• CIA อยู่เบื้องหลังลอบสังหาร JFK อิสราเอล-อังกฤษ-ออสซี่ เกี่ยวโยง : คนเคาะข่าว 25-03-68
    : ทนง ขันทอง ผู้เชี่ยวชาญข่าวต่างประเทศ
    ดำเนินรายการโดย นงวดี ถนิมมาลย์

    #คนเคาะข่าว #JFK #ลอบสังหารJFK #CIA #หน่วยข่าวกรอง #อิสราเอล #อังกฤษ #ออสเตรเลีย #ข่าวต่างประเทศ #ทฤษฎีสมคบคิด #Geopolitics #ทนงขันทอง #นงวดีถนิมมาลย์ #ThaiTimes #เบื้องหลังการเมือง #วิเคราะห์ข่าว #เอกสารลับ #การเมืองโลก
    CIA อยู่เบื้องหลังลอบสังหาร JFK อิสราเอล-อังกฤษ-ออสซี่ เกี่ยวโยง : คนเคาะข่าว 25-03-68 : ทนง ขันทอง ผู้เชี่ยวชาญข่าวต่างประเทศ ดำเนินรายการโดย นงวดี ถนิมมาลย์ #คนเคาะข่าว #JFK #ลอบสังหารJFK #CIA #หน่วยข่าวกรอง #อิสราเอล #อังกฤษ #ออสเตรเลีย #ข่าวต่างประเทศ #ทฤษฎีสมคบคิด #Geopolitics #ทนงขันทอง #นงวดีถนิมมาลย์ #ThaiTimes #เบื้องหลังการเมือง #วิเคราะห์ข่าว #เอกสารลับ #การเมืองโลก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 64 มุมมอง 3 1 รีวิว
  • ภาพเหตุการณ์โดรนไม่ทราบชนิดของยูเครนยิงถล่มคลังกระสุนใกล้ฐานทัพอากาศเอนเกลส์(Engels air base) ในภูมิภาคซาราตอฟ (Saratov) ของสหพันธรัฐรัสเซีย (ห่างจากชายแดนยูเครน 600 กม.) แหล่งข่าวจากหน่วยข่าวกรองความมั่นคงของยูเครน (SBU) ยืนยันกับสื่อของยูเครนแล้ว

    สื่อยูเครนยังรายงานอีกว่า สนามบิน Engels มีบทบาทสำคัญในการโจมตียูเครน เนื่องจากมีเครื่องบินทิ้งระเบิด Tu-95MS และ Tu-160 ประจำการอยู่ที่นั่น นอกจากนี้ยังมีคลังจัดเก็บ/บำรุงรักษาขีปนาวุธร่อนประเภท Kh-101 และ Kh-55 อีกด้วย

    พิกัด 51.4905676,46.1261231
    ภาพเหตุการณ์โดรนไม่ทราบชนิดของยูเครนยิงถล่มคลังกระสุนใกล้ฐานทัพอากาศเอนเกลส์(Engels air base) ในภูมิภาคซาราตอฟ (Saratov) ของสหพันธรัฐรัสเซีย (ห่างจากชายแดนยูเครน 600 กม.) แหล่งข่าวจากหน่วยข่าวกรองความมั่นคงของยูเครน (SBU) ยืนยันกับสื่อของยูเครนแล้ว สื่อยูเครนยังรายงานอีกว่า สนามบิน Engels มีบทบาทสำคัญในการโจมตียูเครน เนื่องจากมีเครื่องบินทิ้งระเบิด Tu-95MS และ Tu-160 ประจำการอยู่ที่นั่น นอกจากนี้ยังมีคลังจัดเก็บ/บำรุงรักษาขีปนาวุธร่อนประเภท Kh-101 และ Kh-55 อีกด้วย พิกัด 51.4905676,46.1261231
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 198 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลังการเผยแพร่เอกสารของ JFK มีหลายเอกสารที่ CIA ประทับข้อความขอให้ลบข้อความเกี่ยวกับ "อิสราเอล" ออกโดยระบุว่า:

    “ซีไอเอไม่คัดค้านการปลดความลับและ/หรือเปิดเผยข้อมูลในเอกสารดังกล่าว ยกเว้นข้อความในวงเล็บ” :
    [หน่วยข่าวกรองอิสราเอล] [the Israeli Intelligence Service]

    บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่า อิสราเอลมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน และอะไรที่อิสราเอลเข้ามามีส่วนร่วม มันยังคงเป็นความลับต่อไป
    หลังการเผยแพร่เอกสารของ JFK มีหลายเอกสารที่ CIA ประทับข้อความขอให้ลบข้อความเกี่ยวกับ "อิสราเอล" ออกโดยระบุว่า: “ซีไอเอไม่คัดค้านการปลดความลับและ/หรือเปิดเผยข้อมูลในเอกสารดังกล่าว ยกเว้นข้อความในวงเล็บ” : [หน่วยข่าวกรองอิสราเอล] [the Israeli Intelligence Service] บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่า อิสราเอลมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน และอะไรที่อิสราเอลเข้ามามีส่วนร่วม มันยังคงเป็นความลับต่อไป
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 207 มุมมอง 0 รีวิว
  • "เชื่อได้มั้ย"
    อังกฤษจะยังคงแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวกรองกับยูเครนต่อไป แม้ว่าทางฝั่งสหรัฐจะยุติส่งให้ยูเครนไปแล้วก็ตาม

    ขณะที่หน่วยข่าวกรองของอังกฤษจะยังคงแบ่งปันข้อมูลที่ได้รับจากสหรัฐต่อไป "แต่จะไม่สามารถส่งต่อให้ยูเครนได้"
    "เชื่อได้มั้ย" อังกฤษจะยังคงแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวกรองกับยูเครนต่อไป แม้ว่าทางฝั่งสหรัฐจะยุติส่งให้ยูเครนไปแล้วก็ตาม ขณะที่หน่วยข่าวกรองของอังกฤษจะยังคงแบ่งปันข้อมูลที่ได้รับจากสหรัฐต่อไป "แต่จะไม่สามารถส่งต่อให้ยูเครนได้"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 181 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัสเซียกำลังวางแผนโจมตียูเครนด้วยโดรนครั้งใหญ่มากถึง 500 ลำในครั้งเดียว ในช่วงกลางปีนี้

    Vadim Skibitsky รองหัวหน้าหน่วยข่าวกรองหลัก กล่าวว่า "รัสเซียกำลังวางแผนติดตั้งแท่นปล่อยโดรนเพิ่มเติม และถ้ามันสำเร็จเมื่อไหร่ พวกเขาจะสามารถปล่อยโดรนได้ประมาณ 500 ลำในเวลาเดียวกัน” “นี่เป็นจำนวนตัวเลขที่เยอะมาก” สกิบิทสกี้กล่าว

    ตามข้อมูลของหน่วยข่าวกรองหลักของยูเครน ปัจจุบันรัสเซียสามารถปล่อยโดรนเพื่อโจมตีได้ประมาณ 150-200 ลำ ต่อครั้ง
    รัสเซียกำลังวางแผนโจมตียูเครนด้วยโดรนครั้งใหญ่มากถึง 500 ลำในครั้งเดียว ในช่วงกลางปีนี้ Vadim Skibitsky รองหัวหน้าหน่วยข่าวกรองหลัก กล่าวว่า "รัสเซียกำลังวางแผนติดตั้งแท่นปล่อยโดรนเพิ่มเติม และถ้ามันสำเร็จเมื่อไหร่ พวกเขาจะสามารถปล่อยโดรนได้ประมาณ 500 ลำในเวลาเดียวกัน” “นี่เป็นจำนวนตัวเลขที่เยอะมาก” สกิบิทสกี้กล่าว ตามข้อมูลของหน่วยข่าวกรองหลักของยูเครน ปัจจุบันรัสเซียสามารถปล่อยโดรนเพื่อโจมตีได้ประมาณ 150-200 ลำ ต่อครั้ง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 271 มุมมอง 7 0 รีวิว
  • ตอนที่.1 #USAID สัตว์ร้ายที่ซ่อนตัวอยู่ภายใต้หน้ากากของ ‘มนุษยธรรม’
    Written by Drago Bosnic

    ยุทธศาสตร์ครอบงำโลกของสหรัฐอเมริกาเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ที่ซับซ้อนที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ เมื่อพยายามนึกภาพอำนาจของสหรัฐอเมริกาเรามักจะนึกถึงเรือบรรทุกเครื่องบิน เครื่องบินขับไล่ รถถัง นาวิกโยธิน ฯลฯ

    ในความเป็นจริงระบบราชการขนาดใหญ่ของอเมริกาแทบจะทำลายล้างประเทศเป้าหมายเสมอก่อนที่จะมีการตัดสินใจอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการดำเนินการทางทหารโดยตรง
    เพื่อจุดประสงค์สิ่งนั้นหน่วยข่าวกรองจำนวนมากของไอ้กุ้ยโลกจึงมีความจำเป็น
    https://t.me/rtnews/81104

    อย่างไรก็ตามเพื่อรักษาการปฏิเสธที่สมเหตุสมผล หน่วยงานข่าวกรองเหล่านี้มักจะใช้ตัวแทนต่างๆ โดยเฉพาะองค์กรพัฒนาเอกชน หรือแม้แต่สถาบันของกระทรวงการต่างประเทศเมื่อมีความจำเป็นเกิดขึ้น หนึ่งในนั้นก็คือหน่วยงานเพื่อการพัฒนาการระหว่างประเทศของสหรัฐฯ หรือเรียกสั้นๆ ว่า USAID ที่มีชื่อเสียงฉาวโฉ่

    งบประมาณของหน่วยงานที่น่าอับอายนี้อยู่ที่ประมาณ 5 หมื่นล้านดอลลาร์อย่างเป็นทางการ แม้ว่าตัวเลขจริงอาจสูงกว่านี้มากโดยอาจสูงถึง (หรืออาจเกิน) 1 แสนล้านดอลลาร์
    https://www.usaspending.gov/agency/agency-for-international-development?fy=2024
    สิ่งนี้ทําให้ USAID สามารถดําเนินการได้กว่า 100 ประเทศทั่วโลก โดยอ้างว่าเป็นการช่วยเหลือพวกเขา
    https://t.me/rtnews/81071

    คิดเป็นมากกว่า 50% ของโครงการ “ความช่วยเหลือต่างประเทศของอเมริกาทั้งหมดและมีการดำเนินการโดยเฉพาะในแอฟริกา เอเชีย ละตินอเมริกา ตะวันออกกลาง และยุโรปตะวันออก (ภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบจากลัทธิอาณานิคม (แบบใหม่) มากที่สุด)

    เพื่อให้เข้าใจถึงขอบเขตการทำงานของ USAID ได้ดีขึ้น บางทีเราควรเปรียบเทียบกับ NED (National Endowment for Democracy) ซึ่งเป็น “สถาบันประชาธิปไตยอิสระ” อีกแห่งหนึ่งที่ทำหน้าที่จัดหาเงินทุนและสนับสนุนสิ่งที่เรียกว่า “การปฏิวัติสี” NED มีกิจกรรม “ประชาธิปไตย” เพิ่มขึ้นอย่างมากหลังจากที่ Victoria Nuland ผู้มีชื่อเสียงฉาวโฉ่เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการบริหารนอกเหนือจากการให้ทุนแก่สื่ออิสระแล้ว
    https://t.me/Slavyangrad/114746
    USAID ยังมีความกระตือรือร้นเป็นพิเศษในยูเครน
    https://news.antiwar.com/2025/01/28/ukrainian-media-outlets-start-donations-after-us-funding-is-paused/
    โดยเร่งกระบวนการแปรรูปของประเทศที่โชคร้ายที่ถูกนาโต้ยึดครอง
    https://t.me/IntelRepublic/43800
    รายงานเกี่ยวกับกิจกรรมที่แท้จริงของหน่วยงานที่น่าอับอายนั้นค่อนข้างหายากจนกระทั่งเมื่อไม่นานนี้ เนื่องจากเครื่องมือโฆษณาชวนเชื่อกระแสหลักและรัฐบาลสหรัฐฯ พยายามนำเสนอกิจกรรมพวกเขาโดยอ้างว่า "ช่วยเหลือประเทศอื่น" หรือปกปิดพวกเขาจากสายตาสาธารณะ

    อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้เปลี่ยนไปหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐอเมริกาเข้ามามีอำนาจ ผลก็คือในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงานของเขาและ DOGE (แผนกประสิทธิภาพของรัฐบาล) ซึ่งดำเนินการโดย Elon Musk ได้เปิดเผยรายละเอียดที่น่ากังวลใจอย่างมากเกี่ยวกับกิจกรรมจริงของ USAID
    https://www.americanthinker.com/blog/2025/02/trump_s_attack_on_the_deep_state_is_spectacular_and_almost_certainly_legal.html
    ซึ่งมักผิดกฎหมายของสหรัฐอเมริกาและกฎหมายของประเทศเจ้าภาพจำนวนมากอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน

    เมื่อปลายเดือนมกราคม หน่วยงานดังกล่าวถูกบังคับให้หยุดกิจกรรมส่วนใหญ่ในยูเครนที่ถูกนาโต้ยึดครอง
    https://www.reuters.com/world/europe/ukraine-aid-groups-cut-services-scramble-cash-after-us-funding-shock-2025-01-30/
    รวมถึงการให้ทุนสนับสนุนสื่อเกือบทั้งหมดที่ถูกควบคุมโดยกลุ่มนีโอนาซี
    https://t.me/Slavyangrad/118280?single

    ไม่นานหลังจากนั้น สื่ออื่นๆ ทั่วทั้งยุโรปตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้ก็เข้ามามีบทบาทในการส่งเสริมสิ่งที่เรียกว่า "ค่านิยมแบบตะวันตก" (ซึ่งเป็นการผสมผสานทางอุดมการณ์ระหว่างลัทธิเสรีนิยมสุดโต่งและความเสื่อมทรามทางศีลธรรม) ซึ่งคนส่วนใหญ่บนโลกพบว่าน่ารังเกียจอย่างยิ่ง)

    เว็บไซต์ USAID จะปิดตัวลงในเร็วๆ นี้ ขณะที่รัฐบาลทรัมป์ชุดใหม่ประกาศว่าหน่วยงานนี้จะถูกปิดตัวลงในเร็วๆ นี้
    https://www.zerohedge.com/political/usaid-website-goes-dark-trump-reportedly-plans-shift-agency-under-state-department
    ณ เวลาที่เขียนนี้ เว็บไซต์ไม่สามารถใช้งานได้จริง และแสดงข้อความเพียงว่าบุคลากรของเว็บไซต์จะถูกพักงานทั่วโลกในวันที่ 7 กุมภาพันธ์
    https://www.usaid.gov/
    แม้ว่า "พนักงานที่สำคัญ" จะได้รับแจ้งถึงชะตากรรมของตนในวันก่อนหน้านั้น คือวันที่ 6 กุมภาพันธ์ก็ตาม

    อ่านต่อตอนที่.2
    https://www.facebook.com/share/p/1DN6TtSX6u/
    ตอนที่.1 #USAID สัตว์ร้ายที่ซ่อนตัวอยู่ภายใต้หน้ากากของ ‘มนุษยธรรม’ Written by Drago Bosnic ยุทธศาสตร์ครอบงำโลกของสหรัฐอเมริกาเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ที่ซับซ้อนที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ เมื่อพยายามนึกภาพอำนาจของสหรัฐอเมริกาเรามักจะนึกถึงเรือบรรทุกเครื่องบิน เครื่องบินขับไล่ รถถัง นาวิกโยธิน ฯลฯ ในความเป็นจริงระบบราชการขนาดใหญ่ของอเมริกาแทบจะทำลายล้างประเทศเป้าหมายเสมอก่อนที่จะมีการตัดสินใจอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการดำเนินการทางทหารโดยตรง เพื่อจุดประสงค์สิ่งนั้นหน่วยข่าวกรองจำนวนมากของไอ้กุ้ยโลกจึงมีความจำเป็น https://t.me/rtnews/81104 อย่างไรก็ตามเพื่อรักษาการปฏิเสธที่สมเหตุสมผล หน่วยงานข่าวกรองเหล่านี้มักจะใช้ตัวแทนต่างๆ โดยเฉพาะองค์กรพัฒนาเอกชน หรือแม้แต่สถาบันของกระทรวงการต่างประเทศเมื่อมีความจำเป็นเกิดขึ้น หนึ่งในนั้นก็คือหน่วยงานเพื่อการพัฒนาการระหว่างประเทศของสหรัฐฯ หรือเรียกสั้นๆ ว่า USAID ที่มีชื่อเสียงฉาวโฉ่ งบประมาณของหน่วยงานที่น่าอับอายนี้อยู่ที่ประมาณ 5 หมื่นล้านดอลลาร์อย่างเป็นทางการ แม้ว่าตัวเลขจริงอาจสูงกว่านี้มากโดยอาจสูงถึง (หรืออาจเกิน) 1 แสนล้านดอลลาร์ https://www.usaspending.gov/agency/agency-for-international-development?fy=2024 สิ่งนี้ทําให้ USAID สามารถดําเนินการได้กว่า 100 ประเทศทั่วโลก โดยอ้างว่าเป็นการช่วยเหลือพวกเขา https://t.me/rtnews/81071 คิดเป็นมากกว่า 50% ของโครงการ “ความช่วยเหลือต่างประเทศของอเมริกาทั้งหมดและมีการดำเนินการโดยเฉพาะในแอฟริกา เอเชีย ละตินอเมริกา ตะวันออกกลาง และยุโรปตะวันออก (ภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบจากลัทธิอาณานิคม (แบบใหม่) มากที่สุด) เพื่อให้เข้าใจถึงขอบเขตการทำงานของ USAID ได้ดีขึ้น บางทีเราควรเปรียบเทียบกับ NED (National Endowment for Democracy) ซึ่งเป็น “สถาบันประชาธิปไตยอิสระ” อีกแห่งหนึ่งที่ทำหน้าที่จัดหาเงินทุนและสนับสนุนสิ่งที่เรียกว่า “การปฏิวัติสี” NED มีกิจกรรม “ประชาธิปไตย” เพิ่มขึ้นอย่างมากหลังจากที่ Victoria Nuland ผู้มีชื่อเสียงฉาวโฉ่เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการบริหารนอกเหนือจากการให้ทุนแก่สื่ออิสระแล้ว https://t.me/Slavyangrad/114746 USAID ยังมีความกระตือรือร้นเป็นพิเศษในยูเครน https://news.antiwar.com/2025/01/28/ukrainian-media-outlets-start-donations-after-us-funding-is-paused/ โดยเร่งกระบวนการแปรรูปของประเทศที่โชคร้ายที่ถูกนาโต้ยึดครอง https://t.me/IntelRepublic/43800 รายงานเกี่ยวกับกิจกรรมที่แท้จริงของหน่วยงานที่น่าอับอายนั้นค่อนข้างหายากจนกระทั่งเมื่อไม่นานนี้ เนื่องจากเครื่องมือโฆษณาชวนเชื่อกระแสหลักและรัฐบาลสหรัฐฯ พยายามนำเสนอกิจกรรมพวกเขาโดยอ้างว่า "ช่วยเหลือประเทศอื่น" หรือปกปิดพวกเขาจากสายตาสาธารณะ อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้เปลี่ยนไปหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐอเมริกาเข้ามามีอำนาจ ผลก็คือในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงานของเขาและ DOGE (แผนกประสิทธิภาพของรัฐบาล) ซึ่งดำเนินการโดย Elon Musk ได้เปิดเผยรายละเอียดที่น่ากังวลใจอย่างมากเกี่ยวกับกิจกรรมจริงของ USAID https://www.americanthinker.com/blog/2025/02/trump_s_attack_on_the_deep_state_is_spectacular_and_almost_certainly_legal.html ซึ่งมักผิดกฎหมายของสหรัฐอเมริกาและกฎหมายของประเทศเจ้าภาพจำนวนมากอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน เมื่อปลายเดือนมกราคม หน่วยงานดังกล่าวถูกบังคับให้หยุดกิจกรรมส่วนใหญ่ในยูเครนที่ถูกนาโต้ยึดครอง https://www.reuters.com/world/europe/ukraine-aid-groups-cut-services-scramble-cash-after-us-funding-shock-2025-01-30/ รวมถึงการให้ทุนสนับสนุนสื่อเกือบทั้งหมดที่ถูกควบคุมโดยกลุ่มนีโอนาซี https://t.me/Slavyangrad/118280?single ไม่นานหลังจากนั้น สื่ออื่นๆ ทั่วทั้งยุโรปตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้ก็เข้ามามีบทบาทในการส่งเสริมสิ่งที่เรียกว่า "ค่านิยมแบบตะวันตก" (ซึ่งเป็นการผสมผสานทางอุดมการณ์ระหว่างลัทธิเสรีนิยมสุดโต่งและความเสื่อมทรามทางศีลธรรม) ซึ่งคนส่วนใหญ่บนโลกพบว่าน่ารังเกียจอย่างยิ่ง) เว็บไซต์ USAID จะปิดตัวลงในเร็วๆ นี้ ขณะที่รัฐบาลทรัมป์ชุดใหม่ประกาศว่าหน่วยงานนี้จะถูกปิดตัวลงในเร็วๆ นี้ https://www.zerohedge.com/political/usaid-website-goes-dark-trump-reportedly-plans-shift-agency-under-state-department ณ เวลาที่เขียนนี้ เว็บไซต์ไม่สามารถใช้งานได้จริง และแสดงข้อความเพียงว่าบุคลากรของเว็บไซต์จะถูกพักงานทั่วโลกในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ https://www.usaid.gov/ แม้ว่า "พนักงานที่สำคัญ" จะได้รับแจ้งถึงชะตากรรมของตนในวันก่อนหน้านั้น คือวันที่ 6 กุมภาพันธ์ก็ตาม อ่านต่อตอนที่.2 https://www.facebook.com/share/p/1DN6TtSX6u/
    T.ME
    RT News
    USAID operates as plausible deniability agency to the 'rogue activities of CIA, State Dept, Pentagon - Benz The agency pushes legacy foreign policy that 'hated Trump with a passion', spending billions annually controlling media narrative that 'populism is attack on democracy'. #US #USAID
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 618 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันที่ 27 กุมภาพันธ์ ของทุกปี ประธานาธิบดีปูตินประกาศให้เป็น "วันปฏิบัติการพิเศษ" (День сил специальных операций / Special Operations Forces Day) ของหน่วยปฏิบัติการพิเศษรัสเซีย (Си́лы специа́льных опера́ций - ССО) นับตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา

    - ภาพวิดีโอเพื่อร่วมยินดีในวันปฏิบัติการพิเศษ เกี่ยวกับการทำงานของกองกำลังปฏิบัติการพิเศษของรัสเซีย ที่แนวหลังของแนวรบ: การซุ่มโจมตี การโจมตี การกำจัด และการจับกุมใหม่

    หน่วยปฏิบัติการพิเศษรัสเซีย ถูกจัดตั้งขึ้นครั้งแรกในปี 2009 โดยการโอนย้ายมาจากหน่วยข่าวกรองทางทหารของรัสเซีย (GRU)

    เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2015 ประธานาธิบดีปูตินได้ออกคำสั่งให้วันที่ 27 กุมภาพันธ์ของทุกปี เป็นวันปฏิบัติการพิเศษ เพื่อเป็นเกียรติให้กับภารกิจที่สร้างชื่อเสียงให้กับหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (SOF) ในไครเมียเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2014 ซึ่งในภารกิจครั้งนั้นนำปฏิบัติการโดยเจ้าหน้าที่ SOF ร่วมกับหน่วยอื่นของกองทัพรัสเซียปลอมตัวบุกเข้าแคว้นไครเมียของยูเครน แล้วยึดอาคารรัฐสภาไครเมียได้สำเร็จ รวมทั้งปิดกั้นสถานที่สำคัญทางยุทธศาสตร์ เช่น สนามบินซิมเฟอโรปอล
    วันที่ 27 กุมภาพันธ์ ของทุกปี ประธานาธิบดีปูตินประกาศให้เป็น "วันปฏิบัติการพิเศษ" (День сил специальных операций / Special Operations Forces Day) ของหน่วยปฏิบัติการพิเศษรัสเซีย (Си́лы специа́льных опера́ций - ССО) นับตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา - ภาพวิดีโอเพื่อร่วมยินดีในวันปฏิบัติการพิเศษ เกี่ยวกับการทำงานของกองกำลังปฏิบัติการพิเศษของรัสเซีย ที่แนวหลังของแนวรบ: การซุ่มโจมตี การโจมตี การกำจัด และการจับกุมใหม่ หน่วยปฏิบัติการพิเศษรัสเซีย ถูกจัดตั้งขึ้นครั้งแรกในปี 2009 โดยการโอนย้ายมาจากหน่วยข่าวกรองทางทหารของรัสเซีย (GRU) เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2015 ประธานาธิบดีปูตินได้ออกคำสั่งให้วันที่ 27 กุมภาพันธ์ของทุกปี เป็นวันปฏิบัติการพิเศษ เพื่อเป็นเกียรติให้กับภารกิจที่สร้างชื่อเสียงให้กับหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (SOF) ในไครเมียเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2014 ซึ่งในภารกิจครั้งนั้นนำปฏิบัติการโดยเจ้าหน้าที่ SOF ร่วมกับหน่วยอื่นของกองทัพรัสเซียปลอมตัวบุกเข้าแคว้นไครเมียของยูเครน แล้วยึดอาคารรัฐสภาไครเมียได้สำเร็จ รวมทั้งปิดกั้นสถานที่สำคัญทางยุทธศาสตร์ เช่น สนามบินซิมเฟอโรปอล
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 332 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขีปนาวุธ Iskander ของกองทัพรัสเซีย ทำลายฐานโดรนลับยูเครนในภูมิภาคซูมี

    ตามข้อมูลหน่วยข่าวกรอง สามารถทำลายยานพาหนะหลายคัน โดรนโจมตีพลีชีพ 14 ลำ และเจ้าหน้าที่ควบคุมโดนมากกว่า 20 ราย

    กระทรวงกลาโหมรัสเซียรายงาน
    ขีปนาวุธ Iskander ของกองทัพรัสเซีย ทำลายฐานโดรนลับยูเครนในภูมิภาคซูมี ตามข้อมูลหน่วยข่าวกรอง สามารถทำลายยานพาหนะหลายคัน โดรนโจมตีพลีชีพ 14 ลำ และเจ้าหน้าที่ควบคุมโดนมากกว่า 20 ราย กระทรวงกลาโหมรัสเซียรายงาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 384 มุมมอง 34 0 รีวิว
  • สรุปข่าวรัสเซีย-ยูเครน:

    - เซเลนสกีกล่าวกับ The Guardian ว่า ยินดีแลกเปลี่ยนดินแดนส่วนหนึ่งในภูมิภาคเคิร์สก์ (Kursk) ที่ยูเครนยึดครองอยู่ กับภูมิภาคที่รัสเซียยึดได้ แต่เซเลนสกียังไม่ได้ระบุว่าจะเป็นภูมิภาคใด คือ โดเนตสก์(Donetsk) ลูฮันสก์(Luhansk) ซาโปริซเซีย(Zaporozhye) และเคอร์ซอน (Kherson)

    - ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากเซเลนสกีให้สัมภาษณ์ The Guardian กองทัพรัสเซียโจมตียูเครนอย่างหนักด้วยขีปนาวุธหลายสิบลูก รวมทั้งโดรนอีกหลายสิบลำ สร้างความเสียหายอย่างมาก บ่งชี้ว่ารัสเซียไม่สนใจข้อเสนอการแลกเปลี่ยนดินแดนของเซเลนสกีแต่อย่างใด

    - "ดมิทรี เปสคอฟ" (Dmitry Peskov) โฆษกทำเนียบเครมลิน ออกมาตอบโต้เซเลนสกีทันทีว่า ให้เลิกพูดถึงการแลกเปลี่ยนดังกล่าว เพราะรัสเซียจะไม่มีทางคุยเรื่องนี้ และจะไม่พูดถึงประเด็นการแลกเปลี่ยนดินแดนอย่างเด็ดขาด ซึ่งมันจะไม่มีทางเกิดขึ้นได้

    - ประธานาธิบดีทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา โพสต์ข้อความระบุว่าเขาได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีปูตินนานกว่า 90 นาที และทั้งสองฝ่ายเห็นตรงกันว่าควรยุติการสูญเสียชีวิตผู้คนที่กำลังเกิดขึ้นในสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทรัมป์ยังกล่าวอีกว่าการเจรจายุติสงครามอาจเกิดขึ้นในประเทศซาอุดีอาระเบีย นอกจากนี้ ผู้นำทั้งสองยังมีการตกลงกันว่าจะมีการเยือนกันระหว่างสองประเทศ แต่ยังไม่ระบุช่วงเวลา

    - หลังจากนั้น ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ต่อสายโทรศัพท์หาเซเลนสกี เพื่อบอกรายละเอียดที่จำเป็นให้เขาทราบ และเน้นไปที่การประชุมในมิวนิกที่ประเทศเยอรมันที่จะจัดขึ้นในวันศุกร์นี้ ซึ่งรองประธานาธิบดี เจ.ดี. แวนซ์ และรัฐมนตรีต่างประเทศมาร์โก รูบิโอ จะเป็นผู้นำคณะผู้แทน เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับรายละเอียดของสงครามยูเครน-รัสเซีย

    - ก่อนหน้านี้ เซเลนสกีต้องการให้ทรัมป์ต่อสายคุยกับเขาก่อน แล้วจึงคุยกับประธานาธิบดีปูติน แต่ทรัมป์กลับทำในสิ่งตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง

    - อังกฤษประกาศมอบเงินช่วยเหลือทางทหาร 150 ล้านปอนด์แก่ยูเครน ซึ่งประกอบด้วยโดรนหลายพันลำ รถถังรบหลายสิบคัน ยานเกราะ และระบบป้องกันภัยทางอากาศ

    - รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ พีต เฮกเซธ กล่าวในการประชุมกลาโหมที่สำนักงานใหญ่นาโต้ กรุงบรัสเซลส์ เมืองหลวงของประเทศเบลเยียม : "สหรัฐไม่เชื่อว่าการเป็นสมาชิกนาโตของยูเครนจะเป็นไปได้จากการเจรจาที่กำลังจะมีขึ้น"



    ข่าวอื่นๆ:
    - โฆษกฮามาสออกมาประกาศจะไม่ปล่อยตัวประกันในวันเสาร์นี้ หลังประธานาธิบดีทรัมป์ระบุว่าในกาซา "นรกจะแตก" หากฮามาสละเมิดข้อตกลง

    - เนทันยาฮู เตรียมประกาศยุติข้อตกลงหยุดยิง และสั่งกองกำลังอิสราเอลปิดล้อมกาซา โดยเฉพาะทางเหนือ เพื่อเตรียมตัวบุก หากพ้นกำหนดเส้นตายเที่ยงวันเสาร์ ที่ฮามาสต้องส่งมอบตัวประกันตามกำหนด

    - วุฒิสภาสหรัฐฯ ลงมติรับรอง “ทัลซี แกบบาร์ด” (Tulsi Gabbard) เป็นผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติ (Director of National Intelligence) เมื่อปี 2020 ฮิลลารี คลินตัน ได้กล่าวหา Tulsi Gabbard ว่าเป็นผู้ปกป้องเผด็จการและเป็นหุ่นเชิดของรัสเซีย หลังจากนั้น 4 ปีต่อมา วุฒิสภาสหรัฐได้แต่งตั้งคนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นหุ่นเชิดของปูตินให้รับผิดชอบหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ

    - The Wall Street Journal รายงานว่า หน่วยข่าวกรองของสหรัฐมีข้อมูลว่าอิสราเอลกำลังวางแผนโจมตีสถานที่นิวเคลียร์ของอิหร่านครั้งใหญ่ในปีนี้ (อิหร่านและรัสเซียเพิ่งลงนามข้อตกลงความร่วมมือที่ครอบคลุมรอบด้าน รวมทั้งความมั่นคงและการทหาร เปรียบได้กับมาตรา 5 ของนาโต้)

    - กองทัพอียิปต์สั่งการให้ในภูมิภาคไซนาย(ติดกับอิสราเอล)ยกระดับความพร้อมรบขั้นสูงสุด

    - จีนจัดการซ้อมรบทางทะเลและทางอากาศรอบเกาะไต้หวันครั้งใหญ่ หลังจากสหรัฐส่งเรือรบ 2 ลำ ผ่านช่องแคบไต้หวันเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ
    สรุปข่าวรัสเซีย-ยูเครน: - เซเลนสกีกล่าวกับ The Guardian ว่า ยินดีแลกเปลี่ยนดินแดนส่วนหนึ่งในภูมิภาคเคิร์สก์ (Kursk) ที่ยูเครนยึดครองอยู่ กับภูมิภาคที่รัสเซียยึดได้ แต่เซเลนสกียังไม่ได้ระบุว่าจะเป็นภูมิภาคใด คือ โดเนตสก์(Donetsk) ลูฮันสก์(Luhansk) ซาโปริซเซีย(Zaporozhye) และเคอร์ซอน (Kherson) - ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากเซเลนสกีให้สัมภาษณ์ The Guardian กองทัพรัสเซียโจมตียูเครนอย่างหนักด้วยขีปนาวุธหลายสิบลูก รวมทั้งโดรนอีกหลายสิบลำ สร้างความเสียหายอย่างมาก บ่งชี้ว่ารัสเซียไม่สนใจข้อเสนอการแลกเปลี่ยนดินแดนของเซเลนสกีแต่อย่างใด - "ดมิทรี เปสคอฟ" (Dmitry Peskov) โฆษกทำเนียบเครมลิน ออกมาตอบโต้เซเลนสกีทันทีว่า ให้เลิกพูดถึงการแลกเปลี่ยนดังกล่าว เพราะรัสเซียจะไม่มีทางคุยเรื่องนี้ และจะไม่พูดถึงประเด็นการแลกเปลี่ยนดินแดนอย่างเด็ดขาด ซึ่งมันจะไม่มีทางเกิดขึ้นได้ - ประธานาธิบดีทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา โพสต์ข้อความระบุว่าเขาได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีปูตินนานกว่า 90 นาที และทั้งสองฝ่ายเห็นตรงกันว่าควรยุติการสูญเสียชีวิตผู้คนที่กำลังเกิดขึ้นในสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทรัมป์ยังกล่าวอีกว่าการเจรจายุติสงครามอาจเกิดขึ้นในประเทศซาอุดีอาระเบีย นอกจากนี้ ผู้นำทั้งสองยังมีการตกลงกันว่าจะมีการเยือนกันระหว่างสองประเทศ แต่ยังไม่ระบุช่วงเวลา - หลังจากนั้น ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ต่อสายโทรศัพท์หาเซเลนสกี เพื่อบอกรายละเอียดที่จำเป็นให้เขาทราบ และเน้นไปที่การประชุมในมิวนิกที่ประเทศเยอรมันที่จะจัดขึ้นในวันศุกร์นี้ ซึ่งรองประธานาธิบดี เจ.ดี. แวนซ์ และรัฐมนตรีต่างประเทศมาร์โก รูบิโอ จะเป็นผู้นำคณะผู้แทน เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับรายละเอียดของสงครามยูเครน-รัสเซีย - ก่อนหน้านี้ เซเลนสกีต้องการให้ทรัมป์ต่อสายคุยกับเขาก่อน แล้วจึงคุยกับประธานาธิบดีปูติน แต่ทรัมป์กลับทำในสิ่งตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง - อังกฤษประกาศมอบเงินช่วยเหลือทางทหาร 150 ล้านปอนด์แก่ยูเครน ซึ่งประกอบด้วยโดรนหลายพันลำ รถถังรบหลายสิบคัน ยานเกราะ และระบบป้องกันภัยทางอากาศ - รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ พีต เฮกเซธ กล่าวในการประชุมกลาโหมที่สำนักงานใหญ่นาโต้ กรุงบรัสเซลส์ เมืองหลวงของประเทศเบลเยียม : "สหรัฐไม่เชื่อว่าการเป็นสมาชิกนาโตของยูเครนจะเป็นไปได้จากการเจรจาที่กำลังจะมีขึ้น" ข่าวอื่นๆ: - โฆษกฮามาสออกมาประกาศจะไม่ปล่อยตัวประกันในวันเสาร์นี้ หลังประธานาธิบดีทรัมป์ระบุว่าในกาซา "นรกจะแตก" หากฮามาสละเมิดข้อตกลง - เนทันยาฮู เตรียมประกาศยุติข้อตกลงหยุดยิง และสั่งกองกำลังอิสราเอลปิดล้อมกาซา โดยเฉพาะทางเหนือ เพื่อเตรียมตัวบุก หากพ้นกำหนดเส้นตายเที่ยงวันเสาร์ ที่ฮามาสต้องส่งมอบตัวประกันตามกำหนด - วุฒิสภาสหรัฐฯ ลงมติรับรอง “ทัลซี แกบบาร์ด” (Tulsi Gabbard) เป็นผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติ (Director of National Intelligence) เมื่อปี 2020 ฮิลลารี คลินตัน ได้กล่าวหา Tulsi Gabbard ว่าเป็นผู้ปกป้องเผด็จการและเป็นหุ่นเชิดของรัสเซีย หลังจากนั้น 4 ปีต่อมา วุฒิสภาสหรัฐได้แต่งตั้งคนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นหุ่นเชิดของปูตินให้รับผิดชอบหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ - The Wall Street Journal รายงานว่า หน่วยข่าวกรองของสหรัฐมีข้อมูลว่าอิสราเอลกำลังวางแผนโจมตีสถานที่นิวเคลียร์ของอิหร่านครั้งใหญ่ในปีนี้ (อิหร่านและรัสเซียเพิ่งลงนามข้อตกลงความร่วมมือที่ครอบคลุมรอบด้าน รวมทั้งความมั่นคงและการทหาร เปรียบได้กับมาตรา 5 ของนาโต้) - กองทัพอียิปต์สั่งการให้ในภูมิภาคไซนาย(ติดกับอิสราเอล)ยกระดับความพร้อมรบขั้นสูงสุด - จีนจัดการซ้อมรบทางทะเลและทางอากาศรอบเกาะไต้หวันครั้งใหญ่ หลังจากสหรัฐส่งเรือรบ 2 ลำ ผ่านช่องแคบไต้หวันเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 454 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนโชว์เทพ ลงพื้นที่ไม่กี่วันตัดตอนจีนเทา ทำไทยเฉยตื่นเลย
    ในที่สุดรัฐบาลไทยก็ตัดสินใจได้เฉียบขาด สั่งตัดไฟฟ้าอินเตอร์เน็ตและน้ํามันเชื้อเพลิง ที่จัดส่งจากฝั่งไทยไปยัง ฝั่งเมียนมาร์ เริ่มตั้งแต่เวลา 9 โมงเช้าวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 หลังจากหน่วยข่าวกรองยืนยันในที่ประชุมซึ่งมีนายภูมิธรรม เวชชัยรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกลาโหมเป็นประธานว่า ห้ามเมืองเหล่านั้นเป็นแหล่งซ่องสุมของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จําเป็นต้องตัดท่อน้ําเลี้ยงเพื่อหยุดวงจรอุบาทว์
    แม้งานนี้จะมีชาวเมียนมาที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วยจากมาตรการนี้ของรัฐบาลไทย แต่นายภูมิธรรม ย้ําถึงความจําเป็นที่จะต้องทํา เนื่องจากที่ผ่านมาประชาชนคนไทยต้องเสียหายหนักจากเล่ห์กลของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ คุกคามชีวิตความเป็นอยู่อย่างไม่หยุดหย่อนจนเกิดเป็นคดีความฉ้อโกง มูลค่าความเสียหายกว่า 86000 ล้านบาท
    ถือว่ากระทบความมั่นคงของประเทศอย่างรุนแรงโดยรัฐบาลเมียนมาก็ต้องรับผิดชอบต่อความเดือดร้อนของคนเมียนมาเอาเอง เพราะรัฐบาลไทยจําเป็นต้องใช้มาตรการนี้เพื่อคุ้มครองคนไทยไว้ก่อนอีกทั้งการล่อลวงค้ามนุษย์ของพวกจีนเทาในเมียนมา ก็ถือเป็นปัญหาระดันานาชาติไปแล้ว เพราะมีคนสัญชาติต่างต่างโดนกวาดต้อนไปเป็นแรงงานที่นั่น
    งานนี้พี่จีนมาเหนือ แสดงความเก่งกาจได้อย่างสุดๆฝีมือ เก่งขนาดที่ว่า สามารถกดดันไทยเฉยให้ตื่นจากหลับ รับรู้ถึงความไม่ถูกต้องที่ปล่อยให้คนไทยรับมือโจนไซเบอร์ไปตามยถากรรมหรือกล่าวได้ว่าคนไทยเป็นหนี้บุญคุณของพญามังกรที่รุกไล่ทําลายแก๊งจีนเทาแบบเอาตาย ต้องขอยอมรับความแข็งแกร่งของทีมงานจากประเทศจีนจริงๆที่ไม่ว่าอิทธิพลขนาดไหนก็ยังคง สู้ยิบตาถ้าทำประชาชนเดือดร้อน ไม่เหมือนคนแถวนี้
    ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    จีนโชว์เทพ ลงพื้นที่ไม่กี่วันตัดตอนจีนเทา ทำไทยเฉยตื่นเลย ในที่สุดรัฐบาลไทยก็ตัดสินใจได้เฉียบขาด สั่งตัดไฟฟ้าอินเตอร์เน็ตและน้ํามันเชื้อเพลิง ที่จัดส่งจากฝั่งไทยไปยัง ฝั่งเมียนมาร์ เริ่มตั้งแต่เวลา 9 โมงเช้าวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 หลังจากหน่วยข่าวกรองยืนยันในที่ประชุมซึ่งมีนายภูมิธรรม เวชชัยรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกลาโหมเป็นประธานว่า ห้ามเมืองเหล่านั้นเป็นแหล่งซ่องสุมของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จําเป็นต้องตัดท่อน้ําเลี้ยงเพื่อหยุดวงจรอุบาทว์ แม้งานนี้จะมีชาวเมียนมาที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วยจากมาตรการนี้ของรัฐบาลไทย แต่นายภูมิธรรม ย้ําถึงความจําเป็นที่จะต้องทํา เนื่องจากที่ผ่านมาประชาชนคนไทยต้องเสียหายหนักจากเล่ห์กลของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ คุกคามชีวิตความเป็นอยู่อย่างไม่หยุดหย่อนจนเกิดเป็นคดีความฉ้อโกง มูลค่าความเสียหายกว่า 86000 ล้านบาท ถือว่ากระทบความมั่นคงของประเทศอย่างรุนแรงโดยรัฐบาลเมียนมาก็ต้องรับผิดชอบต่อความเดือดร้อนของคนเมียนมาเอาเอง เพราะรัฐบาลไทยจําเป็นต้องใช้มาตรการนี้เพื่อคุ้มครองคนไทยไว้ก่อนอีกทั้งการล่อลวงค้ามนุษย์ของพวกจีนเทาในเมียนมา ก็ถือเป็นปัญหาระดันานาชาติไปแล้ว เพราะมีคนสัญชาติต่างต่างโดนกวาดต้อนไปเป็นแรงงานที่นั่น งานนี้พี่จีนมาเหนือ แสดงความเก่งกาจได้อย่างสุดๆฝีมือ เก่งขนาดที่ว่า สามารถกดดันไทยเฉยให้ตื่นจากหลับ รับรู้ถึงความไม่ถูกต้องที่ปล่อยให้คนไทยรับมือโจนไซเบอร์ไปตามยถากรรมหรือกล่าวได้ว่าคนไทยเป็นหนี้บุญคุณของพญามังกรที่รุกไล่ทําลายแก๊งจีนเทาแบบเอาตาย ต้องขอยอมรับความแข็งแกร่งของทีมงานจากประเทศจีนจริงๆที่ไม่ว่าอิทธิพลขนาดไหนก็ยังคง สู้ยิบตาถ้าทำประชาชนเดือดร้อน ไม่เหมือนคนแถวนี้ ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 436 มุมมอง 0 รีวิว
  • ซีเรีย ในยุคการปกครองของอัสซาด คืออีกหนึ่งประเทศที่เป็น "เหยื่อ" ของการบ่อนทำลาย โดยการสนับสนุนเงินทุนจาก USAID ครั้งใหญ่ที่สุดในศตวรรษที่ 21 และในครั้งนี้ พวกเขาประสบความสำเร็จ

    USAID ทุ่มเงิน 15,000 ล้านดอลลาร์เข้าซีเรียเพื่อโค่นล้มอัสซาด

    “เอ็นจีโอถูกใช้เพื่อก่อความไม่สงบในซีเรีย พวกเขาแสร้งทำเป็นให้ความช่วยเหลือ แต่ในความเป็นจริงแล้ว พวกเขาทำงานให้กับหน่วยข่าวกรองต่างประเทศ”
    — บาชาร์ อัล-อัสซาด เคยกล่าวไว้ตั้งแต่ปี 2018

    เป็นเวลากว่าทศวรรษที่ USAID, NED และเอ็นจีโอที่ได้รับการสนับสนุนจากชาติตะวันตกมีบทบาทสำคัญในสงครามซีเรีย โดยให้เงินทุนแก่กลุ่มฝ่ายค้าน ผลิตโฆษณาชวนเชื่อ และดำเนินการข่าวกรองภายใต้ข้ออ้างของ “ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและพัฒนาประชาธิปไตย” ในปี 2024 หลังจากหลายปีของการโค่นล้ม การคว่ำบาตร และแรงกดดันทางทหารที่ได้รับการสนับสนุนจากชาติตะวันตก ในที่สุดอัสซาดก็ถูกโค่นล้ม

    .

    "เอ็นจีโอ" แท้จริงแล้วคืออาวุธของ USAID

    USAID:
    • ทุ่มเงินกว่า 15,000 ล้านดอลลาร์เข้าไปในซีเรีย โดยการให้เงินทุนลับแก่เครือข่ายฝ่ายค้านเพื่อใช้ในปฏิบัติการต่อต้านรัฐบาล
    • ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่กลุ่มหมวกขาว ซึ่งเป็นกลุ่มที่ถูกเปิดโปงว่าร่วมมือกับอัลกออิดะห์และจัดฉากวิดีโอโฆษณาชวนเชื่อเพื่อพิสูจน์ว่าสหรัฐฯ เข้าแทรกแซง
    • ให้การสนับสนุนด้านโลจิสติกส์แก่กลุ่มฝ่ายค้านในต่างแดน ช่วยสร้างรัฐบาลเงาที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ

    .
    มูลนิธิ National Endowment for Democracy (NED) – “ภาคประชาสังคม” เป็นเครื่องมือในการปกปิดความไม่มั่นคง:

    • ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ Barada TV ซึ่งเป็นสื่อฝ่ายค้านที่มีฐานอยู่ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อในการต่อต้านรัฐบาลอัสซาด
    • ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ NGO ที่สนับสนุนประชาธิปไตย ซึ่งต่อมาได้จัดสรรทรัพยากรให้แก่กลุ่มญิฮาด รวมถึงกองทัพซีเรียเสรี (FSA)
    • ให้การสนับสนุนนักเคลื่อนไหวชาวซีเรียในต่างแดน เพื่อเตรียมพวกเขาให้พร้อมที่จะยึดอำนาจเมื่ออัสซาดถูกปลดออกจากอำนาจ

    .
    มูลนิธิ Open Society Foundations (OSF) โซรอสในซีเรีย:
    • เผยแพร่เรื่องราวต่อต้านอัสซาดในสื่อระดับโลก โดยบรรยายถึงสงครามว่าเป็นการลุกฮือจากความไม่พอใจของประชาชนที่มีต่ออัสซาด มากกว่าการรัฐประหารที่ได้รับการสนับสนุนจากชาติตะวันตก
    • ประสานงานกับกลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ เพื่ออำนวยความสะดวกในความพยายามเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง
    • เรียกร้องให้มีนโยบายการอพยพระหว่างประเทศจำนวนมากซึ่งกดดันให้ประเทศต่างๆ ในยุโรปยอมรับผู้ลี้ภัยชาวซีเรียหลายล้านคน ซึ่งเป็นวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นโดยตรงจากสงครามที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ

    .
    ที่ผ่านมาอัสซาดพยายามต่อต้านอย่างหนัก แต่ยังไม่ประสบผลสำเร็จ เขาก็ถูกโค่นล้มไปก่อน:

    ✅ 2014 – ขับไล่ NGO ที่ได้รับการสนับสนุนจาก USAID ออกไปหลังจากเปิดเผยความสัมพันธ์ทางการเงินของพวกเขาต่อกลุ่มกบฏ
    ✅ 2016 – เปิดเผยความร่วมมือระหว่างกลุ่ม White Helmets กับกลุ่มญิฮาด พร้อมเตือนถึงข้อมูลเท็จที่ได้รับการสนับสนุนจากตะวันตก
    ✅ 2018 – กล่าวหากระทรวงต่างประเทศของอังกฤษและ USAID ต่อสาธารณะว่าให้ทุนสนับสนุนปฏิบัติการโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านรัฐบาล
    ✅ 2023 – บรรลุข้อตกลงการฟื้นฟูหลังสงครามกับรัสเซียและจีนเพื่อลดอิทธิพลของตะวันตก

    แม้อัสซาดจะมีความพยายามมากเพียงใด แต่ก็ยังพ่ายแพ้ให้กับสหรัฐฯ และพันธมิตรที่ไม่เคยละทิ้งภารกิจในการโค่นล้มอัสซาด

    ซีเรีย ในยุคการปกครองของอัสซาด คืออีกหนึ่งประเทศที่เป็น "เหยื่อ" ของการบ่อนทำลาย โดยการสนับสนุนเงินทุนจาก USAID ครั้งใหญ่ที่สุดในศตวรรษที่ 21 และในครั้งนี้ พวกเขาประสบความสำเร็จ USAID ทุ่มเงิน 15,000 ล้านดอลลาร์เข้าซีเรียเพื่อโค่นล้มอัสซาด “เอ็นจีโอถูกใช้เพื่อก่อความไม่สงบในซีเรีย พวกเขาแสร้งทำเป็นให้ความช่วยเหลือ แต่ในความเป็นจริงแล้ว พวกเขาทำงานให้กับหน่วยข่าวกรองต่างประเทศ” — บาชาร์ อัล-อัสซาด เคยกล่าวไว้ตั้งแต่ปี 2018 เป็นเวลากว่าทศวรรษที่ USAID, NED และเอ็นจีโอที่ได้รับการสนับสนุนจากชาติตะวันตกมีบทบาทสำคัญในสงครามซีเรีย โดยให้เงินทุนแก่กลุ่มฝ่ายค้าน ผลิตโฆษณาชวนเชื่อ และดำเนินการข่าวกรองภายใต้ข้ออ้างของ “ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและพัฒนาประชาธิปไตย” ในปี 2024 หลังจากหลายปีของการโค่นล้ม การคว่ำบาตร และแรงกดดันทางทหารที่ได้รับการสนับสนุนจากชาติตะวันตก ในที่สุดอัสซาดก็ถูกโค่นล้ม . "เอ็นจีโอ" แท้จริงแล้วคืออาวุธของ USAID USAID: • ทุ่มเงินกว่า 15,000 ล้านดอลลาร์เข้าไปในซีเรีย โดยการให้เงินทุนลับแก่เครือข่ายฝ่ายค้านเพื่อใช้ในปฏิบัติการต่อต้านรัฐบาล • ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่กลุ่มหมวกขาว ซึ่งเป็นกลุ่มที่ถูกเปิดโปงว่าร่วมมือกับอัลกออิดะห์และจัดฉากวิดีโอโฆษณาชวนเชื่อเพื่อพิสูจน์ว่าสหรัฐฯ เข้าแทรกแซง • ให้การสนับสนุนด้านโลจิสติกส์แก่กลุ่มฝ่ายค้านในต่างแดน ช่วยสร้างรัฐบาลเงาที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ . มูลนิธิ National Endowment for Democracy (NED) – “ภาคประชาสังคม” เป็นเครื่องมือในการปกปิดความไม่มั่นคง: • ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ Barada TV ซึ่งเป็นสื่อฝ่ายค้านที่มีฐานอยู่ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อในการต่อต้านรัฐบาลอัสซาด • ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ NGO ที่สนับสนุนประชาธิปไตย ซึ่งต่อมาได้จัดสรรทรัพยากรให้แก่กลุ่มญิฮาด รวมถึงกองทัพซีเรียเสรี (FSA) • ให้การสนับสนุนนักเคลื่อนไหวชาวซีเรียในต่างแดน เพื่อเตรียมพวกเขาให้พร้อมที่จะยึดอำนาจเมื่ออัสซาดถูกปลดออกจากอำนาจ . มูลนิธิ Open Society Foundations (OSF) โซรอสในซีเรีย: • เผยแพร่เรื่องราวต่อต้านอัสซาดในสื่อระดับโลก โดยบรรยายถึงสงครามว่าเป็นการลุกฮือจากความไม่พอใจของประชาชนที่มีต่ออัสซาด มากกว่าการรัฐประหารที่ได้รับการสนับสนุนจากชาติตะวันตก • ประสานงานกับกลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ เพื่ออำนวยความสะดวกในความพยายามเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง • เรียกร้องให้มีนโยบายการอพยพระหว่างประเทศจำนวนมากซึ่งกดดันให้ประเทศต่างๆ ในยุโรปยอมรับผู้ลี้ภัยชาวซีเรียหลายล้านคน ซึ่งเป็นวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นโดยตรงจากสงครามที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ . ที่ผ่านมาอัสซาดพยายามต่อต้านอย่างหนัก แต่ยังไม่ประสบผลสำเร็จ เขาก็ถูกโค่นล้มไปก่อน: ✅ 2014 – ขับไล่ NGO ที่ได้รับการสนับสนุนจาก USAID ออกไปหลังจากเปิดเผยความสัมพันธ์ทางการเงินของพวกเขาต่อกลุ่มกบฏ ✅ 2016 – เปิดเผยความร่วมมือระหว่างกลุ่ม White Helmets กับกลุ่มญิฮาด พร้อมเตือนถึงข้อมูลเท็จที่ได้รับการสนับสนุนจากตะวันตก ✅ 2018 – กล่าวหากระทรวงต่างประเทศของอังกฤษและ USAID ต่อสาธารณะว่าให้ทุนสนับสนุนปฏิบัติการโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านรัฐบาล ✅ 2023 – บรรลุข้อตกลงการฟื้นฟูหลังสงครามกับรัสเซียและจีนเพื่อลดอิทธิพลของตะวันตก แม้อัสซาดจะมีความพยายามมากเพียงใด แต่ก็ยังพ่ายแพ้ให้กับสหรัฐฯ และพันธมิตรที่ไม่เคยละทิ้งภารกิจในการโค่นล้มอัสซาด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 479 มุมมอง 0 รีวิว
  • สภาพของโรงแรม "Bristol" ในภูมิภาคโอเดสซาของยูเครน หลังจากโดนโจมตีด้วยขีปนาวุธ Iskander-M ของรัสเซีย ซึ่งเป็นที่พักของที่ปรึกษาทหารต่างชาติ ครูฝึก NATO และหน่วยข่าวกรองยูเครน

    พิกัดโรงแรม 46.48120226853294, 30.74302241405423
    สภาพของโรงแรม "Bristol" ในภูมิภาคโอเดสซาของยูเครน หลังจากโดนโจมตีด้วยขีปนาวุธ Iskander-M ของรัสเซีย ซึ่งเป็นที่พักของที่ปรึกษาทหารต่างชาติ ครูฝึก NATO และหน่วยข่าวกรองยูเครน พิกัดโรงแรม 46.48120226853294, 30.74302241405423
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 279 มุมมอง 0 รีวิว
  • 6/
    เมื่อคืนที่ผ่านมา รัสเซียโจมตีด้วยขีปนาวุธ Iskander-M OTRK เป้าหมายโรงแรมระดับหรู "Bristol" ในภูมิภาคโอเดสซาของยูเครน ซึ่งมีที่ปรึกษาทหารต่างชาติ ครูฝึก NATO และหน่วยข่าวกรองยูเครนรวมตัวกันที่นี่

    มีรายงานเสียงระเบิดรุนแรงดังประมาณ 3 ครั้ง และตามมาด้วยไฟไหม้ในพื้นที่ที่เกิดการระเบิด

    พิกัดโรงแรม 46.48120226853294, 30.74302241405423
    6/ เมื่อคืนที่ผ่านมา รัสเซียโจมตีด้วยขีปนาวุธ Iskander-M OTRK เป้าหมายโรงแรมระดับหรู "Bristol" ในภูมิภาคโอเดสซาของยูเครน ซึ่งมีที่ปรึกษาทหารต่างชาติ ครูฝึก NATO และหน่วยข่าวกรองยูเครนรวมตัวกันที่นี่ มีรายงานเสียงระเบิดรุนแรงดังประมาณ 3 ครั้ง และตามมาด้วยไฟไหม้ในพื้นที่ที่เกิดการระเบิด พิกัดโรงแรม 46.48120226853294, 30.74302241405423
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 222 มุมมอง 0 รีวิว
  • 5/
    เมื่อคืนที่ผ่านมา รัสเซียโจมตีด้วยขีปนาวุธ Iskander-M OTRK เป้าหมายโรงแรมระดับหรู "Bristol" ในภูมิภาคโอเดสซาของยูเครน ซึ่งมีที่ปรึกษาทหารต่างชาติ ครูฝึก NATO และหน่วยข่าวกรองยูเครนรวมตัวกันที่นี่

    มีรายงานเสียงระเบิดรุนแรงดังประมาณ 3 ครั้ง และตามมาด้วยไฟไหม้ในพื้นที่ที่เกิดการระเบิด

    พิกัดโรงแรม 46.48120226853294, 30.74302241405423
    5/ เมื่อคืนที่ผ่านมา รัสเซียโจมตีด้วยขีปนาวุธ Iskander-M OTRK เป้าหมายโรงแรมระดับหรู "Bristol" ในภูมิภาคโอเดสซาของยูเครน ซึ่งมีที่ปรึกษาทหารต่างชาติ ครูฝึก NATO และหน่วยข่าวกรองยูเครนรวมตัวกันที่นี่ มีรายงานเสียงระเบิดรุนแรงดังประมาณ 3 ครั้ง และตามมาด้วยไฟไหม้ในพื้นที่ที่เกิดการระเบิด พิกัดโรงแรม 46.48120226853294, 30.74302241405423
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 334 มุมมอง 31 0 รีวิว
  • 4/
    เมื่อคืนที่ผ่านมา รัสเซียโจมตีด้วยขีปนาวุธ Iskander-M OTRK เป้าหมายโรงแรมระดับหรู "Bristol" ในภูมิภาคโอเดสซาของยูเครน ซึ่งมีที่ปรึกษาทหารต่างชาติ ครูฝึก NATO และหน่วยข่าวกรองยูเครนรวมตัวกันที่นี่

    มีรายงานเสียงระเบิดรุนแรงดังประมาณ 3 ครั้ง และตามมาด้วยไฟไหม้ในพื้นที่ที่เกิดการระเบิด

    พิกัดโรงแรม 46.48120226853294, 30.74302241405423
    4/ เมื่อคืนที่ผ่านมา รัสเซียโจมตีด้วยขีปนาวุธ Iskander-M OTRK เป้าหมายโรงแรมระดับหรู "Bristol" ในภูมิภาคโอเดสซาของยูเครน ซึ่งมีที่ปรึกษาทหารต่างชาติ ครูฝึก NATO และหน่วยข่าวกรองยูเครนรวมตัวกันที่นี่ มีรายงานเสียงระเบิดรุนแรงดังประมาณ 3 ครั้ง และตามมาด้วยไฟไหม้ในพื้นที่ที่เกิดการระเบิด พิกัดโรงแรม 46.48120226853294, 30.74302241405423
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 328 มุมมอง 25 0 รีวิว
  • 3/
    เมื่อคืนที่ผ่านมา รัสเซียโจมตีด้วยขีปนาวุธ Iskander-M OTRK เป้าหมายโรงแรมระดับหรู "Bristol" ในภูมิภาคโอเดสซาของยูเครน ซึ่งมีที่ปรึกษาทหารต่างชาติ ครูฝึก NATO และหน่วยข่าวกรองยูเครนรวมตัวกันที่นี่

    มีรายงานเสียงระเบิดรุนแรงดังประมาณ 3 ครั้ง และตามมาด้วยไฟไหม้ในพื้นที่ที่เกิดการระเบิด

    พิกัดโรงแรม 46.48120226853294, 30.74302241405423
    3/ เมื่อคืนที่ผ่านมา รัสเซียโจมตีด้วยขีปนาวุธ Iskander-M OTRK เป้าหมายโรงแรมระดับหรู "Bristol" ในภูมิภาคโอเดสซาของยูเครน ซึ่งมีที่ปรึกษาทหารต่างชาติ ครูฝึก NATO และหน่วยข่าวกรองยูเครนรวมตัวกันที่นี่ มีรายงานเสียงระเบิดรุนแรงดังประมาณ 3 ครั้ง และตามมาด้วยไฟไหม้ในพื้นที่ที่เกิดการระเบิด พิกัดโรงแรม 46.48120226853294, 30.74302241405423
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 298 มุมมอง 20 0 รีวิว
  • 2/
    เมื่อคืนที่ผ่านมา รัสเซียโจมตีด้วยขีปนาวุธ Iskander-M OTRK เป้าหมายโรงแรมระดับหรู "Bristol" ในภูมิภาคโอเดสซาของยูเครน ซึ่งมีที่ปรึกษาทหารต่างชาติ ครูฝึก NATO และหน่วยข่าวกรองยูเครนรวมตัวกันที่นี่

    มีรายงานเสียงระเบิดรุนแรงดังประมาณ 3 ครั้ง และตามมาด้วยไฟไหม้ในพื้นที่ที่เกิดการระเบิด

    พิกัดโรงแรม 46.48120226853294, 30.74302241405423
    2/ เมื่อคืนที่ผ่านมา รัสเซียโจมตีด้วยขีปนาวุธ Iskander-M OTRK เป้าหมายโรงแรมระดับหรู "Bristol" ในภูมิภาคโอเดสซาของยูเครน ซึ่งมีที่ปรึกษาทหารต่างชาติ ครูฝึก NATO และหน่วยข่าวกรองยูเครนรวมตัวกันที่นี่ มีรายงานเสียงระเบิดรุนแรงดังประมาณ 3 ครั้ง และตามมาด้วยไฟไหม้ในพื้นที่ที่เกิดการระเบิด พิกัดโรงแรม 46.48120226853294, 30.74302241405423
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 279 มุมมอง 14 0 รีวิว
  • 1/
    เมื่อคืนที่ผ่านมา รัสเซียโจมตีด้วยขีปนาวุธ Iskander-M OTRK เป้าหมายโรงแรมระดับหรู "Bristol" ในภูมิภาคโอเดสซาของยูเครน ซึ่งมีที่ปรึกษาทหารต่างชาติ ครูฝึก NATO และหน่วยข่าวกรองยูเครนรวมตัวกันที่นี่

    มีรายงานเสียงระเบิดรุนแรงดังประมาณ 3 ครั้ง และตามมาด้วยไฟไหม้ในพื้นที่ที่เกิดการระเบิด

    พิกัดโรงแรม 46.48120226853294, 30.74302241405423
    1/ เมื่อคืนที่ผ่านมา รัสเซียโจมตีด้วยขีปนาวุธ Iskander-M OTRK เป้าหมายโรงแรมระดับหรู "Bristol" ในภูมิภาคโอเดสซาของยูเครน ซึ่งมีที่ปรึกษาทหารต่างชาติ ครูฝึก NATO และหน่วยข่าวกรองยูเครนรวมตัวกันที่นี่ มีรายงานเสียงระเบิดรุนแรงดังประมาณ 3 ครั้ง และตามมาด้วยไฟไหม้ในพื้นที่ที่เกิดการระเบิด พิกัดโรงแรม 46.48120226853294, 30.74302241405423
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 274 มุมมอง 15 0 รีวิว
  • Shou Zi Chew( 周受资)! ซีอีโอ TikTok นั่งข้างว่าที่ผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติ 'Tulsi Gabbard' ในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีทรัมป์

    ทรัมป์เพิ่งใช้อำนาจประธานาธิบดีต่ออายุให้ TikTok กลับมาให้บริการชาวอเมริกันกว่า 170 ล้านคนได้อีกครั้ง อย่างน้อย 90 วัน หลังจากหยุดให้บริการจากกฎหมายของไบเดน "อดีตประธานาธิบดี"
    Shou Zi Chew( 周受资)! ซีอีโอ TikTok นั่งข้างว่าที่ผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติ 'Tulsi Gabbard' ในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีทรัมป์ ทรัมป์เพิ่งใช้อำนาจประธานาธิบดีต่ออายุให้ TikTok กลับมาให้บริการชาวอเมริกันกว่า 170 ล้านคนได้อีกครั้ง อย่างน้อย 90 วัน หลังจากหยุดให้บริการจากกฎหมายของไบเดน "อดีตประธานาธิบดี"
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 136 มุมมอง 0 รีวิว
  • หน่วยข่าวกรองเยเมนเผยแพร่ภาพวิดีโอในช่วงเวลาที่พวกเขาบุกเข้าจับกุมเครือข่ายสายลับบางส่วนที่ดำเนินการโดยหน่วยข่าวกรอง MI6 ของอังกฤษและหน่วยข่าวกรองของซาอุดิอาระเบียในเยเมน

    เจ้าหน้าที่เยเมนระบุว่า เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองของอังกฤษร่วมมือกับซาอุดิอาระเบียททำการเฝ้าติดตามและสอดแนมสถานที่ที่อ่อนไหว รวมทั้งติดตั้งสปายแวร์ และอุปกรณ์ติดตามในรถยนต์

    เจ้าหน้าที่เยเมนยังกล่าวอีกว่า การเผยภาพเหล่านี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อแสดงให้เห็นถึงการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดของหน่วยงานความมั่นคงเยเมนในการปกป้องความมั่นคงของชาติ
    หน่วยข่าวกรองเยเมนเผยแพร่ภาพวิดีโอในช่วงเวลาที่พวกเขาบุกเข้าจับกุมเครือข่ายสายลับบางส่วนที่ดำเนินการโดยหน่วยข่าวกรอง MI6 ของอังกฤษและหน่วยข่าวกรองของซาอุดิอาระเบียในเยเมน เจ้าหน้าที่เยเมนระบุว่า เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองของอังกฤษร่วมมือกับซาอุดิอาระเบียททำการเฝ้าติดตามและสอดแนมสถานที่ที่อ่อนไหว รวมทั้งติดตั้งสปายแวร์ และอุปกรณ์ติดตามในรถยนต์ เจ้าหน้าที่เยเมนยังกล่าวอีกว่า การเผยภาพเหล่านี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อแสดงให้เห็นถึงการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดของหน่วยงานความมั่นคงเยเมนในการปกป้องความมั่นคงของชาติ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 527 มุมมอง 18 0 รีวิว
  • ภาพการสูญเสียครั้งใหญ่ของยูเครนในภูมิภาคซูมี

    ผลของการโจมตีด้วย Iskander-M ไปที่เป้าหมายกองพลที่ 82 ของกองทัพยูเครน ทำให้สูญเสียรถบรรทุก 24 คัน รถหุ้มเกราะ 18 คัน และกองกำลังติดอาวุธยูเครนกว่า 200 นาย ใกล้เมืองYunakivka ภูมิภาค Sumy

    จากแหล่งข่าวทางทหาร กองกำลังยูเครนได้กักตุนกำลังพลและยานพาหนะไว้ใต้ต้นไม้เพื่อเตรียมโจมตีอย่างลับๆ ที่ชายแดน โดยตำแหน่งดังกล่าวถูกเปิดเผยโดยหน่วยข่าวกรองของรัสเซีย
    ภาพการสูญเสียครั้งใหญ่ของยูเครนในภูมิภาคซูมี ผลของการโจมตีด้วย Iskander-M ไปที่เป้าหมายกองพลที่ 82 ของกองทัพยูเครน ทำให้สูญเสียรถบรรทุก 24 คัน รถหุ้มเกราะ 18 คัน และกองกำลังติดอาวุธยูเครนกว่า 200 นาย ใกล้เมืองYunakivka ภูมิภาค Sumy จากแหล่งข่าวทางทหาร กองกำลังยูเครนได้กักตุนกำลังพลและยานพาหนะไว้ใต้ต้นไม้เพื่อเตรียมโจมตีอย่างลับๆ ที่ชายแดน โดยตำแหน่งดังกล่าวถูกเปิดเผยโดยหน่วยข่าวกรองของรัสเซีย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 298 มุมมอง 0 รีวิว
  • แมทธิว ลิเวลสเบอร์เกอร์ (Matthew Livelsberger) ซึ่งถูกระบุว่าเป็นผู้จุดชนวนระเบิดตัวเองในรถ Cybertruck เมื่อช่วงเช้าวันนี้หน้าโรงแรมทรัมป์ อินเตอร์เนชั่นแนลในลาสเวกัส

    เขาเคยอยู่ในอัฟกานิสถานหลายครั้ง เขาเป็นทหารของกองทัพสหรัฐฯ เป็นเวลา 19 ปี และยังเป็นหัวหน่วยข่าวกรองของกองกำลังพิเศษอีกด้วย

    สำหรับ ซารา ภรรยาของเขา ก็อยู่ในกลุ่มต่อต้านทรัมป์ โดยมีประวัติการโพสต์มีมต่อต้านทรัมป์บนเฟซบุ๊กมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว
    แมทธิว ลิเวลสเบอร์เกอร์ (Matthew Livelsberger) ซึ่งถูกระบุว่าเป็นผู้จุดชนวนระเบิดตัวเองในรถ Cybertruck เมื่อช่วงเช้าวันนี้หน้าโรงแรมทรัมป์ อินเตอร์เนชั่นแนลในลาสเวกัส เขาเคยอยู่ในอัฟกานิสถานหลายครั้ง เขาเป็นทหารของกองทัพสหรัฐฯ เป็นเวลา 19 ปี และยังเป็นหัวหน่วยข่าวกรองของกองกำลังพิเศษอีกด้วย สำหรับ ซารา ภรรยาของเขา ก็อยู่ในกลุ่มต่อต้านทรัมป์ โดยมีประวัติการโพสต์มีมต่อต้านทรัมป์บนเฟซบุ๊กมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 357 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เรื่องลับของสายลับ CIA | ตอนที่ 1
    โดย #อัษฎางค์ยมนาค

    การปฏิบัติการของ CIA ในการแทรกซึมเข้าไปในต่างประเทศบางครั้งอาจมีการใช้วิธีการส่งเจ้าหน้าที่ปลอมตัวเข้าไปอยู่ในชุมชนหรือองค์กรต่างๆ เพื่อรวบรวมข้อมูลข่าวกรอง โดยเจ้าหน้าที่เหล่านี้อาจแฝงตัวภายใต้บทบาทที่ไม่เป็นที่สงสัย เช่น นักธุรกิจ นักวิชาการ นักข่าว หรือแม้แต่นักการทูต การดำเนินการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติการลับ (Covert Operations) ที่มุ่งเน้นการรวบรวมข้อมูลข่าวกรองและสร้างเครือข่ายในพื้นที่เป้าหมาย

    การแทรกซึมลักษณะนี้มักถูกใช้ในสถานการณ์ที่หน่วยข่าวกรองต้องการรวบรวมข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับประเทศหรือกลุ่มเป้าหมาย เช่น ข้อมูลทางการเมือง การทหาร หรือความเคลื่อนไหวต่างๆ โดยการแฝงตัวและการปลอมตัวช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถทำงานได้โดยไม่เป็นที่สงสัยหรือตรวจพบจากหน่วยงานท้องถิ่น

    อย่างไรก็ตาม วิธีการดังกล่าวมักถูกเก็บเป็นความลับและไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ เนื่องจากเป็นเรื่องที่มีความเสี่ยงสูงต่อทั้งเจ้าหน้าที่และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

    การที่เจ้าหน้าที่ของ CIA สามารถแฝงตัวในองค์กรต่างๆ โดยที่คนในองค์กรหรือประเทศนั้นๆ ไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นเจ้าหน้าที่ CIA นั้น มีสาเหตุจากหลายปัจจัยที่ซับซ้อน ทั้งการเตรียมการ การปกปิดข้อมูล และการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานหลายฝ่าย:

    1. การปลอมเอกสารและการจัดเตรียมประวัติ (Cover Story)

    • เจ้าหน้าที่ CIA ที่ถูกส่งเข้าไปปฏิบัติการในต่างประเทศมักจะมี cover story ซึ่งเป็นเรื่องราวและเอกสารที่สนับสนุนบทบาทของพวกเขา เช่น ปลอมตัวเป็นนักธุรกิจ นักวิชาการ หรือนักข่าว โดยประวัติเหล่านี้มักจะถูกจัดทำอย่างละเอียด ทั้งประวัติการทำงาน การศึกษา รวมถึงการปลอมแปลงเอกสารที่แสดงว่าเขามีคุณสมบัติหรือประสบการณ์ที่สอดคล้องกับตำแหน่งงานนั้นๆ

    • รัฐบาลสหรัฐฯ หรือ CIA เองอาจมีการจัดเตรียมเอกสารที่ดูถูกต้องตามกฎหมายเพื่อสนับสนุนเรื่องราวของเจ้าหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นเอกสารที่ยืนยันอาชีพ การศึกษา หรือประสบการณ์ในสาขานั้นๆ ซึ่งทำให้ดูเป็นบุคคลที่น่าเชื่อถือสำหรับองค์กรที่รับสมัครงาน

    2. การฝึกอบรมด้านการปกปิดตัวตน (Tradecraft)

    • เจ้าหน้าที่ CIA ได้รับการฝึกฝนในเรื่องของ tradecraft ซึ่งรวมถึงการปกปิดตัวตน การแทรกซึม และการทำงานในฐานะเจ้าหน้าที่ลับ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครสามารถสังเกตเห็นพฤติกรรมที่ผิดปกติ ซึ่งพวกเขาจะเรียนรู้วิธีการสื่อสาร การเข้าถึงข้อมูล และการปฏิบัติภารกิจโดยไม่เปิดเผยตัวตนที่แท้จริง

    3. ความร่วมมือขององค์กรหรือหน่วยงานภายในประเทศ

    • ในบางกรณี อาจมีหน่วยงานภายในประเทศหรือองค์กรที่ร่วมมือกับ CIA อย่างลับๆ เช่น หน่วยงานข่าวกรองท้องถิ่นหรือนักการเมืองบางกลุ่มที่ต้องการผลประโยชน์ร่วมกัน หรือสนับสนุนการปฏิบัติการของ CIA ภายในประเทศนั้นๆ

    • อย่างไรก็ตาม ในกรณีส่วนใหญ่ องค์กรที่เจ้าหน้าที่ CIA เข้าไปทำงานจะไม่รู้ว่าเขาเป็นเจ้าหน้าที่ลับ เพราะ CIA ต้องการให้การปฏิบัติการเป็นความลับที่สุด การที่องค์กรทราบว่าเขาเป็น CIA อาจทำให้เกิดปัญหาทางการเมืองหรือความเสี่ยงต่อปฏิบัติการลับนั้น

    4. ความลับและการปกปิดข้อมูล

    • การปฏิบัติการลับของ CIA มักมีการรักษาความลับอย่างสูงสุด มีการจำกัดข้อมูลที่สามารถเปิดเผย และเจ้าหน้าที่ในองค์กรที่ CIA เข้าไปฝังตัวจะไม่ได้รับข้อมูลใดๆ ที่บ่งบอกว่าเขาคือเจ้าหน้าที่ CIA ทำให้ไม่มีข้อสงสัยในตัวเขา

    สรุปคือ เจ้าหน้าที่ CIA สามารถแฝงตัวในองค์กรได้โดยไม่ถูกจับได้เนื่องจากการจัดเตรียมเอกสารที่เป็นมืออาชีพ การฝึกฝนในการปกปิดตัวตน และการทำงานอย่างรัดกุมของ CIA ในการทำให้การปฏิบัติการลับเหล่านี้เป็นไปอย่างแนบเนียน

    โปรดติดตามตอนต่อไป
    #TheNewGeopoliticaalArena #ThaiGeopoliticalSheft

    ตอนที่ 2: https://www.facebook.com/share/p/Uv9bMaUp1RNBH2fj/?mibextid=WC7FNe
    ที่มา https://www.facebook.com/share/p/1DwX5jiJuU/
    #เรื่องลับของสายลับ CIA | ตอนที่ 1 โดย #อัษฎางค์ยมนาค การปฏิบัติการของ CIA ในการแทรกซึมเข้าไปในต่างประเทศบางครั้งอาจมีการใช้วิธีการส่งเจ้าหน้าที่ปลอมตัวเข้าไปอยู่ในชุมชนหรือองค์กรต่างๆ เพื่อรวบรวมข้อมูลข่าวกรอง โดยเจ้าหน้าที่เหล่านี้อาจแฝงตัวภายใต้บทบาทที่ไม่เป็นที่สงสัย เช่น นักธุรกิจ นักวิชาการ นักข่าว หรือแม้แต่นักการทูต การดำเนินการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติการลับ (Covert Operations) ที่มุ่งเน้นการรวบรวมข้อมูลข่าวกรองและสร้างเครือข่ายในพื้นที่เป้าหมาย การแทรกซึมลักษณะนี้มักถูกใช้ในสถานการณ์ที่หน่วยข่าวกรองต้องการรวบรวมข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับประเทศหรือกลุ่มเป้าหมาย เช่น ข้อมูลทางการเมือง การทหาร หรือความเคลื่อนไหวต่างๆ โดยการแฝงตัวและการปลอมตัวช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถทำงานได้โดยไม่เป็นที่สงสัยหรือตรวจพบจากหน่วยงานท้องถิ่น อย่างไรก็ตาม วิธีการดังกล่าวมักถูกเก็บเป็นความลับและไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ เนื่องจากเป็นเรื่องที่มีความเสี่ยงสูงต่อทั้งเจ้าหน้าที่และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การที่เจ้าหน้าที่ของ CIA สามารถแฝงตัวในองค์กรต่างๆ โดยที่คนในองค์กรหรือประเทศนั้นๆ ไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นเจ้าหน้าที่ CIA นั้น มีสาเหตุจากหลายปัจจัยที่ซับซ้อน ทั้งการเตรียมการ การปกปิดข้อมูล และการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานหลายฝ่าย: 1. การปลอมเอกสารและการจัดเตรียมประวัติ (Cover Story) • เจ้าหน้าที่ CIA ที่ถูกส่งเข้าไปปฏิบัติการในต่างประเทศมักจะมี cover story ซึ่งเป็นเรื่องราวและเอกสารที่สนับสนุนบทบาทของพวกเขา เช่น ปลอมตัวเป็นนักธุรกิจ นักวิชาการ หรือนักข่าว โดยประวัติเหล่านี้มักจะถูกจัดทำอย่างละเอียด ทั้งประวัติการทำงาน การศึกษา รวมถึงการปลอมแปลงเอกสารที่แสดงว่าเขามีคุณสมบัติหรือประสบการณ์ที่สอดคล้องกับตำแหน่งงานนั้นๆ • รัฐบาลสหรัฐฯ หรือ CIA เองอาจมีการจัดเตรียมเอกสารที่ดูถูกต้องตามกฎหมายเพื่อสนับสนุนเรื่องราวของเจ้าหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นเอกสารที่ยืนยันอาชีพ การศึกษา หรือประสบการณ์ในสาขานั้นๆ ซึ่งทำให้ดูเป็นบุคคลที่น่าเชื่อถือสำหรับองค์กรที่รับสมัครงาน 2. การฝึกอบรมด้านการปกปิดตัวตน (Tradecraft) • เจ้าหน้าที่ CIA ได้รับการฝึกฝนในเรื่องของ tradecraft ซึ่งรวมถึงการปกปิดตัวตน การแทรกซึม และการทำงานในฐานะเจ้าหน้าที่ลับ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครสามารถสังเกตเห็นพฤติกรรมที่ผิดปกติ ซึ่งพวกเขาจะเรียนรู้วิธีการสื่อสาร การเข้าถึงข้อมูล และการปฏิบัติภารกิจโดยไม่เปิดเผยตัวตนที่แท้จริง 3. ความร่วมมือขององค์กรหรือหน่วยงานภายในประเทศ • ในบางกรณี อาจมีหน่วยงานภายในประเทศหรือองค์กรที่ร่วมมือกับ CIA อย่างลับๆ เช่น หน่วยงานข่าวกรองท้องถิ่นหรือนักการเมืองบางกลุ่มที่ต้องการผลประโยชน์ร่วมกัน หรือสนับสนุนการปฏิบัติการของ CIA ภายในประเทศนั้นๆ • อย่างไรก็ตาม ในกรณีส่วนใหญ่ องค์กรที่เจ้าหน้าที่ CIA เข้าไปทำงานจะไม่รู้ว่าเขาเป็นเจ้าหน้าที่ลับ เพราะ CIA ต้องการให้การปฏิบัติการเป็นความลับที่สุด การที่องค์กรทราบว่าเขาเป็น CIA อาจทำให้เกิดปัญหาทางการเมืองหรือความเสี่ยงต่อปฏิบัติการลับนั้น 4. ความลับและการปกปิดข้อมูล • การปฏิบัติการลับของ CIA มักมีการรักษาความลับอย่างสูงสุด มีการจำกัดข้อมูลที่สามารถเปิดเผย และเจ้าหน้าที่ในองค์กรที่ CIA เข้าไปฝังตัวจะไม่ได้รับข้อมูลใดๆ ที่บ่งบอกว่าเขาคือเจ้าหน้าที่ CIA ทำให้ไม่มีข้อสงสัยในตัวเขา สรุปคือ เจ้าหน้าที่ CIA สามารถแฝงตัวในองค์กรได้โดยไม่ถูกจับได้เนื่องจากการจัดเตรียมเอกสารที่เป็นมืออาชีพ การฝึกฝนในการปกปิดตัวตน และการทำงานอย่างรัดกุมของ CIA ในการทำให้การปฏิบัติการลับเหล่านี้เป็นไปอย่างแนบเนียน โปรดติดตามตอนต่อไป #TheNewGeopoliticaalArena #ThaiGeopoliticalSheft ตอนที่ 2: https://www.facebook.com/share/p/Uv9bMaUp1RNBH2fj/?mibextid=WC7FNe ที่มา https://www.facebook.com/share/p/1DwX5jiJuU/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 558 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เรื่องลับของสายลับ
    ตอนที่ 2 CIA ในคราบอาจารย์มหาวิทยาลัย
    โดย #อัษฎางค์ยมนาค

    ความเป็นไปได้ที่ มหาวิทยาลัย หรือบุคคลภายในมหาวิทยาลัยอาจมีความเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นกับ CIA ในบางกรณี โดยเฉพาะหากมีการทำงานร่วมกันเพื่อประโยชน์บางอย่าง แต่ในกรณีส่วนใหญ่ การดำเนินการของ CIA มักจะมีการปกปิดอย่างดีเพื่อให้ไม่มีการเชื่อมโยงโดยตรงระหว่างมหาวิทยาลัยกับปฏิบัติการของ CIA เนื่องจากความเสี่ยงทางการเมืองและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

    ปัจจัยที่ทำให้เป็นไปได้ว่าอาจมีคนในมหาวิทยาลัยรู้เห็นกับ CIA

    1. ในบางประเทศ หน่วยข่าวกรองท้องถิ่นหรือรัฐบาลเองอาจมีความร่วมมือกับ CIA และส่งเสริมการแฝงตัวในมหาวิทยาลัยหรือองค์กรวิชาการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่เกี่ยวข้องกับการรวบรวมข้อมูลข่าวกรอง การแทรกซึม หรือการแสวงหาประโยชน์จากทรัพยากรในท้องถิ่น

    2. มหาวิทยาลัยบางแห่งอาจมีการร่วมมือกับหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองหรือวิชาการ เช่น การแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงนโยบาย หรือการวิจัยในด้านที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศต้นทางของ CIA

    3. ในบางกรณีอาจมีบุคคลภายในมหาวิทยาลัยที่เป็น “สายของ CIA” หรือได้รับการสนับสนุนให้ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ของ CIA ในการเข้ามาทำงานในมหาวิทยาลัย เช่น การสนับสนุนในการปลอมเอกสาร รับรองความถูกต้องของประวัติ หรือการแนะนำงานวิจัยที่เอื้อต่อภารกิจข่าวกรอง

    4. สร้าง “cover story” ที่น่าเชื่อถือ การมีบุคคลภายในมหาวิทยาลัยที่รู้เห็นสามารถช่วยสนับสนุนเจ้าหน้าที่ CIA ในการสร้างประวัติที่น่าเชื่อถือ เช่น การรับรองผลงานทางวิชาการ หรือสนับสนุนการวิจัยเพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถทำงานภายใต้บทบาทนักวิชาการได้โดยไม่ต้องสงสัย

    ทำไมมหาวิทยาลัยหรือบุคคลบางคนอาจร่วมมือกับ CIA:

    • ผลประโยชน์ส่วนตัว: อาจมีการเสนอผลประโยชน์ทางการเงินหรือทางวิชาการให้แก่บุคคลที่ช่วยเหลือ CIA

    • ความร่วมมือระหว่างประเทศ: รัฐบาลหรือหน่วยงานข่าวกรองท้องถิ่นอาจมีข้อตกลงในการแลกเปลี่ยนข้อมูลหรือทำงานร่วมกับ CIA เพื่อผลประโยชน์ทางความมั่นคง

    • การสร้างชื่อเสียง: มหาวิทยาลัยบางแห่งอาจยินดีต้อนรับบุคคลจากต่างประเทศหรือองค์กรที่มีชื่อเสียงเข้ามาเป็นอาจารย์หรือนักวิจัย เพื่อเพิ่มชื่อเสียงของสถาบัน

    ข้อสังเกต:

    แม้ว่าการแทรกซึมของ CIA ในมหาวิทยาลัยอาจเกิดขึ้นได้ แต่การเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้อย่างตรงไปตรงมาเป็นเรื่องยาก เพราะจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทางการเมืองและอาจสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยและประเทศที่เกี่ยวข้อง

    ดังนั้น ในกรณีที่มีการตั้งข้อสงสัยว่า CIA อาจส่งเจ้าหน้าที่มาในบทบาทนักวิชาการและมีการรู้เห็นจากคนภายในมหาวิทยาลัยนั้น เป็นไปได้ แต่ส่วนใหญ่กระบวนการเหล่านี้จะถูกปกปิดอย่างรัดกุมเพื่อป้องกันไม่ให้มีการเชื่อมโยงโดยตรง

    ปฏิบัติการที่ CIA ส่งเจ้าหน้าที่แฝงตัวในบทบาทต่างๆ เช่น นักวิชาการ โดยมักมีจุดประสงค์หลักที่เกี่ยวข้องกับการรวบรวมข้อมูลข่าวกรองเพื่อส่งเสริมผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ในต่างประเทศ

    การแสวงหาพันธมิตร เช่น ใช้โอกาสในการสร้างเครือข่ายกับบุคคลที่มีอำนาจในประเทศนั้นๆ เช่น เจ้าหน้าที่รัฐบาล นักวิชาการชั้นนำ หรือผู้นำองค์กรต่างๆ นักวิชาการที่แฝงตัวอาจมีหน้าที่เผยแพร่แนวคิดหรือข้อมูลที่สนับสนุนนโยบายของสหรัฐฯ

    เจ้าหน้าที่ CIA ที่มีบทบาทในวงการสื่อหรือนักวิชาการอาจทำหน้าที่ควบคุมหรือชี้นำการอภิปรายเรื่องบางประเด็น เพื่อส่งผลต่อความเห็นของประชาชนในประเทศนั้นๆ ในลักษณะที่เป็นประโยชน์ต่อสหรัฐฯ

    ที่สำคัญ ที่พบบ่อยและชัดเจนที่สุดคือ การแทรกแซงหรือสร้างอิทธิพลในเหตุการณ์ทางการเมือง โดย CIA อาจแฝงตัวเพื่อสนับสนุนหรือขัดขวางการเคลื่อนไหวทางการเมืองในประเทศเป้าหมาย ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง การสร้างความไม่สงบ หรือการส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลที่เป็นมิตรกับสหรัฐฯ

    โปรดติดตามตอนต่อไป
    #TheNewGeopoliticaalArena #ThaiGeopoliticalSheft

    ตอนที่ 1: https://www.facebook.com/share/p/TDwfDjQV53w8dia3/?mibextid=WC7FNe
    ที่มา https://www.facebook.com/100070260068883/posts/606278728390791/?mibextid=rS40aB7S9Ucbxw6v
    #เรื่องลับของสายลับ ตอนที่ 2 CIA ในคราบอาจารย์มหาวิทยาลัย โดย #อัษฎางค์ยมนาค ความเป็นไปได้ที่ มหาวิทยาลัย หรือบุคคลภายในมหาวิทยาลัยอาจมีความเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นกับ CIA ในบางกรณี โดยเฉพาะหากมีการทำงานร่วมกันเพื่อประโยชน์บางอย่าง แต่ในกรณีส่วนใหญ่ การดำเนินการของ CIA มักจะมีการปกปิดอย่างดีเพื่อให้ไม่มีการเชื่อมโยงโดยตรงระหว่างมหาวิทยาลัยกับปฏิบัติการของ CIA เนื่องจากความเสี่ยงทางการเมืองและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ปัจจัยที่ทำให้เป็นไปได้ว่าอาจมีคนในมหาวิทยาลัยรู้เห็นกับ CIA 1. ในบางประเทศ หน่วยข่าวกรองท้องถิ่นหรือรัฐบาลเองอาจมีความร่วมมือกับ CIA และส่งเสริมการแฝงตัวในมหาวิทยาลัยหรือองค์กรวิชาการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่เกี่ยวข้องกับการรวบรวมข้อมูลข่าวกรอง การแทรกซึม หรือการแสวงหาประโยชน์จากทรัพยากรในท้องถิ่น 2. มหาวิทยาลัยบางแห่งอาจมีการร่วมมือกับหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองหรือวิชาการ เช่น การแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงนโยบาย หรือการวิจัยในด้านที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศต้นทางของ CIA 3. ในบางกรณีอาจมีบุคคลภายในมหาวิทยาลัยที่เป็น “สายของ CIA” หรือได้รับการสนับสนุนให้ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ของ CIA ในการเข้ามาทำงานในมหาวิทยาลัย เช่น การสนับสนุนในการปลอมเอกสาร รับรองความถูกต้องของประวัติ หรือการแนะนำงานวิจัยที่เอื้อต่อภารกิจข่าวกรอง 4. สร้าง “cover story” ที่น่าเชื่อถือ การมีบุคคลภายในมหาวิทยาลัยที่รู้เห็นสามารถช่วยสนับสนุนเจ้าหน้าที่ CIA ในการสร้างประวัติที่น่าเชื่อถือ เช่น การรับรองผลงานทางวิชาการ หรือสนับสนุนการวิจัยเพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถทำงานภายใต้บทบาทนักวิชาการได้โดยไม่ต้องสงสัย ทำไมมหาวิทยาลัยหรือบุคคลบางคนอาจร่วมมือกับ CIA: • ผลประโยชน์ส่วนตัว: อาจมีการเสนอผลประโยชน์ทางการเงินหรือทางวิชาการให้แก่บุคคลที่ช่วยเหลือ CIA • ความร่วมมือระหว่างประเทศ: รัฐบาลหรือหน่วยงานข่าวกรองท้องถิ่นอาจมีข้อตกลงในการแลกเปลี่ยนข้อมูลหรือทำงานร่วมกับ CIA เพื่อผลประโยชน์ทางความมั่นคง • การสร้างชื่อเสียง: มหาวิทยาลัยบางแห่งอาจยินดีต้อนรับบุคคลจากต่างประเทศหรือองค์กรที่มีชื่อเสียงเข้ามาเป็นอาจารย์หรือนักวิจัย เพื่อเพิ่มชื่อเสียงของสถาบัน ข้อสังเกต: แม้ว่าการแทรกซึมของ CIA ในมหาวิทยาลัยอาจเกิดขึ้นได้ แต่การเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้อย่างตรงไปตรงมาเป็นเรื่องยาก เพราะจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทางการเมืองและอาจสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยและประเทศที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น ในกรณีที่มีการตั้งข้อสงสัยว่า CIA อาจส่งเจ้าหน้าที่มาในบทบาทนักวิชาการและมีการรู้เห็นจากคนภายในมหาวิทยาลัยนั้น เป็นไปได้ แต่ส่วนใหญ่กระบวนการเหล่านี้จะถูกปกปิดอย่างรัดกุมเพื่อป้องกันไม่ให้มีการเชื่อมโยงโดยตรง ปฏิบัติการที่ CIA ส่งเจ้าหน้าที่แฝงตัวในบทบาทต่างๆ เช่น นักวิชาการ โดยมักมีจุดประสงค์หลักที่เกี่ยวข้องกับการรวบรวมข้อมูลข่าวกรองเพื่อส่งเสริมผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ในต่างประเทศ การแสวงหาพันธมิตร เช่น ใช้โอกาสในการสร้างเครือข่ายกับบุคคลที่มีอำนาจในประเทศนั้นๆ เช่น เจ้าหน้าที่รัฐบาล นักวิชาการชั้นนำ หรือผู้นำองค์กรต่างๆ นักวิชาการที่แฝงตัวอาจมีหน้าที่เผยแพร่แนวคิดหรือข้อมูลที่สนับสนุนนโยบายของสหรัฐฯ เจ้าหน้าที่ CIA ที่มีบทบาทในวงการสื่อหรือนักวิชาการอาจทำหน้าที่ควบคุมหรือชี้นำการอภิปรายเรื่องบางประเด็น เพื่อส่งผลต่อความเห็นของประชาชนในประเทศนั้นๆ ในลักษณะที่เป็นประโยชน์ต่อสหรัฐฯ ที่สำคัญ ที่พบบ่อยและชัดเจนที่สุดคือ การแทรกแซงหรือสร้างอิทธิพลในเหตุการณ์ทางการเมือง โดย CIA อาจแฝงตัวเพื่อสนับสนุนหรือขัดขวางการเคลื่อนไหวทางการเมืองในประเทศเป้าหมาย ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง การสร้างความไม่สงบ หรือการส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลที่เป็นมิตรกับสหรัฐฯ โปรดติดตามตอนต่อไป #TheNewGeopoliticaalArena #ThaiGeopoliticalSheft ตอนที่ 1: https://www.facebook.com/share/p/TDwfDjQV53w8dia3/?mibextid=WC7FNe ที่มา https://www.facebook.com/100070260068883/posts/606278728390791/?mibextid=rS40aB7S9Ucbxw6v
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 517 มุมมอง 0 รีวิว
  • สื่อในอิหร่านรายงานว่าหัวหน้าหน่วยข่าวกรองของกรมตำรวจบันดาร์-เอ-เลนเกห์(Bandar-e Lengeh) ทางตอนใต้ของอิหร่าน ถูกลอบสังหารจากเหตุวางระเบิดรถยนต์ของเขา

    รายงานเพิ่มเติมระบุว่า ผู้ช่วยของเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการโจมตีครั้งนี้ด้วย
    สื่อในอิหร่านรายงานว่าหัวหน้าหน่วยข่าวกรองของกรมตำรวจบันดาร์-เอ-เลนเกห์(Bandar-e Lengeh) ทางตอนใต้ของอิหร่าน ถูกลอบสังหารจากเหตุวางระเบิดรถยนต์ของเขา รายงานเพิ่มเติมระบุว่า ผู้ช่วยของเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการโจมตีครั้งนี้ด้วย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 189 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts