• “NFL ใช้ AI คาดการณ์อาการบาดเจ็บ — ยกระดับความปลอดภัยนักกีฬา”

    NFL ร่วมมือกับ Amazon Web Services พัฒนาเครื่องมือชื่อ “Digital Athlete” ที่ใช้ AI และ machine learning วิเคราะห์ข้อมูลจากกล้อง, เซ็นเซอร์ในแผ่นรองไหล่ และระบบติดตามการเคลื่อนไหว เพื่อประเมินความเสี่ยงการบาดเจ็บของนักกีฬาแต่ละคน

    ระบบนี้รวบรวมข้อมูลจากการฝึกซ้อมและการแข่งขันของผู้เล่นกว่า 1,500 คนจากทั้ง 32 ทีม โดยสามารถวิเคราะห์ได้ว่าใครทำงานหนักเกินไป, เสี่ยงบาดเจ็บ, หรือควรปรับตารางซ้อมให้เหมาะสม

    Digital Athlete สร้างข้อมูลมากถึง 500 ล้านจุดต่อสัปดาห์ ซึ่งมากกว่าระบบ NextGen Stats ทั้งฤดูกาล ทำให้ต้องใช้ AI ในการประมวลผลเพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกที่นำไปใช้จริงได้

    นอกจากการดูแลสุขภาพนักกีฬาแล้ว NFL ยังใช้ข้อมูลนี้เพื่อจำลองผลกระทบจากการเปลี่ยนกฎ เช่น kickoff แบบใหม่ หรือการห้าม tackle แบบ hip-drop โดยสามารถจำลองได้ถึง 10,000 ฤดูกาลเพื่อประเมินความเสี่ยง

    ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดคือจำนวนการกระทบกระเทือนสมอง (concussion) ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในตำแหน่ง quarterback ที่มีการปรับปรุงหมวกกันกระแทกตามข้อมูลที่ได้

    NFL ใช้เครื่องมือ Digital Athlete ร่วมกับ AWS
    วิเคราะห์ข้อมูลจากเซ็นเซอร์, กล้อง และการเคลื่อนไหว

    รวบรวมข้อมูลจากผู้เล่นกว่า 1,500 คนใน 32 ทีม
    ใช้ในการประเมินความเสี่ยงและปรับตารางซ้อม

    สร้างข้อมูลมากถึง 500 ล้านจุดต่อสัปดาห์
    ต้องใช้ AI และ machine learning ในการประมวลผล

    ใช้ข้อมูลจำลองผลกระทบจากการเปลี่ยนกฎ
    เช่น kickoff แบบใหม่ และการห้าม hip-drop tackle

    จำนวน concussion ลดลง โดยเฉพาะในตำแหน่ง quarterback
    จากการปรับปรุงหมวกกันกระแทกตามข้อมูลที่ได้

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/18/nfl-uses-ai-to-predict-injuries-aiming-to-keep-players-healthier
    🏈 “NFL ใช้ AI คาดการณ์อาการบาดเจ็บ — ยกระดับความปลอดภัยนักกีฬา” NFL ร่วมมือกับ Amazon Web Services พัฒนาเครื่องมือชื่อ “Digital Athlete” ที่ใช้ AI และ machine learning วิเคราะห์ข้อมูลจากกล้อง, เซ็นเซอร์ในแผ่นรองไหล่ และระบบติดตามการเคลื่อนไหว เพื่อประเมินความเสี่ยงการบาดเจ็บของนักกีฬาแต่ละคน ระบบนี้รวบรวมข้อมูลจากการฝึกซ้อมและการแข่งขันของผู้เล่นกว่า 1,500 คนจากทั้ง 32 ทีม โดยสามารถวิเคราะห์ได้ว่าใครทำงานหนักเกินไป, เสี่ยงบาดเจ็บ, หรือควรปรับตารางซ้อมให้เหมาะสม Digital Athlete สร้างข้อมูลมากถึง 500 ล้านจุดต่อสัปดาห์ ซึ่งมากกว่าระบบ NextGen Stats ทั้งฤดูกาล ทำให้ต้องใช้ AI ในการประมวลผลเพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกที่นำไปใช้จริงได้ นอกจากการดูแลสุขภาพนักกีฬาแล้ว NFL ยังใช้ข้อมูลนี้เพื่อจำลองผลกระทบจากการเปลี่ยนกฎ เช่น kickoff แบบใหม่ หรือการห้าม tackle แบบ hip-drop โดยสามารถจำลองได้ถึง 10,000 ฤดูกาลเพื่อประเมินความเสี่ยง ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดคือจำนวนการกระทบกระเทือนสมอง (concussion) ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในตำแหน่ง quarterback ที่มีการปรับปรุงหมวกกันกระแทกตามข้อมูลที่ได้ ✅ NFL ใช้เครื่องมือ Digital Athlete ร่วมกับ AWS ➡️ วิเคราะห์ข้อมูลจากเซ็นเซอร์, กล้อง และการเคลื่อนไหว ✅ รวบรวมข้อมูลจากผู้เล่นกว่า 1,500 คนใน 32 ทีม ➡️ ใช้ในการประเมินความเสี่ยงและปรับตารางซ้อม ✅ สร้างข้อมูลมากถึง 500 ล้านจุดต่อสัปดาห์ ➡️ ต้องใช้ AI และ machine learning ในการประมวลผล ✅ ใช้ข้อมูลจำลองผลกระทบจากการเปลี่ยนกฎ ➡️ เช่น kickoff แบบใหม่ และการห้าม hip-drop tackle ✅ จำนวน concussion ลดลง โดยเฉพาะในตำแหน่ง quarterback ➡️ จากการปรับปรุงหมวกกันกระแทกตามข้อมูลที่ได้ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/18/nfl-uses-ai-to-predict-injuries-aiming-to-keep-players-healthier
    WWW.THESTAR.COM.MY
    NFL uses AI to predict injuries, aiming to keep players healthier
    The Digital Athlete tool takes video and data from players on all 32 teams from training, practice and games, giving every team information on how hard its players have worked, whether they are at risk for more injuries, as well as helping them track leaguewide trends and benchmarks.
    0 Comments 0 Shares 183 Views 0 Reviews
  • “ข่าวที่เราเสพ กับความจริงที่เราตายจาก — เมื่อสื่อพูดถึงสิ่งที่สะเทือนใจ มากกว่าสิ่งที่พรากชีวิตคนส่วนใหญ่”

    บทความจาก Our World in Data วิเคราะห์อย่างลึกซึ้งถึงความไม่สมดุลระหว่าง “สิ่งที่สื่อรายงาน” กับ “สิ่งที่คนเสียชีวิตจากจริง ๆ” โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ซึ่งพบว่าข่าวส่วนใหญ่มักเน้นไปที่เหตุการณ์รุนแรง เช่น ฆาตกรรมหรือก่อการร้าย ทั้งที่สาเหตุการเสียชีวิตหลักกลับเป็นโรคเรื้อรังอย่างโรคหัวใจและมะเร็ง

    การศึกษานี้ใช้ข้อมูลจาก CDC และ Media Cloud โดยเปรียบเทียบสัดส่วนของสาเหตุการตายกับจำนวนบทความข่าวจากสื่อใหญ่ 3 แห่ง ได้แก่ New York Times, Washington Post และ Fox News ในปี 2023 ผลลัพธ์ชี้ชัดว่า:

    โรคหัวใจและมะเร็ง คิดเป็น 56% ของการเสียชีวิต แต่ได้รับพื้นที่ข่าวเพียง 7%
    ในทางกลับกัน การฆาตกรรมและก่อการร้าย ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนการตายเพียงเล็กน้อย กลับได้รับความสนใจจากสื่อมากถึงครึ่งหนึ่งของข่าวทั้งหมด

    บทความยังชี้ให้เห็นว่า ความไม่สมดุลนี้ไม่ได้เกิดจากอคติทางการเมืองของสื่อ แต่เป็นเพราะธรรมชาติของข่าวที่เน้น “สิ่งใหม่และสะเทือนอารมณ์” มากกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ ทุกวัน เช่น โรคเรื้อรัง

    การศึกษานี้ใช้ข้อมูลจาก CDC และ Media Cloud
    เปรียบเทียบสาเหตุการตายกับการรายงานข่าวในสหรัฐฯ ปี 2023

    โรคหัวใจและมะเร็งเป็นสาเหตุการตายหลัก (56%)
    แต่ได้รับพื้นที่ข่าวเพียง 7%

    การฆาตกรรมและก่อการร้ายได้รับพื้นที่ข่าวมากเกินจริง
    ฆาตกรรมถูกพูดถึงมากกว่าความเป็นจริงถึง 43 เท่า
    ก่อการร้ายมากกว่าความเป็นจริงถึง 18,000 เท่า

    ความแตกต่างระหว่างสื่อสายซ้าย-ขวาไม่มากนัก
    ทุกสื่อให้ความสำคัญกับเหตุการณ์รุนแรงมากกว่าสาเหตุเรื้อรัง

    สื่อมักเลือกนำเสนอสิ่งที่ “ใหม่และสะเทือนใจ”
    เช่น ฆาตกรรม, อุบัติเหตุ, หรือภัยพิบัติ

    ผู้คนมักเข้าใจผิดว่าข่าวสะท้อนความเป็นจริง
    ส่งผลให้ประเมินความเสี่ยงในชีวิตผิดพลาด

    การเสพข่าวที่ไม่สมดุลอาจทำให้เกิด “ภาพลวงตา” ของความเสี่ยง
    เช่น กลัวการก่อการร้ายมากกว่ามะเร็ง ทั้งที่โอกาสตายน้อยกว่ามาก

    ความเข้าใจผิดนี้ส่งผลต่อการกำหนดนโยบายและการจัดสรรทรัพยากร
    เช่น ทุ่มงบให้กับการรักษาความปลอดภัยมากกว่าสาธารณสุข

    การรายงานข่าวที่เน้นอารมณ์มากกว่าสถิติ
    อาจทำให้ประชาชนวิตกเกินจริงและขาดความเข้าใจในปัญหาสาธารณสุข

    การไม่พูดถึงโรคเรื้อรังในข่าว
    ทำให้ผู้คนไม่ตระหนักถึงความสำคัญของการป้องกันและดูแลสุขภาพ

    https://ourworldindata.org/does-the-news-reflect-what-we-die-from
    📰 “ข่าวที่เราเสพ กับความจริงที่เราตายจาก — เมื่อสื่อพูดถึงสิ่งที่สะเทือนใจ มากกว่าสิ่งที่พรากชีวิตคนส่วนใหญ่” บทความจาก Our World in Data วิเคราะห์อย่างลึกซึ้งถึงความไม่สมดุลระหว่าง “สิ่งที่สื่อรายงาน” กับ “สิ่งที่คนเสียชีวิตจากจริง ๆ” โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ซึ่งพบว่าข่าวส่วนใหญ่มักเน้นไปที่เหตุการณ์รุนแรง เช่น ฆาตกรรมหรือก่อการร้าย ทั้งที่สาเหตุการเสียชีวิตหลักกลับเป็นโรคเรื้อรังอย่างโรคหัวใจและมะเร็ง การศึกษานี้ใช้ข้อมูลจาก CDC และ Media Cloud โดยเปรียบเทียบสัดส่วนของสาเหตุการตายกับจำนวนบทความข่าวจากสื่อใหญ่ 3 แห่ง ได้แก่ New York Times, Washington Post และ Fox News ในปี 2023 ผลลัพธ์ชี้ชัดว่า: ✝️ โรคหัวใจและมะเร็ง คิดเป็น 56% ของการเสียชีวิต แต่ได้รับพื้นที่ข่าวเพียง 7% ✝️ ในทางกลับกัน การฆาตกรรมและก่อการร้าย ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนการตายเพียงเล็กน้อย กลับได้รับความสนใจจากสื่อมากถึงครึ่งหนึ่งของข่าวทั้งหมด บทความยังชี้ให้เห็นว่า ความไม่สมดุลนี้ไม่ได้เกิดจากอคติทางการเมืองของสื่อ แต่เป็นเพราะธรรมชาติของข่าวที่เน้น “สิ่งใหม่และสะเทือนอารมณ์” มากกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ ทุกวัน เช่น โรคเรื้อรัง ✅ การศึกษานี้ใช้ข้อมูลจาก CDC และ Media Cloud ➡️ เปรียบเทียบสาเหตุการตายกับการรายงานข่าวในสหรัฐฯ ปี 2023 ✅ โรคหัวใจและมะเร็งเป็นสาเหตุการตายหลัก (56%) ➡️ แต่ได้รับพื้นที่ข่าวเพียง 7% ✅ การฆาตกรรมและก่อการร้ายได้รับพื้นที่ข่าวมากเกินจริง ➡️ ฆาตกรรมถูกพูดถึงมากกว่าความเป็นจริงถึง 43 เท่า ➡️ ก่อการร้ายมากกว่าความเป็นจริงถึง 18,000 เท่า ✅ ความแตกต่างระหว่างสื่อสายซ้าย-ขวาไม่มากนัก ➡️ ทุกสื่อให้ความสำคัญกับเหตุการณ์รุนแรงมากกว่าสาเหตุเรื้อรัง ✅ สื่อมักเลือกนำเสนอสิ่งที่ “ใหม่และสะเทือนใจ” ➡️ เช่น ฆาตกรรม, อุบัติเหตุ, หรือภัยพิบัติ ✅ ผู้คนมักเข้าใจผิดว่าข่าวสะท้อนความเป็นจริง ➡️ ส่งผลให้ประเมินความเสี่ยงในชีวิตผิดพลาด ‼️ การเสพข่าวที่ไม่สมดุลอาจทำให้เกิด “ภาพลวงตา” ของความเสี่ยง ⛔ เช่น กลัวการก่อการร้ายมากกว่ามะเร็ง ทั้งที่โอกาสตายน้อยกว่ามาก ‼️ ความเข้าใจผิดนี้ส่งผลต่อการกำหนดนโยบายและการจัดสรรทรัพยากร ⛔ เช่น ทุ่มงบให้กับการรักษาความปลอดภัยมากกว่าสาธารณสุข ‼️ การรายงานข่าวที่เน้นอารมณ์มากกว่าสถิติ ⛔ อาจทำให้ประชาชนวิตกเกินจริงและขาดความเข้าใจในปัญหาสาธารณสุข ‼️ การไม่พูดถึงโรคเรื้อรังในข่าว ⛔ ทำให้ผู้คนไม่ตระหนักถึงความสำคัญของการป้องกันและดูแลสุขภาพ https://ourworldindata.org/does-the-news-reflect-what-we-die-from
    OURWORLDINDATA.ORG
    Does the news reflect what we die from?
    What do Americans die from, and what do the New York Times, Washington Post, and Fox News report on?
    0 Comments 0 Shares 205 Views 0 Reviews
  • ตลาดบริการแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนข้อมูล: พลิกโฉมเศรษฐกิจดิจิทัลด้วยพลังของข้อมูล

    ในยุคดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ธุรกิจทั่วโลกต่างมองหาวิธีในการแบ่งปันและใช้ประโยชน์จากข้อมูลได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ตลาด บริการแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนข้อมูล (Data Exchange Platform Services Market) จึงกลายเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลยุคใหม่ โดยช่วยให้บริษัท หน่วยงานรัฐบาล และสตาร์ทอัพ สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันได้อย่างโปร่งใส ปลอดภัย และรวดเร็ว
    https://www.marketresearchfuture.com/reports/data-exchange-platform-services-market-23989
    แพลตฟอร์มเหล่านี้ทำหน้าที่เป็น “สะพานเชื่อมข้อมูล” ระหว่างองค์กร โดยมีระบบเข้ารหัสและการควบคุมสิทธิ์เข้าถึงข้อมูล เพื่อป้องกันการละเมิดความเป็นส่วนตัวและการรั่วไหลของข้อมูล ผู้ใช้งานสามารถแชร์ข้อมูลเชิงลึก เช่น ข้อมูลผู้บริโภค ข้อมูลตลาด และข้อมูลอุตสาหกรรม เพื่อสร้างมูลค่าทางธุรกิจร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ปัจจัยที่ผลักดันการเติบโตของตลาด

    หนึ่งในแรงขับเคลื่อนหลักคือ การเติบโตของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ บิ๊กดาต้า (Big Data) ซึ่งต้องอาศัยข้อมูลปริมาณมหาศาลจากหลายแหล่งเพื่อการวิเคราะห์เชิงลึก นอกจากนี้ การเพิ่มขึ้นของกฎระเบียบด้านความปลอดภัยข้อมูล เช่น GDPR และ PDPA ทำให้องค์กรต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ปลอดภัยและโปร่งใสมากขึ้น

    ในภาคอุตสาหกรรม เช่น การเงิน การดูแลสุขภาพ และพลังงาน แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนข้อมูลถูกใช้เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลการทำธุรกรรม ข้อมูลผู้ป่วย และข้อมูลการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้การตัดสินใจทางธุรกิจเร็วขึ้นและลดความเสี่ยงจากข้อมูลที่ไม่ครบถ้วน
    ตลาดบริการแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนข้อมูล: พลิกโฉมเศรษฐกิจดิจิทัลด้วยพลังของข้อมูล ในยุคดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ธุรกิจทั่วโลกต่างมองหาวิธีในการแบ่งปันและใช้ประโยชน์จากข้อมูลได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ตลาด บริการแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนข้อมูล (Data Exchange Platform Services Market) จึงกลายเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลยุคใหม่ โดยช่วยให้บริษัท หน่วยงานรัฐบาล และสตาร์ทอัพ สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันได้อย่างโปร่งใส ปลอดภัย และรวดเร็ว https://www.marketresearchfuture.com/reports/data-exchange-platform-services-market-23989 แพลตฟอร์มเหล่านี้ทำหน้าที่เป็น “สะพานเชื่อมข้อมูล” ระหว่างองค์กร โดยมีระบบเข้ารหัสและการควบคุมสิทธิ์เข้าถึงข้อมูล เพื่อป้องกันการละเมิดความเป็นส่วนตัวและการรั่วไหลของข้อมูล ผู้ใช้งานสามารถแชร์ข้อมูลเชิงลึก เช่น ข้อมูลผู้บริโภค ข้อมูลตลาด และข้อมูลอุตสาหกรรม เพื่อสร้างมูลค่าทางธุรกิจร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจัยที่ผลักดันการเติบโตของตลาด หนึ่งในแรงขับเคลื่อนหลักคือ การเติบโตของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ บิ๊กดาต้า (Big Data) ซึ่งต้องอาศัยข้อมูลปริมาณมหาศาลจากหลายแหล่งเพื่อการวิเคราะห์เชิงลึก นอกจากนี้ การเพิ่มขึ้นของกฎระเบียบด้านความปลอดภัยข้อมูล เช่น GDPR และ PDPA ทำให้องค์กรต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ปลอดภัยและโปร่งใสมากขึ้น ในภาคอุตสาหกรรม เช่น การเงิน การดูแลสุขภาพ และพลังงาน แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนข้อมูลถูกใช้เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลการทำธุรกรรม ข้อมูลผู้ป่วย และข้อมูลการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้การตัดสินใจทางธุรกิจเร็วขึ้นและลดความเสี่ยงจากข้อมูลที่ไม่ครบถ้วน
    WWW.MARKETRESEARCHFUTURE.COM
    Data Exchange Platform Services Market Size, Industry Share
    Data Exchange Platform Services Market size is expected to reach USD 51.69 billion by 2034, growing at a CAGR of 17.91% during the forecast period 2025-2034.
    0 Comments 0 Shares 155 Views 0 Reviews
  • ถอดรหัสโอกาสทางการตลาด: ข้อมูลเชิงลึกสำคัญจากงานวิจัยตลาดโรคนอนไม่หลับ

    งานวิจัยตลาดโรคนอนไม่หลับล่าสุดชี้ให้เห็นว่าความคาดหวังของผู้ป่วยที่เปลี่ยนแปลงไปและการบูรณาการเทคโนโลยีกำลังเปลี่ยนแปลงวิธีการรักษา งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าโรคนอนไม่หลับส่งผลกระทบต่อผู้ใหญ่มากกว่าหนึ่งในสามทั่วโลก ส่งผลให้ต้นทุนการดูแลสุขภาพเพิ่มขึ้นและสูญเสียประสิทธิภาพการทำงาน ผลกระทบทางจิตวิทยาและสรีรวิทยาของโรคนี้กำลังกระตุ้นให้บริษัทยาและเทคโนโลยีพัฒนานวัตกรรมที่ก้าวล้ำกว่าการบำบัดด้วยยาแบบดั้งเดิม การบำบัดพฤติกรรม แพลตฟอร์มดิจิทัล และอุปกรณ์ติดตามแบบสวมใส่ได้ ถือเป็นปัจจัยสำคัญในวิวัฒนาการนี้ ความนิยมที่เพิ่มขึ้นในการรักษาแบบไม่ใช้ยากำลังเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์การแข่งขัน ช่วยให้ผู้ประกอบการหน้าใหม่และสตาร์ทอัพสามารถเติบโตได้

    อ้างอิง - https://www.marketresearchfuture.com/reports/insomnia-market-545
    อ่านน้อยลง
    ถอดรหัสโอกาสทางการตลาด: ข้อมูลเชิงลึกสำคัญจากงานวิจัยตลาดโรคนอนไม่หลับ งานวิจัยตลาดโรคนอนไม่หลับล่าสุดชี้ให้เห็นว่าความคาดหวังของผู้ป่วยที่เปลี่ยนแปลงไปและการบูรณาการเทคโนโลยีกำลังเปลี่ยนแปลงวิธีการรักษา งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าโรคนอนไม่หลับส่งผลกระทบต่อผู้ใหญ่มากกว่าหนึ่งในสามทั่วโลก ส่งผลให้ต้นทุนการดูแลสุขภาพเพิ่มขึ้นและสูญเสียประสิทธิภาพการทำงาน ผลกระทบทางจิตวิทยาและสรีรวิทยาของโรคนี้กำลังกระตุ้นให้บริษัทยาและเทคโนโลยีพัฒนานวัตกรรมที่ก้าวล้ำกว่าการบำบัดด้วยยาแบบดั้งเดิม การบำบัดพฤติกรรม แพลตฟอร์มดิจิทัล และอุปกรณ์ติดตามแบบสวมใส่ได้ ถือเป็นปัจจัยสำคัญในวิวัฒนาการนี้ ความนิยมที่เพิ่มขึ้นในการรักษาแบบไม่ใช้ยากำลังเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์การแข่งขัน ช่วยให้ผู้ประกอบการหน้าใหม่และสตาร์ทอัพสามารถเติบโตได้ อ้างอิง - https://www.marketresearchfuture.com/reports/insomnia-market-545 อ่านน้อยลง
    WWW.MARKETRESEARCHFUTURE.COM
    Insomnia Market Size, Trends Analysis, Growth Report 2035
    Insomnia Market growth is projected to reach 8.64 USD billion, at a 5.8% CAGR by driving industry size, share, top company analysis, segments research, trends and forecast report 2024 to 2032.
    0 Comments 0 Shares 154 Views 0 Reviews
  • ประตูเปิดทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ

    เดือนนี้ ภายในครอบครัวจะมีเรื่องของความสุขสามัคคี หากรู้จักบริหารควบคุมเสน่ห์ได้อย่างพอเหมาะลงตัวจะได้ไม่เกิดเรื่องชู้สาวให้เป็นประเด็นชิงรักหักสวาทแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นให้วุ่นวาย ชายหนุ่มสืบเนื่องเพราะสาเหตุจากการใช้ชีวิตที่เสเพลชอบเที่ยวเตร่เร่ร่อนเป็นประจำ ขาดการนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอมีโอกาสจะป่วยทางจิต จะเจ็บปวดที่ ตับ ม้าม ถุงน้ำดี หืด และหอบ ควรถนอมร่างกายใส่ใจดูแลสุขภาพจิตและสุขภาพกายเพื่อชีวิตที่แข็งแรงสมบูรณ์ ส่วนโชคลาภจะเข้าไม่แน่นอน มีดีมีร้ายเข้ามาแบบยากที่จะคาดเดา งานคิดสร้างสรรค์ งานวิชาการ งานศึกษา งานศิลปะ วิทยาการ ความสวยงาม จะมีความสำเร็จลุล่วงเจริญก้าวหน้าดี

    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    ประตูเปิดทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เดือนนี้ ภายในครอบครัวจะมีเรื่องของความสุขสามัคคี หากรู้จักบริหารควบคุมเสน่ห์ได้อย่างพอเหมาะลงตัวจะได้ไม่เกิดเรื่องชู้สาวให้เป็นประเด็นชิงรักหักสวาทแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นให้วุ่นวาย ชายหนุ่มสืบเนื่องเพราะสาเหตุจากการใช้ชีวิตที่เสเพลชอบเที่ยวเตร่เร่ร่อนเป็นประจำ ขาดการนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอมีโอกาสจะป่วยทางจิต จะเจ็บปวดที่ ตับ ม้าม ถุงน้ำดี หืด และหอบ ควรถนอมร่างกายใส่ใจดูแลสุขภาพจิตและสุขภาพกายเพื่อชีวิตที่แข็งแรงสมบูรณ์ ส่วนโชคลาภจะเข้าไม่แน่นอน มีดีมีร้ายเข้ามาแบบยากที่จะคาดเดา งานคิดสร้างสรรค์ งานวิชาการ งานศึกษา งานศิลปะ วิทยาการ ความสวยงาม จะมีความสำเร็จลุล่วงเจริญก้าวหน้าดี ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    0 Comments 0 Shares 194 Views 0 Reviews
  • ประตูเปิดทางทิศตะวันตก

    เดือนนี้ ภายในบ้านที่อยู่อาศัยควรขจัดสิ่งรกร้างเพื่อป้องกันภัยจากสัตว์มีพิษงูเงี้ยวเขี้ยวขอ เพราะมีโอกาสจะต้องเข้ารับการรักษาพยาบาล อีกทั้งควรใส่ใจดูแลสุขภาพร่างกายที่เกี่ยวข้องกับตับ ถุงน้ำดี สะโพก ไขข้อ หอบ ลม ตลอดจนผิวหนังเป็นกรณีพิเศษ ส่วนเรื่องของการเดินทางไกลควรระมัดระวัง ภัยทางอากาศควรตรวจสภาพภูมิอากาศก่อนการเดินทาง จะมีเหตุวุ่นวายให้คิดไม่ตกหาทางออกได้ยากจนเกิดเป็นความเครียด สาเหตุเพราะเพศหญิงจะทำให้การเงินเสียหายเดือดร้อน เรื่องของความรักยังคงไม่สดใส ทั้งลูกหลานจะไม่อยู่ในโอวาทไม่ยอมรับฟังคำทักท้วงตักเตือนแต่อย่างใด ส่วนงานสร้างสรรค์ที่เคยรุ่งโรจน์จะไม่ก้าวหน้าพัฒนาเดินถดถอย ธุรกิจการงานจะมีอุปสรรคปัญหาให้ไม่ราบรื่น จะค้าจะขายทุนหายกำไรหดขาดทุนส่งผลให้เงินทองติดๆขัดๆไม่ไหลลื่นจนเกิดปรากฏการณ์เช็คปลิวว่อนเด้งติดสปริง

    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    ประตูเปิดทางทิศตะวันตก เดือนนี้ ภายในบ้านที่อยู่อาศัยควรขจัดสิ่งรกร้างเพื่อป้องกันภัยจากสัตว์มีพิษงูเงี้ยวเขี้ยวขอ เพราะมีโอกาสจะต้องเข้ารับการรักษาพยาบาล อีกทั้งควรใส่ใจดูแลสุขภาพร่างกายที่เกี่ยวข้องกับตับ ถุงน้ำดี สะโพก ไขข้อ หอบ ลม ตลอดจนผิวหนังเป็นกรณีพิเศษ ส่วนเรื่องของการเดินทางไกลควรระมัดระวัง ภัยทางอากาศควรตรวจสภาพภูมิอากาศก่อนการเดินทาง จะมีเหตุวุ่นวายให้คิดไม่ตกหาทางออกได้ยากจนเกิดเป็นความเครียด สาเหตุเพราะเพศหญิงจะทำให้การเงินเสียหายเดือดร้อน เรื่องของความรักยังคงไม่สดใส ทั้งลูกหลานจะไม่อยู่ในโอวาทไม่ยอมรับฟังคำทักท้วงตักเตือนแต่อย่างใด ส่วนงานสร้างสรรค์ที่เคยรุ่งโรจน์จะไม่ก้าวหน้าพัฒนาเดินถดถอย ธุรกิจการงานจะมีอุปสรรคปัญหาให้ไม่ราบรื่น จะค้าจะขายทุนหายกำไรหดขาดทุนส่งผลให้เงินทองติดๆขัดๆไม่ไหลลื่นจนเกิดปรากฏการณ์เช็คปลิวว่อนเด้งติดสปริง ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    0 Comments 0 Shares 234 Views 0 Reviews
  • “Ultrahuman เปิดตัว Blood Vision Cloud — วิเคราะห์ผลเลือดด้วย AI ฟรี พร้อมแนะนำสุขภาพแบบเจาะลึก”

    Ultrahuman บริษัทเทคโนโลยีสุขภาพจากอินเดียเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ “Blood Vision Cloud” ที่เปลี่ยนวิธีการดูแลสุขภาพส่วนบุคคลไปอย่างสิ้นเชิง โดยผู้ใช้สามารถอัปโหลดผลตรวจเลือดเก่า ๆ เข้าแอป Ultrahuman แล้วให้ระบบ AI วิเคราะห์ข้อมูล พร้อมสรุปแนวโน้มสุขภาพระยะยาว แนะนำอาหารและอาหารเสริมที่เหมาะสม รวมถึงให้คะแนน “Blood Age” เพื่อดูว่าร่างกายของคุณแก่เร็วแค่ไหนจากภายใน

    ฟีเจอร์นี้เปิดให้ใช้งานฟรีทั่วโลกผ่านแอป Ultrahuman โดยไม่จำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์อื่นของบริษัท เช่น Ring Air หรือ M1 Glucose Tracker แม้จะสามารถเชื่อมโยงข้อมูลจากอุปกรณ์เหล่านั้นเพื่อให้ได้ภาพรวมสุขภาพที่แม่นยำยิ่งขึ้น

    Blood Vision Cloud ยังสามารถแสดงผลแบบแดชบอร์ดที่เข้าใจง่าย โดยดึงข้อมูลจากไฟล์ PDF ผลเลือดของผู้ใช้ แล้วแสดงว่าค่าต่าง ๆ อยู่ในช่วงปกติหรือไม่ พร้อมคำแนะนำจาก “AI Clinician” ที่ช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจผลตรวจได้โดยไม่ต้องรอพบแพทย์

    นอกจากนี้ Ultrahuman ยังมีแผนขยายการวิเคราะห์ไปยัง CT scan, MRI และรายงานวินิจฉัยอื่น ๆ ในอนาคต และเปิดบริการ Blood Vision Essentials ในราคา $99 สำหรับผู้ที่ต้องการตรวจเลือดใหม่ รวมถึงแผน Blood Vision Annual Plan ราคา $499 ที่ขยายบริการไปยัง UK, ออสเตรเลีย, ซาอุดิอาระเบีย และ UAE

    แม้จะมีคู่แข่งอย่าง Oura และ Whoop ที่มีฟีเจอร์คล้ายกัน แต่ Ultrahuman หวังว่า Blood Vision Cloud จะเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้การดูแลสุขภาพเชิงป้องกันเข้าถึงได้ง่ายขึ้น และเป็น “การแพทย์ก่อนป่วย” ที่ทุกคนควรได้รับ

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Blood Vision Cloud เป็นฟีเจอร์ใหม่ของ Ultrahuman ที่วิเคราะห์ผลเลือดด้วย AI
    ผู้ใช้สามารถอัปโหลดผลตรวจเลือดเก่าในรูปแบบ PDF เพื่อรับคำแนะนำสุขภาพ
    ระบบให้ข้อมูลเชิงลึก เช่น แนวโน้มสุขภาพ, คำแนะนำอาหารเสริม, และคะแนน Blood Age
    ใช้งานได้ฟรีทั่วโลกผ่านแอป Ultrahuman โดยไม่ต้องมีอุปกรณ์เสริม
    สามารถเชื่อมโยงข้อมูลจาก Ring Air และ UltraTrace เพื่อวิเคราะห์เชิงลึก
    มีแผนขยายการวิเคราะห์ไปยัง CT scan, MRI และรายงานวินิจฉัยอื่น ๆ
    เปิดบริการ Blood Vision Essentials ราคา $99 และ Annual Plan ราคา $499
    ขยายบริการไปยัง UK, ออสเตรเลีย, ซาอุดิอาระเบีย และ UAE

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Blood Age เป็นแนวคิดที่ใช้วัดอายุทางชีวภาพจากค่าบ่งชี้ในเลือด
    AI Clinician เป็นระบบที่ช่วยแปลผลตรวจสุขภาพให้เข้าใจง่ายขึ้น
    การวิเคราะห์ผลเลือดด้วย AI ช่วยลดภาระของแพทย์และเพิ่มการเข้าถึงข้อมูล
    Oura และ Whoop มีฟีเจอร์คล้ายกัน เช่น Health Panels และ Advanced Labs
    การดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน (preventive care) กำลังเป็นเทรนด์สำคัญในวงการแพทย์

    https://www.techradar.com/health-fitness/this-wearable-now-offers-free-blood-analysis-to-help-you-understand-your-health
    🩸 “Ultrahuman เปิดตัว Blood Vision Cloud — วิเคราะห์ผลเลือดด้วย AI ฟรี พร้อมแนะนำสุขภาพแบบเจาะลึก” Ultrahuman บริษัทเทคโนโลยีสุขภาพจากอินเดียเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ “Blood Vision Cloud” ที่เปลี่ยนวิธีการดูแลสุขภาพส่วนบุคคลไปอย่างสิ้นเชิง โดยผู้ใช้สามารถอัปโหลดผลตรวจเลือดเก่า ๆ เข้าแอป Ultrahuman แล้วให้ระบบ AI วิเคราะห์ข้อมูล พร้อมสรุปแนวโน้มสุขภาพระยะยาว แนะนำอาหารและอาหารเสริมที่เหมาะสม รวมถึงให้คะแนน “Blood Age” เพื่อดูว่าร่างกายของคุณแก่เร็วแค่ไหนจากภายใน ฟีเจอร์นี้เปิดให้ใช้งานฟรีทั่วโลกผ่านแอป Ultrahuman โดยไม่จำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์อื่นของบริษัท เช่น Ring Air หรือ M1 Glucose Tracker แม้จะสามารถเชื่อมโยงข้อมูลจากอุปกรณ์เหล่านั้นเพื่อให้ได้ภาพรวมสุขภาพที่แม่นยำยิ่งขึ้น Blood Vision Cloud ยังสามารถแสดงผลแบบแดชบอร์ดที่เข้าใจง่าย โดยดึงข้อมูลจากไฟล์ PDF ผลเลือดของผู้ใช้ แล้วแสดงว่าค่าต่าง ๆ อยู่ในช่วงปกติหรือไม่ พร้อมคำแนะนำจาก “AI Clinician” ที่ช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจผลตรวจได้โดยไม่ต้องรอพบแพทย์ นอกจากนี้ Ultrahuman ยังมีแผนขยายการวิเคราะห์ไปยัง CT scan, MRI และรายงานวินิจฉัยอื่น ๆ ในอนาคต และเปิดบริการ Blood Vision Essentials ในราคา $99 สำหรับผู้ที่ต้องการตรวจเลือดใหม่ รวมถึงแผน Blood Vision Annual Plan ราคา $499 ที่ขยายบริการไปยัง UK, ออสเตรเลีย, ซาอุดิอาระเบีย และ UAE แม้จะมีคู่แข่งอย่าง Oura และ Whoop ที่มีฟีเจอร์คล้ายกัน แต่ Ultrahuman หวังว่า Blood Vision Cloud จะเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้การดูแลสุขภาพเชิงป้องกันเข้าถึงได้ง่ายขึ้น และเป็น “การแพทย์ก่อนป่วย” ที่ทุกคนควรได้รับ ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Blood Vision Cloud เป็นฟีเจอร์ใหม่ของ Ultrahuman ที่วิเคราะห์ผลเลือดด้วย AI ➡️ ผู้ใช้สามารถอัปโหลดผลตรวจเลือดเก่าในรูปแบบ PDF เพื่อรับคำแนะนำสุขภาพ ➡️ ระบบให้ข้อมูลเชิงลึก เช่น แนวโน้มสุขภาพ, คำแนะนำอาหารเสริม, และคะแนน Blood Age ➡️ ใช้งานได้ฟรีทั่วโลกผ่านแอป Ultrahuman โดยไม่ต้องมีอุปกรณ์เสริม ➡️ สามารถเชื่อมโยงข้อมูลจาก Ring Air และ UltraTrace เพื่อวิเคราะห์เชิงลึก ➡️ มีแผนขยายการวิเคราะห์ไปยัง CT scan, MRI และรายงานวินิจฉัยอื่น ๆ ➡️ เปิดบริการ Blood Vision Essentials ราคา $99 และ Annual Plan ราคา $499 ➡️ ขยายบริการไปยัง UK, ออสเตรเลีย, ซาอุดิอาระเบีย และ UAE ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Blood Age เป็นแนวคิดที่ใช้วัดอายุทางชีวภาพจากค่าบ่งชี้ในเลือด ➡️ AI Clinician เป็นระบบที่ช่วยแปลผลตรวจสุขภาพให้เข้าใจง่ายขึ้น ➡️ การวิเคราะห์ผลเลือดด้วย AI ช่วยลดภาระของแพทย์และเพิ่มการเข้าถึงข้อมูล ➡️ Oura และ Whoop มีฟีเจอร์คล้ายกัน เช่น Health Panels และ Advanced Labs ➡️ การดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน (preventive care) กำลังเป็นเทรนด์สำคัญในวงการแพทย์ https://www.techradar.com/health-fitness/this-wearable-now-offers-free-blood-analysis-to-help-you-understand-your-health
    0 Comments 0 Shares 276 Views 0 Reviews
  • ประตูเปิดทางทิศเหนือ

    เดือนนี้ เพราะผลร้ายทำให้คู่รักหนุ่มสาวจำต้องเกิดการขัดแย้งมีปากเสียงต่อกัน ส่วนหญิงสาวจะมีปัญหาทางจิตคิดวิตกเป็นกังวล ชายหนุ่มจะเกิดปัญหาที่ปาก คอ ฟัน ลิ้น ปอด หรือ ลำไส้ใหญ่ หมั่นพักผ่อนนอนหลับ ออกกำลังกายให้เพียงพอ เป็นการใส่ใจดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงสมบูรณ์ เพื่อจะได้ปลอดจากโรคร้ายรอดจากภัยไข้เจ็บตลอดทั้งเดือน แม้ว่าการเงินจะไหลลื่นเข้ามาง่ายแต่ก็จะหลั่งไหลไปง่ายได้เช่นกัน โดยจะจับจ่ายหมดไปกับเรื่องบันเทิงดื่มกิน สูญสิ้นทรัพย์สินเงินทองไปกับสุรานารีเป็นเหตุ ไม่เหลือให้ออมเก็บเพื่อใช้จ่ายในยามจำเป็น ชายวัย 50 ขึ้น หากรับราชการ ทหาร ตำรวจ จะได้เลื่อนปรับยศตำแหน่งขั้น อีกทั้งจะมีข่าวดี มีโชคลาภ การงานจะประสบพบความสำเร็จราบรื่นดี

    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    ประตูเปิดทางทิศเหนือ เดือนนี้ เพราะผลร้ายทำให้คู่รักหนุ่มสาวจำต้องเกิดการขัดแย้งมีปากเสียงต่อกัน ส่วนหญิงสาวจะมีปัญหาทางจิตคิดวิตกเป็นกังวล ชายหนุ่มจะเกิดปัญหาที่ปาก คอ ฟัน ลิ้น ปอด หรือ ลำไส้ใหญ่ หมั่นพักผ่อนนอนหลับ ออกกำลังกายให้เพียงพอ เป็นการใส่ใจดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงสมบูรณ์ เพื่อจะได้ปลอดจากโรคร้ายรอดจากภัยไข้เจ็บตลอดทั้งเดือน แม้ว่าการเงินจะไหลลื่นเข้ามาง่ายแต่ก็จะหลั่งไหลไปง่ายได้เช่นกัน โดยจะจับจ่ายหมดไปกับเรื่องบันเทิงดื่มกิน สูญสิ้นทรัพย์สินเงินทองไปกับสุรานารีเป็นเหตุ ไม่เหลือให้ออมเก็บเพื่อใช้จ่ายในยามจำเป็น ชายวัย 50 ขึ้น หากรับราชการ ทหาร ตำรวจ จะได้เลื่อนปรับยศตำแหน่งขั้น อีกทั้งจะมีข่าวดี มีโชคลาภ การงานจะประสบพบความสำเร็จราบรื่นดี ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    0 Comments 0 Shares 195 Views 0 Reviews



  • รัฐอิสราเอลก่อตั้งขึ้นในปี 1947 โดย "ไซออนิสต์" = ซาตานิสต์คาซาเรียน

    ตัวการยุแหย่สร้างความแตกแยกโกลาหลหรือทำลาย ไทยพุทธ - ไทยมุสลิม ตัวจริงคือ ไซออนิสต์.




    #อิสราเอลสงครามครั้งสุดท้าย

    สงครามระหว่างความมืดและแสงสว่างคือสงครามระหว่างซาตานและพระเจ้า

    ระหว่างสายเลือดสัตว์เลื้อยคลานของซาตานและสายเลือดมนุษย์ของพระเยซู

    อิสราเอลเป็นประเทศสุดท้ายเพราะโควิดเปิดเผยการทุจริตในระบบการดูแลสุขภาพและการเมืองของเรา

    อิสราเอลจะเปิดเผยต้นตอของการทุจริตและความชั่วร้ายทั้งหมดในระบบศาสนาของเรา
    การเปิดเผยการจี้พระคัมภีร์โดยซาตานเมื่อหลายศตวรรษก่อน

    แสงสว่างบนโลกใบนี้ถูกแสงเทียมแห่งความมืดทำให้มืดลง

    งูเข้าไปในสวนเอเดนและแอบเข้าไปในหลุมงู

    หัวของงูในวาติกัน ส่วนลำตัวของงูสร้างเส้นทางสายไหมที่นำไปสู่อู่ฮั่นซึ่งมันแพร่กระจายพิษของมัน
    ซ่อนตัวอยู่ในหลุมงูในอิสราเอล ซึ่งลัทธิซาตานจี้พระคัมภีร์บางส่วนและกลายเป็นแสงเทียมที่หลอกล่อมนุษยชาติด้วยความถี่แห่งความชั่วร้ายของความกลัว ความอับอาย และความรู้สึกผิด

    แยกจากพระเจ้าและความรักที่เราทุกคนเป็น แบ่งแยกศาสนา เชื้อชาติ การเมือง ทำให้เกิดความมืดมนมาหลายศตวรรษ
    แยกจากกันโดยกลุ่มเล็กๆ ที่ได้ประโยชน์จากการควบคุมพลังงานและผู้คน

    กลุ่มเล็กๆ นี้ คือ ชนชั้นสูงซาตาน อิลูมินาติ คณะปกครอง

    ราชวงศ์ทั้งหมดในยุโรป ประเทศบอลติก และรัสเซีย อ้างว่าบรรพบุรุษของตนคือโวตันหรือโอดิน
    โวตันหรือโอดินเป็นเพนดรากอน - งู - งู - สัตว์เลื้อยคลาน

    ราชวงศ์ 13 ราชวงศ์เป็นลูกผสมของสัตว์เลื้อยคลานที่สามารถเปลี่ยนรูปร่างได้ โดยแสร้งทำเป็นมนุษย์

    สัญลักษณ์ของงูมีอยู่ทั่วไปในศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาธอลิก ในมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ในนครวาติกัน พระสันตปาปาประทับนั่งในปากงูเหมือนลิ้นและเทศนาหลอกลวง
    สายเลือดดรูซของพระเยซูสืบเชื้อสายมาจาก “เจโธร” นักบวชแห่งมีเดียนในพระคัมภีร์ และ “โตราห์” (อพยพ 2:18)
    ประธานาธิบดีคนที่ 16 ของสหรัฐอเมริกา “อับราฮัม ลินคอล์น” สืบเชื้อสายมาจากตระกูลคาห์ลูนี

    ในปี 1855 ISIS ก่อตั้งขึ้นโดยกษัตริย์แห่งโมร็อกโกและลิเบีย [ตระกูลฮัสซัน] ร่วมกับตระกูลโรทัลอังกฤษ
    พวกเขาลงนามในกฎหมายโมฮัมเหม็ดดีซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสังหารสายเลือดของพระเยซูคริสต์ [DRUZE]
    6 ปีต่อมา พวกเขาได้รวมเข้ากับ Skull n Bones:
    Rothschilds, Schiff, Rockefellers, Scherff หรือที่รู้จักในชื่อ Bush, Kissingers เป็นต้น
    Skull n Bones_ISIS สังหาร JFK

    1855 - ISIS ก่อตั้งโดยตระกูลซานุสซีซึ่งมีความเชื่อมโยงกับราชวงศ์อังกฤษ (คาซาเรียน)
    1861 - รวมเข้ากับกะโหลกและกระดูก 322 ชิ้น (คาซาเรียน)
    1870 - 1930 บริษัทเภสัชยักษ์ใหญ่ (คาซาเรียน)
    1871 พระราชบัญญัติอังกฤษ (รัฐธรรมนูญลับที่จัดทำโดยสมาคมลับ) คาซาเรียน
    1912 เรือไททานิค/โอลิมปิกจม
    (ใครอยู่บนเรือ เกิดอะไรขึ้นกันแน่)
    1913 ธนาคารกลางสหรัฐ
    1917 - 1923 การปฏิวัติบอลเชวิค
    1945 - 1959 ปฏิบัติการกระดาษคลิป/ม็อกกิ้งเบิร์ด 1948 - อิสราเอลก่อตั้งขึ้น (รัฐบาลคาซาเรียน/บอลเชวิค)
    1949 - มอสสาด = ก่อตั้งซีไอเอ

    พลเอกฟลินน์ ผู้แจ้งเบาะแสเปิดโปงเครือข่ายก่อการร้ายของกูเลน:

    • ฟลินน์ค้นพบว่ารัฐบาลโอบามากำลังจัดหาเงินทุนและอาวุธให้กับนักรบญิฮาดที่โบกธงไอเอสในเวลาต่อมา

    • การกระทำของนักรบญิฮาดเหล่านี้เกิดขึ้นในฉนวนกาซา

    • โอบามาด้วยความช่วยเหลือของซีไอเอ นาโต้ และพวกพ้องนักรบญิฮาดของเขา กำลังพยายามเอาชนะอัสซาดในซีเรีย

    • รัฐบาลที่ทรยศเหล่านี้จัดหาเงินทุนให้ไอเอส

    • สหรัฐฯ/นักรบญิฮาดกลายเป็นอาหรับสปริง ทำลายเสถียรภาพในตะวันออกกลาง และสร้างวิกฤตการอพยพระหว่างประเทศ

    • ฮิลลารีมีส่วนร่วมในการเปิดตัวอาหรับสปริงในฐานะรัฐมนตรีต่างประเทศภายใต้รัฐบาลโอบามา
    • ฟลินน์เปิดโปงการมีส่วนเกี่ยวข้องในเครือข่ายผู้ก่อการร้ายกูเลนของรัฐบาลโอบามาและโดยปริยายของเอช. ดับเบิลยู. บุช, จี. บุช, คลินตัน, กระทรวงการต่างประเทศ, เอฟบีไอ, ซีไอเอ และหน่วยข่าวกรองอเมริกัน

    ตอนนี้ กลับมาที่อิสราเอลในวันนี้

    อย่าหลงกล/
    อาคารที่ถล่มลงมาในฉนวนกาซาจากขีปนาวุธลูกหนึ่งนั้นถูกรื้อถอนโดยการควบคุม
    ผู้ปฏิบัติการของดีพสเตตทั้งในค่ายอิสราเอลและปาเลสไตน์
    ถูกแทรกซึมมานานแล้ว (Mossad/CIA)//

    ผู้ควบคุมอิสราเอลก็คือ MOSSAD >>MI6 ของสหราชอาณาจักร>>ROTHSCHILDs>>CIA

    เซิร์ฟเวอร์ Dominion มีอะไรให้ปกปิดมากมาย
    ตั้งแต่การค้ามนุษย์ไปจนถึงการก่อตั้ง Epstein ไปจนถึงธนาคารในวาติกัน
    กลุ่มมาเฟีย Mossad/Kazarian ที่ควบคุมยูเครน
    ความเชื่อมโยงจากหลุมพรางแห่งการทุจริตของชนชั้นนำอิสราเอลนั้นลึกล้ำเข้าไปในการควบคุมของ MSM สมยศ จิราวณิชานันท์ ของสหรัฐอเมริกา

    https://rumble.com/v4bzuzo-khazarian-mafia-ผู้กินเทพ-ภาค2-ของ2.html


    รัฐอิสราเอลก่อตั้งขึ้นในปี 1947 โดย "ไซออนิสต์" = ซาตานิสต์คาซาเรียน ตัวการยุแหย่สร้างความแตกแยกโกลาหลหรือทำลาย ไทยพุทธ - ไทยมุสลิม ตัวจริงคือ ไซออนิสต์. #อิสราเอลสงครามครั้งสุดท้าย สงครามระหว่างความมืดและแสงสว่างคือสงครามระหว่างซาตานและพระเจ้า ระหว่างสายเลือดสัตว์เลื้อยคลานของซาตานและสายเลือดมนุษย์ของพระเยซู อิสราเอลเป็นประเทศสุดท้ายเพราะโควิดเปิดเผยการทุจริตในระบบการดูแลสุขภาพและการเมืองของเรา อิสราเอลจะเปิดเผยต้นตอของการทุจริตและความชั่วร้ายทั้งหมดในระบบศาสนาของเรา การเปิดเผยการจี้พระคัมภีร์โดยซาตานเมื่อหลายศตวรรษก่อน แสงสว่างบนโลกใบนี้ถูกแสงเทียมแห่งความมืดทำให้มืดลง งูเข้าไปในสวนเอเดนและแอบเข้าไปในหลุมงู หัวของงูในวาติกัน ส่วนลำตัวของงูสร้างเส้นทางสายไหมที่นำไปสู่อู่ฮั่นซึ่งมันแพร่กระจายพิษของมัน ซ่อนตัวอยู่ในหลุมงูในอิสราเอล ซึ่งลัทธิซาตานจี้พระคัมภีร์บางส่วนและกลายเป็นแสงเทียมที่หลอกล่อมนุษยชาติด้วยความถี่แห่งความชั่วร้ายของความกลัว ความอับอาย และความรู้สึกผิด แยกจากพระเจ้าและความรักที่เราทุกคนเป็น แบ่งแยกศาสนา เชื้อชาติ การเมือง ทำให้เกิดความมืดมนมาหลายศตวรรษ แยกจากกันโดยกลุ่มเล็กๆ ที่ได้ประโยชน์จากการควบคุมพลังงานและผู้คน กลุ่มเล็กๆ นี้ คือ ชนชั้นสูงซาตาน อิลูมินาติ คณะปกครอง ราชวงศ์ทั้งหมดในยุโรป ประเทศบอลติก และรัสเซีย อ้างว่าบรรพบุรุษของตนคือโวตันหรือโอดิน โวตันหรือโอดินเป็นเพนดรากอน - งู - งู - สัตว์เลื้อยคลาน ราชวงศ์ 13 ราชวงศ์เป็นลูกผสมของสัตว์เลื้อยคลานที่สามารถเปลี่ยนรูปร่างได้ โดยแสร้งทำเป็นมนุษย์ สัญลักษณ์ของงูมีอยู่ทั่วไปในศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาธอลิก ในมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ในนครวาติกัน พระสันตปาปาประทับนั่งในปากงูเหมือนลิ้นและเทศนาหลอกลวง สายเลือดดรูซของพระเยซูสืบเชื้อสายมาจาก “เจโธร” นักบวชแห่งมีเดียนในพระคัมภีร์ และ “โตราห์” (อพยพ 2:18) ประธานาธิบดีคนที่ 16 ของสหรัฐอเมริกา “อับราฮัม ลินคอล์น” สืบเชื้อสายมาจากตระกูลคาห์ลูนี ในปี 1855 ISIS ก่อตั้งขึ้นโดยกษัตริย์แห่งโมร็อกโกและลิเบีย [ตระกูลฮัสซัน] ร่วมกับตระกูลโรทัลอังกฤษ พวกเขาลงนามในกฎหมายโมฮัมเหม็ดดีซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสังหารสายเลือดของพระเยซูคริสต์ [DRUZE] 6 ปีต่อมา พวกเขาได้รวมเข้ากับ Skull n Bones: Rothschilds, Schiff, Rockefellers, Scherff หรือที่รู้จักในชื่อ Bush, Kissingers เป็นต้น Skull n Bones_ISIS สังหาร JFK 1855 - ISIS ก่อตั้งโดยตระกูลซานุสซีซึ่งมีความเชื่อมโยงกับราชวงศ์อังกฤษ (คาซาเรียน) 1861 - รวมเข้ากับกะโหลกและกระดูก 322 ชิ้น (คาซาเรียน) 1870 - 1930 บริษัทเภสัชยักษ์ใหญ่ (คาซาเรียน) 1871 พระราชบัญญัติอังกฤษ (รัฐธรรมนูญลับที่จัดทำโดยสมาคมลับ) คาซาเรียน 1912 เรือไททานิค/โอลิมปิกจม (ใครอยู่บนเรือ เกิดอะไรขึ้นกันแน่) 1913 ธนาคารกลางสหรัฐ 1917 - 1923 การปฏิวัติบอลเชวิค 1945 - 1959 ปฏิบัติการกระดาษคลิป/ม็อกกิ้งเบิร์ด 1948 - อิสราเอลก่อตั้งขึ้น (รัฐบาลคาซาเรียน/บอลเชวิค) 1949 - มอสสาด = ก่อตั้งซีไอเอ พลเอกฟลินน์ ผู้แจ้งเบาะแสเปิดโปงเครือข่ายก่อการร้ายของกูเลน: • ฟลินน์ค้นพบว่ารัฐบาลโอบามากำลังจัดหาเงินทุนและอาวุธให้กับนักรบญิฮาดที่โบกธงไอเอสในเวลาต่อมา • การกระทำของนักรบญิฮาดเหล่านี้เกิดขึ้นในฉนวนกาซา • โอบามาด้วยความช่วยเหลือของซีไอเอ นาโต้ และพวกพ้องนักรบญิฮาดของเขา กำลังพยายามเอาชนะอัสซาดในซีเรีย • รัฐบาลที่ทรยศเหล่านี้จัดหาเงินทุนให้ไอเอส • สหรัฐฯ/นักรบญิฮาดกลายเป็นอาหรับสปริง ทำลายเสถียรภาพในตะวันออกกลาง และสร้างวิกฤตการอพยพระหว่างประเทศ • ฮิลลารีมีส่วนร่วมในการเปิดตัวอาหรับสปริงในฐานะรัฐมนตรีต่างประเทศภายใต้รัฐบาลโอบามา • ฟลินน์เปิดโปงการมีส่วนเกี่ยวข้องในเครือข่ายผู้ก่อการร้ายกูเลนของรัฐบาลโอบามาและโดยปริยายของเอช. ดับเบิลยู. บุช, จี. บุช, คลินตัน, กระทรวงการต่างประเทศ, เอฟบีไอ, ซีไอเอ และหน่วยข่าวกรองอเมริกัน ตอนนี้ กลับมาที่อิสราเอลในวันนี้ อย่าหลงกล/ อาคารที่ถล่มลงมาในฉนวนกาซาจากขีปนาวุธลูกหนึ่งนั้นถูกรื้อถอนโดยการควบคุม ผู้ปฏิบัติการของดีพสเตตทั้งในค่ายอิสราเอลและปาเลสไตน์ ถูกแทรกซึมมานานแล้ว (Mossad/CIA)// ผู้ควบคุมอิสราเอลก็คือ MOSSAD >>MI6 ของสหราชอาณาจักร>>ROTHSCHILDs>>CIA เซิร์ฟเวอร์ Dominion มีอะไรให้ปกปิดมากมาย ตั้งแต่การค้ามนุษย์ไปจนถึงการก่อตั้ง Epstein ไปจนถึงธนาคารในวาติกัน กลุ่มมาเฟีย Mossad/Kazarian ที่ควบคุมยูเครน ความเชื่อมโยงจากหลุมพรางแห่งการทุจริตของชนชั้นนำอิสราเอลนั้นลึกล้ำเข้าไปในการควบคุมของ MSM [CIA] ของสหรัฐอเมริกา https://rumble.com/v4bzuzo-khazarian-mafia-ผู้กินเทพ-ภาค2-ของ2.html
    0 Comments 0 Shares 458 Views 0 Reviews
  • “คิดลบซ้ำ ๆ อาจทำให้สมองเสื่อมเร็วขึ้น — งานวิจัยจากจีนชี้ชัด ความเครียดทางใจส่งผลต่อความจำและการตัดสินใจในผู้สูงอายุ”

    ในยุคที่ผู้สูงอายุเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงทั้งทางร่างกายและสังคม งานวิจัยล่าสุดจากมหาวิทยาลัยแพทย์จีนแห่งหูเป่ย (Hubei University of Chinese Medicine) ได้เปิดเผยความเชื่อมโยงที่น่าตกใจระหว่าง “การคิดลบซ้ำ ๆ” หรือ Repetitive Negative Thinking (RNT) กับการเสื่อมถอยของสมรรถภาพทางปัญญาในผู้สูงอายุ

    การศึกษานี้เก็บข้อมูลจากผู้เข้าร่วม 424 คน อายุ 60 ปีขึ้นไปในเมืองอู่ฮั่น โดยใช้แบบสอบถาม Perseverative Thinking Questionnaire (PTQ) เพื่อวัดระดับการคิดลบ และใช้แบบทดสอบ Montreal Cognitive Assessment (MoCA) เพื่อประเมินความสามารถทางสมอง เช่น ความจำ ความสนใจ และการตัดสินใจ

    ผลการวิเคราะห์พบว่า ผู้ที่มีคะแนน RNT สูง (กลุ่ม Q3 และ Q4) มีคะแนน MoCA ต่ำกว่ากลุ่มที่มี RNT ต่ำอย่างมีนัยสำคัญ แม้จะควบคุมปัจจัยอื่น ๆ เช่น อายุ รายได้ การศึกษา และโรคประจำตัวแล้วก็ตาม โดยเฉพาะในกลุ่มอายุ 60–79 ปี และผู้ที่มีการศึกษาระดับมัธยมขึ้นไป ความสัมพันธ์นี้ยิ่งชัดเจน

    นักวิจัยอธิบายว่า การคิดลบซ้ำ ๆ เช่น การกังวลเรื่องอนาคต หรือการครุ่นคิดถึงอดีตที่เจ็บปวด จะกระตุ้นระบบความเครียดในร่างกาย ทำให้ระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลสูงขึ้น เกิดการอักเสบในสมอง และอาจนำไปสู่การสะสมของโปรตีนอะไมลอยด์และเทา ซึ่งเป็นสัญญาณของโรคอัลไซเมอร์

    นอกจากนี้ยังมีแนวคิด “หนี้สมอง” (Cognitive Debt) ที่อธิบายว่า การใช้ทรัพยากรสมองไปกับความคิดลบอย่างต่อเนื่อง จะลดความสามารถในการจดจำและตัดสินใจในระยะยาว

    ข้อมูลสำคัญจากงานวิจัย
    ศึกษาในผู้สูงอายุ 424 คนในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน
    ใช้แบบสอบถาม PTQ วัดระดับการคิดลบ และ MoCA วัดความสามารถทางสมอง
    ผู้ที่มี RNT สูงมีคะแนน MoCA ต่ำกว่ากลุ่มที่มี RNT ต่ำ
    ความสัมพันธ์ชัดเจนในกลุ่มอายุ 60–79 ปี และผู้มีการศึกษาระดับมัธยมขึ้นไป

    กลไกที่อธิบายผลกระทบ
    การคิดลบซ้ำ ๆ กระตุ้นระบบความเครียด ทำให้คอร์ติซอลสูงขึ้น
    เกิดการอักเสบในสมอง และอาจนำไปสู่การสะสมโปรตีนอะไมลอยด์และเทา
    แนวคิด “หนี้สมอง” อธิบายว่าความคิดลบใช้ทรัพยากรสมองจนหมด
    ส่งผลต่อความจำ ความสนใจ และการตัดสินใจในระยะยาว

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    งานวิจัยจาก UCL พบว่า RNT เชื่อมโยงกับการเสื่อมของสมองในระยะ 4 ปี
    RNT เป็นอาการร่วมในโรคซึมเศร้า วิตกกังวล PTSD และโรคนอนไม่หลับ
    การลด RNT ด้วย CBT, mindfulness และกิจกรรมทางสังคมช่วยป้องกันสมองเสื่อม
    การตรวจสอบ RNT ควรเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพจิตผู้สูงอายุ

    https://bmcpsychiatry.biomedcentral.com/articles/10.1186/s12888-025-06815-2
    🧠 “คิดลบซ้ำ ๆ อาจทำให้สมองเสื่อมเร็วขึ้น — งานวิจัยจากจีนชี้ชัด ความเครียดทางใจส่งผลต่อความจำและการตัดสินใจในผู้สูงอายุ” ในยุคที่ผู้สูงอายุเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงทั้งทางร่างกายและสังคม งานวิจัยล่าสุดจากมหาวิทยาลัยแพทย์จีนแห่งหูเป่ย (Hubei University of Chinese Medicine) ได้เปิดเผยความเชื่อมโยงที่น่าตกใจระหว่าง “การคิดลบซ้ำ ๆ” หรือ Repetitive Negative Thinking (RNT) กับการเสื่อมถอยของสมรรถภาพทางปัญญาในผู้สูงอายุ การศึกษานี้เก็บข้อมูลจากผู้เข้าร่วม 424 คน อายุ 60 ปีขึ้นไปในเมืองอู่ฮั่น โดยใช้แบบสอบถาม Perseverative Thinking Questionnaire (PTQ) เพื่อวัดระดับการคิดลบ และใช้แบบทดสอบ Montreal Cognitive Assessment (MoCA) เพื่อประเมินความสามารถทางสมอง เช่น ความจำ ความสนใจ และการตัดสินใจ ผลการวิเคราะห์พบว่า ผู้ที่มีคะแนน RNT สูง (กลุ่ม Q3 และ Q4) มีคะแนน MoCA ต่ำกว่ากลุ่มที่มี RNT ต่ำอย่างมีนัยสำคัญ แม้จะควบคุมปัจจัยอื่น ๆ เช่น อายุ รายได้ การศึกษา และโรคประจำตัวแล้วก็ตาม โดยเฉพาะในกลุ่มอายุ 60–79 ปี และผู้ที่มีการศึกษาระดับมัธยมขึ้นไป ความสัมพันธ์นี้ยิ่งชัดเจน นักวิจัยอธิบายว่า การคิดลบซ้ำ ๆ เช่น การกังวลเรื่องอนาคต หรือการครุ่นคิดถึงอดีตที่เจ็บปวด จะกระตุ้นระบบความเครียดในร่างกาย ทำให้ระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลสูงขึ้น เกิดการอักเสบในสมอง และอาจนำไปสู่การสะสมของโปรตีนอะไมลอยด์และเทา ซึ่งเป็นสัญญาณของโรคอัลไซเมอร์ นอกจากนี้ยังมีแนวคิด “หนี้สมอง” (Cognitive Debt) ที่อธิบายว่า การใช้ทรัพยากรสมองไปกับความคิดลบอย่างต่อเนื่อง จะลดความสามารถในการจดจำและตัดสินใจในระยะยาว ✅ ข้อมูลสำคัญจากงานวิจัย ➡️ ศึกษาในผู้สูงอายุ 424 คนในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ➡️ ใช้แบบสอบถาม PTQ วัดระดับการคิดลบ และ MoCA วัดความสามารถทางสมอง ➡️ ผู้ที่มี RNT สูงมีคะแนน MoCA ต่ำกว่ากลุ่มที่มี RNT ต่ำ ➡️ ความสัมพันธ์ชัดเจนในกลุ่มอายุ 60–79 ปี และผู้มีการศึกษาระดับมัธยมขึ้นไป ✅ กลไกที่อธิบายผลกระทบ ➡️ การคิดลบซ้ำ ๆ กระตุ้นระบบความเครียด ทำให้คอร์ติซอลสูงขึ้น ➡️ เกิดการอักเสบในสมอง และอาจนำไปสู่การสะสมโปรตีนอะไมลอยด์และเทา ➡️ แนวคิด “หนี้สมอง” อธิบายว่าความคิดลบใช้ทรัพยากรสมองจนหมด ➡️ ส่งผลต่อความจำ ความสนใจ และการตัดสินใจในระยะยาว ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ งานวิจัยจาก UCL พบว่า RNT เชื่อมโยงกับการเสื่อมของสมองในระยะ 4 ปี ➡️ RNT เป็นอาการร่วมในโรคซึมเศร้า วิตกกังวล PTSD และโรคนอนไม่หลับ ➡️ การลด RNT ด้วย CBT, mindfulness และกิจกรรมทางสังคมช่วยป้องกันสมองเสื่อม ➡️ การตรวจสอบ RNT ควรเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพจิตผู้สูงอายุ https://bmcpsychiatry.biomedcentral.com/articles/10.1186/s12888-025-06815-2
    0 Comments 0 Shares 380 Views 0 Reviews
  • “Ant Group เปิดตัวหุ่นยนต์ R1 — ก้าวแรกสู่ยุค AI ที่มีร่างกาย พร้อมท้าชน Tesla และ Unitree”

    Ant Group บริษัทฟินเทคชื่อดังที่ได้รับการสนับสนุนจาก Jack Ma ได้เปิดตัวหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์รุ่นแรกของตนในชื่อ “R1” ผ่านบริษัทลูก Robbyant ในงาน Inclusion Conference ที่เซี่ยงไฮ้เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2025 โดยถือเป็นการเข้าสู่สนามแข่งขันด้าน embodied AI อย่างเต็มตัว ซึ่งมีคู่แข่งระดับโลกอย่าง Tesla, Unitree Robotics และบริษัทสตาร์ทอัพอีกมากมาย

    หุ่นยนต์ R1 ถูกออกแบบให้มีความสามารถหลากหลาย เช่น เป็นไกด์นำเที่ยว, คัดแยกยาในร้านขายยา, ให้คำปรึกษาทางการแพทย์ และทำงานครัวพื้นฐาน โดยเน้นการพัฒนา “สมอง” มากกว่ารูปร่าง — Ant Group เชื่อว่าความฉลาดจากโมเดล AI ขนาดใหญ่จะเป็นตัวกำหนดอนาคตของหุ่นยนต์ มากกว่าการออกแบบฮาร์ดแวร์เพียงอย่างเดียว

    R1 มีน้ำหนักประมาณ 110 กิโลกรัม สูงราว 1.6–1.75 เมตร เคลื่อนที่ได้ด้วยความเร็วไม่เกิน 1.5 เมตรต่อวินาที และมีข้อต่อที่เคลื่อนไหวได้ถึง 34 จุด โดยใช้ชิ้นส่วนจากซัพพลายเออร์จีน เช่น Ti5 และ Galaxea AI ซึ่ง Ant Group เป็นผู้สนับสนุน

    นอกจากการเปิดตัว R1 แล้ว Ant ยังอยู่ระหว่างการพัฒนาโมเดลภาษา BaiLing ของตนเอง และทดลองฝึกด้วยชิปที่ผลิตในประเทศจีน เพื่อเสริมความเป็นอิสระด้านเทคโนโลยี AI ของประเทศ

    จุดเด่นของหุ่นยนต์ R1 จาก Ant Group
    เปิดตัวในงาน Inclusion Conference ที่เซี่ยงไฮ้ วันที่ 11 กันยายน 2025
    พัฒนาโดย Robbyant บริษัทลูกของ Ant Group
    มีความสามารถหลากหลาย เช่น ทำงานครัว, เป็นไกด์, คัดแยกยา, ให้คำปรึกษา
    เน้นการพัฒนา “สมอง” ด้วยโมเดล AI มากกว่าการออกแบบฮาร์ดแวร์

    สเปกและการใช้งานของ R1
    น้ำหนัก 110 กิโลกรัม สูง 1.6–1.75 เมตร เคลื่อนที่ได้ไม่เกิน 1.5 เมตร/วินาที
    มีข้อต่อเคลื่อนไหวได้ 34 จุด ใช้ชิ้นส่วนจากซัพพลายเออร์จีน
    อยู่ในขั้นตอนการผลิตและส่งมอบให้ลูกค้า เช่น พิพิธภัณฑ์เซี่ยงไฮ้
    ไม่ขายเป็นเครื่องเดี่ยว แต่เป็น “โซลูชันตามสถานการณ์”

    วิสัยทัศน์ของ Ant Group
    มองหุ่นยนต์เป็นช่องทางขยายบริการดิจิทัลสู่โลกจริง เช่น การเงินและสาธารณสุข
    พัฒนาโมเดลภาษา BaiLing เพื่อใช้กับหุ่นยนต์และบริการ AI
    ทดลองฝึกโมเดลด้วยชิปที่ผลิตในจีนเพื่อลดต้นทุนและพึ่งพาต่างประเทศ
    มุ่งเน้น embodied intelligence เพื่อสร้างหุ่นยนต์ที่เข้าใจและตอบสนองมนุษย์ได้ดีขึ้น

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Tesla อยู่ระหว่างพัฒนา Optimus รุ่น 3 ที่มีความคล่องตัวสูงและราคาต่ำ
    Unitree Robotics เป็นผู้นำด้านหุ่นยนต์เคลื่อนที่ในจีน
    Nvidia สนับสนุนหลายบริษัทด้วย Jetson modules และ Isaac Sim
    ตลาด embodied AI กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในภาคการผลิต, โลจิสติกส์ และการดูแลสุขภาพ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/11/jack-ma-backed-ants-first-humanoid-robot-sheds-light-on-its-ai-ambitions
    🤖 “Ant Group เปิดตัวหุ่นยนต์ R1 — ก้าวแรกสู่ยุค AI ที่มีร่างกาย พร้อมท้าชน Tesla และ Unitree” Ant Group บริษัทฟินเทคชื่อดังที่ได้รับการสนับสนุนจาก Jack Ma ได้เปิดตัวหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์รุ่นแรกของตนในชื่อ “R1” ผ่านบริษัทลูก Robbyant ในงาน Inclusion Conference ที่เซี่ยงไฮ้เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2025 โดยถือเป็นการเข้าสู่สนามแข่งขันด้าน embodied AI อย่างเต็มตัว ซึ่งมีคู่แข่งระดับโลกอย่าง Tesla, Unitree Robotics และบริษัทสตาร์ทอัพอีกมากมาย หุ่นยนต์ R1 ถูกออกแบบให้มีความสามารถหลากหลาย เช่น เป็นไกด์นำเที่ยว, คัดแยกยาในร้านขายยา, ให้คำปรึกษาทางการแพทย์ และทำงานครัวพื้นฐาน โดยเน้นการพัฒนา “สมอง” มากกว่ารูปร่าง — Ant Group เชื่อว่าความฉลาดจากโมเดล AI ขนาดใหญ่จะเป็นตัวกำหนดอนาคตของหุ่นยนต์ มากกว่าการออกแบบฮาร์ดแวร์เพียงอย่างเดียว R1 มีน้ำหนักประมาณ 110 กิโลกรัม สูงราว 1.6–1.75 เมตร เคลื่อนที่ได้ด้วยความเร็วไม่เกิน 1.5 เมตรต่อวินาที และมีข้อต่อที่เคลื่อนไหวได้ถึง 34 จุด โดยใช้ชิ้นส่วนจากซัพพลายเออร์จีน เช่น Ti5 และ Galaxea AI ซึ่ง Ant Group เป็นผู้สนับสนุน นอกจากการเปิดตัว R1 แล้ว Ant ยังอยู่ระหว่างการพัฒนาโมเดลภาษา BaiLing ของตนเอง และทดลองฝึกด้วยชิปที่ผลิตในประเทศจีน เพื่อเสริมความเป็นอิสระด้านเทคโนโลยี AI ของประเทศ ✅ จุดเด่นของหุ่นยนต์ R1 จาก Ant Group ➡️ เปิดตัวในงาน Inclusion Conference ที่เซี่ยงไฮ้ วันที่ 11 กันยายน 2025 ➡️ พัฒนาโดย Robbyant บริษัทลูกของ Ant Group ➡️ มีความสามารถหลากหลาย เช่น ทำงานครัว, เป็นไกด์, คัดแยกยา, ให้คำปรึกษา ➡️ เน้นการพัฒนา “สมอง” ด้วยโมเดล AI มากกว่าการออกแบบฮาร์ดแวร์ ✅ สเปกและการใช้งานของ R1 ➡️ น้ำหนัก 110 กิโลกรัม สูง 1.6–1.75 เมตร เคลื่อนที่ได้ไม่เกิน 1.5 เมตร/วินาที ➡️ มีข้อต่อเคลื่อนไหวได้ 34 จุด ใช้ชิ้นส่วนจากซัพพลายเออร์จีน ➡️ อยู่ในขั้นตอนการผลิตและส่งมอบให้ลูกค้า เช่น พิพิธภัณฑ์เซี่ยงไฮ้ ➡️ ไม่ขายเป็นเครื่องเดี่ยว แต่เป็น “โซลูชันตามสถานการณ์” ✅ วิสัยทัศน์ของ Ant Group ➡️ มองหุ่นยนต์เป็นช่องทางขยายบริการดิจิทัลสู่โลกจริง เช่น การเงินและสาธารณสุข ➡️ พัฒนาโมเดลภาษา BaiLing เพื่อใช้กับหุ่นยนต์และบริการ AI ➡️ ทดลองฝึกโมเดลด้วยชิปที่ผลิตในจีนเพื่อลดต้นทุนและพึ่งพาต่างประเทศ ➡️ มุ่งเน้น embodied intelligence เพื่อสร้างหุ่นยนต์ที่เข้าใจและตอบสนองมนุษย์ได้ดีขึ้น ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Tesla อยู่ระหว่างพัฒนา Optimus รุ่น 3 ที่มีความคล่องตัวสูงและราคาต่ำ ➡️ Unitree Robotics เป็นผู้นำด้านหุ่นยนต์เคลื่อนที่ในจีน ➡️ Nvidia สนับสนุนหลายบริษัทด้วย Jetson modules และ Isaac Sim ➡️ ตลาด embodied AI กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในภาคการผลิต, โลจิสติกส์ และการดูแลสุขภาพ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/11/jack-ma-backed-ants-first-humanoid-robot-sheds-light-on-its-ai-ambitions
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Jack Ma-backed Ant's first humanoid robot sheds light on its AI ambitions
    Jack Ma-backed Ant Group Co showcased its first humanoid robot on Sept 11, formally joining an intensifying effort by Chinese companies to compete with the US in commercialising a frontier technology.
    0 Comments 0 Shares 274 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจาก ConcreteSC: เมื่อการสื่อสารไร้สายเรียนรู้ที่จะ “เข้าใจ” มากกว่าแค่ “ส่ง”

    ในอดีต การส่งข้อมูลไร้สายคือการพยายามถ่ายทอดทุกบิตให้ตรงที่สุด—ไม่ว่าจะเป็นภาพ เสียง หรือข้อความ ทุกพิกเซลต้องถูกส่งอย่างแม่นยำ แต่ในยุคที่ AI และอุปกรณ์ IoT กำลังครองโลก แนวคิดนี้เริ่มล้าสมัย เพราะสิ่งที่สำคัญไม่ใช่ “ข้อมูลดิบ” แต่คือ “ความหมายที่เข้าใจได้”

    ทีมวิจัยจาก Seoul National University of Science and Technology นำโดย Dr. Dong Jin Ji ได้พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ชื่อว่า ConcreteSC ซึ่งเป็น framework สำหรับ “semantic communication” ที่ไม่ส่งข้อมูลแบบเดิม แต่ส่ง “สิ่งที่ข้อมูลนั้นหมายถึง” โดยตรง

    ConcreteSC ไม่ใช้ codebook ขนาดใหญ่แบบ vector quantization (VQ) ซึ่งมักมีปัญหาเรื่อง noise และความซับซ้อนในการฝึกโมเดล แต่ใช้ distribution แบบ “concrete” ที่สามารถแปลงข้อมูลต่อเนื่องให้เป็นบิตได้โดยตรง และรองรับการฝึกแบบ end-to-end แม้ในสภาพแวดล้อมที่มีสัญญาณรบกวน

    เมื่อทดสอบกับชุดข้อมูล ImageNet ภายใต้เงื่อนไข Rayleigh และ Rician fading ซึ่งจำลองสภาพแวดล้อมไร้สายจริง ConcreteSC ให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า VQ ทั้งในด้าน structural similarity และ peak signal-to-noise ratio พร้อมลดความซับซ้อนของระบบลงอย่างมาก

    เทคโนโลยีนี้สามารถนำไปใช้ใน smart factory ที่มีการสื่อสารระหว่างเครื่องจักรจำนวนมากโดยไม่ต้องใช้สาย, หรือในอุปกรณ์ดูแลสุขภาพที่ใช้พลังงานต่ำ เช่นเซนเซอร์สำหรับผู้สูงอายุและเด็กเล็ก ที่ต้องการความแม่นยำแต่ไม่สามารถส่งข้อมูลจำนวนมากได้

    แนวคิดหลักของ ConcreteSC
    เป็น framework สำหรับ semantic communication ที่เน้นการส่ง “ความหมาย” มากกว่าข้อมูลดิบ
    ใช้ concrete distribution แทน codebook ขนาดใหญ่แบบ VQ
    รองรับการฝึกแบบ end-to-end แม้ในสภาพแวดล้อมที่มี noise

    ผลการทดสอบและประสิทธิภาพ
    ทดสอบกับ ImageNet ภายใต้ Rayleigh และ Rician fading
    ให้ผลลัพธ์ดีกว่า VQ ทั้งในด้าน SSIM และ PSNR
    ลดความซับซ้อน เพราะ scaling ตาม bit length ไม่ใช่ขนาด codebook

    การนำไปใช้ในอุตสาหกรรม
    เหมาะกับ smart factory ที่มีการสื่อสารระหว่างเครื่องจักรจำนวนมาก
    ใช้ในอุปกรณ์ดูแลสุขภาพที่ใช้พลังงานต่ำ เช่นเซนเซอร์สำหรับผู้สูงอายุ
    รองรับการทำงานของ AI บนอุปกรณ์ขนาดเล็กโดยไม่ต้องใช้ bandwidth สูง

    ความก้าวหน้าทางเทคนิค
    สามารถฝึกโมเดลแบบ multi-feedback-length ด้วย masking scheme ที่เรียบง่าย
    เป็น framework ที่ fully differentiable และสามารถ integrate กับระบบอื่นได้ง่าย
    เปิดทางให้ใช้ semantic communication เป็นแกนหลักของ 6G

    https://www.techradar.com/pro/korean-researchers-develop-new-technology-that-could-boost-processing-unit-by-being-more-human-semantic-communication-focuses-on-the-bigger-picture-literally
    🎙️ เรื่องเล่าจาก ConcreteSC: เมื่อการสื่อสารไร้สายเรียนรู้ที่จะ “เข้าใจ” มากกว่าแค่ “ส่ง” ในอดีต การส่งข้อมูลไร้สายคือการพยายามถ่ายทอดทุกบิตให้ตรงที่สุด—ไม่ว่าจะเป็นภาพ เสียง หรือข้อความ ทุกพิกเซลต้องถูกส่งอย่างแม่นยำ แต่ในยุคที่ AI และอุปกรณ์ IoT กำลังครองโลก แนวคิดนี้เริ่มล้าสมัย เพราะสิ่งที่สำคัญไม่ใช่ “ข้อมูลดิบ” แต่คือ “ความหมายที่เข้าใจได้” ทีมวิจัยจาก Seoul National University of Science and Technology นำโดย Dr. Dong Jin Ji ได้พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ชื่อว่า ConcreteSC ซึ่งเป็น framework สำหรับ “semantic communication” ที่ไม่ส่งข้อมูลแบบเดิม แต่ส่ง “สิ่งที่ข้อมูลนั้นหมายถึง” โดยตรง ConcreteSC ไม่ใช้ codebook ขนาดใหญ่แบบ vector quantization (VQ) ซึ่งมักมีปัญหาเรื่อง noise และความซับซ้อนในการฝึกโมเดล แต่ใช้ distribution แบบ “concrete” ที่สามารถแปลงข้อมูลต่อเนื่องให้เป็นบิตได้โดยตรง และรองรับการฝึกแบบ end-to-end แม้ในสภาพแวดล้อมที่มีสัญญาณรบกวน เมื่อทดสอบกับชุดข้อมูล ImageNet ภายใต้เงื่อนไข Rayleigh และ Rician fading ซึ่งจำลองสภาพแวดล้อมไร้สายจริง ConcreteSC ให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า VQ ทั้งในด้าน structural similarity และ peak signal-to-noise ratio พร้อมลดความซับซ้อนของระบบลงอย่างมาก เทคโนโลยีนี้สามารถนำไปใช้ใน smart factory ที่มีการสื่อสารระหว่างเครื่องจักรจำนวนมากโดยไม่ต้องใช้สาย, หรือในอุปกรณ์ดูแลสุขภาพที่ใช้พลังงานต่ำ เช่นเซนเซอร์สำหรับผู้สูงอายุและเด็กเล็ก ที่ต้องการความแม่นยำแต่ไม่สามารถส่งข้อมูลจำนวนมากได้ ✅ แนวคิดหลักของ ConcreteSC ➡️ เป็น framework สำหรับ semantic communication ที่เน้นการส่ง “ความหมาย” มากกว่าข้อมูลดิบ ➡️ ใช้ concrete distribution แทน codebook ขนาดใหญ่แบบ VQ ➡️ รองรับการฝึกแบบ end-to-end แม้ในสภาพแวดล้อมที่มี noise ✅ ผลการทดสอบและประสิทธิภาพ ➡️ ทดสอบกับ ImageNet ภายใต้ Rayleigh และ Rician fading ➡️ ให้ผลลัพธ์ดีกว่า VQ ทั้งในด้าน SSIM และ PSNR ➡️ ลดความซับซ้อน เพราะ scaling ตาม bit length ไม่ใช่ขนาด codebook ✅ การนำไปใช้ในอุตสาหกรรม ➡️ เหมาะกับ smart factory ที่มีการสื่อสารระหว่างเครื่องจักรจำนวนมาก ➡️ ใช้ในอุปกรณ์ดูแลสุขภาพที่ใช้พลังงานต่ำ เช่นเซนเซอร์สำหรับผู้สูงอายุ ➡️ รองรับการทำงานของ AI บนอุปกรณ์ขนาดเล็กโดยไม่ต้องใช้ bandwidth สูง ✅ ความก้าวหน้าทางเทคนิค ➡️ สามารถฝึกโมเดลแบบ multi-feedback-length ด้วย masking scheme ที่เรียบง่าย ➡️ เป็น framework ที่ fully differentiable และสามารถ integrate กับระบบอื่นได้ง่าย ➡️ เปิดทางให้ใช้ semantic communication เป็นแกนหลักของ 6G https://www.techradar.com/pro/korean-researchers-develop-new-technology-that-could-boost-processing-unit-by-being-more-human-semantic-communication-focuses-on-the-bigger-picture-literally
    WWW.TECHRADAR.COM
    ConcreteSC is a new idea from South Korean scientists that could make 6G networks work better
    ConcreteSC tech could deliver 39x speed boost for next-gen wireless networks
    0 Comments 0 Shares 325 Views 0 Reviews
  • คู่นี้สามารถ​ทำผลงานได้ดี
    หากมีวินัย​จริงจัง​
    และใช้​คู่นี้เป็นตัวช่วยอย่าง​ต่อเนื่อง
    สัก 2 เดือน​ บวกการออกกำลังกาย
    และคุม​อาหาร​ลดแป้งงดน้ำตาล
    10-20 กก. ไม่​เกินจริง
    #คุมหิวบล็อกไขมัน
    #ไฟเบอร์ช่วยขับถ่าย
    #Medesefamily
    #Medailyprofiber
    #Medireal
    #ลดความอ้วน
    #ลดน้ำหนัก
    #ดูแลรูปร่าง
    #ดูแลสุขภาพ
    คู่นี้สามารถ​ทำผลงานได้ดี หากมีวินัย​จริงจัง​ และใช้​คู่นี้เป็นตัวช่วยอย่าง​ต่อเนื่อง สัก 2 เดือน​ บวกการออกกำลังกาย และคุม​อาหาร​ลดแป้งงดน้ำตาล 10-20 กก. ไม่​เกินจริง #คุมหิวบล็อกไขมัน #ไฟเบอร์ช่วยขับถ่าย #Medesefamily #Medailyprofiber #Medireal​ #ลดความอ้วน #ลดน้ำหนัก #ดูแลรูปร่าง #ดูแลสุขภาพ
    0 Comments 0 Shares 256 Views 0 Reviews

  • ..ประเทศโยนหินถามทางด้วยภาษีปี70 จะใช้บังคับกับประชาชนที่ต้องยื่นแบบภาษีทุกๆคน มีเชื่อมโยงสุขภาพด้วยคือใช้ NIT บังหน้านั้นเอง กลัวประชาชนต่อต้านอย่างหนักเหมือน14ตุลาบ้าคลั่งได้ซึ่งต่างจากเม็กซิโกสิ้นเชิง ,ใจคนไทยเด็ดขาดกว่ามาก เช่นนั้นจะไม่ปรากฎการมีอยู่แบบทหารผีแห่งสยามเรา.,deep stateโลกกำลังบีบชาวโลกในแต่ละประเทศให้ทำตามระเบียบมัน รัฐสอดแนมสอดรู้สอดเห็นทุกๆคนในประเทศมัน,ส่องหมดหรือทั้งหมดต้องถูกมันส่องและส่องตลอดเวลาด้วย,อาจหนักกว่าสไตล์เกาหลีเหนือแคปหน้าจอมือถือประชาชนทุกๆ3-5นาทีโน้น,ไอ้นี้ควอนตัมอาจบันทึกทุกๆกิจกรรมธุรกรรมซึ่งสามารถตรวจสอบเรียลไทม์และตรวจสอบย้อนหลังทั้งหมดตั้งแต่ต้นก็ยังได้จนถึงปัจจุบัน.,มันจะกำจัดมนุษย์ลงเพื่อให้เหลือน้อยที่สุดนั้นเอง.,ยุคแห่งAIปกครองมนุษย์แทนคนก็ได้,มันจึงพยายามให้ขี้ข้าสมุนลูกน้องมันเอาaiเข้าไปใช้แทนคน ทดแทนคนจริงในบริษัทแล้ว ธนาคารบางเนมจ้างพนักงานออกแล้ว ถีบออกก่อนกำหนด เพื่อเอาAIมาใช้แทนคนจริงจังแล้วนั้นเองในการตอบสนองนายใหญ่deep stateมัน.,ผู้นำจึงสำคัญมากในยุคเปลี่ยนแปลงนี้ เลือกเล่นๆแบบนายกฯคลิปหลุดอีกไม่ได้ สงครามโลก สงครามใช้AIมาควบคุมทดแทนคนจริงอีก.

    ............................................................................

    เม็กซิโกออกคําสั่งให้ Bill Gates’ Biometric Digital ID พร้อมข้อมูล Iris และลายนิ้วมือสําหรับประชากรทั้งหมด

    5 สิงหาคม 2568

    เม็กซิโกได้บังคับใช้บัตรประจําตัวดิจิทัลไบโอเมตริกซ์อย่างเป็นทางการสําหรับพลเมืองทุกคน ซึ่งจะทําให้ระบบที่ Bill Gates และ World Economic Forum (WEF) ผลักดันมายาวนาน สิ่งที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นข้อเสนอเพิ่มเติมโดยชนชั้นสูงระดับโลกในปัจจุบันคือกฎหมายของรัฐบาลกลาง ขณะนี้ชาวเม็กซิกันทุกคนจําเป็นต้องส่งข้อมูลใบหน้า ลายนิ้วมือ และม่านตาของตนไปยังแพลตฟอร์มข้อมูลประจําตัวดิจิทัลแบบรวมศูนย์ ไม่ว่าพวกเขาจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม

    การเปลี่ยนแปลง ลงนามในกฎหมาย ตามพระราชกฤษฎีกาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ให้เปลี่ยน CURP ที่เป็นทางเลือกก่อนหน้านี้ (Clave Única de Registro de Población) ให้เป็นเอกสารไบโอเมตริกซ์ภาคบังคับที่เชื่อมโยงกับแพลตฟอร์มข้อมูลประจําตัวดิจิทัลแบบรวมศูนย์

    CURP ใหม่จะรวมภาพถ่ายใบหน้า ลายนิ้วมือ และข้อมูลม่านตาที่ฝังอยู่ในรหัส QR และจําเป็นสําหรับการเข้าถึงทุกสิ่งตั้งแต่บริการสาธารณะและการศึกษา ไปจนถึงการธนาคารและการจ้างงาน กฎหมายกําหนดให้มีการบูรณาการทั่วทั้งระบบภาครัฐและเอกชนภายในปี 2569 และการเปิดตัวจะเริ่มต้นด้วยการรวบรวมข้อมูลไบโอเมตริกซ์จํานวนมาก—รวมถึง Children—เริ่มปีนี้

    การยกเครื่องใหม่สะท้อนให้เห็นถึงพิมพ์เขียวของ WEF สําหรับโครงสร้างพื้นฐาน ID ดิจิทัลทั่วโลก เป็นเวลาหลายปีที่ฟอรัมได้ส่งเสริมระบบข้อมูลประจําตัวดิจิทัลให้เป็นเครื่องมือสําคัญ สําหรับผู้ที่มีความประสงค์ที่จะมีส่วนร่วมในสังคมต่อไป, โต้แย้งพวกเขามีความจําเป็นสําหรับการเข้าถึงบริการทางการเงิน, การดูแลสุขภาพ, การเดินทาง, และสิทธิพลเมือง

    ในเอกสารและแผง WEF รหัสดิจิทัลมักถูกวางกรอบว่าเป็นวิธีแก้ปัญหาการรวมทางสังคม แต่ผู้สนับสนุนความเป็นส่วนตัวเตือนว่าระบบเหล่านี้ปูทางสําหรับการเฝ้าระวังประชากรและการควบคุมแบบรวมศูนย์อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

    ประธานาธิบดีคลอเดีย ชีนบัม แห่งเม็กซิโกได้แสดงการสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในเวทีระหว่างประเทศก่อนหน้านี้ และเจ้าหน้าที่หลายคนที่เกี่ยวข้องกับภาคเทคโนโลยีและการกํากับดูแลของเม็กซิโกก็มีความเชื่อมโยงกับโครงการริเริ่มของ WEF Digital Transformation Agency—ตอนนี้ดูแลการดําเนินการยกเครื่อง CURP—ได้นําภาษาและลําดับความสําคัญที่คล้ายกันมาใช้กับโปรแกรมการกํากับดูแลดิจิทัลของ WEF

    บิล เกตส์เป็นผู้เสนอกฎหมายเม็กซิโกคนสําคัญ ผู้ให้ทุนหลักและผู้สนับสนุนระบบอัตลักษณ์ไบโอเมตริกซ์ ในประเทศกําลังพัฒนาผ่านทางมูลนิธิ Bill & Melinda Gates และ Gavi, Vaccine Alliance— ซึ่งเป็นพันธมิตรเก่าแก่ของ WEF มูลนิธิของเขายังสนับสนุน Modular Open Source Identity Platform (MOSIP) ซึ่งเป็นกรอบการทํางานโอเพ่นซอร์สสําหรับรหัสไบโอเมตริกซ์ที่กําลังถูกนํามาใช้ในบางส่วนของแอฟริกาและเอเชีย


    องค์กรความเป็นส่วนตัวในเม็กซิโกส่งเสียงเตือน กฎหมายใหม่ไม่ได้กําหนดให้เจ้าหน้าที่ต้องแจ้งให้ประชาชนทราบเมื่อมีการเข้าถึงข้อมูลไบโอเมตริกซ์ของตน และไม่ได้รวมบทลงโทษที่ชัดเจนสําหรับการใช้ในทางที่ผิดหรือการละเมิด กลุ่มสิทธิพลเมืองเตือนว่าระบบอาจถูกนําไปใช้ประโยชน์โดยหน่วยข่าวกรอง เจ้าหน้าที่ทุจริต หรือแม้แต่รัฐบาลต่างประเทศ เนื่องจากกฎหมายอนุญาตให้มีข้อตกลงการแบ่งปันข้อมูลที่อาจเกิดขึ้น— รวมถึงกับหน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของสหรัฐอเมริกา

    ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า รัฐบาลจะสร้างแพลตฟอร์ม Unified Identity เพื่อรวมโปรไฟล์ไบโอเมตริกซ์ของ Citizens’ ไว้ในฐานข้อมูลต่างๆ รวมถึง National Registry of Missing and Unlocated Persons และ National Forensic Data Bank

    เจ้าหน้าที่กล่าวว่าระบบจะปรับปรุงความปลอดภัยสาธารณะและช่วยแก้ปัญหาการสูญหาย แต่นักวิจารณ์แย้งว่าโครงสร้างพื้นฐานกําลังถูกจัดเตรียมไว้สําหรับรัฐสอดแนมที่อาจกัดกร่อนเสรีภาพของพลเมืองภายใต้หน้ากากของความทันสมัย

    นี่เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวิถีดิจิทัลของเม็กซิโก แม้ว่าเป้าหมายที่ระบุไว้คือประสิทธิภาพการบริหารและความมั่นคงของชาติ แต่ความกังวลที่ลึกซึ้งกว่านั้นก็คือ ประเทศกําลังกลายเป็นประเทศล่าสุดที่ยอมจํานนต่อกลไกการควบคุมดิจิทัลระดับโลกที่ได้รับการสนับสนุนจากผู้มีบทบาทข้ามชาติชั้นยอด



    ..ประเทศโยนหินถามทางด้วยภาษีปี70 จะใช้บังคับกับประชาชนที่ต้องยื่นแบบภาษีทุกๆคน มีเชื่อมโยงสุขภาพด้วยคือใช้ NIT บังหน้านั้นเอง กลัวประชาชนต่อต้านอย่างหนักเหมือน14ตุลาบ้าคลั่งได้ซึ่งต่างจากเม็กซิโกสิ้นเชิง ,ใจคนไทยเด็ดขาดกว่ามาก เช่นนั้นจะไม่ปรากฎการมีอยู่แบบทหารผีแห่งสยามเรา.,deep stateโลกกำลังบีบชาวโลกในแต่ละประเทศให้ทำตามระเบียบมัน รัฐสอดแนมสอดรู้สอดเห็นทุกๆคนในประเทศมัน,ส่องหมดหรือทั้งหมดต้องถูกมันส่องและส่องตลอดเวลาด้วย,อาจหนักกว่าสไตล์เกาหลีเหนือแคปหน้าจอมือถือประชาชนทุกๆ3-5นาทีโน้น,ไอ้นี้ควอนตัมอาจบันทึกทุกๆกิจกรรมธุรกรรมซึ่งสามารถตรวจสอบเรียลไทม์และตรวจสอบย้อนหลังทั้งหมดตั้งแต่ต้นก็ยังได้จนถึงปัจจุบัน.,มันจะกำจัดมนุษย์ลงเพื่อให้เหลือน้อยที่สุดนั้นเอง.,ยุคแห่งAIปกครองมนุษย์แทนคนก็ได้,มันจึงพยายามให้ขี้ข้าสมุนลูกน้องมันเอาaiเข้าไปใช้แทนคน ทดแทนคนจริงในบริษัทแล้ว ธนาคารบางเนมจ้างพนักงานออกแล้ว ถีบออกก่อนกำหนด เพื่อเอาAIมาใช้แทนคนจริงจังแล้วนั้นเองในการตอบสนองนายใหญ่deep stateมัน.,ผู้นำจึงสำคัญมากในยุคเปลี่ยนแปลงนี้ เลือกเล่นๆแบบนายกฯคลิปหลุดอีกไม่ได้ สงครามโลก สงครามใช้AIมาควบคุมทดแทนคนจริงอีก. ............................................................................ เม็กซิโกออกคําสั่งให้ Bill Gates’ Biometric Digital ID พร้อมข้อมูล Iris และลายนิ้วมือสําหรับประชากรทั้งหมด 5 สิงหาคม 2568 เม็กซิโกได้บังคับใช้บัตรประจําตัวดิจิทัลไบโอเมตริกซ์อย่างเป็นทางการสําหรับพลเมืองทุกคน ซึ่งจะทําให้ระบบที่ Bill Gates และ World Economic Forum (WEF) ผลักดันมายาวนาน สิ่งที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นข้อเสนอเพิ่มเติมโดยชนชั้นสูงระดับโลกในปัจจุบันคือกฎหมายของรัฐบาลกลาง ขณะนี้ชาวเม็กซิกันทุกคนจําเป็นต้องส่งข้อมูลใบหน้า ลายนิ้วมือ และม่านตาของตนไปยังแพลตฟอร์มข้อมูลประจําตัวดิจิทัลแบบรวมศูนย์ ไม่ว่าพวกเขาจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม การเปลี่ยนแปลง ลงนามในกฎหมาย ตามพระราชกฤษฎีกาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ให้เปลี่ยน CURP ที่เป็นทางเลือกก่อนหน้านี้ (Clave Única de Registro de Población) ให้เป็นเอกสารไบโอเมตริกซ์ภาคบังคับที่เชื่อมโยงกับแพลตฟอร์มข้อมูลประจําตัวดิจิทัลแบบรวมศูนย์ CURP ใหม่จะรวมภาพถ่ายใบหน้า ลายนิ้วมือ และข้อมูลม่านตาที่ฝังอยู่ในรหัส QR และจําเป็นสําหรับการเข้าถึงทุกสิ่งตั้งแต่บริการสาธารณะและการศึกษา ไปจนถึงการธนาคารและการจ้างงาน กฎหมายกําหนดให้มีการบูรณาการทั่วทั้งระบบภาครัฐและเอกชนภายในปี 2569 และการเปิดตัวจะเริ่มต้นด้วยการรวบรวมข้อมูลไบโอเมตริกซ์จํานวนมาก—รวมถึง Children—เริ่มปีนี้ การยกเครื่องใหม่สะท้อนให้เห็นถึงพิมพ์เขียวของ WEF สําหรับโครงสร้างพื้นฐาน ID ดิจิทัลทั่วโลก เป็นเวลาหลายปีที่ฟอรัมได้ส่งเสริมระบบข้อมูลประจําตัวดิจิทัลให้เป็นเครื่องมือสําคัญ สําหรับผู้ที่มีความประสงค์ที่จะมีส่วนร่วมในสังคมต่อไป, โต้แย้งพวกเขามีความจําเป็นสําหรับการเข้าถึงบริการทางการเงิน, การดูแลสุขภาพ, การเดินทาง, และสิทธิพลเมือง ในเอกสารและแผง WEF รหัสดิจิทัลมักถูกวางกรอบว่าเป็นวิธีแก้ปัญหาการรวมทางสังคม แต่ผู้สนับสนุนความเป็นส่วนตัวเตือนว่าระบบเหล่านี้ปูทางสําหรับการเฝ้าระวังประชากรและการควบคุมแบบรวมศูนย์อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ประธานาธิบดีคลอเดีย ชีนบัม แห่งเม็กซิโกได้แสดงการสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในเวทีระหว่างประเทศก่อนหน้านี้ และเจ้าหน้าที่หลายคนที่เกี่ยวข้องกับภาคเทคโนโลยีและการกํากับดูแลของเม็กซิโกก็มีความเชื่อมโยงกับโครงการริเริ่มของ WEF Digital Transformation Agency—ตอนนี้ดูแลการดําเนินการยกเครื่อง CURP—ได้นําภาษาและลําดับความสําคัญที่คล้ายกันมาใช้กับโปรแกรมการกํากับดูแลดิจิทัลของ WEF บิล เกตส์เป็นผู้เสนอกฎหมายเม็กซิโกคนสําคัญ ผู้ให้ทุนหลักและผู้สนับสนุนระบบอัตลักษณ์ไบโอเมตริกซ์ ในประเทศกําลังพัฒนาผ่านทางมูลนิธิ Bill & Melinda Gates และ Gavi, Vaccine Alliance— ซึ่งเป็นพันธมิตรเก่าแก่ของ WEF มูลนิธิของเขายังสนับสนุน Modular Open Source Identity Platform (MOSIP) ซึ่งเป็นกรอบการทํางานโอเพ่นซอร์สสําหรับรหัสไบโอเมตริกซ์ที่กําลังถูกนํามาใช้ในบางส่วนของแอฟริกาและเอเชีย องค์กรความเป็นส่วนตัวในเม็กซิโกส่งเสียงเตือน กฎหมายใหม่ไม่ได้กําหนดให้เจ้าหน้าที่ต้องแจ้งให้ประชาชนทราบเมื่อมีการเข้าถึงข้อมูลไบโอเมตริกซ์ของตน และไม่ได้รวมบทลงโทษที่ชัดเจนสําหรับการใช้ในทางที่ผิดหรือการละเมิด กลุ่มสิทธิพลเมืองเตือนว่าระบบอาจถูกนําไปใช้ประโยชน์โดยหน่วยข่าวกรอง เจ้าหน้าที่ทุจริต หรือแม้แต่รัฐบาลต่างประเทศ เนื่องจากกฎหมายอนุญาตให้มีข้อตกลงการแบ่งปันข้อมูลที่อาจเกิดขึ้น— รวมถึงกับหน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของสหรัฐอเมริกา ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า รัฐบาลจะสร้างแพลตฟอร์ม Unified Identity เพื่อรวมโปรไฟล์ไบโอเมตริกซ์ของ Citizens’ ไว้ในฐานข้อมูลต่างๆ รวมถึง National Registry of Missing and Unlocated Persons และ National Forensic Data Bank เจ้าหน้าที่กล่าวว่าระบบจะปรับปรุงความปลอดภัยสาธารณะและช่วยแก้ปัญหาการสูญหาย แต่นักวิจารณ์แย้งว่าโครงสร้างพื้นฐานกําลังถูกจัดเตรียมไว้สําหรับรัฐสอดแนมที่อาจกัดกร่อนเสรีภาพของพลเมืองภายใต้หน้ากากของความทันสมัย นี่เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวิถีดิจิทัลของเม็กซิโก แม้ว่าเป้าหมายที่ระบุไว้คือประสิทธิภาพการบริหารและความมั่นคงของชาติ แต่ความกังวลที่ลึกซึ้งกว่านั้นก็คือ ประเทศกําลังกลายเป็นประเทศล่าสุดที่ยอมจํานนต่อกลไกการควบคุมดิจิทัลระดับโลกที่ได้รับการสนับสนุนจากผู้มีบทบาทข้ามชาติชั้นยอด
    0 Comments 0 Shares 524 Views 0 Reviews
  • "แม่ทัพภาค 2" เสียใจ! ยอมรับ "พลทหารรัฐภูมิ" เครียดจากเหตุสู้รบ...เตรียมส่งทีมแพทย์ดูแลสุขภาพจิตทหารแนวหน้า
    https://www.thai-tai.tv/news/20934/
    .
    #แม่ทัพภาคที่2 #สุขภาพจิตทหาร #ทหารกราดยิง #ข่าวความมั่นคง #ทหารเกณฑ์ #ไทยไท

    "แม่ทัพภาค 2" เสียใจ! ยอมรับ "พลทหารรัฐภูมิ" เครียดจากเหตุสู้รบ...เตรียมส่งทีมแพทย์ดูแลสุขภาพจิตทหารแนวหน้า https://www.thai-tai.tv/news/20934/ . #แม่ทัพภาคที่2 #สุขภาพจิตทหาร #ทหารกราดยิง #ข่าวความมั่นคง #ทหารเกณฑ์ #ไทยไท
    0 Comments 0 Shares 372 Views 0 Reviews
  • YouTube ทดสอบระบบตรวจสอบอายุด้วย AI ในสหรัฐฯ: ปกป้องเยาวชนหรือรุกล้ำความเป็นส่วนตัว?

    YouTube เริ่มทดสอบระบบตรวจสอบอายุด้วย AI ในสหรัฐฯ โดยไม่พึ่งข้อมูลวันเกิดที่ผู้ใช้กรอกเอง แต่ใช้พฤติกรรมการใช้งาน เช่น ประเภทวิดีโอที่ดู, คำค้นหา, และอายุบัญชี เพื่อประเมินว่าเป็นผู้ใหญ่หรือเยาวชน หากระบบ AI ประเมินว่าเป็นเยาวชน YouTube จะปิดโฆษณาแบบเจาะกลุ่ม, เปิดฟีเจอร์ดูแลสุขภาพดิจิทัล และจำกัดการดูเนื้อหาบางประเภทโดยอัตโนมัติ

    แม้เป้าหมายคือการปกป้องเยาวชนจากเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิส่วนบุคคลเตือนว่า ระบบนี้อาจละเมิดความเป็นส่วนตัวและเสรีภาพในการแสดงออก โดยเฉพาะเมื่อผู้ใช้ที่ถูกประเมินผิดต้องส่งบัตรประชาชน, บัตรเครดิต หรือภาพถ่ายตนเองเพื่อยืนยันอายุ ซึ่งอาจเปิดช่องให้เกิดการเก็บข้อมูลส่วนตัวโดยไม่มีความโปร่งใส

    ระบบนี้ยังส่งผลกระทบต่อธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่เน้นกลุ่มวัยรุ่น เพราะโฆษณาแบบเจาะกลุ่มจะถูกปิด และเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับสินค้าอาจถูกจำกัดการเข้าถึง

    YouTube ทดสอบระบบตรวจสอบอายุด้วย AI ในสหรัฐฯ
    ใช้พฤติกรรมการใช้งานแทนข้อมูลวันเกิดที่ผู้ใช้กรอก

    หากระบบประเมินว่าเป็นเยาวชน จะปิดโฆษณาแบบเจาะกลุ่ม
    พร้อมเปิดฟีเจอร์ดูแลสุขภาพดิจิทัล และจำกัดเนื้อหาบางประเภท

    ระบบนี้เคยใช้ในอังกฤษและออสเตรเลียมาก่อน
    และกำลังขยายสู่สหรัฐฯ ตามแรงกดดันจากกฎหมายความปลอดภัยออนไลน์

    ผู้ใช้ที่ถูกประเมินผิดต้องยืนยันตัวตนด้วยบัตรประชาชนหรือภาพถ่าย
    เพื่อขอสิทธิ์เข้าถึงเนื้อหาที่ถูกจำกัด

    ธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่เน้นกลุ่มวัยรุ่นจะได้รับผลกระทบ
    เพราะโฆษณาและเนื้อหาถูกจำกัดการเข้าถึง

    ระบบนี้อาจขยายไปยังบริการอื่นของ Google เช่น Google Ads และ Google Play
    ส่งผลต่อกลยุทธ์การตลาดดิจิทัลโดยรวม

    การตรวจสอบอายุด้วย AI เป็นแนวทางใหม่ที่หลายแพลตฟอร์มเริ่มนำมาใช้
    เช่น TikTok และ Instagram ก็เริ่มใช้ระบบคล้ายกัน

    กฎหมาย Online Safety Act ในอังกฤษบังคับให้แพลตฟอร์มปกป้องเยาวชนจากเนื้อหาผู้ใหญ่
    เป็นแรงผลักดันให้ YouTube ปรับระบบในประเทศอื่น

    การใช้ AI ประเมินอายุช่วยลดการพึ่งพาข้อมูลส่วนตัวโดยตรง
    แต่ต้องมีความแม่นยำสูงเพื่อไม่ให้เกิดการประเมินผิด

    การจำกัดเนื้อหาสำหรับเยาวชนอาจช่วยลดผลกระทบด้านสุขภาพจิต
    โดยเฉพาะเนื้อหาที่กระตุ้นความเครียดหรือพฤติกรรมเสี่ยง

    https://wccftech.com/youtube-tests-ai-powered-age-verification-in-the-u-s-to-safeguard-teens/
    🧠🔞 YouTube ทดสอบระบบตรวจสอบอายุด้วย AI ในสหรัฐฯ: ปกป้องเยาวชนหรือรุกล้ำความเป็นส่วนตัว? YouTube เริ่มทดสอบระบบตรวจสอบอายุด้วย AI ในสหรัฐฯ โดยไม่พึ่งข้อมูลวันเกิดที่ผู้ใช้กรอกเอง แต่ใช้พฤติกรรมการใช้งาน เช่น ประเภทวิดีโอที่ดู, คำค้นหา, และอายุบัญชี เพื่อประเมินว่าเป็นผู้ใหญ่หรือเยาวชน หากระบบ AI ประเมินว่าเป็นเยาวชน YouTube จะปิดโฆษณาแบบเจาะกลุ่ม, เปิดฟีเจอร์ดูแลสุขภาพดิจิทัล และจำกัดการดูเนื้อหาบางประเภทโดยอัตโนมัติ แม้เป้าหมายคือการปกป้องเยาวชนจากเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิส่วนบุคคลเตือนว่า ระบบนี้อาจละเมิดความเป็นส่วนตัวและเสรีภาพในการแสดงออก โดยเฉพาะเมื่อผู้ใช้ที่ถูกประเมินผิดต้องส่งบัตรประชาชน, บัตรเครดิต หรือภาพถ่ายตนเองเพื่อยืนยันอายุ ซึ่งอาจเปิดช่องให้เกิดการเก็บข้อมูลส่วนตัวโดยไม่มีความโปร่งใส ระบบนี้ยังส่งผลกระทบต่อธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่เน้นกลุ่มวัยรุ่น เพราะโฆษณาแบบเจาะกลุ่มจะถูกปิด และเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับสินค้าอาจถูกจำกัดการเข้าถึง ✅ YouTube ทดสอบระบบตรวจสอบอายุด้วย AI ในสหรัฐฯ ➡️ ใช้พฤติกรรมการใช้งานแทนข้อมูลวันเกิดที่ผู้ใช้กรอก ✅ หากระบบประเมินว่าเป็นเยาวชน จะปิดโฆษณาแบบเจาะกลุ่ม ➡️ พร้อมเปิดฟีเจอร์ดูแลสุขภาพดิจิทัล และจำกัดเนื้อหาบางประเภท ✅ ระบบนี้เคยใช้ในอังกฤษและออสเตรเลียมาก่อน ➡️ และกำลังขยายสู่สหรัฐฯ ตามแรงกดดันจากกฎหมายความปลอดภัยออนไลน์ ✅ ผู้ใช้ที่ถูกประเมินผิดต้องยืนยันตัวตนด้วยบัตรประชาชนหรือภาพถ่าย ➡️ เพื่อขอสิทธิ์เข้าถึงเนื้อหาที่ถูกจำกัด ✅ ธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่เน้นกลุ่มวัยรุ่นจะได้รับผลกระทบ ➡️ เพราะโฆษณาและเนื้อหาถูกจำกัดการเข้าถึง ✅ ระบบนี้อาจขยายไปยังบริการอื่นของ Google เช่น Google Ads และ Google Play ➡️ ส่งผลต่อกลยุทธ์การตลาดดิจิทัลโดยรวม ✅ การตรวจสอบอายุด้วย AI เป็นแนวทางใหม่ที่หลายแพลตฟอร์มเริ่มนำมาใช้ ➡️ เช่น TikTok และ Instagram ก็เริ่มใช้ระบบคล้ายกัน ✅ กฎหมาย Online Safety Act ในอังกฤษบังคับให้แพลตฟอร์มปกป้องเยาวชนจากเนื้อหาผู้ใหญ่ ➡️ เป็นแรงผลักดันให้ YouTube ปรับระบบในประเทศอื่น ✅ การใช้ AI ประเมินอายุช่วยลดการพึ่งพาข้อมูลส่วนตัวโดยตรง ➡️ แต่ต้องมีความแม่นยำสูงเพื่อไม่ให้เกิดการประเมินผิด ✅ การจำกัดเนื้อหาสำหรับเยาวชนอาจช่วยลดผลกระทบด้านสุขภาพจิต ➡️ โดยเฉพาะเนื้อหาที่กระตุ้นความเครียดหรือพฤติกรรมเสี่ยง https://wccftech.com/youtube-tests-ai-powered-age-verification-in-the-u-s-to-safeguard-teens/
    WCCFTECH.COM
    YouTube Tests AI-Powered Age Verification In The U.S. To Safeguard Teens While Navigating Privacy And Free Speech Challenges
    YouTube is testing a new age-verification system in the U.S. that relies on the technology to distinguish adults and minors
    0 Comments 0 Shares 453 Views 0 Reviews
  • ทำไมต้อง "Gripen"

    เครื่องบิน JAS Gripen ได้รับการรีวิวจริงไปแล้วครั้งแรกในโลกโดยประเทศไทยของเรานี่เอง รีวิวใส่กัมพูชาชนิดที่ว่า โลกเห็นแล้วต้องชื่นชมในศักยภาพ

    หลายคนรู้จัก F-16 ได้ยินชื่อนี้มานานหลายสิบปี แต่เพิ่งมาได้ยินชื่อ Gripen เมื่อไม่นานมานี้ และทำไมเราถึงใช้ Gripen ในภารกิจนี้ และวางแผนจะนำมาทดแทน F-16 มันดีกว่ายังไง?
    .
    ประวัติของ Gripen
    ประเทศสวีเดนคือผู้ให้กำเนิด Gripen ซึ่งถูกพัฒนามาจากปลายยุค 1970 หลังจากกองทัพอากาศสวีเดินเล็งเห็นว่า เครื่องบินรบรุ่นเก่าของสวีเดินเริ่มล้าสมัย สวีเดินจึงคิดผลิตเครื่องบินรุ่นใหม่ "ขึ้นมาเอง" เพราะไม่อยากพึ่งพาประเทศอื่นมากเกินไป ด้วยการก่อตั้งโครงการ "JAS" ในปี 1979
    โครงการ JAS มาจากคำว่า J = (Jakt) ยัคต์ แปลว่า ขับไล่ A= (Attack) แอทแทค แปลว่าโจมตี และ S = Spaning (สแปนนิ่ง) แปลว่า ลาดตระเวน คือแนวคิดที่จะพัฒนาเครื่องบินรบล้ำสมัยล้ำยุค ที่ใช้เครื่องบินเพียง 1 ลำ แต่สามารถปฏิบัติภารกิจได้ทั้ง 3 แบบในลำเดียว เที่ยวเดียวได้

    ปี 1982 บริษัท SAAB ได้รับหน้าที่พัฒนาโครางการนี้ แต่เนื่องจากโปรเจคนี้ใหญ่มา และต้องการความเป็น "ที่สุด" จึงได้ระดมสมองร่วมกับอีกหลายบริษัท เข้ามาดูแลความเป็นที่สุดในด้านต่างๆ ได้แก่ บริษัท Ericsson เข้ามาช่วยพัฒนาระบบเรดาห์และการบิน บริษัท Volvo Aero เข้ามาช่วยปรับแต่งเครื่องยนตร์ และบริษัท FFV มาดูเรื่องระบบอาวุธและอุปกรณ์ทางการทหาร
    ปี 1988 เครื่องต้นแบบลำแรกสำเร็จ แต่เมื่อบินทดสอบกลับไม่สำเร็จจนพังไป หลังจากทดลองจนเสร็จสมบูรณ์แบบ Gripen ลำแรกก็พร้อมประจำการได้ในปี 1996
    .
    ความสามารถอันเป็นที่สุดของ Gripen
    ทำหน้าที่ได้ถึง 3 หน้าที่ใน 1 ลำ
    1. เป็นเครื่องบินขับไล่ - ต่อสู้เครื่องบินศัตรูจากกลางอากาศได้
    2. เป็นเครื่องบินโจมตี - โจมตีภาคพื้นดิน ฐานทัพ บังเกอร์ รถถัง
    3. เป็นเครื่องบินลาดตระเวณ สอดแนม - บินไปถ่ยาภาพและสอดแนมตำแหน่งศัตรูได้
    .
    * ปกติเครื่องบินรบ 1 หน้าที่จะแยกเป็น 1 ลำไป แต่ Gripen สามารถปฏิบัติภารกิจได้ต่อเนื่อง เป็น Swing-Role อย่างเช่น ลาดตระเวณอยู่ แต่เจอศัตรู ก็เปลี่ยนเป็นโหมดต่อสู้ทางอากาศได้ และสลับไปสอดแนมต่อก็ยังได้ในการบินเที่ยวเดียว หรือจะสลับทำทั้ง 3 หน้าที่คือไปสอดแนม โจมตีศัตรูบนอากาศ และพื้นดินก็ยังได้
    .
    มีระบบ "TIDLS" อันทันสมัย สามารถเชื่อมต่อข้อมูลกัน ทุกลำเหมือนมี "ตาเดียวกัน" ทำให้ทุกลำโจมตีได้ร่วมกัน เช่น ลำนี้ตรวจเจอศัตรูแต่มุมยิงไม่ได้ ก็ให้อีกลำยิงแทน และตรวจจับศัตรูได้หลากหลายเป้าหมาย แม้ในสภาพอากาศไม่เป็นใจเช่นมีหมอก มีพายุ มีฝุ่น
    .
    มีระบบ EW คือระบบป้องกันตัวเอง สามารถรู้ได้ว่าเรดาห์ศัตรูตรวจเจอก็จะแจ้งเตือน หรือเมื่อถูกโจมตีด้วยมิซไซล์ ก็จะแจ้งเตือน มีการยิงเป้าหลอก แท่งความร้อนหลอกมิซไซล์ รวมถึงมีระบบส่งคลื่นสัญญาณรบกวน ทั้งหมดนี้ ยังสามารถเชื่อมระบบการโจมตีร่วมกับกองทัพเรือและกองทัพบกได้ด้วย
    .
    มีระบบ AI ช่วยการตัดสินใจให้นักบิน เพราะเวลารบ นักบินต้องตัดสินใจรวดเร็วมากในขณะที่ยังต้องควบคุมการบินและวิเคราะห์การรบ แต่ Gripen มี Mission Computer ที่จะรวบรวมระบบจากทุกลำมาตัดสินใจการรบแทนให้ มันวิเคราะห์สถานการณ์แบบ Realime ได้ เช่น จะเลือกล็อคเป้าเป้าหมายที่เหมาะสมที่สุดให้โจมตีก่อน มีหน้าจอขนาดใหญ่ แสดงถึงการโจมตี เส้นทางการหลบหนี ตำแหน่งของเพื่อนร่วมฝูง ทำให้นักบินเข้าใจได้ทันทีไม่ต้องเสียเวลาคิดอะไรมาก Gripen คิดให้หมดและคิดเป็นทีม
    .
    Gripen มีความยืดหยุ่นที่จะ Upgrade เครื่องได้หลากหลาย ทำให้ไม่ตกยุค สามารถปรับแต่งระบบต่างๆ ได้ตลอด เช่น อัพเกรดให้เชื่อมต่อกับเรือรบในระบบอื่นได้ มีระบบฝึกการบินภายในตัวเครื่องเองโดยไม่ต้องบินขึ้น ไม่ต้องไปซื้อระบบจำลองการบินเพิ่ม สแกนตัวเอง ดูแลสุขภาพตัวเองได้ อะไรมีปัญหา อะไหล่ชิ้นไหนใกล้เสื่อม จึงมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
    .
    Gripen มีความพร้อมรบ ต้องการพื้นที่ลงจอดได้แม้แต่ถนนยาวไม่ถึ่งกิโล สามารถออกรบซ้ำได้ภายใน 10 นาที เพราะเติมเชื้อเพลิง-ติดอาวุธได้แบบสั้นๆ (ใช้คนติดตั้งได้แค่ 5 คน) ต้นทุนการบินต่อชั่วโมงก็ต่ำ เทียบกับ F-16 แล้ว ถูกกว่าเกือบครึ่ง
    .
    ณ ปัจจุบัน Gripen มีอยู่ที่ประเทศสวีเดนผู้ให้กำเนิด ทั้งหมด 156 ลำ รองมาคือบราซิล 36 ลำ แอฟริกาใต้ 26 ลำ ฮังการีและเช็ค 14 ลำ และต่อไป เราจะมีเป็นลำดับที่ 5 คือ 12 ลำ และเราคือประเทศแรกของโลกที่ได้นำออกไปใช้ในสถานการณ์จริง!
    .
    Gripen ของกองทัพอากาศไทย ปี 2008-2010 เราจัดซื้อ Gripen ทั้งหมดแล้ว 12 ลำ แต่เราได้ดีลจากบริษัท SAAB ด้วยการเสนอการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้ และจะจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและอากาศยานให้ ซึ่งมีมูลค่าสูงมาก อีกทั้งยังจะมาลงทุนผลิตอะไหล่เพื่อขายให้กับประเทศอื่นได้ด้วย เราจึงได้ทั้งการลงทุน ความรู้ การจ้างงาน ซึ่งนับเป็นมูลค่าหลายแสนล้านบาท
    .
    ปี 2025 เราได้ทำการจัดซื้อล็อตใหม่ ซึ่งจะทยอยซื้อ ทยอยส่งมอบ เสร็จสิ้นในปี 2034 ทำให้ในปีนั้น เราจะมีฝูงบิน Gripen ถึง 24 ลำด้วยกัน!!!

    .
    CR:กองทัพอากาศไทยเครื่องบินขับไล่ Jas-39 Saab Gripen ทำการลงจอดและบินขึ้นจากถนนทางหลวงหมายเลข 4287 จังหวัดสงขลา 27 กุมภาพันธ์ 2568
    #RTAF
    🇹🇭ทำไมต้อง "Gripen" 🇸🇪 เครื่องบิน JAS Gripen ได้รับการรีวิวจริงไปแล้วครั้งแรกในโลกโดยประเทศไทยของเรานี่เอง รีวิวใส่กัมพูชาชนิดที่ว่า โลกเห็นแล้วต้องชื่นชมในศักยภาพ หลายคนรู้จัก F-16 ได้ยินชื่อนี้มานานหลายสิบปี แต่เพิ่งมาได้ยินชื่อ Gripen เมื่อไม่นานมานี้ และทำไมเราถึงใช้ Gripen ในภารกิจนี้ และวางแผนจะนำมาทดแทน F-16 มันดีกว่ายังไง? . 🇸🇪 🇸🇪 🇸🇪 ประวัติของ Gripen ประเทศสวีเดนคือผู้ให้กำเนิด Gripen ซึ่งถูกพัฒนามาจากปลายยุค 1970 หลังจากกองทัพอากาศสวีเดินเล็งเห็นว่า เครื่องบินรบรุ่นเก่าของสวีเดินเริ่มล้าสมัย สวีเดินจึงคิดผลิตเครื่องบินรุ่นใหม่ "ขึ้นมาเอง" เพราะไม่อยากพึ่งพาประเทศอื่นมากเกินไป ด้วยการก่อตั้งโครงการ "JAS" ในปี 1979 โครงการ JAS มาจากคำว่า J = (Jakt) ยัคต์ แปลว่า ขับไล่ A= (Attack) แอทแทค แปลว่าโจมตี และ S = Spaning (สแปนนิ่ง) แปลว่า ลาดตระเวน คือแนวคิดที่จะพัฒนาเครื่องบินรบล้ำสมัยล้ำยุค ที่ใช้เครื่องบินเพียง 1 ลำ แต่สามารถปฏิบัติภารกิจได้ทั้ง 3 แบบในลำเดียว เที่ยวเดียวได้ ปี 1982 บริษัท SAAB ได้รับหน้าที่พัฒนาโครางการนี้ แต่เนื่องจากโปรเจคนี้ใหญ่มา และต้องการความเป็น "ที่สุด" จึงได้ระดมสมองร่วมกับอีกหลายบริษัท เข้ามาดูแลความเป็นที่สุดในด้านต่างๆ ได้แก่ บริษัท Ericsson เข้ามาช่วยพัฒนาระบบเรดาห์และการบิน บริษัท Volvo Aero เข้ามาช่วยปรับแต่งเครื่องยนตร์ และบริษัท FFV มาดูเรื่องระบบอาวุธและอุปกรณ์ทางการทหาร ปี 1988 เครื่องต้นแบบลำแรกสำเร็จ แต่เมื่อบินทดสอบกลับไม่สำเร็จจนพังไป หลังจากทดลองจนเสร็จสมบูรณ์แบบ Gripen ลำแรกก็พร้อมประจำการได้ในปี 1996 . 🇸🇪 🇸🇪 🇸🇪 ความสามารถอันเป็นที่สุดของ Gripen 🇸🇪 🇸🇪 🇸🇪 🇸🇪 ทำหน้าที่ได้ถึง 3 หน้าที่ใน 1 ลำ 1. เป็นเครื่องบินขับไล่ - ต่อสู้เครื่องบินศัตรูจากกลางอากาศได้ 2. เป็นเครื่องบินโจมตี - โจมตีภาคพื้นดิน ฐานทัพ บังเกอร์ รถถัง 3. เป็นเครื่องบินลาดตระเวณ สอดแนม - บินไปถ่ยาภาพและสอดแนมตำแหน่งศัตรูได้ . * ปกติเครื่องบินรบ 1 หน้าที่จะแยกเป็น 1 ลำไป แต่ Gripen สามารถปฏิบัติภารกิจได้ต่อเนื่อง เป็น Swing-Role อย่างเช่น ลาดตระเวณอยู่ แต่เจอศัตรู ก็เปลี่ยนเป็นโหมดต่อสู้ทางอากาศได้ และสลับไปสอดแนมต่อก็ยังได้ในการบินเที่ยวเดียว หรือจะสลับทำทั้ง 3 หน้าที่คือไปสอดแนม โจมตีศัตรูบนอากาศ และพื้นดินก็ยังได้ . 🇸🇪 มีระบบ "TIDLS" อันทันสมัย สามารถเชื่อมต่อข้อมูลกัน ทุกลำเหมือนมี "ตาเดียวกัน" ทำให้ทุกลำโจมตีได้ร่วมกัน เช่น ลำนี้ตรวจเจอศัตรูแต่มุมยิงไม่ได้ ก็ให้อีกลำยิงแทน และตรวจจับศัตรูได้หลากหลายเป้าหมาย แม้ในสภาพอากาศไม่เป็นใจเช่นมีหมอก มีพายุ มีฝุ่น . 🇸🇪 มีระบบ EW คือระบบป้องกันตัวเอง สามารถรู้ได้ว่าเรดาห์ศัตรูตรวจเจอก็จะแจ้งเตือน หรือเมื่อถูกโจมตีด้วยมิซไซล์ ก็จะแจ้งเตือน มีการยิงเป้าหลอก แท่งความร้อนหลอกมิซไซล์ รวมถึงมีระบบส่งคลื่นสัญญาณรบกวน ทั้งหมดนี้ ยังสามารถเชื่อมระบบการโจมตีร่วมกับกองทัพเรือและกองทัพบกได้ด้วย . 🇸🇪 มีระบบ AI ช่วยการตัดสินใจให้นักบิน เพราะเวลารบ นักบินต้องตัดสินใจรวดเร็วมากในขณะที่ยังต้องควบคุมการบินและวิเคราะห์การรบ แต่ Gripen มี Mission Computer ที่จะรวบรวมระบบจากทุกลำมาตัดสินใจการรบแทนให้ มันวิเคราะห์สถานการณ์แบบ Realime ได้ เช่น จะเลือกล็อคเป้าเป้าหมายที่เหมาะสมที่สุดให้โจมตีก่อน มีหน้าจอขนาดใหญ่ แสดงถึงการโจมตี เส้นทางการหลบหนี ตำแหน่งของเพื่อนร่วมฝูง ทำให้นักบินเข้าใจได้ทันทีไม่ต้องเสียเวลาคิดอะไรมาก Gripen คิดให้หมดและคิดเป็นทีม . 🇸🇪 Gripen มีความยืดหยุ่นที่จะ Upgrade เครื่องได้หลากหลาย ทำให้ไม่ตกยุค สามารถปรับแต่งระบบต่างๆ ได้ตลอด เช่น อัพเกรดให้เชื่อมต่อกับเรือรบในระบบอื่นได้ มีระบบฝึกการบินภายในตัวเครื่องเองโดยไม่ต้องบินขึ้น ไม่ต้องไปซื้อระบบจำลองการบินเพิ่ม สแกนตัวเอง ดูแลสุขภาพตัวเองได้ อะไรมีปัญหา อะไหล่ชิ้นไหนใกล้เสื่อม จึงมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน . 🇸🇪 Gripen มีความพร้อมรบ ต้องการพื้นที่ลงจอดได้แม้แต่ถนนยาวไม่ถึ่งกิโล สามารถออกรบซ้ำได้ภายใน 10 นาที เพราะเติมเชื้อเพลิง-ติดอาวุธได้แบบสั้นๆ (ใช้คนติดตั้งได้แค่ 5 คน) ต้นทุนการบินต่อชั่วโมงก็ต่ำ เทียบกับ F-16 แล้ว ถูกกว่าเกือบครึ่ง . 🇸🇪 ณ ปัจจุบัน Gripen มีอยู่ที่ประเทศสวีเดนผู้ให้กำเนิด ทั้งหมด 156 ลำ รองมาคือบราซิล 36 ลำ แอฟริกาใต้ 26 ลำ ฮังการีและเช็ค 14 ลำ และต่อไป เราจะมีเป็นลำดับที่ 5 คือ 12 ลำ และเราคือประเทศแรกของโลกที่ได้นำออกไปใช้ในสถานการณ์จริง! . 🇸🇪 Gripen ของกองทัพอากาศไทย ปี 2008-2010 เราจัดซื้อ Gripen ทั้งหมดแล้ว 12 ลำ แต่เราได้ดีลจากบริษัท SAAB ด้วยการเสนอการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้ และจะจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและอากาศยานให้ ซึ่งมีมูลค่าสูงมาก อีกทั้งยังจะมาลงทุนผลิตอะไหล่เพื่อขายให้กับประเทศอื่นได้ด้วย เราจึงได้ทั้งการลงทุน ความรู้ การจ้างงาน ซึ่งนับเป็นมูลค่าหลายแสนล้านบาท . 🇸🇪 ปี 2025 เราได้ทำการจัดซื้อล็อตใหม่ ซึ่งจะทยอยซื้อ ทยอยส่งมอบ เสร็จสิ้นในปี 2034 ทำให้ในปีนั้น เราจะมีฝูงบิน Gripen ถึง 24 ลำด้วยกัน!!! . CR:กองทัพอากาศไทยเครื่องบินขับไล่ Jas-39 Saab Gripen ทำการลงจอดและบินขึ้นจากถนนทางหลวงหมายเลข 4287 จังหวัดสงขลา 27 กุมภาพันธ์ 2568 #RTAF
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 726 Views 0 0 Reviews
  • ประตูเปิดทางทิศตะวันออก

    เดือนนี้ การเงินดี จะมีเงินทองเก่าเก็บที่หลงลืมไปแล้วจะกลับได้คืนมาให้ดีใจ ธุรกิจค้าขาย การทำงาน จะมี การขยับขยาย ต้องแข่งขันขัดแย้งก่อนจึงจะพบประสบความสำเร็จได้ ส่งผลให้หน้าที่การงานเจริญก้าวหน้า ที่ลุ้นตำแหน่งมานานจะได้ปรับเลื่อนขั้นเพิ่มเงินเดือน ส่วนนักวิชาการจะมีตำแหน่งหน้าที่ดี จะมีผู้มีบารมีช่วย เหลือให้ได้รับตำแหน่งใหม่ๆให้มีชื่อเสียง มีเรื่องมงคลงานชื่นชมสิริมงคลในบ้าน หรือลูกหลานที่ห่างหายไปนาน จะกลับมาเยี่ยมเยียน หากขอพรจากองค์พระโพธิสัตย์กวนอิมปางอุ้มเด็ก จะได้อภิชาตบุตรอยู่ในโอวาท แต่ชอบ เอาชนะ ก้าวร้าว อารมณ์ร้าย บุรุษจะปวดตาสตรีจะปวดที่ขา รู้สึกร้อนที่แขน ขา ควรใส่ใจดูแลสุขภาพร่างกาย ที่ระบบประสาทและตับ

    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    ประตูเปิดทางทิศตะวันออก เดือนนี้ การเงินดี จะมีเงินทองเก่าเก็บที่หลงลืมไปแล้วจะกลับได้คืนมาให้ดีใจ ธุรกิจค้าขาย การทำงาน จะมี การขยับขยาย ต้องแข่งขันขัดแย้งก่อนจึงจะพบประสบความสำเร็จได้ ส่งผลให้หน้าที่การงานเจริญก้าวหน้า ที่ลุ้นตำแหน่งมานานจะได้ปรับเลื่อนขั้นเพิ่มเงินเดือน ส่วนนักวิชาการจะมีตำแหน่งหน้าที่ดี จะมีผู้มีบารมีช่วย เหลือให้ได้รับตำแหน่งใหม่ๆให้มีชื่อเสียง มีเรื่องมงคลงานชื่นชมสิริมงคลในบ้าน หรือลูกหลานที่ห่างหายไปนาน จะกลับมาเยี่ยมเยียน หากขอพรจากองค์พระโพธิสัตย์กวนอิมปางอุ้มเด็ก จะได้อภิชาตบุตรอยู่ในโอวาท แต่ชอบ เอาชนะ ก้าวร้าว อารมณ์ร้าย บุรุษจะปวดตาสตรีจะปวดที่ขา รู้สึกร้อนที่แขน ขา ควรใส่ใจดูแลสุขภาพร่างกาย ที่ระบบประสาทและตับ ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    0 Comments 0 Shares 242 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากข่าว: ชิป AI จาก MIT ที่ประมวลผลเร็วระดับแสง—เปิดทางสู่ยุค 6G ที่แท้จริง

    ในยุคที่ข้อมูลพุ่งทะยานตามกฎของ Edholm และความต้องการแบนด์วิดธ์เพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง ขณะที่ Moore’s Law เริ่มชะลอตัว MIT จึงพัฒนา MAFT-ONN (Multiplicative Analog Frequency Transform Optical Neural Network) ซึ่งเป็นชิป AI ที่ทำงานด้วยแสงและประมวลผลสัญญาณ RF แบบแอนะล็อกโดยตรง

    MAFT-ONN ไม่ต้องแปลงสัญญาณเป็นดิจิทัลก่อนประมวลผล แต่ใช้การแปลงความถี่และคำนวณทั้ง linear และ nonlinear บน optical processor เดียว ทำให้สามารถใส่ neuron ได้ถึง 10,000 ตัวในอุปกรณ์เดียว และประมวลผลได้ใน “ช็อตเดียว” ด้วยความเร็วระดับนาโนวินาที

    ผลลัพธ์คือความแม่นยำสูงถึง 95% ในการจำแนก modulation และสามารถพุ่งถึง 99% หากวัดเพิ่มอีกเล็กน้อย โดยใช้พลังงานต่ำกว่าเดิมมาก และขนาดเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด เหมาะกับ edge device เช่น cognitive radio, รถยนต์ไร้คนขับ หรือแม้แต่เครื่องกระตุ้นหัวใจอัจฉริยะ

    MIT พัฒนาชิป MAFT-ONN ที่ใช้แสงในการประมวลผลสัญญาณ RF แบบแอนะล็อกโดยตรง
    ไม่ต้องแปลงเป็นดิจิทัลก่อน ทำให้เร็วและประหยัดพลังงาน
    ใช้ optical processor เดียวในการคำนวณทั้ง linear และ nonlinear

    สามารถใส่ neuron ได้ถึง 10,000 ตัวในอุปกรณ์เดียว และประมวลผลใน “ช็อตเดียว”
    ทำให้การ inference เร็วระดับนาโนวินาที
    ความแม่นยำสูงถึง 95% และพุ่งถึง 99% ด้วยการวัดเพิ่ม

    ชิปนี้เร็วกว่า digital AI chip ถึง 100 เท่า และใช้พลังงานน้อยกว่ามาก
    ขนาดเล็ก, น้ำหนักเบา, ราคาถูก
    เหมาะกับ edge device ที่ต้องการประมวลผลแบบ real-time

    สามารถประมวลผลข้อมูลจาก MNIST dataset ได้เกือบ 4 ล้านครั้งแบบ fully analog
    แสดงถึงความสามารถในการเรียนรู้และจำแนกภาพ
    เป็นก้าวสำคัญของ optical neural network ที่ใช้งานได้จริง

    เหมาะกับการใช้งานในยุค 6G เช่น cognitive radio ที่ปรับ modulation แบบ real-time
    ช่วยเพิ่ม data rate และลดการรบกวนสัญญาณ
    เปิดทางสู่การสื่อสารไร้สายที่เร็วและแม่นยำกว่าเดิม

    สามารถนำไปใช้ในอุปกรณ์อื่น เช่น รถยนต์ไร้คนขับ หรือเครื่องกระตุ้นหัวใจอัจฉริยะ
    ช่วยให้รถตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อมได้ทันที
    ตรวจจับสัญญาณชีพแบบ real-time เพื่อดูแลสุขภาพ

    https://www.neowin.net/news/mit-sees-astonishing-light-speed-6g-processing-with-its-new-100-times-faster-chip/
    🎙️ เรื่องเล่าจากข่าว: ชิป AI จาก MIT ที่ประมวลผลเร็วระดับแสง—เปิดทางสู่ยุค 6G ที่แท้จริง ในยุคที่ข้อมูลพุ่งทะยานตามกฎของ Edholm และความต้องการแบนด์วิดธ์เพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง ขณะที่ Moore’s Law เริ่มชะลอตัว MIT จึงพัฒนา MAFT-ONN (Multiplicative Analog Frequency Transform Optical Neural Network) ซึ่งเป็นชิป AI ที่ทำงานด้วยแสงและประมวลผลสัญญาณ RF แบบแอนะล็อกโดยตรง MAFT-ONN ไม่ต้องแปลงสัญญาณเป็นดิจิทัลก่อนประมวลผล แต่ใช้การแปลงความถี่และคำนวณทั้ง linear และ nonlinear บน optical processor เดียว ทำให้สามารถใส่ neuron ได้ถึง 10,000 ตัวในอุปกรณ์เดียว และประมวลผลได้ใน “ช็อตเดียว” ด้วยความเร็วระดับนาโนวินาที ผลลัพธ์คือความแม่นยำสูงถึง 95% ในการจำแนก modulation และสามารถพุ่งถึง 99% หากวัดเพิ่มอีกเล็กน้อย โดยใช้พลังงานต่ำกว่าเดิมมาก และขนาดเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด เหมาะกับ edge device เช่น cognitive radio, รถยนต์ไร้คนขับ หรือแม้แต่เครื่องกระตุ้นหัวใจอัจฉริยะ ✅ MIT พัฒนาชิป MAFT-ONN ที่ใช้แสงในการประมวลผลสัญญาณ RF แบบแอนะล็อกโดยตรง ➡️ ไม่ต้องแปลงเป็นดิจิทัลก่อน ทำให้เร็วและประหยัดพลังงาน ➡️ ใช้ optical processor เดียวในการคำนวณทั้ง linear และ nonlinear ✅ สามารถใส่ neuron ได้ถึง 10,000 ตัวในอุปกรณ์เดียว และประมวลผลใน “ช็อตเดียว” ➡️ ทำให้การ inference เร็วระดับนาโนวินาที ➡️ ความแม่นยำสูงถึง 95% และพุ่งถึง 99% ด้วยการวัดเพิ่ม ✅ ชิปนี้เร็วกว่า digital AI chip ถึง 100 เท่า และใช้พลังงานน้อยกว่ามาก ➡️ ขนาดเล็ก, น้ำหนักเบา, ราคาถูก ➡️ เหมาะกับ edge device ที่ต้องการประมวลผลแบบ real-time ✅ สามารถประมวลผลข้อมูลจาก MNIST dataset ได้เกือบ 4 ล้านครั้งแบบ fully analog ➡️ แสดงถึงความสามารถในการเรียนรู้และจำแนกภาพ ➡️ เป็นก้าวสำคัญของ optical neural network ที่ใช้งานได้จริง ✅ เหมาะกับการใช้งานในยุค 6G เช่น cognitive radio ที่ปรับ modulation แบบ real-time ➡️ ช่วยเพิ่ม data rate และลดการรบกวนสัญญาณ ➡️ เปิดทางสู่การสื่อสารไร้สายที่เร็วและแม่นยำกว่าเดิม ✅ สามารถนำไปใช้ในอุปกรณ์อื่น เช่น รถยนต์ไร้คนขับ หรือเครื่องกระตุ้นหัวใจอัจฉริยะ ➡️ ช่วยให้รถตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อมได้ทันที ➡️ ตรวจจับสัญญาณชีพแบบ real-time เพื่อดูแลสุขภาพ https://www.neowin.net/news/mit-sees-astonishing-light-speed-6g-processing-with-its-new-100-times-faster-chip/
    WWW.NEOWIN.NET
    MIT sees astonishing light-speed 6G processing with its new "100 times faster" chip
    MIT's pioneering optical AI chip uses photonics and the power of light-speed, promising way better 6G speeds.
    0 Comments 0 Shares 234 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากโลกสุขภาพดิจิทัล: เมื่อข้อมูลสุขภาพกลายเป็นสินทรัพย์ของ AI

    ในงาน “Making Health Technology Great Again” ที่ทำเนียบขาว Trump ประกาศโครงการใหม่ให้ประชาชนอเมริกันสามารถ “สมัครใจ” แชร์ข้อมูลสุขภาพ เช่น ประวัติการรักษา น้ำหนัก โรคเรื้อรัง ไปยังบริษัทเทคโนโลยีอย่าง Google, Amazon และ Apple โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างระบบสุขภาพดิจิทัลที่สามารถให้คำแนะนำเฉพาะบุคคลผ่านแอปและ AI

    ระบบนี้จะดูแลโดย Centers for Medicare and Medicaid Services (CMS) ซึ่งจะรวบรวมข้อมูลจากหลายแหล่งและเชื่อมโยงกับแอปสุขภาพ เช่น Apple Health เพื่อให้ผู้ใช้สามารถดูผลตรวจเลือดหรือประวัติการรักษาได้ทันที

    แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายและจริยธรรมเตือนว่า “ไม่มีกรอบกฎหมายที่ชัดเจน” ว่า AI จะใช้ข้อมูลเหล่านี้อย่างไร และอาจนำไปสู่การใช้ข้อมูลในทางที่เป็นอันตรายต่อผู้ป่วย เช่น การประเมินความเสี่ยงทางสุขภาพเพื่อการประกัน หรือการขายข้อมูลให้บริษัทโฆษณา

    Trump เปิดตัวโครงการให้ประชาชนแชร์ข้อมูลสุขภาพกับ Big Tech
    มีเป้าหมายเพื่อสร้างระบบสุขภาพดิจิทัลที่ใช้ AI
    ผู้ใช้ต้อง “สมัครใจ” เข้าร่วมระบบ

    ระบบจะดูแลโดย CMS และเชื่อมโยงกับแอปสุขภาพต่างๆ3
    เช่น Apple Health สามารถเข้าถึงผลตรวจจากโรงพยาบาล
    ใช้ AI วิเคราะห์พฤติกรรมสุขภาพและให้คำแนะนำเฉพาะบุคคล

    มีบริษัทกว่า 60 แห่งเข้าร่วม เช่น Google, Amazon, Cleveland Clinic4
    ตั้งเป้าเริ่มใช้งานจริงในไตรมาสแรกของปี 2026
    รวมถึงระบบลงทะเบียนผ่าน QR code และแอปติดตามยา

    ประโยชน์ของระบบสุขภาพดิจิทัล6
    ลดข้อผิดพลาดทางการแพทย์
    เพิ่มความสะดวกในการเข้าถึงข้อมูลสุขภาพ
    ลดค่าใช้จ่ายในการรักษาและเดินทาง
    ส่งเสริมการดูแลสุขภาพด้วยตนเองผ่านอุปกรณ์ IoT

    ความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัวและการใช้ข้อมูลโดยไม่ได้รับความยินยอม
    ไม่มีกรอบกฎหมายชัดเจนสำหรับการใช้ข้อมูลสุขภาพใน AI
    ข้อมูลอาจถูกใช้เพื่อการโฆษณา หรือประเมินความเสี่ยงโดยบริษัทประกัน

    ความไม่มั่นใจในความปลอดภัยของข้อมูลที่เก็บโดย Big Tech
    ระบบอาจถูกเจาะข้อมูลหรือใช้ในทางที่ไม่โปร่งใส
    ค่าเสียหายจากการละเมิดข้อมูลสุขภาพเฉลี่ยสูงถึง $10.1 ล้านต่อกรณีในสหรัฐฯ

    การแบ่งปันข้อมูลอาจสร้างความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการสุขภาพ
    กลุ่มประชากรที่ไม่มีอุปกรณ์หรือความรู้ดิจิทัลอาจถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
    ระบบอาจเน้นเฉพาะกลุ่มที่อยู่ในเมืองหรือมีรายได้สูง

    CMS เคยอนุญาตให้ ICE เข้าถึงข้อมูล Medicaid เพื่อใช้ในการตรวจสอบคนเข้าเมือง
    สร้างความกังวลว่าข้อมูลสุขภาพอาจถูกใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นที่ไม่เกี่ยวกับการรักษา
    ขัดต่อหลักการของ HIPAA ที่เน้นการคุ้มครองข้อมูลสุขภาพส่วนบุคคล

    https://wccftech.com/president-trump-wants-americans-to-share-personal-health-data-with-big-tech/
    🧬 เรื่องเล่าจากโลกสุขภาพดิจิทัล: เมื่อข้อมูลสุขภาพกลายเป็นสินทรัพย์ของ AI ในงาน “Making Health Technology Great Again” ที่ทำเนียบขาว Trump ประกาศโครงการใหม่ให้ประชาชนอเมริกันสามารถ “สมัครใจ” แชร์ข้อมูลสุขภาพ เช่น ประวัติการรักษา น้ำหนัก โรคเรื้อรัง ไปยังบริษัทเทคโนโลยีอย่าง Google, Amazon และ Apple โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างระบบสุขภาพดิจิทัลที่สามารถให้คำแนะนำเฉพาะบุคคลผ่านแอปและ AI ระบบนี้จะดูแลโดย Centers for Medicare and Medicaid Services (CMS) ซึ่งจะรวบรวมข้อมูลจากหลายแหล่งและเชื่อมโยงกับแอปสุขภาพ เช่น Apple Health เพื่อให้ผู้ใช้สามารถดูผลตรวจเลือดหรือประวัติการรักษาได้ทันที แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายและจริยธรรมเตือนว่า “ไม่มีกรอบกฎหมายที่ชัดเจน” ว่า AI จะใช้ข้อมูลเหล่านี้อย่างไร และอาจนำไปสู่การใช้ข้อมูลในทางที่เป็นอันตรายต่อผู้ป่วย เช่น การประเมินความเสี่ยงทางสุขภาพเพื่อการประกัน หรือการขายข้อมูลให้บริษัทโฆษณา ✅ Trump เปิดตัวโครงการให้ประชาชนแชร์ข้อมูลสุขภาพกับ Big Tech ➡️ มีเป้าหมายเพื่อสร้างระบบสุขภาพดิจิทัลที่ใช้ AI ➡️ ผู้ใช้ต้อง “สมัครใจ” เข้าร่วมระบบ ✅ ระบบจะดูแลโดย CMS และเชื่อมโยงกับแอปสุขภาพต่างๆ3 ➡️ เช่น Apple Health สามารถเข้าถึงผลตรวจจากโรงพยาบาล ➡️ ใช้ AI วิเคราะห์พฤติกรรมสุขภาพและให้คำแนะนำเฉพาะบุคคล ✅ มีบริษัทกว่า 60 แห่งเข้าร่วม เช่น Google, Amazon, Cleveland Clinic4 ➡️ ตั้งเป้าเริ่มใช้งานจริงในไตรมาสแรกของปี 2026 ➡️ รวมถึงระบบลงทะเบียนผ่าน QR code และแอปติดตามยา ✅ ประโยชน์ของระบบสุขภาพดิจิทัล6 ➡️ ลดข้อผิดพลาดทางการแพทย์ ➡️ เพิ่มความสะดวกในการเข้าถึงข้อมูลสุขภาพ ➡️ ลดค่าใช้จ่ายในการรักษาและเดินทาง ➡️ ส่งเสริมการดูแลสุขภาพด้วยตนเองผ่านอุปกรณ์ IoT ‼️ ความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัวและการใช้ข้อมูลโดยไม่ได้รับความยินยอม ⛔ ไม่มีกรอบกฎหมายชัดเจนสำหรับการใช้ข้อมูลสุขภาพใน AI ⛔ ข้อมูลอาจถูกใช้เพื่อการโฆษณา หรือประเมินความเสี่ยงโดยบริษัทประกัน ‼️ ความไม่มั่นใจในความปลอดภัยของข้อมูลที่เก็บโดย Big Tech ⛔ ระบบอาจถูกเจาะข้อมูลหรือใช้ในทางที่ไม่โปร่งใส ⛔ ค่าเสียหายจากการละเมิดข้อมูลสุขภาพเฉลี่ยสูงถึง $10.1 ล้านต่อกรณีในสหรัฐฯ ‼️ การแบ่งปันข้อมูลอาจสร้างความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการสุขภาพ ⛔ กลุ่มประชากรที่ไม่มีอุปกรณ์หรือความรู้ดิจิทัลอาจถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ⛔ ระบบอาจเน้นเฉพาะกลุ่มที่อยู่ในเมืองหรือมีรายได้สูง ‼️ CMS เคยอนุญาตให้ ICE เข้าถึงข้อมูล Medicaid เพื่อใช้ในการตรวจสอบคนเข้าเมือง ⛔ สร้างความกังวลว่าข้อมูลสุขภาพอาจถูกใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นที่ไม่เกี่ยวกับการรักษา ⛔ ขัดต่อหลักการของ HIPAA ที่เน้นการคุ้มครองข้อมูลสุขภาพส่วนบุคคล https://wccftech.com/president-trump-wants-americans-to-share-personal-health-data-with-big-tech/
    WCCFTECH.COM
    President Trump Reportedly Wants Americans to Share Personal Health Data With Big Tech, Claiming It Would Allow for Better Care, But Many Fear AI Will Exploit It
    The Trump administration wants to bring health care into the "digital age" by requiring Americans to sign up to share records with US firms.
    0 Comments 0 Shares 452 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากข่าว: เมื่อ AI อาจกลืนงานบริการลูกค้า
    ลองจินตนาการว่าโทรหาฝ่ายบริการลูกค้า แล้วไม่มีเสียงมนุษย์ตอบรับอีกต่อไป—มีเพียง AI ที่ตอบกลับอย่างรวดเร็ว ไม่ผิดพลาด และไม่รู้สึกอะไรเลยแม้จะถูกต่อว่า นี่คือภาพอนาคตที่ Sam Altman วาดไว้ในการประชุมที่ Federal Reserve Board

    เขาเตือนว่า AI อาจ “ลบล้าง” หมวดงานบางประเภทไปโดยสิ้นเชิง โดยเฉพาะงานบริการลูกค้า เพราะ AI สามารถทำงานได้เร็วกว่า ไม่ต้องโอนสาย ไม่ต้องรอคิว และไม่ทำผิดพลาด

    แต่ในโลกจริง มันยังไม่สมบูรณ์แบบนัก ตัวอย่างเช่น Klarna ที่เคยใช้ AI chatbot ดูแลลูกค้า 2 ใน 3 ของการสนทนา ก็ยังต้องกลับมาจ้างมนุษย์ เพราะคุณภาพของ AI ยังไม่ดีพอ และลูกค้าก็ยังต้องการ “ความเป็นมนุษย์” ในการสื่อสาร

    นอกจากนี้ Altman ยังยอมรับว่า แม้ AI อย่าง ChatGPT จะวินิจฉัยโรคได้ดีกว่าหมอหลายคน แต่เขาเองก็ยังไม่กล้าให้ AI ดูแลสุขภาพโดยไม่มีหมอร่วมด้วย

    และที่น่ากังวลกว่านั้นคือความสามารถของ AI ในการปลอมเสียงได้อย่างแม่นยำ ซึ่งอาจนำไปสู่การโจรกรรมตัวตนหรือการหลอกลวงทางการเงินได้ง่ายขึ้น

    สาระจากข่าว
    AI อาจแทนที่งานบริการลูกค้าได้โดยสมบูรณ์
    Altman ระบุว่า AI สามารถทำงานได้เร็วและแม่นยำกว่ามนุษย์
    ไม่มีการโอนสายหรือความผิดพลาดแบบมนุษย์

    ตัวอย่างจากบริษัท Klarna
    เคยใช้ AI chatbot ดูแลลูกค้าเป็นหลัก
    กลับมาจ้างมนุษย์เพราะคุณภาพของ AI ยังไม่ดีพอ

    AI ในวงการแพทย์
    ChatGPT สามารถวินิจฉัยโรคได้ดีกว่าหมอหลายคน
    แต่ Altman ยังไม่กล้าใช้ AI โดยไม่มีหมอร่วม

    ความสามารถในการปลอมเสียง
    AI สามารถปลอมเสียงได้อย่างแม่นยำ
    เสี่ยงต่อการโจรกรรมตัวตนและหลอกลวงทางการเงิน

    คำเตือนจากข่าว
    งานบริการลูกค้าเสี่ยงถูกแทนที่
    อาจทำให้คนตกงานจำนวนมากในอนาคต
    ความเป็นมนุษย์ในการบริการอาจหายไป

    AI อาจถูกใช้ในทางที่เป็นภัย
    ปลอมเสียงเพื่อหลอกลวงหรือโจมตีระบบการเงิน
    เสี่ยงต่อการถูกใช้โดยรัฐหรือองค์กรที่ไม่หวังดี

    การพึ่งพา AI มากเกินไป
    อาจทำให้เกิด “automation bias” คือเชื่อ AI มากเกินไป
    ส่งผลต่อการตัดสินใจที่ควรใช้วิจารณญาณของมนุษย์

    https://www.techspot.com/news/108792-openai-ceo-sam-altman-warns-ai-could-wipe.html
    🧠 เรื่องเล่าจากข่าว: เมื่อ AI อาจกลืนงานบริการลูกค้า ลองจินตนาการว่าโทรหาฝ่ายบริการลูกค้า แล้วไม่มีเสียงมนุษย์ตอบรับอีกต่อไป—มีเพียง AI ที่ตอบกลับอย่างรวดเร็ว ไม่ผิดพลาด และไม่รู้สึกอะไรเลยแม้จะถูกต่อว่า นี่คือภาพอนาคตที่ Sam Altman วาดไว้ในการประชุมที่ Federal Reserve Board เขาเตือนว่า AI อาจ “ลบล้าง” หมวดงานบางประเภทไปโดยสิ้นเชิง โดยเฉพาะงานบริการลูกค้า เพราะ AI สามารถทำงานได้เร็วกว่า ไม่ต้องโอนสาย ไม่ต้องรอคิว และไม่ทำผิดพลาด แต่ในโลกจริง มันยังไม่สมบูรณ์แบบนัก ตัวอย่างเช่น Klarna ที่เคยใช้ AI chatbot ดูแลลูกค้า 2 ใน 3 ของการสนทนา ก็ยังต้องกลับมาจ้างมนุษย์ เพราะคุณภาพของ AI ยังไม่ดีพอ และลูกค้าก็ยังต้องการ “ความเป็นมนุษย์” ในการสื่อสาร นอกจากนี้ Altman ยังยอมรับว่า แม้ AI อย่าง ChatGPT จะวินิจฉัยโรคได้ดีกว่าหมอหลายคน แต่เขาเองก็ยังไม่กล้าให้ AI ดูแลสุขภาพโดยไม่มีหมอร่วมด้วย และที่น่ากังวลกว่านั้นคือความสามารถของ AI ในการปลอมเสียงได้อย่างแม่นยำ ซึ่งอาจนำไปสู่การโจรกรรมตัวตนหรือการหลอกลวงทางการเงินได้ง่ายขึ้น ✅ สาระจากข่าว ✅ AI อาจแทนที่งานบริการลูกค้าได้โดยสมบูรณ์ ➡️ Altman ระบุว่า AI สามารถทำงานได้เร็วและแม่นยำกว่ามนุษย์ ➡️ ไม่มีการโอนสายหรือความผิดพลาดแบบมนุษย์ ✅ ตัวอย่างจากบริษัท Klarna ➡️ เคยใช้ AI chatbot ดูแลลูกค้าเป็นหลัก ➡️ กลับมาจ้างมนุษย์เพราะคุณภาพของ AI ยังไม่ดีพอ ✅ AI ในวงการแพทย์ ➡️ ChatGPT สามารถวินิจฉัยโรคได้ดีกว่าหมอหลายคน ➡️ แต่ Altman ยังไม่กล้าใช้ AI โดยไม่มีหมอร่วม ✅ ความสามารถในการปลอมเสียง ➡️ AI สามารถปลอมเสียงได้อย่างแม่นยำ ➡️ เสี่ยงต่อการโจรกรรมตัวตนและหลอกลวงทางการเงิน ‼️ คำเตือนจากข่าว ‼️ งานบริการลูกค้าเสี่ยงถูกแทนที่ ⛔ อาจทำให้คนตกงานจำนวนมากในอนาคต ⛔ ความเป็นมนุษย์ในการบริการอาจหายไป ‼️ AI อาจถูกใช้ในทางที่เป็นภัย ⛔ ปลอมเสียงเพื่อหลอกลวงหรือโจมตีระบบการเงิน ⛔ เสี่ยงต่อการถูกใช้โดยรัฐหรือองค์กรที่ไม่หวังดี ‼️ การพึ่งพา AI มากเกินไป ⛔ อาจทำให้เกิด “automation bias” คือเชื่อ AI มากเกินไป ⛔ ส่งผลต่อการตัดสินใจที่ควรใช้วิจารณญาณของมนุษย์ https://www.techspot.com/news/108792-openai-ceo-sam-altman-warns-ai-could-wipe.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Sam Altman warns AI could wipe out entire job categories, customer support roles most at risk
    Speaking at the Capital Framework for Large Banks conference at the Federal Reserve Board of Governors, Altman addressed one of the most hotly debated issues around generative...
    0 Comments 0 Shares 310 Views 0 Reviews
  • ข่าวดี⭐️⭐️
    HHS และกระทรวงการต่างประเทศ: สหรัฐอเมริกาปฏิเสธการแก้ไขกฎระเบียบด้านสุขภาพระหว่างประเทศ

    วอชิงตัน—18 กรกฎาคม 2568—
    วันนี้ นายโรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์แห่งสหรัฐอเมริกา และ นายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ออกแถลงการณ์ร่วมว่าสหรัฐอเมริกาไม่ยอมรับการแก้ไขข้อบังคับด้านสุขภาพระหว่างประเทศ (IHR) ปี 2567 ขององค์การอนามัยโลก (WHO) อย่างเป็นทางการกฎหมายสุขภาพระหว่างประเทศฉบับแก้ไขนี้จะทำให้ WHO สามารถสั่งปิดประเทศทั่วโลก จำกัดการเดินทาง หรือมาตรการอื่นใดที่ WHO เห็นสมควร เพื่อรับมือกับ “ความเสี่ยงด้านสาธารณสุขที่อาจเกิดขึ้น” ที่คลุมเครือ กฎระเบียบเหล่านี้จะมีผลผูกพันหากไม่ได้รับการปฏิเสธภายในวันที่ 19 กรกฎาคม 2568 โดยไม่คำนึงถึงการถอนตัวของสหรัฐอเมริกาจาก WHO-
    “การแก้ไขเพิ่มเติมกฎอนามัยระหว่างประเทศที่เสนอขึ้นนี้เปิดโอกาสให้เกิดการจัดการเรื่องเล่า การโฆษณาชวนเชื่อ และการเซ็นเซอร์แบบที่เราพบเห็นในช่วงการระบาดของโควิด-19” รัฐมนตรีเคนเนดีกล่าว

    “สหรัฐอเมริกาสามารถร่วมมือกับประเทศอื่นๆ โดยไม่กระทบต่อเสรีภาพพลเมืองของเรา โดยไม่บ่อนทำลายรัฐธรรมนูญของเรา และโดยไม่สูญเสียอำนาจอธิปไตยอันล้ำค่าของอเมริกาไป”
    รัฐมนตรีเคนเนดียังเผยแพร่วิดีโอ ด้วยอธิบายการกระทำดังกล่าวให้ชาวอเมริกันทราบ“
    คำศัพท์ที่ใช้ตลอดทั้งฉบับแก้ไขเพิ่มเติมกฎอนามัยระหว่างประเทศ พ.ศ. 2567 นั้นคลุมเครือและกว้างเกินไป ซึ่งอาจส่งผลต่อการตอบสนองระหว่างประเทศที่ประสานงานโดยองค์การอนามัยโลก ซึ่งมุ่งเน้นไปที่ประเด็นทางการเมือง เช่น ความสามัคคี มากกว่าการดำเนินการอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ” รัฐมนตรีรูบิโอกล่าว

    “หน่วยงานของเราได้ดำเนินการอย่างชัดเจนมาโดยตลอดและจะยังคงดำเนินการต่อไป นั่นคือ เราจะให้ความสำคัญกับชาวอเมริกันเป็นอันดับแรกในทุกการกระทำของเรา และเราจะไม่ยอมให้มีนโยบายระหว่างประเทศที่ละเมิดสิทธิในการพูด ความเป็นส่วนตัว หรือเสรีภาพส่วนบุคคลของชาวอเมริกัน”เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2567 สมัชชาอนามัยโลก (WHA) ซึ่งเป็นองค์กรที่มีอำนาจตัดสินใจสูงสุดของ WHO ได้นำข้อบังคับสุขภาพระหว่างประเทศฉบับแก้ไขมาใช้โดยผ่านกระบวนการเร่งรีบ ขาดการอภิปรายและการรับฟังความคิดเห็นจากสาธารณะอย่างเพียงพอคำชื่นชมต่อการกระทำในวันนี้จากสมาชิกรัฐสภา:การระบาดใหญ่ของโควิด-19 เผยให้เห็นว่าความไร้ประสิทธิภาพและการคอร์รัปชันขององค์การอนามัยโลก
    เรียกร้องให้มีการปฏิรูปอย่างครอบคลุม แทนที่จะจัดการกับนโยบายสาธารณสุขที่ย่ำแย่ในช่วงโควิด องค์การอนามัยโลกกลับต้องการให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมกฎระเบียบสุขภาพระหว่างประเทศและสนธิสัญญาโรคระบาดเพื่อประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขในประเทศสมาชิก ซึ่งอาจรวมถึงการตอบสนองที่เข้มงวดแต่ล้มเหลว เช่น การปิดธุรกิจและโรงเรียน และคำสั่งให้ฉีดวัคซีน ตั้งแต่ปี 2565 ผมได้นำร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการไม่เตรียมความพร้อมรับมือโรคระบาดขององค์การอนามัยโลกโดยปราศจากการอนุมัติจากวุฒิสภาซึ่งสภาผู้แทนราษฎรได้ผ่านร่างไปเมื่อปีที่แล้ว สหรัฐอเมริกาจะไม่อนุญาตให้องค์การอนามัยโลกใช้ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขเพื่อทำลายล้างประเทศชาติ ผมสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อการตัดสินใจของรัฐบาลทรัมป์ที่จะปฏิเสธการแก้ไขเพิ่มเติมของกฎหมายอนามัยระหว่างประเทศ (IHR)”
    วุฒิสมาชิกรอน จอห์นสันกล่าว

    “นโยบายสาธารณสุขของอเมริกาเป็นของชาวอเมริกัน และไม่ควรถูกกำหนดโดยนักโลกาภิวัตน์ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งในองค์การอนามัยโลกหรือสหประชาชาติ WHO ได้แสดงให้เห็นครั้งแล้วครั้งเล่าว่า WHO ไม่สามารถไว้วางใจได้ และผมรู้สึกขอบคุณที่รัฐบาลทรัมป์ยังคงยืนหยัดอย่างเข้มแข็งเพื่อปกป้องอธิปไตยของอเมริกา” สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทอม ทิฟฟานี กล่าว

    “สหรัฐอเมริกาต้องไม่สละอำนาจอธิปไตยของเราให้แก่องค์กรหรือหน่วยงานระหว่างประเทศใดๆ ทั้งสิ้น ผมขอชื่นชมรัฐมนตรีเคนเนดีและรัฐมนตรีรูบิโอที่ปฏิเสธการแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับสุขภาพระหว่างประเทศ (IHR) ขององค์การอนามัยโลก (WHO) ที่ไม่รอบคอบ ผมสนับสนุนให้สหรัฐฯ ถอนตัวจาก WHO และตัดงบประมาณองค์กรที่กระหายอำนาจของตนมานานแล้ว กฎหมายของผม HR 401 ซึ่งนำเสนอครั้งแรกในรัฐสภาชุดที่ 117 ถือเป็นการกระทำเช่นนั้น ขณะเดียวกันก็ส่งเสริมพันธกิจของอเมริกาต้องมาก่อนและเสรีภาพด้านการดูแลสุขภาพ WHO ซึ่งเป็นองค์กรระหว่างประเทศที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ได้สูญเสียความน่าเชื่อถือที่อาจเกิดขึ้นในช่วงการระบาดของโควิด-19 และเราต้องมั่นใจว่าจะไม่มีรัฐบาลชุดใดในอนาคตที่จะมอบความชอบธรรมหรืออำนาจใดๆ ให้แก่พวกเขาเหนือสุขภาพของชาวอเมริกัน” สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชิป รอยกล่าว

    “รัฐมนตรีเคนเนดีและประธานาธิบดีทรัมป์ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการให้ความสำคัญกับอเมริกาเป็นอันดับแรก WHO เป็นองค์กรระหว่างประเทศที่ปราศจากความรับผิดชอบ ซึ่งมอบสิทธิเสรีภาพด้านการดูแลสุขภาพของประชาชนให้กับข้าราชการที่ทุจริต ผมรู้สึกขอบคุณรัฐมนตรีเคนเนดีที่ยืนหยัดอย่างมั่นคงต่อข้อตกลงโรคระบาดของ WHO ซึ่งจะปกป้องเสรีภาพด้านสุขภาพและความเป็นส่วนตัวของชาวอเมริกัน เรามาทำให้อเมริกายิ่งใหญ่และมีสุขภาพดีอีกครั้งกันเถอะ” สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแอนดี บิ๊กส์ กล่าว

    การประกาศในวันนี้ถือเป็นการดำเนินการล่าสุดของรัฐมนตรีเคนเนดีและ HHS ในการให้ WHOรับผิดชอบ

    HHS & State Department: The United States Rejects Amendments to International Health Regulations

    WASHINGTON—JULY 18, 2025—U.S. Health and Human Services Secretary Robert F. Kennedy, Jr. and Secretary of State Marco Rubio today issued a Joint Statement of formal rejection by the United States of the 2024 International Heath Regulations (IHR) Amendments by the World Health Organization (WHO).The amended IHR would give the WHO the ability to order global lockdowns, travel restrictions, or any other measures it sees fit to respond to nebulous “potential public health risks.” These regulations are set to become binding if not rejected by July 19, 2025, regardless of the United States’ withdrawal from the WHO.“The proposed amendments to the International Health Regulations open the door to the kind of narrative management, propaganda, and censorship that we saw during the COVID pandemic,” Secretary Kennedy said. “The United States can cooperate with other nations without jeopardizing our civil liberties, without undermining our Constitution, and without ceding away America’s treasured sovereignty.”Secretary Kennedy also released a video explaining the action to the American people.“Terminology throughout the amendments to the 2024 International Health Regulations is vague and broad, risking WHO-coordinated international responses that focus on political issues like solidarity, rather than rapid and effective actions,” Secretary Rubio said. “Our Agencies have been and will continue to be clear: we will put Americans first in all our actions and we will not tolerate international policies that infringe on Americans’ speech, privacy, or personal liberties.”On June 1, 2024, the World Health Assembly (WHA), the highest decision-making body of the WHO, adopted a revised version of the International Health Regulations through a rushed process lacking sufficient debate and public input.Praise for today’s action from members of Congress:“The COVID-19 pandemic exposed how the incompetency and corruption at the WHO demands comprehensive reforms. Instead of addressing its disastrous public health policies during COVID, the WHO wants International Health Regulation amendments and a pandemic treaty to declare public health emergencies in member states, which could include failed draconian responses like business and school closures and vaccine mandates. Since 2022, I have led the No WHO Pandemic Preparedness Treaty Without Senate Approval Act, which the House passed last year. The United States will not allow the WHO to use public health emergencies to devastate our nation. I fully support the Trump administration’s decision to reject the IHR amendments,” said Senator Ron Johnson.“America’s public health policy belongs to the American people and should never be dictated by unelected globalists at the WHO or the UN. Time and time again, the WHO has demonstrated it cannot be trusted, and I am grateful that the Trump administration is standing strong to protect American sovereignty,” said Congressman Tom Tiffany.“The United States must never cede our sovereignty to any international entity or organization. I applaud Secretary Kennedy and Secretary Rubio for rejecting the World Health Organization’s (WHO) ill-advised International Health Regulations (IHR) amendments. I have long supported the U.S. withdrawing from the WHO and defunding their power-hungry organization. My legislation, H.R. 401, first introduced in the 117th Congress, does just that while advancing the mission statements of America First and Healthcare Freedom. The WHO, a widely discredited international organization, lost any potential credibility during the COVID-19 pandemic, and we must ensure no future administration grants them any legitimacy or further power over the health of Americans," said Congressman Chip Roy.“Secretary Kennedy and President Trump have proven their commitment to putting America First. WHO is an unaccountable international organization that hands individuals’ healthcare freedoms to corrupt bureaucrats. I’m thankful for Secretary Kennedy’s firm stance against WHO’s Pandemic Agreement that will protect Americans’ health freedom and privacy. Let’s Make America Great and Healthy Again,” said Congressman Andy Biggs.Today’s announcement is the latest action by Secretary Kennedy and HHS to hold the WHO accountable.
    https://www.hhs.gov/press-room/state-department-hhs-rejects-amendments-to-international-health-regulations.html
    July 18, 2025
    ☘️🌿 ข่าวดี⭐️⭐️ HHS และกระทรวงการต่างประเทศ: สหรัฐอเมริกาปฏิเสธการแก้ไขกฎระเบียบด้านสุขภาพระหว่างประเทศ วอชิงตัน—18 กรกฎาคม 2568— วันนี้ นายโรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์แห่งสหรัฐอเมริกา และ นายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ออกแถลงการณ์ร่วมว่าสหรัฐอเมริกาไม่ยอมรับการแก้ไขข้อบังคับด้านสุขภาพระหว่างประเทศ (IHR) ปี 2567 ขององค์การอนามัยโลก (WHO) อย่างเป็นทางการกฎหมายสุขภาพระหว่างประเทศฉบับแก้ไขนี้จะทำให้ WHO สามารถสั่งปิดประเทศทั่วโลก จำกัดการเดินทาง หรือมาตรการอื่นใดที่ WHO เห็นสมควร เพื่อรับมือกับ “ความเสี่ยงด้านสาธารณสุขที่อาจเกิดขึ้น” ที่คลุมเครือ กฎระเบียบเหล่านี้จะมีผลผูกพันหากไม่ได้รับการปฏิเสธภายในวันที่ 19 กรกฎาคม 2568 โดยไม่คำนึงถึงการถอนตัวของสหรัฐอเมริกาจาก WHO- “การแก้ไขเพิ่มเติมกฎอนามัยระหว่างประเทศที่เสนอขึ้นนี้เปิดโอกาสให้เกิดการจัดการเรื่องเล่า การโฆษณาชวนเชื่อ และการเซ็นเซอร์แบบที่เราพบเห็นในช่วงการระบาดของโควิด-19” รัฐมนตรีเคนเนดีกล่าว “สหรัฐอเมริกาสามารถร่วมมือกับประเทศอื่นๆ โดยไม่กระทบต่อเสรีภาพพลเมืองของเรา โดยไม่บ่อนทำลายรัฐธรรมนูญของเรา และโดยไม่สูญเสียอำนาจอธิปไตยอันล้ำค่าของอเมริกาไป” รัฐมนตรีเคนเนดียังเผยแพร่วิดีโอ ด้วยอธิบายการกระทำดังกล่าวให้ชาวอเมริกันทราบ“ คำศัพท์ที่ใช้ตลอดทั้งฉบับแก้ไขเพิ่มเติมกฎอนามัยระหว่างประเทศ พ.ศ. 2567 นั้นคลุมเครือและกว้างเกินไป ซึ่งอาจส่งผลต่อการตอบสนองระหว่างประเทศที่ประสานงานโดยองค์การอนามัยโลก ซึ่งมุ่งเน้นไปที่ประเด็นทางการเมือง เช่น ความสามัคคี มากกว่าการดำเนินการอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ” รัฐมนตรีรูบิโอกล่าว “หน่วยงานของเราได้ดำเนินการอย่างชัดเจนมาโดยตลอดและจะยังคงดำเนินการต่อไป นั่นคือ เราจะให้ความสำคัญกับชาวอเมริกันเป็นอันดับแรกในทุกการกระทำของเรา และเราจะไม่ยอมให้มีนโยบายระหว่างประเทศที่ละเมิดสิทธิในการพูด ความเป็นส่วนตัว หรือเสรีภาพส่วนบุคคลของชาวอเมริกัน”เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2567 สมัชชาอนามัยโลก (WHA) ซึ่งเป็นองค์กรที่มีอำนาจตัดสินใจสูงสุดของ WHO ได้นำข้อบังคับสุขภาพระหว่างประเทศฉบับแก้ไขมาใช้โดยผ่านกระบวนการเร่งรีบ ขาดการอภิปรายและการรับฟังความคิดเห็นจากสาธารณะอย่างเพียงพอคำชื่นชมต่อการกระทำในวันนี้จากสมาชิกรัฐสภา:การระบาดใหญ่ของโควิด-19 เผยให้เห็นว่าความไร้ประสิทธิภาพและการคอร์รัปชันขององค์การอนามัยโลก เรียกร้องให้มีการปฏิรูปอย่างครอบคลุม แทนที่จะจัดการกับนโยบายสาธารณสุขที่ย่ำแย่ในช่วงโควิด องค์การอนามัยโลกกลับต้องการให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมกฎระเบียบสุขภาพระหว่างประเทศและสนธิสัญญาโรคระบาดเพื่อประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขในประเทศสมาชิก ซึ่งอาจรวมถึงการตอบสนองที่เข้มงวดแต่ล้มเหลว เช่น การปิดธุรกิจและโรงเรียน และคำสั่งให้ฉีดวัคซีน ตั้งแต่ปี 2565 ผมได้นำร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการไม่เตรียมความพร้อมรับมือโรคระบาดขององค์การอนามัยโลกโดยปราศจากการอนุมัติจากวุฒิสภาซึ่งสภาผู้แทนราษฎรได้ผ่านร่างไปเมื่อปีที่แล้ว สหรัฐอเมริกาจะไม่อนุญาตให้องค์การอนามัยโลกใช้ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขเพื่อทำลายล้างประเทศชาติ ผมสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อการตัดสินใจของรัฐบาลทรัมป์ที่จะปฏิเสธการแก้ไขเพิ่มเติมของกฎหมายอนามัยระหว่างประเทศ (IHR)” วุฒิสมาชิกรอน จอห์นสันกล่าว “นโยบายสาธารณสุขของอเมริกาเป็นของชาวอเมริกัน และไม่ควรถูกกำหนดโดยนักโลกาภิวัตน์ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งในองค์การอนามัยโลกหรือสหประชาชาติ WHO ได้แสดงให้เห็นครั้งแล้วครั้งเล่าว่า WHO ไม่สามารถไว้วางใจได้ และผมรู้สึกขอบคุณที่รัฐบาลทรัมป์ยังคงยืนหยัดอย่างเข้มแข็งเพื่อปกป้องอธิปไตยของอเมริกา” สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทอม ทิฟฟานี กล่าว “สหรัฐอเมริกาต้องไม่สละอำนาจอธิปไตยของเราให้แก่องค์กรหรือหน่วยงานระหว่างประเทศใดๆ ทั้งสิ้น ผมขอชื่นชมรัฐมนตรีเคนเนดีและรัฐมนตรีรูบิโอที่ปฏิเสธการแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับสุขภาพระหว่างประเทศ (IHR) ขององค์การอนามัยโลก (WHO) ที่ไม่รอบคอบ ผมสนับสนุนให้สหรัฐฯ ถอนตัวจาก WHO และตัดงบประมาณองค์กรที่กระหายอำนาจของตนมานานแล้ว กฎหมายของผม HR 401 ซึ่งนำเสนอครั้งแรกในรัฐสภาชุดที่ 117 ถือเป็นการกระทำเช่นนั้น ขณะเดียวกันก็ส่งเสริมพันธกิจของอเมริกาต้องมาก่อนและเสรีภาพด้านการดูแลสุขภาพ WHO ซึ่งเป็นองค์กรระหว่างประเทศที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ได้สูญเสียความน่าเชื่อถือที่อาจเกิดขึ้นในช่วงการระบาดของโควิด-19 และเราต้องมั่นใจว่าจะไม่มีรัฐบาลชุดใดในอนาคตที่จะมอบความชอบธรรมหรืออำนาจใดๆ ให้แก่พวกเขาเหนือสุขภาพของชาวอเมริกัน” สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชิป รอยกล่าว “รัฐมนตรีเคนเนดีและประธานาธิบดีทรัมป์ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการให้ความสำคัญกับอเมริกาเป็นอันดับแรก WHO เป็นองค์กรระหว่างประเทศที่ปราศจากความรับผิดชอบ ซึ่งมอบสิทธิเสรีภาพด้านการดูแลสุขภาพของประชาชนให้กับข้าราชการที่ทุจริต ผมรู้สึกขอบคุณรัฐมนตรีเคนเนดีที่ยืนหยัดอย่างมั่นคงต่อข้อตกลงโรคระบาดของ WHO ซึ่งจะปกป้องเสรีภาพด้านสุขภาพและความเป็นส่วนตัวของชาวอเมริกัน เรามาทำให้อเมริกายิ่งใหญ่และมีสุขภาพดีอีกครั้งกันเถอะ” สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแอนดี บิ๊กส์ กล่าว การประกาศในวันนี้ถือเป็นการดำเนินการล่าสุดของรัฐมนตรีเคนเนดีและ HHS ในการให้ WHOรับผิดชอบ HHS & State Department: The United States Rejects Amendments to International Health Regulations WASHINGTON—JULY 18, 2025—U.S. Health and Human Services Secretary Robert F. Kennedy, Jr. and Secretary of State Marco Rubio today issued a Joint Statement of formal rejection by the United States of the 2024 International Heath Regulations (IHR) Amendments by the World Health Organization (WHO).The amended IHR would give the WHO the ability to order global lockdowns, travel restrictions, or any other measures it sees fit to respond to nebulous “potential public health risks.” These regulations are set to become binding if not rejected by July 19, 2025, regardless of the United States’ withdrawal from the WHO.“The proposed amendments to the International Health Regulations open the door to the kind of narrative management, propaganda, and censorship that we saw during the COVID pandemic,” Secretary Kennedy said. “The United States can cooperate with other nations without jeopardizing our civil liberties, without undermining our Constitution, and without ceding away America’s treasured sovereignty.”Secretary Kennedy also released a video explaining the action to the American people.“Terminology throughout the amendments to the 2024 International Health Regulations is vague and broad, risking WHO-coordinated international responses that focus on political issues like solidarity, rather than rapid and effective actions,” Secretary Rubio said. “Our Agencies have been and will continue to be clear: we will put Americans first in all our actions and we will not tolerate international policies that infringe on Americans’ speech, privacy, or personal liberties.”On June 1, 2024, the World Health Assembly (WHA), the highest decision-making body of the WHO, adopted a revised version of the International Health Regulations through a rushed process lacking sufficient debate and public input.Praise for today’s action from members of Congress:“The COVID-19 pandemic exposed how the incompetency and corruption at the WHO demands comprehensive reforms. Instead of addressing its disastrous public health policies during COVID, the WHO wants International Health Regulation amendments and a pandemic treaty to declare public health emergencies in member states, which could include failed draconian responses like business and school closures and vaccine mandates. Since 2022, I have led the No WHO Pandemic Preparedness Treaty Without Senate Approval Act, which the House passed last year. The United States will not allow the WHO to use public health emergencies to devastate our nation. I fully support the Trump administration’s decision to reject the IHR amendments,” said Senator Ron Johnson.“America’s public health policy belongs to the American people and should never be dictated by unelected globalists at the WHO or the UN. Time and time again, the WHO has demonstrated it cannot be trusted, and I am grateful that the Trump administration is standing strong to protect American sovereignty,” said Congressman Tom Tiffany.“The United States must never cede our sovereignty to any international entity or organization. I applaud Secretary Kennedy and Secretary Rubio for rejecting the World Health Organization’s (WHO) ill-advised International Health Regulations (IHR) amendments. I have long supported the U.S. withdrawing from the WHO and defunding their power-hungry organization. My legislation, H.R. 401, first introduced in the 117th Congress, does just that while advancing the mission statements of America First and Healthcare Freedom. The WHO, a widely discredited international organization, lost any potential credibility during the COVID-19 pandemic, and we must ensure no future administration grants them any legitimacy or further power over the health of Americans," said Congressman Chip Roy.“Secretary Kennedy and President Trump have proven their commitment to putting America First. WHO is an unaccountable international organization that hands individuals’ healthcare freedoms to corrupt bureaucrats. I’m thankful for Secretary Kennedy’s firm stance against WHO’s Pandemic Agreement that will protect Americans’ health freedom and privacy. Let’s Make America Great and Healthy Again,” said Congressman Andy Biggs.Today’s announcement is the latest action by Secretary Kennedy and HHS to hold the WHO accountable. https://www.hhs.gov/press-room/state-department-hhs-rejects-amendments-to-international-health-regulations.html July 18, 2025
    0 Comments 0 Shares 994 Views 0 Reviews
  • ..ข่าวอีกมุม ตรองกันเองเน้อ,จริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้,เพราะปัจจุบันค่าความจริงยังไม่เห็นปรากฎชัดเจนอะไรนัก เห็นตอนนีัคือรักษาคลื่นความถี่ควอนตัม สร้างเชลล์สร้างร่างกายใหม่นี้ล่ะ กำลังขุดขึ้นมาใช้จากใต้ดินที่ฝ่ายมืดกั๊กใช้เองเสียนาน,เตียง medbedeก็ใช่,nesara&gesaraจะจริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้เช่นกัน,อ่านเพลินๆเน้อ,บังเอิญมาเจอ อาจมิใช่บังเอิญ.

    ..NESARA GESARA BOMBSHELL: 31 โปรโตคอล
    BOOM #1: การยกหนี้ – รีเซ็ตการเงินโดยรวม!

    ปุ๊ฟ! หนี้ก้อนโตของคุณหายไปไหนหมด! ยอดเงินในบัตรเครดิต จำนอง และเงินกู้ของคุณหายไปหมดทำอย่างไรล่ะ? เพราะระบบธนาคารทั้งหมดที่ทำให้คุณเป็นทาสของหนี้ไม่รู้จบนั้นสร้างขึ้นจาก กิจกรรมที่ผิดกฎหมายนั่นถูกต้องแล้ว—นี่ไม่ใช่แค่การช่วยเหลือหรือการช่วยเหลือ NESARA กำลัง แก้ไขอาชญากรรม ทางการเงินหลายสิบปี ที่ก่อขึ้นโดยธนาคารและรัฐบาลเหมือนกัน นี่คือ การเฉลิมฉลอง ทางการเงิน ที่โลกไม่เคยพบเห็นมาก่อน

    แต่ไม่ต้องสบายใจจนเกินไป เรื่องนี้ใช้ได้กับหนี้ที่ผูกติดกับระบบธนาคารที่ทุจริตเท่านั้น หากคุณเป็นหนี้นอกเหนือจากระบบนี้ คุณยังต้องรับผิดชอบ นี่คือ กระบวนการยุติธรรมแบบเลือกปฏิบัติที่มุ่งเป้าไปที่ แกนกลางของอาณาจักรการเงินที่ทุจริต

    BOOM #2: การปลดแอกภาษี – IRS โดนทุบ!

    คุณเบื่อไหมที่ต้องจ่ายเงินที่คุณหามาอย่างยากลำบากให้กับกรมสรรพากรทุกปี บอกลา ฝันร้ายนั้นได้เลย! กรมสรรพากรซึ่งทำหน้าที่ขัด ต่อรัฐธรรมนูญ มาตั้งแต่ต้นกำลังจะ ตายและถูกฝังแล้วภาษีเงินได้? หายไปแล้วถูกต้องแล้ว! NESARA กำจัด ภาษีเงินได้ และถึงเวลาแล้ว เป็นเวลาหลายปีที่รัฐบาลได้ดูดเงินจากเงินเดือนของคุณอย่างผิดกฎหมาย และ NESARA จะมาหยุดการปล้นครั้งนี้

    NESARA จัดเก็บภาษีสินค้าที่ไม่จำเป็นในอัตราคงที่ 14% ซึ่งหมายความว่า จะไม่มีการเก็บภาษีอาหาร ยา หรือสินค้าใช้แล้ว ถือเป็นเรื่องยุติธรรมและเรียบง่าย และที่สำคัญที่สุดคือ รัฐบาลจะไม่เอาเปรียบคุณ

    BOOM #3: ธนาคารกลางสหรัฐฯ—เกมจบแล้ว!

    ธนาคาร กลางสหรัฐซึ่งเป็นสถาบันลึกลับที่อยู่เบื้องหลังมานาน หลายทศวรรษกำลังจะถูก กำจัด NESARA ไม่เพียงแต่ควบคุมธนาคารกลางเท่านั้น แต่ยัง ทำลาย ระบบทั้งหมดอีกด้วย ในที่สุด เราก็จะ กำจัดธนาคารกลางสหรัฐ และควบคุมเงินของเราอีกครั้ง

    “สกุลเงินสายรุ้ง” ที่ได้รับการหนุนหลังโดยกระทรวงการคลังสหรัฐฉบับใหม่จะมาแทนที่ดอลลาร์กระดาษไร้ค่าที่เราใช้กันมาโดยตลอด และลองเดาดูสิว่าอะไรจะเกิดขึ้น สกุลเงินใหม่นี้จะได้รับการหนุนหลังด้วย ทองคำ เงิน และแพลตตินัมซึ่ง เป็นสินทรัพย์ ที่แท้จริง ไม่ใช่เงินปลอมที่ธนาคารกลางสหรัฐพิมพ์ออกมาเป็นเวลาหลายปี นี่ไม่ใช่แค่การปฏิรูปเท่านั้น แต่เป็นการ ปฏิวัติทางการเงินโดยสมบูรณ์

    BOOM #4: กฎหมายรัฐธรรมนูญได้รับการฟื้นฟู – การรีเซ็ตอเมริกา!
    จบสิ้นแล้ว สำหรับผู้ที่บิดเบือนกฎหมายและขายอำนาจอธิปไตยของเราให้กับผู้เสนอราคาสูงสุด! NESARA นำสหรัฐฯ กลับคืนสู่รากฐานที่ถูกต้อง: กฎหมายรัฐธรรมนูญซึ่งหมายความว่าจะไม่มีกฎหมายที่ถูกสร้างขึ้นในห้องลับโดยผลประโยชน์จากต่างประเทศหรืออำนาจลึกลับอีกต่อไป การแก้ไขตำแหน่งขุนนาง จะได้รับการฟื้นคืน และนี่คือประเด็นสำคัญ: ชาวอเมริกัน หลายแสน คนที่ภักดีต่ออำนาจต่างชาติทั้งสองอย่างจะถูก เพิกถอนสัญชาติ

    ลองคิดดูดีๆ นะปริญญาตรีเหรอ? กระดาษไร้ค่า ! หากคุณทำงานภายใต้การควบคุมของต่างชาติ เกมของคุณก็จบลงแล้ว NESARA กำลังส่งคนทรยศเหล่านี้ออกไป—พวกเขาจะ ถูกเนรเทศและห้าม เหยียบแผ่นดินสหรัฐฯ อีก นี่เป็นมากกว่าการรีเซ็ตใหม่ เป็นการ กวาดล้าง ผู้ที่ขายชาติของเราออกไป

    BOOM #5: การเลือกตั้งใหม่ – การปฏิรูปการเมืองแบบองค์รวม!

    ระบบการเมืองปัจจุบัน? เสร็จสิ้นแล้วการทุจริตคอร์รัปชันได้ทำลายการเลือกตั้งของเรามาหลายปีแล้ว และ NESARA อยู่ที่นี่เพื่อ ล้างมันออกไปในเวลาเพียง 120 วันการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภาในปัจจุบันทั้งหมดจะถูก ยกเลิกและการเลือกตั้งครั้งใหม่จะจัดขึ้นภายใต้การปกครองของกฎหมายรัฐธรรมนูญ สถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติ ทุกครั้ง ที่ประกาศโดยระบอบการปกครองก่อนหน้านี้จะ ถูกลบล้าง

    ไม่มีการเลือกตั้งที่ทุจริตอีกต่อไป! ระบบการลงคะแนนเสียง NewQFS กำลังจะมา และมัน ไม่สามารถ แฮ็กได้ การโกงการเลือกตั้ง? เป็นไปไม่ได้ภายใต้ NESARA เฉพาะผู้ที่ผ่านการตรวจสอบผ่านระบบบล็อคเชนที่ปลอดภัยเท่านั้นที่จะได้รับอนุญาตให้ลงคะแนนเสียง หากคุณคิดว่านักการเมืองที่ทุจริตมีโอกาสที่จะยึดครองอำนาจได้ คิดใหม่ซะ NESARA กำลัง เผาทำลาย บ้านที่ทุจริตที่พวกเขาสร้างขึ้น

    BOOM #6: ความเป็นส่วนตัวทางการเงินกลับคืนมา – เงินของคุณ ธุรกิจของคุณ!

    บอกลา การเฝ้าติดตามและ แฮ็ก การเงินส่วนบุคคลของคุณไปได้เลย ภายใต้ NESARA ความเป็นส่วนตัวทางการเงินของคุณจะ ได้รับการคืนกลับมาระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ฉบับใหม่จะ ปกป้อง เงินของคุณจากโจร แฮกเกอร์ และสายตาสอดส่องของบิ๊กบราเธอร์ ยุคที่รัฐบาลรู้ทุกการเคลื่อนไหวของคุณสิ้นสุดลงแล้ว!

    นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของความปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับ การกลับมา ควบคุมชีวิตทางการเงินของคุณอีกครั้ง ไม่ต้องติดตามอีกต่อไป ไม่ต้องเฝ้าติดตามอีกต่อไป เงินของคุณเป็น ของคุณ และไม่มีใครอื่น

    BOOM #7: ระเบิดเทคโนโลยีที่ถูกระงับ – สิทธิบัตร 6,000 ฉบับถูกเปิดเผย!

    นี่คือสิ่ง ที่ยิ่งใหญ่เทคโนโลยีที่คุณไม่เคยได้ยินมาก่อน—สิ่งที่ถูกซ่อนไว้ในห้องนิรภัยอันลึกล้ำโดยกลุ่มคนชั้นนำระดับโลก—กำลังจะเปิดเผยต่อสาธารณชน เรากำลังพูดถึง สิทธิบัตรมากกว่า 6,000 ฉบับ สำหรับเทคโนโลยีที่น่าตื่นตาตื่นใจ ตั้งแต่ อุปกรณ์ พลังงานฟรี ไป จนถึง การรักษาทางการแพทย์ที่น่าอัศจรรย์

    นี่ไม่ใช่นิยายวิทยาศาสตร์ แต่เป็นอนาคตที่ถูกปกปิดไว้จากเรามานานหลายทศวรรษ ภาคส่วนพลังงาน การดูแลสุขภาพ การขนส่งทุกอย่าง กำลังจะเปลี่ยนแปลง เหตุผลที่เทคโนโลยีเหล่านี้ถูกปิดกั้น? เพราะมันจะ ทำลาย โครงสร้างอำนาจที่ปกครองโลกมายาวนาน NESARA กำลังจะ เผยแพร่ เทคโนโลยีเหล่านี้สู่สาธารณะและ ทำลายล้าง สถานะเดิม

    BOOM #8: โครงการด้านมนุษยธรรม – สึนามิแห่งการเปลี่ยนแปลงระดับโลก!

    ไม่ใช่แค่ การรื้อถอน ระบบเก่าเท่านั้น แต่ยังรวมถึง การสร้างระบบที่ดีกว่าด้วย NESARA ไม่ได้หยุดอยู่แค่การปฏิรูปทางการเงินเท่านั้น แต่ยังเปิดตัว โครงการด้านมนุษยธรรม มากมาย ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนทั่วโลก ประชาชนจะได้รับเงินทุนเพื่อเข้าร่วมโครงการใหญ่ๆ ตั้งแต่การจัดหา ที่อยู่อาศัยให้กับคนไร้บ้าน ไปจนถึง การปฏิวัติการดูแลสุขภาพ และการศึกษา

    นี่คือการเคลื่อนไหวระดับโลกอิทธิพลของ NESARA จะแผ่ขยายไปไกลเกินพรมแดนสหรัฐฯ และเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้คนนับล้าน ยุคแห่ง ความโลภและความขาดแคลน กำลังจะสิ้นสุดลง และ NESARA กำลังนำพายุคแห่ง ความอุดมสมบูรณ์และความเจริญรุ่งเรือง มาสู่ทุกคน

    BOOM #9: การคืนสภาพและการไถ่ถอน – การได้คืนสิ่งที่เป็นของเราโดยชอบธรรม!

    NESARA ไม่เพียงแต่หยุดอยู่ที่ การปฏิรูป ปัจจุบันเท่านั้น แต่ยังมุ่งเน้นไปที่การแก้ไข สิ่งที่ผิดในอดีตด้วย ชนชั้นสูงที่ฉ้อฉลซึ่งขโมยของจากเรามานานหลายชั่วอายุคน พวกเขาจะต้อง ชดใช้เรากำลังพูดถึง การชดใช้คืน สำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญทุกประการที่กระทำต่อมนุษยชาติ ภาษีที่ซ่อนอยู่การ จ่ายดอกเบี้ยและ การเป็นทาสหนี้ ทั้งหมด จะต้องถูกนำมาพิจารณา

    และแล้วก็มีกระบวนการ ไถ่ถอนสกุลเงินและพันธบัตรของคุณ รวมถึง พันธบัตร ZIMจะถูกแลกเปลี่ยนเป็น อัตราที่สูงขึ้นโดยส่วนหนึ่งของเงินจะถูกจัดสรรไว้สำหรับ ใช้ส่วนตัว และส่วนที่เหลือจะถูกจัดสรรไว้สำหรับ โครงการด้านมนุษยธรรมนี่ไม่ใช่แค่เรื่องของเงินเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของ ความยุติธรรมถึงเวลาแล้วที่จะนำสิ่งที่ถูกขโมยไปจากเรากลับคืนมา และสร้างอนาคต ที่ปราศจากการกดขี่

    BOOM #10: ระบบการลงคะแนน QFS – ยุคใหม่ของประชาธิปไตยที่ไม่สามารถแฮ็กได้!

    ยอมรับกันเถอะว่าระบบการเลือกตั้งในปัจจุบันเป็นเรื่อง ตลกมันถูกควบคุม บิดเบือน และ ทุจริตถึงแก่น NESARA กำลังรื้อระบบเก่าออกและแทนที่ด้วย ระบบการลงคะแนนเสียง NewQFSซึ่งเป็น แพลตฟอร์มที่ปลอดภัยด้วยระบบบล็อคเชนและ ไม่สามารถแฮ็กได้ วันแห่งการทุจริตการเลือกตั้ง สิ้นสุดลงแล้วเฉพาะผู้ที่รับสิทธิประโยชน์จาก NESARA เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง

    ไม่มีผู้ลงคะแนนเสียงที่ตายไปอีกต่อไป ไม่มีเครื่องจักรที่ถูกควบคุมอีกต่อไป ทุกคะแนนเสียงจะได้ รับการตรวจสอบและรักษาความปลอดภัยเพื่อให้แน่ใจว่าเสียงของประชาชนจะได้รับการรับฟังอย่างแท้จริง นี่ไม่ใช่แค่การแก้ไขปัญหา แต่เป็นการ สร้างภาพ ประชาธิปไตยใหม่ทั้งหมด

    บทบัญญัติหลัก 30+1 ของ NESARA GESARA: โครงร่างขั้นสุดท้ายสำหรับการเปลี่ยนแปลงระดับโลก

    1. การยกหนี้ : การขจัดหนี้ที่เกี่ยวข้องกับธนาคารทั้งหมด (บัตรเครดิต จำนอง เงินกู้) ที่เกิดจากการปฏิบัติทางการเงินที่ผิดกฎหมาย ถือเป็น “วันแห่งความสำเร็จ” ทางการเงินของประชาชน ช่วยให้พวกเขาหลุดพ้นจากเงื้อมมือของสถาบันทางการเงินที่กดขี่

    2. การยกเลิกภาษีเงินได้ : ยกเลิกภาษีเงินได้และภาษีจากการลงทุนและบัญชีเงินเกษียณ (IRA, 401k เป็นต้น) ที่ถูกบังคับใช้โดยขัดต่อรัฐธรรมนูญโดยสมบูรณ์

    3. การยุติการทำงานของ IRS : IRS จะถูกปิดตัวลงอย่างถาวร และพนักงานจะถูกย้ายไปใช้ระบบการจัดเก็บภาษีตามระบบใหม่ของกระทรวงการคลัง

    4. ภาษีขายแบบอัตราคงที่ : การนำภาษีขายแบบอัตราคงที่ 14% มาใช้ในสินค้าใหม่ที่ไม่จำเป็น (ไม่รวมอาหาร ยา และสินค้าใช้แล้ว) เพื่อระดมทุนสำหรับการดำเนินงานของรัฐบาล ระบบภาษีจะยุติธรรมและโปร่งใสมากขึ้น

    5. เพิ่มสวัสดิการให้กับผู้สูงอายุ : เพิ่มสวัสดิการให้กับผู้สูงอายุ โดยให้แน่ใจว่าพวกเขาจะได้รับการสนับสนุนทางการเงินเป็นอย่างดีในช่วงบั้นปลายชีวิต

    6. กลับสู่กฎหมายรัฐธรรมนูญ: การฟื้นฟูกฎหมายรัฐธรรมนูญในระบบกฎหมายของสหรัฐฯ ขจัดการปฏิบัติที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญซึ่งกัดกร่อนหลักการทางกฎหมายพื้นฐานของประเทศ

    7. การฟื้นฟูการแก้ไขตำแหน่งขุนนาง: ชาวอเมริกันที่อยู่ภายใต้อิทธิพลหรือการควบคุมจากต่างประเทศจะสูญเสียสัญชาติและถูกเนรเทศ เพื่อป้องกันการแทรกแซงจากต่างประเทศในกิจการภายในประเทศ

    8. การเลือกตั้งใหม่: การดำเนินการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภาใหม่ทันทีภายใน 120 วันหลังจากการประกาศของ NESARA เพื่อล้างมลทินของระบอบการปกครองที่ทุจริตในอดีต

    9. สิ้นสุดสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติ: การยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติทั้งหมดที่ประกาศ คืนสถานะประเทศสู่สภาวะปกติและกฎหมายรัฐธรรมนูญ

    10. การติดตามการเลือกตั้ง: ระบบใหม่ในการตรวจสอบการเลือกตั้ง ป้องกันกิจกรรมที่ผิดกฎหมายโดยกลุ่มผลประโยชน์พิเศษ และรับรองการเลือกตั้งที่ยุติธรรมและโปร่งใส

    11. การสร้างสกุลเงินรุ้ง: การนำสกุลเงินใหม่ของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ มาใช้โดยมีทองคำ เงิน และแพลตตินัมค้ำประกัน ซึ่งถือเป็นการยุติระบบสกุลเงินเฟียตในปัจจุบัน

    12. การคุ้มครองใบสูติบัตร: ห้ามการขายบันทึกใบสูติบัตรของสหรัฐฯ ในลักษณะทรัพย์สินส่วนบุคคล เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะมีอำนาจอธิปไตยส่วนบุคคลจากการถูกแสวงหาประโยชน์จากองค์กร

    13. การจัดตั้งระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ: ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะถูกยุบเลิก และจะมีการนำระบบธนาคารใหม่มาใช้ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ

    14. การจัดทำดัชนีใหม่ของโลหะมีค่า: ทองคำ เงิน และโลหะมีค่าอื่นๆ จะถูกจัดทำดัชนีใหม่ภายใน 30 วันหลังจากที่ NESARA เสร็จสิ้น เพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับเศรษฐกิจ

    15. การเลิกใช้ระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ: ระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ จะถูกยุบเลิกภายในระยะเวลาหนึ่งปี โดยเปลี่ยนการควบคุมการเงินทั้งหมดไปที่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ

    16. การฟื้นฟูความเป็นส่วนตัวทางการเงิน: การนำระบบมาใช้เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวทางการเงิน ยุติการโจรกรรมข้อมูลและการแฮ็กข้อมูลอย่างแพร่หลาย

    17. การฝึกอบรมผู้พิพากษาและทนายความใหม่: ผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมายทุกคนจะได้รับการฝึกอบรมใหม่ในกฎหมายรัฐธรรมนูญเพื่อรักษาความยุติธรรมและปกป้องสิทธิของพลเมือง

    18. ความคิดริเริ่มเพื่อสันติภาพทั่วโลก: สหรัฐฯ จะยุติการดำเนินการทางทหารที่ก้าวร้าวทั้งหมด โดยเปลี่ยนโฟกัสไปที่ความสัมพันธ์ทางการทูตที่สันติทั่วโลก

    19. การเปิดเผยเทคโนโลยีที่ถูกระงับ: สิทธิบัตรที่ซ่อนอยู่มากกว่า 6,000 รายการสำหรับเทคโนโลยีขั้นสูง (รวมถึงพลังงานฟรีและการรักษาทางการแพทย์) จะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ

    20. การจัดหาเงินทุนสำหรับโครงการด้านมนุษยธรรม: การจัดหาเงินทุนจำนวนมากสำหรับโครงการด้านมนุษยธรรมในประเทศและทั่วโลก ช่วยให้สังคมได้รับการปรับปรุงอย่างกว้างขวาง

    21. ห้ามผู้ค้าเงินตราและโลหะมีค่า: การซื้อและขายโลหะมีค่าจะดำเนินการเฉพาะผ่านระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เท่านั้น โดยจะขจัดคนกลางเอกชนออกไป

    22. ประชาชนสามารถเข้าถึงเหรียญที่ผลิตได้: ประชาชนจะสามารถแปลงทองคำและเงินที่ตนถือครองเป็นเหรียญที่ผลิตได้ซึ่งได้รับการอนุมัติจากกระทรวงการคลังสหรัฐฯ

    23. ดัชนีโลหะมีค่ารายวัน: กระทรวงการคลังสหรัฐฯ จะรักษาดัชนีรายวันสำหรับการกำหนดราคาโลหะมีค่า เพื่อให้แน่ใจว่ามีความโปร่งใสและมีเสถียรภาพในตลาด

    24. การแปรรูปบริการไปรษณีย์สหรัฐฯ: USPS จะถูกแปรรูปโดยปรับปรุงกระบวนการทำงานและทำให้บริการมีประสิทธิภาพและแข่งขันได้มากขึ้น


    25. การปรับโครงสร้างของระบบประกันสังคม: ระบบประกันสังคมสหรัฐฯ จะได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อให้มั่นใจถึงความยั่งยืนและความยุติธรรมในระยะยาว
    26. QFS (ระบบการเงินควอนตัม): การแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศและพันธบัตรส่วนใหญ่ของ NESARA จะถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัยในบัญชีบล็อคเชนผ่านระบบการเงินควอนตัม

    27. การปฏิรูประบบธนาคาร: ธนาคารจะเผชิญกับข้อจำกัดใหม่เกี่ยวกับอัตราและค่าธรรมเนียม ในขณะที่ประชาชนได้รับสิทธิในการดูแลเงินทุนของตนที่แข็งแกร่งขึ้น ธนาคารจะถูกยกเลิกภายใน 3-5 ปีหลังจาก NESARA

    28. การเรียกคืนทรัพย์สินที่ถูกขโมย: NESARA จะเรียกคืนทรัพย์สินที่ถูกขโมยโดยสถาบันที่ทุจริต รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐ วอลล์สตรีท และกลุ่มคนชั้นสูง โดยคืนทรัพย์สินเหล่านั้นให้กับเจ้าของที่ถูกต้อง

    29. การคืนทรัพย์สินสำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ: จะมีการชดใช้ทางการเงินสำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เช่น การเก็บภาษีที่ผิดกฎหมาย การกู้ยืมที่ไม่เป็นธรรม และการยึดทรัพย์สินที่ผิดกฎหมาย
    30. การแลกเงินตราและพันธบัตร: บุคคลจะมีโอกาสในการแลกหรือแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและพันธบัตร ZIM ในอัตราที่กำหนดเพื่อใช้ส่วนตัวและโครงการด้านมนุษยธรรม

    ระบบการลงคะแนนเสียง QFS ใหม่

    31 ระบบการลงคะแนนเสียงปฏิวัติ: ระบบการเลือกตั้งปัจจุบันจะถูกแทนที่ด้วยกระบวนการลงคะแนนเสียงตามระบบการเงินควอนตัม รายชื่อผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงจะถูกสร้างขึ้นที่ศูนย์แลกรับของ NESARA และการเลือกตั้งในอนาคตจะดำเนินการโดยใช้ระบบ XRPL-QFS-5D ที่ปลอดภัย เฉพาะผู้ที่เข้าร่วมสิทธิประโยชน์ของ NESARA เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง ซึ่งรับประกันความซื่อสัตย์สุจริตและความปลอดภัยในการเลือกตั้ง

    บทบัญญัติ 30+1 เหล่านี้ถือเป็นแก่นของ NESARA GESARA ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ที่ความยุติธรรม ความเป็นธรรม และเสรีภาพครองอำนาจสูงสุด โลกที่เรารู้จักกำลังจะเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล คุณพร้อมหรือยังสำหรับคลื่นกระแทก?
    ..ข่าวอีกมุม ตรองกันเองเน้อ,จริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้,เพราะปัจจุบันค่าความจริงยังไม่เห็นปรากฎชัดเจนอะไรนัก เห็นตอนนีัคือรักษาคลื่นความถี่ควอนตัม สร้างเชลล์สร้างร่างกายใหม่นี้ล่ะ กำลังขุดขึ้นมาใช้จากใต้ดินที่ฝ่ายมืดกั๊กใช้เองเสียนาน,เตียง medbedeก็ใช่,nesara&gesaraจะจริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้เช่นกัน,อ่านเพลินๆเน้อ,บังเอิญมาเจอ อาจมิใช่บังเอิญ. ..NESARA GESARA BOMBSHELL: 31 โปรโตคอล BOOM #1: การยกหนี้ – รีเซ็ตการเงินโดยรวม! ปุ๊ฟ! หนี้ก้อนโตของคุณหายไปไหนหมด! ยอดเงินในบัตรเครดิต จำนอง และเงินกู้ของคุณหายไปหมดทำอย่างไรล่ะ? เพราะระบบธนาคารทั้งหมดที่ทำให้คุณเป็นทาสของหนี้ไม่รู้จบนั้นสร้างขึ้นจาก กิจกรรมที่ผิดกฎหมายนั่นถูกต้องแล้ว—นี่ไม่ใช่แค่การช่วยเหลือหรือการช่วยเหลือ NESARA กำลัง แก้ไขอาชญากรรม ทางการเงินหลายสิบปี ที่ก่อขึ้นโดยธนาคารและรัฐบาลเหมือนกัน นี่คือ การเฉลิมฉลอง ทางการเงิน ที่โลกไม่เคยพบเห็นมาก่อน แต่ไม่ต้องสบายใจจนเกินไป เรื่องนี้ใช้ได้กับหนี้ที่ผูกติดกับระบบธนาคารที่ทุจริตเท่านั้น หากคุณเป็นหนี้นอกเหนือจากระบบนี้ คุณยังต้องรับผิดชอบ นี่คือ กระบวนการยุติธรรมแบบเลือกปฏิบัติที่มุ่งเป้าไปที่ แกนกลางของอาณาจักรการเงินที่ทุจริต BOOM #2: การปลดแอกภาษี – IRS โดนทุบ! คุณเบื่อไหมที่ต้องจ่ายเงินที่คุณหามาอย่างยากลำบากให้กับกรมสรรพากรทุกปี บอกลา ฝันร้ายนั้นได้เลย! กรมสรรพากรซึ่งทำหน้าที่ขัด ต่อรัฐธรรมนูญ มาตั้งแต่ต้นกำลังจะ ตายและถูกฝังแล้วภาษีเงินได้? หายไปแล้วถูกต้องแล้ว! NESARA กำจัด ภาษีเงินได้ และถึงเวลาแล้ว เป็นเวลาหลายปีที่รัฐบาลได้ดูดเงินจากเงินเดือนของคุณอย่างผิดกฎหมาย และ NESARA จะมาหยุดการปล้นครั้งนี้ NESARA จัดเก็บภาษีสินค้าที่ไม่จำเป็นในอัตราคงที่ 14% ซึ่งหมายความว่า จะไม่มีการเก็บภาษีอาหาร ยา หรือสินค้าใช้แล้ว ถือเป็นเรื่องยุติธรรมและเรียบง่าย และที่สำคัญที่สุดคือ รัฐบาลจะไม่เอาเปรียบคุณ BOOM #3: ธนาคารกลางสหรัฐฯ—เกมจบแล้ว! ธนาคาร กลางสหรัฐซึ่งเป็นสถาบันลึกลับที่อยู่เบื้องหลังมานาน หลายทศวรรษกำลังจะถูก กำจัด NESARA ไม่เพียงแต่ควบคุมธนาคารกลางเท่านั้น แต่ยัง ทำลาย ระบบทั้งหมดอีกด้วย ในที่สุด เราก็จะ กำจัดธนาคารกลางสหรัฐ และควบคุมเงินของเราอีกครั้ง “สกุลเงินสายรุ้ง” ที่ได้รับการหนุนหลังโดยกระทรวงการคลังสหรัฐฉบับใหม่จะมาแทนที่ดอลลาร์กระดาษไร้ค่าที่เราใช้กันมาโดยตลอด และลองเดาดูสิว่าอะไรจะเกิดขึ้น สกุลเงินใหม่นี้จะได้รับการหนุนหลังด้วย ทองคำ เงิน และแพลตตินัมซึ่ง เป็นสินทรัพย์ ที่แท้จริง ไม่ใช่เงินปลอมที่ธนาคารกลางสหรัฐพิมพ์ออกมาเป็นเวลาหลายปี นี่ไม่ใช่แค่การปฏิรูปเท่านั้น แต่เป็นการ ปฏิวัติทางการเงินโดยสมบูรณ์ BOOM #4: กฎหมายรัฐธรรมนูญได้รับการฟื้นฟู – การรีเซ็ตอเมริกา! จบสิ้นแล้ว สำหรับผู้ที่บิดเบือนกฎหมายและขายอำนาจอธิปไตยของเราให้กับผู้เสนอราคาสูงสุด! NESARA นำสหรัฐฯ กลับคืนสู่รากฐานที่ถูกต้อง: กฎหมายรัฐธรรมนูญซึ่งหมายความว่าจะไม่มีกฎหมายที่ถูกสร้างขึ้นในห้องลับโดยผลประโยชน์จากต่างประเทศหรืออำนาจลึกลับอีกต่อไป การแก้ไขตำแหน่งขุนนาง จะได้รับการฟื้นคืน และนี่คือประเด็นสำคัญ: ชาวอเมริกัน หลายแสน คนที่ภักดีต่ออำนาจต่างชาติทั้งสองอย่างจะถูก เพิกถอนสัญชาติ ลองคิดดูดีๆ นะปริญญาตรีเหรอ? กระดาษไร้ค่า ! หากคุณทำงานภายใต้การควบคุมของต่างชาติ เกมของคุณก็จบลงแล้ว NESARA กำลังส่งคนทรยศเหล่านี้ออกไป—พวกเขาจะ ถูกเนรเทศและห้าม เหยียบแผ่นดินสหรัฐฯ อีก นี่เป็นมากกว่าการรีเซ็ตใหม่ เป็นการ กวาดล้าง ผู้ที่ขายชาติของเราออกไป BOOM #5: การเลือกตั้งใหม่ – การปฏิรูปการเมืองแบบองค์รวม! ระบบการเมืองปัจจุบัน? เสร็จสิ้นแล้วการทุจริตคอร์รัปชันได้ทำลายการเลือกตั้งของเรามาหลายปีแล้ว และ NESARA อยู่ที่นี่เพื่อ ล้างมันออกไปในเวลาเพียง 120 วันการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภาในปัจจุบันทั้งหมดจะถูก ยกเลิกและการเลือกตั้งครั้งใหม่จะจัดขึ้นภายใต้การปกครองของกฎหมายรัฐธรรมนูญ สถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติ ทุกครั้ง ที่ประกาศโดยระบอบการปกครองก่อนหน้านี้จะ ถูกลบล้าง ไม่มีการเลือกตั้งที่ทุจริตอีกต่อไป! ระบบการลงคะแนนเสียง NewQFS กำลังจะมา และมัน ไม่สามารถ แฮ็กได้ การโกงการเลือกตั้ง? เป็นไปไม่ได้ภายใต้ NESARA เฉพาะผู้ที่ผ่านการตรวจสอบผ่านระบบบล็อคเชนที่ปลอดภัยเท่านั้นที่จะได้รับอนุญาตให้ลงคะแนนเสียง หากคุณคิดว่านักการเมืองที่ทุจริตมีโอกาสที่จะยึดครองอำนาจได้ คิดใหม่ซะ NESARA กำลัง เผาทำลาย บ้านที่ทุจริตที่พวกเขาสร้างขึ้น BOOM #6: ความเป็นส่วนตัวทางการเงินกลับคืนมา – เงินของคุณ ธุรกิจของคุณ! บอกลา การเฝ้าติดตามและ แฮ็ก การเงินส่วนบุคคลของคุณไปได้เลย ภายใต้ NESARA ความเป็นส่วนตัวทางการเงินของคุณจะ ได้รับการคืนกลับมาระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ฉบับใหม่จะ ปกป้อง เงินของคุณจากโจร แฮกเกอร์ และสายตาสอดส่องของบิ๊กบราเธอร์ ยุคที่รัฐบาลรู้ทุกการเคลื่อนไหวของคุณสิ้นสุดลงแล้ว! นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของความปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับ การกลับมา ควบคุมชีวิตทางการเงินของคุณอีกครั้ง ไม่ต้องติดตามอีกต่อไป ไม่ต้องเฝ้าติดตามอีกต่อไป เงินของคุณเป็น ของคุณ และไม่มีใครอื่น BOOM #7: ระเบิดเทคโนโลยีที่ถูกระงับ – สิทธิบัตร 6,000 ฉบับถูกเปิดเผย! นี่คือสิ่ง ที่ยิ่งใหญ่เทคโนโลยีที่คุณไม่เคยได้ยินมาก่อน—สิ่งที่ถูกซ่อนไว้ในห้องนิรภัยอันลึกล้ำโดยกลุ่มคนชั้นนำระดับโลก—กำลังจะเปิดเผยต่อสาธารณชน เรากำลังพูดถึง สิทธิบัตรมากกว่า 6,000 ฉบับ สำหรับเทคโนโลยีที่น่าตื่นตาตื่นใจ ตั้งแต่ อุปกรณ์ พลังงานฟรี ไป จนถึง การรักษาทางการแพทย์ที่น่าอัศจรรย์ นี่ไม่ใช่นิยายวิทยาศาสตร์ แต่เป็นอนาคตที่ถูกปกปิดไว้จากเรามานานหลายทศวรรษ ภาคส่วนพลังงาน การดูแลสุขภาพ การขนส่งทุกอย่าง กำลังจะเปลี่ยนแปลง เหตุผลที่เทคโนโลยีเหล่านี้ถูกปิดกั้น? เพราะมันจะ ทำลาย โครงสร้างอำนาจที่ปกครองโลกมายาวนาน NESARA กำลังจะ เผยแพร่ เทคโนโลยีเหล่านี้สู่สาธารณะและ ทำลายล้าง สถานะเดิม BOOM #8: โครงการด้านมนุษยธรรม – สึนามิแห่งการเปลี่ยนแปลงระดับโลก! ไม่ใช่แค่ การรื้อถอน ระบบเก่าเท่านั้น แต่ยังรวมถึง การสร้างระบบที่ดีกว่าด้วย NESARA ไม่ได้หยุดอยู่แค่การปฏิรูปทางการเงินเท่านั้น แต่ยังเปิดตัว โครงการด้านมนุษยธรรม มากมาย ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนทั่วโลก ประชาชนจะได้รับเงินทุนเพื่อเข้าร่วมโครงการใหญ่ๆ ตั้งแต่การจัดหา ที่อยู่อาศัยให้กับคนไร้บ้าน ไปจนถึง การปฏิวัติการดูแลสุขภาพ และการศึกษา นี่คือการเคลื่อนไหวระดับโลกอิทธิพลของ NESARA จะแผ่ขยายไปไกลเกินพรมแดนสหรัฐฯ และเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้คนนับล้าน ยุคแห่ง ความโลภและความขาดแคลน กำลังจะสิ้นสุดลง และ NESARA กำลังนำพายุคแห่ง ความอุดมสมบูรณ์และความเจริญรุ่งเรือง มาสู่ทุกคน BOOM #9: การคืนสภาพและการไถ่ถอน – การได้คืนสิ่งที่เป็นของเราโดยชอบธรรม! NESARA ไม่เพียงแต่หยุดอยู่ที่ การปฏิรูป ปัจจุบันเท่านั้น แต่ยังมุ่งเน้นไปที่การแก้ไข สิ่งที่ผิดในอดีตด้วย ชนชั้นสูงที่ฉ้อฉลซึ่งขโมยของจากเรามานานหลายชั่วอายุคน พวกเขาจะต้อง ชดใช้เรากำลังพูดถึง การชดใช้คืน สำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญทุกประการที่กระทำต่อมนุษยชาติ ภาษีที่ซ่อนอยู่การ จ่ายดอกเบี้ยและ การเป็นทาสหนี้ ทั้งหมด จะต้องถูกนำมาพิจารณา และแล้วก็มีกระบวนการ ไถ่ถอนสกุลเงินและพันธบัตรของคุณ รวมถึง พันธบัตร ZIMจะถูกแลกเปลี่ยนเป็น อัตราที่สูงขึ้นโดยส่วนหนึ่งของเงินจะถูกจัดสรรไว้สำหรับ ใช้ส่วนตัว และส่วนที่เหลือจะถูกจัดสรรไว้สำหรับ โครงการด้านมนุษยธรรมนี่ไม่ใช่แค่เรื่องของเงินเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของ ความยุติธรรมถึงเวลาแล้วที่จะนำสิ่งที่ถูกขโมยไปจากเรากลับคืนมา และสร้างอนาคต ที่ปราศจากการกดขี่ BOOM #10: ระบบการลงคะแนน QFS – ยุคใหม่ของประชาธิปไตยที่ไม่สามารถแฮ็กได้! ยอมรับกันเถอะว่าระบบการเลือกตั้งในปัจจุบันเป็นเรื่อง ตลกมันถูกควบคุม บิดเบือน และ ทุจริตถึงแก่น NESARA กำลังรื้อระบบเก่าออกและแทนที่ด้วย ระบบการลงคะแนนเสียง NewQFSซึ่งเป็น แพลตฟอร์มที่ปลอดภัยด้วยระบบบล็อคเชนและ ไม่สามารถแฮ็กได้ วันแห่งการทุจริตการเลือกตั้ง สิ้นสุดลงแล้วเฉพาะผู้ที่รับสิทธิประโยชน์จาก NESARA เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง ไม่มีผู้ลงคะแนนเสียงที่ตายไปอีกต่อไป ไม่มีเครื่องจักรที่ถูกควบคุมอีกต่อไป ทุกคะแนนเสียงจะได้ รับการตรวจสอบและรักษาความปลอดภัยเพื่อให้แน่ใจว่าเสียงของประชาชนจะได้รับการรับฟังอย่างแท้จริง นี่ไม่ใช่แค่การแก้ไขปัญหา แต่เป็นการ สร้างภาพ ประชาธิปไตยใหม่ทั้งหมด บทบัญญัติหลัก 30+1 ของ NESARA GESARA: โครงร่างขั้นสุดท้ายสำหรับการเปลี่ยนแปลงระดับโลก 1. การยกหนี้ : การขจัดหนี้ที่เกี่ยวข้องกับธนาคารทั้งหมด (บัตรเครดิต จำนอง เงินกู้) ที่เกิดจากการปฏิบัติทางการเงินที่ผิดกฎหมาย ถือเป็น “วันแห่งความสำเร็จ” ทางการเงินของประชาชน ช่วยให้พวกเขาหลุดพ้นจากเงื้อมมือของสถาบันทางการเงินที่กดขี่ 2. การยกเลิกภาษีเงินได้ : ยกเลิกภาษีเงินได้และภาษีจากการลงทุนและบัญชีเงินเกษียณ (IRA, 401k เป็นต้น) ที่ถูกบังคับใช้โดยขัดต่อรัฐธรรมนูญโดยสมบูรณ์ 3. การยุติการทำงานของ IRS : IRS จะถูกปิดตัวลงอย่างถาวร และพนักงานจะถูกย้ายไปใช้ระบบการจัดเก็บภาษีตามระบบใหม่ของกระทรวงการคลัง 4. ภาษีขายแบบอัตราคงที่ : การนำภาษีขายแบบอัตราคงที่ 14% มาใช้ในสินค้าใหม่ที่ไม่จำเป็น (ไม่รวมอาหาร ยา และสินค้าใช้แล้ว) เพื่อระดมทุนสำหรับการดำเนินงานของรัฐบาล ระบบภาษีจะยุติธรรมและโปร่งใสมากขึ้น 5. เพิ่มสวัสดิการให้กับผู้สูงอายุ : เพิ่มสวัสดิการให้กับผู้สูงอายุ โดยให้แน่ใจว่าพวกเขาจะได้รับการสนับสนุนทางการเงินเป็นอย่างดีในช่วงบั้นปลายชีวิต 6. กลับสู่กฎหมายรัฐธรรมนูญ: การฟื้นฟูกฎหมายรัฐธรรมนูญในระบบกฎหมายของสหรัฐฯ ขจัดการปฏิบัติที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญซึ่งกัดกร่อนหลักการทางกฎหมายพื้นฐานของประเทศ 7. การฟื้นฟูการแก้ไขตำแหน่งขุนนาง: ชาวอเมริกันที่อยู่ภายใต้อิทธิพลหรือการควบคุมจากต่างประเทศจะสูญเสียสัญชาติและถูกเนรเทศ เพื่อป้องกันการแทรกแซงจากต่างประเทศในกิจการภายในประเทศ 8. การเลือกตั้งใหม่: การดำเนินการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภาใหม่ทันทีภายใน 120 วันหลังจากการประกาศของ NESARA เพื่อล้างมลทินของระบอบการปกครองที่ทุจริตในอดีต 9. สิ้นสุดสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติ: การยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติทั้งหมดที่ประกาศ คืนสถานะประเทศสู่สภาวะปกติและกฎหมายรัฐธรรมนูญ 10. การติดตามการเลือกตั้ง: ระบบใหม่ในการตรวจสอบการเลือกตั้ง ป้องกันกิจกรรมที่ผิดกฎหมายโดยกลุ่มผลประโยชน์พิเศษ และรับรองการเลือกตั้งที่ยุติธรรมและโปร่งใส 11. การสร้างสกุลเงินรุ้ง: การนำสกุลเงินใหม่ของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ มาใช้โดยมีทองคำ เงิน และแพลตตินัมค้ำประกัน ซึ่งถือเป็นการยุติระบบสกุลเงินเฟียตในปัจจุบัน 12. การคุ้มครองใบสูติบัตร: ห้ามการขายบันทึกใบสูติบัตรของสหรัฐฯ ในลักษณะทรัพย์สินส่วนบุคคล เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะมีอำนาจอธิปไตยส่วนบุคคลจากการถูกแสวงหาประโยชน์จากองค์กร 13. การจัดตั้งระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ: ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะถูกยุบเลิก และจะมีการนำระบบธนาคารใหม่มาใช้ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ 14. การจัดทำดัชนีใหม่ของโลหะมีค่า: ทองคำ เงิน และโลหะมีค่าอื่นๆ จะถูกจัดทำดัชนีใหม่ภายใน 30 วันหลังจากที่ NESARA เสร็จสิ้น เพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับเศรษฐกิจ 15. การเลิกใช้ระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ: ระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ จะถูกยุบเลิกภายในระยะเวลาหนึ่งปี โดยเปลี่ยนการควบคุมการเงินทั้งหมดไปที่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ 16. การฟื้นฟูความเป็นส่วนตัวทางการเงิน: การนำระบบมาใช้เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวทางการเงิน ยุติการโจรกรรมข้อมูลและการแฮ็กข้อมูลอย่างแพร่หลาย 17. การฝึกอบรมผู้พิพากษาและทนายความใหม่: ผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมายทุกคนจะได้รับการฝึกอบรมใหม่ในกฎหมายรัฐธรรมนูญเพื่อรักษาความยุติธรรมและปกป้องสิทธิของพลเมือง 18. ความคิดริเริ่มเพื่อสันติภาพทั่วโลก: สหรัฐฯ จะยุติการดำเนินการทางทหารที่ก้าวร้าวทั้งหมด โดยเปลี่ยนโฟกัสไปที่ความสัมพันธ์ทางการทูตที่สันติทั่วโลก 19. การเปิดเผยเทคโนโลยีที่ถูกระงับ: สิทธิบัตรที่ซ่อนอยู่มากกว่า 6,000 รายการสำหรับเทคโนโลยีขั้นสูง (รวมถึงพลังงานฟรีและการรักษาทางการแพทย์) จะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ 20. การจัดหาเงินทุนสำหรับโครงการด้านมนุษยธรรม: การจัดหาเงินทุนจำนวนมากสำหรับโครงการด้านมนุษยธรรมในประเทศและทั่วโลก ช่วยให้สังคมได้รับการปรับปรุงอย่างกว้างขวาง 21. ห้ามผู้ค้าเงินตราและโลหะมีค่า: การซื้อและขายโลหะมีค่าจะดำเนินการเฉพาะผ่านระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เท่านั้น โดยจะขจัดคนกลางเอกชนออกไป 22. ประชาชนสามารถเข้าถึงเหรียญที่ผลิตได้: ประชาชนจะสามารถแปลงทองคำและเงินที่ตนถือครองเป็นเหรียญที่ผลิตได้ซึ่งได้รับการอนุมัติจากกระทรวงการคลังสหรัฐฯ 23. ดัชนีโลหะมีค่ารายวัน: กระทรวงการคลังสหรัฐฯ จะรักษาดัชนีรายวันสำหรับการกำหนดราคาโลหะมีค่า เพื่อให้แน่ใจว่ามีความโปร่งใสและมีเสถียรภาพในตลาด 24. การแปรรูปบริการไปรษณีย์สหรัฐฯ: USPS จะถูกแปรรูปโดยปรับปรุงกระบวนการทำงานและทำให้บริการมีประสิทธิภาพและแข่งขันได้มากขึ้น 25. การปรับโครงสร้างของระบบประกันสังคม: ระบบประกันสังคมสหรัฐฯ จะได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อให้มั่นใจถึงความยั่งยืนและความยุติธรรมในระยะยาว 26. QFS (ระบบการเงินควอนตัม): การแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศและพันธบัตรส่วนใหญ่ของ NESARA จะถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัยในบัญชีบล็อคเชนผ่านระบบการเงินควอนตัม 27. การปฏิรูประบบธนาคาร: ธนาคารจะเผชิญกับข้อจำกัดใหม่เกี่ยวกับอัตราและค่าธรรมเนียม ในขณะที่ประชาชนได้รับสิทธิในการดูแลเงินทุนของตนที่แข็งแกร่งขึ้น ธนาคารจะถูกยกเลิกภายใน 3-5 ปีหลังจาก NESARA 28. การเรียกคืนทรัพย์สินที่ถูกขโมย: NESARA จะเรียกคืนทรัพย์สินที่ถูกขโมยโดยสถาบันที่ทุจริต รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐ วอลล์สตรีท และกลุ่มคนชั้นสูง โดยคืนทรัพย์สินเหล่านั้นให้กับเจ้าของที่ถูกต้อง 29. การคืนทรัพย์สินสำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ: จะมีการชดใช้ทางการเงินสำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เช่น การเก็บภาษีที่ผิดกฎหมาย การกู้ยืมที่ไม่เป็นธรรม และการยึดทรัพย์สินที่ผิดกฎหมาย 30. การแลกเงินตราและพันธบัตร: บุคคลจะมีโอกาสในการแลกหรือแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและพันธบัตร ZIM ในอัตราที่กำหนดเพื่อใช้ส่วนตัวและโครงการด้านมนุษยธรรม ระบบการลงคะแนนเสียง QFS ใหม่ 31 ระบบการลงคะแนนเสียงปฏิวัติ: ระบบการเลือกตั้งปัจจุบันจะถูกแทนที่ด้วยกระบวนการลงคะแนนเสียงตามระบบการเงินควอนตัม รายชื่อผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงจะถูกสร้างขึ้นที่ศูนย์แลกรับของ NESARA และการเลือกตั้งในอนาคตจะดำเนินการโดยใช้ระบบ XRPL-QFS-5D ที่ปลอดภัย เฉพาะผู้ที่เข้าร่วมสิทธิประโยชน์ของ NESARA เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง ซึ่งรับประกันความซื่อสัตย์สุจริตและความปลอดภัยในการเลือกตั้ง บทบัญญัติ 30+1 เหล่านี้ถือเป็นแก่นของ NESARA GESARA ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ที่ความยุติธรรม ความเป็นธรรม และเสรีภาพครองอำนาจสูงสุด โลกที่เรารู้จักกำลังจะเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล คุณพร้อมหรือยังสำหรับคลื่นกระแทก?
    0 Comments 0 Shares 1241 Views 0 Reviews
  • ..เตียงmedbeds น่าจะเปิดตัวในไทยเร็วๆนี้เช่นกันและจะดีมากต่อคนรับวัคซีนไปแล้ว,นายกฯคนใหม่ต้องจริงใจประกาศฟื้นฟูสุขภาพการรักษาคนได้รับการบาดเจ็บจากอาวุธชีวภาพจากพิษวัคซีนโควิดได้แล้ว,เปลี่ยนรัฐบาลก็ต้องเปลี่ยนไปทางที่ดีขึ้นจริงๆ.เช่นกัน,จริงๆให้คณะรวมพลังแผ่นดินไทย ตั้งเดอะทีมหลักทีมรองทีมย่อยในนามภาคมหามวลประชาชนขึ้นวิจัยทดลองงานบริหารจัดการปกครองประเทศสัก10-20ปีในนามภาคประชาชนแทนภาคนักการเมืองดูก็ดีก็ได้,เพราะสาระพัดสีเสื้อไทยได้รวมใจเป็นหนึ่งเพื่อประชาชนเพื่อชาติแล้วมากมายหลากหลายคณะที่เจอต้นตอปัญหาจริงทุจริตเห็นด้วยตาจริงในหมู่องค์กรหน่วยงานรัฐและเอกชนที่ชั่วเลวสมคบคิดกันจึงได้ออกมาประท้วงลงถนนในแต่ละคณะจนมารวมเป็นหมู่คณะมหาภาคใหญ่มากมายในนามคณะรวมพลังแผ่นดินไทยเรา,สมควรให้อาสนธิขึ้นเป็นนายกฯก็ได้หากมิใช่คนของdeep stateอะไรก็ว่า,ลูกทักษิณ2คนก็เป็นนายกแล้วกระทั่งตัวทักษิณเอง ,อาสนธิและทีมคณะรักแผ่นดินไทยจะขึ้นบริหารชาติจะเป็นอะไร,จัดชุดทีมรุกรบฉุกเฉินแต่ละทัพหลักทัพย่อยสบายประสานกันลงหน้างานจริงแก่ปัญหาประชาชนจริงทั่วประเทศเพราะยุคใหม่ที่จะมาถึงหนักหนาสาหัสมากจึงจะผ่านพ้นไปได้เพราะความสามัคคีทุกๆฝ่ายที่มีใจรักชาติไทยรักแผ่นดินไทยเราเท่านั้นถึจะตีผ่าออกไปได้,ประชาชนเราพร้อม ทหารตำรวจผู้รักชาติเราพร้อมอยู่แล้ว ,ถีบรัฐบาลสมยอมออกไปแล้วที่ไม่พร้อมห่าเหวอะไรเลย,เรา..ต้องเร่งรีบจัดขบวนทัพใหม่ทันทีจริง.,และสุขภาพคนไทยต้องได้รับการฟื้นฟูรักษาอย่างเร่งด่วนให้ถูกทางควบคู่ขนาดเทคโนโลยีล้ำๆกับสมุนไพรไทยเราด้วยจะฟื้นฟูได้รวดเร็วในการรักษาแน่นอน.
    ..
    ..เปิดตัว IONIC Care ROBERT F. KENNEDY JR: เราจะทำให้ประเทศอเมริกามีสุขภาพดีอีกครั้ง - และเริ่มต้นทันที!

    อเมริกากำลังเผชิญกับวิกฤตด้านสุขภาพ โรคเรื้อรังกำลังพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยมีความดันโลหิตสูง เบาหวาน การอักเสบ โรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง และภาวะทางระบบประสาทที่ส่งผลกระทบต่อผู้คนนับล้าน โรคหัวใจ อาการปวดข้อ และความเหนื่อยล้ากำลังส่งผลกระทบ และยาแผนปัจจุบันไม่เพียงพอ เราต้องการโซลูชันที่ทำงานร่วมกับร่างกายเพื่อการรักษาที่แท้จริง

    นั่นคือเหตุผลที่เราเปิดตัว IONIC Care เพราะชาวอเมริกันสมควรได้รับโซลูชันที่แท้จริง เรากำลังนำการบำบัดด้วยความถี่ขั้นสูงและพลังงานการแพทย์มาสู่ประชาชนโดยตรง โดยใช้พลังของการบำบัดด้วยเทราเฮิรตซ์และการบำบัดด้วยควอนตัมเพื่อช่วยให้ร่างกายฟื้นตัว สร้างใหม่ และเจริญเติบโต

    เรากำลังรับผิดชอบค่าใช้จ่าย 50% เพื่อให้เข้าถึงได้สำหรับผู้คนมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

    เรายืนหยัดเคียงข้างผู้คนนับล้านที่กลับมาควบคุมและเลือกการรักษาที่แท้จริง ได้เวลาแล้วที่จะกำหนดนิยามการดูแลสุขภาพใหม่และให้การรักษากลับไปอยู่ในมือของประชาชน!

    ..เตียงmedbeds น่าจะเปิดตัวในไทยเร็วๆนี้เช่นกันและจะดีมากต่อคนรับวัคซีนไปแล้ว,นายกฯคนใหม่ต้องจริงใจประกาศฟื้นฟูสุขภาพการรักษาคนได้รับการบาดเจ็บจากอาวุธชีวภาพจากพิษวัคซีนโควิดได้แล้ว,เปลี่ยนรัฐบาลก็ต้องเปลี่ยนไปทางที่ดีขึ้นจริงๆ.เช่นกัน,จริงๆให้คณะรวมพลังแผ่นดินไทย ตั้งเดอะทีมหลักทีมรองทีมย่อยในนามภาคมหามวลประชาชนขึ้นวิจัยทดลองงานบริหารจัดการปกครองประเทศสัก10-20ปีในนามภาคประชาชนแทนภาคนักการเมืองดูก็ดีก็ได้,เพราะสาระพัดสีเสื้อไทยได้รวมใจเป็นหนึ่งเพื่อประชาชนเพื่อชาติแล้วมากมายหลากหลายคณะที่เจอต้นตอปัญหาจริงทุจริตเห็นด้วยตาจริงในหมู่องค์กรหน่วยงานรัฐและเอกชนที่ชั่วเลวสมคบคิดกันจึงได้ออกมาประท้วงลงถนนในแต่ละคณะจนมารวมเป็นหมู่คณะมหาภาคใหญ่มากมายในนามคณะรวมพลังแผ่นดินไทยเรา,สมควรให้อาสนธิขึ้นเป็นนายกฯก็ได้หากมิใช่คนของdeep stateอะไรก็ว่า,ลูกทักษิณ2คนก็เป็นนายกแล้วกระทั่งตัวทักษิณเอง ,อาสนธิและทีมคณะรักแผ่นดินไทยจะขึ้นบริหารชาติจะเป็นอะไร,จัดชุดทีมรุกรบฉุกเฉินแต่ละทัพหลักทัพย่อยสบายประสานกันลงหน้างานจริงแก่ปัญหาประชาชนจริงทั่วประเทศเพราะยุคใหม่ที่จะมาถึงหนักหนาสาหัสมากจึงจะผ่านพ้นไปได้เพราะความสามัคคีทุกๆฝ่ายที่มีใจรักชาติไทยรักแผ่นดินไทยเราเท่านั้นถึจะตีผ่าออกไปได้,ประชาชนเราพร้อม ทหารตำรวจผู้รักชาติเราพร้อมอยู่แล้ว ,ถีบรัฐบาลสมยอมออกไปแล้วที่ไม่พร้อมห่าเหวอะไรเลย,เรา..ต้องเร่งรีบจัดขบวนทัพใหม่ทันทีจริง.,และสุขภาพคนไทยต้องได้รับการฟื้นฟูรักษาอย่างเร่งด่วนให้ถูกทางควบคู่ขนาดเทคโนโลยีล้ำๆกับสมุนไพรไทยเราด้วยจะฟื้นฟูได้รวดเร็วในการรักษาแน่นอน. .. ..เปิดตัว IONIC Care 💥ROBERT F. KENNEDY JR: เราจะทำให้ประเทศอเมริกามีสุขภาพดีอีกครั้ง - และเริ่มต้นทันที! อเมริกากำลังเผชิญกับวิกฤตด้านสุขภาพ โรคเรื้อรังกำลังพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยมีความดันโลหิตสูง เบาหวาน การอักเสบ โรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง และภาวะทางระบบประสาทที่ส่งผลกระทบต่อผู้คนนับล้าน โรคหัวใจ อาการปวดข้อ และความเหนื่อยล้ากำลังส่งผลกระทบ และยาแผนปัจจุบันไม่เพียงพอ เราต้องการโซลูชันที่ทำงานร่วมกับร่างกายเพื่อการรักษาที่แท้จริง นั่นคือเหตุผลที่เราเปิดตัว IONIC Care เพราะชาวอเมริกันสมควรได้รับโซลูชันที่แท้จริง เรากำลังนำการบำบัดด้วยความถี่ขั้นสูงและพลังงานการแพทย์มาสู่ประชาชนโดยตรง โดยใช้พลังของการบำบัดด้วยเทราเฮิรตซ์และการบำบัดด้วยควอนตัมเพื่อช่วยให้ร่างกายฟื้นตัว สร้างใหม่ และเจริญเติบโต เรากำลังรับผิดชอบค่าใช้จ่าย 50% เพื่อให้เข้าถึงได้สำหรับผู้คนมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เรายืนหยัดเคียงข้างผู้คนนับล้านที่กลับมาควบคุมและเลือกการรักษาที่แท้จริง ได้เวลาแล้วที่จะกำหนดนิยามการดูแลสุขภาพใหม่และให้การรักษากลับไปอยู่ในมือของประชาชน!
    0 Comments 0 Shares 776 Views 0 0 Reviews
  • เรื่องศาสตร์ทองแดง ช่วยร่างกาย จิตวิญญาณ อากาศและพลังงานแวดล้อม สายเมฆเคมเทรล พลังงานฟรี รวมไปถึงการเกษตร กลุ่มเราเคยคุยกันมานานแล้ว วันนี้ผมตัดสินใจสร้างโน้ตนี้มาเพื่อให้ทุกท่านได้เป็นทางเลือกหนึ่งในการดูแลสุขภาพ(และจิตวิญญาณ) โดยที่พวกเขารู้เรื่องเหลือเชื่อหลายอย่างในยุคตื่นรู้นี้ ลองเปิดใจศึกษาแต่ถ้าไม่เชื่อก็ให้โฟกัสแต่เรื่องศาสตร์ทองแดงครับ

    ) ความรู้ลวดทองแดง Tensor ring
    แหล่งเรียนรู้ศาสตร์ทองแดง
    เพจอาจารนย์แอมป์
    https://www.facebook.com/profile.php?id=61556460088155
    เพจอาจารย์นุ
    https://www.facebook.com/profile.php?id=61571183996461

    รายการ I KNOW YOU KNOW โดย คุณพีท ทองเจือ
    https://youtu.be/W0HjzDUPUH4?si=hfc5jaYwJCwBTPXU

    แจกไฟล์หนังสือของปู่สลิม
    เพื่อการเรียนรู้และการตื่นรู้
    Slim Spurling (ต้นฉบับภาษาอังกฤษพร้อมฉบับแปลไทย) และ
    ไฟล์หนังสือที่พวกยอดพีระมิดไม่อยากให้เราอ่านมากที่สุด Book of Wisdom เล่มที่ 1
    (ส่วนเล่มที่ 2 กำลังอยู่ระหว่างการแปล)
    .
    ด้วยความเคารพในเจตนารมณ์ของปู่ และเพื่อส่งต่อภูมิปัญญาที่มีคุณค่าต่อโลกและจิตวิญญาณ เราขอแบ่งปันไฟล์แปลไทยฉบับนี้ให้ผู้สนใจศึกษา โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น

    ไฟล์นี้จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ความรู้เท่านั้น
    ห้ามนำไปจำหน่ายหรือใช้ในเชิงพาณิชย์เด็ดขาด
    ผู้ใดสนใจเรียนรู้ต่อเชิงลึก เรามีแหล่งเรียนรู้และกลุ่มแลกเปลี่ยนพลังงาน เปิดไว้ให้เสมอ

    หากท่านได้รับพลังดี ๆ จากหนังสือนี้ ขอเพียงส่งต่อด้วยหัวใจบริสุทธิ์
    ร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งของการคืนความรู้สู่โลกใบนี้
    .
    สามารถเข้าร่วมกลุ่มเพื่อรับไฟล์ได้ที่ลิงก์ด้านล่าง
    กรุณาใช้ชื่อและรูปโปรไฟล์จริงในการเข้าร่วมกลุ่มนะคะ

    คลิปนี้ที่ช่างนุพูดถึงหนังสือ Book of wisdom มีความเชื่อมโยงกับศาสตร์ Tensor ring
    ซึ่งหนังสือ Book of wisdom เป็นหนังสือที่พวกยอดพีระมิดไม่อยากให้เราอ่านมากที่สุด https://www.facebook.com/share/v/16spx4SGEj/

    .
    #SlimSpurling #แจกหนังสือฟรี #พลังงานศักดิ์สิทธิ์ #วงแหวนทองแดง #เส้นทางแห่งแสง
    .
    โอเพ้นแชท "แจกไฟล์หนังสือเท่านั้น" โปรดแตะลิงก์ด้านล่างเพื่อเข้าร่วมโอเพนแชทนี้
    https://line.me/ti/g2/1NHxxPqu48s2daAQoWqPtYTAb8ncFHKvi4wo2g?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default
    เรื่องศาสตร์ทองแดง ช่วยร่างกาย จิตวิญญาณ อากาศและพลังงานแวดล้อม สายเมฆเคมเทรล พลังงานฟรี รวมไปถึงการเกษตร กลุ่มเราเคยคุยกันมานานแล้ว วันนี้ผมตัดสินใจสร้างโน้ตนี้มาเพื่อให้ทุกท่านได้เป็นทางเลือกหนึ่งในการดูแลสุขภาพ(และจิตวิญญาณ) โดยที่พวกเขารู้เรื่องเหลือเชื่อหลายอย่างในยุคตื่นรู้นี้ ลองเปิดใจศึกษาแต่ถ้าไม่เชื่อก็ให้โฟกัสแต่เรื่องศาสตร์ทองแดงครับ ✍️) ความรู้ลวดทองแดง Tensor ring แหล่งเรียนรู้ศาสตร์ทองแดง เพจอาจารนย์แอมป์ https://www.facebook.com/profile.php?id=61556460088155 เพจอาจารย์นุ https://www.facebook.com/profile.php?id=61571183996461 รายการ I KNOW YOU KNOW โดย คุณพีท ทองเจือ https://youtu.be/W0HjzDUPUH4?si=hfc5jaYwJCwBTPXU 📖 แจกไฟล์หนังสือของปู่สลิม 📚 เพื่อการเรียนรู้และการตื่นรู้ 💚Slim Spurling (ต้นฉบับภาษาอังกฤษพร้อมฉบับแปลไทย) และ 💚 ไฟล์หนังสือที่พวกยอดพีระมิดไม่อยากให้เราอ่านมากที่สุด Book of Wisdom เล่มที่ 1 (ส่วนเล่มที่ 2 กำลังอยู่ระหว่างการแปล) . ด้วยความเคารพในเจตนารมณ์ของปู่ และเพื่อส่งต่อภูมิปัญญาที่มีคุณค่าต่อโลกและจิตวิญญาณ เราขอแบ่งปันไฟล์แปลไทยฉบับนี้ให้ผู้สนใจศึกษา โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น 🔸 ไฟล์นี้จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ความรู้เท่านั้น ห้ามนำไปจำหน่ายหรือใช้ในเชิงพาณิชย์เด็ดขาด‼️ ผู้ใดสนใจเรียนรู้ต่อเชิงลึก เรามีแหล่งเรียนรู้และกลุ่มแลกเปลี่ยนพลังงาน เปิดไว้ให้เสมอ 📎 หากท่านได้รับพลังดี ๆ จากหนังสือนี้ ขอเพียงส่งต่อด้วยหัวใจบริสุทธิ์ 💛 ร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งของการคืนความรู้สู่โลกใบนี้ . 🌀สามารถเข้าร่วมกลุ่มเพื่อรับไฟล์ได้ที่ลิงก์ด้านล่าง 🧑‍🦱กรุณาใช้ชื่อและรูปโปรไฟล์จริงในการเข้าร่วมกลุ่มนะคะ 📌คลิปนี้ที่ช่างนุพูดถึงหนังสือ Book of wisdom มีความเชื่อมโยงกับศาสตร์ Tensor ring ซึ่งหนังสือ Book of wisdom เป็นหนังสือที่พวกยอดพีระมิดไม่อยากให้เราอ่านมากที่สุด 👉https://www.facebook.com/share/v/16spx4SGEj/ . #SlimSpurling #แจกหนังสือฟรี #พลังงานศักดิ์สิทธิ์ #วงแหวนทองแดง #เส้นทางแห่งแสง . โอเพ้นแชท "🧙แจกไฟล์หนังสือเท่านั้น🌈🙏" โปรดแตะลิงก์ด้านล่างเพื่อเข้าร่วมโอเพนแชทนี้ https://line.me/ti/g2/1NHxxPqu48s2daAQoWqPtYTAb8ncFHKvi4wo2g?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default
    0 Comments 0 Shares 514 Views 0 Reviews
More Results