• Space Forge เตรียมเปิดตัวดาวเทียมผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในอวกาศปี 2025

    Space Forge บริษัทสตาร์ทอัพจากสหราชอาณาจักร ได้รับเงินทุน 30 ล้านดอลลาร์ ในรอบ Series A เพื่อพัฒนา ดาวเทียม ForgeStar-1 และ ForgeStar-2 สำหรับการผลิตวัสดุที่ไม่สามารถสร้างบนโลกได้ โดยใช้ สภาวะไร้น้ำหนัก, สูญญากาศ และอุณหภูมิที่แตกต่างกันสุดขั้วในอวกาศ

    ✅ Space Forge ได้รับเงินทุน 30 ล้านดอลลาร์เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตในอวกาศ
    - เป็น เงินทุนรอบ Series A ที่สูงที่สุดสำหรับบริษัทเทคโนโลยีอวกาศในสหราชอาณาจักร

    ✅ ดาวเทียม ForgeStar-1 จะเป็นดาวเทียมผลิตวัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้
    - ช่วยให้ สามารถทำการทดลองและผลิตวัสดุในอวกาศได้อย่างต่อเนื่อง

    ✅ วัสดุที่ผลิตในอวกาศมีศักยภาพในการปรับปรุงเซมิคอนดักเตอร์และคอมพิวเตอร์ควอนตัม
    - อาจช่วย ลดการปล่อย CO2 ได้ถึง 75% ในโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ศูนย์ข้อมูล

    ✅ Space Forge Inc. ในสหรัฐฯ ตั้งเป้าปฏิวัติการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ภายในประเทศ
    - สอดคล้องกับ CHIPS and Science Act เพื่อเสริมความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทาน

    ✅ ดาวเทียม ForgeStar-1 จะเริ่มภารกิจทดสอบในวงโคจรครั้งแรกในปี 2025
    - เป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาแพลตฟอร์มการผลิตในอวกาศที่สามารถใช้งานซ้ำได้

    ‼️ การผลิตในอวกาศต้องเผชิญกับความท้าทายด้านต้นทุนและเทคโนโลยี
    - ต้องติดตามว่า Space Forge จะสามารถทำให้โครงการนี้คุ้มค่าทางเศรษฐกิจได้หรือไม่

    ‼️ ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์อาจส่งผลต่อห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์
    - การพึ่งพาไต้หวันในปัจจุบัน อาจมีผลกระทบหากเกิดความขัดแย้งทางการเมือง

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/space-forge-to-pioneer-semiconductor-manufacturing-in-space-with-first-satellite-launch-in-2025
    Space Forge เตรียมเปิดตัวดาวเทียมผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในอวกาศปี 2025 Space Forge บริษัทสตาร์ทอัพจากสหราชอาณาจักร ได้รับเงินทุน 30 ล้านดอลลาร์ ในรอบ Series A เพื่อพัฒนา ดาวเทียม ForgeStar-1 และ ForgeStar-2 สำหรับการผลิตวัสดุที่ไม่สามารถสร้างบนโลกได้ โดยใช้ สภาวะไร้น้ำหนัก, สูญญากาศ และอุณหภูมิที่แตกต่างกันสุดขั้วในอวกาศ ✅ Space Forge ได้รับเงินทุน 30 ล้านดอลลาร์เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตในอวกาศ - เป็น เงินทุนรอบ Series A ที่สูงที่สุดสำหรับบริษัทเทคโนโลยีอวกาศในสหราชอาณาจักร ✅ ดาวเทียม ForgeStar-1 จะเป็นดาวเทียมผลิตวัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ - ช่วยให้ สามารถทำการทดลองและผลิตวัสดุในอวกาศได้อย่างต่อเนื่อง ✅ วัสดุที่ผลิตในอวกาศมีศักยภาพในการปรับปรุงเซมิคอนดักเตอร์และคอมพิวเตอร์ควอนตัม - อาจช่วย ลดการปล่อย CO2 ได้ถึง 75% ในโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ศูนย์ข้อมูล ✅ Space Forge Inc. ในสหรัฐฯ ตั้งเป้าปฏิวัติการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ภายในประเทศ - สอดคล้องกับ CHIPS and Science Act เพื่อเสริมความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทาน ✅ ดาวเทียม ForgeStar-1 จะเริ่มภารกิจทดสอบในวงโคจรครั้งแรกในปี 2025 - เป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาแพลตฟอร์มการผลิตในอวกาศที่สามารถใช้งานซ้ำได้ ‼️ การผลิตในอวกาศต้องเผชิญกับความท้าทายด้านต้นทุนและเทคโนโลยี - ต้องติดตามว่า Space Forge จะสามารถทำให้โครงการนี้คุ้มค่าทางเศรษฐกิจได้หรือไม่ ‼️ ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์อาจส่งผลต่อห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์ - การพึ่งพาไต้หวันในปัจจุบัน อาจมีผลกระทบหากเกิดความขัดแย้งทางการเมือง https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/space-forge-to-pioneer-semiconductor-manufacturing-in-space-with-first-satellite-launch-in-2025
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 32 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผมไม่ทราบว่าผู้นำชีอะห์ท่านนี้ ท่านซัยยิด สุไลมาน ฮูซัยนี เป็นใคร มีความเป็นมาอย่างไร (อ่านบทความจากลิงก์ข้างล่าง) แต่ผมพูดบ่อยๆ ว่า ปัญหาผู้ก่อการร้าย จชต. โยงใยโดยกลไกจารชนตะวันตกที่ฝังตัวมานาน ในเวลาเดียวกับที่มีความพยายามมาโดยตลอดที่จะชักจูงชี้นำให้เชื่อโดยป้ายสีไปที่ชาติมุสลิมในอาหรับ โดยเฉพาะอิหร่าน
    .
    ขอบอกอีกครั้งว่า ไม่ใช่แค่ในบ้านเรา การป้ายสีแบบนี้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดกระแส Islamophobia ทั่วไปในโลก และกองโจรก่อการร้ายมุสลิมที่เป็นที่หวาดกลัวเช่น อัลเคด้า ตอลีบัน ไอสิส ในที่สุดถูกเปิดโปงว่าถูกสร้างขึ้น ได้รับการสนับสนุนเงินทุน ได้รับการฝึกฝนและติดอาวุธโดยรัฐบาลสหรัฐ
    .
    เบื้องลึกความขัดแย้งภายในประเทศต่างๆ ในโลก หลายต่อหลายครั้ง เกิดขึ้นจากแผนร้ายในการแทรกแซงทางการเมืองของตะวันตก โดยมีอำนาจการเมืองและทุนท้องถิ่นให้ความร่วมมือ เช่น การแยกดินแดนของติมอร์.. ตะวันตกสนับสนุนเงินทุนทั้งฝ่ายเรียกร้องและฝ่ายต่อต้าน เมื่อการเคลื่อนไหวสุกงอมได้ที่ก็มีการสนับสนุนอาวุธเพื่อยกระดับความรุนแรงจากแค่การด่าทอและผลักกันไปมา จุดแตกหักมาถึงเมื่อนักศึกษาสาวแกนนำคนหนึ่งของฝ่ายเรียกร้องถูกข่มขืนฆ่า ความรุนแรงก็ระเบิดปะทุจนหยุดไม่อยู่ หลังการแยกดินแดนสำเร็จ สัมปะทานน้ำมันในติมอร์ตกอยู่ในมือตะวันตกทันที
    .
    กรณีของไทยก็ไม่ต่างกัน ทรัพยากรในภาคใต้และศักยภาพในภูมิภาคนั้นกำลังเป็นที่หมายปอง ลำพังแค่ความคิดในการตัดคลองหรือเซาท์เทิร์นซีบอร์ดอะไรทำนองนี้เพียงความคิดเดียว ก็บีบให้ทั้งคาบสมุทรมาเลย์ต้องดิ้นเร่าเป็นไส้เดือนถูกขี้เถ้า โดยเฉพาะเพื่อนบ้านตัวแสบอย่างมาเลเซียที่ผมบอกว่าไว้ใจไม่ได้และคอยลอบแทงเราข้างหลังตลอดเวลา.. ณ เวลานี้หากคุณไปเยือนมาเลเซียเพื่อเห็นด้วยตา คุณก็จะรู้ถึงความเสื่อมถอยของมาเลเซียทั้งบ้านเมืองและชีวิตผู้คนที่ไม่ได้ก้าวหน้าไปเท่าไหร่อย่างที่ควรเป็นในหลายปีมานี้ และยิ่งกว่านั้นโดยลึกๆ แล้วผู้บริหารประเทศมาเลเซียมีอคติมาโดยตลอด เห็นว่าไทยคือตัวการที่ดึงเอาความมั่งคั่งของภูมิภาคไป ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง แม้แต่เกาะเล็กๆ เกาะหนึ่งที่อยู่ติดจมูกของพวกเขาอย่างสิงคโปร์ พวกเขาก็ไม่อาจพัฒนาให้เจริญก้าวหน้าขึ้นเทียบเคียงได้ เวลาที่มีข่าวประโคมอะไรก็ตามที่ด้อยค่าเราและมักเอาเราไปเปรียบเทียบกับมาเลเซีย จะพิสูจน์ให้เห็นง่ายๆ โดยการไปเยือนเมืองหลวงของเขาและลองใช้ชีวิตสักหนึ่งสัปดาห์
    .
    ผมมีสายสัมพันธ์กับคนมุสลิมเยอะ ทั้งเพื่อนฝูงและญาติ อย่างที่เคยเล่า คุณย่าผมเป็นมุสลิมอยุธยา มีความสัมพันธ์ฉันท์ญาติกับครอบครัวพี่ซัน มาโนช พุฒตาล พี่สาวแท้ๆ ของผมก็แต่งเข้าบ้านอิสลาม ผมมีช่วงเวลาหนึ่งนานนับปีที่แวะเวียนไปที่มัสยิดแห่งหนึ่งเพื่อสงบใจ ไปพูดคุยกับผู้คน ไปฟังเสียงสวดของน้องคนหนึ่งที่สวดพระคัมภีร์ได้ไพเราะจับใจเหลือเกิน.. คุณจะต้องเข้าใจว่า ความไพเราะของดนตรีและท่วงทำนองแบบตะวันตกนั้นเต็มไปด้วยสุ้มเสียงที่ชวนให้ลุ่มหลง ด้วยทำนองชวนเคลิบเคลิ้ม ด้วยเสียงประสานอันกลมกลืน ด้วยจังหวะอันสนุกสนานรื่นเริง.. แต่ทำนองในการสวดของมุสลิมนั้นต่างกันออกไป อิสลามปฏิเสธดนตรีที่เล้าโลมให้รู้สึกลุ่มหลงและท่วงทำนองเช่นนั้นเป็นสิ่งที่เป็นบาป... แล้วทำไมกันเมื่อเราฟังการสวดของอิสลามแล้วเราจึงรู้สึกไพเราะได้? ทั้งที่ถ้อยคำไม่ใช่ข้อความประโลมโลก แต่เป็นวลีอันศักดิ์สิทธิ์จากพระคัมภีร์ นี่เป็นเรื่องน่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง คำตอบคือ สิ่งที่สัมผัสใจเราได้นั้นเป็นเพราะถ้อยคำเหล่านั้นเปล่งออกมาจากใจอันอ่อนโยน มาจากจิตวิญญาณอันสงบและศรัทธาอย่างแก่กล้า ผู้ฟังรู้สึกได้ถึงความรู้สึกจริงแท้นั้นจึงประทับใจเหลือประมาณ
    .
    เสียงเช่นนี้จะไม่มีวันเปล่งออกมาจากฆาตกรที่ฆ่าเด็ก ฆ่าผู้หญิง ฆ่าคนแก่ที่บริสุทธิ์อย่างแน่นอน ผมยืนยัน
    .
    https://www.facebook.com/thongdaw.thongaram.9/posts/1712738992940472
    ผมไม่ทราบว่าผู้นำชีอะห์ท่านนี้ ท่านซัยยิด สุไลมาน ฮูซัยนี เป็นใคร มีความเป็นมาอย่างไร (อ่านบทความจากลิงก์ข้างล่าง) แต่ผมพูดบ่อยๆ ว่า ปัญหาผู้ก่อการร้าย จชต. โยงใยโดยกลไกจารชนตะวันตกที่ฝังตัวมานาน ในเวลาเดียวกับที่มีความพยายามมาโดยตลอดที่จะชักจูงชี้นำให้เชื่อโดยป้ายสีไปที่ชาติมุสลิมในอาหรับ โดยเฉพาะอิหร่าน . ขอบอกอีกครั้งว่า ไม่ใช่แค่ในบ้านเรา การป้ายสีแบบนี้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดกระแส Islamophobia ทั่วไปในโลก และกองโจรก่อการร้ายมุสลิมที่เป็นที่หวาดกลัวเช่น อัลเคด้า ตอลีบัน ไอสิส ในที่สุดถูกเปิดโปงว่าถูกสร้างขึ้น ได้รับการสนับสนุนเงินทุน ได้รับการฝึกฝนและติดอาวุธโดยรัฐบาลสหรัฐ . เบื้องลึกความขัดแย้งภายในประเทศต่างๆ ในโลก หลายต่อหลายครั้ง เกิดขึ้นจากแผนร้ายในการแทรกแซงทางการเมืองของตะวันตก โดยมีอำนาจการเมืองและทุนท้องถิ่นให้ความร่วมมือ เช่น การแยกดินแดนของติมอร์.. ตะวันตกสนับสนุนเงินทุนทั้งฝ่ายเรียกร้องและฝ่ายต่อต้าน เมื่อการเคลื่อนไหวสุกงอมได้ที่ก็มีการสนับสนุนอาวุธเพื่อยกระดับความรุนแรงจากแค่การด่าทอและผลักกันไปมา จุดแตกหักมาถึงเมื่อนักศึกษาสาวแกนนำคนหนึ่งของฝ่ายเรียกร้องถูกข่มขืนฆ่า ความรุนแรงก็ระเบิดปะทุจนหยุดไม่อยู่ หลังการแยกดินแดนสำเร็จ สัมปะทานน้ำมันในติมอร์ตกอยู่ในมือตะวันตกทันที . กรณีของไทยก็ไม่ต่างกัน ทรัพยากรในภาคใต้และศักยภาพในภูมิภาคนั้นกำลังเป็นที่หมายปอง ลำพังแค่ความคิดในการตัดคลองหรือเซาท์เทิร์นซีบอร์ดอะไรทำนองนี้เพียงความคิดเดียว ก็บีบให้ทั้งคาบสมุทรมาเลย์ต้องดิ้นเร่าเป็นไส้เดือนถูกขี้เถ้า โดยเฉพาะเพื่อนบ้านตัวแสบอย่างมาเลเซียที่ผมบอกว่าไว้ใจไม่ได้และคอยลอบแทงเราข้างหลังตลอดเวลา.. ณ เวลานี้หากคุณไปเยือนมาเลเซียเพื่อเห็นด้วยตา คุณก็จะรู้ถึงความเสื่อมถอยของมาเลเซียทั้งบ้านเมืองและชีวิตผู้คนที่ไม่ได้ก้าวหน้าไปเท่าไหร่อย่างที่ควรเป็นในหลายปีมานี้ และยิ่งกว่านั้นโดยลึกๆ แล้วผู้บริหารประเทศมาเลเซียมีอคติมาโดยตลอด เห็นว่าไทยคือตัวการที่ดึงเอาความมั่งคั่งของภูมิภาคไป ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง แม้แต่เกาะเล็กๆ เกาะหนึ่งที่อยู่ติดจมูกของพวกเขาอย่างสิงคโปร์ พวกเขาก็ไม่อาจพัฒนาให้เจริญก้าวหน้าขึ้นเทียบเคียงได้ เวลาที่มีข่าวประโคมอะไรก็ตามที่ด้อยค่าเราและมักเอาเราไปเปรียบเทียบกับมาเลเซีย จะพิสูจน์ให้เห็นง่ายๆ โดยการไปเยือนเมืองหลวงของเขาและลองใช้ชีวิตสักหนึ่งสัปดาห์ . ผมมีสายสัมพันธ์กับคนมุสลิมเยอะ ทั้งเพื่อนฝูงและญาติ อย่างที่เคยเล่า คุณย่าผมเป็นมุสลิมอยุธยา มีความสัมพันธ์ฉันท์ญาติกับครอบครัวพี่ซัน มาโนช พุฒตาล พี่สาวแท้ๆ ของผมก็แต่งเข้าบ้านอิสลาม ผมมีช่วงเวลาหนึ่งนานนับปีที่แวะเวียนไปที่มัสยิดแห่งหนึ่งเพื่อสงบใจ ไปพูดคุยกับผู้คน ไปฟังเสียงสวดของน้องคนหนึ่งที่สวดพระคัมภีร์ได้ไพเราะจับใจเหลือเกิน.. คุณจะต้องเข้าใจว่า ความไพเราะของดนตรีและท่วงทำนองแบบตะวันตกนั้นเต็มไปด้วยสุ้มเสียงที่ชวนให้ลุ่มหลง ด้วยทำนองชวนเคลิบเคลิ้ม ด้วยเสียงประสานอันกลมกลืน ด้วยจังหวะอันสนุกสนานรื่นเริง.. แต่ทำนองในการสวดของมุสลิมนั้นต่างกันออกไป อิสลามปฏิเสธดนตรีที่เล้าโลมให้รู้สึกลุ่มหลงและท่วงทำนองเช่นนั้นเป็นสิ่งที่เป็นบาป... แล้วทำไมกันเมื่อเราฟังการสวดของอิสลามแล้วเราจึงรู้สึกไพเราะได้? ทั้งที่ถ้อยคำไม่ใช่ข้อความประโลมโลก แต่เป็นวลีอันศักดิ์สิทธิ์จากพระคัมภีร์ นี่เป็นเรื่องน่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง คำตอบคือ สิ่งที่สัมผัสใจเราได้นั้นเป็นเพราะถ้อยคำเหล่านั้นเปล่งออกมาจากใจอันอ่อนโยน มาจากจิตวิญญาณอันสงบและศรัทธาอย่างแก่กล้า ผู้ฟังรู้สึกได้ถึงความรู้สึกจริงแท้นั้นจึงประทับใจเหลือประมาณ . เสียงเช่นนี้จะไม่มีวันเปล่งออกมาจากฆาตกรที่ฆ่าเด็ก ฆ่าผู้หญิง ฆ่าคนแก่ที่บริสุทธิ์อย่างแน่นอน ผมยืนยัน . https://www.facebook.com/thongdaw.thongaram.9/posts/1712738992940472
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 133 มุมมอง 0 รีวิว
  • 14 พฤษภาคม 2568 -อดีตรัฐมนตรีคลัง ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล วิเคราะห์เรื่องสำคัญในประเด็น“ประเทศชาติได้อะไรจาก G-token“[เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติวิธีการกู้เงินโดยการออกโทเคนดิจิทัลของรัฐบาล (Government Token: G-Token) ตามมาตรา 10 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548อนุมัติให้กระทรวงการคลังออกโทเคนดิจิทัลโดยวงเงินกู้ตามกรอบการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณด้วยวิธีการเสนอขายให้แก่ผู้มีสิทธิซื้อโดยตรงผ่านผู้ที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ได้แก่ ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล นายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล หรือนิติบุคคลอื่นที่สามารถรับคำสั่งซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้ ซึ่งมีหน้าที่ดำเนินการด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำและการออกโทเคนดิจิทัล นายทะเบียน หรือผู้รับฝากโทเคนดิจิทัล เป็นต้นให้กระทรวงการคลังกำหนดหลักเกณฑ์การชำระระดอกเบี้ยและการใช้เงินตามโทเคนดิจิทัล โดยให้กระทรวงการคลังหรือนิติบุคคลอื่นใดที่กระทรวงการคลังมอบหมาย โอนเงินให้แก่ผู้ถือโทเคน ดิจิทัลหรือผู้รับตามที่นายทะเบียนกำหนด ให้การโอนโทเคนดิจิทัลดำเนินการตามวิธีการที่ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล นายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล หรือนิติบุคคลอื่นใดที่สามารถรับคำสั่งซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้โอนได้เปิดบัญชีเก็บรักษาโทเคนดิจิทัลของตนไว้โดยให้มีผลสมบูรณ์เมื่อผู้โอนนั้นได้บันทึกการรับโอนโทเคนดิจิทัลเข้าไปในบัญชีของผู้รับโอนแล้ว เพื่อนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในการพัฒนากลไกการบริหารหนี้สาธารณะให้มีประสิทธิภาพและภาครัฐสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่หลากหลายมากขึ้น ตลอดจนเป็นการส่งเสริมการออมของภาคประชาชน อันสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัล พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลที่มีคุณภาพ มั่นคง ปลอดภัย ครอบคลุมเพียงพอ และเข้าถึงได้ทั้งในด้านพื้นที่และราคา เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงโอกาสทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างทั่วถึงและเป็นธรรมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สำนักงบประมาณ และธนาคารแห่งประเทศไทยเห็นชอบ/ไม่ขัดข้อง สำนักงาน ก.ล.ต. เห็นว่า หาก กค. พิจารณาได้ว่าการกู้เงินโดยวิธีการออก G-Token ไม่ใช่การออกตราสารหนี้ ซึ่งไม่เป็น “หลักทรัพย์” ตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 แล้ว ก็สามารถดำเนินการภายใต้พระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 โดย G-Token มีการกำหนดสิทธิให้ผู้ถือมีสิทธิได้รับชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยตามเงื่อนไขที่ กค. กำหนด จึงมีลักษณะเป็นหน่วยข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดสิทธิของผู้ถือในการเข้าร่วมลงทุนในโครงการหรือ กิจการใด ๆ หรือกำหนดสิทธิในการได้มาซึ่งสินค้าหรือบริการหรือสิทธิอื่นใดที่เฉพาะเจาะจง และเข้าข่ายเป็นโทเคนดิจิทัล ตามมาตรา 3 แห่งพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561]**ถามว่า ประเทศชาติได้อะไรจาก G-token?+เรื่อง การนำประเทศสู่เศรษฐกิจดิจิทัลการนำประเทศสู่เศรษฐกิจดิจิทัลให้สำเร็จนั้น มีเรื่องที่ต้องดำเนินการด้านโครงสร้างพื้นฐานก่อนหลายอย่าง (ดูรูป) กล่าวคือ (1) ต้องช่วยให้ประชากรเข้าถึงระบบอินเทอร์เนตอย่างกว้างขวาง (2) ต้องให้ความรู้ทั้งในระบบโรงเรียนและในกลุ่มประชาคม (3) ต้องพัฒนาธุรกิจการเงินแบบดิจิทัลให้กว้างขวางมากขึ้น (4) ต้องกระตุ้นคนรุ่นหนุ่มสาวให้ลองทำธุรกิจขนาดย่อมด้านดิจิทัลให้มากขึ้น และ (5) รัฐต้องให้บริการทางออนไลน์มากขึ้นรวมทั้งใช้บล็อกเชนในการบริหารราชการให้โปร่งใส หน้าที่ของฝ่ายรัฐบาล คือพัฒนาให้เกิดโครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้ รวมไปถึงความแน่นอนด้านกฎหมายที่จะตีความกรณีเกิดข้อพิพาทเกี่ยวข้องกับโทเคน และการนำโทเคนไปใช้เป็นหลักประกันส่วนการดำเนินการให้โทเคนเกิดขึ้นในหลักทรัพย์ต่างๆ (tokenization) อย่างหลากหลาย เพื่อนำไปสู่ตลาดทุนดิจิทัลนั้น จะต้องมีโครงสร้างพื้นฐานครบถ้วนเสียก่อน ทั้ง stable coin สกุลบาท ทั้ง smart contract ทั้งระบบเคลียริ่งที่ปลอดภัย โดยภายหลังจากมีโครงสร้างพื้นฐานแน่นหนาแล้ว ก็จะเป็นหน้าที่ของเอกชนเป็นผู้ดำเนินการ สำหรับรัฐบาลเองไม่ควรมีหน้าที่ไปออกโทเคนของตนเอง ดังเห็นได้ว่าปัจจุบันนี้ยังไม่มีประเทศใดที่ระบบการเงินล้ำหน้า ที่รัฐบาลเป็นผู้ออกโทเคนของตนเองในการกู้หนี้สาธารณะ+เรื่อง การทำให้ผู้ลงทุนรายย่อยซื้อพันธบัตรได้สะดวกวิธีการในการเปิดให้ผู้ลงทุนรายย่อยเข้ามาลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลนั้นมีอยู่แล้วในปัจจุบัน ด้วยกลไกผ่านกองทุนรวมที่ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล ดังนั้น กระทรวงการคลังจึงต้องชี้แจงให้ชัดเจนก่อนว่า G-Token จะเพิ่มความสะดวกอย่างใดแก่ผู้ลงทุน โดยเฉพาะในเรื่องการขายคืน ซึ่งราคาในกองทุนรวมจะเป็นไปตามกติกาโดยมี ก.ล.ต. กำกับดูแล แต่กรณี G-Token ผู้ลงทุนจะต้องไปขายในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลซึ่งราคาอาจจะผันผวนไปแต่ละชั่วโมงตามแรงเก็งกำไรได้แทนที่จะเป็นการชักจูงให้ผู้ลงทุนรายย่อย ลงทุนเพื่อออมเงินอย่างปลอดภัย ระวังจะกลับกลายเป็นเวทีเก็งกำไร ระวังจะกลายเป็นกาสิโนโทเคนดิจิทัล+เรื่อง ฝ่าฝืนพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548ถึงแม้มาตรา 10 วรรคหนึ่งเปิดช่อง ให้กู้เงินตามพระราชบัญญัตินี้จะทำเป็นวิธีการอื่นใดก็ได้ตามที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ แต่ข้อความก่อนหน้าซึ่งบัญญัติว่า “การกู้เงินตามพระราชบัญญัตินี้จะทำเป็นสัญญาหรือออกตราสารหนี้หรือวิธีการอื่นใดก็ได้” นั้น คำว่า “วิธีการอื่นใด” น่าจะอยู่ในความหมายเดียวกับสัญญาหรือตราสารหนี้ ดังที่รายงานคณะรัฐมนตรีไว้ว่า “ปัจจุบัน การกู้เงินตามพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 จะทำเป็นสัญญาหรือออกตราสารหนี้ เช่น พันธบัตร ตั๋วเงินคลัง หรือหุ้นกู้”การที่ กค. พิจารณาได้ว่าการกู้เงินโดยวิธีการออก G-Token ไม่ใช่การออกตราสารหนี้ เพื่อไม่เป็นให้เป็น “หลักทรัพย์” ตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 นั้น ผมเห็นว่าขัดกับเจตนารมย์ของพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548ทั้งนี้ โทเคนดิจิทัลซึ่งตามนิยามในมาตรา 3 แห่งพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 กำหนดเป็นหน่วยข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดสิทธิของผู้ถือในการได้มาซึ่งสิทธิอื่นใดที่เฉพาะเจาะจง นั้น คำว่า token แปลว่า สัญลักษณ์ ดังเช่น non-fungible token (NFT) หมายถึงสัญลักษณ์ที่ไม่สามารถแทนกันได้ ตัวอย่างที่ใช้กรณีงานศิลปะ ดังนั้น G-Token จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นสัญลักษณ์แทนสัญญาหรือตราสารหนี้ที่ผูกพันกระทรวงการคลัง ตัว G-Token เองจึงไม่ใช่สัญญาหรือตราสารหนี้ที่ผูกพันกระทรวงการคลังผมจึงเห็นว่า ในเมื่อเป็นเพียงสัญลักษณ์แทน แต่ไม่ใช่สัญญาหรือตราสารหนี้ที่ผูกพันกระทรวงการคลัง จึงไม่เข้าข่ายนิยามใดในมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 และจะนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาททางกฎหมายเกิดขึ้นได้ในภายหลัง+เรื่อง การปฏิบัติตามกฏหมายเงินตรายังมีจำเป็นจะต้องมีเงื่อนไขบังคับ เพื่อไม่ให้ผู้ถือ G-Token นำไปใช้เพื่อชำระหนี้ตามกฎหมายแก่บุคคลอื่น เพราะจะเข้าข่ายเป็นเงินตราอย่างหนึ่งซึ่งจะต้องขออนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทยก่อนกระทรวงการคลังต้องชี้แจงก่อนว่า จะมีมาตรการป้องกันไม่ให้ผู้ถือ G-Token นำไปใช้เพื่อชำระหนี้ตามกฎหมายแก่บุคคลอื่นได้อย่างไร+เรื่อง การประหยัดค่าใช้จ่ายนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวว่าการออก G-Token จะช่วยลดต้นทุนการดำเนินการ จากเดิมที่ออกพันธบัตรมีค่าธรรมเนียมดำเนินการจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) 0.03% ของกรอบวงเงินจำหน่ายนั้น กระทรวงการคลังจะต้องแจกแจงก่อนว่า G-Token จะมีต้นทุนค่าใช้จ่ายจริงเท่าไหร่ ทั้งด้านกระทรวงการคลัง ซึ่งต้องรวมไปถึงค่าใช้จ่ายทำหน้าที่เป็นนายทะเบียน ว่าต่ำกว่า ธปท. อย่างไร และทั้งด้านประชาชนผู้ลงทุนที่จะซื้อและขายคืน จะสูงหรือต่ำกว่ากลไกกองทุนรวมอย่างใดทั้งนี้ ต้องไม่ลืมว่าเงินที่กระทรวงการคลังจ่ายแก่ ธปท. นั้นไม่รั่วไหลไปไหน เพราะ ธปท. เป็นองค์กรของรัฐ **กล่าวโดยสรุป ระบบการขายพันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้ของรัฐบาลที่มีอยู่แล้วขณะนี้โดยผ่านกลไก ธปท. นั้น ใช้งานได้ดีไม่เคยมีปัญหา ดังนั้น การที่กระทรวงการคลังจะเพิ่มแนวการกู้หนี้สาธารณะโดยใช้โทเคนดิจิทัลนั้น จะต้องชั่งน้ำหนักแสดงแก่ประชาชนก่อนว่า ผลได้คุ้มกับผลเสียหรือไม่ส่วนความหวังที่จะนำไปสู่ตลาดทุนดิจิทัลนั้น ควรนำเสนอต่อประชาชนก่อนว่า รัฐบาลมีแผนการพัฒนาองค์รวมด้านนี้เป็นอย่างไร ไม่ใช่เดินหน้าเพียงเสี้ยวเดียวในเรื่องของการจัดทำโทเคนของรัฐบาล ซึ่งจนถึงบัดนี้ก็ยังไม่มีรัฐบาลอื่นใดในโลกที่ดำเนินการวันที่ 14 พฤษภาคม 2568นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รองหัวหน้าพรรคฝ่ายเศรษฐกิจ พรรคพลังประชารัฐ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
    14 พฤษภาคม 2568 -อดีตรัฐมนตรีคลัง ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล วิเคราะห์เรื่องสำคัญในประเด็น“ประเทศชาติได้อะไรจาก G-token“[เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติวิธีการกู้เงินโดยการออกโทเคนดิจิทัลของรัฐบาล (Government Token: G-Token) ตามมาตรา 10 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548อนุมัติให้กระทรวงการคลังออกโทเคนดิจิทัลโดยวงเงินกู้ตามกรอบการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณด้วยวิธีการเสนอขายให้แก่ผู้มีสิทธิซื้อโดยตรงผ่านผู้ที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ได้แก่ ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล นายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล หรือนิติบุคคลอื่นที่สามารถรับคำสั่งซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้ ซึ่งมีหน้าที่ดำเนินการด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำและการออกโทเคนดิจิทัล นายทะเบียน หรือผู้รับฝากโทเคนดิจิทัล เป็นต้นให้กระทรวงการคลังกำหนดหลักเกณฑ์การชำระระดอกเบี้ยและการใช้เงินตามโทเคนดิจิทัล โดยให้กระทรวงการคลังหรือนิติบุคคลอื่นใดที่กระทรวงการคลังมอบหมาย โอนเงินให้แก่ผู้ถือโทเคน ดิจิทัลหรือผู้รับตามที่นายทะเบียนกำหนด ให้การโอนโทเคนดิจิทัลดำเนินการตามวิธีการที่ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล นายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล หรือนิติบุคคลอื่นใดที่สามารถรับคำสั่งซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้โอนได้เปิดบัญชีเก็บรักษาโทเคนดิจิทัลของตนไว้โดยให้มีผลสมบูรณ์เมื่อผู้โอนนั้นได้บันทึกการรับโอนโทเคนดิจิทัลเข้าไปในบัญชีของผู้รับโอนแล้ว เพื่อนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในการพัฒนากลไกการบริหารหนี้สาธารณะให้มีประสิทธิภาพและภาครัฐสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่หลากหลายมากขึ้น ตลอดจนเป็นการส่งเสริมการออมของภาคประชาชน อันสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัล พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลที่มีคุณภาพ มั่นคง ปลอดภัย ครอบคลุมเพียงพอ และเข้าถึงได้ทั้งในด้านพื้นที่และราคา เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงโอกาสทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างทั่วถึงและเป็นธรรมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สำนักงบประมาณ และธนาคารแห่งประเทศไทยเห็นชอบ/ไม่ขัดข้อง สำนักงาน ก.ล.ต. เห็นว่า หาก กค. พิจารณาได้ว่าการกู้เงินโดยวิธีการออก G-Token ไม่ใช่การออกตราสารหนี้ ซึ่งไม่เป็น “หลักทรัพย์” ตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 แล้ว ก็สามารถดำเนินการภายใต้พระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 โดย G-Token มีการกำหนดสิทธิให้ผู้ถือมีสิทธิได้รับชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยตามเงื่อนไขที่ กค. กำหนด จึงมีลักษณะเป็นหน่วยข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดสิทธิของผู้ถือในการเข้าร่วมลงทุนในโครงการหรือ กิจการใด ๆ หรือกำหนดสิทธิในการได้มาซึ่งสินค้าหรือบริการหรือสิทธิอื่นใดที่เฉพาะเจาะจง และเข้าข่ายเป็นโทเคนดิจิทัล ตามมาตรา 3 แห่งพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561]**ถามว่า ประเทศชาติได้อะไรจาก G-token?+เรื่อง การนำประเทศสู่เศรษฐกิจดิจิทัลการนำประเทศสู่เศรษฐกิจดิจิทัลให้สำเร็จนั้น มีเรื่องที่ต้องดำเนินการด้านโครงสร้างพื้นฐานก่อนหลายอย่าง (ดูรูป) กล่าวคือ (1) ต้องช่วยให้ประชากรเข้าถึงระบบอินเทอร์เนตอย่างกว้างขวาง (2) ต้องให้ความรู้ทั้งในระบบโรงเรียนและในกลุ่มประชาคม (3) ต้องพัฒนาธุรกิจการเงินแบบดิจิทัลให้กว้างขวางมากขึ้น (4) ต้องกระตุ้นคนรุ่นหนุ่มสาวให้ลองทำธุรกิจขนาดย่อมด้านดิจิทัลให้มากขึ้น และ (5) รัฐต้องให้บริการทางออนไลน์มากขึ้นรวมทั้งใช้บล็อกเชนในการบริหารราชการให้โปร่งใส หน้าที่ของฝ่ายรัฐบาล คือพัฒนาให้เกิดโครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้ รวมไปถึงความแน่นอนด้านกฎหมายที่จะตีความกรณีเกิดข้อพิพาทเกี่ยวข้องกับโทเคน และการนำโทเคนไปใช้เป็นหลักประกันส่วนการดำเนินการให้โทเคนเกิดขึ้นในหลักทรัพย์ต่างๆ (tokenization) อย่างหลากหลาย เพื่อนำไปสู่ตลาดทุนดิจิทัลนั้น จะต้องมีโครงสร้างพื้นฐานครบถ้วนเสียก่อน ทั้ง stable coin สกุลบาท ทั้ง smart contract ทั้งระบบเคลียริ่งที่ปลอดภัย โดยภายหลังจากมีโครงสร้างพื้นฐานแน่นหนาแล้ว ก็จะเป็นหน้าที่ของเอกชนเป็นผู้ดำเนินการ สำหรับรัฐบาลเองไม่ควรมีหน้าที่ไปออกโทเคนของตนเอง ดังเห็นได้ว่าปัจจุบันนี้ยังไม่มีประเทศใดที่ระบบการเงินล้ำหน้า ที่รัฐบาลเป็นผู้ออกโทเคนของตนเองในการกู้หนี้สาธารณะ+เรื่อง การทำให้ผู้ลงทุนรายย่อยซื้อพันธบัตรได้สะดวกวิธีการในการเปิดให้ผู้ลงทุนรายย่อยเข้ามาลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลนั้นมีอยู่แล้วในปัจจุบัน ด้วยกลไกผ่านกองทุนรวมที่ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล ดังนั้น กระทรวงการคลังจึงต้องชี้แจงให้ชัดเจนก่อนว่า G-Token จะเพิ่มความสะดวกอย่างใดแก่ผู้ลงทุน โดยเฉพาะในเรื่องการขายคืน ซึ่งราคาในกองทุนรวมจะเป็นไปตามกติกาโดยมี ก.ล.ต. กำกับดูแล แต่กรณี G-Token ผู้ลงทุนจะต้องไปขายในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลซึ่งราคาอาจจะผันผวนไปแต่ละชั่วโมงตามแรงเก็งกำไรได้แทนที่จะเป็นการชักจูงให้ผู้ลงทุนรายย่อย ลงทุนเพื่อออมเงินอย่างปลอดภัย ระวังจะกลับกลายเป็นเวทีเก็งกำไร ระวังจะกลายเป็นกาสิโนโทเคนดิจิทัล+เรื่อง ฝ่าฝืนพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548ถึงแม้มาตรา 10 วรรคหนึ่งเปิดช่อง ให้กู้เงินตามพระราชบัญญัตินี้จะทำเป็นวิธีการอื่นใดก็ได้ตามที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ แต่ข้อความก่อนหน้าซึ่งบัญญัติว่า “การกู้เงินตามพระราชบัญญัตินี้จะทำเป็นสัญญาหรือออกตราสารหนี้หรือวิธีการอื่นใดก็ได้” นั้น คำว่า “วิธีการอื่นใด” น่าจะอยู่ในความหมายเดียวกับสัญญาหรือตราสารหนี้ ดังที่รายงานคณะรัฐมนตรีไว้ว่า “ปัจจุบัน การกู้เงินตามพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 จะทำเป็นสัญญาหรือออกตราสารหนี้ เช่น พันธบัตร ตั๋วเงินคลัง หรือหุ้นกู้”การที่ กค. พิจารณาได้ว่าการกู้เงินโดยวิธีการออก G-Token ไม่ใช่การออกตราสารหนี้ เพื่อไม่เป็นให้เป็น “หลักทรัพย์” ตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 นั้น ผมเห็นว่าขัดกับเจตนารมย์ของพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548ทั้งนี้ โทเคนดิจิทัลซึ่งตามนิยามในมาตรา 3 แห่งพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 กำหนดเป็นหน่วยข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดสิทธิของผู้ถือในการได้มาซึ่งสิทธิอื่นใดที่เฉพาะเจาะจง นั้น คำว่า token แปลว่า สัญลักษณ์ ดังเช่น non-fungible token (NFT) หมายถึงสัญลักษณ์ที่ไม่สามารถแทนกันได้ ตัวอย่างที่ใช้กรณีงานศิลปะ ดังนั้น G-Token จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นสัญลักษณ์แทนสัญญาหรือตราสารหนี้ที่ผูกพันกระทรวงการคลัง ตัว G-Token เองจึงไม่ใช่สัญญาหรือตราสารหนี้ที่ผูกพันกระทรวงการคลังผมจึงเห็นว่า ในเมื่อเป็นเพียงสัญลักษณ์แทน แต่ไม่ใช่สัญญาหรือตราสารหนี้ที่ผูกพันกระทรวงการคลัง จึงไม่เข้าข่ายนิยามใดในมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 และจะนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาททางกฎหมายเกิดขึ้นได้ในภายหลัง+เรื่อง การปฏิบัติตามกฏหมายเงินตรายังมีจำเป็นจะต้องมีเงื่อนไขบังคับ เพื่อไม่ให้ผู้ถือ G-Token นำไปใช้เพื่อชำระหนี้ตามกฎหมายแก่บุคคลอื่น เพราะจะเข้าข่ายเป็นเงินตราอย่างหนึ่งซึ่งจะต้องขออนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทยก่อนกระทรวงการคลังต้องชี้แจงก่อนว่า จะมีมาตรการป้องกันไม่ให้ผู้ถือ G-Token นำไปใช้เพื่อชำระหนี้ตามกฎหมายแก่บุคคลอื่นได้อย่างไร+เรื่อง การประหยัดค่าใช้จ่ายนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวว่าการออก G-Token จะช่วยลดต้นทุนการดำเนินการ จากเดิมที่ออกพันธบัตรมีค่าธรรมเนียมดำเนินการจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) 0.03% ของกรอบวงเงินจำหน่ายนั้น กระทรวงการคลังจะต้องแจกแจงก่อนว่า G-Token จะมีต้นทุนค่าใช้จ่ายจริงเท่าไหร่ ทั้งด้านกระทรวงการคลัง ซึ่งต้องรวมไปถึงค่าใช้จ่ายทำหน้าที่เป็นนายทะเบียน ว่าต่ำกว่า ธปท. อย่างไร และทั้งด้านประชาชนผู้ลงทุนที่จะซื้อและขายคืน จะสูงหรือต่ำกว่ากลไกกองทุนรวมอย่างใดทั้งนี้ ต้องไม่ลืมว่าเงินที่กระทรวงการคลังจ่ายแก่ ธปท. นั้นไม่รั่วไหลไปไหน เพราะ ธปท. เป็นองค์กรของรัฐ **กล่าวโดยสรุป ระบบการขายพันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้ของรัฐบาลที่มีอยู่แล้วขณะนี้โดยผ่านกลไก ธปท. นั้น ใช้งานได้ดีไม่เคยมีปัญหา ดังนั้น การที่กระทรวงการคลังจะเพิ่มแนวการกู้หนี้สาธารณะโดยใช้โทเคนดิจิทัลนั้น จะต้องชั่งน้ำหนักแสดงแก่ประชาชนก่อนว่า ผลได้คุ้มกับผลเสียหรือไม่ส่วนความหวังที่จะนำไปสู่ตลาดทุนดิจิทัลนั้น ควรนำเสนอต่อประชาชนก่อนว่า รัฐบาลมีแผนการพัฒนาองค์รวมด้านนี้เป็นอย่างไร ไม่ใช่เดินหน้าเพียงเสี้ยวเดียวในเรื่องของการจัดทำโทเคนของรัฐบาล ซึ่งจนถึงบัดนี้ก็ยังไม่มีรัฐบาลอื่นใดในโลกที่ดำเนินการวันที่ 14 พฤษภาคม 2568นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รองหัวหน้าพรรคฝ่ายเศรษฐกิจ พรรคพลังประชารัฐ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 183 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google ได้ประกาศเปิดตัว AI Futures Fund ซึ่งเป็นโครงการที่มุ่งเน้นการสนับสนุน สตาร์ทอัพที่พัฒนาเทคโนโลยี AI โดยให้การลงทุน, ความร่วมมือทางเทคนิค และการเข้าถึง โมเดล AI ล่าสุดจาก Google DeepMind เช่น Gemini, Imagen และ Veo

    ✅ Google จะลงทุนและร่วมมือกับสตาร์ทอัพที่พัฒนา AI
    - ให้การสนับสนุน ทั้งด้านเงินทุน, ทรัพยากร และความเชี่ยวชาญทางเทคนิค

    ✅ สตาร์ทอัพที่เข้าร่วมจะได้รับสิทธิ์เข้าถึงโมเดล AI จาก Google DeepMind
    - รวมถึง Gemini, Imagen และ Veo

    ✅ ตัวอย่างสตาร์ทอัพที่เข้าร่วมโครงการ
    - Viggle ใช้ Gemini, Imagen และ Veo เพื่อสร้างแพลตฟอร์ม AI meme-making
    - Toonsutra ใช้ Gemini เพื่อแปลเนื้อหาดิจิทัลคอมิกเป็นหลายภาษา

    ✅ ผู้เข้าร่วมสามารถทำงานร่วมกับนักวิจัย, ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ และวิศวกรจาก Google
    - ได้รับ คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านตลาดและเทคโนโลยี

    ✅ Google Cloud จะให้เครดิตและการสนับสนุนทางเทคนิคแก่สตาร์ทอัพที่ผ่านการคัดเลือก
    - ช่วยให้ สามารถพัฒนาและขยายโครงการ AI ได้เร็วขึ้น

    ✅ สตาร์ทอัพที่ได้รับเลือกสามารถขอรับเงินลงทุนโดยตรงจาก Google
    - เพื่อช่วยให้ สามารถเติบโตและขยายการพัฒนา AI ได้อย่างรวดเร็ว

    https://www.neowin.net/news/google-says-it-will-support-ai-focused-startups-through-the-ai-futures-fund/
    Google ได้ประกาศเปิดตัว AI Futures Fund ซึ่งเป็นโครงการที่มุ่งเน้นการสนับสนุน สตาร์ทอัพที่พัฒนาเทคโนโลยี AI โดยให้การลงทุน, ความร่วมมือทางเทคนิค และการเข้าถึง โมเดล AI ล่าสุดจาก Google DeepMind เช่น Gemini, Imagen และ Veo ✅ Google จะลงทุนและร่วมมือกับสตาร์ทอัพที่พัฒนา AI - ให้การสนับสนุน ทั้งด้านเงินทุน, ทรัพยากร และความเชี่ยวชาญทางเทคนิค ✅ สตาร์ทอัพที่เข้าร่วมจะได้รับสิทธิ์เข้าถึงโมเดล AI จาก Google DeepMind - รวมถึง Gemini, Imagen และ Veo ✅ ตัวอย่างสตาร์ทอัพที่เข้าร่วมโครงการ - Viggle ใช้ Gemini, Imagen และ Veo เพื่อสร้างแพลตฟอร์ม AI meme-making - Toonsutra ใช้ Gemini เพื่อแปลเนื้อหาดิจิทัลคอมิกเป็นหลายภาษา ✅ ผู้เข้าร่วมสามารถทำงานร่วมกับนักวิจัย, ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ และวิศวกรจาก Google - ได้รับ คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านตลาดและเทคโนโลยี ✅ Google Cloud จะให้เครดิตและการสนับสนุนทางเทคนิคแก่สตาร์ทอัพที่ผ่านการคัดเลือก - ช่วยให้ สามารถพัฒนาและขยายโครงการ AI ได้เร็วขึ้น ✅ สตาร์ทอัพที่ได้รับเลือกสามารถขอรับเงินลงทุนโดยตรงจาก Google - เพื่อช่วยให้ สามารถเติบโตและขยายการพัฒนา AI ได้อย่างรวดเร็ว https://www.neowin.net/news/google-says-it-will-support-ai-focused-startups-through-the-ai-futures-fund/
    WWW.NEOWIN.NET
    Google says it will support AI-focused startups through the AI Futures Fund
    Google announced a new initiative to collaborate and fund startups building products and services with the help of AI.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 70 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..กฎหมายเราเองมีปัญหา&ตามระวังข้าศึกศัตรูไม่ทันเกมส์ทันหมากเข้าบวกคนในระบบข้าราชการเราเองไม่ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ ไม่ปกป้องผลประโยชน์คนไทยตนเอง,ร่วมกันปิดประตูปิดช่องทางต่างๆมิให้ศัตรูข้าศึกมาแย่งชิงสัมมาอาชีพสร้างรายได้แทนคนไทยได้สะดวกสบายอิสระเสรีหรือเปิดเปิดเผยขนาดนี้,อาจแค่สามารถจัดแบบตลาดนัดวันสัมพันธุ์เชื่อมอาหารไทยจีนได้ไม่กี่วันกี่ช่วงเท่านั้นมิใช่ปล่อยต่างชาติอื่นใดๆบุกเราขนาดนี้,จะจีนจะอเมริกฝรั่งตะวันตกตะวันออกใดๆขึ้นชื่อต่างชาติทั้งหมด ,ต้องสัมมาอาชีพภายในคนไทยเองต้องมาก่อนเสมอ เมื่อทุกๆคนไทยไม่ถูกแย่งอาชีพค้าขายไป ตังทองก็หมุนเวียนจริงในชุมชนสังคมเราในท้องถิ่นนั้นทันที วัตถุดิบแหล่งผลิตก็ขับเคลื่อนจับจ่ายแลกเปลี่ยนซื้อขายด้วยเงินตราสาระพัดสะพัดตังในประเทศเราอย่างมั่นคงและเพิ่มขึ้นทวีคูณต่อเนื่องได้อีก,ต้นน้ำก็ขายวัตถุดิบได้ ปลายน้ำก็มีลูกค้าตอบสนองแลกเปลี่ยนซื้อขายบริการกันพอมีรายได้กำไรเลี้ยงตนเองและครอบครัวใครมันนั้นๆ,ถ้าผู้นำยังเลอะเทอะผิดพลาดว่ายังประโยชน์ต่อต่างชาติให้ดีเชื่อมสายสัมพันธ์แต่คนไทยตนภายในประเทศ0บาทตายเรียบ จะมีผู้นำผู้ปกครองไว้ทำซากอะไร,ไม่ว่าจีนแขกแกวยุ่นพม่าแขมร์ลาวมลายูขอมจามเจ๊กฝรั่ง&ต่างชาติใดๆ คนไทยเท่านั้นต้องประกอบสัมมาอาชีพเหล่าใดมากกว่าต่างชาติจะมาทำเช่นนี้เองได้บนแผ่นดินไทยเรา,เช่นนั้นคนทั่วโลกไม่เสรีย้ายฐานมาทำอาชีพที่แผ่นดินไทยเต็มเหรอโดยสามารถอ้างว่ามาท่องเที่ยวเยอะนะ มาอยู่เลยดีมั้ย ชาติต่างๆสร้างมุกมาสักปี2ปีมิซวยเหรอ,เช่นdeep stateใช่เศษตังให้แขกประเทศละ10ล้านล้านบาทต่อปี พาคนแขกชาติต่างๆมาท่องเที่ยวหมุนเวียนสัก10ประเทศมุสลิม,เปิดร้านอาหาร ร้านนั้นร้านนี้ทั่วไทยอ้างว่าแขกชอบไปตรึม ยึดเหนือยึดอีสานยึดใต้ในท้องถิ่นต่างๆเปิดร้านค้าแขกสาระพัด ผสมจีนdeep state ccpจีนส่งมายึดเปิดร้านค้าปกติแบบนี้อีกทั่วอีสาน ทั่วตะวันออก&ตก ทั่วเหนือเมืองหลักๆทั่วไทยนอกจากกทม.กระจายทุกๆชาติทั่วโลกยึดทุกๆจังหวัดดินแดนที่ดินเปิดร้านค้ากิจการต่าง เดิมเต็มตรึมด้วยคนต่างชาติอ้างมาท่องเที่ยวเต็มประเทศนะ แต่ตังทั้งหมดมุกแบบ0เหรียญของจีนของแขกของฝรั่งและของต่างชาตินั้นๆของสมุนขี้ข้าdeep stateส่งเข้าบัญชีdeep stateทั้งหมด,ประเทศไทยไม่ได้ห่าอะไรเลย มีแต่ป้ายภาษาแขกต่างๆ ป้ายภาษาจีน ป้ายภาษาอื่นๆเต็มแผ่นดินไทยหมด มิมีภาษาไทยเขียนเหนือทุกๆภาษาห่านี้กำกับแบบเข้มข้นควบคุมอย่างละเอียดห่าอะไร แล้ววิถีการปกครองมันจะไม่เหี้ยมโหฬารมั้ยล่ะ,วิถีปกครองบรรลัยเลยล่ะ คนไทยชาติตนร่ำรวยโคตรๆทุกๆคนจะไม่ว่าห่าอะไรหรอกในการค้าขายเสรีปล่อยห่าเหวแบบนี้ แต่คนไทยยังเสือกยากจนมั่นคงอยู่นี้สิมันบัดสบมั้ยล่ะ,สัมมาอาชีพคนไทยเปิดกว้างให้ต่างชาติยึดครองผีบ้าอะไรแบบนี้,ตรวจพบมามุกนอมินีทันเกมส์ก็สั่งปิดทันทีได้,รัานค้าไทยยืนหนึ่งบนแผ่นดินไทยสิ,มิใช่ให้มีร้านค้าจากชาติอื่นมาเปิดตรึม จะของฝรั่งก็ตามเถอะ ,กฎหมายต้องปรับปรุงเขียนให้ทันสงครามตังสงครามเศรษฐกิจของต่างชาติ,กิจการต่างชาติใดๆสามารถเปิดได้เพียงในนามบริษัทมหาชนเท่านั้นและมีสำนักงานเพียงสถานที่แห่งเดียวเลือกแห่งใดแห่งหนึ่งดำเนินการและในแต่ละเขตอำเภอจังหวัดตำบลตบจะสามารถมีไม่เกิน1ที่รวมกันทั้งประเทศ,ห้ามเปิดสาขา,ตรวจพบว่ามีเจ้าของหรือเป็นเจ้าของคนเดียวกันสั่งยึดกิจการและเงินทุน&ทรัพย์สินทั้งหมดทันที.,นี้สามารถเป็นอีกมุกๆหนึ่งตัดตอนต่างชาติหัวหมอมาแย่งชิงสัมมาอาชีพคนไทยแย่งชิงรายได้พอเลี้ยงชีวิตครอบครัวคนไทยเราภายในประเทศได้,จีนคนกว่า1,400ล้านคน คนมีตังแค่100ล้านคนหอบตังลงทุนนิดหน่อยคนละ100ล้านหยวนก็ทำลายสัมมาอาชีพต่างๆภายในประเทศไทยเราได้สบาย ไม่รวมแขกอินเดียแจกอาหรับฝรั่งผู้ดีชอบปล้นชิงล่าวัตถุดิบ&อาณานิคมอีกกว่า100ล้านคนบินมาสัมมาอาชีพช่วนเหลือขยายอาชีพภายในประเทศไทย คนไทยจะมีรายได้ทางสัมมาอาชีพอะไรอีก เขาเสือกซื้อบริการใช้จ่ายกับแค่ร้านค้าขายคนของประเทศเขาอีก วัตถุดิบก็สั่งตรงจากชาติมัน ไม่ซื้อวัตถุดิบใดๆจากคนไทย ซวยแน่นอน.,เหมือนผีบ้าบางคนไปท่องเที่ยวเหี้ยพกไปเองหมด ไม่เสียตังสักบาทในบริเวณธรรมชาติอิสระเสรีนั้นๆ,นึกดูสิ,อันเดียวกัน มันใช้ไทยแบบนั้นล่ะ,แล้วก็ทิ้งขยะสร้างภาระให้พื้นที่นั้นๆกำจัดอีก,กำไรรายได้อิ่มท้องอิ่มตามันเอาไปเต็มๆแบบกินเองด้วย พกมาขายมากๆด้วย ใครมาเที่ยวที่นั้นไปซื้อของมันอีก ตังเต็มๆเอากลับบ้านไปนอนหลับสบาย อาจกว่า100ล้านล้านบาทต่อครั้งโน้นก็ว่าออกนอกประเทศ ,คนต่างชาติย่อมยิ้มอย่างมีความสุขล่ะ.

    https://youtube.com/watch?v=8RD6KfYIMbw&si=p7Jpl4NYhI5B8Sdv

    ..กฎหมายเราเองมีปัญหา&ตามระวังข้าศึกศัตรูไม่ทันเกมส์ทันหมากเข้าบวกคนในระบบข้าราชการเราเองไม่ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ ไม่ปกป้องผลประโยชน์คนไทยตนเอง,ร่วมกันปิดประตูปิดช่องทางต่างๆมิให้ศัตรูข้าศึกมาแย่งชิงสัมมาอาชีพสร้างรายได้แทนคนไทยได้สะดวกสบายอิสระเสรีหรือเปิดเปิดเผยขนาดนี้,อาจแค่สามารถจัดแบบตลาดนัดวันสัมพันธุ์เชื่อมอาหารไทยจีนได้ไม่กี่วันกี่ช่วงเท่านั้นมิใช่ปล่อยต่างชาติอื่นใดๆบุกเราขนาดนี้,จะจีนจะอเมริกฝรั่งตะวันตกตะวันออกใดๆขึ้นชื่อต่างชาติทั้งหมด ,ต้องสัมมาอาชีพภายในคนไทยเองต้องมาก่อนเสมอ เมื่อทุกๆคนไทยไม่ถูกแย่งอาชีพค้าขายไป ตังทองก็หมุนเวียนจริงในชุมชนสังคมเราในท้องถิ่นนั้นทันที วัตถุดิบแหล่งผลิตก็ขับเคลื่อนจับจ่ายแลกเปลี่ยนซื้อขายด้วยเงินตราสาระพัดสะพัดตังในประเทศเราอย่างมั่นคงและเพิ่มขึ้นทวีคูณต่อเนื่องได้อีก,ต้นน้ำก็ขายวัตถุดิบได้ ปลายน้ำก็มีลูกค้าตอบสนองแลกเปลี่ยนซื้อขายบริการกันพอมีรายได้กำไรเลี้ยงตนเองและครอบครัวใครมันนั้นๆ,ถ้าผู้นำยังเลอะเทอะผิดพลาดว่ายังประโยชน์ต่อต่างชาติให้ดีเชื่อมสายสัมพันธ์แต่คนไทยตนภายในประเทศ0บาทตายเรียบ จะมีผู้นำผู้ปกครองไว้ทำซากอะไร,ไม่ว่าจีนแขกแกวยุ่นพม่าแขมร์ลาวมลายูขอมจามเจ๊กฝรั่ง&ต่างชาติใดๆ คนไทยเท่านั้นต้องประกอบสัมมาอาชีพเหล่าใดมากกว่าต่างชาติจะมาทำเช่นนี้เองได้บนแผ่นดินไทยเรา,เช่นนั้นคนทั่วโลกไม่เสรีย้ายฐานมาทำอาชีพที่แผ่นดินไทยเต็มเหรอโดยสามารถอ้างว่ามาท่องเที่ยวเยอะนะ มาอยู่เลยดีมั้ย ชาติต่างๆสร้างมุกมาสักปี2ปีมิซวยเหรอ,เช่นdeep stateใช่เศษตังให้แขกประเทศละ10ล้านล้านบาทต่อปี พาคนแขกชาติต่างๆมาท่องเที่ยวหมุนเวียนสัก10ประเทศมุสลิม,เปิดร้านอาหาร ร้านนั้นร้านนี้ทั่วไทยอ้างว่าแขกชอบไปตรึม ยึดเหนือยึดอีสานยึดใต้ในท้องถิ่นต่างๆเปิดร้านค้าแขกสาระพัด ผสมจีนdeep state ccpจีนส่งมายึดเปิดร้านค้าปกติแบบนี้อีกทั่วอีสาน ทั่วตะวันออก&ตก ทั่วเหนือเมืองหลักๆทั่วไทยนอกจากกทม.กระจายทุกๆชาติทั่วโลกยึดทุกๆจังหวัดดินแดนที่ดินเปิดร้านค้ากิจการต่าง เดิมเต็มตรึมด้วยคนต่างชาติอ้างมาท่องเที่ยวเต็มประเทศนะ แต่ตังทั้งหมดมุกแบบ0เหรียญของจีนของแขกของฝรั่งและของต่างชาตินั้นๆของสมุนขี้ข้าdeep stateส่งเข้าบัญชีdeep stateทั้งหมด,ประเทศไทยไม่ได้ห่าอะไรเลย มีแต่ป้ายภาษาแขกต่างๆ ป้ายภาษาจีน ป้ายภาษาอื่นๆเต็มแผ่นดินไทยหมด มิมีภาษาไทยเขียนเหนือทุกๆภาษาห่านี้กำกับแบบเข้มข้นควบคุมอย่างละเอียดห่าอะไร แล้ววิถีการปกครองมันจะไม่เหี้ยมโหฬารมั้ยล่ะ,วิถีปกครองบรรลัยเลยล่ะ คนไทยชาติตนร่ำรวยโคตรๆทุกๆคนจะไม่ว่าห่าอะไรหรอกในการค้าขายเสรีปล่อยห่าเหวแบบนี้ แต่คนไทยยังเสือกยากจนมั่นคงอยู่นี้สิมันบัดสบมั้ยล่ะ,สัมมาอาชีพคนไทยเปิดกว้างให้ต่างชาติยึดครองผีบ้าอะไรแบบนี้,ตรวจพบมามุกนอมินีทันเกมส์ก็สั่งปิดทันทีได้,รัานค้าไทยยืนหนึ่งบนแผ่นดินไทยสิ,มิใช่ให้มีร้านค้าจากชาติอื่นมาเปิดตรึม จะของฝรั่งก็ตามเถอะ ,กฎหมายต้องปรับปรุงเขียนให้ทันสงครามตังสงครามเศรษฐกิจของต่างชาติ,กิจการต่างชาติใดๆสามารถเปิดได้เพียงในนามบริษัทมหาชนเท่านั้นและมีสำนักงานเพียงสถานที่แห่งเดียวเลือกแห่งใดแห่งหนึ่งดำเนินการและในแต่ละเขตอำเภอจังหวัดตำบลตบจะสามารถมีไม่เกิน1ที่รวมกันทั้งประเทศ,ห้ามเปิดสาขา,ตรวจพบว่ามีเจ้าของหรือเป็นเจ้าของคนเดียวกันสั่งยึดกิจการและเงินทุน&ทรัพย์สินทั้งหมดทันที.,นี้สามารถเป็นอีกมุกๆหนึ่งตัดตอนต่างชาติหัวหมอมาแย่งชิงสัมมาอาชีพคนไทยแย่งชิงรายได้พอเลี้ยงชีวิตครอบครัวคนไทยเราภายในประเทศได้,จีนคนกว่า1,400ล้านคน คนมีตังแค่100ล้านคนหอบตังลงทุนนิดหน่อยคนละ100ล้านหยวนก็ทำลายสัมมาอาชีพต่างๆภายในประเทศไทยเราได้สบาย ไม่รวมแขกอินเดียแจกอาหรับฝรั่งผู้ดีชอบปล้นชิงล่าวัตถุดิบ&อาณานิคมอีกกว่า100ล้านคนบินมาสัมมาอาชีพช่วนเหลือขยายอาชีพภายในประเทศไทย คนไทยจะมีรายได้ทางสัมมาอาชีพอะไรอีก เขาเสือกซื้อบริการใช้จ่ายกับแค่ร้านค้าขายคนของประเทศเขาอีก วัตถุดิบก็สั่งตรงจากชาติมัน ไม่ซื้อวัตถุดิบใดๆจากคนไทย ซวยแน่นอน.,เหมือนผีบ้าบางคนไปท่องเที่ยวเหี้ยพกไปเองหมด ไม่เสียตังสักบาทในบริเวณธรรมชาติอิสระเสรีนั้นๆ,นึกดูสิ,อันเดียวกัน มันใช้ไทยแบบนั้นล่ะ,แล้วก็ทิ้งขยะสร้างภาระให้พื้นที่นั้นๆกำจัดอีก,กำไรรายได้อิ่มท้องอิ่มตามันเอาไปเต็มๆแบบกินเองด้วย พกมาขายมากๆด้วย ใครมาเที่ยวที่นั้นไปซื้อของมันอีก ตังเต็มๆเอากลับบ้านไปนอนหลับสบาย อาจกว่า100ล้านล้านบาทต่อครั้งโน้นก็ว่าออกนอกประเทศ ,คนต่างชาติย่อมยิ้มอย่างมีความสุขล่ะ. https://youtube.com/watch?v=8RD6KfYIMbw&si=p7Jpl4NYhI5B8Sdv
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 253 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..จริงๆคลิปนี้สามารถทำลายกำลังใจคนรุ่นต่อไปเพื่อพึ่งพาตนเอง สร้างรายได้ทางการเกษตรกันเลยก็ว่า,อาจภาพเกษตรพอเพียงเสียเลยด้วยเพื่อพอจะมีรายได้มีกำไรพอยังชีพ ทำเกษตรขาดทุนหมดตังหมดกำลังใจกันเลย พ่อแม่ด่าอีกแฟนเมียเหยียบซ้ำด้วย พอจะเท่จะซื้อของใช้ซื้อพืชผักอื่นๆมาต่อยอดปลูกทำอีก&ซื้อข้าวของสินค้าอื่นๆสนองวัตถุธาตุอารมณ์ความรู้สึกตนแบบมนุษย์คนธรรมดาสามัญทั่วไปแบบเราๆได้,ทำไปก็ขาดทุน ตังลงทุนไปจมหายทิ้งละลายหมด เวลาที่เสียไป ชีวิตที่สั้นลงอีกแก่ชราไปภายหน้า สังขารเสื่อมลง กับเงินกับตังเฉลี่ยไม่พอจ่ายในภาระต่างๆแต่ละวันเดือนปีรอตรึมที่ตั้งด่านรอรับตัง&ไถ่ตังไถ่เงินอยู่โดยเฉพาะยิ่งภาระหนี้นอกระบบ, พืชผลการเกษตรตายด้วยโรคด้วยภัยธรรมชาติอีก เสี่ยงสูงในการขาดทุน,บวกรายได้ประจำแบบกินเงินเดือนสไตล์ข้าราชการรัฐก็ไม่มี,พอรอเก็บผลผลิตได้ก็ไม่มีทุกๆเดือนด้วยพอหักกลบลบหนี้ขาดทุนได้หรือลุกสู้ใหม่ปรับปรุงขยายสายงานพืชผลตัวใหม่เสริมผสมผสานกันต่อได้แบบไร่นาสวนผสมนั้น,แต่เหี้ยทั้งหมดมันจ่ายด้วยตังด้วยเงินทั้งหมดนะอะไรๆต้องซื้อมาลงทุนทำเกษตรก็ว่าในสถานะการณ์เวลายุคปัจจุบันนี้.

    ..คนไทบ้านปกติไม่มีเงินไม่มีทุนไม่มีตังปกติอยู่บวกกู้ตังธกส.จ่ายต้นจ่ายดอกเบี้ยแบงค์อีก ไม่รวมนอกระบบอื่นๆอีกนะ จะขนาดไหน,วงจรคนชาวเกษตรจึงไม่ร่ำรวยไง บวกยุคนีัค่าใช้จ่ายรอบด้านต้นทุนแพงรอบทิศรอบตัวอีก ไม่พอกินพอใช้อะไรหรอก ส่วนน้อยมากจะยืนได้ที่ออกมาโชว์ออฟช่องต่างๆ แต่ส่วนที่ล้มเหลวมันใต้ภูเขาน้ำแข็งเลยล่ะ เห็นปลายยอดภูเขาเปรียบพวกนั่งอยู่หอคอยงาช้างก็ได้ อาทิเช่นพวกข้าราชการมีเงินเดือนประจำพอโยกตังนั้นนี้ทันจนเดินได้ก็ว่า,พวกได้รับทุนโครงการเงินทุนเบื้องต้นสนับสนุนสาระพัดด้านการเกษตรช่วยงานการเข้าร่วมโครงการหลวงโครงการรัฐได้ทันเช่นโคกหนองนาโมเดล ทุนขุดสระทุนขุดคลองคอดไก่คนละกว่าแสนสองแสนบาทโน้นในอดีตและทางเกษตรช่วยต่างๆจนยืนได้ ใครได้อีกฝันเลยจะไทบ้าน ส่วนมากผู้นำชุมชนคณะกรรมการชุมชนหรือข้าราชการรัฐหลวงชิงตัดหน้าลงทะเบียนได้โครงการไปก่อนหรือในเครือญาติพี่น้องพวกนี้เพราะรับรู้ข่าวสารข้อมูลก่อนชิงตัดหน้ารับไปทำก่อน,เนียนๆก็ว่า ทำให้ดูเป็นตัวอย่างชาวบ้านแต่เหี้ยแค่ตังขุดสระเป็นหมื่นเป็นแสนสไตล์โมเดลโคกหนองนา ชาวบ้านมีตังที่ไหน และพวกนี้ก็ใช้ตังเริ่มต้นจริงด้วยตังตนเองที่ไหน ก็โครงการช่วยเหลือหมดเช่นกันตอนเริ่มต้น,หรือผีบ้าบ้าคนมีตังหน่อย ร่ำรวยเกินชาวบ้านหน่อยโชว์สักหน่อยก็ว่ามีตังเหลือหลายจากการค้าการทำธุรกืจกิจการอื่นสำเร็จ ตังไร้หนี้บีบหลัง เงินเย็นๆรอผลผลิตได้ ทำสบายๆสไตล์คนเกษตรยุคโบราณไม่ดิ้นรนอะไรมากตามหนี้กดดันต้องใช้ให้เร็วก็ว่า.
    ..ปัญหาชาวเกษตรแก้ง่ายมาก คือลดต้นทุนคนเกษตรจากรัฐส่งเสริมจริงจัง น้ำมันแพงคือต้นทุนหลักไม่ต่างจากทุกๆภาคกิจการธุรกิจอุตสาหกรรมหรอก,ชาวเกษตรหากรัฐไม่ช่วยในการลดต้นทุนทางตรงจากพ่อค้าที่ขายอุปกรณ์วัตถุดิบทางการเกษตรต่างๆลงได้ ตลอดต้นทุนเครื่องจักรทุ่นแรงราคาต่ำจริงเข้าถึงง่าย ราคาเสรีไม่กดราคาปั่นราคา,สาระพัดวิถีเกษตรจะมีค่าใช้จ่ายทำเกษตรไม่แพงอะไรเลย,
    ..รถไถ่นาเติมน้ำมันลิตรละ1บาท เติมถัง20-50ลิตร ใช้ตลอด50-100ไร่ไถ่นาสบาย,ค่าจ้างจะไม่แพง,ราคารถไถไทยทำเองจากโรงงานรัฐบาลส่งเสริมผลทำช่วยนำเข้าเสรีไม่แพงอีกในวัตถุดิบผลิตรถไถนาหรือสาระพัดเครื่องจักรทุ่นแรงต่างๆอาจคันละไม่กี่4-5หมื่นบาทเลยจากรถไถราคาปกติที่คันละ4-5แสนบาทหรือรถไถเดินตามปกติ2-3หมื่นบาทอาจเหลือแค่2-3พันบาทเลย,เพราะรัฐส่งเสริมจัดหาเต็มที่ทำทุกๆวิถีทางลดต้นทุนช่วยชาวเกษตรไทย,หรือยึดบ่อน้ำมัน บ่อน้ำมันส่งเข้าโรงกลั่น กลั่นได้ปุ๋ยมา ก็แจกจ่ายฟรีๆแก่คนไทยหรือมุ่งตรงคนเกษตรให้ได้รับมากหน่อยคนละ1กระสอบต่อไร่ทุกๆปีฟรีๆก็ได้,หรือนำเข้าปุ๋ยเสรี ราคาอาจเหลือแค่กระสอบละ20-30บาทก็ได้,ต้นทุนเราถูก รวมตัวเป็นสมาคม ทั้งระดับชุมชนตำบลอำเภอจังหวัดสู่ระดับภาคระดับชาติส่งออกเป็นเครือข่ายตรงผ่านสมาคม ราคาส่งออกนอก มิใช่ราคาภายในประเทศ ข้าวปกติขายตันละ400-800$ก็ได้ที่ต่างประเทศราคาตลาดโลกก็ว่า,แต่ขายจริงในไทยแค่ตันละ2-3พันบาทกันเองจะเป็นอะไรหรือถุง5-10กก.ถุงละ5-10บาทเราก็ขายได้,ซึ่งสมาคมเราจัดสรรบริหารจัดการเอง ชาวนาส่งขายข้าวทั้งหมดเองแก่สมาคม เก็บไว้กินเองตามสบายใจ สมาคมรับซื้อเพื่อแปรรูปข้าวส่งนอกก็ให้ราคาสูงแก่ชาวนาทันทีได้ตามราคาตลาดโลกเลย,เช่น60%รับซื้อราคาตลาดโลกขายนอก,40%รับซื้อแปรรูปขายในไทยเองราคาถูกๆช่วยคนไทยเราด้านความมั่นคงทางอาหารเลี้ยงในชาติไทยเราเอง,ชาวบ้านขายข้าว10ตัน 6ตันคิดตันละ40,000บาท,4ตันคิดตันละ2,000บาท ก็ว่า,หากคลังสมดุลข้าวภายในประเทศมากก็ลดเป็น80:20 ,รับซื้อจากชาวนา8ตันส่งนอกละ40,000บาท=320,000บาท,รับซื้อขายในประเทศ2ตันๆละ2,000บาท=4,000บาท รวมชาวนาได้324,000บาทก็ยังกำไรดีกว่าเมื่อ เทียบตันละ15,000สูงสุดแบบมโนๆในยุคปัจจุบันคือ150,000บาทต่อ10ตัน มันก็คนละเรื่องเช่นกัน 2ตันคือเสียสละเฉลี่ยเลี้ยงคนไทยลูกหลานเราเองในการสร้างชาติพัฒนาชาติให้มีแรงกำลังกายด้านอาหารข้าวปลาสร้างชาติไทยร่วมกันต่อไปนั้นเองสนับสนุนสัมมาอาชีพอื่นร่วมกัน.
    ..ไม่ว่าจะอาชีพเกษตรด้านไหน นี้คือสงครามภายในประเทศไทยตนเองกับผู้ปกครองชาติไทยตนเองชัดเจน ที่กำลังมองคนเกษตรไทยคือภัยอันตรายของประเทศเอง ขัดขวางภาคเหล็กปูนอิฐเทคโนโลยีภาคอุตสาหกรรมต่างๆผลิตสินค้าที่สร้างกำไรน้อยมันว่า,พอเกษตรกรจะขายข้าวสักกก.ละแสนบาท อาจต้องมาควบคุมพะนะ,ทองคำบาทละ4-5หมื่นกินไม่ได้เสือกแพง,ข้าวกินได้เสือกถูก,พืชผักถั่วเสือกถูก,จริงๆวิธีแก้ตาแก้มัดพวกนี้ต้องผูกค่าอ้างอิงใส่มันเลย เช่นทองคำ1บาท ราคา50,000บาทคือฐาน,ข้าว1ตันราคา50,000บาทคือฐานด้วย,อนาคตราคาลดราคาลงหรือเพิ่มขึ้นให้ใช้ราคาทองคำเป็นฐานให้อ้างอิงกำหนดราคาข้าวขายในตลาดด้วยเรียลไทม์เลย,ทองคำราคาลงที่1บาท25,000บาท,ข้าวก็จะลดลงทันทีเช่นกันที่1ตัน ราคา25,000บาท.นี้ต้องแก้แบบนี้,สินค้าเกษตรจะไม่ถูกด้อยค่าอีก,มีฐานอ้างอิงด้วย,โลกเรามันผีบ้า หาว่าขายข้าวราคาต่ำๆเป็นจิตสำนึกรักกันเองในประเทศ สินค้าควบคุมป้องกันความเดือดร้อนแก่คนหมู่มากที่ต้องจำเป็นกินข้าวกันทุกๆวัน,แต่จิตสำนึกห่วงใยชาวนาผู้ผลิตข้าวให้คนกินกลับไม่สนใจในความทุกข์ยากเดือดร้อนจนยากจนในความเสียสละของชาวนานั้น เอาเปรียบตัวนำการเอาเปรียบเองด้วยซ้ำคือรัฐบาลเองไม่ข่วย ไม่ควบคุม ไม่ลดต้นทุนวัตถุดิบรอบด้านที่เกี่ยวข้องกับที่ชาวนาใช้ปลูกข้าวเพื่อผลิตข้าวให้คนทั้งประเทศกิน,อนาคตอวยนำเข้าข้าวจากต่างประเทศมากินเมื่อเจอวิกฤติเขาไม่ส่งข้าวมาให้ชาติไทยตนเองแดกจะเกิดอะไรขึ้น,ทั้งประเทศเลิกเป็นคนชาวนาชาวเกษตรอีกเพราะทำธุรกิจกิจการภาคอื่นๆอุตสาหกรรมอื่นที่มิใช้ภาคเกษตรย่อลงมาย่อยคือชาวนาก็ซวยบรรลัยไร้แดกทั้งประเทศ,ความมั่นคงทางอาหารไม่มีตัดเสบียงทางการรบเห็นๆแพ้ศึกสงครามแน่นอนเพราะผีบ้าตามแต่อุตสาหกรรมหรือเทคโนโลยีAIหุ่นยนต์ ตนเสือกคือคนแท้ๆต้อกแดกข้าวแดกอาหารมิใช่ไฟฟ้าแบบหุ่นยนต์หรือAIในเน็ตในออนไลน์ พินาศคือเราคนเป็นๆนี้ล่ะ,
    ..ผู้นำจึงสำคัญจริงๆ ปลดปล่อยอิสระวัตถุดิบสมบัติชาติทรัพยากรชาติที่มีค่ามากมายคืนสู่สามัญแผ่นดินไทยเราดั่งเดิม เราจะมีวิถีชีวิตที่ดีแน่นอน แม้จะสัมมาอาชีพใดๆก็ไม่ต้องแบกภาระต้นทุนสูงใดๆอีกต่อไป เพราะทุกๆคนช่วยกันคิดอ่านร่วมแก้ไขขจัดปัญหาต่างๆออกไป,กำไรแค่100-200บาทอาจมีความสุขโคตรมหาศาลก็ว่า เพราะไม่ต้องดิ้นรนหาตังมาใช้หนี้ ไม่ต้องดิ้นรนหาตังมาชำระค่าใช้จ่ายสาระพัดทาง อาทิเปิดเทอมลูกหลาน รัฐบาลส่งเสริมเรียนฟรีหมด ชุดนักเรียน อุปกรณ์การศึกษา ค่าใช้จ่ายใดๆผู้ปกครองไม่ต้องจ่าย,เรียนคอมฯเรียนภาษาเรียนAIนวัตกรรมล้ำไหนฟรีหมด อาหารที่พักฟรี รถรับส่งไปกลับฟรี,ใช้กายใจตั้งใจเรียนรู้องค์รู้ต่างๆแค่นั้น จบมามีตังมีทุนเริ่มต้นสร้างสัมมาอาชีพอิสระเสรีอีกฟรีเป็นต้น ค่างานศพใครตายก็ไม่ต้องเรี่ยไรจ่ายในแต่ละหมู่บ้าน รัฐรันระบบตรวจพบเจออำเภอคีย์แจ้งทราบ เคลมจ่ายศพมรณะทุกๆกรณีรายละ1ล้านบาทเรียลไทม์ก็ยังได้ ชาติไทยโคตรร่ำรวยจริงๆนะ แต่วิถีปกครองเรามันกาก&ผู้ปกครองกากเขลาโง่กระจอก,จนยกทรัพยากรมีค่ามากมายมหาศาลแก่คนอื่นชาติอื่นไปยึดครองแทนคนไทย.

    ..วิถีเกษตรเราล้มเหลวก็ได้ ดูหน่วยงานรัฐเราสิ ขี้ข้าคนเจ้าสัวตรึม,สมัยประท้วงพรบ.ผูกขาดเมล็ดพันธุ์ นักวิชการเกษตรต่างๆทั่วไทยกลับไม่เร่งรีบลุกนำประท้วงความอยุติธรรมให้แก่คนภาคชาวเกษตรจริงอะไร จนเขาต้องนำทัพประท้วงช่วยเหลือกันเอง การยุบทุบทิ้งกระทรวงทบวงกรมสายงานเกษตรของภาครัฐทั้งหมดถูกต้องที่สุด มันคือวิถีทางเดียวจะล้างทำลายเผาไหม้จริงในรากเหง้าอิทธิอำนาจหยั่งลึกทุกๆมิติในวงการนี้ทั้งแผ่นดินไทยได้จริงทั้งหมด ย้ำมันวางรากลึกกัดกันวงจรชาวเกษตรไทยจนพินาศถึงปัจจุบันนีัจริงๆ.

    ..https://youtube.com/watch?v=topV7JVUnmE&si=mhL49JRpZO7BJ7BR
    ..จริงๆคลิปนี้สามารถทำลายกำลังใจคนรุ่นต่อไปเพื่อพึ่งพาตนเอง สร้างรายได้ทางการเกษตรกันเลยก็ว่า,อาจภาพเกษตรพอเพียงเสียเลยด้วยเพื่อพอจะมีรายได้มีกำไรพอยังชีพ ทำเกษตรขาดทุนหมดตังหมดกำลังใจกันเลย พ่อแม่ด่าอีกแฟนเมียเหยียบซ้ำด้วย พอจะเท่จะซื้อของใช้ซื้อพืชผักอื่นๆมาต่อยอดปลูกทำอีก&ซื้อข้าวของสินค้าอื่นๆสนองวัตถุธาตุอารมณ์ความรู้สึกตนแบบมนุษย์คนธรรมดาสามัญทั่วไปแบบเราๆได้,ทำไปก็ขาดทุน ตังลงทุนไปจมหายทิ้งละลายหมด เวลาที่เสียไป ชีวิตที่สั้นลงอีกแก่ชราไปภายหน้า สังขารเสื่อมลง กับเงินกับตังเฉลี่ยไม่พอจ่ายในภาระต่างๆแต่ละวันเดือนปีรอตรึมที่ตั้งด่านรอรับตัง&ไถ่ตังไถ่เงินอยู่โดยเฉพาะยิ่งภาระหนี้นอกระบบ, พืชผลการเกษตรตายด้วยโรคด้วยภัยธรรมชาติอีก เสี่ยงสูงในการขาดทุน,บวกรายได้ประจำแบบกินเงินเดือนสไตล์ข้าราชการรัฐก็ไม่มี,พอรอเก็บผลผลิตได้ก็ไม่มีทุกๆเดือนด้วยพอหักกลบลบหนี้ขาดทุนได้หรือลุกสู้ใหม่ปรับปรุงขยายสายงานพืชผลตัวใหม่เสริมผสมผสานกันต่อได้แบบไร่นาสวนผสมนั้น,แต่เหี้ยทั้งหมดมันจ่ายด้วยตังด้วยเงินทั้งหมดนะอะไรๆต้องซื้อมาลงทุนทำเกษตรก็ว่าในสถานะการณ์เวลายุคปัจจุบันนี้. ..คนไทบ้านปกติไม่มีเงินไม่มีทุนไม่มีตังปกติอยู่บวกกู้ตังธกส.จ่ายต้นจ่ายดอกเบี้ยแบงค์อีก ไม่รวมนอกระบบอื่นๆอีกนะ จะขนาดไหน,วงจรคนชาวเกษตรจึงไม่ร่ำรวยไง บวกยุคนีัค่าใช้จ่ายรอบด้านต้นทุนแพงรอบทิศรอบตัวอีก ไม่พอกินพอใช้อะไรหรอก ส่วนน้อยมากจะยืนได้ที่ออกมาโชว์ออฟช่องต่างๆ แต่ส่วนที่ล้มเหลวมันใต้ภูเขาน้ำแข็งเลยล่ะ เห็นปลายยอดภูเขาเปรียบพวกนั่งอยู่หอคอยงาช้างก็ได้ อาทิเช่นพวกข้าราชการมีเงินเดือนประจำพอโยกตังนั้นนี้ทันจนเดินได้ก็ว่า,พวกได้รับทุนโครงการเงินทุนเบื้องต้นสนับสนุนสาระพัดด้านการเกษตรช่วยงานการเข้าร่วมโครงการหลวงโครงการรัฐได้ทันเช่นโคกหนองนาโมเดล ทุนขุดสระทุนขุดคลองคอดไก่คนละกว่าแสนสองแสนบาทโน้นในอดีตและทางเกษตรช่วยต่างๆจนยืนได้ ใครได้อีกฝันเลยจะไทบ้าน ส่วนมากผู้นำชุมชนคณะกรรมการชุมชนหรือข้าราชการรัฐหลวงชิงตัดหน้าลงทะเบียนได้โครงการไปก่อนหรือในเครือญาติพี่น้องพวกนี้เพราะรับรู้ข่าวสารข้อมูลก่อนชิงตัดหน้ารับไปทำก่อน,เนียนๆก็ว่า ทำให้ดูเป็นตัวอย่างชาวบ้านแต่เหี้ยแค่ตังขุดสระเป็นหมื่นเป็นแสนสไตล์โมเดลโคกหนองนา ชาวบ้านมีตังที่ไหน และพวกนี้ก็ใช้ตังเริ่มต้นจริงด้วยตังตนเองที่ไหน ก็โครงการช่วยเหลือหมดเช่นกันตอนเริ่มต้น,หรือผีบ้าบ้าคนมีตังหน่อย ร่ำรวยเกินชาวบ้านหน่อยโชว์สักหน่อยก็ว่ามีตังเหลือหลายจากการค้าการทำธุรกืจกิจการอื่นสำเร็จ ตังไร้หนี้บีบหลัง เงินเย็นๆรอผลผลิตได้ ทำสบายๆสไตล์คนเกษตรยุคโบราณไม่ดิ้นรนอะไรมากตามหนี้กดดันต้องใช้ให้เร็วก็ว่า. ..ปัญหาชาวเกษตรแก้ง่ายมาก คือลดต้นทุนคนเกษตรจากรัฐส่งเสริมจริงจัง น้ำมันแพงคือต้นทุนหลักไม่ต่างจากทุกๆภาคกิจการธุรกิจอุตสาหกรรมหรอก,ชาวเกษตรหากรัฐไม่ช่วยในการลดต้นทุนทางตรงจากพ่อค้าที่ขายอุปกรณ์วัตถุดิบทางการเกษตรต่างๆลงได้ ตลอดต้นทุนเครื่องจักรทุ่นแรงราคาต่ำจริงเข้าถึงง่าย ราคาเสรีไม่กดราคาปั่นราคา,สาระพัดวิถีเกษตรจะมีค่าใช้จ่ายทำเกษตรไม่แพงอะไรเลย, ..รถไถ่นาเติมน้ำมันลิตรละ1บาท เติมถัง20-50ลิตร ใช้ตลอด50-100ไร่ไถ่นาสบาย,ค่าจ้างจะไม่แพง,ราคารถไถไทยทำเองจากโรงงานรัฐบาลส่งเสริมผลทำช่วยนำเข้าเสรีไม่แพงอีกในวัตถุดิบผลิตรถไถนาหรือสาระพัดเครื่องจักรทุ่นแรงต่างๆอาจคันละไม่กี่4-5หมื่นบาทเลยจากรถไถราคาปกติที่คันละ4-5แสนบาทหรือรถไถเดินตามปกติ2-3หมื่นบาทอาจเหลือแค่2-3พันบาทเลย,เพราะรัฐส่งเสริมจัดหาเต็มที่ทำทุกๆวิถีทางลดต้นทุนช่วยชาวเกษตรไทย,หรือยึดบ่อน้ำมัน บ่อน้ำมันส่งเข้าโรงกลั่น กลั่นได้ปุ๋ยมา ก็แจกจ่ายฟรีๆแก่คนไทยหรือมุ่งตรงคนเกษตรให้ได้รับมากหน่อยคนละ1กระสอบต่อไร่ทุกๆปีฟรีๆก็ได้,หรือนำเข้าปุ๋ยเสรี ราคาอาจเหลือแค่กระสอบละ20-30บาทก็ได้,ต้นทุนเราถูก รวมตัวเป็นสมาคม ทั้งระดับชุมชนตำบลอำเภอจังหวัดสู่ระดับภาคระดับชาติส่งออกเป็นเครือข่ายตรงผ่านสมาคม ราคาส่งออกนอก มิใช่ราคาภายในประเทศ ข้าวปกติขายตันละ400-800$ก็ได้ที่ต่างประเทศราคาตลาดโลกก็ว่า,แต่ขายจริงในไทยแค่ตันละ2-3พันบาทกันเองจะเป็นอะไรหรือถุง5-10กก.ถุงละ5-10บาทเราก็ขายได้,ซึ่งสมาคมเราจัดสรรบริหารจัดการเอง ชาวนาส่งขายข้าวทั้งหมดเองแก่สมาคม เก็บไว้กินเองตามสบายใจ สมาคมรับซื้อเพื่อแปรรูปข้าวส่งนอกก็ให้ราคาสูงแก่ชาวนาทันทีได้ตามราคาตลาดโลกเลย,เช่น60%รับซื้อราคาตลาดโลกขายนอก,40%รับซื้อแปรรูปขายในไทยเองราคาถูกๆช่วยคนไทยเราด้านความมั่นคงทางอาหารเลี้ยงในชาติไทยเราเอง,ชาวบ้านขายข้าว10ตัน 6ตันคิดตันละ40,000บาท,4ตันคิดตันละ2,000บาท ก็ว่า,หากคลังสมดุลข้าวภายในประเทศมากก็ลดเป็น80:20 ,รับซื้อจากชาวนา8ตันส่งนอกละ40,000บาท=320,000บาท,รับซื้อขายในประเทศ2ตันๆละ2,000บาท=4,000บาท รวมชาวนาได้324,000บาทก็ยังกำไรดีกว่าเมื่อ เทียบตันละ15,000สูงสุดแบบมโนๆในยุคปัจจุบันคือ150,000บาทต่อ10ตัน มันก็คนละเรื่องเช่นกัน 2ตันคือเสียสละเฉลี่ยเลี้ยงคนไทยลูกหลานเราเองในการสร้างชาติพัฒนาชาติให้มีแรงกำลังกายด้านอาหารข้าวปลาสร้างชาติไทยร่วมกันต่อไปนั้นเองสนับสนุนสัมมาอาชีพอื่นร่วมกัน. ..ไม่ว่าจะอาชีพเกษตรด้านไหน นี้คือสงครามภายในประเทศไทยตนเองกับผู้ปกครองชาติไทยตนเองชัดเจน ที่กำลังมองคนเกษตรไทยคือภัยอันตรายของประเทศเอง ขัดขวางภาคเหล็กปูนอิฐเทคโนโลยีภาคอุตสาหกรรมต่างๆผลิตสินค้าที่สร้างกำไรน้อยมันว่า,พอเกษตรกรจะขายข้าวสักกก.ละแสนบาท อาจต้องมาควบคุมพะนะ,ทองคำบาทละ4-5หมื่นกินไม่ได้เสือกแพง,ข้าวกินได้เสือกถูก,พืชผักถั่วเสือกถูก,จริงๆวิธีแก้ตาแก้มัดพวกนี้ต้องผูกค่าอ้างอิงใส่มันเลย เช่นทองคำ1บาท ราคา50,000บาทคือฐาน,ข้าว1ตันราคา50,000บาทคือฐานด้วย,อนาคตราคาลดราคาลงหรือเพิ่มขึ้นให้ใช้ราคาทองคำเป็นฐานให้อ้างอิงกำหนดราคาข้าวขายในตลาดด้วยเรียลไทม์เลย,ทองคำราคาลงที่1บาท25,000บาท,ข้าวก็จะลดลงทันทีเช่นกันที่1ตัน ราคา25,000บาท.นี้ต้องแก้แบบนี้,สินค้าเกษตรจะไม่ถูกด้อยค่าอีก,มีฐานอ้างอิงด้วย,โลกเรามันผีบ้า หาว่าขายข้าวราคาต่ำๆเป็นจิตสำนึกรักกันเองในประเทศ สินค้าควบคุมป้องกันความเดือดร้อนแก่คนหมู่มากที่ต้องจำเป็นกินข้าวกันทุกๆวัน,แต่จิตสำนึกห่วงใยชาวนาผู้ผลิตข้าวให้คนกินกลับไม่สนใจในความทุกข์ยากเดือดร้อนจนยากจนในความเสียสละของชาวนานั้น เอาเปรียบตัวนำการเอาเปรียบเองด้วยซ้ำคือรัฐบาลเองไม่ข่วย ไม่ควบคุม ไม่ลดต้นทุนวัตถุดิบรอบด้านที่เกี่ยวข้องกับที่ชาวนาใช้ปลูกข้าวเพื่อผลิตข้าวให้คนทั้งประเทศกิน,อนาคตอวยนำเข้าข้าวจากต่างประเทศมากินเมื่อเจอวิกฤติเขาไม่ส่งข้าวมาให้ชาติไทยตนเองแดกจะเกิดอะไรขึ้น,ทั้งประเทศเลิกเป็นคนชาวนาชาวเกษตรอีกเพราะทำธุรกิจกิจการภาคอื่นๆอุตสาหกรรมอื่นที่มิใช้ภาคเกษตรย่อลงมาย่อยคือชาวนาก็ซวยบรรลัยไร้แดกทั้งประเทศ,ความมั่นคงทางอาหารไม่มีตัดเสบียงทางการรบเห็นๆแพ้ศึกสงครามแน่นอนเพราะผีบ้าตามแต่อุตสาหกรรมหรือเทคโนโลยีAIหุ่นยนต์ ตนเสือกคือคนแท้ๆต้อกแดกข้าวแดกอาหารมิใช่ไฟฟ้าแบบหุ่นยนต์หรือAIในเน็ตในออนไลน์ พินาศคือเราคนเป็นๆนี้ล่ะ, ..ผู้นำจึงสำคัญจริงๆ ปลดปล่อยอิสระวัตถุดิบสมบัติชาติทรัพยากรชาติที่มีค่ามากมายคืนสู่สามัญแผ่นดินไทยเราดั่งเดิม เราจะมีวิถีชีวิตที่ดีแน่นอน แม้จะสัมมาอาชีพใดๆก็ไม่ต้องแบกภาระต้นทุนสูงใดๆอีกต่อไป เพราะทุกๆคนช่วยกันคิดอ่านร่วมแก้ไขขจัดปัญหาต่างๆออกไป,กำไรแค่100-200บาทอาจมีความสุขโคตรมหาศาลก็ว่า เพราะไม่ต้องดิ้นรนหาตังมาใช้หนี้ ไม่ต้องดิ้นรนหาตังมาชำระค่าใช้จ่ายสาระพัดทาง อาทิเปิดเทอมลูกหลาน รัฐบาลส่งเสริมเรียนฟรีหมด ชุดนักเรียน อุปกรณ์การศึกษา ค่าใช้จ่ายใดๆผู้ปกครองไม่ต้องจ่าย,เรียนคอมฯเรียนภาษาเรียนAIนวัตกรรมล้ำไหนฟรีหมด อาหารที่พักฟรี รถรับส่งไปกลับฟรี,ใช้กายใจตั้งใจเรียนรู้องค์รู้ต่างๆแค่นั้น จบมามีตังมีทุนเริ่มต้นสร้างสัมมาอาชีพอิสระเสรีอีกฟรีเป็นต้น ค่างานศพใครตายก็ไม่ต้องเรี่ยไรจ่ายในแต่ละหมู่บ้าน รัฐรันระบบตรวจพบเจออำเภอคีย์แจ้งทราบ เคลมจ่ายศพมรณะทุกๆกรณีรายละ1ล้านบาทเรียลไทม์ก็ยังได้ ชาติไทยโคตรร่ำรวยจริงๆนะ แต่วิถีปกครองเรามันกาก&ผู้ปกครองกากเขลาโง่กระจอก,จนยกทรัพยากรมีค่ามากมายมหาศาลแก่คนอื่นชาติอื่นไปยึดครองแทนคนไทย. ..วิถีเกษตรเราล้มเหลวก็ได้ ดูหน่วยงานรัฐเราสิ ขี้ข้าคนเจ้าสัวตรึม,สมัยประท้วงพรบ.ผูกขาดเมล็ดพันธุ์ นักวิชการเกษตรต่างๆทั่วไทยกลับไม่เร่งรีบลุกนำประท้วงความอยุติธรรมให้แก่คนภาคชาวเกษตรจริงอะไร จนเขาต้องนำทัพประท้วงช่วยเหลือกันเอง การยุบทุบทิ้งกระทรวงทบวงกรมสายงานเกษตรของภาครัฐทั้งหมดถูกต้องที่สุด มันคือวิถีทางเดียวจะล้างทำลายเผาไหม้จริงในรากเหง้าอิทธิอำนาจหยั่งลึกทุกๆมิติในวงการนี้ทั้งแผ่นดินไทยได้จริงทั้งหมด ย้ำมันวางรากลึกกัดกันวงจรชาวเกษตรไทยจนพินาศถึงปัจจุบันนีัจริงๆ. ..https://youtube.com/watch?v=topV7JVUnmE&si=mhL49JRpZO7BJ7BR
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 381 มุมมอง 0 รีวิว
  • เงินทุนทะลัก เข้าตลาดเกิดใหม่ (09/05/68) #news1 #กะเทาะหุ้น #หุ้นไทย #ตลาดหุ้น #เงินทุนทะลัก
    เงินทุนทะลัก เข้าตลาดเกิดใหม่ (09/05/68) #news1 #กะเทาะหุ้น #หุ้นไทย #ตลาดหุ้น #เงินทุนทะลัก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 569 มุมมอง 27 0 รีวิว
  • อดีตประธานาธิบดี Donald Trump ได้ให้สัมภาษณ์ว่าเขามี "ความรู้สึกดี" ต่อ TikTok และพร้อมที่จะให้ ขยายเวลาการขายกิจการในสหรัฐฯ อีกครั้ง แม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะเคยพยายามแบนแอปนี้ในสมัยดำรงตำแหน่ง

    กฎหมาย Protecting Americans from Foreign Adversary Controlled Applications Act ซึ่งผ่านการอนุมัติเมื่อปี 2024 ระบุว่า TikTok เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ และกำหนดให้ ByteDance ต้องขายกิจการในสหรัฐฯ ภายในวันที่ 20 มกราคม 2025 มิฉะนั้นจะถูกแบน อย่างไรก็ตาม Trump ได้ลงนามในคำสั่งบริหารเพื่อ เลื่อนการแบนออกไป 75 วัน และล่าสุดได้ให้ ขยายเวลาอีก 75 วัน ทำให้เส้นตายใหม่เป็น 19 มิถุนายน 2025

    Trump ให้เหตุผลว่า TikTok มีบทบาทสำคัญในการช่วยให้เขาได้รับคะแนนเสียงจากเยาวชน ในการเลือกตั้งปี 2024 โดยเขากล่าวว่า "ผมชนะคะแนนเสียงจากเยาวชนไป 36 จุด ซึ่งไม่เคยมีพรรครีพับลิกันคนไหนทำได้มาก่อน และผมมุ่งเน้นไปที่ TikTok"

    ✅ Trump ให้สัมภาษณ์ว่าเขามี "ความรู้สึกดี" ต่อ TikTok
    - พร้อมให้ ขยายเวลาการขายกิจการในสหรัฐฯ อีกครั้ง
    - เคยพยายามแบน TikTok ในสมัยดำรงตำแหน่ง

    ✅ กฎหมายกำหนดให้ ByteDance ต้องขายกิจการภายในวันที่ 20 มกราคม 2025
    - หากไม่ขาย TikTok จะถูกแบนในสหรัฐฯ
    - Trump ลงนามคำสั่งบริหาร เลื่อนการแบนออกไป 75 วัน

    ✅ Trump ให้ขยายเวลาอีก 75 วัน ทำให้เส้นตายใหม่เป็น 19 มิถุนายน 2025
    - ให้เหตุผลว่า TikTok มีบทบาทสำคัญในการช่วยให้เขาได้รับคะแนนเสียงจากเยาวชน
    - กล่าวว่า "ผมชนะคะแนนเสียงจากเยาวชนไป 36 จุด"

    ✅ มีรายงานว่าข้อตกลงขายกิจการ TikTok ในสหรัฐฯ ใกล้สำเร็จ
    - Trump ระบุว่า "เรามีข้อตกลงแล้ว"
    - กลุ่มนักลงทุนที่สนใจซื้อกิจการเป็น "บุคคลที่มีอิทธิพลและมีเงินทุนสูง"

    https://www.techspot.com/news/107799-trump-offers-tiktok-another-extension-has-warm-spot.html
    อดีตประธานาธิบดี Donald Trump ได้ให้สัมภาษณ์ว่าเขามี "ความรู้สึกดี" ต่อ TikTok และพร้อมที่จะให้ ขยายเวลาการขายกิจการในสหรัฐฯ อีกครั้ง แม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะเคยพยายามแบนแอปนี้ในสมัยดำรงตำแหน่ง กฎหมาย Protecting Americans from Foreign Adversary Controlled Applications Act ซึ่งผ่านการอนุมัติเมื่อปี 2024 ระบุว่า TikTok เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ และกำหนดให้ ByteDance ต้องขายกิจการในสหรัฐฯ ภายในวันที่ 20 มกราคม 2025 มิฉะนั้นจะถูกแบน อย่างไรก็ตาม Trump ได้ลงนามในคำสั่งบริหารเพื่อ เลื่อนการแบนออกไป 75 วัน และล่าสุดได้ให้ ขยายเวลาอีก 75 วัน ทำให้เส้นตายใหม่เป็น 19 มิถุนายน 2025 Trump ให้เหตุผลว่า TikTok มีบทบาทสำคัญในการช่วยให้เขาได้รับคะแนนเสียงจากเยาวชน ในการเลือกตั้งปี 2024 โดยเขากล่าวว่า "ผมชนะคะแนนเสียงจากเยาวชนไป 36 จุด ซึ่งไม่เคยมีพรรครีพับลิกันคนไหนทำได้มาก่อน และผมมุ่งเน้นไปที่ TikTok" ✅ Trump ให้สัมภาษณ์ว่าเขามี "ความรู้สึกดี" ต่อ TikTok - พร้อมให้ ขยายเวลาการขายกิจการในสหรัฐฯ อีกครั้ง - เคยพยายามแบน TikTok ในสมัยดำรงตำแหน่ง ✅ กฎหมายกำหนดให้ ByteDance ต้องขายกิจการภายในวันที่ 20 มกราคม 2025 - หากไม่ขาย TikTok จะถูกแบนในสหรัฐฯ - Trump ลงนามคำสั่งบริหาร เลื่อนการแบนออกไป 75 วัน ✅ Trump ให้ขยายเวลาอีก 75 วัน ทำให้เส้นตายใหม่เป็น 19 มิถุนายน 2025 - ให้เหตุผลว่า TikTok มีบทบาทสำคัญในการช่วยให้เขาได้รับคะแนนเสียงจากเยาวชน - กล่าวว่า "ผมชนะคะแนนเสียงจากเยาวชนไป 36 จุด" ✅ มีรายงานว่าข้อตกลงขายกิจการ TikTok ในสหรัฐฯ ใกล้สำเร็จ - Trump ระบุว่า "เรามีข้อตกลงแล้ว" - กลุ่มนักลงทุนที่สนใจซื้อกิจการเป็น "บุคคลที่มีอิทธิพลและมีเงินทุนสูง" https://www.techspot.com/news/107799-trump-offers-tiktok-another-extension-has-warm-spot.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Trump offers TikTok another extension on ban, says he has a "warm spot" in his heart for the app
    At the start of last year, the Protecting Americans from Foreign Adversary Controlled Applications Act was passed, defining TikTok as being a threat to national security and...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 181 มุมมอง 0 รีวิว
  • Eutelsat ซึ่งเป็นผู้ให้บริการดาวเทียม Franco-British ได้ประกาศเปลี่ยน CEO โดยแต่งตั้ง Jean-Francois Fallacher ซึ่งปัจจุบันเป็น CEO ของ Orange France ให้เข้ารับตำแหน่งแทน Eva Berneke ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2025

    การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ Eutelsat ต้องการเงินทุนเพิ่มเติม และมีบทบาทสำคัญใน การสื่อสารด้านกลาโหมของยุโรป ทำให้การเปลี่ยนแปลงผู้บริหารครั้งนี้ได้รับความสนใจเป็นพิเศษ

    ✅ Eutelsat แต่งตั้ง Jean-Francois Fallacher เป็น CEO คนใหม่
    - ปัจจุบันเป็น CEO ของ Orange France
    - จะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 1 มิถุนายน 2025

    ✅ Eva Berneke ลงจากตำแหน่งหลังจากดำรงตำแหน่งตั้งแต่ปี 2022
    - เป็นผู้นำที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนา โครงสร้างพื้นฐานด้านดาวเทียม

    ✅ Eutelsat ต้องการเงินทุนเพิ่มเติมเพื่อขยายธุรกิจ
    - มีบทบาทสำคัญใน การสื่อสารด้านกลาโหมของยุโรป
    - อาจมีการปรับกลยุทธ์เพื่อดึงดูดนักลงทุน

    ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมดาวเทียมและการสื่อสาร
    - อาจส่งผลต่อ การแข่งขันในตลาดดาวเทียมระดับโลก
    - อาจมีการเปลี่ยนแปลงแนวทางการดำเนินธุรกิจของ Eutelsat

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/05/eutelsat-appointed-jean-franois-fallacher-as-new-ceo
    Eutelsat ซึ่งเป็นผู้ให้บริการดาวเทียม Franco-British ได้ประกาศเปลี่ยน CEO โดยแต่งตั้ง Jean-Francois Fallacher ซึ่งปัจจุบันเป็น CEO ของ Orange France ให้เข้ารับตำแหน่งแทน Eva Berneke ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2025 การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ Eutelsat ต้องการเงินทุนเพิ่มเติม และมีบทบาทสำคัญใน การสื่อสารด้านกลาโหมของยุโรป ทำให้การเปลี่ยนแปลงผู้บริหารครั้งนี้ได้รับความสนใจเป็นพิเศษ ✅ Eutelsat แต่งตั้ง Jean-Francois Fallacher เป็น CEO คนใหม่ - ปัจจุบันเป็น CEO ของ Orange France - จะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 1 มิถุนายน 2025 ✅ Eva Berneke ลงจากตำแหน่งหลังจากดำรงตำแหน่งตั้งแต่ปี 2022 - เป็นผู้นำที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนา โครงสร้างพื้นฐานด้านดาวเทียม ✅ Eutelsat ต้องการเงินทุนเพิ่มเติมเพื่อขยายธุรกิจ - มีบทบาทสำคัญใน การสื่อสารด้านกลาโหมของยุโรป - อาจมีการปรับกลยุทธ์เพื่อดึงดูดนักลงทุน ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมดาวเทียมและการสื่อสาร - อาจส่งผลต่อ การแข่งขันในตลาดดาวเทียมระดับโลก - อาจมีการเปลี่ยนแปลงแนวทางการดำเนินธุรกิจของ Eutelsat https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/05/eutelsat-appointed-jean-franois-fallacher-as-new-ceo
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Eutelsat replaces CEO with Orange executive in surprise move
    PARIS (Reuters) - Franco-British satellite operator Eutelsat will replace its CEO with Orange executive Jean-Francois Fallacher, it said on Monday, in a surprise move by a company in the spotlight for its role in European defence communications.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 113 มุมมอง 0 รีวิว
  • OpenAI ได้ประกาศว่าจะ ไม่เปลี่ยนเป็นบริษัทแสวงหากำไร แต่จะปรับโครงสร้างเป็น Public Benefit Corporation (PBC) ซึ่งเป็นองค์กรที่มีเป้าหมายเพื่อประโยชน์สาธารณะ โดยยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของ องค์กรไม่แสวงหากำไรเดิม

    การเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้ OpenAI สามารถ ระดมทุนและดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ขณะที่ยังคงรักษาภารกิจหลักในการ พัฒนา AI เพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติ นอกจากนี้ OpenAI ยังมีแผนที่จะ เปิดโมเดล AI ที่มีความสามารถสูงให้เป็นโอเพ่นซอร์ส

    ✅ OpenAI จะยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมขององค์กรไม่แสวงหากำไร
    - แม้ว่าจะเปลี่ยนเป็น Public Benefit Corporation (PBC)
    - องค์กรไม่แสวงหากำไรจะ ถือหุ้นจำนวนมากใน PBC

    ✅ เป้าหมายของการปรับโครงสร้าง
    - ช่วยให้ OpenAI สามารถระดมทุนได้มากขึ้น
    - รักษาภารกิจในการ พัฒนา AI เพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติ

    ✅ OpenAI มีแผนที่จะเปิดโมเดล AI ที่มีความสามารถสูงให้เป็นโอเพ่นซอร์ส
    - ต้องการให้ ผู้ใช้สามารถปรับแต่งและใช้งาน AI ได้อย่างอิสระ
    - สนับสนุนแนวคิด AI ที่เป็นประชาธิปไตย

    ✅ ผลกระทบต่อพนักงานและนักลงทุน
    - พนักงานและนักลงทุนจะสามารถ ถือหุ้นใน PBC ได้
    - ช่วยให้ OpenAI สามารถดึงดูดบุคลากรและเงินทุนได้มากขึ้น

    https://www.neowin.net/news/openai-will-not-transition-into-a-for-profit-company/
    OpenAI ได้ประกาศว่าจะ ไม่เปลี่ยนเป็นบริษัทแสวงหากำไร แต่จะปรับโครงสร้างเป็น Public Benefit Corporation (PBC) ซึ่งเป็นองค์กรที่มีเป้าหมายเพื่อประโยชน์สาธารณะ โดยยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของ องค์กรไม่แสวงหากำไรเดิม การเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้ OpenAI สามารถ ระดมทุนและดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ขณะที่ยังคงรักษาภารกิจหลักในการ พัฒนา AI เพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติ นอกจากนี้ OpenAI ยังมีแผนที่จะ เปิดโมเดล AI ที่มีความสามารถสูงให้เป็นโอเพ่นซอร์ส ✅ OpenAI จะยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมขององค์กรไม่แสวงหากำไร - แม้ว่าจะเปลี่ยนเป็น Public Benefit Corporation (PBC) - องค์กรไม่แสวงหากำไรจะ ถือหุ้นจำนวนมากใน PBC ✅ เป้าหมายของการปรับโครงสร้าง - ช่วยให้ OpenAI สามารถระดมทุนได้มากขึ้น - รักษาภารกิจในการ พัฒนา AI เพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติ ✅ OpenAI มีแผนที่จะเปิดโมเดล AI ที่มีความสามารถสูงให้เป็นโอเพ่นซอร์ส - ต้องการให้ ผู้ใช้สามารถปรับแต่งและใช้งาน AI ได้อย่างอิสระ - สนับสนุนแนวคิด AI ที่เป็นประชาธิปไตย ✅ ผลกระทบต่อพนักงานและนักลงทุน - พนักงานและนักลงทุนจะสามารถ ถือหุ้นใน PBC ได้ - ช่วยให้ OpenAI สามารถดึงดูดบุคลากรและเงินทุนได้มากขึ้น https://www.neowin.net/news/openai-will-not-transition-into-a-for-profit-company/
    WWW.NEOWIN.NET
    OpenAI will not transition into a for-profit company
    OpenAI is updating its restructuring plan, confirming the non-profit entity will maintain oversight and control.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 133 มุมมอง 0 รีวิว
  • Mozilla กำลังเผชิญกับ ความท้าทายครั้งใหญ่ หาก Google ถูกบังคับให้ยุติข้อตกลงด้านการค้นหา เนื่องจาก รายได้ของ Mozilla กว่า 80% มาจาก Google ซึ่งอาจส่งผลให้ Firefox และ Gecko engine ต้องลดขนาดการดำเนินงานลง

    Mozilla ระบุว่า Firefox เป็นเบราว์เซอร์อิสระที่ไม่มีระบบปฏิบัติการหรืออุปกรณ์ของตัวเอง ทำให้ต้องพึ่งพารายได้จากการค้นหาเป็นหลัก หากไม่มีเงินทุนจาก Google อาจต้อง ลดการสนับสนุนโครงการสำคัญ เช่น Gecko ซึ่งเป็น browser engine เดียวที่แข่งขันกับ Chromium และ WebKit

    นอกจากนี้ Mozilla ยังเคยทดลองเปลี่ยน เครื่องมือค้นหาหลักจาก Google เป็น Yahoo ระหว่างปี 2014-2017 แต่พบว่าผู้ใช้จำนวนมาก ไม่พอใจกับคุณภาพของ Yahoo และบางส่วนเลือก เปลี่ยนไปใช้เบราว์เซอร์อื่นแทน

    ✅ Mozilla พึ่งพารายได้จาก Google เป็นหลัก
    - รายได้กว่า 80% มาจากข้อตกลงกับ Google
    - หาก Google ถูกบังคับให้ยุติข้อตกลง Mozilla อาจต้อง ลดขนาดการดำเนินงาน

    ✅ ผลกระทบต่อ Firefox และ Gecko engine
    - Firefox ไม่มี ระบบปฏิบัติการหรืออุปกรณ์ของตัวเอง
    - Gecko เป็น browser engine เดียวที่แข่งขันกับ Chromium และ WebKit

    ✅ การทดลองใช้ Yahoo เป็นเครื่องมือค้นหา
    - Mozilla เปลี่ยนจาก Google เป็น Yahoo ระหว่างปี 2014-2017
    - ผู้ใช้จำนวนมาก ไม่พอใจกับคุณภาพของ Yahoo และบางส่วน เปลี่ยนไปใช้เบราว์เซอร์อื่น

    ✅ ความกังวลเกี่ยวกับการแข่งขันในตลาดเบราว์เซอร์
    - Mozilla ระบุว่า การบังคับให้ Google ยุติข้อตกลงอาจทำให้ Microsoft ได้เปรียบ
    - อาจส่งผลให้ ตลาดเบราว์เซอร์ถูกครอบงำโดยบริษัทใหญ่เพียงไม่กี่ราย

    https://www.neowin.net/news/senior-mozilla-exec-explains-how-firefox-dies-without-google-and-its-not-just-the-money/
    Mozilla กำลังเผชิญกับ ความท้าทายครั้งใหญ่ หาก Google ถูกบังคับให้ยุติข้อตกลงด้านการค้นหา เนื่องจาก รายได้ของ Mozilla กว่า 80% มาจาก Google ซึ่งอาจส่งผลให้ Firefox และ Gecko engine ต้องลดขนาดการดำเนินงานลง Mozilla ระบุว่า Firefox เป็นเบราว์เซอร์อิสระที่ไม่มีระบบปฏิบัติการหรืออุปกรณ์ของตัวเอง ทำให้ต้องพึ่งพารายได้จากการค้นหาเป็นหลัก หากไม่มีเงินทุนจาก Google อาจต้อง ลดการสนับสนุนโครงการสำคัญ เช่น Gecko ซึ่งเป็น browser engine เดียวที่แข่งขันกับ Chromium และ WebKit นอกจากนี้ Mozilla ยังเคยทดลองเปลี่ยน เครื่องมือค้นหาหลักจาก Google เป็น Yahoo ระหว่างปี 2014-2017 แต่พบว่าผู้ใช้จำนวนมาก ไม่พอใจกับคุณภาพของ Yahoo และบางส่วนเลือก เปลี่ยนไปใช้เบราว์เซอร์อื่นแทน ✅ Mozilla พึ่งพารายได้จาก Google เป็นหลัก - รายได้กว่า 80% มาจากข้อตกลงกับ Google - หาก Google ถูกบังคับให้ยุติข้อตกลง Mozilla อาจต้อง ลดขนาดการดำเนินงาน ✅ ผลกระทบต่อ Firefox และ Gecko engine - Firefox ไม่มี ระบบปฏิบัติการหรืออุปกรณ์ของตัวเอง - Gecko เป็น browser engine เดียวที่แข่งขันกับ Chromium และ WebKit ✅ การทดลองใช้ Yahoo เป็นเครื่องมือค้นหา - Mozilla เปลี่ยนจาก Google เป็น Yahoo ระหว่างปี 2014-2017 - ผู้ใช้จำนวนมาก ไม่พอใจกับคุณภาพของ Yahoo และบางส่วน เปลี่ยนไปใช้เบราว์เซอร์อื่น ✅ ความกังวลเกี่ยวกับการแข่งขันในตลาดเบราว์เซอร์ - Mozilla ระบุว่า การบังคับให้ Google ยุติข้อตกลงอาจทำให้ Microsoft ได้เปรียบ - อาจส่งผลให้ ตลาดเบราว์เซอร์ถูกครอบงำโดยบริษัทใหญ่เพียงไม่กี่ราย https://www.neowin.net/news/senior-mozilla-exec-explains-how-firefox-dies-without-google-and-its-not-just-the-money/
    WWW.NEOWIN.NET
    Senior Mozilla exec explains how Firefox dies without Google and it's not just the money
    Things do not look too good for Mozilla. The Firefox browser maker has explained how a lack of Google funding can kill it, and it's not just due to the money.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 96 มุมมอง 0 รีวิว
  • อยาก และ รอ ให้ ลุงสนธิ พูดถึงเรื่องนี้ครับ...
    .
    หลายบทความของ พอล แชมเบอร์ มันชัดเจนมาก ไม่ต่างอะไรจากพวก ผู้นำทางจิตวิญญาณ ของ พวก 3 นิ้ว....
    .
    พอๆกับ ตาหัวเหน่ง ที่อยู่ ขอนแก่น ทำงาน 20 ปี ไม่มีเงินเดือน แต่รับเงินทุนจาก NED องค์กรมหาวายร้ายป่วนโลก...
    .
    แล้ว ใช่แก รึเปล่าที่ ชอบ พูดจา วกไปวนมา เฉี่ยวไปเฉี่ยวมา กับเรื่อง ปกครองตนเอง เอกราช ประชามติ แบ่งแยกดินแดน ทาง 3 จังหวัดชายแดนใต้ เข้าทางผลประโยชน์ กลุ่มกบฎก่อหารร้าย BRN...???
    .
    เคยดู จัดเสวนา ที่ มอ. พรรคการเมืองเอย อาจาร์ยฝรั่งเอย พูด...
    .
    สันติภาพ คือ ต้อง ยกแผ่นดิน ให้พวก กบฎแบ่งแยกดินแดน งั้นเหรอ...???
    .
    โจรกบฎ ฆ่าคน ทหารห้ามใช้อาวุธ ไม่งั้น จะถูกกล่าวหาว่าใช้ความรุนแรง...
    .
    กลับขาวเป็นดำ กลับดำเป็นขาวไปหมด...
    .
    ล้างสมองกันจน ประเทศวุ่นวายไปหมด คนรุ่นใหม่ ความรู้ควรจะอัพเกรด แทนที่จะฉลาด กับ มีแนวคิดพังๆป่วยๆ...
    อยาก และ รอ ให้ ลุงสนธิ พูดถึงเรื่องนี้ครับ... . หลายบทความของ พอล แชมเบอร์ มันชัดเจนมาก ไม่ต่างอะไรจากพวก ผู้นำทางจิตวิญญาณ ของ พวก 3 นิ้ว.... . พอๆกับ ตาหัวเหน่ง ที่อยู่ ขอนแก่น ทำงาน 20 ปี ไม่มีเงินเดือน แต่รับเงินทุนจาก NED องค์กรมหาวายร้ายป่วนโลก... . แล้ว ใช่แก รึเปล่าที่ ชอบ พูดจา วกไปวนมา เฉี่ยวไปเฉี่ยวมา กับเรื่อง ปกครองตนเอง เอกราช ประชามติ แบ่งแยกดินแดน ทาง 3 จังหวัดชายแดนใต้ เข้าทางผลประโยชน์ กลุ่มกบฎก่อหารร้าย BRN...??? . เคยดู จัดเสวนา ที่ มอ. พรรคการเมืองเอย อาจาร์ยฝรั่งเอย พูด... . สันติภาพ คือ ต้อง ยกแผ่นดิน ให้พวก กบฎแบ่งแยกดินแดน งั้นเหรอ...??? . โจรกบฎ ฆ่าคน ทหารห้ามใช้อาวุธ ไม่งั้น จะถูกกล่าวหาว่าใช้ความรุนแรง... . กลับขาวเป็นดำ กลับดำเป็นขาวไปหมด... . ล้างสมองกันจน ประเทศวุ่นวายไปหมด คนรุ่นใหม่ ความรู้ควรจะอัพเกรด แทนที่จะฉลาด กับ มีแนวคิดพังๆป่วยๆ...
    ม.นเรศวร สั่งเลิกจ้าง “พอล แชมเบอร์ส” เหตุถูกถอนวีซ่า แม้อยู่ระหว่างอุทธรณ์ ทำให้ขาดคุณสมบัติที่จะทำงานในประเทศไทย มีผลตั้งแต่ 9 เม.ย.68 ด้าน ตม.พิษณุโลกยึดพาสปอร์ตตามเงื่อนไขประกันตัวที่ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ แม้เพิ่งได้คืนหลังอัยการสั่งไม่ฟ้องคดี ม.112

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000041348

    #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 197 มุมมอง 0 รีวิว

  • ..นี้ก็ด้วย
    ..แผนสร้างความแตกแยก
    ..การจัดการที่ดีคือกรมแรงงานต้องจัดการ,เช่นนั้นจะส่งเสริมระบบการศึกษาทำไม.
    ..วุฒิการศึกษาใครบอกว่าไม่จำเป็น นี้การสร้างคุณค่ามนุษย์ในตัวด้วย มิใช่การแบ่งชั้นแบ่งสถานะ,แค่คือคุณค่าความพยายามของเขาที่ต่อสู้จนได้วุฒิการศึกษามา คุณภาพชีวิตเขาต้องอัพเกรดตามวุฒิถูกแล้ว,นี้คือการส่งเสริมคนให้ด้อยค่าตกต่ำลง,หรือล่อลวงคนเป็นทาสระบบง่ายด้วย ควบคุมชนชั้นแรงงานค่าทาส ไม่ยกระดับคนยกระดับจิตใจคนด้วย,กดราคาค่าจ้างแรงงานก็ด้วย วุฒิต่ำๆค่าจ้างถูกๆกิจการค้ากำไรเขามองทะลุอยู่แล้ว,สร้างวลีบิดเบือนด้วย ให้ค่าคนวุฒิไม่สูง ตีค่าคนวุฒิสูงด้อยค่าในตัวล่ะ,เรากำลังถูกหลอกให้หลงทางตามทุนโรงงานกิจการสร้าง,หน้าที่รัฐคืออย่านำเขาแรงงานต่างด้าวมาทำงานที่ไทย เมื่อโรงงานในไทยกล้าเปิดกิจการ คนไทยต้องได้รับจ้างก่อน วุฒิป.เอก วุฒิป.โท ป.ตรี ต้องได้ทำงานทุกๆคนไทยจนมาถึง ปวส.ปวช. ม.6 ม.3 ป.6 ครบทุกๆวุฒิ ทะเบียนคนจบวุฒิการศึกษาต้องมีในไทย ,สถานะการมีงานทำต้องมีในกรมแรงงานด้วย,พร้อมอัพเกรดวุฒิ&ทักษะฝีมือช่วยนักศึกษาประชาชนคนไทยให้เหมาะสมในอาชีพที่ต้องการทำ,โรงงานใดๆขาดวุฒิอะไรต้องงานคนงานแบบไหน กิจการนั้นต้องประสานมาที่กรมแรงงานทางตรงเพื่อจัดสรรคัดกรองคนตอบสนองคนงาน&บริหารจัดการภาคแรงงานระดับของชาติไทยให้สมดุลกันและช่วยคุ้มครองสถานะงานคนไทยเราได้ด้วย,มิใช้กิจการโรงงานมาลดดุลอำนาจ ลดค่าด้อยค่าวุฒิการศึกษาเรเวลใดๆลดหรือเพิ่มค่าให้แตกความสามัคคีกันในประเทศไทย,เช่นสายปกครองก็ผูกขาดสายปกครองแบบโรงเรียนทหารโรงเรียนตำรวจ จบมาผูกขาดสถานะชนชั้นปกครองขึ้นทำงานขึ้นดำรงตำแหน่งตามสายทำงานผูกขาดนั้นๆ ต่างจากประชาชนต้องดิ้นรนกันเองตามยาถากรรม,ส่วนสายปกครอง มีทั้งเส้นสายโควต้า&ระบบอุปถัมภพอีก เจ้าขุนมูลนายเชื้อตระกูลนั้นนี้วงศ์สกุลใครมันอีกส่งลูกหลานตนเข้ายึดครองดำรงไว้ซึ่งสถานะตนในอำนาจปกครองหน่วยงานนั้นๆก็ว่า ลูกหลานประชาชนตาสีตาสาน้อยคนนะจะหลุดเข้าระบบอำนาจตำแหน่งนี้ เครือญาติเครือวงศ์สกุลใครเป็นเจ้าของเดิมเก่าใหม่จึงยอมกันยาก,พะสาตำแหน่งงานราชการอื่นๆคนใครคนมันอีก,การสอบต่างๆสุดท้ายจริงๆคือกำแพงกีดกันประชาชนตาดำๆมิให้เข้าไปในวงจรอุบาทก์ตนนั้นล่ะขัดขวางการแดกประเทศผูกขาดความร่ำรวยมั่งคั่งก็ได้,อาทิ บ่อน้ำมัน บ่อทองคำ ประมูลงานหลวงงานรัฐต่างๆเมื่อสืบเชื้อสายความสัมพันธ์จริงๆมันผลประโยชน์ตกทอดลงตระกูลใครมันที่เป็นเส้นสายกันหมดแล้ว,
    ..วุฒิการศึกษาจริงๆสำคัญมาก ไม่ใช่พวกซื้อวุฒิมานะ พวกนี้กว่าจะจบการศึกษาเข้าเจอหลากหลายสถานะการณ์ คนดีก็เจอแบบดี คนชั่วก็เจอแบบชั่ว ทั้งคนดีคนชั่วเจอทั้งแบบดีแบบชั่ว คนสร้างเป็นคนเป็นมนุษย์ออกมา สร้างคุณภาพคนขึ้นผ่านการศึกษาที่ดี ครูดี สำนักดี ก็ออกมาดี สุดท้ายชาติก็ดีแข็งแกร่งด้วยคนดีการศึกษาดีแยกดีเลวชั่วออกจากคุณภาพการศึกษาที่เพาะตนออกมาสู่สังคมชาติชุมชนตน,
    ..การศึกษาแม้จริงไม่ต้องมีวุฒิค้ำประกัน,แต่มันคือสมมุติที่ต้องเบิกทางเริ่มต้นก่อน,ส่วนทักษะชำนาญชีพใดๆก็จากการรู้ผิดถูกที่ศึกษาจริงผ่านมานั้นเอง,เขาจะเริ่มประยุกต์ปรับปรุงเองล่ะ,จึงเป็นเกณฑ์ขั้นต้นที่ดี,ส่วนเข้าไปแล้ว เจ้าของกิจการก็คนปกติธรรมดานี้ล่ะเพียงมีตังมากกว่าเท่านั้น,จะจ้างอัพเงินเดือนเพิ่มหรือลดก็สิทธิ์คนจ้าง,ชอบไม่ชอบใครก็ไม่จ้างแค่นั้น,แต่วุฒิการศึกษาไม่ใช่หน้าที่คนจ้างจะไปลดค่าด้อยค่าคุณวุฒิเขา หรือกิจการนั้นๆก็ด้วย,และการจ้างงานทั้งหมด กรมแรงงานต้องควบคุมกิจการบริษัททั้งหมดที่เปิดทำการในประเทศไทย,จำนวนคนงาน แรงงานที่ต้องการก่อนสร้างโรงงาน กิจการนั้นๆมุ่งการรับรู้แล้วต้องส่งหนังสือตรงถึงกรมแรงงานและต้องการกำลังคนแรงงานเท่าใดมากน้อยขนาดไหน วุฒิอะไรออกมา,แล้วกรมแรงงานจึงตอบกลับไปว่าจะจัดสรรหาให้สนองตอบครบแบบใด,มีเป้าหมายวางแผนแบบใดๆโดยมุ่งเน้นว่าทุกๆวุฒิการศึกษาที่ทุกๆคนไทยเล่าเรียนมาต้องมีสถานะได้งานทำก่อนอันดับแรกมิใช่ต่างชาติต่างด้าวได้งานมำก่อนคนไทยจนคนไทยตกงาน,ถ้าโรงงานต้องการแรงงานถูกค่าจ้างต่ำๆก็ยกเลิกใบอนุญาตประกอบกิจการใดๆที่ออกให้ไปหากไม่รับแรงงานคนไทยก่อนที่กรมแรงงานส่งคนงานตรงให้ไป,ก็ให้ไปสร้างโรงงานสร้างกิจการที่ประเทศแรงงานต่ำแรงงานถูกๆที่คนต่างด้าวนั้นอยู่ในประเทศเขาแทนอย่ามาตั้งโรงงานบนแผ่นดินไทยหากต้องการแรงงานต่างด้าวหรือแรงงานจากประเทศตนที่ย้ายมาตั้งในไทย แบบจีนแบบพม่า โรงงานนั้นในบนแผ่นดินไทยเต็มไปด้วยแรงงานพม่าเขมร,โรงงานจีนก็เต็มไปด้วยคนจีน,บริษัทอยู่ในไทยแต่คนงานคือแรงงานต่างด้าวเต็มโรงงาน,คนไทยถูกด้อยค่าทัังค่าจ้างทั้งไม่เอาวุฒิที่สูง จบสูงเพราะค่าแรงแพงจ้างไม่ไหว,นี้ไม่ใช่ปัญหาประเทศไทยคนงานไทยวุฒิการศึกษาไทย แต่คือปัญหากิจการนั้นๆจะกดขี่คุณภาพแรงงานคนไทย วุฒิการศึกษาไทย,และหน่วยงานรัฐเราสามารถกำหนดการจ้างงานได้,เช่นชำแหละไก่ โรงงานทั่วประเทศรับขึ้นต่ำวุฒิป.ตรีเท่านั้นเป็นต้น.ส่วน ม.6 ม.3 ปวช. ปวส.รัฐจะบริหารจัดสรรจัดหาจัดการเอง ควบคุมเอง,นั้นคือรัฐค้ำประกันการมีงานทำจริงของคนวุฒิที่ว่า อาจทำงานในภาคหน่วยงานรัฐเองที่กระจายอยู่เต็มประเทศ นอกจากวุฒิป.ตรี โท เอก ที่สอบเข้าราชการได้ปกติอยู่แล้ว คนวุฒินี้จะมีภูมิป้องกันตนเอง ไร้กดขี่แรงงานง่ายๆด้วยภายในประเทศไทยเรา ต่างจากวุฒิป.6 ม.3 ม.6 ปวช.หรือปวส. การกดขี่ค่าจ้างค่าแรงจากเอกชนย่อมเสี่ยงสูงกว่าทั้งอ้างว่าเอกชนสามารถจ้างใช้แรงงานได้ในราคาต่ำราคาถูกนั้นเอง,ภาวะตกงานภายในประเทศจะสิ้นสุดทันที นอกจากห้ามนำเข้าแรงงานต่างด้าวมาทำงานก่อนแรงงานคนไทยที่ต้องได้งานทำจนครบคนไทยจริงก่อน,ขาดจริงจึงกรมแรงงานอนุญาตนำเข้าแรงงานต่างชาติต่างด้าวมาทดแทนแรงงานคนไทยที่ขาดไปด้วย,กรมแรงงานหรือรัฐบาลเราบริหารจัดการผิดพลาดตั้งแต่เริ่มต้น และตั้งแต่สถานศึกษาผลิตคนด้วยจนถึงกระบวนการสร้างคนเพื่อมุ่งสัมมาอาชีพต่างๆออกคืนสู่สังคมใหญ่ภาพรวมระดับประเทศ,เราจะเห็นตัวเลขแรงงานที่ตกงานทั้งหมดได้ชัด เห็นตัวเลขที่คนไทยได้งานได้จริง,เห็นสถานะการเงินความมั่นคงทางสัมมาอาชีพคนไทยได้ทั่วถึงและพร้อมเข้าช่วยเหลือคนไทยนั้นๆที่อยู่ในสถานะที่ผิดปกติไปเช่นตกงานขาดรายได้ อาชีพนั้นไม่เหมาะกับสุขภาพร่างกายแก่งานที่ทำปัจจุบัน สลับปรับเปลี่ยนให้คนไทยทุกๆคนยืนด้วยขาตนเองได้จริง พึ่งพาตนเองได้แท้,จนถึงขั้นหนึ่งที่สามารถเป็นเจ้าของจ้างตนเองทำงานเองมีรายได้เองมั่นคงในอาชีพตนที่แสวงหาจะเป็น อาทิคนเกษตรผสมผสานพอเพียง สร้างรายได้เข้าบ้านจากสวนจานาจากที่ดินตนเองอาจกว่าเดือนละแสนบาทต่อเดือนเป็นต้นในพื้นที่ไม่กี่ไร่ของตนเอง ,หรือออกจากโรงงานบริษัทกิจการต่างๆมาทำสัมมาอาชีพตนเองค้าขายเปิดร้านทั่วไปขายอาหารเครื่องใช้ใดๆขายแผงปลาแผงผักผลไม้ทุเรียนรายได้กว่าล้านบาทต่อปีก็สามารถทำได้ นั้นคือกรมแรงงานมิใช่ส่งเสริมแรงงานทักษาอาชีพ ยังสนับสนุนเงินทุนสร้างอาชีพด้วย มิใช่แสวงหาประโยชน์แบบแบงค์ปล่อยเงินกู้สร้างอาชีพ เป็นหนี้เป็นงูกินหางมิสามารถหลุดพ้นอิสระภาพได้.
    ..วุฒิการศึกษาคือการยกระดับจิตใจยกคุณค่าของชีวิตและคุณค่ามนุษย์ความเป็นคนเป็นมนุษย์ได้ ,มีนัยยะดีๆมากมายจากการกว่าจะมาแห่งวุฒิการศึกษานั้นๆของใครมัน,และนี้คือเป้าหมายการทำลายคุณค่าคนคุณค่ามนุษย์ด้อยค่าคนด้อยค่ามนุษย์ในอนาคตด้วยนำหุ่นยนต์AIเข้ามาทดแทนคนงานแรงงานคนแรงงานมนุษย์ในอนาคต,จึงทำลายวลีวุฒิการศึกษาก่อน ด้อยค่าวุฒิการศึกษาก่อน,เสมือนทำลายอะไรง่ายๆต่อไปอย่างสบายๆในอนาคตต่อคุณค่ามนุษย์ โรงงานมากมายจะทดแทนด้วยหุ่นยนต์หรือAIมากมายหลากหลายสไตล์,วุฒิการศึกษาจึงเป็นการยกเรเวลคุณค่ามนุษย์ในสายสัมพันธุ์ความเป็นมนุษย์ในตัว,เมื่อแต่ละกิจการโรงงานทำสำเร็จ ด้อยค่าใช้วุฒิที่จ้างงานราคาต่ำราคาถูกสำเร็จ แผนการนำเข้าหุ่นยนต์ทดแทนแรงงานถูกในโรงงานต่างๆบริษัทกิจการต่างๆที่ด้อยค่าจะสำเร็จโดยง่าย.แล้วเราจะใช้สมมุติอะไรดูสถานะคุณค่ามนุษย์เป็นพื้นฐาน แล้วเราจะส่งลูกหลานเล่าเรียนไปทำซากอะไร,การปกครองด้วยจะมีไว้ให้คนอื่นตีตรากฎหมายออกมาปกครองเราทำไมตลอดเวลา,ตลอดอนาคตอันใกล้AIมันก็เขียนกฎหมายตีตราออกมาบังคับผู้คนได้แล้วโดยง่ายๆด้วย.,นั้นยิ่งตอกย้ำว่าคุณค่าความเป็นมนุษย์ของคนไทยและทั้งโลกจะถูกปกครองด้วยAIหุ่นยนต์แล้วใช่หรือไม่.ทั้งมันจะฝังชิปใส่สมองมนุษย์อีกล่ะ ต่อไปไม่ต้องไปโรงเรียนเอาวุฒิล่ะ อยากรู้อะไรโหลดเข้าสมองเลย กึ่งมนุษย์กึ่งหุ่นยนต์ล่ะ,และอนาคตชัดเจนว่า สงครามหุ่นยนต์เกิดขึ้นแน่นอน,หนักกว่าสงครามสมัยถือมีดถือดาบหรือระเบิดๆแบบปัจจุบันอีก,โลกนี้อาจถือทำลายภายในพลิกตาก็ว่า.ดังนั้นจึงจรรโลงคุณค่าสถานะสมมุติการบ่งบอกการมีตังตนของคุณค่ามนุษย์แบบเราๆในยุคเวลาเรานี้เถอะ อีก100ปี อีก2-3พันปีนับจากนี้คงอีกเรื่องแล้ว,วิถีสัมมาขีวิตแบบพอดีพอดีเพียงพอและพอเพียงจึงสมสถานะคนไทยเรามาก,เราต้องสร้างชาติไทยเราเอง มิใช่แรงงานต่างด้าวบริษัทต่างชาติที่ถือหุ้นในรูปบริษัทต่างๆที่ตั้งบนแผ่นดินไทยเรามาสร้างชาติให้คนไทยเราเองนะ,ก็บริษัทพวกนี้ล่ะเหี้ยๆทั้งนั้นเกิดขึ้นมา ดูราคาน้ำมันสิแพงๆมั้ย ยุบ&ถีบบริษัทนี้ออกจากแผ่นดินไทยสิ ราคาน้ำมันคืนเป็นของคนไทยเลย ขายราคาต่ำๆแบยอิหร่านลิตรละ1-2บาทก็ได้,รถยนต์ค่าขนส่งไปมาไหนๆจะไม่แพง ต้นทุนฐานจะต่ำ แข่งขันจะเป็นเชิงบวกแก่คนไทยที่ค้าขายกับต่างชาติ,ระดับจิตใจผู้คนทั้งชาติจะเย็นเลยล่ะ.ไม่ดิ้นรนบ้าคลั่งใช้หนี้สาระพัดใช้จ่ายในภาระต่างๆจนแทบตายก็ยังไม่พอก็ว่าในแบบปัจจุบันซึ่งโลกก็โคตรเศรษฐกิจพังปกติอยู่แล้ว,

    ..เราต้องรีเซ็ตใหม่จริงๆ วัตถุดิบสมบัติชาติแบบทรัพยากรมีค่ามากมายต้องได้คืนมาจริงด้วย,มิใช่ยังถูกปล้นชิงแบบในปัจจุบัน ยึดอำนาจกว่าสิบครั้งเสียของหมด,บ่อน้ำมันบ่อทองคำไม่เคยได้คืนมาเลย,ขุดเจาะดูดกลั่นขายเองก็ได้ ทองคำก็ขุดเข้าคลังสำรองประเทศไปสิ เสือกยกให้คนอื่น เหี้ยจริงๆ.

    https://youtube.com/shorts/np7PPSH7bKc?si=GdvFcFFOIUM3X4Y5

    ..นี้ก็ด้วย ..แผนสร้างความแตกแยก ..การจัดการที่ดีคือกรมแรงงานต้องจัดการ,เช่นนั้นจะส่งเสริมระบบการศึกษาทำไม. ..วุฒิการศึกษาใครบอกว่าไม่จำเป็น นี้การสร้างคุณค่ามนุษย์ในตัวด้วย มิใช่การแบ่งชั้นแบ่งสถานะ,แค่คือคุณค่าความพยายามของเขาที่ต่อสู้จนได้วุฒิการศึกษามา คุณภาพชีวิตเขาต้องอัพเกรดตามวุฒิถูกแล้ว,นี้คือการส่งเสริมคนให้ด้อยค่าตกต่ำลง,หรือล่อลวงคนเป็นทาสระบบง่ายด้วย ควบคุมชนชั้นแรงงานค่าทาส ไม่ยกระดับคนยกระดับจิตใจคนด้วย,กดราคาค่าจ้างแรงงานก็ด้วย วุฒิต่ำๆค่าจ้างถูกๆกิจการค้ากำไรเขามองทะลุอยู่แล้ว,สร้างวลีบิดเบือนด้วย ให้ค่าคนวุฒิไม่สูง ตีค่าคนวุฒิสูงด้อยค่าในตัวล่ะ,เรากำลังถูกหลอกให้หลงทางตามทุนโรงงานกิจการสร้าง,หน้าที่รัฐคืออย่านำเขาแรงงานต่างด้าวมาทำงานที่ไทย เมื่อโรงงานในไทยกล้าเปิดกิจการ คนไทยต้องได้รับจ้างก่อน วุฒิป.เอก วุฒิป.โท ป.ตรี ต้องได้ทำงานทุกๆคนไทยจนมาถึง ปวส.ปวช. ม.6 ม.3 ป.6 ครบทุกๆวุฒิ ทะเบียนคนจบวุฒิการศึกษาต้องมีในไทย ,สถานะการมีงานทำต้องมีในกรมแรงงานด้วย,พร้อมอัพเกรดวุฒิ&ทักษะฝีมือช่วยนักศึกษาประชาชนคนไทยให้เหมาะสมในอาชีพที่ต้องการทำ,โรงงานใดๆขาดวุฒิอะไรต้องงานคนงานแบบไหน กิจการนั้นต้องประสานมาที่กรมแรงงานทางตรงเพื่อจัดสรรคัดกรองคนตอบสนองคนงาน&บริหารจัดการภาคแรงงานระดับของชาติไทยให้สมดุลกันและช่วยคุ้มครองสถานะงานคนไทยเราได้ด้วย,มิใช้กิจการโรงงานมาลดดุลอำนาจ ลดค่าด้อยค่าวุฒิการศึกษาเรเวลใดๆลดหรือเพิ่มค่าให้แตกความสามัคคีกันในประเทศไทย,เช่นสายปกครองก็ผูกขาดสายปกครองแบบโรงเรียนทหารโรงเรียนตำรวจ จบมาผูกขาดสถานะชนชั้นปกครองขึ้นทำงานขึ้นดำรงตำแหน่งตามสายทำงานผูกขาดนั้นๆ ต่างจากประชาชนต้องดิ้นรนกันเองตามยาถากรรม,ส่วนสายปกครอง มีทั้งเส้นสายโควต้า&ระบบอุปถัมภพอีก เจ้าขุนมูลนายเชื้อตระกูลนั้นนี้วงศ์สกุลใครมันอีกส่งลูกหลานตนเข้ายึดครองดำรงไว้ซึ่งสถานะตนในอำนาจปกครองหน่วยงานนั้นๆก็ว่า ลูกหลานประชาชนตาสีตาสาน้อยคนนะจะหลุดเข้าระบบอำนาจตำแหน่งนี้ เครือญาติเครือวงศ์สกุลใครเป็นเจ้าของเดิมเก่าใหม่จึงยอมกันยาก,พะสาตำแหน่งงานราชการอื่นๆคนใครคนมันอีก,การสอบต่างๆสุดท้ายจริงๆคือกำแพงกีดกันประชาชนตาดำๆมิให้เข้าไปในวงจรอุบาทก์ตนนั้นล่ะขัดขวางการแดกประเทศผูกขาดความร่ำรวยมั่งคั่งก็ได้,อาทิ บ่อน้ำมัน บ่อทองคำ ประมูลงานหลวงงานรัฐต่างๆเมื่อสืบเชื้อสายความสัมพันธ์จริงๆมันผลประโยชน์ตกทอดลงตระกูลใครมันที่เป็นเส้นสายกันหมดแล้ว, ..วุฒิการศึกษาจริงๆสำคัญมาก ไม่ใช่พวกซื้อวุฒิมานะ พวกนี้กว่าจะจบการศึกษาเข้าเจอหลากหลายสถานะการณ์ คนดีก็เจอแบบดี คนชั่วก็เจอแบบชั่ว ทั้งคนดีคนชั่วเจอทั้งแบบดีแบบชั่ว คนสร้างเป็นคนเป็นมนุษย์ออกมา สร้างคุณภาพคนขึ้นผ่านการศึกษาที่ดี ครูดี สำนักดี ก็ออกมาดี สุดท้ายชาติก็ดีแข็งแกร่งด้วยคนดีการศึกษาดีแยกดีเลวชั่วออกจากคุณภาพการศึกษาที่เพาะตนออกมาสู่สังคมชาติชุมชนตน, ..การศึกษาแม้จริงไม่ต้องมีวุฒิค้ำประกัน,แต่มันคือสมมุติที่ต้องเบิกทางเริ่มต้นก่อน,ส่วนทักษะชำนาญชีพใดๆก็จากการรู้ผิดถูกที่ศึกษาจริงผ่านมานั้นเอง,เขาจะเริ่มประยุกต์ปรับปรุงเองล่ะ,จึงเป็นเกณฑ์ขั้นต้นที่ดี,ส่วนเข้าไปแล้ว เจ้าของกิจการก็คนปกติธรรมดานี้ล่ะเพียงมีตังมากกว่าเท่านั้น,จะจ้างอัพเงินเดือนเพิ่มหรือลดก็สิทธิ์คนจ้าง,ชอบไม่ชอบใครก็ไม่จ้างแค่นั้น,แต่วุฒิการศึกษาไม่ใช่หน้าที่คนจ้างจะไปลดค่าด้อยค่าคุณวุฒิเขา หรือกิจการนั้นๆก็ด้วย,และการจ้างงานทั้งหมด กรมแรงงานต้องควบคุมกิจการบริษัททั้งหมดที่เปิดทำการในประเทศไทย,จำนวนคนงาน แรงงานที่ต้องการก่อนสร้างโรงงาน กิจการนั้นๆมุ่งการรับรู้แล้วต้องส่งหนังสือตรงถึงกรมแรงงานและต้องการกำลังคนแรงงานเท่าใดมากน้อยขนาดไหน วุฒิอะไรออกมา,แล้วกรมแรงงานจึงตอบกลับไปว่าจะจัดสรรหาให้สนองตอบครบแบบใด,มีเป้าหมายวางแผนแบบใดๆโดยมุ่งเน้นว่าทุกๆวุฒิการศึกษาที่ทุกๆคนไทยเล่าเรียนมาต้องมีสถานะได้งานทำก่อนอันดับแรกมิใช่ต่างชาติต่างด้าวได้งานมำก่อนคนไทยจนคนไทยตกงาน,ถ้าโรงงานต้องการแรงงานถูกค่าจ้างต่ำๆก็ยกเลิกใบอนุญาตประกอบกิจการใดๆที่ออกให้ไปหากไม่รับแรงงานคนไทยก่อนที่กรมแรงงานส่งคนงานตรงให้ไป,ก็ให้ไปสร้างโรงงานสร้างกิจการที่ประเทศแรงงานต่ำแรงงานถูกๆที่คนต่างด้าวนั้นอยู่ในประเทศเขาแทนอย่ามาตั้งโรงงานบนแผ่นดินไทยหากต้องการแรงงานต่างด้าวหรือแรงงานจากประเทศตนที่ย้ายมาตั้งในไทย แบบจีนแบบพม่า โรงงานนั้นในบนแผ่นดินไทยเต็มไปด้วยแรงงานพม่าเขมร,โรงงานจีนก็เต็มไปด้วยคนจีน,บริษัทอยู่ในไทยแต่คนงานคือแรงงานต่างด้าวเต็มโรงงาน,คนไทยถูกด้อยค่าทัังค่าจ้างทั้งไม่เอาวุฒิที่สูง จบสูงเพราะค่าแรงแพงจ้างไม่ไหว,นี้ไม่ใช่ปัญหาประเทศไทยคนงานไทยวุฒิการศึกษาไทย แต่คือปัญหากิจการนั้นๆจะกดขี่คุณภาพแรงงานคนไทย วุฒิการศึกษาไทย,และหน่วยงานรัฐเราสามารถกำหนดการจ้างงานได้,เช่นชำแหละไก่ โรงงานทั่วประเทศรับขึ้นต่ำวุฒิป.ตรีเท่านั้นเป็นต้น.ส่วน ม.6 ม.3 ปวช. ปวส.รัฐจะบริหารจัดสรรจัดหาจัดการเอง ควบคุมเอง,นั้นคือรัฐค้ำประกันการมีงานทำจริงของคนวุฒิที่ว่า อาจทำงานในภาคหน่วยงานรัฐเองที่กระจายอยู่เต็มประเทศ นอกจากวุฒิป.ตรี โท เอก ที่สอบเข้าราชการได้ปกติอยู่แล้ว คนวุฒินี้จะมีภูมิป้องกันตนเอง ไร้กดขี่แรงงานง่ายๆด้วยภายในประเทศไทยเรา ต่างจากวุฒิป.6 ม.3 ม.6 ปวช.หรือปวส. การกดขี่ค่าจ้างค่าแรงจากเอกชนย่อมเสี่ยงสูงกว่าทั้งอ้างว่าเอกชนสามารถจ้างใช้แรงงานได้ในราคาต่ำราคาถูกนั้นเอง,ภาวะตกงานภายในประเทศจะสิ้นสุดทันที นอกจากห้ามนำเข้าแรงงานต่างด้าวมาทำงานก่อนแรงงานคนไทยที่ต้องได้งานทำจนครบคนไทยจริงก่อน,ขาดจริงจึงกรมแรงงานอนุญาตนำเข้าแรงงานต่างชาติต่างด้าวมาทดแทนแรงงานคนไทยที่ขาดไปด้วย,กรมแรงงานหรือรัฐบาลเราบริหารจัดการผิดพลาดตั้งแต่เริ่มต้น และตั้งแต่สถานศึกษาผลิตคนด้วยจนถึงกระบวนการสร้างคนเพื่อมุ่งสัมมาอาชีพต่างๆออกคืนสู่สังคมใหญ่ภาพรวมระดับประเทศ,เราจะเห็นตัวเลขแรงงานที่ตกงานทั้งหมดได้ชัด เห็นตัวเลขที่คนไทยได้งานได้จริง,เห็นสถานะการเงินความมั่นคงทางสัมมาอาชีพคนไทยได้ทั่วถึงและพร้อมเข้าช่วยเหลือคนไทยนั้นๆที่อยู่ในสถานะที่ผิดปกติไปเช่นตกงานขาดรายได้ อาชีพนั้นไม่เหมาะกับสุขภาพร่างกายแก่งานที่ทำปัจจุบัน สลับปรับเปลี่ยนให้คนไทยทุกๆคนยืนด้วยขาตนเองได้จริง พึ่งพาตนเองได้แท้,จนถึงขั้นหนึ่งที่สามารถเป็นเจ้าของจ้างตนเองทำงานเองมีรายได้เองมั่นคงในอาชีพตนที่แสวงหาจะเป็น อาทิคนเกษตรผสมผสานพอเพียง สร้างรายได้เข้าบ้านจากสวนจานาจากที่ดินตนเองอาจกว่าเดือนละแสนบาทต่อเดือนเป็นต้นในพื้นที่ไม่กี่ไร่ของตนเอง ,หรือออกจากโรงงานบริษัทกิจการต่างๆมาทำสัมมาอาชีพตนเองค้าขายเปิดร้านทั่วไปขายอาหารเครื่องใช้ใดๆขายแผงปลาแผงผักผลไม้ทุเรียนรายได้กว่าล้านบาทต่อปีก็สามารถทำได้ นั้นคือกรมแรงงานมิใช่ส่งเสริมแรงงานทักษาอาชีพ ยังสนับสนุนเงินทุนสร้างอาชีพด้วย มิใช่แสวงหาประโยชน์แบบแบงค์ปล่อยเงินกู้สร้างอาชีพ เป็นหนี้เป็นงูกินหางมิสามารถหลุดพ้นอิสระภาพได้. ..วุฒิการศึกษาคือการยกระดับจิตใจยกคุณค่าของชีวิตและคุณค่ามนุษย์ความเป็นคนเป็นมนุษย์ได้ ,มีนัยยะดีๆมากมายจากการกว่าจะมาแห่งวุฒิการศึกษานั้นๆของใครมัน,และนี้คือเป้าหมายการทำลายคุณค่าคนคุณค่ามนุษย์ด้อยค่าคนด้อยค่ามนุษย์ในอนาคตด้วยนำหุ่นยนต์AIเข้ามาทดแทนคนงานแรงงานคนแรงงานมนุษย์ในอนาคต,จึงทำลายวลีวุฒิการศึกษาก่อน ด้อยค่าวุฒิการศึกษาก่อน,เสมือนทำลายอะไรง่ายๆต่อไปอย่างสบายๆในอนาคตต่อคุณค่ามนุษย์ โรงงานมากมายจะทดแทนด้วยหุ่นยนต์หรือAIมากมายหลากหลายสไตล์,วุฒิการศึกษาจึงเป็นการยกเรเวลคุณค่ามนุษย์ในสายสัมพันธุ์ความเป็นมนุษย์ในตัว,เมื่อแต่ละกิจการโรงงานทำสำเร็จ ด้อยค่าใช้วุฒิที่จ้างงานราคาต่ำราคาถูกสำเร็จ แผนการนำเข้าหุ่นยนต์ทดแทนแรงงานถูกในโรงงานต่างๆบริษัทกิจการต่างๆที่ด้อยค่าจะสำเร็จโดยง่าย.แล้วเราจะใช้สมมุติอะไรดูสถานะคุณค่ามนุษย์เป็นพื้นฐาน แล้วเราจะส่งลูกหลานเล่าเรียนไปทำซากอะไร,การปกครองด้วยจะมีไว้ให้คนอื่นตีตรากฎหมายออกมาปกครองเราทำไมตลอดเวลา,ตลอดอนาคตอันใกล้AIมันก็เขียนกฎหมายตีตราออกมาบังคับผู้คนได้แล้วโดยง่ายๆด้วย.,นั้นยิ่งตอกย้ำว่าคุณค่าความเป็นมนุษย์ของคนไทยและทั้งโลกจะถูกปกครองด้วยAIหุ่นยนต์แล้วใช่หรือไม่.ทั้งมันจะฝังชิปใส่สมองมนุษย์อีกล่ะ ต่อไปไม่ต้องไปโรงเรียนเอาวุฒิล่ะ อยากรู้อะไรโหลดเข้าสมองเลย กึ่งมนุษย์กึ่งหุ่นยนต์ล่ะ,และอนาคตชัดเจนว่า สงครามหุ่นยนต์เกิดขึ้นแน่นอน,หนักกว่าสงครามสมัยถือมีดถือดาบหรือระเบิดๆแบบปัจจุบันอีก,โลกนี้อาจถือทำลายภายในพลิกตาก็ว่า.ดังนั้นจึงจรรโลงคุณค่าสถานะสมมุติการบ่งบอกการมีตังตนของคุณค่ามนุษย์แบบเราๆในยุคเวลาเรานี้เถอะ อีก100ปี อีก2-3พันปีนับจากนี้คงอีกเรื่องแล้ว,วิถีสัมมาขีวิตแบบพอดีพอดีเพียงพอและพอเพียงจึงสมสถานะคนไทยเรามาก,เราต้องสร้างชาติไทยเราเอง มิใช่แรงงานต่างด้าวบริษัทต่างชาติที่ถือหุ้นในรูปบริษัทต่างๆที่ตั้งบนแผ่นดินไทยเรามาสร้างชาติให้คนไทยเราเองนะ,ก็บริษัทพวกนี้ล่ะเหี้ยๆทั้งนั้นเกิดขึ้นมา ดูราคาน้ำมันสิแพงๆมั้ย ยุบ&ถีบบริษัทนี้ออกจากแผ่นดินไทยสิ ราคาน้ำมันคืนเป็นของคนไทยเลย ขายราคาต่ำๆแบยอิหร่านลิตรละ1-2บาทก็ได้,รถยนต์ค่าขนส่งไปมาไหนๆจะไม่แพง ต้นทุนฐานจะต่ำ แข่งขันจะเป็นเชิงบวกแก่คนไทยที่ค้าขายกับต่างชาติ,ระดับจิตใจผู้คนทั้งชาติจะเย็นเลยล่ะ.ไม่ดิ้นรนบ้าคลั่งใช้หนี้สาระพัดใช้จ่ายในภาระต่างๆจนแทบตายก็ยังไม่พอก็ว่าในแบบปัจจุบันซึ่งโลกก็โคตรเศรษฐกิจพังปกติอยู่แล้ว, ..เราต้องรีเซ็ตใหม่จริงๆ วัตถุดิบสมบัติชาติแบบทรัพยากรมีค่ามากมายต้องได้คืนมาจริงด้วย,มิใช่ยังถูกปล้นชิงแบบในปัจจุบัน ยึดอำนาจกว่าสิบครั้งเสียของหมด,บ่อน้ำมันบ่อทองคำไม่เคยได้คืนมาเลย,ขุดเจาะดูดกลั่นขายเองก็ได้ ทองคำก็ขุดเข้าคลังสำรองประเทศไปสิ เสือกยกให้คนอื่น เหี้ยจริงๆ. https://youtube.com/shorts/np7PPSH7bKc?si=GdvFcFFOIUM3X4Y5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 573 มุมมอง 0 รีวิว
  • Match Group ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของแพลตฟอร์มหาคู่ชื่อดัง เช่น Tinder, Hinge และ OkCupid ได้บรรลุข้อตกลงกับ Anson Funds ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นที่เคยเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างบริหารของบริษัท โดยข้อตกลงนี้รวมถึงการแต่งตั้ง Kelly Campbell อดีตประธานของ NBCUniversal Peacock เป็นกรรมการบริษัท และการเปลี่ยนแปลงนโยบายให้กรรมการทุกคนต้องเข้ารับการเลือกตั้งใหม่ทุกปี

    Anson Funds ซึ่งถือหุ้นประมาณ 0.6% ของ Match Group ได้ผลักดันให้มีการเลือกตั้งกรรมการใหม่สามคนเพื่อปรับปรุงโครงสร้างบริหารที่พวกเขามองว่า ล้าสมัยและขาดความโปร่งใส อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงที่เกิดขึ้นช่วยให้ทั้งสองฝ่ายสามารถหาทางออกที่ไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้งรุนแรง และอาจนำไปสู่การปรับปรุงกลยุทธ์ทางธุรกิจ เช่น การจัดสรรเงินทุนใหม่ การลดต้นทุน และการพิจารณาทิศทางของธุรกิจ MG Asia

    Match Group ประสบปัญหาหุ้นตกลงเกือบ 70% ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ผู้ถือหุ้นต้องการการเปลี่ยนแปลง

    ✅ การแต่งตั้งกรรมการใหม่
    - Kelly Campbell อดีตประธานของ NBCUniversal Peacock ได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการบริษัท
    - Alan Spoon ซึ่งเป็นกรรมการเดิมจะไม่เข้ารับการเลือกตั้งใหม่

    ✅ การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างบริหาร
    - กรรมการทุกคนต้องเข้ารับการเลือกตั้งใหม่ทุกปี
    - ลดความขัดแย้งระหว่างผู้ถือหุ้นและบริษัท

    ✅ ผลกระทบต่อกลยุทธ์ทางธุรกิจ
    - อาจมีการปรับปรุงการจัดสรรเงินทุนและการลดต้นทุน
    - พิจารณาทิศทางของธุรกิจ MG Asia

    ✅ สถานการณ์หุ้นของ Match Group
    - หุ้นของบริษัทลดลงเกือบ 70% ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/29/match-settles-dispute-with-anson-funds-adds-new-director-to-board
    Match Group ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของแพลตฟอร์มหาคู่ชื่อดัง เช่น Tinder, Hinge และ OkCupid ได้บรรลุข้อตกลงกับ Anson Funds ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นที่เคยเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างบริหารของบริษัท โดยข้อตกลงนี้รวมถึงการแต่งตั้ง Kelly Campbell อดีตประธานของ NBCUniversal Peacock เป็นกรรมการบริษัท และการเปลี่ยนแปลงนโยบายให้กรรมการทุกคนต้องเข้ารับการเลือกตั้งใหม่ทุกปี Anson Funds ซึ่งถือหุ้นประมาณ 0.6% ของ Match Group ได้ผลักดันให้มีการเลือกตั้งกรรมการใหม่สามคนเพื่อปรับปรุงโครงสร้างบริหารที่พวกเขามองว่า ล้าสมัยและขาดความโปร่งใส อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงที่เกิดขึ้นช่วยให้ทั้งสองฝ่ายสามารถหาทางออกที่ไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้งรุนแรง และอาจนำไปสู่การปรับปรุงกลยุทธ์ทางธุรกิจ เช่น การจัดสรรเงินทุนใหม่ การลดต้นทุน และการพิจารณาทิศทางของธุรกิจ MG Asia Match Group ประสบปัญหาหุ้นตกลงเกือบ 70% ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ผู้ถือหุ้นต้องการการเปลี่ยนแปลง ✅ การแต่งตั้งกรรมการใหม่ - Kelly Campbell อดีตประธานของ NBCUniversal Peacock ได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการบริษัท - Alan Spoon ซึ่งเป็นกรรมการเดิมจะไม่เข้ารับการเลือกตั้งใหม่ ✅ การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างบริหาร - กรรมการทุกคนต้องเข้ารับการเลือกตั้งใหม่ทุกปี - ลดความขัดแย้งระหว่างผู้ถือหุ้นและบริษัท ✅ ผลกระทบต่อกลยุทธ์ทางธุรกิจ - อาจมีการปรับปรุงการจัดสรรเงินทุนและการลดต้นทุน - พิจารณาทิศทางของธุรกิจ MG Asia ✅ สถานการณ์หุ้นของ Match Group - หุ้นของบริษัทลดลงเกือบ 70% ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/29/match-settles-dispute-with-anson-funds-adds-new-director-to-board
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Match settles dispute with Anson Funds, adds new director to board
    (Reuters) - Online dating company Match Group will add a consumer-technology executive to its board and lay the groundwork for all directors to stand for election annually, ending a dispute with shareholder Anson Funds.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 213 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..อันตรายมากยุคนี้,แม้แต่รัฐบาลก็ต้องพิจารณา&คิดมากๆ.
    ..ช่วงเวลานี้ใครจะยืมตัง&กู้เงิน ระวังโคตรๆนั้นดี,ยิ่งเห็นภาคเกษตรเร่งรีบให้คนเกษตรเป็นหนี้ในหลายๆระดับชั้นยิ่งน่าสงสัยมาก,นัยยะแฝงตรึมแน่นอน,ผลเป้าหมายสุดท้ายคือคนไทยจะไม่ใช่เจ้าของที่ดินตนเองอีกต่อไป,ใช้หนี้ตังด้วยการถูกยึดที่ดินที่อยู่อาศัยนั้นล่ะ,ดิ้นรนหาตังมาใช้นี้แบบมุกทาสคนเกษตรแทนคนกินเงินเดือนอีกมุม,จากชีวิตปกติไม่ดิ้นรนมากนัก ใช้ชีวิตสมถะ เมื่อไปกู้หนี้เขานายทุนมาจะแบงค์ที่อ้างตนว่ารัฐสนับสนุนก็เถอะ มันก็หนี้นี้ล่ะ และเข้าเองยังอยากเข้าตลาดหุ้นด้วยล่ะเพื่อให้ต่างชาติมาเป็นเจ้าของผ่านการซื้อหุ้นแบบถูกต้องด้วยโน้น ไม่รวมมุกซื้อหนี้หรือตั้งบริษัทในนามเอกชนมาบริหารจัดการหนี้คนเกษตรอีก,สุดท้ายหมายยึดที่ดินคนไทยนั้นล่ะ,เร่งให้คนเกษตรเป็นหนี้เยอะโน้น ผ่านผู้นำชุมชน อสม.ระดับล่างเลยล่ะ,แต่ตลาดขายออกสร้างตังมันไม่สนใจหาให้นะ,กะกู้มากๆ พังล้มเหลวเร็วๆเนียนๆจะได้จ่ายหนี้คืนไม่ได้นั้นล่ะคือเป้าหมายมัน,ปล่อยกู้เรื่องของแบงค์,ใช้หนี้คืนเรื่องของคนกู้,เมื่อทำลายกลไกคนที่มีกำลังปานกลางได้ คือระดับคนมีเงินเดือนตำแหน่งพอจ่ายได้ยึดครองหรือสร้างสถานะเป็นหนี้ได้แล้วคนพวกนี้ก็จะถูกควบคุมทันที,ถูกทำให้อ่อนแอ ผู้นำชุมชนอ่อนแอเมื่อไร จัดการคนอื่นๆชาวบ้านคนเกษตรจะง่ายขึ้นๆ,ยึดที่ดิน ปล่อยกู้ตังให้คนอื่นมาซื้อมาทำเกษตรแทน ต่างชาติมีตังเยอะ ได้สิทธิถือครองที่ดินได้แล้วอีกจากกฎหมายไปเปิดช่องให้,พากันกู้กันซื้อที่ดินยึดเนียนๆใต้ดินลับๆสบายล่ะ,เดอะแก็งปล่อยกู้สุมหัวกับเดอะแก็งข้ามชาติทำทีมาทำเกษตรในไทยนอมินีคนไทยก็ว่า ง่าบสบายมาก อ.ปาย อิสราเอลเต็มพื้นที่ยังมาแบบเงียบๆได้ คิดสิ,นี้คือแผนการที่อันตรายมากๆ,ถ้าแบงค์ธกส.จะดีๆต่อคนไทย ไม่ต้องคิดดอกเบี้ยเขาแพงก็ได้,ยุบธกส.ยุบตึกทำงานเอกสาร,เก็บตังมหาศาลไม่หวังกำไร,ย้ายไปทำเอกสารที่ทำการอำเภอแต่ละอำเภอก็ได้ ใช้ชื่อว่าคลินิกเงินทุนสัมมาอาชีพชาวเกษตรไทยสิ,คนจะเดินทางไปลงทะเบียนเต็ม,ตังหมุนเวียนในอำเภอจริงด้วย,ชาวเกษตรก็เสียค่ายืมตังแค่ค่าธรรมเนียมไร้ดอกเบี้ย ส่งแค่เงินต้น,เราบริหารผิดทาง,สร้างแหล่งทุนตังช่วยคนไทยตนเองแต่มุ่งหวังประโยชน์จึงสร้างจุดเริ่มต้นที่ผิด,ยิ่งเข้าตลาดหุ้น ก็จะมุ่งหวังกำไรมากๆหนักข้อไปอีก,และไม่ควรตั้งเป็นกิจการเอกชนเพื่อบริหารจัดการหนีัเลย.เอกชนคือเอกชน ไม่ใช้รัฐฐะ รัฐฐะคือรัฐฐะเพื่อสุขประชาชนสาธารณะ,เอกชนมันหวังเพื่อตนเอง,จึงผิดเช่นกัน.

    https://youtube.com/watch?v=TB-7v46bJLo&si=74NoyntDAmjV69gO
    ..อันตรายมากยุคนี้,แม้แต่รัฐบาลก็ต้องพิจารณา&คิดมากๆ. ..ช่วงเวลานี้ใครจะยืมตัง&กู้เงิน ระวังโคตรๆนั้นดี,ยิ่งเห็นภาคเกษตรเร่งรีบให้คนเกษตรเป็นหนี้ในหลายๆระดับชั้นยิ่งน่าสงสัยมาก,นัยยะแฝงตรึมแน่นอน,ผลเป้าหมายสุดท้ายคือคนไทยจะไม่ใช่เจ้าของที่ดินตนเองอีกต่อไป,ใช้หนี้ตังด้วยการถูกยึดที่ดินที่อยู่อาศัยนั้นล่ะ,ดิ้นรนหาตังมาใช้นี้แบบมุกทาสคนเกษตรแทนคนกินเงินเดือนอีกมุม,จากชีวิตปกติไม่ดิ้นรนมากนัก ใช้ชีวิตสมถะ เมื่อไปกู้หนี้เขานายทุนมาจะแบงค์ที่อ้างตนว่ารัฐสนับสนุนก็เถอะ มันก็หนี้นี้ล่ะ และเข้าเองยังอยากเข้าตลาดหุ้นด้วยล่ะเพื่อให้ต่างชาติมาเป็นเจ้าของผ่านการซื้อหุ้นแบบถูกต้องด้วยโน้น ไม่รวมมุกซื้อหนี้หรือตั้งบริษัทในนามเอกชนมาบริหารจัดการหนี้คนเกษตรอีก,สุดท้ายหมายยึดที่ดินคนไทยนั้นล่ะ,เร่งให้คนเกษตรเป็นหนี้เยอะโน้น ผ่านผู้นำชุมชน อสม.ระดับล่างเลยล่ะ,แต่ตลาดขายออกสร้างตังมันไม่สนใจหาให้นะ,กะกู้มากๆ พังล้มเหลวเร็วๆเนียนๆจะได้จ่ายหนี้คืนไม่ได้นั้นล่ะคือเป้าหมายมัน,ปล่อยกู้เรื่องของแบงค์,ใช้หนี้คืนเรื่องของคนกู้,เมื่อทำลายกลไกคนที่มีกำลังปานกลางได้ คือระดับคนมีเงินเดือนตำแหน่งพอจ่ายได้ยึดครองหรือสร้างสถานะเป็นหนี้ได้แล้วคนพวกนี้ก็จะถูกควบคุมทันที,ถูกทำให้อ่อนแอ ผู้นำชุมชนอ่อนแอเมื่อไร จัดการคนอื่นๆชาวบ้านคนเกษตรจะง่ายขึ้นๆ,ยึดที่ดิน ปล่อยกู้ตังให้คนอื่นมาซื้อมาทำเกษตรแทน ต่างชาติมีตังเยอะ ได้สิทธิถือครองที่ดินได้แล้วอีกจากกฎหมายไปเปิดช่องให้,พากันกู้กันซื้อที่ดินยึดเนียนๆใต้ดินลับๆสบายล่ะ,เดอะแก็งปล่อยกู้สุมหัวกับเดอะแก็งข้ามชาติทำทีมาทำเกษตรในไทยนอมินีคนไทยก็ว่า ง่าบสบายมาก อ.ปาย อิสราเอลเต็มพื้นที่ยังมาแบบเงียบๆได้ คิดสิ,นี้คือแผนการที่อันตรายมากๆ,ถ้าแบงค์ธกส.จะดีๆต่อคนไทย ไม่ต้องคิดดอกเบี้ยเขาแพงก็ได้,ยุบธกส.ยุบตึกทำงานเอกสาร,เก็บตังมหาศาลไม่หวังกำไร,ย้ายไปทำเอกสารที่ทำการอำเภอแต่ละอำเภอก็ได้ ใช้ชื่อว่าคลินิกเงินทุนสัมมาอาชีพชาวเกษตรไทยสิ,คนจะเดินทางไปลงทะเบียนเต็ม,ตังหมุนเวียนในอำเภอจริงด้วย,ชาวเกษตรก็เสียค่ายืมตังแค่ค่าธรรมเนียมไร้ดอกเบี้ย ส่งแค่เงินต้น,เราบริหารผิดทาง,สร้างแหล่งทุนตังช่วยคนไทยตนเองแต่มุ่งหวังประโยชน์จึงสร้างจุดเริ่มต้นที่ผิด,ยิ่งเข้าตลาดหุ้น ก็จะมุ่งหวังกำไรมากๆหนักข้อไปอีก,และไม่ควรตั้งเป็นกิจการเอกชนเพื่อบริหารจัดการหนีัเลย.เอกชนคือเอกชน ไม่ใช้รัฐฐะ รัฐฐะคือรัฐฐะเพื่อสุขประชาชนสาธารณะ,เอกชนมันหวังเพื่อตนเอง,จึงผิดเช่นกัน. https://youtube.com/watch?v=TB-7v46bJLo&si=74NoyntDAmjV69gO
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 232 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข้อตกลงสันติภาพที่ยุโรปร่วมกับยูเครนเห็นตรงกัน จากการหารือที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยที่ข้อเสนอของพวกเขาคือ "ยูเครนจะได้คืนทุกอย่างทันที" และรัสเซีย "อาจได้บางอย่างในภายหลัง" หากยูเครนยอมลดตัวตัดสินใจร่วมมือ

    ข้อตกลงบางส่วนที่น่าสนใจ:
    👉รัสเซียต้องคืนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ Zaporizhia (ZNPP) รวมทั้งเขื่อน Kakhovka ซึ่งเป็นที่ตั้งโรงไฟฟ้าพลังน้ำ (Kakhovka Hydroelectric Power Plant) ในภูมิภาคเคอร์ซอน (Kherson)

    👉ยูเครนมีสิทธิอย่างเต็มที่ของแม่น้ำ Dnieper ได้โดยไม่ติดขัด รวมถึงการเข้าถึงและควบคุม Kinburn Spit ได้

    👉รัสเซียต้องเป็นผู้รับผิดชอบในการจ่ายเงินทุนสนับสนุนการฟื้นฟูยูเครนด้วยทรัพย์สินของรัสเซียที่ถูกอายัด

    👉จะต้องไม่มีข้อจำกัดใดๆ ต่อกองทัพยูเครน ซึ่งสามารถสร้างกองทัพโดยอิสระ

    👉ยูเครนต้องได้รับการรับประกันความปลอดภัยตามมาตรา 5 ของนาโต้

    👉ยูเครน "สัญญา" ว่าจะเจรจาเรื่องเขตแดนที่มีข้อพิพาทกันในอนาคต

    👉ยุโรปให้ "สัญญา" ว่าจะผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรในอนาคต หากทุกอย่างเป็นไปด้วยดี

    แล้วรัสเซียได้อะไรจากเรื่องนี้กันแน่?
    ข้อตกลงสันติภาพที่ยุโรปร่วมกับยูเครนเห็นตรงกัน จากการหารือที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยที่ข้อเสนอของพวกเขาคือ "ยูเครนจะได้คืนทุกอย่างทันที" และรัสเซีย "อาจได้บางอย่างในภายหลัง" หากยูเครนยอมลดตัวตัดสินใจร่วมมือ ข้อตกลงบางส่วนที่น่าสนใจ: 👉รัสเซียต้องคืนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ Zaporizhia (ZNPP) รวมทั้งเขื่อน Kakhovka ซึ่งเป็นที่ตั้งโรงไฟฟ้าพลังน้ำ (Kakhovka Hydroelectric Power Plant) ในภูมิภาคเคอร์ซอน (Kherson) 👉ยูเครนมีสิทธิอย่างเต็มที่ของแม่น้ำ Dnieper ได้โดยไม่ติดขัด รวมถึงการเข้าถึงและควบคุม Kinburn Spit ได้ 👉รัสเซียต้องเป็นผู้รับผิดชอบในการจ่ายเงินทุนสนับสนุนการฟื้นฟูยูเครนด้วยทรัพย์สินของรัสเซียที่ถูกอายัด 👉จะต้องไม่มีข้อจำกัดใดๆ ต่อกองทัพยูเครน ซึ่งสามารถสร้างกองทัพโดยอิสระ 👉ยูเครนต้องได้รับการรับประกันความปลอดภัยตามมาตรา 5 ของนาโต้ 👉ยูเครน "สัญญา" ว่าจะเจรจาเรื่องเขตแดนที่มีข้อพิพาทกันในอนาคต 👉ยุโรปให้ "สัญญา" ว่าจะผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรในอนาคต หากทุกอย่างเป็นไปด้วยดี แล้วรัสเซียได้อะไรจากเรื่องนี้กันแน่?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 309 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google ได้ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับพันธมิตรในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเพื่อเสริมสร้างการป้องกันการหลอกลวงออนไลน์ โดยในปี 2024 ผู้เสียหายจากการหลอกลวงในภูมิภาคนี้สูญเสียเงินรวมกว่า 688 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นสองในสามของการสูญเสียทั่วโลก

    Google ได้จัดงาน Online Safety Dialogue ในไต้หวัน โดยร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัลของไต้หวันเพื่อพัฒนาการแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับแนวโน้มการหลอกลวง การประสานงานระหว่างประเทศ การพัฒนาเครื่องมือตรวจจับขั้นสูง และการลงทุนในแคมเปญการศึกษาเพื่อป้องกันการหลอกลวง

    นอกจากนี้ Google.org ยังได้จัดสรรเงินทุน 5 ล้านดอลลาร์ สำหรับโครงการป้องกันการหลอกลวงในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในปี 2025 โดยก่อนหน้านี้ได้มอบเงินทุน 2 ล้านดอลลาร์ ให้กับองค์กรในสิงคโปร์ และ 1 ล้านดอลลาร์ ให้กับองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรในไต้หวัน

    Google ยังได้ขยายแพลตฟอร์ม Global Signals Exchange (GSE) ซึ่งเปิดตัวในปี 2024 เพื่อแบ่งปันสัญญาณและการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการหลอกลวงแบบเรียลไทม์ โดยมีพันธมิตร 20 รายที่ร่วมแบ่งปันสัญญาณกว่า 180 ล้านรายการ

    สุดท้าย Google เตรียมเปิดตัวเกม ShieldUp! ในออสเตรเลีย สิงคโปร์ ไต้หวัน และไทยในปี 2025 ซึ่งเป็นเกมที่ช่วยให้ผู้เล่นเรียนรู้วิธีป้องกันการหลอกลวงผ่านการจำลองสถานการณ์แบบอินเทอร์แอคทีฟ

    ✅ ความร่วมมือกับพันธมิตรในภูมิภาค
    - Google ร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัลของไต้หวันเพื่อแบ่งปันข้อมูลและพัฒนาเครื่องมือตรวจจับ
    - การลงทุนในแคมเปญการศึกษาเพื่อป้องกันการหลอกลวง

    ✅ การจัดสรรเงินทุน
    - Google.org จัดสรรเงินทุน 5 ล้านดอลลาร์สำหรับโครงการป้องกันการหลอกลวงในปี 2025
    - เงินทุนก่อนหน้านี้รวมถึง 2 ล้านดอลลาร์ในสิงคโปร์ และ 1 ล้านดอลลาร์ในไต้หวัน

    ✅ การขยายแพลตฟอร์ม Global Signals Exchange (GSE)
    - แพลตฟอร์ม GSE มีพันธมิตร 20 รายที่แบ่งปันสัญญาณกว่า 180 ล้านรายการ
    - การขยายแพลตฟอร์มช่วยเพิ่มการแบ่งปันข้อมูลแบบเรียลไทม์

    ✅ การเปิดตัวเกม ShieldUp!
    - เกม ShieldUp! จะเปิดตัวในออสเตรเลีย สิงคโปร์ ไต้หวัน และไทยในปี 2025

    https://www.neowin.net/news/google-bolsters-its-anti-scam-efforts-across-asia-pacific/
    Google ได้ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับพันธมิตรในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเพื่อเสริมสร้างการป้องกันการหลอกลวงออนไลน์ โดยในปี 2024 ผู้เสียหายจากการหลอกลวงในภูมิภาคนี้สูญเสียเงินรวมกว่า 688 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นสองในสามของการสูญเสียทั่วโลก Google ได้จัดงาน Online Safety Dialogue ในไต้หวัน โดยร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัลของไต้หวันเพื่อพัฒนาการแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับแนวโน้มการหลอกลวง การประสานงานระหว่างประเทศ การพัฒนาเครื่องมือตรวจจับขั้นสูง และการลงทุนในแคมเปญการศึกษาเพื่อป้องกันการหลอกลวง นอกจากนี้ Google.org ยังได้จัดสรรเงินทุน 5 ล้านดอลลาร์ สำหรับโครงการป้องกันการหลอกลวงในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในปี 2025 โดยก่อนหน้านี้ได้มอบเงินทุน 2 ล้านดอลลาร์ ให้กับองค์กรในสิงคโปร์ และ 1 ล้านดอลลาร์ ให้กับองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรในไต้หวัน Google ยังได้ขยายแพลตฟอร์ม Global Signals Exchange (GSE) ซึ่งเปิดตัวในปี 2024 เพื่อแบ่งปันสัญญาณและการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการหลอกลวงแบบเรียลไทม์ โดยมีพันธมิตร 20 รายที่ร่วมแบ่งปันสัญญาณกว่า 180 ล้านรายการ สุดท้าย Google เตรียมเปิดตัวเกม ShieldUp! ในออสเตรเลีย สิงคโปร์ ไต้หวัน และไทยในปี 2025 ซึ่งเป็นเกมที่ช่วยให้ผู้เล่นเรียนรู้วิธีป้องกันการหลอกลวงผ่านการจำลองสถานการณ์แบบอินเทอร์แอคทีฟ ✅ ความร่วมมือกับพันธมิตรในภูมิภาค - Google ร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัลของไต้หวันเพื่อแบ่งปันข้อมูลและพัฒนาเครื่องมือตรวจจับ - การลงทุนในแคมเปญการศึกษาเพื่อป้องกันการหลอกลวง ✅ การจัดสรรเงินทุน - Google.org จัดสรรเงินทุน 5 ล้านดอลลาร์สำหรับโครงการป้องกันการหลอกลวงในปี 2025 - เงินทุนก่อนหน้านี้รวมถึง 2 ล้านดอลลาร์ในสิงคโปร์ และ 1 ล้านดอลลาร์ในไต้หวัน ✅ การขยายแพลตฟอร์ม Global Signals Exchange (GSE) - แพลตฟอร์ม GSE มีพันธมิตร 20 รายที่แบ่งปันสัญญาณกว่า 180 ล้านรายการ - การขยายแพลตฟอร์มช่วยเพิ่มการแบ่งปันข้อมูลแบบเรียลไทม์ ✅ การเปิดตัวเกม ShieldUp! - เกม ShieldUp! จะเปิดตัวในออสเตรเลีย สิงคโปร์ ไต้หวัน และไทยในปี 2025 https://www.neowin.net/news/google-bolsters-its-anti-scam-efforts-across-asia-pacific/
    WWW.NEOWIN.NET
    Google bolsters its anti-scam efforts across Asia-Pacific
    In 2024, customers across Asia-Pacific lost 688 billion USD to scams. At Taiwan's Online Safety Dialogue, Google unveiled new partnerships, grants, and real-time tools to fight back.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 256 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลทรัมป์ได้ยุบ Global Engagement Center (GEC) อย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่ง Rubio อ้างว่า GEC ถูกใช้เป็นอาวุธเพื่อปิดปากเสรีภาพในการพูด และเรียกมันว่า “คอมเพล็กซ์อุตสาหกรรมการเซ็นเซอร์”Rubio ชี้แจงอย่างชัดเจนว่า “GEC ตายแล้ว มันจะไม่กลับมาอีก”ศูนย์แห่งนี้ ซึ่งเดิมสร้างขึ้นเพื่อต่อสู้กับการโฆษณาชวนเชื่อของผู้ก่อการร้าย ได้เปลี่ยนไปภายใต้การบริหารของโอบามา กลายเป็นหน่วยงานเฝ้าระวัง “ข้อมูลบิดเบือน” ที่กว้างขึ้น ซึ่งหมายความถึงการกำหนดเป้าหมายไปที่กลุ่มอนุรักษ์นิยมเท่านั้นRubio ยังโจมตีกลุ่มต่างๆ เช่น NewsGuard และ Global Disinformation Index (GDI) ซึ่งรับเงินจากกระทรวงการต่างประเทศ จากนั้นจึงทำเครื่องหมายสื่ออนุรักษ์นิยมว่า “เสี่ยง” โดยโจมตีพวกเขาตรงจุดที่เจ็บปวดที่สุด นั่นคือรายได้จากโฆษณาความสัมพันธ์ของ NewsGuard กับเจ้าหน้าที่พรรคเดโมแครตที่ทำงานมายาวนานไม่ได้ช่วยคลายความกังวลลงเลย— Elon เรียกพวกเขาว่า “การหลอกลวง”เมื่อ GEC หายไปและเงินทุนก็หมดลง Rubio กล่าวว่ารัฐบาลกำลังทำตามสัญญาที่จะ “ปลดปล่อยการพูดของชาวอเมริกัน”ที่มา: Newsmax, AP
    รัฐบาลทรัมป์ได้ยุบ Global Engagement Center (GEC) อย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่ง Rubio อ้างว่า GEC ถูกใช้เป็นอาวุธเพื่อปิดปากเสรีภาพในการพูด และเรียกมันว่า “คอมเพล็กซ์อุตสาหกรรมการเซ็นเซอร์”Rubio ชี้แจงอย่างชัดเจนว่า “GEC ตายแล้ว มันจะไม่กลับมาอีก”ศูนย์แห่งนี้ ซึ่งเดิมสร้างขึ้นเพื่อต่อสู้กับการโฆษณาชวนเชื่อของผู้ก่อการร้าย ได้เปลี่ยนไปภายใต้การบริหารของโอบามา กลายเป็นหน่วยงานเฝ้าระวัง “ข้อมูลบิดเบือน” ที่กว้างขึ้น ซึ่งหมายความถึงการกำหนดเป้าหมายไปที่กลุ่มอนุรักษ์นิยมเท่านั้นRubio ยังโจมตีกลุ่มต่างๆ เช่น NewsGuard และ Global Disinformation Index (GDI) ซึ่งรับเงินจากกระทรวงการต่างประเทศ จากนั้นจึงทำเครื่องหมายสื่ออนุรักษ์นิยมว่า “เสี่ยง” โดยโจมตีพวกเขาตรงจุดที่เจ็บปวดที่สุด นั่นคือรายได้จากโฆษณาความสัมพันธ์ของ NewsGuard กับเจ้าหน้าที่พรรคเดโมแครตที่ทำงานมายาวนานไม่ได้ช่วยคลายความกังวลลงเลย— Elon เรียกพวกเขาว่า “การหลอกลวง”เมื่อ GEC หายไปและเงินทุนก็หมดลง Rubio กล่าวว่ารัฐบาลกำลังทำตามสัญญาที่จะ “ปลดปล่อยการพูดของชาวอเมริกัน”ที่มา: Newsmax, AP
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 291 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้กล่าวถึงการที่บริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายใหญ่ เช่น Lenovo, HP และ Dell กำลังวางแผนสร้างโรงงานในซาอุดีอาระเบียเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีที่สูงจากสหรัฐฯ โดยซาอุดีอาระเบียได้เสนอสิทธิประโยชน์มากมาย เช่น การสนับสนุนเงินทุนจาก Public Investment Fund (PIF) และการเข้าถึงตลาดในแอฟริกาและตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนเศรษฐกิจ Vision 2030 ที่มุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจที่หลากหลาย

    ✅ Lenovo, HP และ Dell วางแผนสร้างโรงงานในซาอุดีอาระเบีย
    - Lenovo ได้รับการสนับสนุนเงินทุน 2 พันล้านดอลลาร์จาก PIF เพื่อสร้างโรงงานในริยาด
    - HP และ Dell กำลังสำรวจพื้นที่สำหรับการสร้างโรงงาน

    ✅ สิทธิประโยชน์ที่ซาอุดีอาระเบียเสนอให้
    - การเข้าถึงตลาดในแอฟริกาและตะวันออกกลาง
    - การสนับสนุนการก่อสร้างโรงงานและการเข้าถึงสัญญารัฐบาล

    ✅ ผลกระทบจากภาษีของสหรัฐฯ
    - ภาษีที่สูงถึง 245% สำหรับสินค้าจากจีนทำให้บริษัทต้องหาทางเลือกใหม่

    ✅ การเปลี่ยนแปลงในตลาดการผลิต
    - ODMs เช่น Foxconn และ Quanta ยังลังเลที่จะย้ายการผลิตไปยังซาอุดีอาระเบีย

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/top-pc-oems-reportedly-planning-saudi-arabia-plants-to-avoid-us-tariffs-lenovo-hp-dell-exploring-options-as-panic-continues
    ข่าวนี้กล่าวถึงการที่บริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายใหญ่ เช่น Lenovo, HP และ Dell กำลังวางแผนสร้างโรงงานในซาอุดีอาระเบียเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีที่สูงจากสหรัฐฯ โดยซาอุดีอาระเบียได้เสนอสิทธิประโยชน์มากมาย เช่น การสนับสนุนเงินทุนจาก Public Investment Fund (PIF) และการเข้าถึงตลาดในแอฟริกาและตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนเศรษฐกิจ Vision 2030 ที่มุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจที่หลากหลาย ✅ Lenovo, HP และ Dell วางแผนสร้างโรงงานในซาอุดีอาระเบีย - Lenovo ได้รับการสนับสนุนเงินทุน 2 พันล้านดอลลาร์จาก PIF เพื่อสร้างโรงงานในริยาด - HP และ Dell กำลังสำรวจพื้นที่สำหรับการสร้างโรงงาน ✅ สิทธิประโยชน์ที่ซาอุดีอาระเบียเสนอให้ - การเข้าถึงตลาดในแอฟริกาและตะวันออกกลาง - การสนับสนุนการก่อสร้างโรงงานและการเข้าถึงสัญญารัฐบาล ✅ ผลกระทบจากภาษีของสหรัฐฯ - ภาษีที่สูงถึง 245% สำหรับสินค้าจากจีนทำให้บริษัทต้องหาทางเลือกใหม่ ✅ การเปลี่ยนแปลงในตลาดการผลิต - ODMs เช่น Foxconn และ Quanta ยังลังเลที่จะย้ายการผลิตไปยังซาอุดีอาระเบีย https://www.tomshardware.com/tech-industry/top-pc-oems-reportedly-planning-saudi-arabia-plants-to-avoid-us-tariffs-lenovo-hp-dell-exploring-options-as-panic-continues
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 205 มุมมอง 0 รีวิว
  • บริษัทเทคโนโลยีจีนหลายแห่งกำลังพิจารณาเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ แม้จะมีความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสองประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อระดมทุนผ่านการเสนอขายหุ้น IPO มูลค่ารวมกว่า 100 ล้านดอลลาร์ การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นในช่วงที่สงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ยังคงดำเนินอยู่ โดยมีการกำหนดภาษีศุลกากรที่สูงขึ้นจากทั้งสองฝ่าย

    ✅ บริษัทจีนกำลังพิจารณาเสนอขายหุ้น IPO ในสหรัฐฯ
    - บริษัทที่พิจารณาเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ ได้แก่ Walnut Coding, Shenzhen Cloudsky Technologies, Zaihui และ Zhonghe Group
    - Walnut Coding มีลูกค้าจ่ายเงินกว่า 7.2 ล้านราย และอาจระดมทุนได้ถึง 100 ล้านดอลลาร์

    ✅ สงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ยังคงดำเนินอยู่
    - สหรัฐฯ กำหนดภาษีศุลกากรที่สูงขึ้นสำหรับสินค้าจีน และจีนตอบโต้ด้วยภาษี 125% สำหรับสินค้าสหรัฐฯ
    - การเจรจาระหว่างสองประเทศยังคงมีความไม่แน่นอน

    ✅ การตัดสินใจของบริษัทจีนขึ้นอยู่กับสถานการณ์สงครามการค้า
    - หากสถานการณ์สงครามการค้าแย่ลง บริษัทอาจยกเลิกแผนการเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ

    ✅ การเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ อาจช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ
    - การเสนอขายหุ้น IPO ในสหรัฐฯ อาจช่วยให้บริษัทจีนเข้าถึงแหล่งเงินทุนและขยายธุรกิจในระดับโลก

    https://www.techradar.com/pro/chinese-tech-companies-want-to-enter-the-us-market-despite-trade-and-tariff-war
    บริษัทเทคโนโลยีจีนหลายแห่งกำลังพิจารณาเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ แม้จะมีความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสองประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อระดมทุนผ่านการเสนอขายหุ้น IPO มูลค่ารวมกว่า 100 ล้านดอลลาร์ การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นในช่วงที่สงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ยังคงดำเนินอยู่ โดยมีการกำหนดภาษีศุลกากรที่สูงขึ้นจากทั้งสองฝ่าย ✅ บริษัทจีนกำลังพิจารณาเสนอขายหุ้น IPO ในสหรัฐฯ - บริษัทที่พิจารณาเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ ได้แก่ Walnut Coding, Shenzhen Cloudsky Technologies, Zaihui และ Zhonghe Group - Walnut Coding มีลูกค้าจ่ายเงินกว่า 7.2 ล้านราย และอาจระดมทุนได้ถึง 100 ล้านดอลลาร์ ✅ สงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ยังคงดำเนินอยู่ - สหรัฐฯ กำหนดภาษีศุลกากรที่สูงขึ้นสำหรับสินค้าจีน และจีนตอบโต้ด้วยภาษี 125% สำหรับสินค้าสหรัฐฯ - การเจรจาระหว่างสองประเทศยังคงมีความไม่แน่นอน ✅ การตัดสินใจของบริษัทจีนขึ้นอยู่กับสถานการณ์สงครามการค้า - หากสถานการณ์สงครามการค้าแย่ลง บริษัทอาจยกเลิกแผนการเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ ✅ การเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ อาจช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ - การเสนอขายหุ้น IPO ในสหรัฐฯ อาจช่วยให้บริษัทจีนเข้าถึงแหล่งเงินทุนและขยายธุรกิจในระดับโลก https://www.techradar.com/pro/chinese-tech-companies-want-to-enter-the-us-market-despite-trade-and-tariff-war
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 208 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีรายงานความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับการเจรจาสันติภาพในยูเครน:

    รายละเอียดข้อตกลงเริ่มหลุดมาถึงมือสื่อเพิ่มมากขึ้น หลังการเจรจาที่เกิดขึ้นในฝรั่งเศสโดยมีพันธมิตรยุโรปเข้ามามีส่วนร่วมด้วยเมื่อสัปดาห์ก่อน รวมทั้งที่นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ของรัสเซียเมื่อต้นเดือน และหากครั้งนี้ล้มเหลว สหรัฐอาถอนตัวจากการมีส่วนร่วมในการเจรจา ตามที่ รูบิโอ รัฐมนตรีต่างสหรัฐกล่าวเมื่อวันก่อน

    สหรัฐต้องการให้ยูเครนยอมรับไครเมียเป็นดินแดนของรัสเซีย และยอมรับว่ารัสเซียควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ที่ยึดครองมาตั้งแต่ปฏิบัติการพิเศษทางทหารในปี 2022 อ้างอิงตามแหล่งข่าวที่ทราบผลการเจรจาดังกล่าว

    นอกจากนี้ยังมีเพิ่มเติมคือ:
    👉สิ่งที่รัสเซียจะได้รับ:
    - การรับรองทางกฎหมายของสหรัฐฯ ว่าไครเมียเป็นของรัสเซีย
    - การยอมรับภูมิภาคโดเนตสค์ ลูฮันสค์ เคอร์ซอน และซาโปริซเซีย ในส่วนที่รัสเซียปลดปล่อยไปแล้ว ดินแดนส่วนที่เหลือที่รัสเซียยังไม่ได้ปลดปล่อย อาจต้องอยู่ในการครอบครองของยูเครนต่อไป
    - คำมั่นสัญญาว่ายูเครนจะไม่เข้าร่วมนาโต แต่การเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปอาจยังคงเป็นไปได้
    - การยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรหลังปี 2014 ซึ่งเป็นปีที่หลังจากรัสเซียเข้ายึดครองไครเมีย

    👉สิ่งที่ยูเครนจะได้รับ:
    - “การรับประกันความปลอดภัยที่มั่นคง” แม้ว่าขณะนี้ยังมีความสับสน และยังไม่ลงตัวท้ังหมด แต่เบื้องต้นอยู่ในขั้นตอนที่พันธมิตรของยุโรปให้การรับประกันแล้ว และพยายามโน้มน้าวให้สหรัฐเข้ามามีส่วนร่วม
    - รัสเซียต้องคืนพื้นที่ในภูมิภาคคาร์คิฟที่ยึดไว้ตอนนี้ (มีไม่มากเท่าไหร่)
    - มีสิทธิเหนือน่านน้ำนีเปอร์ (Dnipro) อย่างเต็มที่ เพื่อใช้ในการเดินเรือออกสู่ทะเลดำ (Black Sea)
    - ความช่วยเหลือเพื่อการฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐาน ระบบเศรษฐกิจของยูเครน แต่ยังไม่ชัดเจนเรื่องแหล่งที่มาของเงินทุน

    👉สิ่งที่สหรัฐจะได้รับ: (เรียกเก็บค่าดำเนินการ 😂)
    - โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริซเซีย (ZNPP) จะอยู่ภายใต้การปกครองของยูเครน แต่สหรัฐจะเป็นฝ่ายบริหารจัดการแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งจะมีหน้าที่ให้บริการระบบไฟฟ้าแก่ทั้งสองฝ่าย รายได้จากการดำเนินงาน จะเข้ากองทุนส่วนกลางที่สหรัฐและยูเครนร่วมกันจัดตั้ง
    - ข้อตกลงด้านแร่ธาตุระหว่างสหรัฐฯ และยูเครนคาดว่าจะลงนามในวันพฤหัสบดี
    - ความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซียที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะด้านพลังงานและอุตสาหกรรม
    มีรายงานความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับการเจรจาสันติภาพในยูเครน: รายละเอียดข้อตกลงเริ่มหลุดมาถึงมือสื่อเพิ่มมากขึ้น หลังการเจรจาที่เกิดขึ้นในฝรั่งเศสโดยมีพันธมิตรยุโรปเข้ามามีส่วนร่วมด้วยเมื่อสัปดาห์ก่อน รวมทั้งที่นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ของรัสเซียเมื่อต้นเดือน และหากครั้งนี้ล้มเหลว สหรัฐอาถอนตัวจากการมีส่วนร่วมในการเจรจา ตามที่ รูบิโอ รัฐมนตรีต่างสหรัฐกล่าวเมื่อวันก่อน สหรัฐต้องการให้ยูเครนยอมรับไครเมียเป็นดินแดนของรัสเซีย และยอมรับว่ารัสเซียควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ที่ยึดครองมาตั้งแต่ปฏิบัติการพิเศษทางทหารในปี 2022 อ้างอิงตามแหล่งข่าวที่ทราบผลการเจรจาดังกล่าว นอกจากนี้ยังมีเพิ่มเติมคือ: 👉สิ่งที่รัสเซียจะได้รับ: - การรับรองทางกฎหมายของสหรัฐฯ ว่าไครเมียเป็นของรัสเซีย - การยอมรับภูมิภาคโดเนตสค์ ลูฮันสค์ เคอร์ซอน และซาโปริซเซีย ในส่วนที่รัสเซียปลดปล่อยไปแล้ว ดินแดนส่วนที่เหลือที่รัสเซียยังไม่ได้ปลดปล่อย อาจต้องอยู่ในการครอบครองของยูเครนต่อไป - คำมั่นสัญญาว่ายูเครนจะไม่เข้าร่วมนาโต แต่การเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปอาจยังคงเป็นไปได้ - การยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรหลังปี 2014 ซึ่งเป็นปีที่หลังจากรัสเซียเข้ายึดครองไครเมีย 👉สิ่งที่ยูเครนจะได้รับ: - “การรับประกันความปลอดภัยที่มั่นคง” แม้ว่าขณะนี้ยังมีความสับสน และยังไม่ลงตัวท้ังหมด แต่เบื้องต้นอยู่ในขั้นตอนที่พันธมิตรของยุโรปให้การรับประกันแล้ว และพยายามโน้มน้าวให้สหรัฐเข้ามามีส่วนร่วม - รัสเซียต้องคืนพื้นที่ในภูมิภาคคาร์คิฟที่ยึดไว้ตอนนี้ (มีไม่มากเท่าไหร่) - มีสิทธิเหนือน่านน้ำนีเปอร์ (Dnipro) อย่างเต็มที่ เพื่อใช้ในการเดินเรือออกสู่ทะเลดำ (Black Sea) - ความช่วยเหลือเพื่อการฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐาน ระบบเศรษฐกิจของยูเครน แต่ยังไม่ชัดเจนเรื่องแหล่งที่มาของเงินทุน 👉สิ่งที่สหรัฐจะได้รับ: (เรียกเก็บค่าดำเนินการ 😂) - โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริซเซีย (ZNPP) จะอยู่ภายใต้การปกครองของยูเครน แต่สหรัฐจะเป็นฝ่ายบริหารจัดการแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งจะมีหน้าที่ให้บริการระบบไฟฟ้าแก่ทั้งสองฝ่าย รายได้จากการดำเนินงาน จะเข้ากองทุนส่วนกลางที่สหรัฐและยูเครนร่วมกันจัดตั้ง - ข้อตกลงด้านแร่ธาตุระหว่างสหรัฐฯ และยูเครนคาดว่าจะลงนามในวันพฤหัสบดี - ความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซียที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะด้านพลังงานและอุตสาหกรรม
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 392 มุมมอง 0 รีวิว
  • มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดได้ยื่นฟ้องต่อศาลหลังจากรัฐบาลของโดนัลด์ ทรัมป์ มีคำสั่งระงับเงินสนับสนุนมูลค่า 2,200 ล้านดอลลาร์ ด้านทรัมป์ขู่จะระงับเงินเพิ่มอีก 1,100 ล้านดอลลาร์


    มหาวิทยาลัยขอให้ศาลตัดสินว่าการระงับเงินทุนดังกล่าวเป็นสิ่งผิดกฎหมาย โดยให้เหตุผลว่ารัฐบาลทรัมป์กำลังพยายามบังคับให้มหาวิทยาลัยเปลี่ยนแปลงนโยบาย โปรแกรมวิชาการ และแนวทางการจ้างงานในลักษณะที่ละเมิดเสรีภาพในการแสดงออกของนักศึกษา

    มีรายงานเพิ่มเติมอีกว่า ทรัมป์ขู่จะระงับเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมอีก 1,100 ล้านดอลลาร์

    มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดได้ยื่นฟ้องต่อศาลหลังจากรัฐบาลของโดนัลด์ ทรัมป์ มีคำสั่งระงับเงินสนับสนุนมูลค่า 2,200 ล้านดอลลาร์ ด้านทรัมป์ขู่จะระงับเงินเพิ่มอีก 1,100 ล้านดอลลาร์ มหาวิทยาลัยขอให้ศาลตัดสินว่าการระงับเงินทุนดังกล่าวเป็นสิ่งผิดกฎหมาย โดยให้เหตุผลว่ารัฐบาลทรัมป์กำลังพยายามบังคับให้มหาวิทยาลัยเปลี่ยนแปลงนโยบาย โปรแกรมวิชาการ และแนวทางการจ้างงานในลักษณะที่ละเมิดเสรีภาพในการแสดงออกของนักศึกษา มีรายงานเพิ่มเติมอีกว่า ทรัมป์ขู่จะระงับเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมอีก 1,100 ล้านดอลลาร์
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 193 มุมมอง 0 รีวิว
  • Keppel บริษัทด้านการจัดการสินทรัพย์จากสิงคโปร์ ประกาศว่าได้รับเงินลงทุนกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากนักลงทุนสถาบันทั่วโลกสำหรับกองทุนหลักของบริษัท ซึ่งรวมถึง Keppel Data Centre Fund III, Keppel Education Asset Fund II และกลยุทธ์การพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน

    Christina Tan ซึ่งเป็น CEO ของฝ่ายบริหารกองทุนและ CIO ของ Keppel ระบุว่าการได้รับเงินลงทุนครั้งนี้สะท้อนถึงความต้องการที่แข็งแกร่งสำหรับสินทรัพย์ทางเลือกที่สอดคล้องกับแนวโน้มระดับมหภาค เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ, การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน, การขยายตัวของเมือง และ ปัญญาประดิษฐ์ (AI)

    ✅ Keppel ได้รับเงินลงทุนกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
    - เงินลงทุนนี้มาจากนักลงทุนสถาบัน เช่น กองทุนบำเหน็จบำนาญและกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ
    - เงินทุนจะถูกนำไปใช้ในกองทุนที่เกี่ยวข้องกับศูนย์ข้อมูล, การศึกษา และการพัฒนาเมือง

    ✅ Keppel มุ่งเป้าไปที่การบริหารสินทรัพย์มูลค่า 100 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ภายในปี 2026
    - บริษัทตั้งเป้าขยายสินทรัพย์ภายใต้การบริหารให้ถึง 200 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ภายในปี 2030

    ✅ การลงทุนสะท้อนถึงแนวโน้มระดับมหภาคที่สำคัญ
    - นักลงทุนให้ความสนใจในสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับ AI, พลังงานสะอาด และ การพัฒนาเมือง

    ✅ Keppel ไม่เปิดเผยรายชื่อนักลงทุนที่เข้าร่วมการลงทุนครั้งนี้
    - แม้ว่าจะมีการกล่าวถึงกองทุนบำเหน็จบำนาญและกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/21/singapore039s-keppel-gets-15-billion-in-capital-commitments-for-its-funds
    Keppel บริษัทด้านการจัดการสินทรัพย์จากสิงคโปร์ ประกาศว่าได้รับเงินลงทุนกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากนักลงทุนสถาบันทั่วโลกสำหรับกองทุนหลักของบริษัท ซึ่งรวมถึง Keppel Data Centre Fund III, Keppel Education Asset Fund II และกลยุทธ์การพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน Christina Tan ซึ่งเป็น CEO ของฝ่ายบริหารกองทุนและ CIO ของ Keppel ระบุว่าการได้รับเงินลงทุนครั้งนี้สะท้อนถึงความต้องการที่แข็งแกร่งสำหรับสินทรัพย์ทางเลือกที่สอดคล้องกับแนวโน้มระดับมหภาค เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ, การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน, การขยายตัวของเมือง และ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ✅ Keppel ได้รับเงินลงทุนกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ - เงินลงทุนนี้มาจากนักลงทุนสถาบัน เช่น กองทุนบำเหน็จบำนาญและกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ - เงินทุนจะถูกนำไปใช้ในกองทุนที่เกี่ยวข้องกับศูนย์ข้อมูล, การศึกษา และการพัฒนาเมือง ✅ Keppel มุ่งเป้าไปที่การบริหารสินทรัพย์มูลค่า 100 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ภายในปี 2026 - บริษัทตั้งเป้าขยายสินทรัพย์ภายใต้การบริหารให้ถึง 200 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ภายในปี 2030 ✅ การลงทุนสะท้อนถึงแนวโน้มระดับมหภาคที่สำคัญ - นักลงทุนให้ความสนใจในสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับ AI, พลังงานสะอาด และ การพัฒนาเมือง ✅ Keppel ไม่เปิดเผยรายชื่อนักลงทุนที่เข้าร่วมการลงทุนครั้งนี้ - แม้ว่าจะมีการกล่าวถึงกองทุนบำเหน็จบำนาญและกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/21/singapore039s-keppel-gets-15-billion-in-capital-commitments-for-its-funds
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Singapore's Keppel gets $1.5 billion in capital commitments for its funds
    SINGAPORE (Reuters) - Keppel, a Singapore-based manager and operator of assets such as data centres, said on Monday that it has secured close to S$2.0 billion ($1.53 billion) of capital commitments from global institutional investors for its flagship funds.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 327 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดีเอสไอคุมตัวสาวโบรกเกอร์ "กชพร“ ผู้ต้องหาคอยจัดหาเงินทุนให้ "หมอบุญ" ส่งฝากขังศาลอาญา หลังหลบหนีไปต่างประเทศ เจ้าตัวปฏิเสธทุกข้อหา

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000036259

    #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ดีเอสไอคุมตัวสาวโบรกเกอร์ "กชพร“ ผู้ต้องหาคอยจัดหาเงินทุนให้ "หมอบุญ" ส่งฝากขังศาลอาญา หลังหลบหนีไปต่างประเทศ เจ้าตัวปฏิเสธทุกข้อหา อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000036259 #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 869 มุมมอง 0 รีวิว
  • MITRE ได้รับการขยายสัญญาจาก CISA เพื่อดำเนินโครงการ Common Vulnerabilities and Exposures (CVE) ต่อไปอีก 11 เดือน หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีความกังวลว่าโครงการอาจถูกยกเลิกเนื่องจากการตัดงบประมาณ

    ✅ CISA ขยายสัญญา MITRE เพื่อดำเนินโครงการ CVE ต่อไปอีก 11 เดือน
    - โครงการ CVE เป็นมาตรฐานสำคัญในการ ระบุช่องโหว่ด้านความปลอดภัย
    - การขยายสัญญาช่วยให้มี การเปลี่ยนผ่านที่เป็นระบบ และลดผลกระทบต่อชุมชนความปลอดภัยไซเบอร์

    ✅ ความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของโครงการ CVE
    - นักวิชาการด้านความปลอดภัยบางคนกังวลว่า สหรัฐฯ อาจไม่ใช่พันธมิตรที่เชื่อถือได้ในการสนับสนุนโครงการนี้
    - มีการเสนอให้ตั้ง CVE Foundation เพื่อให้มีแหล่งเงินทุนที่หลากหลายจากผู้สนับสนุนทั่วโลก

    ✅ MITRE อาจต้องหาทางออกอื่นหากไม่มีการต่อสัญญาเพิ่มเติม
    - มีการตั้งคำถามว่า MITRE จะสามารถดำเนินโครงการต่อไปได้ด้วยเงินทุนของตัวเองหรือไม่
    - อาจมีความเป็นไปได้ที่ สหภาพยุโรปจะเข้ามาสนับสนุนโครงการแทน

    ✅ ความสำคัญของโครงการ CVE ต่ออุตสาหกรรมความปลอดภัยไซเบอร์
    - CVE เป็น ฐานข้อมูลสำคัญที่ช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญสามารถจัดการช่องโหว่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    - ใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานสำหรับ ผลิตภัณฑ์ด้านความปลอดภัย เช่น Cyber Threat Intelligence และ Endpoint Detection

    https://www.zdnet.com/article/why-the-cve-database-for-tracking-security-flaws-nearly-went-dark-and-what-happens-next/
    MITRE ได้รับการขยายสัญญาจาก CISA เพื่อดำเนินโครงการ Common Vulnerabilities and Exposures (CVE) ต่อไปอีก 11 เดือน หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีความกังวลว่าโครงการอาจถูกยกเลิกเนื่องจากการตัดงบประมาณ ✅ CISA ขยายสัญญา MITRE เพื่อดำเนินโครงการ CVE ต่อไปอีก 11 เดือน - โครงการ CVE เป็นมาตรฐานสำคัญในการ ระบุช่องโหว่ด้านความปลอดภัย - การขยายสัญญาช่วยให้มี การเปลี่ยนผ่านที่เป็นระบบ และลดผลกระทบต่อชุมชนความปลอดภัยไซเบอร์ ✅ ความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของโครงการ CVE - นักวิชาการด้านความปลอดภัยบางคนกังวลว่า สหรัฐฯ อาจไม่ใช่พันธมิตรที่เชื่อถือได้ในการสนับสนุนโครงการนี้ - มีการเสนอให้ตั้ง CVE Foundation เพื่อให้มีแหล่งเงินทุนที่หลากหลายจากผู้สนับสนุนทั่วโลก ✅ MITRE อาจต้องหาทางออกอื่นหากไม่มีการต่อสัญญาเพิ่มเติม - มีการตั้งคำถามว่า MITRE จะสามารถดำเนินโครงการต่อไปได้ด้วยเงินทุนของตัวเองหรือไม่ - อาจมีความเป็นไปได้ที่ สหภาพยุโรปจะเข้ามาสนับสนุนโครงการแทน ✅ ความสำคัญของโครงการ CVE ต่ออุตสาหกรรมความปลอดภัยไซเบอร์ - CVE เป็น ฐานข้อมูลสำคัญที่ช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญสามารถจัดการช่องโหว่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ - ใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานสำหรับ ผลิตภัณฑ์ด้านความปลอดภัย เช่น Cyber Threat Intelligence และ Endpoint Detection https://www.zdnet.com/article/why-the-cve-database-for-tracking-security-flaws-nearly-went-dark-and-what-happens-next/
    WWW.ZDNET.COM
    Why the CVE database for tracking security flaws nearly went dark - and what happens next
    Expired US government funding nearly disrupted this global security system. How can we prevent this from happening again in 11 months?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 242 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts