• การระงับการถ่ายโอนข้อมูลข่าวกรองของสหรัฐไปยังยูเครน เป็นหลักฐานชัดเจนว่าการโจมตีทางอากาศของยูเครนในดินแดนรัสเซีย มีสหรัฐอยู่เบื้องหลังมาตลอด

    เป็นอีกครั้งที่ "ปูตินพูดถูกมาตลอด!"
    การระงับการถ่ายโอนข้อมูลข่าวกรองของสหรัฐไปยังยูเครน เป็นหลักฐานชัดเจนว่าการโจมตีทางอากาศของยูเครนในดินแดนรัสเซีย มีสหรัฐอยู่เบื้องหลังมาตลอด เป็นอีกครั้งที่ "ปูตินพูดถูกมาตลอด!"
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 156 มุมมอง 0 รีวิว
  • #จับโป๊ะ...#คนตื้นธรรม : #รู้พุทธแบบตื้นๆ
    มีผู้ส่งคลิปคนตื้นธรรม...ไปบรรยายธรรมะแก่กลุ่มคนใกล้วันมาฆะบูชา...มาให้โดยกล่าวถึงโอวาทปาฏิโมกข์ที่พระพุทธตรัสไว้ในวันมาฆะบูชาว่า คือพระปาฏิโมกข์ที่พระสวดทุกกึ่งเดือน...สิ่งที่เขาพูดถูกต้องหรือไม่...สามารถจับโป๊ะว่าคนๆนี้มีความรู้เรื่องพระพุทธศาสนาแบบพื้นฐานง่ายๆเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือไม่ มาชำแหละกันดู
    #โอวาทปาฏิโมกข์กับพระปาฏิโมกข์ต่างกันอย่างไร
    ปาฏิโมกข์ คือ มาจาก ๒ คำ คือ ปาติ(ฏิ) = เฉพาะ หรือ รักษา กับ โมกฺข แปลว่า หลุดพ้น มีความหมายว่า หลุดพ้นโดยเฉพาะกับธรรมที่รักษาความหลุดพ้น ปาฏิโมกข์มี ๒ ประเภทคือ
    ๑.#โอวาทปาฏิโมกข์ คือ หลักการใหญ่หรือหัวใจของพระพุทธศาสนา ที่พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ต้องตรัสไว้หลังตรัสรู้ จึงมีคำสรุปเป็นพระบาลีว่า "เอตํ พุทฺธานสาสนํ นี่คือคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย" สำหรับพระโคตมะพระพุทธเจ้าของเราตรัสไว้ในวันมาฆะบูชานี้แล
    ๒. #อาณาปาฏิโมกข์ คือ ศีลใหญ่หรือศีลหลักของภิกษุและภิกษุณี ทรงบัญญัติสิกขาบทหลังมีพระช่วงหลังประพฤติไม่ดีไม่งาม เกิดขึ้นในคณะสงฆ์ เพื่อรักษาคณะสงฆ์ และเพื่อรักษาศรัทธาจากพุทธบริษัทกลุ่มอื่น จึงบัญญัติไว้...ตอนหลังกลายเป็นสังฆกรรมที่พระสวดทุกกึ่งเดือน.. เพื่อทบทวนและสังวรระวังในศีลของตน.
    #ตื้นธรรม : #บอกโอวาทปาฏิโมกข์คือปาฏิโมกข์ศีลพระ
    คนตื้นธรรมคราวนี้ถูกจับโป๊ะชัดๆจากผู้รู้ว่า...มีความรู้เรื่องพุทธน้อยมาก...โดยการอธิบายว่า โอวาทปาฏิโมกข์ที่พระพุทธตรัสในวันมาฆะคือพระปาฏิโมกข์ที่พระสวดทุกกึ่งเดือน ผิดแบบไม่น่าให้อภัย ใครฟังหรืออ่านเรื่องนี้แล้วเฉยๆปล่อยผ่านก็แสดงว่าไม่ค่อยรู้เรื่องพระพุทธศาสนาเช่นกัน
    #โอวาทปาฏิโมกข์กับปาติโมกข์พระ : #เทียบได้จากไทม์ไลน์
    โอวาทปาฏิโมกข์ที่ตรัสกับพระอรหันต์ เอหิภิกขุอุปสัมปทา ๑,๒๕๐ รูป พระพุทธเจ้าตรัสในตอนพรรษาที่ ๑ หลังตรัสรู้ เมื่อขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ แล้วเผยแผ่ธรรมจนมีพระสาวกมากกว่า ๑,๒๕๐ รูปในวันขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๓
    (ประมาณ ๙ เดือน)
    ส่วนปาติโมกข์ทรงบัญญัติสิกขาบทหลังพระสุทินเสพเมถุนธรรมกับภริยาเก่าเพื่อสืบสกุล พระอรรถกถาจารย์วินิจฉัยว่าหลังพรรษาที่ ๒๐ ไปแล้วก็พิสูจน์ได้ว่า ปาติโมกข์ในวันมาฆะกับปาฏิโมกข์ศีลพระ...ไทม์ไลน์..ต่างกันแน่นอน เขามั่วนิ่ม...ชัวร์
    #ปาฏิโมกข์ทั้ง ๒ : #เนื้อหาก็แตกต่าง
    โอวาทปาฏิโมกข์ในวันมาฆะ คือ #หัวใจของพระพุทธศาสนา มี
    -#อุดมการณ์ ๓ คือ
    ขันติ นิพพาน การไม่เบียดเบียน
    -#หลักการ ๓
    ละชั่ว ทำดี ทำใจให้บริสุทธิ์
    - #วิธีการ
    ไม่พูดร้าย ไม่ทำร้าย ยึดในหลักปาฏิโมกข์ ใช้ชีวิตพอดี เน้นความสงบ หมั่นฝึกสมาธิภาวนา
    นี่คือสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์
    ส่วนพระปาฏิโมกข์คือศีลหลักพระที่พระต้องรักษามี ๒๒๗ ข้อ แบ่งไปตามนี้ ปาราชิก ๔ สังฆาทิเสส ๑๓ อนิยต ๒ นิสสัคคียปาจิตตีย์ ๓๐ ปาจิตตีย์ ๙๒ ปาฏิเทสนียะ ๔ เสขิยวัตร ๗๕ อธิกรณสมถะ ๗ ล้วนเป็นศีลของพระแทบทั้งสิ้น มันคนละอย่างกันเลย
    คนตื้นธรรมรู้ธรรมะแบบงูๆปลาๆ เอาหางมาชนหัว มั่วนิ่มไปหมด อาศัยว่าพูดเร็ว พูดมัน และคนไม่ค่อยจะรู้เรื่องพระเรื่องเจ้ากัน.. มันจึงดำน้ำโผล่มาบอกธรรมะ..ทั้งๆที่วิญญูชนผู้รู้เขาติเตียน แต่กลับด่าสวนกลับ...ไม่เคยยอมรับว่าตนสอนผิดสอนพลาดยังไง...แม้เขาจะได้อะไรบ้าง....แต่อนาคตของเขาไม่แน่นอน...เพราะเล่นกับของสูงระดับอ้างพระบรมศาสดาบ่อยๆ...หวังจะชักชวนจูงผู้ศรัทธาที่มีความรู้ไม่มาก...งานนี้คุณกำลังเล่นไฟ...ไฟนี้ไม่ใช่ไฟธรรมดา แต่คือไฟนรกโลกันต์...ทานที่เขายกมือท่วมหัวถวายด้วยศรัทธาถ้าไม่ดีจริง. อย่าว่าแต่ชาติหน้าเลย...ชาตินี้แหละ...ดูไป.
    ด้วยจิตคารวะ
    ดร.มงคล นาฏกระสูตร
    มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร
    #จับโป๊ะ...#คนตื้นธรรม : #รู้พุทธแบบตื้นๆ มีผู้ส่งคลิปคนตื้นธรรม...ไปบรรยายธรรมะแก่กลุ่มคนใกล้วันมาฆะบูชา...มาให้โดยกล่าวถึงโอวาทปาฏิโมกข์ที่พระพุทธตรัสไว้ในวันมาฆะบูชาว่า คือพระปาฏิโมกข์ที่พระสวดทุกกึ่งเดือน...สิ่งที่เขาพูดถูกต้องหรือไม่...สามารถจับโป๊ะว่าคนๆนี้มีความรู้เรื่องพระพุทธศาสนาแบบพื้นฐานง่ายๆเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือไม่ มาชำแหละกันดู #โอวาทปาฏิโมกข์กับพระปาฏิโมกข์ต่างกันอย่างไร ปาฏิโมกข์ คือ มาจาก ๒ คำ คือ ปาติ(ฏิ) = เฉพาะ หรือ รักษา กับ โมกฺข แปลว่า หลุดพ้น มีความหมายว่า หลุดพ้นโดยเฉพาะกับธรรมที่รักษาความหลุดพ้น ปาฏิโมกข์มี ๒ ประเภทคือ ๑.#โอวาทปาฏิโมกข์ คือ หลักการใหญ่หรือหัวใจของพระพุทธศาสนา ที่พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ต้องตรัสไว้หลังตรัสรู้ จึงมีคำสรุปเป็นพระบาลีว่า "เอตํ พุทฺธานสาสนํ นี่คือคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย" สำหรับพระโคตมะพระพุทธเจ้าของเราตรัสไว้ในวันมาฆะบูชานี้แล ๒. #อาณาปาฏิโมกข์ คือ ศีลใหญ่หรือศีลหลักของภิกษุและภิกษุณี ทรงบัญญัติสิกขาบทหลังมีพระช่วงหลังประพฤติไม่ดีไม่งาม เกิดขึ้นในคณะสงฆ์ เพื่อรักษาคณะสงฆ์ และเพื่อรักษาศรัทธาจากพุทธบริษัทกลุ่มอื่น จึงบัญญัติไว้...ตอนหลังกลายเป็นสังฆกรรมที่พระสวดทุกกึ่งเดือน.. เพื่อทบทวนและสังวรระวังในศีลของตน. #ตื้นธรรม : #บอกโอวาทปาฏิโมกข์คือปาฏิโมกข์ศีลพระ คนตื้นธรรมคราวนี้ถูกจับโป๊ะชัดๆจากผู้รู้ว่า...มีความรู้เรื่องพุทธน้อยมาก...โดยการอธิบายว่า โอวาทปาฏิโมกข์ที่พระพุทธตรัสในวันมาฆะคือพระปาฏิโมกข์ที่พระสวดทุกกึ่งเดือน ผิดแบบไม่น่าให้อภัย ใครฟังหรืออ่านเรื่องนี้แล้วเฉยๆปล่อยผ่านก็แสดงว่าไม่ค่อยรู้เรื่องพระพุทธศาสนาเช่นกัน #โอวาทปาฏิโมกข์กับปาติโมกข์พระ : #เทียบได้จากไทม์ไลน์ โอวาทปาฏิโมกข์ที่ตรัสกับพระอรหันต์ เอหิภิกขุอุปสัมปทา ๑,๒๕๐ รูป พระพุทธเจ้าตรัสในตอนพรรษาที่ ๑ หลังตรัสรู้ เมื่อขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ แล้วเผยแผ่ธรรมจนมีพระสาวกมากกว่า ๑,๒๕๐ รูปในวันขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๓ (ประมาณ ๙ เดือน) ส่วนปาติโมกข์ทรงบัญญัติสิกขาบทหลังพระสุทินเสพเมถุนธรรมกับภริยาเก่าเพื่อสืบสกุล พระอรรถกถาจารย์วินิจฉัยว่าหลังพรรษาที่ ๒๐ ไปแล้วก็พิสูจน์ได้ว่า ปาติโมกข์ในวันมาฆะกับปาฏิโมกข์ศีลพระ...ไทม์ไลน์..ต่างกันแน่นอน เขามั่วนิ่ม...ชัวร์ #ปาฏิโมกข์ทั้ง ๒ : #เนื้อหาก็แตกต่าง โอวาทปาฏิโมกข์ในวันมาฆะ คือ #หัวใจของพระพุทธศาสนา มี -#อุดมการณ์ ๓ คือ ขันติ นิพพาน การไม่เบียดเบียน -#หลักการ ๓ ละชั่ว ทำดี ทำใจให้บริสุทธิ์ - #วิธีการ ๖ ไม่พูดร้าย ไม่ทำร้าย ยึดในหลักปาฏิโมกข์ ใช้ชีวิตพอดี เน้นความสงบ หมั่นฝึกสมาธิภาวนา นี่คือสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ส่วนพระปาฏิโมกข์คือศีลหลักพระที่พระต้องรักษามี ๒๒๗ ข้อ แบ่งไปตามนี้ ปาราชิก ๔ สังฆาทิเสส ๑๓ อนิยต ๒ นิสสัคคียปาจิตตีย์ ๓๐ ปาจิตตีย์ ๙๒ ปาฏิเทสนียะ ๔ เสขิยวัตร ๗๕ อธิกรณสมถะ ๗ ล้วนเป็นศีลของพระแทบทั้งสิ้น มันคนละอย่างกันเลย คนตื้นธรรมรู้ธรรมะแบบงูๆปลาๆ เอาหางมาชนหัว มั่วนิ่มไปหมด อาศัยว่าพูดเร็ว พูดมัน และคนไม่ค่อยจะรู้เรื่องพระเรื่องเจ้ากัน.. มันจึงดำน้ำโผล่มาบอกธรรมะ..ทั้งๆที่วิญญูชนผู้รู้เขาติเตียน แต่กลับด่าสวนกลับ...ไม่เคยยอมรับว่าตนสอนผิดสอนพลาดยังไง...แม้เขาจะได้อะไรบ้าง....แต่อนาคตของเขาไม่แน่นอน...เพราะเล่นกับของสูงระดับอ้างพระบรมศาสดาบ่อยๆ...หวังจะชักชวนจูงผู้ศรัทธาที่มีความรู้ไม่มาก...งานนี้คุณกำลังเล่นไฟ...ไฟนี้ไม่ใช่ไฟธรรมดา แต่คือไฟนรกโลกันต์...ทานที่เขายกมือท่วมหัวถวายด้วยศรัทธาถ้าไม่ดีจริง. อย่าว่าแต่ชาติหน้าเลย...ชาตินี้แหละ...ดูไป. ด้วยจิตคารวะ ดร.มงคล นาฏกระสูตร มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 505 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลยกคำร้องทนายตุ๋ย ปิดปากสื่อไม่สำเร็จ ใครบิดเบือนความยุติธรรมคดี "แตงโม" ?
    .
    วันพุธที่ 29 มกราคม ที่ผ่านมา ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี ได้มีการนัดสืบพยานคดีการเสียชีวิตของน้องแตงโม หรือ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ วันพุธที่ผ่านมาเป็นการสืบพยานจำเลยนัดสุดท้าย รวม 2 ปาก ประกอบด้วย กระติก อิศรินทร์ กับ นายภีม ธรรมธีรศรี หรือ เอ็ม ส่วนทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความของ นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่แตงโม ให้สัมภาษณ์ว่า อีก 2 เดือนครึ่ง คงจะมีคำพิพากษาออกมา
    .
    ท่านผู้ชมรู้ไหมว่ามันมีประเด็นสำคัญ คือ ทนายตุ๋ย พรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ ของนายแซน วิศาพัช มโนมัยรัตน์ ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดนนทบุรี เพื่อให้ไต่สวนการละเมิดอำนาจศาลใน 2 สำนวน สำนวนแรกคือเรื่องของการจำลองเหตุการณ์แตงโมตกเรือเสียชีวิต คนที่ถูกกล่าวหามี นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ และ นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล เนื่องจากคดีหลักยังไม่มีคำพิพากษา อีกสำนวนหนึ่งเป็นกรณีนักอาชญาวิทยาคนหนึ่ง คาดว่าเป็น รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล หรือ อาจารย์โต้ง นักอาชญาวิทยา มหาวิทยาลัยรังสิต ที่ให้สัมภาษณ์ในทำนองว่า มาเบิกความคดีแตงโมในศาล แต่ศาลกลับนั่งหัวเราะ
    .
    ประเด็นเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสืบสวนสอบสวนอย่างมีพิรุธ มีเงื่อนงำสำคัญเยอะแยะ และแต่ละครั้งที่คนบนเรือออกมาพูด ประชาชนเขาจับสังเกตข้อพิรุธได้ว่า ทำไมพวกคุณถึงพูดไม่เหมือนกันเลย นี่มันเป็นละครของคนบนเรือที่เล่นร่วมกัน เพื่อให้เห็นว่าแตงโมตกน้ำตาย ทำให้คนที่มีความรู้ มีวิจารณญาณ ต้องการแสวงหาความจริง เป็นข้อพิรุธที่คนสงสัยกันทั้งประเทศ ว่า การตายของแตงโมนั้นมีเงื่อนงำ
    .
    ผมอยากจะบอกว่า การฟ้องปิดปากสื่อเป็นการปิดกั้นการแสวงหาความจริง แต่การที่นายแซน นายปอ กับทนายตุ๋ย เดินสายออกอากาศหลายช่อง แถลงข่าวหลายครั้ง พูดถูก พูดผิดไม่รู้โกหกไปอย่างไร พูดไม่เหมือนกันสักครั้ง ก็ต้องผิดยิ่งกว่า เพราะว่าพวกคุณทะลึ่งเป็นผู้เกี่ยวข้องโดยตรงในคดีด้วย ยิ่งกว่าบุคคลภายนอกซึ่งเป็นสื่อมวลชน อย่างผม อย่างอาจารย์ปานเทพ และพรรคพวกอีก
    .
    ในช่วงเย็นวันเดียวกัน วันพุธที่ผ่านมา ศาลจังหวัดนนทบุรียกคำร้องทนายตุ๋ย พรศักดิ์ ทนายความของแซน วิศาพัช จำเลย และคนบนเรือ ที่ยื่นเรื่องขอให้ไต่สวนนายอัจฉริยะ อาจารย์ปานเทพ และพรรคพวก กรณีจำลองเหตุการณ์แตงโมตกน้ำ
    .
    หลังจากศาลยกคำร้องแล้ว นายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ กล่าวว่า ในการสืบพยานวันนี้ยังสืบพยานไม่เสร็จ คดีเดินไปตามปกติทุกอย่าง ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ส่วนคดีการยื่นไต่สวนเรื่องละเมิดอำนาจศาล เรื่องการจำลองเหตุการณ์แตงโมตกเรือนั้น ขอยังไม่ให้ข้อมูล พูดแบบกำกวม ยังรักษาความเท่อยู่เหมือนเดิม ทั้งๆ ที่ความเท่มันสูญหายไปตั้งนานแล้ว
    .
    คุณพรศักดิ์ คุณจะเท่ทั้งที เท่ให้มีหลักการ แล้วคุณอย่าคิดมาเคี้ยวผม พวกผมง่ายๆ เหมือนอย่างที่คุณคิดนะ ไม่ใช่ คุณคิดผิด คิดใหม่ได้ คุณควรจะกลับไปแล้วพูดกับนายแซน ลูกความคุณ ว่าเวลาพูดอะไร ให้จำๆเอาไว้หน่อยได้ไหมว่าเคยพูดอะไรไว้ อย่าไปพูดขัดแย้งกัน
    .
    สาธุ! คุณพรศักดิ์ ผมภาวนาให้ดีเอสไอรับเรื่องนี้เข้าไป แล้วผมเชื่ออย่างหนึ่งนะครับ คุณวิศาพัช คุณแซน ทนายพรศักดิ์ นายปอ คุณไม่เชื่อเหมือนผม ไม่เป็นไร เวรกรรมมันมีจริง ใครทำอะไรแตงโมไว้ เวรกรรมตามถึงพวกมึงแน่นอน ไม่ต้องห่วง ถึงแน่นอน ผม สนธิ ลิ้มทองกุล ให้สัจจะวาจาตรงนี้ว่า ต้องถึงแน่นอน
    ศาลยกคำร้องทนายตุ๋ย ปิดปากสื่อไม่สำเร็จ ใครบิดเบือนความยุติธรรมคดี "แตงโม" ? . วันพุธที่ 29 มกราคม ที่ผ่านมา ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี ได้มีการนัดสืบพยานคดีการเสียชีวิตของน้องแตงโม หรือ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ วันพุธที่ผ่านมาเป็นการสืบพยานจำเลยนัดสุดท้าย รวม 2 ปาก ประกอบด้วย กระติก อิศรินทร์ กับ นายภีม ธรรมธีรศรี หรือ เอ็ม ส่วนทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความของ นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่แตงโม ให้สัมภาษณ์ว่า อีก 2 เดือนครึ่ง คงจะมีคำพิพากษาออกมา . ท่านผู้ชมรู้ไหมว่ามันมีประเด็นสำคัญ คือ ทนายตุ๋ย พรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ ของนายแซน วิศาพัช มโนมัยรัตน์ ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดนนทบุรี เพื่อให้ไต่สวนการละเมิดอำนาจศาลใน 2 สำนวน สำนวนแรกคือเรื่องของการจำลองเหตุการณ์แตงโมตกเรือเสียชีวิต คนที่ถูกกล่าวหามี นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ และ นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล เนื่องจากคดีหลักยังไม่มีคำพิพากษา อีกสำนวนหนึ่งเป็นกรณีนักอาชญาวิทยาคนหนึ่ง คาดว่าเป็น รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล หรือ อาจารย์โต้ง นักอาชญาวิทยา มหาวิทยาลัยรังสิต ที่ให้สัมภาษณ์ในทำนองว่า มาเบิกความคดีแตงโมในศาล แต่ศาลกลับนั่งหัวเราะ . ประเด็นเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสืบสวนสอบสวนอย่างมีพิรุธ มีเงื่อนงำสำคัญเยอะแยะ และแต่ละครั้งที่คนบนเรือออกมาพูด ประชาชนเขาจับสังเกตข้อพิรุธได้ว่า ทำไมพวกคุณถึงพูดไม่เหมือนกันเลย นี่มันเป็นละครของคนบนเรือที่เล่นร่วมกัน เพื่อให้เห็นว่าแตงโมตกน้ำตาย ทำให้คนที่มีความรู้ มีวิจารณญาณ ต้องการแสวงหาความจริง เป็นข้อพิรุธที่คนสงสัยกันทั้งประเทศ ว่า การตายของแตงโมนั้นมีเงื่อนงำ . ผมอยากจะบอกว่า การฟ้องปิดปากสื่อเป็นการปิดกั้นการแสวงหาความจริง แต่การที่นายแซน นายปอ กับทนายตุ๋ย เดินสายออกอากาศหลายช่อง แถลงข่าวหลายครั้ง พูดถูก พูดผิดไม่รู้โกหกไปอย่างไร พูดไม่เหมือนกันสักครั้ง ก็ต้องผิดยิ่งกว่า เพราะว่าพวกคุณทะลึ่งเป็นผู้เกี่ยวข้องโดยตรงในคดีด้วย ยิ่งกว่าบุคคลภายนอกซึ่งเป็นสื่อมวลชน อย่างผม อย่างอาจารย์ปานเทพ และพรรคพวกอีก . ในช่วงเย็นวันเดียวกัน วันพุธที่ผ่านมา ศาลจังหวัดนนทบุรียกคำร้องทนายตุ๋ย พรศักดิ์ ทนายความของแซน วิศาพัช จำเลย และคนบนเรือ ที่ยื่นเรื่องขอให้ไต่สวนนายอัจฉริยะ อาจารย์ปานเทพ และพรรคพวก กรณีจำลองเหตุการณ์แตงโมตกน้ำ . หลังจากศาลยกคำร้องแล้ว นายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ กล่าวว่า ในการสืบพยานวันนี้ยังสืบพยานไม่เสร็จ คดีเดินไปตามปกติทุกอย่าง ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ส่วนคดีการยื่นไต่สวนเรื่องละเมิดอำนาจศาล เรื่องการจำลองเหตุการณ์แตงโมตกเรือนั้น ขอยังไม่ให้ข้อมูล พูดแบบกำกวม ยังรักษาความเท่อยู่เหมือนเดิม ทั้งๆ ที่ความเท่มันสูญหายไปตั้งนานแล้ว . คุณพรศักดิ์ คุณจะเท่ทั้งที เท่ให้มีหลักการ แล้วคุณอย่าคิดมาเคี้ยวผม พวกผมง่ายๆ เหมือนอย่างที่คุณคิดนะ ไม่ใช่ คุณคิดผิด คิดใหม่ได้ คุณควรจะกลับไปแล้วพูดกับนายแซน ลูกความคุณ ว่าเวลาพูดอะไร ให้จำๆเอาไว้หน่อยได้ไหมว่าเคยพูดอะไรไว้ อย่าไปพูดขัดแย้งกัน . สาธุ! คุณพรศักดิ์ ผมภาวนาให้ดีเอสไอรับเรื่องนี้เข้าไป แล้วผมเชื่ออย่างหนึ่งนะครับ คุณวิศาพัช คุณแซน ทนายพรศักดิ์ นายปอ คุณไม่เชื่อเหมือนผม ไม่เป็นไร เวรกรรมมันมีจริง ใครทำอะไรแตงโมไว้ เวรกรรมตามถึงพวกมึงแน่นอน ไม่ต้องห่วง ถึงแน่นอน ผม สนธิ ลิ้มทองกุล ให้สัจจะวาจาตรงนี้ว่า ต้องถึงแน่นอน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 651 มุมมอง 0 รีวิว
  • อยู่ร่วมกันแบบมีสติ : รอด หรือ ร่วง?

    💡 กฎพื้นฐานของ "การไปกันรอด" ในความสัมพันธ์

    ความสัมพันธ์ที่อยู่รอด ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าทั้งคู่ "ถูกต้อง" เสมอไป แต่ขึ้นอยู่กับว่า ทั้งคู่ตั้งใจไปด้วยกันแค่ไหน และพร้อมปรับตัวเข้าหากันมากเพียงใด

    ✔ ถ้าตั้งใจให้รอด มีสิทธิ์ไปกันรอด แม้อาจได้คนผิดด้วยกันทั้งคู่
    ❌ ถ้าไม่ตั้งใจให้รอด ต่อให้ได้คนถูกต้องทั้งคู่ ก็อาจไปกันไม่รอด


    ---

    🎭 ทำไมเรามองเห็น "คนอื่น" ได้ชัด แต่ไม่เห็น "ตัวเอง" ?

    ธรรมชาติออกแบบให้ เราเห็นข้อบกพร่องของผู้อื่นได้ชัด แต่ ไม่ให้เห็นตัวเองได้ในขณะนั้น

    เราไม่เห็นว่า "หน้าตาตัวเอง" เป็นยังไง เวลาพูดจาแรงๆ

    เราไม่เห็นว่า "น้ำเสียงตัวเอง" แข็งกระด้างแค่ไหน ตอนเถียงกัน

    เราไม่เห็นว่า "กิริยาท่าทางตัวเอง" เป็นอย่างไร เวลาหงุดหงิด


    แต่เรา เห็นทุกอย่างของอีกฝ่าย ได้ชัดเจน
    👉 เลยรู้สึกว่าอีกฝ่ายผิดเสมอ
    👉 เลยคิดว่าตัวเองเป็นฝ่ายที่ "น่าจะถูกต้อง" กว่า


    ---

    🌀 วงจรของอารมณ์ที่ทำให้คู่รัก "ออกอ่าว" กันไปเรื่อยๆ

    1️⃣ แรงดันทางอารมณ์ ทำให้ "มั่นใจ" ว่าตัวเองพูดถูก ทำถูกแล้ว

    ตอนโมโห เรารู้สึกว่า "ฉันต้องพูดแบบนี้แหละถึงจะถูก"

    ตอนน้อยใจ เรารู้สึกว่า "เธอต้องรู้ตัวเองสิว่าทำอะไรผิด"

    ตอนเถียงกัน เรารู้สึกว่า "ฉันมีเหตุผลของฉัน ฉันพูดจริง!"


    2️⃣ เมฆหมอกทางอารมณ์ ปิดกั้น "ความเห็นอกเห็นใจ"

    ตอนโกรธ เราไม่เห็นว่าเขากำลังเสียใจ

    ตอนน้อยใจ เราไม่เห็นว่าเขาก็พยายามอธิบาย

    ตอนเถียงกัน เราไม่เห็นว่าเขากำลังเครียดไม่แพ้กัน


    👉 สุดท้าย เหลือแค่ "ความอยากเอาชนะ" และ "ความกลัวจะแพ้"
    👉 ถ้าไม่มีใครหยุดวงจรนี้ ทุกความสัมพันธ์ก็จะ "ออกอ่าว" ไปเรื่อยๆ


    ---

    🛶 วิธี "จับเข็มทิศ" ไม่ให้ชีวิตคู่ ออกทะเล

    1️⃣ ตั้งเข็มทิศให้ชัดก่อนเดินทาง

    ถามตัวเองให้ชัด ว่า "อยากไปให้ถึงไหน?"

    "เราอยากอยู่กันไปยาวๆ จริงไหม?"

    "เราต้องการให้ความสัมพันธ์นี้ดีขึ้นไหม?"


    2️⃣ ตั้งเป้าหมายระยะยาว มากกว่าชนะกันแค่วันนี้

    ถ้าหวังจะอยู่กันยาวๆ อย่าเถียงเพื่อเอาชนะแค่วันนี้

    ถ้าหวังจะเข้าใจกัน อย่าพูดเพื่อให้อีกฝ่ายเจ็บใจ


    3️⃣ ระวัง "คลื่นลมทางอารมณ์" ที่พัดพาให้ "ออกอ่าว"

    คำพูดที่พ่นออกมาตอนโกรธ คือใบพัดเรือที่อาจทำให้ล่ม

    การเอาแต่รู้สึกถูกต้องฝ่ายเดียว คือหางเสือที่ทำให้เรือลอยคว้าง


    4️⃣ หยุดโต้เถียง แล้วมองตัวเองให้ชัดเจน

    เวลามีปัญหา อย่าถามว่า "เขาผิดอะไร?" แต่ถามว่า "ฉันเป็นยังไง?"

    ถ้าอีกฝ่ายพูดจาแย่ อย่าถามว่า "ทำไมเขาพูดแบบนี้?" แต่ถามว่า "ฉันทำให้เขารู้สึกยังไง?"



    ---

    📌 สรุป : รอด หรือ ร่วง ขึ้นอยู่กับ "ทิศทางที่ตั้งใจไป"

    ✔ ถ้าตั้งใจไปด้วยกัน เราจะพยายามประคองกัน ไม่ว่าทางข้างหน้าจะลำบากแค่ไหน
    ✔ ถ้าตั้งใจเลิกกัน เราจะพยายามหาเหตุผลที่จะเดินออกไป ไม่ว่ามันจะดีแค่ไหนก็ตาม
    ✔ ถ้าไม่ตั้งใจอะไรเลย เราจะถูกคลื่นลมพัดไปเรื่อยๆ ไม่มีเป้าหมาย จนสุดท้ายก็หายไปจากกันเอง

    👉 รักกันไม่ต้องเพอร์เฟกต์ แต่ต้องมี "เข็มทิศ" ที่มุ่งไปทางเดียวกัน
    👉 อย่าเถียงกันเพื่อชนะ แต่ให้เถียงกันเพื่ออยู่รอดด้วยกัน
    👉 ทุกความสัมพันธ์จะไปรอด ถ้าคนสองคน "ตั้งใจไปด้วยกัน" ตั้งแต่แรก

    อยู่ร่วมกันแบบมีสติ : รอด หรือ ร่วง? 💡 กฎพื้นฐานของ "การไปกันรอด" ในความสัมพันธ์ ความสัมพันธ์ที่อยู่รอด ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าทั้งคู่ "ถูกต้อง" เสมอไป แต่ขึ้นอยู่กับว่า ทั้งคู่ตั้งใจไปด้วยกันแค่ไหน และพร้อมปรับตัวเข้าหากันมากเพียงใด ✔ ถ้าตั้งใจให้รอด มีสิทธิ์ไปกันรอด แม้อาจได้คนผิดด้วยกันทั้งคู่ ❌ ถ้าไม่ตั้งใจให้รอด ต่อให้ได้คนถูกต้องทั้งคู่ ก็อาจไปกันไม่รอด --- 🎭 ทำไมเรามองเห็น "คนอื่น" ได้ชัด แต่ไม่เห็น "ตัวเอง" ? ธรรมชาติออกแบบให้ เราเห็นข้อบกพร่องของผู้อื่นได้ชัด แต่ ไม่ให้เห็นตัวเองได้ในขณะนั้น เราไม่เห็นว่า "หน้าตาตัวเอง" เป็นยังไง เวลาพูดจาแรงๆ เราไม่เห็นว่า "น้ำเสียงตัวเอง" แข็งกระด้างแค่ไหน ตอนเถียงกัน เราไม่เห็นว่า "กิริยาท่าทางตัวเอง" เป็นอย่างไร เวลาหงุดหงิด แต่เรา เห็นทุกอย่างของอีกฝ่าย ได้ชัดเจน 👉 เลยรู้สึกว่าอีกฝ่ายผิดเสมอ 👉 เลยคิดว่าตัวเองเป็นฝ่ายที่ "น่าจะถูกต้อง" กว่า --- 🌀 วงจรของอารมณ์ที่ทำให้คู่รัก "ออกอ่าว" กันไปเรื่อยๆ 1️⃣ แรงดันทางอารมณ์ ทำให้ "มั่นใจ" ว่าตัวเองพูดถูก ทำถูกแล้ว ตอนโมโห เรารู้สึกว่า "ฉันต้องพูดแบบนี้แหละถึงจะถูก" ตอนน้อยใจ เรารู้สึกว่า "เธอต้องรู้ตัวเองสิว่าทำอะไรผิด" ตอนเถียงกัน เรารู้สึกว่า "ฉันมีเหตุผลของฉัน ฉันพูดจริง!" 2️⃣ เมฆหมอกทางอารมณ์ ปิดกั้น "ความเห็นอกเห็นใจ" ตอนโกรธ เราไม่เห็นว่าเขากำลังเสียใจ ตอนน้อยใจ เราไม่เห็นว่าเขาก็พยายามอธิบาย ตอนเถียงกัน เราไม่เห็นว่าเขากำลังเครียดไม่แพ้กัน 👉 สุดท้าย เหลือแค่ "ความอยากเอาชนะ" และ "ความกลัวจะแพ้" 👉 ถ้าไม่มีใครหยุดวงจรนี้ ทุกความสัมพันธ์ก็จะ "ออกอ่าว" ไปเรื่อยๆ --- 🛶 วิธี "จับเข็มทิศ" ไม่ให้ชีวิตคู่ ออกทะเล 1️⃣ ตั้งเข็มทิศให้ชัดก่อนเดินทาง ถามตัวเองให้ชัด ว่า "อยากไปให้ถึงไหน?" "เราอยากอยู่กันไปยาวๆ จริงไหม?" "เราต้องการให้ความสัมพันธ์นี้ดีขึ้นไหม?" 2️⃣ ตั้งเป้าหมายระยะยาว มากกว่าชนะกันแค่วันนี้ ถ้าหวังจะอยู่กันยาวๆ อย่าเถียงเพื่อเอาชนะแค่วันนี้ ถ้าหวังจะเข้าใจกัน อย่าพูดเพื่อให้อีกฝ่ายเจ็บใจ 3️⃣ ระวัง "คลื่นลมทางอารมณ์" ที่พัดพาให้ "ออกอ่าว" คำพูดที่พ่นออกมาตอนโกรธ คือใบพัดเรือที่อาจทำให้ล่ม การเอาแต่รู้สึกถูกต้องฝ่ายเดียว คือหางเสือที่ทำให้เรือลอยคว้าง 4️⃣ หยุดโต้เถียง แล้วมองตัวเองให้ชัดเจน เวลามีปัญหา อย่าถามว่า "เขาผิดอะไร?" แต่ถามว่า "ฉันเป็นยังไง?" ถ้าอีกฝ่ายพูดจาแย่ อย่าถามว่า "ทำไมเขาพูดแบบนี้?" แต่ถามว่า "ฉันทำให้เขารู้สึกยังไง?" --- 📌 สรุป : รอด หรือ ร่วง ขึ้นอยู่กับ "ทิศทางที่ตั้งใจไป" ✔ ถ้าตั้งใจไปด้วยกัน เราจะพยายามประคองกัน ไม่ว่าทางข้างหน้าจะลำบากแค่ไหน ✔ ถ้าตั้งใจเลิกกัน เราจะพยายามหาเหตุผลที่จะเดินออกไป ไม่ว่ามันจะดีแค่ไหนก็ตาม ✔ ถ้าไม่ตั้งใจอะไรเลย เราจะถูกคลื่นลมพัดไปเรื่อยๆ ไม่มีเป้าหมาย จนสุดท้ายก็หายไปจากกันเอง 👉 รักกันไม่ต้องเพอร์เฟกต์ แต่ต้องมี "เข็มทิศ" ที่มุ่งไปทางเดียวกัน 👉 อย่าเถียงกันเพื่อชนะ แต่ให้เถียงกันเพื่ออยู่รอดด้วยกัน 👉 ทุกความสัมพันธ์จะไปรอด ถ้าคนสองคน "ตั้งใจไปด้วยกัน" ตั้งแต่แรก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 244 มุมมอง 0 รีวิว
  • เซเลนสกีกล่าวว่าความช่วยเหลือทางทหารของยูเครนไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการระงับความช่วยเหลือต่างประเทศ 90 วันตามคำสั่งบริหารของทรัมป์

    'ผมสนใจแต่ความช่วยเหลือทางทหาร ซึ่งมันไม่ได้ถูกระงับ ขอบคุณพระเจ้า' เซเลนสกีกล่าวด้วยความโล่งอก

    เซเลนสกีอาจจะพูดถูกแค่ครึ่งเดียว:
    อย่างที่ทุกคนทราบกันดี รัฐบาลไบเดนอนุมัติงบประมาณความช่วยเหลือทางทหารไปหมดแล้วก่อนพ้นตำแหน่งประธานาธิบดี แต่ความช่วยเหลือนั้น โดยเฉพาะด้านอาวุธยุทโธปกรณ์เป็นการสั่งซื้อจากโรงงานผู้ผลิต ไม่ได้ใช้จากคลังอาวุธส่วนกลาง ซึ่งหมายความว่าอาวุธทั้งหมดจะไม่ได้ถูกถ่ายโอนมาในครั้งเดียว แต่จะมาในรูปแบบทะยอยถ่ายโอนตามคิวที่ผลิตได้ เนื่องจากโรงงานผลิตอาวุธในสหรัฐมีคำสั่งซื้อจากลูกค้ารายอื่นด้วยเช่นกัน

    สำหรับรัฐบาลของทรัมป์ เขามีคำสั่งยุติความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนไปก่อนหน้านั้นแล้ว เพราะฉะนั้นในช่วงเวลา 90 วันนับจากนี้ หากยูเครนได้รับอาวุธจากสหรัฐเพิ่มเติม ไม่ใช่เป็นสิทธิพิเศษอะไรจากทรัมป์ที่มีให้เซเลนสกี มันเป็นแค่เพียงผลจากคำสั่งจากรัฐบาลไบเดนเท่านั้น
    เซเลนสกีกล่าวว่าความช่วยเหลือทางทหารของยูเครนไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการระงับความช่วยเหลือต่างประเทศ 90 วันตามคำสั่งบริหารของทรัมป์ 'ผมสนใจแต่ความช่วยเหลือทางทหาร ซึ่งมันไม่ได้ถูกระงับ ขอบคุณพระเจ้า' เซเลนสกีกล่าวด้วยความโล่งอก เซเลนสกีอาจจะพูดถูกแค่ครึ่งเดียว: อย่างที่ทุกคนทราบกันดี รัฐบาลไบเดนอนุมัติงบประมาณความช่วยเหลือทางทหารไปหมดแล้วก่อนพ้นตำแหน่งประธานาธิบดี แต่ความช่วยเหลือนั้น โดยเฉพาะด้านอาวุธยุทโธปกรณ์เป็นการสั่งซื้อจากโรงงานผู้ผลิต ไม่ได้ใช้จากคลังอาวุธส่วนกลาง ซึ่งหมายความว่าอาวุธทั้งหมดจะไม่ได้ถูกถ่ายโอนมาในครั้งเดียว แต่จะมาในรูปแบบทะยอยถ่ายโอนตามคิวที่ผลิตได้ เนื่องจากโรงงานผลิตอาวุธในสหรัฐมีคำสั่งซื้อจากลูกค้ารายอื่นด้วยเช่นกัน สำหรับรัฐบาลของทรัมป์ เขามีคำสั่งยุติความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนไปก่อนหน้านั้นแล้ว เพราะฉะนั้นในช่วงเวลา 90 วันนับจากนี้ หากยูเครนได้รับอาวุธจากสหรัฐเพิ่มเติม ไม่ใช่เป็นสิทธิพิเศษอะไรจากทรัมป์ที่มีให้เซเลนสกี มันเป็นแค่เพียงผลจากคำสั่งจากรัฐบาลไบเดนเท่านั้น
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 279 มุมมอง 17 0 รีวิว
  • นักปรัชญาชาวรัสเซีย Alexander Dugin เพิ่งให้สัมภาษณ์กับ Sputnik เกี่ยวกับ Trump 2.0 แบบชัดๆเขาพูดถูกที่ทรัมป์ไม่เข้าใจชาวรัสเซียหรือประวัติศาสตร์รัสเซีย อีกทั้งทรัมป์ยังเสี่ยงต่อการถูกพยายามลอบสังหารอีกครั้งhttps://youtu.be/EE7-o4IhKU4?si=aM6y0jaDz7P1u3_m
    นักปรัชญาชาวรัสเซีย Alexander Dugin เพิ่งให้สัมภาษณ์กับ Sputnik เกี่ยวกับ Trump 2.0 แบบชัดๆเขาพูดถูกที่ทรัมป์ไม่เข้าใจชาวรัสเซียหรือประวัติศาสตร์รัสเซีย อีกทั้งทรัมป์ยังเสี่ยงต่อการถูกพยายามลอบสังหารอีกครั้งhttps://youtu.be/EE7-o4IhKU4?si=aM6y0jaDz7P1u3_m
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 297 มุมมอง 0 รีวิว
  • 3/
    อเมริกาใบ้กิน! หลังโดนถามเกี่ยวกับการควบคุมตัวเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล Kamal Adwan ในกาซา ซึ่งรวมถึงการหายตัวไปของผู้อำนวยการโรงพยาบาล

    ทำเนียบขาวปฏิเสธที่จะเรียกร้องให้อิสราเอลยุติการกักขังเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล Kamal Adwan

    “สิทธิมนุษยชนและการยึดมั่นในกฎหมายระหว่างประเทศเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับรัฐบาลนี้ เรายืนยันในเรื่องนี้ใช่ไหม” นักข่าวเริ่มต้นด้วยการถามหลอกล่อ Karine Jean-Pierre โฆษกทำเนียบขาวของรัฐบาลไบเดน

    “ไม่โต้แย้ง คุณพูดถูก” Karine Jean-Pierre หลงกลตอบด้วยความใสซื่อ โดยไม่รู้เลยว่านักข่าวเตรียมคำถามเด็ดไว้แล้ว!

    ไม่ทันที่โฆษกทำเนียบขาวจะตั้งตัว นักข่าวจึงเริ่มถามเกี่ยวกับการควบคุมตัวเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล Kamal Adwan รวมถึงผู้อำนวยการโรงพยาบาล Dr. Hussam Abu Safiya ซึ่งถูกจับกุมหลังจากกองกำลังอิสราเอลบุกเข้าไปในโรงพยาบาล ตามรายงานของกระทรวงสาธารณสุขกาซา ส่งผลให้แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลออกมาประกาศแสดงความกังวลเกี่ยวกับชีวิตของเขา และยังไม่ทราบว่าเขาอยู่ที่ไหนจนถึงขณะนี้

    “ทำเนียบขาวมีแนวทางจะทำอะไร เพื่อให้แน่ใจว่าเขาปลอดภัยไหม” นักข่าวถาม
    “เอ่อ.. ฉันไม่มีอะไรจะแบ่งปันเกี่ยวกับเรื่องนั้น” ฌอง-ปิแอร์กล่าวโดยเลี่ยงที่จะตอบคำถาม

    “แต่การจับกุมแพทย์จะไม่ถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนและกฎหมายระหว่างประเทศหรือ” นักข่าวยังไล่จี้ไม่หยุด

    “ฉันจะระมัดระวังเป็นพิเศษและปล่อยมันไว้แบบนั้น” ในที่สุด ฌอง-ปิแอร์ ก็เข้าสู่การ "ถามวัวตอบควาย"

    วิดีโอ2- สื่อนำเสนอภาพกองกำลังอิสราเอลบุกทำลายโรงพยาบาล Kamal Adwan เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน สื่อท้องถิ่นรายงานว่า ดร. ฮุสซัม อาบู ซาฟิยา ผู้อำนวยการโรงพยาบาล Kamal Adwan ได้รับบาดเจ็บที่ขาจากการโจมตีของอิสราเอล ตามรายงาน การโจมตีครั้งนี้มีเป้าหมายที่สถานีจ่ายออกซิเจนของโรงพยาบาล

    วิดีโอ3- เพียงไม่กี่นาทีก่อนการโจมตี ดร. อาบู ซาฟิยาได้ให้สัมภาษณ์ เกี่ยวกับการโจมตีของอิสราเอลต่อสถานพยาบาล
    3/ อเมริกาใบ้กิน! หลังโดนถามเกี่ยวกับการควบคุมตัวเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล Kamal Adwan ในกาซา ซึ่งรวมถึงการหายตัวไปของผู้อำนวยการโรงพยาบาล ทำเนียบขาวปฏิเสธที่จะเรียกร้องให้อิสราเอลยุติการกักขังเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล Kamal Adwan “สิทธิมนุษยชนและการยึดมั่นในกฎหมายระหว่างประเทศเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับรัฐบาลนี้ เรายืนยันในเรื่องนี้ใช่ไหม” นักข่าวเริ่มต้นด้วยการถามหลอกล่อ Karine Jean-Pierre โฆษกทำเนียบขาวของรัฐบาลไบเดน “ไม่โต้แย้ง คุณพูดถูก” Karine Jean-Pierre หลงกลตอบด้วยความใสซื่อ โดยไม่รู้เลยว่านักข่าวเตรียมคำถามเด็ดไว้แล้ว! ไม่ทันที่โฆษกทำเนียบขาวจะตั้งตัว นักข่าวจึงเริ่มถามเกี่ยวกับการควบคุมตัวเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล Kamal Adwan รวมถึงผู้อำนวยการโรงพยาบาล Dr. Hussam Abu Safiya ซึ่งถูกจับกุมหลังจากกองกำลังอิสราเอลบุกเข้าไปในโรงพยาบาล ตามรายงานของกระทรวงสาธารณสุขกาซา ส่งผลให้แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลออกมาประกาศแสดงความกังวลเกี่ยวกับชีวิตของเขา และยังไม่ทราบว่าเขาอยู่ที่ไหนจนถึงขณะนี้ “ทำเนียบขาวมีแนวทางจะทำอะไร เพื่อให้แน่ใจว่าเขาปลอดภัยไหม” นักข่าวถาม “เอ่อ.. ฉันไม่มีอะไรจะแบ่งปันเกี่ยวกับเรื่องนั้น” ฌอง-ปิแอร์กล่าวโดยเลี่ยงที่จะตอบคำถาม “แต่การจับกุมแพทย์จะไม่ถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนและกฎหมายระหว่างประเทศหรือ” นักข่าวยังไล่จี้ไม่หยุด “ฉันจะระมัดระวังเป็นพิเศษและปล่อยมันไว้แบบนั้น” ในที่สุด ฌอง-ปิแอร์ ก็เข้าสู่การ "ถามวัวตอบควาย" วิดีโอ2- สื่อนำเสนอภาพกองกำลังอิสราเอลบุกทำลายโรงพยาบาล Kamal Adwan เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน สื่อท้องถิ่นรายงานว่า ดร. ฮุสซัม อาบู ซาฟิยา ผู้อำนวยการโรงพยาบาล Kamal Adwan ได้รับบาดเจ็บที่ขาจากการโจมตีของอิสราเอล ตามรายงาน การโจมตีครั้งนี้มีเป้าหมายที่สถานีจ่ายออกซิเจนของโรงพยาบาล วิดีโอ3- เพียงไม่กี่นาทีก่อนการโจมตี ดร. อาบู ซาฟิยาได้ให้สัมภาษณ์ เกี่ยวกับการโจมตีของอิสราเอลต่อสถานพยาบาล
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 689 มุมมอง 17 0 รีวิว
  • 2/
    อเมริกาใบ้กิน! หลังโดนถามเกี่ยวกับการควบคุมตัวเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล Kamal Adwan ในกาซา ซึ่งรวมถึงการหายตัวไปของผู้อำนวยการโรงพยาบาล

    ทำเนียบขาวปฏิเสธที่จะเรียกร้องให้อิสราเอลยุติการกักขังเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล Kamal Adwan

    “สิทธิมนุษยชนและการยึดมั่นในกฎหมายระหว่างประเทศเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับรัฐบาลนี้ เรายืนยันในเรื่องนี้ใช่ไหม” นักข่าวเริ่มต้นด้วยการถามหลอกล่อ Karine Jean-Pierre โฆษกทำเนียบขาวของรัฐบาลไบเดน

    “ไม่โต้แย้ง คุณพูดถูก” Karine Jean-Pierre หลงกลตอบด้วยความใสซื่อ โดยไม่รู้เลยว่านักข่าวเตรียมคำถามเด็ดไว้แล้ว!

    ไม่ทันที่โฆษกทำเนียบขาวจะตั้งตัว นักข่าวจึงเริ่มถามเกี่ยวกับการควบคุมตัวเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล Kamal Adwan รวมถึงผู้อำนวยการโรงพยาบาล Dr. Hussam Abu Safiya ซึ่งถูกจับกุมหลังจากกองกำลังอิสราเอลบุกเข้าไปในโรงพยาบาล ตามรายงานของกระทรวงสาธารณสุขกาซา ส่งผลให้แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลออกมาประกาศแสดงความกังวลเกี่ยวกับชีวิตของเขา และยังไม่ทราบว่าเขาอยู่ที่ไหนจนถึงขณะนี้

    “ทำเนียบขาวมีแนวทางจะทำอะไร เพื่อให้แน่ใจว่าเขาปลอดภัยไหม” นักข่าวถาม
    “เอ่อ.. ฉันไม่มีอะไรจะแบ่งปันเกี่ยวกับเรื่องนั้น” ฌอง-ปิแอร์กล่าวโดยเลี่ยงที่จะตอบคำถาม

    “แต่การจับกุมแพทย์จะไม่ถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนและกฎหมายระหว่างประเทศหรือ” นักข่าวยังไล่จี้ไม่หยุด

    “ฉันจะระมัดระวังเป็นพิเศษและปล่อยมันไว้แบบนั้น” ในที่สุด ฌอง-ปิแอร์ ก็เข้าสู่การ "ถามวัวตอบควาย"

    วิดีโอ2- สื่อนำเสนอภาพกองกำลังอิสราเอลบุกทำลายโรงพยาบาล Kamal Adwan เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน สื่อท้องถิ่นรายงานว่า ดร. ฮุสซัม อาบู ซาฟิยา ผู้อำนวยการโรงพยาบาล Kamal Adwan ได้รับบาดเจ็บที่ขาจากการโจมตีของอิสราเอล ตามรายงาน การโจมตีครั้งนี้มีเป้าหมายที่สถานีจ่ายออกซิเจนของโรงพยาบาล

    วิดีโอ3- เพียงไม่กี่นาทีก่อนการโจมตี ดร. อาบู ซาฟิยาได้ให้สัมภาษณ์ เกี่ยวกับการโจมตีของอิสราเอลต่อสถานพยาบาล
    2/ อเมริกาใบ้กิน! หลังโดนถามเกี่ยวกับการควบคุมตัวเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล Kamal Adwan ในกาซา ซึ่งรวมถึงการหายตัวไปของผู้อำนวยการโรงพยาบาล ทำเนียบขาวปฏิเสธที่จะเรียกร้องให้อิสราเอลยุติการกักขังเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล Kamal Adwan “สิทธิมนุษยชนและการยึดมั่นในกฎหมายระหว่างประเทศเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับรัฐบาลนี้ เรายืนยันในเรื่องนี้ใช่ไหม” นักข่าวเริ่มต้นด้วยการถามหลอกล่อ Karine Jean-Pierre โฆษกทำเนียบขาวของรัฐบาลไบเดน “ไม่โต้แย้ง คุณพูดถูก” Karine Jean-Pierre หลงกลตอบด้วยความใสซื่อ โดยไม่รู้เลยว่านักข่าวเตรียมคำถามเด็ดไว้แล้ว! ไม่ทันที่โฆษกทำเนียบขาวจะตั้งตัว นักข่าวจึงเริ่มถามเกี่ยวกับการควบคุมตัวเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล Kamal Adwan รวมถึงผู้อำนวยการโรงพยาบาล Dr. Hussam Abu Safiya ซึ่งถูกจับกุมหลังจากกองกำลังอิสราเอลบุกเข้าไปในโรงพยาบาล ตามรายงานของกระทรวงสาธารณสุขกาซา ส่งผลให้แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลออกมาประกาศแสดงความกังวลเกี่ยวกับชีวิตของเขา และยังไม่ทราบว่าเขาอยู่ที่ไหนจนถึงขณะนี้ “ทำเนียบขาวมีแนวทางจะทำอะไร เพื่อให้แน่ใจว่าเขาปลอดภัยไหม” นักข่าวถาม “เอ่อ.. ฉันไม่มีอะไรจะแบ่งปันเกี่ยวกับเรื่องนั้น” ฌอง-ปิแอร์กล่าวโดยเลี่ยงที่จะตอบคำถาม “แต่การจับกุมแพทย์จะไม่ถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนและกฎหมายระหว่างประเทศหรือ” นักข่าวยังไล่จี้ไม่หยุด “ฉันจะระมัดระวังเป็นพิเศษและปล่อยมันไว้แบบนั้น” ในที่สุด ฌอง-ปิแอร์ ก็เข้าสู่การ "ถามวัวตอบควาย" วิดีโอ2- สื่อนำเสนอภาพกองกำลังอิสราเอลบุกทำลายโรงพยาบาล Kamal Adwan เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน สื่อท้องถิ่นรายงานว่า ดร. ฮุสซัม อาบู ซาฟิยา ผู้อำนวยการโรงพยาบาล Kamal Adwan ได้รับบาดเจ็บที่ขาจากการโจมตีของอิสราเอล ตามรายงาน การโจมตีครั้งนี้มีเป้าหมายที่สถานีจ่ายออกซิเจนของโรงพยาบาล วิดีโอ3- เพียงไม่กี่นาทีก่อนการโจมตี ดร. อาบู ซาฟิยาได้ให้สัมภาษณ์ เกี่ยวกับการโจมตีของอิสราเอลต่อสถานพยาบาล
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 668 มุมมอง 16 0 รีวิว
  • 1/
    อเมริกาใบ้กิน! หลังโดนถามเกี่ยวกับการควบคุมตัวเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล Kamal Adwan ในกาซา ซึ่งรวมถึงการหายตัวไปของผู้อำนวยการโรงพยาบาล

    ทำเนียบขาวปฏิเสธที่จะเรียกร้องให้อิสราเอลยุติการกักขังเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล Kamal Adwan

    “สิทธิมนุษยชนและการยึดมั่นในกฎหมายระหว่างประเทศเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับรัฐบาลนี้ เรายืนยันในเรื่องนี้ใช่ไหม” นักข่าวเริ่มต้นด้วยการถามหลอกล่อ Karine Jean-Pierre โฆษกทำเนียบขาวของรัฐบาลไบเดน

    “ไม่โต้แย้ง คุณพูดถูก” Karine Jean-Pierre หลงกลตอบด้วยความใสซื่อ โดยไม่รู้เลยว่านักข่าวเตรียมคำถามเด็ดไว้แล้ว!

    ไม่ทันที่โฆษกทำเนียบขาวจะตั้งตัว นักข่าวจึงเริ่มถามเกี่ยวกับการควบคุมตัวเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล Kamal Adwan รวมถึงผู้อำนวยการโรงพยาบาล Dr. Hussam Abu Safiya ซึ่งถูกจับกุมหลังจากกองกำลังอิสราเอลบุกเข้าไปในโรงพยาบาล ตามรายงานของกระทรวงสาธารณสุขกาซา ส่งผลให้แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลออกมาประกาศแสดงความกังวลเกี่ยวกับชีวิตของเขา และยังไม่ทราบว่าเขาอยู่ที่ไหนจนถึงขณะนี้

    “ทำเนียบขาวมีแนวทางจะทำอะไร เพื่อให้แน่ใจว่าเขาปลอดภัยไหม” นักข่าวถาม
    “เอ่อ.. ฉันไม่มีอะไรจะแบ่งปันเกี่ยวกับเรื่องนั้น” ฌอง-ปิแอร์กล่าวโดยเลี่ยงที่จะตอบคำถาม

    “แต่การจับกุมแพทย์จะไม่ถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนและกฎหมายระหว่างประเทศหรือ” นักข่าวยังไล่จี้ไม่หยุด

    “ฉันจะระมัดระวังเป็นพิเศษและปล่อยมันไว้แบบนั้น” ในที่สุด ฌอง-ปิแอร์ ก็เข้าสู่การ "ถามวัวตอบควาย"

    วิดีโอ2- สื่อนำเสนอภาพกองกำลังอิสราเอลบุกทำลายโรงพยาบาล Kamal Adwan เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน สื่อท้องถิ่นรายงานว่า ดร. ฮุสซัม อาบู ซาฟิยา ผู้อำนวยการโรงพยาบาล Kamal Adwan ได้รับบาดเจ็บที่ขาจากการโจมตีของอิสราเอล ตามรายงาน การโจมตีครั้งนี้มีเป้าหมายที่สถานีจ่ายออกซิเจนของโรงพยาบาล

    วิดีโอ3- เพียงไม่กี่นาทีก่อนการโจมตี ดร. อาบู ซาฟิยาได้ให้สัมภาษณ์ เกี่ยวกับการโจมตีของอิสราเอลต่อสถานพยาบาล
    1/ อเมริกาใบ้กิน! หลังโดนถามเกี่ยวกับการควบคุมตัวเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล Kamal Adwan ในกาซา ซึ่งรวมถึงการหายตัวไปของผู้อำนวยการโรงพยาบาล ทำเนียบขาวปฏิเสธที่จะเรียกร้องให้อิสราเอลยุติการกักขังเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล Kamal Adwan “สิทธิมนุษยชนและการยึดมั่นในกฎหมายระหว่างประเทศเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับรัฐบาลนี้ เรายืนยันในเรื่องนี้ใช่ไหม” นักข่าวเริ่มต้นด้วยการถามหลอกล่อ Karine Jean-Pierre โฆษกทำเนียบขาวของรัฐบาลไบเดน “ไม่โต้แย้ง คุณพูดถูก” Karine Jean-Pierre หลงกลตอบด้วยความใสซื่อ โดยไม่รู้เลยว่านักข่าวเตรียมคำถามเด็ดไว้แล้ว! ไม่ทันที่โฆษกทำเนียบขาวจะตั้งตัว นักข่าวจึงเริ่มถามเกี่ยวกับการควบคุมตัวเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล Kamal Adwan รวมถึงผู้อำนวยการโรงพยาบาล Dr. Hussam Abu Safiya ซึ่งถูกจับกุมหลังจากกองกำลังอิสราเอลบุกเข้าไปในโรงพยาบาล ตามรายงานของกระทรวงสาธารณสุขกาซา ส่งผลให้แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลออกมาประกาศแสดงความกังวลเกี่ยวกับชีวิตของเขา และยังไม่ทราบว่าเขาอยู่ที่ไหนจนถึงขณะนี้ “ทำเนียบขาวมีแนวทางจะทำอะไร เพื่อให้แน่ใจว่าเขาปลอดภัยไหม” นักข่าวถาม “เอ่อ.. ฉันไม่มีอะไรจะแบ่งปันเกี่ยวกับเรื่องนั้น” ฌอง-ปิแอร์กล่าวโดยเลี่ยงที่จะตอบคำถาม “แต่การจับกุมแพทย์จะไม่ถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนและกฎหมายระหว่างประเทศหรือ” นักข่าวยังไล่จี้ไม่หยุด “ฉันจะระมัดระวังเป็นพิเศษและปล่อยมันไว้แบบนั้น” ในที่สุด ฌอง-ปิแอร์ ก็เข้าสู่การ "ถามวัวตอบควาย" วิดีโอ2- สื่อนำเสนอภาพกองกำลังอิสราเอลบุกทำลายโรงพยาบาล Kamal Adwan เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน สื่อท้องถิ่นรายงานว่า ดร. ฮุสซัม อาบู ซาฟิยา ผู้อำนวยการโรงพยาบาล Kamal Adwan ได้รับบาดเจ็บที่ขาจากการโจมตีของอิสราเอล ตามรายงาน การโจมตีครั้งนี้มีเป้าหมายที่สถานีจ่ายออกซิเจนของโรงพยาบาล วิดีโอ3- เพียงไม่กี่นาทีก่อนการโจมตี ดร. อาบู ซาฟิยาได้ให้สัมภาษณ์ เกี่ยวกับการโจมตีของอิสราเอลต่อสถานพยาบาล
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 662 มุมมอง 19 0 รีวิว
  • อ.ปานเทพพูดถูกทุกอย่าง ติ๊งเหล่ทำเป็นป่องเป๋อไปได้
    https://youtu.be/n2Nj9KubT7E?feature=shared
    อ.ปานเทพพูดถูกทุกอย่าง ติ๊งเหล่ทำเป็นป่องเป๋อไปได้ https://youtu.be/n2Nj9KubT7E?feature=shared
    Like
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 281 มุมมอง 0 รีวิว
  • MAGA!!
    อเมริกาที่ยิ่งใหญ่กลับมาแล้ว

    จากกรณีที่ทรัมป์' ขู่ NATO ให้เพิ่มงบกลาโหมเป็น 5% ของ GDP ไม่งั้นอเมริกาจะถอนตัวออกจาก NATO เพราะที่ผ่านมาเป็นภาระกับอเมริกามากเกินไป

    นักข่าวเลยมาสอบถามความคิดเห็นของผู้นำยุโรป ว่าคิดเห็นอย่างไรกันบ้าง:

    - นายกรัฐมนตรีสวีเดน: มันก็คงต้องทำเป็นไปตามนั้น เราจะพึ่งพาสหรัฐให้เค้าเป็นผู้สนับสนุนหลักด้านกลาโหมของยุโรปอยู่ฝ่ายเดียวคงเป็นไปไม่ได้

    - นายกรัฐมนตรีฟินแลนด์: ทรัมป์เค้าพูดถูกแล้ว เขาเคยบอกให้ประเทศในยุโรปเพิ่มงบค่าใช้จ่ายด้านกลาโหมมาตั้งแต่ปี 2018 และตอนนี้เขาก็พูดถูกอีกครั้ง

    - นายกรัฐมนตรีกรีก: ตัวเลข 2% มันกลายเป็นอดีตไปแล้ว ตอนนี้มันจะสูงกว่า 2% ตามที่ทรัมป์แนะนำ

    คำพูดของพวกเขาบ่งบอกได้อย่างชัดเจน ถึงความเคารพต่อประธานาธิบดีอเมริกันอย่างแท้จริง!!
    MAGA!! อเมริกาที่ยิ่งใหญ่กลับมาแล้ว จากกรณีที่ทรัมป์' ขู่ NATO ให้เพิ่มงบกลาโหมเป็น 5% ของ GDP ไม่งั้นอเมริกาจะถอนตัวออกจาก NATO เพราะที่ผ่านมาเป็นภาระกับอเมริกามากเกินไป นักข่าวเลยมาสอบถามความคิดเห็นของผู้นำยุโรป ว่าคิดเห็นอย่างไรกันบ้าง: - นายกรัฐมนตรีสวีเดน: มันก็คงต้องทำเป็นไปตามนั้น เราจะพึ่งพาสหรัฐให้เค้าเป็นผู้สนับสนุนหลักด้านกลาโหมของยุโรปอยู่ฝ่ายเดียวคงเป็นไปไม่ได้ - นายกรัฐมนตรีฟินแลนด์: ทรัมป์เค้าพูดถูกแล้ว เขาเคยบอกให้ประเทศในยุโรปเพิ่มงบค่าใช้จ่ายด้านกลาโหมมาตั้งแต่ปี 2018 และตอนนี้เขาก็พูดถูกอีกครั้ง - นายกรัฐมนตรีกรีก: ตัวเลข 2% มันกลายเป็นอดีตไปแล้ว ตอนนี้มันจะสูงกว่า 2% ตามที่ทรัมป์แนะนำ คำพูดของพวกเขาบ่งบอกได้อย่างชัดเจน ถึงความเคารพต่อประธานาธิบดีอเมริกันอย่างแท้จริง!!
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 243 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ป้าพี่คิงส์ยอมเมิงละ
    ไปหมดละสะมงสะหมองเมิง
    จากที่มีแฟนเพจแจ้งข่าวว่า
    "ป้าแกหายตัวลึกลับนิ เมื่อวานฟังในกลุ่ม บอกติดต่อป้าไม่ได้กันละ เห็นตอนแรกจะ retire ตัวเองเดือนมีนา เเต่เหตุการณ์ปัจจุบันทำให้หายตัวไป เห็นเปิดเพลงอำลาก่อนสลายกลุ่มกันไปเมื่อวาน"
    และไม่นาน ก็มีอีกหลายคนให้ข้อมูลกลับมาว่า
    "อิป้าไม่ได้หายไปไหน มีอีกยูส ใช้ ai เปลี่ยนเสียง!!
    แต่สำเนียงการพูดคือใช่เลย เห็นอยู่หลายห้อง ไม่ได้หายไปไหนเลย มีคนจับโป๊ะได้ตั้งหลายคน หลุดปากพูดชื่อก็มี ในxก็ยังปั่นกันอยู่ไม่ใช่เหรอ"
    อิ HERE เมิงเป็นเอามาก
    หล็อนแล้วเมิง กรรูยอม ยอมแล้ว
    พี่ลักยิ้มพูดถูกอะ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #ป้าพี่คิงส์ยอมเมิงละ ไปหมดละสะมงสะหมองเมิง จากที่มีแฟนเพจแจ้งข่าวว่า "ป้าแกหายตัวลึกลับนิ เมื่อวานฟังในกลุ่ม บอกติดต่อป้าไม่ได้กันละ เห็นตอนแรกจะ retire ตัวเองเดือนมีนา เเต่เหตุการณ์ปัจจุบันทำให้หายตัวไป เห็นเปิดเพลงอำลาก่อนสลายกลุ่มกันไปเมื่อวาน" และไม่นาน ก็มีอีกหลายคนให้ข้อมูลกลับมาว่า "อิป้าไม่ได้หายไปไหน มีอีกยูส ใช้ ai เปลี่ยนเสียง!! แต่สำเนียงการพูดคือใช่เลย เห็นอยู่หลายห้อง ไม่ได้หายไปไหนเลย มีคนจับโป๊ะได้ตั้งหลายคน หลุดปากพูดชื่อก็มี ในxก็ยังปั่นกันอยู่ไม่ใช่เหรอ" อิ HERE เมิงเป็นเอามาก หล็อนแล้วเมิง กรรูยอม ยอมแล้ว พี่ลักยิ้มพูดถูกอะ #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 415 มุมมอง 0 รีวิว
  • คนสนิทตั้มพูดถูก ตั้มไม่ใช่ลูกน้องโจ๊ก แต่ตั้มเป็นหุ้นส่วนโจ๊ก ไอ่ฉัด!
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง-2
    คนสนิทตั้มพูดถูก ตั้มไม่ใช่ลูกน้องโจ๊ก แต่ตั้มเป็นหุ้นส่วนโจ๊ก ไอ่ฉัด! #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง-2
    Like
    Haha
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 307 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'พิธา' โต้เดือด 'ทักษิณ' เกลียดรัฐประหาร แต่จับมือลุง
    .
    ช่วงนี้อุดรธานีต้องคอยต้อนรับผู้ทรงอิทธิพลทางการเมืองไม่เว้นแต่ละวัน เมื่อไม่นานมานี้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพิ่งลงทุนลงแรงช่วยพรรคเพื่อไทยหาเสียงนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด โดยทิ้งวาทกรรมให้มากมายก่อนจากไป มาคราวนี้ถึงคิว 'พิธา ลิ้มเจริญรัตน์' อดีตแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล ช่วยผู้สมัครของพรรคประชาชนบ้าง พร้อมกับประกาศว่าอีก 9 ปีจะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี
    .
    ประโยคเด็ดที่ว่านี้เกิดระหว่าง 'พิธา' เดินหาเสียงที่ตลาดนิยม อ.บ้านผือ อุดรธานี และได้พบกับนางสวาท วังดู่ อายุ 86 ปี ที่เดินทางมาให้กำลังใจ โดยพิธาบอกว่า "ขอให้คุณยายอายุมั่นขวัญยืนนะครับคุณยาย รออีก 9 ปี กลับมาจะเป็นนายกฯ ให้ดีกว่านี้"
    .
    จากนั้นอดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกลได้ขึ้นเวทีปราศรัย ซึ่งเนื้อหาส่วนใหญ่เป็นการตอบโต้พรรคเพื่อไทยและนายทักษิณ
    .
    “คุณทักษิณ บอกว่าประชาชนยังไม่หายจน เพราะถูกยึดอำนาจไป 2 ครั้ง คุณทักษิณพูดถูก แต่ทำไมไปจับมือกับพรรคจากรัฐประหาร อันนี้ตนเองไม่เข้าใจจริงๆ พี่น้องเข้าใจหรือเปล่า คุณทักษิณก็บอกว่ารู้อยู่แล้วปัญหาความเหลื่อมล้ำ ปัญหาความยากจนประชาชนตลอด 18 ปีที่ผ่านมา มาจากการทำรัฐประหาร เสร็จแล้วสละมือกับฝ่ายประชาธิปไตย ไปจับมือกับพรรค 2 ลุง ไปจับทำไม แบบนี้ไม่อยากจะบอกว่า เกลียดตัวกินไข่ เกียดปลาไหลกินน้ำแกง หรือเปล่า"
    ...............
    Sondhi X
    'พิธา' โต้เดือด 'ทักษิณ' เกลียดรัฐประหาร แต่จับมือลุง . ช่วงนี้อุดรธานีต้องคอยต้อนรับผู้ทรงอิทธิพลทางการเมืองไม่เว้นแต่ละวัน เมื่อไม่นานมานี้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพิ่งลงทุนลงแรงช่วยพรรคเพื่อไทยหาเสียงนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด โดยทิ้งวาทกรรมให้มากมายก่อนจากไป มาคราวนี้ถึงคิว 'พิธา ลิ้มเจริญรัตน์' อดีตแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล ช่วยผู้สมัครของพรรคประชาชนบ้าง พร้อมกับประกาศว่าอีก 9 ปีจะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี . ประโยคเด็ดที่ว่านี้เกิดระหว่าง 'พิธา' เดินหาเสียงที่ตลาดนิยม อ.บ้านผือ อุดรธานี และได้พบกับนางสวาท วังดู่ อายุ 86 ปี ที่เดินทางมาให้กำลังใจ โดยพิธาบอกว่า "ขอให้คุณยายอายุมั่นขวัญยืนนะครับคุณยาย รออีก 9 ปี กลับมาจะเป็นนายกฯ ให้ดีกว่านี้" . จากนั้นอดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกลได้ขึ้นเวทีปราศรัย ซึ่งเนื้อหาส่วนใหญ่เป็นการตอบโต้พรรคเพื่อไทยและนายทักษิณ . “คุณทักษิณ บอกว่าประชาชนยังไม่หายจน เพราะถูกยึดอำนาจไป 2 ครั้ง คุณทักษิณพูดถูก แต่ทำไมไปจับมือกับพรรคจากรัฐประหาร อันนี้ตนเองไม่เข้าใจจริงๆ พี่น้องเข้าใจหรือเปล่า คุณทักษิณก็บอกว่ารู้อยู่แล้วปัญหาความเหลื่อมล้ำ ปัญหาความยากจนประชาชนตลอด 18 ปีที่ผ่านมา มาจากการทำรัฐประหาร เสร็จแล้วสละมือกับฝ่ายประชาธิปไตย ไปจับมือกับพรรค 2 ลุง ไปจับทำไม แบบนี้ไม่อยากจะบอกว่า เกลียดตัวกินไข่ เกียดปลาไหลกินน้ำแกง หรือเปล่า" ............... Sondhi X
    Haha
    4
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1266 มุมมอง 1 รีวิว
  • สหรัฐฯ ทำการเปิดฐานป้องกันภัยทางอากาศแห่งใหม่อย่างเป็นทางการ ทางเหนือของโปแลนด์ ความเคลื่อนไหวที่ทางวอร์ซอหาทางสร้างความอุ่นใจแก่พลเมืองว่านาโตการันตีความปลอดภัยของพวกเขา ท่ามกลางความหวั่นวิตก หลังจาก โดนัลด์ ทรัมป์ คว้าชัยศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกา
    .
    ฐานป้องกันภัยทางอากาศแห่งนี้ ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองเรดซิโคโว ใกล้ชายฝั่งบอลติก ดำเนินการก่อสร้างมาตั้งแต่ทศวรรษ 2000 และวอร์ซอระบุว่ามันแสดงให้เห็นว่าความเป็นพันธมิตรทางทหารระหว่างโปแลนด์กับวอชิงตันยังคงเหนียวแน่น ไม่ว่าใครจะอยู่ในทำเนียบขาวก็ตาม
    .
    "มันใช้เวลาพักใหญ่ แต่โครงการก่อสร้างนี้พิสูจน์ถึงความแน่วแน่ในเชิงยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ" ราโดสลอว์ ซิคอร์สกี รัฐมนตรีต่างประเทศโปแลนด์ กล่าวในวิดีโอที่โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์
    .
    ประธานาธิบดีอันด์แซย์ ดูดา ของโปแลนด์ ผู้นำหัวอนุรักษนิยมซึ่งเน้นย้ำความสัมพันธ์อันอบอุ่นกับทรัมป์ เข้าร่วมในพิธีเปิดฐานป้องกันภัยทางอากาศแห่งใหม่ด้วย ในขณะที่วังเครมลินเรียกความเคลื่อนไหวครั้งนี้ว่าเป็นความพยายามควบคุมรัสเซีย ด้วยการเคลื่อนย้ายโครงสร้างพื้นฐานทางทหารของอเมริกาเข้ามาใกล้ชายแดนของพวกเขา
    .
    ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกวังเครมลิน กล่าวว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน คัดค้านแผนการต่างๆ สำหรับฐานขีปนาวุธแห่งนี้ ย้อนกลับไปตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 2000 ครั้งที่ จอร์จ ดับเบิลยู.บุช เป็นประธานาธิบดี
    .
    โฆษกรายนี้บอกว่า ปูติน เคยเน้นย้ำในช่วงเวลาดังกล่าว ว่าสหรัฐฯ กำลังโกหก ที่อ้างว่ามันมีจุดประสงค์เพื่อสกัดความเป็นไปได้ที่อิหร่านจะยิงขีปนาวุธเข้ามา "มันเป็นการยืนยันว่าประธานาธิบดีพูดถูก พวกเขายังคงเดินหน้าแผนการนี้ นี่คือโครงสร้างพื้นฐานทางทหารล้ำสมัยของอเมริกาบนดินแดนยุโรป ที่หันหน้าเข้าหาเขตแดนของเรา" เปสคอฟกล่าว "มันไม่มีอะไรมากไปกว่าความพยายามควบคุมแสนยานุภาพทางทหารของเรา และแน่นอนว่ามันจะนำมาซึ่้งการใช้มาตรการที่เหมาะสม เพื่อรับประกันความเท่าเทียม"
    .
    อย่างไรก็ตาม เปสคอฟ ไม่ได้ระบุว่ารัสเซียจะใช้มาตรการใดในการตอบโต้
    .
    การเปิดฐานป้องกันภัยทางอากาศแห่งใหม่อย่างเป็นทางการในโปแลนด์ มีขึ้นหลังจากทรัมป์ได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในขณะที่เสียงวิพากษ์วิจารณ์ของทรัมป์ที่มีต่อนาโตในอดีต ได้ก่อความไม่สบายใจแก่รัฐสมาชิกบางส่วน โดยเขาเคยประกาศกร้าวว่าอเมริกาภายใต้การบริหารงานของเขา จะไม่ปกป้องประเทศต่างๆ ที่ไม่ใช้จ่ายในด้านกลาโหมอย่างเพียงพอ
    .
    กระนั้นก็ตาม โปแลนด์ บอกว่าไม่มีอะไรให้ต้องกังวล เนื่องจากพวกเขาเป็นผู้ใช้จ่ายงบประมาณด้านกลาโหมรายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งของพันธมิตรทหารแห่งนี้ เมื่อเทียบกับขนาดเศรษฐกิจ
    .
    ฐานทัพของสหรัฐฯ ในเมืองเรดซิโคโว เป็นส่วนหนึ่งของโล่ป้องกันขีปนาวุธอย่างครอบคลุมของนาโต ที่ได้รับสมญานามว่า "Aegis Ashore" ซึ่งพันธมิตรทหารแห่งนี้อวดอ้างว่าสามารถสกัดขีปนาวุธพิสัยใกล้ไปจนถึงพิสัยปานกลางที่พุ่งเข้ามาได้
    .
    มอสโกเคยตราหน้าฐานทัพแห่งนี้ว่าเป็นภัยคุกคาม ย้อนกลับไปในปี 2007 ตั้งแต่ช่วงที่มันยังอยู่ในขั้นของการวางแผน อย่างไรก็ตาม นาโตอ้างว่าโล่ดังกล่าวมีไว้เพื่อจุดประสงค์ป้องกันตนเองแต่เพียงอย่างเดียว
    .
    แหล่งข่าวด้านการทหารบอกกับรอยเตอร์ว่า ด้วยการติดตั้งระบบนี้ในโปแลนด์ เวลานี้นาโตไม่ใช่แค่สามารถใช้มันสกัดขีปนาวุธที่ยิงออกมาจากตะวันออกกลางเท่านั้น แต่มันยังมีระบบเรดาร์ที่จำเป็นที่้สามารถเปลี่ยนทิศทางเข้าสกัดขีปนาวุธที่ยิงออกมาจากรัสเซียด้วยเช่นกัน
    .
    รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของโปแลนด์ระบุในวันจันทร์ (11 พ.ย.) ว่าจำเป็นต้องขยายขอบเขตโล่ป้องกันขีปนาวุธนี้เพิ่มเติม ซึ่งทางวอร์ซอจะมีการพูดคุยหารือกับนาโตและสหรัฐฯ อีกครั้ง
    .
    ทั้งนี้ มีรายงานว่า มาร์ค รุตต์ เลขาธิการนาโต ได้พบปะหารือกับประธานาธิบดี ดูดา และนายกรัฐมนตรีโดนัลด์ ทัสก์ ของโปแลนด์ ในกรุงวอร์ซอ หลังจากพิธีเปิดฐานทัพในวันพุธ (13 พ.ย.)
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000109494
    ..............
    Sondhi X
    สหรัฐฯ ทำการเปิดฐานป้องกันภัยทางอากาศแห่งใหม่อย่างเป็นทางการ ทางเหนือของโปแลนด์ ความเคลื่อนไหวที่ทางวอร์ซอหาทางสร้างความอุ่นใจแก่พลเมืองว่านาโตการันตีความปลอดภัยของพวกเขา ท่ามกลางความหวั่นวิตก หลังจาก โดนัลด์ ทรัมป์ คว้าชัยศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกา . ฐานป้องกันภัยทางอากาศแห่งนี้ ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองเรดซิโคโว ใกล้ชายฝั่งบอลติก ดำเนินการก่อสร้างมาตั้งแต่ทศวรรษ 2000 และวอร์ซอระบุว่ามันแสดงให้เห็นว่าความเป็นพันธมิตรทางทหารระหว่างโปแลนด์กับวอชิงตันยังคงเหนียวแน่น ไม่ว่าใครจะอยู่ในทำเนียบขาวก็ตาม . "มันใช้เวลาพักใหญ่ แต่โครงการก่อสร้างนี้พิสูจน์ถึงความแน่วแน่ในเชิงยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ" ราโดสลอว์ ซิคอร์สกี รัฐมนตรีต่างประเทศโปแลนด์ กล่าวในวิดีโอที่โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ . ประธานาธิบดีอันด์แซย์ ดูดา ของโปแลนด์ ผู้นำหัวอนุรักษนิยมซึ่งเน้นย้ำความสัมพันธ์อันอบอุ่นกับทรัมป์ เข้าร่วมในพิธีเปิดฐานป้องกันภัยทางอากาศแห่งใหม่ด้วย ในขณะที่วังเครมลินเรียกความเคลื่อนไหวครั้งนี้ว่าเป็นความพยายามควบคุมรัสเซีย ด้วยการเคลื่อนย้ายโครงสร้างพื้นฐานทางทหารของอเมริกาเข้ามาใกล้ชายแดนของพวกเขา . ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกวังเครมลิน กล่าวว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน คัดค้านแผนการต่างๆ สำหรับฐานขีปนาวุธแห่งนี้ ย้อนกลับไปตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 2000 ครั้งที่ จอร์จ ดับเบิลยู.บุช เป็นประธานาธิบดี . โฆษกรายนี้บอกว่า ปูติน เคยเน้นย้ำในช่วงเวลาดังกล่าว ว่าสหรัฐฯ กำลังโกหก ที่อ้างว่ามันมีจุดประสงค์เพื่อสกัดความเป็นไปได้ที่อิหร่านจะยิงขีปนาวุธเข้ามา "มันเป็นการยืนยันว่าประธานาธิบดีพูดถูก พวกเขายังคงเดินหน้าแผนการนี้ นี่คือโครงสร้างพื้นฐานทางทหารล้ำสมัยของอเมริกาบนดินแดนยุโรป ที่หันหน้าเข้าหาเขตแดนของเรา" เปสคอฟกล่าว "มันไม่มีอะไรมากไปกว่าความพยายามควบคุมแสนยานุภาพทางทหารของเรา และแน่นอนว่ามันจะนำมาซึ่้งการใช้มาตรการที่เหมาะสม เพื่อรับประกันความเท่าเทียม" . อย่างไรก็ตาม เปสคอฟ ไม่ได้ระบุว่ารัสเซียจะใช้มาตรการใดในการตอบโต้ . การเปิดฐานป้องกันภัยทางอากาศแห่งใหม่อย่างเป็นทางการในโปแลนด์ มีขึ้นหลังจากทรัมป์ได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในขณะที่เสียงวิพากษ์วิจารณ์ของทรัมป์ที่มีต่อนาโตในอดีต ได้ก่อความไม่สบายใจแก่รัฐสมาชิกบางส่วน โดยเขาเคยประกาศกร้าวว่าอเมริกาภายใต้การบริหารงานของเขา จะไม่ปกป้องประเทศต่างๆ ที่ไม่ใช้จ่ายในด้านกลาโหมอย่างเพียงพอ . กระนั้นก็ตาม โปแลนด์ บอกว่าไม่มีอะไรให้ต้องกังวล เนื่องจากพวกเขาเป็นผู้ใช้จ่ายงบประมาณด้านกลาโหมรายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งของพันธมิตรทหารแห่งนี้ เมื่อเทียบกับขนาดเศรษฐกิจ . ฐานทัพของสหรัฐฯ ในเมืองเรดซิโคโว เป็นส่วนหนึ่งของโล่ป้องกันขีปนาวุธอย่างครอบคลุมของนาโต ที่ได้รับสมญานามว่า "Aegis Ashore" ซึ่งพันธมิตรทหารแห่งนี้อวดอ้างว่าสามารถสกัดขีปนาวุธพิสัยใกล้ไปจนถึงพิสัยปานกลางที่พุ่งเข้ามาได้ . มอสโกเคยตราหน้าฐานทัพแห่งนี้ว่าเป็นภัยคุกคาม ย้อนกลับไปในปี 2007 ตั้งแต่ช่วงที่มันยังอยู่ในขั้นของการวางแผน อย่างไรก็ตาม นาโตอ้างว่าโล่ดังกล่าวมีไว้เพื่อจุดประสงค์ป้องกันตนเองแต่เพียงอย่างเดียว . แหล่งข่าวด้านการทหารบอกกับรอยเตอร์ว่า ด้วยการติดตั้งระบบนี้ในโปแลนด์ เวลานี้นาโตไม่ใช่แค่สามารถใช้มันสกัดขีปนาวุธที่ยิงออกมาจากตะวันออกกลางเท่านั้น แต่มันยังมีระบบเรดาร์ที่จำเป็นที่้สามารถเปลี่ยนทิศทางเข้าสกัดขีปนาวุธที่ยิงออกมาจากรัสเซียด้วยเช่นกัน . รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของโปแลนด์ระบุในวันจันทร์ (11 พ.ย.) ว่าจำเป็นต้องขยายขอบเขตโล่ป้องกันขีปนาวุธนี้เพิ่มเติม ซึ่งทางวอร์ซอจะมีการพูดคุยหารือกับนาโตและสหรัฐฯ อีกครั้ง . ทั้งนี้ มีรายงานว่า มาร์ค รุตต์ เลขาธิการนาโต ได้พบปะหารือกับประธานาธิบดี ดูดา และนายกรัฐมนตรีโดนัลด์ ทัสก์ ของโปแลนด์ ในกรุงวอร์ซอ หลังจากพิธีเปิดฐานทัพในวันพุธ (13 พ.ย.) . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000109494 .............. Sondhi X
    Like
    8
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1440 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🧵ชัยชนะของทรัมป์ทำให้โซรอสต้องโศกเศร้า: นี่คือสาเหตุ

    กองทุนป้องกันความเสี่ยงมหาเศรษฐี จากฉลามที่ผันตัวมาเป็น “นักการกุศล” เสรีนิยมที่มีแนวคิดฉ้อฉล ผลประโยชน์ทางการเงินของจอร์จ โซรอส และโครงการทางการเมืองอาจประสบปัญหาเมื่อโดนัลด์ ทรัมป์กลับมาที่ทำเนียบขาว.
    .
    เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา, Bloomberg รายงานว่า Soros Fund Management มีแผนจะปิดสำนักงานในฮ่องกง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ "การปรับโครงสร้างองค์กร" แบบกะทันหัน หลังจากดำเนินกิจการมาเป็นเวลา ๑๔ ปี
    .
    ในขณะเดียวกัน, แคมเปญของเฒ่าโซรอสผู้เป็นพ่อและอเล็กซ์ลูกชายของเขาเพื่อให้พรรคเดโมแครตยังคงอยู่ในทำเนียบขาวก็ล้มเหลวในการจ่ายเงินปันผล, แม้ว่ากองทุนเพื่อการปฏิรูปนโยบายของโซรอสจะโอนเงิน ๖๐ ล้านดอลลาร์ให้กับ Future Forward, ซึ่งเป็นกลุ่มซูเปอร์ PAC ที่บริจาคเงินมืดสนับสนุนพรรคเดโมแครต นอกเหนือจากเงินบริจาค ๑๕ ล้านดอลลาร์จากบริษัทในเครือ Open Society Foundations ในปี ๒๐๒๓
    .
    นอกจากเงินแล้ว ครอบครัว Soros ยังได้ลงทุนส่วนตัวจำนวนมากในการรณรงค์ต่อต้าน “พรรครีพับลิกันแบบ MAGA” ในปี ๒๐๒๔ ในช่วงต้นปี ๒๐๒๓, Alex Soros ได้ประกาศลดขนาดการดำเนินงานของ OSF ในยุโรปตะวันตกลงอย่างมาก เพื่อมุ่งเน้นไปที่ยูเครน, มอลโดวา, บอลข่านตะวันตก, และสหรัฐอเมริกา โดยพยายามหยุดยั้งไม่ให้ทรัมป์กลายเป็นเรื่องสำคัญสูงสุด
    .
    จอร์จ โซรอส ส่งสัญญาณเตือนภัยเกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศ “อเมริกาต้องมาก่อน” ของทรัมป์เป็นครั้งแรกในปี ๒๐๑๖, เมื่อเขาทุ่มเงินหลายล้านดอลลาร์ให้กับแคมเปญหาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของฮิลลารี คลินตัน หลังจากที่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง, โซรอสได้ให้ทุนสนับสนุน “ขบวนการต่อต้าน” ต่อต้านทรัมป์ โดยแสดงออกผ่านการประท้วงบนท้องถนน, การท้าทายวาระในประเทศของทรัมป์ในศาล, การล็อบบี้ลับๆ ของสมาชิกในรัฐบาลของเขา, การสนับสนุนสมาชิกรัฐสภาที่ส่งเสริมนโยบายต่างประเทศแบบเสรีนิยมใหม่, และแม้แต่เงินสด ๑ ล้านดอลลาร์ที่ใช้ไปกับเอกสาร “สมคบคิดระหว่างทรัมป์-รัสเซีย” ที่ฉาวโฉ่
    .
    ในช่วงวาระแรกของทรัมป์, โซรอสได้ล็อบบี้บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ให้ควบคุมโซเชียลมีเดีย จัดหาเงินทุนสำหรับแคมเปญเพื่อสนับสนุนอัยการและผู้พิพากษาสายเสรีนิยม, ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐ, ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภา, และเจ้าหน้าที่ระดับรัฐและท้องถิ่นอื่นๆ หลายสิบหรือหลายร้อยคนในปี ๒๐๑๘ และ ๒๐๒๐
    .
    การเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดของ Soros และ OSF จากการแทรกแซงในต่างประเทศไปสู่การแทรกแซงการเมืองภายในประเทศของสหรัฐฯ ทำให้ผู้สนับสนุนทรัมป์โกรธแค้น, ซึ่งพยายามประกาศว่าเขาเป็น “ผู้ก่อการร้ายในประเทศ,” ริบทรัพย์สินของเขา, และขับไล่มหาเศรษฐีชาวฮังการีผู้นี้ออกจากประเทศ
    .
    เมื่อโจ ไบเดน ชนะการเลือกตั้งในปี ๒๐๒๐, กลุ่มนักวิจัยที่เชื่อมโยงกับโซรอสได้ล็อบบี้รัฐบาลของเขาให้สนับสนุนนโยบายที่สนับสนุนหลักการ OSF ในนโยบายด้านที่แตกต่างกันเกือบสองโหล, และจัดสรรเงิน ๒๐ ล้านดอลลาร์เพื่อจัดตั้ง "องค์กรระดับรากหญ้า" เพื่อขายร่างกฎหมายโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า ๑.๒ ล้านล้านดอลลาร์ของไบเดน
    .
    ในปี ๒๐๒๒, โซรอสได้จัดสรรเงิน ๑๒๕ ล้านเหรียญสหรัฐฯให้กับ “Democracy PAC” เพื่อสนับสนุนผู้สมัครที่ต่อต้าน MAGA ในช่วงกลางเทอม
    .
    ในปี ๒๐๒๓, เมื่อเริ่มมีการฟ้องร้องทางอาญากับทรัมป์, อดีตประธานาธิบดีเชื่อมโยงการ "ล่าแม่มด" ทางการเมืองต่อตัวเขาเข้ากับโซรอส และอัลวิน แบร็กก์ อัยการแมนฮัตตันที่ "คัดเลือกและจัดหาเงินทุนเอง" ของเขาทันที ซึ่งแคมเปญหาเสียงในปี ๒๐๒๑ โซรอสเป็นที่รู้จักว่าบริจาคเงินให้อย่างน้อย ๑ ล้านดอลลาร์
    .
    “ผมคาดว่าทรัมป์จะถูกตัดสินว่ามีความผิดอย่างน้อยในบางกรณี, และจะต้องติดคุกในวันเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน ๒๐๒๔,” โซรอสกล่าวในการให้สัมภาษณ์เมื่อเดือนสิงหาคม ๒๐๒๓ “ถ้าผมพูดถูก, เขาไม่น่าจะชนะการเลือกตั้ง แต่ถ้าผมพูดผิด, สหรัฐฯ จะเผชิญกับวิกฤตรัฐธรรมนูญ ซึ่งอาจนำไปสู่วิกฤตเศรษฐกิจด้วยเช่นกัน”
    .
    ดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างผิดพลาดอย่างร้ายแรงในการคำนวณของมหาเศรษฐี, โดยอดีตผู้จัดการด้านการเงินของโซรอส, สแตน ดรัคเคนมิลเลอร์, ได้เตือนเมื่อกลางเดือนตุลาคมว่าตลาด "มั่นใจมาก" ว่าทรัมป์จะชนะ
    .
    🧵TRUMP’S TRIUMPH SOWS SORROW FOR SOROS: HERE’S WHY

    Billionaire hedge fund shark-turned liberal “philanthropist” George Soros’ financial interests and political projects may be in trouble when Donald Trump returns to the Oval Office.
    .
    On Friday, Bloomberg reported that Soros Fund Management plans to shut down its Hong Kong office as part of a surprise “administrative reorganization” after 14 years of operations.
    .
    Meanwhile, the campaign by the elder Soros and his son Alex to keep a Democrat in the White House has failed to pay dividends, despite the Soros’ Fund for Policy Reform’s transfer of $60 million to Future Forward, a pro-Democrat dark money super PAC. That’s on top of a $15 million donation by an Open Society Foundations subsidiary in 2023.
    .
    Along with money, the Soros family invested significant personal capital into the campaign against “MAGA-style Republicans” in 2024. In early 2023, Alex Soros announced a dramatic scaling back of the OSF’s operations in Western Europe to focus on Ukraine, Moldova, the Western Balkans, and the United States, with the effort to stop Trump becoming a top priority.
    .
    George Soros first sounded the alarm over Trump’s “America First” foreign policy in 2016, when he pumped millions into Hillary Clinton’s presidential campaign. After Trump won, Soros funded an anti-Trump “resistance movement,” manifesting itself in street protests, court challenges to his domestic agenda, secret lobbying of members of his administration, support for lawmakers promoting a neoliberal foreign policy, and even $1 million in cash spent on the infamous “Trump-Russia collusion” dossier.
    .
    During Trump’s first term, Soros lobbied tech giants to regulate social media, funded a campaign to support dozens, if not hundreds, of liberal prosecutors and judges, gubernatorial candidates, congressional hopefuls, and other state and local officials in 2018 and 2020.
    .
    Soros and the OSF’s noticeable shift away from meddling abroad to interfering in US domestic politics earned the ire of Trump backers, who sought to declare him a “domestic terrorist,” strip him of his assets, and expel the Hungarian-born billionaire from the country.
    .
    When Joe Biden won in 2020, a Soros-linked think tank lobbied his administration to support policies favoring OSF principles in nearly two dozen different policy areas, and laid out $20 million to create “grass roots organizations” to sell Biden’s $1.2 trillion infrastructure bill.
    .
    In 2022, Soros channeled $125 million into a “Democracy PAC” to support anti-MAGA candidates in the midterms.
    .
    In 2023, as criminal indictments began to come down on Trump, the former president immediately linked the political “witch hunt” against him to Soros and his “hand-picked and funded” Manhattan DA Alvin Bragg, to whose 2021 campaign Soros is known to have donated at least $1 million.
    .
    “I expect that Trump will be found guilty at least in some cases, and will be in jail by election day in November 2024,” Soros said in an August 2023 interview. “If I am right, he is unlikely to win the election. But if I am wrong, the US will face a constitutional crisis that is likely to bring on an economic crisis as well.”
    .
    Something seems to have gone terribly wrong in the billionaire’s calculations, with Soros’ ex-money manager, Stan Druckenmiller, warning in mid-October that the markets were “very convinced” that Trump would win.
    .
    8:20 PM · Nov 9, 2024 · 28.4K Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1855239000606265400
    🧵ชัยชนะของทรัมป์ทำให้โซรอสต้องโศกเศร้า: นี่คือสาเหตุ กองทุนป้องกันความเสี่ยงมหาเศรษฐี จากฉลามที่ผันตัวมาเป็น “นักการกุศล” เสรีนิยมที่มีแนวคิดฉ้อฉล ผลประโยชน์ทางการเงินของจอร์จ โซรอส และโครงการทางการเมืองอาจประสบปัญหาเมื่อโดนัลด์ ทรัมป์กลับมาที่ทำเนียบขาว. . เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา, Bloomberg รายงานว่า Soros Fund Management มีแผนจะปิดสำนักงานในฮ่องกง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ "การปรับโครงสร้างองค์กร" แบบกะทันหัน หลังจากดำเนินกิจการมาเป็นเวลา ๑๔ ปี . ในขณะเดียวกัน, แคมเปญของเฒ่าโซรอสผู้เป็นพ่อและอเล็กซ์ลูกชายของเขาเพื่อให้พรรคเดโมแครตยังคงอยู่ในทำเนียบขาวก็ล้มเหลวในการจ่ายเงินปันผล, แม้ว่ากองทุนเพื่อการปฏิรูปนโยบายของโซรอสจะโอนเงิน ๖๐ ล้านดอลลาร์ให้กับ Future Forward, ซึ่งเป็นกลุ่มซูเปอร์ PAC ที่บริจาคเงินมืดสนับสนุนพรรคเดโมแครต นอกเหนือจากเงินบริจาค ๑๕ ล้านดอลลาร์จากบริษัทในเครือ Open Society Foundations ในปี ๒๐๒๓ . นอกจากเงินแล้ว ครอบครัว Soros ยังได้ลงทุนส่วนตัวจำนวนมากในการรณรงค์ต่อต้าน “พรรครีพับลิกันแบบ MAGA” ในปี ๒๐๒๔ ในช่วงต้นปี ๒๐๒๓, Alex Soros ได้ประกาศลดขนาดการดำเนินงานของ OSF ในยุโรปตะวันตกลงอย่างมาก เพื่อมุ่งเน้นไปที่ยูเครน, มอลโดวา, บอลข่านตะวันตก, และสหรัฐอเมริกา โดยพยายามหยุดยั้งไม่ให้ทรัมป์กลายเป็นเรื่องสำคัญสูงสุด . จอร์จ โซรอส ส่งสัญญาณเตือนภัยเกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศ “อเมริกาต้องมาก่อน” ของทรัมป์เป็นครั้งแรกในปี ๒๐๑๖, เมื่อเขาทุ่มเงินหลายล้านดอลลาร์ให้กับแคมเปญหาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของฮิลลารี คลินตัน หลังจากที่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง, โซรอสได้ให้ทุนสนับสนุน “ขบวนการต่อต้าน” ต่อต้านทรัมป์ โดยแสดงออกผ่านการประท้วงบนท้องถนน, การท้าทายวาระในประเทศของทรัมป์ในศาล, การล็อบบี้ลับๆ ของสมาชิกในรัฐบาลของเขา, การสนับสนุนสมาชิกรัฐสภาที่ส่งเสริมนโยบายต่างประเทศแบบเสรีนิยมใหม่, และแม้แต่เงินสด ๑ ล้านดอลลาร์ที่ใช้ไปกับเอกสาร “สมคบคิดระหว่างทรัมป์-รัสเซีย” ที่ฉาวโฉ่ . ในช่วงวาระแรกของทรัมป์, โซรอสได้ล็อบบี้บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ให้ควบคุมโซเชียลมีเดีย จัดหาเงินทุนสำหรับแคมเปญเพื่อสนับสนุนอัยการและผู้พิพากษาสายเสรีนิยม, ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐ, ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภา, และเจ้าหน้าที่ระดับรัฐและท้องถิ่นอื่นๆ หลายสิบหรือหลายร้อยคนในปี ๒๐๑๘ และ ๒๐๒๐ . การเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดของ Soros และ OSF จากการแทรกแซงในต่างประเทศไปสู่การแทรกแซงการเมืองภายในประเทศของสหรัฐฯ ทำให้ผู้สนับสนุนทรัมป์โกรธแค้น, ซึ่งพยายามประกาศว่าเขาเป็น “ผู้ก่อการร้ายในประเทศ,” ริบทรัพย์สินของเขา, และขับไล่มหาเศรษฐีชาวฮังการีผู้นี้ออกจากประเทศ . เมื่อโจ ไบเดน ชนะการเลือกตั้งในปี ๒๐๒๐, กลุ่มนักวิจัยที่เชื่อมโยงกับโซรอสได้ล็อบบี้รัฐบาลของเขาให้สนับสนุนนโยบายที่สนับสนุนหลักการ OSF ในนโยบายด้านที่แตกต่างกันเกือบสองโหล, และจัดสรรเงิน ๒๐ ล้านดอลลาร์เพื่อจัดตั้ง "องค์กรระดับรากหญ้า" เพื่อขายร่างกฎหมายโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า ๑.๒ ล้านล้านดอลลาร์ของไบเดน . ในปี ๒๐๒๒, โซรอสได้จัดสรรเงิน ๑๒๕ ล้านเหรียญสหรัฐฯให้กับ “Democracy PAC” เพื่อสนับสนุนผู้สมัครที่ต่อต้าน MAGA ในช่วงกลางเทอม . ในปี ๒๐๒๓, เมื่อเริ่มมีการฟ้องร้องทางอาญากับทรัมป์, อดีตประธานาธิบดีเชื่อมโยงการ "ล่าแม่มด" ทางการเมืองต่อตัวเขาเข้ากับโซรอส และอัลวิน แบร็กก์ อัยการแมนฮัตตันที่ "คัดเลือกและจัดหาเงินทุนเอง" ของเขาทันที ซึ่งแคมเปญหาเสียงในปี ๒๐๒๑ โซรอสเป็นที่รู้จักว่าบริจาคเงินให้อย่างน้อย ๑ ล้านดอลลาร์ . “ผมคาดว่าทรัมป์จะถูกตัดสินว่ามีความผิดอย่างน้อยในบางกรณี, และจะต้องติดคุกในวันเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน ๒๐๒๔,” โซรอสกล่าวในการให้สัมภาษณ์เมื่อเดือนสิงหาคม ๒๐๒๓ “ถ้าผมพูดถูก, เขาไม่น่าจะชนะการเลือกตั้ง แต่ถ้าผมพูดผิด, สหรัฐฯ จะเผชิญกับวิกฤตรัฐธรรมนูญ ซึ่งอาจนำไปสู่วิกฤตเศรษฐกิจด้วยเช่นกัน” . ดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างผิดพลาดอย่างร้ายแรงในการคำนวณของมหาเศรษฐี, โดยอดีตผู้จัดการด้านการเงินของโซรอส, สแตน ดรัคเคนมิลเลอร์, ได้เตือนเมื่อกลางเดือนตุลาคมว่าตลาด "มั่นใจมาก" ว่าทรัมป์จะชนะ . 🧵TRUMP’S TRIUMPH SOWS SORROW FOR SOROS: HERE’S WHY Billionaire hedge fund shark-turned liberal “philanthropist” George Soros’ financial interests and political projects may be in trouble when Donald Trump returns to the Oval Office. . On Friday, Bloomberg reported that Soros Fund Management plans to shut down its Hong Kong office as part of a surprise “administrative reorganization” after 14 years of operations. . Meanwhile, the campaign by the elder Soros and his son Alex to keep a Democrat in the White House has failed to pay dividends, despite the Soros’ Fund for Policy Reform’s transfer of $60 million to Future Forward, a pro-Democrat dark money super PAC. That’s on top of a $15 million donation by an Open Society Foundations subsidiary in 2023. . Along with money, the Soros family invested significant personal capital into the campaign against “MAGA-style Republicans” in 2024. In early 2023, Alex Soros announced a dramatic scaling back of the OSF’s operations in Western Europe to focus on Ukraine, Moldova, the Western Balkans, and the United States, with the effort to stop Trump becoming a top priority. . George Soros first sounded the alarm over Trump’s “America First” foreign policy in 2016, when he pumped millions into Hillary Clinton’s presidential campaign. After Trump won, Soros funded an anti-Trump “resistance movement,” manifesting itself in street protests, court challenges to his domestic agenda, secret lobbying of members of his administration, support for lawmakers promoting a neoliberal foreign policy, and even $1 million in cash spent on the infamous “Trump-Russia collusion” dossier. . During Trump’s first term, Soros lobbied tech giants to regulate social media, funded a campaign to support dozens, if not hundreds, of liberal prosecutors and judges, gubernatorial candidates, congressional hopefuls, and other state and local officials in 2018 and 2020. . Soros and the OSF’s noticeable shift away from meddling abroad to interfering in US domestic politics earned the ire of Trump backers, who sought to declare him a “domestic terrorist,” strip him of his assets, and expel the Hungarian-born billionaire from the country. . When Joe Biden won in 2020, a Soros-linked think tank lobbied his administration to support policies favoring OSF principles in nearly two dozen different policy areas, and laid out $20 million to create “grass roots organizations” to sell Biden’s $1.2 trillion infrastructure bill. . In 2022, Soros channeled $125 million into a “Democracy PAC” to support anti-MAGA candidates in the midterms. . In 2023, as criminal indictments began to come down on Trump, the former president immediately linked the political “witch hunt” against him to Soros and his “hand-picked and funded” Manhattan DA Alvin Bragg, to whose 2021 campaign Soros is known to have donated at least $1 million. . “I expect that Trump will be found guilty at least in some cases, and will be in jail by election day in November 2024,” Soros said in an August 2023 interview. “If I am right, he is unlikely to win the election. But if I am wrong, the US will face a constitutional crisis that is likely to bring on an economic crisis as well.” . Something seems to have gone terribly wrong in the billionaire’s calculations, with Soros’ ex-money manager, Stan Druckenmiller, warning in mid-October that the markets were “very convinced” that Trump would win. . 8:20 PM · Nov 9, 2024 · 28.4K Views https://x.com/SputnikInt/status/1855239000606265400
    Like
    Haha
    2
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1078 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องนี้ ชัยทวาร พูดถูก
    มีไว้ทำไมกันนะ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #พูดถูก
    #นั่นน่ะสิ
    #ถ้าตอบไม่ได้ก็ไม่ต้องมี
    เรื่องนี้ ชัยทวาร พูดถูก มีไว้ทำไมกันนะ #คิงส์โพธิ์แดง #พูดถูก #นั่นน่ะสิ #ถ้าตอบไม่ได้ก็ไม่ต้องมี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 410 มุมมอง 0 รีวิว