• คณะผู้แทนเจรจา บรรลุข้อตกลงแบบเป็นขั้นเป็นตอน สำหรับหยุดสงครามระหว่างอิสราเอลกับฮามาสในกาซา จากการเปิดเผยของสหรัฐฯ และกาตาร์ หลังฉนวนแห่งนี้ต้องเผชิญกับการนองเลือดที่ลากยาวมานานกว่า 15 เดือน เข่นฆ่าชีวิตชาวปาเลสไตน์ไปหลายหมื่นคนและโหมกระพือไฟในตะวันออกกลาง
    .
    ข้อตกลงนี้วางกรอบสำหรับการหยุดยิงอย่างเป็นขั้นเป็นตอนไปในเบื้องต้น 6 สัปดาห์ และในนั้นยังรวมถึงการที่กองกำลังอิสราเอลค่อยๆ ถอยทหารออกจากฉนวนกาซา และปล่อยตัวประกันที่ถูกควบคุมตัวโดยฮามาส แลกกับนักโทษปาเลสไตน์ ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของอิสราเอล
    .
    ระหว่างแถลงข่าวในกรุงโดฮา นายกรัฐมนตรี เชคโมฮัมเหม็ด บิน อับดุลราห์มาน บิน จัสซิม อัล ธานี ของกาตาร์ กล่าวว่า ข้อตลงหยุดยิงจะมีผลบังคับใช้ในวันอาทิตย์ (19 ม.ค.) และเวลานี้คณะผู้แทนเจรจากำลังทำงานร่วมกับอิสราเอลและฮามาส สำหรับก้าวย่างต่างๆ ในการนำข้อตกลงไปปฏิบัติ
    .
    "ข้อตกลงนี้จะหยุดการสู้รบในกาซา เพิ่มความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่จำเป็นป้อนสู่พลเมืองชาวปาเลสไตน์ และนำพาตัวประกันกลับสู่ครอบครัว หลังถูกคุมขังนานกว่า 15 เดือน" ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ กล่าวในวอชิงตัน
    .
    ชาวปาเลสไตน์พากันออกมาฉลองบนท้องถนนในกาซา ดินแดนที่พวกเขาต้องเผชิญกับวิกฤตด้านมนุษยธรรมร้ายแรง ขาดแคลนอาหาร น้ำและเชื้อเพลิงอย่างหนัก
    .
    ข้อตกลงนี้มีขึ้นตามหลังการเจรจานานหลายเดือน ที่เต็มไปด้วยอุปสรรค วกไปวนมา ชักเข้าชักออก ที่ดำเนินการโดยคนกลางอย่างอียิปต์และกาตาร์ ภายใต้การสนับสนุนของสหรัฐฯ และมันมีขึ้นไม่นาน ก่อนที่ โดนัลด์ ทรัมป์ จะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีอเมริกา ในวันที่ 20 มกราคม
    .
    อับเดล ฟัตตาห์ อัล-ซิซี ประธานาธิบดีอียิปต์ โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ แสดงความยินดีกับข้อตกลงดังกล่าวเช่นกัน
    .
    ถ้ามันประสบความสำเร็จ แผนข้อตกลงหยุดยิงอย่างค่อยเป็นค่อยไปนี้ จะหยุดการสู้รบที่ทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่ของกาซาเหลือแต่ซากปรักหักพัง และประชาชนส่วนใหญ่จากทั้งหมด 2.3 ล้านคน ในฉนวนเล็กๆ แห่งนี้ต้องไร้ถิ่นฐาน ในขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตยังคงเพิ่มขึ้นไม่หยุดในแต่ละวัน
    .
    ขั้นหนึ่งของข้อตกลงคือการนำมาซึ่งการปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอล 33 คน ประกอบด้วยผู้หญิงทั้งหมด เด็กๆ และชายที่มีอายุเกิน 50 ปี
    .
    ซามี อาบู ซูห์รี เจ้าหน้าที่ฮามาส เปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า คณะผู้แทนของพวกเขาได้อนุมัติผ่านคนกลาง สำหรับข้อตกลงหยุดยิงและแลกเปลี่ยนตัวประกัน
    .
    ในอิสราเอล ทำเนียบนายกรัฐมนตรีของเบนจามิน เนทันยาฮู ระบุว่า ฮามาส ถอนข้อเรียกร้องในนาทีสุดท้าย แต่ยังมีข้อแม้จำนวนหนึ่งที่ยังไม่คลี่คลายในข้อตกลงดังกล่าว "เราหวังว่าจะสามารถปิดรายละเอียดกันได้ในคืนนี้" ถ้อยแถลงระบุ
    .
    กองทัพอิสราเอลบุกเข้าไปยังฉนวนกาซา แก้แค้นกรณีที่กลุ่มมือปืนที่นำโดยฮามาส บุกจู่โจมข้ามชายแดน เล่นงานชุมชนต่างๆ ตามแนวชายแดนของอิสราเอล ในวันที่ 7 ตุลาคม 2023 สังหารทหารและพลเมืองไป 1,200 ราย และจับชาวต่างชาติและชาวอิสราเอล ไปเป็นตัวประกัน 250 คน
    .
    นับตั้งแต่นั้น สงครามทางอากาศและทางภาคพื้นของอิสราเอลในฉนวนกาซา ได้ปลิดชีพผู้คนไปกว่า 46,000 ราย ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน และอีกหลายแสนคนต้องไร้ที่อยู่อาศัย ซึ่งเวลานี้กำลังดิ้นรนฟันผ่าอากาศหนาวเหน็บตามเต็นท์และที่พักพิงชั่วคราว
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000004672
    ..............
    Sondhi X
    คณะผู้แทนเจรจา บรรลุข้อตกลงแบบเป็นขั้นเป็นตอน สำหรับหยุดสงครามระหว่างอิสราเอลกับฮามาสในกาซา จากการเปิดเผยของสหรัฐฯ และกาตาร์ หลังฉนวนแห่งนี้ต้องเผชิญกับการนองเลือดที่ลากยาวมานานกว่า 15 เดือน เข่นฆ่าชีวิตชาวปาเลสไตน์ไปหลายหมื่นคนและโหมกระพือไฟในตะวันออกกลาง . ข้อตกลงนี้วางกรอบสำหรับการหยุดยิงอย่างเป็นขั้นเป็นตอนไปในเบื้องต้น 6 สัปดาห์ และในนั้นยังรวมถึงการที่กองกำลังอิสราเอลค่อยๆ ถอยทหารออกจากฉนวนกาซา และปล่อยตัวประกันที่ถูกควบคุมตัวโดยฮามาส แลกกับนักโทษปาเลสไตน์ ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของอิสราเอล . ระหว่างแถลงข่าวในกรุงโดฮา นายกรัฐมนตรี เชคโมฮัมเหม็ด บิน อับดุลราห์มาน บิน จัสซิม อัล ธานี ของกาตาร์ กล่าวว่า ข้อตลงหยุดยิงจะมีผลบังคับใช้ในวันอาทิตย์ (19 ม.ค.) และเวลานี้คณะผู้แทนเจรจากำลังทำงานร่วมกับอิสราเอลและฮามาส สำหรับก้าวย่างต่างๆ ในการนำข้อตกลงไปปฏิบัติ . "ข้อตกลงนี้จะหยุดการสู้รบในกาซา เพิ่มความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่จำเป็นป้อนสู่พลเมืองชาวปาเลสไตน์ และนำพาตัวประกันกลับสู่ครอบครัว หลังถูกคุมขังนานกว่า 15 เดือน" ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ กล่าวในวอชิงตัน . ชาวปาเลสไตน์พากันออกมาฉลองบนท้องถนนในกาซา ดินแดนที่พวกเขาต้องเผชิญกับวิกฤตด้านมนุษยธรรมร้ายแรง ขาดแคลนอาหาร น้ำและเชื้อเพลิงอย่างหนัก . ข้อตกลงนี้มีขึ้นตามหลังการเจรจานานหลายเดือน ที่เต็มไปด้วยอุปสรรค วกไปวนมา ชักเข้าชักออก ที่ดำเนินการโดยคนกลางอย่างอียิปต์และกาตาร์ ภายใต้การสนับสนุนของสหรัฐฯ และมันมีขึ้นไม่นาน ก่อนที่ โดนัลด์ ทรัมป์ จะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีอเมริกา ในวันที่ 20 มกราคม . อับเดล ฟัตตาห์ อัล-ซิซี ประธานาธิบดีอียิปต์ โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ แสดงความยินดีกับข้อตกลงดังกล่าวเช่นกัน . ถ้ามันประสบความสำเร็จ แผนข้อตกลงหยุดยิงอย่างค่อยเป็นค่อยไปนี้ จะหยุดการสู้รบที่ทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่ของกาซาเหลือแต่ซากปรักหักพัง และประชาชนส่วนใหญ่จากทั้งหมด 2.3 ล้านคน ในฉนวนเล็กๆ แห่งนี้ต้องไร้ถิ่นฐาน ในขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตยังคงเพิ่มขึ้นไม่หยุดในแต่ละวัน . ขั้นหนึ่งของข้อตกลงคือการนำมาซึ่งการปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอล 33 คน ประกอบด้วยผู้หญิงทั้งหมด เด็กๆ และชายที่มีอายุเกิน 50 ปี . ซามี อาบู ซูห์รี เจ้าหน้าที่ฮามาส เปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า คณะผู้แทนของพวกเขาได้อนุมัติผ่านคนกลาง สำหรับข้อตกลงหยุดยิงและแลกเปลี่ยนตัวประกัน . ในอิสราเอล ทำเนียบนายกรัฐมนตรีของเบนจามิน เนทันยาฮู ระบุว่า ฮามาส ถอนข้อเรียกร้องในนาทีสุดท้าย แต่ยังมีข้อแม้จำนวนหนึ่งที่ยังไม่คลี่คลายในข้อตกลงดังกล่าว "เราหวังว่าจะสามารถปิดรายละเอียดกันได้ในคืนนี้" ถ้อยแถลงระบุ . กองทัพอิสราเอลบุกเข้าไปยังฉนวนกาซา แก้แค้นกรณีที่กลุ่มมือปืนที่นำโดยฮามาส บุกจู่โจมข้ามชายแดน เล่นงานชุมชนต่างๆ ตามแนวชายแดนของอิสราเอล ในวันที่ 7 ตุลาคม 2023 สังหารทหารและพลเมืองไป 1,200 ราย และจับชาวต่างชาติและชาวอิสราเอล ไปเป็นตัวประกัน 250 คน . นับตั้งแต่นั้น สงครามทางอากาศและทางภาคพื้นของอิสราเอลในฉนวนกาซา ได้ปลิดชีพผู้คนไปกว่า 46,000 ราย ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน และอีกหลายแสนคนต้องไร้ที่อยู่อาศัย ซึ่งเวลานี้กำลังดิ้นรนฟันผ่าอากาศหนาวเหน็บตามเต็นท์และที่พักพิงชั่วคราว . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000004672 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1065 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพเกาหลีใต้แถลงว่า เปียงยางยิงมิสไซล์พิสัยใกล้ไม่กี่ลูกตกทะเลตะวันออก บังเอิญเกิดในช่วงเวลาที่รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น ทาเคชิ อิวายะ (Takeshi Iwaya) อยู่ระหว่างเยือนโซลเป็นทางการ
    .
    เอเอฟพีรายงาน(14 ม.ค.) ว่า การยิงทดสอบมิสไซล์ของเกาหลีเหนือเช้าวันอังคาร (14) นี้ มีผู้เชี่ยวชาญหลายคนมองว่าเป็นเสมือนสัญญาณส่งไปให้รัฐบาลสหรัฐฯ ชุดใหม่ของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่กำลังจะเข้าสู่พิธีสาบานตนรับตำแหน่งในวันจันทร์ที่ 20 ม.ค.ที่จะถึง
    .
    คณะเสนาธิการทหารร่วมของเกาหลีใต้ (JCS) ออกแถลงการณ์มีใจความว่า "มิสไซล์เดินทางราว 250 กม.หลังถูกปล่อยจากฐานเมื่อเวลาราว 09.30 น.ตามเวลาท้องถิ่นจาก Kanggye จังหวัดจากัง (Jagang) ติดพรมแดนจีน" อ้างอิงจากรอยเตอร์
    .
    เอเอฟพีชี้ว่า เป็นการยิงมิสไซล์พิสัยใกล้จำนวนไม่กี่ลูกลงทะเลตะวันออกในวันอังคาร (14)
    .
    เปียงยางยิงทดสอบเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น ทาเคชิ อิวาระ (Takeshi Iwaya) อยู่ระหว่างการเยือนกรุงโซลอย่างเป็นทางการ และร่วมประชุมหลายคณะกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงเกาหลีใต้ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีก่อนที่ทรัมป์จะรับตำแหน่งต่อจากประธานาธิบดี โจ ไบเดน สัปดาห์หน้า
    .
    สำนักงานข่าวกรองเกาหลีใต้และสำนักงานข่าวกรองสหรัฐฯ ได้เฝ้าจับตาการเตรียมพร้อมยิงของเปียงยาง กองทัพเกาหลีใต้แถลง พร้อมยืนยันว่า โซลยังคงอยู่ในการเตรียมความพร้อมสูงสุดและมีการแชร์ข้อมูลร่วมกับทั้งวอชิงตันและโตเกียว
    .
    การยิงทดสอบมิสไซล์เกาหลีเหนือเรียกเสียงประณามจากรักษาการประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ชเว ซังมก (Choi Sang-mok) ที่ชี้ว่าเป็นการละเมิดมติที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ
    .
    “โซลจะตอบโต้อย่างรุนแรงมากกว่าในการยั่วยุของเกาหลีเหนือบนพื้นฐานของจุดยืนทางความมั่นคงที่แข็งแกร่งและความเป็นพันธมิตรกับสหรัฐฯ”
    .
    ขณะเดียวกัน กองบัญชาการอินโด-แปซิฟิกของสหรัฐฯ ได้ประณามการทดสอบของเปียงยาง พร้อมเรียกร้องให้เกาหลีเหนือหยุดจากการทดสอบที่ไม่ชอบธรรมด้วยกฎหมายและการกระทำที่สร้างความไร้เสถียรภาพ
    .
    ผู้เชี่ยวชาญออกมาเตือนว่า การยิงทดสอบก่อนสัปดาห์พิธีสาบานตนของประธานาธิบดีอเมริกันคนใหม่นี้ “มันอาจชี้ไปว่าถึงความตั้งใจในการกดดันก่อนหน้ารัฐบาลทรัมป์ สมัยที่ 2 ก็เป็นได้” ยาง มู-จิน (Yang Moo-jin) อธิการบดีมหาวิทยาลัยการศึกษาเกาหลีเหนือในกรุงโซลแสดงความเห็น
    .
    ขณะที่ อาห์น ชาน-อิล (Ahn Chan-il) อดีตเกาหลีเหนือแปรพักตร์ที่ผันตัวกลายเป็นนักวิจัยบริหารสถาบันโลกเพื่อการศึกษาเกาหลีเหนือ (World Institute for North Korea Studies) ให้ความเห็นกับเอเอฟพีว่า นอกจากจะเป็นการแสดงตนให้รู้ต่อรัฐบาลทรัมป์แล้ว อาจจะมีเป้าหมายไปที่สร้างความไร้เสถียรภาพให้โซลในช่วงที่เกาหลีใต้กำลังตกอยู่ในความอลหม่านทางการเมืองภายในจากปัญหาผู้นำ ยุน ซอกยอล ประกาศใช้กฎอัยการศึกและทำให้ต้องโดนถอดถอนออกจากตำแหน่ง
    .
    เอเอฟพีรายงานว่า พิกัดที่ตั้งจุดการทดสอบไม่เป็นที่เปิดเผย แต่ทว่า ภาพที่เผยแพร่ออกมาจากสำนักข่าวทางการเกาหลีเหนือ KCNA แสดงให้เห็นประธานาธิบดี คิม จองอึน พร้อมบุตรสาว คิมจูแอ (Kim Ju Ae) กำลังเฝ้ากำกับการทดสอบสัปดาห์ที่แล้ว
    .
    KCNA รายงานถึงการใช้วัสดุใหม่คาร์บอนไฟเบอร์ (carbon fibre) ในเครื่องยนต์ของขีปนาวุธที่มีผู้เชี่ยวชาญหลายคนออกมาเตือนว่า อาจช่วยให้เปียงยางสามารถส่งขีปนาวุธไปไกลมากขึ้นที่ซึ่งปัจจุบันเทคโนโลยีมิสไซล์นี้มีแต่แค่สหรัฐฯ รัสเซีย และจีน เท่านั้นที่ครอบครอง
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000004282
    ..............
    Sondhi X
    กองทัพเกาหลีใต้แถลงว่า เปียงยางยิงมิสไซล์พิสัยใกล้ไม่กี่ลูกตกทะเลตะวันออก บังเอิญเกิดในช่วงเวลาที่รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น ทาเคชิ อิวายะ (Takeshi Iwaya) อยู่ระหว่างเยือนโซลเป็นทางการ . เอเอฟพีรายงาน(14 ม.ค.) ว่า การยิงทดสอบมิสไซล์ของเกาหลีเหนือเช้าวันอังคาร (14) นี้ มีผู้เชี่ยวชาญหลายคนมองว่าเป็นเสมือนสัญญาณส่งไปให้รัฐบาลสหรัฐฯ ชุดใหม่ของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่กำลังจะเข้าสู่พิธีสาบานตนรับตำแหน่งในวันจันทร์ที่ 20 ม.ค.ที่จะถึง . คณะเสนาธิการทหารร่วมของเกาหลีใต้ (JCS) ออกแถลงการณ์มีใจความว่า "มิสไซล์เดินทางราว 250 กม.หลังถูกปล่อยจากฐานเมื่อเวลาราว 09.30 น.ตามเวลาท้องถิ่นจาก Kanggye จังหวัดจากัง (Jagang) ติดพรมแดนจีน" อ้างอิงจากรอยเตอร์ . เอเอฟพีชี้ว่า เป็นการยิงมิสไซล์พิสัยใกล้จำนวนไม่กี่ลูกลงทะเลตะวันออกในวันอังคาร (14) . เปียงยางยิงทดสอบเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น ทาเคชิ อิวาระ (Takeshi Iwaya) อยู่ระหว่างการเยือนกรุงโซลอย่างเป็นทางการ และร่วมประชุมหลายคณะกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงเกาหลีใต้ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีก่อนที่ทรัมป์จะรับตำแหน่งต่อจากประธานาธิบดี โจ ไบเดน สัปดาห์หน้า . สำนักงานข่าวกรองเกาหลีใต้และสำนักงานข่าวกรองสหรัฐฯ ได้เฝ้าจับตาการเตรียมพร้อมยิงของเปียงยาง กองทัพเกาหลีใต้แถลง พร้อมยืนยันว่า โซลยังคงอยู่ในการเตรียมความพร้อมสูงสุดและมีการแชร์ข้อมูลร่วมกับทั้งวอชิงตันและโตเกียว . การยิงทดสอบมิสไซล์เกาหลีเหนือเรียกเสียงประณามจากรักษาการประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ชเว ซังมก (Choi Sang-mok) ที่ชี้ว่าเป็นการละเมิดมติที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ . “โซลจะตอบโต้อย่างรุนแรงมากกว่าในการยั่วยุของเกาหลีเหนือบนพื้นฐานของจุดยืนทางความมั่นคงที่แข็งแกร่งและความเป็นพันธมิตรกับสหรัฐฯ” . ขณะเดียวกัน กองบัญชาการอินโด-แปซิฟิกของสหรัฐฯ ได้ประณามการทดสอบของเปียงยาง พร้อมเรียกร้องให้เกาหลีเหนือหยุดจากการทดสอบที่ไม่ชอบธรรมด้วยกฎหมายและการกระทำที่สร้างความไร้เสถียรภาพ . ผู้เชี่ยวชาญออกมาเตือนว่า การยิงทดสอบก่อนสัปดาห์พิธีสาบานตนของประธานาธิบดีอเมริกันคนใหม่นี้ “มันอาจชี้ไปว่าถึงความตั้งใจในการกดดันก่อนหน้ารัฐบาลทรัมป์ สมัยที่ 2 ก็เป็นได้” ยาง มู-จิน (Yang Moo-jin) อธิการบดีมหาวิทยาลัยการศึกษาเกาหลีเหนือในกรุงโซลแสดงความเห็น . ขณะที่ อาห์น ชาน-อิล (Ahn Chan-il) อดีตเกาหลีเหนือแปรพักตร์ที่ผันตัวกลายเป็นนักวิจัยบริหารสถาบันโลกเพื่อการศึกษาเกาหลีเหนือ (World Institute for North Korea Studies) ให้ความเห็นกับเอเอฟพีว่า นอกจากจะเป็นการแสดงตนให้รู้ต่อรัฐบาลทรัมป์แล้ว อาจจะมีเป้าหมายไปที่สร้างความไร้เสถียรภาพให้โซลในช่วงที่เกาหลีใต้กำลังตกอยู่ในความอลหม่านทางการเมืองภายในจากปัญหาผู้นำ ยุน ซอกยอล ประกาศใช้กฎอัยการศึกและทำให้ต้องโดนถอดถอนออกจากตำแหน่ง . เอเอฟพีรายงานว่า พิกัดที่ตั้งจุดการทดสอบไม่เป็นที่เปิดเผย แต่ทว่า ภาพที่เผยแพร่ออกมาจากสำนักข่าวทางการเกาหลีเหนือ KCNA แสดงให้เห็นประธานาธิบดี คิม จองอึน พร้อมบุตรสาว คิมจูแอ (Kim Ju Ae) กำลังเฝ้ากำกับการทดสอบสัปดาห์ที่แล้ว . KCNA รายงานถึงการใช้วัสดุใหม่คาร์บอนไฟเบอร์ (carbon fibre) ในเครื่องยนต์ของขีปนาวุธที่มีผู้เชี่ยวชาญหลายคนออกมาเตือนว่า อาจช่วยให้เปียงยางสามารถส่งขีปนาวุธไปไกลมากขึ้นที่ซึ่งปัจจุบันเทคโนโลยีมิสไซล์นี้มีแต่แค่สหรัฐฯ รัสเซีย และจีน เท่านั้นที่ครอบครอง . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000004282 .............. Sondhi X
    Like
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1107 มุมมอง 0 รีวิว
  • เชื่อว่าอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ อาจได้ความคิดซื้อเกาะกรีนแลนด์จากทายาทเครื่องสำอาง ESTÉE LAUDER “โรแนลด์ ลอเดอร์” (Ronald Lauder) เพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย นายกรัฐมนตรีอิตาลีฟันธง เหมือนสัญญาณเตือนไป “ปักกิ่ง” ไม่กี่วันหลังวอชิงตันล็อบบี้ไม่ให้ขายบริษัทเหมืองแร่แรร์เอิร์ธ (Rare Earth) ของกรีนแลนด์ไปให้ปักกิ่ง
    .
    หนังสือพิมพ์ดิอินดีเพนเดนท์ของอังกฤษรายงานวันพุธ (8 ม.ค.) ว่า มีการเชื่อว่า ความคิดการซื้อเกาะกรีนแลนด์อาจมาจากเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยของทรัมป์ ทายาทเครื่องสำอาง ESTÉE LAUDER “โรแนลด์ ลอเดอร์” (Ronald Lauder) อ้างจากหนังสือ The Divider ของปีเตอร์ เบเกอร์ (Peter Baker) จากหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส และซูซาน กลาสเซอร์ (Susan Glasser) จาก The New Yorker ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับอดีตผู้นำสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ในขณะที่อยู่ในทำเนียบขาวระหว่างปี 2017-2021
    .
    “เพื่อนคนหนึ่งของผมที่เป็นนักธุรกิจที่มีประสบการณ์มากๆ คิดว่าเราควรได้เกาะกรีนแลนด์” ทรัมป์กล่าวต่อที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติในเวลานั้น อ้างอิงจากหนังสือ
    .
    ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ในเวลานั้นถามย้ำว่า “คุณคิดว่าอย่างไร?”
    .
    และส่งผลทำให้มีการตั้งทีมศึกษา การหาทางออกต่างๆ เป็นต้นว่า ข้อเสนอขอเช่าเกาะ ที่คล้ายข้อตกลงอสังหาริมทรัพย์นิวยอร์ก
    .
    อ้างอิงจากนิวยอร์กไทม์ส มีความวิตกในกลุ่มผู้ช่วยทรัมป์ว่า หากแนวคิดการซื้อเกาะกรีนแลนด์หากรั่วออกไปอาจส่งผลกระทบทางการทูตได้
    .
    ทรัมป์ให้มสัมภาษณ์กับผู้แต่งว่า “ผมพูดว่า ทำไมพวกเราไม่ครอบครองมัน” และเสริมว่า “คุณมองไปที่แผนที่สิ ผมเป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ผมมองไปที่ตรงมุม ผมพูดว่า ผมจะต้องมีร้านสำหรับตึกที่ผมกำลังจะสร้างและอื่นๆ มันไม่ต่างกันเลย”
    .
    ผู้นำสหรัฐฯ ย้ำว่า “ผมรักแผน และผมมักพูดว่า มองไปที่ขนาดของมันสิ มันใหญ่มหึมามาก มันสมควรเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐอเมริกา”
    .
    ดิอินดีเพนเดนท์รายงานว่า อ้างอิงจากหนังสือพบว่า ทายาท Estée Lauder ได้หารือกับทรัมป์เกี่ยวกับเกาะกรีนแลนด์มาตั้งแต่เริ่มแรกของสมัยการดำรงตำแหน่งเมื่อปี 2017 และแม้กระทั่งเสนอตัวเองเป็นประตูหลังติดต่อรัฐบาลเดนมาร์กสำหรับการเจรจาต่อรอง
    .
    ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ จอห์น โบลตัน (John Bolton) ในเวลานั้นได้สั่งผู้ช่วยของเขา ฟิโอนา ฮิลล์ (Fiona Hill) ให้ตั้งทีมงานเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ และพบมีการแอบหารือลับร่วมกับเอกอัครราชทูตเดนมาร์ก พร้อมกับเมโมเสนอช่องทางตัวเลือก
    .
    ทั้งนี้ โบลตันวิตกการแผ่อิทธิพลของ "ปักกิ่ง" มายังภูมิภาคอาร์กติก ขั้วโลกเหนือ และเชื่อว่าการที่สหรัฐฯ จะเพิ่มอิทธิพลปรากฏตัวบนเกาะกรีนแลนด์จะเป็นความคิดที่ดี แต่อย่างไรก็ตาม โบลตันเชื่อว่า ความคิดซื้อเกาะกรีนแลนด์นั้นไม่มีความเป็นไปได้
    .
    มีการสานสัมพันธ์ระหว่างกรีนแลนด์และจีน อ้างอิงจาก highnorthnews รายงานเมื่อวันที่ 30 พ.ย.ปี 2021 ว่า เกาะกรีนแลนด์ได้เปิดสำนักงานตัวแทนขึ้นที่กรุงปักกิ่ง เพื่อโปรโมตทางเศรษฐกิจ การค้า วัฒนธรรมระหว่างกรีนแลนด์และเอเชีย โดยมีเป้าหมายไปที่ "จีน" แต่ยังครอบคลุมไปถึงญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้
    .
    ความกังวลของโบลตันเกี่ยวกับกรีนแลนด์ในเวลานั้นยังสอดคล้องกับความเคลื่อนไหวของวอชิงตันเมื่อล่าสุด
    .
    รอยเตอร์รายงานวันศุกร์ (10) ล่าสุดว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ที่กำลังจะหมดสมัยได้ร่วมกับโคเปนเฮเกนแอบล็อบบี้บริษัทเหมืองแร่แรร์เอิร์ธ (Rare Earth) Tanbreez Mining ของกรีนแลนด์ที่มีนโยบายว่า ทำเหมืองเพื่อเทคโนโลยีสะอาดกว่า (Mining for Greener Technologies) ไม่ให้ถูกขายไปให้ปักกิ่ง
    .
    แร่แรร์เอิร์ธนั้นมีคุณสมบัติความเป็นแม่เหล็กสูงและมีความสำคัญต่อการพัฒนาตั้งแต่รถยนต์ไฟฟ้าไปจนถึงจรวดมิสไซล์ที่ทั้งสหรัฐฯ และจีนต่างแข่งขันเพื่อครอบครอง
    .
    เกร็ก บาร์นส์ (Greg Barnes) ซีอีโอบริษัท Tanbreez Mining ที่ขัดสนเงินให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ว่า เจ้าหน้าที่อเมริกันปีที่แล้วเดินทางมาที่ทางใต้ของเกาะกรีนแลนด์ถึง 2 ครั้งเพื่อเตือนไม่ให้ขายไปให้ผู้ซื้อที่เชื่อมโยงกับปักกิ่ง
    .
    และในท้ายที่สุดเขาจำเป็นต้องขายบริษัทเหมืองแร่กรีนแลนด์ไปให้บริษัทเหมืองแร่ Critical Metals ที่มีฐานในนิวยอร์กในข้อตกลงที่สลับซับซ้อนและได้เงินน้อยกว่า ซึ่งสัญญาจะเสร็จสมบูรณ์ภายในปีนี้
    .
    ทั้งนี้บาร์นส์จะได้เงินสด 5 ล้านดอลลาร์และหุ้นใน Critical Metals สำหรับ Tanbreez Mining เป็นมูลค่า 211 ล้านดอลลาร์ เป็นมูลค่าสัญญาขายน้อยกว่ามากเมื่อเปรียบเทียบออกมาจากฝั่งของบริษัทจีน
    .
    ทรัมป์ต้องการได้เกาะกรีนแลนด์เพื่อกันจีนนั้นยังออกมาจากความเห็นของนายกรัฐมนตรีอิตาลี จอร์เจีย เมโลนี (Giorgia Meloni)
    .
    ฟรานซ์24 ของฝรั่งเศสรายงานวันพฤหัสบดี (9) ว่า ผู้นำหญิงอิตาลีเปิดเผยว่า เธอมองว่าการที่ว่าที่ประธานาธิบดีอเมริกันคนใหม่ข่มขู่จะใช้กำลังทหารเข้ายึดเกาะกรีนแลนด์หรือคลองปานามาเป็นเสมือนคำเตือนไปยังประเทศฝ่ายตรงข้ามเป็นต้นว่า “จีน” ที่สมควรทำตัวออกห่างจากพื้นที่ทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ
    .
    เดลีเมลของอังกฤษรายงานวันเสาร์ (11) ว่า นายกรัฐมนตรีกรีนแลนด์ Múte Egede ในวันศุกร์ (10) ที่เดนมาร์ก ได้แสดงความปรารถนาจะเข้าสู่การเจรจากับรัฐบาลสหรัฐฯ สำหรับผลประโยชน์ร่วมกัน พร้อมย้ำว่า “ชาวกรีนแลนด์ไม่ต้องการเป็นอเมริกันชน”
    .
    เกิดขึ้นหลังแอ็กซิออส (Axios) รายงานว่า เจ้าหน้าที่เดนมาร์กได้สื่อสารในทางลับกับทีมของทรัมป์ประเด็นเกาะกรีนแลนด์ก่อนหน้าวันพิธีสาบานตนในวันที่ 20 ม.ค.
    .
    สหรัฐฯ ที่ตั้งชาติมาอย่างหลากหลายวิธีทั้งสู้รบในสงครามปฏิวัติอเมริกากับอังกฤษ และการสู้รบสเปน และเม็กซิโกในการขยายดินแดน และยังรวมไปถึงการใช้เงินเพื่อซื้อดินแดน
    .
    เดลีเมลของอังกฤษประเมินว่า หากสหรัฐฯ เดินหน้าซื้อเกาะกรีนแลนด์จริงอาจต้องจ่ายแพงกว่าตอนซื้อรัฐอะแลสกาจากรัสเซียเมื่อปี 1867 ในราคา 7.2 ล้านดอลลาร์ หรือเท่ากับ 153.5 ล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน
    .
    โดยชี้ว่า เกาะกรีนแลนด์ใหญ่กว่ารัฐอะแลสกา 150 เท่า คาดว่าอาจต้องควักกระเป๋าจ่ายถึง 230.25 ล้านดอลลาร์
    สหรัฐฯ เคยซื้อเกาะเวอร์จินจากเดนมาร์กเมื่อปี 1917 ด้วยทองคำมูลค่า 25 ล้านดอลลาร์ เทียบเท่ากับ 616.2 ล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน
    .
    และรัฐบาลลุงแซมยังเคยทุ่มซื้อรัฐลุยเซียนาจากฝรั่งเศสเมื่อปี 1803 ในราคา 15 ล้านดอลลาร์ หรือตกราว 418.8 ล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000003916
    ..............
    Sondhi X
    เชื่อว่าอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ อาจได้ความคิดซื้อเกาะกรีนแลนด์จากทายาทเครื่องสำอาง ESTÉE LAUDER “โรแนลด์ ลอเดอร์” (Ronald Lauder) เพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย นายกรัฐมนตรีอิตาลีฟันธง เหมือนสัญญาณเตือนไป “ปักกิ่ง” ไม่กี่วันหลังวอชิงตันล็อบบี้ไม่ให้ขายบริษัทเหมืองแร่แรร์เอิร์ธ (Rare Earth) ของกรีนแลนด์ไปให้ปักกิ่ง . หนังสือพิมพ์ดิอินดีเพนเดนท์ของอังกฤษรายงานวันพุธ (8 ม.ค.) ว่า มีการเชื่อว่า ความคิดการซื้อเกาะกรีนแลนด์อาจมาจากเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยของทรัมป์ ทายาทเครื่องสำอาง ESTÉE LAUDER “โรแนลด์ ลอเดอร์” (Ronald Lauder) อ้างจากหนังสือ The Divider ของปีเตอร์ เบเกอร์ (Peter Baker) จากหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส และซูซาน กลาสเซอร์ (Susan Glasser) จาก The New Yorker ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับอดีตผู้นำสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ในขณะที่อยู่ในทำเนียบขาวระหว่างปี 2017-2021 . “เพื่อนคนหนึ่งของผมที่เป็นนักธุรกิจที่มีประสบการณ์มากๆ คิดว่าเราควรได้เกาะกรีนแลนด์” ทรัมป์กล่าวต่อที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติในเวลานั้น อ้างอิงจากหนังสือ . ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ในเวลานั้นถามย้ำว่า “คุณคิดว่าอย่างไร?” . และส่งผลทำให้มีการตั้งทีมศึกษา การหาทางออกต่างๆ เป็นต้นว่า ข้อเสนอขอเช่าเกาะ ที่คล้ายข้อตกลงอสังหาริมทรัพย์นิวยอร์ก . อ้างอิงจากนิวยอร์กไทม์ส มีความวิตกในกลุ่มผู้ช่วยทรัมป์ว่า หากแนวคิดการซื้อเกาะกรีนแลนด์หากรั่วออกไปอาจส่งผลกระทบทางการทูตได้ . ทรัมป์ให้มสัมภาษณ์กับผู้แต่งว่า “ผมพูดว่า ทำไมพวกเราไม่ครอบครองมัน” และเสริมว่า “คุณมองไปที่แผนที่สิ ผมเป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ผมมองไปที่ตรงมุม ผมพูดว่า ผมจะต้องมีร้านสำหรับตึกที่ผมกำลังจะสร้างและอื่นๆ มันไม่ต่างกันเลย” . ผู้นำสหรัฐฯ ย้ำว่า “ผมรักแผน และผมมักพูดว่า มองไปที่ขนาดของมันสิ มันใหญ่มหึมามาก มันสมควรเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐอเมริกา” . ดิอินดีเพนเดนท์รายงานว่า อ้างอิงจากหนังสือพบว่า ทายาท Estée Lauder ได้หารือกับทรัมป์เกี่ยวกับเกาะกรีนแลนด์มาตั้งแต่เริ่มแรกของสมัยการดำรงตำแหน่งเมื่อปี 2017 และแม้กระทั่งเสนอตัวเองเป็นประตูหลังติดต่อรัฐบาลเดนมาร์กสำหรับการเจรจาต่อรอง . ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ จอห์น โบลตัน (John Bolton) ในเวลานั้นได้สั่งผู้ช่วยของเขา ฟิโอนา ฮิลล์ (Fiona Hill) ให้ตั้งทีมงานเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ และพบมีการแอบหารือลับร่วมกับเอกอัครราชทูตเดนมาร์ก พร้อมกับเมโมเสนอช่องทางตัวเลือก . ทั้งนี้ โบลตันวิตกการแผ่อิทธิพลของ "ปักกิ่ง" มายังภูมิภาคอาร์กติก ขั้วโลกเหนือ และเชื่อว่าการที่สหรัฐฯ จะเพิ่มอิทธิพลปรากฏตัวบนเกาะกรีนแลนด์จะเป็นความคิดที่ดี แต่อย่างไรก็ตาม โบลตันเชื่อว่า ความคิดซื้อเกาะกรีนแลนด์นั้นไม่มีความเป็นไปได้ . มีการสานสัมพันธ์ระหว่างกรีนแลนด์และจีน อ้างอิงจาก highnorthnews รายงานเมื่อวันที่ 30 พ.ย.ปี 2021 ว่า เกาะกรีนแลนด์ได้เปิดสำนักงานตัวแทนขึ้นที่กรุงปักกิ่ง เพื่อโปรโมตทางเศรษฐกิจ การค้า วัฒนธรรมระหว่างกรีนแลนด์และเอเชีย โดยมีเป้าหมายไปที่ "จีน" แต่ยังครอบคลุมไปถึงญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้ . ความกังวลของโบลตันเกี่ยวกับกรีนแลนด์ในเวลานั้นยังสอดคล้องกับความเคลื่อนไหวของวอชิงตันเมื่อล่าสุด . รอยเตอร์รายงานวันศุกร์ (10) ล่าสุดว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ที่กำลังจะหมดสมัยได้ร่วมกับโคเปนเฮเกนแอบล็อบบี้บริษัทเหมืองแร่แรร์เอิร์ธ (Rare Earth) Tanbreez Mining ของกรีนแลนด์ที่มีนโยบายว่า ทำเหมืองเพื่อเทคโนโลยีสะอาดกว่า (Mining for Greener Technologies) ไม่ให้ถูกขายไปให้ปักกิ่ง . แร่แรร์เอิร์ธนั้นมีคุณสมบัติความเป็นแม่เหล็กสูงและมีความสำคัญต่อการพัฒนาตั้งแต่รถยนต์ไฟฟ้าไปจนถึงจรวดมิสไซล์ที่ทั้งสหรัฐฯ และจีนต่างแข่งขันเพื่อครอบครอง . เกร็ก บาร์นส์ (Greg Barnes) ซีอีโอบริษัท Tanbreez Mining ที่ขัดสนเงินให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ว่า เจ้าหน้าที่อเมริกันปีที่แล้วเดินทางมาที่ทางใต้ของเกาะกรีนแลนด์ถึง 2 ครั้งเพื่อเตือนไม่ให้ขายไปให้ผู้ซื้อที่เชื่อมโยงกับปักกิ่ง . และในท้ายที่สุดเขาจำเป็นต้องขายบริษัทเหมืองแร่กรีนแลนด์ไปให้บริษัทเหมืองแร่ Critical Metals ที่มีฐานในนิวยอร์กในข้อตกลงที่สลับซับซ้อนและได้เงินน้อยกว่า ซึ่งสัญญาจะเสร็จสมบูรณ์ภายในปีนี้ . ทั้งนี้บาร์นส์จะได้เงินสด 5 ล้านดอลลาร์และหุ้นใน Critical Metals สำหรับ Tanbreez Mining เป็นมูลค่า 211 ล้านดอลลาร์ เป็นมูลค่าสัญญาขายน้อยกว่ามากเมื่อเปรียบเทียบออกมาจากฝั่งของบริษัทจีน . ทรัมป์ต้องการได้เกาะกรีนแลนด์เพื่อกันจีนนั้นยังออกมาจากความเห็นของนายกรัฐมนตรีอิตาลี จอร์เจีย เมโลนี (Giorgia Meloni) . ฟรานซ์24 ของฝรั่งเศสรายงานวันพฤหัสบดี (9) ว่า ผู้นำหญิงอิตาลีเปิดเผยว่า เธอมองว่าการที่ว่าที่ประธานาธิบดีอเมริกันคนใหม่ข่มขู่จะใช้กำลังทหารเข้ายึดเกาะกรีนแลนด์หรือคลองปานามาเป็นเสมือนคำเตือนไปยังประเทศฝ่ายตรงข้ามเป็นต้นว่า “จีน” ที่สมควรทำตัวออกห่างจากพื้นที่ทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ . เดลีเมลของอังกฤษรายงานวันเสาร์ (11) ว่า นายกรัฐมนตรีกรีนแลนด์ Múte Egede ในวันศุกร์ (10) ที่เดนมาร์ก ได้แสดงความปรารถนาจะเข้าสู่การเจรจากับรัฐบาลสหรัฐฯ สำหรับผลประโยชน์ร่วมกัน พร้อมย้ำว่า “ชาวกรีนแลนด์ไม่ต้องการเป็นอเมริกันชน” . เกิดขึ้นหลังแอ็กซิออส (Axios) รายงานว่า เจ้าหน้าที่เดนมาร์กได้สื่อสารในทางลับกับทีมของทรัมป์ประเด็นเกาะกรีนแลนด์ก่อนหน้าวันพิธีสาบานตนในวันที่ 20 ม.ค. . สหรัฐฯ ที่ตั้งชาติมาอย่างหลากหลายวิธีทั้งสู้รบในสงครามปฏิวัติอเมริกากับอังกฤษ และการสู้รบสเปน และเม็กซิโกในการขยายดินแดน และยังรวมไปถึงการใช้เงินเพื่อซื้อดินแดน . เดลีเมลของอังกฤษประเมินว่า หากสหรัฐฯ เดินหน้าซื้อเกาะกรีนแลนด์จริงอาจต้องจ่ายแพงกว่าตอนซื้อรัฐอะแลสกาจากรัสเซียเมื่อปี 1867 ในราคา 7.2 ล้านดอลลาร์ หรือเท่ากับ 153.5 ล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน . โดยชี้ว่า เกาะกรีนแลนด์ใหญ่กว่ารัฐอะแลสกา 150 เท่า คาดว่าอาจต้องควักกระเป๋าจ่ายถึง 230.25 ล้านดอลลาร์ สหรัฐฯ เคยซื้อเกาะเวอร์จินจากเดนมาร์กเมื่อปี 1917 ด้วยทองคำมูลค่า 25 ล้านดอลลาร์ เทียบเท่ากับ 616.2 ล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน . และรัฐบาลลุงแซมยังเคยทุ่มซื้อรัฐลุยเซียนาจากฝรั่งเศสเมื่อปี 1803 ในราคา 15 ล้านดอลลาร์ หรือตกราว 418.8 ล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000003916 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Yay
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1262 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข้อมูลเกี่ยวกับการลาออกของ สมิธ ถูกระบุเอาไว้ในฟุตโน้ตของเอกสารดังกล่าว โดยบอกว่า สมิธ ได้ทำงานเสร็จสมบูรณ์แล้ว และส่งรายงานชั้นความลับฉบับสุดท้ายไปเมื่อวันที่ 7 ม.ค. ก่อนที่จะ "แยกทาง" กับกระทรวงยุติธรรมสกรัฐฯ ในวันที่ 10 ม.ค.

    อดีตอัยการคดีอาชญากรรมสงครามผู้นี้ได้เป็นผู้สั่งฟ้อง ทรัมป์ ในคดีอาญา 2 จาก 4 คดีที่ ทรัมป์ ตกเป็นจำเลยหลังพ้นตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ในปี 2021 ทว่าคดีทั้งสองก็ต้องหยุดชะงักไปหลังผู้พิพากษาฟลอริดาที่ได้รับการแต่งตั้งโดย ทรัมป์ ตัดสินยกฟ้องไปหนึ่ง และศาลสูงสุดสหรัฐฯ ที่มีผู้พิพากษา 3 คนที่ถูกแต่งตั้งโดย ทรัมป์ วินิจฉัยว่าอดีตผู้นำสหรัฐฯ ทุกคนมีสิทธิคุ้มกันจากการถูกดำเนินคดีในการกระทำภายใต้อำนาจหน้าที่ (official acts) ทำให้ทั้ง 2 คดีนี้ไม่ได้เข้าสู่กระบวนการไต่สวนเลย

    หลังจากที่ ทรัมป์ เอาชนะรองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 5 พ.ย.ปีที่แล้ว สมิธ ได้ประกาศยกฟ้อง ทรัมป์ ทั้ง 2 คดี โดยอ้างถึงจุดยืนของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ที่ปฏิเสธการดำเนินคดีกับประธานาธิบดีในตำแหน่ง

    ในเอกสารคำร้องขอให้ศาลยกฟ้อง ทีมงานของ สมิธ ยังคงยืนยันว่าคดีเหล่านี้มีคุณค่า (merits) สมควรแก่การไต่สวน ทว่าการกลับขึ้นมามีอำนาจของ ทรัมป์ เท่านั้นที่ทำให้คดีไปต่อไม่ได้

    ด้านว่าที่ผู้นำสหรัฐฯ ได้ออกมาแสดงความยินดีกับข่าวการลาออกของ สมิธ ในวันอาทิตย์ (12) โดยโพสต์ Truth Social ว่า สมิธ ทำอะไรไม่สำเร็จสักอย่าง และยังกล่าวหาอัยการผู้นี้ว่า "ทำลายชีวิตของผู้คนและครอบครัวจำนวนมากมาย"

    ทั้งนี้ การลาออกของ สมิธ จากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เป็นเรื่องที่หลายคนคาดหมายอยู่แล้ว เนื่องจาก ทรัมป์ ซึ่งออกมาด่าอัยการพิเศษผู้นี้ว่าเป็นพวก "วิกลจริต" (deranged) ประกาศชัดเจนว่าจะไล่ สมิธ ออกทันทีที่สาบานตนเป็นประธานาธิบดีในวันที่ 20 ม.ค. แถมยังขู่จะไล่เบี้ยแก้แค้นทั้ง สมิธ และบุคคลอื่นๆ ที่มีส่วนในการสอบสวนตนด้วย

    เมื่อปี 2023 ทรัมป์ กลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทั้งอดีตและในตำแหน่งคนแรกที่ถูกฟ้องคดีอาญา เริ่มจากคดีที่นิวยอร์กซึ่งเขาถูกตั้งข้อหาพยายามปกปิดเรื่องการจ่ายเงินปิดปากดาราหนังผู้ใหญ่ในช่วงก่อนศึกเลือกตั้งปี 2016 จากนั้นก็ตามมาด้วยคำสั่งฟ้องของอัยการ สมิธ จากกรณีที่ ทรัมป์ เก็บเอกสารชั้นความลับไว้กับตัวอย่างผิดกฎหมายหลังพ้นตำแหน่งประธานาธิบดี และพยายามล้มผลเลือกตั้งปี 2020 ซึ่งเป็นชนวนนำมาสู่เหตุจลาจลที่อาคารรัฐสภาในวันที่ 6 ม.ค. ปี 2021

    อัยการในรัฐจอร์เจียยังมีการตั้งข้อหาเอาผิด ทรัมป์ ฐานพยายามล้มผลเลือกตั้งในรัฐดังกล่าวที่เขาเป็นฝ่ายแพ้ด้วย

    ที่มา : รอยเตอร์
    https://mgronline.com/around/detail/9680000003502?tbref=hp
    ข้อมูลเกี่ยวกับการลาออกของ สมิธ ถูกระบุเอาไว้ในฟุตโน้ตของเอกสารดังกล่าว โดยบอกว่า สมิธ ได้ทำงานเสร็จสมบูรณ์แล้ว และส่งรายงานชั้นความลับฉบับสุดท้ายไปเมื่อวันที่ 7 ม.ค. ก่อนที่จะ "แยกทาง" กับกระทรวงยุติธรรมสกรัฐฯ ในวันที่ 10 ม.ค. อดีตอัยการคดีอาชญากรรมสงครามผู้นี้ได้เป็นผู้สั่งฟ้อง ทรัมป์ ในคดีอาญา 2 จาก 4 คดีที่ ทรัมป์ ตกเป็นจำเลยหลังพ้นตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ในปี 2021 ทว่าคดีทั้งสองก็ต้องหยุดชะงักไปหลังผู้พิพากษาฟลอริดาที่ได้รับการแต่งตั้งโดย ทรัมป์ ตัดสินยกฟ้องไปหนึ่ง และศาลสูงสุดสหรัฐฯ ที่มีผู้พิพากษา 3 คนที่ถูกแต่งตั้งโดย ทรัมป์ วินิจฉัยว่าอดีตผู้นำสหรัฐฯ ทุกคนมีสิทธิคุ้มกันจากการถูกดำเนินคดีในการกระทำภายใต้อำนาจหน้าที่ (official acts) ทำให้ทั้ง 2 คดีนี้ไม่ได้เข้าสู่กระบวนการไต่สวนเลย หลังจากที่ ทรัมป์ เอาชนะรองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 5 พ.ย.ปีที่แล้ว สมิธ ได้ประกาศยกฟ้อง ทรัมป์ ทั้ง 2 คดี โดยอ้างถึงจุดยืนของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ที่ปฏิเสธการดำเนินคดีกับประธานาธิบดีในตำแหน่ง ในเอกสารคำร้องขอให้ศาลยกฟ้อง ทีมงานของ สมิธ ยังคงยืนยันว่าคดีเหล่านี้มีคุณค่า (merits) สมควรแก่การไต่สวน ทว่าการกลับขึ้นมามีอำนาจของ ทรัมป์ เท่านั้นที่ทำให้คดีไปต่อไม่ได้ ด้านว่าที่ผู้นำสหรัฐฯ ได้ออกมาแสดงความยินดีกับข่าวการลาออกของ สมิธ ในวันอาทิตย์ (12) โดยโพสต์ Truth Social ว่า สมิธ ทำอะไรไม่สำเร็จสักอย่าง และยังกล่าวหาอัยการผู้นี้ว่า "ทำลายชีวิตของผู้คนและครอบครัวจำนวนมากมาย" ทั้งนี้ การลาออกของ สมิธ จากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เป็นเรื่องที่หลายคนคาดหมายอยู่แล้ว เนื่องจาก ทรัมป์ ซึ่งออกมาด่าอัยการพิเศษผู้นี้ว่าเป็นพวก "วิกลจริต" (deranged) ประกาศชัดเจนว่าจะไล่ สมิธ ออกทันทีที่สาบานตนเป็นประธานาธิบดีในวันที่ 20 ม.ค. แถมยังขู่จะไล่เบี้ยแก้แค้นทั้ง สมิธ และบุคคลอื่นๆ ที่มีส่วนในการสอบสวนตนด้วย เมื่อปี 2023 ทรัมป์ กลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทั้งอดีตและในตำแหน่งคนแรกที่ถูกฟ้องคดีอาญา เริ่มจากคดีที่นิวยอร์กซึ่งเขาถูกตั้งข้อหาพยายามปกปิดเรื่องการจ่ายเงินปิดปากดาราหนังผู้ใหญ่ในช่วงก่อนศึกเลือกตั้งปี 2016 จากนั้นก็ตามมาด้วยคำสั่งฟ้องของอัยการ สมิธ จากกรณีที่ ทรัมป์ เก็บเอกสารชั้นความลับไว้กับตัวอย่างผิดกฎหมายหลังพ้นตำแหน่งประธานาธิบดี และพยายามล้มผลเลือกตั้งปี 2020 ซึ่งเป็นชนวนนำมาสู่เหตุจลาจลที่อาคารรัฐสภาในวันที่ 6 ม.ค. ปี 2021 อัยการในรัฐจอร์เจียยังมีการตั้งข้อหาเอาผิด ทรัมป์ ฐานพยายามล้มผลเลือกตั้งในรัฐดังกล่าวที่เขาเป็นฝ่ายแพ้ด้วย ที่มา : รอยเตอร์ https://mgronline.com/around/detail/9680000003502?tbref=hp
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 262 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมตา แพลตฟอร์มส์ บริษัทสื่อสังคมออนไลน์ ยกเลิกโครงการตรวจสอบข้อเท็จจริง (Fact-Checking) ในสหรัฐฯ และลดข้อจำกัดการสนทนาในหัวข้อซึ่งเป็นที่ถกเถียงต่างๆ อย่างเช่นผู้อพยพและความเท่าเทียมทางเพศ ยอมจำนนต่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากพวกหัวอนุรักษนิยมทั้งหลาย ในนั้นรวมถึงว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เตรียมเข้ารับตำแหน่งเป็นสมัย 2
    .
    ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ถือเป็นการยกเครื่องครั้งใหญ่ที่สุดในช่วงความทรงจำเมื่อเร็วๆ นี้ของเมตา ในแนวทางบริหารจัดการกับเนื้อหาทางการเมืองในบริการของพวกเขา และมีขึ้นในขณะที่ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของบริษัทส่งสัญญาณปรารถนาปรับความเข้าใจกับว่าที่รัฐบาลใหม่ของสหรัฐฯ
    .
    การเปลี่ยนแปลงจะครอบคลุมถึงเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และเธรดส์ ซึ่งเป็น 3 แพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ใหญ่ที่สุดในโลก ที่มีผู้ใช้ทั่วโลกมากกว่า 3 ล้านคน
    .
    เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เมตา ดัน โจเอล คาแพลน ผู้บริหารระดับสูงฝ่ายนโยบายที่สนับสนุนรีพับลิกัน ขึ้นเป็นหัวหน้าฝ่ายกิจการระหว่างประเทศ และในวันจันทร์ (6 ม.ค.) แถลงว่า ได้แต่งตั้ง ดานา ไวท์ ซีอีโอของอัลติเมทไฟต์ติงแชมเปียนชิพ และเพื่อนใกล้ชิดของทรัมป์ เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท
    .
    ซัคเคอร์เบิร์กกล่าวในวิดีโอว่า "เราไปถึงจุดๆ หนึ่ง ที่มันมีความผิดพลาดมากมายมากเกินไป และเป็นการคัดครองมากเกินไป มันถึงเวลาแล้วที่จะกลับสู่รากเหง้าของเราเกี่ยวกับเสรีภาพในการแสดงออก" ทั้งนี้มีรายงานว่า ซัคเคอร์เบิร์ก มีแผนนำระบบ "Community Notes"มาใช้ แบบเดียวกับที่ใช้บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ของอีลอน มัสก์
    .
    นอกจากนี้แล้ว เมตาจะโฟกัสไปที่ระบบอัตโนมัติในการลบ "เนื้อหาที่อ่อนไหวสูงและผิดกฎหมาย" อย่างเช่นก่อการร้ายและยาเสพติด ซัคเตอร์เบิร์กล่าว พร้อมระบุว่าจะหยุดสแกนเชิงรุกหาวาทกรรมแห่งความเกลียดชังและการละเมิดกฎรูปแบบอื่นๆ และจะทบทวนตรวจสอบโพสต์เหล่านั้น ตอบสนองต่อรายงานของผู้ใช้เท่านั้น
    .
    การถึงจุดจบของการตรวจสอบข้อเท็จจริง (Fact-Checking) ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ปี 2016 สร้างความแปลกใจแก่องค์กรพันธมิตรทั้งหลาย "เราไม่รู้ว่าความเคลื่อนไหวนี้กำลังเกิดขึ้น และมันเป็นเรื่องช็อกสำหรับเรา ชัดเจนว่ามันจะส่งผลกระทบกับเรา" เจนซี สติลเลอร์ บรรณาธิการบริหารของ Check Your Fact ระบุ
    .
    คริสติน โรเบิร์ตส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเนื้อหาของ Gannett Media ระบุว่า "ความจริงและข้อเท็จจริงรับใช้ทุกๆ คน ไม่ใช่แค่ฝ่ายขวาหรือฝ่ายซ้าย และนั่นคือสิ่งที่เราจะต้องเดินหน้าต่อไป เราทราบข่าวนี้พร้อมๆ กับทุกคนในวันนี้ มันส่งผลกระทบอย่างหนักต่อประชาคมตรวจสอบข้อเท็จจริงและสื่อมวลชน เรากำลังประเมินสถานการณ์"
    .
    เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ซัคเคอร์เบิร์ก แสดงความเสียใจต่อการกลั่นกรองเนื้อหาบางอย่างในหัวข้อต่างๆ ในนั้นรวมถึงโควิด-19 นอกจากนี้แล้ว เมตายังบริจาคเงิน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เข้ากองทุนสาบานตนของทรัมป์ ความเคลื่อนไหวที่ต่างจากแนวทางปฏิบัติในอดีตของบริษัท
    .
    "นี่คือการก้าวถอยหลังครั้งใหญ่ สำหรับการกลั่นกรองเนื้อหาในช่วงเวลาหนึ่งๆ ที่เนื้อหาบิดเบือนข้อมูลและเป็นอันตรายที่เติบโตเร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมา" จากความเห็นของ รอส เบอร์ลีย์ ผู้ก่อตั้งองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร Centre for Information Resilience "ความเคลื่อนไหวนี้ ดูเหมือนเป็นการเอาอกเอาใจทางการเมือง มากกว่าที่จะเป็นนโยบายที่ฉลาด"
    .
    สำหรับเวลานี้ เมตามีแผนเปลี่ยนแปลงในเรื่องนี้เฉพาะตลาดสหรัฐฯ โดยยังไม่มีแผนยุติโปรแกรม fact-checking ในดินแดนอื่นๆ อย่างเช่นสหภาพยุโรป ที่จะใช้แนวทางกระตือรือร้นมากกว่าในการกำหนดกฎระเบียบกับบรรดาบริษัทเทคโนโลยีทั้งหลาย โฆษกบอกกับรอยเตอร์
    .
    ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวเมื่อถูกถามเกี่ยวกับแผนยุติโปรแกรม fact-checking ของเมตา แพลตฟอร์มส์ โดยระบุว่า "พวกเขาก้าวหน้าไปมาก เมตา ชายผู้ชื่อ ซัคเคอร์เบิร์ก น่าประทับใจอย่างมก" ทรัมป์ระบุบางที ซัคเคอร์เบิร์ก อาจตอบสนองต่อเหตุคำขู่ต่างๆ ที่มีต่อตัวเขา
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000001966
    ..............
    Sondhi X
    เมตา แพลตฟอร์มส์ บริษัทสื่อสังคมออนไลน์ ยกเลิกโครงการตรวจสอบข้อเท็จจริง (Fact-Checking) ในสหรัฐฯ และลดข้อจำกัดการสนทนาในหัวข้อซึ่งเป็นที่ถกเถียงต่างๆ อย่างเช่นผู้อพยพและความเท่าเทียมทางเพศ ยอมจำนนต่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากพวกหัวอนุรักษนิยมทั้งหลาย ในนั้นรวมถึงว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เตรียมเข้ารับตำแหน่งเป็นสมัย 2 . ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ถือเป็นการยกเครื่องครั้งใหญ่ที่สุดในช่วงความทรงจำเมื่อเร็วๆ นี้ของเมตา ในแนวทางบริหารจัดการกับเนื้อหาทางการเมืองในบริการของพวกเขา และมีขึ้นในขณะที่ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของบริษัทส่งสัญญาณปรารถนาปรับความเข้าใจกับว่าที่รัฐบาลใหม่ของสหรัฐฯ . การเปลี่ยนแปลงจะครอบคลุมถึงเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และเธรดส์ ซึ่งเป็น 3 แพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ใหญ่ที่สุดในโลก ที่มีผู้ใช้ทั่วโลกมากกว่า 3 ล้านคน . เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เมตา ดัน โจเอล คาแพลน ผู้บริหารระดับสูงฝ่ายนโยบายที่สนับสนุนรีพับลิกัน ขึ้นเป็นหัวหน้าฝ่ายกิจการระหว่างประเทศ และในวันจันทร์ (6 ม.ค.) แถลงว่า ได้แต่งตั้ง ดานา ไวท์ ซีอีโอของอัลติเมทไฟต์ติงแชมเปียนชิพ และเพื่อนใกล้ชิดของทรัมป์ เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท . ซัคเคอร์เบิร์กกล่าวในวิดีโอว่า "เราไปถึงจุดๆ หนึ่ง ที่มันมีความผิดพลาดมากมายมากเกินไป และเป็นการคัดครองมากเกินไป มันถึงเวลาแล้วที่จะกลับสู่รากเหง้าของเราเกี่ยวกับเสรีภาพในการแสดงออก" ทั้งนี้มีรายงานว่า ซัคเคอร์เบิร์ก มีแผนนำระบบ "Community Notes"มาใช้ แบบเดียวกับที่ใช้บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ของอีลอน มัสก์ . นอกจากนี้แล้ว เมตาจะโฟกัสไปที่ระบบอัตโนมัติในการลบ "เนื้อหาที่อ่อนไหวสูงและผิดกฎหมาย" อย่างเช่นก่อการร้ายและยาเสพติด ซัคเตอร์เบิร์กล่าว พร้อมระบุว่าจะหยุดสแกนเชิงรุกหาวาทกรรมแห่งความเกลียดชังและการละเมิดกฎรูปแบบอื่นๆ และจะทบทวนตรวจสอบโพสต์เหล่านั้น ตอบสนองต่อรายงานของผู้ใช้เท่านั้น . การถึงจุดจบของการตรวจสอบข้อเท็จจริง (Fact-Checking) ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ปี 2016 สร้างความแปลกใจแก่องค์กรพันธมิตรทั้งหลาย "เราไม่รู้ว่าความเคลื่อนไหวนี้กำลังเกิดขึ้น และมันเป็นเรื่องช็อกสำหรับเรา ชัดเจนว่ามันจะส่งผลกระทบกับเรา" เจนซี สติลเลอร์ บรรณาธิการบริหารของ Check Your Fact ระบุ . คริสติน โรเบิร์ตส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเนื้อหาของ Gannett Media ระบุว่า "ความจริงและข้อเท็จจริงรับใช้ทุกๆ คน ไม่ใช่แค่ฝ่ายขวาหรือฝ่ายซ้าย และนั่นคือสิ่งที่เราจะต้องเดินหน้าต่อไป เราทราบข่าวนี้พร้อมๆ กับทุกคนในวันนี้ มันส่งผลกระทบอย่างหนักต่อประชาคมตรวจสอบข้อเท็จจริงและสื่อมวลชน เรากำลังประเมินสถานการณ์" . เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ซัคเคอร์เบิร์ก แสดงความเสียใจต่อการกลั่นกรองเนื้อหาบางอย่างในหัวข้อต่างๆ ในนั้นรวมถึงโควิด-19 นอกจากนี้แล้ว เมตายังบริจาคเงิน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เข้ากองทุนสาบานตนของทรัมป์ ความเคลื่อนไหวที่ต่างจากแนวทางปฏิบัติในอดีตของบริษัท . "นี่คือการก้าวถอยหลังครั้งใหญ่ สำหรับการกลั่นกรองเนื้อหาในช่วงเวลาหนึ่งๆ ที่เนื้อหาบิดเบือนข้อมูลและเป็นอันตรายที่เติบโตเร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมา" จากความเห็นของ รอส เบอร์ลีย์ ผู้ก่อตั้งองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร Centre for Information Resilience "ความเคลื่อนไหวนี้ ดูเหมือนเป็นการเอาอกเอาใจทางการเมือง มากกว่าที่จะเป็นนโยบายที่ฉลาด" . สำหรับเวลานี้ เมตามีแผนเปลี่ยนแปลงในเรื่องนี้เฉพาะตลาดสหรัฐฯ โดยยังไม่มีแผนยุติโปรแกรม fact-checking ในดินแดนอื่นๆ อย่างเช่นสหภาพยุโรป ที่จะใช้แนวทางกระตือรือร้นมากกว่าในการกำหนดกฎระเบียบกับบรรดาบริษัทเทคโนโลยีทั้งหลาย โฆษกบอกกับรอยเตอร์ . ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวเมื่อถูกถามเกี่ยวกับแผนยุติโปรแกรม fact-checking ของเมตา แพลตฟอร์มส์ โดยระบุว่า "พวกเขาก้าวหน้าไปมาก เมตา ชายผู้ชื่อ ซัคเคอร์เบิร์ก น่าประทับใจอย่างมก" ทรัมป์ระบุบางที ซัคเคอร์เบิร์ก อาจตอบสนองต่อเหตุคำขู่ต่างๆ ที่มีต่อตัวเขา . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000001966 .............. Sondhi X
    Like
    8
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 969 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้นำซีเรียชุดใหม่มีคำสั่งแต่งตั้งนักรบต่างชาติบางส่วน ซึ่งรวมถึงชาวอุยกูร์ ชาวจอร์แดน และชาวเติร์ก เข้าร่วมในกองกำลังติดอาวุธของประเทศ เพื่อจัดตั้งเป็นกองกำลังติดอาวุธอาชีพขึ้นใหม่อีกครั้ง
    -รอยเตอร์รายงาน

    การมอบหมายตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ซึ่งรวมถึงตำแหน่งระดับสูงในกองทัพ ให้กับนักรบญิฮาดหลายคน กำลังทำให้รัฐบาลต่างประเทศและประชาชนซีเรียบางส่วนเกิดความกังวลใจเกี่ยวกับเป้าหมายของรัฐบาลชุดใหม่ แม้ว่าผู้นำใหม่ของซีเรียจะให้คำมั่นว่า จะไม่ส่งกองกำลังเหล่านี้ไปภูมิภาคอื่นนอกประเทศ และจะปกครองซีเรียด้วยความอดกลั้นต่อกลุ่มชนกลุ่มน้อยจำนวนมากในซีเรียก็ตาม
    ผู้นำซีเรียชุดใหม่มีคำสั่งแต่งตั้งนักรบต่างชาติบางส่วน ซึ่งรวมถึงชาวอุยกูร์ ชาวจอร์แดน และชาวเติร์ก เข้าร่วมในกองกำลังติดอาวุธของประเทศ เพื่อจัดตั้งเป็นกองกำลังติดอาวุธอาชีพขึ้นใหม่อีกครั้ง -รอยเตอร์รายงาน การมอบหมายตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ซึ่งรวมถึงตำแหน่งระดับสูงในกองทัพ ให้กับนักรบญิฮาดหลายคน กำลังทำให้รัฐบาลต่างประเทศและประชาชนซีเรียบางส่วนเกิดความกังวลใจเกี่ยวกับเป้าหมายของรัฐบาลชุดใหม่ แม้ว่าผู้นำใหม่ของซีเรียจะให้คำมั่นว่า จะไม่ส่งกองกำลังเหล่านี้ไปภูมิภาคอื่นนอกประเทศ และจะปกครองซีเรียด้วยความอดกลั้นต่อกลุ่มชนกลุ่มน้อยจำนวนมากในซีเรียก็ตาม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 198 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายเดวิด เบอร์ริตต์( David B. Burritt )ประธานและ CEO ของ U.S. Steel เดือดจัดออกหนังสือด่าไบเดนยับข้อหาล้มดีลยักษ์มูลค่า14,900 ดอลลาร์สหรัฐ(480,000 ล้านบาท) กับบริษัท นิปปอนสตีล ของญี่ปุ่น

    บริษัท Nippon Steel และ U.S. Steel กล่าวว่าการตัดสินใจของ Biden แสดงให้เห็นว่าการขัดขวางข้อตกลงดังกล่าวนั้นทำเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองที่ทุจริต
    นายเดวิด เบอร์ริตต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ U.S. Steel เรียกการกระทำของนายไบเดนว่า "น่าละอายและฉ้อฉล" และเสริมว่า นายไบเดนได้ดูหมิ่นญี่ปุ่น ซึ่งเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจและความมั่นคงแห่งชาติที่สำคัญยิ่งของสหรัฐ และทำให้ความสามารถในการแข่งขันของสหรัฐตกอยู่ในความเสี่ยง โดยแถลงการณ์ประณามไบเดน ข้อหาล้มดีลยักษ์กับบริษัทนิปปอน สตีล ของญี่ปุ่นว่า
    ”การกระทำของปธน.ไบเดนในวันนี้น่าละอายและฉ้อฉล เขาให้ผลตอบแทนทางการเมืองแก่หัวหน้าสหภาพแรงงาน ในขณะที่ทำร้ายอนาคตของบริษัท, คนงานของเราและความมั่นคงของชาติ เขาดูหมิ่นญี่ปุ่น ซึ่งเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจและความมั่นคงของชาติที่สำคัญ และทำให้ความสามารถในการแข่งขันของอเมริกาตกอยู่ในความเสี่ยง ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีนในปักกิ่งกำลังเต้นรำบนถนน และไบเดนทำทั้งหมดนี้โดยปฏิเสธที่จะพบกับเราเพื่อรับรู้ข้อเท็จจริง
    พนักงานและชุมชนของเราสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่านี้ เราต้องการประธานาธิบดี. ซึ่งทำงานหนักและรู้วิธีทำข้อตกลงที่ดีที่สุดสำหรับอเมริกา อย่าเข้าใจผิด: การลงทุนนี้คือสิ่งที่รับประกันอนาคตที่ยิ่งใหญ่สำหรับ U. S. Steel พนักงานของเรา ชุมชนของเรา และประเทศของเรา เราตั้งใจที่จะต่อสู้กับการทุจริตทางการเมืองของประธานาธิบดีไบเดน“
    บริษัททั้งสองแห่งขู่ว่าจะฟ้องรัฐบาลหากข้อตกลงดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และได้กล่าวเมื่อวันศุกร์ที่3มกราคมนี้ว่าจะ "ดำเนินการที่เหมาะสมเพื่อปกป้องสิทธิตามกฎหมายของพวกเขา" และระบุในแถลงการณ์ว่า "เราเชื่อว่าประธานาธิบดีไบเดนได้ทำลายอนาคตของคนงานโรงงานเหล็กชาวอเมริกันเพื่อวาระทางการเมืองของตัวเอง" และเสริมว่าการขัดขวางครั้งนี้ส่ง "ข้อความอันน่าสะพรึงกลัวไปยังบริษัทใดๆ ก็ตามที่มีฐานอยู่ในประเทศพันธมิตรของสหรัฐฯ ที่กำลังพิจารณาลงทุนอย่างมีนัยสำคัญในสหรัฐฯ"
    ผลเสียหายที่ Nippon Steel อาจต้องเสียค่าธรรมเนียมการยกเลิกสัญญาจำนวน 565 ล้านดอลลาร์หรือราว 19,000 ล้านบาทให้กับ US Steel หากข้อตกลงดังกล่าวไม่ผ่าน นอกจากนี้ทางบริษัทยังต้องประเมินกลยุทธ์ในตลาดสหรัฐใหม่ ซึ่งคาดว่าอุปสงค์จะยังคงมีเสถียรภาพ
    เจ้าหน้าที่รัฐบาลญี่ปุ่นกล่าวว่าพวกเขาผิดหวังกับการตัดสินใจครั้งนี้ “มีความกังวลอย่างมากจากวงการเศรษฐกิจทั้งของญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น เกี่ยวกับการลงทุนในอนาคตระหว่างญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา และรัฐบาลญี่ปุ่นไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง” โยจิ มูโตะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของญี่ปุ่น กล่าวในแถลงการณ์ถึงรอยเตอร์
    การตัดสินใจของประธานาธิบดี โจ ไบเดนเกิดขึ้นหนึ่งปีหลังจากที่Nippon Steel ประกาศข้อตกลงมูลค่า 14.9 พันล้านดอลลาร์ (12 พันล้านปอนด์)เพื่อซื้อบริษัทคู่แข่งUSS Steel ที่มีขนาดเล็กกว่าและมีฐานอยู่ในเพนซิลเวเนีย เป็นครั้งแรก
    สิ่งนี้ทำให้เกิดคำถามสำคัญๆ เกี่ยวกับเส้นทางข้างหน้าของบริษัทUSS Steel  ซึ่งมีชื่อเสียงกว่า 124 ปี และครั้งหนึ่งเคยเป็นสัญลักษณ์ของมหาอำนาจทางอุตสาหกรรมของอเมริกา แต่ปัจจุบันก็ความสำคัญลดน้อยลงไปมาก
    บริษัทUSS Steel ใช้เวลาหลายเดือนในการหาผู้ซื้อรายอื่นก่อนที่จะประกาศความร่วมมือกับบริษัท Nippon Steel ของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กกล้ารายใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก ในเดือนธันวาคม 2023
    บริษัท US Steel ได้เตือนว่าบริษัทอาจจำเป็นต้องปิดโรงงานโดยไม่ได้ผู้ร่วมลงทุนเจ้าของใหม่ ความกังวลนี้ได้รับการสะท้อนจากพนักงานบางส่วนและนักการเมืองท้องถิ่น
    บริษัททั้งสองแห่งให้คำมั่นว่าจะไม่เลิกจ้างพนักงานและยอมประนีประนอมในประเด็นอื่น ๆ เพื่อพยายามหาเสียงสนับสนุนข้อตกลงดังกล่าว เมื่อสัปดาห์นี้เอง บริษัททั้งสองแห่งเสนอที่จะให้ทุนสนับสนุนศูนย์ฝึกอบรมแรงงาน และมีรายงานว่าให้สิทธิ์รัฐบาลในการยับยั้งการลดการผลิตที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
    แต่ข้อเสนอดังกล่าวไม่สามารถโน้มน้าวใจไบเดน ซึ่งออกมาคัดค้านข้อตกลงดังกล่าวเมื่อต้นปีที่แล้ว เนื่องจากอยู่ระหว่างฤดูกาลเลือกตั้งที่กำลังเข้มข้นขึ้นในรัฐเพนซิลเวเนียซึ่งเป็นรัฐสำคัญที่จะมีบทบาท 
    ธุรกรรมดังกล่าวยังได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากประธานาธิบดีคนใหม่ โดนัลด์ ทรัมป์ และรองประธานาธิบดีคนใหม่ เจดี แวนซ์ ซึ่งการอุทธรณ์ต่อคนงานสหภาพแรงงานของเขาถือเป็นส่วนสำคัญของข้อความหาเสียงของพวกเขา
    คณะกรรมการรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ได้รับมอบหมายให้ทบทวนข้อตกลงและความเสี่ยงต่อความมั่นคงของชาติ ไม่สามารถบรรลุฉันทามติได้ในช่วงปลายเดือนธันวาคม ส่งผลให้ไบเดนต้องตัดสินใจแทน โดยเขาต้องดำเนินการภายในระยะเวลา 15 วัน
    ในประกาศของประธานาธิบีไบเดนเมื่อวันศุกร์ที่ 3 มกราคมนี้  เขากล่าวว่าการเป็นเจ้าของUSS Steel โดยบริษัทชาวต่างชาตินั้นมีความเสี่ยงต่อความมั่นคง และสั่งให้บริษัททั้งสอง ยกเลิกข้อตกลงภายใน 30 วัน
    “อุตสาหกรรมเหล็กกล้าที่เป็นเจ้าของและดำเนินการในประเทศที่แข็งแกร่งถือเป็นสิ่งสำคัญลำดับแรกด้านความมั่นคงของชาติและมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อห่วงโซ่อุปทานที่มีความยืดหยุ่น” เขากล่าว
    “นั่นเป็นเพราะเหล็กกล้าเป็นกำลังขับเคลื่อนประเทศของเรา ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างพื้นฐาน อุตสาหกรรมยานยนต์ และฐานอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ หากไม่มีการผลิตเหล็กกล้าในประเทศและแรงงานจากเหล็กกล้าในประเทศ ประเทศของเราจะไม่แข็งแกร่งและปลอดภัย”
    สหภาพแรงงานคนงานเหล็กกล้าแห่งสหรัฐอเมริกา เรียกการตัดสินใจครั้งนี้ว่าเป็น "การตัดสินใจที่ถูกต้องสำหรับสมาชิกและความมั่นคงของชาติของเรา" และกล่าวว่าการคัดค้านของสหภาพฯ เกิดจากความกังวลเกี่ยวกับความยั่งยืนในระยะยาวของอุตสาหกรรมนี้
    “เรารู้สึกขอบคุณประธานาธิบดีไบเดนที่เต็มใจดำเนินการอันกล้าหาญเพื่อรักษาอุตสาหกรรมเหล็กกล้าในประเทศให้แข็งแกร่ง และสำหรับความมุ่งมั่นตลอดชีวิตของเขาที่มีต่อคนงานชาวอเมริกัน” เดวิด แมคคอลล์ประธานสหภาพUnited Steelworkers กล่าว
    ศาสตราจารย์สตีเฟน นาจี จากภาควิชาการเมืองและการศึกษาระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยคริสเตียนนานาชาติแห่งโตเกียว เรียกการตัดสินใจของไบเดนว่าเป็น "เรื่องการเมือง" โดยระบุว่ารัฐบาลตั้งแต่แรกเริ่มได้สัญญาไว้ถึงนโยบายต่างประเทศ "สำหรับชนชั้นกลาง"
    “นี่คือการตอบสนองโดยตรงและสานต่อแผนงาน MAGA ของทรัมป์ในการทำให้ประเทศอเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง” เขากล่าว “รัฐบาลของไบเดนไม่สามารถแสดงท่าทีอ่อนแอต่อธุรกิจต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นพันธมิตรหรือศัตรูก็ตาม”
    จอห์น เคอร์บี้ โฆษกทำเนียบขาว ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับพันธมิตรญี่ปุ่น โดยกล่าวว่าไบเดนได้ชี้แจงชัดเจนว่าการตัดสินใจครั้งนี้ "ไม่เกี่ยวกับรัฐบาลญี่ปุ่น"
    “นี่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการผลิตเหล็กกล้าของสหรัฐฯ และการรักษาให้ผู้ผลิตเหล็กกล้ารายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของสหรัฐฯ เป็นบริษัทที่เป็นเจ้าของโดยชาวอเมริกัน” เขากล่าวในการแถลงข่าว
    หุ้นของบริษัท US Steel ร่วงลงมากกว่า 5% ในวันศุกร์
    นักวิเคราะห์กล่าวว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจไม่ถือเป็นการสิ้นสุดข้อตกลง คำสั่งของไบเดนระบุว่าคณะกรรมการการลงทุนจากต่างประเทศในสหรัฐฯ สามารถขยายเวลา 30 วันในการยกเลิกธุรกรรมดังกล่าวได้
    ศาสตราจารย์ Nagy กล่าวว่าเขาคิดว่าบริษัทต่างๆ อาจตัดสินใจที่จะลองอีกครั้งภายใต้การนำของทรัมป์ โดยอาจเสนอเงื่อนไขที่แตกต่างออกไปซึ่งจะทำให้ประธานาธิบดีคนใหม่สามารถอ้างได้ว่าเขาเจรจาข้อตกลงที่ดีกว่าได้
    นักวิเคราะห์การเมือง Terry Haines จาก Pangaea Policy กล่าวด้วยเช่นกันว่า แม้ทรัมป์จะวิพากษ์วิจารณ์ข้อตกลงดังกล่าว แต่เขาอาจมีเหตุผลให้พิจารณาการตัดสินใจดังกล่าวอีกครั้ง
    “สิ่งหนึ่งที่ยากในการตัดสินใจครั้งนี้ก็คือ ญี่ปุ่นเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดกับสหรัฐฯ” เขากล่าว “รัฐบาลมีภาระทางหลักฐานมากมายในการพิสูจน์สิ่งที่กำลังทำอยู่ในปัจจุบัน และสิ่งนี้ยังส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทวิภาคีกับญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสิ่งที่ทรัมป์ต้องการหลีกเลี่ยง”

    นายเดวิด เบอร์ริตต์( David B. Burritt )ประธานและ CEO ของ U.S. Steel เดือดจัดออกหนังสือด่าไบเดนยับข้อหาล้มดีลยักษ์มูลค่า14,900 ดอลลาร์สหรัฐ(480,000 ล้านบาท) กับบริษัท นิปปอนสตีล ของญี่ปุ่น บริษัท Nippon Steel และ U.S. Steel กล่าวว่าการตัดสินใจของ Biden แสดงให้เห็นว่าการขัดขวางข้อตกลงดังกล่าวนั้นทำเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองที่ทุจริต นายเดวิด เบอร์ริตต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ U.S. Steel เรียกการกระทำของนายไบเดนว่า "น่าละอายและฉ้อฉล" และเสริมว่า นายไบเดนได้ดูหมิ่นญี่ปุ่น ซึ่งเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจและความมั่นคงแห่งชาติที่สำคัญยิ่งของสหรัฐ และทำให้ความสามารถในการแข่งขันของสหรัฐตกอยู่ในความเสี่ยง โดยแถลงการณ์ประณามไบเดน ข้อหาล้มดีลยักษ์กับบริษัทนิปปอน สตีล ของญี่ปุ่นว่า ”การกระทำของปธน.ไบเดนในวันนี้น่าละอายและฉ้อฉล เขาให้ผลตอบแทนทางการเมืองแก่หัวหน้าสหภาพแรงงาน ในขณะที่ทำร้ายอนาคตของบริษัท, คนงานของเราและความมั่นคงของชาติ เขาดูหมิ่นญี่ปุ่น ซึ่งเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจและความมั่นคงของชาติที่สำคัญ และทำให้ความสามารถในการแข่งขันของอเมริกาตกอยู่ในความเสี่ยง ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีนในปักกิ่งกำลังเต้นรำบนถนน และไบเดนทำทั้งหมดนี้โดยปฏิเสธที่จะพบกับเราเพื่อรับรู้ข้อเท็จจริง พนักงานและชุมชนของเราสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่านี้ เราต้องการประธานาธิบดี. ซึ่งทำงานหนักและรู้วิธีทำข้อตกลงที่ดีที่สุดสำหรับอเมริกา อย่าเข้าใจผิด: การลงทุนนี้คือสิ่งที่รับประกันอนาคตที่ยิ่งใหญ่สำหรับ U. S. Steel พนักงานของเรา ชุมชนของเรา และประเทศของเรา เราตั้งใจที่จะต่อสู้กับการทุจริตทางการเมืองของประธานาธิบดีไบเดน“ บริษัททั้งสองแห่งขู่ว่าจะฟ้องรัฐบาลหากข้อตกลงดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และได้กล่าวเมื่อวันศุกร์ที่3มกราคมนี้ว่าจะ "ดำเนินการที่เหมาะสมเพื่อปกป้องสิทธิตามกฎหมายของพวกเขา" และระบุในแถลงการณ์ว่า "เราเชื่อว่าประธานาธิบดีไบเดนได้ทำลายอนาคตของคนงานโรงงานเหล็กชาวอเมริกันเพื่อวาระทางการเมืองของตัวเอง" และเสริมว่าการขัดขวางครั้งนี้ส่ง "ข้อความอันน่าสะพรึงกลัวไปยังบริษัทใดๆ ก็ตามที่มีฐานอยู่ในประเทศพันธมิตรของสหรัฐฯ ที่กำลังพิจารณาลงทุนอย่างมีนัยสำคัญในสหรัฐฯ" ผลเสียหายที่ Nippon Steel อาจต้องเสียค่าธรรมเนียมการยกเลิกสัญญาจำนวน 565 ล้านดอลลาร์หรือราว 19,000 ล้านบาทให้กับ US Steel หากข้อตกลงดังกล่าวไม่ผ่าน นอกจากนี้ทางบริษัทยังต้องประเมินกลยุทธ์ในตลาดสหรัฐใหม่ ซึ่งคาดว่าอุปสงค์จะยังคงมีเสถียรภาพ เจ้าหน้าที่รัฐบาลญี่ปุ่นกล่าวว่าพวกเขาผิดหวังกับการตัดสินใจครั้งนี้ “มีความกังวลอย่างมากจากวงการเศรษฐกิจทั้งของญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น เกี่ยวกับการลงทุนในอนาคตระหว่างญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา และรัฐบาลญี่ปุ่นไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง” โยจิ มูโตะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของญี่ปุ่น กล่าวในแถลงการณ์ถึงรอยเตอร์ การตัดสินใจของประธานาธิบดี โจ ไบเดนเกิดขึ้นหนึ่งปีหลังจากที่Nippon Steel ประกาศข้อตกลงมูลค่า 14.9 พันล้านดอลลาร์ (12 พันล้านปอนด์)เพื่อซื้อบริษัทคู่แข่งUSS Steel ที่มีขนาดเล็กกว่าและมีฐานอยู่ในเพนซิลเวเนีย เป็นครั้งแรก สิ่งนี้ทำให้เกิดคำถามสำคัญๆ เกี่ยวกับเส้นทางข้างหน้าของบริษัทUSS Steel  ซึ่งมีชื่อเสียงกว่า 124 ปี และครั้งหนึ่งเคยเป็นสัญลักษณ์ของมหาอำนาจทางอุตสาหกรรมของอเมริกา แต่ปัจจุบันก็ความสำคัญลดน้อยลงไปมาก บริษัทUSS Steel ใช้เวลาหลายเดือนในการหาผู้ซื้อรายอื่นก่อนที่จะประกาศความร่วมมือกับบริษัท Nippon Steel ของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กกล้ารายใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก ในเดือนธันวาคม 2023 บริษัท US Steel ได้เตือนว่าบริษัทอาจจำเป็นต้องปิดโรงงานโดยไม่ได้ผู้ร่วมลงทุนเจ้าของใหม่ ความกังวลนี้ได้รับการสะท้อนจากพนักงานบางส่วนและนักการเมืองท้องถิ่น บริษัททั้งสองแห่งให้คำมั่นว่าจะไม่เลิกจ้างพนักงานและยอมประนีประนอมในประเด็นอื่น ๆ เพื่อพยายามหาเสียงสนับสนุนข้อตกลงดังกล่าว เมื่อสัปดาห์นี้เอง บริษัททั้งสองแห่งเสนอที่จะให้ทุนสนับสนุนศูนย์ฝึกอบรมแรงงาน และมีรายงานว่าให้สิทธิ์รัฐบาลในการยับยั้งการลดการผลิตที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต แต่ข้อเสนอดังกล่าวไม่สามารถโน้มน้าวใจไบเดน ซึ่งออกมาคัดค้านข้อตกลงดังกล่าวเมื่อต้นปีที่แล้ว เนื่องจากอยู่ระหว่างฤดูกาลเลือกตั้งที่กำลังเข้มข้นขึ้นในรัฐเพนซิลเวเนียซึ่งเป็นรัฐสำคัญที่จะมีบทบาท  ธุรกรรมดังกล่าวยังได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากประธานาธิบดีคนใหม่ โดนัลด์ ทรัมป์ และรองประธานาธิบดีคนใหม่ เจดี แวนซ์ ซึ่งการอุทธรณ์ต่อคนงานสหภาพแรงงานของเขาถือเป็นส่วนสำคัญของข้อความหาเสียงของพวกเขา คณะกรรมการรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ได้รับมอบหมายให้ทบทวนข้อตกลงและความเสี่ยงต่อความมั่นคงของชาติ ไม่สามารถบรรลุฉันทามติได้ในช่วงปลายเดือนธันวาคม ส่งผลให้ไบเดนต้องตัดสินใจแทน โดยเขาต้องดำเนินการภายในระยะเวลา 15 วัน ในประกาศของประธานาธิบีไบเดนเมื่อวันศุกร์ที่ 3 มกราคมนี้  เขากล่าวว่าการเป็นเจ้าของUSS Steel โดยบริษัทชาวต่างชาตินั้นมีความเสี่ยงต่อความมั่นคง และสั่งให้บริษัททั้งสอง ยกเลิกข้อตกลงภายใน 30 วัน “อุตสาหกรรมเหล็กกล้าที่เป็นเจ้าของและดำเนินการในประเทศที่แข็งแกร่งถือเป็นสิ่งสำคัญลำดับแรกด้านความมั่นคงของชาติและมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อห่วงโซ่อุปทานที่มีความยืดหยุ่น” เขากล่าว “นั่นเป็นเพราะเหล็กกล้าเป็นกำลังขับเคลื่อนประเทศของเรา ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างพื้นฐาน อุตสาหกรรมยานยนต์ และฐานอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ หากไม่มีการผลิตเหล็กกล้าในประเทศและแรงงานจากเหล็กกล้าในประเทศ ประเทศของเราจะไม่แข็งแกร่งและปลอดภัย” สหภาพแรงงานคนงานเหล็กกล้าแห่งสหรัฐอเมริกา เรียกการตัดสินใจครั้งนี้ว่าเป็น "การตัดสินใจที่ถูกต้องสำหรับสมาชิกและความมั่นคงของชาติของเรา" และกล่าวว่าการคัดค้านของสหภาพฯ เกิดจากความกังวลเกี่ยวกับความยั่งยืนในระยะยาวของอุตสาหกรรมนี้ “เรารู้สึกขอบคุณประธานาธิบดีไบเดนที่เต็มใจดำเนินการอันกล้าหาญเพื่อรักษาอุตสาหกรรมเหล็กกล้าในประเทศให้แข็งแกร่ง และสำหรับความมุ่งมั่นตลอดชีวิตของเขาที่มีต่อคนงานชาวอเมริกัน” เดวิด แมคคอลล์ประธานสหภาพUnited Steelworkers กล่าว ศาสตราจารย์สตีเฟน นาจี จากภาควิชาการเมืองและการศึกษาระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยคริสเตียนนานาชาติแห่งโตเกียว เรียกการตัดสินใจของไบเดนว่าเป็น "เรื่องการเมือง" โดยระบุว่ารัฐบาลตั้งแต่แรกเริ่มได้สัญญาไว้ถึงนโยบายต่างประเทศ "สำหรับชนชั้นกลาง" “นี่คือการตอบสนองโดยตรงและสานต่อแผนงาน MAGA ของทรัมป์ในการทำให้ประเทศอเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง” เขากล่าว “รัฐบาลของไบเดนไม่สามารถแสดงท่าทีอ่อนแอต่อธุรกิจต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นพันธมิตรหรือศัตรูก็ตาม” จอห์น เคอร์บี้ โฆษกทำเนียบขาว ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับพันธมิตรญี่ปุ่น โดยกล่าวว่าไบเดนได้ชี้แจงชัดเจนว่าการตัดสินใจครั้งนี้ "ไม่เกี่ยวกับรัฐบาลญี่ปุ่น" “นี่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการผลิตเหล็กกล้าของสหรัฐฯ และการรักษาให้ผู้ผลิตเหล็กกล้ารายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของสหรัฐฯ เป็นบริษัทที่เป็นเจ้าของโดยชาวอเมริกัน” เขากล่าวในการแถลงข่าว หุ้นของบริษัท US Steel ร่วงลงมากกว่า 5% ในวันศุกร์ นักวิเคราะห์กล่าวว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจไม่ถือเป็นการสิ้นสุดข้อตกลง คำสั่งของไบเดนระบุว่าคณะกรรมการการลงทุนจากต่างประเทศในสหรัฐฯ สามารถขยายเวลา 30 วันในการยกเลิกธุรกรรมดังกล่าวได้ ศาสตราจารย์ Nagy กล่าวว่าเขาคิดว่าบริษัทต่างๆ อาจตัดสินใจที่จะลองอีกครั้งภายใต้การนำของทรัมป์ โดยอาจเสนอเงื่อนไขที่แตกต่างออกไปซึ่งจะทำให้ประธานาธิบดีคนใหม่สามารถอ้างได้ว่าเขาเจรจาข้อตกลงที่ดีกว่าได้ นักวิเคราะห์การเมือง Terry Haines จาก Pangaea Policy กล่าวด้วยเช่นกันว่า แม้ทรัมป์จะวิพากษ์วิจารณ์ข้อตกลงดังกล่าว แต่เขาอาจมีเหตุผลให้พิจารณาการตัดสินใจดังกล่าวอีกครั้ง “สิ่งหนึ่งที่ยากในการตัดสินใจครั้งนี้ก็คือ ญี่ปุ่นเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดกับสหรัฐฯ” เขากล่าว “รัฐบาลมีภาระทางหลักฐานมากมายในการพิสูจน์สิ่งที่กำลังทำอยู่ในปัจจุบัน และสิ่งนี้ยังส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทวิภาคีกับญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสิ่งที่ทรัมป์ต้องการหลีกเลี่ยง”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 384 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดี ยุน ซ็อกยอล แห่งเกาหลีใต้ซึ่งถูกรัฐสภาลงมติถอดถอนและต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ยังคงส่งจดหมายถึงบรรดาผู้สนับสนุนวานนี้ (1 ม.ค.) พร้อมประกาศว่าจะ “สู้จนถึงที่สุด” หลังถูกศาลออกหมายจับจากกรณีการประกาศกฎอัยการศึก (martial law) เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.

    “ผมได้เห็นผ่านทางยูทูปไลฟ์ว่าพวกคุณทำงานหนักกันขนาดไหน” ยุน ระบุในจดหมายถึงผู้สนับสนุนหลายร้อยคนที่มารวมตัวประท้วงกระบวนการสอบสวนเขาที่ด้านนอกบ้านพักประจำตำแหน่งประธานาธิบดี

    “ผมจะขอสู้จนถึงที่สุด เพื่อปกป้องประเทศนี้ร่วมกับท่าน” ยุน ระบุในจดหมายซึ่ง ซ็อก ดง-ฮยอน ทนายความของเขาได้ถ่ายภาพส่งให้กับผู้สื่อข่าวรอยเตอร์

    ด้านพรรคประชาธิปไตย (Democratic Party) ซึ่งเป็นแกนนำฝ่ายค้านที่ครองเสียงข้างมากในสภา และเป็นตัวตั้งตัวตีในการโหวตถอดถอน ยุน เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. ระบุว่าจดหมายฉบับนี้ถือเป็นข้อพิสูจน์ว่า ยุน “ยังคงหลงผิด” (delusional) และมีเจตนามุ่งมั่นที่จะก่อการกบฏ (insurrection) ให้สำเร็จ

    “แค่พยายามก่อกบฏยังไม่พอ เวลานี้เขายังยั่วยุให้ผู้สนับสนุนออกมาก่อเหตุปะทะรุนแรงด้วย” โจ ซึง-แล โฆษกพรรคประชาธิปไตย ระบุ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/around/detail/9680000000313

    #MGROnline #ยุนซ็อกยอล #เกาหลีใต้

    ประธานาธิบดี ยุน ซ็อกยอล แห่งเกาหลีใต้ซึ่งถูกรัฐสภาลงมติถอดถอนและต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ยังคงส่งจดหมายถึงบรรดาผู้สนับสนุนวานนี้ (1 ม.ค.) พร้อมประกาศว่าจะ “สู้จนถึงที่สุด” หลังถูกศาลออกหมายจับจากกรณีการประกาศกฎอัยการศึก (martial law) เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. • “ผมได้เห็นผ่านทางยูทูปไลฟ์ว่าพวกคุณทำงานหนักกันขนาดไหน” ยุน ระบุในจดหมายถึงผู้สนับสนุนหลายร้อยคนที่มารวมตัวประท้วงกระบวนการสอบสวนเขาที่ด้านนอกบ้านพักประจำตำแหน่งประธานาธิบดี • “ผมจะขอสู้จนถึงที่สุด เพื่อปกป้องประเทศนี้ร่วมกับท่าน” ยุน ระบุในจดหมายซึ่ง ซ็อก ดง-ฮยอน ทนายความของเขาได้ถ่ายภาพส่งให้กับผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ • ด้านพรรคประชาธิปไตย (Democratic Party) ซึ่งเป็นแกนนำฝ่ายค้านที่ครองเสียงข้างมากในสภา และเป็นตัวตั้งตัวตีในการโหวตถอดถอน ยุน เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. ระบุว่าจดหมายฉบับนี้ถือเป็นข้อพิสูจน์ว่า ยุน “ยังคงหลงผิด” (delusional) และมีเจตนามุ่งมั่นที่จะก่อการกบฏ (insurrection) ให้สำเร็จ • “แค่พยายามก่อกบฏยังไม่พอ เวลานี้เขายังยั่วยุให้ผู้สนับสนุนออกมาก่อเหตุปะทะรุนแรงด้วย” โจ ซึง-แล โฆษกพรรคประชาธิปไตย ระบุ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/around/detail/9680000000313 • #MGROnline #ยุนซ็อกยอล #เกาหลีใต้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 260 มุมมอง 0 รีวิว
  • พบ 'ชามซุด-ดิน จาบบาร์' ชาวเทกซัสวัย 42 ปี ที่ถูกกล่าวหาขับรถกระบะพุ่งชนผู้คนที่กำลังฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในนิวออร์ลีนส์ เคยรับใช้กองทัพสหรัฐฯ นานกว่า 13 ปี ในนั้นรวมถึงประจำการในอัฟกานิสถาน ในขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตของเหตุการณ์นี้เพิ่มเป็น 15 ราย และบาดเจ็บหลายสิบคน
    .
    พวกเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายจากรัฐบาลกลางและในระดับท้องถิ่นในนิวออร์ลีนส์ เชื่อว่า จาบบาร์ ไม่ได้ลงมือเพียงลำพังและกำลังตามล่าพวกผู้สมคบคิด ส่วนทางเอฟบีไอเผยว่า จาบบาร์ มีธงของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ผืนหนึ่งในรถกระบะและพวกเขามองเหตุโจมตีครั้งนี้ เป็นไปได้ว่าอาจเป็นการก่อการร้าย
    .
    ในขณะที่ยังคงอยู่ระหว่างการสืบสวน จนถึงตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลอธิบายได้ว่าทำไม จาบบาร์ พลเมืองสหรัฐฯ ที่ว่ากันว่าเกิดและเติบโตในเทกซัส ถึงลงมือโจมตีในนิวออร์ลีนส์ ทั้งนี้ จาบบาร์ เสียชีวิต ณ จุดเกิดเหตุ หลังยิงปะทะกับตำรวจ
    .
    เจ้าหน้าที่รายหนึ่งของกองทัพเผยว่า จาบบาร์ เคยสังกัดกองทัพสหรัฐฯ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพยากรมนุษย์และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ตั้งแต่ปี 2007 ถึง 2015 จากนั้นเขาก็เข้าร่วมในทหารกองหนุน ฐานะผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านไอที จนถึงปี 2020 มียศสิบโทในช่วงท้ายของการรับราชการทหาร
    .
    นอกจากนี้ จาบบาร์ ยังคงประจำการในอัฟกานิสถาน ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ 2009 ถึงเดือนมกราคม 2010 จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่
    .
    ก่อนรับใช้กองทัพบก เคยสมัครเข้าร่วมกองทัพเรือในเดือนสิงหาคม 2004 ภายใต้โครงการ delayed entry program (โปรแกรมที่ออกแบบมาเพื่อรับรองทหารเกณฑ์ใหม่เข้าสู่กองทัพ ก่อนส่งไปฝึกขั้นพื้นฐาน" แต่เขาถูกปลดออกในอีก 1 เดือนต่อมา จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่กองทัพเรือรายหนึ่ง ที่ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์
    .
    ขณะเดียวกัน ในประวัตินิติบุคคล ยังพบว่า จาบบาร์ เกี่ยวข้องกับหลายธุรกิจในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจนายหน้าอสังหาริมทรัพย์
    .
    เอฟบีไอ เชื่อว่า จาบบาร์ เช่ารถกระบะฟอร์ด ที่เขาใช้ขับพุ่งชนฝูงชนในย่านเฟรนช์ ควอเตอร์ ของนิวออร์ลีนส์ ในช่วงเช้ามืดของวันพุธ (1 ม.ค.) จากนั้นก็เปิดฉากยิงใส่ตำรวจ ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 35 รายและเสียชีวิตอย่างน้อย 10 คน ก่อนที่ต่อมาเอฟบีไอ ได้มีการปรับเพิ่มยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 15 ราย
    .
    การพบธงของไอเอสในรถกระบะ กระตุ้นให้มีการสืบสวนเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่เกี่ยวข้องกับองค์กรก่อการร้าย นอกจากนี้ ทีมสืบสวนยังพบอาวุธและวัตถุต้องสงสัยที่เป็นไปได้ว่าจะเป็นวัตถุระเบิดในยานพาหนะคันดังกล่าว เช่นเดียวกับวัตถุต้องสงสัยอื่นๆ ที่อาจเป็นวัตถุระเบิดในย่านเฟรนช์ ควอเตอร์ ด้วย
    .
    "เราไม่เชื่อว่าจาบบาร์ อยู่เบื้องหลังเพียงคนเดียว เรากำลังไล่ล่าเชิงรุกในทุกเบาะแส ในนั้นรวมถึงพวกที่ทราบว่ามั่วสุมคลุกคลีกับเขา" อเลเทีย ดันแคน เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเอฟบีไอระบุ
    .
    จากบันทึกของศาล พบว่า จาบบาร์ หย่าร้างในปี 2022 หลังจากแยกกันอยู่กับภรรยามา 5 ปี ทั้งคู่มีลูกด้วยกัน 1 คน
    .
    ดูเหมือนว่า เขาไม่มีประวัติก่ออาชญากรรมรุนแรงใดๆ ก่อนลงมือโจมตี โดย จาบาร์ เคยโดนเพียงแค่ข้อหาความผิดลหุโทษในปี 2022 ฐานขโมยทรัพย์สิน และเคยถูกจับในปี 2005 ฐานขับขี่โดยใบอนุญาตหมดอายุ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000000236
    ..............
    Sondhi X
    พบ 'ชามซุด-ดิน จาบบาร์' ชาวเทกซัสวัย 42 ปี ที่ถูกกล่าวหาขับรถกระบะพุ่งชนผู้คนที่กำลังฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในนิวออร์ลีนส์ เคยรับใช้กองทัพสหรัฐฯ นานกว่า 13 ปี ในนั้นรวมถึงประจำการในอัฟกานิสถาน ในขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตของเหตุการณ์นี้เพิ่มเป็น 15 ราย และบาดเจ็บหลายสิบคน . พวกเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายจากรัฐบาลกลางและในระดับท้องถิ่นในนิวออร์ลีนส์ เชื่อว่า จาบบาร์ ไม่ได้ลงมือเพียงลำพังและกำลังตามล่าพวกผู้สมคบคิด ส่วนทางเอฟบีไอเผยว่า จาบบาร์ มีธงของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ผืนหนึ่งในรถกระบะและพวกเขามองเหตุโจมตีครั้งนี้ เป็นไปได้ว่าอาจเป็นการก่อการร้าย . ในขณะที่ยังคงอยู่ระหว่างการสืบสวน จนถึงตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลอธิบายได้ว่าทำไม จาบบาร์ พลเมืองสหรัฐฯ ที่ว่ากันว่าเกิดและเติบโตในเทกซัส ถึงลงมือโจมตีในนิวออร์ลีนส์ ทั้งนี้ จาบบาร์ เสียชีวิต ณ จุดเกิดเหตุ หลังยิงปะทะกับตำรวจ . เจ้าหน้าที่รายหนึ่งของกองทัพเผยว่า จาบบาร์ เคยสังกัดกองทัพสหรัฐฯ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพยากรมนุษย์และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ตั้งแต่ปี 2007 ถึง 2015 จากนั้นเขาก็เข้าร่วมในทหารกองหนุน ฐานะผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านไอที จนถึงปี 2020 มียศสิบโทในช่วงท้ายของการรับราชการทหาร . นอกจากนี้ จาบบาร์ ยังคงประจำการในอัฟกานิสถาน ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ 2009 ถึงเดือนมกราคม 2010 จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ . ก่อนรับใช้กองทัพบก เคยสมัครเข้าร่วมกองทัพเรือในเดือนสิงหาคม 2004 ภายใต้โครงการ delayed entry program (โปรแกรมที่ออกแบบมาเพื่อรับรองทหารเกณฑ์ใหม่เข้าสู่กองทัพ ก่อนส่งไปฝึกขั้นพื้นฐาน" แต่เขาถูกปลดออกในอีก 1 เดือนต่อมา จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่กองทัพเรือรายหนึ่ง ที่ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ . ขณะเดียวกัน ในประวัตินิติบุคคล ยังพบว่า จาบบาร์ เกี่ยวข้องกับหลายธุรกิจในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ . เอฟบีไอ เชื่อว่า จาบบาร์ เช่ารถกระบะฟอร์ด ที่เขาใช้ขับพุ่งชนฝูงชนในย่านเฟรนช์ ควอเตอร์ ของนิวออร์ลีนส์ ในช่วงเช้ามืดของวันพุธ (1 ม.ค.) จากนั้นก็เปิดฉากยิงใส่ตำรวจ ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 35 รายและเสียชีวิตอย่างน้อย 10 คน ก่อนที่ต่อมาเอฟบีไอ ได้มีการปรับเพิ่มยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 15 ราย . การพบธงของไอเอสในรถกระบะ กระตุ้นให้มีการสืบสวนเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่เกี่ยวข้องกับองค์กรก่อการร้าย นอกจากนี้ ทีมสืบสวนยังพบอาวุธและวัตถุต้องสงสัยที่เป็นไปได้ว่าจะเป็นวัตถุระเบิดในยานพาหนะคันดังกล่าว เช่นเดียวกับวัตถุต้องสงสัยอื่นๆ ที่อาจเป็นวัตถุระเบิดในย่านเฟรนช์ ควอเตอร์ ด้วย . "เราไม่เชื่อว่าจาบบาร์ อยู่เบื้องหลังเพียงคนเดียว เรากำลังไล่ล่าเชิงรุกในทุกเบาะแส ในนั้นรวมถึงพวกที่ทราบว่ามั่วสุมคลุกคลีกับเขา" อเลเทีย ดันแคน เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเอฟบีไอระบุ . จากบันทึกของศาล พบว่า จาบบาร์ หย่าร้างในปี 2022 หลังจากแยกกันอยู่กับภรรยามา 5 ปี ทั้งคู่มีลูกด้วยกัน 1 คน . ดูเหมือนว่า เขาไม่มีประวัติก่ออาชญากรรมรุนแรงใดๆ ก่อนลงมือโจมตี โดย จาบาร์ เคยโดนเพียงแค่ข้อหาความผิดลหุโทษในปี 2022 ฐานขโมยทรัพย์สิน และเคยถูกจับในปี 2005 ฐานขับขี่โดยใบอนุญาตหมดอายุ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000000236 .............. Sondhi X
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1282 มุมมอง 0 รีวิว
  • เกิดเหตุเครื่องบินไถลออกนอกรันเวย์และเกิดไฟลุกไหม้ท่วมตัวเครื่องขณะที่มันพุ่งเข้าชนกับกำแพงที่สนามบินนานาชาติมูอัน ในวันอาทิตย์ที่ 29 ธันวาคม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 62 ราย

    อุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่เที่ยวบิน 7C2216 ของสายการบิน Jeju Air ซึ่งมีผู้โดยสารและลูกเรือบนเครื่อง 175 คน กำลังลงจอดที่สนามบินมูอัน ทางใต้ของเกาหลีใต้ เมื่อเวลา 9.00 น หลังเดินทางออกมาจากกรุงเทพฯ กระทรวงคมนาคมของเกาหลีใต้ เผย

    สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโซล เผยมี 2 คนไทยบนเครื่องบินลำดังกล่าว แต่ยังไม่ทราบชะตากรรมของทั้ง 2 คน

    จนถึงตอนนี้ มีการกู้ร่างผู้เสียชีวิตออกมาได้แล้ว 58 คน แต่คาดว่าจะยังมีตกค้างเหลืออีกบนเครื่อง ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงมูอัน พบผู้รอดชีวิต 3 คน

    เจ้าหน้าที่สนามบินบอกกับรอยเตอร์ไม่นานหลังเกิดเหตุว่าตอนนี้เจ้าหน้าที่กำลังปฏิบัติการกู้ภัยบริเวณหางเครื่องบินอยู่

    คลิปวิดีโอที่กำลังถูกแชร์ต่อในโซเชียลมีเดียเกาหลีใต้เผยให้เห็นวินาทีขณะเครื่องบินเครื่องยนต์คู่ลำนี้ลงกระแทกพื้นรันเวย์โดยที่ไม่มีล้อลงจอดยื่นออกมา ก่อนที่เครื่องบินจะไถลเข้าไปชนรั้วและเกิดระเบิด

    สำนักข่าวยอนฮัปรายงานว่า เจ้าหน้าที่สนามบินกล่าวว่า ระบบช่วยลงจอดน่าจะการขัดข้อง เนื่องจากถูกนกบินชน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/around/detail/9670000124833

    #MGROnline #JejuAir #เครื่องบินตก #SouthKorea
    เกิดเหตุเครื่องบินไถลออกนอกรันเวย์และเกิดไฟลุกไหม้ท่วมตัวเครื่องขณะที่มันพุ่งเข้าชนกับกำแพงที่สนามบินนานาชาติมูอัน ในวันอาทิตย์ที่ 29 ธันวาคม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 62 ราย • อุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่เที่ยวบิน 7C2216 ของสายการบิน Jeju Air ซึ่งมีผู้โดยสารและลูกเรือบนเครื่อง 175 คน กำลังลงจอดที่สนามบินมูอัน ทางใต้ของเกาหลีใต้ เมื่อเวลา 9.00 น หลังเดินทางออกมาจากกรุงเทพฯ กระทรวงคมนาคมของเกาหลีใต้ เผย • สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโซล เผยมี 2 คนไทยบนเครื่องบินลำดังกล่าว แต่ยังไม่ทราบชะตากรรมของทั้ง 2 คน • จนถึงตอนนี้ มีการกู้ร่างผู้เสียชีวิตออกมาได้แล้ว 58 คน แต่คาดว่าจะยังมีตกค้างเหลืออีกบนเครื่อง ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงมูอัน พบผู้รอดชีวิต 3 คน • เจ้าหน้าที่สนามบินบอกกับรอยเตอร์ไม่นานหลังเกิดเหตุว่าตอนนี้เจ้าหน้าที่กำลังปฏิบัติการกู้ภัยบริเวณหางเครื่องบินอยู่ • คลิปวิดีโอที่กำลังถูกแชร์ต่อในโซเชียลมีเดียเกาหลีใต้เผยให้เห็นวินาทีขณะเครื่องบินเครื่องยนต์คู่ลำนี้ลงกระแทกพื้นรันเวย์โดยที่ไม่มีล้อลงจอดยื่นออกมา ก่อนที่เครื่องบินจะไถลเข้าไปชนรั้วและเกิดระเบิด • สำนักข่าวยอนฮัปรายงานว่า เจ้าหน้าที่สนามบินกล่าวว่า ระบบช่วยลงจอดน่าจะการขัดข้อง เนื่องจากถูกนกบินชน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/around/detail/9670000124833 • #MGROnline #JejuAir #เครื่องบินตก #SouthKorea
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 241 มุมมอง 0 รีวิว
  • สื่อต่างประเทศและโลกออนไลน์เผยแพร่คลิปนาทีระทึก เหตุการณ์เครื่องบินโดยสารแบบเอมบราเออร์ 190 โหม่งโลกใกล้กับเมืองออคเตา ของคาซัคสถาน เมื่อวันพุธ(25ธ.ค.) คร่าชีวิต 38 รายและมีผู้รอดตายปาฏิหาริย์ 29 คน ซึ่งเวลานี้เข้ารับรักษาตัวในโรงพยาบาล เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากเครื่องบินลำนี้ เบี่ยงเส้นทางมาจากพื้นที่หนึ่งของรัสเซีย ที่เมื่อเร็วๆนี้ มอสโกปฏิบัติการป้องกันตนเองจากการโจมตีด้วยโดรนของยูเครน
    .
    เที่ยวบิน J2-8243 ของสายการบินอาเซอร์ไบจาน แอร์ไลน์ส บินออกนอกเส้นทางที่กำหนดไว้จากอาเซอร์ไบจานไปยังรัสเซีย เป็นระยะทางหลายร้อยกิโลเมตร ก่อนเกิดเหตุโหม่งโลกบริเวณชายฝั่งฝั่งตรงข้ามของทะเลแคสเปียน ในสิ่งที่หน่วยงานเฝ้าระวังด้านการบินของรัสเซีย ระบุว่าเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจมีต้นตอจากการบินชนนก แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านการบินรายหนึ่งไม่เชื่อว่ามันจะมีต้นตอมาจากสาเหตุดังกล่าว
    .
    พวกเจ้าหน้าที่ยังไม่ออกมาอธิบายว่าทำไมเครื่องบินลำนี้ถึงบินข้ามทะเลไปคนละฝั่ง แต่เหตุการณ์โหม่งโลกครั้งนี้มีขึ้นหลังจากยูเครนใช้โดรนโจมตีภูมิภาคเชเชน ทางใต้ของรัสเซีย เมื่อช่วงกลางเดือน ขณะที่สนามบินของรัสเซียที่อยู่ใกล้เส้นทางการบินของเครื่องบินมากที่สุด ได้ปิดทำการในตอนเช้าวันพุธ(25ธ.ค.)
    .
    เคียฟไม่ยอมรับว่าพวกเขาโจมตีเมืองกรอซนี เมืองเอกของสาธารณรัฐเชเชน เมื่อช่วงกลางเดือน ดินแดนที่เป็นจุดหมายปลายทางของเที่ยวบินนี้
    .
    ประธานาธิบดีอิลฮัม แอลิเยฟ ของอาเซอร์ไบจาน ระบุว่าจากข้อมูลที่เขาได้รับ เครื่องบินเปลี่ยนเส้นทางสืบเนื่องจากสภาพอากาศเลวร้าย แต่ระบุเพิ่มเติมว่ายังไม่ทราบเกี่ยวกับต้นตอของเหตุเครื่องบินโหม่งโลก และจำเป็นต้องดำเนินการสืบสวนอย่างครบถ้วนเสียก่อน
    .
    วิดีโอที่เผยแพร่อย่างกว้างขวาง เป็นภาพเครื่องบินกำลังดิ่งลงอย่างรวดเร็ว ก่อนไฟลุกท่วมหลังร่วงกระแทกชายฝั่ง จากนั้นก็มีกลุ่มควันสีดำหนาทึบลอยพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ทั้งนี้พบเห็นพวกผู้โดยสารที่เต็มไปด้วยเลือดและแผลถลอกกำลังกะเผลกออกมาจากเศษซากลำตัวเครื่องบิน ที่ยังอยู่ในสภาพไม่บุบสลาย
    .
    มีผู้โดยสาร 62 คนและลูกเรือ 5 คนบนเที่ยวบินลำนี้ ในขณะที่ คานัค โบซุมบาเยฟ รองนายกรัฐมนตรีคาซัคสถาน เป็นผู้เปิดเผยตัวเลขผู้เสียชีวิตข้างต้น ระหว่างพบปะกับตัวแทนของอาเซอร์ไบจาน ในเมืองอัคเตา ตามรายงานข่าวของสำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์ของรัสเซีย
    .
    กระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินของคาซัคสถาน ระบุในถ้อยแถลงว่าทีมดับเพลิงสามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว และพวกผู้รอดชีวิต ในนั้นมีเด็กรวมอยู่ด้วย 2 คน กำลังรักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้เคียง ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ก็อยู่ระหว่างเก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิต
    .
    สายการบินอาเซอร์ไบจาน แอร์ไลน์ส ระบุว่าเครื่องบิน เอมบราเออร์ 190 กำลังบินจากกรุงบากู ไปยังเมืองกรอซนี ทางใต้ของรัสเซีย แต่จำเป็นต้องลงจอดฉุกเฉินห่างจากเมืองอัคเตาของคาซัคสถาน ราวๆ 3 กิโลเมตร "เบื้องต้น หลังจากชนนก สืบเนื่องจากสถานการณ์ฉุกเฉินบนเครื่องบิน ผู้บังคับการตัดสินใจไปยังสนามบินอื่น และเลือกไปที่อัคเตา" หน่วยงานเฝ้าระวังด้านการบินของรัสเซียระบุในเทเลแกรม
    .
    อย่างไรก็ตาม ริชาร์ด อาบูลาเฟีย ผู้เชี่ยวชาญและนักวิเคราะห์จากบริษัทที่ปรึกษาด้านการบิน AeroDynamic ชี้ว่าปกติแล้วการชนนก มักทำให้เครื่องบินต้องลงจอดในสนามบินที่ใกล้ที่สุดเท่าที่จะหาได้ "คุณอาจสูญเสียการควบคุมเครื่องบิน แต่ผลลัพธ์ของมัน จะไม่มีทางทำให้คุณบินออกนอกเส้นทาง เตลิดเปิดเปิงขนาดนี้"
    .
    ทิมูร์ สุเลเมนอฟ อัยการด้านการขนส่งหลักของคาซัคสถาน กล่าวระหว่างแแถลงข่าวในเมืองหลวง ว่าเจ้าหน้าที่พบกล่องดำของเครื่องบิน ที่บรรจุข้อมูลการบินที่จะช่วยสรุปถึงต้นตอของเหตุการณ์นี้ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
    .
    เมืองอัคเตา อยู่ฝั่งตรงข้ามทะเลแคสเปียน กับอาเซอร์ไบจานและรัสเซีย ขณะที่เว็บไซต์ติดตามเที่ยวบินต่างๆ พบว่าเครื่องบินลำนี้ บินไปในทางทิศเหนือตามเส้นทางที่กำหนดไว้ตามแนวชายฝั่งทางตะวันตก ก่อนไม่มีการบันทึกเส้นทางการบินหลังจากนั้น แต่ต่อมามันปรากฏตัวอีกรอบบริเวณชายฝั่งตะวันตก บินวนใกล้ๆกับสนามบินอัคเตา ก่อนดิ่งลงชายฝั่ง
    .
    เจ้าหน้าที่ใน 2 สาธารณรัฐของรัสเซีย ได้แก่ อิงกูเซเตียและนอร์ทออสซีเซีย รายงานเกี่ยวกับการถูกโดรนโจมตีในตอนเช้าวันพุธ(25ธ.ค.)
    .
    ทั้งนี้เจ้าหน้าที่รายหนึ่ง ณ สนามบินมาฮัชกาลา ในรัสเซีย ตามแนวชายฝั่งทางตะวันตกของทะเลแคสเปียน ท่าอากาศยานที่อยู่ใกล้ที่สุดในจุดที่เที่ยวบินสูญหายไปจากการติดตาม บอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า สนามบินแห่งนี้ปิดการสัญจรขาเข้าเป็นเวลาหลายชั่วโมงในเช้าวันพุธ(25ธ.ค.) ส่วนเจ้าหน้าที่ของสนามบินในเมืองกรอซนีนั้น รอยเตอร์ระบุว่าไม่สามารถติดต่อได้
    .
    พวกเจ้าหน้าที่ในคาซัคสถาน เผยว่ารัฐบาลได้จัดตั้งคณะกรรมการชุดหนึ่งขึ้นมา เพื่อสืบสวนสิ่งที่เกิดขึ้นและสมาชิกของคณะกรรมการชุดนี้ได้รับคำสั่งให้บินไปยังจุดเกิดเหตุ และไปรับปากกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ว่าพวกเขาจะได้รับความช่วยเหลือที่จำเป็น
    .
    รัฐบาลระบุว่าคาซัคสถานจะร่วมมือกับอาเซอร์ไบจานในการสืบสวน ส่วนสายการบินอาเซอร์ไบจาน แอร์ไลน์ส จะระงับเที่ยวบินจากบากู ไปยังสาธารณรัฐเชเชนของรัสเซีย จนกว่าการสืบสวนจะเสร็จสมบูรณ์
    .
    ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย แสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่ประธานาธิบดีอาเซอร์ไบจาน ตัดสินใจล้มแผนเข้าร่วมประชุมซัมมิตหนึ่งในรัสเซียในวันพุธ(25ธ.ค.) เพื่อเดินทางกลับประเทศเป็นการด่วน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000123943
    ..............
    Sondhi X
    สื่อต่างประเทศและโลกออนไลน์เผยแพร่คลิปนาทีระทึก เหตุการณ์เครื่องบินโดยสารแบบเอมบราเออร์ 190 โหม่งโลกใกล้กับเมืองออคเตา ของคาซัคสถาน เมื่อวันพุธ(25ธ.ค.) คร่าชีวิต 38 รายและมีผู้รอดตายปาฏิหาริย์ 29 คน ซึ่งเวลานี้เข้ารับรักษาตัวในโรงพยาบาล เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากเครื่องบินลำนี้ เบี่ยงเส้นทางมาจากพื้นที่หนึ่งของรัสเซีย ที่เมื่อเร็วๆนี้ มอสโกปฏิบัติการป้องกันตนเองจากการโจมตีด้วยโดรนของยูเครน . เที่ยวบิน J2-8243 ของสายการบินอาเซอร์ไบจาน แอร์ไลน์ส บินออกนอกเส้นทางที่กำหนดไว้จากอาเซอร์ไบจานไปยังรัสเซีย เป็นระยะทางหลายร้อยกิโลเมตร ก่อนเกิดเหตุโหม่งโลกบริเวณชายฝั่งฝั่งตรงข้ามของทะเลแคสเปียน ในสิ่งที่หน่วยงานเฝ้าระวังด้านการบินของรัสเซีย ระบุว่าเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจมีต้นตอจากการบินชนนก แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านการบินรายหนึ่งไม่เชื่อว่ามันจะมีต้นตอมาจากสาเหตุดังกล่าว . พวกเจ้าหน้าที่ยังไม่ออกมาอธิบายว่าทำไมเครื่องบินลำนี้ถึงบินข้ามทะเลไปคนละฝั่ง แต่เหตุการณ์โหม่งโลกครั้งนี้มีขึ้นหลังจากยูเครนใช้โดรนโจมตีภูมิภาคเชเชน ทางใต้ของรัสเซีย เมื่อช่วงกลางเดือน ขณะที่สนามบินของรัสเซียที่อยู่ใกล้เส้นทางการบินของเครื่องบินมากที่สุด ได้ปิดทำการในตอนเช้าวันพุธ(25ธ.ค.) . เคียฟไม่ยอมรับว่าพวกเขาโจมตีเมืองกรอซนี เมืองเอกของสาธารณรัฐเชเชน เมื่อช่วงกลางเดือน ดินแดนที่เป็นจุดหมายปลายทางของเที่ยวบินนี้ . ประธานาธิบดีอิลฮัม แอลิเยฟ ของอาเซอร์ไบจาน ระบุว่าจากข้อมูลที่เขาได้รับ เครื่องบินเปลี่ยนเส้นทางสืบเนื่องจากสภาพอากาศเลวร้าย แต่ระบุเพิ่มเติมว่ายังไม่ทราบเกี่ยวกับต้นตอของเหตุเครื่องบินโหม่งโลก และจำเป็นต้องดำเนินการสืบสวนอย่างครบถ้วนเสียก่อน . วิดีโอที่เผยแพร่อย่างกว้างขวาง เป็นภาพเครื่องบินกำลังดิ่งลงอย่างรวดเร็ว ก่อนไฟลุกท่วมหลังร่วงกระแทกชายฝั่ง จากนั้นก็มีกลุ่มควันสีดำหนาทึบลอยพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ทั้งนี้พบเห็นพวกผู้โดยสารที่เต็มไปด้วยเลือดและแผลถลอกกำลังกะเผลกออกมาจากเศษซากลำตัวเครื่องบิน ที่ยังอยู่ในสภาพไม่บุบสลาย . มีผู้โดยสาร 62 คนและลูกเรือ 5 คนบนเที่ยวบินลำนี้ ในขณะที่ คานัค โบซุมบาเยฟ รองนายกรัฐมนตรีคาซัคสถาน เป็นผู้เปิดเผยตัวเลขผู้เสียชีวิตข้างต้น ระหว่างพบปะกับตัวแทนของอาเซอร์ไบจาน ในเมืองอัคเตา ตามรายงานข่าวของสำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์ของรัสเซีย . กระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินของคาซัคสถาน ระบุในถ้อยแถลงว่าทีมดับเพลิงสามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว และพวกผู้รอดชีวิต ในนั้นมีเด็กรวมอยู่ด้วย 2 คน กำลังรักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้เคียง ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ก็อยู่ระหว่างเก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิต . สายการบินอาเซอร์ไบจาน แอร์ไลน์ส ระบุว่าเครื่องบิน เอมบราเออร์ 190 กำลังบินจากกรุงบากู ไปยังเมืองกรอซนี ทางใต้ของรัสเซีย แต่จำเป็นต้องลงจอดฉุกเฉินห่างจากเมืองอัคเตาของคาซัคสถาน ราวๆ 3 กิโลเมตร "เบื้องต้น หลังจากชนนก สืบเนื่องจากสถานการณ์ฉุกเฉินบนเครื่องบิน ผู้บังคับการตัดสินใจไปยังสนามบินอื่น และเลือกไปที่อัคเตา" หน่วยงานเฝ้าระวังด้านการบินของรัสเซียระบุในเทเลแกรม . อย่างไรก็ตาม ริชาร์ด อาบูลาเฟีย ผู้เชี่ยวชาญและนักวิเคราะห์จากบริษัทที่ปรึกษาด้านการบิน AeroDynamic ชี้ว่าปกติแล้วการชนนก มักทำให้เครื่องบินต้องลงจอดในสนามบินที่ใกล้ที่สุดเท่าที่จะหาได้ "คุณอาจสูญเสียการควบคุมเครื่องบิน แต่ผลลัพธ์ของมัน จะไม่มีทางทำให้คุณบินออกนอกเส้นทาง เตลิดเปิดเปิงขนาดนี้" . ทิมูร์ สุเลเมนอฟ อัยการด้านการขนส่งหลักของคาซัคสถาน กล่าวระหว่างแแถลงข่าวในเมืองหลวง ว่าเจ้าหน้าที่พบกล่องดำของเครื่องบิน ที่บรรจุข้อมูลการบินที่จะช่วยสรุปถึงต้นตอของเหตุการณ์นี้ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว . เมืองอัคเตา อยู่ฝั่งตรงข้ามทะเลแคสเปียน กับอาเซอร์ไบจานและรัสเซีย ขณะที่เว็บไซต์ติดตามเที่ยวบินต่างๆ พบว่าเครื่องบินลำนี้ บินไปในทางทิศเหนือตามเส้นทางที่กำหนดไว้ตามแนวชายฝั่งทางตะวันตก ก่อนไม่มีการบันทึกเส้นทางการบินหลังจากนั้น แต่ต่อมามันปรากฏตัวอีกรอบบริเวณชายฝั่งตะวันตก บินวนใกล้ๆกับสนามบินอัคเตา ก่อนดิ่งลงชายฝั่ง . เจ้าหน้าที่ใน 2 สาธารณรัฐของรัสเซีย ได้แก่ อิงกูเซเตียและนอร์ทออสซีเซีย รายงานเกี่ยวกับการถูกโดรนโจมตีในตอนเช้าวันพุธ(25ธ.ค.) . ทั้งนี้เจ้าหน้าที่รายหนึ่ง ณ สนามบินมาฮัชกาลา ในรัสเซีย ตามแนวชายฝั่งทางตะวันตกของทะเลแคสเปียน ท่าอากาศยานที่อยู่ใกล้ที่สุดในจุดที่เที่ยวบินสูญหายไปจากการติดตาม บอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า สนามบินแห่งนี้ปิดการสัญจรขาเข้าเป็นเวลาหลายชั่วโมงในเช้าวันพุธ(25ธ.ค.) ส่วนเจ้าหน้าที่ของสนามบินในเมืองกรอซนีนั้น รอยเตอร์ระบุว่าไม่สามารถติดต่อได้ . พวกเจ้าหน้าที่ในคาซัคสถาน เผยว่ารัฐบาลได้จัดตั้งคณะกรรมการชุดหนึ่งขึ้นมา เพื่อสืบสวนสิ่งที่เกิดขึ้นและสมาชิกของคณะกรรมการชุดนี้ได้รับคำสั่งให้บินไปยังจุดเกิดเหตุ และไปรับปากกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ว่าพวกเขาจะได้รับความช่วยเหลือที่จำเป็น . รัฐบาลระบุว่าคาซัคสถานจะร่วมมือกับอาเซอร์ไบจานในการสืบสวน ส่วนสายการบินอาเซอร์ไบจาน แอร์ไลน์ส จะระงับเที่ยวบินจากบากู ไปยังสาธารณรัฐเชเชนของรัสเซีย จนกว่าการสืบสวนจะเสร็จสมบูรณ์ . ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย แสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่ประธานาธิบดีอาเซอร์ไบจาน ตัดสินใจล้มแผนเข้าร่วมประชุมซัมมิตหนึ่งในรัสเซียในวันพุธ(25ธ.ค.) เพื่อเดินทางกลับประเทศเป็นการด่วน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000123943 .............. Sondhi X
    Like
    Sad
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1110 มุมมอง 0 รีวิว
  • เครื่องบินกองทัพอากาศของปากีสถานทิ้งบอมบ์ถล่มจังหวัดปักติกา ทางตะวันออกของอัฟกานิสถาน ในวันอังคาร(24ธ.ค.) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 46 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก จากการเปิดเผยของพวกตอลิบานอัฟกันในวันพุธ(25ฑ.ค.) พร้อมระบุจะมีการแก้แค้นอย่างแน่นอน
    .
    นอกจากผู้เสียชีวิตข้างต้นแล้ว ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 6 ราย ในเหตุทิ้งบอมบ์ถล่ม 4 จุดในอัฟกนิสถาน จากการเปิดเผยของ ฮัมดัลเลาะห์ ฟิตรัต รองโฆษกตอลิบาน ผู้ปกครองอัฟกานิสถาน ในวันพุธ(25ธ.ค.) ขณะที่รัฐบาลและเจ้าหน้าที่กองทัพปากีสถาน ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้
    .
    กระทรวงการต่างประเทศอัฟกานิสถาน ระบุว่าได้เรียกหัวหน้าคณะผู้แทนทูตของปากีสถานในกรุงคาบูลเข้าพบ เพื่อยื่นหนังสือประท้วงอย่างเป็นทางการไปยังอิสลามาบัด เกี่ยวกับการทิ้งระเบิดของเครื่องบินทหารปากีสถาน พร้อมเตือนว่าการทูตระหว่าง 2 ชาติอาจได้รับผลกระทบจากพฤติกรรมดังกล่าว
    .
    "อัฟกานิสถานมองพฤติกรรมที่โหดร้ายป่าเถื่อนนี้ละเมิดหลักการนานาชาติทั้งมวลและเป็นพฤติกรรมแห่งการรุกรานอย่างชัดเจน" โฆษกกระทรวงป้องกันชาติของอัฟกานิสถานระบุในถ้อยแถลง "เอมิเรตอิสลามแห่งอัฟกานิสถานจะไม่ปล่อยให้การกระทำที่ขี้ขลาดตาขาวนี้ลอยนวล"
    .
    เจ้าหน้าที่ปากีสถานรายหนึ่งซึ่งรับรู้เรื่องราวนี้ แต่ไม่ประสงค์เอ่ยนาม บอกกับรอยเตอร์ว่า ปากีสถานปฏิบัติการโจมตีทางอากาศเล่นงานค่ายแห่งหนึ่งของพวกกลุ่มนักรบอิสลามิสต์ ปากีสถานตอลิบาน(TTP)
    .
    TTP ประกาศสวามิภักดิ์ต่อพวกตอลิบานอัฟกานิสถาน และได้ชื่อมาจากนักรบกลุ่มนี้ แต่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งโดยตรงของกลุ่มที่ปกครองอัฟกานิสถาน พวกเขาเน้นย้ำเป้าหมายในการบังคับใช้กฎหมายศาสนาอิสลามในปากีสถาน แบบเดียวกับที่พวกตอลิบานทำในอัฟกานิสถาน
    .
    ก่อนหน้านี้พวก TTP โจมตีครั้งใหญ่เล่นงานพื้นที่เซาต์ วาซิริสถาน ของปากีสถาน ปลิดชีพบุคลากรด้านความมั่นคงของปากีสถาน 16 ราย เมื่อวันเสาร์(21ธ.ค.)
    .
    กระทรวงกลาโหมอัฟกานิสถาน ระบุว่าพวกที่เสียชวิตในปฏิบัติการทิ้งระเบิดของปากีสถาน ส่วนใหญ่แล้วเป็น "ผู้ลี้ภัยชาววาซิริสถาน" บ่งชี้ว่าคนเหล่านั้นมาจากดินแดนซาซิริสถานของปากีสถานเอง
    .
    เพื่อนบ้านทั้ง 2 ชาติ มีความสัมพันธ์อันตึงเครียด ด้วย ปากีสถาน บอกว่าการโจมตีของพวก TTP หลายต่อหลายครั้งที่เกิดขึ้นภายในประเทศของพวกเขา เป็นการลงมือมาจากแผ่นดินของอัฟกัน ข้อกล่าวหาที่พวกตอลิบานอัฟกันปฏิเสธ
    .
    ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ฝ่าย ยุ่งเหยิงยิ่งขึ้นในเดือนมีนาคม ครั้งที่ตอลิบานกล่าวหาปากีสถานทำการโจมตีทางอากาศ 2 ระลอกเล่นงานดินแดนของพวกเขา ปลิดชีพผู้หญิงและเด็ก 5 ราย
    .
    ปากีสถาน อ้างในตอนนั้น ว่าพวกเขาปฏิบัติการต่อต้านก่อการร้ายในอัฟกานิสถานบนพื้นฐานของข่าวกรอง แต่ไม่เจาะจงลักษณะของปฏิบัติการ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000123940
    ..............
    Sondhi X
    เครื่องบินกองทัพอากาศของปากีสถานทิ้งบอมบ์ถล่มจังหวัดปักติกา ทางตะวันออกของอัฟกานิสถาน ในวันอังคาร(24ธ.ค.) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 46 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก จากการเปิดเผยของพวกตอลิบานอัฟกันในวันพุธ(25ฑ.ค.) พร้อมระบุจะมีการแก้แค้นอย่างแน่นอน . นอกจากผู้เสียชีวิตข้างต้นแล้ว ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 6 ราย ในเหตุทิ้งบอมบ์ถล่ม 4 จุดในอัฟกนิสถาน จากการเปิดเผยของ ฮัมดัลเลาะห์ ฟิตรัต รองโฆษกตอลิบาน ผู้ปกครองอัฟกานิสถาน ในวันพุธ(25ธ.ค.) ขณะที่รัฐบาลและเจ้าหน้าที่กองทัพปากีสถาน ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ . กระทรวงการต่างประเทศอัฟกานิสถาน ระบุว่าได้เรียกหัวหน้าคณะผู้แทนทูตของปากีสถานในกรุงคาบูลเข้าพบ เพื่อยื่นหนังสือประท้วงอย่างเป็นทางการไปยังอิสลามาบัด เกี่ยวกับการทิ้งระเบิดของเครื่องบินทหารปากีสถาน พร้อมเตือนว่าการทูตระหว่าง 2 ชาติอาจได้รับผลกระทบจากพฤติกรรมดังกล่าว . "อัฟกานิสถานมองพฤติกรรมที่โหดร้ายป่าเถื่อนนี้ละเมิดหลักการนานาชาติทั้งมวลและเป็นพฤติกรรมแห่งการรุกรานอย่างชัดเจน" โฆษกกระทรวงป้องกันชาติของอัฟกานิสถานระบุในถ้อยแถลง "เอมิเรตอิสลามแห่งอัฟกานิสถานจะไม่ปล่อยให้การกระทำที่ขี้ขลาดตาขาวนี้ลอยนวล" . เจ้าหน้าที่ปากีสถานรายหนึ่งซึ่งรับรู้เรื่องราวนี้ แต่ไม่ประสงค์เอ่ยนาม บอกกับรอยเตอร์ว่า ปากีสถานปฏิบัติการโจมตีทางอากาศเล่นงานค่ายแห่งหนึ่งของพวกกลุ่มนักรบอิสลามิสต์ ปากีสถานตอลิบาน(TTP) . TTP ประกาศสวามิภักดิ์ต่อพวกตอลิบานอัฟกานิสถาน และได้ชื่อมาจากนักรบกลุ่มนี้ แต่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งโดยตรงของกลุ่มที่ปกครองอัฟกานิสถาน พวกเขาเน้นย้ำเป้าหมายในการบังคับใช้กฎหมายศาสนาอิสลามในปากีสถาน แบบเดียวกับที่พวกตอลิบานทำในอัฟกานิสถาน . ก่อนหน้านี้พวก TTP โจมตีครั้งใหญ่เล่นงานพื้นที่เซาต์ วาซิริสถาน ของปากีสถาน ปลิดชีพบุคลากรด้านความมั่นคงของปากีสถาน 16 ราย เมื่อวันเสาร์(21ธ.ค.) . กระทรวงกลาโหมอัฟกานิสถาน ระบุว่าพวกที่เสียชวิตในปฏิบัติการทิ้งระเบิดของปากีสถาน ส่วนใหญ่แล้วเป็น "ผู้ลี้ภัยชาววาซิริสถาน" บ่งชี้ว่าคนเหล่านั้นมาจากดินแดนซาซิริสถานของปากีสถานเอง . เพื่อนบ้านทั้ง 2 ชาติ มีความสัมพันธ์อันตึงเครียด ด้วย ปากีสถาน บอกว่าการโจมตีของพวก TTP หลายต่อหลายครั้งที่เกิดขึ้นภายในประเทศของพวกเขา เป็นการลงมือมาจากแผ่นดินของอัฟกัน ข้อกล่าวหาที่พวกตอลิบานอัฟกันปฏิเสธ . ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ฝ่าย ยุ่งเหยิงยิ่งขึ้นในเดือนมีนาคม ครั้งที่ตอลิบานกล่าวหาปากีสถานทำการโจมตีทางอากาศ 2 ระลอกเล่นงานดินแดนของพวกเขา ปลิดชีพผู้หญิงและเด็ก 5 ราย . ปากีสถาน อ้างในตอนนั้น ว่าพวกเขาปฏิบัติการต่อต้านก่อการร้ายในอัฟกานิสถานบนพื้นฐานของข่าวกรอง แต่ไม่เจาะจงลักษณะของปฏิบัติการ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000123940 .............. Sondhi X
    Like
    Sad
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 993 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐมนตรีกลาโหมเทลอาวีฟ อิสราเอล คัตซ์ (Israel Katz) ออกแถลงการณ์ดุดันประกาศข่มขู่จะเด็ดหัวผู้นำกบฏฮูตี เหมือนที่ลงมือสังหารหัวหน้าฮามาส อิสมาอิล ฮานิเยห์ กลางกรุงเตหะรานเมื่อกรกฎาคมที่ผ่านมา
    .
    บีบีซีของอังกฤษรายงานวานนี้ (23 ธ.ค.) ว่า รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล อิสราเอล คัตซ์ (Israel Katz) ในวันจันทร์ (23) เป็นครั้งแรกที่เทลอาวีฟได้ยอมรับว่า เป็นคนลงมือลอบสังหารหัวหน้ากลุ่มฮามาส อิสมาอิล ฮานิเยห์ (Ismail Haniyeh) ช่วงระหว่างพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของผู้นำอิหร่านคนใหม่กลางกรุงเตหะรานเมื่อกรกฎาคมก่อนหน้า
    .
    “พวกเราจะโจมตีอย่างหนักต่อกบฏฮูตี..และจะเด็ดหัวผู้นำของพวกเขา..เหมือนกับที่พวกเราทำกับอิสมาอิล ฮานิเยห์ ยาห์ยา ซินวอร์ และฮัสซัน นาสรัลลาห์ ในกรุงเตหะราน เขตฉนวนกาซา และเลบานอน พวกเราจะทำเช่นนี้ในโฮเดดา (Hodeida ) และกรุงซานา” รายงานจากแถลงการณ์ของรัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล
    .
    ในคำแถลงเป็นการประกาศตั้งเป้าล่าหัวผู้นำกบฏเยเมนที่นำกำลังระดมยิงมิสไซล์และโดรนโจมตีใส่อิสราเอล
    .
    "ไม่กี่วันมานี้เมื่อองค์กรก่อการร้ายกบฏฮูตียิงมิสไซล์ใส่อิสราเอล ผมต้องการส่งสารที่ชัดเจนไปหาคนเหล่านั้นในช่วงแรกของคำกล่าวของผมคือ พวกเราโค่นฮามาส พวกเราเอาชนะฮิซบอลเลาะห์ พวกเราทำให้ระบบป้องกันประเทศอิหร่านมองไม่เห็นและทำลายระบบการผลิต พวกเราโค่นล้มรัฐบาลอัสซาดในซีเรีย พวกเราทำให้เกิดความหายนะแก่ขั้วแห่งปิศาจ และพวกเราจะจัดการองค์ก่อการร้ายฮูตีในเยเมน ที่ยังคงเป็นด่านสุดท้ายที่ยังหลงเหลือ" รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอลกล่าวในรายงานของรอยเตอร์
    .
    และเขายังประกาศต่อว่า อิสราเอลจะทำลายโครงสร้างพื้นฐานทางยุทธศาสตร์ของพวกเขา และพวกเราจะเด็ดหัวพวกแกนนำเหล่านั้น
    .
    บีบีซีรายงานว่า ในขณะที่นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู เปิดเผยถึงความก้าวหน้าที่จะนำไปสู่ข้อตกลงหยุดยิงกาซาร่วมกับฮามาส แต่ทว่าเขาไม่สามารถให้เงื่อนเวลาว่าเมื่อใดที่ข้อตกลงจะบรรลุได้
    .
    ความก้าวหน้านี้เกิดขึ้นหลังเจ้าหน้าที่ระดับสูงปาเลสไตน์ได้เปิดเผยกับบีบีซีว่า การเจรจาระหว่างฮามาสและอิสราเอลนั้นอยู่ในระดับที่เสร็จสิ้นไปแล้ว 90% แต่ยังเหลือประเด็นสำคัญต่างๆ อยู่
    .
    เนทันยาฮูกล่าวในงานเดียวกันกับที่รัฐมนตรีกลาโหมของเขายืนยันต่อสาธารณะว่า หัวหน้าฮามาสฮานิเยห์โดนขีปนาวุธยิงใส่หรือเป็นการลอบสังหารด้วยระเบิดที่เรือนพักของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม (IRGC) กลางกรุงเตหะรานนั้นเป็นผลงานของอิสราเอล
    .
    บีบีซีของอังกฤษรายงานว่า กลุ่มสิทธิมนุษยชนและกลุ่มบรรเทาทุกข์ได้ออกมาเตือนสถานการณ์เลวร้ายทางมนุษยธรรมในเขตฉนวนกาซา
    .
    ทั้งนี้ วันอาทิตย์ (23) กลุ่มออกซ์แฟม (Oxfam) แถลงว่ามีรถบรรเทาทุกข์จำนวนแค่ 12 คันที่ขนอาหารและน้ำเข้าในทางตอนเหนือของกาซาในช่วงเวลา 2 เดือนครึ่ง พร้อมกันยังกล่าวโทษกองทัพอิสราเอลตั้งใจขัดขวางอย่างมีระบบเพื่อให้การขนส่งเข้าสู่เขตฉนวนกาซาล่าช้า
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000123558
    ..............
    Sondhi X
    รัฐมนตรีกลาโหมเทลอาวีฟ อิสราเอล คัตซ์ (Israel Katz) ออกแถลงการณ์ดุดันประกาศข่มขู่จะเด็ดหัวผู้นำกบฏฮูตี เหมือนที่ลงมือสังหารหัวหน้าฮามาส อิสมาอิล ฮานิเยห์ กลางกรุงเตหะรานเมื่อกรกฎาคมที่ผ่านมา . บีบีซีของอังกฤษรายงานวานนี้ (23 ธ.ค.) ว่า รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล อิสราเอล คัตซ์ (Israel Katz) ในวันจันทร์ (23) เป็นครั้งแรกที่เทลอาวีฟได้ยอมรับว่า เป็นคนลงมือลอบสังหารหัวหน้ากลุ่มฮามาส อิสมาอิล ฮานิเยห์ (Ismail Haniyeh) ช่วงระหว่างพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของผู้นำอิหร่านคนใหม่กลางกรุงเตหะรานเมื่อกรกฎาคมก่อนหน้า . “พวกเราจะโจมตีอย่างหนักต่อกบฏฮูตี..และจะเด็ดหัวผู้นำของพวกเขา..เหมือนกับที่พวกเราทำกับอิสมาอิล ฮานิเยห์ ยาห์ยา ซินวอร์ และฮัสซัน นาสรัลลาห์ ในกรุงเตหะราน เขตฉนวนกาซา และเลบานอน พวกเราจะทำเช่นนี้ในโฮเดดา (Hodeida ) และกรุงซานา” รายงานจากแถลงการณ์ของรัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล . ในคำแถลงเป็นการประกาศตั้งเป้าล่าหัวผู้นำกบฏเยเมนที่นำกำลังระดมยิงมิสไซล์และโดรนโจมตีใส่อิสราเอล . "ไม่กี่วันมานี้เมื่อองค์กรก่อการร้ายกบฏฮูตียิงมิสไซล์ใส่อิสราเอล ผมต้องการส่งสารที่ชัดเจนไปหาคนเหล่านั้นในช่วงแรกของคำกล่าวของผมคือ พวกเราโค่นฮามาส พวกเราเอาชนะฮิซบอลเลาะห์ พวกเราทำให้ระบบป้องกันประเทศอิหร่านมองไม่เห็นและทำลายระบบการผลิต พวกเราโค่นล้มรัฐบาลอัสซาดในซีเรีย พวกเราทำให้เกิดความหายนะแก่ขั้วแห่งปิศาจ และพวกเราจะจัดการองค์ก่อการร้ายฮูตีในเยเมน ที่ยังคงเป็นด่านสุดท้ายที่ยังหลงเหลือ" รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอลกล่าวในรายงานของรอยเตอร์ . และเขายังประกาศต่อว่า อิสราเอลจะทำลายโครงสร้างพื้นฐานทางยุทธศาสตร์ของพวกเขา และพวกเราจะเด็ดหัวพวกแกนนำเหล่านั้น . บีบีซีรายงานว่า ในขณะที่นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู เปิดเผยถึงความก้าวหน้าที่จะนำไปสู่ข้อตกลงหยุดยิงกาซาร่วมกับฮามาส แต่ทว่าเขาไม่สามารถให้เงื่อนเวลาว่าเมื่อใดที่ข้อตกลงจะบรรลุได้ . ความก้าวหน้านี้เกิดขึ้นหลังเจ้าหน้าที่ระดับสูงปาเลสไตน์ได้เปิดเผยกับบีบีซีว่า การเจรจาระหว่างฮามาสและอิสราเอลนั้นอยู่ในระดับที่เสร็จสิ้นไปแล้ว 90% แต่ยังเหลือประเด็นสำคัญต่างๆ อยู่ . เนทันยาฮูกล่าวในงานเดียวกันกับที่รัฐมนตรีกลาโหมของเขายืนยันต่อสาธารณะว่า หัวหน้าฮามาสฮานิเยห์โดนขีปนาวุธยิงใส่หรือเป็นการลอบสังหารด้วยระเบิดที่เรือนพักของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม (IRGC) กลางกรุงเตหะรานนั้นเป็นผลงานของอิสราเอล . บีบีซีของอังกฤษรายงานว่า กลุ่มสิทธิมนุษยชนและกลุ่มบรรเทาทุกข์ได้ออกมาเตือนสถานการณ์เลวร้ายทางมนุษยธรรมในเขตฉนวนกาซา . ทั้งนี้ วันอาทิตย์ (23) กลุ่มออกซ์แฟม (Oxfam) แถลงว่ามีรถบรรเทาทุกข์จำนวนแค่ 12 คันที่ขนอาหารและน้ำเข้าในทางตอนเหนือของกาซาในช่วงเวลา 2 เดือนครึ่ง พร้อมกันยังกล่าวโทษกองทัพอิสราเอลตั้งใจขัดขวางอย่างมีระบบเพื่อให้การขนส่งเข้าสู่เขตฉนวนกาซาล่าช้า . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000123558 .............. Sondhi X
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 729 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัสเซียควบคุมตัวชายชาวอุซเบกรายหนึ่ง ซึ่งสารภาพว่าเป็นคนลอบวางและจุดชนวนระเบิดสังหารนายพลระดับสูง ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมกองกำลังป้องกันนิวเคลียร์ของรัสเซีย ในกรุงมอสโก เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ เจ้าตัวสารภาพทำตามคำส่งของหน่วยงานความมั่นคง SBU ของยูเครน
    .
    คิริลลอฟ ผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันนิวเคลียร์ ชีวภาพ และเคมีแห่งกองทัพสหพันธรัฐรัสเซีย ถูกสังหารบริเวณด้านนอกอาคารอพาร์ทเมนท์ของตนเองเมื่อวันอังคาร(17ธ.ค.) พร้อมกับผู้ช่วยรายหนึ่ง หลังจากคนร้ายจุดชนวนระเบิดที่ซุกซ่อนอยู่ในสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า
    .
    เขากลายเป็นเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงสุดของรัสเซีย ที่ถูกยูเครนลอบสังหารในรัสเซีย ทั้งนี้ SBU หน่วยงานความมั่นคงของยูเครน ออกมากล่าวอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุสังหารครั้งนี้ หลังจาก เคียฟ กล่าวหาว่า คิริลลอฟ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการใช้อาวุธเคมีกับทหารยูเครน คำกล่าวหาที่ทางมอสโกปฏิเสธ
    .
    คณะกรรมการสืบสวนของรัสเซีย ซึ่งมีหน้าที่สืบสวนอาชญากรรมร้ายแรงต่างๆ ระบุในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ในวันพุธ(18ธ.ค.) ว่าผู้ต้องสงสัยซึ่งไม่เปิดเผยชื่อรายนี้ ให้การว่าเขาเดินทางมายังกรุงมอสโก เพื่อทำงานตามที่ได้รับมอบหมายจากหน่วยข่าวกรองยูเครน
    .
    ในวิดีโอที่เผยแพร่โดยสำนักข่าวเบซา พบเห็นผู้ต้องสงสัยกำลังนั่งอยู่ในรถตู้คันหนึ่ง บอกเล่าเกี่ยวกับปฏิบัติการของตนเอง เขาบอกว่าเดินทางมายังกรุงมอสโก ตามคำสั่งของหน่วยข่าวกรองยูเครน จากนั้นก็ไปหาซื้อสกู๊ตเตอร์และรับระเบิดแสวงเครื่องมา
    .
    ต่อมาก็นำระเบิดแสวงเครื่องดังกล่าวซุกซ่อนในรถสกู๊ตเตอร์และนำมันไปจอดไว้บริเวณด้านนอกของอาคารที่ คิริลลอฟ อาศัยอยู่ ทีมสืบสวนอ้างคำให้การของเขา ระบุว่าชายรายนี้ติดตั้งกล้องวงจรปิดในรถยนต์คันหนึ่งที่เช่ามา เพื่อให้คนที่บงการปฏิบัติการลอบสังหาร ได้เฝ้าดูจากเมืองดริโปรของยูเครน
    .
    ผู้ต้องสงสัยรายนี้ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเกิดในช่วงปี 1995 ยังบอกด้วยว่าเขาจุดชนวนวัตถุระเบิดจากระยะไกล ตอนที่ คิริลลอฟ ออกมาจากอาคาร พร้อมสารภาพว่ายูเครนว่าจ้างเขาด้วยเงิน 100,000 ดอลลาร์(ราว 3.4 ล้านบาท) และมีถิ่นที่อยู่ในประเทศยุโรปชาติหนึ่ง
    .
    ทีมสืบสวนเผยว่าพวกเขากำลังระบุตัวตนคนอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ในขณะที่สื่อมวลชนท้องถิ่นรายงานว่ามีผู้ต้องสงสัยอีกคนถูกควบคุมตัวเช่นกัน แต่รอยเตอร์ไม่ยืนยันรายงานข่าวนี้
    .
    มาเรีย ชาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย บอกว่ามอสโกจะหยิบยกเหตุลอบสังหารครั้งนี้ เข้าหารือ ณ ที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ในวันศุกร์(20ธ.ค.) พร้อมระบุ "รัสเซียจะตามล่าตัวทุกคนที่เกี่ยวข้องกับการลอบสังหารจนพบและทำการลงโทษ มอสโกจะไม่ยอมถูกข่มขู่ใดๆ"
    .
    "เรามองว่ารัฐบาลเคียฟคือผู้อยู่เบื้องหลังอีกครั้ง สำหรับการโจมตีก่อการร้ายครั้งใหม่ พวกขี้แพ้ SBU และรัฐบาลบ้าบอของเคียฟ เป็นเครื่องไม้เครื่องมือที่อยู่ภายใต้การควบคุมของพวกแองโกล-แซกซอน" ถ้อยคำที่รัสเซียใช้เรียกสหรัฐฯและสหราชอาณาจักร "พวกเขาคือผู้รับผลประโยชน์หนักในการก่อการร้ายของเคียฟ"
    .
    กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯเมื่อวันอังคาร(17ธ.ค.) ยืนยันว่าวอชิงตันไม่เกี่ยวข้องใดๆหรือรู้ล่วงหน้าในเหตุบอลสังหาร ในขณะที่โฆษกนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ระบุว่า "คิริลลอฟ แผ่ขยายการรุกรานผิดกฎหมายและทำให้ประชาชนชาวยูเครนบาดเจ็บล้มตายและทุกข์ทรมาน"
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000121642
    ..............
    Sondhi X
    รัสเซียควบคุมตัวชายชาวอุซเบกรายหนึ่ง ซึ่งสารภาพว่าเป็นคนลอบวางและจุดชนวนระเบิดสังหารนายพลระดับสูง ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมกองกำลังป้องกันนิวเคลียร์ของรัสเซีย ในกรุงมอสโก เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ เจ้าตัวสารภาพทำตามคำส่งของหน่วยงานความมั่นคง SBU ของยูเครน . คิริลลอฟ ผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันนิวเคลียร์ ชีวภาพ และเคมีแห่งกองทัพสหพันธรัฐรัสเซีย ถูกสังหารบริเวณด้านนอกอาคารอพาร์ทเมนท์ของตนเองเมื่อวันอังคาร(17ธ.ค.) พร้อมกับผู้ช่วยรายหนึ่ง หลังจากคนร้ายจุดชนวนระเบิดที่ซุกซ่อนอยู่ในสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า . เขากลายเป็นเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงสุดของรัสเซีย ที่ถูกยูเครนลอบสังหารในรัสเซีย ทั้งนี้ SBU หน่วยงานความมั่นคงของยูเครน ออกมากล่าวอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุสังหารครั้งนี้ หลังจาก เคียฟ กล่าวหาว่า คิริลลอฟ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการใช้อาวุธเคมีกับทหารยูเครน คำกล่าวหาที่ทางมอสโกปฏิเสธ . คณะกรรมการสืบสวนของรัสเซีย ซึ่งมีหน้าที่สืบสวนอาชญากรรมร้ายแรงต่างๆ ระบุในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ในวันพุธ(18ธ.ค.) ว่าผู้ต้องสงสัยซึ่งไม่เปิดเผยชื่อรายนี้ ให้การว่าเขาเดินทางมายังกรุงมอสโก เพื่อทำงานตามที่ได้รับมอบหมายจากหน่วยข่าวกรองยูเครน . ในวิดีโอที่เผยแพร่โดยสำนักข่าวเบซา พบเห็นผู้ต้องสงสัยกำลังนั่งอยู่ในรถตู้คันหนึ่ง บอกเล่าเกี่ยวกับปฏิบัติการของตนเอง เขาบอกว่าเดินทางมายังกรุงมอสโก ตามคำสั่งของหน่วยข่าวกรองยูเครน จากนั้นก็ไปหาซื้อสกู๊ตเตอร์และรับระเบิดแสวงเครื่องมา . ต่อมาก็นำระเบิดแสวงเครื่องดังกล่าวซุกซ่อนในรถสกู๊ตเตอร์และนำมันไปจอดไว้บริเวณด้านนอกของอาคารที่ คิริลลอฟ อาศัยอยู่ ทีมสืบสวนอ้างคำให้การของเขา ระบุว่าชายรายนี้ติดตั้งกล้องวงจรปิดในรถยนต์คันหนึ่งที่เช่ามา เพื่อให้คนที่บงการปฏิบัติการลอบสังหาร ได้เฝ้าดูจากเมืองดริโปรของยูเครน . ผู้ต้องสงสัยรายนี้ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเกิดในช่วงปี 1995 ยังบอกด้วยว่าเขาจุดชนวนวัตถุระเบิดจากระยะไกล ตอนที่ คิริลลอฟ ออกมาจากอาคาร พร้อมสารภาพว่ายูเครนว่าจ้างเขาด้วยเงิน 100,000 ดอลลาร์(ราว 3.4 ล้านบาท) และมีถิ่นที่อยู่ในประเทศยุโรปชาติหนึ่ง . ทีมสืบสวนเผยว่าพวกเขากำลังระบุตัวตนคนอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ในขณะที่สื่อมวลชนท้องถิ่นรายงานว่ามีผู้ต้องสงสัยอีกคนถูกควบคุมตัวเช่นกัน แต่รอยเตอร์ไม่ยืนยันรายงานข่าวนี้ . มาเรีย ชาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย บอกว่ามอสโกจะหยิบยกเหตุลอบสังหารครั้งนี้ เข้าหารือ ณ ที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ในวันศุกร์(20ธ.ค.) พร้อมระบุ "รัสเซียจะตามล่าตัวทุกคนที่เกี่ยวข้องกับการลอบสังหารจนพบและทำการลงโทษ มอสโกจะไม่ยอมถูกข่มขู่ใดๆ" . "เรามองว่ารัฐบาลเคียฟคือผู้อยู่เบื้องหลังอีกครั้ง สำหรับการโจมตีก่อการร้ายครั้งใหม่ พวกขี้แพ้ SBU และรัฐบาลบ้าบอของเคียฟ เป็นเครื่องไม้เครื่องมือที่อยู่ภายใต้การควบคุมของพวกแองโกล-แซกซอน" ถ้อยคำที่รัสเซียใช้เรียกสหรัฐฯและสหราชอาณาจักร "พวกเขาคือผู้รับผลประโยชน์หนักในการก่อการร้ายของเคียฟ" . กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯเมื่อวันอังคาร(17ธ.ค.) ยืนยันว่าวอชิงตันไม่เกี่ยวข้องใดๆหรือรู้ล่วงหน้าในเหตุบอลสังหาร ในขณะที่โฆษกนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ระบุว่า "คิริลลอฟ แผ่ขยายการรุกรานผิดกฎหมายและทำให้ประชาชนชาวยูเครนบาดเจ็บล้มตายและทุกข์ทรมาน" . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000121642 .............. Sondhi X
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 660 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายพลระดับท็อปของรัสเซีย ที่ถูกยูเครนกล่าวหาอยู่เบื้องหลังการใช้อาวุธเคมีกับทหารยูเครน ถูกลอบสังหารอุกอาจด้วยระเบิดในกรุงมอสโกเมื่อเช้าวันอังคาร (17 ธ.ค.) โดยที่หน่วยข่าวกรอง เอสยูบี ของยูเครนกระพือข่าวว่าเป็นฝีมือของตน ซึ่งหากเป็นจริงก็ถือว่าเป็นการก่อเหตุเข่นฆ่าลักษณะนี้ครั้งอึกทึกครึกโครมที่สุดทีเดียว
    .
    พลโทอิกอร์ คิริลลอฟ ผู้บัญชาการกองทหารหน่วยอาวุธรังสีนิวเคลียร์ เคมี และชีวภาพของรัสเซีย พร้อมผู้ช่วยคนหนึ่งของเขา เสียชีวิตจากระเบิดซึ่งซุกซ่อนอยู่ในรถสกูตเตอร์ไฟฟ้าที่จอดอยู่ใกล้ทางเข้าอพาร์ตเมนต์บนถนนรยาแซนสกี ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงมอสโกเมื่อเช้าวันอังคาร ทั้งนี้ตามการแถลงคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนของรัสเซีย ซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบการสืบสวนคดีอุกฉกรรจ์ โดยระบุว่าได้เปิดการสอบสวนเหตุการณ์นี้แล้ว คาดกันว่าคดีนี้จะถูกจัดให้เป็นคดีก่อการร้าย
    .
    เวลาเดียวกัน สื่อมวลชนหลายแห่ง รวมทั้งสำนักข่าวรอยเตอร์ และสำนักข่าวเอเอฟพี ต่างอ้างอิงแหล่งข่าวรายหนึ่งในหน่วยข่าวกรองเอสบียูของยูเครน ได้ยืนยันว่า เอสบียูอยู่เบื้องหลังการโจมตีครั้งนี้ โดยถือเป็นการปฏิบัติการพิเศษเพื่อสังหารอาชญากรสงคราม เนื่องจากคิริลลอฟเป็นผู้ออกคำสั่งให้ใช้อาวุธเคมีกับทหารยูเครน โดยที่เมื่อวันจันทร์ (16) เช่นกัน เอสบียูเพิ่งกล่าวหารัสเซียใช้กระสุนที่เป็นอาวุธเคมีโจมตีใส่ทหารยูเครนมากกว่า 4,800 กรณี นับตั้งแต่เริ่มต้นรุกรานยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2022
    .
    ก่อนหน้านี้ ชาติตะวันตกที่เป็นพันธมิตรของเคียฟ อย่างสหราชอาณาจักรและอเมริกา ก็ได้กล่าวหาว่ารัสเซียใช้สารพิษคลอโรพิกรินกับทหารยูเครน ซึ่งเป็นการละเมิดอนุสัญญาห้ามใช้อาวุธเคมี และเมื่อเดือนตุลาคมสหราชอาณาจักรยังได้ประกาศแซงก์ชันคว่ำบาตร คิริลลอฟและหน่วยงานใต้บังคับบัญชาของเขา ในข้อหาช่วยเหลือให้มีการใช้อาวุธร้ายแรงเหล่านั้น
    .
    สำหรับกองทหารหน่วยอาวุธรังสีนิวเคลียร์ เคมี และชีวภาพของรัสเซีย ที่คิริลลอฟ เป็นผู้บังคับบัญชา และเป็นที่รู้จักกันด้วยชื่อย่อว่า RKhBZ นั้น ทางรัสเซียระบุว่าเป็นกองกำลังพิเศษซึ่งปฏิบัติการภายใต้สภาพที่เกิดการปนเปื้อนทางรังสีนิวเคลียร์ เคมี และชีวภาพ และภารกิจของทหารหน่วยนี้คือการพิทักษ์ปกป้องพวกกองกำลังภาคพื้นดินที่กำลังปฏิบัติการในสภาพเงื่อนไขแบบสุดขั้ว
    .
    ถ้าหากการกล่าวอ้างของเคียฟได้รับการยืนยัน คิริลลอฟ วัย 54 ปี ก็จะถือเป็นนายทหารอาวุโสที่สุดที่ถูกยูเครนลอบสังหารในรัสเซีย และมีแนวโน้มว่า เหตุการณ์นี้จะกระตุ้นให้รัสเซียทบทวนมาตรการรักษาความปลอดภัยนายทหารระดับสูงของกองทัพ รวมทั้งหาวิธีแก้แค้น
    .
    สำนักข่าวอาร์ไอเอของทางการรัสเซียรายงานว่า ดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีที่ปัจจุบันเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านความมั่นคงของรัสเซีย ประกาศว่า จะชำระแค้นเอากับผู้นำกองทัพและรัฐบาลยูเครนเร็วๆ นี้
    .
    รัสเซียยังปฏิเสธข้อกล่าวหาของยูเครนเรื่องการใช้อาวุธเคมีในสนามรบในยูเครน โดยบางครั้งคิริลลอฟเองได้บรรยายสรุปทางสถานีทีวีของรัฐบาล กล่าวหาตอบโต้กลับว่า ยูเครนและฝ่ายตะวันตกมีเครือข่ายห้องปฏิบัติการชีววิทยาลับ ที่พัฒนาอาวุธเคมีต้องห้ามทั่วยูเครน
    .
    ด้าน มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย แถลงยกย่องคิริลลอฟว่า อุทิศตนให้ประเทศชาติอย่างกล้าหาญในการเปิดโปงอาชญากรรมสงครามที่เกี่ยวข้องกับอาวุธเคมีและโครงการลับของฝ่ายตะวันตกทั้งในซีเรียและประเทศอื่นๆ
    .
    ก่อนหน้าคิริลลอฟเสียชีวิต 1 วัน อัยการรัฐบาลยูเครนได้ตั้งข้อหานายทหารรัสเซียผู้นี้ใช้อาวุธเคมีที่ถูกนานาชาติห้ามใช้ นอกจากนั้นคิริลลอฟยังมีชื่ออยู่ในฐานข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการของบุคคลที่ถือเป็นศัตรูของยูเครน
    .
    การลอบสังหารคิริลลอฟยังเกิดขึ้นหลังจากเมื่อวันจันทร์ (16) ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน อวดอ้างว่า ปีนี้เป็นปีสำคัญของปฏิบัติการพิเศษทางทหารของรัสเซียในยูเครน โดยที่กองทหารรัสเซียอยู่ในสถานะได้เปรียบในทุกสมรภูมิ
    .
    ตั้งแต่ก่อนหน้านี้ มอสโกเชื่อว่า เคียฟอยู่เบื้องหลังการลอบสังหารบุคคลสำคัญของรัสเซียมาแล้วหลายคนเพื่อทำลายขวัญและกำลังใจของแดนหมีขาว รวมทั้งเพื่อลงโทษผู้ที่เคียฟระบุว่า มีบทบาทในอาชญากรรมสงคราม โดยยูเครนประกาศชัดเจนว่า การสังหารคนเหล่านั้นเป็นการกระทำอันชอบธรรม
    .
    บุคคลที่เป็นที่รู้จักซึ่งถูกลอบสังหารนับจากที่รัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนเมื่อต้นปี 2022 มีอาทิ ดาร์ยา ดูกินา นักเขียนแนวชาตินิยมและเป็นบุตรสาวของนักปรัชญาการเมืองชื่อดัง อเล็กซานเดอร์ ดูกิน โดยเธอถูกโจมตีด้วยคาร์บอมบ์นอกมอสโก, วลาเดน ตาตาร์สกี บล็อกเกอร์ที่สนับสนุนสงครามยูเครนซึ่งเสียชีวิตจากการลอบวางระเบิดคาเฟ่ในปี 2023 และการลอบยิงผู้บังคับการเรือดำน้ำรัสเซียที่ถูกเคียฟกล่าวหาก่ออาชญากรรมสงครามเมื่อปีที่แล้ว
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000121236
    ..............
    Sondhi X
    นายพลระดับท็อปของรัสเซีย ที่ถูกยูเครนกล่าวหาอยู่เบื้องหลังการใช้อาวุธเคมีกับทหารยูเครน ถูกลอบสังหารอุกอาจด้วยระเบิดในกรุงมอสโกเมื่อเช้าวันอังคาร (17 ธ.ค.) โดยที่หน่วยข่าวกรอง เอสยูบี ของยูเครนกระพือข่าวว่าเป็นฝีมือของตน ซึ่งหากเป็นจริงก็ถือว่าเป็นการก่อเหตุเข่นฆ่าลักษณะนี้ครั้งอึกทึกครึกโครมที่สุดทีเดียว . พลโทอิกอร์ คิริลลอฟ ผู้บัญชาการกองทหารหน่วยอาวุธรังสีนิวเคลียร์ เคมี และชีวภาพของรัสเซีย พร้อมผู้ช่วยคนหนึ่งของเขา เสียชีวิตจากระเบิดซึ่งซุกซ่อนอยู่ในรถสกูตเตอร์ไฟฟ้าที่จอดอยู่ใกล้ทางเข้าอพาร์ตเมนต์บนถนนรยาแซนสกี ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงมอสโกเมื่อเช้าวันอังคาร ทั้งนี้ตามการแถลงคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนของรัสเซีย ซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบการสืบสวนคดีอุกฉกรรจ์ โดยระบุว่าได้เปิดการสอบสวนเหตุการณ์นี้แล้ว คาดกันว่าคดีนี้จะถูกจัดให้เป็นคดีก่อการร้าย . เวลาเดียวกัน สื่อมวลชนหลายแห่ง รวมทั้งสำนักข่าวรอยเตอร์ และสำนักข่าวเอเอฟพี ต่างอ้างอิงแหล่งข่าวรายหนึ่งในหน่วยข่าวกรองเอสบียูของยูเครน ได้ยืนยันว่า เอสบียูอยู่เบื้องหลังการโจมตีครั้งนี้ โดยถือเป็นการปฏิบัติการพิเศษเพื่อสังหารอาชญากรสงคราม เนื่องจากคิริลลอฟเป็นผู้ออกคำสั่งให้ใช้อาวุธเคมีกับทหารยูเครน โดยที่เมื่อวันจันทร์ (16) เช่นกัน เอสบียูเพิ่งกล่าวหารัสเซียใช้กระสุนที่เป็นอาวุธเคมีโจมตีใส่ทหารยูเครนมากกว่า 4,800 กรณี นับตั้งแต่เริ่มต้นรุกรานยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 . ก่อนหน้านี้ ชาติตะวันตกที่เป็นพันธมิตรของเคียฟ อย่างสหราชอาณาจักรและอเมริกา ก็ได้กล่าวหาว่ารัสเซียใช้สารพิษคลอโรพิกรินกับทหารยูเครน ซึ่งเป็นการละเมิดอนุสัญญาห้ามใช้อาวุธเคมี และเมื่อเดือนตุลาคมสหราชอาณาจักรยังได้ประกาศแซงก์ชันคว่ำบาตร คิริลลอฟและหน่วยงานใต้บังคับบัญชาของเขา ในข้อหาช่วยเหลือให้มีการใช้อาวุธร้ายแรงเหล่านั้น . สำหรับกองทหารหน่วยอาวุธรังสีนิวเคลียร์ เคมี และชีวภาพของรัสเซีย ที่คิริลลอฟ เป็นผู้บังคับบัญชา และเป็นที่รู้จักกันด้วยชื่อย่อว่า RKhBZ นั้น ทางรัสเซียระบุว่าเป็นกองกำลังพิเศษซึ่งปฏิบัติการภายใต้สภาพที่เกิดการปนเปื้อนทางรังสีนิวเคลียร์ เคมี และชีวภาพ และภารกิจของทหารหน่วยนี้คือการพิทักษ์ปกป้องพวกกองกำลังภาคพื้นดินที่กำลังปฏิบัติการในสภาพเงื่อนไขแบบสุดขั้ว . ถ้าหากการกล่าวอ้างของเคียฟได้รับการยืนยัน คิริลลอฟ วัย 54 ปี ก็จะถือเป็นนายทหารอาวุโสที่สุดที่ถูกยูเครนลอบสังหารในรัสเซีย และมีแนวโน้มว่า เหตุการณ์นี้จะกระตุ้นให้รัสเซียทบทวนมาตรการรักษาความปลอดภัยนายทหารระดับสูงของกองทัพ รวมทั้งหาวิธีแก้แค้น . สำนักข่าวอาร์ไอเอของทางการรัสเซียรายงานว่า ดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีที่ปัจจุบันเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านความมั่นคงของรัสเซีย ประกาศว่า จะชำระแค้นเอากับผู้นำกองทัพและรัฐบาลยูเครนเร็วๆ นี้ . รัสเซียยังปฏิเสธข้อกล่าวหาของยูเครนเรื่องการใช้อาวุธเคมีในสนามรบในยูเครน โดยบางครั้งคิริลลอฟเองได้บรรยายสรุปทางสถานีทีวีของรัฐบาล กล่าวหาตอบโต้กลับว่า ยูเครนและฝ่ายตะวันตกมีเครือข่ายห้องปฏิบัติการชีววิทยาลับ ที่พัฒนาอาวุธเคมีต้องห้ามทั่วยูเครน . ด้าน มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย แถลงยกย่องคิริลลอฟว่า อุทิศตนให้ประเทศชาติอย่างกล้าหาญในการเปิดโปงอาชญากรรมสงครามที่เกี่ยวข้องกับอาวุธเคมีและโครงการลับของฝ่ายตะวันตกทั้งในซีเรียและประเทศอื่นๆ . ก่อนหน้าคิริลลอฟเสียชีวิต 1 วัน อัยการรัฐบาลยูเครนได้ตั้งข้อหานายทหารรัสเซียผู้นี้ใช้อาวุธเคมีที่ถูกนานาชาติห้ามใช้ นอกจากนั้นคิริลลอฟยังมีชื่ออยู่ในฐานข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการของบุคคลที่ถือเป็นศัตรูของยูเครน . การลอบสังหารคิริลลอฟยังเกิดขึ้นหลังจากเมื่อวันจันทร์ (16) ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน อวดอ้างว่า ปีนี้เป็นปีสำคัญของปฏิบัติการพิเศษทางทหารของรัสเซียในยูเครน โดยที่กองทหารรัสเซียอยู่ในสถานะได้เปรียบในทุกสมรภูมิ . ตั้งแต่ก่อนหน้านี้ มอสโกเชื่อว่า เคียฟอยู่เบื้องหลังการลอบสังหารบุคคลสำคัญของรัสเซียมาแล้วหลายคนเพื่อทำลายขวัญและกำลังใจของแดนหมีขาว รวมทั้งเพื่อลงโทษผู้ที่เคียฟระบุว่า มีบทบาทในอาชญากรรมสงคราม โดยยูเครนประกาศชัดเจนว่า การสังหารคนเหล่านั้นเป็นการกระทำอันชอบธรรม . บุคคลที่เป็นที่รู้จักซึ่งถูกลอบสังหารนับจากที่รัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนเมื่อต้นปี 2022 มีอาทิ ดาร์ยา ดูกินา นักเขียนแนวชาตินิยมและเป็นบุตรสาวของนักปรัชญาการเมืองชื่อดัง อเล็กซานเดอร์ ดูกิน โดยเธอถูกโจมตีด้วยคาร์บอมบ์นอกมอสโก, วลาเดน ตาตาร์สกี บล็อกเกอร์ที่สนับสนุนสงครามยูเครนซึ่งเสียชีวิตจากการลอบวางระเบิดคาเฟ่ในปี 2023 และการลอบยิงผู้บังคับการเรือดำน้ำรัสเซียที่ถูกเคียฟกล่าวหาก่ออาชญากรรมสงครามเมื่อปีที่แล้ว . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000121236 .............. Sondhi X
    Like
    Angry
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 700 มุมมอง 0 รีวิว
  • พลโท อิกอร์ คิริลอฟ ซึ่งเป็นหัวหน้ากองกำลังป้องกันนิวเคลียร์ ชีวภาพ และเคมีของรัสเซีย ถูกสังหารนอกอาคารอพาร์ตเมนต์บนถนน ถนนไรซานสกี้ พร้อมด้วยผู้ช่วยของเขา ซึ่งเป็นคณะกรรมการสอบสวนของรัสเซียที่ทำการสืบสวนคดีอาชญากรรมร้ายแรง ภาพที่โพสต์บนช่องเทเลแกรมของรัสเซีย แสดงให้เห็นทางเข้าอาคารที่ได้รับความเสียหายและเต็มไปด้วยเศษหิน และมีศพ 2 ศพนอนจมอยู่ใต้หิมะที่เปื้อนเลือด ส่วนภาพจากสำนักข่าวรอยเตอร์ที่ถ่ายในที่เกิดเหตุ เผยให้เห็นแนวป้องกันของตำรวจ เจ้าหน้าที่สอบสวนกล่าวว่าพวกเขาได้เปิดการสอบสวนทางอาญาเกี่ยวกับการสังหารทหาร 2 นาย แหล่งข่าวจากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายแจ้งต่อสื่อรัสเซียว่า คดีนี้มีแนวโน้มที่จะถูกยกระดับเป็นคดีก่อการร้ายรัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหาของยูเครนว่าใช้อาวุธเคมีในสนามรบ และนายคิริลอฟ เคยปรากฏตัวทางสถานีโทรทัศน์ของรัฐ โดยกล่าวหาว่ายูเครนละเมิดมาตรการความปลอดภัยนิวเคลียร์เมื่อเดือนตุลาคม อังกฤษได้คว่ำบาตรนายคิริลอฟและกองกำลังป้องกันนิวเคลียร์ จากการใช้สารเคมีควบคุมการจลาจล และจากรายงานหลายฉบับที่ระบุว่ามีการใช้คลอโรพิคริน ซึ่งเป็นสารพิษที่ทำให้หายใจไม่ออกในสนามรบ
    พลโท อิกอร์ คิริลอฟ ซึ่งเป็นหัวหน้ากองกำลังป้องกันนิวเคลียร์ ชีวภาพ และเคมีของรัสเซีย ถูกสังหารนอกอาคารอพาร์ตเมนต์บนถนน ถนนไรซานสกี้ พร้อมด้วยผู้ช่วยของเขา ซึ่งเป็นคณะกรรมการสอบสวนของรัสเซียที่ทำการสืบสวนคดีอาชญากรรมร้ายแรง ภาพที่โพสต์บนช่องเทเลแกรมของรัสเซีย แสดงให้เห็นทางเข้าอาคารที่ได้รับความเสียหายและเต็มไปด้วยเศษหิน และมีศพ 2 ศพนอนจมอยู่ใต้หิมะที่เปื้อนเลือด ส่วนภาพจากสำนักข่าวรอยเตอร์ที่ถ่ายในที่เกิดเหตุ เผยให้เห็นแนวป้องกันของตำรวจ เจ้าหน้าที่สอบสวนกล่าวว่าพวกเขาได้เปิดการสอบสวนทางอาญาเกี่ยวกับการสังหารทหาร 2 นาย แหล่งข่าวจากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายแจ้งต่อสื่อรัสเซียว่า คดีนี้มีแนวโน้มที่จะถูกยกระดับเป็นคดีก่อการร้ายรัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหาของยูเครนว่าใช้อาวุธเคมีในสนามรบ และนายคิริลอฟ เคยปรากฏตัวทางสถานีโทรทัศน์ของรัฐ โดยกล่าวหาว่ายูเครนละเมิดมาตรการความปลอดภัยนิวเคลียร์เมื่อเดือนตุลาคม อังกฤษได้คว่ำบาตรนายคิริลอฟและกองกำลังป้องกันนิวเคลียร์ จากการใช้สารเคมีควบคุมการจลาจล และจากรายงานหลายฉบับที่ระบุว่ามีการใช้คลอโรพิคริน ซึ่งเป็นสารพิษที่ทำให้หายใจไม่ออกในสนามรบ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 188 มุมมอง 0 รีวิว
  • อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ระบุการโค่นล้มประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรีย เป็นผลลัพธ์ของแผนการหนึ่งของสหรัฐฯ และอิสราเอล
    .
    นอกจากนี้ คอเมเนอี ยังบอกด้วยว่ามีเพื่อนบ้านซีเรียอีกชาติหนึ่งที่มีบทบาทในเรื่องนี้เช่นกัน แต่เขาไม่เอ่ยชื่อประเทศดังกล่าว อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวรอยเตอร์เชื่อว่าน่าจะเป็นตุรกี ที่ให้การสนับสนุนพวกกบฏต่อต้านอัสซาด
    .
    การที่อัสซาดถูกโค่นจากอำนาจ ถูกมองอย่างกว้างขวางว่าเป็นความเสียหายครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นกับ "กลุ่มอักษะแห่งการต่อต้าน (Axis of Resistance) พันธมิตรทางการเมืองและการทหารที่ต่อต้านอิทธิพลของอิสราเอลและสหรัฐฯ ในตะวันออกกลาง
    .
    "สิ่งที่เกิดขึ้นในซีเรีย ส่วนใหญ่แล้วเป็นการวางแผนในห้องบัญชาการในอเมริกาและอิสราเอล เรามีหลักฐานในเรื่องนี้ รัฐบาลเพื่อนบ้านชาติหนึ่งของซีเรียก็เกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน" คอเมเนอีกล่าว ในถ้อยแถลงที่สื่อมวลชนแห่งรัฐอิหร่านรายงาน "เพื่อนบ้านแห่งนี้มีบทบาทอย่างชัดเจน และยังคงทำเช่นนั้น"
    .
    ตุรกี ชาติสมาชิกนาโต ควบคุมดินแดนอันกว้างขวางทางเหนือของซีเรีย หลังรุกรานข้ามชายแดนหลายครั้งเข้าไปจัดการกับพวก YPG กลุ่มติดอาวุธซีเรีย-เคิร์ด ขณะเดียวกัน ตุรกี ก็เป็นผู้สนับสนุนรายสำคัญของกลุ่มต่อต้านต่างๆ ที่มีเป้าหมายโค่นล้มอัสซาด นับตั้งแต่สงครามกลางเมืองปะทุขึ้นในปี 2011
    .
    อิหร่าน ใช้เงินไปหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐในการพยุงอัสซาด ระหว่างสงครามและส่งกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม เข้าไปยังซีเรีย เพื่อรักษาอำนาจให้พันธมิตรรายนี้
    .
    ไม่กี่ชั่วโมงหลังการล่มสลายของอัสซาด ทางอิหร่านระบุว่าพวกเขาคาดหมายว่าความสัมพันธ์กับดามัสกัสจะเดินหน้าต่อไปบนพื้นฐานของแนวทางที่ชาญฉลาดและมองการไกลของทั้ง 2 ประเทศ และเรียกร้องให้จัดตั้งรัฐบาลที่ครอบคลุม ซึ่งเป็นตัวแทนของทุกภาคส่วนในสังคมซีเรีย
    .
    ในถ้อยแถลง คอเมเนอี บอกว่าพันธมิตรที่นำโดยอิหร่าน จะเดินหน้าเสริมความเข้มแข็งทั่วทั้งภูมิภาค "ยิ่งคุณออกแรงกดดันมากเท่าไหร่ การต่อต้านที่เข้มแข็งขึ้นก็จะตามมา ยิ่งคุณก่ออาชญากรรมมากเท่าไหร่ ความแน่วแน่ยิ่งขึ้นก็จะตามมา ยิ่งคุณสู้รบมากเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งขยายวง" ผู้นำสูงสุดของอิหร่านกล่าว "อิหร่านจะแข็งแกร่งและทรงพลัง และจะเข้มแข็งยิ่งกว่าเดิม"
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000119174
    ..............
    Sondhi X
    อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ระบุการโค่นล้มประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรีย เป็นผลลัพธ์ของแผนการหนึ่งของสหรัฐฯ และอิสราเอล . นอกจากนี้ คอเมเนอี ยังบอกด้วยว่ามีเพื่อนบ้านซีเรียอีกชาติหนึ่งที่มีบทบาทในเรื่องนี้เช่นกัน แต่เขาไม่เอ่ยชื่อประเทศดังกล่าว อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวรอยเตอร์เชื่อว่าน่าจะเป็นตุรกี ที่ให้การสนับสนุนพวกกบฏต่อต้านอัสซาด . การที่อัสซาดถูกโค่นจากอำนาจ ถูกมองอย่างกว้างขวางว่าเป็นความเสียหายครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นกับ "กลุ่มอักษะแห่งการต่อต้าน (Axis of Resistance) พันธมิตรทางการเมืองและการทหารที่ต่อต้านอิทธิพลของอิสราเอลและสหรัฐฯ ในตะวันออกกลาง . "สิ่งที่เกิดขึ้นในซีเรีย ส่วนใหญ่แล้วเป็นการวางแผนในห้องบัญชาการในอเมริกาและอิสราเอล เรามีหลักฐานในเรื่องนี้ รัฐบาลเพื่อนบ้านชาติหนึ่งของซีเรียก็เกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน" คอเมเนอีกล่าว ในถ้อยแถลงที่สื่อมวลชนแห่งรัฐอิหร่านรายงาน "เพื่อนบ้านแห่งนี้มีบทบาทอย่างชัดเจน และยังคงทำเช่นนั้น" . ตุรกี ชาติสมาชิกนาโต ควบคุมดินแดนอันกว้างขวางทางเหนือของซีเรีย หลังรุกรานข้ามชายแดนหลายครั้งเข้าไปจัดการกับพวก YPG กลุ่มติดอาวุธซีเรีย-เคิร์ด ขณะเดียวกัน ตุรกี ก็เป็นผู้สนับสนุนรายสำคัญของกลุ่มต่อต้านต่างๆ ที่มีเป้าหมายโค่นล้มอัสซาด นับตั้งแต่สงครามกลางเมืองปะทุขึ้นในปี 2011 . อิหร่าน ใช้เงินไปหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐในการพยุงอัสซาด ระหว่างสงครามและส่งกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม เข้าไปยังซีเรีย เพื่อรักษาอำนาจให้พันธมิตรรายนี้ . ไม่กี่ชั่วโมงหลังการล่มสลายของอัสซาด ทางอิหร่านระบุว่าพวกเขาคาดหมายว่าความสัมพันธ์กับดามัสกัสจะเดินหน้าต่อไปบนพื้นฐานของแนวทางที่ชาญฉลาดและมองการไกลของทั้ง 2 ประเทศ และเรียกร้องให้จัดตั้งรัฐบาลที่ครอบคลุม ซึ่งเป็นตัวแทนของทุกภาคส่วนในสังคมซีเรีย . ในถ้อยแถลง คอเมเนอี บอกว่าพันธมิตรที่นำโดยอิหร่าน จะเดินหน้าเสริมความเข้มแข็งทั่วทั้งภูมิภาค "ยิ่งคุณออกแรงกดดันมากเท่าไหร่ การต่อต้านที่เข้มแข็งขึ้นก็จะตามมา ยิ่งคุณก่ออาชญากรรมมากเท่าไหร่ ความแน่วแน่ยิ่งขึ้นก็จะตามมา ยิ่งคุณสู้รบมากเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งขยายวง" ผู้นำสูงสุดของอิหร่านกล่าว "อิหร่านจะแข็งแกร่งและทรงพลัง และจะเข้มแข็งยิ่งกว่าเดิม" . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000119174 .............. Sondhi X
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 708 มุมมอง 0 รีวิว
  • เกาหลีใต้ตกอยู่ในภาวะ "ยุ่งเหยิง" หลังจากประธานาธิบดียุน ซ็อกยอล ประกาศกฎอัยการศึกช่วงสั้นๆ สื่อมวลชนแห่งรัฐเกาหลีเหนือรายงานเมื่อวันพุธ(11ธ.ค.) ถือเป็นครั้งแรกที่พวกเขาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองในชาติคู่อริ พร้อมชี้ว่าการกระทำดังกล่าวไม่ต่างจากพวกเผด็จการฟาสซิสต์ ขณะที่รอยเตอร์ระบุคำสั่งส่งโดรนไปยังกรุงเปียงยางเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เป็นความพยายามยั่วยุความขัดแย้ง โดยมีเป้าหมายประกาศอัยการศึกนั่นเอง
    .
    ประธานาธิบดียุน ประกาศกฎอัยการศึกเมื่อวันอังคารที่แล้ว(3ธ.ค.) ส่งกองกำลังพิเศษและเฮลิคอปเตอร์ไปยังอาคารรัฐสภา ก่อนถูกสมาชิกสมัชชาแห่งชาติบีบให้ถอนประกาศดังกล่าาว สถานการณ์ความโกลาหลที่เกิดขึ้นในประเทศหนึ่งๆที่เชื่อว่ามีเสถียรภาพในประชาธิปไตย
    .
    "มีเหตุการณ์อันน่าช็อค หุ่นเชิดยุน ซ็อกยอล ซึ่งกำลังเผชิญกับการถอดถอนและวิกฤตการปกครอง ประกาศอัยการศึกอย่างกะทันหัน กวัดแกว่งปืนและมีดของเผด็จการฟาสซิสต์ ก่อความยุ่งเหยิงทั่วเกาหลีใต้" สื่อมวลชนแห่งรัฐเกาหลีเหนือรายงาน "ประชาคมนานาชาติกำลังจับตาอย่างเคร่งเครียด ด้วยคำประเมินว่าเหตุการณ์อัยการศึกเผยให้เห็นถึงความอ่อนแอในสังคมเกาหลีใต้"
    .
    นอกจากนี้แล้วรายงานของสื่อมวลชนแห่งรัฐเกาหลีเหนือยังได้อ้างผู้สัดทัดกรณี ให้คำจำกัดความการประกาศอัยการศึกอย่างฉับพลันของยุน ว่าเป็นความเคลื่อนไหวที่จนตรอก และบอกว่าชีวิตทางการเมืองของยุน ซ็อกยอล คงพบจุดจบเร็ววันนี้
    .
    ในประกาศอัยการศึกเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ยุนอ้างว่าเพื่อปกป้องเกาหลีใต้ "จากภัยคุกคามโดยกองกำลังคอมมิวนิสต์เกาหลีเหนือ และกำจัดเครือข่ายต่อต้านรัฐที่ปล้นสะดมเสรีภาพและความผาสุกของประชาชน"
    .
    ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ชาติเกาหลี ดำดิ่งสู่ระดับต่ำที่สุดหนหน่งในรอบหลายปี ด้วยเกาหลีเหนือทำการทดสอบขีปนาวุธเป็นชัดๆ ที่ละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหประชาชาติ
    .
    นอกจากนี้แล้วเกาหลีเหนือยังเล่นงานเกาหลีใต้ด้วยบอลลูนขยะมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ในสิ่งที่พวกเขาอ้างว่าเป็นการแก้แค้นกรณีที่บรรดานักเคลื่อนไหวในเกาหลีใต้ ทำการโฆษณาชวนเชื่อครั้งใหญ่ต่อต้านเปียงยาง
    .
    เกาหลีเหนือ กลายเป็นหนึ่งในผู้ส่งเสียงสนับสนุนและหนุนหลังรายสำคัญของรัสเซีย ในปฏิบัติการรุกรานยูเครน โดยสหรัฐฯและเกาหลีใต้กล่าวหาเปียงยาง ส่งทหารมากกว่า 10,000 นาย เข้าช่วยมอสโกสู้รบกับเคียฟ
    .
    คิม ยอง-ฮยุน อดีตรัฐมนตรีกลาโหม ซึ่งถูกจับในวันอังคาร(10ธ.ค.) เคยถูกพวกสมาชิกรัฐสภาฝ่ายค้านกล่าวหาว่า เรียกร้องให้โจมตีที่ตั้งต่างๆที่เกาหลีเหนือปล่อยบอลลูนบรรทุกขยะออกมา และมีข่าวว่าคำสั่งดังกล่าวในตอนนั้นของ ยอง-ฮยุน ถูกปฏิเสธโดยบรรดาผู้บังคับบัญชาของเขาเอง
    .
    นอกจากนี้แล้วยังมีคำกล่าวหาว่าเขาออกคำสั่งให้ส่งโดรนไปยังกรุงเปียงยาง เมืองหลวงของเกาหลีเหนือ ดูเหมือนเป็นความพยายามยั่วยุความขัดแย้ง เพื่อเป็นข้ออ้างในการประกาศกฎอัยการศึก ตามรายงานของรอยเตอร์
    .
    ประธานาธิบดียุน รอดมติถอดถอนในรัฐสภาเมื่อวันเสาร์(7ธ.ค.) แม้มีเกาหลีใต้หลายหมื่นคนฝ่าอากาศเย็น ออกมาชุมนุมประท้วงบนท้องถนนเรียกร้องให้เขาออกจากตำแหน่ง ทั้งนี้ฝ่ายค้านมีแผนผลักดันให้มีการลงมติในญัตติถอดถอนยุนอีกรอบในวันเสาร์นี้(14ธ.ค.)
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000119175
    ..............
    Sondhi X
    เกาหลีใต้ตกอยู่ในภาวะ "ยุ่งเหยิง" หลังจากประธานาธิบดียุน ซ็อกยอล ประกาศกฎอัยการศึกช่วงสั้นๆ สื่อมวลชนแห่งรัฐเกาหลีเหนือรายงานเมื่อวันพุธ(11ธ.ค.) ถือเป็นครั้งแรกที่พวกเขาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองในชาติคู่อริ พร้อมชี้ว่าการกระทำดังกล่าวไม่ต่างจากพวกเผด็จการฟาสซิสต์ ขณะที่รอยเตอร์ระบุคำสั่งส่งโดรนไปยังกรุงเปียงยางเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เป็นความพยายามยั่วยุความขัดแย้ง โดยมีเป้าหมายประกาศอัยการศึกนั่นเอง . ประธานาธิบดียุน ประกาศกฎอัยการศึกเมื่อวันอังคารที่แล้ว(3ธ.ค.) ส่งกองกำลังพิเศษและเฮลิคอปเตอร์ไปยังอาคารรัฐสภา ก่อนถูกสมาชิกสมัชชาแห่งชาติบีบให้ถอนประกาศดังกล่าาว สถานการณ์ความโกลาหลที่เกิดขึ้นในประเทศหนึ่งๆที่เชื่อว่ามีเสถียรภาพในประชาธิปไตย . "มีเหตุการณ์อันน่าช็อค หุ่นเชิดยุน ซ็อกยอล ซึ่งกำลังเผชิญกับการถอดถอนและวิกฤตการปกครอง ประกาศอัยการศึกอย่างกะทันหัน กวัดแกว่งปืนและมีดของเผด็จการฟาสซิสต์ ก่อความยุ่งเหยิงทั่วเกาหลีใต้" สื่อมวลชนแห่งรัฐเกาหลีเหนือรายงาน "ประชาคมนานาชาติกำลังจับตาอย่างเคร่งเครียด ด้วยคำประเมินว่าเหตุการณ์อัยการศึกเผยให้เห็นถึงความอ่อนแอในสังคมเกาหลีใต้" . นอกจากนี้แล้วรายงานของสื่อมวลชนแห่งรัฐเกาหลีเหนือยังได้อ้างผู้สัดทัดกรณี ให้คำจำกัดความการประกาศอัยการศึกอย่างฉับพลันของยุน ว่าเป็นความเคลื่อนไหวที่จนตรอก และบอกว่าชีวิตทางการเมืองของยุน ซ็อกยอล คงพบจุดจบเร็ววันนี้ . ในประกาศอัยการศึกเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ยุนอ้างว่าเพื่อปกป้องเกาหลีใต้ "จากภัยคุกคามโดยกองกำลังคอมมิวนิสต์เกาหลีเหนือ และกำจัดเครือข่ายต่อต้านรัฐที่ปล้นสะดมเสรีภาพและความผาสุกของประชาชน" . ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ชาติเกาหลี ดำดิ่งสู่ระดับต่ำที่สุดหนหน่งในรอบหลายปี ด้วยเกาหลีเหนือทำการทดสอบขีปนาวุธเป็นชัดๆ ที่ละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหประชาชาติ . นอกจากนี้แล้วเกาหลีเหนือยังเล่นงานเกาหลีใต้ด้วยบอลลูนขยะมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ในสิ่งที่พวกเขาอ้างว่าเป็นการแก้แค้นกรณีที่บรรดานักเคลื่อนไหวในเกาหลีใต้ ทำการโฆษณาชวนเชื่อครั้งใหญ่ต่อต้านเปียงยาง . เกาหลีเหนือ กลายเป็นหนึ่งในผู้ส่งเสียงสนับสนุนและหนุนหลังรายสำคัญของรัสเซีย ในปฏิบัติการรุกรานยูเครน โดยสหรัฐฯและเกาหลีใต้กล่าวหาเปียงยาง ส่งทหารมากกว่า 10,000 นาย เข้าช่วยมอสโกสู้รบกับเคียฟ . คิม ยอง-ฮยุน อดีตรัฐมนตรีกลาโหม ซึ่งถูกจับในวันอังคาร(10ธ.ค.) เคยถูกพวกสมาชิกรัฐสภาฝ่ายค้านกล่าวหาว่า เรียกร้องให้โจมตีที่ตั้งต่างๆที่เกาหลีเหนือปล่อยบอลลูนบรรทุกขยะออกมา และมีข่าวว่าคำสั่งดังกล่าวในตอนนั้นของ ยอง-ฮยุน ถูกปฏิเสธโดยบรรดาผู้บังคับบัญชาของเขาเอง . นอกจากนี้แล้วยังมีคำกล่าวหาว่าเขาออกคำสั่งให้ส่งโดรนไปยังกรุงเปียงยาง เมืองหลวงของเกาหลีเหนือ ดูเหมือนเป็นความพยายามยั่วยุความขัดแย้ง เพื่อเป็นข้ออ้างในการประกาศกฎอัยการศึก ตามรายงานของรอยเตอร์ . ประธานาธิบดียุน รอดมติถอดถอนในรัฐสภาเมื่อวันเสาร์(7ธ.ค.) แม้มีเกาหลีใต้หลายหมื่นคนฝ่าอากาศเย็น ออกมาชุมนุมประท้วงบนท้องถนนเรียกร้องให้เขาออกจากตำแหน่ง ทั้งนี้ฝ่ายค้านมีแผนผลักดันให้มีการลงมติในญัตติถอดถอนยุนอีกรอบในวันเสาร์นี้(14ธ.ค.) . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000119175 .............. Sondhi X
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 803 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไต้หวัน ยกระดับเตือนภัย หลังจีนประกาศพื้นที่สงวนทางอากาศ รวมถึงประจำการเรือกองทัพเรือและยามชายฝั่ง ในสิ่งที่แหล่งข่าวด้านความมั่นคงเรียกว่าเป็นการซ้อมรบทางทหารครั้งแรก ที่ครอบคลุมทั่วน่านน้ำอันกว้างขวางในภูมิภาคแถบนี้
    .
    เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงระดับสูงของไต้หวัน บอกว่าจีนมีเรือของกองทัพเรือและเรือยามชายฝั่งเกือบ 90 ลำ อยู่ใกล้กับไต้หวัน หมู่เกาะต่างๆทางใต้ของญี่ปุ่น ในทะเลจีนตะวันออกและทะเลจีนใต้ ซึ่งราวๆ 2 ใน 3 เป็นเรือของกองทัพเรือ
    .
    กระทรวงกลาโหมของปักกิ่งยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อรายงานข่าวนี้
    .
    ความเคลื่อนไหวครั้งนี้มีขึ้นท่ามกลางความคาดหมายว่า จีน ที่กล่าวอ้างว่า ไต้หวัน ซึ่งปกครองตนเองตามระบอบประชาธิปไตย เป็นส่วนหนึ่งของดินแดน จะทำการซ้อมรบอีกรอบ ตอบโต้กรณีที่ประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อ เดินทางเยือนแปซิฟิก ในนั้นรวมถึงหยุดพักในฮาวายและกวม ดินแดนของสหรัฐฯ รอยเตอร์รายงานอ้างอิงแหล่งข่าวด้านความมั่นคง
    .
    จีน กำหนดพื้นที่สงวนทางอากาศชั่วคราวจนถึงวันพุธ(11ธ.ค.) ครอบคลุมมณฑลต่างๆทางตะวันออกอย่างเช่นฟูเจี้ยนและเจ้อเจียง กระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุในถ้อยแถลง
    .
    ปกติแล้วพื้นที่ลักษณะดังกล่าวเป็นการจัดสรรไว้สำหรับใช้งานอย่างเจาะจงในช่วงเวลาหนึ่งที่กำหนดไว้ แต่เครื่องบินอื่นๆก็อาจสามารถบินผ่านไปได้หากได้รับอนุญาต ภายใต้กฎเกณฑ์ระหว่างประเทศ
    .
    ประกาศแจ้งภารกิจทางอากาศที่ออกโดยจีน ได้ให้พิกัด 7 พื้นที่ ซึ่งใน 2 ในนั้น อยู่ในมณฑลฟูเจี้ยน ที่หันหน้าเข้าให้ไต้หวัน แต่มันอยู่ใกล้กับชายฝั่งของจีน ส่วนที่เหลืออยู่ตามแนวชายฝั่งของมณฑลเจ้อเจียงและนอกชายฝั่งเซี่ยงไฮ้ ในทะเลจีนตะวันออก
    .
    อย่างไรก็ตาม จีน ไม่แถลงอย่างเจาะจงเกี่ยวกับการทดสอบอาวุธใดๆหรือขอบเขตปฏิบัติการทางทหาร หลังจากก่อนหน้านี้ในเดือนสิงหาคม 2022 พวกเขารัวยิงขีปนาวุธเป็นชุดลงสู่น่านน้ำรอบๆไต้หวัน ระหว่างการซ้อมรบ เพื่อประท้วงกรณีที่นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯ ณ ขณะนั้น เดินทางเยือนกรุงไทเป
    .
    ในความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯบอกว่าพวกเขากำลังจับตาอย่างใกล้ชิด ต่อความเคลื่อนไหวทางทหารของจีนใกล้ไต้หวัน
    .
    "เรายังคงเรียกร้องสาธารณรัฐประชาชนจีน ให้ดำเนินการด้วยความอดทนอดกลั้นและหลีกเลี่ยงการกระทำต่างๆที่อาจบ่อนทำลายสนติภาพและเสถียรภาพทั่วช่องแคบไต้หวันและภูมิภาคในวงกว้าง การแวะพักตามปกติของประธานาธิบดีไล่ ไม่ควรถูกใช้เป็นข้ออ้างสำหรับแรงกดดันทางทหาร" โฆษกกระทรวงการต่างประเทศไต้หวันระบุ
    .
    เจ้าหน้าที่ไต้หวัน ซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนาม บอกว่าการประจำการเรือครั้งนี้ของจีน ถือว่าเป็นความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่มากกว่าการซ้อมรบใหญ่รอบๆไต้หวัน 2 ครั้งก่อนหน้านี้ ในปีนี้
    .
    "เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเล็งเป้าหมายแนวสายโซ่หมู่เกาะทั้งหมด" แหล่งข่าวระบุ อ้างถึงพื้นที่ที่ทอดยาวจากญี่ปุ่นไปจนถึงไต้หวัน ฟิลิปปินส์และเกาะบอร์เนียว ปิดล้อมทะเลต่างๆที่อยู่รอบชายฝั่งของจีน "มันมีเจตนาโดยรวมเพื่อบรรลุเป้าหมายข่มขู่ทางทหาร ด้วยการจัดวางกำลังเพื่อควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของสายโซ่หมู่เกาะ"
    .
    "พฤติกรรมยั่วยุแต่เพียงฝ่ายเดียวและไม่มีเหตุผล อาจก่อความเสียหายร้ายแรงแก่สันติภาพและเสถียรภาพในอินโด-แปซิฟิก และไม่เป็นที่ยินดีของประชาคมนานาชาติ" กระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุ
    .
    ปักกิ่ง เคยตราหน้า "ไล่" ว่าเป็นพวกแบ่งแยกดินแดน และปฏิเสธเสียงเรียกร้องของเขาซ้ำๆที่ขอให้มีการเจรจา ส่วนทางไทเปปฏิเสธคำกล่าวอ้างด้านอธิปไตยของปักกิ่งเช่นกัน บอกว่ามีเพียงประชาชนชาวไต้หวันเท่านั้น ที่จะเป็นผู้ตัดสินอนาคตของตนเอง
    .
    การสำแดงสรรพกำลังของจีนรอบๆไต้หวันและในพื้นที่พิพาททะเลจีนใต้ ได้โหมกระพือความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้ง
    .
    ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯบอกกับทหารเรืออเมริกาในญี่ปุ่น ว่าจีนเป็นเพียงประเทศที่มีเจตนาและมีแสนยานุภาพเพิ่มมากขึ้น ที่จะท้าทายระเบียบระหว่างประเทศที่มีกฎกติกาเป็นรากฐาน "ดังนั้น เราจึงต้องการเห็นภูมิภาคแถบนี้ พื้นที่นี้ ยังคงเปิดกว้างสำหรับเสรีภาพในการล่องเรือ และสามารถบินเหนือบนท้องฟ้าและน่านฟ้าสากลตามที่เราต้องการ"
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000118435
    ..............
    Sondhi X
    ไต้หวัน ยกระดับเตือนภัย หลังจีนประกาศพื้นที่สงวนทางอากาศ รวมถึงประจำการเรือกองทัพเรือและยามชายฝั่ง ในสิ่งที่แหล่งข่าวด้านความมั่นคงเรียกว่าเป็นการซ้อมรบทางทหารครั้งแรก ที่ครอบคลุมทั่วน่านน้ำอันกว้างขวางในภูมิภาคแถบนี้ . เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงระดับสูงของไต้หวัน บอกว่าจีนมีเรือของกองทัพเรือและเรือยามชายฝั่งเกือบ 90 ลำ อยู่ใกล้กับไต้หวัน หมู่เกาะต่างๆทางใต้ของญี่ปุ่น ในทะเลจีนตะวันออกและทะเลจีนใต้ ซึ่งราวๆ 2 ใน 3 เป็นเรือของกองทัพเรือ . กระทรวงกลาโหมของปักกิ่งยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อรายงานข่าวนี้ . ความเคลื่อนไหวครั้งนี้มีขึ้นท่ามกลางความคาดหมายว่า จีน ที่กล่าวอ้างว่า ไต้หวัน ซึ่งปกครองตนเองตามระบอบประชาธิปไตย เป็นส่วนหนึ่งของดินแดน จะทำการซ้อมรบอีกรอบ ตอบโต้กรณีที่ประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อ เดินทางเยือนแปซิฟิก ในนั้นรวมถึงหยุดพักในฮาวายและกวม ดินแดนของสหรัฐฯ รอยเตอร์รายงานอ้างอิงแหล่งข่าวด้านความมั่นคง . จีน กำหนดพื้นที่สงวนทางอากาศชั่วคราวจนถึงวันพุธ(11ธ.ค.) ครอบคลุมมณฑลต่างๆทางตะวันออกอย่างเช่นฟูเจี้ยนและเจ้อเจียง กระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุในถ้อยแถลง . ปกติแล้วพื้นที่ลักษณะดังกล่าวเป็นการจัดสรรไว้สำหรับใช้งานอย่างเจาะจงในช่วงเวลาหนึ่งที่กำหนดไว้ แต่เครื่องบินอื่นๆก็อาจสามารถบินผ่านไปได้หากได้รับอนุญาต ภายใต้กฎเกณฑ์ระหว่างประเทศ . ประกาศแจ้งภารกิจทางอากาศที่ออกโดยจีน ได้ให้พิกัด 7 พื้นที่ ซึ่งใน 2 ในนั้น อยู่ในมณฑลฟูเจี้ยน ที่หันหน้าเข้าให้ไต้หวัน แต่มันอยู่ใกล้กับชายฝั่งของจีน ส่วนที่เหลืออยู่ตามแนวชายฝั่งของมณฑลเจ้อเจียงและนอกชายฝั่งเซี่ยงไฮ้ ในทะเลจีนตะวันออก . อย่างไรก็ตาม จีน ไม่แถลงอย่างเจาะจงเกี่ยวกับการทดสอบอาวุธใดๆหรือขอบเขตปฏิบัติการทางทหาร หลังจากก่อนหน้านี้ในเดือนสิงหาคม 2022 พวกเขารัวยิงขีปนาวุธเป็นชุดลงสู่น่านน้ำรอบๆไต้หวัน ระหว่างการซ้อมรบ เพื่อประท้วงกรณีที่นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯ ณ ขณะนั้น เดินทางเยือนกรุงไทเป . ในความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯบอกว่าพวกเขากำลังจับตาอย่างใกล้ชิด ต่อความเคลื่อนไหวทางทหารของจีนใกล้ไต้หวัน . "เรายังคงเรียกร้องสาธารณรัฐประชาชนจีน ให้ดำเนินการด้วยความอดทนอดกลั้นและหลีกเลี่ยงการกระทำต่างๆที่อาจบ่อนทำลายสนติภาพและเสถียรภาพทั่วช่องแคบไต้หวันและภูมิภาคในวงกว้าง การแวะพักตามปกติของประธานาธิบดีไล่ ไม่ควรถูกใช้เป็นข้ออ้างสำหรับแรงกดดันทางทหาร" โฆษกกระทรวงการต่างประเทศไต้หวันระบุ . เจ้าหน้าที่ไต้หวัน ซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนาม บอกว่าการประจำการเรือครั้งนี้ของจีน ถือว่าเป็นความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่มากกว่าการซ้อมรบใหญ่รอบๆไต้หวัน 2 ครั้งก่อนหน้านี้ ในปีนี้ . "เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเล็งเป้าหมายแนวสายโซ่หมู่เกาะทั้งหมด" แหล่งข่าวระบุ อ้างถึงพื้นที่ที่ทอดยาวจากญี่ปุ่นไปจนถึงไต้หวัน ฟิลิปปินส์และเกาะบอร์เนียว ปิดล้อมทะเลต่างๆที่อยู่รอบชายฝั่งของจีน "มันมีเจตนาโดยรวมเพื่อบรรลุเป้าหมายข่มขู่ทางทหาร ด้วยการจัดวางกำลังเพื่อควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของสายโซ่หมู่เกาะ" . "พฤติกรรมยั่วยุแต่เพียงฝ่ายเดียวและไม่มีเหตุผล อาจก่อความเสียหายร้ายแรงแก่สันติภาพและเสถียรภาพในอินโด-แปซิฟิก และไม่เป็นที่ยินดีของประชาคมนานาชาติ" กระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุ . ปักกิ่ง เคยตราหน้า "ไล่" ว่าเป็นพวกแบ่งแยกดินแดน และปฏิเสธเสียงเรียกร้องของเขาซ้ำๆที่ขอให้มีการเจรจา ส่วนทางไทเปปฏิเสธคำกล่าวอ้างด้านอธิปไตยของปักกิ่งเช่นกัน บอกว่ามีเพียงประชาชนชาวไต้หวันเท่านั้น ที่จะเป็นผู้ตัดสินอนาคตของตนเอง . การสำแดงสรรพกำลังของจีนรอบๆไต้หวันและในพื้นที่พิพาททะเลจีนใต้ ได้โหมกระพือความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้ง . ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯบอกกับทหารเรืออเมริกาในญี่ปุ่น ว่าจีนเป็นเพียงประเทศที่มีเจตนาและมีแสนยานุภาพเพิ่มมากขึ้น ที่จะท้าทายระเบียบระหว่างประเทศที่มีกฎกติกาเป็นรากฐาน "ดังนั้น เราจึงต้องการเห็นภูมิภาคแถบนี้ พื้นที่นี้ ยังคงเปิดกว้างสำหรับเสรีภาพในการล่องเรือ และสามารถบินเหนือบนท้องฟ้าและน่านฟ้าสากลตามที่เราต้องการ" . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000118435 .............. Sondhi X
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 795 มุมมอง 0 รีวิว
  • โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เรียกร้องสำหรับข้อตกลงหยุดยิงในทันทีและขอให้มีการเจรจาระหว่างยูเครนกับรัสเซีย เพื่อยุติ "เรื่องบ้าๆ" ความเคลื่อนไหวที่กระตุ้นให้ทั้งประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนและวังเครมลิน ต่างลิสต์บัญชีเงื่อนไขความต้องการของฝ่ายตนเอง
    .
    เสียงเรียกร้องของทรัมป์ มีขึ้นไม่กี่ชั่วโมง หลังพบปะกับ เซเลนสกี ในกรุงปารีส ซึ่งถือเป็นการพูดคุยแบบเจอหน้ากันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ ทรัมป์ คว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อเดือนก่อนที่ผ่านมา ทรัมป์ ประกาศมาตลอดว่าจะนำมาซึ่งการเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้ง แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เคยให้รายละเอียดใดๆ
    .
    "เซเลนสกีและยูเครนอยากทำข้อตกลงและหยุดเรื่องบ้าๆ" ทรัมป์ เขียนบนทรัตช์ โซเชียล แพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ของเขา พร้อมระบุเคียฟสูญเสียกำลังพลไปแล้วราว 400,000 นาย "ควรมีข้อตกลงหยุดยิงในทันที และการเจรจาควรเริ่มต้นขึ้น ผมรู้จัก วลาดิมีร์ ดี นี่คือเวลาที่เขาต้องลงมือ จีนสามารถช่วยได้ โลกกำลังรออยู่" ทรัมป์ ระบุอ้างถึงประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย
    .
    ทรัมป์ เดินทางไปยังกรุงปารีส ร่วมพิธีเปิดรอบใหม่มหาวิหารนอร์เทรอดาม ตามหลังการบูรณะครั้งใหญ่ โดยเขานั่งคุยกับ เซเลนสกี เป็นเวลาราว 1 ชั่วโมง ในวันเสาร์ (7 ธ.ค.) ร่วมด้วยเจ้าภาพอย่าง เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส
    .
    ในภาพข่าวพบเห็น ทรัมป์ และเซเลนสกี จับมือและยิ้มให้กัน แต่ไม่เป็นที่ชัดเจนว่าการสนทนาระหว่างทั้งคู่เป็นไปในทิศทางไหน อ้างอิงข้อมูลจากทั้งฝ่ายฝรั่งเศสและยูเครน พวกเขาบอกเพียงว่าการพูดคุยเป็นไปด้วยดีและผลิดอกออกผล
    .
    เซเลนสกี ขานรับสารจากทรัมป์ในวันอาทิตย์ (8 ธ.ค.) ว่าสันติภาพไม่ใช่แค่เศษกระดาษ แต่จำเป็นต้องรับประกันความมั่นคง "ตอนที่เราพูดเกี่ยวกับสันติภาพที่มีประสิทธิผลกับรัสเซีย สิ่งแรกและสำคัญที่สุดที่เราต้องพูดถึงคือการรับประกันสันติภาพอย่างมีประสิทธิภาพ ยูเครนต้องการสันติภาพมากกว่าใครๆ" เขาโพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์
    .
    "สงครามไม่อาจจบลงง่ายๆ ด้วยเศษกระดาษและการลงนามอีกนิดหน่อย การหยุดยิงโดยปราศจากคำรับประกัน อาจโหมกระพือขึ้นรอบใหม่ได้ทุกเวลา แบบเดียวกับที่ ปูติน เคยทำมาก่อน เพื่อรับประกันว่าชาวยูเครนจะไม่ประสบความสูญเสียอีกต่อไป เราต้องรับประกันความน่าเชื่อถือของสันติภาพและไม่หลับตาให้พวกผู้รุกราน" เซเลนสกีกล่าว
    .
    รอยเตอร์เชื่อว่าตัวเลขของทรัมป์ เกี่ยวกับความสูญเสียด้านกำลังพลกว่า 400,000 นายของยูเครนในสงคราม น่าจะนับรวมทั้งทหารที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากก่อนหน้านี้ เซเลนสกี อ้างว่ามีทหารยูคเรนเสียชีวิตเพียง 43,000 นาย และที่ได้รับบาดเจ็บมีจำนวน 370,000 นาย
    .
    ดมิทรี เปสคอฟ นัดแถลงข่าวทางไกลกับบรรดาผู้สื่อข่าว ในเรื่องเกี่ยวกับความคิดเห็นที่มีต่อสารของทรัมป์ โดยเขาบอกว่ารัสเซียเปิดกว้างสำหรับการเจรจา แต่มันต้องอยู่บนพื้นฐานของข้อตกลงต่างๆ ที่เห็นพ้องกันในอิสตันบูลใน 2022 และข้อเท็จจริงในปัจจุบันของสนามรบ บริเวณที่กองกำลังรัสเซียกำลังรุกคืบในอัตราที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่วันแรกๆของสงครามในปี 2022
    .
    ปูติน เน้นย้ำว่าข้อตกลงในเบื้องต้นดังกล่าวที่บรรลุความเห็นพ้องต้องกันโดยคณะผู้แทนเจรจาของรัสเซียและยูเครน ในสัปดาห์แรกๆของสงคราม ณ โต๊ะเจรจาในอิสตันบูล แต่ไม่เคยถูกบังคับใช้ ควรถูกใช้เป็นพื้นฐานของการเจรจาใดๆ ในอนาคต
    .
    "จุดยืนของเราในเรื่องยูเครนเป็นที่รู้กันดี" เปสคอฟกล่าว "เงื่อนไขต่างๆ สำหรับการหยุดความเป็นปรปักษ์ในทันที ถูกวางไว้โดยประธานาธิบดีปูติน ครั้งที่ท่านกล่าวปราศรัยที่กระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ในเดือนมิถุนายนปีนี้ มันเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องเท้าความว่า ยูเครน เป็นฝ่ายปฏิเสธและยังคงปฏิเสธการเจรจา" เขากล่าว
    .
    ปูติน กล่าวในตอนนั้นว่า ยูเครน ต้องไม่เข้าร่วมเป็นสมาชิกพันธมิตรทหารนาโต และรัสเซียควรถูกปล่อยให้ยึดครอง 4 แคว้นของยูเครน ที่ทหารของเขาควบคุมอยู่บางส่วน อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด เพื่อบรรลุข้อตกลงสันติภาพ
    .
    เปสคอฟ เน้นว่า เซเลนสกี สั่งแบนการติดต่อกับผู้นำรัสเซียผ่ายกฤษฎีกาฉบับหนึ่ง ซึ่ง เปสคอฟ บอกว่า เซเลนสกี จำเป็นต้องถอนคำสั่งดังกล่าวก่อน เพื่อให้การเจรจาเดินหน้าไปได้
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000118049
    ..................
    Sondhi X
    โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เรียกร้องสำหรับข้อตกลงหยุดยิงในทันทีและขอให้มีการเจรจาระหว่างยูเครนกับรัสเซีย เพื่อยุติ "เรื่องบ้าๆ" ความเคลื่อนไหวที่กระตุ้นให้ทั้งประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนและวังเครมลิน ต่างลิสต์บัญชีเงื่อนไขความต้องการของฝ่ายตนเอง . เสียงเรียกร้องของทรัมป์ มีขึ้นไม่กี่ชั่วโมง หลังพบปะกับ เซเลนสกี ในกรุงปารีส ซึ่งถือเป็นการพูดคุยแบบเจอหน้ากันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ ทรัมป์ คว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อเดือนก่อนที่ผ่านมา ทรัมป์ ประกาศมาตลอดว่าจะนำมาซึ่งการเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้ง แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เคยให้รายละเอียดใดๆ . "เซเลนสกีและยูเครนอยากทำข้อตกลงและหยุดเรื่องบ้าๆ" ทรัมป์ เขียนบนทรัตช์ โซเชียล แพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ของเขา พร้อมระบุเคียฟสูญเสียกำลังพลไปแล้วราว 400,000 นาย "ควรมีข้อตกลงหยุดยิงในทันที และการเจรจาควรเริ่มต้นขึ้น ผมรู้จัก วลาดิมีร์ ดี นี่คือเวลาที่เขาต้องลงมือ จีนสามารถช่วยได้ โลกกำลังรออยู่" ทรัมป์ ระบุอ้างถึงประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย . ทรัมป์ เดินทางไปยังกรุงปารีส ร่วมพิธีเปิดรอบใหม่มหาวิหารนอร์เทรอดาม ตามหลังการบูรณะครั้งใหญ่ โดยเขานั่งคุยกับ เซเลนสกี เป็นเวลาราว 1 ชั่วโมง ในวันเสาร์ (7 ธ.ค.) ร่วมด้วยเจ้าภาพอย่าง เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส . ในภาพข่าวพบเห็น ทรัมป์ และเซเลนสกี จับมือและยิ้มให้กัน แต่ไม่เป็นที่ชัดเจนว่าการสนทนาระหว่างทั้งคู่เป็นไปในทิศทางไหน อ้างอิงข้อมูลจากทั้งฝ่ายฝรั่งเศสและยูเครน พวกเขาบอกเพียงว่าการพูดคุยเป็นไปด้วยดีและผลิดอกออกผล . เซเลนสกี ขานรับสารจากทรัมป์ในวันอาทิตย์ (8 ธ.ค.) ว่าสันติภาพไม่ใช่แค่เศษกระดาษ แต่จำเป็นต้องรับประกันความมั่นคง "ตอนที่เราพูดเกี่ยวกับสันติภาพที่มีประสิทธิผลกับรัสเซีย สิ่งแรกและสำคัญที่สุดที่เราต้องพูดถึงคือการรับประกันสันติภาพอย่างมีประสิทธิภาพ ยูเครนต้องการสันติภาพมากกว่าใครๆ" เขาโพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ . "สงครามไม่อาจจบลงง่ายๆ ด้วยเศษกระดาษและการลงนามอีกนิดหน่อย การหยุดยิงโดยปราศจากคำรับประกัน อาจโหมกระพือขึ้นรอบใหม่ได้ทุกเวลา แบบเดียวกับที่ ปูติน เคยทำมาก่อน เพื่อรับประกันว่าชาวยูเครนจะไม่ประสบความสูญเสียอีกต่อไป เราต้องรับประกันความน่าเชื่อถือของสันติภาพและไม่หลับตาให้พวกผู้รุกราน" เซเลนสกีกล่าว . รอยเตอร์เชื่อว่าตัวเลขของทรัมป์ เกี่ยวกับความสูญเสียด้านกำลังพลกว่า 400,000 นายของยูเครนในสงคราม น่าจะนับรวมทั้งทหารที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากก่อนหน้านี้ เซเลนสกี อ้างว่ามีทหารยูคเรนเสียชีวิตเพียง 43,000 นาย และที่ได้รับบาดเจ็บมีจำนวน 370,000 นาย . ดมิทรี เปสคอฟ นัดแถลงข่าวทางไกลกับบรรดาผู้สื่อข่าว ในเรื่องเกี่ยวกับความคิดเห็นที่มีต่อสารของทรัมป์ โดยเขาบอกว่ารัสเซียเปิดกว้างสำหรับการเจรจา แต่มันต้องอยู่บนพื้นฐานของข้อตกลงต่างๆ ที่เห็นพ้องกันในอิสตันบูลใน 2022 และข้อเท็จจริงในปัจจุบันของสนามรบ บริเวณที่กองกำลังรัสเซียกำลังรุกคืบในอัตราที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่วันแรกๆของสงครามในปี 2022 . ปูติน เน้นย้ำว่าข้อตกลงในเบื้องต้นดังกล่าวที่บรรลุความเห็นพ้องต้องกันโดยคณะผู้แทนเจรจาของรัสเซียและยูเครน ในสัปดาห์แรกๆของสงคราม ณ โต๊ะเจรจาในอิสตันบูล แต่ไม่เคยถูกบังคับใช้ ควรถูกใช้เป็นพื้นฐานของการเจรจาใดๆ ในอนาคต . "จุดยืนของเราในเรื่องยูเครนเป็นที่รู้กันดี" เปสคอฟกล่าว "เงื่อนไขต่างๆ สำหรับการหยุดความเป็นปรปักษ์ในทันที ถูกวางไว้โดยประธานาธิบดีปูติน ครั้งที่ท่านกล่าวปราศรัยที่กระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ในเดือนมิถุนายนปีนี้ มันเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องเท้าความว่า ยูเครน เป็นฝ่ายปฏิเสธและยังคงปฏิเสธการเจรจา" เขากล่าว . ปูติน กล่าวในตอนนั้นว่า ยูเครน ต้องไม่เข้าร่วมเป็นสมาชิกพันธมิตรทหารนาโต และรัสเซียควรถูกปล่อยให้ยึดครอง 4 แคว้นของยูเครน ที่ทหารของเขาควบคุมอยู่บางส่วน อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด เพื่อบรรลุข้อตกลงสันติภาพ . เปสคอฟ เน้นว่า เซเลนสกี สั่งแบนการติดต่อกับผู้นำรัสเซียผ่ายกฤษฎีกาฉบับหนึ่ง ซึ่ง เปสคอฟ บอกว่า เซเลนสกี จำเป็นต้องถอนคำสั่งดังกล่าวก่อน เพื่อให้การเจรจาเดินหน้าไปได้ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000118049 .................. Sondhi X
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 781 มุมมอง 0 รีวิว
  • อัยการโซลมีรายงานจับกุมรัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ คิม ยอง-ฮยุน (Kim Yong-hyun) ฐานอยู่เบื้องหลังประธานาธิบดีออกคำสั่งกฎอัยการศึกที่ผู้นำประกาศใช้วันคืนวันอังคาร (4 ธ.ค.) จนประชาชนออกมาขวาง คิมลาออกก่อนโดนจับ ถูกส่งเข้าเรือนจำกรุงโซล โทรศัพท์มือถือถูกยึด ที่ทำงานและบ้านพักโดนบุกค้นในคดีเกี่ยวข้องกับการก่อกบฏเกาหลีใต้ ส่วนลูกน้อง 3 คนโดนกระทรวงสั่งพักงาน
    .
    รอยเตอร์รายงานวันนี้ (8 ธ.ค.) ว่า คิม ยอง-ฮยุน (Kim Yong-hyun) ลาออกก่อนหน้าวันพุธ (4) จากตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ถูกมองว่าเป็นศูนย์กลางในการประกาศใช้กฎอัยการศึกเกาหลีใต้อายุสั้นคืนวันอังคาร (3) ของประธานาธิบดี ยุน ซอกยอล ที่รอดพ้นจากการโดนขับออกจากตำแหน่งหวุดหวิด
    .
    สื่อท้องถิ่นแดนโสมรายงานว่า อัยการเกาหลีใต้ที่ทรงอำนาจได้จับกุมอดีตรัฐมนตรีกลาโหม
    .
    อ้างอิงจากคำบอกเล่าของเจ้าหน้าที่ระดับสูงในกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้และเนื้อหาของการยื่นเรื่องเพื่อมีมติสั่งขับยุนออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีต่างระบุว่า คิม ยอง-ฮยุน เป็นคนยื่นข้อเสนอต่อประธานาธิบดียุน
    .
    หนังสือพิมพ์นิวยอร์กโพสต์ของสหรัฐฯ รายงานเพิ่มเติมว่า คิมถือเป็นศูนย์กลางของการบังคับใช้กฎอัยการศึกของประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ที่มีการส่งกำลังมาปิดล้อมอาคารสภานิติบัญญัติแห่งชาติและมีการส่งเฮลิคอปเตอร์ทหารบินวนเหนือรัฐสภา
    .
    อย่างไรก็ตาม กองกำลังทหารได้ถอนออกไปหลังสภามีมติเป็นเอกฉันท์โหวตยกเลิกคำสั่งการใช้กฎอัยการศึกของยุน ส่งผลทำให้คณะ ครม.ของเขาต้องสั่งยกเลิกคำสั่งก่อนพระอาทิตย์ขึ้นในวันพุธ (3)
    .
    ปาร์ค เซ-ฮยุน (Park Se-hyun) หัวหน้าสำนักงานอัยการสูงสุดเกาหลีใต้กล่าวในแถลงการณ์ทางโทรทัศน์ว่า ทางสำนักงานเวลานี้กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนเหตุการณ์สั่งกฎอัยการศึกโดยมีทีมสมาชิก 62 คนที่มาจากทั้งอัยการรัฐและอัยการกองทัพ พร้อมประกาศจะทำการสอบสวนอย่างครอบคลุมที่จะไม่เหลือสิ่งใดให้สงสัยได้
    .
    นิวยอร์กโพสต์รายงานว่า ทั้งนี้วันอาทิตย์ (8) อดีตรัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ คิม ยอง ฮยุน เดินทางมาที่สำนักงานอัยการสูงสุดด้วยตนเองก่อนที่โทรศัพท์มือถือส่วนตัวจะโดนยึดและเขาถูกจับกุม อ้างอิงจากสำนักข่าวยอนฮับ
    .
    รอยเตอร์รายงานว่า คิมปรากฏตัวที่สำนักงานอัยการสูงสุดเกาหลีใต้เวลา 13.30 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันอาทิตย์ (8) และเขาถูกสอบปากคำ
    .
    การจับกุมคิมวันนี้ (8) ทำให้เขากลายเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงเกาหลีใต้รายแรกที่ถูกจับในคดีนี้
    .
    สื่ออื่นของเกาหลีใต้ต่างรายงานตรงกันที่ว่า คิมถูกส่งไปยังเรือนจำกรุงโซล และกำลังตำรวจเข้าบุกค้นสำนักงานและบ้านพักของเขาในวันอาทิตย์ (8)
    .
    ทั้งนี้ กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ออกแถลงการณ์วันพุธ (4) มีใจความว่ารัฐมนตรีคิมระบุว่า
    .
    “กำลังพลทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวข้องกับกฎอัยการศึกนั้นทำหน้าที่ตามคำสั่งของผม และทุกความรับผิดชอบจะตกอยู่ที่ตัวผม”
    .
    อัยการสูงสุดเกาหลีใต้ ชิม วู จุง (Shim Woo Jung) ได้ให้สัมภาษณ์กับนักข่าววันพฤหัสบดี (5) ว่า อัยการกำลังวางแผนที่จะสอบสวนประธานาธิบดียุนในข้อหาการเป็นกบฏซึ่งเป็นการฟ้องโดยฝ่ายค้านเกาหลีใต้
    .
    ทั้งนี้ ถึงแม้ประธานาธิบดีเกาหลีใต้จะมีภูมิคุ้มกันส่วนใหญ่จากการถูกดำเนินคดีในระหว่างอยู่ในตำแหน่ง แต่ทว่าภูมิคุ้มกันที่ว่าไม่ได้ครอบคลุมไปถึงข้อหาการก่อกบฏหรือการทรยศ
    .
    กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ยังประกาศว่า ได้ออกคำสั่งยุติการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวต่อ 3 ผู้บัญชาการระดับสูงของกองทัพในบทบาทที่เกี่ยวข้องต่อการใช้กฎอัยการศึก ซึ่งคนเหล่านั้นรวมอยู่ในกลุ่มที่ฝ่ายค้านเกาหลีใต้ยื่นฟ้องคดีการก่อกบฏ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000118047
    ..................
    Sondhi X
    อัยการโซลมีรายงานจับกุมรัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ คิม ยอง-ฮยุน (Kim Yong-hyun) ฐานอยู่เบื้องหลังประธานาธิบดีออกคำสั่งกฎอัยการศึกที่ผู้นำประกาศใช้วันคืนวันอังคาร (4 ธ.ค.) จนประชาชนออกมาขวาง คิมลาออกก่อนโดนจับ ถูกส่งเข้าเรือนจำกรุงโซล โทรศัพท์มือถือถูกยึด ที่ทำงานและบ้านพักโดนบุกค้นในคดีเกี่ยวข้องกับการก่อกบฏเกาหลีใต้ ส่วนลูกน้อง 3 คนโดนกระทรวงสั่งพักงาน . รอยเตอร์รายงานวันนี้ (8 ธ.ค.) ว่า คิม ยอง-ฮยุน (Kim Yong-hyun) ลาออกก่อนหน้าวันพุธ (4) จากตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ถูกมองว่าเป็นศูนย์กลางในการประกาศใช้กฎอัยการศึกเกาหลีใต้อายุสั้นคืนวันอังคาร (3) ของประธานาธิบดี ยุน ซอกยอล ที่รอดพ้นจากการโดนขับออกจากตำแหน่งหวุดหวิด . สื่อท้องถิ่นแดนโสมรายงานว่า อัยการเกาหลีใต้ที่ทรงอำนาจได้จับกุมอดีตรัฐมนตรีกลาโหม . อ้างอิงจากคำบอกเล่าของเจ้าหน้าที่ระดับสูงในกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้และเนื้อหาของการยื่นเรื่องเพื่อมีมติสั่งขับยุนออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีต่างระบุว่า คิม ยอง-ฮยุน เป็นคนยื่นข้อเสนอต่อประธานาธิบดียุน . หนังสือพิมพ์นิวยอร์กโพสต์ของสหรัฐฯ รายงานเพิ่มเติมว่า คิมถือเป็นศูนย์กลางของการบังคับใช้กฎอัยการศึกของประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ที่มีการส่งกำลังมาปิดล้อมอาคารสภานิติบัญญัติแห่งชาติและมีการส่งเฮลิคอปเตอร์ทหารบินวนเหนือรัฐสภา . อย่างไรก็ตาม กองกำลังทหารได้ถอนออกไปหลังสภามีมติเป็นเอกฉันท์โหวตยกเลิกคำสั่งการใช้กฎอัยการศึกของยุน ส่งผลทำให้คณะ ครม.ของเขาต้องสั่งยกเลิกคำสั่งก่อนพระอาทิตย์ขึ้นในวันพุธ (3) . ปาร์ค เซ-ฮยุน (Park Se-hyun) หัวหน้าสำนักงานอัยการสูงสุดเกาหลีใต้กล่าวในแถลงการณ์ทางโทรทัศน์ว่า ทางสำนักงานเวลานี้กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนเหตุการณ์สั่งกฎอัยการศึกโดยมีทีมสมาชิก 62 คนที่มาจากทั้งอัยการรัฐและอัยการกองทัพ พร้อมประกาศจะทำการสอบสวนอย่างครอบคลุมที่จะไม่เหลือสิ่งใดให้สงสัยได้ . นิวยอร์กโพสต์รายงานว่า ทั้งนี้วันอาทิตย์ (8) อดีตรัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ คิม ยอง ฮยุน เดินทางมาที่สำนักงานอัยการสูงสุดด้วยตนเองก่อนที่โทรศัพท์มือถือส่วนตัวจะโดนยึดและเขาถูกจับกุม อ้างอิงจากสำนักข่าวยอนฮับ . รอยเตอร์รายงานว่า คิมปรากฏตัวที่สำนักงานอัยการสูงสุดเกาหลีใต้เวลา 13.30 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันอาทิตย์ (8) และเขาถูกสอบปากคำ . การจับกุมคิมวันนี้ (8) ทำให้เขากลายเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงเกาหลีใต้รายแรกที่ถูกจับในคดีนี้ . สื่ออื่นของเกาหลีใต้ต่างรายงานตรงกันที่ว่า คิมถูกส่งไปยังเรือนจำกรุงโซล และกำลังตำรวจเข้าบุกค้นสำนักงานและบ้านพักของเขาในวันอาทิตย์ (8) . ทั้งนี้ กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ออกแถลงการณ์วันพุธ (4) มีใจความว่ารัฐมนตรีคิมระบุว่า . “กำลังพลทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวข้องกับกฎอัยการศึกนั้นทำหน้าที่ตามคำสั่งของผม และทุกความรับผิดชอบจะตกอยู่ที่ตัวผม” . อัยการสูงสุดเกาหลีใต้ ชิม วู จุง (Shim Woo Jung) ได้ให้สัมภาษณ์กับนักข่าววันพฤหัสบดี (5) ว่า อัยการกำลังวางแผนที่จะสอบสวนประธานาธิบดียุนในข้อหาการเป็นกบฏซึ่งเป็นการฟ้องโดยฝ่ายค้านเกาหลีใต้ . ทั้งนี้ ถึงแม้ประธานาธิบดีเกาหลีใต้จะมีภูมิคุ้มกันส่วนใหญ่จากการถูกดำเนินคดีในระหว่างอยู่ในตำแหน่ง แต่ทว่าภูมิคุ้มกันที่ว่าไม่ได้ครอบคลุมไปถึงข้อหาการก่อกบฏหรือการทรยศ . กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ยังประกาศว่า ได้ออกคำสั่งยุติการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวต่อ 3 ผู้บัญชาการระดับสูงของกองทัพในบทบาทที่เกี่ยวข้องต่อการใช้กฎอัยการศึก ซึ่งคนเหล่านั้นรวมอยู่ในกลุ่มที่ฝ่ายค้านเกาหลีใต้ยื่นฟ้องคดีการก่อกบฏ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000118047 .................. Sondhi X
    Haha
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 648 มุมมอง 0 รีวิว
  • สำนักข่าวรอยเตอร์อ้างแหล่งข่าวความมั่นคงซีเรีย 2 ราย ระบุว่า มีความเป็นไปได้สูงมากที่ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดของซีเรียจะถูกสังหารในเหตุการณ์เครื่องบินตกใกล้เมืองโฮมส์เมื่อคืนนี้

    แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีหลักฐาน หรือการยืนยันอย่างเป็นทางการ
    สำนักข่าวรอยเตอร์อ้างแหล่งข่าวความมั่นคงซีเรีย 2 ราย ระบุว่า มีความเป็นไปได้สูงมากที่ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดของซีเรียจะถูกสังหารในเหตุการณ์เครื่องบินตกใกล้เมืองโฮมส์เมื่อคืนนี้ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีหลักฐาน หรือการยืนยันอย่างเป็นทางการ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 139 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองกำลังรัฐบาลซีเรียล่าถอยจากฮอมส์ เมืองสำคัญ ไม่ถึงวันของการสู้รบ ที่ทำให้ระบอบการปกครองของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ที่อยู่ในอำนาจมานานกว่า 24 ปี แขวนอยู่บนเส้นด้าย ในขณะที่พวกกบฏกำลังรุกคืบอย่างต่อเนื่อง ในนั้นรวมถึงการเดินหน้าเข้าหากรุงดามัสกัส เมืองหลวงของประเทศ
    .
    นับตั้งแต่พวกกบฏบุกจู่โจมสายฟ้าแลบเข้าสู่เมืองอเลปโปเมื่อสัปดาห์ก่อน กองกำลังป้องกันตนเองต้องดิ้นรนรับมือกับความรวดเร็วของฝ่ายกบฏที่จู่โจมยึดเมืองหลักๆและจุดประกายการก่อขบถตามพื้นที่ต่างๆในดูเหมือนจะมอดไหม้มาช้านานแล้ว
    .
    การล่มสลายของเมืองฮอมส์และภัยคุกคามที่มีต่อเมืองหลวง เวลานี้เสี่ยงก่ออันตรายต่อความอยู่รอดของอำนาจการปกครองซีเรียของอัสซาด ที่เขาครอบครองมานานกว่า 5 ทศวรรษ เช่นเดียวกับความอยู่รอดของอิทธิพลของอิหร่าน ผู้สนับสนุนหลักในภูมิภาคแห่งนี้ของซีเรีย
    .
    อาบู โมฮัมเมด อัล-โกลานี หัวหน้ากลุ่มกบฏที่ทรงอิทธิพลมากที่สุด ระบุในถ้อยแถลงว่าพวกกบฏกำลังอยู่บนจุดสูงสุดของการยึดครองทั่วประเทศ และ "จุดจบของระบอบการปกครองอาชญากรใกล้มาถึงแล้ว"
    .
    รอยเตอร์อ้างคำกล่าวของพวกเจ้าหน้าที่ต่างประเทศ ที่ไม่ประสงค์เอ่ยนามระบุรัฐบาลของอัสซาด อาจกำลังอยู่บนขอบเหวแห่งการล่มสลาย โดยเจ้าหน้าที่สหรัฐฯรายหนึ่งถึงขั้นคาดการณ์กรอบเวลาราวๆ 5 ถึง 10 วัน ส่วนอีกคนบอกว่า อัสซาด อาจถูกโค่นอำนาจในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งเจ้าหน้าที่ตะวันตกรายหนึ่งก็เห็นด้วยกับคำประเมินดังกล่าว
    .
    การยึดเมืองฮอมส์ ซึ่งเป็นเส้นทางจุดตัดสำคัญระหว่างเมืองหลวงกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เท่ากับเป็นการตัดขาดกรุงดามัสกัสออกจากชายฝั่งทะเล อันเป็นป้อมปราการของชนกลุ่มนิกายชีอะห์อะลาไวต์ ที่สนับสนุนอัสซาด และจากฐานทัพและฐานทัพเรือของรัสเซีย
    .
    บรรดาผู้บัญชาการกองทัพซีเรียและผู้บัญชาการด้านความมั่นคง ออกจากเมืองฮอมส์ด้วยเฮลิคอปเตอร์ในวันเสาร์(7ธ.ค.) ส่วนขบวนทหารขนาดใหญ่ล่าถอยด้วยการเดินเท้า จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูง ในขณะที่ฝ่ายกบฏบอกว่าพวกเขากำลังรุกเข้าไปยังย่านใจกลางเมือง
    .
    พวกกบฏอ้างว่าสามารถยึดพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ได้เกือบทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง และพวกเขารุกคืบเข้าไปอยู่ในรัศมีห่างจากกรุงดามัสกัส ไม่ถึง 30 กิโลเมตร หลังจากกองกำลังรัฐบาลล่าถอยไป
    .
    ในสถานการณ์ที่ตอกย้ำความเป็นไปได้ของการเกิดการลุกฮือในเมืองหลวง พวกผู้ประท้วงลงสู่ท้องถนสายต่างๆในแถบชานเมืองหลายแห่งของกรุงดามัสกัส ฉีกโปสเตอร์ภาพของอัสซาดและช่วยกันโค่นรูปปั้นของอดีตประธานาธิบดีฮาเฟซ อัล-อัสซาด บิดาของเขา โดยไม่มีทหารหรือตำรวจเข้ามาห้ามปรามแต่อย่างใด ขณะที่ชาวบ้านหลายคนบอกว่าทหารบางส่วนถึงขั้นเปลี่ยนชุดเป็นชุดพลเรือนเข้าร่วมด้วย
    .
    อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวแห่งรัฐรายงานว่า อัสซาด ยังคงอยู่ในกรุงดามัสกัส และกองทัพเผยว่าพวกเขากำลังเสริมกำลังรอบเมืองหลวงและทางใต้
    .
    ความคืบหน้าของสถานการณ์ที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว สร้างความตกตะลึงแก่เหล่าประเทศอาหรับ และโหมกระพือความกังวลเกี่ยวกับภาวะไร้เสถียรภาพระลอกใหม่ในภูมิภาค
    .
    กาตาร์, ซาอุดีอาระเบีย, จอร์แดน, อียิปต์, อิรัก, อิหร่าน, ตุรกีและรัสเซีย ออกถ้อยแถลงร่วม บอกว่าวิกฤตนี้กำลังมีวิวัฒนาการที่อันตราย และเรียกร้องให้หาทางออกทางการเมือง อย่างไรก็ตามไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่าพวกเขาเห็นพ้องในก้าวย่างที่เป็นรูปธรรมใดๆ ในฐานะสถานการณ์ภายในซีเรีย เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเป็นรายชั่วโมง
    .
    สงครามกลางเมืองของซีเรีย ซึ่งปะทุขึ้นในปี 2011 เป็นการลุกฮือต่อต้านการปกครองของอัสซาด ก่อนที่ต่อมามันจะลากบรรดามหาอำนาจจากสงนอกเข้าร่วมวงด้วย ก่อพื้นที่ให้พวกนักรบญิฮาดวางแผนโจมตีทั่วโลแและก่อคลื่นผู้ลี้ภัยหลายล้านคนไหลบ่าเข้าสู่บรรดาประเทศเพื่อนบ้าน
    .
    อัสซาด พึ่งพิงเหล่าพันธมิตรมาช้านานในการกำราบฝ่ายกบฏ โดยมีฝูงบินรบรัสเซียปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ส่วนอิหร่านส่งกองกำลังพันธมิตร ในนั้นรวมถึงฮิซบอลเลาะห์ของเลบานอนและกลุ่มติดอาวุธในอิรัก เข้าเสริมกำลังแก่กองทัพซีเรียและบุกจู่โจมป้อมปราการของกบฏ
    .
    อย่างไรก็ตามด้วยที่รัสเซียต้องหันไปโฟกัสกับสงครามยูเครนมาตั้งแต่ปี 2022 และฮิซบอลเลาะห์ประสบความสูญเสียครั้งใหญ่ในการทำสงครามกองโจรกับอิสราเอล มันจึงจำกัดศักยภาพของพวกเขาหรือของอิหร่าน ในการสนับสนุนอัสซาด
    .
    ด้าน โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บอกว่าอเมริกาจะไม่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง และควรปล่อยให้เรื่องนี้ดำเนินไปด้วยตัวมันเอง
    .
    รัสเซีย มีฐานทัพเรือและฐานทัพอากาศในซีเรีย ซึ่งไม่ได้มีความสำคัญแก่สนับสนุนอัสซาดเท่านั้น แต่ยังมีศักยภาพในการสำแดงอิทธิพลของพวกเขาในเมดิเตอร์เรเนียนและแอฟริกา
    .
    ที่ผ่านมา มอสโกให้การสนับสนุนกองกำลังรัฐบาลซีเรียด้วยปฏิบัติการโจมตีทางอากาศอย่างหนักหน่วง แต่สำหรับหนนี้ไม่เป็นที่ชัดเจนว่าพวกเขาจะยกระดับยุทธการได้อย่างง่ายๆหรือไม่ ส่วนอิหร่านบอกว่าพวกเขาจะพิจารณาส่งกองกำลังไปยังซีเรีย แต่ความช่วยเหลือพิเศษในช่วงเร็วๆนี้ ดูเหมือนจะต้องพึ่งพวกฮิซบอลเลาะห์และกลุ่มติดอาวุธในอิรักไปก่อน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000117846
    ..................
    Sondhi X
    กองกำลังรัฐบาลซีเรียล่าถอยจากฮอมส์ เมืองสำคัญ ไม่ถึงวันของการสู้รบ ที่ทำให้ระบอบการปกครองของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ที่อยู่ในอำนาจมานานกว่า 24 ปี แขวนอยู่บนเส้นด้าย ในขณะที่พวกกบฏกำลังรุกคืบอย่างต่อเนื่อง ในนั้นรวมถึงการเดินหน้าเข้าหากรุงดามัสกัส เมืองหลวงของประเทศ . นับตั้งแต่พวกกบฏบุกจู่โจมสายฟ้าแลบเข้าสู่เมืองอเลปโปเมื่อสัปดาห์ก่อน กองกำลังป้องกันตนเองต้องดิ้นรนรับมือกับความรวดเร็วของฝ่ายกบฏที่จู่โจมยึดเมืองหลักๆและจุดประกายการก่อขบถตามพื้นที่ต่างๆในดูเหมือนจะมอดไหม้มาช้านานแล้ว . การล่มสลายของเมืองฮอมส์และภัยคุกคามที่มีต่อเมืองหลวง เวลานี้เสี่ยงก่ออันตรายต่อความอยู่รอดของอำนาจการปกครองซีเรียของอัสซาด ที่เขาครอบครองมานานกว่า 5 ทศวรรษ เช่นเดียวกับความอยู่รอดของอิทธิพลของอิหร่าน ผู้สนับสนุนหลักในภูมิภาคแห่งนี้ของซีเรีย . อาบู โมฮัมเมด อัล-โกลานี หัวหน้ากลุ่มกบฏที่ทรงอิทธิพลมากที่สุด ระบุในถ้อยแถลงว่าพวกกบฏกำลังอยู่บนจุดสูงสุดของการยึดครองทั่วประเทศ และ "จุดจบของระบอบการปกครองอาชญากรใกล้มาถึงแล้ว" . รอยเตอร์อ้างคำกล่าวของพวกเจ้าหน้าที่ต่างประเทศ ที่ไม่ประสงค์เอ่ยนามระบุรัฐบาลของอัสซาด อาจกำลังอยู่บนขอบเหวแห่งการล่มสลาย โดยเจ้าหน้าที่สหรัฐฯรายหนึ่งถึงขั้นคาดการณ์กรอบเวลาราวๆ 5 ถึง 10 วัน ส่วนอีกคนบอกว่า อัสซาด อาจถูกโค่นอำนาจในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งเจ้าหน้าที่ตะวันตกรายหนึ่งก็เห็นด้วยกับคำประเมินดังกล่าว . การยึดเมืองฮอมส์ ซึ่งเป็นเส้นทางจุดตัดสำคัญระหว่างเมืองหลวงกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เท่ากับเป็นการตัดขาดกรุงดามัสกัสออกจากชายฝั่งทะเล อันเป็นป้อมปราการของชนกลุ่มนิกายชีอะห์อะลาไวต์ ที่สนับสนุนอัสซาด และจากฐานทัพและฐานทัพเรือของรัสเซีย . บรรดาผู้บัญชาการกองทัพซีเรียและผู้บัญชาการด้านความมั่นคง ออกจากเมืองฮอมส์ด้วยเฮลิคอปเตอร์ในวันเสาร์(7ธ.ค.) ส่วนขบวนทหารขนาดใหญ่ล่าถอยด้วยการเดินเท้า จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูง ในขณะที่ฝ่ายกบฏบอกว่าพวกเขากำลังรุกเข้าไปยังย่านใจกลางเมือง . พวกกบฏอ้างว่าสามารถยึดพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ได้เกือบทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง และพวกเขารุกคืบเข้าไปอยู่ในรัศมีห่างจากกรุงดามัสกัส ไม่ถึง 30 กิโลเมตร หลังจากกองกำลังรัฐบาลล่าถอยไป . ในสถานการณ์ที่ตอกย้ำความเป็นไปได้ของการเกิดการลุกฮือในเมืองหลวง พวกผู้ประท้วงลงสู่ท้องถนสายต่างๆในแถบชานเมืองหลายแห่งของกรุงดามัสกัส ฉีกโปสเตอร์ภาพของอัสซาดและช่วยกันโค่นรูปปั้นของอดีตประธานาธิบดีฮาเฟซ อัล-อัสซาด บิดาของเขา โดยไม่มีทหารหรือตำรวจเข้ามาห้ามปรามแต่อย่างใด ขณะที่ชาวบ้านหลายคนบอกว่าทหารบางส่วนถึงขั้นเปลี่ยนชุดเป็นชุดพลเรือนเข้าร่วมด้วย . อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวแห่งรัฐรายงานว่า อัสซาด ยังคงอยู่ในกรุงดามัสกัส และกองทัพเผยว่าพวกเขากำลังเสริมกำลังรอบเมืองหลวงและทางใต้ . ความคืบหน้าของสถานการณ์ที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว สร้างความตกตะลึงแก่เหล่าประเทศอาหรับ และโหมกระพือความกังวลเกี่ยวกับภาวะไร้เสถียรภาพระลอกใหม่ในภูมิภาค . กาตาร์, ซาอุดีอาระเบีย, จอร์แดน, อียิปต์, อิรัก, อิหร่าน, ตุรกีและรัสเซีย ออกถ้อยแถลงร่วม บอกว่าวิกฤตนี้กำลังมีวิวัฒนาการที่อันตราย และเรียกร้องให้หาทางออกทางการเมือง อย่างไรก็ตามไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่าพวกเขาเห็นพ้องในก้าวย่างที่เป็นรูปธรรมใดๆ ในฐานะสถานการณ์ภายในซีเรีย เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเป็นรายชั่วโมง . สงครามกลางเมืองของซีเรีย ซึ่งปะทุขึ้นในปี 2011 เป็นการลุกฮือต่อต้านการปกครองของอัสซาด ก่อนที่ต่อมามันจะลากบรรดามหาอำนาจจากสงนอกเข้าร่วมวงด้วย ก่อพื้นที่ให้พวกนักรบญิฮาดวางแผนโจมตีทั่วโลแและก่อคลื่นผู้ลี้ภัยหลายล้านคนไหลบ่าเข้าสู่บรรดาประเทศเพื่อนบ้าน . อัสซาด พึ่งพิงเหล่าพันธมิตรมาช้านานในการกำราบฝ่ายกบฏ โดยมีฝูงบินรบรัสเซียปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ส่วนอิหร่านส่งกองกำลังพันธมิตร ในนั้นรวมถึงฮิซบอลเลาะห์ของเลบานอนและกลุ่มติดอาวุธในอิรัก เข้าเสริมกำลังแก่กองทัพซีเรียและบุกจู่โจมป้อมปราการของกบฏ . อย่างไรก็ตามด้วยที่รัสเซียต้องหันไปโฟกัสกับสงครามยูเครนมาตั้งแต่ปี 2022 และฮิซบอลเลาะห์ประสบความสูญเสียครั้งใหญ่ในการทำสงครามกองโจรกับอิสราเอล มันจึงจำกัดศักยภาพของพวกเขาหรือของอิหร่าน ในการสนับสนุนอัสซาด . ด้าน โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บอกว่าอเมริกาจะไม่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง และควรปล่อยให้เรื่องนี้ดำเนินไปด้วยตัวมันเอง . รัสเซีย มีฐานทัพเรือและฐานทัพอากาศในซีเรีย ซึ่งไม่ได้มีความสำคัญแก่สนับสนุนอัสซาดเท่านั้น แต่ยังมีศักยภาพในการสำแดงอิทธิพลของพวกเขาในเมดิเตอร์เรเนียนและแอฟริกา . ที่ผ่านมา มอสโกให้การสนับสนุนกองกำลังรัฐบาลซีเรียด้วยปฏิบัติการโจมตีทางอากาศอย่างหนักหน่วง แต่สำหรับหนนี้ไม่เป็นที่ชัดเจนว่าพวกเขาจะยกระดับยุทธการได้อย่างง่ายๆหรือไม่ ส่วนอิหร่านบอกว่าพวกเขาจะพิจารณาส่งกองกำลังไปยังซีเรีย แต่ความช่วยเหลือพิเศษในช่วงเร็วๆนี้ ดูเหมือนจะต้องพึ่งพวกฮิซบอลเลาะห์และกลุ่มติดอาวุธในอิรักไปก่อน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000117846 .................. Sondhi X
    Like
    Sad
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 711 มุมมอง 0 รีวิว
  • แหล่งข่าวทางการทูตตะวันตกกล่าวกับรอยเตอร์ถึงความไม่พอใจอย่างยิ่งเกี่ยวกับการที่อิหร่านเพิ่มความเข้มข้นของยูเรเนียมเป็น 60% ซึ่งเทียบเท่าคุณสมบัติในการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งตะวันตกถือว่าเป็นเรื่อง "ร้ายแรงอย่างยิ่ง"
    แหล่งข่าวทางการทูตตะวันตกกล่าวกับรอยเตอร์ถึงความไม่พอใจอย่างยิ่งเกี่ยวกับการที่อิหร่านเพิ่มความเข้มข้นของยูเรเนียมเป็น 60% ซึ่งเทียบเท่าคุณสมบัติในการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งตะวันตกถือว่าเป็นเรื่อง "ร้ายแรงอย่างยิ่ง"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 91 มุมมอง 0 รีวิว
  • "อยู่ไกลแต่รู้ดีเหมือนมีเอี่ยวด้วย"
    “เรากำลังจะได้เห็นจุดจบของการปกครองของอัสซาดในซีเรียในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า” เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ กล่าวยืนยันกับรอยเตอร์
    "อยู่ไกลแต่รู้ดีเหมือนมีเอี่ยวด้วย" “เรากำลังจะได้เห็นจุดจบของการปกครองของอัสซาดในซีเรียในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า” เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ กล่าวยืนยันกับรอยเตอร์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 135 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts