• บขส.ทำรถทัวร์ฟีดเดอร์ จากสนามบินปลายทางสู่ทะเล

    เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการสำหรับรถโดยสารเชื่อมต่อ (Feeder) ของบริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บขส. เส้นทางจากท่าอากาศยานเชื่อมต่อไปยังจังหวัดต่างๆ นำร่อง 3 เส้นทาง ได้แก่ สาย 9905 ท่าอากาศยานดอนเมือง‐พัทยา ระยะทาง 162 กิโลเมตร, สาย 978 ท่าอากาศยานดอนเมือง‐หัวหิน ระยะทาง 216 กิโลเมตร และสาย 389 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ-พัทยา ระยะทาง 127 กิโลเมตร เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารทั้งสองสนามบิน เดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวในเมืองหลัก เมืองรอง และเมืองน่าเที่ยวภายในประเทศ โดยเปิดเที่ยวรถปฐมฤกษ์ไปเมื่อวันที่ 8 มี.ค.2567 ที่ผ่านมา

    จากการสังเกตพบว่าเส้นทางที่ขายดีที่สุด ได้แก่ เส้นทางท่าอากาศยานดอนเมือง‐พัทยา เที่ยวปฐมฤกษ์มีผู้โดยสารค่อนข้างหนาแน่น ส่วนเส้นทางท่าอากาศยานดอนเมือง‐หัวหิน เที่ยวปฐมฤกษ์ เวลา 15.00 น. มีผู้โดยสาร 4 คน ถึงจุดจอดวัดหัวหิน 18.35 น. ส่วนเที่ยวปฐมฤกษ์จากต้นทางสถานีเดินรถหัวหิน รถออกเวลา 09.00 น. ถึงปลายทางท่าอากาศยานดอนเมือง เวลาประมาณ 12.50 น. ซึ่งการเดินรถขึ้นอยู่กับสภาพการจราจร เนื่องจากใช้ทางด่วนโทลล์เวย์ ทางด่วนเฉลิมมหานคร ต่อเนื่องถนนพระรามที่ 2 ที่กำลังก่อสร้างทางยกระดับตั้งแต่ทางลงดาวคะนองถึงทางแยกต่างระดับบ้านแพ้ว และถนนเพชรเกษม

    ส่วนเส้นทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ-พัทยา ปัจจุบันมีผู้ประกอบการเดินรถเอกชน อย่างบริษัท รถรุ่งเรือง จำกัด ให้บริการสาย 389 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ-เมืองพัทยา ปลายทางสถานีขนส่งเทพประสิทธิ์ (หาดจอมเทียน) และสาย 789 หัวหิน-ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ-พัทยา (รถหมวด 3) ปลายทางสถานีขนส่งพัทยาเหนือ ซึ่งพบว่าเคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วของ บขส. ที่อาคารผู้โดยสาร ชั้น 1 ประตู 8 เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วอยู่ติดกันเสียอีก แต่ปลายทางพัทยา บขส. ได้ก่อสร้างสถานีเดินรถพัทยา บริเวณถนนสุขุมวิท ขาออก ระหว่างแยกพัทยาเหนือกับพัทยากลาง ตรงข้ามศูนย์คณะพระมหาไถ่ รองรับผู้โดยสารไว้แล้ว

    การเชื่อมต่อการเดินทางแบบไร้รอยต่อระหว่างสนามบินไปยังเมืองท่องเที่ยว ถือเป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่ บขส. ร่วมกับบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เปิดให้บริการแก่ผู้โดยสารทั้งในและต่างประเทศ โดยได้กำหนดจุดจำหน่ายตั๋วโดยสารและจุดจอดรถ พร้อมประชาสัมพันธ์ภายในสนามบิน ที่ผ่านมาท่าอากาศยานดอนเมืองมีผู้โดยสารรวม 29.14 ล้านคน และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีผู้โดยสารรวม 59.99 ล้านคน นับจากนี้จะต้องดูผลตอบรับจากผู้โดยสาร ก่อนที่จะปรับเปลี่ยนเวลาเดินรถ เพิ่มเที่ยวเวลา หรือเพิ่มเส้นทางไปยังเมืองหลัก เมืองท่องเที่ยว หรือเมืองรองต่างๆ เพิ่มเติม

    #Newskit
    บขส.ทำรถทัวร์ฟีดเดอร์ จากสนามบินปลายทางสู่ทะเล เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการสำหรับรถโดยสารเชื่อมต่อ (Feeder) ของบริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บขส. เส้นทางจากท่าอากาศยานเชื่อมต่อไปยังจังหวัดต่างๆ นำร่อง 3 เส้นทาง ได้แก่ สาย 9905 ท่าอากาศยานดอนเมือง‐พัทยา ระยะทาง 162 กิโลเมตร, สาย 978 ท่าอากาศยานดอนเมือง‐หัวหิน ระยะทาง 216 กิโลเมตร และสาย 389 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ-พัทยา ระยะทาง 127 กิโลเมตร เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารทั้งสองสนามบิน เดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวในเมืองหลัก เมืองรอง และเมืองน่าเที่ยวภายในประเทศ โดยเปิดเที่ยวรถปฐมฤกษ์ไปเมื่อวันที่ 8 มี.ค.2567 ที่ผ่านมา จากการสังเกตพบว่าเส้นทางที่ขายดีที่สุด ได้แก่ เส้นทางท่าอากาศยานดอนเมือง‐พัทยา เที่ยวปฐมฤกษ์มีผู้โดยสารค่อนข้างหนาแน่น ส่วนเส้นทางท่าอากาศยานดอนเมือง‐หัวหิน เที่ยวปฐมฤกษ์ เวลา 15.00 น. มีผู้โดยสาร 4 คน ถึงจุดจอดวัดหัวหิน 18.35 น. ส่วนเที่ยวปฐมฤกษ์จากต้นทางสถานีเดินรถหัวหิน รถออกเวลา 09.00 น. ถึงปลายทางท่าอากาศยานดอนเมือง เวลาประมาณ 12.50 น. ซึ่งการเดินรถขึ้นอยู่กับสภาพการจราจร เนื่องจากใช้ทางด่วนโทลล์เวย์ ทางด่วนเฉลิมมหานคร ต่อเนื่องถนนพระรามที่ 2 ที่กำลังก่อสร้างทางยกระดับตั้งแต่ทางลงดาวคะนองถึงทางแยกต่างระดับบ้านแพ้ว และถนนเพชรเกษม ส่วนเส้นทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ-พัทยา ปัจจุบันมีผู้ประกอบการเดินรถเอกชน อย่างบริษัท รถรุ่งเรือง จำกัด ให้บริการสาย 389 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ-เมืองพัทยา ปลายทางสถานีขนส่งเทพประสิทธิ์ (หาดจอมเทียน) และสาย 789 หัวหิน-ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ-พัทยา (รถหมวด 3) ปลายทางสถานีขนส่งพัทยาเหนือ ซึ่งพบว่าเคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วของ บขส. ที่อาคารผู้โดยสาร ชั้น 1 ประตู 8 เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วอยู่ติดกันเสียอีก แต่ปลายทางพัทยา บขส. ได้ก่อสร้างสถานีเดินรถพัทยา บริเวณถนนสุขุมวิท ขาออก ระหว่างแยกพัทยาเหนือกับพัทยากลาง ตรงข้ามศูนย์คณะพระมหาไถ่ รองรับผู้โดยสารไว้แล้ว การเชื่อมต่อการเดินทางแบบไร้รอยต่อระหว่างสนามบินไปยังเมืองท่องเที่ยว ถือเป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่ บขส. ร่วมกับบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เปิดให้บริการแก่ผู้โดยสารทั้งในและต่างประเทศ โดยได้กำหนดจุดจำหน่ายตั๋วโดยสารและจุดจอดรถ พร้อมประชาสัมพันธ์ภายในสนามบิน ที่ผ่านมาท่าอากาศยานดอนเมืองมีผู้โดยสารรวม 29.14 ล้านคน และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีผู้โดยสารรวม 59.99 ล้านคน นับจากนี้จะต้องดูผลตอบรับจากผู้โดยสาร ก่อนที่จะปรับเปลี่ยนเวลาเดินรถ เพิ่มเที่ยวเวลา หรือเพิ่มเส้นทางไปยังเมืองหลัก เมืองท่องเที่ยว หรือเมืองรองต่างๆ เพิ่มเติม #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 15 มุมมอง 0 รีวิว
  • กระบี่โกวเจี้ยน ของ กษัตริย์แคว้นเยว่ (越王勾踐劍) ขุดพบที่มณฑลหูเป่ย์.
    เป็นวัตถุโบราณจีน ที่ขุดค้นพบ ในสภาพที่สมบูรณ์มาก มีอายุมากกว่า 2,500 ปี ไม่เป็นสนิมเลย เพราะเนื้อโลหะผสมทองแดงและดีบุกเป็นหลักและมีเหล็กเล็กน้อย มีความเงางาม ความคมดุจมีดโกน และมีลวดลายที่สวยงาม

    ภาพ : Sword of Goujian, Hubei Provincial Museum.
    กระบี่โกวเจี้ยน ของ กษัตริย์แคว้นเยว่ (越王勾踐劍) ขุดพบที่มณฑลหูเป่ย์. เป็นวัตถุโบราณจีน ที่ขุดค้นพบ ในสภาพที่สมบูรณ์มาก มีอายุมากกว่า 2,500 ปี ไม่เป็นสนิมเลย เพราะเนื้อโลหะผสมทองแดงและดีบุกเป็นหลักและมีเหล็กเล็กน้อย มีความเงางาม ความคมดุจมีดโกน และมีลวดลายที่สวยงาม ภาพ : Sword of Goujian, Hubei Provincial Museum.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 39 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายกฯ ลั่นไม่มีล็อบบี้ประธานสภาเอาชื่อ "ทักษิณ" ออกจากญัตติซักฟอก แต่เป็นไปตามกฎ ไม่ใช่เอาชื่อใครเข้าไปก็ได้ เผยส่วนตัวมองไม่สมควรมีชื่อบุคคลที่สาม ในสภาพูดปาวๆ แต่คนนอกไม่มีสิทธิ์ชี้แจง-ตอบโต้ ย้ำพร้อมแจงฝ่ายค้านให้ครบทุกประเด็น

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000022689

    #News1live #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    นายกฯ ลั่นไม่มีล็อบบี้ประธานสภาเอาชื่อ "ทักษิณ" ออกจากญัตติซักฟอก แต่เป็นไปตามกฎ ไม่ใช่เอาชื่อใครเข้าไปก็ได้ เผยส่วนตัวมองไม่สมควรมีชื่อบุคคลที่สาม ในสภาพูดปาวๆ แต่คนนอกไม่มีสิทธิ์ชี้แจง-ตอบโต้ ย้ำพร้อมแจงฝ่ายค้านให้ครบทุกประเด็น อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000022689 #News1live #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Sad
    Angry
    5
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 210 มุมมอง 0 รีวิว
  • Lexar บริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลดิจิทัล ได้เปิดตัวการ์ด SD รุ่นใหม่ในตระกูล ARMOR GOLD และ ARMOR SILVER PRO SDXC UHS-II ที่มาพร้อมกับความแข็งแกร่งทนทานเหนือระดับ และประสิทธิภาพที่เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมสุดขั้ว เช่น อุตสาหกรรมการถ่ายภาพและวิดีโอระดับมืออาชีพ

    == คุณสมบัติเด่นที่น่าสนใจ ==
    1) โครงสร้างจากสแตนเลสสตีล:
    - การ์ด SD รุ่นนี้สร้างจากสแตนเลสสตีลแทนพลาสติกทั่วไป ทำให้มีความทนทานต่อการงอและการแตกหักถึง 37 เท่าของการ์ด SD ปกติ
    - ทนต่อความร้อนและไฟฟ้าสถิต พร้อมใช้งานในสภาพแวดล้อมที่หลากหลายและท้าทาย

    2) การออกแบบเสริมความคงทน:
    - การ์ดมีระดับการป้องกัน IP68 ซึ่งหมายถึงสามารถกันน้ำและฝุ่นได้อย่างสมบูรณ์
    - รองรับการตกจากความสูงถึง 5 เมตร (16 ฟุต) โดยไม่เสียหาย

    3) ความเร็วและประสิทธิภาพสูงสุด:
    - ARMOR GOLD ให้ความเร็วการเขียนสูงสุดที่ 210 MB/s และ SILVER PRO ที่ 160 MB/s พร้อมความเร็วในการโอนถ่ายสูงสุดถึง 280 MB/s
    - ผ่านมาตรฐาน Video Speed Class 60 (V60) ที่ช่วยให้สามารถบันทึกวิดีโอความละเอียด 6K ได้อย่างราบรื่น

    4) เครื่องมือเสริมความปลอดภัย:
    - ผู้ใช้สามารถเข้าถึง Lexar Recovery Tool ได้ตลอดอายุการใช้งานของการ์ด เพื่อกู้คืนไฟล์ที่ถูกลบหรือฟอร์แมตโดยไม่ได้ตั้งใจ
    - มาพร้อมกับการรับประกันแบบจำกัดอายุการใช้งาน ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ผู้ใช้งาน

    ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่น การ์ด SD รุ่นนี้เหมาะสำหรับช่างภาพและนักถ่ายวิดีโอที่ต้องการอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่เชื่อถือได้ในทุกสถานการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานที่ต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เช่น การถ่ายภาพกลางแจ้ง การถ่ายทำในทะเลทราย หรือพื้นที่ที่มีความชื้นสูง การรองรับ 6K video ยังทำให้การ์ดเหล่านี้เป็นตัวเลือกสำคัญสำหรับผู้สร้างเนื้อหาคุณภาพสูง

    https://www.techradar.com/pro/almost-indestructible-memory-card-launched-lexars-armor-sd-steel-cards-are-water-resistant-and-can-survive-a-16-feet-drop
    Lexar บริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลดิจิทัล ได้เปิดตัวการ์ด SD รุ่นใหม่ในตระกูล ARMOR GOLD และ ARMOR SILVER PRO SDXC UHS-II ที่มาพร้อมกับความแข็งแกร่งทนทานเหนือระดับ และประสิทธิภาพที่เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมสุดขั้ว เช่น อุตสาหกรรมการถ่ายภาพและวิดีโอระดับมืออาชีพ == คุณสมบัติเด่นที่น่าสนใจ == 1) โครงสร้างจากสแตนเลสสตีล: - การ์ด SD รุ่นนี้สร้างจากสแตนเลสสตีลแทนพลาสติกทั่วไป ทำให้มีความทนทานต่อการงอและการแตกหักถึง 37 เท่าของการ์ด SD ปกติ - ทนต่อความร้อนและไฟฟ้าสถิต พร้อมใช้งานในสภาพแวดล้อมที่หลากหลายและท้าทาย 2) การออกแบบเสริมความคงทน: - การ์ดมีระดับการป้องกัน IP68 ซึ่งหมายถึงสามารถกันน้ำและฝุ่นได้อย่างสมบูรณ์ - รองรับการตกจากความสูงถึง 5 เมตร (16 ฟุต) โดยไม่เสียหาย 3) ความเร็วและประสิทธิภาพสูงสุด: - ARMOR GOLD ให้ความเร็วการเขียนสูงสุดที่ 210 MB/s และ SILVER PRO ที่ 160 MB/s พร้อมความเร็วในการโอนถ่ายสูงสุดถึง 280 MB/s - ผ่านมาตรฐาน Video Speed Class 60 (V60) ที่ช่วยให้สามารถบันทึกวิดีโอความละเอียด 6K ได้อย่างราบรื่น 4) เครื่องมือเสริมความปลอดภัย: - ผู้ใช้สามารถเข้าถึง Lexar Recovery Tool ได้ตลอดอายุการใช้งานของการ์ด เพื่อกู้คืนไฟล์ที่ถูกลบหรือฟอร์แมตโดยไม่ได้ตั้งใจ - มาพร้อมกับการรับประกันแบบจำกัดอายุการใช้งาน ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ผู้ใช้งาน ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่น การ์ด SD รุ่นนี้เหมาะสำหรับช่างภาพและนักถ่ายวิดีโอที่ต้องการอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่เชื่อถือได้ในทุกสถานการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานที่ต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เช่น การถ่ายภาพกลางแจ้ง การถ่ายทำในทะเลทราย หรือพื้นที่ที่มีความชื้นสูง การรองรับ 6K video ยังทำให้การ์ดเหล่านี้เป็นตัวเลือกสำคัญสำหรับผู้สร้างเนื้อหาคุณภาพสูง https://www.techradar.com/pro/almost-indestructible-memory-card-launched-lexars-armor-sd-steel-cards-are-water-resistant-and-can-survive-a-16-feet-drop
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 84 มุมมอง 0 รีวิว
  • Silicon Motion Technology Corporation ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกในด้านคอนโทรลเลอร์แฟลชสำหรับอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบโซลิดสเตต (SSD) ได้เผยโฉมผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดในงาน Embedded World 2025 ที่เมืองนูเรมเบิร์ก เยอรมนี โดยผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อตอบโจทย์การใช้งานด้าน AI, ระบบฝังตัว (Embedded Systems) และอุตสาหกรรมยานยนต์

    == โซลูชันเด่นที่น่าสนใจ ==
    คอนโทรลเลอร์ SSD สำหรับยานยนต์ SM2264XT-AT:
    - รองรับมาตรฐาน PCIe Gen 4 พร้อมช่องสัญญาณ NAND ถึง 8 ช่อง ความเร็วสูงสุด 1,600 MT/s
    - รองรับมาตรฐานความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ เช่น AEC-Q100, ISO 26262 และ ASPICE Capability Level 3
    - เหมาะสำหรับระบบ AI ในยานยนต์และระบบฝังตัวที่ต้องการความปลอดภัยสูง

    โซลูชัน Ferri สำหรับระบบฝังตัวและ AIoT:
    - รวมถึง FerriSSD, Ferri-eMMC และ Ferri-UFS ออกแบบมาให้ทนทานและเสถียรในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เช่น โรงงานอุตสาหกรรมหรืออุปกรณ์การแพทย์
    - มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น NANDXtend ECC และ IntelligentScan เพื่อเพิ่มความทนทานและการตรวจสอบความสมบูรณ์ของข้อมูลในเวลาจริง

    SM770 Display Interface SoC:
    - รองรับการแสดงผลแบบมัลติ-จอภาพ พร้อมความละเอียดระดับ 4K UHD ได้ถึง 3 จอ
    - มีฟีเจอร์ InstantView ที่ช่วยให้ใช้งานได้โดยไม่ต้องติดตั้งไดรเวอร์ เหมาะสำหรับระบบฝังตัวในสายงานอุตสาหกรรมและแอปพลิเคชันสำหรับผู้บริโภค

    MonTitan SSD รุ่น 128 TB QLC:
    - รองรับ PCIe Gen 5 และสามารถอ่านข้อมูลต่อเนื่องได้เร็วกว่า 14 GB/s
    - ออกแบบมาสำหรับระบบจัดเก็บข้อมูล AI ขนาดใหญ่และการใช้งานในดาต้าเซ็นเตอร์

    ผลิตภัณฑ์เหล่านี้เน้นการประหยัดพลังงาน ตอบสนองต่อความต้องการของอุตสาหกรรมที่เน้น AI และ IoT เช่น การควบคุมอัตโนมัติ, อุปกรณ์อัจฉริยะ และระบบยานยนต์ AI การพัฒนานี้ยังช่วยเสริมความสามารถในการแข่งขันในตลาดของ Silicon Motion และสร้างแนวทางใหม่ในการรองรับโครงสร้างพื้นฐานที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง

    https://www.techpowerup.com/333756/silicon-motion-showcases-storage-solutions-for-ai-and-display-interface-socs-at-embedded-world-2025
    Silicon Motion Technology Corporation ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกในด้านคอนโทรลเลอร์แฟลชสำหรับอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบโซลิดสเตต (SSD) ได้เผยโฉมผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดในงาน Embedded World 2025 ที่เมืองนูเรมเบิร์ก เยอรมนี โดยผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อตอบโจทย์การใช้งานด้าน AI, ระบบฝังตัว (Embedded Systems) และอุตสาหกรรมยานยนต์ == โซลูชันเด่นที่น่าสนใจ == คอนโทรลเลอร์ SSD สำหรับยานยนต์ SM2264XT-AT: - รองรับมาตรฐาน PCIe Gen 4 พร้อมช่องสัญญาณ NAND ถึง 8 ช่อง ความเร็วสูงสุด 1,600 MT/s - รองรับมาตรฐานความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ เช่น AEC-Q100, ISO 26262 และ ASPICE Capability Level 3 - เหมาะสำหรับระบบ AI ในยานยนต์และระบบฝังตัวที่ต้องการความปลอดภัยสูง โซลูชัน Ferri สำหรับระบบฝังตัวและ AIoT: - รวมถึง FerriSSD, Ferri-eMMC และ Ferri-UFS ออกแบบมาให้ทนทานและเสถียรในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เช่น โรงงานอุตสาหกรรมหรืออุปกรณ์การแพทย์ - มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น NANDXtend ECC และ IntelligentScan เพื่อเพิ่มความทนทานและการตรวจสอบความสมบูรณ์ของข้อมูลในเวลาจริง SM770 Display Interface SoC: - รองรับการแสดงผลแบบมัลติ-จอภาพ พร้อมความละเอียดระดับ 4K UHD ได้ถึง 3 จอ - มีฟีเจอร์ InstantView ที่ช่วยให้ใช้งานได้โดยไม่ต้องติดตั้งไดรเวอร์ เหมาะสำหรับระบบฝังตัวในสายงานอุตสาหกรรมและแอปพลิเคชันสำหรับผู้บริโภค MonTitan SSD รุ่น 128 TB QLC: - รองรับ PCIe Gen 5 และสามารถอ่านข้อมูลต่อเนื่องได้เร็วกว่า 14 GB/s - ออกแบบมาสำหรับระบบจัดเก็บข้อมูล AI ขนาดใหญ่และการใช้งานในดาต้าเซ็นเตอร์ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้เน้นการประหยัดพลังงาน ตอบสนองต่อความต้องการของอุตสาหกรรมที่เน้น AI และ IoT เช่น การควบคุมอัตโนมัติ, อุปกรณ์อัจฉริยะ และระบบยานยนต์ AI การพัฒนานี้ยังช่วยเสริมความสามารถในการแข่งขันในตลาดของ Silicon Motion และสร้างแนวทางใหม่ในการรองรับโครงสร้างพื้นฐานที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง https://www.techpowerup.com/333756/silicon-motion-showcases-storage-solutions-for-ai-and-display-interface-socs-at-embedded-world-2025
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Silicon Motion Showcases Storage Solutions for AI and Display Interface SoCs at Embedded World 2025
    Silicon Motion Technology Corporation, a global leader in NAND flash controllers for solid-state storage devices, today announced its participation in Embedded World 2025, taking place from March 11-13, 2025, in Nuremberg, Germany. At the event, Silicon Motion will showcase its latest storage and...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 85 มุมมอง 0 รีวิว
  • จากฐานข้อมูล Carbon Majors รายงานล่าสุดเปิดเผยว่าในปี 2023 การปล่อยมลพิษจากบริษัทน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน และผู้ผลิตปูนซีเมนต์รายใหญ่ของโลกเพิ่มขึ้น แม้ว่าจะมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ชี้ให้เห็นว่าการปล่อยก๊าซเรือนกระจกส่งผลกระทบต่อโลกร้อนอย่างมหาศาล ที่น่ากังวลยิ่งขึ้นคือ กว่า 50% ของการปล่อยมลพิษทั้งหมดมาจากบริษัทเพียง 36 แห่ง โดยเฉพาะบริษัทที่มีรัฐบาลเป็นเจ้าของ

    บริษัทที่ปล่อยมลพิษสูงสุดในปี 2023
    บริษัทของรัฐ:
    - Aramco (ซาอุดิอาระเบีย)
    - Coal India (อินเดีย)
    - CHN Energy (จีน)
    - NIOC (อิหร่าน)
    - Jinneng Group (จีน)

    บริษัทเอกชน:
    - ExxonMobil (สหรัฐฯ)
    - Chevron (สหรัฐฯ)
    - Shell (สหราชอาณาจักร)
    - TotalEnergies (ฝรั่งเศส)
    - BP (สหราชอาณาจักร)

    บริษัทของรัฐในกลุ่ม Top 20 มีส่วนปล่อย CO2 ถึง 52% ของการปล่อยมลพิษจากอุตสาหกรรมทั่วโลก ขณะที่บริษัทจากจีนเพียงประเทศเดียวปล่อย CO2 ถึง 23% ของการปล่อยมลพิษที่เกี่ยวข้องกับเชื้อเพลิงฟอสซิลและปูนซีเมนต์

    นอกจากเชื้อเพลิงฟอสซิลแล้ว อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ยังมีการปล่อยมลพิษเพิ่มขึ้นอย่างมากในปี 2023 โดยบริษัทที่มียอดปล่อยมลพิษสูงสุดได้แก่ Holcim Group, Heidelberg Materials, UltraTech Cement และ CRH

    ฐานข้อมูล Carbon Majors ไม่เพียงแต่ใช้ติดตามข้อมูลการปล่อยก๊าซ แต่ยังเป็นหลักฐานสำคัญในกรณีทางกฎหมาย เช่น การผลักดันกฎหมาย Climate Superfund ในรัฐ Vermont และ New York รวมถึงการประเมินผลกระทบของบริษัทเชื้อเพลิงฟอสซิลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

    ข้อมูลล่าสุดจาก International Energy Agency ชี้ว่าโครงการพลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิลที่เริ่มขึ้นหลังปี 2021 ไม่สอดคล้องกับเป้าหมายของการลดปล่อยมลพิษสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2050 หากเราต้องการจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกไม่ให้เกิน 1.5°C การปล่อยก๊าซต้องลดลง 45% ภายในปี 2030

    https://www.techspot.com/news/107070-36-companies-account-50-global-co2-emissions-report.html
    จากฐานข้อมูล Carbon Majors รายงานล่าสุดเปิดเผยว่าในปี 2023 การปล่อยมลพิษจากบริษัทน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน และผู้ผลิตปูนซีเมนต์รายใหญ่ของโลกเพิ่มขึ้น แม้ว่าจะมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ชี้ให้เห็นว่าการปล่อยก๊าซเรือนกระจกส่งผลกระทบต่อโลกร้อนอย่างมหาศาล ที่น่ากังวลยิ่งขึ้นคือ กว่า 50% ของการปล่อยมลพิษทั้งหมดมาจากบริษัทเพียง 36 แห่ง โดยเฉพาะบริษัทที่มีรัฐบาลเป็นเจ้าของ บริษัทที่ปล่อยมลพิษสูงสุดในปี 2023 บริษัทของรัฐ: - Aramco (ซาอุดิอาระเบีย) - Coal India (อินเดีย) - CHN Energy (จีน) - NIOC (อิหร่าน) - Jinneng Group (จีน) บริษัทเอกชน: - ExxonMobil (สหรัฐฯ) - Chevron (สหรัฐฯ) - Shell (สหราชอาณาจักร) - TotalEnergies (ฝรั่งเศส) - BP (สหราชอาณาจักร) บริษัทของรัฐในกลุ่ม Top 20 มีส่วนปล่อย CO2 ถึง 52% ของการปล่อยมลพิษจากอุตสาหกรรมทั่วโลก ขณะที่บริษัทจากจีนเพียงประเทศเดียวปล่อย CO2 ถึง 23% ของการปล่อยมลพิษที่เกี่ยวข้องกับเชื้อเพลิงฟอสซิลและปูนซีเมนต์ นอกจากเชื้อเพลิงฟอสซิลแล้ว อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ยังมีการปล่อยมลพิษเพิ่มขึ้นอย่างมากในปี 2023 โดยบริษัทที่มียอดปล่อยมลพิษสูงสุดได้แก่ Holcim Group, Heidelberg Materials, UltraTech Cement และ CRH ฐานข้อมูล Carbon Majors ไม่เพียงแต่ใช้ติดตามข้อมูลการปล่อยก๊าซ แต่ยังเป็นหลักฐานสำคัญในกรณีทางกฎหมาย เช่น การผลักดันกฎหมาย Climate Superfund ในรัฐ Vermont และ New York รวมถึงการประเมินผลกระทบของบริษัทเชื้อเพลิงฟอสซิลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ข้อมูลล่าสุดจาก International Energy Agency ชี้ว่าโครงการพลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิลที่เริ่มขึ้นหลังปี 2021 ไม่สอดคล้องกับเป้าหมายของการลดปล่อยมลพิษสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2050 หากเราต้องการจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกไม่ให้เกิน 1.5°C การปล่อยก๊าซต้องลดลง 45% ภายในปี 2030 https://www.techspot.com/news/107070-36-companies-account-50-global-co2-emissions-report.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Just 36 companies account for 50% of global CO2 emissions, report reveals
    The data indicates that over 50 percent of these emissions can be attributed to just 36 high-emitting companies, with state-owned enterprises playing a significant role.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 75 มุมมอง 0 รีวิว
  • สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ Storyฯ คุยถึงที่มาของวลีเด็ดจากซีรีส์ <หรูอี้จอมนางเคียงบัลลังก์> มีเพื่อนเพจถามถึงเรื่องละครงิ้วที่หรูอี้พูดถึงบ่อยๆ ในเรื่อง ซึ่งก็คือ ‘เฉียงโถวหม่าซ่าง’ (墙头马上) ขอใช้คำแปลตรงตัวว่า ‘สันกำแพง-หลังอาชา’ ซึ่งในซีรีส์เท้าความว่า การชมงิ้วเรื่องนี้เป็นครั้งแรกที่หรูอี้และเฉียนหลงได้พบกัน และต่อมามีฉากที่เฉียนหลงบอกว่าจะไม่อ่อนแอเหมือนคุณชายสกุลเผย และหรูอี้บอกว่าไม่อยากต้องเจอสภาพแบบคุณหนูหลี่ที่ถูกบังคับให้ต้องทิ้งลูกไป ทำเอาผู้ชมงงไปตามๆ กันว่าเขาคุยอะไรกัน

    วันนี้เรามาคุยกันเรื่อง ‘สันกำแพง-หลังอาชา’ นี้

    ‘สันกำแพง-หลังอาชา’ เป็นละครงิ้วสมัยราชวงศ์หยวนมีชื่อเต็มว่า ‘เผยส้าวจวิ้น เฉียงโถวหม่าซ่าง’ (裴少俊墙头马上) ต่อมาตัดชื่อสั้นลงเหลือเพียง ‘เฉียงโถวหม่าซ่าง’ เป็นผลงานของ ‘ไป๋ผ้อ’ ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ยอดผู้แต่งบทละครงิ้วในสมัยนั้นและผลงานของเขายังได้รับการสืบทอดและจัดแสดงในปัจจุบันอีกหลายเรื่อง และ ‘สันกำแพง-หลังอาชา’ นี้ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสี่ยอดละครงิ้วแนวรักโรแมนติกสมัยหยวน

    ละครงิ้วนี้ดัดแปลงมาจากบทกวีสมัยถังของไป๋จวีอี (ค.ศ. 772-846) (หมายเหตุ คือเขาคือนักการเมืองผู้เคยสร้างผลงานบทกวีชื่นชมความงามของดอกซากุระหรืออิงฮวาที่ Storyฯ เคยเขียนถึง https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/686842736777355 )
    บทกวีที่ว่านี้มีชื่อว่า ‘งมขวดเงินจากก้นบ่อ’ (井底引银瓶) เป็นหนึ่งในผลงานที่เลื่องชื่อที่สุดของเขา ยาวถึง 34 วรรค สรุปเนื้อหาเป็นเรื่องราวความรักรันทด โดยมีอารัมภบทว่า ใช้ด้ายผูกขวดเงินดึงขึ้นเกือบจะพ้นบ่อ แต่ด้ายก็ขาดเสียก่อน เอาหยกมาเจียรด้วยหิน กำลังจะได้ปิ่นปักผมก็มาหักเสียก่อน เป็นการหวนรำลึกถึงความรักในอดีตที่ขาดสะบั้นลง อดีตที่ว่านี้ก็คือเรื่องคุณหนูนางหนึ่งที่ถูกเลี้ยงมาอย่างริ้นไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม วันๆ ถูกขังอยู่แต่ในสวนหลังบ้าน จึงชอบปีนขึ้นไปเกาะสันกำแพงมองดูโลกภายนอก อยู่มาวันหนึ่งยืนมองอยู่อย่างนี้ก็สบตาเข้ากับคุณชายท่านหนึ่งที่ขี่ม้าขาวผ่านมา เกิดเป็นรักแรกพบ ต่อมาก็หนีตามคุณชายผู้นั้นกลับไปยังบ้านของเขาที่อีกเมืองหนึ่ง แต่ด้วยเป็นการหนีตาม ไม่ได้มีตบแต่งตามพิธีการ นางจึงไม่ได้รับการยอมรับจากครอบครัวฝ่ายชาย ถูกมองว่าเป็นเพียงอนุ ไม่ใช่ภรรยาเอก สุดท้ายถูกบีบให้ทิ้งลูกและไล่ออกไป คุณชายนั้นก็ไม่ได้ปกป้อง นางจึงต้องออกมาผจญชีวิตตามลำพังเพราะละอายเกินกว่าจะแบกหน้ากลับบ้านเกิด บทกวีจบลงด้วยการรำพันของนางว่า ความรักเพียงชั่วขณะของบุรุษ กลับเป็นความพลาดทั้งชีวิตของสตรี และเตือนเหล่าหญิงสาวไร้เดียงสาที่กำลังมีความรักให้จงสังวรไว้ว่า อย่าได้เอาชีวิตทั้งชีวิตของตนมาทุ่มเทให้กับชายใดได้โดยง่าย

    วรรคที่กล่าวถึงตอนสบตากันข้ามกำแพงและตกหลุมรักนั้น ก็คือวรรคที่หรูอี้มักเอ่ยติดปากยามที่นางและเฉียนหลงพูดถึงละครงิ้ว ‘สันกำแพง-หลังอาชา’ นี้ ซึ่ง Storyฯ ขอแปลและเรียบเรียงวรรคนี้ว่า ‘เหนือกำแพงประสานตาหลังอาชา หนึ่งพานพบคนึงหาเจียนวางวาย’ (墙头马上遥相顾,一见知君即断肠 หมายเหตุ ภาษาจีนใช้คำประมาณว่า ‘รักและคิดถึงจนทำให้ไส้ขาดจนตายได้!’) เป็นคำพูดที่หรูอี้พยายามสื่อให้เฉียนหลงเข้าใจว่านางรักเขามากมาย

    นับว่าเป็นบทกวีที่แฝงไว้ด้วยความเศร้าและความผิดหวัง แต่ทำไมหรูอี้และเฉียนหลงจึงคุยกันราวกับว่ามันเป็นเรื่องที่มีความหมายดี?

    นั่นเป็นเพราะว่าละครงิ้วและบทกวีมีความแตกต่าง ละครงิ้วที่นิยมในสมัยหยวนนั้น เป็นสไตล์แบบ ‘จ๋าจวี้’ (Mixed Play ที่ Storyฯ เคยพูดถึงตอนคุยเรื่อง <สามบุปผาลิขิตฝัน>) กล่าวคือมีหลากหลายอรรถรส ละครเรื่องนี้จึงถูกแต่งเติมให้มีทั้งความเศร้า ความตลกและจบแบบสุขนิยม มีการต่อเติมเรื่องราวว่า สตรีนางนี้คือคุณหนูหลี่เชียนจิน แต่นางโหยหาความรักและต่อต้านการถูกกักขัง นางหนีตามเผยส้าวจวิ้นมาถึงเรือนสกุลเผย แต่ต้องแอบอยู่ในเรือนสวนของสามีไม่ให้พ่อของสามีรู้ อยู่มาเจ็ดปีมีบุตรชายหนึ่งหญิงหนึ่ง ความลับก็ถูกเปิดเผย นางถูกกล่าวหาว่าเป็นนางโลมและถูกบีบให้ต้องทิ้งลูกกลับบ้านเกิดไปโดยที่เผยส้าวจวิ้นทำอะไรไม่ได้ ต่อมาเผยส้าวจวิ้นสอบได้เป็นราชบัณฑิตเป็นขุนนางติดยศ ทางบ้านไม่กล้าขัดเขาอีก เขาก็มาง้อนาง ง้ออยู่นานจนสุดท้ายนางใจอ่อนยอมคืนดีด้วย และได้ครองรักกันอย่างมีความสุขในที่สุด เป็นเรื่องราวความรักหลากหลายอรรถรสที่สะท้อนให้เห็นถึงแนวคิดที่จะฝ่าฟันอุปสรรคให้หลุดพ้นจากกรอบสังคม จึงเป็นเรื่องที่ได้รับความนิยมตลอดหลายยุคหลายสมัย

    ‘เหนือกำแพงประสานตาหลังอาชา หนึ่งพานพบคนึงหาเจียนวางวาย’ ... ไม่แน่ว่าหรูอี้อาจต้องการเพียงใช้ประโยคนี้แสดงถึงความรักอย่างยิ่งยวดที่มีต่อเฉียนหลง แต่บทสรุปเรื่องราวชีวิตของนางผ่านซีรีส์เรื่องนี้กลับกลายเป็นอย่างที่บทกวีว่าไว้... ความรักเพียงชั่วขณะของบุรุษ กลับเป็นความพลาดทั้งชีวิตของสตรี

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://kknews.cc/history/xeg9gx8.html
    https://www.sgss8.net/tpdq/21724747/
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://so.gushiwen.cn/shiwenv_5487665ffe0a.aspx
    https://baike.baidu.com/item/井底引银瓶/10214172
    https://www.sohu.com/a/260464211_801417
    https://baike.baidu.com/item/裴少俊墙头马上/754408

    #หรูอี้จอมนางเคียงบัลลังก์ #จ๋าจวี้ #งิ้วสมัยหยวน #เฉียงโถวหม่าซ่าง #สันกำแพงหลังอาชา
    สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ Storyฯ คุยถึงที่มาของวลีเด็ดจากซีรีส์ <หรูอี้จอมนางเคียงบัลลังก์> มีเพื่อนเพจถามถึงเรื่องละครงิ้วที่หรูอี้พูดถึงบ่อยๆ ในเรื่อง ซึ่งก็คือ ‘เฉียงโถวหม่าซ่าง’ (墙头马上) ขอใช้คำแปลตรงตัวว่า ‘สันกำแพง-หลังอาชา’ ซึ่งในซีรีส์เท้าความว่า การชมงิ้วเรื่องนี้เป็นครั้งแรกที่หรูอี้และเฉียนหลงได้พบกัน และต่อมามีฉากที่เฉียนหลงบอกว่าจะไม่อ่อนแอเหมือนคุณชายสกุลเผย และหรูอี้บอกว่าไม่อยากต้องเจอสภาพแบบคุณหนูหลี่ที่ถูกบังคับให้ต้องทิ้งลูกไป ทำเอาผู้ชมงงไปตามๆ กันว่าเขาคุยอะไรกัน วันนี้เรามาคุยกันเรื่อง ‘สันกำแพง-หลังอาชา’ นี้ ‘สันกำแพง-หลังอาชา’ เป็นละครงิ้วสมัยราชวงศ์หยวนมีชื่อเต็มว่า ‘เผยส้าวจวิ้น เฉียงโถวหม่าซ่าง’ (裴少俊墙头马上) ต่อมาตัดชื่อสั้นลงเหลือเพียง ‘เฉียงโถวหม่าซ่าง’ เป็นผลงานของ ‘ไป๋ผ้อ’ ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ยอดผู้แต่งบทละครงิ้วในสมัยนั้นและผลงานของเขายังได้รับการสืบทอดและจัดแสดงในปัจจุบันอีกหลายเรื่อง และ ‘สันกำแพง-หลังอาชา’ นี้ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสี่ยอดละครงิ้วแนวรักโรแมนติกสมัยหยวน ละครงิ้วนี้ดัดแปลงมาจากบทกวีสมัยถังของไป๋จวีอี (ค.ศ. 772-846) (หมายเหตุ คือเขาคือนักการเมืองผู้เคยสร้างผลงานบทกวีชื่นชมความงามของดอกซากุระหรืออิงฮวาที่ Storyฯ เคยเขียนถึง https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/686842736777355 ) บทกวีที่ว่านี้มีชื่อว่า ‘งมขวดเงินจากก้นบ่อ’ (井底引银瓶) เป็นหนึ่งในผลงานที่เลื่องชื่อที่สุดของเขา ยาวถึง 34 วรรค สรุปเนื้อหาเป็นเรื่องราวความรักรันทด โดยมีอารัมภบทว่า ใช้ด้ายผูกขวดเงินดึงขึ้นเกือบจะพ้นบ่อ แต่ด้ายก็ขาดเสียก่อน เอาหยกมาเจียรด้วยหิน กำลังจะได้ปิ่นปักผมก็มาหักเสียก่อน เป็นการหวนรำลึกถึงความรักในอดีตที่ขาดสะบั้นลง อดีตที่ว่านี้ก็คือเรื่องคุณหนูนางหนึ่งที่ถูกเลี้ยงมาอย่างริ้นไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม วันๆ ถูกขังอยู่แต่ในสวนหลังบ้าน จึงชอบปีนขึ้นไปเกาะสันกำแพงมองดูโลกภายนอก อยู่มาวันหนึ่งยืนมองอยู่อย่างนี้ก็สบตาเข้ากับคุณชายท่านหนึ่งที่ขี่ม้าขาวผ่านมา เกิดเป็นรักแรกพบ ต่อมาก็หนีตามคุณชายผู้นั้นกลับไปยังบ้านของเขาที่อีกเมืองหนึ่ง แต่ด้วยเป็นการหนีตาม ไม่ได้มีตบแต่งตามพิธีการ นางจึงไม่ได้รับการยอมรับจากครอบครัวฝ่ายชาย ถูกมองว่าเป็นเพียงอนุ ไม่ใช่ภรรยาเอก สุดท้ายถูกบีบให้ทิ้งลูกและไล่ออกไป คุณชายนั้นก็ไม่ได้ปกป้อง นางจึงต้องออกมาผจญชีวิตตามลำพังเพราะละอายเกินกว่าจะแบกหน้ากลับบ้านเกิด บทกวีจบลงด้วยการรำพันของนางว่า ความรักเพียงชั่วขณะของบุรุษ กลับเป็นความพลาดทั้งชีวิตของสตรี และเตือนเหล่าหญิงสาวไร้เดียงสาที่กำลังมีความรักให้จงสังวรไว้ว่า อย่าได้เอาชีวิตทั้งชีวิตของตนมาทุ่มเทให้กับชายใดได้โดยง่าย วรรคที่กล่าวถึงตอนสบตากันข้ามกำแพงและตกหลุมรักนั้น ก็คือวรรคที่หรูอี้มักเอ่ยติดปากยามที่นางและเฉียนหลงพูดถึงละครงิ้ว ‘สันกำแพง-หลังอาชา’ นี้ ซึ่ง Storyฯ ขอแปลและเรียบเรียงวรรคนี้ว่า ‘เหนือกำแพงประสานตาหลังอาชา หนึ่งพานพบคนึงหาเจียนวางวาย’ (墙头马上遥相顾,一见知君即断肠 หมายเหตุ ภาษาจีนใช้คำประมาณว่า ‘รักและคิดถึงจนทำให้ไส้ขาดจนตายได้!’) เป็นคำพูดที่หรูอี้พยายามสื่อให้เฉียนหลงเข้าใจว่านางรักเขามากมาย นับว่าเป็นบทกวีที่แฝงไว้ด้วยความเศร้าและความผิดหวัง แต่ทำไมหรูอี้และเฉียนหลงจึงคุยกันราวกับว่ามันเป็นเรื่องที่มีความหมายดี? นั่นเป็นเพราะว่าละครงิ้วและบทกวีมีความแตกต่าง ละครงิ้วที่นิยมในสมัยหยวนนั้น เป็นสไตล์แบบ ‘จ๋าจวี้’ (Mixed Play ที่ Storyฯ เคยพูดถึงตอนคุยเรื่อง <สามบุปผาลิขิตฝัน>) กล่าวคือมีหลากหลายอรรถรส ละครเรื่องนี้จึงถูกแต่งเติมให้มีทั้งความเศร้า ความตลกและจบแบบสุขนิยม มีการต่อเติมเรื่องราวว่า สตรีนางนี้คือคุณหนูหลี่เชียนจิน แต่นางโหยหาความรักและต่อต้านการถูกกักขัง นางหนีตามเผยส้าวจวิ้นมาถึงเรือนสกุลเผย แต่ต้องแอบอยู่ในเรือนสวนของสามีไม่ให้พ่อของสามีรู้ อยู่มาเจ็ดปีมีบุตรชายหนึ่งหญิงหนึ่ง ความลับก็ถูกเปิดเผย นางถูกกล่าวหาว่าเป็นนางโลมและถูกบีบให้ต้องทิ้งลูกกลับบ้านเกิดไปโดยที่เผยส้าวจวิ้นทำอะไรไม่ได้ ต่อมาเผยส้าวจวิ้นสอบได้เป็นราชบัณฑิตเป็นขุนนางติดยศ ทางบ้านไม่กล้าขัดเขาอีก เขาก็มาง้อนาง ง้ออยู่นานจนสุดท้ายนางใจอ่อนยอมคืนดีด้วย และได้ครองรักกันอย่างมีความสุขในที่สุด เป็นเรื่องราวความรักหลากหลายอรรถรสที่สะท้อนให้เห็นถึงแนวคิดที่จะฝ่าฟันอุปสรรคให้หลุดพ้นจากกรอบสังคม จึงเป็นเรื่องที่ได้รับความนิยมตลอดหลายยุคหลายสมัย ‘เหนือกำแพงประสานตาหลังอาชา หนึ่งพานพบคนึงหาเจียนวางวาย’ ... ไม่แน่ว่าหรูอี้อาจต้องการเพียงใช้ประโยคนี้แสดงถึงความรักอย่างยิ่งยวดที่มีต่อเฉียนหลง แต่บทสรุปเรื่องราวชีวิตของนางผ่านซีรีส์เรื่องนี้กลับกลายเป็นอย่างที่บทกวีว่าไว้... ความรักเพียงชั่วขณะของบุรุษ กลับเป็นความพลาดทั้งชีวิตของสตรี (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://kknews.cc/history/xeg9gx8.html https://www.sgss8.net/tpdq/21724747/ Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://so.gushiwen.cn/shiwenv_5487665ffe0a.aspx https://baike.baidu.com/item/井底引银瓶/10214172 https://www.sohu.com/a/260464211_801417 https://baike.baidu.com/item/裴少俊墙头马上/754408 #หรูอี้จอมนางเคียงบัลลังก์ #จ๋าจวี้ #งิ้วสมัยหยวน #เฉียงโถวหม่าซ่าง #สันกำแพงหลังอาชา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 151 มุมมอง 0 รีวิว
  • สภาวธรรม หมายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งทางกายและทางใจ ในขณะปฏิบัติธรรมให้ผู้ปฏิบัติธรรมรับรู้ได้ บางครั้งก็เรียกว่าอารมณ์ของกรรมฐาน หรือสภาพธรรมที่เกิดขึ้นตามความเป็นจริงของรูปนาม
    สภาวธรรม หมายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งทางกายและทางใจ ในขณะปฏิบัติธรรมให้ผู้ปฏิบัติธรรมรับรู้ได้ บางครั้งก็เรียกว่าอารมณ์ของกรรมฐาน หรือสภาพธรรมที่เกิดขึ้นตามความเป็นจริงของรูปนาม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 38 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่วงนี้สิ่งที่ต้องทำมันล้นมือจนแทบจะไม่มีเวลามาลงบทความใน VK และอัพเดทสถานะใน Thaitimes ละ แต่ก็ดีที่ฝนตกเที่ยง บ่าย เย็น ค่ำ แต่ก็ส่งสัญญาณให้ผมสู้ต่อไปไม่ต้องคิดอะไรลบเยอะมาก ยังไงก็ต้องทำตามโรดแมปที่เขียนไว้ทุกวัน และบางทีอาจจะแก้ไขโรดแมปเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพของผมครับ วันนี้กะว่าจะสมัครสอบท้องถิ่น วันก่อนก็ลืมเตรียมรูปถ่ายเอกสารแนบสมัคร (สำเนาบัตร ปชช. สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนา สด.43) ยุ่งยากไปหมด เลยทำใจไม่สมัครไปเลย แต่โฟกัสไปที่งานที่ใช่อย่างเป็นฟรีแลนซ์เขียนโปรแกรมสร้างระบบทำแพลตฟอร์มยังจะดีกว่า พอพูดถึงฟรีแลนซ์นึกถึงคนที่จ้างผมเริ่มรู้จักผมใน Fastwork แล้วหลังจากนั้นก็ไลน์คุยแล้วบอกในไลน์ว่าจ่ายนอก Fastwork จนสุดท้ายผมต้องห่างเหินจาก Fastwork ไปสักพัก จนลืมลูกค้าใน Fastwork ทักขอบรีฟงาน สุดท้ายก็ลืมจนโดนระบบแคนเซิล ผมรู้เลยว่าทำให้เขาต่อไปเหมือนไม่เห็นอนาคต และต้องแคลเซิลไปโดยสิ้นเชิง ไม่รับเงินค่าแก้งานก้อนสุดท้าย เพราะได้มาก็ได้มาน้อยอยู่ดี เพราะติดอ่านหนังสือ สอบ ก.พ. สอบ 2 สนาม สนามกระดาษดินสอ2B กับ สนามหน้าคอม คือจะสมัครสอบอะไรนักหนา แต่บางทีผมสอบเอาผลผ่านเฉยๆ ไม่ได้ยื่นสมัครต่อที่ไหนเลยหลังจากนั้น แต่ว่าจะสอบ ก.ว. และ TOEIC ตามไปด้วย ค่อยๆเดินตามเกมส์ที่ผมกำหนดเอาไว้ ไม่ใช่เดินตามเกมส์ที่คนรอบข้างวางเอาไว้และกดดันอย่างหนักจนไม่สามารถเคลียร์เกมส์ได่ต่อไป สุดท้ายก็ต้องดิ่งลงเหวอย่างเดียว
    ช่วงนี้สิ่งที่ต้องทำมันล้นมือจนแทบจะไม่มีเวลามาลงบทความใน VK และอัพเดทสถานะใน Thaitimes ละ แต่ก็ดีที่ฝนตกเที่ยง บ่าย เย็น ค่ำ แต่ก็ส่งสัญญาณให้ผมสู้ต่อไปไม่ต้องคิดอะไรลบเยอะมาก ยังไงก็ต้องทำตามโรดแมปที่เขียนไว้ทุกวัน และบางทีอาจจะแก้ไขโรดแมปเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพของผมครับ วันนี้กะว่าจะสมัครสอบท้องถิ่น วันก่อนก็ลืมเตรียมรูปถ่ายเอกสารแนบสมัคร (สำเนาบัตร ปชช. สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนา สด.43) ยุ่งยากไปหมด เลยทำใจไม่สมัครไปเลย แต่โฟกัสไปที่งานที่ใช่อย่างเป็นฟรีแลนซ์เขียนโปรแกรมสร้างระบบทำแพลตฟอร์มยังจะดีกว่า พอพูดถึงฟรีแลนซ์นึกถึงคนที่จ้างผมเริ่มรู้จักผมใน Fastwork แล้วหลังจากนั้นก็ไลน์คุยแล้วบอกในไลน์ว่าจ่ายนอก Fastwork จนสุดท้ายผมต้องห่างเหินจาก Fastwork ไปสักพัก จนลืมลูกค้าใน Fastwork ทักขอบรีฟงาน สุดท้ายก็ลืมจนโดนระบบแคนเซิล ผมรู้เลยว่าทำให้เขาต่อไปเหมือนไม่เห็นอนาคต และต้องแคลเซิลไปโดยสิ้นเชิง ไม่รับเงินค่าแก้งานก้อนสุดท้าย เพราะได้มาก็ได้มาน้อยอยู่ดี เพราะติดอ่านหนังสือ สอบ ก.พ. สอบ 2 สนาม สนามกระดาษดินสอ2B กับ สนามหน้าคอม คือจะสมัครสอบอะไรนักหนา แต่บางทีผมสอบเอาผลผ่านเฉยๆ ไม่ได้ยื่นสมัครต่อที่ไหนเลยหลังจากนั้น แต่ว่าจะสอบ ก.ว. และ TOEIC ตามไปด้วย ค่อยๆเดินตามเกมส์ที่ผมกำหนดเอาไว้ ไม่ใช่เดินตามเกมส์ที่คนรอบข้างวางเอาไว้และกดดันอย่างหนักจนไม่สามารถเคลียร์เกมส์ได่ต่อไป สุดท้ายก็ต้องดิ่งลงเหวอย่างเดียว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 132 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในงาน Mobile World Congress 2025 ที่ผ่านมา AMD ได้ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับ Cisco, Nokia และ Jio Platforms เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มที่เรียกว่า Open Telecom AI Platform โดยมุ่งเน้นการนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในโครงสร้างโทรคมนาคมเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ลดต้นทุนการดำเนินงาน และสร้างเครือข่ายที่มีความชาญฉลาด

    == องค์ประกอบและบทบาทของพันธมิตร ==
    - AMD: สนับสนุนด้วยโซลูชันการประมวลผลประสิทธิภาพสูง เช่น CPU EPYC, GPU Instinct และเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ปรับเปลี่ยนได้
    - Cisco: มาพร้อมโซลูชันเครือข่ายและการวิเคราะห์ AI เช่น Cisco Agile Services Networking และ Splunk Analytics
    - Nokia: เชี่ยวชาญด้านเครือข่ายไร้สาย การขนส่งข้อมูลผ่าน IP และบรอดแบนด์
    - Jio Platforms: เป็นผู้นำในแพลตฟอร์มนี้ พร้อมแสดงต้นแบบและนำไปใช้งานในตลาดโทรคมนาคมทั่วโลก

    แพลตฟอร์มนี้จะรวม AI เข้ากับทุกระดับของโครงสร้างโทรคมนาคม โดยใช้อัลกอริทึมที่ล้ำสมัย เช่น โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLMs) และการเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) เพื่อบริหารจัดการเครือข่ายให้สามารถปรับตัวได้เองในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง

    การเปิดตัว Open APIs จะช่วยให้แพลตฟอร์มสามารถทำงานร่วมกับโครงสร้างโทรคมนาคมเดิมได้อย่างราบรื่น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดความซับซ้อนในการดำเนินงาน

    == เป้าหมายและประโยชน์ ==
    - เพิ่มความปลอดภัย: ระบบจะสามารถตรวจจับความเสี่ยงได้อัตโนมัติและปรับการทำงานเพื่อป้องกันการโจมตี
    - ลดต้นทุน: การใช้ AI ในการบริหารจัดการเครือข่ายช่วยลดค่าใช้จ่ายการดำเนินงาน
    - ประสิทธิภาพที่ดีขึ้น: ผู้ให้บริการสามารถปรับใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ และมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้กับผู้ใช้

    ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของ AMD ในตลาดโทรคมนาคม ซึ่งก่อนหน้านี้ Intel มีบทบาทนำหน้าอย่างชัดเจนในเทคโนโลยี 5G และการพัฒนาระบบโทรคมนาคม แพลตฟอร์มนี้ยังสะท้อนถึงการใช้ AI เพื่อสร้างโครงสร้างเครือข่ายที่มีความยืดหยุ่นและชาญฉลาด พร้อมเพิ่มโอกาสใหม่ในการนำเทคโนโลยีไปใช้

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/amd-teams-up-with-cisco-nokia-and-jio-platforms-for-open-telecom-ai-platform
    ในงาน Mobile World Congress 2025 ที่ผ่านมา AMD ได้ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับ Cisco, Nokia และ Jio Platforms เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มที่เรียกว่า Open Telecom AI Platform โดยมุ่งเน้นการนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในโครงสร้างโทรคมนาคมเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ลดต้นทุนการดำเนินงาน และสร้างเครือข่ายที่มีความชาญฉลาด == องค์ประกอบและบทบาทของพันธมิตร == - AMD: สนับสนุนด้วยโซลูชันการประมวลผลประสิทธิภาพสูง เช่น CPU EPYC, GPU Instinct และเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ปรับเปลี่ยนได้ - Cisco: มาพร้อมโซลูชันเครือข่ายและการวิเคราะห์ AI เช่น Cisco Agile Services Networking และ Splunk Analytics - Nokia: เชี่ยวชาญด้านเครือข่ายไร้สาย การขนส่งข้อมูลผ่าน IP และบรอดแบนด์ - Jio Platforms: เป็นผู้นำในแพลตฟอร์มนี้ พร้อมแสดงต้นแบบและนำไปใช้งานในตลาดโทรคมนาคมทั่วโลก แพลตฟอร์มนี้จะรวม AI เข้ากับทุกระดับของโครงสร้างโทรคมนาคม โดยใช้อัลกอริทึมที่ล้ำสมัย เช่น โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLMs) และการเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) เพื่อบริหารจัดการเครือข่ายให้สามารถปรับตัวได้เองในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง การเปิดตัว Open APIs จะช่วยให้แพลตฟอร์มสามารถทำงานร่วมกับโครงสร้างโทรคมนาคมเดิมได้อย่างราบรื่น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดความซับซ้อนในการดำเนินงาน == เป้าหมายและประโยชน์ == - เพิ่มความปลอดภัย: ระบบจะสามารถตรวจจับความเสี่ยงได้อัตโนมัติและปรับการทำงานเพื่อป้องกันการโจมตี - ลดต้นทุน: การใช้ AI ในการบริหารจัดการเครือข่ายช่วยลดค่าใช้จ่ายการดำเนินงาน - ประสิทธิภาพที่ดีขึ้น: ผู้ให้บริการสามารถปรับใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ และมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้กับผู้ใช้ ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของ AMD ในตลาดโทรคมนาคม ซึ่งก่อนหน้านี้ Intel มีบทบาทนำหน้าอย่างชัดเจนในเทคโนโลยี 5G และการพัฒนาระบบโทรคมนาคม แพลตฟอร์มนี้ยังสะท้อนถึงการใช้ AI เพื่อสร้างโครงสร้างเครือข่ายที่มีความยืดหยุ่นและชาญฉลาด พร้อมเพิ่มโอกาสใหม่ในการนำเทคโนโลยีไปใช้ https://www.tomshardware.com/tech-industry/amd-teams-up-with-cisco-nokia-and-jio-platforms-for-open-telecom-ai-platform
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    AMD teams up with Cisco, Nokia, and Jio Platforms for Open Telecom AI platform
    Promises to improve network security while cutting operational costs.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 116 มุมมอง 0 รีวิว
  • บริษัท Cortical Labs ในออสเตรเลียได้เปิดตัว CL1 ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ชีวภาพตัวแรกของโลกที่ผสมผสานเซลล์สมองมนุษย์เข้ากับเทคโนโลยีซิลิคอนแบบดั้งเดิม CL1 ถูกเปิดตัวครั้งแรกในงาน Mobile World Congress ที่บาร์เซโลนา และถูกพัฒนามาเพื่อใช้ในการศึกษาความเป็นไปได้ของ AI และ Machine Learning ที่มีความใกล้เคียงกับสมองของมนุษย์

    CL1 ใช้ชิปซิลิคอนที่มีเซลล์สมองมนุษย์เพาะเลี้ยงอยู่บนพื้นผิว เซลล์สมองเหล่านี้สามารถตอบสนองต่อสัญญาณไฟฟ้าและสร้างเครือข่ายที่ประมวลผลข้อมูลในลักษณะเดียวกับสมองมนุษย์ สิ่งที่น่าสนใจคือ ระบบนี้สามารถสื่อสารสองทางได้ โดยใช้สัญญาณไฟฟ้ากระตุ้นเซลล์สมอง และเก็บข้อมูลการตอบสนองเพื่อนำมาวิเคราะห์ต่อ

    เพื่อให้เซลล์สมองเหล่านี้ยังคงทำงานได้ดี CL1 มาพร้อมระบบช่วยชีวิตที่ควบคุมอุณหภูมิ การแลกเปลี่ยนก๊าซ และเงื่อนไขที่จำเป็นอื่น ๆ

    CL1 ถูกออกแบบมาเพื่อเรียนรู้และปรับตัว เช่นเดียวกับสมองมนุษย์ ตัวอย่างที่เคยมีการทดลอง เช่น การฝึกเซลล์สมองให้เล่นวิดีโอเกมพื้นฐาน สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่า คอมพิวเตอร์ชีวภาพสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในด้านที่ AI แบบเดิมยังไม่สมบูรณ์ เช่น การจดจำรูปแบบและการตัดสินใจในสภาพแวดล้อมที่ไม่แน่นอน

    นอกจากนี้ ความสามารถของเซลล์สมองในการปรับตัวทำให้เกิดศักยภาพใหม่ ๆ ในการประยุกต์ใช้งาน เช่น การพัฒนาหุ่นยนต์ที่ฉลาดยิ่งขึ้น หรือระบบวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อน

    ปัญหาและข้อควรระวัง
    - ความซับซ้อนในการผลิต: การสร้างและดูแลระบบ CL1 ต้องใช้กระบวนการที่ซับซ้อนและยังไม่สามารถผลิตในระดับอุตสาหกรรมได้
    - ปัญหาด้านจริยธรรม: แม้ว่าเซลล์สมองที่ใช้จะถูกเพาะเลี้ยงในห้องแล็บและไม่มีสติสัมปชัญญะ แต่ความก้าวหน้าในเทคโนโลยีนี้อาจต้องการกรอบกฎหมายและจริยธรรมที่ชัดเจนในอนาคต เพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิ์ที่เกี่ยวข้องกับเซลล์ชีวภาพมนุษย์

    CL1 จะพร้อมจำหน่ายตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยมีราคาอยู่ที่ประมาณ $35,000 เหมาะสำหรับองค์กรและสถาบันวิจัยที่ต้องการทดสอบหรือสำรวจการใช้งานคอมพิวเตอร์ชีวภาพในเชิงลึก

    CL1 ถือเป็นก้าวใหม่ที่น่าตื่นเต้นในวงการเทคโนโลยีชีวภาพและ AI ซึ่งอาจช่วยพัฒนาอนาคตของการเรียนรู้และการประมวลผลข้อมูล หากคุณสนใจรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ CL1 และความเป็นไปได้ในอนาคตของเทคโนโลยีนี้

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/worlds-first-body-in-a-box-biological-computer-uses-human-brain-cells-with-silicon-based-computing
    บริษัท Cortical Labs ในออสเตรเลียได้เปิดตัว CL1 ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ชีวภาพตัวแรกของโลกที่ผสมผสานเซลล์สมองมนุษย์เข้ากับเทคโนโลยีซิลิคอนแบบดั้งเดิม CL1 ถูกเปิดตัวครั้งแรกในงาน Mobile World Congress ที่บาร์เซโลนา และถูกพัฒนามาเพื่อใช้ในการศึกษาความเป็นไปได้ของ AI และ Machine Learning ที่มีความใกล้เคียงกับสมองของมนุษย์ CL1 ใช้ชิปซิลิคอนที่มีเซลล์สมองมนุษย์เพาะเลี้ยงอยู่บนพื้นผิว เซลล์สมองเหล่านี้สามารถตอบสนองต่อสัญญาณไฟฟ้าและสร้างเครือข่ายที่ประมวลผลข้อมูลในลักษณะเดียวกับสมองมนุษย์ สิ่งที่น่าสนใจคือ ระบบนี้สามารถสื่อสารสองทางได้ โดยใช้สัญญาณไฟฟ้ากระตุ้นเซลล์สมอง และเก็บข้อมูลการตอบสนองเพื่อนำมาวิเคราะห์ต่อ เพื่อให้เซลล์สมองเหล่านี้ยังคงทำงานได้ดี CL1 มาพร้อมระบบช่วยชีวิตที่ควบคุมอุณหภูมิ การแลกเปลี่ยนก๊าซ และเงื่อนไขที่จำเป็นอื่น ๆ CL1 ถูกออกแบบมาเพื่อเรียนรู้และปรับตัว เช่นเดียวกับสมองมนุษย์ ตัวอย่างที่เคยมีการทดลอง เช่น การฝึกเซลล์สมองให้เล่นวิดีโอเกมพื้นฐาน สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่า คอมพิวเตอร์ชีวภาพสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในด้านที่ AI แบบเดิมยังไม่สมบูรณ์ เช่น การจดจำรูปแบบและการตัดสินใจในสภาพแวดล้อมที่ไม่แน่นอน นอกจากนี้ ความสามารถของเซลล์สมองในการปรับตัวทำให้เกิดศักยภาพใหม่ ๆ ในการประยุกต์ใช้งาน เช่น การพัฒนาหุ่นยนต์ที่ฉลาดยิ่งขึ้น หรือระบบวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อน ปัญหาและข้อควรระวัง - ความซับซ้อนในการผลิต: การสร้างและดูแลระบบ CL1 ต้องใช้กระบวนการที่ซับซ้อนและยังไม่สามารถผลิตในระดับอุตสาหกรรมได้ - ปัญหาด้านจริยธรรม: แม้ว่าเซลล์สมองที่ใช้จะถูกเพาะเลี้ยงในห้องแล็บและไม่มีสติสัมปชัญญะ แต่ความก้าวหน้าในเทคโนโลยีนี้อาจต้องการกรอบกฎหมายและจริยธรรมที่ชัดเจนในอนาคต เพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิ์ที่เกี่ยวข้องกับเซลล์ชีวภาพมนุษย์ CL1 จะพร้อมจำหน่ายตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยมีราคาอยู่ที่ประมาณ $35,000 เหมาะสำหรับองค์กรและสถาบันวิจัยที่ต้องการทดสอบหรือสำรวจการใช้งานคอมพิวเตอร์ชีวภาพในเชิงลึก CL1 ถือเป็นก้าวใหม่ที่น่าตื่นเต้นในวงการเทคโนโลยีชีวภาพและ AI ซึ่งอาจช่วยพัฒนาอนาคตของการเรียนรู้และการประมวลผลข้อมูล หากคุณสนใจรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ CL1 และความเป็นไปได้ในอนาคตของเทคโนโลยีนี้ https://www.tomshardware.com/tech-industry/worlds-first-body-in-a-box-biological-computer-uses-human-brain-cells-with-silicon-based-computing
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    World's first 'body in a box' biological computer uses human brain cells with silicon-based computing
    Cortical Labs said the CL1 will be available from June, priced at around $35,000.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 125 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักวิจัยชาวจีนได้พัฒนาเทคโนโลยีจัดเก็บข้อมูลชนิดใหม่ที่เรียกว่า "Molecular HDD" ซึ่งใช้โมเลกุลอินทรีย์เป็นตัวกลางในการจัดเก็บและเข้ารหัสข้อมูล เทคโนโลยีนี้เปิดโอกาสให้เกิดอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่มีความหนาแน่นสูงเป็นพิเศษ และช่วยลดความต้องการพื้นที่จัดเก็บ รวมถึงลดการใช้พลังงานอย่างมาก

    ข้อมูลใน Molecular HDD ถูกอ่านและเขียนโดยใช้กล้องจุลทรรศน์แรงอะตอม (Atomic Force Microscope - AFM) ที่สามารถเปลี่ยนสถานะทางไฟฟ้าของโมเลกุลเพื่อบันทึกข้อมูล เทคโนโลยีนี้สามารถรองรับสถานะการนำไฟฟ้าได้ถึง 96 สถานะต่อหน่วย (เทียบเท่ากับการเก็บข้อมูล 6 บิต) ซึ่งคล้ายกับเทคโนโลยี NAND แบบหลายระดับเซลล์ (Multi-Level Cell NAND)

    == จุดเด่นและความท้าทาย ==
    - พลังงานต่ำ: ระบบนี้ไม่ต้องใช้สนามแม่เหล็กแรงสูงหรือความร้อนในการเขียนข้อมูล ทำให้การอ่านและเขียนข้อมูลใช้พลังงานเพียงระดับ pW/บิต
    - ความหนาแน่นสูง: Molecular HDD สามารถเก็บข้อมูลได้ประมาณ 9.6Gbit ต่อตารางนิ้ว ซึ่งใกล้เคียงกับฮาร์ดดิสก์ที่ใช้เทคโนโลยี HDMR (Heat-Assisted Magnetic Recording) ที่จะวางจำหน่ายในอนาคต
    - การเข้ารหัสในตัว: รองรับการเข้ารหัสข้อมูลด้วยการดำเนินการ XOR ที่โมเลกุลโดยตรง เช่น การเข้ารหัสภาพโมเสกของ Mogao Grottoes ที่ข้อมูลของแต่ละพิกเซลถูกเข้ารหัสและถอดรหัสในระดับโมเลกุล

    อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีนี้ยังมีข้อจำกัดสำคัญ เช่น อายุการใช้งานที่สั้นของปลายกล้อง AFM ซึ่งสามารถใช้งานได้เพียง 50-200 ชั่วโมงในการใช้งานเป็นครั้งคราว และ 5-50 ชั่วโมงในการใช้งานต่อเนื่อง นอกจากนี้ เมื่อเทียบกับ HDMR ซึ่งคาดว่าจะพร้อมสำหรับการผลิตในปี 2030 Molecular HDD อาจใช้เวลานานกว่าที่จะปรับปรุงและเข้าถึงระดับการผลิตเชิงพาณิชย์

    หากปัญหาด้านความทนทานของปลายกล้อง AFM ได้รับการแก้ไข เทคโนโลยี Molecular HDD อาจก้าวเข้าสู่การใช้งานเชิงพาณิชย์ในฐานะตัวเลือกใหม่ที่สามารถเก็บข้อมูลได้ในความจุสูงกว่าฮาร์ดดิสก์รุ่นปัจจุบัน รวมถึงมีศักยภาพสำหรับการจัดเก็บข้อมูลเชิงลึกอย่างปลอดภัยในยุคดิจิทัล

    https://www.tomshardware.com/pc-components/hdds/chinese-researchers-reveal-self-encrypting-molecular-hdd-technology-supporting-100tb-capacities
    นักวิจัยชาวจีนได้พัฒนาเทคโนโลยีจัดเก็บข้อมูลชนิดใหม่ที่เรียกว่า "Molecular HDD" ซึ่งใช้โมเลกุลอินทรีย์เป็นตัวกลางในการจัดเก็บและเข้ารหัสข้อมูล เทคโนโลยีนี้เปิดโอกาสให้เกิดอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่มีความหนาแน่นสูงเป็นพิเศษ และช่วยลดความต้องการพื้นที่จัดเก็บ รวมถึงลดการใช้พลังงานอย่างมาก ข้อมูลใน Molecular HDD ถูกอ่านและเขียนโดยใช้กล้องจุลทรรศน์แรงอะตอม (Atomic Force Microscope - AFM) ที่สามารถเปลี่ยนสถานะทางไฟฟ้าของโมเลกุลเพื่อบันทึกข้อมูล เทคโนโลยีนี้สามารถรองรับสถานะการนำไฟฟ้าได้ถึง 96 สถานะต่อหน่วย (เทียบเท่ากับการเก็บข้อมูล 6 บิต) ซึ่งคล้ายกับเทคโนโลยี NAND แบบหลายระดับเซลล์ (Multi-Level Cell NAND) == จุดเด่นและความท้าทาย == - พลังงานต่ำ: ระบบนี้ไม่ต้องใช้สนามแม่เหล็กแรงสูงหรือความร้อนในการเขียนข้อมูล ทำให้การอ่านและเขียนข้อมูลใช้พลังงานเพียงระดับ pW/บิต - ความหนาแน่นสูง: Molecular HDD สามารถเก็บข้อมูลได้ประมาณ 9.6Gbit ต่อตารางนิ้ว ซึ่งใกล้เคียงกับฮาร์ดดิสก์ที่ใช้เทคโนโลยี HDMR (Heat-Assisted Magnetic Recording) ที่จะวางจำหน่ายในอนาคต - การเข้ารหัสในตัว: รองรับการเข้ารหัสข้อมูลด้วยการดำเนินการ XOR ที่โมเลกุลโดยตรง เช่น การเข้ารหัสภาพโมเสกของ Mogao Grottoes ที่ข้อมูลของแต่ละพิกเซลถูกเข้ารหัสและถอดรหัสในระดับโมเลกุล อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีนี้ยังมีข้อจำกัดสำคัญ เช่น อายุการใช้งานที่สั้นของปลายกล้อง AFM ซึ่งสามารถใช้งานได้เพียง 50-200 ชั่วโมงในการใช้งานเป็นครั้งคราว และ 5-50 ชั่วโมงในการใช้งานต่อเนื่อง นอกจากนี้ เมื่อเทียบกับ HDMR ซึ่งคาดว่าจะพร้อมสำหรับการผลิตในปี 2030 Molecular HDD อาจใช้เวลานานกว่าที่จะปรับปรุงและเข้าถึงระดับการผลิตเชิงพาณิชย์ หากปัญหาด้านความทนทานของปลายกล้อง AFM ได้รับการแก้ไข เทคโนโลยี Molecular HDD อาจก้าวเข้าสู่การใช้งานเชิงพาณิชย์ในฐานะตัวเลือกใหม่ที่สามารถเก็บข้อมูลได้ในความจุสูงกว่าฮาร์ดดิสก์รุ่นปัจจุบัน รวมถึงมีศักยภาพสำหรับการจัดเก็บข้อมูลเชิงลึกอย่างปลอดภัยในยุคดิจิทัล https://www.tomshardware.com/pc-components/hdds/chinese-researchers-reveal-self-encrypting-molecular-hdd-technology-supporting-100tb-capacities
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 96 มุมมอง 0 รีวิว
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ (U.S. Department of Labor) ได้เริ่มต้นการสอบสวนบริษัท Scale AI ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพด้านการติดป้ายข้อมูล (Data Labeling) ที่ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่อย่าง Nvidia, Amazon และ Meta โดยมีเป้าหมายเพื่อประเมินว่าบริษัทดำเนินการตามมาตรฐานด้านค่าจ้างและสภาพการทำงานภายใต้กฎหมาย Fair Labor Standards Act หรือไม่

    Scale AI เป็นบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2016 และมีบทบาทสำคัญในการให้บริการข้อมูลที่ติดป้ายอย่างถูกต้องเพื่อใช้ในการฝึกฝนโมเดล AI ระดับสูง เช่น OpenAI’s ChatGPT โดยบริษัทมีผู้ร่วมงานจากกว่า 9,000 เมืองทั่วโลก และยังเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้นักวิจัยสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับ AI ได้

    การสอบสวนนี้เริ่มต้นตั้งแต่เกือบหนึ่งปีที่แล้วภายใต้การบริหารของอดีตประธานาธิบดี Joe Biden และเน้นไปที่การตรวจสอบการปฏิบัติตามมาตรฐานเกี่ยวกับการจ่ายค่าจ้างและสภาพการทำงาน Scale AI ระบุว่าทางบริษัทได้ร่วมมือกับกระทรวงแรงงานอย่างต่อเนื่องเพื่ออธิบายถึงโมเดลธุรกิจและลักษณะเฉพาะของอุตสาหกรรม AI ที่กำลังเกิดขึ้น

    โฆษกของ Scale AI เปิดเผยว่าผู้มีส่วนร่วม (contributors) ส่วนใหญ่ให้การตอบรับในเชิงบวก และทางบริษัทมีทีมงานที่ดูแลให้การจ่ายค่าจ้างยุติธรรมและสร้างความรู้สึกสนับสนุนให้กับผู้ร่วมงาน พวกเขาอ้างว่าเกือบทุกครั้งบริษัทสามารถแก้ไขข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการจ่ายเงินได้ภายในสามวัน

    ปัจจุบัน Scale AI มีลูกค้ารายใหญ่ เช่น OpenAI, Cohere, Microsoft และ Morgan Stanley ทั้งนี้ บริษัทมีมูลค่าถึง 14 พันล้านดอลลาร์จากการระดมทุนในรอบท้ายปีที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ Scale AI กลายเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการพัฒนาโครงสร้างข้อมูลสำหรับ AI ในตลาดโลก

    สิ่งที่น่าสนใจคือการที่ Scale AI ต้องพยายามสร้างสมดุลระหว่างการขยายตัวและการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด หากผลการสอบสวนพบปัญหา อาจส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของบริษัท แต่ในขณะเดียวกัน การสอบสวนนี้ยังแสดงถึงความสำคัญของการกำกับดูแลในอุตสาหกรรม AI ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/07/us-labor-department-investigating-nvidia-amazon-backed-startup-scale-ai
    กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ (U.S. Department of Labor) ได้เริ่มต้นการสอบสวนบริษัท Scale AI ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพด้านการติดป้ายข้อมูล (Data Labeling) ที่ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่อย่าง Nvidia, Amazon และ Meta โดยมีเป้าหมายเพื่อประเมินว่าบริษัทดำเนินการตามมาตรฐานด้านค่าจ้างและสภาพการทำงานภายใต้กฎหมาย Fair Labor Standards Act หรือไม่ Scale AI เป็นบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2016 และมีบทบาทสำคัญในการให้บริการข้อมูลที่ติดป้ายอย่างถูกต้องเพื่อใช้ในการฝึกฝนโมเดล AI ระดับสูง เช่น OpenAI’s ChatGPT โดยบริษัทมีผู้ร่วมงานจากกว่า 9,000 เมืองทั่วโลก และยังเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้นักวิจัยสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับ AI ได้ การสอบสวนนี้เริ่มต้นตั้งแต่เกือบหนึ่งปีที่แล้วภายใต้การบริหารของอดีตประธานาธิบดี Joe Biden และเน้นไปที่การตรวจสอบการปฏิบัติตามมาตรฐานเกี่ยวกับการจ่ายค่าจ้างและสภาพการทำงาน Scale AI ระบุว่าทางบริษัทได้ร่วมมือกับกระทรวงแรงงานอย่างต่อเนื่องเพื่ออธิบายถึงโมเดลธุรกิจและลักษณะเฉพาะของอุตสาหกรรม AI ที่กำลังเกิดขึ้น โฆษกของ Scale AI เปิดเผยว่าผู้มีส่วนร่วม (contributors) ส่วนใหญ่ให้การตอบรับในเชิงบวก และทางบริษัทมีทีมงานที่ดูแลให้การจ่ายค่าจ้างยุติธรรมและสร้างความรู้สึกสนับสนุนให้กับผู้ร่วมงาน พวกเขาอ้างว่าเกือบทุกครั้งบริษัทสามารถแก้ไขข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการจ่ายเงินได้ภายในสามวัน ปัจจุบัน Scale AI มีลูกค้ารายใหญ่ เช่น OpenAI, Cohere, Microsoft และ Morgan Stanley ทั้งนี้ บริษัทมีมูลค่าถึง 14 พันล้านดอลลาร์จากการระดมทุนในรอบท้ายปีที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ Scale AI กลายเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการพัฒนาโครงสร้างข้อมูลสำหรับ AI ในตลาดโลก สิ่งที่น่าสนใจคือการที่ Scale AI ต้องพยายามสร้างสมดุลระหว่างการขยายตัวและการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด หากผลการสอบสวนพบปัญหา อาจส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของบริษัท แต่ในขณะเดียวกัน การสอบสวนนี้ยังแสดงถึงความสำคัญของการกำกับดูแลในอุตสาหกรรม AI ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/07/us-labor-department-investigating-nvidia-amazon-backed-startup-scale-ai
    WWW.THESTAR.COM.MY
    US Labor Department investigating Nvidia, Amazon-backed startup Scale AI
    (Reuters) - The U.S. Department of Labor is investigating Scale AI, a data labeling startup backed by tech giants Nvidia, Amazon and Meta, for its compliance with the Fair Labor Standards Act, the California-based firm said on Thursday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 132 มุมมอง 0 รีวิว
  • บางบัวทอง-บางปะอิน อนาคตมอเตอร์เวย์

    เมื่อวันก่อน สำนักก่อสร้างทางที่ 1 กรมทางหลวง เผยแพร่ภาพโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 3901 สายทางคู่ขนานวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร (ด้านตะวันตก) ด้านซ้ายทาง ตอน 2 ระหว่างกิโลเมตรที่ 73+800 ถึงกิโลเมตรที่ 86+559.873 แล้วเสร็จ ระยะทาง 12.759 กิโลเมตร ซึ่งก่อสร้างแล้วเสร็จ เป็นการก่อสร้างทางขนาน (Frontage Road) ขนาด 3 ช่องจราจร จากภาพมีการสร้างสะพานข้ามทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 6 บางปะอิน-นครราชสีมา โดยให้รถยนต์จากทางขนานทุกคันข้ามสะพานดังกล่าว ปิดช่องทางหลัก (Main Road) ที่มีอยู่เดิมซึ่งจะลอดใต้สะพานไปยังด่านบางปะอิน

    การก่อสร้างดังกล่าวเป็นการรองรับโครงการมอเตอร์เวย์หมายเลข 9 สายบางบัวทอง-บางปะอิน ที่จะก่อสร้างแทนที่บนทางหลัก โดยมีแนวเขตทาง 42 เมตร ขนาด 6 ช่องจราจร กว้างช่องละ 3.60 เมตร พร้อมรั้วกั้น เหมือนมอเตอร์เวย์หมายเลข 7 ช่วงทางแยกต่างระดับคีรีถึงทางแยกต่างระดับโป่ง (พัทยา) ซึ่งที่ผ่านมาได้ก่อสร้างทางขนานพร้อมกำหนดให้เป็นทางหลวงหมายเลข 3901 (ด้านซ้ายทาง) และ 3902 (ด้านขวาทาง) อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ยังเหลือการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ที่จะสิ้นสุดสัญญาในวันที่ 27 ส.ค. 2569 แต่ติดปัญหาสาธารณูปโภคและการรุกล้ำแนวเขตทาง

    สำหรับผู้ใช้รถใช้ถนนที่มาจากบางบัวทอง ช่องทางหลักมีสภาพผิวจราจรชำรุด ไม่แนะนำให้ใช้ทาง ส่วนช่องทางขนาน ช่วงบางบัวทอง ผ่านทางแยกต่างระดับลาดหลุมแก้ว และทางแยกต่างระดับสามโคก ก่อสร้างแล้วเสร็จ เป็นถนนคอนกรีตเสริมเหล็กอย่างดี แต่เมื่อถึงสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา จะเบี่ยงทางให้ใช้สะพานเก่าระหว่างการก่อสร้าง เมื่อลงจากสะพานแล้วจะมีทางขนานที่เพิ่งก่อสร้างแล้วเสร็จ แต่รถส่วนใหญ่จะใช้ทางหลัก ผ่านทางด่วนอุดรรัถยา ทางแยกต่างระดับเชียงรากน้อย (ทางหลวงหมายเลข 347) สะพานข้ามทางรถไฟ แล้วจะถึงสะพานที่เบี่ยงให้รถทุกคันขึ้นไป มุ่งหน้าทางแยกต่างระดับบางปะอิน

    ก่อนหน้านี้เมื่อเดือน ต.ค. 2566 กรมทางหลวงเคยเตรียมเสนอโครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์หมายเลข 9 ช่วงบางบัวทอง-ลาดหลุมแก้ว งบประมาณ 4,300 ล้านบาท แต่สุดท้ายก็เงียบหายไป กระทั่งวันที่ 3 ธ.ค. 2567 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กรมทางหลวงดำเนินโครงการมอเตอร์เวย์หมายเลข 9 ตอนทางยกระดับบางขุนเทียน-บางบัวทอง ระยะทาง 35.85 กิโลเมตร ซึ่งเป็นทางยกระดับขนาด 6 ช่องจราจร มีทางขึ้น 8 จุด ทางลง 6 จุด ทางแยกต่างระดับ 5 แห่ง มูลค่าโครงการ 68,686.63 ล้านบาท ลงทุนร่วมกับเอกชนในรูปแบบ PPP NET Cost ขณะนี้อยู่ในระหว่างพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA)

    #Newskit
    บางบัวทอง-บางปะอิน อนาคตมอเตอร์เวย์ เมื่อวันก่อน สำนักก่อสร้างทางที่ 1 กรมทางหลวง เผยแพร่ภาพโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 3901 สายทางคู่ขนานวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร (ด้านตะวันตก) ด้านซ้ายทาง ตอน 2 ระหว่างกิโลเมตรที่ 73+800 ถึงกิโลเมตรที่ 86+559.873 แล้วเสร็จ ระยะทาง 12.759 กิโลเมตร ซึ่งก่อสร้างแล้วเสร็จ เป็นการก่อสร้างทางขนาน (Frontage Road) ขนาด 3 ช่องจราจร จากภาพมีการสร้างสะพานข้ามทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 6 บางปะอิน-นครราชสีมา โดยให้รถยนต์จากทางขนานทุกคันข้ามสะพานดังกล่าว ปิดช่องทางหลัก (Main Road) ที่มีอยู่เดิมซึ่งจะลอดใต้สะพานไปยังด่านบางปะอิน การก่อสร้างดังกล่าวเป็นการรองรับโครงการมอเตอร์เวย์หมายเลข 9 สายบางบัวทอง-บางปะอิน ที่จะก่อสร้างแทนที่บนทางหลัก โดยมีแนวเขตทาง 42 เมตร ขนาด 6 ช่องจราจร กว้างช่องละ 3.60 เมตร พร้อมรั้วกั้น เหมือนมอเตอร์เวย์หมายเลข 7 ช่วงทางแยกต่างระดับคีรีถึงทางแยกต่างระดับโป่ง (พัทยา) ซึ่งที่ผ่านมาได้ก่อสร้างทางขนานพร้อมกำหนดให้เป็นทางหลวงหมายเลข 3901 (ด้านซ้ายทาง) และ 3902 (ด้านขวาทาง) อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ยังเหลือการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ที่จะสิ้นสุดสัญญาในวันที่ 27 ส.ค. 2569 แต่ติดปัญหาสาธารณูปโภคและการรุกล้ำแนวเขตทาง สำหรับผู้ใช้รถใช้ถนนที่มาจากบางบัวทอง ช่องทางหลักมีสภาพผิวจราจรชำรุด ไม่แนะนำให้ใช้ทาง ส่วนช่องทางขนาน ช่วงบางบัวทอง ผ่านทางแยกต่างระดับลาดหลุมแก้ว และทางแยกต่างระดับสามโคก ก่อสร้างแล้วเสร็จ เป็นถนนคอนกรีตเสริมเหล็กอย่างดี แต่เมื่อถึงสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา จะเบี่ยงทางให้ใช้สะพานเก่าระหว่างการก่อสร้าง เมื่อลงจากสะพานแล้วจะมีทางขนานที่เพิ่งก่อสร้างแล้วเสร็จ แต่รถส่วนใหญ่จะใช้ทางหลัก ผ่านทางด่วนอุดรรัถยา ทางแยกต่างระดับเชียงรากน้อย (ทางหลวงหมายเลข 347) สะพานข้ามทางรถไฟ แล้วจะถึงสะพานที่เบี่ยงให้รถทุกคันขึ้นไป มุ่งหน้าทางแยกต่างระดับบางปะอิน ก่อนหน้านี้เมื่อเดือน ต.ค. 2566 กรมทางหลวงเคยเตรียมเสนอโครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์หมายเลข 9 ช่วงบางบัวทอง-ลาดหลุมแก้ว งบประมาณ 4,300 ล้านบาท แต่สุดท้ายก็เงียบหายไป กระทั่งวันที่ 3 ธ.ค. 2567 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กรมทางหลวงดำเนินโครงการมอเตอร์เวย์หมายเลข 9 ตอนทางยกระดับบางขุนเทียน-บางบัวทอง ระยะทาง 35.85 กิโลเมตร ซึ่งเป็นทางยกระดับขนาด 6 ช่องจราจร มีทางขึ้น 8 จุด ทางลง 6 จุด ทางแยกต่างระดับ 5 แห่ง มูลค่าโครงการ 68,686.63 ล้านบาท ลงทุนร่วมกับเอกชนในรูปแบบ PPP NET Cost ขณะนี้อยู่ในระหว่างพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) #Newskit
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 180 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญรุ่นแรกหลวงปู่กล้าย วัดโตนด นาปะขอ จ.พัทลุง ปี2542
    เหรียญรุ่นแรกหลวงปู่กล้าย วัดโตนด นาปะขอ จ.พัทลุง ปี2542 //พระดีพิธีใหญ่ ปลุกเสกโดยเกจิสายเขาอ้อ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณทางเมตตา แคล้วคลาด อยู่ยงคงกระพันชาตรี มหาอุด มหาอำนาจ มหาโชค มหาลาภ เมตตามหานิยม >>

    ** วัดโตนด สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๓ เป็นวัดเก่าแก่ซึ่งกลายสภาพเป็นวัดร้างมาก่อน ในการบูรณะพัฒนาวัดใหม่มีพระอธิการเชน สุวฑฺฒโน ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดท่ามะเดื่อ มาดำเนินการ และอยู่ปกครองวัดเป็นรูปแรกที่ทำให้วัดกลายสภาพเป็นวัดมีพระสงฆ์ที่มั่งคั่งขึ้นตามลำดับ ชาวบ้านมักเรียกสั้นๆว่า “วัดโหนด” เกี่ยวกับการศึกษา เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๔ มีโรงเรียนประถมศึกษาเปิดสอนขึ้นในวัด ต่อมา พ.ศ. ๒๕๑๖ ได้ย้ายอาคารเรียนออกไปอยู่นอกเขตวัดทางทิศเหนือ >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญรุ่นแรกหลวงปู่กล้าย วัดโตนด นาปะขอ จ.พัทลุง ปี2542 เหรียญรุ่นแรกหลวงปู่กล้าย วัดโตนด นาปะขอ จ.พัทลุง ปี2542 //พระดีพิธีใหญ่ ปลุกเสกโดยเกจิสายเขาอ้อ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณทางเมตตา แคล้วคลาด อยู่ยงคงกระพันชาตรี มหาอุด มหาอำนาจ มหาโชค มหาลาภ เมตตามหานิยม >> ** วัดโตนด สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๓ เป็นวัดเก่าแก่ซึ่งกลายสภาพเป็นวัดร้างมาก่อน ในการบูรณะพัฒนาวัดใหม่มีพระอธิการเชน สุวฑฺฒโน ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดท่ามะเดื่อ มาดำเนินการ และอยู่ปกครองวัดเป็นรูปแรกที่ทำให้วัดกลายสภาพเป็นวัดมีพระสงฆ์ที่มั่งคั่งขึ้นตามลำดับ ชาวบ้านมักเรียกสั้นๆว่า “วัดโหนด” เกี่ยวกับการศึกษา เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๔ มีโรงเรียนประถมศึกษาเปิดสอนขึ้นในวัด ต่อมา พ.ศ. ๒๕๑๖ ได้ย้ายอาคารเรียนออกไปอยู่นอกเขตวัดทางทิศเหนือ >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 91 มุมมอง 0 รีวิว
  • 2025 ปีแห่งวิกฤตสภาพคล่องทางการเงิน : คนเคาะข่าว 03-03-68 (Ep.2)

    https://www.youtube.com/watch?v=ceWu2OSauOo

    2025 ปีแห่งวิกฤตสภาพคล่องทางการเงิน : คนเคาะข่าว 03-03-68 (Ep.2) https://www.youtube.com/watch?v=ceWu2OSauOo
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 79 มุมมอง 0 รีวิว
  • เอกชัย หงส์กังวาน อดีตสามกีบอิสระ จากเคยเฟื่องฟูด้วยเงินบริจาค มาวันนี้ตกอับถึงขั้นเอาพัดลมเก่ามาประมูลขาย แต่เสือกโลภเปิดราคาไว้ 1 พัน ทั้งๆ ที่พัดลมใหม่แค่ 1,200 บาท สุดท้ายไร้คนสนใจ สภาพไร้คนเหลียวแลแม้แต่พวกเดียวกัน
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3
    เอกชัย หงส์กังวาน อดีตสามกีบอิสระ จากเคยเฟื่องฟูด้วยเงินบริจาค มาวันนี้ตกอับถึงขั้นเอาพัดลมเก่ามาประมูลขาย แต่เสือกโลภเปิดราคาไว้ 1 พัน ทั้งๆ ที่พัดลมใหม่แค่ 1,200 บาท สุดท้ายไร้คนสนใจ สภาพไร้คนเหลียวแลแม้แต่พวกเดียวกัน #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3
    Haha
    2
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 216 มุมมอง 0 รีวิว
  • ครั้งหนึ่งในสยาม EP6 ตอน อำแดงเทียบ รักซ่อนอำมหิต

    เช้าวันหนึ่ง ในปี 2452 มีผู้พบศพชายปริศนาเสียชีวิตในสภาพไร้ศีรษะ ใกล้บริเวณเขาบันไดอิฐ ในจังหวัดเพชรบุรี ชายคนนี้เป็นใคร และเพราะเหตุใดเขาจึงถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยมเช่นนี้ ค้นหาปริศนาการตายของชายผู้นี้ได้ในสารคดีครั้งหนึ่งในสยาม ตอน อำแดงเทียบ รักซ่อนอำมหิต

    #ครั้งหนึ่งในสยาม #อำแดงเทียบ #รักซ่อนอำมหิต #คดีสะเทือนขวัญ #ฆาตกรรมปริศนา #เขาบันไดอิฐ #เพชรบุรี #อาชญากรรมในอดีต #เรื่องจริงจากอดีต #สารคดีไทย #thaitimes
    ครั้งหนึ่งในสยาม EP6 ตอน อำแดงเทียบ รักซ่อนอำมหิต เช้าวันหนึ่ง ในปี 2452 มีผู้พบศพชายปริศนาเสียชีวิตในสภาพไร้ศีรษะ ใกล้บริเวณเขาบันไดอิฐ ในจังหวัดเพชรบุรี ชายคนนี้เป็นใคร และเพราะเหตุใดเขาจึงถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยมเช่นนี้ ค้นหาปริศนาการตายของชายผู้นี้ได้ในสารคดีครั้งหนึ่งในสยาม ตอน อำแดงเทียบ รักซ่อนอำมหิต #ครั้งหนึ่งในสยาม #อำแดงเทียบ #รักซ่อนอำมหิต #คดีสะเทือนขวัญ #ฆาตกรรมปริศนา #เขาบันไดอิฐ #เพชรบุรี #อาชญากรรมในอดีต #เรื่องจริงจากอดีต #สารคดีไทย #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 264 มุมมอง 17 0 รีวิว
  • ปัจเจกพุทธะ หมายถึง พระปัจเจกพุทธเจ้า ผู้ตรัสรู้สภาพธรรมด้วยตนเอง แต่บารมีไม่ถึงความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงไม่ได้ประกาศพระศาสนา พระปัจจเกพุทธเจ้า อุบัติขึ้นพร้อมกันๆ หลายพระองค์ได้ และจะอุบัติขึันได้เฉพาะในกาลสมัยที่ว่างจากพระพุทธศาสนา หรือ ว่างจากการอุบัติขึ้นของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เท่านั้น
    ปัจเจกพุทธะ หมายถึง พระปัจเจกพุทธเจ้า ผู้ตรัสรู้สภาพธรรมด้วยตนเอง แต่บารมีไม่ถึงความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงไม่ได้ประกาศพระศาสนา พระปัจจเกพุทธเจ้า อุบัติขึ้นพร้อมกันๆ หลายพระองค์ได้ และจะอุบัติขึันได้เฉพาะในกาลสมัยที่ว่างจากพระพุทธศาสนา หรือ ว่างจากการอุบัติขึ้นของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เท่านั้น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 64 มุมมอง 0 รีวิว
  • พระยอดธง กรุวัดชะเมา จ.นครศรีธรรมราช
    พระยอดธง กรุวัดชะเมา จ.นครศรีธรรมราช // พระสวย สภาพเดิมๆจากกรุ ศิลปะอยุธยาตอนต้น พื้นที่กำลังแรงมากๆ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณ...คงกระพันชาตรี แคล้วคลาด มหาอุด มหาอำนาจ มหานิยม เสริมบารมีและโชคลาภ กล่าวกันว่า ใครมีไว้ในครอบครอง จะประสบแต่ความสำเร็จ ดั่งเป็นเคล็ดตามตำราพิชัยสงครามเมื่อครั้งโบราณกาล >>

    ** พระยอดธง กรุวัดชะเมา หรือวัดประตูเขียน อ.เมือง นครศรีธรรมราช....อายุการสร้างสมัยอยุธยาตอนต้น ประมาณปี พ.ศ.2200 ประวัติการค้นพบ.......... กลายเป็นที่ฮือฮา การค้นพบ "พระยอดธงศิลปะอยุธยาตอนต้น" พระกรุเมืองคอน วัดชะเมา ถ.ราชดำเนิน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อปลายเดือนเม.ย.54 เป็นจุดประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญ เดิมพระพุทธรูปองค์นี้ชาวบ้านเรียกชื่อสืบทอดกันว่า"หลวงพ่อสูง" หน้าตักกว้างประมาณ 3 เมตรเศษ ความเป็นมานั้นได้สืบค้นข้อมูลและพบจารึกที่ฐานพระพุทธรูปว่า สร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ.1079 ประดิษฐานที่เดิมตรงพื้นที่วัดประตูเขียน ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ของเมืองนครศรีธรรมราช >>


    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    พระยอดธง กรุวัดชะเมา จ.นครศรีธรรมราช พระยอดธง กรุวัดชะเมา จ.นครศรีธรรมราช // พระสวย สภาพเดิมๆจากกรุ ศิลปะอยุธยาตอนต้น พื้นที่กำลังแรงมากๆ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณ...คงกระพันชาตรี แคล้วคลาด มหาอุด มหาอำนาจ มหานิยม เสริมบารมีและโชคลาภ กล่าวกันว่า ใครมีไว้ในครอบครอง จะประสบแต่ความสำเร็จ ดั่งเป็นเคล็ดตามตำราพิชัยสงครามเมื่อครั้งโบราณกาล >> ** พระยอดธง กรุวัดชะเมา หรือวัดประตูเขียน อ.เมือง นครศรีธรรมราช....อายุการสร้างสมัยอยุธยาตอนต้น ประมาณปี พ.ศ.2200 ประวัติการค้นพบ.......... กลายเป็นที่ฮือฮา การค้นพบ "พระยอดธงศิลปะอยุธยาตอนต้น" พระกรุเมืองคอน วัดชะเมา ถ.ราชดำเนิน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อปลายเดือนเม.ย.54 เป็นจุดประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญ เดิมพระพุทธรูปองค์นี้ชาวบ้านเรียกชื่อสืบทอดกันว่า"หลวงพ่อสูง" หน้าตักกว้างประมาณ 3 เมตรเศษ ความเป็นมานั้นได้สืบค้นข้อมูลและพบจารึกที่ฐานพระพุทธรูปว่า สร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ.1079 ประดิษฐานที่เดิมตรงพื้นที่วัดประตูเขียน ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ของเมืองนครศรีธรรมราช >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 109 มุมมอง 0 รีวิว
  • Acclaim ซึ่งเป็นบริษัทที่เคยเป็นที่รู้จักในวงการเกมในอดีต ได้ประกาศกลับมาอีกครั้งพร้อมภารกิจใหม่ในการสนับสนุนสตูดิโอเกมอินดี้และการสร้างสรรค์ IP ใหม่ๆ Acclaim ก่อตั้งขึ้นในปี 1987 และมีชื่อเสียงจากการเปิดตัวเกมดังอย่าง Mortal Kombat, Turok และ NBA Jam

    การกลับมาครั้งนี้ Acclaim มีเป้าหมายที่จะให้การสนับสนุนสตูดิโออินดี้ที่ต้องการทรัพยากรในการพัฒนาเกม โดยให้การสนับสนุนด้านการเงิน การตลาด และการประชาสัมพันธ์ เพื่อให้สตูดิโอเหล่านี้สามารถนำเสนอเกมของตนเองในตลาดที่ซับซ้อนและคึกคัก

    หนึ่งในเป้าหมายหลักของ Acclaim คือการฟื้นฟู IP คลาสสิกที่มีผู้คนรักใคร่มากมายมาตลอดหลายปี สำหรับการทำให้แผนการนี้เป็นจริง Acclaim ได้จัดตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษาซึ่งประกอบไปด้วยผู้นำในวงการเกมที่ได้รับความนับถือ เช่น Russell Binder จาก Striker Entertainment, Mark Caplan จาก Ridge Partners และ Jeff Jarrett จาก Global Force Entertainment

    เพื่อให้บริษัทสามารถเดินหน้าต่อไปได้อย่างยั่งยืน Acclaim ได้มีการร่วมมือกับหุ้นส่วนสำคัญอย่าง Phil Toronto จาก VaynerFund และ Eric Vogel จาก JET Management ซึ่งจะช่วยสร้างสภาพแวดล้อมการลงทุนที่แข็งแรงสำหรับทุกคนที่เกี่ยวข้อง

    Jeff Jarrett นักมวยปล้ำที่ได้รับการยกย่องใน Hall of Fame กล่าวว่าการกลับมาของ Acclaim เป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ในการนำความรักและความหลงใหลในเกมให้แก่คนรุ่นใหม่ และเขาตื่นเต้นที่ได้มีส่วนร่วมในการฟื้นฟูบริษัทนี้

    Alex Josef CEO ของ Acclaim กล่าวถึงความภาคภูมิใจในการนำทีมงานที่มีความสามารถเพื่อฟื้นฟู Acclaim ขึ้นมาใหม่ และกล่าวว่าได้เซ็นสัญญากับเกมอินดี้ที่น่าทึ่งบางเกมที่จะเปิดเผยในไม่ช้า

    Acclaim กลับมาในวงการเกมด้วยภารกิจที่น่าตื่นเต้นในการสนับสนุนนักพัฒนาอินดี้และฟื้นฟู IP คลาสสิก โดยมีการร่วมมือกับผู้นำในวงการและหุ้นส่วนที่มีความสำคัญเพื่อให้การฟื้นฟูนี้เป็นไปอย่างยั่งยืน

    https://wccftech.com/acclaim-returns-from-the-dead-with-a-focus-on-supporting-indie-studios-and-original-ip/
    Acclaim ซึ่งเป็นบริษัทที่เคยเป็นที่รู้จักในวงการเกมในอดีต ได้ประกาศกลับมาอีกครั้งพร้อมภารกิจใหม่ในการสนับสนุนสตูดิโอเกมอินดี้และการสร้างสรรค์ IP ใหม่ๆ Acclaim ก่อตั้งขึ้นในปี 1987 และมีชื่อเสียงจากการเปิดตัวเกมดังอย่าง Mortal Kombat, Turok และ NBA Jam การกลับมาครั้งนี้ Acclaim มีเป้าหมายที่จะให้การสนับสนุนสตูดิโออินดี้ที่ต้องการทรัพยากรในการพัฒนาเกม โดยให้การสนับสนุนด้านการเงิน การตลาด และการประชาสัมพันธ์ เพื่อให้สตูดิโอเหล่านี้สามารถนำเสนอเกมของตนเองในตลาดที่ซับซ้อนและคึกคัก หนึ่งในเป้าหมายหลักของ Acclaim คือการฟื้นฟู IP คลาสสิกที่มีผู้คนรักใคร่มากมายมาตลอดหลายปี สำหรับการทำให้แผนการนี้เป็นจริง Acclaim ได้จัดตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษาซึ่งประกอบไปด้วยผู้นำในวงการเกมที่ได้รับความนับถือ เช่น Russell Binder จาก Striker Entertainment, Mark Caplan จาก Ridge Partners และ Jeff Jarrett จาก Global Force Entertainment เพื่อให้บริษัทสามารถเดินหน้าต่อไปได้อย่างยั่งยืน Acclaim ได้มีการร่วมมือกับหุ้นส่วนสำคัญอย่าง Phil Toronto จาก VaynerFund และ Eric Vogel จาก JET Management ซึ่งจะช่วยสร้างสภาพแวดล้อมการลงทุนที่แข็งแรงสำหรับทุกคนที่เกี่ยวข้อง Jeff Jarrett นักมวยปล้ำที่ได้รับการยกย่องใน Hall of Fame กล่าวว่าการกลับมาของ Acclaim เป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ในการนำความรักและความหลงใหลในเกมให้แก่คนรุ่นใหม่ และเขาตื่นเต้นที่ได้มีส่วนร่วมในการฟื้นฟูบริษัทนี้ Alex Josef CEO ของ Acclaim กล่าวถึงความภาคภูมิใจในการนำทีมงานที่มีความสามารถเพื่อฟื้นฟู Acclaim ขึ้นมาใหม่ และกล่าวว่าได้เซ็นสัญญากับเกมอินดี้ที่น่าทึ่งบางเกมที่จะเปิดเผยในไม่ช้า Acclaim กลับมาในวงการเกมด้วยภารกิจที่น่าตื่นเต้นในการสนับสนุนนักพัฒนาอินดี้และฟื้นฟู IP คลาสสิก โดยมีการร่วมมือกับผู้นำในวงการและหุ้นส่วนที่มีความสำคัญเพื่อให้การฟื้นฟูนี้เป็นไปอย่างยั่งยืน https://wccftech.com/acclaim-returns-from-the-dead-with-a-focus-on-supporting-indie-studios-and-original-ip/
    WCCFTECH.COM
    Acclaim Returns From the Dead With a Focus On Supporting Indie Studios and Original IP
    Acclaim has been resurrected after two decades, and is coming with a focus on supporting Indie studios and original IP.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 143 มุมมอง 0 รีวิว
  • บริษัท CrowdStrike ซึ่งเป็นผู้นำในด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ทั่วโลกรู้จัก 😅😅 ได้คาดการณ์รายได้ในไตรมาสแรกของปีนี้ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้เล็กน้อย เนื่องจากการใช้จ่ายในผลิตภัณฑ์ความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่อ่อนตัวลง ทำให้หุ้นของบริษัทใน Austin, Texas ร่วงลงถึง 6% ในการซื้อขายภาคขยาย

    ลูกค้ากลุ่มองค์กรของ CrowdStrike ยังคงเข้มงวดกับการใช้จ่ายในการรักษาความปลอดภัยที่สำคัญ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงและสภาพเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนส่งผลกระทบต่องบประมาณโดยรวมของพวกเขา

    CrowdStrike คาดว่าจะมีรายได้ในไตรมาสแรกอยู่ระหว่าง 1.10 พันล้านดอลลาร์ถึง 1.11 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งค่ากลางของตัวเลขนี้ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้อย่างเล็กน้อยที่ 1.11 พันล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ CrowdStrike ยังคาดการณ์ว่ารายได้ประจำปี 2026 จะอยู่ระหว่าง 4.74 พันล้านดอลลาร์ถึง 4.81 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์

    ในทางตรงกันข้าม ผลประกอบการของ CrowdStrike ตรงกันข้ามกับคู่แข่งอย่าง Palo Alto Networks และ Fortinet ที่คาดการณ์ว่ารายได้ประจำปีจะสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนที่แล้ว สำหรับไตรมาสที่สิ้นสุดในวันที่ 31 มกราคม CrowdStrike ได้ประกาศรายได้ที่ 1.06 พันล้านดอลลาร์ เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.03 พันล้านดอลลาร์

    ในระหว่างการประชุมกับนักลงทุน Kritika Lamba นักวิเคราะห์จาก Bengaluru รายงานว่าแนวโน้มการใช้จ่ายในผลิตภัณฑ์ความปลอดภัยทางไซเบอร์อาจต้องปรับปรุงเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพเศรษฐกิจในอนาคต

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/05/crowdstrike-forecasts-first-quarter-revenue-below-estimates
    บริษัท CrowdStrike ซึ่งเป็นผู้นำในด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ทั่วโลกรู้จัก 😅😅 ได้คาดการณ์รายได้ในไตรมาสแรกของปีนี้ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้เล็กน้อย เนื่องจากการใช้จ่ายในผลิตภัณฑ์ความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่อ่อนตัวลง ทำให้หุ้นของบริษัทใน Austin, Texas ร่วงลงถึง 6% ในการซื้อขายภาคขยาย ลูกค้ากลุ่มองค์กรของ CrowdStrike ยังคงเข้มงวดกับการใช้จ่ายในการรักษาความปลอดภัยที่สำคัญ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงและสภาพเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนส่งผลกระทบต่องบประมาณโดยรวมของพวกเขา CrowdStrike คาดว่าจะมีรายได้ในไตรมาสแรกอยู่ระหว่าง 1.10 พันล้านดอลลาร์ถึง 1.11 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งค่ากลางของตัวเลขนี้ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้อย่างเล็กน้อยที่ 1.11 พันล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ CrowdStrike ยังคาดการณ์ว่ารายได้ประจำปี 2026 จะอยู่ระหว่าง 4.74 พันล้านดอลลาร์ถึง 4.81 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ ในทางตรงกันข้าม ผลประกอบการของ CrowdStrike ตรงกันข้ามกับคู่แข่งอย่าง Palo Alto Networks และ Fortinet ที่คาดการณ์ว่ารายได้ประจำปีจะสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนที่แล้ว สำหรับไตรมาสที่สิ้นสุดในวันที่ 31 มกราคม CrowdStrike ได้ประกาศรายได้ที่ 1.06 พันล้านดอลลาร์ เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.03 พันล้านดอลลาร์ ในระหว่างการประชุมกับนักลงทุน Kritika Lamba นักวิเคราะห์จาก Bengaluru รายงานว่าแนวโน้มการใช้จ่ายในผลิตภัณฑ์ความปลอดภัยทางไซเบอร์อาจต้องปรับปรุงเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพเศรษฐกิจในอนาคต https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/05/crowdstrike-forecasts-first-quarter-revenue-below-estimates
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Crowdstrike forecasts first-quarter revenue below estimates
    (Reuters) - Cybersecurity firm Crowdstrike forecast first-quarter revenue slightly below estimates, as it grapples with weak spending on its cybersecurity products.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 91 มุมมอง 0 รีวิว
  • เล่นหนักมักหมดสภาพ

    #ช้างเรื่องเยอะ #มะหมา4ขา #เฟรนช์บลูด็อก
    เล่นหนักมักหมดสภาพ #ช้างเรื่องเยอะ #มะหมา4ขา #เฟรนช์บลูด็อก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 263 มุมมอง 1 0 รีวิว
  • ลุงไม่รู้ว่ายังมีใครใช้ VMware กันอยู่ไหมนะ

    Broadcom ได้ทำการอัปเดตระบบเพื่อแก้ไขช่องโหว่สามจุดที่ถูกโจมตีโดยแฮกเกอร์ ช่องโหว่เหล่านี้ถูกค้นพบและรายงานโดย Microsoft Threat Intelligence Center โดยช่องโหว่นี้มีผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์ของ VMware เช่น VMware ESXi, vSphere, Workstation, Fusion, Cloud Foundation และ Telco Cloud Platform

    ช่องโหว่ทั้ง 3 ที่ถูกระบุว่าเป็นช่องโหว่ร้ายแรงและมีการโจมตีแล้ว ได้แก่:
    - CVE-2025-22224: เป็นช่องโหว่ VCMI heap overflow ที่อนุญาตให้ผู้โจมตีที่มีสิทธิ์ผู้ดูแลระบบใน VM สามารถรันโค้ดในกระบวนการ VMX บนโฮสต์ได้
    - CVE-2025-22225: เป็นช่องโหว่ที่อนุญาตให้กระบวนการ VMX ทำการเขียนข้อมูลเข้าสู่เคอร์เนลแบบไม่มีการยืนยันตัวตน ทำให้เกิดการหนีออกจากแซนด์บ็อกซ์ (sandbox escape)
    - CVE-2025-22226: เป็นช่องโหว่ที่เกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูล (HGFS information-disclosure flaw) ที่อนุญาตให้ผู้โจมตีที่มีสิทธิ์ผู้ดูแลระบบสามารถดึงข้อมูลหน่วยความจำจากกระบวนการ VMX ได้

    ช่องโหว่เหล่านี้ถูกโจมตีในสภาพแวดล้อมจริง ๆ แล้ว Broadcom ได้รับข้อมูลการโจมตีที่เกิดขึ้นจริงและออกมาประกาศเตือนลูกค้าให้ทำการอัปเดตระบบโดยเร็ว

    สำหรับผู้ที่ใช้งาน VMware ในองค์กร ควรตรวจสอบและอัปเดตระบบให้เป็นรุ่นล่าสุดเพื่อลดความเสี่ยงจากการโจมตี ทั้งนี้ VMware เป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของกลุ่มแรนซัมแวร์และแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐ เนื่องจากใช้งานในองค์กรใหญ่ ๆ ในการเก็บและส่งข้อมูลสำคัญ

    Broadcom ได้เตือนเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาว่ามีการโจมตีช่องโหว่ของ VMware vCenter Server ที่ถูกแพตช์ในเดือนกันยายน ช่องโหว่นี้อนุญาตให้ทำการยกระดับสิทธิ์ไปถึง root (CVE-2024-38813) และการรันโค้ดจากระยะไกล (CVE-2024-38812) นอกจากนี้ในเดือนมกราคม 2024 Broadcom ยังได้เปิดเผยว่ามีการโจมตีช่องโหว่ของ vCenter Server ที่สำคัญ (CVE-2023-34048) ตั้งแต่ปลายปี 2021 ที่ใช้ในการติดตั้ง backdoor ใน ESXi hosts

    https://www.bleepingcomputer.com/news/security/broadcom-fixes-three-vmware-zero-days-exploited-in-attacks/
    ลุงไม่รู้ว่ายังมีใครใช้ VMware กันอยู่ไหมนะ Broadcom ได้ทำการอัปเดตระบบเพื่อแก้ไขช่องโหว่สามจุดที่ถูกโจมตีโดยแฮกเกอร์ ช่องโหว่เหล่านี้ถูกค้นพบและรายงานโดย Microsoft Threat Intelligence Center โดยช่องโหว่นี้มีผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์ของ VMware เช่น VMware ESXi, vSphere, Workstation, Fusion, Cloud Foundation และ Telco Cloud Platform ช่องโหว่ทั้ง 3 ที่ถูกระบุว่าเป็นช่องโหว่ร้ายแรงและมีการโจมตีแล้ว ได้แก่: - CVE-2025-22224: เป็นช่องโหว่ VCMI heap overflow ที่อนุญาตให้ผู้โจมตีที่มีสิทธิ์ผู้ดูแลระบบใน VM สามารถรันโค้ดในกระบวนการ VMX บนโฮสต์ได้ - CVE-2025-22225: เป็นช่องโหว่ที่อนุญาตให้กระบวนการ VMX ทำการเขียนข้อมูลเข้าสู่เคอร์เนลแบบไม่มีการยืนยันตัวตน ทำให้เกิดการหนีออกจากแซนด์บ็อกซ์ (sandbox escape) - CVE-2025-22226: เป็นช่องโหว่ที่เกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูล (HGFS information-disclosure flaw) ที่อนุญาตให้ผู้โจมตีที่มีสิทธิ์ผู้ดูแลระบบสามารถดึงข้อมูลหน่วยความจำจากกระบวนการ VMX ได้ ช่องโหว่เหล่านี้ถูกโจมตีในสภาพแวดล้อมจริง ๆ แล้ว Broadcom ได้รับข้อมูลการโจมตีที่เกิดขึ้นจริงและออกมาประกาศเตือนลูกค้าให้ทำการอัปเดตระบบโดยเร็ว สำหรับผู้ที่ใช้งาน VMware ในองค์กร ควรตรวจสอบและอัปเดตระบบให้เป็นรุ่นล่าสุดเพื่อลดความเสี่ยงจากการโจมตี ทั้งนี้ VMware เป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของกลุ่มแรนซัมแวร์และแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐ เนื่องจากใช้งานในองค์กรใหญ่ ๆ ในการเก็บและส่งข้อมูลสำคัญ Broadcom ได้เตือนเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาว่ามีการโจมตีช่องโหว่ของ VMware vCenter Server ที่ถูกแพตช์ในเดือนกันยายน ช่องโหว่นี้อนุญาตให้ทำการยกระดับสิทธิ์ไปถึง root (CVE-2024-38813) และการรันโค้ดจากระยะไกล (CVE-2024-38812) นอกจากนี้ในเดือนมกราคม 2024 Broadcom ยังได้เปิดเผยว่ามีการโจมตีช่องโหว่ของ vCenter Server ที่สำคัญ (CVE-2023-34048) ตั้งแต่ปลายปี 2021 ที่ใช้ในการติดตั้ง backdoor ใน ESXi hosts https://www.bleepingcomputer.com/news/security/broadcom-fixes-three-vmware-zero-days-exploited-in-attacks/
    WWW.BLEEPINGCOMPUTER.COM
    Broadcom fixes three VMware zero-days exploited in attacks
    Broadcom warned customers today about three VMware zero-days, tagged as exploited in attacks and reported by the Microsoft Threat Intelligence Center.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 123 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ ตรวจสอบบ้านไฟไหม้เงินหาย 10 ล้านบาท จ่อออกหมายจับ 2 สามีภรรยา พิสูจน์หลักฐานส่งผลตรวจ ชี้สาเหตุไฟไหม้ไม่ได้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เร่งสอบเส้นเงิน 6.5 ล้านที่ยึดมาพัวพันบัญชีม้าหรือฟอกเงิน

    จากกรณีเมื่อวันที่ 23 ก.พ. 68 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ รับแจ้งเหตุเพลิงลุกไหม้บ้านพัก 2 ชั้น ภายในบ้านพักกรมชลประทาน ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี ซึ่งเพลิงลุกไหม้ห้องนอนชั้นล่างได้รับความเสียหาย ภายหลังจากเหตุเพลิงไหม้สงบลง เจ้าของบ้านได้เข้าไปตรวจสอบภายในบ้าน อ้างว่าได้นำเงินสด จำนวน 10 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินของเจ้านาย เก็บไว้ในห้องนอน ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมด ต่อมา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ ได้ตรวจสอบรถยนต์ ยี่ห้อ มิตซูบิชิ ปาเจโร หมายเลขทะเบียน ฆฐ 2492 กทม. ภายในรถพบเงินสด จำนวน 6.5 ล้านบาท บรรจุอยู่ในซองกระดาษสีน้ำตาล จึงได้ทำการตรวจยึดเพื่อนำมาตรวจสอบ

    ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 4 มี.ค. 68 พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ ได้ลงพื้นที่บริเวณจุดเกิดเหตุบ้านพักที่เกิดเพลิงไหม้ ภายในบ้านพักกรมชลประทาน ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี เพื่อตรวจสอบสภาพที่เกิดเหตุในจุดที่มีข้อสงสัย และสรุปคดี โดยพบว่าประตูบ้านถูกล็อคกุญแจ มีรถจยย. และกล่องพัสดุวางอยู่บริเวณหน้าบ้าน สอบถามชาวบ้านยังไม่มีใครพบเห็นทางครอบครัวน.ส.นิตยา กลับมาที่บ้านหลังจากเกิดเหตุ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000021019

    #MGROnline #ไฟไหม้ #เงินหาย #10ล้านบาท
    #ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ ตรวจสอบบ้านไฟไหม้เงินหาย 10 ล้านบาท จ่อออกหมายจับ 2 สามีภรรยา พิสูจน์หลักฐานส่งผลตรวจ ชี้สาเหตุไฟไหม้ไม่ได้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เร่งสอบเส้นเงิน 6.5 ล้านที่ยึดมาพัวพันบัญชีม้าหรือฟอกเงิน • จากกรณีเมื่อวันที่ 23 ก.พ. 68 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ รับแจ้งเหตุเพลิงลุกไหม้บ้านพัก 2 ชั้น ภายในบ้านพักกรมชลประทาน ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี ซึ่งเพลิงลุกไหม้ห้องนอนชั้นล่างได้รับความเสียหาย ภายหลังจากเหตุเพลิงไหม้สงบลง เจ้าของบ้านได้เข้าไปตรวจสอบภายในบ้าน อ้างว่าได้นำเงินสด จำนวน 10 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินของเจ้านาย เก็บไว้ในห้องนอน ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมด ต่อมา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ ได้ตรวจสอบรถยนต์ ยี่ห้อ มิตซูบิชิ ปาเจโร หมายเลขทะเบียน ฆฐ 2492 กทม. ภายในรถพบเงินสด จำนวน 6.5 ล้านบาท บรรจุอยู่ในซองกระดาษสีน้ำตาล จึงได้ทำการตรวจยึดเพื่อนำมาตรวจสอบ • ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 4 มี.ค. 68 พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ ได้ลงพื้นที่บริเวณจุดเกิดเหตุบ้านพักที่เกิดเพลิงไหม้ ภายในบ้านพักกรมชลประทาน ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี เพื่อตรวจสอบสภาพที่เกิดเหตุในจุดที่มีข้อสงสัย และสรุปคดี โดยพบว่าประตูบ้านถูกล็อคกุญแจ มีรถจยย. และกล่องพัสดุวางอยู่บริเวณหน้าบ้าน สอบถามชาวบ้านยังไม่มีใครพบเห็นทางครอบครัวน.ส.นิตยา กลับมาที่บ้านหลังจากเกิดเหตุ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000021019 • #MGROnline #ไฟไหม้ #เงินหาย #10ล้านบาท
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 193 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts