• พิพิธภัณฑ์ชนเผ่ากว่างซี

    มณฑลกวางสี เมืองหนานหนิง ประเทศจีน
    ความหมายของการทำกลองมโหระทึก
    ถูกอ่านมานานแล้ว มีเข้าใจมากันหลายอย่างหลายแบบ

    โพสต์นี้ก็เช่นกัน
    ภาพที่ลงอยู่ทางเข้าของ พิพิธภัณฑ์ชนเผ่ากว่างซี ที่ผู้ชมต้องเจอเป็นลำดับแรก โบราณวัตถุชิ้นนี้สำคัญต่อการเข้าใจในการทำกลองมโหระทึกที่ดีมาก

    บนวัตถุโบราณชิ้นนี้
    มีคน
    มีบ้าน
    มีกลอง
    เขาทำขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์อะไร
    บ้านคือที่อยู่อาศัย ทำไมบ้านเดียวมีคนเยอะแยะเหมือนทำให้รู้ว่าพวกเขาเคยอยู่บ้านที่ใหญ่โตนี้ แล้วบ้านที่ใหญ่โตนี้ มีความหมายลึกๆคืออะไร

    ผู้เขียนคิดเห็นต่อบ้านที่เห็น ที่มีคนเยอะๆหมายถึงแผ่นดินที่คนเยอะแยะเคยอาศัย และได้จากมา อพยพมา หรือหนีภัยมา จึงได้ทำวัตถุโบราณชิ้นนี้ขึ้นมา จะเห็นมีกลองมโหระทึกอยู่ 2 ใบ และในบ้านหลายใบ

    ผู้เขียนอ่านว่า สาเหตุที่มีคนเยอะและมีบ้านแทนแผ่นดิน และมาอยู่ตรงนี้ถูกทำบันทึกไว้บนกลองมโหระทึก

    ผู้เขียน จะนำบางรูปที่อยู่ข้างกลองที่อยู่ที่พิพิธภัณฑ์ชนเผ่ากว่างซีมาให้ชมว่า เพราะอะไร
    รูปข้างกลองมโหระทึกเป็นรูปเรือ มีการบันทึกใช่ไหมว่า พวกเขา ชนชาวจ้วงมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรือ แล้วเรือทำไมมาอยู่ข้างกลอง เรือต้องอยู่กับน้ำ รูปแบบนี้เขากำลังบอกอะไรเรา(ถ้าสมัยนั้นมีตัวหนังสือคงไม่ต้องลำบากแปลภาพ)

    โพสต์นี้เป็นการเริ่มต้นเขียนว่าคนไทย คนจ้วง คนบนเอเซียตะวันออกเฉียงใต้เป็นใครมาจากไหนทำไมมีวัตนธรรมและทัศนคติเหมือนกัน ถ้าใช่พวกเดียวกัน แล้วแต่ละกลุ่มทำไมมาอยู่ตรงนี้ ตรงสถานที่แตกต่างกัน

    มีการเขียนว่าคนไทยมาจากจ้วง #แต่ผู้เขียนไม่เห็นด้วย #ผู้เขียนเชื่อว่าคนจ้วงและคนเอเซียตะวันออกเฉียงใต้มาจากเผ่าเดียวกันแผ่นดินเดียวกัน แต่หนีภัยมาคนละกลุ่ม มากกว่าที่จะเป็นคนดั่งเดิมตรงพื้นที่นั้น

    ผู้เขียนคิดว่าจ้วงกับชนเผ่าทางภาคเหนือของพม่า ภาคเหนือของไทย ภาคเหนือของลาวและภาคเหนือไทยมาจากเทือกเขาหิมาลัยและทิเบต (มาพร้อมกับไทย มาเลย์เซีย เวียตนามโดยหนีภัยทางน้ำ ข้ามภูเขาหิมาลัย สมัยนั้ยยังไม่สูงแบบปัจจุบัน)

    ส่วนไทย ภาคใต้ของพม่า มาเลย์เซีย อินโดนีเซีย มาจากมหาสมุทรอินเดียโดยตรง

    ทำไมคิดแบบนั้น ผู้เขียนดูจากวัตถุโบราณจ้วงมีหน้ากลองเหมือนไทยแต่ สำริดลายไม่เหมือน หรือดินเผาแบบลายน้ำของไทย อายุวัตถุโบราณอายุเดียวกัน ไม่มีใครมีอายุแตกต่างกัน.

    บทความและหลักฐานโบราณ
    โดยคุณทราวิฑะ นอกกรอบ
    Fbทราวิฑะ นอกกรอบ
    พิพิธภัณฑ์ชนเผ่ากว่างซี มณฑลกวางสี เมืองหนานหนิง ประเทศจีน ความหมายของการทำกลองมโหระทึก ถูกอ่านมานานแล้ว มีเข้าใจมากันหลายอย่างหลายแบบ โพสต์นี้ก็เช่นกัน ภาพที่ลงอยู่ทางเข้าของ พิพิธภัณฑ์ชนเผ่ากว่างซี ที่ผู้ชมต้องเจอเป็นลำดับแรก โบราณวัตถุชิ้นนี้สำคัญต่อการเข้าใจในการทำกลองมโหระทึกที่ดีมาก บนวัตถุโบราณชิ้นนี้ มีคน มีบ้าน มีกลอง เขาทำขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์อะไร บ้านคือที่อยู่อาศัย ทำไมบ้านเดียวมีคนเยอะแยะเหมือนทำให้รู้ว่าพวกเขาเคยอยู่บ้านที่ใหญ่โตนี้ แล้วบ้านที่ใหญ่โตนี้ มีความหมายลึกๆคืออะไร ผู้เขียนคิดเห็นต่อบ้านที่เห็น ที่มีคนเยอะๆหมายถึงแผ่นดินที่คนเยอะแยะเคยอาศัย และได้จากมา อพยพมา หรือหนีภัยมา จึงได้ทำวัตถุโบราณชิ้นนี้ขึ้นมา จะเห็นมีกลองมโหระทึกอยู่ 2 ใบ และในบ้านหลายใบ ผู้เขียนอ่านว่า สาเหตุที่มีคนเยอะและมีบ้านแทนแผ่นดิน และมาอยู่ตรงนี้ถูกทำบันทึกไว้บนกลองมโหระทึก ผู้เขียน จะนำบางรูปที่อยู่ข้างกลองที่อยู่ที่พิพิธภัณฑ์ชนเผ่ากว่างซีมาให้ชมว่า เพราะอะไร รูปข้างกลองมโหระทึกเป็นรูปเรือ มีการบันทึกใช่ไหมว่า พวกเขา ชนชาวจ้วงมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรือ แล้วเรือทำไมมาอยู่ข้างกลอง เรือต้องอยู่กับน้ำ รูปแบบนี้เขากำลังบอกอะไรเรา(ถ้าสมัยนั้นมีตัวหนังสือคงไม่ต้องลำบากแปลภาพ) โพสต์นี้เป็นการเริ่มต้นเขียนว่าคนไทย คนจ้วง คนบนเอเซียตะวันออกเฉียงใต้เป็นใครมาจากไหนทำไมมีวัตนธรรมและทัศนคติเหมือนกัน ถ้าใช่พวกเดียวกัน แล้วแต่ละกลุ่มทำไมมาอยู่ตรงนี้ ตรงสถานที่แตกต่างกัน มีการเขียนว่าคนไทยมาจากจ้วง #แต่ผู้เขียนไม่เห็นด้วย #ผู้เขียนเชื่อว่าคนจ้วงและคนเอเซียตะวันออกเฉียงใต้มาจากเผ่าเดียวกันแผ่นดินเดียวกัน แต่หนีภัยมาคนละกลุ่ม มากกว่าที่จะเป็นคนดั่งเดิมตรงพื้นที่นั้น ผู้เขียนคิดว่าจ้วงกับชนเผ่าทางภาคเหนือของพม่า ภาคเหนือของไทย ภาคเหนือของลาวและภาคเหนือไทยมาจากเทือกเขาหิมาลัยและทิเบต (มาพร้อมกับไทย มาเลย์เซีย เวียตนามโดยหนีภัยทางน้ำ ข้ามภูเขาหิมาลัย สมัยนั้ยยังไม่สูงแบบปัจจุบัน) ส่วนไทย ภาคใต้ของพม่า มาเลย์เซีย อินโดนีเซีย มาจากมหาสมุทรอินเดียโดยตรง ทำไมคิดแบบนั้น ผู้เขียนดูจากวัตถุโบราณจ้วงมีหน้ากลองเหมือนไทยแต่ สำริดลายไม่เหมือน หรือดินเผาแบบลายน้ำของไทย อายุวัตถุโบราณอายุเดียวกัน ไม่มีใครมีอายุแตกต่างกัน. บทความและหลักฐานโบราณ โดยคุณทราวิฑะ นอกกรอบ Fbทราวิฑะ นอกกรอบ
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 0 รีวิว
  • 763 ปีพญามังรายสร้าง “เมืองเชียงราย” หลังเสด็จตามรอยเท้าช้าง สร้างเวียงรอบดอยจอมทอง

    "เชียงราย" เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ ยาวนานกว่า 763 ปี โดยถือกำเนิดขึ้นในวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 1805 ตามบันทึกตำนานพื้นเมือง พญามังรายทรงเสด็จตามรอยเท้าช้าง มาทางทิศตะวันออก ก่อนจะเลือกชัยภูมิริมฝั่งแม่น้ำกก และดอยจอมทองในการก่อตั้งเมืองเชียงรายแห่งนี้ โดยสร้างเป็นเวียงล้อมรอบดอยจอมทองให้มีความมั่นคง และเป็นศูนย์กลางการปกครอง ในยุคนั้น

    เมืองเชียงราย ไม่ได้เป็นเพียงแค่เมืองประวัติศาสตร์ แต่ยังสะท้อนถึงภูมิปัญญา และความเฉลียวฉลาดของพญามังราย ในการเลือกพื้นที่ ที่เหมาะสมสำหรับการตั้งถิ่นฐาน ซึ่งยังคงมีอิทธิพลต่อการพัฒนาเมือง มาจนถึงปัจจุบัน 🌄

    พญามังราย ราชาผู้ก่อตั้งล้านนา
    "พญามังราย" หรือที่รู้จักกันในนาม "ปฐมกษัตริย์แห่งล้านนา" เป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ ที่มีบทบาทสำคัญในการสร้าง และขยายอาณาจักรล้านนา พระองค์เสด็จขึ้นครองราชย์ ในปี พ.ศ. 1802 เป็นกษัตริย์รัชกาลที่ 25 แห่งหิรัญนครเงินยางเชียงลาว โดยตลอดรัชสมัย พระองค์ได้สร้างเมืองสำคัญหลายแห่ง เช่น

    - เมืองเชียงราย ศูนย์กลางการปกครองแห่งแรก ของพระองค์
    - เวียงกุมกาม เมืองต้นแบบก่อนการสร้างเชียงใหม่
    - เมืองเชียงใหม่ เมืองที่เป็นศูนย์กลางของอาณาจักรล้านนา

    พระนามของพญามังราย ได้รับการบันทึกไว้ในเอกสาร และหลักฐานประวัติศาสตร์มากมาย เช่น จารึกวัดพระยืน (พ.ศ. 1912) และมังรายศาสตร์ ซึ่งสะท้อนถึงความสำคัญ และบทบาทของพระองค์ ในฐานะผู้วางรากฐานอาณาจักรล้านนา

    เหตุผลที่เลือกดอยจอมทอง เป็นที่ตั้งเมือง
    ชัยภูมิของดอยจอมทอง ที่ตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำกก มีความเหมาะสมอย่างยิ่ง ต่อการตั้งเมืองในยุคนั้น เนื่องจาก

    - ความปลอดภัย ดอยจอมทองเป็นที่สูง ช่วยให้การป้องกันเมืองจากศัตรูง่ายขึ้น
    - ทรัพยากรธรรมชาติ แม่น้ำกกที่ไหลผ่าน เป็นแหล่งน้ำสำคัญ สำหรับการดำรงชีวิตและการเกษตร 🌾
    - การคมนาคม แม่น้ำกกยังเป็นเส้นทางการค้า และการเดินทางระหว่างพื้นที่ต่าง ๆ

    พญามังรายทรงมองเห็นถึง ความสำคัญของพื้นที่แห่งนี้ จึงได้วางรากฐานให้เชียงราย กลายเป็นเมืองที่รุ่งเรือง และมั่นคง

    บทบาทของเชียงราย ในยุคอาณาจักรล้านนา
    หลังจากการสร้างเมืองเชียงราย พญามังรายได้ครองราชย์ และพัฒนาเมือง ให้เป็นศูนย์กลางการปกครอง แห่งแรกของอาณาจักรล้านนา ก่อนจะย้ายไปสร้างเมืองเชียงใหม่ ในปี พ.ศ. 1839 เมืองเชียงราย จึงกลายเป็นที่ตั้งของพระราชโอรส พญาไชยสงคราม ผู้สืบทอดราชสมบัติ ต่อจากพญามังราย

    ในยุคต่อมา เมื่ออาณาจักรล้านนา ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของพม่า ในปี พ.ศ. 2101 เมืองเชียงรายยังคงมีบทบาทสำคัญ ในฐานะเมืองยุทธศาสตร์ แต่ในช่วงสงคราม ระหว่างสยามและพม่า เมืองเชียงรายเริ่มร้างผู้คน เนื่องจากประชาชน ต้องอพยพหนีภัยสงคราม

    ฟื้นฟูเมืองเชียงราย ในสมัยรัตนโกสินทร์
    ในปี พ.ศ. 2386 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีพระบรมราชานุญาต ให้เจ้าหลวงเชียงใหม่ฟื้นฟูเมืองเชียงรายขึ้นใหม่ โดยเมืองเชียงราย กลับมาเป็นศูนย์กลางการปกครอง ที่สำคัญอีกครั้ง และได้รับการยกฐานะ เป็นเมืองจัตวามณฑลพายัพ ในปี พ.ศ. 2453

    ข้อถกเถียงเกี่ยวกับพระนาม "พญามังราย"
    พระนาม "พญามังราย" ได้รับการบันทึกไว้ ในเอกสารประวัติศาสตร์ และหลักฐานต่าง ๆ แต่ในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 มีการเปลี่ยนแปลงพระนามเป็น "เม็งราย" ในพงศาวดารโยนก โดยไม่ปรากฏเหตุผลที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม ชื่อนี้ได้รับการใช้อย่างแพร่หลายในปัจจุบัน เช่น ตำบลเม็งราย อำเภอพญาเม็งราย และโรงเรียนเม็งรายมหาราชวิทยาคม

    วัฒนธรรมและมรดกทางประวัติศาสตร์ ของเชียงราย
    เมืองเชียงราย ไม่ได้เป็นเพียงแค่ ศูนย์กลางทางการปกครองในอดีต แต่ยังเป็นแหล่งรวบรวม มรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญ เช่น

    - วัดพระธาตุดอยจอมทอง สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่เกี่ยวข้องกับการก่อตั้งเมือง
    - พิพิธภัณฑ์อูบคำ รวบรวมศิลปวัตถุ ที่สะท้อนถึงความรุ่งเรืองในอดีต

    คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
    1. ทำไมพญามังราย ถึงเลือกเชียงรายเป็นที่ตั้งเมือง?
    พญามังรายทรงเลือกพื้นที่ ดอยจอมทองและแม่น้ำกก เพราะเป็นชัยภูมิที่เหมาะสม ต่อการตั้งเมือง มีทรัพยากรธรรมชาติสมบูรณ์ และสามารถป้องกันศัตรูได้ง่าย

    2. เมืองเชียงรายมีความสำคัญอย่างไร ในยุคล้านนา?
    เมืองเชียงรายเป็นเมืองแรก ที่พญามังรายสร้างขึ้น และเป็นศูนย์กลางการปกครอง ของอาณาจักรล้านนา ก่อนจะย้ายไปยังเชียงใหม่

    3. ชื่อนาม "พญามังราย" มีที่มาอย่างไร?
    ชื่อนี้มีที่มาจาก การผสมชื่อของพระบิดา พระมารดา และฤๅษีปัทมังกร ผู้ตั้งถวาย

    เมืองเชียงราย ที่ก่อตั้งโดยพญามังราย เมื่อ 763 ปี ที่ผ่านมา เป็นมรดกสำคัญ ที่สะท้อนถึงภูมิปัญญา และประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ ของอาณาจักรล้านนา แม้ว่าเมืองนี้ จะเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงมากมาย แต่ความงดงาม และคุณค่าทางวัฒนธรรมของเชียงราย ยังคงสืบทอดมา จนถึงปัจจุบัน

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 261148 ม.ค. 2568

    #เมืองเชียงราย #พญามังราย #ประวัติศาสตร์ล้านนา #วัฒนธรรมเชียงราย #763ปีเชียงราย #เชียงราย
    763 ปีพญามังรายสร้าง “เมืองเชียงราย” หลังเสด็จตามรอยเท้าช้าง สร้างเวียงรอบดอยจอมทอง "เชียงราย" เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ ยาวนานกว่า 763 ปี โดยถือกำเนิดขึ้นในวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 1805 ตามบันทึกตำนานพื้นเมือง พญามังรายทรงเสด็จตามรอยเท้าช้าง มาทางทิศตะวันออก ก่อนจะเลือกชัยภูมิริมฝั่งแม่น้ำกก และดอยจอมทองในการก่อตั้งเมืองเชียงรายแห่งนี้ โดยสร้างเป็นเวียงล้อมรอบดอยจอมทองให้มีความมั่นคง และเป็นศูนย์กลางการปกครอง ในยุคนั้น เมืองเชียงราย ไม่ได้เป็นเพียงแค่เมืองประวัติศาสตร์ แต่ยังสะท้อนถึงภูมิปัญญา และความเฉลียวฉลาดของพญามังราย ในการเลือกพื้นที่ ที่เหมาะสมสำหรับการตั้งถิ่นฐาน ซึ่งยังคงมีอิทธิพลต่อการพัฒนาเมือง มาจนถึงปัจจุบัน 🌄 พญามังราย ราชาผู้ก่อตั้งล้านนา "พญามังราย" หรือที่รู้จักกันในนาม "ปฐมกษัตริย์แห่งล้านนา" เป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ ที่มีบทบาทสำคัญในการสร้าง และขยายอาณาจักรล้านนา พระองค์เสด็จขึ้นครองราชย์ ในปี พ.ศ. 1802 เป็นกษัตริย์รัชกาลที่ 25 แห่งหิรัญนครเงินยางเชียงลาว โดยตลอดรัชสมัย พระองค์ได้สร้างเมืองสำคัญหลายแห่ง เช่น - เมืองเชียงราย ศูนย์กลางการปกครองแห่งแรก ของพระองค์ - เวียงกุมกาม เมืองต้นแบบก่อนการสร้างเชียงใหม่ - เมืองเชียงใหม่ เมืองที่เป็นศูนย์กลางของอาณาจักรล้านนา พระนามของพญามังราย ได้รับการบันทึกไว้ในเอกสาร และหลักฐานประวัติศาสตร์มากมาย เช่น จารึกวัดพระยืน (พ.ศ. 1912) และมังรายศาสตร์ ซึ่งสะท้อนถึงความสำคัญ และบทบาทของพระองค์ ในฐานะผู้วางรากฐานอาณาจักรล้านนา เหตุผลที่เลือกดอยจอมทอง เป็นที่ตั้งเมือง ชัยภูมิของดอยจอมทอง ที่ตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำกก มีความเหมาะสมอย่างยิ่ง ต่อการตั้งเมืองในยุคนั้น เนื่องจาก - ความปลอดภัย ดอยจอมทองเป็นที่สูง ช่วยให้การป้องกันเมืองจากศัตรูง่ายขึ้น - ทรัพยากรธรรมชาติ แม่น้ำกกที่ไหลผ่าน เป็นแหล่งน้ำสำคัญ สำหรับการดำรงชีวิตและการเกษตร 🌾 - การคมนาคม แม่น้ำกกยังเป็นเส้นทางการค้า และการเดินทางระหว่างพื้นที่ต่าง ๆ พญามังรายทรงมองเห็นถึง ความสำคัญของพื้นที่แห่งนี้ จึงได้วางรากฐานให้เชียงราย กลายเป็นเมืองที่รุ่งเรือง และมั่นคง บทบาทของเชียงราย ในยุคอาณาจักรล้านนา หลังจากการสร้างเมืองเชียงราย พญามังรายได้ครองราชย์ และพัฒนาเมือง ให้เป็นศูนย์กลางการปกครอง แห่งแรกของอาณาจักรล้านนา ก่อนจะย้ายไปสร้างเมืองเชียงใหม่ ในปี พ.ศ. 1839 เมืองเชียงราย จึงกลายเป็นที่ตั้งของพระราชโอรส พญาไชยสงคราม ผู้สืบทอดราชสมบัติ ต่อจากพญามังราย ในยุคต่อมา เมื่ออาณาจักรล้านนา ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของพม่า ในปี พ.ศ. 2101 เมืองเชียงรายยังคงมีบทบาทสำคัญ ในฐานะเมืองยุทธศาสตร์ แต่ในช่วงสงคราม ระหว่างสยามและพม่า เมืองเชียงรายเริ่มร้างผู้คน เนื่องจากประชาชน ต้องอพยพหนีภัยสงคราม ฟื้นฟูเมืองเชียงราย ในสมัยรัตนโกสินทร์ ในปี พ.ศ. 2386 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีพระบรมราชานุญาต ให้เจ้าหลวงเชียงใหม่ฟื้นฟูเมืองเชียงรายขึ้นใหม่ โดยเมืองเชียงราย กลับมาเป็นศูนย์กลางการปกครอง ที่สำคัญอีกครั้ง และได้รับการยกฐานะ เป็นเมืองจัตวามณฑลพายัพ ในปี พ.ศ. 2453 ข้อถกเถียงเกี่ยวกับพระนาม "พญามังราย" พระนาม "พญามังราย" ได้รับการบันทึกไว้ ในเอกสารประวัติศาสตร์ และหลักฐานต่าง ๆ แต่ในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 มีการเปลี่ยนแปลงพระนามเป็น "เม็งราย" ในพงศาวดารโยนก โดยไม่ปรากฏเหตุผลที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม ชื่อนี้ได้รับการใช้อย่างแพร่หลายในปัจจุบัน เช่น ตำบลเม็งราย อำเภอพญาเม็งราย และโรงเรียนเม็งรายมหาราชวิทยาคม วัฒนธรรมและมรดกทางประวัติศาสตร์ ของเชียงราย เมืองเชียงราย ไม่ได้เป็นเพียงแค่ ศูนย์กลางทางการปกครองในอดีต แต่ยังเป็นแหล่งรวบรวม มรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญ เช่น - วัดพระธาตุดอยจอมทอง สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่เกี่ยวข้องกับการก่อตั้งเมือง - พิพิธภัณฑ์อูบคำ รวบรวมศิลปวัตถุ ที่สะท้อนถึงความรุ่งเรืองในอดีต คำถามที่พบบ่อย (FAQs) 1. ทำไมพญามังราย ถึงเลือกเชียงรายเป็นที่ตั้งเมือง? พญามังรายทรงเลือกพื้นที่ ดอยจอมทองและแม่น้ำกก เพราะเป็นชัยภูมิที่เหมาะสม ต่อการตั้งเมือง มีทรัพยากรธรรมชาติสมบูรณ์ และสามารถป้องกันศัตรูได้ง่าย 2. เมืองเชียงรายมีความสำคัญอย่างไร ในยุคล้านนา? เมืองเชียงรายเป็นเมืองแรก ที่พญามังรายสร้างขึ้น และเป็นศูนย์กลางการปกครอง ของอาณาจักรล้านนา ก่อนจะย้ายไปยังเชียงใหม่ 3. ชื่อนาม "พญามังราย" มีที่มาอย่างไร? ชื่อนี้มีที่มาจาก การผสมชื่อของพระบิดา พระมารดา และฤๅษีปัทมังกร ผู้ตั้งถวาย เมืองเชียงราย ที่ก่อตั้งโดยพญามังราย เมื่อ 763 ปี ที่ผ่านมา เป็นมรดกสำคัญ ที่สะท้อนถึงภูมิปัญญา และประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ ของอาณาจักรล้านนา แม้ว่าเมืองนี้ จะเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงมากมาย แต่ความงดงาม และคุณค่าทางวัฒนธรรมของเชียงราย ยังคงสืบทอดมา จนถึงปัจจุบัน ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 261148 ม.ค. 2568 #เมืองเชียงราย #พญามังราย #ประวัติศาสตร์ล้านนา #วัฒนธรรมเชียงราย #763ปีเชียงราย #เชียงราย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 306 มุมมอง 0 รีวิว
  • 12/01/2568 พิพิธภัณฑ์​ศิลปะ​ไทย​ร่วมสมัย​
    12/01/2568 พิพิธภัณฑ์​ศิลปะ​ไทย​ร่วมสมัย​
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 33 มุมมอง 0 รีวิว
  • ❄️แพ็คเกจ HOKKAIDO So Cool 7 วัน 5 คืน❄️
    : หมู่บ้านเทพนิยายนิงเกิ้ลเทอเรส - กระเช้าอาซาฮีดาเกะ - สวนสัตว์อาซาฮิยามะ - หมู่บ้านราเมน - อาซาฮิคาวะ - พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี - นาฬิกาไอน้ำ - คลองโอตารุ - รุสุซึ รีสอร์ท - สวนหมีภูเขาไฟโชวะชินซัน - โนโบริเบทสึ - ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์หมีสีน้ำตาล - หมู่บ้านดาเตะจิไดมุระ - จุดชมวิวเขาโมอิวะ - ศาลเจ้าฮอกไกโดจิงงู
    ไม่รวม
    - ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ รวมถึงค่าภาษีสนามบิน และค่าภาษี
    - ค่าทิปพนักงานยกกระเป๋าโรงแรมที่พัก
    - ค่าธรรมเนียมในกรณีที่กระเป๋าสัมภาระที่มีน้ำหนักเกินกว่าที่สายการบินนั้นๆกำหนด
    - ค่าภาษีน้ำมัน ที่สายการบินเรียกเก็บเพิ่ม ตามประกาศของสายการบินภายหลังจากวันที่จอง

    📍 ช่วงวันเดินทาง :
    ⭕️ราคาเริ่มต้น : 86,356
    📢 ระดับทัวร์ : แพคเกจทัวร์คุณภาพระดับมาตรฐาน
    📢 รหัสทัวร์ : Z11895
    🏢 โรงแรม : ⭐️⭐️⭐️⭐️
    ✈️ สายการบิน : Self travel-เดินทางเอง

    ✔️Travel License: 11/11450
    ✔️โอนบัญชีชื่อ บริษัท วีอาร์ เอเจนซี ทราเวล แอนด์ เทรด จำกัด เท่านั้น

    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/e1c61b
    ดูทัวร์ญี่ปุ่นทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/a32eb2

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    📷: etravelway 78s.me/05e8da
    ☎️: 0 2116 6395

    #ทัวร์ญี่ปุ่น #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    ❄️แพ็คเกจ HOKKAIDO So Cool 7 วัน 5 คืน❄️ : หมู่บ้านเทพนิยายนิงเกิ้ลเทอเรส - กระเช้าอาซาฮีดาเกะ - สวนสัตว์อาซาฮิยามะ - หมู่บ้านราเมน - อาซาฮิคาวะ - พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี - นาฬิกาไอน้ำ - คลองโอตารุ - รุสุซึ รีสอร์ท - สวนหมีภูเขาไฟโชวะชินซัน - โนโบริเบทสึ - ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์หมีสีน้ำตาล - หมู่บ้านดาเตะจิไดมุระ - จุดชมวิวเขาโมอิวะ - ศาลเจ้าฮอกไกโดจิงงู ไม่รวม - ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ รวมถึงค่าภาษีสนามบิน และค่าภาษี - ค่าทิปพนักงานยกกระเป๋าโรงแรมที่พัก - ค่าธรรมเนียมในกรณีที่กระเป๋าสัมภาระที่มีน้ำหนักเกินกว่าที่สายการบินนั้นๆกำหนด - ค่าภาษีน้ำมัน ที่สายการบินเรียกเก็บเพิ่ม ตามประกาศของสายการบินภายหลังจากวันที่จอง 📍 ช่วงวันเดินทาง : ⭕️ราคาเริ่มต้น : 86,356 📢 ระดับทัวร์ : แพคเกจทัวร์คุณภาพระดับมาตรฐาน 📢 รหัสทัวร์ : Z11895 🏢 โรงแรม : ⭐️⭐️⭐️⭐️ ✈️ สายการบิน : Self travel-เดินทางเอง ✔️Travel License: 11/11450 ✔️โอนบัญชีชื่อ บริษัท วีอาร์ เอเจนซี ทราเวล แอนด์ เทรด จำกัด เท่านั้น ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/e1c61b ดูทัวร์ญี่ปุ่นทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/a32eb2 LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #ทัวร์ญี่ปุ่น #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 221 มุมมอง 0 รีวิว
  • 83 ปี แห่งการประชุมวันเซ จุดเริ่มไอน์ซัทซ์กรุพเพิน นาซีเยอรมนี ปฏิบัติการล้างบางชาวยิว


    ย้อนไปเมื่อ 83 ปี ที่ผ่านมา ในวันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2485 การประชุมวันเซ (Wannsee Conference) ณ คฤหาสน์โกเบน วันเซ ชานกรุงเบอร์ลิน เยอรมนี ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญ ที่เปลี่ยนโฉมหน้า ประวัติศาสตร์โลก ไปตลอดกาล ที่นี่ ผู้นำนาซีเยอรมัน รวมถึงสมาชิกระดับสูง ของหน่วยเอสเอส (SS) และเจ้าหน้าที่ข้าราชการระดับสูง ได้ร่วมกันวางแผนเพื่อดำเนิน "การแก้ปัญหาชาวยิว ครั้งสุดท้าย" หรือ “Final Solution” ซึ่งเป็นโครงการ ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว ทั่วทวีปยุโรป

    การประชุมวันเซ จุดเริ่มต้นการล้างบาง
    การประชุมครั้งนี้ถูกจัดขึ้นโดย ไรน์ฮาร์ด ไฮดริช (Reinhard Heydrich) ผู้อำนวยการ สำนักความมั่นคงหลักไรช์ (Reich Security Main Office) โดยมีเป้าหมายเพื่อวางแผน และสร้างความร่วมมือ ระหว่างกระทรวงต่าง ๆ ของเยอรมนี ในปฏิบัติการกำจัดชาวยิว ทั่วทั้งทวีปยุโรป ไฮดริชต้องการความแน่ใจว่า หน่วยงานของรัฐทุกแห่ง เช่น กระทรวงยุติธรรม กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการต่างประเทศ จะปฏิบัติตามแผนการ ที่ถูกกำหนดอย่างชัดเจน

    นอกจากการสร้างความร่วมมือ ไฮดริชยังได้ใช้การประชุมครั้งนี้ เพื่อชี้แจงแผนการ ส่งชาวยิวในยุโรปตะวันตก ไปยังค่ายมรณะในโปแลนด์ เช่น ค่ายเอาชวิทซ์ (Auschwitz) และเทรบลินกา (Treblinka) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ “การแก้ปัญหาชาวยิว ครั้งสุดท้าย”

    ผู้เข้าร่วมการประชุม มีทั้งหมด 15 คน ซึ่งเป็นตัวแทนระดับสูง จากหลายหน่วยงาน รวมถึงผู้นำจากหน่วยเอสเอส ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ และข้าราชการระดับสูง หนึ่งในนั้นคือ อัดอล์ฟ ไอช์มันน์ (Adolf Eichmann) ผู้มีบทบาทสำคัญ ในการประสานงาน และดำเนินการขนส่งชาวยิว ไปยังค่ายมรณะ

    ในบันทึกการประชุม ที่หลงเหลือมาจากสงคราม แสดงให้เห็นว่า ผู้เข้าร่วมไม่ได้แสดงความขัดแย้ง ต่อแผนการนี้ แต่กลับสนับสนุน และมีการพูดคุย ถึงวิธีการอย่างละเอียด

    ไอน์ซัทซ์กรุพเพิน กองกำลังสังหาร ที่ปฏิบัติการในแนวรบตะวันออก
    ไอน์ซัทซ์กรุพเพิน (Einsatzgruppen) หรือ "หน่วยปฏิบัติการเฉพาะกิจ" เป็นกลุ่มกองกำลัง ของหน่วยเอสเอส ที่ถูกจัดตั้งขึ้น เพื่อปฏิบัติภารกิจสังหารหมู่ ในพื้นที่ที่กองทัพเยอรมันยึดครอง โดยเฉพาะในยุโรปตะวันออก หลังการรุกรานโปแลนด์ และสหภาพโซเวียต หน่วยเหล่านี้ มีหน้าที่กำจัดกลุ่มคน ที่ถูกระบุว่า เป็นภัยต่อระบอบนาซี เช่น ชาวยิว ชาวโรมานี (ยิปซี) ปัญญาชน และสมาชิกฝ่ายตรงข้าม ทางการเมือง

    ปฏิบัติการไอน์ซัทซ์กรุพเพิน
    การสังหารหมู่ส่วนใหญ่ มักเกิดขึ้นผ่านการยิงเป้า ในพื้นที่ชนบทหรือป่าลึก ตัวอย่างที่เป็นที่รู้จักคือ การสังหารหมู่ที่บาบี ยาร์ (Babi Yar) ในยูเครน เมื่อเดือนกันยายน 2484 ซึ่งมีชาวยิวมากกว่า 33,000 คน ถูกสังหารภายในเวลาเพียง 2 วัน

    ในช่วงแรก เหยื่อถูกบังคับ ให้ขุดหลุมศพของตนเอง ก่อนจะถูกยิงเป้า ต่อมานาซีเริ่มใช้วิธีการที่ "มีประสิทธิภาพมากขึ้น" เช่น การส่งเหยื่อไปยังค่ายมรณะ และสังหารในห้องรมแก๊ส

    ตามการประเมิน ของนักประวัติศาสตร์ หน่วยไอน์ซัทซ์กรุพเพิน มีส่วนรับผิดชอบ ต่อการสังหารผู้คนกว่า 2 ล้านคน ซึ่งในจำนวนนี้ มีชาวยิวประมาณ 1.3 ล้านคน

    มาตรการสุดท้าย การล้างเผ่าพันธุ์อย่างเป็นระบบ
    บังคับใช้กฎหมาย แบ่งแยกชาวยิว
    ก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง เยอรมนีเริ่มจากการบังคับใช้ กฎหมายเนือร์นแบร์ก (Nuremberg Laws) ในปี 1935 ซึ่งแยกชาวยิว ออกจากสังคมเยอรมัน อย่างเป็นทางการ

    ตั้งเกตโต
    ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ชาวยิวถูกบังคับ ให้ย้ายไปอาศัยในเขตเกตโต (Ghetto) เช่น เกตโตวอร์ซอ (Warsaw Ghetto) ซึ่งมีสภาพความเป็นอยู่ที่แออัด และไร้มนุษยธรรม

    การเนรเทศและสังหารหมู่
    ชาวยิวถูกขนส่งใน "รถไฟมรณะ" ไปยังค่ายมรณะ เช่น เอาชวิทซ์ เพื่อถูกสังหาร ในห้องรมแก๊ส

    มาตรการสุดท้ายของนาซี นำไปสู่การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวกว่า 6 ล้านคน คิดเป็นสองในสาม ของประชากรยิวในยุโรป ในขณะนั้น

    เอกสารที่หลงเหลือ
    หลังสงครามสิ้นสุดลง สำเนาพิธีสารการประชุมวันเซ ถูกค้นพบโดยฝ่ายสัมพันธมิตร และถูกนำมาใช้เป็นหลักฐานสำคัญ ในการพิจารณาคดีเนือร์นแบร์ก (Nuremberg Trials) เพื่อดำเนินคดี กับผู้นำนาซี

    สำนึกผิดและสร้างอนุสรณ์
    ปัจจุบัน อาคารที่เคยใช้จัดการประชุมวันเซ ได้ถูกเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ และอนุสรณ์สถาน เพื่อรำลึกถึงเหยื่อ ของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

    คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
    1. การประชุมวันเซ มีผลกระทบอย่างไรต่อชาวยิว?
    การประชุมวันเซ เป็นการกำหนดแผนปฏิบัติการ สังหารหมู่ชาวยิว อย่างเป็นระบบ ทั่วทวีปยุโรป ซึ่งนำไปสู่การสูญเสียชีวิต ของชาวยิวกว่า 6 ล้านคน

    2. หน่วยไอน์ซัทซ์กรุพเพิน ทำหน้าที่อะไร?
    ไอน์ซัทซ์กรุพเพิน เป็นหน่วยกองกำลังของเอสเอส ที่มีหน้าที่ปฏิบัติการสังหารหมู่ ในยุโรปตะวันออก โดยใช้วิธีการยิงเป้า และการสังหารหมู่ในระดับใหญ่

    3. มีชาวยิวกี่คนที่เสียชีวิต ในเหตุการณ์ฮอโลคอสต์?
    ในเหตุการณ์ฮอโลคอสต์ ชาวยิวประมาณ 6 ล้านคน ถูกสังหาร รวมถึงผู้เสียชีวิตจากกลุ่มชาติพันธุ์ และชนกลุ่มน้อยอื่น ๆ อีกกว่า 11 ล้านคน

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 200908 ม.ค. 2568

    #Holocaust #WannseeConference #Einsatzgruppen #FinalSolution #NaziGermany #JewishHistory #WorldWarII #Genocide #NeverAgain #HistoryMatters
    83 ปี แห่งการประชุมวันเซ จุดเริ่มไอน์ซัทซ์กรุพเพิน นาซีเยอรมนี ปฏิบัติการล้างบางชาวยิว ย้อนไปเมื่อ 83 ปี ที่ผ่านมา ในวันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2485 การประชุมวันเซ (Wannsee Conference) ณ คฤหาสน์โกเบน วันเซ ชานกรุงเบอร์ลิน เยอรมนี ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญ ที่เปลี่ยนโฉมหน้า ประวัติศาสตร์โลก ไปตลอดกาล ที่นี่ ผู้นำนาซีเยอรมัน รวมถึงสมาชิกระดับสูง ของหน่วยเอสเอส (SS) และเจ้าหน้าที่ข้าราชการระดับสูง ได้ร่วมกันวางแผนเพื่อดำเนิน "การแก้ปัญหาชาวยิว ครั้งสุดท้าย" หรือ “Final Solution” ซึ่งเป็นโครงการ ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว ทั่วทวีปยุโรป การประชุมวันเซ จุดเริ่มต้นการล้างบาง การประชุมครั้งนี้ถูกจัดขึ้นโดย ไรน์ฮาร์ด ไฮดริช (Reinhard Heydrich) ผู้อำนวยการ สำนักความมั่นคงหลักไรช์ (Reich Security Main Office) โดยมีเป้าหมายเพื่อวางแผน และสร้างความร่วมมือ ระหว่างกระทรวงต่าง ๆ ของเยอรมนี ในปฏิบัติการกำจัดชาวยิว ทั่วทั้งทวีปยุโรป ไฮดริชต้องการความแน่ใจว่า หน่วยงานของรัฐทุกแห่ง เช่น กระทรวงยุติธรรม กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการต่างประเทศ จะปฏิบัติตามแผนการ ที่ถูกกำหนดอย่างชัดเจน นอกจากการสร้างความร่วมมือ ไฮดริชยังได้ใช้การประชุมครั้งนี้ เพื่อชี้แจงแผนการ ส่งชาวยิวในยุโรปตะวันตก ไปยังค่ายมรณะในโปแลนด์ เช่น ค่ายเอาชวิทซ์ (Auschwitz) และเทรบลินกา (Treblinka) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ “การแก้ปัญหาชาวยิว ครั้งสุดท้าย” ผู้เข้าร่วมการประชุม มีทั้งหมด 15 คน ซึ่งเป็นตัวแทนระดับสูง จากหลายหน่วยงาน รวมถึงผู้นำจากหน่วยเอสเอส ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ และข้าราชการระดับสูง หนึ่งในนั้นคือ อัดอล์ฟ ไอช์มันน์ (Adolf Eichmann) ผู้มีบทบาทสำคัญ ในการประสานงาน และดำเนินการขนส่งชาวยิว ไปยังค่ายมรณะ ในบันทึกการประชุม ที่หลงเหลือมาจากสงคราม แสดงให้เห็นว่า ผู้เข้าร่วมไม่ได้แสดงความขัดแย้ง ต่อแผนการนี้ แต่กลับสนับสนุน และมีการพูดคุย ถึงวิธีการอย่างละเอียด ไอน์ซัทซ์กรุพเพิน กองกำลังสังหาร ที่ปฏิบัติการในแนวรบตะวันออก ไอน์ซัทซ์กรุพเพิน (Einsatzgruppen) หรือ "หน่วยปฏิบัติการเฉพาะกิจ" เป็นกลุ่มกองกำลัง ของหน่วยเอสเอส ที่ถูกจัดตั้งขึ้น เพื่อปฏิบัติภารกิจสังหารหมู่ ในพื้นที่ที่กองทัพเยอรมันยึดครอง โดยเฉพาะในยุโรปตะวันออก หลังการรุกรานโปแลนด์ และสหภาพโซเวียต หน่วยเหล่านี้ มีหน้าที่กำจัดกลุ่มคน ที่ถูกระบุว่า เป็นภัยต่อระบอบนาซี เช่น ชาวยิว ชาวโรมานี (ยิปซี) ปัญญาชน และสมาชิกฝ่ายตรงข้าม ทางการเมือง ปฏิบัติการไอน์ซัทซ์กรุพเพิน การสังหารหมู่ส่วนใหญ่ มักเกิดขึ้นผ่านการยิงเป้า ในพื้นที่ชนบทหรือป่าลึก ตัวอย่างที่เป็นที่รู้จักคือ การสังหารหมู่ที่บาบี ยาร์ (Babi Yar) ในยูเครน เมื่อเดือนกันยายน 2484 ซึ่งมีชาวยิวมากกว่า 33,000 คน ถูกสังหารภายในเวลาเพียง 2 วัน ในช่วงแรก เหยื่อถูกบังคับ ให้ขุดหลุมศพของตนเอง ก่อนจะถูกยิงเป้า ต่อมานาซีเริ่มใช้วิธีการที่ "มีประสิทธิภาพมากขึ้น" เช่น การส่งเหยื่อไปยังค่ายมรณะ และสังหารในห้องรมแก๊ส ตามการประเมิน ของนักประวัติศาสตร์ หน่วยไอน์ซัทซ์กรุพเพิน มีส่วนรับผิดชอบ ต่อการสังหารผู้คนกว่า 2 ล้านคน ซึ่งในจำนวนนี้ มีชาวยิวประมาณ 1.3 ล้านคน มาตรการสุดท้าย การล้างเผ่าพันธุ์อย่างเป็นระบบ บังคับใช้กฎหมาย แบ่งแยกชาวยิว ก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง เยอรมนีเริ่มจากการบังคับใช้ กฎหมายเนือร์นแบร์ก (Nuremberg Laws) ในปี 1935 ซึ่งแยกชาวยิว ออกจากสังคมเยอรมัน อย่างเป็นทางการ ตั้งเกตโต ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ชาวยิวถูกบังคับ ให้ย้ายไปอาศัยในเขตเกตโต (Ghetto) เช่น เกตโตวอร์ซอ (Warsaw Ghetto) ซึ่งมีสภาพความเป็นอยู่ที่แออัด และไร้มนุษยธรรม การเนรเทศและสังหารหมู่ ชาวยิวถูกขนส่งใน "รถไฟมรณะ" ไปยังค่ายมรณะ เช่น เอาชวิทซ์ เพื่อถูกสังหาร ในห้องรมแก๊ส มาตรการสุดท้ายของนาซี นำไปสู่การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวกว่า 6 ล้านคน คิดเป็นสองในสาม ของประชากรยิวในยุโรป ในขณะนั้น เอกสารที่หลงเหลือ หลังสงครามสิ้นสุดลง สำเนาพิธีสารการประชุมวันเซ ถูกค้นพบโดยฝ่ายสัมพันธมิตร และถูกนำมาใช้เป็นหลักฐานสำคัญ ในการพิจารณาคดีเนือร์นแบร์ก (Nuremberg Trials) เพื่อดำเนินคดี กับผู้นำนาซี สำนึกผิดและสร้างอนุสรณ์ ปัจจุบัน อาคารที่เคยใช้จัดการประชุมวันเซ ได้ถูกเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ และอนุสรณ์สถาน เพื่อรำลึกถึงเหยื่อ ของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ คำถามที่พบบ่อย (FAQs) 1. การประชุมวันเซ มีผลกระทบอย่างไรต่อชาวยิว? การประชุมวันเซ เป็นการกำหนดแผนปฏิบัติการ สังหารหมู่ชาวยิว อย่างเป็นระบบ ทั่วทวีปยุโรป ซึ่งนำไปสู่การสูญเสียชีวิต ของชาวยิวกว่า 6 ล้านคน 2. หน่วยไอน์ซัทซ์กรุพเพิน ทำหน้าที่อะไร? ไอน์ซัทซ์กรุพเพิน เป็นหน่วยกองกำลังของเอสเอส ที่มีหน้าที่ปฏิบัติการสังหารหมู่ ในยุโรปตะวันออก โดยใช้วิธีการยิงเป้า และการสังหารหมู่ในระดับใหญ่ 3. มีชาวยิวกี่คนที่เสียชีวิต ในเหตุการณ์ฮอโลคอสต์? ในเหตุการณ์ฮอโลคอสต์ ชาวยิวประมาณ 6 ล้านคน ถูกสังหาร รวมถึงผู้เสียชีวิตจากกลุ่มชาติพันธุ์ และชนกลุ่มน้อยอื่น ๆ อีกกว่า 11 ล้านคน ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 200908 ม.ค. 2568 #Holocaust #WannseeConference #Einsatzgruppen #FinalSolution #NaziGermany #JewishHistory #WorldWarII #Genocide #NeverAgain #HistoryMatters
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 369 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไฟป่ากำลังลุกลามอย่างรวดเร็วเข้าใกล้ย่านหรูหราของแอลเอ!!

    ไฟป่าในแอลเอกำลังลุกลามเข้าสู่ย่านเบลแอร์ (Bel Air) ซึ่งเป็นย่านหรูหราที่สุดแห่งหนึ่งของเมือง โดยขณะนี้มียอดผู้เสียชีวิตพุ่งขึ้นเป็น 16 รายแล้ว

    ขณะเดียวกันเพลิงกำลังลุกลามเข้าใกล้พิพิธภัณฑ์เก็ตตี้ (Getty Museum) ซึ่งถือเป็นอันตรายอย่างยิ่ง โดยงานศิลปะล้ำค่าของแวนโก๊ะและโมเนต์ตกอยู่ในความเสี่ยงแม้จะมีระบบการป้องกันไฟขั้นสูงแล้วก็ตาม

    ย่านที่อยู่ของมหาเศรษฐีอีกแห่ง เบรนท์วูด (Brent Wood) ก็กำลังเตรียมรับมือภัยพิบัติเช่นกัน เนื่องจากลมแล้งอาจทำให้ไฟลุกลามมากขึ้น

    วิดีโอ1- เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้ ถ่ายมาจากไฟไหม้ใน Pacific Palisades ผู้ถ่ายวิดีโอกำลังบรรยายทิศทางของเปลวไฟที่กำลังลุกไหม้ ว่ามันจะพัดผ่านทางหลวง 405 และจะลุกลามไปที่ The Getty Center, Hollywood, Griffith Park ซึ่งเป็นทิศทางเข้าสู่ใจกลางเมืองลอสแองเจลิส

    ขณะที่สื่อรายงานว่า เจ้าหน้าที่ควบคุมไฟได้เพียง 10% เท่านั้นในทิศทาง Palisades fire
    ไฟป่ากำลังลุกลามอย่างรวดเร็วเข้าใกล้ย่านหรูหราของแอลเอ!! ไฟป่าในแอลเอกำลังลุกลามเข้าสู่ย่านเบลแอร์ (Bel Air) ซึ่งเป็นย่านหรูหราที่สุดแห่งหนึ่งของเมือง โดยขณะนี้มียอดผู้เสียชีวิตพุ่งขึ้นเป็น 16 รายแล้ว ขณะเดียวกันเพลิงกำลังลุกลามเข้าใกล้พิพิธภัณฑ์เก็ตตี้ (Getty Museum) ซึ่งถือเป็นอันตรายอย่างยิ่ง โดยงานศิลปะล้ำค่าของแวนโก๊ะและโมเนต์ตกอยู่ในความเสี่ยงแม้จะมีระบบการป้องกันไฟขั้นสูงแล้วก็ตาม ย่านที่อยู่ของมหาเศรษฐีอีกแห่ง เบรนท์วูด (Brent Wood) ก็กำลังเตรียมรับมือภัยพิบัติเช่นกัน เนื่องจากลมแล้งอาจทำให้ไฟลุกลามมากขึ้น วิดีโอ1- เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้ ถ่ายมาจากไฟไหม้ใน Pacific Palisades ผู้ถ่ายวิดีโอกำลังบรรยายทิศทางของเปลวไฟที่กำลังลุกไหม้ ว่ามันจะพัดผ่านทางหลวง 405 และจะลุกลามไปที่ The Getty Center, Hollywood, Griffith Park ซึ่งเป็นทิศทางเข้าสู่ใจกลางเมืองลอสแองเจลิส ขณะที่สื่อรายงานว่า เจ้าหน้าที่ควบคุมไฟได้เพียง 10% เท่านั้นในทิศทาง Palisades fire
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 452 มุมมอง 0 รีวิว
  • ญี่ปุ่น 1 : แบงก์ญี่ปุ่นรุ่นใหม่ ใครที่มาเที่ยวญี่ปุ่นช่วงนี้ ก็จะได้สัมผัสความหนาวกันคุ้มค่าไปเลยครับ เพราะอย่างวันนี้ที่โตเกียวตอนกลางวันก็ 10 องศาเข้าไปแล้วตอนกลางคืนคืนนี้ก็เหลือเพียง 1 องศาเท่านั้นความที่ผมจะเล่าในตอนนี้ก็อย่างที่บอกไว้แต่หัวเรื่องก็คือ ตอนนี้ประเทศญี่ปุ่นเขาออกธนบัตรรุ่นใหม่ออกมาแล้ว 3 ราคา คือ แบงก์ 1000 - 5,000 - 10,000 เยนครับที่เอามาเล่าก็ด้วยว่าผมชอบด้านหลังของแบงก์พันรุ่นใหม่เป็นพิเศษ เพราะแบงก์ชาติญี่ปุ่นเขานำภาพพิมพ์อมตะสุดคลาสสิคมาใช้ครับนั่นคือ ภาพ The Great Wave Off Kanagawa (คลื่นยักษ์คานากาว่า)แน่นอนว่าเราคนไทยที่ชอบอะไรญี่ปุ่นๆย่อมจะคุ้นเคยกับภาพนี้ เพราะเป็นหนึ่งในภาพอมตะที่ถูกพิมพ์ซ้ำมากที่สุดบนโลกใบนี้ภาพคลื่นยักษ์นี้เป็นภาพพิมพ์ไม้ฝีมือของจิตรกรญี่ปุ่นนามว่า “โฮกุไซ” ซึ่งสร้างภาพนี้ขึ้นในปี ค.ศ.1830 โน่นถ้าถามว่า “ภาพนี้สำคัญอย่างไร?”คำตอบนอกเหนือจากความงามอันคลาสสิคและเป็นภาพจำของคนทั่วโลก ก็คือ ภาพนี้เป็นแรงบันดาลใจให้กับจิตรกรสำคัญของโลกอย่าง “วินเซนต์ แวนโก๊ะ” ครับใช่แล้วครับ….ภาพพิมพ์ฝีมือโฮกุไซนี้ ออกเดินทางจากญี่ปุ่นในสมัยเมจิไปจนถึงยุโรปโน่นว่ากันว่า แวนโก๊ะชื่นชมภาพนี้มากจนเป็นแรงบันดาลใจในการวาดภาพ “Starry Night” ที่โด่งดัง (จริงหรือไม่ก็ไม่มีใครรู้ แต่เมื่อผมได้เห็นภาพ Starry Night แล้ว ก็คิดว่ามีส่วนคล้ายอยู่บ้างนิดหน่อย)สำหรับภาพคลื่นยักษ์ของโฮกุไซนี้ ตัวภาพสีออริจินัลที่พิมพ์ขึ้นจากแม่พิมพ์สีต้นแบบนั้นมีเพียง 5,000 ภาพเท่านั้นหลังจากกาลเวลาผ่านไปราว 200 ปี ภาพคลื่นยักษ์ออริจินัลนี้ก็เหลือรอดอยู่เพียงไม่กี่ภาพ และส่วนใหญ่จะอยู่ในพิพิธภัณฑ์สำคัญๆอย่างเช่น บริติชมิวเซียมการวาดคลื่นแบบกงเล็บของโฮกุไซนี้กลายเป็นกึ่งๆภาพต้นแบบของการวาดคลื่นของจิตรกรญี่ปุ่นไปเลยครับ
    ญี่ปุ่น 1 : แบงก์ญี่ปุ่นรุ่นใหม่ ใครที่มาเที่ยวญี่ปุ่นช่วงนี้ ก็จะได้สัมผัสความหนาวกันคุ้มค่าไปเลยครับ เพราะอย่างวันนี้ที่โตเกียวตอนกลางวันก็ 10 องศาเข้าไปแล้วตอนกลางคืนคืนนี้ก็เหลือเพียง 1 องศาเท่านั้นความที่ผมจะเล่าในตอนนี้ก็อย่างที่บอกไว้แต่หัวเรื่องก็คือ ตอนนี้ประเทศญี่ปุ่นเขาออกธนบัตรรุ่นใหม่ออกมาแล้ว 3 ราคา คือ แบงก์ 1000 - 5,000 - 10,000 เยนครับที่เอามาเล่าก็ด้วยว่าผมชอบด้านหลังของแบงก์พันรุ่นใหม่เป็นพิเศษ เพราะแบงก์ชาติญี่ปุ่นเขานำภาพพิมพ์อมตะสุดคลาสสิคมาใช้ครับนั่นคือ ภาพ The Great Wave Off Kanagawa (คลื่นยักษ์คานากาว่า)แน่นอนว่าเราคนไทยที่ชอบอะไรญี่ปุ่นๆย่อมจะคุ้นเคยกับภาพนี้ เพราะเป็นหนึ่งในภาพอมตะที่ถูกพิมพ์ซ้ำมากที่สุดบนโลกใบนี้ภาพคลื่นยักษ์นี้เป็นภาพพิมพ์ไม้ฝีมือของจิตรกรญี่ปุ่นนามว่า “โฮกุไซ” ซึ่งสร้างภาพนี้ขึ้นในปี ค.ศ.1830 โน่นถ้าถามว่า “ภาพนี้สำคัญอย่างไร?”คำตอบนอกเหนือจากความงามอันคลาสสิคและเป็นภาพจำของคนทั่วโลก ก็คือ ภาพนี้เป็นแรงบันดาลใจให้กับจิตรกรสำคัญของโลกอย่าง “วินเซนต์ แวนโก๊ะ” ครับใช่แล้วครับ….ภาพพิมพ์ฝีมือโฮกุไซนี้ ออกเดินทางจากญี่ปุ่นในสมัยเมจิไปจนถึงยุโรปโน่นว่ากันว่า แวนโก๊ะชื่นชมภาพนี้มากจนเป็นแรงบันดาลใจในการวาดภาพ “Starry Night” ที่โด่งดัง (จริงหรือไม่ก็ไม่มีใครรู้ แต่เมื่อผมได้เห็นภาพ Starry Night แล้ว ก็คิดว่ามีส่วนคล้ายอยู่บ้างนิดหน่อย)สำหรับภาพคลื่นยักษ์ของโฮกุไซนี้ ตัวภาพสีออริจินัลที่พิมพ์ขึ้นจากแม่พิมพ์สีต้นแบบนั้นมีเพียง 5,000 ภาพเท่านั้นหลังจากกาลเวลาผ่านไปราว 200 ปี ภาพคลื่นยักษ์ออริจินัลนี้ก็เหลือรอดอยู่เพียงไม่กี่ภาพ และส่วนใหญ่จะอยู่ในพิพิธภัณฑ์สำคัญๆอย่างเช่น บริติชมิวเซียมการวาดคลื่นแบบกงเล็บของโฮกุไซนี้กลายเป็นกึ่งๆภาพต้นแบบของการวาดคลื่นของจิตรกรญี่ปุ่นไปเลยครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 269 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💥 ทัวร์จีน สัมผัสอารยธรรมพันปี ซีอาน - หยุ่นเฉิง - ลั่วหยาง 5 วัน 4 คืน ไม่เข้าร้าน

    ✈️ เดินทางโดย : ZH-เซินเจิ้น แอร์ไลน์

    🅿️ 9 - 13 เม.ย. 68 ท่านละ 24,900
    🅿️ 16 - 20 เม.ย. / 30 เม.ย. - 4 พ.ค. 68 ท่านละ 22,900

    📍 วัดเส้าหลิน (รวมนั่งรถไฟฟ้า)
    📍 ป่าเจดีย์
    📍 การแสดงกังฟู
    📍 ศาลเจ้ากวนอู
    📍 พิพิธภัณฑ์ลั่วหยาง
    📍 เมืองโบราณลั่วอี้
    📍 สวนดอกโบตั๋น (เฉพาะช่วงเม.ย.)
    📍 สุสานทหารดินเผาจิ๋นซี (รวมรถกอล์ฟ+รวมหูฟัง)
    📍 ห้างต้าเย่เฉิง

    📢 ระดับทัวร์ : ทัวร์คุณภาพระดับมาตรฐาน
    📢 รหัสทัวร์ : Z11840
    🏢 โรงแรม : ⭐️⭐️⭐️⭐️

    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/e5b5d6

    ดูทัวร์วันแรงงานทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/ebb53e

    ดูทัวร์จีนทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/e40ba7

    ดูทัวร์วันสงกรานต์ทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/e1a231

    ดูทัวร์ซีอานทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/e93164

    ดูทัวร์ไม่เข้าร้านค้ารัฐบาลทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/e1dfdd

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    📷: etravelway 78s.me/05e8da
    ☎️: 0 2116 6395

    #ทัวร์จีน #ทัวร์ไม่เข้าร้านค้ารัฐบาล #ทัวร์วันสงกรานต์ #ทัวร์วันแรงงาน #ทัวร์ซีอาน #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    💥 ทัวร์จีน สัมผัสอารยธรรมพันปี ซีอาน - หยุ่นเฉิง - ลั่วหยาง 5 วัน 4 คืน ไม่เข้าร้าน ✈️ เดินทางโดย : ZH-เซินเจิ้น แอร์ไลน์ 🅿️ 9 - 13 เม.ย. 68 ท่านละ 24,900 🅿️ 16 - 20 เม.ย. / 30 เม.ย. - 4 พ.ค. 68 ท่านละ 22,900 📍 วัดเส้าหลิน (รวมนั่งรถไฟฟ้า) 📍 ป่าเจดีย์ 📍 การแสดงกังฟู 📍 ศาลเจ้ากวนอู 📍 พิพิธภัณฑ์ลั่วหยาง 📍 เมืองโบราณลั่วอี้ 📍 สวนดอกโบตั๋น (เฉพาะช่วงเม.ย.) 📍 สุสานทหารดินเผาจิ๋นซี (รวมรถกอล์ฟ+รวมหูฟัง) 📍 ห้างต้าเย่เฉิง 📢 ระดับทัวร์ : ทัวร์คุณภาพระดับมาตรฐาน 📢 รหัสทัวร์ : Z11840 🏢 โรงแรม : ⭐️⭐️⭐️⭐️ ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/e5b5d6 ดูทัวร์วันแรงงานทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/ebb53e ดูทัวร์จีนทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/e40ba7 ดูทัวร์วันสงกรานต์ทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/e1a231 ดูทัวร์ซีอานทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/e93164 ดูทัวร์ไม่เข้าร้านค้ารัฐบาลทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/e1dfdd LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #ทัวร์จีน #ทัวร์ไม่เข้าร้านค้ารัฐบาล #ทัวร์วันสงกรานต์ #ทัวร์วันแรงงาน #ทัวร์ซีอาน #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 463 มุมมอง 0 รีวิว
  • เส้นทางท่องเที่ยว..เชียงใหม่-เชียงราย-แม่ฮ่องสอน
    2024-2025 Chiengmai Tourist Routes

    ฉันกำลังจะเกษียณปลายเดือนมกราคม 2025
    จึงเขียนเส้นทางท่องเที่ยวเชียงใหม่ ไว้ให้เพื่อนๆ
    ที่จะมาเที่ยวเชียงใหม่บ้านของฉัน สนุก-ประทับใจ

    --------------------------
    ทริปไหว้พระ ๙ วัด (ได้ทั้งปี)

    1.วัดศรีดอนมูลครูบาน้อย ลงนะหน้า ทอง. 2.วัดพระธาตุดอยคำ
    3.วัดป่าแดด 4.วัดอุโมงค์. 5.วัดศรีสุพรรณ. 6.วัดพระสิงห์
    7.วัดเจดีย์หลวง. 8.วัดพันเตา** 9.วัดอุปคุต

    แนะนำ วัดโลกโมฬี และ วัดป่าดาราภิรมย์***สวยมาก***
    วัดพันเตา กลางคืนสวย(มาก)เดินถนนคนเดินคืนวันอาทิตย์

    ---------------------------
    ทริปดอยอ่างขาง (กลางเดือน มกราคม สวยที่สุด)

    1.คาเฟ่เฮือนไม้60. 2.แดนเทวดา. 3.วัดบ้านเด่น. 4.สวนสนแม่แตง. 5.ถนนต้นยางประตูสู่เมืองคอง. 6.ถ้ำหลวงเชียงดาว. 7.ฮิโนกิแลนด์ บ้านญี่ปุ่น 8.สวนส้ม. 9.จุดชมวิวม่อนสวนสน. 10.สถานีเกษตรดอยอ่างขาง(ซากุระ) 11.ไร่ชา2000系 12.สวนสตอเบอรี่ บ้านนอแล. 13.ฐานปฏิบัติการ ชายแดนบ้านนอแล

    ----------------------------
    ทริปดอยหลวงเชียงดาว (มกราคม- กลางเดือนกุมภาฯ)

    1.สวนดอกไม้แม่ริม. 2. คาเฟ่เรือนไม้ 6 สวน. 3.แอร์เอเชียไดมอนด์. 4.แดนเทวดา. 5.วัดบ้านเด่น. 6.สวนสนแม่แตง. 7.ประตูสู่เมืองคองถนนต้นยาง. 8.ถ้าหลวงเชียงดาว. 9.ที่พักระเบียงดาวโซนดอยหลวง 10. เมืองคอง

    -----------------------------
    ทริปแม่แตง (มค.-กพ. เทศกาลไม้ดอกเชียงใหม่)

    1.สวนดอกไม้แม่ริม. 2. คาเฟ่เฮือนไม้ 60. 3.คาเฟ่เครื่องบินแอร์เอเชียไดมอนด์. 4..แดนเทวดา 5.วัดบ้านเด่น. 6.สวนสนแม่แตง. 7.ปางช้างแม่แตง. 8.หมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาว. 9.แก่งกิ๊ดล่องแก่งล่องแพ. 10.ไร่ชาลุงเดช

    ----------------------------
    ทริปหมู่บ้านแม่กำปอง (เที่ยวได้ทั้งปี ยกเว้นฤดูฝน)

    1. ศูนย์หัตถกรรมร่มบ่อสร้าง 2. ถ้ำเมืองออน 3.น้ำพุร้อนสันกำแพง 4.ม่อนกุเวรท้าวเวสสุวรรณ. 5. โครงการหลวงบ้านห้วยตีนตก. 6.กาแฟบ้านต้นไม้แม่กำปอง. 7.ถนนคนเดินบ้านแม่กำปอง. 8.วัดแม่กำปองอุโบสถกลางน้ำ 9.กาแฟระเบียงวิวชมหมู่บ้าน. 10.น้ำตกบ้านแม่กำปอง. 11.กาแฟสะพานแขวนเทสดู่ 12.the ธารทอง green coffee cafe สวยๆ. 13. The giant **ทางชันมาก ต้องเหมารถที่แม่กำปองเท่านั้น
    14. กิ่วฝิ่น **ทางชันมาก ต้องเหมารถที่แม่กำปองเท่านั้น.

    -----------------------------
    ทริปอำเภอกัลยาณิวัฒนา(พฤศจิกายน-ธันวาคม)

    1. อุทยานหลวงราชพฤกษ์ 2.วัดต้นเกว๋น 3.คาเฟ่เฮือนหลองเข้าลำ 4.ทุ่งดอกเก๊กฮวย มีเฉพาะ พย-ธค. 5.ป่าสนวัดจันทร์

    ------------------------------
    ทริป อ.ปาย (ช่วงกุมภาพันธ์)

    1. กาแฟแม่มด 2. จุดเช็คอินเขตแดนปายแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่. 3. ห้วยน้ำดัง 4.สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย 5. ไหว้ขอพรพระธาตุแม่เย็น(ค้าง RELAX) 6. กะเหรี่ยงคอยาวห้วยมะเฟือง 7. เช็คอิน ที่ Cafe PAI in Love 8. พระอาทิตย์ตกดิน ที่ ปายแคนย่อน 9. ถนนคนเดินกลางคืน 10. ทะเลหมอกหยุนไหล 11. หมู่บ้านสันติชลบ้านจีนยูนนาน

    ------------------------------
    ทริปเชียงราย
    1. น้ำพุร้อนแม่ขะจาน 2. วัดร่องขุ่น 3. วัดร่องเสือเต้น 4. พิพิธภัณฑ์บ้านดำ 5.ไร่ชาฉุยฟง 6. วัดห้วยปลากั้ง 7.ไร่บุญรอดสิงห์ปาร์ค 8.พระตำหนักดอยตุง 9. วัดพระธาตุดอยตุง 10. จุดชมวิวดอยช้างมูป 11.ดอยผาฮี้ (ที่พัก) 12.วัดพระธาตุดอยเวา-SKYWALK 13. ตลาดแม่สาย 14.สามเหลี่ยมทองคำ 15.ภูชี้ฟ้า 16. อาข่าฟาร์มวิลล์-ฟาร์มแกะ(แม่สรวย)

    ------------------------------
    ทริปแม่ฮ่องสอน-เมืองสามหมอก (กลาง พย-ธค)

    1. บ่อน้ำแร่ห้วยไทรงาม. 2. จุดชมวิวดอยกิ่วลม. 3. ถ้ำน้ำลอดปางมะผ้าหรือ ถ้ำผีแมน. 4. ก๋วยเตี๋ยวห้อยขาบ้านจ่าโบ้(ค้าง 1 คืน). 5. จุดชมวิวบ้านห้วยรุกข้าวหลาม. 6. ถ้ำปลาแม่ฮ่องสอน. 7. พระธาตุดอยกองมู. 8. บ้านรักไทย. 9. ปางอุ๋ง ล่องแพตอนเช้า. 10. สะพานซูตองเป้
    เฉพาะกลางเดือนพฤศจิกายน ดอกบัวตอง ที่ ดอยแม่อูคอ สวยดั่งสวรรค์
    เส้นทางท่องเที่ยว..เชียงใหม่-เชียงราย-แม่ฮ่องสอน 2024-2025 Chiengmai Tourist Routes ฉันกำลังจะเกษียณปลายเดือนมกราคม 2025 จึงเขียนเส้นทางท่องเที่ยวเชียงใหม่ ไว้ให้เพื่อนๆ ที่จะมาเที่ยวเชียงใหม่บ้านของฉัน สนุก-ประทับใจ -------------------------- ทริปไหว้พระ ๙ วัด (ได้ทั้งปี) 1.วัดศรีดอนมูลครูบาน้อย ลงนะหน้า ทอง. 2.วัดพระธาตุดอยคำ 3.วัดป่าแดด 4.วัดอุโมงค์. 5.วัดศรีสุพรรณ. 6.วัดพระสิงห์ 7.วัดเจดีย์หลวง. 8.วัดพันเตา** 9.วัดอุปคุต แนะนำ วัดโลกโมฬี และ วัดป่าดาราภิรมย์***สวยมาก*** วัดพันเตา กลางคืนสวย(มาก)เดินถนนคนเดินคืนวันอาทิตย์ --------------------------- ทริปดอยอ่างขาง (กลางเดือน มกราคม สวยที่สุด) 1.คาเฟ่เฮือนไม้60. 2.แดนเทวดา. 3.วัดบ้านเด่น. 4.สวนสนแม่แตง. 5.ถนนต้นยางประตูสู่เมืองคอง. 6.ถ้ำหลวงเชียงดาว. 7.ฮิโนกิแลนด์ บ้านญี่ปุ่น 8.สวนส้ม. 9.จุดชมวิวม่อนสวนสน. 10.สถานีเกษตรดอยอ่างขาง(ซากุระ) 11.ไร่ชา2000系 12.สวนสตอเบอรี่ บ้านนอแล. 13.ฐานปฏิบัติการ ชายแดนบ้านนอแล ---------------------------- ทริปดอยหลวงเชียงดาว (มกราคม- กลางเดือนกุมภาฯ) 1.สวนดอกไม้แม่ริม. 2. คาเฟ่เรือนไม้ 6 สวน. 3.แอร์เอเชียไดมอนด์. 4.แดนเทวดา. 5.วัดบ้านเด่น. 6.สวนสนแม่แตง. 7.ประตูสู่เมืองคองถนนต้นยาง. 8.ถ้าหลวงเชียงดาว. 9.ที่พักระเบียงดาวโซนดอยหลวง 10. เมืองคอง ----------------------------- ทริปแม่แตง (มค.-กพ. เทศกาลไม้ดอกเชียงใหม่) 1.สวนดอกไม้แม่ริม. 2. คาเฟ่เฮือนไม้ 60. 3.คาเฟ่เครื่องบินแอร์เอเชียไดมอนด์. 4..แดนเทวดา 5.วัดบ้านเด่น. 6.สวนสนแม่แตง. 7.ปางช้างแม่แตง. 8.หมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาว. 9.แก่งกิ๊ดล่องแก่งล่องแพ. 10.ไร่ชาลุงเดช ---------------------------- ทริปหมู่บ้านแม่กำปอง (เที่ยวได้ทั้งปี ยกเว้นฤดูฝน) 1. ศูนย์หัตถกรรมร่มบ่อสร้าง 2. ถ้ำเมืองออน 3.น้ำพุร้อนสันกำแพง 4.ม่อนกุเวรท้าวเวสสุวรรณ. 5. โครงการหลวงบ้านห้วยตีนตก. 6.กาแฟบ้านต้นไม้แม่กำปอง. 7.ถนนคนเดินบ้านแม่กำปอง. 8.วัดแม่กำปองอุโบสถกลางน้ำ 9.กาแฟระเบียงวิวชมหมู่บ้าน. 10.น้ำตกบ้านแม่กำปอง. 11.กาแฟสะพานแขวนเทสดู่ 12.the ธารทอง green coffee cafe สวยๆ. 13. The giant **ทางชันมาก ต้องเหมารถที่แม่กำปองเท่านั้น 14. กิ่วฝิ่น **ทางชันมาก ต้องเหมารถที่แม่กำปองเท่านั้น. ----------------------------- ทริปอำเภอกัลยาณิวัฒนา(พฤศจิกายน-ธันวาคม) 1. อุทยานหลวงราชพฤกษ์ 2.วัดต้นเกว๋น 3.คาเฟ่เฮือนหลองเข้าลำ 4.ทุ่งดอกเก๊กฮวย มีเฉพาะ พย-ธค. 5.ป่าสนวัดจันทร์ ------------------------------ ทริป อ.ปาย (ช่วงกุมภาพันธ์) 1. กาแฟแม่มด 2. จุดเช็คอินเขตแดนปายแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่. 3. ห้วยน้ำดัง 4.สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย 5. ไหว้ขอพรพระธาตุแม่เย็น(ค้าง RELAX) 6. กะเหรี่ยงคอยาวห้วยมะเฟือง 7. เช็คอิน ที่ Cafe PAI in Love 8. พระอาทิตย์ตกดิน ที่ ปายแคนย่อน 9. ถนนคนเดินกลางคืน 10. ทะเลหมอกหยุนไหล 11. หมู่บ้านสันติชลบ้านจีนยูนนาน ------------------------------ ทริปเชียงราย 1. น้ำพุร้อนแม่ขะจาน 2. วัดร่องขุ่น 3. วัดร่องเสือเต้น 4. พิพิธภัณฑ์บ้านดำ 5.ไร่ชาฉุยฟง 6. วัดห้วยปลากั้ง 7.ไร่บุญรอดสิงห์ปาร์ค 8.พระตำหนักดอยตุง 9. วัดพระธาตุดอยตุง 10. จุดชมวิวดอยช้างมูป 11.ดอยผาฮี้ (ที่พัก) 12.วัดพระธาตุดอยเวา-SKYWALK 13. ตลาดแม่สาย 14.สามเหลี่ยมทองคำ 15.ภูชี้ฟ้า 16. อาข่าฟาร์มวิลล์-ฟาร์มแกะ(แม่สรวย) ------------------------------ ทริปแม่ฮ่องสอน-เมืองสามหมอก (กลาง พย-ธค) 1. บ่อน้ำแร่ห้วยไทรงาม. 2. จุดชมวิวดอยกิ่วลม. 3. ถ้ำน้ำลอดปางมะผ้าหรือ ถ้ำผีแมน. 4. ก๋วยเตี๋ยวห้อยขาบ้านจ่าโบ้(ค้าง 1 คืน). 5. จุดชมวิวบ้านห้วยรุกข้าวหลาม. 6. ถ้ำปลาแม่ฮ่องสอน. 7. พระธาตุดอยกองมู. 8. บ้านรักไทย. 9. ปางอุ๋ง ล่องแพตอนเช้า. 10. สะพานซูตองเป้ เฉพาะกลางเดือนพฤศจิกายน ดอกบัวตอง ที่ ดอยแม่อูคอ สวยดั่งสวรรค์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 687 มุมมอง 0 รีวิว
  • เที่ยว #ญี่ปุ่น #โตเกียว #หิมะ ❄☃

    🗓 จำนวนวัน 6 วัน 4 คืน
    ✈ HB-เกรทเตอร์ เบย์ แอร์ไลน์
    🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐

    📍 ลานสกีฟูจิเท็น
    📍 หมู่บ้านน้ำใส โอชิโนะฮัคไค
    📍 วัดอาซากุสะ
    📍 ถนนนากามิเซะ
    📍 ตลาดปลาซึกิจิ
    📍 โกเท็มบะ พรีเมี่ยม เอาท์เล็ท
    📍 พิพิธภัณฑ์แผ่นดินไหว
    📍 ย่านช้อปปิ้งชินจูกุ

    รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21ปี https://eTravelWay.com🔥
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8
    LINE ID: @etravelway.fire
    https://78s.me/e58a3f
    Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663
    Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626
    Tiktok : https://78s.me/903597
    ☎️: 021166395

    #ทัวร์ญี่ปุ่น #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    เที่ยว #ญี่ปุ่น #โตเกียว #หิมะ ❄☃ 🗓 จำนวนวัน 6 วัน 4 คืน ✈ HB-เกรทเตอร์ เบย์ แอร์ไลน์ 🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐ 📍 ลานสกีฟูจิเท็น 📍 หมู่บ้านน้ำใส โอชิโนะฮัคไค 📍 วัดอาซากุสะ 📍 ถนนนากามิเซะ 📍 ตลาดปลาซึกิจิ 📍 โกเท็มบะ พรีเมี่ยม เอาท์เล็ท 📍 พิพิธภัณฑ์แผ่นดินไหว 📍 ย่านช้อปปิ้งชินจูกุ รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21ปี https://eTravelWay.com🔥 ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8 LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663 Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626 Tiktok : https://78s.me/903597 ☎️: 021166395 #ทัวร์ญี่ปุ่น #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 609 มุมมอง 28 0 รีวิว
  • ถิงจ้าง - การโบยพระราชทานสวัสดีค่ะ เพื่อนเพจที่ได้ดู <หาญท้าชะตาฟ้า ปริศนายุทธจักร ภาค 2> คงจำได้ถึงเรื่องราวตอนที่ผู้ตรวจการล่ายหมิงเฉิงร้องเรียนฮ่องเต้ว่าประพฤติตนไม่ถูกต้อง (ขออภัยไม่ใช้ราชาศัพท์ในบทความนี้) ฮ่องเต้เลย ‘ตกรางวัล’ ให้เป็นการลงทัณฑ์ด้วยการโบยพร้อมกับคำพูดที่ว่า ยอมเสื่อมเสียชื่อเสียงของตนเองเพื่อให้ผู้ตรวจการล่ายมีชื่อจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ การลงทัณฑ์ด้วยการโบยตีเป็นสิ่งที่เราคุ้นเคยจากหลายซีรีส์และนิยายจีน การลงทัณฑ์นี้ทั่วไปเรียกว่า ‘จ้างสิง’ (杖刑) เป็นวิธีการลงทัณฑ์ที่ถูกบัญญัติเข้าไปในกฎหมาย เพียงแต่รูปแบบและรายละเอียดอาจแตกต่างกันไปตามยุคสมัย แต่ที่วันนี้จะคุยถึงคือการโบยที่เรียกว่า ‘ถิงจ้าง’ (廷杖) ซึ่งเป็นกรณีที่เราเห็นในเรื่อง <หาญชะตาฯ 2> ที่ยกตัวอย่างมาข้างต้น ‘จ้าง’ แปลว่าตีด้วยไม้ ส่วน ‘ถิง’ หมายถึงส่วนของพระราชวังที่ฮ่องเต้ใช้ทรงงานและประชุมกับขุนนางหรือหมายถึงราชสำนัก ดังนั้น ‘ถิงจ้าง’ จึงเป็นศัพท์เฉพาะที่ใช้หมายถึงการโบยขุนนางระดับสูงหน้าพระที่นั่งและเป็นคำสั่งของฮ่องเต้เท่านั้น การลงทัณฑ์ด้วยการโบยตามคำสั่งของฮ่องเต้มีมาตั้งแต่สมัยฮั่น แต่จากสมัยฮั่นจนถึงสมัยหยวนเกิดกรณีอย่างนี้น้อยมาก มันไม่ได้มีกฎเกณฑ์ตายตัวและไม่ใช่บทลงโทษตามกฎหมาย หากแต่เป็นอำนาจของฮ่องเต้ที่จะเลือกใช้ได้ตามความต้องการและสั่งลงทัณฑ์ได้เลยโดยไม่ผ่านขั้นตอนพิจารณาความผิดตามกฎหมาย ต่อมาในสมัยหมิงมีการถิงจ้างหน้าพระที่นั่งบ่อยมากโดยเฉพาะช่วงครึ่งหลังของราชวงศ์และมีการกำหนดกฎเกณฑ์อย่างชัดเจน จริงๆ แล้วแรกเริ่มเลย การถิงจ้างในสมัยหมิงไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อลงโทษสถานหนัก หากแต่เป็นการสร้างความอัปยศอดสูให้แก่ขุนนางชั้นผู้ใหญ่ เพราะว่าหลักปฏิบัติแต่ไหนแต่ไรมาคือไม่ลงทัณฑ์ขุนนาง หากจะลงทัณฑ์จะปลดออกจากตำแหน่งก่อน ดังนั้น การที่ขุนนางถูกถกชุดชั้นนอกออกแล้วโบยก้นอีกทั้งทำต่อหน้าขุนนางด้วยกันนั้นจึงเป็นเรื่องอัปยศมาก ซึ่งเหตุการณ์แรกเกิดขึ้นในรัชสมัยขององค์หมิงไท่จู่ (จูหยวนจาง) เป็นช่วงตอนที่เพิ่งครองราชย์ได้สักแปดปี (ค.ศ. 1376) เหตุการณ์นี้เป็นเรื่องของขุนนางจากกระทรวงราชทัณฑ์นามว่าหรูไท่ซู่ เขาถวายฎีกาฉบับหนึ่งยาวถึงหมื่นกว่าอักษรร้องเรียนการขาดแคลนข้าราชการที่มีคุณภาพ ซึ่งยาวจนองค์หมิงไท่จู่ต้องให้คนอ่านให้ฟัง ฟังๆ ไปก็รู้สึกว่าน้ำเยอะเนื้อน้อย ถ้อยคำที่ใช้ก็ยิ่งฟังไม่เข้าหู อุตส่าห์เรียกให้หรู่ไท่ซู่มานั่งคุยให้ฟัง แต่ก็ทนไม่ได้กับการพูดวกไปวนมา ว่ากันว่า ยังมีถ้อยคำที่ฟังดูเหมือนยกให้บัณฑิตสูงส่งกว่าซึ่งไม่เข้าหูฮ่องเต้ที่มีพื้นเพเป็นลูกชาวนา สุดท้ายฮ่องเต้โกรธจัดเลยสั่งให้โบยก้นต่อหน้าข้าราชสำนักในท้องพระโรง ในบันทึกไม่ได้เขียนไว้ว่าโบยไปกี่ครั้ง ต่อมาภายหลังองค์หมิงไท่จู่ไตร่ตรองทบทวนเห็นว่าบางข้อเสนอของฎีกานั้นน่าสนใจจึงเอาไปใช้ จึงกลายเป็นว่าความผิดที่ทำให้หรูไท่ซู่ถูกถิงจ้างไม่ใช่เป็นเพราะสาระ แต่เป็นเพราะเขียนยาวเกินไปทำให้สิ้นเปลืองเวลาของฮ่องเต้ เนื้อหาที่เขียนได้ภายในห้าร้อยอักษรกลับเขียนยาวถึงหมื่นอักษร และเพราะเหตุการณ์นี้องค์หมิงไท่จู่จึงให้มีการกำหนดรูปแบบของการเขียนฎีกาขึ้นเพื่อไม่ให้เกิดปัญหานี้อีก การโบยเพื่อสร้างความอัปยศเป็นการแสดงอำนาจของฮ่องเต้เมื่อถูกหมิ่นหรือขัดใจโดยขุนนาง แต่กลับกลายเป็นวัฒนธรรมที่ขุนนางมองว่าการถูกถิงจ้างนี้เป็นการแสดงความกล้าหาญและเป็นสิ่งที่ควรทำ ต่อมาการถิงจ้างจึงเพิ่มความรุนแรงมากขึ้นจนถึงขั้นตายได้ แน่นอนว่าการสั่งโบยได้เลยโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการไต่สวนพิพากษาตามกฎหมายก็กลายเป็นอำนาจเบ็ดเสร็จที่ฮ่องเต้ใช้ควบคุมขุนนางไม่ให้กระด้างกระเดื่อง จะตีเมื่อไหร่ ตีกี่ครั้ง ตีหนักตีเบา ล้วนแล้วแต่ฮ่องเต้จะกำหนดเอง ถิงจ้างกลายเป็นภาพที่เห็นบ่อยในราชสำนักเมื่อเข้าสู่ช่วงกลางราชวงศ์หมิง สถานที่ลงทัณฑ์เปลี่ยนจากในท้องพระโรงมาเป็นริมทางเดินเข้าวังด้านประตูอู่เหมิน ซึ่งก็คือประตูด้านหน้าของวัง และถิงจ้างทวีความรุนแรงมากขึ้นในรัชสมัยของฮ่องเต้หมิงอู่จง (ฮ่องเต้องค์ที่สิบเอ็ด) เมื่อมีการเปลี่ยนกฎไม่ให้วางเบาะรองและผู้ถูกโบยห้ามใส่กางเกง ตลอดการครองราชย์สิบหกปีขององค์หมิงอู่จงนั้น มีคนถูกถิงจ้างทั้งสิ้นกว่าหนึ่งร้อยคน ตายสิบเอ็ดคน และนี่เป็นรัชสมัยที่เริ่มใช้ถิงจ้างกับคนจากสำนักผู้ตรวจการ ในรายละเอียดมีเรื่องการใช้อำนาจเกินควรของกลุ่มขันที แต่ Storyฯ ขอไม่เล่าเพราะเรื่องยาวและออกนอกประเด็นเหตุการณ์ถิงจ้างที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์จีนเกิดขึ้นในรัชสมัยของฮ่องเต้หมิงซื่อจง (ฮ่องเต้องค์ที่ สิบสอง) เมื่อปีค.ศ. 1525 เพราะเป็นการโบยพร้อมกันถึงหนึ่งร้อยสามสิบสี่คน มีคนตายในระหว่างโบยสิบเจ็ดคน (หมายเหตุ เรื่องจำนวนคนแตกต่างกันในหลายบทความ แต่ตัวเลขนี้ Storyฯ ใช้ตามเอกสารของพิพิธภัณฑ์วังต้องห้าม)เรื่องมีอยู่ว่าฮ่องเต้หมิงซื่อจงไม่ใช่ลูกของฮ่องเต้องค์ก่อนคือฮ่องเต้หมิงอู่จง หากแต่มีศักดิ์เป็นหลานลุง ตามธรรมเนียมเมื่อหมิงซื่อจงขึ้นครองราชย์แล้วก็ต้องรับฮ่องเต้หมิงอู่จงเป็นพ่อ ส่วนพ่อแม่ตัวเองก็ต้องกลายเป็นน้าและน้าสะใภ้ นี่คือธรรมเนียมปฏิบัติ แต่องค์หมิงซื่อจงไม่ยอม ยืนยันจะคงไว้ว่าฮ่องเต้หมิงอู่จงเป็นลุง ขุนนางสองร้อยสามสิบคนคุกเข่าอ้อนวอนอยู่หน้าประตูพระที่นั่งเพื่อหวังจะบีบให้ฮ่องเต้เปลี่ยนใจ สุดท้ายขุนนางขั้นที่ห้าขึ้นไปโดนปลด ที่เหลือโดนโบยหมู่และเนรเทศ ในการถิงจ้างสมัยหมิงนั้น ผู้ที่มีหน้าที่โบยคือขันทีหรือองครักษ์เสื้อแพร ว่ากันว่าจริงจังถึงขนาดฝึกซ้อมโบยโดยใช้หุ่นฟางยัดไส้แผ่นกระเบื้องแล้วห่อด้วยกระดาษ ต้องฝึกจนสามารถตีให้กระเบื้องข้างในแตกละเอียดได้โดยที่กระดาษหุ้มข้างนอกไม่ขาด! ที่ต้องฝึกเพราะคำสั่งโบยมีสองแบบคือ ‘ตีอย่างใส่ใจ’ (用心打) และ ‘ตีอย่างจริงจัง’ (着实打) ซึ่งแบบแรกคือไม่ให้เจ็บมากและแบบหลังคือจัดเต็ม และเนื่องจากมันต้องใช้แรงมาก จะมีการเปลี่ยนคนโบยทุกๆ ห้าครั้งจากที่ Storyฯ อ่านเจอมา ไม้ที่ใช้โบยนั้นทำจากไม้เนื้อแข็งอย่างไม้เกาลัด หน้าตาของมันมีสองแบบ แบบแรกคือไม้พลองที่มีปลายแบนหน้าตาเหมือนไม้พาย แบบที่สองฟังดูโหดร้ายคือเป็นไม้พลองที่มีปลายหุ้มด้วยแผ่นเหล็กบากเป็นรอยตะปุ่มตะป่ำ เป็นที่มาว่าทำไมคนจึงถูกโบยจนเนื้อก้นเละเหวอะหวะได้ ว่ากันว่าถูกโบยสิบพลองก็ทำต้องพักติดเตียงเป็นแรมเดือนแล้ว(ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://reading.udn.com/read/story/7046/7952824https://www.163.com/dy/article/J2USN6TV0517QCSB.html Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:https://www.dpm.org.cn/Uploads/pdf/1942/T00017_00.pdf https://m.thepaper.cn/newsDetail_forward_1800722 https://www.hunantoday.cn/news/xhn/202310/18872283.html https://www.sohu.com/a/771696490_121165427 https://www.sohu.com/a/773532850_121921623 https://www.163.com/dy/article/G86EPNJQ0528NB1M.html #หาญท้าชะตาฟ้า #ถิงจ้าง #โบยตี #ลงทัณฑ์พระราชทาน #จูหยวนจาง
    ถิงจ้าง - การโบยพระราชทานสวัสดีค่ะ เพื่อนเพจที่ได้ดู <หาญท้าชะตาฟ้า ปริศนายุทธจักร ภาค 2> คงจำได้ถึงเรื่องราวตอนที่ผู้ตรวจการล่ายหมิงเฉิงร้องเรียนฮ่องเต้ว่าประพฤติตนไม่ถูกต้อง (ขออภัยไม่ใช้ราชาศัพท์ในบทความนี้) ฮ่องเต้เลย ‘ตกรางวัล’ ให้เป็นการลงทัณฑ์ด้วยการโบยพร้อมกับคำพูดที่ว่า ยอมเสื่อมเสียชื่อเสียงของตนเองเพื่อให้ผู้ตรวจการล่ายมีชื่อจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ การลงทัณฑ์ด้วยการโบยตีเป็นสิ่งที่เราคุ้นเคยจากหลายซีรีส์และนิยายจีน การลงทัณฑ์นี้ทั่วไปเรียกว่า ‘จ้างสิง’ (杖刑) เป็นวิธีการลงทัณฑ์ที่ถูกบัญญัติเข้าไปในกฎหมาย เพียงแต่รูปแบบและรายละเอียดอาจแตกต่างกันไปตามยุคสมัย แต่ที่วันนี้จะคุยถึงคือการโบยที่เรียกว่า ‘ถิงจ้าง’ (廷杖) ซึ่งเป็นกรณีที่เราเห็นในเรื่อง <หาญชะตาฯ 2> ที่ยกตัวอย่างมาข้างต้น ‘จ้าง’ แปลว่าตีด้วยไม้ ส่วน ‘ถิง’ หมายถึงส่วนของพระราชวังที่ฮ่องเต้ใช้ทรงงานและประชุมกับขุนนางหรือหมายถึงราชสำนัก ดังนั้น ‘ถิงจ้าง’ จึงเป็นศัพท์เฉพาะที่ใช้หมายถึงการโบยขุนนางระดับสูงหน้าพระที่นั่งและเป็นคำสั่งของฮ่องเต้เท่านั้น การลงทัณฑ์ด้วยการโบยตามคำสั่งของฮ่องเต้มีมาตั้งแต่สมัยฮั่น แต่จากสมัยฮั่นจนถึงสมัยหยวนเกิดกรณีอย่างนี้น้อยมาก มันไม่ได้มีกฎเกณฑ์ตายตัวและไม่ใช่บทลงโทษตามกฎหมาย หากแต่เป็นอำนาจของฮ่องเต้ที่จะเลือกใช้ได้ตามความต้องการและสั่งลงทัณฑ์ได้เลยโดยไม่ผ่านขั้นตอนพิจารณาความผิดตามกฎหมาย ต่อมาในสมัยหมิงมีการถิงจ้างหน้าพระที่นั่งบ่อยมากโดยเฉพาะช่วงครึ่งหลังของราชวงศ์และมีการกำหนดกฎเกณฑ์อย่างชัดเจน จริงๆ แล้วแรกเริ่มเลย การถิงจ้างในสมัยหมิงไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อลงโทษสถานหนัก หากแต่เป็นการสร้างความอัปยศอดสูให้แก่ขุนนางชั้นผู้ใหญ่ เพราะว่าหลักปฏิบัติแต่ไหนแต่ไรมาคือไม่ลงทัณฑ์ขุนนาง หากจะลงทัณฑ์จะปลดออกจากตำแหน่งก่อน ดังนั้น การที่ขุนนางถูกถกชุดชั้นนอกออกแล้วโบยก้นอีกทั้งทำต่อหน้าขุนนางด้วยกันนั้นจึงเป็นเรื่องอัปยศมาก ซึ่งเหตุการณ์แรกเกิดขึ้นในรัชสมัยขององค์หมิงไท่จู่ (จูหยวนจาง) เป็นช่วงตอนที่เพิ่งครองราชย์ได้สักแปดปี (ค.ศ. 1376) เหตุการณ์นี้เป็นเรื่องของขุนนางจากกระทรวงราชทัณฑ์นามว่าหรูไท่ซู่ เขาถวายฎีกาฉบับหนึ่งยาวถึงหมื่นกว่าอักษรร้องเรียนการขาดแคลนข้าราชการที่มีคุณภาพ ซึ่งยาวจนองค์หมิงไท่จู่ต้องให้คนอ่านให้ฟัง ฟังๆ ไปก็รู้สึกว่าน้ำเยอะเนื้อน้อย ถ้อยคำที่ใช้ก็ยิ่งฟังไม่เข้าหู อุตส่าห์เรียกให้หรู่ไท่ซู่มานั่งคุยให้ฟัง แต่ก็ทนไม่ได้กับการพูดวกไปวนมา ว่ากันว่า ยังมีถ้อยคำที่ฟังดูเหมือนยกให้บัณฑิตสูงส่งกว่าซึ่งไม่เข้าหูฮ่องเต้ที่มีพื้นเพเป็นลูกชาวนา สุดท้ายฮ่องเต้โกรธจัดเลยสั่งให้โบยก้นต่อหน้าข้าราชสำนักในท้องพระโรง ในบันทึกไม่ได้เขียนไว้ว่าโบยไปกี่ครั้ง ต่อมาภายหลังองค์หมิงไท่จู่ไตร่ตรองทบทวนเห็นว่าบางข้อเสนอของฎีกานั้นน่าสนใจจึงเอาไปใช้ จึงกลายเป็นว่าความผิดที่ทำให้หรูไท่ซู่ถูกถิงจ้างไม่ใช่เป็นเพราะสาระ แต่เป็นเพราะเขียนยาวเกินไปทำให้สิ้นเปลืองเวลาของฮ่องเต้ เนื้อหาที่เขียนได้ภายในห้าร้อยอักษรกลับเขียนยาวถึงหมื่นอักษร และเพราะเหตุการณ์นี้องค์หมิงไท่จู่จึงให้มีการกำหนดรูปแบบของการเขียนฎีกาขึ้นเพื่อไม่ให้เกิดปัญหานี้อีก การโบยเพื่อสร้างความอัปยศเป็นการแสดงอำนาจของฮ่องเต้เมื่อถูกหมิ่นหรือขัดใจโดยขุนนาง แต่กลับกลายเป็นวัฒนธรรมที่ขุนนางมองว่าการถูกถิงจ้างนี้เป็นการแสดงความกล้าหาญและเป็นสิ่งที่ควรทำ ต่อมาการถิงจ้างจึงเพิ่มความรุนแรงมากขึ้นจนถึงขั้นตายได้ แน่นอนว่าการสั่งโบยได้เลยโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการไต่สวนพิพากษาตามกฎหมายก็กลายเป็นอำนาจเบ็ดเสร็จที่ฮ่องเต้ใช้ควบคุมขุนนางไม่ให้กระด้างกระเดื่อง จะตีเมื่อไหร่ ตีกี่ครั้ง ตีหนักตีเบา ล้วนแล้วแต่ฮ่องเต้จะกำหนดเอง ถิงจ้างกลายเป็นภาพที่เห็นบ่อยในราชสำนักเมื่อเข้าสู่ช่วงกลางราชวงศ์หมิง สถานที่ลงทัณฑ์เปลี่ยนจากในท้องพระโรงมาเป็นริมทางเดินเข้าวังด้านประตูอู่เหมิน ซึ่งก็คือประตูด้านหน้าของวัง และถิงจ้างทวีความรุนแรงมากขึ้นในรัชสมัยของฮ่องเต้หมิงอู่จง (ฮ่องเต้องค์ที่สิบเอ็ด) เมื่อมีการเปลี่ยนกฎไม่ให้วางเบาะรองและผู้ถูกโบยห้ามใส่กางเกง ตลอดการครองราชย์สิบหกปีขององค์หมิงอู่จงนั้น มีคนถูกถิงจ้างทั้งสิ้นกว่าหนึ่งร้อยคน ตายสิบเอ็ดคน และนี่เป็นรัชสมัยที่เริ่มใช้ถิงจ้างกับคนจากสำนักผู้ตรวจการ ในรายละเอียดมีเรื่องการใช้อำนาจเกินควรของกลุ่มขันที แต่ Storyฯ ขอไม่เล่าเพราะเรื่องยาวและออกนอกประเด็นเหตุการณ์ถิงจ้างที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์จีนเกิดขึ้นในรัชสมัยของฮ่องเต้หมิงซื่อจง (ฮ่องเต้องค์ที่ สิบสอง) เมื่อปีค.ศ. 1525 เพราะเป็นการโบยพร้อมกันถึงหนึ่งร้อยสามสิบสี่คน มีคนตายในระหว่างโบยสิบเจ็ดคน (หมายเหตุ เรื่องจำนวนคนแตกต่างกันในหลายบทความ แต่ตัวเลขนี้ Storyฯ ใช้ตามเอกสารของพิพิธภัณฑ์วังต้องห้าม)เรื่องมีอยู่ว่าฮ่องเต้หมิงซื่อจงไม่ใช่ลูกของฮ่องเต้องค์ก่อนคือฮ่องเต้หมิงอู่จง หากแต่มีศักดิ์เป็นหลานลุง ตามธรรมเนียมเมื่อหมิงซื่อจงขึ้นครองราชย์แล้วก็ต้องรับฮ่องเต้หมิงอู่จงเป็นพ่อ ส่วนพ่อแม่ตัวเองก็ต้องกลายเป็นน้าและน้าสะใภ้ นี่คือธรรมเนียมปฏิบัติ แต่องค์หมิงซื่อจงไม่ยอม ยืนยันจะคงไว้ว่าฮ่องเต้หมิงอู่จงเป็นลุง ขุนนางสองร้อยสามสิบคนคุกเข่าอ้อนวอนอยู่หน้าประตูพระที่นั่งเพื่อหวังจะบีบให้ฮ่องเต้เปลี่ยนใจ สุดท้ายขุนนางขั้นที่ห้าขึ้นไปโดนปลด ที่เหลือโดนโบยหมู่และเนรเทศ ในการถิงจ้างสมัยหมิงนั้น ผู้ที่มีหน้าที่โบยคือขันทีหรือองครักษ์เสื้อแพร ว่ากันว่าจริงจังถึงขนาดฝึกซ้อมโบยโดยใช้หุ่นฟางยัดไส้แผ่นกระเบื้องแล้วห่อด้วยกระดาษ ต้องฝึกจนสามารถตีให้กระเบื้องข้างในแตกละเอียดได้โดยที่กระดาษหุ้มข้างนอกไม่ขาด! ที่ต้องฝึกเพราะคำสั่งโบยมีสองแบบคือ ‘ตีอย่างใส่ใจ’ (用心打) และ ‘ตีอย่างจริงจัง’ (着实打) ซึ่งแบบแรกคือไม่ให้เจ็บมากและแบบหลังคือจัดเต็ม และเนื่องจากมันต้องใช้แรงมาก จะมีการเปลี่ยนคนโบยทุกๆ ห้าครั้งจากที่ Storyฯ อ่านเจอมา ไม้ที่ใช้โบยนั้นทำจากไม้เนื้อแข็งอย่างไม้เกาลัด หน้าตาของมันมีสองแบบ แบบแรกคือไม้พลองที่มีปลายแบนหน้าตาเหมือนไม้พาย แบบที่สองฟังดูโหดร้ายคือเป็นไม้พลองที่มีปลายหุ้มด้วยแผ่นเหล็กบากเป็นรอยตะปุ่มตะป่ำ เป็นที่มาว่าทำไมคนจึงถูกโบยจนเนื้อก้นเละเหวอะหวะได้ ว่ากันว่าถูกโบยสิบพลองก็ทำต้องพักติดเตียงเป็นแรมเดือนแล้ว(ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://reading.udn.com/read/story/7046/7952824https://www.163.com/dy/article/J2USN6TV0517QCSB.html Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:https://www.dpm.org.cn/Uploads/pdf/1942/T00017_00.pdf https://m.thepaper.cn/newsDetail_forward_1800722 https://www.hunantoday.cn/news/xhn/202310/18872283.html https://www.sohu.com/a/771696490_121165427 https://www.sohu.com/a/773532850_121921623 https://www.163.com/dy/article/G86EPNJQ0528NB1M.html #หาญท้าชะตาฟ้า #ถิงจ้าง #โบยตี #ลงทัณฑ์พระราชทาน #จูหยวนจาง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 657 มุมมอง 0 รีวิว
  • เที่ยว #อียิปต์ #ไคโร #กีซา #อเล็กซานเดรีย 🇪🇬🔥
    สัมผัสความยิ่งใหญ่ของ #พีระมิด 7วัน 5คืน 🎉😲

    🗓 จำนวนวัน 7 วัน 5 คืน
    ✈ G9-แอร์อาระเบีย
    🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐

    📍 มหาพีระมิดกีซา
    📍 มหาสฟิงซ์
    📍 พิพิธภัณฑ์อารยธรรมอียิปต์แห่งชาติ
    📍 มัสยิด โมฮัมหมัด อาลี ปาชา
    📍 ตลาดข่าน เอล คาลิลี่
    📍 สุสานใต้ดินแห่งอเล็กซานเดรีย
    📍 เสาปอมเปย์
    📍 ห้องสมุดแห่งอเล็กซานเดรีย
    📍 ป้อมปราการซิทาเดล

    รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21ปี https://eTravelWay.com🔥
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8
    LINE ID: @etravelway.fire
    https://78s.me/e58a3f
    Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663
    Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626
    Tiktok : https://78s.me/903597
    ☎️: 021166395

    #ทัวร์อียิปต์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    เที่ยว #อียิปต์ #ไคโร #กีซา #อเล็กซานเดรีย 🇪🇬🔥 สัมผัสความยิ่งใหญ่ของ #พีระมิด 7วัน 5คืน 🎉😲 🗓 จำนวนวัน 7 วัน 5 คืน ✈ G9-แอร์อาระเบีย 🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐ 📍 มหาพีระมิดกีซา 📍 มหาสฟิงซ์ 📍 พิพิธภัณฑ์อารยธรรมอียิปต์แห่งชาติ 📍 มัสยิด โมฮัมหมัด อาลี ปาชา 📍 ตลาดข่าน เอล คาลิลี่ 📍 สุสานใต้ดินแห่งอเล็กซานเดรีย 📍 เสาปอมเปย์ 📍 ห้องสมุดแห่งอเล็กซานเดรีย 📍 ป้อมปราการซิทาเดล รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21ปี https://eTravelWay.com🔥 ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8 LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663 Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626 Tiktok : https://78s.me/903597 ☎️: 021166395 #ทัวร์อียิปต์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 641 มุมมอง 19 0 รีวิว
  • เที่ยว #ฮาร์บิน นอนหมู่บ้านหิมะ ❄🔥
    ชมเทศกาลแกะสลักน้ำแข็งสุดปัง 🎉😲

    🗓 จำนวนวัน 6 วัน 4 คืน
    ✈ XJ-แอร์เอเชียเอ็กซ์
    🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐
    ❌ ทัวร์ไม่เข้าร้านค้ารัฐบาล

    📍 หมู่บ้านหิมะ (China Snow Town)
    📍 หมู่บ้านหิมะ Dream Home
    📍 อนุเสาวรีย์หิน Xuexiang
    📍 พิพิธภัณฑ์เมืองหิมะ
    📍 ที่ทำการไปรษณีย์ Xuexiang
    📍 ถนนคนเดินแส่ยุ่นเจีย
    📍 ลานสกี
    📍 หมู่บ้านหิมะ หยงอัน
    📍 เทศกาลน้ำแข็ง ฮาร์บิน 2025

    รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21ปี https://eTravelWay.com🔥
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8
    LINE ID: @etravelway.fire
    https://78s.me/e58a3f
    Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663
    Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626
    Tiktok : https://78s.me/903597
    ☎️: 021166395

    #ทัวร์จีน #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    เที่ยว #ฮาร์บิน นอนหมู่บ้านหิมะ ❄🔥 ชมเทศกาลแกะสลักน้ำแข็งสุดปัง 🎉😲 🗓 จำนวนวัน 6 วัน 4 คืน ✈ XJ-แอร์เอเชียเอ็กซ์ 🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐ ❌ ทัวร์ไม่เข้าร้านค้ารัฐบาล 📍 หมู่บ้านหิมะ (China Snow Town) 📍 หมู่บ้านหิมะ Dream Home 📍 อนุเสาวรีย์หิน Xuexiang 📍 พิพิธภัณฑ์เมืองหิมะ 📍 ที่ทำการไปรษณีย์ Xuexiang 📍 ถนนคนเดินแส่ยุ่นเจีย 📍 ลานสกี 📍 หมู่บ้านหิมะ หยงอัน 📍 เทศกาลน้ำแข็ง ฮาร์บิน 2025 รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21ปี https://eTravelWay.com🔥 ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8 LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663 Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626 Tiktok : https://78s.me/903597 ☎️: 021166395 #ทัวร์จีน #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 643 มุมมอง 26 0 รีวิว
  • โดนัลด์ ทรัมป์ เลือกคาช ปาเทล (Kash Patel) เป็นผู้อำนวยการเอฟบีไอ (FBI) คนต่อไป

    คาช ปาเทล วัย 44 ปี ได้รับการขนานนานจากสื่อว่าเป็นผู้จงรักภักดีต่อทรัมป์ อดีตเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงที่ต้องการลดบทบาทด้านข่าวกรองของสำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) เคยทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้แก่ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติและรัฐมนตรีกลาโหมในรัฐบาลทรัมป์สมัยแรก

    เขาเคยให้สัมภาษณ์ในรายการ Shawn Ryan Show เมื่อเดือนกันยายนว่า ปัญหาใหญที่สุดของเอฟบีไอ คือ การทำงานด้านการรวบรวมข้อมูลข่าวกรอง เขาอยากยุบงานนี้ทิ้ง และปิดสำนักงานใหญ่ของเอฟบีไอที่อาคารเจ. เอ็ดการ์ ฮูเวอร์ ในกรุงวอชิงตันในวันแรกที่ทำงาน แล้วเปลี่ยนให้เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งรัฐพันลึกหรือดีปสเตท ส่วนคน 7,000 คน ที่ทำงานในอาคารแห่งนี้จะถูกส่งไปทำงานไล่ล่าอาชญากรทั่วประเทศแทน

    ทางด้านสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การที่ทรัมป์ประกาศเสนอชื่อนายปาเทลเป็นการส่งสัญญาณว่า เขาเตรียมเล่นงานนายคริสโตเฟอร์ เรย์ วัย 57 ปี ผู้อำนวยการเอฟบีไอคนปัจจุบัน ซึ่งทรัมป์เป็นผู้แต่งตั้งเรย์เข้ามารับตำแหน่งนี้ในปี 2560

    เรย์ตกเป็นเป้าการวิจารณ์จากผู้สนับสนุนทรัมป์ หลังจากที่เอฟบีไอมีคำสั่งค้นคฤหาสน์หรู "มาร์-อะ-ลาโก" ของทรัมป์ที่รัฐฟลอริดาเพื่อค้นหาเอกสารลับที่ทรัมป์เก็บไว้หลังจากพ้นตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2564

    อย่างไรก็ตาม คริสโตเฟอร์ เรย์ อาจถูกกดดันให้ลาออกจากตำแหน่งก่อนครบวาระ หรืออาจถูกไล่ออกโดยทรัมป์ แม้ว่าทรัมป์จะไม่ได้เรียกร้องให้เขาทำเช่นนั้นก็ตาม ซึ่งตำแหน่งผู้อำนวยการ FBI มีวาระการดำรงตำแหน่ง 10 ปี ซึ่งจะครบวาระในปี 2570
    โดนัลด์ ทรัมป์ เลือกคาช ปาเทล (Kash Patel) เป็นผู้อำนวยการเอฟบีไอ (FBI) คนต่อไป คาช ปาเทล วัย 44 ปี ได้รับการขนานนานจากสื่อว่าเป็นผู้จงรักภักดีต่อทรัมป์ อดีตเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงที่ต้องการลดบทบาทด้านข่าวกรองของสำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) เคยทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้แก่ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติและรัฐมนตรีกลาโหมในรัฐบาลทรัมป์สมัยแรก เขาเคยให้สัมภาษณ์ในรายการ Shawn Ryan Show เมื่อเดือนกันยายนว่า ปัญหาใหญที่สุดของเอฟบีไอ คือ การทำงานด้านการรวบรวมข้อมูลข่าวกรอง เขาอยากยุบงานนี้ทิ้ง และปิดสำนักงานใหญ่ของเอฟบีไอที่อาคารเจ. เอ็ดการ์ ฮูเวอร์ ในกรุงวอชิงตันในวันแรกที่ทำงาน แล้วเปลี่ยนให้เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งรัฐพันลึกหรือดีปสเตท ส่วนคน 7,000 คน ที่ทำงานในอาคารแห่งนี้จะถูกส่งไปทำงานไล่ล่าอาชญากรทั่วประเทศแทน ทางด้านสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การที่ทรัมป์ประกาศเสนอชื่อนายปาเทลเป็นการส่งสัญญาณว่า เขาเตรียมเล่นงานนายคริสโตเฟอร์ เรย์ วัย 57 ปี ผู้อำนวยการเอฟบีไอคนปัจจุบัน ซึ่งทรัมป์เป็นผู้แต่งตั้งเรย์เข้ามารับตำแหน่งนี้ในปี 2560 เรย์ตกเป็นเป้าการวิจารณ์จากผู้สนับสนุนทรัมป์ หลังจากที่เอฟบีไอมีคำสั่งค้นคฤหาสน์หรู "มาร์-อะ-ลาโก" ของทรัมป์ที่รัฐฟลอริดาเพื่อค้นหาเอกสารลับที่ทรัมป์เก็บไว้หลังจากพ้นตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2564 อย่างไรก็ตาม คริสโตเฟอร์ เรย์ อาจถูกกดดันให้ลาออกจากตำแหน่งก่อนครบวาระ หรืออาจถูกไล่ออกโดยทรัมป์ แม้ว่าทรัมป์จะไม่ได้เรียกร้องให้เขาทำเช่นนั้นก็ตาม ซึ่งตำแหน่งผู้อำนวยการ FBI มีวาระการดำรงตำแหน่ง 10 ปี ซึ่งจะครบวาระในปี 2570
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 278 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตู้รถไฟกงเปียญ (Compiègne Wagon)วันนี้ (11 พฤศจิกายน) เมื่อ 106ปีที่แล้วคือ ค.ศ.1918 ผู้แทนฝ่ายเยอรมนีและฝ่ายสัมพันธมิตรได้ร่วมลงนามเจรจาสงบศึกบนตู้รถไฟ ณ ป่ากงเปียญ ทางตอนเหนือของฝรั่งเศส ความเป็นมาของตู้รถไฟ:ตู้รถไฟขบวนนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคม ค.ศ.1914 ที่แซงต์-เดอนี เพื่อใช้เป็นรถตู้ทานอาหารหมายเลข. 2491D ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 มันได้ถูกใช้เพื่อเป็นหนึ่งในขบวนรถไฟนอนหรูของบริษัท Compagnie Internationale des Wagons-Lits หรือที่รู้จักกันในนาม “The Orient Express” การสงบศึกวันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ.1918:ในเดือนตุลาคม, ค.ศ.1918 ตู้รถไฟได้ถูกใช้เพื่อเป็นพาหนะของผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพสัมพันธมิตร จอมพลแฟร์ดินานด์ ฟ็องคซ์และผู้แทนฝ่ายสัมพันธมิตรในการเจรจาสงบศึกกับฝ่ายเยอรมนี ณ ป่ากงเปียญ หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 1 ตู้รถไฟยังคงถูกใช้อยู่โดย The Orient Express ก่อนจะถูกบริจาคเพื่อนำไปจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ Musée de l’Armée ในวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ.1919 ต่อมาในวันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ.1927 ตู้รถไฟได้ถูกนำไปจัดแสดงอยู่ในอาคาร ณ Clairière de l’Armistice สถานที่ที่มันเคยถูกใช้ลงนามสงบศึกในสงครามโลกครั้งที่ 1การสงบศึกวันที่ 22 มิถุนายน ค.ศ.1940:หลังการรุกรานฝรั่งเศสของกองทัพเยอรมนีในสงครามโลกครั้งที่ 2 รัฐบาลฝรั่งเศสภายใต้การนำของจอมพลฟิลิป เปแตงได้ขอเจรจาสงบศึกกับฝ่ายนาซีซึ่งนำโดยอดอลฟ์ ฮิตเลอร์ ณ ป่ากงเปียญ สถานที่เดิมซึ่งสร้างความอัปยศให้กับอดีตทหารผ่านศึกสงครามโลกครั้งที่ 1 ทุกนาย โดยเฉพาะกับอดีตสิบโทอดอลฟ์ ฮิตเลอร์ฮิตเลอร์ได้จงใจเลือกใช้สถานที่แห่งนี้ในการเจรจาสงบศึกกับฝรั่งเศสเพื่อเป็นการล้างแค้นให้กับบาดแผลในอดีตของเยอรมนี ภายหลังจากการเจรจาสงบศึก ฮิตเลอร์ได้สั่งให้นำตู้รถไฟขบวนนี้ไปจัดแสดงโชว์ที่กรุงเบอร์ลิน ถูกทำลาย:ในปี ค.ศ.1944 ได้มีการย้ายตู้รถไฟไปยังเธอริงเงิน, ตอนกลางของเยอรมนี ในเมืองคราวินเคล (Crawinkel) ใกล้กับระบบเครือข่ายอุโมงค์ขนาดใหญ่ มันได้ถูกทำลายลงในเดือนมีนาคม ค.ศ.1945 โดยฝีมือพวกเอสเอส แต่ทหารเอสเอสผ่านศึกได้ยืนยันว่าตู้รถไฟได้ถูกทำลายโดยการทิ้งระเบิดทางอากาศตั้งแต่ปี ค.ศ.1944 ในเธอริงเงินแล้วแบบจำลองใหม่:ในปี ค.ศ.1950 ได้มีการหาตู้รถไฟที่มีลักษณะใกล้เคียงจากบริษัท The Orient Express ที่ถูกผลิตในช่วงปี ค.ศ.1913-1914 เพื่อนำมาจัดแสดงใหม่ที่อนุสรณ์ Clairière de l’Armistice ตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ.1950 ปัจจุบันยังคงจัดแสดงอยู่ ณ อนุสรณ์แห่งการลงนามสงบศึกแห่งนี้อยู่
    ตู้รถไฟกงเปียญ (Compiègne Wagon)วันนี้ (11 พฤศจิกายน) เมื่อ 106ปีที่แล้วคือ ค.ศ.1918 ผู้แทนฝ่ายเยอรมนีและฝ่ายสัมพันธมิตรได้ร่วมลงนามเจรจาสงบศึกบนตู้รถไฟ ณ ป่ากงเปียญ ทางตอนเหนือของฝรั่งเศส ความเป็นมาของตู้รถไฟ:ตู้รถไฟขบวนนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคม ค.ศ.1914 ที่แซงต์-เดอนี เพื่อใช้เป็นรถตู้ทานอาหารหมายเลข. 2491D ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 มันได้ถูกใช้เพื่อเป็นหนึ่งในขบวนรถไฟนอนหรูของบริษัท Compagnie Internationale des Wagons-Lits หรือที่รู้จักกันในนาม “The Orient Express” การสงบศึกวันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ.1918:ในเดือนตุลาคม, ค.ศ.1918 ตู้รถไฟได้ถูกใช้เพื่อเป็นพาหนะของผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพสัมพันธมิตร จอมพลแฟร์ดินานด์ ฟ็องคซ์และผู้แทนฝ่ายสัมพันธมิตรในการเจรจาสงบศึกกับฝ่ายเยอรมนี ณ ป่ากงเปียญ หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 1 ตู้รถไฟยังคงถูกใช้อยู่โดย The Orient Express ก่อนจะถูกบริจาคเพื่อนำไปจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ Musée de l’Armée ในวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ.1919 ต่อมาในวันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ.1927 ตู้รถไฟได้ถูกนำไปจัดแสดงอยู่ในอาคาร ณ Clairière de l’Armistice สถานที่ที่มันเคยถูกใช้ลงนามสงบศึกในสงครามโลกครั้งที่ 1การสงบศึกวันที่ 22 มิถุนายน ค.ศ.1940:หลังการรุกรานฝรั่งเศสของกองทัพเยอรมนีในสงครามโลกครั้งที่ 2 รัฐบาลฝรั่งเศสภายใต้การนำของจอมพลฟิลิป เปแตงได้ขอเจรจาสงบศึกกับฝ่ายนาซีซึ่งนำโดยอดอลฟ์ ฮิตเลอร์ ณ ป่ากงเปียญ สถานที่เดิมซึ่งสร้างความอัปยศให้กับอดีตทหารผ่านศึกสงครามโลกครั้งที่ 1 ทุกนาย โดยเฉพาะกับอดีตสิบโทอดอลฟ์ ฮิตเลอร์ฮิตเลอร์ได้จงใจเลือกใช้สถานที่แห่งนี้ในการเจรจาสงบศึกกับฝรั่งเศสเพื่อเป็นการล้างแค้นให้กับบาดแผลในอดีตของเยอรมนี ภายหลังจากการเจรจาสงบศึก ฮิตเลอร์ได้สั่งให้นำตู้รถไฟขบวนนี้ไปจัดแสดงโชว์ที่กรุงเบอร์ลิน ถูกทำลาย:ในปี ค.ศ.1944 ได้มีการย้ายตู้รถไฟไปยังเธอริงเงิน, ตอนกลางของเยอรมนี ในเมืองคราวินเคล (Crawinkel) ใกล้กับระบบเครือข่ายอุโมงค์ขนาดใหญ่ มันได้ถูกทำลายลงในเดือนมีนาคม ค.ศ.1945 โดยฝีมือพวกเอสเอส แต่ทหารเอสเอสผ่านศึกได้ยืนยันว่าตู้รถไฟได้ถูกทำลายโดยการทิ้งระเบิดทางอากาศตั้งแต่ปี ค.ศ.1944 ในเธอริงเงินแล้วแบบจำลองใหม่:ในปี ค.ศ.1950 ได้มีการหาตู้รถไฟที่มีลักษณะใกล้เคียงจากบริษัท The Orient Express ที่ถูกผลิตในช่วงปี ค.ศ.1913-1914 เพื่อนำมาจัดแสดงใหม่ที่อนุสรณ์ Clairière de l’Armistice ตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ.1950 ปัจจุบันยังคงจัดแสดงอยู่ ณ อนุสรณ์แห่งการลงนามสงบศึกแห่งนี้อยู่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 424 มุมมอง 0 รีวิว
  • สวนนงนุชพัทยา จัดส่งท้ายปีเข้าชมพิพิธภัณฑ์พระฟรีตลอดเดือนธันวาคม 2567
    https://www.facebook.com/share/p/1AhYYRJYEw/
    สวนนงนุชพัทยา จัดส่งท้ายปีเข้าชมพิพิธภัณฑ์พระฟรีตลอดเดือนธันวาคม 2567 https://www.facebook.com/share/p/1AhYYRJYEw/
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 200 มุมมอง 0 รีวิว
  • สวนนงนุชพัทยา จัดส่งท้ายปีเข้าชมพิพิธภัณฑ์พระฟรีตลอดเดือนธันวาคม 2567
    https://youtu.be/lhGpHcU1Cp0
    สวนนงนุชพัทยา จัดส่งท้ายปีเข้าชมพิพิธภัณฑ์พระฟรีตลอดเดือนธันวาคม 2567 https://youtu.be/lhGpHcU1Cp0
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 199 มุมมอง 0 รีวิว
  • เที่ยว #จอร์เจีย ต้อนรับ #ปีใหม่ 6วัน 4คืน🎉🔥
    ตะลุยหุบเขาคอเคซัส ดินแดนสองทวีป 😍

    🗓 จำนวนวัน 6 วัน 4 คืน
    ✈ G9-แอร์อาระเบีย
    🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐

    📍 ถนนคนเดินชาเดอนี่
    📍 อ่างเก็บน้ำชินวาลี
    📍 ป้อมอนานูรี
    📍 อนุสาวรีย์มิตรภาพ รัสเซีย - จอร์เจีย
    📍 นั่งรถ 4WD ชมโบสถ์เกอร์เกตี้
    📍 เมืองถ้ำโบราณอุพลิสชิเค
    📍 พิพิธภัณฑ์สตาลิน
    📍 สวนบอร์โจมี
    📍 มหาวิหารจวารี
    📍 อุทยานประวัติศาสตร์จอร์เจีย
    📍 ถนนคนเดิน Rustaveli Avenue
    📍 โบสถ์ทรินิตี้
    📍 สะพานแห่งสันติภาพ
    📍 นั่งกระเช้าชมป้อมนาริกาลา
    📍 อนุสาวรีย์พระแม่จอร์เจีย
    📍 โรงอาบน้ำโบราณ อะบาโนตูบานี
    📍 East Point Mall

    รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21ปี https://eTravelWay.com🔥
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8
    LINE ID: @etravelway.fire
    https://78s.me/e58a3f
    Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663
    Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626
    Tiktok : https://78s.me/903597
    ☎️: 021166395

    #ทัวร์จอร์เจีย #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    เที่ยว #จอร์เจีย ต้อนรับ #ปีใหม่ 6วัน 4คืน🎉🔥 ตะลุยหุบเขาคอเคซัส ดินแดนสองทวีป 😍 🗓 จำนวนวัน 6 วัน 4 คืน ✈ G9-แอร์อาระเบีย 🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐ 📍 ถนนคนเดินชาเดอนี่ 📍 อ่างเก็บน้ำชินวาลี 📍 ป้อมอนานูรี 📍 อนุสาวรีย์มิตรภาพ รัสเซีย - จอร์เจีย 📍 นั่งรถ 4WD ชมโบสถ์เกอร์เกตี้ 📍 เมืองถ้ำโบราณอุพลิสชิเค 📍 พิพิธภัณฑ์สตาลิน 📍 สวนบอร์โจมี 📍 มหาวิหารจวารี 📍 อุทยานประวัติศาสตร์จอร์เจีย 📍 ถนนคนเดิน Rustaveli Avenue 📍 โบสถ์ทรินิตี้ 📍 สะพานแห่งสันติภาพ 📍 นั่งกระเช้าชมป้อมนาริกาลา 📍 อนุสาวรีย์พระแม่จอร์เจีย 📍 โรงอาบน้ำโบราณ อะบาโนตูบานี 📍 East Point Mall รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21ปี https://eTravelWay.com🔥 ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8 LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663 Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626 Tiktok : https://78s.me/903597 ☎️: 021166395 #ทัวร์จอร์เจีย #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1164 มุมมอง 66 1 รีวิว
  • "ครุฑ" ประดับกุญแจเมืองทองคำที่เห็นนี้ นายกเทศมนตรีเมืองไวท์เพลนส์ สหรัฐอเมริกา ทูลเกล้าฯ ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ เมื่อวันที่ ๒ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๗๔ และปัจจุบันจัดแสดง ณ พิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เชิงสะพานผ่านฟ้า
    "ครุฑ" ประดับกุญแจเมืองทองคำที่เห็นนี้ นายกเทศมนตรีเมืองไวท์เพลนส์ สหรัฐอเมริกา ทูลเกล้าฯ ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ เมื่อวันที่ ๒ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๗๔ และปัจจุบันจัดแสดง ณ พิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เชิงสะพานผ่านฟ้า
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 571 มุมมอง 0 รีวิว
  • ย้อนไป ตอนปฏิวัติทางการเมืองของจีน..นายพล หยวนซื่อไข่ สู้ไม่ได้ ...ก็ระเห็ดไปอยู่เกาะไต้หวัน...และจุดเริ่มจากวันนั้น..ก็มีไต้หวันในวันนี้....แต่สิ่งสำคัญคือ โบราณวัตถุล้ำค่าของจีน...ที่ตกทอดมาหาลายราชวงศ์ ...ถูกนำไปด้วย...จำนวนมหาศาล....!!
    ...พิพิธภัณฑ์ที่ไต้หวัน..ก็คัดบางส่วน ออกมาจัดแสดงเรื่อยๆ ....และยังมีอีกมากมาย ที่สาธารณะชนยังไม่ได้พบเห็น.



    ย้อนไป ตอนปฏิวัติทางการเมืองของจีน..นายพล หยวนซื่อไข่ สู้ไม่ได้ ...ก็ระเห็ดไปอยู่เกาะไต้หวัน...และจุดเริ่มจากวันนั้น..ก็มีไต้หวันในวันนี้....แต่สิ่งสำคัญคือ โบราณวัตถุล้ำค่าของจีน...ที่ตกทอดมาหาลายราชวงศ์ ...ถูกนำไปด้วย...จำนวนมหาศาล....!! ...พิพิธภัณฑ์ที่ไต้หวัน..ก็คัดบางส่วน ออกมาจัดแสดงเรื่อยๆ ....และยังมีอีกมากมาย ที่สาธารณะชนยังไม่ได้พบเห็น.
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 270 มุมมอง 0 รีวิว


  • 🎇 Phu Quoc Cruise Port! ท่าเรือบนเกาะเวียดนาม ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมที่หลากหลายบนเกาะฟูก๊วก หรือที่รู้จักกันว่า ไข่มุกแห่งเวียดนาม ชายหาดและธรรมชาติที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว 🎠✨

    สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำใกล้ท่าเรือ!
    ✔️ แกรนด์เวิลด์ฟูก๊วก (Grand World Phu Quoc) :⚓️🛳️
    ศูนย์รวมความบันเทิงและการท่องเที่ยวเต็มรูปแบบ บนพื้นที่ขนาดใหญ่ 6,000 กว่าไร่ ภายในมีทั้งที่เที่ยว ที่ช้อปปิ้ง พิพิธภัณฑ์ รวมถึงรีสอร์ทสุดหรู ออกแบบและสร้างอาคารต่างๆ ด้วยการจำลองเมืองท่องเที่ยวชื่อดังจากทั่วโลกมาไว้ที่นี่

    ✔️ สวนสนุกวินวันเดอร์ (VinWonders Phu Quoc) : 🎢
    สวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนามและเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนา Vinpearl ซึ่งเป็นเครือรีสอร์ตและสถานที่ท่องเที่ยวระดับหรูในเวียดนาม

    ✔️ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำวินเพิร์ล ซีเชลล์ (Vinpearl Sea Shell Aquarium) : 🐳
    พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ทันสมัยและใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเวียดนาม เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวทุกวัยสามารถเพลิดเพลินกับการชมสัตว์น้ำหลากหลายชนิด

    ✔️ สวนสัตว์วินเพิร์ลซาฟารี ฟูก๊วก (Vinpearl Safari Phu Quoc) : 🐨
    สวนสัตว์เปิดที่ให้คุณได้สัมผัสกับสัตว์ป่าในบรรยากาศที่ใกล้ชิด สถานที่ที่เหมาะสำหรับครอบครัวและผู้ที่รักสัตว์ นักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับสัตว์ต่างๆ ผ่านการจัดแสดงและกิจกรรมที่หลากหลาย


    ✅ ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด
    https://cruisedomain.com/
    LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029
    Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121
    Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620

    ☎️: 0 2116 9696 (Auto)
    #PhuQuocCruisePort #PhuQuoc #Vietnam #cruisedomain #port #GrandWorld #VinWonders #VinpearlSeaShellAquarium #VinpearlSafariPhuQuoc
    🎇 Phu Quoc Cruise Port! ท่าเรือบนเกาะเวียดนาม ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมที่หลากหลายบนเกาะฟูก๊วก หรือที่รู้จักกันว่า ไข่มุกแห่งเวียดนาม ชายหาดและธรรมชาติที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว 🎠✨ สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำใกล้ท่าเรือ! ✔️ แกรนด์เวิลด์ฟูก๊วก (Grand World Phu Quoc) :⚓️🛳️ ศูนย์รวมความบันเทิงและการท่องเที่ยวเต็มรูปแบบ บนพื้นที่ขนาดใหญ่ 6,000 กว่าไร่ ภายในมีทั้งที่เที่ยว ที่ช้อปปิ้ง พิพิธภัณฑ์ รวมถึงรีสอร์ทสุดหรู ออกแบบและสร้างอาคารต่างๆ ด้วยการจำลองเมืองท่องเที่ยวชื่อดังจากทั่วโลกมาไว้ที่นี่ ✔️ สวนสนุกวินวันเดอร์ (VinWonders Phu Quoc) : 🎢 สวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนามและเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนา Vinpearl ซึ่งเป็นเครือรีสอร์ตและสถานที่ท่องเที่ยวระดับหรูในเวียดนาม ✔️ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำวินเพิร์ล ซีเชลล์ (Vinpearl Sea Shell Aquarium) : 🐳 พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ทันสมัยและใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเวียดนาม เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวทุกวัยสามารถเพลิดเพลินกับการชมสัตว์น้ำหลากหลายชนิด ✔️ สวนสัตว์วินเพิร์ลซาฟารี ฟูก๊วก (Vinpearl Safari Phu Quoc) : 🐨 สวนสัตว์เปิดที่ให้คุณได้สัมผัสกับสัตว์ป่าในบรรยากาศที่ใกล้ชิด สถานที่ที่เหมาะสำหรับครอบครัวและผู้ที่รักสัตว์ นักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับสัตว์ต่างๆ ผ่านการจัดแสดงและกิจกรรมที่หลากหลาย ✅ ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด https://cruisedomain.com/ LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029 Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121 Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620 ☎️: 0 2116 9696 (Auto) #PhuQuocCruisePort #PhuQuoc #Vietnam #cruisedomain #port #GrandWorld #VinWonders #VinpearlSeaShellAquarium #VinpearlSafariPhuQuoc
    Wow
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 887 มุมมอง 0 รีวิว
  • เบื่อหาดใหญ่ ไปอลอร์สตาร์

    ในขณะที่ชาวมาเลเซียนิยมเข้ามาท่องเที่ยวที่หาดใหญ่ จ.สงขลาอย่างคึกคัก ในทางกลับกันยังมีคนไทยอีกส่วนหนึ่ง โดยเฉพาะชาวหาดใหญ่ นิยมไปเที่ยวประเทศมาเลเซีย หนึ่งในนั้นคือ อลอร์สตาร์ (Alor Setar) เมืองหลวงของรัฐเคดะห์ (Kedah) หากขับรถไปเองโดยใช้ทางด่วนเหนือ-ใต้ E1 จากด่านบูกิตกายูฮิตัม ตรงข้าม อ.สะเดา จ.สงขลา ระยะทางเพียง 50 กิโลเมตร

    แต่ส่วนมากนิยมเดินทางโดยรถไฟ KTM Komuter จากสถานีปาดังเบซาร์ (Padang Besar) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที ค่าโดยสาร 5.70 ริงกิตต่อเที่ยว (ประมาณ 45 บาท) หากเดินทางแบบไปเช้าเย็นกลับ นิยมจอดรถที่ด่านปาดังเบซาร์ฝั่งไทย ก่อนไปประทับตราหนังสือเดินทางที่ด่านพรมแดนปาดังเบซาร์ เปิดเวลา 05.00-21.00 น. ตามเวลาประเทศไทย กับศูนย์ ICQS ปาดังเบซาร์

    ชาวหาดใหญ่นิยมมาช้อปปิ้งที่ศูนย์การค้าอะมาน เซ็นทรัล (Aman Central) เนื่องจากมีร้านค้าที่ไม่มีในหาดใหญ่ เช่น ร้าน CHAGEE, ร้าน Krispy Kreme ที่มีโดนัทไซส์เล็ก, ไอศกรีม Llaollao (เหยาเหยา) นอกนั้นก็จะซื้อผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม ทั้งน้ำหอม สกินแคร์ และวิตามินต่างๆ บางรายการถูกกว่าประเทศไทย

    อะมาน เซ็นทรัล เป็นศูนย์การค้าขนาด 8 ชั้นของกลุ่มเบลล์วิลล์กรุ๊ป เปิดเมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2558 มีร้านค้าเช่ารวม 420 ร้าน แมกเนตหลักประกอบด้วย โลตัส (Lotus's) ห้างสรรพสินค้าพาร์คสัน (Parkson) และโรงภาพยนตร์โกลเด้นสกรีนซีนีม่าส์ (GSC)

    ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมประกอบด้วย Menara Alor Setar หอโทรคมนาคม สูง 4 ชั้น ยาว 165.5 เมตร (543 ฟุต) อันดับสามในมาเลเซีย เปิดเมื่อปี 2540 ราคาเข้าชมจุดชมวิวเริ่มต้นที่ 8 ริงกิต, มัสยิดซาฮีร์ (Zahir Mosque) ซึ่งเก่าแก่ที่สุดในมาเลเซีย นอกนั้นก็จะมี Kedah State Art Gallery หอศิลป์แห่งรัฐเคดาห์ ห่างออกไปจะเป็น Kedah Paddy Museum พิพิธภัณฑ์ข้าว

    เคดะห์เป็นรัฐ 5 อันดับแรกในมาเลเซียที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวสูงสุด เพราะมีแหล่งท่องเที่ยวอย่างเกาะลังกาวี โดยในปี 2566 มีนักท่องเที่ยวรวมทั้งสิ้น 6.45 ล้านคน โดยเมืองอลอร์สตาร์มีโรงแรมให้บริการรวม 2,552 ห้อง ส่วนสนามบินอลอร์สตาร์ (AOR) มีผู้โดยสารรวมทั้งสิ้น 588,771 คน มีเที่ยวบินจากสนามบินกัวลาลัมเปอร์ (KUL) 23 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ สนามบินซูบัง (SZB) 14 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และสนามบินเซไน รัฐยะโฮร์ (JHB) 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์

    ล่าสุด สายการบินบาติกแอร์ (Batik Air) ประกาศเปิดเส้นทางบินใหม่ กัวลาลัมเปอร์-อลอร์สตาร์ ด้วยเครื่องบินโบอิ้ง 737 ตั้งแต่วันที่ 5 ธ.ค. 2567 ให้บริการ 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์

    #Newskit #AlorSetar #Kedah
    เบื่อหาดใหญ่ ไปอลอร์สตาร์ ในขณะที่ชาวมาเลเซียนิยมเข้ามาท่องเที่ยวที่หาดใหญ่ จ.สงขลาอย่างคึกคัก ในทางกลับกันยังมีคนไทยอีกส่วนหนึ่ง โดยเฉพาะชาวหาดใหญ่ นิยมไปเที่ยวประเทศมาเลเซีย หนึ่งในนั้นคือ อลอร์สตาร์ (Alor Setar) เมืองหลวงของรัฐเคดะห์ (Kedah) หากขับรถไปเองโดยใช้ทางด่วนเหนือ-ใต้ E1 จากด่านบูกิตกายูฮิตัม ตรงข้าม อ.สะเดา จ.สงขลา ระยะทางเพียง 50 กิโลเมตร แต่ส่วนมากนิยมเดินทางโดยรถไฟ KTM Komuter จากสถานีปาดังเบซาร์ (Padang Besar) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที ค่าโดยสาร 5.70 ริงกิตต่อเที่ยว (ประมาณ 45 บาท) หากเดินทางแบบไปเช้าเย็นกลับ นิยมจอดรถที่ด่านปาดังเบซาร์ฝั่งไทย ก่อนไปประทับตราหนังสือเดินทางที่ด่านพรมแดนปาดังเบซาร์ เปิดเวลา 05.00-21.00 น. ตามเวลาประเทศไทย กับศูนย์ ICQS ปาดังเบซาร์ ชาวหาดใหญ่นิยมมาช้อปปิ้งที่ศูนย์การค้าอะมาน เซ็นทรัล (Aman Central) เนื่องจากมีร้านค้าที่ไม่มีในหาดใหญ่ เช่น ร้าน CHAGEE, ร้าน Krispy Kreme ที่มีโดนัทไซส์เล็ก, ไอศกรีม Llaollao (เหยาเหยา) นอกนั้นก็จะซื้อผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม ทั้งน้ำหอม สกินแคร์ และวิตามินต่างๆ บางรายการถูกกว่าประเทศไทย อะมาน เซ็นทรัล เป็นศูนย์การค้าขนาด 8 ชั้นของกลุ่มเบลล์วิลล์กรุ๊ป เปิดเมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2558 มีร้านค้าเช่ารวม 420 ร้าน แมกเนตหลักประกอบด้วย โลตัส (Lotus's) ห้างสรรพสินค้าพาร์คสัน (Parkson) และโรงภาพยนตร์โกลเด้นสกรีนซีนีม่าส์ (GSC) ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมประกอบด้วย Menara Alor Setar หอโทรคมนาคม สูง 4 ชั้น ยาว 165.5 เมตร (543 ฟุต) อันดับสามในมาเลเซีย เปิดเมื่อปี 2540 ราคาเข้าชมจุดชมวิวเริ่มต้นที่ 8 ริงกิต, มัสยิดซาฮีร์ (Zahir Mosque) ซึ่งเก่าแก่ที่สุดในมาเลเซีย นอกนั้นก็จะมี Kedah State Art Gallery หอศิลป์แห่งรัฐเคดาห์ ห่างออกไปจะเป็น Kedah Paddy Museum พิพิธภัณฑ์ข้าว เคดะห์เป็นรัฐ 5 อันดับแรกในมาเลเซียที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวสูงสุด เพราะมีแหล่งท่องเที่ยวอย่างเกาะลังกาวี โดยในปี 2566 มีนักท่องเที่ยวรวมทั้งสิ้น 6.45 ล้านคน โดยเมืองอลอร์สตาร์มีโรงแรมให้บริการรวม 2,552 ห้อง ส่วนสนามบินอลอร์สตาร์ (AOR) มีผู้โดยสารรวมทั้งสิ้น 588,771 คน มีเที่ยวบินจากสนามบินกัวลาลัมเปอร์ (KUL) 23 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ สนามบินซูบัง (SZB) 14 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และสนามบินเซไน รัฐยะโฮร์ (JHB) 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ล่าสุด สายการบินบาติกแอร์ (Batik Air) ประกาศเปิดเส้นทางบินใหม่ กัวลาลัมเปอร์-อลอร์สตาร์ ด้วยเครื่องบินโบอิ้ง 737 ตั้งแต่วันที่ 5 ธ.ค. 2567 ให้บริการ 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ #Newskit #AlorSetar #Kedah
    Like
    Love
    9
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1018 มุมมอง 0 รีวิว
  • การแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระหว่าง โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งพรรครีพับลิกัน กับกมลา แฮร์ริส ของพรรคเดโมแครต เคลื่อนเข้าสู่ระยะพุ่งโถมตัวเข้าสู่เส้นชัยซึ่งยังมีความไม่แน่นอนเป็นอย่างยิ่งในวันอังคาร (5 พ.ย.) ขณะที่ผู้ออกเสียงชาวอเมริกันหลายสิบล้านคนเดินทางไปยังหน่วยเลือกตั้ง เพื่อตัดสินใจเลือก 2 วิสัยทัศน์สำหรับประเทศชาติซึ่งมีความแตกต่างกันอย่างเด่นชัด
    .
    ในเวลาที่หน่วยเลือกตั้งแห่งแรกๆ เริ่มเปิดต้อนรับผู้ออกมาใช้สิทธิ ผลโพลสำรวจและพวกผู้เชี่ยวชาญระบุว่า คู่แข่งขันสำคัญทั้งสองคือ รองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส วัย 60 ที่เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต และอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ วัย 78 ผู้สมัครของพรรครีพับลิกัน ยังคงอยู่ในสภาพที่มีคะแนนนิยมคู่คี่สูสีจนยากลำบากแก่การตัดสินชี้ขาด ในการต่อสู้ช่วงชิงทำเนียบขาวครั้งที่ถือว่ายากลำบากและพลิกผันไปมามากที่สุดในยุคสมัยใหม่
    .
    หน่วยเลือกตั้งในรัฐทางภาคตะวันออก เป็นต้นว่า เวอร์จิเนีย นอร์ทแคโรไลนา และนิวยอร์ก เปิดให้เข้าไปใช้สิทธิตั้งแต่เวลา 06.00 น. (ตรงกับ 18.00 น.เวลาเมืองไทย) โดยคาดหมายกันว่าตลอดทั้งวันจะผู้ไปใช้สิทธิกันหลายสิบล้านคน เพิ่มเติมจากจำนวนกว่า 82 ล้านคนซึ่งไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้ากันแล้วในช่วงหลายๆ สัปดาห์ก่อนหน้านี้
    .
    ขณะที่ผลลัพธ์สุดท้ายอาจจะยังไม่เป็นที่ทราบกันไปอีกหลายวันทีเดียว ถ้าผลมีความคู่คี่กันมากอย่างที่โพลทั้งหลายบ่งชี้ไว้ ซึ่งก็จะเป็นการเพิ่มความตึงเครียดในประเทศที่มีการแตกแยกแบ่งขั้วกันอย่างล้ำลึกอยู่แล้วแห่งนี้
    .
    นอกจากนั้น ยังมีความหวาดกลัวกันว่าจะเกิดความปั่นป่วนวุ่นวาย และกระทั่งความรุนแรงขึ้นมา ถ้าหาก ทรัมป์ เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ และท้าทายผลเลือกตั้งอย่างที่เขาเคยกระทำในการเลือกตั้งปี 2020
    .
    ในวันจันทร์ (4) ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการรณรงค์หาเสียง ทั้ง ทรัมป์ และ แฮร์ริส ต่างทำงานอย่างไม่ยอมเหน็ดยอมเหนื่อยเพื่อปลุกเร้าให้ผู้สนับสนุนของพวกเขาออกมาใช้สิทธิที่คูหาเลือกตั้ง ขณะเดียวกับที่พยายามหาทางเอาชนะใจพวกผู้มีสิทธิออกเสียงที่ยังไม่ได้ตัดสินใจคนท้ายๆ โดยเฉพาะในบรรดารัฐสมรภูมิ ซึ่งคาดหมายกันว่าจะเป็นผู้ชี้ขาดผลการแข่งขันคราวนี้
    .
    ทรัมป์ ให้สัญญาจะนำอเมริกาสู่ “ความรุ่งโรจน์ยิ่งขึ้น” ส่วนกมลา แฮร์ริส เรียกร้อง “การเริ่มต้นใหม่” หลังจากอเมริกาถูกครอบงำด้วยวาทกรรมทางการเมืองซึ่งมุ่งปลุกเร้าความเกลียดชังและความรุนแรงของทรัมป์มาเกือบทศวรรษ
    .
    รองประธานาธิบดีหญิงจากพรรคเดโมแครตปิดฉากการหาเสียงที่ร็อคกี้สเต็ปส์ในพิพิธภัณฑ์ศิลปะฟิลาเดลเฟีย ซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำฉากสำคัญของภาพยนตร์ดัง “ร็อกกี้” ในรัฐเพนซิลเวเนีย 1 ใน 7 รัฐสมรภูมิที่ต้องชนะให้ได้
    .
    แฮร์ริสประกาศว่า การเลือกตั้งครั้งนี้อาจเป็นการแข่งขันที่สูสีที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งทุกคะแนนเสียงมีความสำคัญ และอ้างอิงถึงหนัง “ร็อกกี้” ว่า ขอยกย่องทุกคนที่เริ่มต้นในฐานะมวยรองแต่สามารถฝ่าฝันสู่ชัยชนะสำเร็จ
    .
    ที่ผ่านมา แฮร์ริส ย้ำอยู่เสมอว่า ตนเองเป็นมวยรอง โดยเธอได้ตั๋วชิงทำเนียบขาวในฐานะตัวแทนพรรคเดโมแครตแบบกะทันหัน หลังจากเมื่อ 3 เดือนที่แล้วประธานาธิบดีโจ ไบเดน ยอมจำนนต่อการกดดันภายในพรรคและขอถอนตัวจากการแข่งขัน
    .
    อย่างไรก็ตาม แฮร์ริสยืนยันว่า เธอจะชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้
    .
    ทางด้านทรัมป์พาสมาชิกครอบครัวหลายคนขึ้นเวทีทิ้งทวนการหาเสียงที่เมืองแกรนด์ราปิดส์ รัฐมิชิแกน
    .
    อดีตประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันผู้นี้ก็เรียกร้องให้ผู้สนับสนุนออกไปลงคะแนนในวันอังคาร (5) เพื่อให้ตนเองสามารถแก้ไขปัญหาทั้งหมดที่ประเทศเผชิญอยู่ รวมทั้งพาอเมริกาและโลกสู่ความรุ่งโรจน์ยิ่งขึ้น
    .
    การปราศรัยส่งท้ายของทั้งคู่สะท้อนว่า การออกไปใช้สิทธิมีความสำคัญอย่างยิ่งในการต่อสู้ครั้งนี้ โดยทั้งทรัมป์และแฮร์ริสต่างบอกว่า รู้สึกมีกำลังใจจากจำนวนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าซึ่งสูงถึง 82 ล้านคน และตอนนี้ทั้งคู่จำเป็นต้องระดมผู้สนับสนุนออกไปเลือกตั้งในวันอังคาร
    .
    ทั้งนี้ ในการหาเสียงช่วงหลายวันสุดท้าย ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันส่งสาส์นถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้งกันคนละประเด็นโดยสิ้นเชิง
    .
    ที่เมืองรีดดิ้ง รัฐเพนซิลเวเนีย ทรัมป์ย้ำว่า อเมริกากำลังตกต่ำและตึงเครียดจากปัญหาผู้อพยพผิดกฎหมายที่เขาเรียกว่า “สัตว์” และบรรยายว่า “โหดเหี้ยม”
    .
    ด้านแฮร์ริสชูประเด็นต่อต้านการห้ามทำแท้งทั่วอเมริกา และเรียกร้องการเริ่มต้นใหม่ หลังจากอเมริกาถูกครอบงำด้วยวาทกรรมทางการเมืองของทรัมป์มาเกือบทศวรรษ
    .
    ถึงแม้มัวหมองจากการถูกตัดสินกระทำผิดคดีอาญา และเรื่องอื้อฉาวที่เหล่าผู้สนับสนุนบุกโจมตีอาคารรัฐสภาเมื่อ 4 ปีก่อนตอนที่เขาไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ในการแข่งขันกับ โจ ไบเดน แต่ต้องถือว่า ทรัมป์ ที่ได้ชื่อว่า เป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่อายุมากที่สุด มีข้อได้เปรียบหลายอย่างในการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยเฉพาะจากการตามจิกเรื่องเศรษฐกิจซึ่งคนอเมริกันกำลังมีความกังวล โดยเฉพาะเกี่วกับอัตราเงินเฟ้อ ตลอดจนการใช้ถ้อยคำรุนแรงโจมตีปัญหาผู้อพยพผิดกฎหมายที่ได้ใจฐานเสียงปีกขวา
    .
    ในทางกลับกัน แฮร์ริสมีเวลาสร้างแคมเปญหาเสียงแค่ 3 เดือน กระนั้นก็ประสบความสำเร็จไม่ใช่น้อยๆ ในการปลุกเร้าพรรคเดโมแครต รวมถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้งกลุ่มหนุ่มสาวและผู้หญิงอย่างชัดเจน
    .
    ขณะเดียวกัน ทั่วโลกกำลังตั้งตารอผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างใจจดใจจ่อ เนื่องจากจะมีนัยสำคัญต่อวิกฤตการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางและสงครามในยูเครน รวมถึงการจัดการปัญหาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศที่ทรัมป์กล่าวหาว่า เป็นเรื่องโกหกหลอกลวง
    .
    สถานการณ์เฉพาะหน้าที่น่ากลัวที่สุดคือประชาธิปไตยของอเมริกากำลังจะถูกทดสอบ หากทรัมป์แพ้แต่ไม่ยอมรับเหมือนเมื่อ 4 ปีที่แล้วที่เหล่ากองเชียร์ของเขาบุกโจมตีอาคารรัฐสภา รวมทั้งการที่ก่อนหน้านี้ทรัมป์ถูกลอบสังหารถึง 2 ครั้ง ทำให้ความกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์รุนแรงดูเป็นไปได้มากขึ้น
    .
    ที่กรุงวอชิงตันมีการติดตั้งรั้วสูงรอบบริเวณที่พักแฮร์ริสและทำเนียบขาว ขณะที่ห้างร้านหลายแห่งนำแผ่นไม้อัดมาตีปิดกระจกด้านหน้า
    .
    ทั้งรัฐออริกอน วอชิงตัน และเนวาดา ต่างเรียกกองทหารรักษาดินแดน (เนชั่นแนล การ์ด) เข้ารักษาการณ์ และกระทรวงกลาโหมเผยว่า อย่างน้อย 17 รัฐสั่งให้สมาชิกกองทหารรักษาดินแดนรวม 600 นายเตรียมพร้อมหากจำเป็น
    .
    ด้านสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) จัดตั้งศูนย์บัญชาการการเลือกตั้งแห่งชาติในวอชิงตันเพื่อตรวจติดตามภัยคุกคามตลอดสัปดาห์การเลือกตั้ง นอกจากนั้น ยังมีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในคูหาเลือกตั้งเกือบ 100,000 แห่งทั่วประเทศ
    .
    รันเบ็ก อิเล็กชัน เซอร์วิส ผู้ให้บริการเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยปฏิบัติการเลือกตั้ง ยืนยันข่าวที่ว่า ได้จัดส่งปุ่มกดฉุกเฉิน 1,000 ชุดสำหรับลูกค้าที่รวมถึงพวกหน่วยเลือกตั้งและเจ้าหน้าที่ประจำหน่วย โดยอุปกรณ์นี้มีขนาดเล็กสามารถห้อยคอหรือเก็บในกระเป๋า ซึ่งจะจับคู่กับมือถือของผู้ใช้ และเชื่อมต่อกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายและหน่วยงานกำกับดูแลอื่นๆ เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000106742
    ..............
    Sondhi X
    การแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระหว่าง โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งพรรครีพับลิกัน กับกมลา แฮร์ริส ของพรรคเดโมแครต เคลื่อนเข้าสู่ระยะพุ่งโถมตัวเข้าสู่เส้นชัยซึ่งยังมีความไม่แน่นอนเป็นอย่างยิ่งในวันอังคาร (5 พ.ย.) ขณะที่ผู้ออกเสียงชาวอเมริกันหลายสิบล้านคนเดินทางไปยังหน่วยเลือกตั้ง เพื่อตัดสินใจเลือก 2 วิสัยทัศน์สำหรับประเทศชาติซึ่งมีความแตกต่างกันอย่างเด่นชัด . ในเวลาที่หน่วยเลือกตั้งแห่งแรกๆ เริ่มเปิดต้อนรับผู้ออกมาใช้สิทธิ ผลโพลสำรวจและพวกผู้เชี่ยวชาญระบุว่า คู่แข่งขันสำคัญทั้งสองคือ รองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส วัย 60 ที่เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต และอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ วัย 78 ผู้สมัครของพรรครีพับลิกัน ยังคงอยู่ในสภาพที่มีคะแนนนิยมคู่คี่สูสีจนยากลำบากแก่การตัดสินชี้ขาด ในการต่อสู้ช่วงชิงทำเนียบขาวครั้งที่ถือว่ายากลำบากและพลิกผันไปมามากที่สุดในยุคสมัยใหม่ . หน่วยเลือกตั้งในรัฐทางภาคตะวันออก เป็นต้นว่า เวอร์จิเนีย นอร์ทแคโรไลนา และนิวยอร์ก เปิดให้เข้าไปใช้สิทธิตั้งแต่เวลา 06.00 น. (ตรงกับ 18.00 น.เวลาเมืองไทย) โดยคาดหมายกันว่าตลอดทั้งวันจะผู้ไปใช้สิทธิกันหลายสิบล้านคน เพิ่มเติมจากจำนวนกว่า 82 ล้านคนซึ่งไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้ากันแล้วในช่วงหลายๆ สัปดาห์ก่อนหน้านี้ . ขณะที่ผลลัพธ์สุดท้ายอาจจะยังไม่เป็นที่ทราบกันไปอีกหลายวันทีเดียว ถ้าผลมีความคู่คี่กันมากอย่างที่โพลทั้งหลายบ่งชี้ไว้ ซึ่งก็จะเป็นการเพิ่มความตึงเครียดในประเทศที่มีการแตกแยกแบ่งขั้วกันอย่างล้ำลึกอยู่แล้วแห่งนี้ . นอกจากนั้น ยังมีความหวาดกลัวกันว่าจะเกิดความปั่นป่วนวุ่นวาย และกระทั่งความรุนแรงขึ้นมา ถ้าหาก ทรัมป์ เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ และท้าทายผลเลือกตั้งอย่างที่เขาเคยกระทำในการเลือกตั้งปี 2020 . ในวันจันทร์ (4) ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการรณรงค์หาเสียง ทั้ง ทรัมป์ และ แฮร์ริส ต่างทำงานอย่างไม่ยอมเหน็ดยอมเหนื่อยเพื่อปลุกเร้าให้ผู้สนับสนุนของพวกเขาออกมาใช้สิทธิที่คูหาเลือกตั้ง ขณะเดียวกับที่พยายามหาทางเอาชนะใจพวกผู้มีสิทธิออกเสียงที่ยังไม่ได้ตัดสินใจคนท้ายๆ โดยเฉพาะในบรรดารัฐสมรภูมิ ซึ่งคาดหมายกันว่าจะเป็นผู้ชี้ขาดผลการแข่งขันคราวนี้ . ทรัมป์ ให้สัญญาจะนำอเมริกาสู่ “ความรุ่งโรจน์ยิ่งขึ้น” ส่วนกมลา แฮร์ริส เรียกร้อง “การเริ่มต้นใหม่” หลังจากอเมริกาถูกครอบงำด้วยวาทกรรมทางการเมืองซึ่งมุ่งปลุกเร้าความเกลียดชังและความรุนแรงของทรัมป์มาเกือบทศวรรษ . รองประธานาธิบดีหญิงจากพรรคเดโมแครตปิดฉากการหาเสียงที่ร็อคกี้สเต็ปส์ในพิพิธภัณฑ์ศิลปะฟิลาเดลเฟีย ซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำฉากสำคัญของภาพยนตร์ดัง “ร็อกกี้” ในรัฐเพนซิลเวเนีย 1 ใน 7 รัฐสมรภูมิที่ต้องชนะให้ได้ . แฮร์ริสประกาศว่า การเลือกตั้งครั้งนี้อาจเป็นการแข่งขันที่สูสีที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งทุกคะแนนเสียงมีความสำคัญ และอ้างอิงถึงหนัง “ร็อกกี้” ว่า ขอยกย่องทุกคนที่เริ่มต้นในฐานะมวยรองแต่สามารถฝ่าฝันสู่ชัยชนะสำเร็จ . ที่ผ่านมา แฮร์ริส ย้ำอยู่เสมอว่า ตนเองเป็นมวยรอง โดยเธอได้ตั๋วชิงทำเนียบขาวในฐานะตัวแทนพรรคเดโมแครตแบบกะทันหัน หลังจากเมื่อ 3 เดือนที่แล้วประธานาธิบดีโจ ไบเดน ยอมจำนนต่อการกดดันภายในพรรคและขอถอนตัวจากการแข่งขัน . อย่างไรก็ตาม แฮร์ริสยืนยันว่า เธอจะชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ . ทางด้านทรัมป์พาสมาชิกครอบครัวหลายคนขึ้นเวทีทิ้งทวนการหาเสียงที่เมืองแกรนด์ราปิดส์ รัฐมิชิแกน . อดีตประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันผู้นี้ก็เรียกร้องให้ผู้สนับสนุนออกไปลงคะแนนในวันอังคาร (5) เพื่อให้ตนเองสามารถแก้ไขปัญหาทั้งหมดที่ประเทศเผชิญอยู่ รวมทั้งพาอเมริกาและโลกสู่ความรุ่งโรจน์ยิ่งขึ้น . การปราศรัยส่งท้ายของทั้งคู่สะท้อนว่า การออกไปใช้สิทธิมีความสำคัญอย่างยิ่งในการต่อสู้ครั้งนี้ โดยทั้งทรัมป์และแฮร์ริสต่างบอกว่า รู้สึกมีกำลังใจจากจำนวนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าซึ่งสูงถึง 82 ล้านคน และตอนนี้ทั้งคู่จำเป็นต้องระดมผู้สนับสนุนออกไปเลือกตั้งในวันอังคาร . ทั้งนี้ ในการหาเสียงช่วงหลายวันสุดท้าย ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันส่งสาส์นถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้งกันคนละประเด็นโดยสิ้นเชิง . ที่เมืองรีดดิ้ง รัฐเพนซิลเวเนีย ทรัมป์ย้ำว่า อเมริกากำลังตกต่ำและตึงเครียดจากปัญหาผู้อพยพผิดกฎหมายที่เขาเรียกว่า “สัตว์” และบรรยายว่า “โหดเหี้ยม” . ด้านแฮร์ริสชูประเด็นต่อต้านการห้ามทำแท้งทั่วอเมริกา และเรียกร้องการเริ่มต้นใหม่ หลังจากอเมริกาถูกครอบงำด้วยวาทกรรมทางการเมืองของทรัมป์มาเกือบทศวรรษ . ถึงแม้มัวหมองจากการถูกตัดสินกระทำผิดคดีอาญา และเรื่องอื้อฉาวที่เหล่าผู้สนับสนุนบุกโจมตีอาคารรัฐสภาเมื่อ 4 ปีก่อนตอนที่เขาไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ในการแข่งขันกับ โจ ไบเดน แต่ต้องถือว่า ทรัมป์ ที่ได้ชื่อว่า เป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่อายุมากที่สุด มีข้อได้เปรียบหลายอย่างในการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยเฉพาะจากการตามจิกเรื่องเศรษฐกิจซึ่งคนอเมริกันกำลังมีความกังวล โดยเฉพาะเกี่วกับอัตราเงินเฟ้อ ตลอดจนการใช้ถ้อยคำรุนแรงโจมตีปัญหาผู้อพยพผิดกฎหมายที่ได้ใจฐานเสียงปีกขวา . ในทางกลับกัน แฮร์ริสมีเวลาสร้างแคมเปญหาเสียงแค่ 3 เดือน กระนั้นก็ประสบความสำเร็จไม่ใช่น้อยๆ ในการปลุกเร้าพรรคเดโมแครต รวมถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้งกลุ่มหนุ่มสาวและผู้หญิงอย่างชัดเจน . ขณะเดียวกัน ทั่วโลกกำลังตั้งตารอผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างใจจดใจจ่อ เนื่องจากจะมีนัยสำคัญต่อวิกฤตการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางและสงครามในยูเครน รวมถึงการจัดการปัญหาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศที่ทรัมป์กล่าวหาว่า เป็นเรื่องโกหกหลอกลวง . สถานการณ์เฉพาะหน้าที่น่ากลัวที่สุดคือประชาธิปไตยของอเมริกากำลังจะถูกทดสอบ หากทรัมป์แพ้แต่ไม่ยอมรับเหมือนเมื่อ 4 ปีที่แล้วที่เหล่ากองเชียร์ของเขาบุกโจมตีอาคารรัฐสภา รวมทั้งการที่ก่อนหน้านี้ทรัมป์ถูกลอบสังหารถึง 2 ครั้ง ทำให้ความกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์รุนแรงดูเป็นไปได้มากขึ้น . ที่กรุงวอชิงตันมีการติดตั้งรั้วสูงรอบบริเวณที่พักแฮร์ริสและทำเนียบขาว ขณะที่ห้างร้านหลายแห่งนำแผ่นไม้อัดมาตีปิดกระจกด้านหน้า . ทั้งรัฐออริกอน วอชิงตัน และเนวาดา ต่างเรียกกองทหารรักษาดินแดน (เนชั่นแนล การ์ด) เข้ารักษาการณ์ และกระทรวงกลาโหมเผยว่า อย่างน้อย 17 รัฐสั่งให้สมาชิกกองทหารรักษาดินแดนรวม 600 นายเตรียมพร้อมหากจำเป็น . ด้านสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) จัดตั้งศูนย์บัญชาการการเลือกตั้งแห่งชาติในวอชิงตันเพื่อตรวจติดตามภัยคุกคามตลอดสัปดาห์การเลือกตั้ง นอกจากนั้น ยังมีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในคูหาเลือกตั้งเกือบ 100,000 แห่งทั่วประเทศ . รันเบ็ก อิเล็กชัน เซอร์วิส ผู้ให้บริการเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยปฏิบัติการเลือกตั้ง ยืนยันข่าวที่ว่า ได้จัดส่งปุ่มกดฉุกเฉิน 1,000 ชุดสำหรับลูกค้าที่รวมถึงพวกหน่วยเลือกตั้งและเจ้าหน้าที่ประจำหน่วย โดยอุปกรณ์นี้มีขนาดเล็กสามารถห้อยคอหรือเก็บในกระเป๋า ซึ่งจะจับคู่กับมือถือของผู้ใช้ และเชื่อมต่อกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายและหน่วยงานกำกับดูแลอื่นๆ เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000106742 .............. Sondhi X
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1651 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💥 ทัวร์จีน มองโกเลีย อาณาจักรเจงกีสข่าน 8 วัน 7 คืน

    ✈️ บิน : OM-มองโกเลียแอร์ไลน์

    🅿️ 25 ธ.ค. -1 ม.ค. 68 ท่านละ 61,999.-
    🅿️ 19 - 26 ก.พ. 68 ท่านละ 56,999.-

    💥 ไฮไลท์โปรแกรม

    🚨 พิพิธภัณฑ์แห่งชาติมองโกลเลีย
    🚨 ช้อปปิ้ง GOBI CASHMIER
    🚨 เนินทรายมินิโกบี
    🚨 กิจกรรมขี่อูฐบนทะเลทราย (รวมค่ากิจกรรม)
    🚨 คาราโครัม
    🚨 อนุสาวรีย์แผนที่จักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่
    🚨 แม่น้ำออร์คอน
    🚨 อุทยานแห่งชาติเทอเรลจ์
    🚨 กิจกรรมขี่ม้าทากิ (รวมค่ากิจกรรม)
    🚨 กิจกรรมสุนัขลากเลื่อน (รวมค่ากิจกรรม)
    🚨 ใส่ชุดพื้นเมืองมองโกลถ่ายภาพเป็นที่ระลึก
    🚨 อุทยานเทอเรลจ์
    🚨 ช้อปปิ้ง STATE DEPARTMENT STORE

    📢 ระดับทัวร์ : ทัวร์คุณภาพระดับมาตรฐาน
    📢 รหัสทัวร์ : Z11767
    🏢 โรงแรม : ⭐️⭐️⭐️⭐️

    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/e0a8aa

    ดูทัวร์มองโกเลียทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/19db39

    LINE ID: @etravelway https://78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway https://78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay https://78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    📷: etravelway https://78s.me/05e8da
    ☎️: 0 2116 6395 (auto)

    #ทัวร์มองโกเลีย #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    💥 ทัวร์จีน มองโกเลีย อาณาจักรเจงกีสข่าน 8 วัน 7 คืน ✈️ บิน : OM-มองโกเลียแอร์ไลน์ 🅿️ 25 ธ.ค. -1 ม.ค. 68 ท่านละ 61,999.- 🅿️ 19 - 26 ก.พ. 68 ท่านละ 56,999.- 💥 ไฮไลท์โปรแกรม 🚨 พิพิธภัณฑ์แห่งชาติมองโกลเลีย 🚨 ช้อปปิ้ง GOBI CASHMIER 🚨 เนินทรายมินิโกบี 🚨 กิจกรรมขี่อูฐบนทะเลทราย (รวมค่ากิจกรรม) 🚨 คาราโครัม 🚨 อนุสาวรีย์แผนที่จักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่ 🚨 แม่น้ำออร์คอน 🚨 อุทยานแห่งชาติเทอเรลจ์ 🚨 กิจกรรมขี่ม้าทากิ (รวมค่ากิจกรรม) 🚨 กิจกรรมสุนัขลากเลื่อน (รวมค่ากิจกรรม) 🚨 ใส่ชุดพื้นเมืองมองโกลถ่ายภาพเป็นที่ระลึก 🚨 อุทยานเทอเรลจ์ 🚨 ช้อปปิ้ง STATE DEPARTMENT STORE 📢 ระดับทัวร์ : ทัวร์คุณภาพระดับมาตรฐาน 📢 รหัสทัวร์ : Z11767 🏢 โรงแรม : ⭐️⭐️⭐️⭐️ ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/e0a8aa ดูทัวร์มองโกเลียทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/19db39 LINE ID: @etravelway https://78s.me/d0c307 Facebook: etravelway https://78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay https://78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway https://78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 (auto) #ทัวร์มองโกเลีย #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 368 มุมมอง 0 รีวิว
  • สวนนงนุชพัทยา เปิดพิพิธภัณฑ์พระสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยเข้าชมฟรีตลอดพฤศจิกายน 2567
    https://youtu.be/3rP0hcDKJgc
    สวนนงนุชพัทยา เปิดพิพิธภัณฑ์พระสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยเข้าชมฟรีตลอดพฤศจิกายน 2567 https://youtu.be/3rP0hcDKJgc
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 143 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts