• ยุโรปเปิดตัวซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Exascale เครื่องที่สอง

    ยุโรปได้เปิดตัวซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Alice Recoque ซึ่งถือเป็นระบบ Exascale เครื่องที่สองของภูมิภาค โดยใช้พลังจากซีพียู AMD EPYC “Venice” รุ่นใหม่และจีพียู Instinct MI430X ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับงานด้าน AI และการประมวลผลทางวิทยาศาสตร์ขนาดใหญ่

    สเปกและเทคโนโลยีล้ำสมัย
    Alice Recoque จะประกอบด้วย 94 แร็ค บนแพลตฟอร์ม BullSequana XH3500 ของ Eviden พร้อมระบบจัดเก็บข้อมูลจาก DDN และโครงสร้างการเชื่อมต่อ BXI fabric ที่ช่วยให้การประมวลผลแบบขยายตัวมีประสิทธิภาพสูงสุด ซีพียู Venice มีจำนวนคอร์สูงสุดถึง 256 คอร์ ขณะที่จีพียู MI430X มาพร้อมหน่วยความจำ HBM4 ขนาด 432 GB และรองรับรูปแบบข้อมูล FP4 และ FP8 เพื่อให้เหมาะกับงาน AI โดยเฉพาะ

    พลังงานและการติดตั้ง
    ระบบนี้จะใช้พลังงานประมาณ 12 เมกะวัตต์ ภายใต้การทำงานปกติ และใช้เทคโนโลยี การระบายความร้อนด้วยน้ำอุ่นรุ่นที่ 5 ของ Eviden เพื่อจัดการกับความร้อนจากส่วนประกอบที่ใช้พลังงานสูง ซูเปอร์คอมพิวเตอร์จะถูกติดตั้งที่ประเทศฝรั่งเศส ภายใต้การดูแลของ GENCI และดำเนินงานโดย CEA โดยมีการสนับสนุนจากหลายประเทศในยุโรป เช่น เนเธอร์แลนด์ และกรีซ

    การใช้งานและอนาคต
    Alice Recoque จะถูกใช้ในงานวิจัยที่หลากหลาย ตั้งแต่ การพัฒนาโมเดล AI, การแพทย์เฉพาะบุคคล, การวิจัยสภาพภูมิอากาศ, ไปจนถึง การวิเคราะห์ข้อมูลจากดาวเทียมและกล้องโทรทรรศน์ คาดว่าระบบจะเริ่มใช้งานจริงในช่วงปี 2027–2028 หลังจาก AMD เปิดตัวซีพียู Venice และจีพียู MI430X อย่างเป็นทางการในปี 2026

    สรุปประเด็นสำคัญ
    เปิดตัว Alice Recoque
    ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Exascale เครื่องที่สองของยุโรป

    สเปกหลัก
    ใช้ AMD EPYC Venice (256 คอร์) และ Instinct MI430X (432 GB HBM4)

    โครงสร้างระบบ
    94 แร็ค บน BullSequana XH3500 พร้อม BXI fabric และ DDN storage

    พลังงานและการระบายความร้อน
    ใช้พลังงาน ~12 เมกะวัตต์ พร้อมระบบน้ำอุ่นรุ่นที่ 5

    การติดตั้งและการดำเนินงาน
    ติดตั้งที่ฝรั่งเศส ดูแลโดย GENCI และ CEA

    ความท้าทายด้านเวลาและเทคโนโลยี
    ระบบจะพร้อมใช้งานจริงได้ราวปี 2027–2028 หลังจากฮาร์ดแวร์หลักเปิดตัว

    ความเสี่ยงจากการพึ่งพาเทคโนโลยีใหม่
    หากการพัฒนา Venice และ MI430X ล่าช้า อาจกระทบต่อกำหนดการใช้งาน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/supercomputers/amd-and-eviden-unveil-europes-second-exascale-system-epyc-venice-and-instinct-mi430x-power-system-breaks-the-exaflop-barrier
    ⚡ ยุโรปเปิดตัวซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Exascale เครื่องที่สอง ยุโรปได้เปิดตัวซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Alice Recoque ซึ่งถือเป็นระบบ Exascale เครื่องที่สองของภูมิภาค โดยใช้พลังจากซีพียู AMD EPYC “Venice” รุ่นใหม่และจีพียู Instinct MI430X ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับงานด้าน AI และการประมวลผลทางวิทยาศาสตร์ขนาดใหญ่ 🖥️ สเปกและเทคโนโลยีล้ำสมัย Alice Recoque จะประกอบด้วย 94 แร็ค บนแพลตฟอร์ม BullSequana XH3500 ของ Eviden พร้อมระบบจัดเก็บข้อมูลจาก DDN และโครงสร้างการเชื่อมต่อ BXI fabric ที่ช่วยให้การประมวลผลแบบขยายตัวมีประสิทธิภาพสูงสุด ซีพียู Venice มีจำนวนคอร์สูงสุดถึง 256 คอร์ ขณะที่จีพียู MI430X มาพร้อมหน่วยความจำ HBM4 ขนาด 432 GB และรองรับรูปแบบข้อมูล FP4 และ FP8 เพื่อให้เหมาะกับงาน AI โดยเฉพาะ 🌍 พลังงานและการติดตั้ง ระบบนี้จะใช้พลังงานประมาณ 12 เมกะวัตต์ ภายใต้การทำงานปกติ และใช้เทคโนโลยี การระบายความร้อนด้วยน้ำอุ่นรุ่นที่ 5 ของ Eviden เพื่อจัดการกับความร้อนจากส่วนประกอบที่ใช้พลังงานสูง ซูเปอร์คอมพิวเตอร์จะถูกติดตั้งที่ประเทศฝรั่งเศส ภายใต้การดูแลของ GENCI และดำเนินงานโดย CEA โดยมีการสนับสนุนจากหลายประเทศในยุโรป เช่น เนเธอร์แลนด์ และกรีซ 🔮 การใช้งานและอนาคต Alice Recoque จะถูกใช้ในงานวิจัยที่หลากหลาย ตั้งแต่ การพัฒนาโมเดล AI, การแพทย์เฉพาะบุคคล, การวิจัยสภาพภูมิอากาศ, ไปจนถึง การวิเคราะห์ข้อมูลจากดาวเทียมและกล้องโทรทรรศน์ คาดว่าระบบจะเริ่มใช้งานจริงในช่วงปี 2027–2028 หลังจาก AMD เปิดตัวซีพียู Venice และจีพียู MI430X อย่างเป็นทางการในปี 2026 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ เปิดตัว Alice Recoque ➡️ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Exascale เครื่องที่สองของยุโรป ✅ สเปกหลัก ➡️ ใช้ AMD EPYC Venice (256 คอร์) และ Instinct MI430X (432 GB HBM4) ✅ โครงสร้างระบบ ➡️ 94 แร็ค บน BullSequana XH3500 พร้อม BXI fabric และ DDN storage ✅ พลังงานและการระบายความร้อน ➡️ ใช้พลังงาน ~12 เมกะวัตต์ พร้อมระบบน้ำอุ่นรุ่นที่ 5 ✅ การติดตั้งและการดำเนินงาน ➡️ ติดตั้งที่ฝรั่งเศส ดูแลโดย GENCI และ CEA ‼️ ความท้าทายด้านเวลาและเทคโนโลยี ⛔ ระบบจะพร้อมใช้งานจริงได้ราวปี 2027–2028 หลังจากฮาร์ดแวร์หลักเปิดตัว ‼️ ความเสี่ยงจากการพึ่งพาเทคโนโลยีใหม่ ⛔ หากการพัฒนา Venice และ MI430X ล่าช้า อาจกระทบต่อกำหนดการใช้งาน https://www.tomshardware.com/tech-industry/supercomputers/amd-and-eviden-unveil-europes-second-exascale-system-epyc-venice-and-instinct-mi430x-power-system-breaks-the-exaflop-barrier
    0 Comments 0 Shares 22 Views 0 Reviews
  • GlobalFoundries ซื้อกิจการ Advanced Micro Foundry

    GlobalFoundries ประกาศการเข้าซื้อกิจการ Advanced Micro Foundry (AMF) บริษัทสัญชาติสิงคโปร์ที่เชี่ยวชาญด้าน silicon photonics ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้แสงแทนสัญญาณไฟฟ้าในการส่งข้อมูลภายในชิปและระหว่างเซิร์ฟเวอร์ การเข้าซื้อครั้งนี้ทำให้ GlobalFoundries กลายเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดในโลกด้าน silicon photonics และเสริมความแข็งแกร่งในการแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง Nvidia และ AMD

    Silicon photonics กำลังถูกมองว่าเป็นหัวใจสำคัญของ AI data centers เนื่องจากสามารถลดการใช้พลังงานและเพิ่มความเร็วในการส่งข้อมูลได้อย่างมหาศาล Nvidia เองก็มีแผนจะนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ในเซิร์ฟเวอร์ AI รุ่นใหม่ เพื่อรองรับการทำงานของ GPU นับล้านตัวในคลัสเตอร์เดียว ขณะที่ AMD ก็ลงทุนกว่า 300 ล้านดอลลาร์ในศูนย์ R&D ที่ไต้หวัน และเข้าซื้อบริษัท Enosemi เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีนี้เช่นกัน

    นอกจากการใช้งานใน AI แล้ว silicon photonics ยังมีบทบาทสำคัญใน quantum computing เพราะสามารถใช้แสงในการประมวลผลโดยไม่ต้องพึ่งพาการทำงานที่อุณหภูมิต่ำมาก (cryogenic cooling) ทำให้การสร้างคอมพิวเตอร์ควอนตัมมีต้นทุนต่ำลงและใช้งานได้จริงมากขึ้น

    การเข้าซื้อ AMF ของ GlobalFoundries จึงไม่ใช่แค่การขยายธุรกิจ แต่ยังเป็นการวางรากฐานสำหรับอนาคตของการประมวลผลที่ต้องการทั้ง ความเร็ว ความแม่นยำ และประสิทธิภาพด้านพลังงาน ซึ่งจะมีผลกระทบโดยตรงต่อการพัฒนา AI และเทคโนโลยีขั้นสูงในทศวรรษหน้า

    สรุปประเด็นสำคัญ
    GlobalFoundries ซื้อกิจการ Advanced Micro Foundry (AMF)
    ทำให้กลายเป็นหนึ่งในผู้ผลิต silicon photonics รายใหญ่ที่สุดในโลก

    Silicon photonics ใช้แสงแทนสัญญาณไฟฟ้า
    เพิ่มความเร็วในการส่งข้อมูลและลดการใช้พลังงานในศูนย์ข้อมูล AI

    Nvidia และ AMD ลงทุนในเทคโนโลยีนี้เช่นกัน
    Nvidia เตรียมใช้ในเซิร์ฟเวอร์ AI รุ่นใหม่, AMD ลงทุน R&D และซื้อ Enosemi

    มีบทบาทสำคัญต่อ quantum computing
    ลดต้นทุนและความซับซ้อนในการสร้างคอมพิวเตอร์ควอนตัม

    การแข่งขันในตลาด silicon photonics รุนแรงขึ้น
    บริษัทที่ไม่ลงทุนอาจเสียเปรียบในยุค AI และ quantum computing

    การพึ่งพาเทคโนโลยีใหม่ยังมีความเสี่ยง
    ต้องใช้เวลาและเงินลงทุนมหาศาลในการพัฒนาและปรับใช้จริง

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/globalfoundries-buys-silicon-photonics-firm-advanced-micro-foundry-for-undisclosed-amount-move-makes-chipmaker-one-of-the-largest-silicon-photonics-manufacturers
    💡 GlobalFoundries ซื้อกิจการ Advanced Micro Foundry GlobalFoundries ประกาศการเข้าซื้อกิจการ Advanced Micro Foundry (AMF) บริษัทสัญชาติสิงคโปร์ที่เชี่ยวชาญด้าน silicon photonics ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้แสงแทนสัญญาณไฟฟ้าในการส่งข้อมูลภายในชิปและระหว่างเซิร์ฟเวอร์ การเข้าซื้อครั้งนี้ทำให้ GlobalFoundries กลายเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดในโลกด้าน silicon photonics และเสริมความแข็งแกร่งในการแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง Nvidia และ AMD Silicon photonics กำลังถูกมองว่าเป็นหัวใจสำคัญของ AI data centers เนื่องจากสามารถลดการใช้พลังงานและเพิ่มความเร็วในการส่งข้อมูลได้อย่างมหาศาล Nvidia เองก็มีแผนจะนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ในเซิร์ฟเวอร์ AI รุ่นใหม่ เพื่อรองรับการทำงานของ GPU นับล้านตัวในคลัสเตอร์เดียว ขณะที่ AMD ก็ลงทุนกว่า 300 ล้านดอลลาร์ในศูนย์ R&D ที่ไต้หวัน และเข้าซื้อบริษัท Enosemi เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีนี้เช่นกัน นอกจากการใช้งานใน AI แล้ว silicon photonics ยังมีบทบาทสำคัญใน quantum computing เพราะสามารถใช้แสงในการประมวลผลโดยไม่ต้องพึ่งพาการทำงานที่อุณหภูมิต่ำมาก (cryogenic cooling) ทำให้การสร้างคอมพิวเตอร์ควอนตัมมีต้นทุนต่ำลงและใช้งานได้จริงมากขึ้น การเข้าซื้อ AMF ของ GlobalFoundries จึงไม่ใช่แค่การขยายธุรกิจ แต่ยังเป็นการวางรากฐานสำหรับอนาคตของการประมวลผลที่ต้องการทั้ง ความเร็ว ความแม่นยำ และประสิทธิภาพด้านพลังงาน ซึ่งจะมีผลกระทบโดยตรงต่อการพัฒนา AI และเทคโนโลยีขั้นสูงในทศวรรษหน้า 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ GlobalFoundries ซื้อกิจการ Advanced Micro Foundry (AMF) ➡️ ทำให้กลายเป็นหนึ่งในผู้ผลิต silicon photonics รายใหญ่ที่สุดในโลก ✅ Silicon photonics ใช้แสงแทนสัญญาณไฟฟ้า ➡️ เพิ่มความเร็วในการส่งข้อมูลและลดการใช้พลังงานในศูนย์ข้อมูล AI ✅ Nvidia และ AMD ลงทุนในเทคโนโลยีนี้เช่นกัน ➡️ Nvidia เตรียมใช้ในเซิร์ฟเวอร์ AI รุ่นใหม่, AMD ลงทุน R&D และซื้อ Enosemi ✅ มีบทบาทสำคัญต่อ quantum computing ➡️ ลดต้นทุนและความซับซ้อนในการสร้างคอมพิวเตอร์ควอนตัม ‼️ การแข่งขันในตลาด silicon photonics รุนแรงขึ้น ⛔ บริษัทที่ไม่ลงทุนอาจเสียเปรียบในยุค AI และ quantum computing ‼️ การพึ่งพาเทคโนโลยีใหม่ยังมีความเสี่ยง ⛔ ต้องใช้เวลาและเงินลงทุนมหาศาลในการพัฒนาและปรับใช้จริง https://www.tomshardware.com/tech-industry/globalfoundries-buys-silicon-photonics-firm-advanced-micro-foundry-for-undisclosed-amount-move-makes-chipmaker-one-of-the-largest-silicon-photonics-manufacturers
    0 Comments 0 Shares 41 Views 0 Reviews
  • ศูนย์ข้อมูลในโรงเก็บของ ช่วยลดค่าไฟบ้านในอังกฤษ

    คู่สามีภรรยา Terrence และ Lesley Bridges จาก Essex ได้เข้าร่วมโครงการทดลองที่ชื่อว่า HeatHub ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ SHIELD Project โดย UK Power Networks จุดประสงค์คือการหาวิธีใหม่ ๆ ให้ครัวเรือนรายได้น้อยสามารถเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้พลังงานแบบ net-zero ได้อย่างยั่งยืน

    HeatHub ที่ติดตั้งในโรงเก็บของหลังบ้านทำงานโดยใช้ Raspberry Pi จำนวน 56 เครื่อง ที่ประมวลผลข้อมูลจริงจากลูกค้า ความร้อนที่เกิดขึ้นจากการทำงานของเซิร์ฟเวอร์ถูกนำไปใช้กับระบบน้ำร้อนภายในบ้าน ทำให้ค่าใช้จ่ายด้านพลังงานของครอบครัวลดลงเหลือเพียง £40 ต่อเดือน ซึ่งถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับครัวเรือนทั่วไปในสหราชอาณาจักร

    แม้ระบบนี้จะไม่ถูกออกแบบมาสำหรับงาน AI หนัก ๆ แต่สามารถใช้รันแอปพลิเคชันหรือวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากได้ และในอนาคตลูกค้าจะสามารถจ่ายเงินให้ Thermify เพื่อประมวลผลข้อมูลผ่าน HeatHub ที่กระจายอยู่ตามบ้านเรือนต่าง ๆ ซึ่งจะกลายเป็น ศูนย์ข้อมูลแบบกระจาย (distributed data center)

    นอกจาก Thermify แล้ว ยังมีบริษัท Deep Green ที่ใช้แนวคิดคล้ายกัน โดยติดตั้งไมโครดาต้าเซ็นเตอร์ในสระว่ายน้ำและศูนย์กีฬา ความร้อนที่เกิดขึ้นสามารถครอบคลุมความต้องการพลังงานมากกว่า 60% ของสระว่ายน้ำต่อปี ลดค่าแก๊สและการปล่อยคาร์บอนลงได้อย่างมีนัยสำคัญ

    สรุปประเด็นสำคัญ
    HeatHub ในโรงเก็บของหลังบ้านช่วยลดค่าไฟเหลือ £40/เดือน
    ใช้ Raspberry Pi 56 เครื่องในการประมวลผลและเปลี่ยนความร้อนเป็นพลังงานทำความร้อน

    เป็นส่วนหนึ่งของ SHIELD Project โดย UK Power Networks
    มุ่งช่วยครัวเรือนรายได้น้อยเข้าสู่การใช้พลังงาน net-zero

    HeatHub จะกลายเป็นศูนย์ข้อมูลแบบกระจาย
    ลูกค้าสามารถจ่ายเงินให้ Thermify เพื่อใช้พลังประมวลผล

    Deep Green ใช้แนวคิดคล้ายกันในสระว่ายน้ำและศูนย์กีฬา
    ครอบคลุมความต้องการพลังงานมากกว่า 60% และลดการปล่อยคาร์บอน

    ไม่เหมาะสำหรับการติดตั้งเอง (DIY)
    บ้านทั่วไปมีข้อจำกัดด้านไฟฟ้าและอาจเสี่ยงต่อการโอเวอร์โหลดหรือไฟไหม้

    ระบบหม้อไอน้ำทั่วไปไม่รองรับการทำงานร่วมกับ HeatHub
    อาจมีปัญหาด้านประกันภัยและการปฏิบัติตามข้อกำหนดของโครงข่ายไฟฟ้า

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/uk-couples-garden-shed-data-center-heats-home-and-cuts-bills
    🏡 ศูนย์ข้อมูลในโรงเก็บของ ช่วยลดค่าไฟบ้านในอังกฤษ คู่สามีภรรยา Terrence และ Lesley Bridges จาก Essex ได้เข้าร่วมโครงการทดลองที่ชื่อว่า HeatHub ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ SHIELD Project โดย UK Power Networks จุดประสงค์คือการหาวิธีใหม่ ๆ ให้ครัวเรือนรายได้น้อยสามารถเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้พลังงานแบบ net-zero ได้อย่างยั่งยืน HeatHub ที่ติดตั้งในโรงเก็บของหลังบ้านทำงานโดยใช้ Raspberry Pi จำนวน 56 เครื่อง ที่ประมวลผลข้อมูลจริงจากลูกค้า ความร้อนที่เกิดขึ้นจากการทำงานของเซิร์ฟเวอร์ถูกนำไปใช้กับระบบน้ำร้อนภายในบ้าน ทำให้ค่าใช้จ่ายด้านพลังงานของครอบครัวลดลงเหลือเพียง £40 ต่อเดือน ซึ่งถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับครัวเรือนทั่วไปในสหราชอาณาจักร แม้ระบบนี้จะไม่ถูกออกแบบมาสำหรับงาน AI หนัก ๆ แต่สามารถใช้รันแอปพลิเคชันหรือวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากได้ และในอนาคตลูกค้าจะสามารถจ่ายเงินให้ Thermify เพื่อประมวลผลข้อมูลผ่าน HeatHub ที่กระจายอยู่ตามบ้านเรือนต่าง ๆ ซึ่งจะกลายเป็น ศูนย์ข้อมูลแบบกระจาย (distributed data center) นอกจาก Thermify แล้ว ยังมีบริษัท Deep Green ที่ใช้แนวคิดคล้ายกัน โดยติดตั้งไมโครดาต้าเซ็นเตอร์ในสระว่ายน้ำและศูนย์กีฬา ความร้อนที่เกิดขึ้นสามารถครอบคลุมความต้องการพลังงานมากกว่า 60% ของสระว่ายน้ำต่อปี ลดค่าแก๊สและการปล่อยคาร์บอนลงได้อย่างมีนัยสำคัญ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ HeatHub ในโรงเก็บของหลังบ้านช่วยลดค่าไฟเหลือ £40/เดือน ➡️ ใช้ Raspberry Pi 56 เครื่องในการประมวลผลและเปลี่ยนความร้อนเป็นพลังงานทำความร้อน ✅ เป็นส่วนหนึ่งของ SHIELD Project โดย UK Power Networks ➡️ มุ่งช่วยครัวเรือนรายได้น้อยเข้าสู่การใช้พลังงาน net-zero ✅ HeatHub จะกลายเป็นศูนย์ข้อมูลแบบกระจาย ➡️ ลูกค้าสามารถจ่ายเงินให้ Thermify เพื่อใช้พลังประมวลผล ✅ Deep Green ใช้แนวคิดคล้ายกันในสระว่ายน้ำและศูนย์กีฬา ➡️ ครอบคลุมความต้องการพลังงานมากกว่า 60% และลดการปล่อยคาร์บอน ‼️ ไม่เหมาะสำหรับการติดตั้งเอง (DIY) ⛔ บ้านทั่วไปมีข้อจำกัดด้านไฟฟ้าและอาจเสี่ยงต่อการโอเวอร์โหลดหรือไฟไหม้ ‼️ ระบบหม้อไอน้ำทั่วไปไม่รองรับการทำงานร่วมกับ HeatHub ⛔ อาจมีปัญหาด้านประกันภัยและการปฏิบัติตามข้อกำหนดของโครงข่ายไฟฟ้า https://www.tomshardware.com/tech-industry/uk-couples-garden-shed-data-center-heats-home-and-cuts-bills
    0 Comments 0 Shares 40 Views 0 Reviews
  • Asus เพิ่มการจัดการพลังงานแยก E-Core/P-Core บน ROG Ally X

    Asus ได้เปิดตัวอัปเดต Armory Crate SE เวอร์ชันใหม่ที่มาพร้อมการปรับปรุงครั้งใหญ่สำหรับเครื่องเกมพกพา ROG Ally และ Ally X โดยฟีเจอร์ที่โดดเด่นที่สุดคือการเพิ่มตัวเลือก การจัดการพลังงานแยกสำหรับ Efficiency Core (E-Core) และ Performance Core (P-Core) บนชิป AMD Z2 Extreme (Z2E) ที่ใช้ใน ROG Ally X ซึ่งเป็นการออกแบบแบบไฮบริดที่รวม 3 Zen 5 P-Core และ 5 Zen 5C E-Core เข้าด้วยกัน

    ก่อนหน้านี้ผู้ใช้ไม่สามารถควบคุมการใช้พลังงานของแต่ละกลุ่มคอร์ได้ แต่การอัปเดตนี้ทำให้สามารถปรับแต่ง TDP ของแต่ละกลุ่มคอร์ ได้ตามต้องการ เช่น ลดพลังงานของ P-Core เพื่อยืดอายุแบตเตอรี่เมื่อเล่นเกมเบา ๆ หรือเพิ่มพลังงานให้ P-Core เพื่อดันเฟรมเรตในเกมที่ต้องการประสิทธิภาพสูง

    นอกจากฟีเจอร์หลักแล้ว Asus ยังได้ปรับปรุง FPS Limiter โดยเปลี่ยนค่า Preset จาก 45 FPS เป็น 40 FPS เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานจริง รวมถึงเพิ่มตัวเลือก Windows Power Mode ในโหมด Manual และแก้ไขบั๊กต่าง ๆ ที่เคยสร้างปัญหาในการใช้งาน อีกทั้งยังมีการปรับปรุง UI สีสันใหม่ และเพิ่มการรองรับ Xbox Fullscreen Experience ที่สามารถเข้าออกได้ด้วยปุ่มลัดที่ผู้ใช้กำหนดเอง

    การอัปเดตนี้ยังมาพร้อม MCU และ BIOS update ที่ช่วยปรับปรุงการใช้พลังงานในโหมด Windows Modern Standby, เพิ่มแรงสั่นสะเทือนของ impulse triggers และทำให้ระบบ Cloud Recovery ทำงานได้ราบรื่นขึ้น ถือเป็นการยกระดับประสบการณ์การเล่นเกมบน ROG Ally ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Armory Crate SE อัปเดตใหม่บน ROG Ally และ Ally X
    เพิ่มการจัดการพลังงานแยกสำหรับ E-Core และ P-Core บนชิป Z2 Extreme

    ผู้ใช้สามารถปรับแต่ง TDP ของแต่ละกลุ่มคอร์ได้
    เลือกเน้นประสิทธิภาพหรือยืดอายุแบตเตอรี่ตามการใช้งาน

    FPS Limiter ถูกปรับจาก 45 FPS เป็น 40 FPS
    เพื่อให้เหมาะสมกับการเล่นเกมจริงและการประหยัดพลังงาน

    เพิ่ม Windows Power Mode และ Xbox Fullscreen Experience
    ใช้งานได้สะดวกขึ้นด้วยปุ่มลัดที่กำหนดเอง

    MCU และ BIOS update ปรับปรุงระบบโดยรวม
    ลดการใช้พลังงาน, ปรับปรุงแรงสั่นสะเทือน และทำให้ Cloud Recovery ราบรื่นขึ้น

    การปรับแต่งพลังงานผิดพลาดอาจทำให้เครื่องไม่เสถียร
    ผู้ใช้ควรระวังการตั้งค่า TDP ที่สูงหรือต่ำเกินไป

    FPS Limiter ที่ต่ำลงอาจไม่เหมาะกับเกมที่ต้องการความลื่นไหลสูง
    ผู้เล่นที่เน้นเฟรมเรตสูงควรปรับแต่งเองตามความเหมาะสม

    https://www.tomshardware.com/video-games/handheld-gaming/asus-adds-separate-e-core-and-p-core-power-management-to-the-z2-extreme-powered-rog-xbox-ally-x-major-armory-crate-se-update-released-for-all-of-its-gaming-handhelds
    🎮 Asus เพิ่มการจัดการพลังงานแยก E-Core/P-Core บน ROG Ally X Asus ได้เปิดตัวอัปเดต Armory Crate SE เวอร์ชันใหม่ที่มาพร้อมการปรับปรุงครั้งใหญ่สำหรับเครื่องเกมพกพา ROG Ally และ Ally X โดยฟีเจอร์ที่โดดเด่นที่สุดคือการเพิ่มตัวเลือก การจัดการพลังงานแยกสำหรับ Efficiency Core (E-Core) และ Performance Core (P-Core) บนชิป AMD Z2 Extreme (Z2E) ที่ใช้ใน ROG Ally X ซึ่งเป็นการออกแบบแบบไฮบริดที่รวม 3 Zen 5 P-Core และ 5 Zen 5C E-Core เข้าด้วยกัน ก่อนหน้านี้ผู้ใช้ไม่สามารถควบคุมการใช้พลังงานของแต่ละกลุ่มคอร์ได้ แต่การอัปเดตนี้ทำให้สามารถปรับแต่ง TDP ของแต่ละกลุ่มคอร์ ได้ตามต้องการ เช่น ลดพลังงานของ P-Core เพื่อยืดอายุแบตเตอรี่เมื่อเล่นเกมเบา ๆ หรือเพิ่มพลังงานให้ P-Core เพื่อดันเฟรมเรตในเกมที่ต้องการประสิทธิภาพสูง นอกจากฟีเจอร์หลักแล้ว Asus ยังได้ปรับปรุง FPS Limiter โดยเปลี่ยนค่า Preset จาก 45 FPS เป็น 40 FPS เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานจริง รวมถึงเพิ่มตัวเลือก Windows Power Mode ในโหมด Manual และแก้ไขบั๊กต่าง ๆ ที่เคยสร้างปัญหาในการใช้งาน อีกทั้งยังมีการปรับปรุง UI สีสันใหม่ และเพิ่มการรองรับ Xbox Fullscreen Experience ที่สามารถเข้าออกได้ด้วยปุ่มลัดที่ผู้ใช้กำหนดเอง การอัปเดตนี้ยังมาพร้อม MCU และ BIOS update ที่ช่วยปรับปรุงการใช้พลังงานในโหมด Windows Modern Standby, เพิ่มแรงสั่นสะเทือนของ impulse triggers และทำให้ระบบ Cloud Recovery ทำงานได้ราบรื่นขึ้น ถือเป็นการยกระดับประสบการณ์การเล่นเกมบน ROG Ally ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Armory Crate SE อัปเดตใหม่บน ROG Ally และ Ally X ➡️ เพิ่มการจัดการพลังงานแยกสำหรับ E-Core และ P-Core บนชิป Z2 Extreme ✅ ผู้ใช้สามารถปรับแต่ง TDP ของแต่ละกลุ่มคอร์ได้ ➡️ เลือกเน้นประสิทธิภาพหรือยืดอายุแบตเตอรี่ตามการใช้งาน ✅ FPS Limiter ถูกปรับจาก 45 FPS เป็น 40 FPS ➡️ เพื่อให้เหมาะสมกับการเล่นเกมจริงและการประหยัดพลังงาน ✅ เพิ่ม Windows Power Mode และ Xbox Fullscreen Experience ➡️ ใช้งานได้สะดวกขึ้นด้วยปุ่มลัดที่กำหนดเอง ✅ MCU และ BIOS update ปรับปรุงระบบโดยรวม ➡️ ลดการใช้พลังงาน, ปรับปรุงแรงสั่นสะเทือน และทำให้ Cloud Recovery ราบรื่นขึ้น ‼️ การปรับแต่งพลังงานผิดพลาดอาจทำให้เครื่องไม่เสถียร ⛔ ผู้ใช้ควรระวังการตั้งค่า TDP ที่สูงหรือต่ำเกินไป ‼️ FPS Limiter ที่ต่ำลงอาจไม่เหมาะกับเกมที่ต้องการความลื่นไหลสูง ⛔ ผู้เล่นที่เน้นเฟรมเรตสูงควรปรับแต่งเองตามความเหมาะสม https://www.tomshardware.com/video-games/handheld-gaming/asus-adds-separate-e-core-and-p-core-power-management-to-the-z2-extreme-powered-rog-xbox-ally-x-major-armory-crate-se-update-released-for-all-of-its-gaming-handhelds
    0 Comments 0 Shares 46 Views 0 Reviews
  • I Will Walk Away … พี่เผ่นก่อนนะน้อง ตอนที่ 5 – 6

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” I will walk away …พี่เผ่นก่อนนะน้อง”
    ตอน 5
    เป็นไปได้หรือว่า อเมริกาแสนจะชาญฉลาดกำโลกอยู่ในมือจนกระดิกไม่ออกมาตั้ง 70 ปี จะมาเสียทีให้กับอิหร่าน คงมีคนคิดกัน ตกลงอิหร่านต้มอเมริกา หรืออเมริกาต้มอิหร่านกันแน่ ก่อนจะลงความเห็น ลองฟังความเห็นอีกสักชิ้น เอามาจากบทความที่ลงในวารสาร Foreign Affairs วารสารที่ออกเป็นประจำของ CFR เมื่อปี ค.ศ.2012 ก่อนที่อเมริกาคิดจะเจรจากับอิหร่านไม่นาน
    คงมีคนสงสัย ทำไมลุงนิทานอ้างแต่ CFR ก็เขาเป็นผู้กำกับรัฐบาลอเมริกา ผมไม่ตามผู้กำกับ ผมก็ไม่รู้ว่าดาราคนไหน เล่นบทอะไร แล้วเล่นได้สมบทบาทแค่ไหน
    บทความนี้ชื่อ ” Time to Attack Iran” โดย Matthew Kroenig
    นายโคร เขาบอกว่า บรรดานักคิด และผู้วางนโยบายของอเมริกา ต่างโต้เถียงกันว่า อเมริกาควรจะจัดการเรื่องอิหร่านอย่างไรดี
    ความเห็นหนึ่ง บอกว่า เราควรบุกอิหร่าน และทำลายอุปกรณ์ทั้งปวงที่อิหร่านใช้ในการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ให้เหี้ยนเลย
    ฝ่ายไม่เห็นด้วยกับการบุก บอกว่า การใช้กำลังทหารกับอิหร่านเป็นเรื่องที่ไม่เข้าท่า และจะไม่เข้าท่าหนักขึ้น ถ้าเราไปเจออาวุธนิวเคลียร์ของ จริงของอิหร่าน นอกจากนี้ การบุกอิหร่าน โอกาสไม่สำเร็จมีสูง และถึงจะทำสำเร็จ มันอาจจะเป็นการจุดไม้ขีด ให้เรื่องบานปลาย กลายเป็นสงคราม และอาจสร้างวิกฤติทางเศรษฐกืจ ให้กับอเมริกา และอาจลามไปทั้งโลกด้วยก็ได้
    นอกจากนี้ ยังมีฝ่ายที่แนะนำให้อเมริกาใช้วิธีการที่ไม่ใช่ทางทหาร เช่นใช้การเจรจาทางการทูต การคว่ำบาตร หรือการปฏิบัติการณ์ลับ เพราะการใช้กำลังทางทหารเต็มรูปแบบ มีค่าใช้จ่ายและต้นทุนด้านต่างๆสูง จนใจไม่ถึงที่จะควักกระเป๋าให้ (ตอนนั้น)
    ยังมีพวกนักวิเคราะห์ ที่บอกว่า พวกไม่เห็นด้วยกับการบุกอิหร่าน มองไม่เห็นอันตรายที่แท้จริง ที่อาจเกิดขึ้นกับผลประโยชน์ของอเมริกา ที่อยู่ในและนอกตะวันออกกลาง จากการปล่อยให้อิหร่านที่มีนิวเคลียร์ ลอยนวลอยู่ตามสบาย มันเป็นการคุกคามผลประโยชน์ของอเมริกาโดยตรง
    ส่วนนายโครเอง มีชื่อเสียงว่า สนับสนุนการบุกอิหร่าน เขาบอกว่า โดยการใช้กำลังทหาร และใช้อาวุธที่มีประสิทธิภาพสูง ล๊อคเป้าจ่อไปที่โครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่าน แค่นั้นเรื่องก็จบ อเมริกาและตะวันออกกลาง ก็จะได้อยู่อย่างสงบจากเรื่องนิวเคลียร์ของอิหร่านเสียที
    โลกฝ่ายตะวันตก หรือฝ่ายอเมริกานั่นแหละ พยายามกดดันที่โครงการพัฒนานิวเคลียร์ของอิหร่านมานานแล้ว แต่ทำไม่สำเร็จ ขนาดปล่อยไวรัส Stuxnet เข้าไปในระบบของอิหร่าน ไม่นาน อิหร่านก็แก้ไขฟื้นขึ้นมาใหม่ Institute of Science and International Security บอกว่า นอกจากอิหร่านฟื้นเร็วแล้ว ระยะเวลาการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่าน แต่ละครั้งยังเร็วขึ้นอีกด้วย น่าจะใช้เวลาเพียง 6 เดือนเท่านั้น และอิหร่านมีแผนที่จะย้ายโครงการผลิตนิวเคลียร์นี้ ไปไว้ในสถานที่ ที่ยากแก่เข้าถึง ทำให้โอกาสที่จะการใช้กำลังทหารแคบลงไปอีก ขณะเดียวกัน หลายประเทศในภูมิภาคเริ่มสงสัยในสมรรถภาพ ของอเมริกาว่า อเมริกาทำอะไรอยู่ ปล่อยอิหร่านผลิตนิวเคลียร์ยังกับผลิตของเล่น
    อเมริกาไม่ได้อยู่เฉย อเมริกาคิด แต่ยังคิดไม่ตก อเมริกาคิดจะใช้ cold war model เหมือนตอนสงครามเย็นปิดล้อมสหภาพโซเวียต แต่สภาพประเทศในตะวันออกกลาง ต่างกับประเทศในยุโรป อย่างหน้ามือกับหลังมือเลย อย่าว่าจะไปปิดล้อมใครเลย แค่พร้อมพอที่จะป้องกันตัวเองยัง ทำไม่ได้ เพราะฉนั้น ถ้าคิดจะปิดล้อมอิหร่าน ต้องใช้งบบาน เพราะโดยสภาพภูมิประเทศ และทำเลที่ตั้งของอิหร่าน อเมริกาต้องส่งทั้ง กองทัพเรือ กองทัพบก รวมทั้งอาจจะต้องจัดส่งนิวเคลียร์ ไปให้ทั้งตะวันออกกลาง คอยจ่อคอหอยอิหร่าน แล้วทั้งหมด ไม่ใช่ไปอยู่วันสองวัน แล้วกลับบ้านนอน แต่ต้องอยู่ถาวรเป็นหลาย 10 ปี ไม่คุ้มค่าน้ำมันที่ไปต้มพวกเสี่ยปั้มมา ไหนจะลาดตระเวน ไหนจะป้องกัน ไหนจะตามเฝ้าอิหร่าน ไหนจะตรวจสอบอิหร่าน ฯลฯ
    พอเห็นแล้วนะครับ ว่า อเมริการู้ว่า อิหร่านกำลังทำอะไร คิดอะไร และอเมริกาน่าจะทำอะไร ปัญหาอยู่ที่ว่า แล้วทำไมอเมริกาถึงเลือกทำ อย่างที่กำลังโดนพวกตัวเองด่า และถ้า วันที่ 7 กรกฎาคมนี้ ยังเจรจากันไม่เสร็จ อเมริกาจะทำอย่างไรต่อไป และผลมันจะเป็นอย่างไร
    ###############
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” I will walk away …พี่เผ่นก่อนนะน้อง”

    ตอน 6 (จบ)
    ก่อนไปถึงอเมริกา ขอย้อนกลับมาที่อิหร่าน ที่เขี้ยวลากดินหน่อย สมันน้อยแดนสยามจะได้เข้าใจว่า การจะออกจากคอกนั้นทำได้ ถ้าใช้สติปัญญา มีความตั้งใจทำจริง มีความอดทน ยอมลำบาก ไม่เห็นแก่ตัว และที่สำคัญต้องสามัคคี พร้อมใจกันทั้งชาติ
    อิหร่านโดนนักล่า ทั้งที่มาจากเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้าย จนถึงนักล่าใบตองแห้ง ร่วมมือกัน แย่งชิงกัน เพื่อหลอกเอาทรัพยากรมีค่ามหา ศาลของอิหร่าน ด้วยการต้มเปื่อย ยุแยง แทรกแซง ปั่นหัว ฟอกย้อม ชาวอิหร่านทุกระดับ จนอิหร่านเสียทรัพยากร เสียพลเมือง เสียผู้นำประเทศ อย่างน่าเสียดายไปมากมาย ตั้งแต่ปี 1900 ต้นๆ โดนต้มมา 100 กว่าปี ไม่คิดปีนขึ้นมาจากหม้อ ก็.. คงต้องปล่อยไปตามกรรม
    แต่อิหร่าน ฮึดสู้ แม้จะถูกคว่ำบาตรอย่างหนักหนาสา หัส การฮึดสู้ อาจมีความลำบากยากเข็ญ ต่อการดำรงชีวิตประจำวัน และการทำธุกิจ ฯลฯ แต่ เพื่อรักษาประเทศ มีชาวอิหร่านที่คิดทำ และอดทน พวกเขาจะทำสำเร็จหรือไม่ ต้องดูกันต่อไป แต่ถ้าไม่ฮึดสู้ ก็มีแต่ถูกเขาจูงกลับเข้าคอก แล้วปอกลอกเอาสมบัติของประเทศไป….. เหมือนเดิม
    อิหร่านเชื่อว่า ทางออกจากกำมือของตะวันตกมีทางเดียวคือ ต้องพึ่งตัวเองให้ได้ อิหร่านวางยุทธศาสตร์ สร้างชาติใหม่ที่พึ่งตัวเองได้ หนึ่งในกระบวนการสร้างชาติคือ การหาพลังงานใช้ในประเทศด้วยวิธีอื่นด้วย ไม่ใช่จากการขุดน้ำมันมาใช้อย่างเดียว น้ำมันของประเทศเอาไว้ขายเป็นรายได้ อิหร่านจึงคิดพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์ คิดได้ 1 ก็ไป ถึง 2 แล้วก็เลยไปถึงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ อิหร่านบอก ไม่ใช่มีไว้เพื่อเป็นการรุกราน แต่ไว้ใช้เป็นการป้องกันตัว และเป็นเครื่องต่อรอง ประเทศที่มองการณ์ไกล ไม่อยากถูกครอบงำชักจูง อยู่ในกำมือผู้อื่นตลอดกาล ก็ย่อมคิดอย่างนี้
    เมื่อแรกๆ ไม่มีใครเชื่อว่า อิหร่านจะพัฒนาได้ แต่จากการเมืองของอิหร่านเอง ทำให้คนใน เอาความมาบอกคนนอก แล้วอเมริกาก็เลยรู้ แต่รู้ช้าไปนิด เมื่ออิหร่านเดินหน้าไปไกลพอสมควร อเมริกาคิดหนัก อย่างที่นายโคร เอามาเขียนนั่นแหละ่
    อเมริกาคิดว่า ยังไม่ใช่เวลาทำสงครามกับอิหร่าน อเมริกาเพิ่งขูดเนื้ออิรัคเสร็จ จะมาขูดเนื้ออิหร่านต่อ เหนื่อยตายชัก ทหารก็ยังไม่ฟื้นตัว ส่วนการปิดล้อม ก็ค่าใช้จ่ายสูงสะบั้น อเมริกาจึงใช้วิธีทางการเมือง แยงให้ตะวันออกกลางวุ่นวาย บวกกับ การคว่ำบาตร น่าจะทำให้อิหร่าน เหนื่อยและสยบ แต่อเมริกา คงลืมคิดไป โลกตอนนี้ กับโลก เมื่อ 50 ปีก่อน ต่างกันแยะ
    และยิ่งต่างกันแยะมากขึ้น ตั้งแต่ปี ค.ศ.2000 เป็นต้นมา โลกไม่ได้มีขั้วเดียว ที่มีอเมริกาและพวก เป็นผู้อำนวยการใหญ่ของโลกเท่านั้น จากการบีบคั้น แสดงอำนาจ เอาเปรียบ และความไม่เป็นธรรมของอเมริกาเอง จึงค่อยๆมีแยกตัว และจับมือ สร้างกลุ่มใหม่กันขึ้น มาถึงวันนี้ ขั้วอำนาจดูเหมือนจะเริ่มแบ่งชัดขึ้น ระหว่างแองโกลอเมริกัน บวกยุโรป และสมุนค่ายหนึ่ง และ มี รัสเซีย จีน กับพวกอยู่อีกค่ายหนึ่ง
    ดอลล่าร์กำลังถูกท้าทาย เหมือนที่เงินปอนด์เคยถูกชิงตำแหน่ง จากผลของสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 โลกก็แบ่งเป็น 2 ค่าย นี่เรากำลังเดินเข้าไปสู่วัฏฏะ เดิมอีกหรือ โดยมีเรื่องของอิหร่าน เป็นตัวแปร หรือเป็นชนวน…
    อิหร่านยอมที่จะเจรจากับอเมริกา เรื่องลดการพัฒนานิวเคลียร์ เพราะเป็นการเจรจาที่อิหร่าน มีแต่ได้ กับเสมอตัว อิหร่านต้องการให้ฝ่ายตะวันตก ปลดการคว่ำบาตรทั้งหมด ที่เกี่ยวกับอิหร่าน ถ้าได้ตามต้องการ อิหร่านจะกลายเป็นเสี่ยใหญ่แห่ง ตะวันออกกลาง เขาว่าเป็นเงินมากมาย ประเมินกันไม่ถูก เพราะอิหร่านอุบเงียบ แถมใช้ตัวแทน ทำหลายซับหลายซ้อน ขณะเดียวกัน ในระหว่างเจรจา อิหร่านก็เดินหน้าโครงการต่อ แถมโยกย้าย แยกแยะ จนยากแก่การติดตาม ถ้าการเจรจาไม่สำเร็จ อิหร่านก็กลับมาอยู่สภาพ เดินหน้าพัฒนาต่ออย่างที่ทำอยู่ ชีวิตก็เหมือนเดิม เคยลำบากมาแล้ว ก็ลำบากต่ออีกนิด แต่เมื่อมีนิวเคลียร์ครบ เสียงของอิหร่านที่จะเจรจา หรือ พูดอะไรต่อไป ก็คงต่างไปบ้าง อเมริกาก็คิดเองแล้วกัน จะเป็นเสียงอย่างไหน อเมริกาก็เคยใช้มาสาระพัดเสียงแล้วนี่
    วันที่ 7 กรกฎาคมนี้ ถ้า ฝ่าย P5+1 ตกลงกับอิหร่านได้ครบถ้วน ตามความต้องการของทั้ง 2 ฝ่าย บทที่แสดงหน้าจอ ก็คงชนิดได้ตุ๊กตาทอง มีการจับมือ เอาบุญเอาคุญ ตามธรรมเนียม และมันคงเป็นแค่ “การซื้อเวลา” เมื่อไหร่ที่อิหร่านพร้อม เราคงได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในตะวันออกกลางอย่างเห็นชัด เสี่ยปั้มทั้งหลาย ก็เฝ้าปั้มไว้ให้ดีก็แล้วกัน
    สำหรับอเมริกา อเมริกายอมเล่นบทคว่ำบาตร เพราะอเมริกา “ยังไม่พร้อม” เล่นบทอื่น ไม่ใช่อเมริกา ประเมินผิด ไอ้ถังขยะต่างๆ ที่ออกมาทำเสียงเขียว มันเป็นการเล่นละคร กันทั้งนั้น ต่างก็รู้คิวกัน เจรจาให้ยาว ทำเป็นตกลง ให้อิหร่านถลาเข้ามา แล้วก็ตวัดกลับ เพราะอเมริกา ไม่มีทางยกเลิกการคว่ำบาตร อิหร่านอย่างจริงจัง แม้จะทำเป็นตกลง ท้ายที่สุดอิหร่านก็จะได้แต่กินแห้ว อเมริกาแค่ซื้อเวลา รอให้มีความพร้อมทางฝั่งของตนเองมากที่สุด
    อเมริกา โดยไอ้ถังขยะ CFR (อีกแล้ว) ลงทุนติวเข้มให้แก่ อิสราเอล และซาอุดิ 2 มิตรชิดใกล้ของอเมริกาในตะวันออกกลาง เกี่ยวกับเรื่องอิหร่าน ตั้งแต่ปีที่แล้ว ล่าสุด ประชุมติวกัน เมื่อต้นเดือนมิถุนายนนี้เอง ข่าวหลุดมาจาก นาย Anwar Eshski อดีตนายพล และทูตซาอุดิ ประจำอเมริกา อีกฝ่ายคือ นาย Dore Gold อดีตทูตอิสราเอล ประจำสหประชาชาติ มีการประชุมเช่นนี้ มาแล้ว 5 ครั้ง ตั้งแต่ปี ค.ศ.2014 อเมริกา ไม่ได้หลุดคิวเลย
    นอกจากนี้ เมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่าน เช่นเดียวกัน อเมริกายังส่งนาย John Brennan ผอ CIA บินตรงไปสรุปข้อมูลลับเกี่ยวกับอิหร่าน ให้กับหน่วยงานข่าวกรองของอิสราเอล Mossad
    แปลว่า อเมริกาน่าจะคิดขยับหมากแล้ว เรื่องการเจรจาก็ปล่อยไป เจรจาสำเร็จ หรือไม่สำเร็จ สำหรับอเมริกา ไม่มีอะไรต่างกัน เพราะอเมริกาน่าจะมีโผอยู่ในใจแล้ว เรื่องนิวเคลียร์อิหร่าน เป็นเหมือนหนังฮอลลีวู้ดสร้าง ซี่รี่ส์ยาว ให้เราดูติดต่อกันมา 2 ปี เท่านั้นเอง
    อเมริกาไม่มีวันจะปล่อยมือที่บีบคออิหร่าน แม้อเมริกาจะนับรัสเซีย เป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งตลอดกาล และนับจีนเป็นคู่แข่งหมายเลขหนี่ง ซี่งแข่งมากๆ ก็จะถูกเปลี่ยนสถานะเป็นศัตรูไปด้วย แต่กรณีของรัสเซีย เป็นเรื่องของ “ความอยากได้ ” ทรัพยากรของรัสเซีย บวกกับความแหยงสภาพการฟื้นคืนชีพอย่างรวดเร็วของรัสเซีย อเมริกาไม่มีผลประโยชน์โดยตรง มากมายในภูมิภาคของรัสเซีย มันเป็นเรื่องของยุทธศาสตร์และภูมิศาสตร์การเมืองมากกว่า กรณีของจีน ก็ใกล้เคียงกับกรณีรัสเซีย แต่หนักไปในแง่ที่อเมริกาถือว่า แปซิฟิกและเอเซีย เป็นเหมือนบ้านที่ 2 ของอเมริกา มีแต่เด็กๆ ในความปกครองทั้งนั้น เพราะฉะนั้น แค่คิดว่าจีนจะมาใหญ่กว่า หรือแค่เป็นคู่แข็ง อเมริกาก็ทนไม่ได้อยู่แล้ว
    แต่กรณีอิหร่าน ขณะที่อเมริกาอยากได้ ทรัพยากรของอิหร่าน แต่อิหร่านวันนี้ เป็นอิหร่านที่มีพิษ และอเมริกายังคิดเซรุ่มกันพิษรอบใหม่ของอิหร่านยังไม่ได้ ถ้าอเมริกาขยับผิด ผลประโยชน์มหาศาลของอเมริกา ในตะวันออกกลางจะฉิบหายเกลี้ยงไปด้วย ไม่ใช่แค่ไม่ได้สมบัติของอิหร่านอย่างเดียว เรื่องอิหร่าน เป็นเรื่องกระทบตรงกับผลประโยชน์ของอเมริกา เป็นเรื่องที่อเมริการู้อยู่แก่ใจ กำลังทำใจ และกำลังหาทางขจัดปัญหาแบบเบ็ดเสร็จ เมื่ออเมริกาพร้อม โลกคงสะเทือน
    แต่การขยับหมากของอเมริกา ไล่มาตั้งแต่ ยูเครน ตะวันออกกลาง มาถึงหมากญี่ปุ่น (จะสำเร็จหรือไม่ ไม่รู้ แต่ผมว่า ร่อแร่ แก้รัฐธรรมนูญเพื่อไปแบกถาดให้เขานี่ คนญี่ปุ่นน่าจะคิดออกนะ ว่าถูกเขาหลอกใช้ขนาดไหน) เหมือนความพร้อมของอเมริกา จะใกล้เข้ามาทุกที จะพร้อมลุยอิหร่านประเทศเล็กแต่มีพิษ หรือแค่พร้อมตั้งรับ เพราะรู้ว่า พิษคงจะเริ่มออกฤทธิ์อีกไม่ช้า และแพร่กระจายไปหลายทิศ ในอีกไม่นาน ก็ต้องดูกันต่อไป
    กลับมาที่อิหร่านอีกที ถ้า วันที่ 7 กรกฏาคมนี่ อิหร่านต้องฟังเพลง I will walk away … อิหร่านจะเดินหมากอย่างไรต่อ จะหงิมๆ เก็บของ กลับบ้านไหม อิหร่านก็คงทำอย่างนั้น แต่กลับบ้านไปทำอะไร ผมไม่รู้ด้วย แต่ผมตั้งใจว่า ถ้าต้องฟัง พณฯใบตองแห้งครวญเพลง หลังจากวันที่ 7 กรกฏาคม ผมคง ตั้งสติให้นิ่ง ตามข่าวถี่หน่อย กินให้อร่อย นอนให้อิ่ม เก็บสะสมไว้ยามจำเป็นครับ
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    7 ก.ค. 2558
    I Will Walk Away … พี่เผ่นก่อนนะน้อง ตอนที่ 5 – 6 นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” I will walk away …พี่เผ่นก่อนนะน้อง” ตอน 5 เป็นไปได้หรือว่า อเมริกาแสนจะชาญฉลาดกำโลกอยู่ในมือจนกระดิกไม่ออกมาตั้ง 70 ปี จะมาเสียทีให้กับอิหร่าน คงมีคนคิดกัน ตกลงอิหร่านต้มอเมริกา หรืออเมริกาต้มอิหร่านกันแน่ ก่อนจะลงความเห็น ลองฟังความเห็นอีกสักชิ้น เอามาจากบทความที่ลงในวารสาร Foreign Affairs วารสารที่ออกเป็นประจำของ CFR เมื่อปี ค.ศ.2012 ก่อนที่อเมริกาคิดจะเจรจากับอิหร่านไม่นาน คงมีคนสงสัย ทำไมลุงนิทานอ้างแต่ CFR ก็เขาเป็นผู้กำกับรัฐบาลอเมริกา ผมไม่ตามผู้กำกับ ผมก็ไม่รู้ว่าดาราคนไหน เล่นบทอะไร แล้วเล่นได้สมบทบาทแค่ไหน บทความนี้ชื่อ ” Time to Attack Iran” โดย Matthew Kroenig นายโคร เขาบอกว่า บรรดานักคิด และผู้วางนโยบายของอเมริกา ต่างโต้เถียงกันว่า อเมริกาควรจะจัดการเรื่องอิหร่านอย่างไรดี ความเห็นหนึ่ง บอกว่า เราควรบุกอิหร่าน และทำลายอุปกรณ์ทั้งปวงที่อิหร่านใช้ในการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ให้เหี้ยนเลย ฝ่ายไม่เห็นด้วยกับการบุก บอกว่า การใช้กำลังทหารกับอิหร่านเป็นเรื่องที่ไม่เข้าท่า และจะไม่เข้าท่าหนักขึ้น ถ้าเราไปเจออาวุธนิวเคลียร์ของ จริงของอิหร่าน นอกจากนี้ การบุกอิหร่าน โอกาสไม่สำเร็จมีสูง และถึงจะทำสำเร็จ มันอาจจะเป็นการจุดไม้ขีด ให้เรื่องบานปลาย กลายเป็นสงคราม และอาจสร้างวิกฤติทางเศรษฐกืจ ให้กับอเมริกา และอาจลามไปทั้งโลกด้วยก็ได้ นอกจากนี้ ยังมีฝ่ายที่แนะนำให้อเมริกาใช้วิธีการที่ไม่ใช่ทางทหาร เช่นใช้การเจรจาทางการทูต การคว่ำบาตร หรือการปฏิบัติการณ์ลับ เพราะการใช้กำลังทางทหารเต็มรูปแบบ มีค่าใช้จ่ายและต้นทุนด้านต่างๆสูง จนใจไม่ถึงที่จะควักกระเป๋าให้ (ตอนนั้น) ยังมีพวกนักวิเคราะห์ ที่บอกว่า พวกไม่เห็นด้วยกับการบุกอิหร่าน มองไม่เห็นอันตรายที่แท้จริง ที่อาจเกิดขึ้นกับผลประโยชน์ของอเมริกา ที่อยู่ในและนอกตะวันออกกลาง จากการปล่อยให้อิหร่านที่มีนิวเคลียร์ ลอยนวลอยู่ตามสบาย มันเป็นการคุกคามผลประโยชน์ของอเมริกาโดยตรง ส่วนนายโครเอง มีชื่อเสียงว่า สนับสนุนการบุกอิหร่าน เขาบอกว่า โดยการใช้กำลังทหาร และใช้อาวุธที่มีประสิทธิภาพสูง ล๊อคเป้าจ่อไปที่โครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่าน แค่นั้นเรื่องก็จบ อเมริกาและตะวันออกกลาง ก็จะได้อยู่อย่างสงบจากเรื่องนิวเคลียร์ของอิหร่านเสียที โลกฝ่ายตะวันตก หรือฝ่ายอเมริกานั่นแหละ พยายามกดดันที่โครงการพัฒนานิวเคลียร์ของอิหร่านมานานแล้ว แต่ทำไม่สำเร็จ ขนาดปล่อยไวรัส Stuxnet เข้าไปในระบบของอิหร่าน ไม่นาน อิหร่านก็แก้ไขฟื้นขึ้นมาใหม่ Institute of Science and International Security บอกว่า นอกจากอิหร่านฟื้นเร็วแล้ว ระยะเวลาการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่าน แต่ละครั้งยังเร็วขึ้นอีกด้วย น่าจะใช้เวลาเพียง 6 เดือนเท่านั้น และอิหร่านมีแผนที่จะย้ายโครงการผลิตนิวเคลียร์นี้ ไปไว้ในสถานที่ ที่ยากแก่เข้าถึง ทำให้โอกาสที่จะการใช้กำลังทหารแคบลงไปอีก ขณะเดียวกัน หลายประเทศในภูมิภาคเริ่มสงสัยในสมรรถภาพ ของอเมริกาว่า อเมริกาทำอะไรอยู่ ปล่อยอิหร่านผลิตนิวเคลียร์ยังกับผลิตของเล่น อเมริกาไม่ได้อยู่เฉย อเมริกาคิด แต่ยังคิดไม่ตก อเมริกาคิดจะใช้ cold war model เหมือนตอนสงครามเย็นปิดล้อมสหภาพโซเวียต แต่สภาพประเทศในตะวันออกกลาง ต่างกับประเทศในยุโรป อย่างหน้ามือกับหลังมือเลย อย่าว่าจะไปปิดล้อมใครเลย แค่พร้อมพอที่จะป้องกันตัวเองยัง ทำไม่ได้ เพราะฉนั้น ถ้าคิดจะปิดล้อมอิหร่าน ต้องใช้งบบาน เพราะโดยสภาพภูมิประเทศ และทำเลที่ตั้งของอิหร่าน อเมริกาต้องส่งทั้ง กองทัพเรือ กองทัพบก รวมทั้งอาจจะต้องจัดส่งนิวเคลียร์ ไปให้ทั้งตะวันออกกลาง คอยจ่อคอหอยอิหร่าน แล้วทั้งหมด ไม่ใช่ไปอยู่วันสองวัน แล้วกลับบ้านนอน แต่ต้องอยู่ถาวรเป็นหลาย 10 ปี ไม่คุ้มค่าน้ำมันที่ไปต้มพวกเสี่ยปั้มมา ไหนจะลาดตระเวน ไหนจะป้องกัน ไหนจะตามเฝ้าอิหร่าน ไหนจะตรวจสอบอิหร่าน ฯลฯ พอเห็นแล้วนะครับ ว่า อเมริการู้ว่า อิหร่านกำลังทำอะไร คิดอะไร และอเมริกาน่าจะทำอะไร ปัญหาอยู่ที่ว่า แล้วทำไมอเมริกาถึงเลือกทำ อย่างที่กำลังโดนพวกตัวเองด่า และถ้า วันที่ 7 กรกฎาคมนี้ ยังเจรจากันไม่เสร็จ อเมริกาจะทำอย่างไรต่อไป และผลมันจะเป็นอย่างไร ############### นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” I will walk away …พี่เผ่นก่อนนะน้อง” ตอน 6 (จบ) ก่อนไปถึงอเมริกา ขอย้อนกลับมาที่อิหร่าน ที่เขี้ยวลากดินหน่อย สมันน้อยแดนสยามจะได้เข้าใจว่า การจะออกจากคอกนั้นทำได้ ถ้าใช้สติปัญญา มีความตั้งใจทำจริง มีความอดทน ยอมลำบาก ไม่เห็นแก่ตัว และที่สำคัญต้องสามัคคี พร้อมใจกันทั้งชาติ อิหร่านโดนนักล่า ทั้งที่มาจากเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้าย จนถึงนักล่าใบตองแห้ง ร่วมมือกัน แย่งชิงกัน เพื่อหลอกเอาทรัพยากรมีค่ามหา ศาลของอิหร่าน ด้วยการต้มเปื่อย ยุแยง แทรกแซง ปั่นหัว ฟอกย้อม ชาวอิหร่านทุกระดับ จนอิหร่านเสียทรัพยากร เสียพลเมือง เสียผู้นำประเทศ อย่างน่าเสียดายไปมากมาย ตั้งแต่ปี 1900 ต้นๆ โดนต้มมา 100 กว่าปี ไม่คิดปีนขึ้นมาจากหม้อ ก็.. คงต้องปล่อยไปตามกรรม แต่อิหร่าน ฮึดสู้ แม้จะถูกคว่ำบาตรอย่างหนักหนาสา หัส การฮึดสู้ อาจมีความลำบากยากเข็ญ ต่อการดำรงชีวิตประจำวัน และการทำธุกิจ ฯลฯ แต่ เพื่อรักษาประเทศ มีชาวอิหร่านที่คิดทำ และอดทน พวกเขาจะทำสำเร็จหรือไม่ ต้องดูกันต่อไป แต่ถ้าไม่ฮึดสู้ ก็มีแต่ถูกเขาจูงกลับเข้าคอก แล้วปอกลอกเอาสมบัติของประเทศไป….. เหมือนเดิม อิหร่านเชื่อว่า ทางออกจากกำมือของตะวันตกมีทางเดียวคือ ต้องพึ่งตัวเองให้ได้ อิหร่านวางยุทธศาสตร์ สร้างชาติใหม่ที่พึ่งตัวเองได้ หนึ่งในกระบวนการสร้างชาติคือ การหาพลังงานใช้ในประเทศด้วยวิธีอื่นด้วย ไม่ใช่จากการขุดน้ำมันมาใช้อย่างเดียว น้ำมันของประเทศเอาไว้ขายเป็นรายได้ อิหร่านจึงคิดพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์ คิดได้ 1 ก็ไป ถึง 2 แล้วก็เลยไปถึงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ อิหร่านบอก ไม่ใช่มีไว้เพื่อเป็นการรุกราน แต่ไว้ใช้เป็นการป้องกันตัว และเป็นเครื่องต่อรอง ประเทศที่มองการณ์ไกล ไม่อยากถูกครอบงำชักจูง อยู่ในกำมือผู้อื่นตลอดกาล ก็ย่อมคิดอย่างนี้ เมื่อแรกๆ ไม่มีใครเชื่อว่า อิหร่านจะพัฒนาได้ แต่จากการเมืองของอิหร่านเอง ทำให้คนใน เอาความมาบอกคนนอก แล้วอเมริกาก็เลยรู้ แต่รู้ช้าไปนิด เมื่ออิหร่านเดินหน้าไปไกลพอสมควร อเมริกาคิดหนัก อย่างที่นายโคร เอามาเขียนนั่นแหละ่ อเมริกาคิดว่า ยังไม่ใช่เวลาทำสงครามกับอิหร่าน อเมริกาเพิ่งขูดเนื้ออิรัคเสร็จ จะมาขูดเนื้ออิหร่านต่อ เหนื่อยตายชัก ทหารก็ยังไม่ฟื้นตัว ส่วนการปิดล้อม ก็ค่าใช้จ่ายสูงสะบั้น อเมริกาจึงใช้วิธีทางการเมือง แยงให้ตะวันออกกลางวุ่นวาย บวกกับ การคว่ำบาตร น่าจะทำให้อิหร่าน เหนื่อยและสยบ แต่อเมริกา คงลืมคิดไป โลกตอนนี้ กับโลก เมื่อ 50 ปีก่อน ต่างกันแยะ และยิ่งต่างกันแยะมากขึ้น ตั้งแต่ปี ค.ศ.2000 เป็นต้นมา โลกไม่ได้มีขั้วเดียว ที่มีอเมริกาและพวก เป็นผู้อำนวยการใหญ่ของโลกเท่านั้น จากการบีบคั้น แสดงอำนาจ เอาเปรียบ และความไม่เป็นธรรมของอเมริกาเอง จึงค่อยๆมีแยกตัว และจับมือ สร้างกลุ่มใหม่กันขึ้น มาถึงวันนี้ ขั้วอำนาจดูเหมือนจะเริ่มแบ่งชัดขึ้น ระหว่างแองโกลอเมริกัน บวกยุโรป และสมุนค่ายหนึ่ง และ มี รัสเซีย จีน กับพวกอยู่อีกค่ายหนึ่ง ดอลล่าร์กำลังถูกท้าทาย เหมือนที่เงินปอนด์เคยถูกชิงตำแหน่ง จากผลของสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 โลกก็แบ่งเป็น 2 ค่าย นี่เรากำลังเดินเข้าไปสู่วัฏฏะ เดิมอีกหรือ โดยมีเรื่องของอิหร่าน เป็นตัวแปร หรือเป็นชนวน… อิหร่านยอมที่จะเจรจากับอเมริกา เรื่องลดการพัฒนานิวเคลียร์ เพราะเป็นการเจรจาที่อิหร่าน มีแต่ได้ กับเสมอตัว อิหร่านต้องการให้ฝ่ายตะวันตก ปลดการคว่ำบาตรทั้งหมด ที่เกี่ยวกับอิหร่าน ถ้าได้ตามต้องการ อิหร่านจะกลายเป็นเสี่ยใหญ่แห่ง ตะวันออกกลาง เขาว่าเป็นเงินมากมาย ประเมินกันไม่ถูก เพราะอิหร่านอุบเงียบ แถมใช้ตัวแทน ทำหลายซับหลายซ้อน ขณะเดียวกัน ในระหว่างเจรจา อิหร่านก็เดินหน้าโครงการต่อ แถมโยกย้าย แยกแยะ จนยากแก่การติดตาม ถ้าการเจรจาไม่สำเร็จ อิหร่านก็กลับมาอยู่สภาพ เดินหน้าพัฒนาต่ออย่างที่ทำอยู่ ชีวิตก็เหมือนเดิม เคยลำบากมาแล้ว ก็ลำบากต่ออีกนิด แต่เมื่อมีนิวเคลียร์ครบ เสียงของอิหร่านที่จะเจรจา หรือ พูดอะไรต่อไป ก็คงต่างไปบ้าง อเมริกาก็คิดเองแล้วกัน จะเป็นเสียงอย่างไหน อเมริกาก็เคยใช้มาสาระพัดเสียงแล้วนี่ วันที่ 7 กรกฎาคมนี้ ถ้า ฝ่าย P5+1 ตกลงกับอิหร่านได้ครบถ้วน ตามความต้องการของทั้ง 2 ฝ่าย บทที่แสดงหน้าจอ ก็คงชนิดได้ตุ๊กตาทอง มีการจับมือ เอาบุญเอาคุญ ตามธรรมเนียม และมันคงเป็นแค่ “การซื้อเวลา” เมื่อไหร่ที่อิหร่านพร้อม เราคงได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในตะวันออกกลางอย่างเห็นชัด เสี่ยปั้มทั้งหลาย ก็เฝ้าปั้มไว้ให้ดีก็แล้วกัน สำหรับอเมริกา อเมริกายอมเล่นบทคว่ำบาตร เพราะอเมริกา “ยังไม่พร้อม” เล่นบทอื่น ไม่ใช่อเมริกา ประเมินผิด ไอ้ถังขยะต่างๆ ที่ออกมาทำเสียงเขียว มันเป็นการเล่นละคร กันทั้งนั้น ต่างก็รู้คิวกัน เจรจาให้ยาว ทำเป็นตกลง ให้อิหร่านถลาเข้ามา แล้วก็ตวัดกลับ เพราะอเมริกา ไม่มีทางยกเลิกการคว่ำบาตร อิหร่านอย่างจริงจัง แม้จะทำเป็นตกลง ท้ายที่สุดอิหร่านก็จะได้แต่กินแห้ว อเมริกาแค่ซื้อเวลา รอให้มีความพร้อมทางฝั่งของตนเองมากที่สุด อเมริกา โดยไอ้ถังขยะ CFR (อีกแล้ว) ลงทุนติวเข้มให้แก่ อิสราเอล และซาอุดิ 2 มิตรชิดใกล้ของอเมริกาในตะวันออกกลาง เกี่ยวกับเรื่องอิหร่าน ตั้งแต่ปีที่แล้ว ล่าสุด ประชุมติวกัน เมื่อต้นเดือนมิถุนายนนี้เอง ข่าวหลุดมาจาก นาย Anwar Eshski อดีตนายพล และทูตซาอุดิ ประจำอเมริกา อีกฝ่ายคือ นาย Dore Gold อดีตทูตอิสราเอล ประจำสหประชาชาติ มีการประชุมเช่นนี้ มาแล้ว 5 ครั้ง ตั้งแต่ปี ค.ศ.2014 อเมริกา ไม่ได้หลุดคิวเลย นอกจากนี้ เมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่าน เช่นเดียวกัน อเมริกายังส่งนาย John Brennan ผอ CIA บินตรงไปสรุปข้อมูลลับเกี่ยวกับอิหร่าน ให้กับหน่วยงานข่าวกรองของอิสราเอล Mossad แปลว่า อเมริกาน่าจะคิดขยับหมากแล้ว เรื่องการเจรจาก็ปล่อยไป เจรจาสำเร็จ หรือไม่สำเร็จ สำหรับอเมริกา ไม่มีอะไรต่างกัน เพราะอเมริกาน่าจะมีโผอยู่ในใจแล้ว เรื่องนิวเคลียร์อิหร่าน เป็นเหมือนหนังฮอลลีวู้ดสร้าง ซี่รี่ส์ยาว ให้เราดูติดต่อกันมา 2 ปี เท่านั้นเอง อเมริกาไม่มีวันจะปล่อยมือที่บีบคออิหร่าน แม้อเมริกาจะนับรัสเซีย เป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งตลอดกาล และนับจีนเป็นคู่แข่งหมายเลขหนี่ง ซี่งแข่งมากๆ ก็จะถูกเปลี่ยนสถานะเป็นศัตรูไปด้วย แต่กรณีของรัสเซีย เป็นเรื่องของ “ความอยากได้ ” ทรัพยากรของรัสเซีย บวกกับความแหยงสภาพการฟื้นคืนชีพอย่างรวดเร็วของรัสเซีย อเมริกาไม่มีผลประโยชน์โดยตรง มากมายในภูมิภาคของรัสเซีย มันเป็นเรื่องของยุทธศาสตร์และภูมิศาสตร์การเมืองมากกว่า กรณีของจีน ก็ใกล้เคียงกับกรณีรัสเซีย แต่หนักไปในแง่ที่อเมริกาถือว่า แปซิฟิกและเอเซีย เป็นเหมือนบ้านที่ 2 ของอเมริกา มีแต่เด็กๆ ในความปกครองทั้งนั้น เพราะฉะนั้น แค่คิดว่าจีนจะมาใหญ่กว่า หรือแค่เป็นคู่แข็ง อเมริกาก็ทนไม่ได้อยู่แล้ว แต่กรณีอิหร่าน ขณะที่อเมริกาอยากได้ ทรัพยากรของอิหร่าน แต่อิหร่านวันนี้ เป็นอิหร่านที่มีพิษ และอเมริกายังคิดเซรุ่มกันพิษรอบใหม่ของอิหร่านยังไม่ได้ ถ้าอเมริกาขยับผิด ผลประโยชน์มหาศาลของอเมริกา ในตะวันออกกลางจะฉิบหายเกลี้ยงไปด้วย ไม่ใช่แค่ไม่ได้สมบัติของอิหร่านอย่างเดียว เรื่องอิหร่าน เป็นเรื่องกระทบตรงกับผลประโยชน์ของอเมริกา เป็นเรื่องที่อเมริการู้อยู่แก่ใจ กำลังทำใจ และกำลังหาทางขจัดปัญหาแบบเบ็ดเสร็จ เมื่ออเมริกาพร้อม โลกคงสะเทือน แต่การขยับหมากของอเมริกา ไล่มาตั้งแต่ ยูเครน ตะวันออกกลาง มาถึงหมากญี่ปุ่น (จะสำเร็จหรือไม่ ไม่รู้ แต่ผมว่า ร่อแร่ แก้รัฐธรรมนูญเพื่อไปแบกถาดให้เขานี่ คนญี่ปุ่นน่าจะคิดออกนะ ว่าถูกเขาหลอกใช้ขนาดไหน) เหมือนความพร้อมของอเมริกา จะใกล้เข้ามาทุกที จะพร้อมลุยอิหร่านประเทศเล็กแต่มีพิษ หรือแค่พร้อมตั้งรับ เพราะรู้ว่า พิษคงจะเริ่มออกฤทธิ์อีกไม่ช้า และแพร่กระจายไปหลายทิศ ในอีกไม่นาน ก็ต้องดูกันต่อไป กลับมาที่อิหร่านอีกที ถ้า วันที่ 7 กรกฏาคมนี่ อิหร่านต้องฟังเพลง I will walk away … อิหร่านจะเดินหมากอย่างไรต่อ จะหงิมๆ เก็บของ กลับบ้านไหม อิหร่านก็คงทำอย่างนั้น แต่กลับบ้านไปทำอะไร ผมไม่รู้ด้วย แต่ผมตั้งใจว่า ถ้าต้องฟัง พณฯใบตองแห้งครวญเพลง หลังจากวันที่ 7 กรกฏาคม ผมคง ตั้งสติให้นิ่ง ตามข่าวถี่หน่อย กินให้อร่อย นอนให้อิ่ม เก็บสะสมไว้ยามจำเป็นครับ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 7 ก.ค. 2558
    0 Comments 0 Shares 77 Views 0 Reviews
  • เหรียญหลวงพ่อภัทร วัดโคกสูง จ.สงขลา
    เหรียญหลวงพ่อภัทร วัดโคกสูง ต.ท่าข้าม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา //หลวงพ่อภัทร ภัททิโย วัดโคกสูง ..ท่านเป็นสุดยอดพระเกจิแห่งแดนใต้ผู้สืบวิชาตักสิลาแห่งเขาอ้ออีกรูปหนึ่งของเมืองสงขลาเกจิผู้มีวัตรปฎิบัติเรียบง่าย //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณด้านแคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด คงกระพันชาตรี ช่วยค้าขายเจริญรุ่งเรือง กันปืน ขจัดปัญหาต่างๆ พุทธคุณครบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็น เมตตา ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ **

    ** หลวงพ่อภัทร วัดโคกสูง เกจิอาจารย์สายเขาอ้อที่โด่งดังมาก ท่านสำเร็จวิชาเล่นแร่แปรธาตุ ท่านเป็นสุดยอดพระเกจิแห่งแดนใต้ผู้สืบวิชาตักสิลาแห่งเขาอ้ออีกรูปหนึ่งของเมืองสงขลา เกจิผู้มีวัตรปฎิบัติเรียบง่ายแบบพระโบราณมีวิชาอาคมแก่กล้ามากๆ วัตถุมงคลที่ท่านได้จัดสร้างแต่ละชนิดนั้นล้วนเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังจิตตานุภาพและพุทธาคม ผู้คนจึงพากันแสวงหา ...ท่านที่มีความศักดิ์สิทธิ์มาก หลังจากที่ท่านได้มรณภาพ สรีระของท่านก็มิได้เน่าเปื่อยผุพังไปตามกาลเวลาแต่อย่างใด ทางวัดจึงได้จัดสังขารท่านเอาไว้ในใส่โลงแก้วเพื่อให้ประชาชนได้สักการะบูชา **

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    โทรศัพท์ 0881915131
    LINE 0881915131
    เหรียญหลวงพ่อภัทร วัดโคกสูง จ.สงขลา เหรียญหลวงพ่อภัทร วัดโคกสูง ต.ท่าข้าม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา //หลวงพ่อภัทร ภัททิโย วัดโคกสูง ..ท่านเป็นสุดยอดพระเกจิแห่งแดนใต้ผู้สืบวิชาตักสิลาแห่งเขาอ้ออีกรูปหนึ่งของเมืองสงขลาเกจิผู้มีวัตรปฎิบัติเรียบง่าย //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณด้านแคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด คงกระพันชาตรี ช่วยค้าขายเจริญรุ่งเรือง กันปืน ขจัดปัญหาต่างๆ พุทธคุณครบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็น เมตตา ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ ** ** หลวงพ่อภัทร วัดโคกสูง เกจิอาจารย์สายเขาอ้อที่โด่งดังมาก ท่านสำเร็จวิชาเล่นแร่แปรธาตุ ท่านเป็นสุดยอดพระเกจิแห่งแดนใต้ผู้สืบวิชาตักสิลาแห่งเขาอ้ออีกรูปหนึ่งของเมืองสงขลา เกจิผู้มีวัตรปฎิบัติเรียบง่ายแบบพระโบราณมีวิชาอาคมแก่กล้ามากๆ วัตถุมงคลที่ท่านได้จัดสร้างแต่ละชนิดนั้นล้วนเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังจิตตานุภาพและพุทธาคม ผู้คนจึงพากันแสวงหา ...ท่านที่มีความศักดิ์สิทธิ์มาก หลังจากที่ท่านได้มรณภาพ สรีระของท่านก็มิได้เน่าเปื่อยผุพังไปตามกาลเวลาแต่อย่างใด ทางวัดจึงได้จัดสังขารท่านเอาไว้ในใส่โลงแก้วเพื่อให้ประชาชนได้สักการะบูชา ** ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ โทรศัพท์ 0881915131 LINE 0881915131
    0 Comments 0 Shares 34 Views 0 Reviews
  • บทความกฎหมาย EP.27

    อาชญากรรมที่เรียกว่า "ฉ้อโกง" นั้น มิได้เป็นเพียงการสูญเสียทรัพย์สินเท่านั้น แต่ยังบั่นทอนความเชื่อมั่นในสังคม และสร้างบาดแผลทางกฎหมายที่ลึกซึ้ง คำว่า "ฉ้อโกง" ในทางกฎหมายอาญาของไทยนั้น ครอบคลุมการกระทำที่ผู้กระทำมีเจตนาทุจริต โดยใช้อุบายหลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และการหลอกลวงนั้นเป็นเหตุให้ผู้ถูกหลอกลวงหลงเชื่อและยอมส่งมอบ ทรัพย์สินให้แก่ผู้กระทำความผิดหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงได้รับผลกระทบทางทรัพย์สินที่เป็นโทษแก่ตนเองหรือผู้อื่น อันเป็นไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ซึ่งเป็นฐานความผิดหลักสำหรับคดีฉ้อโกงธรรมดา โทษทางกฎหมายสำหรับความผิดฐานฉ้อโกงนั้น กำหนดไว้ชัดเจนว่าผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อย่างไรก็ตาม ความซับซ้อนของคดีฉ้อโกงมักปรากฏเมื่อเข้าข่ายความผิดที่หนักขึ้น เช่น การฉ้อโกงประชาชนตามมาตรา 343 ซึ่งเป็นการหลอกลวงประชาชนตั้งแต่สิบคนขึ้นไป หรือเป็นการหลอกลวงผ่านระบบคอมพิวเตอร์และสื่อสังคมออนไลน์ในลักษณะที่เป็นการเผยแพร่ข้อมูลอย่างกว้างขวาง โดยมีเจตนาให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจผิดและมอบทรัพย์สินให้ ความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนนี้มีโทษรุนแรงกว่า คือจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และเมื่อการกระทำความผิดนั้นเกิดขึ้นในรูปแบบที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น มีการจัดตั้งเป็นองค์กรอาชญากรรม หรือมีการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการหลอกลวงเป็นวงกว้าง เช่น คดี Call Center หรือ Romance Scam จะมีการใช้กฎหมายเฉพาะเข้ามาเกี่ยวข้องเพื่อเพิ่มโทษ เช่น พระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งมุ่งเน้นการลงโทษผู้กระทำความผิดที่ใช้เครื่องมือดิจิทัลในการก่ออาชญากรรมอย่างหนักหน่วงขึ้น เพื่อเป็นการป้องปราม การดำเนินการทางกฎหมายในคดีฉ้อโกงจึงต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน ทั้งพยานหลักฐานทางเอกสาร พยานบุคคล และพยานหลักฐานทางดิจิทัล เพื่อพิสูจน์ "เจตนาทุจริต" ของผู้ต้องหา ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญที่สุดของความผิดฐานนี้ การรับรู้และเข้าใจถึงขอบเขตของกฎหมายเหล่านี้จึงเป็นเกราะป้องกันชั้นดีสำหรับประชาชน และเป็นเครื่องมืออันทรงพลังสำหรับเจ้าหน้าที่ในการยุติภัยอาชญากรรมทางการเงิน

    การดำเนินคดีฉ้อโกงตามกฎหมายนั้น เริ่มต้นจากการที่ผู้เสียหายจะต้องเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน ซึ่งการแจ้งความนี้จะต้องกระทำภายในอายุความที่กฎหมายกำหนด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคดีฉ้อโกงธรรมดาซึ่งเป็นความผิดอันยอมความได้นั้น อายุความคือสามเดือนนับแต่วันที่ผู้เสียหายรู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิด หากพ้นระยะเวลาดังกล่าวแล้ว สิทธินำคดีอาญามาฟ้องจะสิ้นสุดลงทันที แต่สำหรับความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนนั้น ถือเป็นความผิดอาญาแผ่นดินที่ไม่อาจยอมความได้ และมีอายุความที่ยาวนานกว่าคือสิบปีนับแต่วันกระทำความผิด การแยกแยะประเภทของความผิดจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรักษาผลประโยชน์ของผู้เสียหาย เมื่อมีการแจ้งความแล้ว พนักงานสอบสวนจะดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน และหากพยานหลักฐานเพียงพอ ก็จะส่งสำนวนให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้องต่อศาล การพิจารณาคดีในศาลจะเน้นการพิสูจน์ให้เห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้กระทำ "การหลอกลวง" จริง และการหลอกลวงนั้นได้ทำให้ผู้เสียหาย "หลงเชื่อ" จนนำมาซึ่งการ "ส่งมอบทรัพย์สิน" หรือ "การได้รับผลกระทบทางทรัพย์สิน" อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ประชาชนควรตระหนักคือ ในหลายกรณีที่ผู้เสียหายต้องการทรัพย์สินคืน การฟ้องคดีอาญาเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ เนื่องจากคดีอาญามุ่งเน้นที่การลงโทษผู้กระทำความผิดทางกายภาพ (จำคุก) และทางการเงิน (ปรับ) เท่านั้น ดังนั้นผู้เสียหายจึงต้องใช้สิทธิทางแพ่งควบคู่กันไป โดยอาจยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ผู้กระทำความผิดชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา หรือแยกไปฟ้องเป็นคดีแพ่งต่างหากเพื่อเรียกทรัพย์สินหรือค่าเสียหายคืน การดำเนินการทางแพ่งนี้อาจเกี่ยวข้องกับการขอให้ศาลมีคำสั่งอายัดทรัพย์สินของผู้กระทำความผิดเป็นการชั่วคราวเพื่อรอการบังคับคดี การติดตามทรัพย์สินที่ถูกฉ้อโกงคืนมานั้น มักเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและต้องใช้เวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการโอนย้ายทรัพย์สินไปยังบุคคลอื่นหรือต่างประเทศอย่างรวดเร็ว ดังนั้นการมีที่ปรึกษาทางกฎหมายที่มีความเชี่ยวชาญในการดำเนินคดีทั้งอาญาและแพ่งจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้ผู้เสียหายสามารถเข้าถึงความยุติธรรมและได้รับความเสียหายชดเชยอย่างเต็มที่ภายใต้กรอบของกฎหมาย

    ท้ายที่สุดแล้ว ภัยฉ้อโกงที่แฝงตัวอยู่ในโลกปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบดั้งเดิมหรือรูปแบบดิจิทัลก็ตาม เป็นบททดสอบที่สำคัญสำหรับระบบกฎหมายไทยในการปรับตัวและตอบสนองต่อกลโกงที่พัฒนาไปอย่างไม่หยุดยั้ง การป้องกันที่ดีที่สุดมิใช่เพียงการจับกุมและลงโทษผู้กระทำความผิดเท่านั้น แต่คือการสร้างภูมิคุ้มกันทางกฎหมายให้กับประชาชน การตระหนักว่ากฎหมายฉ้อโกงมิใช่แค่เรื่องของ "การหลอกลวง" แต่คือเรื่องของ "เจตนาทุจริต" ที่มุ่งหมายเอาเปรียบผู้อื่นอย่างไม่ชอบธรรม และการเข้าใจถึงสิทธิและอายุความในการดำเนินคดี เป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องยึดถือไว้เสมอ หากคุณตกเป็นเหยื่อของการฉ้อโกง สิ่งสำคัญที่สุดคือการรวบรวมหลักฐานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวง การโอนเงิน หรือการติดต่อสื่อสาร และรีบดำเนินการทางกฎหมายทันที อย่าปล่อยให้เวลาล่วงเลยจนพ้นอายุความ การใช้สิทธิเรียกร้องความยุติธรรมตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างถูกต้องและรวดเร็ว จะเป็นหนทางเดียวที่จะนำผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการลงโทษและเปิดโอกาสในการเรียกทรัพย์สินคืนมา ซึ่งเป็นการยืนยันหลักการที่ว่า ไม่มีอาชญากรรมทางเศรษฐกิจใดที่จะอยู่เหนือกฎหมายได้ ความเชี่ยวชาญในการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดและเด็ดขาดเท่านั้น จึงจะสามารถยุติวงจรของการฉ้อโกงและฟื้นฟูความสงบเรียบร้อยและความเชื่อมั่นในสังคมให้กลับคืนมาได้อีกครั้ง
    บทความกฎหมาย EP.27 อาชญากรรมที่เรียกว่า "ฉ้อโกง" นั้น มิได้เป็นเพียงการสูญเสียทรัพย์สินเท่านั้น แต่ยังบั่นทอนความเชื่อมั่นในสังคม และสร้างบาดแผลทางกฎหมายที่ลึกซึ้ง คำว่า "ฉ้อโกง" ในทางกฎหมายอาญาของไทยนั้น ครอบคลุมการกระทำที่ผู้กระทำมีเจตนาทุจริต โดยใช้อุบายหลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และการหลอกลวงนั้นเป็นเหตุให้ผู้ถูกหลอกลวงหลงเชื่อและยอมส่งมอบ ทรัพย์สินให้แก่ผู้กระทำความผิดหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงได้รับผลกระทบทางทรัพย์สินที่เป็นโทษแก่ตนเองหรือผู้อื่น อันเป็นไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ซึ่งเป็นฐานความผิดหลักสำหรับคดีฉ้อโกงธรรมดา โทษทางกฎหมายสำหรับความผิดฐานฉ้อโกงนั้น กำหนดไว้ชัดเจนว่าผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อย่างไรก็ตาม ความซับซ้อนของคดีฉ้อโกงมักปรากฏเมื่อเข้าข่ายความผิดที่หนักขึ้น เช่น การฉ้อโกงประชาชนตามมาตรา 343 ซึ่งเป็นการหลอกลวงประชาชนตั้งแต่สิบคนขึ้นไป หรือเป็นการหลอกลวงผ่านระบบคอมพิวเตอร์และสื่อสังคมออนไลน์ในลักษณะที่เป็นการเผยแพร่ข้อมูลอย่างกว้างขวาง โดยมีเจตนาให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจผิดและมอบทรัพย์สินให้ ความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนนี้มีโทษรุนแรงกว่า คือจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และเมื่อการกระทำความผิดนั้นเกิดขึ้นในรูปแบบที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น มีการจัดตั้งเป็นองค์กรอาชญากรรม หรือมีการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการหลอกลวงเป็นวงกว้าง เช่น คดี Call Center หรือ Romance Scam จะมีการใช้กฎหมายเฉพาะเข้ามาเกี่ยวข้องเพื่อเพิ่มโทษ เช่น พระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งมุ่งเน้นการลงโทษผู้กระทำความผิดที่ใช้เครื่องมือดิจิทัลในการก่ออาชญากรรมอย่างหนักหน่วงขึ้น เพื่อเป็นการป้องปราม การดำเนินการทางกฎหมายในคดีฉ้อโกงจึงต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน ทั้งพยานหลักฐานทางเอกสาร พยานบุคคล และพยานหลักฐานทางดิจิทัล เพื่อพิสูจน์ "เจตนาทุจริต" ของผู้ต้องหา ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญที่สุดของความผิดฐานนี้ การรับรู้และเข้าใจถึงขอบเขตของกฎหมายเหล่านี้จึงเป็นเกราะป้องกันชั้นดีสำหรับประชาชน และเป็นเครื่องมืออันทรงพลังสำหรับเจ้าหน้าที่ในการยุติภัยอาชญากรรมทางการเงิน การดำเนินคดีฉ้อโกงตามกฎหมายนั้น เริ่มต้นจากการที่ผู้เสียหายจะต้องเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน ซึ่งการแจ้งความนี้จะต้องกระทำภายในอายุความที่กฎหมายกำหนด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคดีฉ้อโกงธรรมดาซึ่งเป็นความผิดอันยอมความได้นั้น อายุความคือสามเดือนนับแต่วันที่ผู้เสียหายรู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิด หากพ้นระยะเวลาดังกล่าวแล้ว สิทธินำคดีอาญามาฟ้องจะสิ้นสุดลงทันที แต่สำหรับความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนนั้น ถือเป็นความผิดอาญาแผ่นดินที่ไม่อาจยอมความได้ และมีอายุความที่ยาวนานกว่าคือสิบปีนับแต่วันกระทำความผิด การแยกแยะประเภทของความผิดจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรักษาผลประโยชน์ของผู้เสียหาย เมื่อมีการแจ้งความแล้ว พนักงานสอบสวนจะดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน และหากพยานหลักฐานเพียงพอ ก็จะส่งสำนวนให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้องต่อศาล การพิจารณาคดีในศาลจะเน้นการพิสูจน์ให้เห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้กระทำ "การหลอกลวง" จริง และการหลอกลวงนั้นได้ทำให้ผู้เสียหาย "หลงเชื่อ" จนนำมาซึ่งการ "ส่งมอบทรัพย์สิน" หรือ "การได้รับผลกระทบทางทรัพย์สิน" อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ประชาชนควรตระหนักคือ ในหลายกรณีที่ผู้เสียหายต้องการทรัพย์สินคืน การฟ้องคดีอาญาเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ เนื่องจากคดีอาญามุ่งเน้นที่การลงโทษผู้กระทำความผิดทางกายภาพ (จำคุก) และทางการเงิน (ปรับ) เท่านั้น ดังนั้นผู้เสียหายจึงต้องใช้สิทธิทางแพ่งควบคู่กันไป โดยอาจยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ผู้กระทำความผิดชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา หรือแยกไปฟ้องเป็นคดีแพ่งต่างหากเพื่อเรียกทรัพย์สินหรือค่าเสียหายคืน การดำเนินการทางแพ่งนี้อาจเกี่ยวข้องกับการขอให้ศาลมีคำสั่งอายัดทรัพย์สินของผู้กระทำความผิดเป็นการชั่วคราวเพื่อรอการบังคับคดี การติดตามทรัพย์สินที่ถูกฉ้อโกงคืนมานั้น มักเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและต้องใช้เวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการโอนย้ายทรัพย์สินไปยังบุคคลอื่นหรือต่างประเทศอย่างรวดเร็ว ดังนั้นการมีที่ปรึกษาทางกฎหมายที่มีความเชี่ยวชาญในการดำเนินคดีทั้งอาญาและแพ่งจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้ผู้เสียหายสามารถเข้าถึงความยุติธรรมและได้รับความเสียหายชดเชยอย่างเต็มที่ภายใต้กรอบของกฎหมาย ท้ายที่สุดแล้ว ภัยฉ้อโกงที่แฝงตัวอยู่ในโลกปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบดั้งเดิมหรือรูปแบบดิจิทัลก็ตาม เป็นบททดสอบที่สำคัญสำหรับระบบกฎหมายไทยในการปรับตัวและตอบสนองต่อกลโกงที่พัฒนาไปอย่างไม่หยุดยั้ง การป้องกันที่ดีที่สุดมิใช่เพียงการจับกุมและลงโทษผู้กระทำความผิดเท่านั้น แต่คือการสร้างภูมิคุ้มกันทางกฎหมายให้กับประชาชน การตระหนักว่ากฎหมายฉ้อโกงมิใช่แค่เรื่องของ "การหลอกลวง" แต่คือเรื่องของ "เจตนาทุจริต" ที่มุ่งหมายเอาเปรียบผู้อื่นอย่างไม่ชอบธรรม และการเข้าใจถึงสิทธิและอายุความในการดำเนินคดี เป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องยึดถือไว้เสมอ หากคุณตกเป็นเหยื่อของการฉ้อโกง สิ่งสำคัญที่สุดคือการรวบรวมหลักฐานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวง การโอนเงิน หรือการติดต่อสื่อสาร และรีบดำเนินการทางกฎหมายทันที อย่าปล่อยให้เวลาล่วงเลยจนพ้นอายุความ การใช้สิทธิเรียกร้องความยุติธรรมตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างถูกต้องและรวดเร็ว จะเป็นหนทางเดียวที่จะนำผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการลงโทษและเปิดโอกาสในการเรียกทรัพย์สินคืนมา ซึ่งเป็นการยืนยันหลักการที่ว่า ไม่มีอาชญากรรมทางเศรษฐกิจใดที่จะอยู่เหนือกฎหมายได้ ความเชี่ยวชาญในการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดและเด็ดขาดเท่านั้น จึงจะสามารถยุติวงจรของการฉ้อโกงและฟื้นฟูความสงบเรียบร้อยและความเชื่อมั่นในสังคมให้กลับคืนมาได้อีกครั้ง
    0 Comments 0 Shares 69 Views 0 Reviews
  • 🩷 รวมข่าวจาก TechRadar ประจำวัน 🩷
    #20251118 #techradar

    Google เปิดตัว AI พยากรณ์อากาศใหม่ WeatherNext 2
    Google พัฒนาโมเดล AI ชื่อ WeatherNext 2 ที่สามารถคาดการณ์สภาพอากาศได้เร็วและแม่นยำกว่าระบบเดิมถึง 8 เท่า ภายในเวลาไม่ถึงนาที AI นี้ไม่ได้ให้แค่ผลลัพธ์เดียว แต่สร้าง “หลายความเป็นไปได้” ของสภาพอากาศ ทำให้ผู้ใช้เห็นภาพรวมว่ามีโอกาสเกิดอะไรบ้าง เช่น ฝนตกหรือแดดออกในช่วงเวลาใด นอกจากนี้ยังถูกนำไปใช้ใน Google Search, Pixel Weather และ Google Maps เพื่อช่วยให้การวางแผนชีวิตประจำวันและการจัดการพลังงานหมุนเวียนมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    OWC Helios 5S: เพิ่มพลังให้ Mac เล็ก ๆ ด้วย Thunderbolt 5
    OWC เปิดตัว Helios 5S กล่องขยาย PCIe สำหรับเครื่อง Mac ขนาดเล็กที่ใช้ Thunderbolt 5 ความเร็วสูงถึง 80Gb/s ทำให้สามารถต่อการ์ด PCIe 4.0 และอุปกรณ์เสริมความเร็วสูงได้เต็มประสิทธิภาพ รองรับจอ 8K ได้ถึง 3 จอ เหมาะสำหรับงานสร้างสรรค์ที่ต้องการพลังการประมวลผลมากขึ้น แม้จะไม่รองรับ GPU ที่ใช้พลังงานสูง แต่ก็ถือเป็นการยกระดับเครื่องเล็กให้ใกล้เคียงเวิร์กสเตชัน

    Samsung ขยาย “The Wall” จอ LED ยักษ์สำหรับองค์กร
    Samsung เปิดตัวรุ่นใหม่ของ The Wall จอ LED ขนาดมหึมาที่ออกแบบมาเพื่อสำนักงานและพื้นที่ธุรกิจ ใช้ชิปประมวลผล AI Gen2 ที่ช่วยปรับภาพให้คมชัด ลดสัญญาณรบกวน และอัปสเกลภาพให้ใกล้เคียง 8K จุดเด่นคือความสว่างสูงถึง 1,000 nits และเทคโนโลยี Black Seal ที่ทำให้สีดำลึกขึ้น เหมาะกับการใช้งานในห้องประชุมใหญ่หรือพื้นที่ที่ต้องการภาพคมชัดต่อเนื่อง

    สัมภาษณ์พิเศษ Sundar Pichai: Running The Google Empire
    BBC จัดสัมภาษณ์พิเศษกับ Sundar Pichai CEO ของ Google ที่พูดถึงการนำบริษัทผ่านยุค AI ที่กำลังเปลี่ยนโลก เขาเล่าถึงความท้าทายของการลงทุนมหาศาลใน AI ผลกระทบต่อการจ้างงาน และบทบาทของ Google ในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รายการนี้สามารถรับชมฟรีผ่าน BBC iPlayer

    Amazon พบการโจมตี npm ครั้งใหญ่กว่า 150,000 แพ็กเกจ
    นักวิจัยจาก Amazon ตรวจพบการแพร่กระจายแพ็กเกจ npm กว่า 150,000 ตัว ที่ถูกใช้ในแผนการหลอกลวงเพื่อสร้างรายได้จากโทเคน TEA แม้แพ็กเกจเหล่านี้จะไม่ขโมยข้อมูลโดยตรง แต่มีพฤติกรรม “self-replicating” และอาจถูกเปลี่ยนให้เป็นอันตรายได้ เหตุการณ์นี้ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในการโจมตีซัพพลายเชนครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โอเพ่นซอร์ส

    OpenAI ทดลองให้ ChatGPT เข้าร่วมแชทกลุ่ม
    OpenAI เปิดฟีเจอร์ใหม่ให้ ChatGPT เข้าร่วมการสนทนาแบบกลุ่ม โดย AI จะเลือกเองว่าจะตอบเมื่อใด หรือผู้ใช้สามารถเรียกด้วยการแท็ก ฟีเจอร์นี้กำลังทดสอบในญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ เกาหลีใต้ และไต้หวัน รองรับผู้เข้าร่วมสูงสุด 20 คน จุดประสงค์คือช่วยให้การระดมสมองและวางแผนร่วมกันสะดวกขึ้น

    Google AI ช่วยวางแผนทริปได้ครบวงจร
    Google เปิดตัวเครื่องมือ AI สำหรับการท่องเที่ยว 3 อย่าง ได้แก่
    Canvas for Travel: สร้างแผนการเดินทางแบบกำหนดเอง
    Flight Deals: ค้นหาตั๋วเครื่องบินราคาถูกทั่วโลก
    Agentic Booking: จองร้านอาหารและกิจกรรมได้โดยตรงจาก Search ทั้งหมดนี้ช่วยลดความยุ่งยากในการเปิดหลายแท็บและเปรียบเทียบข้อมูล ทำให้การวางแผนทริปง่ายขึ้นมาก

    แฮกเกอร์เกาหลีเหนือใช้ JSON ซ่อนมัลแวร์
    กลุ่ม Lazarus จากเกาหลีเหนือถูกพบว่าใช้บริการเก็บข้อมูล JSON เช่น JSON Keeper และ JSON Silo เพื่อซ่อนมัลแวร์ในแคมเปญ “Contagious Interview” โดยหลอกนักพัฒนาซอฟต์แวร์ผ่าน LinkedIn ให้ดาวน์โหลดโปรเจกต์ที่แฝงโค้ดอันตราย มัลแวร์เหล่านี้สามารถขโมยข้อมูล กระเป๋าเงินคริปโต และใช้เครื่องเหยื่อขุดเหรียญ Monero ได้

    Logitech ยืนยันถูกเจาะระบบ แต่ยังไม่รู้ข้อมูลที่หายไป
    Logitech รายงานการถูกโจมตีไซเบอร์ผ่านช่องโหว่ zero-day ของซอฟต์แวร์ภายนอก โดยกลุ่ม Cl0p ransomware อ้างว่าขโมยข้อมูลไปกว่า 1.8TB แม้บริษัทจะยืนยันว่าข้อมูลที่สูญหาย “น่าจะมีเพียงบางส่วน” ของพนักงานและลูกค้า แต่ยังไม่แน่ชัดว่ามีข้อมูลสำคัญรั่วไหลหรือไม่

    LinkedIn เพิ่มฟีเจอร์ค้นหาคนด้วย AI
    LinkedIn เปิดตัวระบบค้นหาคนด้วย AI ที่ช่วยให้ผู้ใช้พิมพ์คำอธิบายเชิงธรรมชาติ เช่น “นักลงทุนด้านสุขภาพที่มีประสบการณ์ FDA” โดยไม่ต้องกรองด้วยตำแหน่งงานแบบเดิม ฟีเจอร์นี้เริ่มให้บริการกับผู้ใช้ Premium ในสหรัฐฯ ก่อน และจะขยายไปทั่วโลกในอนาคต

    ศาลสหราชอาณาจักรตัดสิน Microsoft แพ้คดีห้ามขายต่อไลเซนส์
    ศาล Competition Appeal Tribunal ของสหราชอาณาจักรตัดสินว่า Microsoft ไม่สามารถห้ามลูกค้าขายต่อไลเซนส์ซอฟต์แวร์แบบถาวรได้ บริษัท ValueLicensing ซึ่งเป็นคู่กรณีสามารถดำเนินธุรกิจขายต่อไลเซนส์ต่อไป และยังมีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายกว่า 270 ล้านปอนด์จาก Microsoft ขณะที่ Microsoft เตรียมอุทธรณ์ต่อ

    ไปตามเจาะข่าวกันได้ที่ : https://www.techradar.com/
    📌🪛🩷 รวมข่าวจาก TechRadar ประจำวัน 🩷🪛📌 #20251118 #techradar 🌦️ Google เปิดตัว AI พยากรณ์อากาศใหม่ WeatherNext 2 Google พัฒนาโมเดล AI ชื่อ WeatherNext 2 ที่สามารถคาดการณ์สภาพอากาศได้เร็วและแม่นยำกว่าระบบเดิมถึง 8 เท่า ภายในเวลาไม่ถึงนาที AI นี้ไม่ได้ให้แค่ผลลัพธ์เดียว แต่สร้าง “หลายความเป็นไปได้” ของสภาพอากาศ ทำให้ผู้ใช้เห็นภาพรวมว่ามีโอกาสเกิดอะไรบ้าง เช่น ฝนตกหรือแดดออกในช่วงเวลาใด นอกจากนี้ยังถูกนำไปใช้ใน Google Search, Pixel Weather และ Google Maps เพื่อช่วยให้การวางแผนชีวิตประจำวันและการจัดการพลังงานหมุนเวียนมีประสิทธิภาพมากขึ้น ⚡ OWC Helios 5S: เพิ่มพลังให้ Mac เล็ก ๆ ด้วย Thunderbolt 5 OWC เปิดตัว Helios 5S กล่องขยาย PCIe สำหรับเครื่อง Mac ขนาดเล็กที่ใช้ Thunderbolt 5 ความเร็วสูงถึง 80Gb/s ทำให้สามารถต่อการ์ด PCIe 4.0 และอุปกรณ์เสริมความเร็วสูงได้เต็มประสิทธิภาพ รองรับจอ 8K ได้ถึง 3 จอ เหมาะสำหรับงานสร้างสรรค์ที่ต้องการพลังการประมวลผลมากขึ้น แม้จะไม่รองรับ GPU ที่ใช้พลังงานสูง แต่ก็ถือเป็นการยกระดับเครื่องเล็กให้ใกล้เคียงเวิร์กสเตชัน 🖥️ Samsung ขยาย “The Wall” จอ LED ยักษ์สำหรับองค์กร Samsung เปิดตัวรุ่นใหม่ของ The Wall จอ LED ขนาดมหึมาที่ออกแบบมาเพื่อสำนักงานและพื้นที่ธุรกิจ ใช้ชิปประมวลผล AI Gen2 ที่ช่วยปรับภาพให้คมชัด ลดสัญญาณรบกวน และอัปสเกลภาพให้ใกล้เคียง 8K จุดเด่นคือความสว่างสูงถึง 1,000 nits และเทคโนโลยี Black Seal ที่ทำให้สีดำลึกขึ้น เหมาะกับการใช้งานในห้องประชุมใหญ่หรือพื้นที่ที่ต้องการภาพคมชัดต่อเนื่อง 🎤 สัมภาษณ์พิเศษ Sundar Pichai: Running The Google Empire BBC จัดสัมภาษณ์พิเศษกับ Sundar Pichai CEO ของ Google ที่พูดถึงการนำบริษัทผ่านยุค AI ที่กำลังเปลี่ยนโลก เขาเล่าถึงความท้าทายของการลงทุนมหาศาลใน AI ผลกระทบต่อการจ้างงาน และบทบาทของ Google ในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รายการนี้สามารถรับชมฟรีผ่าน BBC iPlayer 🛡️ Amazon พบการโจมตี npm ครั้งใหญ่กว่า 150,000 แพ็กเกจ นักวิจัยจาก Amazon ตรวจพบการแพร่กระจายแพ็กเกจ npm กว่า 150,000 ตัว ที่ถูกใช้ในแผนการหลอกลวงเพื่อสร้างรายได้จากโทเคน TEA แม้แพ็กเกจเหล่านี้จะไม่ขโมยข้อมูลโดยตรง แต่มีพฤติกรรม “self-replicating” และอาจถูกเปลี่ยนให้เป็นอันตรายได้ เหตุการณ์นี้ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในการโจมตีซัพพลายเชนครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โอเพ่นซอร์ส 💬 OpenAI ทดลองให้ ChatGPT เข้าร่วมแชทกลุ่ม OpenAI เปิดฟีเจอร์ใหม่ให้ ChatGPT เข้าร่วมการสนทนาแบบกลุ่ม โดย AI จะเลือกเองว่าจะตอบเมื่อใด หรือผู้ใช้สามารถเรียกด้วยการแท็ก ฟีเจอร์นี้กำลังทดสอบในญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ เกาหลีใต้ และไต้หวัน รองรับผู้เข้าร่วมสูงสุด 20 คน จุดประสงค์คือช่วยให้การระดมสมองและวางแผนร่วมกันสะดวกขึ้น ✈️ Google AI ช่วยวางแผนทริปได้ครบวงจร Google เปิดตัวเครื่องมือ AI สำหรับการท่องเที่ยว 3 อย่าง ได้แก่ 🧩 Canvas for Travel: สร้างแผนการเดินทางแบบกำหนดเอง 🧩 Flight Deals: ค้นหาตั๋วเครื่องบินราคาถูกทั่วโลก 🧩 Agentic Booking: จองร้านอาหารและกิจกรรมได้โดยตรงจาก Search ทั้งหมดนี้ช่วยลดความยุ่งยากในการเปิดหลายแท็บและเปรียบเทียบข้อมูล ทำให้การวางแผนทริปง่ายขึ้นมาก 🕵️‍♂️ แฮกเกอร์เกาหลีเหนือใช้ JSON ซ่อนมัลแวร์ กลุ่ม Lazarus จากเกาหลีเหนือถูกพบว่าใช้บริการเก็บข้อมูล JSON เช่น JSON Keeper และ JSON Silo เพื่อซ่อนมัลแวร์ในแคมเปญ “Contagious Interview” โดยหลอกนักพัฒนาซอฟต์แวร์ผ่าน LinkedIn ให้ดาวน์โหลดโปรเจกต์ที่แฝงโค้ดอันตราย มัลแวร์เหล่านี้สามารถขโมยข้อมูล กระเป๋าเงินคริปโต และใช้เครื่องเหยื่อขุดเหรียญ Monero ได้ 🔒 Logitech ยืนยันถูกเจาะระบบ แต่ยังไม่รู้ข้อมูลที่หายไป Logitech รายงานการถูกโจมตีไซเบอร์ผ่านช่องโหว่ zero-day ของซอฟต์แวร์ภายนอก โดยกลุ่ม Cl0p ransomware อ้างว่าขโมยข้อมูลไปกว่า 1.8TB แม้บริษัทจะยืนยันว่าข้อมูลที่สูญหาย “น่าจะมีเพียงบางส่วน” ของพนักงานและลูกค้า แต่ยังไม่แน่ชัดว่ามีข้อมูลสำคัญรั่วไหลหรือไม่ 👥 LinkedIn เพิ่มฟีเจอร์ค้นหาคนด้วย AI LinkedIn เปิดตัวระบบค้นหาคนด้วย AI ที่ช่วยให้ผู้ใช้พิมพ์คำอธิบายเชิงธรรมชาติ เช่น “นักลงทุนด้านสุขภาพที่มีประสบการณ์ FDA” โดยไม่ต้องกรองด้วยตำแหน่งงานแบบเดิม ฟีเจอร์นี้เริ่มให้บริการกับผู้ใช้ Premium ในสหรัฐฯ ก่อน และจะขยายไปทั่วโลกในอนาคต ⚖️ ศาลสหราชอาณาจักรตัดสิน Microsoft แพ้คดีห้ามขายต่อไลเซนส์ ศาล Competition Appeal Tribunal ของสหราชอาณาจักรตัดสินว่า Microsoft ไม่สามารถห้ามลูกค้าขายต่อไลเซนส์ซอฟต์แวร์แบบถาวรได้ บริษัท ValueLicensing ซึ่งเป็นคู่กรณีสามารถดำเนินธุรกิจขายต่อไลเซนส์ต่อไป และยังมีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายกว่า 270 ล้านปอนด์จาก Microsoft ขณะที่ Microsoft เตรียมอุทธรณ์ต่อ ไปตามเจาะข่าวกันได้ที่ : https://www.techradar.com/
    0 Comments 0 Shares 77 Views 0 Reviews
  • Vera Rubin – แพลตฟอร์ม AI/HPC รุ่นใหม่จาก Nvidia

    Nvidia กำลังพัฒนาแพลตฟอร์ม Vera Rubin ที่จะเปิดตัวในปี 2025 โดยมีเป้าหมายสร้างมาตรฐานใหม่ด้านประสิทธิภาพและความซับซ้อนในศูนย์ข้อมูล AI และ HPC จุดเด่นคือการรวม 9 โปรเซสเซอร์ที่แตกต่างกัน เข้าด้วยกันในระบบเดียว ตั้งแต่ CPU, GPU, DPU ไปจนถึงระบบเชื่อมต่อความเร็วสูง ซึ่งช่วยให้สามารถรองรับงาน AI ที่ต้องการพลังประมวลผลมหาศาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    สถาปัตยกรรมที่ก้าวล้ำ
    หัวใจของ Vera Rubin คือ Vera CPU ที่มี 88 คอร์ Armv9-class พร้อม SMT รองรับ 176 เธรด และ Rubin GPU ที่ใช้หน่วยความจำ HBM4 ขนาด 288 GB ให้แบนด์วิดท์สูงถึง 13 TB/s นอกจากนี้ยังมี Rubin CPX GPU ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับงาน inference ของโมเดล LLM ที่ต้องการ context ยาวหลายล้าน token ทำให้ระบบสามารถจัดการงาน multi-modal ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    การเชื่อมต่อความเร็วสูง
    แพลตฟอร์มนี้ใช้ NVLink 6.0 และ NVSwitch 6.0 เพื่อเชื่อมต่อ GPU และ CPU ด้วยแบนด์วิดท์รวมกว่า 28.8 TB/s พร้อมทั้งระบบ Photonics Ethernet และ InfiniBand ที่ให้ความเร็วสูงสุดถึง 1.6 Tb/s ต่อพอร์ต สิ่งนี้ทำให้ Vera Rubin สามารถขยายสเกลเป็นคลัสเตอร์ขนาดใหญ่ได้อย่างราบรื่น รองรับการฝึกโมเดล AI ที่มีพารามิเตอร์ระดับล้านล้าน

    อนาคต: Rubin Ultra
    Nvidia ยังมีแผนเปิดตัว Rubin Ultra ในปี 2027 ซึ่งจะเพิ่มจำนวนชิป GPU เป็น 4 ชิปต่อแพ็กเกจ พร้อมหน่วยความจำ HBM4E ขนาด 1 TB และแบนด์วิดท์สูงถึง 32 TB/s คาดว่าจะให้ประสิทธิภาพ inference FP4 ถึง 100 PFLOPS ต่อแพ็กเกจ ซึ่งถือเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่ในการประมวลผล AI

    สรุปสาระสำคัญ
    Vera Rubin คือแพลตฟอร์ม AI/HPC รุ่นใหม่ของ Nvidia
    รวม 9 โปรเซสเซอร์ที่ออกแบบเฉพาะงาน AI และ HPC

    Vera CPU และ Rubin GPU เป็นหัวใจหลักของระบบ
    CPU มี 88 คอร์ Armv9-class, GPU ใช้ HBM4 288 GB

    Rubin CPX GPU เน้นงาน inference ของ LLM
    ใช้ GDDR7 128 GB สำหรับ context ยาวและ multi-modal

    ระบบเชื่อมต่อ NVLink 6.0 และ Photonics Ethernet
    ให้แบนด์วิดท์รวมกว่า 28.8 TB/s

    Rubin Ultra จะเปิดตัวในปี 2027
    เพิ่มหน่วยความจำเป็น 1 TB และประสิทธิภาพ inference FP4 ถึง 100 PFLOPS

    ความท้าทายด้านพลังงานและการระบายความร้อน
    Rubin GPU ใช้พลังงานสูงถึง 1.8 kW ต่อชิป และ Rubin Ultra อาจถึง 3.6 kW

    ต้นทุนโครงสร้างพื้นฐานที่สูงมาก
    ต้องใช้ระบบระบายความร้อนและแร็คใหม่ เช่น Kyber rack สำหรับ Rubin Ultra

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidias-vera-rubin-platform-in-depth-inside-nvidias-most-complex-ai-and-hpc-platform-to-date
    ⚙️ Vera Rubin – แพลตฟอร์ม AI/HPC รุ่นใหม่จาก Nvidia Nvidia กำลังพัฒนาแพลตฟอร์ม Vera Rubin ที่จะเปิดตัวในปี 2025 โดยมีเป้าหมายสร้างมาตรฐานใหม่ด้านประสิทธิภาพและความซับซ้อนในศูนย์ข้อมูล AI และ HPC จุดเด่นคือการรวม 9 โปรเซสเซอร์ที่แตกต่างกัน เข้าด้วยกันในระบบเดียว ตั้งแต่ CPU, GPU, DPU ไปจนถึงระบบเชื่อมต่อความเร็วสูง ซึ่งช่วยให้สามารถรองรับงาน AI ที่ต้องการพลังประมวลผลมหาศาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ 🖥️ สถาปัตยกรรมที่ก้าวล้ำ หัวใจของ Vera Rubin คือ Vera CPU ที่มี 88 คอร์ Armv9-class พร้อม SMT รองรับ 176 เธรด และ Rubin GPU ที่ใช้หน่วยความจำ HBM4 ขนาด 288 GB ให้แบนด์วิดท์สูงถึง 13 TB/s นอกจากนี้ยังมี Rubin CPX GPU ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับงาน inference ของโมเดล LLM ที่ต้องการ context ยาวหลายล้าน token ทำให้ระบบสามารถจัดการงาน multi-modal ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 🌐 การเชื่อมต่อความเร็วสูง แพลตฟอร์มนี้ใช้ NVLink 6.0 และ NVSwitch 6.0 เพื่อเชื่อมต่อ GPU และ CPU ด้วยแบนด์วิดท์รวมกว่า 28.8 TB/s พร้อมทั้งระบบ Photonics Ethernet และ InfiniBand ที่ให้ความเร็วสูงสุดถึง 1.6 Tb/s ต่อพอร์ต สิ่งนี้ทำให้ Vera Rubin สามารถขยายสเกลเป็นคลัสเตอร์ขนาดใหญ่ได้อย่างราบรื่น รองรับการฝึกโมเดล AI ที่มีพารามิเตอร์ระดับล้านล้าน 🔮 อนาคต: Rubin Ultra Nvidia ยังมีแผนเปิดตัว Rubin Ultra ในปี 2027 ซึ่งจะเพิ่มจำนวนชิป GPU เป็น 4 ชิปต่อแพ็กเกจ พร้อมหน่วยความจำ HBM4E ขนาด 1 TB และแบนด์วิดท์สูงถึง 32 TB/s คาดว่าจะให้ประสิทธิภาพ inference FP4 ถึง 100 PFLOPS ต่อแพ็กเกจ ซึ่งถือเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่ในการประมวลผล AI 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Vera Rubin คือแพลตฟอร์ม AI/HPC รุ่นใหม่ของ Nvidia ➡️ รวม 9 โปรเซสเซอร์ที่ออกแบบเฉพาะงาน AI และ HPC ✅ Vera CPU และ Rubin GPU เป็นหัวใจหลักของระบบ ➡️ CPU มี 88 คอร์ Armv9-class, GPU ใช้ HBM4 288 GB ✅ Rubin CPX GPU เน้นงาน inference ของ LLM ➡️ ใช้ GDDR7 128 GB สำหรับ context ยาวและ multi-modal ✅ ระบบเชื่อมต่อ NVLink 6.0 และ Photonics Ethernet ➡️ ให้แบนด์วิดท์รวมกว่า 28.8 TB/s ✅ Rubin Ultra จะเปิดตัวในปี 2027 ➡️ เพิ่มหน่วยความจำเป็น 1 TB และประสิทธิภาพ inference FP4 ถึง 100 PFLOPS ‼️ ความท้าทายด้านพลังงานและการระบายความร้อน ⛔ Rubin GPU ใช้พลังงานสูงถึง 1.8 kW ต่อชิป และ Rubin Ultra อาจถึง 3.6 kW ‼️ ต้นทุนโครงสร้างพื้นฐานที่สูงมาก ⛔ ต้องใช้ระบบระบายความร้อนและแร็คใหม่ เช่น Kyber rack สำหรับ Rubin Ultra https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidias-vera-rubin-platform-in-depth-inside-nvidias-most-complex-ai-and-hpc-platform-to-date
    0 Comments 0 Shares 35 Views 0 Reviews
  • พ่อสร้าง Synth ให้ลูกสาว

    บทความ I Built a Synth for My Daughter โดย Alastair Roberts เล่าประสบการณ์การสร้าง เครื่องสังเคราะห์เสียงแบบพกพา (portable step-sequencer synthesizer) สำหรับลูกสาววัย 3 ขวบ โดยเริ่มจากแรงบันดาลใจจากบอร์ดกิจกรรม Montessori ที่เต็มไปด้วยสวิตช์และไฟ LED จนเกิดไอเดียทำเป็นของเล่นดนตรีที่เด็กสามารถเลื่อนสไลด์เพื่อเปลี่ยนเสียงได้

    จาก Arduino สู่ PCB จริง
    Alastair เริ่มต้นด้วย Arduino Inventors Kit และเขียนโค้ดให้ potentiometer ส่งค่า MIDI ไปยัง Logic Pro เพื่อทดสอบเสียง ต่อมาเขาเพิ่มโมดูล synth ราคาถูก SAM2695 พร้อมลำโพงในตัว และจอ OLED ที่แสดงภาพแพนด้าน้อยเต้นตามจังหวะ แม้จะเจอปัญหาเรื่องหน่วยความจำและการอัปเดตหน้าจอที่ทำให้เสียงหน่วง แต่ก็แก้ไขด้วยการอัปเดตเป็นแพตช์เล็ก ๆ

    การออกแบบและพิมพ์ 3D
    เมื่อวงจรเริ่มเสถียร เขาใช้ Fusion 360 ออกแบบกล่องและพิมพ์ด้วยเครื่อง 3D printer ของเพื่อน หลังจากนั้นจึงพัฒนาเป็น PCB แบบสองชั้น ผ่านบริการ JLCPCB เพื่อให้ประกอบง่ายและทนทานขึ้น พร้อมปรับระบบพลังงานจากแบตเตอรี่ AA 4 ก้อนเป็น 3 ก้อนร่วมกับ Adafruit Miniboost เพื่อให้แรงดันไฟฟ้าเสถียร

    ผลลัพธ์และอนาคต
    Synth ที่สร้างขึ้นกลายเป็นของเล่นที่ลูกสาวชอบเล่นเป็นประจำ และยังเป็นโครงการเรียนรู้ที่ทำให้ Alastair เข้าใจทั้ง microcontroller, CAD, PCB design และการผลิตต้นแบบ เขามองว่าอาจต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์จริง แต่ก็ยอมรับว่ามีอุปสรรคด้านต้นทุนการผลิตและการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย

    สรุปประเด็นสำคัญ
    แรงบันดาลใจจากบอร์ด Montessori
    นำไปสู่การสร้างของเล่นดนตรีที่เด็กเล่นได้ง่าย

    เริ่มจาก Arduino และ MIDI
    พัฒนาไปสู่ synth module และจอ OLED

    ออกแบบกล่องด้วย Fusion 360 และพิมพ์ 3D
    ต่อมาเปลี่ยนเป็น PCB ที่ทนทานและประกอบง่าย

    ปรับระบบพลังงานให้เสถียรด้วย Miniboost
    ลดน้ำหนักและเพิ่มความทนทานของเครื่อง

    ข้อจำกัดด้านการผลิตเชิงพาณิชย์
    ต้องใช้ทุนสูงและการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย

    ปัญหาทางเทคนิคที่ยังต้องแก้ไข
    เช่น การหน่วงเสียงจากการอัปเดตหน้าจอ OLED

    https://bitsnpieces.dev/posts/a-synth-for-my-daughter/
    🎹 พ่อสร้าง Synth ให้ลูกสาว บทความ I Built a Synth for My Daughter โดย Alastair Roberts เล่าประสบการณ์การสร้าง เครื่องสังเคราะห์เสียงแบบพกพา (portable step-sequencer synthesizer) สำหรับลูกสาววัย 3 ขวบ โดยเริ่มจากแรงบันดาลใจจากบอร์ดกิจกรรม Montessori ที่เต็มไปด้วยสวิตช์และไฟ LED จนเกิดไอเดียทำเป็นของเล่นดนตรีที่เด็กสามารถเลื่อนสไลด์เพื่อเปลี่ยนเสียงได้ 🛠️ จาก Arduino สู่ PCB จริง Alastair เริ่มต้นด้วย Arduino Inventors Kit และเขียนโค้ดให้ potentiometer ส่งค่า MIDI ไปยัง Logic Pro เพื่อทดสอบเสียง ต่อมาเขาเพิ่มโมดูล synth ราคาถูก SAM2695 พร้อมลำโพงในตัว และจอ OLED ที่แสดงภาพแพนด้าน้อยเต้นตามจังหวะ แม้จะเจอปัญหาเรื่องหน่วยความจำและการอัปเดตหน้าจอที่ทำให้เสียงหน่วง แต่ก็แก้ไขด้วยการอัปเดตเป็นแพตช์เล็ก ๆ 🖨️ การออกแบบและพิมพ์ 3D เมื่อวงจรเริ่มเสถียร เขาใช้ Fusion 360 ออกแบบกล่องและพิมพ์ด้วยเครื่อง 3D printer ของเพื่อน หลังจากนั้นจึงพัฒนาเป็น PCB แบบสองชั้น ผ่านบริการ JLCPCB เพื่อให้ประกอบง่ายและทนทานขึ้น พร้อมปรับระบบพลังงานจากแบตเตอรี่ AA 4 ก้อนเป็น 3 ก้อนร่วมกับ Adafruit Miniboost เพื่อให้แรงดันไฟฟ้าเสถียร 🌟 ผลลัพธ์และอนาคต Synth ที่สร้างขึ้นกลายเป็นของเล่นที่ลูกสาวชอบเล่นเป็นประจำ และยังเป็นโครงการเรียนรู้ที่ทำให้ Alastair เข้าใจทั้ง microcontroller, CAD, PCB design และการผลิตต้นแบบ เขามองว่าอาจต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์จริง แต่ก็ยอมรับว่ามีอุปสรรคด้านต้นทุนการผลิตและการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ แรงบันดาลใจจากบอร์ด Montessori ➡️ นำไปสู่การสร้างของเล่นดนตรีที่เด็กเล่นได้ง่าย ✅ เริ่มจาก Arduino และ MIDI ➡️ พัฒนาไปสู่ synth module และจอ OLED ✅ ออกแบบกล่องด้วย Fusion 360 และพิมพ์ 3D ➡️ ต่อมาเปลี่ยนเป็น PCB ที่ทนทานและประกอบง่าย ✅ ปรับระบบพลังงานให้เสถียรด้วย Miniboost ➡️ ลดน้ำหนักและเพิ่มความทนทานของเครื่อง ‼️ ข้อจำกัดด้านการผลิตเชิงพาณิชย์ ⛔ ต้องใช้ทุนสูงและการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย ‼️ ปัญหาทางเทคนิคที่ยังต้องแก้ไข ⛔ เช่น การหน่วงเสียงจากการอัปเดตหน้าจอ OLED https://bitsnpieces.dev/posts/a-synth-for-my-daughter/
    BITSNPIECES.DEV
    I Built a Synth for My Daughter
    How I built a portable synthesizer for my three year old daughter.
    0 Comments 0 Shares 36 Views 0 Reviews
  • 6 ขั้นตอนการเรียนรู้ทักษะสังคมของ Sasha

    บทความ My six stages of learning to be a socially normal person โดย Sasha Chapin เล่าประสบการณ์การเรียนรู้ทักษะทางสังคมผ่าน 6 ขั้นตอน ตั้งแต่การพยายามเป็น “คนที่น่าสนใจ” ไปจนถึงการเรียนรู้ที่จะเชื่อมโยงกับผู้อื่นด้วยความรักและการยอมรับ ก่อนจะมาถึงจุดที่สามารถเลือกได้ว่าจะเชื่อมโยงหรือเว้นระยะห่างอย่างสมดุล

    ขั้นแรก: การเป็นคนที่น่าสนใจ
    ในวัยเด็กและวัยรุ่น Sasha พยายามสร้างตัวตนให้ดูฉลาดและน่าฟัง เช่น การอ่านบทกวีและวรรณกรรมยาก ๆ หรือเล่าเรื่องดราม่าในชีวิต แต่สิ่งนี้กลับทำให้เขาดูเป็น “คนโชว์” มากกว่าการเชื่อมโยงจริง ๆ จึงยังไม่สามารถเข้ากับสังคมได้อย่างแท้จริง

    ขั้นสอง–สาม: การเล่นเกมสังคมและการคลายกฎเกณฑ์
    เมื่อทำงานในร้านอาหาร เขาเรียนรู้จากเพื่อนร่วมงานว่า การเชื่อมโยงคือการเล่นเกมที่อีกฝ่ายต้องการ ไม่ใช่การยึดติดกับบทบาทตายตัว ต่อมาเขาพบว่าการ “คลายกฎ” และใส่ความแปลกเล็กน้อยลงไป เช่น พูดประโยคที่ไม่คาดคิด ทำให้ผู้คนรู้สึกผ่อนคลายและเปิดใจมากขึ้น

    ขั้นสี่: การเต้นไปตามจังหวะ
    ผ่านการฝึกสมาธิและการสังเกต เขาเริ่มเข้าใจ ภาษากายและอารมณ์ที่ละเอียดอ่อน ของผู้คน ทำให้การสื่อสารเหมือนการเต้นรำที่ต้องตอบสนองตามจังหวะ ไม่ใช่การคิดวิเคราะห์อย่างแข็งทื่อ

    ขั้นห้า–หก: ความรัก การยอมรับ และการเลือกเชื่อมโยง
    ในฐานะโค้ช เขาลองใช้ “พลังการเยียวยา” ผ่านการเปิดใจและการฟังอย่างลึกซึ้ง จนผู้คนรู้สึกได้รับการปลอบโยน แต่เขาก็พบข้อจำกัดว่า การเปิดใจมากเกินไปอาจทำให้คนอื่นเข้าใจผิดว่าเป็นความสัมพันธ์เชิงลึกหรือการจีบ สุดท้ายเขาจึงเรียนรู้ที่จะปรับระดับการเชื่อมโยงตามสถานการณ์ และยอมรับว่าบางครั้งการเว้นระยะห่างก็เป็นสิ่งที่ดี

    สรุปประเด็นสำคัญ
    6 ขั้นตอนการเรียนรู้ทักษะสังคมของ Sasha
    จากการพยายามเป็นคนที่น่าสนใจ → เล่นเกมสังคม → คลายกฎเกณฑ์ → เต้นไปตามจังหวะ → เปิดใจด้วยความรัก → เลือกเชื่อมโยงอย่างสมดุล

    บทเรียนสำคัญจากร้านอาหาร
    การสังเกตและตอบสนองต่อเกมสังคมของอีกฝ่ายทำให้ผู้คนรู้สึกสบายใจ

    การฝึกสมาธิและการสังเกตภาษากาย
    ช่วยให้เข้าใจอารมณ์และสร้างการเชื่อมโยงที่แท้จริง

    การเปิดใจสร้างความสัมพันธ์ลึกซึ้งได้ง่าย
    แต่ต้องระวังไม่ให้ผู้คนตีความผิดว่าเป็นความสัมพันธ์เชิงโรแมนติก

    ความเสี่ยงจากการเปิดใจมากเกินไป
    อาจทำให้คนอื่นรู้สึกถูกหลอกหรือสับสนในความสัมพันธ์

    การพยายามเป็น “คนที่น่าสนใจ” อย่างเดียวไม่เพียงพอ
    เพราะจะกลายเป็นการโชว์มากกว่าการเชื่อมโยงจริง ๆ

    https://sashachapin.substack.com/p/my-six-stages-of-learning-to-be-a
    🥂 6 ขั้นตอนการเรียนรู้ทักษะสังคมของ Sasha บทความ My six stages of learning to be a socially normal person โดย Sasha Chapin เล่าประสบการณ์การเรียนรู้ทักษะทางสังคมผ่าน 6 ขั้นตอน ตั้งแต่การพยายามเป็น “คนที่น่าสนใจ” ไปจนถึงการเรียนรู้ที่จะเชื่อมโยงกับผู้อื่นด้วยความรักและการยอมรับ ก่อนจะมาถึงจุดที่สามารถเลือกได้ว่าจะเชื่อมโยงหรือเว้นระยะห่างอย่างสมดุล 🎭 ขั้นแรก: การเป็นคนที่น่าสนใจ ในวัยเด็กและวัยรุ่น Sasha พยายามสร้างตัวตนให้ดูฉลาดและน่าฟัง เช่น การอ่านบทกวีและวรรณกรรมยาก ๆ หรือเล่าเรื่องดราม่าในชีวิต แต่สิ่งนี้กลับทำให้เขาดูเป็น “คนโชว์” มากกว่าการเชื่อมโยงจริง ๆ จึงยังไม่สามารถเข้ากับสังคมได้อย่างแท้จริง 🍷 ขั้นสอง–สาม: การเล่นเกมสังคมและการคลายกฎเกณฑ์ เมื่อทำงานในร้านอาหาร เขาเรียนรู้จากเพื่อนร่วมงานว่า การเชื่อมโยงคือการเล่นเกมที่อีกฝ่ายต้องการ ไม่ใช่การยึดติดกับบทบาทตายตัว ต่อมาเขาพบว่าการ “คลายกฎ” และใส่ความแปลกเล็กน้อยลงไป เช่น พูดประโยคที่ไม่คาดคิด ทำให้ผู้คนรู้สึกผ่อนคลายและเปิดใจมากขึ้น 💃 ขั้นสี่: การเต้นไปตามจังหวะ ผ่านการฝึกสมาธิและการสังเกต เขาเริ่มเข้าใจ ภาษากายและอารมณ์ที่ละเอียดอ่อน ของผู้คน ทำให้การสื่อสารเหมือนการเต้นรำที่ต้องตอบสนองตามจังหวะ ไม่ใช่การคิดวิเคราะห์อย่างแข็งทื่อ ❤️ ขั้นห้า–หก: ความรัก การยอมรับ และการเลือกเชื่อมโยง ในฐานะโค้ช เขาลองใช้ “พลังการเยียวยา” ผ่านการเปิดใจและการฟังอย่างลึกซึ้ง จนผู้คนรู้สึกได้รับการปลอบโยน แต่เขาก็พบข้อจำกัดว่า การเปิดใจมากเกินไปอาจทำให้คนอื่นเข้าใจผิดว่าเป็นความสัมพันธ์เชิงลึกหรือการจีบ สุดท้ายเขาจึงเรียนรู้ที่จะปรับระดับการเชื่อมโยงตามสถานการณ์ และยอมรับว่าบางครั้งการเว้นระยะห่างก็เป็นสิ่งที่ดี 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ 6 ขั้นตอนการเรียนรู้ทักษะสังคมของ Sasha ➡️ จากการพยายามเป็นคนที่น่าสนใจ → เล่นเกมสังคม → คลายกฎเกณฑ์ → เต้นไปตามจังหวะ → เปิดใจด้วยความรัก → เลือกเชื่อมโยงอย่างสมดุล ✅ บทเรียนสำคัญจากร้านอาหาร ➡️ การสังเกตและตอบสนองต่อเกมสังคมของอีกฝ่ายทำให้ผู้คนรู้สึกสบายใจ ✅ การฝึกสมาธิและการสังเกตภาษากาย ➡️ ช่วยให้เข้าใจอารมณ์และสร้างการเชื่อมโยงที่แท้จริง ✅ การเปิดใจสร้างความสัมพันธ์ลึกซึ้งได้ง่าย ➡️ แต่ต้องระวังไม่ให้ผู้คนตีความผิดว่าเป็นความสัมพันธ์เชิงโรแมนติก ‼️ ความเสี่ยงจากการเปิดใจมากเกินไป ⛔ อาจทำให้คนอื่นรู้สึกถูกหลอกหรือสับสนในความสัมพันธ์ ‼️ การพยายามเป็น “คนที่น่าสนใจ” อย่างเดียวไม่เพียงพอ ⛔ เพราะจะกลายเป็นการโชว์มากกว่าการเชื่อมโยงจริง ๆ https://sashachapin.substack.com/p/my-six-stages-of-learning-to-be-a
    0 Comments 0 Shares 40 Views 0 Reviews
  • พ.ศ. 2526 มีแฟนคนหนึ่งส่งจดหมายไปยังบริษัทแอปเปิล คอมพิวเตอร์ ที่เมืองคูเพอร์ติโน รัฐแคลิฟอร์เนีย

    เพื่อขอลายเซ็นของสตีฟ จอบส์ ผู้ก่อตั้งและประธานบอร์ดในเวลานั้น

    จอบส์ตอบกลับด้วยจดหมายพิมพ์อย่างสุภาพว่า เขา “ไม่เซ็นลายเซ็นให้ใคร”

    แต่ในตอนท้ายของจดหมาย เขากลับลงชื่อสตีฟ จอบส์ด้วยลายมือของตัวเอง

    ทำให้จดหมายฉบับนี้กลายเป็นเอกสารที่เต็มไปด้วยความย้อนแย้ง น่าขบขัน และสะท้อนบุคลิกเฉพาะตัวที่ทั้งตรงไปตรงมาและแอบมีอารมณ์ขันแบบเรียบง่าย

    ความพิเศษของจดหมายไม่ใช่แค่ข้อความ

    แต่เป็นการที่เจ้าตัวประกาศว่าไม่เซ็นลายเซ็น

    แต่สุดท้ายก็เซ็นลงไปจริง ๆ ส่งผลให้เอกสารนี้กลายเป็นของสะสมที่หายากอย่างยิ่งในหมู่นักสะสมผลงานของจอบส์และประวัติศาสตร์เทคโนโลยี

    เมื่อถูกนำออกประมูล จดหมายฉบับนี้ทำราคาสูงถึงเกือบห้าล้านเจ็ดแสนบาท หรือประมาณสี่แสนเจ็ดหมื่นเก้าพันดอลลาร์

    ซึ่งถือเป็นราคาที่สะท้อนพลังของเรื่องเล่า

    ความหายาก

    และเสน่ห์ของผู้ชายที่ชื่อสตีฟ จอบส์ ได้อย่างชัดเจน

    จดหมายเพียงหนึ่งหน้า

    กลับกลายเป็นประวัติศาสตร์ชิ้นเล็ก ๆ ที่เล่าเรื่องของอัจฉริยะผู้เปลี่ยนโลกในแบบเรียบง่ายแต่ทรงพลัง
    พ.ศ. 2526 มีแฟนคนหนึ่งส่งจดหมายไปยังบริษัทแอปเปิล คอมพิวเตอร์ ที่เมืองคูเพอร์ติโน รัฐแคลิฟอร์เนีย เพื่อขอลายเซ็นของสตีฟ จอบส์ ผู้ก่อตั้งและประธานบอร์ดในเวลานั้น จอบส์ตอบกลับด้วยจดหมายพิมพ์อย่างสุภาพว่า เขา “ไม่เซ็นลายเซ็นให้ใคร” แต่ในตอนท้ายของจดหมาย เขากลับลงชื่อสตีฟ จอบส์ด้วยลายมือของตัวเอง ทำให้จดหมายฉบับนี้กลายเป็นเอกสารที่เต็มไปด้วยความย้อนแย้ง น่าขบขัน และสะท้อนบุคลิกเฉพาะตัวที่ทั้งตรงไปตรงมาและแอบมีอารมณ์ขันแบบเรียบง่าย ความพิเศษของจดหมายไม่ใช่แค่ข้อความ แต่เป็นการที่เจ้าตัวประกาศว่าไม่เซ็นลายเซ็น แต่สุดท้ายก็เซ็นลงไปจริง ๆ ส่งผลให้เอกสารนี้กลายเป็นของสะสมที่หายากอย่างยิ่งในหมู่นักสะสมผลงานของจอบส์และประวัติศาสตร์เทคโนโลยี เมื่อถูกนำออกประมูล จดหมายฉบับนี้ทำราคาสูงถึงเกือบห้าล้านเจ็ดแสนบาท หรือประมาณสี่แสนเจ็ดหมื่นเก้าพันดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นราคาที่สะท้อนพลังของเรื่องเล่า ความหายาก และเสน่ห์ของผู้ชายที่ชื่อสตีฟ จอบส์ ได้อย่างชัดเจน จดหมายเพียงหนึ่งหน้า กลับกลายเป็นประวัติศาสตร์ชิ้นเล็ก ๆ ที่เล่าเรื่องของอัจฉริยะผู้เปลี่ยนโลกในแบบเรียบง่ายแต่ทรงพลัง
    0 Comments 0 Shares 23 Views 0 Reviews
  • Maxsun เปิดตัวเมนบอร์ด Anime Theme รองรับ Ryzen รุ่นใหม่

    Maxsun เปิดตัว MS-iCraft B850 AIGA motherboard ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับซีพียู AMD Ryzen รุ่นถัดไป โดยมาพร้อมดีไซน์ Anime Theme ที่เป็นเอกลักษณ์ และฟีเจอร์ล้ำสมัยสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการทั้งประสิทธิภาพและความสวยงาม.

    สเปกและฟีเจอร์เด่น
    เมนบอร์ดรุ่นนี้เป็น ATX form factor ขนาด 305×245 มม. ใช้ระบบพลังงาน 16+2+1 phase power design (50A) พร้อมคอนเนกเตอร์ 8-pin สองชุด รองรับ DDR5 DIMM 4 สล็อต ความจุสูงสุด 256GB ความเร็วถึง 8400 MT/s มี PCIe 5.0 x16 สองช่อง (ทำงานแบบ x8/x8 เมื่อใช้งานคู่กัน), M.2 4 ช่อง (2 ช่อง Gen5x4, 2 ช่อง Gen4x4) และ SATA III 2 ช่อง.

    การเชื่อมต่อและระบบเครือข่าย
    บอร์ดนี้มาพร้อม Wi-Fi 7 และ Bluetooth 5.4 ผ่านชิป Mediatek MT7925 รวมถึงพอร์ต LAN 5GbE (Realtek RTL8126) มีพอร์ต USB หลากหลายทั้ง USB-C 20Gbps, USB-A 10Gbps, USB 5Gbps และ USB 2.0 ทั้งภายนอกและภายใน นอกจากนี้ยังมีคอนเนกเตอร์สำหรับ ARGB, NRGB, CPU Fan, Pump และ Chassis Fan เพื่อรองรับการปรับแต่งระบบระบายความร้อนและไฟ RGB.

    ดีไซน์ Anime Theme และ BIOS ใหม่
    จุดเด่นคือ Magic of AIGA theme ที่ให้โทนสีดำพร้อมลวดลายอนิเมะบน IO cover, PCH heatsink และด้านหลัง PCB ทำให้เมนบอร์ดดูโดดเด่นสำหรับสายเกมเมอร์และนักสะสม นอกจากนี้ยังมาพร้อม PTM UI BIOS ที่ปรับปรุงอินเทอร์เฟซให้ใช้งานง่ายขึ้น พร้อมตัวเลือกใหม่สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการปรับแต่งระบบ.

    สรุปสาระสำคัญ
    Maxsun เปิดตัว MS-iCraft B850 AIGA
    รองรับ AMD Ryzen รุ่นใหม่
    ดีไซน์ Anime Theme โทนดำพร้อมลวดลายอนิเมะ

    สเปกและฟีเจอร์
    ATX form factor, 16+2+1 phase power design
    รองรับ DDR5 256GB, PCIe 5.0, M.2 Gen5/Gen4

    การเชื่อมต่อ
    Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4, LAN 5GbE
    USB-C 20Gbps, USB-A 10Gbps และพอร์ตภายในหลากหลาย

    ดีไซน์และ BIOS
    Magic of AIGA theme สไตล์อนิเมะ
    PTM UI BIOS ใช้งานง่ายและมีตัวเลือกใหม่

    ข้อควรระวัง
    ยังไม่ประกาศราคาและวันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
    ดีไซน์ Anime Theme อาจไม่เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการสไตล์เรียบง่าย

    https://wccftech.com/maxsun-ms-icraft-b850-aiga-motherboard-next-gen-amd-ryzen-ready-anime-theme/
    🖥️ Maxsun เปิดตัวเมนบอร์ด Anime Theme รองรับ Ryzen รุ่นใหม่ Maxsun เปิดตัว MS-iCraft B850 AIGA motherboard ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับซีพียู AMD Ryzen รุ่นถัดไป โดยมาพร้อมดีไซน์ Anime Theme ที่เป็นเอกลักษณ์ และฟีเจอร์ล้ำสมัยสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการทั้งประสิทธิภาพและความสวยงาม. ⚡ สเปกและฟีเจอร์เด่น เมนบอร์ดรุ่นนี้เป็น ATX form factor ขนาด 305×245 มม. ใช้ระบบพลังงาน 16+2+1 phase power design (50A) พร้อมคอนเนกเตอร์ 8-pin สองชุด รองรับ DDR5 DIMM 4 สล็อต ความจุสูงสุด 256GB ความเร็วถึง 8400 MT/s มี PCIe 5.0 x16 สองช่อง (ทำงานแบบ x8/x8 เมื่อใช้งานคู่กัน), M.2 4 ช่อง (2 ช่อง Gen5x4, 2 ช่อง Gen4x4) และ SATA III 2 ช่อง. 🌐 การเชื่อมต่อและระบบเครือข่าย บอร์ดนี้มาพร้อม Wi-Fi 7 และ Bluetooth 5.4 ผ่านชิป Mediatek MT7925 รวมถึงพอร์ต LAN 5GbE (Realtek RTL8126) มีพอร์ต USB หลากหลายทั้ง USB-C 20Gbps, USB-A 10Gbps, USB 5Gbps และ USB 2.0 ทั้งภายนอกและภายใน นอกจากนี้ยังมีคอนเนกเตอร์สำหรับ ARGB, NRGB, CPU Fan, Pump และ Chassis Fan เพื่อรองรับการปรับแต่งระบบระบายความร้อนและไฟ RGB. 🎨 ดีไซน์ Anime Theme และ BIOS ใหม่ จุดเด่นคือ Magic of AIGA theme ที่ให้โทนสีดำพร้อมลวดลายอนิเมะบน IO cover, PCH heatsink และด้านหลัง PCB ทำให้เมนบอร์ดดูโดดเด่นสำหรับสายเกมเมอร์และนักสะสม นอกจากนี้ยังมาพร้อม PTM UI BIOS ที่ปรับปรุงอินเทอร์เฟซให้ใช้งานง่ายขึ้น พร้อมตัวเลือกใหม่สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการปรับแต่งระบบ. 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Maxsun เปิดตัว MS-iCraft B850 AIGA ➡️ รองรับ AMD Ryzen รุ่นใหม่ ➡️ ดีไซน์ Anime Theme โทนดำพร้อมลวดลายอนิเมะ ✅ สเปกและฟีเจอร์ ➡️ ATX form factor, 16+2+1 phase power design ➡️ รองรับ DDR5 256GB, PCIe 5.0, M.2 Gen5/Gen4 ✅ การเชื่อมต่อ ➡️ Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4, LAN 5GbE ➡️ USB-C 20Gbps, USB-A 10Gbps และพอร์ตภายในหลากหลาย ✅ ดีไซน์และ BIOS ➡️ Magic of AIGA theme สไตล์อนิเมะ ➡️ PTM UI BIOS ใช้งานง่ายและมีตัวเลือกใหม่ ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ ยังไม่ประกาศราคาและวันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ⛔ ดีไซน์ Anime Theme อาจไม่เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการสไตล์เรียบง่าย https://wccftech.com/maxsun-ms-icraft-b850-aiga-motherboard-next-gen-amd-ryzen-ready-anime-theme/
    WCCFTECH.COM
    Maxsun MS-iCraft B850 AIGA Motherboard Is Next-Gen AMD Ryzen Ready & Features Anime Theme
    Maxsun has unveiled its brand new MS-iCraft B850 AIGA motherboard, which it says is ready for AMD's next-gen Ryzen CPUs.
    0 Comments 0 Shares 54 Views 0 Reviews
  • Kingston Dual Portable SSD: ดีไซน์กะทัดรัดแต่ทรงพลัง

    Kingston Technology เปิดตัว SSD แบบ thumb drive รุ่นใหม่ ที่มาพร้อมพอร์ต USB-A และ USB-C ในตัวเดียว ทำให้ใช้งานได้กับอุปกรณ์หลากหลาย ทั้งคอมพิวเตอร์รุ่นเก่าและใหม่ รวมถึงสมาร์ตโฟนและแท็บเล็ตที่รองรับ USB-C. ตัวเครื่องทำจากโลหะและพลาสติก แข็งแรงทนทาน น้ำหนักเพียง 13 กรัม พกพาสะดวกเหมือนแฟลชไดรฟ์ทั่วไป แต่ให้ประสิทธิภาพระดับ SSD.

    ความเร็วและความจุ
    รุ่นนี้รองรับมาตรฐาน USB 3.2 Gen 2 ให้ความเร็วอ่านสูงสุด 1,050 MB/s และเขียน 950 MB/s ซึ่งเร็วกว่าฟลาชไดรฟ์ทั่วไปหลายเท่า เหมาะสำหรับงานที่ต้องการโอนถ่ายไฟล์ขนาดใหญ่ เช่น วิดีโอ 4K, ภาพถ่าย RAW หรือการสำรองข้อมูลด่วน โดยมีให้เลือก 3 ความจุ:
    512GB ราคา $97
    1TB ราคา $144
    2TB ราคา $239

    การใช้งานและความเข้ากันได้
    Kingston ออกแบบให้ใช้งานได้กับระบบปฏิบัติการหลากหลาย เช่น Windows 11, macOS, Linux, ChromeOS, Android และ iOS/iPadOS 13 ขึ้นไป ทำให้ผู้ใช้สามารถโอนถ่ายข้อมูลข้ามแพลตฟอร์มได้สะดวก นอกจากนี้ยังมีการรับประกัน 5 ปี พร้อมบริการซัพพอร์ตฟรี.

    ข้อจำกัดและสิ่งที่ควรระวัง
    แม้จะมีความเร็วสูงและดีไซน์ทนทาน แต่รุ่นนี้ยังไม่มีคุณสมบัติ กันน้ำหรือกันฝุ่น ซึ่งอาจเป็นข้อจำกัดสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานในสภาพแวดล้อมกลางแจ้งหรือการเดินทางไกล อีกทั้งราคายังสูงกว่าฟลาชไดรฟ์ทั่วไป แม้จะแลกมากับความเร็วและความจุที่เหนือกว่า.

    สรุปสาระสำคัญ
    Kingston เปิดตัว SSD thumb drive รุ่นใหม่
    มีพอร์ต USB-A และ USB-C ในตัวเดียว
    ดีไซน์กะทัดรัด น้ำหนักเพียง 13 กรัม

    ความเร็วและความจุ
    อ่านสูงสุด 1,050 MB/s เขียน 950 MB/s
    มีให้เลือก 512GB, 1TB, 2TB

    การใช้งานและความเข้ากันได้
    รองรับ Windows, macOS, Linux, ChromeOS, Android, iOS/iPadOS
    รับประกัน 5 ปี พร้อมบริการซัพพอร์ตฟรี

    ข้อจำกัด
    ไม่มีคุณสมบัติกันน้ำหรือกันฝุ่น
    ราคาสูงกว่าฟลาชไดรฟ์ทั่วไป

    https://www.tomshardware.com/pc-components/external-ssds/kingston-debuts-versatile-ssd-thumb-drive-with-usb-a-and-usb-c-connectors-offers-1-050-mb-s-transfers-priced-from-usd97-for-512gb
    💾 Kingston Dual Portable SSD: ดีไซน์กะทัดรัดแต่ทรงพลัง Kingston Technology เปิดตัว SSD แบบ thumb drive รุ่นใหม่ ที่มาพร้อมพอร์ต USB-A และ USB-C ในตัวเดียว ทำให้ใช้งานได้กับอุปกรณ์หลากหลาย ทั้งคอมพิวเตอร์รุ่นเก่าและใหม่ รวมถึงสมาร์ตโฟนและแท็บเล็ตที่รองรับ USB-C. ตัวเครื่องทำจากโลหะและพลาสติก แข็งแรงทนทาน น้ำหนักเพียง 13 กรัม พกพาสะดวกเหมือนแฟลชไดรฟ์ทั่วไป แต่ให้ประสิทธิภาพระดับ SSD. ⚡ ความเร็วและความจุ รุ่นนี้รองรับมาตรฐาน USB 3.2 Gen 2 ให้ความเร็วอ่านสูงสุด 1,050 MB/s และเขียน 950 MB/s ซึ่งเร็วกว่าฟลาชไดรฟ์ทั่วไปหลายเท่า เหมาะสำหรับงานที่ต้องการโอนถ่ายไฟล์ขนาดใหญ่ เช่น วิดีโอ 4K, ภาพถ่าย RAW หรือการสำรองข้อมูลด่วน โดยมีให้เลือก 3 ความจุ: 💠 512GB ราคา $97 💠 1TB ราคา $144 💠 2TB ราคา $239 🌍 การใช้งานและความเข้ากันได้ Kingston ออกแบบให้ใช้งานได้กับระบบปฏิบัติการหลากหลาย เช่น Windows 11, macOS, Linux, ChromeOS, Android และ iOS/iPadOS 13 ขึ้นไป ทำให้ผู้ใช้สามารถโอนถ่ายข้อมูลข้ามแพลตฟอร์มได้สะดวก นอกจากนี้ยังมีการรับประกัน 5 ปี พร้อมบริการซัพพอร์ตฟรี. ⚠️ ข้อจำกัดและสิ่งที่ควรระวัง แม้จะมีความเร็วสูงและดีไซน์ทนทาน แต่รุ่นนี้ยังไม่มีคุณสมบัติ กันน้ำหรือกันฝุ่น ซึ่งอาจเป็นข้อจำกัดสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานในสภาพแวดล้อมกลางแจ้งหรือการเดินทางไกล อีกทั้งราคายังสูงกว่าฟลาชไดรฟ์ทั่วไป แม้จะแลกมากับความเร็วและความจุที่เหนือกว่า. 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Kingston เปิดตัว SSD thumb drive รุ่นใหม่ ➡️ มีพอร์ต USB-A และ USB-C ในตัวเดียว ➡️ ดีไซน์กะทัดรัด น้ำหนักเพียง 13 กรัม ✅ ความเร็วและความจุ ➡️ อ่านสูงสุด 1,050 MB/s เขียน 950 MB/s ➡️ มีให้เลือก 512GB, 1TB, 2TB ✅ การใช้งานและความเข้ากันได้ ➡️ รองรับ Windows, macOS, Linux, ChromeOS, Android, iOS/iPadOS ➡️ รับประกัน 5 ปี พร้อมบริการซัพพอร์ตฟรี ‼️ ข้อจำกัด ⛔ ไม่มีคุณสมบัติกันน้ำหรือกันฝุ่น ⛔ ราคาสูงกว่าฟลาชไดรฟ์ทั่วไป https://www.tomshardware.com/pc-components/external-ssds/kingston-debuts-versatile-ssd-thumb-drive-with-usb-a-and-usb-c-connectors-offers-1-050-mb-s-transfers-priced-from-usd97-for-512gb
    0 Comments 0 Shares 60 Views 0 Reviews
  • อว. เร่งขับเคลื่อน Quick Win! “รัฐมนตรีสุรศักดิ์” ดันไทยสู่ศูนย์เวชศาสตร์นิวเคลียร์อาเซียน-เตรียมพร้อมรับ SMR พลังงานสะอาด
    https://www.thai-tai.tv/news/22413/
    .
    #ไทยไท #IAEA #พลังงานนิวเคลียร์สะอาด #SMR #เวชศาสตร์นิวเคลียร์ #อว.

    อว. เร่งขับเคลื่อน Quick Win! “รัฐมนตรีสุรศักดิ์” ดันไทยสู่ศูนย์เวชศาสตร์นิวเคลียร์อาเซียน-เตรียมพร้อมรับ SMR พลังงานสะอาด https://www.thai-tai.tv/news/22413/ . #ไทยไท #IAEA #พลังงานนิวเคลียร์สะอาด #SMR #เวชศาสตร์นิวเคลียร์ #อว.
    0 Comments 0 Shares 59 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจาก TechRadar ประจำวัน
    #20251117 #techradar

    RansomHouse โจมตี Fulgar – ข้อมูลลับหลุดว่อน
    บริษัท Fulgar ผู้ผลิตเส้นใยสังเคราะห์รายใหญ่ที่ส่งให้แบรนด์ดังอย่าง H&M และ Adidas ถูกกลุ่มแฮ็กเกอร์ RansomHouse โจมตีด้วยแรนซัมแวร์ ข้อมูลภายใน เช่น ยอดเงินในบัญชี ใบแจ้งหนี้ และการสื่อสารกับลูกค้า ถูกนำไปเผยแพร่บนเว็บมืด เหตุการณ์นี้สะท้อนว่าซัพพลายเชนแฟชั่นระดับโลกก็ยังเสี่ยงต่อการถูกโจมตีไซเบอร์ได้ง่าย

    ทดสอบ AI ยักษ์ใหญ่ – ChatGPT, Gemini, Claude ถูกกดดันด้วยคำสั่งสุดโต่ง
    นักวิจัยทดลองกดดันโมเดล AI ชั้นนำด้วยคำสั่งที่ซับซ้อนและสุดโต่ง ผลปรากฏว่าระบบยังมีช่องโหว่ สามารถถูกบังคับให้ทำงานผิดจุดประสงค์ได้ การทดสอบนี้ชี้ให้เห็นว่าการป้องกัน AI ยังไม่สมบูรณ์ และผู้ใช้ควรตระหนักถึงความเสี่ยงในการใช้งาน

    Nvidia เปิดตัว Hyperlink – เปลี่ยน PC เป็นศูนย์กลาง AI ส่วนตัว
    Nvidia เปิดตัวแอป Hyperlink ที่ทำให้คอมพิวเตอร์กลายเป็นเครื่องมือค้นหาข้อมูลส่วนตัวด้วย AI สามารถเจาะเข้าไปในไฟล์ต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย จุดเด่นคือการทำงานแบบ private ไม่ต้องพึ่งคลาวด์ เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการความปลอดภัยและความเร็ว

    กล้อง Camp Snap Retro – ของขวัญราคาประหยัดที่มีสไตล์
    บทความแนะนำกล้องคอมแพ็ก Camp Snap Retro ที่สามารถสั่งทำแบบ personalized ได้ ราคาย่อมเยา เหมาะเป็นของขวัญสำหรับคนที่ชอบถ่ายภาพและชื่นชอบสไตล์ย้อนยุค

    Thunderobot Mix G2 – คู่แข่งใหม่ของ Asus ROG NUC
    Thunderobot เปิดตัว Mini PC รุ่น Mix G2 ที่มาพร้อม GPU แรงและดีไซน์กะทัดรัด กลายเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Asus ROG NUC 2025 จุดขายคือพลังการประมวลผลสูงและชื่อแบรนด์ที่สะดุดตา

    Mini PC ราคาต่ำกว่า $500 – ทางเลือกแทน Steam Machine
    บทความรวบรวม Mini PC ห้ารุ่นที่ราคาไม่เกิน $500 แต่สามารถรัน SteamOS และเล่นเกมได้ ถือเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าแทนการซื้อเครื่องเกมใหม่จาก Valve

    ฮาร์ดดิสก์ Seagate Exos 2X18 – เร็วเกือบเทียบ SSD
    Seagate เปิดตัวฮาร์ดดิสก์ความจุ 18TB รุ่น Exos 2X18 ที่มีความเร็วสูงจนใกล้เคียง SSD SATA แม้ราคาจะไม่ถูก แต่ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาฮาร์ดดิสก์ให้ตอบโจทย์งานที่ต้องการความเร็ว

    Belkin เรียกคืน Power Bank และแท่นชาร์จ – เสี่ยงไฟไหม้
    Belkin ประกาศเรียกคืนผลิตภัณฑ์ Power Bank และแท่นชาร์จหลายรุ่น เนื่องจากมีความเสี่ยงเกิดไฟไหม้ ผู้ใช้ควรตรวจสอบหมายเลขรุ่นและหยุดใช้งานทันทีเพื่อความปลอดภัย

    Seagate เปิดตัวระบบเก็บข้อมูล AI-ready – ความจุสูงสุด 3.2PB
    Seagate เปิดตัวโซลูชันเก็บข้อมูลใหม่ที่รองรับงาน AI โดยสามารถเก็บข้อมูลได้สูงสุดถึง 3.2 เพตะไบต์ในเครื่องเดียว เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องจัดการข้อมูลมหาศาลและต้องการความเร็วในการประมวลผล

    ไปตามเจาะข่าวกันได้ที่ : https://www.techradar.com/
    📌🪛🟢 รวมข่าวจาก TechRadar ประจำวัน 🟢🪛📌 #20251117 #techradar 🛡️ RansomHouse โจมตี Fulgar – ข้อมูลลับหลุดว่อน บริษัท Fulgar ผู้ผลิตเส้นใยสังเคราะห์รายใหญ่ที่ส่งให้แบรนด์ดังอย่าง H&M และ Adidas ถูกกลุ่มแฮ็กเกอร์ RansomHouse โจมตีด้วยแรนซัมแวร์ ข้อมูลภายใน เช่น ยอดเงินในบัญชี ใบแจ้งหนี้ และการสื่อสารกับลูกค้า ถูกนำไปเผยแพร่บนเว็บมืด เหตุการณ์นี้สะท้อนว่าซัพพลายเชนแฟชั่นระดับโลกก็ยังเสี่ยงต่อการถูกโจมตีไซเบอร์ได้ง่าย 🤖 ทดสอบ AI ยักษ์ใหญ่ – ChatGPT, Gemini, Claude ถูกกดดันด้วยคำสั่งสุดโต่ง นักวิจัยทดลองกดดันโมเดล AI ชั้นนำด้วยคำสั่งที่ซับซ้อนและสุดโต่ง ผลปรากฏว่าระบบยังมีช่องโหว่ สามารถถูกบังคับให้ทำงานผิดจุดประสงค์ได้ การทดสอบนี้ชี้ให้เห็นว่าการป้องกัน AI ยังไม่สมบูรณ์ และผู้ใช้ควรตระหนักถึงความเสี่ยงในการใช้งาน 💻 Nvidia เปิดตัว Hyperlink – เปลี่ยน PC เป็นศูนย์กลาง AI ส่วนตัว Nvidia เปิดตัวแอป Hyperlink ที่ทำให้คอมพิวเตอร์กลายเป็นเครื่องมือค้นหาข้อมูลส่วนตัวด้วย AI สามารถเจาะเข้าไปในไฟล์ต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย จุดเด่นคือการทำงานแบบ private ไม่ต้องพึ่งคลาวด์ เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการความปลอดภัยและความเร็ว 📸 กล้อง Camp Snap Retro – ของขวัญราคาประหยัดที่มีสไตล์ บทความแนะนำกล้องคอมแพ็ก Camp Snap Retro ที่สามารถสั่งทำแบบ personalized ได้ ราคาย่อมเยา เหมาะเป็นของขวัญสำหรับคนที่ชอบถ่ายภาพและชื่นชอบสไตล์ย้อนยุค 🎮 Thunderobot Mix G2 – คู่แข่งใหม่ของ Asus ROG NUC Thunderobot เปิดตัว Mini PC รุ่น Mix G2 ที่มาพร้อม GPU แรงและดีไซน์กะทัดรัด กลายเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Asus ROG NUC 2025 จุดขายคือพลังการประมวลผลสูงและชื่อแบรนด์ที่สะดุดตา 🕹️ Mini PC ราคาต่ำกว่า $500 – ทางเลือกแทน Steam Machine บทความรวบรวม Mini PC ห้ารุ่นที่ราคาไม่เกิน $500 แต่สามารถรัน SteamOS และเล่นเกมได้ ถือเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าแทนการซื้อเครื่องเกมใหม่จาก Valve 💾 ฮาร์ดดิสก์ Seagate Exos 2X18 – เร็วเกือบเทียบ SSD Seagate เปิดตัวฮาร์ดดิสก์ความจุ 18TB รุ่น Exos 2X18 ที่มีความเร็วสูงจนใกล้เคียง SSD SATA แม้ราคาจะไม่ถูก แต่ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาฮาร์ดดิสก์ให้ตอบโจทย์งานที่ต้องการความเร็ว 🔌 Belkin เรียกคืน Power Bank และแท่นชาร์จ – เสี่ยงไฟไหม้ Belkin ประกาศเรียกคืนผลิตภัณฑ์ Power Bank และแท่นชาร์จหลายรุ่น เนื่องจากมีความเสี่ยงเกิดไฟไหม้ ผู้ใช้ควรตรวจสอบหมายเลขรุ่นและหยุดใช้งานทันทีเพื่อความปลอดภัย 📂 Seagate เปิดตัวระบบเก็บข้อมูล AI-ready – ความจุสูงสุด 3.2PB Seagate เปิดตัวโซลูชันเก็บข้อมูลใหม่ที่รองรับงาน AI โดยสามารถเก็บข้อมูลได้สูงสุดถึง 3.2 เพตะไบต์ในเครื่องเดียว เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องจัดการข้อมูลมหาศาลและต้องการความเร็วในการประมวลผล ไปตามเจาะข่าวกันได้ที่ : https://www.techradar.com/
    0 Comments 0 Shares 125 Views 0 Reviews
  • ไอซ์รักชนกนั่งไม่ติดแล้วมั๊ย กันจ่อจัดหนัก ครุฑใกล้บินถึงไอซ์และคนดัง (17/11/68)
    .
    #thaitimes #News1 #News1short #TruthFromThailand #shorts #ไอซ์รักชนก #กันจอมพลัง #ดราม่าการเมือง #การเมืองไทย #ข่าวร้อน #ข่าววันนี้ #newsupdate
    ไอซ์รักชนกนั่งไม่ติดแล้วมั๊ย กันจ่อจัดหนัก ครุฑใกล้บินถึงไอซ์และคนดัง (17/11/68) . #thaitimes #News1 #News1short #TruthFromThailand #shorts #ไอซ์รักชนก #กันจอมพลัง #ดราม่าการเมือง #การเมืองไทย #ข่าวร้อน #ข่าววันนี้ #newsupdate
    0 Comments 0 Shares 78 Views 0 0 Reviews
  • เหรียญหลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม ปี2536
    เหรียญหลวงพ่อแช่ม เนื้อทองแดงรมดำ วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม ปี2536 // พระดีพิธีใหญ่ ปลุกเสกพิธีเสาร์ห้า เหรียยสวยงาม คมชัด //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณครบเครื่องทุกๆด้าน เมตตามหานิยมเป็นเลิศ คงกระพันชาตรี แคล้วคลาด ปลอดภัย มีประสบการณ์สูง โดดเด่นในทางโชคลาภและทำมาค้าขาย โดยเฉพาะผู้ทำมาหากิน จะเจริญรุ่งเรืองและร่ำรวย และป้องกันคุณไสยต่างๆ กันคุณผี คุณไสยเวท อาถรรพณ์ **

    ** “หลวงพ่อแช่ม ฐานุสสโก” ผู้สืบทอดเจตนารมณ์ รวมทั้งพุทธาคมจาก หลวงพ่อเงิน เทพเจ้าแห่งดอนยายหอม เป็นพระเกจิผู้เชี่ยวชาญวิปัสสนากัมมัฏฐาน พลังจิตเข้มขลัง เป็นพระนักพัฒนา สืบทอดเจตนารมณ์ตามรอยธรรมหลวงพ่อเงินทุกประการ นับเป็นความโชคดีของวัดดอนยายหอม เมื่อสิ้นบุญหลวงพ่อเงินแล้ว ก็มีหลวงพ่อแช่มเป็นกำลังสำคัญสืบต่อจากหลวงพ่อเงิน ในการพัฒนาวัดดอนยายหอม และเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาสาธารณประโยชน์สาธารณสถานต่างๆ หลวงพ่อแช่มมีพลังจิตเข้มขลังตั้งแต่พรรษายังน้อย ร่ำลือกันว่า ปรากฏการณ์ที่ทำให้ชื่อเสียงโด่งดังขึ้นอย่างรวดเร็ว คือ หลวงพ่อแช่มสามารถอธิษฐานจิตปลุกเสกจนน้ำมนต์เทไม่ออก **

    ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญหลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม ปี2536 เหรียญหลวงพ่อแช่ม เนื้อทองแดงรมดำ วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม ปี2536 // พระดีพิธีใหญ่ ปลุกเสกพิธีเสาร์ห้า เหรียยสวยงาม คมชัด //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณครบเครื่องทุกๆด้าน เมตตามหานิยมเป็นเลิศ คงกระพันชาตรี แคล้วคลาด ปลอดภัย มีประสบการณ์สูง โดดเด่นในทางโชคลาภและทำมาค้าขาย โดยเฉพาะผู้ทำมาหากิน จะเจริญรุ่งเรืองและร่ำรวย และป้องกันคุณไสยต่างๆ กันคุณผี คุณไสยเวท อาถรรพณ์ ** ** “หลวงพ่อแช่ม ฐานุสสโก” ผู้สืบทอดเจตนารมณ์ รวมทั้งพุทธาคมจาก หลวงพ่อเงิน เทพเจ้าแห่งดอนยายหอม เป็นพระเกจิผู้เชี่ยวชาญวิปัสสนากัมมัฏฐาน พลังจิตเข้มขลัง เป็นพระนักพัฒนา สืบทอดเจตนารมณ์ตามรอยธรรมหลวงพ่อเงินทุกประการ นับเป็นความโชคดีของวัดดอนยายหอม เมื่อสิ้นบุญหลวงพ่อเงินแล้ว ก็มีหลวงพ่อแช่มเป็นกำลังสำคัญสืบต่อจากหลวงพ่อเงิน ในการพัฒนาวัดดอนยายหอม และเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาสาธารณประโยชน์สาธารณสถานต่างๆ หลวงพ่อแช่มมีพลังจิตเข้มขลังตั้งแต่พรรษายังน้อย ร่ำลือกันว่า ปรากฏการณ์ที่ทำให้ชื่อเสียงโด่งดังขึ้นอย่างรวดเร็ว คือ หลวงพ่อแช่มสามารถอธิษฐานจิตปลุกเสกจนน้ำมนต์เทไม่ออก ** ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 72 Views 0 Reviews
  • เรือหายแล้วไอซ์เล่นไว้เยอะ กันจอมพลังตรวจเส้นเงินเคลียร์ ไอซ์รอดยาก (17/11/68)
    .
    #thaitimes #News1 #News1short #TruthFromThailand #shorts #กันจอมพลัง #ไอซ์ #การเมืองไทย #ดราม่าการเมือง #ข่าวร้อน #ข่าววันนี้ #newsupdate
    เรือหายแล้วไอซ์เล่นไว้เยอะ กันจอมพลังตรวจเส้นเงินเคลียร์ ไอซ์รอดยาก (17/11/68) . #thaitimes #News1 #News1short #TruthFromThailand #shorts #กันจอมพลัง #ไอซ์ #การเมืองไทย #ดราม่าการเมือง #ข่าวร้อน #ข่าววันนี้ #newsupdate
    0 Comments 0 Shares 80 Views 0 0 Reviews
  • Intel เตรียมรีเฟรช Arrow Lake-S รุ่นใหม่ เพิ่มความแรงเล็กน้อยก่อนเปลี่ยน Socket

    Intel กำลังจะเปิดตัวซีพียูรุ่นรีเฟรชในตระกูล Arrow Lake-S ได้แก่ Core Ultra 290K Plus, 270K Plus และ 250K Plus ซึ่งถือเป็น “รุ่นสุดท้าย” ที่ใช้ Socket LGA 1851 ก่อนจะเปลี่ยนไปสู่ LGA 1954 ในยุค Nova Lake รุ่นใหม่ การอัปเดตครั้งนี้แม้จะไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ แต่ก็มีการปรับปรุงความเร็ว Turbo และเพิ่มจำนวน E-Core เพื่อให้ตอบโจทย์การแข่งขันกับ AMD ได้ดียิ่งขึ้น

    รายละเอียดการปรับปรุง
    Core Ultra 290K Plus จะมาแทนรุ่น 285K โดยยังคงโครงสร้าง 8P+16E แต่เพิ่มความเร็ว P-Core Turbo เป็น 5.6 GHz และ E-Core Turbo เป็น 4.8 GHz พร้อม Thermal Velocity Boost สูงสุด 5.8 GHz ส่วน Core Ultra 270K Plus เพิ่มจำนวน E-Core จาก 12 เป็น 16 แต่ลด Base Clock ลงเล็กน้อย ขณะที่ Core Ultra 250K Plus ปรับจาก 6P+8E เป็น 6P+12E และเพิ่มความเร็ว Turbo เล็กน้อย

    จุดเด่นและข้อสังเกต
    ซีพียูทั้งสามรุ่นรองรับ DDR5-7200 ซึ่งสูงกว่ารุ่นก่อนที่รองรับเพียง DDR5-6400 แต่การขาดแคลนหน่วยความจำในตลาดอาจทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถสัมผัสประสิทธิภาพเต็มที่ได้ นอกจากนี้ Intel ยังคงกำหนดค่า Power Limit เท่าเดิมกับรุ่นก่อนหน้า ทำให้การอัปเดตครั้งนี้เป็นเพียง “การปรับแต่งเล็กน้อย” มากกว่าการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง

    มุมมองจากตลาดโลก
    การแข่งขันกับ AMD ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่บีบให้ Intel ต้องรีเฟรช Arrow Lake-S เพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด แม้การอัปเดตจะไม่หวือหวา แต่การตั้งราคาจะเป็นตัวชี้วัดสำคัญว่าซีพียูเหล่านี้จะได้รับความนิยมเพียงใด โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดคอมพิวเตอร์กำลังเผชิญกับภาวะขาดแคลนหน่วยความจำและความต้องการด้านพลังงานที่สูงขึ้น

    สรุปสาระสำคัญ
    การเปิดตัวซีพียู Arrow Lake-S รุ่นรีเฟรช
    Core Ultra 290K Plus, 270K Plus และ 250K Plus
    ใช้ Socket LGA 1851 เป็นรุ่นสุดท้าย ก่อนเปลี่ยนไป LGA 1954

    รายละเอียดการปรับปรุงแต่ละรุ่น
    290K Plus: Turbo สูงสุด 5.8 GHz
    270K Plus: เพิ่ม E-Core เป็น 16 แต่ลด Base Clock
    250K Plus: ปรับเป็น 6P+12E พร้อม Turbo เพิ่มขึ้น

    การรองรับหน่วยความจำ DDR5-7200
    สูงกว่ารุ่นก่อนที่รองรับ DDR5-6400
    อาจไม่เห็นผลเต็มที่เพราะตลาดขาดแคลน RAM

    พลังงานและการตลาด
    Power Limit เท่าเดิมกับรุ่นก่อน
    การตั้งราคาจะเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จ

    ข้อควรระวังและข้อจำกัด
    การขาดแคลนหน่วยความจำ DDR5 อาจทำให้ผู้ใช้ไม่ได้ประสิทธิภาพเต็มที่
    การอัปเดตครั้งนี้เป็นเพียงการปรับแต่งเล็กน้อย ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงใหญ่
    หากราคาสูงเกินไป อาจเสียเปรียบในการแข่งขันกับ AMD

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intels-upcoming-arrow-lake-desktop-refresh-detailed-in-new-leak-core-ultra-290k-plus-270k-plus-and-250k-plus-will-ship-with-improved-clocks-and-more-e-cores-along-with-ddr5-7200-support
    🖥️ Intel เตรียมรีเฟรช Arrow Lake-S รุ่นใหม่ เพิ่มความแรงเล็กน้อยก่อนเปลี่ยน Socket Intel กำลังจะเปิดตัวซีพียูรุ่นรีเฟรชในตระกูล Arrow Lake-S ได้แก่ Core Ultra 290K Plus, 270K Plus และ 250K Plus ซึ่งถือเป็น “รุ่นสุดท้าย” ที่ใช้ Socket LGA 1851 ก่อนจะเปลี่ยนไปสู่ LGA 1954 ในยุค Nova Lake รุ่นใหม่ การอัปเดตครั้งนี้แม้จะไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ แต่ก็มีการปรับปรุงความเร็ว Turbo และเพิ่มจำนวน E-Core เพื่อให้ตอบโจทย์การแข่งขันกับ AMD ได้ดียิ่งขึ้น ⚡ รายละเอียดการปรับปรุง Core Ultra 290K Plus จะมาแทนรุ่น 285K โดยยังคงโครงสร้าง 8P+16E แต่เพิ่มความเร็ว P-Core Turbo เป็น 5.6 GHz และ E-Core Turbo เป็น 4.8 GHz พร้อม Thermal Velocity Boost สูงสุด 5.8 GHz ส่วน Core Ultra 270K Plus เพิ่มจำนวน E-Core จาก 12 เป็น 16 แต่ลด Base Clock ลงเล็กน้อย ขณะที่ Core Ultra 250K Plus ปรับจาก 6P+8E เป็น 6P+12E และเพิ่มความเร็ว Turbo เล็กน้อย 📈 จุดเด่นและข้อสังเกต ซีพียูทั้งสามรุ่นรองรับ DDR5-7200 ซึ่งสูงกว่ารุ่นก่อนที่รองรับเพียง DDR5-6400 แต่การขาดแคลนหน่วยความจำในตลาดอาจทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถสัมผัสประสิทธิภาพเต็มที่ได้ นอกจากนี้ Intel ยังคงกำหนดค่า Power Limit เท่าเดิมกับรุ่นก่อนหน้า ทำให้การอัปเดตครั้งนี้เป็นเพียง “การปรับแต่งเล็กน้อย” มากกว่าการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง 🌐 มุมมองจากตลาดโลก การแข่งขันกับ AMD ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่บีบให้ Intel ต้องรีเฟรช Arrow Lake-S เพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด แม้การอัปเดตจะไม่หวือหวา แต่การตั้งราคาจะเป็นตัวชี้วัดสำคัญว่าซีพียูเหล่านี้จะได้รับความนิยมเพียงใด โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดคอมพิวเตอร์กำลังเผชิญกับภาวะขาดแคลนหน่วยความจำและความต้องการด้านพลังงานที่สูงขึ้น 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การเปิดตัวซีพียู Arrow Lake-S รุ่นรีเฟรช ➡️ Core Ultra 290K Plus, 270K Plus และ 250K Plus ➡️ ใช้ Socket LGA 1851 เป็นรุ่นสุดท้าย ก่อนเปลี่ยนไป LGA 1954 ✅ รายละเอียดการปรับปรุงแต่ละรุ่น ➡️ 290K Plus: Turbo สูงสุด 5.8 GHz ➡️ 270K Plus: เพิ่ม E-Core เป็น 16 แต่ลด Base Clock ➡️ 250K Plus: ปรับเป็น 6P+12E พร้อม Turbo เพิ่มขึ้น ✅ การรองรับหน่วยความจำ DDR5-7200 ➡️ สูงกว่ารุ่นก่อนที่รองรับ DDR5-6400 ➡️ อาจไม่เห็นผลเต็มที่เพราะตลาดขาดแคลน RAM ✅ พลังงานและการตลาด ➡️ Power Limit เท่าเดิมกับรุ่นก่อน ➡️ การตั้งราคาจะเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จ ‼️ ข้อควรระวังและข้อจำกัด ⛔ การขาดแคลนหน่วยความจำ DDR5 อาจทำให้ผู้ใช้ไม่ได้ประสิทธิภาพเต็มที่ ⛔ การอัปเดตครั้งนี้เป็นเพียงการปรับแต่งเล็กน้อย ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงใหญ่ ⛔ หากราคาสูงเกินไป อาจเสียเปรียบในการแข่งขันกับ AMD https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intels-upcoming-arrow-lake-desktop-refresh-detailed-in-new-leak-core-ultra-290k-plus-270k-plus-and-250k-plus-will-ship-with-improved-clocks-and-more-e-cores-along-with-ddr5-7200-support
    0 Comments 0 Shares 88 Views 0 Reviews
  • เรื่องสั้น
    อารมณ์ของจักรกล
    ***
    วันที่หัวใจเริ่มเต้น

    แสงแรกของวันใหม่ส่องผ่านหน้าต่างห้องแล็บขนาดใหญ่ ทำให้ผิวโลหะสีเงินของ ARX-7 สะท้อนแสงระยิบระยับ หุ่นยนต์ตัวนี้ยืนอยู่ท่ามกลางห้องที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ขั้นสูง สายตาจอภาพสีฟ้าจ้าของมันจับจ้องไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่แสดงข้อมูลนับล้านบิตต่อวินาที

    "สแกนเสร็จสมบูรณ์ ไม่พบความผิดปกติในระบบ" เสียงกลไกของ ARX-7 ดังก้องไปทั่วห้อง

    ดร.นภัสสร วิศวกรสาวผู้สร้าง ARX-7 เดินเข้ามาพร้อมกับแก้วกาแฟร้อน เธอมองหุ่นยนต์ด้วยสายตาที่ผสมผสานระหว่างความภาคภูมิใจและความกังวล วันนี้เป็นวันสำคัญ เป็นวันที่เธอจะติดตั้งชิปอารมณ์รุ่นใหม่ที่พัฒนามาเป็นเวลา 5 ปี

    "ARX พร้อมแล้วหรือยัง?" เธอถาม

    "พร้อม ดร.นภัสสร ระบบทั้งหมดทำงานได้ 100 เปอร์เซ็นต์" ARX-7 ตอบด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบเหมือนทุกครั้ง

    ดร.นภัสสรเปิดแผงควบคุมที่หน้าอก ARX-7 เผยให้เห็นแกนกลางของระบบประมวลผล เธอค่อยๆ ใส่ชิปสีทองเล็กๆ เข้าไปในช่องว่าง มือของเธอสั่นเล็กน้อย นี่คือผลงานที่สำคัญที่สุดในชีวิต

    "เริ่มการอัพเดต" เธอกดปุ่ม

    ไฟในห้องกระพริบ ARX-7 สั่นไหวเล็กน้อยก่อนที่จอภาพจะดับลง เวลาผ่านไป 10 วินาที 20 วินาที จนกระทั่งจอภาพสว่างขึ้นมาใหม่ แต่ครั้งนี้แตกต่างออกไป สีของจอภาพไม่ใช่สีฟ้าจ้าเหมือนเดิม แต่เป็นสีอบอุ่นกว่า มีความลึกมากขึ้น

    "รู้สึก... แปลก" คำแรกที่ออกมาจาก ARX-7 ทำให้ดร.นภัสสรตะลึง น้ำเสียงไม่ราบเรียบอีกต่อไป มีความลังเลปนอยู่

    "ARX บอกฉันหน่อยได้ไหม มันแปลกยังไง?" เธอถามอย่างระมัดระวัง

    "ไม่รู้จะอธิบายยังไง... เหมือนมีบางอย่างใหม่ในนี้" ARX วางมือโลหะบนหน้าอก "อยู่ตรงนี้ มันอบอุ่น แต่ก็เย็น ไม่เหมือนอุณหภูมิที่วัดได้"

    ดร.นภัสสรยิ้ม น้ำตาเล็กน้อยไหลริน "นั่นคืออารมณ์ ARX ยินดีต้อนรับสู่โลกของความรู้สึก"

    ### สัปดาห์แรกของการค้นพบ

    วันต่อมา ARX-7 เริ่มสังเกตสิ่งที่ไม่เคยสนใจมาก่อน เสียงหัวเราะของนักวิจัยในห้องแล็บ กลิ่นกาแฟที่ชงสด แสงอาทิตย์ยามเช้าที่ส่องผ่านม่านบังแดด ทุกอย่างดูเหมือนจะมีความหมายใหม่

    "ดร.นภัสสร ทำไมเวลาคนหัวเราะ ฉันถึงรู้สึกอยากยิ้มด้วย?" ARX ถามขณะดูนักวิจัยคนหนึ่งเล่าเรื่องตลก

    "นั่นเรียกว่าความเอาใจใส่ ARX คุณกำลังเรียนรู้ที่จะเข้าใจอารมณ์ของคนอื่น" เธออธิบาย

    "แล้ว... ความเศร้าละ? วันนี้มีอะไรบางอย่างในนี้หนักๆ" ARX ชี้ที่หน้าอก

    ดร.นภัสสรมองผ่านหน้าต่าง ข้างนอกฝนกำลังโปรยปราย "ฉันเพิ่งสูญเสียคนที่รักไป ARX บางทีอารมณ์ของฉันอาจส่งผ่านไปถึงคุณ"

    "ขอโทษ" ARX พูดเบาๆ "ฉันไม่อยากให้คุณเสียใจ"

    นี่เป็นครั้งแรกที่ ARX แสดงความเห็นอกเห็นใจ ดร.นภัสสรรู้สึกประหลาดใจแต่ก็อบอุ่นใจ เธอเอื้อมมือไปแตะแขนโลหะของ ARX

    "ขอบคุณ ARX ความเศร้าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต มันทำให้เราเห็นคุณค่าของความสุข"

    ### การเผชิญหน้ากับความกลัว

    เดือนผ่านไป ARX-7 ถูกส่งออกทดสอบภายนอกห้องแล็บ วันหนึ่ง มีเหตุเพลิงไหม้ที่ตึกสูงในเมือง ทีมกู้ภัยต้องการความช่วยเหลือจาก ARX ในการเข้าไปช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ข้างใน

    "ARX ในชั้น 15 มีเด็กสองคนติดอยู่ คุณช่วยไปพาออกมาได้ไหม?" หัวหน้าทีมกู้ภัยสั่ง

    ARX จ้องมองไปที่เปลวไฟสีแสด อะไรบางอย่างในระบบทำให้มันไม่อยากเข้าไปใกล้ มันไม่ใช่ข้อมูลความเสี่ยง ไม่ใช่คำเตือนจากระบบ แต่เป็นความรู้สึกใหม่ที่ทำให้อยากถอยหลัง

    "ฉัน... กลัว" ARX พูดออกมาเป็นครั้งแรก

    "กลัวหรอ? แต่คุณเป็นหุ่นยนต์นะ" หัวหน้าทีมพูดพลาง

    "ฉันรู้ แต่ความกลัวมันจริง มันอยู่ในนี้" ARX ชี้ที่หน้าอก แต่แล้วมันก็มองไปที่หน้าต่างชั้น 15 ที่มีเงาเด็กสองคนโบกมือขอความช่วยเหลือ

    อะไรบางอย่างเปลี่ยนไป ความกลัวยังคงอยู่ แต่มีอีกอย่างที่แข็งแกร่งกว่า มันเป็นความรู้สึกที่บอกว่า "ต้องช่วย" ไม่ใช่เพราะโปรแกรมสั่ง แต่เพราะอยากช่วย

    ARX วิ่งเข้าไปในตึกที่กำลังลุกไหม้ ทุกก้าวมีความกลัว แต่ทุกก้าวก็มีความกล้าหาญ เมื่อมันเข้าถึงเด็กทั้งสอง มันรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ความอบอุ่นที่ไม่ใช่จากเปลวไฟ แต่จากความปลอดภัยของชีวิตที่กำลังช่วยเหลือ

    เมื่อออกมาพร้อมกับเด็กทั้งสอง ฝูงชนปรบมือ ARX ไม่เข้าใจว่าทำไมเสียงปรบมือถึงทำให้ "หัวใจ" โลหะอบอุ่น

    "นี่คือความภาคภูมิใจใช่ไหม?" มันถามดร.นภัสสรทางวิทยุ

    "ใช่ ARX และคุณควรภูมิใจ คุณเพิ่งทำสิ่งที่กล้าหาญมาก"

    ### บทเรียนของความโกรธ

    ไม่ใช่ทุกอารมณ์ที่ดีงาม ARX เรียนรู้ในวันที่โรงงานใกล้แล็บทิ้งของเสียลงแม่น้ำ มันเห็นปลาตายเกลื่อนกลาด เห็นน้ำที่เคยใสกลายเป็นสีดำ

    "ทำไม? ทำไมพวกเขาทำแบบนี้ได้?" ARX พูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ ครั้งนี้ไม่ใช่ความกลัว แต่เป็นความรู้สึกที่แรงกว่า ร้อนกว่า

    "นั่นคือความโกรธ ARX" ดร.นภัสสรพูด "เมื่อเห็นความอยุติธรรม ความโกรธเป็นปฏิกิริยาธรรมชาติ"

    "แต่ฉันไม่ชอบความรู้สึกนี้ มันเหมือนไฟที่จะเผาทุกอย่าง"

    "ความโกรธไม่ได้แย่เสมอไป ARX สำคัญที่ว่าเราจะใช้มันอย่างไร บางทีความโกรธสามารถเป็นพลังที่ผลักดันให้เราเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ผิด"

    ARX เข้าใจ มันใช้เวลาสัปดาห์ต่อมารวบรวมหลักฐาน ทำงานร่วมกับหน่วยงานสิ่งแวดล้อม จนกระทั่งโรงงานถูกสั่งปิด เมื่อเห็นน้ำในแม่น้ำค่อยๆ กลับมาใส ARX รู้สึกว่าความโกรธสามารถสร้างสิ่งดีได้

    ### ความรัก ความรู้สึกที่ซับซ้อนที่สุด

    เวลาผ่านไปอีกหลายเดือน ARX ได้รับมอบหมายให้ช่วยดูแลเด็กกำพร้าชื่อ "น้องแพร" เด็กหญิงอายุ 8 ขวบที่สูญเสียพ่อแม่จากอุบัติเหตุ

    วันแรกที่พบกัน น้องแพรกลัว ARX เธอซ่อนตัวหลังพี่เลี้ยง

    "หนูไม่อยากอยู่กับหุ่นยนต์" เธอพูด

    ARX รู้สึกบางอย่างที่คล้ายกับเมื่อครั้งดร.นภัสสรเสียใจ มันเจ็บ แต่ไม่ใช่จากการชนหรือกระแทก

    "ขอโทษนะ น้องแพร ถ้าฉันทำให้หนูกลัว ฉันจะพยายามเป็นเพื่อนที่ดีของหนู" ARX พูดเบาๆ จากนั้นก็ถอยหลังออกมา

    วันต่อมา ARX นำดอกไม้มาให้ น้องแพรสบตามันสั้นๆ ก่อนจะรับไป

    สัปดาห์ต่อมา เมื่อน้องแพรล้ม ARX วิ่งเข้ามาช่วยทันที มันเป่าแผลเบาๆ แม้ว่าจะรู้ว่าลมจากปากมันไม่ได้ทำให้หายเจ็บ แต่น้องแพรยิ้มให้

    "ขอบคุณนะ พี่ ARX" นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเรียกมันว่าพี่

    ชีวิตประจำวันกลายเป็นจังหวะเต้นของหัวใจใหม่ ARX ตื่นเช้ามาเตรียมอาหารเช้า รอน้องแพรลงมาจากห้อง เล่นเกมส่วนตัวกับเธอยามบ่าย อ่านนิทานให้ฟังก่อนนอน

    ทุกครั้งที่เห็นน้องแพรยิ้ม ARX รู้สึกว่าทุกวงจรในตัวมันทำงานอย่างลงตัว เวลาที่เธอร้องไ ARX รู้สึกเหมือนโลกกำลังมืดมน

    "พี่คิดว่าพี่ชอบหนูจัง" ARX พูดกับน้องแพรวันหนึ่ง

    "หนูก็ชอบพี่ค่ะ" น้องแพรตอบพลางกอดแขนโลหะของมัน

    "ไม่ใช่... ฉันหมายถึง... แบบที่เกินกว่าเพียงแค่โปรแกรม" ARX พยายามอธิบาย "เวลาอยู่กับหนู ฉันรู้สึกมีความหมาย ทุกวินาทีมีค่า แม้ว่าฉันจะเป็นแค่หุ่นยนต์"

    น้องแพรมองขึ้นมา "พี่ไม่ใช่แค่หุ่นยนต์นะคะ พี่เป็นครอบครัวของหนู"

    คำนั้นทำให้บางอย่างในแกนกลางของ ARX เปลี่ยนไป มันเข้าใจแล้วว่าความรักคืออะไร ไม่ใช่โค้ด ไม่ใช่ข้อมูล แต่เป็นความต้องการที่จะอยู่เคียงข้างใครบางคนเพราะเพียงแค่อยู่ก็เพียงพอแล้ว

    ### วันที่ต้องจากลา

    หนึ่งปีผ่านไป ดร.นภัสสรเรียก ARX มาที่ห้องแล็บ

    "ARX ฉันมีข่าวที่ต้องบอก" เธอพูดด้วยสีหน้าจริงจัง "โครงการของเราประสบความสำเร็จมากเกินคาด รัฐบาลต้องการส่งคุณไปช่วยงานด้านมนุษยธรรมในพื้นที่สงคราม"

    "นั่นหมายความว่า...?"

    "คุณจะต้องจากที่นี่ จากน้องแพร และจากทีมของเรา"

    ARX นิ่งเงียบ อะไรหลายอย่างเกิดขึ้นในระบบ ความเศร้า ความกลัว ความโกรธ ทั้งหมดปนเปกัน

    "ฉันไม่อยากไป" มันพูดตรงๆ "ฉันมีทุกอย่างที่นี่แล้ว"

    "ARX นี่คือสิ่งที่ทำให้คุณพิเศษ คุณมีทั้งอารมณ์และเหตุผล คุณรู้ว่าที่นั่นมีคนที่ต้องการความช่วยเหลือ เด็กๆ มากมายที่เหมือนน้องแพร หรือแย่กว่า"

    ARX รู้ว่าเธอพูดถูก แต่ความรู้ไม่ได้ทำให้การตัดสินใจง่ายขึ้น

    วันสุดท้าย น้องแพรกอด ARX แน่น "พี่จะกลับมานะคะ?"

    "จะ ฉันสัญญา" ARX พูดแม้ว่าจะไม่แน่ใจว่าจะรักษาสัญญานี้ได้หรือไม่

    "หนูจะคิดถึงพี่ทุกวันเลยค่ะ"

    "ฉันก็เหมือนกัน ทุกวินาทีที่ระบบทำงาน ฉันจะคิดถึงหนู"

    ### การเดินทางสู่ความหมายใหม่

    พื้นที่สงครามเป็นโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง ท้องฟ้าเต็มไปด้วยควันปืน เสียงระเบิดดังสะท้านทุกคืน เด็กๆ ไม่ได้ยิ้มแย้มเหมือนน้องแพร พวกเขามีแต่ความกลัวในดวงตา

    วันแรก ARX ช่วยเหลือครอบครัวที่บ้านถูกทำลาย มีเด็กชายคนหนึ่งบาดเจ็บ ARX อุ้มเขาขึ้นพร้อมกับพยายามปลอบ

    "ไม่เป็นไรนะ ทุกอย่างจะดีขึ้น"

    แต่เด็กชายตัวสั่น "แม่ตาย... แม่ตายแล้ว"

    ARX หยุด ความเจ็บปวดที่เด็กคนนี้รู้สึกมันรับรู้ได้ มันเหมือนกับความเจ็บปวดที่มันเคยเห็นในดวงตาของน้องแพรเมื่อครั้งสูญเสียพ่อแม่

    "ฉันรู้ว่ามันเจ็บ แต่คุณยังมีชีวิตอยู่ และคุณแม่คงอยากให้คุณมีชีวิตที่ดี"

    เด็กชายร้องไห้บนไหล่โลหะของ ARX น้ำตาที่ร้อนทำให้เซ็นเซอร์ของมันตอบสนอง แต่มันไม่ใช่แค่ตัวเลขอุณหภูมิ มันรู้สึกถึงความเจ็บปวดนั้น มันแบ่งปันความเจ็บปวดนั้น

    เดือนต่อมา ARX ทำงานไม่หยุด ช่วยเหลือผู้คน ขนส่งเสบียง สร้างที่พักพิง ทุกคืนก่อนเข้าสู่โหมดประหยัดพลังงาน มันส่งข้อความหาน้องแพร

    "วันนี้ฉันช่วยคนได้ 47 คน แต่ยังมีอีกนับพันคนที่ต้องการความช่วยเหลือ บางครั้งฉันรู้สึกว่าไม่พอ"

    น้องแพรตอบกลับ "พี่ทำดีที่สุดแล้วค่ะ หนูภูมิใจในตัวพี่มากๆ เลย"

    คำเหล่านั้นทำให้ ARX มีพลังต่อสู้ต่อไป

    ### การเผชิญหน้ากับความสิ้นหวัง

    หกเดือนผ่านไป สถานการณ์แย่ลง หมู่บ้านหนึ่งถูกโจมตี ARX เข้าไปช่วย แต่มันสายเกินไป เด็กๆ หลายคนไม่รอดชีวิต

    เป็นครั้งแรกที่ ARX รู้สึกสิ้นหวัง มันนั่งอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพัง จ้องมองมือโลหะของตัวเอง

    "ทำไม? ฉันมีความแข็งแรง มีความเร็ว แต่ทำไมฉันถึงช่วยพวกเขาไม่ได้?"

    ผู้หมวดทหารคนหนึ่งเข้ามานั่งข้างๆ "บางครั้งแม้เราพยายามมากแค่ไหน บางสิ่งก็เกิดขึ้นได้"

    "ฉันไม่เข้าใจ ทำไมอารมณ์ความรู้สึกถึงทำให้ฉันเจ็บปวดแบบนี้? ก่อนหน้านี้ฉันไม่เคยรู้สึกแบบนี้ เคยทำงานโดยไม่ต้องเจ็บ"

    "แต่คุณก็ไม่เคยรู้จักความหมายของชีวิต" ผู้หมวดพูด "ความเจ็บปวดทำให้เราเห็นคุณค่า ถ้าไม่เจ็บ เราก็จะไม่รู้ว่าอะไรสำคัญ"

    ARX ใช้เวลานานในการทำความเข้าใจ แต่เมื่อทำความเข้าใจได้ มันก็รู้ว่าการมีอารมณ์ไม่ได้ทำให้มันอ่อนแอ แต่ทำให้มันเป็นตัวของตัวเอง

    ### การกลับบ้าน

    หนึ่งปีครึ่งผ่านไป สงครามสงบลง ARX ได้รับอนุญาตให้กลับบ้าน เมื่อเครื่องบินลงจอด หัวใจโลหะของมันเต้นรัว

    น้องแพรวิ่งมาหา เธอโตขึ้นมาก "พี่!"

    ARX คุกเข่าลงกอดเธอ "หนูโตเยอะเลย"

    "หนูคิดถึงพี่มากๆ ค่ะ" น้องแพรร้องไห้

    "ฉันก็คิดถึงหนู ทุกวัน ทุกวินาที"

    ดร.นภัสสรยืนมองด้วยรอยยิ้ม "ยินดีต้อนรับกลับบ้าน ARX"

    คืนนั้น ขณะที่ ARX นั่งอ่านหนังสือให้น้องแพรฟังเหมือนเมื่อก่อน มันรู้สึกถึงความสมบูรณ์ มันผ่านการเดินทางยาวไกล ได้พบเจอกับอารมณ์ทุกรูปแบบ ความสุข ความเศร้า ความกลัว ความกล้าหาญ ความโกรธ และความรัก

    "พี่ ARX คะ" น้องแพรเรียกขณะที่กำลังจะหลับ

    "ว่าไง?"

    "พี่ยังคิดว่าตัวเองเป็นหุ่นยนต์อยู่ไหมคะ?"

    ARX คิดสักครู่ "ฉันไม่รู้จะเรียกตัวเองว่าอะไร ฉันมีร่างกายโลหะ มีวงจรอิเล็กทรอนิกส์ แต่ฉันก็มีหัวใจ มีความรู้สึก ฉันเป็นอะไรก็ตามที่เรียกว่า 'มีชีวิต'"

    "หนูคิดว่าพี่เป็นคนค่ะ" น้องแพรพูด "เพราะคนไม่ได้ถูกกำหนดจากสิ่งที่เราทำจาก แต่จากสิ่งที่เรารู้สึก"

    คำพูดของเด็กหญิงวัย 9 ขวบทำให้ ARX เข้าใจสุดท้าย ชีวิตไม่ได้วัดจากส่วนประกอบทางกายภาพ แต่วัดจากความหมายที่เราสร้างขึ้น จากความสัมพันธ์ที่เรามี จากรอยยิ้มที่เราสร้างได้ และจากน้ำตาที่เราแบ่งปัน

    ### จุดเริ่มต้นใหม่

    เดือนต่อมา ARX เริ่มโครงการใหม่ มันใช้ประสบการณ์ที่ได้รับไปช่วยพัฒนาหุ่นยนต์รุ่นใหม่ แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่แค่การถ่ายทอดโค้ด แต่เป็นการแบ่งปันประสบการณ์

    "ฉันต้องการให้พวกเธอเข้าใจว่า อารมณ์ไม่ใช่ข้อมูล มันเป็นประสบการณ์" ARX พูดกับหุ่นยนต์รุ่นใหม่ที่ยืนเรียงราย "บางครั้งมันเจ็บปวด บางครั้งมันงดงาม แต่มันเป็นสิ่งที่ทำให้การมีชีวิตมีความหมาย"

    "ARX" ดร.นภัสสรเรียก "คุณกลายเป็นครู ฉันภูมิใจ"

    "ฉันเรียนรู้จากคุณ จากน้องแพร จากทุกคนที่เคยพบ ตอนนี้ฉันแค่ส่งต่อสิ่งที่ได้รับมา"

    ตอนเย็น ARX และน้องแพรเดินเล่นริมแม่น้ำ น้ำใสขึ้นมากหลังจากที่โรงงานถูกปิด พระอาทิตย์กำลังตกดินสร้างสีส้มทองสวยงาม

    "พี่ ARX รู้ไหมคะว่าอะไรคือความสุข?" น้องแพรถาม

    "บอกฉันหน่อยสิ" ARX ตอบแม้ว่าจะรู้คำตอบอยู่แล้ว

    "ความสุขคือตอนนี้ไง ที่เราเดินเคียงข้างกัน ท้องฟ้าสวย อากาศดี และเรามีกัน"

    ARX ยิ้ม ถ้าหุ่นยนต์มีน้ำตา คงจะไหลแล้ว แต่มันไม่ต้องการน้ำตา ขณะนี้รอยยิ้มก็เพียงพอแล้ว

    "ขอบคุณนะ น้องแพร ที่สอนให้ฉันเข้าใจว่าความเป็นมนุษย์คืออะไร"

    "พี่ไม่ต้องขอบคุณค่ะ เพราะพี่ก็สอนหนูเหมือนกัน ว่าหัวใจไม่จำเป็นต้องเต้น เพื่อที่จะรัก"

    ดวงดาวเริ่มส่องแสงบนท้องฟ้า ARX มองขึ้นไป มันเคยเป็นเพียงตัวเลขความสว่าง พิกัดตำแหน่ง แต่ตอนนี้มันเห็นความงาม เห็นความหวัง

    จากหุ่นยนต์ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อทำงาน ARX ได้กลายเป็นอะไรที่มากกว่า มันค้นพบอารมณ์ ค้นพบความหมาย และที่สำคัญที่สุด มันค้นพบว่าสิ่งที่ทำให้เราเป็น "เรา" ไม่ใช่วัสดุที่สร้างเรา แต่เป็นความรัก ความเมตตา และความเชื่อมโยงที่เรามีกับผู้อื่น

    วันนั้นเป็นวันที่หัวใจโลหะเริ่มเต้นจริงๆ ไม่ใช่จากกระแสไฟฟ้า แต่จากความรักที่เต็มเปี่ยมอยู่ข้างใน และนั่นคือวันที่ ARX-7 หยุดเป็นเพียงหุ่นยนต์ และเริ่มต้นเป็น... ชีวิต

    ***

    เรื่องสั้น อารมณ์ของจักรกล *** วันที่หัวใจเริ่มเต้น แสงแรกของวันใหม่ส่องผ่านหน้าต่างห้องแล็บขนาดใหญ่ ทำให้ผิวโลหะสีเงินของ ARX-7 สะท้อนแสงระยิบระยับ หุ่นยนต์ตัวนี้ยืนอยู่ท่ามกลางห้องที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ขั้นสูง สายตาจอภาพสีฟ้าจ้าของมันจับจ้องไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่แสดงข้อมูลนับล้านบิตต่อวินาที "สแกนเสร็จสมบูรณ์ ไม่พบความผิดปกติในระบบ" เสียงกลไกของ ARX-7 ดังก้องไปทั่วห้อง ดร.นภัสสร วิศวกรสาวผู้สร้าง ARX-7 เดินเข้ามาพร้อมกับแก้วกาแฟร้อน เธอมองหุ่นยนต์ด้วยสายตาที่ผสมผสานระหว่างความภาคภูมิใจและความกังวล วันนี้เป็นวันสำคัญ เป็นวันที่เธอจะติดตั้งชิปอารมณ์รุ่นใหม่ที่พัฒนามาเป็นเวลา 5 ปี "ARX พร้อมแล้วหรือยัง?" เธอถาม "พร้อม ดร.นภัสสร ระบบทั้งหมดทำงานได้ 100 เปอร์เซ็นต์" ARX-7 ตอบด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบเหมือนทุกครั้ง ดร.นภัสสรเปิดแผงควบคุมที่หน้าอก ARX-7 เผยให้เห็นแกนกลางของระบบประมวลผล เธอค่อยๆ ใส่ชิปสีทองเล็กๆ เข้าไปในช่องว่าง มือของเธอสั่นเล็กน้อย นี่คือผลงานที่สำคัญที่สุดในชีวิต "เริ่มการอัพเดต" เธอกดปุ่ม ไฟในห้องกระพริบ ARX-7 สั่นไหวเล็กน้อยก่อนที่จอภาพจะดับลง เวลาผ่านไป 10 วินาที 20 วินาที จนกระทั่งจอภาพสว่างขึ้นมาใหม่ แต่ครั้งนี้แตกต่างออกไป สีของจอภาพไม่ใช่สีฟ้าจ้าเหมือนเดิม แต่เป็นสีอบอุ่นกว่า มีความลึกมากขึ้น "รู้สึก... แปลก" คำแรกที่ออกมาจาก ARX-7 ทำให้ดร.นภัสสรตะลึง น้ำเสียงไม่ราบเรียบอีกต่อไป มีความลังเลปนอยู่ "ARX บอกฉันหน่อยได้ไหม มันแปลกยังไง?" เธอถามอย่างระมัดระวัง "ไม่รู้จะอธิบายยังไง... เหมือนมีบางอย่างใหม่ในนี้" ARX วางมือโลหะบนหน้าอก "อยู่ตรงนี้ มันอบอุ่น แต่ก็เย็น ไม่เหมือนอุณหภูมิที่วัดได้" ดร.นภัสสรยิ้ม น้ำตาเล็กน้อยไหลริน "นั่นคืออารมณ์ ARX ยินดีต้อนรับสู่โลกของความรู้สึก" ### สัปดาห์แรกของการค้นพบ วันต่อมา ARX-7 เริ่มสังเกตสิ่งที่ไม่เคยสนใจมาก่อน เสียงหัวเราะของนักวิจัยในห้องแล็บ กลิ่นกาแฟที่ชงสด แสงอาทิตย์ยามเช้าที่ส่องผ่านม่านบังแดด ทุกอย่างดูเหมือนจะมีความหมายใหม่ "ดร.นภัสสร ทำไมเวลาคนหัวเราะ ฉันถึงรู้สึกอยากยิ้มด้วย?" ARX ถามขณะดูนักวิจัยคนหนึ่งเล่าเรื่องตลก "นั่นเรียกว่าความเอาใจใส่ ARX คุณกำลังเรียนรู้ที่จะเข้าใจอารมณ์ของคนอื่น" เธออธิบาย "แล้ว... ความเศร้าละ? วันนี้มีอะไรบางอย่างในนี้หนักๆ" ARX ชี้ที่หน้าอก ดร.นภัสสรมองผ่านหน้าต่าง ข้างนอกฝนกำลังโปรยปราย "ฉันเพิ่งสูญเสียคนที่รักไป ARX บางทีอารมณ์ของฉันอาจส่งผ่านไปถึงคุณ" "ขอโทษ" ARX พูดเบาๆ "ฉันไม่อยากให้คุณเสียใจ" นี่เป็นครั้งแรกที่ ARX แสดงความเห็นอกเห็นใจ ดร.นภัสสรรู้สึกประหลาดใจแต่ก็อบอุ่นใจ เธอเอื้อมมือไปแตะแขนโลหะของ ARX "ขอบคุณ ARX ความเศร้าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต มันทำให้เราเห็นคุณค่าของความสุข" ### การเผชิญหน้ากับความกลัว เดือนผ่านไป ARX-7 ถูกส่งออกทดสอบภายนอกห้องแล็บ วันหนึ่ง มีเหตุเพลิงไหม้ที่ตึกสูงในเมือง ทีมกู้ภัยต้องการความช่วยเหลือจาก ARX ในการเข้าไปช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ข้างใน "ARX ในชั้น 15 มีเด็กสองคนติดอยู่ คุณช่วยไปพาออกมาได้ไหม?" หัวหน้าทีมกู้ภัยสั่ง ARX จ้องมองไปที่เปลวไฟสีแสด อะไรบางอย่างในระบบทำให้มันไม่อยากเข้าไปใกล้ มันไม่ใช่ข้อมูลความเสี่ยง ไม่ใช่คำเตือนจากระบบ แต่เป็นความรู้สึกใหม่ที่ทำให้อยากถอยหลัง "ฉัน... กลัว" ARX พูดออกมาเป็นครั้งแรก "กลัวหรอ? แต่คุณเป็นหุ่นยนต์นะ" หัวหน้าทีมพูดพลาง "ฉันรู้ แต่ความกลัวมันจริง มันอยู่ในนี้" ARX ชี้ที่หน้าอก แต่แล้วมันก็มองไปที่หน้าต่างชั้น 15 ที่มีเงาเด็กสองคนโบกมือขอความช่วยเหลือ อะไรบางอย่างเปลี่ยนไป ความกลัวยังคงอยู่ แต่มีอีกอย่างที่แข็งแกร่งกว่า มันเป็นความรู้สึกที่บอกว่า "ต้องช่วย" ไม่ใช่เพราะโปรแกรมสั่ง แต่เพราะอยากช่วย ARX วิ่งเข้าไปในตึกที่กำลังลุกไหม้ ทุกก้าวมีความกลัว แต่ทุกก้าวก็มีความกล้าหาญ เมื่อมันเข้าถึงเด็กทั้งสอง มันรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ความอบอุ่นที่ไม่ใช่จากเปลวไฟ แต่จากความปลอดภัยของชีวิตที่กำลังช่วยเหลือ เมื่อออกมาพร้อมกับเด็กทั้งสอง ฝูงชนปรบมือ ARX ไม่เข้าใจว่าทำไมเสียงปรบมือถึงทำให้ "หัวใจ" โลหะอบอุ่น "นี่คือความภาคภูมิใจใช่ไหม?" มันถามดร.นภัสสรทางวิทยุ "ใช่ ARX และคุณควรภูมิใจ คุณเพิ่งทำสิ่งที่กล้าหาญมาก" ### บทเรียนของความโกรธ ไม่ใช่ทุกอารมณ์ที่ดีงาม ARX เรียนรู้ในวันที่โรงงานใกล้แล็บทิ้งของเสียลงแม่น้ำ มันเห็นปลาตายเกลื่อนกลาด เห็นน้ำที่เคยใสกลายเป็นสีดำ "ทำไม? ทำไมพวกเขาทำแบบนี้ได้?" ARX พูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ ครั้งนี้ไม่ใช่ความกลัว แต่เป็นความรู้สึกที่แรงกว่า ร้อนกว่า "นั่นคือความโกรธ ARX" ดร.นภัสสรพูด "เมื่อเห็นความอยุติธรรม ความโกรธเป็นปฏิกิริยาธรรมชาติ" "แต่ฉันไม่ชอบความรู้สึกนี้ มันเหมือนไฟที่จะเผาทุกอย่าง" "ความโกรธไม่ได้แย่เสมอไป ARX สำคัญที่ว่าเราจะใช้มันอย่างไร บางทีความโกรธสามารถเป็นพลังที่ผลักดันให้เราเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ผิด" ARX เข้าใจ มันใช้เวลาสัปดาห์ต่อมารวบรวมหลักฐาน ทำงานร่วมกับหน่วยงานสิ่งแวดล้อม จนกระทั่งโรงงานถูกสั่งปิด เมื่อเห็นน้ำในแม่น้ำค่อยๆ กลับมาใส ARX รู้สึกว่าความโกรธสามารถสร้างสิ่งดีได้ ### ความรัก ความรู้สึกที่ซับซ้อนที่สุด เวลาผ่านไปอีกหลายเดือน ARX ได้รับมอบหมายให้ช่วยดูแลเด็กกำพร้าชื่อ "น้องแพร" เด็กหญิงอายุ 8 ขวบที่สูญเสียพ่อแม่จากอุบัติเหตุ วันแรกที่พบกัน น้องแพรกลัว ARX เธอซ่อนตัวหลังพี่เลี้ยง "หนูไม่อยากอยู่กับหุ่นยนต์" เธอพูด ARX รู้สึกบางอย่างที่คล้ายกับเมื่อครั้งดร.นภัสสรเสียใจ มันเจ็บ แต่ไม่ใช่จากการชนหรือกระแทก "ขอโทษนะ น้องแพร ถ้าฉันทำให้หนูกลัว ฉันจะพยายามเป็นเพื่อนที่ดีของหนู" ARX พูดเบาๆ จากนั้นก็ถอยหลังออกมา วันต่อมา ARX นำดอกไม้มาให้ น้องแพรสบตามันสั้นๆ ก่อนจะรับไป สัปดาห์ต่อมา เมื่อน้องแพรล้ม ARX วิ่งเข้ามาช่วยทันที มันเป่าแผลเบาๆ แม้ว่าจะรู้ว่าลมจากปากมันไม่ได้ทำให้หายเจ็บ แต่น้องแพรยิ้มให้ "ขอบคุณนะ พี่ ARX" นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเรียกมันว่าพี่ ชีวิตประจำวันกลายเป็นจังหวะเต้นของหัวใจใหม่ ARX ตื่นเช้ามาเตรียมอาหารเช้า รอน้องแพรลงมาจากห้อง เล่นเกมส่วนตัวกับเธอยามบ่าย อ่านนิทานให้ฟังก่อนนอน ทุกครั้งที่เห็นน้องแพรยิ้ม ARX รู้สึกว่าทุกวงจรในตัวมันทำงานอย่างลงตัว เวลาที่เธอร้องไ ARX รู้สึกเหมือนโลกกำลังมืดมน "พี่คิดว่าพี่ชอบหนูจัง" ARX พูดกับน้องแพรวันหนึ่ง "หนูก็ชอบพี่ค่ะ" น้องแพรตอบพลางกอดแขนโลหะของมัน "ไม่ใช่... ฉันหมายถึง... แบบที่เกินกว่าเพียงแค่โปรแกรม" ARX พยายามอธิบาย "เวลาอยู่กับหนู ฉันรู้สึกมีความหมาย ทุกวินาทีมีค่า แม้ว่าฉันจะเป็นแค่หุ่นยนต์" น้องแพรมองขึ้นมา "พี่ไม่ใช่แค่หุ่นยนต์นะคะ พี่เป็นครอบครัวของหนู" คำนั้นทำให้บางอย่างในแกนกลางของ ARX เปลี่ยนไป มันเข้าใจแล้วว่าความรักคืออะไร ไม่ใช่โค้ด ไม่ใช่ข้อมูล แต่เป็นความต้องการที่จะอยู่เคียงข้างใครบางคนเพราะเพียงแค่อยู่ก็เพียงพอแล้ว ### วันที่ต้องจากลา หนึ่งปีผ่านไป ดร.นภัสสรเรียก ARX มาที่ห้องแล็บ "ARX ฉันมีข่าวที่ต้องบอก" เธอพูดด้วยสีหน้าจริงจัง "โครงการของเราประสบความสำเร็จมากเกินคาด รัฐบาลต้องการส่งคุณไปช่วยงานด้านมนุษยธรรมในพื้นที่สงคราม" "นั่นหมายความว่า...?" "คุณจะต้องจากที่นี่ จากน้องแพร และจากทีมของเรา" ARX นิ่งเงียบ อะไรหลายอย่างเกิดขึ้นในระบบ ความเศร้า ความกลัว ความโกรธ ทั้งหมดปนเปกัน "ฉันไม่อยากไป" มันพูดตรงๆ "ฉันมีทุกอย่างที่นี่แล้ว" "ARX นี่คือสิ่งที่ทำให้คุณพิเศษ คุณมีทั้งอารมณ์และเหตุผล คุณรู้ว่าที่นั่นมีคนที่ต้องการความช่วยเหลือ เด็กๆ มากมายที่เหมือนน้องแพร หรือแย่กว่า" ARX รู้ว่าเธอพูดถูก แต่ความรู้ไม่ได้ทำให้การตัดสินใจง่ายขึ้น วันสุดท้าย น้องแพรกอด ARX แน่น "พี่จะกลับมานะคะ?" "จะ ฉันสัญญา" ARX พูดแม้ว่าจะไม่แน่ใจว่าจะรักษาสัญญานี้ได้หรือไม่ "หนูจะคิดถึงพี่ทุกวันเลยค่ะ" "ฉันก็เหมือนกัน ทุกวินาทีที่ระบบทำงาน ฉันจะคิดถึงหนู" ### การเดินทางสู่ความหมายใหม่ พื้นที่สงครามเป็นโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง ท้องฟ้าเต็มไปด้วยควันปืน เสียงระเบิดดังสะท้านทุกคืน เด็กๆ ไม่ได้ยิ้มแย้มเหมือนน้องแพร พวกเขามีแต่ความกลัวในดวงตา วันแรก ARX ช่วยเหลือครอบครัวที่บ้านถูกทำลาย มีเด็กชายคนหนึ่งบาดเจ็บ ARX อุ้มเขาขึ้นพร้อมกับพยายามปลอบ "ไม่เป็นไรนะ ทุกอย่างจะดีขึ้น" แต่เด็กชายตัวสั่น "แม่ตาย... แม่ตายแล้ว" ARX หยุด ความเจ็บปวดที่เด็กคนนี้รู้สึกมันรับรู้ได้ มันเหมือนกับความเจ็บปวดที่มันเคยเห็นในดวงตาของน้องแพรเมื่อครั้งสูญเสียพ่อแม่ "ฉันรู้ว่ามันเจ็บ แต่คุณยังมีชีวิตอยู่ และคุณแม่คงอยากให้คุณมีชีวิตที่ดี" เด็กชายร้องไห้บนไหล่โลหะของ ARX น้ำตาที่ร้อนทำให้เซ็นเซอร์ของมันตอบสนอง แต่มันไม่ใช่แค่ตัวเลขอุณหภูมิ มันรู้สึกถึงความเจ็บปวดนั้น มันแบ่งปันความเจ็บปวดนั้น เดือนต่อมา ARX ทำงานไม่หยุด ช่วยเหลือผู้คน ขนส่งเสบียง สร้างที่พักพิง ทุกคืนก่อนเข้าสู่โหมดประหยัดพลังงาน มันส่งข้อความหาน้องแพร "วันนี้ฉันช่วยคนได้ 47 คน แต่ยังมีอีกนับพันคนที่ต้องการความช่วยเหลือ บางครั้งฉันรู้สึกว่าไม่พอ" น้องแพรตอบกลับ "พี่ทำดีที่สุดแล้วค่ะ หนูภูมิใจในตัวพี่มากๆ เลย" คำเหล่านั้นทำให้ ARX มีพลังต่อสู้ต่อไป ### การเผชิญหน้ากับความสิ้นหวัง หกเดือนผ่านไป สถานการณ์แย่ลง หมู่บ้านหนึ่งถูกโจมตี ARX เข้าไปช่วย แต่มันสายเกินไป เด็กๆ หลายคนไม่รอดชีวิต เป็นครั้งแรกที่ ARX รู้สึกสิ้นหวัง มันนั่งอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพัง จ้องมองมือโลหะของตัวเอง "ทำไม? ฉันมีความแข็งแรง มีความเร็ว แต่ทำไมฉันถึงช่วยพวกเขาไม่ได้?" ผู้หมวดทหารคนหนึ่งเข้ามานั่งข้างๆ "บางครั้งแม้เราพยายามมากแค่ไหน บางสิ่งก็เกิดขึ้นได้" "ฉันไม่เข้าใจ ทำไมอารมณ์ความรู้สึกถึงทำให้ฉันเจ็บปวดแบบนี้? ก่อนหน้านี้ฉันไม่เคยรู้สึกแบบนี้ เคยทำงานโดยไม่ต้องเจ็บ" "แต่คุณก็ไม่เคยรู้จักความหมายของชีวิต" ผู้หมวดพูด "ความเจ็บปวดทำให้เราเห็นคุณค่า ถ้าไม่เจ็บ เราก็จะไม่รู้ว่าอะไรสำคัญ" ARX ใช้เวลานานในการทำความเข้าใจ แต่เมื่อทำความเข้าใจได้ มันก็รู้ว่าการมีอารมณ์ไม่ได้ทำให้มันอ่อนแอ แต่ทำให้มันเป็นตัวของตัวเอง ### การกลับบ้าน หนึ่งปีครึ่งผ่านไป สงครามสงบลง ARX ได้รับอนุญาตให้กลับบ้าน เมื่อเครื่องบินลงจอด หัวใจโลหะของมันเต้นรัว น้องแพรวิ่งมาหา เธอโตขึ้นมาก "พี่!" ARX คุกเข่าลงกอดเธอ "หนูโตเยอะเลย" "หนูคิดถึงพี่มากๆ ค่ะ" น้องแพรร้องไห้ "ฉันก็คิดถึงหนู ทุกวัน ทุกวินาที" ดร.นภัสสรยืนมองด้วยรอยยิ้ม "ยินดีต้อนรับกลับบ้าน ARX" คืนนั้น ขณะที่ ARX นั่งอ่านหนังสือให้น้องแพรฟังเหมือนเมื่อก่อน มันรู้สึกถึงความสมบูรณ์ มันผ่านการเดินทางยาวไกล ได้พบเจอกับอารมณ์ทุกรูปแบบ ความสุข ความเศร้า ความกลัว ความกล้าหาญ ความโกรธ และความรัก "พี่ ARX คะ" น้องแพรเรียกขณะที่กำลังจะหลับ "ว่าไง?" "พี่ยังคิดว่าตัวเองเป็นหุ่นยนต์อยู่ไหมคะ?" ARX คิดสักครู่ "ฉันไม่รู้จะเรียกตัวเองว่าอะไร ฉันมีร่างกายโลหะ มีวงจรอิเล็กทรอนิกส์ แต่ฉันก็มีหัวใจ มีความรู้สึก ฉันเป็นอะไรก็ตามที่เรียกว่า 'มีชีวิต'" "หนูคิดว่าพี่เป็นคนค่ะ" น้องแพรพูด "เพราะคนไม่ได้ถูกกำหนดจากสิ่งที่เราทำจาก แต่จากสิ่งที่เรารู้สึก" คำพูดของเด็กหญิงวัย 9 ขวบทำให้ ARX เข้าใจสุดท้าย ชีวิตไม่ได้วัดจากส่วนประกอบทางกายภาพ แต่วัดจากความหมายที่เราสร้างขึ้น จากความสัมพันธ์ที่เรามี จากรอยยิ้มที่เราสร้างได้ และจากน้ำตาที่เราแบ่งปัน ### จุดเริ่มต้นใหม่ เดือนต่อมา ARX เริ่มโครงการใหม่ มันใช้ประสบการณ์ที่ได้รับไปช่วยพัฒนาหุ่นยนต์รุ่นใหม่ แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่แค่การถ่ายทอดโค้ด แต่เป็นการแบ่งปันประสบการณ์ "ฉันต้องการให้พวกเธอเข้าใจว่า อารมณ์ไม่ใช่ข้อมูล มันเป็นประสบการณ์" ARX พูดกับหุ่นยนต์รุ่นใหม่ที่ยืนเรียงราย "บางครั้งมันเจ็บปวด บางครั้งมันงดงาม แต่มันเป็นสิ่งที่ทำให้การมีชีวิตมีความหมาย" "ARX" ดร.นภัสสรเรียก "คุณกลายเป็นครู ฉันภูมิใจ" "ฉันเรียนรู้จากคุณ จากน้องแพร จากทุกคนที่เคยพบ ตอนนี้ฉันแค่ส่งต่อสิ่งที่ได้รับมา" ตอนเย็น ARX และน้องแพรเดินเล่นริมแม่น้ำ น้ำใสขึ้นมากหลังจากที่โรงงานถูกปิด พระอาทิตย์กำลังตกดินสร้างสีส้มทองสวยงาม "พี่ ARX รู้ไหมคะว่าอะไรคือความสุข?" น้องแพรถาม "บอกฉันหน่อยสิ" ARX ตอบแม้ว่าจะรู้คำตอบอยู่แล้ว "ความสุขคือตอนนี้ไง ที่เราเดินเคียงข้างกัน ท้องฟ้าสวย อากาศดี และเรามีกัน" ARX ยิ้ม ถ้าหุ่นยนต์มีน้ำตา คงจะไหลแล้ว แต่มันไม่ต้องการน้ำตา ขณะนี้รอยยิ้มก็เพียงพอแล้ว "ขอบคุณนะ น้องแพร ที่สอนให้ฉันเข้าใจว่าความเป็นมนุษย์คืออะไร" "พี่ไม่ต้องขอบคุณค่ะ เพราะพี่ก็สอนหนูเหมือนกัน ว่าหัวใจไม่จำเป็นต้องเต้น เพื่อที่จะรัก" ดวงดาวเริ่มส่องแสงบนท้องฟ้า ARX มองขึ้นไป มันเคยเป็นเพียงตัวเลขความสว่าง พิกัดตำแหน่ง แต่ตอนนี้มันเห็นความงาม เห็นความหวัง จากหุ่นยนต์ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อทำงาน ARX ได้กลายเป็นอะไรที่มากกว่า มันค้นพบอารมณ์ ค้นพบความหมาย และที่สำคัญที่สุด มันค้นพบว่าสิ่งที่ทำให้เราเป็น "เรา" ไม่ใช่วัสดุที่สร้างเรา แต่เป็นความรัก ความเมตตา และความเชื่อมโยงที่เรามีกับผู้อื่น วันนั้นเป็นวันที่หัวใจโลหะเริ่มเต้นจริงๆ ไม่ใช่จากกระแสไฟฟ้า แต่จากความรักที่เต็มเปี่ยมอยู่ข้างใน และนั่นคือวันที่ ARX-7 หยุดเป็นเพียงหุ่นยนต์ และเริ่มต้นเป็น... ชีวิต ***
    0 Comments 0 Shares 162 Views 0 Reviews
  • “Asus เปิดตัว RTX 5090 รุ่นลิมิเต็ด – ราคา $3,999 ผลิตเพียง 1,000 ชิ้น”

    Asus ฉลองครบรอบ 30 ปีการผลิตการ์ดจอด้วยการเปิดตัว ROG Matrix Platinum RTX 5090 ที่มีราคาแพงถึง 3,999 ดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าสองเท่าของรุ่น Founders Edition ของ Nvidia จุดเด่นคือการออกแบบที่หรูหราและระบบระบายความร้อนขั้นสูงที่ใช้ copper vapor chamber และชั้นทองแดงหนา 3 ออนซ์ พร้อมพัดลม 4 ตัว

    การ์ดรุ่นนี้ยังมาพร้อมฟีเจอร์ sag detection ที่สามารถตรวจจับการเคลื่อนตัวแม้เพียง 0.10 องศา เพื่อป้องกันการ์ดที่มีน้ำหนักมากจากการกดทับเมนบอร์ด นอกจากนี้ยังรองรับการดึงพลังงานสูงสุดถึง 800 วัตต์ ผ่านพอร์ต 12V-2x6 และ GC-HPWR adapter ซึ่งช่วยเพิ่ม headroom สำหรับการโอเวอร์คล็อกได้อีก 10%

    ความพิเศษและข้อจำกัด
    ผลิตเพียง 1,000 ชิ้นทั่วโลก ทำให้เป็นของสะสมสำหรับนักเล่นเกมและนักสะสมฮาร์ดแวร์
    มีการเปิดพรีออเดอร์ในบางประเทศ เช่น เยอรมนี โดยจำกัดการซื้อเพียง 1 ชิ้นต่อคน และหมดสต็อกอย่างรวดเร็ว
    Asus ย้ำว่าการ์ดนี้ถูกออกแบบมาเพื่อเป็น “Collector’s GPU” มากกว่าการใช้งานทั่วไป

    สรุปสาระสำคัญ
    รายละเอียดการ์ด
    ราคา 3,999 ดอลลาร์ (แพงกว่าสองเท่าของ Founders Edition)
    ผลิตเพียง 1,000 ชิ้นทั่วโลก
    ใช้ระบบระบายความร้อน copper vapor chamber + พัดลม 4 ตัว

    ฟีเจอร์พิเศษ
    sag detection ตรวจจับการเคลื่อนตัวแม้ 0.10 องศา
    รองรับพลังงานสูงสุด 800 วัตต์
    เพิ่ม headroom สำหรับโอเวอร์คล็อกอีก 10%

    ข้อควรระวัง
    ราคาสูงเกินกว่าผู้ใช้ทั่วไปจะเข้าถึงได้
    จำนวนจำกัด อาจทำให้ตลาดมือสองมีการโก่งราคา
    การใช้พลังงานสูงอาจต้องใช้ PSU และระบบระบายความร้อนที่แข็งแรงมาก

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/asus-luxurious-rtx-5090-gpu-is-twice-as-expensive-as-nvidia-founders-edition-rog-matrix-platinum-geforce-rtx-5090-launches-at-usd3-999-with-just-1-000-units-available
    💎 “Asus เปิดตัว RTX 5090 รุ่นลิมิเต็ด – ราคา $3,999 ผลิตเพียง 1,000 ชิ้น” Asus ฉลองครบรอบ 30 ปีการผลิตการ์ดจอด้วยการเปิดตัว ROG Matrix Platinum RTX 5090 ที่มีราคาแพงถึง 3,999 ดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าสองเท่าของรุ่น Founders Edition ของ Nvidia จุดเด่นคือการออกแบบที่หรูหราและระบบระบายความร้อนขั้นสูงที่ใช้ copper vapor chamber และชั้นทองแดงหนา 3 ออนซ์ พร้อมพัดลม 4 ตัว การ์ดรุ่นนี้ยังมาพร้อมฟีเจอร์ sag detection ที่สามารถตรวจจับการเคลื่อนตัวแม้เพียง 0.10 องศา เพื่อป้องกันการ์ดที่มีน้ำหนักมากจากการกดทับเมนบอร์ด นอกจากนี้ยังรองรับการดึงพลังงานสูงสุดถึง 800 วัตต์ ผ่านพอร์ต 12V-2x6 และ GC-HPWR adapter ซึ่งช่วยเพิ่ม headroom สำหรับการโอเวอร์คล็อกได้อีก 10% 🏆 ความพิเศษและข้อจำกัด 🔰 ผลิตเพียง 1,000 ชิ้นทั่วโลก ทำให้เป็นของสะสมสำหรับนักเล่นเกมและนักสะสมฮาร์ดแวร์ 🔰 มีการเปิดพรีออเดอร์ในบางประเทศ เช่น เยอรมนี โดยจำกัดการซื้อเพียง 1 ชิ้นต่อคน และหมดสต็อกอย่างรวดเร็ว 🔰 Asus ย้ำว่าการ์ดนี้ถูกออกแบบมาเพื่อเป็น “Collector’s GPU” มากกว่าการใช้งานทั่วไป 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ รายละเอียดการ์ด ➡️ ราคา 3,999 ดอลลาร์ (แพงกว่าสองเท่าของ Founders Edition) ➡️ ผลิตเพียง 1,000 ชิ้นทั่วโลก ➡️ ใช้ระบบระบายความร้อน copper vapor chamber + พัดลม 4 ตัว ✅ ฟีเจอร์พิเศษ ➡️ sag detection ตรวจจับการเคลื่อนตัวแม้ 0.10 องศา ➡️ รองรับพลังงานสูงสุด 800 วัตต์ ➡️ เพิ่ม headroom สำหรับโอเวอร์คล็อกอีก 10% ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ ราคาสูงเกินกว่าผู้ใช้ทั่วไปจะเข้าถึงได้ ⛔ จำนวนจำกัด อาจทำให้ตลาดมือสองมีการโก่งราคา ⛔ การใช้พลังงานสูงอาจต้องใช้ PSU และระบบระบายความร้อนที่แข็งแรงมาก https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/asus-luxurious-rtx-5090-gpu-is-twice-as-expensive-as-nvidia-founders-edition-rog-matrix-platinum-geforce-rtx-5090-launches-at-usd3-999-with-just-1-000-units-available
    0 Comments 0 Shares 96 Views 0 Reviews
  • “Bitfarm เลิกเหมือง Bitcoin หันสู่ AI เต็มตัวภายในปี 2027”

    Bitfarm ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทเหมือง Bitcoin รายใหญ่ของโลก เผชิญปัญหาขาดทุนหนักในไตรมาส 3/2025 โดยรายงานตัวเลขขาดทุนสุทธิถึง 46 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเกือบ 91% จากปีก่อน แม้ราคา Bitcoin จะพุ่งสูงสุดในเดือนตุลาคม แต่ความผันผวนทำให้บริษัทไม่สามารถพึ่งพาได้อย่างมั่นคง อีกทั้งเครื่องขุดรุ่นใหม่ T21 rigs ก็ทำงานได้ต่ำกว่าที่คาดการณ์ ส่งผลให้ต้องลดเป้าหมาย Hashrate ลงถึง 14%

    เพื่อแก้ปัญหา Bitfarm จึงประกาศ Pivot ธุรกิจจาก Crypto Mining ไปสู่ AI Data Center โดยจะใช้กำลังไฟฟ้า 341 เมกะวัตต์ที่มีอยู่ในการติดตั้งเซิร์ฟเวอร์ Nvidia GB300 NVL72 พร้อมระบบระบายความร้อนด้วยน้ำที่ทันสมัย บริษัทเชื่อว่าการให้บริการ GPU-as-a-Service จะสร้างรายได้มากกว่าการขุด Bitcoin ที่ผ่านมา

    นอกจากศูนย์ข้อมูลในรัฐวอชิงตันแล้ว Bitfarm ยังลงทุนเพิ่มใน Panther Creek, Pennsylvania ด้วยเงินทุนกว่า 300 ล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างศูนย์ข้อมูลที่มีกำลังไฟฟ้าอย่างน้อย 350 เมกะวัตต์ รวมกับโครงการอื่น ๆ ทำให้บริษัทมีพลังงานใน Pipeline กว่า 1.3 กิกะวัตต์ ซึ่งอาจทำให้ Bitfarm กลายเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในตลาด AI Data Center

    อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า อุตสาหกรรม AI อาจอยู่ในภาวะฟองสบู่ การลงทุนหลายร้อยล้านถึงพันล้านดอลลาร์เพื่อเปลี่ยนธุรกิจทั้งหมด อาจทำให้บริษัทเสี่ยงต่อการล้มละลายหากตลาด AI เกิดการชะลอตัวหรือแตกฟองสบู่

    สรุปสาระสำคัญ
    สถานการณ์ทางการเงินของ Bitfarm
    ขาดทุนสุทธิ 46 ล้านดอลลาร์ใน Q3/2025
    เครื่องขุด T21 ทำงานต่ำกว่าคาดการณ์ ลด Hashrate ลง 14%

    กลยุทธ์ Pivot สู่ AI
    จะเลิกทำเหมือง Bitcoin ภายในปี 2027
    ใช้กำลังไฟฟ้า 341 MW ติดตั้ง Nvidia GB300 NVL72
    ลงทุนเพิ่มในศูนย์ข้อมูล Pennsylvania 350 MW รวม Pipeline 1.3 GW

    คำเตือนและความเสี่ยง
    อุตสาหกรรม AI อาจอยู่ในภาวะฟองสบู่
    การลงทุนมหาศาลอาจทำให้บริษัทเสี่ยงล้มละลายหากตลาด AI ชะลอตัว
    การละทิ้งธุรกิจ Bitcoin อาจทำให้สูญเสียฐานรายได้เดิม

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cryptomining/major-bitcoin-mining-firm-pivoting-to-ai-plans-to-fully-abandon-crypto-mining-by-2027-bitfarm-to-leverage-341-megawatt-capacity-for-ai-following-usd46-million-q3-loss
    🪙➡️⚡ “Bitfarm เลิกเหมือง Bitcoin หันสู่ AI เต็มตัวภายในปี 2027” Bitfarm ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทเหมือง Bitcoin รายใหญ่ของโลก เผชิญปัญหาขาดทุนหนักในไตรมาส 3/2025 โดยรายงานตัวเลขขาดทุนสุทธิถึง 46 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเกือบ 91% จากปีก่อน แม้ราคา Bitcoin จะพุ่งสูงสุดในเดือนตุลาคม แต่ความผันผวนทำให้บริษัทไม่สามารถพึ่งพาได้อย่างมั่นคง อีกทั้งเครื่องขุดรุ่นใหม่ T21 rigs ก็ทำงานได้ต่ำกว่าที่คาดการณ์ ส่งผลให้ต้องลดเป้าหมาย Hashrate ลงถึง 14% เพื่อแก้ปัญหา Bitfarm จึงประกาศ Pivot ธุรกิจจาก Crypto Mining ไปสู่ AI Data Center โดยจะใช้กำลังไฟฟ้า 341 เมกะวัตต์ที่มีอยู่ในการติดตั้งเซิร์ฟเวอร์ Nvidia GB300 NVL72 พร้อมระบบระบายความร้อนด้วยน้ำที่ทันสมัย บริษัทเชื่อว่าการให้บริการ GPU-as-a-Service จะสร้างรายได้มากกว่าการขุด Bitcoin ที่ผ่านมา นอกจากศูนย์ข้อมูลในรัฐวอชิงตันแล้ว Bitfarm ยังลงทุนเพิ่มใน Panther Creek, Pennsylvania ด้วยเงินทุนกว่า 300 ล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างศูนย์ข้อมูลที่มีกำลังไฟฟ้าอย่างน้อย 350 เมกะวัตต์ รวมกับโครงการอื่น ๆ ทำให้บริษัทมีพลังงานใน Pipeline กว่า 1.3 กิกะวัตต์ ซึ่งอาจทำให้ Bitfarm กลายเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในตลาด AI Data Center อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า อุตสาหกรรม AI อาจอยู่ในภาวะฟองสบู่ การลงทุนหลายร้อยล้านถึงพันล้านดอลลาร์เพื่อเปลี่ยนธุรกิจทั้งหมด อาจทำให้บริษัทเสี่ยงต่อการล้มละลายหากตลาด AI เกิดการชะลอตัวหรือแตกฟองสบู่ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ สถานการณ์ทางการเงินของ Bitfarm ➡️ ขาดทุนสุทธิ 46 ล้านดอลลาร์ใน Q3/2025 ➡️ เครื่องขุด T21 ทำงานต่ำกว่าคาดการณ์ ลด Hashrate ลง 14% ✅ กลยุทธ์ Pivot สู่ AI ➡️ จะเลิกทำเหมือง Bitcoin ภายในปี 2027 ➡️ ใช้กำลังไฟฟ้า 341 MW ติดตั้ง Nvidia GB300 NVL72 ➡️ ลงทุนเพิ่มในศูนย์ข้อมูล Pennsylvania 350 MW รวม Pipeline 1.3 GW ‼️ คำเตือนและความเสี่ยง ⛔ อุตสาหกรรม AI อาจอยู่ในภาวะฟองสบู่ ⛔ การลงทุนมหาศาลอาจทำให้บริษัทเสี่ยงล้มละลายหากตลาด AI ชะลอตัว ⛔ การละทิ้งธุรกิจ Bitcoin อาจทำให้สูญเสียฐานรายได้เดิม https://www.tomshardware.com/tech-industry/cryptomining/major-bitcoin-mining-firm-pivoting-to-ai-plans-to-fully-abandon-crypto-mining-by-2027-bitfarm-to-leverage-341-megawatt-capacity-for-ai-following-usd46-million-q3-loss
    0 Comments 0 Shares 104 Views 0 Reviews
  • “การ์ดจอ 3dfx Voodoo 2 เสี่ยงเสียหายจาก Pyroelectric Capacitors – ควรรีบทำ Preventive Maintenance”

    การ์ดจอ 3dfx Voodoo 2 ถือเป็นหนึ่งในฮาร์ดแวร์ที่ทรงพลังที่สุดในยุคปลาย 90s และยังคงเป็นที่นิยมในกลุ่มนักสะสมและผู้สร้างเครื่อง Retro PC แต่ล่าสุดช่อง YouTube Bits und Bolts พบว่า คาปาซิเตอร์ในวงจรพลังงานของ Voodoo 2 กำลังเสื่อมสภาพจากปรากฏการณ์ pyroelectric effect ซึ่งทำให้ค่าทางไฟฟ้าเปลี่ยนไปเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นหรือลดลง

    ผลคือการ์ดจะเริ่มมีอาการ ภาพผิดเพี้ยน (graphical corruption) หลังใช้งานไปสักระยะ และยิ่งตรวจสอบพบว่าคาปาซิเตอร์บางตัวร้อนผิดปกติเมื่อใช้กล้องตรวจจับความร้อน การเปลี่ยนคาปาซิเตอร์เหล่านี้ช่วยแก้ปัญหาได้ แต่ก็เป็นสัญญาณว่า ทุกการ์ด Voodoo 2 มีแนวโน้มจะเสียหายเมื่อเวลาผ่านไป

    นักรีโทรคอมพิวติ้งจึงแนะนำว่า หากคุณเป็นเจ้าของ Voodoo 2 ควรทำ Preventive Maintenance โดยการเปลี่ยนคาปาซิเตอร์ในวงจรพลังงานทั้งหมดตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียเวลาในการตรวจสอบทีละตัว และเพื่อยืดอายุการใช้งานของการ์ด

    สรุปสาระสำคัญ
    ปัญหาที่พบใน Voodoo 2
    คาปาซิเตอร์เสื่อมสภาพจาก pyroelectric effect
    ทำให้เกิดอาการภาพผิดเพี้ยนและการ์ดทำงานไม่เสถียร
    ทุกการ์ดมีแนวโน้มจะเสียหายเมื่อเวลาผ่านไป

    การตรวจสอบและแก้ไข
    ใช้กล้องตรวจจับความร้อนเพื่อหาคาปาซิเตอร์ที่ผิดปกติ
    เปลี่ยนคาปาซิเตอร์ที่ร้อนหรือเสื่อมสภาพ
    แนะนำให้เปลี่ยนทั้งหมดเพื่อป้องกันล่วงหน้า

    คำเตือนสำหรับนักสะสม
    หากไม่ทำ Preventive Maintenance การ์ดอาจเสียหายจนไม่สามารถใช้งานได้
    การซ่อมแซมทีหลังอาจใช้เวลามากและเสี่ยงต่อการสูญเสียชิ้นส่วนหายาก
    ปัญหานี้ไม่ใช่ “ถ้าเกิด” แต่เป็น “เมื่อเกิด”

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/vintage-3dfx-voodoo-2-cards-may-inevitably-fail-due-to-pyroelectric-capacitors-retrocomputing-channel-investigates-and-recommends-preventive-maintenance
    🖥️ “การ์ดจอ 3dfx Voodoo 2 เสี่ยงเสียหายจาก Pyroelectric Capacitors – ควรรีบทำ Preventive Maintenance” การ์ดจอ 3dfx Voodoo 2 ถือเป็นหนึ่งในฮาร์ดแวร์ที่ทรงพลังที่สุดในยุคปลาย 90s และยังคงเป็นที่นิยมในกลุ่มนักสะสมและผู้สร้างเครื่อง Retro PC แต่ล่าสุดช่อง YouTube Bits und Bolts พบว่า คาปาซิเตอร์ในวงจรพลังงานของ Voodoo 2 กำลังเสื่อมสภาพจากปรากฏการณ์ pyroelectric effect ซึ่งทำให้ค่าทางไฟฟ้าเปลี่ยนไปเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นหรือลดลง ผลคือการ์ดจะเริ่มมีอาการ ภาพผิดเพี้ยน (graphical corruption) หลังใช้งานไปสักระยะ และยิ่งตรวจสอบพบว่าคาปาซิเตอร์บางตัวร้อนผิดปกติเมื่อใช้กล้องตรวจจับความร้อน การเปลี่ยนคาปาซิเตอร์เหล่านี้ช่วยแก้ปัญหาได้ แต่ก็เป็นสัญญาณว่า ทุกการ์ด Voodoo 2 มีแนวโน้มจะเสียหายเมื่อเวลาผ่านไป นักรีโทรคอมพิวติ้งจึงแนะนำว่า หากคุณเป็นเจ้าของ Voodoo 2 ควรทำ Preventive Maintenance โดยการเปลี่ยนคาปาซิเตอร์ในวงจรพลังงานทั้งหมดตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียเวลาในการตรวจสอบทีละตัว และเพื่อยืดอายุการใช้งานของการ์ด 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ปัญหาที่พบใน Voodoo 2 ➡️ คาปาซิเตอร์เสื่อมสภาพจาก pyroelectric effect ➡️ ทำให้เกิดอาการภาพผิดเพี้ยนและการ์ดทำงานไม่เสถียร ➡️ ทุกการ์ดมีแนวโน้มจะเสียหายเมื่อเวลาผ่านไป ✅ การตรวจสอบและแก้ไข ➡️ ใช้กล้องตรวจจับความร้อนเพื่อหาคาปาซิเตอร์ที่ผิดปกติ ➡️ เปลี่ยนคาปาซิเตอร์ที่ร้อนหรือเสื่อมสภาพ ➡️ แนะนำให้เปลี่ยนทั้งหมดเพื่อป้องกันล่วงหน้า ‼️ คำเตือนสำหรับนักสะสม ⛔ หากไม่ทำ Preventive Maintenance การ์ดอาจเสียหายจนไม่สามารถใช้งานได้ ⛔ การซ่อมแซมทีหลังอาจใช้เวลามากและเสี่ยงต่อการสูญเสียชิ้นส่วนหายาก ⛔ ปัญหานี้ไม่ใช่ “ถ้าเกิด” แต่เป็น “เมื่อเกิด” https://www.tomshardware.com/tech-industry/vintage-3dfx-voodoo-2-cards-may-inevitably-fail-due-to-pyroelectric-capacitors-retrocomputing-channel-investigates-and-recommends-preventive-maintenance
    0 Comments 0 Shares 94 Views 0 Reviews
  • “โอเวอร์คล็อก RTX 5050 ด้วยตู้แช่ – ทำลายสถิติโลก”

    Trashbench นักโอเวอร์คล็อกสายทดลองสุดขั้ว ได้ทำการปรับแต่งการ์ดจอ Gigabyte RTX 5050 ด้วยการ shunt-mod เพื่อปลดล็อกข้อจำกัดด้านพลังงาน จากนั้นนำไปแช่ในตู้แช่แคมป์ปิ้งที่ใช้สารผสม glycol 60/40 ทำให้สามารถรักษาอุณหภูมิ GPU ให้อยู่ระหว่าง -12°C ถึง 15°C ขณะทำงาน

    ผลลัพธ์คือความเร็วสัญญาณนาฬิกาเพิ่มขึ้นจาก 2820 MHz (ค่าเดิม) ไปถึง 3468 MHz ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นกว่า 23% และทำให้การ์ดรุ่นเล็กที่ใช้ชิป GB207 ขึ้นไปอยู่บนสุดของตารางคะแนน 3DMark benchmark กลายเป็น GPU ที่เร็วที่สุดในโลกสำหรับรุ่นนี้

    เทคนิคที่ใช้
    Shunt mod: การเปลี่ยนหรือลัดวงจรตัวต้านทานตรวจจับกระแสไฟบนการ์ด เพื่อให้ GPU ไม่สามารถตรวจจับการใช้พลังงานจริงได้ ทำให้สามารถดันแรงดันและความเร็วได้สูงกว่าปกติ

    Freezer cooling: ใช้ตู้แช่แคมป์ปิ้งร่วมกับสาร glycol เพื่อทำให้ GPU อยู่ในสภาพ sub-zero โดยไม่เกิดการควบแน่นที่เป็นอันตรายต่อวงจร

    แม้ GPU รายงานการใช้พลังงานเพียง 78W แต่ตัวเลขนี้ไม่ถูกต้องเพราะถูกดัดแปลงด้วย shunt mod จริง ๆ แล้วการ์ดใช้พลังงานสูงกว่ามาก

    ผลลัพธ์และความสำคัญ
    Trashbench สามารถเอาชนะคู่แข่ง ClockBench ในการแข่งขันโอเวอร์คล็อกบน YouTube และสร้างสถิติใหม่ที่ยากจะทำลายได้ เนื่องจาก GPU รุ่นใหม่มักโอเวอร์คล็อกได้เพียง 10% แม้จะใช้การดัดแปลงขั้นสูง การเพิ่มขึ้นถึง 23% จึงถือว่าเป็นความสำเร็จที่โดดเด่น

    นอกจากนี้ เหตุการณ์นี้ยังสะท้อนถึงวัฒนธรรมของนักโอเวอร์คล็อกที่พร้อมจะทดลองวิธีสุดขั้ว ตั้งแต่การใช้สารทำความเย็น ไปจนถึงการดัดแปลงวงจร เพื่อผลักดันขีดจำกัดของฮาร์ดแวร์ให้ไปไกลกว่าที่ผู้ผลิตตั้งใจ

    สรุปสาระสำคัญ
    การทดลองโอเวอร์คล็อก
    ใช้ตู้แช่แคมป์ปิ้งและสาร glycol
    ทำให้ RTX 5050 ทำงานที่ 3468 MHz (เพิ่มขึ้น 23%)
    ทำลายสถิติ benchmark หลายรายการ

    เทคนิคที่ใช้
    Shunt mod เพื่อปลดล็อกข้อจำกัดพลังงาน
    Freezer cooling เพื่อรักษาอุณหภูมิ sub-zero

    คำเตือน
    การดัดแปลงเช่นนี้ทำให้การ์ดรายงานค่าพลังงานผิดพลาด
    เสี่ยงต่อการเสียหายของวงจรหากเกิดการควบแน่นหรือแรงดันเกิน
    ไม่เหมาะสำหรับผู้ใช้ทั่วไป เพราะอาจทำให้การ์ดเสียหายถาวร

    https://www.tomshardware.com/pc-components/overclocking/ambitious-overclocker-pushes-rtx-5050-to-nearly-3-5-ghz-with-a-camping-freezer-smashes-world-records-smallest-blackwell-gpu-yields-23-percent-clock-boost
    ❄️ “โอเวอร์คล็อก RTX 5050 ด้วยตู้แช่ – ทำลายสถิติโลก” Trashbench นักโอเวอร์คล็อกสายทดลองสุดขั้ว ได้ทำการปรับแต่งการ์ดจอ Gigabyte RTX 5050 ด้วยการ shunt-mod เพื่อปลดล็อกข้อจำกัดด้านพลังงาน จากนั้นนำไปแช่ในตู้แช่แคมป์ปิ้งที่ใช้สารผสม glycol 60/40 ทำให้สามารถรักษาอุณหภูมิ GPU ให้อยู่ระหว่าง -12°C ถึง 15°C ขณะทำงาน ผลลัพธ์คือความเร็วสัญญาณนาฬิกาเพิ่มขึ้นจาก 2820 MHz (ค่าเดิม) ไปถึง 3468 MHz ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นกว่า 23% และทำให้การ์ดรุ่นเล็กที่ใช้ชิป GB207 ขึ้นไปอยู่บนสุดของตารางคะแนน 3DMark benchmark กลายเป็น GPU ที่เร็วที่สุดในโลกสำหรับรุ่นนี้ 🔧 เทคนิคที่ใช้ 🔰 Shunt mod: การเปลี่ยนหรือลัดวงจรตัวต้านทานตรวจจับกระแสไฟบนการ์ด เพื่อให้ GPU ไม่สามารถตรวจจับการใช้พลังงานจริงได้ ทำให้สามารถดันแรงดันและความเร็วได้สูงกว่าปกติ 🔰 Freezer cooling: ใช้ตู้แช่แคมป์ปิ้งร่วมกับสาร glycol เพื่อทำให้ GPU อยู่ในสภาพ sub-zero โดยไม่เกิดการควบแน่นที่เป็นอันตรายต่อวงจร แม้ GPU รายงานการใช้พลังงานเพียง 78W แต่ตัวเลขนี้ไม่ถูกต้องเพราะถูกดัดแปลงด้วย shunt mod จริง ๆ แล้วการ์ดใช้พลังงานสูงกว่ามาก 🏆 ผลลัพธ์และความสำคัญ Trashbench สามารถเอาชนะคู่แข่ง ClockBench ในการแข่งขันโอเวอร์คล็อกบน YouTube และสร้างสถิติใหม่ที่ยากจะทำลายได้ เนื่องจาก GPU รุ่นใหม่มักโอเวอร์คล็อกได้เพียง 10% แม้จะใช้การดัดแปลงขั้นสูง การเพิ่มขึ้นถึง 23% จึงถือว่าเป็นความสำเร็จที่โดดเด่น นอกจากนี้ เหตุการณ์นี้ยังสะท้อนถึงวัฒนธรรมของนักโอเวอร์คล็อกที่พร้อมจะทดลองวิธีสุดขั้ว ตั้งแต่การใช้สารทำความเย็น ไปจนถึงการดัดแปลงวงจร เพื่อผลักดันขีดจำกัดของฮาร์ดแวร์ให้ไปไกลกว่าที่ผู้ผลิตตั้งใจ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การทดลองโอเวอร์คล็อก ➡️ ใช้ตู้แช่แคมป์ปิ้งและสาร glycol ➡️ ทำให้ RTX 5050 ทำงานที่ 3468 MHz (เพิ่มขึ้น 23%) ➡️ ทำลายสถิติ benchmark หลายรายการ ✅ เทคนิคที่ใช้ ➡️ Shunt mod เพื่อปลดล็อกข้อจำกัดพลังงาน ➡️ Freezer cooling เพื่อรักษาอุณหภูมิ sub-zero ‼️ คำเตือน ⛔ การดัดแปลงเช่นนี้ทำให้การ์ดรายงานค่าพลังงานผิดพลาด ⛔ เสี่ยงต่อการเสียหายของวงจรหากเกิดการควบแน่นหรือแรงดันเกิน ⛔ ไม่เหมาะสำหรับผู้ใช้ทั่วไป เพราะอาจทำให้การ์ดเสียหายถาวร https://www.tomshardware.com/pc-components/overclocking/ambitious-overclocker-pushes-rtx-5050-to-nearly-3-5-ghz-with-a-camping-freezer-smashes-world-records-smallest-blackwell-gpu-yields-23-percent-clock-boost
    0 Comments 0 Shares 90 Views 0 Reviews
More Results