว่าเงินเดือนขั้นต่ำเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ดังนั้นผมตั้งตั้งมั่น ตั้งปณิธานในการฝึกฝน เคี่ยวเข็ญตัวเองเพื่อให้ไปสู่จุดที่ผมมองว่าสำเร็จแล้ว หลังเรียนจบผมคิดว่ายังไม่สำเร็จทั้งหลักสูตร เลยต้องเรียนรู้สิ่งที่ขาดหายไป และเรียนรู้เพิ่มเติม จนกว่าจะครบครันในองค์ความรู้และภูมิความรู้
    ผมยอมรับว่าเคยโชว์ภูมิทั้งๆที่ภูมิความรู้ไม่น้อยและไม่ขวนวายให้มากกว่านี้ สุดท้ายผมไม่โชว์ภูมิ อวดภูมิ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในการรับงานรับจ้างออนไลน์ รีโมท
    วันนี้นึกได้ว่าเคยได้รับช็อป เกียร์ และแหวน เพราะความสามารถในการจับกลุ่มพากันกัดฟันสู้ทนฝ่าฟัน ร้องเพลงลั่น คอแทบแห้ง กว่าจะได้มาไม่ใช่ง่ายๆ ตอนรับเนกไทไม่ได้ยืนอย่างลำบาก แต่ตอนรับการสวมช็อป แหวน เกียร์ จากรุ่นพี่ ผมพยายามยืนให้นิ่งที่สุดเพื่อฝึกสมาธิสั่นตัว ทำให้กลายเป็นที่จดจำตลอดกาล สุดท้ายเวลาที่ผมดิ่งดาวน์ลง ผมนึกถึงรุ่นพี่ นึกถึงความยากลำบากที่ทำให้ได้เสื้อช็อป เกียร์ แหวน ทำให้ผมมีแรงฮึดสู้ชีวิตต่อ และสิ่งที่ได้มาจากความพยายาม มุมานะ มุ่งมั่น บากบั่น อดทน อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ก็มีค่ากว่าเงินเดือนอยู่เสมอ เงินเดือนน้อย เงินเดือนมาก ไม่เกี่ยว หารายได้ต่อเดือนมากกว่าเงินเดือนขั้นต่ำเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ดังนั้นผมตั้งตั้งมั่น ตั้งปณิธานในการฝึกฝน เคี่ยวเข็ญตัวเองเพื่อให้ไปสู่จุดที่ผมมองว่าสำเร็จแล้ว หลังเรียนจบผมคิดว่ายังไม่สำเร็จทั้งหลักสูตร เลยต้องเรียนรู้สิ่งที่ขาดหายไป และเรียนรู้เพิ่มเติม จนกว่าจะครบครันในองค์ความรู้และภูมิความรู้ ผมยอมรับว่าเคยโชว์ภูมิทั้งๆที่ภูมิความรู้ไม่น้อยและไม่ขวนวายให้มากกว่านี้ สุดท้ายผมไม่โชว์ภูมิ อวดภูมิ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในการรับงานรับจ้างออนไลน์ รีโมท
    0 Comments 0 Shares 163 Views 0 Reviews
  • ศาลอาญายกฟ้องคดี "บิ๊กอ๊อด" ฟ้องหมิ่น "สนธิ ลิ้มทองกุล" พาดพิงในรายการสนธิทอล์ก ชี้แสดงความเห็นโดยสุจริต ด้านเจ้าตัวระบุสู้คดีด้วยหลักฐานและความจริง พร้อมยืนยันไปขึ้นเวทีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ 28 มิ.ย.นี้แน่นอน

    เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (24 มิ.ย.) ที่ห้องพิจารณาคดี 809 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีอ.2708/2566 ที่พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร.และนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เป็นโจทก์ฟ้อง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งเครือหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ และบริษัทผู้จัดการ 360 องศา เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณาและนำข้อความเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เรียกค่าเสียหาย จำนวน 50 ล้านบาท

    คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า นายสนธิ จำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของช่องยูทูป และรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ หรือ รายการ Sonthi Talk โดยเมื่อวันที่ 6-7 ก.ค. 2566 ที่ผ่านมา นายสนธิ ได้พูดในรายการ Sonthi Talk พาดพิงให้เกิดความเสียหายด้วยข้อความว่า “จริงๆแล้วสมาคมฟุตบอลไทยนั้นทำงานเละเทะมานานแล้ว ตั้งแต่คุณสมยศขึ้นมาเป็นนายกสมาคม...” และข้อความ “คุณไม่รู้หรอกว่าชีวิตคุณเนี่ย ตั้งแต่เป็นผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คุณได้สร้างวีรกรรมมาเยอะไปหมดเลย หลายอย่าง ไม่ว่าเป็นคดีบอส อยู่วิทยาโน่นนี่นั่น ซึ่งผมได้เคยพูดเรื่องนี้ไปแล้ว อย่างไรก็ตามท้ายที่สุดแฟนบอลไทยก็ต้องดีใจเก้อ เพราะล่าสุดประชุมสภากรรมการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ซึ่งคนของคุณสมยศทั้งนั้น นี่ต้องยืนยันเป็นคนของคุณสมยศทั้งนั้น มีมติเป็นเอกฉันท์ยับยั้งการลาออก ให้ทำหน้าที่ไปจนครบวาระ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2567 โดยอ้างตามเกมที่คุณสมยศวางหมากไว้ว่า ไม่ให้ไทยต้องเสี่ยงการโดนฟีฟ่าลงดาบ ซึ่งจะถูกห้ามยุ่งกับการแข่งขันระดับนานาชาติทั้งหมด รวมทั้งกิจกรรมของฟีฟ่าประเด็นครับ ในวันลงมติมีคนในที่ประชุมกระซิบผมมาว่าก่อนลงมติบอร์ดสภากรรมการวงแตก หลายคน WORK OUT ขอลาออกรับไม่ได้ที่มีคนชงมติไว้ให้คุณสมยศอยู่ต่อ คนที่ชงมติไว้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเลย ก็พี่นวยของผมนั่นเองอดีตมิตรตำรวจด้วยกันคือ พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน…” ข้อความต่อมา “ท่านผู้ชมอย่าลืมนะว่าคนคนนี้เป็นคนที่พูดว่า อาชีพตำรวจถือว่าเป็นไซต์ไลน์ อาชีพหลักๆ คือเป็นนักธุรกิจ คุณสมยศคือเสี่ยงิ้วราชการในตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในปี 2558... ยังมีอีกประเด็นหนึ่งไปยืมเงินเสี่ยกำพล วิระเทพสุภรณ์ เจ้าพ่ออาบอบนวด ซึ่งต้องคดีค้ามนุษย์ถึงสี่ครั้ง ไปยืมมา 300 ล้านบาท จนเป็นข่าวฉาวโฉ่ในช่วงนั้น สมยศระบุมาตลอดชีวิตรับราชการเกือบจะเรียกได้ว่า อาชีพตำรวจเป็นไซต์ไลน์ แต่หลักๆ แล้วเค้าทำเรื่องหุ้น พฤศจิกายน 2564 สองปีที่แล้ว กฤษฎีกาตีความว่า พล.ต.อ.สมยศ ได้รับเงินเดือนในตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลโดยมิชอบ เพราะตำแหน่งรวมทั้งกรรมการสมาคมฟุตบอล เป็นงานอาสา งานเสียสละไม่ใช่งานลูกจ้าง จึงไม่สามารถเรียกรับเงินค่าตอบแทนได้แม้แต่บาทเดียว...พอเป็นข่าวก็ออกมาชี้แจง รับเงินเดือนจริงแต่บริจาคกลับไปที่สมาคมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ประเด็นนี้คือว่ามันผิดกฎหมาย คุณจะบริจาคให้ใครไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือคุณไม่มีสิทธิ์ที่จะตั้งเงินเดือนคุณเอง เพราะงานนี้เป็นงานที่เสียสละ”



    นอกจากนี้ข้อความ “ส่วนเรื่องสิทธิประโยชน์สมาคมฟุตบอล มีบริษัทหนึ่งชนะการประมูลจนได้เข้ามาดูแลนั้น บริษัทดังกล่าว แวดวงในบอกว่าเป็นลูกรักของบิ๊กอ็อด ที่เข้ามาอุ้มชู ปลุกปั้นมาตั้งแต่สมัยเป็นตำรวจ หลายฝ่ายจึงมองว่าการประมูลในครั้งนี้มีการเอื้อประโยชน์แก่กัน ดูตัวอย่าง ตัวอย่างหนึ่ง เราย้อนกลับไปปี 2563 ได้บริษัทเซ้นส์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ที่ไม่มีประสบการในการทำคอนเทนต์เกี่ยวกับกีฬามาก่อน แต่ดันชนะการประมูล ถือครองลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดไทยลีก มูลค่า 12,000 ล้านบาท ตกปีละ 1,500 ล้านบาท สุดท้ายไปไม่รอด ผู้บริหารขาดทุนแบบย่อยยับ ต้องเปลี่ยนผู้ถือครองมาเป็น AIS ทำให้มูลค่าลิขสิทธิ์ตกลงมาเกือบ 4 เท่า เหลือแค่ 400 ล้านบาท ตัดภาพมาตอนปัจจุบันเลย ในเรื่องดราม่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดฟุตบอลไทย ที่มีข่าวว่ามูลค่าลดฮวบ จาก 1,000 ล้านบาท เหลือเพียง 50 ล้านบาท ถ้าเราย้อนอดีตไป ลิขสิทธิ์บอลไทยเคยมีรายได้อู้ฟู่ โดยที่กระฉูดที่สุดในช่วงปี 2560-2563 ที่ทรูวิชั่น ประมูลค่าลิขสิทธิ์ 4,200 ล้านบาท แบ่งเป็นปี 60 900 ล้านบาท 61 1,000 ล้านบาท 62 1,100 ล้านบาท 63 1,200 ล้านบาท ในช่วงปี 2563 มีปัญหาเรื่องการแพร่ระบาดโรคโควิด ทรูวิชั่นก็ไม่มี ไม่สามารถจะจ่ายเต็มจำนวนได้ ฤดูกาล 2564-65 ค่าลิขสิทธิ์จาก AIS ก็ลดลงเหลือ 800 ล้านบาท ผ่านมาถึงฤดูกาล 2565-66 มีรายงานว่าเหลือแค่ราวๆ 300 ล้านบาท”และข้อความอื่น ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ๆทั้งนี้จำเลยทั้งสองร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ อันมีข้อความหมิ่นประมาทและดูหมิ่นโจทก์โดยการโฆษณา ขอให้ลงโทษตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 แก้ไข ฉบับที่ 2 มาตรา 16 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326,328,332,393, 91 เหตุเกิดทั่วราชอาณาจักร

    โดยช่วงเช้าวันนี้ นายสนธิ จำเลย เดินทางมาฟังคำพิพากษาพร้อมน.ส.อัจฉรา แสงขาว ทนายความ ส่วนโจทก์มีผู้รับมอบอำนาจมาฟังคำพิพากษา

    ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว เห็นว่า เป็นการแสดงความคิดเห็นและติชมโดยสุจริต พิพากษายกฟ้อง

    ภายหลังนายสนธิ กล่าวเพียงว่า ศาลพิพากษายกฟ้องในคดีที่ พล.ต.อ.สมยศ ฟ้องหมิ่นประมาท โดยตนสู้คดีด้วยหลักฐาน ความจริง และมีพยานมายืนยันข้อเท็จจริงทุกคดี ซึ่งพอใจผลคำพิพากษา เพราะชนะคดีก็ต้องพอใจ ยืนยันว่าไม่ใช่คดีแรกในชีวิต ตนเองทำงานสื่อมวลชนมา 50 ปี มีคดีทั้งหมด 246 คดี

    ผู้สื่อข่าวถามว่า การชุมนุมเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ในวันเสาร์ที่ 28 มิ.ย.นี้ จะไปขึ้นเวทีปราศรัยหรือไม่

    นายสนธิ กล่าวว่า ไปแน่นอน และให้สื่อมวลชนคอยฟังให้ดี เพราะตนจะมีทีเด็ดในการพูดบนเวทีการชุมนุมแน่นอน โดยการชุมนุมจะเริ่มตั้งแต่ บ่าย 3 โมงเย็น ถึงเวลา 2 ทุ่มของวันเสาร์

    เมื่อถามว่า การพูดทีเด็ดบนเวที จะทำให้รัฐบาลสะเทือนหรือไม่ นายสนธิกล่าวทิ้งท้ายว่า รัฐบาลชุดนี้พูดอะไรไปก็ไม่สะเทือนหรอก"

    https://sondhitalk.com/photo-gallery/9680000059229?fbclid=IwQ0xDSwLHDOBleHRuA2FlbQIxMQABHjn6VGI0tuOTxS9x_CkwyfHJV-yBaFUZuPKiJhpkpFj61C6LFET_1vKF_qsn_aem_sKwXdW8qRXGV0NWL3DHNAQ
    ศาลอาญายกฟ้องคดี "บิ๊กอ๊อด" ฟ้องหมิ่น "สนธิ ลิ้มทองกุล" พาดพิงในรายการสนธิทอล์ก ชี้แสดงความเห็นโดยสุจริต ด้านเจ้าตัวระบุสู้คดีด้วยหลักฐานและความจริง พร้อมยืนยันไปขึ้นเวทีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ 28 มิ.ย.นี้แน่นอน เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (24 มิ.ย.) ที่ห้องพิจารณาคดี 809 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีอ.2708/2566 ที่พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร.และนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เป็นโจทก์ฟ้อง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งเครือหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ และบริษัทผู้จัดการ 360 องศา เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณาและนำข้อความเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เรียกค่าเสียหาย จำนวน 50 ล้านบาท คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า นายสนธิ จำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของช่องยูทูป และรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ หรือ รายการ Sonthi Talk โดยเมื่อวันที่ 6-7 ก.ค. 2566 ที่ผ่านมา นายสนธิ ได้พูดในรายการ Sonthi Talk พาดพิงให้เกิดความเสียหายด้วยข้อความว่า “จริงๆแล้วสมาคมฟุตบอลไทยนั้นทำงานเละเทะมานานแล้ว ตั้งแต่คุณสมยศขึ้นมาเป็นนายกสมาคม...” และข้อความ “คุณไม่รู้หรอกว่าชีวิตคุณเนี่ย ตั้งแต่เป็นผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คุณได้สร้างวีรกรรมมาเยอะไปหมดเลย หลายอย่าง ไม่ว่าเป็นคดีบอส อยู่วิทยาโน่นนี่นั่น ซึ่งผมได้เคยพูดเรื่องนี้ไปแล้ว อย่างไรก็ตามท้ายที่สุดแฟนบอลไทยก็ต้องดีใจเก้อ เพราะล่าสุดประชุมสภากรรมการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ซึ่งคนของคุณสมยศทั้งนั้น นี่ต้องยืนยันเป็นคนของคุณสมยศทั้งนั้น มีมติเป็นเอกฉันท์ยับยั้งการลาออก ให้ทำหน้าที่ไปจนครบวาระ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2567 โดยอ้างตามเกมที่คุณสมยศวางหมากไว้ว่า ไม่ให้ไทยต้องเสี่ยงการโดนฟีฟ่าลงดาบ ซึ่งจะถูกห้ามยุ่งกับการแข่งขันระดับนานาชาติทั้งหมด รวมทั้งกิจกรรมของฟีฟ่าประเด็นครับ ในวันลงมติมีคนในที่ประชุมกระซิบผมมาว่าก่อนลงมติบอร์ดสภากรรมการวงแตก หลายคน WORK OUT ขอลาออกรับไม่ได้ที่มีคนชงมติไว้ให้คุณสมยศอยู่ต่อ คนที่ชงมติไว้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเลย ก็พี่นวยของผมนั่นเองอดีตมิตรตำรวจด้วยกันคือ พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน…” ข้อความต่อมา “ท่านผู้ชมอย่าลืมนะว่าคนคนนี้เป็นคนที่พูดว่า อาชีพตำรวจถือว่าเป็นไซต์ไลน์ อาชีพหลักๆ คือเป็นนักธุรกิจ คุณสมยศคือเสี่ยงิ้วราชการในตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในปี 2558... ยังมีอีกประเด็นหนึ่งไปยืมเงินเสี่ยกำพล วิระเทพสุภรณ์ เจ้าพ่ออาบอบนวด ซึ่งต้องคดีค้ามนุษย์ถึงสี่ครั้ง ไปยืมมา 300 ล้านบาท จนเป็นข่าวฉาวโฉ่ในช่วงนั้น สมยศระบุมาตลอดชีวิตรับราชการเกือบจะเรียกได้ว่า อาชีพตำรวจเป็นไซต์ไลน์ แต่หลักๆ แล้วเค้าทำเรื่องหุ้น พฤศจิกายน 2564 สองปีที่แล้ว กฤษฎีกาตีความว่า พล.ต.อ.สมยศ ได้รับเงินเดือนในตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลโดยมิชอบ เพราะตำแหน่งรวมทั้งกรรมการสมาคมฟุตบอล เป็นงานอาสา งานเสียสละไม่ใช่งานลูกจ้าง จึงไม่สามารถเรียกรับเงินค่าตอบแทนได้แม้แต่บาทเดียว...พอเป็นข่าวก็ออกมาชี้แจง รับเงินเดือนจริงแต่บริจาคกลับไปที่สมาคมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ประเด็นนี้คือว่ามันผิดกฎหมาย คุณจะบริจาคให้ใครไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือคุณไม่มีสิทธิ์ที่จะตั้งเงินเดือนคุณเอง เพราะงานนี้เป็นงานที่เสียสละ” นอกจากนี้ข้อความ “ส่วนเรื่องสิทธิประโยชน์สมาคมฟุตบอล มีบริษัทหนึ่งชนะการประมูลจนได้เข้ามาดูแลนั้น บริษัทดังกล่าว แวดวงในบอกว่าเป็นลูกรักของบิ๊กอ็อด ที่เข้ามาอุ้มชู ปลุกปั้นมาตั้งแต่สมัยเป็นตำรวจ หลายฝ่ายจึงมองว่าการประมูลในครั้งนี้มีการเอื้อประโยชน์แก่กัน ดูตัวอย่าง ตัวอย่างหนึ่ง เราย้อนกลับไปปี 2563 ได้บริษัทเซ้นส์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ที่ไม่มีประสบการในการทำคอนเทนต์เกี่ยวกับกีฬามาก่อน แต่ดันชนะการประมูล ถือครองลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดไทยลีก มูลค่า 12,000 ล้านบาท ตกปีละ 1,500 ล้านบาท สุดท้ายไปไม่รอด ผู้บริหารขาดทุนแบบย่อยยับ ต้องเปลี่ยนผู้ถือครองมาเป็น AIS ทำให้มูลค่าลิขสิทธิ์ตกลงมาเกือบ 4 เท่า เหลือแค่ 400 ล้านบาท ตัดภาพมาตอนปัจจุบันเลย ในเรื่องดราม่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดฟุตบอลไทย ที่มีข่าวว่ามูลค่าลดฮวบ จาก 1,000 ล้านบาท เหลือเพียง 50 ล้านบาท ถ้าเราย้อนอดีตไป ลิขสิทธิ์บอลไทยเคยมีรายได้อู้ฟู่ โดยที่กระฉูดที่สุดในช่วงปี 2560-2563 ที่ทรูวิชั่น ประมูลค่าลิขสิทธิ์ 4,200 ล้านบาท แบ่งเป็นปี 60 900 ล้านบาท 61 1,000 ล้านบาท 62 1,100 ล้านบาท 63 1,200 ล้านบาท ในช่วงปี 2563 มีปัญหาเรื่องการแพร่ระบาดโรคโควิด ทรูวิชั่นก็ไม่มี ไม่สามารถจะจ่ายเต็มจำนวนได้ ฤดูกาล 2564-65 ค่าลิขสิทธิ์จาก AIS ก็ลดลงเหลือ 800 ล้านบาท ผ่านมาถึงฤดูกาล 2565-66 มีรายงานว่าเหลือแค่ราวๆ 300 ล้านบาท”และข้อความอื่น ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ๆทั้งนี้จำเลยทั้งสองร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ อันมีข้อความหมิ่นประมาทและดูหมิ่นโจทก์โดยการโฆษณา ขอให้ลงโทษตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 แก้ไข ฉบับที่ 2 มาตรา 16 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326,328,332,393, 91 เหตุเกิดทั่วราชอาณาจักร โดยช่วงเช้าวันนี้ นายสนธิ จำเลย เดินทางมาฟังคำพิพากษาพร้อมน.ส.อัจฉรา แสงขาว ทนายความ ส่วนโจทก์มีผู้รับมอบอำนาจมาฟังคำพิพากษา ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว เห็นว่า เป็นการแสดงความคิดเห็นและติชมโดยสุจริต พิพากษายกฟ้อง ภายหลังนายสนธิ กล่าวเพียงว่า ศาลพิพากษายกฟ้องในคดีที่ พล.ต.อ.สมยศ ฟ้องหมิ่นประมาท โดยตนสู้คดีด้วยหลักฐาน ความจริง และมีพยานมายืนยันข้อเท็จจริงทุกคดี ซึ่งพอใจผลคำพิพากษา เพราะชนะคดีก็ต้องพอใจ ยืนยันว่าไม่ใช่คดีแรกในชีวิต ตนเองทำงานสื่อมวลชนมา 50 ปี มีคดีทั้งหมด 246 คดี ผู้สื่อข่าวถามว่า การชุมนุมเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ในวันเสาร์ที่ 28 มิ.ย.นี้ จะไปขึ้นเวทีปราศรัยหรือไม่ นายสนธิ กล่าวว่า ไปแน่นอน และให้สื่อมวลชนคอยฟังให้ดี เพราะตนจะมีทีเด็ดในการพูดบนเวทีการชุมนุมแน่นอน โดยการชุมนุมจะเริ่มตั้งแต่ บ่าย 3 โมงเย็น ถึงเวลา 2 ทุ่มของวันเสาร์ เมื่อถามว่า การพูดทีเด็ดบนเวที จะทำให้รัฐบาลสะเทือนหรือไม่ นายสนธิกล่าวทิ้งท้ายว่า รัฐบาลชุดนี้พูดอะไรไปก็ไม่สะเทือนหรอก" https://sondhitalk.com/photo-gallery/9680000059229?fbclid=IwQ0xDSwLHDOBleHRuA2FlbQIxMQABHjn6VGI0tuOTxS9x_CkwyfHJV-yBaFUZuPKiJhpkpFj61C6LFET_1vKF_qsn_aem_sKwXdW8qRXGV0NWL3DHNAQ
    SONDHITALK.COM
    Photo Gallery ศาลอาญายกฟ้อง "บิ๊กอ๊อด" ฟ้องหมิ่น "สนธิ ลิ้มทองกุล" พูดพาดพิงในรายการสนธิทอล์ก ชี้แสดงความเห็นโดยสุจริต
    Photo Gallery ศาลอาญายกฟ้อง บิ๊กอ็อด ฟ้องหมิ่น สนธิ ลิ้มทองกุล พาดพิงในรายการสนธิทอร์ค ชี้แสดงความเห็นโดยสุจริต ด้านเจ้าตัวระบุสู้คดีด้วยหลักฐานและความจริง พร้อมยืนยันไปขึ้นเวทีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ 28 มิ.ย.นี้แน่นอน
    0 Comments 0 Shares 387 Views 0 Reviews
  • ..อดีตของท่านไม่รู้,แต่ตอนนี้อ.เสรีพิศุทธ์ชัดเจนมาก,ด่าตรงๆแฉความจริงชัดแจ้งอีกคน,เชื่อมโยงทำให้คนเข้าใจง่ายจะเจาะลึกก็ได้ไม่เจาะลงลึกก็ตามแต่ทำให้คนเข้าใจเบื้องต้นและเมื่อติดตามครั้งต่อไปหากแฉเพิ่มเจาะลึกเพิ่มคนที่ติดตามก็ยิ่งช่วยเข้าใจเรื่องราวชัดอีกครั้ง.
    ..ฮุนเซนประกาศให้ไล่ล่าหรือสังหารผู้คนบนแผ่นดินไทยชัดเจนตลอดหมายหัวสั่งเก็บอาสนธิด้วย,มีความผิดเต็มและสังหารหรือทำลายคนต่อต้านฮุนเซนในประเทศไทยสำเร็จอีก,ความผิดประจักษ์ชัดทัังพยานและหลักฐานคลิปกล้องวีดีโอภาพถ่านรูปภาพต่างๆสื่อตีข่าวตรงกันด้วย,ศาลไทยเราสามารถดำเนินการได้เลย ออกหมายจับทันทีให้รวดเร็วได้,สามารถเป็นหมากทางยุทธศาสตร์เชิงรุกกำจัดศัตรูภัยคุกคามรุกรานอีกกลยุทธหนึ่ง,แต่ศาลเราตำรวจเรามือจะถึงมั้ย,ตัดสินใจเพื่ออธิปไตยตนมั้ยในการเร่งรีบดำเนินหมากยุทธศึกนี้,เห็นฮุนเซนและเดอะแก๊งที่ก่อการใดๆจับทันทีทั่วโลกกับตำรวจทหารโลก,ทหารไทยเห็นฮุนเซนเห็นเดอะแก๊งมันก็สามารถจับกุมได้อีก,ไม่จำเป็นต้องทำสงครามเดือดร้อนประชาชนผู้บริสุทธิ์ด้วย,
    ..ระบบเรามีปัญหาจริงๆ คนในระบบก็ตัวปัญหาด้วย,กกต.สามารถสั่งยุบพรรคได้นานแล้วแต่ก็ปล่อยให้เกิดความเสียหายชัดเจนถึงขนาดนี้ในเวลานี้,โครงสร้างระบบราชการไทยนอกจากมีปัญหา,คนในระบบราชการหรือคนที่มีหน้าที่ที่เกี่ยวข้องที่ได้เงินเดือนจากหลวงเองนี้ล่ะก็มีปัญหาด้วย,ดีชั่วเหมาะสมใดๆ ควรหรือไม่ควรกับสิ่งเลวชั่วก็หันตัวเองสู่สิ่งชั่วเลวเสียบนฐานอำนาจตำแหน่งที่ตนมีในเวลานั้น,ประเทศไทยจึงเสียต่อภัยคุกคามทุกๆรูปแบบแม้กรณีเรื่องเขมรพรมแดนจะไม่มีเรื่องเกิดขึ้นก็ตาม .
    ..สรุป คนชั่วอยู่ในระบบเยอะเกินไปและนานเกินไป.ต้องกำจัดให้สิ้นซากและกวาดล้างตลอดกฎหมายเองมากมายก็ชั่วเลวและร้ายด้วยเพราะเกิดจากคนชั่วเลวมันพากันเขียนขึ้นเพื่อเหตุแห่งมัน,จึงต้องฉีกทิ้งทำลายทิ้งพร้อมพวกมันด้วย.

    https://youtu.be/UU4urhaK2ms?si=TWVcV59VC7iPgrc0
    ..อดีตของท่านไม่รู้,แต่ตอนนี้อ.เสรีพิศุทธ์ชัดเจนมาก,ด่าตรงๆแฉความจริงชัดแจ้งอีกคน,เชื่อมโยงทำให้คนเข้าใจง่ายจะเจาะลึกก็ได้ไม่เจาะลงลึกก็ตามแต่ทำให้คนเข้าใจเบื้องต้นและเมื่อติดตามครั้งต่อไปหากแฉเพิ่มเจาะลึกเพิ่มคนที่ติดตามก็ยิ่งช่วยเข้าใจเรื่องราวชัดอีกครั้ง. ..ฮุนเซนประกาศให้ไล่ล่าหรือสังหารผู้คนบนแผ่นดินไทยชัดเจนตลอดหมายหัวสั่งเก็บอาสนธิด้วย,มีความผิดเต็มและสังหารหรือทำลายคนต่อต้านฮุนเซนในประเทศไทยสำเร็จอีก,ความผิดประจักษ์ชัดทัังพยานและหลักฐานคลิปกล้องวีดีโอภาพถ่านรูปภาพต่างๆสื่อตีข่าวตรงกันด้วย,ศาลไทยเราสามารถดำเนินการได้เลย ออกหมายจับทันทีให้รวดเร็วได้,สามารถเป็นหมากทางยุทธศาสตร์เชิงรุกกำจัดศัตรูภัยคุกคามรุกรานอีกกลยุทธหนึ่ง,แต่ศาลเราตำรวจเรามือจะถึงมั้ย,ตัดสินใจเพื่ออธิปไตยตนมั้ยในการเร่งรีบดำเนินหมากยุทธศึกนี้,เห็นฮุนเซนและเดอะแก๊งที่ก่อการใดๆจับทันทีทั่วโลกกับตำรวจทหารโลก,ทหารไทยเห็นฮุนเซนเห็นเดอะแก๊งมันก็สามารถจับกุมได้อีก,ไม่จำเป็นต้องทำสงครามเดือดร้อนประชาชนผู้บริสุทธิ์ด้วย, ..ระบบเรามีปัญหาจริงๆ คนในระบบก็ตัวปัญหาด้วย,กกต.สามารถสั่งยุบพรรคได้นานแล้วแต่ก็ปล่อยให้เกิดความเสียหายชัดเจนถึงขนาดนี้ในเวลานี้,โครงสร้างระบบราชการไทยนอกจากมีปัญหา,คนในระบบราชการหรือคนที่มีหน้าที่ที่เกี่ยวข้องที่ได้เงินเดือนจากหลวงเองนี้ล่ะก็มีปัญหาด้วย,ดีชั่วเหมาะสมใดๆ ควรหรือไม่ควรกับสิ่งเลวชั่วก็หันตัวเองสู่สิ่งชั่วเลวเสียบนฐานอำนาจตำแหน่งที่ตนมีในเวลานั้น,ประเทศไทยจึงเสียต่อภัยคุกคามทุกๆรูปแบบแม้กรณีเรื่องเขมรพรมแดนจะไม่มีเรื่องเกิดขึ้นก็ตาม . ..สรุป คนชั่วอยู่ในระบบเยอะเกินไปและนานเกินไป.ต้องกำจัดให้สิ้นซากและกวาดล้างตลอดกฎหมายเองมากมายก็ชั่วเลวและร้ายด้วยเพราะเกิดจากคนชั่วเลวมันพากันเขียนขึ้นเพื่อเหตุแห่งมัน,จึงต้องฉีกทิ้งทำลายทิ้งพร้อมพวกมันด้วย. https://youtu.be/UU4urhaK2ms?si=TWVcV59VC7iPgrc0
    0 Comments 0 Shares 173 Views 0 Reviews
  • ..คิดเล่นๆนะ,ถ้าประชาชนทุกๆคนที่เป็นสมาชิกพรรครัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาลต่างทำการลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคทั้งหมดที่เคยเอาบัตรประชาชนตนไปสมัครเป็นสมาชิกพรรค ไปสนับสนุนการมีอยู่ของสมาชิกพรรคจะเกิดอะไรขึ้นถ้าร่วมสามัคคีใจทำการลาออกจากพวกทรยศอธิปไตยชาติไทยเรานะ,มันจะจัดตั้งพรรคมันก็ล่ารายชื่อเราเพื่อหาสมาชิกพรรคจากประชาชนกันจัง,จริงๆกกต.สมควรล้างสถานะสมาชิกพรรคทุกๆสมัยก่อนมีการเลือกตั้งนะ,ไม่ให้ผูกขาดหรือคงอยู่ของการมีอยู่บุคคลว่าสมัครเป็นสมาชิกพรรคตนไว้,ถ้าสถานะการมีอยู่ของประชาชนที่มาเป็นสมาชิกพรรคไม่ถึงเกณฑ์ห้ามพรรคส่งสส.ลงสมัครรับเลือกตั้งหรือพรรคการเมืองนั้นสิ้นสถานะพรรคการเมืองทันที,เช่นหากพรรคเพื่อไทย ประชาชนไม่พอใจเพราะวลีความว่าทหารไทยอยู่ตรงข้ามฝ่ายเรา,ประชาชนเสื้อแดงจากเคยเอาบัตรประชาชนไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคกว่า10-20ล้านคนที่ไม่อัพเดทมีตายทุกๆเดือนทุกๆปีก็ว่า,พากันลาออกออนไลน์ได้ทันทีในนามสมาชิกสนับสนุนการมีอยู่ของพรรคก่อนตั้งพรรคต้องมีสมาชิกจากประชาชนเข้าร่วมด้วยอย่างน้อย1,000คนจึงตั้งพรรคการเมืองได้,ประชาชนลงทะเบียนออนไลน์สายตรงต่อกกต.ว่าขอลาออกการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยทันทีกว่า10-20ล้านคนทันทีเข่นกัน,นั้นแสดงว่าขาดคุณสมบัติการมีอยู่ของพรรคการเมืองทันที,พรรคนั้นจะยุบพรรคไปเองทันทีโดยอัตโนมัติและต้องหาคนหาประชาชนคนไทยที่มีสิทธิเลือกตั้งมาเป็นสมาชิกพรรคใหม่อีกครั้ง จดทะเบียนรายชื่อพรรคใหม่อีกครั้งนั้นเอง,นี้คือประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมืองชัดเจนอีกทางหนึ่ง,สส.ก็ด้วยสามารถไร้สกัดพรรคการเมืองได้,อิสระจากวิถีพรรคการเมืองได้,
    ..จริงๆหากสส.มีจิตสำนึกจริง จะต้องลาออกจากพรรครัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดด้วย,สส.รัฐบาลทุกๆคนสามารถมีข้อหาเป็นภัยคุกคามต่ออธิปไตยชาติเข่นกันรวมถึงทุกๆคนที่ได้รับเงินเดือนทำงานให้กับพรรครัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดด้วยเพราะเป็นกลไกขับเคลื่อนความชั่วเลวให้ชาติไทยประสบกับภัยคุกคามรุกรานนี้ด้วยทางความมั่นคงทางอธิปไตยของประเทศไทยตนและขาดจิตสำนึกดีชั่ว ไม่รู้สำนึกควรไม่ควร ทำงานให้คนทรยศอธิปไตยแผ่นดินไทยตนเองซึ่งข่าวสารชัดเจนสามารถประกอบการตัดสินใจด้านจิตสำนึกดีชั่วเลวขั้นพื้นฐานได้,แต่ยังมีเจตนาชัดเจนหมายก่อการร่วมกระทำการไปด้วยอย่างตั้งใจเมื่อความชัดปรากฎแล้ว,
    ..นี้คือภัยคุกคามความมั่นคงทางอธิปไตยของประเทศ จะมาล่อเล่นไม่ได้,ประเทศไทยจะเป็นประเทศได้มิใช่ไม่มีที่ไปที่มา,มีเลือดมีเนื้อมีชีวิตผู้กล้ามากมายผู้บริสุทธิ์มากล้นต้องแลกมาเพื่อปกป้องอธิปไตยชาติไทยเรานี้.,สส.และกรรมการพรรคตลอดคนงานที่รับเงินเดือนค่าตอบแทนพรรคนั้นๆทั้งหมดสามารถเข้าใจชัดเจนว่ามีความผิดร้ายแรงอย่างให้อภัยโทษไม่ได้,ประชาชนผู้ร่วมเป็นสมาชิกพรรคนั้นๆก็ด้วยบางคนไม่รับรู้อะไรเลยว่าตนถูกขโมยเลขที่บัตรประชาชนไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองนั้นๆกกต.จึงต้องมีระบบตรวจสอบสถานะสมาชิกพรรคการเมืองอย่างสะดวกสบายเรียลไทม์ให้เห็นผลว่าเขาเป็นสมาชิกนั้นๆได้แค่ตรวจสอบออนไลน์เรียลไทม์ด้วยเทคโนโลยีเราล้ำสมัยแล้ว,สามารถกดยืนยันลาออกจากสมาชิกนั้นเรียลไทม์ได้เช่นกัน,เราต้องปรับปรุงจริงๆนี้คือประชาชนมีส่วนร่วมจริงทางการบริหารประเทศ ชาติเสียหาย นายกฯไม่จำเป็นต้องลาออกหรือยุบสภาเลย,ประชาชนลาออกจากสมาชิกพรรคการเมืองนั้นๆก็จบ.,สส.ลาออกจากพรรคนั้นๆก็จบหากใช้สไตล์สส.มากจัดตั้งรัฐบาลได้.
    ..สรุป สส.ทั้งหมดคือตัวเหี้ยก็ได้ในตอนนี้,จะเป็นฮีโร่ก็ได้เช่นกันในเวลานี้ที่เป็นแปรสำคัญของทุกๆพรรคการเมืองในฝ่ายรัฐบาล,โยนความผิดให้สส.รัฐบาลเลย เพราะตัวการที่แท้จริงยังไม่ตัดสินใจว่าอะไรผิดถูก สมควรไม่สมควร เหมาะสมไม่เหมาะสม,ไม่ใช่แค่หัวหน้าพรรคหรือมติกรรมการพรรค ตัวพ่อมรึงคือมรึงนั้นล่ะ สส.ประจำพรรคจัดตัังรัฐบาลทั้งหลาย,ลาออกจากการเป็นสส.พรรครัฐบาลตั้งแต่ดูคลิปแล้วจึงจะสมควรสุด,ไม่อยากพูดแค่นั่นจริงๆ,และสื่อเราแบบโซเชียลทุกๆช่องทางสมควรตีหัวให้รู้สำนึกดีชั่วได้แล้ว,
    ..สส.พรรคนี้ทำดีมาก,คนทำงานในพรรคนี้ก็ดีด้วย,สามารถหนีหรือหลุดคดีภัยร้ายแรงด้านความมั่นคงทางอธิปไตยชาติไทยได้,และจริงๆต้องเป็นไปในรูปแบบนี้ด้วย กรรมการพรรค สส.พรรค เจ้าหน้าที่ทำงานแรงงานทุกๆคนในพรรคนั้นๆต้องรับโทษทั้งหมด,หนักเบาลดหย่อนตามบริบทหน้าที่หน้างานการมีส่วนกระบวนการนั้นๆแต่จริงๆโทษเสมอกันหมดในขั้นเรเวลความผิด.,มันจะเป็นบรรทัดฐานสร้างวินัยจิตสำนึกอันดีงามที่ดีในอนาคตได้และต่อยอดสิ่งดีๆเพิ่มขึ้นไปอีก.,และถ้าจะดีหากปลุกกระแสขับไล่สส.ที่อยู่ในพรรครัฐบาลทั้งหมดด้วยขาดจิตสำนึกรับผิดชอบชั่วดีขั้นพื้นฐานในบ้านในเมืองตนเองแท้ๆโดยเฉพาะเรื่องอธิปไตยชาติไทยตนเองเสือกยังคงดำรงตนอยู่เพื่อผลประโยชน์ตนเองต้องมาก่อน,จะสส.พรรคร่วมรัฐบาลก็ด้วย,ตลอดสส.ฝ่ายค้านเองก็เถอะ,เสือกอยากให้รัฐบาลยุบสภา,แต่ตนเองเสือกไม่ลาออกจากสส.ในการปกครองของรัฐบาล,ยุบสภาตัวเองก็พ้นสถานะสส.อยู่ดีกะแต่อยากได้ผลประโยชน์ใส่ตนเองหากลาออกหรือไม่ลาออก,สวัสดิการผลประโยชน์ชดเชยต่างกันก็ว่า,อุบาทก์สิ้นดีทั้งหมด,กลัวไม่ได้บำนาญสส.เหรอ.เดือนละเป็นหมื่นหลายหมื่นเนาะ.
    https://youtu.be/OXDSZRx7mOo?si=Y1y25Eci0honernx
    ..คิดเล่นๆนะ,ถ้าประชาชนทุกๆคนที่เป็นสมาชิกพรรครัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาลต่างทำการลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคทั้งหมดที่เคยเอาบัตรประชาชนตนไปสมัครเป็นสมาชิกพรรค ไปสนับสนุนการมีอยู่ของสมาชิกพรรคจะเกิดอะไรขึ้นถ้าร่วมสามัคคีใจทำการลาออกจากพวกทรยศอธิปไตยชาติไทยเรานะ,มันจะจัดตั้งพรรคมันก็ล่ารายชื่อเราเพื่อหาสมาชิกพรรคจากประชาชนกันจัง,จริงๆกกต.สมควรล้างสถานะสมาชิกพรรคทุกๆสมัยก่อนมีการเลือกตั้งนะ,ไม่ให้ผูกขาดหรือคงอยู่ของการมีอยู่บุคคลว่าสมัครเป็นสมาชิกพรรคตนไว้,ถ้าสถานะการมีอยู่ของประชาชนที่มาเป็นสมาชิกพรรคไม่ถึงเกณฑ์ห้ามพรรคส่งสส.ลงสมัครรับเลือกตั้งหรือพรรคการเมืองนั้นสิ้นสถานะพรรคการเมืองทันที,เช่นหากพรรคเพื่อไทย ประชาชนไม่พอใจเพราะวลีความว่าทหารไทยอยู่ตรงข้ามฝ่ายเรา,ประชาชนเสื้อแดงจากเคยเอาบัตรประชาชนไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคกว่า10-20ล้านคนที่ไม่อัพเดทมีตายทุกๆเดือนทุกๆปีก็ว่า,พากันลาออกออนไลน์ได้ทันทีในนามสมาชิกสนับสนุนการมีอยู่ของพรรคก่อนตั้งพรรคต้องมีสมาชิกจากประชาชนเข้าร่วมด้วยอย่างน้อย1,000คนจึงตั้งพรรคการเมืองได้,ประชาชนลงทะเบียนออนไลน์สายตรงต่อกกต.ว่าขอลาออกการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยทันทีกว่า10-20ล้านคนทันทีเข่นกัน,นั้นแสดงว่าขาดคุณสมบัติการมีอยู่ของพรรคการเมืองทันที,พรรคนั้นจะยุบพรรคไปเองทันทีโดยอัตโนมัติและต้องหาคนหาประชาชนคนไทยที่มีสิทธิเลือกตั้งมาเป็นสมาชิกพรรคใหม่อีกครั้ง จดทะเบียนรายชื่อพรรคใหม่อีกครั้งนั้นเอง,นี้คือประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมืองชัดเจนอีกทางหนึ่ง,สส.ก็ด้วยสามารถไร้สกัดพรรคการเมืองได้,อิสระจากวิถีพรรคการเมืองได้, ..จริงๆหากสส.มีจิตสำนึกจริง จะต้องลาออกจากพรรครัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดด้วย,สส.รัฐบาลทุกๆคนสามารถมีข้อหาเป็นภัยคุกคามต่ออธิปไตยชาติเข่นกันรวมถึงทุกๆคนที่ได้รับเงินเดือนทำงานให้กับพรรครัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดด้วยเพราะเป็นกลไกขับเคลื่อนความชั่วเลวให้ชาติไทยประสบกับภัยคุกคามรุกรานนี้ด้วยทางความมั่นคงทางอธิปไตยของประเทศไทยตนและขาดจิตสำนึกดีชั่ว ไม่รู้สำนึกควรไม่ควร ทำงานให้คนทรยศอธิปไตยแผ่นดินไทยตนเองซึ่งข่าวสารชัดเจนสามารถประกอบการตัดสินใจด้านจิตสำนึกดีชั่วเลวขั้นพื้นฐานได้,แต่ยังมีเจตนาชัดเจนหมายก่อการร่วมกระทำการไปด้วยอย่างตั้งใจเมื่อความชัดปรากฎแล้ว, ..นี้คือภัยคุกคามความมั่นคงทางอธิปไตยของประเทศ จะมาล่อเล่นไม่ได้,ประเทศไทยจะเป็นประเทศได้มิใช่ไม่มีที่ไปที่มา,มีเลือดมีเนื้อมีชีวิตผู้กล้ามากมายผู้บริสุทธิ์มากล้นต้องแลกมาเพื่อปกป้องอธิปไตยชาติไทยเรานี้.,สส.และกรรมการพรรคตลอดคนงานที่รับเงินเดือนค่าตอบแทนพรรคนั้นๆทั้งหมดสามารถเข้าใจชัดเจนว่ามีความผิดร้ายแรงอย่างให้อภัยโทษไม่ได้,ประชาชนผู้ร่วมเป็นสมาชิกพรรคนั้นๆก็ด้วยบางคนไม่รับรู้อะไรเลยว่าตนถูกขโมยเลขที่บัตรประชาชนไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองนั้นๆกกต.จึงต้องมีระบบตรวจสอบสถานะสมาชิกพรรคการเมืองอย่างสะดวกสบายเรียลไทม์ให้เห็นผลว่าเขาเป็นสมาชิกนั้นๆได้แค่ตรวจสอบออนไลน์เรียลไทม์ด้วยเทคโนโลยีเราล้ำสมัยแล้ว,สามารถกดยืนยันลาออกจากสมาชิกนั้นเรียลไทม์ได้เช่นกัน,เราต้องปรับปรุงจริงๆนี้คือประชาชนมีส่วนร่วมจริงทางการบริหารประเทศ ชาติเสียหาย นายกฯไม่จำเป็นต้องลาออกหรือยุบสภาเลย,ประชาชนลาออกจากสมาชิกพรรคการเมืองนั้นๆก็จบ.,สส.ลาออกจากพรรคนั้นๆก็จบหากใช้สไตล์สส.มากจัดตั้งรัฐบาลได้. ..สรุป สส.ทั้งหมดคือตัวเหี้ยก็ได้ในตอนนี้,จะเป็นฮีโร่ก็ได้เช่นกันในเวลานี้ที่เป็นแปรสำคัญของทุกๆพรรคการเมืองในฝ่ายรัฐบาล,โยนความผิดให้สส.รัฐบาลเลย เพราะตัวการที่แท้จริงยังไม่ตัดสินใจว่าอะไรผิดถูก สมควรไม่สมควร เหมาะสมไม่เหมาะสม,ไม่ใช่แค่หัวหน้าพรรคหรือมติกรรมการพรรค ตัวพ่อมรึงคือมรึงนั้นล่ะ สส.ประจำพรรคจัดตัังรัฐบาลทั้งหลาย,ลาออกจากการเป็นสส.พรรครัฐบาลตั้งแต่ดูคลิปแล้วจึงจะสมควรสุด,ไม่อยากพูดแค่นั่นจริงๆ,และสื่อเราแบบโซเชียลทุกๆช่องทางสมควรตีหัวให้รู้สำนึกดีชั่วได้แล้ว, ..สส.พรรคนี้ทำดีมาก,คนทำงานในพรรคนี้ก็ดีด้วย,สามารถหนีหรือหลุดคดีภัยร้ายแรงด้านความมั่นคงทางอธิปไตยชาติไทยได้,และจริงๆต้องเป็นไปในรูปแบบนี้ด้วย กรรมการพรรค สส.พรรค เจ้าหน้าที่ทำงานแรงงานทุกๆคนในพรรคนั้นๆต้องรับโทษทั้งหมด,หนักเบาลดหย่อนตามบริบทหน้าที่หน้างานการมีส่วนกระบวนการนั้นๆแต่จริงๆโทษเสมอกันหมดในขั้นเรเวลความผิด.,มันจะเป็นบรรทัดฐานสร้างวินัยจิตสำนึกอันดีงามที่ดีในอนาคตได้และต่อยอดสิ่งดีๆเพิ่มขึ้นไปอีก.,และถ้าจะดีหากปลุกกระแสขับไล่สส.ที่อยู่ในพรรครัฐบาลทั้งหมดด้วยขาดจิตสำนึกรับผิดชอบชั่วดีขั้นพื้นฐานในบ้านในเมืองตนเองแท้ๆโดยเฉพาะเรื่องอธิปไตยชาติไทยตนเองเสือกยังคงดำรงตนอยู่เพื่อผลประโยชน์ตนเองต้องมาก่อน,จะสส.พรรคร่วมรัฐบาลก็ด้วย,ตลอดสส.ฝ่ายค้านเองก็เถอะ,เสือกอยากให้รัฐบาลยุบสภา,แต่ตนเองเสือกไม่ลาออกจากสส.ในการปกครองของรัฐบาล,ยุบสภาตัวเองก็พ้นสถานะสส.อยู่ดีกะแต่อยากได้ผลประโยชน์ใส่ตนเองหากลาออกหรือไม่ลาออก,สวัสดิการผลประโยชน์ชดเชยต่างกันก็ว่า,อุบาทก์สิ้นดีทั้งหมด,กลัวไม่ได้บำนาญสส.เหรอ.เดือนละเป็นหมื่นหลายหมื่นเนาะ. https://youtu.be/OXDSZRx7mOo?si=Y1y25Eci0honernx
    0 Comments 0 Shares 297 Views 0 Reviews
  • **ชื่อเรื่อง <ปรปักษ์จำนน> กับวลีจีนโบราณ**

    สวัสดีค่ะ วันนี้มาคุยกันเรื่องชื่อนิยายและซีรีส์ <ปรปักษ์จำนน> ที่ Storyฯ รู้สึกว่าชื่อไทยแปลได้อรรถรสของชื่อจีนดีมาก

    ชื่อจีนของเรื่องนี้คือ ‘เจ๋อเยา’ (折腰) แปลตรงตัวว่าหักเอว ซึ่งมาจากการโค้งคำนับต่ำมากเพื่อแสดงถึงความเคารพอย่างยิ่งยวด แต่คำว่า ‘เจ๋อเยา’ ไม่ได้เป็นชื่อเรียกท่าโค้งคำนับ หากแต่มีความหมายว่ายอมจำนนหรือยอมสยบต่ออำนาจหรืออิทธิพลที่เหนือกว่า และมันมีที่มาจากวลีจีนโบราณ ‘ไม่ยอมสยบ (หักเอว) เพื่อข้าวสารห้าโต่ว’

    วลีนี้ปรากฏอยู่ในบันทึกประวัติศาสตร์ราชวงศ์จิ้น (晋书) ส่วนที่บันทึกเรื่องราวบุคคลสำคัญในบรรพที่ชื่อว่า ‘เถาเฉียนจ้วน’ (陶潜传 / ตำนานเถาเฉียน) และเจ้าของวลีคือเถายวนหมิง หรืออีกชื่อหนึ่งว่า เถาเฉียน เขาเป็นกวีและนักประพันธ์ชื่อดังในสมัยจิ้นตะวันออก (ค.ศ. 317-420) มีผลงานเลื่องชื่อมากมาย เช่น วรรณกรรมเรื่อง ‘บันทึกดินแดนดอกท้อ’ เกี่ยวกับดินแดนดอกท้ออันเป็นตัวแทนของดินแดนหรือสังคมในอุดมคติหรือที่ฝรั่งเรียกว่า Utopia ที่มนุษย์แสวงหา (หมายเหตุ Storyฯ เคยเขียนถึงแล้ว ย้อนอ่านได้ที่ลิ้งค์ใต้บทความ)

    เถายวนหมิงมีพื้นเพมาจากตระกูลขุนนางเก่าซึ่งมีฐานะค่อนข้างดี ปู่ทวดเป็นมหาเสนาบดีกลาโหม ปู่เป็นผู้ว่าราชการมณฑล เขาจึงได้รับการศึกษาอย่างดีมาแต่เด็ก ต่อมาฐานะครอบครัวตกต่ำลงจนถึงขั้นยากจนหลังจากบิดาเสียชีวิตไปเมื่อเขาอายุได้แปดขวบ แต่เขาก็ยังหมั่นเพียรขยันศึกษาจนต่อมาได้รับอิทธิพลทางความคิดจากลัทธิเต๋า

    ในช่วงอายุ 29 – 40 ปี เถายวนหมิงเคยเข้ารับราชการเพื่อหาเลี้ยงชีพแต่ก็ต้องลาออกเพราะไม่ชอบการพินอบพิเทาเจ้านายและไม่ชอบการแก่งแย่งชิงดีทางการเมือง แต่แล้วก็เข้ารับราชการใหม่ เป็นเช่นนี้หลายครั้งครา ทั้งนี้เพราะเขามีใจใฝ่ความสงบของธรรมชาติ รักมัธยัสถ์ ไม่ชอบการแก่งแย่งชิงดี ต่อมาจึงตัดสินใจลาออกจากราชการอย่างถาวรและหันไปทำไร่ใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก แต่ก็สุขใจสามารถร่ำสุราแต่งกลอนตามใจอยากและได้สร้างผลงานวรรณกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยผลงานของเขาล้วนแฝงด้วยจิตวิญญาณของธรรมชาติ ความเรียบง่าย และพลังแห่งชีวิต และต่อมาเถายวนหมิงได้ถูกยกย่องเป็นต้นแบบของการละทิ้งลาภยศชื่อเสียงและการใช้ชีวิตอย่างสมถะตามหลักปรัชญาแห่งเต๋า

    วลี ‘ไม่ยอมสยบ (หักเอว) เพื่อข้าวสารห้าโต่ว’ นี้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อตอนเถายวนหมิงอายุสี่สิบปี เข้ารับราชการในตำแหน่งผู้ว่าการเขตเผิงเจ๋อ (ตั้งอยู่ทางเหนือของมณฑลเจียงซี) อยู่มาวันหนึ่งมีผู้ตรวจการมาตรวจงาน เสมียนหลวงบอกเขาว่าควรแต่งตัวให้เรียบร้อยอย่างเป็นทางการไปต้อนรับผู้ตรวจการ เขาถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่ายและกล่าววลีนี้ออกมา และเมื่อกล่าวเสร็จเขาก็ยื่นใบลาออกหลังจากรับราชการมาได้เพียงแปดสิบเอ็ดวัน และหลังจากนั้นก็ไม่เข้ารับราชการอีกเลย

    แล้วทำไมต้อง ‘ข้าวสารห้าโต่ว’ ?

    ประเด็นนี้มีการตีความกันหลากหลาย แต่โดยส่วนใหญ่จะตีความว่า ข้าวสารห้าโต่วคือค่าจ้างของขุนนางระดับผู้ว่าการเขตในสมัยนั้น (หนึ่งโต่วในสมัยนั้นคือประมาณเจ็ดลิตร) ซึ่งฟังดูน้อยนิดเมื่อคำนวณเทียบกับบันทึกโบราณว่าด้วยเงินเดือนข้าราชการ บ้างก็ว่าเป็นเงินเดือนแต่ยังไม่รวมค่าตอบแทนอื่น เช่นผ้าไหม บ้างก็ว่าคิดได้เป็นค่าจ้างรายวันเท่านั้น บ้างก็ว่าเป็นปริมาณข้าวสารที่พอเพียงสำหรับหนึ่งคนในหนึ่งเดือน

    แต่ไม่ว่า ‘ข้าวสารห้าโต่ว’ จะมีความหมายที่แท้จริงอย่างไร เหตุการณ์นี้ถูกบันทึกไว้และกล่าวถึงอย่างยกย่องว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งการละทิ้งยศศักดิ์ และวลีนี้ได้กลายมาเป็นสำนวนจีนที่ถูกใช้ผ่านกาลเวลาหลายยุคสมัยเพื่อแปลว่า ไม่ยอมละทิ้งจิตวิญญาณของตนเพื่อยอมสยบให้กับอำนาจหรืออิทธิพล

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    บทความเก่า:
    ดินแดนดอกท้อ https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/525898876205076

    Credit รูปภาพจาก:
    https://www.yangtse.com/news/wy/202506/t20250603_215987.html
    https://www.thepaper.cn/newsDetail_forward_2197713
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://baike.baidu.com/item/陶渊明/53944
    https://baike.baidu.com/item/陶潜传/75756
    https://k.sina.cn/article_5044281310_12ca99fde020004fcq.html

    #ปรปักษ์จำนน #เจ๋อเยา #เถาเฉียน #เถายวนหมิง #สาระจีน
    **ชื่อเรื่อง <ปรปักษ์จำนน> กับวลีจีนโบราณ** สวัสดีค่ะ วันนี้มาคุยกันเรื่องชื่อนิยายและซีรีส์ <ปรปักษ์จำนน> ที่ Storyฯ รู้สึกว่าชื่อไทยแปลได้อรรถรสของชื่อจีนดีมาก ชื่อจีนของเรื่องนี้คือ ‘เจ๋อเยา’ (折腰) แปลตรงตัวว่าหักเอว ซึ่งมาจากการโค้งคำนับต่ำมากเพื่อแสดงถึงความเคารพอย่างยิ่งยวด แต่คำว่า ‘เจ๋อเยา’ ไม่ได้เป็นชื่อเรียกท่าโค้งคำนับ หากแต่มีความหมายว่ายอมจำนนหรือยอมสยบต่ออำนาจหรืออิทธิพลที่เหนือกว่า และมันมีที่มาจากวลีจีนโบราณ ‘ไม่ยอมสยบ (หักเอว) เพื่อข้าวสารห้าโต่ว’ วลีนี้ปรากฏอยู่ในบันทึกประวัติศาสตร์ราชวงศ์จิ้น (晋书) ส่วนที่บันทึกเรื่องราวบุคคลสำคัญในบรรพที่ชื่อว่า ‘เถาเฉียนจ้วน’ (陶潜传 / ตำนานเถาเฉียน) และเจ้าของวลีคือเถายวนหมิง หรืออีกชื่อหนึ่งว่า เถาเฉียน เขาเป็นกวีและนักประพันธ์ชื่อดังในสมัยจิ้นตะวันออก (ค.ศ. 317-420) มีผลงานเลื่องชื่อมากมาย เช่น วรรณกรรมเรื่อง ‘บันทึกดินแดนดอกท้อ’ เกี่ยวกับดินแดนดอกท้ออันเป็นตัวแทนของดินแดนหรือสังคมในอุดมคติหรือที่ฝรั่งเรียกว่า Utopia ที่มนุษย์แสวงหา (หมายเหตุ Storyฯ เคยเขียนถึงแล้ว ย้อนอ่านได้ที่ลิ้งค์ใต้บทความ) เถายวนหมิงมีพื้นเพมาจากตระกูลขุนนางเก่าซึ่งมีฐานะค่อนข้างดี ปู่ทวดเป็นมหาเสนาบดีกลาโหม ปู่เป็นผู้ว่าราชการมณฑล เขาจึงได้รับการศึกษาอย่างดีมาแต่เด็ก ต่อมาฐานะครอบครัวตกต่ำลงจนถึงขั้นยากจนหลังจากบิดาเสียชีวิตไปเมื่อเขาอายุได้แปดขวบ แต่เขาก็ยังหมั่นเพียรขยันศึกษาจนต่อมาได้รับอิทธิพลทางความคิดจากลัทธิเต๋า ในช่วงอายุ 29 – 40 ปี เถายวนหมิงเคยเข้ารับราชการเพื่อหาเลี้ยงชีพแต่ก็ต้องลาออกเพราะไม่ชอบการพินอบพิเทาเจ้านายและไม่ชอบการแก่งแย่งชิงดีทางการเมือง แต่แล้วก็เข้ารับราชการใหม่ เป็นเช่นนี้หลายครั้งครา ทั้งนี้เพราะเขามีใจใฝ่ความสงบของธรรมชาติ รักมัธยัสถ์ ไม่ชอบการแก่งแย่งชิงดี ต่อมาจึงตัดสินใจลาออกจากราชการอย่างถาวรและหันไปทำไร่ใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก แต่ก็สุขใจสามารถร่ำสุราแต่งกลอนตามใจอยากและได้สร้างผลงานวรรณกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยผลงานของเขาล้วนแฝงด้วยจิตวิญญาณของธรรมชาติ ความเรียบง่าย และพลังแห่งชีวิต และต่อมาเถายวนหมิงได้ถูกยกย่องเป็นต้นแบบของการละทิ้งลาภยศชื่อเสียงและการใช้ชีวิตอย่างสมถะตามหลักปรัชญาแห่งเต๋า วลี ‘ไม่ยอมสยบ (หักเอว) เพื่อข้าวสารห้าโต่ว’ นี้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อตอนเถายวนหมิงอายุสี่สิบปี เข้ารับราชการในตำแหน่งผู้ว่าการเขตเผิงเจ๋อ (ตั้งอยู่ทางเหนือของมณฑลเจียงซี) อยู่มาวันหนึ่งมีผู้ตรวจการมาตรวจงาน เสมียนหลวงบอกเขาว่าควรแต่งตัวให้เรียบร้อยอย่างเป็นทางการไปต้อนรับผู้ตรวจการ เขาถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่ายและกล่าววลีนี้ออกมา และเมื่อกล่าวเสร็จเขาก็ยื่นใบลาออกหลังจากรับราชการมาได้เพียงแปดสิบเอ็ดวัน และหลังจากนั้นก็ไม่เข้ารับราชการอีกเลย แล้วทำไมต้อง ‘ข้าวสารห้าโต่ว’ ? ประเด็นนี้มีการตีความกันหลากหลาย แต่โดยส่วนใหญ่จะตีความว่า ข้าวสารห้าโต่วคือค่าจ้างของขุนนางระดับผู้ว่าการเขตในสมัยนั้น (หนึ่งโต่วในสมัยนั้นคือประมาณเจ็ดลิตร) ซึ่งฟังดูน้อยนิดเมื่อคำนวณเทียบกับบันทึกโบราณว่าด้วยเงินเดือนข้าราชการ บ้างก็ว่าเป็นเงินเดือนแต่ยังไม่รวมค่าตอบแทนอื่น เช่นผ้าไหม บ้างก็ว่าคิดได้เป็นค่าจ้างรายวันเท่านั้น บ้างก็ว่าเป็นปริมาณข้าวสารที่พอเพียงสำหรับหนึ่งคนในหนึ่งเดือน แต่ไม่ว่า ‘ข้าวสารห้าโต่ว’ จะมีความหมายที่แท้จริงอย่างไร เหตุการณ์นี้ถูกบันทึกไว้และกล่าวถึงอย่างยกย่องว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งการละทิ้งยศศักดิ์ และวลีนี้ได้กลายมาเป็นสำนวนจีนที่ถูกใช้ผ่านกาลเวลาหลายยุคสมัยเพื่อแปลว่า ไม่ยอมละทิ้งจิตวิญญาณของตนเพื่อยอมสยบให้กับอำนาจหรืออิทธิพล (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) บทความเก่า: ดินแดนดอกท้อ https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/525898876205076 Credit รูปภาพจาก: https://www.yangtse.com/news/wy/202506/t20250603_215987.html https://www.thepaper.cn/newsDetail_forward_2197713 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://baike.baidu.com/item/陶渊明/53944 https://baike.baidu.com/item/陶潜传/75756 https://k.sina.cn/article_5044281310_12ca99fde020004fcq.html #ปรปักษ์จำนน #เจ๋อเยา #เถาเฉียน #เถายวนหมิง #สาระจีน
    1 Comments 0 Shares 398 Views 0 Reviews
  • หลายคนอาจคิดว่า Cybersecurity คือแค่คนป้องกันไวรัส แต่จริง ๆ แล้วงานนี้แตกแขนงเป็นหลายสาย และแต่ละตำแหน่งก็มีค่าตอบแทนต่างกันมาก

    จากรายงาน Cybersecurity Staff Compensation Benchmark 2025 ระบุว่า “ชื่อตำแหน่ง” ไม่ได้บอกเสมอว่าใครทำอะไรมากน้อยแค่ไหน เพราะในความจริง 61% ของคนทำงานสายนี้ต้องทำหลายบทบาทควบกัน แต่ถ้าจะดูว่า “ใครได้เงินเดือนสูงที่สุด” ก็ยังพอแยกได้เป็นลำดับแบบนี้:

    1️⃣ Security Architect — ค่าตัวอันดับ 1 ฐานเงินเดือนเฉลี่ย $179,000 รวมโบนัส $206,000  
    • ต้องรู้ลึกทั้งเครือข่าย ระบบ การออกแบบนโยบายการป้องกัน  
    • 34% ได้หุ้นประจำปีอีกด้วย

    2️⃣ Security Engineer — รองแชมป์ รับเฉลี่ย $168,000 รวมโบนัสเป็น $191,000  
    • เน้นลงมือจริงกับระบบ เช่น firewall, IDS/IPS, pentest, EDR  
    • หลายคนมาจากสาย network หรือ sysadmin มาก่อน

    3️⃣ Risk/GRC Specialist — มือวางด้านการจัดการความเสี่ยงและ compliance  
    • เงินเดือน $146,000 รวมโบนัส $173,000  
    • เน้น policy, audit, risk register, ISO, NIST, GDPR ฯลฯ

    4️⃣ Security Analyst (เช่น SOC analyst) — มือ frontline จับภัยคุกคาม  
    • รับเฉลี่ย $124,000 รวมโบนัส $133,000  
    • คอยตรวจจับเหตุการณ์ ปรับ signature ดู log และ SIEM

    ทุกตำแหน่งต่างมีเส้นทางเฉพาะ เช่น Security Analyst → Engineer → Architect หรือ Risk Analyst → GRC Lead → CISO ก็ได้ ขึ้นกับสายที่ชอบและทักษะที่ฝึกต่อ

    รายได้สูงสุด: Security Architect ครองแชมป์แบบครบเครื่อง  
    • เงินเดือน $179K / รายได้รวม $206K / หุ้น 34%  
    • งานหลากหลาย: ออกแบบ, IAM, AppSec, Product Security

    Security Engineer มาเป็นอันดับสอง  
    • เงินเดือน $168K / รายได้รวม $191K / หุ้น 31%  
    • ต้องมีพื้นฐาน Network/IT แน่น ชำนาญอุปกรณ์/ระบบ

    สาย GRC ก็มาแรง  
    • เงินเดือน $146K / รายได้รวม $173K / หุ้น 26%  
    • ทักษะพิเศษ: Risk, Compliance, NIST, AI-policy

    Security Analyst รายได้เริ่มต้นดี และเป็นฐานสร้างอาชีพอื่น  
    • เงินเดือน $124K / รายได้รวม $133K / หุ้น 20%  
    • เหมาะสำหรับเริ่มต้นในสาย Cybersecurity

    แต่ละสายมีใบรับรองที่ช่วย boost เงินเดือน  
    • Architect: CISSP, CCSP  
    • Engineer: Security+, CCNP Sec, CEH  
    • GRC: CRISC, CGRC  
    • Analyst: CySA+, SOC certs

    สายงานมีความซ้อนทับสูง — หลายคนทำหลายบทบาทพร้อมกัน  
    • เช่น คนใน SecOps อาจทำ GRC, IAM, Product Security ด้วย

    คำเตือนและข้อควรระวัง:
    ชื่อตำแหน่งอาจไม่สะท้อนงานที่ทำจริงในแต่ละองค์กร  
    • ควรดูรายละเอียดงานจริง ไม่ใช่ดูแค่ title เวลาสมัครหรือเปรียบเทียบรายได้

    เงินเดือนสูงมาพร้อมกับ skill ที่ลึกและการสื่อสารกับทีมหลากหลายฝ่าย  
    • สาย Architect และ GRC ต้องสื่อสารกับผู้บริหารและทีมเทคนิคได้ดี

    บางสายมีการแข่งขันสูงโดยเฉพาะระดับต้น เช่น Analyst และ Engineer  
    • ต้องมีจุดแข็ง เช่น cert, ผลงาน side project, หรือ soft skill

    สายงานด้านความเสี่ยงและ compliance ต้องตามกฎระเบียบเปลี่ยนตลอดเวลา  
    • เช่น กฎหมาย AI, ความเป็นส่วนตัว, cloud compliance

    https://www.csoonline.com/article/4006364/the-highest-paying-jobs-in-cybersecurity-today.html
    หลายคนอาจคิดว่า Cybersecurity คือแค่คนป้องกันไวรัส แต่จริง ๆ แล้วงานนี้แตกแขนงเป็นหลายสาย และแต่ละตำแหน่งก็มีค่าตอบแทนต่างกันมาก จากรายงาน Cybersecurity Staff Compensation Benchmark 2025 ระบุว่า “ชื่อตำแหน่ง” ไม่ได้บอกเสมอว่าใครทำอะไรมากน้อยแค่ไหน เพราะในความจริง 61% ของคนทำงานสายนี้ต้องทำหลายบทบาทควบกัน แต่ถ้าจะดูว่า “ใครได้เงินเดือนสูงที่สุด” ก็ยังพอแยกได้เป็นลำดับแบบนี้: 1️⃣ Security Architect — ค่าตัวอันดับ 1 ฐานเงินเดือนเฉลี่ย $179,000 รวมโบนัส $206,000   • ต้องรู้ลึกทั้งเครือข่าย ระบบ การออกแบบนโยบายการป้องกัน   • 34% ได้หุ้นประจำปีอีกด้วย 2️⃣ Security Engineer — รองแชมป์ รับเฉลี่ย $168,000 รวมโบนัสเป็น $191,000   • เน้นลงมือจริงกับระบบ เช่น firewall, IDS/IPS, pentest, EDR   • หลายคนมาจากสาย network หรือ sysadmin มาก่อน 3️⃣ Risk/GRC Specialist — มือวางด้านการจัดการความเสี่ยงและ compliance   • เงินเดือน $146,000 รวมโบนัส $173,000   • เน้น policy, audit, risk register, ISO, NIST, GDPR ฯลฯ 4️⃣ Security Analyst (เช่น SOC analyst) — มือ frontline จับภัยคุกคาม   • รับเฉลี่ย $124,000 รวมโบนัส $133,000   • คอยตรวจจับเหตุการณ์ ปรับ signature ดู log และ SIEM ทุกตำแหน่งต่างมีเส้นทางเฉพาะ เช่น Security Analyst → Engineer → Architect หรือ Risk Analyst → GRC Lead → CISO ก็ได้ ขึ้นกับสายที่ชอบและทักษะที่ฝึกต่อ ✅ รายได้สูงสุด: Security Architect ครองแชมป์แบบครบเครื่อง   • เงินเดือน $179K / รายได้รวม $206K / หุ้น 34%   • งานหลากหลาย: ออกแบบ, IAM, AppSec, Product Security ✅ Security Engineer มาเป็นอันดับสอง   • เงินเดือน $168K / รายได้รวม $191K / หุ้น 31%   • ต้องมีพื้นฐาน Network/IT แน่น ชำนาญอุปกรณ์/ระบบ ✅ สาย GRC ก็มาแรง   • เงินเดือน $146K / รายได้รวม $173K / หุ้น 26%   • ทักษะพิเศษ: Risk, Compliance, NIST, AI-policy ✅ Security Analyst รายได้เริ่มต้นดี และเป็นฐานสร้างอาชีพอื่น   • เงินเดือน $124K / รายได้รวม $133K / หุ้น 20%   • เหมาะสำหรับเริ่มต้นในสาย Cybersecurity ✅ แต่ละสายมีใบรับรองที่ช่วย boost เงินเดือน   • Architect: CISSP, CCSP   • Engineer: Security+, CCNP Sec, CEH   • GRC: CRISC, CGRC   • Analyst: CySA+, SOC certs ✅ สายงานมีความซ้อนทับสูง — หลายคนทำหลายบทบาทพร้อมกัน   • เช่น คนใน SecOps อาจทำ GRC, IAM, Product Security ด้วย ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง: ‼️ ชื่อตำแหน่งอาจไม่สะท้อนงานที่ทำจริงในแต่ละองค์กร   • ควรดูรายละเอียดงานจริง ไม่ใช่ดูแค่ title เวลาสมัครหรือเปรียบเทียบรายได้ ‼️ เงินเดือนสูงมาพร้อมกับ skill ที่ลึกและการสื่อสารกับทีมหลากหลายฝ่าย   • สาย Architect และ GRC ต้องสื่อสารกับผู้บริหารและทีมเทคนิคได้ดี ‼️ บางสายมีการแข่งขันสูงโดยเฉพาะระดับต้น เช่น Analyst และ Engineer   • ต้องมีจุดแข็ง เช่น cert, ผลงาน side project, หรือ soft skill ‼️ สายงานด้านความเสี่ยงและ compliance ต้องตามกฎระเบียบเปลี่ยนตลอดเวลา   • เช่น กฎหมาย AI, ความเป็นส่วนตัว, cloud compliance https://www.csoonline.com/article/4006364/the-highest-paying-jobs-in-cybersecurity-today.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    The highest-paying jobs in cybersecurity today
    According to a recent survey by IANS and Artico Search, risk/GRC specialists, along with security architects, analysts, and engineers, report the highest average annual cash compensation in cybersecurity.
    0 Comments 0 Shares 306 Views 0 Reviews
  • สู้สุดแรงเพื่อหาเงินปลดหนี้ 600 ล้าน สำหรับ “เชน ธนา” หรือ “เชน ธนาตรัยฉัตร ภูโชคอนันต์” อดีตบอยแบนด์ที่ผันตัวเป็นนักธุรกิจชื่อดัง เผชิญปัญหาหนี้สินก้อนโตจากการทำธุรกิจ ตอนนี้เหลือเจ้าหนี้อีก 11 ราย ซึ่งที่ผ่านมา หนุ่มเชนไลฟ์ขายของมาราธอนแบบไม่พักหายใจ ล่าสุดเจ้าตัวได้เปิดใจกับทางไนน์เอ็นเตอร์เทน ถึงชีวิตที่ต้องดิ้นรนหาเงินปลดหนี้ พร้อมตั้งเป้าว่าจะต้องหมดหนี้ไม่เกิน 5 ปี!

    -ไลฟ์ขายของวันละ 12-16 ชม.ต่อวัน

    -อยากทำยอดขายให้ได้ วันละ 2 ล้าน แต่ขายได้เพียง 7 แสนต่อวัน

    -วางเอาไว้ต้องหาเงินให้ได้เดือนละ 60 ล้าน แต่ความจริงได้เพียง 25 ล้านต่อเดือน

    -ลดพนักงาน จาก 250 คน เหลือ 68 คน

    -รับแบบไม่อาย บางเดือนไม่มีเงินจ่ายให้พนักงาน ต้องเอาของในบริษัท และของรักออกขายเพื่อหาเงินจ่ายเงินเดือน

    -เคยไม่มีเงิน ถึงขั้นไม่มีเงินจ่ายค่าไฟ จนการไฟฟ้าจะมายกหม้อแปลงออก

    -เชื่อตลอดว่าบริษัทต้องกลับมายืนแบบแข็งแรง นอนน้อย บางวันไม่สบาย ก็ต้องทน

    -ทุกวันนี้แทบไม่ได้ใช้เงินเลย เสื้อผ้าก็ใส่ของเก่าที่มี ข้าวก็ไม่ค่อยมีเวลากิน แต่ต้องกินเพื่อจะได้มีแรงไลฟ์

    -ทุกวันนี้ชีวิตไม่ได้ตกมาที่ศูนย์ แต่ชีวิตตอนนี้เรียกว่าติดลบก็ได้

    -ตั้งเป้าว่าปิดหนี้สินก้อนโตให้หมดภายใน 3-5 ปี

    -รู้สึกผิดเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ไม่ดี

    #MGROnline #เชนธนา #อมาโด้
    สู้สุดแรงเพื่อหาเงินปลดหนี้ 600 ล้าน สำหรับ “เชน ธนา” หรือ “เชน ธนาตรัยฉัตร ภูโชคอนันต์” อดีตบอยแบนด์ที่ผันตัวเป็นนักธุรกิจชื่อดัง เผชิญปัญหาหนี้สินก้อนโตจากการทำธุรกิจ ตอนนี้เหลือเจ้าหนี้อีก 11 ราย ซึ่งที่ผ่านมา หนุ่มเชนไลฟ์ขายของมาราธอนแบบไม่พักหายใจ ล่าสุดเจ้าตัวได้เปิดใจกับทางไนน์เอ็นเตอร์เทน ถึงชีวิตที่ต้องดิ้นรนหาเงินปลดหนี้ พร้อมตั้งเป้าว่าจะต้องหมดหนี้ไม่เกิน 5 ปี! • -ไลฟ์ขายของวันละ 12-16 ชม.ต่อวัน -อยากทำยอดขายให้ได้ วันละ 2 ล้าน แต่ขายได้เพียง 7 แสนต่อวัน -วางเอาไว้ต้องหาเงินให้ได้เดือนละ 60 ล้าน แต่ความจริงได้เพียง 25 ล้านต่อเดือน -ลดพนักงาน จาก 250 คน เหลือ 68 คน -รับแบบไม่อาย บางเดือนไม่มีเงินจ่ายให้พนักงาน ต้องเอาของในบริษัท และของรักออกขายเพื่อหาเงินจ่ายเงินเดือน -เคยไม่มีเงิน ถึงขั้นไม่มีเงินจ่ายค่าไฟ จนการไฟฟ้าจะมายกหม้อแปลงออก -เชื่อตลอดว่าบริษัทต้องกลับมายืนแบบแข็งแรง นอนน้อย บางวันไม่สบาย ก็ต้องทน -ทุกวันนี้แทบไม่ได้ใช้เงินเลย เสื้อผ้าก็ใส่ของเก่าที่มี ข้าวก็ไม่ค่อยมีเวลากิน แต่ต้องกินเพื่อจะได้มีแรงไลฟ์ -ทุกวันนี้ชีวิตไม่ได้ตกมาที่ศูนย์ แต่ชีวิตตอนนี้เรียกว่าติดลบก็ได้ -ตั้งเป้าว่าปิดหนี้สินก้อนโตให้หมดภายใน 3-5 ปี -รู้สึกผิดเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ไม่ดี • #MGROnline #เชนธนา #อมาโด้
    0 Comments 0 Shares 191 Views 0 Reviews
  • มีเพื่อนเพจเคยขอให้เขียนถึงองครักษ์เสื้อแพรนอกเหนือจากที่มีในซีรีส์ ข้อมูลหาไม่ง่าย วันนี้เริ่มด้วยเรื่องเงินๆ ทองๆ ยาวหน่อยนะคะ แต่เชื่อว่าเพื่อนเพจหลายคนต้องเคยสงสัยเกี่ยวกับเรื่องค่าเงิน

    ความมีอยู่ว่า
    ...เกาชิ่งมาเรียกหาจินเซี่ยแล้วถาม: “ใต้เท้าลู่มีคำถาม วันนี้เช่าเรือทั้งหมดสองเหลี่ยง รวมค่าชาและขนมบนเรืออีก คิดเป็นประมาณสามเฉียนแล้วกัน ท่านใต้เท้าออกเงินไปให้ก่อน แต่ถามว่าเมื่อใดพวกเจ้าจึงจะใช้คืน?”....
    - จากเรื่อง <เบื้องล่างของเสื้อแพร> ผู้แต่ง หลานเส้อซือ
    (หมายเหตุ ละครเรื่องยอดองค์รักษ์เสื้อแพรดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้)

    ก่อนอื่นเทียบมูลค่าเงิน: 1 ตำลึงเงิน (เหลี่ยง) = 1,000 เฉียน (คือ เหวิน หรือ อีแปะ) = 1 ก้วน (พวงเหรียญเฉียน)

    ก่อนจะพูดถึงรายรับ เราดูค่าครองชีพกันหน่อย ราชวงศ์หมิงยาวนานเกือบ 300 ปี แต่ลู่ปิ่งและลู่อี้มีตัวตนจริงอยู่ในรัชสมัยขององค์หมิงสื้อจง (ค.ศ. 1521-1567) (Storyฯ เคยเขียนถึงมาหลายเดือนก่อน) ในยุคสมัยนั้น เนื้อหมูหนึ่งชั่งราคา 7-8 เฉียน เนื้อไก่หนึ่งชั่งราคา 3-4 เฉียน (เทียบเท่าน้ำหนักปัจจุบัน 595 กรัม) ดังนั้นราคาขนมและชาที่ยกข้อความมาจากในนิยายข้างต้นก็พอจะฟังดูสมเหตุสมผล

    คำถามต่อมาคือ องครักษ์เสื้อแพรมีรายรับเท่าไหร่เมื่อเทียบกับค่าครองชีพตามข้างต้น?

    มีตารางข้อมูลจาก “หมิงสื่อ /明史” หรือบันทึกประวัติศาสตร์ราชวงศ์หมิงมาให้ดู (ดูรูปประกอบ) เป็นอัตราเงินเดือนของขุนนางที่กำหนดไว้โดยปฐมกษัตริย์จูหยวนจาง จ่ายเป็นเดือน แต่กำหนดอัตราไว้เป็นรายปี วงให้ดูว่าเงินเดือนของใต้เท้าลู่อี้และพ่อของเขาคือ:
    ลู่ถิง (ในนิยายชื่อลู่ปิ่ง) เป็นผู้บัญชาการสูงสุดขององครักษ์เสื้อแพร ยศขุนนางขั้นที่สามเต็ม ได้เงินเดือนเป็นข้าวสาร 420 ตาน/ปี (เขียนหน่วยเป็นสือ ต่อมาเรียกเป็นตาน) ส่วนใต้เท้าลู่อี้ของเราในนิยายกล่าวไว้ว่าตอนที่แรกพบกับนางเอก เขาเป็นเพียงขุนนางขั้นที่เจ็ดล่าง ได้เงินเดือนเป็นข้าวสาร 84 ตาน/ปี หรือ 7 ตาน/เดือน

    ท่านอ่านไม่ผิดค่ะ เงินเดือนของข้าราชการสมัยนั้นปกติจ่ายเป็นข้าวสาร

    ข้าวสารหนึ่งตานสมัยนั้นหน้าตาเป็นกระบุงหาบ เทียบเท่าน้ำหนักปัจจุบันประมาณ 60 กก. เชื่อว่าขุนนางระดับสูงเวลารับเงินเดือนต้องใช้รถเข็นเลยทีเดียว

    แล้วถ้าคิดเป็นเงินล่ะ? อันนี้ผันแปรตามเงินเฟ้อ ข้าวสารหนึ่งตานในสมัยของใต้เท้าลู่นั้นราคา 0.584 ตำลึงเงิน ดังนั้นใต้เท้าลู่มีเงินเดือนเพียงประมาณ 4 ตำลึงเงิน/เดือน หรือ 4,000 เฉียนเท่านั้น! (ภาพการควักเงินหยวนเป่าออกมาวางให้เสี่ยวเอ้อตาโต หายแวบไปจากมโนของ Storyฯ ทันที)

    แล้วถ้าเปรียบเทียบวิชาชีพอื่น? สรุปโดยประมาณได้ดังนี้: ค่าจ้าง 600-1,700 เฉียน/เดือนขึ้นอยู่กับระดับงาน แผงขายอาหารในเมืองใหญ่ 1,300-1,600 เฉียน/เดือน ที่ดูจะรายได้ดีมากคือคนขับรถม้าที่ 3,000 เฉียน/เดือนเลยทีเดียว (หาไม่พบว่าเป็นเพราะอะไร) ส่วนเกษตรกรรายได้เฉลี่ย 750-1,200 เฉียน/เดือน

    แต่ขุนนางมี ‘สวัสดิการ’ อย่างอื่นด้วยคือผ้า เงินค่าน้ำชา ฟืน ชุดประจำตำแหน่ง จวนประจำตำแหน่ง เป็นต้น และยังไม่ต้องเสียภาษีเหมือนชาวนาหรือพ่อค้า แน่นอนว่าการต้องเลี้ยงบ่าวไพร่ทั้งเรือนก็มีค่าใช้จ่ายสูงอยู่ แต่เทียบกับวิชาชีพอื่นแล้ว หากได้เป็นขุนนางติดยศชีวิตความเป็นอยู่จะดีมาก

    สมัยนั้นตำแหน่งจอหงวนคือลำดับหกเต็ม Storyฯ จึงไม่แปลกใจว่าทำไมคนถึงขวนขวายเข้าเมืองหลวงสอบจอหงวนกัน ยศสูงกว่าใต้เท้าลู่อี้เสียอีก! (วันนี้คุยเรื่องเงินทอง ไม่คุยเรื่องอุดมการณ์ค่ะ)

    เขียนเพิ่มเติมหลังจากอัพเพจครั้งแรก:
    ในช่วงเวลาที่ไม่ปกติ เช่นแล้ง หรือเกิดสงคราม ข้าวในคลังมีน้อย หรือในฤดูที่ไม่มีการเก็บเกี่ยว มีการแก้ไขการจ่ายเงินเดือนข้าราชการ โดยกำหนดมูลค่าของข้าวเทียบเท่าของอย่างอื่น เช่น ผ้าผืน พริกไทย ใบชา เป็นต้น (อะไรก็ได้ที่มีมากในคลังหลวง) ต่อมาจึงมีแบ่งจ่ายเป็นตั๋วเงินด้วย ต่อมาในช่วงปลายราชวงศ์หมิงจึงเปลี่ยนมากำหนดให้จ่ายเป็นข้าว ตั๋วเงินและเงิน แต่ยังคงเทียบอัตราเงินเดือนเป็นข้าวสารอยู่

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากและข้อมูลเรียบเรียงจาก:
    https://www.sohu.com/a/360665261_162238
    https://www.bilibili.com/read/cv9844919
    https://www.zmkm8.com/artdata-94382.html
    https://www.sohu.com/a/273067566_559864
    http://www.gushizhuan.com/gdws/284082.html

    #ใต้เท้าลู่ #องครักษ์เสื้อแพร #ยอดองครักษ์เสื้อแพร #ราชวงศ์หมิง #วัฒนธรรมจีนโบราณ #เงินจีนโบราณ #เงินเดือนข้าราชการจีน
    มีเพื่อนเพจเคยขอให้เขียนถึงองครักษ์เสื้อแพรนอกเหนือจากที่มีในซีรีส์ ข้อมูลหาไม่ง่าย วันนี้เริ่มด้วยเรื่องเงินๆ ทองๆ ยาวหน่อยนะคะ แต่เชื่อว่าเพื่อนเพจหลายคนต้องเคยสงสัยเกี่ยวกับเรื่องค่าเงิน ความมีอยู่ว่า ...เกาชิ่งมาเรียกหาจินเซี่ยแล้วถาม: “ใต้เท้าลู่มีคำถาม วันนี้เช่าเรือทั้งหมดสองเหลี่ยง รวมค่าชาและขนมบนเรืออีก คิดเป็นประมาณสามเฉียนแล้วกัน ท่านใต้เท้าออกเงินไปให้ก่อน แต่ถามว่าเมื่อใดพวกเจ้าจึงจะใช้คืน?”.... - จากเรื่อง <เบื้องล่างของเสื้อแพร> ผู้แต่ง หลานเส้อซือ (หมายเหตุ ละครเรื่องยอดองค์รักษ์เสื้อแพรดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้) ก่อนอื่นเทียบมูลค่าเงิน: 1 ตำลึงเงิน (เหลี่ยง) = 1,000 เฉียน (คือ เหวิน หรือ อีแปะ) = 1 ก้วน (พวงเหรียญเฉียน) ก่อนจะพูดถึงรายรับ เราดูค่าครองชีพกันหน่อย ราชวงศ์หมิงยาวนานเกือบ 300 ปี แต่ลู่ปิ่งและลู่อี้มีตัวตนจริงอยู่ในรัชสมัยขององค์หมิงสื้อจง (ค.ศ. 1521-1567) (Storyฯ เคยเขียนถึงมาหลายเดือนก่อน) ในยุคสมัยนั้น เนื้อหมูหนึ่งชั่งราคา 7-8 เฉียน เนื้อไก่หนึ่งชั่งราคา 3-4 เฉียน (เทียบเท่าน้ำหนักปัจจุบัน 595 กรัม) ดังนั้นราคาขนมและชาที่ยกข้อความมาจากในนิยายข้างต้นก็พอจะฟังดูสมเหตุสมผล คำถามต่อมาคือ องครักษ์เสื้อแพรมีรายรับเท่าไหร่เมื่อเทียบกับค่าครองชีพตามข้างต้น? มีตารางข้อมูลจาก “หมิงสื่อ /明史” หรือบันทึกประวัติศาสตร์ราชวงศ์หมิงมาให้ดู (ดูรูปประกอบ) เป็นอัตราเงินเดือนของขุนนางที่กำหนดไว้โดยปฐมกษัตริย์จูหยวนจาง จ่ายเป็นเดือน แต่กำหนดอัตราไว้เป็นรายปี วงให้ดูว่าเงินเดือนของใต้เท้าลู่อี้และพ่อของเขาคือ: ลู่ถิง (ในนิยายชื่อลู่ปิ่ง) เป็นผู้บัญชาการสูงสุดขององครักษ์เสื้อแพร ยศขุนนางขั้นที่สามเต็ม ได้เงินเดือนเป็นข้าวสาร 420 ตาน/ปี (เขียนหน่วยเป็นสือ ต่อมาเรียกเป็นตาน) ส่วนใต้เท้าลู่อี้ของเราในนิยายกล่าวไว้ว่าตอนที่แรกพบกับนางเอก เขาเป็นเพียงขุนนางขั้นที่เจ็ดล่าง ได้เงินเดือนเป็นข้าวสาร 84 ตาน/ปี หรือ 7 ตาน/เดือน ท่านอ่านไม่ผิดค่ะ เงินเดือนของข้าราชการสมัยนั้นปกติจ่ายเป็นข้าวสาร ข้าวสารหนึ่งตานสมัยนั้นหน้าตาเป็นกระบุงหาบ เทียบเท่าน้ำหนักปัจจุบันประมาณ 60 กก. เชื่อว่าขุนนางระดับสูงเวลารับเงินเดือนต้องใช้รถเข็นเลยทีเดียว แล้วถ้าคิดเป็นเงินล่ะ? อันนี้ผันแปรตามเงินเฟ้อ ข้าวสารหนึ่งตานในสมัยของใต้เท้าลู่นั้นราคา 0.584 ตำลึงเงิน ดังนั้นใต้เท้าลู่มีเงินเดือนเพียงประมาณ 4 ตำลึงเงิน/เดือน หรือ 4,000 เฉียนเท่านั้น! (ภาพการควักเงินหยวนเป่าออกมาวางให้เสี่ยวเอ้อตาโต หายแวบไปจากมโนของ Storyฯ ทันที) แล้วถ้าเปรียบเทียบวิชาชีพอื่น? สรุปโดยประมาณได้ดังนี้: ค่าจ้าง 600-1,700 เฉียน/เดือนขึ้นอยู่กับระดับงาน แผงขายอาหารในเมืองใหญ่ 1,300-1,600 เฉียน/เดือน ที่ดูจะรายได้ดีมากคือคนขับรถม้าที่ 3,000 เฉียน/เดือนเลยทีเดียว (หาไม่พบว่าเป็นเพราะอะไร) ส่วนเกษตรกรรายได้เฉลี่ย 750-1,200 เฉียน/เดือน แต่ขุนนางมี ‘สวัสดิการ’ อย่างอื่นด้วยคือผ้า เงินค่าน้ำชา ฟืน ชุดประจำตำแหน่ง จวนประจำตำแหน่ง เป็นต้น และยังไม่ต้องเสียภาษีเหมือนชาวนาหรือพ่อค้า แน่นอนว่าการต้องเลี้ยงบ่าวไพร่ทั้งเรือนก็มีค่าใช้จ่ายสูงอยู่ แต่เทียบกับวิชาชีพอื่นแล้ว หากได้เป็นขุนนางติดยศชีวิตความเป็นอยู่จะดีมาก สมัยนั้นตำแหน่งจอหงวนคือลำดับหกเต็ม Storyฯ จึงไม่แปลกใจว่าทำไมคนถึงขวนขวายเข้าเมืองหลวงสอบจอหงวนกัน ยศสูงกว่าใต้เท้าลู่อี้เสียอีก! (วันนี้คุยเรื่องเงินทอง ไม่คุยเรื่องอุดมการณ์ค่ะ) เขียนเพิ่มเติมหลังจากอัพเพจครั้งแรก: ในช่วงเวลาที่ไม่ปกติ เช่นแล้ง หรือเกิดสงคราม ข้าวในคลังมีน้อย หรือในฤดูที่ไม่มีการเก็บเกี่ยว มีการแก้ไขการจ่ายเงินเดือนข้าราชการ โดยกำหนดมูลค่าของข้าวเทียบเท่าของอย่างอื่น เช่น ผ้าผืน พริกไทย ใบชา เป็นต้น (อะไรก็ได้ที่มีมากในคลังหลวง) ต่อมาจึงมีแบ่งจ่ายเป็นตั๋วเงินด้วย ต่อมาในช่วงปลายราชวงศ์หมิงจึงเปลี่ยนมากำหนดให้จ่ายเป็นข้าว ตั๋วเงินและเงิน แต่ยังคงเทียบอัตราเงินเดือนเป็นข้าวสารอยู่ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากและข้อมูลเรียบเรียงจาก: https://www.sohu.com/a/360665261_162238 https://www.bilibili.com/read/cv9844919 https://www.zmkm8.com/artdata-94382.html https://www.sohu.com/a/273067566_559864 http://www.gushizhuan.com/gdws/284082.html #ใต้เท้าลู่ #องครักษ์เสื้อแพร #ยอดองครักษ์เสื้อแพร #ราชวงศ์หมิง #วัฒนธรรมจีนโบราณ #เงินจีนโบราณ #เงินเดือนข้าราชการจีน
    《锦衣之下》即将上线 任嘉伦谭松韵“猫鼠游戏“甜酥来袭_悬疑
    此次曝光的海报中,锦衣卫经历陆绎(任嘉伦饰)一身大红炽金飞鱼服,手握绣春刀伫立,眼神凌厉气势十足;六扇门小捕快袁今夏(谭松韵饰)侧抱花猫,明眸善睐、笑容明媚极具少女感;严世蕃(韩栋饰)执扇侧立,神思沉稳…
    1 Comments 0 Shares 450 Views 0 Reviews
  • สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พระราชทานเงินจากเงินเดือนทหารของพระองค์ พร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค ให้ทหารชายแดนไทย-กัมพูชา
    .
    เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2568 สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พระราชทานสิ่งของให้ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ณ วังศุโขทัย เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับทหารชายแดน ประกอบด้วย เงินจากเงินเดือนทหารของพระองค์ พระ และสิ่งของอุปโภคบริโภค เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยที่ชายแดนไทย-กัมพูชา
    .
    ขอพระองค์จงทรงพระเจริญ
    .
    ขอขอบคุณข่าวและภาพจาก HRH Princess Sirivannavari Nariratana Rajakanya
    สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พระราชทานเงินจากเงินเดือนทหารของพระองค์ พร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค ให้ทหารชายแดนไทย-กัมพูชา . เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2568 สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พระราชทานสิ่งของให้ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ณ วังศุโขทัย เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับทหารชายแดน ประกอบด้วย เงินจากเงินเดือนทหารของพระองค์ พระ และสิ่งของอุปโภคบริโภค เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยที่ชายแดนไทย-กัมพูชา . ขอพระองค์จงทรงพระเจริญ . ขอขอบคุณข่าวและภาพจาก HRH Princess Sirivannavari Nariratana Rajakanya
    0 Comments 0 Shares 250 Views 0 Reviews
  • สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พระราชทานเงินจากเงินเดือนทหารของพระองค์ พร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค ให้ทหารชายแดนไทย-กัมพูชา
    .
    เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2568 สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พระราชทานสิ่งของให้ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ณ วังศุโขทัย เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับทหารชายแดน ประกอบด้วย เงินจากเงินเดือนทหารของพระองค์ พระ และสิ่งของอุปโภคบริโภค เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยที่ชายแดนไทย-กัมพูชา
    .
    ขอพระองค์จงทรงพระเจริญ
    .
    ขอขอบคุณข่าวและภาพจาก HRH Princess Sirivannavari Nariratana Rajakanya
    สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พระราชทานเงินจากเงินเดือนทหารของพระองค์ พร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค ให้ทหารชายแดนไทย-กัมพูชา . เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2568 สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พระราชทานสิ่งของให้ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ณ วังศุโขทัย เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับทหารชายแดน ประกอบด้วย เงินจากเงินเดือนทหารของพระองค์ พระ และสิ่งของอุปโภคบริโภค เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยที่ชายแดนไทย-กัมพูชา . ขอพระองค์จงทรงพระเจริญ . ขอขอบคุณข่าวและภาพจาก HRH Princess Sirivannavari Nariratana Rajakanya
    0 Comments 0 Shares 234 Views 0 Reviews
  • ดินแดนเราแท้ๆ แต่ไอ้ภูมิต่ำปัญญาตม ดันบอกว่าเป็นดินแดนพิพาทซะงั้น รัฐมนตรีกลาโหมที่ไร้สมองกินเงินเดือนจากภาษีประชาชนแต่ไม่ปกป้องอธิปไตยชาติยังเสือกปกป้องไอ้ค**เซ็งเพื่อนเหม็นของไอ้แม้ว
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #ภูมิธรรม
    #nobrainman
    #กัมพูชาล้ำ200เมตร
    ดินแดนเราแท้ๆ แต่ไอ้ภูมิต่ำปัญญาตม ดันบอกว่าเป็นดินแดนพิพาทซะงั้น รัฐมนตรีกลาโหมที่ไร้สมองกินเงินเดือนจากภาษีประชาชนแต่ไม่ปกป้องอธิปไตยชาติยังเสือกปกป้องไอ้ค**เซ็งเพื่อนเหม็นของไอ้แม้ว #คิงส์โพธิ์แดง #ภูมิธรรม #nobrainman #กัมพูชาล้ำ200เมตร
    Angry
    2
    0 Comments 0 Shares 319 Views 0 Reviews
  • ..การปกครองที่เสื่อมทราม,วิถีปกครองที่ล้มเหลว,ประเทศไทยต้องล้างทั้งระบบระบอบอย่างจริงจัง,ระบบราชการมาตรฐานพังทั้งระบบเพราะหัวพัง ท้ายพังแน่นอน,บวกวิถีการเลือกตั้งในนามบริบทว่า สภา.สส.สว.นายกฯ.พรรคการเมืองทั้งหมดถือว่าพังและล้มเหลวเช่นกัน,ลามไปถึงข้อกฎหมายที่สภา.สส.สว.เขียนตีตราใช้บังคับด้วยล้วนโมฆะไปด้วย,ตลอดกฎหมายของกระทรวงทบวงกรมก็เผาทิ้งทั้งหมดโดยเฉพาะกฎหมายปิโตรเลียมเป็นตัวอย่างทีีดีที่สุดของวิถีกฎหมายที่เป็นภัยคุกคามเสียเองต่อความมั่นคงของประเทศไทยและภัยตรงต่อประชาชนทุกๆคนที่กฎหมายปิโตรเลียมตีตรามีผลบังคับใช้ออกมาถึงปัจจุบัน,มันคือความล้มเหลวของวิถีการปกครอง,หากทำสงครามเสมือนว่าประเทศไทยแพ้ตั้งแต่ยังไม่ออกรบ,หรือมันถูกออกแบบมาให้แพ้ตั้งแต่เริ่ม,เหมือนวิถีชีวิตคนไทยที่ถูกออกแบบมาให้แพ้ตั้งแต่ต้นจากระบบที่ออกแบบมิใช้คนไทยชนะใครคนใดชนะในหมากอิสระแห่งสัมมาชีวิต,ตย.ง่ายๆคืออิสระภาพทางการเงิน เรียน จบเรียนทำงาน มีเงินเดือนหรือมีอาชีพสาระพัด,สุดท้ายคนไทยทั้งคนราชการ คนงานเอกชนล้วนต่างตกเป็นทาสหนี้ของระบบทาสตังทั้งประเทศ หนี้เต็มคนไทย ตังติดลบ ดิ้นรนแทบตายไม่พอจ่ายบิลจ่ายค่าใช้จ่ายภาระต่างๆรอบตัวใครมัน,วังวนในกระแสทาสหนี้ทาสตัง ไร้อิสระภาพของชีวิตไม่สามารถหลุดพ้นทาสมนุษย์เงินเดือนทาสหนี้ได้,อเมริกาเอย ญี่ปุ่นเอยหนี้ล้นประเทศพร้อมล้มละลายได้ตลอดเวลาในเวลานี้,
    ..วิถีการปกครองไทยเรามีคนทรยศเป็นผู้นำผู้ปกครองนานพอแล้ว,เราสามารถพลิกฟื้นคืนสถานะอิสระภาพไทแท้แห่งจิตวิญญาณคุณค่าความเป็นมนุษย์ในเผ่าพันธุ์สไตล์ไทยเราได้,เพราะพื้นฐานเราแห่งรากเหง้าตั้งไว้ดีแล้วทั้งพ่อแม่ครูบาอาจารย์เราก็ร่วมวางรากฐานหลักชัยไว้ดีด้วยเช่นกัน นั้นคือเรามีพระมหากษัตริย์เราเองและมีพ่อแม่ครูบาอาจารย์ยังเต็มตรึมกระจายเกิดขึ้นรุ่นใหม่ตลอดเวลา,แค่จบผู้นำกากๆยุคนี้ไป อนาคตอาจสดใสแน่นอน.
    ..การล้างบางทั้งหมด ทางเดียวหนทางเดียวคือทหารพระราชาเรายึดอำนาจรัฐประหารและปฏิวัติการปกครองใหม่ทั้งหมด,ยุคอวกาศมาแน่นอน,ผู้ปกครองผู้นำยังกากๆมือไม่ถึง ไร้ฝีมืออยู่มันแย่แน่นอน,ต่างดาวจะนำยานบินลงมาจอดจริงไม่กี่ปีแล้ว,เราต้องเตรียมคนไทยเราพร้อมตอนรับและรับมือการถ่ายทอดเทคโนโลยีล้ำๆนี้ได้แล้ว,ประเทศไทยเราคือฮับศูนย์กลางของพลังงานจักรวาลในยุคสมัยหน้า,ใต้แผ่นดินไทยธรรมดาที่ไหน,เราจะมาติดพวกขี้กากขี้หมูขี้หมาขี้แมวนี้ไม่ได้,ข้าราชการเลวๆชั่วๆไม่ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ต่อระบบดีงามต้องกวาดล้างและกำจัดมิให้มีชีวิตอย่างจริงจังยิ่งดี,อำนาจและตำแหน่งชี้เป็นชี้ตายในความยุติธรรมของประชาชนมากมายมหาศาลผลกระทบแต่ทำชั่วเลวเสียเอง,ไม่สมควรมีชีวิตอยู่เป็นคน.
    ..ทหารพระราชาคือหนทางเดียว ยึดอำนาจปฏิวัติทั้งหมด,อนาคตแห่งยุคใหม่มันชี้ชะตาจุดนี้แล้ว,ถ้าไม่ทำ ทาสและพังพินาศคือสิ้นชาติไทยสิ้นประเทศไทยแบบมีแต่ชื่อจะเป็นค่าจริงทันที.,นั้นคือเราแพ้ของจริง,มันชนะและทำลายสถาบันฯเราได้จริงแห่งธรรมจักรวาลเราลงได้ด้วย,สิ้นสถาบันกษัตริย์ฝันเลยว่าจะปฏิบัติสายพุทธะเราสะดวกสบายได้,หรือมันตัดตอนทำลายคนจิตวิญญาณแห่งธรรมจักรวาลเราด้วยทั้งหมด,กษัตริย์ค้ำจุนพุทธศาสนาและของคู่กันมาด้วย,ในยุคก่อนสิ้น5,000ปีพุทธกาลนี้,และมาแพ้ในยุครุ่นเรามันอนาถใจมาก,เมื่อเทียบยุคสุโขทัยต้นเรื่องมาก.


    .https://youtube.com/shorts/bMwV_iNOTbs?si=wKz0bC_aUZP33Vyx
    ..https://youtube.com/shorts/bMwV_iNOTbs?si=wKz0bC_aUZP33Vyx
    ..การปกครองที่เสื่อมทราม,วิถีปกครองที่ล้มเหลว,ประเทศไทยต้องล้างทั้งระบบระบอบอย่างจริงจัง,ระบบราชการมาตรฐานพังทั้งระบบเพราะหัวพัง ท้ายพังแน่นอน,บวกวิถีการเลือกตั้งในนามบริบทว่า สภา.สส.สว.นายกฯ.พรรคการเมืองทั้งหมดถือว่าพังและล้มเหลวเช่นกัน,ลามไปถึงข้อกฎหมายที่สภา.สส.สว.เขียนตีตราใช้บังคับด้วยล้วนโมฆะไปด้วย,ตลอดกฎหมายของกระทรวงทบวงกรมก็เผาทิ้งทั้งหมดโดยเฉพาะกฎหมายปิโตรเลียมเป็นตัวอย่างทีีดีที่สุดของวิถีกฎหมายที่เป็นภัยคุกคามเสียเองต่อความมั่นคงของประเทศไทยและภัยตรงต่อประชาชนทุกๆคนที่กฎหมายปิโตรเลียมตีตรามีผลบังคับใช้ออกมาถึงปัจจุบัน,มันคือความล้มเหลวของวิถีการปกครอง,หากทำสงครามเสมือนว่าประเทศไทยแพ้ตั้งแต่ยังไม่ออกรบ,หรือมันถูกออกแบบมาให้แพ้ตั้งแต่เริ่ม,เหมือนวิถีชีวิตคนไทยที่ถูกออกแบบมาให้แพ้ตั้งแต่ต้นจากระบบที่ออกแบบมิใช้คนไทยชนะใครคนใดชนะในหมากอิสระแห่งสัมมาชีวิต,ตย.ง่ายๆคืออิสระภาพทางการเงิน เรียน จบเรียนทำงาน มีเงินเดือนหรือมีอาชีพสาระพัด,สุดท้ายคนไทยทั้งคนราชการ คนงานเอกชนล้วนต่างตกเป็นทาสหนี้ของระบบทาสตังทั้งประเทศ หนี้เต็มคนไทย ตังติดลบ ดิ้นรนแทบตายไม่พอจ่ายบิลจ่ายค่าใช้จ่ายภาระต่างๆรอบตัวใครมัน,วังวนในกระแสทาสหนี้ทาสตัง ไร้อิสระภาพของชีวิตไม่สามารถหลุดพ้นทาสมนุษย์เงินเดือนทาสหนี้ได้,อเมริกาเอย ญี่ปุ่นเอยหนี้ล้นประเทศพร้อมล้มละลายได้ตลอดเวลาในเวลานี้, ..วิถีการปกครองไทยเรามีคนทรยศเป็นผู้นำผู้ปกครองนานพอแล้ว,เราสามารถพลิกฟื้นคืนสถานะอิสระภาพไทแท้แห่งจิตวิญญาณคุณค่าความเป็นมนุษย์ในเผ่าพันธุ์สไตล์ไทยเราได้,เพราะพื้นฐานเราแห่งรากเหง้าตั้งไว้ดีแล้วทั้งพ่อแม่ครูบาอาจารย์เราก็ร่วมวางรากฐานหลักชัยไว้ดีด้วยเช่นกัน นั้นคือเรามีพระมหากษัตริย์เราเองและมีพ่อแม่ครูบาอาจารย์ยังเต็มตรึมกระจายเกิดขึ้นรุ่นใหม่ตลอดเวลา,แค่จบผู้นำกากๆยุคนี้ไป อนาคตอาจสดใสแน่นอน. ..การล้างบางทั้งหมด ทางเดียวหนทางเดียวคือทหารพระราชาเรายึดอำนาจรัฐประหารและปฏิวัติการปกครองใหม่ทั้งหมด,ยุคอวกาศมาแน่นอน,ผู้ปกครองผู้นำยังกากๆมือไม่ถึง ไร้ฝีมืออยู่มันแย่แน่นอน,ต่างดาวจะนำยานบินลงมาจอดจริงไม่กี่ปีแล้ว,เราต้องเตรียมคนไทยเราพร้อมตอนรับและรับมือการถ่ายทอดเทคโนโลยีล้ำๆนี้ได้แล้ว,ประเทศไทยเราคือฮับศูนย์กลางของพลังงานจักรวาลในยุคสมัยหน้า,ใต้แผ่นดินไทยธรรมดาที่ไหน,เราจะมาติดพวกขี้กากขี้หมูขี้หมาขี้แมวนี้ไม่ได้,ข้าราชการเลวๆชั่วๆไม่ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ต่อระบบดีงามต้องกวาดล้างและกำจัดมิให้มีชีวิตอย่างจริงจังยิ่งดี,อำนาจและตำแหน่งชี้เป็นชี้ตายในความยุติธรรมของประชาชนมากมายมหาศาลผลกระทบแต่ทำชั่วเลวเสียเอง,ไม่สมควรมีชีวิตอยู่เป็นคน. ..ทหารพระราชาคือหนทางเดียว ยึดอำนาจปฏิวัติทั้งหมด,อนาคตแห่งยุคใหม่มันชี้ชะตาจุดนี้แล้ว,ถ้าไม่ทำ ทาสและพังพินาศคือสิ้นชาติไทยสิ้นประเทศไทยแบบมีแต่ชื่อจะเป็นค่าจริงทันที.,นั้นคือเราแพ้ของจริง,มันชนะและทำลายสถาบันฯเราได้จริงแห่งธรรมจักรวาลเราลงได้ด้วย,สิ้นสถาบันกษัตริย์ฝันเลยว่าจะปฏิบัติสายพุทธะเราสะดวกสบายได้,หรือมันตัดตอนทำลายคนจิตวิญญาณแห่งธรรมจักรวาลเราด้วยทั้งหมด,กษัตริย์ค้ำจุนพุทธศาสนาและของคู่กันมาด้วย,ในยุคก่อนสิ้น5,000ปีพุทธกาลนี้,และมาแพ้ในยุครุ่นเรามันอนาถใจมาก,เมื่อเทียบยุคสุโขทัยต้นเรื่องมาก. .https://youtube.com/shorts/bMwV_iNOTbs?si=wKz0bC_aUZP33Vyx ..https://youtube.com/shorts/bMwV_iNOTbs?si=wKz0bC_aUZP33Vyx
    0 Comments 0 Shares 380 Views 0 Reviews
  • แบงค์ชาติเราสมควรผูกค่าเงินอ้างอิงค่าเงินใหม่,กำหนดทิศทางอ้างอิงราคาสินค้าช่วยเหลือการแลกเปลี่ยนซื้อขายทางธุรกรรมการเงินและการค้าการตลาดที่แท้จริงได้ด้วย,เช่นเมื่อเอาทองคำไปค้ำประกันการพิมพ์ตังออกมา,ก็สู้สมควรทำสุดซอยใหม่ในยุคนี้คือผูกอ้างอิงการขึ้นลงจริงของราคาทองคำกำหนดเป็นมาตราฐานมูลค่าเงินบาทในตัวด้วยตัดอัตราเงินเฟ้อทิ้งไปเลยได้ด้วย,1บาททองคำจับวันที่ราคาทองคำสูงสุดเป็นราคาฐานเทียบเงินบาทแบบ50,000บาทเงินก็ว่า,หากราคาทองคำขึ้นลง ให้ราคาสินค้าปรับขึ้นลงให้เรียลไทม์แต่ไม่เกินขั้นสูงขั้นต่ำของวันนั้นๆก็ว่า,เช่น ข้าวปกติขายราคาตันละ15,000บาทเงิน,เทียบราคาทองคำฐานคือ50,000บาท,ราคาข้าวในตลาดที่แท้จริงต้องทำการซื้อขายจริงนับจากวันนี้ตลอดไปที่ราคาขึ้นลงอ้างอิงราคาทองคำในแต่ละวันคูณทันที2.34,เท่ากับ35,100บาท เอาไปบวกราคาเดิม15,000บาทคือ50,100บาทเงินต่อข้าว1ตัน.,เงินเดือนคนทำงานทุกๆคนในประเทศไทยจะเอกชนหรือต่างชาติต้องทำเช่นเดียวกันนี้,ทุกๆอย่างที่ตีมูลค่าเป็นเงินบาทยกเว้นอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรากับชาติอื่นๆทั่วโลก ให้ทำเหมือนราคาขายข้าว สินค้าอุปโภคบริโภคและบริการตีมูลค่าใหม่ได้ทันที ส่วนใครจะพังจะล้มละลายต้องบริหารภายในกันเองให้ดี ปรับตัวให้ทัน,ก๋วยเตี๋ยวชามละ15บาท ขายทันทีชามละ50.10บาทหรือชามละ50บาทก็ราคาปกติทันที,เราจะทันค่าครองชีพที่แพง แก้อัตราเงินเฟ้อที่ทำลายมูลค่าเงินได้ทันทีด้วย.,ค่าเงินจะอ่อนค่าหรือแข็งค่าขึ้นมิใช่ใครจะเทขายหรือเข้าซื้อเงินบาทปั่นสาระพัดอิสระได้เสรีอีก,ค่าเงินบาทเสมือนอ้างอิงราคาทองคำจริงไปในตัวและสินค้าบริการทั้งประเทศไทยก็อ้างอิงราคาทองคำจริงสากลโลกด้วย.เมื่อเราเกาถูกที่คันก็แก้ไขทุกๆปัญหาได้ทันที,เช่นผีบ้าไทยที่เสือกไปอ้างอิงราคาน้ำมันสิงคโปร์ทั้งที่ประเทศไทยมีบ่อน้ำมันบนแผ่นดินไทยมากกว่าอีกแม้ผู้นำผู้ปกครองและข้าราชการไทยจะขายบ่อน้ำมันขายชาติยกบ่อน้ำมันให้ต่างชาติก็ตามจากการให้สัมปทานเกินไปกว่า20ครั้งไปแล้วก็ว่า,ตลอดอ่าวไทยสดๆร้อนๆอีก2แปลงขนาดใหญ่ก็ยกให้คนอื่น,ผู้นำผู้ปกครองไทยชั่งชั่วโง่กากไร้ฝีมือสิ้นดีเสือกอยากเป็นผู้นำผู้ปกครองผู้มีอำนาจบนแผ่นดินไทย,นี้คือวิถีปกครองที่ล้มเหลว เสือกยกความร่ำรวยมั่งคั่งให้คนอื่นมิใช่คนในชาติไทยตนเอง.,กระบวนการปล่อยกู้ก็เอารัดเอาเปรียบประชาชน ทวงหนี้ ยึดสาระพัดขายอะไรต่อมิอะไรของคนกู้ยึดทรัพย์จนครบตังครบดอกเบี้ยครบสาระพัดตังที่คิดตังเอาเปรียบคนกู้,ต่างชาติซื้อรถยึดรถก็จบคดีกัน,ซื้อบ้านยึดบ้านก็จบภาระหนี้กัน,มาดูไทยแมร่งปล่อยเอกชนรังแกคนกู้คนไทยสาระพัด,เราปกครองล้มเหลวจริงๆ.
    แบงค์ชาติเราสมควรผูกค่าเงินอ้างอิงค่าเงินใหม่,กำหนดทิศทางอ้างอิงราคาสินค้าช่วยเหลือการแลกเปลี่ยนซื้อขายทางธุรกรรมการเงินและการค้าการตลาดที่แท้จริงได้ด้วย,เช่นเมื่อเอาทองคำไปค้ำประกันการพิมพ์ตังออกมา,ก็สู้สมควรทำสุดซอยใหม่ในยุคนี้คือผูกอ้างอิงการขึ้นลงจริงของราคาทองคำกำหนดเป็นมาตราฐานมูลค่าเงินบาทในตัวด้วยตัดอัตราเงินเฟ้อทิ้งไปเลยได้ด้วย,1บาททองคำจับวันที่ราคาทองคำสูงสุดเป็นราคาฐานเทียบเงินบาทแบบ50,000บาทเงินก็ว่า,หากราคาทองคำขึ้นลง ให้ราคาสินค้าปรับขึ้นลงให้เรียลไทม์แต่ไม่เกินขั้นสูงขั้นต่ำของวันนั้นๆก็ว่า,เช่น ข้าวปกติขายราคาตันละ15,000บาทเงิน,เทียบราคาทองคำฐานคือ50,000บาท,ราคาข้าวในตลาดที่แท้จริงต้องทำการซื้อขายจริงนับจากวันนี้ตลอดไปที่ราคาขึ้นลงอ้างอิงราคาทองคำในแต่ละวันคูณทันที2.34,เท่ากับ35,100บาท เอาไปบวกราคาเดิม15,000บาทคือ50,100บาทเงินต่อข้าว1ตัน.,เงินเดือนคนทำงานทุกๆคนในประเทศไทยจะเอกชนหรือต่างชาติต้องทำเช่นเดียวกันนี้,ทุกๆอย่างที่ตีมูลค่าเป็นเงินบาทยกเว้นอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรากับชาติอื่นๆทั่วโลก ให้ทำเหมือนราคาขายข้าว สินค้าอุปโภคบริโภคและบริการตีมูลค่าใหม่ได้ทันที ส่วนใครจะพังจะล้มละลายต้องบริหารภายในกันเองให้ดี ปรับตัวให้ทัน,ก๋วยเตี๋ยวชามละ15บาท ขายทันทีชามละ50.10บาทหรือชามละ50บาทก็ราคาปกติทันที,เราจะทันค่าครองชีพที่แพง แก้อัตราเงินเฟ้อที่ทำลายมูลค่าเงินได้ทันทีด้วย.,ค่าเงินจะอ่อนค่าหรือแข็งค่าขึ้นมิใช่ใครจะเทขายหรือเข้าซื้อเงินบาทปั่นสาระพัดอิสระได้เสรีอีก,ค่าเงินบาทเสมือนอ้างอิงราคาทองคำจริงไปในตัวและสินค้าบริการทั้งประเทศไทยก็อ้างอิงราคาทองคำจริงสากลโลกด้วย.เมื่อเราเกาถูกที่คันก็แก้ไขทุกๆปัญหาได้ทันที,เช่นผีบ้าไทยที่เสือกไปอ้างอิงราคาน้ำมันสิงคโปร์ทั้งที่ประเทศไทยมีบ่อน้ำมันบนแผ่นดินไทยมากกว่าอีกแม้ผู้นำผู้ปกครองและข้าราชการไทยจะขายบ่อน้ำมันขายชาติยกบ่อน้ำมันให้ต่างชาติก็ตามจากการให้สัมปทานเกินไปกว่า20ครั้งไปแล้วก็ว่า,ตลอดอ่าวไทยสดๆร้อนๆอีก2แปลงขนาดใหญ่ก็ยกให้คนอื่น,ผู้นำผู้ปกครองไทยชั่งชั่วโง่กากไร้ฝีมือสิ้นดีเสือกอยากเป็นผู้นำผู้ปกครองผู้มีอำนาจบนแผ่นดินไทย,นี้คือวิถีปกครองที่ล้มเหลว เสือกยกความร่ำรวยมั่งคั่งให้คนอื่นมิใช่คนในชาติไทยตนเอง.,กระบวนการปล่อยกู้ก็เอารัดเอาเปรียบประชาชน ทวงหนี้ ยึดสาระพัดขายอะไรต่อมิอะไรของคนกู้ยึดทรัพย์จนครบตังครบดอกเบี้ยครบสาระพัดตังที่คิดตังเอาเปรียบคนกู้,ต่างชาติซื้อรถยึดรถก็จบคดีกัน,ซื้อบ้านยึดบ้านก็จบภาระหนี้กัน,มาดูไทยแมร่งปล่อยเอกชนรังแกคนกู้คนไทยสาระพัด,เราปกครองล้มเหลวจริงๆ.
    พายุลูกใหญ่..ผู้ว่า ธปท.เตือนรับมือภาษีทรัมป์กระทบไทย : คนเคาะข่าว 02-06-68
    : เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
    ผู้ว่าการพบสื่อมวลชน (Meet the Press) ครั้งที่ 1/68 วันที่ 9 พ.ค.2568
    #คนเคาะข่าว #ภาษีทรัมป์ #ผลกระทบเศรษฐกิจไทย #ธปท #เศรษฐพุฒิสุทธิวาทนฤพุฒิ #ธนาคารแห่งประเทศไทย #นโยบายการเงิน #MeetThePress #เศรษฐกิจโลก #ข่าวเศรษฐกิจ #สงครามการค้า #วิเคราะห์เศรษฐกิจ #thaitimes #การเงินไทย #พายุเศรษฐกิจ
    0 Comments 0 Shares 413 Views 1 0 Reviews
  • แผนลับของเกาหลีเหนือ: แทรกซึมงานไอทีในสหรัฐฯ
    การสืบสวนล่าสุดเผยว่า เกาหลีเหนือใช้กลยุทธ์แทรกซึมงานไอทีในสหรัฐฯ ผ่าน TikTok influencer ชาวมินนิโซตา โดยอาศัยช่องโหว่ของ การทำงานระยะไกล เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของตนสามารถเข้าถึงระบบของบริษัทอเมริกัน

    แผนนี้เกี่ยวข้องกับ Christina Chapman ผู้ใช้ TikTok ที่มีผู้ติดตามกว่า 100,000 คน ซึ่งไม่รู้ตัวว่าตนเองกำลังช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือ โดยเธอได้รับข้อเสนอผ่าน LinkedIn ให้เป็นตัวแทนของบริษัทที่จัดหางานไอทีจากต่างประเทศ

    Chapman ทำหน้าที่ รับและตั้งค่าคอมพิวเตอร์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือสามารถเข้าถึงระบบของบริษัทอเมริกันได้จากระยะไกล นอกจากนี้ เธอยังช่วยจัดการเอกสารภาษีปลอมและส่งเงินเดือนให้กับบุคคลเหล่านี้

    ข้อมูลจากข่าว
    - เกาหลีเหนือใช้แผนแทรกซึมงานไอทีในสหรัฐฯ ผ่าน TikTok influencer
    - Christina Chapman ไม่รู้ตัวว่ากำลังช่วยเหลือเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือ
    - เธอรับและตั้งค่าคอมพิวเตอร์ให้เจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือเข้าถึงระบบบริษัทอเมริกัน
    - แผนนี้เกี่ยวข้องกับกว่า 300 บริษัท และสร้างรายได้ให้เกาหลีเหนือกว่า 17.1 ล้านเหรียญ
    - FBI ระบุว่าแผนลักษณะนี้สร้างรายได้ให้เกาหลีเหนือหลายร้อยล้านเหรียญต่อปี

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - บริษัทอเมริกันอาจส่งอุปกรณ์และเงินให้กับเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือโดยไม่รู้ตัว
    - แฮกเกอร์ใช้ซอฟต์แวร์พิเศษเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับและขโมยข้อมูล
    - มีการใช้ AI เพื่อเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ของเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือในการสัมภาษณ์งานออนไลน์
    - บุคคลที่ถูกใช้เป็นตัวแทนอาจต้องรับผิดทางกฎหมาย แม้จะไม่รู้ตัวว่ากำลังช่วยเหลือแผนนี้

    ผลกระทบต่อความมั่นคงไซเบอร์
    แผนนี้แสดงให้เห็นถึง ความสามารถของเกาหลีเหนือในการใช้เทคโนโลยีเพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตร และสร้างรายได้ให้กับรัฐบาล นอกจากนี้ ยังเป็นเครื่องเตือนใจให้บริษัทต่าง ๆ เพิ่มมาตรการตรวจสอบความปลอดภัยของพนักงานระยะไกล เพื่อป้องกันการแทรกซึมจากต่างชาติ

    https://www.techspot.com/news/108104-how-north-korea-infiltrated-remote-us-jobs-through.html
    🕵️‍♂️ แผนลับของเกาหลีเหนือ: แทรกซึมงานไอทีในสหรัฐฯ การสืบสวนล่าสุดเผยว่า เกาหลีเหนือใช้กลยุทธ์แทรกซึมงานไอทีในสหรัฐฯ ผ่าน TikTok influencer ชาวมินนิโซตา โดยอาศัยช่องโหว่ของ การทำงานระยะไกล เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของตนสามารถเข้าถึงระบบของบริษัทอเมริกัน แผนนี้เกี่ยวข้องกับ Christina Chapman ผู้ใช้ TikTok ที่มีผู้ติดตามกว่า 100,000 คน ซึ่งไม่รู้ตัวว่าตนเองกำลังช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือ โดยเธอได้รับข้อเสนอผ่าน LinkedIn ให้เป็นตัวแทนของบริษัทที่จัดหางานไอทีจากต่างประเทศ Chapman ทำหน้าที่ รับและตั้งค่าคอมพิวเตอร์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือสามารถเข้าถึงระบบของบริษัทอเมริกันได้จากระยะไกล นอกจากนี้ เธอยังช่วยจัดการเอกสารภาษีปลอมและส่งเงินเดือนให้กับบุคคลเหล่านี้ ✅ ข้อมูลจากข่าว - เกาหลีเหนือใช้แผนแทรกซึมงานไอทีในสหรัฐฯ ผ่าน TikTok influencer - Christina Chapman ไม่รู้ตัวว่ากำลังช่วยเหลือเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือ - เธอรับและตั้งค่าคอมพิวเตอร์ให้เจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือเข้าถึงระบบบริษัทอเมริกัน - แผนนี้เกี่ยวข้องกับกว่า 300 บริษัท และสร้างรายได้ให้เกาหลีเหนือกว่า 17.1 ล้านเหรียญ - FBI ระบุว่าแผนลักษณะนี้สร้างรายได้ให้เกาหลีเหนือหลายร้อยล้านเหรียญต่อปี ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - บริษัทอเมริกันอาจส่งอุปกรณ์และเงินให้กับเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือโดยไม่รู้ตัว - แฮกเกอร์ใช้ซอฟต์แวร์พิเศษเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับและขโมยข้อมูล - มีการใช้ AI เพื่อเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ของเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือในการสัมภาษณ์งานออนไลน์ - บุคคลที่ถูกใช้เป็นตัวแทนอาจต้องรับผิดทางกฎหมาย แม้จะไม่รู้ตัวว่ากำลังช่วยเหลือแผนนี้ 🌍 ผลกระทบต่อความมั่นคงไซเบอร์ แผนนี้แสดงให้เห็นถึง ความสามารถของเกาหลีเหนือในการใช้เทคโนโลยีเพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตร และสร้างรายได้ให้กับรัฐบาล นอกจากนี้ ยังเป็นเครื่องเตือนใจให้บริษัทต่าง ๆ เพิ่มมาตรการตรวจสอบความปลอดภัยของพนักงานระยะไกล เพื่อป้องกันการแทรกซึมจากต่างชาติ https://www.techspot.com/news/108104-how-north-korea-infiltrated-remote-us-jobs-through.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    How North Korea infiltrated remote US jobs through a TikTok user in Minnesota
    A recent Wall Street Journal investigation highlights the story of Christina Chapman, a Minnesota native and popular TikTok user, showing how ordinary Americans became entangled in a...
    0 Comments 0 Shares 266 Views 0 Reviews
More Results