• เมื่อเสียงสมน้ำหน้า เคล้าก่นด่า ดังกว่า... ตึก สตง. ถล่ม! วิกฤตศรัทธาหน่วยตรวจ ลืมสำรวจตัวเอง? ไม่ใช่แค่ตึกที่พัง แต่ความเชื่อมั่น ในกระบวนการของภาครัฐเอง ก็สั่นสะเทือนไปทั่วประเทศ 😓

    🏢 เหตุการณ์ถล่ม ของตึกเดียวในประเทศไทย จากแผ่นดินไหว จุดชนวนคำถามถึงความโปร่งใส ในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างของรัฐ และทำให้หน่วยงาน “ผู้ตรวจ” กลายเป็น “ผู้ถูกตรวจสอบ” เสียเอง

    🔎 เมื่อคำถามไม่ได้มีแค่ “ทำไมตึกถล่ม” แต่เป็น “ใครจะรับผิดชอบ?” 28 มีนาคม 2568 เวลา 14.37 น. กรุงเทพฯ สะเทือนจากแรงแผ่นดินไหวขนาด 8.2 แมกนิจูด ศูนย์กลางที่เมียนมา 🌏 ในขณะที่อาคารสูงทั่วกรุงเทพฯ แกว่งไกวเล็กน้อยเพียงชั่วครู่ แต่กลับมีตึกหนึ่งที่ “พังลงทั้งหลัง” 😱 ตึกแห่งนั้นคือ อาคารสำนักงานแห่งใหม่ของ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง

    เสียงระเบิดของโครงสร้างถล่มลงมา เสียงผู้รอดชีวิตร้องขอความช่วยเหลือ... และเสียง “ประชาชน” ที่เริ่มตั้งคำถามดังยิ่งกว่าเสียงไหน ๆ

    ทำไมตึกเดียวในไทยถึงถล่มทั้งหลัง?

    สตง. ไม่ตรวจสอบโครงการของตนเองหรือ?

    หรือระบบรัฐไทยล้มเหลวในระดับโครงสร้าง... ทั้งจริง ๆ และเชิงเปรียบเทียบ?

    📘 สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) หรือ Office of the Auditor General of Thailand คือหน่วยงานอิสระตามรัฐธรรมนูญ 🇹🇭 มีภารกิจสำคัญในการตรวจสอบ การใช้เงินของภาครัฐให้ถูกต้อง โปร่งใส และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน

    📌 ภารกิจหลักของ สตง.
    1. ตรวจสอบงบประมาณหน่วยงานรัฐ (Financial Audit)
    2. ตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎหมาย (Compliance Audit)
    3. ตรวจสอบประสิทธิภาพการดำเนินงาน (Performance Audit)

    นอกจากบทบาทในการตรวจสอบ สตง. ยังเสนอแนะการบริหาร และใช้จ่ายงบประมาณ พร้อมจัดทำรายงานประจำปีต่อรัฐสภา และประชาชนผ่านเว็บไซต์ www.audit.go.th เพื่อให้เกิด “ธรรมาภิบาล” ที่แท้จริง

    สตง. ทำหน้าที่เป็น “ผู้ตรวจสอบความโปร่งใสของรัฐ” แต่เมื่อสำนักงานของตัวเองถล่ม... ใครจะตรวจสอบ “ผู้ตรวจสอบ”?

    🧱 โครงการตึกใหม่ สตง. ต้นทุน 2,560 ล้านบาท แลกกับภาพลักษณ์องค์กร

    🏗️ ข้อมูลโครงการ
    สร้างที่:ถนนกำแพงเพชร 2 เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร

    ขนาดอาคาร 30 ชั้น บนพื้นที่ 11 ไร่

    งบประมาณรวม 2,560 ล้านบาท

    ผู้รับเหมาคือ กิจการร่วมค้า ITD-CREC เป็นบริษัทร่วมลงทุนระหว่างบริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จํากัด (มหาชน) และบริษัทไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด

    บริษัทควบคุมงานคือ กิจการร่วมค้าพีเคดับเบิลยู (PKW) ที่ร่วมทุนระหว่างบริษัทพี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จํากัด, บริษัท ว.และ สหาย คอนซัลแตนตส์ จํากัด และบริษัท เคพี คอนซัลแทนส์ แอนด์ แมเนจเม้น จํากัด

    การก่อสร้างเริ่มตั้งแต่ปี 2563 คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2569 โดยตั้งเป้าเป็นอาคารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รองรับการขยายตัวขององค์กรในอนาคต 🌱

    แต่ในวันที่ 28 มีนาคม 2568 หลังจากสร้างมาได้เพียง 30%... ตึกก็ถล่มทั้งหลัง 😰

    💣 สาเหตุ? อุบัติเหตุ? หรือสะท้อนปัญหาลึกของระบบ?

    📍 แรงแผ่นดินไหว หรือโครงสร้างอ่อนแอ? แม้แผ่นดินไหวขนาด 8.2 จะถือว่ารุนแรง แต่บริเวณกรุงเทพฯ โดยเฉพาะจตุจักร ได้รับแรงสั่นสะเทือนประมาณ 5.1 เท่านั้น ซึ่งถือว่า ไม่แรงพอที่จะทำให้อาคารพังราบทั้งหลัง ตามมาตรฐานของกรมโยธาธิการและผังเมือง

    แล้วอะไรคือปัจจัยสำคัญที่ทำให้อาคารพัง?

    วัสดุก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน? 🧱

    โครงสร้างไม่รองรับแรงสั่น?

    ขั้นตอนตรวจสอบขาดความรัดกุม?

    จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เหล็กเส้นที่ใช้ในอาคารส่วนใหญ่ มาจากบริษัทต่างชาติ ที่ถูกสั่งปิดโรงงานในปลายปี 2567 เนื่องจากไม่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย ‼️

    🧪 ตรวจสอบวัสดุจริง กับข้อเท็จจริงที่น่าหวั่นใจ กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับ สวทช. และวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ได้เข้าตรวจสอบเหล็กเส้น จากสถานที่เกิดเหตุ พบว่า เหล็ก 5 จาก 6 ประเภท มาจากโรงงานเดียวกัน โรงงานนี้เคยมีประวัติการระเบิด และเครนหล่น อีกทั้งยังเคยถูกสั่งปิดชั่วคราว จากเหตุผลด้านความปลอดภัย

    ❗ คำถามคือ เหล็กจากแหล่งที่ไม่มีคุณภาพเหล่านี้ ผ่านการอนุมัติเข้าโครงการระดับพันล้าน ได้อย่างไร?

    🧠 เมื่อ “ผู้ตรวจ” ลืม “ตรวจสอบตัวเอง”? กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐไทย แม้จะมีกฎหมายและระเบียบที่รัดกุม แต่ในทางปฏิบัติ กลับพบว่า…

    การประมูลมักให้น้ำหนักกับ “ราคาถูก” มากกว่าคุณภาพ ผู้รับเหมาจึงใช้วัสดุราคาต่ำกว่ามาตรฐาน การกำกับดูแลไม่ทั่วถึง เพราะผู้ควบคุมโครงการ ก็อยู่ภายใต้งบจำกัด

    น่าเจ็บปวดที่เหตุการณ์นี้เกิดกับ “สตง.” ผู้ที่ควรจะเป็นต้นแบบของความโปร่งใส

    ⚖️ การเมืองในองค์กรอิสระ: อิสระจริง หรือเลือกกันเอง? โครงสร้าง คตง. และการสรรหา คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) มาจากการสรรหาโดย ส.ว. ปัจจุบันผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ได้รับการแต่งตั้งโดย ส.ว. ชุดพิเศษ การแต่งตั้งกรรมการหลายคน มีข้อครหาว่าไม่โปร่งใส และถูกฟ้องต่อศาลปกครอง

    ⛔ จุดนี้เองที่ทำให้ประชาชนเริ่มตั้งคำถามถึง “อิสรภาพ” ขององค์กรที่ควรเป็นอิสระจากการเมือง

    📣 กระแสโซเชียล & ประชาชน “เสียงสมน้ำหน้า” ดังยิ่งกว่าความเศร้า ในขณะที่ครอบครัวผู้เสียชีวิต ยังรอการกู้ร่างในซากตึก โลกออนไลน์กลับเต็มไปด้วยเสียงแดกดัน เช่น

    “ผู้ตรวจ ลืมตรวจตึกตัวเอง”

    “สมน้ำหน้าที่พังเพราะไม่โปร่งใส”

    “เงินภาษีคนไทยพังลงต่อหน้า”

    คำพูดเหล่านี้อาจดูโหดร้าย แต่ก็สะท้อนความรู้สึกของคนจำนวนมาก ที่รู้สึกว่า “แม้แต่หน่วยงานตรวจสอบ ก็ยังไม่รอดจากระบบที่พัง”

    📉 วิกฤตศรัทธา & บทเรียนราคาแพง สิ่งที่สูญเสียไม่ใช่แค่งบประมาณ หรือชีวิต… แต่คือ ความเชื่อมั่นต่อระบบรัฐ

    🚨 บทเรียนสำคัญที่รัฐต้องรับให้ได้ การคัดเลือกผู้รับเหมา ควรมีระบบที่ยึด “คุณภาพ” เป็นหลัก ต้องมีการตรวจสอบหลายชั้น โดยอิสระจริง ๆ ปฏิรูประบบจัดซื้อจัดจ้าง ให้ประชาชนมีส่วนร่วม เพิ่มบทลงโทษกรณีวัสดุหรือผู้รับเหมาไม่ได้มาตรฐาน

    📌 จากตึกถล่ม สู่การตรวจสอบศรัทธาประชาชน เหตุการณ์ตึก สตง. ถล่ม อาจเป็นจุดเปลี่ยนที่เจ็บปวดของประเทศไทย 🕯️ แต่ในขณะเดียวกัน... นี่อาจเป็นโอกาสในการทบทวนระบบราชการ และการบริหารงบประมาณของรัฐอย่างแท้จริง

    อย่าให้เสียง “สมน้ำหน้า” ดังกลบเสียงของผู้เสียชีวิต อย่าให้ตึกที่พัง เป็นเพียงข่าวแค่ไม่กี่วัน แต่ให้มันเป็นบทเรียนที่สร้าง “การเปลี่ยนแปลง”

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 021119 เม.ย. 2568

    📢#ตึกสตงถล่ม #ผู้ตรวจถูกตรวจ #แผ่นดินไหว2568 #ข่าวด่วน #เหล็กไม่ได้มาตรฐาน #สตงคือใคร #ความโปร่งใสภาครัฐ #อาคารถล่มกรุงเทพ #ITDCREC #ข่าวไทย
    เมื่อเสียงสมน้ำหน้า เคล้าก่นด่า ดังกว่า... ตึก สตง. ถล่ม! วิกฤตศรัทธาหน่วยตรวจ ลืมสำรวจตัวเอง? ไม่ใช่แค่ตึกที่พัง แต่ความเชื่อมั่น ในกระบวนการของภาครัฐเอง ก็สั่นสะเทือนไปทั่วประเทศ 😓 🏢 เหตุการณ์ถล่ม ของตึกเดียวในประเทศไทย จากแผ่นดินไหว จุดชนวนคำถามถึงความโปร่งใส ในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างของรัฐ และทำให้หน่วยงาน “ผู้ตรวจ” กลายเป็น “ผู้ถูกตรวจสอบ” เสียเอง 🔎 เมื่อคำถามไม่ได้มีแค่ “ทำไมตึกถล่ม” แต่เป็น “ใครจะรับผิดชอบ?” 28 มีนาคม 2568 เวลา 14.37 น. กรุงเทพฯ สะเทือนจากแรงแผ่นดินไหวขนาด 8.2 แมกนิจูด ศูนย์กลางที่เมียนมา 🌏 ในขณะที่อาคารสูงทั่วกรุงเทพฯ แกว่งไกวเล็กน้อยเพียงชั่วครู่ แต่กลับมีตึกหนึ่งที่ “พังลงทั้งหลัง” 😱 ตึกแห่งนั้นคือ อาคารสำนักงานแห่งใหม่ของ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง เสียงระเบิดของโครงสร้างถล่มลงมา เสียงผู้รอดชีวิตร้องขอความช่วยเหลือ... และเสียง “ประชาชน” ที่เริ่มตั้งคำถามดังยิ่งกว่าเสียงไหน ๆ ทำไมตึกเดียวในไทยถึงถล่มทั้งหลัง? สตง. ไม่ตรวจสอบโครงการของตนเองหรือ? หรือระบบรัฐไทยล้มเหลวในระดับโครงสร้าง... ทั้งจริง ๆ และเชิงเปรียบเทียบ? 📘 สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) หรือ Office of the Auditor General of Thailand คือหน่วยงานอิสระตามรัฐธรรมนูญ 🇹🇭 มีภารกิจสำคัญในการตรวจสอบ การใช้เงินของภาครัฐให้ถูกต้อง โปร่งใส และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน 📌 ภารกิจหลักของ สตง. 1. ตรวจสอบงบประมาณหน่วยงานรัฐ (Financial Audit) 2. ตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎหมาย (Compliance Audit) 3. ตรวจสอบประสิทธิภาพการดำเนินงาน (Performance Audit) นอกจากบทบาทในการตรวจสอบ สตง. ยังเสนอแนะการบริหาร และใช้จ่ายงบประมาณ พร้อมจัดทำรายงานประจำปีต่อรัฐสภา และประชาชนผ่านเว็บไซต์ www.audit.go.th เพื่อให้เกิด “ธรรมาภิบาล” ที่แท้จริง สตง. ทำหน้าที่เป็น “ผู้ตรวจสอบความโปร่งใสของรัฐ” แต่เมื่อสำนักงานของตัวเองถล่ม... ใครจะตรวจสอบ “ผู้ตรวจสอบ”? 🧱 โครงการตึกใหม่ สตง. ต้นทุน 2,560 ล้านบาท แลกกับภาพลักษณ์องค์กร 🏗️ ข้อมูลโครงการ สร้างที่:ถนนกำแพงเพชร 2 เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ขนาดอาคาร 30 ชั้น บนพื้นที่ 11 ไร่ งบประมาณรวม 2,560 ล้านบาท ผู้รับเหมาคือ กิจการร่วมค้า ITD-CREC เป็นบริษัทร่วมลงทุนระหว่างบริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จํากัด (มหาชน) และบริษัทไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทควบคุมงานคือ กิจการร่วมค้าพีเคดับเบิลยู (PKW) ที่ร่วมทุนระหว่างบริษัทพี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จํากัด, บริษัท ว.และ สหาย คอนซัลแตนตส์ จํากัด และบริษัท เคพี คอนซัลแทนส์ แอนด์ แมเนจเม้น จํากัด การก่อสร้างเริ่มตั้งแต่ปี 2563 คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2569 โดยตั้งเป้าเป็นอาคารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รองรับการขยายตัวขององค์กรในอนาคต 🌱 แต่ในวันที่ 28 มีนาคม 2568 หลังจากสร้างมาได้เพียง 30%... ตึกก็ถล่มทั้งหลัง 😰 💣 สาเหตุ? อุบัติเหตุ? หรือสะท้อนปัญหาลึกของระบบ? 📍 แรงแผ่นดินไหว หรือโครงสร้างอ่อนแอ? แม้แผ่นดินไหวขนาด 8.2 จะถือว่ารุนแรง แต่บริเวณกรุงเทพฯ โดยเฉพาะจตุจักร ได้รับแรงสั่นสะเทือนประมาณ 5.1 เท่านั้น ซึ่งถือว่า ไม่แรงพอที่จะทำให้อาคารพังราบทั้งหลัง ตามมาตรฐานของกรมโยธาธิการและผังเมือง แล้วอะไรคือปัจจัยสำคัญที่ทำให้อาคารพัง? วัสดุก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน? 🧱 โครงสร้างไม่รองรับแรงสั่น? ขั้นตอนตรวจสอบขาดความรัดกุม? จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เหล็กเส้นที่ใช้ในอาคารส่วนใหญ่ มาจากบริษัทต่างชาติ ที่ถูกสั่งปิดโรงงานในปลายปี 2567 เนื่องจากไม่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย ‼️ 🧪 ตรวจสอบวัสดุจริง กับข้อเท็จจริงที่น่าหวั่นใจ กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับ สวทช. และวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ได้เข้าตรวจสอบเหล็กเส้น จากสถานที่เกิดเหตุ พบว่า เหล็ก 5 จาก 6 ประเภท มาจากโรงงานเดียวกัน โรงงานนี้เคยมีประวัติการระเบิด และเครนหล่น อีกทั้งยังเคยถูกสั่งปิดชั่วคราว จากเหตุผลด้านความปลอดภัย ❗ คำถามคือ เหล็กจากแหล่งที่ไม่มีคุณภาพเหล่านี้ ผ่านการอนุมัติเข้าโครงการระดับพันล้าน ได้อย่างไร? 🧠 เมื่อ “ผู้ตรวจ” ลืม “ตรวจสอบตัวเอง”? กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐไทย แม้จะมีกฎหมายและระเบียบที่รัดกุม แต่ในทางปฏิบัติ กลับพบว่า… การประมูลมักให้น้ำหนักกับ “ราคาถูก” มากกว่าคุณภาพ ผู้รับเหมาจึงใช้วัสดุราคาต่ำกว่ามาตรฐาน การกำกับดูแลไม่ทั่วถึง เพราะผู้ควบคุมโครงการ ก็อยู่ภายใต้งบจำกัด น่าเจ็บปวดที่เหตุการณ์นี้เกิดกับ “สตง.” ผู้ที่ควรจะเป็นต้นแบบของความโปร่งใส ⚖️ การเมืองในองค์กรอิสระ: อิสระจริง หรือเลือกกันเอง? โครงสร้าง คตง. และการสรรหา คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) มาจากการสรรหาโดย ส.ว. ปัจจุบันผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ได้รับการแต่งตั้งโดย ส.ว. ชุดพิเศษ การแต่งตั้งกรรมการหลายคน มีข้อครหาว่าไม่โปร่งใส และถูกฟ้องต่อศาลปกครอง ⛔ จุดนี้เองที่ทำให้ประชาชนเริ่มตั้งคำถามถึง “อิสรภาพ” ขององค์กรที่ควรเป็นอิสระจากการเมือง 📣 กระแสโซเชียล & ประชาชน “เสียงสมน้ำหน้า” ดังยิ่งกว่าความเศร้า ในขณะที่ครอบครัวผู้เสียชีวิต ยังรอการกู้ร่างในซากตึก โลกออนไลน์กลับเต็มไปด้วยเสียงแดกดัน เช่น “ผู้ตรวจ ลืมตรวจตึกตัวเอง” “สมน้ำหน้าที่พังเพราะไม่โปร่งใส” “เงินภาษีคนไทยพังลงต่อหน้า” คำพูดเหล่านี้อาจดูโหดร้าย แต่ก็สะท้อนความรู้สึกของคนจำนวนมาก ที่รู้สึกว่า “แม้แต่หน่วยงานตรวจสอบ ก็ยังไม่รอดจากระบบที่พัง” 📉 วิกฤตศรัทธา & บทเรียนราคาแพง สิ่งที่สูญเสียไม่ใช่แค่งบประมาณ หรือชีวิต… แต่คือ ความเชื่อมั่นต่อระบบรัฐ 🚨 บทเรียนสำคัญที่รัฐต้องรับให้ได้ การคัดเลือกผู้รับเหมา ควรมีระบบที่ยึด “คุณภาพ” เป็นหลัก ต้องมีการตรวจสอบหลายชั้น โดยอิสระจริง ๆ ปฏิรูประบบจัดซื้อจัดจ้าง ให้ประชาชนมีส่วนร่วม เพิ่มบทลงโทษกรณีวัสดุหรือผู้รับเหมาไม่ได้มาตรฐาน 📌 จากตึกถล่ม สู่การตรวจสอบศรัทธาประชาชน เหตุการณ์ตึก สตง. ถล่ม อาจเป็นจุดเปลี่ยนที่เจ็บปวดของประเทศไทย 🕯️ แต่ในขณะเดียวกัน... นี่อาจเป็นโอกาสในการทบทวนระบบราชการ และการบริหารงบประมาณของรัฐอย่างแท้จริง อย่าให้เสียง “สมน้ำหน้า” ดังกลบเสียงของผู้เสียชีวิต อย่าให้ตึกที่พัง เป็นเพียงข่าวแค่ไม่กี่วัน แต่ให้มันเป็นบทเรียนที่สร้าง “การเปลี่ยนแปลง” ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 021119 เม.ย. 2568 📢#ตึกสตงถล่ม #ผู้ตรวจถูกตรวจ #แผ่นดินไหว2568 #ข่าวด่วน #เหล็กไม่ได้มาตรฐาน #สตงคือใคร #ความโปร่งใสภาครัฐ #อาคารถล่มกรุงเทพ #ITDCREC #ข่าวไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 611 มุมมอง 0 รีวิว
  • ล้างบาง ‘โกงยา’ โรงพยาบาลทหารผ่านศึกที่มีขบวนการทำมาอย่างยาวนานนับ 7 ปีตั้งแต่ แพทย์ ทหาร พันเองหญิง คนไข้ทิพย์ ที่ยอมกิน หวาน มัน เค็ม เพื่อให้ค่าเลือดผิด พบเส้นเงินกว่า 80 ล้าน กินเงินภาษีคนไทยทั้งประเทศมานานปี จนถึงวันที่เครื่อข่ายล้มสลาย ตอนโดนจับ แขนขาอ่อนแรงเดินเองไม่ได้ มีความเป็นมาอย่างไร NBT CONNEXT จะเล่าให้ฟัง🛑 ขบวนการนี้เป็นเครือข่ายจากลพบุรี มีทั้งแพทย์ ทหาร พยาบาล ครู เกี่ยวข้องกันทั้งหมดมี แพทย์ทหารหญิงยศพันเอกเป็นตัวบงการใหญ่ เริ่มแรกมีการเปิดโปงเรื่องนี้คือ นางสาวพัชนีย์ พูนสุข หรือ “ก้อย” ผู้ และนายธนเดช เพ็งสุข ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาชน และรองประธาน กมธ.ทหารฯ ที่ทนเห็นพฤติกรรมของกลุ่มคนพวกนี้ไม่ได้ รวบรวมเก็บหลักฐานมานานปี มอบให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หลังจากนั้นเพื่อความปลอดภัยของตัวเธอเอง เธอต้องมาใช้ชีวิตที่กองปราบนานนับเดือน เธอบอกว่าตอนนี้กองปราบเหมือนเป็นบ้านของเธอไปแล้ว🛑 ทีมนี้ แบ่งออกเป็น 6 ทีม แต่ละทีมมีแม่ทีม และชาวบ้านลูกทีมหลายสิบคน โดยการเตี๊ยมเนื้อหากับลูกทีม ว่าให้ไปพูดกับหมอยังไงตอนหมอนัดตรวจ บางคนก็ถูกบอกว่าให้กินอาหาร หวาน เค็ม มัน ให้ความดันสูง น้ำตาลสูง ไขมันสูง เพื่อให้ผลเลือดแย่ หมอจะได้จ่ายยาให้เยอะๆ เน้นเอายานอกบัญชีที่ราคาสูง โดยแต่ละคนได้ค่าตอบแทนครั้งละ 2-3 พันบาท พอได้ยามา ก็เอาไปให้แม่ทีม เอาไปขายต่อ อย่างไรก็ตาม มีการดำเนินการแบบนี้มาตลอดไม่เคยถูกจับได้ เพราะฐานข้อมูลไม่เชื่อมโยงกัน🛑 หลังจากเรื่องแดงขึ้น พล.อ.เดชนิธิศ เหลืองงามขำ ผ.อ.องค์การทหารผ่านศึก ได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน บก.ปปป. เมื่อเดือน ก.พ.2568 หลังพบว่ามีขบวนการนำยาออกจากโรงพยาบาลทหารผ่านศึก และพบพฤติการณ์ผิดปกติว่ามีการจัดหาเครือข่ายบุคคลจาก จ.ลพบุรี เข้ามารับยาจากโรงพยาบาลทหารผ่านศึก และนำยาทั้งหมดที่ได้ให้กับแม่ทีมเครือข่ายเพื่อแลกกับค่าจ้างร้อยละ 10 ของค่ายา ซึ่งแม่ทีมเครือข่ายจะได้ค่าจ้างรายหัวอีกรายละ 1,500 บาท🛑 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. ได้วางแนวทางการสืบสวนพบมีการทำเป็นขบวนการมี พ.อ.หญิง เป็นผู้วางแผนให้แม่ขายจัดหาบุคคลมาพบแพทย์ ทำทีตรวจรักษากับแพทย์หญิง และสั่งจ่ายยาให้กับผู้ป่วยทิพย์ เพื่อสั่งจ่ายยาที่เกินจากโรคที่เป็นอยู่จริง ก่อนจะรวบรวมยาไปเก็บเพื่อรอจำหน่าย กระจายไปยังจุดต่าง ๆ🛑 เมื่อได้หลักฐานเรียบร้อยแล้ว เช้าวันนี้จึงเริ่มมีปฏิบัติการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.1 บก.ปปป. นำกำลังร่วมกับ ป.ป.ช. และ ป.ป.ท. ลุยตรวจค้นเป้าหมาย 17 จุดในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร ลพบุรี และปราจีนบุรี ชลบุรี เพื่อจับกุมผู้ต้องหาขบวนการทุจริตเบิกจ่ายยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึกก่อนนำไปขายต่อให้กับบุคคลภายนอก ได้ตัวการสำคัญ พันเอกหญิง อายุ 59 ปี ข้าราชการบำนาญ ในย่านเกียกกาย เป็นถึงหัวหน้าขบวนการ ทำหน้าที่จัดหาเครือข่ายบุคคลจากจังหวัดลพบุรี เข้ามารับยาจากโรงพยาบาลทหารผ่านศึก และนำยาทั้งหมดที่ได้ให้กับแม่ทีมเครือข่ายเพื่อแลกกับค่าจ้างร้อยละ 10 ของค่ายา โดยแม่ทีมเครือข่ายจะได้ค่าจ้างรายหัวอีกรายละ 1,500 บาท🛑 แพทย์หญิง อายุ 48 ปี ผู้ชำนาญการโรงพยาบาลทหารผ่านศึก ตั้งอยู่ในพื้นที่ย่านลาดพร้าว 71 โดยตัวแพทย์หญิงบรินดา ถือเป็นอีกหนึ่งผู้ต้องหาคนสำคัญของขบวนการ เนื่องจากเป็นคนทำหน้าที่สั่งจ่ายยา ด้วยการวินิจฉัยโรคให้เกินจากโรคที่เป็นอยู่จริงกับผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นผู้ป่วยที่เข้ามารับยาในขบวนการนี้🛑 นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. ยืนยันว่า ผลการตรวจสอบเส้นทางธุรกรรมทางการเงินไม่พบว่ามีผู้อยู่เบื้องหลัง และไม่มี mastermind แต่เส้นเงินดังกล่าวไปสิ้นสุดที่ 2 ผู้ต้องหาและเครือข่ายเท่านั้น จากการตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังพบว่า ขบวนการดังกล่าวมีการทุจริตตั้งปี 2561-2564 และยังพบข้อมูลอีกว่าในช่วงปี 2561-2568 มีเงินถูกโอนเข้าบัญชีรวมกว่า 40 ล้านบาท และมีการประเมินความเสียหายจากการทุจริตอยู่ที่มูลค่ากว่า 80 ล้านบาท🛑 คดีดังกล่าวขณะนี้มีผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับแล้ว 8 ราย และตามข้อกฎหมาย ให้สันนิษฐานว่า ผู้ถูกจับกุมยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาจนถึงที่สุดให้ให้ถือว่า ยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ที่มา : nbtconnext
    ล้างบาง ‘โกงยา’ โรงพยาบาลทหารผ่านศึกที่มีขบวนการทำมาอย่างยาวนานนับ 7 ปีตั้งแต่ แพทย์ ทหาร พันเองหญิง คนไข้ทิพย์ ที่ยอมกิน หวาน มัน เค็ม เพื่อให้ค่าเลือดผิด พบเส้นเงินกว่า 80 ล้าน กินเงินภาษีคนไทยทั้งประเทศมานานปี จนถึงวันที่เครื่อข่ายล้มสลาย ตอนโดนจับ แขนขาอ่อนแรงเดินเองไม่ได้ มีความเป็นมาอย่างไร NBT CONNEXT จะเล่าให้ฟัง🛑 ขบวนการนี้เป็นเครือข่ายจากลพบุรี มีทั้งแพทย์ ทหาร พยาบาล ครู เกี่ยวข้องกันทั้งหมดมี แพทย์ทหารหญิงยศพันเอกเป็นตัวบงการใหญ่ เริ่มแรกมีการเปิดโปงเรื่องนี้คือ นางสาวพัชนีย์ พูนสุข หรือ “ก้อย” ผู้ และนายธนเดช เพ็งสุข ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาชน และรองประธาน กมธ.ทหารฯ ที่ทนเห็นพฤติกรรมของกลุ่มคนพวกนี้ไม่ได้ รวบรวมเก็บหลักฐานมานานปี มอบให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หลังจากนั้นเพื่อความปลอดภัยของตัวเธอเอง เธอต้องมาใช้ชีวิตที่กองปราบนานนับเดือน เธอบอกว่าตอนนี้กองปราบเหมือนเป็นบ้านของเธอไปแล้ว🛑 ทีมนี้ แบ่งออกเป็น 6 ทีม แต่ละทีมมีแม่ทีม และชาวบ้านลูกทีมหลายสิบคน โดยการเตี๊ยมเนื้อหากับลูกทีม ว่าให้ไปพูดกับหมอยังไงตอนหมอนัดตรวจ บางคนก็ถูกบอกว่าให้กินอาหาร หวาน เค็ม มัน ให้ความดันสูง น้ำตาลสูง ไขมันสูง เพื่อให้ผลเลือดแย่ หมอจะได้จ่ายยาให้เยอะๆ เน้นเอายานอกบัญชีที่ราคาสูง โดยแต่ละคนได้ค่าตอบแทนครั้งละ 2-3 พันบาท พอได้ยามา ก็เอาไปให้แม่ทีม เอาไปขายต่อ อย่างไรก็ตาม มีการดำเนินการแบบนี้มาตลอดไม่เคยถูกจับได้ เพราะฐานข้อมูลไม่เชื่อมโยงกัน🛑 หลังจากเรื่องแดงขึ้น พล.อ.เดชนิธิศ เหลืองงามขำ ผ.อ.องค์การทหารผ่านศึก ได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน บก.ปปป. เมื่อเดือน ก.พ.2568 หลังพบว่ามีขบวนการนำยาออกจากโรงพยาบาลทหารผ่านศึก และพบพฤติการณ์ผิดปกติว่ามีการจัดหาเครือข่ายบุคคลจาก จ.ลพบุรี เข้ามารับยาจากโรงพยาบาลทหารผ่านศึก และนำยาทั้งหมดที่ได้ให้กับแม่ทีมเครือข่ายเพื่อแลกกับค่าจ้างร้อยละ 10 ของค่ายา ซึ่งแม่ทีมเครือข่ายจะได้ค่าจ้างรายหัวอีกรายละ 1,500 บาท🛑 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. ได้วางแนวทางการสืบสวนพบมีการทำเป็นขบวนการมี พ.อ.หญิง เป็นผู้วางแผนให้แม่ขายจัดหาบุคคลมาพบแพทย์ ทำทีตรวจรักษากับแพทย์หญิง และสั่งจ่ายยาให้กับผู้ป่วยทิพย์ เพื่อสั่งจ่ายยาที่เกินจากโรคที่เป็นอยู่จริง ก่อนจะรวบรวมยาไปเก็บเพื่อรอจำหน่าย กระจายไปยังจุดต่าง ๆ🛑 เมื่อได้หลักฐานเรียบร้อยแล้ว เช้าวันนี้จึงเริ่มมีปฏิบัติการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.1 บก.ปปป. นำกำลังร่วมกับ ป.ป.ช. และ ป.ป.ท. ลุยตรวจค้นเป้าหมาย 17 จุดในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร ลพบุรี และปราจีนบุรี ชลบุรี เพื่อจับกุมผู้ต้องหาขบวนการทุจริตเบิกจ่ายยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึกก่อนนำไปขายต่อให้กับบุคคลภายนอก ได้ตัวการสำคัญ พันเอกหญิง อายุ 59 ปี ข้าราชการบำนาญ ในย่านเกียกกาย เป็นถึงหัวหน้าขบวนการ ทำหน้าที่จัดหาเครือข่ายบุคคลจากจังหวัดลพบุรี เข้ามารับยาจากโรงพยาบาลทหารผ่านศึก และนำยาทั้งหมดที่ได้ให้กับแม่ทีมเครือข่ายเพื่อแลกกับค่าจ้างร้อยละ 10 ของค่ายา โดยแม่ทีมเครือข่ายจะได้ค่าจ้างรายหัวอีกรายละ 1,500 บาท🛑 แพทย์หญิง อายุ 48 ปี ผู้ชำนาญการโรงพยาบาลทหารผ่านศึก ตั้งอยู่ในพื้นที่ย่านลาดพร้าว 71 โดยตัวแพทย์หญิงบรินดา ถือเป็นอีกหนึ่งผู้ต้องหาคนสำคัญของขบวนการ เนื่องจากเป็นคนทำหน้าที่สั่งจ่ายยา ด้วยการวินิจฉัยโรคให้เกินจากโรคที่เป็นอยู่จริงกับผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นผู้ป่วยที่เข้ามารับยาในขบวนการนี้🛑 นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. ยืนยันว่า ผลการตรวจสอบเส้นทางธุรกรรมทางการเงินไม่พบว่ามีผู้อยู่เบื้องหลัง และไม่มี mastermind แต่เส้นเงินดังกล่าวไปสิ้นสุดที่ 2 ผู้ต้องหาและเครือข่ายเท่านั้น จากการตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังพบว่า ขบวนการดังกล่าวมีการทุจริตตั้งปี 2561-2564 และยังพบข้อมูลอีกว่าในช่วงปี 2561-2568 มีเงินถูกโอนเข้าบัญชีรวมกว่า 40 ล้านบาท และมีการประเมินความเสียหายจากการทุจริตอยู่ที่มูลค่ากว่า 80 ล้านบาท🛑 คดีดังกล่าวขณะนี้มีผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับแล้ว 8 ราย และตามข้อกฎหมาย ให้สันนิษฐานว่า ผู้ถูกจับกุมยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาจนถึงที่สุดให้ให้ถือว่า ยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ที่มา : nbtconnext
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 580 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣ สนับสนุนรัฐมนตรีสมศักดิ์ ล่อขบวนการปล้ นภาษีคนไทยไปรักษาต่างด้าว แต่ไม่สนับสนุนรัฐมนตรีสมศรี หน้าหัก ที่สั่งพวกพ้องเอื้อนายใหญ่จนไม่ต้องเข้าคุกแม้แต่วันเดียว
    #7ดอกจิก
    ♣ สนับสนุนรัฐมนตรีสมศักดิ์ ล่อขบวนการปล้ นภาษีคนไทยไปรักษาต่างด้าว แต่ไม่สนับสนุนรัฐมนตรีสมศรี หน้าหัก ที่สั่งพวกพ้องเอื้อนายใหญ่จนไม่ต้องเข้าคุกแม้แต่วันเดียว #7ดอกจิก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 332 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ภาษีคนไทย” ใช้เลี้ยงต่างด้าว?
    เด็กเกิดไทย รักษาฟรี-เรียนฟรี
    .
    อ่านเพิ่มเติม>>mgronline.com/specialscoop/d…
    .
    #ต่างด้าว #ค่ารักษา #ค่าคลอดบุตร #เด็กเกิดไทย #รักษาฟรี #เรียนฟรี #ภาษีคนไทย #สูญเงิน
    “ภาษีคนไทย” ใช้เลี้ยงต่างด้าว? เด็กเกิดไทย รักษาฟรี-เรียนฟรี . อ่านเพิ่มเติม>>mgronline.com/specialscoop/d… . #ต่างด้าว #ค่ารักษา #ค่าคลอดบุตร #เด็กเกิดไทย #รักษาฟรี #เรียนฟรี #ภาษีคนไทย #สูญเงิน
    Angry
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 485 มุมมอง 0 รีวิว
  • ## โซเชียลเดือด "พม่า" แห่ ใช้สิทธิ์คลอดลูกฟรี โรงพยาบาลชายแดน เดือดร้อน เจ้าหน้าที่ กระทบเงินภาษีคนไทย...!!! ##
    ..
    ..
    พรรคการเมืองบางพรรค คงยิ้มแฉ่ง...!!!
    .
    https://youtu.be/r4QOc26DM38?si=NgwBDoaf41cN2Fkf
    ## โซเชียลเดือด "พม่า" แห่ ใช้สิทธิ์คลอดลูกฟรี โรงพยาบาลชายแดน เดือดร้อน เจ้าหน้าที่ กระทบเงินภาษีคนไทย...!!! ## .. .. พรรคการเมืองบางพรรค คงยิ้มแฉ่ง...!!! . https://youtu.be/r4QOc26DM38?si=NgwBDoaf41cN2Fkf
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 304 มุมมอง 0 รีวิว
  • คนพรรคนี้ ปากดี ปากกล้า ขาสั่นทุกตัวจริงๆ
    ปากบอกไม่กลัว บางตัวบอกยักไหล่
    สุดท้าย ดิ้นไปล็อบบี้ต่างชาติด้วยภาษีคนไทย
    ชักศึกเข้าบ้าน
    บ้างออกมาแก้ตัว ว่าจงรักภักดี
    บ้างก็แก่แล11รดมาก เพ้อแต่เช้า
    ขอกำลังใจให้พรรคไม่โดนยุบ
    ไม่กลัวเล๊ย จริงจริ๊ง
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #เพ้อ
    #เจี๊ยบอมรัตน์
    #ไม่กลัวเลยจริงจริ๊ง
    #หวัดดีกั๊ฟ
    คนพรรคนี้ ปากดี ปากกล้า ขาสั่นทุกตัวจริงๆ ปากบอกไม่กลัว บางตัวบอกยักไหล่ สุดท้าย ดิ้นไปล็อบบี้ต่างชาติด้วยภาษีคนไทย ชักศึกเข้าบ้าน บ้างออกมาแก้ตัว ว่าจงรักภักดี บ้างก็แก่แล11รดมาก เพ้อแต่เช้า ขอกำลังใจให้พรรคไม่โดนยุบ ไม่กลัวเล๊ย จริงจริ๊ง #คิงส์โพธิ์แดง #เพ้อ #เจี๊ยบอมรัตน์ #ไม่กลัวเลยจริงจริ๊ง #หวัดดีกั๊ฟ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 637 มุมมอง 0 รีวิว