• วันนี้มาคุยกันต่อเกี่ยวกับสมัยราชวงศ์ชิง เพื่อนเพจที่เคยดูละครยุคสมัยดังกล่าวจะต้องเคยเห็นผ้าแถบสีขาวที่ไขว้อยู่ที่คอของสตรีในวังหลัง บางคนเรียกมันว่า “หลิ่งจิง” (领巾) หรือผ้าแถบพันคอ แต่จริงๆ แล้วมันมีชื่ออย่างเป็นทางการเรียกว่า “หลงหัว” (龙华)

    หลงหัวเป็นผ้าแถบสีขาวชายตรง ขนาดหน้ากว้างประมาณ 2 นิ้ว ส่วนใหญ่ทำจากผ้าแพร วิธีใส่ที่ถูกต้องคือชายหนึ่งปล่อยอิสระ แต่อีกชายหนึ่งต้องสอดเก็บเข้าไปในคอเสื้อ (ดังภาพที่นำมาแสดง แต่จะเห็นในละครหลายเรื่องเอาชายข้างหนึ่งพับทบแนบกลับไปกับแถบผ้าซึ่งเป็นวิธีใส่ที่ผิด)

    ประโยชน์ของหลงหัวคือไว้อุ่นคอและปิดคอของสตรีเนื่องจากเสื้อสมัยนั้นเป็นคอกลมไม่มีปก ต่อมาในช่วงปลายราชวงศ์ชิงนิยมใช้เสื้อมีปกจึงเลิกใช้หลงหัวไป (ประมาณช่วงปีค.ศ. 1862 เป็นต้นไป)

    เนื้อผ้าและลายปักของหลงหัวนั้น มีเกณฑ์กำหนดตามยศศักดิ์ ยิ่งมียศสูง เนื้อผ้าที่ใช้ก็จะยิ่งมีค่าและมีลายปักมากและอาจมีความกว้างขึ้นอีกเล็กน้อย (ฉะนั้นที่เห็นพระสนมตำแหน่งสูงๆ หรือฮองเฮาใส่แบบเกลี้ยงๆ ในบางเรื่องจึงไม่ถูกต้องนะจ๊ะ) ดังนั้น ขันที นางกำนัลและแม้แต่ฮ่องเต้ยังอาศัยรูปแบบลายปักของหลงหัวมาจำแนกยศศักดิ์ของสตรีต่างๆ ในวังหลังได้อีกด้วย (อย่าลืมว่านางในมีจำนวนมากจนจำกันไม่ได้หมด)

    แต่ไม่ใช่อยากปักลายอะไรก็ปักได้ เรามาดูกันว่าแต่ละตำแหน่งมีลวดลายอะไรบ้าง

    เริ่มกันที่ไทเฮา มีภาพจริงของพระนางซูสีไทเฮามาให้ดู จะเห็นว่าหลงหัวมีการปักจนเต็มแถบ ลวดลายที่ปักนั้นคือคำว่า “โซ่ว” ซึ่งจะเห็นว่าละครเรื่อง <เจินหวน จอมนางคู่แผ่นดิน> ทำเรื่องหลงหัวออกมาตรงตามแบบฉบับจริง (ดูรูปประกอบ) คือเป็นการสลับลายกลมที่เรียกว่า “ถวนโซ่ว” และลายอักษรที่เรียกว่า “ฉางโซ่ว” ซึ่งล้วนมีความหมายให้อายุยืน

    มาต่อกันที่ตำแหน่งอื่น ฮองเฮาสามารถปักลวดลายได้หลายชนิดจนเต็มแถบ ที่นิยมคือลายอักษร ‘โซ่ว’ ลายดอกโบตั๋น และลายเฟิ่งหวง ส่วนกุ้ยเฟยสามารถปักลวดลายได้หลายชนิดจนเต็มแถบเช่นกันเพียงแต่ห้ามปักลายอักษร สำหรับ ‘เฟย’ นั้น ให้ปักลายดอกไม้ดอกใหญ่ได้สี่ดอกเท่านั้น (ดูตัวอย่างในภาพ) และสำหรับพระสนมระดับต่างๆ ให้ใช้เป็นลายปักดอกไม้แต่จะเป็นดอกเล็กไม่เกินสามดอก อย่างเช่นตำแหน่ง ‘ฉางจ้าย’ มีลายดอกไม้ได้เพียงดอกเดียว ส่วนนางในที่ไม่ได้รับพระราชทานตำแหน่งและนางกำนัลไม่สามารถมีลายปักได้เลยและแบ่งยศด้วยความยาวของชายผ้า ยิ่งสั้นยิ่งเป็นนางกำนัลระดับล่าง

    (แก้ไขเพิ่มเติม: ในภาพที่นำมาแสดงมีคำบรรยายผิด กราบขออภัย 1) สะกดหลงหัวผิด 2) ในภาพเรียก 'เฟย' เป็นพระสนมแต่มีเพื่อนเพจใจดีช่วยบอกมาว่าเฟยเป็นพระชายา ไม่ใช่พระสนมแล้ว)

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพและข้อมูลจาก:
    https://www.wenshigu.com/fyrw/hgrw/323315.html
    https://zhuanlan.zhihu.com/p/47119908
    https://zhuanlan.zhihu.com/p/93071937
    https://kknews.cc/zh-sg/entertainment/5bl34xk.html
    https://www.sohu.com/a/254800788_100148471
    https://kknews.cc/fashion/9nbbz28.html

    #หลิ่งจิง #หลงหัว #เครื่องแต่งกายพระสนม #เครื่องแต่งกายราชวงศ์ชิง #ประวัติศาสตร์จีน #เจินหวน #หรูอี้
    วันนี้มาคุยกันต่อเกี่ยวกับสมัยราชวงศ์ชิง เพื่อนเพจที่เคยดูละครยุคสมัยดังกล่าวจะต้องเคยเห็นผ้าแถบสีขาวที่ไขว้อยู่ที่คอของสตรีในวังหลัง บางคนเรียกมันว่า “หลิ่งจิง” (领巾) หรือผ้าแถบพันคอ แต่จริงๆ แล้วมันมีชื่ออย่างเป็นทางการเรียกว่า “หลงหัว” (龙华) หลงหัวเป็นผ้าแถบสีขาวชายตรง ขนาดหน้ากว้างประมาณ 2 นิ้ว ส่วนใหญ่ทำจากผ้าแพร วิธีใส่ที่ถูกต้องคือชายหนึ่งปล่อยอิสระ แต่อีกชายหนึ่งต้องสอดเก็บเข้าไปในคอเสื้อ (ดังภาพที่นำมาแสดง แต่จะเห็นในละครหลายเรื่องเอาชายข้างหนึ่งพับทบแนบกลับไปกับแถบผ้าซึ่งเป็นวิธีใส่ที่ผิด) ประโยชน์ของหลงหัวคือไว้อุ่นคอและปิดคอของสตรีเนื่องจากเสื้อสมัยนั้นเป็นคอกลมไม่มีปก ต่อมาในช่วงปลายราชวงศ์ชิงนิยมใช้เสื้อมีปกจึงเลิกใช้หลงหัวไป (ประมาณช่วงปีค.ศ. 1862 เป็นต้นไป) เนื้อผ้าและลายปักของหลงหัวนั้น มีเกณฑ์กำหนดตามยศศักดิ์ ยิ่งมียศสูง เนื้อผ้าที่ใช้ก็จะยิ่งมีค่าและมีลายปักมากและอาจมีความกว้างขึ้นอีกเล็กน้อย (ฉะนั้นที่เห็นพระสนมตำแหน่งสูงๆ หรือฮองเฮาใส่แบบเกลี้ยงๆ ในบางเรื่องจึงไม่ถูกต้องนะจ๊ะ) ดังนั้น ขันที นางกำนัลและแม้แต่ฮ่องเต้ยังอาศัยรูปแบบลายปักของหลงหัวมาจำแนกยศศักดิ์ของสตรีต่างๆ ในวังหลังได้อีกด้วย (อย่าลืมว่านางในมีจำนวนมากจนจำกันไม่ได้หมด) แต่ไม่ใช่อยากปักลายอะไรก็ปักได้ เรามาดูกันว่าแต่ละตำแหน่งมีลวดลายอะไรบ้าง เริ่มกันที่ไทเฮา มีภาพจริงของพระนางซูสีไทเฮามาให้ดู จะเห็นว่าหลงหัวมีการปักจนเต็มแถบ ลวดลายที่ปักนั้นคือคำว่า “โซ่ว” ซึ่งจะเห็นว่าละครเรื่อง <เจินหวน จอมนางคู่แผ่นดิน> ทำเรื่องหลงหัวออกมาตรงตามแบบฉบับจริง (ดูรูปประกอบ) คือเป็นการสลับลายกลมที่เรียกว่า “ถวนโซ่ว” และลายอักษรที่เรียกว่า “ฉางโซ่ว” ซึ่งล้วนมีความหมายให้อายุยืน มาต่อกันที่ตำแหน่งอื่น ฮองเฮาสามารถปักลวดลายได้หลายชนิดจนเต็มแถบ ที่นิยมคือลายอักษร ‘โซ่ว’ ลายดอกโบตั๋น และลายเฟิ่งหวง ส่วนกุ้ยเฟยสามารถปักลวดลายได้หลายชนิดจนเต็มแถบเช่นกันเพียงแต่ห้ามปักลายอักษร สำหรับ ‘เฟย’ นั้น ให้ปักลายดอกไม้ดอกใหญ่ได้สี่ดอกเท่านั้น (ดูตัวอย่างในภาพ) และสำหรับพระสนมระดับต่างๆ ให้ใช้เป็นลายปักดอกไม้แต่จะเป็นดอกเล็กไม่เกินสามดอก อย่างเช่นตำแหน่ง ‘ฉางจ้าย’ มีลายดอกไม้ได้เพียงดอกเดียว ส่วนนางในที่ไม่ได้รับพระราชทานตำแหน่งและนางกำนัลไม่สามารถมีลายปักได้เลยและแบ่งยศด้วยความยาวของชายผ้า ยิ่งสั้นยิ่งเป็นนางกำนัลระดับล่าง (แก้ไขเพิ่มเติม: ในภาพที่นำมาแสดงมีคำบรรยายผิด กราบขออภัย 1) สะกดหลงหัวผิด 2) ในภาพเรียก 'เฟย' เป็นพระสนมแต่มีเพื่อนเพจใจดีช่วยบอกมาว่าเฟยเป็นพระชายา ไม่ใช่พระสนมแล้ว) (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพและข้อมูลจาก: https://www.wenshigu.com/fyrw/hgrw/323315.html https://zhuanlan.zhihu.com/p/47119908 https://zhuanlan.zhihu.com/p/93071937 https://kknews.cc/zh-sg/entertainment/5bl34xk.html https://www.sohu.com/a/254800788_100148471 https://kknews.cc/fashion/9nbbz28.html #หลิ่งจิง #หลงหัว #เครื่องแต่งกายพระสนม #เครื่องแต่งกายราชวงศ์ชิง #ประวัติศาสตร์จีน #เจินหวน #หรูอี้
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 60 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญพ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ หลวงปู่ไข่ วัดลำนาว จ.นครศรีธรรมราช
    เหรียญพ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ หลวงปู่ไข่ วัดลำนาว จ.นครศรีธรรมราช //พระดีพิธีใหญ๋ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย ทำมาค้าขึ้น โรคภัยไม่เบียดเบียน มีความเจริญก้าวหน้า ใครได้บูชาวัตถุมงคลของท่าน จะบังเกิดบุญญา บารมี ความเจริญรุ่งเรือง ความก้าวหน้า ความร่ำรวย นานับประการจะบังเกิดแก่ผู้ครอบครองและครอบครัว >>

    ** พ่อท่านไข่มักจะสวดท่องพระคาถาชินบัญชรเป็นประจำ ทำให้ชื่อเสียงของท่านเป็นที่เลื่องลือในเรื่องพระคาถา เมื่อมีการจัดพิธีพุทธาภิเษกต่างๆ ท่านก็มักจะได้รับการเชิญให้ไปร่วมพิธีนั่งปรกด้วย อุปนิสัยของพ่อท่านไข่ค่อนข้างดุ แต่จริงๆ แล้วท่านใจดี จะดุกับคนที่ไม่อยู่ในกฏระเบียบเท่านั้น ท่านไม่ชอบการใบ้หวย แต่ชอบที่ได้ให้ศีล ให้พร ให้ลาภมากกว่า ถ้าใครได้รับพรจากท่านไปก็จะประสบแต่ความสำเร็จ โชคดี ดังคำอวยพรที่เอ่ยจากปากของท่าน จึงเป็นที่มาของ "พ่อท่านไข่ วาจาสิทธิ์" >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายาก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญพ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ หลวงปู่ไข่ วัดลำนาว จ.นครศรีธรรมราช เหรียญพ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ หลวงปู่ไข่ วัดลำนาว จ.นครศรีธรรมราช //พระดีพิธีใหญ๋ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย ทำมาค้าขึ้น โรคภัยไม่เบียดเบียน มีความเจริญก้าวหน้า ใครได้บูชาวัตถุมงคลของท่าน จะบังเกิดบุญญา บารมี ความเจริญรุ่งเรือง ความก้าวหน้า ความร่ำรวย นานับประการจะบังเกิดแก่ผู้ครอบครองและครอบครัว >> ** พ่อท่านไข่มักจะสวดท่องพระคาถาชินบัญชรเป็นประจำ ทำให้ชื่อเสียงของท่านเป็นที่เลื่องลือในเรื่องพระคาถา เมื่อมีการจัดพิธีพุทธาภิเษกต่างๆ ท่านก็มักจะได้รับการเชิญให้ไปร่วมพิธีนั่งปรกด้วย อุปนิสัยของพ่อท่านไข่ค่อนข้างดุ แต่จริงๆ แล้วท่านใจดี จะดุกับคนที่ไม่อยู่ในกฏระเบียบเท่านั้น ท่านไม่ชอบการใบ้หวย แต่ชอบที่ได้ให้ศีล ให้พร ให้ลาภมากกว่า ถ้าใครได้รับพรจากท่านไปก็จะประสบแต่ความสำเร็จ โชคดี ดังคำอวยพรที่เอ่ยจากปากของท่าน จึงเป็นที่มาของ "พ่อท่านไข่ วาจาสิทธิ์" >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายาก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 68 มุมมอง 0 รีวิว
  • "อิ๊งค์" รับพรรคร่วมเห็นไม่ตรงกันหลายเรื่องแต่ปรับกันได้ไม่มีปัญหา ขออย่าเพิ่งเบื่อกันหลังพ่อบอกเวลาที่เหลือของรบ.จะไม่มีการเปลี่ยนตัวนายกฯ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000049986

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    "อิ๊งค์" รับพรรคร่วมเห็นไม่ตรงกันหลายเรื่องแต่ปรับกันได้ไม่มีปัญหา ขออย่าเพิ่งเบื่อกันหลังพ่อบอกเวลาที่เหลือของรบ.จะไม่มีการเปลี่ยนตัวนายกฯ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000049986 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Haha
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 407 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผ้าไหมแพรวา สายใยศิลป์ จากใจ คมศักดิ์ ชมภูจักร์
    ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินเยือนราชอาณาจักร ภูฏานอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 25 - 28 เมษายน 2568 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงฉลองพระองค์ที่ตัดเย็บจาก “ผ้าไหมแพรวา” ฝีมือกลุ่มสมาชิกศิลปาชีพบ้านโพน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์
    ผ้าไหมแพรวาผืนนี้ถักทอด้วยเทคนิค “จก” และ “ขิด” ผสานเส้นไหมหลากสีอย่างละเอียดอ่อน ถ่ายทอดภูมิปัญญาชาวผู้ไทที่สืบทอดกันมานานนับชั่วอายุคน จนเกิดเป็นลวดลายเปี่ยมความหมายสะท้อน ความประณีตของศิลปะแห่งแผ่นดินไทย
    ผ้าผืนดังกล่าวได้รับการจัดซื้อจากโรงฝึกศิลปาชีพพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 ซึ่งดำเนินงานภายใต้พระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนี พันปีหลวง เพื่อสืบสานหัตถศิลป์ไทยให้ยังคงอยู่คู่ชาติ
    เบื้องหลังผืนผ้าอันทรงคุณค่านี้ คือ นายคมศักดิ์ ชมภูจักร์ วัย 62 ปี อดีตทหารเกณฑ์จาก ต.โพน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ ผู้ได้รับพระเมตตาให้เข้าร่วมโครงการศิลปาชีพฯ ตั้งแต่อายุ 34 ปี ด้วยภูมิปัญญา ที่สืบทอดจากครอบครัวช่างทอ เขาเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนศูนย์ศิลปาชีพบ้านโพน ทั้งในบทบาท ช่างฝีมือและคณะกรรมการศูนย์ฯ รวมถึงการนำผลงานผ้าสไบ 11 ลายเข้าร่วมประกวด ณ พระตำหนัก ภูพานฯ
    การที่ผ้าทอฝีมือชาวบ้าน ได้ถวายใช้เป็นฉลองพระองค์สมเด็จพระราชินีในโอกาสทรงเยือน ต่างประเทศครั้งนี้ ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้และเป็นเกียรติยศสูงสุดของผู้สืบสานผืนผ้าไทย สะท้อนถึงคุณค่าทางวัฒนธรรมที่เปล่งประกายสู่เวทีนานาชาติอย่างงดงาม “พวกเรารู้สึกดีใจและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ผ้าไหมแพรวาที่ทอขึ้นจากศูนย์บ้านโพนได้ใช้เป็นฉลองพระองค์ของสมเด็จพระราชินีในครั้งนี้มันเป็นเรื่องที่เราไม่เคยคาดคิดแต่ก็เป็นแรงใจสำคัญสำหรับคนทำงานผ้าอย่างเราและต้องขอขอบคุณมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ที่เปิดโอกาสให้พวกเรามีวันนี้และทำให้ผ้าพื้นถิ่นได้มีที่ยืนในเวทีที่กว้างขึ้น” คำกล่าวจากนายคมศักดิ์ ชมภูจักร์
    ---------
    #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida
    Facebook : มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ , มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ (งานกิจกรรม)
    ผ้าไหมแพรวา สายใยศิลป์ จากใจ คมศักดิ์ ชมภูจักร์ ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินเยือนราชอาณาจักร ภูฏานอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 25 - 28 เมษายน 2568 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงฉลองพระองค์ที่ตัดเย็บจาก “ผ้าไหมแพรวา” ฝีมือกลุ่มสมาชิกศิลปาชีพบ้านโพน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ ผ้าไหมแพรวาผืนนี้ถักทอด้วยเทคนิค “จก” และ “ขิด” ผสานเส้นไหมหลากสีอย่างละเอียดอ่อน ถ่ายทอดภูมิปัญญาชาวผู้ไทที่สืบทอดกันมานานนับชั่วอายุคน จนเกิดเป็นลวดลายเปี่ยมความหมายสะท้อน ความประณีตของศิลปะแห่งแผ่นดินไทย ผ้าผืนดังกล่าวได้รับการจัดซื้อจากโรงฝึกศิลปาชีพพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 ซึ่งดำเนินงานภายใต้พระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนี พันปีหลวง เพื่อสืบสานหัตถศิลป์ไทยให้ยังคงอยู่คู่ชาติ เบื้องหลังผืนผ้าอันทรงคุณค่านี้ คือ นายคมศักดิ์ ชมภูจักร์ วัย 62 ปี อดีตทหารเกณฑ์จาก ต.โพน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ ผู้ได้รับพระเมตตาให้เข้าร่วมโครงการศิลปาชีพฯ ตั้งแต่อายุ 34 ปี ด้วยภูมิปัญญา ที่สืบทอดจากครอบครัวช่างทอ เขาเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนศูนย์ศิลปาชีพบ้านโพน ทั้งในบทบาท ช่างฝีมือและคณะกรรมการศูนย์ฯ รวมถึงการนำผลงานผ้าสไบ 11 ลายเข้าร่วมประกวด ณ พระตำหนัก ภูพานฯ การที่ผ้าทอฝีมือชาวบ้าน ได้ถวายใช้เป็นฉลองพระองค์สมเด็จพระราชินีในโอกาสทรงเยือน ต่างประเทศครั้งนี้ ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้และเป็นเกียรติยศสูงสุดของผู้สืบสานผืนผ้าไทย สะท้อนถึงคุณค่าทางวัฒนธรรมที่เปล่งประกายสู่เวทีนานาชาติอย่างงดงาม “พวกเรารู้สึกดีใจและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ผ้าไหมแพรวาที่ทอขึ้นจากศูนย์บ้านโพนได้ใช้เป็นฉลองพระองค์ของสมเด็จพระราชินีในครั้งนี้มันเป็นเรื่องที่เราไม่เคยคาดคิดแต่ก็เป็นแรงใจสำคัญสำหรับคนทำงานผ้าอย่างเราและต้องขอขอบคุณมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ที่เปิดโอกาสให้พวกเรามีวันนี้และทำให้ผ้าพื้นถิ่นได้มีที่ยืนในเวทีที่กว้างขึ้น” คำกล่าวจากนายคมศักดิ์ ชมภูจักร์ --------- #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida Facebook : มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ , มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ (งานกิจกรรม)
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 314 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญพระพุทธศรีประกายสิทธิ์ ที่ระลึกสร้างโรงพยาบาลศรีนครินทร์ ปี2525
    เหรียญพระพุทธศรีประกายสิทธิ์ หลัง ภปร. สว. วัดบวรนิเวศน์ กรุงเทพมหานคร ปี2525 //พระดีพิธีใหญ่ ที่ระลึกสร้างโรงพยาบาลศรีนครินทร์ จัดสร้างโดยกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน เพื่อเป็นสถานที่พักฟื้นตำรวจตระเวนชายแดน // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณครบทุกด้านให้คุณทางด้านอำนวยโชคลาภ ความมั่งคั่งทรัพย์สินเงินทอง อุดมด้วย ลาภ ยศ ความเจริญรุ่งเรืองดีนักแล” ทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาด ป้องกันภัย มหาเสน่ห์ มหาอุด รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้ >>

    ** พระดีพิธีใหญ่ ผ่านพิธีพุทธาภิเษกพิธีมังคลาภิเษกที่ วัดบวรนิเวศวิหาร ในวันที่ 16 เมษายน 2526.รายละเอียด........
    กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนได้จัดตั้งคณะกรรมการจัดหาทุนดำเนินการก่อสร้างโรงพยาบาลนวุติสมเด็จย่าขึ้นสังกัดกับโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อสมนาคุณแก่ผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเงินสมทบในการก่อสร้างโรงพยาบาล ดังกล่าว ซึ่งได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้อัญเชิญอักษรพระปรมาภิไธยย่อ ภปร. ประดิษฐานบนผ้าทิพย์ขององค์พระพุทธรูปบูชา ภปร. ในครั้งนั้นพระบาทสมเด็จพระอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์เพื่อหย่อนแผ่นทองคำของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวร และ สมเด็จพระวันรัต ลงในเบ้าหลอมพระพุทธศรีประกายสิทธิ์ ณ วัดบวรนิเวศวิหาร เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2525 โดยใต้ฐานพระพุทธรูปจะมีตลับพระธาตุบรรจุไว้....


    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญพระพุทธศรีประกายสิทธิ์ ที่ระลึกสร้างโรงพยาบาลศรีนครินทร์ ปี2525 เหรียญพระพุทธศรีประกายสิทธิ์ หลัง ภปร. สว. วัดบวรนิเวศน์ กรุงเทพมหานคร ปี2525 //พระดีพิธีใหญ่ ที่ระลึกสร้างโรงพยาบาลศรีนครินทร์ จัดสร้างโดยกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน เพื่อเป็นสถานที่พักฟื้นตำรวจตระเวนชายแดน // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณครบทุกด้านให้คุณทางด้านอำนวยโชคลาภ ความมั่งคั่งทรัพย์สินเงินทอง อุดมด้วย ลาภ ยศ ความเจริญรุ่งเรืองดีนักแล” ทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาด ป้องกันภัย มหาเสน่ห์ มหาอุด รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้ >> ** พระดีพิธีใหญ่ ผ่านพิธีพุทธาภิเษกพิธีมังคลาภิเษกที่ วัดบวรนิเวศวิหาร ในวันที่ 16 เมษายน 2526.รายละเอียด........ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนได้จัดตั้งคณะกรรมการจัดหาทุนดำเนินการก่อสร้างโรงพยาบาลนวุติสมเด็จย่าขึ้นสังกัดกับโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อสมนาคุณแก่ผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเงินสมทบในการก่อสร้างโรงพยาบาล ดังกล่าว ซึ่งได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้อัญเชิญอักษรพระปรมาภิไธยย่อ ภปร. ประดิษฐานบนผ้าทิพย์ขององค์พระพุทธรูปบูชา ภปร. ในครั้งนั้นพระบาทสมเด็จพระอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์เพื่อหย่อนแผ่นทองคำของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวร และ สมเด็จพระวันรัต ลงในเบ้าหลอมพระพุทธศรีประกายสิทธิ์ ณ วัดบวรนิเวศวิหาร เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2525 โดยใต้ฐานพระพุทธรูปจะมีตลับพระธาตุบรรจุไว้.... ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 264 มุมมอง 0 รีวิว
  • แฟนละคร/นิยายจีนคงคุ้นเคยดีกับโครงเรื่องที่มีการชิงอำนาจทางการเมืองด้วยการจัดให้มีการแต่งงานระหว่างตระกูลดังกับเชื้อพระวงศ์ จนเกิดเป็นแรงกดดันมหาศาลให้กับตัวละครเอก บางคนอาจเคยบ่นว่า ‘มันจะอะไรกันนักหนา?’

    วันนี้ Storyฯ ยกตัวอย่างมาคุยเกี่ยวกับตระกูลขุนนางเก่าแก่เรืองอำนาจ (เรียกรวมว่า สื้อเจีย / 世家)
    เป็นหนึ่งในตระกูลที่ดังที่สุดในประวัติศาสตร์ตอนต้นและกลางของจีนโบราณก็ว่าได้

    ความมีอยู่ว่า
    ....ตระกูลชุยจากชิงเหอรุ่นนี้ สายหลักของตระกูลมีนางเป็นบุตรีโทนแต่เพียงผู้เดียว ... และตระกูลชุยกำลังรุ่งเรือง นางยังอยู่ในท้องของมารดาก็ได้รับการหมั้นหมายให้กับองค์ชายรัชทายาทแล้ว....
    - จากเรื่อง <ทุกชาติภพ กระดูกงดงาม> ผู้แต่ง โม่เป่าเฟยเป่า (แต่บทความ Storyฯ แปลเองจ้า)

    ชิงเหอคือพื้นที่ทางด้านเหนือของจีน (แถบเหอหนาน เหอเป่ยและซานตง) ในสมัยจีนตอนต้นมีสถานะเป็นแคว้นบ้างหรือรองลงมาเป็นจวิ้น (郡) บ้าง ซึ่งนับเป็นเขตการปกครองที่ใหญ่ มีหลายตระกูลดังในประวัติศาตร์จีนที่มาจากพื้นที่แถบนี้ หนึ่งในนั้นคือตระกูลชุย

    ตระกูลชุยมีรากฐานยาวนานมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์โจวตะวันตก (ปี 1046-771 ก่อนคริสตกาล) แตกสกุลมาจากสกุลเจียงและรวมถึงชาวเผ่าพันธุ์อื่นที่หันมาใช้สกุลนี้ รับราชการในตำแหน่งสำคัญมาหลายยุคสมัย แตกมาเป็นสายที่เรียกว่า ‘ตระกูลชุยจากชิงเหอ’ ในยุคสมัยจิ๋นซีฮ่องเต้ (ปี 221 – 206 ก่อนคริสตกาล) เมื่อชุยเหลียง (ทายาทรุ่นที่ 7) ได้รับการอวยยศเป็นโหวและได้รับพระราชทานเขตการปกครองชิงเหอนี้ และต่อมาตระกูลชุยจากชิงเหอมีแตกสายย่อยไปอีกรวมเป็นหกสาย

    ตระกูลชุยจากชิงเหอที่กล่าวถึงในละครข้างต้น ‘ไม่ธรรมดา’ แค่ไหน?

    ตระกูลชุยจากชิงเหอรับราชการระดับสูงต่อเนื่อง ผ่านร้อนผ่านหนาวแต่อยู่ยงคงกระพันมากว่า 700 ปี ถูกยกย่องว่าเป็น ‘ที่สุด’ ในบรรดาสี่ตระกูลใหญ่ในยุคสมัยราชวงศ์เว่ยเหนือ (ปีค.ศ. 386 – 535) และในสมัยราชวงศ์ถังก็เป็นหนึ่งในห้าตระกูลเจ็ดเชื้อสาย (五姓七族) อันเป็นตระกูลชั้นสูงที่ต่อมาถูกห้ามไม่ให้แต่งงานกันเอง เพื่อป้องกันไม่ให้สร้างฐานอำนาจมากเกินไป

    มีคนจากตระกูลชุยจากชิงเหอนี้เป็นอัครมหาเสนาบดี (จ่ายเซี่ยง / 宰相) หรือตำแหน่งที่สูงคล้ายกันมากมายหลายรุ่น เฉพาะในสมัยราชวงศ์ถังที่ยาวนานเกือบสามร้อยปีก็มีถึง 12 คน (ถ้ารวมตระกูลชุยสายอื่นมีอีก 10 คน) มีจอหงวน 11 คน ยังไม่รวมที่รับราชการในตำแหน่งอื่น ที่กุมอำนาจทางการทหาร ที่เป็นผู้นำทางความคิด (นักปราชญ์ กวีชื่อดัง) และที่เป็นลูกหลานฝ่ายหญิงที่แต่งเข้าวังในตำแหน่งต่างๆ อีกจำนวนไม่น้อย จวบจนสมัยซ่งใต้ ฐานอำนาจของตระกูลนี้จึงเสื่อมจางลงเหมือนกับตระกูลสื้อเจียอื่นๆ

    ทำไมต้องพูดถึงตระกูลชุยจากชิงเหอ? Storyฯ เล่าเป็นตัวอย่างของเหล่าตระกูลสื้อเจียค่ะ จากที่เคยคิดว่า ‘มันจะอะไรกันนักหนา?’ แต่พอมาเห็นรากฐานของตระกูลสื้อเจียเหล่านี้ เราจะได้อรรถรสเลยว่า ‘ฐานอำนาจ’ ที่เขาพูดถึงกันนั้น มันหยั่งรากลึกแค่ไหน? เหตุใดตัวละครเอกมักรู้สึกถูกกดดันมากมาย? และเพราะเหตุใดมันจึงฝังรากลึกในวัฒนธรรมจีนโบราณ? เพราะมันไม่ใช่เรื่องของหนึ่งหรือสองชั่วอายุคน แต่เรากำลังพูดถึงฐานอำนาจหลายร้อยปีที่แทรกซึมเข้าไปในสังคมโดยมีประมุขใหญ่ของตระกูลในแต่ละรุ่นเป็นแกนนำสำคัญ

    Storyฯ หวังว่าเพื่อนๆ จะดูละครได้อรรถรสยิ่งขึ้นนะคะ ใครเห็นบทบาทของคนในตระกูลชุยในละครเรื่องอื่นใดอีกหรือหากนึกถึงตระกูลอื่นที่คล้ายคลึงก็เม้นท์มาได้ค่ะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://www.sohu.com/a/484438060_121051662
    https://www.sohu.com/a/485012584_100151502
    https://www.sohu.com/a/489015136_120827444

    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.163.com/dy/article/FNSTJKT60543BK4H.html
    https://new.qq.com/omn/20211021/20211021A09WBQ00.html
    https://www.thepaper.cn/newsDetail_forward_16209361
    https://www.baike.com/wiki/清河崔氏
    https://zh.wikipedia.org/wiki/清河崔氏

    #กระดูกงดงาม #ตระกูลชุย #สกุลชุย #ชิงเหอ #สื้อเจีย
    แฟนละคร/นิยายจีนคงคุ้นเคยดีกับโครงเรื่องที่มีการชิงอำนาจทางการเมืองด้วยการจัดให้มีการแต่งงานระหว่างตระกูลดังกับเชื้อพระวงศ์ จนเกิดเป็นแรงกดดันมหาศาลให้กับตัวละครเอก บางคนอาจเคยบ่นว่า ‘มันจะอะไรกันนักหนา?’ วันนี้ Storyฯ ยกตัวอย่างมาคุยเกี่ยวกับตระกูลขุนนางเก่าแก่เรืองอำนาจ (เรียกรวมว่า สื้อเจีย / 世家) เป็นหนึ่งในตระกูลที่ดังที่สุดในประวัติศาสตร์ตอนต้นและกลางของจีนโบราณก็ว่าได้ ความมีอยู่ว่า ....ตระกูลชุยจากชิงเหอรุ่นนี้ สายหลักของตระกูลมีนางเป็นบุตรีโทนแต่เพียงผู้เดียว ... และตระกูลชุยกำลังรุ่งเรือง นางยังอยู่ในท้องของมารดาก็ได้รับการหมั้นหมายให้กับองค์ชายรัชทายาทแล้ว.... - จากเรื่อง <ทุกชาติภพ กระดูกงดงาม> ผู้แต่ง โม่เป่าเฟยเป่า (แต่บทความ Storyฯ แปลเองจ้า) ชิงเหอคือพื้นที่ทางด้านเหนือของจีน (แถบเหอหนาน เหอเป่ยและซานตง) ในสมัยจีนตอนต้นมีสถานะเป็นแคว้นบ้างหรือรองลงมาเป็นจวิ้น (郡) บ้าง ซึ่งนับเป็นเขตการปกครองที่ใหญ่ มีหลายตระกูลดังในประวัติศาตร์จีนที่มาจากพื้นที่แถบนี้ หนึ่งในนั้นคือตระกูลชุย ตระกูลชุยมีรากฐานยาวนานมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์โจวตะวันตก (ปี 1046-771 ก่อนคริสตกาล) แตกสกุลมาจากสกุลเจียงและรวมถึงชาวเผ่าพันธุ์อื่นที่หันมาใช้สกุลนี้ รับราชการในตำแหน่งสำคัญมาหลายยุคสมัย แตกมาเป็นสายที่เรียกว่า ‘ตระกูลชุยจากชิงเหอ’ ในยุคสมัยจิ๋นซีฮ่องเต้ (ปี 221 – 206 ก่อนคริสตกาล) เมื่อชุยเหลียง (ทายาทรุ่นที่ 7) ได้รับการอวยยศเป็นโหวและได้รับพระราชทานเขตการปกครองชิงเหอนี้ และต่อมาตระกูลชุยจากชิงเหอมีแตกสายย่อยไปอีกรวมเป็นหกสาย ตระกูลชุยจากชิงเหอที่กล่าวถึงในละครข้างต้น ‘ไม่ธรรมดา’ แค่ไหน? ตระกูลชุยจากชิงเหอรับราชการระดับสูงต่อเนื่อง ผ่านร้อนผ่านหนาวแต่อยู่ยงคงกระพันมากว่า 700 ปี ถูกยกย่องว่าเป็น ‘ที่สุด’ ในบรรดาสี่ตระกูลใหญ่ในยุคสมัยราชวงศ์เว่ยเหนือ (ปีค.ศ. 386 – 535) และในสมัยราชวงศ์ถังก็เป็นหนึ่งในห้าตระกูลเจ็ดเชื้อสาย (五姓七族) อันเป็นตระกูลชั้นสูงที่ต่อมาถูกห้ามไม่ให้แต่งงานกันเอง เพื่อป้องกันไม่ให้สร้างฐานอำนาจมากเกินไป มีคนจากตระกูลชุยจากชิงเหอนี้เป็นอัครมหาเสนาบดี (จ่ายเซี่ยง / 宰相) หรือตำแหน่งที่สูงคล้ายกันมากมายหลายรุ่น เฉพาะในสมัยราชวงศ์ถังที่ยาวนานเกือบสามร้อยปีก็มีถึง 12 คน (ถ้ารวมตระกูลชุยสายอื่นมีอีก 10 คน) มีจอหงวน 11 คน ยังไม่รวมที่รับราชการในตำแหน่งอื่น ที่กุมอำนาจทางการทหาร ที่เป็นผู้นำทางความคิด (นักปราชญ์ กวีชื่อดัง) และที่เป็นลูกหลานฝ่ายหญิงที่แต่งเข้าวังในตำแหน่งต่างๆ อีกจำนวนไม่น้อย จวบจนสมัยซ่งใต้ ฐานอำนาจของตระกูลนี้จึงเสื่อมจางลงเหมือนกับตระกูลสื้อเจียอื่นๆ ทำไมต้องพูดถึงตระกูลชุยจากชิงเหอ? Storyฯ เล่าเป็นตัวอย่างของเหล่าตระกูลสื้อเจียค่ะ จากที่เคยคิดว่า ‘มันจะอะไรกันนักหนา?’ แต่พอมาเห็นรากฐานของตระกูลสื้อเจียเหล่านี้ เราจะได้อรรถรสเลยว่า ‘ฐานอำนาจ’ ที่เขาพูดถึงกันนั้น มันหยั่งรากลึกแค่ไหน? เหตุใดตัวละครเอกมักรู้สึกถูกกดดันมากมาย? และเพราะเหตุใดมันจึงฝังรากลึกในวัฒนธรรมจีนโบราณ? เพราะมันไม่ใช่เรื่องของหนึ่งหรือสองชั่วอายุคน แต่เรากำลังพูดถึงฐานอำนาจหลายร้อยปีที่แทรกซึมเข้าไปในสังคมโดยมีประมุขใหญ่ของตระกูลในแต่ละรุ่นเป็นแกนนำสำคัญ Storyฯ หวังว่าเพื่อนๆ จะดูละครได้อรรถรสยิ่งขึ้นนะคะ ใครเห็นบทบาทของคนในตระกูลชุยในละครเรื่องอื่นใดอีกหรือหากนึกถึงตระกูลอื่นที่คล้ายคลึงก็เม้นท์มาได้ค่ะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://www.sohu.com/a/484438060_121051662 https://www.sohu.com/a/485012584_100151502 https://www.sohu.com/a/489015136_120827444 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.163.com/dy/article/FNSTJKT60543BK4H.html https://new.qq.com/omn/20211021/20211021A09WBQ00.html https://www.thepaper.cn/newsDetail_forward_16209361 https://www.baike.com/wiki/清河崔氏 https://zh.wikipedia.org/wiki/清河崔氏 #กระดูกงดงาม #ตระกูลชุย #สกุลชุย #ชิงเหอ #สื้อเจีย
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 363 มุมมอง 0 รีวิว
  • สัปดาห์ที่แล้วคุยเกี่ยวกับตระกูลขุนนางเก่าแก่เรืองอำนาจหรือที่เรียกรวมว่า ‘สื้อเจีย’ (世家) มีเพื่อนเพจสนใจไม่น้อย ให้หาเรื่องราวตระกูลสื้อเจียอื่นมาเล่าให้ฟังอีก Storyฯ เล่าแบบคร่าวๆ นะคะ

    วันนี้เริ่มต้นที่สี่ตระกูลใหญ่ในยุคสมัยราชวงศ์เว่ยเหนือ (ปีค.ศ. 386 – 535) สี่ตระกูลนี้คือ ชุยแห่งชิงเหอ (ที่ Storyฯ พูดถึงเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว) หลูแห่งลั่วหยาง เจิ้งแห่งสิงหยาง และหวางแห่งไท่หยวน

    จะเห็นว่าคำกล่าวเรียกมีสององค์ประกอบคือ แซ่/สกุล และพื้นที่การปกครอง ดังนั้น ในบรรดาสายตระกูลที่จะเล่าถึงต่อไปนี้ อาจมีบางแซ่ที่ใช้กันแพร่หลาย แต่เขาจะมี ‘สายแข็ง’ ของเขาค่ะ

    ตระกูลหลูแห่งลั่วหยาง (范阳卢氏) มีภูมิลำเนาเดิมอยู่แถบพื้นที่เหอเป่ยและเหอหนาน แตกสกุลมาจากสกุลเจียงและชนกลุ่มอื่น มีผู้รับราชการตำแหน่งสูงหลายคน ต้นตระกูลที่โด่งดังมากคือประมุขรุ่นที่ 13 หลูอ๋าว ผู้ดำรงตำแหน่งอู่จิงป๋อซื่อ (五经博士 / ราชบัณฑิตห้าวิชา) ในยุคสมัยจิ๋นซีฮ่องเต้ (ปี 221 – 206 ก่อนคริสตกาล) และรุ่นหลานของเขา หลูจื๋อ มีผลงานช่วยรวบรวมดินแดนในสมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันตกจนได้รับพระราชทานเขตการปกครองจัวโจวซึ่งครอบคลุมลั่วหยาง

    ตระกูลหลูสายลั่วหยางเป็นหนึ่งในห้าตระกูลเจ็ดเชื้อสาย (五姓七族) ในสมัยถังเช่นเดียวกับตระกูลชุยแห่งชิงเหอ สร้างฐานอำนาจมาจากสายบุ๋นต่อมาจึงขยายอิทธิพลไปยังด้านอื่น ในประวัติอันยาวนานหลายร้อยปีของตระกูลหลูแห่งลั่วหยางนี้ มีพระราชบุตรเขยในสมัยเว่ยเหนือถึงสามคน มีที่ดำรงตำแหน่งราชครูหลายคน เช่นในสมัยองค์โจวอู่ตี้ (ค.ศ. 543-578) ในสมัยถังมีเป็นอัครมหาเสนาบดี (จ่ายเซี่ยง / 宰相) 8 คน ยังไม่รวมข้าราชการระดับอื่น อีกทั้งยังมีกวีเอกเลื่องชื่อและลูกหลานฝ่ายหญิงที่แต่งเข้าวังอีกหลายคน

    ตระกูลเจิ้งแห่งสิงหยาง (荥阳郑氏) มีรากเหง้ามาจากแคว้นเจิ้งในสมัยราชวงศ์โจวตะวันตก (ปี 1046-771 ก่อนคริสตกาล) รับราชการมีชื่อเสียงมาตั้งแต่ราชวงศ์ฮั่นตะวันออกในตำแหน่งระดับสูงเช่นกัน ปักหลักอยู่บริเวณไคเฟิงในพื้นที่เหอหนาน ในสมัยถังมีเป็นอัครมหาเสนาบดี 10 คน และข้าราชการระดับราชเลขาธิการและระดับสูงอื่นๆ อีกหลายคนทั้งสายบุ๋นและสายบู๊ แน่นอนว่ายังไม่รวมฝ่ายหญิงก็มีการแต่งเข้าวังหลายคนในหลายราชวงศ์

    ตระกูลหวางแห่งไท่หยวน (太原王氏) มีมาแต่ยุคสมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันออก มีภูมิลำเนาอยู่ที่เขตการปกครองไท่หยวนจวิ้นทางด้านเหนือของจีน ในสมัยสามก๊กรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก รับราชการในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง มีผลงานโดดเด่นในการช่วยรวบรวมดินแดนในสมัยราชวงศ์จิ้น (ค.ศ. 266-420) ซึ่งเป็นยุคสมัยที่ลูกหลานฝ่ายหญิงได้ดิบได้ดีเป็นถึงฮองเฮาด้วยกันสองคน ตระกูลหวางอยู่ยงคงกระพันรับราชการต่อเนื่องยาวนานกว่าหนึ่งพันเจ็ดร้อยปี แต่มีการถกเถียงกันว่าเป็นตระกูลหวางสายไหน เพราะในบันทึกของสมัยเว่ยเหนือกล่าวถึงตระกูลหวางแห่งไท่หยวน แต่พอมาถึงราชวงศ์ถังนั้น หนึ่งในห้าตระกูลเจ็ดเชื้อสาย (五姓七族) มีตระกูลหวาง แต่บ้างว่าเป็นสายหลางหยา บ้างว่าเป็นสายไท่หยวน

    เรื่องห้าตระกูลเจ็ดเชื้อสาย (五姓七族) แปะไว้ก่อน คุยต่อคราวหน้าค่ะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพและข้อมูลรวบรวมจาก:
    http://www.zhlsw.cn/readnews.asp?newsid=2349
    http://www.wang-shi.com/html/80/n-980.html
    https://baike.baidu.com/item卢氏家谱/5980451
    https://page.om.qq.com/page/O5ihK_EMn_MqZEggEVq1jLwA0
    https://www.baike.com/wikiid/7851417530740071880?prd=mobile&view_id=1sf2g14c6sf400
    http://www.qulishi.com/article/201910/371662.html
    https://m.samrugs.com/shijiezhizui/zhongguo/60003.html

    #ตระกูลหลู #สกุลหลู #ตระกูลเจิ้ง #สกุลเจิ้ง #ตระกูลหวาง #สกุลหวาง #สื้อเจีย
    สัปดาห์ที่แล้วคุยเกี่ยวกับตระกูลขุนนางเก่าแก่เรืองอำนาจหรือที่เรียกรวมว่า ‘สื้อเจีย’ (世家) มีเพื่อนเพจสนใจไม่น้อย ให้หาเรื่องราวตระกูลสื้อเจียอื่นมาเล่าให้ฟังอีก Storyฯ เล่าแบบคร่าวๆ นะคะ วันนี้เริ่มต้นที่สี่ตระกูลใหญ่ในยุคสมัยราชวงศ์เว่ยเหนือ (ปีค.ศ. 386 – 535) สี่ตระกูลนี้คือ ชุยแห่งชิงเหอ (ที่ Storyฯ พูดถึงเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว) หลูแห่งลั่วหยาง เจิ้งแห่งสิงหยาง และหวางแห่งไท่หยวน จะเห็นว่าคำกล่าวเรียกมีสององค์ประกอบคือ แซ่/สกุล และพื้นที่การปกครอง ดังนั้น ในบรรดาสายตระกูลที่จะเล่าถึงต่อไปนี้ อาจมีบางแซ่ที่ใช้กันแพร่หลาย แต่เขาจะมี ‘สายแข็ง’ ของเขาค่ะ ตระกูลหลูแห่งลั่วหยาง (范阳卢氏) มีภูมิลำเนาเดิมอยู่แถบพื้นที่เหอเป่ยและเหอหนาน แตกสกุลมาจากสกุลเจียงและชนกลุ่มอื่น มีผู้รับราชการตำแหน่งสูงหลายคน ต้นตระกูลที่โด่งดังมากคือประมุขรุ่นที่ 13 หลูอ๋าว ผู้ดำรงตำแหน่งอู่จิงป๋อซื่อ (五经博士 / ราชบัณฑิตห้าวิชา) ในยุคสมัยจิ๋นซีฮ่องเต้ (ปี 221 – 206 ก่อนคริสตกาล) และรุ่นหลานของเขา หลูจื๋อ มีผลงานช่วยรวบรวมดินแดนในสมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันตกจนได้รับพระราชทานเขตการปกครองจัวโจวซึ่งครอบคลุมลั่วหยาง ตระกูลหลูสายลั่วหยางเป็นหนึ่งในห้าตระกูลเจ็ดเชื้อสาย (五姓七族) ในสมัยถังเช่นเดียวกับตระกูลชุยแห่งชิงเหอ สร้างฐานอำนาจมาจากสายบุ๋นต่อมาจึงขยายอิทธิพลไปยังด้านอื่น ในประวัติอันยาวนานหลายร้อยปีของตระกูลหลูแห่งลั่วหยางนี้ มีพระราชบุตรเขยในสมัยเว่ยเหนือถึงสามคน มีที่ดำรงตำแหน่งราชครูหลายคน เช่นในสมัยองค์โจวอู่ตี้ (ค.ศ. 543-578) ในสมัยถังมีเป็นอัครมหาเสนาบดี (จ่ายเซี่ยง / 宰相) 8 คน ยังไม่รวมข้าราชการระดับอื่น อีกทั้งยังมีกวีเอกเลื่องชื่อและลูกหลานฝ่ายหญิงที่แต่งเข้าวังอีกหลายคน ตระกูลเจิ้งแห่งสิงหยาง (荥阳郑氏) มีรากเหง้ามาจากแคว้นเจิ้งในสมัยราชวงศ์โจวตะวันตก (ปี 1046-771 ก่อนคริสตกาล) รับราชการมีชื่อเสียงมาตั้งแต่ราชวงศ์ฮั่นตะวันออกในตำแหน่งระดับสูงเช่นกัน ปักหลักอยู่บริเวณไคเฟิงในพื้นที่เหอหนาน ในสมัยถังมีเป็นอัครมหาเสนาบดี 10 คน และข้าราชการระดับราชเลขาธิการและระดับสูงอื่นๆ อีกหลายคนทั้งสายบุ๋นและสายบู๊ แน่นอนว่ายังไม่รวมฝ่ายหญิงก็มีการแต่งเข้าวังหลายคนในหลายราชวงศ์ ตระกูลหวางแห่งไท่หยวน (太原王氏) มีมาแต่ยุคสมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันออก มีภูมิลำเนาอยู่ที่เขตการปกครองไท่หยวนจวิ้นทางด้านเหนือของจีน ในสมัยสามก๊กรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก รับราชการในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง มีผลงานโดดเด่นในการช่วยรวบรวมดินแดนในสมัยราชวงศ์จิ้น (ค.ศ. 266-420) ซึ่งเป็นยุคสมัยที่ลูกหลานฝ่ายหญิงได้ดิบได้ดีเป็นถึงฮองเฮาด้วยกันสองคน ตระกูลหวางอยู่ยงคงกระพันรับราชการต่อเนื่องยาวนานกว่าหนึ่งพันเจ็ดร้อยปี แต่มีการถกเถียงกันว่าเป็นตระกูลหวางสายไหน เพราะในบันทึกของสมัยเว่ยเหนือกล่าวถึงตระกูลหวางแห่งไท่หยวน แต่พอมาถึงราชวงศ์ถังนั้น หนึ่งในห้าตระกูลเจ็ดเชื้อสาย (五姓七族) มีตระกูลหวาง แต่บ้างว่าเป็นสายหลางหยา บ้างว่าเป็นสายไท่หยวน เรื่องห้าตระกูลเจ็ดเชื้อสาย (五姓七族) แปะไว้ก่อน คุยต่อคราวหน้าค่ะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพและข้อมูลรวบรวมจาก: http://www.zhlsw.cn/readnews.asp?newsid=2349 http://www.wang-shi.com/html/80/n-980.html https://baike.baidu.com/item卢氏家谱/5980451 https://page.om.qq.com/page/O5ihK_EMn_MqZEggEVq1jLwA0 https://www.baike.com/wikiid/7851417530740071880?prd=mobile&view_id=1sf2g14c6sf400 http://www.qulishi.com/article/201910/371662.html https://m.samrugs.com/shijiezhizui/zhongguo/60003.html #ตระกูลหลู #สกุลหลู #ตระกูลเจิ้ง #สกุลเจิ้ง #ตระกูลหวาง #สกุลหวาง #สื้อเจีย
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 400 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญพ่อท่านนิ่ม รุ่น1 วัดชลธาราวาส วัดร่อน จ.นราธิวาส ปี2545
    เหรียญพ่อท่านนิ่ม รุ่น1 พิมพ์ใหญ่ วัดชลธาราวาส วัดร่อน ตำบลตันหยงมัส อำเภอระแงะ จ.นราธิวาส ปี2545 // พระดีพิธีใหญ่ พระประสบการณ์สูง ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณครบทุกด้าน แคล้วคลาด ป้องกันภัย มหาอุด สุดยอดนิรันตราย ทำมาค้าขายดี เมตตามหานิยม โชคลาภ รวมทั้งไล่ ภูตผี กันคุณไสย ปัดเป่าเสนียดจัญไร >>

    ** วัดชลธาราวาสมีชื่อเดิมว่าวัดร่อน ซึ่งเป็นที่ตั้งของชุมชนที่มีลำคลองไหลผ่านมาจากคลองโต๊ะโม๊ะ อำเภอสุคีรินและชาวบ้านได้ทำการร่อนหาแร่ทองในลำคลองดังกล่าว วัดแห่งนี้ก่อตั้งเป็นสำนักสงฆ์มาก่อน โดยพระอธิการแดง เมื่อปี พ.ศ.2426 ต่อมาได้รับอนุญาตให้สร้างวัด เมื่อปี พ.ศ.2440 และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2468 เป็นวัดที่เป็นศูนย์ รวมใจของพุทธศาสนิกชน ตำบลตันหยงมัส อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส และกิจกรรมต่างๆ
    เพื่อสืบสานพุทธศาสนาอย่างต่อเนื่อง >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญพ่อท่านนิ่ม รุ่น1 วัดชลธาราวาส วัดร่อน จ.นราธิวาส ปี2545 เหรียญพ่อท่านนิ่ม รุ่น1 พิมพ์ใหญ่ วัดชลธาราวาส วัดร่อน ตำบลตันหยงมัส อำเภอระแงะ จ.นราธิวาส ปี2545 // พระดีพิธีใหญ่ พระประสบการณ์สูง ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณครบทุกด้าน แคล้วคลาด ป้องกันภัย มหาอุด สุดยอดนิรันตราย ทำมาค้าขายดี เมตตามหานิยม โชคลาภ รวมทั้งไล่ ภูตผี กันคุณไสย ปัดเป่าเสนียดจัญไร >> ** วัดชลธาราวาสมีชื่อเดิมว่าวัดร่อน ซึ่งเป็นที่ตั้งของชุมชนที่มีลำคลองไหลผ่านมาจากคลองโต๊ะโม๊ะ อำเภอสุคีรินและชาวบ้านได้ทำการร่อนหาแร่ทองในลำคลองดังกล่าว วัดแห่งนี้ก่อตั้งเป็นสำนักสงฆ์มาก่อน โดยพระอธิการแดง เมื่อปี พ.ศ.2426 ต่อมาได้รับอนุญาตให้สร้างวัด เมื่อปี พ.ศ.2440 และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2468 เป็นวัดที่เป็นศูนย์ รวมใจของพุทธศาสนิกชน ตำบลตันหยงมัส อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส และกิจกรรมต่างๆ เพื่อสืบสานพุทธศาสนาอย่างต่อเนื่อง >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 242 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักกฎหมายชี้ หากศาลตัดสินว่า “ทักษิณ” นอนชั้น 14 ไม่เป็นไปตามกฎหมาย ต้องกลับเข้าคุกสถานเดียว เพราะถือว่ายังไม่ได้ถูกจำคุก จะอ้างว่าได้รับพระราชทานอภัยโทษแล้วไม่ได้ เพราะได้ตามวาระ ไม่สามารถใช้ได้ตลอดกาล ต้องรอการพระราชทานอภัยโทษครั้งใหม่

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000045934

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    นักกฎหมายชี้ หากศาลตัดสินว่า “ทักษิณ” นอนชั้น 14 ไม่เป็นไปตามกฎหมาย ต้องกลับเข้าคุกสถานเดียว เพราะถือว่ายังไม่ได้ถูกจำคุก จะอ้างว่าได้รับพระราชทานอภัยโทษแล้วไม่ได้ เพราะได้ตามวาระ ไม่สามารถใช้ได้ตลอดกาล ต้องรอการพระราชทานอภัยโทษครั้งใหม่ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000045934 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Love
    Yay
    7
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 657 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'หมอวรงค์' แนะแพทยสภาอย่าเอาแต่ตั้งรับพร้อมท้า 'รมต.เรียงหิน' ใช้อำนาจวีโต้
    https://www.thai-tai.tv/news/18683/
    'หมอวรงค์' แนะแพทยสภาอย่าเอาแต่ตั้งรับพร้อมท้า 'รมต.เรียงหิน' ใช้อำนาจวีโต้ https://www.thai-tai.tv/news/18683/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 85 มุมมอง 0 รีวิว
  • มารยาทการเมืองล็อคคอ เพื่อไทยเตือนภูมิใจไทย ห้ามโหวตคว่ำงบประมาณ 69
    .
    น่าจะกลายเป็นขมิ้นกับปูนกันแล้วสำหรับพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย ภายหลังเกิดกระแสข่าวพรรคภูมิใจไทยพร้อมโหวตคว่ำร่างพระราชบัญญติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 เพราะไม่พอใจพรรคเพื่อไทยในหลายเรื่องๆ โดยเฉพาะการเร่งรัดทำคดีฮั้วเลือกส.ว. โดยถึงแม้จะเป็นเพียงแค่ข่าวลือที่ยากต่อการจับต้นชนปลายว่าพรรคภูมิใจไทยจะกล้าหักกับพรรคเพื่อไทยขนาดนั้นหรือไม่ แต่ปรากฎว่าท่าทีของคนในพรรคเพื่อไทยก็เล่นใหญ่เกินเบอร์เช่นกัน ถึงขนาดบอกว่าการโหวตงบประมาณถือเป็นมารยาททางการเมือง
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000044172

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    มารยาทการเมืองล็อคคอ เพื่อไทยเตือนภูมิใจไทย ห้ามโหวตคว่ำงบประมาณ 69 . น่าจะกลายเป็นขมิ้นกับปูนกันแล้วสำหรับพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย ภายหลังเกิดกระแสข่าวพรรคภูมิใจไทยพร้อมโหวตคว่ำร่างพระราชบัญญติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 เพราะไม่พอใจพรรคเพื่อไทยในหลายเรื่องๆ โดยเฉพาะการเร่งรัดทำคดีฮั้วเลือกส.ว. โดยถึงแม้จะเป็นเพียงแค่ข่าวลือที่ยากต่อการจับต้นชนปลายว่าพรรคภูมิใจไทยจะกล้าหักกับพรรคเพื่อไทยขนาดนั้นหรือไม่ แต่ปรากฎว่าท่าทีของคนในพรรคเพื่อไทยก็เล่นใหญ่เกินเบอร์เช่นกัน ถึงขนาดบอกว่าการโหวตงบประมาณถือเป็นมารยาททางการเมือง . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000044172 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Sad
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1133 มุมมอง 0 รีวิว
  • "กองทัพภาคที่ 2 จัดพิธีพุทธาภิเษก สมเด็จพระพุทธมหาจักรพรรดิ (หลวงพ่อใหญ่โชคดี) และทอดผ้าป่าสามัคคี"

    📌กองทัพภาคที่ 2 ร่วมบุญอันยิ่งใหญ่ จัดสร้างสมเด็จพุทธมหาจักรพรรดิ (หลวงพ่อใหญ่โชคดี)และทอดผ้าป่าสามัคคี ✨ โดยมี พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และคุณสุพางค์พรรณ พาดกลาง ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขากองทัพภาคที่ 2 เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมผู้มีจิตศรัทธา ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมา ณ สโมสรร่วมเริงชัย ค่ายสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา🎉

    🌟ได้รับพระเมตตา จาก "4 ดอกบัวบานแดนอีสาน"👍
    🙏หลวงปู่ศิลา วัดพระธาตุหมื่นหิน
    🙏หลวงพ่อสุริยันต์ วัดป่าวังน้ำเย็น
    🙏พระอาจารย์ต้อม วัดท่าสะแบง
    🙏พระอาจารย์สุริยัณ วัดป่าฉัพพรรณรังสี

    ในพิธีมหาพุทธาภิเษก และทอดผ้าป่าสามัคคีมหากุศล สมทบทุนสร้าง “สมเด็จพระพุทธมหาจักรพรรดิ” หรือ “หลวงพ่อใหญ่โชคดี” เพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชน และเป็นสัญลักษณ์แห่งความเจริญรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนา โดยพระพุทธปฏิมา สมเด็จพระพุทธมหาจักรพรรดิ (หลวงพ่อใหญ่โชคดี) มีขนาดหน้าตักกว้าง 7 เมตร ความสูง 9 เมตร ซึ่งจะประดิษฐาน ณ วัดป่าศรีคุณาราม อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี

    📌วัดป่าศรีคุณารามเป็นวัดป่าสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่อันสงบ ร่มรื่น เหมาะแก่การปฏิบัติธรรม การสร้างพระพุทธปฏิมาองค์ใหญ่ ณ วัดแห่งนี้ จึงเป็นการส่งเสริมให้วัดเป็นศูนย์กลางแห่งการศึกษา ปฏิบัติธรรม และเป็นที่พักพิงทางใจของพุทธศาสนิกชนสืบไป🌟👍💂

    #หลวงพ่อใหญ่โชคดี
    #หลวงปู่ศิลา
    #กองทัพภาคที่2
    #วัดป่าศรีคุณาราม
    #มณฑลทหารบกที่21
    #ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพภาคที่2
    "กองทัพภาคที่ 2 จัดพิธีพุทธาภิเษก สมเด็จพระพุทธมหาจักรพรรดิ (หลวงพ่อใหญ่โชคดี) และทอดผ้าป่าสามัคคี" 📌กองทัพภาคที่ 2 ร่วมบุญอันยิ่งใหญ่ จัดสร้างสมเด็จพุทธมหาจักรพรรดิ (หลวงพ่อใหญ่โชคดี)และทอดผ้าป่าสามัคคี ✨ โดยมี พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และคุณสุพางค์พรรณ พาดกลาง ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขากองทัพภาคที่ 2 เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมผู้มีจิตศรัทธา ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมา ณ สโมสรร่วมเริงชัย ค่ายสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา🎉 🌟ได้รับพระเมตตา จาก "4 ดอกบัวบานแดนอีสาน"👍 🙏หลวงปู่ศิลา วัดพระธาตุหมื่นหิน 🙏หลวงพ่อสุริยันต์ วัดป่าวังน้ำเย็น 🙏พระอาจารย์ต้อม วัดท่าสะแบง 🙏พระอาจารย์สุริยัณ วัดป่าฉัพพรรณรังสี ในพิธีมหาพุทธาภิเษก และทอดผ้าป่าสามัคคีมหากุศล สมทบทุนสร้าง “สมเด็จพระพุทธมหาจักรพรรดิ” หรือ “หลวงพ่อใหญ่โชคดี” เพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชน และเป็นสัญลักษณ์แห่งความเจริญรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนา โดยพระพุทธปฏิมา สมเด็จพระพุทธมหาจักรพรรดิ (หลวงพ่อใหญ่โชคดี) มีขนาดหน้าตักกว้าง 7 เมตร ความสูง 9 เมตร ซึ่งจะประดิษฐาน ณ วัดป่าศรีคุณาราม อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี 📌วัดป่าศรีคุณารามเป็นวัดป่าสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่อันสงบ ร่มรื่น เหมาะแก่การปฏิบัติธรรม การสร้างพระพุทธปฏิมาองค์ใหญ่ ณ วัดแห่งนี้ จึงเป็นการส่งเสริมให้วัดเป็นศูนย์กลางแห่งการศึกษา ปฏิบัติธรรม และเป็นที่พักพิงทางใจของพุทธศาสนิกชนสืบไป🌟👍💂 #หลวงพ่อใหญ่โชคดี #หลวงปู่ศิลา #กองทัพภาคที่2 #วัดป่าศรีคุณาราม #มณฑลทหารบกที่21 #ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพภาคที่2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 505 มุมมอง 0 รีวิว
  • พระสมเด็จหลวงปู่บุญ วัดทุ่งเหียง จ.ชลบุรี
    พระสมเด็จบุญฤทธิ์ จากกรุ ( ผสมผงเก่าวัดระฆัง ) หลวงปู่บุญ วัดทุ่งเหียง จ.ชลบุรี // พระดีพิธีใหญ่ พระสวยๆ เดิมๆ เนื้อจัดๆ // พระสถาพสวยมาก สถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณทางเสน่ห์ โชคลาภ เมตตามหานิยม ทำกิน ค้าขายเจริญรุ่งเรือง คงกระพัน ชาตรี ทวีโชคโภคทรัพย์ ช่วยบันดาลให้มีโชคลาภ เงินทองหลั่งไหลมา >>

    ** หลวงปู่บุญ วัดทุ่งเหียง จ.ชลบุรี พระเกจิแห่งยุคอีกองค์หนึ่งที่มีวัตรปฏิบัติงดงาม มีจิตใจที่เปี่ยมไปด้วยเมตตาอย่างหาที่สุดมิได้ มีสมาธิจิตใจอันแน่วแน่เด็ดเดี่ยวมั่นคง วัตถุมงคลของท่านที่สร้างแต่ละครั้งครา ล้วนได้รับความนิยมด้วยแรงศรัทธาและประสบการณ์ ทั้งด้านเมตตาค้าขาย คงกระพันชาตรี ทวีโชคโภคทรัพย์ หลวงปู่บุญเคยไปพำนักอยู่ที่วัดระฆังโฆษิตาราม ต้นตำหรับพระสมเด็จวัดระฆังฯ จักรพรรดิพระเครื่อง โดยไปพักอยู่กับกับหลวงปู่นาค วัดระฆัง ได้มีโอกาสเรียนวิชากับหลวงปู่หิน โดยเฉพาะการเขียนสูตรลบผงพุทธคุณ >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    พระสมเด็จหลวงปู่บุญ วัดทุ่งเหียง จ.ชลบุรี พระสมเด็จบุญฤทธิ์ จากกรุ ( ผสมผงเก่าวัดระฆัง ) หลวงปู่บุญ วัดทุ่งเหียง จ.ชลบุรี // พระดีพิธีใหญ่ พระสวยๆ เดิมๆ เนื้อจัดๆ // พระสถาพสวยมาก สถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณทางเสน่ห์ โชคลาภ เมตตามหานิยม ทำกิน ค้าขายเจริญรุ่งเรือง คงกระพัน ชาตรี ทวีโชคโภคทรัพย์ ช่วยบันดาลให้มีโชคลาภ เงินทองหลั่งไหลมา >> ** หลวงปู่บุญ วัดทุ่งเหียง จ.ชลบุรี พระเกจิแห่งยุคอีกองค์หนึ่งที่มีวัตรปฏิบัติงดงาม มีจิตใจที่เปี่ยมไปด้วยเมตตาอย่างหาที่สุดมิได้ มีสมาธิจิตใจอันแน่วแน่เด็ดเดี่ยวมั่นคง วัตถุมงคลของท่านที่สร้างแต่ละครั้งครา ล้วนได้รับความนิยมด้วยแรงศรัทธาและประสบการณ์ ทั้งด้านเมตตาค้าขาย คงกระพันชาตรี ทวีโชคโภคทรัพย์ หลวงปู่บุญเคยไปพำนักอยู่ที่วัดระฆังโฆษิตาราม ต้นตำหรับพระสมเด็จวัดระฆังฯ จักรพรรดิพระเครื่อง โดยไปพักอยู่กับกับหลวงปู่นาค วัดระฆัง ได้มีโอกาสเรียนวิชากับหลวงปู่หิน โดยเฉพาะการเขียนสูตรลบผงพุทธคุณ >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 334 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตอนเรียน มธ.หลงเชื่อข้อมูลผิดๆ ไม่ชอบ ร.๑๐ จนไม่เข้ารับปริญญา ทั้งๆที่ได้ #เกียรตินิยม รู้สึกเสียใจและเสียดายจนถึงทุกวันนี้...
    และ เพราะอะไรถึงกลับมารัก ร.๑๐ อย่างสุดหัวใจ 🙏💛
    ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ 'ดร.นิว' นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา

    ได้โพสเฟซบุ๊ค ดังนี้
    .
    ผมเป็นคนหนึ่งที่เรียน มธ. รหัส 53 และเคยได้รับข้อมูลผิด ๆ จนไม่ชอบในหลวง ร.10 มาก ๆ ถึงขั้นไม่เข้ารับพระราชทานปริญญาทั้ง ๆ ที่ผมจบเกียรตินิยม ผมไม่ได้เข้ารับของจริง ถ้าไม่เชื่อก็ไปเช็กได้เลยครับ ผมจึงยังคงเสียใจและเสียดายมาจนถึงทุกวันนี้ แต่พอได้ศึกษาข้อมูลที่ถูกต้องด้วยตนเองในช่วงเรียนปริญญาเอกที่สิงคโปร์ จากที่ไม่ชอบก็กลายเป็นรักและเห็นใจพระองค์ท่านมาก ๆ
    .
    พบว่าสิ่งที่เคยได้ยินจากสามนิ้วล้มเจ้าในยุคนั้นล้วนเป็นความเท็จและไม่มีประโยชน์ เห็นได้ชัดเจนมาก ๆ ว่าการบิดเบือนให้ร้ายในหลวง ร.10 เป็นส่วนหนึ่งของขบวนการสร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชน เพื่อเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจ โดยมักบิดเบือนให้ร้ายสร้างมโนภาพต่าง ๆ ให้ในหลวง ร.10 กลายเป็นคนไม่ดี เป็นยักษ์ เป็นมาร เป็นจอมวายร้าย
    .
    แต่ทว่าในความเป็นจริง แม้ในหลวง ร.10 จะเป็นคนเคร่งครัดมากในระเบียบวินัยแบบทหาร แต่พระองค์ท่านก็เป็นคนที่มีเมตตาสูงมาก ขนาดชีวิตสัตว์ตัวเล็กตัวน้อย ท่านยังให้ความเมตตาแบบสุด ๆ ผมเคยได้ยินเรื่องหนึ่งที่เชื่อถือได้อย่างแน่ชัด เวลามีสัตว์หลงเข้ามาในลานฝึก ทหารที่ฝึกกับพระองค์ท่านจะต้องหยิบมันไปปล่อยอย่างเหมาะสม ใครจะไปนึกว่าในหลวง ร.10 จะทรงน่ารักขนาดนี้
    .
    ผมยังจำได้ดี ตอนผมจบปริญญาเอกปี 2561 ในวัย 26 ปี ในปีนั้นเพื่อนชาวสิงคโปร์ของผมชื่อ ‘ยองเจีย’ วัย 25 ปี เคยแสดงความคิดเห็นให้ผมฟังว่า "สถาบันพระมหากษัตริย์คือจุดแข็งที่สำคัญที่สุดของประเทศไทย ซึ่งเป็นลักษณะพิเศษอันหาได้ยากยิ่ง ลองคิดดูนะ กว่าประเทศอื่นจะรวมผู้คนให้สามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันได้ ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ แต่ประเทศไทยสามารถทำได้แค่ในชั่วพริบตา เพราะมีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมจิตใจของผู้คน ดังนั้นถ้าหากมีใครต้องการทำลายประเทศไทย หรือแทรกแซงประเทศไทยเพื่อผลประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง จึงไม่แปลกที่เขาต้องทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์"
    .
    ผมโชคดีที่ตาสว่างกว่า ไม่เช่นนั้นตอนนี้ผมอาจติดคุกหรือไม่ก็ได้ดิบได้ดีในพรรคการเมืองหนึ่ง พรรคที่มีรากเหง้ามาจากสามนิ้วล้มเจ้าใน มธ. ชอบอ้างอย่างปลอมเปลือกว่าอยากให้สถาบันพระมหากษัตริย์มั่นคงสถาพร แต่ในความเป็นจริงแม้แต่ถวายพระพรก็ยังไม่มีเลย สุดท้ายเมื่อผมออกจาก Echo Chamber ของการลือตาม ๆ กันอย่างเสียสติ ไม่ต่างจากนกแก้วนกขุนทอง ไม่หลงเชื่อการโฆษณาชวนเชื่อบิดเบือนให้ร้ายพระองค์ท่านอีกต่อไป ผมจึงตาสว่างยิ่งกว่าตาสว่างและรักพระองค์ท่านสุดหัวใจ

    ดร.นิว ศุภณัฐ

    การที่บุคคล เห็นโทษ โดยความเป็นโทษ แล้วทำ คืนตามธรรม ถึงความสำรวมระวังต่อไป นี้เป็นความเจริญในอริยวินัย ของผู้นั้น
    #ตถาคตภาษิต
    ตอนเรียน มธ.หลงเชื่อข้อมูลผิดๆ ไม่ชอบ ร.๑๐ จนไม่เข้ารับปริญญา ทั้งๆที่ได้ #เกียรตินิยม รู้สึกเสียใจและเสียดายจนถึงทุกวันนี้... และ เพราะอะไรถึงกลับมารัก ร.๑๐ อย่างสุดหัวใจ 🙏💛 ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ 'ดร.นิว' นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้โพสเฟซบุ๊ค ดังนี้ . ผมเป็นคนหนึ่งที่เรียน มธ. รหัส 53 และเคยได้รับข้อมูลผิด ๆ จนไม่ชอบในหลวง ร.10 มาก ๆ ถึงขั้นไม่เข้ารับพระราชทานปริญญาทั้ง ๆ ที่ผมจบเกียรตินิยม ผมไม่ได้เข้ารับของจริง ถ้าไม่เชื่อก็ไปเช็กได้เลยครับ ผมจึงยังคงเสียใจและเสียดายมาจนถึงทุกวันนี้ แต่พอได้ศึกษาข้อมูลที่ถูกต้องด้วยตนเองในช่วงเรียนปริญญาเอกที่สิงคโปร์ จากที่ไม่ชอบก็กลายเป็นรักและเห็นใจพระองค์ท่านมาก ๆ . พบว่าสิ่งที่เคยได้ยินจากสามนิ้วล้มเจ้าในยุคนั้นล้วนเป็นความเท็จและไม่มีประโยชน์ เห็นได้ชัดเจนมาก ๆ ว่าการบิดเบือนให้ร้ายในหลวง ร.10 เป็นส่วนหนึ่งของขบวนการสร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชน เพื่อเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจ โดยมักบิดเบือนให้ร้ายสร้างมโนภาพต่าง ๆ ให้ในหลวง ร.10 กลายเป็นคนไม่ดี เป็นยักษ์ เป็นมาร เป็นจอมวายร้าย . แต่ทว่าในความเป็นจริง แม้ในหลวง ร.10 จะเป็นคนเคร่งครัดมากในระเบียบวินัยแบบทหาร แต่พระองค์ท่านก็เป็นคนที่มีเมตตาสูงมาก ขนาดชีวิตสัตว์ตัวเล็กตัวน้อย ท่านยังให้ความเมตตาแบบสุด ๆ ผมเคยได้ยินเรื่องหนึ่งที่เชื่อถือได้อย่างแน่ชัด เวลามีสัตว์หลงเข้ามาในลานฝึก ทหารที่ฝึกกับพระองค์ท่านจะต้องหยิบมันไปปล่อยอย่างเหมาะสม ใครจะไปนึกว่าในหลวง ร.10 จะทรงน่ารักขนาดนี้ . ผมยังจำได้ดี ตอนผมจบปริญญาเอกปี 2561 ในวัย 26 ปี ในปีนั้นเพื่อนชาวสิงคโปร์ของผมชื่อ ‘ยองเจีย’ วัย 25 ปี เคยแสดงความคิดเห็นให้ผมฟังว่า "สถาบันพระมหากษัตริย์คือจุดแข็งที่สำคัญที่สุดของประเทศไทย ซึ่งเป็นลักษณะพิเศษอันหาได้ยากยิ่ง ลองคิดดูนะ กว่าประเทศอื่นจะรวมผู้คนให้สามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันได้ ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ แต่ประเทศไทยสามารถทำได้แค่ในชั่วพริบตา เพราะมีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมจิตใจของผู้คน ดังนั้นถ้าหากมีใครต้องการทำลายประเทศไทย หรือแทรกแซงประเทศไทยเพื่อผลประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง จึงไม่แปลกที่เขาต้องทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์" . ผมโชคดีที่ตาสว่างกว่า ไม่เช่นนั้นตอนนี้ผมอาจติดคุกหรือไม่ก็ได้ดิบได้ดีในพรรคการเมืองหนึ่ง พรรคที่มีรากเหง้ามาจากสามนิ้วล้มเจ้าใน มธ. ชอบอ้างอย่างปลอมเปลือกว่าอยากให้สถาบันพระมหากษัตริย์มั่นคงสถาพร แต่ในความเป็นจริงแม้แต่ถวายพระพรก็ยังไม่มีเลย สุดท้ายเมื่อผมออกจาก Echo Chamber ของการลือตาม ๆ กันอย่างเสียสติ ไม่ต่างจากนกแก้วนกขุนทอง ไม่หลงเชื่อการโฆษณาชวนเชื่อบิดเบือนให้ร้ายพระองค์ท่านอีกต่อไป ผมจึงตาสว่างยิ่งกว่าตาสว่างและรักพระองค์ท่านสุดหัวใจ ดร.นิว ศุภณัฐ การที่บุคคล เห็นโทษ โดยความเป็นโทษ แล้วทำ คืนตามธรรม ถึงความสำรวมระวังต่อไป นี้เป็นความเจริญในอริยวินัย ของผู้นั้น #ตถาคตภาษิต
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 540 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ยกคำร้อง “ชาญชัย” ให้ไต่สวนกรณีส่ง “ทักษิณ” ไปรักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ ผิดขั้นตอนกฎหมายหรือไม่ ชี้ผู้ร้องไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง อย่างไรก็ตาม เมื่อความปรากฏว่าการบังคับโทษอาจไม่ถูกต้อง ศาลฯ จึงแจ้งให้จำเลยและราชทัณฑ์ชี้แจงใน 30 วัน และนัดโจทก์-จำเลยไต่สวนวันที่ 13 มิ.ย.นี้

    วันนี้(30 เม.ย.) เวลา 13.00 น.ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อฟังคำสั่งตามคำร้องที่นายชาญชัยได้ยื่นต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2568 เพื่อขอให้ไต่สวนกรณีที่กรมราชทัณฑ์อนุญาตให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งต้องคำพิพากษาจำคุก 8 ปีในคดีทุจริต ก่อนได้รับพระราชทานอภัยโทษลดโทษเหลือ 1 ปี ได้ออกจากเรือนจำไปเข้ารับการรักษาตัวที่ห้องวีไอพี ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ เมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 22 สิงหาคม 2566 โดยไม่ได้รับอนุญาตจากศาล ซึ่งนายชาญชัยเห็นว่าการกระทำดังกล่าวอาจขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 89, 89/2(1) (2) และมาตรา 246 และไม่อาจอ้างกฎกระทรวงเรื่องการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ พ.ศ.2563 ลงวันที่ 25 ก.ย.2563 ซึ่งออกโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 55 วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ พ.ศ.2560 เพราะขัดต่อบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

    ล่าสุดมีรายงานว่า ศาลฯ ได้ยกคำร้อง เนื่องจากเห็นว่านายชาญชัย ไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง

    อย่างไรก็ตาม นายชาญชัย เปิดเผยหลังจากฟังคำสั่งศาลฯ ว่า ศาลฯ เห็นว่าตนไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง จึงไม่อาจรับไว้เป็นคดีได้ แต่ได้สั่งให้เรือนจำและเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ให้ชี้แจงว่าการลงโทษจำคุกจำเลย เป็นไปโดยถูกต้องหรือไม่ โดยให้ชี้แจงภายใน 30 วัน นอกจากนี้ได้นัดพร้อมโจทก์และจำเลยคือนายทักษิณ ทำการไต่สวนในวันที่ 13 มิ.ย.นี้

    จึงเท่ากับว่าคดีนี้แม้ศาลฯ จะไม่รับคำร้องของนายชาญชัย แต่เมื่อมีความปรากฏต่อศาลว่า การบังคับโทษอาจไม่เป็นไปตามกฎหมาย ศาลฎีกาฯ จึงจะดำเนินการเรื่องนี้เอง

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/politics/detail/9680000040492

    #MGROnline #ทักษิณ
    ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ยกคำร้อง “ชาญชัย” ให้ไต่สวนกรณีส่ง “ทักษิณ” ไปรักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ ผิดขั้นตอนกฎหมายหรือไม่ ชี้ผู้ร้องไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง อย่างไรก็ตาม เมื่อความปรากฏว่าการบังคับโทษอาจไม่ถูกต้อง ศาลฯ จึงแจ้งให้จำเลยและราชทัณฑ์ชี้แจงใน 30 วัน และนัดโจทก์-จำเลยไต่สวนวันที่ 13 มิ.ย.นี้ • วันนี้(30 เม.ย.) เวลา 13.00 น.ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อฟังคำสั่งตามคำร้องที่นายชาญชัยได้ยื่นต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2568 เพื่อขอให้ไต่สวนกรณีที่กรมราชทัณฑ์อนุญาตให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งต้องคำพิพากษาจำคุก 8 ปีในคดีทุจริต ก่อนได้รับพระราชทานอภัยโทษลดโทษเหลือ 1 ปี ได้ออกจากเรือนจำไปเข้ารับการรักษาตัวที่ห้องวีไอพี ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ เมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 22 สิงหาคม 2566 โดยไม่ได้รับอนุญาตจากศาล ซึ่งนายชาญชัยเห็นว่าการกระทำดังกล่าวอาจขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 89, 89/2(1) (2) และมาตรา 246 และไม่อาจอ้างกฎกระทรวงเรื่องการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ พ.ศ.2563 ลงวันที่ 25 ก.ย.2563 ซึ่งออกโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 55 วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ พ.ศ.2560 เพราะขัดต่อบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา • ล่าสุดมีรายงานว่า ศาลฯ ได้ยกคำร้อง เนื่องจากเห็นว่านายชาญชัย ไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง • อย่างไรก็ตาม นายชาญชัย เปิดเผยหลังจากฟังคำสั่งศาลฯ ว่า ศาลฯ เห็นว่าตนไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง จึงไม่อาจรับไว้เป็นคดีได้ แต่ได้สั่งให้เรือนจำและเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ให้ชี้แจงว่าการลงโทษจำคุกจำเลย เป็นไปโดยถูกต้องหรือไม่ โดยให้ชี้แจงภายใน 30 วัน นอกจากนี้ได้นัดพร้อมโจทก์และจำเลยคือนายทักษิณ ทำการไต่สวนในวันที่ 13 มิ.ย.นี้ • จึงเท่ากับว่าคดีนี้แม้ศาลฯ จะไม่รับคำร้องของนายชาญชัย แต่เมื่อมีความปรากฏต่อศาลว่า การบังคับโทษอาจไม่เป็นไปตามกฎหมาย ศาลฎีกาฯ จึงจะดำเนินการเรื่องนี้เอง • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/politics/detail/9680000040492 • #MGROnline #ทักษิณ
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 481 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ทักษิณ” บอกอำนาจปรับ ครม.เป็นของนายกฯ แต่พูดเป็นฉากๆ ยังไม่มีความคิดปรับพรรคไหนออกไปเป็นฝ่ายค้าน ส่วนภายใน พท.ก็รอปรับทีเดียว แย้มดึง พปชร.เข้าร่วมก็มีเพื่อนฝูงกันคุยกันอยู่ แต่ยังไม่คิดดึงใคร

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000039239

    #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “ทักษิณ” บอกอำนาจปรับ ครม.เป็นของนายกฯ แต่พูดเป็นฉากๆ ยังไม่มีความคิดปรับพรรคไหนออกไปเป็นฝ่ายค้าน ส่วนภายใน พท.ก็รอปรับทีเดียว แย้มดึง พปชร.เข้าร่วมก็มีเพื่อนฝูงกันคุยกันอยู่ แต่ยังไม่คิดดึงใคร อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000039239 #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Angry
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 748 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประณามโจรใต้ยิงเณร แก้ไขปัญหาไม่ถูกทาง วางมาตรการล้อมคอก
    .
    การก่อเหตุยิงสามเณรขณะเดินทางไปบิณฑบาตในพื้นที่ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เป็นเหตุให้มรณภาพ ตามที่ปรากฏเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้อาวุธปืนยิงใส่รถกระบะของ ร.ต.ท.วัฒนา ชูมาปาน เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรสะบ้าย้อย ขณะไปรับพระและสามเณร จำนวน 6 รูปจากวัดเกาะอภินิหารหรือวัดกุหร่า เพื่อไปบิณฑบาตในเขตเทศบาลตำบลสะบ้าย้อย อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา เมื่อช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 22 เม.ย.2568 เป็นเหตุให้สามเณรพงษ์กร อายุ 16 ปี ซึ่งเป็นบุตรชายของ ร.ต.ท.วัฒนา มรณภาพระหว่างนำตัวส่งโรงพยาบาล ขณะที่สามเณรรูปอื่นได้รับบาดเจ็บ ถือว่าสร้างความสะเทือนใจพอสมควร ทำให้หลายฝ่ายออกมาประณามกับเหตุการณ์ดังกล่าว ขณะที่หน่วยงานภาครัฐเตรียมออกมาตราการล้อมคอก
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000038322

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ประณามโจรใต้ยิงเณร แก้ไขปัญหาไม่ถูกทาง วางมาตรการล้อมคอก . การก่อเหตุยิงสามเณรขณะเดินทางไปบิณฑบาตในพื้นที่ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เป็นเหตุให้มรณภาพ ตามที่ปรากฏเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้อาวุธปืนยิงใส่รถกระบะของ ร.ต.ท.วัฒนา ชูมาปาน เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรสะบ้าย้อย ขณะไปรับพระและสามเณร จำนวน 6 รูปจากวัดเกาะอภินิหารหรือวัดกุหร่า เพื่อไปบิณฑบาตในเขตเทศบาลตำบลสะบ้าย้อย อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา เมื่อช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 22 เม.ย.2568 เป็นเหตุให้สามเณรพงษ์กร อายุ 16 ปี ซึ่งเป็นบุตรชายของ ร.ต.ท.วัฒนา มรณภาพระหว่างนำตัวส่งโรงพยาบาล ขณะที่สามเณรรูปอื่นได้รับบาดเจ็บ ถือว่าสร้างความสะเทือนใจพอสมควร ทำให้หลายฝ่ายออกมาประณามกับเหตุการณ์ดังกล่าว ขณะที่หน่วยงานภาครัฐเตรียมออกมาตราการล้อมคอก . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000038322 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Sad
    Angry
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1606 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญพระแก้วมรกต วัดข่อย จ.สิงห์บุรี
    เหรียญพระแก้วมรกต เนื้อกะไหล่เงิน วัดข่อย จ.สิงห์บุรี // พระดีพิธีใหญ่ หลวงปู่โต๊ะ ปลุกเสก // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก จัดสร้างน้อยครับ พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณ คุ้มครองภยันอันตรายจากศาสตราวุธทั้งปวง แคล้วคลาดปลอดภัย เป็นเมตตามหานิยม เมตตาค้าขายดี เจรจาค้าขายดี ทำการสิ่งใดย่อมมีกำไร มีผลงอกเงยเสมอนัก. >>

    ** วัดข่อยสังฆาราม สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย การสร้างวัด สร้างขึ้นเป็นวัดนับตั้งแต่ประมาณ พ.ศ. 2340 ชาวบ้านเรียกสั้นๆ ว่า "วัดข่อย" ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาในราว พ.ศ. 2343 >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญพระแก้วมรกต วัดข่อย จ.สิงห์บุรี เหรียญพระแก้วมรกต เนื้อกะไหล่เงิน วัดข่อย จ.สิงห์บุรี // พระดีพิธีใหญ่ หลวงปู่โต๊ะ ปลุกเสก // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก จัดสร้างน้อยครับ พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณ คุ้มครองภยันอันตรายจากศาสตราวุธทั้งปวง แคล้วคลาดปลอดภัย เป็นเมตตามหานิยม เมตตาค้าขายดี เจรจาค้าขายดี ทำการสิ่งใดย่อมมีกำไร มีผลงอกเงยเสมอนัก. >> ** วัดข่อยสังฆาราม สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย การสร้างวัด สร้างขึ้นเป็นวัดนับตั้งแต่ประมาณ พ.ศ. 2340 ชาวบ้านเรียกสั้นๆ ว่า "วัดข่อย" ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาในราว พ.ศ. 2343 >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 359 มุมมอง 0 รีวิว
  • สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา ปี2547
    เนื้อว่านสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา ปี2547 //พระดีพิธีใหญ่ ปลุกเสกโดยพระเกจิสายหลวงพ่อทวด - สายเขาอ้อ ร่วมปลุกเสกหลายท่าน // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณแคล้วคลาดปลอดภัย คงกระพันชาตรี นิรันตราย คุ้มครองให้เราปลอดภัยจากภยันอันตรายต่างๆ ช่วยให้เรารอดออกมาในเวลาคับขันจากอันตรายที่เกิดขึ้น เสริมบารมี หนุนดวง เสริมความมั่งคั่ง มั่งมี อุดมสมบูรณ์ >>

    ** ในวาระครบรอบ ๔๕ ปี วัดเมืองยะลา ในปี ๒๕๔๗ ที่สร้างวัดมา พ่อท่านฉิ้น อายุ ๗๙ พรรษา ๕๘ เจ้าคณะจังหวัดยะลา ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระเทพศีลวิสุทธิ์ เมื่อ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๔๗ พ่อท่านฉิ้น ได้รวบรวมผงเก่าปี พ.ศ.๒๔๙๗ ที่หลวงปู่ทิม วัดช้างให้ ได้มอบไว้ให้ นำมาผสมลงในวัตถุมงคลชุดนี้ เพื่อความเข้มขลังยิ่งขึ้น พร้อมกันนี้ได้จัดพิธีพุทธาภิเษก ครั้งแรก เมื่อวันที่ ๒๔ เมษายน ๒๕๔๗ ณ วัดช้างให้ โดยคณาจารย์สายใต้ ครั้งที่ ๒ เมื่อวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๔๗ ที่วัดเมืองยะลา โดยพระคณาจารย์สายใต้ เนื่องจากเกิดเหตุการณ์ไม่สงบ พ่อท่านฉิ้นได้ปลุกเสกเดี่ยวต่อ และได้นำไปให้หลวงปู่ทอง วัดสำเภาเชย อธิษฐานปลุกเสกเดี่ยวให้เป็นพิเศษ วันที่ ๑o กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗ >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา ปี2547 เนื้อว่านสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา ปี2547 //พระดีพิธีใหญ่ ปลุกเสกโดยพระเกจิสายหลวงพ่อทวด - สายเขาอ้อ ร่วมปลุกเสกหลายท่าน // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณแคล้วคลาดปลอดภัย คงกระพันชาตรี นิรันตราย คุ้มครองให้เราปลอดภัยจากภยันอันตรายต่างๆ ช่วยให้เรารอดออกมาในเวลาคับขันจากอันตรายที่เกิดขึ้น เสริมบารมี หนุนดวง เสริมความมั่งคั่ง มั่งมี อุดมสมบูรณ์ >> ** ในวาระครบรอบ ๔๕ ปี วัดเมืองยะลา ในปี ๒๕๔๗ ที่สร้างวัดมา พ่อท่านฉิ้น อายุ ๗๙ พรรษา ๕๘ เจ้าคณะจังหวัดยะลา ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระเทพศีลวิสุทธิ์ เมื่อ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๔๗ พ่อท่านฉิ้น ได้รวบรวมผงเก่าปี พ.ศ.๒๔๙๗ ที่หลวงปู่ทิม วัดช้างให้ ได้มอบไว้ให้ นำมาผสมลงในวัตถุมงคลชุดนี้ เพื่อความเข้มขลังยิ่งขึ้น พร้อมกันนี้ได้จัดพิธีพุทธาภิเษก ครั้งแรก เมื่อวันที่ ๒๔ เมษายน ๒๕๔๗ ณ วัดช้างให้ โดยคณาจารย์สายใต้ ครั้งที่ ๒ เมื่อวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๔๗ ที่วัดเมืองยะลา โดยพระคณาจารย์สายใต้ เนื่องจากเกิดเหตุการณ์ไม่สงบ พ่อท่านฉิ้นได้ปลุกเสกเดี่ยวต่อ และได้นำไปให้หลวงปู่ทอง วัดสำเภาเชย อธิษฐานปลุกเสกเดี่ยวให้เป็นพิเศษ วันที่ ๑o กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗ >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 360 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลวงพ่อสงค์ วัดคงคาวดี จ.สงขลา
    พระเนื้อผงผสมว่าน108 หลวงพ่อสงค์ วัดคงคาวดี อ.บางเนืยง จ.สงขลา //หลวงพ่อสงค์ เกจิอาจารย์ ยุคเก่าที่มีประสบการณ์เด่นมากๆในเรื่องมหาอุด หยุดปืน เป็นที่โจษขานกันมาก // พระสถาพสวย ผิวหิ้ง หายากกครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** มหาอุด หยุดปืน หนังเหนียว ฟันไม่เข้า แคล้วคลาด คงกระพัน เมตตามหานิยม ไม่เกรงภยันตรายทั้งปวง !!

    ** วัดคงคาวดี เดิมเรียกว่า “วัดปากบางภูมี” มีหลวงปู่สงค์ ศรีสุวรรณโณ ผู้มีชื่อเสียงในด้านคงกระพันชาตรีและเมตตามหานิยมเป็นเกจิอาจารย์ที่เป็นที่เคารพของชาวบ้าน วัดคงคาวดีได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๕ >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    หลวงพ่อสงค์ วัดคงคาวดี จ.สงขลา พระเนื้อผงผสมว่าน108 หลวงพ่อสงค์ วัดคงคาวดี อ.บางเนืยง จ.สงขลา //หลวงพ่อสงค์ เกจิอาจารย์ ยุคเก่าที่มีประสบการณ์เด่นมากๆในเรื่องมหาอุด หยุดปืน เป็นที่โจษขานกันมาก // พระสถาพสวย ผิวหิ้ง หายากกครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** มหาอุด หยุดปืน หนังเหนียว ฟันไม่เข้า แคล้วคลาด คงกระพัน เมตตามหานิยม ไม่เกรงภยันตรายทั้งปวง !! ** วัดคงคาวดี เดิมเรียกว่า “วัดปากบางภูมี” มีหลวงปู่สงค์ ศรีสุวรรณโณ ผู้มีชื่อเสียงในด้านคงกระพันชาตรีและเมตตามหานิยมเป็นเกจิอาจารย์ที่เป็นที่เคารพของชาวบ้าน วัดคงคาวดีได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๕ >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 278 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลวงปู่ทวดจัมโบ้รุ่นแรก พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว จ.ปัตตานี ปี2536
    หลวงปู่ทวดจัมโบ้ รุ่นแรก เนื้อขมิ้นขาว (เนื้อทรายขาว ฝังตะกรุด 1 ดอก นิยมสุด ) พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว จ.ปัตตานี ปี2536 // พระดี พิธีใหญ่ จัดสร้างจำนวนน้อย ใต้ฐานฝังตะกรุดนารายณ์แปลงรูป 1 ดอก นิยมสุดครับ // พระขนาดสูง 2 นิ้ว คมชัด พระดูง่าย สถาพนี้หายากก พระสวยมาก...กล่องเดิมๆ พระไม่ถูกใช้ครับ++รับประกันพระแท้เต็มร้อย ++

    ** พระเก็มีมากครับ พระแท้ๆ จำนวนการสร้างน้อยมากครับ **

    ** พุทธคุณ เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ประสบการณ์มากมาย ทั้งระเบิดด้าน รถคว่ำ กันภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >>

    **หลวงปู่ทวดจัมโบ้ รุ่นแรก เนื้อขมิ้นขาว (เนื้อทรายขาว ฝังตะกรุด 1 ดอก นิยมสุด ) พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว ปัตตานี ปี2536 เป็นพระน่าใช้ เพราะพระของอาจาย์นองล้วนน่าเก็บ ต่อไปจะหาได้ยากแล้วครับพระหลวงปู่ทวด ที่พระอาจารย์นอง แห่งวัดทรายขาว ท่านสร้างเสกด้วยความตั้งใจและปราณีตบรรจง การหาวัสดุมวลสารจึงเป็นไปด้วยความยากลำบาก โดยท่านควบคุมเองทุกขั้นตอน ทำให้พระที่ออกมาแต่ละรุ่นน้อยมาก โดยท่านอาจารย์นองเป็นประธานจุดเทียนชัยและนั่งปรกอธิษฐานจิต พ่อท่านพลับ วัดชายคลองเป็นประธานดับเทียนชัย ปลุกเสก พร้อม สุดยอด พระเกจิสายหลวงปู่ทวดอีกหลายท่าน >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    หลวงปู่ทวดจัมโบ้รุ่นแรก พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว จ.ปัตตานี ปี2536 หลวงปู่ทวดจัมโบ้ รุ่นแรก เนื้อขมิ้นขาว (เนื้อทรายขาว ฝังตะกรุด 1 ดอก นิยมสุด ) พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว จ.ปัตตานี ปี2536 // พระดี พิธีใหญ่ จัดสร้างจำนวนน้อย ใต้ฐานฝังตะกรุดนารายณ์แปลงรูป 1 ดอก นิยมสุดครับ // พระขนาดสูง 2 นิ้ว คมชัด พระดูง่าย สถาพนี้หายากก พระสวยมาก...กล่องเดิมๆ พระไม่ถูกใช้ครับ++รับประกันพระแท้เต็มร้อย ++ ** พระเก็มีมากครับ พระแท้ๆ จำนวนการสร้างน้อยมากครับ ** ** พุทธคุณ เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ประสบการณ์มากมาย ทั้งระเบิดด้าน รถคว่ำ กันภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >> **หลวงปู่ทวดจัมโบ้ รุ่นแรก เนื้อขมิ้นขาว (เนื้อทรายขาว ฝังตะกรุด 1 ดอก นิยมสุด ) พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว ปัตตานี ปี2536 เป็นพระน่าใช้ เพราะพระของอาจาย์นองล้วนน่าเก็บ ต่อไปจะหาได้ยากแล้วครับพระหลวงปู่ทวด ที่พระอาจารย์นอง แห่งวัดทรายขาว ท่านสร้างเสกด้วยความตั้งใจและปราณีตบรรจง การหาวัสดุมวลสารจึงเป็นไปด้วยความยากลำบาก โดยท่านควบคุมเองทุกขั้นตอน ทำให้พระที่ออกมาแต่ละรุ่นน้อยมาก โดยท่านอาจารย์นองเป็นประธานจุดเทียนชัยและนั่งปรกอธิษฐานจิต พ่อท่านพลับ วัดชายคลองเป็นประธานดับเทียนชัย ปลุกเสก พร้อม สุดยอด พระเกจิสายหลวงปู่ทวดอีกหลายท่าน >> ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 280 มุมมอง 0 รีวิว
  • 120 ปี สิ้น “ฮัปมาสเตน” กัปตันบุช จากนายทหารเรือรบอังกฤษ สู่พลเรือเอกพระยาวิสูตรสาครดิฐ ข้าราชการต้นแบบแห่งสยาม

    📌 จากนายทหารเรือชาวอังกฤษผู้บังคับการเรือรบ สู่ข้าราชการไทยผู้จงรักภักดี "กัปตันจอห์น บุช" หรือ พลเรือเอก พระยาวิสูตรสาครดิฐ มีบทบาทสำคัญยิ่งในประวัติศาสตร์สยาม ทั้งในราชสำนักและกิจการท่าเรือ ครบร 120 ปี แห่งการจากไป ย้อนรอยชีวิตของ “กัปตันบุช” ที่กลายเป็นตำนานแห่งเจริญกรุง

    🧭 เมื่อกัปตันฝรั่ง กลายเป็นข้าราชการไทย หากเอ่ยถึง “ตรอกกัปตันบุช” หลายคนอาจไม่เคยรู้ว่า ชื่อซอยเล็ก ๆ นี้ แท้จริงแล้วตั้งขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ แด่ชายชาวอังกฤษคนหนึ่ง ที่อุทิศชีวิตกว่า 40 ปี ให้กับราชสำนักไทย และราชการกรมเจ้าท่า "พลเรือเอก พระยาวิสูตรสาครดิฐ" หรือที่รู้จักกันในนาม "กัปตันบุช" (Captain John Bush) หรือ “ฮัปมาสเตน” ในเสียงคนไทยสมัยก่อน 🕊️

    ⚓ กัปตัน จอห์น บุช (John Bush) คือทหารเรือชาวอังกฤษ ที่เข้ารับราชการในราชสำนักไทย ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 เริ่มต้นจากการเป็นกัปตันเรือรบอังกฤษ ที่เทียบท่าในกรุงเทพฯ ก่อนจะได้รับการชักชวนจาก พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ให้มาเป็นข้าราชการกรมเจ้าท่า

    ต่อมาได้รับตำแหน่ง "ฮัปมาสเตน" (Harbour Master) หรือนายท่าเรือ ซึ่งเป็นหน้าที่สำคัญ ในยุคที่สยามเปิดประเทศตามสนธิสัญญาเบาว์ริง (Bowring Treaty) ปี พ.ศ. 2398 โดยมีภารกิจจัดระเบียบเรือพาณิชย์ต่างชาติ ที่หลั่งไหลเข้าสยาม

    กัปตันบุชมีชื่อเสียงอย่างมากในยุคนั้น และในที่สุด ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น "พระยาวิสูตรสาครดิฐ" พร้อมยศ "พลเรือเอก" ถือเป็นชาวต่างชาติไม่กี่คน ที่ได้รับเกียรติสูงเช่นนี้จากสยาม

    🇹🇭 กัปตันฝรั่งผู้รับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาท หนึ่งในผลงานที่โดดเด่นที่สุดของกัปตันบุช คือการทำหน้าที่ บังคับการเรือพระที่นั่ง ในการเสด็จประพาสของ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทั้งในประเทศและต่างประเทศ 🌍 อาทิ เสด็จสิงคโปร์และอินเดีย พ.ศ. 2413–2414 🚢 เสด็จทอดพระเนตรสุริยุปราคาที่หว้ากอ และเสด็จพระราชดำเนินไปพระราชวังบางปะอิน

    📜 เรื่องราวเหล่านี้ ไม่เพียงสะท้อนความไว้วางพระราชหฤทัย ที่ทั้งสองพระองค์มีต่อกัปตันบุช แต่ยังแสดงถึงการบุกเบิกยุคใหม่ของการเดินเรือ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของไทยในยุคนั้น

    🚢 อู่เรือบางกอกด็อค Bangkok Dock จุดเปลี่ยนของอุตสาหกรรมเดินเรือไทย นอกจากบทบาทราชการแล้ว กัปตันบุชยังเป็นนักธุรกิจผู้มีวิสัยทัศน์ โดยในปี พ.ศ. 2408 ได้ก่อตั้ง อู่เรือบางกอกด็อค (Bangkok Dock) ขึ้น ซึ่งกลายเป็นอู่ซ่อมเรือที่ใหญ่ และทันสมัยที่สุดในกรุงเทพฯ ยุคนั้น

    อู่แห่งนี้สามารถรองรับการซ่อมเรือ จากทั้งงานหลวงและเอกชน ไม่ต้องส่งเรือไปซ่อมถึงสิงคโปร์อีกต่อไป! 🤝💼

    ✨ “กัปตันบุชคือผู้วางรากฐาน ด้านพาณิชย์นาวีของไทยในยุคใหม่” คำกล่าวจากพิธีเปิดอนุสาวรีย์ที่กรมเจ้าท่า

    📚 ตำนานฮัปมาสเตน และการอ่านชื่อแบบไทย กัปตันบุชได้รับสมญานามว่า “ฮัปมาสเตน” จากคำว่า Harbour Master ที่คนไทยเรียกเพี้ยนตามสำเนียงโบราณ เช่นเดียวกับชื่อ “กัปตันบุด” ที่คนไทยใช้เรียกแทน “Captain Bush” ซึ่งสะท้อนถึงความกลมกลืนในวัฒนธรรมไทย 🎭

    💬 “กับตันบุด” คำนี้ติดปากชาวบ้านจนปัจจุบัน แม้จะไม่มีใครรู้ว่าเป็นใครโดยละเอียด

    🕯️ จุดเปลี่ยนชีวิต...จากวีรบุรุษสู่บทเรียนราคาแพง ถึงแม้กัปตันบุชจะมีบทบาทสำคัญยิ่งในราชสำนัก แต่ก็ประสบกับเหตุการณ์ที่ทำให้บทบาทลดลง นั่นคือเหตุการณ์ เรือพระที่นั่งเวสาตรี เกยหินที่ปากแม่น้ำกลัง พ.ศ. 2433

    เหตุการณ์นี้ทำให้พระเจ้าอยู่หัวทรงไม่โปรด ให้กัปตันบุชบังคับเรืออีกต่อไป แม้กัปตันบุชจะเขียนรายงานชี้แจงว่า ไม่ใช่ความผิดของตนก็ตาม 📄

    แม้จะกลายเป็นความผิดพลาดทางประวัติศาสตร์ แต่ก็ไม่ได้ลบล้างคุณูปการอันใหญ่หลวงในอดีต 🙏

    🏠 ชีวิตช่วงบั้นปลาย การจากไปในสยาม หลังเกษียณ กัปตันบุชใช้ชีวิตอย่างสงบ ที่บ้านริมทะเลในอ่างศิลา จังหวัดชลบุรีต้อนรับนักเรียนและแขกต่างชาติอย่างอบอุ่น จนกลายเป็นที่รักของชาวบ้านท้องถิ่น 🏖️

    📅 กัปตันบุชเสียชีวิตในปี พ.ศ. 2448 ขณะมีอายุ 86 ปี หลังจากใช้ชีวิตเกือบทั้งชีวิต ในราชอาณาจักรสยาม โดยมีอนุสาวรีย์ตั้งอยู่ที่สุสานโปรเตสแตนต์ ถนนเจริญกรุง กรุงเทพฯ

    🏛️ อนุสรณ์และเกียรติประวัติที่คงอยู่ วันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2557 กรมเจ้าท่าได้จัดพิธีเปิดอนุสาวรีย์ พระยาวิสูตรสาครดิฐ อย่างเป็นทางการ เพื่อรำลึกถึงคุณูปการอันยิ่งใหญ่ 🕯️

    ✨ “ประวัติศาสตร์ไม่ใช่เรื่องของอดีต แต่เป็นรากฐานของอนาคต” คำกล่าวของอธิบดีกรมเจ้าท่า

    📚 "กัปตันบุช" ตำนานที่ไม่ควรถูกลืม ไม่ใช่เพียงแค่กัปตันฝรั่งที่มีตรอกตั้งชื่อตาม แต่คือผู้บุกเบิกท่าเรือ พัฒนาอุตสาหกรรมเดินเรือ และรับราชการอย่างภักดีต่อราชวงศ์ไทย เป็นแบบอย่างของความซื่อสัตย์ วิสัยทัศน์ และการผสานวัฒนธรรมอย่างกลมกลืน

    🎖️ คุณูปการของกัปตันบุช ควรค่าแก่การเรียนรู้ ไม่ใช่เพียงเพื่อจดจำ แต่เพื่อเป็นแรงบันดาลใจ ให้คนไทยทุกยุคทุกสมัย

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 031057 เม.ย. 2568

    📲#กัปตันบุช #ประวัติศาสตร์ไทย #บุคคลสำคัญสยาม #อู่กรุงเทพ #เจ้าท่า #เรือพระที่นั่ง #ข้าราชการอังกฤษในไทย #ฮัปมาสเตน #ตรอกกัปตันบุช #CaptainBush
    120 ปี สิ้น “ฮัปมาสเตน” กัปตันบุช จากนายทหารเรือรบอังกฤษ สู่พลเรือเอกพระยาวิสูตรสาครดิฐ ข้าราชการต้นแบบแห่งสยาม 📌 จากนายทหารเรือชาวอังกฤษผู้บังคับการเรือรบ สู่ข้าราชการไทยผู้จงรักภักดี "กัปตันจอห์น บุช" หรือ พลเรือเอก พระยาวิสูตรสาครดิฐ มีบทบาทสำคัญยิ่งในประวัติศาสตร์สยาม ทั้งในราชสำนักและกิจการท่าเรือ ครบร 120 ปี แห่งการจากไป ย้อนรอยชีวิตของ “กัปตันบุช” ที่กลายเป็นตำนานแห่งเจริญกรุง 🧭 เมื่อกัปตันฝรั่ง กลายเป็นข้าราชการไทย หากเอ่ยถึง “ตรอกกัปตันบุช” หลายคนอาจไม่เคยรู้ว่า ชื่อซอยเล็ก ๆ นี้ แท้จริงแล้วตั้งขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ แด่ชายชาวอังกฤษคนหนึ่ง ที่อุทิศชีวิตกว่า 40 ปี ให้กับราชสำนักไทย และราชการกรมเจ้าท่า "พลเรือเอก พระยาวิสูตรสาครดิฐ" หรือที่รู้จักกันในนาม "กัปตันบุช" (Captain John Bush) หรือ “ฮัปมาสเตน” ในเสียงคนไทยสมัยก่อน 🕊️ ⚓ กัปตัน จอห์น บุช (John Bush) คือทหารเรือชาวอังกฤษ ที่เข้ารับราชการในราชสำนักไทย ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 เริ่มต้นจากการเป็นกัปตันเรือรบอังกฤษ ที่เทียบท่าในกรุงเทพฯ ก่อนจะได้รับการชักชวนจาก พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ให้มาเป็นข้าราชการกรมเจ้าท่า ต่อมาได้รับตำแหน่ง "ฮัปมาสเตน" (Harbour Master) หรือนายท่าเรือ ซึ่งเป็นหน้าที่สำคัญ ในยุคที่สยามเปิดประเทศตามสนธิสัญญาเบาว์ริง (Bowring Treaty) ปี พ.ศ. 2398 โดยมีภารกิจจัดระเบียบเรือพาณิชย์ต่างชาติ ที่หลั่งไหลเข้าสยาม กัปตันบุชมีชื่อเสียงอย่างมากในยุคนั้น และในที่สุด ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น "พระยาวิสูตรสาครดิฐ" พร้อมยศ "พลเรือเอก" ถือเป็นชาวต่างชาติไม่กี่คน ที่ได้รับเกียรติสูงเช่นนี้จากสยาม 🇹🇭 กัปตันฝรั่งผู้รับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาท หนึ่งในผลงานที่โดดเด่นที่สุดของกัปตันบุช คือการทำหน้าที่ บังคับการเรือพระที่นั่ง ในการเสด็จประพาสของ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทั้งในประเทศและต่างประเทศ 🌍 อาทิ เสด็จสิงคโปร์และอินเดีย พ.ศ. 2413–2414 🚢 เสด็จทอดพระเนตรสุริยุปราคาที่หว้ากอ และเสด็จพระราชดำเนินไปพระราชวังบางปะอิน 📜 เรื่องราวเหล่านี้ ไม่เพียงสะท้อนความไว้วางพระราชหฤทัย ที่ทั้งสองพระองค์มีต่อกัปตันบุช แต่ยังแสดงถึงการบุกเบิกยุคใหม่ของการเดินเรือ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของไทยในยุคนั้น 🚢 อู่เรือบางกอกด็อค Bangkok Dock จุดเปลี่ยนของอุตสาหกรรมเดินเรือไทย นอกจากบทบาทราชการแล้ว กัปตันบุชยังเป็นนักธุรกิจผู้มีวิสัยทัศน์ โดยในปี พ.ศ. 2408 ได้ก่อตั้ง อู่เรือบางกอกด็อค (Bangkok Dock) ขึ้น ซึ่งกลายเป็นอู่ซ่อมเรือที่ใหญ่ และทันสมัยที่สุดในกรุงเทพฯ ยุคนั้น อู่แห่งนี้สามารถรองรับการซ่อมเรือ จากทั้งงานหลวงและเอกชน ไม่ต้องส่งเรือไปซ่อมถึงสิงคโปร์อีกต่อไป! 🤝💼 ✨ “กัปตันบุชคือผู้วางรากฐาน ด้านพาณิชย์นาวีของไทยในยุคใหม่” คำกล่าวจากพิธีเปิดอนุสาวรีย์ที่กรมเจ้าท่า 📚 ตำนานฮัปมาสเตน และการอ่านชื่อแบบไทย กัปตันบุชได้รับสมญานามว่า “ฮัปมาสเตน” จากคำว่า Harbour Master ที่คนไทยเรียกเพี้ยนตามสำเนียงโบราณ เช่นเดียวกับชื่อ “กัปตันบุด” ที่คนไทยใช้เรียกแทน “Captain Bush” ซึ่งสะท้อนถึงความกลมกลืนในวัฒนธรรมไทย 🎭 💬 “กับตันบุด” คำนี้ติดปากชาวบ้านจนปัจจุบัน แม้จะไม่มีใครรู้ว่าเป็นใครโดยละเอียด 🕯️ จุดเปลี่ยนชีวิต...จากวีรบุรุษสู่บทเรียนราคาแพง ถึงแม้กัปตันบุชจะมีบทบาทสำคัญยิ่งในราชสำนัก แต่ก็ประสบกับเหตุการณ์ที่ทำให้บทบาทลดลง นั่นคือเหตุการณ์ เรือพระที่นั่งเวสาตรี เกยหินที่ปากแม่น้ำกลัง พ.ศ. 2433 เหตุการณ์นี้ทำให้พระเจ้าอยู่หัวทรงไม่โปรด ให้กัปตันบุชบังคับเรืออีกต่อไป แม้กัปตันบุชจะเขียนรายงานชี้แจงว่า ไม่ใช่ความผิดของตนก็ตาม 📄 แม้จะกลายเป็นความผิดพลาดทางประวัติศาสตร์ แต่ก็ไม่ได้ลบล้างคุณูปการอันใหญ่หลวงในอดีต 🙏 🏠 ชีวิตช่วงบั้นปลาย การจากไปในสยาม หลังเกษียณ กัปตันบุชใช้ชีวิตอย่างสงบ ที่บ้านริมทะเลในอ่างศิลา จังหวัดชลบุรีต้อนรับนักเรียนและแขกต่างชาติอย่างอบอุ่น จนกลายเป็นที่รักของชาวบ้านท้องถิ่น 🏖️ 📅 กัปตันบุชเสียชีวิตในปี พ.ศ. 2448 ขณะมีอายุ 86 ปี หลังจากใช้ชีวิตเกือบทั้งชีวิต ในราชอาณาจักรสยาม โดยมีอนุสาวรีย์ตั้งอยู่ที่สุสานโปรเตสแตนต์ ถนนเจริญกรุง กรุงเทพฯ 🏛️ อนุสรณ์และเกียรติประวัติที่คงอยู่ วันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2557 กรมเจ้าท่าได้จัดพิธีเปิดอนุสาวรีย์ พระยาวิสูตรสาครดิฐ อย่างเป็นทางการ เพื่อรำลึกถึงคุณูปการอันยิ่งใหญ่ 🕯️ ✨ “ประวัติศาสตร์ไม่ใช่เรื่องของอดีต แต่เป็นรากฐานของอนาคต” คำกล่าวของอธิบดีกรมเจ้าท่า 📚 "กัปตันบุช" ตำนานที่ไม่ควรถูกลืม ไม่ใช่เพียงแค่กัปตันฝรั่งที่มีตรอกตั้งชื่อตาม แต่คือผู้บุกเบิกท่าเรือ พัฒนาอุตสาหกรรมเดินเรือ และรับราชการอย่างภักดีต่อราชวงศ์ไทย เป็นแบบอย่างของความซื่อสัตย์ วิสัยทัศน์ และการผสานวัฒนธรรมอย่างกลมกลืน 🎖️ คุณูปการของกัปตันบุช ควรค่าแก่การเรียนรู้ ไม่ใช่เพียงเพื่อจดจำ แต่เพื่อเป็นแรงบันดาลใจ ให้คนไทยทุกยุคทุกสมัย ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 031057 เม.ย. 2568 📲#กัปตันบุช #ประวัติศาสตร์ไทย #บุคคลสำคัญสยาม #อู่กรุงเทพ #เจ้าท่า #เรือพระที่นั่ง #ข้าราชการอังกฤษในไทย #ฮัปมาสเตน #ตรอกกัปตันบุช #CaptainBush
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1035 มุมมอง 0 รีวิว
  • 1 พ.ค.ต่างชาติต้องกรอก บัตรขาเข้าดิจิทัล TDAC

    หลังจากมาตรการยกเว้นการยื่นแบบ ตม.6 บริเวณด่านตรวจคนเข้าเมืองเป็นการชั่วคราวที่ด่านทางบกและทางน้ำ รวม 16 ด่าน จะสิ้นสุดลงในวันที่ 30 เม.ย.ที่จะถึงนี้ ชาวต่างชาติที่จะเข้ามาในราชอาณาจักรไทย จะต้องกรอกแบบฟอร์มบัตรขาเข้าดิจิทัล (Thailand Digital Arrival Card) หรือ TDAC ทางออนไลน์ภายใน 3 วัน (รวมวันเดินทางมาถึง) ก่อนเข้าประเทศ แล้วนำอีเมลที่ได้รับพร้อมเอกสารการเดินทาง เช่น หนังสือเดินทาง ไปแสดงกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เพื่อยืนยันตัวตนก่อนเข้าประเทศ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.2568 เป็นต้นไป

    แบบฟอร์ม TDAC กรอกได้ที่เว็บไซต์ https://tdac.immigration.go.th เท่านั้น โปรดระวังเว็บไซต์ปลอมหรือลอกเลียนแบบจากมิจฉาชีพ

    สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ให้เหตุผลว่า เพื่อปรับปรุงกระบวนการตรวจคนเข้าเมืองของประเทศไทยให้ทันสมัย และสอดคล้องกับกระแสโลกด้านเทคโนโลยีการเดินทางอัจฉริยะ โดยแบบฟอร์ม TDAC ทำหน้าที่บันทึกข้อมูลการเข้าประเทศของชาวต่างชาติ และให้ข้อมูลที่จำเป็นแก่เจ้าหน้าที่ ตม. ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ทดแทนบัตรขาเข้าแบบกระดาษ ซึ่งจะช่วยให้กระบวนการตรวจคนเข้าเมืองเร็วขึ้น ใช้เอกสารน้อยลง และความปลอดภัยตามแนวชายแดนที่ดีขึ้น

    สำหรับวิธีการกรอกแบบฟอร์ม TDAC จะต้องกรอกล่วงหน้า 3 วันก่อนเดินทาง ให้กรอกข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษ ประกอบด้วย ข้อมูลส่วนตัว ได้แก่ ชื่อและนามสกุล สัญชาติ หมายเลขโทรศัพท์มือถือ อีเมล และข้อมูลหนังสือเดินทาง กับข้อมูลการเดินทาง ได้แก่ รหัสเที่ยวบิน (กรณีเดินทางด้วยเครื่องบิน) วัตถุประสงค์การเดินทาง ข้อมูลที่พำนักในประเทศไทย (เช่น ที่อยู่โรงแรม ที่อยู่บ้านพักอาศัย) และข้อมูลด้านสุขภาพสำหรับบางประเทศ หลังจากกรอกแบบฟอร์มออนไลน์แล้วเสร็จ จะได้รับอีเมลตอบรับ ให้นำไปแสดงกับเจ้าหน้าที่ ตม. พร้อมเอกสารการเดินทาง เมื่อมาถึงประเทศไทยเพื่อยืนยันตัวตน

    ผู้ที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องกรอกแบบฟอร์ม TDAC ได้แก่ ชาวต่างชาติที่เดินทางผ่านหรือเปลี่ยนเครื่องบินในประเทศไทย โดยไม่ผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมือง (Transfer / Transit) และชาวต่างชาติที่เข้าประเทศไทยโดยหนังสือผ่านแดน (Border Pass) อย่างไรก็ตาม บัตรขาเข้าดิจิทัลของประเทศไทยไม่ใช่วีซ่า หากนักท่องเที่ยวจากประเทศใด ไม่ได้รับการยกเว้นการขอวีซ่าเข้าประเทศไทย ให้ดำเนินการขอวีซ่า ตามที่กระทรวงการต่างประเทศของไทยกำหนดไว้

    อนึ่ง กระบวนการดังกล่าวคล้ายกับบัตรขาเข้าดิจิทัลบางประเทศ เช่น SG Arrival Card (SGAC) ประเทศสิงคโปร์ Malaysia Digital Arrival Card (MDAC) ประเทศมาเลเซีย

    #Newskit
    1 พ.ค.ต่างชาติต้องกรอก บัตรขาเข้าดิจิทัล TDAC หลังจากมาตรการยกเว้นการยื่นแบบ ตม.6 บริเวณด่านตรวจคนเข้าเมืองเป็นการชั่วคราวที่ด่านทางบกและทางน้ำ รวม 16 ด่าน จะสิ้นสุดลงในวันที่ 30 เม.ย.ที่จะถึงนี้ ชาวต่างชาติที่จะเข้ามาในราชอาณาจักรไทย จะต้องกรอกแบบฟอร์มบัตรขาเข้าดิจิทัล (Thailand Digital Arrival Card) หรือ TDAC ทางออนไลน์ภายใน 3 วัน (รวมวันเดินทางมาถึง) ก่อนเข้าประเทศ แล้วนำอีเมลที่ได้รับพร้อมเอกสารการเดินทาง เช่น หนังสือเดินทาง ไปแสดงกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เพื่อยืนยันตัวตนก่อนเข้าประเทศ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.2568 เป็นต้นไป แบบฟอร์ม TDAC กรอกได้ที่เว็บไซต์ https://tdac.immigration.go.th เท่านั้น โปรดระวังเว็บไซต์ปลอมหรือลอกเลียนแบบจากมิจฉาชีพ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ให้เหตุผลว่า เพื่อปรับปรุงกระบวนการตรวจคนเข้าเมืองของประเทศไทยให้ทันสมัย และสอดคล้องกับกระแสโลกด้านเทคโนโลยีการเดินทางอัจฉริยะ โดยแบบฟอร์ม TDAC ทำหน้าที่บันทึกข้อมูลการเข้าประเทศของชาวต่างชาติ และให้ข้อมูลที่จำเป็นแก่เจ้าหน้าที่ ตม. ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ทดแทนบัตรขาเข้าแบบกระดาษ ซึ่งจะช่วยให้กระบวนการตรวจคนเข้าเมืองเร็วขึ้น ใช้เอกสารน้อยลง และความปลอดภัยตามแนวชายแดนที่ดีขึ้น สำหรับวิธีการกรอกแบบฟอร์ม TDAC จะต้องกรอกล่วงหน้า 3 วันก่อนเดินทาง ให้กรอกข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษ ประกอบด้วย ข้อมูลส่วนตัว ได้แก่ ชื่อและนามสกุล สัญชาติ หมายเลขโทรศัพท์มือถือ อีเมล และข้อมูลหนังสือเดินทาง กับข้อมูลการเดินทาง ได้แก่ รหัสเที่ยวบิน (กรณีเดินทางด้วยเครื่องบิน) วัตถุประสงค์การเดินทาง ข้อมูลที่พำนักในประเทศไทย (เช่น ที่อยู่โรงแรม ที่อยู่บ้านพักอาศัย) และข้อมูลด้านสุขภาพสำหรับบางประเทศ หลังจากกรอกแบบฟอร์มออนไลน์แล้วเสร็จ จะได้รับอีเมลตอบรับ ให้นำไปแสดงกับเจ้าหน้าที่ ตม. พร้อมเอกสารการเดินทาง เมื่อมาถึงประเทศไทยเพื่อยืนยันตัวตน ผู้ที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องกรอกแบบฟอร์ม TDAC ได้แก่ ชาวต่างชาติที่เดินทางผ่านหรือเปลี่ยนเครื่องบินในประเทศไทย โดยไม่ผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมือง (Transfer / Transit) และชาวต่างชาติที่เข้าประเทศไทยโดยหนังสือผ่านแดน (Border Pass) อย่างไรก็ตาม บัตรขาเข้าดิจิทัลของประเทศไทยไม่ใช่วีซ่า หากนักท่องเที่ยวจากประเทศใด ไม่ได้รับการยกเว้นการขอวีซ่าเข้าประเทศไทย ให้ดำเนินการขอวีซ่า ตามที่กระทรวงการต่างประเทศของไทยกำหนดไว้ อนึ่ง กระบวนการดังกล่าวคล้ายกับบัตรขาเข้าดิจิทัลบางประเทศ เช่น SG Arrival Card (SGAC) ประเทศสิงคโปร์ Malaysia Digital Arrival Card (MDAC) ประเทศมาเลเซีย #Newskit
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 779 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญหลวงพ่อดี วัดสังฆสิทธาราม จ.นราธิวาส
    เหรียญหลวงพ่อดี วาจาสิทธิ์ วัดสังฆสิทธาราม ตำบลตันหยงมัส อำเภอระแงะ จ.นราธิวาส ปี2518 //พระดีพิธีใหญ่ พิธีเข้มขลัง ศิษย์สายหลวงพ่อครน สุดยอดประสบการณ์ หายาก จัดสร้าง ประมาณ 5000 เหรียญ // พระสถาพสวย ผิวหิ้ง หายากก พระสถาพใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** เหรียญมหาอุตย์ ฟันไม่เข้า ยิงไม่ออก อยู่ยงคงกระพัน มีเมตตามหานิยม ป้องกันภูตผีปีศาจและโรคภัยไข้เจ็บ แคล้วคลาดอันตราย ความศักดิ์สิทธิ์ทางทางป้องกันอาวุธและทางเมตตามหานิยม >>

    ** หลวงพ่อดีท่านเป็นศิษย์สายหลวงพ่อครน***วัดสังฆสิทธาราม ได้สร้างขึ้นเป็นวัดเมื่อ พ.ศ. 2481 เดิมมีนามว่า “ วัดตันหยงมัส ” ได้เปลี่ยนนามวัดเมื่อ พ.ศ. 2482 เป็นวัดสังฆสิทธาราม ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2492 หลวงพ่อดีวาจาสิทธิ์ ได้รับฉายาว่า พระครูการุญญโสภณ เป็นเจ้าอาวาส องค์แรก ได้ทำการอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2458 ณ วัดพระพุทธ ตำบลพร่อน อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ก่อนที่หลวงพ่อดีวาจาสิทธิ์จะย้ายมาเป็นเจ้าอาวาสวัดสังฆสิทธิธาราม หลวงพ่อดีวาจาสิทธิ์ ได้ย้ายไปอยู่วัดต่าง ๆ ดังนี้ 1.มิถุนายน พ.ศ. 2477 ย้ายไปอยู่ที่วัดราษฎร์สโมสร อ.รือเสาะ 2.สิงหาคม พ.ศ. 2479 ย้ายไปอยู่ที่วัดปริมังคลาวาส อ.สุไหงปาดี 3.กรกฎาคม พ.ศ.2480 ย้ายเป็นเจ้าอาวาสวัดลอยประดิษฐ์ อ.สุไหงปาดี 4.สิงหาคม พ.ศ. 2483 ย้ายเป็นเจ้าอาวาสวัดสังฆสิทธิธาราม อ.ระแงะ หลวงพ่อดีวาจาสิทธิ์ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระครูการุญญโสภณ ( ไม่ปรากกฏหลักฐานเมื่อไร ) พร้อมทั้งได้รับตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอระแงะ จนกระทั่งได้ถึงแก่มรณภาพ อาพาธด้วยโรคชรา เมื่อ พ.ศ. 2518 รวมศิริอายุได้ 82 ปี 60 พรรษา เหตุผลที่หลวงพ่อดีวาจาสิทธิ์ เป็นที่กล่าวขานและนับถือของชาวบ้านและประชาชนทั่วไปว่า หลวงพ่อดีมีวาจาสิทธิ์ เพราะลิ้นของหลวงพ่อดีมีปานดำในอุ้งปากมาแต่กำเนิด ชาวบ้านจึงมีความเชื่อว่าผู้ที่มีลิ้นดำเวลาพูดอะไรออกไปแล้วจะเป็นดังคำที่พูด เป็นที่ประจักษ์แก่ชาวบ้าน >>


    ** พระสถาพสวย ผิวหิ้ง หายากก พระสถาพใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญหลวงพ่อดี วัดสังฆสิทธาราม จ.นราธิวาส เหรียญหลวงพ่อดี วาจาสิทธิ์ วัดสังฆสิทธาราม ตำบลตันหยงมัส อำเภอระแงะ จ.นราธิวาส ปี2518 //พระดีพิธีใหญ่ พิธีเข้มขลัง ศิษย์สายหลวงพ่อครน สุดยอดประสบการณ์ หายาก จัดสร้าง ประมาณ 5000 เหรียญ // พระสถาพสวย ผิวหิ้ง หายากก พระสถาพใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** เหรียญมหาอุตย์ ฟันไม่เข้า ยิงไม่ออก อยู่ยงคงกระพัน มีเมตตามหานิยม ป้องกันภูตผีปีศาจและโรคภัยไข้เจ็บ แคล้วคลาดอันตราย ความศักดิ์สิทธิ์ทางทางป้องกันอาวุธและทางเมตตามหานิยม >> ** หลวงพ่อดีท่านเป็นศิษย์สายหลวงพ่อครน***วัดสังฆสิทธาราม ได้สร้างขึ้นเป็นวัดเมื่อ พ.ศ. 2481 เดิมมีนามว่า “ วัดตันหยงมัส ” ได้เปลี่ยนนามวัดเมื่อ พ.ศ. 2482 เป็นวัดสังฆสิทธาราม ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2492 หลวงพ่อดีวาจาสิทธิ์ ได้รับฉายาว่า พระครูการุญญโสภณ เป็นเจ้าอาวาส องค์แรก ได้ทำการอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2458 ณ วัดพระพุทธ ตำบลพร่อน อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ก่อนที่หลวงพ่อดีวาจาสิทธิ์จะย้ายมาเป็นเจ้าอาวาสวัดสังฆสิทธิธาราม หลวงพ่อดีวาจาสิทธิ์ ได้ย้ายไปอยู่วัดต่าง ๆ ดังนี้ 1.มิถุนายน พ.ศ. 2477 ย้ายไปอยู่ที่วัดราษฎร์สโมสร อ.รือเสาะ 2.สิงหาคม พ.ศ. 2479 ย้ายไปอยู่ที่วัดปริมังคลาวาส อ.สุไหงปาดี 3.กรกฎาคม พ.ศ.2480 ย้ายเป็นเจ้าอาวาสวัดลอยประดิษฐ์ อ.สุไหงปาดี 4.สิงหาคม พ.ศ. 2483 ย้ายเป็นเจ้าอาวาสวัดสังฆสิทธิธาราม อ.ระแงะ หลวงพ่อดีวาจาสิทธิ์ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระครูการุญญโสภณ ( ไม่ปรากกฏหลักฐานเมื่อไร ) พร้อมทั้งได้รับตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอระแงะ จนกระทั่งได้ถึงแก่มรณภาพ อาพาธด้วยโรคชรา เมื่อ พ.ศ. 2518 รวมศิริอายุได้ 82 ปี 60 พรรษา เหตุผลที่หลวงพ่อดีวาจาสิทธิ์ เป็นที่กล่าวขานและนับถือของชาวบ้านและประชาชนทั่วไปว่า หลวงพ่อดีมีวาจาสิทธิ์ เพราะลิ้นของหลวงพ่อดีมีปานดำในอุ้งปากมาแต่กำเนิด ชาวบ้านจึงมีความเชื่อว่าผู้ที่มีลิ้นดำเวลาพูดอะไรออกไปแล้วจะเป็นดังคำที่พูด เป็นที่ประจักษ์แก่ชาวบ้าน >> ** พระสถาพสวย ผิวหิ้ง หายากก พระสถาพใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 533 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญพิทักษ์เสรีชน ปี2512
    เหรียญพิทักษ์เสรีชน "อสาธุํ สาธุนา ชิเน" ปี2512 // พระราชทานแก่ผู้ที่กระทำการปราบปรามผู้ก่อการร้าย คอมมิวนิสต์ // พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระดูง่าย เนื้อแห้ง หายากกครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณ แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ทั้งคงกระพันชาตรี เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม ประสบการณ์มากมาย รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >>

    ** เหรียญพิทักษ์เสรีชน (ส.ช.) ชั้นที่1 "อสาธุํ สาธุนา ชิเน" ปี ๒๕๑๒ เป็นเหรียญสำหรับพระราชทานเป็นบำเหน็จกล้าหาญ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่๙ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเหรียญนี้ขึ้นสำหรับ พระราชทานแก่ทหาร ตำรวจ และราษฎร ซึ่งได้ปฏิบัติการสู้รบกับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ด้วยความกล้าหาญ หรือได้รับบาดเจ็บ หรือตายในการสู้รบ และการสู้รบนั้นได้ก่อให้เกิดผลดีแก่การปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ สมควรให้มีเหรียญพิทักษ์เสรีชน สำหรับพระราชทานแก่บุคคลดังกล่าว เพื่อเป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูล โดยตรา พระราชบัญญัติเหรียญพิทักษ์เสรีชน พ.ศ. ๒๕๑๒ >>


    ** พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระดูง่าย เนื้อแห้ง หายากกครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญพิทักษ์เสรีชน ปี2512 เหรียญพิทักษ์เสรีชน "อสาธุํ สาธุนา ชิเน" ปี2512 // พระราชทานแก่ผู้ที่กระทำการปราบปรามผู้ก่อการร้าย คอมมิวนิสต์ // พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระดูง่าย เนื้อแห้ง หายากกครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณ แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ทั้งคงกระพันชาตรี เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม ประสบการณ์มากมาย รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >> ** เหรียญพิทักษ์เสรีชน (ส.ช.) ชั้นที่1 "อสาธุํ สาธุนา ชิเน" ปี ๒๕๑๒ เป็นเหรียญสำหรับพระราชทานเป็นบำเหน็จกล้าหาญ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่๙ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเหรียญนี้ขึ้นสำหรับ พระราชทานแก่ทหาร ตำรวจ และราษฎร ซึ่งได้ปฏิบัติการสู้รบกับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ด้วยความกล้าหาญ หรือได้รับบาดเจ็บ หรือตายในการสู้รบ และการสู้รบนั้นได้ก่อให้เกิดผลดีแก่การปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ สมควรให้มีเหรียญพิทักษ์เสรีชน สำหรับพระราชทานแก่บุคคลดังกล่าว เพื่อเป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูล โดยตรา พระราชบัญญัติเหรียญพิทักษ์เสรีชน พ.ศ. ๒๕๑๒ >> ** พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระดูง่าย เนื้อแห้ง หายากกครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 530 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts