• เรียนจบครูมา เลือกสอบอะไรดี? สพฐ. หรือ อปท. 🤔 ท่ามกลางความเหมือนที่แตกต่าง – สพฐ. ก้าวไกลถึงกระทรวง แต่ อปท. เบิกค่าบ้านได้

    🌟 เมื่อต้องเลือกเส้นทางข้าราชการครู เข้าสู่ฤดูกาลสมัครสอบ ข้าราชการส่วนท้องถิ่นประจำปี 2568 บัณฑิตสายครูหลายคนอาจลังเลใจ ว่าควรเลือกสอบครูผู้ช่วย สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) หรือจะไปครูผู้ช่วย สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ดี?

    🔹 สพฐ. ดูมั่นคง มีเส้นทางก้าวหน้าสู่กระทรวง
    🔹 อปท. ได้สิทธิ์เบิกค่าเช่าบ้าน เงินเดือนอาจคล่องตัว

    แต่ทั้งสองเส้นทางนี้มีความเหมือน และแตกต่างในหลายมิติ 🎯

    👩‍🏫 ครูผู้ช่วย อปท. กับครูผู้ช่วย สพฐ. เหมือนหรือต่างกันอย่างไร?
    🏛️ สถานะทางกฎหมาย
    - ครูผู้ช่วย สพฐ. เป็นข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูฯ ปี 2547
    - ส่วนครูผู้ช่วย อปท. เป็นพนักงานครู หรือก็คือ ข้าราชการส่วนท้องถิ่น ตาม พ.ร.บ.ระเบียบบริหารงานบุคคลท้องถิ่น ปี 2542

    แม้กฎหมายจะต่างกัน แต่โดยหลักการแล้ว ศักดิ์ศรีและสิทธิประโยชน์แทบไม่ต่างกัน

    💰 เงินเดือนและสวัสดิการ
    - ครูผู้ช่วย อปท. ไม่ต้องหัก 3% เข้า กบข. แต่จะมีเงินสมทบ เข้ากองทุนบำเหน็จบำนาญท้องถิ่น (กบท.)
    - ครูผู้ช่วย สพฐ. ต้องหักเงินเดือน 3% เข้า กบข. ตามระเบียบ

    ✅ ข้อได้เปรียบของ อปท. คือได้เงินเดือนเต็มกว่าเล็กน้อย

    📌 ครูผู้ช่วย อปท. เบิกค่าเช่าบ้านได้! 🏠 สูงสุด 6,000 บาท ต่อเดือน ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ขอแค่ย้ายออกจากพื้นที่บรรจุครั้งแรก และไม่มีบ้านพักของหน่วยงาน

    ❌ ส่วนครูผู้ช่วย สพฐ. เบิกไม่ได้! ตามพระราชกฤษฎีกาค่าเช่าบ้าน ถ้าย้ายเองเท่ากับ “ร้องขอ” → หมดสิทธิ์

    📌 ทั้งนี้ อปท. บางแห่ง ก็ไม่อนุญาตให้เบิกค่าเช่าบ้าน เพราะอาจมีผลกระทบต่อฐานะทางการเงินของ อปท.

    🏥 สิทธิ์รักษาพยาบาล ใครดีกว่า?
    ✅ ครอบคลุมเหมือนกัน ทั้งบิดา มารดา คู่สมรส และบุตร
    ✅ เบิกจ่ายตรงได้ เหมือนกัน

    🔹 ต่างกันที่แหล่งเงิน
    - ครูผู้ช่วย อปท. ใช้งบของ สปสช.
    - ครูผู้ช่วย สพฐ. ใช้งบของกรมบัญชีกลาง

    🚑 เรื่องนี้แทบไม่มีผลกระทบใด ๆ ต่อผู้รับสิทธิ์

    📈 การเลื่อนเงินเดือนและวิทยฐานะ
    - ครูผู้ช่วย สพฐ. ทำตามกฎของ ก.ค.ศ.
    - ครูผู้ช่วย อปท. ทำตามมาตรฐานของ ก.กลาง และ ก.จังหวัด ซึ่งเนื้อหาแทบไม่ต่างกัน

    📌 ข้อแตกต่าง เกณฑ์ใหม่ของ สพฐ. จะถูกนำมาปรับใช้กับ อปท. ตามหลัง 6 เดือน - 1 ปี อปท.บางแห่งให้โบนัส เช่น อบจ.ชลบุรี

    🎯 ถ้าสอบ อปท. ควรเช็กว่า อปท. ที่เลือกบรรจุนั้น มีโบนัสไหม!

    📌 ความคล่องตัวในการย้าย
    - สพฐ. มีโรงเรียนเยอะ ย้ายง่าย
    - อปท. มีโรงเรียนน้อย โอกาสย้ายกลับบ้านน้อยกว่า

    📍 การโอนข้ามสังกัด
    🔹 สพฐ. โอนไป อปท. ได้ง่ายกว่า
    🔹 อปท. โอนไป สพฐ. ยากมาก!

    🚨 ถ้าคิดจะโอนข้ามสังกัด ต้องศึกษาเงื่อนไขให้ดี

    🎯 เส้นทางความก้าวหน้า
    🏛️ ครูผู้ช่วย สพฐ. ก้าวไกลถึงกระทรวง! สามารถไต่เต้าไปได้ถึง ผอ.เขตพื้นที่การศึกษา รองเลขาธิการ สพฐ. กระทั่งปลัดกระทรวงศึกษาธิการ

    🏙️ ส่วนครูผู้ช่วย อปท. มักไปสุดแค่ ผอ.โรงเรียน อาจเป็น ผอ.กองการศึกษา ได้ แต่ต้องแข่งกับข้าราชการสายอำนวยการ

    🏆 ถ้าอยากเติบโตในสายงานการศึกษา สพฐ. มีทางเลือกมากกว่า

    📚 ระบบงานและระเบียบ
    📌 ระบบของ สพฐ.
    ✔️ โรงเรียนเป็น นิติบุคคลมหาชน
    ✔️ ต้องทำเรื่องเบิกจ่ายผ่าน เขตพื้นที่การศึกษา
    ✔️ ระบบระเบียบยังคลุมเครือ

    📌 ระบบของ อปท.
    ✔️ โรงเรียนเป็น หน่วยงานของ อปท.
    ✔️ วางฎีกาและเบิกจ่ายที่โรงเรียนได้เอง
    ✔️ ระเบียบเยอะ ต้องทำงานเอกสารมาก

    🎯 ถ้าชอบระบบงานที่ชัดเจน อปท. อาจเป็นตัวเลือกที่ดี แต่ถ้าอยากทำงานแบบอิสระ สพฐ. อาจตอบโจทย์กว่า

    🏫 งบประมาณโรงเรียน
    🔹 รร. สพฐ. ได้รับงบจากรัฐบาลโดยตรง
    🔹 รร. อปท. ได้รับงบจาก อปท. ต้นสังกัด ซึ่งส่วนใหญ่ เงินไม่ขาดแน่นอน แต่ใช้งานยาก เพราะระเบียบเยอะ

    📌 ข้อได้เปรียบของ อปท.
    ✔️ เงินเหลือใช้ได้ต่อปี ไม่ต้องคืนรัฐ
    ✔️ ซื้อครุภัณฑ์ได้ง่ายกว่า ไม่ต้องผ่านระบบ CIO

    🏛️ การเมืองมีผลต่อการทำงานหรือไม่?
    รร. อปท. อยู่ภายใต้การดูแลของ นายก อปท.
    รร. สพฐ. อยู่ภายใต้ เขตพื้นที่การศึกษา และกระทรวง

    📌 ความจริง ทั้งสองสังกัด มีการเมืองในองค์กรเหมือนกัน

    🔥 แต่ถ้าอยู่ อปท. มักเจอ "การเมืองท้องถิ่น" มากกว่า

    🎯 เลือกสอบอะไรดี?
    ✅ ถ้าต้องการความมั่นคง และเส้นทางก้าวหน้าระดับกระทรวง → เลือก สพฐ.
    ✅ ถ้าต้องการเงินเดือนเต็ม เบิกค่าเช่าบ้านได้ และมีงบประมาณคล่องตัว → เลือก อปท.

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 091524 มี.ค. 2568

    📌 #สอบครู #ครูผู้ช่วย #สพฐ #อปท #สอบราชการ #ครูไทย #ข้าราชการครู #เลือกสังกัดไหนดี #ครูบ้านนอก #สอบบรรจุ
    เรียนจบครูมา เลือกสอบอะไรดี? สพฐ. หรือ อปท. 🤔 ท่ามกลางความเหมือนที่แตกต่าง – สพฐ. ก้าวไกลถึงกระทรวง แต่ อปท. เบิกค่าบ้านได้ 🌟 เมื่อต้องเลือกเส้นทางข้าราชการครู เข้าสู่ฤดูกาลสมัครสอบ ข้าราชการส่วนท้องถิ่นประจำปี 2568 บัณฑิตสายครูหลายคนอาจลังเลใจ ว่าควรเลือกสอบครูผู้ช่วย สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) หรือจะไปครูผู้ช่วย สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ดี? 🔹 สพฐ. ดูมั่นคง มีเส้นทางก้าวหน้าสู่กระทรวง 🔹 อปท. ได้สิทธิ์เบิกค่าเช่าบ้าน เงินเดือนอาจคล่องตัว แต่ทั้งสองเส้นทางนี้มีความเหมือน และแตกต่างในหลายมิติ 🎯 👩‍🏫 ครูผู้ช่วย อปท. กับครูผู้ช่วย สพฐ. เหมือนหรือต่างกันอย่างไร? 🏛️ สถานะทางกฎหมาย - ครูผู้ช่วย สพฐ. เป็นข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูฯ ปี 2547 - ส่วนครูผู้ช่วย อปท. เป็นพนักงานครู หรือก็คือ ข้าราชการส่วนท้องถิ่น ตาม พ.ร.บ.ระเบียบบริหารงานบุคคลท้องถิ่น ปี 2542 แม้กฎหมายจะต่างกัน แต่โดยหลักการแล้ว ศักดิ์ศรีและสิทธิประโยชน์แทบไม่ต่างกัน 💰 เงินเดือนและสวัสดิการ - ครูผู้ช่วย อปท. ไม่ต้องหัก 3% เข้า กบข. แต่จะมีเงินสมทบ เข้ากองทุนบำเหน็จบำนาญท้องถิ่น (กบท.) - ครูผู้ช่วย สพฐ. ต้องหักเงินเดือน 3% เข้า กบข. ตามระเบียบ ✅ ข้อได้เปรียบของ อปท. คือได้เงินเดือนเต็มกว่าเล็กน้อย 📌 ครูผู้ช่วย อปท. เบิกค่าเช่าบ้านได้! 🏠 สูงสุด 6,000 บาท ต่อเดือน ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ขอแค่ย้ายออกจากพื้นที่บรรจุครั้งแรก และไม่มีบ้านพักของหน่วยงาน ❌ ส่วนครูผู้ช่วย สพฐ. เบิกไม่ได้! ตามพระราชกฤษฎีกาค่าเช่าบ้าน ถ้าย้ายเองเท่ากับ “ร้องขอ” → หมดสิทธิ์ 📌 ทั้งนี้ อปท. บางแห่ง ก็ไม่อนุญาตให้เบิกค่าเช่าบ้าน เพราะอาจมีผลกระทบต่อฐานะทางการเงินของ อปท. 🏥 สิทธิ์รักษาพยาบาล ใครดีกว่า? ✅ ครอบคลุมเหมือนกัน ทั้งบิดา มารดา คู่สมรส และบุตร ✅ เบิกจ่ายตรงได้ เหมือนกัน 🔹 ต่างกันที่แหล่งเงิน - ครูผู้ช่วย อปท. ใช้งบของ สปสช. - ครูผู้ช่วย สพฐ. ใช้งบของกรมบัญชีกลาง 🚑 เรื่องนี้แทบไม่มีผลกระทบใด ๆ ต่อผู้รับสิทธิ์ 📈 การเลื่อนเงินเดือนและวิทยฐานะ - ครูผู้ช่วย สพฐ. ทำตามกฎของ ก.ค.ศ. - ครูผู้ช่วย อปท. ทำตามมาตรฐานของ ก.กลาง และ ก.จังหวัด ซึ่งเนื้อหาแทบไม่ต่างกัน 📌 ข้อแตกต่าง เกณฑ์ใหม่ของ สพฐ. จะถูกนำมาปรับใช้กับ อปท. ตามหลัง 6 เดือน - 1 ปี อปท.บางแห่งให้โบนัส เช่น อบจ.ชลบุรี 🎯 ถ้าสอบ อปท. ควรเช็กว่า อปท. ที่เลือกบรรจุนั้น มีโบนัสไหม! 📌 ความคล่องตัวในการย้าย - สพฐ. มีโรงเรียนเยอะ ย้ายง่าย - อปท. มีโรงเรียนน้อย โอกาสย้ายกลับบ้านน้อยกว่า 📍 การโอนข้ามสังกัด 🔹 สพฐ. โอนไป อปท. ได้ง่ายกว่า 🔹 อปท. โอนไป สพฐ. ยากมาก! 🚨 ถ้าคิดจะโอนข้ามสังกัด ต้องศึกษาเงื่อนไขให้ดี 🎯 เส้นทางความก้าวหน้า 🏛️ ครูผู้ช่วย สพฐ. ก้าวไกลถึงกระทรวง! สามารถไต่เต้าไปได้ถึง ผอ.เขตพื้นที่การศึกษา รองเลขาธิการ สพฐ. กระทั่งปลัดกระทรวงศึกษาธิการ 🏙️ ส่วนครูผู้ช่วย อปท. มักไปสุดแค่ ผอ.โรงเรียน อาจเป็น ผอ.กองการศึกษา ได้ แต่ต้องแข่งกับข้าราชการสายอำนวยการ 🏆 ถ้าอยากเติบโตในสายงานการศึกษา สพฐ. มีทางเลือกมากกว่า 📚 ระบบงานและระเบียบ 📌 ระบบของ สพฐ. ✔️ โรงเรียนเป็น นิติบุคคลมหาชน ✔️ ต้องทำเรื่องเบิกจ่ายผ่าน เขตพื้นที่การศึกษา ✔️ ระบบระเบียบยังคลุมเครือ 📌 ระบบของ อปท. ✔️ โรงเรียนเป็น หน่วยงานของ อปท. ✔️ วางฎีกาและเบิกจ่ายที่โรงเรียนได้เอง ✔️ ระเบียบเยอะ ต้องทำงานเอกสารมาก 🎯 ถ้าชอบระบบงานที่ชัดเจน อปท. อาจเป็นตัวเลือกที่ดี แต่ถ้าอยากทำงานแบบอิสระ สพฐ. อาจตอบโจทย์กว่า 🏫 งบประมาณโรงเรียน 🔹 รร. สพฐ. ได้รับงบจากรัฐบาลโดยตรง 🔹 รร. อปท. ได้รับงบจาก อปท. ต้นสังกัด ซึ่งส่วนใหญ่ เงินไม่ขาดแน่นอน แต่ใช้งานยาก เพราะระเบียบเยอะ 📌 ข้อได้เปรียบของ อปท. ✔️ เงินเหลือใช้ได้ต่อปี ไม่ต้องคืนรัฐ ✔️ ซื้อครุภัณฑ์ได้ง่ายกว่า ไม่ต้องผ่านระบบ CIO 🏛️ การเมืองมีผลต่อการทำงานหรือไม่? รร. อปท. อยู่ภายใต้การดูแลของ นายก อปท. รร. สพฐ. อยู่ภายใต้ เขตพื้นที่การศึกษา และกระทรวง 📌 ความจริง ทั้งสองสังกัด มีการเมืองในองค์กรเหมือนกัน 🔥 แต่ถ้าอยู่ อปท. มักเจอ "การเมืองท้องถิ่น" มากกว่า 🎯 เลือกสอบอะไรดี? ✅ ถ้าต้องการความมั่นคง และเส้นทางก้าวหน้าระดับกระทรวง → เลือก สพฐ. ✅ ถ้าต้องการเงินเดือนเต็ม เบิกค่าเช่าบ้านได้ และมีงบประมาณคล่องตัว → เลือก อปท. ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 091524 มี.ค. 2568 📌 #สอบครู #ครูผู้ช่วย #สพฐ #อปท #สอบราชการ #ครูไทย #ข้าราชการครู #เลือกสังกัดไหนดี #ครูบ้านนอก #สอบบรรจุ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 88 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้เสียงผมเริ่มแข็งมากขึ้นจากการที่ถูกตามจิกให้แก้งานทั้งวันทั้งคืนมานานแล้วเพราะทำงานให้มันไปกว่าจะได้เงินก็ไส้แห้งพอดี ดีไม่ดีก็ได้เงินน้อยกว่านั้น ยิ่งคิดยิ่งเจ็บใจ เข้าส่วนลึกของก้นบิ้งของหัวใจ แต่ผมเลือกเกิดไม่ได้ก็จริง แต่ผมเกิดมาในครอบครัวที่รับราชการแต่ผมไม่อยากรับราชการ เพราะเคยทำงานราชการในฐานะลูกจ้างมา 2 ครั้งแล้วเจอระบบงานที่ไม่เป็นธรรม ผู้ใหญ่โยนงาน มีตำแหน่งธุรการก็ทำงานโคตรจับฉ่าย มีตำแหน่งไม่ใช่ธุรการ จะเป็น พัสดุ คอม หรือ นิติกร ก็ต้องทำงานธุรการ OT ก็ได้โคตรน้อย บางวันก็ไม่ได้เลย บัดซบฉิบหาย ระบบโหล่ยโท่ย ไม่ได้เรื่อง เป็นผู้น้อยก็ไม่กล้าตัดสินใจ ถ้ากล้าตัดสินใจปุ๊ป โดนไล่ออกทันทีอย่างไร้ความปราณี ผิดจริยธรรม ผิดลักษณะการเป็น ขรก.มีให้เห็นเยอะแยะแต่ผู้ใหญ่ก็มีเยอะ โยนงานอย่างเดียว นั่งสบายๆ โถ่ไอ้สัส ร้องเรียนไปก็เงียบเป็นป่าช้า ระบบเน่ามานานแล้ว ไม่มีใครกล้าตัดสินใจ เกรงใจผู้ใหญ่ทำ...อะไรก็กล้าตัดสินใจเปลี่ยนทั้งระบบสิ ไม่ใช่ก้มหัวให้ผู้ใหญ่แหกกฎระเบียบ ขรก. มากดขี่ร่ำไป ผมไม่ได้ผิดที่เกิดมาในครอบครัวที่เป็นข้าราชการ แต่ผิดที่ผมสอบราชการไม่ได้ ไม่คิดสอบบรรจุราชการ ต้องการทำงานฟรีแลนซ์ เงินเกษียณก็น้อยลงๆ บำนาญ สส. เยอะกว่าบำนาญ ขรก. อีก ไม่อยากให้ระบบสังคมบัดซบนี้มากระทำให้ผมต้องเสียผู้เสียคนอีกแล้ว ผมคือส่วนเกินของครอบครัว ผมคือมะเร็งเนื้อร้อยของครอบครัว ผมคือคนที่ครอบครัวไม่เก็บไว้เป็นภาระ ปรสิตหรืออะไรก็ตามแต่ แต่ผมอยากอยู่คนเดียว หากินคนเดียว ยืนด้วยแข้งขาตัวเอง ดีไม่ดีผมอาจต้องแยกย้ายไปต่างคนต่างอยู่ ไม่แน่ผมอาจอยู่กับแฟนหรือคนที่ไว้ใจได้ แต่ผมตั้งใจจะตัดขาดกับอะไรก็ตามแต่ที่ทำให้สภาพจิตใจผมย่ำแย่ ครอบครัวไม่ใช่เซฟโซน หลายคนพูดมานานแล้ว สุดท้ายผมต้องรักตัวเองและเชื่อมั่นตัวเอง ไม่ต้องไปตามใครหรอก
    วันนี้เสียงผมเริ่มแข็งมากขึ้นจากการที่ถูกตามจิกให้แก้งานทั้งวันทั้งคืนมานานแล้วเพราะทำงานให้มันไปกว่าจะได้เงินก็ไส้แห้งพอดี ดีไม่ดีก็ได้เงินน้อยกว่านั้น ยิ่งคิดยิ่งเจ็บใจ เข้าส่วนลึกของก้นบิ้งของหัวใจ แต่ผมเลือกเกิดไม่ได้ก็จริง แต่ผมเกิดมาในครอบครัวที่รับราชการแต่ผมไม่อยากรับราชการ เพราะเคยทำงานราชการในฐานะลูกจ้างมา 2 ครั้งแล้วเจอระบบงานที่ไม่เป็นธรรม ผู้ใหญ่โยนงาน มีตำแหน่งธุรการก็ทำงานโคตรจับฉ่าย มีตำแหน่งไม่ใช่ธุรการ จะเป็น พัสดุ คอม หรือ นิติกร ก็ต้องทำงานธุรการ OT ก็ได้โคตรน้อย บางวันก็ไม่ได้เลย บัดซบฉิบหาย ระบบโหล่ยโท่ย ไม่ได้เรื่อง เป็นผู้น้อยก็ไม่กล้าตัดสินใจ ถ้ากล้าตัดสินใจปุ๊ป โดนไล่ออกทันทีอย่างไร้ความปราณี ผิดจริยธรรม ผิดลักษณะการเป็น ขรก.มีให้เห็นเยอะแยะแต่ผู้ใหญ่ก็มีเยอะ โยนงานอย่างเดียว นั่งสบายๆ โถ่ไอ้สัส ร้องเรียนไปก็เงียบเป็นป่าช้า ระบบเน่ามานานแล้ว ไม่มีใครกล้าตัดสินใจ เกรงใจผู้ใหญ่ทำ...อะไรก็กล้าตัดสินใจเปลี่ยนทั้งระบบสิ ไม่ใช่ก้มหัวให้ผู้ใหญ่แหกกฎระเบียบ ขรก. มากดขี่ร่ำไป ผมไม่ได้ผิดที่เกิดมาในครอบครัวที่เป็นข้าราชการ แต่ผิดที่ผมสอบราชการไม่ได้ ไม่คิดสอบบรรจุราชการ ต้องการทำงานฟรีแลนซ์ เงินเกษียณก็น้อยลงๆ บำนาญ สส. เยอะกว่าบำนาญ ขรก. อีก ไม่อยากให้ระบบสังคมบัดซบนี้มากระทำให้ผมต้องเสียผู้เสียคนอีกแล้ว ผมคือส่วนเกินของครอบครัว ผมคือมะเร็งเนื้อร้อยของครอบครัว ผมคือคนที่ครอบครัวไม่เก็บไว้เป็นภาระ ปรสิตหรืออะไรก็ตามแต่ แต่ผมอยากอยู่คนเดียว หากินคนเดียว ยืนด้วยแข้งขาตัวเอง ดีไม่ดีผมอาจต้องแยกย้ายไปต่างคนต่างอยู่ ไม่แน่ผมอาจอยู่กับแฟนหรือคนที่ไว้ใจได้ แต่ผมตั้งใจจะตัดขาดกับอะไรก็ตามแต่ที่ทำให้สภาพจิตใจผมย่ำแย่ ครอบครัวไม่ใช่เซฟโซน หลายคนพูดมานานแล้ว สุดท้ายผมต้องรักตัวเองและเชื่อมั่นตัวเอง ไม่ต้องไปตามใครหรอก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 184 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความไม่สงบชายแดนใต้ ปัญหาที่คอยตบหน้ารัฐบาลไม่มีวันจบ
    นับจากเหตุการณ์ปล้นปืนในปี 2547อันเป็นเสมือนจุดเริ่มต้นเหตุการณ์ความไม่สงบ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้จวบจนวันนี้เป็นเวลากว่า 20ปี ที่ผ่านมา ที่รัฐบาลไทยภายใต้การบริหารของรัฐบาล 10 ชุด นายกรัฐมนตรี 8 คนไม่สามารถแก้ไขปัญหาความรุนแรงได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
    ตัวเลขของผู้เสียชีวิต มีทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ และประชาชนผู้บริสุทธิ์ทั้งไทยพุทธ และมุสลิมเสียชีวิตมากกว่าเจ็ดพันคน บาดเจ็บและพิการทุพพลภาพมากกว่า2พัน คนใช้งบประมาณในการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่องรวมกันแล้วมากกว่า 3.13แสนล้านบาท
    ล่าสุดหลังผ่านพ้นเทศกาลปีใหม่ไปได้สัปดาห์เดียว 14 มกราคม 68โจรใต้ได้ก่อเหตุวางระเบิดและยิงซ้ําเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นครูโรงเรียนตํารวจตระเวนชายแดนเสียชีวิตอีก 2 นายที่จังหวัดนราธิวาส สิ่งที่สร้างความสะเทือนใจจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ก็คือผู้เสียชีวิตทั้ง2 นายเป็นพ่อลูกทําหน้าที่ครูโรงเรียนตํารวจตระเวนชายแดนในพื้นที่บ้านไอกึนเนาะ จังหวัดนราธิวาส โดยผู้เป็นพ่อคือพันตํารวจโทสุวิทย์ ช่วยเทวฤทธิ์อายุ 56 ปีเป็นครูใหญ่ของโรงเรียน ส่วนลูกชายคือดาบตํารวจโดมช่วยเทวฤทธิ์ อายุ 35ปี เป็นครูอาสาโรงเรียนเดียวกัน
    ครูสุวิทย์เคยเปิดใจให้สัมภาษณ์ว่าผมตั้งใจไว้ตั้งแต่เด็กสักวันจะเป็นครูอยากช่วยเหลือเด็กในพื้นที่ที่ทุรกันดารจึงเข้ามาเป็นครู โดยได้สิทธิสอบบรรจุ ครูคุรุทายาทเมื่อได้จึงเลือกที่จะทํางานในพื้นที่ของจังหวัดนราธิวาสที่ใครๆก็ไม่อยากมาแต่ผมกลับมองว่าเป็นโอกาสดี
    ที่จะได้ทํางานสนองงานพระราชดําริทุกพระองค์ได้อย่างเต็มที่ การสูญเสียวีรบุรุษครูตํารวจตระเวนชายแดนครั้งนี้ไม่ต่างอะไรกับการเย้ยหยันตบหน้ารัฐบาลไทยว่ารัฐไทยหมดน้ํายาแพ้พ่ายโจรก่อการร้ายชายแดนใต้ตลอดกาล งส์โพธิ์ดำขอไว้อาลัยแก่ครูผู้เสียสละจากเหตุการณ์ความไม่สงบในชายแดนใต้ ไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    ความไม่สงบชายแดนใต้ ปัญหาที่คอยตบหน้ารัฐบาลไม่มีวันจบ นับจากเหตุการณ์ปล้นปืนในปี 2547อันเป็นเสมือนจุดเริ่มต้นเหตุการณ์ความไม่สงบ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้จวบจนวันนี้เป็นเวลากว่า 20ปี ที่ผ่านมา ที่รัฐบาลไทยภายใต้การบริหารของรัฐบาล 10 ชุด นายกรัฐมนตรี 8 คนไม่สามารถแก้ไขปัญหาความรุนแรงได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ตัวเลขของผู้เสียชีวิต มีทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ และประชาชนผู้บริสุทธิ์ทั้งไทยพุทธ และมุสลิมเสียชีวิตมากกว่าเจ็ดพันคน บาดเจ็บและพิการทุพพลภาพมากกว่า2พัน คนใช้งบประมาณในการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่องรวมกันแล้วมากกว่า 3.13แสนล้านบาท ล่าสุดหลังผ่านพ้นเทศกาลปีใหม่ไปได้สัปดาห์เดียว 14 มกราคม 68โจรใต้ได้ก่อเหตุวางระเบิดและยิงซ้ําเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นครูโรงเรียนตํารวจตระเวนชายแดนเสียชีวิตอีก 2 นายที่จังหวัดนราธิวาส สิ่งที่สร้างความสะเทือนใจจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ก็คือผู้เสียชีวิตทั้ง2 นายเป็นพ่อลูกทําหน้าที่ครูโรงเรียนตํารวจตระเวนชายแดนในพื้นที่บ้านไอกึนเนาะ จังหวัดนราธิวาส โดยผู้เป็นพ่อคือพันตํารวจโทสุวิทย์ ช่วยเทวฤทธิ์อายุ 56 ปีเป็นครูใหญ่ของโรงเรียน ส่วนลูกชายคือดาบตํารวจโดมช่วยเทวฤทธิ์ อายุ 35ปี เป็นครูอาสาโรงเรียนเดียวกัน ครูสุวิทย์เคยเปิดใจให้สัมภาษณ์ว่าผมตั้งใจไว้ตั้งแต่เด็กสักวันจะเป็นครูอยากช่วยเหลือเด็กในพื้นที่ที่ทุรกันดารจึงเข้ามาเป็นครู โดยได้สิทธิสอบบรรจุ ครูคุรุทายาทเมื่อได้จึงเลือกที่จะทํางานในพื้นที่ของจังหวัดนราธิวาสที่ใครๆก็ไม่อยากมาแต่ผมกลับมองว่าเป็นโอกาสดี ที่จะได้ทํางานสนองงานพระราชดําริทุกพระองค์ได้อย่างเต็มที่ การสูญเสียวีรบุรุษครูตํารวจตระเวนชายแดนครั้งนี้ไม่ต่างอะไรกับการเย้ยหยันตบหน้ารัฐบาลไทยว่ารัฐไทยหมดน้ํายาแพ้พ่ายโจรก่อการร้ายชายแดนใต้ตลอดกาล งส์โพธิ์ดำขอไว้อาลัยแก่ครูผู้เสียสละจากเหตุการณ์ความไม่สงบในชายแดนใต้ ไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 645 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้คงต้องเร่งทำสิ่งที่คั่งค้างส่วนตัวให้เสร็จภายในวันนี้ให้ได้ แม้จะมีคนบอกให้ผมสอบบรรจุ ผมบอกเลยว่า คงทำอย่างนั้นไม่ได้ ผมชอบทำงานอิสระเพื่อที่จะมีเวลาในชีวิตส่วนตัวมากยิ่งขึ้น ชีวิตส่วนตัวผมคือ เขียนโปรแกรม ศึกษาเนื้อเรื่องที่ชื่นชอบและรู้สึกตื่นเต้นและคิดค้นสร้างเกมส์ครับ
    วันนี้คงต้องเร่งทำสิ่งที่คั่งค้างส่วนตัวให้เสร็จภายในวันนี้ให้ได้ แม้จะมีคนบอกให้ผมสอบบรรจุ ผมบอกเลยว่า คงทำอย่างนั้นไม่ได้ ผมชอบทำงานอิสระเพื่อที่จะมีเวลาในชีวิตส่วนตัวมากยิ่งขึ้น ชีวิตส่วนตัวผมคือ เขียนโปรแกรม ศึกษาเนื้อเรื่องที่ชื่นชอบและรู้สึกตื่นเต้นและคิดค้นสร้างเกมส์ครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 159 มุมมอง 0 รีวิว
  • บางทีผมเจอคนมาชวนลงทุนคริปโตบ้าบอ บอกเลย ว่าผมเงินช็อตมาก และผู้ว่าจ้างผมไม่ค่อยจะจ่ายเงิน แถมโดนคนรอบข้างกดดันให้สอบบรรจุและต้องการให้ผมทำงานประจำในออฟฟิศที่โดนห้ามใส่หูฟัง ต้องทนฟังข่าวที่ไม่ต้องการฟัง ฟังแล้วรับ Toxic เข้าไปเต็มๆ
    เขาอยากให้ผมสอบบรรจุ แต่ผมอยากสอบ ก.พ. ให้ผ่านก็พอ ไม่ต้องการทำงานประจำ อยู่แล้วบางทีเวลางานแย่งเวลาหยุดยาวที่ต้องเสพอะไรให้มีความสุข แต่ต้องมาสูด Toxic จากเพื่อนร่วมงาน ไว้ใจไม่ได้จริงๆ
    บางทีเหมือนได้เจอกับคนที่พยายามจะไล่ให้ผมกลับไปอยู่ในนรกจริงๆ และเขาใช้คำเดิมๆว่า เล่นอย่างเดียว กินอย่างเดียว จนผมรู้สึกไม่อยากรับฟัง เพราะถ้ามัวแต่ซีเรียสกับคำพูดพวกนี้ มีแต่จะพาเราตกต่ำลงด้วยครับ
    บางทีผมเจอคนมาชวนลงทุนคริปโตบ้าบอ บอกเลย ว่าผมเงินช็อตมาก และผู้ว่าจ้างผมไม่ค่อยจะจ่ายเงิน แถมโดนคนรอบข้างกดดันให้สอบบรรจุและต้องการให้ผมทำงานประจำในออฟฟิศที่โดนห้ามใส่หูฟัง ต้องทนฟังข่าวที่ไม่ต้องการฟัง ฟังแล้วรับ Toxic เข้าไปเต็มๆ เขาอยากให้ผมสอบบรรจุ แต่ผมอยากสอบ ก.พ. ให้ผ่านก็พอ ไม่ต้องการทำงานประจำ อยู่แล้วบางทีเวลางานแย่งเวลาหยุดยาวที่ต้องเสพอะไรให้มีความสุข แต่ต้องมาสูด Toxic จากเพื่อนร่วมงาน ไว้ใจไม่ได้จริงๆ บางทีเหมือนได้เจอกับคนที่พยายามจะไล่ให้ผมกลับไปอยู่ในนรกจริงๆ และเขาใช้คำเดิมๆว่า เล่นอย่างเดียว กินอย่างเดียว จนผมรู้สึกไม่อยากรับฟัง เพราะถ้ามัวแต่ซีเรียสกับคำพูดพวกนี้ มีแต่จะพาเราตกต่ำลงด้วยครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 262 มุมมอง 0 รีวิว