• สมองมนุษย์แบ่งเป็น 5 ยุคสำคัญตลอดชีวิต

    นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์และพิตส์เบิร์กได้ทำการศึกษาสมองมนุษย์กว่า 3,800 คน ตั้งแต่ทารกจนถึงวัยชรา พบว่าสมองไม่ได้เป็นเครื่องจักรที่ตายตัว แต่มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างและการเชื่อมต่อในช่วงอายุที่สำคัญ ได้แก่ 9, 32, 66 และ 83 ปี โดยแบ่งออกเป็น 5 ยุคหลัก คือ วัยเด็ก วัยรุ่น วัยผู้ใหญ่ วัยชราตอนต้น และวัยชราตอนปลาย ซึ่งแต่ละช่วงสะท้อนการเติบโตและการเสื่อมถอยของสมองในรูปแบบเฉพาะ

    วัยเด็กถึงวัยรุ่น
    ในช่วงแรกตั้งแต่เกิดจนถึงอายุ 9 ปี สมองจะขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทั้งเนื้อเทาและเนื้อขาว ก่อนที่จะเริ่มกระบวนการ “ตัดแต่ง” การเชื่อมต่อที่ไม่จำเป็นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เมื่อเข้าสู่วัยรุ่น สมองยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการสื่อสารระหว่างเครือข่ายสมองที่มีความซับซ้อนมากขึ้น และฮอร์โมนเพศที่หลั่งออกมามีผลต่อการจัดระเบียบสมอง

    วัยผู้ใหญ่และการเปลี่ยนแปลง
    เมื่อถึงอายุประมาณ 32 ปี สมองเข้าสู่ช่วงที่เสถียรที่สุด โครงสร้างเริ่มแบ่งแยกเป็นระบบเฉพาะด้านมากขึ้น และนี่คือจุดที่บุคลิกภาพและสติปัญญามักจะคงที่ อย่างไรก็ตาม งานวิจัยใหม่ชี้ว่าสมองยังคงพัฒนาไปจนถึงวัยสามสิบต้นๆ ไม่ได้หยุดที่วัยยี่สิบอย่างที่เคยเชื่อกัน

    วัยชราและความเสื่อม
    เมื่อเข้าสู่วัย 66 ปี สมองเริ่มแสดงสัญญาณเสื่อมลง การเชื่อมต่อระหว่างเครือข่ายลดลงและทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ และเมื่อถึงวัย 83 ปี สมองเข้าสู่ยุคสุดท้ายที่การทำงานระดับโลก (global) ลดลง ทำให้เครือข่ายเฉพาะส่วนต้องรับภาระมากขึ้น ซึ่งอาจสัมพันธ์กับภาวะสมองเสื่อมและโรคที่เกี่ยวข้องกับวัยชรา

    สรุปสาระสำคัญ
    สมองแบ่งเป็น 5 ยุคหลัก
    วัยเด็ก (0–9 ปี) : การขยายตัวและการตัดแต่งการเชื่อมต่อ
    วัยรุ่น : การจัดระเบียบสมองและการหลั่งฮอร์โมนเพศ
    วัยผู้ใหญ่ (32 ปี) : โครงสร้างสมองเสถียรและบุคลิกภาพคงที่
    วัยชราตอนต้น (66 ปี) : การเชื่อมต่อเริ่มเสื่อมลง
    วัยชราตอนปลาย (83 ปี) : ภาระการทำงานตกอยู่ที่เครือข่ายเฉพาะส่วน

    งานวิจัยชี้ว่าสมองยังพัฒนาไปจนถึงวัยสามสิบต้นๆ
    ขัดแย้งกับความเชื่อเดิมที่สมองโตเต็มที่ในวัยยี่สิบ

    การเสื่อมของสมองสัมพันธ์กับโรคในวัยชรา
    เช่น ภาวะสมองเสื่อมและอัลไซเมอร์

    ความเสื่อมของสมองเริ่มตั้งแต่ช่วงวัย 66 ปี
    อาจกระทบต่อความสามารถในการคิดและการสื่อสาร

    วัยชราตอนปลายมีความเสี่ยงสูงต่อภาวะสมองเสื่อม
    การลดลงของการเชื่อมต่อระดับโลกทำให้สมองทำงานหนักขึ้นในบางส่วน

    https://www.sciencealert.com/your-brain-goes-through-5-distinct-epochs-massive-study-finds
    🧠 สมองมนุษย์แบ่งเป็น 5 ยุคสำคัญตลอดชีวิต นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์และพิตส์เบิร์กได้ทำการศึกษาสมองมนุษย์กว่า 3,800 คน ตั้งแต่ทารกจนถึงวัยชรา พบว่าสมองไม่ได้เป็นเครื่องจักรที่ตายตัว แต่มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างและการเชื่อมต่อในช่วงอายุที่สำคัญ ได้แก่ 9, 32, 66 และ 83 ปี โดยแบ่งออกเป็น 5 ยุคหลัก คือ วัยเด็ก วัยรุ่น วัยผู้ใหญ่ วัยชราตอนต้น และวัยชราตอนปลาย ซึ่งแต่ละช่วงสะท้อนการเติบโตและการเสื่อมถอยของสมองในรูปแบบเฉพาะ 👶 วัยเด็กถึงวัยรุ่น ในช่วงแรกตั้งแต่เกิดจนถึงอายุ 9 ปี สมองจะขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทั้งเนื้อเทาและเนื้อขาว ก่อนที่จะเริ่มกระบวนการ “ตัดแต่ง” การเชื่อมต่อที่ไม่จำเป็นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เมื่อเข้าสู่วัยรุ่น สมองยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการสื่อสารระหว่างเครือข่ายสมองที่มีความซับซ้อนมากขึ้น และฮอร์โมนเพศที่หลั่งออกมามีผลต่อการจัดระเบียบสมอง 🧑 วัยผู้ใหญ่และการเปลี่ยนแปลง เมื่อถึงอายุประมาณ 32 ปี สมองเข้าสู่ช่วงที่เสถียรที่สุด โครงสร้างเริ่มแบ่งแยกเป็นระบบเฉพาะด้านมากขึ้น และนี่คือจุดที่บุคลิกภาพและสติปัญญามักจะคงที่ อย่างไรก็ตาม งานวิจัยใหม่ชี้ว่าสมองยังคงพัฒนาไปจนถึงวัยสามสิบต้นๆ ไม่ได้หยุดที่วัยยี่สิบอย่างที่เคยเชื่อกัน 👵 วัยชราและความเสื่อม เมื่อเข้าสู่วัย 66 ปี สมองเริ่มแสดงสัญญาณเสื่อมลง การเชื่อมต่อระหว่างเครือข่ายลดลงและทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ และเมื่อถึงวัย 83 ปี สมองเข้าสู่ยุคสุดท้ายที่การทำงานระดับโลก (global) ลดลง ทำให้เครือข่ายเฉพาะส่วนต้องรับภาระมากขึ้น ซึ่งอาจสัมพันธ์กับภาวะสมองเสื่อมและโรคที่เกี่ยวข้องกับวัยชรา 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ สมองแบ่งเป็น 5 ยุคหลัก ➡️ วัยเด็ก (0–9 ปี) : การขยายตัวและการตัดแต่งการเชื่อมต่อ ➡️ วัยรุ่น : การจัดระเบียบสมองและการหลั่งฮอร์โมนเพศ ➡️ วัยผู้ใหญ่ (32 ปี) : โครงสร้างสมองเสถียรและบุคลิกภาพคงที่ ➡️ วัยชราตอนต้น (66 ปี) : การเชื่อมต่อเริ่มเสื่อมลง ➡️ วัยชราตอนปลาย (83 ปี) : ภาระการทำงานตกอยู่ที่เครือข่ายเฉพาะส่วน ✅ งานวิจัยชี้ว่าสมองยังพัฒนาไปจนถึงวัยสามสิบต้นๆ ➡️ ขัดแย้งกับความเชื่อเดิมที่สมองโตเต็มที่ในวัยยี่สิบ ✅ การเสื่อมของสมองสัมพันธ์กับโรคในวัยชรา ➡️ เช่น ภาวะสมองเสื่อมและอัลไซเมอร์ ‼️ ความเสื่อมของสมองเริ่มตั้งแต่ช่วงวัย 66 ปี ⛔ อาจกระทบต่อความสามารถในการคิดและการสื่อสาร ‼️ วัยชราตอนปลายมีความเสี่ยงสูงต่อภาวะสมองเสื่อม ⛔ การลดลงของการเชื่อมต่อระดับโลกทำให้สมองทำงานหนักขึ้นในบางส่วน https://www.sciencealert.com/your-brain-goes-through-5-distinct-epochs-massive-study-finds
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Your Brain Goes Through 5 Distinct Epochs, Massive Study Finds
    The human brain is not a hard-wired machine but a malleable organ that is regularly re-shaping itself.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 167 มุมมอง 0 รีวิว
  • นอนไม่หลับอาจไม่ใช่แค่ปัญหาเล็กๆ…แต่มันคือ “ไฟกะพริบ” ที่ร่างกายส่งสัญญาณให้เราฟัง

    มีผู้หญิงวัย 40+ จำนวนไม่น้อยที่นอนไม่หลับ
    “ช่วงนี้นอนไม่หลับเลยค่ะ ผมเริ่มบาง ใจสั่น รู้สึกอ่อนเพลียทั้งวัน”
    บางคนก็แค่คิดว่า “อาจเครียด อาจเหนื่อย เดี๋ยวก็คงหาย”
    แต่ความจริง…มันลึกกว่านั้นครับ

    เมื่ออายุเข้าสู่ช่วงวัย 40+ ระบบ “ฮอร์โมนเพศหญิง” อย่างเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนจะเริ่มลดลงอย่างช้าๆ โดยที่เราไม่รู้ตัว
    ซึ่งฮอร์โมนเหล่านี้มีบทบาทสำคัญกับระบบนอนหลับ สมอง หัวใจ ผิวพรรณ และแม้แต่ ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย

    และนี่คือเหตุผลที่ “นอนไม่หลับ” กลายเป็น “จุดเริ่มต้น” ของหลายโรคร้าย



    งานวิจัยระดับโลกพูดตรงกันว่า…

    ผู้หญิงวัยกลางคนที่นอนไม่เพียงพอหรือหลับไม่ลึก มีความเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ และโรคหัวใจสูงขึ้นถึง 50-70%【Harvard Medical School, 2021】

    เพราะขณะนอนหลับ ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมน “เมลาโทนิน” และ “โกรทฮอร์โมน” ซึ่งช่วย
    • ฟื้นฟูเซลล์ที่เสียหาย
    • กำจัดสารพิษจากระบบประสาท
    • และ “ควบคุมการแบ่งเซลล์ผิดปกติ” ซึ่งเป็นต้นทางของเซลล์มะเร็ง

    หากคุณนอนไม่หลับนานๆ ร่างกายจะเข้าสู่ภาวะ “อักเสบเรื้อรัง”
    อาการเหล่านี้มักจะตามมาเรื่อยๆ โดยที่คุณไม่ทันสังเกต
    • เพลียทั้งวัน
    • น้ำหนักเพิ่มง่าย
    • ขี้หงุดหงิด
    • สมองเบลอ
    • และ “ภูมิต้านทานลดลง”



    แล้วจะเริ่มฟื้นฟูอย่างไรดี? โดยไม่ต้องพึ่งยา

    ผมขอแบ่งเป็น 3 ด้านง่ายๆ ที่คุณทำได้เองที่บ้านเลยครับ

    1. เปลี่ยน “กิจวัตรก่อนนอน” ให้ร่างกายรู้ว่า…ถึงเวลาพักแล้ว
    • ปิดหน้าจอมือถืออย่างน้อย 1 ชั่วโมงก่อนนอน
    • อาบน้ำอุ่นก่อนนอน ช่วยลดคอร์ติซอล (ฮอร์โมนเครียด)
    • ใช้กลิ่นลาเวนเดอร์ หรือเปิดเสียง white noise ผ่อนคลายสมอง
    • หายใจลึกๆ แบบ 4-7-8 (4 วินาที-กลั้น 7-หายใจออก

    2. ดูแลฮอร์โมนด้วยอาหารที่ใช่
    • ลดน้ำตาล แป้งขัดขาว เพราะมันทำให้ “อินซูลิน” แปรปรวน → รบกวนสมดุลฮอร์โมน
    • เสริมผักใบเขียว ไขมันดี (น้ำมันมะกอก อะโวคาโด ถั่วเปลือกแข็ง) และโปรตีนพอดีๆ
    • ลองทำ IF แบบนุ่มๆ เช่น 12/12 หรือ 14/10 → ให้ระบบย่อยได้พัก และช่วยฟื้นฮอร์โมนได้จริง

    3. ตื่นให้ตรงเวลา และรับแดดเช้า
    • การรับแสงแดดตอนเช้า 10-15 นาที จะกระตุ้นการหลั่งเซโรโทนิน และช่วยให้คุณหลับลึกในตอนกลางคืน
    • แสงเช้า = นาฬิกาชีวิต → ปรับวงจรการหลับ-ตื่นของร่างกายอย่างธรรมชาติ



    อย่าปล่อยให้ “นอนไม่หลับ” เป็นเรื่องเล็ก

    เพราะบางครั้ง…การปล่อยผ่าน อาจทำให้เราพลาดโอกาสในการดูแลตัวเอง
    แค่คุณเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมเล็กๆ เหล่านี้ ชีวิตก็จะเริ่มเปลี่ยนครับ
    คุณจะรู้สึกได้ว่า “สมองโล่งขึ้น” “ร่างกายสดชื่นขึ้น” และ “จิตใจเบาสบายขึ้น” อย่างเป็นธรรมชาติ

    และผมเชื่อเสมอว่า
    คุณไม่จำเป็นต้องใช้ชีวิตแบบอดทนกับอาการเหล่านี้อีกต่อไป

    ขอแค่คุณเห็นคุณค่าในตัวเอง แล้วเริ่มดูแลตัวเองจากคืนนี้เลยครับ
    💔 นอนไม่หลับอาจไม่ใช่แค่ปัญหาเล็กๆ…แต่มันคือ “ไฟกะพริบ” ที่ร่างกายส่งสัญญาณให้เราฟัง 👉มีผู้หญิงวัย 40+ จำนวนไม่น้อยที่นอนไม่หลับ “ช่วงนี้นอนไม่หลับเลยค่ะ ผมเริ่มบาง ใจสั่น รู้สึกอ่อนเพลียทั้งวัน” บางคนก็แค่คิดว่า “อาจเครียด อาจเหนื่อย เดี๋ยวก็คงหาย” แต่ความจริง…มันลึกกว่านั้นครับ เมื่ออายุเข้าสู่ช่วงวัย 40+ ระบบ “ฮอร์โมนเพศหญิง” อย่างเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนจะเริ่มลดลงอย่างช้าๆ โดยที่เราไม่รู้ตัว ซึ่งฮอร์โมนเหล่านี้มีบทบาทสำคัญกับระบบนอนหลับ สมอง หัวใจ ผิวพรรณ และแม้แต่ ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย และนี่คือเหตุผลที่ “นอนไม่หลับ” กลายเป็น “จุดเริ่มต้น” ของหลายโรคร้าย ⸻ งานวิจัยระดับโลกพูดตรงกันว่า… ผู้หญิงวัยกลางคนที่นอนไม่เพียงพอหรือหลับไม่ลึก มีความเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ และโรคหัวใจสูงขึ้นถึง 50-70%【Harvard Medical School, 2021】 เพราะขณะนอนหลับ ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมน “เมลาโทนิน” และ “โกรทฮอร์โมน” ซึ่งช่วย • ฟื้นฟูเซลล์ที่เสียหาย • กำจัดสารพิษจากระบบประสาท • และ “ควบคุมการแบ่งเซลล์ผิดปกติ” ซึ่งเป็นต้นทางของเซลล์มะเร็ง หากคุณนอนไม่หลับนานๆ ร่างกายจะเข้าสู่ภาวะ “อักเสบเรื้อรัง” อาการเหล่านี้มักจะตามมาเรื่อยๆ โดยที่คุณไม่ทันสังเกต • เพลียทั้งวัน • น้ำหนักเพิ่มง่าย • ขี้หงุดหงิด • สมองเบลอ • และ “ภูมิต้านทานลดลง” ⸻ แล้วจะเริ่มฟื้นฟูอย่างไรดี? โดยไม่ต้องพึ่งยา ผมขอแบ่งเป็น 3 ด้านง่ายๆ ที่คุณทำได้เองที่บ้านเลยครับ 1. เปลี่ยน “กิจวัตรก่อนนอน” ให้ร่างกายรู้ว่า…ถึงเวลาพักแล้ว • ปิดหน้าจอมือถืออย่างน้อย 1 ชั่วโมงก่อนนอน • อาบน้ำอุ่นก่อนนอน ช่วยลดคอร์ติซอล (ฮอร์โมนเครียด) • ใช้กลิ่นลาเวนเดอร์ หรือเปิดเสียง white noise ผ่อนคลายสมอง • หายใจลึกๆ แบบ 4-7-8 (4 วินาที-กลั้น 7-หายใจออก 😎 2. ดูแลฮอร์โมนด้วยอาหารที่ใช่ • ลดน้ำตาล แป้งขัดขาว เพราะมันทำให้ “อินซูลิน” แปรปรวน → รบกวนสมดุลฮอร์โมน • เสริมผักใบเขียว ไขมันดี (น้ำมันมะกอก อะโวคาโด ถั่วเปลือกแข็ง) และโปรตีนพอดีๆ • ลองทำ IF แบบนุ่มๆ เช่น 12/12 หรือ 14/10 → ให้ระบบย่อยได้พัก และช่วยฟื้นฮอร์โมนได้จริง 3. ตื่นให้ตรงเวลา และรับแดดเช้า • การรับแสงแดดตอนเช้า 10-15 นาที จะกระตุ้นการหลั่งเซโรโทนิน และช่วยให้คุณหลับลึกในตอนกลางคืน • แสงเช้า = นาฬิกาชีวิต → ปรับวงจรการหลับ-ตื่นของร่างกายอย่างธรรมชาติ ⸻ อย่าปล่อยให้ “นอนไม่หลับ” เป็นเรื่องเล็ก เพราะบางครั้ง…การปล่อยผ่าน อาจทำให้เราพลาดโอกาสในการดูแลตัวเอง แค่คุณเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมเล็กๆ เหล่านี้ ชีวิตก็จะเริ่มเปลี่ยนครับ คุณจะรู้สึกได้ว่า “สมองโล่งขึ้น” “ร่างกายสดชื่นขึ้น” และ “จิตใจเบาสบายขึ้น” อย่างเป็นธรรมชาติ และผมเชื่อเสมอว่า คุณไม่จำเป็นต้องใช้ชีวิตแบบอดทนกับอาการเหล่านี้อีกต่อไป ขอแค่คุณเห็นคุณค่าในตัวเอง แล้วเริ่มดูแลตัวเองจากคืนนี้เลยครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1193 มุมมอง 0 รีวิว
  • Vagi โดยทีมสูตินรีแพทย์และอาจารย์ประสบการณ์มากกว่า 30 ปี
    .
    Vagi Clinic เป็นคลินิกเฉพาะทางที่ให้บริการดูแลและรักษาด้านสุขภาพและความงามทางนรีเวช โดยเฉพาะในเรื่องของฮอร์โมนวัยทองที่มีผลต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของผู้หญิง บริการของคลินิกครอบคลุมการดูแลฮอร์โมนเพศทางเลือก รวมถึงการให้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญทางด้าน Sexology ที่มีประสบการณ์ในการจัดการกับปัญหาทางเพศและความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้อง

    นอกจากนี้ Vagi Clinic ยังมีทีมแพทย์สูตินรีเวชที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ซึ่งสามารถให้คำปรึกษาและรักษาปัญหาที่เกี่ยวกับสุขภาพสตรีได้อย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นด้านความงาม การฟื้นฟูจุดซ่อนเร้น หรือการจัดการกับปัญหาทางสุขภาพที่ซับซ้อนในผู้หญิงทุกช่วงวัย

    ทำไมต้องให้ Vagi Clinic ดูแลคุณ
    -ตรวจและรักษาโดยอาจารย์แพทย์เฉพาะทางสูตินรีเวช ประสบการณ์กว่า 30 ปี
    -มีทีมแพทย์เฉพาะทางสูตินรีเวช คอยให้บริการ
    -ระบบการรักษาและห้องผ่าตัดเทียบเท่าโรงพยาบาล
    -การตรวจรักษาและการส่งต่อสะดวกและรวดเร็ว
    -ออกใบรับรองแพทย์ เบิกประกันในกรณีส่งต่อรักษาที่อื่นได้

    จุดซ่อนเร้นสตรี ปัญหาสูตินรีเวช
    VAGI รู้ใจน้องสาว รู้ใจคุณ
    --------------------------------------------

    สนใจสอบถามรายละเอียดได้ใน Comment

    #ตรวจภายใน
    #สุขภาพผู้หญิง #DrJim #VagiClinic
    Vagi โดยทีมสูตินรีแพทย์และอาจารย์ประสบการณ์มากกว่า 30 ปี . Vagi Clinic เป็นคลินิกเฉพาะทางที่ให้บริการดูแลและรักษาด้านสุขภาพและความงามทางนรีเวช โดยเฉพาะในเรื่องของฮอร์โมนวัยทองที่มีผลต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของผู้หญิง บริการของคลินิกครอบคลุมการดูแลฮอร์โมนเพศทางเลือก รวมถึงการให้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญทางด้าน Sexology ที่มีประสบการณ์ในการจัดการกับปัญหาทางเพศและความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ Vagi Clinic ยังมีทีมแพทย์สูตินรีเวชที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ซึ่งสามารถให้คำปรึกษาและรักษาปัญหาที่เกี่ยวกับสุขภาพสตรีได้อย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นด้านความงาม การฟื้นฟูจุดซ่อนเร้น หรือการจัดการกับปัญหาทางสุขภาพที่ซับซ้อนในผู้หญิงทุกช่วงวัย ทำไมต้องให้ Vagi Clinic ดูแลคุณ -ตรวจและรักษาโดยอาจารย์แพทย์เฉพาะทางสูตินรีเวช ประสบการณ์กว่า 30 ปี -มีทีมแพทย์เฉพาะทางสูตินรีเวช คอยให้บริการ -ระบบการรักษาและห้องผ่าตัดเทียบเท่าโรงพยาบาล -การตรวจรักษาและการส่งต่อสะดวกและรวดเร็ว -ออกใบรับรองแพทย์ เบิกประกันในกรณีส่งต่อรักษาที่อื่นได้ จุดซ่อนเร้นสตรี ปัญหาสูตินรีเวช VAGI รู้ใจน้องสาว รู้ใจคุณ -------------------------------------------- 🔔สนใจสอบถามรายละเอียดได้ใน Comment #ตรวจภายใน #สุขภาพผู้หญิง #DrJim #VagiClinic
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1152 มุมมอง 0 รีวิว
  • PCOS กับดื้ออินซูลิน เกี่ยวข้องกันยังไง?
    ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ (PCOS) เชื่อมโยงกับ ภาวะดื้ออินซูลิน อย่างใกล้ชิด อินซูลินที่ทำงานผิดปกติอาจกระตุ้นฮอร์โมนเพศชายในร่างกายให้เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ สิวขึ้นง่าย น้ำหนักเพิ่ม และเสี่ยงโรคเรื้อรัง!
    มาเข้าใจต้นเหตุและเรียนรู้วิธีแก้ในคลิปนี้เลยค่ะ!

    #PCOS #ภาวะดื้ออินซูลิน #ลดน้ำตาล #ดูแลสุขภาพ #ฮอร์โมนสมดุล #สุขภาพดี #ผู้หญิงต้องรู้ #feelgreat
    PCOS กับดื้ออินซูลิน เกี่ยวข้องกันยังไง? ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ (PCOS) เชื่อมโยงกับ ภาวะดื้ออินซูลิน อย่างใกล้ชิด ✨ อินซูลินที่ทำงานผิดปกติอาจกระตุ้นฮอร์โมนเพศชายในร่างกายให้เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ สิวขึ้นง่าย น้ำหนักเพิ่ม และเสี่ยงโรคเรื้อรัง! 💔 มาเข้าใจต้นเหตุและเรียนรู้วิธีแก้ในคลิปนี้เลยค่ะ! #PCOS #ภาวะดื้ออินซูลิน #ลดน้ำตาล #ดูแลสุขภาพ #ฮอร์โมนสมดุล #สุขภาพดี #ผู้หญิงต้องรู้ #feelgreat
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 878 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฮอร์โมนรักษาวัยทอง ไม่ได้เหมาะกับทุกคน! แม้ว่าจะช่วยบรรเทาอาการต่างๆ ของวัยทอง แต่ก็ต้องปรึกษาแพทย์และพิจารณาความเหมาะสมของแต่ละบุคคล ไม่ทุกร่างกายจะตอบสนองเหมือนกัน ดังนั้นอย่าลืมตรวจสอบให้ดีก่อนตัดสินใจค่ะ
    .
    สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสำรองคิวใน Comment
    .
    #วัยทอง #ฮอร์โมนรักษาวัยทอง #ดูแลสุขภาพ #ปรึกษาแพทย์ #สุขภาพดี #วัยทองเป็นเรื่องที่ใส่ใจ #ฮอร์โมนเพศ #คลินิกเพื่อคนข้ามเพศ #เพราะทุกเพศสำคัญ #TransCare #HormoneTherapy #ดูแลตัวเอง #ฟื้นฟูสุขภาพ #ฮอร์โมนสมดุล #มั่นใจในทุกวัย #ปรับสมดุลฮอร์โมน #ชีวิตดีไม่มีสะดุด #ฮอร์โมนสมดุล #ผู้หญิงยุคใหม่ #ดูแลด้วยใจ #DrJim #VagiClinic
    ฮอร์โมนรักษาวัยทอง 🧑‍⚕️ ไม่ได้เหมาะกับทุกคน! 🌿 แม้ว่าจะช่วยบรรเทาอาการต่างๆ ของวัยทอง แต่ก็ต้องปรึกษาแพทย์และพิจารณาความเหมาะสมของแต่ละบุคคล 💬 ไม่ทุกร่างกายจะตอบสนองเหมือนกัน ดังนั้นอย่าลืมตรวจสอบให้ดีก่อนตัดสินใจค่ะ ✨ . 📩 สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสำรองคิวใน Comment . #วัยทอง #ฮอร์โมนรักษาวัยทอง #ดูแลสุขภาพ #ปรึกษาแพทย์ #สุขภาพดี #วัยทองเป็นเรื่องที่ใส่ใจ #ฮอร์โมนเพศ #คลินิกเพื่อคนข้ามเพศ #เพราะทุกเพศสำคัญ #TransCare #HormoneTherapy #ดูแลตัวเอง #ฟื้นฟูสุขภาพ #ฮอร์โมนสมดุล #มั่นใจในทุกวัย #ปรับสมดุลฮอร์โมน #ชีวิตดีไม่มีสะดุด #ฮอร์โมนสมดุล #ผู้หญิงยุคใหม่ #ดูแลด้วยใจ #DrJim #VagiClinic
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1808 มุมมอง 32 0 รีวิว