• ประธานาธิบดีทรัมป์สั่งเปิดเรือนจำอัลคาทราซอีกครั้งเพื่อใช้คุมขังผู้กระทำความผิดที่โหดเหี้ยมและรุนแรงที่สุดในอเมริกา

    “วันนี้ ผมกำลังสั่งการให้กรมราชทัณฑ์ ร่วมกับกระทรวงยุติธรรม เอฟบีไอ และกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ เปิดเรือนจำอัลคาทราซที่ขยายใหญ่ขึ้นและสร้างขึ้นใหม่ เพื่อใช้คุมขังผู้กระทำความผิดที่โหดร้ายและรุนแรงที่สุดในอเมริกา”
    .

    เกี่ยวกับ "อัลคาทราซ"

    เรือนจำอัลคาทราซ เป็นอดีตเรือนจำซึ่งตั้งอยู่บนเกาะนอกชายฝั่งซานฟรานซิสโก ที่ปิดมานานกว่า 60 ปี โดยปิดตัวลงตั้งแต่ปี 2506 และได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง

    ในปี 1962 นักโทษชายสามคนประสบผลสำเร็จในการหลบหนีออกจากเรือนจำ “อัลคาทราซ” (Alcatraz) สถานที่ที่มีการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนาที่สุดของสหรัฐ ประกอบไปด้วย แฟรงก์ มอร์ริส และสองพี่น้องตระกูลแอนกลิน

    เริ่มต้นนั้น "อัลคาทราซ" คือป้อมปืนของกองทัพเรือ ซึ่งใช้ป้องกันศัตรูไม่ให้ล่วงล้ำเข้ามาในน่านน้ำของอ่าวซานฟรานซิสโก

    ต่อมาในช่วงสงครามกลางเมืองของสหรัฐ ถูกดัดแปลงใช้เป็นที่คุมขังนักโทษที่เป็นฝ่ายสมาพันธรัฐ เนื่องจากเป็นเกาะที่ตั้งอยู่โดดเดี่ยวและมีหน้าผาสูงชัน ทั้งยังมีกระแสน้ำเย็นยะเยือกที่ไหลเชี่ยวล้อมรอบ

    ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 มีการปรับปรุงป้อมปราการเก่าให้กลายเป็นเรือนจำทหาร และต่อมาในช่วงทศวรรษ 1930 ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯ พยายามจัดการกับบรรดาแก๊งอาชญากรรมที่ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด เพราะนโยบายห้ามผลิตและค้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (Prohibition) กระทรวงยุติธรรมได้เข้าควบคุมเรือนจำอัลคาทราซ และเริ่มโยกย้ายนักโทษตัวอันตรายที่อยู่ในระบบเรือนจำของรัฐบาลกลางมาที่นั่น ในจำนวนนี้มีอาชญากรชื่อดังอย่างเจ้าพ่ออัลคาโปน, มิกกี โคเฮน, จอร์จ เคลลี เจ้าของฉายา “ปืนกล”, และฆาตกรตัวฉกาจอย่างโรเบิร์ต สตราวด์ ซึ่งต่อมาเป็นที่รู้จักกันดีในฉายา “คนเลี้ยงนกแห่งอัลคาทราซ” (Birdman of Alcatraz)

    รายละเอียดเพิ่มเติม
    https://www.bbc.com/thai/articles/cv225351q59o

    ประธานาธิบดีทรัมป์สั่งเปิดเรือนจำอัลคาทราซอีกครั้งเพื่อใช้คุมขังผู้กระทำความผิดที่โหดเหี้ยมและรุนแรงที่สุดในอเมริกา “วันนี้ ผมกำลังสั่งการให้กรมราชทัณฑ์ ร่วมกับกระทรวงยุติธรรม เอฟบีไอ และกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ เปิดเรือนจำอัลคาทราซที่ขยายใหญ่ขึ้นและสร้างขึ้นใหม่ เพื่อใช้คุมขังผู้กระทำความผิดที่โหดร้ายและรุนแรงที่สุดในอเมริกา” . เกี่ยวกับ "อัลคาทราซ" เรือนจำอัลคาทราซ เป็นอดีตเรือนจำซึ่งตั้งอยู่บนเกาะนอกชายฝั่งซานฟรานซิสโก ที่ปิดมานานกว่า 60 ปี โดยปิดตัวลงตั้งแต่ปี 2506 และได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง ในปี 1962 นักโทษชายสามคนประสบผลสำเร็จในการหลบหนีออกจากเรือนจำ “อัลคาทราซ” (Alcatraz) สถานที่ที่มีการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนาที่สุดของสหรัฐ ประกอบไปด้วย แฟรงก์ มอร์ริส และสองพี่น้องตระกูลแอนกลิน เริ่มต้นนั้น "อัลคาทราซ" คือป้อมปืนของกองทัพเรือ ซึ่งใช้ป้องกันศัตรูไม่ให้ล่วงล้ำเข้ามาในน่านน้ำของอ่าวซานฟรานซิสโก ต่อมาในช่วงสงครามกลางเมืองของสหรัฐ ถูกดัดแปลงใช้เป็นที่คุมขังนักโทษที่เป็นฝ่ายสมาพันธรัฐ เนื่องจากเป็นเกาะที่ตั้งอยู่โดดเดี่ยวและมีหน้าผาสูงชัน ทั้งยังมีกระแสน้ำเย็นยะเยือกที่ไหลเชี่ยวล้อมรอบ ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 มีการปรับปรุงป้อมปราการเก่าให้กลายเป็นเรือนจำทหาร และต่อมาในช่วงทศวรรษ 1930 ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯ พยายามจัดการกับบรรดาแก๊งอาชญากรรมที่ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด เพราะนโยบายห้ามผลิตและค้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (Prohibition) กระทรวงยุติธรรมได้เข้าควบคุมเรือนจำอัลคาทราซ และเริ่มโยกย้ายนักโทษตัวอันตรายที่อยู่ในระบบเรือนจำของรัฐบาลกลางมาที่นั่น ในจำนวนนี้มีอาชญากรชื่อดังอย่างเจ้าพ่ออัลคาโปน, มิกกี โคเฮน, จอร์จ เคลลี เจ้าของฉายา “ปืนกล”, และฆาตกรตัวฉกาจอย่างโรเบิร์ต สตราวด์ ซึ่งต่อมาเป็นที่รู้จักกันดีในฉายา “คนเลี้ยงนกแห่งอัลคาทราซ” (Birdman of Alcatraz) รายละเอียดเพิ่มเติม https://www.bbc.com/thai/articles/cv225351q59o
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 87 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตำนานประวัติศาสตร์ EP.1: Little Round Top กลยุทธ์พลิกเกมของพันเอกอาจารย์มหาวิทยาลัยสายวาทศาสตร์

    เรื่องราวเกิดขึ้นในวันที่ 2 กรกฎาคม ค.ศ.1863 (พ.ศ.2406) ในช่วงสงครามกลางเมืองอเมริกา วันที่สองของสมรภูมิเก็ตตี้เบิร์ก ยุทธการนองเลือดที่จะตัดสินชะตากรรมของสหรัฐอเมริกา ณ บริเวณเนินลิตเติ้ลราวด์ท็อปกรมทหารราบรัฐเมนที่ 20 ภายใต้การนำของพันเอกโจชัวร์ ลอว์เรน แชมเบอร์เลน (Joshua Lawrence Chamberlain) ได้เข้ามาตั้งรับในบริเวณปีกซ้ายสุดของกองทัพโพโต (Army of Potomac) แมคภายใต้การนำของนายพลจอร์จ กอร์ดอน มีด (George Gordon Meades) หากเสียที่มั่นตรงนี้ไป กองทัพโพโตแมคที่เหลือจะถูกกวาดล้างโดยกองทัพเวอร์จิเนียเหนือ (Army of Northern Virginia) แห่งสมาพันธรัฐภายใต้การนำของนายพลโรเบิร์ต อี. ลี (Roberts E. Lee) ผู้เป็นตำนาน

    ในการสู้รบของวันนั้นกรมทหารราบรัฐเมนที่ 20 ภายใต้การนำของเขาได้เผชิญหน้ากับกรมทหารราบรัฐอะแลบามาที่ 15 ภายใต้การนำของพันเอกวิลเลี่ยม ซี. โอทส์ (William C. Oates) พวกเขาต่อสู้กับทหารข้าศึกจนกระสุนเริ่มร่อยหรอลง จนหมดลงในที่สุด ในทีแรกนายทหารคนสนิทของเขา…ร้อยเอกเอลลิส สเปียร์ (Ellis Spear) จะขอให้เขาถอนกำลัง แต่พวกเขาคือที่มั่นสุดท้ายแล้ว เพราะหากพวกเขาถอยทัพและกองทัพฝ่ายเหนือทั้งหมดถูกกวาดล้าง กองทัพฝ่ายใต้จะเคลื่อนพลสู่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.

    พันเอกแชมเบอร์เลนจึงตัดสินใจสั่งให้ทหารที่เหลือทั้งหมดติดดาบปลายปืนเพื่อเตรียมเข้าชาร์จศัตรู โดยเขาได้นำหลักตรรกะศาสตร์ที่เขาถนัดมาใช้ด้วยเขาเรียกว่า “กลยุทธ์บานพับประตู” โดยให้กองร้อยปีกซ้ายภายใต้การนำของร้อยเอกสเปียร์โจมตีจากทางด้านข้าง (Flanking Maneuver) ขณะที่เขาและน้องชายของเขา…ร้อยโทโธมัส เดวี่ แชมเบอร์เลน (Thomas Davee Chamberlain) ได้นำกองร้อยปีกขวาโจมตีข้าศึกจากด้านหน้า (Frontal Assault)

    สาเหตุที่พันเอกแชมเบอร์เลนใช้วิธีนี้เพราะว่ากองทหารข้าศึกที่เข้าโจมตีพวกเขานั้นรบติดพันกับพวกเขามาทั้งวันและน่าจะเหนื่อยจากการเดินทัพขึ้นเนินเข้ามาตีพวกเขา (ตามบันทึกประวัติศาสตร์จากยุทธการเก็ตตี้เบิร์ก กรมทหารราบรัฐอะแลบามาที่ 15 เดินทางมาถึงสนามรบในวันที่สองของการรบและถูกส่งเข้าตีปีกซ้ายของกองทัพสหภาพในทันทีตามคำสั่งของนายพลลี โดยที่พวกเขาส่วนใหญ่ยังไม่ได้แม้แต่เติมน้ำดื่มก่อนออกรบเลย) ผลของการรบ…กรมทหารราบรัฐเมนที่ 20 สามารถขับไล่กองทหารฝ่ายใต้ออกไปได้และสามารถจับเชลยศึกที่ตกตะลึงกับการบุกและหมดแรงเกินกว่าจะหนีได้เป็นจำนวนมาก ในช่วงของการบุกพันเอกแชมเบอร์เลนเกือบถูกยิงด้วยปืนลูกโม่จากนายทหารฝ่ายใต้นายนึง สุดท้ายเขาจับนายทหารคนนั้นและยึดปืนของเขามาได้

    จากวีรกรรมของเขาในครั้งนี้ทำให้เขาได้รับเหรียญกล้าหาญ Medal of Honor ซึ่งเป็นเครื่องอิสริยาภรณ์สำหรับทหารที่มีชื่อเสียงเกียรติยศและระดับสูงสุดในสหรัฐอเมริกาซึ่งอาจเป็นการปูนบำเหน็จเพื่อยกย่องแก่ทหารในกองทัพสหรัฐที่มีชื่อเสียงโดดเด่น

    ภายหลังสงครามจบลง แชมเบอร์เลนออกจากกองทัพ และด้วยชื่อเสียงของเขา เขาได้ลงสมัครเลือกตั้งเป็นผู้ว่าการรัฐเมน เขาชนะการเลือกตั้งถึงสี่สมัย ตั้งแต่ปี ค.ศ.1866-1869 (พ.ศ.2409-2412) โดยเขาสังกัดพรรครีพับลิกัน และในปี ค.ศ.1871 (พ.ศ.2414) เขาได้กลายมาเป็นอธิการบดีแห่งวิทยาลัยโบว์ดินที่เขาเคยสอนอยู่

    พันเอกโจชัวร์ ลอว์เรน แชมเบอร์เลนเสียชีวิตลงในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1914 (พ.ศ.2457) ในวัย 85ปี ที่เมืองพอร์ทแลนด์, รัฐเมน, สหรัฐฯ เป็นอันปิดตำนานของพันเอกอาจารย์มหาวิทยาลัยสายวาทศาสตร์

    เรื่องราวของเขาและน้องชายของเขาได้ถูกนำไปตีแผ่ลงในนิยายเรื่อง The Killer Angels (1974) โดยนักเขียนนวนิยายอิงประวัติศาสตร์นาม…ไมเคิล ชารา ซึ่งต่อมาได้ถูกดัดแปลงเป็นภาพยนตร์เรื่อง Gettysburg (1993) และอีกครั้งในนวนิยายเรื่อง God and Generals (1996) ที่ถูกดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ในปี 2003 ในชื่อเดียวกัน ทั้งสองเรื่องนักแสดงผู้รับบทพันเอกแชมเบอร์เลนคือ เจฟ แดเนียล

    (เพิ่มเติม: ฉากการต่อสู้ที่เนินลิตเติ้ลราวด์ท็อปในภาพยนตร์ Gettysburg 1993 แอดบอกได้เลยว่าสนุกมาก)
    ตำนานประวัติศาสตร์ EP.1: Little Round Top กลยุทธ์พลิกเกมของพันเอกอาจารย์มหาวิทยาลัยสายวาทศาสตร์ เรื่องราวเกิดขึ้นในวันที่ 2 กรกฎาคม ค.ศ.1863 (พ.ศ.2406) ในช่วงสงครามกลางเมืองอเมริกา วันที่สองของสมรภูมิเก็ตตี้เบิร์ก ยุทธการนองเลือดที่จะตัดสินชะตากรรมของสหรัฐอเมริกา ณ บริเวณเนินลิตเติ้ลราวด์ท็อปกรมทหารราบรัฐเมนที่ 20 ภายใต้การนำของพันเอกโจชัวร์ ลอว์เรน แชมเบอร์เลน (Joshua Lawrence Chamberlain) ได้เข้ามาตั้งรับในบริเวณปีกซ้ายสุดของกองทัพโพโต (Army of Potomac) แมคภายใต้การนำของนายพลจอร์จ กอร์ดอน มีด (George Gordon Meades) หากเสียที่มั่นตรงนี้ไป กองทัพโพโตแมคที่เหลือจะถูกกวาดล้างโดยกองทัพเวอร์จิเนียเหนือ (Army of Northern Virginia) แห่งสมาพันธรัฐภายใต้การนำของนายพลโรเบิร์ต อี. ลี (Roberts E. Lee) ผู้เป็นตำนาน ในการสู้รบของวันนั้นกรมทหารราบรัฐเมนที่ 20 ภายใต้การนำของเขาได้เผชิญหน้ากับกรมทหารราบรัฐอะแลบามาที่ 15 ภายใต้การนำของพันเอกวิลเลี่ยม ซี. โอทส์ (William C. Oates) พวกเขาต่อสู้กับทหารข้าศึกจนกระสุนเริ่มร่อยหรอลง จนหมดลงในที่สุด ในทีแรกนายทหารคนสนิทของเขา…ร้อยเอกเอลลิส สเปียร์ (Ellis Spear) จะขอให้เขาถอนกำลัง แต่พวกเขาคือที่มั่นสุดท้ายแล้ว เพราะหากพวกเขาถอยทัพและกองทัพฝ่ายเหนือทั้งหมดถูกกวาดล้าง กองทัพฝ่ายใต้จะเคลื่อนพลสู่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. พันเอกแชมเบอร์เลนจึงตัดสินใจสั่งให้ทหารที่เหลือทั้งหมดติดดาบปลายปืนเพื่อเตรียมเข้าชาร์จศัตรู โดยเขาได้นำหลักตรรกะศาสตร์ที่เขาถนัดมาใช้ด้วยเขาเรียกว่า “กลยุทธ์บานพับประตู” โดยให้กองร้อยปีกซ้ายภายใต้การนำของร้อยเอกสเปียร์โจมตีจากทางด้านข้าง (Flanking Maneuver) ขณะที่เขาและน้องชายของเขา…ร้อยโทโธมัส เดวี่ แชมเบอร์เลน (Thomas Davee Chamberlain) ได้นำกองร้อยปีกขวาโจมตีข้าศึกจากด้านหน้า (Frontal Assault) สาเหตุที่พันเอกแชมเบอร์เลนใช้วิธีนี้เพราะว่ากองทหารข้าศึกที่เข้าโจมตีพวกเขานั้นรบติดพันกับพวกเขามาทั้งวันและน่าจะเหนื่อยจากการเดินทัพขึ้นเนินเข้ามาตีพวกเขา (ตามบันทึกประวัติศาสตร์จากยุทธการเก็ตตี้เบิร์ก กรมทหารราบรัฐอะแลบามาที่ 15 เดินทางมาถึงสนามรบในวันที่สองของการรบและถูกส่งเข้าตีปีกซ้ายของกองทัพสหภาพในทันทีตามคำสั่งของนายพลลี โดยที่พวกเขาส่วนใหญ่ยังไม่ได้แม้แต่เติมน้ำดื่มก่อนออกรบเลย) ผลของการรบ…กรมทหารราบรัฐเมนที่ 20 สามารถขับไล่กองทหารฝ่ายใต้ออกไปได้และสามารถจับเชลยศึกที่ตกตะลึงกับการบุกและหมดแรงเกินกว่าจะหนีได้เป็นจำนวนมาก ในช่วงของการบุกพันเอกแชมเบอร์เลนเกือบถูกยิงด้วยปืนลูกโม่จากนายทหารฝ่ายใต้นายนึง สุดท้ายเขาจับนายทหารคนนั้นและยึดปืนของเขามาได้ จากวีรกรรมของเขาในครั้งนี้ทำให้เขาได้รับเหรียญกล้าหาญ Medal of Honor ซึ่งเป็นเครื่องอิสริยาภรณ์สำหรับทหารที่มีชื่อเสียงเกียรติยศและระดับสูงสุดในสหรัฐอเมริกาซึ่งอาจเป็นการปูนบำเหน็จเพื่อยกย่องแก่ทหารในกองทัพสหรัฐที่มีชื่อเสียงโดดเด่น ภายหลังสงครามจบลง แชมเบอร์เลนออกจากกองทัพ และด้วยชื่อเสียงของเขา เขาได้ลงสมัครเลือกตั้งเป็นผู้ว่าการรัฐเมน เขาชนะการเลือกตั้งถึงสี่สมัย ตั้งแต่ปี ค.ศ.1866-1869 (พ.ศ.2409-2412) โดยเขาสังกัดพรรครีพับลิกัน และในปี ค.ศ.1871 (พ.ศ.2414) เขาได้กลายมาเป็นอธิการบดีแห่งวิทยาลัยโบว์ดินที่เขาเคยสอนอยู่ พันเอกโจชัวร์ ลอว์เรน แชมเบอร์เลนเสียชีวิตลงในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1914 (พ.ศ.2457) ในวัย 85ปี ที่เมืองพอร์ทแลนด์, รัฐเมน, สหรัฐฯ เป็นอันปิดตำนานของพันเอกอาจารย์มหาวิทยาลัยสายวาทศาสตร์ เรื่องราวของเขาและน้องชายของเขาได้ถูกนำไปตีแผ่ลงในนิยายเรื่อง The Killer Angels (1974) โดยนักเขียนนวนิยายอิงประวัติศาสตร์นาม…ไมเคิล ชารา ซึ่งต่อมาได้ถูกดัดแปลงเป็นภาพยนตร์เรื่อง Gettysburg (1993) และอีกครั้งในนวนิยายเรื่อง God and Generals (1996) ที่ถูกดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ในปี 2003 ในชื่อเดียวกัน ทั้งสองเรื่องนักแสดงผู้รับบทพันเอกแชมเบอร์เลนคือ เจฟ แดเนียล (เพิ่มเติม: ฉากการต่อสู้ที่เนินลิตเติ้ลราวด์ท็อปในภาพยนตร์ Gettysburg 1993 แอดบอกได้เลยว่าสนุกมาก)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 195 มุมมอง 0 รีวิว
  • กลุ่มบรรเทาทุกข์ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดของพม่ากล่าวว่ามีความต้องการที่พักพิง อาหาร และน้ำอย่างเร่งด่วน หลังจากแผ่นดินไหวคร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 2,700 คน ขณะที่สงครามกลางเมืองของประเทศ ทำให้ความช่วยเหลือไปถึงในพื้นที่ที่ต้องการได้ยากลำบากขึ้น

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000031143
    กลุ่มบรรเทาทุกข์ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดของพม่ากล่าวว่ามีความต้องการที่พักพิง อาหาร และน้ำอย่างเร่งด่วน หลังจากแผ่นดินไหวคร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 2,700 คน ขณะที่สงครามกลางเมืองของประเทศ ทำให้ความช่วยเหลือไปถึงในพื้นที่ที่ต้องการได้ยากลำบากขึ้น อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000031143
    Like
    Sad
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 655 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถ้าหาก USAID ที่เป็นสำนักงานให้ความช่วยเหลือต่างประเทศของสหรัฐฯ ยังคงปฏิบัติงานอยู่ตามปกติ ไม่ถูกสั่งปลดเจ้าหน้าที่แทบทั้งหมดและกระทั่งสั่งยุบหน่วยงานนี้ไปเลยตามนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ USAID ก็น่าจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการวินิจฉัยกำหนดพื้นที่ซึ่งจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือมากที่สุดภายหลังแผ่นดินไหวใหญ่ในพม่าคราวนี้ รวมทั้งมีบทบาทในการแบ่งปันจัดสรรความช่วยเหลือฉุกเฉินที่ทรงความสำคัญอย่างยิ่งยวด

    เมื่อตอนต้นปี 2021 หลังจากหนึ่งทศวรรษของการปฏิรูปทางการเมืองและทางเศรษฐกิจ พม่าแลดูเหมือนกับว่าในที่สุดแล้วพวกเขาก็กำลังเริ่มต้น Choawalit Chotwattanaphong ที่จะเขย่าพิษตกค้างของการถูกปกครองโดยคณะทหารมานานหลายทศวรรษให้หลุดออกไปได้เสียที ในตอนนั้นการลงทุนจากต่างประเทศกำลังเติบโตขยายตัว และมาตรฐานชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนกำลังกระเตื้องดีขึ้นมาอย่างช้าๆ

    อย่างไรก็ตาม ในเดือนกุมภาพันธ์ของปีนั้นเอง คณะทหารก็กลับมายึดอำนาจเอาไว้อีกคำรบหนึ่ง หลังจากขับไล่ [2] รัฐบาลที่ผ่านการเลือกตั้งอย่างเป็นประชาธิปไตยของ อองซานซูจี ออกไปด้วยการทำรัฐประหารยึดอำนาจ เรื่องนี้ได้ผลักไสให้ประเทศนี้หมุนคว้างดำดิ่งลงสู่สงครามกลางเมือง [3] และความพังพินาศทางสังคมและทางเศรษฐกิจ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/around/detail/9680000030661

    #MGROnline #โดนัลด์ทรัมป์ #USAID
    ถ้าหาก USAID ที่เป็นสำนักงานให้ความช่วยเหลือต่างประเทศของสหรัฐฯ ยังคงปฏิบัติงานอยู่ตามปกติ ไม่ถูกสั่งปลดเจ้าหน้าที่แทบทั้งหมดและกระทั่งสั่งยุบหน่วยงานนี้ไปเลยตามนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ USAID ก็น่าจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการวินิจฉัยกำหนดพื้นที่ซึ่งจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือมากที่สุดภายหลังแผ่นดินไหวใหญ่ในพม่าคราวนี้ รวมทั้งมีบทบาทในการแบ่งปันจัดสรรความช่วยเหลือฉุกเฉินที่ทรงความสำคัญอย่างยิ่งยวด • เมื่อตอนต้นปี 2021 หลังจากหนึ่งทศวรรษของการปฏิรูปทางการเมืองและทางเศรษฐกิจ พม่าแลดูเหมือนกับว่าในที่สุดแล้วพวกเขาก็กำลังเริ่มต้น [1] ที่จะเขย่าพิษตกค้างของการถูกปกครองโดยคณะทหารมานานหลายทศวรรษให้หลุดออกไปได้เสียที ในตอนนั้นการลงทุนจากต่างประเทศกำลังเติบโตขยายตัว และมาตรฐานชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนกำลังกระเตื้องดีขึ้นมาอย่างช้าๆ • อย่างไรก็ตาม ในเดือนกุมภาพันธ์ของปีนั้นเอง คณะทหารก็กลับมายึดอำนาจเอาไว้อีกคำรบหนึ่ง หลังจากขับไล่ [2] รัฐบาลที่ผ่านการเลือกตั้งอย่างเป็นประชาธิปไตยของ อองซานซูจี ออกไปด้วยการทำรัฐประหารยึดอำนาจ เรื่องนี้ได้ผลักไสให้ประเทศนี้หมุนคว้างดำดิ่งลงสู่สงครามกลางเมือง [3] และความพังพินาศทางสังคมและทางเศรษฐกิจ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/around/detail/9680000030661 • #MGROnline #โดนัลด์ทรัมป์ #USAID
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 522 มุมมอง 0 รีวิว
  • เอเอฟพี - ผู้ลี้ภัยในค่ายบรรเทาทุกข์ของพม่าที่สิ้นหวัง ได้รับความช่วยเหลือครั้งสุดท้ายจากโครงการอาหารโลกเมื่อวันพุธ (19) เนื่องจากหน่วยงานของสหประชาชาติเริ่มหยุดให้ความช่วยเหลือแก่ผู้คนนับล้านในประเทศแห่งนี้เพราะขาดแคลนเงินทุน

    การตัดงบประมาณความช่วยเหลือของสหรัฐฯ ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งผลให้โครงการอาหารโลกขาดแคลนเงินทุนอย่างรุนแรง ส่งผลให้ต้องตัดงบประมาณครั้งใหญ่ในพม่า ที่อยู่ในสถานการณ์สงครามกลางเมืองมาเป็นเวลา 4 ปี

    “ฉันภาวนาทุกคืนขอให้ข่าวนี้ไม่เป็นความจริง” บยาร์ มี ที่ได้รับความช่วยเหลือรายเดือนครั้งสุดท้ายเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ที่มีมูลค่าประมาณ 50 ดอลลาร์ ซึ่งเธอใช้เลี้ยงดูครอบครัว 5 คน กล่าว

    “ฉันภาวนาต่อพระเจ้าให้ผู้บริจาคได้รับพรและให้พวกเขาสามารถช่วยเหลือพวกเราได้อีกครั้ง ได้โปรดช่วยเหลือพวกเรา สงสารเราด้วย” บยาร์ มี กล่าวกับเอเอฟพี จากค่ายแห่งหนึ่งนอกเมืองมิตจีนา ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ

    นับตั้งแต่กองทัพพม่าเข้าโค่นล้มรัฐบาลพลเรือนในปี 2564 ประเทศเผชิญกับความขัดแย้งที่คร่าชีวิตผู้คนไปหลายพันคน และทำให้ผู้คนหลายล้านต้องพลัดถิ่น และทำให้อัตราความยากจนเพิ่มขึ้น 50%

    เนื่องจากการตัดความช่วยเหลือ โครงการอาหารโลกระบุว่าจะให้ความช่วยเหลือได้เพียง 35,000 คนในเดือน เม.ย. ซึ่งเป็นเพียงเศษเสี้ยวของ 15 ล้านคน ที่ไม่สามารถตอบสนองความต้องการด้านอาหารในแต่ละวันของตนเองได้

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/indochina/detail/9680000026719

    #MGROnline #ผู้ลี้ภัย #ค่ายบรรเทาทุกข์ของพม่า #โครงการอาหารโลก #สหประชาชาติ
    เอเอฟพี - ผู้ลี้ภัยในค่ายบรรเทาทุกข์ของพม่าที่สิ้นหวัง ได้รับความช่วยเหลือครั้งสุดท้ายจากโครงการอาหารโลกเมื่อวันพุธ (19) เนื่องจากหน่วยงานของสหประชาชาติเริ่มหยุดให้ความช่วยเหลือแก่ผู้คนนับล้านในประเทศแห่งนี้เพราะขาดแคลนเงินทุน • การตัดงบประมาณความช่วยเหลือของสหรัฐฯ ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งผลให้โครงการอาหารโลกขาดแคลนเงินทุนอย่างรุนแรง ส่งผลให้ต้องตัดงบประมาณครั้งใหญ่ในพม่า ที่อยู่ในสถานการณ์สงครามกลางเมืองมาเป็นเวลา 4 ปี • “ฉันภาวนาทุกคืนขอให้ข่าวนี้ไม่เป็นความจริง” บยาร์ มี ที่ได้รับความช่วยเหลือรายเดือนครั้งสุดท้ายเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ที่มีมูลค่าประมาณ 50 ดอลลาร์ ซึ่งเธอใช้เลี้ยงดูครอบครัว 5 คน กล่าว • “ฉันภาวนาต่อพระเจ้าให้ผู้บริจาคได้รับพรและให้พวกเขาสามารถช่วยเหลือพวกเราได้อีกครั้ง ได้โปรดช่วยเหลือพวกเรา สงสารเราด้วย” บยาร์ มี กล่าวกับเอเอฟพี จากค่ายแห่งหนึ่งนอกเมืองมิตจีนา ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ • นับตั้งแต่กองทัพพม่าเข้าโค่นล้มรัฐบาลพลเรือนในปี 2564 ประเทศเผชิญกับความขัดแย้งที่คร่าชีวิตผู้คนไปหลายพันคน และทำให้ผู้คนหลายล้านต้องพลัดถิ่น และทำให้อัตราความยากจนเพิ่มขึ้น 50% • เนื่องจากการตัดความช่วยเหลือ โครงการอาหารโลกระบุว่าจะให้ความช่วยเหลือได้เพียง 35,000 คนในเดือน เม.ย. ซึ่งเป็นเพียงเศษเสี้ยวของ 15 ล้านคน ที่ไม่สามารถตอบสนองความต้องการด้านอาหารในแต่ละวันของตนเองได้ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/indochina/detail/9680000026719 • #MGROnline #ผู้ลี้ภัย #ค่ายบรรเทาทุกข์ของพม่า #โครงการอาหารโลก #สหประชาชาติ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 626 มุมมอง 0 รีวิว
  • กลุ่มสังเกตการซีเรียเพื่อมนุษยธรรม SOHR แถลงยอดเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 1,130 คน ตั้งแต่วันพฤหัสบดี(6 มี.ค)หลังปะทะระหว่างกองกำลังกบฏซีเรียของดามัสกัสและกองกำลังจงรักภักดีอดีตประธานาธิบดีซีเรีย บาชาร์ อัล-อัสสาด ตั้งคำถามถึงรัฐบาลใหม่ดามัสกัสว่าจะปกครองประเทศได้หรือไม่ ด้านอิหร่านรีบออกตัวไม่ได้อยู่เบื้องหลังความปั่นป่วน
    .
    เอพีรายงานวันนี้(10 มี.ค)ว่า กลุ่มสังเกตการซีเรียเพื่อมนุษยธรรม SOHR ที่มีฐานในอังกฤษรายงานยอดเสียชีวิตในการปะทะอยู่ที่ 1,130 คนรวมพลเรือน 830 คน เอพีไม่สามารถยืนตัวเลขนี้ได้ เกิดขึ้นในขณะที่บีบีซีของอังกฤษให้ตัวเลขที่กว่า 1,400 คน และพลเรือน 973 คน ส่วนเอเอฟพีให้ตัวเลขกว่า 1,300 คน
    .
    รัฐบาลรักษาการซีเรียของประธานาธิบดี อาเหม็ด อัล-ชาอะรา( Ahmed al-Sharaa) กล่าวผ่านแถลงการณ์วันจันทร์(10)ว่า ปฎิบัติการทหารที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่วันพฤหัสบดี(6)ต่อกองกำลังจงรักภักดีอดีตประธานาธิบดีซีเรีย บาชาห์ อัล-อัสสาดและครอบครัวของเขาในการต่อสู้ร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่สงครามกลางเมืองซีเรีย 13 ปีสิ้นสุดลงในธันวาคมปีที่แล้ว
    .
    ซึ่งประธานาธิบดีซีเรียคนปัจจุบันนั้นเป็นผู้นำกบฎซีเรียที่มีนามแฝงคือ อาบู โมฮัมหมัด อัล-โจลานี (Abu Mohammed al-Jolani) โค่นล้มอดีตประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสสาดสำเร็จเมื่อวันที่ 8 ธ.คปีที่แล้ว เขาประกาศที่จะตั้งคณะกรรมการอิสระสอบสวนการสังหารครั้งนี้พร้อมยืนยันว่าผู้อยู่เบื้องหลังต้องรับผิดชอบ
    .
    แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมซีเรียออกมาหลังการโจมตีไม่คาดฝันจากกลุ่มมือปืนจากชุมชน Alawite ต่อการตรวจการของตำรวจซีเรียใกล้เมืองลัตตาเกีย (Lattakia) ซึ่งเป็นเมืองท่าในวันพฤหัสบดี(6)ก่อนที่จะขยายไปสู่ความรุนแรงมีการปะทะเป็นวงกว้างทั่วเขตภูมิภาคชายฝั่งของซีเรียที่กลุ่มสังเกตการณ์ไม่ต่ำกว่า 1 กลุ่มยืนยันตัวเลขพลเรือนหลายร้อยโดนสังหาร
    .
    ฮัสซาน อับเดล-กานี (Hassan Abdel Ghani)โฆษกกระทรวงกลาโหมซีเรียแถลงว่า กองกำลังความมั่นคงซีเรียจะยังคงค้นหาเซลล์นอนหลับฝังตัวและที่ยังคงหลงเหลือของกลุ่มจงรักภักดีต่อรัฐบาลซีเรียชุดเดิม
    .
    เอเอฟพีรายงานเพิ่มเติมว่า อิหร่านในวันจันทร์(10)ออกมาปฎิเสธเสียงแข็งว่าไม่ได้อยู่เบื้องหลังความปั่นป่วนในซีเรีย
    .
    การต่อสู้ทำให้กองกำลังความมั่นคงซีเรียและกลุ่มติดอาวุธสนับสนุนอัสสาดเสียชีวิตหลายร้อยคน อ้างอิงจากกลุ่มสังเกตการณ์ที่รายงานว่ายอดเสียชีวิตทั้งหมดมีไม่ต่ำกว่า 1,300 คน เอเอฟพีรายงาน
    .
    โฆษกกระทรวงต่างประเทศอิหร่าน อิสมาอิล บาคาอี (Esmaeil Baqaei) ปฎิเสธโดยสิ้นเชิงต่อข้อกล่าวหาในการแถลงวันจันทร์(10)
    .
    ข้อกล่าวหาเป็นสิ่งที่น่าขบขันโดยสิ้นเชิงและเป็นการปฎิเสธ พร้อมกล่าวว่า การชี้นิ้วขอมาที่อิหร่านและพันธมิตรของอิหร่านเป็นการตอบที่ผิดพลาด และเป็นเทรนด์ที่เบี่ยงเบนรวมไปถึงเป็นการทำให้สำคัญผิด 100%
    .
    เอเอฟพีชี้ว่า การปะทะที่นำไปสู่การเสียชีวิตกว่า 1,000 คนส่งผลทำให้เกิดความสงสัยต่อความสามารถในการปกครองซีเรียของรัฐบาลกลุ่มกบฎรักษาการในสายตาต่างประเทศ
    .
    ไฮโก วิมเมน (Heiko Wimmen ) จากองค์กรธิงแทงก์ International Crisis Group แสดงความเห็นว่า ความรุนแรงล่าสุดแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลซีเรียชุดใหม่ไม่มีความสามารถในการจัดการกับความท้าทายมากมายที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกัน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000023234
    ..............
    Sondhi X
    กลุ่มสังเกตการซีเรียเพื่อมนุษยธรรม SOHR แถลงยอดเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 1,130 คน ตั้งแต่วันพฤหัสบดี(6 มี.ค)หลังปะทะระหว่างกองกำลังกบฏซีเรียของดามัสกัสและกองกำลังจงรักภักดีอดีตประธานาธิบดีซีเรีย บาชาร์ อัล-อัสสาด ตั้งคำถามถึงรัฐบาลใหม่ดามัสกัสว่าจะปกครองประเทศได้หรือไม่ ด้านอิหร่านรีบออกตัวไม่ได้อยู่เบื้องหลังความปั่นป่วน . เอพีรายงานวันนี้(10 มี.ค)ว่า กลุ่มสังเกตการซีเรียเพื่อมนุษยธรรม SOHR ที่มีฐานในอังกฤษรายงานยอดเสียชีวิตในการปะทะอยู่ที่ 1,130 คนรวมพลเรือน 830 คน เอพีไม่สามารถยืนตัวเลขนี้ได้ เกิดขึ้นในขณะที่บีบีซีของอังกฤษให้ตัวเลขที่กว่า 1,400 คน และพลเรือน 973 คน ส่วนเอเอฟพีให้ตัวเลขกว่า 1,300 คน . รัฐบาลรักษาการซีเรียของประธานาธิบดี อาเหม็ด อัล-ชาอะรา( Ahmed al-Sharaa) กล่าวผ่านแถลงการณ์วันจันทร์(10)ว่า ปฎิบัติการทหารที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่วันพฤหัสบดี(6)ต่อกองกำลังจงรักภักดีอดีตประธานาธิบดีซีเรีย บาชาห์ อัล-อัสสาดและครอบครัวของเขาในการต่อสู้ร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่สงครามกลางเมืองซีเรีย 13 ปีสิ้นสุดลงในธันวาคมปีที่แล้ว . ซึ่งประธานาธิบดีซีเรียคนปัจจุบันนั้นเป็นผู้นำกบฎซีเรียที่มีนามแฝงคือ อาบู โมฮัมหมัด อัล-โจลานี (Abu Mohammed al-Jolani) โค่นล้มอดีตประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสสาดสำเร็จเมื่อวันที่ 8 ธ.คปีที่แล้ว เขาประกาศที่จะตั้งคณะกรรมการอิสระสอบสวนการสังหารครั้งนี้พร้อมยืนยันว่าผู้อยู่เบื้องหลังต้องรับผิดชอบ . แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมซีเรียออกมาหลังการโจมตีไม่คาดฝันจากกลุ่มมือปืนจากชุมชน Alawite ต่อการตรวจการของตำรวจซีเรียใกล้เมืองลัตตาเกีย (Lattakia) ซึ่งเป็นเมืองท่าในวันพฤหัสบดี(6)ก่อนที่จะขยายไปสู่ความรุนแรงมีการปะทะเป็นวงกว้างทั่วเขตภูมิภาคชายฝั่งของซีเรียที่กลุ่มสังเกตการณ์ไม่ต่ำกว่า 1 กลุ่มยืนยันตัวเลขพลเรือนหลายร้อยโดนสังหาร . ฮัสซาน อับเดล-กานี (Hassan Abdel Ghani)โฆษกกระทรวงกลาโหมซีเรียแถลงว่า กองกำลังความมั่นคงซีเรียจะยังคงค้นหาเซลล์นอนหลับฝังตัวและที่ยังคงหลงเหลือของกลุ่มจงรักภักดีต่อรัฐบาลซีเรียชุดเดิม . เอเอฟพีรายงานเพิ่มเติมว่า อิหร่านในวันจันทร์(10)ออกมาปฎิเสธเสียงแข็งว่าไม่ได้อยู่เบื้องหลังความปั่นป่วนในซีเรีย . การต่อสู้ทำให้กองกำลังความมั่นคงซีเรียและกลุ่มติดอาวุธสนับสนุนอัสสาดเสียชีวิตหลายร้อยคน อ้างอิงจากกลุ่มสังเกตการณ์ที่รายงานว่ายอดเสียชีวิตทั้งหมดมีไม่ต่ำกว่า 1,300 คน เอเอฟพีรายงาน . โฆษกกระทรวงต่างประเทศอิหร่าน อิสมาอิล บาคาอี (Esmaeil Baqaei) ปฎิเสธโดยสิ้นเชิงต่อข้อกล่าวหาในการแถลงวันจันทร์(10) . ข้อกล่าวหาเป็นสิ่งที่น่าขบขันโดยสิ้นเชิงและเป็นการปฎิเสธ พร้อมกล่าวว่า การชี้นิ้วขอมาที่อิหร่านและพันธมิตรของอิหร่านเป็นการตอบที่ผิดพลาด และเป็นเทรนด์ที่เบี่ยงเบนรวมไปถึงเป็นการทำให้สำคัญผิด 100% . เอเอฟพีชี้ว่า การปะทะที่นำไปสู่การเสียชีวิตกว่า 1,000 คนส่งผลทำให้เกิดความสงสัยต่อความสามารถในการปกครองซีเรียของรัฐบาลกลุ่มกบฎรักษาการในสายตาต่างประเทศ . ไฮโก วิมเมน (Heiko Wimmen ) จากองค์กรธิงแทงก์ International Crisis Group แสดงความเห็นว่า ความรุนแรงล่าสุดแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลซีเรียชุดใหม่ไม่มีความสามารถในการจัดการกับความท้าทายมากมายที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกัน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000023234 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1535 มุมมอง 0 รีวิว
  • 2/
    สถานการณ์ในซีเรียเริ่มมีการต่อสู้กันระหว่างกองกำลังที่สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีอัสซาดที่ถูกโค่นล้ม กับกองกำลัง HTS ของรัฐบาลใหม่ซีเรีย

    ซีเรียกำลังเข้าสู่สงครามกลางเมืองอีกครั้ง จากการลุกฮือต่อต้านรัฐบาลชุดใหม่ที่มาจากกลุ่มก่อการร้าย ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากตุรกีและอิสราเอล ในการเข้ายึดครองซีเรียจนสำเร็จ
    ขณะนี้กองกำลังที่สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีอัสซาดได้ลุกขึ้นต่อต้านรัฐบาลก่อการร้ายชุดใหม่และสามารถเข้าควบคุมพื้นที่หลายแห่งบนชายฝั่งตะวันตกของซีเรียแล้ว

    การสู้รบอย่างหนักขณะนี้เกิดขึ้นในลาตาเกียและโฮมส์
    2/ สถานการณ์ในซีเรียเริ่มมีการต่อสู้กันระหว่างกองกำลังที่สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีอัสซาดที่ถูกโค่นล้ม กับกองกำลัง HTS ของรัฐบาลใหม่ซีเรีย ซีเรียกำลังเข้าสู่สงครามกลางเมืองอีกครั้ง จากการลุกฮือต่อต้านรัฐบาลชุดใหม่ที่มาจากกลุ่มก่อการร้าย ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากตุรกีและอิสราเอล ในการเข้ายึดครองซีเรียจนสำเร็จ ขณะนี้กองกำลังที่สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีอัสซาดได้ลุกขึ้นต่อต้านรัฐบาลก่อการร้ายชุดใหม่และสามารถเข้าควบคุมพื้นที่หลายแห่งบนชายฝั่งตะวันตกของซีเรียแล้ว การสู้รบอย่างหนักขณะนี้เกิดขึ้นในลาตาเกียและโฮมส์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 384 มุมมอง 19 0 รีวิว
  • 1/
    สถานการณ์ในซีเรียเริ่มมีการต่อสู้กันระหว่างกองกำลังที่สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีอัสซาดที่ถูกโค่นล้ม กับกองกำลัง HTS ของรัฐบาลใหม่ซีเรีย

    ซีเรียกำลังเข้าสู่สงครามกลางเมืองอีกครั้ง จากการลุกฮือต่อต้านรัฐบาลชุดใหม่ที่มาจากกลุ่มก่อการร้าย ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากตุรกีและอิสราเอล ในการเข้ายึดครองซีเรียจนสำเร็จ
    ขณะนี้กองกำลังที่สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีอัสซาดได้ลุกขึ้นต่อต้านรัฐบาลก่อการร้ายชุดใหม่และสามารถเข้าควบคุมพื้นที่หลายแห่งบนชายฝั่งตะวันตกของซีเรียแล้ว

    การสู้รบอย่างหนักขณะนี้เกิดขึ้นในลาตาเกียและโฮมส์
    1/ สถานการณ์ในซีเรียเริ่มมีการต่อสู้กันระหว่างกองกำลังที่สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีอัสซาดที่ถูกโค่นล้ม กับกองกำลัง HTS ของรัฐบาลใหม่ซีเรีย ซีเรียกำลังเข้าสู่สงครามกลางเมืองอีกครั้ง จากการลุกฮือต่อต้านรัฐบาลชุดใหม่ที่มาจากกลุ่มก่อการร้าย ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากตุรกีและอิสราเอล ในการเข้ายึดครองซีเรียจนสำเร็จ ขณะนี้กองกำลังที่สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีอัสซาดได้ลุกขึ้นต่อต้านรัฐบาลก่อการร้ายชุดใหม่และสามารถเข้าควบคุมพื้นที่หลายแห่งบนชายฝั่งตะวันตกของซีเรียแล้ว การสู้รบอย่างหนักขณะนี้เกิดขึ้นในลาตาเกียและโฮมส์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 248 มุมมอง 0 รีวิว
  • Meta Platforms ต้องเผชิญกับการฟ้องร้องในสหรัฐอเมริกาที่กล่าวหาว่า บริษัทเลือกจ้างแรงงานต่างชาติที่มีค่าแรงถูกกว่าแรงงานในประเทศ

    คดีนี้ถูกยื่นฟ้องโดยชาวอเมริกันสามคน ได้แก่ Purushothaman Rajaram, Ekta Bhatia, และ Qun Wang ซึ่งทั้งหมดเป็นผู้ถือสัญชาติอเมริกัน พวกเขาอ้างว่า Meta มี "ความชื่นชอบแรงงานต่างชาติที่ถือวีซ่า H-1B" และปฏิเสธการจ้างงานพวกเขาทั้งที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสม คดีนี้ได้รับการสนับสนุนโดยข้อมูลที่ชี้ให้เห็นว่า 15% ของแรงงานของ Meta ในสหรัฐถือวีซ่า H-1B ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศที่มีเพียง 0.5% เท่านั้น

    ในอดีต Meta ได้ตกลงจ่ายค่าปรับสูงถึง 14.25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเดือนตุลาคม 2021 เพื่อยุติคดีของรัฐบาลกลางที่กล่าวหาว่าบริษัทมักปฏิเสธการจ้างงานชาวอเมริกันในตำแหน่งงานที่สงวนไว้สำหรับแรงงานต่างชาติที่ถือวีซ่าชั่วคราว คดีนี้เกิดขึ้นในเดือนธันวาคม 2020 ก่อนที่ Donald Trump จะสิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเพียงเจ็ดสัปดาห์

    ผู้ฟ้องร้องหวังว่าคดีนี้จะเป็นแรงกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี โดยเรียกร้องให้มีการบังคับใช้กฎหมายหรือการปฏิรูปทางกฎหมายเพิ่มเติมเพื่อแก้ไขปัญหาการเลือกปฏิบัติต่อแรงงานในประเทศ

    Meta ยังยืนยันว่า การกล่าวหานี้ไม่มีมูลความจริงและบริษัทจะปกป้องตนเองจากการฟ้องร้องต่อไป แต่ศาลยังคงเห็นด้วยกับผู้ฟ้องร้องว่ามีข้อมูลเพียงพอที่จะสนับสนุนข้อกล่าวหานี้ได้

    การฟ้องร้องนี้เกิดขึ้นในขณะที่หลายกลุ่มการเมืองแบบอนุรักษ์นิยมและอดีตประธานาธิบดี Donald Trump ได้อ้างถึงกฎหมายยุคสงครามกลางเมือง (Civil Rights Act of 1866) มาตรา 1981 ที่ห้ามการเลือกปฏิบัติบนพื้นฐานของสถานะการถือสัญชาติ โดยเรียกร้องให้มีการปกป้องสิทธิของแรงงานชาวอเมริกัน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/26/meta-must-face-lawsuit-claiming-it-prefers-cheaper-foreign-workers
    Meta Platforms ต้องเผชิญกับการฟ้องร้องในสหรัฐอเมริกาที่กล่าวหาว่า บริษัทเลือกจ้างแรงงานต่างชาติที่มีค่าแรงถูกกว่าแรงงานในประเทศ คดีนี้ถูกยื่นฟ้องโดยชาวอเมริกันสามคน ได้แก่ Purushothaman Rajaram, Ekta Bhatia, และ Qun Wang ซึ่งทั้งหมดเป็นผู้ถือสัญชาติอเมริกัน พวกเขาอ้างว่า Meta มี "ความชื่นชอบแรงงานต่างชาติที่ถือวีซ่า H-1B" และปฏิเสธการจ้างงานพวกเขาทั้งที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสม คดีนี้ได้รับการสนับสนุนโดยข้อมูลที่ชี้ให้เห็นว่า 15% ของแรงงานของ Meta ในสหรัฐถือวีซ่า H-1B ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศที่มีเพียง 0.5% เท่านั้น ในอดีต Meta ได้ตกลงจ่ายค่าปรับสูงถึง 14.25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเดือนตุลาคม 2021 เพื่อยุติคดีของรัฐบาลกลางที่กล่าวหาว่าบริษัทมักปฏิเสธการจ้างงานชาวอเมริกันในตำแหน่งงานที่สงวนไว้สำหรับแรงงานต่างชาติที่ถือวีซ่าชั่วคราว คดีนี้เกิดขึ้นในเดือนธันวาคม 2020 ก่อนที่ Donald Trump จะสิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเพียงเจ็ดสัปดาห์ ผู้ฟ้องร้องหวังว่าคดีนี้จะเป็นแรงกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี โดยเรียกร้องให้มีการบังคับใช้กฎหมายหรือการปฏิรูปทางกฎหมายเพิ่มเติมเพื่อแก้ไขปัญหาการเลือกปฏิบัติต่อแรงงานในประเทศ Meta ยังยืนยันว่า การกล่าวหานี้ไม่มีมูลความจริงและบริษัทจะปกป้องตนเองจากการฟ้องร้องต่อไป แต่ศาลยังคงเห็นด้วยกับผู้ฟ้องร้องว่ามีข้อมูลเพียงพอที่จะสนับสนุนข้อกล่าวหานี้ได้ การฟ้องร้องนี้เกิดขึ้นในขณะที่หลายกลุ่มการเมืองแบบอนุรักษ์นิยมและอดีตประธานาธิบดี Donald Trump ได้อ้างถึงกฎหมายยุคสงครามกลางเมือง (Civil Rights Act of 1866) มาตรา 1981 ที่ห้ามการเลือกปฏิบัติบนพื้นฐานของสถานะการถือสัญชาติ โดยเรียกร้องให้มีการปกป้องสิทธิของแรงงานชาวอเมริกัน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/26/meta-must-face-lawsuit-claiming-it-prefers-cheaper-foreign-workers
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Meta must face lawsuit claiming it prefers cheaper foreign workers
    (Reuters) - A federal judge on Tuesday said Meta Platforms must face a lawsuit claiming that the Facebook and Instagram parent prefers to hire foreign workers because it can pay them less than American workers.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 479 มุมมอง 0 รีวิว
  • Elon Musk อัด Volodymyr Zelenskyy ผู้นำยูเครนแบบจุกๆ สามดอกเน้นๆ
    .
    ผู้ใช้รายหนึ่งบนแพลตฟอร์ม X เขียนว่า "Zelenskyy ไม่ต้องการสันติภาพ เขาต้องการเงินและอำนาจ"
    ซึ่ง Musk ตอบกลับด้วยอีโมจิ "100" เพื่อแสดงถึงความเห็นด้วย
    .
    ต่อมาเขาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับแถลงการณ์ของประธานาธิบดี Zelenskyy ยูเครนว่าคะแนนความนิยมของเขาอยู่ที่ 57%
    Musk โพสต์ข้อความตอบกลับว่า "ถ้าอย่างนั้น เขาคงดีใจกับความคิดที่จะมีการเลือกตั้ง ถ้าเขาเป็นที่นิยมขนาดนั้น!"
    .
    ปิดท้ายด้วยการตอบกลับข้อความความของ Rapid Response 47 ที่ว่า
    "ในอเมริกา เราจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีทุก 4 ปี แม้แต่ในยามสงคราม
    เราจัดการเลือกตั้งระหว่างสงครามกลางเมือง
    เราจัดการเลือกตั้งระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง
    ก่อนที่ประธานาธิบดี Zelenskyy จะมาสั่งสอนประธานาธิบดีอเมริกันอีก เขาควรจัดการเลือกตั้งด้วย"
    Musk สนับสนุนว่า "Zelenskyy ไม่สามารถอ้างว่าเป็นตัวแทนเจตนารมณ์ของประชาชนยูเครนได้ ถ้าไม่ฟื้นฟูเสรีภาพสื่อและยังคงยกเลิกการเลือกตั้ง!"
    พรุ่งนี้ถ้า Elon Musk จะเดินไปปิด Starlink ของยูเครนก็คงไม่แปลกใจแล้วล่ะ
    Elon Musk อัด Volodymyr Zelenskyy ผู้นำยูเครนแบบจุกๆ สามดอกเน้นๆ . ผู้ใช้รายหนึ่งบนแพลตฟอร์ม X เขียนว่า "Zelenskyy ไม่ต้องการสันติภาพ เขาต้องการเงินและอำนาจ" ซึ่ง Musk ตอบกลับด้วยอีโมจิ "100" เพื่อแสดงถึงความเห็นด้วย . ต่อมาเขาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับแถลงการณ์ของประธานาธิบดี Zelenskyy ยูเครนว่าคะแนนความนิยมของเขาอยู่ที่ 57% Musk โพสต์ข้อความตอบกลับว่า "ถ้าอย่างนั้น เขาคงดีใจกับความคิดที่จะมีการเลือกตั้ง ถ้าเขาเป็นที่นิยมขนาดนั้น!" . ปิดท้ายด้วยการตอบกลับข้อความความของ Rapid Response 47 ที่ว่า "ในอเมริกา เราจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีทุก 4 ปี แม้แต่ในยามสงคราม เราจัดการเลือกตั้งระหว่างสงครามกลางเมือง เราจัดการเลือกตั้งระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง ก่อนที่ประธานาธิบดี Zelenskyy จะมาสั่งสอนประธานาธิบดีอเมริกันอีก เขาควรจัดการเลือกตั้งด้วย" Musk สนับสนุนว่า "Zelenskyy ไม่สามารถอ้างว่าเป็นตัวแทนเจตนารมณ์ของประชาชนยูเครนได้ ถ้าไม่ฟื้นฟูเสรีภาพสื่อและยังคงยกเลิกการเลือกตั้ง!" พรุ่งนี้ถ้า Elon Musk จะเดินไปปิด Starlink ของยูเครนก็คงไม่แปลกใจแล้วล่ะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 400 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไต้หวันยกย่องถ้อยคำที่ "เป็นพวกและเป็นมิตร" เกี่ยวกับเกาะแห่งนี้บนเว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ที่มีการอัปเดตใหม่ ซึ่งถอดข้อความที่ว่าวอชิงตัน "ไม่สนับสนุนเอกราชไต้หวัน" ออกไป
    .
    สหรัฐฯ เป็นผู้สนับสนุนรายสำคัญที่สุดของไต้หวันมาช้านาน แม้พวกเขาถอนการรับรองทางการทูตเกาะปกครองตนเองแห่งนี้มาตั้งแต่ปี 1979 แล้วหันไปสถาปนาความสัมพันธ์กับจีนแผ่นดินใหญ่ ที่มีอิทธิพลมากกว่าแทน
    .
    ภาษาอย่างเป็นทางการที่ใช้จำกัดความความสัมพันธ์สหรัฐฯ-ไต้หวัน เป็นประเด็นที่อ่อนไหวอย่างมากและความเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้ ต่อการเปลี่ยนแปลงในเอกสารข้อเท็จจริงของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เกี่ยวกับเกาะไต้หวัน เคยโหมกระพือการตอบโต้ด้วยความเดือดดาลมาจากจีน ซึ่งอ้างว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน
    .
    นอกจากปรับแต่งข้อความอื่นๆ แล้ว ในการอัปเดตล่าสุดของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ลบบรรทัดที่มีการเน้นย้ำว่า "เราไม่สนับสนุนเอกราชไต้หวัน" ออกไป เอเอฟพีวิเคราะห์ข้อความบนเพจกระทวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เทียบกับเวอร์ชันก่อนหน้านี้
    .
    อย่างไรก็ตาม บนเพจยังคงเน้นย้ำว่าวอชิงตันยอมรับเพียงปักกิ่ง ในฐานะรัฐบาลจีนภายใต้ "นโยบายจีนเดียวที่ยืดถือมานาน" และคัดค้านการ "เปลี่ยนแปลงสถานภาพปัจจุบันแต่เพียงฝ่ายเดียว ไม่ว่าจากฝ่ายใดก็ตาม"
    .
    กระทรวงการต่างประเทศไต้หวันบอกว่าถ้อยคำ "ที่เป็นบวกและเป็นมิตร" ในเอกสารข้อเท็จจริงที่อัปเดตเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ สะท้อนถึงความใกล้ชิดและเป็นมิตรในความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันกับสหรัฐฯ
    .
    หลิน เชีย-ลัง รัฐมนตรีต่างประเทศไต้หวัน ขอบคุณรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ "สำหรับคำมั่นสัญญาต่อสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน เศรษฐกิจไต้หวัน-อเมริกา ความเป็นหุ้นส่วนทางการค้าและเทคโนโลยี รวมถึงด้านอวกาศนานาชาติของไต้หวัน" กระทรวงการต่างประเทศระบุ
    .
    สถาบันอเมริกาในไต้หวัน (AIT) ซึ่งถือเป็นสถานทูตโดยพฤตินัยของสหรัฐฯ บอกว่าการอัปเดตดังกล่าวถือเป็นเรื่องปกติ "เราเน้นย้ำมาช้านานว่าเราคัดค้านการเปลี่ยนแปลงแต่เพียงฝ่ายเดียวจากทั้ง 2 ฝ่าย ต่อสถานภาพในปัจจุบัน" โฆษกของ AIT ระบุในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ต่อเอเอฟพี
    .
    "เราไม่ขอแสดงความคิดเห็นกับทุกสมมติฐานต่างๆ ที่จีนนำเสนอ หนึ่งเดียวที่เป็นภัยคุกคามใหญ่หลวงต่อสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน" ถ้อยแถลงระบุ
    .
    ไต้หวันพยายามหาทางอยู่ฝ่ายเดียวกับ ทรัมป์ ผู้ซึ่งสไตล์ทางการทูตก่อความกังวลเกี่ยวกับความตั้งใจของเขาในการปกป้องเกาะแห่งนี้จากจีน
    .
    ทรัมป์ เคยก่อความวิตกกังวลแก่ไต้หวัน ด้วยการบ่งชี้ว่าไทเปควรจ่ายเงินตอบแทนแก่สหรัฐฯ สำหรับเป็นค่าปกป้องและกล่าวหาเกาะแห่งนี้ขโมยอุตสาหกรรมชิปของอเมริกา
    .
    ไล่ ชิงเต๋อ ประธานาธิบดีไต้หวัน ประกาศกร้าวเมื่อวันศุกร์ (14 ก.พ.) ว่าจะเพิ่มการลงทุนในสหรัฐฯ และด้านการป้องกันตนเอง หลัง ทรัมป์ ขู่รีดภาษี 100% ต่อชิปเซเมคอนดักเตอร์ของเกาะแห่งนี้
    .
    ไม่ใช่ครั้งแรกที่สหรัฐฯ ถอดข้อความเกี่ยวกับการไม่สนับสนุนเอกราชไต้หวันออกไป โดยในเดือนพฤษภาคม 2022 รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ณ ขณะนั้น ได้ถอดข้อความดังกล่าว ซึ่งก่อความเดือดดาลแก่จีน ก่อคืนสถานะมันกลับมาหลังจากนั้น
    .
    ข้อพิพาทระหว่างจีนกับไต้หวัน ต้องย้อนกลับไปใน 1949 ครั้งที่กองกำลังชาตินิยมก๊กมินตั๋งของเจียงไคเช็ค หลบหนีไปยังไต้หวัน หลังพ่ายแพ้ในสงครามกลางเมืองแก่กองกำลังคอมมิวนิสต์ของเหมา เจ๋อตง
    .
    ไต้หวัน ซึ่งมีรัฐบาล กองทัพและค่าเงินเป็นของตนเอง เรียกตัวเองว่าเป็นชาติอธิปไตย แต่ไม่ถึงขั้นประกาศเอกราชอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นเส้นตายที่ปักกิ่งขีดไว้
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000015544
    ..............
    Sondhi X
    ไต้หวันยกย่องถ้อยคำที่ "เป็นพวกและเป็นมิตร" เกี่ยวกับเกาะแห่งนี้บนเว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ที่มีการอัปเดตใหม่ ซึ่งถอดข้อความที่ว่าวอชิงตัน "ไม่สนับสนุนเอกราชไต้หวัน" ออกไป . สหรัฐฯ เป็นผู้สนับสนุนรายสำคัญที่สุดของไต้หวันมาช้านาน แม้พวกเขาถอนการรับรองทางการทูตเกาะปกครองตนเองแห่งนี้มาตั้งแต่ปี 1979 แล้วหันไปสถาปนาความสัมพันธ์กับจีนแผ่นดินใหญ่ ที่มีอิทธิพลมากกว่าแทน . ภาษาอย่างเป็นทางการที่ใช้จำกัดความความสัมพันธ์สหรัฐฯ-ไต้หวัน เป็นประเด็นที่อ่อนไหวอย่างมากและความเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้ ต่อการเปลี่ยนแปลงในเอกสารข้อเท็จจริงของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เกี่ยวกับเกาะไต้หวัน เคยโหมกระพือการตอบโต้ด้วยความเดือดดาลมาจากจีน ซึ่งอ้างว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน . นอกจากปรับแต่งข้อความอื่นๆ แล้ว ในการอัปเดตล่าสุดของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ลบบรรทัดที่มีการเน้นย้ำว่า "เราไม่สนับสนุนเอกราชไต้หวัน" ออกไป เอเอฟพีวิเคราะห์ข้อความบนเพจกระทวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เทียบกับเวอร์ชันก่อนหน้านี้ . อย่างไรก็ตาม บนเพจยังคงเน้นย้ำว่าวอชิงตันยอมรับเพียงปักกิ่ง ในฐานะรัฐบาลจีนภายใต้ "นโยบายจีนเดียวที่ยืดถือมานาน" และคัดค้านการ "เปลี่ยนแปลงสถานภาพปัจจุบันแต่เพียงฝ่ายเดียว ไม่ว่าจากฝ่ายใดก็ตาม" . กระทรวงการต่างประเทศไต้หวันบอกว่าถ้อยคำ "ที่เป็นบวกและเป็นมิตร" ในเอกสารข้อเท็จจริงที่อัปเดตเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ สะท้อนถึงความใกล้ชิดและเป็นมิตรในความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันกับสหรัฐฯ . หลิน เชีย-ลัง รัฐมนตรีต่างประเทศไต้หวัน ขอบคุณรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ "สำหรับคำมั่นสัญญาต่อสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน เศรษฐกิจไต้หวัน-อเมริกา ความเป็นหุ้นส่วนทางการค้าและเทคโนโลยี รวมถึงด้านอวกาศนานาชาติของไต้หวัน" กระทรวงการต่างประเทศระบุ . สถาบันอเมริกาในไต้หวัน (AIT) ซึ่งถือเป็นสถานทูตโดยพฤตินัยของสหรัฐฯ บอกว่าการอัปเดตดังกล่าวถือเป็นเรื่องปกติ "เราเน้นย้ำมาช้านานว่าเราคัดค้านการเปลี่ยนแปลงแต่เพียงฝ่ายเดียวจากทั้ง 2 ฝ่าย ต่อสถานภาพในปัจจุบัน" โฆษกของ AIT ระบุในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ต่อเอเอฟพี . "เราไม่ขอแสดงความคิดเห็นกับทุกสมมติฐานต่างๆ ที่จีนนำเสนอ หนึ่งเดียวที่เป็นภัยคุกคามใหญ่หลวงต่อสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน" ถ้อยแถลงระบุ . ไต้หวันพยายามหาทางอยู่ฝ่ายเดียวกับ ทรัมป์ ผู้ซึ่งสไตล์ทางการทูตก่อความกังวลเกี่ยวกับความตั้งใจของเขาในการปกป้องเกาะแห่งนี้จากจีน . ทรัมป์ เคยก่อความวิตกกังวลแก่ไต้หวัน ด้วยการบ่งชี้ว่าไทเปควรจ่ายเงินตอบแทนแก่สหรัฐฯ สำหรับเป็นค่าปกป้องและกล่าวหาเกาะแห่งนี้ขโมยอุตสาหกรรมชิปของอเมริกา . ไล่ ชิงเต๋อ ประธานาธิบดีไต้หวัน ประกาศกร้าวเมื่อวันศุกร์ (14 ก.พ.) ว่าจะเพิ่มการลงทุนในสหรัฐฯ และด้านการป้องกันตนเอง หลัง ทรัมป์ ขู่รีดภาษี 100% ต่อชิปเซเมคอนดักเตอร์ของเกาะแห่งนี้ . ไม่ใช่ครั้งแรกที่สหรัฐฯ ถอดข้อความเกี่ยวกับการไม่สนับสนุนเอกราชไต้หวันออกไป โดยในเดือนพฤษภาคม 2022 รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ณ ขณะนั้น ได้ถอดข้อความดังกล่าว ซึ่งก่อความเดือดดาลแก่จีน ก่อคืนสถานะมันกลับมาหลังจากนั้น . ข้อพิพาทระหว่างจีนกับไต้หวัน ต้องย้อนกลับไปใน 1949 ครั้งที่กองกำลังชาตินิยมก๊กมินตั๋งของเจียงไคเช็ค หลบหนีไปยังไต้หวัน หลังพ่ายแพ้ในสงครามกลางเมืองแก่กองกำลังคอมมิวนิสต์ของเหมา เจ๋อตง . ไต้หวัน ซึ่งมีรัฐบาล กองทัพและค่าเงินเป็นของตนเอง เรียกตัวเองว่าเป็นชาติอธิปไตย แต่ไม่ถึงขั้นประกาศเอกราชอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นเส้นตายที่ปักกิ่งขีดไว้ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000015544 .............. Sondhi X
    Like
    Sad
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1665 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไต้หวันในวันอาทิตย์(16ก.พ.) ยกย่องถ้อยคำที่ "เป็นพวกและเป็นมิตร" เกี่ยวกับเกาะแห่งนี้บนเว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯที่มีการอัพเดทใหม่ ซึ่งถอดข้อความที่ว่าวอชิงตัน "ไม่สนับสนุนเอกราชไต้หวัน" ออกไป

    สหรัฐฯเป็นผู้สนับสนุนรายสำคัญที่สุดของไต้หวันมาช้านาน แม้พวกเขาถอนการรับรองทางการทูตเกาะปกครองตนเองแห่งนี้มาตั้งแต่ปี 1979 แล้วหันไปสถาปนาความสัมพันธ์กับจีนแผ่นดินใหญ่ ที่มีอิทธิพลมากกว่าแทน

    ภาษาอย่างเป็นทางการที่ใช้จำกัดความความสัมพันธ์สหรัฐฯ-ไต้หวัน เป็นประเด็นที่อ่อนไหวอย่างมากและความเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้ ต่อการเปลี่ยนแปลงในเอกสารข้อเท็จจริงของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯเกี่ยวกับเกาะไต้หวัน เคยโหมกระพือการตอบโต้ด้วยความเดือดดาลมาจากจีน ซึ่งอ้างว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน

    นอกจากปรับแต่งข้อความอื่นๆแล้ว ในการอัทเดทล่าสุดของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯได้ลบบรรทัดที่มีการเน้นย้ำว่า "เราไม่สนับสนุนเอกราชไต้หวัน" ออกไป เอเอฟพีวิเคราะห์ข้อความบนเพจกระทวงการต่างประเทศสหรัฐฯเทียบกับเวอร์ชันก่อนหน้านี้

    อย่างไรก็ตามบนเพจยังคงเน้นย้ำว่าวอชิงตันยอมรับเพียงปักกิ่ง ในฐานะรัฐบาลจีนภายใต้ "นโยบายจีนเดียวที่ยืดถือมานาน" และคัดค้านการ "เปลี่ยนแปลงสถานภาพปัจจุบันแต่เพียงฝ่ายเดียว ไม่ว่าจากฝ่ายใดก็ตาม"

    กระทรวงการต่างประเทศไต้หวันบอกว่าถ้อยคำ "ที่เป็นบวกและเป็นมิตร" ในเอกสารข้อเท็จจริงที่อัพเดทเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ สะท้อนถึงความใกล้ชิดและเป็นมิตรในความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันกับสหรัฐฯ

    หลิน เชีย-ลัง รัฐมนตรีต่างประเทศไต้หวัน ขอบคุณรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ "สำหรับคำมั่้นสัญญาต่อสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน เศรษฐกิจไต้หวัน-อเมริกา ความเป็นหุ้นส่วนทางการค้าและเทคโนโลยี รวมถึงด้านอวกาศนานาชาติของไต้หวัน" กระทรวงการต่างประเทศระบุ

    สถาบันอเมริกาในไต้หวัน(AIT) ซึ่งถือเป็นสถานทูตโดยพฤตินัยของสหรัฐฯ บอกว่าการอัพเดทดังกล่าวถือเป็นเรื่องปกติ "เราเน้นย้ำมาช้านานว่าเราคัดค้านการเปลี่ยนแปลงแต่เพียงฝ่ายเดียวจากทั้ง 2 ฝ่าย ต่อสถานภาพในปัจจุบัน" โฆษกของ AIT ระบุในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ต่อเอเอฟพี

    "เราไม่ขอแสดงความคิดเห็นกับทุกสมมุติฐานต่างๆที่จีนนำเสนอ หนึ่งเดียวที่เป็นภัยคุกคามใหญ่หลวงต่อสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน" ถ้อยแถลงระบุ

    ไต้หวัน พยายามหาทางอยู่ฝ่ายเดียวกับ ทรัมป์ ผู้ซึ่งสไตล์ทางการทูตก่อความกังวลเกี่ยวกับความตั้งใจของเขาในการปกป้องเกาะแห่งนี้จากจีน

    ทรัมป์ เคยก่อความวิตกกังวลแก่ไต้หวัน ด้วยการบ่งชี้ว่าไทเปควรจ่ายเงินตอบแทนแก่สหรัฐฯ สำหรับเป็นค่าปกป้องและกล่าวหาเกาะแห่งนี้ขโมยอุตสาหกรรมชิปของอเมริกา

    ไล่ ชิงเต๋อ ประธานาธิบดีไต้หวัน ประกาศกร้าวเมื่อวันศุกร์(14ก.พ.) ว่าจะเพิ่มการลงทุนในสหรัฐฯและด้านการป้องกันตนเอง หลัง ทรัมป์ ขู่รีดภาษี 100% ต่อชิปเซเมคอนดัคเตอร์ของเกาะแห่งนี้

    ไม่ใช่ครั้งแรกที่สหรัฐฯถอดข้อความเกี่ยวกับการไม่สนับสนุนเอกราชไต้หวันออกไป โดยในเดือนพฤษภาคม 2022 รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ณ ขณะนั้น ได้ถอดข้อความดังกล่าว ซึ่งก่อความเดือดดาลแก่จีน ก่อคืนสถานะมันกลับมาหลังจากนั้น

    ข้อพิพาทระหว่างจีนกับไต้หวัน ต้องย้อนกลับไปใน 1949 ครั้งที่กองกำลังชาตินิยมก๊กมินตั๋งของเจียงไคเช็ค หลบหนีไปยังไต้หวัน หลังพ่ายแพ้ในสงครามกลางเมืองแก่กองกำลังคอมมิวนิสต์ของเหมา เจ๋อตง

    หต้หวัน ซึ่งมีรัฐบาล กองทัพและค่าเงินเป็นของตนเอง เรียกตัวเองว่าเป็นชาติอธิปไตย แต่ไม่ถึงขั้นประกาศเอกราชอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นเส้นตายที่ปักกิ่งขีดไว้

    (ที่มา:เอเอฟพี)
    https://factcheck.afp.com/doc.afp.com.36XB67E
    ไต้หวันในวันอาทิตย์(16ก.พ.) ยกย่องถ้อยคำที่ "เป็นพวกและเป็นมิตร" เกี่ยวกับเกาะแห่งนี้บนเว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯที่มีการอัพเดทใหม่ ซึ่งถอดข้อความที่ว่าวอชิงตัน "ไม่สนับสนุนเอกราชไต้หวัน" ออกไป สหรัฐฯเป็นผู้สนับสนุนรายสำคัญที่สุดของไต้หวันมาช้านาน แม้พวกเขาถอนการรับรองทางการทูตเกาะปกครองตนเองแห่งนี้มาตั้งแต่ปี 1979 แล้วหันไปสถาปนาความสัมพันธ์กับจีนแผ่นดินใหญ่ ที่มีอิทธิพลมากกว่าแทน ภาษาอย่างเป็นทางการที่ใช้จำกัดความความสัมพันธ์สหรัฐฯ-ไต้หวัน เป็นประเด็นที่อ่อนไหวอย่างมากและความเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้ ต่อการเปลี่ยนแปลงในเอกสารข้อเท็จจริงของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯเกี่ยวกับเกาะไต้หวัน เคยโหมกระพือการตอบโต้ด้วยความเดือดดาลมาจากจีน ซึ่งอ้างว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน นอกจากปรับแต่งข้อความอื่นๆแล้ว ในการอัทเดทล่าสุดของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯได้ลบบรรทัดที่มีการเน้นย้ำว่า "เราไม่สนับสนุนเอกราชไต้หวัน" ออกไป เอเอฟพีวิเคราะห์ข้อความบนเพจกระทวงการต่างประเทศสหรัฐฯเทียบกับเวอร์ชันก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตามบนเพจยังคงเน้นย้ำว่าวอชิงตันยอมรับเพียงปักกิ่ง ในฐานะรัฐบาลจีนภายใต้ "นโยบายจีนเดียวที่ยืดถือมานาน" และคัดค้านการ "เปลี่ยนแปลงสถานภาพปัจจุบันแต่เพียงฝ่ายเดียว ไม่ว่าจากฝ่ายใดก็ตาม" กระทรวงการต่างประเทศไต้หวันบอกว่าถ้อยคำ "ที่เป็นบวกและเป็นมิตร" ในเอกสารข้อเท็จจริงที่อัพเดทเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ สะท้อนถึงความใกล้ชิดและเป็นมิตรในความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันกับสหรัฐฯ หลิน เชีย-ลัง รัฐมนตรีต่างประเทศไต้หวัน ขอบคุณรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ "สำหรับคำมั่้นสัญญาต่อสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน เศรษฐกิจไต้หวัน-อเมริกา ความเป็นหุ้นส่วนทางการค้าและเทคโนโลยี รวมถึงด้านอวกาศนานาชาติของไต้หวัน" กระทรวงการต่างประเทศระบุ สถาบันอเมริกาในไต้หวัน(AIT) ซึ่งถือเป็นสถานทูตโดยพฤตินัยของสหรัฐฯ บอกว่าการอัพเดทดังกล่าวถือเป็นเรื่องปกติ "เราเน้นย้ำมาช้านานว่าเราคัดค้านการเปลี่ยนแปลงแต่เพียงฝ่ายเดียวจากทั้ง 2 ฝ่าย ต่อสถานภาพในปัจจุบัน" โฆษกของ AIT ระบุในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ต่อเอเอฟพี "เราไม่ขอแสดงความคิดเห็นกับทุกสมมุติฐานต่างๆที่จีนนำเสนอ หนึ่งเดียวที่เป็นภัยคุกคามใหญ่หลวงต่อสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน" ถ้อยแถลงระบุ ไต้หวัน พยายามหาทางอยู่ฝ่ายเดียวกับ ทรัมป์ ผู้ซึ่งสไตล์ทางการทูตก่อความกังวลเกี่ยวกับความตั้งใจของเขาในการปกป้องเกาะแห่งนี้จากจีน ทรัมป์ เคยก่อความวิตกกังวลแก่ไต้หวัน ด้วยการบ่งชี้ว่าไทเปควรจ่ายเงินตอบแทนแก่สหรัฐฯ สำหรับเป็นค่าปกป้องและกล่าวหาเกาะแห่งนี้ขโมยอุตสาหกรรมชิปของอเมริกา ไล่ ชิงเต๋อ ประธานาธิบดีไต้หวัน ประกาศกร้าวเมื่อวันศุกร์(14ก.พ.) ว่าจะเพิ่มการลงทุนในสหรัฐฯและด้านการป้องกันตนเอง หลัง ทรัมป์ ขู่รีดภาษี 100% ต่อชิปเซเมคอนดัคเตอร์ของเกาะแห่งนี้ ไม่ใช่ครั้งแรกที่สหรัฐฯถอดข้อความเกี่ยวกับการไม่สนับสนุนเอกราชไต้หวันออกไป โดยในเดือนพฤษภาคม 2022 รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ณ ขณะนั้น ได้ถอดข้อความดังกล่าว ซึ่งก่อความเดือดดาลแก่จีน ก่อคืนสถานะมันกลับมาหลังจากนั้น ข้อพิพาทระหว่างจีนกับไต้หวัน ต้องย้อนกลับไปใน 1949 ครั้งที่กองกำลังชาตินิยมก๊กมินตั๋งของเจียงไคเช็ค หลบหนีไปยังไต้หวัน หลังพ่ายแพ้ในสงครามกลางเมืองแก่กองกำลังคอมมิวนิสต์ของเหมา เจ๋อตง หต้หวัน ซึ่งมีรัฐบาล กองทัพและค่าเงินเป็นของตนเอง เรียกตัวเองว่าเป็นชาติอธิปไตย แต่ไม่ถึงขั้นประกาศเอกราชอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นเส้นตายที่ปักกิ่งขีดไว้ (ที่มา:เอเอฟพี) https://factcheck.afp.com/doc.afp.com.36XB67E
    FACTCHECK.AFP.COM
    Posts falsely claim Trump administration changed Taiwan webpage
    Various US government websites have been scrubbed of key information since Donald Trump began his second term, but the State Department has not overhauled its Taiwan factsheet webpage as of February 14. Social media posts alleging the page had been altered falsely shared a screenshot from an older version of the site that was changed under former president Joe Biden.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 427 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในระหว่างการพบปะกันของตัวแทนฝ่ายรัสเซียกับผู้นำซีเรีย อาห์เหม็ด อัล-ชารา (โมฮัมเหม็ด จูลานี) เรียกร้องให้รัสเซียส่งตัว บาชาร์ อัสซาด อดีตผู้นำซีเรียที่ลี้ภัยอยู่ในรัสเซีย

    นอกจากนี้ ผู้นำซีเรียยังต้องการให้รัสเซียชดใช้ค่าเสียหายให้กับซีเรียในช่วงสงครามกลางเมือง

    ทางรัสเซียยืนยันว่ายังไม่ยอมรับข้อเรียกร้องดังกล่าว และการเจรจาจะยังคงดำเนินต่อไป แต่ก็พร้อมช่วยฟื้นฟูประเทศซีเรีย ซึ่งเป็นสิ่งที่ทั้งสองฝ่ายต้องหาข้อสรุปกันต่อไป
    ในระหว่างการพบปะกันของตัวแทนฝ่ายรัสเซียกับผู้นำซีเรีย อาห์เหม็ด อัล-ชารา (โมฮัมเหม็ด จูลานี) เรียกร้องให้รัสเซียส่งตัว บาชาร์ อัสซาด อดีตผู้นำซีเรียที่ลี้ภัยอยู่ในรัสเซีย นอกจากนี้ ผู้นำซีเรียยังต้องการให้รัสเซียชดใช้ค่าเสียหายให้กับซีเรียในช่วงสงครามกลางเมือง ทางรัสเซียยืนยันว่ายังไม่ยอมรับข้อเรียกร้องดังกล่าว และการเจรจาจะยังคงดำเนินต่อไป แต่ก็พร้อมช่วยฟื้นฟูประเทศซีเรีย ซึ่งเป็นสิ่งที่ทั้งสองฝ่ายต้องหาข้อสรุปกันต่อไป
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 281 มุมมอง 0 รีวิว
  • ที่เห็นเมื่อเช้า หมอกหรือควัน? เกือบ 100% บอกว่าฝุ่น แอดภาวนาขอให้เป็นหมอกธรรมชาติ ไม่ใช่สิ่งที่ดูคล้ายหมอกเช่นที่เกิดในอังกฤษและอเมริกาหลายวันก่อน (แน่นอนว่าโดรนไม่มาไกล แต่ถ้าเครื่องบินอาจจะขึ้นแถวๆประเทศเพื่อนบ้านหรือบ้านเราเอง ซึ่งเป็นสมาชิก WEF หรือ สมาชิก UN)

    บรรยากาศไม่ต่างจากเริ่มระบอบโควิด ทรัมป์ก้าวขึ้นฯ ช่วงปีใหม่จีน แล้วเครื่องบินก็บรรทุกผู้โดยสาร 232 (เลขฟรีเมสัน) คนไปอเมริกา #ระบอบโควิด เริ่มต้น พร้อมกันนั้น ทรัมป์ สั่ง #ล๊อคและโหลด #ล๊อคแล้วโหลด (คำพูดทรัมป์) และเริ่มต้นโปรเจค วาปสปีด!! ซึ่งตอนนี้ เป็นวาปสปีด 2.0 หรือโปรแกรม AI ฉีดวัคซีนให้มนุษย์โดยแบ่งแยกเป็นรายบุคคล ทั่วโลก โดยมีศูนย์ปฏิบัติงานใน อเมริกา https://www.facebook.com/SIGNSOFTHEENDTIME/posts/pfbid02FfUvQFLYrYtC1jSAHMBbhr9gvGjVk3N1xUMwBQ6k8R8Sr8Loj2yMnFpQp8JxexBEl
    ตอนนี้ไข้หวัดนกกำลังระบาดเพิ่มมากขึ้นใน อังกฤษและสกอตแลนด์ ต่อจากสหรัฐฯ https://www.gbnews.com/health/bird-flu-outbreak-england-scotland-biosecurity-zone

    *มีข่าวว่าทรัมป์จะกลับเข้าอ้อมกอด WEF เหมือนเดิม? (ตดยังไม่หายเหม็น แอดเขียนโพสเมื่อวานยังไม่จบเลย)

    หมอก ควัน ฝุ่น แยกด้วยตาเนื้อยาก แต่ถ้าใจคิดว่าฝุ่น ก็จะเชื่อว่าเป็นฝุ่นตามที่สื่อทีวี หมอย ย..ง เคยบอกเล่า ..
    เช่นเดียวกับ อะไรไวรัส อะไรคือทดสอบเท็จ อะไรอยู่ในกระบอกวัคซีน ประชาชนทั่วไปใครจะรู้ ถ้าไม่พิจารณา ไม่ติดตามข่าวหลังฉาก ถ้ามัวแต่ตามสื่อหลัก ฟังความผู้นำ คงต้องเดินเข้าคอกให้เขาเชือด แล้วฉีดวัคซวย ฉนั้นแล้ว การพิจารณาเพื่อให้ได้ความจริง เพื่อรอด มันค่อนข้างยาก แอดเองก็แยกยาก พวกเขาสับหลอกจนตาลาย!

    จากที่แอดเคยเดาว่ากมาลาจะขึ้นนำชั่วครู่แล้วทรัมป์จะกลับมาทวงบัลลังคืนในช่วงสงครามกลางเมือง
    เคยเดาว่าหลังจากประชาชนรู้ความจริงเกี่ยวกับโควิด พวกเขาจะโกรธ และลงถนนร่วมกันทำลายกันและกัน ซึ่งเรารู้จักใน แผน #แบ่งแยกและพิชิต ของฟรีเมสัน https://www.facebook.com/SIGNSOFTHEENDTIME/posts/pfbid02xXLmG95xUX6NS4DVUXgnVW24MH2hgC9swPYo7yiNfAmDaX99FTHCsfuYbgJkxe3el
    แต่เห็นแล้วว่าทรัม์ขึ้นนำและยังไม่มีสงครามกลางเมือง แต่การเปิดเผยของทรัมป์เรื่องโลกาภิวัตน์ WEF ถูกต้องแล้วส่วนหนึ่ง แต่คน ประชาชนยังไม่โกรธ ไม่ตื่น - ในบ้านเรา หมอ อรรถพล บอกว่า องค์กรส่งเสริมวัคซีน ทำได้แค่ ไบ้กิน!? https://www.facebook.com/groups/374786411903689/posts/616390454409949/ หมายถึงจนมุมด้วยหลักฐาน เพราะทรัมป์ เล่นทุบหม้อข้าวตนเอง ลูกหาบหรือจะรับไม้ทัน อึ้่งกิมกี่สิพี่น้อง

    ทรัมป์จะออกจาก WEF ออกจาก WHO จริงหรือในสายตาสื่อหลักสำหรับหลอกแกะ ต้องตามข่าว แต่สำหรับแอดมิน พวกเขาแค่สร้างฉากให้หลง พวกเขายังจูบปากกันเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือ ทรัมป์กำลังเร่งทำงานสนองตอบยิวไซออนิสต์ สนองตอบนายธนาคารโลก ร่วมวงชาวโลกาภิวัตน์ พวกเขาคือรัฐบาลโลก และ ทรัมป์กำลังจะกลับไปตะวันออกกลาง เพื่อสร้าง #มหานครอิสราเอล

    ข่าวล่าสุด: ทรัมป์กล่าวว่าเขากำลังกดดันจอร์แดนและอียิปต์ให้รับชาวปาเลสไตน์จากฉนวนกาซา ซึ่งเป็นแผน "เพื่อทำความสะอาด" ดินแดนดังกล่าว AP รายงาน
    ทรัม์กล่าวว่า "ฉันได้พูดคุยกับกษัตริย์แห่งจอร์แดนเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการย้ายชาวกาซาไปยังประเทศเพื่อนบ้าน" "ผมบอกเขาให้รับคนเพิ่มเพราะฉนวนกาซากำลังมีปัญหาหนักมาก ผมอยากให้อียิปต์รับคนเพิ่มด้วย และผมจะคุยกับอัลซิซีพรุ่งนี้" ... 5555 แอดขอหัวเราะก่อน นี่ทรัม์แกล้งพูดใช่ไหม เพราะแผนการไล่ต้อนชาวปาเลสไตน์ไบยังซีนาย หรือ ไซนาย พวกเขาร่วมกันดำเนินการตั้งแต่สมัยแรกของเขา (เช่นเดียวกับการผนวกเกาะไอสแลนด์ เอ๊ย กรีนแลนด์ แคนาดา แมกซิโก)

    ชวาป และ รัฐปีกย่อย (ปีก ปีกซาตาน รัฐปีกย่อย หมายถึง สาขาของรัฐบาลโลก) พวกเขากำลังประชุมอย่างซิ้ดซ้าด!!! : ซิ้ดดดด จะไม่ซิ้ดได้ยังไง แต่ละคนสั่งสาวบริการเน้นประตูหลัง ลองค้นหาข่าวด้วยภาพด้านล่างดูสิ สั่นเลยล่ะ .. แล้วจะรู้ว่าชวาป เล่นละครกับทรัมป์กันถึงพริกถึงขิงแค่ไหน

    รู้หรือไม่ การฉีดวัคซวย หมายถึงการฉีด งู เข้าไในร่างกายในสายตาชาวโลกาภิวัตน์ (ง่าย ๆ ดูโลโก้องค์กรคะยั้นคะยอให้รับวัคซีน)

    *เอาไว้เราค่อยติดตามโปรเจค วาปสปีด 2.0 ซึ่งมีเค้าลางเกี่ยวกับการคอลโทรลมนุษย์ผ่านดีเอ็นเอ ที่เก็บไว้แล้วของทนุษย์ทั่วโลก
    "#สตาร์เกต" #Stargate

    แอดเกือบลมพูดถึงสัญลักษณ์ข้างหลังทรัมป์ สัญลักษณ์ที่ ชัดเจนสำหรับสงคราม สุนทรพจน์ของทรัมป์ต่อฟอรัมเศรษฐกิจโลก (WEF)
    ตราประทับของสหรัฐอเมริกาจะมี 2 แบบ คือ
    1. แบบที่ใช้ในยามสงบ และ
    2. แบบที่ใช้ในยามสงคราม
    ในช่วงสงบ หัวของนกอินทรีจะหันไปทางซ้ายของพวกเรา ไปทางกิ่งมะกอก ตรงที่เราเห็นเป็นกรงเล็บด้านซ้าย
    ในช่วงสงคราม หัวของอินทรีจะหันไปทางขวาของพวกเรา ไปทางลูกศรแห่งสงคราม ซึ่งพวกเราเห็นว่าเป็น Talon ทางขวา

    บนโพเดียมที่ทรัมป์พูด หัวของอินทรีหันไปทางซ้ายของเรา: สันติภาพ
    แต่ในเวลาเดียวกันนั้น ภาพอินทรีบนจอภาพขนาดยักษ์ด้านหลังเขา แสดงให้เห็นหัวอินทรีหันไปทางสิ่งที่เราเห็น คงไม่ใช่อะไรอื่น ทรัมป์และอเมริกากำลังจะมีสงคราม (สงครามกับใครคือคำถาม)

    "ชนชั้นยอด" มักจะใช้สัญลักษณ์เพื่อสื่อสารข้อความถึงกัน พวกเขายังกล่าวอีกว่า "ชนชั้นสูง" ใช้สัญลักษณ์เหล่านี้เพื่อล้อเลียนคนอเมริกันซึ่งพวกเขามองว่าโง่เขลา

    ซีรีส์ทางโทรทัศน์ชื่อดังอย่าง “West Wing” ยังได้พูดถึงประเด็นนี้ในตอนหนึ่งด้วย นี่คือคลิปวิดีโอที่เกี่ยวข้อง: https://youtu.be/1qkLXiuEUdE

    ทรัมป์และอเมริกาจะทำสงครามกับใคร อิหร่าน หรือรัสเซีย หรือ สงครามกับระชาชน
    ที่เห็นเมื่อเช้า หมอกหรือควัน? เกือบ 100% บอกว่าฝุ่น แอดภาวนาขอให้เป็นหมอกธรรมชาติ ไม่ใช่สิ่งที่ดูคล้ายหมอกเช่นที่เกิดในอังกฤษและอเมริกาหลายวันก่อน (แน่นอนว่าโดรนไม่มาไกล แต่ถ้าเครื่องบินอาจจะขึ้นแถวๆประเทศเพื่อนบ้านหรือบ้านเราเอง ซึ่งเป็นสมาชิก WEF หรือ สมาชิก UN) บรรยากาศไม่ต่างจากเริ่มระบอบโควิด ทรัมป์ก้าวขึ้นฯ ช่วงปีใหม่จีน แล้วเครื่องบินก็บรรทุกผู้โดยสาร 232 (เลขฟรีเมสัน) คนไปอเมริกา #ระบอบโควิด เริ่มต้น พร้อมกันนั้น ทรัมป์ สั่ง #ล๊อคและโหลด #ล๊อคแล้วโหลด (คำพูดทรัมป์) และเริ่มต้นโปรเจค วาปสปีด!! ซึ่งตอนนี้ เป็นวาปสปีด 2.0 หรือโปรแกรม AI ฉีดวัคซีนให้มนุษย์โดยแบ่งแยกเป็นรายบุคคล ทั่วโลก โดยมีศูนย์ปฏิบัติงานใน อเมริกา https://www.facebook.com/SIGNSOFTHEENDTIME/posts/pfbid02FfUvQFLYrYtC1jSAHMBbhr9gvGjVk3N1xUMwBQ6k8R8Sr8Loj2yMnFpQp8JxexBEl ตอนนี้ไข้หวัดนกกำลังระบาดเพิ่มมากขึ้นใน อังกฤษและสกอตแลนด์ ต่อจากสหรัฐฯ https://www.gbnews.com/health/bird-flu-outbreak-england-scotland-biosecurity-zone *มีข่าวว่าทรัมป์จะกลับเข้าอ้อมกอด WEF เหมือนเดิม? (ตดยังไม่หายเหม็น แอดเขียนโพสเมื่อวานยังไม่จบเลย) หมอก ควัน ฝุ่น แยกด้วยตาเนื้อยาก แต่ถ้าใจคิดว่าฝุ่น ก็จะเชื่อว่าเป็นฝุ่นตามที่สื่อทีวี หมอย ย..ง เคยบอกเล่า .. เช่นเดียวกับ อะไรไวรัส อะไรคือทดสอบเท็จ อะไรอยู่ในกระบอกวัคซีน ประชาชนทั่วไปใครจะรู้ ถ้าไม่พิจารณา ไม่ติดตามข่าวหลังฉาก ถ้ามัวแต่ตามสื่อหลัก ฟังความผู้นำ คงต้องเดินเข้าคอกให้เขาเชือด แล้วฉีดวัคซวย ฉนั้นแล้ว การพิจารณาเพื่อให้ได้ความจริง เพื่อรอด มันค่อนข้างยาก แอดเองก็แยกยาก พวกเขาสับหลอกจนตาลาย! จากที่แอดเคยเดาว่ากมาลาจะขึ้นนำชั่วครู่แล้วทรัมป์จะกลับมาทวงบัลลังคืนในช่วงสงครามกลางเมือง เคยเดาว่าหลังจากประชาชนรู้ความจริงเกี่ยวกับโควิด พวกเขาจะโกรธ และลงถนนร่วมกันทำลายกันและกัน ซึ่งเรารู้จักใน แผน #แบ่งแยกและพิชิต ของฟรีเมสัน https://www.facebook.com/SIGNSOFTHEENDTIME/posts/pfbid02xXLmG95xUX6NS4DVUXgnVW24MH2hgC9swPYo7yiNfAmDaX99FTHCsfuYbgJkxe3el แต่เห็นแล้วว่าทรัม์ขึ้นนำและยังไม่มีสงครามกลางเมือง แต่การเปิดเผยของทรัมป์เรื่องโลกาภิวัตน์ WEF ถูกต้องแล้วส่วนหนึ่ง แต่คน ประชาชนยังไม่โกรธ ไม่ตื่น - ในบ้านเรา หมอ อรรถพล บอกว่า องค์กรส่งเสริมวัคซีน ทำได้แค่ ไบ้กิน!? https://www.facebook.com/groups/374786411903689/posts/616390454409949/ หมายถึงจนมุมด้วยหลักฐาน เพราะทรัมป์ เล่นทุบหม้อข้าวตนเอง ลูกหาบหรือจะรับไม้ทัน อึ้่งกิมกี่สิพี่น้อง ทรัมป์จะออกจาก WEF ออกจาก WHO จริงหรือในสายตาสื่อหลักสำหรับหลอกแกะ ต้องตามข่าว แต่สำหรับแอดมิน พวกเขาแค่สร้างฉากให้หลง พวกเขายังจูบปากกันเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือ ทรัมป์กำลังเร่งทำงานสนองตอบยิวไซออนิสต์ สนองตอบนายธนาคารโลก ร่วมวงชาวโลกาภิวัตน์ พวกเขาคือรัฐบาลโลก และ ทรัมป์กำลังจะกลับไปตะวันออกกลาง เพื่อสร้าง #มหานครอิสราเอล ข่าวล่าสุด: ทรัมป์กล่าวว่าเขากำลังกดดันจอร์แดนและอียิปต์ให้รับชาวปาเลสไตน์จากฉนวนกาซา ซึ่งเป็นแผน "เพื่อทำความสะอาด" ดินแดนดังกล่าว AP รายงาน ทรัม์กล่าวว่า "ฉันได้พูดคุยกับกษัตริย์แห่งจอร์แดนเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการย้ายชาวกาซาไปยังประเทศเพื่อนบ้าน" "ผมบอกเขาให้รับคนเพิ่มเพราะฉนวนกาซากำลังมีปัญหาหนักมาก ผมอยากให้อียิปต์รับคนเพิ่มด้วย และผมจะคุยกับอัลซิซีพรุ่งนี้" ... 5555 แอดขอหัวเราะก่อน นี่ทรัม์แกล้งพูดใช่ไหม เพราะแผนการไล่ต้อนชาวปาเลสไตน์ไบยังซีนาย หรือ ไซนาย พวกเขาร่วมกันดำเนินการตั้งแต่สมัยแรกของเขา (เช่นเดียวกับการผนวกเกาะไอสแลนด์ เอ๊ย กรีนแลนด์ แคนาดา แมกซิโก) ชวาป และ รัฐปีกย่อย (ปีก ปีกซาตาน รัฐปีกย่อย หมายถึง สาขาของรัฐบาลโลก) พวกเขากำลังประชุมอย่างซิ้ดซ้าด!!! : ซิ้ดดดด จะไม่ซิ้ดได้ยังไง แต่ละคนสั่งสาวบริการเน้นประตูหลัง ลองค้นหาข่าวด้วยภาพด้านล่างดูสิ สั่นเลยล่ะ .. แล้วจะรู้ว่าชวาป เล่นละครกับทรัมป์กันถึงพริกถึงขิงแค่ไหน รู้หรือไม่ การฉีดวัคซวย หมายถึงการฉีด งู เข้าไในร่างกายในสายตาชาวโลกาภิวัตน์ (ง่าย ๆ ดูโลโก้องค์กรคะยั้นคะยอให้รับวัคซีน) *เอาไว้เราค่อยติดตามโปรเจค วาปสปีด 2.0 ซึ่งมีเค้าลางเกี่ยวกับการคอลโทรลมนุษย์ผ่านดีเอ็นเอ ที่เก็บไว้แล้วของทนุษย์ทั่วโลก "#สตาร์เกต" #Stargate แอดเกือบลมพูดถึงสัญลักษณ์ข้างหลังทรัมป์ สัญลักษณ์ที่ ชัดเจนสำหรับสงคราม สุนทรพจน์ของทรัมป์ต่อฟอรัมเศรษฐกิจโลก (WEF) ตราประทับของสหรัฐอเมริกาจะมี 2 แบบ คือ 1. แบบที่ใช้ในยามสงบ และ 2. แบบที่ใช้ในยามสงคราม ในช่วงสงบ หัวของนกอินทรีจะหันไปทางซ้ายของพวกเรา ไปทางกิ่งมะกอก ตรงที่เราเห็นเป็นกรงเล็บด้านซ้าย ในช่วงสงคราม หัวของอินทรีจะหันไปทางขวาของพวกเรา ไปทางลูกศรแห่งสงคราม ซึ่งพวกเราเห็นว่าเป็น Talon ทางขวา บนโพเดียมที่ทรัมป์พูด หัวของอินทรีหันไปทางซ้ายของเรา: สันติภาพ แต่ในเวลาเดียวกันนั้น ภาพอินทรีบนจอภาพขนาดยักษ์ด้านหลังเขา แสดงให้เห็นหัวอินทรีหันไปทางสิ่งที่เราเห็น คงไม่ใช่อะไรอื่น ทรัมป์และอเมริกากำลังจะมีสงคราม (สงครามกับใครคือคำถาม) "ชนชั้นยอด" มักจะใช้สัญลักษณ์เพื่อสื่อสารข้อความถึงกัน พวกเขายังกล่าวอีกว่า "ชนชั้นสูง" ใช้สัญลักษณ์เหล่านี้เพื่อล้อเลียนคนอเมริกันซึ่งพวกเขามองว่าโง่เขลา ซีรีส์ทางโทรทัศน์ชื่อดังอย่าง “West Wing” ยังได้พูดถึงประเด็นนี้ในตอนหนึ่งด้วย นี่คือคลิปวิดีโอที่เกี่ยวข้อง: https://youtu.be/1qkLXiuEUdE ทรัมป์และอเมริกาจะทำสงครามกับใคร อิหร่าน หรือรัสเซีย หรือ สงครามกับระชาชน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1605 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก หน่วยงานเฝ้าระวังด้านสาธารณสุขของสหประชาชาติ รอดตายอย่างหวุดหวิด ระหว่างที่อิสราเอลโจมตีสนามบินในกรุงซานา เมืองหลวงของเยเมน ในเหตุการณ์ระทึกที่กล้องวงจรปิดจับภาพเอาไว้ได้
    .
    ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก เดินทางเยือนซีเรีย ประเทศที่ถูกฉีกเป็นชิ้นๆจากสงครามกลางเมือง เพื่อไปเจรจากับพวกกบฏฮูตี ที่ควบคุมกรุงซานา ขอให้ปล่อยตัวพวกเจ้าหน้าที่ของสหประชาชาติ
    .
    ในเหตุการณ์ระทึก ฝูงบินรบของอิสราเอลทำการโจมตีสนามบิน ตอนที่คณะทำงานของสหประชาชาติกำลังเตรียมตัวขึ้นเครื่อง และภาพจากกล้องวงจรปิดที่โพสต์โดยตัวของกีบรีเยซุสเอง พบเห็นคณะทำงานของกีบรีเยซุส กำลังเข้าอารักขาเขาออกจากบริเวณห้องรับรองของสนามบิน นอกจากนี้แล้วในคลิปยังเผยให้เห็นวินาทีที่หอควบคุมการบินถูกโจมตีด้วย
    .
    "มันโกลาหลอย่างมาก ผู้คนอยู่ในความระส่ำระสาย และวิ่งไปทั่ว ไม่มีที่หลบภัย เราไม่มีที่กำบังโดยสิ้นเชิง" กีบรีเยซุส บอกกับผู้สื่อข่าวเอเอฟพี หลังเดินทางกลับถึงสวิตเซอร์แลนด์ในวันเสาร์(28ธ.ค.)
    .
    เขากล่าวต่อว่า "มันเป็นเรื่องของโชค มิเช่นนั้นแล้ว หากขีปนาวุธเบี่ยงวิถีแม้แต่น้อย มันอาจตกใส่ศีรษะของเรา เพื่อนร่วมงานของผมพูดหลังจากนั้นว่า เรารอดตายอย่างฉิวเฉียด"
    .
    ในข้อความที่โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ ทาง กีบรีเยซุส ได้ขอบคุณทุกๆคนที่ส่งข้อความสนับสนุน "ผมขอบคุณอย่างสุดซึ้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเพื่อนร่วมงานและเจ้าหน้าที่ของสนามบิน ที่เสียสละตนเองในความพยายามปกป้องผม"
    .
    จูเลียน ฮาร์นีส ผู้ประสานงานด้านเยเมน ของสหประชาชาติ เปิดเผยว่ามีเจ้าหน้าที่สหประชาชาติคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บจากของมีคม "ผมเห็นเลือดของเขา ตอนที่พวกเรากำลังร่ำลาทรีโดรส บริเวณลานบินในตอนเช้าวันนี้" เขากล่าวในวันศุกร์(27ธ.ค.)
    .
    กองกำลังป้องกันตนเองของอิสราเอล เปิดเผยว่าพวกเขาปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ตอบโต้กรณีที่พวกฮูตียิงขีปนาวุธใส่เทลอาวีฟ และเมืองอื่นๆของอิสราเอล พร้อมกล่าวหาว่าพวกฮูตีใช้สนามบินและท่าเรือทะเลของซีเรีย ลักลอบขนอาวุธมาจากอิหร่าน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000124999
    ..................
    Sondhi X ดูน้อยลง
    ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก หน่วยงานเฝ้าระวังด้านสาธารณสุขของสหประชาชาติ รอดตายอย่างหวุดหวิด ระหว่างที่อิสราเอลโจมตีสนามบินในกรุงซานา เมืองหลวงของเยเมน ในเหตุการณ์ระทึกที่กล้องวงจรปิดจับภาพเอาไว้ได้ . ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก เดินทางเยือนซีเรีย ประเทศที่ถูกฉีกเป็นชิ้นๆจากสงครามกลางเมือง เพื่อไปเจรจากับพวกกบฏฮูตี ที่ควบคุมกรุงซานา ขอให้ปล่อยตัวพวกเจ้าหน้าที่ของสหประชาชาติ . ในเหตุการณ์ระทึก ฝูงบินรบของอิสราเอลทำการโจมตีสนามบิน ตอนที่คณะทำงานของสหประชาชาติกำลังเตรียมตัวขึ้นเครื่อง และภาพจากกล้องวงจรปิดที่โพสต์โดยตัวของกีบรีเยซุสเอง พบเห็นคณะทำงานของกีบรีเยซุส กำลังเข้าอารักขาเขาออกจากบริเวณห้องรับรองของสนามบิน นอกจากนี้แล้วในคลิปยังเผยให้เห็นวินาทีที่หอควบคุมการบินถูกโจมตีด้วย . "มันโกลาหลอย่างมาก ผู้คนอยู่ในความระส่ำระสาย และวิ่งไปทั่ว ไม่มีที่หลบภัย เราไม่มีที่กำบังโดยสิ้นเชิง" กีบรีเยซุส บอกกับผู้สื่อข่าวเอเอฟพี หลังเดินทางกลับถึงสวิตเซอร์แลนด์ในวันเสาร์(28ธ.ค.) . เขากล่าวต่อว่า "มันเป็นเรื่องของโชค มิเช่นนั้นแล้ว หากขีปนาวุธเบี่ยงวิถีแม้แต่น้อย มันอาจตกใส่ศีรษะของเรา เพื่อนร่วมงานของผมพูดหลังจากนั้นว่า เรารอดตายอย่างฉิวเฉียด" . ในข้อความที่โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ ทาง กีบรีเยซุส ได้ขอบคุณทุกๆคนที่ส่งข้อความสนับสนุน "ผมขอบคุณอย่างสุดซึ้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเพื่อนร่วมงานและเจ้าหน้าที่ของสนามบิน ที่เสียสละตนเองในความพยายามปกป้องผม" . จูเลียน ฮาร์นีส ผู้ประสานงานด้านเยเมน ของสหประชาชาติ เปิดเผยว่ามีเจ้าหน้าที่สหประชาชาติคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บจากของมีคม "ผมเห็นเลือดของเขา ตอนที่พวกเรากำลังร่ำลาทรีโดรส บริเวณลานบินในตอนเช้าวันนี้" เขากล่าวในวันศุกร์(27ธ.ค.) . กองกำลังป้องกันตนเองของอิสราเอล เปิดเผยว่าพวกเขาปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ตอบโต้กรณีที่พวกฮูตียิงขีปนาวุธใส่เทลอาวีฟ และเมืองอื่นๆของอิสราเอล พร้อมกล่าวหาว่าพวกฮูตีใช้สนามบินและท่าเรือทะเลของซีเรีย ลักลอบขนอาวุธมาจากอิหร่าน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000124999 .................. Sondhi X ดูน้อยลง
    Like
    Sad
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1576 มุมมอง 0 รีวิว
  • อาห์เมด อัล-ชารา ผู้นำโดยพฤตินัยของซีเรีย แย้มอาจใช้เวลาสูงสุด 4 ปึ แล้วถึงจัดการเลือกตั้ง จากความเห็นที่เผยแพร่ผ่านทางสถานีโทรทัศน์ ถือเป็นครั้งแรกที่เขาพูดเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของกรอบเวลาในการเลือกตั้ง นับตั้งแต่อดีตประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ถูกโค่นอำนาจไปในช่วงต้นเดือน
    .
    ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์อัล อาราบิยา สื่อมวลชนแห่งรัฐของซาอุดีอาระเบีย ทาง ชารา บอกว่าการร่างรัฐธรรมนูญใหม่อาจใช้เวลาสูงสุด 3 ปี นอกจากนี้ เขายังระบุด้วยว่าอาจต้องใช้เวลาราว 1 ปี ชาวซีเรียถึงจะเห็นการเปลี่ยนแปลงต่างๆ อย่างสุดขั้ว
    .
    ความเห็นจากชารา ซึ่งเป็นผู้นำกลุ่มฮายัต ทาห์รีร์ อัล-ชาม ที่โค่นล้มอัสซาด เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม มีขึ้นในขณะที่รัฐบาลใหม่ในดามัสกัส กำลังหาทางรับประกันกับบรรดาประเทศเพื่อนบ้านว่า พวกเขากำลังถอยห่างจากรากเหง้าหัวรุนแรงอิสลามิสต์
    .
    ยุทธการจู่โจมสายฟ้าแลบของทางกลุ่ม นำมาซึ่งจุดจบสงครามกลางเมือง แต่ขณะเดียวกันก็ทิ้งไว้ซึ่งคำถามต่างๆ มากมายเกี่ยวกับอนาคตของประเทศที่ประกอบด้วยผู้คนหลายชาติพันธุ์แห่งนี้ ดินแดนที่ต่างชาติ ในนั้นรวมถึงตุรกีและรัสเซียแย่งชิงผลประโยชน์กันอย่างเต็มที่
    .
    ในขณะที่มหาอำนาจตะวันตกแสดงความยินดีเป็นส่วนใหญ่ต่อการสิ้นสุดระบอบการปกครองของตระกูลอัสซาดในซีเรีย แต่มันยังคงไม่เป็นที่ชัดเจนว่าทางกลุ่มจะกำหนดกฎหมายอิสลามิกอันเข้มงวดหรือไม่ หรือแสดงความยืดหยุ่น พร้อมกับมุ่งหน้าสู่ประชาธิปไตย
    .
    ชารา กล่าวว่า กลุ่มฮายัต ทาห์รีร์ อัล-ชาม ที่มีชื่อเดิมว่า นุสรา ฟอนต์ จะถุกยุบ ณ ที่ประชุมระดับชาติแห่งหนึ่ง และพอถูกถามเกี่ยวกับการยุบกลุ่ม ชารา ระบุว่า "แน่นอน ประเทศแห่งนี้ไม่อาจบริหารโดยความคิดของกลุ่มและพวกติดอาวุธ"
    .
    ทางกลุ่มครั้งหนึ่งเคยมีความใกล้ชิดกับกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) และกลุ่มอัล-กออิดะห์ ทว่านับตั้งแต่นั้นได้ประกาศละทิ้งทั้ง 2 กลุ่ม และหาทางวางสถานะใหม่ของตนเอง ในฐานะขุมกำลังสายกลาง
    .
    พวกเขาประกาศซ้ำๆ ว่าจะปกป้องชนกลุ่มน้อยกลุ่มต่างๆ ซึ่งหวั่นเกรงว่าพวกผู้ปกครองใหม่อาจหาทางจัดตั้งรัฐบาลอิสลามิสต์ และเตือนถึงความพยายามปลุกระดมความขัดแย้งระหว่างนิกาย
    .
    ชารา บอกว่าที่ประชุมระดับชาติ จะมีผู้เข้าร่วมอย่างกว้างวางในสังคมซีเรีย โดยที่จะมีการลงมติในประเด็นต่างๆ อย่างเช่นยุบสภาและฉีกรัฐธรรมนูญ
    .
    ระหว่างให้สัมภาษณ์ ทาง ชารา ยืนยันด้วยว่า ซีเรียมีผลประโยชน์ทางยุทธศาสตร์ร่วมกับรัสเซีย พันธมิตรใกล้ชิดของอัสซาดระหว่างสงครามกลางเมือง และมีฐานทัพทหารในประเทศแห่งนี้ เน้นย้ำจุดยืนจะผูกไมตรีกับมอสโก แบบเดียวกับที่รัฐบาลของเขาเคยส่งสัญญาณก่อนหน้านี้
    .
    เมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา ชารา ระบุว่าความสัมพันธ์ระหว่างซีเรียกับรัสเซีย ควรรับใช้ผลประโยชน์ร่วม ในขณะที่ เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย บอกว่าสถานะของฐานทัพรัสเซียจะขึ้นอยู่กับการเจรจากับผู้นำคนใหม่ในดามัสกัส
    .
    "คำถามไม่ใช่แค่ว่าจะคงไว้ซึ่งฐานทัพหรือป้อมปราการของเราหรือไม่ แต่ยังรวมไปถึงสภาพแวดล้อมด้านปฏิบัติการ การบำรุงรักษาและข้อกำหนดของฐานทัพหรือป้อมปราการเหล่านั้น เช่นเดียวกับการสื่อสารกับพวกเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น" ลาฟรอฟ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอาร์ไอเอ
    .
    แม้ส่งสัญญาณสานสัมพันธ์กับรัสเซีย แต่ทาง ชารา ยังแสดงความหวังว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรที่กำหนดเล่นงานซีเรีย หลังจากพวกนักการทูตระดับสูงของสหรัฐฯ ที่เดินทางเยือนกรุงดามัสกัส เมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา เผยว่า วอชิงตันตัดสินใจยกเลิกเงินค่าหัว 10 ล้านดอลลาร์ ที่ตั้งไว้สำหรับผู้นำกลุ่มฮายัต ทาห์รีร์ อัล-ชาม รายนี้
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000124985
    ..................
    Sondhi X
    อาห์เมด อัล-ชารา ผู้นำโดยพฤตินัยของซีเรีย แย้มอาจใช้เวลาสูงสุด 4 ปึ แล้วถึงจัดการเลือกตั้ง จากความเห็นที่เผยแพร่ผ่านทางสถานีโทรทัศน์ ถือเป็นครั้งแรกที่เขาพูดเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของกรอบเวลาในการเลือกตั้ง นับตั้งแต่อดีตประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ถูกโค่นอำนาจไปในช่วงต้นเดือน . ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์อัล อาราบิยา สื่อมวลชนแห่งรัฐของซาอุดีอาระเบีย ทาง ชารา บอกว่าการร่างรัฐธรรมนูญใหม่อาจใช้เวลาสูงสุด 3 ปี นอกจากนี้ เขายังระบุด้วยว่าอาจต้องใช้เวลาราว 1 ปี ชาวซีเรียถึงจะเห็นการเปลี่ยนแปลงต่างๆ อย่างสุดขั้ว . ความเห็นจากชารา ซึ่งเป็นผู้นำกลุ่มฮายัต ทาห์รีร์ อัล-ชาม ที่โค่นล้มอัสซาด เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม มีขึ้นในขณะที่รัฐบาลใหม่ในดามัสกัส กำลังหาทางรับประกันกับบรรดาประเทศเพื่อนบ้านว่า พวกเขากำลังถอยห่างจากรากเหง้าหัวรุนแรงอิสลามิสต์ . ยุทธการจู่โจมสายฟ้าแลบของทางกลุ่ม นำมาซึ่งจุดจบสงครามกลางเมือง แต่ขณะเดียวกันก็ทิ้งไว้ซึ่งคำถามต่างๆ มากมายเกี่ยวกับอนาคตของประเทศที่ประกอบด้วยผู้คนหลายชาติพันธุ์แห่งนี้ ดินแดนที่ต่างชาติ ในนั้นรวมถึงตุรกีและรัสเซียแย่งชิงผลประโยชน์กันอย่างเต็มที่ . ในขณะที่มหาอำนาจตะวันตกแสดงความยินดีเป็นส่วนใหญ่ต่อการสิ้นสุดระบอบการปกครองของตระกูลอัสซาดในซีเรีย แต่มันยังคงไม่เป็นที่ชัดเจนว่าทางกลุ่มจะกำหนดกฎหมายอิสลามิกอันเข้มงวดหรือไม่ หรือแสดงความยืดหยุ่น พร้อมกับมุ่งหน้าสู่ประชาธิปไตย . ชารา กล่าวว่า กลุ่มฮายัต ทาห์รีร์ อัล-ชาม ที่มีชื่อเดิมว่า นุสรา ฟอนต์ จะถุกยุบ ณ ที่ประชุมระดับชาติแห่งหนึ่ง และพอถูกถามเกี่ยวกับการยุบกลุ่ม ชารา ระบุว่า "แน่นอน ประเทศแห่งนี้ไม่อาจบริหารโดยความคิดของกลุ่มและพวกติดอาวุธ" . ทางกลุ่มครั้งหนึ่งเคยมีความใกล้ชิดกับกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) และกลุ่มอัล-กออิดะห์ ทว่านับตั้งแต่นั้นได้ประกาศละทิ้งทั้ง 2 กลุ่ม และหาทางวางสถานะใหม่ของตนเอง ในฐานะขุมกำลังสายกลาง . พวกเขาประกาศซ้ำๆ ว่าจะปกป้องชนกลุ่มน้อยกลุ่มต่างๆ ซึ่งหวั่นเกรงว่าพวกผู้ปกครองใหม่อาจหาทางจัดตั้งรัฐบาลอิสลามิสต์ และเตือนถึงความพยายามปลุกระดมความขัดแย้งระหว่างนิกาย . ชารา บอกว่าที่ประชุมระดับชาติ จะมีผู้เข้าร่วมอย่างกว้างวางในสังคมซีเรีย โดยที่จะมีการลงมติในประเด็นต่างๆ อย่างเช่นยุบสภาและฉีกรัฐธรรมนูญ . ระหว่างให้สัมภาษณ์ ทาง ชารา ยืนยันด้วยว่า ซีเรียมีผลประโยชน์ทางยุทธศาสตร์ร่วมกับรัสเซีย พันธมิตรใกล้ชิดของอัสซาดระหว่างสงครามกลางเมือง และมีฐานทัพทหารในประเทศแห่งนี้ เน้นย้ำจุดยืนจะผูกไมตรีกับมอสโก แบบเดียวกับที่รัฐบาลของเขาเคยส่งสัญญาณก่อนหน้านี้ . เมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา ชารา ระบุว่าความสัมพันธ์ระหว่างซีเรียกับรัสเซีย ควรรับใช้ผลประโยชน์ร่วม ในขณะที่ เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย บอกว่าสถานะของฐานทัพรัสเซียจะขึ้นอยู่กับการเจรจากับผู้นำคนใหม่ในดามัสกัส . "คำถามไม่ใช่แค่ว่าจะคงไว้ซึ่งฐานทัพหรือป้อมปราการของเราหรือไม่ แต่ยังรวมไปถึงสภาพแวดล้อมด้านปฏิบัติการ การบำรุงรักษาและข้อกำหนดของฐานทัพหรือป้อมปราการเหล่านั้น เช่นเดียวกับการสื่อสารกับพวกเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น" ลาฟรอฟ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอาร์ไอเอ . แม้ส่งสัญญาณสานสัมพันธ์กับรัสเซีย แต่ทาง ชารา ยังแสดงความหวังว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรที่กำหนดเล่นงานซีเรีย หลังจากพวกนักการทูตระดับสูงของสหรัฐฯ ที่เดินทางเยือนกรุงดามัสกัส เมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา เผยว่า วอชิงตันตัดสินใจยกเลิกเงินค่าหัว 10 ล้านดอลลาร์ ที่ตั้งไว้สำหรับผู้นำกลุ่มฮายัต ทาห์รีร์ อัล-ชาม รายนี้ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000124985 .................. Sondhi X
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1562 มุมมอง 0 รีวิว
  • โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บอกผ่านไปยังประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ว่าควรเตรียมพร้อมสำหรับทำข้อตกลงกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ในการยุติสงครามในยูเครนที่ลากยาวมานานเกือบ 3 ปี
    .
    "ต้องทำข้อตกลง" ทรัมป์ กล่าวระหว่างแถลงข่าว ณ สโมสรมาร์อาลาโกของเขา ในปาล์มบีช รัฐฟลอริดา พร้อมบอกต่อว่าเขาจะพูดคุยกับปูตินและเซเลนกสกี เกี่ยวกับการนำพาสงครามในยูเครนไปสู่จุดจบ และบอกว่าเขารู้สึกเป็นทุกข์กับภาพแห่งการสังหารหมู่จากความขัดแย้งนี้ "มันต้องหยุดลง"
    .
    ทรัมป์ ไม่ได้ตอบตรงๆ เมื่อถูกถามว่า เขาเชื่อหรือไม่ว่ายูเครนควรยอมสละดินแดนให้รัสเซีย ส่วนหนึ่งในเจรจาต่อรองเพื่อยุติสงคราม โดยว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ รายนี้บอกแต่เพียงว่าดินแดนส่วนใหญ่ในความขัดแย้ง เหลือแต่ซากปรักหักพังและมันจะต้องใช้เวลาในการบูรณะฟื้นูนานกว่า 1 ศตวรรษ "ที่ผมหมายถึงคือ เมืองต่างๆ ไม่เหลืออาคารยืนตระหง่านอีกแล้ว มันเป็นสถานที่ที่ถูกทำลายล้าง"
    .
    นอกจากนี้ ทรัมป์ ยังกล่าวด้วยว่าเขาได้เห็นภาพถ่ายในสมรภูมิรบที่มีศพเกลื่อนไปหมด ซึ่งมันทำให้เขาย้อนนึกถึงภาพถ่ายอันน่าสยดสยองของสงครามกลางเมืองอเมริการะหว่างปี 1861-1865
    .
    ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เคยบอกว่าเขาอยากให้สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนจบลงอย่างรวดเร็ว แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ เขาบอกกับนิตยสารไทม์ในบทสัมภาษณ์ที่เผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่าตนเอง "มีแผนที่ดีมากๆ" ที่จะช่วยให้ความขัดแย้งยุติลง แต่หากเขาเผยแพร่มันในตอนนี้ "มันจะกลายเป็นแผนที่เกือบจะไร้ค่า"
    .
    ท่าทีของทรัมป์ต่อสงครามในยูเครน มีขึ้นในขณะที่ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ รายนี้ บอกกับพวกผู้สื่อข่าวในวันเดียวกัน ว่าประธานาธิบดีเซเลนสกี จะไม่ได้รับเชิญเข้าร่วมพิธีสาบานตนรับตำแหน่งในเดือนหน้า ส่งสัญญาณถึงแนวโน้มตีตัวออกห่างจากผู้นำยูเครน
    .
    ทรัมป์ ซึ่งเอาชนะ กมลา แฮร์ริส ตัวแทนจากพรรคเดโมแครต เมื่อเดือนที่แล้ว จะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐฯ ในวันที่ 20 มกราคม ณ พิธี ซึ่งจะจัดขึ้นที่อาคารรัฐสภาในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
    .
    ในวันจันทร์ (16 ธ.ค.) ทรัมป์ จัดการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการครั้งแรกนับตั้งแต่ชนะการเลือกตั้ง และระหว่างนั้นผู้สื่อข่าวถามว่าเขาจะเชิญเซเลนสกี ร่วมพิธีสาบานตนหรือไม่ ทรัมป์ ตอบว่า "ไม่ ผมไม่ได้เชิญเขา อย่างไรก็ตาม ถ้าเขาอยากมา ผมก็อยากมีเขาอยู่ร่วมด้วย"
    .
    ขณะเดียวกัน สื่อมวลชนรายงานว่า ทรัมป์ ได้เชิญ สี จิ้นผิง ผู้นำจีน เข้าร่วมพิธีสาบานตนด้วย ทั้งนี้มีข่าวว่ามีการเชื้อเชิญตั้งแต่เมื่อช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ไม่นานหลังจาก ทรัมป์ ชนะเลือกตั้ง อย่างไรก็ตามไม่เป็นที่ชัดเจนว่า สี จะตอบรับคำเชิญหรือไม่
    .
    กระนั้นก็ตาม สำนักข่าวซีบีเอสรายงานว่า ในเบื้องต้นเอกอัครราชทูตจีนประจำสหรัฐฯพร้อมด้วยคู่สมรส คาดหมายว่าจะเข้าร่วมพิธีสาบานตนของทรัมป์ ในแนวทางปฏิบัติตามมาตรฐาน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000120828
    ..............
    Sondhi X
    โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บอกผ่านไปยังประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ว่าควรเตรียมพร้อมสำหรับทำข้อตกลงกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ในการยุติสงครามในยูเครนที่ลากยาวมานานเกือบ 3 ปี . "ต้องทำข้อตกลง" ทรัมป์ กล่าวระหว่างแถลงข่าว ณ สโมสรมาร์อาลาโกของเขา ในปาล์มบีช รัฐฟลอริดา พร้อมบอกต่อว่าเขาจะพูดคุยกับปูตินและเซเลนกสกี เกี่ยวกับการนำพาสงครามในยูเครนไปสู่จุดจบ และบอกว่าเขารู้สึกเป็นทุกข์กับภาพแห่งการสังหารหมู่จากความขัดแย้งนี้ "มันต้องหยุดลง" . ทรัมป์ ไม่ได้ตอบตรงๆ เมื่อถูกถามว่า เขาเชื่อหรือไม่ว่ายูเครนควรยอมสละดินแดนให้รัสเซีย ส่วนหนึ่งในเจรจาต่อรองเพื่อยุติสงคราม โดยว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ รายนี้บอกแต่เพียงว่าดินแดนส่วนใหญ่ในความขัดแย้ง เหลือแต่ซากปรักหักพังและมันจะต้องใช้เวลาในการบูรณะฟื้นูนานกว่า 1 ศตวรรษ "ที่ผมหมายถึงคือ เมืองต่างๆ ไม่เหลืออาคารยืนตระหง่านอีกแล้ว มันเป็นสถานที่ที่ถูกทำลายล้าง" . นอกจากนี้ ทรัมป์ ยังกล่าวด้วยว่าเขาได้เห็นภาพถ่ายในสมรภูมิรบที่มีศพเกลื่อนไปหมด ซึ่งมันทำให้เขาย้อนนึกถึงภาพถ่ายอันน่าสยดสยองของสงครามกลางเมืองอเมริการะหว่างปี 1861-1865 . ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เคยบอกว่าเขาอยากให้สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนจบลงอย่างรวดเร็ว แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ เขาบอกกับนิตยสารไทม์ในบทสัมภาษณ์ที่เผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่าตนเอง "มีแผนที่ดีมากๆ" ที่จะช่วยให้ความขัดแย้งยุติลง แต่หากเขาเผยแพร่มันในตอนนี้ "มันจะกลายเป็นแผนที่เกือบจะไร้ค่า" . ท่าทีของทรัมป์ต่อสงครามในยูเครน มีขึ้นในขณะที่ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ รายนี้ บอกกับพวกผู้สื่อข่าวในวันเดียวกัน ว่าประธานาธิบดีเซเลนสกี จะไม่ได้รับเชิญเข้าร่วมพิธีสาบานตนรับตำแหน่งในเดือนหน้า ส่งสัญญาณถึงแนวโน้มตีตัวออกห่างจากผู้นำยูเครน . ทรัมป์ ซึ่งเอาชนะ กมลา แฮร์ริส ตัวแทนจากพรรคเดโมแครต เมื่อเดือนที่แล้ว จะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐฯ ในวันที่ 20 มกราคม ณ พิธี ซึ่งจะจัดขึ้นที่อาคารรัฐสภาในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. . ในวันจันทร์ (16 ธ.ค.) ทรัมป์ จัดการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการครั้งแรกนับตั้งแต่ชนะการเลือกตั้ง และระหว่างนั้นผู้สื่อข่าวถามว่าเขาจะเชิญเซเลนสกี ร่วมพิธีสาบานตนหรือไม่ ทรัมป์ ตอบว่า "ไม่ ผมไม่ได้เชิญเขา อย่างไรก็ตาม ถ้าเขาอยากมา ผมก็อยากมีเขาอยู่ร่วมด้วย" . ขณะเดียวกัน สื่อมวลชนรายงานว่า ทรัมป์ ได้เชิญ สี จิ้นผิง ผู้นำจีน เข้าร่วมพิธีสาบานตนด้วย ทั้งนี้มีข่าวว่ามีการเชื้อเชิญตั้งแต่เมื่อช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ไม่นานหลังจาก ทรัมป์ ชนะเลือกตั้ง อย่างไรก็ตามไม่เป็นที่ชัดเจนว่า สี จะตอบรับคำเชิญหรือไม่ . กระนั้นก็ตาม สำนักข่าวซีบีเอสรายงานว่า ในเบื้องต้นเอกอัครราชทูตจีนประจำสหรัฐฯพร้อมด้วยคู่สมรส คาดหมายว่าจะเข้าร่วมพิธีสาบานตนของทรัมป์ ในแนวทางปฏิบัติตามมาตรฐาน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000120828 .............. Sondhi X
    Like
    Yay
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1054 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องราวเขมรนั้นเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับผมเสมอมาโดยเฉพาะในเรื่อง “ความกตัญญูกตเวทีอันเป็นคุณสมบัติพื้นฐานของมนุษยชาติ” (แต่จะไม่สามารถเปรียบเทียบกับการตอบแทนบุญคุณชาติบ้านเมือง บุพกษัตริย์และวีรชนของชาติซึ่งยิ่งใหญ่มหาศาลมากกว่ามากมายนัก)ไม่ต้องพูดถึงอดีตกาลโบราณ เอาแค่ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ ฝรั่งเศสให้เอกราชกัมพูชา ซึ่งมีไทยส่งเสริมสนับสนุนและเป็นชาติแรกๆ ที่รับรองกัมพูชาเป็นสมาชิก UNช่วงสงครามกลางเมืองกัมพูชา ๒๕๑๕ เป็นต้นไป “รัฐบาลไทยสนับสนุนรัฐบาลเจ้านโรดมสีหนุซึ่งวางตัวเป็นกลางไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดในยุคสงครามเย็น”แต่ CIA เห็นว่าเจ้าสีหนุที่เป็นทั้งพระมหากษัตริย์ ประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีและไว้ใจไม่ได้ จึงสนับสนุนนายพลลอนนนอลรัฐประหารล้มระบอบกษัตริย์ในกัมพูชาฝ่ายพรรคคคอมมิวนิสต์กัมพูชาเห็นความอ่อนแอของรัฐ จึงยึดประเทศเกิดสงครามกลางเมือง (นี่ คือจุดอ่อนของระบอบกษัตริย์ในกัมพูชาจึงง่ายกับการถูกรัฐประหารและล้มล้างระบอบการปกครอง)สงครามกลางเมืองขยายขอบเขตสร้างความเดือนร้อนต่อประชาชนอย่างมหาศาลและกลายเป็นผู้ลี้ภัยทะลักเข้าสู่ประเทศไทยเป็นจำนวนนับหมิ่นๆ คนตลอดแนวชายแดนไทย/กัมพูชาโดยเฉพาะที่บริเวณเขาอีด่าง จังหวัดสระแก้วในปัจจุบัน (ล้นเกล้ารัชกาลที่ ๙ เสด็จไปเยี่ยมผู้อพยพเขมรจนพระองค์ติดเชื้อโรคร้ายเกือบสิ้นพระชนม์ชีพในช่วงนั้นเลย) จิตอาสาแพทย์ไทยหลายสิบๆ คนเสียสละไปช่วยรักษาโรคให้ผู้อพยพเขมรจำนวนมากกองทัพไทยส่งหน่วยทหารไปวางแผนช่วยรัฐบาลนายพลลอนนอลรบกับคอมมิวนิสต์ โดยกองทัพอากาศส่งเครื่องบินไปโจมตีที่ตั้งเขมรแดงในเขตยึดครองเขมรแดงสนับสนุนนายพลลอนนอล (มีตำนานเล่าขานว่า มีนักบิน T-28 ทอ.ไทยถูกยิงตกที่บริเวณทะเลสาปเขมรแต่ก่อนตายถูกทรมานอย่างโหดเหี้ยมมากๆ) ขณะเดียวกันรัฐบาลลอนนอลฉวยโอกาสประกาศอ้างสิทธิ์เขตไหล่ทวีปทับทะเลอาณาเขตของไทย (ที่เป็นช่องทางให้สมเด็จฮุนเซนและลูกใช้อ้างเป็นพื้นที่ทับซ้อนและหวังนำสู่ศาลโลกเพื่อพลิกผันให้มีการตกลงแบ่งกันคนละครึ่งโดยมีคนไทยในระบอบทักษิณสมรู้ร่วมคิดนายพลลอนนอลคงไม่รู้คำว่า “กตัญญูกตเวทิตา” เป็นแน่แท้ (นายพลลอนนอลหนีไปสหรัฐฯ และเป็นโรคร้ายตายในสหรัฐฯ ไปแล้วและเรื่องที่ต้องเล่าแม้เป็นตำนานแต่ก็เป็นที่รู้กัน คือ เรื่องนี้เพราะ รร.นายร้อย West Piont นั้นไม่ใช่จะสมัครสอบเข้าเรียนได้เหมือนอย่างแหล่งอุดมศึกษาอื่นๆ ในสหรัฐฯ แต่มีเงื่อนไขทางกฎหมายสหรัฐฯ กำกับไว้สำหรับผู้ที่มีสิทธิ์อย่างชัดเจนคือ นายพล ฮุน มาเน็ต ที่เรียนจบจาก รร.นายร้อย West Point นั้นได้เข้าเรียนเพราะกองทัพบกไทย (โดยนายพลท่านหนึ่งสั่งการและอนุมัติให้กองทับบกดำเนินการเอาโคว้ต้าของนักเรียนนายร้อย จปร.ที่สามารถเข้าเรียนได้ตามสิทธิ์ในข้อตกลงระหว่างกองทัพไทยกับกองทัพบกสหรัฐฯ ไปให้ ฮุน มาเน็ต บุตรชายสมเด็จฮุนเซนได้เข้าเรียนที่ West Point เป็นกรณีพิเศษเพื่อสัมพันธไมตรีระหว่างสมเด็จฮุนเซนกับนายพลท่านผู้นั้น)ผมไม่ได้ตำหนิ “นายพลคนใดคนหนึ่งในกองทัพบก” เพราะท่านก็ทำเพื่อสัมพันธไมตรีอันดีเพื่อชาติ (สัมพันธไมตรีนั้นเป็น “นามธรรม” มูลค่าวัดไม่ได้) แต่เรื่องที่ผมอยากพูด คือ คนเนรคุณไม่รู้จักบุญคุณคนไทยทั้งชาติ สำหรับนายกรัฐมนตรี ฮุน มาเน็ต ไม่รู้บุญคุณนักเรียนนายร้อย จปร.ที่สละสิทธิ์ให้เขาไปเรียน :Vachara Riddhagni
    เรื่องราวเขมรนั้นเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับผมเสมอมาโดยเฉพาะในเรื่อง “ความกตัญญูกตเวทีอันเป็นคุณสมบัติพื้นฐานของมนุษยชาติ” (แต่จะไม่สามารถเปรียบเทียบกับการตอบแทนบุญคุณชาติบ้านเมือง บุพกษัตริย์และวีรชนของชาติซึ่งยิ่งใหญ่มหาศาลมากกว่ามากมายนัก)ไม่ต้องพูดถึงอดีตกาลโบราณ เอาแค่ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ ฝรั่งเศสให้เอกราชกัมพูชา ซึ่งมีไทยส่งเสริมสนับสนุนและเป็นชาติแรกๆ ที่รับรองกัมพูชาเป็นสมาชิก UNช่วงสงครามกลางเมืองกัมพูชา ๒๕๑๕ เป็นต้นไป “รัฐบาลไทยสนับสนุนรัฐบาลเจ้านโรดมสีหนุซึ่งวางตัวเป็นกลางไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดในยุคสงครามเย็น”แต่ CIA เห็นว่าเจ้าสีหนุที่เป็นทั้งพระมหากษัตริย์ ประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีและไว้ใจไม่ได้ จึงสนับสนุนนายพลลอนนนอลรัฐประหารล้มระบอบกษัตริย์ในกัมพูชาฝ่ายพรรคคคอมมิวนิสต์กัมพูชาเห็นความอ่อนแอของรัฐ จึงยึดประเทศเกิดสงครามกลางเมือง (นี่ คือจุดอ่อนของระบอบกษัตริย์ในกัมพูชาจึงง่ายกับการถูกรัฐประหารและล้มล้างระบอบการปกครอง)สงครามกลางเมืองขยายขอบเขตสร้างความเดือนร้อนต่อประชาชนอย่างมหาศาลและกลายเป็นผู้ลี้ภัยทะลักเข้าสู่ประเทศไทยเป็นจำนวนนับหมิ่นๆ คนตลอดแนวชายแดนไทย/กัมพูชาโดยเฉพาะที่บริเวณเขาอีด่าง จังหวัดสระแก้วในปัจจุบัน (ล้นเกล้ารัชกาลที่ ๙ เสด็จไปเยี่ยมผู้อพยพเขมรจนพระองค์ติดเชื้อโรคร้ายเกือบสิ้นพระชนม์ชีพในช่วงนั้นเลย) จิตอาสาแพทย์ไทยหลายสิบๆ คนเสียสละไปช่วยรักษาโรคให้ผู้อพยพเขมรจำนวนมากกองทัพไทยส่งหน่วยทหารไปวางแผนช่วยรัฐบาลนายพลลอนนอลรบกับคอมมิวนิสต์ โดยกองทัพอากาศส่งเครื่องบินไปโจมตีที่ตั้งเขมรแดงในเขตยึดครองเขมรแดงสนับสนุนนายพลลอนนอล (มีตำนานเล่าขานว่า มีนักบิน T-28 ทอ.ไทยถูกยิงตกที่บริเวณทะเลสาปเขมรแต่ก่อนตายถูกทรมานอย่างโหดเหี้ยมมากๆ) ขณะเดียวกันรัฐบาลลอนนอลฉวยโอกาสประกาศอ้างสิทธิ์เขตไหล่ทวีปทับทะเลอาณาเขตของไทย (ที่เป็นช่องทางให้สมเด็จฮุนเซนและลูกใช้อ้างเป็นพื้นที่ทับซ้อนและหวังนำสู่ศาลโลกเพื่อพลิกผันให้มีการตกลงแบ่งกันคนละครึ่งโดยมีคนไทยในระบอบทักษิณสมรู้ร่วมคิดนายพลลอนนอลคงไม่รู้คำว่า “กตัญญูกตเวทิตา” เป็นแน่แท้ (นายพลลอนนอลหนีไปสหรัฐฯ และเป็นโรคร้ายตายในสหรัฐฯ ไปแล้วและเรื่องที่ต้องเล่าแม้เป็นตำนานแต่ก็เป็นที่รู้กัน คือ เรื่องนี้เพราะ รร.นายร้อย West Piont นั้นไม่ใช่จะสมัครสอบเข้าเรียนได้เหมือนอย่างแหล่งอุดมศึกษาอื่นๆ ในสหรัฐฯ แต่มีเงื่อนไขทางกฎหมายสหรัฐฯ กำกับไว้สำหรับผู้ที่มีสิทธิ์อย่างชัดเจนคือ นายพล ฮุน มาเน็ต ที่เรียนจบจาก รร.นายร้อย West Point นั้นได้เข้าเรียนเพราะกองทัพบกไทย (โดยนายพลท่านหนึ่งสั่งการและอนุมัติให้กองทับบกดำเนินการเอาโคว้ต้าของนักเรียนนายร้อย จปร.ที่สามารถเข้าเรียนได้ตามสิทธิ์ในข้อตกลงระหว่างกองทัพไทยกับกองทัพบกสหรัฐฯ ไปให้ ฮุน มาเน็ต บุตรชายสมเด็จฮุนเซนได้เข้าเรียนที่ West Point เป็นกรณีพิเศษเพื่อสัมพันธไมตรีระหว่างสมเด็จฮุนเซนกับนายพลท่านผู้นั้น)ผมไม่ได้ตำหนิ “นายพลคนใดคนหนึ่งในกองทัพบก” เพราะท่านก็ทำเพื่อสัมพันธไมตรีอันดีเพื่อชาติ (สัมพันธไมตรีนั้นเป็น “นามธรรม” มูลค่าวัดไม่ได้) แต่เรื่องที่ผมอยากพูด คือ คนเนรคุณไม่รู้จักบุญคุณคนไทยทั้งชาติ สำหรับนายกรัฐมนตรี ฮุน มาเน็ต ไม่รู้บุญคุณนักเรียนนายร้อย จปร.ที่สละสิทธิ์ให้เขาไปเรียน :Vachara Riddhagni
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1322 มุมมอง 0 รีวิว
  • อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ระบุการโค่นล้มประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรีย เป็นผลลัพธ์ของแผนการหนึ่งของสหรัฐฯ และอิสราเอล
    .
    นอกจากนี้ คอเมเนอี ยังบอกด้วยว่ามีเพื่อนบ้านซีเรียอีกชาติหนึ่งที่มีบทบาทในเรื่องนี้เช่นกัน แต่เขาไม่เอ่ยชื่อประเทศดังกล่าว อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวรอยเตอร์เชื่อว่าน่าจะเป็นตุรกี ที่ให้การสนับสนุนพวกกบฏต่อต้านอัสซาด
    .
    การที่อัสซาดถูกโค่นจากอำนาจ ถูกมองอย่างกว้างขวางว่าเป็นความเสียหายครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นกับ "กลุ่มอักษะแห่งการต่อต้าน (Axis of Resistance) พันธมิตรทางการเมืองและการทหารที่ต่อต้านอิทธิพลของอิสราเอลและสหรัฐฯ ในตะวันออกกลาง
    .
    "สิ่งที่เกิดขึ้นในซีเรีย ส่วนใหญ่แล้วเป็นการวางแผนในห้องบัญชาการในอเมริกาและอิสราเอล เรามีหลักฐานในเรื่องนี้ รัฐบาลเพื่อนบ้านชาติหนึ่งของซีเรียก็เกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน" คอเมเนอีกล่าว ในถ้อยแถลงที่สื่อมวลชนแห่งรัฐอิหร่านรายงาน "เพื่อนบ้านแห่งนี้มีบทบาทอย่างชัดเจน และยังคงทำเช่นนั้น"
    .
    ตุรกี ชาติสมาชิกนาโต ควบคุมดินแดนอันกว้างขวางทางเหนือของซีเรีย หลังรุกรานข้ามชายแดนหลายครั้งเข้าไปจัดการกับพวก YPG กลุ่มติดอาวุธซีเรีย-เคิร์ด ขณะเดียวกัน ตุรกี ก็เป็นผู้สนับสนุนรายสำคัญของกลุ่มต่อต้านต่างๆ ที่มีเป้าหมายโค่นล้มอัสซาด นับตั้งแต่สงครามกลางเมืองปะทุขึ้นในปี 2011
    .
    อิหร่าน ใช้เงินไปหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐในการพยุงอัสซาด ระหว่างสงครามและส่งกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม เข้าไปยังซีเรีย เพื่อรักษาอำนาจให้พันธมิตรรายนี้
    .
    ไม่กี่ชั่วโมงหลังการล่มสลายของอัสซาด ทางอิหร่านระบุว่าพวกเขาคาดหมายว่าความสัมพันธ์กับดามัสกัสจะเดินหน้าต่อไปบนพื้นฐานของแนวทางที่ชาญฉลาดและมองการไกลของทั้ง 2 ประเทศ และเรียกร้องให้จัดตั้งรัฐบาลที่ครอบคลุม ซึ่งเป็นตัวแทนของทุกภาคส่วนในสังคมซีเรีย
    .
    ในถ้อยแถลง คอเมเนอี บอกว่าพันธมิตรที่นำโดยอิหร่าน จะเดินหน้าเสริมความเข้มแข็งทั่วทั้งภูมิภาค "ยิ่งคุณออกแรงกดดันมากเท่าไหร่ การต่อต้านที่เข้มแข็งขึ้นก็จะตามมา ยิ่งคุณก่ออาชญากรรมมากเท่าไหร่ ความแน่วแน่ยิ่งขึ้นก็จะตามมา ยิ่งคุณสู้รบมากเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งขยายวง" ผู้นำสูงสุดของอิหร่านกล่าว "อิหร่านจะแข็งแกร่งและทรงพลัง และจะเข้มแข็งยิ่งกว่าเดิม"
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000119174
    ..............
    Sondhi X
    อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ระบุการโค่นล้มประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรีย เป็นผลลัพธ์ของแผนการหนึ่งของสหรัฐฯ และอิสราเอล . นอกจากนี้ คอเมเนอี ยังบอกด้วยว่ามีเพื่อนบ้านซีเรียอีกชาติหนึ่งที่มีบทบาทในเรื่องนี้เช่นกัน แต่เขาไม่เอ่ยชื่อประเทศดังกล่าว อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวรอยเตอร์เชื่อว่าน่าจะเป็นตุรกี ที่ให้การสนับสนุนพวกกบฏต่อต้านอัสซาด . การที่อัสซาดถูกโค่นจากอำนาจ ถูกมองอย่างกว้างขวางว่าเป็นความเสียหายครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นกับ "กลุ่มอักษะแห่งการต่อต้าน (Axis of Resistance) พันธมิตรทางการเมืองและการทหารที่ต่อต้านอิทธิพลของอิสราเอลและสหรัฐฯ ในตะวันออกกลาง . "สิ่งที่เกิดขึ้นในซีเรีย ส่วนใหญ่แล้วเป็นการวางแผนในห้องบัญชาการในอเมริกาและอิสราเอล เรามีหลักฐานในเรื่องนี้ รัฐบาลเพื่อนบ้านชาติหนึ่งของซีเรียก็เกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน" คอเมเนอีกล่าว ในถ้อยแถลงที่สื่อมวลชนแห่งรัฐอิหร่านรายงาน "เพื่อนบ้านแห่งนี้มีบทบาทอย่างชัดเจน และยังคงทำเช่นนั้น" . ตุรกี ชาติสมาชิกนาโต ควบคุมดินแดนอันกว้างขวางทางเหนือของซีเรีย หลังรุกรานข้ามชายแดนหลายครั้งเข้าไปจัดการกับพวก YPG กลุ่มติดอาวุธซีเรีย-เคิร์ด ขณะเดียวกัน ตุรกี ก็เป็นผู้สนับสนุนรายสำคัญของกลุ่มต่อต้านต่างๆ ที่มีเป้าหมายโค่นล้มอัสซาด นับตั้งแต่สงครามกลางเมืองปะทุขึ้นในปี 2011 . อิหร่าน ใช้เงินไปหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐในการพยุงอัสซาด ระหว่างสงครามและส่งกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม เข้าไปยังซีเรีย เพื่อรักษาอำนาจให้พันธมิตรรายนี้ . ไม่กี่ชั่วโมงหลังการล่มสลายของอัสซาด ทางอิหร่านระบุว่าพวกเขาคาดหมายว่าความสัมพันธ์กับดามัสกัสจะเดินหน้าต่อไปบนพื้นฐานของแนวทางที่ชาญฉลาดและมองการไกลของทั้ง 2 ประเทศ และเรียกร้องให้จัดตั้งรัฐบาลที่ครอบคลุม ซึ่งเป็นตัวแทนของทุกภาคส่วนในสังคมซีเรีย . ในถ้อยแถลง คอเมเนอี บอกว่าพันธมิตรที่นำโดยอิหร่าน จะเดินหน้าเสริมความเข้มแข็งทั่วทั้งภูมิภาค "ยิ่งคุณออกแรงกดดันมากเท่าไหร่ การต่อต้านที่เข้มแข็งขึ้นก็จะตามมา ยิ่งคุณก่ออาชญากรรมมากเท่าไหร่ ความแน่วแน่ยิ่งขึ้นก็จะตามมา ยิ่งคุณสู้รบมากเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งขยายวง" ผู้นำสูงสุดของอิหร่านกล่าว "อิหร่านจะแข็งแกร่งและทรงพลัง และจะเข้มแข็งยิ่งกว่าเดิม" . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000119174 .............. Sondhi X
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 939 มุมมอง 0 รีวิว
  • อิสราเอลบอกไม่ได้ฉวยโอกาสตะลุยเข้าสู่ดินแดนซีเรียนอกเหนือจากเขตกันชนกับที่ราบสูงโกลัน อย่างที่มีสื่อบางสำนักรายงานว่ากองทัพยิวเข้าประชิดกรุงดามัสกัสแล้ว ขณะที่ทางด้านกลุ่มสังเกตการณ์สถานการณ์การสู้รบในซีเรียระบุว่า รัฐยิวปฏิบัติการโจมตีทางอากาศทั่วซีเรียแล้วถึงกว่า 300 ระลอก นับจากระบอบอัสซาดปิดฉากลงเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
    .
    กองทัพอิสราเอลได้เคลื่อนกำลังเข้ายึดเขตกันชนระหว่างที่ราบสูงโกลัน กับอิสราเอล ซึ่งเป็นพื้นที่ขนาด 400 ตารางกิโลเมตรภายในซีเรีย ที่ก่อตั้งขึ้นภายหลังสงครามตะวันออกกลางปี 1973 เอาไว้อย่างรวดเร็ว หลังจากรัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดของซีเรียถูกโค่นล้มเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วยฝีมือกลุ่มกบฏที่นำโดยกลุ่ม ฮายัต ตอห์รีร์ อัล-ชาม (เอชทีเอส) ที่บุกสายฟ้าแลบจากด้านเหนือของซีเรียเข้าสู่กรุงดามัสกัสในเวลาเพียง 12 วัน
    .
    กิเดียน ซาร์ รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอล แถลงว่า การเข้ายึดเขตกันชนเป็นมาตรการชั่วคราวและเพียงจำกัด เนื่องจากเหตุผลด้านความมั่นคง
    .
    ทว่า ในวันจันทร์ นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ออกมาประกาศว่า ที่ราบสูงโกลันจะเป็นส่วนหนึ่งของอิสราเอลไปตลอดกาล
    .
    พวกชาติอาหรับทั้งอียิปต์ จอร์แดน และซาอุดีอาระเบีย พากันประณามว่านี่เป็นการรุกรานของอิสราเอล ซึ่งละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และกล่าวหาว่าอิสราเอลฉวยโอกาสที่ซีเรียกำลังปั่นป่วน
    .
    ด้านอเมริกาแถลงเช่นเดียวกันว่า การรุกรานของอิสราเอลต้องเป็นปฏิบัติการชั่วคราว หลังจากสหประชาชาติประกาศว่า อิสราเอลกำลังละเมิดข้อตกลงปี 1974
    .
    ต่อมาในวันอังคาร (10 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงคนหนึ่งของซีเรียระบุว่า กองทหารอิสราเอลเคลื่อนกำลังเข้าถึงเมืองกาตานา ห่างจากกรุงดามัสกัสไปทางตะวันตกเฉียงใต้เพียง 25 กิโลเมตร และอยู่ทางด้านตะวันออกของเขตปลอดทหารระหว่างซีเรียกับอิสราเอล
    .
    กระนั้น เจ้าหน้าที่คนหนึ่งของกองทัพอิสราเอลยืนยันว่า รายงานที่กล่าวหาว่า ขบวนรถถังอิสราเอลมุ่งหน้าสู่ดามัสกัสนั้นไม่เป็นความจริง แต่กองทัพรัฐยิวยังคงประจำอยู่ในเขตกันชน และยืนยันจุดยืนเดิมว่า อิสราเอลไม่ต้องการขัดแย้งกับผู้ปกครองใหม่ของดามัสกัส
    .
    อิสราเอลนั้นมีประวัติยาวนานในการยึดดินแดนระหว่างทำสงครามกับประเทศเพื่อนบ้านและครอบครองไม่มีกำหนดโดยอ้างความกังวลด้านความมั่นคง ตัวอย่างเช่น การเข้ายึดที่ราบสูงโกลันจากซีเรียในสงครามตะวันออกกลางปี 1967 จากนั้นก็ประกาศเข้าผนวกเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของตน โดยที่ไม่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ ยกเว้นอเมริกา ผู้เป็นพันธมิตรสำคัญ
    .
    ด้านกลุ่มซีเรียน ออบเซอร์วาทอรี ฟอร์ ฮิวแมน ไรต์ ซึ่งเป็นกลุ่มติดตามสงครามกลางเมืองในซีเรียที่มีฐานอยู่ในลอนดอน รายงานว่า นับจากระบอบอัสซาดปิดฉากลงเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อิสราเอลโจมตีทางอากาศทั่วซีเรียกว่า 300 ระลอกแล้ว ขณะที่เมื่อวันจันทร์ (9 ธ.ค.) อิสราเอลเองบอกว่า ได้โจมตีสถานที่ต้องสงสัยเป็นคลังอาวุธเคมีและอาวุธหนักเชิงยุทธศาสตร์ทั่วซีเรีย ด้วยเหตุผลว่าเพื่อป้องกันไม่ให้อาวุธเหล่านั้นตกถึงมือกลุ่มลัทธิสุดโต่ง และสำทับว่า จะโจมตีทางอากาศในซีเรียต่อไปอีกหลายวัน
    .
    สำหรับสถานการณ์ภายในซีเรียนั้น ท่ามกลางบรรยากาศการเฉลิมฉลองการปลดแอกจากระบอบอัสซาดที่ดำเนินมาถึงกว่า 50 ปีในดามัสกัส โมฮัมเหม็ด จาลาลี นายกรัฐมนตรีซีเรียที่ยังอยู่ในกรุงดามัสกัสไม่ได้หนีไปไหน กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า จะถ่ายโอนอำนาจให้รัฐบาลกู้ชาติที่นำโดยกลุ่มกบฏและมีฐานอยู่ในดินแดนยึดครองของกลุ่มกบฏทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ
    .
    แหล่งข่าววงในคนหนึ่งเผยว่า อบู โมฮัมเหม็ด อัล-กอลานี ผู้นำเอชทีเอสที่นานาชาติระบุเป็นกลุ่มก่อการร้าย ได้พบกับจาลาลีและรองประธานาธิบดีไฟซาล เมคแดด เพื่อหารือเกี่ยวกับรัฐบาลชั่วคราว และสถานีอัลจาซีรา รายงานว่า หน่วยงานถ่ายโอนอำนาจจะนำโดยโมฮัมเหม็ด อัล-บาชีร์ ผู้นำรัฐบาลกู้ชาติ
    .
    นอกจากนั้นเมื่อวันอังคาร อัล-กอลานียังออกคำแถลงผ่านแพลตฟอร์มเทเลแกรมว่า เร็วๆ นี้จะมีการเปิดเผยรายชื่อเจ้าหน้าที่อาวุโสของระบอบอัสซาด ที่เกี่ยวข้องกับการทรมานชาวซีเรีย ซึ่งจะถูกนำตัวมาลงโทษ รวมทั้งจะเสนอรางวัลให้ผู้ให้เบาะแสเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ความมั่นคงและกองทัพอาวุโสที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมสงคราม รวมทั้งคณะรัฐบาลชุดใหม่จะหาทางนำตัวเจ้าหน้าที่ซึ่งหนีไปต่างประเทศกลับมารับโทษอีกด้วย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000118732
    ..............
    Sondhi X
    อิสราเอลบอกไม่ได้ฉวยโอกาสตะลุยเข้าสู่ดินแดนซีเรียนอกเหนือจากเขตกันชนกับที่ราบสูงโกลัน อย่างที่มีสื่อบางสำนักรายงานว่ากองทัพยิวเข้าประชิดกรุงดามัสกัสแล้ว ขณะที่ทางด้านกลุ่มสังเกตการณ์สถานการณ์การสู้รบในซีเรียระบุว่า รัฐยิวปฏิบัติการโจมตีทางอากาศทั่วซีเรียแล้วถึงกว่า 300 ระลอก นับจากระบอบอัสซาดปิดฉากลงเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา . กองทัพอิสราเอลได้เคลื่อนกำลังเข้ายึดเขตกันชนระหว่างที่ราบสูงโกลัน กับอิสราเอล ซึ่งเป็นพื้นที่ขนาด 400 ตารางกิโลเมตรภายในซีเรีย ที่ก่อตั้งขึ้นภายหลังสงครามตะวันออกกลางปี 1973 เอาไว้อย่างรวดเร็ว หลังจากรัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดของซีเรียถูกโค่นล้มเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วยฝีมือกลุ่มกบฏที่นำโดยกลุ่ม ฮายัต ตอห์รีร์ อัล-ชาม (เอชทีเอส) ที่บุกสายฟ้าแลบจากด้านเหนือของซีเรียเข้าสู่กรุงดามัสกัสในเวลาเพียง 12 วัน . กิเดียน ซาร์ รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอล แถลงว่า การเข้ายึดเขตกันชนเป็นมาตรการชั่วคราวและเพียงจำกัด เนื่องจากเหตุผลด้านความมั่นคง . ทว่า ในวันจันทร์ นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ออกมาประกาศว่า ที่ราบสูงโกลันจะเป็นส่วนหนึ่งของอิสราเอลไปตลอดกาล . พวกชาติอาหรับทั้งอียิปต์ จอร์แดน และซาอุดีอาระเบีย พากันประณามว่านี่เป็นการรุกรานของอิสราเอล ซึ่งละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และกล่าวหาว่าอิสราเอลฉวยโอกาสที่ซีเรียกำลังปั่นป่วน . ด้านอเมริกาแถลงเช่นเดียวกันว่า การรุกรานของอิสราเอลต้องเป็นปฏิบัติการชั่วคราว หลังจากสหประชาชาติประกาศว่า อิสราเอลกำลังละเมิดข้อตกลงปี 1974 . ต่อมาในวันอังคาร (10 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงคนหนึ่งของซีเรียระบุว่า กองทหารอิสราเอลเคลื่อนกำลังเข้าถึงเมืองกาตานา ห่างจากกรุงดามัสกัสไปทางตะวันตกเฉียงใต้เพียง 25 กิโลเมตร และอยู่ทางด้านตะวันออกของเขตปลอดทหารระหว่างซีเรียกับอิสราเอล . กระนั้น เจ้าหน้าที่คนหนึ่งของกองทัพอิสราเอลยืนยันว่า รายงานที่กล่าวหาว่า ขบวนรถถังอิสราเอลมุ่งหน้าสู่ดามัสกัสนั้นไม่เป็นความจริง แต่กองทัพรัฐยิวยังคงประจำอยู่ในเขตกันชน และยืนยันจุดยืนเดิมว่า อิสราเอลไม่ต้องการขัดแย้งกับผู้ปกครองใหม่ของดามัสกัส . อิสราเอลนั้นมีประวัติยาวนานในการยึดดินแดนระหว่างทำสงครามกับประเทศเพื่อนบ้านและครอบครองไม่มีกำหนดโดยอ้างความกังวลด้านความมั่นคง ตัวอย่างเช่น การเข้ายึดที่ราบสูงโกลันจากซีเรียในสงครามตะวันออกกลางปี 1967 จากนั้นก็ประกาศเข้าผนวกเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของตน โดยที่ไม่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ ยกเว้นอเมริกา ผู้เป็นพันธมิตรสำคัญ . ด้านกลุ่มซีเรียน ออบเซอร์วาทอรี ฟอร์ ฮิวแมน ไรต์ ซึ่งเป็นกลุ่มติดตามสงครามกลางเมืองในซีเรียที่มีฐานอยู่ในลอนดอน รายงานว่า นับจากระบอบอัสซาดปิดฉากลงเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อิสราเอลโจมตีทางอากาศทั่วซีเรียกว่า 300 ระลอกแล้ว ขณะที่เมื่อวันจันทร์ (9 ธ.ค.) อิสราเอลเองบอกว่า ได้โจมตีสถานที่ต้องสงสัยเป็นคลังอาวุธเคมีและอาวุธหนักเชิงยุทธศาสตร์ทั่วซีเรีย ด้วยเหตุผลว่าเพื่อป้องกันไม่ให้อาวุธเหล่านั้นตกถึงมือกลุ่มลัทธิสุดโต่ง และสำทับว่า จะโจมตีทางอากาศในซีเรียต่อไปอีกหลายวัน . สำหรับสถานการณ์ภายในซีเรียนั้น ท่ามกลางบรรยากาศการเฉลิมฉลองการปลดแอกจากระบอบอัสซาดที่ดำเนินมาถึงกว่า 50 ปีในดามัสกัส โมฮัมเหม็ด จาลาลี นายกรัฐมนตรีซีเรียที่ยังอยู่ในกรุงดามัสกัสไม่ได้หนีไปไหน กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า จะถ่ายโอนอำนาจให้รัฐบาลกู้ชาติที่นำโดยกลุ่มกบฏและมีฐานอยู่ในดินแดนยึดครองของกลุ่มกบฏทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ . แหล่งข่าววงในคนหนึ่งเผยว่า อบู โมฮัมเหม็ด อัล-กอลานี ผู้นำเอชทีเอสที่นานาชาติระบุเป็นกลุ่มก่อการร้าย ได้พบกับจาลาลีและรองประธานาธิบดีไฟซาล เมคแดด เพื่อหารือเกี่ยวกับรัฐบาลชั่วคราว และสถานีอัลจาซีรา รายงานว่า หน่วยงานถ่ายโอนอำนาจจะนำโดยโมฮัมเหม็ด อัล-บาชีร์ ผู้นำรัฐบาลกู้ชาติ . นอกจากนั้นเมื่อวันอังคาร อัล-กอลานียังออกคำแถลงผ่านแพลตฟอร์มเทเลแกรมว่า เร็วๆ นี้จะมีการเปิดเผยรายชื่อเจ้าหน้าที่อาวุโสของระบอบอัสซาด ที่เกี่ยวข้องกับการทรมานชาวซีเรีย ซึ่งจะถูกนำตัวมาลงโทษ รวมทั้งจะเสนอรางวัลให้ผู้ให้เบาะแสเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ความมั่นคงและกองทัพอาวุโสที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมสงคราม รวมทั้งคณะรัฐบาลชุดใหม่จะหาทางนำตัวเจ้าหน้าที่ซึ่งหนีไปต่างประเทศกลับมารับโทษอีกด้วย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000118732 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1078 มุมมอง 0 รีวิว
  • ซีเรียยังคงถูกรุมกัดกินดินแดนจากพวกอ้างประชาธิปไตย ทั้งอิสราเอล ตุรกี สหรัฐอเมริกา

    แต่ประเทศที่ถูกกล่าวหาว่าไม่ได้เป็นประชาธิปไตยเช่น อิรัก ไม่เคยคิดแย่งชิงดินแดนของเพื่อนบ้านที่กำลังอ่อนแอ ล่าสุดเปิดพรมแดนให้ชาวซีเรียที่หนีภัยสงครามกลางเมืองเข้าไปพักพิงได้ชั่วคราว ขณะเดียวกันก็อนุญาตขบวนรถความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจากอิหร่านผ่านเข้าไปในเขตชายแดนของซีเรียด้วยเช่นกัน

    สำหรับสถานการณ์ทางตะวันออกของซีเรียในทิศทาง Deir Ezzor หลังจากกองทัพซีเรียหมดอำนาจลง ขณะนี้อยู่ในความสับสนวุ่นวายกองกำลังติดอาวุธหลายกลุ่มต่างแย่งชิงอำนาจปกครองพื้นที่กัน:
    มีการต่อสู้เพื่อต่อต้านอิทธิพลของกองกำลัง SDF ที่ยึดอำนาจการครอบครองมาจากอดีตกองทัพซีเรีย (SAA) การจลาจลได้แพร่กระจายไปตลอดริมฝั่งแม่น้ำยูเฟรติส เพื่อต้องให้กองกำลัง SDF ถอนกำลังออกจากภูมิภาค

    ในหลายพื้นที่ กลุ่มติดอาวุธ SNA และกลุ่มกบฏ ISIS เข้ามามีบทบาทร่วมในการต่อสู้เพื่อแย่งชิงดินแดนแถบนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งได้ปะทะกับกองกำลัง SDF ที่ยังคงควบคุมพื้นที่อยู่

    จนถึงขณะนี้การสู้รบระหว่างกลุ่มติดอาวุธยังคงดำเนินต่อไป
    ซีเรียยังคงถูกรุมกัดกินดินแดนจากพวกอ้างประชาธิปไตย ทั้งอิสราเอล ตุรกี สหรัฐอเมริกา แต่ประเทศที่ถูกกล่าวหาว่าไม่ได้เป็นประชาธิปไตยเช่น อิรัก ไม่เคยคิดแย่งชิงดินแดนของเพื่อนบ้านที่กำลังอ่อนแอ ล่าสุดเปิดพรมแดนให้ชาวซีเรียที่หนีภัยสงครามกลางเมืองเข้าไปพักพิงได้ชั่วคราว ขณะเดียวกันก็อนุญาตขบวนรถความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจากอิหร่านผ่านเข้าไปในเขตชายแดนของซีเรียด้วยเช่นกัน สำหรับสถานการณ์ทางตะวันออกของซีเรียในทิศทาง Deir Ezzor หลังจากกองทัพซีเรียหมดอำนาจลง ขณะนี้อยู่ในความสับสนวุ่นวายกองกำลังติดอาวุธหลายกลุ่มต่างแย่งชิงอำนาจปกครองพื้นที่กัน: มีการต่อสู้เพื่อต่อต้านอิทธิพลของกองกำลัง SDF ที่ยึดอำนาจการครอบครองมาจากอดีตกองทัพซีเรีย (SAA) การจลาจลได้แพร่กระจายไปตลอดริมฝั่งแม่น้ำยูเฟรติส เพื่อต้องให้กองกำลัง SDF ถอนกำลังออกจากภูมิภาค ในหลายพื้นที่ กลุ่มติดอาวุธ SNA และกลุ่มกบฏ ISIS เข้ามามีบทบาทร่วมในการต่อสู้เพื่อแย่งชิงดินแดนแถบนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งได้ปะทะกับกองกำลัง SDF ที่ยังคงควบคุมพื้นที่อยู่ จนถึงขณะนี้การสู้รบระหว่างกลุ่มติดอาวุธยังคงดำเนินต่อไป
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 434 มุมมอง 0 รีวิว
  • อิสราเอลประกาศโจมตีทางอากาศเล่นงานคลังอาวุธหนักในซีเรียต่อ รวมทั้งคงกำลังทหารภาคพื้นดินใน “จำนวนจำกัด” เข้าเขตปลอดทหารในซีเรีย โดยอ้างว่าเพื่อสกัดกั้นภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นในช่วงสุญญากาศหลังรัฐบาลอัสซาดถูกโค่นล้ม ขณะที่ในอีกด้านหนึ่งทำเนียบเครมลินยืนยันว่า ปูตินไฟเขียวอดีตผู้นำซีเรียลี้ภัยทางการเมืองในรัสเซีย
    .
    สำหรับบรรยากาศในกรุงดามัสกัสของซีเรียตอนเช้าวันจันทร์ (9 ธ.ค.) พวกผู้สื่อข่าวรายงานว่าค่อนข้างเงียบสงบ หลังกลุ่มกบฏประกาศเคอร์ฟิวห้ามออกนอกบ้านยามวิกาลในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา โดยที่ร้านรวงส่วนใหญ่ปิดและถนนว่างเปล่า มีเพียงสมาชิกกลุ่มกบฏและรถที่ติดป้ายทะเบียนเมืองอิดลิบ ที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือและเป็นที่มั่นสำคัญของพวกกบฏที่นำโดยกลุ่ม ฮายัต ตอห์รีร์ อัล-ชาม (เอชทีเอส) ซึ่งเปิดฉากบุกสายฟ้าแลบเมื่อ 12 วันก่อน จากเมืองอะเลปโป ที่อยู่ทางตอนเหนือของซีเรีย จนสามารถบุกเข้าสู่ดามัสกัส ซึ่งอยู่ทางภาคใต้ และโค่นล้มอดีตประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด เมื่อวันอาทิตย์ (8)
    .
    ชัยชนะดังกล่าวนับเป็นการปิดฉากการปกครองแบบเผด็จการรวบอำนาจของตระกูลอัสซาดที่ดำเนินต่อเนื่องมากว่าครึ่งศตวรรษ รวมทั้งสงครามกลางเมืองที่ปะทุขึ้นตั้งแต่เมื่อ 13 ปีก่อนซึ่งสร้างความเสียหายไปทั่วประเทศ คร่าชีวิตผู้คนนับแสน และนำไปสู่หนึ่งในวิกฤตผู้ลี้ภัยครั้งใหญ่ที่สุดในยุคสมัยใหม่
    .
    อบู โมฮัมเหม็ด อัล-กอลานี ผู้นำของเอชทีเอส ประกาศต่อหน้าฝูงชนที่ออกมาร่วมเฉลิมฉลองการโค่นล้มระบอบปกครองอัสซาด ที่มัสยิดอุมัยยัด ในดามัสกัสเมื่อวันอาทิตย์ว่า จะฟื้นฟูและสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ให้แก่ซีเรีย และทำให้ซีเรียเป็นแรงบันดาลใจสำหรับประเทศอิสลาม
    .
    อย่างไรก็ดี เอชทีเอสซึ่งเป็นแกนนำของแนวร่วมกลุ่มกบฏบุกเข้าตึดามัสกัสสำเร็จคราวนี้ เดิมทีมีชื่อว่าอัล นุสรา ฟรอนต์ ที่เป็นเครือข่ายของอัลกออิดะห์ และถึงแม้ กอลานีได้ประกาศสะบั้นสัมพันธ์กับกลุ่มก่อการร้ายชื่อดังกลุ่มนี้ตั้งแต่เมื่อ 10 กว่าปีก่อน ทว่าจนถึงเวลานี้ยังคงถูกยูเอ็นตลอดจนประเทศส่วนใหญ่ประทับตราว่าเป็นกลุ่มก่อการร้าย ดังนั้นอนาคตของซีเรียจะเป็นอย่างไรต่อไป ยังเป็นที่จับตามองกันด้วยความระแวดระวังทั้งจากชาติเพื่อนบ้านในตะวันออกกลาง และจากโลกตะวันตก
    .
    ขณะเดียวกัน อิสราเอลซึ่งมีชายแดนติดต่อกับซีเรีย รวมทั้งได้เข้ายึดครองที่ราบสูงโกลาน และต่อมาก็ประกาศผนวกดินแดนแห่งนี้เป็นของตน ถึงแม้ไม่เป็นที่รับรองของนานาชาติ ก็เฝ้ามองวิกฤตการณ์ในซีเรียด้วยความหวังระคนความกังวล สืบเนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างพลิกผันรวดเร็วครั้งนี้ นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงยุทธศาสตร์ครั้งสำคัญที่สุดในตะวันออกกลางในรอบหลายปีที่ผ่านมา
    .
    ถึงแม้การที่ซีเรียหลุดจากอำนาจของอัสซาด ได้ช่วยทำลายป้อมปราการสำคัญแห่งหนึ่งที่อิหร่าน ศัตรูตัวกลั่นของอิสราเอล ใช้ในการขยายอิทธิพลในตะวันออกกลาง ทว่า ชัยชนะของกลุ่มกบฏที่แกนนำมีรากเหง้ามาจากกลุ่มก่อการร้ายอิสลามิสต์ ซึ่งถือเป็นศัตรูตัวฉกาจของอิสราเอล ก็นำมาซึ่งความเสี่ยงสำคัญ
    .
    รัฐมนตรีกลาโหม อิสราเอล แคตซ์ ของรัฐยิว เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ ว่า กองทัพอิสราเอลจะเข้าทำลายอาวุธหนักเชิงยุทธศาสตร์ในตลอดทั่วซีเรีย โดยรวมถึงพวกขีปนาวุธยิงจากภาคพื้นสู่อากาศ ระบบป้องกันภัยทางอากาศ ขีปนาวุธยิงจากภาคพื้นสู่ภาคพื้น ขีปนาวุธร่อน จรวดยุทธวิธีพิสัยไกล ขีปนาวุธที่ติดตั้งตามแนวชายฝั่ง และอาวุธเคมี
    .
    เจ้าหน้าที่อาวุโสอิสราเอลคนหนึ่งระบุว่า จะมีการโจมตีทางอากาศต่อเนื่องอีกหลายวัน ขณะที่ กีเดียน ซาร์ รัฐมนตรีต่างประเทศบอกว่า อิสราเอลไม่ต้องการแทรกแซงการเมืองภายในของซีเรีย แต่ต้องการเพียงปกป้องประชาชนของตน ดังนั้น จึงจำเป็นต้องทำลายอาวุธเชิงยุทธศาสตร์ในซีเรียเพื่อไม่ให้ไปตกอยู่ในมือของกลุ่มลัทธิสุดโต่ง แต่เขาไม่ได้ให้รายละเอียดว่า อิสราเอลโจมตีที่ไหนและเมื่อใด
    .
    นอกจากนั้น มีรายงานว่าเมื่อวันอาทิตย์ (8) กองทัพอิสราเอลยังส่งกำลังภาคพื้นดินเข้าสู่เขตปลอดทหารในซีเรีย ซึ่งเป็นพื้นที่กันชนขนาด 400 ตารางกิโลเมตรที่ตั้งขึ้นตามข้อตกลงแบ่งแยกกองกำลังปี 1974 ที่มุ่งแบ่งแยกกำลังของอิสราเอลและซีเรียให้ห่างจากกัน แล้วให้กองกำลังสังเกตการณ์การยุติการสู้รบขัดแย้งของสหประชาชาติเป็นผู้เข้าไปควบคุมดูแล
    .
    ในอีกด้านหนึ่ง ดมิตริ เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวกับพวกผู้สื่อข่าวเมื่อวันจันทร์ว่า ยังเร็วเกินไปที่จะระบุว่า อนาคตของฐานทัพรัสเซียที่ตั้งอยู่ในซีเรียจะเป็นอย่างไรต่อไป แต่แน่นอนว่า สิ่งที่ต้องทำคือติดต่อกับผู้มีอำนาจด้านความมั่นคงในซีเรีย นอกจากนั้น กองทัพรัสเซียยังกำลังดำเนินมาตรการป้องกันไว้ก่อนที่จำเป็นทั้งหมด
    .
    รัสเซียซึ่งเป็นหนึ่งในพันธมิตรสำคัญของอัสซาด มีฐานทัพอากาศฮไมมิม ตั้งอยู่ในจังหวัดลาตาเกีย รวมทั้งมีฐานทัพเรือที่จังหวัดทาร์ตัสของซีเรีย และมีโรงงานในทาร์ตัส ซึ่งเป็นศูนย์ซ่อมบำรุงและเติมเสบียงเพียงแห่งเดียวของรัสเซียในทะลเมดิเตอร์เรเนียน นอกจากนั้นที่ผ่านมารัสเซียยังใช้ซีเรียเป็นจุดแวะพัก ในการขนส่งพวกผู้รับเหมาด้านกลาโหมเดินทางเข้าและออกจากแอฟริกา
    .
    เปสคอฟยังยืนยันว่า อัสซาดได้รับอนุญาตจากประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ให้ลี้ภัยในรัสเซีย ทว่าไม่ยอมตอบว่าตอนนี้อัสซาดอยู่ที่ไหน บอกเพียงว่า ยังไม่มีกำหนดการการพบกันระหว่างปูตินกับอัสซาดในขณะนี้
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000118429
    ..............
    Sondhi X
    อิสราเอลประกาศโจมตีทางอากาศเล่นงานคลังอาวุธหนักในซีเรียต่อ รวมทั้งคงกำลังทหารภาคพื้นดินใน “จำนวนจำกัด” เข้าเขตปลอดทหารในซีเรีย โดยอ้างว่าเพื่อสกัดกั้นภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นในช่วงสุญญากาศหลังรัฐบาลอัสซาดถูกโค่นล้ม ขณะที่ในอีกด้านหนึ่งทำเนียบเครมลินยืนยันว่า ปูตินไฟเขียวอดีตผู้นำซีเรียลี้ภัยทางการเมืองในรัสเซีย . สำหรับบรรยากาศในกรุงดามัสกัสของซีเรียตอนเช้าวันจันทร์ (9 ธ.ค.) พวกผู้สื่อข่าวรายงานว่าค่อนข้างเงียบสงบ หลังกลุ่มกบฏประกาศเคอร์ฟิวห้ามออกนอกบ้านยามวิกาลในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา โดยที่ร้านรวงส่วนใหญ่ปิดและถนนว่างเปล่า มีเพียงสมาชิกกลุ่มกบฏและรถที่ติดป้ายทะเบียนเมืองอิดลิบ ที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือและเป็นที่มั่นสำคัญของพวกกบฏที่นำโดยกลุ่ม ฮายัต ตอห์รีร์ อัล-ชาม (เอชทีเอส) ซึ่งเปิดฉากบุกสายฟ้าแลบเมื่อ 12 วันก่อน จากเมืองอะเลปโป ที่อยู่ทางตอนเหนือของซีเรีย จนสามารถบุกเข้าสู่ดามัสกัส ซึ่งอยู่ทางภาคใต้ และโค่นล้มอดีตประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด เมื่อวันอาทิตย์ (8) . ชัยชนะดังกล่าวนับเป็นการปิดฉากการปกครองแบบเผด็จการรวบอำนาจของตระกูลอัสซาดที่ดำเนินต่อเนื่องมากว่าครึ่งศตวรรษ รวมทั้งสงครามกลางเมืองที่ปะทุขึ้นตั้งแต่เมื่อ 13 ปีก่อนซึ่งสร้างความเสียหายไปทั่วประเทศ คร่าชีวิตผู้คนนับแสน และนำไปสู่หนึ่งในวิกฤตผู้ลี้ภัยครั้งใหญ่ที่สุดในยุคสมัยใหม่ . อบู โมฮัมเหม็ด อัล-กอลานี ผู้นำของเอชทีเอส ประกาศต่อหน้าฝูงชนที่ออกมาร่วมเฉลิมฉลองการโค่นล้มระบอบปกครองอัสซาด ที่มัสยิดอุมัยยัด ในดามัสกัสเมื่อวันอาทิตย์ว่า จะฟื้นฟูและสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ให้แก่ซีเรีย และทำให้ซีเรียเป็นแรงบันดาลใจสำหรับประเทศอิสลาม . อย่างไรก็ดี เอชทีเอสซึ่งเป็นแกนนำของแนวร่วมกลุ่มกบฏบุกเข้าตึดามัสกัสสำเร็จคราวนี้ เดิมทีมีชื่อว่าอัล นุสรา ฟรอนต์ ที่เป็นเครือข่ายของอัลกออิดะห์ และถึงแม้ กอลานีได้ประกาศสะบั้นสัมพันธ์กับกลุ่มก่อการร้ายชื่อดังกลุ่มนี้ตั้งแต่เมื่อ 10 กว่าปีก่อน ทว่าจนถึงเวลานี้ยังคงถูกยูเอ็นตลอดจนประเทศส่วนใหญ่ประทับตราว่าเป็นกลุ่มก่อการร้าย ดังนั้นอนาคตของซีเรียจะเป็นอย่างไรต่อไป ยังเป็นที่จับตามองกันด้วยความระแวดระวังทั้งจากชาติเพื่อนบ้านในตะวันออกกลาง และจากโลกตะวันตก . ขณะเดียวกัน อิสราเอลซึ่งมีชายแดนติดต่อกับซีเรีย รวมทั้งได้เข้ายึดครองที่ราบสูงโกลาน และต่อมาก็ประกาศผนวกดินแดนแห่งนี้เป็นของตน ถึงแม้ไม่เป็นที่รับรองของนานาชาติ ก็เฝ้ามองวิกฤตการณ์ในซีเรียด้วยความหวังระคนความกังวล สืบเนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างพลิกผันรวดเร็วครั้งนี้ นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงยุทธศาสตร์ครั้งสำคัญที่สุดในตะวันออกกลางในรอบหลายปีที่ผ่านมา . ถึงแม้การที่ซีเรียหลุดจากอำนาจของอัสซาด ได้ช่วยทำลายป้อมปราการสำคัญแห่งหนึ่งที่อิหร่าน ศัตรูตัวกลั่นของอิสราเอล ใช้ในการขยายอิทธิพลในตะวันออกกลาง ทว่า ชัยชนะของกลุ่มกบฏที่แกนนำมีรากเหง้ามาจากกลุ่มก่อการร้ายอิสลามิสต์ ซึ่งถือเป็นศัตรูตัวฉกาจของอิสราเอล ก็นำมาซึ่งความเสี่ยงสำคัญ . รัฐมนตรีกลาโหม อิสราเอล แคตซ์ ของรัฐยิว เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ ว่า กองทัพอิสราเอลจะเข้าทำลายอาวุธหนักเชิงยุทธศาสตร์ในตลอดทั่วซีเรีย โดยรวมถึงพวกขีปนาวุธยิงจากภาคพื้นสู่อากาศ ระบบป้องกันภัยทางอากาศ ขีปนาวุธยิงจากภาคพื้นสู่ภาคพื้น ขีปนาวุธร่อน จรวดยุทธวิธีพิสัยไกล ขีปนาวุธที่ติดตั้งตามแนวชายฝั่ง และอาวุธเคมี . เจ้าหน้าที่อาวุโสอิสราเอลคนหนึ่งระบุว่า จะมีการโจมตีทางอากาศต่อเนื่องอีกหลายวัน ขณะที่ กีเดียน ซาร์ รัฐมนตรีต่างประเทศบอกว่า อิสราเอลไม่ต้องการแทรกแซงการเมืองภายในของซีเรีย แต่ต้องการเพียงปกป้องประชาชนของตน ดังนั้น จึงจำเป็นต้องทำลายอาวุธเชิงยุทธศาสตร์ในซีเรียเพื่อไม่ให้ไปตกอยู่ในมือของกลุ่มลัทธิสุดโต่ง แต่เขาไม่ได้ให้รายละเอียดว่า อิสราเอลโจมตีที่ไหนและเมื่อใด . นอกจากนั้น มีรายงานว่าเมื่อวันอาทิตย์ (8) กองทัพอิสราเอลยังส่งกำลังภาคพื้นดินเข้าสู่เขตปลอดทหารในซีเรีย ซึ่งเป็นพื้นที่กันชนขนาด 400 ตารางกิโลเมตรที่ตั้งขึ้นตามข้อตกลงแบ่งแยกกองกำลังปี 1974 ที่มุ่งแบ่งแยกกำลังของอิสราเอลและซีเรียให้ห่างจากกัน แล้วให้กองกำลังสังเกตการณ์การยุติการสู้รบขัดแย้งของสหประชาชาติเป็นผู้เข้าไปควบคุมดูแล . ในอีกด้านหนึ่ง ดมิตริ เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวกับพวกผู้สื่อข่าวเมื่อวันจันทร์ว่า ยังเร็วเกินไปที่จะระบุว่า อนาคตของฐานทัพรัสเซียที่ตั้งอยู่ในซีเรียจะเป็นอย่างไรต่อไป แต่แน่นอนว่า สิ่งที่ต้องทำคือติดต่อกับผู้มีอำนาจด้านความมั่นคงในซีเรีย นอกจากนั้น กองทัพรัสเซียยังกำลังดำเนินมาตรการป้องกันไว้ก่อนที่จำเป็นทั้งหมด . รัสเซียซึ่งเป็นหนึ่งในพันธมิตรสำคัญของอัสซาด มีฐานทัพอากาศฮไมมิม ตั้งอยู่ในจังหวัดลาตาเกีย รวมทั้งมีฐานทัพเรือที่จังหวัดทาร์ตัสของซีเรีย และมีโรงงานในทาร์ตัส ซึ่งเป็นศูนย์ซ่อมบำรุงและเติมเสบียงเพียงแห่งเดียวของรัสเซียในทะลเมดิเตอร์เรเนียน นอกจากนั้นที่ผ่านมารัสเซียยังใช้ซีเรียเป็นจุดแวะพัก ในการขนส่งพวกผู้รับเหมาด้านกลาโหมเดินทางเข้าและออกจากแอฟริกา . เปสคอฟยังยืนยันว่า อัสซาดได้รับอนุญาตจากประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ให้ลี้ภัยในรัสเซีย ทว่าไม่ยอมตอบว่าตอนนี้อัสซาดอยู่ที่ไหน บอกเพียงว่า ยังไม่มีกำหนดการการพบกันระหว่างปูตินกับอัสซาดในขณะนี้ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000118429 .............. Sondhi X
    Like
    Angry
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1166 มุมมอง 0 รีวิว
  • แสดงช่วงเวลา 13 ปี ของสงครามกลางเมืองซีเรีย
    🟥 Assad Regime
    🟩 Syrian Revolutionaries
    🟨 PKK/YPG
    ⬛️ Islamic State (IS)
    แสดงช่วงเวลา 13 ปี ของสงครามกลางเมืองซีเรีย 🟥 Assad Regime 🟩 Syrian Revolutionaries 🟨 PKK/YPG ⬛️ Islamic State (IS)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 451 มุมมอง 10 0 รีวิว
  • บาชาร์ อัล-อัสซาด ประธานาธิบดีผู้ถูกขับไล่ของรัสเซียและครอบครัวเวลานี้อยู่ในกรุงมอสโก แหล่งข่าววังเครมลินรายหนึ่งบอกกับเหล่าสำนักข่าวรัสเซีย ไม่กี่ชั่วโมงหลังเขาหลบหนีออกนอกประเทศ หลังจากพวกกบฏบุกจู่โจมเข้าถึงกรุงดามัสกัส ขณะเดียวกัน ว่าที่ประธานาธิบดีสหัฐฯ ชี้ว่าการล่มสลายของรัฐบาลอัสซาด เป็นผลจากการถูกรัสเซียทอดทิ้ง เนื่องจากต้องหันไปเพ่งเล็งกับสงครามในยูเครน
    .
    การเปิดเผยของแหล่งข่าวเกี่ยวกับแหล่งพำนักของอัสซาด มีขึ้นในขณะที่รัสเซีย พันธมิตรสำคัญของประธานาธิบดีผู้หลบหนีรายนี้ ได้เรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเรียกประชุมฉุกเฉินเกี่ยวกับสถานการณ์ในภาคสนามที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ในประเทศที่ถูกสงครามฉีกเป็นชิ้นๆแห่งนี้
    .
    "อัสซาดและสมาชิกในครอบครัวของเขาเดินทางถึงมอสโกแล้ว" แหล่งข่าวเปิดเผยกับสำนักข่าวทาสส์นิวส์และอาร์ไอเอ โนวอสติ "รัสเซียอนุมัติการลี้ภัยของพวกเขาบนเหตุผลด้านมนุษยธรรม" เขากล่าว
    .
    เมื่อถูกขอให้ยืนยันว่าอัสซาดอยู่ในมอสโกหรือไม่ เจ้าหน้าที่ตะวันตกรายหนึ่งระบุพวกเขาเชื่อว่ามีความเป็นไปได้ในกรณีเช่นนั้น และไม่มีเหตุผลที่ต้องไปสงสัยกับคำกลาวอ้างของมอสโก
    .
    แหล่งข่าววังเครมลินยังบอกด้วยว่าพวกกบฏที่โค่นอำนาจอัสซาดในการจู่โจมสายฟ้าแลบ "ให้คำรับประกันความปลอดภัยแก่ฐานทัพทหารต่างๆ ของรัสเซียและสถาบันทางการทูตของรัสเซียในดินแดนของซีเรีย"
    .
    รัสเซียผู้สนับสนุนรายใหญ่ที่สุดของอัสซาด เช่นเดียวกับอิหร่าน มีฐานทัพเรือแห่งหนึ่งในเมืองตาร์ตุส และมีสนามบินทหารในเมืองคเมมีม
    .
    กองกำลังมอสโกเข้าไปเกี่ยวข้องทางทหารในความขัดแย้งซีเรียในปี 2015 เพื่อมอบแรงสนับสนุนแก่กองกำลังของอัสซาด ในการกำราบฝ่ายต่อต้าน ในสงครามกลางเมืองนองเลือด
    .
    อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ล่าสุด แหล่งข่าววังเครมลิน ระบุว่า "รัสเซียอยากหาทางออกทางการเมืองแก่วิกฤตซีเรียอยู่เสมอ จุดเริ่มต้นของเราคือจำเป็นต้องกลับมาเจรจาภายใต้การอุปถัมภ์ของสหประชาชาติ" แหล่งข่าววังเครมลินระบุ
    .
    ผู้แทนรายหนึ่งของรัสเซียประจำสหประชาชาติ แถลงว่ามอสโกได้ร้องขอให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ จัดประชุมฉุกเฉินแบบลับเกี่ยวกับสถานการณ์ในซีเรีย ในช่วงบ่ายวันจันทร์ (9 ธ.ค.) "ผลกระทบของเหตุการณ์ต่างๆ ในซีเรีย สำหรับประเทศซีเรียและทั่วทั้งภูมิภาคยังไม่สามารถวัดได้" เจ้าหน้าที่รายหนึ่งเขียนบนเทเลแกรม
    .
    พัฒนาการล่าสุดนี้ มีขึ้นในขณะที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แสดงความคิดเห็นในวันอาทิตย์ (8 ธ.ค.) ว่าการที่รัสเซียทอดทิ้งประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรีย คือปัจจัยสำคัญที่นำมาซึ่งการล่มสลายของผู้นำรายนี้ พร้อมระบุว่ามอสโกไม่ควรให้การปกป้องอัสซาดตั้งแต่แรก จนสุดท้ายก็หมดความสนใจ เพราะสงครามในยูเครนที่ไม่ควรเริ่มต้นขึ้น
    .
    "อัสซาดไปแล้ว เขาหนีออกนอกประเทศ ผู้ปกป้องเขา รัสเซีย ที่นำโดยประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ไม่สนใจที่จะปกป้องเขาอีกต่อไป" ทรัมป์ เขียนบนทรัสต์โซเชียล แพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ของเขาเอง "ไม่มีเหตุผลสำหรับรัสเซียที่จะเข้าไปในนั้นตั้งแต่แรก พวกเขาสูญเสียความสนใจทั้งหมดทั้งมวลในซีเรียเพราะยูเครน สงครามหนึ่งใดไม่ควรเริ่มต้นขึ้นและควรสูญหายไปตลอดกาล"
    .
    ทรัมป์ ซึ่งมีกำหนดสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม ระบุต่อว่ารัสเซียและอิหร่าน อีกหนึ่งผู้สนับสนุนหลักของอัสซาด "ตอนนี้อยู่ในสถานะที่อ่อนแอ หนึ่งชาติเพราะยูเครนและความย่ำแย่ทางเศรษฐกิจ ส่วนอีกชาติเพราะอิสราเอลและการสู้รบอย่างต่อเนื่องของพวกเขา"
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000118048
    ..................
    Sondhi X
    บาชาร์ อัล-อัสซาด ประธานาธิบดีผู้ถูกขับไล่ของรัสเซียและครอบครัวเวลานี้อยู่ในกรุงมอสโก แหล่งข่าววังเครมลินรายหนึ่งบอกกับเหล่าสำนักข่าวรัสเซีย ไม่กี่ชั่วโมงหลังเขาหลบหนีออกนอกประเทศ หลังจากพวกกบฏบุกจู่โจมเข้าถึงกรุงดามัสกัส ขณะเดียวกัน ว่าที่ประธานาธิบดีสหัฐฯ ชี้ว่าการล่มสลายของรัฐบาลอัสซาด เป็นผลจากการถูกรัสเซียทอดทิ้ง เนื่องจากต้องหันไปเพ่งเล็งกับสงครามในยูเครน . การเปิดเผยของแหล่งข่าวเกี่ยวกับแหล่งพำนักของอัสซาด มีขึ้นในขณะที่รัสเซีย พันธมิตรสำคัญของประธานาธิบดีผู้หลบหนีรายนี้ ได้เรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเรียกประชุมฉุกเฉินเกี่ยวกับสถานการณ์ในภาคสนามที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ในประเทศที่ถูกสงครามฉีกเป็นชิ้นๆแห่งนี้ . "อัสซาดและสมาชิกในครอบครัวของเขาเดินทางถึงมอสโกแล้ว" แหล่งข่าวเปิดเผยกับสำนักข่าวทาสส์นิวส์และอาร์ไอเอ โนวอสติ "รัสเซียอนุมัติการลี้ภัยของพวกเขาบนเหตุผลด้านมนุษยธรรม" เขากล่าว . เมื่อถูกขอให้ยืนยันว่าอัสซาดอยู่ในมอสโกหรือไม่ เจ้าหน้าที่ตะวันตกรายหนึ่งระบุพวกเขาเชื่อว่ามีความเป็นไปได้ในกรณีเช่นนั้น และไม่มีเหตุผลที่ต้องไปสงสัยกับคำกลาวอ้างของมอสโก . แหล่งข่าววังเครมลินยังบอกด้วยว่าพวกกบฏที่โค่นอำนาจอัสซาดในการจู่โจมสายฟ้าแลบ "ให้คำรับประกันความปลอดภัยแก่ฐานทัพทหารต่างๆ ของรัสเซียและสถาบันทางการทูตของรัสเซียในดินแดนของซีเรีย" . รัสเซียผู้สนับสนุนรายใหญ่ที่สุดของอัสซาด เช่นเดียวกับอิหร่าน มีฐานทัพเรือแห่งหนึ่งในเมืองตาร์ตุส และมีสนามบินทหารในเมืองคเมมีม . กองกำลังมอสโกเข้าไปเกี่ยวข้องทางทหารในความขัดแย้งซีเรียในปี 2015 เพื่อมอบแรงสนับสนุนแก่กองกำลังของอัสซาด ในการกำราบฝ่ายต่อต้าน ในสงครามกลางเมืองนองเลือด . อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ล่าสุด แหล่งข่าววังเครมลิน ระบุว่า "รัสเซียอยากหาทางออกทางการเมืองแก่วิกฤตซีเรียอยู่เสมอ จุดเริ่มต้นของเราคือจำเป็นต้องกลับมาเจรจาภายใต้การอุปถัมภ์ของสหประชาชาติ" แหล่งข่าววังเครมลินระบุ . ผู้แทนรายหนึ่งของรัสเซียประจำสหประชาชาติ แถลงว่ามอสโกได้ร้องขอให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ จัดประชุมฉุกเฉินแบบลับเกี่ยวกับสถานการณ์ในซีเรีย ในช่วงบ่ายวันจันทร์ (9 ธ.ค.) "ผลกระทบของเหตุการณ์ต่างๆ ในซีเรีย สำหรับประเทศซีเรียและทั่วทั้งภูมิภาคยังไม่สามารถวัดได้" เจ้าหน้าที่รายหนึ่งเขียนบนเทเลแกรม . พัฒนาการล่าสุดนี้ มีขึ้นในขณะที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แสดงความคิดเห็นในวันอาทิตย์ (8 ธ.ค.) ว่าการที่รัสเซียทอดทิ้งประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรีย คือปัจจัยสำคัญที่นำมาซึ่งการล่มสลายของผู้นำรายนี้ พร้อมระบุว่ามอสโกไม่ควรให้การปกป้องอัสซาดตั้งแต่แรก จนสุดท้ายก็หมดความสนใจ เพราะสงครามในยูเครนที่ไม่ควรเริ่มต้นขึ้น . "อัสซาดไปแล้ว เขาหนีออกนอกประเทศ ผู้ปกป้องเขา รัสเซีย ที่นำโดยประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ไม่สนใจที่จะปกป้องเขาอีกต่อไป" ทรัมป์ เขียนบนทรัสต์โซเชียล แพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ของเขาเอง "ไม่มีเหตุผลสำหรับรัสเซียที่จะเข้าไปในนั้นตั้งแต่แรก พวกเขาสูญเสียความสนใจทั้งหมดทั้งมวลในซีเรียเพราะยูเครน สงครามหนึ่งใดไม่ควรเริ่มต้นขึ้นและควรสูญหายไปตลอดกาล" . ทรัมป์ ซึ่งมีกำหนดสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม ระบุต่อว่ารัสเซียและอิหร่าน อีกหนึ่งผู้สนับสนุนหลักของอัสซาด "ตอนนี้อยู่ในสถานะที่อ่อนแอ หนึ่งชาติเพราะยูเครนและความย่ำแย่ทางเศรษฐกิจ ส่วนอีกชาติเพราะอิสราเอลและการสู้รบอย่างต่อเนื่องของพวกเขา" . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000118048 .................. Sondhi X
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 896 มุมมอง 0 รีวิว
  • ## กลุ่มกบฏ ซีเรีย โค่นล้ม รัฐบาล บาชา อัล อัสซาด สำเร็จ...!!! ##
    ..
    ..
    ผลในวันนี้ย่อมเกิดจากเหตุเมื่อครั้งอดีต...
    .
    สงครามกลางเมือง ในซีเรีย เริ่มเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 13 ปี ที่แล้ว (2011)...
    .
    ในเหตุการณ์ที่เรียกว่า Arab Spring...
    .
    ซึ่ง CIA และ องค์กรอื่น ๆ ของ อเมริกา ให้การสนับสนุน การเคลื่อนไหว ในหลายประเทศ ผ่านโครงการต่าง ๆ เช่น...
    .
    การให้การอบรมด้านสื่อดิจิทัล และ การจัดตั้งเครือข่ายออนไลน์ ซึ่งอาจมีส่วนช่วยให้กลุ่มเคลื่อนไหวในช่วงนั้นมีความสามารถในการจัดการประท้วงมากขึ้น...
    .
    เมื่อ อเมริกา ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง ของ ประเทศซีเรีย เพียงเพราะ...
    .
    ผู้นำ ซีเรีย บาชา อัล อัสซาด ไม่ยอม ศิโรราบ ต่อ อเมริกา แต่ดันหันไปมี สัมพันธ์ ฉันมิตร กับ รัสเซีย การแทรกแซงด้วย ศาสตร์มืดจึงเริ่มต้นขึ้น...
    .
    ด้วยข้อหา เผด็จการ และ ไม่เป็นประชาธิปไตย...
    .
    คำสั่งลับถูกเซ็นโดย ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ให้ช่วยเหลือ กลุ่มกบฏในซีเรีย เช่น กลุ่ม FSA
    .
    อีกทั้ง CIA ยังคงเป็นคนติดต่อประสานงานกับ ซาอุดีอาระเบีย และ กาตาร์ ให้ช่วยสนับสนุน กลุ่มกบฏในซีเรีย
    .
    เกิดการปลุกปั่นประชาชนภายในประเทศจาก กลุ่มเจ้าหน้าที่ CIA
    .
    ผ่านสงครามกลางเมืองมา 10 ปี
    .
    ISIS รุกเข้าไปยึดพื้นที่ ยึดบ่อน้ำมันของ รัฐบาลซีเรีย
    .
    จากนั้น อเมริกา ก็รุกเข้าไปในแผ่นดินที่ของ ซีเรียบ้าง อ้างว่า จะเข้าไปปราบ กลุ่ม ISIS
    .
    รัซบาลซีเรีย บอกว่า ฉันไม่ได้ร้องขอ ออกไปจากประเทศฉันเดี๋ยวนี้...!!!
    .
    อเมริกา บอก ไม่ออกโว่ย...!!!
    .
    อเมริกา ว่า บาชา อัล อัสซาด เอ็งมันเผด็จการ ไม่ใช่ประชาธิปไตย (ทั้งๆที่เขาชนะเลือกตั้งมาด้วยเสียงของประชาชนชาว ซีเรีย ในปี 2000 อ่ะนะ) ข้าไม่จำเป็นต้องฟังเสียงเอ็ง
    .
    หลังจากนั้น...
    .
    รัสเซีย เข้ามาช่วยกำจัดกลุ่ม ISIS
    .
    อเมริกา จะออกมาโวยวายเสียงดังทุกครั้งที่ รัสเซีย ถล่มกลุ่ม ISIS จนเฮี่ยน ว่า...
    .
    รัสเซีย ยิงถล่มประชาชนผู้บริสุทธิ์...
    .
    อเมริกา ขัดแข้งขัดขา รัสเซีย ตลอดเวลา
    .
    ทั้งๆที่ อเมริกาก เข้ามาก่อน รัสเซีย เป็นปีๆ แต่ กลุ่ม ISIS ไม่ได้ถูกกวาดล้างเลย แถมยังเข้มแข็งมากขึ้นด้วย
    .
    ผิดกับช่วงที่ รัสเซีย เข้ามา ไม่นาน กลุ่ม ISIS ก็ถูกรัสเซีย ถล่มเฮี่ยนจนล่มสลายไป...
    .
    ท้ายที่สุด ข้อมูลก็เปิดเผยสู่สาธารณะชนว่า ผู้ที่ ก่อตั้ง ก่อกำเนิด ให้ทุนสนับสนุน ทำให้ ISIS แข็งแรง ก็คือ อเมริกา นั่นเอง โดยครั้งหนึ่ง ฮิลลารี่ คลินตัน เป็นคนยอมรับเองกับปาก...
    .
    วีรกรรม คร่าวๆของ อเมริกา เมื่อเข้าไปใน แผ่นดินซีเรีย...
    .
    1.อเมริกา และ กองกำลัง SDF ที่อเมริกาสนับสนุน เข้าไป ยึดแหล่งน้ำมันของในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรีย โดยเฉพาะในจังหวัด Hasakah และ Deir Ezzor
    .
    มีรายงานว่า น้ำมันประมาณ 80% ของที่ผลิตใน ซีเรีย ถูกขโมย และ ส่งออกไปขายยัง อิรัก ผ่านเส้นทางลักลอบ
    .
    การกระทำนี้สร้างความเสียหายมหาศาลต่อเศรษฐกิจซีเรีย โดยกระทรวงน้ำมันซีเรียรายงานว่าความเสียหายรวมตั้งแต่ปี 2011 จนถึงปี 2022 มีมูลค่ากว่า 107.1 พันล้านดอลลาร์
    .
    2.อเมริกา ยึดเรือส่งสินค้าธัญพืช ของ ซีเรีย ไปดื้อๆ
    .
    3.อเมริกา ยังขโมยธัญพืชจำนวนมากจากพื้นที่เกษตรในซีเรีย โดยใช้รถบรรทุกขนส่งไปยัง อิรัก ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงที่ซีเรียเผชิญปัญหาการขาดแคลนอาหารอย่างหนัก
    .
    4.อเมริกา และ พันธมิตรในพื้นที่ ตั้งโรงกลั่นน้ำมันเพื่อแปรรูปน้ำมันที่ขโมยมาในพื้นที่ Rmelan ซึ่งเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการผลิตน้ำมันของซีเรีย
    .
    เป็นต้น...
    .
    ทุกวันนี้ สรุปได้แน่ชัดและเห็นหน้าเห็นตากันหมดแล้วว่า...
    .
    - ตุรกี อยู่เบื้องหลัง กลุ่มกบฏซีเรีย FSA และ HTS ในพื้นที่ทางตอนเหนือของซีเรีย
    .
    โดย HTS มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มอัลกออิดะห์ในอดีต และ เป็นกลุ่มที่มีบทบาทสำคัญในพื้นที่...
    .
    ตุรกี ให้การสนับสนุนด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ การฝึกทหาร และ การสนับสนุนทางการเงิน
    .
    - อิสราเอล อยู่เบื้องหลัง กลุ่มติดอาวุธในซีเรีย แถมยังเปิดหน้า ใช้ขีปนาวุธ โจมตีพื้นที่ทางการทหารของ ฝั่งรัฐบาลซีเรีย อย่างต่อเนื่อง
    .
    - อเมริกา อยู่เบื้องหลัง กลุ่มกบฏซีเรีย FSA ชาวเคิร์ดในซีเรีย และ กลุ่ม ISIS
    .
    อเมริกา ให้การสนับสนุน ทั้งทาง อาวุธ การฝึกทหาร และ ความช่วยเหลือทางการเงิน นอกจากนี้ยังส่งกองกำลังพิเศษเข้าปฏิบัติการในพื้นที่บางส่วนของซีเรียเพื่อช่วยกลุ่มพันธมิตร โค่นล้มรัฐบาลซีเรีย
    ...
    ...
    วันนี้ขัดเจนแล้ว ว่า กรุงดามัสกัส ถูกกลุ่มกบฏ ยึดไว้ได้ เท่ากับว่า รัฐบาล บาชา อัล อัสซาด ถูกโค่นล้มลงแล้ว...
    .
    ต่อไปก็จะถึงขั้น การแบ่งเค้กกัน ระหว่าง กลุ่มกบฏต่างๆ และ ประเทศเบื้องหลัง อย่าง ตุรกี อเมริกา และ อิสราเอล...
    ...
    ...
    ผลประโยชน์ของแต่ละประเทศคือ...???
    .
    1. อิสราเอล จะได้พื้นที่ดินแดนเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นความพยายามของ รัฐเถื่อนไซออนนิสต์ มาโดยตลอด (ซึ่งก็คือแผน The Greater Israel นั่นเอง)
    .
    2. ตุรกี จะได้ดินแดนที่พวกเขากล่าวมาตลอดว่า ทางประวัติศาสต์ มันคือส่วนหนึ่งของ ตุรกี นั่นคือ อาเลปโป แต่ครั้งนี้อาจจะได้กำไรเพิ่มมากกว่านั้น
    .
    3. อเมริกา จะได้ครอบครอง ทรัพยากรน้ำมัน ของ ซีเรีย อย่างถูกกฏหมาย และ แผน The Greater Israel จะได้เป็นจริงไปอีก Step หนึ่ง...
    ...
    การล้มรัฐบาลซีเรีย ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ อิหร่าน และ รัสเซีย จะช่วยลดอิทธิพลของทั้ง 2 ประเทศในภูมิภาค และช่วยเสริมความมั่นคงของพันธมิตร อเมริกา เช่น ตุรกี และ อิสราเอล ในตะวันออกกลาง...
    .
    https://www.thairath.co.th/news/foreign/2829854
    ## กลุ่มกบฏ ซีเรีย โค่นล้ม รัฐบาล บาชา อัล อัสซาด สำเร็จ...!!! ## .. .. ผลในวันนี้ย่อมเกิดจากเหตุเมื่อครั้งอดีต... . สงครามกลางเมือง ในซีเรีย เริ่มเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 13 ปี ที่แล้ว (2011)... . ในเหตุการณ์ที่เรียกว่า Arab Spring... . ซึ่ง CIA และ องค์กรอื่น ๆ ของ อเมริกา ให้การสนับสนุน การเคลื่อนไหว ในหลายประเทศ ผ่านโครงการต่าง ๆ เช่น... . การให้การอบรมด้านสื่อดิจิทัล และ การจัดตั้งเครือข่ายออนไลน์ ซึ่งอาจมีส่วนช่วยให้กลุ่มเคลื่อนไหวในช่วงนั้นมีความสามารถในการจัดการประท้วงมากขึ้น... . เมื่อ อเมริกา ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง ของ ประเทศซีเรีย เพียงเพราะ... . ผู้นำ ซีเรีย บาชา อัล อัสซาด ไม่ยอม ศิโรราบ ต่อ อเมริกา แต่ดันหันไปมี สัมพันธ์ ฉันมิตร กับ รัสเซีย การแทรกแซงด้วย ศาสตร์มืดจึงเริ่มต้นขึ้น... . ด้วยข้อหา เผด็จการ และ ไม่เป็นประชาธิปไตย... . คำสั่งลับถูกเซ็นโดย ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ให้ช่วยเหลือ กลุ่มกบฏในซีเรีย เช่น กลุ่ม FSA . อีกทั้ง CIA ยังคงเป็นคนติดต่อประสานงานกับ ซาอุดีอาระเบีย และ กาตาร์ ให้ช่วยสนับสนุน กลุ่มกบฏในซีเรีย . เกิดการปลุกปั่นประชาชนภายในประเทศจาก กลุ่มเจ้าหน้าที่ CIA . ผ่านสงครามกลางเมืองมา 10 ปี . ISIS รุกเข้าไปยึดพื้นที่ ยึดบ่อน้ำมันของ รัฐบาลซีเรีย . จากนั้น อเมริกา ก็รุกเข้าไปในแผ่นดินที่ของ ซีเรียบ้าง อ้างว่า จะเข้าไปปราบ กลุ่ม ISIS . รัซบาลซีเรีย บอกว่า ฉันไม่ได้ร้องขอ ออกไปจากประเทศฉันเดี๋ยวนี้...!!! . อเมริกา บอก ไม่ออกโว่ย...!!! . อเมริกา ว่า บาชา อัล อัสซาด เอ็งมันเผด็จการ ไม่ใช่ประชาธิปไตย (ทั้งๆที่เขาชนะเลือกตั้งมาด้วยเสียงของประชาชนชาว ซีเรีย ในปี 2000 อ่ะนะ) ข้าไม่จำเป็นต้องฟังเสียงเอ็ง . หลังจากนั้น... . รัสเซีย เข้ามาช่วยกำจัดกลุ่ม ISIS . อเมริกา จะออกมาโวยวายเสียงดังทุกครั้งที่ รัสเซีย ถล่มกลุ่ม ISIS จนเฮี่ยน ว่า... . รัสเซีย ยิงถล่มประชาชนผู้บริสุทธิ์... . อเมริกา ขัดแข้งขัดขา รัสเซีย ตลอดเวลา . ทั้งๆที่ อเมริกาก เข้ามาก่อน รัสเซีย เป็นปีๆ แต่ กลุ่ม ISIS ไม่ได้ถูกกวาดล้างเลย แถมยังเข้มแข็งมากขึ้นด้วย . ผิดกับช่วงที่ รัสเซีย เข้ามา ไม่นาน กลุ่ม ISIS ก็ถูกรัสเซีย ถล่มเฮี่ยนจนล่มสลายไป... . ท้ายที่สุด ข้อมูลก็เปิดเผยสู่สาธารณะชนว่า ผู้ที่ ก่อตั้ง ก่อกำเนิด ให้ทุนสนับสนุน ทำให้ ISIS แข็งแรง ก็คือ อเมริกา นั่นเอง โดยครั้งหนึ่ง ฮิลลารี่ คลินตัน เป็นคนยอมรับเองกับปาก... . วีรกรรม คร่าวๆของ อเมริกา เมื่อเข้าไปใน แผ่นดินซีเรีย... . 1.อเมริกา และ กองกำลัง SDF ที่อเมริกาสนับสนุน เข้าไป ยึดแหล่งน้ำมันของในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรีย โดยเฉพาะในจังหวัด Hasakah และ Deir Ezzor . มีรายงานว่า น้ำมันประมาณ 80% ของที่ผลิตใน ซีเรีย ถูกขโมย และ ส่งออกไปขายยัง อิรัก ผ่านเส้นทางลักลอบ . การกระทำนี้สร้างความเสียหายมหาศาลต่อเศรษฐกิจซีเรีย โดยกระทรวงน้ำมันซีเรียรายงานว่าความเสียหายรวมตั้งแต่ปี 2011 จนถึงปี 2022 มีมูลค่ากว่า 107.1 พันล้านดอลลาร์ . 2.อเมริกา ยึดเรือส่งสินค้าธัญพืช ของ ซีเรีย ไปดื้อๆ . 3.อเมริกา ยังขโมยธัญพืชจำนวนมากจากพื้นที่เกษตรในซีเรีย โดยใช้รถบรรทุกขนส่งไปยัง อิรัก ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงที่ซีเรียเผชิญปัญหาการขาดแคลนอาหารอย่างหนัก . 4.อเมริกา และ พันธมิตรในพื้นที่ ตั้งโรงกลั่นน้ำมันเพื่อแปรรูปน้ำมันที่ขโมยมาในพื้นที่ Rmelan ซึ่งเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการผลิตน้ำมันของซีเรีย . เป็นต้น... . ทุกวันนี้ สรุปได้แน่ชัดและเห็นหน้าเห็นตากันหมดแล้วว่า... . - ตุรกี อยู่เบื้องหลัง กลุ่มกบฏซีเรีย FSA และ HTS ในพื้นที่ทางตอนเหนือของซีเรีย . โดย HTS มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มอัลกออิดะห์ในอดีต และ เป็นกลุ่มที่มีบทบาทสำคัญในพื้นที่... . ตุรกี ให้การสนับสนุนด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ การฝึกทหาร และ การสนับสนุนทางการเงิน . - อิสราเอล อยู่เบื้องหลัง กลุ่มติดอาวุธในซีเรีย แถมยังเปิดหน้า ใช้ขีปนาวุธ โจมตีพื้นที่ทางการทหารของ ฝั่งรัฐบาลซีเรีย อย่างต่อเนื่อง . - อเมริกา อยู่เบื้องหลัง กลุ่มกบฏซีเรีย FSA ชาวเคิร์ดในซีเรีย และ กลุ่ม ISIS . อเมริกา ให้การสนับสนุน ทั้งทาง อาวุธ การฝึกทหาร และ ความช่วยเหลือทางการเงิน นอกจากนี้ยังส่งกองกำลังพิเศษเข้าปฏิบัติการในพื้นที่บางส่วนของซีเรียเพื่อช่วยกลุ่มพันธมิตร โค่นล้มรัฐบาลซีเรีย ... ... วันนี้ขัดเจนแล้ว ว่า กรุงดามัสกัส ถูกกลุ่มกบฏ ยึดไว้ได้ เท่ากับว่า รัฐบาล บาชา อัล อัสซาด ถูกโค่นล้มลงแล้ว... . ต่อไปก็จะถึงขั้น การแบ่งเค้กกัน ระหว่าง กลุ่มกบฏต่างๆ และ ประเทศเบื้องหลัง อย่าง ตุรกี อเมริกา และ อิสราเอล... ... ... ผลประโยชน์ของแต่ละประเทศคือ...??? . 1. อิสราเอล จะได้พื้นที่ดินแดนเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นความพยายามของ รัฐเถื่อนไซออนนิสต์ มาโดยตลอด (ซึ่งก็คือแผน The Greater Israel นั่นเอง) . 2. ตุรกี จะได้ดินแดนที่พวกเขากล่าวมาตลอดว่า ทางประวัติศาสต์ มันคือส่วนหนึ่งของ ตุรกี นั่นคือ อาเลปโป แต่ครั้งนี้อาจจะได้กำไรเพิ่มมากกว่านั้น . 3. อเมริกา จะได้ครอบครอง ทรัพยากรน้ำมัน ของ ซีเรีย อย่างถูกกฏหมาย และ แผน The Greater Israel จะได้เป็นจริงไปอีก Step หนึ่ง... ... การล้มรัฐบาลซีเรีย ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ อิหร่าน และ รัสเซีย จะช่วยลดอิทธิพลของทั้ง 2 ประเทศในภูมิภาค และช่วยเสริมความมั่นคงของพันธมิตร อเมริกา เช่น ตุรกี และ อิสราเอล ในตะวันออกกลาง... . https://www.thairath.co.th/news/foreign/2829854
    WWW.THAIRATH.CO.TH
    กบฏซีเรีย ยึดกรุงดามัสกัสสำเร็จ ปธน.อัสซาดเผ่นหนีออกนอกประเทศ
    กองบัญชาการกองทัพซีเรียแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ว่า การปกครองของรัฐบาลประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด สิ้นสุดลงแล้ว หลังจากกลุ่มกบฏโจมตีแบบสายฟ้าแลบ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 618 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts