• รายงานจาก National Cyber Security Center (NCSC) ของสหราชอาณาจักร ร่วมกับหน่วยงานในออสเตรเลีย, แคนาดา, เยอรมนี, นิวซีแลนด์ และสหรัฐฯ เผยว่าแอปพลิเคชันที่ดูเหมือนเป็นแอปทางศาสนาและวัฒนธรรม เช่น Audio Quran และ TibetOne ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการแฝงสปายแวร์เพื่อรวบรวมข้อมูลที่อาจเป็นประโยชน์ต่อรัฐบาลจีน

    🌐 รายละเอียดของแอปพลิเคชันที่แฝงสปายแวร์:
    - 📍 การรวบรวมข้อมูลแบบเรียลไทม์: สปายแวร์ที่ชื่อ BADBAZAAR และ MOONSHINE สามารถเข้าถึงข้อมูลตำแหน่ง, เสียง, วิดีโอ, ไฟล์ในอุปกรณ์, ข้อความ SMS และบันทึกการโทร
    - 📱 การปลอมตัวเป็นแอปพลิเคชันทางศาสนาและวัฒนธรรม: แอปเหล่านี้ถูกออกแบบให้ดูเหมือนแอปที่มีประโยชน์ เช่น การแชร์ภาพและบทความเกี่ยวกับวัฒนธรรมทิเบต

    ⚠️ ผลกระทบต่อชุมชนและองค์กร:
    - 🌏 การติดตามกิจกรรม: แอปพลิเคชันเหล่านี้ไม่ได้เพียงแค่รวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล แต่ยังใช้ในการติดตามกิจกรรมของกลุ่มองค์กรในสังคมพลเมือง
    - 🔒 การแพร่กระจาย: แอปถูกแชร์ผ่านฟอรัมที่ชุมชนเป้าหมายใช้งาน และต้องติดตั้งผ่านไฟล์ .apk เนื่องจากไม่สามารถผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยของ Google Play Store

    https://www.techradar.com/pro/security/spyware-combing-for-data-of-use-to-china-hidden-inside-religious-and-cultural-apps
    รายงานจาก National Cyber Security Center (NCSC) ของสหราชอาณาจักร ร่วมกับหน่วยงานในออสเตรเลีย, แคนาดา, เยอรมนี, นิวซีแลนด์ และสหรัฐฯ เผยว่าแอปพลิเคชันที่ดูเหมือนเป็นแอปทางศาสนาและวัฒนธรรม เช่น Audio Quran และ TibetOne ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการแฝงสปายแวร์เพื่อรวบรวมข้อมูลที่อาจเป็นประโยชน์ต่อรัฐบาลจีน 🌐 รายละเอียดของแอปพลิเคชันที่แฝงสปายแวร์: - 📍 การรวบรวมข้อมูลแบบเรียลไทม์: สปายแวร์ที่ชื่อ BADBAZAAR และ MOONSHINE สามารถเข้าถึงข้อมูลตำแหน่ง, เสียง, วิดีโอ, ไฟล์ในอุปกรณ์, ข้อความ SMS และบันทึกการโทร - 📱 การปลอมตัวเป็นแอปพลิเคชันทางศาสนาและวัฒนธรรม: แอปเหล่านี้ถูกออกแบบให้ดูเหมือนแอปที่มีประโยชน์ เช่น การแชร์ภาพและบทความเกี่ยวกับวัฒนธรรมทิเบต ⚠️ ผลกระทบต่อชุมชนและองค์กร: - 🌏 การติดตามกิจกรรม: แอปพลิเคชันเหล่านี้ไม่ได้เพียงแค่รวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล แต่ยังใช้ในการติดตามกิจกรรมของกลุ่มองค์กรในสังคมพลเมือง - 🔒 การแพร่กระจาย: แอปถูกแชร์ผ่านฟอรัมที่ชุมชนเป้าหมายใช้งาน และต้องติดตั้งผ่านไฟล์ .apk เนื่องจากไม่สามารถผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยของ Google Play Store https://www.techradar.com/pro/security/spyware-combing-for-data-of-use-to-china-hidden-inside-religious-and-cultural-apps
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 27 มุมมอง 0 รีวิว
  • Generative AI ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยบริษัทต่าง ๆ ได้เสนอเครื่องมือที่นำไปสู่การสร้างเนื้อหาใหม่ วัสดุ และความก้าวหน้าทางการแพทย์ แต่สำหรับคนทั่วไป ความสามารถของ AI ส่วนใหญ่จำกัดอยู่แค่การใช้แชทบ็อตอย่าง ChatGPT หรือ Gemini ซึ่งสามารถช่วยได้ในหลายด้านแต่ยังไม่เชี่ยวชาญในการทำงานเฉพาะทาง

    อย่างไรก็ตาม AI Apps หรือ Bots ซึ่งเป็นแอปที่ปรับแต่งตามคำสั่งเฉพาะกำลังเปลี่ยนแปลงวงการ โดยช่วยให้ผู้ใช้งานสร้างเครื่องมืออันทรงพลังขึ้นด้วยการใช้ คำสั่งภาษา ที่เป็นธรรมชาติ ซึ่งผู้ใช้สามารถออกแบบคำสั่งให้บ็อตทำงานเฉพาะทาง เช่น การสร้างเมนูอาหารส่วนตัว การให้คำแนะนำเรื่องสุขภาพ หรือแม้แต่การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก

    == จุดเด่นของ AI Apps: ==
    ✅ เพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำ: บ็อตที่ปรับแต่งสามารถทำงานเฉพาะด้านได้ เช่น บ็อตที่สร้างเมนูอาหารจะคำนึงถึงเดือน อุปกรณ์ทำอาหาร และข้อจำกัดด้านสุขภาพเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งาน

    ✅ ประสบการณ์ที่ปรับแต่งได้ตามความต้องการ: การปรับแต่งคำตอบ เช่น ใช้หัวข้อย่อย อีโมจิ หรือจัดลำดับข้อความ ช่วยให้บ็อตมีความน่าสนใจและเข้าใจง่าย

    ✅ ช่วยประหยัดเวลาในงานเฉพาะทาง: บ็อตสามารถลดเวลาที่ใช้ในการเขียนคำสั่งยาว ๆ ด้วยการให้คำตอบที่รวดเร็วผ่านการออกแบบคำสั่งไว้ล่วงหน้า

    AI Apps ไม่เพียงแต่เหมาะสำหรับการใช้งานส่วนตัว แต่ยังช่วยองค์กรธุรกิจในการปรับปรุงคุณภาพเอกสารหรือการวางแผนงาน โดยในด้านการศึกษา Apps เหล่านี้สามารถช่วยสอนหรือสร้างแผนการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    การสร้าง AI Apps ไม่จำเป็นต้องมีทักษะเขียนโปรแกรม เพียงแค่มีไอเดียและการทดลองคำสั่ง ผู้ใช้สามารถปรับแต่งแอปให้เหมาะสมกับความต้องการ การพัฒนานี้สะท้อนถึง ความเป็นประชาธิปไตยของเทคโนโลยี AI ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนสร้างเครื่องมือที่ทรงพลังได้เอง

    https://www.neowin.net/editorials/custom-ai-apps-are-the-best-thing-about-ai-this-is-how-to-make-them/
    Generative AI ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยบริษัทต่าง ๆ ได้เสนอเครื่องมือที่นำไปสู่การสร้างเนื้อหาใหม่ วัสดุ และความก้าวหน้าทางการแพทย์ แต่สำหรับคนทั่วไป ความสามารถของ AI ส่วนใหญ่จำกัดอยู่แค่การใช้แชทบ็อตอย่าง ChatGPT หรือ Gemini ซึ่งสามารถช่วยได้ในหลายด้านแต่ยังไม่เชี่ยวชาญในการทำงานเฉพาะทาง อย่างไรก็ตาม AI Apps หรือ Bots ซึ่งเป็นแอปที่ปรับแต่งตามคำสั่งเฉพาะกำลังเปลี่ยนแปลงวงการ โดยช่วยให้ผู้ใช้งานสร้างเครื่องมืออันทรงพลังขึ้นด้วยการใช้ คำสั่งภาษา ที่เป็นธรรมชาติ ซึ่งผู้ใช้สามารถออกแบบคำสั่งให้บ็อตทำงานเฉพาะทาง เช่น การสร้างเมนูอาหารส่วนตัว การให้คำแนะนำเรื่องสุขภาพ หรือแม้แต่การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก == จุดเด่นของ AI Apps: == ✅ เพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำ: บ็อตที่ปรับแต่งสามารถทำงานเฉพาะด้านได้ เช่น บ็อตที่สร้างเมนูอาหารจะคำนึงถึงเดือน อุปกรณ์ทำอาหาร และข้อจำกัดด้านสุขภาพเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งาน ✅ ประสบการณ์ที่ปรับแต่งได้ตามความต้องการ: การปรับแต่งคำตอบ เช่น ใช้หัวข้อย่อย อีโมจิ หรือจัดลำดับข้อความ ช่วยให้บ็อตมีความน่าสนใจและเข้าใจง่าย ✅ ช่วยประหยัดเวลาในงานเฉพาะทาง: บ็อตสามารถลดเวลาที่ใช้ในการเขียนคำสั่งยาว ๆ ด้วยการให้คำตอบที่รวดเร็วผ่านการออกแบบคำสั่งไว้ล่วงหน้า AI Apps ไม่เพียงแต่เหมาะสำหรับการใช้งานส่วนตัว แต่ยังช่วยองค์กรธุรกิจในการปรับปรุงคุณภาพเอกสารหรือการวางแผนงาน โดยในด้านการศึกษา Apps เหล่านี้สามารถช่วยสอนหรือสร้างแผนการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การสร้าง AI Apps ไม่จำเป็นต้องมีทักษะเขียนโปรแกรม เพียงแค่มีไอเดียและการทดลองคำสั่ง ผู้ใช้สามารถปรับแต่งแอปให้เหมาะสมกับความต้องการ การพัฒนานี้สะท้อนถึง ความเป็นประชาธิปไตยของเทคโนโลยี AI ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนสร้างเครื่องมือที่ทรงพลังได้เอง https://www.neowin.net/editorials/custom-ai-apps-are-the-best-thing-about-ai-this-is-how-to-make-them/
    WWW.NEOWIN.NET
    Custom AI apps are the best thing about AI, this is how to make them
    If you are tired of generic AI chatbots like ChatGPT, read on to learn how to create personalized custom apps which are more efficient and convenient at helping you.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 40 มุมมอง 0 รีวิว
  • หากคุณกำลังพิจารณาย้ายมาใช้ระบบปฏิบัติการ Linux การมีเครื่องมือที่เหมาะสมสามารถสร้างความแตกต่างอย่างมากต่อประสบการณ์การใช้งานของคุณ และนี่คือแอป FOSS (Free and Open Source Software) 10 อันดับแรกที่น่าสนใจ ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกและประสิทธิภาพการทำงานให้กับผู้ใช้ Linux ทุกระดับ

    == แอปที่น่าสนใจและจุดเด่นของแต่ละแอป ==
    1) Varia—ตัวช่วยดาวน์โหลดที่หลากหลาย
    - รองรับการดาวน์โหลดจาก YouTube, TikTok และเว็บไซต์ที่ต้องการการยืนยันตัวตน พร้อมฟีเจอร์การตั้งเวลาการดาวน์โหลด

    2) Micro—โปรแกรมแก้ไขไฟล์ใน Terminal ที่สมบูรณ์แบบ
    - เหมาะสำหรับการแก้ไขไฟล์ขนาดใหญ่ มีฟีเจอร์ครบครัน เช่น syntax highlighting และการรองรับเมาส์

    3) LocalSend—แชร์ไฟล์แบบปลอดภัยในเครือข่ายเดียวกัน
    - แอปข้ามแพลตฟอร์มที่ใช้ REST API เพื่อแชร์ไฟล์ระหว่างอุปกรณ์โดยไม่ต้องใช้อินเทอร์เน็ต

    4) mpv + uosc—เครื่องเล่นมีเดียที่ปรับแต่งได้สูง
    - รองรับไฟล์มีเดียเกือบทุกชนิด และสามารถเพิ่ม On-Screen Controller (uosc) เพื่อใช้งานสะดวกขึ้น

    5) FSearch—ทางเลือกสำหรับผู้ใช้ Linux ที่ต้องการการค้นหาไฟล์เร็วทันใจ
    - ค้นหาไฟล์อย่างรวดเร็วเหมือนแอป Everything บน Windows

    6) KDE Connect หรือ GSConnect—เครื่องมือเชื่อมต่ออุปกรณ์มือถือและคอมพิวเตอร์
    - ใช้แชร์คลิปบอร์ด การแจ้งเตือน และเปลี่ยนมือถือเป็นรีโมทได้

    7) Apostrophe—Markdown Editor สำหรับคนชอบความเรียบง่าย
    - มีโหมดตัดสิ่งรบกวน (Focus Mode) และรองรับการส่งออกเป็น PDF, Word และ HTML

    8) Switcheroo—แอปแปลงไฟล์ภาพ
    - รองรับการแปลงไฟล์ภาพเป็น JPEG, PNG, WebP และฟอร์แมตอื่น ๆ

    9) Newsflash—RSS Reader สุดล้ำ
    - ใช้ซิงค์ข้อมูลกับบริการ RSS ออนไลน์ เช่น Feedbin และ Inoreader

    10) LibreOffice—คู่แข่งที่สมบูรณ์แบบของ Office Suite เชิงพาณิชย์
    - ชุดโปรแกรมสำหรับจัดการเอกสารที่รองรับการใช้งานอย่างครอบคลุม

    https://www.neowin.net/guides/top-10-foss-apps-to-make-your-linux-experience-more-enjoyable/
    หากคุณกำลังพิจารณาย้ายมาใช้ระบบปฏิบัติการ Linux การมีเครื่องมือที่เหมาะสมสามารถสร้างความแตกต่างอย่างมากต่อประสบการณ์การใช้งานของคุณ และนี่คือแอป FOSS (Free and Open Source Software) 10 อันดับแรกที่น่าสนใจ ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกและประสิทธิภาพการทำงานให้กับผู้ใช้ Linux ทุกระดับ == แอปที่น่าสนใจและจุดเด่นของแต่ละแอป == 1) Varia—ตัวช่วยดาวน์โหลดที่หลากหลาย - รองรับการดาวน์โหลดจาก YouTube, TikTok และเว็บไซต์ที่ต้องการการยืนยันตัวตน พร้อมฟีเจอร์การตั้งเวลาการดาวน์โหลด 2) Micro—โปรแกรมแก้ไขไฟล์ใน Terminal ที่สมบูรณ์แบบ - เหมาะสำหรับการแก้ไขไฟล์ขนาดใหญ่ มีฟีเจอร์ครบครัน เช่น syntax highlighting และการรองรับเมาส์ 3) LocalSend—แชร์ไฟล์แบบปลอดภัยในเครือข่ายเดียวกัน - แอปข้ามแพลตฟอร์มที่ใช้ REST API เพื่อแชร์ไฟล์ระหว่างอุปกรณ์โดยไม่ต้องใช้อินเทอร์เน็ต 4) mpv + uosc—เครื่องเล่นมีเดียที่ปรับแต่งได้สูง - รองรับไฟล์มีเดียเกือบทุกชนิด และสามารถเพิ่ม On-Screen Controller (uosc) เพื่อใช้งานสะดวกขึ้น 5) FSearch—ทางเลือกสำหรับผู้ใช้ Linux ที่ต้องการการค้นหาไฟล์เร็วทันใจ - ค้นหาไฟล์อย่างรวดเร็วเหมือนแอป Everything บน Windows 6) KDE Connect หรือ GSConnect—เครื่องมือเชื่อมต่ออุปกรณ์มือถือและคอมพิวเตอร์ - ใช้แชร์คลิปบอร์ด การแจ้งเตือน และเปลี่ยนมือถือเป็นรีโมทได้ 7) Apostrophe—Markdown Editor สำหรับคนชอบความเรียบง่าย - มีโหมดตัดสิ่งรบกวน (Focus Mode) และรองรับการส่งออกเป็น PDF, Word และ HTML 8) Switcheroo—แอปแปลงไฟล์ภาพ - รองรับการแปลงไฟล์ภาพเป็น JPEG, PNG, WebP และฟอร์แมตอื่น ๆ 9) Newsflash—RSS Reader สุดล้ำ - ใช้ซิงค์ข้อมูลกับบริการ RSS ออนไลน์ เช่น Feedbin และ Inoreader 10) LibreOffice—คู่แข่งที่สมบูรณ์แบบของ Office Suite เชิงพาณิชย์ - ชุดโปรแกรมสำหรับจัดการเอกสารที่รองรับการใช้งานอย่างครอบคลุม https://www.neowin.net/guides/top-10-foss-apps-to-make-your-linux-experience-more-enjoyable/
    WWW.NEOWIN.NET
    Top 10 FOSS apps to make your Linux experience more enjoyable
    Microsoft's recent antics make it a great time to give Linux a shot. This guide highlights 10 FOSS apps to try when you make the switch.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 76 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฟิชชิ่งในปัจจุบันพัฒนาไปไกลกว่าเดิมด้วยเทคโนโลยี AI ที่ทำให้อีเมลฟิชชิ่งดูน่าเชื่อถือมากขึ้น หากเผลอคลิกลิงก์ อย่าตกใจ! หยุดพิมพ์ทันที ตัดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และเปลี่ยนรหัสผ่านของคุณ พร้อมเปิดใช้งาน 2FA เพื่อเพิ่มชั้นความปลอดภัย การแจ้ง IT และสแกนหาไวรัสยังเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยปกป้องข้อมูลของคุณ

    == สรุปขั้นตอนที่สำคัญที่สุด ==
    1) หยุดพิมพ์ทันที!
    - หากยังไม่ได้กรอกข้อมูลใด ๆ ให้ปิดแท็บเบราว์เซอร์หรือแอปที่เปิดอยู่ทันที และเคลียร์แคชในกรณีที่ลิงก์อาจฝังข้อมูลติดตาม

    2) ตัดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
    - หากคุณสงสัยว่าลิงก์มีความเสี่ยงต่อการติดตั้งมัลแวร์ ให้ปิด Wi-Fi หรือเปิดโหมดเครื่องบินเพื่อป้องกันการเชื่อมต่อ

    3) แจ้ง IT หากใช้เครื่องขององค์กร
    - หากเป็นอุปกรณ์สำหรับงาน ให้รีบแจ้งฝ่าย IT เพื่อช่วยตรวจสอบและจำกัดผลกระทบ พร้อมให้ข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา

    4) เปลี่ยนรหัสผ่านและเปิดใช้งาน 2FA
    - หากกรอกข้อมูลเข้าสู่ระบบในเว็บไซต์ที่เป็นอันตราย ให้รีบเปลี่ยนรหัสผ่านทันที และเปิดใช้งาน Two-factor Authentication (2FA) เพื่อเพิ่มความปลอดภัย

    5) สแกนหามัลแวร์
    - ใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัส เช่น Microsoft Safety Scanner เพื่อสแกนหาและลบซอฟต์แวร์ที่ไม่พึงประสงค์

    6) ตรวจสอบกิจกรรมที่น่าสงสัย
    - ตรวจสอบบัญชี Microsoft, Google หรือ Apple สำหรับกิจกรรมที่ไม่ได้รับอนุญาต และลงชื่อออกจากอุปกรณ์อื่นที่อาจเชื่อมต่อ

    7) อย่าอายที่จะขอความช่วยเหลือ
    - ฟิชชิ่งเป็นอาชญากรรมที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน แบ่งปันประสบการณ์นี้เพื่อช่วยให้คนอื่นหลีกเลี่ยงอันตราย

    https://www.zdnet.com/article/clicked-on-a-phishing-link-7-steps-to-take-immediately-to-protect-your-accounts/
    ฟิชชิ่งในปัจจุบันพัฒนาไปไกลกว่าเดิมด้วยเทคโนโลยี AI ที่ทำให้อีเมลฟิชชิ่งดูน่าเชื่อถือมากขึ้น หากเผลอคลิกลิงก์ อย่าตกใจ! หยุดพิมพ์ทันที ตัดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และเปลี่ยนรหัสผ่านของคุณ พร้อมเปิดใช้งาน 2FA เพื่อเพิ่มชั้นความปลอดภัย การแจ้ง IT และสแกนหาไวรัสยังเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยปกป้องข้อมูลของคุณ == สรุปขั้นตอนที่สำคัญที่สุด == 1) หยุดพิมพ์ทันที! - หากยังไม่ได้กรอกข้อมูลใด ๆ ให้ปิดแท็บเบราว์เซอร์หรือแอปที่เปิดอยู่ทันที และเคลียร์แคชในกรณีที่ลิงก์อาจฝังข้อมูลติดตาม 2) ตัดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต - หากคุณสงสัยว่าลิงก์มีความเสี่ยงต่อการติดตั้งมัลแวร์ ให้ปิด Wi-Fi หรือเปิดโหมดเครื่องบินเพื่อป้องกันการเชื่อมต่อ 3) แจ้ง IT หากใช้เครื่องขององค์กร - หากเป็นอุปกรณ์สำหรับงาน ให้รีบแจ้งฝ่าย IT เพื่อช่วยตรวจสอบและจำกัดผลกระทบ พร้อมให้ข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา 4) เปลี่ยนรหัสผ่านและเปิดใช้งาน 2FA - หากกรอกข้อมูลเข้าสู่ระบบในเว็บไซต์ที่เป็นอันตราย ให้รีบเปลี่ยนรหัสผ่านทันที และเปิดใช้งาน Two-factor Authentication (2FA) เพื่อเพิ่มความปลอดภัย 5) สแกนหามัลแวร์ - ใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัส เช่น Microsoft Safety Scanner เพื่อสแกนหาและลบซอฟต์แวร์ที่ไม่พึงประสงค์ 6) ตรวจสอบกิจกรรมที่น่าสงสัย - ตรวจสอบบัญชี Microsoft, Google หรือ Apple สำหรับกิจกรรมที่ไม่ได้รับอนุญาต และลงชื่อออกจากอุปกรณ์อื่นที่อาจเชื่อมต่อ 7) อย่าอายที่จะขอความช่วยเหลือ - ฟิชชิ่งเป็นอาชญากรรมที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน แบ่งปันประสบการณ์นี้เพื่อช่วยให้คนอื่นหลีกเลี่ยงอันตราย https://www.zdnet.com/article/clicked-on-a-phishing-link-7-steps-to-take-immediately-to-protect-your-accounts/
    WWW.ZDNET.COM
    Clicked on a phishing link? 7 steps to take immediately to protect your accounts
    Phishing scams are becoming brutally effective, and even technically sophisticated people can be fooled. Here's how to limit the damage immediately and what to do next.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 71 มุมมอง 0 รีวิว
  • TikTok ยังคงได้รับโอกาสให้อยู่บน App Store ของ Apple ต่อไปอีก 75 วัน โดยรัฐบาลทรัมป์ขยายเวลาการเจรจาดีลที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์เรื่องการขายกิจการในสหรัฐฯ ท่ามกลางข้อกล่าวหาเรื่องการสอดแนมผ่านแอปที่กระทบความปลอดภัยของผู้ใช้งาน TikTok ขณะนี้บริษัทขนาดใหญ่หลายแห่งสนใจซื้อกิจการ แต่ ByteDance ยังต้องผ่านขั้นตอนสำคัญก่อนที่จะตัดสินใจในอนาคต

    ✅ การขยายเวลาเพื่อเจรจา:
    - ประธานาธิบดี Donald Trump ลงนามคำสั่งบริหารเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2025 เพื่อยืดเวลาออกไปอีก 75 วัน ในการให้ TikTok ดำเนินงานในสหรัฐฯ
    - คำสั่งนี้ยังระบุให้ Attorney General และ Department of Justice งดบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตร TikTok ระหว่างช่วงเวลานี้

    ✅ ความกังวลด้านความปลอดภัยของข้อมูล:
    - TikTok เผชิญกับความกดดันจากรัฐบาลสหรัฐฯ ในเรื่องการจัดการข้อมูลของผู้ใช้งานกว่า 150 ล้านคน ท่ามกลางข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการเชื่อมโยงกับ Chinese Communist Party (CCP)
    - ความวิตกเกี่ยวกับการสอดแนมผ่านแอปนี้สร้างแรงกดดันต่อ ByteDance ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ TikTok

    ✅ บริษัทที่สนใจซื้อกิจการ:
    - ในการเจรจาเรื่องการขาย TikTok มีบริษัทขนาดใหญ่หลายแห่งแสดงความสนใจ เช่น Amazon, Oracle, BlackStone และแม้แต่ Reddit ที่ร่วมเสนอราคา

    ✅ ความย้อนแย้งทางนโยบาย:
    - น่าสนใจว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากรัฐบาลทรัมป์เริ่มต้นข้อเรียกร้องในปี 2020 ผ่านคำสั่งบริหาร 13942 ที่คว่ำบาตรการทำธุรกรรมของ ByteDance

    https://www.neowin.net/news/report-apple-gets-permission-to-keep-tiktok-on-the-app-store-at-least-for-now/
    TikTok ยังคงได้รับโอกาสให้อยู่บน App Store ของ Apple ต่อไปอีก 75 วัน โดยรัฐบาลทรัมป์ขยายเวลาการเจรจาดีลที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์เรื่องการขายกิจการในสหรัฐฯ ท่ามกลางข้อกล่าวหาเรื่องการสอดแนมผ่านแอปที่กระทบความปลอดภัยของผู้ใช้งาน TikTok ขณะนี้บริษัทขนาดใหญ่หลายแห่งสนใจซื้อกิจการ แต่ ByteDance ยังต้องผ่านขั้นตอนสำคัญก่อนที่จะตัดสินใจในอนาคต ✅ การขยายเวลาเพื่อเจรจา: - ประธานาธิบดี Donald Trump ลงนามคำสั่งบริหารเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2025 เพื่อยืดเวลาออกไปอีก 75 วัน ในการให้ TikTok ดำเนินงานในสหรัฐฯ - คำสั่งนี้ยังระบุให้ Attorney General และ Department of Justice งดบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตร TikTok ระหว่างช่วงเวลานี้ ✅ ความกังวลด้านความปลอดภัยของข้อมูล: - TikTok เผชิญกับความกดดันจากรัฐบาลสหรัฐฯ ในเรื่องการจัดการข้อมูลของผู้ใช้งานกว่า 150 ล้านคน ท่ามกลางข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการเชื่อมโยงกับ Chinese Communist Party (CCP) - ความวิตกเกี่ยวกับการสอดแนมผ่านแอปนี้สร้างแรงกดดันต่อ ByteDance ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ TikTok ✅ บริษัทที่สนใจซื้อกิจการ: - ในการเจรจาเรื่องการขาย TikTok มีบริษัทขนาดใหญ่หลายแห่งแสดงความสนใจ เช่น Amazon, Oracle, BlackStone และแม้แต่ Reddit ที่ร่วมเสนอราคา ✅ ความย้อนแย้งทางนโยบาย: - น่าสนใจว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากรัฐบาลทรัมป์เริ่มต้นข้อเรียกร้องในปี 2020 ผ่านคำสั่งบริหาร 13942 ที่คว่ำบาตรการทำธุรกรรมของ ByteDance https://www.neowin.net/news/report-apple-gets-permission-to-keep-tiktok-on-the-app-store-at-least-for-now/
    WWW.NEOWIN.NET
    Report: Apple gets permission to keep TikTok on the App Store, at least for now
    Apple has received the go-ahead to keep TikTok and other ByteDance apps on its App Store, as TikTok's fate in the US hangs in the balance.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 85 มุมมอง 0 รีวิว
  • #สร้างชุมชนthaitimeกัน

    ..ใครคือนักรบชาติไทยจะแนวไหน อย่างไร อิสระแบบใด ติด# ว่า" #สร้างชุมชนthaitimeกัน " ,ในช่องทางเพจบ้านใครมันคงดี จะfb line ติ๊กต๊อก อะไรไหนๆเพิ่มช่องทางสื่อสารไร้เผด็จการปิดกั้นเสรีการแสดงออกและคิดเห็นเราอีกช่องคงดี,thaitime กำลังปรับปรุงให้ใช้งานสะดวกขึ้นแน่นอน ขนาดเปิดคลิปทูปๆยังเล่นได้เลย ไม่ต้องเด้งไปแอปทูปๆมัน สะดวกอีกมิติการพัฒนา,แม้ค่อยๆก้าวเดินมาใหม่ก็จะดีขึ้นแน่ๆ คนไทยสัก40ล้านคนไทยมาร่วมกันใช้มันก็ตื่นรู้อะไรต่างๆได้มากมายเลย,ช่องรายการต่างๆบนแพลตฟอร์มอื่นย้ายมาใช้ที่thaitimeไม่มุ่งหวังกำไรอะไร มันย่อมดีแน่,
    ..อนาคตอาจเป็นกองทุนร้านค้าชุมชนคนไทยออนไลน์ก็ได้,ตลาดชุมชนออนไลน์เป็นพื้นที่ขายของออนไลน์ช่วยเหลือคนไทยฟรีๆด้านแพลตฟอร์มเชื่อมคนซื้อคนขายทางตรงก็ได้,เป็นสถาบันกองทุนตั้นตนเริ่มสัมมาอาชีพคนไทยก็ได้,เป็นแหล่งฮับสาระพัดองค์รู้ต่างๆที่ชุมชนthaitimeนี้ทั่วโลกก็ได้,ทั่วโลกต้องการอะไรจะสินค้า&บริการด้านไหนสามารถมาตลาดชุมชนออนไลน์ตรงนี้ของคนไทยได้หรือเข้ามาใช้ร่วมกันฟรีทั่วโลกก็ได้,เมื่อจุดยืนชัดเจนไม่มุ่งหวังผลประโยชน์กำไร เป็นสาธารณะเพื่อชุมชนคนไทย มันไปได้ดีแน่,ระดมจัดตั้งเป็นแพลตฟอร์มกองทุนตังคนไทยยืมกันฟรีๆก็ได้แบบชวนแบงค์ชาติมาเป็นเจ้าภาพร่วม,บัญชีตังQFSดิจิดัลที่แพลตฟอร์มรวมศูนย์ก็ได้,ฝากถอนตัดจ่ายออนไลน์ออฟไลน์ได้หมดแม้ไร้เน็ต,
    ..คนใช้thaitimeมีบัญชีตังQFSด้วยจะขนาดไหน,แบงค์ส่งเสริมเงินเริ่มต้นสัมมาอาชีพคนไทยอนาคตผ่านกองทุนร้านค้าชุมชนหมู่บ้านthaitimeจริงจังจะขนาดไหน อาทิไทยมี80,000หมู่บ้าน แบงค์สร้างโครงการนี้ขึ้นทดลองสัก20,000หมู่บ้านๆละ10ล้านบาท คนชุมชนนั้นต้องสมัครสมาชิกthaitimeด้วย สแกนจ่ายตังตัดบัญชีQFSที่แอปthaitimeได้เลย,ทั้งแบบออนไลน์และตลาดร้านค้าชุมชนในหมู่บ้านนั้นๆที่แบงค์อนุมัติร่วมโครงการ,ขายของออนไลน์ได้ก็เข้าบัญชีQFSเลยของชาวบ้านจะสินค้าเกษตรที่ขายได้หรือใดๆ,ฝากตังก็ได้ถอนเงินสดก็ได้ผ่านสาขาสถานที่จริงคือร้านค้าชุมชนตนในแต่ละหมู่บ้านนั้น,ตังจะหมุนเวียนในชุมชนนั้นๆหรือภายในประเทศอย่างเดียว,ในเบื้องต้นที่เริ่มโครงการ,เงินที่คนจะฝากก็สนใจมาฝากมาเป็นสมาชิกthaitime ระดมทุนได้ด้วย,อนาคตก็ออกเป็นหุ้นสมาชิก เป็นเจ้าของกรรมสิทธิจริงร่วมกันก่อตั้งอย่างเป็นทางการ,หรือเริ่มต้นทำแบบนี้ก่อนก็ได้,เงินที่สะพัดในประเทศไทยปกติกว่า40-50ล้านล้านบาทต่อปีก็จะเข้ามาในชุมชนคนไทยอย่างมีระบบระเบียบ ,โครงการอะไรดีๆเช่นโคกหนองนาโมเดล ยื่นลงทะเบียนออนไลน์คัดกรองส่งเสริมกันได้สะดวก,ตังใครสำเร็จเช่นขายสินค้าเกษตรได้ก็มาร่วมฝากไว้ที่แอปเรา มีแบงค์ชาติค้ำสถานะ,ขายทุเรียนมีสัก1,000-2,000คนมูลค้าได้กำไรกว่า10,000-20,000ล้านบาทอาจร่วมมาฝากเพิ่มสภาพคล่องปล่อยคนสัมมาอาชีพอื่นๆมายืมตังทำทุนสร้างตนเองฟรีดอกเบี้ย,ส่งแค่เงินต้นในปีที่สองก็ว่า,ปลูกสร้างทำเสร็จ เราสร้างแพลตฟอร์มการตลาดรองรับช่วยกัน,ขายได้ตังก็มีสถานที่เก็บที่แบงค์ค้ำประกันให้ อาจโอนออโต้เก็บตรงที่แบงค์ชาติส่วนกลางเลย,ตังกว่า100ล้านล้านบาท หมุนช่วยเหลือสมาชิกคนไทยสร้างสัมมาอาชีพพึ่งพาตนเองได้จริงด้วยตนเองเหลือล้นล่ะ,แบงค์เอกชนอาศัยตังนี้ไปปั่นทำกำไรอะไรก็ไม่ได้,ตั้งเงินปล่อยยืมเรียลไทม์รายวินาทีรายวันก็ได้เช่นวันนี้ใครอยากยืมไปทำเกษตรสร้างอาชีพเริ่มต้น สองปีหลังค่อยมาผ่อนจ่ายเงินต้น ให้คนละ1,000,000บาท ทุนโครงการรออนุมัติวันนี้เพียง10,000,000,000บาทแค่นั้น,ช่วยคนไทยได้10,000คนต่อวันโน้น,เขาเอาตัง500,000แรกลงทุนอาชีพปลูกพืชผักของเราสไตล์ล้ำๆหรือธรรมชาติแบบไหนก็ตาม อีก500,000คือรายจ่ายค่ากินอยู่ดำรงชีพรอเก็บเกี่ยวผลผลิต,จบ2ปีกำไร200,000บาทคืนตังทั้งหมดได้บวกอุปกรณ์ทุนเดิมยังสร้างรายได้ต่อยอดอื่นๆได้อีกก็มั่นคงนะสิ,ตัง10,000ล้านสามารถปล่อยยืมคนไทยคนต่อไปได้ต่ออีกโน้น,พวกนี้ชวนญาติพี่น้องมาฝากมาออมตังอีก แม่ค้าพ่อค้ามาฝากตังอีก ตังมีแต่จะเพิ่มขึ้น,ค้าขายต่างประเทศขายออนไลน์ได้กำไรคนละ100ล้านบาท ทำสำเร็จกว่า100,000คนไทย เอาตังมาฝากเก็บในกองทุนเราเองอีกคือ10ล้านล้านบาทเลยนะในเดือนนั้นไตรมาสนั้นครึ่งปีนั้นหรือตลอดปีก็ตาม,สรุปกองทุนชุมชนเราอาจหมุนเวียนกว่า1,000ล้านล้านบาทต่อปีใครจะรู้ทั้งออนไลน์และออฟไลน์.จึงมาร่วมสร้างthaitimeเป็นพันธมิตรรักคนไทยเราร่วมกันดีที่สุด.คนดีคนเก่งมากมายสร้างสรรค์จะพัฒนาแพลตฟอร์มนี้ให้ยอดเยี่ยมได้สบายล่ะ,คนไทยเราอัจฉริยะเยอะนะ.

    #สร้างชุมชนthaitimeกัน ..ใครคือนักรบชาติไทยจะแนวไหน อย่างไร อิสระแบบใด ติด# ว่า" #สร้างชุมชนthaitimeกัน " ,ในช่องทางเพจบ้านใครมันคงดี จะfb line ติ๊กต๊อก อะไรไหนๆเพิ่มช่องทางสื่อสารไร้เผด็จการปิดกั้นเสรีการแสดงออกและคิดเห็นเราอีกช่องคงดี,thaitime กำลังปรับปรุงให้ใช้งานสะดวกขึ้นแน่นอน ขนาดเปิดคลิปทูปๆยังเล่นได้เลย ไม่ต้องเด้งไปแอปทูปๆมัน สะดวกอีกมิติการพัฒนา,แม้ค่อยๆก้าวเดินมาใหม่ก็จะดีขึ้นแน่ๆ คนไทยสัก40ล้านคนไทยมาร่วมกันใช้มันก็ตื่นรู้อะไรต่างๆได้มากมายเลย,ช่องรายการต่างๆบนแพลตฟอร์มอื่นย้ายมาใช้ที่thaitimeไม่มุ่งหวังกำไรอะไร มันย่อมดีแน่, ..อนาคตอาจเป็นกองทุนร้านค้าชุมชนคนไทยออนไลน์ก็ได้,ตลาดชุมชนออนไลน์เป็นพื้นที่ขายของออนไลน์ช่วยเหลือคนไทยฟรีๆด้านแพลตฟอร์มเชื่อมคนซื้อคนขายทางตรงก็ได้,เป็นสถาบันกองทุนตั้นตนเริ่มสัมมาอาชีพคนไทยก็ได้,เป็นแหล่งฮับสาระพัดองค์รู้ต่างๆที่ชุมชนthaitimeนี้ทั่วโลกก็ได้,ทั่วโลกต้องการอะไรจะสินค้า&บริการด้านไหนสามารถมาตลาดชุมชนออนไลน์ตรงนี้ของคนไทยได้หรือเข้ามาใช้ร่วมกันฟรีทั่วโลกก็ได้,เมื่อจุดยืนชัดเจนไม่มุ่งหวังผลประโยชน์กำไร เป็นสาธารณะเพื่อชุมชนคนไทย มันไปได้ดีแน่,ระดมจัดตั้งเป็นแพลตฟอร์มกองทุนตังคนไทยยืมกันฟรีๆก็ได้แบบชวนแบงค์ชาติมาเป็นเจ้าภาพร่วม,บัญชีตังQFSดิจิดัลที่แพลตฟอร์มรวมศูนย์ก็ได้,ฝากถอนตัดจ่ายออนไลน์ออฟไลน์ได้หมดแม้ไร้เน็ต, ..คนใช้thaitimeมีบัญชีตังQFSด้วยจะขนาดไหน,แบงค์ส่งเสริมเงินเริ่มต้นสัมมาอาชีพคนไทยอนาคตผ่านกองทุนร้านค้าชุมชนหมู่บ้านthaitimeจริงจังจะขนาดไหน อาทิไทยมี80,000หมู่บ้าน แบงค์สร้างโครงการนี้ขึ้นทดลองสัก20,000หมู่บ้านๆละ10ล้านบาท คนชุมชนนั้นต้องสมัครสมาชิกthaitimeด้วย สแกนจ่ายตังตัดบัญชีQFSที่แอปthaitimeได้เลย,ทั้งแบบออนไลน์และตลาดร้านค้าชุมชนในหมู่บ้านนั้นๆที่แบงค์อนุมัติร่วมโครงการ,ขายของออนไลน์ได้ก็เข้าบัญชีQFSเลยของชาวบ้านจะสินค้าเกษตรที่ขายได้หรือใดๆ,ฝากตังก็ได้ถอนเงินสดก็ได้ผ่านสาขาสถานที่จริงคือร้านค้าชุมชนตนในแต่ละหมู่บ้านนั้น,ตังจะหมุนเวียนในชุมชนนั้นๆหรือภายในประเทศอย่างเดียว,ในเบื้องต้นที่เริ่มโครงการ,เงินที่คนจะฝากก็สนใจมาฝากมาเป็นสมาชิกthaitime ระดมทุนได้ด้วย,อนาคตก็ออกเป็นหุ้นสมาชิก เป็นเจ้าของกรรมสิทธิจริงร่วมกันก่อตั้งอย่างเป็นทางการ,หรือเริ่มต้นทำแบบนี้ก่อนก็ได้,เงินที่สะพัดในประเทศไทยปกติกว่า40-50ล้านล้านบาทต่อปีก็จะเข้ามาในชุมชนคนไทยอย่างมีระบบระเบียบ ,โครงการอะไรดีๆเช่นโคกหนองนาโมเดล ยื่นลงทะเบียนออนไลน์คัดกรองส่งเสริมกันได้สะดวก,ตังใครสำเร็จเช่นขายสินค้าเกษตรได้ก็มาร่วมฝากไว้ที่แอปเรา มีแบงค์ชาติค้ำสถานะ,ขายทุเรียนมีสัก1,000-2,000คนมูลค้าได้กำไรกว่า10,000-20,000ล้านบาทอาจร่วมมาฝากเพิ่มสภาพคล่องปล่อยคนสัมมาอาชีพอื่นๆมายืมตังทำทุนสร้างตนเองฟรีดอกเบี้ย,ส่งแค่เงินต้นในปีที่สองก็ว่า,ปลูกสร้างทำเสร็จ เราสร้างแพลตฟอร์มการตลาดรองรับช่วยกัน,ขายได้ตังก็มีสถานที่เก็บที่แบงค์ค้ำประกันให้ อาจโอนออโต้เก็บตรงที่แบงค์ชาติส่วนกลางเลย,ตังกว่า100ล้านล้านบาท หมุนช่วยเหลือสมาชิกคนไทยสร้างสัมมาอาชีพพึ่งพาตนเองได้จริงด้วยตนเองเหลือล้นล่ะ,แบงค์เอกชนอาศัยตังนี้ไปปั่นทำกำไรอะไรก็ไม่ได้,ตั้งเงินปล่อยยืมเรียลไทม์รายวินาทีรายวันก็ได้เช่นวันนี้ใครอยากยืมไปทำเกษตรสร้างอาชีพเริ่มต้น สองปีหลังค่อยมาผ่อนจ่ายเงินต้น ให้คนละ1,000,000บาท ทุนโครงการรออนุมัติวันนี้เพียง10,000,000,000บาทแค่นั้น,ช่วยคนไทยได้10,000คนต่อวันโน้น,เขาเอาตัง500,000แรกลงทุนอาชีพปลูกพืชผักของเราสไตล์ล้ำๆหรือธรรมชาติแบบไหนก็ตาม อีก500,000คือรายจ่ายค่ากินอยู่ดำรงชีพรอเก็บเกี่ยวผลผลิต,จบ2ปีกำไร200,000บาทคืนตังทั้งหมดได้บวกอุปกรณ์ทุนเดิมยังสร้างรายได้ต่อยอดอื่นๆได้อีกก็มั่นคงนะสิ,ตัง10,000ล้านสามารถปล่อยยืมคนไทยคนต่อไปได้ต่ออีกโน้น,พวกนี้ชวนญาติพี่น้องมาฝากมาออมตังอีก แม่ค้าพ่อค้ามาฝากตังอีก ตังมีแต่จะเพิ่มขึ้น,ค้าขายต่างประเทศขายออนไลน์ได้กำไรคนละ100ล้านบาท ทำสำเร็จกว่า100,000คนไทย เอาตังมาฝากเก็บในกองทุนเราเองอีกคือ10ล้านล้านบาทเลยนะในเดือนนั้นไตรมาสนั้นครึ่งปีนั้นหรือตลอดปีก็ตาม,สรุปกองทุนชุมชนเราอาจหมุนเวียนกว่า1,000ล้านล้านบาทต่อปีใครจะรู้ทั้งออนไลน์และออฟไลน์.จึงมาร่วมสร้างthaitimeเป็นพันธมิตรรักคนไทยเราร่วมกันดีที่สุด.คนดีคนเก่งมากมายสร้างสรรค์จะพัฒนาแพลตฟอร์มนี้ให้ยอดเยี่ยมได้สบายล่ะ,คนไทยเราอัจฉริยะเยอะนะ.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 79 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..
    ..ร่วมกัน ชวนกันมาใช้thaitimeเยอะๆ อย่าตกเป็นทาสตังระบบตังทาสอีลิทซาตานที่เอาตังมาล่อลวงในแอปต่างๆที่อีลิทหลอกล่อเลย,วิธีปิดปากค่าจริงความจริงในการแสดงเจตจำนงเสรีตนเอง,มันขู่ว่าผิดมาตราฐานแอปชุมชนมัน ตังที่จะได้จากแอปที่คุณๆทำจะไม่ได้นะ มันขู่แบบนี้ก็ว่า ดิ้นรนบ้าคลั่งปั่นสร้างคลิปสร้างวีดีโอสร้างนั้นนีัแบบreelของfbนั้นล่ะหรือตระกร้าติ๊กต๊อกมัน,คนไทยสมมุติว่าเกิดUBIลงจริงเดือนละ100,000$/เดือนตีตังไทยประมาณ3,500,000บาทต่อเดือนจริงๆ,เราจะเล่นthaitimeแอปไทยแบบอิสระกรลงต่างๆตรึม ใครจะดูไม่ดู ไม่ติดตามคือทางเลือกท่านเธอเองใครมันก็ว่า,ชีวิตนี้สั้น ชาติไทยมาตุภูมิเหมาะสมแก่เจริญจิตวิญญาณทันแก่ไม่ตายตลอดกาลในยุคนี้,กลับบ้านใครบ้านมันพร้อมตังเต็มกระเป๋าเป็นเสบียงพอกายเนื้อไม่ลำบากกันก็โอเคนะ.
    ..อีกมุมมอง.
    .. ..ร่วมกัน ชวนกันมาใช้thaitimeเยอะๆ อย่าตกเป็นทาสตังระบบตังทาสอีลิทซาตานที่เอาตังมาล่อลวงในแอปต่างๆที่อีลิทหลอกล่อเลย,วิธีปิดปากค่าจริงความจริงในการแสดงเจตจำนงเสรีตนเอง,มันขู่ว่าผิดมาตราฐานแอปชุมชนมัน ตังที่จะได้จากแอปที่คุณๆทำจะไม่ได้นะ มันขู่แบบนี้ก็ว่า ดิ้นรนบ้าคลั่งปั่นสร้างคลิปสร้างวีดีโอสร้างนั้นนีัแบบreelของfbนั้นล่ะหรือตระกร้าติ๊กต๊อกมัน,คนไทยสมมุติว่าเกิดUBIลงจริงเดือนละ100,000$/เดือนตีตังไทยประมาณ3,500,000บาทต่อเดือนจริงๆ,เราจะเล่นthaitimeแอปไทยแบบอิสระกรลงต่างๆตรึม ใครจะดูไม่ดู ไม่ติดตามคือทางเลือกท่านเธอเองใครมันก็ว่า,ชีวิตนี้สั้น ชาติไทยมาตุภูมิเหมาะสมแก่เจริญจิตวิญญาณทันแก่ไม่ตายตลอดกาลในยุคนี้,กลับบ้านใครบ้านมันพร้อมตังเต็มกระเป๋าเป็นเสบียงพอกายเนื้อไม่ลำบากกันก็โอเคนะ. ..อีกมุมมอง.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 90 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • กรมส่งเสริมปกครองส่วนท้องถิ่น ร่อนหนังสือถึง อปท. ขอความอนุเคราะห์ลบบัญชีผู้รับเหมาทิ้งงานในระบบ อ้างผิดพรบ. PDPAแต่ส่อขัด พรบ.ข้อมูลข่าวสารเปิดเผยให้ประชาชนทราบ..
    กรมส่งเสริมปกครองส่วนท้องถิ่น ร่อนหนังสือถึง อปท. ขอความอนุเคราะห์ลบบัญชีผู้รับเหมาทิ้งงานในระบบ อ้างผิดพรบ. PDPAแต่ส่อขัด พรบ.ข้อมูลข่าวสารเปิดเผยให้ประชาชนทราบ..
    Angry
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 79 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel ประกาศเลิกใช้งานแอป Unison ที่เคยช่วยเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนกับ PC Windows อย่างไร้รอยต่อ โดยจะหยุดให้บริการส่วนใหญ่ภายในเดือนมิถุนายน 2025 ทั้งนี้ การตัดสินใจนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ลดต้นทุนเพื่อมุ่งเน้นทรัพยากรไปยังผลิตภัณฑ์หลัก การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นที่บริษัทใหญ่ต้องปรับตัวตามความท้าทายและการแข่งขันในตลาด ขณะเดียวกัน Microsoft Phone Link ยังคงเป็นตัวเลือกที่ใช้งานได้ดีสำหรับผู้ที่ต้องการฟีเจอร์แบบเดียวกัน

    ✅ Unison กับการพยายามสร้างความแตกต่างในตลาด Windows PCs
    - แอป Unison เปิดตัวในปี 2022 โดย Intel ตั้งเป้าสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ใกล้เคียงกับระบบของ Apple ที่มีการเชื่อมต่อ MacOS กับ iOS
    - แอปช่วยให้ผู้ใช้ทำงานต่าง ๆ เช่น การโทร, ส่งข้อความ, รับการแจ้งเตือน และโอนถ่ายไฟล์ ระหว่างสมาร์ทโฟนและ PC ได้อย่างง่ายดาย

    ✅ การเลิกสนับสนุนเป็นส่วนหนึ่งของการลดต้นทุน
    - Intel มีแผนตัดสินใจเลิกสนับสนุนโครงการหรือแอปที่ ไม่สอดคล้องกับกลยุทธ์หลัก ซึ่งแอป Unison ถือว่าเป็นหนึ่งในนั้น
    - การเปลี่ยนแปลงนี้อาจช่วยให้ Intel มุ่งเน้นทรัพยากรในการพัฒนาผลิตภัณฑ์สำคัญ เช่น โปรเซสเซอร์รุ่นใหม่

    ✅ การเชื่อมต่อระหว่างสมาร์ทโฟนกับ Windows PCs ยังคงมีทางเลือกอื่น
    - แม้ Unison จะเลิกให้บริการ แต่ Microsoft มีแอป Phone Link ที่ช่วยเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้เช่นกัน
    - Samsung Flow และ Dell Mobile Connect เป็นตัวเลือกที่เคยมีในตลาด แต่ Dell ก็ยุติแอปนี้เช่นเดียวกัน

    https://www.tomshardware.com/software/intel-discontinues-unison-app-for-connecting-pcs-and-smartphones
    Intel ประกาศเลิกใช้งานแอป Unison ที่เคยช่วยเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนกับ PC Windows อย่างไร้รอยต่อ โดยจะหยุดให้บริการส่วนใหญ่ภายในเดือนมิถุนายน 2025 ทั้งนี้ การตัดสินใจนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ลดต้นทุนเพื่อมุ่งเน้นทรัพยากรไปยังผลิตภัณฑ์หลัก การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นที่บริษัทใหญ่ต้องปรับตัวตามความท้าทายและการแข่งขันในตลาด ขณะเดียวกัน Microsoft Phone Link ยังคงเป็นตัวเลือกที่ใช้งานได้ดีสำหรับผู้ที่ต้องการฟีเจอร์แบบเดียวกัน ✅ Unison กับการพยายามสร้างความแตกต่างในตลาด Windows PCs - แอป Unison เปิดตัวในปี 2022 โดย Intel ตั้งเป้าสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ใกล้เคียงกับระบบของ Apple ที่มีการเชื่อมต่อ MacOS กับ iOS - แอปช่วยให้ผู้ใช้ทำงานต่าง ๆ เช่น การโทร, ส่งข้อความ, รับการแจ้งเตือน และโอนถ่ายไฟล์ ระหว่างสมาร์ทโฟนและ PC ได้อย่างง่ายดาย ✅ การเลิกสนับสนุนเป็นส่วนหนึ่งของการลดต้นทุน - Intel มีแผนตัดสินใจเลิกสนับสนุนโครงการหรือแอปที่ ไม่สอดคล้องกับกลยุทธ์หลัก ซึ่งแอป Unison ถือว่าเป็นหนึ่งในนั้น - การเปลี่ยนแปลงนี้อาจช่วยให้ Intel มุ่งเน้นทรัพยากรในการพัฒนาผลิตภัณฑ์สำคัญ เช่น โปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ ✅ การเชื่อมต่อระหว่างสมาร์ทโฟนกับ Windows PCs ยังคงมีทางเลือกอื่น - แม้ Unison จะเลิกให้บริการ แต่ Microsoft มีแอป Phone Link ที่ช่วยเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้เช่นกัน - Samsung Flow และ Dell Mobile Connect เป็นตัวเลือกที่เคยมีในตลาด แต่ Dell ก็ยุติแอปนี้เช่นเดียวกัน https://www.tomshardware.com/software/intel-discontinues-unison-app-for-connecting-pcs-and-smartphones
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 178 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่องโหว่ใน API ของแอป Call Filter ของ Verizon ช่วยให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงประวัติการโทรของหมายเลขอื่นได้ แม้ไม่มีสิทธิ์เข้าถึงบัญชี ช่องโหว่นี้พบในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 และถูกแก้ไขในเดือนมีนาคม แต่ ผู้ใช้ยังคงต้องระวังความเสี่ยง นักวิจัยเตือนว่า ข้อมูลโทรเข้าอาจถูกใช้ติดตามเป้าหมาย เช่น นักข่าว หรือฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล โดย Verizon ไม่เปิดเผยว่าช่องโหว่นี้ถูกใช้ในการโจมตีมาก่อนหรือไม่

    ✅ ช่องโหว่นี้เกิดจากการตั้งค่า API ที่ไม่ตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์
    - นักวิจัย Evan Connelly พบว่า API ของแอป Call Filter อนุญาตให้ผู้ใช้ดึงข้อมูลประวัติการโทรได้โดยไม่ต้องตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ของเจ้าของบัญชี
    - หมายความว่า ผู้โจมตีสามารถร้องขอข้อมูลของหมายเลขอื่นและดูรายการสายเรียกเข้าของเป้าหมายได้

    ✅ Call Filter เป็นแอปที่มีผู้ใช้หลายล้านคน เนื่องจากติดตั้งมากับอุปกรณ์ Verizon
    - แอปนี้ช่วยให้ผู้ใช้ บล็อกสายสแปม, ดูข้อมูลผู้โทร และกรองสายที่มีความเสี่ยงสูง
    - ยังมี เวอร์ชันพรีเมียมที่เพิ่มฟีเจอร์ เช่น การค้นหาสแปมและควบคุมสายโทรเข้าแบบละเอียด

    ✅ ช่องโหว่สามารถใช้เป็นเครื่องมือสอดแนมบุคคลสำคัญ
    - แม้การดูประวัติการโทรอาจไม่ดูอันตรายในตอนแรก แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ข้อมูลนี้สามารถถูกใช้สร้างโปรไฟล์ผู้ใช้งานได้
    - แฮกเกอร์สามารถ ติดตามกิจกรรมประจำวัน, วิเคราะห์ความสัมพันธ์ และเฝ้าระวังบุคคลเป้าหมาย เช่น นักข่าว, ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล และผู้มีอิทธิพลทางการเมือง

    ✅ Verizon ได้แก้ไขช่องโหว่แล้ว แต่ไม่เปิดเผยว่าถูกใช้โจมตีไปแล้วหรือไม่
    - ช่องโหว่ถูกแก้ไขในเดือนมีนาคม 2025 แต่ ยังไม่มีข้อมูลว่าเคยถูกใช้โจมตีจริงมาก่อนหรือไม่
    - ผู้ใช้ควร ตรวจสอบการตั้งค่าความปลอดภัยของตนและเปลี่ยนรหัสผ่านอย่างสม่ำเสมอ

    https://www.techradar.com/pro/security/verizon-security-flaw-could-allow-hackers-to-view-entire-call-history
    ช่องโหว่ใน API ของแอป Call Filter ของ Verizon ช่วยให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงประวัติการโทรของหมายเลขอื่นได้ แม้ไม่มีสิทธิ์เข้าถึงบัญชี ช่องโหว่นี้พบในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 และถูกแก้ไขในเดือนมีนาคม แต่ ผู้ใช้ยังคงต้องระวังความเสี่ยง นักวิจัยเตือนว่า ข้อมูลโทรเข้าอาจถูกใช้ติดตามเป้าหมาย เช่น นักข่าว หรือฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล โดย Verizon ไม่เปิดเผยว่าช่องโหว่นี้ถูกใช้ในการโจมตีมาก่อนหรือไม่ ✅ ช่องโหว่นี้เกิดจากการตั้งค่า API ที่ไม่ตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ - นักวิจัย Evan Connelly พบว่า API ของแอป Call Filter อนุญาตให้ผู้ใช้ดึงข้อมูลประวัติการโทรได้โดยไม่ต้องตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ของเจ้าของบัญชี - หมายความว่า ผู้โจมตีสามารถร้องขอข้อมูลของหมายเลขอื่นและดูรายการสายเรียกเข้าของเป้าหมายได้ ✅ Call Filter เป็นแอปที่มีผู้ใช้หลายล้านคน เนื่องจากติดตั้งมากับอุปกรณ์ Verizon - แอปนี้ช่วยให้ผู้ใช้ บล็อกสายสแปม, ดูข้อมูลผู้โทร และกรองสายที่มีความเสี่ยงสูง - ยังมี เวอร์ชันพรีเมียมที่เพิ่มฟีเจอร์ เช่น การค้นหาสแปมและควบคุมสายโทรเข้าแบบละเอียด ✅ ช่องโหว่สามารถใช้เป็นเครื่องมือสอดแนมบุคคลสำคัญ - แม้การดูประวัติการโทรอาจไม่ดูอันตรายในตอนแรก แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ข้อมูลนี้สามารถถูกใช้สร้างโปรไฟล์ผู้ใช้งานได้ - แฮกเกอร์สามารถ ติดตามกิจกรรมประจำวัน, วิเคราะห์ความสัมพันธ์ และเฝ้าระวังบุคคลเป้าหมาย เช่น นักข่าว, ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล และผู้มีอิทธิพลทางการเมือง ✅ Verizon ได้แก้ไขช่องโหว่แล้ว แต่ไม่เปิดเผยว่าถูกใช้โจมตีไปแล้วหรือไม่ - ช่องโหว่ถูกแก้ไขในเดือนมีนาคม 2025 แต่ ยังไม่มีข้อมูลว่าเคยถูกใช้โจมตีจริงมาก่อนหรือไม่ - ผู้ใช้ควร ตรวจสอบการตั้งค่าความปลอดภัยของตนและเปลี่ยนรหัสผ่านอย่างสม่ำเสมอ https://www.techradar.com/pro/security/verizon-security-flaw-could-allow-hackers-to-view-entire-call-history
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 146 มุมมอง 0 รีวิว
  • NordVPN เผยว่าแม้ผู้เดินทางทั่วโลกจะใช้ Wi-Fi สาธารณะบ่อยขึ้น แต่มีเพียง 17% เท่านั้นที่ใช้ VPN เพื่อป้องกันข้อมูล ขณะที่ 60% ของผู้ใช้ยังคงเชื่อมต่อเครือข่ายสาธารณะอย่างเป็นครั้งคราว โดยเฉพาะในเกาหลีใต้ที่สูงถึง 80% แม้ผู้ใช้จะป้องกันด้วย รหัสผ่านแข็งแกร่งและฟิล์มกันแอบมอง แต่การไม่ใช้ VPN และการเปิดแอปที่มีข้อมูลสำคัญยังคงเป็นความเสี่ยงสูง นักวิจัยแนะนำให้ผู้ใช้ หลีกเลี่ยงการเข้าระบบธนาคารบน Wi-Fi สาธารณะ และเปิดใช้งาน 2FA เพื่อเสริมความปลอดภัย

    ✅ พฤติกรรมการใช้อุปกรณ์ระหว่างเดินทางแตกต่างกันในแต่ละประเทศ
    - ผู้ใช้ในสหรัฐฯ และแคนาดานิยม ฟังเพลงหรือพอดแคสต์ระหว่างเดินทาง
    - ญี่ปุ่นมักใช้เวลาเดินทางในการ ติดตามข่าวสาร
    - สเปนและอิตาลีเน้นการ พูดคุยและส่งข้อความกับเพื่อน

    ✅ 60% ของผู้เดินทางเชื่อมต่อ Wi-Fi สาธารณะเป็นครั้งคราว
    - 80% ของผู้ใช้ในเกาหลีใต้มักใช้ Wi-Fi สาธารณะ
    - แม้ผู้ใช้ส่วนใหญ่จะเชื่อมต่อไม่นาน (ประมาณ 30 นาที) แต่ก็ยังเสี่ยงต่อการถูกดักจับข้อมูล

    ✅ “Shoulder Surfing” เป็นภัยเงียบที่มักถูกมองข้าม
    - 20% ของผู้เดินทางใช้ ฟิล์มป้องกันหน้าจอ เพื่อป้องกันการมองเห็นข้อมูลโดยผู้อื่น
    - อย่างไรก็ตาม การไม่ใช้ VPN และการเข้าถึงข้อมูลสำคัญบน Wi-Fi สาธารณะยังคงเป็นจุดอ่อน

    ✅ คำแนะนำสำหรับการใช้งาน Wi-Fi สาธารณะอย่างปลอดภัย
    - หลีกเลี่ยงการเข้าสู่ระบบธนาคาร แอปสุขภาพ หรือแพลตฟอร์มที่มีข้อมูลสำคัญ
    - เปิดใช้งานการยืนยันตัวตนสองขั้นตอน (2FA) เพื่อลดความเสี่ยงในการถูกโจมตี
    - ใช้ VPN เพื่อเข้ารหัสข้อมูลและป้องกันการสอดแนมจากเครือข่ายไม่ปลอดภัย

    https://www.techradar.com/pro/security/when-it-comes-to-security-public-wi-fi-could-be-a-risky-choice-for-commuters-worldwide
    NordVPN เผยว่าแม้ผู้เดินทางทั่วโลกจะใช้ Wi-Fi สาธารณะบ่อยขึ้น แต่มีเพียง 17% เท่านั้นที่ใช้ VPN เพื่อป้องกันข้อมูล ขณะที่ 60% ของผู้ใช้ยังคงเชื่อมต่อเครือข่ายสาธารณะอย่างเป็นครั้งคราว โดยเฉพาะในเกาหลีใต้ที่สูงถึง 80% แม้ผู้ใช้จะป้องกันด้วย รหัสผ่านแข็งแกร่งและฟิล์มกันแอบมอง แต่การไม่ใช้ VPN และการเปิดแอปที่มีข้อมูลสำคัญยังคงเป็นความเสี่ยงสูง นักวิจัยแนะนำให้ผู้ใช้ หลีกเลี่ยงการเข้าระบบธนาคารบน Wi-Fi สาธารณะ และเปิดใช้งาน 2FA เพื่อเสริมความปลอดภัย ✅ พฤติกรรมการใช้อุปกรณ์ระหว่างเดินทางแตกต่างกันในแต่ละประเทศ - ผู้ใช้ในสหรัฐฯ และแคนาดานิยม ฟังเพลงหรือพอดแคสต์ระหว่างเดินทาง - ญี่ปุ่นมักใช้เวลาเดินทางในการ ติดตามข่าวสาร - สเปนและอิตาลีเน้นการ พูดคุยและส่งข้อความกับเพื่อน ✅ 60% ของผู้เดินทางเชื่อมต่อ Wi-Fi สาธารณะเป็นครั้งคราว - 80% ของผู้ใช้ในเกาหลีใต้มักใช้ Wi-Fi สาธารณะ - แม้ผู้ใช้ส่วนใหญ่จะเชื่อมต่อไม่นาน (ประมาณ 30 นาที) แต่ก็ยังเสี่ยงต่อการถูกดักจับข้อมูล ✅ “Shoulder Surfing” เป็นภัยเงียบที่มักถูกมองข้าม - 20% ของผู้เดินทางใช้ ฟิล์มป้องกันหน้าจอ เพื่อป้องกันการมองเห็นข้อมูลโดยผู้อื่น - อย่างไรก็ตาม การไม่ใช้ VPN และการเข้าถึงข้อมูลสำคัญบน Wi-Fi สาธารณะยังคงเป็นจุดอ่อน ✅ คำแนะนำสำหรับการใช้งาน Wi-Fi สาธารณะอย่างปลอดภัย - หลีกเลี่ยงการเข้าสู่ระบบธนาคาร แอปสุขภาพ หรือแพลตฟอร์มที่มีข้อมูลสำคัญ - เปิดใช้งานการยืนยันตัวตนสองขั้นตอน (2FA) เพื่อลดความเสี่ยงในการถูกโจมตี - ใช้ VPN เพื่อเข้ารหัสข้อมูลและป้องกันการสอดแนมจากเครือข่ายไม่ปลอดภัย https://www.techradar.com/pro/security/when-it-comes-to-security-public-wi-fi-could-be-a-risky-choice-for-commuters-worldwide
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 248 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel ยืนยันว่า Core Ultra 300 'Panther Lake' จะเปิดตัวในช่วงต้นปี 2026 แม้ว่าก่อนหน้านี้จะเคยปฏิเสธข่าวลือเรื่องการล่าช้า CEO Lip-Bu Tan ย้ำว่าเทคโนโลยี 18A Node ของ Intel ไม่ได้มีปัญหา และกำลังเดินหน้าตามแผน การผลิตจำนวนมากจะเริ่มก่อนสิ้นปี 2025 และในเดือนตุลาคมจะมี การเปิดตัวจำนวนจำกัดผ่านโปรแกรม EEP ขณะที่ Nova Lake จะเปิดตัวในปี 2026 เป็นรุ่นต่อจาก Panther Lake

    ✅ Panther Lake จะเปิดตัวในช่วงต้นปี 2026 ไม่ใช่ปลายปี 2025 ตามที่เคยกล่าวไว้
    - ก่อนหน้านี้ Intel เคยยืนยันว่า Panther Lake จะเปิดตัวในครึ่งหลังของปี 2025
    - ข้อมูลใหม่จากงาน Vision 2025 ระบุว่า Panther Lake จะเข้าสู่ตลาดในช่วงไตรมาสแรกของปี 2026

    ✅ ผู้บริหารยืนยันว่าการพัฒนา 18A Node ไม่ได้มีปัญหา
    - ก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่า ปัญหาการผลิตบนเทคโนโลยี 18A อาจทำให้ Panther Lake ล่าช้า
    - อย่างไรก็ตาม Lip-Bu Tan CEO ของ Intel ระบุว่า โครงการเดินหน้าไปได้ดี และจะมีการผลิตจำนวนมากก่อนสิ้นปี 2025

    ✅ Intel กำลังทดสอบการผลิตแบบ Early Enablement Program (EEP)
    - Intel วางแผนเปิดตัว Panther Lake ในจำนวนจำกัดผ่านโปรแกรม EEP ในเดือนตุลาคม 2025
    - การผลิตจำนวนมากจะเริ่มในช่วงต้นปี 2026

    ✅ Panther Lake ได้รับการออกแบบให้รวมพลังของ Lunar Lake และ Arrow Lake
    - รองประธานกลุ่ม Client Computing ระบุว่า Panther Lake จะใช้พลังงานต่ำเหมือน Lunar Lake
    - มีประสิทธิภาพการประมวลผลสูงเทียบเท่า Arrow Lake
    - เป็น CPU รุ่นแรกของ Intel ที่ใช้เทคโนโลยี 18A เต็มรูปแบบ

    ✅ Nova Lake จะเปิดตัวในปี 2026 เป็นรุ่นต่อจาก Panther Lake
    - Nova Lake จะมาพร้อม สถาปัตยกรรมใหม่และโครงสร้างชิปแบบแยกส่วน
    - คาดว่าจะเป็นซีพียูสำหรับเดสก์ท็อปที่ใช้ N3 ของ TSMC ร่วมกับการออกแบบของ Intel

    https://www.techpowerup.com/334929/intel-vision-presentation-labels-core-ultra-300-panther-lake-cpu-series-as-2026-products
    Intel ยืนยันว่า Core Ultra 300 'Panther Lake' จะเปิดตัวในช่วงต้นปี 2026 แม้ว่าก่อนหน้านี้จะเคยปฏิเสธข่าวลือเรื่องการล่าช้า CEO Lip-Bu Tan ย้ำว่าเทคโนโลยี 18A Node ของ Intel ไม่ได้มีปัญหา และกำลังเดินหน้าตามแผน การผลิตจำนวนมากจะเริ่มก่อนสิ้นปี 2025 และในเดือนตุลาคมจะมี การเปิดตัวจำนวนจำกัดผ่านโปรแกรม EEP ขณะที่ Nova Lake จะเปิดตัวในปี 2026 เป็นรุ่นต่อจาก Panther Lake ✅ Panther Lake จะเปิดตัวในช่วงต้นปี 2026 ไม่ใช่ปลายปี 2025 ตามที่เคยกล่าวไว้ - ก่อนหน้านี้ Intel เคยยืนยันว่า Panther Lake จะเปิดตัวในครึ่งหลังของปี 2025 - ข้อมูลใหม่จากงาน Vision 2025 ระบุว่า Panther Lake จะเข้าสู่ตลาดในช่วงไตรมาสแรกของปี 2026 ✅ ผู้บริหารยืนยันว่าการพัฒนา 18A Node ไม่ได้มีปัญหา - ก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่า ปัญหาการผลิตบนเทคโนโลยี 18A อาจทำให้ Panther Lake ล่าช้า - อย่างไรก็ตาม Lip-Bu Tan CEO ของ Intel ระบุว่า โครงการเดินหน้าไปได้ดี และจะมีการผลิตจำนวนมากก่อนสิ้นปี 2025 ✅ Intel กำลังทดสอบการผลิตแบบ Early Enablement Program (EEP) - Intel วางแผนเปิดตัว Panther Lake ในจำนวนจำกัดผ่านโปรแกรม EEP ในเดือนตุลาคม 2025 - การผลิตจำนวนมากจะเริ่มในช่วงต้นปี 2026 ✅ Panther Lake ได้รับการออกแบบให้รวมพลังของ Lunar Lake และ Arrow Lake - รองประธานกลุ่ม Client Computing ระบุว่า Panther Lake จะใช้พลังงานต่ำเหมือน Lunar Lake - มีประสิทธิภาพการประมวลผลสูงเทียบเท่า Arrow Lake - เป็น CPU รุ่นแรกของ Intel ที่ใช้เทคโนโลยี 18A เต็มรูปแบบ ✅ Nova Lake จะเปิดตัวในปี 2026 เป็นรุ่นต่อจาก Panther Lake - Nova Lake จะมาพร้อม สถาปัตยกรรมใหม่และโครงสร้างชิปแบบแยกส่วน - คาดว่าจะเป็นซีพียูสำหรับเดสก์ท็อปที่ใช้ N3 ของ TSMC ร่วมกับการออกแบบของ Intel https://www.techpowerup.com/334929/intel-vision-presentation-labels-core-ultra-300-panther-lake-cpu-series-as-2026-products
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Intel Vision Presentation Labels Core Ultra 300 "Panther Lake" CPU Series as 2026 Products
    Intel's freshly concluded Vision 2025 "Products Update and GTM" showcase included a segment dedicated to forthcoming Core Ultra 300 "Panther Lake" client processors. Industry watchdogs have grabbed a select few screenshots from Team Blue's broadcast from Las Vegas, Nevada—one backdropped slide confi...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 214 มุมมอง 0 รีวิว
  • Plugable เปิดตัวอะแดปเตอร์ USB-C ใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้เชื่อมต่อจอ 4K ได้สูงสุด 4 จอ และรองรับจอเสมือน 8K ผ่าน DisplayLink DL-7400 อุปกรณ์นี้สามารถจ่ายไฟให้เครื่องถึง 90W และช่วยขยายการใช้งานจอภาพสำหรับทั้ง Windows และ Mac โดยเฉพาะ MacBook M4 ที่มีข้อจำกัดด้านการเชื่อมต่อจอหลายจอ

    รองรับจอเสมือน 8K ผ่าน USB-C
    - นอกจากจอ 4K ได้สูงสุด 4 จอ อะแดปเตอร์ยังสามารถสร้าง จอเสมือน 8K เพื่อเพิ่มพื้นที่ทำงานให้กับผู้ใช้ที่ต้องการความละเอียดสูง

    เทคโนโลยีการจ่ายไฟแบบ Pass-Through
    - รองรับ Power Delivery สูงสุด 100W และสามารถ จ่ายไฟให้กับเครื่องในระดับ 90W โดยไม่ต้องใช้อะแดปเตอร์แยก

    เหนือกว่าคู่แข่งในตลาด
    - อะแดปเตอร์ส่วนใหญ่รองรับเพียง 1080p หรือจอภาพจำนวนจำกัด ขณะที่ USBC-7400H4 ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ ขยายพื้นที่หน้าจอเกินกว่าที่แล็ปท็อปทั่วไปรองรับ

    ราคาและการวางจำหน่าย
    - วางจำหน่ายแล้วบน Plugable และ Amazon ในราคา $124.95 พร้อมส่วนลดเปิดตัว 10%

    https://www.techradar.com/pro/i-cant-believe-you-can-connect-up-to-four-4k-monitors-to-almost-any-laptop-and-it-is-even-compatible-with-mac
    Plugable เปิดตัวอะแดปเตอร์ USB-C ใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้เชื่อมต่อจอ 4K ได้สูงสุด 4 จอ และรองรับจอเสมือน 8K ผ่าน DisplayLink DL-7400 อุปกรณ์นี้สามารถจ่ายไฟให้เครื่องถึง 90W และช่วยขยายการใช้งานจอภาพสำหรับทั้ง Windows และ Mac โดยเฉพาะ MacBook M4 ที่มีข้อจำกัดด้านการเชื่อมต่อจอหลายจอ รองรับจอเสมือน 8K ผ่าน USB-C - นอกจากจอ 4K ได้สูงสุด 4 จอ อะแดปเตอร์ยังสามารถสร้าง จอเสมือน 8K เพื่อเพิ่มพื้นที่ทำงานให้กับผู้ใช้ที่ต้องการความละเอียดสูง เทคโนโลยีการจ่ายไฟแบบ Pass-Through - รองรับ Power Delivery สูงสุด 100W และสามารถ จ่ายไฟให้กับเครื่องในระดับ 90W โดยไม่ต้องใช้อะแดปเตอร์แยก เหนือกว่าคู่แข่งในตลาด - อะแดปเตอร์ส่วนใหญ่รองรับเพียง 1080p หรือจอภาพจำนวนจำกัด ขณะที่ USBC-7400H4 ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ ขยายพื้นที่หน้าจอเกินกว่าที่แล็ปท็อปทั่วไปรองรับ ราคาและการวางจำหน่าย - วางจำหน่ายแล้วบน Plugable และ Amazon ในราคา $124.95 พร้อมส่วนลดเปิดตัว 10% https://www.techradar.com/pro/i-cant-believe-you-can-connect-up-to-four-4k-monitors-to-almost-any-laptop-and-it-is-even-compatible-with-mac
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 135 มุมมอง 0 รีวิว
  • เดาข้อสอบ ตอบยังไง? ให้แม่นเวอร์! ยอดผู้สมัครสอบ อปท. 438,277 คน รอบแรกบรรจุ 1 ธ.ค. 8,439 คน สถ.โกยค่าสมัครกว่า 188 ล้าน เทคนิคสอบ อปท. 2568 ที่ต้องรู้ 📚🔥

    ✨ Unlock เคล็ดลับสอบติด อปท. พร้อมเจาะลึกเทคนิคเดาข้อสอบแบบมือโปร

    📌 เจาะลึกการสอบ อปท. 2568 ตั้งแต่ขั้นตอนการสอบ รายละเอียดตำแหน่ง เทคนิคการเตรียมตัว ไปจนถึง "เดาข้อสอบ" อย่างไรให้แม่นเวอร์ พร้อมเทคนิคแบบจิตวิทยา ที่จะช่วยให้สอบผ่านได้แบบมืออาชีพ!

    อปท. 2568 ปีทองของคนอยากเป็นข้าราชการ 🎯 ปีนี้ถือเป็นโอกาสทอง ของผู้ที่มีความฝันอยากเป็น "ข้าราชการท้องถิ่น" หรือที่รู้จักกันในชื่อการสอบ อปท. ซึ่งมีผู้สมัครกว่า 438,277 คนทั่วประเทศ 😲

    โดยในรอบแรก จะมีการบรรจุเข้ารับราชการในวันที่ 1 ธันวาคม 2568 จำนวนถึง 8,439 อัตรา และที่น่าจับตาไม่แพ้กันคือ "ค่าสมัครสอบ" ที่กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น สามารถรวบรวมได้กว่า 188 ล้านบาท 💸

    แต่…ด้วยจำนวนผู้สมัครมหาศาล การสอบให้ผ่านจึงไม่ใช่เรื่องง่าย! โดยเฉพาะเมื่อมี "กฎเหล็ก" อย่าง ต้องสอบผ่านวิชาภาษาอังกฤษอย่างน้อย 10 จาก 20 ข้อ ถึงจะผ่านภาค ก 😱

    🤔 อปท. ย่อมาจาก องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งเป็นการสอบแข่งขัน เพื่อบรรจุเป็น ข้าราชการ หรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ภายใต้การดูแลของ กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย

    สาเหตุที่คนแห่สมัครกันเยอะ? เพราะ...
    🏢 เป็นงานราชการ มีความมั่นคง
    💰 เงินเดือนและสวัสดิการดี
    📍 ทำงานในพื้นที่บ้านเกิดได้
    ⏳ ขึ้นบัญชีได้นานถึง 2 ปี ขยายได้อีก 30 วัน

    ขั้นตอนสำคัญของการสอบ อปท. 2568 📅
    2 ก.ค. 2568 ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบ
    19 ก.ค. 2568 สอบภาค ก และ ข
    1 ต.ค. 2568 ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบภาค ค
    18-19 ต.ค. 2568 สอบสัมภาษณ์ ภาค ค
    31 ต.ค. 2568 ประกาศบัญชีผู้สอบแข่งขันได้
    3-7 พ.ย. 2568 รายงานตัว และเลือกสถานที่
    1 ธ.ค. 2568 บรรจุแต่งตั้งเข้ารับราชการ

    📝 อย่าลืมบันทึกวันสำคัญไว้ให้ดี!

    กลุ่มภาคที่เปิดสอบ และตำแหน่งยอดฮิต 🎯
    🗺️ กลุ่มภาค 10 โซนทั่วประเทศ
    มีตั้งแต่ ภาคเหนือ เขต 1–2, ภาคกลาง เขต 1–3, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 1–3, ไปจนถึง ภาคใต้ เขต 1–2 โดยแต่ละพื้นที่เปิดสอบในตำแหน่งต่างกัน ตามอัตราว่าง

    📋 ประเภทของตำแหน่งที่เปิดสอบ
    - ครูผู้ช่วย 👩‍🏫👨‍🏫 ป.ตรี 4 ปี เริ่มต้น 16,560 บาท ป.ตรี 5 ปี เริ่มต้น 17,380 บาท

    - ตำแหน่งประเภททั่วไป วุฒิ ปวช./ปวท./ปวส. เช่น เจ้าพนักงานธุรการ, เจ้าพนักงานการคลัง ฯลฯ เงินเดือนเริ่มต้น 10,340 – 12,730 บาท

    - ตำแหน่งประเภทวิชาการ วุฒิปริญญาตรี เช่น นักวิชาการเงิน, วิศวกรโยธา, นักทรัพยากรบุคคล ฯลฯ เงินเดือนเริ่มต้น 16,600 บาท

    💡 ตำแหน่งยอดฮิตที่มีอัตรารับมากสุดคือ “นักวิชาการตรวจสอบภายใน” ถึง 779 อัตราเลยทีเดียว!

    ✍️ การสอบแบ่งออกเป็น 3 ภาค

    🔸 ภาค ก ความรู้ทั่วไป 100 คะแนน
    - วิเคราะห์เหตุผล 30 คะแนน
    - กฎหมายที่เกี่ยวข้อง 30 คะแนน
    - ภาษาไทย 20 คะแนน
    - ภาษาอังกฤษ 20 คะแนน ต้องได้อย่างน้อย 10 คะแนน

    🔸 ภาค ข ความรู้เฉพาะตำแหน่ง 100 คะแนน ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่สมัคร เช่น
    - นักวิชาการศึกษา → พัฒนาหลักสูตร
    - นักพัฒนาชุมชน → กฎหมายพัฒนาชุมชน
    - นักบัญชี → การเงิน-บัญชี

    🔸 ภาค ค สัมภาษณ์ 100 คะแนน
    - บุคลิกภาพ
    - ทัศนคติ
    - ความสามารถในการสื่อสาร
    - ความเหมาะสมกับตำแหน่ง

    เทคนิคเตรียมสอบ อปท. แบบจับมือทำ 📖
    ✅ วางแผนอ่านหนังสือล่วงหน้า อย่ารอใกล้วันสอบ! ควรวางแผนเตรียมตัว ล่วงหน้าอย่างน้อย 3-4 เดือน แบ่งเวลาอ่านให้ครอบคลุมทั้งภาค ก และ ข

    ✅ อ่านกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ระเบียบราชการท้องถิ่น พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดฯ

    ✅ ฝึกทำข้อสอบเก่า ค้นหาแนวข้อสอบ อปท. จากปีเก่า ๆ มาฝึกให้คล่อง ฝึกทำโจทย์วันละ 20–30 ข้อทุกวัน ✍️

    ✅ ภาษาอังกฤษต้องไม่พลาด เน้น Reading comprehension ศัพท์พื้นฐาน และ Grammar เบื้องต้น ฝึกโจทย์แบบ multiple choice

    🔥 เทคนิคเดาข้อสอบให้แม่นเวอร์! ไม่ต้องงม ไม่ต้องมั่ว 🤖 เมื่อเจอข้อสอบที่ “คิดไม่ออก” หรือ “ไม่มั่นใจ” ใช้เทคนิคเหล่านี้ ช่วยให้เดาอย่างมีหลักการ ได้แม่นยำขึ้น!

    🎯 เทคนิคที่ 1 ตัดตัวเลือกสุดโต่ง ระวังคำว่า “เสมอ”, “ทั้งหมด”, “ไม่มีข้อยกเว้น”, “ห้ามโดยเด็ดขาด” เพราะมักผิด ❌

    🎯 เทคนิคที่ 2 คำที่ให้ความยืดหยุ่นมักจะถูก คำว่า “มักจะ”, “อาจจะ”, “บางครั้ง” มักถูกมากกว่า ✅

    🎯 เทคนิคที่ 3 สแกนคำถาม – คำตอบที่คล้ายกัน ถ้ามีคำจากคำถามโผล่ในคำตอบ = โอกาสถูกสูง!

    🎯 เทคนิคที่ 4 เดาตามแพทเทิร์น ถ้าต้องเดาจริง ๆ → เลือก “ข” หรือ “ค” เพราะมักเป็นตำแหน่งกลางที่ผู้ออกข้อสอบนิยมใช้

    🎯 เทคนิคที่ 5 ตัวเลือกยาวมักถูก เพราะอาจารย์มักใส่รายละเอียดมาก ในคำตอบที่ถูก 📝

    ❌ ข้อห้ามเด็ดขาดในการทำข้อสอบ
    - อย่าทิ้งข้อ – ตอบดีกว่าเว้น!
    - อย่าเปลี่ยนคำตอบไปมา ถ้าไม่มีเหตุผลชัดเจน
    - อย่ามองข้ามคำว่า “ไม่ใช่” หรือ “ยกเว้น” ในคำถาม

    📚 เตรียมตัววันนี้ พรุ่งนี้สอบติด! 🌈 การสอบ อปท. 2568 คือโอกาสครั้งใหญ่ของใครหลายคน และยิ่งมีเทคนิคที่ดี + เตรียมตัวอย่างเป็นระบบ = โอกาส “สอบติด” ก็สูงขึ้นตามไปด้วย! 💪

    ไม่ว่าจะเป็น… วางแผนอ่านหนังสือ ฝึกทำข้อสอบเก่า รู้เทคนิคเดาข้อสอบแบบมีหลักการ ทั้งหมดนี้คืออาวุธสำคัญ ที่ต้องมีในการสอบครั้งนี้!

    ✨ ขอให้โชคดีในการสอบ และได้เป็นข้าราชการในฝัน! ✨

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 311115 มี.ค. 2568

    📌 #สอบอปท2568 #แนวข้อสอบราชการ #เดาข้อสอบแม่นเวอร์ #เทคนิคสอบราชการ #สอบภาคก #สอบภาคข #ภาษาอังกฤษอปท #สอบราชการ2568 #สมัครงานราชการ #สอบสัมภาษณ์อปท
    เดาข้อสอบ ตอบยังไง? ให้แม่นเวอร์! ยอดผู้สมัครสอบ อปท. 438,277 คน รอบแรกบรรจุ 1 ธ.ค. 8,439 คน สถ.โกยค่าสมัครกว่า 188 ล้าน เทคนิคสอบ อปท. 2568 ที่ต้องรู้ 📚🔥 ✨ Unlock เคล็ดลับสอบติด อปท. พร้อมเจาะลึกเทคนิคเดาข้อสอบแบบมือโปร 📌 เจาะลึกการสอบ อปท. 2568 ตั้งแต่ขั้นตอนการสอบ รายละเอียดตำแหน่ง เทคนิคการเตรียมตัว ไปจนถึง "เดาข้อสอบ" อย่างไรให้แม่นเวอร์ พร้อมเทคนิคแบบจิตวิทยา ที่จะช่วยให้สอบผ่านได้แบบมืออาชีพ! อปท. 2568 ปีทองของคนอยากเป็นข้าราชการ 🎯 ปีนี้ถือเป็นโอกาสทอง ของผู้ที่มีความฝันอยากเป็น "ข้าราชการท้องถิ่น" หรือที่รู้จักกันในชื่อการสอบ อปท. ซึ่งมีผู้สมัครกว่า 438,277 คนทั่วประเทศ 😲 โดยในรอบแรก จะมีการบรรจุเข้ารับราชการในวันที่ 1 ธันวาคม 2568 จำนวนถึง 8,439 อัตรา และที่น่าจับตาไม่แพ้กันคือ "ค่าสมัครสอบ" ที่กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น สามารถรวบรวมได้กว่า 188 ล้านบาท 💸 แต่…ด้วยจำนวนผู้สมัครมหาศาล การสอบให้ผ่านจึงไม่ใช่เรื่องง่าย! โดยเฉพาะเมื่อมี "กฎเหล็ก" อย่าง ต้องสอบผ่านวิชาภาษาอังกฤษอย่างน้อย 10 จาก 20 ข้อ ถึงจะผ่านภาค ก 😱 🤔 อปท. ย่อมาจาก องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งเป็นการสอบแข่งขัน เพื่อบรรจุเป็น ข้าราชการ หรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ภายใต้การดูแลของ กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย สาเหตุที่คนแห่สมัครกันเยอะ? เพราะ... 🏢 เป็นงานราชการ มีความมั่นคง 💰 เงินเดือนและสวัสดิการดี 📍 ทำงานในพื้นที่บ้านเกิดได้ ⏳ ขึ้นบัญชีได้นานถึง 2 ปี ขยายได้อีก 30 วัน ขั้นตอนสำคัญของการสอบ อปท. 2568 📅 2 ก.ค. 2568 ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบ 19 ก.ค. 2568 สอบภาค ก และ ข 1 ต.ค. 2568 ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบภาค ค 18-19 ต.ค. 2568 สอบสัมภาษณ์ ภาค ค 31 ต.ค. 2568 ประกาศบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ 3-7 พ.ย. 2568 รายงานตัว และเลือกสถานที่ 1 ธ.ค. 2568 บรรจุแต่งตั้งเข้ารับราชการ 📝 อย่าลืมบันทึกวันสำคัญไว้ให้ดี! กลุ่มภาคที่เปิดสอบ และตำแหน่งยอดฮิต 🎯 🗺️ กลุ่มภาค 10 โซนทั่วประเทศ มีตั้งแต่ ภาคเหนือ เขต 1–2, ภาคกลาง เขต 1–3, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 1–3, ไปจนถึง ภาคใต้ เขต 1–2 โดยแต่ละพื้นที่เปิดสอบในตำแหน่งต่างกัน ตามอัตราว่าง 📋 ประเภทของตำแหน่งที่เปิดสอบ - ครูผู้ช่วย 👩‍🏫👨‍🏫 ป.ตรี 4 ปี เริ่มต้น 16,560 บาท ป.ตรี 5 ปี เริ่มต้น 17,380 บาท - ตำแหน่งประเภททั่วไป วุฒิ ปวช./ปวท./ปวส. เช่น เจ้าพนักงานธุรการ, เจ้าพนักงานการคลัง ฯลฯ เงินเดือนเริ่มต้น 10,340 – 12,730 บาท - ตำแหน่งประเภทวิชาการ วุฒิปริญญาตรี เช่น นักวิชาการเงิน, วิศวกรโยธา, นักทรัพยากรบุคคล ฯลฯ เงินเดือนเริ่มต้น 16,600 บาท 💡 ตำแหน่งยอดฮิตที่มีอัตรารับมากสุดคือ “นักวิชาการตรวจสอบภายใน” ถึง 779 อัตราเลยทีเดียว! ✍️ การสอบแบ่งออกเป็น 3 ภาค 🔸 ภาค ก ความรู้ทั่วไป 100 คะแนน - วิเคราะห์เหตุผล 30 คะแนน - กฎหมายที่เกี่ยวข้อง 30 คะแนน - ภาษาไทย 20 คะแนน - ภาษาอังกฤษ 20 คะแนน ต้องได้อย่างน้อย 10 คะแนน 🔸 ภาค ข ความรู้เฉพาะตำแหน่ง 100 คะแนน ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่สมัคร เช่น - นักวิชาการศึกษา → พัฒนาหลักสูตร - นักพัฒนาชุมชน → กฎหมายพัฒนาชุมชน - นักบัญชี → การเงิน-บัญชี 🔸 ภาค ค สัมภาษณ์ 100 คะแนน - บุคลิกภาพ - ทัศนคติ - ความสามารถในการสื่อสาร - ความเหมาะสมกับตำแหน่ง เทคนิคเตรียมสอบ อปท. แบบจับมือทำ 📖 ✅ วางแผนอ่านหนังสือล่วงหน้า อย่ารอใกล้วันสอบ! ควรวางแผนเตรียมตัว ล่วงหน้าอย่างน้อย 3-4 เดือน แบ่งเวลาอ่านให้ครอบคลุมทั้งภาค ก และ ข ✅ อ่านกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ระเบียบราชการท้องถิ่น พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดฯ ✅ ฝึกทำข้อสอบเก่า ค้นหาแนวข้อสอบ อปท. จากปีเก่า ๆ มาฝึกให้คล่อง ฝึกทำโจทย์วันละ 20–30 ข้อทุกวัน ✍️ ✅ ภาษาอังกฤษต้องไม่พลาด เน้น Reading comprehension ศัพท์พื้นฐาน และ Grammar เบื้องต้น ฝึกโจทย์แบบ multiple choice 🔥 เทคนิคเดาข้อสอบให้แม่นเวอร์! ไม่ต้องงม ไม่ต้องมั่ว 🤖 เมื่อเจอข้อสอบที่ “คิดไม่ออก” หรือ “ไม่มั่นใจ” ใช้เทคนิคเหล่านี้ ช่วยให้เดาอย่างมีหลักการ ได้แม่นยำขึ้น! 🎯 เทคนิคที่ 1 ตัดตัวเลือกสุดโต่ง ระวังคำว่า “เสมอ”, “ทั้งหมด”, “ไม่มีข้อยกเว้น”, “ห้ามโดยเด็ดขาด” เพราะมักผิด ❌ 🎯 เทคนิคที่ 2 คำที่ให้ความยืดหยุ่นมักจะถูก คำว่า “มักจะ”, “อาจจะ”, “บางครั้ง” มักถูกมากกว่า ✅ 🎯 เทคนิคที่ 3 สแกนคำถาม – คำตอบที่คล้ายกัน ถ้ามีคำจากคำถามโผล่ในคำตอบ = โอกาสถูกสูง! 🎯 เทคนิคที่ 4 เดาตามแพทเทิร์น ถ้าต้องเดาจริง ๆ → เลือก “ข” หรือ “ค” เพราะมักเป็นตำแหน่งกลางที่ผู้ออกข้อสอบนิยมใช้ 🎯 เทคนิคที่ 5 ตัวเลือกยาวมักถูก เพราะอาจารย์มักใส่รายละเอียดมาก ในคำตอบที่ถูก 📝 ❌ ข้อห้ามเด็ดขาดในการทำข้อสอบ - อย่าทิ้งข้อ – ตอบดีกว่าเว้น! - อย่าเปลี่ยนคำตอบไปมา ถ้าไม่มีเหตุผลชัดเจน - อย่ามองข้ามคำว่า “ไม่ใช่” หรือ “ยกเว้น” ในคำถาม 📚 เตรียมตัววันนี้ พรุ่งนี้สอบติด! 🌈 การสอบ อปท. 2568 คือโอกาสครั้งใหญ่ของใครหลายคน และยิ่งมีเทคนิคที่ดี + เตรียมตัวอย่างเป็นระบบ = โอกาส “สอบติด” ก็สูงขึ้นตามไปด้วย! 💪 ไม่ว่าจะเป็น… วางแผนอ่านหนังสือ ฝึกทำข้อสอบเก่า รู้เทคนิคเดาข้อสอบแบบมีหลักการ ทั้งหมดนี้คืออาวุธสำคัญ ที่ต้องมีในการสอบครั้งนี้! ✨ ขอให้โชคดีในการสอบ และได้เป็นข้าราชการในฝัน! ✨ ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 311115 มี.ค. 2568 📌 #สอบอปท2568 #แนวข้อสอบราชการ #เดาข้อสอบแม่นเวอร์ #เทคนิคสอบราชการ #สอบภาคก #สอบภาคข #ภาษาอังกฤษอปท #สอบราชการ2568 #สมัครงานราชการ #สอบสัมภาษณ์อปท
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 534 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้พูดถึงการยกระดับแอป Notepad ที่เราคุ้นเคยใน Windows โดย Microsoft ได้เพิ่มความสามารถใหม่ด้วยการผสาน Copilot เข้าสู่ระบบ โดยมีการออกแบบปุ่ม Copilot บนแถบเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้ฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่น การตรวจสอบข้อความ การปรับเปลี่ยนโทนของข้อความ หรือการจัดรูปแบบได้อย่างง่ายดาย ฟีเจอร์นี้มาพร้อมกับการสนับสนุนการเขียนและการแก้ไขที่คล่องตัว ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับแอปที่เคยเรียบง่ายและเน้นการทำงานพื้นฐานเท่านั้น

    พัฒนาการในช่วงหลายปีที่ผ่านมา:
    - Notepad ได้รับการปรับปรุงเพิ่มฟีเจอร์ เช่น การเปิดเอกสารหลายไฟล์ในรูปแบบแท็บตั้งแต่ปี 2022 และระบบตรวจสอบการสะกดคำและไวยากรณ์ในปี 2024 ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานในระดับใหม่.

    ฟีเจอร์ Copilot:
    - Copilot ถูกเพิ่มเข้ามาเพื่อช่วยผู้ใช้ในการแก้ไขข้อความ ปรับเปลี่ยนโครงสร้างข้อความ และสร้างเนื้อหาใหม่ในลักษณะตามที่ต้องการ ทั้งนี้ผู้ใช้งานยังสามารถปิดฟีเจอร์ Copilot ได้ตามการตั้งค่า.

    ความเห็นของผู้ใช้งาน:
    - การเพิ่ม Copilot ใน Notepad ได้รับความเห็นทั้งด้านบวกและลบ โดยบางคนมองว่ามันเพิ่มความซับซ้อนให้กับแอปพื้นฐาน ขณะที่บางคนยินดีต่อความสามารถที่เพิ่มขึ้นซึ่งช่วยประหยัดเวลา.

    แนวโน้มในอนาคต:
    - Microsoft อาจนำ AI ไปผสานในแอปพลิเคชันอื่น ๆ เพื่อเสริมความสะดวกและการสร้างเนื้อหาในแบบที่ตอบโจทย์ยุคดิจิทัลที่ต้องการความรวดเร็วและความเฉพาะตัว.

    https://www.techpowerup.com/334820/windows-notepad-gets-microsoft-copilot-integration
    ข่าวนี้พูดถึงการยกระดับแอป Notepad ที่เราคุ้นเคยใน Windows โดย Microsoft ได้เพิ่มความสามารถใหม่ด้วยการผสาน Copilot เข้าสู่ระบบ โดยมีการออกแบบปุ่ม Copilot บนแถบเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้ฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่น การตรวจสอบข้อความ การปรับเปลี่ยนโทนของข้อความ หรือการจัดรูปแบบได้อย่างง่ายดาย ฟีเจอร์นี้มาพร้อมกับการสนับสนุนการเขียนและการแก้ไขที่คล่องตัว ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับแอปที่เคยเรียบง่ายและเน้นการทำงานพื้นฐานเท่านั้น พัฒนาการในช่วงหลายปีที่ผ่านมา: - Notepad ได้รับการปรับปรุงเพิ่มฟีเจอร์ เช่น การเปิดเอกสารหลายไฟล์ในรูปแบบแท็บตั้งแต่ปี 2022 และระบบตรวจสอบการสะกดคำและไวยากรณ์ในปี 2024 ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานในระดับใหม่. ฟีเจอร์ Copilot: - Copilot ถูกเพิ่มเข้ามาเพื่อช่วยผู้ใช้ในการแก้ไขข้อความ ปรับเปลี่ยนโครงสร้างข้อความ และสร้างเนื้อหาใหม่ในลักษณะตามที่ต้องการ ทั้งนี้ผู้ใช้งานยังสามารถปิดฟีเจอร์ Copilot ได้ตามการตั้งค่า. ความเห็นของผู้ใช้งาน: - การเพิ่ม Copilot ใน Notepad ได้รับความเห็นทั้งด้านบวกและลบ โดยบางคนมองว่ามันเพิ่มความซับซ้อนให้กับแอปพื้นฐาน ขณะที่บางคนยินดีต่อความสามารถที่เพิ่มขึ้นซึ่งช่วยประหยัดเวลา. แนวโน้มในอนาคต: - Microsoft อาจนำ AI ไปผสานในแอปพลิเคชันอื่น ๆ เพื่อเสริมความสะดวกและการสร้างเนื้อหาในแบบที่ตอบโจทย์ยุคดิจิทัลที่ต้องการความรวดเร็วและความเฉพาะตัว. https://www.techpowerup.com/334820/windows-notepad-gets-microsoft-copilot-integration
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Windows Notepad Gets Microsoft Copilot Integration
    Everybody's favorite plaintext editor, Notepad, has been gathering features in the last couple of years. For over three decades, the Windows accessory could do little more than just input and save plaintext files, but Microsoft has been adding features to it. It began with the 2022 addition of tabs—...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 132 มุมมอง 0 รีวิว
  • AMD อาจเปิดตัว Ryzen 9000G APUs รุ่นใหม่ในปลายปี 2025 ด้วยการออกแบบ Zen 5 และ RDNA 3.5 ที่ปรับปรุงความเร็วและประสิทธิภาพ พร้อมรองรับ AI และ DDR5 ความคาดหวังใหม่ทำให้ชิปนี้กลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับตลาดเดสก์ท็อปที่ต้องการประสิทธิภาพสูง

    การพัฒนาในรุ่น Strix Point และ Krackan Point:
    - Strix Point เน้นการรวม Zen 5 cores และ Zen 5c cores ในโครงสร้างแบบ hybrid พร้อมกราฟิก iGPU Radeon 890M ที่มี Compute Unit ถึง 16 หน่วย เหมาะสำหรับเกม 1080p และการทำงาน AI.
    - Krackan Point ใช้ Zen 5 ในกลุ่มกลาง ลดขนาดลงเหลือ 8 cores และมี iGPU Radeon 860M ที่มี 8 Compute Unit.

    การสนับสนุน AI และ DDR5:
    - Ryzen 9000G ติดตั้ง XDNA 2 NPU ที่มอบประสิทธิภาพ AI สูงถึง 50 TOPS และการสนับสนุน DDR5 ที่ช่วยปรับปรุงความเร็วในการประมวลผลข้อมูลและประสิทธิภาพโดยรวม.

    อนาคตของ Zen 5 และ Zen 6:
    - Ryzen 9000G จะเป็นรุ่นสุดท้ายของ Zen 5 ก่อนที่ AMD จะเปิดตัว Zen 6 ในปี 2026 และการพัฒนาชิป AI 400 ที่ต่อยอดจาก Ryzen AI 300.

    ความเป็นไปได้ใหม่ในตลาด:
    - หากการคาดการณ์เป็นจริง Ryzen 9000G อาจกลายเป็นชิป APU แรกที่ได้รับการรับรอง Copilot+ ซึ่งจะเป็นการรวมเทคโนโลยี AI เข้ากับประสบการณ์การใช้งานเดสก์ท็อปที่มีประสิทธิภาพสูง.

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amd-ryzen-9000g-apus-rumored-to-launch-in-q4-for-am5-motherboards
    AMD อาจเปิดตัว Ryzen 9000G APUs รุ่นใหม่ในปลายปี 2025 ด้วยการออกแบบ Zen 5 และ RDNA 3.5 ที่ปรับปรุงความเร็วและประสิทธิภาพ พร้อมรองรับ AI และ DDR5 ความคาดหวังใหม่ทำให้ชิปนี้กลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับตลาดเดสก์ท็อปที่ต้องการประสิทธิภาพสูง การพัฒนาในรุ่น Strix Point และ Krackan Point: - Strix Point เน้นการรวม Zen 5 cores และ Zen 5c cores ในโครงสร้างแบบ hybrid พร้อมกราฟิก iGPU Radeon 890M ที่มี Compute Unit ถึง 16 หน่วย เหมาะสำหรับเกม 1080p และการทำงาน AI. - Krackan Point ใช้ Zen 5 ในกลุ่มกลาง ลดขนาดลงเหลือ 8 cores และมี iGPU Radeon 860M ที่มี 8 Compute Unit. การสนับสนุน AI และ DDR5: - Ryzen 9000G ติดตั้ง XDNA 2 NPU ที่มอบประสิทธิภาพ AI สูงถึง 50 TOPS และการสนับสนุน DDR5 ที่ช่วยปรับปรุงความเร็วในการประมวลผลข้อมูลและประสิทธิภาพโดยรวม. อนาคตของ Zen 5 และ Zen 6: - Ryzen 9000G จะเป็นรุ่นสุดท้ายของ Zen 5 ก่อนที่ AMD จะเปิดตัว Zen 6 ในปี 2026 และการพัฒนาชิป AI 400 ที่ต่อยอดจาก Ryzen AI 300. ความเป็นไปได้ใหม่ในตลาด: - หากการคาดการณ์เป็นจริง Ryzen 9000G อาจกลายเป็นชิป APU แรกที่ได้รับการรับรอง Copilot+ ซึ่งจะเป็นการรวมเทคโนโลยี AI เข้ากับประสบการณ์การใช้งานเดสก์ท็อปที่มีประสิทธิภาพสูง. https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amd-ryzen-9000g-apus-rumored-to-launch-in-q4-for-am5-motherboards
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    AMD Ryzen 9000G APUs rumored to launch in Q4 for AM5 motherboards
    Ryzen 9000G can potentially be the first Microsoft Copilot+ certified APUs for desktops.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 170 มุมมอง 0 รีวิว
  • มัลแวร์ PJobRAT กลับมาอีกครั้งพร้อมความสามารถใหม่ ๆ ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถขโมยข้อมูลสำคัญและควบคุมอุปกรณ์ Android ได้ มันปลอมตัวเป็นแอปแชทที่ดูเหมือนจริงและแจกจ่ายผ่านเว็บไซต์ WordPress ผู้ใช้ควรระวังการติดตั้งแอปจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือและอัปเดตซอฟต์แวร์อย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันภัยคุกคาม

    พัฒนาการของมัลแวร์:
    - PJobRAT เวอร์ชันใหม่สามารถปลอมตัวเป็นแอปแชท เช่น SangaalLite และ CChat ซึ่งเป็นการเลียนแบบแอปแชทที่มีชื่อเสียง เพื่อให้ผู้ใช้ไว้วางใจและติดตั้ง.

    การแพร่กระจาย:
    - แอปที่ติดมัลแวร์ถูกแจกจ่ายผ่านเว็บไซต์ WordPress แทนที่จะผ่านแอปสโตร์หลัก เช่น Google Play ทำให้มัลแวร์สามารถแพร่กระจายได้อย่างยากที่จะตรวจสอบ.

    ผลกระทบต่อความปลอดภัย:
    - ความสามารถของมัลแวร์ที่รันคำสั่ง shell ช่วยให้ผู้โจมตีสามารถใช้อุปกรณ์ของเหยื่อในการโจมตีเป้าหมายอื่นในเครือข่ายได้ และยังสามารถลบตัวเองออกจากระบบเมื่อบรรลุเป้าหมาย.

    คำแนะนำสำหรับผู้ใช้:
    - หลีกเลี่ยงการติดตั้งแอปจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ, ใช้แอนตี้ไวรัสบนอุปกรณ์ และอัปเดตระบบปฏิบัติการและแอปพลิเคชันอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันความเสี่ยง.

    https://www.techradar.com/pro/security/an-old-android-rat-has-returned-with-some-new-tricks-here-is-what-to-look-out-for
    มัลแวร์ PJobRAT กลับมาอีกครั้งพร้อมความสามารถใหม่ ๆ ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถขโมยข้อมูลสำคัญและควบคุมอุปกรณ์ Android ได้ มันปลอมตัวเป็นแอปแชทที่ดูเหมือนจริงและแจกจ่ายผ่านเว็บไซต์ WordPress ผู้ใช้ควรระวังการติดตั้งแอปจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือและอัปเดตซอฟต์แวร์อย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันภัยคุกคาม พัฒนาการของมัลแวร์: - PJobRAT เวอร์ชันใหม่สามารถปลอมตัวเป็นแอปแชท เช่น SangaalLite และ CChat ซึ่งเป็นการเลียนแบบแอปแชทที่มีชื่อเสียง เพื่อให้ผู้ใช้ไว้วางใจและติดตั้ง. การแพร่กระจาย: - แอปที่ติดมัลแวร์ถูกแจกจ่ายผ่านเว็บไซต์ WordPress แทนที่จะผ่านแอปสโตร์หลัก เช่น Google Play ทำให้มัลแวร์สามารถแพร่กระจายได้อย่างยากที่จะตรวจสอบ. ผลกระทบต่อความปลอดภัย: - ความสามารถของมัลแวร์ที่รันคำสั่ง shell ช่วยให้ผู้โจมตีสามารถใช้อุปกรณ์ของเหยื่อในการโจมตีเป้าหมายอื่นในเครือข่ายได้ และยังสามารถลบตัวเองออกจากระบบเมื่อบรรลุเป้าหมาย. คำแนะนำสำหรับผู้ใช้: - หลีกเลี่ยงการติดตั้งแอปจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ, ใช้แอนตี้ไวรัสบนอุปกรณ์ และอัปเดตระบบปฏิบัติการและแอปพลิเคชันอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันความเสี่ยง. https://www.techradar.com/pro/security/an-old-android-rat-has-returned-with-some-new-tricks-here-is-what-to-look-out-for
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 220 มุมมอง 0 รีวิว
  • การ์ดจอ RTX 5090 สำหรับแล็ปท็อปของ Nvidia เปิดตัวพร้อมผลการทดสอบที่เผยว่าประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 11% จาก RTX 4090 และถึง 40% เทียบกับ 3080 Ti แม้จะมีข้อจำกัดด้านฮาร์ดแวร์อย่างการระบายความร้อนและ CPU คอขวด แต่ความล้ำหน้าของเทคโนโลยี Multi-Frame Generation และการออกแบบที่บางเบาอาจดึงดูดผู้ใช้งานที่ต้องการประสิทธิภาพสูงในแล็ปท็อปรุ่นใหม่

    นวัตกรรมด้านฮาร์ดแวร์:
    - RTX 5090 ในแล็ปท็อปอย่าง Razer Blade 16 รุ่นปี 2025 มาพร้อมหน้าจอความละเอียด 1600p ที่รองรับการแสดงผล 240Hz และตัวเครื่องบางเพียง 0.7 นิ้ว ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงในขนาดพกพา.

    ความแตกต่างระหว่างรุ่น:
    - RTX 5090 เหนือกว่ารุ่นก่อนหน้าในเกมความละเอียดสูง เช่น Cyberpunk 2077 และ Alan Wake 2 ด้วยเฟรมเรตที่เพิ่มขึ้น 10 FPS แต่ในบางการทดสอบพบว่าประสิทธิภาพของ RTX 5090 และ RTX 4090 อาจใกล้เคียงกันขึ้นอยู่กับ CPU ที่จับคู่ด้วย.

    เทคโนโลยี Multi-Frame Generation (MFG):
    - เทคโนโลยีนี้สามารถเพิ่มเฟรมเรตได้ถึง 200% ในบางสถานการณ์ แต่ผู้ใช้งานอาจรู้สึกถึงความหน่วงในปุ่มคำสั่งที่คล้ายกับเฟรมเรตจริงมากกว่าเฟรมเรตที่ปรากฏ.

    การเปิดตัวในอนาคต:
    - แล็ปท็อปที่ใช้ RTX 5090 เช่น Razer Blade 16 รุ่นใหม่ จะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 31 มีนาคม 2025 ซึ่งคาดว่าแบรนด์อื่น ๆ จะเปิดตัวพร้อมโซลูชันการระบายความร้อนที่แตกต่างออกไปเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน.

    https://www.techspot.com/news/107323-first-nvidia-rtx-5090-laptop-benchmarks-have-emerged.html
    การ์ดจอ RTX 5090 สำหรับแล็ปท็อปของ Nvidia เปิดตัวพร้อมผลการทดสอบที่เผยว่าประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 11% จาก RTX 4090 และถึง 40% เทียบกับ 3080 Ti แม้จะมีข้อจำกัดด้านฮาร์ดแวร์อย่างการระบายความร้อนและ CPU คอขวด แต่ความล้ำหน้าของเทคโนโลยี Multi-Frame Generation และการออกแบบที่บางเบาอาจดึงดูดผู้ใช้งานที่ต้องการประสิทธิภาพสูงในแล็ปท็อปรุ่นใหม่ นวัตกรรมด้านฮาร์ดแวร์: - RTX 5090 ในแล็ปท็อปอย่าง Razer Blade 16 รุ่นปี 2025 มาพร้อมหน้าจอความละเอียด 1600p ที่รองรับการแสดงผล 240Hz และตัวเครื่องบางเพียง 0.7 นิ้ว ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงในขนาดพกพา. ความแตกต่างระหว่างรุ่น: - RTX 5090 เหนือกว่ารุ่นก่อนหน้าในเกมความละเอียดสูง เช่น Cyberpunk 2077 และ Alan Wake 2 ด้วยเฟรมเรตที่เพิ่มขึ้น 10 FPS แต่ในบางการทดสอบพบว่าประสิทธิภาพของ RTX 5090 และ RTX 4090 อาจใกล้เคียงกันขึ้นอยู่กับ CPU ที่จับคู่ด้วย. เทคโนโลยี Multi-Frame Generation (MFG): - เทคโนโลยีนี้สามารถเพิ่มเฟรมเรตได้ถึง 200% ในบางสถานการณ์ แต่ผู้ใช้งานอาจรู้สึกถึงความหน่วงในปุ่มคำสั่งที่คล้ายกับเฟรมเรตจริงมากกว่าเฟรมเรตที่ปรากฏ. การเปิดตัวในอนาคต: - แล็ปท็อปที่ใช้ RTX 5090 เช่น Razer Blade 16 รุ่นใหม่ จะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 31 มีนาคม 2025 ซึ่งคาดว่าแบรนด์อื่น ๆ จะเปิดตัวพร้อมโซลูชันการระบายความร้อนที่แตกต่างออกไปเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน. https://www.techspot.com/news/107323-first-nvidia-rtx-5090-laptop-benchmarks-have-emerged.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    The first Nvidia RTX 5090 laptop benchmarks have emerged
    Notebookcheck, ComputerBase, Hardwareluxx, PCMag, and other outlets recently received one of the first gaming laptops to feature Nvidia's RTX 5090. Similar to results from the desktop sector,...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 197 มุมมอง 0 รีวิว
  • เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ ใช้แอป Signal เพื่อหารือเรื่องแผนปฏิบัติการทางทหารลับ แต่เกิดข้อผิดพลาดเมื่อเชิญคนผิดเข้าร่วมแชต ทำให้ข้อมูลสำคัญรั่วไหล แม้ Signal เป็นแอปที่มีความปลอดภัยสูง แต่ความผิดพลาดของมนุษย์ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการคุ้มครองข้อมูลลับ เหตุการณ์นี้เป็นบทเรียนสำคัญที่เน้นให้เห็นว่า ความปลอดภัยไม่ได้ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว

    ความสามารถและข้อจำกัดของ Signal:
    - Signal ใช้การเข้ารหัสแบบ End-to-End (E2EE) และเป็นโอเพ่นซอร์ส แต่ถึงแม้จะมีความปลอดภัยสูง แอปยังคงเสี่ยงต่อการถูกแฮกหรือขโมยข้อมูลจากอุปกรณ์ที่ใช้งานอยู่.

    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น:
    - ในการแชต เจ้าหน้าที่หารือเรื่องเป้าหมาย ปฏิบัติการ และความเห็นส่วนตัว เช่น รองประธานาธิบดี J.D. Vance แสดงความกังวลว่าแผนนี้อาจเอื้อประโยชน์ต่อยุโรปมากกว่าสหรัฐฯ.

    ข้อกังวลด้านกฎหมายและจริยธรรม:
    - การใช้ Signal สำหรับการหารือข้อมูลลับอาจละเมิดกฎหมาย Espionage Act เนื่องจากแพลตฟอร์มไม่ได้รับการอนุมัติสำหรับส่งข้อมูลลับ.

    การเปรียบเทียบกับ WhatsApp:
    - Meredith Whittaker ประธานของ Signal ชี้ว่า WhatsApp ใช้การเข้ารหัสแบบเดียวกัน แต่ไม่สามารถปกป้องเมตะดาต้า (metadata) และข้อมูลผู้ใช้ได้ดีเท่า Signal.

    บทเรียนจากความผิดพลาด:
    - เหตุการณ์นี้ชี้ให้เห็นถึงความอ่อนไหวของข้อมูลในยุคดิจิทัล แม้ใช้แอปที่ปลอดภัยที่สุด แต่ยังต้องอาศัยความระมัดระวังของมนุษย์.

    https://www.techspot.com/news/107290-signal-defends-itself-after-us-military-officials-leak.html
    เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ ใช้แอป Signal เพื่อหารือเรื่องแผนปฏิบัติการทางทหารลับ แต่เกิดข้อผิดพลาดเมื่อเชิญคนผิดเข้าร่วมแชต ทำให้ข้อมูลสำคัญรั่วไหล แม้ Signal เป็นแอปที่มีความปลอดภัยสูง แต่ความผิดพลาดของมนุษย์ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการคุ้มครองข้อมูลลับ เหตุการณ์นี้เป็นบทเรียนสำคัญที่เน้นให้เห็นว่า ความปลอดภัยไม่ได้ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว ความสามารถและข้อจำกัดของ Signal: - Signal ใช้การเข้ารหัสแบบ End-to-End (E2EE) และเป็นโอเพ่นซอร์ส แต่ถึงแม้จะมีความปลอดภัยสูง แอปยังคงเสี่ยงต่อการถูกแฮกหรือขโมยข้อมูลจากอุปกรณ์ที่ใช้งานอยู่. เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น: - ในการแชต เจ้าหน้าที่หารือเรื่องเป้าหมาย ปฏิบัติการ และความเห็นส่วนตัว เช่น รองประธานาธิบดี J.D. Vance แสดงความกังวลว่าแผนนี้อาจเอื้อประโยชน์ต่อยุโรปมากกว่าสหรัฐฯ. ข้อกังวลด้านกฎหมายและจริยธรรม: - การใช้ Signal สำหรับการหารือข้อมูลลับอาจละเมิดกฎหมาย Espionage Act เนื่องจากแพลตฟอร์มไม่ได้รับการอนุมัติสำหรับส่งข้อมูลลับ. การเปรียบเทียบกับ WhatsApp: - Meredith Whittaker ประธานของ Signal ชี้ว่า WhatsApp ใช้การเข้ารหัสแบบเดียวกัน แต่ไม่สามารถปกป้องเมตะดาต้า (metadata) และข้อมูลผู้ใช้ได้ดีเท่า Signal. บทเรียนจากความผิดพลาด: - เหตุการณ์นี้ชี้ให้เห็นถึงความอ่อนไหวของข้อมูลในยุคดิจิทัล แม้ใช้แอปที่ปลอดภัยที่สุด แต่ยังต้องอาศัยความระมัดระวังของมนุษย์. https://www.techspot.com/news/107290-signal-defends-itself-after-us-military-officials-leak.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Signal defends itself after U.S. military officials leak classified plans by mistake on group chat
    Signal president Meredith Whittaker reiterated the messaging service's commitment to secure encryption and privacy after top government officials reportedly discussed a classified military operation using the platform....
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 172 มุมมอง 0 รีวิว
  • Arm เปิดตัว Accuracy Super Resolution ที่ช่วยเพิ่มเฟรมเรตของเกมบนสมาร์ทโฟนและลดการใช้พลังงาน เทคโนโลยีนี้สร้างจาก AMD FSR 2 และมุ่งเน้นการใช้งานในอุปกรณ์พลังงานต่ำ นักพัฒนาสามารถปรับแต่งโค้ดได้แบบโอเพ่นซอร์ส อีกทั้งยังมีการเตรียมปลั๊กอินสำหรับ Unity และ Unreal Engine เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน นี่ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับตลาดเกมมือถือ

    การพัฒนาแบบเปิดเผยข้อมูล:
    - ASR เปิดตัวเป็นโค้ดโอเพ่นซอร์สภายใต้ MIT License ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสามารถเข้าถึงและปรับแต่งได้อย่างอิสระ.
    - มีแผนปล่อยปลั๊กอินสำหรับ Unity และ Unreal Engine ภายในสิ้นปี เพื่อให้การใช้งานง่ายขึ้นสำหรับเกมบนแพลตฟอร์มเหล่านี้.

    เปรียบเทียบกับคู่แข่ง:
    - ใช้วิธีการ temporal upscaling ที่ผสมผสานข้อมูลหลายเฟรม ช่วยสร้างภาพคุณภาพสูงกว่าระบบ spatial upscaling ของ Qualcomm Game Super Resolution (GSR).
    - ASR จับคู่กับชิปเซ็ตอย่าง MediaTek Dimensity 9300 ซึ่งช่วยยืดระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่สำหรับผู้เล่นเกม.

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเกมมือถือ:
    - การเดโมใน GDC 2025 แสดงให้เห็นถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพถึง 30% ในการรันเกมผ่าน Unreal Engine 5 โดยไม่ลดคุณภาพกราฟิก.

    ความกว้างขวางในการใช้งาน:
    - ASR สามารถใช้งานได้ในหลากหลายแพลตฟอร์ม เช่น MediaTek Dimensity, Qualcomm Snapdragon, Samsung Exynos และแม้แต่ในแล็ปท็อปที่ใช้ Snapdragon X ซีรีส์.

    https://www.techpowerup.com/334562/arm-releases-open-source-asr-upscaler-based-on-amd-fsr-2-technology
    Arm เปิดตัว Accuracy Super Resolution ที่ช่วยเพิ่มเฟรมเรตของเกมบนสมาร์ทโฟนและลดการใช้พลังงาน เทคโนโลยีนี้สร้างจาก AMD FSR 2 และมุ่งเน้นการใช้งานในอุปกรณ์พลังงานต่ำ นักพัฒนาสามารถปรับแต่งโค้ดได้แบบโอเพ่นซอร์ส อีกทั้งยังมีการเตรียมปลั๊กอินสำหรับ Unity และ Unreal Engine เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน นี่ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับตลาดเกมมือถือ การพัฒนาแบบเปิดเผยข้อมูล: - ASR เปิดตัวเป็นโค้ดโอเพ่นซอร์สภายใต้ MIT License ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสามารถเข้าถึงและปรับแต่งได้อย่างอิสระ. - มีแผนปล่อยปลั๊กอินสำหรับ Unity และ Unreal Engine ภายในสิ้นปี เพื่อให้การใช้งานง่ายขึ้นสำหรับเกมบนแพลตฟอร์มเหล่านี้. เปรียบเทียบกับคู่แข่ง: - ใช้วิธีการ temporal upscaling ที่ผสมผสานข้อมูลหลายเฟรม ช่วยสร้างภาพคุณภาพสูงกว่าระบบ spatial upscaling ของ Qualcomm Game Super Resolution (GSR). - ASR จับคู่กับชิปเซ็ตอย่าง MediaTek Dimensity 9300 ซึ่งช่วยยืดระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่สำหรับผู้เล่นเกม. ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเกมมือถือ: - การเดโมใน GDC 2025 แสดงให้เห็นถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพถึง 30% ในการรันเกมผ่าน Unreal Engine 5 โดยไม่ลดคุณภาพกราฟิก. ความกว้างขวางในการใช้งาน: - ASR สามารถใช้งานได้ในหลากหลายแพลตฟอร์ม เช่น MediaTek Dimensity, Qualcomm Snapdragon, Samsung Exynos และแม้แต่ในแล็ปท็อปที่ใช้ Snapdragon X ซีรีส์. https://www.techpowerup.com/334562/arm-releases-open-source-asr-upscaler-based-on-amd-fsr-2-technology
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Arm Releases Open-Source ASR Upscaler Based on AMD FSR 2 Technology
    Arm has officially unveiled its Accuracy Super Resolution (ASR) upscaling technology at Game Developer Conference 2025, delivering an open-source upscaling solution for mobile and low-power devices. Built upon AMD's FidelityFX Super Resolution 2 (FSR 2) framework, ASR promises up to 53% higher frame...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 229 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปอบอกเหนื่อยหาแตงโม เลยกลับบ้าน!? : [NEWS UPDATE]

    เปิ้ล นาคร ศิลาชัย นักแสดงและพิธีกร ให้ข้อมูลกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) คดีแตงโม นิดา เสียชีวิต วันเกิดเหตุได้คุยกับคนบนเรือฟังเหตุผลหาแตงโมไม่เจอแต่ทำไมกลับบ้าน มองรอดยากเพราะไม่ใส่ชูชีพ แต่ยังหวังให้แตงโมรอด โดยได้ขับไปอู่เรือปทุมธานี เจอเรือที่แตงโมตกน้ำลอยอยู่ เห็น 3-4 คน เขาบอกคนขับขึ้นไปแล้วให้มาเฝ้าเรือ เราก็เอ๊ะหาแตงโมเจอแล้วเหรอ เขาถึงขึ้น ทำไมหาไม่เจอแล้วกลับบ้านกัน ได้โทรหาปอถาม ไม่ช่วยกันหาเหรอ เขาบอกว่า ช่วยกันหาจนเหนื่อยแล้วก็เลยกลับ เราก็อ้าว ไม่เจอแล้วกลับได้ไง คาใจทำไมถึงปัสสาวะท้ายเรือ ขนาดตัวเองให้ลูกขับเจ็ตสกียืนหันหลังปัสสาวะยังไม่กล้า สงสัยทำไมปวดปัสสาวะไม่บอกให้เรือจอดก่อนแล้วค่อยทำธุระ

    -ขึ้นบัญชีดำผู้รับเหมา

    -ญัตติ"บุคคลในครอบครัว"

    -เหยื่อแก๊งคอลร่ำไห้ร้องสภา

    -สุดทนน้ำมันปาล์มแพง
    ปอบอกเหนื่อยหาแตงโม เลยกลับบ้าน!? : [NEWS UPDATE] เปิ้ล นาคร ศิลาชัย นักแสดงและพิธีกร ให้ข้อมูลกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) คดีแตงโม นิดา เสียชีวิต วันเกิดเหตุได้คุยกับคนบนเรือฟังเหตุผลหาแตงโมไม่เจอแต่ทำไมกลับบ้าน มองรอดยากเพราะไม่ใส่ชูชีพ แต่ยังหวังให้แตงโมรอด โดยได้ขับไปอู่เรือปทุมธานี เจอเรือที่แตงโมตกน้ำลอยอยู่ เห็น 3-4 คน เขาบอกคนขับขึ้นไปแล้วให้มาเฝ้าเรือ เราก็เอ๊ะหาแตงโมเจอแล้วเหรอ เขาถึงขึ้น ทำไมหาไม่เจอแล้วกลับบ้านกัน ได้โทรหาปอถาม ไม่ช่วยกันหาเหรอ เขาบอกว่า ช่วยกันหาจนเหนื่อยแล้วก็เลยกลับ เราก็อ้าว ไม่เจอแล้วกลับได้ไง คาใจทำไมถึงปัสสาวะท้ายเรือ ขนาดตัวเองให้ลูกขับเจ็ตสกียืนหันหลังปัสสาวะยังไม่กล้า สงสัยทำไมปวดปัสสาวะไม่บอกให้เรือจอดก่อนแล้วค่อยทำธุระ -ขึ้นบัญชีดำผู้รับเหมา -ญัตติ"บุคคลในครอบครัว" -เหยื่อแก๊งคอลร่ำไห้ร้องสภา -สุดทนน้ำมันปาล์มแพง
    Like
    Haha
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 911 มุมมอง 45 0 รีวิว
  • "Huawei กำลังนำเสนอชิปรุ่นใหม่ที่ชื่อ Kirin X90 ซึ่งเป็นชิปที่คาดว่าจะมาแทนที่รุ่นเก่า Kunpeng 920 และถูกออกแบบให้ใช้กับทั้งเซิร์ฟเวอร์และคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล. ชิปนี้ถูกผลิตด้วยเทคโนโลยีในประเทศจีนเอง ทำให้ไม่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างชาติ. สิ่งที่น่าสนใจคือ Huawei มีแผนจะใช้ชิปนี้กับระบบ HarmonyOS ที่พัฒนาเองด้วย เพื่อให้แล็ปท็อปทำงานได้แบบไหลลื่นเหมือนกับแนวทางที่ Apple ทำกับ MacBooks แต่แน่นอนว่าคงต้องรอติดตามกันว่าเมื่อเปิดตัวในเดือนเมษายนนี้จะทำได้ตามที่คาดหวังไว้หรือไม่

    พัฒนาการด้านเทคโนโลยี:
    - Kirin X90 อาจผลิตโดยใช้เทคโนโลยีขนาด 7 นาโนเมตรของ SMIC ซึ่งเป็นกระบวนการผลิตที่ไม่ถูกควบคุมโดยมาตรการห้ามค้าของสหรัฐฯ.
    - ชิปนี้ใช้แกนประมวลผล Taishan V120 ซึ่งอ้างว่ามีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ Zen 3 ของ AMD.

    การใช้งานและระบบปฏิบัติการ:
    - Huawei เตรียมนำชิปรุ่นใหม่นี้มาใช้กับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่ใช้ระบบ HarmonyOS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่พัฒนาเอง.
    - แม้ยังมีปัญหาเรื่องการรองรับซอฟต์แวร์และการพัฒนาแอปพลิเคชันเพิ่มเติม แต่ Huawei คาดว่าจะทำให้การใช้งานบนแล็ปท็อปราบรื่นยิ่งขึ้น.

    เปรียบเทียบกับคู่แข่ง:
    - Kirin X90 มีความคล้ายคลึงกับแนวทางการรวมฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์แบบที่ Apple ทำกับ MacBooks.
    - อย่างไรก็ตาม ความน่าเชื่อถือและประสิทธิภาพของชิปยังคงต้องรอดูจากการเปิดตัวในอนาคต

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/new-huawei-kirin-x90-chip-revealed-in-state-report-possibly-set-to-replace-the-aging-kunpeng-920-design
    "Huawei กำลังนำเสนอชิปรุ่นใหม่ที่ชื่อ Kirin X90 ซึ่งเป็นชิปที่คาดว่าจะมาแทนที่รุ่นเก่า Kunpeng 920 และถูกออกแบบให้ใช้กับทั้งเซิร์ฟเวอร์และคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล. ชิปนี้ถูกผลิตด้วยเทคโนโลยีในประเทศจีนเอง ทำให้ไม่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างชาติ. สิ่งที่น่าสนใจคือ Huawei มีแผนจะใช้ชิปนี้กับระบบ HarmonyOS ที่พัฒนาเองด้วย เพื่อให้แล็ปท็อปทำงานได้แบบไหลลื่นเหมือนกับแนวทางที่ Apple ทำกับ MacBooks แต่แน่นอนว่าคงต้องรอติดตามกันว่าเมื่อเปิดตัวในเดือนเมษายนนี้จะทำได้ตามที่คาดหวังไว้หรือไม่ พัฒนาการด้านเทคโนโลยี: - Kirin X90 อาจผลิตโดยใช้เทคโนโลยีขนาด 7 นาโนเมตรของ SMIC ซึ่งเป็นกระบวนการผลิตที่ไม่ถูกควบคุมโดยมาตรการห้ามค้าของสหรัฐฯ. - ชิปนี้ใช้แกนประมวลผล Taishan V120 ซึ่งอ้างว่ามีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ Zen 3 ของ AMD. การใช้งานและระบบปฏิบัติการ: - Huawei เตรียมนำชิปรุ่นใหม่นี้มาใช้กับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่ใช้ระบบ HarmonyOS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่พัฒนาเอง. - แม้ยังมีปัญหาเรื่องการรองรับซอฟต์แวร์และการพัฒนาแอปพลิเคชันเพิ่มเติม แต่ Huawei คาดว่าจะทำให้การใช้งานบนแล็ปท็อปราบรื่นยิ่งขึ้น. เปรียบเทียบกับคู่แข่ง: - Kirin X90 มีความคล้ายคลึงกับแนวทางการรวมฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์แบบที่ Apple ทำกับ MacBooks. - อย่างไรก็ตาม ความน่าเชื่อถือและประสิทธิภาพของชิปยังคงต้องรอดูจากการเปิดตัวในอนาคต https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/new-huawei-kirin-x90-chip-revealed-in-state-report-possibly-set-to-replace-the-aging-kunpeng-920-design
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 445 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีการค้นพบวิธีการโจมตีใหม่ที่แฮกเกอร์ใช้แอปปลอมหน้าตาเหมือน Adobe หรือ DocuSign เพื่อเจาะบัญชี Microsoft 365 โดยหลอกให้ผู้ใช้ให้สิทธิ์เข้าถึงข้อมูลอย่างเช่นโปรไฟล์หรืออีเมล ซึ่งเมื่อพวกเขาได้สิทธินั้น พวกเขาก็สามารถเปลี่ยนเส้นทางผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์อันตรายเพื่อขโมยรหัสบัญชีหรือแม้กระทั่งติดตั้งมัลแวร์. ดังนั้น เราต้องระวังในการอนุมัติแอปพวกนี้ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่ามันมาจากแหล่งที่เชื่อถือได้ และหากพบว่ามีแอปที่ไม่รู้จักได้รับสิทธิ์ ก็ให้รีบยกเลิกโดยทันที

    สิ่งที่แอปปลอมสามารถเข้าถึงได้:
    - แอปที่เป็นอันตรายเหล่านี้สามารถดึงข้อมูลเช่น ชื่อ, รูปโปรไฟล์, และที่อยู่อีเมล ซึ่งแม้ดูเหมือนไม่สำคัญ แต่เป็นช่องทางนำไปสู่การโจมตีที่ซับซ้อนขึ้น.
    - เมื่อสิทธิ์ถูกอนุมัติ ผู้โจมตีสามารถเปลี่ยนเส้นทางไปยังหน้าฟิชชิงที่ขโมยรหัสบัญชี Microsoft 365 หรือหน้าเพื่อติดตั้งมัลแวร์ได้.

    วิธีการโจมตี:
    - ผู้โจมตีมักส่งอีเมลฟิชชิงที่ดูเหมือนมาจากองค์กรที่เชื่อถือได้ เช่น องค์กรการกุศลหรือบริษัทเล็ก ๆ ที่ถูกเจาะระบบบัญชีมาใช้เป็นช่องทาง.
    - ตัวอย่างล่อเหยื่อที่ใช้ เช่น คำร้องขอข้อเสนอ (RFPs) และสัญญาธุรกิจ.

    คำแนะนำในการป้องกัน:
    - ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแอป OAuth ที่ขอสิทธิ์นั้นมาจากแหล่งที่เชื่อถือได้ก่อนอนุมัติ.
    - สามารถเข้าไปตรวจสอบและยกเลิกการอนุมัติแอปที่ไม่รู้จักได้ผ่านทาง Microsoft My Apps (myapplications.microsoft.com).
    - ผู้ดูแลระบบสามารถจำกัดการอนุมัติแอปของผู้ใช้ได้ผ่านการตั้งค่าของ Microsoft 365

    https://www.bleepingcomputer.com/news/security/malicious-adobe-docusign-oauth-apps-target-microsoft-365-accounts/
    มีการค้นพบวิธีการโจมตีใหม่ที่แฮกเกอร์ใช้แอปปลอมหน้าตาเหมือน Adobe หรือ DocuSign เพื่อเจาะบัญชี Microsoft 365 โดยหลอกให้ผู้ใช้ให้สิทธิ์เข้าถึงข้อมูลอย่างเช่นโปรไฟล์หรืออีเมล ซึ่งเมื่อพวกเขาได้สิทธินั้น พวกเขาก็สามารถเปลี่ยนเส้นทางผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์อันตรายเพื่อขโมยรหัสบัญชีหรือแม้กระทั่งติดตั้งมัลแวร์. ดังนั้น เราต้องระวังในการอนุมัติแอปพวกนี้ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่ามันมาจากแหล่งที่เชื่อถือได้ และหากพบว่ามีแอปที่ไม่รู้จักได้รับสิทธิ์ ก็ให้รีบยกเลิกโดยทันที สิ่งที่แอปปลอมสามารถเข้าถึงได้: - แอปที่เป็นอันตรายเหล่านี้สามารถดึงข้อมูลเช่น ชื่อ, รูปโปรไฟล์, และที่อยู่อีเมล ซึ่งแม้ดูเหมือนไม่สำคัญ แต่เป็นช่องทางนำไปสู่การโจมตีที่ซับซ้อนขึ้น. - เมื่อสิทธิ์ถูกอนุมัติ ผู้โจมตีสามารถเปลี่ยนเส้นทางไปยังหน้าฟิชชิงที่ขโมยรหัสบัญชี Microsoft 365 หรือหน้าเพื่อติดตั้งมัลแวร์ได้. วิธีการโจมตี: - ผู้โจมตีมักส่งอีเมลฟิชชิงที่ดูเหมือนมาจากองค์กรที่เชื่อถือได้ เช่น องค์กรการกุศลหรือบริษัทเล็ก ๆ ที่ถูกเจาะระบบบัญชีมาใช้เป็นช่องทาง. - ตัวอย่างล่อเหยื่อที่ใช้ เช่น คำร้องขอข้อเสนอ (RFPs) และสัญญาธุรกิจ. คำแนะนำในการป้องกัน: - ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแอป OAuth ที่ขอสิทธิ์นั้นมาจากแหล่งที่เชื่อถือได้ก่อนอนุมัติ. - สามารถเข้าไปตรวจสอบและยกเลิกการอนุมัติแอปที่ไม่รู้จักได้ผ่านทาง Microsoft My Apps (myapplications.microsoft.com). - ผู้ดูแลระบบสามารถจำกัดการอนุมัติแอปของผู้ใช้ได้ผ่านการตั้งค่าของ Microsoft 365 https://www.bleepingcomputer.com/news/security/malicious-adobe-docusign-oauth-apps-target-microsoft-365-accounts/
    WWW.BLEEPINGCOMPUTER.COM
    Malicious Adobe, DocuSign OAuth apps target Microsoft 365 accounts
    Cybercriminals are promoting malicious Microsoft OAuth apps that masquerade as Adobe and DocuSign apps to deliver malware and steal Microsoft 365 accounts credentials.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 345 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลังจากที่ทำหน้าที่เป็นแอปที่ช่วยให้คนทั่วโลกติดต่อกันได้สะดวกมานานถึงสองทศวรรษ Skype กำลังเข้าสู่ช่วงสุดท้ายในปีนี้ โดย Microsoft เจ้าของปัจจุบันได้ประกาศว่าจะยุติการให้บริการ Skype อย่างถาวรในวันที่ 5 พฤษภาคม 2025 พร้อมกับแนะนำให้ผู้ใช้งานเปลี่ยนไปใช้แพลตฟอร์ม Microsoft Teams แทน

    การเปลี่ยนไปใช้ Microsoft Teams แทน
    - การใช้งาน Teams ด้วยบัญชี Skype: ผู้ใช้งานสามารถล็อกอิน Teams ด้วยบัญชี Skype เดิม โดยข้อมูลแชท รายชื่อ และกลุ่มสนทนาจะถูกย้ายมาอัตโนมัติ
    - การโทรระหว่าง Skype และ Teams: ในช่วงเปลี่ยนผ่าน ทั้งสองแพลตฟอร์มสามารถสื่อสารระหว่างกันได้
    - การโทรไปยังโทรศัพท์พื้นฐานและมือถือ: Teams จะมีแป้นพิมพ์หมายเลขชั่วคราวสำหรับผู้ใช้ Skype ที่ยังมีเครดิตคงเหลือ แต่ฟีเจอร์นี้จะค่อยๆ ยุติลงตามการหมดอายุของการสมัครสมาชิก Skype

    ทางเลือกสำหรับผู้ที่ไม่อยากย้าย
    - สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการย้ายไปใช้ Teams Microsoft มีคำแนะนำให้ผู้ใช้สำรองข้อมูลแชท รายชื่อ และสื่อใน Skype ก่อนวันที่ยุติบริการ โดยสามารถดาวน์โหลดข้อมูลเหล่านี้ผ่าน Go.skype.com/export และลบบัญชี Skype ได้ที่หน้าจัดการบัญชีของ Microsoft

    Skype เริ่มต้นในปี 2003 โดยสองนักธุรกิจชาวสวีเดนและเดนมาร์ก นำเสนอแนวคิดใหม่ในการโทรฟรีผ่านอินเทอร์เน็ตที่ลดค่าใช้จ่ายสูงจากการโทรต่างประเทศ Microsoft เข้าซื้อกิจการนี้ในปี 2011 ด้วยมูลค่า 8.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ Skype สูญเสียความนิยมเมื่อ Microsoft เปิดตัว Teams ในปี 2017 ซึ่งกลายมาเป็นแพลตฟอร์มสื่อสารหลักในตลาดองค์กรและแข่งขันกับ Zoom และ WhatsApp โดยเฉพาะในช่วงการระบาดของโควิด-19

    การปิดตัวของ Skype สะท้อนถึงการปรับตัวของเทคโนโลยีและความต้องการของผู้ใช้ที่เปลี่ยนแปลงไป Microsoft กำลังมุ่งเน้นไปยัง Teams ที่ได้รับความนิยมในตลาดองค์กรด้วยฟีเจอร์ที่ครอบคลุมและทันสมัยกว่า แต่ Skype จะยังคงเป็นตำนานในฐานะผู้ปฏิวัติการสื่อสารในยุคแรกเริ่ม

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/09/the-last-days-of-skype-time-to-switch-to-teams---or-say-goodbye
    หลังจากที่ทำหน้าที่เป็นแอปที่ช่วยให้คนทั่วโลกติดต่อกันได้สะดวกมานานถึงสองทศวรรษ Skype กำลังเข้าสู่ช่วงสุดท้ายในปีนี้ โดย Microsoft เจ้าของปัจจุบันได้ประกาศว่าจะยุติการให้บริการ Skype อย่างถาวรในวันที่ 5 พฤษภาคม 2025 พร้อมกับแนะนำให้ผู้ใช้งานเปลี่ยนไปใช้แพลตฟอร์ม Microsoft Teams แทน การเปลี่ยนไปใช้ Microsoft Teams แทน - การใช้งาน Teams ด้วยบัญชี Skype: ผู้ใช้งานสามารถล็อกอิน Teams ด้วยบัญชี Skype เดิม โดยข้อมูลแชท รายชื่อ และกลุ่มสนทนาจะถูกย้ายมาอัตโนมัติ - การโทรระหว่าง Skype และ Teams: ในช่วงเปลี่ยนผ่าน ทั้งสองแพลตฟอร์มสามารถสื่อสารระหว่างกันได้ - การโทรไปยังโทรศัพท์พื้นฐานและมือถือ: Teams จะมีแป้นพิมพ์หมายเลขชั่วคราวสำหรับผู้ใช้ Skype ที่ยังมีเครดิตคงเหลือ แต่ฟีเจอร์นี้จะค่อยๆ ยุติลงตามการหมดอายุของการสมัครสมาชิก Skype ทางเลือกสำหรับผู้ที่ไม่อยากย้าย - สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการย้ายไปใช้ Teams Microsoft มีคำแนะนำให้ผู้ใช้สำรองข้อมูลแชท รายชื่อ และสื่อใน Skype ก่อนวันที่ยุติบริการ โดยสามารถดาวน์โหลดข้อมูลเหล่านี้ผ่าน Go.skype.com/export และลบบัญชี Skype ได้ที่หน้าจัดการบัญชีของ Microsoft Skype เริ่มต้นในปี 2003 โดยสองนักธุรกิจชาวสวีเดนและเดนมาร์ก นำเสนอแนวคิดใหม่ในการโทรฟรีผ่านอินเทอร์เน็ตที่ลดค่าใช้จ่ายสูงจากการโทรต่างประเทศ Microsoft เข้าซื้อกิจการนี้ในปี 2011 ด้วยมูลค่า 8.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ Skype สูญเสียความนิยมเมื่อ Microsoft เปิดตัว Teams ในปี 2017 ซึ่งกลายมาเป็นแพลตฟอร์มสื่อสารหลักในตลาดองค์กรและแข่งขันกับ Zoom และ WhatsApp โดยเฉพาะในช่วงการระบาดของโควิด-19 การปิดตัวของ Skype สะท้อนถึงการปรับตัวของเทคโนโลยีและความต้องการของผู้ใช้ที่เปลี่ยนแปลงไป Microsoft กำลังมุ่งเน้นไปยัง Teams ที่ได้รับความนิยมในตลาดองค์กรด้วยฟีเจอร์ที่ครอบคลุมและทันสมัยกว่า แต่ Skype จะยังคงเป็นตำนานในฐานะผู้ปฏิวัติการสื่อสารในยุคแรกเริ่ม https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/09/the-last-days-of-skype-time-to-switch-to-teams---or-say-goodbye
    WWW.THESTAR.COM.MY
    The last days of Skype: Time to switch to Teams – or say goodbye
    As the sun slowly sets Skype, some two decades after it started a revolution in online communication, owner Microsoft is pointing the way to its remaining loyal users: Teams.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 433 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรียนจบครูมา เลือกสอบอะไรดี? สพฐ. หรือ อปท. 🤔 ท่ามกลางความเหมือนที่แตกต่าง – สพฐ. ก้าวไกลถึงกระทรวง แต่ อปท. เบิกค่าบ้านได้

    🌟 เมื่อต้องเลือกเส้นทางข้าราชการครู เข้าสู่ฤดูกาลสมัครสอบ ข้าราชการส่วนท้องถิ่นประจำปี 2568 บัณฑิตสายครูหลายคนอาจลังเลใจ ว่าควรเลือกสอบครูผู้ช่วย สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) หรือจะไปครูผู้ช่วย สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ดี?

    🔹 สพฐ. ดูมั่นคง มีเส้นทางก้าวหน้าสู่กระทรวง
    🔹 อปท. ได้สิทธิ์เบิกค่าเช่าบ้าน เงินเดือนอาจคล่องตัว

    แต่ทั้งสองเส้นทางนี้มีความเหมือน และแตกต่างในหลายมิติ 🎯

    👩‍🏫 ครูผู้ช่วย อปท. กับครูผู้ช่วย สพฐ. เหมือนหรือต่างกันอย่างไร?
    🏛️ สถานะทางกฎหมาย
    - ครูผู้ช่วย สพฐ. เป็นข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูฯ ปี 2547
    - ส่วนครูผู้ช่วย อปท. เป็นพนักงานครู หรือก็คือ ข้าราชการส่วนท้องถิ่น ตาม พ.ร.บ.ระเบียบบริหารงานบุคคลท้องถิ่น ปี 2542

    แม้กฎหมายจะต่างกัน แต่โดยหลักการแล้ว ศักดิ์ศรีและสิทธิประโยชน์แทบไม่ต่างกัน

    💰 เงินเดือนและสวัสดิการ
    - ครูผู้ช่วย อปท. ไม่ต้องหัก 3% เข้า กบข. แต่จะมีเงินสมทบ เข้ากองทุนบำเหน็จบำนาญท้องถิ่น (กบท.)
    - ครูผู้ช่วย สพฐ. ต้องหักเงินเดือน 3% เข้า กบข. ตามระเบียบ

    ✅ ข้อได้เปรียบของ อปท. คือได้เงินเดือนเต็มกว่าเล็กน้อย

    📌 ครูผู้ช่วย อปท. เบิกค่าเช่าบ้านได้! 🏠 สูงสุด 6,000 บาท ต่อเดือน ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ขอแค่ย้ายออกจากพื้นที่บรรจุครั้งแรก และไม่มีบ้านพักของหน่วยงาน

    ❌ ส่วนครูผู้ช่วย สพฐ. เบิกไม่ได้! ตามพระราชกฤษฎีกาค่าเช่าบ้าน ถ้าย้ายเองเท่ากับ “ร้องขอ” → หมดสิทธิ์

    📌 ทั้งนี้ อปท. บางแห่ง ก็ไม่อนุญาตให้เบิกค่าเช่าบ้าน เพราะอาจมีผลกระทบต่อฐานะทางการเงินของ อปท.

    🏥 สิทธิ์รักษาพยาบาล ใครดีกว่า?
    ✅ ครอบคลุมเหมือนกัน ทั้งบิดา มารดา คู่สมรส และบุตร
    ✅ เบิกจ่ายตรงได้ เหมือนกัน

    🔹 ต่างกันที่แหล่งเงิน
    - ครูผู้ช่วย อปท. ใช้งบของ สปสช.
    - ครูผู้ช่วย สพฐ. ใช้งบของกรมบัญชีกลาง

    🚑 เรื่องนี้แทบไม่มีผลกระทบใด ๆ ต่อผู้รับสิทธิ์

    📈 การเลื่อนเงินเดือนและวิทยฐานะ
    - ครูผู้ช่วย สพฐ. ทำตามกฎของ ก.ค.ศ.
    - ครูผู้ช่วย อปท. ทำตามมาตรฐานของ ก.กลาง และ ก.จังหวัด ซึ่งเนื้อหาแทบไม่ต่างกัน

    📌 ข้อแตกต่าง เกณฑ์ใหม่ของ สพฐ. จะถูกนำมาปรับใช้กับ อปท. ตามหลัง 6 เดือน - 1 ปี อปท.บางแห่งให้โบนัส เช่น อบจ.ชลบุรี

    🎯 ถ้าสอบ อปท. ควรเช็กว่า อปท. ที่เลือกบรรจุนั้น มีโบนัสไหม!

    📌 ความคล่องตัวในการย้าย
    - สพฐ. มีโรงเรียนเยอะ ย้ายง่าย
    - อปท. มีโรงเรียนน้อย โอกาสย้ายกลับบ้านน้อยกว่า

    📍 การโอนข้ามสังกัด
    🔹 สพฐ. โอนไป อปท. ได้ง่ายกว่า
    🔹 อปท. โอนไป สพฐ. ยากมาก!

    🚨 ถ้าคิดจะโอนข้ามสังกัด ต้องศึกษาเงื่อนไขให้ดี

    🎯 เส้นทางความก้าวหน้า
    🏛️ ครูผู้ช่วย สพฐ. ก้าวไกลถึงกระทรวง! สามารถไต่เต้าไปได้ถึง ผอ.เขตพื้นที่การศึกษา รองเลขาธิการ สพฐ. กระทั่งปลัดกระทรวงศึกษาธิการ

    🏙️ ส่วนครูผู้ช่วย อปท. มักไปสุดแค่ ผอ.โรงเรียน อาจเป็น ผอ.กองการศึกษา ได้ แต่ต้องแข่งกับข้าราชการสายอำนวยการ

    🏆 ถ้าอยากเติบโตในสายงานการศึกษา สพฐ. มีทางเลือกมากกว่า

    📚 ระบบงานและระเบียบ
    📌 ระบบของ สพฐ.
    ✔️ โรงเรียนเป็น นิติบุคคลมหาชน
    ✔️ ต้องทำเรื่องเบิกจ่ายผ่าน เขตพื้นที่การศึกษา
    ✔️ ระบบระเบียบยังคลุมเครือ

    📌 ระบบของ อปท.
    ✔️ โรงเรียนเป็น หน่วยงานของ อปท.
    ✔️ วางฎีกาและเบิกจ่ายที่โรงเรียนได้เอง
    ✔️ ระเบียบเยอะ ต้องทำงานเอกสารมาก

    🎯 ถ้าชอบระบบงานที่ชัดเจน อปท. อาจเป็นตัวเลือกที่ดี แต่ถ้าอยากทำงานแบบอิสระ สพฐ. อาจตอบโจทย์กว่า

    🏫 งบประมาณโรงเรียน
    🔹 รร. สพฐ. ได้รับงบจากรัฐบาลโดยตรง
    🔹 รร. อปท. ได้รับงบจาก อปท. ต้นสังกัด ซึ่งส่วนใหญ่ เงินไม่ขาดแน่นอน แต่ใช้งานยาก เพราะระเบียบเยอะ

    📌 ข้อได้เปรียบของ อปท.
    ✔️ เงินเหลือใช้ได้ต่อปี ไม่ต้องคืนรัฐ
    ✔️ ซื้อครุภัณฑ์ได้ง่ายกว่า ไม่ต้องผ่านระบบ CIO

    🏛️ การเมืองมีผลต่อการทำงานหรือไม่?
    รร. อปท. อยู่ภายใต้การดูแลของ นายก อปท.
    รร. สพฐ. อยู่ภายใต้ เขตพื้นที่การศึกษา และกระทรวง

    📌 ความจริง ทั้งสองสังกัด มีการเมืองในองค์กรเหมือนกัน

    🔥 แต่ถ้าอยู่ อปท. มักเจอ "การเมืองท้องถิ่น" มากกว่า

    🎯 เลือกสอบอะไรดี?
    ✅ ถ้าต้องการความมั่นคง และเส้นทางก้าวหน้าระดับกระทรวง → เลือก สพฐ.
    ✅ ถ้าต้องการเงินเดือนเต็ม เบิกค่าเช่าบ้านได้ และมีงบประมาณคล่องตัว → เลือก อปท.

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 091524 มี.ค. 2568

    📌 #สอบครู #ครูผู้ช่วย #สพฐ #อปท #สอบราชการ #ครูไทย #ข้าราชการครู #เลือกสังกัดไหนดี #ครูบ้านนอก #สอบบรรจุ
    เรียนจบครูมา เลือกสอบอะไรดี? สพฐ. หรือ อปท. 🤔 ท่ามกลางความเหมือนที่แตกต่าง – สพฐ. ก้าวไกลถึงกระทรวง แต่ อปท. เบิกค่าบ้านได้ 🌟 เมื่อต้องเลือกเส้นทางข้าราชการครู เข้าสู่ฤดูกาลสมัครสอบ ข้าราชการส่วนท้องถิ่นประจำปี 2568 บัณฑิตสายครูหลายคนอาจลังเลใจ ว่าควรเลือกสอบครูผู้ช่วย สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) หรือจะไปครูผู้ช่วย สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ดี? 🔹 สพฐ. ดูมั่นคง มีเส้นทางก้าวหน้าสู่กระทรวง 🔹 อปท. ได้สิทธิ์เบิกค่าเช่าบ้าน เงินเดือนอาจคล่องตัว แต่ทั้งสองเส้นทางนี้มีความเหมือน และแตกต่างในหลายมิติ 🎯 👩‍🏫 ครูผู้ช่วย อปท. กับครูผู้ช่วย สพฐ. เหมือนหรือต่างกันอย่างไร? 🏛️ สถานะทางกฎหมาย - ครูผู้ช่วย สพฐ. เป็นข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูฯ ปี 2547 - ส่วนครูผู้ช่วย อปท. เป็นพนักงานครู หรือก็คือ ข้าราชการส่วนท้องถิ่น ตาม พ.ร.บ.ระเบียบบริหารงานบุคคลท้องถิ่น ปี 2542 แม้กฎหมายจะต่างกัน แต่โดยหลักการแล้ว ศักดิ์ศรีและสิทธิประโยชน์แทบไม่ต่างกัน 💰 เงินเดือนและสวัสดิการ - ครูผู้ช่วย อปท. ไม่ต้องหัก 3% เข้า กบข. แต่จะมีเงินสมทบ เข้ากองทุนบำเหน็จบำนาญท้องถิ่น (กบท.) - ครูผู้ช่วย สพฐ. ต้องหักเงินเดือน 3% เข้า กบข. ตามระเบียบ ✅ ข้อได้เปรียบของ อปท. คือได้เงินเดือนเต็มกว่าเล็กน้อย 📌 ครูผู้ช่วย อปท. เบิกค่าเช่าบ้านได้! 🏠 สูงสุด 6,000 บาท ต่อเดือน ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ขอแค่ย้ายออกจากพื้นที่บรรจุครั้งแรก และไม่มีบ้านพักของหน่วยงาน ❌ ส่วนครูผู้ช่วย สพฐ. เบิกไม่ได้! ตามพระราชกฤษฎีกาค่าเช่าบ้าน ถ้าย้ายเองเท่ากับ “ร้องขอ” → หมดสิทธิ์ 📌 ทั้งนี้ อปท. บางแห่ง ก็ไม่อนุญาตให้เบิกค่าเช่าบ้าน เพราะอาจมีผลกระทบต่อฐานะทางการเงินของ อปท. 🏥 สิทธิ์รักษาพยาบาล ใครดีกว่า? ✅ ครอบคลุมเหมือนกัน ทั้งบิดา มารดา คู่สมรส และบุตร ✅ เบิกจ่ายตรงได้ เหมือนกัน 🔹 ต่างกันที่แหล่งเงิน - ครูผู้ช่วย อปท. ใช้งบของ สปสช. - ครูผู้ช่วย สพฐ. ใช้งบของกรมบัญชีกลาง 🚑 เรื่องนี้แทบไม่มีผลกระทบใด ๆ ต่อผู้รับสิทธิ์ 📈 การเลื่อนเงินเดือนและวิทยฐานะ - ครูผู้ช่วย สพฐ. ทำตามกฎของ ก.ค.ศ. - ครูผู้ช่วย อปท. ทำตามมาตรฐานของ ก.กลาง และ ก.จังหวัด ซึ่งเนื้อหาแทบไม่ต่างกัน 📌 ข้อแตกต่าง เกณฑ์ใหม่ของ สพฐ. จะถูกนำมาปรับใช้กับ อปท. ตามหลัง 6 เดือน - 1 ปี อปท.บางแห่งให้โบนัส เช่น อบจ.ชลบุรี 🎯 ถ้าสอบ อปท. ควรเช็กว่า อปท. ที่เลือกบรรจุนั้น มีโบนัสไหม! 📌 ความคล่องตัวในการย้าย - สพฐ. มีโรงเรียนเยอะ ย้ายง่าย - อปท. มีโรงเรียนน้อย โอกาสย้ายกลับบ้านน้อยกว่า 📍 การโอนข้ามสังกัด 🔹 สพฐ. โอนไป อปท. ได้ง่ายกว่า 🔹 อปท. โอนไป สพฐ. ยากมาก! 🚨 ถ้าคิดจะโอนข้ามสังกัด ต้องศึกษาเงื่อนไขให้ดี 🎯 เส้นทางความก้าวหน้า 🏛️ ครูผู้ช่วย สพฐ. ก้าวไกลถึงกระทรวง! สามารถไต่เต้าไปได้ถึง ผอ.เขตพื้นที่การศึกษา รองเลขาธิการ สพฐ. กระทั่งปลัดกระทรวงศึกษาธิการ 🏙️ ส่วนครูผู้ช่วย อปท. มักไปสุดแค่ ผอ.โรงเรียน อาจเป็น ผอ.กองการศึกษา ได้ แต่ต้องแข่งกับข้าราชการสายอำนวยการ 🏆 ถ้าอยากเติบโตในสายงานการศึกษา สพฐ. มีทางเลือกมากกว่า 📚 ระบบงานและระเบียบ 📌 ระบบของ สพฐ. ✔️ โรงเรียนเป็น นิติบุคคลมหาชน ✔️ ต้องทำเรื่องเบิกจ่ายผ่าน เขตพื้นที่การศึกษา ✔️ ระบบระเบียบยังคลุมเครือ 📌 ระบบของ อปท. ✔️ โรงเรียนเป็น หน่วยงานของ อปท. ✔️ วางฎีกาและเบิกจ่ายที่โรงเรียนได้เอง ✔️ ระเบียบเยอะ ต้องทำงานเอกสารมาก 🎯 ถ้าชอบระบบงานที่ชัดเจน อปท. อาจเป็นตัวเลือกที่ดี แต่ถ้าอยากทำงานแบบอิสระ สพฐ. อาจตอบโจทย์กว่า 🏫 งบประมาณโรงเรียน 🔹 รร. สพฐ. ได้รับงบจากรัฐบาลโดยตรง 🔹 รร. อปท. ได้รับงบจาก อปท. ต้นสังกัด ซึ่งส่วนใหญ่ เงินไม่ขาดแน่นอน แต่ใช้งานยาก เพราะระเบียบเยอะ 📌 ข้อได้เปรียบของ อปท. ✔️ เงินเหลือใช้ได้ต่อปี ไม่ต้องคืนรัฐ ✔️ ซื้อครุภัณฑ์ได้ง่ายกว่า ไม่ต้องผ่านระบบ CIO 🏛️ การเมืองมีผลต่อการทำงานหรือไม่? รร. อปท. อยู่ภายใต้การดูแลของ นายก อปท. รร. สพฐ. อยู่ภายใต้ เขตพื้นที่การศึกษา และกระทรวง 📌 ความจริง ทั้งสองสังกัด มีการเมืองในองค์กรเหมือนกัน 🔥 แต่ถ้าอยู่ อปท. มักเจอ "การเมืองท้องถิ่น" มากกว่า 🎯 เลือกสอบอะไรดี? ✅ ถ้าต้องการความมั่นคง และเส้นทางก้าวหน้าระดับกระทรวง → เลือก สพฐ. ✅ ถ้าต้องการเงินเดือนเต็ม เบิกค่าเช่าบ้านได้ และมีงบประมาณคล่องตัว → เลือก อปท. ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 091524 มี.ค. 2568 📌 #สอบครู #ครูผู้ช่วย #สพฐ #อปท #สอบราชการ #ครูไทย #ข้าราชการครู #เลือกสังกัดไหนดี #ครูบ้านนอก #สอบบรรจุ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 683 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts