• Smart App Control: ระบบรักษาความปลอดภัยใหม่ของ Microsoft ที่ช่วยป้องกันมัลแวร์

    Microsoft เปิดตัว Smart App Control (SAC) ใน Windows 11 22H2 ซึ่งเป็นระบบรักษาความปลอดภัยที่ ช่วยป้องกันแอปพลิเคชันที่ไม่ปลอดภัยและลดผลกระทบต่อประสิทธิภาพของเครื่อง โดยใช้แนวทาง "Guilty until proven innocent"

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Smart App Control
    ✅ SAC ใช้ระบบตรวจสอบแอปพลิเคชันผ่าน Microsoft Intelligence Security Graph
    - หากแอปพลิเคชัน ไม่มีข้อมูลความปลอดภัยที่ชัดเจน จะถูกบล็อกทันที

    ✅ SAC ทำงานร่วมกับ Windows Defender แต่มีแนวทางที่แตกต่างกัน
    - Windows Defender ใช้การตรวจสอบพฤติกรรมของแอปพลิเคชัน
    - SAC บล็อกแอปที่ไม่ผ่านการรับรองตั้งแต่แรก

    ✅ SAC ไม่สามารถปลดบล็อกแอปที่ถูกระบุว่าเป็นอันตรายได้
    - ต่างจาก Windows Defender ที่ สามารถตั้งค่าให้ยกเว้นบางแอปได้

    ✅ Microsoft ระบุว่า SAC ช่วยลดการใช้ทรัพยากรของเครื่องและเพิ่มความปลอดภัย
    - โดยเฉพาะ การป้องกันมัลแวร์แบบ Zero-Day และ Polymorphic Threats

    ✅ SAC มีช่วงทดลองใช้งานเพื่อประเมินว่าฟีเจอร์นี้เหมาะสมกับระบบของผู้ใช้หรือไม่
    - หาก SAC ถูกปิด จะไม่สามารถเปิดใช้งานใหม่ได้โดยไม่ติดตั้ง Windows ใหม่

    https://www.tomshardware.com/software/antivirus/microsofts-smart-app-control-blocks-malware-and-has-lighter-impact-on-your-pcs-performance
    Smart App Control: ระบบรักษาความปลอดภัยใหม่ของ Microsoft ที่ช่วยป้องกันมัลแวร์ Microsoft เปิดตัว Smart App Control (SAC) ใน Windows 11 22H2 ซึ่งเป็นระบบรักษาความปลอดภัยที่ ช่วยป้องกันแอปพลิเคชันที่ไม่ปลอดภัยและลดผลกระทบต่อประสิทธิภาพของเครื่อง โดยใช้แนวทาง "Guilty until proven innocent" 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Smart App Control ✅ SAC ใช้ระบบตรวจสอบแอปพลิเคชันผ่าน Microsoft Intelligence Security Graph - หากแอปพลิเคชัน ไม่มีข้อมูลความปลอดภัยที่ชัดเจน จะถูกบล็อกทันที ✅ SAC ทำงานร่วมกับ Windows Defender แต่มีแนวทางที่แตกต่างกัน - Windows Defender ใช้การตรวจสอบพฤติกรรมของแอปพลิเคชัน - SAC บล็อกแอปที่ไม่ผ่านการรับรองตั้งแต่แรก ✅ SAC ไม่สามารถปลดบล็อกแอปที่ถูกระบุว่าเป็นอันตรายได้ - ต่างจาก Windows Defender ที่ สามารถตั้งค่าให้ยกเว้นบางแอปได้ ✅ Microsoft ระบุว่า SAC ช่วยลดการใช้ทรัพยากรของเครื่องและเพิ่มความปลอดภัย - โดยเฉพาะ การป้องกันมัลแวร์แบบ Zero-Day และ Polymorphic Threats ✅ SAC มีช่วงทดลองใช้งานเพื่อประเมินว่าฟีเจอร์นี้เหมาะสมกับระบบของผู้ใช้หรือไม่ - หาก SAC ถูกปิด จะไม่สามารถเปิดใช้งานใหม่ได้โดยไม่ติดตั้ง Windows ใหม่ https://www.tomshardware.com/software/antivirus/microsofts-smart-app-control-blocks-malware-and-has-lighter-impact-on-your-pcs-performance
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 0 รีวิว
  • AnduinOS Linux: อัปเดตใหม่สำหรับระบบปฏิบัติการที่คล้าย Windows 11

    Anduin Xue นักพัฒนาหลักของ AnduinOS ได้เปิดตัว สามเวอร์ชันใหม่ ของระบบปฏิบัติการ Linux ที่มีลักษณะคล้าย Windows 11 ได้แก่ AnduinOS 1.1.5, 1.2.5 และ 1.3.2 โดยมีการปรับปรุงที่สำคัญ เช่น รองรับ AppImage ทันที, ระบบความปลอดภัยรหัสผ่านที่ดีขึ้น และประสบการณ์ X11 ที่ลื่นไหลขึ้น

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ AnduinOS เวอร์ชันใหม่
    ✅ รองรับ AppImage ทันที
    - ทำให้ สามารถใช้งานแอปพลิเคชันแบบพกพาได้ง่ายขึ้น
    - ลดปัญหาการติดตั้งแอปที่ต้องพึ่งพาไลบรารีภายนอก

    ✅ ปรับปรุงความปลอดภัยของรหัสผ่าน
    - เพิ่ม มาตรการป้องกันการโจมตีแบบ brute-force

    ✅ ประสบการณ์ X11 ที่ดีขึ้น โดยเฉพาะใน Hyper-V
    - ช่วยให้ การใช้งานบนเครื่องเสมือนมีความเสถียรมากขึ้น

    ✅ ดาวน์โหลดไฟล์ผ่าน BitTorrent ได้เสถียรขึ้น
    - ลดปัญหา ไฟล์เสียหายระหว่างการดาวน์โหลด

    ✅ AnduinOS 1.3.2 เพิ่ม deskmon.service สำหรับจัดการไฟล์บนเดสก์ท็อป
    - ทำให้ การสร้างทางลัดบนเดสก์ท็อปง่ายขึ้น

    ✅ รองรับอุปกรณ์เสียง Intel รุ่นใหม่ผ่านเฟิร์มแวร์ thesofproject/sof-bin
    - เฉพาะการติดตั้งใหม่เท่านั้น ไม่สามารถใช้ได้กับการอัปเกรด

    ✅ AnduinOS 1.2.5 และ 1.1.5 ปรับปรุงธีมของตัวติดตั้งให้สอดคล้องกับระบบ
    - แก้ไขปัญหา Ubiquity installer ไม่ตรงกับธีมของระบบ

    ✅ ข้อความใน GRUB menu เปลี่ยนจาก "Install AnduinOS" เป็น "Try and Install AnduinOS"
    - เพิ่มความชัดเจน ให้ผู้ใช้ทราบว่ามีตัวเลือกทดลองใช้งานก่อนติดตั้ง

    https://www.neowin.net/news/anduinos-linux-major-updates-for-windows-11-clone---whats-new-and-how-to-install/
    AnduinOS Linux: อัปเดตใหม่สำหรับระบบปฏิบัติการที่คล้าย Windows 11 Anduin Xue นักพัฒนาหลักของ AnduinOS ได้เปิดตัว สามเวอร์ชันใหม่ ของระบบปฏิบัติการ Linux ที่มีลักษณะคล้าย Windows 11 ได้แก่ AnduinOS 1.1.5, 1.2.5 และ 1.3.2 โดยมีการปรับปรุงที่สำคัญ เช่น รองรับ AppImage ทันที, ระบบความปลอดภัยรหัสผ่านที่ดีขึ้น และประสบการณ์ X11 ที่ลื่นไหลขึ้น 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ AnduinOS เวอร์ชันใหม่ ✅ รองรับ AppImage ทันที - ทำให้ สามารถใช้งานแอปพลิเคชันแบบพกพาได้ง่ายขึ้น - ลดปัญหาการติดตั้งแอปที่ต้องพึ่งพาไลบรารีภายนอก ✅ ปรับปรุงความปลอดภัยของรหัสผ่าน - เพิ่ม มาตรการป้องกันการโจมตีแบบ brute-force ✅ ประสบการณ์ X11 ที่ดีขึ้น โดยเฉพาะใน Hyper-V - ช่วยให้ การใช้งานบนเครื่องเสมือนมีความเสถียรมากขึ้น ✅ ดาวน์โหลดไฟล์ผ่าน BitTorrent ได้เสถียรขึ้น - ลดปัญหา ไฟล์เสียหายระหว่างการดาวน์โหลด ✅ AnduinOS 1.3.2 เพิ่ม deskmon.service สำหรับจัดการไฟล์บนเดสก์ท็อป - ทำให้ การสร้างทางลัดบนเดสก์ท็อปง่ายขึ้น ✅ รองรับอุปกรณ์เสียง Intel รุ่นใหม่ผ่านเฟิร์มแวร์ thesofproject/sof-bin - เฉพาะการติดตั้งใหม่เท่านั้น ไม่สามารถใช้ได้กับการอัปเกรด ✅ AnduinOS 1.2.5 และ 1.1.5 ปรับปรุงธีมของตัวติดตั้งให้สอดคล้องกับระบบ - แก้ไขปัญหา Ubiquity installer ไม่ตรงกับธีมของระบบ ✅ ข้อความใน GRUB menu เปลี่ยนจาก "Install AnduinOS" เป็น "Try and Install AnduinOS" - เพิ่มความชัดเจน ให้ผู้ใช้ทราบว่ามีตัวเลือกทดลองใช้งานก่อนติดตั้ง https://www.neowin.net/news/anduinos-linux-major-updates-for-windows-11-clone---whats-new-and-how-to-install/
    WWW.NEOWIN.NET
    AnduinOS Linux: Major updates for Windows 11 clone - what's new and how to install
    The Windows 11-like Linux distribution, AnduinOS, has just released three upgrades for its existing releases. This is what's new and how to upgrade.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 85 มุมมอง 0 รีวิว
  • Adobe ปรับขึ้นราคาสมาชิก Creative Cloud พร้อมเปิดตัวแผนใหม่ "Pro"

    Adobe ประกาศปรับขึ้นราคาสมาชิก Creative Cloud All Apps โดยเปลี่ยนชื่อเป็น Creative Cloud Pro และเพิ่มฟีเจอร์ AI ขั้นสูง เช่น Generative Fill ใน Photoshop และ Generative Remove ใน Lightroom

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของ Adobe Creative Cloud
    ✅ Creative Cloud All Apps เปลี่ยนชื่อเป็น Creative Cloud Pro
    - มาพร้อม ฟีเจอร์ AI และเครดิตสำหรับการสร้างเนื้อหาด้วย AI

    ✅ ราคาสมาชิกเพิ่มขึ้นกว่าเดิม
    - รายปี จาก $659.88 เป็น $770
    - รายเดือน จาก $89.99 เป็น $104.99
    - องค์กร จาก $89.99 เป็น $99.99 ต่อที่นั่ง
    - นักเรียนและครู จาก $34.99 เป็น $39.99

    ✅ สมาชิกจะได้รับเครดิต AI 4,000 ต่อเดือนสำหรับการสร้างวิดีโอ เสียง และภาพระดับพรีเมียม
    - รวมถึง การเข้าถึงเครื่องมือ AI เช่น Firefly Boards สำหรับการวางแผนและระดมความคิด

    ✅ สามารถใช้ Adobe Firefly และรวมโมเดล AI ของตนเองเข้ากับแพลตฟอร์ม
    - ช่วยให้ ผู้ใช้สามารถปรับแต่งการสร้างเนื้อหาด้วย AI ได้มากขึ้น

    ✅ การเปลี่ยนแปลงนี้มีผลกับการต่ออายุครั้งแรกหลังวันที่ 17 มิถุนายน 2025
    - ผู้ใช้ ต้องพิจารณาว่าฟีเจอร์ใหม่คุ้มค่ากับราคาที่เพิ่มขึ้นหรือไม่

    ‼️ ราคาที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้ผู้ใช้บางกลุ่มต้องมองหาทางเลือกอื่น
    - มี แอปทางเลือกสำหรับ Photoshop และ InDesign ที่อาจคุ้มค่ากว่า

    ‼️ การใช้ AI อาจมีข้อจำกัดด้านลิขสิทธิ์และความถูกต้องของเนื้อหาที่สร้างขึ้น
    - ผู้ใช้ ต้องตรวจสอบข้อกำหนดการใช้งานของ Adobe Firefly

    https://www.techradar.com/computing/creative-software/the-price-of-ai-adobe-hikes-creative-cloud-subscriptions-for-some-with-new-pro-plan-heres-what-you-need-to-know
    Adobe ปรับขึ้นราคาสมาชิก Creative Cloud พร้อมเปิดตัวแผนใหม่ "Pro" Adobe ประกาศปรับขึ้นราคาสมาชิก Creative Cloud All Apps โดยเปลี่ยนชื่อเป็น Creative Cloud Pro และเพิ่มฟีเจอร์ AI ขั้นสูง เช่น Generative Fill ใน Photoshop และ Generative Remove ใน Lightroom 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของ Adobe Creative Cloud ✅ Creative Cloud All Apps เปลี่ยนชื่อเป็น Creative Cloud Pro - มาพร้อม ฟีเจอร์ AI และเครดิตสำหรับการสร้างเนื้อหาด้วย AI ✅ ราคาสมาชิกเพิ่มขึ้นกว่าเดิม - รายปี จาก $659.88 เป็น $770 - รายเดือน จาก $89.99 เป็น $104.99 - องค์กร จาก $89.99 เป็น $99.99 ต่อที่นั่ง - นักเรียนและครู จาก $34.99 เป็น $39.99 ✅ สมาชิกจะได้รับเครดิต AI 4,000 ต่อเดือนสำหรับการสร้างวิดีโอ เสียง และภาพระดับพรีเมียม - รวมถึง การเข้าถึงเครื่องมือ AI เช่น Firefly Boards สำหรับการวางแผนและระดมความคิด ✅ สามารถใช้ Adobe Firefly และรวมโมเดล AI ของตนเองเข้ากับแพลตฟอร์ม - ช่วยให้ ผู้ใช้สามารถปรับแต่งการสร้างเนื้อหาด้วย AI ได้มากขึ้น ✅ การเปลี่ยนแปลงนี้มีผลกับการต่ออายุครั้งแรกหลังวันที่ 17 มิถุนายน 2025 - ผู้ใช้ ต้องพิจารณาว่าฟีเจอร์ใหม่คุ้มค่ากับราคาที่เพิ่มขึ้นหรือไม่ ‼️ ราคาที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้ผู้ใช้บางกลุ่มต้องมองหาทางเลือกอื่น - มี แอปทางเลือกสำหรับ Photoshop และ InDesign ที่อาจคุ้มค่ากว่า ‼️ การใช้ AI อาจมีข้อจำกัดด้านลิขสิทธิ์และความถูกต้องของเนื้อหาที่สร้างขึ้น - ผู้ใช้ ต้องตรวจสอบข้อกำหนดการใช้งานของ Adobe Firefly https://www.techradar.com/computing/creative-software/the-price-of-ai-adobe-hikes-creative-cloud-subscriptions-for-some-with-new-pro-plan-heres-what-you-need-to-know
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 141 มุมมอง 0 รีวิว
  • Fedora 43 เตรียมยกเลิกการรองรับ X11 และเปลี่ยนไปใช้ Wayland อย่างเต็มรูปแบบ

    Fedora ประกาศว่า Fedora 43 GNOME Desktop จะยกเลิกการรองรับ X11 และเปลี่ยนไปใช้ Wayland เท่านั้น โดยการตัดสินใจนี้ได้รับการอนุมัติจาก Fedora Engineering and Steering Committee (FESCo) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางที่ GNOME กำลังดำเนินการ

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของ Fedora 43
    ✅ Fedora 43 จะเป็น Wayland-only และยกเลิกการรองรับ X11 อย่างสมบูรณ์
    - ผู้ใช้ที่ยังใช้ X11 จะถูกย้ายไปใช้ Wayland โดยอัตโนมัติ

    ✅ X11 packages จะถูกนำออกจาก Fedora repositories
    - ทำให้ ผู้ใช้ไม่สามารถติดตั้ง X11 ได้อีกต่อไป

    ✅ GNOME 50 คาดว่าจะยกเลิกการรองรับ X11 เช่นกัน
    - อาจมีการเปลี่ยนแปลงเร็วขึ้นใน GNOME 49 หากมีฉันทามติ

    ✅ XWayland ยังคงได้รับการรองรับเพื่อให้สามารถรันแอปพลิเคชัน X11 บน Wayland ได้
    - เป็นข่าวดีสำหรับ ผู้ใช้ที่ยังต้องการใช้แอปที่ไม่รองรับ Wayland โดยตรง

    ✅ Fedora เป็นหนึ่งในดิสโทรแรกที่เปลี่ยนไปใช้ Wayland เป็นค่าเริ่มต้นตั้งแต่ Fedora 25 ในปี 2016
    - Canonical ก็เปลี่ยน Ubuntu ไปใช้ Wayland เช่นกัน

    https://www.neowin.net/news/fedora-43-gnome-desktop-to-remove-support-for-x11-sessions/
    Fedora 43 เตรียมยกเลิกการรองรับ X11 และเปลี่ยนไปใช้ Wayland อย่างเต็มรูปแบบ Fedora ประกาศว่า Fedora 43 GNOME Desktop จะยกเลิกการรองรับ X11 และเปลี่ยนไปใช้ Wayland เท่านั้น โดยการตัดสินใจนี้ได้รับการอนุมัติจาก Fedora Engineering and Steering Committee (FESCo) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางที่ GNOME กำลังดำเนินการ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของ Fedora 43 ✅ Fedora 43 จะเป็น Wayland-only และยกเลิกการรองรับ X11 อย่างสมบูรณ์ - ผู้ใช้ที่ยังใช้ X11 จะถูกย้ายไปใช้ Wayland โดยอัตโนมัติ ✅ X11 packages จะถูกนำออกจาก Fedora repositories - ทำให้ ผู้ใช้ไม่สามารถติดตั้ง X11 ได้อีกต่อไป ✅ GNOME 50 คาดว่าจะยกเลิกการรองรับ X11 เช่นกัน - อาจมีการเปลี่ยนแปลงเร็วขึ้นใน GNOME 49 หากมีฉันทามติ ✅ XWayland ยังคงได้รับการรองรับเพื่อให้สามารถรันแอปพลิเคชัน X11 บน Wayland ได้ - เป็นข่าวดีสำหรับ ผู้ใช้ที่ยังต้องการใช้แอปที่ไม่รองรับ Wayland โดยตรง ✅ Fedora เป็นหนึ่งในดิสโทรแรกที่เปลี่ยนไปใช้ Wayland เป็นค่าเริ่มต้นตั้งแต่ Fedora 25 ในปี 2016 - Canonical ก็เปลี่ยน Ubuntu ไปใช้ Wayland เช่นกัน https://www.neowin.net/news/fedora-43-gnome-desktop-to-remove-support-for-x11-sessions/
    WWW.NEOWIN.NET
    Fedora 43 GNOME desktop to remove support for X11 sessions
    The Fedora project has decided to retire X11 sessions for the GNOME version in Fedora 43 in favor of Wayland.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 74 มุมมอง 0 รีวิว
  • รายงานสรุปจากงาน Microsoft Build 2025 วันที่ 2

    งาน Microsoft Build 2025 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-22 พฤษภาคม 2568 ที่เมืองซีแอตเทิล มีการประกาศนวัตกรรมสำคัญมากมายในวันที่ 2 (20 พฤษภาคม 2568) โดยเน้นที่การพัฒนาเทคโนโลยี AI และเครื่องมือสำหรับนักพัฒนา ด้านล่างนี้เป็นรายละเอียดทั้งหมดที่ครอบคลุมทุกแง่มุมของงานในวันที่ 2:

    ℹ️ การพัฒนา AI และเทคโนโลยี Agentic

    - งานวันที่ 2 เริ่มต้นด้วย keynote สำหรับนักพัฒนา โดยเน้นรายละเอียดทางเทคนิคมากกว่าวันแรกของ Satya Nadella. มีการเปิดตัว Microsoft Discovery ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มใหม่ที่ใช้ Agent AI เพื่อเปลี่ยนแปลงกระบวนการวิจัยวิทยาศาสตร์ โดยช่วยในการจำลองสถานการณ์จริง เช่น การพัฒนาโซลูชันระบายความร้อน. John Link ได้สาธิตการใช้งานในงานนี้.

    - NLWeb เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้การโต้ตอบด้วยภาษาธรรมชาติบนเว็บมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเปลี่ยนเว็บไซต์ให้เป็นแอปพลิเคชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI Agent พัฒนาโดย R.V. Guha และได้รับการสนับสนุนจากองค์กรต่างๆ เช่น O’Reilly Media, Snowflake, Shopify, และ Chicago Public Library. Windows AI Foundry ซึ่งก่อนหน้านี้ชื่อ Windows 11 Copilot Runtime เปิดตัวอย่างเป็นทางการ (GA) รองรับการทำงานบน CPU, GPU, และคลาวด์ พร้อมรุ่นสำหรับ Mac ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างฟีเจอร์ AI ได้หลากหลายมากขึ้น.

    - AI Agents ถูกนำมาใช้ในงานต่างๆ เช่น การวางแผนการเดินทาง, ลดการเกิด hallucination, และการดูแลผู้ป่วยมะเร็งโดยการรวมข้อมูลทางการแพทย์และแบ่งปันกับโรงพยาบาลชุมชน. มีการพูดถึง Agentic Web ซึ่งเป็นแนวคิดใหม่ในการพัฒนาเว็บที่ขับเคลื่อนด้วย AI Agent เพื่อความเปิดกว้างและความเร็วในการสร้างเว็บไซต์.

    ℹ️ เครื่องมือสำหรับนักพัฒนา

    - มีการสาธิต GitHub Copilot ซึ่งได้รับการอัปเกรดให้เป็น "เพื่อนนักพัฒนา" หรือ "Project Padawan" โดยสามารถแก้บั๊ก, พัฒนาฟีเจอร์ใหม่, และจัดการ GitHub Issues ได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงช่วยจัดการหลายงานพร้อมกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของนักพัฒนา. GitHub Copilot เปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับลูกค้า Copilot Enterprise และ Copilot Pro+ เหมาะสำหรับงานที่มีความซับซ้อนต่ำถึงปานกลาง.

    - Copilot Studio ได้รับการอัปเกรดด้วยคุณสมบัติสำหรับนักพัฒนามืออาวุโส รวมถึง M365 Copilot APIs (ในรูปแบบ preview) และ Bring Your Own Models จาก Azure Foundry (ในรูปแบบ preview). SQL Server 2025 เปิดตัวในรูปแบบ public preview พร้อมการรวม AI และความสามารถในการค้นหาเวกเตอร์ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการฐานข้อมูล.

    - Microsoft ประกาศเปิดตัว Windows Subsystem for Linux (WSL) เป็นโอเพ่นซอร์ส รวมถึง "Mariner" Linux และ WSL-g UI layer, และมีแผนจะเปิดตัว GitHub Copilot Chat Extension สำหรับ VSCode เป็นโอเพ่นซอร์สในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า. นอกจากนี้ยังมีการพูดถึง Model Context Protocol (MCP) ซึ่ง Microsoft เข้าร่วม MCP Steering Committee และรองรับ MCP บนแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น GitHub, Copilot Studio, Dynamics 365, Azure, Azure AI Foundry, Semantic Kernel, Foundry Agents, และ Windows 11.

    ℹ️ Microsoft 365 และ Copilot
    ➡️ Microsoft 365 Copilot Wave 2 Spring Release มีการอัปเดตใหม่สำหรับการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์และ AI Agent รวมถึง:

    - แอปที่อัปเดตสำหรับการทำงานร่วมกัน.
    - ประสบการณ์การสร้างด้วย OpenAI GPT-4o สำหรับการสร้างภาพ.
    - Copilot Notebooks เปิดตัวอย่างเป็นทางการ (GA).
    - Copilot Search และ Copilot Memory จะเริ่มใช้งานในเดือนมิถุนายน.
    - Researcher และ Analyst agents ผ่านโปรแกรม Frontier จะเริ่มในเดือนนี้.

    ➡️ Power Apps มีการประกาศคุณสมบัติใหม่ เช่น:
    - Solution Workspace เปิดตัวอย่างเป็นทางการวันที่ 30 พฤษภาคม.
    - Generative pages ด้วย React code (Early Access Program).
    - Agent feed สำหรับแอป (Early Access Program).
    - นำแอปแบบ code-first มายัง Power Platform (Early Access Program).

    ℹ️ ความร่วมมือและนวัตกรรม
    - มีการร่วมมือกับ Nvidia โดย Jensen Huang กล่าวถึงการเร่งการทำงานของ AI และการจัดการงานหนักด้วย CUDA. นอกจากนี้ยังมีความร่วมมือกับ xAI โดย Elon Musk ปรากฏตัวผ่านวิดีโอและประกาศว่า Grok 3 และ Grok 3 Mini จะมีบน Azure AI Foundry เพื่อเพิ่มความแม่นยำและลดข้อผิดพลาดของ AI โดยใช้กฎหมายฟิสิกส์.

    - MyEngine AI ถูกนำมาใช้เพื่อช่วยผู้ที่มีปัญหาการได้ยินเข้าใจสำเนียงท้องถิ่นได้ดีขึ้น. AI ยังถูกนำมาใช้ในด้านที่น่าสนใจ เช่น การพยากรณ์อากาศด้วย supercomputer บนคลาวด์ ซึ่งต้องการพลังการคำนวณสูงเพื่อเพิ่มความแม่นยำ และ AI สำหรับ NFL Combine ซึ่งมีการสาธิตผ่านวิดีโอ (AI for NFL Combine).

    ℹ️ ความปลอดภัยและการจัดการ
    - Microsoft ขยายการใช้งาน Entra, Defender for Cloud, และ Purview เข้าสู่ Azure AI Foundry และ Copilot Studio เพื่อเพิ่มความปลอดภัย. Entra Agent ID เปิดตัวในรูปแบบ preview เพื่อจัดการ AI Agents ซึ่งช่วยในการควบคุมและปกป้องการทำงานของ AI.

    ℹ️ บุคคลสำคัญและการปรากฏตัว
    - งานวันที่ 2 มีการปรากฏตัวของบุคคลสำคัญผ่านวิดีโอ เช่น Sam Altman (OpenAI) ที่กล่าวถึงการจัดการงาน AI ขนาดใหญ่ และ Elon Musk (xAI) ที่พูดถึงความร่วมมือกับ Microsoft ในการนำ Grok 3 และ Grok 3 Mini มาใช้บน Azure.
    รายงานสรุปจากงาน Microsoft Build 2025 วันที่ 2 งาน Microsoft Build 2025 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-22 พฤษภาคม 2568 ที่เมืองซีแอตเทิล มีการประกาศนวัตกรรมสำคัญมากมายในวันที่ 2 (20 พฤษภาคม 2568) โดยเน้นที่การพัฒนาเทคโนโลยี AI และเครื่องมือสำหรับนักพัฒนา ด้านล่างนี้เป็นรายละเอียดทั้งหมดที่ครอบคลุมทุกแง่มุมของงานในวันที่ 2: ℹ️ การพัฒนา AI และเทคโนโลยี Agentic - งานวันที่ 2 เริ่มต้นด้วย keynote สำหรับนักพัฒนา โดยเน้นรายละเอียดทางเทคนิคมากกว่าวันแรกของ Satya Nadella. มีการเปิดตัว Microsoft Discovery ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มใหม่ที่ใช้ Agent AI เพื่อเปลี่ยนแปลงกระบวนการวิจัยวิทยาศาสตร์ โดยช่วยในการจำลองสถานการณ์จริง เช่น การพัฒนาโซลูชันระบายความร้อน. John Link ได้สาธิตการใช้งานในงานนี้. - NLWeb เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้การโต้ตอบด้วยภาษาธรรมชาติบนเว็บมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเปลี่ยนเว็บไซต์ให้เป็นแอปพลิเคชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI Agent พัฒนาโดย R.V. Guha และได้รับการสนับสนุนจากองค์กรต่างๆ เช่น O’Reilly Media, Snowflake, Shopify, และ Chicago Public Library. Windows AI Foundry ซึ่งก่อนหน้านี้ชื่อ Windows 11 Copilot Runtime เปิดตัวอย่างเป็นทางการ (GA) รองรับการทำงานบน CPU, GPU, และคลาวด์ พร้อมรุ่นสำหรับ Mac ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างฟีเจอร์ AI ได้หลากหลายมากขึ้น. - AI Agents ถูกนำมาใช้ในงานต่างๆ เช่น การวางแผนการเดินทาง, ลดการเกิด hallucination, และการดูแลผู้ป่วยมะเร็งโดยการรวมข้อมูลทางการแพทย์และแบ่งปันกับโรงพยาบาลชุมชน. มีการพูดถึง Agentic Web ซึ่งเป็นแนวคิดใหม่ในการพัฒนาเว็บที่ขับเคลื่อนด้วย AI Agent เพื่อความเปิดกว้างและความเร็วในการสร้างเว็บไซต์. ℹ️ เครื่องมือสำหรับนักพัฒนา - มีการสาธิต GitHub Copilot ซึ่งได้รับการอัปเกรดให้เป็น "เพื่อนนักพัฒนา" หรือ "Project Padawan" โดยสามารถแก้บั๊ก, พัฒนาฟีเจอร์ใหม่, และจัดการ GitHub Issues ได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงช่วยจัดการหลายงานพร้อมกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของนักพัฒนา. GitHub Copilot เปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับลูกค้า Copilot Enterprise และ Copilot Pro+ เหมาะสำหรับงานที่มีความซับซ้อนต่ำถึงปานกลาง. - Copilot Studio ได้รับการอัปเกรดด้วยคุณสมบัติสำหรับนักพัฒนามืออาวุโส รวมถึง M365 Copilot APIs (ในรูปแบบ preview) และ Bring Your Own Models จาก Azure Foundry (ในรูปแบบ preview). SQL Server 2025 เปิดตัวในรูปแบบ public preview พร้อมการรวม AI และความสามารถในการค้นหาเวกเตอร์ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการฐานข้อมูล. - Microsoft ประกาศเปิดตัว Windows Subsystem for Linux (WSL) เป็นโอเพ่นซอร์ส รวมถึง "Mariner" Linux และ WSL-g UI layer, และมีแผนจะเปิดตัว GitHub Copilot Chat Extension สำหรับ VSCode เป็นโอเพ่นซอร์สในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า. นอกจากนี้ยังมีการพูดถึง Model Context Protocol (MCP) ซึ่ง Microsoft เข้าร่วม MCP Steering Committee และรองรับ MCP บนแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น GitHub, Copilot Studio, Dynamics 365, Azure, Azure AI Foundry, Semantic Kernel, Foundry Agents, และ Windows 11. ℹ️ Microsoft 365 และ Copilot ➡️ Microsoft 365 Copilot Wave 2 Spring Release มีการอัปเดตใหม่สำหรับการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์และ AI Agent รวมถึง: - แอปที่อัปเดตสำหรับการทำงานร่วมกัน. - ประสบการณ์การสร้างด้วย OpenAI GPT-4o สำหรับการสร้างภาพ. - Copilot Notebooks เปิดตัวอย่างเป็นทางการ (GA). - Copilot Search และ Copilot Memory จะเริ่มใช้งานในเดือนมิถุนายน. - Researcher และ Analyst agents ผ่านโปรแกรม Frontier จะเริ่มในเดือนนี้. ➡️ Power Apps มีการประกาศคุณสมบัติใหม่ เช่น: - Solution Workspace เปิดตัวอย่างเป็นทางการวันที่ 30 พฤษภาคม. - Generative pages ด้วย React code (Early Access Program). - Agent feed สำหรับแอป (Early Access Program). - นำแอปแบบ code-first มายัง Power Platform (Early Access Program). ℹ️ ความร่วมมือและนวัตกรรม - มีการร่วมมือกับ Nvidia โดย Jensen Huang กล่าวถึงการเร่งการทำงานของ AI และการจัดการงานหนักด้วย CUDA. นอกจากนี้ยังมีความร่วมมือกับ xAI โดย Elon Musk ปรากฏตัวผ่านวิดีโอและประกาศว่า Grok 3 และ Grok 3 Mini จะมีบน Azure AI Foundry เพื่อเพิ่มความแม่นยำและลดข้อผิดพลาดของ AI โดยใช้กฎหมายฟิสิกส์. - MyEngine AI ถูกนำมาใช้เพื่อช่วยผู้ที่มีปัญหาการได้ยินเข้าใจสำเนียงท้องถิ่นได้ดีขึ้น. AI ยังถูกนำมาใช้ในด้านที่น่าสนใจ เช่น การพยากรณ์อากาศด้วย supercomputer บนคลาวด์ ซึ่งต้องการพลังการคำนวณสูงเพื่อเพิ่มความแม่นยำ และ AI สำหรับ NFL Combine ซึ่งมีการสาธิตผ่านวิดีโอ (AI for NFL Combine). ℹ️ ความปลอดภัยและการจัดการ - Microsoft ขยายการใช้งาน Entra, Defender for Cloud, และ Purview เข้าสู่ Azure AI Foundry และ Copilot Studio เพื่อเพิ่มความปลอดภัย. Entra Agent ID เปิดตัวในรูปแบบ preview เพื่อจัดการ AI Agents ซึ่งช่วยในการควบคุมและปกป้องการทำงานของ AI. ℹ️ บุคคลสำคัญและการปรากฏตัว - งานวันที่ 2 มีการปรากฏตัวของบุคคลสำคัญผ่านวิดีโอ เช่น Sam Altman (OpenAI) ที่กล่าวถึงการจัดการงาน AI ขนาดใหญ่ และ Elon Musk (xAI) ที่พูดถึงความร่วมมือกับ Microsoft ในการนำ Grok 3 และ Grok 3 Mini มาใช้บน Azure.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 331 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel เปิดตัวชิป Panther Lake พร้อมประสิทธิภาพระดับ Arrow Lake และความประหยัดพลังงานแบบ Lunar Lake

    Intel เผยโฉมชิป Core Ultra 300 "Panther Lake" ในงาน Computex 2025 โดยใช้กระบวนการผลิต 18A และดีไซน์แบบ 5-tile ซึ่งรวมถึง Cougar Cove P-cores, Darkmont และ Skymont E-cores และ Xe3 Celestial integrated GPU

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับชิป Panther Lake
    ✅ Panther Lake ใช้กระบวนการผลิต 18A และดีไซน์แบบ 5-tile
    - รวมถึง Cougar Cove P-cores, Darkmont และ Skymont E-cores และ Xe3 Celestial GPU

    ✅ Intel อ้างว่าชิปนี้มีประสิทธิภาพระดับ Arrow Lake แต่ใช้พลังงานเทียบเท่า Lunar Lake
    - แต่ยัง ไม่มีการเปิดเผยผลการทดสอบประสิทธิภาพ

    ✅ Panther Lake รองรับ XMX integrated graphics รุ่นใหม่
    - มี ประสิทธิภาพเทียบเท่ากับ GPU ของ Lunar Lake

    ✅ Intel สาธิตการใช้ Panther Lake กับ DaVinci Resolve เพื่อแสดงความสามารถด้าน AI Video Processing
    - แล็ปท็อปที่ใช้ชิปนี้ มี 16 คอร์ แต่ยังไม่มีรายละเอียดสเปกเต็ม

    ✅ ชิป Panther Lake คาดว่าจะเข้าสู่การผลิตในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 และเปิดตัวในต้นปี 2026
    - Intel ยังไม่ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับรุ่นต่าง ๆ ของชิปนี้

    https://www.techspot.com/news/107967-intel-demos-panther-lake-chips-promises-arrow-lake.html
    Intel เปิดตัวชิป Panther Lake พร้อมประสิทธิภาพระดับ Arrow Lake และความประหยัดพลังงานแบบ Lunar Lake Intel เผยโฉมชิป Core Ultra 300 "Panther Lake" ในงาน Computex 2025 โดยใช้กระบวนการผลิต 18A และดีไซน์แบบ 5-tile ซึ่งรวมถึง Cougar Cove P-cores, Darkmont และ Skymont E-cores และ Xe3 Celestial integrated GPU 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับชิป Panther Lake ✅ Panther Lake ใช้กระบวนการผลิต 18A และดีไซน์แบบ 5-tile - รวมถึง Cougar Cove P-cores, Darkmont และ Skymont E-cores และ Xe3 Celestial GPU ✅ Intel อ้างว่าชิปนี้มีประสิทธิภาพระดับ Arrow Lake แต่ใช้พลังงานเทียบเท่า Lunar Lake - แต่ยัง ไม่มีการเปิดเผยผลการทดสอบประสิทธิภาพ ✅ Panther Lake รองรับ XMX integrated graphics รุ่นใหม่ - มี ประสิทธิภาพเทียบเท่ากับ GPU ของ Lunar Lake ✅ Intel สาธิตการใช้ Panther Lake กับ DaVinci Resolve เพื่อแสดงความสามารถด้าน AI Video Processing - แล็ปท็อปที่ใช้ชิปนี้ มี 16 คอร์ แต่ยังไม่มีรายละเอียดสเปกเต็ม ✅ ชิป Panther Lake คาดว่าจะเข้าสู่การผลิตในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 และเปิดตัวในต้นปี 2026 - Intel ยังไม่ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับรุ่นต่าง ๆ ของชิปนี้ https://www.techspot.com/news/107967-intel-demos-panther-lake-chips-promises-arrow-lake.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Intel demos Panther Lake chips, promises Arrow Lake performance with Lunar Lake efficiency
    Intel did not share performance benchmarks for the new chips but claimed they will deliver Arrow Lake-level performance with Lunar Lake-level efficiency. The company also confirmed that...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 115 มุมมอง 0 รีวิว
  • MSI เปิดตัว EdgeXpert MS-C931: AI Supercomputer หรือแค่การตลาด?

    MSI เปิดตัว EdgeXpert MS-C931 ซึ่งเป็นเดสก์ท็อปที่ใช้แพลตฟอร์ม Nvidia DGX Spark โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เป็น "AI Supercomputer" สำหรับนักพัฒนาและองค์กรที่ต้องการพลังประมวลผล AI ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับความสามารถที่แท้จริงของอุปกรณ์นี้

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ MSI EdgeXpert MS-C931
    ✅ ใช้ Nvidia GB10 Grace Blackwell Superchip
    - ให้ พลังประมวลผล AI สูงสุด 1,000 TOPS (FP4)

    ✅ มีหน่วยความจำรวม 128GB และรองรับ ConnectX-7 high-speed networking
    - เหมาะสำหรับ การประมวลผล AI ที่ต้องการแบนด์วิดท์สูง

    ✅ MSI ระบุว่าอุปกรณ์นี้เหมาะสำหรับภาคการศึกษา, การเงิน และการดูแลสุขภาพ
    - เนื่องจาก ต้องการความเป็นส่วนตัวของข้อมูลและความหน่วงต่ำ

    ✅ สามารถใช้เป็น Workstation สำหรับการพัฒนา AI และการจำลองขนาดใหญ่
    - มี ประสิทธิภาพสูงในการรันโมเดล Machine Learning

    ✅ จะถูกนำเสนอในงาน Computex 2025
    - MSI หวังว่าจะเป็นตัวเลือกใหม่สำหรับองค์กรที่ต้องการพลัง AI ในระดับสูง

    https://www.techradar.com/computing/cloud-computing/after-asus-and-dell-msi-is-launching-a-nvidia-dgx-spark-clone-but-i-am-still-skeptical-about-the-whole-desktop-ai-supercomputer-moniker
    MSI เปิดตัว EdgeXpert MS-C931: AI Supercomputer หรือแค่การตลาด? MSI เปิดตัว EdgeXpert MS-C931 ซึ่งเป็นเดสก์ท็อปที่ใช้แพลตฟอร์ม Nvidia DGX Spark โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เป็น "AI Supercomputer" สำหรับนักพัฒนาและองค์กรที่ต้องการพลังประมวลผล AI ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับความสามารถที่แท้จริงของอุปกรณ์นี้ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ MSI EdgeXpert MS-C931 ✅ ใช้ Nvidia GB10 Grace Blackwell Superchip - ให้ พลังประมวลผล AI สูงสุด 1,000 TOPS (FP4) ✅ มีหน่วยความจำรวม 128GB และรองรับ ConnectX-7 high-speed networking - เหมาะสำหรับ การประมวลผล AI ที่ต้องการแบนด์วิดท์สูง ✅ MSI ระบุว่าอุปกรณ์นี้เหมาะสำหรับภาคการศึกษา, การเงิน และการดูแลสุขภาพ - เนื่องจาก ต้องการความเป็นส่วนตัวของข้อมูลและความหน่วงต่ำ ✅ สามารถใช้เป็น Workstation สำหรับการพัฒนา AI และการจำลองขนาดใหญ่ - มี ประสิทธิภาพสูงในการรันโมเดล Machine Learning ✅ จะถูกนำเสนอในงาน Computex 2025 - MSI หวังว่าจะเป็นตัวเลือกใหม่สำหรับองค์กรที่ต้องการพลัง AI ในระดับสูง https://www.techradar.com/computing/cloud-computing/after-asus-and-dell-msi-is-launching-a-nvidia-dgx-spark-clone-but-i-am-still-skeptical-about-the-whole-desktop-ai-supercomputer-moniker
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 190 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft เปิดตัวโฆษณา "Copilot+ PC เร็วกว่า Mac" พร้อมเปรียบเทียบกับ MacBook Air M3

    Microsoft เผยโฆษณาใหม่ที่เน้นความเร็วของ Copilot+ PC โดยอ้างว่า แล็ปท็อปที่ใช้ Snapdragon X Elite สามารถทำงานได้เร็วกว่า MacBook Air M3 ถึง 58% อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่ใช้ในโฆษณามาจากการทดสอบเมื่อปีที่แล้ว และเป็นผลลัพธ์จากการทดสอบแบบ multi-core เท่านั้น

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับโฆษณา Copilot+ PC
    ✅ Microsoft อ้างว่า Copilot+ PC เร็วกว่า MacBook Air M3 ถึง 58%
    - เป็นผลจาก การทดสอบ multi-core benchmark เมื่อปี 2024

    ✅ Copilot+ PC ใช้ชิป Snapdragon X Elite ซึ่งเป็น ARM-based processor
    - Qualcomm คาดการณ์ว่า ARM จะครองตลาด Windows PC ถึง 50% ภายใน 5 ปี

    ✅ Microsoft ผลักดัน Copilot+ PC อย่างหนัก เนื่องจากยอดขายยังต่ำกว่าที่คาดการณ์
    - คิดเป็น น้อยกว่า 10% ของยอดขาย PC ทั้งหมดในไตรมาสที่ 3 ปี 2024

    ✅ MacBook Air M4 เปิดตัวเมื่อต้นปี 2025 และมีประสิทธิภาพสูงกว่า M3
    - รุ่นใหม่ มาพร้อม RAM 16GB เป็นมาตรฐาน และราคาถูกกว่ารุ่นก่อน

    ✅ Microsoft ต้องปรับปรุงการรองรับซอฟต์แวร์สำหรับอุปกรณ์ ARM เพื่อดึงดูดผู้ใช้
    - หากสามารถ เพิ่มตัวเลือกการปรับแต่งและอัปเกรดได้ อาจช่วยให้ PC ARM ได้รับความนิยมมากขึ้น

    ‼️ ผลการทดสอบที่ Microsoft ใช้ในโฆษณาเป็นข้อมูลเก่าจากปี 2024
    - อาจไม่สะท้อน ประสิทธิภาพของ MacBook Air M4 ที่เปิดตัวในปี 2025

    ‼️ Copilot+ PC ยังมีข้อจำกัดด้านซอฟต์แวร์และการรองรับแอปพลิเคชัน
    - ผู้ใช้ อาจต้องตรวจสอบว่าแอปที่ต้องการใช้งานสามารถทำงานบน ARM ได้หรือไม่

    https://www.tomshardware.com/laptops/microsofts-were-faster-than-a-mac-ad-claims-top-copilot-pcs-are-up-to-58-percent-faster-than-apples-last-gen-m3-macbook-air
    Microsoft เปิดตัวโฆษณา "Copilot+ PC เร็วกว่า Mac" พร้อมเปรียบเทียบกับ MacBook Air M3 Microsoft เผยโฆษณาใหม่ที่เน้นความเร็วของ Copilot+ PC โดยอ้างว่า แล็ปท็อปที่ใช้ Snapdragon X Elite สามารถทำงานได้เร็วกว่า MacBook Air M3 ถึง 58% อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่ใช้ในโฆษณามาจากการทดสอบเมื่อปีที่แล้ว และเป็นผลลัพธ์จากการทดสอบแบบ multi-core เท่านั้น 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับโฆษณา Copilot+ PC ✅ Microsoft อ้างว่า Copilot+ PC เร็วกว่า MacBook Air M3 ถึง 58% - เป็นผลจาก การทดสอบ multi-core benchmark เมื่อปี 2024 ✅ Copilot+ PC ใช้ชิป Snapdragon X Elite ซึ่งเป็น ARM-based processor - Qualcomm คาดการณ์ว่า ARM จะครองตลาด Windows PC ถึง 50% ภายใน 5 ปี ✅ Microsoft ผลักดัน Copilot+ PC อย่างหนัก เนื่องจากยอดขายยังต่ำกว่าที่คาดการณ์ - คิดเป็น น้อยกว่า 10% ของยอดขาย PC ทั้งหมดในไตรมาสที่ 3 ปี 2024 ✅ MacBook Air M4 เปิดตัวเมื่อต้นปี 2025 และมีประสิทธิภาพสูงกว่า M3 - รุ่นใหม่ มาพร้อม RAM 16GB เป็นมาตรฐาน และราคาถูกกว่ารุ่นก่อน ✅ Microsoft ต้องปรับปรุงการรองรับซอฟต์แวร์สำหรับอุปกรณ์ ARM เพื่อดึงดูดผู้ใช้ - หากสามารถ เพิ่มตัวเลือกการปรับแต่งและอัปเกรดได้ อาจช่วยให้ PC ARM ได้รับความนิยมมากขึ้น ‼️ ผลการทดสอบที่ Microsoft ใช้ในโฆษณาเป็นข้อมูลเก่าจากปี 2024 - อาจไม่สะท้อน ประสิทธิภาพของ MacBook Air M4 ที่เปิดตัวในปี 2025 ‼️ Copilot+ PC ยังมีข้อจำกัดด้านซอฟต์แวร์และการรองรับแอปพลิเคชัน - ผู้ใช้ อาจต้องตรวจสอบว่าแอปที่ต้องการใช้งานสามารถทำงานบน ARM ได้หรือไม่ https://www.tomshardware.com/laptops/microsofts-were-faster-than-a-mac-ad-claims-top-copilot-pcs-are-up-to-58-percent-faster-than-apples-last-gen-m3-macbook-air
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 135 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัสเซียเพิ่มมาตรการปราบปราม VPN: การควบคุมอินเทอร์เน็ตที่เข้มงวดขึ้น

    รัฐบาลรัสเซีย เดินหน้าปราบปรามการใช้ VPN อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด Samsung และ Xiaomi ได้ลบแอป AdGuard VPN ออกจากร้านค้าแอปในรัสเซีย ตามคำสั่งของ Roskomnadzor ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลอินเทอร์เน็ตของรัสเซีย

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการปราบปราม VPN ในรัสเซีย
    ✅ Samsung และ Xiaomi ลบแอป AdGuard VPN ตามคำสั่งของ Roskomnadzor
    - นอกจากนี้ HideMyName VPN ก็ถูกลบออกจาก Huawei Store ในรัสเซียและจีน

    ✅ Roskomnadzor ใช้กฎหมายใหม่เพื่อบังคับให้บริษัทเทคโนโลยีปฏิบัติตามข้อกำหนด
    - กฎหมายนี้ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2024 และกำหนดให้การเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการหลีกเลี่ยงการเซ็นเซอร์เป็นอาชญากรรม

    ✅ Apple ลบแอป VPN ออกจาก App Store ในรัสเซียไปแล้วกว่า 100 แอป
    - รวมถึง AdGuard VPN และ Amnezia VPN ซึ่งเป็นบริการยอดนิยมในรัสเซีย

    ✅ Google ยังคงต่อต้านคำสั่งของรัฐบาลรัสเซีย
    - แต่ มีข้อมูลว่ามี VPN อย่างน้อย 53 แอปที่ถูกลบออกจาก Google Play Store ในรัสเซีย

    ✅ Roskomnadzor ขยายเป้าหมายไปยังผู้ให้บริการแอปสโตร์รายเล็ก
    - เช่น F-Droid ซึ่งถูกกดดันให้ลบแอป VPN ในปี 2024

    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/a-clear-escalation-in-russias-crackdown-on-digital-privacy-tools-experts-warn-against-recent-vpn-disappearances-in-russia
    รัสเซียเพิ่มมาตรการปราบปราม VPN: การควบคุมอินเทอร์เน็ตที่เข้มงวดขึ้น รัฐบาลรัสเซีย เดินหน้าปราบปรามการใช้ VPN อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด Samsung และ Xiaomi ได้ลบแอป AdGuard VPN ออกจากร้านค้าแอปในรัสเซีย ตามคำสั่งของ Roskomnadzor ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลอินเทอร์เน็ตของรัสเซีย 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการปราบปราม VPN ในรัสเซีย ✅ Samsung และ Xiaomi ลบแอป AdGuard VPN ตามคำสั่งของ Roskomnadzor - นอกจากนี้ HideMyName VPN ก็ถูกลบออกจาก Huawei Store ในรัสเซียและจีน ✅ Roskomnadzor ใช้กฎหมายใหม่เพื่อบังคับให้บริษัทเทคโนโลยีปฏิบัติตามข้อกำหนด - กฎหมายนี้ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2024 และกำหนดให้การเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการหลีกเลี่ยงการเซ็นเซอร์เป็นอาชญากรรม ✅ Apple ลบแอป VPN ออกจาก App Store ในรัสเซียไปแล้วกว่า 100 แอป - รวมถึง AdGuard VPN และ Amnezia VPN ซึ่งเป็นบริการยอดนิยมในรัสเซีย ✅ Google ยังคงต่อต้านคำสั่งของรัฐบาลรัสเซีย - แต่ มีข้อมูลว่ามี VPN อย่างน้อย 53 แอปที่ถูกลบออกจาก Google Play Store ในรัสเซีย ✅ Roskomnadzor ขยายเป้าหมายไปยังผู้ให้บริการแอปสโตร์รายเล็ก - เช่น F-Droid ซึ่งถูกกดดันให้ลบแอป VPN ในปี 2024 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/a-clear-escalation-in-russias-crackdown-on-digital-privacy-tools-experts-warn-against-recent-vpn-disappearances-in-russia
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 202 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft ยุติการผลิต Surface Laptop Studio 2 โดยไม่มีรุ่นทดแทน

    Microsoft ได้ ยุติการผลิต Surface Laptop Studio 2 ซึ่งเป็นแล็ปท็อปที่ทรงพลังที่สุดของบริษัทและมีดีไซน์บานพับจอที่เป็นเอกลักษณ์ อย่างไรก็ตาม ไม่มีการเปิดตัวรุ่นทดแทน ทำให้หลายฝ่ายตั้งคำถามเกี่ยวกับอนาคตของผลิตภัณฑ์ Surface

    ✅ Microsoft หยุดการผลิต Surface Laptop Studio 2 ตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม 2025
    - สินค้าจะ หมดสต็อกในร้านค้าต่าง ๆ และจะไม่มีการผลิตเพิ่มเติม

    ✅ Surface Laptop Studio 2 จะยังคงได้รับการสนับสนุนจนถึงปี 2029
    - ผู้ใช้ยังสามารถ รับการอัปเดตเฟิร์มแวร์และระบบปฏิบัติการต่อไป

    ✅ Microsoft ค่อย ๆ ยุติการผลิตอุปกรณ์ Surface ที่มีดีไซน์แปลกใหม่
    - ก่อนหน้านี้ Surface Studio, Surface Duo, Surface Book และ Surface Neo ก็ถูกยกเลิกไปแล้ว

    ✅ Surface รุ่นใหม่เน้นไปที่ดีไซน์มาตรฐานมากขึ้น
    - Microsoft มุ่งเน้นไปที่แล็ปท็อปและแท็บเล็ตที่ใช้งานทั่วไปมากกว่าการออกแบบที่แปลกใหม่

    ✅ Surface Laptop Studio 2 เป็นอุปกรณ์ Surface รุ่นสุดท้ายที่มีดีไซน์แหวกแนว
    - ทำให้ โอกาสที่ Microsoft จะกลับไปพัฒนาอุปกรณ์ที่มีดีไซน์แปลกใหม่มีน้อยลง

    https://www.tomshardware.com/tablets/microsoft-surface/microsoft-may-have-killed-the-surface-laptop-studio-2
    Microsoft ยุติการผลิต Surface Laptop Studio 2 โดยไม่มีรุ่นทดแทน Microsoft ได้ ยุติการผลิต Surface Laptop Studio 2 ซึ่งเป็นแล็ปท็อปที่ทรงพลังที่สุดของบริษัทและมีดีไซน์บานพับจอที่เป็นเอกลักษณ์ อย่างไรก็ตาม ไม่มีการเปิดตัวรุ่นทดแทน ทำให้หลายฝ่ายตั้งคำถามเกี่ยวกับอนาคตของผลิตภัณฑ์ Surface ✅ Microsoft หยุดการผลิต Surface Laptop Studio 2 ตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม 2025 - สินค้าจะ หมดสต็อกในร้านค้าต่าง ๆ และจะไม่มีการผลิตเพิ่มเติม ✅ Surface Laptop Studio 2 จะยังคงได้รับการสนับสนุนจนถึงปี 2029 - ผู้ใช้ยังสามารถ รับการอัปเดตเฟิร์มแวร์และระบบปฏิบัติการต่อไป ✅ Microsoft ค่อย ๆ ยุติการผลิตอุปกรณ์ Surface ที่มีดีไซน์แปลกใหม่ - ก่อนหน้านี้ Surface Studio, Surface Duo, Surface Book และ Surface Neo ก็ถูกยกเลิกไปแล้ว ✅ Surface รุ่นใหม่เน้นไปที่ดีไซน์มาตรฐานมากขึ้น - Microsoft มุ่งเน้นไปที่แล็ปท็อปและแท็บเล็ตที่ใช้งานทั่วไปมากกว่าการออกแบบที่แปลกใหม่ ✅ Surface Laptop Studio 2 เป็นอุปกรณ์ Surface รุ่นสุดท้ายที่มีดีไซน์แหวกแนว - ทำให้ โอกาสที่ Microsoft จะกลับไปพัฒนาอุปกรณ์ที่มีดีไซน์แปลกใหม่มีน้อยลง https://www.tomshardware.com/tablets/microsoft-surface/microsoft-may-have-killed-the-surface-laptop-studio-2
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Microsoft may have killed the Surface Laptop Studio
    The streamlining of the Surface lineup continues, as Microsoft sticks with what it knows will work.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 103 มุมมอง 0 รีวิว
  • RTX 5090 Laptop GPU: ประสิทธิภาพไม่ต่างจาก RTX 4090 มากนัก

    Nvidia เปิดตัว RTX 5090 Laptop GPU ซึ่งเป็นกราฟิกการ์ดรุ่นใหม่สำหรับแล็ปท็อปเกมมิ่ง อย่างไรก็ตาม ผลการทดสอบจากนักรีวิวฮาร์ดแวร์ชื่อดังพบว่า ประสิทธิภาพของ RTX 5090 ไม่ได้แตกต่างจาก RTX 4090 อย่างมีนัยสำคัญ

    ✅ RTX 5090 มีประสิทธิภาพเฉลี่ย 66 FPS ที่ 4K ใน 25 เกมยอดนิยม
    - เทียบกับ RTX 4090 ที่ทำได้ 65 FPS แม้ใช้ CPU รุ่นเก่ากว่าและ RAM ช้ากว่า

    ✅ ที่ 1080p RTX 4090 กลับทำ FPS ได้สูงกว่า RTX 5090
    - RTX 4090 ทำได้ 133 FPS ขณะที่ RTX 5090 ทำได้ 132 FPS

    ✅ RTX 5090 มีข้อได้เปรียบในบางเกม เช่น Cyberpunk 2077 และ Warhammer 40,000: Space Marine 2
    - ทำ FPS ได้สูงกว่า RTX 4090 20% และ 18% ตามลำดับ

    ✅ RTX 5090 มีประสิทธิภาพด้านพลังงานดีกว่า RTX 4090
    - ส่งผลให้ แบตเตอรี่ของแล็ปท็อปใช้งานได้นานขึ้น

    ✅ ใช้ CPU Arrow Lake-HX ซึ่งมีประสิทธิภาพด้านพลังงานสูงกว่า Raptor Lake Refresh
    - อาจเป็นปัจจัยที่ช่วยให้ แล็ปท็อปที่ใช้ RTX 5090 มีอายุแบตเตอรี่ยาวขึ้น

    ‼️ RTX 5090 ไม่ได้ให้ประสิทธิภาพที่เหนือกว่า RTX 4090 อย่างชัดเจน
    - ผู้ใช้ที่ต้องการ อัปเกรดอาจต้องพิจารณาว่าคุ้มค่าหรือไม่

    https://www.techspot.com/news/107929-rtx-5090-laptop-gpu-shows-no-real-world.html
    RTX 5090 Laptop GPU: ประสิทธิภาพไม่ต่างจาก RTX 4090 มากนัก Nvidia เปิดตัว RTX 5090 Laptop GPU ซึ่งเป็นกราฟิกการ์ดรุ่นใหม่สำหรับแล็ปท็อปเกมมิ่ง อย่างไรก็ตาม ผลการทดสอบจากนักรีวิวฮาร์ดแวร์ชื่อดังพบว่า ประสิทธิภาพของ RTX 5090 ไม่ได้แตกต่างจาก RTX 4090 อย่างมีนัยสำคัญ ✅ RTX 5090 มีประสิทธิภาพเฉลี่ย 66 FPS ที่ 4K ใน 25 เกมยอดนิยม - เทียบกับ RTX 4090 ที่ทำได้ 65 FPS แม้ใช้ CPU รุ่นเก่ากว่าและ RAM ช้ากว่า ✅ ที่ 1080p RTX 4090 กลับทำ FPS ได้สูงกว่า RTX 5090 - RTX 4090 ทำได้ 133 FPS ขณะที่ RTX 5090 ทำได้ 132 FPS ✅ RTX 5090 มีข้อได้เปรียบในบางเกม เช่น Cyberpunk 2077 และ Warhammer 40,000: Space Marine 2 - ทำ FPS ได้สูงกว่า RTX 4090 20% และ 18% ตามลำดับ ✅ RTX 5090 มีประสิทธิภาพด้านพลังงานดีกว่า RTX 4090 - ส่งผลให้ แบตเตอรี่ของแล็ปท็อปใช้งานได้นานขึ้น ✅ ใช้ CPU Arrow Lake-HX ซึ่งมีประสิทธิภาพด้านพลังงานสูงกว่า Raptor Lake Refresh - อาจเป็นปัจจัยที่ช่วยให้ แล็ปท็อปที่ใช้ RTX 5090 มีอายุแบตเตอรี่ยาวขึ้น ‼️ RTX 5090 ไม่ได้ให้ประสิทธิภาพที่เหนือกว่า RTX 4090 อย่างชัดเจน - ผู้ใช้ที่ต้องการ อัปเกรดอาจต้องพิจารณาว่าคุ้มค่าหรือไม่ https://www.techspot.com/news/107929-rtx-5090-laptop-gpu-shows-no-real-world.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Nvidia RTX 5090 Laptop GPU shows no real performance gains over the RTX 4090
    According to early comparison tests carried out by Australian tech reviewer and YouTuber Jarrod Farncomb, the RTX 5090 mobile offers only a minor performance uplift over the...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 82 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft ยุติการผลิต Surface Laptop Studio 2 โดยไม่มีรุ่นทดแทน

    Microsoft ได้ ยุติการผลิต Surface Laptop Studio 2 ซึ่งเป็น แล็ปท็อปที่ทรงพลังที่สุดของบริษัท และมีดีไซน์บานพับจอที่เป็นเอกลักษณ์ อย่างไรก็ตาม ไม่มีการเปิดตัวรุ่นทดแทน ทำให้หลายฝ่ายตั้งคำถามเกี่ยวกับอนาคตของผลิตภัณฑ์ Surface

    ✅ Microsoft หยุดการผลิต Surface Laptop Studio 2 ตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม 2025
    - สินค้าจะ หมดสต็อกในร้านค้าต่าง ๆ และจะไม่มีการผลิตเพิ่มเติม

    ✅ Surface Laptop Studio 2 จะยังคงได้รับการสนับสนุนจนถึงปี 2029
    - ผู้ใช้ยังสามารถ รับการอัปเดตเฟิร์มแวร์และระบบปฏิบัติการต่อไป

    ✅ Microsoft ค่อย ๆ ยุติการผลิตอุปกรณ์ Surface ที่มีดีไซน์แปลกใหม่
    - ก่อนหน้านี้ Surface Studio, Surface Duo, Surface Book และ Surface Neo ก็ถูกยกเลิกไปแล้ว

    ✅ Surface รุ่นใหม่เน้นไปที่ดีไซน์มาตรฐานมากขึ้น
    - Microsoft มุ่งเน้นไปที่แล็ปท็อปและแท็บเล็ตที่ใช้งานทั่วไปมากกว่าการออกแบบที่แปลกใหม่

    ✅ Surface Laptop Studio 2 เป็นอุปกรณ์ Surface รุ่นสุดท้ายที่มีดีไซน์แหวกแนว
    - ทำให้ โอกาสที่ Microsoft จะกลับไปพัฒนาอุปกรณ์ที่มีดีไซน์แปลกใหม่มีน้อยลง

    https://www.neowin.net/news/microsoft-kills-another-quirky-surface-without-a-replacement/
    Microsoft ยุติการผลิต Surface Laptop Studio 2 โดยไม่มีรุ่นทดแทน Microsoft ได้ ยุติการผลิต Surface Laptop Studio 2 ซึ่งเป็น แล็ปท็อปที่ทรงพลังที่สุดของบริษัท และมีดีไซน์บานพับจอที่เป็นเอกลักษณ์ อย่างไรก็ตาม ไม่มีการเปิดตัวรุ่นทดแทน ทำให้หลายฝ่ายตั้งคำถามเกี่ยวกับอนาคตของผลิตภัณฑ์ Surface ✅ Microsoft หยุดการผลิต Surface Laptop Studio 2 ตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม 2025 - สินค้าจะ หมดสต็อกในร้านค้าต่าง ๆ และจะไม่มีการผลิตเพิ่มเติม ✅ Surface Laptop Studio 2 จะยังคงได้รับการสนับสนุนจนถึงปี 2029 - ผู้ใช้ยังสามารถ รับการอัปเดตเฟิร์มแวร์และระบบปฏิบัติการต่อไป ✅ Microsoft ค่อย ๆ ยุติการผลิตอุปกรณ์ Surface ที่มีดีไซน์แปลกใหม่ - ก่อนหน้านี้ Surface Studio, Surface Duo, Surface Book และ Surface Neo ก็ถูกยกเลิกไปแล้ว ✅ Surface รุ่นใหม่เน้นไปที่ดีไซน์มาตรฐานมากขึ้น - Microsoft มุ่งเน้นไปที่แล็ปท็อปและแท็บเล็ตที่ใช้งานทั่วไปมากกว่าการออกแบบที่แปลกใหม่ ✅ Surface Laptop Studio 2 เป็นอุปกรณ์ Surface รุ่นสุดท้ายที่มีดีไซน์แหวกแนว - ทำให้ โอกาสที่ Microsoft จะกลับไปพัฒนาอุปกรณ์ที่มีดีไซน์แปลกใหม่มีน้อยลง https://www.neowin.net/news/microsoft-kills-another-quirky-surface-without-a-replacement/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft kills another quirky Surface without a replacement
    Another Surface bites the dust. This time, Microsoft killed its most powerful laptop with a quirky hinge without providing a replacement.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 86 มุมมอง 0 รีวิว
  • Oniux: เครื่องมือใหม่จาก Tor Project ที่ช่วยปกป้องแอปพลิเคชัน Linux จากการสอดแนม

    Tor Project ซึ่งเป็นที่รู้จักจากการพัฒนา Tor Browser ได้เปิดตัว Oniux ซึ่งเป็นเครื่องมือใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ รันแอปพลิเคชัน Linux ผ่าน Tor ได้ในระดับเคอร์เนล ทำให้มีความเป็นส่วนตัวสูงขึ้นและลดความเสี่ยงจากการรั่วไหลของข้อมูล

    ✅ Oniux ช่วยให้แอปพลิเคชัน Linux สามารถรันผ่าน Tor ได้โดยตรง
    - ใช้ Linux namespace เพื่อแยกทรัพยากรระบบและป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล

    ✅ ช่วยลดปัญหาการตั้งค่าพร็อกซีผิดพลาด
    - ทำให้ ผู้ใช้ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการตั้งค่าที่อาจทำให้ข้อมูลรั่วไหล

    ✅ Oniux มีความสามารถเหนือกว่า Torsocks ซึ่งเป็นเครื่องมือเก่าของ Tor Project
    - สามารถ ทำงานกับทุกแอปพลิเคชัน ไม่จำกัดเฉพาะแอปที่ใช้ libc

    ✅ ป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลผ่าน system calls โดยใช้ raw assembly
    - ทำให้ แอปพลิเคชันที่เป็นอันตรายไม่สามารถส่งข้อมูลออกไปได้

    ✅ สามารถติดตั้ง Oniux ได้ง่ายผ่าน Rust
    - ใช้คำสั่ง cargo install --git https://gitlab.torproject.org/tpo/core/oniux oniux@0.4.0

    ‼️ Oniux ยังอยู่ในช่วงทดลองและอาจมีข้อบกพร่อง
    - แม้จะมีข้อดีเหนือกว่า Torsocks แต่ยังต้องได้รับการทดสอบเพิ่มเติม

    ‼️ การใช้ Oniux อาจต้องมีความรู้เกี่ยวกับ Linux และ Tor
    - ผู้ใช้ทั่วไป อาจต้องศึกษาเพิ่มเติมก่อนใช้งาน

    https://www.neowin.net/news/the-tor-projects-new-oniux-tool-protects-all-your-linux-apps-from-snoopers/
    Oniux: เครื่องมือใหม่จาก Tor Project ที่ช่วยปกป้องแอปพลิเคชัน Linux จากการสอดแนม Tor Project ซึ่งเป็นที่รู้จักจากการพัฒนา Tor Browser ได้เปิดตัว Oniux ซึ่งเป็นเครื่องมือใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ รันแอปพลิเคชัน Linux ผ่าน Tor ได้ในระดับเคอร์เนล ทำให้มีความเป็นส่วนตัวสูงขึ้นและลดความเสี่ยงจากการรั่วไหลของข้อมูล ✅ Oniux ช่วยให้แอปพลิเคชัน Linux สามารถรันผ่าน Tor ได้โดยตรง - ใช้ Linux namespace เพื่อแยกทรัพยากรระบบและป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล ✅ ช่วยลดปัญหาการตั้งค่าพร็อกซีผิดพลาด - ทำให้ ผู้ใช้ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการตั้งค่าที่อาจทำให้ข้อมูลรั่วไหล ✅ Oniux มีความสามารถเหนือกว่า Torsocks ซึ่งเป็นเครื่องมือเก่าของ Tor Project - สามารถ ทำงานกับทุกแอปพลิเคชัน ไม่จำกัดเฉพาะแอปที่ใช้ libc ✅ ป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลผ่าน system calls โดยใช้ raw assembly - ทำให้ แอปพลิเคชันที่เป็นอันตรายไม่สามารถส่งข้อมูลออกไปได้ ✅ สามารถติดตั้ง Oniux ได้ง่ายผ่าน Rust - ใช้คำสั่ง cargo install --git https://gitlab.torproject.org/tpo/core/oniux oniux@0.4.0 ‼️ Oniux ยังอยู่ในช่วงทดลองและอาจมีข้อบกพร่อง - แม้จะมีข้อดีเหนือกว่า Torsocks แต่ยังต้องได้รับการทดสอบเพิ่มเติม ‼️ การใช้ Oniux อาจต้องมีความรู้เกี่ยวกับ Linux และ Tor - ผู้ใช้ทั่วไป อาจต้องศึกษาเพิ่มเติมก่อนใช้งาน https://www.neowin.net/news/the-tor-projects-new-oniux-tool-protects-all-your-linux-apps-from-snoopers/
    WWW.NEOWIN.NET
    The Tor Project's new Oniux tool protects all your Linux apps from snoopers
    The Tor Project has announced a new program for Linux users which routes individual programs through Tor very securly, here's how to install it.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 125 มุมมอง 0 รีวิว
  • Instagram ค้างบน iPhone: วิธีแก้ไขและป้องกันปัญหา

    ผู้ใช้ iPhone หลายคนพบว่า Instagram ค้างหรือทำงานช้าลง ซึ่งอาจเกิดจาก แอปเวอร์ชันเก่า, ปัญหา iOS, แคชที่มากเกินไป หรือพื้นที่เก็บข้อมูลไม่เพียงพอ คู่มือนี้จะช่วยให้คุณ แก้ไขปัญหาและป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก

    ✅ แอป Instagram เวอร์ชันเก่า
    - แอปที่ไม่ได้อัปเดต อาจไม่เข้ากันกับ iOS เวอร์ชันล่าสุด

    ✅ iOS มีบั๊กหรือข้อผิดพลาด
    - อัปเดต iOS อาจทำให้เกิดปัญหาชั่วคราวกับแอปบางตัว

    ✅ แคชของแอปมีมากเกินไป
    - ข้อมูลที่สะสมในแอป อาจทำให้การทำงานช้าลง

    ✅ พื้นที่เก็บข้อมูลไม่เพียงพอ
    - หาก iPhone มีพื้นที่เหลือน้อย อาจส่งผลต่อการทำงานของแอป

    ✅ แอปอื่นรบกวนการทำงานของ Instagram
    - แอปที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง อาจทำให้ Instagram ค้าง

    ✅ ปัญหาการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
    - สัญญาณ Wi-Fi หรือเครือข่ายมือถือที่ไม่เสถียร อาจทำให้แอปโหลดช้า

    https://computercity.com/internet/social-media/instagram-freezing-iphone
    Instagram ค้างบน iPhone: วิธีแก้ไขและป้องกันปัญหา ผู้ใช้ iPhone หลายคนพบว่า Instagram ค้างหรือทำงานช้าลง ซึ่งอาจเกิดจาก แอปเวอร์ชันเก่า, ปัญหา iOS, แคชที่มากเกินไป หรือพื้นที่เก็บข้อมูลไม่เพียงพอ คู่มือนี้จะช่วยให้คุณ แก้ไขปัญหาและป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก ✅ แอป Instagram เวอร์ชันเก่า - แอปที่ไม่ได้อัปเดต อาจไม่เข้ากันกับ iOS เวอร์ชันล่าสุด ✅ iOS มีบั๊กหรือข้อผิดพลาด - อัปเดต iOS อาจทำให้เกิดปัญหาชั่วคราวกับแอปบางตัว ✅ แคชของแอปมีมากเกินไป - ข้อมูลที่สะสมในแอป อาจทำให้การทำงานช้าลง ✅ พื้นที่เก็บข้อมูลไม่เพียงพอ - หาก iPhone มีพื้นที่เหลือน้อย อาจส่งผลต่อการทำงานของแอป ✅ แอปอื่นรบกวนการทำงานของ Instagram - แอปที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง อาจทำให้ Instagram ค้าง ✅ ปัญหาการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต - สัญญาณ Wi-Fi หรือเครือข่ายมือถือที่ไม่เสถียร อาจทำให้แอปโหลดช้า https://computercity.com/internet/social-media/instagram-freezing-iphone
    COMPUTERCITY.COM
    Instagram Freezing On iPhone: Troubleshooting and Solutions
    Instagram freezing on your iPhone can be really frustrating. Not only does it interrupt your social media experience, but it can also make your phone lag. The
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 161 มุมมอง 0 รีวิว
  • วิธีแก้ไขปัญหา 100% Disk Usage บน Windows 11: คู่มือฉบับสมบูรณ์

    หากคอมพิวเตอร์ของคุณทำงานช้า ไม่ตอบสนอง หรือมีอาการกระตุก และเมื่อเปิด Task Manager พบว่า Disk Usage อยู่ที่ 100% ปัญหานี้อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น Windows Search Indexing, SysMain (Superfetch), Antivirus ที่ทำงานหนักเกินไป, ไดรเวอร์ที่ล้าสมัย หรือแอปพลิเคชันที่ทำงานเบื้องหลังมากเกินไป

    ✅ ตรวจสอบ Task Manager เพื่อดูว่าแอปใดใช้ดิสก์มากที่สุด
    - กด Ctrl + Shift + Esc เพื่อเปิด Task Manager
    - ไปที่แท็บ Processes และเรียงลำดับตาม Disk Usage

    ✅ ปิด Windows Search Indexing ชั่วคราวหรือถาวร
    - ใช้คำสั่ง net.exe stop "Windows Search" ใน Command Prompt
    - หรือไปที่ Services.msc แล้วปิด Windows Search

    ✅ ปิด SysMain (Superfetch) ซึ่งอาจทำให้ดิสก์ทำงานหนักเกินไป
    - ไปที่ Services.msc และปิด SysMain

    ✅ ตรวจสอบว่า Antivirus กำลังใช้ทรัพยากรดิสก์มากเกินไป
    - ลองปิด Real-time Protection ชั่วคราวเพื่อดูว่าปัญหาดีขึ้นหรือไม่

    ✅ อัปเดตไดรเวอร์และ Windows ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด
    - ไปที่ Device Manager และอัปเดต Storage Controllers และ Disk Drives

    ✅ ปิดแอปพลิเคชันที่เปิดใช้งานตอนเริ่มต้นระบบ
    - ไปที่ Task Manager > Startup Apps และปิดแอปที่ไม่จำเป็น

    ✅ รัน System File Checker (SFC) และ DISM เพื่อซ่อมแซมไฟล์ระบบที่เสียหาย
    - ใช้คำสั่ง sfc /scannow และ DISM /Online /Cleanup-Image /RestoreHealth

    ✅ เปลี่ยนไปใช้ High Performance Power Plan
    - ไปที่ Control Panel > Power Options และเลือก High Performance

    ✅ ปิดหรือจำกัดการซิงค์ของ OneDrive
    - ไปที่ OneDrive Settings > Sync and Backup และปิดการซิงค์ที่ไม่จำเป็น

    ✅ ปิดแอปที่ทำงานเบื้องหลัง
    - ไปที่ Settings > Apps > Installed Apps และปิด Background App Permissions

    https://computercity.com/software/windows/100-disk-usage-on-windows-11
    วิธีแก้ไขปัญหา 100% Disk Usage บน Windows 11: คู่มือฉบับสมบูรณ์ หากคอมพิวเตอร์ของคุณทำงานช้า ไม่ตอบสนอง หรือมีอาการกระตุก และเมื่อเปิด Task Manager พบว่า Disk Usage อยู่ที่ 100% ปัญหานี้อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น Windows Search Indexing, SysMain (Superfetch), Antivirus ที่ทำงานหนักเกินไป, ไดรเวอร์ที่ล้าสมัย หรือแอปพลิเคชันที่ทำงานเบื้องหลังมากเกินไป ✅ ตรวจสอบ Task Manager เพื่อดูว่าแอปใดใช้ดิสก์มากที่สุด - กด Ctrl + Shift + Esc เพื่อเปิด Task Manager - ไปที่แท็บ Processes และเรียงลำดับตาม Disk Usage ✅ ปิด Windows Search Indexing ชั่วคราวหรือถาวร - ใช้คำสั่ง net.exe stop "Windows Search" ใน Command Prompt - หรือไปที่ Services.msc แล้วปิด Windows Search ✅ ปิด SysMain (Superfetch) ซึ่งอาจทำให้ดิสก์ทำงานหนักเกินไป - ไปที่ Services.msc และปิด SysMain ✅ ตรวจสอบว่า Antivirus กำลังใช้ทรัพยากรดิสก์มากเกินไป - ลองปิด Real-time Protection ชั่วคราวเพื่อดูว่าปัญหาดีขึ้นหรือไม่ ✅ อัปเดตไดรเวอร์และ Windows ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด - ไปที่ Device Manager และอัปเดต Storage Controllers และ Disk Drives ✅ ปิดแอปพลิเคชันที่เปิดใช้งานตอนเริ่มต้นระบบ - ไปที่ Task Manager > Startup Apps และปิดแอปที่ไม่จำเป็น ✅ รัน System File Checker (SFC) และ DISM เพื่อซ่อมแซมไฟล์ระบบที่เสียหาย - ใช้คำสั่ง sfc /scannow และ DISM /Online /Cleanup-Image /RestoreHealth ✅ เปลี่ยนไปใช้ High Performance Power Plan - ไปที่ Control Panel > Power Options และเลือก High Performance ✅ ปิดหรือจำกัดการซิงค์ของ OneDrive - ไปที่ OneDrive Settings > Sync and Backup และปิดการซิงค์ที่ไม่จำเป็น ✅ ปิดแอปที่ทำงานเบื้องหลัง - ไปที่ Settings > Apps > Installed Apps และปิด Background App Permissions https://computercity.com/software/windows/100-disk-usage-on-windows-11
    COMPUTERCITY.COM
    How To Fix 100% Disk Usage on Windows 11: Step-by-Step Guide
    If your Windows 11 PC is slow, unresponsive, or constantly lagging, and Task Manager shows “100% Disk Usage,” you're not alone. This frustrating issue affects
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 263 มุมมอง 0 รีวิว
  • MSI เปิดตัวซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI สำหรับเดสก์ท็อปที่ Computex 2025

    MSI เตรียมเปิดตัว EdgeXpert MS-C931 ซึ่งเป็น ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI สำหรับเดสก์ท็อป ที่ใช้ แพลตฟอร์ม Nvidia DGX Spark โดยอุปกรณ์นี้มาพร้อมกับ GB10 Grace Blackwell Superchip ที่สามารถประมวลผลได้ถึง 1,000 AI TOPS FP4

    ✅ ใช้ Nvidia GB10 Grace Blackwell Superchip
    - ประกอบด้วย สถาปัตยกรรม Blackwell GPU และ Tensor Cores รุ่นที่ 5

    ✅ รองรับ NVLink-C2C เชื่อมต่อกับ Nvidia Grace CPU
    - ใช้ สถาปัตยกรรม Arm พร้อม 20 คอร์ที่ประหยัดพลังงาน

    ✅ มาพร้อมกับ ConnectX 7 networking และหน่วยความจำรวม 128GB
    - รองรับ LLM ขนาดสูงสุด 200 พันล้านพารามิเตอร์ และ 405 พันล้านพารามิเตอร์เมื่อใช้สองชิป

    ✅ สามารถรองรับ NVMe storage สูงสุด 4TB
    - ช่วยให้ การประมวลผลโมเดล AI มีประสิทธิภาพสูงขึ้น

    ✅ มาพร้อมกับซอฟต์แวร์ AI ของ Nvidia ที่รองรับโมเดลจาก DeepSeek, Meta และ Google
    - ช่วยให้ นักพัฒนาสามารถใช้งานโมเดล AI ได้ง่ายขึ้น

    https://www.tomshardware.com/desktops/mini-pcs/msi-to-unveil-desktop-ai-supercomputer-at-computex-2025-powered-by-nvidia-dgx
    MSI เปิดตัวซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI สำหรับเดสก์ท็อปที่ Computex 2025 MSI เตรียมเปิดตัว EdgeXpert MS-C931 ซึ่งเป็น ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI สำหรับเดสก์ท็อป ที่ใช้ แพลตฟอร์ม Nvidia DGX Spark โดยอุปกรณ์นี้มาพร้อมกับ GB10 Grace Blackwell Superchip ที่สามารถประมวลผลได้ถึง 1,000 AI TOPS FP4 ✅ ใช้ Nvidia GB10 Grace Blackwell Superchip - ประกอบด้วย สถาปัตยกรรม Blackwell GPU และ Tensor Cores รุ่นที่ 5 ✅ รองรับ NVLink-C2C เชื่อมต่อกับ Nvidia Grace CPU - ใช้ สถาปัตยกรรม Arm พร้อม 20 คอร์ที่ประหยัดพลังงาน ✅ มาพร้อมกับ ConnectX 7 networking และหน่วยความจำรวม 128GB - รองรับ LLM ขนาดสูงสุด 200 พันล้านพารามิเตอร์ และ 405 พันล้านพารามิเตอร์เมื่อใช้สองชิป ✅ สามารถรองรับ NVMe storage สูงสุด 4TB - ช่วยให้ การประมวลผลโมเดล AI มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ✅ มาพร้อมกับซอฟต์แวร์ AI ของ Nvidia ที่รองรับโมเดลจาก DeepSeek, Meta และ Google - ช่วยให้ นักพัฒนาสามารถใช้งานโมเดล AI ได้ง่ายขึ้น https://www.tomshardware.com/desktops/mini-pcs/msi-to-unveil-desktop-ai-supercomputer-at-computex-2025-powered-by-nvidia-dgx
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    MSI to unveil desktop AI supercomputer at Computex 2025, powered by Nvidia DGX
    MSI is also expanding its deskstop system and unveiling a new motherboard
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 176 มุมมอง 0 รีวิว
  • Copilot Vision อัปเดตใหม่: ช่วยนำทางและแนะนำการใช้งาน Windows 11 ได้ดีขึ้น

    Microsoft ได้เปิดตัว Copilot Vision รุ่นอัปเดตใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ แชร์หน้าต่างแอปและขอให้ Copilot นำทางเพื่อทำงานต่าง ๆ ได้ เช่น เปิดใช้งาน Night Light หรือเพิ่มข้อความในวิดีโอผ่าน Clipchamp นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ Copilot Vision สามารถทำงานร่วมกับสองแอปพร้อมกัน

    ✅ สามารถแชร์หน้าต่างแอปและให้ Copilot นำทางเพื่อทำงานต่าง ๆ ได้
    - เช่น เปิดใช้งาน Night Light หรือเพิ่มข้อความในวิดีโอผ่าน Clipchamp

    ✅ Copilot Vision สามารถทำงานร่วมกับสองแอปพร้อมกัน
    - เช่น เปรียบเทียบรายการแพ็คของสำหรับการเดินทางกับรายการออนไลน์

    ✅ การอัปเดตนี้เปิดให้ใช้งานใน Windows Insider เวอร์ชัน 1.25044.92 หรือสูงกว่า
    - แต่ Copilot Vision พร้อมฟีเจอร์ Highlights และ Dual-App Support มีให้ใช้เฉพาะในสหรัฐฯ เท่านั้น

    ✅ Copilot สามารถค้นหาไฟล์ใน Windows 11 และตอบคำถามเกี่ยวกับแอปที่กำลังทำงานอยู่
    - ช่วยให้ การใช้งาน Windows 11 มีประสิทธิภาพมากขึ้น

    ✅ Copilot App มีตัวเลือกใหม่ในเมนูคลิกขวาเพื่อให้ผู้ใช้สามารถถาม Copilot เกี่ยวกับไฟล์ได้เร็วขึ้น
    - สามารถ ปิดฟีเจอร์นี้ได้โดยแก้ไขรีจิสทรีของระบบ

    https://www.neowin.net/news/copilot-vision-can-now-show-you-how-to-do-stuff-in-windows-11/
    Copilot Vision อัปเดตใหม่: ช่วยนำทางและแนะนำการใช้งาน Windows 11 ได้ดีขึ้น Microsoft ได้เปิดตัว Copilot Vision รุ่นอัปเดตใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ แชร์หน้าต่างแอปและขอให้ Copilot นำทางเพื่อทำงานต่าง ๆ ได้ เช่น เปิดใช้งาน Night Light หรือเพิ่มข้อความในวิดีโอผ่าน Clipchamp นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ Copilot Vision สามารถทำงานร่วมกับสองแอปพร้อมกัน ✅ สามารถแชร์หน้าต่างแอปและให้ Copilot นำทางเพื่อทำงานต่าง ๆ ได้ - เช่น เปิดใช้งาน Night Light หรือเพิ่มข้อความในวิดีโอผ่าน Clipchamp ✅ Copilot Vision สามารถทำงานร่วมกับสองแอปพร้อมกัน - เช่น เปรียบเทียบรายการแพ็คของสำหรับการเดินทางกับรายการออนไลน์ ✅ การอัปเดตนี้เปิดให้ใช้งานใน Windows Insider เวอร์ชัน 1.25044.92 หรือสูงกว่า - แต่ Copilot Vision พร้อมฟีเจอร์ Highlights และ Dual-App Support มีให้ใช้เฉพาะในสหรัฐฯ เท่านั้น ✅ Copilot สามารถค้นหาไฟล์ใน Windows 11 และตอบคำถามเกี่ยวกับแอปที่กำลังทำงานอยู่ - ช่วยให้ การใช้งาน Windows 11 มีประสิทธิภาพมากขึ้น ✅ Copilot App มีตัวเลือกใหม่ในเมนูคลิกขวาเพื่อให้ผู้ใช้สามารถถาม Copilot เกี่ยวกับไฟล์ได้เร็วขึ้น - สามารถ ปิดฟีเจอร์นี้ได้โดยแก้ไขรีจิสทรีของระบบ https://www.neowin.net/news/copilot-vision-can-now-show-you-how-to-do-stuff-in-windows-11/
    WWW.NEOWIN.NET
    Copilot Vision can now show you how to do stuff in Windows 11
    Microsoft is upgrading Copilot Vision on Windows with a very helpful new feature and the ability to work with more than one app.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 115 มุมมอง 0 รีวิว
  • หากคุณเพิ่งติดตั้งหรืออัปเกรดเป็น Windows 11 มีหลายสิ่งที่สามารถช่วยให้การใช้งานของคุณราบรื่นขึ้นและลดความยุ่งยาก โดยบทความนี้แนะนำ 5 ขั้นตอนสำคัญ ที่ควรทำหลังจากติดตั้ง Windows 11

    ✅ สำรองคีย์ BitLocker เพื่อป้องกันการล็อกข้อมูลโดยไม่ตั้งใจ
    - Windows 11 เวอร์ชันล่าสุด เข้ารหัสไดรฟ์โดยอัตโนมัติ โดยไม่แจ้งเตือนผู้ใช้
    - คีย์ BitLocker ถูกเก็บไว้ใน บัญชี Microsoft หากคุณถูกล็อกออกจากบัญชี อาจไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้

    วิธีสำรองคีย์:
    1) ลงชื่อเข้าใช้ account.microsoft.com
    2) ไปที่แท็บ Devices และเลือกอุปกรณ์ของคุณ
    3) คลิก Manage Recovery Keys และบันทึกคีย์ไว้ในที่ปลอดภัย

    ✅ ล้างเมนูคลิกขวา (Context Menu) เพื่อลดความยุ่งเหยิง
    - Windows 11 มีตัวเลือกที่ไม่จำเป็น เช่น "Open in Paint / Photos / Clipchamp / Ask Copilot"
    - สามารถลบออกได้โดย แก้ไขรีจิสทรี หรือ ถอนการติดตั้งแอปที่ไม่ต้องการ

    ✅ เปิดใช้งาน "End Task" เพื่อปิดโปรแกรมที่ค้างได้ง่ายขึ้น
    - ฟีเจอร์นี้ช่วยให้สามารถ ปิดโปรแกรมที่ไม่ตอบสนองได้โดยตรงจาก Taskbar

    วิธีเปิดใช้งาน:
    1) ไปที่ Settings > System > For Developers
    2) เปิดใช้งาน End Task

    ✅ ปิดโฆษณาและการแจ้งเตือนที่ไม่จำเป็น
    - Windows 11 มีการแสดงโฆษณาและคำแนะนำที่อาจรบกวนการใช้งาน

    วิธีปิด:
    1) ไปที่ Settings > Personalization > Start และปิด "Show recommendations for tips, shortcuts, new apps, and more"
    2) ไปที่ Settings > Privacy & Security > Diagnostics & Feedback และตั้งค่า "Feedback frequency" เป็น Never

    ✅ ปิดการสำรองข้อมูลอัตโนมัติของ OneDrive
    - Windows 11 เปิดใช้งานการสำรองข้อมูล OneDrive โดยอัตโนมัติ ซึ่งอาจทำให้ไฟล์บนเดสก์ท็อปถูกย้ายไปยัง OneDrive

    วิธีปิด:
    1) คลิกไอคอน OneDrive ใน Taskbar
    2) ไปที่ Settings > Sync and Backup > Manage Backup
    3) ปิดการสำรองข้อมูลทั้งหมด

    https://www.neowin.net/guides/do-these-five-important-things-after-installing-windows-11/
    หากคุณเพิ่งติดตั้งหรืออัปเกรดเป็น Windows 11 มีหลายสิ่งที่สามารถช่วยให้การใช้งานของคุณราบรื่นขึ้นและลดความยุ่งยาก โดยบทความนี้แนะนำ 5 ขั้นตอนสำคัญ ที่ควรทำหลังจากติดตั้ง Windows 11 ✅ สำรองคีย์ BitLocker เพื่อป้องกันการล็อกข้อมูลโดยไม่ตั้งใจ - Windows 11 เวอร์ชันล่าสุด เข้ารหัสไดรฟ์โดยอัตโนมัติ โดยไม่แจ้งเตือนผู้ใช้ - คีย์ BitLocker ถูกเก็บไว้ใน บัญชี Microsoft หากคุณถูกล็อกออกจากบัญชี อาจไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ วิธีสำรองคีย์: 1) ลงชื่อเข้าใช้ account.microsoft.com 2) ไปที่แท็บ Devices และเลือกอุปกรณ์ของคุณ 3) คลิก Manage Recovery Keys และบันทึกคีย์ไว้ในที่ปลอดภัย ✅ ล้างเมนูคลิกขวา (Context Menu) เพื่อลดความยุ่งเหยิง - Windows 11 มีตัวเลือกที่ไม่จำเป็น เช่น "Open in Paint / Photos / Clipchamp / Ask Copilot" - สามารถลบออกได้โดย แก้ไขรีจิสทรี หรือ ถอนการติดตั้งแอปที่ไม่ต้องการ ✅ เปิดใช้งาน "End Task" เพื่อปิดโปรแกรมที่ค้างได้ง่ายขึ้น - ฟีเจอร์นี้ช่วยให้สามารถ ปิดโปรแกรมที่ไม่ตอบสนองได้โดยตรงจาก Taskbar วิธีเปิดใช้งาน: 1) ไปที่ Settings > System > For Developers 2) เปิดใช้งาน End Task ✅ ปิดโฆษณาและการแจ้งเตือนที่ไม่จำเป็น - Windows 11 มีการแสดงโฆษณาและคำแนะนำที่อาจรบกวนการใช้งาน วิธีปิด: 1) ไปที่ Settings > Personalization > Start และปิด "Show recommendations for tips, shortcuts, new apps, and more" 2) ไปที่ Settings > Privacy & Security > Diagnostics & Feedback และตั้งค่า "Feedback frequency" เป็น Never ✅ ปิดการสำรองข้อมูลอัตโนมัติของ OneDrive - Windows 11 เปิดใช้งานการสำรองข้อมูล OneDrive โดยอัตโนมัติ ซึ่งอาจทำให้ไฟล์บนเดสก์ท็อปถูกย้ายไปยัง OneDrive วิธีปิด: 1) คลิกไอคอน OneDrive ใน Taskbar 2) ไปที่ Settings > Sync and Backup > Manage Backup 3) ปิดการสำรองข้อมูลทั้งหมด https://www.neowin.net/guides/do-these-five-important-things-after-installing-windows-11/
    WWW.NEOWIN.NET
    Do these five important things after installing Windows 11
    Just installed Windows 11? Make sure to do these five important things to improve the user experience.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 244 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft แก้ไขปัญหาตัวตรวจสอบการสะกดคำใน Edge หลังจากที่ Microsoft ปล่อย Edge 136 เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม พบว่า Microsoft Editor ซึ่งเป็นตัวตรวจสอบการสะกดคำใน Edge หยุดทำงาน ทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถรับคำแนะนำเกี่ยวกับคำที่สะกดผิดได้

    ล่าสุด Microsoft ได้ออก Edge เวอร์ชัน 136.0.3240.64 เพื่อแก้ไขปัญหานี้ พร้อมกับ แพตช์ความปลอดภัยสำหรับช่องโหว่ CVE-2025-4372 ซึ่งเป็นช่องโหว่ใน WebAudio ของ Chromium ที่อาจถูกใช้ในการโจมตีผ่าน HTML ที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ

    ✅ Microsoft แก้ไขปัญหาที่ทำให้ Microsoft Editor หยุดทำงาน
    - ผู้ใช้สามารถ รับคำแนะนำเกี่ยวกับคำที่สะกดผิดได้อีกครั้ง

    ✅ Edge เวอร์ชัน 136.0.3240.64 มาพร้อมกับแพตช์ความปลอดภัยสำหรับ CVE-2025-4372
    - ช่องโหว่นี้เกี่ยวข้องกับ WebAudio ใน Chromium

    ✅ Microsoft Editor ส่งข้อมูลที่พิมพ์ไปยังเซิร์ฟเวอร์ของ Microsoft เพื่อประมวลผลและตรวจสอบการสะกดคำ
    - ฟีเจอร์นี้ เปิดใช้งานโดยค่าเริ่มต้น

    ✅ ผู้ใช้สามารถปิด Microsoft Editor ได้หากกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว
    - ไปที่ Settings > Languages > Writing Assistance > Enable grammar and spellcheck assistance

    ✅ Edge ยังคงเป็นเบราว์เซอร์เดสก์ท็อปที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับสอง
    - รองจาก Google Chrome

    https://www.neowin.net/news/microsoft-fixes-broken-spellchecker-in-edge/
    Microsoft แก้ไขปัญหาตัวตรวจสอบการสะกดคำใน Edge หลังจากที่ Microsoft ปล่อย Edge 136 เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม พบว่า Microsoft Editor ซึ่งเป็นตัวตรวจสอบการสะกดคำใน Edge หยุดทำงาน ทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถรับคำแนะนำเกี่ยวกับคำที่สะกดผิดได้ ล่าสุด Microsoft ได้ออก Edge เวอร์ชัน 136.0.3240.64 เพื่อแก้ไขปัญหานี้ พร้อมกับ แพตช์ความปลอดภัยสำหรับช่องโหว่ CVE-2025-4372 ซึ่งเป็นช่องโหว่ใน WebAudio ของ Chromium ที่อาจถูกใช้ในการโจมตีผ่าน HTML ที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ ✅ Microsoft แก้ไขปัญหาที่ทำให้ Microsoft Editor หยุดทำงาน - ผู้ใช้สามารถ รับคำแนะนำเกี่ยวกับคำที่สะกดผิดได้อีกครั้ง ✅ Edge เวอร์ชัน 136.0.3240.64 มาพร้อมกับแพตช์ความปลอดภัยสำหรับ CVE-2025-4372 - ช่องโหว่นี้เกี่ยวข้องกับ WebAudio ใน Chromium ✅ Microsoft Editor ส่งข้อมูลที่พิมพ์ไปยังเซิร์ฟเวอร์ของ Microsoft เพื่อประมวลผลและตรวจสอบการสะกดคำ - ฟีเจอร์นี้ เปิดใช้งานโดยค่าเริ่มต้น ✅ ผู้ใช้สามารถปิด Microsoft Editor ได้หากกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว - ไปที่ Settings > Languages > Writing Assistance > Enable grammar and spellcheck assistance ✅ Edge ยังคงเป็นเบราว์เซอร์เดสก์ท็อปที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับสอง - รองจาก Google Chrome https://www.neowin.net/news/microsoft-fixes-broken-spellchecker-in-edge/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft fixes broken spellchecker in Edge
    Microsoft Edge received a small update, which addresses security issues and bugs with the built-in Microsoft Editor spellchecker.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 154 มุมมอง 0 รีวิว
  • Windows 11 กำลังได้รับการปรับปรุงเมนู Start ครั้งใหญ่ Microsoft ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับ การออกแบบใหม่ของเมนู Start ใน Windows 11 ซึ่งได้รับการพัฒนาโดยใช้ แนวทาง 4 ประการ ได้แก่ การเข้าถึงแอปได้ง่าย, การปรับแต่งตามผู้ใช้, การลดจำนวนคลิกที่ไม่จำเป็น และการรักษาความคุ้นเคยของเมนู

    การออกแบบใหม่นี้ได้รับ ความคิดเห็นจากผู้ใช้กว่า 300 คน ซึ่งช่วยให้ Microsoft ปรับปรุงการค้นหาแอป, เพิ่มคำแนะนำที่ชาญฉลาด และให้ผู้ใช้สามารถควบคุมการตั้งค่าเมนู Start ได้มากขึ้น

    ✅ Microsoft ใช้แนวทาง 4 ประการในการออกแบบเมนู Start ใหม่
    - การเข้าถึงแอปได้ง่าย, การปรับแต่งตามผู้ใช้, การลดจำนวนคลิกที่ไม่จำเป็น และการรักษาความคุ้นเคยของเมนู

    ✅ ผู้ใช้กว่า 300 คนมีส่วนร่วมในการพัฒนาเมนู Start ใหม่
    - ช่วยให้ Microsoft ปรับปรุงการค้นหาแอปและเพิ่มคำแนะนำที่ชาญฉลาด

    ✅ เมนู Start ใหม่มีการจัดเรียงแอปแบบมุมมองเดียว
    - แอปที่ปักหมุดอยู่ด้านบน, คำแนะนำอยู่ตรงกลาง และหมวดหมู่แอปแบบไดนามิกอยู่ด้านล่าง

    ✅ ผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าต้องการเห็นแอปที่ปักหมุดหรือคำแนะนำมากกว่า
    - เพิ่มความสามารถในการปรับแต่งเมนู Start ตามความต้องการ

    ✅ มีการแยกเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับ Phone Link ออกเป็นส่วนเฉพาะ
    - ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลจากโทรศัพท์ได้ง่ายขึ้น

    https://www.neowin.net/news/windows-11-is-getting-a-new-start-menu-here-is-how-it-was-made-including-prototypes/
    Windows 11 กำลังได้รับการปรับปรุงเมนู Start ครั้งใหญ่ Microsoft ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับ การออกแบบใหม่ของเมนู Start ใน Windows 11 ซึ่งได้รับการพัฒนาโดยใช้ แนวทาง 4 ประการ ได้แก่ การเข้าถึงแอปได้ง่าย, การปรับแต่งตามผู้ใช้, การลดจำนวนคลิกที่ไม่จำเป็น และการรักษาความคุ้นเคยของเมนู การออกแบบใหม่นี้ได้รับ ความคิดเห็นจากผู้ใช้กว่า 300 คน ซึ่งช่วยให้ Microsoft ปรับปรุงการค้นหาแอป, เพิ่มคำแนะนำที่ชาญฉลาด และให้ผู้ใช้สามารถควบคุมการตั้งค่าเมนู Start ได้มากขึ้น ✅ Microsoft ใช้แนวทาง 4 ประการในการออกแบบเมนู Start ใหม่ - การเข้าถึงแอปได้ง่าย, การปรับแต่งตามผู้ใช้, การลดจำนวนคลิกที่ไม่จำเป็น และการรักษาความคุ้นเคยของเมนู ✅ ผู้ใช้กว่า 300 คนมีส่วนร่วมในการพัฒนาเมนู Start ใหม่ - ช่วยให้ Microsoft ปรับปรุงการค้นหาแอปและเพิ่มคำแนะนำที่ชาญฉลาด ✅ เมนู Start ใหม่มีการจัดเรียงแอปแบบมุมมองเดียว - แอปที่ปักหมุดอยู่ด้านบน, คำแนะนำอยู่ตรงกลาง และหมวดหมู่แอปแบบไดนามิกอยู่ด้านล่าง ✅ ผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าต้องการเห็นแอปที่ปักหมุดหรือคำแนะนำมากกว่า - เพิ่มความสามารถในการปรับแต่งเมนู Start ตามความต้องการ ✅ มีการแยกเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับ Phone Link ออกเป็นส่วนเฉพาะ - ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลจากโทรศัพท์ได้ง่ายขึ้น https://www.neowin.net/news/windows-11-is-getting-a-new-start-menu-here-is-how-it-was-made-including-prototypes/
    WWW.NEOWIN.NET
    Windows 11 is getting a new Start menu, here is how it was made, including prototypes
    This week, Microsoft announced a big redesign for Windows 11's Start menu. Here is how it was made, plus a bunch of prototypes.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 80 มุมมอง 0 รีวิว
  • บุคลากรทางการแพทย์กำลังทำผิดพลาดด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์มากขึ้น รายงานจาก Netskope พบว่า บุคลากรทางการแพทย์จำนวนมากกำลังทำให้ข้อมูลขององค์กรตกอยู่ในความเสี่ยง โดยพวกเขามัก อัปโหลดข้อมูลที่มีการควบคุมไปยังแพลตฟอร์มที่ไม่ได้รับอนุญาต เช่น ChatGPT และ Gemini

    นอกจากนี้ 96% ของผู้ตอบแบบสอบถามใช้แอปที่นำข้อมูลผู้ใช้ไปฝึก AI ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อ ข้อมูลที่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย HIPAA รวมถึง รหัสผ่าน, IP และทรัพย์สินทางปัญญา

    ✅ บุคลากรทางการแพทย์มักอัปโหลดข้อมูลที่มีการควบคุมไปยังแพลตฟอร์มที่ไม่ได้รับอนุญาต
    - เช่น ChatGPT และ Gemini

    ✅ 96% ของผู้ตอบแบบสอบถามใช้แอปที่นำข้อมูลผู้ใช้ไปฝึก AI
    - อาจส่งผลกระทบต่อ ข้อมูลที่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย HIPAA

    ✅ 81% ของการละเมิดข้อมูลเกี่ยวข้องกับข้อมูลด้านสุขภาพที่ได้รับการคุ้มครอง
    - ส่วนที่เหลือ 19% เกี่ยวข้องกับรหัสผ่าน, IP และทรัพย์สินทางปัญญา

    ✅ มากกว่าสองในสามของผู้ใช้ AI ในภาคการแพทย์ใช้บัญชีส่วนตัวในการส่งข้อมูลที่ละเอียดอ่อน
    - อาจสะท้อนถึง ความสับสนเกี่ยวกับกฎระเบียบและกระบวนการที่ล่าช้า

    ✅ องค์กรต้องเร่งอนุมัติการใช้เครื่องมือ AI ที่ปลอดภัยเพื่อป้องกัน Shadow AI
    - Shadow AI ลดลงจาก 87% เป็น 71% ในปีที่ผ่านมา

    https://www.techradar.com/pro/security/healthcare-workers-are-making-a-worrying-amount-of-security-mistakes-at-work
    บุคลากรทางการแพทย์กำลังทำผิดพลาดด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์มากขึ้น รายงานจาก Netskope พบว่า บุคลากรทางการแพทย์จำนวนมากกำลังทำให้ข้อมูลขององค์กรตกอยู่ในความเสี่ยง โดยพวกเขามัก อัปโหลดข้อมูลที่มีการควบคุมไปยังแพลตฟอร์มที่ไม่ได้รับอนุญาต เช่น ChatGPT และ Gemini นอกจากนี้ 96% ของผู้ตอบแบบสอบถามใช้แอปที่นำข้อมูลผู้ใช้ไปฝึก AI ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อ ข้อมูลที่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย HIPAA รวมถึง รหัสผ่าน, IP และทรัพย์สินทางปัญญา ✅ บุคลากรทางการแพทย์มักอัปโหลดข้อมูลที่มีการควบคุมไปยังแพลตฟอร์มที่ไม่ได้รับอนุญาต - เช่น ChatGPT และ Gemini ✅ 96% ของผู้ตอบแบบสอบถามใช้แอปที่นำข้อมูลผู้ใช้ไปฝึก AI - อาจส่งผลกระทบต่อ ข้อมูลที่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย HIPAA ✅ 81% ของการละเมิดข้อมูลเกี่ยวข้องกับข้อมูลด้านสุขภาพที่ได้รับการคุ้มครอง - ส่วนที่เหลือ 19% เกี่ยวข้องกับรหัสผ่าน, IP และทรัพย์สินทางปัญญา ✅ มากกว่าสองในสามของผู้ใช้ AI ในภาคการแพทย์ใช้บัญชีส่วนตัวในการส่งข้อมูลที่ละเอียดอ่อน - อาจสะท้อนถึง ความสับสนเกี่ยวกับกฎระเบียบและกระบวนการที่ล่าช้า ✅ องค์กรต้องเร่งอนุมัติการใช้เครื่องมือ AI ที่ปลอดภัยเพื่อป้องกัน Shadow AI - Shadow AI ลดลงจาก 87% เป็น 71% ในปีที่ผ่านมา https://www.techradar.com/pro/security/healthcare-workers-are-making-a-worrying-amount-of-security-mistakes-at-work
    WWW.TECHRADAR.COM
    Healthcare workers are making a worrying amount of security mistakes at work
    Healthcare workers are being careless with data, report claims
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 220 มุมมอง 0 รีวิว
  • Huawei เปิดตัว HarmonyOS 5 แทน Windows บนแล็ปท็อป หลังหมดสัญญากับ Microsoft Huawei ได้เปิดตัว HarmonyOS 5 (หรือ HarmonyOS Next) เป็นระบบปฏิบัติการใหม่สำหรับแล็ปท็อป หลังจากที่ ใบอนุญาตใช้ Windows หมดอายุในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และไม่สามารถต่อสัญญาได้เนื่องจาก มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ

    HarmonyOS 5 ได้รับการพัฒนามาตั้งแต่ปี 2012 และเริ่มใช้งานใน สมาร์ททีวี Honor Vision ในปี 2019 ก่อนที่จะถูกนำมาใช้ใน สมาร์ทโฟนของ Huawei ในปี 2021 โดยระบบปฏิบัติการนี้ช่วยให้ อุปกรณ์ของ Huawei สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างไร้รอยต่อ คล้ายกับ ระบบนิเวศของ Apple

    ✅ Huawei เปิดตัวแล็ปท็อปที่ใช้ HarmonyOS 5 แทน Windows
    - เนื่องจาก ใบอนุญาตใช้ Windows หมดอายุและไม่สามารถต่อสัญญาได้

    ✅ HarmonyOS 5 ได้รับการพัฒนามาตั้งแต่ปี 2012 และเริ่มใช้งานในอุปกรณ์ต่าง ๆ ตั้งแต่ปี 2019
    - ใช้ใน สมาร์ททีวี, สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต และแล็ปท็อป

    ✅ ช่วยให้ Huawei สร้างระบบนิเวศของตัวเอง คล้ายกับ Apple
    - อุปกรณ์ทั้งหมดสามารถ ทำงานร่วมกันได้อย่างไร้รอยต่อ

    ✅ แล็ปท็อปที่ใช้ HarmonyOS 5 จะรองรับแอปพลิเคชันมือถือของ Huawei
    - เช่น WPS Office และ DingTalk

    ✅ Huawei แซงหน้า Apple ในตลาดสมาร์ทโฟนจีน ด้วยส่วนแบ่งตลาด 19% เทียบกับ 17% ของ Apple
    - อาจช่วยให้ HarmonyOS ได้รับความนิยมมากขึ้นในจีน

    https://www.tomshardware.com/software/operating-systems/harmonyos-replacing-windows-on-huawei-laptops-delivers-connectivity-across-the-ecosystem
    Huawei เปิดตัว HarmonyOS 5 แทน Windows บนแล็ปท็อป หลังหมดสัญญากับ Microsoft Huawei ได้เปิดตัว HarmonyOS 5 (หรือ HarmonyOS Next) เป็นระบบปฏิบัติการใหม่สำหรับแล็ปท็อป หลังจากที่ ใบอนุญาตใช้ Windows หมดอายุในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และไม่สามารถต่อสัญญาได้เนื่องจาก มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ HarmonyOS 5 ได้รับการพัฒนามาตั้งแต่ปี 2012 และเริ่มใช้งานใน สมาร์ททีวี Honor Vision ในปี 2019 ก่อนที่จะถูกนำมาใช้ใน สมาร์ทโฟนของ Huawei ในปี 2021 โดยระบบปฏิบัติการนี้ช่วยให้ อุปกรณ์ของ Huawei สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างไร้รอยต่อ คล้ายกับ ระบบนิเวศของ Apple ✅ Huawei เปิดตัวแล็ปท็อปที่ใช้ HarmonyOS 5 แทน Windows - เนื่องจาก ใบอนุญาตใช้ Windows หมดอายุและไม่สามารถต่อสัญญาได้ ✅ HarmonyOS 5 ได้รับการพัฒนามาตั้งแต่ปี 2012 และเริ่มใช้งานในอุปกรณ์ต่าง ๆ ตั้งแต่ปี 2019 - ใช้ใน สมาร์ททีวี, สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต และแล็ปท็อป ✅ ช่วยให้ Huawei สร้างระบบนิเวศของตัวเอง คล้ายกับ Apple - อุปกรณ์ทั้งหมดสามารถ ทำงานร่วมกันได้อย่างไร้รอยต่อ ✅ แล็ปท็อปที่ใช้ HarmonyOS 5 จะรองรับแอปพลิเคชันมือถือของ Huawei - เช่น WPS Office และ DingTalk ✅ Huawei แซงหน้า Apple ในตลาดสมาร์ทโฟนจีน ด้วยส่วนแบ่งตลาด 19% เทียบกับ 17% ของ Apple - อาจช่วยให้ HarmonyOS ได้รับความนิยมมากขึ้นในจีน https://www.tomshardware.com/software/operating-systems/harmonyos-replacing-windows-on-huawei-laptops-delivers-connectivity-across-the-ecosystem
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    HarmonyOS replacing Windows on Huawei laptops — delivers connectivity across the ecosystem
    The Chinese tech giant is forced to use its own operating system after its Microsoft license expired.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 166 มุมมอง 0 รีวิว
  • Apple ปรับปรุงแอป Move to iOS ให้โอนข้อมูลจาก Android ไป iPhone ได้ง่ายขึ้น Apple ได้อัปเดต แอป Move to iOS ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถ โอนข้อมูลจากสมาร์ทโฟน Android ไปยัง iPhone ได้รวดเร็วและครอบคลุมมากขึ้น โดยเพิ่ม การรองรับประวัติการโทร, ไฟล์เสียง และป้ายกำกับ Dual SIM

    นอกจากนี้ แอปยัง รองรับการโอนข้อมูลผ่านสาย USB-C สำหรับ iPhone รุ่นใหม่ และ USB-C to Lightning สำหรับรุ่นเก่า ทำให้การโอนข้อมูล มีความเร็วสูงขึ้นและลดข้อผิดพลาดในการเชื่อมต่อ

    ✅ Move to iOS รองรับการโอนข้อมูลที่ครอบคลุมมากขึ้น
    - สามารถ โอนรายชื่อ, ประวัติข้อความ, รูปภาพ, วิดีโอ, บุ๊กมาร์กเว็บ, บัญชีอีเมล และปฏิทิน
    - รองรับ แอปที่เข้ากันได้ รวมถึงเนื้อหา WhatsApp

    ✅ เพิ่มการรองรับประวัติการโทรและไฟล์เสียง
    - สามารถ โอนข้อมูลไปยังแอป Voice Memos หรือ Files ได้โดยตรง

    ✅ รองรับการโอนป้ายกำกับ Dual SIM
    - ช่วยให้ ผู้ใช้ที่ใช้สองซิมสามารถรักษาชื่อที่ตั้งค่าไว้ได้

    ✅ รองรับการโอนข้อมูลผ่านสาย USB-C และ USB-C to Lightning
    - ทำให้ การโอนข้อมูลเร็วขึ้นและลดข้อผิดพลาดในการเชื่อมต่อ

    ✅ Google มีแอป Switch to Android สำหรับการโอนข้อมูลจาก iPhone ไป Android
    - ใช้ QR Code เพื่อโอนรายชื่อ, ปฏิทิน, รูปภาพ และวิดีโอ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/09/switching-from-an-android-handset-to-an-iphone-has-never-been-easier
    Apple ปรับปรุงแอป Move to iOS ให้โอนข้อมูลจาก Android ไป iPhone ได้ง่ายขึ้น Apple ได้อัปเดต แอป Move to iOS ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถ โอนข้อมูลจากสมาร์ทโฟน Android ไปยัง iPhone ได้รวดเร็วและครอบคลุมมากขึ้น โดยเพิ่ม การรองรับประวัติการโทร, ไฟล์เสียง และป้ายกำกับ Dual SIM นอกจากนี้ แอปยัง รองรับการโอนข้อมูลผ่านสาย USB-C สำหรับ iPhone รุ่นใหม่ และ USB-C to Lightning สำหรับรุ่นเก่า ทำให้การโอนข้อมูล มีความเร็วสูงขึ้นและลดข้อผิดพลาดในการเชื่อมต่อ ✅ Move to iOS รองรับการโอนข้อมูลที่ครอบคลุมมากขึ้น - สามารถ โอนรายชื่อ, ประวัติข้อความ, รูปภาพ, วิดีโอ, บุ๊กมาร์กเว็บ, บัญชีอีเมล และปฏิทิน - รองรับ แอปที่เข้ากันได้ รวมถึงเนื้อหา WhatsApp ✅ เพิ่มการรองรับประวัติการโทรและไฟล์เสียง - สามารถ โอนข้อมูลไปยังแอป Voice Memos หรือ Files ได้โดยตรง ✅ รองรับการโอนป้ายกำกับ Dual SIM - ช่วยให้ ผู้ใช้ที่ใช้สองซิมสามารถรักษาชื่อที่ตั้งค่าไว้ได้ ✅ รองรับการโอนข้อมูลผ่านสาย USB-C และ USB-C to Lightning - ทำให้ การโอนข้อมูลเร็วขึ้นและลดข้อผิดพลาดในการเชื่อมต่อ ✅ Google มีแอป Switch to Android สำหรับการโอนข้อมูลจาก iPhone ไป Android - ใช้ QR Code เพื่อโอนรายชื่อ, ปฏิทิน, รูปภาพ และวิดีโอ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/09/switching-from-an-android-handset-to-an-iphone-has-never-been-easier
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Switching from an Android handset to an iPhone has never been easier
    Apple has announced a major update to its Move to iOS mobile application which, as the name suggests, lets you transfer your personal data from an old Android smartphone to a new iPhone. The manufacturer now promises a faster, more comprehensive switchover.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 221 มุมมอง 0 รีวิว
  • Apple ได้ยื่นคำร้องต่อ ศาลอุทธรณ์สหรัฐฯ เพื่อขอให้ ระงับคำสั่งศาลที่บังคับให้เปิด App Store ให้มีการแข่งขันมากขึ้น โดยระบุว่า บริษัทจะได้รับความเสียหายอย่างไม่สามารถแก้ไขได้หากคำสั่งนี้มีผลทันที

    คดีนี้เกี่ยวข้องกับ Epic Games ผู้พัฒนาเกม Fortnite ซึ่งฟ้องร้อง Apple ตั้งแต่ปี 2020 เพื่อ ให้ Apple ลดการควบคุมธุรกรรมในแอปที่ใช้ระบบ iOS ศาลพบว่า Apple ละเมิดคำสั่งศาลเดิมในปี 2021 และ พยายามหลีกเลี่ยงข้อบังคับที่กำหนดให้เปิดทางเลือกการชำระเงินนอก App Store

    ✅ Apple ขอให้ศาลอุทธรณ์ระงับคำสั่งที่บังคับให้เปิด App Store ให้มีการแข่งขันมากขึ้น
    - ระบุว่า บริษัทจะได้รับความเสียหายอย่างไม่สามารถแก้ไขได้หากคำสั่งนี้มีผลทันที
    - คำสั่งศาลเดิม บังคับให้ Apple ยุติการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม 27% จากนักพัฒนาแอปที่ใช้ระบบชำระเงินภายนอก

    ✅ Epic Games ฟ้องร้อง Apple ตั้งแต่ปี 2020 เพื่อให้ลดการควบคุมธุรกรรมในแอป
    - ศาลพบว่า Apple ละเมิดคำสั่งศาลเดิมในปี 2021
    - Apple พยายามหลีกเลี่ยงข้อบังคับที่กำหนดให้เปิดทางเลือกการชำระเงินนอก App Store

    ✅ Epic Games ระบุว่า Apple พยายามขัดขวางการแข่งขันและเรียกเก็บค่าธรรมเนียมที่ไม่เป็นธรรม
    - Epic Games กล่าวว่าคำร้องของ Apple เป็น "ความพยายามครั้งสุดท้ายในการปิดกั้นการแข่งขันและเรียกเก็บค่าธรรมเนียมที่ไม่จำเป็นจากนักพัฒนาและผู้บริโภค"

    ✅ ศาลพบว่า Apple พยายามรักษารายได้หลายพันล้านดอลลาร์โดยฝ่าฝืนคำสั่งศาล
    - ผู้พิพากษา Yvonne Gonzalez Rogers ระบุว่า Apple จงใจละเมิดคำสั่งศาลและอาจถูกสอบสวนในข้อหาดูหมิ่นศาล

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/08/apple-asks-us-appeals-court-to-pause-ruling-in-epic-games-case
    Apple ได้ยื่นคำร้องต่อ ศาลอุทธรณ์สหรัฐฯ เพื่อขอให้ ระงับคำสั่งศาลที่บังคับให้เปิด App Store ให้มีการแข่งขันมากขึ้น โดยระบุว่า บริษัทจะได้รับความเสียหายอย่างไม่สามารถแก้ไขได้หากคำสั่งนี้มีผลทันที คดีนี้เกี่ยวข้องกับ Epic Games ผู้พัฒนาเกม Fortnite ซึ่งฟ้องร้อง Apple ตั้งแต่ปี 2020 เพื่อ ให้ Apple ลดการควบคุมธุรกรรมในแอปที่ใช้ระบบ iOS ศาลพบว่า Apple ละเมิดคำสั่งศาลเดิมในปี 2021 และ พยายามหลีกเลี่ยงข้อบังคับที่กำหนดให้เปิดทางเลือกการชำระเงินนอก App Store ✅ Apple ขอให้ศาลอุทธรณ์ระงับคำสั่งที่บังคับให้เปิด App Store ให้มีการแข่งขันมากขึ้น - ระบุว่า บริษัทจะได้รับความเสียหายอย่างไม่สามารถแก้ไขได้หากคำสั่งนี้มีผลทันที - คำสั่งศาลเดิม บังคับให้ Apple ยุติการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม 27% จากนักพัฒนาแอปที่ใช้ระบบชำระเงินภายนอก ✅ Epic Games ฟ้องร้อง Apple ตั้งแต่ปี 2020 เพื่อให้ลดการควบคุมธุรกรรมในแอป - ศาลพบว่า Apple ละเมิดคำสั่งศาลเดิมในปี 2021 - Apple พยายามหลีกเลี่ยงข้อบังคับที่กำหนดให้เปิดทางเลือกการชำระเงินนอก App Store ✅ Epic Games ระบุว่า Apple พยายามขัดขวางการแข่งขันและเรียกเก็บค่าธรรมเนียมที่ไม่เป็นธรรม - Epic Games กล่าวว่าคำร้องของ Apple เป็น "ความพยายามครั้งสุดท้ายในการปิดกั้นการแข่งขันและเรียกเก็บค่าธรรมเนียมที่ไม่จำเป็นจากนักพัฒนาและผู้บริโภค" ✅ ศาลพบว่า Apple พยายามรักษารายได้หลายพันล้านดอลลาร์โดยฝ่าฝืนคำสั่งศาล - ผู้พิพากษา Yvonne Gonzalez Rogers ระบุว่า Apple จงใจละเมิดคำสั่งศาลและอาจถูกสอบสวนในข้อหาดูหมิ่นศาล https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/08/apple-asks-us-appeals-court-to-pause-ruling-in-epic-games-case
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Apple asks US appeals court to pause ruling in Epic Games case
    (Reuters) - Apple has asked a federal appeals court to temporarily pause key provisions in a U.S. judge's ruling that ordered the tech company to immediately open its lucrative App Store to more competition.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 216 มุมมอง 0 รีวิว
  • Apple ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อคำตัดสินของศาลสหรัฐฯ ที่บังคับให้บริษัท หยุดเรียกเก็บค่าคอมมิชชั่น 27% จากการซื้อภายในแอปที่ดำเนินการผ่านระบบการชำระเงินของบุคคลที่สาม

    คำตัดสินนี้เป็นผลมาจากคดีที่ Epic Games ยื่นฟ้อง Apple ตั้งแต่ปี 2020 เพื่อเปิดให้ iOS รองรับ ร้านค้าแอปของบุคคลที่สาม และระบบการชำระเงินภายนอก โดยศาลระบุว่า Apple ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเดิมอย่างถูกต้อง และกล่าวหาว่า ผู้บริหารระดับสูงของ Apple ให้ข้อมูลที่ไม่ตรงกับความจริง

    แม้ว่าคำตัดสินนี้จะทำให้ Epic Games ประกาศว่าจะกลับเข้าสู่ App Store และนักพัฒนาหลายรายอาจลดราคาสินค้าในแอป แต่ Apple ยืนยันว่าจะ ปฏิบัติตามคำสั่งศาลและดำเนินการอุทธรณ์

    ✅ Apple ยื่นอุทธรณ์ต่อคำตัดสินของศาลสหรัฐฯ
    - ศาลบังคับให้ หยุดเรียกเก็บค่าคอมมิชชั่น 27% จากการซื้อภายในแอปที่ใช้ระบบชำระเงินของบุคคลที่สาม
    - Apple ยืนยันว่าจะ ปฏิบัติตามคำสั่งศาลและดำเนินการอุทธรณ์

    ✅ คดีนี้เริ่มต้นจากการฟ้องร้องของ Epic Games ในปี 2020
    - Epic ต้องการให้ iOS รองรับร้านค้าแอปของบุคคลที่สาม
    - ต้องการให้ Apple อนุญาตให้ใช้ระบบการชำระเงินภายนอก

    ✅ ศาลกล่าวหา Apple ว่าไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเดิมอย่างถูกต้อง
    - ระบุว่า ผู้บริหารระดับสูงของ Apple ให้ข้อมูลที่ไม่ตรงกับความจริง
    - มีการเปิดเผยว่า Tim Cook ไม่ทำตามคำแนะนำของ Phillip Schiller

    ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมแอปพลิเคชัน
    - Epic Games ประกาศว่าจะ กลับเข้าสู่ App Store
    - นักพัฒนาหลายรายอาจ ลดราคาสินค้าในแอป เนื่องจากค่าคอมมิชชั่นลดลง

    https://www.techradar.com/phones/ios/is-the-app-store-about-to-undergo-a-big-change-not-so-fast-says-apple
    Apple ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อคำตัดสินของศาลสหรัฐฯ ที่บังคับให้บริษัท หยุดเรียกเก็บค่าคอมมิชชั่น 27% จากการซื้อภายในแอปที่ดำเนินการผ่านระบบการชำระเงินของบุคคลที่สาม คำตัดสินนี้เป็นผลมาจากคดีที่ Epic Games ยื่นฟ้อง Apple ตั้งแต่ปี 2020 เพื่อเปิดให้ iOS รองรับ ร้านค้าแอปของบุคคลที่สาม และระบบการชำระเงินภายนอก โดยศาลระบุว่า Apple ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเดิมอย่างถูกต้อง และกล่าวหาว่า ผู้บริหารระดับสูงของ Apple ให้ข้อมูลที่ไม่ตรงกับความจริง แม้ว่าคำตัดสินนี้จะทำให้ Epic Games ประกาศว่าจะกลับเข้าสู่ App Store และนักพัฒนาหลายรายอาจลดราคาสินค้าในแอป แต่ Apple ยืนยันว่าจะ ปฏิบัติตามคำสั่งศาลและดำเนินการอุทธรณ์ ✅ Apple ยื่นอุทธรณ์ต่อคำตัดสินของศาลสหรัฐฯ - ศาลบังคับให้ หยุดเรียกเก็บค่าคอมมิชชั่น 27% จากการซื้อภายในแอปที่ใช้ระบบชำระเงินของบุคคลที่สาม - Apple ยืนยันว่าจะ ปฏิบัติตามคำสั่งศาลและดำเนินการอุทธรณ์ ✅ คดีนี้เริ่มต้นจากการฟ้องร้องของ Epic Games ในปี 2020 - Epic ต้องการให้ iOS รองรับร้านค้าแอปของบุคคลที่สาม - ต้องการให้ Apple อนุญาตให้ใช้ระบบการชำระเงินภายนอก ✅ ศาลกล่าวหา Apple ว่าไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเดิมอย่างถูกต้อง - ระบุว่า ผู้บริหารระดับสูงของ Apple ให้ข้อมูลที่ไม่ตรงกับความจริง - มีการเปิดเผยว่า Tim Cook ไม่ทำตามคำแนะนำของ Phillip Schiller ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมแอปพลิเคชัน - Epic Games ประกาศว่าจะ กลับเข้าสู่ App Store - นักพัฒนาหลายรายอาจ ลดราคาสินค้าในแอป เนื่องจากค่าคอมมิชชั่นลดลง https://www.techradar.com/phones/ios/is-the-app-store-about-to-undergo-a-big-change-not-so-fast-says-apple
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 169 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts